• #พระนางสามผิว ผู้มีความงามที่เลื่องลือที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย #ความงามเป็นเหตุจนทำให้เสียเมืองพระนางสามผิว ผู้มีความงามที่เลื่องลือที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยเมื่อกว่า ๔๐๐ ปีก่อน พระนางเป็นพระชายาของ “พระเจ้าฝางอุดมสิน” กษัตริย์เมืองฝาง กล่าวกันว่า...พระนางสิริโฉมงดงามและความงามของพระนางถือว่าโดดเด่นไม่มีใครเทียมคือ #ผิวเปลี่ยนสีไปตามแต่ละช่วงเวลา ยามเช้าขาวผ่องยองใย กลางวันเป็นสีชมพูระเรื่อ ตกเย็นก็จะเปลี่ยนเป็นชมพูเข้มขึ้น อันเป็นที่มาพระนามว่า “พระนางสามผิว”.ข่าวความงามของพระนางสามผิวเลื่องลือไปจน #พระเจ้าสุทโธธรรมราชา กษัตริย์ของพม่าเวลานั้น ถึงกับปลอมตัวเป็นพ่อค้ามาถวายบรรณาการเมืองฝาง เมื่อเห็นว่าพระนางสามผิวงามเลิศสมคําเล่าลือก็กลับไปนํากองทัพมาตีเมืองฝาง จึงเกิดเป็นสงครามม่าน-ล้านนา ที่รบติดพันกันอยู่ถึง ๓ ปี แต่แล้วเมืองฝางก็แตกพ่ายราวปี ๒๑๗๕.พระเจ้าฝางอุดมสินพาพระนางสามผิวหนีไปอยู่เมืองกุฉินารายณ์ในเขตอินเดีย ประวัติกล่าวว่า...มีมหาดเล็กและนางข้าหลวงคู่หนึ่งปลอมตัวเป็นทั้ง ๒ พระองค์โดดลงในบ่อน้ำ เพื่อลวงให้พระเจ้าสุทโธธรรมราชาเข้าใจว่า...พระนางสามผิวพลีชีพพร้อมพระสวามี.แต่อีกกระแสหนึ่งก็กล่าวว่า...พม่าปิดล้อมเมืองอยู่ ๓ ปี ทำให้ชาวบ้านออกไปทำมาหากินไม่ได้ มีความอดยาก เสบียงอาหารที่มีอยู่ก็หมด เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้พระเจ้าฝางและพระนางสามผิวตะหนักว่า...เหตุที่เกิดขึ้นมาจากทั้ง ๒ พระองค์ ดังนั้นทั้ง ๒ พระองค์จึงตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการกระโดดน้ำบ่อที่มีความลึกสูง ๒๐ วา เพื่อปลงพระชนม์ชีพตัวเองเพื่อรักษาชีวิตชาวเมืองและบ้านเมืองของตน เมื่อพระเจ้าสุทโธธรรมราชาทรงทราบเรื่องพระองค์ทรงเสียใจมาก จึงได้ยกทัพกลับบ้านเมืองของตน และเมืองฝางก็ไม่ได้ถูกเป็นเมืองขึ้นของพม่า.ประชาชนเห็นว่าพระเจ้าฝางและพระนางสามผิวได้สละพระชนม์ชีพเพื่อรักษาบ้านเมืองไว้ จึงได้สร้างอนุสาวรีย์ ไว้ที่น้ำบ่อซาววา ซึ่งอยู่หน้าวัดพระอุดม ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และมีประเพณีบวงสรวง “เดือนเก๋าพระเจ๋าฝาง-พระนางสามผิว” ทำเป็นประจำทุกปี และนอกจากนี้ยังให้ผู้คนที่เดินทางผ่านมาเห็นได้มาสักการะกราบไหว้บูชา นี่จึงเป็นที่มา #น้ำบ่อซาววา (ภาพประกอบ: ภาพวาดสตรีล้านนา)."Phra Nang Sam Phiw", the most famous beauty in Thai history, until her beauty caused a war.."Phra Nang Sam Phiw" is the most famous beautiful woman in Thai history over 400 years ago. She was the queen of "Phra Chao Fang Udomsin", the king of Fang. It is said that she was very beautiful and her beauty was outstanding and unmatched. Her skin changed color according to the time. In the morning, her skin was very white. During the day, her skin was pinkish. In the evening, her skin turned dark pink. This is where the name "Phra Nang Sam Phiw" came from. (Sam = Three / Phiw = Skin). The Queen whose skin color changed in all three periods of time: morning, noon and evening..The news of Phra Nang Sam Phiw's beauty spread so far that King Suthodhammaracha, the king of Burma at that time, disguised himself as a merchant to offer tribute to Fang. When he saw Phra Nang Sam Phiw, he immediately fell in love. When he returned to Burma, he led an army to attack Fang. The Burmese surrounded Fang for 3 years, preventing the people from going out to earn a living. As a result, there was famine and the food supplies ran out..When the incident happened, both "Phra Chao Fang Udomsin" and Phra Nang Sam Phiw knew that the incident was caused by both of them. Therefore, both of them decided to solve the problem by jumping into a 40-meter deep well to save the lives of their people and their country. When King Suthodhammaracha found out about this, he was very sad. He led his army back to his own country and Fang did not become a vassal state of Burma..The people saw that both of them had sacrificed their lives to protect their country, so they built a monument at the Sawwa pond in front of Phra Udom Temple, Wiang Subdistrict, Fang District, Chiang Mai Province. There is an annual ceremony to make offerings to the spirits. In addition, people who pass by can see them and pay homage..📌บทความนี้เรียบเรียงและแปลโดยเพจ Love Thai Culture #หากผู้ใดนำข้อมูลไปแชร์กรุณาให้เครดิตด้วยนะคะ.💥 Credit: ขอบคุณภาพเจ้าของภาพ (แอดไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของภาพ Inbox แจ้งได้นะคะ).++++++++++++++++++++#Thailand #CulTure #ThaiCulture #ThaiCulturetotheWorld #LoveThaiCulture #Amazingthailand #Amazing #Unseenthailand #Ramakien #พระนางสามผิว
    #พระนางสามผิว ผู้มีความงามที่เลื่องลือที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย #ความงามเป็นเหตุจนทำให้เสียเมืองพระนางสามผิว ผู้มีความงามที่เลื่องลือที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยเมื่อกว่า ๔๐๐ ปีก่อน พระนางเป็นพระชายาของ “พระเจ้าฝางอุดมสิน” กษัตริย์เมืองฝาง กล่าวกันว่า...พระนางสิริโฉมงดงามและความงามของพระนางถือว่าโดดเด่นไม่มีใครเทียมคือ #ผิวเปลี่ยนสีไปตามแต่ละช่วงเวลา ยามเช้าขาวผ่องยองใย กลางวันเป็นสีชมพูระเรื่อ ตกเย็นก็จะเปลี่ยนเป็นชมพูเข้มขึ้น อันเป็นที่มาพระนามว่า “พระนางสามผิว”.ข่าวความงามของพระนางสามผิวเลื่องลือไปจน #พระเจ้าสุทโธธรรมราชา กษัตริย์ของพม่าเวลานั้น ถึงกับปลอมตัวเป็นพ่อค้ามาถวายบรรณาการเมืองฝาง เมื่อเห็นว่าพระนางสามผิวงามเลิศสมคําเล่าลือก็กลับไปนํากองทัพมาตีเมืองฝาง จึงเกิดเป็นสงครามม่าน-ล้านนา ที่รบติดพันกันอยู่ถึง ๓ ปี แต่แล้วเมืองฝางก็แตกพ่ายราวปี ๒๑๗๕.พระเจ้าฝางอุดมสินพาพระนางสามผิวหนีไปอยู่เมืองกุฉินารายณ์ในเขตอินเดีย ประวัติกล่าวว่า...มีมหาดเล็กและนางข้าหลวงคู่หนึ่งปลอมตัวเป็นทั้ง ๒ พระองค์โดดลงในบ่อน้ำ เพื่อลวงให้พระเจ้าสุทโธธรรมราชาเข้าใจว่า...พระนางสามผิวพลีชีพพร้อมพระสวามี.แต่อีกกระแสหนึ่งก็กล่าวว่า...พม่าปิดล้อมเมืองอยู่ ๓ ปี ทำให้ชาวบ้านออกไปทำมาหากินไม่ได้ มีความอดยาก เสบียงอาหารที่มีอยู่ก็หมด เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้พระเจ้าฝางและพระนางสามผิวตะหนักว่า...เหตุที่เกิดขึ้นมาจากทั้ง ๒ พระองค์ ดังนั้นทั้ง ๒ พระองค์จึงตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการกระโดดน้ำบ่อที่มีความลึกสูง ๒๐ วา เพื่อปลงพระชนม์ชีพตัวเองเพื่อรักษาชีวิตชาวเมืองและบ้านเมืองของตน เมื่อพระเจ้าสุทโธธรรมราชาทรงทราบเรื่องพระองค์ทรงเสียใจมาก จึงได้ยกทัพกลับบ้านเมืองของตน และเมืองฝางก็ไม่ได้ถูกเป็นเมืองขึ้นของพม่า.ประชาชนเห็นว่าพระเจ้าฝางและพระนางสามผิวได้สละพระชนม์ชีพเพื่อรักษาบ้านเมืองไว้ จึงได้สร้างอนุสาวรีย์ ไว้ที่น้ำบ่อซาววา ซึ่งอยู่หน้าวัดพระอุดม ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และมีประเพณีบวงสรวง “เดือนเก๋าพระเจ๋าฝาง-พระนางสามผิว” ทำเป็นประจำทุกปี และนอกจากนี้ยังให้ผู้คนที่เดินทางผ่านมาเห็นได้มาสักการะกราบไหว้บูชา นี่จึงเป็นที่มา #น้ำบ่อซาววา (ภาพประกอบ: ภาพวาดสตรีล้านนา)."Phra Nang Sam Phiw", the most famous beauty in Thai history, until her beauty caused a war.."Phra Nang Sam Phiw" is the most famous beautiful woman in Thai history over 400 years ago. She was the queen of "Phra Chao Fang Udomsin", the king of Fang. It is said that she was very beautiful and her beauty was outstanding and unmatched. Her skin changed color according to the time. In the morning, her skin was very white. During the day, her skin was pinkish. In the evening, her skin turned dark pink. This is where the name "Phra Nang Sam Phiw" came from. (Sam = Three / Phiw = Skin). The Queen whose skin color changed in all three periods of time: morning, noon and evening..The news of Phra Nang Sam Phiw's beauty spread so far that King Suthodhammaracha, the king of Burma at that time, disguised himself as a merchant to offer tribute to Fang. When he saw Phra Nang Sam Phiw, he immediately fell in love. When he returned to Burma, he led an army to attack Fang. The Burmese surrounded Fang for 3 years, preventing the people from going out to earn a living. As a result, there was famine and the food supplies ran out..When the incident happened, both "Phra Chao Fang Udomsin" and Phra Nang Sam Phiw knew that the incident was caused by both of them. Therefore, both of them decided to solve the problem by jumping into a 40-meter deep well to save the lives of their people and their country. When King Suthodhammaracha found out about this, he was very sad. He led his army back to his own country and Fang did not become a vassal state of Burma..The people saw that both of them had sacrificed their lives to protect their country, so they built a monument at the Sawwa pond in front of Phra Udom Temple, Wiang Subdistrict, Fang District, Chiang Mai Province. There is an annual ceremony to make offerings to the spirits. In addition, people who pass by can see them and pay homage..📌บทความนี้เรียบเรียงและแปลโดยเพจ Love Thai Culture #หากผู้ใดนำข้อมูลไปแชร์กรุณาให้เครดิตด้วยนะคะ.💥 Credit: ขอบคุณภาพเจ้าของภาพ (แอดไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของภาพ Inbox แจ้งได้นะคะ).++++++++++++++++++++#Thailand #CulTure #ThaiCulture #ThaiCulturetotheWorld #LoveThaiCulture #Amazingthailand #Amazing #Unseenthailand #Ramakien #พระนางสามผิว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 628 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอแสดงมุทิตาจิตกับสามเณรสกาย ในการสำเร็จการศึกษา “นักธรรมชั้นตรี” ขออนุโมทนาและเป็นกำลังใจให้สามเณรสกายได้สำเร็จบรรลุเป้าหมายเปรียญธรรม ๙ ประโยคสมปรารถนา เป็นศาสนทายาทสืบทอดพระธรรมสืบต่อไปผลสอบธรรมสนามหลวง จากสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงโดยความเห็นของมหาเถรสมาคม#สามเณรปลูกปัญญาธรรมรม #บวชเณร #เณรน้อย #น่ารัก #กิจกรรม #ปิดเทอม #อนุโมทนาบุญ #สาธุ #ทรูปลูกปัญญา #truelittlemonk #dhamma
    ขอแสดงมุทิตาจิตกับสามเณรสกาย ในการสำเร็จการศึกษา “นักธรรมชั้นตรี” ขออนุโมทนาและเป็นกำลังใจให้สามเณรสกายได้สำเร็จบรรลุเป้าหมายเปรียญธรรม ๙ ประโยคสมปรารถนา เป็นศาสนทายาทสืบทอดพระธรรมสืบต่อไปผลสอบธรรมสนามหลวง จากสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงโดยความเห็นของมหาเถรสมาคม#สามเณรปลูกปัญญาธรรมรม #บวชเณร #เณรน้อย #น่ารัก #กิจกรรม #ปิดเทอม #อนุโมทนาบุญ #สาธุ #ทรูปลูกปัญญา #truelittlemonk #dhamma
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 508 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนังสือ พุทธธรรม โหลดอ่านฟรี ไม่ต้องซื้อ
    เรียบเรียงเพื่อประโยชน์แก่พระศาสนา ไม่ได้เรียบเรียงขึ้นมาเพื่อสร้างแบรนด์

    แบ่งหมวดหมู่ไว้ชัดเจน อ่านง่าย เข้าใจง่าย
    มีหมายเหตุเกี่ยวกับข้อสงสัยทางภาษาให้ศึกษาต่อได้

    เขียนโดย ท่าน ป.อ.ปยุตฺโต
    ปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาแห่งยุค 👇👇

    https://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/buddhadhamma_extended_edition.pdf

    Cr. Capt.Benz
    หนังสือ พุทธธรรม โหลดอ่านฟรี ไม่ต้องซื้อ เรียบเรียงเพื่อประโยชน์แก่พระศาสนา ไม่ได้เรียบเรียงขึ้นมาเพื่อสร้างแบรนด์ แบ่งหมวดหมู่ไว้ชัดเจน อ่านง่าย เข้าใจง่าย มีหมายเหตุเกี่ยวกับข้อสงสัยทางภาษาให้ศึกษาต่อได้ เขียนโดย ท่าน ป.อ.ปยุตฺโต ปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาแห่งยุค 👇👇 https://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/buddhadhamma_extended_edition.pdf Cr. Capt.Benz
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลงานชิ้นเอก ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

    เป็นหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนา ที่ดีที่สุดในยุคแผ่นดินรัชกาลที่ ๙

    เป็นหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้พระไพศาล วิสาโล บวชไม่คิดสึก

    ‘พุทธธรรม’ ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์. (พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)) คือ หนังสือที่พระไพศาลยกย่อง ถึงขั้นที่ว่าถ้ามีหนังสือเพียงเล่มเดียวที่สามารถติดตัวไปได้ในชีวิต ‘พุทธธรรม’ คือ เล่มที่ท่านเลือก...

    “หนังสือเล่มนี้อาตมาอ่านจบช่วงเข้าพรรษาสมัยที่เป็นฆราวาส เมื่อ พ.ศ. 2525 ตั้งใจว่าอ่านให้ได้วันละ 10 หน้า ก็อ่านได้ทุกวัน พรรษาหนึ่งประมาณ 90 กว่าวัน หนังสือมีความหนาประมาณพันกว่าหน้า อ่านตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายก็พอดี เป็นการฝึกความเพียรและวินัยด้วย บางทีเราเดินทางไปต่างจังหวัดก่อนหน้านั้นวันหนึ่งจะต้องอ่านเพิ่มอีก 10 หน้าเพื่อชดเชยกับวันที่ต้องเดินทาง”

    นอกจากความเพียรในการอ่านแล้ว ช่วงนั้นพระไพศาลซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัยยังได้รับความเมตตาจากพระราชวรมุนี (สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์) อนุญาตให้เข้าพบเป็นประจำทุกเดือน เพื่อสนทนาธรรมสอบถามข้อสงสัยจากหนังสืออีกด้วย

    “อ่านหนังสือแล้วไปถามท่านเราก็ได้ความกระจ่างเยอะ ถือเป็นความโชคดีในฐานะนักอ่าน ยิ่งได้คุยกับท่านยิ่งรู้ว่า ท่านเป็นผู้มีสติปัญญาล้ำเลิศ ถ้าจัดเรตให้ต้องถือว่าเฟิร์สตเรต อัศจรรย์มาก”

    พุทธธรรมเป็นวรรณกรรมพุทธศาสนา ที่ได้รับการยอมรับว่าแสดงหลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาทอย่างซื่อตรงต่อพระ ไตรปิฎกเป็นอย่างยิ่ง นำเสนอหลักการและสาระสำคัญของพระพุทธศาสนาอย่างครบถ้วน และเป็นระบบอย่างชัดเจน พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2514 ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 ผู้เขียนได้ปรับปรุงและขยายความเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นหนังสือเล่มใหญ่หนาเป็นพันหน้า

    “อ่านไปก็อดทึ่งคนเขียนไม่ได้ว่าทั้งฉลาดทั้งมีความเพียรสูง ค้นข้อมูลมามากทีเดียวกว่าจะเขียนได้อย่างนี้ คือไม่ใช่แค่สรุปความย่อความเหมือนหนังสือบางเล่ม แต่เป็นการเขียนขึ้นมาใหม่ โดยมีพระไตรปิฎก เป็นพื้นฐาน นำเสนอด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ด้วยวิธีคิดของคนสมัยใหม่ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เราจะไม่เจอแบบนี้ในงานเขียนพระพุทธศาสนา บางทีเคยไปเจอหนังสือเกี่ยวกับสาระพระไตรปิฎก เขียนโดยฆราวาสที่เคยบวชพระมาจะเห็นว่าลีลาสไตล์การเขียนแตกต่างกัน บางทีก็แค่ย่อความมาให้เราดู การย่อความก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ท่านเจ้าประคุณทำได้มากกว่านั้น จึงนำมาเสนอใหม่ ด้วยชนิดที่เรียกว่าสามารถจะสื่อสารกับเราด้วยภาษาของเราได้ และพยายามโยงให้เข้าถึงปัญหาสังคมสมัยใหม่โดยใช้มุมมองแบบพุทธ ซึ่งสมควรแล้วที่คนจะพูดว่าเป็นเล่มที่ดีที่สุดในยุครัชกาลที่ 9 และถือว่าเป็นเล่มที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งของรัตนโกสินทร์”

    อาตมายกให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือดีของชีวิต ประการที่หนึ่งเพราะนำเสนอพุทธธรรมอย่างเป็นระบบและรอบด้านที่สุดภายในเล่มเดียว คือมีหลายท่านพูดถึงพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งแต่พูดเป็นบางแง่ อย่างท่านพุทธทาสก็พูดเป็นบางแง่ เช่น ปฏิจจสมุปบาท อิทัปปัจจยตา แต่เล่มนี้พูดครบทุกแง่อย่างเป็นระบบ ทุกแง่ทุกมุมอยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว ขอให้ค้นให้เป็น อาตมาเคยพูดนะว่าหนังสือเล่มนี้มี 3 มิติ ทั้งลึก กว้าง ไกล ลึกคือทำให้เราเข้าใจความจริงที่ลึกซึ้งของตัวเอง และทำให้เราเห็นกว้าง เห็นโลกและสังคมได้อย่างกว้าง เล่มนี้จะพูดถึงสังคมสมัยใหม่ไว้พอสมควร ทำให้เราได้เห็นมิติด้านไกล นั่นคือได้เห็นว่าการสอนพุทธศาสนานี้ผ่านการตีความมายังไงบ้าง ประการต่อมาคือใช้ภาษาที่งดงามสละสลวย ภาษาท่านงดงามมาก และสามารถสื่อได้ตรงใจผู้เขียน แม้ว่าเนื้อหาจะลึกซึ้ง คือทุกวันนี้แม้ตัวเองจะอ่านงานท่านเจ้าประคุณมาเยอะ เวลาจะสื่ออะไรบางอย่าง เรารู้สึกว่าเราจนต่อถ้อยคำ ไม่สามารถจะเขียนให้สุดความคิดได้ แต่หนังสือเล่มนี้ท่านเจ้าประคุณสามารถบรรยายให้สุดความคิดได้ อาตมาคิดว่าเป็นแบบอย่างของงานเขียนในทางศาสนาและงานวิชาการได้ คือมีทั้งอรรถและรส อรรถคือเนื้อหา รสคือรสของภาษา”

    ซึ่งพระไพศาลยอมรับว่าได้รับอิทธิพลจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) และท่านพุทธทาส ในการใช้ชีวิตและเขียนหนังสือพอสมควร โดยเฉพาะจากหนังสือพุทธธรรมนั้นมีอิทธิพลต่องานเขียน และการค้นคว้าทางพุทธศาสนาอย่างมาก

    “ถ้ามีเล่มเดียวที่สามารถติดไปได้ในชีวิตก็เล่มนี้แหละ ถึงแม้จะหนักหน่อยก็ตาม อาตมายังรู้สึกเลยนะว่าหนังสือเล่มนี้ทำให้เราภูมิใจที่เป็นคนไทย การที่คุณเป็นคนไทยแล้วได้อ่านหนังสือเล่มนี้ถือว่าโชคดีและคุ้มค่าในการที่ได้เป็นคนไทยแล้ว บางทีเราก็รู้สึกว่าเป็นฝรั่งโชคดีนะ ได้อ่านหนังสือที่ลึกซึ้ง หนังสือเยอะแยะหลากหลาย แต่พุทธธรรมนี่แหละที่ทำให้เราสามารถเป็นที่อิจฉาของฝรั่งได้ เพราะฝรั่งอ่านเล่มนี้ไม่ได้ แต่คนไทยอ่านได้ ฉะนั้นถ้าในแง่ชาวพุทธและในแง่ความเป็นคนไทย หนังสือเล่มนี้จะทำให้เราภูมิใจและรู้สึกโชคดีที่ได้เป็นคนไทย ที่อ่านภาษาไทยออก”

    และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีหนังสือพุทธธรรมในครอบครอง แต่ยังไม่เคยเปิดอ่าน พระไพศาลบอกว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะรสชาติของหนังสือเล่มนี้แตกต่างจากหนังสือทั่ว ๆ ไป

    “อ่านแล้วจะทำให้เกิดความพิศวงและความปีติเมื่อได้พบความจริง”
    นั่นคือพุทธธรรม...

    Save เก็บได้เลย... 1360 หน้า อัพเดทล่าสุด เป็นฉบับปรับขยายครับ อ่านวันละ 10 หน้าแป๊บเดี๋ยวก็จบแล้ว
    https://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/buddhadhamma_extended_edition.pdf?fbclid=IwAR1WFAHlZSqoUQa01X13IvZno7o9FgFuHC450ktPmxfQAxLyUtGOl9ndrSY

    ท่านสามารถดาวโหลดเสียงอ่านหนังสือ
    "พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย"
    ของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต))

    เสียงอ่านโดย..พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล

    ได้ที่ Link เสียงอ่าน พุทธธรรม
    http://bit.ly/1nZnfef

    Link สำหรับพุทธธรรม ๒๓ บท ตามนี้ครับ

    ๐๑. ขันธ์5
    http://bit.ly/1qih1Xj

    ๐๒. อายตนะ ๖
    http://bit.ly/1Xq7tVe

    ๐๓.ไตรลักษณ์
    http://bit.ly/1VhCuNd

    ๐๔. ปฏิจสุปบาท
    http://bit.ly/1SYJnj1

    ๐๕. กรรม
    http://bit.ly/20u0M6t

    ๐๖. นิพพาน
    http://bit.ly/1Q2AZKF

    ๐๗. ประเภทนิพพาน
    http://bit.ly/1qIMFOI

    ๐๘. สมถะ-วิปัสสนา
    http://bit.ly/1UUvg1A

    ๐๙. หลักการสำคัญของการบรรลุนิพพาน
    http://bit.ly/1VLTVUU

    ๑๐. บทสรุปเรื่องนิพพาน
    http://bit.ly/23wfOdI

    ๑๑. บทนำมัชฌิมาปฏิปทา
    http://bit.ly/1S4wT9r

    ๑๒. ปรโตโฆสะที่ดี_กัลยาณมิตร
    http://bit.ly/1S0ftIV

    ๑๓. โยนิโสมนสิการ
    http://bit.ly/1RNTVlX

    ๑๔. ปัญญา
    http://bit.ly/1RNU211

    ๑๕. ศีล
    http://bit.ly/23nRiid

    ๑๖. สมาธิ
    http://bit.ly/1MoRbve

    ๑๗. บทสรุปอริยสัจ
    http://bit.ly/1qihTv3

    ๑๘. โสดาบัน
    http://bit.ly/1MoRfeq

    ๑๙. วินัย
    http://bit.ly/1SYK63G

    ๒๐. ปาฏิหาริย์
    http://bit.ly/1VLUY7z

    ๒๑. ปัญหาแรงจูงใจ
    http://bit.ly/1N3oUKE

    ๒๒. ความสุข ๑ ฉบับแบบแผน
    http://bit.ly/1VLV3rJ

    ๒๓. ความสุข ๒ ฉบับประมวลความ
    http://bit.ly/1SYK9g0

    เครดิต Kanlayanatam
    ผลงานชิ้นเอก ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) เป็นหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนา ที่ดีที่สุดในยุคแผ่นดินรัชกาลที่ ๙ เป็นหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้พระไพศาล วิสาโล บวชไม่คิดสึก ‘พุทธธรรม’ ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์. (พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)) คือ หนังสือที่พระไพศาลยกย่อง ถึงขั้นที่ว่าถ้ามีหนังสือเพียงเล่มเดียวที่สามารถติดตัวไปได้ในชีวิต ‘พุทธธรรม’ คือ เล่มที่ท่านเลือก... “หนังสือเล่มนี้อาตมาอ่านจบช่วงเข้าพรรษาสมัยที่เป็นฆราวาส เมื่อ พ.ศ. 2525 ตั้งใจว่าอ่านให้ได้วันละ 10 หน้า ก็อ่านได้ทุกวัน พรรษาหนึ่งประมาณ 90 กว่าวัน หนังสือมีความหนาประมาณพันกว่าหน้า อ่านตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายก็พอดี เป็นการฝึกความเพียรและวินัยด้วย บางทีเราเดินทางไปต่างจังหวัดก่อนหน้านั้นวันหนึ่งจะต้องอ่านเพิ่มอีก 10 หน้าเพื่อชดเชยกับวันที่ต้องเดินทาง” นอกจากความเพียรในการอ่านแล้ว ช่วงนั้นพระไพศาลซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัยยังได้รับความเมตตาจากพระราชวรมุนี (สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์) อนุญาตให้เข้าพบเป็นประจำทุกเดือน เพื่อสนทนาธรรมสอบถามข้อสงสัยจากหนังสืออีกด้วย “อ่านหนังสือแล้วไปถามท่านเราก็ได้ความกระจ่างเยอะ ถือเป็นความโชคดีในฐานะนักอ่าน ยิ่งได้คุยกับท่านยิ่งรู้ว่า ท่านเป็นผู้มีสติปัญญาล้ำเลิศ ถ้าจัดเรตให้ต้องถือว่าเฟิร์สตเรต อัศจรรย์มาก” พุทธธรรมเป็นวรรณกรรมพุทธศาสนา ที่ได้รับการยอมรับว่าแสดงหลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาทอย่างซื่อตรงต่อพระ ไตรปิฎกเป็นอย่างยิ่ง นำเสนอหลักการและสาระสำคัญของพระพุทธศาสนาอย่างครบถ้วน และเป็นระบบอย่างชัดเจน พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2514 ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 ผู้เขียนได้ปรับปรุงและขยายความเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นหนังสือเล่มใหญ่หนาเป็นพันหน้า “อ่านไปก็อดทึ่งคนเขียนไม่ได้ว่าทั้งฉลาดทั้งมีความเพียรสูง ค้นข้อมูลมามากทีเดียวกว่าจะเขียนได้อย่างนี้ คือไม่ใช่แค่สรุปความย่อความเหมือนหนังสือบางเล่ม แต่เป็นการเขียนขึ้นมาใหม่ โดยมีพระไตรปิฎก เป็นพื้นฐาน นำเสนอด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ด้วยวิธีคิดของคนสมัยใหม่ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เราจะไม่เจอแบบนี้ในงานเขียนพระพุทธศาสนา บางทีเคยไปเจอหนังสือเกี่ยวกับสาระพระไตรปิฎก เขียนโดยฆราวาสที่เคยบวชพระมาจะเห็นว่าลีลาสไตล์การเขียนแตกต่างกัน บางทีก็แค่ย่อความมาให้เราดู การย่อความก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ท่านเจ้าประคุณทำได้มากกว่านั้น จึงนำมาเสนอใหม่ ด้วยชนิดที่เรียกว่าสามารถจะสื่อสารกับเราด้วยภาษาของเราได้ และพยายามโยงให้เข้าถึงปัญหาสังคมสมัยใหม่โดยใช้มุมมองแบบพุทธ ซึ่งสมควรแล้วที่คนจะพูดว่าเป็นเล่มที่ดีที่สุดในยุครัชกาลที่ 9 และถือว่าเป็นเล่มที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งของรัตนโกสินทร์” อาตมายกให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือดีของชีวิต ประการที่หนึ่งเพราะนำเสนอพุทธธรรมอย่างเป็นระบบและรอบด้านที่สุดภายในเล่มเดียว คือมีหลายท่านพูดถึงพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งแต่พูดเป็นบางแง่ อย่างท่านพุทธทาสก็พูดเป็นบางแง่ เช่น ปฏิจจสมุปบาท อิทัปปัจจยตา แต่เล่มนี้พูดครบทุกแง่อย่างเป็นระบบ ทุกแง่ทุกมุมอยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว ขอให้ค้นให้เป็น อาตมาเคยพูดนะว่าหนังสือเล่มนี้มี 3 มิติ ทั้งลึก กว้าง ไกล ลึกคือทำให้เราเข้าใจความจริงที่ลึกซึ้งของตัวเอง และทำให้เราเห็นกว้าง เห็นโลกและสังคมได้อย่างกว้าง เล่มนี้จะพูดถึงสังคมสมัยใหม่ไว้พอสมควร ทำให้เราได้เห็นมิติด้านไกล นั่นคือได้เห็นว่าการสอนพุทธศาสนานี้ผ่านการตีความมายังไงบ้าง ประการต่อมาคือใช้ภาษาที่งดงามสละสลวย ภาษาท่านงดงามมาก และสามารถสื่อได้ตรงใจผู้เขียน แม้ว่าเนื้อหาจะลึกซึ้ง คือทุกวันนี้แม้ตัวเองจะอ่านงานท่านเจ้าประคุณมาเยอะ เวลาจะสื่ออะไรบางอย่าง เรารู้สึกว่าเราจนต่อถ้อยคำ ไม่สามารถจะเขียนให้สุดความคิดได้ แต่หนังสือเล่มนี้ท่านเจ้าประคุณสามารถบรรยายให้สุดความคิดได้ อาตมาคิดว่าเป็นแบบอย่างของงานเขียนในทางศาสนาและงานวิชาการได้ คือมีทั้งอรรถและรส อรรถคือเนื้อหา รสคือรสของภาษา” ซึ่งพระไพศาลยอมรับว่าได้รับอิทธิพลจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) และท่านพุทธทาส ในการใช้ชีวิตและเขียนหนังสือพอสมควร โดยเฉพาะจากหนังสือพุทธธรรมนั้นมีอิทธิพลต่องานเขียน และการค้นคว้าทางพุทธศาสนาอย่างมาก “ถ้ามีเล่มเดียวที่สามารถติดไปได้ในชีวิตก็เล่มนี้แหละ ถึงแม้จะหนักหน่อยก็ตาม อาตมายังรู้สึกเลยนะว่าหนังสือเล่มนี้ทำให้เราภูมิใจที่เป็นคนไทย การที่คุณเป็นคนไทยแล้วได้อ่านหนังสือเล่มนี้ถือว่าโชคดีและคุ้มค่าในการที่ได้เป็นคนไทยแล้ว บางทีเราก็รู้สึกว่าเป็นฝรั่งโชคดีนะ ได้อ่านหนังสือที่ลึกซึ้ง หนังสือเยอะแยะหลากหลาย แต่พุทธธรรมนี่แหละที่ทำให้เราสามารถเป็นที่อิจฉาของฝรั่งได้ เพราะฝรั่งอ่านเล่มนี้ไม่ได้ แต่คนไทยอ่านได้ ฉะนั้นถ้าในแง่ชาวพุทธและในแง่ความเป็นคนไทย หนังสือเล่มนี้จะทำให้เราภูมิใจและรู้สึกโชคดีที่ได้เป็นคนไทย ที่อ่านภาษาไทยออก” และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีหนังสือพุทธธรรมในครอบครอง แต่ยังไม่เคยเปิดอ่าน พระไพศาลบอกว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะรสชาติของหนังสือเล่มนี้แตกต่างจากหนังสือทั่ว ๆ ไป “อ่านแล้วจะทำให้เกิดความพิศวงและความปีติเมื่อได้พบความจริง” นั่นคือพุทธธรรม... Save เก็บได้เลย... 1360 หน้า อัพเดทล่าสุด เป็นฉบับปรับขยายครับ อ่านวันละ 10 หน้าแป๊บเดี๋ยวก็จบแล้ว https://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/buddhadhamma_extended_edition.pdf?fbclid=IwAR1WFAHlZSqoUQa01X13IvZno7o9FgFuHC450ktPmxfQAxLyUtGOl9ndrSY ท่านสามารถดาวโหลดเสียงอ่านหนังสือ "พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย" ของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)) เสียงอ่านโดย..พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล ได้ที่ Link เสียงอ่าน พุทธธรรม http://bit.ly/1nZnfef Link สำหรับพุทธธรรม ๒๓ บท ตามนี้ครับ ๐๑. ขันธ์5 http://bit.ly/1qih1Xj ๐๒. อายตนะ ๖ http://bit.ly/1Xq7tVe ๐๓.ไตรลักษณ์ http://bit.ly/1VhCuNd ๐๔. ปฏิจสุปบาท http://bit.ly/1SYJnj1 ๐๕. กรรม http://bit.ly/20u0M6t ๐๖. นิพพาน http://bit.ly/1Q2AZKF ๐๗. ประเภทนิพพาน http://bit.ly/1qIMFOI ๐๘. สมถะ-วิปัสสนา http://bit.ly/1UUvg1A ๐๙. หลักการสำคัญของการบรรลุนิพพาน http://bit.ly/1VLTVUU ๑๐. บทสรุปเรื่องนิพพาน http://bit.ly/23wfOdI ๑๑. บทนำมัชฌิมาปฏิปทา http://bit.ly/1S4wT9r ๑๒. ปรโตโฆสะที่ดี_กัลยาณมิตร http://bit.ly/1S0ftIV ๑๓. โยนิโสมนสิการ http://bit.ly/1RNTVlX ๑๔. ปัญญา http://bit.ly/1RNU211 ๑๕. ศีล http://bit.ly/23nRiid ๑๖. สมาธิ http://bit.ly/1MoRbve ๑๗. บทสรุปอริยสัจ http://bit.ly/1qihTv3 ๑๘. โสดาบัน http://bit.ly/1MoRfeq ๑๙. วินัย http://bit.ly/1SYK63G ๒๐. ปาฏิหาริย์ http://bit.ly/1VLUY7z ๒๑. ปัญหาแรงจูงใจ http://bit.ly/1N3oUKE ๒๒. ความสุข ๑ ฉบับแบบแผน http://bit.ly/1VLV3rJ ๒๓. ความสุข ๒ ฉบับประมวลความ http://bit.ly/1SYK9g0 เครดิต Kanlayanatam
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 642 มุมมอง 0 รีวิว
  • อรรถกถามหาปทานสูตร
    ภัยธรรมชาติเกิดจากผู้นำไม่มีคุณธรรม

    อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา - บ้านธัมมะ
    https://www.dhammahome.com/webboard/topic/14918
    อรรถกถามหาปทานสูตร ภัยธรรมชาติเกิดจากผู้นำไม่มีคุณธรรม อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา - บ้านธัมมะ https://www.dhammahome.com/webboard/topic/14918
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว