• เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยจำได้ว่า Storyฯ เคยเขียนว่าพระเอกในเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> ‘ลู่อี้’ นั้นมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ วันนี้มาคุยกันกับเกร็ดประวัติศาสตร์จากละครเรื่องนี้ที่ Storyฯ เพิ่งได้กลับมาตั้งใจดูอีกครั้งและพบว่าตัวเองตกหล่นรายละเอียดไปไม่น้อย

    เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้อาจพอจำได้ว่าในเนื้อเรื่องมีตัวร้ายคือ ‘เหยียนซื่อฟาน’ ซึ่งเป็นลูกชายของขุนนางตัวโกงนาม ‘เหยียนซง’ ซึ่งทั้งสองคนนี้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ในรัชสมัยขององค์หมิงซื่อจงแห่งราชวง์หมิง โดยเหยียนซงรับตำแหน่งหัวหน้าของคณะขุนนางสูงสุดหรือที่เรียกว่า ‘เน่ยเก๋อ’ (内阁 จึงเป็นที่มาของการเรียกขาน เหยียนซื่อฟานว่า ‘เสี่ยวเก๋อเหล่า’) ในละครมีฉากที่เหยียนซื่อฟานได้ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาและมีการถกกันว่าเป็นภาพของแท้หรือไม่

    Storyฯ เคยเขียนถึงภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาแล้วตอนที่คุยกันเกี่ยวกับละคร <สามบุปผาลิขิตฝัน> แต่วันนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติม ขอถอดบทสนทนาจากในละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> มาดังนี้
    ... “ได้ยินมาว่าจางเจ๋อตวนใช้เวลาหนึ่งปีก็วาดภาพม้วนยาวนี้เสร็จ นับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถหายาก... ท่านใต้เท่าสวี่... เชิญท่านลองคุยๆ ดูภาพนี้จริงปลอมหรือไม่อย่างไร” เหยียนซงกล่าว
    ใต้เท้าสวี่เอ่ย “...ตามที่ข้าน้อยทราบมา ภาพนี้ควรมีลายพระอักษรรูปแบบโซ่วจินขององค์ซ่งฮุยจงเป็นคำว่า ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ห้าอักษร... และมีตราประทับมังกรคู่ อีกทั้งมีบทกลอนนำ ภาพนี้ดูแล้วไม่คล้ายเป็นภาพวาดเลียนแบบ” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)

    ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ยาว 528 ซม. สูง 24.8 ซม. เป็นหนึ่งในสิบของภาพโบราณที่มีค่าที่สุดของจีน ถูกวาดขึ้นโดยจางเจ๋อตวน เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการวาดภาพนี้จริงหรือไม่ ไม่ปรากฏหลักฐานหรือบันทึกใดกล่าวชัด แต่ภาพนี้เคยตกอยู่ในมือของเหยียนซงจริง! ตอนที่ตระกูลเหยียนถูกลงทัณฑ์และยึดสมบัตินั้น รายชื่อของสมบัติที่ริบได้นั้นยาวถึง 140 หน้ากระดาษและหนึ่งในนั้นก็คือ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ นี้

    จากบันทึกที่พอแกะรอยกันได้ ว่ากันว่าภาพนี้แรกเริ่มถูกนำถวายองค์ซ่งฮุยจง (ค.ศ. 1522-1566) และพระองค์ทรงเขียนชื่อ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ขึ้นบนภาพด้วยอักษรในรูปแบบ ‘โซ่วจิน’ ซึ่งเป็นรูปแบบอักษรที่ทรงคิดประดิษฐ์ขึ้นเอง (ดูตัวอย่างจากรูป2 ขวา) เป็นที่ถกเถียงกันต่อมาว่าทรงโปรดภาพนี้หรือไม่เพราะมันไม่ได้ถูกเก็บไว้ในท้องพระคลังแต่ถูกพระราชทานให้ขุนนาง

    หลังจากนั้น ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ผ่านการเดินทางอย่างโชกโชน ในช่วงที่ราชวงศ์จินยึดแผ่นดินซ่งได้สำเร็จนั้น ว่ากันว่ามันถูกเก็บเข้าท้องพระคลังและถูกยักยอกออกมาขายทอดตลาด เป็นช่วงที่มีการเขียนบทนำลงไปหน้าภาพ ต่อมาในสมัยหยวนก็ถูกซื้อเก็บเข้าท้องพระคลังอีกครั้งและถูกยักยอกออกมาขายอีก มีการเสาะหามันเรื่อยมาจนตกมาอยู่ในมือของเหยียนซงในสมัยหมิง โดยที่ก่อนหน้านั้นปรากฏงานลอกเลียนแบบออกมาจำนวนไม่น้อย ต่อมามันถูกริบเป็นสมบัติหลวงอีกครั้งโดยมีการลบตราประทับที่แสดงความเป็นเจ้าของของตระกูลเหยียนออกจากภาพ หลังจากนั้นมันถูกเปลี่ยนมือไปมาในแวดวงขุนนาง โดยไม่แน่ว่าเป็นการได้รับพระราชทานหรือยักยอก และปรากฏบทความนำหน้าภาพขึ้นมาเพิ่มอีก โดยที่ลายพระหัตถ์ขององค์หมิงซื่อจงไม่ทราบว่าหายไปจากภาพตั้งแต่เมื่อใด ผู้ที่ถือครองครั้งสุดท้ายว่ากันว่าคือขันทีนามว่า ‘เฝิงเป่า’ ซึ่งต่อมาถูกลงทัณฑ์ริบสมบัติ

    ภาพนี้หายสาบสูญไปนานกว่าสองร้อยปี แน่นอนว่ามีภาพปลอมจำนวนไม่น้อยปรากฏขึ้น และภาพที่เชื่อว่าเป็นฉบับจริงนี้ปรากฏในตลาดและมาถึงมือของพิพิธภัณฑ์มณฑลเหลียวหนิงในปีค.ศ. 1950 ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับลู่อี้: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0QA8xxCRgWSD6jP6PexAdnrZmEdGAHVxGTu3UXj3CpZfkovdY37ft9rQbauD6KfQzl
    บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับชิงหมิงซ่างเหอถู: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid01MbyBtawx6X9xEHogRvHY8NesM2MVWHUBgYeuujQnFrPFA39dgddSihm4jjXrfiPl

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    http://www.zgsshh.com/Works_body.asp?id=1190&amp;qx=137
    http://www.fengxuelin.com/tougao/16546.html
    http://ent.sina.com.cn/v/m/2017-10-12/doc-ifymviyp0369720.shtml
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2010/06-21/2352544.shtml
    http://collection.sina.com.cn/jczs/2016-10-26/doc-ifxwztrt0466746.shtml
    https://baike.baidu.com/item/瘦金体/884949

    #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ชิงหมิงซ่างเหอถู #เหยียนซื่อฟาน #ซ่งฮุยจง #อักษรโซ่วจิน
    เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยจำได้ว่า Storyฯ เคยเขียนว่าพระเอกในเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> ‘ลู่อี้’ นั้นมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ วันนี้มาคุยกันกับเกร็ดประวัติศาสตร์จากละครเรื่องนี้ที่ Storyฯ เพิ่งได้กลับมาตั้งใจดูอีกครั้งและพบว่าตัวเองตกหล่นรายละเอียดไปไม่น้อย เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้อาจพอจำได้ว่าในเนื้อเรื่องมีตัวร้ายคือ ‘เหยียนซื่อฟาน’ ซึ่งเป็นลูกชายของขุนนางตัวโกงนาม ‘เหยียนซง’ ซึ่งทั้งสองคนนี้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ในรัชสมัยขององค์หมิงซื่อจงแห่งราชวง์หมิง โดยเหยียนซงรับตำแหน่งหัวหน้าของคณะขุนนางสูงสุดหรือที่เรียกว่า ‘เน่ยเก๋อ’ (内阁 จึงเป็นที่มาของการเรียกขาน เหยียนซื่อฟานว่า ‘เสี่ยวเก๋อเหล่า’) ในละครมีฉากที่เหยียนซื่อฟานได้ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาและมีการถกกันว่าเป็นภาพของแท้หรือไม่ Storyฯ เคยเขียนถึงภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาแล้วตอนที่คุยกันเกี่ยวกับละคร <สามบุปผาลิขิตฝัน> แต่วันนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติม ขอถอดบทสนทนาจากในละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> มาดังนี้ ... “ได้ยินมาว่าจางเจ๋อตวนใช้เวลาหนึ่งปีก็วาดภาพม้วนยาวนี้เสร็จ นับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถหายาก... ท่านใต้เท่าสวี่... เชิญท่านลองคุยๆ ดูภาพนี้จริงปลอมหรือไม่อย่างไร” เหยียนซงกล่าว ใต้เท้าสวี่เอ่ย “...ตามที่ข้าน้อยทราบมา ภาพนี้ควรมีลายพระอักษรรูปแบบโซ่วจินขององค์ซ่งฮุยจงเป็นคำว่า ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ห้าอักษร... และมีตราประทับมังกรคู่ อีกทั้งมีบทกลอนนำ ภาพนี้ดูแล้วไม่คล้ายเป็นภาพวาดเลียนแบบ” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า) ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ยาว 528 ซม. สูง 24.8 ซม. เป็นหนึ่งในสิบของภาพโบราณที่มีค่าที่สุดของจีน ถูกวาดขึ้นโดยจางเจ๋อตวน เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการวาดภาพนี้จริงหรือไม่ ไม่ปรากฏหลักฐานหรือบันทึกใดกล่าวชัด แต่ภาพนี้เคยตกอยู่ในมือของเหยียนซงจริง! ตอนที่ตระกูลเหยียนถูกลงทัณฑ์และยึดสมบัตินั้น รายชื่อของสมบัติที่ริบได้นั้นยาวถึง 140 หน้ากระดาษและหนึ่งในนั้นก็คือ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ นี้ จากบันทึกที่พอแกะรอยกันได้ ว่ากันว่าภาพนี้แรกเริ่มถูกนำถวายองค์ซ่งฮุยจง (ค.ศ. 1522-1566) และพระองค์ทรงเขียนชื่อ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ขึ้นบนภาพด้วยอักษรในรูปแบบ ‘โซ่วจิน’ ซึ่งเป็นรูปแบบอักษรที่ทรงคิดประดิษฐ์ขึ้นเอง (ดูตัวอย่างจากรูป2 ขวา) เป็นที่ถกเถียงกันต่อมาว่าทรงโปรดภาพนี้หรือไม่เพราะมันไม่ได้ถูกเก็บไว้ในท้องพระคลังแต่ถูกพระราชทานให้ขุนนาง หลังจากนั้น ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ผ่านการเดินทางอย่างโชกโชน ในช่วงที่ราชวงศ์จินยึดแผ่นดินซ่งได้สำเร็จนั้น ว่ากันว่ามันถูกเก็บเข้าท้องพระคลังและถูกยักยอกออกมาขายทอดตลาด เป็นช่วงที่มีการเขียนบทนำลงไปหน้าภาพ ต่อมาในสมัยหยวนก็ถูกซื้อเก็บเข้าท้องพระคลังอีกครั้งและถูกยักยอกออกมาขายอีก มีการเสาะหามันเรื่อยมาจนตกมาอยู่ในมือของเหยียนซงในสมัยหมิง โดยที่ก่อนหน้านั้นปรากฏงานลอกเลียนแบบออกมาจำนวนไม่น้อย ต่อมามันถูกริบเป็นสมบัติหลวงอีกครั้งโดยมีการลบตราประทับที่แสดงความเป็นเจ้าของของตระกูลเหยียนออกจากภาพ หลังจากนั้นมันถูกเปลี่ยนมือไปมาในแวดวงขุนนาง โดยไม่แน่ว่าเป็นการได้รับพระราชทานหรือยักยอก และปรากฏบทความนำหน้าภาพขึ้นมาเพิ่มอีก โดยที่ลายพระหัตถ์ขององค์หมิงซื่อจงไม่ทราบว่าหายไปจากภาพตั้งแต่เมื่อใด ผู้ที่ถือครองครั้งสุดท้ายว่ากันว่าคือขันทีนามว่า ‘เฝิงเป่า’ ซึ่งต่อมาถูกลงทัณฑ์ริบสมบัติ ภาพนี้หายสาบสูญไปนานกว่าสองร้อยปี แน่นอนว่ามีภาพปลอมจำนวนไม่น้อยปรากฏขึ้น และภาพที่เชื่อว่าเป็นฉบับจริงนี้ปรากฏในตลาดและมาถึงมือของพิพิธภัณฑ์มณฑลเหลียวหนิงในปีค.ศ. 1950 ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับลู่อี้: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0QA8xxCRgWSD6jP6PexAdnrZmEdGAHVxGTu3UXj3CpZfkovdY37ft9rQbauD6KfQzl บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับชิงหมิงซ่างเหอถู: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid01MbyBtawx6X9xEHogRvHY8NesM2MVWHUBgYeuujQnFrPFA39dgddSihm4jjXrfiPl Credit รูปภาพจากในละครและจาก: http://www.zgsshh.com/Works_body.asp?id=1190&amp;qx=137 http://www.fengxuelin.com/tougao/16546.html http://ent.sina.com.cn/v/m/2017-10-12/doc-ifymviyp0369720.shtml Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2010/06-21/2352544.shtml http://collection.sina.com.cn/jczs/2016-10-26/doc-ifxwztrt0466746.shtml https://baike.baidu.com/item/瘦金体/884949 #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ชิงหมิงซ่างเหอถู #เหยียนซื่อฟาน #ซ่งฮุยจง #อักษรโซ่วจิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์! หลังชายคนหนึ่งพบว่า รูปภูเขาที่เขาถ่ายมานั้น มีรูปทรงสุดน่ารักเหมือนกับสุนัขตัวน้อย ก่อนที่จะแชร์ลงโซเชียล จนเป็นไวรัลและทำเอาชาวเน็ตอยากแห่ไปตามรอยกันเป็นแถบ

    "วิวทิวทัศน์ 2 ฝั่งของแม่น้ำแยงซีสวยงามมาก! ตอนนั้นผมถ่ายรูปมาเยอะมาก พอกลับมาจัดรูป พบว่ารูปภูเขาที่ถ่ายมาดูเหมือนกับหัวของน้องหมาที่กำลังนอนหมอบอยู่ มันมหัศจรรย์มาก! น่ารักมาก!...ท่าทางเหมือนกับน้องหมาที่กำลังดื่มน้ำ หรือไม่ก็มองดูปลาในแม่น้ำ และคอยเฝ้าแม่น้ำแยงซี" นายกัว ซึ่งเป็นผู้ถ่ายรูปดังกล่าวกล่าว

    โดยเขาไม่คิดเลยว่า รูปที่เขาถ่ายนั้นจะกลายเป็นที่สนใจ และทำให้ภูเขาหมาน้อย ซึ่งตั้งอยู่ที่ริมฝั่งโกรกธารซีหลิง ในอำเภอจื่อกุย เมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ย กลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนอยากมาเช็กอินกันเป็นจำนวนมาก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000022056

    #MGROnline #มณฑลหูเป่ย
    สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์! หลังชายคนหนึ่งพบว่า รูปภูเขาที่เขาถ่ายมานั้น มีรูปทรงสุดน่ารักเหมือนกับสุนัขตัวน้อย ก่อนที่จะแชร์ลงโซเชียล จนเป็นไวรัลและทำเอาชาวเน็ตอยากแห่ไปตามรอยกันเป็นแถบ • "วิวทิวทัศน์ 2 ฝั่งของแม่น้ำแยงซีสวยงามมาก! ตอนนั้นผมถ่ายรูปมาเยอะมาก พอกลับมาจัดรูป พบว่ารูปภูเขาที่ถ่ายมาดูเหมือนกับหัวของน้องหมาที่กำลังนอนหมอบอยู่ มันมหัศจรรย์มาก! น่ารักมาก!...ท่าทางเหมือนกับน้องหมาที่กำลังดื่มน้ำ หรือไม่ก็มองดูปลาในแม่น้ำ และคอยเฝ้าแม่น้ำแยงซี" นายกัว ซึ่งเป็นผู้ถ่ายรูปดังกล่าวกล่าว • โดยเขาไม่คิดเลยว่า รูปที่เขาถ่ายนั้นจะกลายเป็นที่สนใจ และทำให้ภูเขาหมาน้อย ซึ่งตั้งอยู่ที่ริมฝั่งโกรกธารซีหลิง ในอำเภอจื่อกุย เมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ย กลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนอยากมาเช็กอินกันเป็นจำนวนมาก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000022056 • #MGROnline #มณฑลหูเป่ย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องราวของนายโจว หมอดูจากหนานชง มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ที่เคยทำนายดวงชะตาตัวเอง ว่าจะเสียชีวิตตอนวัย 50 และสุดท้ายเขาก็เสียชีวิตจริงๆ

    “ในช่วงวัยเลข 5 ผมจะพบกับหายนะที่รุนแรงถึงขั้นคอขาดบาดตาย”

    โดยในเดือน พ.ค.2017 ก่อนจะถึงวันเกิดครบ 60 ปี นายโจวก็เกิดป่วยหนักและเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล

    แม้ว่าแพทย์จะพยายามรักษาและยื้อชีวิตเขา แต่สุดท้ายนายโจวก็เสียชีวิต โดยจากการสอบสวนพบว่านายโจวเสียชีวิตจาก "พาราควอต" สารเคมีกำจัดวัชพืช ที่มีพิษร้ายแรง ออกฤทธิ์เร็วและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หลายประเทศทั่วโลกจึงแบนการใช้พาราควอต

    ภายหลังครอบครัวของนายโจวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพราะสงสัยว่า นายโจวอาจถูกฆาตกรรม เนื่องจากลูกสาวของเขาพบสารพิษปนอยู่ในยาแก้ไอของนายโจว

    หลังจากการสืบสวน เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวข้องกับผู้หญิงแซ่จิง โดยในปี 2011 แม่ของจิงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เธอได้ขอความช่วยเหลือจากนายโจว โดยหวังว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือแม่ของเธอได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000021499

    #MGROnline #พาราควอต
    เรื่องราวของนายโจว หมอดูจากหนานชง มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ที่เคยทำนายดวงชะตาตัวเอง ว่าจะเสียชีวิตตอนวัย 50 และสุดท้ายเขาก็เสียชีวิตจริงๆ • “ในช่วงวัยเลข 5 ผมจะพบกับหายนะที่รุนแรงถึงขั้นคอขาดบาดตาย” • โดยในเดือน พ.ค.2017 ก่อนจะถึงวันเกิดครบ 60 ปี นายโจวก็เกิดป่วยหนักและเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล • แม้ว่าแพทย์จะพยายามรักษาและยื้อชีวิตเขา แต่สุดท้ายนายโจวก็เสียชีวิต โดยจากการสอบสวนพบว่านายโจวเสียชีวิตจาก "พาราควอต" สารเคมีกำจัดวัชพืช ที่มีพิษร้ายแรง ออกฤทธิ์เร็วและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หลายประเทศทั่วโลกจึงแบนการใช้พาราควอต • ภายหลังครอบครัวของนายโจวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพราะสงสัยว่า นายโจวอาจถูกฆาตกรรม เนื่องจากลูกสาวของเขาพบสารพิษปนอยู่ในยาแก้ไอของนายโจว • หลังจากการสืบสวน เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวข้องกับผู้หญิงแซ่จิง โดยในปี 2011 แม่ของจิงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เธอได้ขอความช่วยเหลือจากนายโจว โดยหวังว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือแม่ของเธอได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000021499 • #MGROnline #พาราควอต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังก้าวเข้าสู่วงการ EUV Lithography (Extreme Ultraviolet Lithography) ด้วยการพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์แบบ LDP (Laser-Induced Discharge Plasma) ซึ่งกำลังทดสอบที่โรงงานของ Huawei ในเมืองตงกวน โดยเป้าหมายคือการเริ่มการผลิตเชิงทดลองในไตรมาส 3 ปี 2025 และผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2026 อุปกรณ์นี้อาจทำให้จีนหลุดพ้นจากการพึ่งพาผู้ผลิตในต่างประเทศ เช่น ASML ที่ครองตลาดด้านเทคโนโลยีนี้มาอย่างยาวนาน

    = วิธีการทำงานของ LDP และข้อได้เปรียบ =
    1) การสร้างแสง EUV: แสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรถูกผลิตขึ้นโดยการระเหยดีบุกให้กลายเป็นพลาสมา ผ่านกระบวนการปล่อยประจุไฟฟ้าแรงสูง วิธีนี้ต่างจากเทคนิค LPP (Laser-Produced Plasma) ของ ASML ที่ใช้เลเซอร์พลังงานสูงและระบบควบคุมซับซ้อน

    2) ข้อได้เปรียบของ LDP:
    - โครงสร้างเครื่องจักรเรียบง่ายกว่า
    - ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว

    = ความสำคัญในบริบทการคว่ำบาตร =
    ก่อนหน้านี้ จีนประสบปัญหาในการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เนื่องจากถูกจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ EUV จากสหรัฐฯ และพันธมิตร ทำให้การพัฒนาชิปต้องใช้เทคนิค DUV (Deep Ultraviolet) ที่มีข้อจำกัด เช่น การใช้ความยาวคลื่นที่ใหญ่กว่า (193 นาโนเมตร) และการทำการแพทเทิร์นหลายครั้ง (Multi-patterning) ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนและต้นทุน แต่เทคโนโลยี LDP ของ Huawei นี้อาจช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนได้อย่างมหาศาล

    อย่างไรก็ตาม มีความท้าทายที่สำคัญ:
    - ความสามารถในการสร้างภาพที่คมชัดและละเอียดเพียงพอ
    - ความคงที่ของระบบในกระบวนการผลิตจำนวนมาก
    - การรวมอุปกรณ์นี้เข้ากับสายการผลิตที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    หากอุปกรณ์ของ Huawei สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ได้ จีนอาจกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก และลดอิทธิพลของ ASML ในตลาดนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเทคโนโลยีนี้อาจเป็น "DeepSeek Moment" ที่จะปฏิวัติวงการการผลิตชิปในประเทศจีน

    https://www.techpowerup.com/333801/china-develops-domestic-euv-tool-asml-monopoly-in-trouble
    จีนกำลังก้าวเข้าสู่วงการ EUV Lithography (Extreme Ultraviolet Lithography) ด้วยการพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์แบบ LDP (Laser-Induced Discharge Plasma) ซึ่งกำลังทดสอบที่โรงงานของ Huawei ในเมืองตงกวน โดยเป้าหมายคือการเริ่มการผลิตเชิงทดลองในไตรมาส 3 ปี 2025 และผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2026 อุปกรณ์นี้อาจทำให้จีนหลุดพ้นจากการพึ่งพาผู้ผลิตในต่างประเทศ เช่น ASML ที่ครองตลาดด้านเทคโนโลยีนี้มาอย่างยาวนาน = วิธีการทำงานของ LDP และข้อได้เปรียบ = 1) การสร้างแสง EUV: แสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรถูกผลิตขึ้นโดยการระเหยดีบุกให้กลายเป็นพลาสมา ผ่านกระบวนการปล่อยประจุไฟฟ้าแรงสูง วิธีนี้ต่างจากเทคนิค LPP (Laser-Produced Plasma) ของ ASML ที่ใช้เลเซอร์พลังงานสูงและระบบควบคุมซับซ้อน 2) ข้อได้เปรียบของ LDP: - โครงสร้างเครื่องจักรเรียบง่ายกว่า - ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว = ความสำคัญในบริบทการคว่ำบาตร = ก่อนหน้านี้ จีนประสบปัญหาในการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เนื่องจากถูกจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ EUV จากสหรัฐฯ และพันธมิตร ทำให้การพัฒนาชิปต้องใช้เทคนิค DUV (Deep Ultraviolet) ที่มีข้อจำกัด เช่น การใช้ความยาวคลื่นที่ใหญ่กว่า (193 นาโนเมตร) และการทำการแพทเทิร์นหลายครั้ง (Multi-patterning) ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนและต้นทุน แต่เทคโนโลยี LDP ของ Huawei นี้อาจช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนได้อย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม มีความท้าทายที่สำคัญ: - ความสามารถในการสร้างภาพที่คมชัดและละเอียดเพียงพอ - ความคงที่ของระบบในกระบวนการผลิตจำนวนมาก - การรวมอุปกรณ์นี้เข้ากับสายการผลิตที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากอุปกรณ์ของ Huawei สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ได้ จีนอาจกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก และลดอิทธิพลของ ASML ในตลาดนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเทคโนโลยีนี้อาจเป็น "DeepSeek Moment" ที่จะปฏิวัติวงการการผลิตชิปในประเทศจีน https://www.techpowerup.com/333801/china-develops-domestic-euv-tool-asml-monopoly-in-trouble
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    China Develops Domestic EUV Tool, ASML Monopoly in Trouble
    China's domestic extreme ultraviolet (EUV) lithography development is far from a distant dream. The newest system, now undergoing testing at Huawei's Dongguan facility, leverages laser-induced discharge plasma (LDP) technology, representing a potentially disruptive approach to EUV light generation. ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากรายงานล่าสุดของศูนย์การศึกษาเชิงยุทธศาสตร์และนานาชาติ (CSIS) พบว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Huawei มีชิปเพียงพอในการผลิตชิป AI รุ่น Ascend 910C จำนวน 750,000 ชิป แม้จะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ที่มีผลกระทบต่อการเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิประดับสูง

    รายงานระบุว่า Semiconductor International Manufacturing Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปหลักของจีน ได้แก้ไขปัญหาหลักในการขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตร ด้วยการได้รับเครื่องมือการผลิตชิปจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ รายงานยังเปิดเผยว่า SMIC มีแผนขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตรอย่างมากในปี 2025 โดยมีเป้าหมายการผลิตเวเฟอร์ 50,000 ชิ้นต่อเดือน ทำให้สามารถผลิตชิป Ascend 910C ได้ถึง 400,000 ชิปต่อเดือน

    สหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อป้องกัน Huawei จากการพัฒนาชิป AI ใหม่ โดยเฉพาะชิปรุ่น Ascend 910B และ 910C อย่างไรก็ตาม TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวันได้ผลิตชิป Ascend 910B ให้กับ Huawei ก่อนมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด 2 ล้านชิ้น ซึ่ง Huawei ได้นำไปใช้ในการผลิตชิปรุ่น Ascend 910C

    แม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์จะป้องกันไม่ให้ SMIC ได้รับอุปกรณ์ EUV (Extreme Ultraviolet) เพื่อผลิตชิประดับสูงสุด แต่เครื่อง DUV (Deep Ultraviolet) ที่มีอยู่ยังช่วยให้บริษัทสามารถผลิตชิป 7 นาโนเมตรได้ CSIS คาดว่าเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ SMIC ปรับปรุงอัตราการได้ชิปที่ทำงานได้จาก 20% ให้สูงขึ้น

    การวิจัยระบุว่าความต้องการ GPU สำหรับ AI ของจีนที่ใช้ชิป A800 และ H800 ซึ่งได้รับการปรับแต่งเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ ยังคงสูงมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรการคว่ำบาตรไม่สามารถหยุดความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในจีนได้อย่างสมบูรณ์

    https://wccftech.com/chinas-huawei-can-make-750000-advanced-ai-chips-despite-us-sanctions-says-report/
    จากรายงานล่าสุดของศูนย์การศึกษาเชิงยุทธศาสตร์และนานาชาติ (CSIS) พบว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Huawei มีชิปเพียงพอในการผลิตชิป AI รุ่น Ascend 910C จำนวน 750,000 ชิป แม้จะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ที่มีผลกระทบต่อการเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิประดับสูง รายงานระบุว่า Semiconductor International Manufacturing Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปหลักของจีน ได้แก้ไขปัญหาหลักในการขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตร ด้วยการได้รับเครื่องมือการผลิตชิปจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ รายงานยังเปิดเผยว่า SMIC มีแผนขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตรอย่างมากในปี 2025 โดยมีเป้าหมายการผลิตเวเฟอร์ 50,000 ชิ้นต่อเดือน ทำให้สามารถผลิตชิป Ascend 910C ได้ถึง 400,000 ชิปต่อเดือน สหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อป้องกัน Huawei จากการพัฒนาชิป AI ใหม่ โดยเฉพาะชิปรุ่น Ascend 910B และ 910C อย่างไรก็ตาม TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวันได้ผลิตชิป Ascend 910B ให้กับ Huawei ก่อนมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด 2 ล้านชิ้น ซึ่ง Huawei ได้นำไปใช้ในการผลิตชิปรุ่น Ascend 910C แม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์จะป้องกันไม่ให้ SMIC ได้รับอุปกรณ์ EUV (Extreme Ultraviolet) เพื่อผลิตชิประดับสูงสุด แต่เครื่อง DUV (Deep Ultraviolet) ที่มีอยู่ยังช่วยให้บริษัทสามารถผลิตชิป 7 นาโนเมตรได้ CSIS คาดว่าเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ SMIC ปรับปรุงอัตราการได้ชิปที่ทำงานได้จาก 20% ให้สูงขึ้น การวิจัยระบุว่าความต้องการ GPU สำหรับ AI ของจีนที่ใช้ชิป A800 และ H800 ซึ่งได้รับการปรับแต่งเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ ยังคงสูงมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรการคว่ำบาตรไม่สามารถหยุดความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในจีนได้อย่างสมบูรณ์ https://wccftech.com/chinas-huawei-can-make-750000-advanced-ai-chips-despite-us-sanctions-says-report/
    WCCFTECH.COM
    China's Huawei Can Make ~750,000 Advanced AI Chips Despite US Sanctions, Says Report
    China's Huawei can make as many as one million advanced AI GPUs, believes a fresh research report. Take a look!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • Lenovo ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของจีน ได้ประกาศในงาน Tech World India 2025 ว่าจะย้ายสายการผลิตทั้งหมดไปยังประเทศอินเดียภายในสามปีข้างหน้า รวมถึงการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI GPU ที่เมือง Pondicherry การย้ายการผลิตนี้เป็นการตอบโต้กับภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีนที่ถูกเรียกเก็บโดยรัฐบาลของประธานาธิบดี Trump ที่สูงถึง 20% และจากเม็กซิโกถึง 25%

    การย้ายสายการผลิตนี้มีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าสูงที่ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่ง Lenovo ถือครองส่วนแบ่งตลาดแล็ปท็อปในสหรัฐฯ ถึง 12% การย้ายการผลิตไปยังอินเดียจะช่วยลดต้นทุนและปรับปรุงกลยุทธ์การตั้งราคาของบริษัทให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้

    Lenovo ไม่ใช่บริษัทเดียวที่ตัดสินใจย้ายการผลิตออกจากจีนเพื่อลดภาระภาษีนี้ บริษัทรายใหญ่อื่น ๆ เช่น ASRock, HP, และ Dell ก็มีแผนย้ายการผลิตไปยังประเทศที่ไม่มีภาระภาษีสูง เช่น เวียดนาม ไต้หวัน และอินโดนีเซีย

    นอกจากภาษีแล้ว การควบคุมการส่งออกชิป AI ล่าสุดจากทำเนียบขาวยังเป็นแรงกดดันให้ผู้ผลิตส่วนใหญ่ต้องย้ายฐานการผลิต PC และชิปไปยังประเทศอื่น เช่น PC Partner, ผู้ผลิตแบรนด์ Zotac, Inno3D, และ Manli กำลังย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังสิงคโปร์ และวางแผนย้ายการผลิตไปยังอินโดนีเซีย ในขณะที่บริษัทอย่าง Amkor Technology, Hana Micron, และ Intel กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเวียดนาม

    แม้ว่าบางบริษัทจะย้ายการผลิตไปยังประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี การย้ายการผลิตกลับเข้าสู่สหรัฐฯ ยังคงเป็นทางเลือกที่ยากลำบากสำหรับบริษัทขนาดเล็ก ส่วนบริษัทขนาดใหญ่เช่น TSMC ได้ประกาศการลงทุนเพิ่มอีก 100 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานใหม่สามแห่งและศูนย์วิจัยและพัฒนาในแอริโซนา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/lenovo-joins-growing-china-exodus-as-manufacturers-flee-us-tariffs-oem-moving-production-lines-to-india
    Lenovo ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของจีน ได้ประกาศในงาน Tech World India 2025 ว่าจะย้ายสายการผลิตทั้งหมดไปยังประเทศอินเดียภายในสามปีข้างหน้า รวมถึงการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI GPU ที่เมือง Pondicherry การย้ายการผลิตนี้เป็นการตอบโต้กับภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีนที่ถูกเรียกเก็บโดยรัฐบาลของประธานาธิบดี Trump ที่สูงถึง 20% และจากเม็กซิโกถึง 25% การย้ายสายการผลิตนี้มีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าสูงที่ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่ง Lenovo ถือครองส่วนแบ่งตลาดแล็ปท็อปในสหรัฐฯ ถึง 12% การย้ายการผลิตไปยังอินเดียจะช่วยลดต้นทุนและปรับปรุงกลยุทธ์การตั้งราคาของบริษัทให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ Lenovo ไม่ใช่บริษัทเดียวที่ตัดสินใจย้ายการผลิตออกจากจีนเพื่อลดภาระภาษีนี้ บริษัทรายใหญ่อื่น ๆ เช่น ASRock, HP, และ Dell ก็มีแผนย้ายการผลิตไปยังประเทศที่ไม่มีภาระภาษีสูง เช่น เวียดนาม ไต้หวัน และอินโดนีเซีย นอกจากภาษีแล้ว การควบคุมการส่งออกชิป AI ล่าสุดจากทำเนียบขาวยังเป็นแรงกดดันให้ผู้ผลิตส่วนใหญ่ต้องย้ายฐานการผลิต PC และชิปไปยังประเทศอื่น เช่น PC Partner, ผู้ผลิตแบรนด์ Zotac, Inno3D, และ Manli กำลังย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังสิงคโปร์ และวางแผนย้ายการผลิตไปยังอินโดนีเซีย ในขณะที่บริษัทอย่าง Amkor Technology, Hana Micron, และ Intel กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเวียดนาม แม้ว่าบางบริษัทจะย้ายการผลิตไปยังประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี การย้ายการผลิตกลับเข้าสู่สหรัฐฯ ยังคงเป็นทางเลือกที่ยากลำบากสำหรับบริษัทขนาดเล็ก ส่วนบริษัทขนาดใหญ่เช่น TSMC ได้ประกาศการลงทุนเพิ่มอีก 100 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานใหม่สามแห่งและศูนย์วิจัยและพัฒนาในแอริโซนา https://www.tomshardware.com/tech-industry/lenovo-joins-growing-china-exodus-as-manufacturers-flee-us-tariffs-oem-moving-production-lines-to-india
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Lenovo joins growing China exodus as manufacturers flee US tariffs — OEM moving production lines to India
    This is just one of the growing companies setting up shop elsewhere to escape the US-China trade war.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามรอยเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านเส้นทางสายไหม

    สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> คงจำได้ว่าฉากหลังของเรื่องคือการค้าอัญมณีในสมัยถัง ซึ่งเส้นทางการเดินทางมีทั้งการเดินเรือทะเลและข้ามทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ ชวนให้ Storyฯ งงไม่น้อยเลยลองไปหาข้อมูลดู

    มีบทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยเหอหนานกล่าวไว้ว่าจริงๆ แล้วซีรีส์เรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> นี้คือการเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม ซึ่งก็ตรงกับตอนจบของเรื่องที่กล่าวถึงการพัฒนาด้านการค้าผ่านเส้นทางสายไหม

    Storyฯ เลยลองเอาการเดินทางของพระเอกนางเอกจากในซีรีส์มาปักหมุดลง เราลองมาดูกันค่ะ

    มีบทความและแผนที่เกี่ยวกับเส้นทางสายไหมจำนวนไม่น้อยในหลากหลายภาษา ดังนั้น Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียด แต่จากการเปรียบเทียบดู Storyฯ พบว่ามีความแตกต่างกันบ้าง จึงขอใช้เวอร์ชั่นที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์หนิงเซี่ยกู้หยวนเป็นหลักเพราะถือว่าเป็นไปตามข้อมูลประวัติศาสตร์ที่จีนบันทึกเอง (ดูรูปประกอบ 2) เราจะเห็นว่าเส้นทางสายไหมมีเส้นทางบกและเส้นทางทะเล และเส้นทางบกไม่ได้จบลงที่เมืองฉางอัน (ซีอันปัจจุบัน) อย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่มีการเชื่อมต่อไปจรดทะเลเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทางทะเล

    Storyฯ ลองใส่ข้อมูลอื่นเพิ่มเข้าไปในแผนที่เต็มนี้ (ดูรูปประกอบ 1) ก่อนอื่นคือใส่แผนที่ของราชวงศ์ถังซ้อนลงไปเพื่อให้เห็นภาพอาณาเขตโดยคร่าว ทั้งนี้ตลอดสามร้อยกว่าปีการปกครองของถังในเขตซีอวี้ (ซินเกียงปัจจุบัน) แตกต่างกันไป เลยลองใช้แผนที่ของช่วงประมาณปีค.ศ. 700 ก็จะเห็นเขตพื้นที่ซีอวี้ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือที่มีเมืองตุนหวงเป็นเสมือนประตูทางผ่าน จากนั้นใส่เขตพื้นที่มณฑลหยางโจวในสมัยนั้นซึ่งอยู่ทางใต้ของแผนที่ติดทะเล (คือเส้นประเล็กๆ) (หมายเหตุ เส้นขอบทั้งหมดอาจไม่เป๊ะด้วยข้อจำกัดการวาดของ Storyฯ เอง)

    เมื่อใส่เสร็จแล้วก็เห็นได้เลยว่าตวนอู่และเยี่ยจื่อจิงของเราในเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> เขาเดินทางตามเส้นทางสายใหม่จริงๆ

    เริ่มกันที่ด้านล่างของแผนที่ซึ่งเป็นแถบพื้นที่เหอผู่อันเป็นแหล่งเก็บมุกทะเล (ปัจจุบันเรียกเป๋ยไห่ คือพื้นที่สีแดง) ที่นี่เป็นฉากเริ่มต้นของเรื่อง (ย้อนอ่านเรื่องการเก็บมุกได้จากบทความสัปดาห์ที่แล้ว) จากนั้นเดินทางผ่านกวางเจาขึ้นเหนือและสู้รบปรบมือกับคนตระกูลชุยและศัตรูอื่นเป็นระยะตั้งแต่เมืองซ่าวโจวถึงเมืองอู่หลิง จากนั้นเดินทางเรื่อยขึ้นไปจนถึงเมืองเปี้ยนโจวซึ่งคือเมืองไคฟงปัจจุบัน แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านนครฉางอัน ข้ามเขตทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ซึ่งการเข้าเขตซีอวี้ในสมัยนั้นจะผ่านเมืองตุนหวง ณ จุดนี้ เรื่องราวผ่านไปแล้วประมาณ 1/3 ของเรื่อง

    หลังจากนั้นเหล่าตัวละครกลับมาจากซีอวี้แล้วเดินทางมาถึงเมืองหยางโจวข้ามผ่านระยะทางอย่างไกลได้อย่างไรไม่ทราบได้ Storyฯ ดูจากแผนที่แล้วน่าจะย้อนกลับมาทางเมืองเปี้ยนเฉิงและจากจุดนั้นมีเส้นทาง (ที่ไม่ใช่เส้นทางสายไหมและไม่ได้วาดไว้ในรูปประกอบ) เชื่อมลงมายังเมืองหยางโจว ซึ่งมีทั้งเส้นทางบกและเส้นทางคลองใหญ่ต้าอวิ้นเหอที่สามารถใช้ได้ (หมายเหตุ เส้นทางต้าอวิ้นเหอมีการเปลี่ยนแปลงไปในยุคสมัยหมิงเป็นต้นมา) และเรื่องราวที่เหลือของเรื่องก็จะมีฉากหลังอยู่ที่การค้าอัญมณีที่เมืองหยางโจวนี้

    ในเรื่องมีกล่าวถึงอัญมณีหนึ่งที่น่าสนใจชื่อว่า ‘เซ่อเซ่อ’ (瑟瑟 ไม่แน่ใจว่าแปลซับไทยไว้ว่าอย่างไร) ซึ่งเป็นพลอยประเภท Beryl Stone มีสีเขียวฟ้าและฟ้า บอกว่าเป็นพลอยที่มีค่าหายากมาก ในความเป็นจริง Beryl Stone แบ่งเป็นประเภทย่อยอีกตามสี แต่เรามักเรียกรวมพลอยสีฟ้าเขียวว่าพลอยอะความารีน (Aquamarine) และในละครมีการกล่าวว่าพลอยเซ่อเซ่อเกรดดีส่วนใหญ่มาจากเขตซีอวี้ แต่แถวหยางโจวก็พอให้หาซื้อได้ ซึ่งเป็นข้อมูลจริงตามประวัติศาสตร์ เพราะพลอยเซ่อเซ่อในจีนหาได้ในสามพื้นที่หลักคือซินเกียง (ซีอวี้) ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ และที่ยูนนานและหูเป่ย (ไม่ไกลจากเมืองอู่หลิงในภาพ ซึ่งเป็นจุดที่น้องชุยสือจิ่วของเราถูกจับขังในเหมือง)

    เมืองหยางโจวเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการคมนาคมทั้งทางบกและทางเรือของจีนโบราณ จึงไม่แปลกที่เรามักเห็นในซีรีส์และนิยายจีนโบราณกล่าวถึงหยางโจวว่าเป็นเขตค้าขายมีตระกูลพ่อค้าร่ำรวย ที่นี่ไม่เพียงเป็นจุดเชื่อมเส้นทางสายไหมทางบกและทะเลโดยผ่านแม่น้ำแยงซีเกียง และยังมีคลองต้าอวิ้นเหอเชื่อมขึ้นเหนือ ในสมัยถังที่นี่เป็นศูนย์กลางการค้าเสบียงอาหาร เกลือและเหล็กไปยังพื้นที่ต่างๆ ของจีน อีกทั้งค้าขายส่งออกผ้าไหมและงานกระเบื้องรวมถึงนำเข้าสินค้าหลากชนิดผ่านเส้นทางบกและเรือ นอกจากนี้ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องงานช่างงานฝีมือและมีการพบเจอซากเรือสมัยถังพร้อมเครื่องประดับมากมายที่แสดงให้เห็นว่าในสมัยถังมีการค้าขายเครื่องประดับด้วยเช่นกัน

    หวังว่าเพื่อนเพจจะเห็นภาพแล้วว่าการเดินเรื่องของ <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านพื้นที่ไหนบ้าง และทำไมเหล่าคู่อริทางการค้าจึงพบหน้ากันบ่อย... เพราะทุกคนล้วนค้าขายและใช้เส้นทางสายไหมกันนั่นเอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://m.bjnews.com.cn/detail/1730788116168379.html
    https://www.chinadiscovery.com/assets/images/silk-road/history/tang-silk-road-map-llsboc-qunar.jpg
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.163.com/dy/article/JG5GE87L0512D3VJ.html
    https://www.163.com/dy/article/JGCT7TAP0530WJTO.html
    https://baike.baidu.com/item/扬州市
    https://turnstone.ca/rom186be.htm

    #ม่านมุกม่านหยก #เส้นทางสายไหม #พลอยจีน #หยางโจว #สาระจีน
    ตามรอยเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านเส้นทางสายไหม สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> คงจำได้ว่าฉากหลังของเรื่องคือการค้าอัญมณีในสมัยถัง ซึ่งเส้นทางการเดินทางมีทั้งการเดินเรือทะเลและข้ามทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ ชวนให้ Storyฯ งงไม่น้อยเลยลองไปหาข้อมูลดู มีบทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยเหอหนานกล่าวไว้ว่าจริงๆ แล้วซีรีส์เรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> นี้คือการเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม ซึ่งก็ตรงกับตอนจบของเรื่องที่กล่าวถึงการพัฒนาด้านการค้าผ่านเส้นทางสายไหม Storyฯ เลยลองเอาการเดินทางของพระเอกนางเอกจากในซีรีส์มาปักหมุดลง เราลองมาดูกันค่ะ มีบทความและแผนที่เกี่ยวกับเส้นทางสายไหมจำนวนไม่น้อยในหลากหลายภาษา ดังนั้น Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียด แต่จากการเปรียบเทียบดู Storyฯ พบว่ามีความแตกต่างกันบ้าง จึงขอใช้เวอร์ชั่นที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์หนิงเซี่ยกู้หยวนเป็นหลักเพราะถือว่าเป็นไปตามข้อมูลประวัติศาสตร์ที่จีนบันทึกเอง (ดูรูปประกอบ 2) เราจะเห็นว่าเส้นทางสายไหมมีเส้นทางบกและเส้นทางทะเล และเส้นทางบกไม่ได้จบลงที่เมืองฉางอัน (ซีอันปัจจุบัน) อย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่มีการเชื่อมต่อไปจรดทะเลเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทางทะเล Storyฯ ลองใส่ข้อมูลอื่นเพิ่มเข้าไปในแผนที่เต็มนี้ (ดูรูปประกอบ 1) ก่อนอื่นคือใส่แผนที่ของราชวงศ์ถังซ้อนลงไปเพื่อให้เห็นภาพอาณาเขตโดยคร่าว ทั้งนี้ตลอดสามร้อยกว่าปีการปกครองของถังในเขตซีอวี้ (ซินเกียงปัจจุบัน) แตกต่างกันไป เลยลองใช้แผนที่ของช่วงประมาณปีค.ศ. 700 ก็จะเห็นเขตพื้นที่ซีอวี้ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือที่มีเมืองตุนหวงเป็นเสมือนประตูทางผ่าน จากนั้นใส่เขตพื้นที่มณฑลหยางโจวในสมัยนั้นซึ่งอยู่ทางใต้ของแผนที่ติดทะเล (คือเส้นประเล็กๆ) (หมายเหตุ เส้นขอบทั้งหมดอาจไม่เป๊ะด้วยข้อจำกัดการวาดของ Storyฯ เอง) เมื่อใส่เสร็จแล้วก็เห็นได้เลยว่าตวนอู่และเยี่ยจื่อจิงของเราในเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> เขาเดินทางตามเส้นทางสายใหม่จริงๆ เริ่มกันที่ด้านล่างของแผนที่ซึ่งเป็นแถบพื้นที่เหอผู่อันเป็นแหล่งเก็บมุกทะเล (ปัจจุบันเรียกเป๋ยไห่ คือพื้นที่สีแดง) ที่นี่เป็นฉากเริ่มต้นของเรื่อง (ย้อนอ่านเรื่องการเก็บมุกได้จากบทความสัปดาห์ที่แล้ว) จากนั้นเดินทางผ่านกวางเจาขึ้นเหนือและสู้รบปรบมือกับคนตระกูลชุยและศัตรูอื่นเป็นระยะตั้งแต่เมืองซ่าวโจวถึงเมืองอู่หลิง จากนั้นเดินทางเรื่อยขึ้นไปจนถึงเมืองเปี้ยนโจวซึ่งคือเมืองไคฟงปัจจุบัน แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านนครฉางอัน ข้ามเขตทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ซึ่งการเข้าเขตซีอวี้ในสมัยนั้นจะผ่านเมืองตุนหวง ณ จุดนี้ เรื่องราวผ่านไปแล้วประมาณ 1/3 ของเรื่อง หลังจากนั้นเหล่าตัวละครกลับมาจากซีอวี้แล้วเดินทางมาถึงเมืองหยางโจวข้ามผ่านระยะทางอย่างไกลได้อย่างไรไม่ทราบได้ Storyฯ ดูจากแผนที่แล้วน่าจะย้อนกลับมาทางเมืองเปี้ยนเฉิงและจากจุดนั้นมีเส้นทาง (ที่ไม่ใช่เส้นทางสายไหมและไม่ได้วาดไว้ในรูปประกอบ) เชื่อมลงมายังเมืองหยางโจว ซึ่งมีทั้งเส้นทางบกและเส้นทางคลองใหญ่ต้าอวิ้นเหอที่สามารถใช้ได้ (หมายเหตุ เส้นทางต้าอวิ้นเหอมีการเปลี่ยนแปลงไปในยุคสมัยหมิงเป็นต้นมา) และเรื่องราวที่เหลือของเรื่องก็จะมีฉากหลังอยู่ที่การค้าอัญมณีที่เมืองหยางโจวนี้ ในเรื่องมีกล่าวถึงอัญมณีหนึ่งที่น่าสนใจชื่อว่า ‘เซ่อเซ่อ’ (瑟瑟 ไม่แน่ใจว่าแปลซับไทยไว้ว่าอย่างไร) ซึ่งเป็นพลอยประเภท Beryl Stone มีสีเขียวฟ้าและฟ้า บอกว่าเป็นพลอยที่มีค่าหายากมาก ในความเป็นจริง Beryl Stone แบ่งเป็นประเภทย่อยอีกตามสี แต่เรามักเรียกรวมพลอยสีฟ้าเขียวว่าพลอยอะความารีน (Aquamarine) และในละครมีการกล่าวว่าพลอยเซ่อเซ่อเกรดดีส่วนใหญ่มาจากเขตซีอวี้ แต่แถวหยางโจวก็พอให้หาซื้อได้ ซึ่งเป็นข้อมูลจริงตามประวัติศาสตร์ เพราะพลอยเซ่อเซ่อในจีนหาได้ในสามพื้นที่หลักคือซินเกียง (ซีอวี้) ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ และที่ยูนนานและหูเป่ย (ไม่ไกลจากเมืองอู่หลิงในภาพ ซึ่งเป็นจุดที่น้องชุยสือจิ่วของเราถูกจับขังในเหมือง) เมืองหยางโจวเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการคมนาคมทั้งทางบกและทางเรือของจีนโบราณ จึงไม่แปลกที่เรามักเห็นในซีรีส์และนิยายจีนโบราณกล่าวถึงหยางโจวว่าเป็นเขตค้าขายมีตระกูลพ่อค้าร่ำรวย ที่นี่ไม่เพียงเป็นจุดเชื่อมเส้นทางสายไหมทางบกและทะเลโดยผ่านแม่น้ำแยงซีเกียง และยังมีคลองต้าอวิ้นเหอเชื่อมขึ้นเหนือ ในสมัยถังที่นี่เป็นศูนย์กลางการค้าเสบียงอาหาร เกลือและเหล็กไปยังพื้นที่ต่างๆ ของจีน อีกทั้งค้าขายส่งออกผ้าไหมและงานกระเบื้องรวมถึงนำเข้าสินค้าหลากชนิดผ่านเส้นทางบกและเรือ นอกจากนี้ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องงานช่างงานฝีมือและมีการพบเจอซากเรือสมัยถังพร้อมเครื่องประดับมากมายที่แสดงให้เห็นว่าในสมัยถังมีการค้าขายเครื่องประดับด้วยเช่นกัน หวังว่าเพื่อนเพจจะเห็นภาพแล้วว่าการเดินเรื่องของ <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านพื้นที่ไหนบ้าง และทำไมเหล่าคู่อริทางการค้าจึงพบหน้ากันบ่อย... เพราะทุกคนล้วนค้าขายและใช้เส้นทางสายไหมกันนั่นเอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.bjnews.com.cn/detail/1730788116168379.html https://www.chinadiscovery.com/assets/images/silk-road/history/tang-silk-road-map-llsboc-qunar.jpg Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.163.com/dy/article/JG5GE87L0512D3VJ.html https://www.163.com/dy/article/JGCT7TAP0530WJTO.html https://baike.baidu.com/item/扬州市 https://turnstone.ca/rom186be.htm #ม่านมุกม่านหยก #เส้นทางสายไหม #พลอยจีน #หยางโจว #สาระจีน
    M.BJNEWS.COM.CN
    赵露思、刘宇宁新剧《珠帘玉幕》今日卫视开播
    赵露思、刘宇宁新剧《珠帘玉幕》今日卫视开播
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi กำลังสร้างกระแสในวงการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีนด้วยรถ SUV รุ่น SU7 ที่ขายดีกว่า Tesla Model 3 และมีแผนที่จะเปิดตัว SUV ใหม่ที่ท้าชนกับ Tesla Model Y ระดับโลก

    ในระหว่างเดือนเมษายน 2024 ถึงมกราคม 2025 Xiaomi สามารถขายรถ SU7 ได้มากกว่า Tesla Model 3 ถึง 10,000 คัน ทั้งที่เพิ่งเริ่มต้นผลิตรถยนต์เป็นครั้งแรก นี่เป็นจุดพลิกสำคัญในตลาด EV ของจีน ซึ่ง Tesla เคยครองใจผู้บริโภคในฐานะแบรนด์หรูจากต่างประเทศ การขยายตัวของ Xiaomi ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มความนิยมของผู้บริโภคจีนที่กำลังมองหาตัวเลือกในประเทศที่มีราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

    นอกจากความสำเร็จของ SU7 รุ่นมาตรฐาน Xiaomi ยังได้เปิดตัว SU7 Ultra ที่มีกำลังมหาศาลถึง 1,517 แรงม้าและวิ่งได้ไกลถึง 510 ไมล์ต่อการชาร์จ เป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่า Porsche Taycan Turbo GT ถึง $200,000 นี่เป็นการบุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความคุ้มค่าและสมรรถนะไปพร้อมกัน

    William Lu ประธานของ Xiaomi ได้ประกาศในงาน Mobile World Congress ว่าบริษัทมีแผนเปิดตัวรถ SUV รุ่น YU7 ที่จะออกสู่ตลาดโลกในอนาคต YU7 มีคุณสมบัติที่ท้าทายแบรนด์หรูอย่าง Mercedes-Benz, BMW, และ Porsche ด้วยเทคโนโลยี Lidar ที่ล้ำสมัย สมรรถนะ 691 แรงม้า และความสามารถขับขี่อัตโนมัติ ทำให้มีความพร้อมสำหรับการแข่งขันในตลาด EV ระดับโลก

    ยอดขายที่ลดลงของ Tesla ในจีนแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงของความต้องการในตลาด ซึ่งเน้นไปที่ความคุ้มค่าแทนที่จะเป็นแบรนด์หรู ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Xiaomi และแผนบุกตลาดโลก ความสำเร็จนี้อาจกลายเป็น "ตัวป่วน" สำหรับแบรนด์ระดับพรีเมียมในอุตสาหกรรมรถยนต์

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/xiaomis-ev-is-racing-ahead-of-tesla-in-china-and-its-planning-a-global-model-y-rival-next
    Xiaomi กำลังสร้างกระแสในวงการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีนด้วยรถ SUV รุ่น SU7 ที่ขายดีกว่า Tesla Model 3 และมีแผนที่จะเปิดตัว SUV ใหม่ที่ท้าชนกับ Tesla Model Y ระดับโลก ในระหว่างเดือนเมษายน 2024 ถึงมกราคม 2025 Xiaomi สามารถขายรถ SU7 ได้มากกว่า Tesla Model 3 ถึง 10,000 คัน ทั้งที่เพิ่งเริ่มต้นผลิตรถยนต์เป็นครั้งแรก นี่เป็นจุดพลิกสำคัญในตลาด EV ของจีน ซึ่ง Tesla เคยครองใจผู้บริโภคในฐานะแบรนด์หรูจากต่างประเทศ การขยายตัวของ Xiaomi ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มความนิยมของผู้บริโภคจีนที่กำลังมองหาตัวเลือกในประเทศที่มีราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น นอกจากความสำเร็จของ SU7 รุ่นมาตรฐาน Xiaomi ยังได้เปิดตัว SU7 Ultra ที่มีกำลังมหาศาลถึง 1,517 แรงม้าและวิ่งได้ไกลถึง 510 ไมล์ต่อการชาร์จ เป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่า Porsche Taycan Turbo GT ถึง $200,000 นี่เป็นการบุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความคุ้มค่าและสมรรถนะไปพร้อมกัน William Lu ประธานของ Xiaomi ได้ประกาศในงาน Mobile World Congress ว่าบริษัทมีแผนเปิดตัวรถ SUV รุ่น YU7 ที่จะออกสู่ตลาดโลกในอนาคต YU7 มีคุณสมบัติที่ท้าทายแบรนด์หรูอย่าง Mercedes-Benz, BMW, และ Porsche ด้วยเทคโนโลยี Lidar ที่ล้ำสมัย สมรรถนะ 691 แรงม้า และความสามารถขับขี่อัตโนมัติ ทำให้มีความพร้อมสำหรับการแข่งขันในตลาด EV ระดับโลก ยอดขายที่ลดลงของ Tesla ในจีนแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงของความต้องการในตลาด ซึ่งเน้นไปที่ความคุ้มค่าแทนที่จะเป็นแบรนด์หรู ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Xiaomi และแผนบุกตลาดโลก ความสำเร็จนี้อาจกลายเป็น "ตัวป่วน" สำหรับแบรนด์ระดับพรีเมียมในอุตสาหกรรมรถยนต์ https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/xiaomis-ev-is-racing-ahead-of-tesla-in-china-and-its-planning-a-global-model-y-rival-next
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6 มี.ค. 2568 นสพ.South China Morning Post ของฮ่องกง รายงานข่าว Chinese credit ratings firm downgrades Thailand over crime scandals and economic prospects ระบุว่า ไชนา เฉิงซิน (China Chengxin) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่งของจีน ได้ลดระดับ “ความน่าเชื่อถือ (Credit)” ของประเทศไทยจาก A- เป็น BBB+ หลังจากเกิดเหตุการณ์อาชญากรรมข้ามพรมแดนที่เป็นข่าวโด่งดังหลายครั้งการที่ระดับลดลง หมายความว่าความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของไทยได้รับการจัดประเภทเป็น “ปานกลาง (Normal)” แทนที่จะเป็น "ต่ำ (Low)" ในขณะที่สถานะทางเศรษฐกิจและการเงินของไทยได้รับการจัดอันดับเป็น “ปกติ (Fine)” แทนที่จะเป็น “แข็งแกร่ง (Strong)”
    6 มี.ค. 2568 นสพ.South China Morning Post ของฮ่องกง รายงานข่าว Chinese credit ratings firm downgrades Thailand over crime scandals and economic prospects ระบุว่า ไชนา เฉิงซิน (China Chengxin) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่งของจีน ได้ลดระดับ “ความน่าเชื่อถือ (Credit)” ของประเทศไทยจาก A- เป็น BBB+ หลังจากเกิดเหตุการณ์อาชญากรรมข้ามพรมแดนที่เป็นข่าวโด่งดังหลายครั้งการที่ระดับลดลง หมายความว่าความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของไทยได้รับการจัดประเภทเป็น “ปานกลาง (Normal)” แทนที่จะเป็น "ต่ำ (Low)" ในขณะที่สถานะทางเศรษฐกิจและการเงินของไทยได้รับการจัดอันดับเป็น “ปกติ (Fine)” แทนที่จะเป็น “แข็งแกร่ง (Strong)”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • และแล้วเราก็คุยกันมาถึงภาพสุดท้ายของสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี

    ภาพที่จะกล่าวถึงในวันนี้เป็นภาพที่ถูกพระราชทานไปยังพระตำหนักจิ่งเหรินกง ดูจากไทม์ไลน์แล้วน่าจะเป็นที่ประทับของฉุนเฟย แต่ในเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฉุนเฟยประทับที่พระตำหนักจงชุ่ยกง ภาพนี้มีชื่อว่า ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰图) หน้าตาแท้จริงเป็นอย่างไรไม่ทราบได้ เพราะว่าสูญหายไปแล้ว ภาพที่แปะมาให้ดูเป็นภาพวาดโดยจิตรกรญี่ปุ่น

    เรื่องราวของภาพคือเรื่องของเยี่ยนจี๋ อนุภรรยาของเจิ้งเหวินกง เจ้าผู้ปกครองแคว้นเจิ้งในยุคสมัยชุนชิว (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความ) นางฝันว่ามีเทพธิดานำดอกหลันฮวามามอบให้และบอกว่าดอกไม้นี้จะทำให้นางได้รับความรักจากเจิ้งเหวินกงและจะได้บุตรที่โดดเด่นมาเป็นผู้สืบทอดแผ่นดินต่อไป และวลี ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ ต่อมาถูกใช้เปรียบเปรยถึงความรักที่ออกดอกออกผลเป็นลูกหลาน และสะท้อนความนัยว่า ฝันที่ดีนำมาซึ่งเรื่องราวดีๆ และภาพนี้ถูกตีความว่า หมายถึงการทำสิ่งที่ฝันให้เป็นจริง

    เรื่องนี้คุ้นหูกันบ้างไหม? Storyฯ เคยเล่าถึงเรื่องนี้แล้วตอนที่คุยถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ลองกลับไปอ่านดูกันนะคะ (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/731814662280162)

    ป้ายที่พระราชทานคู่กับภาพนี้คือ ‘จ้านเต๋อกงเหวย’ (赞德宫闱) แปลได้ประมาณว่า ศีลธรรมดีงามได้รับการยกย่องไปทั่วพระราชฐานนางใน

    จบแล้วกับสิบสองภาพวาด Storyฯ นำมาเรียบเรียงอีกครั้ง โดยเรียงลำดับจากพระตำหนักที่อยู่ใกล้พระที่นั่งหยั่งซินเตี้ยน (ที่ประทับฮ่องเต้) ตามนี้ค่ะ

    1. ตำหนักฉี่เสียงกง หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ไท่จี๋เตี้ยน (Hall of Supreme Principle) ภาพ ‘เจียงโฮ่วทัวจาน’ (姜后脱簪 / มเหสีเจียงปลดปิ่น) ความหมายคือคล้อยตามสามี ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/791887496272878)
    2. ตำหนักฉางชุนกง (Palace of Eternal Spring) ภาพ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ (太姒诲子/ไท่ซึสอนบุตร) ความหมายคือ สั่งสอนบุตร ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/746257530835875)
    3. ตำหนักหย่งโซ่วกง (Palace of Eternal Longevity) ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (班姬辞辇图 / ปันจีผู้งามมารยาท) ความหมายคือ รู้มารยาทและพิธีการ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/750792533715708)
    4. ตำหนักอี้คุนกง (Palace of Earthly Honor) ภาพ ‘จาวหรงผิงซือ’ (昭容评诗图 / จาวหรงตัดสินบทกวี) ความหมายคือ การศึกษา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/764297899031838)
    5. ตำหนักเสียนฝูกง (Palace of Universal Happiness) ภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ (婕妤当熊图 / เจี๋ยอวี๋ขวางหมี) ความหมายคือ กล้าหาญ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/768864935241801)
    6. ตำหนักฉู่ซิ่วกง (Palace of Gathered Elegance) ภาพ ‘ซีหลิงเจียวฉาน’ (西陵教蚕图 /ซีหลิงสอนเลี้ยงไหม) ความหมายคือ นวัตกรรม ภาพจริงสูญหายไปแล้ว(https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/754042176724077)
    7. ตำหนักจิ่งเหรินกง (Palace of Great Benevolence) ภาพ ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰 / เยี่ยนจี๋ฝันถึงหลันฮวา) ความหมายคือ วิสัยทัศน์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว ก็คือบทความที่เล่าถึงข้างต้นในวันนี้
    8. ตำหนักเฉินเฉียนกง (Palace of Celestial Favor) ภาพ ‘สวีเฟยจื๋อเจี้ยน’ (徐妃直谏 / สวีเฟยวิพากษ์) ความหมายคือ จงรักภักดีตรงไปตรงมา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/759313216196973)
    9. ตำหนักจงชุ่ยกง (Palace of Accumulated Purity) ภาพ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ (许后奉案/ สวี่ฮองเฮาถวายพระกระยาหาร) ความหมายคือ เคารพผู้อาวุโส ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้พระราชวังต้องห้าม (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/773395164788778)
    10. ตำหนักจิ่งหยางกง (Palace of Great Brilliance) ภาพ ‘หม่าโฮ่วเลี่ยนอี’ (马后练衣图 / หม่าฮองเฮาสวมผ้า) ความหมายคือ มัธยัสถ์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://web.facebook.com/StoryfromStory/posts/797174585744169)
    11. ตำหนักหย่งเหอกง (Palace of Eternal Harmony) ภาพ ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ (樊姬谏猎 / ฝานจีเตือนสติให้หยุดล่าสัตว์) ความหมายคือเตือนสติ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/786677160127245)
    12. ตำหนักเหยียนสี่กง (Palace of Prolonging Happiness) ภาพ ‘เฉาโฮ่วจ้งหนง’ (曹后重农图 / เฉาฮองเฮาให้ความสำคัญกับการเกษตร) ความหมายคือ ขยันขันแข็ง ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/777707414357553)

    สรุปว่าในบรรดาสิบสองภาพวาดนี้ เหลือของจริงอยู่เพียงภาพเดียวคือ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้กง Storyฯ อาจเล่าสะเปะสะปะไปหน่อยและใช้เวลาเล่านานกว่าจะจบครบสิบสองภาพ หวังว่าเรื่องราวในภาพวาดกงซวิ่นถูจะเป็นที่เพลิดเพลินของเพื่อนเพจไม่มากก็น้อย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)
    (ป.ล. 2 ชื่อพระตำหนัก Storyฯ แปลเป็นไทยแล้วรู้สึกว่าจั๊กจี้ เลยเอาเป็นคำแปลภาษาอังกฤษมาฝากแทน)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.baike.com/wikiid/2576687878101900972?view_id=y3t51nqv02o00
    Metropolitan Museum of Arts
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.163.com/dy/article/G0GD3GUH0537ML11.html
    https://www.xiumu.cn/ts/2018/0824/4278239.html
    https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_eastern.htm
    https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_western.htm

    #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เยี่ยนจี๋ #เจิ้งเหวินกง #เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน #หลันอินซวี่กั่ว #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    และแล้วเราก็คุยกันมาถึงภาพสุดท้ายของสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี ภาพที่จะกล่าวถึงในวันนี้เป็นภาพที่ถูกพระราชทานไปยังพระตำหนักจิ่งเหรินกง ดูจากไทม์ไลน์แล้วน่าจะเป็นที่ประทับของฉุนเฟย แต่ในเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฉุนเฟยประทับที่พระตำหนักจงชุ่ยกง ภาพนี้มีชื่อว่า ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰图) หน้าตาแท้จริงเป็นอย่างไรไม่ทราบได้ เพราะว่าสูญหายไปแล้ว ภาพที่แปะมาให้ดูเป็นภาพวาดโดยจิตรกรญี่ปุ่น เรื่องราวของภาพคือเรื่องของเยี่ยนจี๋ อนุภรรยาของเจิ้งเหวินกง เจ้าผู้ปกครองแคว้นเจิ้งในยุคสมัยชุนชิว (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความ) นางฝันว่ามีเทพธิดานำดอกหลันฮวามามอบให้และบอกว่าดอกไม้นี้จะทำให้นางได้รับความรักจากเจิ้งเหวินกงและจะได้บุตรที่โดดเด่นมาเป็นผู้สืบทอดแผ่นดินต่อไป และวลี ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ ต่อมาถูกใช้เปรียบเปรยถึงความรักที่ออกดอกออกผลเป็นลูกหลาน และสะท้อนความนัยว่า ฝันที่ดีนำมาซึ่งเรื่องราวดีๆ และภาพนี้ถูกตีความว่า หมายถึงการทำสิ่งที่ฝันให้เป็นจริง เรื่องนี้คุ้นหูกันบ้างไหม? Storyฯ เคยเล่าถึงเรื่องนี้แล้วตอนที่คุยถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ลองกลับไปอ่านดูกันนะคะ (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/731814662280162) ป้ายที่พระราชทานคู่กับภาพนี้คือ ‘จ้านเต๋อกงเหวย’ (赞德宫闱) แปลได้ประมาณว่า ศีลธรรมดีงามได้รับการยกย่องไปทั่วพระราชฐานนางใน จบแล้วกับสิบสองภาพวาด Storyฯ นำมาเรียบเรียงอีกครั้ง โดยเรียงลำดับจากพระตำหนักที่อยู่ใกล้พระที่นั่งหยั่งซินเตี้ยน (ที่ประทับฮ่องเต้) ตามนี้ค่ะ 1. ตำหนักฉี่เสียงกง หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ไท่จี๋เตี้ยน (Hall of Supreme Principle) ภาพ ‘เจียงโฮ่วทัวจาน’ (姜后脱簪 / มเหสีเจียงปลดปิ่น) ความหมายคือคล้อยตามสามี ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/791887496272878) 2. ตำหนักฉางชุนกง (Palace of Eternal Spring) ภาพ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ (太姒诲子/ไท่ซึสอนบุตร) ความหมายคือ สั่งสอนบุตร ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/746257530835875) 3. ตำหนักหย่งโซ่วกง (Palace of Eternal Longevity) ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (班姬辞辇图 / ปันจีผู้งามมารยาท) ความหมายคือ รู้มารยาทและพิธีการ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/750792533715708) 4. ตำหนักอี้คุนกง (Palace of Earthly Honor) ภาพ ‘จาวหรงผิงซือ’ (昭容评诗图 / จาวหรงตัดสินบทกวี) ความหมายคือ การศึกษา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/764297899031838) 5. ตำหนักเสียนฝูกง (Palace of Universal Happiness) ภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ (婕妤当熊图 / เจี๋ยอวี๋ขวางหมี) ความหมายคือ กล้าหาญ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/768864935241801) 6. ตำหนักฉู่ซิ่วกง (Palace of Gathered Elegance) ภาพ ‘ซีหลิงเจียวฉาน’ (西陵教蚕图 /ซีหลิงสอนเลี้ยงไหม) ความหมายคือ นวัตกรรม ภาพจริงสูญหายไปแล้ว(https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/754042176724077) 7. ตำหนักจิ่งเหรินกง (Palace of Great Benevolence) ภาพ ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰 / เยี่ยนจี๋ฝันถึงหลันฮวา) ความหมายคือ วิสัยทัศน์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว ก็คือบทความที่เล่าถึงข้างต้นในวันนี้ 8. ตำหนักเฉินเฉียนกง (Palace of Celestial Favor) ภาพ ‘สวีเฟยจื๋อเจี้ยน’ (徐妃直谏 / สวีเฟยวิพากษ์) ความหมายคือ จงรักภักดีตรงไปตรงมา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/759313216196973) 9. ตำหนักจงชุ่ยกง (Palace of Accumulated Purity) ภาพ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ (许后奉案/ สวี่ฮองเฮาถวายพระกระยาหาร) ความหมายคือ เคารพผู้อาวุโส ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้พระราชวังต้องห้าม (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/773395164788778) 10. ตำหนักจิ่งหยางกง (Palace of Great Brilliance) ภาพ ‘หม่าโฮ่วเลี่ยนอี’ (马后练衣图 / หม่าฮองเฮาสวมผ้า) ความหมายคือ มัธยัสถ์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://web.facebook.com/StoryfromStory/posts/797174585744169) 11. ตำหนักหย่งเหอกง (Palace of Eternal Harmony) ภาพ ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ (樊姬谏猎 / ฝานจีเตือนสติให้หยุดล่าสัตว์) ความหมายคือเตือนสติ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/786677160127245) 12. ตำหนักเหยียนสี่กง (Palace of Prolonging Happiness) ภาพ ‘เฉาโฮ่วจ้งหนง’ (曹后重农图 / เฉาฮองเฮาให้ความสำคัญกับการเกษตร) ความหมายคือ ขยันขันแข็ง ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/777707414357553) สรุปว่าในบรรดาสิบสองภาพวาดนี้ เหลือของจริงอยู่เพียงภาพเดียวคือ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้กง Storyฯ อาจเล่าสะเปะสะปะไปหน่อยและใช้เวลาเล่านานกว่าจะจบครบสิบสองภาพ หวังว่าเรื่องราวในภาพวาดกงซวิ่นถูจะเป็นที่เพลิดเพลินของเพื่อนเพจไม่มากก็น้อย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) (ป.ล. 2 ชื่อพระตำหนัก Storyฯ แปลเป็นไทยแล้วรู้สึกว่าจั๊กจี้ เลยเอาเป็นคำแปลภาษาอังกฤษมาฝากแทน) Credit รูปภาพจาก: https://www.baike.com/wikiid/2576687878101900972?view_id=y3t51nqv02o00 Metropolitan Museum of Arts Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.163.com/dy/article/G0GD3GUH0537ML11.html https://www.xiumu.cn/ts/2018/0824/4278239.html https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_eastern.htm https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_western.htm #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เยี่ยนจี๋ #เจิ้งเหวินกง #เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน #หลันอินซวี่กั่ว #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำโลกเปลี่ยนไปใน 25 ปี แต่ผู้นำรัสเซียยังเป็นประธานาธิบดีปูตินไม่เปลี่ยนแปลง แต่สหรัฐอเมริกา🇺🇸 USA:- Bill Clinton- George W. Bush- Barack Obama- Donald Trump- Joe Biden- Donald Trump จีน 🇨🇳 China:- Jiang Zemin- Hu Jintao- Xi Jinpingอินเดีย 🇮🇳 India:- Atal Bihari Vajpayee- Manmohan Singh- Narendra Modiอังกฤษ 🇬🇧 UK:- Tony Blair- Gordon Brown- David Cameron- Theresa May- Boris Johnson- Liz Truss- Rishi Sunak- Keir Starmerเยอรมนี 🇩🇪 Germany:- Gerhard Schröder- Angela Merkel- Olaf Scholzฝรั่งเศส 🇫🇷 France:- Jacques Chirac- Nicolas Sarkozy- François Hollande- Emmanuel Macron
    ผู้นำโลกเปลี่ยนไปใน 25 ปี แต่ผู้นำรัสเซียยังเป็นประธานาธิบดีปูตินไม่เปลี่ยนแปลง แต่สหรัฐอเมริกา🇺🇸 USA:- Bill Clinton- George W. Bush- Barack Obama- Donald Trump- Joe Biden- Donald Trump จีน 🇨🇳 China:- Jiang Zemin- Hu Jintao- Xi Jinpingอินเดีย 🇮🇳 India:- Atal Bihari Vajpayee- Manmohan Singh- Narendra Modiอังกฤษ 🇬🇧 UK:- Tony Blair- Gordon Brown- David Cameron- Theresa May- Boris Johnson- Liz Truss- Rishi Sunak- Keir Starmerเยอรมนี 🇩🇪 Germany:- Gerhard Schröder- Angela Merkel- Olaf Scholzฝรั่งเศส 🇫🇷 France:- Jacques Chirac- Nicolas Sarkozy- François Hollande- Emmanuel Macron
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • การสู้รบดุเดือดนาน 2 สัปดาห์ระหว่างกองทัพพม่าและกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารใกล้กับพื้นที่พัฒนาของจีนในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ ทำให้พลเรือนมากกว่า 20,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนตนเอง และทำให้เกิดความต้องการด้านอาหารและยาอย่างเร่งด่วน ตามการระบุของคนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์

    กองทัพอาระกัน (AA) เป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพม่า และกำลังต่อสู้เพื่อเข้าควบคุมเมืองจอก์พยู เมืองท่าชายฝั่งตะวันตก โดยกลุ่มติดอาวุธใกล้จะบรรลุเป้าหมายในการเอาชนะกองกำลังทหารของรัฐบาลที่เข้ายึดอำนาจในปี 2564 ได้หมดทั้งรัฐ

    เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในเมืองจอก์พยูกล่าวว่าการปะทะกันระหว่างกองทัพอาระกันและกองทัพได้ทวีความรุนแรงขึ้นใกล้กับฐานทัพเรือธัญญาวดี ของรัฐบาลทหารใกล้เมืองจอก์พยู ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างน้อย 10 แห่ง ต้องอพยพออกไป

    “จำนวนผู้พลัดถิ่นเพิ่มขึ้นจาก 10,000 คน เป็นประมาณ 20,000 คน นับตั้งแต่การสู้รบทวีความรุนแรงขึ้น” เจ้าหน้าที่ ระบุ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000021489

    #MGROnline #กองทัพพม่า #กลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหาร
    การสู้รบดุเดือดนาน 2 สัปดาห์ระหว่างกองทัพพม่าและกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารใกล้กับพื้นที่พัฒนาของจีนในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ ทำให้พลเรือนมากกว่า 20,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนตนเอง และทำให้เกิดความต้องการด้านอาหารและยาอย่างเร่งด่วน ตามการระบุของคนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ • กองทัพอาระกัน (AA) เป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพม่า และกำลังต่อสู้เพื่อเข้าควบคุมเมืองจอก์พยู เมืองท่าชายฝั่งตะวันตก โดยกลุ่มติดอาวุธใกล้จะบรรลุเป้าหมายในการเอาชนะกองกำลังทหารของรัฐบาลที่เข้ายึดอำนาจในปี 2564 ได้หมดทั้งรัฐ • เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในเมืองจอก์พยูกล่าวว่าการปะทะกันระหว่างกองทัพอาระกันและกองทัพได้ทวีความรุนแรงขึ้นใกล้กับฐานทัพเรือธัญญาวดี ของรัฐบาลทหารใกล้เมืองจอก์พยู ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างน้อย 10 แห่ง ต้องอพยพออกไป • “จำนวนผู้พลัดถิ่นเพิ่มขึ้นจาก 10,000 คน เป็นประมาณ 20,000 คน นับตั้งแต่การสู้รบทวีความรุนแรงขึ้น” เจ้าหน้าที่ ระบุ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000021489 • #MGROnline #กองทัพพม่า #กลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหาร
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทีมแรกในโรงงานผลิตรถยนต์! ยูบีเทคโรโบติกส์ บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์สัญชาติจีนในนครเซินเจิ้น สร้างปรากฏการณ์ ติดตั้ง“วอล์กเกอร์ เอส 1” ( Walker S1) หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ “หลายสิบตัว” ที่โรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของซีเคอร์ (Zeekr) ในเมืองท่าหนิงโป เพื่อปฏิบัติงานในหลายภารกิจหลายพื้นที่ภายในโรงงาน

    ซีเคอร์ เป็นแบรนด์รถไฟฟ้าของจีลี่ออโต้ (Geely Auto) หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน

    ความสำเร็จในการทดสอบติดตั้งการใช้งานหุ่นยนต์นี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของจีนในการยกระดับขีดความสามารถด้านการผลิตอย่างมโหฬาร

    ตามการแถลงเมื่อวันจันทร์ (3 มี.ค.) ของยูบีเทค ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงนั้น บริษัทได้พัฒนาโมเดลการให้เหตุผลแบบหลายรูปแบบ (multimodal reasoning model) โดยเป็นการต่อยอดจากโมเดล R1 ของบริษัทดีปซีก (DeepSeek) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส หุ่นยนต์จึงสามารถ "วิเคราะห์ วางแผน และประสานงานต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000021081

    #MGROnline #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ #ทีมแรก #โรงงานผลิตรถยนต์
    หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทีมแรกในโรงงานผลิตรถยนต์! ยูบีเทคโรโบติกส์ บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์สัญชาติจีนในนครเซินเจิ้น สร้างปรากฏการณ์ ติดตั้ง“วอล์กเกอร์ เอส 1” ( Walker S1) หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ “หลายสิบตัว” ที่โรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของซีเคอร์ (Zeekr) ในเมืองท่าหนิงโป เพื่อปฏิบัติงานในหลายภารกิจหลายพื้นที่ภายในโรงงาน • ซีเคอร์ เป็นแบรนด์รถไฟฟ้าของจีลี่ออโต้ (Geely Auto) หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน • ความสำเร็จในการทดสอบติดตั้งการใช้งานหุ่นยนต์นี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของจีนในการยกระดับขีดความสามารถด้านการผลิตอย่างมโหฬาร • ตามการแถลงเมื่อวันจันทร์ (3 มี.ค.) ของยูบีเทค ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงนั้น บริษัทได้พัฒนาโมเดลการให้เหตุผลแบบหลายรูปแบบ (multimodal reasoning model) โดยเป็นการต่อยอดจากโมเดล R1 ของบริษัทดีปซีก (DeepSeek) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส หุ่นยนต์จึงสามารถ "วิเคราะห์ วางแผน และประสานงานต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000021081 • #MGROnline #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ #ทีมแรก #โรงงานผลิตรถยนต์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • เช้าวันที่ 3 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) กึกก้องไปด้วยเสียงระฆังเมื่อ "มี่เสวี่ยปิงเฉิง" แบรนด์เครื่องดื่มชานมและน้ำแข็งไสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกงอย่างเป็นทางการภายใต้รหัสหุ้น HK02097 โดยเปิดตัวที่ราคา 284.4 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น ดันมูลค่าบริษัทพุ่งแตะ 1,071 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 4.88 ล้านล้านบาท)

    สิ่งที่แตกต่างจากพิธีเปิดตัวบริษัทจดทะเบียนทั่วไป คือ ผู้ก่อตั้งบริษัท "จางหงเชา" และ "จางหงฝู่" ไม่ได้ปรากฏตัวในพิธี รวมถึงผู้บริหารระดับสูงก็ไม่มีใครขึ้นเวทีเคาะระฆังเปิดตลาด โดยตัวแทนที่ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์กลับเป็น "ราชาหิมะ" มาสคอตประจำแบรนด์ที่เดินขึ้นเวทีพร้อมกับตัวละครอื่นๆ ในแฟรนไชส์

    "ราชาหิมะ" กล่าวระหว่างพิธีว่า "การเข้าตลาดหุ้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น รหัสหุ้น 2097 ไม่ใช่จุดสิ้นสุด" พร้อมกันนี้ ทีมงานได้เปิดเพลงธีมของแบรนด์ซึ่งเป็นเพลงที่ติดหูผู้บริโภคไปทั่วจีน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020914

    #MGROnline #มี่เสวี่ยปิงเฉิง
    เช้าวันที่ 3 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) กึกก้องไปด้วยเสียงระฆังเมื่อ "มี่เสวี่ยปิงเฉิง" แบรนด์เครื่องดื่มชานมและน้ำแข็งไสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกงอย่างเป็นทางการภายใต้รหัสหุ้น HK02097 โดยเปิดตัวที่ราคา 284.4 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น ดันมูลค่าบริษัทพุ่งแตะ 1,071 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 4.88 ล้านล้านบาท) • สิ่งที่แตกต่างจากพิธีเปิดตัวบริษัทจดทะเบียนทั่วไป คือ ผู้ก่อตั้งบริษัท "จางหงเชา" และ "จางหงฝู่" ไม่ได้ปรากฏตัวในพิธี รวมถึงผู้บริหารระดับสูงก็ไม่มีใครขึ้นเวทีเคาะระฆังเปิดตลาด โดยตัวแทนที่ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์กลับเป็น "ราชาหิมะ" มาสคอตประจำแบรนด์ที่เดินขึ้นเวทีพร้อมกับตัวละครอื่นๆ ในแฟรนไชส์ • "ราชาหิมะ" กล่าวระหว่างพิธีว่า "การเข้าตลาดหุ้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น รหัสหุ้น 2097 ไม่ใช่จุดสิ้นสุด" พร้อมกันนี้ ทีมงานได้เปิดเพลงธีมของแบรนด์ซึ่งเป็นเพลงที่ติดหูผู้บริโภคไปทั่วจีน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020914 • #MGROnline #มี่เสวี่ยปิงเฉิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้เข้าสู่ปีที่ห้า และดูเหมือนว่าการแทรกแซงของสหรัฐฯ กำลังย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง จากการศึกษาล่าสุดของ Emerging Technology Observatory (ETO) พบว่าจีนได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีชิปรุ่นใหม่มากกว่าสองเท่าของสหรัฐฯ

    ETO ระบุว่าระหว่างปี 2018 ถึง 2023 มีบทความวิจัยเกี่ยวกับการออกแบบและการผลิตชิปมากถึง 475,000 บทความทั่วโลก โดยมี 34% ของบทความเหล่านี้ที่ผลิตโดยสถาบันในจีน ซึ่งมากกว่าสหรัฐฯ ที่มีเพียง 15% และยุโรปที่มี 18% แม้ว่าการวิจัยเกี่ยวกับการผลิตชิปอาจไม่เป็นที่นิยมเท่ากับหัวข้อที่ร้อนแรง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และโมเดลภาษาใหญ่ (LLMs) แต่จีนดูเหมือนจะทุ่มเทกับการศึกษาการผลิตชิปในอนาคตเป็นอย่างมาก

    ที่น่าสนใจกว่านั้นคือคุณภาพของการวิจัยที่มาจากจีนอยู่ในระดับสูงสุด เมื่อพิจารณาบทความที่มีการอ้างอิงมากที่สุด 10% พบว่า 50% ของบทความเหล่านี้มาจากจีน ขณะที่สหรัฐฯ และยุโรปอยู่ที่ 22% และ 17% ตามลำดับ

    จีนกำลังมุ่งเน้นการวิจัยในด้านคอมพิวเตอร์เชิงนิวโรมอร์ฟิค (Neuromorphic Computing) และคอมพิวเตอร์เชิงแสง (Optoelectric Computing) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลังยุคกฎของมวร์ (Post-Moore's Law) ที่สามารถวิจัยนอกกรอบการกำหนดข้อบังคับที่ใช้ในอุตสาหกรรมชิปจีนในปัจจุบัน

    นโยบายของสหรัฐฯ ที่มุ่งห้ามการนำเข้าอุปกรณ์การผลิตชิปสมัยใหม่ไปยังจีนมีเป้าหมายเพื่อจำกัดการเข้าถึงชิปรุ่นล้ำหน้า ทำให้จีนต้องพึ่งพาชิปรุ่นเก่า อย่างไรก็ตาม การวิจัยชิปรุ่นใหม่ของจีนอาจนำไปสู่การค้นพบเทคโนโลยีการผลิตชิปที่เหนือกว่าความรู้และความสามารถของตะวันตกในอนาคต

    แม้ว่าการแข่งขันในด้านการผลิตชิประหว่างจีนและสหรัฐฯ จะยังคงดำเนินต่อไป แต่จีนกำลังทำก้าวย่างใหญ่ในด้านการวิจัย ซึ่งอาจส่งผลให้จีนมีความสามารถในการผลิตชิปรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพสูงในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-doubles-us-research-output-on-next-gen-chips-chipmaking-export-bans-are-fueling-a-research-wave
    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้เข้าสู่ปีที่ห้า และดูเหมือนว่าการแทรกแซงของสหรัฐฯ กำลังย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง จากการศึกษาล่าสุดของ Emerging Technology Observatory (ETO) พบว่าจีนได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีชิปรุ่นใหม่มากกว่าสองเท่าของสหรัฐฯ ETO ระบุว่าระหว่างปี 2018 ถึง 2023 มีบทความวิจัยเกี่ยวกับการออกแบบและการผลิตชิปมากถึง 475,000 บทความทั่วโลก โดยมี 34% ของบทความเหล่านี้ที่ผลิตโดยสถาบันในจีน ซึ่งมากกว่าสหรัฐฯ ที่มีเพียง 15% และยุโรปที่มี 18% แม้ว่าการวิจัยเกี่ยวกับการผลิตชิปอาจไม่เป็นที่นิยมเท่ากับหัวข้อที่ร้อนแรง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และโมเดลภาษาใหญ่ (LLMs) แต่จีนดูเหมือนจะทุ่มเทกับการศึกษาการผลิตชิปในอนาคตเป็นอย่างมาก ที่น่าสนใจกว่านั้นคือคุณภาพของการวิจัยที่มาจากจีนอยู่ในระดับสูงสุด เมื่อพิจารณาบทความที่มีการอ้างอิงมากที่สุด 10% พบว่า 50% ของบทความเหล่านี้มาจากจีน ขณะที่สหรัฐฯ และยุโรปอยู่ที่ 22% และ 17% ตามลำดับ จีนกำลังมุ่งเน้นการวิจัยในด้านคอมพิวเตอร์เชิงนิวโรมอร์ฟิค (Neuromorphic Computing) และคอมพิวเตอร์เชิงแสง (Optoelectric Computing) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลังยุคกฎของมวร์ (Post-Moore's Law) ที่สามารถวิจัยนอกกรอบการกำหนดข้อบังคับที่ใช้ในอุตสาหกรรมชิปจีนในปัจจุบัน นโยบายของสหรัฐฯ ที่มุ่งห้ามการนำเข้าอุปกรณ์การผลิตชิปสมัยใหม่ไปยังจีนมีเป้าหมายเพื่อจำกัดการเข้าถึงชิปรุ่นล้ำหน้า ทำให้จีนต้องพึ่งพาชิปรุ่นเก่า อย่างไรก็ตาม การวิจัยชิปรุ่นใหม่ของจีนอาจนำไปสู่การค้นพบเทคโนโลยีการผลิตชิปที่เหนือกว่าความรู้และความสามารถของตะวันตกในอนาคต แม้ว่าการแข่งขันในด้านการผลิตชิประหว่างจีนและสหรัฐฯ จะยังคงดำเนินต่อไป แต่จีนกำลังทำก้าวย่างใหญ่ในด้านการวิจัย ซึ่งอาจส่งผลให้จีนมีความสามารถในการผลิตชิปรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพสูงในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-doubles-us-research-output-on-next-gen-chips-chipmaking-export-bans-are-fueling-a-research-wave
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงสนับสนุนแนวคิดนี้ของจีนครับ

    รัฐบาลจีนได้ประกาศนโยบายใหม่ในการส่งเสริมการใช้ชิป RISC-V ที่เป็นโอเพ่นซอร์สอย่างเป็นทางการ เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ เช่น x86 และ Arm นโยบายนี้ถูกจัดทำโดยหน่วยงานรัฐบาลถึงแปดแห่ง รวมถึง Cyberspace Administration of China และ Ministry of Industry and Information Technology โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการใช้งานชิป RISC-V ในประเทศจีนให้มากขึ้น

    การออกนโยบายใหม่นี้จะส่งเสริมให้บริษัทในจีนหันมาใช้ชิป RISC-V ที่ถูกพัฒนาภายในประเทศมากขึ้น เช่น Alibaba's XuanTie และ Nuclei System Technology ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป RISC-V ชั้นนำของจีน การใช้งานชิปเหล่านี้จะทำให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายและพัฒนาชิปที่เหมาะสมกับการใช้งานในด้าน AI ได้มากขึ้น แม้ว่าในช่วงแรก ชิปเหล่านี้อาจจะยังไม่สามารถแข่งกับชิปของ Nvidia ในด้านประสิทธิภาพได้ แต่ก็จะมีราคาถูกกว่าและถูกออกแบบในจีนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนสนับสนุน

    แม้ว่าการพัฒนาฮาร์ดแวร์ RISC-V จะสำคัญ แต่การสร้างระบบซอฟต์แวร์ที่รองรับชิป RISC-V ก็ไม่แพ้กัน ปัจจุบันนี้ Arm และ x86 ได้รับการสนับสนุนจากระบบปฏิบัติการและโปรแกรมมากมาย ซึ่งแตกต่างจาก RISC-V ที่ยังมีข้อจำกัดในการรองรับซอฟต์แวร์ หากต้องการสร้างชิป AI ที่ใช้ RISC-V นักพัฒนาจำเป็นต้องสร้างระบบนิเวศน์ซอฟต์แวร์เช่นเดียวกับ CUDA ของ Nvidia ซึ่งต้องใช้เวลานับสิบปีในการพัฒนา

    การประกาศนโยบายนี้ทำให้หุ้นของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีน เช่น VeriSilicon, ASR Microelectronics และ Shanghai Anlogic Infotech พุ่งสูงขึ้นถึง 15.4% เนื่องจากความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน RISC-V อย่างไรก็ตาม ความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน RISC-V ยังทำให้สหรัฐฯ กังวล เพราะ RISC-V เป็นโอเพ่นซอร์ส และอาจทำให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีได้เร็วยิ่งขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-government-shifts-focus-from-x86-and-arm-cpus-promoting-the-adoption-of-risc-v-chips
    ลุงสนับสนุนแนวคิดนี้ของจีนครับ รัฐบาลจีนได้ประกาศนโยบายใหม่ในการส่งเสริมการใช้ชิป RISC-V ที่เป็นโอเพ่นซอร์สอย่างเป็นทางการ เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ เช่น x86 และ Arm นโยบายนี้ถูกจัดทำโดยหน่วยงานรัฐบาลถึงแปดแห่ง รวมถึง Cyberspace Administration of China และ Ministry of Industry and Information Technology โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการใช้งานชิป RISC-V ในประเทศจีนให้มากขึ้น การออกนโยบายใหม่นี้จะส่งเสริมให้บริษัทในจีนหันมาใช้ชิป RISC-V ที่ถูกพัฒนาภายในประเทศมากขึ้น เช่น Alibaba's XuanTie และ Nuclei System Technology ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป RISC-V ชั้นนำของจีน การใช้งานชิปเหล่านี้จะทำให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายและพัฒนาชิปที่เหมาะสมกับการใช้งานในด้าน AI ได้มากขึ้น แม้ว่าในช่วงแรก ชิปเหล่านี้อาจจะยังไม่สามารถแข่งกับชิปของ Nvidia ในด้านประสิทธิภาพได้ แต่ก็จะมีราคาถูกกว่าและถูกออกแบบในจีนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนสนับสนุน แม้ว่าการพัฒนาฮาร์ดแวร์ RISC-V จะสำคัญ แต่การสร้างระบบซอฟต์แวร์ที่รองรับชิป RISC-V ก็ไม่แพ้กัน ปัจจุบันนี้ Arm และ x86 ได้รับการสนับสนุนจากระบบปฏิบัติการและโปรแกรมมากมาย ซึ่งแตกต่างจาก RISC-V ที่ยังมีข้อจำกัดในการรองรับซอฟต์แวร์ หากต้องการสร้างชิป AI ที่ใช้ RISC-V นักพัฒนาจำเป็นต้องสร้างระบบนิเวศน์ซอฟต์แวร์เช่นเดียวกับ CUDA ของ Nvidia ซึ่งต้องใช้เวลานับสิบปีในการพัฒนา การประกาศนโยบายนี้ทำให้หุ้นของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีน เช่น VeriSilicon, ASR Microelectronics และ Shanghai Anlogic Infotech พุ่งสูงขึ้นถึง 15.4% เนื่องจากความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน RISC-V อย่างไรก็ตาม ความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน RISC-V ยังทำให้สหรัฐฯ กังวล เพราะ RISC-V เป็นโอเพ่นซอร์ส และอาจทำให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีได้เร็วยิ่งขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-government-shifts-focus-from-x86-and-arm-cpus-promoting-the-adoption-of-risc-v-chips
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีการ ของ ทุนจีน 100% (รุม)ซื้อที่ดินไทย

    ตัวอย่าง เช่น

    นาย เฉินซื่อบื่อ นักธุรกิจจีน ต้องการมาลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย 100% #ทำได้ทันที ด้วยการติดต่อ สำนักงานกฏหมายในไทย จดทะเบียนบริษัท ให้(จ่ายเงินครบ..จบแน่นอน)

    ขอให้ดูภาพ

    1) สำนักงานกฏหมาย จะหา "นอมีนี" คนไทย หรือหาเมียน้อยชาวไทยให้นายเฉิน โดยให้ เมียไทย หรือ นอมินี ทำสัญญากู้เงินเป็นหลักประกันเท่าจำนวนเงินในหุ้น เพื่อจัดตั้ง บริษัท A จำกัด โดย เฉินซื่อบื่อ 49% ไทย 51%

    2) ขั้นตอนนี้ สำนักงานกฏหมาย จัดตั้ง บริษัท B จำกัด
    โดยให้ เฉินซื่อบื่อ ถือหุ้น 47%บริษัท A 50% เมียไทย 3%

    3) ขั้นตอนสุดท้าย จัดตั้ง จัดตั้ง บริษัท C จำกัด
    โดยให้ เฉินซื่อบื่อ ถือหุ้น 49%บริษัท ฺB 48% เมียไทย 3%

    สุดท้าย คือ บริษัท C=China จำกัด ใช้เงินจริงลงทุน50 ได้สิทธิ์เต็ม 100% ประกอบการได้โดยไม่มีคนไทยถือหุ้น ได้ จ๊ะ

    บริษัทมี(กำไร)แบ่งให้ เมียไทย 3%
    บริษัท(ขาดทุน) ให้เมียไทย(รับผิด) 51%
    ยุติธรรม..ดีจัง

    นี่แหละ..ที่นี่ ประเทศไทย(กำลังถูกเปลี่ยนเจ้าของ)
    วิธีการ ของ ทุนจีน 100% (รุม)ซื้อที่ดินไทย ตัวอย่าง เช่น นาย เฉินซื่อบื่อ นักธุรกิจจีน ต้องการมาลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย 100% #ทำได้ทันที ด้วยการติดต่อ สำนักงานกฏหมายในไทย จดทะเบียนบริษัท ให้(จ่ายเงินครบ..จบแน่นอน) ขอให้ดูภาพ 1) สำนักงานกฏหมาย จะหา "นอมีนี" คนไทย หรือหาเมียน้อยชาวไทยให้นายเฉิน โดยให้ เมียไทย หรือ นอมินี ทำสัญญากู้เงินเป็นหลักประกันเท่าจำนวนเงินในหุ้น เพื่อจัดตั้ง บริษัท A จำกัด โดย เฉินซื่อบื่อ 49% ไทย 51% 2) ขั้นตอนนี้ สำนักงานกฏหมาย จัดตั้ง บริษัท B จำกัด โดยให้ เฉินซื่อบื่อ ถือหุ้น 47%บริษัท A 50% เมียไทย 3% 3) ขั้นตอนสุดท้าย จัดตั้ง จัดตั้ง บริษัท C จำกัด โดยให้ เฉินซื่อบื่อ ถือหุ้น 49%บริษัท ฺB 48% เมียไทย 3% สุดท้าย คือ บริษัท C=China จำกัด ใช้เงินจริงลงทุน50 ได้สิทธิ์เต็ม 100% ประกอบการได้โดยไม่มีคนไทยถือหุ้น ได้ จ๊ะ บริษัทมี(กำไร)แบ่งให้ เมียไทย 3% บริษัท(ขาดทุน) ให้เมียไทย(รับผิด) 51% ยุติธรรม..ดีจัง นี่แหละ..ที่นี่ ประเทศไทย(กำลังถูกเปลี่ยนเจ้าของ)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับตา "การประชุมสองสภา 2025 " ในบริบทพลวัตด้านอำนาจของจีนที่เปลี่ยนไป #การประชุมสองสภา (Two sessions) กิจกรรมทางการเมืองซึ่งมีความสำคัญที่สุดในรอบปีของจีน จะเปิดฉากขึ้นด้วยการประชุมของ #สภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน ( CPPCC ) ในวันอังคาร ( 4 มี.ค.) ตามด้วยการประชุม #สภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ในวันพุธ ( 5 มี.ค.)การประชุมสองสภาถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเฝ้าสังเกตการณ์แผนพัฒนาของจีน โดยในปีนี้จะมีการพิจารณาทบทวน #แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีฉบับที่ 14 ( 2564-2568 ) เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายของประเทศต่อไปด้านนักวิเคราะห์มองว่า การประชุมสองสภาในปี 2568 เกิดขึ้นท่ามกลางบริบทที่พลวัตหรือพลังการเคลื่อนไหวทางอำนาจ ( #power dynamics) ระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีความแตกต่างไปอย่างมากจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งจีนประกาศยุทธศาสตร์การพัฒนาและเป็นช่วงรอยต่อระหว่างการสิ้นสุดวาระการบริหารประเทศของรัฐบาลประธานาธิบดี #โดนัลด์ ทรัมป์สมัยแรก การเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และการกลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยที่ 2 ของทรัมป์เมื่อเดือนมกราคมปีนี้แม้ทรัมป์และไบเดนขับเคี่ยวกันในทางการเมือง แต่ก็มีจุดยืนร่วมกันอย่างหนึ่งนั่นก็คือพยายามขัดขวางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนทุกวิถีทาง สหรัฐฯ มีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรและข้อจำกัดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนต่อจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลี่ เฉิง อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์และผู้อำนวยการก่อตั้งศูนย์จีนร่วมสมัยและโลกแห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกงมองว่า แม้ความท้าทายทางเศรษฐกิจภายในประเทศและแรงกดดันจากภายนอกกำลังรุมเร้าจีน แต่การเปลี่ยนแปลงอำนาจบนเวทีโลกไปในทิศทางที่เอื้อต่อจีนนั้นปรากฏชัดเจนยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา“ตะวันออกกำลังรุ่งเรือง และตะวันตกกำลังเสื่อมถอย” ตามที่ชาวจีนหลายคนเชื่อนั้นคือสิ่งที่เรากำลังเห็นอยู่ในขณะนี้“จีนได้เปรียบตรงที่เน้นการพัฒนาในระยะยาวมากกว่าผลกำไรในระยะสั้น” อาจารย์เฉิงระบุตามรายงานเผยแพร่เมื่อปีที่แล้วของมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม ( Information Technology and Innovation Foundation) ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองในกรุงวอชิงตันนั้น ความพยายามที่ดำเนินมาหลายปีดูเหมือนว่าจะได้รับผลตอบแทนด้วยการที่จีนกลายเป็นผู้นำหรือคู่แข่งขันระดับโลกในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง 5 ภาคส่วน ได้แก่ หุ่นยนต์ พลังงานนิวเคลียร์ ยานยนต์ไฟฟ้า ปัญญาประดิษฐ์ และคอมพิวเตอร์ควอนตัม นอกจากนี้จีนยังกำลังตามทันในอีก 4 ด้าน ได้แก่ สารเคมี เครื่องมือเครื่องจักร ยาชีวเภสัชภัณฑ์ ( biopharmaceuticals ) และเซมิคอนดักเตอร์อี้ว์ โจว อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลกาภิวัตน์และเทคโนโลยีจีนประจำวิทยาลัยวาสซาร์ในสหรัฐฯ มองว่า การประกาศแผนยุทธศาสตร์ Made in China 2025 ของจีนเมื่อปี 2558 ทำให้ความสำเร็จด้านเทคโนโลยีของจีนได้ก้าวไปไกลเกินกว่าที่ใครๆ เคยคาดคิด และเกินความคาดหวังของผู้วางแผนยุทธศาสตร์เองในตอนนั้นด้วยซ้ำนอกจากนี้ จีนยังเพิ่มการใช้อุปกรณ์ขั้นสูง เช่น โดรน เพื่อเร่งขับเคลื่อนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยและใช้จุดยืนที่กล้าแสดงออกมากขึ้นในการเผชิญหน้าทางทะเลกับสหรัฐฯจึงคาดกันว่า ความพยายามในการรับมือกับนโยบายของทรัมป์และการพยายามรักษาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้เพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นวาระสำคัญในการประชุมสองสมัยครั้งนี้และด้วยบริบทของพลวัตทางอำนาจระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่เปลี่ยนไป จึงน่าจับตามองว่า ที่ประชุมจะมีการตัดสินใจและการประกาศนโยบายอย่างใดบ้างการตั้งเป้าหมายจีดีพีเติบโตเป็นหนึ่งในการตั้งเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่ถูกจับตามองมากที่สุด รวมถึงการประกาศมาตรการเชิงนโยบายของรัฐบาลที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการประกาศนโยบายด้านต่างประเทศ นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์ ( เอไอ ) และนวัตกรรม นโยบายที่คาดว่าจะประกาศเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อชีวิตของชาวจีน 1,400 ล้านคนและส่งกระทบต่อต่างชาติด้วยอย่างแน่นอนที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ /โกลบอลไทมส์ภาพประกอบข่าว1 ภาพ : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์2 นักข่าวกำลังทำงานที่ศูนย์สื่อมวลชนเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมสองสภาประจำปีของจีนที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 - ภาพ : ซินหัว
    จับตา "การประชุมสองสภา 2025 " ในบริบทพลวัตด้านอำนาจของจีนที่เปลี่ยนไป #การประชุมสองสภา (Two sessions) กิจกรรมทางการเมืองซึ่งมีความสำคัญที่สุดในรอบปีของจีน จะเปิดฉากขึ้นด้วยการประชุมของ #สภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน ( CPPCC ) ในวันอังคาร ( 4 มี.ค.) ตามด้วยการประชุม #สภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ในวันพุธ ( 5 มี.ค.)การประชุมสองสภาถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเฝ้าสังเกตการณ์แผนพัฒนาของจีน โดยในปีนี้จะมีการพิจารณาทบทวน #แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีฉบับที่ 14 ( 2564-2568 ) เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายของประเทศต่อไปด้านนักวิเคราะห์มองว่า การประชุมสองสภาในปี 2568 เกิดขึ้นท่ามกลางบริบทที่พลวัตหรือพลังการเคลื่อนไหวทางอำนาจ ( #power dynamics) ระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีความแตกต่างไปอย่างมากจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งจีนประกาศยุทธศาสตร์การพัฒนาและเป็นช่วงรอยต่อระหว่างการสิ้นสุดวาระการบริหารประเทศของรัฐบาลประธานาธิบดี #โดนัลด์ ทรัมป์สมัยแรก การเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และการกลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยที่ 2 ของทรัมป์เมื่อเดือนมกราคมปีนี้แม้ทรัมป์และไบเดนขับเคี่ยวกันในทางการเมือง แต่ก็มีจุดยืนร่วมกันอย่างหนึ่งนั่นก็คือพยายามขัดขวางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนทุกวิถีทาง สหรัฐฯ มีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรและข้อจำกัดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนต่อจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลี่ เฉิง อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์และผู้อำนวยการก่อตั้งศูนย์จีนร่วมสมัยและโลกแห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกงมองว่า แม้ความท้าทายทางเศรษฐกิจภายในประเทศและแรงกดดันจากภายนอกกำลังรุมเร้าจีน แต่การเปลี่ยนแปลงอำนาจบนเวทีโลกไปในทิศทางที่เอื้อต่อจีนนั้นปรากฏชัดเจนยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา“ตะวันออกกำลังรุ่งเรือง และตะวันตกกำลังเสื่อมถอย” ตามที่ชาวจีนหลายคนเชื่อนั้นคือสิ่งที่เรากำลังเห็นอยู่ในขณะนี้“จีนได้เปรียบตรงที่เน้นการพัฒนาในระยะยาวมากกว่าผลกำไรในระยะสั้น” อาจารย์เฉิงระบุตามรายงานเผยแพร่เมื่อปีที่แล้วของมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม ( Information Technology and Innovation Foundation) ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองในกรุงวอชิงตันนั้น ความพยายามที่ดำเนินมาหลายปีดูเหมือนว่าจะได้รับผลตอบแทนด้วยการที่จีนกลายเป็นผู้นำหรือคู่แข่งขันระดับโลกในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง 5 ภาคส่วน ได้แก่ หุ่นยนต์ พลังงานนิวเคลียร์ ยานยนต์ไฟฟ้า ปัญญาประดิษฐ์ และคอมพิวเตอร์ควอนตัม นอกจากนี้จีนยังกำลังตามทันในอีก 4 ด้าน ได้แก่ สารเคมี เครื่องมือเครื่องจักร ยาชีวเภสัชภัณฑ์ ( biopharmaceuticals ) และเซมิคอนดักเตอร์อี้ว์ โจว อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลกาภิวัตน์และเทคโนโลยีจีนประจำวิทยาลัยวาสซาร์ในสหรัฐฯ มองว่า การประกาศแผนยุทธศาสตร์ Made in China 2025 ของจีนเมื่อปี 2558 ทำให้ความสำเร็จด้านเทคโนโลยีของจีนได้ก้าวไปไกลเกินกว่าที่ใครๆ เคยคาดคิด และเกินความคาดหวังของผู้วางแผนยุทธศาสตร์เองในตอนนั้นด้วยซ้ำนอกจากนี้ จีนยังเพิ่มการใช้อุปกรณ์ขั้นสูง เช่น โดรน เพื่อเร่งขับเคลื่อนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยและใช้จุดยืนที่กล้าแสดงออกมากขึ้นในการเผชิญหน้าทางทะเลกับสหรัฐฯจึงคาดกันว่า ความพยายามในการรับมือกับนโยบายของทรัมป์และการพยายามรักษาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้เพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นวาระสำคัญในการประชุมสองสมัยครั้งนี้และด้วยบริบทของพลวัตทางอำนาจระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่เปลี่ยนไป จึงน่าจับตามองว่า ที่ประชุมจะมีการตัดสินใจและการประกาศนโยบายอย่างใดบ้างการตั้งเป้าหมายจีดีพีเติบโตเป็นหนึ่งในการตั้งเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่ถูกจับตามองมากที่สุด รวมถึงการประกาศมาตรการเชิงนโยบายของรัฐบาลที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการประกาศนโยบายด้านต่างประเทศ นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์ ( เอไอ ) และนวัตกรรม นโยบายที่คาดว่าจะประกาศเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อชีวิตของชาวจีน 1,400 ล้านคนและส่งกระทบต่อต่างชาติด้วยอย่างแน่นอนที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ /โกลบอลไทมส์ภาพประกอบข่าว1 ภาพ : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์2 นักข่าวกำลังทำงานที่ศูนย์สื่อมวลชนเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมสองสภาประจำปีของจีนที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 - ภาพ : ซินหัว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำกองทัพและรัฐบาลทหารของพม่า จะพบหารือกันในเครมลินวันนี้ (4) หลังจากนั้นพวกเขาจะลงนามในเอกสารและออกแถลงต่อสื่อ เครมลินระบุ

    พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย อายุ 68 ปี ที่เดินทางไปต่างประเทศไม่บ่อยนัก ได้รับการต้อนรับจากเซอร์เก ชอยกู เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในช่วงเช้าวันอังคาร ก่อนร่วมการประชุมที่วางแผนไว้กับปูตินและกระทรวงกลาโหม ตามการรายงานของสื่อรัสเซีย

    “เราพัฒนาความสัมพันธ์กับพม่าอย่างแข็งขันมาก นี่คือหุ้นส่วนที่มีความสำคัญมากของเราในเอเชียตะวันออก” เปซคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000021131

    #MGROnline #รัสเซีย #มินอ่องหล่าย #ผู้นำกองทัพ #รัฐบาลทหาร #พม่า
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำกองทัพและรัฐบาลทหารของพม่า จะพบหารือกันในเครมลินวันนี้ (4) หลังจากนั้นพวกเขาจะลงนามในเอกสารและออกแถลงต่อสื่อ เครมลินระบุ • พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย อายุ 68 ปี ที่เดินทางไปต่างประเทศไม่บ่อยนัก ได้รับการต้อนรับจากเซอร์เก ชอยกู เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในช่วงเช้าวันอังคาร ก่อนร่วมการประชุมที่วางแผนไว้กับปูตินและกระทรวงกลาโหม ตามการรายงานของสื่อรัสเซีย • “เราพัฒนาความสัมพันธ์กับพม่าอย่างแข็งขันมาก นี่คือหุ้นส่วนที่มีความสำคัญมากของเราในเอเชียตะวันออก” เปซคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000021131 • #MGROnline #รัสเซีย #มินอ่องหล่าย #ผู้นำกองทัพ #รัฐบาลทหาร #พม่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการเปิดตัวชิปประมวลผลเซิร์ฟเวอร์ใหม่จาก Alibaba ที่ชื่อว่า "XuanTie C930" ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม RISC-V ที่พัฒนามาเพื่อการประมวลผล AI และ HPC (High Performance Computing) ชิปนี้ได้รับการเผยแพร่ที่การประชุม China RISC-V Ecosystem Conference ในกรุงปักกิ่ง โดยวิศวกรของ Alibaba มองว่าชิปนี้จะเปิดทางให้กับการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต

    แม้ว่าเราจะยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนคอร์ ความเร็วของชิป หรือขนาดแคช แต่ Alibaba มีประวัติในการพัฒนาชิปที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น Yitian 710 ที่เป็นชิปที่เร็วที่สุดสำหรับคลาวด์เซิร์ฟเวอร์เมื่อปีที่แล้ว การเปิดตัว XuanTie C930 นี้จึงถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ Alibaba มีส่วนสำคัญในตลาดชิปประมวลผล

    นอกจากนี้ Alibaba ยังได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 52 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI และคลาวด์ในอีกสามปีข้างหน้า รวมถึงการพัฒนาชิป RISC-V รุ่นอื่น ๆ ที่จะตามมา ได้แก่ C908X, R908A และ XL200 ซึ่งออกแบบมาสำหรับการเร่งความเร็ว AI, การใช้งานในยานยนต์ และการเชื่อมต่อความเร็วสูงตามลำดับ

    สิ่งที่น่าสนใจคือการนำสถาปัตยกรรม RISC-V ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเปิดมาใช้ เนื่องจากการนำเข้าสถาปัตยกรรมที่มีอยู่จากสหรัฐฯ ถูกจำกัดโดยกฎหมายการส่งออกที่เข้มงวดของสหรัฐฯ การพัฒนา RISC-V ของจีนจึงถือว่าเป็นการสร้างเส้นทางใหม่ในการพัฒนาชิปที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/alibaba-launches-risc-v-based-xuantie-c930-server-cpu-ai-hpc-chip-ships-this-month-more-designs-to-follow
    มีการเปิดตัวชิปประมวลผลเซิร์ฟเวอร์ใหม่จาก Alibaba ที่ชื่อว่า "XuanTie C930" ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม RISC-V ที่พัฒนามาเพื่อการประมวลผล AI และ HPC (High Performance Computing) ชิปนี้ได้รับการเผยแพร่ที่การประชุม China RISC-V Ecosystem Conference ในกรุงปักกิ่ง โดยวิศวกรของ Alibaba มองว่าชิปนี้จะเปิดทางให้กับการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต แม้ว่าเราจะยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนคอร์ ความเร็วของชิป หรือขนาดแคช แต่ Alibaba มีประวัติในการพัฒนาชิปที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น Yitian 710 ที่เป็นชิปที่เร็วที่สุดสำหรับคลาวด์เซิร์ฟเวอร์เมื่อปีที่แล้ว การเปิดตัว XuanTie C930 นี้จึงถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ Alibaba มีส่วนสำคัญในตลาดชิปประมวลผล นอกจากนี้ Alibaba ยังได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 52 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI และคลาวด์ในอีกสามปีข้างหน้า รวมถึงการพัฒนาชิป RISC-V รุ่นอื่น ๆ ที่จะตามมา ได้แก่ C908X, R908A และ XL200 ซึ่งออกแบบมาสำหรับการเร่งความเร็ว AI, การใช้งานในยานยนต์ และการเชื่อมต่อความเร็วสูงตามลำดับ สิ่งที่น่าสนใจคือการนำสถาปัตยกรรม RISC-V ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเปิดมาใช้ เนื่องจากการนำเข้าสถาปัตยกรรมที่มีอยู่จากสหรัฐฯ ถูกจำกัดโดยกฎหมายการส่งออกที่เข้มงวดของสหรัฐฯ การพัฒนา RISC-V ของจีนจึงถือว่าเป็นการสร้างเส้นทางใหม่ในการพัฒนาชิปที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/alibaba-launches-risc-v-based-xuantie-c930-server-cpu-ai-hpc-chip-ships-this-month-more-designs-to-follow
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวล่าสุดจากการประชุม 2025 China RISC-V Ecosystem Conference ที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2025 โดยบริษัท SOPHGO ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรุ่นที่พัฒนาขึ้นจากชิป SG2044 ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพสูงที่ใช้ในเซิร์ฟเวอร์และการประมวลผล AI นอกจากนี้ SOPHGO ยังได้นำเสนอการพัฒนาในด้านการรวมกันของสถาปัตยกรรม RISC-V และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ก้าวหน้าอย่างมาก

    รองประธานของ SOPHGO RISC-V ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับ "การบุกเบิกของ RISC-V ด้วย AI: การรวมกันและนวัตกรรมเฮเทอโรจีนัส" (heterogeneous) โดยได้เน้นถึงความสำเร็จในการรวมสถาปัตยกรรม RISC-V กับเทคโนโลยี AI ซึ่งได้เปิดทางให้การประมวลผลและการใช้พลังงานคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล รวมถึงการพัฒนาโมเดลการทำนายขนาดใหญ่

    SOPHGO ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ที่ใช้ชิป SG2044 แบ่งเป็น 3 ซีรีส์ ได้แก่:
    1) เซิร์ฟเวอร์การประมวลผล SRA3-40: รองรับการประมวลผลหลายแกน และการคำนวณที่แม่นยำหลากหลายรูปแบบ
    2) เซิร์ฟเวอร์การเก็บข้อมูล SRB3-40: รองรับไดรฟ์หลายตัว ความจุใหญ่ และการโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง
    3) เซิร์ฟเวอร์รวมการทำงาน SRM3-40: รองรับการทำนายโมเดลขนาดใหญ่ พลังการประมวลผลสูง และประหยัดพลังงาน

    เซิร์ฟเวอร์รุ่น SRA3-40 จะเป็นเซิร์ฟเวอร์ RISC-V สมรรถนะสูงรุ่นแรกที่รวมเข้ากับเฟรมเวิร์ก DeepSeek อย่างลึกซึ้ง การใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ชิป RISC-V นี้จะเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับบริษัทที่ต้องการใช้พลังการประมวลผลในระดับสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการการคำนวณที่รวดเร็วและแม่นยำ

    ในงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้น SOPHGO ได้มีการแสดงสินค้าและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายการใช้งานของ RISC-V ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การประมวลผลประสิทธิภาพสูงและเทอร์มินัลอัจฉริยะ

    การพัฒนาเทคโนโลยีของ SOPHGO นี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการก้าวสู่การเป็นผู้นำในด้านการรวมเทคโนโลยี RISC-V และ AI

    https://www.techpowerup.com/333496/sophgo-unveils-new-products-at-the-2025-china-risc-v-ecosystem-conference
    มีข่าวล่าสุดจากการประชุม 2025 China RISC-V Ecosystem Conference ที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2025 โดยบริษัท SOPHGO ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรุ่นที่พัฒนาขึ้นจากชิป SG2044 ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพสูงที่ใช้ในเซิร์ฟเวอร์และการประมวลผล AI นอกจากนี้ SOPHGO ยังได้นำเสนอการพัฒนาในด้านการรวมกันของสถาปัตยกรรม RISC-V และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ก้าวหน้าอย่างมาก รองประธานของ SOPHGO RISC-V ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับ "การบุกเบิกของ RISC-V ด้วย AI: การรวมกันและนวัตกรรมเฮเทอโรจีนัส" (heterogeneous) โดยได้เน้นถึงความสำเร็จในการรวมสถาปัตยกรรม RISC-V กับเทคโนโลยี AI ซึ่งได้เปิดทางให้การประมวลผลและการใช้พลังงานคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล รวมถึงการพัฒนาโมเดลการทำนายขนาดใหญ่ SOPHGO ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ที่ใช้ชิป SG2044 แบ่งเป็น 3 ซีรีส์ ได้แก่: 1) เซิร์ฟเวอร์การประมวลผล SRA3-40: รองรับการประมวลผลหลายแกน และการคำนวณที่แม่นยำหลากหลายรูปแบบ 2) เซิร์ฟเวอร์การเก็บข้อมูล SRB3-40: รองรับไดรฟ์หลายตัว ความจุใหญ่ และการโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง 3) เซิร์ฟเวอร์รวมการทำงาน SRM3-40: รองรับการทำนายโมเดลขนาดใหญ่ พลังการประมวลผลสูง และประหยัดพลังงาน เซิร์ฟเวอร์รุ่น SRA3-40 จะเป็นเซิร์ฟเวอร์ RISC-V สมรรถนะสูงรุ่นแรกที่รวมเข้ากับเฟรมเวิร์ก DeepSeek อย่างลึกซึ้ง การใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ชิป RISC-V นี้จะเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับบริษัทที่ต้องการใช้พลังการประมวลผลในระดับสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการการคำนวณที่รวดเร็วและแม่นยำ ในงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้น SOPHGO ได้มีการแสดงสินค้าและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายการใช้งานของ RISC-V ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การประมวลผลประสิทธิภาพสูงและเทอร์มินัลอัจฉริยะ การพัฒนาเทคโนโลยีของ SOPHGO นี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการก้าวสู่การเป็นผู้นำในด้านการรวมเทคโนโลยี RISC-V และ AI https://www.techpowerup.com/333496/sophgo-unveils-new-products-at-the-2025-china-risc-v-ecosystem-conference
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    SOPHGO Unveils New Products at the 2025 China RISC-V Ecosystem Conference
    On February 27-28, the 2025 China RISC-V Ecosystem Conference was grandly held at the Zhongguancun International Innovation Center in Beijing. As a core promoter in the RISC-V field, SOPHGO was invited to deliver a speech and prominently launch a series of new products based on the SG2044 chip, shar...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวที่น่าสนใจจาก Tom's Hardware เกี่ยวกับการที่จำนวนผู้ใช้ Steam ที่ใช้งานภาษาจีนกลางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้การสำรวจฮาร์ดแวร์ของ Steam แสดงผลที่ผิดปกติ

    การสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้ที่เลือกภาษาจีนกลางเป็นภาษาหลักถึง 20.88% ทำให้ภาษาจีนกลางขึ้นแท่นเป็นภาษาที่มีผู้ใช้มากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Steam และทำให้ภาษาอังกฤษตกเป็นที่สองที่ 23.79% เรื่องนี้อาจเกิดจากการรวมจำนวนผู้ใช้จากทั้ง Steam เวอร์ชันสากลและเวอร์ชันจีน ซึ่งอาจมีผลทำให้จำนวนผู้ใช้ภาษาจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้ภาษาจีนยังส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ใช้กัน ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 มีจำนวนเพิ่มขึ้น 10.47% แม้ว่าระบบปฏิบัติการ Windows 11 จะได้รับความนิยมมากขึ้นในส่วนอื่นของโลก อีกทั้งยังพบว่าจำนวนผู้ใช้ที่มี RAM ขนาด 32GB เพิ่มขึ้นเป็น 46.94% จากเดิมที่ 16GB เป็นขนาดที่ได้รับความนิยม

    สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ผู้ใช้ภาษาจีนมีการอัปเกรดฮาร์ดแวร์อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของเกม โดยหน้าจอความละเอียด 1440p กลายเป็นที่นิยมมากขึ้น และการ์ดกราฟิกที่มี VRAM ขนาด 8GB และ 12GB ก็มีการเพิ่มขึ้นเช่นกัน

    https://www.tomshardware.com/desktops/gaming-pcs/huge-os-and-ram-usage-swings-in-steam-survey-likely-to-have-been-influenced-by-china-influx
    มีข่าวที่น่าสนใจจาก Tom's Hardware เกี่ยวกับการที่จำนวนผู้ใช้ Steam ที่ใช้งานภาษาจีนกลางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้การสำรวจฮาร์ดแวร์ของ Steam แสดงผลที่ผิดปกติ การสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้ที่เลือกภาษาจีนกลางเป็นภาษาหลักถึง 20.88% ทำให้ภาษาจีนกลางขึ้นแท่นเป็นภาษาที่มีผู้ใช้มากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Steam และทำให้ภาษาอังกฤษตกเป็นที่สองที่ 23.79% เรื่องนี้อาจเกิดจากการรวมจำนวนผู้ใช้จากทั้ง Steam เวอร์ชันสากลและเวอร์ชันจีน ซึ่งอาจมีผลทำให้จำนวนผู้ใช้ภาษาจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้ภาษาจีนยังส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ใช้กัน ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 มีจำนวนเพิ่มขึ้น 10.47% แม้ว่าระบบปฏิบัติการ Windows 11 จะได้รับความนิยมมากขึ้นในส่วนอื่นของโลก อีกทั้งยังพบว่าจำนวนผู้ใช้ที่มี RAM ขนาด 32GB เพิ่มขึ้นเป็น 46.94% จากเดิมที่ 16GB เป็นขนาดที่ได้รับความนิยม สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ผู้ใช้ภาษาจีนมีการอัปเกรดฮาร์ดแวร์อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของเกม โดยหน้าจอความละเอียด 1440p กลายเป็นที่นิยมมากขึ้น และการ์ดกราฟิกที่มี VRAM ขนาด 8GB และ 12GB ก็มีการเพิ่มขึ้นเช่นกัน https://www.tomshardware.com/desktops/gaming-pcs/huge-os-and-ram-usage-swings-in-steam-survey-likely-to-have-been-influenced-by-china-influx
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซินเจียงกำลังถูกพูดถึง ตอนนีั เมื่อ9ปีก่อนเคยไปทำข่าวที่นั่นแล้วเก็บมาเขียนเป็นไดอารี่เอาไว้ทั้งหมด8ตอนครับ

    https://mgronline.com/china/detail/9590000061544
    ซินเจียงกำลังถูกพูดถึง ตอนนีั เมื่อ9ปีก่อนเคยไปทำข่าวที่นั่นแล้วเก็บมาเขียนเป็นไดอารี่เอาไว้ทั้งหมด8ตอนครับ https://mgronline.com/china/detail/9590000061544
    MGRONLINE.COM
    เส้นทางสายไหมไดอารี่&:ไม่ถึงซินเจียงไม่รู้ความไพศาลของผืนแผ่นดิน
    不到新疆不知地域的辽阔,不到西藏不知天堂的色彩 “ไม่ถึงซินเกียงไม่รู้ความไพศาลของผืนแผ่นดิน ไม่ถึงทิเบตไม่รู้สีสั
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักแสดงชาวจีน "หวังซิง" กลายเป็นที่สนใจของสาธารณชนอีกครั้ง หลังจากรอดพ้นจากขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศพม่า และกลับสู่บ้านเกิดอย่างปลอดภัย เหตุการณ์นี้ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง และล่าสุด เขายังได้รับข่าวดีต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการที่ตำรวจจีนจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่หลอกลวงเขา ความสำเร็จของแฟนสาว "เจียเจีย" ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเขา และการได้รับข้อเสนอเข้าร่วมรายการวาไรตี้ชื่อดัง

    ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี หวังซิงตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์หลังจากได้รับการติดต่อให้เดินทางไปประเทศไทย เพื่อถ่ายละคร แต่เมื่อเดินทางไปถึง กลับถูกล่อลวงให้ข้ามแดนไปยังเมืองเมียวดี ของพม่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหนาแน่น

    เมื่อหวังซิงขาดการติดต่อ แฟนสาวของเขา เจียเจีย ได้ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือขอความช่วยเหลือ เธอโพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นกระแสบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐและสื่อมวลชนจีนให้ความสนใจ และกดดันให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือ จนในที่สุด ขบวนการค้ามนุษย์ตัดสินใจปล่อยตัวเขาหลังถูกกักขังนาน 8 วัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020136

    #MGROnline #หวังซิง #นักแสดงชาวจีน
    นักแสดงชาวจีน "หวังซิง" กลายเป็นที่สนใจของสาธารณชนอีกครั้ง หลังจากรอดพ้นจากขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศพม่า และกลับสู่บ้านเกิดอย่างปลอดภัย เหตุการณ์นี้ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง และล่าสุด เขายังได้รับข่าวดีต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการที่ตำรวจจีนจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่หลอกลวงเขา ความสำเร็จของแฟนสาว "เจียเจีย" ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเขา และการได้รับข้อเสนอเข้าร่วมรายการวาไรตี้ชื่อดัง • ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี หวังซิงตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์หลังจากได้รับการติดต่อให้เดินทางไปประเทศไทย เพื่อถ่ายละคร แต่เมื่อเดินทางไปถึง กลับถูกล่อลวงให้ข้ามแดนไปยังเมืองเมียวดี ของพม่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหนาแน่น • เมื่อหวังซิงขาดการติดต่อ แฟนสาวของเขา เจียเจีย ได้ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือขอความช่วยเหลือ เธอโพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นกระแสบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐและสื่อมวลชนจีนให้ความสนใจ และกดดันให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือ จนในที่สุด ขบวนการค้ามนุษย์ตัดสินใจปล่อยตัวเขาหลังถูกกักขังนาน 8 วัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020136 • #MGROnline #หวังซิง #นักแสดงชาวจีน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานทูตจีนโต้ข้อกล่าวหาไทยส่งกลับชาวอุยกูร์สัญชาติจีนจำนวน 40 คนกลับประเทศเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ชี้ทั้งหมดไม่ใช่ผู้ลี้ภัย แต่เป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อัดกลับบางประเทศใหญ่ปี 67 ส่งกลับผู้อพยพกว่า 270,000 คนไม่เห็นโวยวาย ยืนยันผู้ถูกส่งกลับจะได้ปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างดีที่สุด

    วันนี้ (2 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่บทถาม-ตอบจำนวน 4 ข้อเกี่ยวกับจากกรณีเมื่อวันที่ 27 ก.พ. รัฐบาลไทยได้ดำเนินการส่งกลับชาวอุยกูร์จำนวน 40 คน ไปยังต้นทางคือจีน ท่ามกลางแม้มีเสียงโวยวายจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายว่าคนเหล่านี้อาจได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ หลายประเทศตะวันตกยังส่งเสียงประณามประเทศไทยด้วย เช่น สหประชาชาติ สหรัฐฯ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020273

    #MGROnline #จีน #ชาวอุยกูร์ #สัญชาติจีน #กลุ่มสิทธิมนุษยชน
    สถานทูตจีนโต้ข้อกล่าวหาไทยส่งกลับชาวอุยกูร์สัญชาติจีนจำนวน 40 คนกลับประเทศเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ชี้ทั้งหมดไม่ใช่ผู้ลี้ภัย แต่เป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อัดกลับบางประเทศใหญ่ปี 67 ส่งกลับผู้อพยพกว่า 270,000 คนไม่เห็นโวยวาย ยืนยันผู้ถูกส่งกลับจะได้ปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างดีที่สุด • วันนี้ (2 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่บทถาม-ตอบจำนวน 4 ข้อเกี่ยวกับจากกรณีเมื่อวันที่ 27 ก.พ. รัฐบาลไทยได้ดำเนินการส่งกลับชาวอุยกูร์จำนวน 40 คน ไปยังต้นทางคือจีน ท่ามกลางแม้มีเสียงโวยวายจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายว่าคนเหล่านี้อาจได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ หลายประเทศตะวันตกยังส่งเสียงประณามประเทศไทยด้วย เช่น สหประชาชาติ สหรัฐฯ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020273 • #MGROnline #จีน #ชาวอุยกูร์ #สัญชาติจีน #กลุ่มสิทธิมนุษยชน
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts