• ทุกวันนี้ศูนย์ข้อมูลระดับโลกมีปัญหาใหญ่มากคือ “ความร้อน” — เพราะเซิร์ฟเวอร์ และโดยเฉพาะชิป AI สมัยใหม่ ร้อนขึ้นทุกปีจนระบบทำความเย็นต้องวิ่งตามแบบหืดขึ้นคอ และตอนนี้การทำความเย็นคิดเป็นเกือบ 40% ของพลังงานทั้งหมดในศูนย์ข้อมูล แล้วด้วยนะ

    ทีม UC San Diego เลยคิด “เราจะลอกระบบระบายความร้อนจากธรรมชาติดีไหม?” พวกเขาเลยสร้างแผ่นไฟเบอร์ที่ใช้กลไกแบบเดียวกับ “เหงื่อของมนุษย์” — คือน้ำถูกดูดขึ้นมาบนพื้นผิวด้วยแรง capillary จากรูเล็ก ๆ แล้วระเหยออกเพื่อพาความร้อนไป ซึ่งไม่ต้องใช้พลังงานอะไรเพิ่มเลย

    ทีมนักวิจัยสามารถทดสอบแผ่นนี้ภายใต้ความร้อนสูงกว่า 800 วัตต์/ตารางเซนติเมตร (ระดับเดียวกับการระบายความร้อนของ GPU/CPU ที่หนักมาก) และพบว่าแผ่นไม่เพียงแต่ทนได้ — แต่ยังระบายความร้อนได้ต่อเนื่องหลายชั่วโมงโดยไม่อุดตันหรือรั่วซึมเหมือนวัสดุแบบเดิม ๆ

    พวกเขากำลังจะพัฒนาต่อไปเป็น cold plate สำหรับชิปโดยตรง และวางแผนจะต่อยอดเชิงพาณิชย์ด้วยบริษัทสตาร์ทอัปเร็ว ๆ นี้

    ✅ ทีม UC San Diego พัฒนาแผ่นไฟเบอร์ระบายความร้อนด้วยการระเหยแบบ passive  
    • เลียนแบบกลไกการระเหยของเหงื่อในสิ่งมีชีวิต  
    • ใช้รูพรุนละเอียดช่วยดูดน้ำขึ้นมาระบายความร้อนโดยไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่ม

    ✅ แผ่นสามารถรองรับความร้อนสูงได้ถึง 800 วัตต์/ตารางเซนติเมตร  
    • สูงกว่าการระบายความร้อนทั่วไปหลายเท่า และไม่เกิดการเดือดหรืออุดตัน

    ✅ พัฒนาโดยทีมนักวิจัยนำโดยศาสตราจารย์ Renkun Chen ร่วมกับนักศึกษาปริญญาเอกและนักวิจัยหลังปริญญา  
    • ตีพิมพ์ในวารสาร Joule

    ✅ โครงสร้างของแผ่นมาจากวัสดุที่เคยใช้ในระบบกรองน้ำ  
    • มีรูเชื่อมต่อกัน (interconnected pores) และขนาดรูเหมาะสมเพื่อให้เกิดแรง capillary พอดี

    ✅ เตรียมขยายผลสู่งานจริงโดยต่อยอดเป็น cold plate ติดกับชิป และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์

    ✅ อาจนำไปใช้กับอุปกรณ์ในระดับ edge computing หรือมือถือได้ในอนาคต  
    • เพราะใช้พลังงานน้อยและมีประสิทธิภาพดีแม้ในพื้นที่จำกัด

    https://www.techradar.com/pro/cooling-data-centers-is-a-multi-billion-dollar-problem-researchers-want-to-use-a-common-cooling-mechanism-found-in-animals-to-solve-that-issue
    ทุกวันนี้ศูนย์ข้อมูลระดับโลกมีปัญหาใหญ่มากคือ “ความร้อน” — เพราะเซิร์ฟเวอร์ และโดยเฉพาะชิป AI สมัยใหม่ ร้อนขึ้นทุกปีจนระบบทำความเย็นต้องวิ่งตามแบบหืดขึ้นคอ และตอนนี้การทำความเย็นคิดเป็นเกือบ 40% ของพลังงานทั้งหมดในศูนย์ข้อมูล แล้วด้วยนะ ทีม UC San Diego เลยคิด “เราจะลอกระบบระบายความร้อนจากธรรมชาติดีไหม?” พวกเขาเลยสร้างแผ่นไฟเบอร์ที่ใช้กลไกแบบเดียวกับ “เหงื่อของมนุษย์” — คือน้ำถูกดูดขึ้นมาบนพื้นผิวด้วยแรง capillary จากรูเล็ก ๆ แล้วระเหยออกเพื่อพาความร้อนไป ซึ่งไม่ต้องใช้พลังงานอะไรเพิ่มเลย ทีมนักวิจัยสามารถทดสอบแผ่นนี้ภายใต้ความร้อนสูงกว่า 800 วัตต์/ตารางเซนติเมตร (ระดับเดียวกับการระบายความร้อนของ GPU/CPU ที่หนักมาก) และพบว่าแผ่นไม่เพียงแต่ทนได้ — แต่ยังระบายความร้อนได้ต่อเนื่องหลายชั่วโมงโดยไม่อุดตันหรือรั่วซึมเหมือนวัสดุแบบเดิม ๆ พวกเขากำลังจะพัฒนาต่อไปเป็น cold plate สำหรับชิปโดยตรง และวางแผนจะต่อยอดเชิงพาณิชย์ด้วยบริษัทสตาร์ทอัปเร็ว ๆ นี้ ✅ ทีม UC San Diego พัฒนาแผ่นไฟเบอร์ระบายความร้อนด้วยการระเหยแบบ passive   • เลียนแบบกลไกการระเหยของเหงื่อในสิ่งมีชีวิต   • ใช้รูพรุนละเอียดช่วยดูดน้ำขึ้นมาระบายความร้อนโดยไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่ม ✅ แผ่นสามารถรองรับความร้อนสูงได้ถึง 800 วัตต์/ตารางเซนติเมตร   • สูงกว่าการระบายความร้อนทั่วไปหลายเท่า และไม่เกิดการเดือดหรืออุดตัน ✅ พัฒนาโดยทีมนักวิจัยนำโดยศาสตราจารย์ Renkun Chen ร่วมกับนักศึกษาปริญญาเอกและนักวิจัยหลังปริญญา   • ตีพิมพ์ในวารสาร Joule ✅ โครงสร้างของแผ่นมาจากวัสดุที่เคยใช้ในระบบกรองน้ำ   • มีรูเชื่อมต่อกัน (interconnected pores) และขนาดรูเหมาะสมเพื่อให้เกิดแรง capillary พอดี ✅ เตรียมขยายผลสู่งานจริงโดยต่อยอดเป็น cold plate ติดกับชิป และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ ✅ อาจนำไปใช้กับอุปกรณ์ในระดับ edge computing หรือมือถือได้ในอนาคต   • เพราะใช้พลังงานน้อยและมีประสิทธิภาพดีแม้ในพื้นที่จำกัด https://www.techradar.com/pro/cooling-data-centers-is-a-multi-billion-dollar-problem-researchers-want-to-use-a-common-cooling-mechanism-found-in-animals-to-solve-that-issue
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองจินตนาการว่าเดินเข้าไปในคาเฟ่ ไม่ได้พกมือถือ ไม่มีเงินสด แต่คุณแค่ พูดเบา ๆ ว่า “จ่ายด้วย Alipay” ผ่านแว่นตา — แล้วระบบก็ชำระเงินให้ทันที

    นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแล้วในฮ่องกง! โดย Alipay+ ร่วมกับ Meizu ทำ การทดลองจ่ายเงินซื้อของผ่านแว่นตาอัจฉริยะ “StarV Snap” เป็นครั้งแรกในโลก ผ่านระบบของ AlipayHK การชำระเงินสามารถทำได้ทั้ง สแกน QR code หรือใช้เสียงพูด ผ่านระบบ AI ที่ตรวจจับ เสียง, ความตั้งใจ (intent) และ ลายเสียง (voiceprint) ของผู้ใช้

    แว่นตายังรองรับ NFC และกล้องที่ช่วยประมวลผลร่วมกับระบบของ Alipay+ ได้อีกหลายรูปแบบ ซึ่งในอนาคตจะขยายไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกในปี 2025

    แม้ตอนนี้ยังเป็นของใหม่ที่ดูเหมือน “สำหรับสายเทคโนฯ ล้ำ ๆ เท่านั้น” แต่ผู้บริหารของ Ant Group ก็มั่นใจว่า แว่นตาอัจฉริยะจะกลายเป็นสมาร์ตดีไวซ์รุ่นถัดไปที่มาแทนมือถือ

    ✅ Alipay+ และ Meizu ทดลองชำระเงินผ่านแว่นตาอัจฉริยะ StarV Snap สำเร็จครั้งแรกที่ฮ่องกง  
    • ใช้ระบบของ AlipayHK  
    • ชำระผ่านการพูดหรือสแกน QR บนแว่น

    ✅ ระบบของ Alipay+ ใช้ AI ในการรู้จำเสียง, ความตั้งใจ และลายเสียงเพื่อความปลอดภัย  
    • ช่วยให้การยืนยันตัวตนและสั่งจ่ายเงินผ่านเสียงทำได้จริง

    ✅ แว่นตา Meizu มีหน้าจอแสดงผลแบบ optical waveguide + ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน + กล้องในตัว  
    • สามารถใช้งานร่วมกับ NFC และบริการอื่น ๆ ของ Alipay+

    ✅ Alipay+ เตรียมขยายฟีเจอร์นี้ไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกภายในปี 2025

    ✅ Peng Guo ผู้บริหาร Meizu กล่าวว่า นี่เป็นการ “กำหนดมาตรฐานใหม่” ของการชำระเงินผ่านอุปกรณ์สวมใส่  
    • ทำให้ AR glasses ไม่ใช่แค่ gadget แต่เป็นเครื่องมือใช้งานได้จริง

    https://www.techradar.com/pro/forgot-your-smartphone-no-problem-heres-the-first-smart-glasses-that-can-pay-for-your-coffee
    ลองจินตนาการว่าเดินเข้าไปในคาเฟ่ ไม่ได้พกมือถือ ไม่มีเงินสด แต่คุณแค่ พูดเบา ๆ ว่า “จ่ายด้วย Alipay” ผ่านแว่นตา — แล้วระบบก็ชำระเงินให้ทันที นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแล้วในฮ่องกง! โดย Alipay+ ร่วมกับ Meizu ทำ การทดลองจ่ายเงินซื้อของผ่านแว่นตาอัจฉริยะ “StarV Snap” เป็นครั้งแรกในโลก ผ่านระบบของ AlipayHK การชำระเงินสามารถทำได้ทั้ง สแกน QR code หรือใช้เสียงพูด ผ่านระบบ AI ที่ตรวจจับ เสียง, ความตั้งใจ (intent) และ ลายเสียง (voiceprint) ของผู้ใช้ แว่นตายังรองรับ NFC และกล้องที่ช่วยประมวลผลร่วมกับระบบของ Alipay+ ได้อีกหลายรูปแบบ ซึ่งในอนาคตจะขยายไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกในปี 2025 แม้ตอนนี้ยังเป็นของใหม่ที่ดูเหมือน “สำหรับสายเทคโนฯ ล้ำ ๆ เท่านั้น” แต่ผู้บริหารของ Ant Group ก็มั่นใจว่า แว่นตาอัจฉริยะจะกลายเป็นสมาร์ตดีไวซ์รุ่นถัดไปที่มาแทนมือถือ ✅ Alipay+ และ Meizu ทดลองชำระเงินผ่านแว่นตาอัจฉริยะ StarV Snap สำเร็จครั้งแรกที่ฮ่องกง   • ใช้ระบบของ AlipayHK   • ชำระผ่านการพูดหรือสแกน QR บนแว่น ✅ ระบบของ Alipay+ ใช้ AI ในการรู้จำเสียง, ความตั้งใจ และลายเสียงเพื่อความปลอดภัย   • ช่วยให้การยืนยันตัวตนและสั่งจ่ายเงินผ่านเสียงทำได้จริง ✅ แว่นตา Meizu มีหน้าจอแสดงผลแบบ optical waveguide + ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน + กล้องในตัว   • สามารถใช้งานร่วมกับ NFC และบริการอื่น ๆ ของ Alipay+ ✅ Alipay+ เตรียมขยายฟีเจอร์นี้ไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกภายในปี 2025 ✅ Peng Guo ผู้บริหาร Meizu กล่าวว่า นี่เป็นการ “กำหนดมาตรฐานใหม่” ของการชำระเงินผ่านอุปกรณ์สวมใส่   • ทำให้ AR glasses ไม่ใช่แค่ gadget แต่เป็นเครื่องมือใช้งานได้จริง https://www.techradar.com/pro/forgot-your-smartphone-no-problem-heres-the-first-smart-glasses-that-can-pay-for-your-coffee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครที่รู้จัก Raspberry Pi ก็คงคุ้นกับคำว่า SBC (Single-Board Computer) — คือคอมพิวเตอร์ย่อส่วนที่ประกอบทุกอย่างไว้บนแผ่นเดียว มีพอร์ตครบ ใช้ต่อใช้งานได้เลย ซึ่งปกติพวกนี้จะใช้ชิป ARM แบบเบา ๆ

    แต่ de next-RAP8 จาก AAEON มัน “ยกระดับทั้งวงการ” เพราะใช้ Intel Core i3/i5/i7 รุ่น U-Series (15W) ได้จริง บนบอร์ดขนาด 84 x 55 mm — แค่กว้างยาวกว่า Raspberry Pi 5 ไม่กี่มิล!

    สิ่งที่น่าทึ่งคือสเปกมันเทียบกับโน้ตบุ๊ก mid-range ได้เลย:
    - CPU สูงสุดถึง i7-1365UE (10 คอร์ / 12 เทรด)
    - RAM LPDDR5x สูงสุด 16GB
    - iGPU Intel Iris Xe รองรับ media acceleration
    - พอร์ต Ethernet x2, USB 3.2 Gen 2, HDMI, GPIO, และ M.2 สำหรับใส่ Wi-Fi/4G/SSD
    - มีโมดูลเสริมของ AAEON สำหรับ AI acceleration และการเชื่อมต่อแบบพิเศษ (ผ่าน PCIe/FPC)

    แต่แน่นอน มันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับใช้เป็นคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไป เพราะต้องใช้ความรู้เชิงเทคนิคเยอะ โดยเฉพาะการต่อกับอุปกรณ์ในโรงงาน, หุ่นยนต์, หรือโดรนแบบ custom

    ✅ de next-RAP8 จาก AAEON เป็น SBC ขนาด 84mm x 55mm ที่มาพร้อม Intel Core 13th Gen  
    • รองรับ Core i3-1315UE, i5-1335UE หรือ i7-1365UE  
    • ใช้พลังงานต่ำเพียง 15W เทียบกับพีซีขนาดใหญ่

    ✅ สเปกเทียบเท่าคอมพิวเตอร์ระดับโน้ตบุ๊ก:  
    • RAM LPDDR5x สูงสุด 16GB  
    • iGPU Iris Xe รองรับการประมวลผล media และกราฟิกเบา ๆ

    ✅ การเชื่อมต่อครบครัน:  
    • Ethernet 2.5GbE และ 1GbE, USB 3.2 Gen 2, HDMI 1.2a, 12V DC  
    • 40-pin header รองรับ GPIO, USB 2.0, RS-232/422/485, SMBus/I2C

    ✅ รองรับ M.2 2280 และ FPC connector สำหรับต่อ AI module, SSD หรือ Wi-Fi/4G  
    • มีโมดูลเสริม เช่น PER-T642 หรือ PER-R41P สำหรับเพิ่มพลัง AI หรืออุปกรณ์ industrial

    ✅ ออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบ edge computing, หุ่นยนต์, โดรน, คีออส, หรือ embedded system อื่น ๆ  
    • รองรับการทำงานในพื้นที่จำกัดที่ต้องใช้กำลังประมวลผลสูง

    https://www.techradar.com/pro/this-intel-core-i7-motherboard-is-probably-the-worlds-most-powerful-sbc-and-yet-it-is-as-small-as-the-raspberry-pi-5
    ใครที่รู้จัก Raspberry Pi ก็คงคุ้นกับคำว่า SBC (Single-Board Computer) — คือคอมพิวเตอร์ย่อส่วนที่ประกอบทุกอย่างไว้บนแผ่นเดียว มีพอร์ตครบ ใช้ต่อใช้งานได้เลย ซึ่งปกติพวกนี้จะใช้ชิป ARM แบบเบา ๆ แต่ de next-RAP8 จาก AAEON มัน “ยกระดับทั้งวงการ” เพราะใช้ Intel Core i3/i5/i7 รุ่น U-Series (15W) ได้จริง บนบอร์ดขนาด 84 x 55 mm — แค่กว้างยาวกว่า Raspberry Pi 5 ไม่กี่มิล! สิ่งที่น่าทึ่งคือสเปกมันเทียบกับโน้ตบุ๊ก mid-range ได้เลย: - CPU สูงสุดถึง i7-1365UE (10 คอร์ / 12 เทรด) - RAM LPDDR5x สูงสุด 16GB - iGPU Intel Iris Xe รองรับ media acceleration - พอร์ต Ethernet x2, USB 3.2 Gen 2, HDMI, GPIO, และ M.2 สำหรับใส่ Wi-Fi/4G/SSD - มีโมดูลเสริมของ AAEON สำหรับ AI acceleration และการเชื่อมต่อแบบพิเศษ (ผ่าน PCIe/FPC) แต่แน่นอน มันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับใช้เป็นคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไป เพราะต้องใช้ความรู้เชิงเทคนิคเยอะ โดยเฉพาะการต่อกับอุปกรณ์ในโรงงาน, หุ่นยนต์, หรือโดรนแบบ custom ✅ de next-RAP8 จาก AAEON เป็น SBC ขนาด 84mm x 55mm ที่มาพร้อม Intel Core 13th Gen   • รองรับ Core i3-1315UE, i5-1335UE หรือ i7-1365UE   • ใช้พลังงานต่ำเพียง 15W เทียบกับพีซีขนาดใหญ่ ✅ สเปกเทียบเท่าคอมพิวเตอร์ระดับโน้ตบุ๊ก:   • RAM LPDDR5x สูงสุด 16GB   • iGPU Iris Xe รองรับการประมวลผล media และกราฟิกเบา ๆ ✅ การเชื่อมต่อครบครัน:   • Ethernet 2.5GbE และ 1GbE, USB 3.2 Gen 2, HDMI 1.2a, 12V DC   • 40-pin header รองรับ GPIO, USB 2.0, RS-232/422/485, SMBus/I2C ✅ รองรับ M.2 2280 และ FPC connector สำหรับต่อ AI module, SSD หรือ Wi-Fi/4G   • มีโมดูลเสริม เช่น PER-T642 หรือ PER-R41P สำหรับเพิ่มพลัง AI หรืออุปกรณ์ industrial ✅ ออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบ edge computing, หุ่นยนต์, โดรน, คีออส, หรือ embedded system อื่น ๆ   • รองรับการทำงานในพื้นที่จำกัดที่ต้องใช้กำลังประมวลผลสูง https://www.techradar.com/pro/this-intel-core-i7-motherboard-is-probably-the-worlds-most-powerful-sbc-and-yet-it-is-as-small-as-the-raspberry-pi-5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปกติ AI จะกินพลัง GPU อยู่แล้วใช่ไหมครับ แต่ตอนนี้แม้ GPU จะเร็วระดับหลายเทราไบต์ต่อวินาที (TB/s) แต่การโหลดข้อมูลจาก SSD กลายเป็นตัวถ่วงรุ่นใหม่แบบเต็ม ๆ โดยเฉพาะข้อมูลขนาดเล็ก ๆ ที่อ่านแบบสุ่ม (เช่น 512 ไบต์) ซึ่งโมเดล AI อย่าง LLM ชอบใช้มาก

    Nvidia เลยเสนอแนวคิด “AI SSD” ที่จะต้องอ่านข้อมูลได้เร็วถึง 100 ล้าน IOPS! แต่ Wallace Kuo ซีอีโอของ Silicon Motion ซึ่งเป็นผู้ผลิตคอนโทรลเลอร์ SSD รายใหญ่บอกว่า “ตอนนี้ยังไม่มี media (วัสดุจัดเก็บ) ที่ทำได้จริง” และต่อให้ tweak NAND เดิมก็อาจไม่เพียงพอ ต้อง “เปลี่ยนชนิดหน่วยความจำทั้งระบบเลย”

    ปัจจุบัน SSD PCIe 5.0 ระดับท็อปก็ทำได้แค่ประมาณ 2–3 ล้าน IOPS เท่านั้น — เทียบกับเป้าหมายของ Nvidia คือห่างกันถึงเกือบ 50 เท่า!

    ✅ Nvidia ตั้งเป้า SSD ที่รองรับได้ 100 ล้าน IOPS เพื่อ AI workloads ในอนาคต  
    • เน้นเฉพาะการอ่านข้อมูลสุ่มขนาดเล็ก (512B random read) ซึ่งเป็นจุดอ่อนสำคัญในระบบ AI

    ✅ Wallace Kuo จาก Silicon Motion กล่าวว่าเทคโนโลยี NAND flash ปัจจุบันยังทำไม่ได้  
    • แม้จะปรับคอนโทรลเลอร์หรือโครงสร้าง SSD ก็ยังชนเพดาน

    ✅ Kioxia กำลังพัฒนา AI SSD ด้วย XL-Flash ที่ตั้งเป้าเกิน 10 ล้าน IOPS  
    • คาดว่าเปิดตัวพร้อมกับแพลตฟอร์ม Vera Rubin ของ Nvidia ปีหน้า

    ✅ แนวคิดทางเลือก เช่น Optane ของ Intel เคยถูกคาดหวังไว้สูง แต่เลิกผลิตไปแล้ว  
    • SanDisk พัฒนา High Bandwidth Flash, แต่หลายฝ่ายยังไม่มั่นใจประสิทธิภาพ

    ✅ Micron และบริษัทอื่นกำลังเร่งวิจัย media แบบใหม่ เช่น  
    • Non-volatile memory รุ่นใหม่, HBM storage-integrated, หรือ phase-change memory

    https://www.techradar.com/pro/security/towards-the-giga-iops-pipedream-how-nvidia-wants-to-reach-100-million-iops-even-if-it-means-inventing-totally-new-types-of-memory
    ปกติ AI จะกินพลัง GPU อยู่แล้วใช่ไหมครับ แต่ตอนนี้แม้ GPU จะเร็วระดับหลายเทราไบต์ต่อวินาที (TB/s) แต่การโหลดข้อมูลจาก SSD กลายเป็นตัวถ่วงรุ่นใหม่แบบเต็ม ๆ โดยเฉพาะข้อมูลขนาดเล็ก ๆ ที่อ่านแบบสุ่ม (เช่น 512 ไบต์) ซึ่งโมเดล AI อย่าง LLM ชอบใช้มาก Nvidia เลยเสนอแนวคิด “AI SSD” ที่จะต้องอ่านข้อมูลได้เร็วถึง 100 ล้าน IOPS! แต่ Wallace Kuo ซีอีโอของ Silicon Motion ซึ่งเป็นผู้ผลิตคอนโทรลเลอร์ SSD รายใหญ่บอกว่า “ตอนนี้ยังไม่มี media (วัสดุจัดเก็บ) ที่ทำได้จริง” และต่อให้ tweak NAND เดิมก็อาจไม่เพียงพอ ต้อง “เปลี่ยนชนิดหน่วยความจำทั้งระบบเลย” ปัจจุบัน SSD PCIe 5.0 ระดับท็อปก็ทำได้แค่ประมาณ 2–3 ล้าน IOPS เท่านั้น — เทียบกับเป้าหมายของ Nvidia คือห่างกันถึงเกือบ 50 เท่า! ✅ Nvidia ตั้งเป้า SSD ที่รองรับได้ 100 ล้าน IOPS เพื่อ AI workloads ในอนาคต   • เน้นเฉพาะการอ่านข้อมูลสุ่มขนาดเล็ก (512B random read) ซึ่งเป็นจุดอ่อนสำคัญในระบบ AI ✅ Wallace Kuo จาก Silicon Motion กล่าวว่าเทคโนโลยี NAND flash ปัจจุบันยังทำไม่ได้   • แม้จะปรับคอนโทรลเลอร์หรือโครงสร้าง SSD ก็ยังชนเพดาน ✅ Kioxia กำลังพัฒนา AI SSD ด้วย XL-Flash ที่ตั้งเป้าเกิน 10 ล้าน IOPS   • คาดว่าเปิดตัวพร้อมกับแพลตฟอร์ม Vera Rubin ของ Nvidia ปีหน้า ✅ แนวคิดทางเลือก เช่น Optane ของ Intel เคยถูกคาดหวังไว้สูง แต่เลิกผลิตไปแล้ว   • SanDisk พัฒนา High Bandwidth Flash, แต่หลายฝ่ายยังไม่มั่นใจประสิทธิภาพ ✅ Micron และบริษัทอื่นกำลังเร่งวิจัย media แบบใหม่ เช่น   • Non-volatile memory รุ่นใหม่, HBM storage-integrated, หรือ phase-change memory https://www.techradar.com/pro/security/towards-the-giga-iops-pipedream-how-nvidia-wants-to-reach-100-million-iops-even-if-it-means-inventing-totally-new-types-of-memory
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไอ้กร๊วก (AI Grok) ของอีลอนนี่ลุงก็ชอบใช้นะ มันได้ข้อมูลสดใหม่ดี คราวนี้ได้พัฒนาขึ้นอีกขั้นแล้ว

    ก่อนหน้านี้ Grok ของ xAI มีจุดขายคือ “AI แนวถามตอบบนแพลตฟอร์ม X” ที่ Elon Musk ผลักดันเต็มที่ แต่ล่าสุดมีการพบ โค้ดที่รั่วหลุดออกมา ซึ่งบอกเป็นนัยว่า Grok จะสามารถเปิด แก้ไข และจัดการไฟล์ได้ โดยเฉพาะ “ไฟล์สเปรดชีต”

    ความสามารถใหม่นี้คล้ายกับสิ่งที่ Google และ Microsoft ทำไปแล้ว — คือเอา AI ใส่เข้าไปใน Google Sheets หรือ Excel ให้ช่วยสรุป วิเคราะห์ หรือวางสูตรให้อัตโนมัติ

    สิ่งที่น่าจับตาคือ:
    - Grok กำลังถูกดันให้ “จับงานจริง” ในธุรกิจมากขึ้น
    - อาจเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของ X แบบแนบแน่น เช่น ส่งข้อมูลจากโพสต์เข้าไปใน sheet ได้เลย

    ยังไม่มีการประกาศเป็นทางการ แต่มีแหล่งข่าวระบุว่า Grok Studio (ฟีเจอร์ร่วมมือแบบ split-screen) อาจจะรวมฟีเจอร์นี้ในอนาคต

    ✅ Grok เตรียมเพิ่มฟีเจอร์จัดการเอกสาร โดยเฉพาะ “ไฟล์สเปรดชีต”  
    • ฟีเจอร์อยู่ในโค้ดที่หลุดมา  
    • อาจเริ่มด้วย spreadsheet ก่อนขยายไปยังเอกสารหรือภาพในอนาคต

    ✅ สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ระหว่างแก้ไขไฟล์แบบ live  
    • เช่น ผู้ใช้สั่งให้สรุปข้อมูล, วิเคราะห์เทรนด์, เติมสูตร หรือจัดรูปแบบตาราง

    ✅ Grok Studio จะเป็นพื้นที่ทำงานร่วมกันระหว่างผู้ใช้กับ AI  
    • คล้าย Google Workspace + Gemini หรือ Microsoft 365 + Copilot

    ✅ ฟีเจอร์ workspace แยกสำหรับเก็บไฟล์และบทสนทนาได้อย่างเป็นระเบียบ  
    • คล้ายฟีเจอร์ใน Google Drive + AI Assistant

    ✅ ยังไม่มีประกาศทางการจาก xAI แต่คาดว่าทดสอบภายในก่อนเปิดตัวจริง

    https://www.techradar.com/pro/oh-great-grok-could-soon-help-you-at-work-by-editing-your-spreadsheets-and-other-work-documents
    ไอ้กร๊วก (AI Grok) ของอีลอนนี่ลุงก็ชอบใช้นะ มันได้ข้อมูลสดใหม่ดี คราวนี้ได้พัฒนาขึ้นอีกขั้นแล้ว ก่อนหน้านี้ Grok ของ xAI มีจุดขายคือ “AI แนวถามตอบบนแพลตฟอร์ม X” ที่ Elon Musk ผลักดันเต็มที่ แต่ล่าสุดมีการพบ โค้ดที่รั่วหลุดออกมา ซึ่งบอกเป็นนัยว่า Grok จะสามารถเปิด แก้ไข และจัดการไฟล์ได้ โดยเฉพาะ “ไฟล์สเปรดชีต” ความสามารถใหม่นี้คล้ายกับสิ่งที่ Google และ Microsoft ทำไปแล้ว — คือเอา AI ใส่เข้าไปใน Google Sheets หรือ Excel ให้ช่วยสรุป วิเคราะห์ หรือวางสูตรให้อัตโนมัติ สิ่งที่น่าจับตาคือ: - Grok กำลังถูกดันให้ “จับงานจริง” ในธุรกิจมากขึ้น - อาจเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของ X แบบแนบแน่น เช่น ส่งข้อมูลจากโพสต์เข้าไปใน sheet ได้เลย ยังไม่มีการประกาศเป็นทางการ แต่มีแหล่งข่าวระบุว่า Grok Studio (ฟีเจอร์ร่วมมือแบบ split-screen) อาจจะรวมฟีเจอร์นี้ในอนาคต ✅ Grok เตรียมเพิ่มฟีเจอร์จัดการเอกสาร โดยเฉพาะ “ไฟล์สเปรดชีต”   • ฟีเจอร์อยู่ในโค้ดที่หลุดมา   • อาจเริ่มด้วย spreadsheet ก่อนขยายไปยังเอกสารหรือภาพในอนาคต ✅ สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ระหว่างแก้ไขไฟล์แบบ live   • เช่น ผู้ใช้สั่งให้สรุปข้อมูล, วิเคราะห์เทรนด์, เติมสูตร หรือจัดรูปแบบตาราง ✅ Grok Studio จะเป็นพื้นที่ทำงานร่วมกันระหว่างผู้ใช้กับ AI   • คล้าย Google Workspace + Gemini หรือ Microsoft 365 + Copilot ✅ ฟีเจอร์ workspace แยกสำหรับเก็บไฟล์และบทสนทนาได้อย่างเป็นระเบียบ   • คล้ายฟีเจอร์ใน Google Drive + AI Assistant ✅ ยังไม่มีประกาศทางการจาก xAI แต่คาดว่าทดสอบภายในก่อนเปิดตัวจริง https://www.techradar.com/pro/oh-great-grok-could-soon-help-you-at-work-by-editing-your-spreadsheets-and-other-work-documents
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • คําคมชีวิตหมายเลข 24 | เราไม่ชอบ

    #คำคมชีวิต #LifeQuotes #คำคม #ลุงช้างหญ่าย #unclechangyai
    คําคมชีวิตหมายเลข 24 | เราไม่ชอบ #คำคมชีวิต #LifeQuotes #คำคม #ลุงช้างหญ่าย #unclechangyai
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • พปชร.ส่ง 20 สส.ร่วมภูมิใจไทยยื่นญัตติอภิปราย "แพทองธาร" ตาม ม.151 "ประวิตร" สั่งลุย อ้างนายกฯอ่อนแอ เสี่ยงกระทบอธิปไตย ปชป.ยังกั๊ก รอจังหวะเหมาะ "สุทิน" แนะ ภท.หารือ ปชป.ก่อน ชี้พาดพิง รมต.เก่าแน่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000060025

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    พปชร.ส่ง 20 สส.ร่วมภูมิใจไทยยื่นญัตติอภิปราย "แพทองธาร" ตาม ม.151 "ประวิตร" สั่งลุย อ้างนายกฯอ่อนแอ เสี่ยงกระทบอธิปไตย ปชป.ยังกั๊ก รอจังหวะเหมาะ "สุทิน" แนะ ภท.หารือ ปชป.ก่อน ชี้พาดพิง รมต.เก่าแน่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000060025 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อไทยชะลอเดินหน้ากาสิโน หันดันนิรโทษกรรมขึ้นแท่นกฎหมายเร่งด่วน รัฐบาลรับฟังเสียงประชาชน ชี้แจงกาสิโนแค่ส่วนหนึ่งของศูนย์รวมความบันเทิง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ คมนาคมลุยรถไฟฟ้า 20 บาท มั่นใจ ส.ว. ไฟเขียว ไม่เล่นการเมือง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000060023

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เพื่อไทยชะลอเดินหน้ากาสิโน หันดันนิรโทษกรรมขึ้นแท่นกฎหมายเร่งด่วน รัฐบาลรับฟังเสียงประชาชน ชี้แจงกาสิโนแค่ส่วนหนึ่งของศูนย์รวมความบันเทิง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ คมนาคมลุยรถไฟฟ้า 20 บาท มั่นใจ ส.ว. ไฟเขียว ไม่เล่นการเมือง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000060023 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'พปชร.-ภูมิใจไทย' พร้อมซักฟอกอุ๊งอิ๊ง รอคนหล่อยังแทงกั๊ก
    .
    พรรคพลังประชารัฐประกาศชัดเจนว่าส.ส.ของพรรคทั้งหมด 20 คน พร้อมร่วมลงชื่อกับพรรคภูมิใจไทยในการยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร. ได้สั่งการให้ สส.ร่วมลงชื่อ กับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่สามารถที่จะไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลอีกต่อไปได้ เพราะมีพฤติการณ์ที่จะนำพาให้ประเทศเข้าสู่ความเสี่ยง ส่งผลให้ประเทศไทยอาจเสียเปรียบในการรักษาอธิปไตย ในประเด็นคลิปเสียงสนทนา กับสมเด็จ ฮุน เซน เพราะสะท้อนให้เห็นว่า เป็นผู้นำที่มีความอ่อนแอ และขาดประสบการณ์การเจรจาระหว่างประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000060026

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    'พปชร.-ภูมิใจไทย' พร้อมซักฟอกอุ๊งอิ๊ง รอคนหล่อยังแทงกั๊ก . พรรคพลังประชารัฐประกาศชัดเจนว่าส.ส.ของพรรคทั้งหมด 20 คน พร้อมร่วมลงชื่อกับพรรคภูมิใจไทยในการยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร. ได้สั่งการให้ สส.ร่วมลงชื่อ กับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่สามารถที่จะไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลอีกต่อไปได้ เพราะมีพฤติการณ์ที่จะนำพาให้ประเทศเข้าสู่ความเสี่ยง ส่งผลให้ประเทศไทยอาจเสียเปรียบในการรักษาอธิปไตย ในประเด็นคลิปเสียงสนทนา กับสมเด็จ ฮุน เซน เพราะสะท้อนให้เห็นว่า เป็นผู้นำที่มีความอ่อนแอ และขาดประสบการณ์การเจรจาระหว่างประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000060026 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'เพื่อไทย' จมูกไว ชะลอดัน 'กาสิโน' วางเป้าใหม่ 'นิรโทษกรรม'
    .
    อีกไม่กี่วันสมัยประชุมสภาสามัญปีที่ 3 จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งหลายฝ่ายจับตาว่าพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจในเรื่องร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรอย่างไร ปรากฎว่าล่าสุดรัฐบาลเริ่มส่งสัญญาณถอยออกมาแล้ว ว่าเห็นควรที่จะเลื่อน พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ฯ ออกไปก่อน โดยจะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้ามาเป็นเรื่องแรกแทน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000060024

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    'เพื่อไทย' จมูกไว ชะลอดัน 'กาสิโน' วางเป้าใหม่ 'นิรโทษกรรม' . อีกไม่กี่วันสมัยประชุมสภาสามัญปีที่ 3 จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งหลายฝ่ายจับตาว่าพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจในเรื่องร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรอย่างไร ปรากฎว่าล่าสุดรัฐบาลเริ่มส่งสัญญาณถอยออกมาแล้ว ว่าเห็นควรที่จะเลื่อน พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ฯ ออกไปก่อน โดยจะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้ามาเป็นเรื่องแรกแทน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000060024 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวันโดยกระทรวงเศรษฐกิจอัปเดตรายชื่อบริษัทจีนที่ถูกจำกัดการส่งออก “สินค้าหรือเทคโนโลยีสำคัญ” เพิ่มอีก 601 แห่ง โดยมีเป้าหมายใหญ่คือพวกที่เกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึง Huawei และ SMIC ซึ่งเคยซื้อชิปจาก TSMC มาก่อน

    บริษัทเหล่านี้ต้องขอใบอนุญาตจากรัฐก่อนถึงจะนำเข้าเทคโนโลยีชิปจากบริษัทไต้หวันได้ — ถ้าไม่มีใบอนุญาต ด่านศุลกากรจะสกัดทันที

    แม้ไม่ได้บอกว่า “ห้ามส่งออกโดยสิ้นเชิง” แต่ก็นับว่าเป็นการ “บล็อกกลาย ๆ” และเป็นการเดินเกมตามแนวทางของสหรัฐฯ ที่ต้องการจำกัดเทคโนโลยีจีนในระดับโลก

    จีนไม่พอใจทันที — โดยโฆษกของสภารัฐกิจของจีนใช้คำว่า “ต่ำช้า” และเตือนว่าจะมีการตอบโต้เพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศ”

    มาตรการโต้กลับที่เป็นไปได้มีตั้งแต่:
    - จำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ non-tech จากไต้หวัน
    - ห้ามบริษัทไต้หวันในจีนทำธุรกิจ
    - บล็อกการใช้แรร์เอิร์ธหรือวัตถุดิบสำคัญสำหรับไต้หวัน
    - เร่งผลิตชิปราคาถูก (mature node) มาทำลายราคาตลาดชิป

    และที่น่ากังวลกว่านั้นคือความตึงเครียดระหว่างช่องแคบไต้หวันอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองเชิงกลยุทธ์มากขึ้นเรื่อย ๆ

    ✅ ไต้หวันเพิ่มรายชื่อบริษัทจีนที่ถูกจำกัดการส่งออกเป็น 601 ราย  
    • รวมถึง Huawei และ SMIC ผู้เล่นหลักของวงการชิปจีน  
    • ต้องขอใบอนุญาตก่อนนำเข้าสินค้า/บริการจากไต้หวัน

    ✅ เป้าหมายคือการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงของจีน  
    • เดินเกมสอดคล้องกับนโยบายสหรัฐและชาติพันธมิตร

    ✅ จีนแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง โดยระบุว่าเป็นการละเมิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองฟากฝั่ง  
    • เรียกการกระทำว่า “น่ารังเกียจและน่าประณามที่สุด”

    ✅ โฆษกสภารัฐกิจจีนระบุว่าจะใช้ “มาตรการที่รุนแรง” เพื่อตอบโต้และปกป้องห่วงโซ่การผลิตเทคโนโลยีของตัวเอง

    ✅ จุดเริ่มต้นของการจำกัดนี้มาจากการที่ Huawei ลักลอบสั่งซื้อชิป TSMC ผ่านช่องทางที่แหกกฎของสหรัฐ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-vows-to-retaliate-against-taiwan-for-blacklisting-huawei-smic-from-chip-tech-such-despicable-acts-are-utterly-contemptible-says-china-spokesperson
    ไต้หวันโดยกระทรวงเศรษฐกิจอัปเดตรายชื่อบริษัทจีนที่ถูกจำกัดการส่งออก “สินค้าหรือเทคโนโลยีสำคัญ” เพิ่มอีก 601 แห่ง โดยมีเป้าหมายใหญ่คือพวกที่เกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึง Huawei และ SMIC ซึ่งเคยซื้อชิปจาก TSMC มาก่อน บริษัทเหล่านี้ต้องขอใบอนุญาตจากรัฐก่อนถึงจะนำเข้าเทคโนโลยีชิปจากบริษัทไต้หวันได้ — ถ้าไม่มีใบอนุญาต ด่านศุลกากรจะสกัดทันที แม้ไม่ได้บอกว่า “ห้ามส่งออกโดยสิ้นเชิง” แต่ก็นับว่าเป็นการ “บล็อกกลาย ๆ” และเป็นการเดินเกมตามแนวทางของสหรัฐฯ ที่ต้องการจำกัดเทคโนโลยีจีนในระดับโลก จีนไม่พอใจทันที — โดยโฆษกของสภารัฐกิจของจีนใช้คำว่า “ต่ำช้า” และเตือนว่าจะมีการตอบโต้เพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศ” มาตรการโต้กลับที่เป็นไปได้มีตั้งแต่: - จำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ non-tech จากไต้หวัน - ห้ามบริษัทไต้หวันในจีนทำธุรกิจ - บล็อกการใช้แรร์เอิร์ธหรือวัตถุดิบสำคัญสำหรับไต้หวัน - เร่งผลิตชิปราคาถูก (mature node) มาทำลายราคาตลาดชิป และที่น่ากังวลกว่านั้นคือความตึงเครียดระหว่างช่องแคบไต้หวันอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองเชิงกลยุทธ์มากขึ้นเรื่อย ๆ ✅ ไต้หวันเพิ่มรายชื่อบริษัทจีนที่ถูกจำกัดการส่งออกเป็น 601 ราย   • รวมถึง Huawei และ SMIC ผู้เล่นหลักของวงการชิปจีน   • ต้องขอใบอนุญาตก่อนนำเข้าสินค้า/บริการจากไต้หวัน ✅ เป้าหมายคือการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงของจีน   • เดินเกมสอดคล้องกับนโยบายสหรัฐและชาติพันธมิตร ✅ จีนแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง โดยระบุว่าเป็นการละเมิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองฟากฝั่ง   • เรียกการกระทำว่า “น่ารังเกียจและน่าประณามที่สุด” ✅ โฆษกสภารัฐกิจจีนระบุว่าจะใช้ “มาตรการที่รุนแรง” เพื่อตอบโต้และปกป้องห่วงโซ่การผลิตเทคโนโลยีของตัวเอง ✅ จุดเริ่มต้นของการจำกัดนี้มาจากการที่ Huawei ลักลอบสั่งซื้อชิป TSMC ผ่านช่องทางที่แหกกฎของสหรัฐ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-vows-to-retaliate-against-taiwan-for-blacklisting-huawei-smic-from-chip-tech-such-despicable-acts-are-utterly-contemptible-says-china-spokesperson
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้จะถูกสหรัฐสั่งห้ามซื้อชิป AI รุ่นใหม่จากค่ายใหญ่ (เช่น NVIDIA H100/H20) แต่จีนไม่ยอมแพ้ครับ — บริษัท GPU ระดับแถวหน้าอย่าง Biren Technology, Moore Threads, MetaX, และ Zhaoxin ต่างเดินหน้าขึ้นตลาดหุ้นในประเทศตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นตลาด STAR Market ของเซี่ยงไฮ้หรือฮ่องกง เพื่อหาทุนไปพัฒนาเทคโนโลยี AI, GPU สำหรับเกม, หรือระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์

    ขณะเดียวกัน บริษัทอย่าง Innosilicon, Illuvatar CoreX, และ DenglinAI เลือก “อยู่แบบเงียบ ๆ” ยังไม่รีบเปิดตัวสู่สาธารณะ เพราะต้องการความยืดหยุ่นจากการไม่ต้องรายงานงบการเงินหรือถูกจับตามองจากภายนอก

    เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าหลังจากถูกกดดันจากสหรัฐ จีนเลือกที่จะ “ต่อสู้ด้วยการสร้าง ecosystem ของตัวเอง” ที่ใช้ได้แม้ไม่มีเทคโนโลยีตะวันตก ทั้งยังเสริมบทบาทของตลาดหุ้นจีนให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตในอุตสาหกรรม AI แบบพึ่งพาตัวเองมากขึ้น

    ✅ บริษัท GPU จีนจำนวนมากกำลังเตรียมเข้าตลาดหุ้นท้องถิ่นท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ  
    • เช่น Biren, Moore Threads, MetaX, Zhaoxin  
    • เพื่อต้องการระดมทุนสำหรับ R&D, ปรับขนาดการผลิต และขยายทีมงาน

    ✅ Biren Technology เดินเรื่อง IPO มาตั้งแต่หลายปีก่อน  
    • ยังไม่ประกาศว่าจะเข้าตลาดไหน (Shanghai STAR Market หรือฮ่องกง)

    ✅ Moore Threads จัดโครงสร้างใหม่เป็นบริษัทจำกัด-หุ้น เพื่อเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์จีน  
    • เน้นธุรกิจ GPU สำหรับเกมและบางส่วนของงาน AI

    ✅ MetaX ผ่านกระบวนการ “tutoring” เพื่อเตรียม IPO แล้ว  
    • ระดมทุนไปแล้วกว่า 8 รอบ มูลค่าประเมินราว ¥10,000 ล้าน (≈ $1.38 พันล้าน)

    ✅ Zhaoxin ซึ่งพัฒนา CPU สถาปัตยกรรม x86 แบบมี GPU ฝังในตัว  
    • กำลังยื่นจดทะเบียนเข้าตลาด STAR Market ภายในกลางปี 2025

    ✅ เหตุผลหลักของการ IPO คือ:  • ต้องการเงินลงทุนมหาศาลเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA, AMD  
    • ต้องการสร้างความโปร่งใส-เชื่อมั่น และกลายเป็นผู้เล่น “ระดับชาติ” ที่ซัพพอร์ตนโยบายจีน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/blacklisted-chinese-gpu-makers-line-up-to-file-for-ipos-as-us-sanctions-and-trade-war-take-toll-on-ai-hardware-market
    แม้จะถูกสหรัฐสั่งห้ามซื้อชิป AI รุ่นใหม่จากค่ายใหญ่ (เช่น NVIDIA H100/H20) แต่จีนไม่ยอมแพ้ครับ — บริษัท GPU ระดับแถวหน้าอย่าง Biren Technology, Moore Threads, MetaX, และ Zhaoxin ต่างเดินหน้าขึ้นตลาดหุ้นในประเทศตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นตลาด STAR Market ของเซี่ยงไฮ้หรือฮ่องกง เพื่อหาทุนไปพัฒนาเทคโนโลยี AI, GPU สำหรับเกม, หรือระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกัน บริษัทอย่าง Innosilicon, Illuvatar CoreX, และ DenglinAI เลือก “อยู่แบบเงียบ ๆ” ยังไม่รีบเปิดตัวสู่สาธารณะ เพราะต้องการความยืดหยุ่นจากการไม่ต้องรายงานงบการเงินหรือถูกจับตามองจากภายนอก เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าหลังจากถูกกดดันจากสหรัฐ จีนเลือกที่จะ “ต่อสู้ด้วยการสร้าง ecosystem ของตัวเอง” ที่ใช้ได้แม้ไม่มีเทคโนโลยีตะวันตก ทั้งยังเสริมบทบาทของตลาดหุ้นจีนให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตในอุตสาหกรรม AI แบบพึ่งพาตัวเองมากขึ้น ✅ บริษัท GPU จีนจำนวนมากกำลังเตรียมเข้าตลาดหุ้นท้องถิ่นท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ   • เช่น Biren, Moore Threads, MetaX, Zhaoxin   • เพื่อต้องการระดมทุนสำหรับ R&D, ปรับขนาดการผลิต และขยายทีมงาน ✅ Biren Technology เดินเรื่อง IPO มาตั้งแต่หลายปีก่อน   • ยังไม่ประกาศว่าจะเข้าตลาดไหน (Shanghai STAR Market หรือฮ่องกง) ✅ Moore Threads จัดโครงสร้างใหม่เป็นบริษัทจำกัด-หุ้น เพื่อเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์จีน   • เน้นธุรกิจ GPU สำหรับเกมและบางส่วนของงาน AI ✅ MetaX ผ่านกระบวนการ “tutoring” เพื่อเตรียม IPO แล้ว   • ระดมทุนไปแล้วกว่า 8 รอบ มูลค่าประเมินราว ¥10,000 ล้าน (≈ $1.38 พันล้าน) ✅ Zhaoxin ซึ่งพัฒนา CPU สถาปัตยกรรม x86 แบบมี GPU ฝังในตัว   • กำลังยื่นจดทะเบียนเข้าตลาด STAR Market ภายในกลางปี 2025 ✅ เหตุผลหลักของการ IPO คือ:  • ต้องการเงินลงทุนมหาศาลเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA, AMD   • ต้องการสร้างความโปร่งใส-เชื่อมั่น และกลายเป็นผู้เล่น “ระดับชาติ” ที่ซัพพอร์ตนโยบายจีน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/blacklisted-chinese-gpu-makers-line-up-to-file-for-ipos-as-us-sanctions-and-trade-war-take-toll-on-ai-hardware-market
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าตามข่าว Intel ช่วงนี้จะรู้เลยว่า “กำลังปรับองค์กรแบบยกเครื่อง” — ตั้งแต่สายการผลิต Fab ยันหน่วยพัฒนาชิป AI แต่คราวนี้แรงสุดคือการเลย์ออฟพนักงาน “เชิงเทคนิค” ที่เดิมทีถือเป็นหัวใจของบริษัท

    มีการยืนยันว่า Intel จะไล่พนักงานออกในหลายตำแหน่งสำคัญ เช่น:
    - วิศวกรออกแบบวงจร (Physical Design Engineers)
    - ผู้จัดการสายวิศวกรรม
    - สถาปนิกซอฟต์แวร์ Cloud
    - ผู้นำด้านกลยุทธ์ไอที และรองประธานฝ่ายไอที

    และยิ่งไปกว่านั้นคือการ ปิดหน่วยพัฒนาชิปสำหรับรถยนต์ ที่เคยตั้งอยู่ในเยอรมนี — ซึ่งมีภารกิจสร้างระบบสำหรับ “รถยนต์ขับเองได้” (software-defined vehicles) และเคยเป็นแผนกที่มีอิสระสูงมาก

    สิ่งที่ Tan กล่าวในจดหมายภายในคือ “ต่อไปนี้ ผู้นำที่ดีไม่ใช่คนที่มีลูกทีมเยอะ — แต่คือต้องทำให้ได้มากที่สุดด้วยทีมที่เล็กที่สุด” พร้อมประกาศว่า จะเลย์ออฟ 15–20% ของทั้งบริษัทในปีนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเร่งการตัดสินใจในองค์กร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-lays-off-hundreds-of-engineers-in-california-including-chip-design-engineers-automotive-chip-division-also-axed
    ถ้าตามข่าว Intel ช่วงนี้จะรู้เลยว่า “กำลังปรับองค์กรแบบยกเครื่อง” — ตั้งแต่สายการผลิต Fab ยันหน่วยพัฒนาชิป AI แต่คราวนี้แรงสุดคือการเลย์ออฟพนักงาน “เชิงเทคนิค” ที่เดิมทีถือเป็นหัวใจของบริษัท มีการยืนยันว่า Intel จะไล่พนักงานออกในหลายตำแหน่งสำคัญ เช่น: - วิศวกรออกแบบวงจร (Physical Design Engineers) - ผู้จัดการสายวิศวกรรม - สถาปนิกซอฟต์แวร์ Cloud - ผู้นำด้านกลยุทธ์ไอที และรองประธานฝ่ายไอที และยิ่งไปกว่านั้นคือการ ปิดหน่วยพัฒนาชิปสำหรับรถยนต์ ที่เคยตั้งอยู่ในเยอรมนี — ซึ่งมีภารกิจสร้างระบบสำหรับ “รถยนต์ขับเองได้” (software-defined vehicles) และเคยเป็นแผนกที่มีอิสระสูงมาก สิ่งที่ Tan กล่าวในจดหมายภายในคือ “ต่อไปนี้ ผู้นำที่ดีไม่ใช่คนที่มีลูกทีมเยอะ — แต่คือต้องทำให้ได้มากที่สุดด้วยทีมที่เล็กที่สุด” พร้อมประกาศว่า จะเลย์ออฟ 15–20% ของทั้งบริษัทในปีนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเร่งการตัดสินใจในองค์กร https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-lays-off-hundreds-of-engineers-in-california-including-chip-design-engineers-automotive-chip-division-also-axed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ DLSS ว่าคือระบบ “ขยายภาพความละเอียดต่ำให้ดูเหมือน 4K” ได้แบบเนียน ๆ ด้วย AI — ที่ผ่านมา DLSS 2 กับ 3 ใช้ neural network แบบเก่า (convolutional) ซึ่งแม้จะดีมาก แต่ก็มีข้อเสีย เช่น ภาพเบลอ, ghosting, หรือเส้นขอบภาพสั่น ๆ เวลาเคลื่อนไหว

    DLSS 4 แก้ปัญหานั้นด้วยการใช้ “Transformer” แบบเดียวกับที่ใช้ในโมเดลภาษาอย่าง GPT — ทำให้ AI เข้าใจภาพทั้งเฟรมแบบลึกขึ้น ผลลัพธ์คือ ภาพที่ขึ้นคมชัดกว่าเดิม แม้จะอัปจากเฟรมต่ำ ๆ เช่น 540p

    สิ่งสำคัญคือ DLSS 4 นี้ ไม่จำกัดเฉพาะ RTX 50 แต่ รองรับตั้งแต่ RTX 20 ขึ้นไปด้วย! แค่ไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ frame generation ที่ผูกกับฮาร์ดแวร์ใหม่ได้เท่านั้น

    ✅ DLSS 4 เวอร์ชันใหม่ที่ใช้ Transformer model ออกจากสถานะเบต้าแล้ว  
    • อยู่ในชุด SDK หลักของ Nvidia DLSS Super Resolution + Ray Reconstruction  
    • พร้อมให้ผู้พัฒนาเกมใช้ได้อย่างเป็นทางการ

    ✅ Transformer model เข้ามาแทน CNN ที่ใช้มาตั้งแต่ DLSS 2 (ปี 2020)  
    • ลดปัญหาภาพเบลอ, ghosting, เส้นขอบสั่น  
    • ทำให้การอัปภาพจากครึ่งความละเอียด (performance mode) ดูดีขึ้นชัดเจน

    ✅ ไม่ต้องมี RTX 50 ก็ใช้ได้ — รองรับตั้งแต่ RTX 20 Series ขึ้นไป  
    • ฟีเจอร์ frame generation (multi-frame) ยังคง exclusive สำหรับ RTX 50 เท่านั้น

    ✅ สามารถบังคับใช้ DLSS 4 Transformer กับเกมเก่าได้ผ่าน Nvidia App  
    • ไปที่ Graphics > DLSS Override > เลือก Latest  
    • หรือใช้แอป 3rd party เช่น DLSS Swapper, DLSS Updater

    ✅ Diablo IV เตรียมเป็นเกมใหญ่เกมถัดไปที่อัปเดต DLSS 4 อย่างเป็นทางการในซีซัน 9 (1 ก.ค.)  
    • เกมอื่นที่ใช้เบต้าอยู่แล้ว เช่น Doom: The Dark Ages, Dune: Awakening, Stellar Blade

    ✅ รีวิวชี้ว่า DLSS 4 Transformer คุณภาพดีกว่า FSR 4 (ของ AMD)  
    • โดยเฉพาะในโหมด 4K upscaling

    https://www.techspot.com/news/108452-nvidia-dlss-4-transformer-model-exits-beta-set.html
    หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ DLSS ว่าคือระบบ “ขยายภาพความละเอียดต่ำให้ดูเหมือน 4K” ได้แบบเนียน ๆ ด้วย AI — ที่ผ่านมา DLSS 2 กับ 3 ใช้ neural network แบบเก่า (convolutional) ซึ่งแม้จะดีมาก แต่ก็มีข้อเสีย เช่น ภาพเบลอ, ghosting, หรือเส้นขอบภาพสั่น ๆ เวลาเคลื่อนไหว DLSS 4 แก้ปัญหานั้นด้วยการใช้ “Transformer” แบบเดียวกับที่ใช้ในโมเดลภาษาอย่าง GPT — ทำให้ AI เข้าใจภาพทั้งเฟรมแบบลึกขึ้น ผลลัพธ์คือ ภาพที่ขึ้นคมชัดกว่าเดิม แม้จะอัปจากเฟรมต่ำ ๆ เช่น 540p สิ่งสำคัญคือ DLSS 4 นี้ ไม่จำกัดเฉพาะ RTX 50 แต่ รองรับตั้งแต่ RTX 20 ขึ้นไปด้วย! แค่ไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ frame generation ที่ผูกกับฮาร์ดแวร์ใหม่ได้เท่านั้น ✅ DLSS 4 เวอร์ชันใหม่ที่ใช้ Transformer model ออกจากสถานะเบต้าแล้ว   • อยู่ในชุด SDK หลักของ Nvidia DLSS Super Resolution + Ray Reconstruction   • พร้อมให้ผู้พัฒนาเกมใช้ได้อย่างเป็นทางการ ✅ Transformer model เข้ามาแทน CNN ที่ใช้มาตั้งแต่ DLSS 2 (ปี 2020)   • ลดปัญหาภาพเบลอ, ghosting, เส้นขอบสั่น   • ทำให้การอัปภาพจากครึ่งความละเอียด (performance mode) ดูดีขึ้นชัดเจน ✅ ไม่ต้องมี RTX 50 ก็ใช้ได้ — รองรับตั้งแต่ RTX 20 Series ขึ้นไป   • ฟีเจอร์ frame generation (multi-frame) ยังคง exclusive สำหรับ RTX 50 เท่านั้น ✅ สามารถบังคับใช้ DLSS 4 Transformer กับเกมเก่าได้ผ่าน Nvidia App   • ไปที่ Graphics > DLSS Override > เลือก Latest   • หรือใช้แอป 3rd party เช่น DLSS Swapper, DLSS Updater ✅ Diablo IV เตรียมเป็นเกมใหญ่เกมถัดไปที่อัปเดต DLSS 4 อย่างเป็นทางการในซีซัน 9 (1 ก.ค.)   • เกมอื่นที่ใช้เบต้าอยู่แล้ว เช่น Doom: The Dark Ages, Dune: Awakening, Stellar Blade ✅ รีวิวชี้ว่า DLSS 4 Transformer คุณภาพดีกว่า FSR 4 (ของ AMD)   • โดยเฉพาะในโหมด 4K upscaling https://www.techspot.com/news/108452-nvidia-dlss-4-transformer-model-exits-beta-set.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia DLSS 4 transformer model exits beta, set to bring improved graphics to more games
    The latest version of Nvidia's DLSS Super Resolution and Ray Reconstruction SDK, released on Wednesday, brings the transformer model out of beta. Promoting the upscaling technology into...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันศุกร์ที่ 27 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2568
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันศุกร์ที่ 27 เดือนมิถุนายน พ.ศ.2568 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัยจากงาน Black Hat Asia ซึ่งโชว์ว่าเพียงแค่ “ล่อให้เจ้าของรถเข้าเมนูตั้งค่าบลูทูธ” ด้วยการรบกวนสัญญาณเล็กน้อย ก็เปิดทางให้แฮกเกอร์ แทรกตัวเข้าระบบ Infotainment และ “ยึดระบบ” ทั้งหมดของรถได้เลย

    เทคนิคที่ใช้ซับซ้อนมาก ประกอบด้วยช่องโหว่หลายรายการที่เปิดทางให้รันโค้ดในระบบปฏิบัติการรถ, ข้ามระบบป้องกันขโมย, และเข้าถึงเครือข่ายภายในของรถที่เชื่อมกับ CAN bus (วงจรที่ควบคุมระบบสำคัญของรถ)

    ถึงแม้เป้าหมายจะเป็น Leaf รุ่น 2020 เท่านั้น และ Nissan ได้รับแจ้งก่อนงานเปิดเผยแล้ว พร้อมออกอัปเดตเพื่ออุดช่องโหว่บางส่วน — แต่เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนว่า “รถรุ่นใหม่ = อุปกรณ์อัจฉริยะเคลื่อนที่ที่แฮกได้”

    ✅ นักวิจัยจากงาน Black Hat Asia พบช่องโหว่กว่า 10 รายการใน Nissan Leaf รุ่น 2020  
    • รวมถึงการข้ามระบบกันขโมย, stack overflow, และช่องโหว่การตรวจสอบลายเซ็นเคอร์เนล

    ✅ แฮกเกอร์สามารถควบคุมจากระยะไกลได้ทั้ง:  
    • พวงมาลัย, เบรก, กระจก, ที่ปัดน้ำฝน, ไฟหน้า ฯลฯ  
    • รวมถึงบันทึกเสียงในห้องโดยสาร และติดตามตำแหน่ง GPS

    ✅ วิธีเจาะระบบคือใช้เทคนิค Denial-of-Bluetooth:  
    • ส่งคลื่นรบกวน 2.4GHz ให้รถแสดงข้อความว่า “เชื่อมต่อบลูทูธล้มเหลว”  
    • ทำให้เจ้าของรถเปิดเมนูตั้งค่าเครือข่าย — ซึ่งเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์ฝังโค้ด

    ✅ ทีมวิจัยรับผิดชอบโดยแจ้ง Nissan ล่วงหน้า และเผยแพร่ต่อสาธารณะหลังมีแพตช์  
    • มีการออกอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่ออุดบางช่องโหว่

    ✅ นักวิจัยเตือนว่าการควบคุมรถจากระยะไกลอาจไม่คุ้มในเชิงโจรกรรม แต่  
    • การฟังเสียง/ติดตามตำแหน่ง = มีค่าสูงในเชิงข่าวกรองหรือสืบข้อมูลส่วนตัว

    https://www.techspot.com/news/108454-hackers-can-fully-control-2020-nissan-leaf-remotely.html
    เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัยจากงาน Black Hat Asia ซึ่งโชว์ว่าเพียงแค่ “ล่อให้เจ้าของรถเข้าเมนูตั้งค่าบลูทูธ” ด้วยการรบกวนสัญญาณเล็กน้อย ก็เปิดทางให้แฮกเกอร์ แทรกตัวเข้าระบบ Infotainment และ “ยึดระบบ” ทั้งหมดของรถได้เลย เทคนิคที่ใช้ซับซ้อนมาก ประกอบด้วยช่องโหว่หลายรายการที่เปิดทางให้รันโค้ดในระบบปฏิบัติการรถ, ข้ามระบบป้องกันขโมย, และเข้าถึงเครือข่ายภายในของรถที่เชื่อมกับ CAN bus (วงจรที่ควบคุมระบบสำคัญของรถ) ถึงแม้เป้าหมายจะเป็น Leaf รุ่น 2020 เท่านั้น และ Nissan ได้รับแจ้งก่อนงานเปิดเผยแล้ว พร้อมออกอัปเดตเพื่ออุดช่องโหว่บางส่วน — แต่เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนว่า “รถรุ่นใหม่ = อุปกรณ์อัจฉริยะเคลื่อนที่ที่แฮกได้” ✅ นักวิจัยจากงาน Black Hat Asia พบช่องโหว่กว่า 10 รายการใน Nissan Leaf รุ่น 2020   • รวมถึงการข้ามระบบกันขโมย, stack overflow, และช่องโหว่การตรวจสอบลายเซ็นเคอร์เนล ✅ แฮกเกอร์สามารถควบคุมจากระยะไกลได้ทั้ง:   • พวงมาลัย, เบรก, กระจก, ที่ปัดน้ำฝน, ไฟหน้า ฯลฯ   • รวมถึงบันทึกเสียงในห้องโดยสาร และติดตามตำแหน่ง GPS ✅ วิธีเจาะระบบคือใช้เทคนิค Denial-of-Bluetooth:   • ส่งคลื่นรบกวน 2.4GHz ให้รถแสดงข้อความว่า “เชื่อมต่อบลูทูธล้มเหลว”   • ทำให้เจ้าของรถเปิดเมนูตั้งค่าเครือข่าย — ซึ่งเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์ฝังโค้ด ✅ ทีมวิจัยรับผิดชอบโดยแจ้ง Nissan ล่วงหน้า และเผยแพร่ต่อสาธารณะหลังมีแพตช์   • มีการออกอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่ออุดบางช่องโหว่ ✅ นักวิจัยเตือนว่าการควบคุมรถจากระยะไกลอาจไม่คุ้มในเชิงโจรกรรม แต่   • การฟังเสียง/ติดตามตำแหน่ง = มีค่าสูงในเชิงข่าวกรองหรือสืบข้อมูลส่วนตัว https://www.techspot.com/news/108454-hackers-can-fully-control-2020-nissan-leaf-remotely.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Hackers show how they can fully control your 2020 Nissan Leaf remotely
    Security researchers at the Black Hat conference in Asia have disclosed an exploit in 2020 Nissan Leaf electric vehicles that hijacks the entire computer system. Thanks to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครว่า AI มีแต่เด็กใช้ลอกงาน ครูเองก็กำลัง “ใช้กลับ” เหมือนกัน — จากผลสำรวจล่าสุดของ Gallup พบว่าในปีการศึกษา 2024–2025 ที่ผ่านมา ครูในโรงเรียนรัฐของสหรัฐฯ ถึง 6 ใน 10 คน ใช้ AI ช่วยสอน แล้ว

    AI ถูกใช้เพื่อ:
    - วางแผนการสอน
    - สร้างใบงาน กิจกรรม
    - แปลงบทเรียนให้เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน

    และที่น่าสนใจกว่านั้นคือ 1 ใน 3 ใช้ AI เป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งช่วยลดงานที่กินเวลาซ้ำ ๆ เช่น แก้ข้อสอบ, เตรียมเอกสาร, ส่งอีเมลถึงผู้ปกครอง ไปจนถึงออกแบบแผนรายบุคคล

    แม้ตัวเลขอาจดูไม่เยอะมากในภาพรวม แต่ครูที่ใช้เป็นประจำรายงานว่า “คุณภาพงานดีขึ้นชัดเจน” เพราะพวกเขามีเวลาไปทำสิ่งที่คนเท่านั้นทำได้ — เช่น ให้ฟีดแบคเชิงลึก หรือเข้าใจความต้องการเฉพาะของเด็ก

    https://www.techspot.com/news/108449-majority-us-teachers-now-use-ai-tools-saving.html
    ใครว่า AI มีแต่เด็กใช้ลอกงาน ครูเองก็กำลัง “ใช้กลับ” เหมือนกัน — จากผลสำรวจล่าสุดของ Gallup พบว่าในปีการศึกษา 2024–2025 ที่ผ่านมา ครูในโรงเรียนรัฐของสหรัฐฯ ถึง 6 ใน 10 คน ใช้ AI ช่วยสอน แล้ว AI ถูกใช้เพื่อ: - วางแผนการสอน - สร้างใบงาน กิจกรรม - แปลงบทเรียนให้เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน และที่น่าสนใจกว่านั้นคือ 1 ใน 3 ใช้ AI เป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งช่วยลดงานที่กินเวลาซ้ำ ๆ เช่น แก้ข้อสอบ, เตรียมเอกสาร, ส่งอีเมลถึงผู้ปกครอง ไปจนถึงออกแบบแผนรายบุคคล แม้ตัวเลขอาจดูไม่เยอะมากในภาพรวม แต่ครูที่ใช้เป็นประจำรายงานว่า “คุณภาพงานดีขึ้นชัดเจน” เพราะพวกเขามีเวลาไปทำสิ่งที่คนเท่านั้นทำได้ — เช่น ให้ฟีดแบคเชิงลึก หรือเข้าใจความต้องการเฉพาะของเด็ก https://www.techspot.com/news/108449-majority-us-teachers-now-use-ai-tools-saving.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Majority of US teachers now use AI tools, saving an average of 5.9 hours each week
    According to the latest Gallup study on educator perspectives, six out of 10 teachers working at public K-12 schools in the US used an AI tool to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้ไหมครับว่าพวกแอมป์แรงสูงในมือถือ, เสาสัญญาณ 5G, Wi-Fi 7 หรือแม้แต่ระบบเรดาร์–ดาต้าเซ็นเตอร์ระดับสูง มักต้องใช้ “ทรานซิสเตอร์ GaN” เพราะมันส่งสัญญาณได้เร็วมากและทนร้อนได้ดีกว่า แต่ก็แพงและ “ใส่รวมกับซิลิคอน” ได้ยากมาก จนแทบใช้ได้แค่ในงานเฉพาะ

    แต่ทีมนี้แก้ปัญหาได้โดยไม่ใช่การเชื่อมทั้งแผ่น (ที่เปลือง) หรือการบัดกรีแบบเดิม (ที่ร้อนเกินไปและจำกัดขนาด) — พวกเขาใช้วิธี เจาะ GaN เป็นชิ้นเล็กจิ๋ว ๆ แล้ววางเฉพาะจุดที่จำเป็นบนซิลิคอน ด้วยความละเอียดระดับนาโนเมตร! เชื่อมด้วยทองแดง (ไม่ใช่ทอง!) ที่ใช้อุณหภูมิต่ำ ปลอดภัย และยังนำไฟฟ้าได้ดี

    ผลที่ได้ไม่ใช่แค่เร็วแรง แต่ ลดความร้อนได้ด้วย เพราะ design ที่กะทัดรัดและใช้พลังงานมีประสิทธิภาพกว่าเดิมมาก ที่น่าสนใจคือเทคนิคนี้ยังเปิดทางไปถึงการประยุกต์ใช้ใน “ควอนตัมคอมพิวเตอร์” ด้วยนะ เพราะ GaN ทำงานได้ดีในอุณหภูมิต่ำสุดขั้วที่ซิลิคอนทำไม่ได้

    ✅ ทีม MIT พัฒนาเทคนิคใหม่ “วาง GaN บนซิลิคอน” แบบละเอียดในระดับจุด (die-level bonding)  
    • ใช้ชิ้นทรานซิสเตอร์ GaN เล็กไม่ถึง 1 มม. วางบน chip เฉพาะจุดที่ต้องการ  
    • ประหยัดวัสดุราคาแพงมาก และคุม design ได้ละเอียดกว่าเดิม

    ✅ ใช้วิธี “copper-to-copper bonding” ที่เย็นกว่า (ต่ำกว่า 400°C) และต้นทุนต่ำกว่าทอง (gold)  
    • ช่วยให้ไม่ทำลายชิ้นส่วน delicate และเพิ่มการนำไฟฟ้า

    ✅ พัฒนาทูลพิเศษใช้กล้องและสูญญากาศวางชิ้น GaN แบบแม่นยำระดับนาโน  
    • ลดการเสียพิกัดและเพิ่ม yield ในการผลิต

    ✅ สร้างวงจร power amplifier ด้วยเทคโนโลยีนี้ที่ outperform ซิลิคอนแบบเดิม  
    • ได้ bandwidth และ signal strength สูงขึ้น  
    • ระบายความร้อนได้ดีกว่า

    ✅ เทคโนโลยีนี้สามารถใช้ในอุปกรณ์หลายประเภท เช่น:  
    • การสื่อสารไร้สาย, 6G, ดาวเทียม, ดาต้าเซ็นเตอร์  
    • อุปกรณ์ควอนตัม — เพราะ GaN ทำงานได้ดีในอุณหภูมิต่ำมาก

    ✅ งานนี้สนับสนุนโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐ, MIT.Nano, และห้องทดลอง Air Force  
    • เป็นตัวอย่างของ public–private research ที่เชื่อมโยงความมั่นคงกับเทคโนโลยีพลเรือน

    https://www.techspot.com/news/108441-mit-researchers-bond-gallium-nitride-transistors-silicon-chips.html
    รู้ไหมครับว่าพวกแอมป์แรงสูงในมือถือ, เสาสัญญาณ 5G, Wi-Fi 7 หรือแม้แต่ระบบเรดาร์–ดาต้าเซ็นเตอร์ระดับสูง มักต้องใช้ “ทรานซิสเตอร์ GaN” เพราะมันส่งสัญญาณได้เร็วมากและทนร้อนได้ดีกว่า แต่ก็แพงและ “ใส่รวมกับซิลิคอน” ได้ยากมาก จนแทบใช้ได้แค่ในงานเฉพาะ แต่ทีมนี้แก้ปัญหาได้โดยไม่ใช่การเชื่อมทั้งแผ่น (ที่เปลือง) หรือการบัดกรีแบบเดิม (ที่ร้อนเกินไปและจำกัดขนาด) — พวกเขาใช้วิธี เจาะ GaN เป็นชิ้นเล็กจิ๋ว ๆ แล้ววางเฉพาะจุดที่จำเป็นบนซิลิคอน ด้วยความละเอียดระดับนาโนเมตร! เชื่อมด้วยทองแดง (ไม่ใช่ทอง!) ที่ใช้อุณหภูมิต่ำ ปลอดภัย และยังนำไฟฟ้าได้ดี ผลที่ได้ไม่ใช่แค่เร็วแรง แต่ ลดความร้อนได้ด้วย เพราะ design ที่กะทัดรัดและใช้พลังงานมีประสิทธิภาพกว่าเดิมมาก ที่น่าสนใจคือเทคนิคนี้ยังเปิดทางไปถึงการประยุกต์ใช้ใน “ควอนตัมคอมพิวเตอร์” ด้วยนะ เพราะ GaN ทำงานได้ดีในอุณหภูมิต่ำสุดขั้วที่ซิลิคอนทำไม่ได้ ✅ ทีม MIT พัฒนาเทคนิคใหม่ “วาง GaN บนซิลิคอน” แบบละเอียดในระดับจุด (die-level bonding)   • ใช้ชิ้นทรานซิสเตอร์ GaN เล็กไม่ถึง 1 มม. วางบน chip เฉพาะจุดที่ต้องการ   • ประหยัดวัสดุราคาแพงมาก และคุม design ได้ละเอียดกว่าเดิม ✅ ใช้วิธี “copper-to-copper bonding” ที่เย็นกว่า (ต่ำกว่า 400°C) และต้นทุนต่ำกว่าทอง (gold)   • ช่วยให้ไม่ทำลายชิ้นส่วน delicate และเพิ่มการนำไฟฟ้า ✅ พัฒนาทูลพิเศษใช้กล้องและสูญญากาศวางชิ้น GaN แบบแม่นยำระดับนาโน   • ลดการเสียพิกัดและเพิ่ม yield ในการผลิต ✅ สร้างวงจร power amplifier ด้วยเทคโนโลยีนี้ที่ outperform ซิลิคอนแบบเดิม   • ได้ bandwidth และ signal strength สูงขึ้น   • ระบายความร้อนได้ดีกว่า ✅ เทคโนโลยีนี้สามารถใช้ในอุปกรณ์หลายประเภท เช่น:   • การสื่อสารไร้สาย, 6G, ดาวเทียม, ดาต้าเซ็นเตอร์   • อุปกรณ์ควอนตัม — เพราะ GaN ทำงานได้ดีในอุณหภูมิต่ำมาก ✅ งานนี้สนับสนุนโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐ, MIT.Nano, และห้องทดลอง Air Force   • เป็นตัวอย่างของ public–private research ที่เชื่อมโยงความมั่นคงกับเทคโนโลยีพลเรือน https://www.techspot.com/news/108441-mit-researchers-bond-gallium-nitride-transistors-silicon-chips.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    MIT researchers bond gallium nitride transistors to silicon for faster next-gen wireless devices
    Gallium nitride, a semiconductor renowned for its efficiency and high-speed capabilities, has long been recognized as a promising material for next-generation electronics, including power amplifiers that drive...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพดูว่าในศูนย์ข้อมูลหนึ่ง มีงานมากมายที่ IT ต้องจัดการทุกวัน เช่น แก้ไข network, config storage, เช็ก log, ปรับโหลด cloud — ทั้งหมดนี้ใช้เวลาและต้องการผู้เชี่ยวชาญหลายคน

    แต่ HPE กำลังจะเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็น “การสนทนากับ agent” — คุณแค่ถามในสไตล์แชต แล้ว AI จะประมวลผลข้อมูล, หา insight, เสนอทางแก้ หรือ บางทียังทำแทนให้เองเลยด้วยซ้ำ (แต่ยังให้คุณกดยืนยันก่อนเสมอ)

    หัวใจอยู่ที่ GreenLake Intelligence ซึ่งมี multi-agent system ที่ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น จัดการ storage, monitor network, สร้าง dashboard, หรือคุยกับระบบ cloud อื่นได้ — และมี “GreenLake Copilot” เป็นอินเทอร์เฟซแบบแชต ช่วยให้คนไอทีใช้งานง่ายแบบไม่ต้องพิมพ์โค้ด

    นอกจากนี้ HPE ยังพัฒนา hardware และ software เสริมชุดใหญ่ เช่น AI Factory รุ่นใหม่ที่ใช้ Nvidia Blackwell GPU, ระบบ CloudOps, และหน่วยเก็บข้อมูล Alletra X10000 ที่รองรับการวิเคราะห์ context ระดับระบบ (ผ่านโปรโตคอล MCP)

    ✅ HPE เปิดตัว GreenLake Intelligence พร้อมแนวคิด AgenticOps  
    • ใช้ AI agents ทำงานซ้ำซ้อนในระบบ IT แทนคนได้ (แต่มี human-in-the-loop)  
    • ครอบคลุมงาน config, observability, storage, network และ more

    ✅ GreenLake Copilot คืออินเทอร์เฟซแบบแชตที่ให้คุยกับ AI ได้ทันที  
    • ใช้ภาษาธรรมดาถามเรื่อง log, ปัญหา network, ความเสถียรระบบ ฯลฯ  
    • ทำงานร่วมกับ LLM และ ML ที่เทรนจากข้อมูลองค์กร

    ✅ ตัวอย่างการใช้งานที่น่าสนใจ:  
    • Aruba Central ใช้ GreenLake Copilot ในการจัดการเครือข่ายแบบ real-time  
    • สร้าง visual dashboard จาก log อัตโนมัติ  
    • เสนอวิธีแก้ปัญหาแบบทีละขั้น หรือลงมือทำแทนได้

    ✅ HPE เสริมด้วย CloudOps (รวม OpsRamp, Morpheus, Zerto)  
    • ใช้ GenAI ช่วยจัดการ observability, virtualization, และความปลอดภัยของ data

    ✅ เปิดตัว AI Factory Gen 2 ที่ใช้ Nvidia Blackwell RTX Pro 6000  
    • รองรับการประมวลผล AI model สำหรับองค์กรโดยเฉพาะ  
    • ใช้งานร่วมกับระบบของคู่แข่งได้ (เช่น OpsRamp ใช้กับ AI Factory ทุกแบรนด์)

    ✅ ระบบเก็บข้อมูล Alletra X10000 รองรับ MCP (Media Context Protocol)  
    • เชื่อมโยงกับ AI/LLM ได้โดยตรง  
    • ส่งข้อมูลระหว่าง server, storage, observability tools ได้รวดเร็ว

    ลุงจะตกงานแล้วววววว !!! 😭😭

    https://www.techspot.com/news/108437-hpe-greenlake-intelligence-brings-agentic-ai-operations.html
    ลองนึกภาพดูว่าในศูนย์ข้อมูลหนึ่ง มีงานมากมายที่ IT ต้องจัดการทุกวัน เช่น แก้ไข network, config storage, เช็ก log, ปรับโหลด cloud — ทั้งหมดนี้ใช้เวลาและต้องการผู้เชี่ยวชาญหลายคน แต่ HPE กำลังจะเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็น “การสนทนากับ agent” — คุณแค่ถามในสไตล์แชต แล้ว AI จะประมวลผลข้อมูล, หา insight, เสนอทางแก้ หรือ บางทียังทำแทนให้เองเลยด้วยซ้ำ (แต่ยังให้คุณกดยืนยันก่อนเสมอ) หัวใจอยู่ที่ GreenLake Intelligence ซึ่งมี multi-agent system ที่ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น จัดการ storage, monitor network, สร้าง dashboard, หรือคุยกับระบบ cloud อื่นได้ — และมี “GreenLake Copilot” เป็นอินเทอร์เฟซแบบแชต ช่วยให้คนไอทีใช้งานง่ายแบบไม่ต้องพิมพ์โค้ด นอกจากนี้ HPE ยังพัฒนา hardware และ software เสริมชุดใหญ่ เช่น AI Factory รุ่นใหม่ที่ใช้ Nvidia Blackwell GPU, ระบบ CloudOps, และหน่วยเก็บข้อมูล Alletra X10000 ที่รองรับการวิเคราะห์ context ระดับระบบ (ผ่านโปรโตคอล MCP) ✅ HPE เปิดตัว GreenLake Intelligence พร้อมแนวคิด AgenticOps   • ใช้ AI agents ทำงานซ้ำซ้อนในระบบ IT แทนคนได้ (แต่มี human-in-the-loop)   • ครอบคลุมงาน config, observability, storage, network และ more ✅ GreenLake Copilot คืออินเทอร์เฟซแบบแชตที่ให้คุยกับ AI ได้ทันที   • ใช้ภาษาธรรมดาถามเรื่อง log, ปัญหา network, ความเสถียรระบบ ฯลฯ   • ทำงานร่วมกับ LLM และ ML ที่เทรนจากข้อมูลองค์กร ✅ ตัวอย่างการใช้งานที่น่าสนใจ:   • Aruba Central ใช้ GreenLake Copilot ในการจัดการเครือข่ายแบบ real-time   • สร้าง visual dashboard จาก log อัตโนมัติ   • เสนอวิธีแก้ปัญหาแบบทีละขั้น หรือลงมือทำแทนได้ ✅ HPE เสริมด้วย CloudOps (รวม OpsRamp, Morpheus, Zerto)   • ใช้ GenAI ช่วยจัดการ observability, virtualization, และความปลอดภัยของ data ✅ เปิดตัว AI Factory Gen 2 ที่ใช้ Nvidia Blackwell RTX Pro 6000   • รองรับการประมวลผล AI model สำหรับองค์กรโดยเฉพาะ   • ใช้งานร่วมกับระบบของคู่แข่งได้ (เช่น OpsRamp ใช้กับ AI Factory ทุกแบรนด์) ✅ ระบบเก็บข้อมูล Alletra X10000 รองรับ MCP (Media Context Protocol)   • เชื่อมโยงกับ AI/LLM ได้โดยตรง   • ส่งข้อมูลระหว่าง server, storage, observability tools ได้รวดเร็ว ลุงจะตกงานแล้วววววว !!! 😭😭 https://www.techspot.com/news/108437-hpe-greenlake-intelligence-brings-agentic-ai-operations.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    HPE's GreenLake intelligence brings agentic AI to IT operations
    In case you haven't heard, GenAI is old news. Now, it's all about agentic AI. At least, that certainly seems to be the theme based on the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเด็นนี้เกิดในงานสัมมนาเทคโนโลยีของ Bosch ที่จัดขึ้นที่เมือง Stuttgart เยอรมนี โดย Hartung ชี้ว่า ยุโรปแม้จะมีทรัพยากรด้านเทคโนโลยี AI และสิทธิบัตรเยอะ (Bosch เองเป็นเจ้าของสิทธิบัตร AI มากสุดในยุโรป!) แต่กลับถูกรั้งไว้ด้วย กฎระเบียบที่ทั้งเข้มงวดและ “คลุมเครือ” ซึ่งทำให้ยุโรปกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่น่าดึงดูดสำหรับการพัฒนา AI เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ หรือจีน

    ขณะเดียวกัน สหรัฐก็เร่งเครื่องแบบสุดขีด — โดยมีนโยบายทุ่มลงทุนภาคเอกชนกว่า $500,000 ล้านสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ส่วนสหภาพยุโรปเองก็พยายามตามด้วยงบประมาณประมาณ €200,000 ล้าน แต่ Hartung ยังมองว่าถ้าไม่แก้ปัญหาเรื่อง “กฎหมายเกินความจำเป็น” ก็อาจจะไล่ไม่ทันอยู่ดี

    เขาเสนอให้ยุโรปวางกรอบกฎหมาย AI เฉพาะประเด็นหลัก และให้พื้นที่กับนวัตกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่อง AI ด้านอุตสาหกรรมและยานยนต์อัตโนมัติ ที่ Bosch กำลังลงทุนอย่างจริงจัง

    ✅ Bosch ชี้ว่ายุโรปมีสิทธิบัตร AI มาก แต่กำลังล้าหลังเพราะออกกฎหมายเยอะเกินไป  
    • Hartung ใช้คำว่า “เรากำลังออกกฎหมายต่อต้านความก้าวหน้าเทคโนโลยีของเราเอง”

    ✅ Bosch เตรียมลงทุนเพิ่ม €2.5 พันล้าน ใน AI ภายในปี 2027  
    • มุ่งเน้น AI สำหรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติและระบบอุตสาหกรรม

    ✅ ยุโรปถูกมองว่ามีความล่าช้าและซับซ้อนในแง่กฎหมายเทียบกับสหรัฐฯ หรือจีน  
    • ทำให้บริษัทเทคโนโลยีลังเลที่จะลงหลักปักฐานในภูมิภาคนี้

    ✅ Hartung แนะให้จำกัดกฎ AI เฉพาะหัวข้อสำคัญเท่านั้น  
    • เพื่อลดความเสี่ยงที่กฎหมายจะขัดขวางนวัตกรรมโดยไม่ตั้งใจ

    ✅ เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ และอียูแข่งขันอัดงบพัฒนา AI ในระดับหลายแสนล้าน  
    • สหรัฐเสนอกรอบการลงทุนเอกชนสูงถึง $500B  
    • อียูตั้งเป้า mobilize งบประมาณรวม €200B สำหรับภาค AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/bosch-ceo-warns-europe-against-regulating-039itself-to-death039-on-ai
    ประเด็นนี้เกิดในงานสัมมนาเทคโนโลยีของ Bosch ที่จัดขึ้นที่เมือง Stuttgart เยอรมนี โดย Hartung ชี้ว่า ยุโรปแม้จะมีทรัพยากรด้านเทคโนโลยี AI และสิทธิบัตรเยอะ (Bosch เองเป็นเจ้าของสิทธิบัตร AI มากสุดในยุโรป!) แต่กลับถูกรั้งไว้ด้วย กฎระเบียบที่ทั้งเข้มงวดและ “คลุมเครือ” ซึ่งทำให้ยุโรปกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่น่าดึงดูดสำหรับการพัฒนา AI เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ หรือจีน ขณะเดียวกัน สหรัฐก็เร่งเครื่องแบบสุดขีด — โดยมีนโยบายทุ่มลงทุนภาคเอกชนกว่า $500,000 ล้านสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ส่วนสหภาพยุโรปเองก็พยายามตามด้วยงบประมาณประมาณ €200,000 ล้าน แต่ Hartung ยังมองว่าถ้าไม่แก้ปัญหาเรื่อง “กฎหมายเกินความจำเป็น” ก็อาจจะไล่ไม่ทันอยู่ดี เขาเสนอให้ยุโรปวางกรอบกฎหมาย AI เฉพาะประเด็นหลัก และให้พื้นที่กับนวัตกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่อง AI ด้านอุตสาหกรรมและยานยนต์อัตโนมัติ ที่ Bosch กำลังลงทุนอย่างจริงจัง ✅ Bosch ชี้ว่ายุโรปมีสิทธิบัตร AI มาก แต่กำลังล้าหลังเพราะออกกฎหมายเยอะเกินไป   • Hartung ใช้คำว่า “เรากำลังออกกฎหมายต่อต้านความก้าวหน้าเทคโนโลยีของเราเอง” ✅ Bosch เตรียมลงทุนเพิ่ม €2.5 พันล้าน ใน AI ภายในปี 2027   • มุ่งเน้น AI สำหรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติและระบบอุตสาหกรรม ✅ ยุโรปถูกมองว่ามีความล่าช้าและซับซ้อนในแง่กฎหมายเทียบกับสหรัฐฯ หรือจีน   • ทำให้บริษัทเทคโนโลยีลังเลที่จะลงหลักปักฐานในภูมิภาคนี้ ✅ Hartung แนะให้จำกัดกฎ AI เฉพาะหัวข้อสำคัญเท่านั้น   • เพื่อลดความเสี่ยงที่กฎหมายจะขัดขวางนวัตกรรมโดยไม่ตั้งใจ ✅ เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ และอียูแข่งขันอัดงบพัฒนา AI ในระดับหลายแสนล้าน   • สหรัฐเสนอกรอบการลงทุนเอกชนสูงถึง $500B   • อียูตั้งเป้า mobilize งบประมาณรวม €200B สำหรับภาค AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/bosch-ceo-warns-europe-against-regulating-039itself-to-death039-on-ai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bosch CEO warns Europe against regulating 'itself to death' on AI
    FRANKFURT (Reuters) -Bosch CEO Stefan Hartung warned on Wednesday that Europe risks hindering its progress in artificial intelligence compared with other parts of the world through over-regulation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://thestandard.co/thailands-strategy-to-suppress-cambodian-scammers/?_trms=3f82132ad98b0859.1750906062360
    https://thestandard.co/thailands-strategy-to-suppress-cambodian-scammers/?_trms=3f82132ad98b0859.1750906062360
    THESTANDARD.CO
    ‘ตัดน้ำ-ตัดไฟ-ตัดเน็ต’ ตีโจทย์กลยุทธ์ไทยปราบสแกมเมอร์กัมพูชา ท่ามกลางข้อพิพาทชายแดน ได้ผลจริงหรือ?
    การยกระดับต่อต้านแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการก่อ อาชญากรรมข้ามชาติ ในกัมพูชา ที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ประกาศออกมา โดยกำหนดมาตรการอันเข้มข้น
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคยคิดไหมครับว่าสักวันหนึ่งจะมี "หุ่นยนต์แฮกเกอร์" ที่เก่งกว่าคนจริง? วันนั้นมาถึงแล้ว เพราะ Xbow คือ AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแฮกเกอร์มืออาชีพโดยเฉพาะ มันสามารถ “แฮกระบบ” อย่างถูกกฎหมายผ่านการเจาะช่องโหว่ (penetration test) แบบอัตโนมัติ และรายงานเข้าระบบบั๊ก bounty ได้เร็วและแม่นยำกว่าคน

    Xbow เพิ่งขึ้นเป็น อันดับ 1 ในสหรัฐฯ บน HackerOne ซึ่งจัดอันดับจาก “จำนวนช่องโหว่ที่ค้นพบ + ความร้ายแรง” และการที่ “AI” ได้อันดับสูงสุดเป็นครั้งแรกนี้ ก็ทำให้นักลงทุนแห่ให้เงินเพิ่มอีก 75 ล้านดอลลาร์

    แต่นี่ไม่ได้เป็นแค่ความสำเร็จครับ — เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “เรากำลังก้าวสู่ยุคที่เครื่องจักรกำลังแฮกระบบของเครื่องจักรด้วยกันเองหรือเปล่า?” และถ้า AI ฝั่งร้ายพัฒนาเร็วเท่าฝั่งดีล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น…

    ✅ Xbow คือ AI แฮกเกอร์ที่พัฒนาโดยบริษัทชื่อเดียวกัน ก่อตั้งในปี 2024 โดยอดีตผู้บริหาร GitHub  
    • มีทีมพัฒนาเคยทำงานกับ Copilot และ Semmle (บริษัทรักษาความปลอดภัยที่ GitHub เคยซื้อ)

    ✅ Xbow ขึ้นอันดับ 1 ของ HackerOne ในสหรัฐฯ จากคะแนน reputation สูงสุด  
    • เก็บแต้มจากการพบช่องโหว่ที่มีความสำคัญมาก และรายงานสำเร็จ

    ✅ ระดมทุนเพิ่มอีก $75 ล้าน จาก Altimeter Capital, Sequoia และ NFDG  
    • เพื่อขยายระบบ AI ให้ทำงานได้ละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น

    ✅ ทำ penetration testing แบบอัตโนมัติ – ใช้เวลาน้อยกว่า และราคาถูกกว่าทีม red team ปกติ  
    • ปกติจ้าง red team ทดสอบ 1 ครั้งเฉลี่ย $18,000 แต่ Xbow ทำได้บ่อยและต่อเนื่อง

    ✅ Xbow ค้นพบช่องโหว่ในบริษัทชื่อดัง เช่น Amazon, Disney, PayPal, Sony  
    • แต่ผู้ใช้งานเป็นองค์กรเท่านั้น ยังไม่เปิดเผยรายชื่อทั้งหมด

    ✅ ทำงานคู่กับ HackerOne ที่ให้มนุษย์รีวิวข้อผิดพลาดที่ AI พบ เพื่อกันไม่ให้เกิด “hallucination”  
    • แยกจริงปลอมก่อนส่งรายงานให้บริษัท

    ✅ ในอนาคต Xbow จะสามารถ “เสนอทางแก้ไข” ให้กับลูกค้าด้วย เช่น แก้โค้ด หรือแนะนำวิธี fix ช่องโหว่  
    • ไม่ใช่แค่หาเจอ แต่ช่วยซ่อมได้ด้วย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/one-of-the-best-hackers-in-the-us-is-an-ai-bot
    เคยคิดไหมครับว่าสักวันหนึ่งจะมี "หุ่นยนต์แฮกเกอร์" ที่เก่งกว่าคนจริง? วันนั้นมาถึงแล้ว เพราะ Xbow คือ AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแฮกเกอร์มืออาชีพโดยเฉพาะ มันสามารถ “แฮกระบบ” อย่างถูกกฎหมายผ่านการเจาะช่องโหว่ (penetration test) แบบอัตโนมัติ และรายงานเข้าระบบบั๊ก bounty ได้เร็วและแม่นยำกว่าคน Xbow เพิ่งขึ้นเป็น อันดับ 1 ในสหรัฐฯ บน HackerOne ซึ่งจัดอันดับจาก “จำนวนช่องโหว่ที่ค้นพบ + ความร้ายแรง” และการที่ “AI” ได้อันดับสูงสุดเป็นครั้งแรกนี้ ก็ทำให้นักลงทุนแห่ให้เงินเพิ่มอีก 75 ล้านดอลลาร์ แต่นี่ไม่ได้เป็นแค่ความสำเร็จครับ — เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “เรากำลังก้าวสู่ยุคที่เครื่องจักรกำลังแฮกระบบของเครื่องจักรด้วยกันเองหรือเปล่า?” และถ้า AI ฝั่งร้ายพัฒนาเร็วเท่าฝั่งดีล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น… ✅ Xbow คือ AI แฮกเกอร์ที่พัฒนาโดยบริษัทชื่อเดียวกัน ก่อตั้งในปี 2024 โดยอดีตผู้บริหาร GitHub   • มีทีมพัฒนาเคยทำงานกับ Copilot และ Semmle (บริษัทรักษาความปลอดภัยที่ GitHub เคยซื้อ) ✅ Xbow ขึ้นอันดับ 1 ของ HackerOne ในสหรัฐฯ จากคะแนน reputation สูงสุด   • เก็บแต้มจากการพบช่องโหว่ที่มีความสำคัญมาก และรายงานสำเร็จ ✅ ระดมทุนเพิ่มอีก $75 ล้าน จาก Altimeter Capital, Sequoia และ NFDG   • เพื่อขยายระบบ AI ให้ทำงานได้ละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น ✅ ทำ penetration testing แบบอัตโนมัติ – ใช้เวลาน้อยกว่า และราคาถูกกว่าทีม red team ปกติ   • ปกติจ้าง red team ทดสอบ 1 ครั้งเฉลี่ย $18,000 แต่ Xbow ทำได้บ่อยและต่อเนื่อง ✅ Xbow ค้นพบช่องโหว่ในบริษัทชื่อดัง เช่น Amazon, Disney, PayPal, Sony   • แต่ผู้ใช้งานเป็นองค์กรเท่านั้น ยังไม่เปิดเผยรายชื่อทั้งหมด ✅ ทำงานคู่กับ HackerOne ที่ให้มนุษย์รีวิวข้อผิดพลาดที่ AI พบ เพื่อกันไม่ให้เกิด “hallucination”   • แยกจริงปลอมก่อนส่งรายงานให้บริษัท ✅ ในอนาคต Xbow จะสามารถ “เสนอทางแก้ไข” ให้กับลูกค้าด้วย เช่น แก้โค้ด หรือแนะนำวิธี fix ช่องโหว่   • ไม่ใช่แค่หาเจอ แต่ช่วยซ่อมได้ด้วย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/one-of-the-best-hackers-in-the-us-is-an-ai-bot
    WWW.THESTAR.COM.MY
    One of the best hackers in the US is an AI bot
    A hacker named Xbow has topped a prestigious security industry US leaderboard that tracks who has found and reported the most vulnerabilities in software from large companies. Xbow isn't a person – it's an artificial intelligence tool developed by a company of the same name.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนกลับไปปี 2019 Microsoft ลงเงิน $1,000 ล้านเพื่อหนุน OpenAI และให้บริการบน Azure — จนกลายเป็นหุ้นส่วนหลักของกันและกันมาจนถึงทุกวันนี้

    แต่ล่าสุดมีรายงานจาก The Information ว่าในสัญญาระหว่างสองฝ่าย มีข้อกำหนดหนึ่งที่เริ่ม “ขัดกันอย่างแรง” — ข้อกำหนดนั้นคือ:

    > “เมื่อ OpenAI สร้าง AGI ได้ Microsoft จะ ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยีนั้นอีกต่อไป”

    ใช่ครับ…ต่อให้ Microsoft เป็นผู้ลงทุนใหญ่ และใช้ GPT ในบริการทั่วโลก พวกเขาก็จะถูก “ตัดสิทธิ์” เมื่อ AGI เกิดขึ้นจริง

    แน่นอนว่า Microsoft ไม่พอใจ จึงพยายามเจรจาขอแก้ไขเงื่อนไข แต่ฝั่ง OpenAI ยังยืนกรานไม่ยอมเปลี่ยนแปลง — ความตึงเครียดเลยเกิดขึ้นกลางความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้น

    เรื่องนี้ยังเชื่อมโยงกับการที่ OpenAI กำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็น “Public-Benefit Corporation” ซึ่งต้องอาศัยความเห็นชอบจาก Microsoft — แต่ก็ยังตกลงรายละเอียดกันไม่ได้ แม้จะคุยกันมาหลายเดือนแล้วก็ตาม

    ✅ OpenAI และ Microsoft กำลังมีข้อขัดแย้งเรื่อง “สิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยี AGI” ตามข้อตกลงเดิม  
    • เมื่อ OpenAI พัฒนา AGI ได้ Microsoft จะหมดสิทธิ์ใช้เทคโนโลยีนั้น  
    • Microsoft ต้องการเปลี่ยนเงื่อนไข แต่ OpenAI ไม่ยอม

    ✅ ทั้งสองฝ่ายออกแถลงการณ์ร่วมว่า “ความร่วมมือยังต่อเนื่องอยู่” และ “กำลังพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์”  
    • แต่รายงานระบุว่าความสัมพันธ์เริ่ม “มีรอยร้าว” ชัดเจน

    ✅ OpenAI ต้องการเปลี่ยนสถานะเป็น Public-Benefit Corporation  
    • กระบวนการนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจาก Microsoft ซึ่งยังตกลงกันไม่ได้

    ✅ Microsoft ลงทุนใน OpenAI มาตั้งแต่ปี 2019 ด้วยเงิน $1 พันล้าน + ให้บริการผ่าน Azure AI  
    • ถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของกันและกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/microsoft-and-openai-dueling-over-artificial-general-intelligence-the-information-reports
    ย้อนกลับไปปี 2019 Microsoft ลงเงิน $1,000 ล้านเพื่อหนุน OpenAI และให้บริการบน Azure — จนกลายเป็นหุ้นส่วนหลักของกันและกันมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ล่าสุดมีรายงานจาก The Information ว่าในสัญญาระหว่างสองฝ่าย มีข้อกำหนดหนึ่งที่เริ่ม “ขัดกันอย่างแรง” — ข้อกำหนดนั้นคือ: > “เมื่อ OpenAI สร้าง AGI ได้ Microsoft จะ ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยีนั้นอีกต่อไป” ใช่ครับ…ต่อให้ Microsoft เป็นผู้ลงทุนใหญ่ และใช้ GPT ในบริการทั่วโลก พวกเขาก็จะถูก “ตัดสิทธิ์” เมื่อ AGI เกิดขึ้นจริง แน่นอนว่า Microsoft ไม่พอใจ จึงพยายามเจรจาขอแก้ไขเงื่อนไข แต่ฝั่ง OpenAI ยังยืนกรานไม่ยอมเปลี่ยนแปลง — ความตึงเครียดเลยเกิดขึ้นกลางความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้น เรื่องนี้ยังเชื่อมโยงกับการที่ OpenAI กำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็น “Public-Benefit Corporation” ซึ่งต้องอาศัยความเห็นชอบจาก Microsoft — แต่ก็ยังตกลงรายละเอียดกันไม่ได้ แม้จะคุยกันมาหลายเดือนแล้วก็ตาม ✅ OpenAI และ Microsoft กำลังมีข้อขัดแย้งเรื่อง “สิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยี AGI” ตามข้อตกลงเดิม   • เมื่อ OpenAI พัฒนา AGI ได้ Microsoft จะหมดสิทธิ์ใช้เทคโนโลยีนั้น   • Microsoft ต้องการเปลี่ยนเงื่อนไข แต่ OpenAI ไม่ยอม ✅ ทั้งสองฝ่ายออกแถลงการณ์ร่วมว่า “ความร่วมมือยังต่อเนื่องอยู่” และ “กำลังพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์”   • แต่รายงานระบุว่าความสัมพันธ์เริ่ม “มีรอยร้าว” ชัดเจน ✅ OpenAI ต้องการเปลี่ยนสถานะเป็น Public-Benefit Corporation   • กระบวนการนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจาก Microsoft ซึ่งยังตกลงกันไม่ได้ ✅ Microsoft ลงทุนใน OpenAI มาตั้งแต่ปี 2019 ด้วยเงิน $1 พันล้าน + ให้บริการผ่าน Azure AI   • ถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของกันและกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/microsoft-and-openai-dueling-over-artificial-general-intelligence-the-information-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft and OpenAI dueling over artificial general intelligence, The Information reports
    (Reuters) -Microsoft and OpenAI are at odds over a contractual provision related to artificial general intelligence, The Information reported on Wednesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า AI จะทำลายหรือต่อยอด “งาน” อย่างไรในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อมองจากข้อมูลเชิงวิชาการที่ยังมีข้อจำกัดด้านพื้นที่, ช่วงเวลา, และประเภท AI ที่ศึกษา

    ช่วงนี้คนทั่วโลกเริ่มกังวลว่า “AI จะมาแย่งงานไหม?” โดยเฉพาะเมื่อเราเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่หันมาใช้ chatbot และหุ่นยนต์แบบจริงจัง — แต่ทีมนักวิจัยจากเยอรมนี อิตาลี และสหรัฐฯ กลับบอกว่า ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า AI ทำให้คนตกงานหรือเครียดหนักขึ้นจริงในภาพรวม

    ทีมนี้ใช้ข้อมูลจากเยอรมนี (2000–2020) ก่อนยุค generative AI อย่าง ChatGPT และพบว่า AI อาจช่วยลดความเสี่ยงทางกายภาพของงานบางประเภท และเพิ่มความพึงพอใจในงานเล็กน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานที่ไม่มีปริญญา

    แต่พวกเขาก็เตือนว่าอย่าด่วนสรุป — เพราะ
    1) การใช้ AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
    2) กฎหมายแรงงานในเยอรมนีค่อนข้างแข็งแรงกว่าประเทศอื่น และ
    3) งานวิจัยยังไม่ครอบคลุม AI สมัยใหม่แบบ LLM

    นักวิจัยยังเน้นด้วยว่า “สถาบันและนโยบายภาครัฐ” จะเป็นตัวกำหนดว่า AI จะทำให้งานดีขึ้นหรือแย่ลง ไม่ใช่ตัวเทคโนโลยีเองล้วน ๆ

    ✅ งานวิจัยจากนักวิจัยในเยอรมนี–อิตาลี–สหรัฐฯ ชี้ว่า AI ยังไม่ส่งผลลบต่อสุขภาพจิตและความพึงพอใจในการทำงาน  
    • โดยเฉพาะในประเทศที่มีแรงงานคุ้มครองสูง เช่น เยอรมนี

    ✅ พบว่า AI อาจมีส่วนช่วยลด “ความเสี่ยงทางร่างกาย” และภาระทางกายในบางอาชีพได้เล็กน้อย  
    • เช่น งานที่เคยหนัก อาจถูกแทนบางส่วนด้วยระบบอัตโนมัติ

    ✅ คนไม่มีปริญญาอาจได้ประโยชน์ทางสุขภาพมากกว่า  
    • จากการที่งานเน้นแรงกายน้อยลง

    ✅ ข้อมูลวิจัยใช้แบบ Longitudinal ครอบคลุมปี 2000–2020  
    • ก่อนเกิดเทคโนโลยี Generative AI แบบ ChatGPT (ปลายปี 2022)

    ✅ นักวิจัยเน้นว่า “นโยบายและสถาบันแรงงาน” มีผลสำคัญต่อผลกระทบของ AI ต่อแรงงาน  
    • ไม่ใช่ตัว AI อย่างเดียวที่กำหนดชะตากรรม

    ✅ Gallup ระบุว่าในสหรัฐฯ อัตราใช้ AI ที่ทำงานเพิ่มขึ้น 2 เท่าใน 2 ปีที่ผ่านมา  
    • มากสุดในสายงาน white-collar อย่างเทคโนโลยีและการเงิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/it039s-still-039too-soon039-to-say-how-ai-will-affect-jobs-researchers-say
    ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า AI จะทำลายหรือต่อยอด “งาน” อย่างไรในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อมองจากข้อมูลเชิงวิชาการที่ยังมีข้อจำกัดด้านพื้นที่, ช่วงเวลา, และประเภท AI ที่ศึกษา ช่วงนี้คนทั่วโลกเริ่มกังวลว่า “AI จะมาแย่งงานไหม?” โดยเฉพาะเมื่อเราเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่หันมาใช้ chatbot และหุ่นยนต์แบบจริงจัง — แต่ทีมนักวิจัยจากเยอรมนี อิตาลี และสหรัฐฯ กลับบอกว่า ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า AI ทำให้คนตกงานหรือเครียดหนักขึ้นจริงในภาพรวม ทีมนี้ใช้ข้อมูลจากเยอรมนี (2000–2020) ก่อนยุค generative AI อย่าง ChatGPT และพบว่า AI อาจช่วยลดความเสี่ยงทางกายภาพของงานบางประเภท และเพิ่มความพึงพอใจในงานเล็กน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานที่ไม่มีปริญญา แต่พวกเขาก็เตือนว่าอย่าด่วนสรุป — เพราะ 1) การใช้ AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น 2) กฎหมายแรงงานในเยอรมนีค่อนข้างแข็งแรงกว่าประเทศอื่น และ 3) งานวิจัยยังไม่ครอบคลุม AI สมัยใหม่แบบ LLM นักวิจัยยังเน้นด้วยว่า “สถาบันและนโยบายภาครัฐ” จะเป็นตัวกำหนดว่า AI จะทำให้งานดีขึ้นหรือแย่ลง ไม่ใช่ตัวเทคโนโลยีเองล้วน ๆ ✅ งานวิจัยจากนักวิจัยในเยอรมนี–อิตาลี–สหรัฐฯ ชี้ว่า AI ยังไม่ส่งผลลบต่อสุขภาพจิตและความพึงพอใจในการทำงาน   • โดยเฉพาะในประเทศที่มีแรงงานคุ้มครองสูง เช่น เยอรมนี ✅ พบว่า AI อาจมีส่วนช่วยลด “ความเสี่ยงทางร่างกาย” และภาระทางกายในบางอาชีพได้เล็กน้อย   • เช่น งานที่เคยหนัก อาจถูกแทนบางส่วนด้วยระบบอัตโนมัติ ✅ คนไม่มีปริญญาอาจได้ประโยชน์ทางสุขภาพมากกว่า   • จากการที่งานเน้นแรงกายน้อยลง ✅ ข้อมูลวิจัยใช้แบบ Longitudinal ครอบคลุมปี 2000–2020   • ก่อนเกิดเทคโนโลยี Generative AI แบบ ChatGPT (ปลายปี 2022) ✅ นักวิจัยเน้นว่า “นโยบายและสถาบันแรงงาน” มีผลสำคัญต่อผลกระทบของ AI ต่อแรงงาน   • ไม่ใช่ตัว AI อย่างเดียวที่กำหนดชะตากรรม ✅ Gallup ระบุว่าในสหรัฐฯ อัตราใช้ AI ที่ทำงานเพิ่มขึ้น 2 เท่าใน 2 ปีที่ผ่านมา   • มากสุดในสายงาน white-collar อย่างเทคโนโลยีและการเงิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/it039s-still-039too-soon039-to-say-how-ai-will-affect-jobs-researchers-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    It's still 'too soon' to say how AI will affect jobs, researchers say
    Using artificial intelligence at work has not caused any discernible damage to employees' mental health or job satisfaction, according to researchers based in Germany, Italy and the US, who nonetheless warn that it is probably "way too soon to draw definitive conclusions" about its effects on jobs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • หั่นกระท้อนแช่อิ่มไวสุด ๆ! ✨
    หั่นเนื้อผลไม้ได้เร็ว เท่ากัน สวยงาม ไม่เละ
    เหมาะกับการผลิต “กระท้อนแช่อิ่ม” ปริมาณมาก
    ใช้งานง่าย ปลอดภัย มีถาดกันมือ พร้อมล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายสะดวก

    ✅ จุดเด่นของเครื่องนี้

    📌 โครงสร้าง สแตนเลส แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นานหลายปี
    📌 หั่นไวต่อเนื่อง 200-300 กก./ชั่วโมง เหมาะกับสายแปรรูปขาย
    📌 ใบมีด แท่งคู่แนวตั้ง หั่นได้ “เท่ากันทุกชิ้น” ไม่เละ ไม่เสียเนื้อ
    📌 มี ถาดกันมือ (Safety) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้
    📌 มีล้อเลื่อน 4 จุด เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องยกให้เมื่อย
    📌 ทำความสะอาดง่าย แยกชิ้นส่วนได้ ไม่ยุ่งยาก
    📌 หั่นกระท้อนแช่อิ่มได้ "พอดีคำ" พร้อมจัดแพ็คขายหรือดองทันที!

    🔧 ข้อมูลทางเทคนิค
    - มอเตอร์: 1.5 แรงม้า
    - กระแสไฟ: 220 โวลต์ (ไฟบ้านทั่วไป)
    - ขนาดเครื่อง: 38.5 x 68 x 81 ซม.
    - น้ำหนัก: 65 กิโลกรัม
    - กำลังผลิต: 200-300 กก./ชั่วโมง

    สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    m.me/yonghahheng👈👈 แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/5H812n9
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องหั่นกระท้อน #เครื่องหั่นผลไม้ #เครื่องหั่นแช่อิ่ม #เครื่องหั่นผลไม้แปรรูป #กระท้อนแช่อิ่ม #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #หั่นกระท้อนเร็ว #เครื่องหั่นผลไม้ดอง #เครื่องหั่นเชิงพาณิชย์ #เครื่องหั่นอุตสาหกรรม #แปรรูปผลไม้ #กระท้อนดอง #กระท้อนแช่อิ่ม #กระท้อนแช่อิ่มโบราณ #กระท้อนแช่อิ่มสูตรดั้งเดิม #กระท้อนแช่อิ่มหวานเย็น #กระท้อนแช่อิ่มขายดี #ผลไม้แช่อิ่ม #ของกินเล่น #ของกินอร่อย #ผลไม้แปรรูป #ของฝากขึ้นชื่อ #กระท้อนดอง #แช่อิ่มทำขาย #กระท้อนพร้อมทาน
    หั่นกระท้อนแช่อิ่มไวสุด ๆ! ✨ หั่นเนื้อผลไม้ได้เร็ว เท่ากัน สวยงาม ไม่เละ เหมาะกับการผลิต “กระท้อนแช่อิ่ม” ปริมาณมาก ใช้งานง่าย ปลอดภัย มีถาดกันมือ พร้อมล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายสะดวก ✅ จุดเด่นของเครื่องนี้ 📌 โครงสร้าง สแตนเลส แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นานหลายปี 📌 หั่นไวต่อเนื่อง 200-300 กก./ชั่วโมง เหมาะกับสายแปรรูปขาย 📌 ใบมีด แท่งคู่แนวตั้ง หั่นได้ “เท่ากันทุกชิ้น” ไม่เละ ไม่เสียเนื้อ 📌 มี ถาดกันมือ (Safety) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ 📌 มีล้อเลื่อน 4 จุด เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องยกให้เมื่อย 📌 ทำความสะอาดง่าย แยกชิ้นส่วนได้ ไม่ยุ่งยาก 📌 หั่นกระท้อนแช่อิ่มได้ "พอดีคำ" พร้อมจัดแพ็คขายหรือดองทันที! 🔧 ข้อมูลทางเทคนิค - มอเตอร์: 1.5 แรงม้า - กระแสไฟ: 220 โวลต์ (ไฟบ้านทั่วไป) - ขนาดเครื่อง: 38.5 x 68 x 81 ซม. - น้ำหนัก: 65 กิโลกรัม - กำลังผลิต: 200-300 กก./ชั่วโมง สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน m.me/yonghahheng👈👈 แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/5H812n9 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #เครื่องหั่นกระท้อน #เครื่องหั่นผลไม้ #เครื่องหั่นแช่อิ่ม #เครื่องหั่นผลไม้แปรรูป #กระท้อนแช่อิ่ม #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #หั่นกระท้อนเร็ว #เครื่องหั่นผลไม้ดอง #เครื่องหั่นเชิงพาณิชย์ #เครื่องหั่นอุตสาหกรรม #แปรรูปผลไม้ #กระท้อนดอง #กระท้อนแช่อิ่ม #กระท้อนแช่อิ่มโบราณ #กระท้อนแช่อิ่มสูตรดั้งเดิม #กระท้อนแช่อิ่มหวานเย็น #กระท้อนแช่อิ่มขายดี #ผลไม้แช่อิ่ม #ของกินเล่น #ของกินอร่อย #ผลไม้แปรรูป #ของฝากขึ้นชื่อ #กระท้อนดอง #แช่อิ่มทำขาย #กระท้อนพร้อมทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts