• เราคงคุ้นกับ PNG ในฐานะไฟล์ภาพพื้นหลังโปร่งใสและความละเอียดสูง แต่ที่จริง PNG ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 1995 เพื่อมาแทน GIF ที่ติดลิขสิทธิ์ของ Unisys สมัยนั้น

    หลังจากนั้น PNG ก็แทบไม่เคยเปลี่ยนแปลงสำคัญเลย — จนมาถึงปี 2025 นี้ ที่ W3C (องค์กรมาตรฐานเว็บ) ประกาศ PNG เวอร์ชันที่ 3 ที่เพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ให้ทันยุคจอ HDR และการแชร์ภาพผ่านโซเชียล/โปรแกรมแต่งภาพระดับมืออาชีพ เช่น:
    - รองรับ HDR โดยใช้วิธีฝัง CICP (ข้อมูล color space แบบประหยัดพื้นที่)
    - รองรับภาพเคลื่อนไหวแบบเป็นทางการ (เคยมีตั้งแต่ 2001 แต่ไม่อยู่ในสเปคหลัก)
    - ฝังข้อมูล Exif ได้ เช่น GPS, สิทธิ์ลิขสิทธิ์, กล้อง/เลนส์ที่ใช้

    แม้จะอัปเกรดชุดใหญ่ แต่เบราว์เซอร์หลักอย่าง Chrome, Firefox, Safari และ Edge ก็รองรับ PNG เวอร์ชันใหม่นี้แล้ว ทั้งบน Windows, macOS, iOS และ Android

    PNG อัปเดตเป็นสเปคเวอร์ชันที่ 3 ครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี  
    • จัดทำโดย W3C ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก Google, Apple, Adobe, BBC, NBCUniversal, MovieLabs  
    • PNG เดิมมีมานานตั้งแต่ปี 1995 เป็นไฟล์ฟรี ไร้ลิขสิทธิ์จากยุค GIF

    เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่:  
    • รองรับ HDR (High Dynamic Range) ด้วย CICP (Compact Color Identification Protocol)  
    • รองรับภาพเคลื่อนไหว (Animation) อย่างเป็นทางการ  
    • รองรับ Exif Metadata เช่น กล้อง, GPS, ลิขสิทธิ์

    เบราว์เซอร์หลักและระบบปฏิบัติการทันสมัยรองรับ PNG เวอร์ชันนี้แล้วทันที  
    • รวมถึง Firefox, Safari, Chrome, macOS, iOS, และแอปแต่งภาพอย่าง Photoshop, DaVinci Resolve

    PNG HDR รองรับแสงสีที่สว่าง–ดำสนิทมากขึ้น โดยไม่เพิ่มขนาดไฟล์มากนัก  
    • เหมาะกับจอ HDR และการนำเสนอกราฟิกยุคใหม่

    อนาคตจะมี PNG เวอร์ชัน 4–5 ต่อไปเพื่อปรับ SDR/HDR และเพิ่มอัตราการบีบอัด

    https://www.techspot.com/news/108483-png-image-format-receives-hdr-animation-support-first.html
    เราคงคุ้นกับ PNG ในฐานะไฟล์ภาพพื้นหลังโปร่งใสและความละเอียดสูง แต่ที่จริง PNG ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 1995 เพื่อมาแทน GIF ที่ติดลิขสิทธิ์ของ Unisys สมัยนั้น หลังจากนั้น PNG ก็แทบไม่เคยเปลี่ยนแปลงสำคัญเลย — จนมาถึงปี 2025 นี้ ที่ W3C (องค์กรมาตรฐานเว็บ) ประกาศ PNG เวอร์ชันที่ 3 ที่เพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ให้ทันยุคจอ HDR และการแชร์ภาพผ่านโซเชียล/โปรแกรมแต่งภาพระดับมืออาชีพ เช่น: - รองรับ HDR โดยใช้วิธีฝัง CICP (ข้อมูล color space แบบประหยัดพื้นที่) - รองรับภาพเคลื่อนไหวแบบเป็นทางการ (เคยมีตั้งแต่ 2001 แต่ไม่อยู่ในสเปคหลัก) - ฝังข้อมูล Exif ได้ เช่น GPS, สิทธิ์ลิขสิทธิ์, กล้อง/เลนส์ที่ใช้ แม้จะอัปเกรดชุดใหญ่ แต่เบราว์เซอร์หลักอย่าง Chrome, Firefox, Safari และ Edge ก็รองรับ PNG เวอร์ชันใหม่นี้แล้ว ทั้งบน Windows, macOS, iOS และ Android ✅ PNG อัปเดตเป็นสเปคเวอร์ชันที่ 3 ครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี   • จัดทำโดย W3C ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก Google, Apple, Adobe, BBC, NBCUniversal, MovieLabs   • PNG เดิมมีมานานตั้งแต่ปี 1995 เป็นไฟล์ฟรี ไร้ลิขสิทธิ์จากยุค GIF ✅ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่:   • รองรับ HDR (High Dynamic Range) ด้วย CICP (Compact Color Identification Protocol)   • รองรับภาพเคลื่อนไหว (Animation) อย่างเป็นทางการ   • รองรับ Exif Metadata เช่น กล้อง, GPS, ลิขสิทธิ์ ✅ เบราว์เซอร์หลักและระบบปฏิบัติการทันสมัยรองรับ PNG เวอร์ชันนี้แล้วทันที   • รวมถึง Firefox, Safari, Chrome, macOS, iOS, และแอปแต่งภาพอย่าง Photoshop, DaVinci Resolve ✅ PNG HDR รองรับแสงสีที่สว่าง–ดำสนิทมากขึ้น โดยไม่เพิ่มขนาดไฟล์มากนัก   • เหมาะกับจอ HDR และการนำเสนอกราฟิกยุคใหม่ ✅ อนาคตจะมี PNG เวอร์ชัน 4–5 ต่อไปเพื่อปรับ SDR/HDR และเพิ่มอัตราการบีบอัด https://www.techspot.com/news/108483-png-image-format-receives-hdr-animation-support-first.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    PNG image format receives HDR and animation support in first spec update in decades
    The World Wide Web Consortium (W3C), which manages web standards and guidelines, recently published new specifications for the PNG (Portable Network Graphics) image format. The updated format...
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • เปิด Firefox แล้วจอดำ หรืออยู่ดี ๆ ก็ปิดตัวเองไปเฉย ๆ — อาการนี้หลายคนเจอหลังอัปเดตเป็น Firefox 140 ได้ไม่กี่วัน ล่าสุด Mozilla ออก Firefox 140.0.1 เพื่อแก้จุดที่หลายเครื่องโดน “DLL injection” แล้วทำให้บราวเซอร์แครชตั้งแต่เปิด

    ส่วนคนที่ใช้ธีมสีเข้มหรือ dark mode ก็อาจเคยเจอ “ตัวหนังสือสีดำบนพื้นหลังดำ” ใน sidebar ที่ทำให้อ่านแทบไม่ได้ — อัปเดตนี้ก็แก้ให้แล้วเรียบร้อย

    ใครใช้ Windows 10/11 สามารถเข้าไปที่เมนู Help > About Firefox เพื่ออัปเดต หรือโหลดจาก firefox.com หรือ Microsoft Store ได้เลย

    สำหรับ Firefox 140 ตัวหลักที่เพิ่งออกวันที่ 24 มิ.ย. ก็มีของใหม่เพียบ เช่น:
    - ย่อ/ขยาย pinned tab ได้ตอนใช้ vertical tabs
    - สั่ง unload tab ผ่านคลิกขวา
    - รองรับ search engine แบบ custom
    - ลบ Pocket ออกจาก new tab แล้ว เพราะ Mozilla ปิดบริการไปแล้ว

    https://www.neowin.net/news/mozilla-fixes-firefox-crashes-on-startup-and-other-issues/
    เปิด Firefox แล้วจอดำ หรืออยู่ดี ๆ ก็ปิดตัวเองไปเฉย ๆ — อาการนี้หลายคนเจอหลังอัปเดตเป็น Firefox 140 ได้ไม่กี่วัน ล่าสุด Mozilla ออก Firefox 140.0.1 เพื่อแก้จุดที่หลายเครื่องโดน “DLL injection” แล้วทำให้บราวเซอร์แครชตั้งแต่เปิด ส่วนคนที่ใช้ธีมสีเข้มหรือ dark mode ก็อาจเคยเจอ “ตัวหนังสือสีดำบนพื้นหลังดำ” ใน sidebar ที่ทำให้อ่านแทบไม่ได้ — อัปเดตนี้ก็แก้ให้แล้วเรียบร้อย ใครใช้ Windows 10/11 สามารถเข้าไปที่เมนู Help > About Firefox เพื่ออัปเดต หรือโหลดจาก firefox.com หรือ Microsoft Store ได้เลย สำหรับ Firefox 140 ตัวหลักที่เพิ่งออกวันที่ 24 มิ.ย. ก็มีของใหม่เพียบ เช่น: - ย่อ/ขยาย pinned tab ได้ตอนใช้ vertical tabs - สั่ง unload tab ผ่านคลิกขวา - รองรับ search engine แบบ custom - ลบ Pocket ออกจาก new tab แล้ว เพราะ Mozilla ปิดบริการไปแล้ว https://www.neowin.net/news/mozilla-fixes-firefox-crashes-on-startup-and-other-issues/
    WWW.NEOWIN.NET
    Mozilla fixes Firefox crashes on startup and other issues
    Mozilla has released a small update for the Firefox browser to address crashes on startup and problems with dark themes.
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • ใครที่ใช้ Firefox แล้วเปิดแท็บเป็นสิบ ๆ จนเครื่องอืด ตอนนี้หายใจได้โล่งขึ้น! เพราะ Firefox 140 มีฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Tab Unload ให้คุณกดขวาที่แท็บแล้วเลือก "Unload Tab" เพื่อ “ถอดแท็บนั้นออกจาก RAM” โดยที่ยังอยู่ในแถบเหมือนเดิม — คล้ายกับฟีเจอร์ใน Chrome หรือ Edge ที่ช่วยประหยัดแรมได้ดีมาก ๆ

    นอกจากนี้ Firefox ยังเปิดให้เราตั้ง custom search engine ได้เองแล้ว (ก่อนหน้านี้ต้องแฮกหรือใช้ extension) แค่คลิกขวาที่ช่องค้นหาบนเว็บแล้วเพิ่มเข้าไป หรือใส่เองใน Settings ก็ได้เลย

    ส่วนสาย vertical tabs ก็ถูกใจแน่นอน เพราะ ลากปรับความกว้างของ pinned tab ได้แล้ว ไม่ต้องทนกับความแคบแบบเดิม

    ฝั่ง ESR ก็เปลี่ยนฐานเวอร์ชันไปเป็น Firefox 140 เช่นกัน โดยมัดรวมฟีเจอร์ที่สะสมมาตั้งแต่รุ่น 115 ทั้ง tab group, sidebar ใหม่, และการป้องกัน bounce tracking — เรียกได้ว่าองค์กรที่รอความเสถียร...ได้ของครบทีเดียว

    สุดท้าย Mozilla ยัง ตัด Pocket ออกอย่างเป็นทางการแล้ว ทั้งไอคอนและหน้า New Tab ก็ไม่มีอีกต่อไป เป็นสัญญาณว่ากำลังปรับอินเทอร์เฟซให้เบาขึ้น และไม่พึ่งพาบริการที่เลิกพัฒนา

    ไฮไลต์ฟีเจอร์ใหม่ของ Firefox 140:
    Tab Unload  
    • คลิกขวา > “Unload Tab” เพื่อถอดแท็บออกจาก RAM โดยไม่ต้องปิด  
    • ช่วยให้เบราว์เซอร์เร็วขึ้นหากเปิดแท็บเยอะ

    เพิ่ม custom search engine ด้วยตัวเองได้แล้ว  
    • คลิกขวาที่ช่องค้นหาบนเว็บ > Add to Firefox  
    • หรือเพิ่มเองใน Settings

    ปรับขนาดโซน pinned tabs ได้ (สำหรับผู้ใช้ vertical tab)  
    • ลาก divider เพื่อปรับความกว้างตามใจ

    ลบ Pocket ออกไปอย่างถาวร  
    • ไม่มีใน New Tab และไม่มีไอคอนบน toolbar อีกแล้ว

    Firefox ESR ใหม่ใช้ฐานเวอร์ชัน 140 แล้ว  
    • ได้ฟีเจอร์สะสมจากรุ่นก่อนหน้า เช่น vertical tabs, tab grouping, sidebar ใหม่, bounce tracking protection

    การแปลภาษาแบบเต็มหน้าจอฉลาดขึ้น  
    • จะแปลเนื้อหาที่ผู้ใช้กำลังมองอยู่ก่อน เพิ่มความเร็ว

    Address autofill รองรับประเทศใหม่: อิตาลี, โปแลนด์, ออสเตรีย

    Firefox ภาษาอาหรับมี dictionary สำหรับ spell checker แล้ว

    นักพัฒนาได้ API ใหม่ เช่น CookieStore API และ Service Worker ในโหมด Private

    ลบปุ่ม Extensions ออกจาก toolbar ได้แล้ว (บางคนไม่ได้ใช้อยู่ดี)

    https://www.neowin.net/news/firefox-140-released-bringing-custom-search-engine-new-esr-and-more/
    ใครที่ใช้ Firefox แล้วเปิดแท็บเป็นสิบ ๆ จนเครื่องอืด ตอนนี้หายใจได้โล่งขึ้น! เพราะ Firefox 140 มีฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Tab Unload ให้คุณกดขวาที่แท็บแล้วเลือก "Unload Tab" เพื่อ “ถอดแท็บนั้นออกจาก RAM” โดยที่ยังอยู่ในแถบเหมือนเดิม — คล้ายกับฟีเจอร์ใน Chrome หรือ Edge ที่ช่วยประหยัดแรมได้ดีมาก ๆ นอกจากนี้ Firefox ยังเปิดให้เราตั้ง custom search engine ได้เองแล้ว (ก่อนหน้านี้ต้องแฮกหรือใช้ extension) แค่คลิกขวาที่ช่องค้นหาบนเว็บแล้วเพิ่มเข้าไป หรือใส่เองใน Settings ก็ได้เลย ส่วนสาย vertical tabs ก็ถูกใจแน่นอน เพราะ ลากปรับความกว้างของ pinned tab ได้แล้ว ไม่ต้องทนกับความแคบแบบเดิม ฝั่ง ESR ก็เปลี่ยนฐานเวอร์ชันไปเป็น Firefox 140 เช่นกัน โดยมัดรวมฟีเจอร์ที่สะสมมาตั้งแต่รุ่น 115 ทั้ง tab group, sidebar ใหม่, และการป้องกัน bounce tracking — เรียกได้ว่าองค์กรที่รอความเสถียร...ได้ของครบทีเดียว สุดท้าย Mozilla ยัง ตัด Pocket ออกอย่างเป็นทางการแล้ว ทั้งไอคอนและหน้า New Tab ก็ไม่มีอีกต่อไป เป็นสัญญาณว่ากำลังปรับอินเทอร์เฟซให้เบาขึ้น และไม่พึ่งพาบริการที่เลิกพัฒนา ☀️☀️ ไฮไลต์ฟีเจอร์ใหม่ของ Firefox 140: ✅ Tab Unload   • คลิกขวา > “Unload Tab” เพื่อถอดแท็บออกจาก RAM โดยไม่ต้องปิด   • ช่วยให้เบราว์เซอร์เร็วขึ้นหากเปิดแท็บเยอะ ✅ เพิ่ม custom search engine ด้วยตัวเองได้แล้ว   • คลิกขวาที่ช่องค้นหาบนเว็บ > Add to Firefox   • หรือเพิ่มเองใน Settings ✅ ปรับขนาดโซน pinned tabs ได้ (สำหรับผู้ใช้ vertical tab)   • ลาก divider เพื่อปรับความกว้างตามใจ ✅ ลบ Pocket ออกไปอย่างถาวร   • ไม่มีใน New Tab และไม่มีไอคอนบน toolbar อีกแล้ว ✅ Firefox ESR ใหม่ใช้ฐานเวอร์ชัน 140 แล้ว   • ได้ฟีเจอร์สะสมจากรุ่นก่อนหน้า เช่น vertical tabs, tab grouping, sidebar ใหม่, bounce tracking protection ✅ การแปลภาษาแบบเต็มหน้าจอฉลาดขึ้น   • จะแปลเนื้อหาที่ผู้ใช้กำลังมองอยู่ก่อน เพิ่มความเร็ว ✅ Address autofill รองรับประเทศใหม่: อิตาลี, โปแลนด์, ออสเตรีย ✅ Firefox ภาษาอาหรับมี dictionary สำหรับ spell checker แล้ว ✅ นักพัฒนาได้ API ใหม่ เช่น CookieStore API และ Service Worker ในโหมด Private ✅ ลบปุ่ม Extensions ออกจาก toolbar ได้แล้ว (บางคนไม่ได้ใช้อยู่ดี) https://www.neowin.net/news/firefox-140-released-bringing-custom-search-engine-new-esr-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Firefox 140 released bringing custom search engine, new ESR, and more
    Firefox 140 has been released with several new features, including tab unloading, custom search engines, and more.
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • Texas Instruments เป็นผู้ผลิตชิปอนาล็อกรายใหญ่ระดับโลก (ใช้ควบคุมพลังงาน, สัญญาณ, sensor ต่าง ๆ) ซึ่งเจ้าใหญ่ ๆ อย่าง Apple, NVIDIA, Ford, Medtronic และ SpaceX ต่างเป็นลูกค้าหลัก คราวนี้ TI ออกมาประกาศว่าจะลงทุนรวมกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ใน “สายการผลิตขนาด 300 มม.” ทั้งหมด 7 แห่ง ทั่วสหรัฐฯ ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า

    ไฮไลต์ของแผนคือ “การยกระดับ 3 mega-site” ได้แก่ที่เมือง Sherman (เทกซัส), Richardson (เทกซัส), และ Lehi (ยูทาห์) — โดยเฉพาะ ไซต์ Sherman ได้งบถึง 40,000 ล้านดอลลาร์! เพื่อสร้างโรงงาน SM1 และ SM2 ให้เสร็จ และวางแผนเริ่ม SM3 และ SM4 เพื่อรองรับ “ดีมานด์ในอนาคต”

    ฝั่ง Lehi กับ Richardson ก็ไม่น้อยหน้า — TI เตรียมอัปเกรดสายการผลิต พร้อมเร่งสร้างโรงงานน้องใหม่อย่าง LFAB2 ไปพร้อมกัน

    แม้ TI จะเคยได้รับคำสัญญาจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะสนับสนุนเงิน $1.6 พันล้านภายใต้ CHIPS Act (เพื่อขยายไลน์ผลิตให้ทันสมัยขึ้น) แต่ครั้งนี้ TI ไม่ได้พูดถึงเงินสนับสนุนใด ๆ — ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่านี่อาจเป็น “เกมการเมืองล่วงหน้า” เพื่อแสดงความร่วมมือก่อนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ตัดสินใจรอบใหม่ว่าจะจ่ายจริงหรือไม่

    แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แผนนี้จะสร้างงานหลายหมื่นตำแหน่ง และเป็นประโยชน์ต่อระบบการศึกษาในพื้นที่โดยตรง เช่น สนับสนุนโรงเรียนในพื้นที่ให้สร้าง pipeline ป้อนเด็กเข้าโรงงานของ TI โดยตรงเลย!

    Texas Instruments จะลงทุนกว่า $60 พันล้านในโรงงานผลิตชิป 7 แห่งในสหรัฐฯ  
    • ถือเป็นการลงทุนด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    เน้นที่โรงงานขนาด 300 มม. (wafer)  
    • ใช้ผลิต “ชิปอนาล็อกพื้นฐาน” ที่จำเป็นกับอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภท

    ไซต์หลัก 3 แห่ง: Sherman, Richardson (เทกซัส) และ Lehi (ยูทาห์)  
    • Sherman ได้งบกว่า $40B สร้าง SM1–SM4  
    • Lehi จะเร่งสร้าง LFAB2 และเร่งกำลังผลิต  
    • Richardson เพิ่ม output ของ fab ที่ 2

    มีลูกค้ารายใหญ่อย่าง Apple, NVIDIA, Medtronic, Ford, SpaceX ออกมาหนุน  
    • แสดงให้เห็นว่าแผนนี้ “ได้รับการสนับสนุนระดับ ecosystem”

    ตั้งเป้าเสริม supply chain ภายในประเทศ ไม่พึ่งพาต่างชาติ  
    • สอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

    ยังไม่ชัดว่าเงินทุนทั้งหมดจะมาจาก TI จริง หรือรอ CHIPS Act อนุมัติอยู่เบื้องหลัง  
    • มีผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสงสัยว่าแผนนี้อาจมี “กลยุทธ์การเมือง” แฝงอยู่

    TI ไม่พูดถึงการพัฒนา node ขั้นสูง (เช่น sub-7nm หรือ AI chip)  
    • ชิปของ TI ยังอยู่ในหมวด “foundational analog” ซึ่งแม้จำเป็น แต่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเท่าคู่แข่ง

    แรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในการตั้งโรงงานในประเทศ อาจสร้างภาระด้านต้นทุนกับบริษัท  
    • โดยเฉพาะหากต้องแข่งขันด้านราคากับผู้ผลิตในเอเชีย

    ยังไม่มีไทม์ไลน์ชัดเจนสำหรับสายผลิตใหม่หลายแห่ง เช่น SM3/SM4 ที่อยู่ในขั้น “แผนล่วงหน้า”  
    • อาจล่าช้าหากเงินทุนไม่มากพอ หรือเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/texas-instruments-commits-usd60-billion-to-u-s-semiconductor-manufacturing-includes-planned-expansions-to-texas-utah-fabs
    Texas Instruments เป็นผู้ผลิตชิปอนาล็อกรายใหญ่ระดับโลก (ใช้ควบคุมพลังงาน, สัญญาณ, sensor ต่าง ๆ) ซึ่งเจ้าใหญ่ ๆ อย่าง Apple, NVIDIA, Ford, Medtronic และ SpaceX ต่างเป็นลูกค้าหลัก คราวนี้ TI ออกมาประกาศว่าจะลงทุนรวมกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ใน “สายการผลิตขนาด 300 มม.” ทั้งหมด 7 แห่ง ทั่วสหรัฐฯ ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ไฮไลต์ของแผนคือ “การยกระดับ 3 mega-site” ได้แก่ที่เมือง Sherman (เทกซัส), Richardson (เทกซัส), และ Lehi (ยูทาห์) — โดยเฉพาะ ไซต์ Sherman ได้งบถึง 40,000 ล้านดอลลาร์! เพื่อสร้างโรงงาน SM1 และ SM2 ให้เสร็จ และวางแผนเริ่ม SM3 และ SM4 เพื่อรองรับ “ดีมานด์ในอนาคต” ฝั่ง Lehi กับ Richardson ก็ไม่น้อยหน้า — TI เตรียมอัปเกรดสายการผลิต พร้อมเร่งสร้างโรงงานน้องใหม่อย่าง LFAB2 ไปพร้อมกัน แม้ TI จะเคยได้รับคำสัญญาจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะสนับสนุนเงิน $1.6 พันล้านภายใต้ CHIPS Act (เพื่อขยายไลน์ผลิตให้ทันสมัยขึ้น) แต่ครั้งนี้ TI ไม่ได้พูดถึงเงินสนับสนุนใด ๆ — ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่านี่อาจเป็น “เกมการเมืองล่วงหน้า” เพื่อแสดงความร่วมมือก่อนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ตัดสินใจรอบใหม่ว่าจะจ่ายจริงหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แผนนี้จะสร้างงานหลายหมื่นตำแหน่ง และเป็นประโยชน์ต่อระบบการศึกษาในพื้นที่โดยตรง เช่น สนับสนุนโรงเรียนในพื้นที่ให้สร้าง pipeline ป้อนเด็กเข้าโรงงานของ TI โดยตรงเลย! ✅ Texas Instruments จะลงทุนกว่า $60 พันล้านในโรงงานผลิตชิป 7 แห่งในสหรัฐฯ   • ถือเป็นการลงทุนด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ✅ เน้นที่โรงงานขนาด 300 มม. (wafer)   • ใช้ผลิต “ชิปอนาล็อกพื้นฐาน” ที่จำเป็นกับอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภท ✅ ไซต์หลัก 3 แห่ง: Sherman, Richardson (เทกซัส) และ Lehi (ยูทาห์)   • Sherman ได้งบกว่า $40B สร้าง SM1–SM4   • Lehi จะเร่งสร้าง LFAB2 และเร่งกำลังผลิต   • Richardson เพิ่ม output ของ fab ที่ 2 ✅ มีลูกค้ารายใหญ่อย่าง Apple, NVIDIA, Medtronic, Ford, SpaceX ออกมาหนุน   • แสดงให้เห็นว่าแผนนี้ “ได้รับการสนับสนุนระดับ ecosystem” ✅ ตั้งเป้าเสริม supply chain ภายในประเทศ ไม่พึ่งพาต่างชาติ   • สอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ‼️ ยังไม่ชัดว่าเงินทุนทั้งหมดจะมาจาก TI จริง หรือรอ CHIPS Act อนุมัติอยู่เบื้องหลัง   • มีผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสงสัยว่าแผนนี้อาจมี “กลยุทธ์การเมือง” แฝงอยู่ ‼️ TI ไม่พูดถึงการพัฒนา node ขั้นสูง (เช่น sub-7nm หรือ AI chip)   • ชิปของ TI ยังอยู่ในหมวด “foundational analog” ซึ่งแม้จำเป็น แต่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเท่าคู่แข่ง ‼️ แรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในการตั้งโรงงานในประเทศ อาจสร้างภาระด้านต้นทุนกับบริษัท   • โดยเฉพาะหากต้องแข่งขันด้านราคากับผู้ผลิตในเอเชีย ‼️ ยังไม่มีไทม์ไลน์ชัดเจนสำหรับสายผลิตใหม่หลายแห่ง เช่น SM3/SM4 ที่อยู่ในขั้น “แผนล่วงหน้า”   • อาจล่าช้าหากเงินทุนไม่มากพอ หรือเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/texas-instruments-commits-usd60-billion-to-u-s-semiconductor-manufacturing-includes-planned-expansions-to-texas-utah-fabs
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Texas Instruments commits $60 billion to U.S. semiconductor manufacturing — includes planned expansions to Texas, Utah fabs
    Texas Instruments announces investments in seven upcoming U.S. 300mm fabs, though we already knew about five
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • คำพูดของทรัมป์ในปี 2011:

    โอบามาจะเริ่มสงครามกับอิหร่าน เพราะเขาไม่มีความสามารถในการเจรจาเลย

    Obama will start a war with Iran, because he has absolutely no ability to negotiate.
    คำพูดของทรัมป์ในปี 2011: โอบามาจะเริ่มสงครามกับอิหร่าน เพราะเขาไม่มีความสามารถในการเจรจาเลย Obama will start a war with Iran, because he has absolutely no ability to negotiate.
    0 Comments 0 Shares 180 Views 10 0 Reviews
  • ซินโครตรอน อว. เปิดตัว 2 นวัตกรรมล้ำสมัย “เครื่องสังเคราะห์กราฟีน” และ “เครื่องเคลือบฟิล์ม DLC” ยกระดับอุตสาหกรรมไทยในงาน Thailand Research Expo 2025

    สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมแสดงผลงานในงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ Thailand Research Expo 2025 ชู 2 นวัตกรรมก้าวล้ำพร้อมต่อยอดสู่การยกระดับอุตสาหกรรมไทย “เครื่องสังเคราะห์กราฟีนในระดับอุตสาหกรรม” และ “เครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม”

    กรุงเทพฯ – สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้นำผลงานมาร่วมจัดแสดงภายในงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ 2568 หรือ Thailand Research Expo 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568
    ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ จำนวน 2 ผลงาน คือ “เครื่องสังเคราะห์กราฟีนสู่การนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์” และ“เครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม” โดยจัดแสดงที่บูธ CL2 ภายในโซนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาเศรษฐกิจ

    ดร.พัฒนพงศ์ จันทร์พวง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเทคนิคและวิศวกรรม และหัวหน้าทีมวิจัยเครื่องสังเคราะห์กราฟีนฯ กล่าวว่า “กราฟีนเป็นคาร์บอนที่มีการจัดเรียงตัวในลักษณะ 2 มิติ ทำให้มีคุณสมบัติที่แข็งแรงกว่าเหล็กกล้าถึง 200 เท่า, นำไฟฟ้าได้ดีกว่าโลหะทองแดง, น้ำหนักเบา, แผ่ความร้อนได้ดี และความยืดหยุ่นสูง จึงถูกนำไปประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีหลากหลายด้าน เช่น อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง, การแพทย์, และการกักเก็บพลังงาน เป็นต้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการสังเคราะห์กราฟีนหลายวิธี แต่ละวิธีก็มีข้อจำกัดแตกต่างกัน ซึ่งวิธีที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการสังเคราะห์กราฟีนให้ได้ระดับอุตสาหกรรม คือวิธี Flash Joule Heating (FJH) ที่อาศัยการจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงสูงในเวลาฉับพลันผ่านผงคาร์บอนที่ได้จากขยะ จนทำให้เกิดความร้อนสูงกว่า 2700 องศาเซลเซียส แล้วเกิดการสลายพันธะระหว่างอะตอมของคาร์บอนกับแก๊ส หลังอุณหภูมิลดลงอะตอมของคาร์บอนจะจัดเรียงตัวกันกลายเป็นกราฟีนในเสี้ยววินาที”

    “ทั้งนี้ สถาบันฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบสังเคราะห์กราฟีนด้วยเทคนิคความร้อนกระตุ้นแบบพัลส์ยาว (Long-Pulse Joule Heating: LPJH) ที่มีกำลังผลิตวันละ 1 กิโลกรัม โดยอ้างอิงหลักการสังเคราะห์กราฟีนโดยใช้เทคนิค FJH และได้ศึกษาและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์กราฟีนจากขยะเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ใบอ้อยและชานอ้อยจากอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาล อุตสาหกรรมพอลิเมอร์, เศษผ้าและเสื้อผ้าเก่าจากอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้ศึกษา พัฒนา และประยุกต์ใช้ กราฟีนที่ผลิตได้ สำหรับพัฒนาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้างและคอนกรีต, อุตสาหกรรมยางและพอลิเมอร์, อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ, อุตสาหกรรมสีเคลือบ เป็นต้น” ดร.พัฒนพงศ์ จันทร์พวง กล่าว

    อีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญคือ เครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซี (DLC) สำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ซึ่ง
    ดร.ศรายุทธ ตั้นมี หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กรและหัวหน้าทีมวิจัยเครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีฯ อธิบายว่า “สิ่งปนเปื้อนในน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติก่อให้เกิดการกัดกร่อนของชิ้นส่วนทางวิศวกรรมในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ส่งผลให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในกระบวนการบำรุงรักษาทั้งการซ่อมและเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ และยังส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อประเทศด้วย โดยเทคโนโลยีการเคลือบฟิล์มคาร์บอนคล้ายเพชร หรือ ฟิล์มดีแอลซี (DLC) ช่วยเพิ่มสมบัติความแข็ง ต้านการสึกกร่อนและการกัดกร่อน และลดแรงเสียดทานให้กับชิ้นส่วนอุตสาหกรรมได้”

    “สถาบันฯ ได้ร่วมกับ บริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน) พัฒนาเครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเป็นเครื่องแรกของประเทศไทย เพื่อลดต้นทุนการนำเข้าจากต่างประเทศ และยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล เครื่องต้นแบบเครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซีฯ นี้ ใช้เทคโนโลยีพลาสมาและการเคลือบฟิล์มด้วยเทคนิคการใช้พลาสมาเพิ่มการตกสะสมของไอเชิงเคมี (RF-PECVD) เพื่อสังเคราะห์ฟิล์มดีแอลซี และใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนขั้นสูง Near Edge X-ray Absorption Fine Structure (NEXAFS) เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างฟิล์มดีแอลซี และศึกษาการกระจายตัวของพันธะคาร์บอน ซึ่งฟิล์มดีแอลซีที่พัฒนาขึ้นนี้มีคุณสมบัติต้านการสึกกร่อนและการกัดกร่อนสูง เหมาะสมกับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ช่วยลดต้นทุนการซ่อมบำรุง และสามารถทดแทนวัสดุนำเข้าราคาแพงได้” ดร.ศรายุทธ ตั้นมี กล่าว

    สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมทั้ง 2 นวัตกรรมของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ได้ที่ บูธ CL2 ในงาน Thailand Research Expo 2025 ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.00 น. ระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
    ซินโครตรอน อว. เปิดตัว 2 นวัตกรรมล้ำสมัย “เครื่องสังเคราะห์กราฟีน” และ “เครื่องเคลือบฟิล์ม DLC” ยกระดับอุตสาหกรรมไทยในงาน Thailand Research Expo 2025 สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมแสดงผลงานในงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ Thailand Research Expo 2025 ชู 2 นวัตกรรมก้าวล้ำพร้อมต่อยอดสู่การยกระดับอุตสาหกรรมไทย “เครื่องสังเคราะห์กราฟีนในระดับอุตสาหกรรม” และ “เครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม” กรุงเทพฯ – สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้นำผลงานมาร่วมจัดแสดงภายในงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ 2568 หรือ Thailand Research Expo 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ จำนวน 2 ผลงาน คือ “เครื่องสังเคราะห์กราฟีนสู่การนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์” และ“เครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม” โดยจัดแสดงที่บูธ CL2 ภายในโซนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาเศรษฐกิจ ดร.พัฒนพงศ์ จันทร์พวง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเทคนิคและวิศวกรรม และหัวหน้าทีมวิจัยเครื่องสังเคราะห์กราฟีนฯ กล่าวว่า “กราฟีนเป็นคาร์บอนที่มีการจัดเรียงตัวในลักษณะ 2 มิติ ทำให้มีคุณสมบัติที่แข็งแรงกว่าเหล็กกล้าถึง 200 เท่า, นำไฟฟ้าได้ดีกว่าโลหะทองแดง, น้ำหนักเบา, แผ่ความร้อนได้ดี และความยืดหยุ่นสูง จึงถูกนำไปประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีหลากหลายด้าน เช่น อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง, การแพทย์, และการกักเก็บพลังงาน เป็นต้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการสังเคราะห์กราฟีนหลายวิธี แต่ละวิธีก็มีข้อจำกัดแตกต่างกัน ซึ่งวิธีที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการสังเคราะห์กราฟีนให้ได้ระดับอุตสาหกรรม คือวิธี Flash Joule Heating (FJH) ที่อาศัยการจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงสูงในเวลาฉับพลันผ่านผงคาร์บอนที่ได้จากขยะ จนทำให้เกิดความร้อนสูงกว่า 2700 องศาเซลเซียส แล้วเกิดการสลายพันธะระหว่างอะตอมของคาร์บอนกับแก๊ส หลังอุณหภูมิลดลงอะตอมของคาร์บอนจะจัดเรียงตัวกันกลายเป็นกราฟีนในเสี้ยววินาที” “ทั้งนี้ สถาบันฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบสังเคราะห์กราฟีนด้วยเทคนิคความร้อนกระตุ้นแบบพัลส์ยาว (Long-Pulse Joule Heating: LPJH) ที่มีกำลังผลิตวันละ 1 กิโลกรัม โดยอ้างอิงหลักการสังเคราะห์กราฟีนโดยใช้เทคนิค FJH และได้ศึกษาและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์กราฟีนจากขยะเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ใบอ้อยและชานอ้อยจากอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาล อุตสาหกรรมพอลิเมอร์, เศษผ้าและเสื้อผ้าเก่าจากอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้ศึกษา พัฒนา และประยุกต์ใช้ กราฟีนที่ผลิตได้ สำหรับพัฒนาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้างและคอนกรีต, อุตสาหกรรมยางและพอลิเมอร์, อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ, อุตสาหกรรมสีเคลือบ เป็นต้น” ดร.พัฒนพงศ์ จันทร์พวง กล่าว อีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญคือ เครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซี (DLC) สำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ซึ่ง ดร.ศรายุทธ ตั้นมี หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กรและหัวหน้าทีมวิจัยเครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีฯ อธิบายว่า “สิ่งปนเปื้อนในน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติก่อให้เกิดการกัดกร่อนของชิ้นส่วนทางวิศวกรรมในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ส่งผลให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในกระบวนการบำรุงรักษาทั้งการซ่อมและเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ และยังส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อประเทศด้วย โดยเทคโนโลยีการเคลือบฟิล์มคาร์บอนคล้ายเพชร หรือ ฟิล์มดีแอลซี (DLC) ช่วยเพิ่มสมบัติความแข็ง ต้านการสึกกร่อนและการกัดกร่อน และลดแรงเสียดทานให้กับชิ้นส่วนอุตสาหกรรมได้” “สถาบันฯ ได้ร่วมกับ บริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน) พัฒนาเครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเป็นเครื่องแรกของประเทศไทย เพื่อลดต้นทุนการนำเข้าจากต่างประเทศ และยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล เครื่องต้นแบบเครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซีฯ นี้ ใช้เทคโนโลยีพลาสมาและการเคลือบฟิล์มด้วยเทคนิคการใช้พลาสมาเพิ่มการตกสะสมของไอเชิงเคมี (RF-PECVD) เพื่อสังเคราะห์ฟิล์มดีแอลซี และใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนขั้นสูง Near Edge X-ray Absorption Fine Structure (NEXAFS) เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างฟิล์มดีแอลซี และศึกษาการกระจายตัวของพันธะคาร์บอน ซึ่งฟิล์มดีแอลซีที่พัฒนาขึ้นนี้มีคุณสมบัติต้านการสึกกร่อนและการกัดกร่อนสูง เหมาะสมกับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ช่วยลดต้นทุนการซ่อมบำรุง และสามารถทดแทนวัสดุนำเข้าราคาแพงได้” ดร.ศรายุทธ ตั้นมี กล่าว สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมทั้ง 2 นวัตกรรมของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ได้ที่ บูธ CL2 ในงาน Thailand Research Expo 2025 ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.00 น. ระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
    0 Comments 0 Shares 296 Views 0 Reviews
  • Firefox เพิ่มวิธีใหม่ในการปักหมุดและยกเลิกการปักหมุดแท็บ
    Mozilla Firefox ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ลากแท็บไปยังพื้นที่แท็บที่ปักหมุด เพื่อปักหมุด หรือ ลากออกเพื่อยกเลิกการปักหมุด ได้อย่างง่ายดาย ฟีเจอร์นี้รองรับทั้ง มุมมองแท็บแนวตั้งและแนวนอน และช่วยลดความยุ่งยากในการใช้เมนูคลิกขวา.

    รายละเอียดฟีเจอร์ใหม่
    ลากแท็บไปยังพื้นที่แท็บที่ปักหมุดเพื่อปักหมุด หรือ ลากออกเพื่อยกเลิกการปักหมุด ได้ทันที.
    รองรับทั้งแท็บแนวตั้งและแนวนอน ทำให้ใช้งานได้สะดวกในทุกมุมมอง.
    ลดการพึ่งพาเมนูคลิกขวา ทำให้การจัดการแท็บรวดเร็วขึ้น.
    ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานใน Firefox Nightly ซึ่งเป็นเวอร์ชันทดลองที่อาจมีบั๊กหรือความไม่เสถียร.

    ข้อควรระวัง
    Firefox Nightly เป็นเวอร์ชันทดลอง อาจมีข้อผิดพลาดหรือทำให้บางฟีเจอร์ไม่ทำงานตามปกติ.
    ยังไม่มีทางลัดสำหรับการปักหมุดแท็บ ซึ่งบางผู้ใช้มองว่าอาจทำให้การใช้งานยังไม่สะดวกที่สุด.
    เบราว์เซอร์อื่นยังไม่มีฟีเจอร์นี้ แต่ก็อาจมีวิธีอื่นในการจัดการแท็บที่แตกต่างกัน.

    แนวทางการใช้งาน
    ทดลองใช้ฟีเจอร์นี้ใน Firefox Nightly หากต้องการทดสอบก่อนเปิดตัวในเวอร์ชันเสถียร.
    ติดตามการอัปเดตจาก Mozilla เพื่อดูว่าฟีเจอร์นี้จะถูกนำไปใช้ใน Firefox เวอร์ชันหลักหรือไม่.
    ใช้แท็บแนวตั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการแท็บ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่เปิดหลายแท็บพร้อมกัน.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Firefox
    Firefox 136 เปิดตัวแท็บแนวตั้ง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมมาก.
    Firefox 139 มาพร้อมกับวอลเปเปอร์แบบกำหนดเองและการแสดงตัวอย่างลิงก์ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน.
    Mozilla Nightly อาจมีบั๊กและไม่เสถียร ดังนั้นควรใช้ควบคู่กับเวอร์ชันหลัก.

    https://www.neowin.net/news/firefox-gets-new-way-to-pin-and-unpin-tabs/
    Firefox เพิ่มวิธีใหม่ในการปักหมุดและยกเลิกการปักหมุดแท็บ Mozilla Firefox ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ลากแท็บไปยังพื้นที่แท็บที่ปักหมุด เพื่อปักหมุด หรือ ลากออกเพื่อยกเลิกการปักหมุด ได้อย่างง่ายดาย ฟีเจอร์นี้รองรับทั้ง มุมมองแท็บแนวตั้งและแนวนอน และช่วยลดความยุ่งยากในการใช้เมนูคลิกขวา. รายละเอียดฟีเจอร์ใหม่ ✅ ลากแท็บไปยังพื้นที่แท็บที่ปักหมุดเพื่อปักหมุด หรือ ลากออกเพื่อยกเลิกการปักหมุด ได้ทันที. ✅ รองรับทั้งแท็บแนวตั้งและแนวนอน ทำให้ใช้งานได้สะดวกในทุกมุมมอง. ✅ ลดการพึ่งพาเมนูคลิกขวา ทำให้การจัดการแท็บรวดเร็วขึ้น. ✅ ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานใน Firefox Nightly ซึ่งเป็นเวอร์ชันทดลองที่อาจมีบั๊กหรือความไม่เสถียร. ข้อควรระวัง ‼️ Firefox Nightly เป็นเวอร์ชันทดลอง อาจมีข้อผิดพลาดหรือทำให้บางฟีเจอร์ไม่ทำงานตามปกติ. ‼️ ยังไม่มีทางลัดสำหรับการปักหมุดแท็บ ซึ่งบางผู้ใช้มองว่าอาจทำให้การใช้งานยังไม่สะดวกที่สุด. ‼️ เบราว์เซอร์อื่นยังไม่มีฟีเจอร์นี้ แต่ก็อาจมีวิธีอื่นในการจัดการแท็บที่แตกต่างกัน. แนวทางการใช้งาน ✅ ทดลองใช้ฟีเจอร์นี้ใน Firefox Nightly หากต้องการทดสอบก่อนเปิดตัวในเวอร์ชันเสถียร. ✅ ติดตามการอัปเดตจาก Mozilla เพื่อดูว่าฟีเจอร์นี้จะถูกนำไปใช้ใน Firefox เวอร์ชันหลักหรือไม่. ✅ ใช้แท็บแนวตั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการแท็บ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่เปิดหลายแท็บพร้อมกัน. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Firefox ✅ Firefox 136 เปิดตัวแท็บแนวตั้ง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมมาก. ✅ Firefox 139 มาพร้อมกับวอลเปเปอร์แบบกำหนดเองและการแสดงตัวอย่างลิงก์ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน. ‼️ Mozilla Nightly อาจมีบั๊กและไม่เสถียร ดังนั้นควรใช้ควบคู่กับเวอร์ชันหลัก. https://www.neowin.net/news/firefox-gets-new-way-to-pin-and-unpin-tabs/
    WWW.NEOWIN.NET
    Firefox gets new way to pin and unpin tabs
    Mozilla is working on a welcome change that will make it easier to pin and unpin tabs in the Firefox browser. The best part is that you can try it now.
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยเผยว่า 35,000 อุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ มีช่องโหว่และสามารถถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้ อุปกรณ์เหล่านี้ เช่น อินเวอร์เตอร์, ดาต้า ล็อกเกอร์ และเกตเวย์ ถูกเปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้เสี่ยงต่อการถูกแฮก โดย ยุโรปมีอุปกรณ์ที่เสี่ยงสูงสุดถึง 76% โดยเฉพาะใน เยอรมนีและกรีซ

    อุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์กว่า 35,000 รายการมีช่องโหว่
    - ผลการศึกษาจาก Forescout’s Vedere Labs พบว่าอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์หลายพันตัวเปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ต
    - พบ 46 ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ในระบบพลังงานแสงอาทิตย์
    - อุปกรณ์ที่เปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ต อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

    ยุโรปคือจุดเสี่ยงหลัก
    - 76% ของอุปกรณ์ที่เปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ในยุโรป โดยเฉพาะเยอรมนีและกรีซ
    - อุปกรณ์ SolarView Compact ถูกเปิดเผยมากขึ้น 350% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา และเคยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไซเบอร์ในปี 2024 ที่ทำให้บัญชีธนาคารในญี่ปุ่นถูกโจมตี

    ปัญหาการตั้งค่าที่ไม่ปลอดภัย
    - นักวิเคราะห์พบว่า ผู้ผลิตที่มีอุปกรณ์เปิดเผยมากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทที่มีการติดตั้งสูงสุด
    - ปัญหาอาจเกิดจาก การตั้งค่าเริ่มต้นที่ไม่ปลอดภัย หรือคำแนะนำผู้ใช้ที่ไม่ชัดเจน

    คำเตือนและแนวทางป้องกัน
    อุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่ไม่ได้รับการอัปเดตอาจถูกโจมตีได้
    - อุปกรณ์ที่มี เฟิร์มแวร์ล้าสมัย อาจมีช่องโหว่ที่ ถูกใช้ในการโจมตีในปัจจุบัน
    - ตัวอย่างเช่น SMA Sunny WebBox ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว ยังคงมีอุปกรณ์เปิดเผยจำนวนมาก

    วิธีลดความเสี่ยงในการถูกโจมตี
    - ห้ามเปิดเผยอินเทอร์เฟซการจัดการอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ต่ออินเทอร์เน็ต
    - ใช้ VPN ที่มีความปลอดภัย และปฏิบัติตามแนวทางจาก CISA และ NIST
    - ใช้ระบบป้องกัน เช่น Zero Trust Network Access (ZTNA) และเครื่องมือแอนตี้ไวรัสระดับสูง

    https://www.techradar.com/pro/security/35-000-solar-pv-devices-hit-by-dozens-of-vulnerabilities-and-weaknesses-is-yours-one-of-them
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยเผยว่า 35,000 อุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ มีช่องโหว่และสามารถถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้ อุปกรณ์เหล่านี้ เช่น อินเวอร์เตอร์, ดาต้า ล็อกเกอร์ และเกตเวย์ ถูกเปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้เสี่ยงต่อการถูกแฮก โดย ยุโรปมีอุปกรณ์ที่เสี่ยงสูงสุดถึง 76% โดยเฉพาะใน เยอรมนีและกรีซ ✅ อุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์กว่า 35,000 รายการมีช่องโหว่ - ผลการศึกษาจาก Forescout’s Vedere Labs พบว่าอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์หลายพันตัวเปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ต - พบ 46 ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ในระบบพลังงานแสงอาทิตย์ - อุปกรณ์ที่เปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ต อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ✅ ยุโรปคือจุดเสี่ยงหลัก - 76% ของอุปกรณ์ที่เปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ในยุโรป โดยเฉพาะเยอรมนีและกรีซ - อุปกรณ์ SolarView Compact ถูกเปิดเผยมากขึ้น 350% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา และเคยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไซเบอร์ในปี 2024 ที่ทำให้บัญชีธนาคารในญี่ปุ่นถูกโจมตี ✅ ปัญหาการตั้งค่าที่ไม่ปลอดภัย - นักวิเคราะห์พบว่า ผู้ผลิตที่มีอุปกรณ์เปิดเผยมากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทที่มีการติดตั้งสูงสุด - ปัญหาอาจเกิดจาก การตั้งค่าเริ่มต้นที่ไม่ปลอดภัย หรือคำแนะนำผู้ใช้ที่ไม่ชัดเจน ⚠️ คำเตือนและแนวทางป้องกัน ‼️ อุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่ไม่ได้รับการอัปเดตอาจถูกโจมตีได้ - อุปกรณ์ที่มี เฟิร์มแวร์ล้าสมัย อาจมีช่องโหว่ที่ ถูกใช้ในการโจมตีในปัจจุบัน - ตัวอย่างเช่น SMA Sunny WebBox ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว ยังคงมีอุปกรณ์เปิดเผยจำนวนมาก ‼️ วิธีลดความเสี่ยงในการถูกโจมตี - ห้ามเปิดเผยอินเทอร์เฟซการจัดการอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ต่ออินเทอร์เน็ต - ใช้ VPN ที่มีความปลอดภัย และปฏิบัติตามแนวทางจาก CISA และ NIST - ใช้ระบบป้องกัน เช่น Zero Trust Network Access (ZTNA) และเครื่องมือแอนตี้ไวรัสระดับสูง https://www.techradar.com/pro/security/35-000-solar-pv-devices-hit-by-dozens-of-vulnerabilities-and-weaknesses-is-yours-one-of-them
    0 Comments 0 Shares 207 Views 0 Reviews
  • Google นำฟีเจอร์ Audio Overviews จาก NotebookLM มาใช้ใน Google Search
    Google ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Audio Overviews ใน Google Search ซึ่งเป็น ระบบสรุปข้อมูลด้วยเสียงที่ใช้ AI โดยใช้ โมเดล Gemini เพื่อสร้าง บทสรุปเสียงที่เข้าใจง่ายและเป็นธรรมชาติ

    Audio Overviews ช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟังสรุปข้อมูลของหัวข้อที่ค้นหาได้ โดย Google จะตัดสินใจว่าเมื่อใดควรแสดงตัวเลือกนี้

    ข้อมูลจากข่าว
    - Google นำฟีเจอร์ Audio Overviews จาก NotebookLM มาใช้ใน Google Search
    - ใช้โมเดล Gemini เพื่อสร้างบทสรุปเสียงที่เข้าใจง่าย
    - ผู้ใช้สามารถให้คะแนนบทสรุปเสียงโดยกดปุ่ม thumbs-up หรือ thumbs-down
    - Google จะเพิ่มลิงก์ที่เกี่ยวข้องภายในอินเทอร์เฟซของ Audio Overviews
    - ผู้ใช้สามารถทดลองใช้ฟีเจอร์นี้ได้โดยเข้าร่วมการทดลองใน Search Labs

    ผลกระทบต่อการค้นหาข้อมูล
    Audio Overviews ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับข้อมูลได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะ ในสถานการณ์ที่ต้องการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ฟีเจอร์นี้อาจไม่สามารถใช้ได้กับทุกคำค้นหา เนื่องจาก Google จะเลือกแสดงเฉพาะกรณีที่เห็นว่ามีประโยชน์
    - ต้องติดตามว่า Audio Overviews จะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนได้หรือไม่
    - การใช้ AI ในการสรุปข้อมูลอาจมีข้อจำกัดด้านความแม่นยำและความลำเอียง
    - ต้องรอดูว่าผู้ใช้จะให้การตอบรับต่อฟีเจอร์นี้อย่างไร และ Google จะปรับปรุงตามความคิดเห็นของผู้ใช้หรือไม่

    Google กำลังพัฒนา AI ให้สามารถช่วยสรุปข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Audio Overviews อาจเป็นก้าวแรกในการนำ AI มาใช้ในระบบค้นหาข้อมูลแบบเสียง

    https://www.neowin.net/news/notebooklms-audio-overviews-is-coming-to-google-search/
    🔊 Google นำฟีเจอร์ Audio Overviews จาก NotebookLM มาใช้ใน Google Search Google ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Audio Overviews ใน Google Search ซึ่งเป็น ระบบสรุปข้อมูลด้วยเสียงที่ใช้ AI โดยใช้ โมเดล Gemini เพื่อสร้าง บทสรุปเสียงที่เข้าใจง่ายและเป็นธรรมชาติ Audio Overviews ช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟังสรุปข้อมูลของหัวข้อที่ค้นหาได้ โดย Google จะตัดสินใจว่าเมื่อใดควรแสดงตัวเลือกนี้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Google นำฟีเจอร์ Audio Overviews จาก NotebookLM มาใช้ใน Google Search - ใช้โมเดล Gemini เพื่อสร้างบทสรุปเสียงที่เข้าใจง่าย - ผู้ใช้สามารถให้คะแนนบทสรุปเสียงโดยกดปุ่ม thumbs-up หรือ thumbs-down - Google จะเพิ่มลิงก์ที่เกี่ยวข้องภายในอินเทอร์เฟซของ Audio Overviews - ผู้ใช้สามารถทดลองใช้ฟีเจอร์นี้ได้โดยเข้าร่วมการทดลองใน Search Labs 🔥 ผลกระทบต่อการค้นหาข้อมูล Audio Overviews ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับข้อมูลได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะ ในสถานการณ์ที่ต้องการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ฟีเจอร์นี้อาจไม่สามารถใช้ได้กับทุกคำค้นหา เนื่องจาก Google จะเลือกแสดงเฉพาะกรณีที่เห็นว่ามีประโยชน์ - ต้องติดตามว่า Audio Overviews จะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนได้หรือไม่ - การใช้ AI ในการสรุปข้อมูลอาจมีข้อจำกัดด้านความแม่นยำและความลำเอียง - ต้องรอดูว่าผู้ใช้จะให้การตอบรับต่อฟีเจอร์นี้อย่างไร และ Google จะปรับปรุงตามความคิดเห็นของผู้ใช้หรือไม่ Google กำลังพัฒนา AI ให้สามารถช่วยสรุปข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Audio Overviews อาจเป็นก้าวแรกในการนำ AI มาใช้ในระบบค้นหาข้อมูลแบบเสียง https://www.neowin.net/news/notebooklms-audio-overviews-is-coming-to-google-search/
    WWW.NEOWIN.NET
    NotebookLM's Audio Overviews is coming to Google Search
    Google's popular AI feature, which generates audio podcasts within minutes, is now coming to Google Search as a new experiment.
    0 Comments 0 Shares 146 Views 0 Reviews
  • https://youtube.com/shorts/DvJMJic74JQ?si=oMxBsNaBs_A45Ega
    https://youtube.com/shorts/DvJMJic74JQ?si=oMxBsNaBs_A45Ega
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • เอ๊าา AI แพ้ เกม Atari 2600

    ChatGPT พ่ายแพ้ให้กับ Atari 2600 ในเกมหมากรุกระดับเริ่มต้น
    ในเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ChatGPT 4o ของ OpenAI แพ้ให้กับเกม Atari Chess ซึ่งรันบน Atari 2600 คอนโซลเกมยุค 1977 ที่มี ความเร็วเพียง 1.19 MHz โดย Robert Jr. Caruso ผู้เชี่ยวชาญด้าน Citrix Architecture ได้ทดสอบและพบว่า AI ของ OpenAI ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งที่มีอายุเกือบ 50 ปีได้

    เหตุผลที่ ChatGPT พ่ายแพ้
    Caruso พบว่า Atari Chess คิดล่วงหน้าเพียง 1-2 ท่า ซึ่งแตกต่างจาก AI สมัยใหม่ที่สามารถ คำนวณหลายล้านท่าต่อวินาที อย่างไรก็ตาม ChatGPT ทำผิดพลาดซ้ำ ๆ จนต้องยอมแพ้ แม้ว่า Caruso จะช่วยปรับไอคอนหมากรุกให้ชัดเจนขึ้น

    ข้อมูลจากข่าว
    - ChatGPT 4o แพ้ให้กับ Atari Chess ในระดับเริ่มต้น
    - Atari 2600 ใช้ MOS Technology 6507 CPU ที่มีความเร็วเพียง 1.19 MHz
    - Atari Chess คิดล่วงหน้าเพียง 1-2 ท่า แต่ยังสามารถเอาชนะ ChatGPT ได้
    - Caruso ปรับไอคอนหมากรุกให้ชัดเจนขึ้น แต่ ChatGPT ยังทำผิดพลาดซ้ำ ๆ
    - ChatGPT สัญญาว่าจะเรียนรู้จากความผิดพลาด แต่ยังคงแพ้ต่อเนื่อง

    ความหมายของเหตุการณ์นี้ต่อ AI และการเล่นหมากรุก
    แม้ว่า AI จะสามารถ คำนวณได้เร็วกว่า แต่ การเล่นหมากรุกต้องอาศัยกลยุทธ์และการตัดสินใจที่แม่นยำ ซึ่ง Atari Chess แม้จะเก่า แต่ยังสามารถเอาชนะ AI ที่ทันสมัยได้

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI อาจไม่สามารถเข้าใจกลยุทธ์ของเกมที่มีข้อจำกัดด้านการคำนวณแบบดั้งเดิม
    - แม้ว่า AI จะสามารถคำนวณได้เร็ว แต่การตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจทำให้แพ้ได้
    - ต้องติดตามว่า OpenAI จะปรับปรุง ChatGPT ให้สามารถเล่นหมากรุกได้ดีขึ้นหรือไม่
    - เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า AI ยังมีข้อจำกัดในการเข้าใจเกมที่มีตรรกะเฉพาะตัว

    ผลกระทบต่อการพัฒนา AI
    การพ่ายแพ้ของ ChatGPT อาจเป็นบทเรียนสำคัญในการพัฒนา AI ให้เข้าใจกลยุทธ์มากขึ้น และ อาจนำไปสู่การปรับปรุงโมเดล AI ให้สามารถเล่นเกมที่มีตรรกะเฉพาะตัวได้ดีขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chatgpt-got-absolutely-wrecked-by-atari-2600-in-beginners-chess-match-openais-newest-model-bamboozled-by-1970s-logic
    เอ๊าา⁉️ AI แพ้ เกม Atari 2600 ⁉️ ♟️ ChatGPT พ่ายแพ้ให้กับ Atari 2600 ในเกมหมากรุกระดับเริ่มต้น ในเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ChatGPT 4o ของ OpenAI แพ้ให้กับเกม Atari Chess ซึ่งรันบน Atari 2600 คอนโซลเกมยุค 1977 ที่มี ความเร็วเพียง 1.19 MHz โดย Robert Jr. Caruso ผู้เชี่ยวชาญด้าน Citrix Architecture ได้ทดสอบและพบว่า AI ของ OpenAI ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งที่มีอายุเกือบ 50 ปีได้ 🔍 เหตุผลที่ ChatGPT พ่ายแพ้ Caruso พบว่า Atari Chess คิดล่วงหน้าเพียง 1-2 ท่า ซึ่งแตกต่างจาก AI สมัยใหม่ที่สามารถ คำนวณหลายล้านท่าต่อวินาที อย่างไรก็ตาม ChatGPT ทำผิดพลาดซ้ำ ๆ จนต้องยอมแพ้ แม้ว่า Caruso จะช่วยปรับไอคอนหมากรุกให้ชัดเจนขึ้น ✅ ข้อมูลจากข่าว - ChatGPT 4o แพ้ให้กับ Atari Chess ในระดับเริ่มต้น - Atari 2600 ใช้ MOS Technology 6507 CPU ที่มีความเร็วเพียง 1.19 MHz - Atari Chess คิดล่วงหน้าเพียง 1-2 ท่า แต่ยังสามารถเอาชนะ ChatGPT ได้ - Caruso ปรับไอคอนหมากรุกให้ชัดเจนขึ้น แต่ ChatGPT ยังทำผิดพลาดซ้ำ ๆ - ChatGPT สัญญาว่าจะเรียนรู้จากความผิดพลาด แต่ยังคงแพ้ต่อเนื่อง 🔥 ความหมายของเหตุการณ์นี้ต่อ AI และการเล่นหมากรุก แม้ว่า AI จะสามารถ คำนวณได้เร็วกว่า แต่ การเล่นหมากรุกต้องอาศัยกลยุทธ์และการตัดสินใจที่แม่นยำ ซึ่ง Atari Chess แม้จะเก่า แต่ยังสามารถเอาชนะ AI ที่ทันสมัยได้ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI อาจไม่สามารถเข้าใจกลยุทธ์ของเกมที่มีข้อจำกัดด้านการคำนวณแบบดั้งเดิม - แม้ว่า AI จะสามารถคำนวณได้เร็ว แต่การตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจทำให้แพ้ได้ - ต้องติดตามว่า OpenAI จะปรับปรุง ChatGPT ให้สามารถเล่นหมากรุกได้ดีขึ้นหรือไม่ - เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า AI ยังมีข้อจำกัดในการเข้าใจเกมที่มีตรรกะเฉพาะตัว 🚀 ผลกระทบต่อการพัฒนา AI การพ่ายแพ้ของ ChatGPT อาจเป็นบทเรียนสำคัญในการพัฒนา AI ให้เข้าใจกลยุทธ์มากขึ้น และ อาจนำไปสู่การปรับปรุงโมเดล AI ให้สามารถเล่นเกมที่มีตรรกะเฉพาะตัวได้ดีขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chatgpt-got-absolutely-wrecked-by-atari-2600-in-beginners-chess-match-openais-newest-model-bamboozled-by-1970s-logic
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    ChatGPT 'got absolutely wrecked' by Atari 2600 in beginner's chess match — OpenAI's newest model bamboozled by 1970s logic
    OpenAI's latest and greatest AI model was outclassed by the 1.19 MHz near 50-year-old console gaming legend.
    0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • แอปหลอกลวงบน Play Store: มิจฉาชีพใช้แอปคริปโตปลอมเพื่อขโมยข้อมูล
    นักวิจัยจาก Cyble Research and Intelligence Labs พบว่า มีแอปคริปโตหลอกลวงอย่างน้อย 20 แอปบน Google Play Store ที่ปลอมตัวเป็น แอปกระเป๋าเงินคริปโตที่ถูกต้อง เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น 12-word mnemonic phrase ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล

    วิธีการทำงานของแอปหลอกลวง
    แอปเหล่านี้ใช้ บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจาก Google และ ใช้โครงสร้างฟิชชิ่งที่เชื่อมโยงกับกว่า 50 โดเมน ทำให้ สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว

    ข้อมูลจากข่าว
    - Cyble พบแอปคริปโตหลอกลวงอย่างน้อย 20 แอปบน Play Store
    - แอปเหล่านี้ปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินคริปโตที่ถูกต้อง
    - ใช้บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
    - มีโครงสร้างฟิชชิ่งที่เชื่อมโยงกับกว่า 50 โดเมน
    - ผู้ใช้ถูกหลอกให้กรอก 12-word mnemonic phrase ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงกระเป๋าเงิน

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - หากคุณดาวน์โหลดแอปเหล่านี้ ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัล
    - Google Play Store แม้จะมีมาตรการตรวจสอบ แต่ยังคงมีแอปหลอกลวงเล็ดลอดเข้ามาได้
    - บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมายอาจถูกแฮกและนำไปใช้เผยแพร่แอปหลอกลวง
    - ต้องติดตามว่ามาตรการของ Google จะสามารถป้องกันแอปประเภทนี้ได้ดีขึ้นหรือไม่

    วิธีป้องกันการตกเป็นเหยื่อ
    ผู้ใช้ควร ตรวจสอบชื่อผู้พัฒนาและรีวิวของแอปก่อนดาวน์โหลด และ ใช้กระเป๋าเงินคริปโตจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น

    https://www.neowin.net/news/these-20-crypto-phishing-applications-are-scamming-play-store-users/
    🚨 แอปหลอกลวงบน Play Store: มิจฉาชีพใช้แอปคริปโตปลอมเพื่อขโมยข้อมูล นักวิจัยจาก Cyble Research and Intelligence Labs พบว่า มีแอปคริปโตหลอกลวงอย่างน้อย 20 แอปบน Google Play Store ที่ปลอมตัวเป็น แอปกระเป๋าเงินคริปโตที่ถูกต้อง เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น 12-word mnemonic phrase ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล 🔍 วิธีการทำงานของแอปหลอกลวง แอปเหล่านี้ใช้ บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจาก Google และ ใช้โครงสร้างฟิชชิ่งที่เชื่อมโยงกับกว่า 50 โดเมน ทำให้ สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ✅ ข้อมูลจากข่าว - Cyble พบแอปคริปโตหลอกลวงอย่างน้อย 20 แอปบน Play Store - แอปเหล่านี้ปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินคริปโตที่ถูกต้อง - ใช้บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ - มีโครงสร้างฟิชชิ่งที่เชื่อมโยงกับกว่า 50 โดเมน - ผู้ใช้ถูกหลอกให้กรอก 12-word mnemonic phrase ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงกระเป๋าเงิน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - หากคุณดาวน์โหลดแอปเหล่านี้ ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัล - Google Play Store แม้จะมีมาตรการตรวจสอบ แต่ยังคงมีแอปหลอกลวงเล็ดลอดเข้ามาได้ - บัญชีผู้พัฒนาที่เคยเผยแพร่แอปถูกต้องตามกฎหมายอาจถูกแฮกและนำไปใช้เผยแพร่แอปหลอกลวง - ต้องติดตามว่ามาตรการของ Google จะสามารถป้องกันแอปประเภทนี้ได้ดีขึ้นหรือไม่ 🚀 วิธีป้องกันการตกเป็นเหยื่อ ผู้ใช้ควร ตรวจสอบชื่อผู้พัฒนาและรีวิวของแอปก่อนดาวน์โหลด และ ใช้กระเป๋าเงินคริปโตจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น https://www.neowin.net/news/these-20-crypto-phishing-applications-are-scamming-play-store-users/
    WWW.NEOWIN.NET
    These 20 crypto phishing applications are scamming Play Store users
    A cybersecurity firm has discovered over 20 crypto phishing apps on the Google Play Store that are trying to steal users' crypto wallet data.
    0 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • YouTube Creators กับบทบาทใหม่ในการฝึก AI
    ปัจจุบัน YouTube เปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI โดยให้สิทธิ์ 18 บริษัท AI รายใหญ่ ใช้เนื้อหาวิดีโอเพื่อพัฒนาโมเดล AI โดยไม่มีค่าตอบแทน ซึ่งเป็นแนวทางที่ เน้นอิทธิพลมากกว่ารายได้

    แม้ว่าจะไม่มีค่าตอบแทนโดยตรง ครีเอเตอร์หลายคนมองว่าการเข้าร่วมช่วยให้เนื้อหาของพวกเขามีอิทธิพลต่อการพัฒนา AI ซึ่งอาจทำให้ วิดีโอของพวกเขาถูกนำไปใช้ในคำตอบของ AI writers และโมเดล AI ด้านการเขียนโค้ด

    ข้อมูลจากข่าว
    - YouTube เปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI โดยไม่มีค่าตอบแทน
    - 18 บริษัท AI รายใหญ่สามารถใช้วิดีโอที่ได้รับอนุญาตเพื่อพัฒนาโมเดล
    - ครีเอเตอร์ที่เข้าร่วมมองว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มอิทธิพลของเนื้อหาของตน
    - Oxylabs เปิดตัวชุดข้อมูล YouTube ที่ได้รับความยินยอมจากครีเอเตอร์กว่า 1 ล้านช่อง
    - วิดีโอเหล่านี้ถูกใช้เพื่อฝึก AI ด้านการสร้างภาพและวิดีโอ

    ความท้าทายด้านลิขสิทธิ์และกฎหมาย
    แม้ว่า Oxylabs จะเน้นการใช้ข้อมูลที่ได้รับความยินยอม แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิ์ของครีเอเตอร์ โดยเฉพาะในประเทศที่ยังไม่มี กฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้เนื้อหาเพื่อฝึก AI

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ครีเอเตอร์ที่ไม่ได้เลือกเข้าร่วมจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ต้องตรวจสอบการตั้งค่าของตนเอง
    - กฎหมายเกี่ยวกับการใช้เนื้อหาเพื่อฝึก AI ยังไม่ชัดเจนในหลายประเทศ
    - UK’s Data (Use and Access) Bill ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา และอาจส่งผลต่อการใช้ข้อมูลในอนาคต
    - แม้จะเป็นโมเดลที่ได้รับความยินยอม แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นธรรมและมูลค่าของเนื้อหา

    การเปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI อาจช่วยให้โมเดล AI มีข้อมูลที่หลากหลายและมีคุณภาพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่ากฎหมายและแนวทางการคุ้มครองสิทธิ์จะพัฒนาไปในทิศทางใด

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/thousands-of-youtubers-are-letting-ai-firms-train-on-their-original-videos-for-absolutely-free-and-heres-why
    🎥 YouTube Creators กับบทบาทใหม่ในการฝึก AI ปัจจุบัน YouTube เปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI โดยให้สิทธิ์ 18 บริษัท AI รายใหญ่ ใช้เนื้อหาวิดีโอเพื่อพัฒนาโมเดล AI โดยไม่มีค่าตอบแทน ซึ่งเป็นแนวทางที่ เน้นอิทธิพลมากกว่ารายได้ แม้ว่าจะไม่มีค่าตอบแทนโดยตรง ครีเอเตอร์หลายคนมองว่าการเข้าร่วมช่วยให้เนื้อหาของพวกเขามีอิทธิพลต่อการพัฒนา AI ซึ่งอาจทำให้ วิดีโอของพวกเขาถูกนำไปใช้ในคำตอบของ AI writers และโมเดล AI ด้านการเขียนโค้ด ✅ ข้อมูลจากข่าว - YouTube เปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI โดยไม่มีค่าตอบแทน - 18 บริษัท AI รายใหญ่สามารถใช้วิดีโอที่ได้รับอนุญาตเพื่อพัฒนาโมเดล - ครีเอเตอร์ที่เข้าร่วมมองว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มอิทธิพลของเนื้อหาของตน - Oxylabs เปิดตัวชุดข้อมูล YouTube ที่ได้รับความยินยอมจากครีเอเตอร์กว่า 1 ล้านช่อง - วิดีโอเหล่านี้ถูกใช้เพื่อฝึก AI ด้านการสร้างภาพและวิดีโอ 🔥 ความท้าทายด้านลิขสิทธิ์และกฎหมาย แม้ว่า Oxylabs จะเน้นการใช้ข้อมูลที่ได้รับความยินยอม แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิ์ของครีเอเตอร์ โดยเฉพาะในประเทศที่ยังไม่มี กฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้เนื้อหาเพื่อฝึก AI ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ครีเอเตอร์ที่ไม่ได้เลือกเข้าร่วมจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ต้องตรวจสอบการตั้งค่าของตนเอง - กฎหมายเกี่ยวกับการใช้เนื้อหาเพื่อฝึก AI ยังไม่ชัดเจนในหลายประเทศ - UK’s Data (Use and Access) Bill ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา และอาจส่งผลต่อการใช้ข้อมูลในอนาคต - แม้จะเป็นโมเดลที่ได้รับความยินยอม แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นธรรมและมูลค่าของเนื้อหา การเปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI อาจช่วยให้โมเดล AI มีข้อมูลที่หลากหลายและมีคุณภาพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่ากฎหมายและแนวทางการคุ้มครองสิทธิ์จะพัฒนาไปในทิศทางใด https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/thousands-of-youtubers-are-letting-ai-firms-train-on-their-original-videos-for-absolutely-free-and-heres-why
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • Microsoft Edge vs. Google Chrome: การแข่งขันด้านประสิทธิภาพและฟีเจอร์
    Microsoft ได้เผยแพร่ รายงานเปรียบเทียบระหว่าง Edge และ Google Chrome โดยเน้นไปที่ ประสิทธิภาพ, การจัดการหน่วยความจำ และฟีเจอร์ที่ช่วยให้การใช้งานราบรื่นขึ้น

    จุดเด่นของ Microsoft Edge
    Microsoft ระบุว่า Edge มีประสิทธิภาพดีกว่า Chrome บน Windows เนื่องจาก เป็นผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ที่ผสานเข้ากับระบบปฏิบัติการโดยตรง ทำให้ มีข้อได้เปรียบด้านการจัดสรรทรัพยากรและลดภาระของ CPU

    นอกจากนี้ Edge ยังมีฟีเจอร์ Sleeping Tabs ซึ่งช่วย ลดการใช้หน่วยความจำ โดยในปี 2024 ฟีเจอร์นี้สามารถ ประหยัดหน่วยความจำไปกว่า 7 ล้านเทราไบต์

    ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft Edge มีประสิทธิภาพดีกว่า Chrome บน Windows เนื่องจากผสานเข้ากับระบบโดยตรง
    - ฟีเจอร์ Sleeping Tabs ช่วยลดการใช้หน่วยความจำได้กว่า 7 ล้านเทราไบต์ในปี 2024
    - Edge มีการจัดสรรทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ ลดภาระของ CPU และช่วยให้การทำงานราบรื่นขึ้น
    - Edge รองรับส่วนเสริม เช่น Microsoft Translator, Ad Blockers และ Password Managers ได้ดีขึ้น
    - Microsoft 365 และ AI tools ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการทำงาน

    การแข่งขันกับ Google Chrome
    Google ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับ การปรับปรุงระบบจัดการหน่วยความจำและแคชของ Chrome ซึ่งช่วยให้ Chrome ทำงานเร็วขึ้นกว่าที่เคย อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังคงเน้นย้ำว่า Edge มีข้อได้เปรียบด้านการทำงานบน Windows

    Microsoft พยายาม กระตุ้นให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Chrome มาใช้ Edge โดยเน้นไปที่ ประสิทธิภาพและการผสานเข้ากับ Windows อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะตอบรับการเปลี่ยนแปลงนี้หรือไม่

    https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-performs-better-than-google-chrome-on-windows-in-ad-blocking-and-more/
    🚀 Microsoft Edge vs. Google Chrome: การแข่งขันด้านประสิทธิภาพและฟีเจอร์ Microsoft ได้เผยแพร่ รายงานเปรียบเทียบระหว่าง Edge และ Google Chrome โดยเน้นไปที่ ประสิทธิภาพ, การจัดการหน่วยความจำ และฟีเจอร์ที่ช่วยให้การใช้งานราบรื่นขึ้น 🔍 จุดเด่นของ Microsoft Edge Microsoft ระบุว่า Edge มีประสิทธิภาพดีกว่า Chrome บน Windows เนื่องจาก เป็นผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ที่ผสานเข้ากับระบบปฏิบัติการโดยตรง ทำให้ มีข้อได้เปรียบด้านการจัดสรรทรัพยากรและลดภาระของ CPU นอกจากนี้ Edge ยังมีฟีเจอร์ Sleeping Tabs ซึ่งช่วย ลดการใช้หน่วยความจำ โดยในปี 2024 ฟีเจอร์นี้สามารถ ประหยัดหน่วยความจำไปกว่า 7 ล้านเทราไบต์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft Edge มีประสิทธิภาพดีกว่า Chrome บน Windows เนื่องจากผสานเข้ากับระบบโดยตรง - ฟีเจอร์ Sleeping Tabs ช่วยลดการใช้หน่วยความจำได้กว่า 7 ล้านเทราไบต์ในปี 2024 - Edge มีการจัดสรรทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ ลดภาระของ CPU และช่วยให้การทำงานราบรื่นขึ้น - Edge รองรับส่วนเสริม เช่น Microsoft Translator, Ad Blockers และ Password Managers ได้ดีขึ้น - Microsoft 365 และ AI tools ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการทำงาน 🔥 การแข่งขันกับ Google Chrome Google ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับ การปรับปรุงระบบจัดการหน่วยความจำและแคชของ Chrome ซึ่งช่วยให้ Chrome ทำงานเร็วขึ้นกว่าที่เคย อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังคงเน้นย้ำว่า Edge มีข้อได้เปรียบด้านการทำงานบน Windows Microsoft พยายาม กระตุ้นให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Chrome มาใช้ Edge โดยเน้นไปที่ ประสิทธิภาพและการผสานเข้ากับ Windows อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะตอบรับการเปลี่ยนแปลงนี้หรือไม่ https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-performs-better-than-google-chrome-on-windows-in-ad-blocking-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft: Edge performs better than Google Chrome on Windows in ad blocking and more
    Microsoft has explained why Edge is better than Google Chrome on Windows, and this includes better performance in things like ad blocking and more such aspects.
    0 Comments 0 Shares 136 Views 0 Reviews
  • การใช้ PIN Code เพื่อรักษาความปลอดภัยของบัญชีธนาคารและอุปกรณ์ดิจิทัลอาจไม่ปลอดภัยเท่าที่คิด เนื่องจากผู้คนจำนวนมากเลือกใช้รหัสที่คาดเดาได้ง่าย จากการวิเคราะห์ข้อมูล 29 ล้าน PIN พบว่า 1 ใน 10 คน ใช้รหัสเดียวกัน ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถคาดเดาได้ง่าย

    PIN Code ถูกนำมาใช้ครั้งแรกใน ATM เพื่อให้ลูกค้าธนาคารสามารถเข้าถึงบัญชีของตนเองได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อเวลาผ่านไป PIN ได้กลายเป็นมาตรฐานสำหรับการล็อกอินในอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้มักเลือก PIN ที่ง่ายต่อการจำ เช่น 1234, 0000 หรือ 1111 ซึ่งเป็นรหัสที่พบมากที่สุด

    ข้อมูลจากข่าว
    - 1 ใน 10 คน ใช้ PIN ที่คาดเดาได้ง่าย
    - PIN ยอดนิยม 10 อันดับแรก ได้แก่ 1234, 1111, 0000, 1342, 1212, 2222, 4444, 1122, 1986, 2020
    - PIN ที่มีตัวเลขซ้ำกัน เช่น 0000 หรือ 1111 เป็นที่นิยมมาก
    - PIN ที่อิงปีเกิด เช่น 1986 หรือ 2004 ก็พบได้บ่อย
    - PIN ที่เป็นลำดับตัวเลข เช่น 4321 ก็สามารถคาดเดาได้ง่าย

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - PIN ที่ง่ายต่อการเดา ทำให้แฮกเกอร์มีโอกาส 1 ใน 8 ที่จะเจาะระบบได้สำเร็จ
    - การใช้ PIN ที่เป็นปีเกิด อาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ถูกเปิดเผย
    - ควรหลีกเลี่ยง PIN ที่เป็นตัวเลขซ้ำกัน หรือ ลำดับตัวเลขง่ายๆ
    - การใช้ PIN ที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การผสมตัวเลขแบบสุ่ม จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย

    การเลือก PIN Code ที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ ควรหลีกเลี่ยงรหัสที่คาดเดาได้ง่าย และใช้รหัสที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://www.techspot.com/news/108094-most-common-pins-you-absolutely-avoid-using.html
    การใช้ PIN Code เพื่อรักษาความปลอดภัยของบัญชีธนาคารและอุปกรณ์ดิจิทัลอาจไม่ปลอดภัยเท่าที่คิด เนื่องจากผู้คนจำนวนมากเลือกใช้รหัสที่คาดเดาได้ง่าย จากการวิเคราะห์ข้อมูล 29 ล้าน PIN พบว่า 1 ใน 10 คน ใช้รหัสเดียวกัน ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถคาดเดาได้ง่าย PIN Code ถูกนำมาใช้ครั้งแรกใน ATM เพื่อให้ลูกค้าธนาคารสามารถเข้าถึงบัญชีของตนเองได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อเวลาผ่านไป PIN ได้กลายเป็นมาตรฐานสำหรับการล็อกอินในอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้มักเลือก PIN ที่ง่ายต่อการจำ เช่น 1234, 0000 หรือ 1111 ซึ่งเป็นรหัสที่พบมากที่สุด ✅ ข้อมูลจากข่าว - 1 ใน 10 คน ใช้ PIN ที่คาดเดาได้ง่าย - PIN ยอดนิยม 10 อันดับแรก ได้แก่ 1234, 1111, 0000, 1342, 1212, 2222, 4444, 1122, 1986, 2020 - PIN ที่มีตัวเลขซ้ำกัน เช่น 0000 หรือ 1111 เป็นที่นิยมมาก - PIN ที่อิงปีเกิด เช่น 1986 หรือ 2004 ก็พบได้บ่อย - PIN ที่เป็นลำดับตัวเลข เช่น 4321 ก็สามารถคาดเดาได้ง่าย ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - PIN ที่ง่ายต่อการเดา ทำให้แฮกเกอร์มีโอกาส 1 ใน 8 ที่จะเจาะระบบได้สำเร็จ - การใช้ PIN ที่เป็นปีเกิด อาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ถูกเปิดเผย - ควรหลีกเลี่ยง PIN ที่เป็นตัวเลขซ้ำกัน หรือ ลำดับตัวเลขง่ายๆ - การใช้ PIN ที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การผสมตัวเลขแบบสุ่ม จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย การเลือก PIN Code ที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ ควรหลีกเลี่ยงรหัสที่คาดเดาได้ง่าย และใช้รหัสที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต https://www.techspot.com/news/108094-most-common-pins-you-absolutely-avoid-using.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    These are the most common PINs you should absolutely avoid using
    According to a recent analysis, one in 10 people use the same four-digit PIN to protect their smartphones and other personal digital devices. Reporters at ABC News...
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
  • Xsight Labs เปิดตัว E1-SoC สำหรับศูนย์ข้อมูล AI บนคลาวด์และเอดจ์

    Xsight Labs ประกาศเปิดตัว E1-SoC ซึ่งเป็นชิปที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm สำหรับศูนย์ข้อมูล AI บนคลาวด์และเอดจ์ โดยเป็น DPU (Data Processing Unit) ที่สามารถโปรแกรมได้เต็มรูปแบบ และมีประสิทธิภาพสูงสุดในอุตสาหกรรม

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ E1-SoC และ E1-Server
    E1-SoC เป็นชิปแรกในซีรีส์ E-Series ที่ใช้เทคโนโลยี 5 นาโนเมตรของ TSMC
    - รองรับ การประมวลผลเครือข่ายแบบ SDN (Software Defined Network)

    E1-Server เป็นเซิร์ฟเวอร์เอดจ์ที่รองรับการเชื่อมต่อ 800G
    - สามารถใช้เป็น แพลตฟอร์มพัฒนาและทดสอบสำหรับ OEMs และ CSPs

    รองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น คลาวด์, AI, เครือข่ายไร้สาย และโครงสร้างพื้นฐานองค์กร
    - ช่วยให้ สามารถพัฒนาโซลูชันที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการของแต่ละองค์กร

    E1-SoC รองรับสูงสุด 64 คอร์ Arm Neoverse N2 v9.0-A และหน่วยความจำ DDR5
    - มี 40 เลน PCIe 5.0 และรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายสูงสุด 800 Gbps

    Xsight Labs วางแผนให้ E1-SoC ผ่านมาตรฐาน Arm SystemReady เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการได้ทันที
    - ลดต้นทุนและเวลาในการพัฒนา สำหรับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

    https://www.techpowerup.com/337162/xsight-labs-announced-availability-of-its-arm-based-e1-soc-for-cloud-and-edge-ai-data-centers
    Xsight Labs เปิดตัว E1-SoC สำหรับศูนย์ข้อมูล AI บนคลาวด์และเอดจ์ Xsight Labs ประกาศเปิดตัว E1-SoC ซึ่งเป็นชิปที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm สำหรับศูนย์ข้อมูล AI บนคลาวด์และเอดจ์ โดยเป็น DPU (Data Processing Unit) ที่สามารถโปรแกรมได้เต็มรูปแบบ และมีประสิทธิภาพสูงสุดในอุตสาหกรรม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ E1-SoC และ E1-Server ✅ E1-SoC เป็นชิปแรกในซีรีส์ E-Series ที่ใช้เทคโนโลยี 5 นาโนเมตรของ TSMC - รองรับ การประมวลผลเครือข่ายแบบ SDN (Software Defined Network) ✅ E1-Server เป็นเซิร์ฟเวอร์เอดจ์ที่รองรับการเชื่อมต่อ 800G - สามารถใช้เป็น แพลตฟอร์มพัฒนาและทดสอบสำหรับ OEMs และ CSPs ✅ รองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น คลาวด์, AI, เครือข่ายไร้สาย และโครงสร้างพื้นฐานองค์กร - ช่วยให้ สามารถพัฒนาโซลูชันที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการของแต่ละองค์กร ✅ E1-SoC รองรับสูงสุด 64 คอร์ Arm Neoverse N2 v9.0-A และหน่วยความจำ DDR5 - มี 40 เลน PCIe 5.0 และรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายสูงสุด 800 Gbps ✅ Xsight Labs วางแผนให้ E1-SoC ผ่านมาตรฐาน Arm SystemReady เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการได้ทันที - ลดต้นทุนและเวลาในการพัฒนา สำหรับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ https://www.techpowerup.com/337162/xsight-labs-announced-availability-of-its-arm-based-e1-soc-for-cloud-and-edge-ai-data-centers
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Xsight Labs Announced Availability of Its Arm-Based E1-SoC for Cloud and Edge AI Data Centers
    Xsight Labs, a leading fabless semiconductor company providing end-to-end connectivity for next-generation hyperscale, edge and AI data center networks, today announced availability of its Arm -based E1-SoC for cloud and edge AI data centers. The E-Series is the only product of its kind to provide f...
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • ข้อมูลอันตรายของวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122116163210647289/?
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115608906647289/?
    ผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV ในเด็ก
    https://childrenshealthdefense.org/wp-content/uploads/02-20-2020-Facts-about-HPV.pdf
    วัคซีนป้องกันไวรัส Gardasil HPV ดูเหมือนจะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มอายุที่ได้รับวัคซีน เช่นเดียวกับวัคซีน COVID ที่เพิ่มความเสี่ยงของ COVID ❗️❗️
    https://x.com/RobertKennedyJr/status/1618279143468306435?t=xz8ynSvBVa4atUraKqxh_Q&s=19
    https://t.co/WoqyxrRQya
    วัคซีนป้องกันไวรัส HPV มีอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนที่สูงที่สุด ไม่มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนป้องกันไวรัส HPV จะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก
    มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนทำให้เกิดหรือมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น ภาวะมีบุตรยาก
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19
    หากคุณกำลังคิดที่จะให้ลูกของคุณ ฉีดวัคซีน HPV (หูดหงอนไก่) คุณต้องดูวิดีโอนี้
    https://t.me/thailand_covid_vaccine_chat/77370
    คลิปการสัมภาษณ์ ดร. เชอรรี่ เทนเพนนี่ เรื่องวัคซีน HPV & วัคซีนในเด็ก
    https://fb.watch/xc2Iq0xYu4/?
    https://www.rookon.com/?p=1173
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110664030647289/?
    คลิป 4 นาทีอธิบายเรื่องการสัมภาษณ์ในครั้งนี้
    https://vt.tiktok.com/ZSYCGuqoM/
    ข่าวเรื่องญี่ปุ่นประกาศไม่แนะนำว่าต้องฉีด HPV Vaccine หาอ่านได้ที่นี่ครับ(เข้าถึงเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556)
    http://sanevax.org/breaking-news-japan-and-hpv-vaccines/
    http://sanevax.org/hpv-vaccines-japan-requires-disclosure-of-side-effects/
    บทความทางวิชาการที่สำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ไม่ต้องการฉีด HPV Vaccine ในสหรัฐครับ(เข้าถึงเมื่อ 11 กันยายน 2556)
    http://pediatrics.aappublications.org/content/early/2013/03/12/peds.2012-2384.abstract
    Merck ถูกฟ้องปิดบังผลข้างเคียงร้ายแรง
    https://www.facebook.com/photo.php?fbid=122200589258234582&set=a.122096260418234582&type=3
    เด็กในอินเดียถูกฉีดวัคซีน HPV 24,000 คน ตายทันที
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110761038647289/?
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19
    ดร. พอล โธมัส เตือนว่า “จะมีผู้เสียชีวิตจากวัคซีน [HPV] มากกว่ามะเร็งปากมดลูกเสียอีก แค่ดูจำนวนงานวิจัย และจำนวนผู้เสียชีวิต ก็น่ากลัวมากแล้ว”
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122109699794647289/?
    คดีนี้เกี่ยวข้องกับการอ้างว่า Merck ให้ข้อมูลเกินจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน
    https://www.facebook.com/share/p/1G2MxNMeWm/
    มาดูคำตอบเมื่ออาจารย์หมออรรถพลถาม AI
    https://www.facebook.com/share/p/1AVyV3JELE/
    คดีนี้เกี่ยวข้องกับการอ้างว่า Merck ให้ข้อมูลเกินจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน
    https://www.facebook.com/share/p/1G2MxNMeWm/
    คุณรับได้ไหมกับผลลัพธ์หลังจากพาลูกไปรับวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV
    ลูกสาว11ปีเสียชีวิตหลังฉีด
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108855318647289/?
    https://www.thairath.co.th/news/local/central/1921241
    ปวดหัวเป็นสัปดาห์หลังฉีดสุดท้ายเสียชีวิต พ่อแต่งกลอนอาลัยลูกสาว
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122107354964647289/?
    ลูกสาวเสียชีวิตทันทีหลังโรงเรียนพาหมอมาฉีด
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108861930647289/?
    นักเรียนไทย 11 ราย ได้รับผลกระทบทันที
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108858174647289/?
    เคสต่างประเทศ ลูกสาวเสียชีวิต
    https://www.facebook.com/332186880241439/photos/a.332188263574634/554864934640298/?type=3
    เคสต่างประเทศ โคม่า
    https://www.facebook.com/652558728/posts/10156341599408729/?
    เคสต่างประเทศ ชักกระตุกรุนแรง
    https://www.facebook.com/share/v/1AB8rFrmXA/
    เคสต่างประเทศ หลังฉีดทำให้ลูกชายพิการต่อมาฆ่าตัวตาย
    https://www.facebook.com/share/p/1CH5aU5TvM/

    ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจ
    แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅ข้อมูลอันตรายของวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122116163210647289/? https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115608906647289/? ✍️ผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV ในเด็ก https://childrenshealthdefense.org/wp-content/uploads/02-20-2020-Facts-about-HPV.pdf ✍️ วัคซีนป้องกันไวรัส Gardasil HPV ดูเหมือนจะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มอายุที่ได้รับวัคซีน เช่นเดียวกับวัคซีน COVID ที่เพิ่มความเสี่ยงของ COVID ❗️❗️ https://x.com/RobertKennedyJr/status/1618279143468306435?t=xz8ynSvBVa4atUraKqxh_Q&s=19 https://t.co/WoqyxrRQya ✍️ วัคซีนป้องกันไวรัส HPV มีอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนที่สูงที่สุด ไม่มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนป้องกันไวรัส HPV จะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก ✍️มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนทำให้เกิดหรือมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น ภาวะมีบุตรยาก https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19 ✍️หากคุณกำลังคิดที่จะให้ลูกของคุณ ฉีดวัคซีน HPV (หูดหงอนไก่) คุณต้องดูวิดีโอนี้ https://t.me/thailand_covid_vaccine_chat/77370 ✍️คลิปการสัมภาษณ์ ดร. เชอรรี่ เทนเพนนี่ เรื่องวัคซีน HPV & วัคซีนในเด็ก https://fb.watch/xc2Iq0xYu4/? https://www.rookon.com/?p=1173 https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110664030647289/? คลิป 4 นาทีอธิบายเรื่องการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ https://vt.tiktok.com/ZSYCGuqoM/ ✍️ข่าวเรื่องญี่ปุ่นประกาศไม่แนะนำว่าต้องฉีด HPV Vaccine หาอ่านได้ที่นี่ครับ(เข้าถึงเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556) http://sanevax.org/breaking-news-japan-and-hpv-vaccines/ http://sanevax.org/hpv-vaccines-japan-requires-disclosure-of-side-effects/ ✍️บทความทางวิชาการที่สำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ไม่ต้องการฉีด HPV Vaccine ในสหรัฐครับ(เข้าถึงเมื่อ 11 กันยายน 2556) http://pediatrics.aappublications.org/content/early/2013/03/12/peds.2012-2384.abstract ✍️Merck ถูกฟ้องปิดบังผลข้างเคียงร้ายแรง https://www.facebook.com/photo.php?fbid=122200589258234582&set=a.122096260418234582&type=3 ✍️เด็กในอินเดียถูกฉีดวัคซีน HPV 24,000 คน ตายทันที https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110761038647289/? https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19 ✍️ดร. พอล โธมัส เตือนว่า “จะมีผู้เสียชีวิตจากวัคซีน [HPV] มากกว่ามะเร็งปากมดลูกเสียอีก แค่ดูจำนวนงานวิจัย และจำนวนผู้เสียชีวิต ก็น่ากลัวมากแล้ว” https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122109699794647289/? ✍️คดีนี้เกี่ยวข้องกับการอ้างว่า Merck ให้ข้อมูลเกินจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน https://www.facebook.com/share/p/1G2MxNMeWm/ ✍️มาดูคำตอบเมื่ออาจารย์หมออรรถพลถาม AI https://www.facebook.com/share/p/1AVyV3JELE/ ✍️คดีนี้เกี่ยวข้องกับการอ้างว่า Merck ให้ข้อมูลเกินจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน https://www.facebook.com/share/p/1G2MxNMeWm/ ✍️คุณรับได้ไหมกับผลลัพธ์หลังจากพาลูกไปรับวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV 🍎ลูกสาว11ปีเสียชีวิตหลังฉีด https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108855318647289/? https://www.thairath.co.th/news/local/central/1921241 🍎ปวดหัวเป็นสัปดาห์หลังฉีดสุดท้ายเสียชีวิต พ่อแต่งกลอนอาลัยลูกสาว https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122107354964647289/? 🍎ลูกสาวเสียชีวิตทันทีหลังโรงเรียนพาหมอมาฉีด https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108861930647289/? 🍎นักเรียนไทย 11 ราย ได้รับผลกระทบทันที https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108858174647289/? 🍎เคสต่างประเทศ ลูกสาวเสียชีวิต https://www.facebook.com/332186880241439/photos/a.332188263574634/554864934640298/?type=3 🍎เคสต่างประเทศ โคม่า https://www.facebook.com/652558728/posts/10156341599408729/? 🍎เคสต่างประเทศ ชักกระตุกรุนแรง https://www.facebook.com/share/v/1AB8rFrmXA/ 🍎เคสต่างประเทศ หลังฉีดทำให้ลูกชายพิการต่อมาฆ่าตัวตาย https://www.facebook.com/share/p/1CH5aU5TvM/ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจ แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 Comments 0 Shares 640 Views 0 Reviews
  • ห้องน้ำอัจฉริยะพร้อมระบบจำกัดเวลาเปิดใช้งานในเมือง Long Beach เมือง Long Beach ได้เปิดตัว โครงการนำร่องห้องน้ำอัจฉริยะ โดยร่วมมือกับ Throne Labs ซึ่งเป็นบริษัทจาก Washington DC ห้องน้ำเหล่านี้ถูกเรียกว่า "Thrones" และมีระบบ QR Code สำหรับการเข้าใช้งาน

    ผู้ใช้สามารถ สแกน QR Code เพื่อรับข้อความเปิดประตู หรือใช้ รหัสที่พิมพ์ได้สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมี บัตรเข้าถึงแบบกายภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบไม่ต้องใช้เทคโนโลยี

    ห้องน้ำอัจฉริยะใช้ QR Code และรหัสผ่านเพื่อเปิดประตู
    - ช่วยให้ สามารถควบคุมการเข้าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    มีระบบแจ้งสถานะห้องน้ำแบบดิจิทัล
    - แสดงว่า ห้องน้ำว่าง, กำลังใช้งาน, กำลังทำความสะอาด หรือปิดให้บริการ

    จำกัดเวลาใช้งาน 10 นาทีต่อครั้ง
    - หลังจากครบเวลา ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัติ

    ติดตั้งที่ Belmont Pier, Shoreline Marina, Harvey Milk Promenade Park และ DeForest Park
    - เลือกพื้นที่ที่มี ความต้องการห้องน้ำสูงแต่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ

    ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,200 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อห้องน้ำ
    - รวมเป็น 100,000 ดอลลาร์สำหรับโครงการนำร่อง 4 เดือน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/10/time-restricted-039smart039-toilets-arrive-as-us-city-looks-to-plug-restroom-gaps
    ห้องน้ำอัจฉริยะพร้อมระบบจำกัดเวลาเปิดใช้งานในเมือง Long Beach เมือง Long Beach ได้เปิดตัว โครงการนำร่องห้องน้ำอัจฉริยะ โดยร่วมมือกับ Throne Labs ซึ่งเป็นบริษัทจาก Washington DC ห้องน้ำเหล่านี้ถูกเรียกว่า "Thrones" และมีระบบ QR Code สำหรับการเข้าใช้งาน ผู้ใช้สามารถ สแกน QR Code เพื่อรับข้อความเปิดประตู หรือใช้ รหัสที่พิมพ์ได้สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมี บัตรเข้าถึงแบบกายภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบไม่ต้องใช้เทคโนโลยี ✅ ห้องน้ำอัจฉริยะใช้ QR Code และรหัสผ่านเพื่อเปิดประตู - ช่วยให้ สามารถควบคุมการเข้าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ มีระบบแจ้งสถานะห้องน้ำแบบดิจิทัล - แสดงว่า ห้องน้ำว่าง, กำลังใช้งาน, กำลังทำความสะอาด หรือปิดให้บริการ ✅ จำกัดเวลาใช้งาน 10 นาทีต่อครั้ง - หลังจากครบเวลา ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัติ ✅ ติดตั้งที่ Belmont Pier, Shoreline Marina, Harvey Milk Promenade Park และ DeForest Park - เลือกพื้นที่ที่มี ความต้องการห้องน้ำสูงแต่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ ✅ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,200 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อห้องน้ำ - รวมเป็น 100,000 ดอลลาร์สำหรับโครงการนำร่อง 4 เดือน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/10/time-restricted-039smart039-toilets-arrive-as-us-city-looks-to-plug-restroom-gaps
    0 Comments 0 Shares 241 Views 0 Reviews
  • Awakening Song Pt. 1 – Echoes from the Unwanted Image
    A Sweet Notice to Those Who Still Breathe Quietly
    Official Album Launch: May 28, 2025

    Pre-listen the unofficial debut single:
    No More Masks (Unofficial Preview)
    https://youtu.be/H-Og0cbfrJA

    Follow the full release here:
    Spotify Artist Profile https://open.spotify.com/artist/4lUbgHzsclX3utQs8ZQe9c
    YouTube Music Channel https://music.youtube.com/channel/UCU5BwquaVTJ2ZeKJRjShtew

    Emotional & Functional Trackmap

    A guided journey through six honest songs confronting the truths we usually hide.
    A Sweet Notice from the universe — softly reminding you that you’re still here.

    Concept Expansion: What is a “Sweet Notice”?
    In a world of noise, shame, and false strength, a Sweet Notice is not a command.
    It is not a scream.

    It is the soft whisper from your own soul —
    saying: “I see you, even when you’re hiding.”

    Each track in this album is a Sweet Notice
    sent from different corners of the inner landscape — from wounds, from regrets, from voices long silenced.
    And together, they form a path that begins in darkness, but does not end in despair.

    1. The True First Step
    Function: Awakening
    Emotion: Vulnerability, gentle courage
    This is not a song that performs — it breathes.
    It teaches that honesty doesn’t begin with clarity, but with movement.
    A soft notice that the first trembling step is sacred.
    “The first step is not clean. It is messy. It is breathing while scared.”
    Sweet Notice: You’re allowed to start before you're ready.

    2. No More Masks
    Function: Confrontation
    Emotion: Rage turned into truth
    This is the roar that breaks silence.
    It confronts the false peace we build with smiles and the roles we wear to be loved.
    Not bitter — just done.
    “This rap’s my truth. And my goodbye.”
    Sweet Notice: You don’t have to perform your pain anymore.

    3. Echoes of the Heart
    Function: Remembrance
    Emotion: Longing, warmth in absence
    A fusion of country and trap, this song returns you to a love that never left.
    It doesn’t mourn — it reminds. The heart’s echo is still playing.
    “In every beat, I hear — echoes of the heart.”
    Sweet Notice: Love does not vanish. It transforms.

    4. One More Lie
    Function: Realization
    Emotion: Quiet despair, recognition
    This is the silent war inside — between the truths we know and the lies we repeat.
    It is not an anthem. It is a mirror.
    “One more lie is one too many.”
    Sweet Notice: Stop lying to survive. Begin living to tell the truth.

    5. Still Worth It
    Function: Redemption
    Emotion: Silent strength, quiet dignity
    This is for those who don’t win — but still show up.
    It carries no pride, but dignity. No boast, but breath.
    “Still worth it. Even cracked. Still worth it. Even blacked.”
    Sweet Notice: You’re tired. Not finished.

    6. Bleed for Real
    Function: Cleansing
    Emotion: Raw honesty, uncompromised healing
    This is where grief becomes sacred.
    Where pain is no longer paraded, but purified.
    A space for healing that doesn’t demand applause.
    “That’s the only cut that’ll let you heal.”
    Sweet Notice: Bleed — not for likes, but for light.

    Album Summary: The Function of Echoes
    This is not an album that tells you what to believe.
    It is an album that notices you — where you are, how long you've been hiding, and how deeply you want to return to yourself.
    In every song, there’s a message:
    “Your mess is seen. Your silence is heard.
    You are still worth the song.”

    This album isn’t made to entertain.
    It’s made to tell the truth — the one we usually hide.
    You’re not alone. You’re not broken beyond repair. You’re just waiting for your echo to come home.
    🌌 Awakening Song Pt. 1 – Echoes from the Unwanted Image 🎧 A Sweet Notice to Those Who Still Breathe Quietly 📅 Official Album Launch: May 28, 2025 🔗 Pre-listen the unofficial debut single: ▶️ No More Masks (Unofficial Preview) https://youtu.be/H-Og0cbfrJA 🎶 Follow the full release here: Spotify Artist Profile https://open.spotify.com/artist/4lUbgHzsclX3utQs8ZQe9c YouTube Music Channel https://music.youtube.com/channel/UCU5BwquaVTJ2ZeKJRjShtew Emotional & Functional Trackmap A guided journey through six honest songs confronting the truths we usually hide. A Sweet Notice from the universe — softly reminding you that you’re still here. 🌌 Concept Expansion: What is a “Sweet Notice”? In a world of noise, shame, and false strength, a Sweet Notice is not a command. It is not a scream. It is the soft whisper from your own soul — saying: “I see you, even when you’re hiding.” Each track in this album is a Sweet Notice sent from different corners of the inner landscape — from wounds, from regrets, from voices long silenced. And together, they form a path that begins in darkness, but does not end in despair. 1. The True First Step Function: Awakening Emotion: Vulnerability, gentle courage This is not a song that performs — it breathes. It teaches that honesty doesn’t begin with clarity, but with movement. A soft notice that the first trembling step is sacred. “The first step is not clean. It is messy. It is breathing while scared.” Sweet Notice: You’re allowed to start before you're ready. 2. No More Masks Function: Confrontation Emotion: Rage turned into truth This is the roar that breaks silence. It confronts the false peace we build with smiles and the roles we wear to be loved. Not bitter — just done. “This rap’s my truth. And my goodbye.” Sweet Notice: You don’t have to perform your pain anymore. 3. Echoes of the Heart Function: Remembrance Emotion: Longing, warmth in absence A fusion of country and trap, this song returns you to a love that never left. It doesn’t mourn — it reminds. The heart’s echo is still playing. “In every beat, I hear — echoes of the heart.” Sweet Notice: Love does not vanish. It transforms. 4. One More Lie Function: Realization Emotion: Quiet despair, recognition This is the silent war inside — between the truths we know and the lies we repeat. It is not an anthem. It is a mirror. “One more lie is one too many.” Sweet Notice: Stop lying to survive. Begin living to tell the truth. 5. Still Worth It Function: Redemption Emotion: Silent strength, quiet dignity This is for those who don’t win — but still show up. It carries no pride, but dignity. No boast, but breath. “Still worth it. Even cracked. Still worth it. Even blacked.” Sweet Notice: You’re tired. Not finished. 6. Bleed for Real Function: Cleansing Emotion: Raw honesty, uncompromised healing This is where grief becomes sacred. Where pain is no longer paraded, but purified. A space for healing that doesn’t demand applause. “That’s the only cut that’ll let you heal.” Sweet Notice: Bleed — not for likes, but for light. 🌀 Album Summary: The Function of Echoes This is not an album that tells you what to believe. It is an album that notices you — where you are, how long you've been hiding, and how deeply you want to return to yourself. In every song, there’s a message: “Your mess is seen. Your silence is heard. You are still worth the song.” This album isn’t made to entertain. It’s made to tell the truth — the one we usually hide. 💬 You’re not alone. You’re not broken beyond repair. You’re just waiting for your echo to come home.
    0 Comments 0 Shares 610 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึง PowerToys ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือขั้นสูงสำหรับ Windows 10 และ 11 ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 และได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เขียนแนะนำว่า Microsoft ควรนำฟีเจอร์บางส่วนของ PowerToys มาเป็นส่วนหนึ่งของ Windows 11

    PowerToys มีต้นกำเนิดจากยุค Windows 95 ซึ่งบางฟีเจอร์เดิมได้ถูกนำมาใช้ใน Windows รุ่นหลัง เช่น Quick Res ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนความละเอียดหน้าจอได้อย่างรวดเร็ว

    Always on Top
    - กด Win + Ctrl + T เพื่อให้แอปที่ใช้งานอยู่ติดอยู่ด้านบนสุด
    - สามารถใช้กับ Sticky Notes, Browser Tabs, Messengers และ Calculator

    Peek
    - กด Ctrl + Space เพื่อดูตัวอย่างไฟล์โดยไม่ต้องเปิดแอป
    - รองรับ ภาพ, Excel, PDF, และไฟล์ข้อความ

    Mouse Utilities
    - กด Ctrl ซ้ายสองครั้ง เพื่อค้นหาตำแหน่งเคอร์เซอร์
    - ไฮไลต์การคลิกเมาส์และเปลี่ยนเคอร์เซอร์เป็น Crosshair

    Command Palette / PowerToys Run
    - เครื่องมือค้นหาที่เร็วและแม่นยำกว่าระบบ Windows Search
    - สามารถค้นหา แอป, ไฟล์, โฟลเดอร์, คำสั่งระบบ และเว็บเพจ

    Shortcut Guide
    - แสดงรายการ คีย์ลัดของ Windows โดยกดปุ่ม Windows ค้างไว้
    - ช่วยให้ผู้ใช้ใหม่เรียนรู้ การใช้งาน Windows 11 ได้เร็วขึ้น

    https://www.neowin.net/news/microsoft-should-integrate-these-five-powertoys-utilities-into-windows-11/
    บทความนี้กล่าวถึง PowerToys ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือขั้นสูงสำหรับ Windows 10 และ 11 ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 และได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เขียนแนะนำว่า Microsoft ควรนำฟีเจอร์บางส่วนของ PowerToys มาเป็นส่วนหนึ่งของ Windows 11 PowerToys มีต้นกำเนิดจากยุค Windows 95 ซึ่งบางฟีเจอร์เดิมได้ถูกนำมาใช้ใน Windows รุ่นหลัง เช่น Quick Res ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนความละเอียดหน้าจอได้อย่างรวดเร็ว ✅ Always on Top - กด Win + Ctrl + T เพื่อให้แอปที่ใช้งานอยู่ติดอยู่ด้านบนสุด - สามารถใช้กับ Sticky Notes, Browser Tabs, Messengers และ Calculator ✅ Peek - กด Ctrl + Space เพื่อดูตัวอย่างไฟล์โดยไม่ต้องเปิดแอป - รองรับ ภาพ, Excel, PDF, และไฟล์ข้อความ ✅ Mouse Utilities - กด Ctrl ซ้ายสองครั้ง เพื่อค้นหาตำแหน่งเคอร์เซอร์ - ไฮไลต์การคลิกเมาส์และเปลี่ยนเคอร์เซอร์เป็น Crosshair ✅ Command Palette / PowerToys Run - เครื่องมือค้นหาที่เร็วและแม่นยำกว่าระบบ Windows Search - สามารถค้นหา แอป, ไฟล์, โฟลเดอร์, คำสั่งระบบ และเว็บเพจ ✅ Shortcut Guide - แสดงรายการ คีย์ลัดของ Windows โดยกดปุ่ม Windows ค้างไว้ - ช่วยให้ผู้ใช้ใหม่เรียนรู้ การใช้งาน Windows 11 ได้เร็วขึ้น https://www.neowin.net/news/microsoft-should-integrate-these-five-powertoys-utilities-into-windows-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft should integrate these five PowerToys utilities into Windows 11
    PowerToys is among the fan-favorite Windows apps, and it is time for Microsoft to make some of its utilities part of Windows 11.
    0 Comments 0 Shares 276 Views 0 Reviews
  • จากนักวิจัย AI ไทยที่ MIT ถึงบอร์ด AI เเห่งชาติ:ในฐานะที่พีพีเป็นนักวิจัย AI จากประเทศไทยที่ทำวิจัยใน frontier ของ Human-AI Interaction ที่ MIT เเละมีโอกาสร่วมมือกับบริษัทเเละสถาบัน AI ชั้นนำหลายๆที่ พีพีคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะนำประสบการณ์เเละสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้เขียนออกมาเป็นไอเดียเผื่อจะเป็นประโยชน์กับบอร์ด AI เเห่งชาติ การที่รัฐบาลที่เล็งเห็นความสำคัญของ AI ในประเทศไทยเเละได้ตั้งบอร์ด AI เเห่งชาติ ซึ่งเป็นก้าวเเรกที่สำคัญมากๆ พีพีเลยอยากเเชร์มุมมองของ AI ในอนาคตจากในฝั่งงานวิจัย การศึกษา เเละชวนให้เห็นถึงคนไทยเก่งๆ ที่น่าจะช่วยกันสร้างอนาคตได้ครับ1) เราควรมอง AI อย่างไรในอนาคต?โดยส่วนตัวมองว่าพลังของ AI ไม่ใช่ตัวมันเองเเต่คือการที่ AI ไปเชื่อมกับสิ่งต่างๆ เเบบเดียวกับที่ internet หรือ social media กลายไปเป็น platform ที่อยู่ตรงกลางระหว่างมนุษย์กับ reality AI จะมีบทบาทอยู่เบื้องหลังอาหารที่เรากิน คนที่เราคบ สิ่งที่เราเสพ ความเชื่อที่เราเชื่อ ดังนั้นเราต้องตั้งคำถามว่าเราจะออกเเบบ AI ที่เป็นตัวบงการประสบการณ์ของมนุษย์เเบบไหน? เราต้องมอง AI ไม่ใช่เเค่โครงสร้างพื้นฐานอย่าง server หรือ data center เเต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประสบการณ์ความเป็นมนุษย์ การมองเเบบนี้ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับ AI ในมิติที่มากกว่าเเค่ “Artificial Intelligence” เเต่รวมไปถึง: AI ในฐานะ "Augmented Intuition” หรือ สัญชาติญาณใหม่ของมนุษย์ ที่อาจจะทำให้มนุษย์คิดได้ไกลขึ้นหรือเเคบลงขึ้นอยู่กับการออกเเบบวิธีการที่มนุษย์สัมพันกับ AI ตัวอย่าง เช่น งานวิจัยที่พีพีทำที่ MIT ใน project “Wearable Reasoner” ซึ่งเป็น AI ที่กระตุ้น critical thinking ของคนเวลาเจอข้อมูลต่างๆ ผ่านกระบวนการ nudging Choawalit Chotwattanaphong หรือ AI ในฐานะ "Addictive Intelligence” หรือสิ่งเสพติดที่รู้จักมนุษย์คนนั้นดีกว่าตัวเค้าเอง เช่น AI companion ที่ถูกออกเเบบมาเเทนที่ความสัมพันธ์มนุษย์ เป็น romance scammer เเบบใหม่ที่อันตรายมาก [2] ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด OpenAI ได้ทำวิจัยร่วมกับ MIT ในการศึกษาผลกระทบของเทคโนโลยีนี้ในวงกว้าง [3]เเละ AI ในฐานะ “Algorithmic Inequality” หรือตัวเร่งความเหลื่อมล้ำในสังคม งานวิจัยของ ดร Nattavudh Powdthavee โชว์ให้เห็นว่าในไทย AI คัดเลือกคนเข้าทำงานจากนามสกุลเเทนที่จะเป็นความสามารถซึ่งจะทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ [4]ดังนั้นเวลาเรามอง AI เราต้องมองให้ไกลว่าเทคโนโลยี หรือ ธุรกิจเเต่มองให้เห็นผลกระทบต่อประสบการณ์ของมนุษย์ในหลายๆมิติ โดยเฉพาะมิติทางการศึกษาที่จะเป็นรากฐานของประเทศ2) เราควรออกเเบบการศึกษาในยุค AI อย่างไร?การที่หลายประเทศเข้าถึง internet ได้เเต่ไม่ได้ทำให้ทุกประเทศพัฒนาเท่ากัน ส่วนนึงเป็นเพราะผลลัพธ์ของเทคโนโลยีขึ้นกับวิธีที่คนใช้ด้วย ดังนั้น AI จะทำให้คนมีศักยภาพมากขึ้นหรือน้อยลงขึ้นกับ HI หรือ Human Intelligence ด้วย การศึกษาในยุค AI ควรมองไปไกลกว่าเเค่การใช้เป็น หรือ การสร้างคนเข้าสู่อุตสาหกรรม เพราะเครื่องมือเหล่านี้จะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆ เเละอุตสาหกรรมวันนี้จะไม่ใช่อุตสาหกรรมในวันข้างหน้า Steve Jobs เคยกล่าวว่า technology is a bicycle for the mind ทุกๆเครื่องมือคือสิ่งที่สมองขับเคลื่อนไปเร็วขึ้น สิ่งที่เราต้องช่วยให้เด็กๆได้ขบคิดคือเค้าจะจะขับ AI ไปไหน เเละขับอย่างไรไม่ให้ชน การศึกษาในอนาคตในยุคที่ AI ทำให้เด็กๆเป็น “Cyborg Generation” คือคนที่ความคิดเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีตลอดเวลา เราควร focus ที่การทำให้เด็กๆมีความเป็นมนุษย์ รู้จักตัวเองมี meta-cognitive thinking คือคิดเกี่ยวกับการคิดได้ลึกซึ้งขึ้น เข้าใจว่าสิ่งภายนอกส่งผลกับความรู้สึกภายในอย่างไร เเละมีความกล้าที่จะนำความคิดนั้นออกมาเเสดงออกอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนี้เเทบจะไม่เกี่ยวกับ AI เลยเเต่จะเป็นพื้นฐานให้เค้ารับมือกับโลกที่เปลี่ยนไปได้ เมื่อโตขึ้นเราควรส่งเสริมให้เด็กๆ มองเห็นศักยภาพตัวเองกับโจทย์ที่ท้าทาย ซึ่งโจทย์เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น climate change, ความเหลื่อมล้ำ, ปัญหาต่างๆจะไม่เเก้ตัวเอง เเละ AI ก็จะไม่เเก้สิ่งนี้ด้วยตัวมันเอง เราไม่ควรให้เด็กมองตัวเองผ่านอาชีพเเคบๆ ว่าเป็นหมอ วิศวะ หรืออะไรก็เเล้วเเต่ เเต่มองเป็นคนที่มีศักยภาพที่สามารถจะใช้เครื่องมือขยายศักยภาพตัวเองไปเเก้ปัญหาใหญ่ๆ เเละสร้างสิ่งที่มีคุณค่าได้ สิ่งสุดท้ายเลยคือเราต้องช่วยให้เด็กๆ ไม่ติดกับดักใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสพติด AI ที่ถูกออกเเบบมาให้มีความเสพติดมากขึ้น หรือ การรู้สึกหมดพลังเพราะเก่งไม่เท่ากับ AI เราต้องสร้าง narrative ใหม่ที่ช่วยให้เด็กรู้ทันกับความท้าทายในวันข้างหน้า3) ทิศทางของ AI ในอนาคต เเละไทย?เมื่อมองภาพใหญ่กว่านั้นว่าสิ่งที่จะเป็น next frontier ของ AI คืออะไร หลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของ agent หรือ physical AI เเต่โดยส่วนตัวคิดว่าทั้ง agent หรือ physical AI เป็นปลายทาง สิ่งที่พื้นฐานที่สุดคือเรื่องของ mechanistic interpretability [5] หรือการพยายามเข้าใจ AI ลงไปในระดับกลไกผ่านการศึกษา cluster ของ neural networks ใน large models ซึ่งพีพีคิดว่าสิ่งนี้สำคัญเพราะไม่ใช่เเค่เราจะเข้าใจ model มากขึ้นเเต่จะทำให้เราควบคุมโมเดลได้ดีขึ้นด้วย เช่น ถ้าเรารู้ว่า cluster ทำหน้าทีอะไร เราก็จะเช็คได้ว่ามี cluster ของ neurons ไม่พึงประสงค์ทำงานรึเปล่า (อาจจะลด hallucination ได้) หรือ เราสามารถปิด neuron cluster ในส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้จะทำให้ลดทรัพยากรณ์เเละนำมาสู่ model ขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อมขึ้นได้ นี่คือเหตุผลว่าตอนนี้ยักใหญ่ในวงการ AI หลายๆที่เเข่งกันทำ interpretability เพราะมันจะลด lost, เพิ่ม trust, เเละ robutness ได้ อย่างที่ CEO ของ Anthropic ประกาศว่าจะต้องเปิด blackbox ของ AI ให้ได้ภายในปี 2027 [6]ในไทยการวิจัยด้านนี้อาจจะทำได้ยากเพราะต้องการ compute มหาศาล เเละโจทย์นี้เป็นโจทย์ใหญ่ของระดับโลก ดังนั้นสิ่งที่เราควรสนใจอาจจะเป็นเรื่องของ research เเละ innovation ที่ connect AI เพื่อเข้ามา enhance อุตสาหกรรมไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้นผ่าน network ของ AI services ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว หรือ อาหาร วัฒนธรรม เเละ creative industry โดยสิ่งที่เราต้องทำคือต้องคิดเเตกต่างเเละไม่ยึดกับ AI เเบบเดิมๆที่เป็นมาพีพีได้รับเชิญจากทั้งรัฐบาลเเละเอกชนให้ไปเเชร์งานวิจัยเกี่ยวกับ Human-AI Interaction ที่เกาหลี 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีความตื่นตัวเรื่อง AI กับ creative industry มาก ครั้งเเรกเป็นงานของรัฐบาลที่ focus เรื่อง AI & cultural innovation เเละอีกสองครั้งเป็นงานของ Busan International Fim Festival เเละ Busan AI Fim Festival ซึ่งทำให้เห็นว่าเกาหลีมองเรื่องของ AI ในฐานะ creative medium เเบบใหม่ที่จะสร้างงานสร้างสรรค์เเบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน (ไม่ใช่เเค่การเอา AI มาเเทนที่สื่อเเบบเดิม) เช่นการสร้าง interactive cinema ที่ทำให้ character ในภาพยนต์หรือ series ออกมาอยู่ในโลกจริงร่วมกับคนดูได้ เเถมยังกลายเป็น interfaces ที่ช่วยขายสินค้าเเละวัฒนธรรมเกาหลีได้อีก นี่เป็นตัวอย่างของการมอง AI เเละ network ของ AI เป็น infrastructure ที่ connect กับวัฒนธรรมเเละ soft power ได้ครับในไทยเองก็มีโปรเจคที่พีพีเกี่ยวข้องอยู่อย่าง Cyber Subin กับพี่ Pichet Klunchun [7] ที่พยายามใช้ AI ถอดรหัสวัฒนธรรมไทยออกมาซึ่งถูกเชิญไปนำเสนอเเละโชว์ทั่วโลกในฐานะงาน AI ที่เชื่อมโยงกับการสร้างศิลปะเเละวัฒนธรรมเเบบใหม่ ดังนั้นพีพีโดยส่วนตัวค่อนข้าง optimistic ว่าไทยสามารถมีบทบาทต่อวงการ AI โลกเเละสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นได้ในประเทศได้ถ้าได้รับการสนับสนุนที่ถูกต้อง เพราะไทยมีคนไทยเก่งๆ อีกมากมายที่อยู่เบื้องหลังวงการ AI ระดับโลกอย่าง ดร Supasorn Aek Suwajanakorn ที่เป็น pioneer ของ generative AI คนเเรกๆของโลก มี TED talk ที่คนดูเป็นล้าน [8] หรือ วีระ บุญจริง ที่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Siri ที่กลายมาเป็น conversational AI ที่มีคนใช้ทั่วโลกอย่าง Apple [9] ล่าสุดพีพีไปงานประชุม Human-Computer Interaction ที่สำคัญที่สุดในสาขาเจอคนไทยเก่งๆ หลายคนที่อยู่ทั่วโลก หรือ ในภาคเอกชนก็คนเก่งๆ มากมายอย่างพี่ผลักดันวงการ AI ใน industry ของไทย ดังนั้นก็อยากฝากไปถึงบอร์ด AI เเห่งชาตินะครับว่าประเทศไทยจะมีอนาคตทางด้าน AI ได้เเน่ๆ ถ้าเรามอง AI ให้ครบทุกมิติ ออกเเบบการศึกษาในยุค AI เเบบ all of education เเละ education for all เเละรวมพลังเอาคนเก่งๆ มาช่วยกันครับ คิดว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำถ้าตั้งใจให้เกิด impact จริงๆ เชื่อว่าจะพลิกประเทศไทยได้ครับ เพราะคำว่า Th[AI]land จะขาด AI ไปไม่ได้ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ Choawalit Chotwattanaphong https://www.media.mit.edu/projects/wearable-reasoner/overview/[2] https://mit-serc.pubpub.org/pub/iopjyxcx/release/2[3] https://openai.com/index/affective-use-study/[4] https://ui.adsabs.harvard.edu/abs/2025arXiv250119407P/abstract[5] https://www.neelnanda.io/mechanistic-interpretability/glossary[6] https://techsauce.co/news/anthropic-aims-to-unlock-ai-black-box-by-2027[7] https://cybersubin.media.mit.edu/[8] https://www.ted.com/speakers/supasorn_suwajanakorn[9] https://www.salika.co/2018/10/16/siri-artificial-intelligence-thai-owned/
    จากนักวิจัย AI ไทยที่ MIT ถึงบอร์ด AI เเห่งชาติ:ในฐานะที่พีพีเป็นนักวิจัย AI จากประเทศไทยที่ทำวิจัยใน frontier ของ Human-AI Interaction ที่ MIT เเละมีโอกาสร่วมมือกับบริษัทเเละสถาบัน AI ชั้นนำหลายๆที่ พีพีคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะนำประสบการณ์เเละสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้เขียนออกมาเป็นไอเดียเผื่อจะเป็นประโยชน์กับบอร์ด AI เเห่งชาติ การที่รัฐบาลที่เล็งเห็นความสำคัญของ AI ในประเทศไทยเเละได้ตั้งบอร์ด AI เเห่งชาติ ซึ่งเป็นก้าวเเรกที่สำคัญมากๆ พีพีเลยอยากเเชร์มุมมองของ AI ในอนาคตจากในฝั่งงานวิจัย การศึกษา เเละชวนให้เห็นถึงคนไทยเก่งๆ ที่น่าจะช่วยกันสร้างอนาคตได้ครับ1) เราควรมอง AI อย่างไรในอนาคต?โดยส่วนตัวมองว่าพลังของ AI ไม่ใช่ตัวมันเองเเต่คือการที่ AI ไปเชื่อมกับสิ่งต่างๆ เเบบเดียวกับที่ internet หรือ social media กลายไปเป็น platform ที่อยู่ตรงกลางระหว่างมนุษย์กับ reality AI จะมีบทบาทอยู่เบื้องหลังอาหารที่เรากิน คนที่เราคบ สิ่งที่เราเสพ ความเชื่อที่เราเชื่อ ดังนั้นเราต้องตั้งคำถามว่าเราจะออกเเบบ AI ที่เป็นตัวบงการประสบการณ์ของมนุษย์เเบบไหน? เราต้องมอง AI ไม่ใช่เเค่โครงสร้างพื้นฐานอย่าง server หรือ data center เเต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประสบการณ์ความเป็นมนุษย์ การมองเเบบนี้ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับ AI ในมิติที่มากกว่าเเค่ “Artificial Intelligence” เเต่รวมไปถึง: AI ในฐานะ "Augmented Intuition” หรือ สัญชาติญาณใหม่ของมนุษย์ ที่อาจจะทำให้มนุษย์คิดได้ไกลขึ้นหรือเเคบลงขึ้นอยู่กับการออกเเบบวิธีการที่มนุษย์สัมพันกับ AI ตัวอย่าง เช่น งานวิจัยที่พีพีทำที่ MIT ใน project “Wearable Reasoner” ซึ่งเป็น AI ที่กระตุ้น critical thinking ของคนเวลาเจอข้อมูลต่างๆ ผ่านกระบวนการ nudging [1] หรือ AI ในฐานะ "Addictive Intelligence” หรือสิ่งเสพติดที่รู้จักมนุษย์คนนั้นดีกว่าตัวเค้าเอง เช่น AI companion ที่ถูกออกเเบบมาเเทนที่ความสัมพันธ์มนุษย์ เป็น romance scammer เเบบใหม่ที่อันตรายมาก [2] ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด OpenAI ได้ทำวิจัยร่วมกับ MIT ในการศึกษาผลกระทบของเทคโนโลยีนี้ในวงกว้าง [3]เเละ AI ในฐานะ “Algorithmic Inequality” หรือตัวเร่งความเหลื่อมล้ำในสังคม งานวิจัยของ ดร Nattavudh Powdthavee โชว์ให้เห็นว่าในไทย AI คัดเลือกคนเข้าทำงานจากนามสกุลเเทนที่จะเป็นความสามารถซึ่งจะทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ [4]ดังนั้นเวลาเรามอง AI เราต้องมองให้ไกลว่าเทคโนโลยี หรือ ธุรกิจเเต่มองให้เห็นผลกระทบต่อประสบการณ์ของมนุษย์ในหลายๆมิติ โดยเฉพาะมิติทางการศึกษาที่จะเป็นรากฐานของประเทศ2) เราควรออกเเบบการศึกษาในยุค AI อย่างไร?การที่หลายประเทศเข้าถึง internet ได้เเต่ไม่ได้ทำให้ทุกประเทศพัฒนาเท่ากัน ส่วนนึงเป็นเพราะผลลัพธ์ของเทคโนโลยีขึ้นกับวิธีที่คนใช้ด้วย ดังนั้น AI จะทำให้คนมีศักยภาพมากขึ้นหรือน้อยลงขึ้นกับ HI หรือ Human Intelligence ด้วย การศึกษาในยุค AI ควรมองไปไกลกว่าเเค่การใช้เป็น หรือ การสร้างคนเข้าสู่อุตสาหกรรม เพราะเครื่องมือเหล่านี้จะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆ เเละอุตสาหกรรมวันนี้จะไม่ใช่อุตสาหกรรมในวันข้างหน้า Steve Jobs เคยกล่าวว่า technology is a bicycle for the mind ทุกๆเครื่องมือคือสิ่งที่สมองขับเคลื่อนไปเร็วขึ้น สิ่งที่เราต้องช่วยให้เด็กๆได้ขบคิดคือเค้าจะจะขับ AI ไปไหน เเละขับอย่างไรไม่ให้ชน การศึกษาในอนาคตในยุคที่ AI ทำให้เด็กๆเป็น “Cyborg Generation” คือคนที่ความคิดเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีตลอดเวลา เราควร focus ที่การทำให้เด็กๆมีความเป็นมนุษย์ รู้จักตัวเองมี meta-cognitive thinking คือคิดเกี่ยวกับการคิดได้ลึกซึ้งขึ้น เข้าใจว่าสิ่งภายนอกส่งผลกับความรู้สึกภายในอย่างไร เเละมีความกล้าที่จะนำความคิดนั้นออกมาเเสดงออกอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนี้เเทบจะไม่เกี่ยวกับ AI เลยเเต่จะเป็นพื้นฐานให้เค้ารับมือกับโลกที่เปลี่ยนไปได้ เมื่อโตขึ้นเราควรส่งเสริมให้เด็กๆ มองเห็นศักยภาพตัวเองกับโจทย์ที่ท้าทาย ซึ่งโจทย์เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น climate change, ความเหลื่อมล้ำ, ปัญหาต่างๆจะไม่เเก้ตัวเอง เเละ AI ก็จะไม่เเก้สิ่งนี้ด้วยตัวมันเอง เราไม่ควรให้เด็กมองตัวเองผ่านอาชีพเเคบๆ ว่าเป็นหมอ วิศวะ หรืออะไรก็เเล้วเเต่ เเต่มองเป็นคนที่มีศักยภาพที่สามารถจะใช้เครื่องมือขยายศักยภาพตัวเองไปเเก้ปัญหาใหญ่ๆ เเละสร้างสิ่งที่มีคุณค่าได้ สิ่งสุดท้ายเลยคือเราต้องช่วยให้เด็กๆ ไม่ติดกับดักใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสพติด AI ที่ถูกออกเเบบมาให้มีความเสพติดมากขึ้น หรือ การรู้สึกหมดพลังเพราะเก่งไม่เท่ากับ AI เราต้องสร้าง narrative ใหม่ที่ช่วยให้เด็กรู้ทันกับความท้าทายในวันข้างหน้า3) ทิศทางของ AI ในอนาคต เเละไทย?เมื่อมองภาพใหญ่กว่านั้นว่าสิ่งที่จะเป็น next frontier ของ AI คืออะไร หลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของ agent หรือ physical AI เเต่โดยส่วนตัวคิดว่าทั้ง agent หรือ physical AI เป็นปลายทาง สิ่งที่พื้นฐานที่สุดคือเรื่องของ mechanistic interpretability [5] หรือการพยายามเข้าใจ AI ลงไปในระดับกลไกผ่านการศึกษา cluster ของ neural networks ใน large models ซึ่งพีพีคิดว่าสิ่งนี้สำคัญเพราะไม่ใช่เเค่เราจะเข้าใจ model มากขึ้นเเต่จะทำให้เราควบคุมโมเดลได้ดีขึ้นด้วย เช่น ถ้าเรารู้ว่า cluster ทำหน้าทีอะไร เราก็จะเช็คได้ว่ามี cluster ของ neurons ไม่พึงประสงค์ทำงานรึเปล่า (อาจจะลด hallucination ได้) หรือ เราสามารถปิด neuron cluster ในส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้จะทำให้ลดทรัพยากรณ์เเละนำมาสู่ model ขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อมขึ้นได้ นี่คือเหตุผลว่าตอนนี้ยักใหญ่ในวงการ AI หลายๆที่เเข่งกันทำ interpretability เพราะมันจะลด lost, เพิ่ม trust, เเละ robutness ได้ อย่างที่ CEO ของ Anthropic ประกาศว่าจะต้องเปิด blackbox ของ AI ให้ได้ภายในปี 2027 [6]ในไทยการวิจัยด้านนี้อาจจะทำได้ยากเพราะต้องการ compute มหาศาล เเละโจทย์นี้เป็นโจทย์ใหญ่ของระดับโลก ดังนั้นสิ่งที่เราควรสนใจอาจจะเป็นเรื่องของ research เเละ innovation ที่ connect AI เพื่อเข้ามา enhance อุตสาหกรรมไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้นผ่าน network ของ AI services ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว หรือ อาหาร วัฒนธรรม เเละ creative industry โดยสิ่งที่เราต้องทำคือต้องคิดเเตกต่างเเละไม่ยึดกับ AI เเบบเดิมๆที่เป็นมาพีพีได้รับเชิญจากทั้งรัฐบาลเเละเอกชนให้ไปเเชร์งานวิจัยเกี่ยวกับ Human-AI Interaction ที่เกาหลี 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีความตื่นตัวเรื่อง AI กับ creative industry มาก ครั้งเเรกเป็นงานของรัฐบาลที่ focus เรื่อง AI & cultural innovation เเละอีกสองครั้งเป็นงานของ Busan International Fim Festival เเละ Busan AI Fim Festival ซึ่งทำให้เห็นว่าเกาหลีมองเรื่องของ AI ในฐานะ creative medium เเบบใหม่ที่จะสร้างงานสร้างสรรค์เเบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน (ไม่ใช่เเค่การเอา AI มาเเทนที่สื่อเเบบเดิม) เช่นการสร้าง interactive cinema ที่ทำให้ character ในภาพยนต์หรือ series ออกมาอยู่ในโลกจริงร่วมกับคนดูได้ เเถมยังกลายเป็น interfaces ที่ช่วยขายสินค้าเเละวัฒนธรรมเกาหลีได้อีก นี่เป็นตัวอย่างของการมอง AI เเละ network ของ AI เป็น infrastructure ที่ connect กับวัฒนธรรมเเละ soft power ได้ครับในไทยเองก็มีโปรเจคที่พีพีเกี่ยวข้องอยู่อย่าง Cyber Subin กับพี่ Pichet Klunchun [7] ที่พยายามใช้ AI ถอดรหัสวัฒนธรรมไทยออกมาซึ่งถูกเชิญไปนำเสนอเเละโชว์ทั่วโลกในฐานะงาน AI ที่เชื่อมโยงกับการสร้างศิลปะเเละวัฒนธรรมเเบบใหม่ ดังนั้นพีพีโดยส่วนตัวค่อนข้าง optimistic ว่าไทยสามารถมีบทบาทต่อวงการ AI โลกเเละสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นได้ในประเทศได้ถ้าได้รับการสนับสนุนที่ถูกต้อง เพราะไทยมีคนไทยเก่งๆ อีกมากมายที่อยู่เบื้องหลังวงการ AI ระดับโลกอย่าง ดร Supasorn Aek Suwajanakorn ที่เป็น pioneer ของ generative AI คนเเรกๆของโลก มี TED talk ที่คนดูเป็นล้าน [8] หรือ วีระ บุญจริง ที่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Siri ที่กลายมาเป็น conversational AI ที่มีคนใช้ทั่วโลกอย่าง Apple [9] ล่าสุดพีพีไปงานประชุม Human-Computer Interaction ที่สำคัญที่สุดในสาขาเจอคนไทยเก่งๆ หลายคนที่อยู่ทั่วโลก หรือ ในภาคเอกชนก็คนเก่งๆ มากมายอย่างพี่ผลักดันวงการ AI ใน industry ของไทย ดังนั้นก็อยากฝากไปถึงบอร์ด AI เเห่งชาตินะครับว่าประเทศไทยจะมีอนาคตทางด้าน AI ได้เเน่ๆ ถ้าเรามอง AI ให้ครบทุกมิติ ออกเเบบการศึกษาในยุค AI เเบบ all of education เเละ education for all เเละรวมพลังเอาคนเก่งๆ มาช่วยกันครับ คิดว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำถ้าตั้งใจให้เกิด impact จริงๆ เชื่อว่าจะพลิกประเทศไทยได้ครับ เพราะคำว่า Th[AI]land จะขาด AI ไปไม่ได้ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ [1] https://www.media.mit.edu/projects/wearable-reasoner/overview/[2] https://mit-serc.pubpub.org/pub/iopjyxcx/release/2[3] https://openai.com/index/affective-use-study/[4] https://ui.adsabs.harvard.edu/abs/2025arXiv250119407P/abstract[5] https://www.neelnanda.io/mechanistic-interpretability/glossary[6] https://techsauce.co/news/anthropic-aims-to-unlock-ai-black-box-by-2027[7] https://cybersubin.media.mit.edu/[8] https://www.ted.com/speakers/supasorn_suwajanakorn[9] https://www.salika.co/2018/10/16/siri-artificial-intelligence-thai-owned/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 722 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลอังกฤษเตรียมออกคำเตือนให้ บริษัทในสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นอันดับแรก หลังจากเกิดการโจมตีทางไซเบอร์ต่อ Marks & Spencer, Co-op Group และ Harrods

    Pat McFadden รัฐมนตรีประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรีของอังกฤษ ได้จัดประชุมร่วมกับ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติและ Richard Horne CEO ของ National Cyber Security Centre (NCSC) เพื่อหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนที่มอบให้แก่บริษัทที่ได้รับผลกระทบ

    รัฐบาลอังกฤษเตรียมออกคำเตือนด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - บริษัทในสหราชอาณาจักรต้องให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นอันดับแรก
    - เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ต่อ Marks & Spencer, Co-op Group และ Harrods

    การประชุมระดับสูงเกี่ยวกับมาตรการรับมือ
    - Pat McFadden รัฐมนตรีประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรีเป็นผู้นำการประชุม
    - มีการหารือร่วมกับ Richard Horne CEO ของ NCSC

    มาตรการสนับสนุนบริษัทที่ได้รับผลกระทบ
    - NCSC ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ การป้องกันและรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
    - รัฐบาลอังกฤษอาจออก แนวทางใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล

    แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - อาจมีการออก กฎหมายใหม่เพื่อบังคับใช้มาตรการความปลอดภัยไซเบอร์ที่เข้มงวดขึ้น
    - บริษัทต่าง ๆ อาจต้องลงทุนเพิ่มใน ระบบป้องกันภัยไซเบอร์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/03/britain-to-warn-companies-cyber-security-must-be-039absolute-priority039
    รัฐบาลอังกฤษเตรียมออกคำเตือนให้ บริษัทในสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นอันดับแรก หลังจากเกิดการโจมตีทางไซเบอร์ต่อ Marks & Spencer, Co-op Group และ Harrods Pat McFadden รัฐมนตรีประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรีของอังกฤษ ได้จัดประชุมร่วมกับ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติและ Richard Horne CEO ของ National Cyber Security Centre (NCSC) เพื่อหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนที่มอบให้แก่บริษัทที่ได้รับผลกระทบ ✅ รัฐบาลอังกฤษเตรียมออกคำเตือนด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - บริษัทในสหราชอาณาจักรต้องให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นอันดับแรก - เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ต่อ Marks & Spencer, Co-op Group และ Harrods ✅ การประชุมระดับสูงเกี่ยวกับมาตรการรับมือ - Pat McFadden รัฐมนตรีประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรีเป็นผู้นำการประชุม - มีการหารือร่วมกับ Richard Horne CEO ของ NCSC ✅ มาตรการสนับสนุนบริษัทที่ได้รับผลกระทบ - NCSC ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ การป้องกันและรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ - รัฐบาลอังกฤษอาจออก แนวทางใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - อาจมีการออก กฎหมายใหม่เพื่อบังคับใช้มาตรการความปลอดภัยไซเบอร์ที่เข้มงวดขึ้น - บริษัทต่าง ๆ อาจต้องลงทุนเพิ่มใน ระบบป้องกันภัยไซเบอร์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/03/britain-to-warn-companies-cyber-security-must-be-039absolute-priority039
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Britain to warn companies cyber security must be 'absolute priority'
    LONDON (Reuters) -The British government will next week warn all UK companies to treat cyber security as an "absolute priority" in the wake of attacks on retailers Marks & Spencer, the Co-op Group and Harrods.
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • Astera Labs กำลังเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio เพื่อรองรับการใช้งานใน AI และ Cloud Infrastructure โดยมีการเพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions ควบคู่ไปกับ Fabric Switches, Retimers และ Active Cable Modules

    การเปลี่ยนผ่านไปสู่ PCIe 6 เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ ประสิทธิภาพการประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

    Astera Labs ได้รับการรับรองจาก ลูกค้าระดับ Hyperscale และ Cloud Server และกำลังเข้าสู่ การผลิตจำนวนมาก เพื่อรองรับแพลตฟอร์ม AI รุ่นใหม่

    การเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio
    - รองรับ AI และ Cloud Infrastructure
    - เพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions

    ความสำคัญของ PCIe 6
    - ช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
    - รองรับ การประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล

    ผลิตภัณฑ์ใหม่ใน PCIe 6 Portfolio
    - Aries 6 PCIe Smart Gearbox ช่วยให้ PCIe 6 และ PCIe 5 ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - Scorpio P-Series Smart Fabric Switches รองรับ การเชื่อมต่อระหว่าง GPUs, CPUs, NICs และ SSDs
    - Aries 6 PCIe/CXL Smart DSP Retimers ช่วยเพิ่ม ความเสถียรของสัญญาณ PCIe 6.x/CXL 3.x
    - Aries 6 PCIe/CXL Smart Cable Modules รองรับ การเชื่อมต่อระยะไกลสูงสุด 7 เมตร
    - PCIe 6 over Optics Technology ช่วยให้ AI Clustering สามารถทำงานได้ในระยะไกล

    การสนับสนุนจากอุตสาหกรรม
    - AMD, Samsung, Micron และ Inventec สนับสนุนการพัฒนา PCIe 6
    - Keysight Technologies และ Teledyne Lecroy ให้บริการทดสอบมาตรฐาน

    https://www.techpowerup.com/336284/astera-labs-ramps-production-of-pcie-6-connectivity-portfolio
    Astera Labs กำลังเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio เพื่อรองรับการใช้งานใน AI และ Cloud Infrastructure โดยมีการเพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions ควบคู่ไปกับ Fabric Switches, Retimers และ Active Cable Modules การเปลี่ยนผ่านไปสู่ PCIe 6 เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ ประสิทธิภาพการประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ Astera Labs ได้รับการรับรองจาก ลูกค้าระดับ Hyperscale และ Cloud Server และกำลังเข้าสู่ การผลิตจำนวนมาก เพื่อรองรับแพลตฟอร์ม AI รุ่นใหม่ ✅ การเร่งการผลิต PCIe 6 Connectivity Portfolio - รองรับ AI และ Cloud Infrastructure - เพิ่ม Gearbox Connectivity Solutions ✅ ความสำคัญของ PCIe 6 - ช่วยให้ AI Accelerators และ GPUs ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ - รองรับ การประมวลผล, หน่วยความจำ, เครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูล ✅ ผลิตภัณฑ์ใหม่ใน PCIe 6 Portfolio - Aries 6 PCIe Smart Gearbox ช่วยให้ PCIe 6 และ PCIe 5 ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ - Scorpio P-Series Smart Fabric Switches รองรับ การเชื่อมต่อระหว่าง GPUs, CPUs, NICs และ SSDs - Aries 6 PCIe/CXL Smart DSP Retimers ช่วยเพิ่ม ความเสถียรของสัญญาณ PCIe 6.x/CXL 3.x - Aries 6 PCIe/CXL Smart Cable Modules รองรับ การเชื่อมต่อระยะไกลสูงสุด 7 เมตร - PCIe 6 over Optics Technology ช่วยให้ AI Clustering สามารถทำงานได้ในระยะไกล ✅ การสนับสนุนจากอุตสาหกรรม - AMD, Samsung, Micron และ Inventec สนับสนุนการพัฒนา PCIe 6 - Keysight Technologies และ Teledyne Lecroy ให้บริการทดสอบมาตรฐาน https://www.techpowerup.com/336284/astera-labs-ramps-production-of-pcie-6-connectivity-portfolio
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Astera Labs Ramps Production of PCIe 6 Connectivity Portfolio
    Astera Labs, Inc., a global leader in semiconductor-based connectivity solutions for AI and cloud infrastructure, today announced its purpose-built PCIe 6 connectivity portfolio is ramping production to fast-track deployments of modern AI platforms at scale. Now featuring gearbox connectivity soluti...
    0 Comments 0 Shares 263 Views 0 Reviews
  • คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) กำลังพิจารณา ห้ามไม่ให้ห้องปฏิบัติการในจีนทำการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ

    ปัจจุบัน 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ในจีน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์จาก Apple, Samsung, Sony และ LG อย่างไรก็ตาม FCC ระบุว่า บางห้องปฏิบัติการอาจมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกแบน เช่น Huawei และ ZTE

    FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 หากข้อเสนอผ่านการอนุมัติ ห้องปฏิบัติการที่มีความเกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์จากกระบวนการรับรองอุปกรณ์

    การห้ามห้องปฏิบัติการจีนจากการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    - FCC ต้องการ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ
    - ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ Huawei และ ZTE จะถูกตัดสิทธิ์

    สถิติที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบอุปกรณ์
    - 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในจีน
    - มีห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง 168 แห่งในจีน, 111 แห่งในสหรัฐฯ และ 114 แห่งในไต้หวัน

    กระบวนการลงมติและผลกระทบ
    - FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025
    - หากข้อเสนอผ่าน ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์

    การขยายข้อเสนอไปยังห้องปฏิบัติการอื่น
    - FCC กำลังพิจารณาขยายข้อจำกัดไปยัง ห้องปฏิบัติการทั้งหมดในจีนและประเทศคู่แข่งอื่นๆ

    https://www.techspot.com/news/107755-fcc-moves-ban-chinese-labs-testing-electronics-sold.html
    คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) กำลังพิจารณา ห้ามไม่ให้ห้องปฏิบัติการในจีนทำการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ ปัจจุบัน 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ในจีน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์จาก Apple, Samsung, Sony และ LG อย่างไรก็ตาม FCC ระบุว่า บางห้องปฏิบัติการอาจมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกแบน เช่น Huawei และ ZTE FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 หากข้อเสนอผ่านการอนุมัติ ห้องปฏิบัติการที่มีความเกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์จากกระบวนการรับรองอุปกรณ์ ✅ การห้ามห้องปฏิบัติการจีนจากการทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ - FCC ต้องการ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ - ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ Huawei และ ZTE จะถูกตัดสิทธิ์ ✅ สถิติที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบอุปกรณ์ - 75% ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการทดสอบในจีน - มีห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง 168 แห่งในจีน, 111 แห่งในสหรัฐฯ และ 114 แห่งในไต้หวัน ✅ กระบวนการลงมติและผลกระทบ - FCC จะลงมติในวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 - หากข้อเสนอผ่าน ห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ บริษัทที่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ FCC จะถูกตัดสิทธิ์ ✅ การขยายข้อเสนอไปยังห้องปฏิบัติการอื่น - FCC กำลังพิจารณาขยายข้อจำกัดไปยัง ห้องปฏิบัติการทั้งหมดในจีนและประเทศคู่แข่งอื่นๆ https://www.techspot.com/news/107755-fcc-moves-ban-chinese-labs-testing-electronics-sold.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    FCC moves to ban Chinese labs from testing electronics sold in the US
    FCC chairman Brendan Carr writes that before any electronic devices, such as smartphones or computers, can be imported or sold in the US, they must be tested...
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
  • Acer ได้เปิดตัว Reliability Promise ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวน หากอุปกรณ์ที่ซื้อมีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน

    นโยบายนี้ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro รวมถึง จอภาพและโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะรุ่นที่มี เทคโนโลยี Vero และ SpatialLabs 3D ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Acer ไม่ได้จำกัดข้อเสนอเฉพาะอุปกรณ์ระดับเริ่มต้น

    ธุรกิจที่ต้องการใช้สิทธิ์ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า และสามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ไม่ครอบคลุมถึง ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม

    Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม และกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกันของตนเอง

    เงื่อนไขการรับเงินคืน
    - หากอุปกรณ์มีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน
    - ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro, จอภาพ และโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ

    ข้อกำหนดในการลงทะเบียน
    - ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า
    - สามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม

    ข้อจำกัดของนโยบาย
    - ไม่ครอบคลุม ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม
    - ใช้ได้เฉพาะธุรกิจที่ลงทะเบียน VAT เท่านั้น

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม
    - อาจกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกัน

    https://www.techradar.com/pro/acer-just-did-something-that-all-computer-vendors-should-copy-right-now-heres-what-you-need-to-know-about-its-game-changing-move
    Acer ได้เปิดตัว Reliability Promise ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถขอรับเงินคืนเต็มจำนวน หากอุปกรณ์ที่ซื้อมีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน นโยบายนี้ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro รวมถึง จอภาพและโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะรุ่นที่มี เทคโนโลยี Vero และ SpatialLabs 3D ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Acer ไม่ได้จำกัดข้อเสนอเฉพาะอุปกรณ์ระดับเริ่มต้น ธุรกิจที่ต้องการใช้สิทธิ์ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า และสามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ไม่ครอบคลุมถึง ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม และกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกันของตนเอง ✅ เงื่อนไขการรับเงินคืน - หากอุปกรณ์มีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ภายในปีแรกและได้รับการซ่อมแซมภายใต้การรับประกัน - ครอบคลุมอุปกรณ์ Chrome และ Windows Pro, จอภาพ และโปรเจ็กเตอร์สำหรับธุรกิจ ✅ ข้อกำหนดในการลงทะเบียน - ต้องลงทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากซื้อสินค้า - สามารถขอคืนเงินได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการซ่อมแซม ✅ ข้อจำกัดของนโยบาย - ไม่ครอบคลุม ปัญหาซอฟต์แวร์, ความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี หรืออุปกรณ์เสริม - ใช้ได้เฉพาะธุรกิจที่ลงทะเบียน VAT เท่านั้น ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - Acer หวังว่านโยบายนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม - อาจกระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นปรับปรุงนโยบายการรับประกัน https://www.techradar.com/pro/acer-just-did-something-that-all-computer-vendors-should-copy-right-now-heres-what-you-need-to-know-about-its-game-changing-move
    WWW.TECHRADAR.COM
    Your company’s next laptop could pay for itself if it fails — Acer’s wild refund plan explained
    Acer's new Reliability Promise offers a full refund if your professional device hardware fails
    0 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews
More Results