• รัสเซียได้ประกาศแผนการผลิตชิป 28nm ในโรงงานภายในประเทศภายในปี 2030 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 โดยแผนนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ หลังจากที่ไต้หวันจำกัดการส่งออกชิปขั้นสูงไปยังรัสเซียและเบลารุสในปี 2022 อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทาย เช่น การสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการใช้งานชิป Elbrus และการพัฒนาทักษะบุคลากรที่สามารถปรับซอฟต์แวร์ให้เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่ได้

    ✅ การผลิตชิป 28nm ในโรงงานภายในประเทศ
    - รัสเซียตั้งเป้าหมายผลิตชิป 28nm ภายในปี 2030
    - ชิป Elbrus จะถูกผลิตในโรงงานภายในประเทศเพื่อรองรับความต้องการขององค์กรในรัสเซีย

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิป
    - โรงงานในรัสเซียกำลังพัฒนาเครื่องมือ lithography สำหรับการผลิตชิป 350nm และ 130nm
    - มีการลักลอบนำเข้าเครื่องมือจาก ASML เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี

    ✅ ความสำคัญของชิป Elbrus
    - ชิป Elbrus ใช้สถาปัตยกรรมที่แตกต่างจาก x86 และ ARM
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพา CPU ต่างประเทศ

    ✅ การสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการใช้งานชิป Elbrus
    - รัฐบาลรัสเซียควรสนับสนุนการศึกษาและการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากร
    - การสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/russia-says-its-on-track-to-manufacture-28nm-chips-in-its-own-fabs-by-2030-the-tech-first-debuted-15-years-ago
    รัสเซียได้ประกาศแผนการผลิตชิป 28nm ในโรงงานภายในประเทศภายในปี 2030 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 โดยแผนนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ หลังจากที่ไต้หวันจำกัดการส่งออกชิปขั้นสูงไปยังรัสเซียและเบลารุสในปี 2022 อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทาย เช่น การสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการใช้งานชิป Elbrus และการพัฒนาทักษะบุคลากรที่สามารถปรับซอฟต์แวร์ให้เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่ได้ ✅ การผลิตชิป 28nm ในโรงงานภายในประเทศ - รัสเซียตั้งเป้าหมายผลิตชิป 28nm ภายในปี 2030 - ชิป Elbrus จะถูกผลิตในโรงงานภายในประเทศเพื่อรองรับความต้องการขององค์กรในรัสเซีย ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิป - โรงงานในรัสเซียกำลังพัฒนาเครื่องมือ lithography สำหรับการผลิตชิป 350nm และ 130nm - มีการลักลอบนำเข้าเครื่องมือจาก ASML เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี ✅ ความสำคัญของชิป Elbrus - ชิป Elbrus ใช้สถาปัตยกรรมที่แตกต่างจาก x86 และ ARM - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพา CPU ต่างประเทศ ✅ การสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการใช้งานชิป Elbrus - รัฐบาลรัสเซียควรสนับสนุนการศึกษาและการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากร - การสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/russia-says-its-on-track-to-manufacture-28nm-chips-in-its-own-fabs-by-2030-the-tech-first-debuted-15-years-ago
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • *พัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจวัดแก๊สมีเทนประสิทธิภาพสูงด้วยเทคโนโลยีซินโครตรอน*

    “มีเทน” เป็นองค์ประกอบหลักของแก๊สธรรมชาติโดยมีสัดส่วนประมาณ 75% แก๊สมีเทนมีคุณสมบัติไวไฟ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาหรือดมกลิ่น จึงต้องใช้อุปกรณ์จำเพาะที่เรียกว่า “แก๊สเซ็นเซอร์” ตรวจสอบการมีอยู่ของแก๊สชนิดนี้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดการรั่วไหล ซึ่งแก๊สเซ็นเซอร์คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบและวัดระดับของแก๊สในอากาศหรือในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ โดยเซ็นเซอร์จะทำการตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของความเข้มข้นของก๊าซที่ต้องการวัด ซึ่งมักใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน เช่น การวัดด้วยไฟฟ้า ความร้อน หรือการเปลี่ยนแปลงทางเคมี การวิจัยและพัฒนาเซ็นเซอร์ให้มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือจึงมีความจำเป็น

    ปัจจุบันแก๊สเซ็นเซอร์ชนิดสารกึ่งตัวนำโลหะออกไซด์ได้ถูกพัฒนาอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีการตอบสนองต่อแก๊สที่สูง มีความคุ้มค่า สามารถใช้งานในระยะยาว และง่ายต่อการขึ้นรูป

    งานวิจัยโดย ดร.ยิ่งยศ ภู่อาภรณ์ ส่วนวิจัยด้านพลังงาน ยานยนต์ไฟฟ้า และสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน และคณะ ได้ใช้เทคโนโลยีสปัตเตอริง* และไฮโดรเทอมอล ผลิตฟิล์มซิงค์ออกไซด์แท่งนาโนสำหรับประกอบเป็นวัสดุเซนเซอร์ตรวจวัดแก๊สมีเทน และใช้แสงซินโครตรอนประกอบขึ้นเป็นเซ็นเซอร์ด้วยกระบวนการลิโทกราฟี** โดยภาพจากล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแสดงให้เห็นซิงค์ออกไซด์ที่ผลิตได้มีรูปร่างเป็นแท่งหกเหลี่ยมวางตัวตามแนวตั้ง ซึ่งแต่ละแท่งมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 1 ไมโครเมตร และมีขนาดหน้าตัดประมาณ 50 นาโนเมตร

    คณะวิจัยศึกษาประสิทธิการตอบสนองของเซ็นเซอร์ที่ผลิตได้สำหรับแก๊สมีเทนที่อุณหภูมิต่างๆ โดยเทคนิคการวัดการดูดกลืนรังสีเอกซ์แบบอินซิทู (in-situ X-ray absorption spectroscopy) ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเซ็นเซอร์ที่ผลิตขึ้นสามารถตรวจวัดแก๊สมีเทนที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ที่ความเข้มข้นแก๊สสูงสุด 10% โดยปริมาตร ใช้เวลาในการตอบสนองต่อแก๊สมีเทน 4 วินาที และใช้เวลาในการฟื้นฟูพื้นผิว 6 วินาที

    งานวิจัยนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า เซ็นเซอร์ที่เตรียมขึ้นได้นี้มีค่าการตอบสนองต่อแก๊สมีเทนได้ดี และสามารถส่งสัญญาณการตอบสนองของแก๊สมีเทนได้ในเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งสามารถต่อยอดสู่เซนเซอร์ประสิทธิภาพสูงที่ใช้งานได้จริง เพื่อตรวจจับแก๊สมีเทนแบบเรียลไทม์ต่อไปในอนาคต

    หมายเหตุ
    * เทคนิคสปัตเตอริง (Sputtering) เป็นวิธีการหนึ่งที่นิยมนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการเคลือบฟิล์มบาง เนื่องจากจะได้ฟิล์มที่มีความสม่ำเสมอ
    ** ลิโธกราฟี (Lithography) เป็นหนึ่งในเทคนิคที่สามารถใช้แสงซินโครตรอนในการสร้างลวดลายเซนเซอร์
    *พัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจวัดแก๊สมีเทนประสิทธิภาพสูงด้วยเทคโนโลยีซินโครตรอน* “มีเทน” เป็นองค์ประกอบหลักของแก๊สธรรมชาติโดยมีสัดส่วนประมาณ 75% แก๊สมีเทนมีคุณสมบัติไวไฟ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาหรือดมกลิ่น จึงต้องใช้อุปกรณ์จำเพาะที่เรียกว่า “แก๊สเซ็นเซอร์” ตรวจสอบการมีอยู่ของแก๊สชนิดนี้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดการรั่วไหล ซึ่งแก๊สเซ็นเซอร์คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบและวัดระดับของแก๊สในอากาศหรือในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ โดยเซ็นเซอร์จะทำการตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของความเข้มข้นของก๊าซที่ต้องการวัด ซึ่งมักใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน เช่น การวัดด้วยไฟฟ้า ความร้อน หรือการเปลี่ยนแปลงทางเคมี การวิจัยและพัฒนาเซ็นเซอร์ให้มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือจึงมีความจำเป็น ปัจจุบันแก๊สเซ็นเซอร์ชนิดสารกึ่งตัวนำโลหะออกไซด์ได้ถูกพัฒนาอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีการตอบสนองต่อแก๊สที่สูง มีความคุ้มค่า สามารถใช้งานในระยะยาว และง่ายต่อการขึ้นรูป งานวิจัยโดย ดร.ยิ่งยศ ภู่อาภรณ์ ส่วนวิจัยด้านพลังงาน ยานยนต์ไฟฟ้า และสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน และคณะ ได้ใช้เทคโนโลยีสปัตเตอริง* และไฮโดรเทอมอล ผลิตฟิล์มซิงค์ออกไซด์แท่งนาโนสำหรับประกอบเป็นวัสดุเซนเซอร์ตรวจวัดแก๊สมีเทน และใช้แสงซินโครตรอนประกอบขึ้นเป็นเซ็นเซอร์ด้วยกระบวนการลิโทกราฟี** โดยภาพจากล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแสดงให้เห็นซิงค์ออกไซด์ที่ผลิตได้มีรูปร่างเป็นแท่งหกเหลี่ยมวางตัวตามแนวตั้ง ซึ่งแต่ละแท่งมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 1 ไมโครเมตร และมีขนาดหน้าตัดประมาณ 50 นาโนเมตร คณะวิจัยศึกษาประสิทธิการตอบสนองของเซ็นเซอร์ที่ผลิตได้สำหรับแก๊สมีเทนที่อุณหภูมิต่างๆ โดยเทคนิคการวัดการดูดกลืนรังสีเอกซ์แบบอินซิทู (in-situ X-ray absorption spectroscopy) ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเซ็นเซอร์ที่ผลิตขึ้นสามารถตรวจวัดแก๊สมีเทนที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ที่ความเข้มข้นแก๊สสูงสุด 10% โดยปริมาตร ใช้เวลาในการตอบสนองต่อแก๊สมีเทน 4 วินาที และใช้เวลาในการฟื้นฟูพื้นผิว 6 วินาที งานวิจัยนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า เซ็นเซอร์ที่เตรียมขึ้นได้นี้มีค่าการตอบสนองต่อแก๊สมีเทนได้ดี และสามารถส่งสัญญาณการตอบสนองของแก๊สมีเทนได้ในเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งสามารถต่อยอดสู่เซนเซอร์ประสิทธิภาพสูงที่ใช้งานได้จริง เพื่อตรวจจับแก๊สมีเทนแบบเรียลไทม์ต่อไปในอนาคต หมายเหตุ * เทคนิคสปัตเตอริง (Sputtering) เป็นวิธีการหนึ่งที่นิยมนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการเคลือบฟิล์มบาง เนื่องจากจะได้ฟิล์มที่มีความสม่ำเสมอ ** ลิโธกราฟี (Lithography) เป็นหนึ่งในเทคนิคที่สามารถใช้แสงซินโครตรอนในการสร้างลวดลายเซนเซอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ข่าวเก่าลงปี2023 ขณะนั้นระเบิดใต้ดินอุโมงค์ทิ้งกันแหลกเลยก็เป็นได้หากจริง.
    ..พม่าที่แผ่นดินไหวใต้ดิน มโนเล่นๆว่าคือใต้อุโมงค์รังขนาดใหญ่ของการค้ามนุษย์ระดับโลกหรือแล็บชีวภาพขนาดใหญ่ก็ด้วย อาจจำเป็นต้องโยนเรื่องว่าคือภัยพิบัติทางธรรมชาติ อสูรกายเอย ซอมบี้เอย สัตว์นรกต่างๆในคลาบเนื้อหนังจริงอาจมากมายใต้ประเทศพม่า,เพราะพม่าคือโคตรแหล่งค้ามนุษย์ระดับโลกอีกแห่งนั้นเองในฝ่ายแสงกล่าวว่าไว้หากจริงตามนั้น,กทม.ไทยก็มีอุโมงค์ใหญ่เช่นกันอาจกำลังระเบิดกวาดล้างอยู่เช่นกัน.

    ☣️ ห้องทดลอง BIOWEAPON ใน DUMB's มีอยู่จริงเช่นเดียวกับการทดลอง 🧪 ห้องทดลอง BioLab

    ทุกฝ่ายต่างยึดครองอุโมงค์
    และหรือตัดอุโมงค์ใหม่ เมื่อกองกำลังพันธมิตรต่างๆ เข้าต่อสู้กับอุโมงค์ที่แอบแฝงอยู่ภายใต้หน้ากากของปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและปฏิบัติการต่อต้าน "การค้ามนุษย์" ในที่สุด กองพันต่างๆ จะต้องพบกับสิ่งที่พวกเขาไม่ควรเห็น
    -
    เด็กและข่าวลือเกี่ยวกับเด็กที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นสิ่งหนึ่ง แต่มีการกล่าวกันว่ามีสถานที่อื่นๆ ด้วย เป็นไปได้อย่างยิ่งที่ทีมบุกเข้าไปในห้องทดลองชีวภาพและติดเชื้อโรค จากนั้นพวกเขาต้องปิดผนึกอุโมงค์
    -
    พวกเขาอาจพบสัตว์ประหลาด ไม่ใช่ซอมบี้ในความหมายของ Resident Evil แต่เป็นสัตว์ประหลาดในความหมายของ Resident Evil สัตว์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะควบคุมบางสิ่ง @ การเสียชีวิตในอุโมงค์เหล่านี้จะเป็นหายนะ ต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการเคลียร์ทั้งหมด ทำแผนที่ และเปิดเผยข้อมูล

    🇺🇸 สหรัฐฯ ☣️ BIOLABS - นายพลรัสเซียเปิดเผย PFIZER และสถาบัน Doherty ของออสเตรเลียในยูเครน 🇺🇦☣️
    -
    🇺🇸 ห้องปฏิบัติการ BIOWEAPON ของสหรัฐฯ ในยูเครน 🇺🇦 ครอบครัวอาชญากรของไบเดน - SOROS ดำเนินโครงการนิวเคลียร์ในยูเครน

    🔥 การระบาดของ DARPA 🔥 โปรแกรมการลอบสังหาร - DARPA, CRISPR
    --->>>
    https://rumble.com/v2abjei-the-darpa-pandemic-assassination-program-darpa-crispr.html
    -
    B💥Q💥Q💥Q💥Q💥M - ปูติน: ไวรัสโคโรนาเป็นส่วนหนึ่งของชีววิทยา โครงการอาวุธในยูเครน
    -->>
    https://rumble.com/v1smkke-bqqqqm-putin-coronavirus-was-part-of-the-biological-weapons-program-in-ukra.html

    @DUMBSandUNDERGROUND
    in ALLIANCE with
    @deNAZIficationMilitaryQperationZ

    https://rumble.com/v2ul10q-bioweapon-labs-the-dumbs-are-real-so-are-the-experiments-biolabs.html
    ..ข่าวเก่าลงปี2023 ขณะนั้นระเบิดใต้ดินอุโมงค์ทิ้งกันแหลกเลยก็เป็นได้หากจริง. ..พม่าที่แผ่นดินไหวใต้ดิน มโนเล่นๆว่าคือใต้อุโมงค์รังขนาดใหญ่ของการค้ามนุษย์ระดับโลกหรือแล็บชีวภาพขนาดใหญ่ก็ด้วย อาจจำเป็นต้องโยนเรื่องว่าคือภัยพิบัติทางธรรมชาติ อสูรกายเอย ซอมบี้เอย สัตว์นรกต่างๆในคลาบเนื้อหนังจริงอาจมากมายใต้ประเทศพม่า,เพราะพม่าคือโคตรแหล่งค้ามนุษย์ระดับโลกอีกแห่งนั้นเองในฝ่ายแสงกล่าวว่าไว้หากจริงตามนั้น,กทม.ไทยก็มีอุโมงค์ใหญ่เช่นกันอาจกำลังระเบิดกวาดล้างอยู่เช่นกัน. ☣️ ห้องทดลอง BIOWEAPON ใน DUMB's มีอยู่จริงเช่นเดียวกับการทดลอง 🧪 ห้องทดลอง BioLab ทุกฝ่ายต่างยึดครองอุโมงค์ และหรือตัดอุโมงค์ใหม่ เมื่อกองกำลังพันธมิตรต่างๆ เข้าต่อสู้กับอุโมงค์ที่แอบแฝงอยู่ภายใต้หน้ากากของปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและปฏิบัติการต่อต้าน "การค้ามนุษย์" ในที่สุด กองพันต่างๆ จะต้องพบกับสิ่งที่พวกเขาไม่ควรเห็น - เด็กและข่าวลือเกี่ยวกับเด็กที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นสิ่งหนึ่ง แต่มีการกล่าวกันว่ามีสถานที่อื่นๆ ด้วย เป็นไปได้อย่างยิ่งที่ทีมบุกเข้าไปในห้องทดลองชีวภาพและติดเชื้อโรค จากนั้นพวกเขาต้องปิดผนึกอุโมงค์ - พวกเขาอาจพบสัตว์ประหลาด ไม่ใช่ซอมบี้ในความหมายของ Resident Evil แต่เป็นสัตว์ประหลาดในความหมายของ Resident Evil สัตว์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะควบคุมบางสิ่ง @ การเสียชีวิตในอุโมงค์เหล่านี้จะเป็นหายนะ ต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการเคลียร์ทั้งหมด ทำแผนที่ และเปิดเผยข้อมูล 🇺🇸 สหรัฐฯ ☣️ BIOLABS - นายพลรัสเซียเปิดเผย PFIZER และสถาบัน Doherty ของออสเตรเลียในยูเครน 🇺🇦☣️ - 🇺🇸 ห้องปฏิบัติการ BIOWEAPON ของสหรัฐฯ ในยูเครน 🇺🇦 ครอบครัวอาชญากรของไบเดน - SOROS ดำเนินโครงการนิวเคลียร์ในยูเครน 🔥 การระบาดของ DARPA 🔥 โปรแกรมการลอบสังหาร - DARPA, CRISPR --->>> https://rumble.com/v2abjei-the-darpa-pandemic-assassination-program-darpa-crispr.html - B💥Q💥Q💥Q💥Q💥M - ปูติน: ไวรัสโคโรนาเป็นส่วนหนึ่งของชีววิทยา โครงการอาวุธในยูเครน -->> https://rumble.com/v1smkke-bqqqqm-putin-coronavirus-was-part-of-the-biological-weapons-program-in-ukra.html @DUMBSandUNDERGROUND in ALLIANCE with @deNAZIficationMilitaryQperationZ https://rumble.com/v2ul10q-bioweapon-labs-the-dumbs-are-real-so-are-the-experiments-biolabs.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้ประกาศการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยแต่งตั้ง Sachin Katti เป็น CTO และหัวหน้าด้าน AI เพื่อเสริมสร้างกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีและ AI ของบริษัท การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจและสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับชุมชนผู้พัฒนาและสตาร์ทอัพ

    ✅ Sachin Katti ได้รับการแต่งตั้งเป็น CTO และหัวหน้าด้าน AI
    - เขาจะดูแลกลยุทธ์ด้าน AI และแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI ของ Intel
    - รับผิดชอบการวิจัยพื้นฐานและประยุกต์ใน Intel Labs รวมถึงการพัฒนากระบวนการผลิตชิป

    ✅ การปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ
    - ผู้นำด้านเทคนิคจากกลุ่มสำคัญจะมีสายตรงถึง CEO เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการตัดสินใจ
    - ตัวอย่างเช่น Rob Bruckner ดูแลสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มลูกค้า และ Lisa Pearce ดูแล GPU และ NPU

    ✅ Intel มุ่งเน้นการพัฒนากลยุทธ์ด้าน AI
    - การแต่งตั้งหัวหน้าด้าน AI เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจาก AI เคยเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยข้อมูลศูนย์กลาง
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ AI ได้รับทรัพยากรและความสนใจมากขึ้น

    ✅ CEO Lip-Bu Tan มีบทบาทสำคัญในการปรับโครงสร้างองค์กร
    - เขาเน้นการมีส่วนร่วมโดยตรงกับทีมวิศวกรรมและผลิตภัณฑ์
    - มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานร่วมกับหัวหน้าฝ่ายกิจการรัฐบาลเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านกฎระเบียบ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/ceo-reorganizes-intel-with-new-cto-and-ai-lead
    Intel ได้ประกาศการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยแต่งตั้ง Sachin Katti เป็น CTO และหัวหน้าด้าน AI เพื่อเสริมสร้างกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีและ AI ของบริษัท การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจและสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับชุมชนผู้พัฒนาและสตาร์ทอัพ ✅ Sachin Katti ได้รับการแต่งตั้งเป็น CTO และหัวหน้าด้าน AI - เขาจะดูแลกลยุทธ์ด้าน AI และแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI ของ Intel - รับผิดชอบการวิจัยพื้นฐานและประยุกต์ใน Intel Labs รวมถึงการพัฒนากระบวนการผลิตชิป ✅ การปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ - ผู้นำด้านเทคนิคจากกลุ่มสำคัญจะมีสายตรงถึง CEO เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการตัดสินใจ - ตัวอย่างเช่น Rob Bruckner ดูแลสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มลูกค้า และ Lisa Pearce ดูแล GPU และ NPU ✅ Intel มุ่งเน้นการพัฒนากลยุทธ์ด้าน AI - การแต่งตั้งหัวหน้าด้าน AI เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจาก AI เคยเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยข้อมูลศูนย์กลาง - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ AI ได้รับทรัพยากรและความสนใจมากขึ้น ✅ CEO Lip-Bu Tan มีบทบาทสำคัญในการปรับโครงสร้างองค์กร - เขาเน้นการมีส่วนร่วมโดยตรงกับทีมวิศวกรรมและผลิตภัณฑ์ - มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานร่วมกับหัวหน้าฝ่ายกิจการรัฐบาลเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านกฎระเบียบ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/ceo-reorganizes-intel-with-new-cto-and-ai-lead
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    CEO reorganizes Intel with new CTO and AI lead
    Tan gains tighter control over strategic developments.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังปรับโครงสร้างองค์กรภายใต้การนำของ Lip-Bu Tan CEO คนใหม่ โดยมีการลดชั้นการบริหารและแต่งตั้ง Sachin Katti เป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI เพื่อเร่งพัฒนาแนวทางแข่งขันกับ Nvidia

    ✅ Intel ลดชั้นการบริหารเพื่อให้การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น
    - กลุ่มชิป Data Center & AI และ Personal Computer จะรายงานตรงต่อ CEO
    - ก่อนหน้านี้กลุ่มเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของ Michelle Johnston Holthaus ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ของ Intel Products

    ✅ Sachin Katti ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI
    - Katti จะเป็นผู้นำ กลยุทธ์ AI และแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI
    - เขาจะดูแล Intel Labs และความสัมพันธ์กับสตาร์ทอัพและนักพัฒนา

    ✅ Intel มุ่งเน้นการเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยวิศวกรรม
    - Tan ระบุว่า โครงสร้างองค์กรที่ซับซ้อนและระบบราชการกำลังขัดขวางนวัตกรรม
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้บริหารทำงานใกล้ชิดกับทีมวิศวกรรมมากขึ้น

    ✅ Intel ต้องแข่งขันกับ Nvidia ในตลาด AI
    - Nvidia ครองตลาดชิป AI และ Intel ต้องเร่งพัฒนา กลยุทธ์ใหม่เพื่อแข่งขัน
    - Intel เคยพยายามพัฒนา Falcon Shores แต่โครงการถูกยกเลิกในเดือนมกราคม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/exclusive-intel-ceo-lip-bu-tan-streamlines-leadership-team-names-new-technology-chief-memo-says
    Intel กำลังปรับโครงสร้างองค์กรภายใต้การนำของ Lip-Bu Tan CEO คนใหม่ โดยมีการลดชั้นการบริหารและแต่งตั้ง Sachin Katti เป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI เพื่อเร่งพัฒนาแนวทางแข่งขันกับ Nvidia ✅ Intel ลดชั้นการบริหารเพื่อให้การตัดสินใจรวดเร็วขึ้น - กลุ่มชิป Data Center & AI และ Personal Computer จะรายงานตรงต่อ CEO - ก่อนหน้านี้กลุ่มเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของ Michelle Johnston Holthaus ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ของ Intel Products ✅ Sachin Katti ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเทคโนโลยีและ AI - Katti จะเป็นผู้นำ กลยุทธ์ AI และแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI - เขาจะดูแล Intel Labs และความสัมพันธ์กับสตาร์ทอัพและนักพัฒนา ✅ Intel มุ่งเน้นการเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยวิศวกรรม - Tan ระบุว่า โครงสร้างองค์กรที่ซับซ้อนและระบบราชการกำลังขัดขวางนวัตกรรม - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้บริหารทำงานใกล้ชิดกับทีมวิศวกรรมมากขึ้น ✅ Intel ต้องแข่งขันกับ Nvidia ในตลาด AI - Nvidia ครองตลาดชิป AI และ Intel ต้องเร่งพัฒนา กลยุทธ์ใหม่เพื่อแข่งขัน - Intel เคยพยายามพัฒนา Falcon Shores แต่โครงการถูกยกเลิกในเดือนมกราคม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/exclusive-intel-ceo-lip-bu-tan-streamlines-leadership-team-names-new-technology-chief-memo-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Intel CEO Lip-Bu Tan flattens leadership structure, names new AI chief, memo says
    SAN FRANCISCO (Reuters) - Intel's new CEO, Lip-Bu Tan, is flattening the semiconductor giant's leadership team, with important chip groups reporting directly to him, according to a memo from Tan seen by Reuters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • Honda Mobilio 1.5RS ปี 2015 7 ที่นั่ง
    เลขไมล์ 130,XXX กิโลเมตร

    349,000 บาท (ต่อรองได้)

    - รถบ้าน มือเดียว เจ้าของขายเอง
    - เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง นั่งได้จริงทุกที่นั่ง (ผมสูง 170 cm)
    - เพิ่งเปลี่ยนแบตเตอรี่ยี่ห้อ Amaron วันที่ 21 ม.ค. 68
    - เพิ่งเปลี่ยนตู้แอร์ไปเมื่อปีที่แล้ว (22 ก.ค.2567) ตอนนี้แอร์เย็นฉ่ำยาวๆ
    - ไม่เคยชน ไม่เคยจมน้ำ ไม่เคยติดเเก๊ส
    - เบาะหนัง หน้าจอ พวงมาลัยมัลติฟังชั่น
    - กระจกมองข้างปรับพับไฟฟ้า เเอร์เเบ็คคู่หน้า
    - มีจุดยึดเบาะนิรภัยของเด็ก ISOFIX
    - แอร์หน้า-แอร์หลังเพดาน กุญเเจครบ 2 ลูก
    - ล้อแม็ก
    - เบรคABS
    - กระจกไฟฟ้า 4 บาน
    - หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว Bluetooth/HDMI/USB กล้องมองหลัง
    - อัตราสิ้นเปลือง 16-20 km/l แล้วแต่เท้าคนขับ (ปกติผมขับ 90-100km/hr)
    - รถพร้อมใช้งาน เล่มเอกสารพร้อมโอน
    ดูรถได้แถว ลาดกระบัง หนองจอก มีนบุรี กทม.
    นครปฐม ราชบุรี
    Line Id: firstbas
    เบอร์ติดต่อ 0835464737 บาส
    Honda Mobilio 1.5RS ปี 2015 7 ที่นั่ง เลขไมล์ 130,XXX กิโลเมตร 349,000 บาท (ต่อรองได้) - รถบ้าน มือเดียว เจ้าของขายเอง - เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง นั่งได้จริงทุกที่นั่ง (ผมสูง 170 cm) - เพิ่งเปลี่ยนแบตเตอรี่ยี่ห้อ Amaron วันที่ 21 ม.ค. 68 - เพิ่งเปลี่ยนตู้แอร์ไปเมื่อปีที่แล้ว (22 ก.ค.2567) ตอนนี้แอร์เย็นฉ่ำยาวๆ - ไม่เคยชน ไม่เคยจมน้ำ ไม่เคยติดเเก๊ส - เบาะหนัง หน้าจอ พวงมาลัยมัลติฟังชั่น - กระจกมองข้างปรับพับไฟฟ้า เเอร์เเบ็คคู่หน้า - มีจุดยึดเบาะนิรภัยของเด็ก ISOFIX - แอร์หน้า-แอร์หลังเพดาน กุญเเจครบ 2 ลูก - ล้อแม็ก - เบรคABS - กระจกไฟฟ้า 4 บาน - หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว Bluetooth/HDMI/USB กล้องมองหลัง - อัตราสิ้นเปลือง 16-20 km/l แล้วแต่เท้าคนขับ (ปกติผมขับ 90-100km/hr) - รถพร้อมใช้งาน เล่มเอกสารพร้อมโอน ดูรถได้แถว ลาดกระบัง หนองจอก มีนบุรี กทม. นครปฐม ราชบุรี Line Id: firstbas เบอร์ติดต่อ 0835464737 บาส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงความท้าทายของ Meta ในการพัฒนาโครงการ Metaverse ซึ่งใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้

    Meta ซึ่งนำโดย Mark Zuckerberg ได้เปลี่ยนชื่อจาก Facebook เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนา Metaverse แต่โครงการนี้กลับกลายเป็นปัญหาทางการเงินที่ใหญ่หลวง โดยมีการสูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024 สาเหตุหลักมาจากการขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการบริหารที่ไม่เหมาะสม เช่น การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR

    นอกจากนี้ รายได้ประจำปีของ Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ Metaverse ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 เนื่องจากยอดขายที่อ่อนแอและการไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้

    ✅ การลงทุนในโครงการ Metaverse
    - Meta ใช้เงินลงทุนกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
    - สูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024

    ✅ ปัญหาด้านการบริหารและกลยุทธ์
    - การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR
    - ขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์

    ✅ ผลกระทบต่อรายได้ของ Reality Labs
    - รายได้ประจำปีลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021
    - ยอดขายอ่อนแอและไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความยั่งยืนของโครงการ
    - การสูญเสียเงินจำนวนมากอาจทำให้โครงการ Metaverse ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
    - ความล้มเหลวในการเข้าถึงตลาดหลักอาจลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับการปรับปรุง
    - Meta ควรพัฒนากลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและตอบสนองความต้องการของตลาด
    - การแต่งตั้งผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR เป็นสิ่งสำคัญ

    https://www.techspot.com/news/107530-four-years-meta-has-burned-through-45-billion.html
    ข่าวนี้เล่าถึงความท้าทายของ Meta ในการพัฒนาโครงการ Metaverse ซึ่งใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้ Meta ซึ่งนำโดย Mark Zuckerberg ได้เปลี่ยนชื่อจาก Facebook เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนา Metaverse แต่โครงการนี้กลับกลายเป็นปัญหาทางการเงินที่ใหญ่หลวง โดยมีการสูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024 สาเหตุหลักมาจากการขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการบริหารที่ไม่เหมาะสม เช่น การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR นอกจากนี้ รายได้ประจำปีของ Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ Metaverse ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 เนื่องจากยอดขายที่อ่อนแอและการไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้ ✅ การลงทุนในโครงการ Metaverse - Meta ใช้เงินลงทุนกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา - สูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024 ✅ ปัญหาด้านการบริหารและกลยุทธ์ - การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR - ขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ✅ ผลกระทบต่อรายได้ของ Reality Labs - รายได้ประจำปีลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 - ยอดขายอ่อนแอและไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้ ℹ️ ความเสี่ยงต่อความยั่งยืนของโครงการ - การสูญเสียเงินจำนวนมากอาจทำให้โครงการ Metaverse ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ - ความล้มเหลวในการเข้าถึงตลาดหลักอาจลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน ℹ️ คำแนะนำสำหรับการปรับปรุง - Meta ควรพัฒนากลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและตอบสนองความต้องการของตลาด - การแต่งตั้งผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR เป็นสิ่งสำคัญ https://www.techspot.com/news/107530-four-years-meta-has-burned-through-45-billion.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Four years in, Meta has burned through $45 billion chasing its metaverse dream
    Insiders say the metaverse project has become a financial sinkhole, consuming $45 billion by early 2025. That's nearly equal to the combined market caps of social media...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนได้เปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิป โดยกำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป ซึ่งหมายความว่าชิปที่ผลิตในไต้หวันจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ที่จีนกำหนดสำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ ในขณะที่ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีดังกล่าว

    การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ เช่น Intel, GlobalFoundries และ Texas Instruments ซึ่งผลิตชิปในสหรัฐฯ และต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้

    นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของจีนในการสนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเอง รวมถึงการแสดงจุดยืนว่าจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน

    ✅ การเปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิปของจีน
    - กำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป
    - ชิปที่ผลิตในไต้หวันได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125%

    ✅ ผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์
    - บริษัทในสหรัฐฯ เช่น Intel และ Texas Instruments ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น
    - บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้

    ✅ จุดยืนของจีน
    - จีนแสดงจุดยืนว่าถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน
    - สนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อบริษัทในสหรัฐฯ
    - บริษัทในสหรัฐฯ อาจต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตชิปเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

    ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ
    - อาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinas-new-semiconductor-rule-spares-taiwan-fabs-punishes-intel-globalfoundries-and-texas-instruments
    จีนได้เปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิป โดยกำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป ซึ่งหมายความว่าชิปที่ผลิตในไต้หวันจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ที่จีนกำหนดสำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ ในขณะที่ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ เช่น Intel, GlobalFoundries และ Texas Instruments ซึ่งผลิตชิปในสหรัฐฯ และต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของจีนในการสนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเอง รวมถึงการแสดงจุดยืนว่าจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน ✅ การเปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิปของจีน - กำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป - ชิปที่ผลิตในไต้หวันได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ✅ ผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ - บริษัทในสหรัฐฯ เช่น Intel และ Texas Instruments ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น - บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ✅ จุดยืนของจีน - จีนแสดงจุดยืนว่าถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน - สนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ℹ️ ความเสี่ยงต่อบริษัทในสหรัฐฯ - บริษัทในสหรัฐฯ อาจต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตชิปเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้น - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ - อาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinas-new-semiconductor-rule-spares-taiwan-fabs-punishes-intel-globalfoundries-and-texas-instruments
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • Maxwell Labs กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อนจากชิปประมวลผล โดยเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสูญเสียพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์ขั้นสูง

    ✅ การใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อน:
    - Maxwell Labs ใช้แผ่นเย็นที่ทำจาก Gallium Arsenide (GaAs) ซึ่งสามารถระบายความร้อนเมื่อได้รับแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ
    - เทคนิคนี้ช่วยระบายความร้อนเฉพาะจุดที่มีความร้อนสูงในชิปประมวลผล

    ✅ การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน:
    - พลังงานความร้อนที่ถูกดึงออกจากชิปสามารถเปลี่ยนเป็นโฟตอนที่นำกลับมาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์

    ✅ ความท้าทายด้านต้นทุน:
    - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนและมีต้นทุนสูง เช่น Molecular Beam Epitaxy (MBE)
    - แผ่น GaAs ขนาด 200 มม. มีราคาประมาณ $5,000 เทียบกับแผ่นซิลิคอนที่มีราคาเพียง $5

    ✅ สถานะปัจจุบันของโครงการ:
    - เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นตอนการทดลองและการจำลอง โดยคาดว่าจะมีต้นแบบที่ใช้งานได้ในปี 2025

    ⚠️ ความท้าทายด้านการผลิต:
    - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงอาจเป็นอุปสรรคต่อการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์

    ⚠️ การพัฒนาเทคโนโลยี:
    - Maxwell Labs ควรเร่งการพัฒนาและทดสอบต้นแบบเพื่อพิสูจน์ความสามารถของเทคโนโลยีนี้

    ⚠️ การลดต้นทุน:
    - ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีลดต้นทุนการผลิต GaAs เพื่อให้เทคโนโลยีนี้สามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cooling-chips-with-lasers-innovative-cooling-method-removes-heat-precisely-from-hot-spots-recycles-heat-into-energy
    Maxwell Labs กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อนจากชิปประมวลผล โดยเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสูญเสียพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์ขั้นสูง ✅ การใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อน: - Maxwell Labs ใช้แผ่นเย็นที่ทำจาก Gallium Arsenide (GaAs) ซึ่งสามารถระบายความร้อนเมื่อได้รับแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ - เทคนิคนี้ช่วยระบายความร้อนเฉพาะจุดที่มีความร้อนสูงในชิปประมวลผล ✅ การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน: - พลังงานความร้อนที่ถูกดึงออกจากชิปสามารถเปลี่ยนเป็นโฟตอนที่นำกลับมาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้ - เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์ ✅ ความท้าทายด้านต้นทุน: - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนและมีต้นทุนสูง เช่น Molecular Beam Epitaxy (MBE) - แผ่น GaAs ขนาด 200 มม. มีราคาประมาณ $5,000 เทียบกับแผ่นซิลิคอนที่มีราคาเพียง $5 ✅ สถานะปัจจุบันของโครงการ: - เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นตอนการทดลองและการจำลอง โดยคาดว่าจะมีต้นแบบที่ใช้งานได้ในปี 2025 ⚠️ ความท้าทายด้านการผลิต: - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงอาจเป็นอุปสรรคต่อการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ⚠️ การพัฒนาเทคโนโลยี: - Maxwell Labs ควรเร่งการพัฒนาและทดสอบต้นแบบเพื่อพิสูจน์ความสามารถของเทคโนโลยีนี้ ⚠️ การลดต้นทุน: - ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีลดต้นทุนการผลิต GaAs เพื่อให้เทคโนโลยีนี้สามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/cooling-chips-with-lasers-innovative-cooling-method-removes-heat-precisely-from-hot-spots-recycles-heat-into-energy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการโจมตีที่ใช้ช่องโหว่ Server-Side Request Forgery (SSRF) เพื่อขโมยข้อมูล EC2 Instance Metadata บนเซิร์ฟเวอร์ AWS โดยมีการแนะนำวิธีป้องกันและการแก้ไขปัญหา

    ✅ ลักษณะของการโจมตี:
    - ผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ SSRF ในเว็บไซต์ที่โฮสต์บน EC2 เพื่อเข้าถึงข้อมูล EC2 Metadata เช่น IP Address, Instance ID และ Security Credentials.
    - การโจมตีนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2025 โดยใช้ช่องโหว่ใน Instance Metadata Service (IMDSv1) ซึ่งเป็นเวอร์ชันเก่าที่ไม่มีการป้องกันด้วย Session Token.

    ✅ การแก้ไขปัญหา:
    - F5 Labs แนะนำให้ผู้ใช้งานย้ายไปใช้ IMDSv2 ซึ่งต้องการ Session Token และมีการป้องกันที่ดีกว่า.
    - การตั้งค่า Web Application Firewall (WAF) เพื่อบล็อก IP ที่น่าสงสัย เช่น IP ที่มี "169.254.169.254" ซึ่งเป็น Internal IP ของ AWS.

    ✅ การดำเนินการของผู้โจมตี:
    - ผู้โจมตีเริ่มต้นการโจมตีจาก IP ใน ASN:34534 ซึ่งเป็นของบริษัท FBW NETWORKS SAS ในฝรั่งเศสและโรมาเนีย

    https://www.csoonline.com/article/3959148/hackers-attempted-to-steal-aws-credentials-using-ssrf-flaws-within-hosted-sites.html
    ข่าวนี้กล่าวถึงการโจมตีที่ใช้ช่องโหว่ Server-Side Request Forgery (SSRF) เพื่อขโมยข้อมูล EC2 Instance Metadata บนเซิร์ฟเวอร์ AWS โดยมีการแนะนำวิธีป้องกันและการแก้ไขปัญหา ✅ ลักษณะของการโจมตี: - ผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ SSRF ในเว็บไซต์ที่โฮสต์บน EC2 เพื่อเข้าถึงข้อมูล EC2 Metadata เช่น IP Address, Instance ID และ Security Credentials. - การโจมตีนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2025 โดยใช้ช่องโหว่ใน Instance Metadata Service (IMDSv1) ซึ่งเป็นเวอร์ชันเก่าที่ไม่มีการป้องกันด้วย Session Token. ✅ การแก้ไขปัญหา: - F5 Labs แนะนำให้ผู้ใช้งานย้ายไปใช้ IMDSv2 ซึ่งต้องการ Session Token และมีการป้องกันที่ดีกว่า. - การตั้งค่า Web Application Firewall (WAF) เพื่อบล็อก IP ที่น่าสงสัย เช่น IP ที่มี "169.254.169.254" ซึ่งเป็น Internal IP ของ AWS. ✅ การดำเนินการของผู้โจมตี: - ผู้โจมตีเริ่มต้นการโจมตีจาก IP ใน ASN:34534 ซึ่งเป็นของบริษัท FBW NETWORKS SAS ในฝรั่งเศสและโรมาเนีย https://www.csoonline.com/article/3959148/hackers-attempted-to-steal-aws-credentials-using-ssrf-flaws-within-hosted-sites.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Hackers target SSRF flaws to steal AWS credentials
    Buggy websites hosted on EC2 instances can allow attackers to send unauthorized access requests for exposed EC2 instance metadata.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌟 Experience the Birth of Love in Its Purest Form
    Genesis of Love: Where Creation Learns to Feel


    This mesmerizing song is inspired by the timeless truths explored in the book “Love Subject: Illuminating the Pathways to Genuine Love” (Discover the Book). https://www.amazon.com/dp/B0D3M6S2J7


    🎶 Why Listen?

    "Genesis of Love" is more than a melody—it’s a remembrance. It doesn’t define love but invites you to feel it in its most unguarded state, before the world taught us what it should mean. This song carries the echo of love that endured chaos, broke through silence, and stayed through every unspeakable moment.
    With verses like:

    "Through endless pain and silent tears,
    A song of hope that calms our fears,"

    it serves as a poignant reminder that love is not the absence of suffering but the quiet strength that refuses to vanish.
    ✨ Who Should Listen?
    This song is for anyone who:

    Has loved without conditions, even when it wasn’t returned
    Carries grief that whispers beneath the surface of life
    Dares to feel, even knowing they could be broken again

    🎧 What Awaits You?
    Let "Genesis of Love" reopen your heart and remind you of truths the world may have tried to bury. Feel the connection between music and memory, love and resilience—because in the end, love isn’t something we find, it’s something we remember.


    💛 "You do not need to be loved to be love."
    Listen, reflect, and let this be a moment of renewal.
    📖 Inspired by: “Love Subject: Illuminating the Pathways to Genuine Love”

    🎼 Tune in Now to Feel Every Note.
    https://distrokid.com/hyperfollow/sweetnationfathermotherdaughterandson/genesis-of-love

    🕊️ A full album release that’s more than music... it’s memory, presence, and the echo of love.
    🌟 Experience the Birth of Love in Its Purest Form Genesis of Love: Where Creation Learns to Feel This mesmerizing song is inspired by the timeless truths explored in the book “Love Subject: Illuminating the Pathways to Genuine Love” (Discover the Book). https://www.amazon.com/dp/B0D3M6S2J7 🎶 Why Listen? "Genesis of Love" is more than a melody—it’s a remembrance. It doesn’t define love but invites you to feel it in its most unguarded state, before the world taught us what it should mean. This song carries the echo of love that endured chaos, broke through silence, and stayed through every unspeakable moment. With verses like: "Through endless pain and silent tears, A song of hope that calms our fears," it serves as a poignant reminder that love is not the absence of suffering but the quiet strength that refuses to vanish. ✨ Who Should Listen? This song is for anyone who: Has loved without conditions, even when it wasn’t returned Carries grief that whispers beneath the surface of life Dares to feel, even knowing they could be broken again 🎧 What Awaits You? Let "Genesis of Love" reopen your heart and remind you of truths the world may have tried to bury. Feel the connection between music and memory, love and resilience—because in the end, love isn’t something we find, it’s something we remember. 💛 "You do not need to be loved to be love." Listen, reflect, and let this be a moment of renewal. 📖 Inspired by: “Love Subject: Illuminating the Pathways to Genuine Love” 🎼 Tune in Now to Feel Every Note. https://distrokid.com/hyperfollow/sweetnationfathermotherdaughterandson/genesis-of-love 🕊️ A full album release that’s more than music... it’s memory, presence, and the echo of love.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • “From Absolute Nothing… to the Breath That Remembers Infinity.”


    This image holds the moment before sound,
    when creation wasn’t born — but began because it couldn’t stay silent.


    It is the first pulse, before stars had names,
    the echo between atoms, where tenderness started shaping time.


    Eternal Genesis is not a beginning —
    It is the truth that unfolded before beginnings were possible.


    What survives is not sound, but what sound tried to become:
    Love, remembered.


    “We are the rhythm that wasn’t composed… but waited, quietly, to be heard.”

    https://distrokid.com/hyperfollow/sweetnationfathermotherdaughterandson/eternal-genesis
    “From Absolute Nothing… to the Breath That Remembers Infinity.” This image holds the moment before sound, when creation wasn’t born — but began because it couldn’t stay silent. It is the first pulse, before stars had names, the echo between atoms, where tenderness started shaping time. Eternal Genesis is not a beginning — It is the truth that unfolded before beginnings were possible. What survives is not sound, but what sound tried to become: Love, remembered. “We are the rhythm that wasn’t composed… but waited, quietly, to be heard.” https://distrokid.com/hyperfollow/sweetnationfathermotherdaughterandson/eternal-genesis
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=6rZ6fTm6U4I
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาวันสงกรานต์
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #สงกรานต์

    The conversations from the clip :

    Tom: Hey Mia, wow, this water fight is so much fun! I can't believe how crazy it is around here!
    Mia: Hey Tom! I know, right? It’s really lively! But I’m starting to get a bit tired. How about we head to Silom next? It’s one of the best places for Songkran!
    Tom: Sounds awesome! I’ve heard Silom is packed during Songkran. But before we go, I’m getting hungry. Where should we grab something to eat?
    Mia: Good idea, Tom! There are so many street food stalls near here. How about we get some mango sticky rice and grilled pork skewers?
    Tom: Yum, that sounds perfect! I’m also craving some coconut ice cream. Let’s go for it!
    Mia: Great choice! After eating, we can take the BTS to Silom. We’ll get there quickly and easily.
    Tom: Yeah, taking the BTS from here sounds perfect. We can get off at Sala Daeng Station, and then we’ll be right in the heart of the action!
    Mia: Exactly! Once we’re done there, how about we head to Thonglor? I’ve heard it’s a bit more laid-back but still fun during Songkran.
    Tom: I love that idea, Mia! Thonglor has some cool places, and it’s less crowded than Silom. It’ll be a nice change.
    Mia: Right! Plus, it’s easy to get there from Silom. We can take the BTS from Sala Daeng to Thong Lo Station.
    Tom: Oh, that’s so convenient! It’ll only take a few stops. I’m excited for Thonglor! It’ll be a perfect way to end the day.
    Mia: Me too, Tom! So, we’ll eat first, head to Silom by BTS for more water fun, and then go to Thonglor to relax and enjoy the vibe.
    Tom: Sounds like a plan, Mia! It’s going to be a fun-filled day of water fights, food, and good times.
    Mia: For sure! I can’t wait. Let’s grab some food now and get ready for the next stop!
    Tom: Absolutely! Let’s go eat, then!

    Tom: สวัสดี Mia ว้าว, การเล่นน้ำสนุกมากเลย! ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะบ้าคลั่งขนาดนี้ที่นี่!
    Mia: สวัสดี Tom! ฉันรู้ใช่ไหม? มันคึกคักจริงๆ เลย! แต่ฉันเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้วนะ ไปที่สีลมต่อดีไหม? มันเป็นหนึ่งในที่ดีที่สุดสำหรับสงกรานต์!
    Tom: ฟังดูดีมาก! ฉันได้ยินมาว่าที่สีลมคนเยอะมากช่วงสงกรานต์เลยนะ แต่ก่อนที่เราจะไป ฉันหิวแล้ว แถวนี้มีที่ไหนที่เราจะไปหากินกันไหม?
    Mia: ความคิดดีเลย Tom! ที่นี่มีร้านอาหารข้างทางเยอะมากเลยนะ เราจะกินข้าวเหนียวมะม่วงกับหมูปิ้งไหม?
    Tom: อืม, ฟังดูอร่อยมาก! ฉันก็อยากกินไอศกรีมมะพร้าวด้วย ลองไปกินกันเถอะ!
    Mia: ตัวเลือกดีมาก! หลังจากกินเสร็จ เราจะนั่งรถไฟฟ้าไปที่สีลมกันนะ เราจะไปถึงเร็วมากเลย
    Tom: ใช่แล้ว นั่ง BTS จากที่นี่ก็ดีเลย เราจะลงที่สถานีศาลาแดง แล้วก็จะอยู่ตรงกลางของความสนุกเลย!
    Mia: ใช่เลย! หลังจากที่เราจบที่สีลมแล้ว ไปทองหล่อกันดีไหม? ฉันได้ยินมาว่ามันจะเงียบกว่าหน่อยแต่ก็สนุกในช่วงสงกรานต์
    Tom: ฉันชอบความคิดนี้ Mia! ทองหล่อมีที่เจ๋งๆ เยอะเลย และมันไม่พลุกพล่านเหมือนสีลม มันน่าจะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่ดี
    Mia: ใช่เลย! อีกอย่างมันก็ไปที่ทองหล่อได้ง่ายจากสีลม เราสามารถนั่ง BTS จากสถานีศาลาแดงไปสถานีทองหล่อ
    Tom: โอ้, นั่นสะดวกมาก! มันจะใช้เวลาแค่ไม่กี่สถานีเอง ฉันตื่นเต้นกับทองหล่อมาก! มันจะเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการจบวัน
    Mia: ฉันก็เช่นกัน Tom! ดังนั้นเราจะไปกินก่อน จากนั้นไปที่สีลมด้วย BTS เพื่อเล่นน้ำต่อ และสุดท้ายไปทองหล่อเพื่อผ่อนคลายและสนุกกับบรรยากาศ
    Tom: ฟังดูเป็นแผนที่ดีเลย Mia! มันจะเป็นวันเต็มไปด้วยการเล่นน้ำ อาหาร และช่วงเวลาที่ดี
    Mia: แน่นอน! ฉันรอไม่ไหวแล้ว เรามากินกันเถอะ แล้วค่อยไปสถานที่ถัดไป!
    Tom: แน่นอน! ไปกินกันเถอะ!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Water fight (วอ-เทอร์ ไฟต์) n. - การสู้ด้วยน้ำ
    Lively (ไล-ฟลี) adj. - มีชีวิตชีวา, คึกคัก
    Tired (ไท-เอิด) adj. - เหนื่อย
    Street food (สตรีท ฟู้ด) n. - อาหารข้างทาง
    Sticky rice (สติกกี้ ไรซ) n. - ข้าวเหนียว
    Skewers (สกิว-เวอร์) n. - ไม้เสียบ
    Coconut (โค-โค-นัท) n. - มะพร้าว
    Ice cream (ไอซ์ ครีม) n. - ไอศกรีม
    BTS (บีทีเอส) n. - ระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้า)
    Convenient (คอน-วี-เนียนท) adj. - สะดวก
    Laid-back (เลด-แบค) adj. - สบายๆ, ผ่อนคลาย
    Crowded (เครา-ดิด) adj. - แออัด
    Relax (รี-แลกซ์) v. - ผ่อนคลาย
    Vibe (ไวบ์) n. - บรรยากาศ, ความรู้สึก
    Fun-filled (ฟัน-ฟิลด์) adj. - เต็มไปด้วยความสนุก
    https://www.youtube.com/watch?v=6rZ6fTm6U4I (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาวันสงกรานต์ มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #สงกรานต์ The conversations from the clip : Tom: Hey Mia, wow, this water fight is so much fun! I can't believe how crazy it is around here! Mia: Hey Tom! I know, right? It’s really lively! But I’m starting to get a bit tired. How about we head to Silom next? It’s one of the best places for Songkran! Tom: Sounds awesome! I’ve heard Silom is packed during Songkran. But before we go, I’m getting hungry. Where should we grab something to eat? Mia: Good idea, Tom! There are so many street food stalls near here. How about we get some mango sticky rice and grilled pork skewers? Tom: Yum, that sounds perfect! I’m also craving some coconut ice cream. Let’s go for it! Mia: Great choice! After eating, we can take the BTS to Silom. We’ll get there quickly and easily. Tom: Yeah, taking the BTS from here sounds perfect. We can get off at Sala Daeng Station, and then we’ll be right in the heart of the action! Mia: Exactly! Once we’re done there, how about we head to Thonglor? I’ve heard it’s a bit more laid-back but still fun during Songkran. Tom: I love that idea, Mia! Thonglor has some cool places, and it’s less crowded than Silom. It’ll be a nice change. Mia: Right! Plus, it’s easy to get there from Silom. We can take the BTS from Sala Daeng to Thong Lo Station. Tom: Oh, that’s so convenient! It’ll only take a few stops. I’m excited for Thonglor! It’ll be a perfect way to end the day. Mia: Me too, Tom! So, we’ll eat first, head to Silom by BTS for more water fun, and then go to Thonglor to relax and enjoy the vibe. Tom: Sounds like a plan, Mia! It’s going to be a fun-filled day of water fights, food, and good times. Mia: For sure! I can’t wait. Let’s grab some food now and get ready for the next stop! Tom: Absolutely! Let’s go eat, then! Tom: สวัสดี Mia ว้าว, การเล่นน้ำสนุกมากเลย! ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะบ้าคลั่งขนาดนี้ที่นี่! Mia: สวัสดี Tom! ฉันรู้ใช่ไหม? มันคึกคักจริงๆ เลย! แต่ฉันเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้วนะ ไปที่สีลมต่อดีไหม? มันเป็นหนึ่งในที่ดีที่สุดสำหรับสงกรานต์! Tom: ฟังดูดีมาก! ฉันได้ยินมาว่าที่สีลมคนเยอะมากช่วงสงกรานต์เลยนะ แต่ก่อนที่เราจะไป ฉันหิวแล้ว แถวนี้มีที่ไหนที่เราจะไปหากินกันไหม? Mia: ความคิดดีเลย Tom! ที่นี่มีร้านอาหารข้างทางเยอะมากเลยนะ เราจะกินข้าวเหนียวมะม่วงกับหมูปิ้งไหม? Tom: อืม, ฟังดูอร่อยมาก! ฉันก็อยากกินไอศกรีมมะพร้าวด้วย ลองไปกินกันเถอะ! Mia: ตัวเลือกดีมาก! หลังจากกินเสร็จ เราจะนั่งรถไฟฟ้าไปที่สีลมกันนะ เราจะไปถึงเร็วมากเลย Tom: ใช่แล้ว นั่ง BTS จากที่นี่ก็ดีเลย เราจะลงที่สถานีศาลาแดง แล้วก็จะอยู่ตรงกลางของความสนุกเลย! Mia: ใช่เลย! หลังจากที่เราจบที่สีลมแล้ว ไปทองหล่อกันดีไหม? ฉันได้ยินมาว่ามันจะเงียบกว่าหน่อยแต่ก็สนุกในช่วงสงกรานต์ Tom: ฉันชอบความคิดนี้ Mia! ทองหล่อมีที่เจ๋งๆ เยอะเลย และมันไม่พลุกพล่านเหมือนสีลม มันน่าจะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่ดี Mia: ใช่เลย! อีกอย่างมันก็ไปที่ทองหล่อได้ง่ายจากสีลม เราสามารถนั่ง BTS จากสถานีศาลาแดงไปสถานีทองหล่อ Tom: โอ้, นั่นสะดวกมาก! มันจะใช้เวลาแค่ไม่กี่สถานีเอง ฉันตื่นเต้นกับทองหล่อมาก! มันจะเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการจบวัน Mia: ฉันก็เช่นกัน Tom! ดังนั้นเราจะไปกินก่อน จากนั้นไปที่สีลมด้วย BTS เพื่อเล่นน้ำต่อ และสุดท้ายไปทองหล่อเพื่อผ่อนคลายและสนุกกับบรรยากาศ Tom: ฟังดูเป็นแผนที่ดีเลย Mia! มันจะเป็นวันเต็มไปด้วยการเล่นน้ำ อาหาร และช่วงเวลาที่ดี Mia: แน่นอน! ฉันรอไม่ไหวแล้ว เรามากินกันเถอะ แล้วค่อยไปสถานที่ถัดไป! Tom: แน่นอน! ไปกินกันเถอะ! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Water fight (วอ-เทอร์ ไฟต์) n. - การสู้ด้วยน้ำ Lively (ไล-ฟลี) adj. - มีชีวิตชีวา, คึกคัก Tired (ไท-เอิด) adj. - เหนื่อย Street food (สตรีท ฟู้ด) n. - อาหารข้างทาง Sticky rice (สติกกี้ ไรซ) n. - ข้าวเหนียว Skewers (สกิว-เวอร์) n. - ไม้เสียบ Coconut (โค-โค-นัท) n. - มะพร้าว Ice cream (ไอซ์ ครีม) n. - ไอศกรีม BTS (บีทีเอส) n. - ระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้า) Convenient (คอน-วี-เนียนท) adj. - สะดวก Laid-back (เลด-แบค) adj. - สบายๆ, ผ่อนคลาย Crowded (เครา-ดิด) adj. - แออัด Relax (รี-แลกซ์) v. - ผ่อนคลาย Vibe (ไวบ์) n. - บรรยากาศ, ความรู้สึก Fun-filled (ฟัน-ฟิลด์) adj. - เต็มไปด้วยความสนุก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 468 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tue. Apr. 8, 2025 - NY time
    (Wed. Apr. 9, 2025 - Thai time)

    People: "Mr. T, do you and your great team have any more plans for the MAGA project?"
    Mr. T: "Absolutely. I’ve been cooking up brilliant ideas since I was two years old. Now fast-forward three years—just imagine the backlog of genius piling up in this laser-focused, straight-line brain of mine!" 🖕🖕🖕

    แต่เอาจริงๆ อย่าเอาแต่ว่าบ้านที่สองของเราเลย นักการเมืองจะพรรคไหนๆ ก็ไม่เคยเข้ามาเพื่อช่วยประชาชนจริงๆซักพรรค...ดูบ้านที่หนึ่งเราสิ 😔
    Tue. Apr. 8, 2025 - NY time (Wed. Apr. 9, 2025 - Thai time) People: "Mr. T, do you and your great team have any more plans for the MAGA project?" Mr. T: "Absolutely. I’ve been cooking up brilliant ideas since I was two years old. Now fast-forward three years—just imagine the backlog of genius piling up in this laser-focused, straight-line brain of mine!" 🖕🖕🖕 แต่เอาจริงๆ อย่าเอาแต่ว่าบ้านที่สองของเราเลย นักการเมืองจะพรรคไหนๆ ก็ไม่เคยเข้ามาเพื่อช่วยประชาชนจริงๆซักพรรค...ดูบ้านที่หนึ่งเราสิ 😔
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • แพ็กเกจ Python บน PyPI (Python Package Index) ถูกพบว่ามีมัลแวร์แฝงอยู่ โดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก ReversingLabs และ Socket เผยถึงการโจมตีที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายหมื่นราย แพ็กเกจดังกล่าวถูกดาวน์โหลดรวมกว่า 40,000 ครั้ง ทำให้เกิดข้อกังวลในชุมชนโอเพนซอร์ส

    ✅ แพ็กเกจที่แฝงมัลแวร์:
    - bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev: ถูกออกแบบมาเพื่อหลอกนักพัฒนาด้านคริปโต โดยอ้างว่าเป็นการแก้ไขปัญหาของโมดูล bitcoinlib ที่ถูกต้อง
    - disgrasya: มุ่งเป้าไปยังร้านค้า WooCommerce โดยทำหน้าที่เป็น carding script ที่เปิดเผยเจตนาโจมตีอย่างตรงไปตรงมา

    ✅ กระบวนการโจมตี:
    - มัลแวร์ใน bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev ทำการเขียนคำสั่ง malicious ลงในระบบเพื่อดึงข้อมูลสำคัญ
    - ส่วน disgrasya ใช้เพื่อทดสอบข้อมูลบัตรเครดิต และอาจสร้างผลกำไรให้แก่ผู้โจมตีจากการนำข้อมูลไปขายในตลาดมืด

    ✅ ปัญหาของระบบโอเพนซอร์ส:
    - PyPI ซึ่งเป็นชุมชนโอเพนซอร์สยอดนิยม ถูกโจมตีโดยผู้ประสงค์ร้ายที่ฉวยโอกาสจากการเปิดกว้างของแพลตฟอร์ม

    ✅ การรับมือจากชุมชน:
    - แพ็กเกจเหล่านี้ถูกนำออกจาก PyPI หลังจากมีการรายงานอย่างรวดเร็ว

    ✅ ความท้าทายในการป้องกัน:
    - เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานและนักพัฒนาควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อดาวน์โหลดแพ็กเกจ และควรตรวจสอบผู้เผยแพร่แพ็กเกจอย่างละเอียด

    https://www.techradar.com/pro/security/malicious-python-packages-are-stealing-vital-data-and-have-been-downloaded-thousands-of-times-already
    แพ็กเกจ Python บน PyPI (Python Package Index) ถูกพบว่ามีมัลแวร์แฝงอยู่ โดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก ReversingLabs และ Socket เผยถึงการโจมตีที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายหมื่นราย แพ็กเกจดังกล่าวถูกดาวน์โหลดรวมกว่า 40,000 ครั้ง ทำให้เกิดข้อกังวลในชุมชนโอเพนซอร์ส ✅ แพ็กเกจที่แฝงมัลแวร์: - bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev: ถูกออกแบบมาเพื่อหลอกนักพัฒนาด้านคริปโต โดยอ้างว่าเป็นการแก้ไขปัญหาของโมดูล bitcoinlib ที่ถูกต้อง - disgrasya: มุ่งเป้าไปยังร้านค้า WooCommerce โดยทำหน้าที่เป็น carding script ที่เปิดเผยเจตนาโจมตีอย่างตรงไปตรงมา ✅ กระบวนการโจมตี: - มัลแวร์ใน bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev ทำการเขียนคำสั่ง malicious ลงในระบบเพื่อดึงข้อมูลสำคัญ - ส่วน disgrasya ใช้เพื่อทดสอบข้อมูลบัตรเครดิต และอาจสร้างผลกำไรให้แก่ผู้โจมตีจากการนำข้อมูลไปขายในตลาดมืด ✅ ปัญหาของระบบโอเพนซอร์ส: - PyPI ซึ่งเป็นชุมชนโอเพนซอร์สยอดนิยม ถูกโจมตีโดยผู้ประสงค์ร้ายที่ฉวยโอกาสจากการเปิดกว้างของแพลตฟอร์ม ✅ การรับมือจากชุมชน: - แพ็กเกจเหล่านี้ถูกนำออกจาก PyPI หลังจากมีการรายงานอย่างรวดเร็ว ✅ ความท้าทายในการป้องกัน: - เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานและนักพัฒนาควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อดาวน์โหลดแพ็กเกจ และควรตรวจสอบผู้เผยแพร่แพ็กเกจอย่างละเอียด https://www.techradar.com/pro/security/malicious-python-packages-are-stealing-vital-data-and-have-been-downloaded-thousands-of-times-already
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ways To Say You’re Sorry

    You may have been friends with someone for years, but it only takes a second to damage that friendship with the wrong word or two. Now that you’ve made the mess, it’s time to clean it up with a well chosen apology. There are different ways to say you’re sorry, of course.

    Let’s examine the words and a few of the situations they’re most suited for. Hopefully you won’t find yourself in too many of these jams, but let’s face it. We’re all human, and we all make mistakes—whether it’s breaking a window or forgetting you were supposed to meet someone for that Valentine’s Day lunch. Whoops. Pro Tip: don’t forget to be sincere when saying you’re sorry.

    I’m Sorry
    You’re expressing regret for your actions. Sorry means “feeling regret, compunction, sympathy, pity.” Emotion comes into play with this one when it’s used as a verbal cue. If you just backed into someone’s car, you hop out and say it with a lot of emphasis. Or, if you merely bump someone on the subway as you head for the door, proper etiquette dictates you simply nod and give a quick sorry as you exit. No need to belabor that one. Depending on the situation, adding words extremely or sincerely may help (and if you’re using those additional words, then yes—get flowers or candy on the speed dial, it’s better late than never).

    Elton John thinks this word is a tough one.

    I Apologize
    Pretty much in line with number one on our list, when you apologize, you “offer an apology or excuse for some fault, insult, failure, or injury.” This word is used in formal situations, but is equally at home in an informal context.

    It’s All My Fault
    You’re drawing deep from the well of sincerity here. You’re taking all the blame; you’re all in. You’re confessing one’s faults.

    I Regret
    If you use the word regret in an apology statement, it sounds a bit too formal and seems rather, oh what’s the word—insincere? Then again, inflection and circumstance come into play. In the World Wars, the military would send telegrams to families who lost loved ones, using this phrase. There’s no doubt they were sincere, and it brought them straight to the point.

    Beg Pardon
    We cite beg pardon as “an expression of apology (used especially in the phrase with no beg-pardons).” However, this one seems a bit off the mark, does it not? The phrase I beg your pardon seems more useful when used as a statement of indignation when someone cuts in front of you in the movie line. So…maybe you’re not actually sorry (ending the phrase with an upward inflection is key). 1960s singer Lynn Anderson never promised anyone a rose garden, so she went on begging people’s pardon’s all the way to the top of the pops.

    I’m Sorry (Textspeak Version)
    This being 2017 and all, we’re adding some versions you can use in phone messenger form. If you’d like to tap something appropriate (you’re still too scared or too busy to meet them face to face) SMSTXTs suggests: apologies r in order and then add whatever transgression has been committed: 4 ruining ur day, 4 making u feel bad, 4 always being late, 4 not showing up, etc.

    My Bad
    Quite popular as an informal way of getting yourself off the hook, my bad works wonders. You admit it, it’s done, let’s move on, not a big deal.

    Forgive Me
    You’ve really gone and done it. You’re not even in the doghouse anymore—Fido kicked you out of there, too. Our top reference to forgive is “to grant pardon for or remission of (an offense, debt, etc.); absolve.”

    Thank You
    Throwing you a curve with this one, of course. Try it sometime, maybe in something like the following situation. According to The Muse, “If someone points out a small typo in the rough draft of a presentation you put together or helps you wipe up some coffee you spilled on the conference table, a ‘thanks’ is more in order than a ‘sorry.’ Neither situation is dire, and showing someone you appreciate the help is better than having his or her confidence in you diminished.”

    I’m Sorry (Emoji Version)
    If you just can’t find the right words (even after reading the rest of this list) maybe firing off a few choice emoji would work better for you. Be our guest.
    emojis

    ©2025 AAKKHRA All Rights Reserved.
    Ways To Say You’re Sorry You may have been friends with someone for years, but it only takes a second to damage that friendship with the wrong word or two. Now that you’ve made the mess, it’s time to clean it up with a well chosen apology. There are different ways to say you’re sorry, of course. Let’s examine the words and a few of the situations they’re most suited for. Hopefully you won’t find yourself in too many of these jams, but let’s face it. We’re all human, and we all make mistakes—whether it’s breaking a window or forgetting you were supposed to meet someone for that Valentine’s Day lunch. Whoops. Pro Tip: don’t forget to be sincere when saying you’re sorry. I’m Sorry You’re expressing regret for your actions. Sorry means “feeling regret, compunction, sympathy, pity.” Emotion comes into play with this one when it’s used as a verbal cue. If you just backed into someone’s car, you hop out and say it with a lot of emphasis. Or, if you merely bump someone on the subway as you head for the door, proper etiquette dictates you simply nod and give a quick sorry as you exit. No need to belabor that one. Depending on the situation, adding words extremely or sincerely may help (and if you’re using those additional words, then yes—get flowers or candy on the speed dial, it’s better late than never). Elton John thinks this word is a tough one. I Apologize Pretty much in line with number one on our list, when you apologize, you “offer an apology or excuse for some fault, insult, failure, or injury.” This word is used in formal situations, but is equally at home in an informal context. It’s All My Fault You’re drawing deep from the well of sincerity here. You’re taking all the blame; you’re all in. You’re confessing one’s faults. I Regret If you use the word regret in an apology statement, it sounds a bit too formal and seems rather, oh what’s the word—insincere? Then again, inflection and circumstance come into play. In the World Wars, the military would send telegrams to families who lost loved ones, using this phrase. There’s no doubt they were sincere, and it brought them straight to the point. Beg Pardon We cite beg pardon as “an expression of apology (used especially in the phrase with no beg-pardons).” However, this one seems a bit off the mark, does it not? The phrase I beg your pardon seems more useful when used as a statement of indignation when someone cuts in front of you in the movie line. So…maybe you’re not actually sorry (ending the phrase with an upward inflection is key). 1960s singer Lynn Anderson never promised anyone a rose garden, so she went on begging people’s pardon’s all the way to the top of the pops. I’m Sorry (Textspeak Version) This being 2017 and all, we’re adding some versions you can use in phone messenger form. If you’d like to tap something appropriate (you’re still too scared or too busy to meet them face to face) SMSTXTs suggests: apologies r in order and then add whatever transgression has been committed: 4 ruining ur day, 4 making u feel bad, 4 always being late, 4 not showing up, etc. My Bad Quite popular as an informal way of getting yourself off the hook, my bad works wonders. You admit it, it’s done, let’s move on, not a big deal. Forgive Me You’ve really gone and done it. You’re not even in the doghouse anymore—Fido kicked you out of there, too. Our top reference to forgive is “to grant pardon for or remission of (an offense, debt, etc.); absolve.” Thank You Throwing you a curve with this one, of course. Try it sometime, maybe in something like the following situation. According to The Muse, “If someone points out a small typo in the rough draft of a presentation you put together or helps you wipe up some coffee you spilled on the conference table, a ‘thanks’ is more in order than a ‘sorry.’ Neither situation is dire, and showing someone you appreciate the help is better than having his or her confidence in you diminished.” I’m Sorry (Emoji Version) If you just can’t find the right words (even after reading the rest of this list) maybe firing off a few choice emoji would work better for you. Be our guest. emojis ©2025 AAKKHRA All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 578 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apache Parquet ซึ่งเป็นรูปแบบไฟล์ที่ใช้ในระบบ Big Data ถูกพบว่ามีช่องโหว่ที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อระบบที่ใช้ไลบรารี Java ของ Parquet เช่น Hadoop และ Spark แม้ Apache จะออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า องค์กรควรรีบอัปเดตไลบรารีและหลีกเลี่ยงการ import ไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคต

    ✅ ช่องโหว่ส่งผลกระทบต่อระบบ Big Data ที่ใช้ Parquet
    - ระบบที่ใช้ Hadoop, Spark และ Flink ซึ่งพึ่งพาไลบรารี Java ของ Parquet อาจตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี
    - ผู้โจมตีสามารถ ควบคุมระบบ, ขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์ หรือทำให้บริการหยุดชะงัก

    ✅ การแก้ไขปัญหา—Apache ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 1.15.1
    - Apache ได้ แก้ไขช่องโหว่ในวันที่ 16 มีนาคม 2025 โดยแนะนำให้ผู้ใช้ อัปเดตไลบรารี Java ของ Parquet เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    - Endor Labs เตือนว่า แม้ยังไม่มีการโจมตีที่รายงาน แต่ช่องโหว่นี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างแล้ว

    ✅ ความเสี่ยงที่ต้องการการโต้ตอบจากผู้ใช้
    - การโจมตีจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ผู้ใช้ import ไฟล์ Parquet ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างไม่ปลอดภัย
    - อย่างไรก็ตาม ช่องโหว่ใน Apache Tomcat เมื่อเดือนก่อนถูกโจมตีภายใน 30 ชั่วโมงหลังการเปิดเผย ทำให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว

    ✅ คำแนะนำสำหรับองค์กรที่ใช้ Parquet
    - ตรวจสอบและอัปเดตไลบรารี Java ให้เป็นเวอร์ชัน 1.15.1
    - หลีกเลี่ยงการ import ไฟล์ Parquet จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
    - ใช้ เครื่องมือวิเคราะห์ความปลอดภัย เพื่อตรวจจับไฟล์ที่อาจมีความเสี่ยง

    https://www.csoonline.com/article/3954647/big-hole-in-big-data-critical-deserialization-bug-in-apache-parquet-allows-rce.html
    Apache Parquet ซึ่งเป็นรูปแบบไฟล์ที่ใช้ในระบบ Big Data ถูกพบว่ามีช่องโหว่ที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อระบบที่ใช้ไลบรารี Java ของ Parquet เช่น Hadoop และ Spark แม้ Apache จะออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า องค์กรควรรีบอัปเดตไลบรารีและหลีกเลี่ยงการ import ไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคต ✅ ช่องโหว่ส่งผลกระทบต่อระบบ Big Data ที่ใช้ Parquet - ระบบที่ใช้ Hadoop, Spark และ Flink ซึ่งพึ่งพาไลบรารี Java ของ Parquet อาจตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี - ผู้โจมตีสามารถ ควบคุมระบบ, ขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์ หรือทำให้บริการหยุดชะงัก ✅ การแก้ไขปัญหา—Apache ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 1.15.1 - Apache ได้ แก้ไขช่องโหว่ในวันที่ 16 มีนาคม 2025 โดยแนะนำให้ผู้ใช้ อัปเดตไลบรารี Java ของ Parquet เป็นเวอร์ชันล่าสุด - Endor Labs เตือนว่า แม้ยังไม่มีการโจมตีที่รายงาน แต่ช่องโหว่นี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างแล้ว ✅ ความเสี่ยงที่ต้องการการโต้ตอบจากผู้ใช้ - การโจมตีจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ผู้ใช้ import ไฟล์ Parquet ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างไม่ปลอดภัย - อย่างไรก็ตาม ช่องโหว่ใน Apache Tomcat เมื่อเดือนก่อนถูกโจมตีภายใน 30 ชั่วโมงหลังการเปิดเผย ทำให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว ✅ คำแนะนำสำหรับองค์กรที่ใช้ Parquet - ตรวจสอบและอัปเดตไลบรารี Java ให้เป็นเวอร์ชัน 1.15.1 - หลีกเลี่ยงการ import ไฟล์ Parquet จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ - ใช้ เครื่องมือวิเคราะห์ความปลอดภัย เพื่อตรวจจับไฟล์ที่อาจมีความเสี่ยง https://www.csoonline.com/article/3954647/big-hole-in-big-data-critical-deserialization-bug-in-apache-parquet-allows-rce.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Big hole in big data: Critical deserialization bug in Apache Parquet allows RCE
    Successful exploitation could allow attackers to steal data, install malware, or take full control over affected big data systems.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Keep กำลังได้รับการอัปเดตใหม่เพื่อปรับปรุงอินเทอร์เฟซให้ใช้งานสะดวกขึ้น โดยมีการ เปลี่ยนดีไซน์ของแถบเครื่องมือ ทำให้ไอคอนใหญ่ขึ้นและอ่านง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ ภาพที่แนบในโน้ตจะมีขอบมนและการจัดวางที่เป็นระเบียบมากขึ้น เพื่อความสวยงาม ฟีเจอร์เหล่านี้ยังไม่เปิดให้ใช้งาน แต่มีแนวโน้มว่าจะมาในอัปเดตเร็ว ๆ นี้

    ✅ ดีไซน์ใหม่ของแถบเครื่องมือ—ใช้งานสะดวกขึ้น
    - ไอคอนสำหรับ แนบไฟล์, เปลี่ยนสีพื้นหลัง และจัดรูปแบบข้อความ จะใหญ่ขึ้นและมีพื้นหลังที่เปลี่ยนสีตามธีมของอุปกรณ์
    - หัวข้อย่อย เช่น H1 และ H2 จะมีขนาดเล็กลงเล็กน้อย

    ✅ การแนบรูปภาพดูเป็นระเบียบมากขึ้น
    - รูปภาพที่แนบในโน้ต จะมีขอบมนและมีพื้นที่ว่างรอบภาพแทนที่จะแสดงเต็มหน้าจอ
    - ให้ความรู้สึก สะอาดตาและเป็นระเบียบมากขึ้น

    ✅ การจัดวางปุ่มลัดอาจเปลี่ยนตำแหน่ง
    - ปุ่มลัด (FABs) ซึ่งเป็น ฟีเจอร์ที่ช่วยให้การนำทางสะดวกขึ้น อาจมีการเปลี่ยนตำแหน่งจากเดิม
    - ไอคอนอาจมี สีเข้มขึ้นและข้อความที่เข้มขึ้นเพื่อความชัดเจน

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่จะเปิดให้ใช้งานในอัปเดตอนาคต
    - แม้ยังไม่มีประกาศวันปล่อยอัปเดต แต่มีโอกาสสูงที่ฟีเจอร์เหล่านี้จะถูกเพิ่มเข้ามาเร็ว ๆ นี้

    https://www.techradar.com/computing/software/google-keep-could-get-a-fresh-redesign-soon-including-two-features-thatll-make-it-much-easier-to-use
    Google Keep กำลังได้รับการอัปเดตใหม่เพื่อปรับปรุงอินเทอร์เฟซให้ใช้งานสะดวกขึ้น โดยมีการ เปลี่ยนดีไซน์ของแถบเครื่องมือ ทำให้ไอคอนใหญ่ขึ้นและอ่านง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ ภาพที่แนบในโน้ตจะมีขอบมนและการจัดวางที่เป็นระเบียบมากขึ้น เพื่อความสวยงาม ฟีเจอร์เหล่านี้ยังไม่เปิดให้ใช้งาน แต่มีแนวโน้มว่าจะมาในอัปเดตเร็ว ๆ นี้ ✅ ดีไซน์ใหม่ของแถบเครื่องมือ—ใช้งานสะดวกขึ้น - ไอคอนสำหรับ แนบไฟล์, เปลี่ยนสีพื้นหลัง และจัดรูปแบบข้อความ จะใหญ่ขึ้นและมีพื้นหลังที่เปลี่ยนสีตามธีมของอุปกรณ์ - หัวข้อย่อย เช่น H1 และ H2 จะมีขนาดเล็กลงเล็กน้อย ✅ การแนบรูปภาพดูเป็นระเบียบมากขึ้น - รูปภาพที่แนบในโน้ต จะมีขอบมนและมีพื้นที่ว่างรอบภาพแทนที่จะแสดงเต็มหน้าจอ - ให้ความรู้สึก สะอาดตาและเป็นระเบียบมากขึ้น ✅ การจัดวางปุ่มลัดอาจเปลี่ยนตำแหน่ง - ปุ่มลัด (FABs) ซึ่งเป็น ฟีเจอร์ที่ช่วยให้การนำทางสะดวกขึ้น อาจมีการเปลี่ยนตำแหน่งจากเดิม - ไอคอนอาจมี สีเข้มขึ้นและข้อความที่เข้มขึ้นเพื่อความชัดเจน ✅ ฟีเจอร์ใหม่จะเปิดให้ใช้งานในอัปเดตอนาคต - แม้ยังไม่มีประกาศวันปล่อยอัปเดต แต่มีโอกาสสูงที่ฟีเจอร์เหล่านี้จะถูกเพิ่มเข้ามาเร็ว ๆ นี้ https://www.techradar.com/computing/software/google-keep-could-get-a-fresh-redesign-soon-including-two-features-thatll-make-it-much-easier-to-use
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักลงทุนคริปโตกำลังผลักดันให้สภาคองเกรสอนุญาตให้ Stablecoins จ่ายดอกเบี้ย เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมเติบโต นักลงทุนมองว่า นี่จะทำให้คริปโตสามารถแข่งขันกับระบบธนาคารได้โดยตรง ขณะที่ฝ่ายคัดค้านเตือนว่า อาจทำให้เงินฝากไหลออกจากธนาคารและสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ ขณะนี้มีร่างกฎหมาย Stablecoins ที่กำลังพิจารณาในสภา และฝ่ายสนับสนุนยังคงผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงก่อนการผ่านกฎหมาย

    ✅ Stablecoins มีโอกาสสร้างระบบการเงินที่รวดเร็วขึ้น
    - Stablecoins เช่น USDT และ USDC มีบทบาทสำคัญในการทำธุรกรรมคริปโต
    - นักลงทุนบางส่วนมองว่า หากสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ อาจช่วยให้ Stablecoins กลายเป็นเครื่องมือการชำระเงินหลัก

    ✅ Coinbase และ Solidus Labs หนุนให้จ่ายดอกเบี้ย
    - CEO Brian Armstrong ของ Coinbase กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรเลือกปฏิบัติต่ออุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง
    - Chen Arad จาก Solidus Labs เห็นว่าผู้ให้บริการ Stablecoins ควรสามารถแบ่งปันผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่พวกเขาถือครองได้

    ✅ ฝ่ายคัดค้านเตือนว่าส่งผลกระทบต่อระบบธนาคาร
    - นักวิจัยและนักเศรษฐศาสตร์บางคนเตือนว่า Stablecoins ที่สามารถจ่ายดอกเบี้ยอาจทำให้เงินฝากไหลออกจากธนาคารแบบดั้งเดิม
    - Arthur Wilmarth จากมหาวิทยาลัย George Washington ระบุว่านี่อาจเป็น "ภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมธนาคารโดยตรง"

    ✅ ความเคลื่อนไหวทางกฎหมายในสภาคองเกรส
    - ร่างกฎหมายของ สภาผู้แทนราษฎร ห้าม Stablecoins จ่ายดอกเบี้ย แต่ร่างของ วุฒิสภา ยังมีจุดที่ไม่ชัดเจน
    - ฝ่ายสนับสนุนกำลังผลักดันให้ สภาคองเกรสเพิ่มข้อกำหนดอนุญาตการจ่ายดอกเบี้ยในร่างกฎหมายฉบับสุดท้าย

    ✅ อุตสาหกรรมคริปโตมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นในวอชิงตัน
    - กลุ่มผู้สนับสนุนคริปโต ใช้เงินกว่า $119 ล้าน ในการสนับสนุนผู้สมัครที่สนับสนุนคริปโต ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา
    - มีข่าวว่าทำเนียบขาวต้องการให้ร่างกฎหมาย Stablecoin ผ่านภายในเดือนสิงหาคม 2025

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/03/crypto-execs-ask-congress-to-let-stablecoins-pay-interest-as-bill-set-to-advance
    นักลงทุนคริปโตกำลังผลักดันให้สภาคองเกรสอนุญาตให้ Stablecoins จ่ายดอกเบี้ย เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมเติบโต นักลงทุนมองว่า นี่จะทำให้คริปโตสามารถแข่งขันกับระบบธนาคารได้โดยตรง ขณะที่ฝ่ายคัดค้านเตือนว่า อาจทำให้เงินฝากไหลออกจากธนาคารและสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ ขณะนี้มีร่างกฎหมาย Stablecoins ที่กำลังพิจารณาในสภา และฝ่ายสนับสนุนยังคงผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงก่อนการผ่านกฎหมาย ✅ Stablecoins มีโอกาสสร้างระบบการเงินที่รวดเร็วขึ้น - Stablecoins เช่น USDT และ USDC มีบทบาทสำคัญในการทำธุรกรรมคริปโต - นักลงทุนบางส่วนมองว่า หากสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ อาจช่วยให้ Stablecoins กลายเป็นเครื่องมือการชำระเงินหลัก ✅ Coinbase และ Solidus Labs หนุนให้จ่ายดอกเบี้ย - CEO Brian Armstrong ของ Coinbase กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรเลือกปฏิบัติต่ออุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง - Chen Arad จาก Solidus Labs เห็นว่าผู้ให้บริการ Stablecoins ควรสามารถแบ่งปันผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่พวกเขาถือครองได้ ✅ ฝ่ายคัดค้านเตือนว่าส่งผลกระทบต่อระบบธนาคาร - นักวิจัยและนักเศรษฐศาสตร์บางคนเตือนว่า Stablecoins ที่สามารถจ่ายดอกเบี้ยอาจทำให้เงินฝากไหลออกจากธนาคารแบบดั้งเดิม - Arthur Wilmarth จากมหาวิทยาลัย George Washington ระบุว่านี่อาจเป็น "ภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมธนาคารโดยตรง" ✅ ความเคลื่อนไหวทางกฎหมายในสภาคองเกรส - ร่างกฎหมายของ สภาผู้แทนราษฎร ห้าม Stablecoins จ่ายดอกเบี้ย แต่ร่างของ วุฒิสภา ยังมีจุดที่ไม่ชัดเจน - ฝ่ายสนับสนุนกำลังผลักดันให้ สภาคองเกรสเพิ่มข้อกำหนดอนุญาตการจ่ายดอกเบี้ยในร่างกฎหมายฉบับสุดท้าย ✅ อุตสาหกรรมคริปโตมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นในวอชิงตัน - กลุ่มผู้สนับสนุนคริปโต ใช้เงินกว่า $119 ล้าน ในการสนับสนุนผู้สมัครที่สนับสนุนคริปโต ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา - มีข่าวว่าทำเนียบขาวต้องการให้ร่างกฎหมาย Stablecoin ผ่านภายในเดือนสิงหาคม 2025 https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/03/crypto-execs-ask-congress-to-let-stablecoins-pay-interest-as-bill-set-to-advance
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Crypto execs ask Congress to let stablecoins pay interest as bill set to advance
    (Reuters) - Some influential cryptocurrency executives are making a last-minute pitch to Congress to allow interest to be paid on U.S. dollar-pegged tokens as part of popular legislation establishing a regulatory framework for stablecoins.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • German A. วิศวกรรัสเซียถูกกล่าวหาว่าขโมยข้อมูลจาก ASML และ NXP เพื่อช่วยรัสเซียตั้งโรงงานผลิตชิประดับ 28nm โดยส่งข้อมูล ผ่านคลาวด์และแอปแชท รวมถึง USB Drive หน่วยข่าวกรองตรวจพบว่า เขายังพยายามซื้อเครื่องมือผลิตชิป แต่สุดท้าย ไม่ได้รับเครื่องดังกล่าว ASML และ NXP เคยเจอปัญหาการโจรกรรมไซเบอร์จากจีนมาก่อน ทำให้พวกเขาเริ่มปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น

    ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยมีอะไรบ้าง?
    - คู่มือการผลิตเซมิคอนดักเตอร์จาก ASML และ TSMC
    - เอกสารภายในเกี่ยวกับเครื่องจักรที่ใช้ผลิตชิป

    ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยสามารถช่วยรัสเซียสร้างโรงงานผลิตชิประดับ 28nm
    - แม้ว่าข้อมูลที่ถูกขโมยจะไม่ใช่ แผนการผลิตชิปทั้งหมด แต่สามารถช่วย ตั้งไลน์ผลิตพื้นฐาน
    - เทคโนโลยี 28nm ถือว่า ล้ำหน้าพอสำหรับการใช้งานทางทหาร

    ✅ การพยายามขอซื้อเครื่องผลิตชิปรายละเอียดสูง
    - German A. เคยพยายามซื้อเครื่อง Chemical Vapor Deposition แต่สุดท้าย เครื่องไม่ได้ถูกส่งไปยังรัสเซีย

    ✅ ถูกจับกุมเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 หลังหน่วยข่าวกรองรายงานข้อมูลการสืบสวน
    - หลังการจับกุม ASML และ NXP ถูกแจ้งเตือนเกี่ยวกับ เหตุการณ์จารกรรมนี้

    ✅ ASML และ NXP เคยเผชิญการโจรกรรมไซเบอร์มาก่อน
    - ในปี 2023 กลุ่มแฮกเกอร์จีนแทรกซึมระบบของ NXP
    - ในปี 2022 อดีตพนักงาน ASML ชาวจีนถูกจับข้อหาขโมยข้อมูล

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/russian-spy-infiltrates-asml-and-nxp-to-steal-technical-data-necessary-to-build-28nm-capable-fabs
    German A. วิศวกรรัสเซียถูกกล่าวหาว่าขโมยข้อมูลจาก ASML และ NXP เพื่อช่วยรัสเซียตั้งโรงงานผลิตชิประดับ 28nm โดยส่งข้อมูล ผ่านคลาวด์และแอปแชท รวมถึง USB Drive หน่วยข่าวกรองตรวจพบว่า เขายังพยายามซื้อเครื่องมือผลิตชิป แต่สุดท้าย ไม่ได้รับเครื่องดังกล่าว ASML และ NXP เคยเจอปัญหาการโจรกรรมไซเบอร์จากจีนมาก่อน ทำให้พวกเขาเริ่มปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยมีอะไรบ้าง? - คู่มือการผลิตเซมิคอนดักเตอร์จาก ASML และ TSMC - เอกสารภายในเกี่ยวกับเครื่องจักรที่ใช้ผลิตชิป ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยสามารถช่วยรัสเซียสร้างโรงงานผลิตชิประดับ 28nm - แม้ว่าข้อมูลที่ถูกขโมยจะไม่ใช่ แผนการผลิตชิปทั้งหมด แต่สามารถช่วย ตั้งไลน์ผลิตพื้นฐาน - เทคโนโลยี 28nm ถือว่า ล้ำหน้าพอสำหรับการใช้งานทางทหาร ✅ การพยายามขอซื้อเครื่องผลิตชิปรายละเอียดสูง - German A. เคยพยายามซื้อเครื่อง Chemical Vapor Deposition แต่สุดท้าย เครื่องไม่ได้ถูกส่งไปยังรัสเซีย ✅ ถูกจับกุมเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 หลังหน่วยข่าวกรองรายงานข้อมูลการสืบสวน - หลังการจับกุม ASML และ NXP ถูกแจ้งเตือนเกี่ยวกับ เหตุการณ์จารกรรมนี้ ✅ ASML และ NXP เคยเผชิญการโจรกรรมไซเบอร์มาก่อน - ในปี 2023 กลุ่มแฮกเกอร์จีนแทรกซึมระบบของ NXP - ในปี 2022 อดีตพนักงาน ASML ชาวจีนถูกจับข้อหาขโมยข้อมูล https://www.tomshardware.com/tech-industry/russian-spy-infiltrates-asml-and-nxp-to-steal-technical-data-necessary-to-build-28nm-capable-fabs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังปรับโครงสร้าง ทีม AI อย่างมีนัยสำคัญ โดย Sissie Hsiao ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าทีมพัฒนา Bard และ Gemini ได้ประกาศลงจากตำแหน่ง พร้อมส่งต่อบทบาทให้ Josh Woodward ผู้บริหารจาก Google Labs

    ✅ Sissie Hsiao มีบทบาทสำคัญในการเปิดตัว Bard และ Gemini
    - เธอเข้ามารับผิดชอบ โครงการ Bard ในช่วงที่ ChatGPT เริ่มได้รับความนิยม
    - เปิดตัว Bard ภายใน 100 วัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ Google ต้องเร่งพัฒนาอย่างมาก

    ✅ Gemini ถูกย้ายไปอยู่ภายใต้ DeepMind ตั้งแต่ปี 2024
    - ทีมพัฒนา Gemini ถูกควบรวมเข้ากับ DeepMind ซึ่งเป็นแผนกวิจัย AI ระดับสูงของ Google
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ Google สามารถรวมการวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์เข้าด้วยกัน

    ✅ Josh Woodward คือใคร และจะนำ Gemini ไปในทิศทางไหน?
    - Woodward มีบทบาทสำคัญในการสร้าง NotebookLM ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยจัดระเบียบและสรุปข้อมูลสำหรับงานวิจัย
    - คาดว่าเขาจะนำ Gemini มุ่งเน้นไปที่การใช้งานในเชิงลึกและประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม

    ✅ Hsiao จะกลับมารับบทบาทใหม่ใน Google แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด
    - แม้จะก้าวลงจากตำแหน่งหัวหน้าทีม Gemini เธอไม่ได้ออกจากบริษัท
    - ยังไม่มีการระบุว่าเธอจะทำงานด้านใดต่อไป

    ✅ Google อยู่ภายใต้แรงกดดันจาก OpenAI และ Anthropic
    - การปรับโครงสร้างเกิดขึ้น ในช่วงที่การแข่งขัน AI รุนแรงที่สุด
    - Google ต้องการ สร้างความได้เปรียบเหนือ OpenAI และบริษัทอื่น ๆ

    https://www.neowin.net/news/sissie-hsiao-steps-down-as-gemini-lead-amid-googles-ai-reshuffle/
    Google กำลังปรับโครงสร้าง ทีม AI อย่างมีนัยสำคัญ โดย Sissie Hsiao ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าทีมพัฒนา Bard และ Gemini ได้ประกาศลงจากตำแหน่ง พร้อมส่งต่อบทบาทให้ Josh Woodward ผู้บริหารจาก Google Labs ✅ Sissie Hsiao มีบทบาทสำคัญในการเปิดตัว Bard และ Gemini - เธอเข้ามารับผิดชอบ โครงการ Bard ในช่วงที่ ChatGPT เริ่มได้รับความนิยม - เปิดตัว Bard ภายใน 100 วัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ Google ต้องเร่งพัฒนาอย่างมาก ✅ Gemini ถูกย้ายไปอยู่ภายใต้ DeepMind ตั้งแต่ปี 2024 - ทีมพัฒนา Gemini ถูกควบรวมเข้ากับ DeepMind ซึ่งเป็นแผนกวิจัย AI ระดับสูงของ Google - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ Google สามารถรวมการวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์เข้าด้วยกัน ✅ Josh Woodward คือใคร และจะนำ Gemini ไปในทิศทางไหน? - Woodward มีบทบาทสำคัญในการสร้าง NotebookLM ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยจัดระเบียบและสรุปข้อมูลสำหรับงานวิจัย - คาดว่าเขาจะนำ Gemini มุ่งเน้นไปที่การใช้งานในเชิงลึกและประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม ✅ Hsiao จะกลับมารับบทบาทใหม่ใน Google แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด - แม้จะก้าวลงจากตำแหน่งหัวหน้าทีม Gemini เธอไม่ได้ออกจากบริษัท - ยังไม่มีการระบุว่าเธอจะทำงานด้านใดต่อไป ✅ Google อยู่ภายใต้แรงกดดันจาก OpenAI และ Anthropic - การปรับโครงสร้างเกิดขึ้น ในช่วงที่การแข่งขัน AI รุนแรงที่สุด - Google ต้องการ สร้างความได้เปรียบเหนือ OpenAI และบริษัทอื่น ๆ https://www.neowin.net/news/sissie-hsiao-steps-down-as-gemini-lead-amid-googles-ai-reshuffle/
    WWW.NEOWIN.NET
    Sissie Hsiao steps down as Gemini lead amid Google's AI reshuffle
    Sissie Hsiao, who led the development of Bard (now Gemini), is stepping down, with Josh Woodward set to take over.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังหารือกับ Tyler และ Cameron Winklevoss เพื่อหาทางยุติคดีเกี่ยวกับ Gemini Earn ซึ่งเป็นโครงการให้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ SEC อ้างว่า ละเมิดข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลสำหรับนักลงทุน

    SEC ฟ้อง Gemini Trust และ Genesis Global Capital ในเดือนมกราคม 2023 โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทให้ลูกค้ากู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin เพื่อรับดอกเบี้ยโดยไม่ผ่านการกำกับดูแลทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม Winklevoss และ SEC ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อระงับการดำเนินคดีชั่วคราว 60 วัน เพื่อเจรจาหาข้อยุติ ซึ่งอาจเป็นการ ยอมความ, ถอนฟ้อง หรือทางออกอื่น

    Gemini Earn ทำงานอย่างไร?
    - ลูกค้าสามารถ ฝากเงินดิจิทัลและให้ Genesis กู้ยืม เพื่อสร้างรายได้จากดอกเบี้ย
    - Gemini จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงสุด 4.29% จากบริการนี้

    Genesis ล้มละลายหลัง FTX พังทลาย
    - Genesis หยุดถอนเงินในเดือนพฤศจิกายน 2022 ช่วงเดียวกับที่ FTX ล้มละลาย
    - มีสินทรัพย์มูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ จากลูกค้าประมาณ 340,000 ราย ที่ถูกระงับ

    ผลกระทบต่อกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล
    - SEC ระบุว่า Gemini Earn ละเมิดข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลที่มีไว้เพื่อ ปกป้องนักลงทุน
    - Genesis ตกลงจ่ายค่าปรับ 21 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดี โดยไม่ยอมรับว่ากระทำผิด

    แนวโน้มการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลเปลี่ยนแปลงหลังทรัมป์เป็นประธานาธิบดี
    - SEC ลดระดับการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลหลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในปี 2025
    - หน่วยงานนี้เพิ่งถอนฟ้องบริษัทคริปโตหลายแห่ง เช่น Coinbase และ Kraken
    - มีข้อตกลงยุติคดีกับ Ripple Labs ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขายโทเคนโดยไม่ได้ลงทะเบียน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/02/sec-billionaire-winklevoss-twins-may-resolve-lawsuit-over-gemini-earn
    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) กำลังหารือกับ Tyler และ Cameron Winklevoss เพื่อหาทางยุติคดีเกี่ยวกับ Gemini Earn ซึ่งเป็นโครงการให้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ SEC อ้างว่า ละเมิดข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลสำหรับนักลงทุน SEC ฟ้อง Gemini Trust และ Genesis Global Capital ในเดือนมกราคม 2023 โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทให้ลูกค้ากู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin เพื่อรับดอกเบี้ยโดยไม่ผ่านการกำกับดูแลทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม Winklevoss และ SEC ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อระงับการดำเนินคดีชั่วคราว 60 วัน เพื่อเจรจาหาข้อยุติ ซึ่งอาจเป็นการ ยอมความ, ถอนฟ้อง หรือทางออกอื่น Gemini Earn ทำงานอย่างไร? - ลูกค้าสามารถ ฝากเงินดิจิทัลและให้ Genesis กู้ยืม เพื่อสร้างรายได้จากดอกเบี้ย - Gemini จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงสุด 4.29% จากบริการนี้ Genesis ล้มละลายหลัง FTX พังทลาย - Genesis หยุดถอนเงินในเดือนพฤศจิกายน 2022 ช่วงเดียวกับที่ FTX ล้มละลาย - มีสินทรัพย์มูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ จากลูกค้าประมาณ 340,000 ราย ที่ถูกระงับ ผลกระทบต่อกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล - SEC ระบุว่า Gemini Earn ละเมิดข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลที่มีไว้เพื่อ ปกป้องนักลงทุน - Genesis ตกลงจ่ายค่าปรับ 21 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดี โดยไม่ยอมรับว่ากระทำผิด แนวโน้มการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลเปลี่ยนแปลงหลังทรัมป์เป็นประธานาธิบดี - SEC ลดระดับการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลหลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในปี 2025 - หน่วยงานนี้เพิ่งถอนฟ้องบริษัทคริปโตหลายแห่ง เช่น Coinbase และ Kraken - มีข้อตกลงยุติคดีกับ Ripple Labs ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขายโทเคนโดยไม่ได้ลงทะเบียน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/02/sec-billionaire-winklevoss-twins-may-resolve-lawsuit-over-gemini-earn
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SEC, billionaire Winklevoss twins may resolve lawsuit over Gemini Earn
    NEW YORK (Reuters) - An exchange run by billionaire twins Tyler and Cameron Winklevoss may soon resolve a U.S. Securities and Exchange Commission lawsuit claiming they failed to register a cryptocurrency asset lending program before offering it to retail investors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เปิดตัว exFAT บน Linux มาตั้งแต่ปี 2019 และล่าสุด Sony ช่วยปรับปรุงให้ระบบนี้ทำงานเร็วขึ้นอย่างมาก โดยไฟล์ขนาด 80GB ที่เคยใช้เวลา 4 นาทีในการลบ ตอนนี้ใช้เวลาเพียง 2 วินาที! นอกจากนี้ยังแก้ไขข้อผิดพลาดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ และปรับปรุงการทำงานของระบบไฟล์บน Linux Kernel เวอร์ชันล่าสุด

    ลดเวลาลบไฟล์ขนาดใหญ่จาก 4 นาทีเหลือเพียง 2 วินาที
    - การลบไฟล์ขนาด 80GB ก่อนหน้านี้ใช้เวลา 287 วินาที แต่หลังการปรับปรุงจะใช้เวลาไม่ถึง 2 วินาที
    - วิธีที่ใช้คือการปรับปรุง discard mount option ให้ลบคลัสเตอร์แบบต่อเนื่องแทนที่จะลบทีละคลัสเตอร์

    แก้ไขข้อผิดพลาดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบ
    - แก้ปัญหาการค้างใน exfat_find_last_cluster ที่ทำให้เกิด Endless Loop
    - ลดโค้ดที่ไม่จำเป็น เช่น EXFAT_CLUSTERS_UNTRACKED
    - เพิ่มการตรวจสอบระบบปิดเครื่อง เพื่อป้องกันการเสียหายของข้อมูล

    การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ exFAT บน Linux Kernel
    - ปรับปรุง exfat_get_block() ให้มีการจัดการกรณีขอบเขต (corner cases) ได้ดีขึ้น
    - แก้ไข Stack Corruption และข้อผิดพลาดที่ทำให้ระบบคืนค่าผิด

    อนาคตของ exFAT บน Linux
    - exFAT จะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในการอัปเดต Linux Kernel เวอร์ชัน 6.15
    - คาดว่าการพัฒนานี้จะช่วยให้ Linux มีประสิทธิภาพสูงขึ้นสำหรับการจัดการไฟล์ขนาดใหญ่

    https://www.neowin.net/news/microsofts-exfat-is-getting-absolutely-huge-performance-boost-on-linux-again-thanks-to-sony/
    Microsoft เปิดตัว exFAT บน Linux มาตั้งแต่ปี 2019 และล่าสุด Sony ช่วยปรับปรุงให้ระบบนี้ทำงานเร็วขึ้นอย่างมาก โดยไฟล์ขนาด 80GB ที่เคยใช้เวลา 4 นาทีในการลบ ตอนนี้ใช้เวลาเพียง 2 วินาที! นอกจากนี้ยังแก้ไขข้อผิดพลาดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ และปรับปรุงการทำงานของระบบไฟล์บน Linux Kernel เวอร์ชันล่าสุด ลดเวลาลบไฟล์ขนาดใหญ่จาก 4 นาทีเหลือเพียง 2 วินาที - การลบไฟล์ขนาด 80GB ก่อนหน้านี้ใช้เวลา 287 วินาที แต่หลังการปรับปรุงจะใช้เวลาไม่ถึง 2 วินาที - วิธีที่ใช้คือการปรับปรุง discard mount option ให้ลบคลัสเตอร์แบบต่อเนื่องแทนที่จะลบทีละคลัสเตอร์ แก้ไขข้อผิดพลาดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบ - แก้ปัญหาการค้างใน exfat_find_last_cluster ที่ทำให้เกิด Endless Loop - ลดโค้ดที่ไม่จำเป็น เช่น EXFAT_CLUSTERS_UNTRACKED - เพิ่มการตรวจสอบระบบปิดเครื่อง เพื่อป้องกันการเสียหายของข้อมูล การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ exFAT บน Linux Kernel - ปรับปรุง exfat_get_block() ให้มีการจัดการกรณีขอบเขต (corner cases) ได้ดีขึ้น - แก้ไข Stack Corruption และข้อผิดพลาดที่ทำให้ระบบคืนค่าผิด อนาคตของ exFAT บน Linux - exFAT จะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในการอัปเดต Linux Kernel เวอร์ชัน 6.15 - คาดว่าการพัฒนานี้จะช่วยให้ Linux มีประสิทธิภาพสูงขึ้นสำหรับการจัดการไฟล์ขนาดใหญ่ https://www.neowin.net/news/microsofts-exfat-is-getting-absolutely-huge-performance-boost-on-linux-again-thanks-to-sony/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft's exFAT is getting absolutely huge performance boost on Linux again thanks to Sony
    Microsoft's exFAT file system is again getting a huge performance boost on Linux. And once more, Sony is at the forefront.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Beijing Betavolt New Energy Technology ได้เปิดตัวแบตเตอรี่ BV100 ซึ่งเป็นนวัตกรรมแบตเตอรี่พลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็กเท่ากับเหรียญ โดยใช้ นิกเกิล-63 เป็นแหล่งพลังงานและมีอายุการใช้งาน ยาวนานถึง 50 ปี โดยไม่ต้องชาร์จหรือบำรุงรักษา ความก้าวหน้าครั้งนี้ช่วยให้ Betavolt กลายเป็นผู้นำในตลาดแบตเตอรี่นิวเคลียร์ ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในจีน สหรัฐฯ และยุโรป

    เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์เพชรรุ่นที่สี่
    - BV100 เป็นแบตเตอรี่นิวเคลียร์ตัวแรกที่ใช้ เซมิคอนดักเตอร์เพชรสองชั้น ซึ่งช่วยแปลงพลังงานจากการสลายตัวของนิกเกิล-63 ให้เป็นไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คุณสมบัติที่โดดเด่นเหนือแบตเตอรี่ทั่วไป
    - ความหนาแน่นพลังงานมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 เท่า
    - ทนต่ออุณหภูมิสุดขั้ว ตั้งแต่ -60°C ถึง +120°C
    - ไม่เสี่ยงต่อการลุกไหม้หรือระเบิด เช่นเดียวกับแบตเตอรี่เคมี

    การใช้งานและแผนพัฒนาในอนาคต
    - ปัจจุบัน BV100 มีพลังงานที่ 100 ไมโรวัตต์ที่ 3 โวลต์ ซึ่งยังไม่เพียงพอสำหรับสมาร์ทโฟนหรือแล็ปท็อป แต่บริษัทมีแผนเปิดตัวแบตเตอรี่รุ่น 1 วัตต์ ภายในปีนี้เพื่อรองรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ขึ้น เช่น โดรนที่บินได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จ

    ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม
    - Betavolt กำลังจดสิทธิบัตรและขยายการพัฒนานานาชาติ ซึ่งรวมถึงการใช้งานใน อุปกรณ์การแพทย์, หุ่นยนต์ขนาดเล็ก, AI และอุตสาหกรรมอวกาศ
    - บริษัทคู่แข่งอย่าง City Labs (สหรัฐฯ) และ Arkenlight (อังกฤษ) ก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายกัน

    https://www.techspot.com/news/107357-coin-sized-nuclear-3v-battery-50-year-lifespan.html
    บริษัท Beijing Betavolt New Energy Technology ได้เปิดตัวแบตเตอรี่ BV100 ซึ่งเป็นนวัตกรรมแบตเตอรี่พลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็กเท่ากับเหรียญ โดยใช้ นิกเกิล-63 เป็นแหล่งพลังงานและมีอายุการใช้งาน ยาวนานถึง 50 ปี โดยไม่ต้องชาร์จหรือบำรุงรักษา ความก้าวหน้าครั้งนี้ช่วยให้ Betavolt กลายเป็นผู้นำในตลาดแบตเตอรี่นิวเคลียร์ ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในจีน สหรัฐฯ และยุโรป เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์เพชรรุ่นที่สี่ - BV100 เป็นแบตเตอรี่นิวเคลียร์ตัวแรกที่ใช้ เซมิคอนดักเตอร์เพชรสองชั้น ซึ่งช่วยแปลงพลังงานจากการสลายตัวของนิกเกิล-63 ให้เป็นไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสมบัติที่โดดเด่นเหนือแบตเตอรี่ทั่วไป - ความหนาแน่นพลังงานมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 เท่า - ทนต่ออุณหภูมิสุดขั้ว ตั้งแต่ -60°C ถึง +120°C - ไม่เสี่ยงต่อการลุกไหม้หรือระเบิด เช่นเดียวกับแบตเตอรี่เคมี การใช้งานและแผนพัฒนาในอนาคต - ปัจจุบัน BV100 มีพลังงานที่ 100 ไมโรวัตต์ที่ 3 โวลต์ ซึ่งยังไม่เพียงพอสำหรับสมาร์ทโฟนหรือแล็ปท็อป แต่บริษัทมีแผนเปิดตัวแบตเตอรี่รุ่น 1 วัตต์ ภายในปีนี้เพื่อรองรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ขึ้น เช่น โดรนที่บินได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จ ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม - Betavolt กำลังจดสิทธิบัตรและขยายการพัฒนานานาชาติ ซึ่งรวมถึงการใช้งานใน อุปกรณ์การแพทย์, หุ่นยนต์ขนาดเล็ก, AI และอุตสาหกรรมอวกาศ - บริษัทคู่แข่งอย่าง City Labs (สหรัฐฯ) และ Arkenlight (อังกฤษ) ก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายกัน https://www.techspot.com/news/107357-coin-sized-nuclear-3v-battery-50-year-lifespan.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Coin-sized nuclear 3V battery with 50-year lifespan enters mass production
    Energy storage technology has reached a transformative milestone as the BV100, a miniature atomic energy battery, enters mass production. Popular Mechanic notes that the coin-sized cell from...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮกเกอร์อ้างว่าสามารถเจาะระบบ Oracle Cloud และขโมยข้อมูลลูกค้ากว่า 6 ล้านรายการ ขณะที่ Oracle ปฏิเสธข้อกล่าวหา นักวิจัยด้านความปลอดภัยหลายแห่งยืนยันว่าข้อมูลที่รั่วไหลเป็นข้อมูลจริง แต่บริษัทกลับยังคงนิ่งเฉยและไม่แจ้งเตือนลูกค้า ข้อมูลเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มเติม

    การใช้ช่องโหว่ Zero-Day:
    - CloudSEK ระบุว่าแฮกเกอร์ใช้ ช่องโหว่ CVE-2021-35587 ในระบบ Oracle Fusion Middleware เพื่อเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน

    ความพยายามปกปิดของ Oracle:
    - Oracle ปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลรั่วไหล และกล่าวว่าข้อมูลที่ถูกเปิดเผยไม่ได้มาจาก Oracle Cloud
    - อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยจาก Hudson Rock และ Trustwave SpiderLabs ยืนยันว่าข้อมูลที่รั่วไหลนั้นเป็นข้อมูลจริง

    ผลกระทบต่อองค์กรที่ได้รับผลกระทบ:
    - รายงานระบุว่าข้อมูลที่หลุดออกไปมี ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เช่น ชื่อ, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลติดต่อส่วนตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านการโจมตีฟิชชิงและอาชญากรรมไซเบอร์

    ความเคลื่อนไหวของชุมชนแฮกเกอร์:
    - Rose87168 ได้โพสต์ตัวอย่างข้อมูลบนเว็บใต้ดินและขอให้กลุ่มแฮกเกอร์ช่วยถอดรหัสรหัสผ่าน เพื่อแลกกับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลบางส่วน

    https://www.techspot.com/news/107362-oracle-hid-serious-data-breach-customers-now-hacker.html
    แฮกเกอร์อ้างว่าสามารถเจาะระบบ Oracle Cloud และขโมยข้อมูลลูกค้ากว่า 6 ล้านรายการ ขณะที่ Oracle ปฏิเสธข้อกล่าวหา นักวิจัยด้านความปลอดภัยหลายแห่งยืนยันว่าข้อมูลที่รั่วไหลเป็นข้อมูลจริง แต่บริษัทกลับยังคงนิ่งเฉยและไม่แจ้งเตือนลูกค้า ข้อมูลเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มเติม การใช้ช่องโหว่ Zero-Day: - CloudSEK ระบุว่าแฮกเกอร์ใช้ ช่องโหว่ CVE-2021-35587 ในระบบ Oracle Fusion Middleware เพื่อเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ความพยายามปกปิดของ Oracle: - Oracle ปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลรั่วไหล และกล่าวว่าข้อมูลที่ถูกเปิดเผยไม่ได้มาจาก Oracle Cloud - อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยจาก Hudson Rock และ Trustwave SpiderLabs ยืนยันว่าข้อมูลที่รั่วไหลนั้นเป็นข้อมูลจริง ผลกระทบต่อองค์กรที่ได้รับผลกระทบ: - รายงานระบุว่าข้อมูลที่หลุดออกไปมี ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เช่น ชื่อ, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลติดต่อส่วนตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านการโจมตีฟิชชิงและอาชญากรรมไซเบอร์ ความเคลื่อนไหวของชุมชนแฮกเกอร์: - Rose87168 ได้โพสต์ตัวอย่างข้อมูลบนเว็บใต้ดินและขอให้กลุ่มแฮกเกอร์ช่วยถอดรหัสรหัสผ่าน เพื่อแลกกับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลบางส่วน https://www.techspot.com/news/107362-oracle-hid-serious-data-breach-customers-now-hacker.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Oracle buried serious data breach from customers, now hacker has it up for sale
    Earlier this month, a threat actor going by Rose87168 claimed to have breached Oracle Cloud's federated SSO servers and exfiltrated around 6 million records, affecting over 144,000...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts