• “Typst 0.14 เปิดศักราชใหม่ของเอกสารดิจิทัล: เข้าถึงได้มากขึ้น ฉลาดขึ้น และสวยงามกว่าเดิม”

    รู้ไหมว่า Typst ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดหน้าเอกสารที่หลายคนใช้แทน LaTeX ตอนนี้ออกเวอร์ชันใหม่แล้ว—Typst 0.14! รอบนี้เขาไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะอัปเดตครั้งนี้เน้นเรื่อง “การเข้าถึง” หรือ accessibility เป็นหลักเลยล่ะ

    ลองนึกภาพว่าเราทำเอกสาร PDF แล้วคนที่ใช้ screen reader ก็สามารถเข้าใจเนื้อหาได้เหมือนกับคนที่มองเห็นปกติ—Typst ทำให้สิ่งนี้เป็นจริง เพราะตอนนี้มันสามารถใส่ tag ที่ช่วยให้โปรแกรมช่วยอ่านเข้าใจโครงสร้างของเอกสารได้โดยอัตโนมัติ แถมยังมีตัวเลือกให้ตรวจสอบว่าเอกสารของเราผ่านมาตรฐานสากลอย่าง PDF/UA-1 หรือเปล่าด้วยนะ

    นอกจากนี้ยังมีของใหม่อีกเพียบ เช่น การรองรับ PDF เป็นภาพโดยตรง (เหมาะมากกับคนที่มีกราฟิกซับซ้อน), การจัดย่อหน้าแบบละเอียดถึงระดับตัวอักษร (character-level justification), และการส่งออก HTML ที่ฉลาดขึ้นเยอะ

    ที่น่าสนใจคือ Typst ยังใช้ไลบรารี PDF ใหม่ที่ชื่อว่า “hayro” ซึ่งเขียนด้วยภาษา Rust ทั้งหมด ทำให้การประมวลผล PDF เร็วและเสถียรมากขึ้นอีกด้วย

    การเข้าถึง (Accessibility) เป็นค่าเริ่มต้นใน Typst 0.14
    เอกสาร PDF ที่สร้างจาก Typst จะมี tag สำหรับ screen reader โดยอัตโนมัติ
    รองรับการใส่คำอธิบายภาพ (alt text) สำหรับรูปภาพและแผนภาพ
    มีโหมดตรวจสอบความเข้ากันได้กับมาตรฐาน PDF/UA-1 เพื่อให้เอกสารเข้าถึงได้จริง

    รองรับ PDF เป็นภาพ (PDFs as images)
    สามารถแทรกไฟล์ PDF เป็นภาพในเอกสารได้โดยตรง
    รองรับการแสดงผลในทุกฟอร์แมต เช่น PDF, HTML, SVG, PNG
    ใช้ไลบรารี “hayro” ที่เขียนด้วยภาษา Rust เพื่อประมวลผล PDF

    การจัดย่อหน้าแบบละเอียด (Character-level justification)
    ปรับระยะห่างระหว่างตัวอักษรเพื่อให้ย่อหน้าดูสมดุล
    เป็นฟีเจอร์ที่ LaTeX ยังไม่มีในตอนนี้
    ช่วยให้การจัดหน้าเอกสารดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น

    การส่งออก HTML ที่ฉลาดขึ้น (Richer HTML export)
    รองรับ element เพิ่มเติม เช่น footnotes, citations, outlines
    มีระบบ typed HTML interface สำหรับเขียน HTML ด้วย Typst ได้ง่ายขึ้น
    เตรียมเปิดให้ใช้งานในเว็บแอปเร็ว ๆ นี้

    การอัปเกรดที่ราบรื่น (Migration & Compatibility)
    มีระบบช่วยตรวจสอบความเข้ากันได้ของเอกสารเก่ากับเวอร์ชันใหม่
    แจ้งเตือนเมื่อมีเวอร์ชันใหม่ และให้เลือกอัปเกรดได้ในเว็บแอป

    https://typst.app/blog/2025/typst-0.14/
    “Typst 0.14 เปิดศักราชใหม่ของเอกสารดิจิทัล: เข้าถึงได้มากขึ้น ฉลาดขึ้น และสวยงามกว่าเดิม” รู้ไหมว่า Typst ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดหน้าเอกสารที่หลายคนใช้แทน LaTeX ตอนนี้ออกเวอร์ชันใหม่แล้ว—Typst 0.14! รอบนี้เขาไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะอัปเดตครั้งนี้เน้นเรื่อง “การเข้าถึง” หรือ accessibility เป็นหลักเลยล่ะ ลองนึกภาพว่าเราทำเอกสาร PDF แล้วคนที่ใช้ screen reader ก็สามารถเข้าใจเนื้อหาได้เหมือนกับคนที่มองเห็นปกติ—Typst ทำให้สิ่งนี้เป็นจริง เพราะตอนนี้มันสามารถใส่ tag ที่ช่วยให้โปรแกรมช่วยอ่านเข้าใจโครงสร้างของเอกสารได้โดยอัตโนมัติ แถมยังมีตัวเลือกให้ตรวจสอบว่าเอกสารของเราผ่านมาตรฐานสากลอย่าง PDF/UA-1 หรือเปล่าด้วยนะ นอกจากนี้ยังมีของใหม่อีกเพียบ เช่น การรองรับ PDF เป็นภาพโดยตรง (เหมาะมากกับคนที่มีกราฟิกซับซ้อน), การจัดย่อหน้าแบบละเอียดถึงระดับตัวอักษร (character-level justification), และการส่งออก HTML ที่ฉลาดขึ้นเยอะ ที่น่าสนใจคือ Typst ยังใช้ไลบรารี PDF ใหม่ที่ชื่อว่า “hayro” ซึ่งเขียนด้วยภาษา Rust ทั้งหมด ทำให้การประมวลผล PDF เร็วและเสถียรมากขึ้นอีกด้วย ✅ การเข้าถึง (Accessibility) เป็นค่าเริ่มต้นใน Typst 0.14 ➡️ เอกสาร PDF ที่สร้างจาก Typst จะมี tag สำหรับ screen reader โดยอัตโนมัติ ➡️ รองรับการใส่คำอธิบายภาพ (alt text) สำหรับรูปภาพและแผนภาพ ➡️ มีโหมดตรวจสอบความเข้ากันได้กับมาตรฐาน PDF/UA-1 เพื่อให้เอกสารเข้าถึงได้จริง ✅ รองรับ PDF เป็นภาพ (PDFs as images) ➡️ สามารถแทรกไฟล์ PDF เป็นภาพในเอกสารได้โดยตรง ➡️ รองรับการแสดงผลในทุกฟอร์แมต เช่น PDF, HTML, SVG, PNG ➡️ ใช้ไลบรารี “hayro” ที่เขียนด้วยภาษา Rust เพื่อประมวลผล PDF ✅ การจัดย่อหน้าแบบละเอียด (Character-level justification) ➡️ ปรับระยะห่างระหว่างตัวอักษรเพื่อให้ย่อหน้าดูสมดุล ➡️ เป็นฟีเจอร์ที่ LaTeX ยังไม่มีในตอนนี้ ➡️ ช่วยให้การจัดหน้าเอกสารดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น ✅ การส่งออก HTML ที่ฉลาดขึ้น (Richer HTML export) ➡️ รองรับ element เพิ่มเติม เช่น footnotes, citations, outlines ➡️ มีระบบ typed HTML interface สำหรับเขียน HTML ด้วย Typst ได้ง่ายขึ้น ➡️ เตรียมเปิดให้ใช้งานในเว็บแอปเร็ว ๆ นี้ ✅ การอัปเกรดที่ราบรื่น (Migration & Compatibility) ➡️ มีระบบช่วยตรวจสอบความเข้ากันได้ของเอกสารเก่ากับเวอร์ชันใหม่ ➡️ แจ้งเตือนเมื่อมีเวอร์ชันใหม่ และให้เลือกอัปเกรดได้ในเว็บแอป https://typst.app/blog/2025/typst-0.14/
    TYPST.APP
    Typst: Typst 0.14: Now accessible – Typst Blog
    Typst 0.14 is out now. With accessibility by default, PDFs as images, character-level justification, and more, it has everything you need to move from draft to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง สันดาน
    “สันดาน”

    (1)

    ผมหายไปจากหน้าจอหลายวันมาก เพราะขี้เกียจดูข่าวและเขียนถึงไอ้นักล่าตอนนี้ บทมันซ้ำจนน่าเบื่อ แถมสะอิดสะเอียน เวลาดูมันพูด เล่นบทเป็นวีรบุรุษ ผู้เสียสละ จำเป็นต้องรักษาสันติสุขของมนุษยชาติ ฯลฯ ขืนดูต่อ ยาแก้คลื่นไส้ก็เอาไม่อยู่ ผมเลยไปค้นหาหนังสือเก่าๆมาอ่านประเทืองปัญญา ดีกว่าดูไอ้นักล่าตอแหล

    ปรากฏว่า อาการผมหนักกว่าคลื่นไส้!

    ผมไปเจอเอกสารเก่า เกือบ 100 ปี “The American and Russian Missions” ปี ค.ศ.1917 เป็นเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ อเมริกัน ที่เรียกว่า Foreign Relations of the United States (FRUS) ทนไม่ไหว ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง ถ้าไม่บอกว่า คนเขียนเอกสาร เขียนเมื่อไหร่ ท่านผู้อ่านอาจนึกว่าเป็นเรื่องในสมัยปัจจุบัน ผ่านมาเกือบ 100 ปี มันก็ยังใช้วิธีเดิมๆ ตามสันดาน…

    ปี ค.ศ.1917 ตามวิชาประวัติศาสตร์สากล สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยม เขาบอกว่า มีการปฏิวัติเกิดขึ้นในรัสเซีย คือการปฏิวัติอันโด่งดังของพวกบอลเชวิก (Bolsheviks) ที่โค่นพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 นั่นแหละ

    แต่ความจริง ในปี ค.ศ.1917 รัสเซีย มีการปฏิวัติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม ผู้นำการปฏิวัติ คือ นาย Aleksandr Kerensky ซึ่งยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์ ทำให้พระเจ้าซาร์ประกาศสละบัลลังก์ แต่ต่อมาพวกปฏิวัติก็จับท่านและราชวงค์ไปกักขัง ส่วนพวก Bolsheviks มาทำการปฏิวัติซ้ำในพฤศจิกายน ค.ศ.1917 ไล่คณะ นาย Kerensky ออกไป แล้วพวก Bolsheviks ก็ปกครองรัสเซียต่อ

    ในตอนที่ นาย Kerensky ทำการปฏิวัตินั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.1914 กำลังโซ้ยกันอย่างดุเดือด สงครามโลกครั้งที่ 1 นี้ ความจริงเริ่มมาจากชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นฝ่ายกระสัน อยากจะทำสงครามนะครับ เพราะอังกฤษหมั่นไส้ ปนปอดแหกว่า เยอรมันกำลังจะโตใหญ่เกินหน้า ส่วนเรื่องอาชดยุกค์เฟอร์ดินานด์ แห่งปรัสเซียถูกยิง นั่นมันสาเหตุของสงครามโลก ตามประวัติศาสตร์หลักสูตรกระทรวงศึกษาฯ ลองไปหาประวัติศาสตร์นอกหลักสูตรมาอ่านกันบ้าง จะได้เห็นโลกกว้าง และลึกขึ้น

    ประมาณปี คศ 1899 เยอรมันส้มหล่นใส่ ไปได้สัมปทานจากออตโตมาน ให้สร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ยาวประมาณ 2,500 ไมล์ ภาพรางรถไฟวิ่งยาวจาก Berlin ผ่านไปกลางตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันไปจนถึง Bagdad เลยไปอีกหน่อย ก็ถึงอ่าวเปอร์เซีย ที่อังกฤษตีตั๋วจองไว้ ภาพนี้มันทำให้ชาวเกาะใหญ่ฯนอนฝันร้าย ที่นอนเปียกชุ่มทุกคืน ตั้งแต่รู้ข่าว ชาวเกาะฯทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาวางแผนเตะตัดขาเยอรมัน ด้วยการไปชวนพรรคพวกมาร่วมรายการถล่มนักสร้างราง แต่ถ้ามีแค่พวกขาประจำอย่างฝรั่งเศส อืตาลีร่วม ชาวเกาะไม่แน่ใจว่า จะถีบนักสร้างรางให้ตกรางได้ ชาวเกาะเลยไปหลอกรัสเซีย ถึงจะอยู่ใกลหน่อย แต่ข่าวว่ากองทัพอึด ให้มาร่วมรายการถล่มนักสร้างรางด้วยกัน (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือนก 2 หัว” และ นิทานชุด “เหยื่อ”)

    รัสเซีย จริงๆไม่มีเรื่องชังหน้ากับเยอรมันซักหน่อย แต่พออังกฤษเอาของขวัญมาล่อว่า ถ้าถีบมันตกรางได้ เอาไปเลย อาณาจักรออโตมาน เรายกให้ท่าน ไม่รู้รัสเซียกำลังมึนอะไร เดินหล่นพลั่กลงหลุม ที่ชาวเกาะขุดล่อ ออโตมานก็ไม่ใช่ของชาวเกาะใหญ่ฯ ซะหน่อย เขาเอาของคนอื่นมาล่อ ไปตกลงกับเขาได้ยังไง เนี่ย เหมือนเวลาคนดวงไม่ดี มีดาวประเภท เสาร์ ราหู ทับลัคน์อะไรทำนองนั้น เวลาดาวแรงอย่างนี้ทับลัคน์ อย่าไปเชื่ออะไรใครเขาง่ายๆนะครับ
    เมื่อ นาย Kerensky ทำปฏิวัติรัสเซีย สงครามเล่นไปแล้ว 3 ปี แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิก คนจัดรายการ ออกตั๋วเสริมมาขายเพิ่มอยู่เรื่อย แม้บ้านช่องจะพังพินาศฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่ชาวเกาะก็บอกให้สู้ต่อ ก็บทมันเขียนไว้อย่างนั้น ทีนี้ รัสเซียแนวร่วม ดันมีปฏิวัติ รัฐบาลใหม่จะเล่นสงครามต่อหรือ เปล่า ชาวเกาะชักเหงื่อแตก อเมริกาเด็กเรา (ตอนนั้น ไอ้นักล่ายังเป็นเด็ก อยู่ในอาณัติของอังกฤษ เรื่องมัน 100 ปีมาแล้วนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ ถึงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็อาจจะยังอยู่ ในอาณัติกันเหมือนเดิม) ก็ดันประกาศอยู่นั่นว่า เราเป็นกลาง (ยัง) ไม่เข้ามาช่วยรบ จำเราต้องใช้มันไปสืบความว่า รัสเซียหลังปฏิวัตินี่ จะสู้ต่อ หรือจะฝ่อหนี

    ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ไม้หลักปักเลน จึงจัดคณะละครเร่ ไปเจริญสัมพันธไมตรี ชื่อ The Roots Mission ให้ไปดูลาดเลารัสเซีย หลังปฏิวัติครั้งแรก ว่าหน้าตาเป็นยังไง หล่อเหลา หรือเหลาเหย่ คณะละครเร่เจริญสัมพันธไมตรีที่นำโดย นาย Elihu Roots ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอดีตทูต อดีตรัฐมนตรี อดีตอะไรเยอะแยะไปหมด ไปเปิดดูกูเกิลเอาแล้วกันนะครับ น่าเชื่อถือดี แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไปทำหน้าที่เล่นละคร และทำหน้าที่นักสืบมากกว่า

    คณะนาย Roots มีด้วยกันกว่าสิบคน มีทั้ง นักการทูต นักธุรกิจ วิศวกร นักหนังสือพิมพ์ นักกิจกรรมสังคม (YMCA) นายทหารบก นายทหารเรือ เบิ้มๆทั้งนั้น มันเป็นคณะที่ต้องไปแสดงละครจริงๆ พวกเขาไปถึง เมือง Petrograd ของรัสเซีย เดือนพฤษภาคม 1917 ใช้เวลาเจริญสัมพันธไมตรีกับคณะปฏิวัติ Kerensky ประมาณ 4 เดือน ไปมันทั่วรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล ไปจนถึงไซบีเรียโน่น ต้องยอมรับว่า คณะนี้เขาเล่นละครเก่ง

    คงสงสัยกัน พวก YMCA ( Young Men’s Christain Association) นี่คณะละคร เอาไปทำอะไร ในสมัยนั้น (และสมัยนี้ ?!) เขาใช้ YMCA ทำหน้าที่เหมือน CIA ในคราบทูตวัฒนธรรม ใช้ศาสนา การกีฬา การบรรเทิง บังหน้า เข้าไปคลุกคลี กับชาวบ้าน ชาวเมือง และนักเรียนนักศึกษา มีทั้ง YMCA และ YWCA ของฝ่ายหญิง การจะเอาเจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการทหาร ไปคลุกกับชาวบ้านนี่ บางทีไม่ได้ผล ชาวบ้านไม่เปิดใจ ก็ใช้กิจกรรมนำโดยกลุ่มแบบนี้ สมัยนี้ ก็คงไม่ใช้ YMCA แล้ว เขามาในรูปแบบของกลุ่มอะไร ลองเดาดู

    (2)

    เดือนสิงหาคม คณะละครเร่ แสดงเสร็จ ก็ทำรายงานยาวเหยียด ส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นาย Robert Lansing พิจารณา
    ผมจะขอยกมาเฉพาะบางส่วน ที่น่าสนใจ แต่จะเอาฉบับเต็มลงให้อ่านกันด้วย เผื่อท่านใดอยากจะตั้งคณะละคร จะได้ใช้เป็นตัวอย่าง

    คณะละครได้ไปพบทั้งพวกทำปฏิวัติ ทหารฝ่ายเก่า ฝ่ายใหม่ ชาวบ้าน ชาววัด ครู นักเรียน พ่อค้า นักธุรกิจ สายลับ ฯลฯ พบมันหมด ไปคุย ไปถาม ไปเสือก ก็เหมือนที่ไอ้บ้าอะไรที่เพิ่ง มาเสือกที่บ้านเรา เมื่อต้นเดือนนี้ละครับ มันคงมาจากคณะละครเดียวกัน รูปแบบ การเจรจา ถึงได้ทำนองเดียวกัน เล่นกันแบบนี้มา 100 ปีแล้ว ยังไม่เลิก

    ข้อสรุปที่คณะละคร ได้จากการสำรวจ คือ ชาวรัสเซีย ถอดใจไม่อยากเล่นสงครามแล้ว ขนมปังก็จะไม่มีกิน บ้านก็พัง จนแทบไม่เหลือที่ให้ซุกหัว จะไปรบทำไมอีก คณะละครอ้างว่า เพราะฝ่ายเยอรมันขนสายลับเข้ามา เต็มเมืองรัสเซีย มากรอกหูชาวรัสเซีย และทหารรัสเซียว่า จะไปรบทำไม คนอยากรบน่ะ คือพระเจ้าซาร์ ตอนนี้ท่านก็ไปแล้ว พี่น้องก็ไม่ต้องไปรบแล้ว กลับบ้านไปทำไร่ทำนาต่อแล้วกัน

    ฝ่ายคณะละครได้ยินเข้าก็ลมแทบใส่ นี่ใกล้จะถึงคิวเราเข้าฉากไปรบต่อ ถ้าไม่มีรัสเซียอยู่แถวหน้าตายก่อน พวกเราก็ ฉ. ห. ละซิ เพราะฉนั้น สิ่งที่ฝ่ายเราต้องทำด่วน (ที่เปิดเผยได้) มี 2 เรื่อง

    เรื่องที่ 1 เราต้องเอาทีมอเมริกัน เข้ามาดูแลเรื่องถนนหนทาง รางรถไฟ ในรัสเซีย เพราะขณะนี้ อาวุธยุทธภัณท์ ที่ฝ่ายเราขนมาให้ ยังกองค้างอยูที่เมืองท่า Vladivostok ประมาณ 700,000 ตัน จะขนผ่านข้ามไป Moscow ยังไม่ได้ เพราะทั้งถนน ทั้งทางรถไฟ รับน้ำหนักไม่ไหว แล้วเมื่อเราจะเข้าทำสงคราม ของมันจะต้องขนมาอีกมากมาย เราจะทำยังไง ต้องแก้ไขเรื่องนี้ด่วนจี๋

    อืม คณะละครนี่ ไม่ใช่ย่อย ไม่ใช่มารำเฉิบๆ อย่างเดียว เขาไปสำรวจหมด ระยะทางรถไฟจาก Vladivostok ถึง Moscow น่ะ ประมาณ 5 ถึง 6,000 ไมล์ เชียวนะ รำไป สำรวจไปนี่ไม่ใช่งานเล็กๆ

    แล้วจำกันได้ไหมครับ เมื่อเขาจะรบกับเวียตนาม เขาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพ แต่ก่อนจะยกโขยงกองทัพกันเข้ามา เขาส่งคณะละครเร่แบบนี้ มาสำรวจบ้านเราไม่รู้กี่คณะ สำรวจอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ แล้วเขาก็สร้างถนน จากสระบุรี กว้างขวางยาวเรียบไปถึงโคราช ให้เราชาวบ้านดีใจ แหม อเมริกาใจดีจัง ถนนเลยมีชื่อว่า มิตรภาพ เปล่าหรอกครับ เขาเตรียมไว้ขนส่ง อาวุธ ยุทธภัณท์ ที่เขาจะขนมาทางเรือ แต่กลัวมากองเป็นภูเขา อยู่แถวท่าเรือคลองเตย แบบ Vladivostock! มันก็เลย ต้องสร้างถนน สร้างสนามบิน ให้ประเทศไทย ฯลฯ (รายละเอียดมีอยู่ในนิทานเรื่อง “จิกโก๋ปากซอย” ถ้าอยากอ่านประวัติศาสตร์ นอกหลักสูตร กระทรวงศึกษาฯ)

    เรื่องที่ 2 ที่คณะละคร บอกสำคัญอย่างยิ่ง คือ เราต้องย้อมความคิค ย้อมสมองคนรัสเซียให้ “อยากทำสงคราม” ไม่ให้เชื่อฟังเยอรมัน อเมริกาจะทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ใช่สมันน้อยนะ คณะละครบอกไม่มีปัญหา คนรัสเซีย ก็เหมือนเด็ก ที่ตัวโตนั่นแหละ
    เอ้า เจ้าหน้าที่รัสเซียที่ตามอ่านนิทาน ช่วยขีดเส้นใต้ 2 เส้น แล้วรายงานส่งคุณพี่ปูตินของผมด้วยนะครับ ว่าอเมริกาพูดแบบนี้ แปลว่าเห็นคนรัสเซียเป็นยังไง (เสี้ยม ซะหน่อย)

    คณะละครเร่ เขียนแผนการฟอกย้อมให้เสร็จ เขาระบุว่า เป้าหมายของแผนคือ:

    “To influence the attitude of the people of Russia for the prosecution of war as the only way of perpetuating their democracy ”

    ใครแปลเก่งๆ ลองแปลดูครับ

    สำหรับผม ผมเข้าใจความว่า เพื่อเป็นการย้อมความคิดของคนรัสเซีย ให้เชื่อว่า การเข้าทำสงคราม เป็นทางเดียวที่จะทำให้ประชาธิปไตยของเขาอยู่อย่างยั่งยืน

    ผมเขียนปูพื้น เล่ามาเสียยืดยาว เพื่อจะให้อ่านประโยคนี้กัน อ่านแล้วโปรดพิเคราะห์กันให้ดีๆ จะได้เห็น “สันดาน” อันอำมหิต ของอเมริกา (และของอังกฤษ) ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 100 ปี แล้วก็ยังไม่เปลี่ยน และอีกกี่ร้อยปี ก็คงไม่มีวันเปลี่ยนความอำมหิต นี้ โดยใช้ความตอแหล แบบหน้าด้านๆ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แบบตะหวักตะบวย เพื่อประโยชน์ของมัน หรือพวกมันเท่านั้น ใครจะเจ็บ ใครจะตาย ใครจะฉิบหาย ใครจะวิบัติ ขนาดไหน มันไม่สนใจ เลวถึงขนาดนี้ อำมหิต อย่างนี้ ยังมีคนอยากให้อเมริกา ครอบหัวสี่เหลี่ยมต่อไปอีกหรือครับ

    แผนการฟอกย้อม จะใช้วิธีหลักๆ อยู่ 5 อย่าง

    1. จัดกระบวนการ “สร้าง และย้อมข่าว” แล้วกระจายข่าว ที่สร้างและย้อมแล้ว ไปทั่วรัสเซีย โดยจะเอาทีมงานมาจากอเมริกา ทั้งด้านการเขียน และการแปล

    คือเอาช่างชำนาญการย้อมของอเมริกา มาตั้งโรงงานที่รัสเซีย เหมือนที่มีอยู่เกลื่อนในบ้านสมันน้อย ซื้อมันทุกช่อง ครอบมันทุกฉบับ

    2. การใช้เอกสารประเภทแผ่นพับ และใบปลิว เพื่อง่ายแก่การเสพข่าว
    สมัยนี้ก็คงเปลี่ยนเป็น เครื่องมือ ไอ้ป๊อด ไอ้แป้ด ไอ้โฟน โดยเฉพาะ พวกเล่นไลน์นี่เหยื่อชั้นดี ส่งข่าวย้อมอะไรเข้าไปแพลบเดียว กระจายทั่ว เรื่องโกหกทั้งนั้น เสพกันได้แยะและเร็วกว่า

    3. สร้างหนังประเภทต่างๆ เพื่อให้ชาวรัสเซียเสพ เช่น หนังเกี่ยวกับสงคราม หนังชีวิตคนอเมริกันในชนบท ในเมือง หนังเกี่ยวกับการทำอุตสาหกรรม การค้า หนังตลก และที่สำคัญ หนังที่แสดงถึงความรักชาติและการแสวงหาประชาธิปไตย

    ฮอลลีวู้ดรับไป เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นโรงย้อมที่สำคัญหมายเลขหนึ่ง

    4. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะทำเป็นแผ่นโปสเตอร์สีสวยสดุดตา สื่อหัวข้อที่เหมาะสมกับรัสเซีย โดยให้สำนักงานประชาสัมพันธ์ ฝีมือเยี่ยมของอเมริกา

    รู้ไหมครับ พวกประชาสัมพันธ์เก่งๆ เขาย้อมโลกใบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เขาเอาอะไรมาใส่หัวสมันน้อยบ้าง

    5. วิธีการที่แนบเนียนและใช้แพร่หลาย คือการพูด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ นักพูด นักประชาสัมพันธ์ และครู เป็นจำนวนมาก โดยอเมริกาอาจจะเลือกอย่างเหมาะสม จากชาวรัสเซียก็ได้ นักพูดและครูนี้ ถือว่าเป็นเครื่องมือย้อมที่เยี่ยมที่สุด

    วิธีการนี้ บ้านสมันน้อยใช้แยะมาก ยิ่งตอนนี้ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของบ้านเมือง ช่างย้อมถูกจ้างมาทำหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกมาก มาในสาระพัดคราบ หัดสังเกตกันบ้าง ใครของจริง ใครของปลอม ใครช่างย้อมฝีมือเนียน

    เป็นไงครับ 5 วิธีการหลัก ยังอยู่ครบในศตวรรษนี้ แค่เปลี่ยน เสื้อผ้า หน้าผม ถ้อยคำ ท่าทาง ให้เข้ากับสมัย ละครฉากเดิมๆก็ยังใช้ได้ เครื่องมือย้อมก็ยังใช้อยู่ แค่เปลี่ยนรุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ เท่านั้น นี่ตกลงเราจะให้เขาเล่นแบบนี้ ไปเรื่อยๆ อีก 100 ปีหรือไงครับ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 กพ. 2558

    ####################
    เอกสารประกอบ
    FRUS
    https://www.dropbox.com/s/
    เรื่อง สันดาน “สันดาน” (1) ผมหายไปจากหน้าจอหลายวันมาก เพราะขี้เกียจดูข่าวและเขียนถึงไอ้นักล่าตอนนี้ บทมันซ้ำจนน่าเบื่อ แถมสะอิดสะเอียน เวลาดูมันพูด เล่นบทเป็นวีรบุรุษ ผู้เสียสละ จำเป็นต้องรักษาสันติสุขของมนุษยชาติ ฯลฯ ขืนดูต่อ ยาแก้คลื่นไส้ก็เอาไม่อยู่ ผมเลยไปค้นหาหนังสือเก่าๆมาอ่านประเทืองปัญญา ดีกว่าดูไอ้นักล่าตอแหล ปรากฏว่า อาการผมหนักกว่าคลื่นไส้! ผมไปเจอเอกสารเก่า เกือบ 100 ปี “The American and Russian Missions” ปี ค.ศ.1917 เป็นเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ อเมริกัน ที่เรียกว่า Foreign Relations of the United States (FRUS) ทนไม่ไหว ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง ถ้าไม่บอกว่า คนเขียนเอกสาร เขียนเมื่อไหร่ ท่านผู้อ่านอาจนึกว่าเป็นเรื่องในสมัยปัจจุบัน ผ่านมาเกือบ 100 ปี มันก็ยังใช้วิธีเดิมๆ ตามสันดาน… ปี ค.ศ.1917 ตามวิชาประวัติศาสตร์สากล สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยม เขาบอกว่า มีการปฏิวัติเกิดขึ้นในรัสเซีย คือการปฏิวัติอันโด่งดังของพวกบอลเชวิก (Bolsheviks) ที่โค่นพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 นั่นแหละ แต่ความจริง ในปี ค.ศ.1917 รัสเซีย มีการปฏิวัติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม ผู้นำการปฏิวัติ คือ นาย Aleksandr Kerensky ซึ่งยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์ ทำให้พระเจ้าซาร์ประกาศสละบัลลังก์ แต่ต่อมาพวกปฏิวัติก็จับท่านและราชวงค์ไปกักขัง ส่วนพวก Bolsheviks มาทำการปฏิวัติซ้ำในพฤศจิกายน ค.ศ.1917 ไล่คณะ นาย Kerensky ออกไป แล้วพวก Bolsheviks ก็ปกครองรัสเซียต่อ ในตอนที่ นาย Kerensky ทำการปฏิวัตินั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.1914 กำลังโซ้ยกันอย่างดุเดือด สงครามโลกครั้งที่ 1 นี้ ความจริงเริ่มมาจากชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นฝ่ายกระสัน อยากจะทำสงครามนะครับ เพราะอังกฤษหมั่นไส้ ปนปอดแหกว่า เยอรมันกำลังจะโตใหญ่เกินหน้า ส่วนเรื่องอาชดยุกค์เฟอร์ดินานด์ แห่งปรัสเซียถูกยิง นั่นมันสาเหตุของสงครามโลก ตามประวัติศาสตร์หลักสูตรกระทรวงศึกษาฯ ลองไปหาประวัติศาสตร์นอกหลักสูตรมาอ่านกันบ้าง จะได้เห็นโลกกว้าง และลึกขึ้น ประมาณปี คศ 1899 เยอรมันส้มหล่นใส่ ไปได้สัมปทานจากออตโตมาน ให้สร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ยาวประมาณ 2,500 ไมล์ ภาพรางรถไฟวิ่งยาวจาก Berlin ผ่านไปกลางตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันไปจนถึง Bagdad เลยไปอีกหน่อย ก็ถึงอ่าวเปอร์เซีย ที่อังกฤษตีตั๋วจองไว้ ภาพนี้มันทำให้ชาวเกาะใหญ่ฯนอนฝันร้าย ที่นอนเปียกชุ่มทุกคืน ตั้งแต่รู้ข่าว ชาวเกาะฯทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาวางแผนเตะตัดขาเยอรมัน ด้วยการไปชวนพรรคพวกมาร่วมรายการถล่มนักสร้างราง แต่ถ้ามีแค่พวกขาประจำอย่างฝรั่งเศส อืตาลีร่วม ชาวเกาะไม่แน่ใจว่า จะถีบนักสร้างรางให้ตกรางได้ ชาวเกาะเลยไปหลอกรัสเซีย ถึงจะอยู่ใกลหน่อย แต่ข่าวว่ากองทัพอึด ให้มาร่วมรายการถล่มนักสร้างรางด้วยกัน (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือนก 2 หัว” และ นิทานชุด “เหยื่อ”) รัสเซีย จริงๆไม่มีเรื่องชังหน้ากับเยอรมันซักหน่อย แต่พออังกฤษเอาของขวัญมาล่อว่า ถ้าถีบมันตกรางได้ เอาไปเลย อาณาจักรออโตมาน เรายกให้ท่าน ไม่รู้รัสเซียกำลังมึนอะไร เดินหล่นพลั่กลงหลุม ที่ชาวเกาะขุดล่อ ออโตมานก็ไม่ใช่ของชาวเกาะใหญ่ฯ ซะหน่อย เขาเอาของคนอื่นมาล่อ ไปตกลงกับเขาได้ยังไง เนี่ย เหมือนเวลาคนดวงไม่ดี มีดาวประเภท เสาร์ ราหู ทับลัคน์อะไรทำนองนั้น เวลาดาวแรงอย่างนี้ทับลัคน์ อย่าไปเชื่ออะไรใครเขาง่ายๆนะครับ เมื่อ นาย Kerensky ทำปฏิวัติรัสเซีย สงครามเล่นไปแล้ว 3 ปี แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิก คนจัดรายการ ออกตั๋วเสริมมาขายเพิ่มอยู่เรื่อย แม้บ้านช่องจะพังพินาศฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่ชาวเกาะก็บอกให้สู้ต่อ ก็บทมันเขียนไว้อย่างนั้น ทีนี้ รัสเซียแนวร่วม ดันมีปฏิวัติ รัฐบาลใหม่จะเล่นสงครามต่อหรือ เปล่า ชาวเกาะชักเหงื่อแตก อเมริกาเด็กเรา (ตอนนั้น ไอ้นักล่ายังเป็นเด็ก อยู่ในอาณัติของอังกฤษ เรื่องมัน 100 ปีมาแล้วนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ ถึงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็อาจจะยังอยู่ ในอาณัติกันเหมือนเดิม) ก็ดันประกาศอยู่นั่นว่า เราเป็นกลาง (ยัง) ไม่เข้ามาช่วยรบ จำเราต้องใช้มันไปสืบความว่า รัสเซียหลังปฏิวัตินี่ จะสู้ต่อ หรือจะฝ่อหนี ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ไม้หลักปักเลน จึงจัดคณะละครเร่ ไปเจริญสัมพันธไมตรี ชื่อ The Roots Mission ให้ไปดูลาดเลารัสเซีย หลังปฏิวัติครั้งแรก ว่าหน้าตาเป็นยังไง หล่อเหลา หรือเหลาเหย่ คณะละครเร่เจริญสัมพันธไมตรีที่นำโดย นาย Elihu Roots ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอดีตทูต อดีตรัฐมนตรี อดีตอะไรเยอะแยะไปหมด ไปเปิดดูกูเกิลเอาแล้วกันนะครับ น่าเชื่อถือดี แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไปทำหน้าที่เล่นละคร และทำหน้าที่นักสืบมากกว่า คณะนาย Roots มีด้วยกันกว่าสิบคน มีทั้ง นักการทูต นักธุรกิจ วิศวกร นักหนังสือพิมพ์ นักกิจกรรมสังคม (YMCA) นายทหารบก นายทหารเรือ เบิ้มๆทั้งนั้น มันเป็นคณะที่ต้องไปแสดงละครจริงๆ พวกเขาไปถึง เมือง Petrograd ของรัสเซีย เดือนพฤษภาคม 1917 ใช้เวลาเจริญสัมพันธไมตรีกับคณะปฏิวัติ Kerensky ประมาณ 4 เดือน ไปมันทั่วรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล ไปจนถึงไซบีเรียโน่น ต้องยอมรับว่า คณะนี้เขาเล่นละครเก่ง คงสงสัยกัน พวก YMCA ( Young Men’s Christain Association) นี่คณะละคร เอาไปทำอะไร ในสมัยนั้น (และสมัยนี้ ?!) เขาใช้ YMCA ทำหน้าที่เหมือน CIA ในคราบทูตวัฒนธรรม ใช้ศาสนา การกีฬา การบรรเทิง บังหน้า เข้าไปคลุกคลี กับชาวบ้าน ชาวเมือง และนักเรียนนักศึกษา มีทั้ง YMCA และ YWCA ของฝ่ายหญิง การจะเอาเจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการทหาร ไปคลุกกับชาวบ้านนี่ บางทีไม่ได้ผล ชาวบ้านไม่เปิดใจ ก็ใช้กิจกรรมนำโดยกลุ่มแบบนี้ สมัยนี้ ก็คงไม่ใช้ YMCA แล้ว เขามาในรูปแบบของกลุ่มอะไร ลองเดาดู (2) เดือนสิงหาคม คณะละครเร่ แสดงเสร็จ ก็ทำรายงานยาวเหยียด ส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นาย Robert Lansing พิจารณา ผมจะขอยกมาเฉพาะบางส่วน ที่น่าสนใจ แต่จะเอาฉบับเต็มลงให้อ่านกันด้วย เผื่อท่านใดอยากจะตั้งคณะละคร จะได้ใช้เป็นตัวอย่าง คณะละครได้ไปพบทั้งพวกทำปฏิวัติ ทหารฝ่ายเก่า ฝ่ายใหม่ ชาวบ้าน ชาววัด ครู นักเรียน พ่อค้า นักธุรกิจ สายลับ ฯลฯ พบมันหมด ไปคุย ไปถาม ไปเสือก ก็เหมือนที่ไอ้บ้าอะไรที่เพิ่ง มาเสือกที่บ้านเรา เมื่อต้นเดือนนี้ละครับ มันคงมาจากคณะละครเดียวกัน รูปแบบ การเจรจา ถึงได้ทำนองเดียวกัน เล่นกันแบบนี้มา 100 ปีแล้ว ยังไม่เลิก ข้อสรุปที่คณะละคร ได้จากการสำรวจ คือ ชาวรัสเซีย ถอดใจไม่อยากเล่นสงครามแล้ว ขนมปังก็จะไม่มีกิน บ้านก็พัง จนแทบไม่เหลือที่ให้ซุกหัว จะไปรบทำไมอีก คณะละครอ้างว่า เพราะฝ่ายเยอรมันขนสายลับเข้ามา เต็มเมืองรัสเซีย มากรอกหูชาวรัสเซีย และทหารรัสเซียว่า จะไปรบทำไม คนอยากรบน่ะ คือพระเจ้าซาร์ ตอนนี้ท่านก็ไปแล้ว พี่น้องก็ไม่ต้องไปรบแล้ว กลับบ้านไปทำไร่ทำนาต่อแล้วกัน ฝ่ายคณะละครได้ยินเข้าก็ลมแทบใส่ นี่ใกล้จะถึงคิวเราเข้าฉากไปรบต่อ ถ้าไม่มีรัสเซียอยู่แถวหน้าตายก่อน พวกเราก็ ฉ. ห. ละซิ เพราะฉนั้น สิ่งที่ฝ่ายเราต้องทำด่วน (ที่เปิดเผยได้) มี 2 เรื่อง เรื่องที่ 1 เราต้องเอาทีมอเมริกัน เข้ามาดูแลเรื่องถนนหนทาง รางรถไฟ ในรัสเซีย เพราะขณะนี้ อาวุธยุทธภัณท์ ที่ฝ่ายเราขนมาให้ ยังกองค้างอยูที่เมืองท่า Vladivostok ประมาณ 700,000 ตัน จะขนผ่านข้ามไป Moscow ยังไม่ได้ เพราะทั้งถนน ทั้งทางรถไฟ รับน้ำหนักไม่ไหว แล้วเมื่อเราจะเข้าทำสงคราม ของมันจะต้องขนมาอีกมากมาย เราจะทำยังไง ต้องแก้ไขเรื่องนี้ด่วนจี๋ อืม คณะละครนี่ ไม่ใช่ย่อย ไม่ใช่มารำเฉิบๆ อย่างเดียว เขาไปสำรวจหมด ระยะทางรถไฟจาก Vladivostok ถึง Moscow น่ะ ประมาณ 5 ถึง 6,000 ไมล์ เชียวนะ รำไป สำรวจไปนี่ไม่ใช่งานเล็กๆ แล้วจำกันได้ไหมครับ เมื่อเขาจะรบกับเวียตนาม เขาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพ แต่ก่อนจะยกโขยงกองทัพกันเข้ามา เขาส่งคณะละครเร่แบบนี้ มาสำรวจบ้านเราไม่รู้กี่คณะ สำรวจอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ แล้วเขาก็สร้างถนน จากสระบุรี กว้างขวางยาวเรียบไปถึงโคราช ให้เราชาวบ้านดีใจ แหม อเมริกาใจดีจัง ถนนเลยมีชื่อว่า มิตรภาพ เปล่าหรอกครับ เขาเตรียมไว้ขนส่ง อาวุธ ยุทธภัณท์ ที่เขาจะขนมาทางเรือ แต่กลัวมากองเป็นภูเขา อยู่แถวท่าเรือคลองเตย แบบ Vladivostock! มันก็เลย ต้องสร้างถนน สร้างสนามบิน ให้ประเทศไทย ฯลฯ (รายละเอียดมีอยู่ในนิทานเรื่อง “จิกโก๋ปากซอย” ถ้าอยากอ่านประวัติศาสตร์ นอกหลักสูตร กระทรวงศึกษาฯ) เรื่องที่ 2 ที่คณะละคร บอกสำคัญอย่างยิ่ง คือ เราต้องย้อมความคิค ย้อมสมองคนรัสเซียให้ “อยากทำสงคราม” ไม่ให้เชื่อฟังเยอรมัน อเมริกาจะทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ใช่สมันน้อยนะ คณะละครบอกไม่มีปัญหา คนรัสเซีย ก็เหมือนเด็ก ที่ตัวโตนั่นแหละ เอ้า เจ้าหน้าที่รัสเซียที่ตามอ่านนิทาน ช่วยขีดเส้นใต้ 2 เส้น แล้วรายงานส่งคุณพี่ปูตินของผมด้วยนะครับ ว่าอเมริกาพูดแบบนี้ แปลว่าเห็นคนรัสเซียเป็นยังไง (เสี้ยม ซะหน่อย) คณะละครเร่ เขียนแผนการฟอกย้อมให้เสร็จ เขาระบุว่า เป้าหมายของแผนคือ: “To influence the attitude of the people of Russia for the prosecution of war as the only way of perpetuating their democracy ” ใครแปลเก่งๆ ลองแปลดูครับ สำหรับผม ผมเข้าใจความว่า เพื่อเป็นการย้อมความคิดของคนรัสเซีย ให้เชื่อว่า การเข้าทำสงคราม เป็นทางเดียวที่จะทำให้ประชาธิปไตยของเขาอยู่อย่างยั่งยืน ผมเขียนปูพื้น เล่ามาเสียยืดยาว เพื่อจะให้อ่านประโยคนี้กัน อ่านแล้วโปรดพิเคราะห์กันให้ดีๆ จะได้เห็น “สันดาน” อันอำมหิต ของอเมริกา (และของอังกฤษ) ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 100 ปี แล้วก็ยังไม่เปลี่ยน และอีกกี่ร้อยปี ก็คงไม่มีวันเปลี่ยนความอำมหิต นี้ โดยใช้ความตอแหล แบบหน้าด้านๆ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แบบตะหวักตะบวย เพื่อประโยชน์ของมัน หรือพวกมันเท่านั้น ใครจะเจ็บ ใครจะตาย ใครจะฉิบหาย ใครจะวิบัติ ขนาดไหน มันไม่สนใจ เลวถึงขนาดนี้ อำมหิต อย่างนี้ ยังมีคนอยากให้อเมริกา ครอบหัวสี่เหลี่ยมต่อไปอีกหรือครับ แผนการฟอกย้อม จะใช้วิธีหลักๆ อยู่ 5 อย่าง 1. จัดกระบวนการ “สร้าง และย้อมข่าว” แล้วกระจายข่าว ที่สร้างและย้อมแล้ว ไปทั่วรัสเซีย โดยจะเอาทีมงานมาจากอเมริกา ทั้งด้านการเขียน และการแปล คือเอาช่างชำนาญการย้อมของอเมริกา มาตั้งโรงงานที่รัสเซีย เหมือนที่มีอยู่เกลื่อนในบ้านสมันน้อย ซื้อมันทุกช่อง ครอบมันทุกฉบับ 2. การใช้เอกสารประเภทแผ่นพับ และใบปลิว เพื่อง่ายแก่การเสพข่าว สมัยนี้ก็คงเปลี่ยนเป็น เครื่องมือ ไอ้ป๊อด ไอ้แป้ด ไอ้โฟน โดยเฉพาะ พวกเล่นไลน์นี่เหยื่อชั้นดี ส่งข่าวย้อมอะไรเข้าไปแพลบเดียว กระจายทั่ว เรื่องโกหกทั้งนั้น เสพกันได้แยะและเร็วกว่า 3. สร้างหนังประเภทต่างๆ เพื่อให้ชาวรัสเซียเสพ เช่น หนังเกี่ยวกับสงคราม หนังชีวิตคนอเมริกันในชนบท ในเมือง หนังเกี่ยวกับการทำอุตสาหกรรม การค้า หนังตลก และที่สำคัญ หนังที่แสดงถึงความรักชาติและการแสวงหาประชาธิปไตย ฮอลลีวู้ดรับไป เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นโรงย้อมที่สำคัญหมายเลขหนึ่ง 4. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะทำเป็นแผ่นโปสเตอร์สีสวยสดุดตา สื่อหัวข้อที่เหมาะสมกับรัสเซีย โดยให้สำนักงานประชาสัมพันธ์ ฝีมือเยี่ยมของอเมริกา รู้ไหมครับ พวกประชาสัมพันธ์เก่งๆ เขาย้อมโลกใบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เขาเอาอะไรมาใส่หัวสมันน้อยบ้าง 5. วิธีการที่แนบเนียนและใช้แพร่หลาย คือการพูด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ นักพูด นักประชาสัมพันธ์ และครู เป็นจำนวนมาก โดยอเมริกาอาจจะเลือกอย่างเหมาะสม จากชาวรัสเซียก็ได้ นักพูดและครูนี้ ถือว่าเป็นเครื่องมือย้อมที่เยี่ยมที่สุด วิธีการนี้ บ้านสมันน้อยใช้แยะมาก ยิ่งตอนนี้ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของบ้านเมือง ช่างย้อมถูกจ้างมาทำหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกมาก มาในสาระพัดคราบ หัดสังเกตกันบ้าง ใครของจริง ใครของปลอม ใครช่างย้อมฝีมือเนียน เป็นไงครับ 5 วิธีการหลัก ยังอยู่ครบในศตวรรษนี้ แค่เปลี่ยน เสื้อผ้า หน้าผม ถ้อยคำ ท่าทาง ให้เข้ากับสมัย ละครฉากเดิมๆก็ยังใช้ได้ เครื่องมือย้อมก็ยังใช้อยู่ แค่เปลี่ยนรุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ เท่านั้น นี่ตกลงเราจะให้เขาเล่นแบบนี้ ไปเรื่อยๆ อีก 100 ปีหรือไงครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 กพ. 2558 #################### เอกสารประกอบ FRUS https://www.dropbox.com/s/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • How To Refer To Little People: The Terms To Know

    Most people are familiar with the use of the term little people in reference to people who have dwarfism—people whose short stature is the result of a medical or genetic condition. But it’s not the only term.

    In this article, we’ll note the range of terms and preferences and explain some of the notable reasons behind these preferences.

    Content warning: The end of this article includes an explicit mention of an offensive slur. As part of our mission to educate about words and their impact on people, we believe it is important to include information about this word, especially since some people may be unaware that it is considered offensive.

    What is dwarfism?

    An important aspect of understanding dwarfism is understanding that dwarfism is a general term and doesn’t refer to one specific medical condition that causes short stature. Instead, the term is used to refer to shortness of stature that can be caused by many different medical or genetic conditions.

    Generally, an adult is considered to have dwarfism if they have a height measured at 4 feet 10 inches or lower.

    What causes dwarfism?

    The most common cause of dwarfism is achondroplasia, a condition that impairs the growth of bones and causes an atypical skeletal structure, especially in the limbs. While this condition can be inherited, it is often caused by genetic mutations. This means that parents who do not have achondroplasia can have children who do, and parents who do have achondroplasia can have children who don’t.
    What do people with dwarfism prefer to be called?

    First, remember that discussing a condition or physical difference is in many cases unnecessary. Most of the time, the first thing you should ask a person is their name.

    Of course, it is sometimes necessary and important to use generally identifying terms, such as when discussing accessibility in the workplace or a person’s membership in a community. And whenever such things are being discussed, it’s important to use the terms that people themselves prefer when referring to themselves and being referred to.

    Because preferences vary widely, the best approach is always to ask. Preferences may also overlap—some people may use certain terms interchangeably or be OK with multiple terms.

    Here are some of the most common and widely accepted terms.

    dwarf and person with dwarfism

    Some people with dwarfism prefer to be referred to—and to refer to themselves—with the standalone term dwarf. In contrast, some people prefer the term person with dwarfism, an example of what’s called person-first language, which is terminology that places the person before a mention of a specific characteristic (usually literally using the word person or the plural people as the first words in an identifying phrase). Preferring to be referred to as a dwarf is an example of what’s called identity-first language, which places emphasis on a characteristic that a person considers an inherent part of their identity.

    Both terms are considered catch-all terms that encompass all medical and genetic causes of dwarfism. Both versions are also commonly used in the medical community when discussing dwarfism.

    While organizations within the community often use such terms in discussing their members and those they advocate for, such terms are not commonly used in names of such organizations (though there are exceptions).

    It’s important to note that some people may not be comfortable using either term for a variety of reasons. One reason is that they may consider them as too technical outside of a medical context. Furthermore, some people may prefer to avoid the word dwarf’s associations with characters in folklore and pop culture (which in many cases have had the effect of demeaning people of short stature).

    little person, little people

    Out of all of the terms that refer to people with dwarfism, the straightforward little person (and its plural little people) is now likely the most common and the one most people are familiar with.

    Around the world, many organizations focused on people with dwarfism use the term little people in their name and in their communications, including Little People of America, Little People UK, and Little People of British Columbia.

    The increase in the awareness of this terminology is often attributed in part to the high visibility of such terms in notable aspects of pop culture, such as the title of the long-running TV series Little People, Big World.

    Although such terms are now widely used and preferred, keep in mind that personal preferences vary.

    person of short stature and short-statured person

    Although less common, the terms person of short stature and short-statured person (sometimes unhyphenated as short statured) are also used (along with their plural forms that use people). Preferences around person-first or identity-first constructions also apply in this case.

    These phrases are used by groups and organizations focused on little people, often interchangeably with previously mentioned options. They are sometimes also used in the names of such organizations, such as Short Statured People of Australia and Short Stature Scotland.

    Which term should I use?

    Remember that specifying whether or not a person has dwarfism is often completely unnecessary. See the person first—and don’t assume that their size defines them. Most of the time, the first thing you should ask a person is their name.

    In cases when it’s important to identify someone as being short in stature in the ways we’ve discussed here, all of the terms we’ve listed can be suitable. Many are often used interchangeably. Little person and little people are the most common. But no preference is universal, so be sure to respect a person’s preferences.

    Offensive terms

    Although preferences vary around the terms that have been discussed thus far, there are some terms that should never be used. Notably, one term considered extremely offensive is the disparaging word midget. Like other slurs, its explicit mention is often avoided in discussions about the term by instead using the phrase the M word. (We feel it is important to explicitly state it here so as to leave no confusion about which word we’re referring to.)

    Though the term once came to be used by some as a way to distinguish various forms of dwarfism, members of the community and advocacy organizations now note that its history is rooted in demeaning usage—and that it should be avoided altogether.

    That push for avoidance and elimination of use also extends to contexts in which the term has traditionally been applied not to people but to things in reference to their small size (such as certain types of racing cars, as one example).

    สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    How To Refer To Little People: The Terms To Know Most people are familiar with the use of the term little people in reference to people who have dwarfism—people whose short stature is the result of a medical or genetic condition. But it’s not the only term. In this article, we’ll note the range of terms and preferences and explain some of the notable reasons behind these preferences. Content warning: The end of this article includes an explicit mention of an offensive slur. As part of our mission to educate about words and their impact on people, we believe it is important to include information about this word, especially since some people may be unaware that it is considered offensive. What is dwarfism? An important aspect of understanding dwarfism is understanding that dwarfism is a general term and doesn’t refer to one specific medical condition that causes short stature. Instead, the term is used to refer to shortness of stature that can be caused by many different medical or genetic conditions. Generally, an adult is considered to have dwarfism if they have a height measured at 4 feet 10 inches or lower. What causes dwarfism? The most common cause of dwarfism is achondroplasia, a condition that impairs the growth of bones and causes an atypical skeletal structure, especially in the limbs. While this condition can be inherited, it is often caused by genetic mutations. This means that parents who do not have achondroplasia can have children who do, and parents who do have achondroplasia can have children who don’t. What do people with dwarfism prefer to be called? First, remember that discussing a condition or physical difference is in many cases unnecessary. Most of the time, the first thing you should ask a person is their name. Of course, it is sometimes necessary and important to use generally identifying terms, such as when discussing accessibility in the workplace or a person’s membership in a community. And whenever such things are being discussed, it’s important to use the terms that people themselves prefer when referring to themselves and being referred to. Because preferences vary widely, the best approach is always to ask. Preferences may also overlap—some people may use certain terms interchangeably or be OK with multiple terms. Here are some of the most common and widely accepted terms. dwarf and person with dwarfism Some people with dwarfism prefer to be referred to—and to refer to themselves—with the standalone term dwarf. In contrast, some people prefer the term person with dwarfism, an example of what’s called person-first language, which is terminology that places the person before a mention of a specific characteristic (usually literally using the word person or the plural people as the first words in an identifying phrase). Preferring to be referred to as a dwarf is an example of what’s called identity-first language, which places emphasis on a characteristic that a person considers an inherent part of their identity. Both terms are considered catch-all terms that encompass all medical and genetic causes of dwarfism. Both versions are also commonly used in the medical community when discussing dwarfism. While organizations within the community often use such terms in discussing their members and those they advocate for, such terms are not commonly used in names of such organizations (though there are exceptions). It’s important to note that some people may not be comfortable using either term for a variety of reasons. One reason is that they may consider them as too technical outside of a medical context. Furthermore, some people may prefer to avoid the word dwarf’s associations with characters in folklore and pop culture (which in many cases have had the effect of demeaning people of short stature). little person, little people Out of all of the terms that refer to people with dwarfism, the straightforward little person (and its plural little people) is now likely the most common and the one most people are familiar with. Around the world, many organizations focused on people with dwarfism use the term little people in their name and in their communications, including Little People of America, Little People UK, and Little People of British Columbia. The increase in the awareness of this terminology is often attributed in part to the high visibility of such terms in notable aspects of pop culture, such as the title of the long-running TV series Little People, Big World. Although such terms are now widely used and preferred, keep in mind that personal preferences vary. person of short stature and short-statured person Although less common, the terms person of short stature and short-statured person (sometimes unhyphenated as short statured) are also used (along with their plural forms that use people). Preferences around person-first or identity-first constructions also apply in this case. These phrases are used by groups and organizations focused on little people, often interchangeably with previously mentioned options. They are sometimes also used in the names of such organizations, such as Short Statured People of Australia and Short Stature Scotland. Which term should I use? Remember that specifying whether or not a person has dwarfism is often completely unnecessary. See the person first—and don’t assume that their size defines them. Most of the time, the first thing you should ask a person is their name. In cases when it’s important to identify someone as being short in stature in the ways we’ve discussed here, all of the terms we’ve listed can be suitable. Many are often used interchangeably. Little person and little people are the most common. But no preference is universal, so be sure to respect a person’s preferences. Offensive terms Although preferences vary around the terms that have been discussed thus far, there are some terms that should never be used. Notably, one term considered extremely offensive is the disparaging word midget. Like other slurs, its explicit mention is often avoided in discussions about the term by instead using the phrase the M word. (We feel it is important to explicitly state it here so as to leave no confusion about which word we’re referring to.) Though the term once came to be used by some as a way to distinguish various forms of dwarfism, members of the community and advocacy organizations now note that its history is rooted in demeaning usage—and that it should be avoided altogether. That push for avoidance and elimination of use also extends to contexts in which the term has traditionally been applied not to people but to things in reference to their small size (such as certain types of racing cars, as one example). สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • DNS ระเบิดเวลา: ช่องโหว่ร้ายแรงใน BIND 9 เสี่ยงโจมตีแบบ Cache Poisoning และ DoS

    ถ้าคุณดูแลระบบ DNS ด้วย BIND 9 อยู่ล่ะก็ ข่าวนี้คือสัญญาณเตือนภัยไซเบอร์ที่คุณไม่ควรมองข้าม! Internet Systems Consortium (ISC) ได้ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงถึง 3 รายการใน BIND 9 ซึ่งอาจเปิดทางให้แฮกเกอร์โจมตีแบบ cache poisoning และทำให้ระบบล่มได้แบบไม่ต้องยืนยันตัวตน

    ช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่สุดคือ CVE-2025-40780 ซึ่งเกิดจากการใช้ pseudo-random number generator ที่ไม่ปลอดภัยในการเลือก source port และ query ID ทำให้แฮกเกอร์สามารถเดา transaction ID ได้ และส่งข้อมูลปลอมเข้าไปใน cache ของ DNS resolver ได้สำเร็จ

    อีกช่องโหว่หนึ่งคือ CVE-2025-40778 ที่เกิดจากการที่ BIND ยอมรับ resource records ที่ไม่ได้ร้องขอใน DNS response มากเกินไป ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกข้อมูลปลอมเข้าไปใน cache ได้เช่นกัน

    ช่องโหว่สุดท้ายคือ CVE-2025-8677 ที่สามารถทำให้ CPU ของเซิร์ฟเวอร์หมดแรงได้ ด้วยการส่ง DNSKEY records ที่ถูกออกแบบมาอย่างเจาะจงให้ระบบทำงานหนักจนล่ม

    แม้ช่องโหว่เหล่านี้จะไม่กระทบกับ authoritative servers แต่ recursive resolvers กลับตกอยู่ในความเสี่ยงสูง และสามารถถูกโจมตีจากระยะไกลได้ทันทีหากยังไม่ได้อัปเดตแพตช์

    ช่องโหว่ที่ค้นพบใน BIND 9
    CVE-2025-40780: ใช้ pseudo-random ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เดา query ID ได้
    CVE-2025-40778: ยอมรับ resource records ที่ไม่ได้ร้องขอมากเกินไป
    CVE-2025-8677: ส่ง DNSKEY records ที่ทำให้ CPU ทำงานหนักจนล่ม

    เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ
    BIND 9.11.0 → 9.16.50
    BIND 9.18.0 → 9.18.39
    BIND 9.20.0 → 9.20.13
    BIND 9.21.0 → 9.21.12

    วิธีการโจมตี
    ไม่ต้องยืนยันตัวตน
    ส่งข้อมูลปลอมผ่าน DNS response
    ใช้ zone ที่ออกแบบมาให้ทำให้ CPU ทำงานหนัก

    การแก้ไขจาก ISC
    ออกแพตช์ใหม่: 9.18.41, 9.20.15, 9.21.14
    แนะนำให้อัปเดตทันที

    คำเตือนสำหรับผู้ดูแลระบบ DNS
    หากยังไม่อัปเดต BIND อาจถูกโจมตีจากระยะไกลได้ทันที
    Cache poisoning อาจทำให้ผู้ใช้ถูก redirect ไปยังเว็บไซต์ปลอม
    การโจมตีแบบ CPU exhaustion อาจทำให้ DNS resolver ล่มทั้งระบบ

    คำแนะนำเพิ่มเติม
    ตรวจสอบว่าใช้เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบหรือไม่
    อัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว
    เฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงใน DNS cache และการทำงานของ CPU

    https://securityonline.info/isc-patches-multiple-high-severity-bind-vulnerabilities-enabling-cache-poisoning-and-denial-of-service-attacks/
    🧨 DNS ระเบิดเวลา: ช่องโหว่ร้ายแรงใน BIND 9 เสี่ยงโจมตีแบบ Cache Poisoning และ DoS ถ้าคุณดูแลระบบ DNS ด้วย BIND 9 อยู่ล่ะก็ ข่าวนี้คือสัญญาณเตือนภัยไซเบอร์ที่คุณไม่ควรมองข้าม! Internet Systems Consortium (ISC) ได้ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงถึง 3 รายการใน BIND 9 ซึ่งอาจเปิดทางให้แฮกเกอร์โจมตีแบบ cache poisoning และทำให้ระบบล่มได้แบบไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่สุดคือ CVE-2025-40780 ซึ่งเกิดจากการใช้ pseudo-random number generator ที่ไม่ปลอดภัยในการเลือก source port และ query ID ทำให้แฮกเกอร์สามารถเดา transaction ID ได้ และส่งข้อมูลปลอมเข้าไปใน cache ของ DNS resolver ได้สำเร็จ อีกช่องโหว่หนึ่งคือ CVE-2025-40778 ที่เกิดจากการที่ BIND ยอมรับ resource records ที่ไม่ได้ร้องขอใน DNS response มากเกินไป ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกข้อมูลปลอมเข้าไปใน cache ได้เช่นกัน ช่องโหว่สุดท้ายคือ CVE-2025-8677 ที่สามารถทำให้ CPU ของเซิร์ฟเวอร์หมดแรงได้ ด้วยการส่ง DNSKEY records ที่ถูกออกแบบมาอย่างเจาะจงให้ระบบทำงานหนักจนล่ม แม้ช่องโหว่เหล่านี้จะไม่กระทบกับ authoritative servers แต่ recursive resolvers กลับตกอยู่ในความเสี่ยงสูง และสามารถถูกโจมตีจากระยะไกลได้ทันทีหากยังไม่ได้อัปเดตแพตช์ ✅ ช่องโหว่ที่ค้นพบใน BIND 9 ➡️ CVE-2025-40780: ใช้ pseudo-random ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เดา query ID ได้ ➡️ CVE-2025-40778: ยอมรับ resource records ที่ไม่ได้ร้องขอมากเกินไป ➡️ CVE-2025-8677: ส่ง DNSKEY records ที่ทำให้ CPU ทำงานหนักจนล่ม ✅ เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ➡️ BIND 9.11.0 → 9.16.50 ➡️ BIND 9.18.0 → 9.18.39 ➡️ BIND 9.20.0 → 9.20.13 ➡️ BIND 9.21.0 → 9.21.12 ✅ วิธีการโจมตี ➡️ ไม่ต้องยืนยันตัวตน ➡️ ส่งข้อมูลปลอมผ่าน DNS response ➡️ ใช้ zone ที่ออกแบบมาให้ทำให้ CPU ทำงานหนัก ✅ การแก้ไขจาก ISC ➡️ ออกแพตช์ใหม่: 9.18.41, 9.20.15, 9.21.14 ➡️ แนะนำให้อัปเดตทันที ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ดูแลระบบ DNS ⛔ หากยังไม่อัปเดต BIND อาจถูกโจมตีจากระยะไกลได้ทันที ⛔ Cache poisoning อาจทำให้ผู้ใช้ถูก redirect ไปยังเว็บไซต์ปลอม ⛔ การโจมตีแบบ CPU exhaustion อาจทำให้ DNS resolver ล่มทั้งระบบ ‼️ คำแนะนำเพิ่มเติม ⛔ ตรวจสอบว่าใช้เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบหรือไม่ ⛔ อัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว ⛔ เฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงใน DNS cache และการทำงานของ CPU https://securityonline.info/isc-patches-multiple-high-severity-bind-vulnerabilities-enabling-cache-poisoning-and-denial-of-service-attacks/
    SECURITYONLINE.INFO
    ISC Patches Multiple High-Severity BIND Vulnerabilities Enabling Cache Poisoning and Denial of Service Attacks
    The Internet Systems Consortium (ISC) has issued patches for three high-severity vulnerabilities impacting the BIND 9 DNS server,
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำลังจะปั่นเชื้อโรคในช่วงฤดูหนาวฝั่งเอเชียอีกแล้ว,เป้าหมายพยายามลดประชากรฝั่งเอเชียให้มากที่สุด โดยเฉพาะคนจีน คนอินเดีย
    https://x.com/toobaffled/status/1981508333246042276?t=_QpqQWeTjdBlZxmMxxYIqw&s=19
    กำลังจะปั่นเชื้อโรคในช่วงฤดูหนาวฝั่งเอเชียอีกแล้ว,เป้าหมายพยายามลดประชากรฝั่งเอเชียให้มากที่สุด โดยเฉพาะคนจีน คนอินเดีย https://x.com/toobaffled/status/1981508333246042276?t=_QpqQWeTjdBlZxmMxxYIqw&s=19
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Airbus–Thales–Leonardo รวมพลังสร้างแชมป์ดาวเทียมยุโรป – แม้ประกาศล่าช้า แต่ดีลยังเดินหน้าเต็มสูบ”

    ยุโรปกำลังรวมพลังเพื่อท้าชน Starlink ของ Elon Musk ด้วยการควบรวมกิจการด้านการผลิตดาวเทียมระหว่างสามยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอวกาศ ได้แก่ Airbus, Thales, และ Leonardo โดยมีชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo

    แม้การประกาศอย่างเป็นทางการจะล่าช้าไป 1–2 วัน เพราะทีมกฎหมายยังตรวจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ แต่แหล่งข่าวยืนยันว่า แผนควบรวมยังคงอยู่ครบ และไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ

    เป้าหมายของดีลนี้คือการรวมสินทรัพย์ด้านดาวเทียมของทั้งสามบริษัทเข้าไว้ในบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายจะถือหุ้นประมาณหนึ่งในสาม หลังจากมีการปรับสมดุลด้วยการชำระเงินระหว่างกัน ซึ่งโครงสร้างใหม่นี้จะใช้เวลาราว สองปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ เพราะต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

    การควบรวมครั้งนี้จะทำให้ยุโรปกลายเป็นผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin โดยครองส่วนแบ่งตลาดถึงหนึ่งในสาม — แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตลาด geostationary กำลังหดตัว เพราะการเติบโตของดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เช่น Starlink

    แม้จะมีความขัดแย้งเล็กน้อยเรื่องการแต่งตั้ง CEO, CFO และประธานบริษัท ซึ่งเคยเป็นปัญหาในดีลยุโรปก่อนหน้านี้ แต่แหล่งข่าวระบุว่าทั้งสามฝ่ายมีความตั้งใจร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพราะต่างก็เผชิญกับ การขาดทุนและส่วนแบ่งตลาดที่ลดลง

    รายละเอียดของการควบรวม
    Airbus, Thales และ Leonardo รวมกิจการด้านดาวเทียม
    ใช้ชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo
    สร้างบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายถือหุ้นประมาณ 1/3
    ใช้เวลาราว 2 ปีในการจัดโครงสร้างและขออนุมัติ

    เป้าหมายของดีล
    สร้างผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุด
    ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 1/3
    แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin
    เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Starlink และ SpaceX

    ความท้าทายและความล่าช้า
    การประกาศดีลล่าช้าเพราะตรวจรายละเอียดทางกฎหมาย
    ยังไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ
    ความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารยังต้องตกลงกัน
    เคยมีดีลล้มเพราะติด EU antitrust มาก่อน

    สภาพตลาดดาวเทียม
    ตลาด geostationary กำลังหดตัว
    ดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เติบโตเร็ว
    Starlink เป็นผู้นำในตลาด LEO broadband
    ผู้เล่นยุโรปต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/23/europe-satellite-merger-intact-as-announcement-slips-sources-say
    🛰️ “Airbus–Thales–Leonardo รวมพลังสร้างแชมป์ดาวเทียมยุโรป – แม้ประกาศล่าช้า แต่ดีลยังเดินหน้าเต็มสูบ” ยุโรปกำลังรวมพลังเพื่อท้าชน Starlink ของ Elon Musk ด้วยการควบรวมกิจการด้านการผลิตดาวเทียมระหว่างสามยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอวกาศ ได้แก่ Airbus, Thales, และ Leonardo โดยมีชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo แม้การประกาศอย่างเป็นทางการจะล่าช้าไป 1–2 วัน เพราะทีมกฎหมายยังตรวจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ แต่แหล่งข่าวยืนยันว่า แผนควบรวมยังคงอยู่ครบ และไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ เป้าหมายของดีลนี้คือการรวมสินทรัพย์ด้านดาวเทียมของทั้งสามบริษัทเข้าไว้ในบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายจะถือหุ้นประมาณหนึ่งในสาม หลังจากมีการปรับสมดุลด้วยการชำระเงินระหว่างกัน ซึ่งโครงสร้างใหม่นี้จะใช้เวลาราว สองปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ เพราะต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล การควบรวมครั้งนี้จะทำให้ยุโรปกลายเป็นผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin โดยครองส่วนแบ่งตลาดถึงหนึ่งในสาม — แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตลาด geostationary กำลังหดตัว เพราะการเติบโตของดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เช่น Starlink แม้จะมีความขัดแย้งเล็กน้อยเรื่องการแต่งตั้ง CEO, CFO และประธานบริษัท ซึ่งเคยเป็นปัญหาในดีลยุโรปก่อนหน้านี้ แต่แหล่งข่าวระบุว่าทั้งสามฝ่ายมีความตั้งใจร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพราะต่างก็เผชิญกับ การขาดทุนและส่วนแบ่งตลาดที่ลดลง ✅ รายละเอียดของการควบรวม ➡️ Airbus, Thales และ Leonardo รวมกิจการด้านดาวเทียม ➡️ ใช้ชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo ➡️ สร้างบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายถือหุ้นประมาณ 1/3 ➡️ ใช้เวลาราว 2 ปีในการจัดโครงสร้างและขออนุมัติ ✅ เป้าหมายของดีล ➡️ สร้างผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุด ➡️ ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 1/3 ➡️ แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin ➡️ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Starlink และ SpaceX ✅ ความท้าทายและความล่าช้า ➡️ การประกาศดีลล่าช้าเพราะตรวจรายละเอียดทางกฎหมาย ➡️ ยังไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ ➡️ ความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารยังต้องตกลงกัน ➡️ เคยมีดีลล้มเพราะติด EU antitrust มาก่อน ✅ สภาพตลาดดาวเทียม ➡️ ตลาด geostationary กำลังหดตัว ➡️ ดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เติบโตเร็ว ➡️ Starlink เป็นผู้นำในตลาด LEO broadband ➡️ ผู้เล่นยุโรปต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/23/europe-satellite-merger-intact-as-announcement-slips-sources-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Europe satellite merger intact as announcement slips, sources say
    PARIS/ROME (Reuters) -Europe's aerospace giants kept investors waiting an extra day for details of a new space champion on Wednesday as lawyers and advisers pored over the smallprint, but merger plans remained intact, people familiar with the talks said.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • “CISA เตือนช่องโหว่ Raisecom RAX701-GC – SSH เข้า root ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน!”

    CISA ออกประกาศเตือนช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Raisecom รุ่น RAX701-GC ที่ใช้ในระบบอุตสาหกรรมและโทรคมนาคม โดยช่องโหว่นี้มีรหัสว่า CVE-2025-11534 และได้คะแนน CVSS สูงถึง 9.8 ซึ่งถือว่า “วิกฤต” เพราะเปิดให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง shell ของระบบด้วยสิทธิ์ root โดยไม่ต้องยืนยันตัวตนผ่าน SSH เลย

    ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่อุปกรณ์อนุญาตให้สร้าง session SSH ได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตน ซึ่งผิดหลักการของระบบความปลอดภัยอย่างร้ายแรง โดย CISA จัดช่องโหว่นี้ไว้ในหมวด CWE-288: Authentication Bypass Using an Alternate Path or Channel

    อุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบคือ Raisecom RAX701-GC-WP-01 ที่ใช้ firmware เวอร์ชัน P200R002C52 และ P200R002C53 ซึ่งรวมถึงเวอร์ชัน 5.5.13_20180720, 5.5.27_20190111 และ 5.5.36_20190709

    ช่องโหว่นี้ถูกค้นพบโดย HD Moore และ Tod Beardsley จาก runZero และถูกแจ้งไปยัง CISA เพื่อเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ทาง Raisecom ยังไม่ตอบรับหรือออกแพตช์ใด ๆ ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องใช้วิธีป้องกันเชิงเครือข่าย เช่น segmentation และ firewall เพื่อจำกัดการเข้าถึง

    แม้ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริง แต่ CISA เตือนว่าเนื่องจากช่องโหว่นี้สามารถใช้จากระยะไกลได้ง่าย และให้สิทธิ์สูงสุด จึงควรรีบดำเนินการป้องกันทันที

    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-11534
    เกิดจากการ bypass authentication ใน SSH
    ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง shell ด้วยสิทธิ์ root โดยไม่ต้อง login
    ได้คะแนน CVSS v3.1 สูงถึง 9.8
    จัดอยู่ในหมวด CWE-288 โดย CISA
    ส่งผลกระทบต่อ Raisecom RAX701-GC-WP-01 firmware หลายเวอร์ชัน

    การค้นพบและการเปิดเผย
    ค้นพบโดย HD Moore และ Tod Beardsley จาก runZero
    แจ้งไปยัง CISA เพื่อเปิดเผยอย่างเป็นทางการ
    Raisecom ยังไม่ตอบรับหรือออกแพตช์ใด ๆ
    ผู้ดูแลระบบต้องใช้วิธีป้องกันเชิงเครือข่ายแทน

    แนวทางการป้องกันจาก CISA
    แยกเครือข่ายควบคุมออกจากเครือข่ายธุรกิจ
    ใช้ firewall เพื่อจำกัดการเข้าถึงจากภายนอก
    ใช้ VPN ที่ปลอดภัยและอัปเดตอยู่เสมอ
    ตรวจสอบการเชื่อมต่อ SSH ที่ไม่ได้รับอนุญาต
    เฝ้าระวังพฤติกรรมผิดปกติจากอุปกรณ์ Raisecom

    https://securityonline.info/cisa-warns-critical-raisecom-router-flaw-cve-2025-11534-cvss-9-8-allows-unauthenticated-root-ssh-access/
    🚨 “CISA เตือนช่องโหว่ Raisecom RAX701-GC – SSH เข้า root ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน!” CISA ออกประกาศเตือนช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Raisecom รุ่น RAX701-GC ที่ใช้ในระบบอุตสาหกรรมและโทรคมนาคม โดยช่องโหว่นี้มีรหัสว่า CVE-2025-11534 และได้คะแนน CVSS สูงถึง 9.8 ซึ่งถือว่า “วิกฤต” เพราะเปิดให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง shell ของระบบด้วยสิทธิ์ root โดยไม่ต้องยืนยันตัวตนผ่าน SSH เลย ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่อุปกรณ์อนุญาตให้สร้าง session SSH ได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตน ซึ่งผิดหลักการของระบบความปลอดภัยอย่างร้ายแรง โดย CISA จัดช่องโหว่นี้ไว้ในหมวด CWE-288: Authentication Bypass Using an Alternate Path or Channel อุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบคือ Raisecom RAX701-GC-WP-01 ที่ใช้ firmware เวอร์ชัน P200R002C52 และ P200R002C53 ซึ่งรวมถึงเวอร์ชัน 5.5.13_20180720, 5.5.27_20190111 และ 5.5.36_20190709 ช่องโหว่นี้ถูกค้นพบโดย HD Moore และ Tod Beardsley จาก runZero และถูกแจ้งไปยัง CISA เพื่อเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ทาง Raisecom ยังไม่ตอบรับหรือออกแพตช์ใด ๆ ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องใช้วิธีป้องกันเชิงเครือข่าย เช่น segmentation และ firewall เพื่อจำกัดการเข้าถึง แม้ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริง แต่ CISA เตือนว่าเนื่องจากช่องโหว่นี้สามารถใช้จากระยะไกลได้ง่าย และให้สิทธิ์สูงสุด จึงควรรีบดำเนินการป้องกันทันที ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-11534 ➡️ เกิดจากการ bypass authentication ใน SSH ➡️ ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง shell ด้วยสิทธิ์ root โดยไม่ต้อง login ➡️ ได้คะแนน CVSS v3.1 สูงถึง 9.8 ➡️ จัดอยู่ในหมวด CWE-288 โดย CISA ➡️ ส่งผลกระทบต่อ Raisecom RAX701-GC-WP-01 firmware หลายเวอร์ชัน ✅ การค้นพบและการเปิดเผย ➡️ ค้นพบโดย HD Moore และ Tod Beardsley จาก runZero ➡️ แจ้งไปยัง CISA เพื่อเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ➡️ Raisecom ยังไม่ตอบรับหรือออกแพตช์ใด ๆ ➡️ ผู้ดูแลระบบต้องใช้วิธีป้องกันเชิงเครือข่ายแทน ✅ แนวทางการป้องกันจาก CISA ➡️ แยกเครือข่ายควบคุมออกจากเครือข่ายธุรกิจ ➡️ ใช้ firewall เพื่อจำกัดการเข้าถึงจากภายนอก ➡️ ใช้ VPN ที่ปลอดภัยและอัปเดตอยู่เสมอ ➡️ ตรวจสอบการเชื่อมต่อ SSH ที่ไม่ได้รับอนุญาต ➡️ เฝ้าระวังพฤติกรรมผิดปกติจากอุปกรณ์ Raisecom https://securityonline.info/cisa-warns-critical-raisecom-router-flaw-cve-2025-11534-cvss-9-8-allows-unauthenticated-root-ssh-access/
    SECURITYONLINE.INFO
    CISA Warns: Critical Raisecom Router Flaw (CVE-2025-11534, CVSS 9.8) Allows Unauthenticated Root SSH Access
    CISA issued an alert for a Critical (CVSS 9.8) Auth Bypass flaw (CVE-2025-11534) in Raisecom RAX701-GC routers, allowing unauthenticated root shell via SSH. The vendor has not yet responded with a patch.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แฮกเกอร์จีนใช้คีย์ ASP.NET ที่หลุด – ฝัง TOLLBOOTH Backdoor และ Rootkit บน IIS Server ทั่วโลก!”

    Elastic Security Labs และ Texas A&M University System Cybersecurity เผยการค้นพบแคมเปญโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์ที่พูดภาษาจีน ซึ่งใช้คีย์ ASP.NET ที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะในการเจาะระบบ Microsoft IIS Server ที่ตั้งค่าผิดพลาด

    แฮกเกอร์ใช้คีย์ machineKey ที่หลุดจากเอกสาร Microsoft และ StackOverflow เพื่อสร้าง payload ที่สามารถ deserialization ผ่าน ViewState ได้ ทำให้สามารถรันคำสั่งบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน

    หลังจากเจาะระบบได้แล้ว พวกเขาจะติดตั้ง backdoor ชื่อว่า TOLLBOOTH ซึ่งเป็น IIS module ที่มีความสามารถทั้ง SEO cloaking, webshell, และ command execution โดยมี webshell ซ่อนอยู่ที่ /mywebdll พร้อมรหัสผ่าน hack123456!

    TOLLBOOTH ยังสามารถแยกแยะระหว่าง bot ของ search engine กับผู้ใช้จริง เพื่อแสดงเนื้อหาหลอกลวงให้ bot เห็น (เพื่อดัน SEO) และ redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย ซึ่งเป็นเทคนิคที่เรียกว่า link farm network

    หากวิธีฝัง backdoor ล้มเหลว แฮกเกอร์จะใช้เครื่องมือ Remote Monitoring & Management (RMM) ชื่อ GotoHTTP เพื่อควบคุมเครื่องผ่านเบราว์เซอร์โดยตรง

    นอกจากนี้ยังพบ rootkit ระดับ kernel ที่ชื่อว่า HIDDENDRIVER ซึ่งดัดแปลงจากโครงการโอเพ่นซอร์สชื่อ “Hidden” โดยใช้เทคนิค DKOM (Direct Kernel Object Manipulation) เพื่อซ่อน process, ไฟล์ และ registry key จากเครื่องมือวิเคราะห์ระบบ

    การโจมตีนี้ถูกจัดกลุ่มเป็น REF3927 และพบว่ามีความเชื่อมโยงกับแคมเปญที่ Microsoft และ AhnLab เคยรายงานมาก่อน โดยมีเป้าหมายเป็นเซิร์ฟเวอร์ IIS กว่า 571 เครื่องทั่วโลก ยกเว้นในประเทศจีน ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มแฮกเกอร์จีนที่มักหลีกเลี่ยงการโจมตีภายในประเทศตัวเอง

    วิธีการโจมตี
    ใช้คีย์ ASP.NET machineKey ที่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ
    สร้าง ViewState payload เพื่อรันคำสั่งบน IIS Server
    ติดตั้ง TOLLBOOTH IIS module เป็น backdoor
    ใช้ GotoHTTP หากฝัง backdoor ไม่สำเร็จ
    ติดตั้ง rootkit HIDDENDRIVER เพื่อซ่อนการทำงาน

    ความสามารถของ TOLLBOOTH
    มี webshell ซ่อนอยู่ที่ /mywebdll พร้อมรหัสผ่าน
    รองรับการอัปโหลดไฟล์และรันคำสั่ง
    มี endpoint สำหรับ health check, debug และ clean
    มี SEO cloaking engine เพื่อหลอก bot และ redirect ผู้ใช้
    ใช้ JSON config จากเซิร์ฟเวอร์ควบคุม

    ความสามารถของ HIDDENDRIVER
    ใช้เทคนิค DKOM เพื่อซ่อน process, ไฟล์ และ registry
    มี companion app ชื่อ HIDDENCLI เขียนด้วยภาษาจีน
    ปรับปรุงจากโปรเจกต์ “Hidden” ด้วยฟีเจอร์ AMSI bypass และ whitelist process
    ซ่อนตัวจากเครื่องมืออย่าง Process Explorer ได้

    ขอบเขตของการโจมตี
    พบการติดเชื้อใน IIS Server อย่างน้อย 571 เครื่อง
    ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน โลจิสติกส์ การศึกษา
    ไม่มีเหยื่อในประเทศจีน – สะท้อนการใช้ geofencing
    พบการติดตั้งซ้ำในหลายองค์กร แสดงว่าปัญหายังไม่ถูกแก้ที่ต้นเหตุ

    https://securityonline.info/chinese-hackers-exploit-exposed-asp-net-keys-to-deploy-tollbooth-iis-backdoor-and-kernel-rootkit/
    🕳️ “แฮกเกอร์จีนใช้คีย์ ASP.NET ที่หลุด – ฝัง TOLLBOOTH Backdoor และ Rootkit บน IIS Server ทั่วโลก!” Elastic Security Labs และ Texas A&M University System Cybersecurity เผยการค้นพบแคมเปญโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์ที่พูดภาษาจีน ซึ่งใช้คีย์ ASP.NET ที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะในการเจาะระบบ Microsoft IIS Server ที่ตั้งค่าผิดพลาด แฮกเกอร์ใช้คีย์ machineKey ที่หลุดจากเอกสาร Microsoft และ StackOverflow เพื่อสร้าง payload ที่สามารถ deserialization ผ่าน ViewState ได้ ทำให้สามารถรันคำสั่งบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน หลังจากเจาะระบบได้แล้ว พวกเขาจะติดตั้ง backdoor ชื่อว่า TOLLBOOTH ซึ่งเป็น IIS module ที่มีความสามารถทั้ง SEO cloaking, webshell, และ command execution โดยมี webshell ซ่อนอยู่ที่ /mywebdll พร้อมรหัสผ่าน hack123456! TOLLBOOTH ยังสามารถแยกแยะระหว่าง bot ของ search engine กับผู้ใช้จริง เพื่อแสดงเนื้อหาหลอกลวงให้ bot เห็น (เพื่อดัน SEO) และ redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย ซึ่งเป็นเทคนิคที่เรียกว่า link farm network หากวิธีฝัง backdoor ล้มเหลว แฮกเกอร์จะใช้เครื่องมือ Remote Monitoring & Management (RMM) ชื่อ GotoHTTP เพื่อควบคุมเครื่องผ่านเบราว์เซอร์โดยตรง นอกจากนี้ยังพบ rootkit ระดับ kernel ที่ชื่อว่า HIDDENDRIVER ซึ่งดัดแปลงจากโครงการโอเพ่นซอร์สชื่อ “Hidden” โดยใช้เทคนิค DKOM (Direct Kernel Object Manipulation) เพื่อซ่อน process, ไฟล์ และ registry key จากเครื่องมือวิเคราะห์ระบบ การโจมตีนี้ถูกจัดกลุ่มเป็น REF3927 และพบว่ามีความเชื่อมโยงกับแคมเปญที่ Microsoft และ AhnLab เคยรายงานมาก่อน โดยมีเป้าหมายเป็นเซิร์ฟเวอร์ IIS กว่า 571 เครื่องทั่วโลก ยกเว้นในประเทศจีน ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มแฮกเกอร์จีนที่มักหลีกเลี่ยงการโจมตีภายในประเทศตัวเอง ✅ วิธีการโจมตี ➡️ ใช้คีย์ ASP.NET machineKey ที่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ ➡️ สร้าง ViewState payload เพื่อรันคำสั่งบน IIS Server ➡️ ติดตั้ง TOLLBOOTH IIS module เป็น backdoor ➡️ ใช้ GotoHTTP หากฝัง backdoor ไม่สำเร็จ ➡️ ติดตั้ง rootkit HIDDENDRIVER เพื่อซ่อนการทำงาน ✅ ความสามารถของ TOLLBOOTH ➡️ มี webshell ซ่อนอยู่ที่ /mywebdll พร้อมรหัสผ่าน ➡️ รองรับการอัปโหลดไฟล์และรันคำสั่ง ➡️ มี endpoint สำหรับ health check, debug และ clean ➡️ มี SEO cloaking engine เพื่อหลอก bot และ redirect ผู้ใช้ ➡️ ใช้ JSON config จากเซิร์ฟเวอร์ควบคุม ✅ ความสามารถของ HIDDENDRIVER ➡️ ใช้เทคนิค DKOM เพื่อซ่อน process, ไฟล์ และ registry ➡️ มี companion app ชื่อ HIDDENCLI เขียนด้วยภาษาจีน ➡️ ปรับปรุงจากโปรเจกต์ “Hidden” ด้วยฟีเจอร์ AMSI bypass และ whitelist process ➡️ ซ่อนตัวจากเครื่องมืออย่าง Process Explorer ได้ ✅ ขอบเขตของการโจมตี ➡️ พบการติดเชื้อใน IIS Server อย่างน้อย 571 เครื่อง ➡️ ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน โลจิสติกส์ การศึกษา ➡️ ไม่มีเหยื่อในประเทศจีน – สะท้อนการใช้ geofencing ➡️ พบการติดตั้งซ้ำในหลายองค์กร แสดงว่าปัญหายังไม่ถูกแก้ที่ต้นเหตุ https://securityonline.info/chinese-hackers-exploit-exposed-asp-net-keys-to-deploy-tollbooth-iis-backdoor-and-kernel-rootkit/
    SECURITYONLINE.INFO
    Chinese Hackers Exploit Exposed ASP.NET Keys to Deploy TOLLBOOTH IIS Backdoor and Kernel Rootkit
    Elastic exposed Chinese threat actors exploiting public ASP.NET machine keys to deploy TOLLBOOTH IIS backdoor and HIDDENDRIVER kernel rootkit. The malware performs stealthy SEO cloaking.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • He is now meant to be in charge of Gaza. Do you still not see the link between Digital ID at home & the industrial slaughter required to achieve Greater Israel abroad?

    Grater Israel was the real reason for Covid. That is why the US military ran it (on behalf of Mossad). The Digital ID is meant to punish those who protest against the violence. The war in Ukraine was meant to tie down Russia & prevent it coming to the side of the slaughtered populations where Israel is meant to expand. BlackRock, Palantir, all headed by Greater Israel advocates.

    That is why the US Military ran Operation Warp Speed, that is why Israel was the first country to embrace Pfizer injections, it was all part of the Greater Israel plan.

    They have been working at this since 1948. It was/ is all meant to come to fruition with Digital ID.

    https://x.com/robinmonotti/status/1974786611532460445

    ROBINMG
    He is now meant to be in charge of Gaza. Do you still not see the link between Digital ID at home & the industrial slaughter required to achieve Greater Israel abroad? Grater Israel was the real reason for Covid. That is why the US military ran it (on behalf of Mossad). The Digital ID is meant to punish those who protest against the violence. The war in Ukraine was meant to tie down Russia & prevent it coming to the side of the slaughtered populations where Israel is meant to expand. BlackRock, Palantir, all headed by Greater Israel advocates. That is why the US Military ran Operation Warp Speed, that is why Israel was the first country to embrace Pfizer injections, it was all part of the Greater Israel plan. They have been working at this since 1948. It was/ is all meant to come to fruition with Digital ID. https://x.com/robinmonotti/status/1974786611532460445 📱 ROBINMG
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สหรัฐฯ เสนอแบน VPN – นักเคลื่อนไหวทั่วโลกลุกฮือจัด ‘VPN Day of Action’ ต้านกฎหมายเซ็นเซอร์”

    ในเดือนกันยายน 2025 รัฐมิชิแกนของสหรัฐฯ ได้เสนอร่างกฎหมายชื่อว่า Anticorruption of Public Morals Act ซึ่งมีเนื้อหาห้ามการเผยแพร่เนื้อหาที่ถูกมองว่า “บ่อนทำลายศีลธรรม” เช่น ภาพคนข้ามเพศ, สื่อลามก, ASMR และภาพกราฟิกต่าง ๆ พร้อมบทลงโทษทั้งปรับและจำคุกสำหรับผู้โพสต์และแพลตฟอร์มที่เผยแพร่

    แต่ที่น่ากังวลกว่านั้นคือ กฎหมายนี้ยังเสนอให้ แบนเครื่องมือหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์ เช่น VPN, proxy และ encrypted tunneling ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องความเป็นส่วนตัวและเข้าถึงข้อมูลในประเทศที่มีการควบคุมเนื้อหา

    แม้กฎหมายนี้จะยังไม่ผ่าน แต่ก็จุดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง โดยองค์กร Fight for the Future ได้จัดกิจกรรม VPN Day of Action ซึ่งมีผู้ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกมากกว่า 15,000 คน เพื่อเรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ ปกป้องสิทธิในการใช้ VPN

    นักเคลื่อนไหวชี้ว่า VPN ไม่ใช่แค่เครื่องมือหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาความปลอดภัยออนไลน์ โดยเฉพาะในยุคที่การโจมตีทางไซเบอร์จากรัฐและกลุ่มอาชญากรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ตัวอย่างเช่น ในเดือนกันยายน 2025 นักเคลื่อนไหวในเนปาลใช้ VPN เพื่อจัดการประท้วงผ่านโซเชียลมีเดีย แม้รัฐบาลจะพยายามบล็อกแพลตฟอร์มเหล่านั้นก็ตาม

    รายละเอียดร่างกฎหมายในมิชิแกน
    ชื่อว่า Anticorruption of Public Morals Act
    ห้ามเผยแพร่เนื้อหาที่ถูกมองว่า “บ่อนทำลายศีลธรรม”
    รวมถึงภาพคนข้ามเพศ, สื่อลามก, ASMR และภาพกราฟิก
    เสนอแบน VPN, proxy และ encrypted tunneling
    มีบทลงโทษทั้งปรับและจำคุกสำหรับผู้โพสต์และแพลตฟอร์ม

    การตอบโต้จากนักเคลื่อนไหว
    องค์กร Fight for the Future จัด VPN Day of Action
    มีผู้ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกมากกว่า 15,000 คน
    เรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ ปกป้องสิทธิในการใช้ VPN
    ชี้ว่า VPN เป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและเสรีภาพ
    ยกตัวอย่างการใช้ VPN ในการจัดการประท้วงในเนปาล

    บริบททางการเมืองและเทคโนโลยี
    กฎหมายนี้สะท้อนแนวโน้มการเซ็นเซอร์ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และยุโรป
    สหราชอาณาจักรก็เคยเสนอจำกัด VPN หลังยอดดาวน์โหลดพุ่ง
    การแบน VPN อาจทำให้สหรัฐฯ ถูกเปรียบเทียบกับรัฐเผด็จการ เช่น รัสเซีย, อิหร่าน, เกาหลีเหนือ
    VPN เป็นเครื่องมือสำคัญในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยภัยคุกคาม

    https://www.slashgear.com/1998517/us-states-vpn-ban-protests-day-of-action/
    🛡️ “สหรัฐฯ เสนอแบน VPN – นักเคลื่อนไหวทั่วโลกลุกฮือจัด ‘VPN Day of Action’ ต้านกฎหมายเซ็นเซอร์” ในเดือนกันยายน 2025 รัฐมิชิแกนของสหรัฐฯ ได้เสนอร่างกฎหมายชื่อว่า Anticorruption of Public Morals Act ซึ่งมีเนื้อหาห้ามการเผยแพร่เนื้อหาที่ถูกมองว่า “บ่อนทำลายศีลธรรม” เช่น ภาพคนข้ามเพศ, สื่อลามก, ASMR และภาพกราฟิกต่าง ๆ พร้อมบทลงโทษทั้งปรับและจำคุกสำหรับผู้โพสต์และแพลตฟอร์มที่เผยแพร่ แต่ที่น่ากังวลกว่านั้นคือ กฎหมายนี้ยังเสนอให้ แบนเครื่องมือหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์ เช่น VPN, proxy และ encrypted tunneling ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องความเป็นส่วนตัวและเข้าถึงข้อมูลในประเทศที่มีการควบคุมเนื้อหา แม้กฎหมายนี้จะยังไม่ผ่าน แต่ก็จุดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง โดยองค์กร Fight for the Future ได้จัดกิจกรรม VPN Day of Action ซึ่งมีผู้ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกมากกว่า 15,000 คน เพื่อเรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ ปกป้องสิทธิในการใช้ VPN นักเคลื่อนไหวชี้ว่า VPN ไม่ใช่แค่เครื่องมือหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาความปลอดภัยออนไลน์ โดยเฉพาะในยุคที่การโจมตีทางไซเบอร์จากรัฐและกลุ่มอาชญากรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ในเดือนกันยายน 2025 นักเคลื่อนไหวในเนปาลใช้ VPN เพื่อจัดการประท้วงผ่านโซเชียลมีเดีย แม้รัฐบาลจะพยายามบล็อกแพลตฟอร์มเหล่านั้นก็ตาม ✅ รายละเอียดร่างกฎหมายในมิชิแกน ➡️ ชื่อว่า Anticorruption of Public Morals Act ➡️ ห้ามเผยแพร่เนื้อหาที่ถูกมองว่า “บ่อนทำลายศีลธรรม” ➡️ รวมถึงภาพคนข้ามเพศ, สื่อลามก, ASMR และภาพกราฟิก ➡️ เสนอแบน VPN, proxy และ encrypted tunneling ➡️ มีบทลงโทษทั้งปรับและจำคุกสำหรับผู้โพสต์และแพลตฟอร์ม ✅ การตอบโต้จากนักเคลื่อนไหว ➡️ องค์กร Fight for the Future จัด VPN Day of Action ➡️ มีผู้ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกมากกว่า 15,000 คน ➡️ เรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ ปกป้องสิทธิในการใช้ VPN ➡️ ชี้ว่า VPN เป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและเสรีภาพ ➡️ ยกตัวอย่างการใช้ VPN ในการจัดการประท้วงในเนปาล ✅ บริบททางการเมืองและเทคโนโลยี ➡️ กฎหมายนี้สะท้อนแนวโน้มการเซ็นเซอร์ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และยุโรป ➡️ สหราชอาณาจักรก็เคยเสนอจำกัด VPN หลังยอดดาวน์โหลดพุ่ง ➡️ การแบน VPN อาจทำให้สหรัฐฯ ถูกเปรียบเทียบกับรัฐเผด็จการ เช่น รัสเซีย, อิหร่าน, เกาหลีเหนือ ➡️ VPN เป็นเครื่องมือสำคัญในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยภัยคุกคาม https://www.slashgear.com/1998517/us-states-vpn-ban-protests-day-of-action/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    US States Want To Ban VPNs, But Citizens Are Already Fighting Back - SlashGear
    The Michigan ban is about more than moderating content. VPNs play an essential role in protecting citizens' right to access and share information.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลก่อนหน้า
    https://t.me/ThaiPitaksithData/6914

    เปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน จากรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567
    https://fb.watch/qpJFWeLSO0/?
    “หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงต้นตอที่มาโควิด พร้อมแจงละเอียดยิบเหตุยุติวิจัยไวรัสค้างคาว
    https://news1live.com/detail/9670000005954
    “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0mcjQWeLT6R55prCBLgHHxQXfATwsQjRnh8dTuNmaYYhrC1eigXFAWG6tZUweSTTUl/?
    ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694
    สารคดี Died Suddenly เป็นการค้นพบเส้นอุดตันในเส้นเลือด ที่ไม่ใช่การอุดตันปกติ นักแต่งศพหลายๆคน มีปัญหาฉีดน้ำยารักษาศพเข้าเส้นเลือดไม่ได้ จึงทำการผ่าดู ปรากฏว่าเจอการอุดตันผิดปกติ ยาวเป็นฟุต!! ฝรั่งเขารู้ก่อนเรามานานแล้ว แล้วคุณยังจะเชื่อว่ามันคือ ฮีทสโตรกอยู่เหรอ สารคดีที่ลงสื่อหลักไม่ได้ เพราะเขาไม่อยากให้คุณรู้
    https://rumble.com/v1wac7i-world-premier-died-suddenly.html
    Thai sub https://rumble.com/v1ytofw-died-suddenly-thai-subtitles-.html
    https://t.me/awakened_thailand/415
    “หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912
    “หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912
    “หมอธีระวัฒน์” เผย 5 เหตุผล ลาออก หน.ศูนย์ฯโรคอุบัติใหม่
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000037010
    วัคซีน : ที่ปฏิบัติในปัจจุบันเป็นการฝ่าฝืนกฎข้อบังคับทางจริยธรรมทางการแพทย์ทั้งหมดหรือไม่? (ตอนที่ 1)
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000036764
    หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรดตัวไว? รายการสภากาแฟ ช่อง News1
    https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x
    "หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ" เชิญร่วมเสวนา “อันตรายจากวัคซีนร้ายแรงกว่าที่คิด” ณ หอศิลป์กรุงเทพฯ 3 พ.ค.นี้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647
    เรื่องใหญ่! “หมอธีระวัฒน์” เผยนักวิจัย “โมเดอร์นา” ยอมรับเอง วัคซีน mRNA ยังต้องผ่านการปรับปรุงอีกหลายขั้นตอน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000035583
    มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512
    “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152
    ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130
    นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136
    White Clot ยังไม่จบ “หมอธีระวัฒน์” พร้อมตอบแบบจัดเต็ม ในงาน “ความจริงมีหนึ่งเดียว” 17 มี.ค.2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000020769
    อจ หมออรรถพล CDC Webinar Live Talk 04 มี.ค. 2567 หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine
    https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html
    ชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343
    คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ฯ ร้องดีอีปรับปรุงศูนย์ต้านข่าวปลอม พร้อมแก้ไขข้อมูลเท็จ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000019152
    ฝ่ายค้านแคนาดาแฉ “ทรูโด” ปกปิดหลักฐานวิจัยไวรัสร่วมกับจีน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000018855
    "ปานเทพ" เผย 7 ประเด็นสำคัญผลกระทบจากวัคซีนโควิด อันตราย-อำมหิตกว่าที่คิด จี้หยุดฉีด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000018762
    Save หมอธีระวัฒน์ ผู้เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172
    https://youtu.be/ucQZu7LbZCM?si=YPMxtmhRnYQrnAnk
    จี้คณบดีแพทยศาสตร์ ศิริราช-จุฬาฯ เลิกติดต่อ “เฟาซี” และ EHA ที่ให้ทุนวิจัยสร้างไวรัสอันตราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000016687
    “ปานเทพ” เสียดายคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้อ่าน งานวิจัยผลกระทบจากวัคซีนต่อเด็กและเยาวชนไทย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000016219


    จวก “หมอธีระ” ยืนข้างบริษัทยา ปล่อยข่าวปลอมเสียเอง ท้าดีเบตกับวิชาการตัวจริง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015945
    หมอธีระ หมอที่ยืนข้างบริษัทยา
    https://www.facebook.com/share/p/9x61sF5dLf2dy6wk/?mibextid=Nif5oz
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid049af37rusAcp8AW12nnFEe2MehpUHd5buVdroxoPy6tmSBFnx7M4RRcHoCSXLFYWl&id=100064810775743&mibextid=Nif5oz
    ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694
    “หมอธีระวัฒน์” เผยพบปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เห็นมาก่อนในคนฉีดวัคซีน mRNA
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015334
    โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก! | สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1
    เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก)
    https://youtu.be/Cvml6w6c5WI?si=UL81i3lAOVL9872W
    https://www.rookon.com/?p=1176
    สภาทนายความ แถลงข่าว เรื่อง ประกันโควิด กับผลกระทบวัคซีน 05-06-2024
    https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html
    เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม : Sondhitalk (ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง) EP.230
    https://m.youtube.com/watch?si=Q9kw0ho0R0JfKya5&fbclid=IwAR2tadgM38rB01iG7B_EKK8lvTA4DScCO4-iSpyg9bBZyAmXfGLsiExEFmI_aem_AZq7B_ZfF8BLBoKcmTknNdVCH9GPFMRKMg6tuV_UV8w2m106s6kASAKDgBYMmG3Lzmg&v=ucQZu7LbZCM&feature=youtu.be
    นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136
    สร้างเท็จเป็นจริง เปลี่ยนจริงเป็นเท็จ
    https://m.youtube.com/watch?si=XN7rAI1qEWlI-kr6&fbclid=IwAR1mynXiLAbnauASWUlJJWFbJ9YUkDlYd3MpVN975-j1XiXKT8m6LK2stvs_aem_AQH-ZkLmZSDYhXTbonKF3fZqbmCD50usAsDLiZk9cI9WNJJdVKVS7dUUuc-N1nedwd8&v=D6NboVSczKU&feature=youtu.be
    “หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงปรากฏ โควิดหลุดจากแล็บเป็นเรื่องจริง ฝีมือหมอใหญ่สหรัฐฯ ผ่านองค์กร Eco Health Alliance
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000042959
    เราจะรอดพ้นจากการเป็นซอมบี้ได้อย่างไร ?!! / โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://youtu.be/RLWADSjPdC0?si=6oot2AiWzNbH7efq
    “อีลอน มัสก์” ร้องเอาผิด “เฟาซี” ตอกย้ำโควิดมาจากแล็บอู่ฮั่นที่อเมริกาให้เงินอุดหนุน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000043013
    อย่าเงียบ!กดดันไฟเซอร์-โมเดอร์นาถอนใบอนุญาตวัคซีนโควิด อ้างพบตายมากกว่าแอสตร้าฯ3เท่า
    https://mgronline.com/around/detail/9670000040887
    “หมอธีระวัฒน์” ตั้งคำถามหลังแอสตร้าฯ หยุดขาย แล้ววัคซีนชนิดอื่นทำไมทางการไทยยังปกป้อง แฉไฟเซอร์ต้องยอมความ 1 หมื่นคดี
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000040486
    “หมอธีระวัฒน์” ถามแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ รับเงิน 2 พันล้านก๊อปปี้วัคซีนโควิดไฟเซอร์ ได้ผลสำเร็จอย่างไร
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000040290
    “ปานเทพ” ชี้แอสตร้าฯ ถอนใบอนุญาตการตลาดวัคซีนทั่วโลกหลังยอมรับก่อผลข้างเคียง แต่องค์กรรัฐไทยเงียบกริบ สะท้อนสำนึกความปลอดภัยที่ตกต่ำ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000040078
    “ฉีดแล้ว แถมอะไรบ้าง?” ฟังเวอร์ชั่นมึผู้ดัดแปลง แรพเตอร์ประยุกต์
    https://fb.watch/rY3hwhondy/?
    https://fb.watch/rY3jv7hMym/?
    เปิดวิธีป้องกัน ความอันตราย จากพิษของวัคซีน / ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา สัมภาษณ์โดย ปากซอย 105 รู้ก่อนใคร ลึกจากข่าววงใน
    https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g
    “หมอธีระวัฒน์” เผยเคสคนป่วยจากแอสตร้า-ไฟเซอร์ ชี้ทั้งวัคซีนเชื้อเป็นและ mRNA ส่งผลกระทบระยะสั้นถึงยาว ต่อสมอง-กล้ามเนื้อ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000037733
    แท่งย้วยสีขาวในหลอดเลือด เกิดขึ้น “ก่อน”ตายเท่านั้น รีบช่วยชมและแชร์ก่อนถูกลบ
    https://fb.watch/s0hNc3DymZ/?
    https://fb.watch/s0hJ12wEyq/?
    ช็อค!!! คำสารภาพของไฟเซอร์ รีบชมและแชร์ก่อนโดนลบ
    https://fb.watch/s0bmq6HW8P/?
    “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/945435006950200/?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152
    ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130
    “หมอชลธวัช” เผยวัคซีน mRNA โยงโรคสมองเสื่อม แนะคนกลัวอัลไซเมอร์-พาร์กินสัน ไม่ควรฉีด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000052341
    เงินสำคัญกว่าชีวิต! ผู้เชี่ยวชาญเชื่อ US บิดเบือนวัคซีน 'โควิด' จีน มีเป้าหมายเพื่อสกัดคู่แข่ง
    https://mgronline.com/around/detail/9670000051671

    วัคซีนเทพระส่ำ! รัฐแคนซัสลุยฟ้องเอาผิด 'ไฟเซอร์' กล่าวหาปกปิดความเสี่ยง-โป้ปดประสิทธิภาพ
    https://mgronline.com/around/detail/9670000052000
    ความจริงปรากฏ! รอยเตอร์แฉเอง US ใช้ยุทธการบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสีวัคซีนโควิดของจีน
    https://mgronline.com/around/detail/9670000051466
    “หมอธีระวัฒน์” เผยผลชันสูตรคนตาย วัคซีนโควิดอาจเป็นสาเหตุเชื้ออสุจิไม่วิ่ง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000051903
    สะเทือนแน่! ศาลสหรัฐฯ ตัดสิน วัคซีนโควิด mRNA ไม่ใช่วัคซีนตามความหมายเดิม
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000051429
    เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851
    วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1112
    เรื่องใหญ่! 'หมอธีระวัฒน์'แฉนักวิทยาศาสตร์ของ 'โมเดนา' ยอมรับ วัคซีน mRNR มีอันตรายต้องปรับปรุง https://www.thaipost.net/x-cite-news/574701/
    ตัวเร่งอัลไซเมอร์ ปัจจัยสมองเสื่อม
    https://www.thairath.co.th/news/local/2780279?fbclid=IwZXh0bgNhZW0BMQABHasG0naYhGMWkauoJynJJogiy5_NDCd315hbeWbq9VKsujvb0QlhIDaYXw_aem_AVdXSF5wlAW6xu0DqygB78_9MAXrrrSl80nxmlnJULaXM7V7p4XE8sSaW8nA80wGr9U
    “หมอธีระวัฒน์” แฉวัคซีนไฟเซอร์โดนฟ้องแหลกในสหรัฐฯ แต่ในไทยยังประชาสัมพันธ์ให้ฉีด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000052545
    ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน (ตอนที่ 1)
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749
    ขึ้นเครื่องบิน ตอนนี้ต้องถามว่า นักบินฉีดกี่เข็ม มีมรณา mRNA ด้วยไหม ถ้าตอบว่ามี รอไฟลต์หน้าปลอดภัย กว่า
    https://x.com/makismd/status/1805541350026199289?s=53&t=Pd2sCn9Dej9GlmSuERlElA
    งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร
    https://youtu.be/S32-hkJBJKA
    รูต่ายส่ายสะโพก เสนอ ความจริงที่สื่อกระแสหลักไม่กล้าพูดถึง การหลอกลวงและความเชื่อมโยง...
    วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง)
    https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html?e9s=src_v1_upp_a
    เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, กำเนิดเชื้อโควิด และ RFK JR. แหกทุจริตในอเมริกา)
    https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?e9s=src_v1_upp_a
    เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK (วัคซีนก่อมะเร็ง,การลอบสังหาร, รัฐลึก, 911)
    https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html?e9s=src_v1_upp_a
    ตัวอย่างหนังสือปฏิเสธวัคซีน
    https://t.me/ThaiPitaksithData/6897
    ชำแหละหมอธนีย์
    ตอนที่ 1. ใครกันแน่ที่หาแสง เพื่อขายของ https://www.facebook.com/share/p/1GzjbbbCHp/
    ตอนที่ 2.สื่อไหนนะที่ให้ข่าวปลอม https://www.facebook.com/share/p/1MVZc5gBdM/
    ตอนที่ 3.ก่อนอ่านงานวิจัย อ่านเอกสารกำกับยาก่อนดีไหม
    https://www.facebook.com/share/p/17W8FE6zLY/
    ตอนที่ 4. มีคนเอาข้อมูลไฟเซอร์มาเขียนรายงาน 102 ฉบับ หมอเคยอ่านไหม https://www.facebook.com/share/p/1JCYxQopJV/
    ตอนที่ 5. อาจารย์ธีระวัฒน์ที่เป็น ครู ของหมอ อธิบายได้ดีพร้อมมีหลักฐานแสดง https://www.facebook.com/share/p/1GU7bL72BH/
    ตอนที่ 6.ไหนว่า อ่านงานวิจัยเป็น ทำไมหมอโดนหลอก?
    https://www.facebook.com/share/p/16YVXEaET1/
    ตอนที่ 7.หมอเข้าใจ mRNA มากแค่ไหน Antigen คืออะไร ตอบได้รึเปล่า? https://www.facebook.com/share/p/1BcP47gdMN/
    ตอนที่ 8. อคติ คือ อะไร ทำไม หมอไม่รู้ตัว ?
    https://www.facebook.com/share/p/1GnAz468Kk/
    ตอนที่ 9.หมอสนใจข้อมูล จริงๆ หรือ? แค่พูดให้ดูดี หรือ กล้าไปขอมาดูจริงๆ
    https://www.facebook.com/share/p/14M6mFcCrE2/
    ตอนที่ 10.กาลามสูตรคือ อะไร ต่างจากใช้ AI อย่างไร
    https://www.facebook.com/share/p/17Wua35Hmi/
    โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย
    ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/newspaper/2756723
    ตอนที่ 2 https://mgronline.com/daily/detail/9670000008184
    ตอนที่ 3 https://mgronline.com/daily/detail/9670000010320
    ตอนที่ 4 https://mgronline.com/daily/detail/9670000012549
    ตอนที่ 5 https://mgronline.com/daily/detail/9670000014922
    ตอนที่ 6 https://www.thairath.co.th/news/local/2765797
    ตอนที่ 7 https://www.facebook.com/share/p/19ohqtKnpQ/
    ตอนที่ 8 https://www.facebook.com/share/p/1FaswKgAHT/
    ตอนที่ 9 https://www.facebook.com/share/p/19fp8ufNYM/
    ตอน 10
    https://www.facebook.com/share/14MV2xoK5Bq/?mibextid=wwXIfr
    ตอน 11
    https://www.facebook.com/share/p/1JHQybX6oW/?mibextid=wwXIfr
    ตอน 12
    https://www.facebook.com/share/17XgRhXGNF/?mibextid=wwXIfr





    ข้อมูลก่อนหน้า https://t.me/ThaiPitaksithData/6914 ✍️เปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน จากรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 https://fb.watch/qpJFWeLSO0/? ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงต้นตอที่มาโควิด พร้อมแจงละเอียดยิบเหตุยุติวิจัยไวรัสค้างคาว https://news1live.com/detail/9670000005954 ✍️“หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0mcjQWeLT6R55prCBLgHHxQXfATwsQjRnh8dTuNmaYYhrC1eigXFAWG6tZUweSTTUl/? ✍️ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694 ✍️สารคดี Died Suddenly เป็นการค้นพบเส้นอุดตันในเส้นเลือด ที่ไม่ใช่การอุดตันปกติ นักแต่งศพหลายๆคน มีปัญหาฉีดน้ำยารักษาศพเข้าเส้นเลือดไม่ได้ จึงทำการผ่าดู ปรากฏว่าเจอการอุดตันผิดปกติ ยาวเป็นฟุต!! ฝรั่งเขารู้ก่อนเรามานานแล้ว แล้วคุณยังจะเชื่อว่ามันคือ ฮีทสโตรกอยู่เหรอ สารคดีที่ลงสื่อหลักไม่ได้ เพราะเขาไม่อยากให้คุณรู้ https://rumble.com/v1wac7i-world-premier-died-suddenly.html Thai sub https://rumble.com/v1ytofw-died-suddenly-thai-subtitles-.html https://t.me/awakened_thailand/415 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผย 5 เหตุผล ลาออก หน.ศูนย์ฯโรคอุบัติใหม่ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000037010 ✍️วัคซีน : ที่ปฏิบัติในปัจจุบันเป็นการฝ่าฝืนกฎข้อบังคับทางจริยธรรมทางการแพทย์ทั้งหมดหรือไม่? (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/qol/detail/9670000036764 ✍️หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรดตัวไว? รายการสภากาแฟ ช่อง News1 https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x ✍️"หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ" เชิญร่วมเสวนา “อันตรายจากวัคซีนร้ายแรงกว่าที่คิด” ณ หอศิลป์กรุงเทพฯ 3 พ.ค.นี้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647 ✍️เรื่องใหญ่! “หมอธีระวัฒน์” เผยนักวิจัย “โมเดอร์นา” ยอมรับเอง วัคซีน mRNA ยังต้องผ่านการปรับปรุงอีกหลายขั้นตอน https://mgronline.com/qol/detail/9670000035583 ✍️มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512 ✍️“หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152 ✍️ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018 https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130 ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136 ✍️White Clot ยังไม่จบ “หมอธีระวัฒน์” พร้อมตอบแบบจัดเต็ม ในงาน “ความจริงมีหนึ่งเดียว” 17 มี.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000020769 ✍️อจ หมออรรถพล CDC Webinar Live Talk 04 มี.ค. 2567 หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html ✍️ชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343 ✍️คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ฯ ร้องดีอีปรับปรุงศูนย์ต้านข่าวปลอม พร้อมแก้ไขข้อมูลเท็จ https://mgronline.com/qol/detail/9670000019152 ✍️ฝ่ายค้านแคนาดาแฉ “ทรูโด” ปกปิดหลักฐานวิจัยไวรัสร่วมกับจีน https://mgronline.com/qol/detail/9670000018855 ✍️"ปานเทพ" เผย 7 ประเด็นสำคัญผลกระทบจากวัคซีนโควิด อันตราย-อำมหิตกว่าที่คิด จี้หยุดฉีด https://mgronline.com/qol/detail/9670000018762 ✍️Save หมอธีระวัฒน์ ผู้เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172 https://youtu.be/ucQZu7LbZCM?si=YPMxtmhRnYQrnAnk ✍️จี้คณบดีแพทยศาสตร์ ศิริราช-จุฬาฯ เลิกติดต่อ “เฟาซี” และ EHA ที่ให้ทุนวิจัยสร้างไวรัสอันตราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000016687 ✍️“ปานเทพ” เสียดายคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้อ่าน งานวิจัยผลกระทบจากวัคซีนต่อเด็กและเยาวชนไทย https://mgronline.com/qol/detail/9670000016219 ✍️จวก “หมอธีระ” ยืนข้างบริษัทยา ปล่อยข่าวปลอมเสียเอง ท้าดีเบตกับวิชาการตัวจริง https://mgronline.com/qol/detail/9670000015945 ✍️หมอธีระ หมอที่ยืนข้างบริษัทยา https://www.facebook.com/share/p/9x61sF5dLf2dy6wk/?mibextid=Nif5oz https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid049af37rusAcp8AW12nnFEe2MehpUHd5buVdroxoPy6tmSBFnx7M4RRcHoCSXLFYWl&id=100064810775743&mibextid=Nif5oz ✍️ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยพบปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เห็นมาก่อนในคนฉีดวัคซีน mRNA https://mgronline.com/qol/detail/9670000015334 ✍️ โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก! | สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก) https://youtu.be/Cvml6w6c5WI?si=UL81i3lAOVL9872W https://www.rookon.com/?p=1176 ✍️ สภาทนายความ แถลงข่าว เรื่อง ประกันโควิด กับผลกระทบวัคซีน 05-06-2024 https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html ✍️ เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม : Sondhitalk (ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง) EP.230 https://m.youtube.com/watch?si=Q9kw0ho0R0JfKya5&fbclid=IwAR2tadgM38rB01iG7B_EKK8lvTA4DScCO4-iSpyg9bBZyAmXfGLsiExEFmI_aem_AZq7B_ZfF8BLBoKcmTknNdVCH9GPFMRKMg6tuV_UV8w2m106s6kASAKDgBYMmG3Lzmg&v=ucQZu7LbZCM&feature=youtu.be ✍️ นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136 ✍️ สร้างเท็จเป็นจริง เปลี่ยนจริงเป็นเท็จ https://m.youtube.com/watch?si=XN7rAI1qEWlI-kr6&fbclid=IwAR1mynXiLAbnauASWUlJJWFbJ9YUkDlYd3MpVN975-j1XiXKT8m6LK2stvs_aem_AQH-ZkLmZSDYhXTbonKF3fZqbmCD50usAsDLiZk9cI9WNJJdVKVS7dUUuc-N1nedwd8&v=D6NboVSczKU&feature=youtu.be ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงปรากฏ โควิดหลุดจากแล็บเป็นเรื่องจริง ฝีมือหมอใหญ่สหรัฐฯ ผ่านองค์กร Eco Health Alliance https://mgronline.com/qol/detail/9670000042959 ✍️เราจะรอดพ้นจากการเป็นซอมบี้ได้อย่างไร ?!! / โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://youtu.be/RLWADSjPdC0?si=6oot2AiWzNbH7efq ✍️“อีลอน มัสก์” ร้องเอาผิด “เฟาซี” ตอกย้ำโควิดมาจากแล็บอู่ฮั่นที่อเมริกาให้เงินอุดหนุน https://mgronline.com/qol/detail/9670000043013 ✍️อย่าเงียบ!กดดันไฟเซอร์-โมเดอร์นาถอนใบอนุญาตวัคซีนโควิด อ้างพบตายมากกว่าแอสตร้าฯ3เท่า https://mgronline.com/around/detail/9670000040887 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ตั้งคำถามหลังแอสตร้าฯ หยุดขาย แล้ววัคซีนชนิดอื่นทำไมทางการไทยยังปกป้อง แฉไฟเซอร์ต้องยอมความ 1 หมื่นคดี https://mgronline.com/qol/detail/9670000040486 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ถามแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ รับเงิน 2 พันล้านก๊อปปี้วัคซีนโควิดไฟเซอร์ ได้ผลสำเร็จอย่างไร https://mgronline.com/qol/detail/9670000040290 ✍️“ปานเทพ” ชี้แอสตร้าฯ ถอนใบอนุญาตการตลาดวัคซีนทั่วโลกหลังยอมรับก่อผลข้างเคียง แต่องค์กรรัฐไทยเงียบกริบ สะท้อนสำนึกความปลอดภัยที่ตกต่ำ https://mgronline.com/qol/detail/9670000040078 ✍️“ฉีดแล้ว แถมอะไรบ้าง?” ฟังเวอร์ชั่นมึผู้ดัดแปลง แรพเตอร์ประยุกต์ https://fb.watch/rY3hwhondy/? https://fb.watch/rY3jv7hMym/? ✍️เปิดวิธีป้องกัน ความอันตราย จากพิษของวัคซีน / ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา สัมภาษณ์โดย ปากซอย 105 รู้ก่อนใคร ลึกจากข่าววงใน https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยเคสคนป่วยจากแอสตร้า-ไฟเซอร์ ชี้ทั้งวัคซีนเชื้อเป็นและ mRNA ส่งผลกระทบระยะสั้นถึงยาว ต่อสมอง-กล้ามเนื้อ https://mgronline.com/qol/detail/9670000037733 ✍️แท่งย้วยสีขาวในหลอดเลือด เกิดขึ้น “ก่อน”ตายเท่านั้น รีบช่วยชมและแชร์ก่อนถูกลบ https://fb.watch/s0hNc3DymZ/? https://fb.watch/s0hJ12wEyq/? ✍️ช็อค!!! คำสารภาพของไฟเซอร์ รีบชมและแชร์ก่อนโดนลบ https://fb.watch/s0bmq6HW8P/? ✍️ “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://www.facebook.com/100044511276276/posts/945435006950200/? https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152 ✍️ ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018 https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130 ✍️ “หมอชลธวัช” เผยวัคซีน mRNA โยงโรคสมองเสื่อม แนะคนกลัวอัลไซเมอร์-พาร์กินสัน ไม่ควรฉีด https://mgronline.com/qol/detail/9670000052341 ✍️ เงินสำคัญกว่าชีวิต! ผู้เชี่ยวชาญเชื่อ US บิดเบือนวัคซีน 'โควิด' จีน มีเป้าหมายเพื่อสกัดคู่แข่ง https://mgronline.com/around/detail/9670000051671 ✍️ วัคซีนเทพระส่ำ! รัฐแคนซัสลุยฟ้องเอาผิด 'ไฟเซอร์' กล่าวหาปกปิดความเสี่ยง-โป้ปดประสิทธิภาพ https://mgronline.com/around/detail/9670000052000 ✍️ ความจริงปรากฏ! รอยเตอร์แฉเอง US ใช้ยุทธการบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสีวัคซีนโควิดของจีน https://mgronline.com/around/detail/9670000051466 ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยผลชันสูตรคนตาย วัคซีนโควิดอาจเป็นสาเหตุเชื้ออสุจิไม่วิ่ง https://mgronline.com/qol/detail/9670000051903 ✍️ สะเทือนแน่! ศาลสหรัฐฯ ตัดสิน วัคซีนโควิด mRNA ไม่ใช่วัคซีนตามความหมายเดิม https://mgronline.com/qol/detail/9670000051429 ✍️เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851 ✍️ วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1112 ✍️ เรื่องใหญ่! 'หมอธีระวัฒน์'แฉนักวิทยาศาสตร์ของ 'โมเดนา' ยอมรับ วัคซีน mRNR มีอันตรายต้องปรับปรุง https://www.thaipost.net/x-cite-news/574701/ ✍️ ตัวเร่งอัลไซเมอร์ ปัจจัยสมองเสื่อม https://www.thairath.co.th/news/local/2780279?fbclid=IwZXh0bgNhZW0BMQABHasG0naYhGMWkauoJynJJogiy5_NDCd315hbeWbq9VKsujvb0QlhIDaYXw_aem_AVdXSF5wlAW6xu0DqygB78_9MAXrrrSl80nxmlnJULaXM7V7p4XE8sSaW8nA80wGr9U ✍️ “หมอธีระวัฒน์” แฉวัคซีนไฟเซอร์โดนฟ้องแหลกในสหรัฐฯ แต่ในไทยยังประชาสัมพันธ์ให้ฉีด https://mgronline.com/qol/detail/9670000052545 ✍️ ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749 ✍️ขึ้นเครื่องบิน ตอนนี้ต้องถามว่า นักบินฉีดกี่เข็ม มีมรณา mRNA ด้วยไหม ถ้าตอบว่ามี รอไฟลต์หน้าปลอดภัย กว่า https://x.com/makismd/status/1805541350026199289?s=53&t=Pd2sCn9Dej9GlmSuERlElA ✍️งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร https://youtu.be/S32-hkJBJKA รูต่ายส่ายสะโพก เสนอ ความจริงที่สื่อกระแสหลักไม่กล้าพูดถึง การหลอกลวงและความเชื่อมโยง... ✍️วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง) https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html?e9s=src_v1_upp_a ✍️เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, กำเนิดเชื้อโควิด และ RFK JR. แหกทุจริตในอเมริกา) https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?e9s=src_v1_upp_a ✍️เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK (วัคซีนก่อมะเร็ง,การลอบสังหาร, รัฐลึก, 911) https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html?e9s=src_v1_upp_a ✍️ตัวอย่างหนังสือปฏิเสธวัคซีน https://t.me/ThaiPitaksithData/6897 ✍️🔪ชำแหละหมอธนีย์ ตอนที่ 1. ใครกันแน่ที่หาแสง เพื่อขายของ https://www.facebook.com/share/p/1GzjbbbCHp/ ตอนที่ 2.สื่อไหนนะที่ให้ข่าวปลอม https://www.facebook.com/share/p/1MVZc5gBdM/ ตอนที่ 3.ก่อนอ่านงานวิจัย อ่านเอกสารกำกับยาก่อนดีไหม https://www.facebook.com/share/p/17W8FE6zLY/ ตอนที่ 4. มีคนเอาข้อมูลไฟเซอร์มาเขียนรายงาน 102 ฉบับ หมอเคยอ่านไหม https://www.facebook.com/share/p/1JCYxQopJV/ ตอนที่ 5. อาจารย์ธีระวัฒน์ที่เป็น ครู ของหมอ อธิบายได้ดีพร้อมมีหลักฐานแสดง https://www.facebook.com/share/p/1GU7bL72BH/ ตอนที่ 6.ไหนว่า อ่านงานวิจัยเป็น ทำไมหมอโดนหลอก? https://www.facebook.com/share/p/16YVXEaET1/ ตอนที่ 7.หมอเข้าใจ mRNA มากแค่ไหน Antigen คืออะไร ตอบได้รึเปล่า? https://www.facebook.com/share/p/1BcP47gdMN/ ตอนที่ 8. อคติ คือ อะไร ทำไม หมอไม่รู้ตัว ? https://www.facebook.com/share/p/1GnAz468Kk/ ตอนที่ 9.หมอสนใจข้อมูล จริงๆ หรือ? แค่พูดให้ดูดี หรือ กล้าไปขอมาดูจริงๆ https://www.facebook.com/share/p/14M6mFcCrE2/ ตอนที่ 10.กาลามสูตรคือ อะไร ต่างจากใช้ AI อย่างไร https://www.facebook.com/share/p/17Wua35Hmi/ ✍️โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/newspaper/2756723 ตอนที่ 2 https://mgronline.com/daily/detail/9670000008184 ตอนที่ 3 https://mgronline.com/daily/detail/9670000010320 ตอนที่ 4 https://mgronline.com/daily/detail/9670000012549 ตอนที่ 5 https://mgronline.com/daily/detail/9670000014922 ตอนที่ 6 https://www.thairath.co.th/news/local/2765797 ตอนที่ 7 https://www.facebook.com/share/p/19ohqtKnpQ/ ตอนที่ 8 https://www.facebook.com/share/p/1FaswKgAHT/ ตอนที่ 9 https://www.facebook.com/share/p/19fp8ufNYM/ ตอน 10 https://www.facebook.com/share/14MV2xoK5Bq/?mibextid=wwXIfr ตอน 11 https://www.facebook.com/share/p/1JHQybX6oW/?mibextid=wwXIfr ตอน 12 https://www.facebook.com/share/17XgRhXGNF/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Tiny Corp ปลดล็อก Nvidia GPU บน MacBook ARM ผ่าน USB4 – เปิดทางใหม่ให้สาย AI บน macOS!”

    ใครที่ใช้ MacBook รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M-series อาจเคยรู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถใช้การ์ดจอแยกจาก Nvidia ได้ เพราะ macOS บน ARM ไม่มีไดรเวอร์รองรับแบบเป็นทางการ แต่ล่าสุด Tiny Corp สตาร์ทอัพสาย AI ได้สร้างความฮือฮา ด้วยการพัฒนาไดรเวอร์ที่ทำให้ MacBook ARM สามารถใช้งาน Nvidia GPU ได้ผ่าน USB4 หรือ Thunderbolt 4 โดยใช้ eGPU docking station!

    ก่อนหน้านี้ Tiny Corp เคยทำให้ AMD GPU ทำงานบน MacBook ARM ผ่าน USB3 ได้สำเร็จมาแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งแรกในโลก และครั้งนี้พวกเขาได้ต่อยอดไปยัง Nvidia โดยรองรับการ์ด RTX รุ่น 30, 40 และ 50 series ส่วน RTX 20 series อาจใช้ได้ แต่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม ส่วน GTX series ไม่รองรับ เพราะไม่มี GPU system processor

    การใช้งาน Nvidia GPU บน MacBook นี้ไม่ได้เพื่อการแสดงผลกราฟิก แต่เน้นสำหรับงาน AI โดยเฉพาะ เช่น การรันโมเดล LLM หรืองาน inference ที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง ซึ่งการ์ดจอของ Apple ยังไม่สามารถเทียบได้ในด้านนี้

    Tiny Corp ได้โชว์ตัวอย่างการใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม X โดยใช้ MacBook Pro M3 Max เชื่อมต่อกับ RTX GPU ผ่าน dock รุ่น ADT-UT3G และรัน Tinygrad ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับนักพัฒนา AI ที่ใช้ macOS

    ความสำเร็จของ Tiny Corp
    พัฒนาไดรเวอร์ให้ MacBook ARM ใช้งาน Nvidia GPU ผ่าน USB4/Thunderbolt 4
    รองรับ RTX 30, 40, 50 series สำหรับงาน AI
    RTX 20 series อาจใช้ได้ แต่ต้องปรับแต่งเอง
    GTX series ไม่รองรับ เพราะไม่มี GPU system processor
    ใช้ dock รุ่น ADT-UT3G เชื่อมต่อผ่าน USB4
    รัน Tinygrad บน MacBook Pro M3 Max ได้สำเร็จ
    ไม่รองรับการแสดงผลกราฟิก แต่เน้นงาน AI เช่น LLM และ inference

    ความเป็นมาของเทคโนโลยี
    ก่อนหน้านี้เคยทำให้ AMD GPU ทำงานบน MacBook ARM ผ่าน USB3
    USB4/Thunderbolt 4 รองรับ PCIe โดยตรง ทำให้เชื่อมต่อ eGPU ได้ง่ายขึ้น
    Apple ไม่เคยรองรับ Nvidia GPU บน macOS ARM อย่างเป็นทางการ
    นักพัฒนาต้องสร้างไดรเวอร์เองเพื่อใช้งาน eGPU บน MacBook

    ข้อควรระวังและคำเตือน
    ใช้งานได้เฉพาะสำหรับงาน AI ไม่รองรับการแสดงผลหน้าจอ
    ต้องใช้การ์ดที่มี GPU system processor เท่านั้น
    RTX 20 series ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม ไม่ใช่ plug-and-play
    GTX series ไม่สามารถใช้งานได้เลย
    การติดตั้งไดรเวอร์ต้องใช้ความเข้าใจเชิงเทคนิคพอสมควร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/tiny-corp-successfully-runs-an-nvidia-gpu-on-arm-macbook-through-usb4-using-an-external-gpu-docking-station
    🔌 “Tiny Corp ปลดล็อก Nvidia GPU บน MacBook ARM ผ่าน USB4 – เปิดทางใหม่ให้สาย AI บน macOS!” ใครที่ใช้ MacBook รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M-series อาจเคยรู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถใช้การ์ดจอแยกจาก Nvidia ได้ เพราะ macOS บน ARM ไม่มีไดรเวอร์รองรับแบบเป็นทางการ แต่ล่าสุด Tiny Corp สตาร์ทอัพสาย AI ได้สร้างความฮือฮา ด้วยการพัฒนาไดรเวอร์ที่ทำให้ MacBook ARM สามารถใช้งาน Nvidia GPU ได้ผ่าน USB4 หรือ Thunderbolt 4 โดยใช้ eGPU docking station! ก่อนหน้านี้ Tiny Corp เคยทำให้ AMD GPU ทำงานบน MacBook ARM ผ่าน USB3 ได้สำเร็จมาแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งแรกในโลก และครั้งนี้พวกเขาได้ต่อยอดไปยัง Nvidia โดยรองรับการ์ด RTX รุ่น 30, 40 และ 50 series ส่วน RTX 20 series อาจใช้ได้ แต่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม ส่วน GTX series ไม่รองรับ เพราะไม่มี GPU system processor การใช้งาน Nvidia GPU บน MacBook นี้ไม่ได้เพื่อการแสดงผลกราฟิก แต่เน้นสำหรับงาน AI โดยเฉพาะ เช่น การรันโมเดล LLM หรืองาน inference ที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง ซึ่งการ์ดจอของ Apple ยังไม่สามารถเทียบได้ในด้านนี้ Tiny Corp ได้โชว์ตัวอย่างการใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม X โดยใช้ MacBook Pro M3 Max เชื่อมต่อกับ RTX GPU ผ่าน dock รุ่น ADT-UT3G และรัน Tinygrad ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับนักพัฒนา AI ที่ใช้ macOS ✅ ความสำเร็จของ Tiny Corp ➡️ พัฒนาไดรเวอร์ให้ MacBook ARM ใช้งาน Nvidia GPU ผ่าน USB4/Thunderbolt 4 ➡️ รองรับ RTX 30, 40, 50 series สำหรับงาน AI ➡️ RTX 20 series อาจใช้ได้ แต่ต้องปรับแต่งเอง ➡️ GTX series ไม่รองรับ เพราะไม่มี GPU system processor ➡️ ใช้ dock รุ่น ADT-UT3G เชื่อมต่อผ่าน USB4 ➡️ รัน Tinygrad บน MacBook Pro M3 Max ได้สำเร็จ ➡️ ไม่รองรับการแสดงผลกราฟิก แต่เน้นงาน AI เช่น LLM และ inference ✅ ความเป็นมาของเทคโนโลยี ➡️ ก่อนหน้านี้เคยทำให้ AMD GPU ทำงานบน MacBook ARM ผ่าน USB3 ➡️ USB4/Thunderbolt 4 รองรับ PCIe โดยตรง ทำให้เชื่อมต่อ eGPU ได้ง่ายขึ้น ➡️ Apple ไม่เคยรองรับ Nvidia GPU บน macOS ARM อย่างเป็นทางการ ➡️ นักพัฒนาต้องสร้างไดรเวอร์เองเพื่อใช้งาน eGPU บน MacBook ‼️ ข้อควรระวังและคำเตือน ⛔ ใช้งานได้เฉพาะสำหรับงาน AI ไม่รองรับการแสดงผลหน้าจอ ⛔ ต้องใช้การ์ดที่มี GPU system processor เท่านั้น ⛔ RTX 20 series ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม ไม่ใช่ plug-and-play ⛔ GTX series ไม่สามารถใช้งานได้เลย ⛔ การติดตั้งไดรเวอร์ต้องใช้ความเข้าใจเชิงเทคนิคพอสมควร https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/tiny-corp-successfully-runs-an-nvidia-gpu-on-arm-macbook-through-usb4-using-an-external-gpu-docking-station
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จีนอ้างสหรัฐฯ พยายามโจมตีศูนย์เวลาของประเทศ — ใช้ 42 อาวุธไซเบอร์เพื่อสร้าง ‘ความโกลาหลด้านเวลา’”

    กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีน (MSS) ออกแถลงการณ์ผ่าน WeChat ระบุว่าได้ขัดขวางการโจมตีไซเบอร์จากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (NSA) ที่พุ่งเป้าไปยังศูนย์บริการเวลามาตรฐานแห่งชาติ (NTSC) ของจีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมเวลามาตรฐานของกรุงปักกิ่งและระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องใช้เวลาแม่นยำ เช่น การสื่อสาร, การเงิน, พลังงาน, การขนส่ง และการป้องกันประเทศ

    MSS อ้างว่าการโจมตีเริ่มตั้งแต่ปี 2022 และใช้ “อาวุธไซเบอร์” ถึง 42 รายการ รวมถึง:

    การใช้ช่องโหว่ SMS เพื่อควบคุมสมาร์ตโฟนของเจ้าหน้าที่ NTSC
    การขโมยข้อมูลล็อกอินเพื่อเข้าถึงระบบภายใน
    การติดตั้งแพลตฟอร์มสงครามไซเบอร์ใหม่ในเครื่องของ NTSC
    การโจมตีเครือข่ายและระบบเวลาความแม่นยำสูง

    นอกจากนี้ MSS ยังกล่าวว่า NSA ใช้ VPN และประเทศพันธมิตร เช่น ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน และบางประเทศในยุโรป เป็น “ฐานส่งต่อการโจมตี” โดยเลือกช่วงเวลากลางคืนถึงเช้ามืดตามเวลาปักกิ่งในการดำเนินการ

    แม้ MSS จะระบุว่ามี “หลักฐานที่หักล้างไม่ได้” แต่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเชิงเทคนิคหรือหลักฐานต่อสาธารณะ ณ เวลานี้

    MSS ของจีนกล่าวว่า NSA พยายามโจมตีศูนย์เวลามาตรฐานของจีน (NTSC)
    เพื่อสร้างความโกลาหลในระบบที่ใช้เวลาความแม่นยำสูง

    การโจมตีเริ่มตั้งแต่ปี 2022 และใช้เครื่องมือไซเบอร์ 42 รายการ
    รวมถึงการแฮกมือถือ, ขโมยล็อกอิน, ติดตั้งแพลตฟอร์มใหม่

    MSS อ้างว่า NSA ใช้ VPN และประเทศพันธมิตรเป็นฐานโจมตี
    เช่น ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, และบางประเทศในยุโรป

    การโจมตีเกิดขึ้นช่วงกลางคืนถึงเช้ามืดตามเวลาปักกิ่ง
    เพื่อลดโอกาสถูกตรวจจับ

    MSS ระบุว่าการโจมตีอาจทำให้เกิดผลกระทบรุนแรง เช่น
    การขนส่งหยุดชะงัก, การยิงจรวดล้มเหลว, ความเสียหายทางเศรษฐกิจ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/china-says-it-has-foiled-a-series-u-s-cyberattacks-on-its-critical-infrastructure-ministry-of-state-security-says-it-has-irrefutable-evidence-nsa-tried-to-cause-international-time-chaos
    🕒 “จีนอ้างสหรัฐฯ พยายามโจมตีศูนย์เวลาของประเทศ — ใช้ 42 อาวุธไซเบอร์เพื่อสร้าง ‘ความโกลาหลด้านเวลา’” กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีน (MSS) ออกแถลงการณ์ผ่าน WeChat ระบุว่าได้ขัดขวางการโจมตีไซเบอร์จากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (NSA) ที่พุ่งเป้าไปยังศูนย์บริการเวลามาตรฐานแห่งชาติ (NTSC) ของจีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมเวลามาตรฐานของกรุงปักกิ่งและระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องใช้เวลาแม่นยำ เช่น การสื่อสาร, การเงิน, พลังงาน, การขนส่ง และการป้องกันประเทศ MSS อ้างว่าการโจมตีเริ่มตั้งแต่ปี 2022 และใช้ “อาวุธไซเบอร์” ถึง 42 รายการ รวมถึง: 🪲 การใช้ช่องโหว่ SMS เพื่อควบคุมสมาร์ตโฟนของเจ้าหน้าที่ NTSC 🪲 การขโมยข้อมูลล็อกอินเพื่อเข้าถึงระบบภายใน 🪲 การติดตั้งแพลตฟอร์มสงครามไซเบอร์ใหม่ในเครื่องของ NTSC 🪲 การโจมตีเครือข่ายและระบบเวลาความแม่นยำสูง นอกจากนี้ MSS ยังกล่าวว่า NSA ใช้ VPN และประเทศพันธมิตร เช่น ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน และบางประเทศในยุโรป เป็น “ฐานส่งต่อการโจมตี” โดยเลือกช่วงเวลากลางคืนถึงเช้ามืดตามเวลาปักกิ่งในการดำเนินการ แม้ MSS จะระบุว่ามี “หลักฐานที่หักล้างไม่ได้” แต่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเชิงเทคนิคหรือหลักฐานต่อสาธารณะ ณ เวลานี้ ✅ MSS ของจีนกล่าวว่า NSA พยายามโจมตีศูนย์เวลามาตรฐานของจีน (NTSC) ➡️ เพื่อสร้างความโกลาหลในระบบที่ใช้เวลาความแม่นยำสูง ✅ การโจมตีเริ่มตั้งแต่ปี 2022 และใช้เครื่องมือไซเบอร์ 42 รายการ ➡️ รวมถึงการแฮกมือถือ, ขโมยล็อกอิน, ติดตั้งแพลตฟอร์มใหม่ ✅ MSS อ้างว่า NSA ใช้ VPN และประเทศพันธมิตรเป็นฐานโจมตี ➡️ เช่น ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, และบางประเทศในยุโรป ✅ การโจมตีเกิดขึ้นช่วงกลางคืนถึงเช้ามืดตามเวลาปักกิ่ง ➡️ เพื่อลดโอกาสถูกตรวจจับ ✅ MSS ระบุว่าการโจมตีอาจทำให้เกิดผลกระทบรุนแรง เช่น ➡️ การขนส่งหยุดชะงัก, การยิงจรวดล้มเหลว, ความเสียหายทางเศรษฐกิจ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/china-says-it-has-foiled-a-series-u-s-cyberattacks-on-its-critical-infrastructure-ministry-of-state-security-says-it-has-irrefutable-evidence-nsa-tried-to-cause-international-time-chaos
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    China says it has foiled a series U.S. cyberattacks on its critical infrastructure — Ministry of State Security says it has 'irrefutable evidence' NSA tried to cause 'international time chaos'
    The accusation comes after the US NSA was reportedly caught infiltrating the organization that runs high-precision timing services in Beijing.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ผู้ใช้ Reddit เจอ GTX 2080 Ti รุ่นต้นแบบใน PC มือสองราคา $500 — มี 12GB VRAM และแบนด์วิดธ์สูงกว่ารุ่นขายจริง” — เมื่อการซื้อของมือสองกลายเป็นการค้นพบฮาร์ดแวร์ลับของ Nvidia

    เล่าเรื่องให้ฟัง: ผู้ใช้ Reddit ชื่อ u/RunRepulsive9867 โพสต์ภาพและข้อมูลของ GPU ที่เขาได้มาจากการซื้อ PC มือสองผ่าน Facebook Marketplace ในราคาเพียง $500 ซึ่งภายในเครื่องมีการ์ดจอรุ่นต้นแบบของ Nvidia ที่ดูคล้ายกับ RTX 2080 Ti Founders Edition แต่มีรายละเอียดที่แตกต่างอย่างชัดเจน

    แม้ตัวการ์ดจะติดป้ายว่า “GeForce GTX” แทน “RTX” แต่เมื่อตรวจสอบด้วย GPU-Z พบว่าเป็น RTX 2080 Ti จริง ๆ — พร้อมสเปกที่เหนือกว่ารุ่นขายปลีก:

    VRAM ขนาด 12GB GDDR6 (รุ่นขายจริงมี 11GB)
    Memory bus กว้างขึ้นเป็น 384-bit
    Bandwidth สูงถึง 672 GB/s
    จำนวน ROPs และ TMUs มากขึ้น
    ไม่มีการระบุว่ามี RT cores สำหรับ ray tracing

    การ์ดนี้น่าจะเป็น “engineering sample” ที่ Nvidia ใช้ทดสอบภายในก่อนเปิดตัว RTX 2080 Ti อย่างเป็นทางการ โดยอาจเป็นต้นแบบของ Titan หรือรุ่น workstation ที่ไม่เคยวางขาย

    ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้ Reddit อีกคนชื่อ u/Substantial-Mark-959 เคยได้การ์ดรุ่นเดียวกันแต่เสีย และสามารถซ่อมได้ด้วย BIOS ของ Founders Edition และไดรเวอร์ที่ปรับแต่ง

    การ์ดต้นแบบแบบนี้มักถูกเก็บเป็นความลับภายใต้ NDA และไม่ควรหลุดออกสู่ตลาดทั่วไป ทำให้การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นเรื่องหายากและน่าสนใจสำหรับนักสะสมและผู้หลงใหลในฮาร์ดแวร์

    ผู้ใช้ Reddit พบ GPU รุ่นต้นแบบใน PC มือสองราคา $500
    เป็นการ์ดที่คล้าย RTX 2080 Ti แต่ติดป้าย “GTX”

    ตรวจสอบด้วย GPU-Z พบว่าเป็น RTX 2080 Ti จริง
    พร้อม VRAM 12GB และ memory bus 384-bit

    Bandwidth สูงถึง 672 GB/s และมี ROPs/TMUs มากกว่ารุ่นขายจริง
    แต่ไม่มีข้อมูลเรื่อง RT cores

    การ์ดน่าจะเป็น engineering sample สำหรับการทดสอบภายใน
    อาจเป็นต้นแบบของ Titan หรือ workstation

    เคยมีผู้ใช้ Reddit อีกคนได้การ์ดรุ่นเดียวกันแต่เสีย
    ซ่อมได้ด้วย BIOS และไดรเวอร์ที่ปรับแต่ง


    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/lucky-facebook-marketplace-shopper-finds-souped-up-prototype-gtx-2080-ti-inside-a-usd500-pc-mythical-nvidia-project-features-12gb-of-vram-and-higher-memory-bandwidth
    🎮 “ผู้ใช้ Reddit เจอ GTX 2080 Ti รุ่นต้นแบบใน PC มือสองราคา $500 — มี 12GB VRAM และแบนด์วิดธ์สูงกว่ารุ่นขายจริง” — เมื่อการซื้อของมือสองกลายเป็นการค้นพบฮาร์ดแวร์ลับของ Nvidia เล่าเรื่องให้ฟัง: ผู้ใช้ Reddit ชื่อ u/RunRepulsive9867 โพสต์ภาพและข้อมูลของ GPU ที่เขาได้มาจากการซื้อ PC มือสองผ่าน Facebook Marketplace ในราคาเพียง $500 ซึ่งภายในเครื่องมีการ์ดจอรุ่นต้นแบบของ Nvidia ที่ดูคล้ายกับ RTX 2080 Ti Founders Edition แต่มีรายละเอียดที่แตกต่างอย่างชัดเจน แม้ตัวการ์ดจะติดป้ายว่า “GeForce GTX” แทน “RTX” แต่เมื่อตรวจสอบด้วย GPU-Z พบว่าเป็น RTX 2080 Ti จริง ๆ — พร้อมสเปกที่เหนือกว่ารุ่นขายปลีก: 🎗️ VRAM ขนาด 12GB GDDR6 (รุ่นขายจริงมี 11GB) 🎗️ Memory bus กว้างขึ้นเป็น 384-bit 🎗️ Bandwidth สูงถึง 672 GB/s 🎗️ จำนวน ROPs และ TMUs มากขึ้น 🎗️ ไม่มีการระบุว่ามี RT cores สำหรับ ray tracing การ์ดนี้น่าจะเป็น “engineering sample” ที่ Nvidia ใช้ทดสอบภายในก่อนเปิดตัว RTX 2080 Ti อย่างเป็นทางการ โดยอาจเป็นต้นแบบของ Titan หรือรุ่น workstation ที่ไม่เคยวางขาย ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้ Reddit อีกคนชื่อ u/Substantial-Mark-959 เคยได้การ์ดรุ่นเดียวกันแต่เสีย และสามารถซ่อมได้ด้วย BIOS ของ Founders Edition และไดรเวอร์ที่ปรับแต่ง การ์ดต้นแบบแบบนี้มักถูกเก็บเป็นความลับภายใต้ NDA และไม่ควรหลุดออกสู่ตลาดทั่วไป ทำให้การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นเรื่องหายากและน่าสนใจสำหรับนักสะสมและผู้หลงใหลในฮาร์ดแวร์ ✅ ผู้ใช้ Reddit พบ GPU รุ่นต้นแบบใน PC มือสองราคา $500 ➡️ เป็นการ์ดที่คล้าย RTX 2080 Ti แต่ติดป้าย “GTX” ✅ ตรวจสอบด้วย GPU-Z พบว่าเป็น RTX 2080 Ti จริง ➡️ พร้อม VRAM 12GB และ memory bus 384-bit ✅ Bandwidth สูงถึง 672 GB/s และมี ROPs/TMUs มากกว่ารุ่นขายจริง ➡️ แต่ไม่มีข้อมูลเรื่อง RT cores ✅ การ์ดน่าจะเป็น engineering sample สำหรับการทดสอบภายใน ➡️ อาจเป็นต้นแบบของ Titan หรือ workstation ✅ เคยมีผู้ใช้ Reddit อีกคนได้การ์ดรุ่นเดียวกันแต่เสีย ➡️ ซ่อมได้ด้วย BIOS และไดรเวอร์ที่ปรับแต่ง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/lucky-facebook-marketplace-shopper-finds-souped-up-prototype-gtx-2080-ti-inside-a-usd500-pc-mythical-nvidia-project-features-12gb-of-vram-and-higher-memory-bandwidth
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายกลายเป็นจุดอ่อน — ช่องโหว่ยุค 90 ยังหลอกหลอนองค์กรในปี 2025” — เมื่อไฟร์วอลล์และ VPN ที่ควรป้องกัน กลับกลายเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์เจาะระบบ

    บทความจาก CSO Online โดย Lucian Constantin เปิดเผยว่าอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่าย เช่น ไฟร์วอลล์, VPN, และเกตเวย์อีเมล กำลังกลายเป็นจุดอ่อนหลักขององค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะจากช่องโหว่พื้นฐานอย่าง buffer overflow, command injection และ SQL injection ที่ควรหมดไปตั้งแต่ยุค 1990

    Google Threat Intelligence Group รายงานว่าในปี 2024 มีช่องโหว่ zero-day ถูกใช้โจมตีถึง 75 รายการ โดยหนึ่งในสามเป็นการเจาะอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Citrix, Ivanti, Fortinet, Palo Alto, Cisco, SonicWall และ Juniper ซึ่งมักถูกละเลยจากการตรวจสอบ endpoint และ logging

    เหตุผลที่ช่องโหว่เหล่านี้ยังคงอยู่:
    โค้ดเก่าที่สืบทอดจากการซื้อกิจการ
    ทีมพัฒนาเดิมลาออกไปหมดแล้ว
    ความกลัวว่าการแก้ไขจะทำให้ระบบพัง
    ขาดแรงจูงใจทางการเงินในการปรับปรุง

    นักวิจัยชี้ว่าแม้ช่องโหว่บางอย่างจะซับซ้อน แต่หลายจุดกลับ “ง่ายจนไม่น่าให้อภัย” และควรถูกตรวจพบด้วยเครื่องมือวิเคราะห์โค้ดอัตโนมัติหรือการรีวิวโค้ดทั่วไป

    การโจมตีอุปกรณ์เครือข่ายเพิ่มขึ้นหลังยุค COVID-19 ที่องค์กรเร่งติดตั้ง VPN และเกตเวย์เพื่อรองรับการทำงานจากบ้าน ขณะเดียวกัน phishing ก็เริ่มได้ผลน้อยลง ทำให้แฮกเกอร์หันมาใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์แทน

    ช่องโหว่ zero-day ในอุปกรณ์เครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    1 ใน 3 ของช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตีในปี 2024 มาจากอุปกรณ์เครือข่าย

    ช่องโหว่ที่พบยังเป็นประเภทพื้นฐาน เช่น buffer overflow และ command injection
    เป็นช่องโหว่ที่ควรหมดไปตั้งแต่ยุค 1990

    อุปกรณ์เครือข่ายมักไม่ถูกตรวจสอบโดย endpoint protection หรือ logging
    ทำให้แฮกเกอร์ใช้เป็นช่องทางเจาะระบบ

    การโจมตีเพิ่มขึ้นหลังองค์กรติดตั้ง VPN และเกตเวย์ช่วง COVID-19
    เพื่อรองรับการทำงานจากบ้าน

    Phishing มีประสิทธิภาพลดลง ทำให้แฮกเกอร์หันมาใช้ช่องโหว่แทน
    เพราะ phishing ต้องลงทุนสูงและถูกป้องกันมากขึ้น

    นักวิจัยชี้ว่าหลายช่องโหว่ควรถูกตรวจพบด้วยเครื่องมืออัตโนมัติ
    เช่น static code analysis และ code review

    ผู้ผลิตบางรายเริ่มปรับปรุง เช่น Palo Alto ใช้ SELinux และ IMA
    เพื่อเสริมความปลอดภัยระดับ platform

    CISA ส่งเสริมแนวทาง Secure by Design และแบบฟอร์ม attestation
    เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตรับผิดชอบมากขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/4074945/network-security-devices-endanger-orgs-with-90s-era-flaws.html
    🛡️ “อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายกลายเป็นจุดอ่อน — ช่องโหว่ยุค 90 ยังหลอกหลอนองค์กรในปี 2025” — เมื่อไฟร์วอลล์และ VPN ที่ควรป้องกัน กลับกลายเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์เจาะระบบ บทความจาก CSO Online โดย Lucian Constantin เปิดเผยว่าอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเครือข่าย เช่น ไฟร์วอลล์, VPN, และเกตเวย์อีเมล กำลังกลายเป็นจุดอ่อนหลักขององค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะจากช่องโหว่พื้นฐานอย่าง buffer overflow, command injection และ SQL injection ที่ควรหมดไปตั้งแต่ยุค 1990 Google Threat Intelligence Group รายงานว่าในปี 2024 มีช่องโหว่ zero-day ถูกใช้โจมตีถึง 75 รายการ โดยหนึ่งในสามเป็นการเจาะอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Citrix, Ivanti, Fortinet, Palo Alto, Cisco, SonicWall และ Juniper ซึ่งมักถูกละเลยจากการตรวจสอบ endpoint และ logging เหตุผลที่ช่องโหว่เหล่านี้ยังคงอยู่: 🪲 โค้ดเก่าที่สืบทอดจากการซื้อกิจการ 🪲 ทีมพัฒนาเดิมลาออกไปหมดแล้ว 🪲 ความกลัวว่าการแก้ไขจะทำให้ระบบพัง 🪲 ขาดแรงจูงใจทางการเงินในการปรับปรุง นักวิจัยชี้ว่าแม้ช่องโหว่บางอย่างจะซับซ้อน แต่หลายจุดกลับ “ง่ายจนไม่น่าให้อภัย” และควรถูกตรวจพบด้วยเครื่องมือวิเคราะห์โค้ดอัตโนมัติหรือการรีวิวโค้ดทั่วไป การโจมตีอุปกรณ์เครือข่ายเพิ่มขึ้นหลังยุค COVID-19 ที่องค์กรเร่งติดตั้ง VPN และเกตเวย์เพื่อรองรับการทำงานจากบ้าน ขณะเดียวกัน phishing ก็เริ่มได้ผลน้อยลง ทำให้แฮกเกอร์หันมาใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์แทน ✅ ช่องโหว่ zero-day ในอุปกรณ์เครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ➡️ 1 ใน 3 ของช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตีในปี 2024 มาจากอุปกรณ์เครือข่าย ✅ ช่องโหว่ที่พบยังเป็นประเภทพื้นฐาน เช่น buffer overflow และ command injection ➡️ เป็นช่องโหว่ที่ควรหมดไปตั้งแต่ยุค 1990 ✅ อุปกรณ์เครือข่ายมักไม่ถูกตรวจสอบโดย endpoint protection หรือ logging ➡️ ทำให้แฮกเกอร์ใช้เป็นช่องทางเจาะระบบ ✅ การโจมตีเพิ่มขึ้นหลังองค์กรติดตั้ง VPN และเกตเวย์ช่วง COVID-19 ➡️ เพื่อรองรับการทำงานจากบ้าน ✅ Phishing มีประสิทธิภาพลดลง ทำให้แฮกเกอร์หันมาใช้ช่องโหว่แทน ➡️ เพราะ phishing ต้องลงทุนสูงและถูกป้องกันมากขึ้น ✅ นักวิจัยชี้ว่าหลายช่องโหว่ควรถูกตรวจพบด้วยเครื่องมืออัตโนมัติ ➡️ เช่น static code analysis และ code review ✅ ผู้ผลิตบางรายเริ่มปรับปรุง เช่น Palo Alto ใช้ SELinux และ IMA ➡️ เพื่อเสริมความปลอดภัยระดับ platform ✅ CISA ส่งเสริมแนวทาง Secure by Design และแบบฟอร์ม attestation ➡️ เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตรับผิดชอบมากขึ้น https://www.csoonline.com/article/4074945/network-security-devices-endanger-orgs-with-90s-era-flaws.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Network security devices endanger orgs with ’90s era flaws
    Built to defend enterprise networks, network edge security devices are becoming liabilities, with an alarming rise in zero-day exploits of what experts describe as basic vulnerabilities. Can the security device industry correct course?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Energy Vampires: 5 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่แอบกินไฟแม้ไม่ได้ใช้งาน — ทำบิลพุ่งไม่รู้ตัว” — เมื่อทีวี, เครื่องเกม, และเครื่องครัวกลายเป็นตัวดูดพลังงานเงียบ ๆ ในบ้านคุณ

    บทความจาก SlashGear โดย Daniel Feininger เปิดเผยว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดยังคงใช้พลังงานแม้จะถูกปิดแล้ว — ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Energy Vampire” หรือ “ผีดูดไฟ” ซึ่งสามารถเพิ่มค่าไฟบ้านได้ถึง 10% ต่อปี หรือประมาณ $100 โดยเฉลี่ย

    แม้บางคนจะมีแผงโซลาร์หรือขายไฟกลับให้บริษัทไฟฟ้าได้ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาการใช้ไฟฟ้าแบบแอบแฝงนี้ได้ หากไม่จัดการกับอุปกรณ์ที่กินไฟในโหมด standby หรือ sleep

    บทความแนะนำให้ “ถอดปลั๊ก” หรือใช้ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์ปิด เพื่อหยุดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะกับ 5 อุปกรณ์หลักที่เป็นตัวดูดไฟเงียบ ๆ ได้แก่:

    ทีวี โดยเฉพาะ Smart TV
    ใช้พลังงานแม้ในโหมด standby สูงถึง 20% ของการใช้งานทั้งหมด
    ใน UK อาจเพิ่มค่าไฟปีละ £4.94–£14.54 ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น
    แนะนำให้ใช้ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์ปิดแทนการถอดปลั๊ก

    เครื่องเกมคอนโซล เช่น Xbox และ PlayStation
    Xbox Series S ใช้ไฟใน rest mode สูงถึง £22.60 ต่อปี
    แม้ปิดเครื่องแล้วก็ยังใช้ไฟ 0.2W หากไม่ถอดปลั๊ก
    ควรใช้ dongle สตรีมมิ่งแทนคอนโซลเพื่อดู Netflix — ประหยัดไฟกว่า 35 เท่า

    เครื่องพิมพ์ (Printer)
    ปล่อยให้ standby อาจเพิ่มค่าไฟปีละ £3.81
    Laser printer ใช้ไฟมากกว่า inkjet โดยเฉพาะในโหมด standby
    ถ้าไม่ใช้งานบ่อย ควรถอดปลั๊กระหว่างวัน

    กล่องรับสัญญาณ, DVD/Blu-ray player
    กล่องเคเบิลอาจใช้ไฟถึง $50 ต่อปีหากเสียบปลั๊กไว้ตลอด
    อุปกรณ์เหล่านี้มักถูกละเลยเพราะอยู่ใต้ทีวี
    ควรถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน หรือใช้ปลั๊กพ่วงแบบมีสวิตช์

    เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เช่น ไมโครเวฟ, เครื่องชงกาแฟ, กาต้มน้ำไฟฟ้า
    แม้จะดูเล็ก แต่รวมกันแล้วอาจเพิ่มค่าไฟ $10–$20 ต่อปี
    อุปกรณ์ที่มีหน้าจอแสดงผล เช่น นาฬิกาบนไมโครเวฟ จะใช้ไฟตลอดเวลา
    ถ้าไม่ได้ใช้งานบ่อย ควรถอดปลั๊กหรือใช้ปลั๊กพ่วงแบบควบคุม

    https://www.slashgear.com/1999279/energy-vampire-appliances-running-up-electric-bills/
    🔌 “Energy Vampires: 5 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่แอบกินไฟแม้ไม่ได้ใช้งาน — ทำบิลพุ่งไม่รู้ตัว” — เมื่อทีวี, เครื่องเกม, และเครื่องครัวกลายเป็นตัวดูดพลังงานเงียบ ๆ ในบ้านคุณ บทความจาก SlashGear โดย Daniel Feininger เปิดเผยว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดยังคงใช้พลังงานแม้จะถูกปิดแล้ว — ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Energy Vampire” หรือ “ผีดูดไฟ” ซึ่งสามารถเพิ่มค่าไฟบ้านได้ถึง 10% ต่อปี หรือประมาณ $100 โดยเฉลี่ย แม้บางคนจะมีแผงโซลาร์หรือขายไฟกลับให้บริษัทไฟฟ้าได้ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาการใช้ไฟฟ้าแบบแอบแฝงนี้ได้ หากไม่จัดการกับอุปกรณ์ที่กินไฟในโหมด standby หรือ sleep บทความแนะนำให้ “ถอดปลั๊ก” หรือใช้ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์ปิด เพื่อหยุดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะกับ 5 อุปกรณ์หลักที่เป็นตัวดูดไฟเงียบ ๆ ได้แก่: ✅ ทีวี โดยเฉพาะ Smart TV ➡️ ใช้พลังงานแม้ในโหมด standby สูงถึง 20% ของการใช้งานทั้งหมด ➡️ ใน UK อาจเพิ่มค่าไฟปีละ £4.94–£14.54 ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น ➡️ แนะนำให้ใช้ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์ปิดแทนการถอดปลั๊ก ✅ เครื่องเกมคอนโซล เช่น Xbox และ PlayStation ➡️ Xbox Series S ใช้ไฟใน rest mode สูงถึง £22.60 ต่อปี ➡️ แม้ปิดเครื่องแล้วก็ยังใช้ไฟ 0.2W หากไม่ถอดปลั๊ก ➡️ ควรใช้ dongle สตรีมมิ่งแทนคอนโซลเพื่อดู Netflix — ประหยัดไฟกว่า 35 เท่า ✅ เครื่องพิมพ์ (Printer) ➡️ ปล่อยให้ standby อาจเพิ่มค่าไฟปีละ £3.81 ➡️ Laser printer ใช้ไฟมากกว่า inkjet โดยเฉพาะในโหมด standby ➡️ ถ้าไม่ใช้งานบ่อย ควรถอดปลั๊กระหว่างวัน ✅ กล่องรับสัญญาณ, DVD/Blu-ray player ➡️ กล่องเคเบิลอาจใช้ไฟถึง $50 ต่อปีหากเสียบปลั๊กไว้ตลอด ➡️ อุปกรณ์เหล่านี้มักถูกละเลยเพราะอยู่ใต้ทีวี ➡️ ควรถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน หรือใช้ปลั๊กพ่วงแบบมีสวิตช์ ✅ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เช่น ไมโครเวฟ, เครื่องชงกาแฟ, กาต้มน้ำไฟฟ้า ➡️ แม้จะดูเล็ก แต่รวมกันแล้วอาจเพิ่มค่าไฟ $10–$20 ต่อปี ➡️ อุปกรณ์ที่มีหน้าจอแสดงผล เช่น นาฬิกาบนไมโครเวฟ จะใช้ไฟตลอดเวลา ➡️ ถ้าไม่ได้ใช้งานบ่อย ควรถอดปลั๊กหรือใช้ปลั๊กพ่วงแบบควบคุม https://www.slashgear.com/1999279/energy-vampire-appliances-running-up-electric-bills/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Energy Vampires: 5 Appliances That Are Running Up Your Electric Bills - SlashGear
    Rising electricity prices make waste-cutting an inviting proposition. However, every home appliance is different, and not all are energy-hungry vampires.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดมอเตอร์เวย์ M82 มหาชัย-ชลบุรี น้ำมันเต็มถังเลยพี่

    ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 22 ต.ค. 2568 ก่อนวันหยุดเนื่องในวันปิยมหาราช กระทรวงคมนาคมเตรียมเปิดทดลองให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 8.3 กิโลเมตร โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง ไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์-บางขุนเทียน) เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรบนถนนพระรามที่ 2

    โดยรถที่มาจากภาคใต้ จังหวัดสมุทรสาคร สามารถใช้ด่านมหาชัย 1 บริเวณหน้าวัดราษฎร์รังสรรค์ ฝั่งถนนพระรามที่ 2 ผ่านทางลงพันท้ายนรสิงห์ รถจะบังคับให้เข้าไปยังทางพิเศษกาญจนาภิเษก ไปพระประแดง บางนา ใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไร้ไม้กั้น (Single Lane Free Flow หรือ SLFF) โดยไม่ต้องรับบัตร IC CARD (Integrated Circuit Card) อีกต่อไป

    เมื่อถึงด่านบางแก้ว ถ้าต้องการไปทางพิเศษบูรพาวิถี มุ่งหน้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชลบุรี สามารถใช้ด่านบางแก้ว 3 ที่เปิดให้ผ่านตลอด แล้วไปชำระเงินที่ด่านปลายทาง หรือหากต้องการตรงไปยังรามอินทรา บางปะอิน สามารถใช้ด่านบางแก้ว 2 เพื่อชำระเงินตามปกติ แล้วใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข 9 (บางปะอิน-บางพลี) ไปออกถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าสู่ภาคอีสานต่อไป

    ส่วนรถที่มาจากด่านบางแก้ว ผ่านสะพานกาญจนาภิเษก ก่อนถึงทางออกด่านบางขุนเทียน 1 จะมีป้ายสีฟ้าระบุว่า "สมุทรสาคร" และ "สมุทรสงคราม" ให้ออกทางซ้ายมือ แล้วชำระเงินค่าผ่านทางที่ด่านบางขุนเทียน 2 ก่อนใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข 82 ไปลงที่ด่านมหาชัย 1 บริเวณตลาดสดลีลา มุ่งหน้าจังหวัดสมุทรสาครและภาคใต้ต่อไป

    อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเส้นทางจากด่านมหาชัย 1 ถึงด่านชลบุรี มีระยะทางกว่า 90 กิโลเมตร ไม่มีสถานีบริการน้ำมันตลอดเส้นทาง เพราะฉะนั้นแนะนำให้เติมน้ำมันเต็มถังหรือให้เพียงพอ เช่นเดียวกับจากด่านมหาชัยไปบางปะอิน ระยะทางกว่า 110 กิโลเมตร มีสถานีบริการน้ำมัน 3 แห่ง บริเวณสถานีขนส่งสินค้าคลองหลวง ห่างจากด่านมหาชัย 1 เกือบ 100 กิโลเมตร

    รถที่มาจากถนนพระรามที่ 2 จากทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว ถึงทางแยกต่างระดับมหาชัย มีสถานีบริการน้ำมันบางจาก และ PTT Station (ท่าจีน) และจากทางแยกต่างระดับมหาชัย ถึงด่านมหาชัย 1 มีสถานีบริการน้ำมันพีที 2 แห่ง และ PTT Station (จิฟฟี่)

    หากเกิดเหตุฉุกเฉินบนมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ตำรวจทางหลวง โทร. 1193 ซึ่งจะมีสถานีตำรวจทางหลวงนครปฐมรับผิดชอบช่วงดังกล่าว ส่วนทางพิเศษกาญจนาภิเษก และทางพิเศษบูรพาวิถี ของการท่างพิเศษแห่งประเทศไทย สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ EXAT Call Center โทร. 1543 โดยไม่ต้องลงจากรถ

    #Newskit
    เปิดมอเตอร์เวย์ M82 มหาชัย-ชลบุรี น้ำมันเต็มถังเลยพี่ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 22 ต.ค. 2568 ก่อนวันหยุดเนื่องในวันปิยมหาราช กระทรวงคมนาคมเตรียมเปิดทดลองให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 8.3 กิโลเมตร โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง ไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์-บางขุนเทียน) เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรบนถนนพระรามที่ 2 โดยรถที่มาจากภาคใต้ จังหวัดสมุทรสาคร สามารถใช้ด่านมหาชัย 1 บริเวณหน้าวัดราษฎร์รังสรรค์ ฝั่งถนนพระรามที่ 2 ผ่านทางลงพันท้ายนรสิงห์ รถจะบังคับให้เข้าไปยังทางพิเศษกาญจนาภิเษก ไปพระประแดง บางนา ใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไร้ไม้กั้น (Single Lane Free Flow หรือ SLFF) โดยไม่ต้องรับบัตร IC CARD (Integrated Circuit Card) อีกต่อไป เมื่อถึงด่านบางแก้ว ถ้าต้องการไปทางพิเศษบูรพาวิถี มุ่งหน้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชลบุรี สามารถใช้ด่านบางแก้ว 3 ที่เปิดให้ผ่านตลอด แล้วไปชำระเงินที่ด่านปลายทาง หรือหากต้องการตรงไปยังรามอินทรา บางปะอิน สามารถใช้ด่านบางแก้ว 2 เพื่อชำระเงินตามปกติ แล้วใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข 9 (บางปะอิน-บางพลี) ไปออกถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าสู่ภาคอีสานต่อไป ส่วนรถที่มาจากด่านบางแก้ว ผ่านสะพานกาญจนาภิเษก ก่อนถึงทางออกด่านบางขุนเทียน 1 จะมีป้ายสีฟ้าระบุว่า "สมุทรสาคร" และ "สมุทรสงคราม" ให้ออกทางซ้ายมือ แล้วชำระเงินค่าผ่านทางที่ด่านบางขุนเทียน 2 ก่อนใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข 82 ไปลงที่ด่านมหาชัย 1 บริเวณตลาดสดลีลา มุ่งหน้าจังหวัดสมุทรสาครและภาคใต้ต่อไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเส้นทางจากด่านมหาชัย 1 ถึงด่านชลบุรี มีระยะทางกว่า 90 กิโลเมตร ไม่มีสถานีบริการน้ำมันตลอดเส้นทาง เพราะฉะนั้นแนะนำให้เติมน้ำมันเต็มถังหรือให้เพียงพอ เช่นเดียวกับจากด่านมหาชัยไปบางปะอิน ระยะทางกว่า 110 กิโลเมตร มีสถานีบริการน้ำมัน 3 แห่ง บริเวณสถานีขนส่งสินค้าคลองหลวง ห่างจากด่านมหาชัย 1 เกือบ 100 กิโลเมตร รถที่มาจากถนนพระรามที่ 2 จากทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว ถึงทางแยกต่างระดับมหาชัย มีสถานีบริการน้ำมันบางจาก และ PTT Station (ท่าจีน) และจากทางแยกต่างระดับมหาชัย ถึงด่านมหาชัย 1 มีสถานีบริการน้ำมันพีที 2 แห่ง และ PTT Station (จิฟฟี่) หากเกิดเหตุฉุกเฉินบนมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ตำรวจทางหลวง โทร. 1193 ซึ่งจะมีสถานีตำรวจทางหลวงนครปฐมรับผิดชอบช่วงดังกล่าว ส่วนทางพิเศษกาญจนาภิเษก และทางพิเศษบูรพาวิถี ของการท่างพิเศษแห่งประเทศไทย สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ EXAT Call Center โทร. 1543 โดยไม่ต้องลงจากรถ #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Nvidia DGX Spark: เดสก์ท็อป AI ที่อาจเป็น ‘Apple Mac Moment’ ของ Nvidia”

    Nvidia เปิดตัว DGX Spark ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากนักรีวิวว่าเป็น “เครื่องมือ AI ระดับวิจัยที่อยู่บนโต๊ะทำงาน” ด้วยขนาดเล็กแต่ทรงพลัง DGX Spark ใช้ชิป Grace Blackwell GB200 ที่รวม CPU และ GPU พร้อมหน่วยความจำ unified ขนาด 128GB ทำให้สามารถรันโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์

    รีวิวจากหลายสำนักชี้ว่า DGX Spark มีประสิทธิภาพสูงในการรันโมเดล Llama 3.1 70B และ Gemma 3 27B โดยตรงจากหน่วยความจำภายใน พร้อมระบบระบายความร้อนที่เงียบและเสถียร แม้จะมีข้อจำกัดด้าน bandwidth จาก LPDDR5X แต่ก็ยังถือว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับนักพัฒนาและนักวิจัยที่ต้องการทดลอง AI แบบ local

    สเปกและความสามารถของ DGX Spark
    ใช้ชิป Grace Blackwell GB200 รวม CPU + GPU
    หน่วยความจำ unified 128GB รองรับโมเดลขนาดใหญ่
    รัน Llama 3.1 70B และ Gemma 3 27B ได้โดยตรงจาก RAM
    มี batching efficiency และ throughput consistency สูง

    จุดเด่นด้านการใช้งาน
    ขนาดเล็ก วางบนโต๊ะทำงานได้
    เสียงเงียบและระบบระบายความร้อนมีประสิทธิภาพ
    ใช้พลังงานน้อยกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปถึงครึ่งหนึ่ง
    รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Nvidia Sync จากเครื่องอื่น

    ความเห็นจากนักรีวิว
    LMSYS: “เครื่องวิจัยที่สวยงามและทรงพลัง”
    ServeTheHome: “จะทำให้การรันโมเดลขนาดใหญ่เป็นเรื่องของทุกคน”
    HotHardware: “เหมาะเป็นเครื่องเสริมสำหรับนักพัฒนา ไม่ใช่แทนที่ workstation”
    The Register: “เหมาะกับงานทดลอง ไม่ใช่สำหรับ productivity หรือ gaming”

    คำเตือนและข้อจำกัด
    Bandwidth ของ LPDDR5X ยังเป็นคอขวดเมื่อเทียบกับ GPU แยก
    Driver และซอฟต์แวร์บางส่วนยังไม่สมบูรณ์
    ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการเครื่องสำหรับงานทั่วไปหรือเล่นเกม
    หากต้องการประสิทธิภาพสูงสุด อาจต้องรอเวอร์ชันที่ใช้ GB200 ในเครื่อง Windows

    https://www.techradar.com/pro/so-freaking-cool-first-reviews-of-nvidia-dgx-spark-leave-absolutely-no-doubt-this-may-be-nvidias-apple-mac-moment
    🖥️ “Nvidia DGX Spark: เดสก์ท็อป AI ที่อาจเป็น ‘Apple Mac Moment’ ของ Nvidia” Nvidia เปิดตัว DGX Spark ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากนักรีวิวว่าเป็น “เครื่องมือ AI ระดับวิจัยที่อยู่บนโต๊ะทำงาน” ด้วยขนาดเล็กแต่ทรงพลัง DGX Spark ใช้ชิป Grace Blackwell GB200 ที่รวม CPU และ GPU พร้อมหน่วยความจำ unified ขนาด 128GB ทำให้สามารถรันโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ รีวิวจากหลายสำนักชี้ว่า DGX Spark มีประสิทธิภาพสูงในการรันโมเดล Llama 3.1 70B และ Gemma 3 27B โดยตรงจากหน่วยความจำภายใน พร้อมระบบระบายความร้อนที่เงียบและเสถียร แม้จะมีข้อจำกัดด้าน bandwidth จาก LPDDR5X แต่ก็ยังถือว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับนักพัฒนาและนักวิจัยที่ต้องการทดลอง AI แบบ local ✅ สเปกและความสามารถของ DGX Spark ➡️ ใช้ชิป Grace Blackwell GB200 รวม CPU + GPU ➡️ หน่วยความจำ unified 128GB รองรับโมเดลขนาดใหญ่ ➡️ รัน Llama 3.1 70B และ Gemma 3 27B ได้โดยตรงจาก RAM ➡️ มี batching efficiency และ throughput consistency สูง ✅ จุดเด่นด้านการใช้งาน ➡️ ขนาดเล็ก วางบนโต๊ะทำงานได้ ➡️ เสียงเงียบและระบบระบายความร้อนมีประสิทธิภาพ ➡️ ใช้พลังงานน้อยกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปถึงครึ่งหนึ่ง ➡️ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Nvidia Sync จากเครื่องอื่น ✅ ความเห็นจากนักรีวิว ➡️ LMSYS: “เครื่องวิจัยที่สวยงามและทรงพลัง” ➡️ ServeTheHome: “จะทำให้การรันโมเดลขนาดใหญ่เป็นเรื่องของทุกคน” ➡️ HotHardware: “เหมาะเป็นเครื่องเสริมสำหรับนักพัฒนา ไม่ใช่แทนที่ workstation” ➡️ The Register: “เหมาะกับงานทดลอง ไม่ใช่สำหรับ productivity หรือ gaming” ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ Bandwidth ของ LPDDR5X ยังเป็นคอขวดเมื่อเทียบกับ GPU แยก ⛔ Driver และซอฟต์แวร์บางส่วนยังไม่สมบูรณ์ ⛔ ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการเครื่องสำหรับงานทั่วไปหรือเล่นเกม ⛔ หากต้องการประสิทธิภาพสูงสุด อาจต้องรอเวอร์ชันที่ใช้ GB200 ในเครื่อง Windows https://www.techradar.com/pro/so-freaking-cool-first-reviews-of-nvidia-dgx-spark-leave-absolutely-no-doubt-this-may-be-nvidias-apple-mac-moment
    WWW.TECHRADAR.COM
    Reviews praise Nvidia DGX Spark as a compact local AI workstation
    Early hardware and software quirks do raise concerns, however
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “Intel Ultra 9 285HX: สุดยอดชิปมือถือที่มีแค่ 4 แบรนด์ใช้—และ 2 รุ่นลดราคาแรงเกินคาด”

    Intel เปิดตัวชิป Ultra 9 285HX ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์มือถือที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา และตอนนี้มีเพียง 4 แบรนด์เท่านั้นที่นำมาใช้ในแล็ปท็อประดับสูง ได้แก่ Dell, HP, MSI และ Lenovo โดยแต่ละรุ่นมาพร้อมสเปกสุดโหดที่เหมาะกับงานระดับมืออาชีพ เช่น การตัดต่อวิดีโอ 4K, การเรนเดอร์ 3D และการประมวลผล AI

    ที่น่าตกใจคือ มีถึง 2 รุ่นที่ลดราคาหนักมาก ทั้ง MSI Raider 18 HX AI และ HP ZBook Fury G1i ซึ่งลดราคาจากหลักหมื่นเหลือเพียงครึ่งเดียวในบางร้านค้า ทำให้เป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่ต้องการแล็ปท็อปประสิทธิภาพสูงในราคาคุ้มค่า

    Intel Ultra 9 285HX คืออะไร
    เป็นชิปมือถือที่เร็วที่สุดของ Intel ณ ปัจจุบัน
    ใช้ในแล็ปท็อประดับ workstation สำหรับงานหนัก
    รองรับการใช้งานร่วมกับ GPU ระดับสูง เช่น RTX Pro 5000 และ RTX 5080

    แบรนด์ที่ใช้ชิปนี้
    Dell: รุ่น Pro Max 18 Plus พร้อม RTX Pro 5000, RAM 128GB, SSD 4TB
    MSI: รุ่น Raider 18 HX AI พร้อม RTX 5080, RAM 64GB, SSD 2TB
    HP: รุ่น ZBook Fury G1i พร้อม RTX Pro 5000, RAM 128GB ECC
    Lenovo: รุ่น ThinkPad T16g Gen 3 พร้อม RTX 5080/5090, RAM สูงสุด 192GB

    รุ่นที่ลดราคาหนัก
    MSI Raider 18 HX AI ลดเหลือ ~$2,699 จาก ~$3,399
    HP ZBook Fury G1i ลดเหลือ ~$6,999 จาก ~$14,212
    Dell ยังราคาเต็ม ~$9,458 ส่วน Lenovo ยังไม่เปิดราคา

    จุดเด่นของแต่ละรุ่น
    MSI: เหมาะกับงานสร้างสรรค์และมัลติทาสก์
    HP: มี RAM ECC เหมาะกับงานที่ต้องการความเสถียรสูง
    Dell: สเปกสูงสุด เหมาะกับงานวิจัยและ simulation
    Lenovo: รองรับ SSD สูงสุด 12TB เหมาะกับงานเก็บข้อมูลขนาดใหญ่

    https://www.techradar.com/pro/only-4-brands-sell-laptops-with-intels-fastest-ever-mobile-cpu-the-ultra-9-285-hx-and-shockingly-two-are-already-massively-discounted
    💻 หัวข้อข่าว: “Intel Ultra 9 285HX: สุดยอดชิปมือถือที่มีแค่ 4 แบรนด์ใช้—และ 2 รุ่นลดราคาแรงเกินคาด” Intel เปิดตัวชิป Ultra 9 285HX ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์มือถือที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา และตอนนี้มีเพียง 4 แบรนด์เท่านั้นที่นำมาใช้ในแล็ปท็อประดับสูง ได้แก่ Dell, HP, MSI และ Lenovo โดยแต่ละรุ่นมาพร้อมสเปกสุดโหดที่เหมาะกับงานระดับมืออาชีพ เช่น การตัดต่อวิดีโอ 4K, การเรนเดอร์ 3D และการประมวลผล AI ที่น่าตกใจคือ มีถึง 2 รุ่นที่ลดราคาหนักมาก ทั้ง MSI Raider 18 HX AI และ HP ZBook Fury G1i ซึ่งลดราคาจากหลักหมื่นเหลือเพียงครึ่งเดียวในบางร้านค้า ทำให้เป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่ต้องการแล็ปท็อปประสิทธิภาพสูงในราคาคุ้มค่า ✅ Intel Ultra 9 285HX คืออะไร ➡️ เป็นชิปมือถือที่เร็วที่สุดของ Intel ณ ปัจจุบัน ➡️ ใช้ในแล็ปท็อประดับ workstation สำหรับงานหนัก ➡️ รองรับการใช้งานร่วมกับ GPU ระดับสูง เช่น RTX Pro 5000 และ RTX 5080 ✅ แบรนด์ที่ใช้ชิปนี้ ➡️ Dell: รุ่น Pro Max 18 Plus พร้อม RTX Pro 5000, RAM 128GB, SSD 4TB ➡️ MSI: รุ่น Raider 18 HX AI พร้อม RTX 5080, RAM 64GB, SSD 2TB ➡️ HP: รุ่น ZBook Fury G1i พร้อม RTX Pro 5000, RAM 128GB ECC ➡️ Lenovo: รุ่น ThinkPad T16g Gen 3 พร้อม RTX 5080/5090, RAM สูงสุด 192GB ✅ รุ่นที่ลดราคาหนัก ➡️ MSI Raider 18 HX AI ลดเหลือ ~$2,699 จาก ~$3,399 ➡️ HP ZBook Fury G1i ลดเหลือ ~$6,999 จาก ~$14,212 ➡️ Dell ยังราคาเต็ม ~$9,458 ส่วน Lenovo ยังไม่เปิดราคา ✅ จุดเด่นของแต่ละรุ่น ➡️ MSI: เหมาะกับงานสร้างสรรค์และมัลติทาสก์ ➡️ HP: มี RAM ECC เหมาะกับงานที่ต้องการความเสถียรสูง ➡️ Dell: สเปกสูงสุด เหมาะกับงานวิจัยและ simulation ➡️ Lenovo: รองรับ SSD สูงสุด 12TB เหมาะกับงานเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ https://www.techradar.com/pro/only-4-brands-sell-laptops-with-intels-fastest-ever-mobile-cpu-the-ultra-9-285-hx-and-shockingly-two-are-already-massively-discounted
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • "DOSBox Pure Unleashed: อีมูเลเตอร์ยุคใหม่ที่ปลดล็อกความคลาสสิกของเกม DOS"

    หลังจากใช้เวลาพัฒนานานถึง 5 ปี Psyraven ได้เปิดตัว DOSBox Pure Unleashed อย่างเป็นทางการ—เวอร์ชันใหม่ของอีมูเลเตอร์ DOS ที่ไม่ต้องพึ่ง RetroArch อีกต่อไป และพร้อมใช้งานแบบ standalone บน Windows, macOS และ Linux

    เวอร์ชันใหม่นี้มาพร้อม UI ที่ใช้งานง่าย และฟีเจอร์ล้ำ ๆ ที่ตอบโจทย์นักเล่นเกม retro โดยเฉพาะ เช่น การรันเกมจากไฟล์ ZIP โดยไม่ต้องติดตั้ง OS, รองรับกราฟิก Voodoo สูงสุดถึง 4K, การใช้ MIDI synth และ SoundFonts, รวมถึงระบบ save state และการตั้งค่าคอนโทรลเลอร์แบบอัตโนมัติ

    ที่สำคัญคือการรองรับเกม Windows 9X แบบทดลอง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขยายขอบเขตของอีมูเลเตอร์ DOS ไปสู่ยุค Windows รุ่นเก่า

    จุดเด่นของ DOSBox Pure Unleashed
    เป็นเวอร์ชัน standalone ไม่ต้องใช้ RetroArch
    รองรับ Windows, macOS และ Linux
    UI ใช้งานง่าย แบ่งหมวดหมู่ชัดเจน
    รันเกมจาก ZIP ได้ทันที ไม่ต้องติดตั้ง OS

    ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ
    รองรับ Voodoo graphics สูงสุด 4K/UHD
    ใช้ MIDI synth และ SoundFonts ได้
    มีระบบ save state และ shared system shells
    รองรับการตั้งค่าคอนโทรลเลอร์อัตโนมัติ
    มี on-screen keyboard และ mouse/joystick emulation

    ความสามารถเพิ่มเติม
    รองรับ Windows 9X แบบทดลอง
    มีฟีเจอร์ auto-start และ advanced OS install options
    มี CRT filters สำหรับภาพแบบยุคเก่า
    รองรับ MT-32 และ SoundFont playback

    คำเตือนในการใช้งาน
    ฟีเจอร์ Windows 9X ยังอยู่ในขั้นทดลอง อาจไม่เสถียร
    การตั้งค่าขั้นสูงอาจต้องใช้ความรู้ด้านเทคนิค
    ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการ “คลิกแล้วเล่น” แบบง่าย ๆ

    การสนับสนุนและชุมชน
    มี Discord สำหรับพูดคุยและแลกเปลี่ยนเทคนิค
    ดาวน์โหลดฟรี ขนาดไฟล์เล็ก ~1.5MB
    ผู้พัฒนาหวังรับ “ทิป” ผ่านหน้า Itch.io

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:
    ความสำคัญของ DOSBox ในวงการเกม retro
    เป็นเครื่องมือหลักในการเล่นเกม DOS บนระบบปฏิบัติการยุคใหม่
    ช่วยอนุรักษ์เกมเก่าและประสบการณ์การเล่นแบบดั้งเดิม

    แนวโน้มของอีมูเลเตอร์ยุคใหม่
    เน้นความง่ายในการใช้งานและความแม่นยำในการจำลอง
    รองรับกราฟิกและเสียงระดับสูงเพื่อประสบการณ์ที่สมจริง

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/dosbox-pure-unleashed-is-ready-for-windows-mac-and-linux-computers-after-five-years-in-development-enhanced-standalone-release-no-longer-restricted-to-being-a-retroarch-core
    🎮 "DOSBox Pure Unleashed: อีมูเลเตอร์ยุคใหม่ที่ปลดล็อกความคลาสสิกของเกม DOS" หลังจากใช้เวลาพัฒนานานถึง 5 ปี Psyraven ได้เปิดตัว DOSBox Pure Unleashed อย่างเป็นทางการ—เวอร์ชันใหม่ของอีมูเลเตอร์ DOS ที่ไม่ต้องพึ่ง RetroArch อีกต่อไป และพร้อมใช้งานแบบ standalone บน Windows, macOS และ Linux เวอร์ชันใหม่นี้มาพร้อม UI ที่ใช้งานง่าย และฟีเจอร์ล้ำ ๆ ที่ตอบโจทย์นักเล่นเกม retro โดยเฉพาะ เช่น การรันเกมจากไฟล์ ZIP โดยไม่ต้องติดตั้ง OS, รองรับกราฟิก Voodoo สูงสุดถึง 4K, การใช้ MIDI synth และ SoundFonts, รวมถึงระบบ save state และการตั้งค่าคอนโทรลเลอร์แบบอัตโนมัติ ที่สำคัญคือการรองรับเกม Windows 9X แบบทดลอง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขยายขอบเขตของอีมูเลเตอร์ DOS ไปสู่ยุค Windows รุ่นเก่า ✅ จุดเด่นของ DOSBox Pure Unleashed ➡️ เป็นเวอร์ชัน standalone ไม่ต้องใช้ RetroArch ➡️ รองรับ Windows, macOS และ Linux ➡️ UI ใช้งานง่าย แบ่งหมวดหมู่ชัดเจน ➡️ รันเกมจาก ZIP ได้ทันที ไม่ต้องติดตั้ง OS ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ ➡️ รองรับ Voodoo graphics สูงสุด 4K/UHD ➡️ ใช้ MIDI synth และ SoundFonts ได้ ➡️ มีระบบ save state และ shared system shells ➡️ รองรับการตั้งค่าคอนโทรลเลอร์อัตโนมัติ ➡️ มี on-screen keyboard และ mouse/joystick emulation ✅ ความสามารถเพิ่มเติม ➡️ รองรับ Windows 9X แบบทดลอง ➡️ มีฟีเจอร์ auto-start และ advanced OS install options ➡️ มี CRT filters สำหรับภาพแบบยุคเก่า ➡️ รองรับ MT-32 และ SoundFont playback ‼️ คำเตือนในการใช้งาน ⛔ ฟีเจอร์ Windows 9X ยังอยู่ในขั้นทดลอง อาจไม่เสถียร ⛔ การตั้งค่าขั้นสูงอาจต้องใช้ความรู้ด้านเทคนิค ⛔ ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการ “คลิกแล้วเล่น” แบบง่าย ๆ ✅ การสนับสนุนและชุมชน ➡️ มี Discord สำหรับพูดคุยและแลกเปลี่ยนเทคนิค ➡️ ดาวน์โหลดฟรี ขนาดไฟล์เล็ก ~1.5MB ➡️ ผู้พัฒนาหวังรับ “ทิป” ผ่านหน้า Itch.io 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ ความสำคัญของ DOSBox ในวงการเกม retro ➡️ เป็นเครื่องมือหลักในการเล่นเกม DOS บนระบบปฏิบัติการยุคใหม่ ➡️ ช่วยอนุรักษ์เกมเก่าและประสบการณ์การเล่นแบบดั้งเดิม ✅ แนวโน้มของอีมูเลเตอร์ยุคใหม่ ➡️ เน้นความง่ายในการใช้งานและความแม่นยำในการจำลอง ➡️ รองรับกราฟิกและเสียงระดับสูงเพื่อประสบการณ์ที่สมจริง https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/dosbox-pure-unleashed-is-ready-for-windows-mac-and-linux-computers-after-five-years-in-development-enhanced-standalone-release-no-longer-restricted-to-being-a-retroarch-core
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • "BitLocker ล็อกข้อมูล 3TB โดยไม่แจ้งเตือน: เมื่อระบบป้องกันกลายเป็นกับดักข้อมูล"

    BitLocker ระบบเข้ารหัสดิสก์ของ Microsoft ที่เปิดใช้งานอัตโนมัติใน Windows 11 กำลังตกเป็นประเด็นร้อน หลังมีผู้ใช้รายหนึ่งใน Reddit รายงานว่า Backup Drive ขนาด 3TB ถูกล็อกโดยไม่รู้ตัวหลังจากติดตั้ง Windows ใหม่ ส่งผลให้ข้อมูลทั้งหมดไม่สามารถเข้าถึงได้ และไม่มีวิธีถอดรหัสกลับมาได้เลย

    ผู้ใช้รายนี้มีดิสก์ทั้งหมด 6 ลูก โดย 2 ลูกเป็น Backup Drive ที่ไม่ได้ตั้งค่า BitLocker ด้วยตัวเอง แต่หลังจากติดตั้ง Windows ใหม่และเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft ระบบกลับเปิดใช้งาน BitLocker โดยอัตโนมัติ และขอ Recovery Key ที่ผู้ใช้ไม่เคยได้รับหรือบันทึกไว้

    แม้จะพยายามใช้ซอฟต์แวร์กู้ข้อมูลหลายตัว แต่ก็ไม่สามารถเจาะระบบเข้ารหัสของ BitLocker ได้ เพราะระบบนี้ออกแบบมาเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างแน่นหนา

    การทำงานของ BitLocker ใน Windows 11
    เปิดใช้งานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft
    เข้ารหัสดิสก์โดยไม่แจ้งเตือนผู้ใช้
    Recovery Key จะถูกเก็บไว้ในบัญชี Microsoft หากระบบบันทึกไว้

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    ผู้ใช้ติดตั้ง Windows ใหม่และพบว่า Backup Drive ถูกเข้ารหัส
    ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล 3TB ได้
    Recovery Key สำหรับ Backup Drive ไม่ปรากฏในบัญชี Microsoft

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ Windows 11
    BitLocker อาจเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติแม้ผู้ใช้ไม่ตั้งใจ
    หากไม่มี Recovery Key จะไม่สามารถกู้ข้อมูลได้
    การติดตั้ง Windows ใหม่อาจทำให้ดิสก์อื่นถูกเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัว

    ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกัน
    ตรวจสอบสถานะ BitLocker ก่อนติดตั้งหรือรีเซ็ต Windows
    บันทึก Recovery Key ไว้ในที่ปลอดภัยเสมอ
    ปิด BitLocker สำหรับดิสก์ที่ไม่ต้องการเข้ารหัส
    สำรองข้อมูลไว้ในอุปกรณ์ที่ไม่เชื่อมต่อกับระบบโดยตรง

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:

    ความแตกต่างระหว่าง BitLocker แบบ Software และ Hardware
    แบบ Software ใช้ CPU ในการเข้ารหัส ทำให้ลดประสิทธิภาพการอ่าน/เขียน
    แบบ Hardware (OPAL) มีประสิทธิภาพสูงกว่าและไม่เปิดใช้งานอัตโนมัติ

    วิธีตรวจสอบสถานะ BitLocker
    ใช้คำสั่ง manage-bde -status ใน Command Prompt
    ตรวจสอบใน Control Panel > System and Security > BitLocker Drive Encryption

    https://www.tomshardware.com/software/windows/bitlocker-reportedly-auto-locks-users-backup-drives-causing-loss-of-3tb-of-valuable-data-windows-automatic-disk-encryption-can-permanently-lock-your-drives
    🛡️ "BitLocker ล็อกข้อมูล 3TB โดยไม่แจ้งเตือน: เมื่อระบบป้องกันกลายเป็นกับดักข้อมูล" BitLocker ระบบเข้ารหัสดิสก์ของ Microsoft ที่เปิดใช้งานอัตโนมัติใน Windows 11 กำลังตกเป็นประเด็นร้อน หลังมีผู้ใช้รายหนึ่งใน Reddit รายงานว่า Backup Drive ขนาด 3TB ถูกล็อกโดยไม่รู้ตัวหลังจากติดตั้ง Windows ใหม่ ส่งผลให้ข้อมูลทั้งหมดไม่สามารถเข้าถึงได้ และไม่มีวิธีถอดรหัสกลับมาได้เลย ผู้ใช้รายนี้มีดิสก์ทั้งหมด 6 ลูก โดย 2 ลูกเป็น Backup Drive ที่ไม่ได้ตั้งค่า BitLocker ด้วยตัวเอง แต่หลังจากติดตั้ง Windows ใหม่และเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft ระบบกลับเปิดใช้งาน BitLocker โดยอัตโนมัติ และขอ Recovery Key ที่ผู้ใช้ไม่เคยได้รับหรือบันทึกไว้ แม้จะพยายามใช้ซอฟต์แวร์กู้ข้อมูลหลายตัว แต่ก็ไม่สามารถเจาะระบบเข้ารหัสของ BitLocker ได้ เพราะระบบนี้ออกแบบมาเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างแน่นหนา ✅ การทำงานของ BitLocker ใน Windows 11 ➡️ เปิดใช้งานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft ➡️ เข้ารหัสดิสก์โดยไม่แจ้งเตือนผู้ใช้ ➡️ Recovery Key จะถูกเก็บไว้ในบัญชี Microsoft หากระบบบันทึกไว้ ✅ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ➡️ ผู้ใช้ติดตั้ง Windows ใหม่และพบว่า Backup Drive ถูกเข้ารหัส ➡️ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล 3TB ได้ ➡️ Recovery Key สำหรับ Backup Drive ไม่ปรากฏในบัญชี Microsoft ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ Windows 11 ⛔ BitLocker อาจเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติแม้ผู้ใช้ไม่ตั้งใจ ⛔ หากไม่มี Recovery Key จะไม่สามารถกู้ข้อมูลได้ ⛔ การติดตั้ง Windows ใหม่อาจทำให้ดิสก์อื่นถูกเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัว ✅ ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกัน ➡️ ตรวจสอบสถานะ BitLocker ก่อนติดตั้งหรือรีเซ็ต Windows ➡️ บันทึก Recovery Key ไว้ในที่ปลอดภัยเสมอ ➡️ ปิด BitLocker สำหรับดิสก์ที่ไม่ต้องการเข้ารหัส ➡️ สำรองข้อมูลไว้ในอุปกรณ์ที่ไม่เชื่อมต่อกับระบบโดยตรง 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ ความแตกต่างระหว่าง BitLocker แบบ Software และ Hardware ➡️ แบบ Software ใช้ CPU ในการเข้ารหัส ทำให้ลดประสิทธิภาพการอ่าน/เขียน ➡️ แบบ Hardware (OPAL) มีประสิทธิภาพสูงกว่าและไม่เปิดใช้งานอัตโนมัติ ✅ วิธีตรวจสอบสถานะ BitLocker ➡️ ใช้คำสั่ง manage-bde -status ใน Command Prompt ➡️ ตรวจสอบใน Control Panel > System and Security > BitLocker Drive Encryption https://www.tomshardware.com/software/windows/bitlocker-reportedly-auto-locks-users-backup-drives-causing-loss-of-3tb-of-valuable-data-windows-automatic-disk-encryption-can-permanently-lock-your-drives
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เสียงที่ช่วยเยียวยา: เครื่องสร้างเสียง Neuromodulator สำหรับผู้มีอาการหูอื้อ (Tinnitus)"

    เว็บไซต์ myNoise ได้เปิดตัวเครื่องมือที่ไม่ธรรมดา—Tinnitus Neuromodulator ซึ่งเป็นเครื่องสร้างเสียงที่ออกแบบมาเพื่อช่วยบรรเทาอาการหูอื้อ (Tinnitus) โดยใช้หลักการ neuromodulation ร่วมกับการปรับแต่งเสียงเฉพาะบุคคล

    เครื่องมือนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Steve Harrison ผู้สร้าง Tinnitus Works และ Stéphane Pigeon ผู้ก่อตั้ง myNoise โดยผสมผสานลำดับเสียงที่ออกแบบมาเฉพาะกับระบบเสียงของ myNoise เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเสียงให้ตรงกับอาการของตนเองได้อย่างละเอียด

    ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นด้วยการตั้งค่าทุกตัวเลื่อนไว้ที่ศูนย์ แล้วค่อย ๆ ปรับตามโทนเสียงที่ตนเองได้ยินจากอาการหูอื้อ โดยเน้นให้เสียงกลมกลืนกับเสียงรบกวนในหู ไม่ใช่กลบเสียงทั้งหมด ซึ่งช่วยลดความเครียดและสร้างสภาวะผ่อนคลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    จุดเด่นของ Tinnitus Neuromodulator
    เป็นผลจากความร่วมมือระหว่าง Steve Harrison และ Stéphane Pigeon
    ใช้เทคนิค neuromodulation ผสมกับระบบเสียงของ myNoise
    ปรับแต่งเสียงได้ละเอียดตามอาการเฉพาะบุคคล

    วิธีการใช้งาน
    เริ่มต้นด้วยการตั้งค่าทุกตัวเลื่อนไว้ที่ศูนย์
    ปรับตัวเลื่อนที่ตรงกับโทนเสียงของอาการหูอื้อ
    ใช้ระดับเสียงต่ำพอให้กลมกลืนกับเสียงในหู
    สามารถเปิดหลายตัวเลื่อนพร้อมกันเพื่อสร้างเสียงที่ซับซ้อน
    ใช้ฟีเจอร์ Animation เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเสียง

    แนวคิดการใช้งาน
    ไม่จำเป็นต้องกลบเสียงหูอื้อทั้งหมด
    มองเสียงหูอื้อเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์เสียง
    ใช้แนวทางแบบ mindfulness เพื่อสร้างความสงบ

    ฟีเจอร์เสริม
    มี presets ให้เลือก เช่น Neural Hack, Dreamesque, Sinescape
    ปรับความกว้างของเสียง (Stereo Width) และความเร็วของเสียง (Tape Speed)
    รองรับการบันทึกและแชร์การตั้งค่าเสียง
    มีโหมด Guided Meditation สำหรับการผ่อนคลาย

    คำเตือนในการใช้งาน
    ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับผลลัพธ์เหมือนกัน
    บางคนอาจรู้สึกไม่สบายจากเสียงบางประเภท
    ควรใช้ระดับเสียงต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงความล้าทางการได้ยิน

    ความเห็นจากผู้ใช้
    หลายคนรายงานว่าอาการหูอื้อลดลงหลังใช้งาน
    บางคนรู้สึกถึง “ความเงียบที่แท้จริง” หลังถอดหูฟัง
    มีผู้ใช้ที่ไม่มีอาการหูอื้อแต่ใช้เพื่อช่วยโฟกัสหรือผ่อนคลาย
    เสียงที่แปลกและหลากหลายช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ในการฟัง

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:
    หลักการ neuromodulation ในการบำบัด Tinnitus
    ใช้เสียงเพื่อกระตุ้นระบบประสาทให้ปรับการรับรู้เสียงรบกวน
    ช่วยลดการตอบสนองทางอารมณ์ต่อเสียงหูอื้อ

    ความสำคัญของการปรับแต่งเสียงเฉพาะบุคคล
    อาการหูอื้อมีความแตกต่างกันในแต่ละคน
    การปรับเสียงให้ตรงกับความถี่ของอาการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบรรเทา

    https://mynoise.net/NoiseMachines/neuromodulationTonesGenerator.php
    🎧 "เสียงที่ช่วยเยียวยา: เครื่องสร้างเสียง Neuromodulator สำหรับผู้มีอาการหูอื้อ (Tinnitus)" เว็บไซต์ myNoise ได้เปิดตัวเครื่องมือที่ไม่ธรรมดา—Tinnitus Neuromodulator ซึ่งเป็นเครื่องสร้างเสียงที่ออกแบบมาเพื่อช่วยบรรเทาอาการหูอื้อ (Tinnitus) โดยใช้หลักการ neuromodulation ร่วมกับการปรับแต่งเสียงเฉพาะบุคคล เครื่องมือนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Steve Harrison ผู้สร้าง Tinnitus Works และ Stéphane Pigeon ผู้ก่อตั้ง myNoise โดยผสมผสานลำดับเสียงที่ออกแบบมาเฉพาะกับระบบเสียงของ myNoise เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเสียงให้ตรงกับอาการของตนเองได้อย่างละเอียด ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นด้วยการตั้งค่าทุกตัวเลื่อนไว้ที่ศูนย์ แล้วค่อย ๆ ปรับตามโทนเสียงที่ตนเองได้ยินจากอาการหูอื้อ โดยเน้นให้เสียงกลมกลืนกับเสียงรบกวนในหู ไม่ใช่กลบเสียงทั้งหมด ซึ่งช่วยลดความเครียดและสร้างสภาวะผ่อนคลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ จุดเด่นของ Tinnitus Neuromodulator ➡️ เป็นผลจากความร่วมมือระหว่าง Steve Harrison และ Stéphane Pigeon ➡️ ใช้เทคนิค neuromodulation ผสมกับระบบเสียงของ myNoise ➡️ ปรับแต่งเสียงได้ละเอียดตามอาการเฉพาะบุคคล ✅ วิธีการใช้งาน ➡️ เริ่มต้นด้วยการตั้งค่าทุกตัวเลื่อนไว้ที่ศูนย์ ➡️ ปรับตัวเลื่อนที่ตรงกับโทนเสียงของอาการหูอื้อ ➡️ ใช้ระดับเสียงต่ำพอให้กลมกลืนกับเสียงในหู ➡️ สามารถเปิดหลายตัวเลื่อนพร้อมกันเพื่อสร้างเสียงที่ซับซ้อน ➡️ ใช้ฟีเจอร์ Animation เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเสียง ✅ แนวคิดการใช้งาน ➡️ ไม่จำเป็นต้องกลบเสียงหูอื้อทั้งหมด ➡️ มองเสียงหูอื้อเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์เสียง ➡️ ใช้แนวทางแบบ mindfulness เพื่อสร้างความสงบ ✅ ฟีเจอร์เสริม ➡️ มี presets ให้เลือก เช่น Neural Hack, Dreamesque, Sinescape ➡️ ปรับความกว้างของเสียง (Stereo Width) และความเร็วของเสียง (Tape Speed) ➡️ รองรับการบันทึกและแชร์การตั้งค่าเสียง ➡️ มีโหมด Guided Meditation สำหรับการผ่อนคลาย ‼️ คำเตือนในการใช้งาน ⛔ ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับผลลัพธ์เหมือนกัน ⛔ บางคนอาจรู้สึกไม่สบายจากเสียงบางประเภท ⛔ ควรใช้ระดับเสียงต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงความล้าทางการได้ยิน ✅ ความเห็นจากผู้ใช้ ➡️ หลายคนรายงานว่าอาการหูอื้อลดลงหลังใช้งาน ➡️ บางคนรู้สึกถึง “ความเงียบที่แท้จริง” หลังถอดหูฟัง ➡️ มีผู้ใช้ที่ไม่มีอาการหูอื้อแต่ใช้เพื่อช่วยโฟกัสหรือผ่อนคลาย ➡️ เสียงที่แปลกและหลากหลายช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ในการฟัง 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ หลักการ neuromodulation ในการบำบัด Tinnitus ➡️ ใช้เสียงเพื่อกระตุ้นระบบประสาทให้ปรับการรับรู้เสียงรบกวน ➡️ ช่วยลดการตอบสนองทางอารมณ์ต่อเสียงหูอื้อ ✅ ความสำคัญของการปรับแต่งเสียงเฉพาะบุคคล ➡️ อาการหูอื้อมีความแตกต่างกันในแต่ละคน ➡️ การปรับเสียงให้ตรงกับความถี่ของอาการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบรรเทา https://mynoise.net/NoiseMachines/neuromodulationTonesGenerator.php
    MYNOISE.NET
    Tinnitus Neuromodulator — Free Tinnitus Masker
    De-stressing and pushing your tinnitus out of your mind are probably among the best pieces of advice you can get. Tinnitus can jump in and play with your nerves, you need to stop letting it do so and teach your brain to tune it out.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Kubernetes 1 ล้านโหนด: ภารกิจสุดโหดที่กลายเป็นจริง"

    ลองจินตนาการถึง Kubernetes cluster ที่มีถึง 1 ล้านโหนด—ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่เป็นการทดลองจริงที่ผลักดันขีดจำกัดของระบบ cloud-native ที่ทรงพลังที่สุดในโลกใบนี้! โครงการ “k8s-1m” โดยผู้เชี่ยวชาญจาก OpenAI และอดีตผู้ร่วมเขียนบทความชื่อดังเรื่องการขยาย Kubernetes สู่ 7,500 โหนด ได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมเป้าหมายใหม่ที่ทะเยอทะยานกว่าเดิม: สร้าง cluster ที่มี 1 ล้านโหนดและสามารถจัดการ workload ได้จริง

    เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการแก้ปัญหาทางเทคนิคระดับมหากาพย์ ตั้งแต่การจัดการ IP ด้วย IPv6, การออกแบบระบบ etcd ใหม่ให้รองรับการเขียนระดับแสนครั้งต่อวินาที, ไปจนถึงการสร้าง distributed scheduler ที่สามารถจัดสรร 1 ล้าน pods ได้ภายใน 1 นาที

    แม้จะไม่ใช่ระบบที่พร้อมใช้งานใน production แต่โครงการนี้ได้เปิดเผยขีดจำกัดที่แท้จริงของ Kubernetes และเสนอแนวทางใหม่ในการออกแบบระบบ cloud-native ที่สามารถรองรับ workload ขนาดมหาศาลได้ในอนาคต

    สรุปเนื้อหาจากโครงการ k8s-1m:

    เป้าหมายของโครงการ
    สร้าง Kubernetes cluster ที่มี 1 ล้านโหนด
    ทดสอบขีดจำกัดของระบบ cloud-native
    ไม่เน้นการใช้งานเชิงพาณิชย์ แต่เพื่อการวิจัยและแรงบันดาลใจ

    ปัญหาหลักที่ต้องแก้
    ประสิทธิภาพของ etcd ที่เป็นคอขวด
    ความสามารถของ kube-apiserver ในการจัดการ watch cache
    การจัดการ IP address ด้วย IPv6
    การออกแบบ scheduler ให้กระจายโหลดได้

    เทคนิคที่ใช้ในระบบเครือข่าย
    ใช้ IPv6 แทน IPv4 เพื่อรองรับ IP จำนวนมหาศาล
    สร้าง bridge สำหรับ pod interfaces เพื่อจัดการ MAC address
    ใช้ WireGuard เป็น NAT64 gateway สำหรับบริการที่รองรับเฉพาะ IPv4

    ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย
    ไม่ใช้ network policies ระหว่าง workloads เพราะมี prefix มากเกินไป
    ไม่ใช้ firewall ครอบคลุมทุก prefix แต่ใช้ TLS และการจำกัดพอร์ตแทน

    การจัดการ state ด้วย mem_etcd
    สร้าง etcd ใหม่ที่เขียนด้วย Rust ชื่อ mem_etcd
    ลดการใช้ fsync เพื่อเพิ่ม throughput
    ใช้ hash map และ B-tree แยกตาม resource kind
    รองรับการเขียนระดับล้านครั้งต่อวินาที

    คำเตือนเกี่ยวกับ durability
    ลดระดับความทนทานของข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    ไม่ใช้ etcd replicas ในบางกรณีเพื่อหลีกเลี่ยงการลด throughput

    การออกแบบ scheduler แบบกระจาย
    ใช้แนวคิด scatter-gather เพื่อกระจายการคำนวณ
    ใช้ relays หลายระดับเพื่อกระจาย pod ไปยัง schedulers
    ใช้ ValidatingWebhook แทน watch stream เพื่อรับ pod ใหม่เร็วขึ้น

    ปัญหา long-tail latency
    บาง scheduler ช้ากว่าค่าเฉลี่ย ทำให้ระบบรอ
    ใช้เทคนิค pinned CPUs และปรับ GC เพื่อลดความล่าช้า
    ตัดสินใจไม่รอ scheduler ที่ช้าเกินไป

    ผลการทดลอง
    สามารถจัดสรร 1 ล้าน pods ได้ในเวลาประมาณ 1 นาที
    mem_etcd รองรับ 100K–125K requests/sec
    kube-apiserver รองรับ 100K lease updates/sec
    ระบบใช้ RAM และ CPU อย่างมีประสิทธิภาพ

    ข้อจำกัดของภาษา Go
    GC ของ Go เป็นคอขวดหลักในการจัดการ object จำนวนมาก
    การเพิ่ม kube-apiserver replicas ไม่ช่วยลด GC load

    ข้อสรุปจากโครงการ
    ขนาด cluster ไม่สำคัญเท่ากับอัตราการเขียนของ resource kind
    Lease updates เป็นภาระหลักของระบบ
    การแยก etcd ตาม resource kind ช่วยเพิ่ม scalability
    การเปลี่ยน backend ของ etcd และปรับ watch cache ช่วยรองรับ 1 ล้านโหนด

    https://bchess.github.io/k8s-1m/
    🖇️ "Kubernetes 1 ล้านโหนด: ภารกิจสุดโหดที่กลายเป็นจริง" ลองจินตนาการถึง Kubernetes cluster ที่มีถึง 1 ล้านโหนด—ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่เป็นการทดลองจริงที่ผลักดันขีดจำกัดของระบบ cloud-native ที่ทรงพลังที่สุดในโลกใบนี้! โครงการ “k8s-1m” โดยผู้เชี่ยวชาญจาก OpenAI และอดีตผู้ร่วมเขียนบทความชื่อดังเรื่องการขยาย Kubernetes สู่ 7,500 โหนด ได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมเป้าหมายใหม่ที่ทะเยอทะยานกว่าเดิม: สร้าง cluster ที่มี 1 ล้านโหนดและสามารถจัดการ workload ได้จริง เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการแก้ปัญหาทางเทคนิคระดับมหากาพย์ ตั้งแต่การจัดการ IP ด้วย IPv6, การออกแบบระบบ etcd ใหม่ให้รองรับการเขียนระดับแสนครั้งต่อวินาที, ไปจนถึงการสร้าง distributed scheduler ที่สามารถจัดสรร 1 ล้าน pods ได้ภายใน 1 นาที แม้จะไม่ใช่ระบบที่พร้อมใช้งานใน production แต่โครงการนี้ได้เปิดเผยขีดจำกัดที่แท้จริงของ Kubernetes และเสนอแนวทางใหม่ในการออกแบบระบบ cloud-native ที่สามารถรองรับ workload ขนาดมหาศาลได้ในอนาคต สรุปเนื้อหาจากโครงการ k8s-1m: ✅ เป้าหมายของโครงการ ➡️ สร้าง Kubernetes cluster ที่มี 1 ล้านโหนด ➡️ ทดสอบขีดจำกัดของระบบ cloud-native ➡️ ไม่เน้นการใช้งานเชิงพาณิชย์ แต่เพื่อการวิจัยและแรงบันดาลใจ ✅ ปัญหาหลักที่ต้องแก้ ➡️ ประสิทธิภาพของ etcd ที่เป็นคอขวด ➡️ ความสามารถของ kube-apiserver ในการจัดการ watch cache ➡️ การจัดการ IP address ด้วย IPv6 ➡️ การออกแบบ scheduler ให้กระจายโหลดได้ ✅ เทคนิคที่ใช้ในระบบเครือข่าย ➡️ ใช้ IPv6 แทน IPv4 เพื่อรองรับ IP จำนวนมหาศาล ➡️ สร้าง bridge สำหรับ pod interfaces เพื่อจัดการ MAC address ➡️ ใช้ WireGuard เป็น NAT64 gateway สำหรับบริการที่รองรับเฉพาะ IPv4 ‼️ ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย ⛔ ไม่ใช้ network policies ระหว่าง workloads เพราะมี prefix มากเกินไป ⛔ ไม่ใช้ firewall ครอบคลุมทุก prefix แต่ใช้ TLS และการจำกัดพอร์ตแทน ✅ การจัดการ state ด้วย mem_etcd ➡️ สร้าง etcd ใหม่ที่เขียนด้วย Rust ชื่อ mem_etcd ➡️ ลดการใช้ fsync เพื่อเพิ่ม throughput ➡️ ใช้ hash map และ B-tree แยกตาม resource kind ➡️ รองรับการเขียนระดับล้านครั้งต่อวินาที ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับ durability ⛔ ลดระดับความทนทานของข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ⛔ ไม่ใช้ etcd replicas ในบางกรณีเพื่อหลีกเลี่ยงการลด throughput ✅ การออกแบบ scheduler แบบกระจาย ➡️ ใช้แนวคิด scatter-gather เพื่อกระจายการคำนวณ ➡️ ใช้ relays หลายระดับเพื่อกระจาย pod ไปยัง schedulers ➡️ ใช้ ValidatingWebhook แทน watch stream เพื่อรับ pod ใหม่เร็วขึ้น ‼️ ปัญหา long-tail latency ⛔ บาง scheduler ช้ากว่าค่าเฉลี่ย ทำให้ระบบรอ ⛔ ใช้เทคนิค pinned CPUs และปรับ GC เพื่อลดความล่าช้า ⛔ ตัดสินใจไม่รอ scheduler ที่ช้าเกินไป ✅ ผลการทดลอง ➡️ สามารถจัดสรร 1 ล้าน pods ได้ในเวลาประมาณ 1 นาที ➡️ mem_etcd รองรับ 100K–125K requests/sec ➡️ kube-apiserver รองรับ 100K lease updates/sec ➡️ ระบบใช้ RAM และ CPU อย่างมีประสิทธิภาพ ‼️ ข้อจำกัดของภาษา Go ⛔ GC ของ Go เป็นคอขวดหลักในการจัดการ object จำนวนมาก ⛔ การเพิ่ม kube-apiserver replicas ไม่ช่วยลด GC load ✅ ข้อสรุปจากโครงการ ➡️ ขนาด cluster ไม่สำคัญเท่ากับอัตราการเขียนของ resource kind ➡️ Lease updates เป็นภาระหลักของระบบ ➡️ การแยก etcd ตาม resource kind ช่วยเพิ่ม scalability ➡️ การเปลี่ยน backend ของ etcd และปรับ watch cache ช่วยรองรับ 1 ล้านโหนด https://bchess.github.io/k8s-1m/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • “The Pivot: ปี 2025 จุดเปลี่ยนของอารยธรรมมนุษย์” — เมื่อ Charlie Stross มองโลกปัจจุบันผ่านเลนส์ไซไฟดิสโทเปีย และชี้ว่า ‘นี่คือปีที่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยน’

    ในบทความ “The Pivot” นักเขียนไซไฟชื่อดัง Charlie Stross สะท้อนภาพโลกในปี 2025 ว่าเป็น “จุดเปลี่ยน” ของอารยธรรมมนุษย์ คล้ายกับปี 1968 ที่เคยเป็นจุดเปลี่ยนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เขาเปรียบเทียบโลกปัจจุบันกับนิยายไซไฟยุค 70s ที่เต็มไปด้วยมหาเศรษฐีผู้แยกตัวไปอวกาศ, สงคราม, ภาวะโลกร้อน และระบบเศรษฐกิจที่ใกล้ล่มสลาย

    Stross ชี้ว่าเรากำลังอยู่ในช่วง “การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน” ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยพลังงานจากฟอสซิลกำลังถูกแทนที่ด้วยพลังงานหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว — จีนติดตั้งแผงโซลาร์ 198GW ภายใน 5 เดือน, EU มีไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเกิน 50% แล้ว และราคาพลังงานแสงอาทิตย์ถูกลงจน “ถูกเกินกว่าจะเพิกเฉย”

    เขาย้อนประวัติศาสตร์พลังงานจากยุคถ่านหิน → น้ำมัน → พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างเศรษฐกิจโลกที่ผูกกับเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังพังทลายลงอย่างช้า ๆ และจะกลายเป็น “สินทรัพย์ไร้ค่า” (stranded assets) ภายในไม่กี่ทศวรรษ

    Stross ยังเตือนถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงนี้:
    ความไม่มั่นคงทางการเมือง
    สงครามทรัพยากร
    การล่มสลายของระบบเกษตรกรรมจากภาวะโลกร้อน
    การสิ้นสุดของกฎ “กฎของมัวร์” (Moore’s Law) ที่เคยขับเคลื่อนเทคโนโลยี
    และการล่มสลายของระบบทุนนิยมแบบเสรีนิยมใหม่ (neoliberalism)

    เขาเรียกระบบเศรษฐกิจปัจจุบันว่า “Crapitalism” — ระบบที่เน้นการรีดกำไรจากผู้ใช้และธุรกิจรายย่อย โดยไม่สนใจความยั่งยืนหรืออนาคตของโลก

    สุดท้าย Stross สรุปว่า “สิ่งนี้จะหยุดลง เพราะมันไม่สามารถดำเนินต่อไปได้” — และปี 2025 คือจุดเริ่มต้นของการหยุดนั้น

    ปี 2025 คือ “จุดเปลี่ยน” ของอารยธรรมมนุษย์
    เปรียบเทียบกับปี 1968 ในแง่ของการเปลี่ยนแปลงระบบโลก

    การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากฟอสซิลสู่พลังงานหมุนเวียนกำลังเกิดขึ้น
    จีนติดตั้งโซลาร์ 198GW ใน 5 เดือน, EU มีไฟฟ้าหมุนเวียนเกิน 50%

    ราคาพลังงานแสงอาทิตย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง
    ถูกกว่าการเผาถ่านหินในหลายกรณี

    ระบบเศรษฐกิจที่ผูกกับน้ำมันกำลังล่มสลาย
    สินทรัพย์น้ำมันจะกลายเป็น “stranded assets” ภายในไม่กี่ทศวรรษ

    ภาวะโลกร้อนส่งผลต่อการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร
    เกิด “too-hot days” ที่พืชไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้

    Moore’s Law กำลังสิ้นสุด
    ความก้าวหน้าทางคอมพิวเตอร์ชะลอตัวลง

    ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมใหม่ (neoliberalism) กำลังล่มสลาย
    ถูกแทนที่ด้วยระบบที่เน้นการรีดกำไรจากผู้ใช้และธุรกิจรายย่อย

    https://www.antipope.org/charlie/blog-static/2025/10/the-pivot-1.html
    🌍 “The Pivot: ปี 2025 จุดเปลี่ยนของอารยธรรมมนุษย์” — เมื่อ Charlie Stross มองโลกปัจจุบันผ่านเลนส์ไซไฟดิสโทเปีย และชี้ว่า ‘นี่คือปีที่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยน’ ในบทความ “The Pivot” นักเขียนไซไฟชื่อดัง Charlie Stross สะท้อนภาพโลกในปี 2025 ว่าเป็น “จุดเปลี่ยน” ของอารยธรรมมนุษย์ คล้ายกับปี 1968 ที่เคยเป็นจุดเปลี่ยนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เขาเปรียบเทียบโลกปัจจุบันกับนิยายไซไฟยุค 70s ที่เต็มไปด้วยมหาเศรษฐีผู้แยกตัวไปอวกาศ, สงคราม, ภาวะโลกร้อน และระบบเศรษฐกิจที่ใกล้ล่มสลาย Stross ชี้ว่าเรากำลังอยู่ในช่วง “การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน” ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยพลังงานจากฟอสซิลกำลังถูกแทนที่ด้วยพลังงานหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว — จีนติดตั้งแผงโซลาร์ 198GW ภายใน 5 เดือน, EU มีไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเกิน 50% แล้ว และราคาพลังงานแสงอาทิตย์ถูกลงจน “ถูกเกินกว่าจะเพิกเฉย” เขาย้อนประวัติศาสตร์พลังงานจากยุคถ่านหิน → น้ำมัน → พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างเศรษฐกิจโลกที่ผูกกับเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังพังทลายลงอย่างช้า ๆ และจะกลายเป็น “สินทรัพย์ไร้ค่า” (stranded assets) ภายในไม่กี่ทศวรรษ Stross ยังเตือนถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงนี้: 🌏 ความไม่มั่นคงทางการเมือง 🌏 สงครามทรัพยากร 🌏 การล่มสลายของระบบเกษตรกรรมจากภาวะโลกร้อน 🌏 การสิ้นสุดของกฎ “กฎของมัวร์” (Moore’s Law) ที่เคยขับเคลื่อนเทคโนโลยี 🌏 และการล่มสลายของระบบทุนนิยมแบบเสรีนิยมใหม่ (neoliberalism) เขาเรียกระบบเศรษฐกิจปัจจุบันว่า “Crapitalism” — ระบบที่เน้นการรีดกำไรจากผู้ใช้และธุรกิจรายย่อย โดยไม่สนใจความยั่งยืนหรืออนาคตของโลก สุดท้าย Stross สรุปว่า “สิ่งนี้จะหยุดลง เพราะมันไม่สามารถดำเนินต่อไปได้” — และปี 2025 คือจุดเริ่มต้นของการหยุดนั้น ✅ ปี 2025 คือ “จุดเปลี่ยน” ของอารยธรรมมนุษย์ ➡️ เปรียบเทียบกับปี 1968 ในแง่ของการเปลี่ยนแปลงระบบโลก ✅ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากฟอสซิลสู่พลังงานหมุนเวียนกำลังเกิดขึ้น ➡️ จีนติดตั้งโซลาร์ 198GW ใน 5 เดือน, EU มีไฟฟ้าหมุนเวียนเกิน 50% ✅ ราคาพลังงานแสงอาทิตย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ➡️ ถูกกว่าการเผาถ่านหินในหลายกรณี ✅ ระบบเศรษฐกิจที่ผูกกับน้ำมันกำลังล่มสลาย ➡️ สินทรัพย์น้ำมันจะกลายเป็น “stranded assets” ภายในไม่กี่ทศวรรษ ✅ ภาวะโลกร้อนส่งผลต่อการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร ➡️ เกิด “too-hot days” ที่พืชไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ ✅ Moore’s Law กำลังสิ้นสุด ➡️ ความก้าวหน้าทางคอมพิวเตอร์ชะลอตัวลง ✅ ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมใหม่ (neoliberalism) กำลังล่มสลาย ➡️ ถูกแทนที่ด้วยระบบที่เน้นการรีดกำไรจากผู้ใช้และธุรกิจรายย่อย https://www.antipope.org/charlie/blog-static/2025/10/the-pivot-1.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • “NFL ใช้ AI คาดการณ์อาการบาดเจ็บ — ยกระดับความปลอดภัยนักกีฬา”

    NFL ร่วมมือกับ Amazon Web Services พัฒนาเครื่องมือชื่อ “Digital Athlete” ที่ใช้ AI และ machine learning วิเคราะห์ข้อมูลจากกล้อง, เซ็นเซอร์ในแผ่นรองไหล่ และระบบติดตามการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความเสี่ยงการบาดเจ็บของนักกีฬาแต่ละคน

    ระบบนี้รวบรวมข้อมูลจากการฝึกซ้อมและการแข่งขันของผู้เล่นกว่า 1,500 คนจากทั้ง 32 ทีม โดยสามารถวิเคราะห์ได้ว่าใครทำงานหนักเกินไป, เสี่ยงบาดเจ็บ, หรือควรปรับตารางซ้อมให้เหมาะสม

    Digital Athlete สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าระบบ NextGen Stats ทั้งฤดูกาล ทำให้ต้องใช้ AI ในการประมวลผลเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้จริงได้

    นอกจากการดูแลสุขภาพนักกีฬาแล้ว NFL ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ เช่น kickoff แบบใหม่ หรือการห้าม tackle แบบ hip-drop โดยสามารถจำลองได้ถึง 10,000 ฤดูกาลเพื่อประเมินความเสี่ยง

    ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือจำนวนการกระทบกระเทือนสมอง (concussion) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback ที่มีการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้

    NFL ใช้เครื่องมือ Digital Athlete ร่วมกับ AWS
    วิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์, กล้อง และการเคลื่อนไหว

    รวบรวมข้อมูลจากผู้เล่นกว่า 1,500 คนใน 32 ทีม
    ใช้ในการประเมินความเสี่ยงและปรับตารางซ้อม

    สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์
    ต้องใช้ AI และ machine learning ในการประมวลผล

    ใช้ข้อมูลจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ
    เช่น kickoff แบบใหม่ และการห้าม hip-drop tackle

    จำนวน concussion ลดลง โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback
    จากการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/18/nfl-uses-ai-to-predict-injuries-aiming-to-keep-players-healthier
    🏈 “NFL ใช้ AI คาดการณ์อาการบาดเจ็บ — ยกระดับความปลอดภัยนักกีฬา” NFL ร่วมมือกับ Amazon Web Services พัฒนาเครื่องมือชื่อ “Digital Athlete” ที่ใช้ AI และ machine learning วิเคราะห์ข้อมูลจากกล้อง, เซ็นเซอร์ในแผ่นรองไหล่ และระบบติดตามการเคลื่อนไหว เพื่อประเมินความเสี่ยงการบาดเจ็บของนักกีฬาแต่ละคน ระบบนี้รวบรวมข้อมูลจากการฝึกซ้อมและการแข่งขันของผู้เล่นกว่า 1,500 คนจากทั้ง 32 ทีม โดยสามารถวิเคราะห์ได้ว่าใครทำงานหนักเกินไป, เสี่ยงบาดเจ็บ, หรือควรปรับตารางซ้อมให้เหมาะสม Digital Athlete สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าระบบ NextGen Stats ทั้งฤดูกาล ทำให้ต้องใช้ AI ในการประมวลผลเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้จริงได้ นอกจากการดูแลสุขภาพนักกีฬาแล้ว NFL ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ เช่น kickoff แบบใหม่ หรือการห้าม tackle แบบ hip-drop โดยสามารถจำลองได้ถึง 10,000 ฤดูกาลเพื่อประเมินความเสี่ยง ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือจำนวนการกระทบกระเทือนสมอง (concussion) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback ที่มีการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้ ✅ NFL ใช้เครื่องมือ Digital Athlete ร่วมกับ AWS ➡️ วิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์, กล้อง และการเคลื่อนไหว ✅ รวบรวมข้อมูลจากผู้เล่นกว่า 1,500 คนใน 32 ทีม ➡️ ใช้ในการประเมินความเสี่ยงและปรับตารางซ้อม ✅ สร้างข้อมูลมากถึง 500 ล้านจุดต่อสัปดาห์ ➡️ ต้องใช้ AI และ machine learning ในการประมวลผล ✅ ใช้ข้อมูลจำลองผลกระทบจากการเปลี่ยนกฎ ➡️ เช่น kickoff แบบใหม่ และการห้าม hip-drop tackle ✅ จำนวน concussion ลดลง โดยเฉพาะในตำแหน่ง quarterback ➡️ จากการปรับปรุงหมวกกันกระแทกตามข้อมูลที่ได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/18/nfl-uses-ai-to-predict-injuries-aiming-to-keep-players-healthier
    WWW.THESTAR.COM.MY
    NFL uses AI to predict injuries, aiming to keep players healthier
    The Digital Athlete tool takes video and data from players on all 32 teams from training, practice and games, giving every team information on how hard its players have worked, whether they are at risk for more injuries, as well as helping them track leaguewide trends and benchmarks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts