• รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251203 #TechRadar

    สภาคองเกรสสหรัฐฯ เตรียมพิจารณากฎหมายตรวจสอบอายุใน App Store
    ตอนนี้สภาคองเกรสของสหรัฐฯ กำลังจะหยิบยกกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า App Store Accountability Act (ASA) มาพิจารณา โดยเป้าหมายคือการเพิ่มมาตรการปกป้องเยาวชนบนโลกออนไลน์ กฎหมายนี้จะบังคับให้ผู้ให้บริการ App Store อย่าง Apple และ Google ต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบอายุผู้ใช้งานและจำกัดการเข้าถึงแอปที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก แม้จะมีการสนับสนุนจาก Meta, X และ Pinterest แต่ Apple และ Google กลับกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและการแชร์ข้อมูล ASA เป็นเพียงหนึ่งใน 19 กฎหมายที่ถูกหยิบขึ้นมาหารือในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึง Kids Online Safety Act (KOSA) และ SCREEN Act ที่ต่างก็มีข้อถกเถียงว่าจะกระทบต่อเสรีภาพและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานหรือไม่
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-congress-to-consider-app-store-age-verification-measures

    ผู้ใช้ Windows 11 กังวลเรื่อง AI Agents แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกอย่าเพิ่งตื่นตระหนก
    Windows 11 กำลังถูกจับตามองอีกครั้งหลัง Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า AI Agents โดยเฉพาะ Copilot Actions ที่สามารถช่วยจัดการไฟล์และงานต่าง ๆ บนเครื่องได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ใช้กังวลคือเอกสารที่เตือนถึงความเสี่ยง เช่น การ “หลอน” ของ AI ที่อาจให้ข้อมูลผิด ๆ หรือการโจมตีแบบ cross-prompt injection ที่อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล แม้ Microsoft จะออกแบบระบบให้ AI Agents ทำงานในพื้นที่แยกต่างหากเพื่อความปลอดภัย แต่หลายคนยังไม่มั่นใจว่าจะป้องกันได้จริงเมื่อใช้งานในโลกจริง ความกังวลนี้จึงสะท้อนว่า แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ยังต้องจับตาดูว่ามันจะปลอดภัยพอหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/windows/i-get-why-some-people-are-suddenly-freaking-out-about-ai-agents-in-windows-11-im-worried-too-but-lets-not-panic-just-yet

    Instagram สั่งพนักงานกลับเข้าออฟฟิศเต็มเวลา
    Adam Mosseri ซีอีโอของ Instagram ประกาศว่าตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2026 พนักงานส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ จะต้องกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา โดยให้เหตุผลว่าการทำงานแบบนี้จะช่วยให้บริษัท “คล่องตัวและสร้างสรรค์มากขึ้น” แม้จะยังมีข้อยกเว้นสำหรับพนักงานที่ทำงานแบบรีโมตเต็มเวลา แต่รูปแบบ hybrid กำลังจะหมดไป นอกจากนี้ Mosseri ยังวางแผนลดจำนวนการประชุมที่ไม่จำเป็น และบังคับให้เอกสารกลยุทธ์ต้องกระชับไม่เกินสามหน้า เพื่อให้ทุกคนมีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างผลิตภัณฑ์มากกว่าการเตรียมสไลด์หรือประชุมยืดยาว
    https://www.techradar.com/pro/instagram-ceo-issues-full-time-return-to-office-order

    4.3 ล้านเครื่องติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่กลายเป็นมัลแวร์
    มีการค้นพบว่า ส่วนขยายบน Chrome และ Edge กว่า 145 ตัวที่เคยทำงานปกติมานานหลายปี ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายภายใต้แคมเปญที่ชื่อว่า ShadyPanda โดยเริ่มจากการทำ affiliate fraud แอบใส่โค้ดติดตามการซื้อสินค้า จากนั้นพัฒนาไปสู่การขโมยคุกกี้ การเปลี่ยนเส้นทางการค้นหา และล่าสุดถึงขั้นเปิดช่องให้รันโค้ดจากระยะไกล ทำให้ผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านเครื่องตกอยู่ในความเสี่ยง แม้ Google จะลบออกจาก Chrome Web Store แล้ว แต่ Microsoft ยังตอบสนองช้ากว่า ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบว่ามีส่วนขยายเหล่านี้อยู่ในเครื่องหรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/security/4-3-million-have-installed-this-malicious-browser-extension-on-chrome-and-edge-heres-how-to-check

    อดีตวิศวกร Microsoft จวก Windows 11 ควรแก้ไขพื้นฐานก่อนใส่ฟีเจอร์ AI
    Dave Plummer อดีตวิศวกรผู้สร้าง Task Manager และเกม Space Cadet Pinball ออกมาแสดงความเห็นว่า Microsoft ควรหยุดเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI แล้วหันมาแก้ไขปัญหาพื้นฐานของ Windows 11 ให้เสถียรและใช้งานได้ดีเสียก่อน เขายกตัวอย่างช่วงที่ Windows XP เจอไวรัส Blaster จน Microsoft ต้องออก Service Pack 2 เพื่อแก้ไขบั๊กและเพิ่มความปลอดภัย โดยไม่สนใจฟีเจอร์ใหม่ ๆ Plummer เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ Windows 11 ต้องมีการปรับปรุงแบบเดียวกัน เพื่อให้ระบบ “ไม่ห่วย” ก่อนจะไปต่อยอดด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ
    https://www.techradar.com/computing/windows/ex-engineer-blasts-microsoft-argues-it-must-fix-windows-11-until-it-doesnt-suck-never-mind-about-ai

    ฟีเจอร์ใหม่ Android อาจเปิดช่องให้เจ้านายอ่านข้อความ RCS ของคุณ
    Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ทำให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรสามารถเข้าถึงข้อความ RCS บนมือถือที่ใช้เพื่อการทำงานได้ ซึ่งหมายความว่าหากคุณใช้โทรศัพท์บริษัท ข้อความที่คุณส่งผ่าน RCS อาจถูกเจ้านายหรือฝ่ายไอทีตรวจสอบได้ ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อการจัดการอุปกรณ์และความปลอดภัย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของพนักงาน เพราะ RCS ถูกมองว่าเป็นการสื่อสารที่ทันสมัยและปลอดภัยกว่าข้อความ SMS แบบเดิม
    https://www.techradar.com/phones/android/googles-latest-android-feature-could-let-your-boss-read-your-rcs-texts-on-your-work-phone

    Google ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ Android กว่า 107 จุด
    Google ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Android ที่แก้ไขช่องโหว่ถึง 107 จุด โดยมีบางจุดที่ถูกจัดว่าเป็นความเสี่ยงระดับร้ายแรง ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลได้ การอัปเดตนี้ครอบคลุมทั้งระบบ Android และชิปจากผู้ผลิตต่าง ๆ เช่น Qualcomm และ MediaTek ผู้ใช้จึงควรรีบตรวจสอบและติดตั้งแพตช์ล่าสุดเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของตนปลอดภัยจากการโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/security/107-android-flaws-just-got-patched-by-google-heres-how-to-make-sure-youre-up-to-date

    DeepSeek แจกโมเดล AI ที่ท้าชน GPT-5
    บริษัท DeepSeek ได้สร้างความฮือฮาในวงการ AI ด้วยการปล่อยโมเดลใหม่ที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับ GPT-5 และเปิดให้ใช้งานฟรี โมเดลนี้ถูกมองว่าอาจเปลี่ยนแปลงสมดุลของตลาด AI เพราะทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาและนวัตกรรมที่รวดเร็วขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/deepseek-just-gave-away-an-ai-model-that-rivals-gpt-5-and-it-could-change-everything

    ChatGPT ล่มชั่วคราว แต่กลับมาแล้ว
    วันนี้หลายคนเจอปัญหา ChatGPT ตอบช้า หรือไม่ตอบเลย เหมือนวงกลมหมุนค้างอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น OpenAI ก็รีบออกมาชี้แจงว่ามี “error rates” สูงผิดปกติ และได้เร่งแก้ไขทันที หลังจากนั้นไม่นานก็ปล่อยการแก้ไขออกมา ทำให้ระบบกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แม้บางคนยังเจออาการหน่วงอยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่เร็วมาก สุดท้ายสถานะก็กลับมาเป็นสีเขียว แปลว่าระบบทำงานได้แล้ว ใครที่ยังเจอปัญหาก็ลองรีเฟรชหรือเปิดแอปใหม่อีกครั้ง
    https://www.techradar.com/news/live/chatgpt-outage-december-openai

    Apple เปลี่ยนตัวผู้บริหาร AI คนสำคัญ
    John Giannandrea ผู้ที่ดูแลกลยุทธ์ AI ของ Apple มานานเกือบ 8 ปี กำลังจะเกษียณในปี 2026 โดยจะมี Amar Subramanya เข้ามารับตำแหน่งแทน เขาเคยทำงานทั้งที่ Microsoft และ Google ดูแลโครงการ AI ใหญ่ ๆ อย่าง Gemini และ Bard การเข้ามาของ Subramanya ถือเป็นการเสริมทัพครั้งใหญ่ เพราะ Apple กำลังถูกวิจารณ์ว่าตามหลังคู่แข่งในเรื่อง AI การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงถูกจับตามองว่าจะทำให้ Siri และบริการ AI ของ Apple ก้าวทันโลกได้หรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-and-google-ai-veteran-to-replace-outgoing-apple-exec-john-giannandrea

    Android 16 อัปเดตใหม่ เพิ่ม 7 ฟีเจอร์เด็ด
    Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้ Android 16 แม้ยังใช้ชื่อเดิม แต่เพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เพียบ เช่น AI ช่วยสรุปการแจ้งเตือน, ระบบจัดระเบียบ notification ให้ดูง่ายขึ้น, ปรับแต่งไอคอนตามใจ, เพิ่ม parental controls สำหรับควบคุมเวลาเล่นมือถือของเด็ก, ฟีเจอร์ Call Reason ที่บอกว่าโทรด่วนจริงหรือไม่, ระบบตรวจสอบข้อความหลอกลวงด้วย Circle to Search และการปรับปรุง accessibility ให้ใช้งานสะดวกขึ้น โดยตอนนี้ปล่อยให้กับ Pixel ก่อน ส่วนมือถือแบรนด์อื่นต้องรออีกหน่อย
    https://www.techradar.com/phones/android/the-next-android-16-update-has-landed-and-these-are-the-7-biggest-features

    Samsung เปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับสามตอน
    Samsung สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับได้แบบสามตอน มีจอด้านนอก 6.5 นิ้ว และจอด้านในใหญ่ถึง 10 นิ้ว ใช้การพับแบบ “pamphlet-style” ทำให้เมื่อพับแล้วหนากว่ามือถือทั่วไป แต่ช่วยป้องกันหน้าจอด้านในไม่ให้โดนรอยขีดข่วน ต่างจาก Huawei Mate XT ที่พับแบบ Z แล้วมีส่วนจอโผล่ออกมาเสี่ยงต่อการเสียหาย ถึงแม้ยังไม่มีวันวางขายแน่ชัดในสหรัฐ แต่ดีไซน์นี้ถูกมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับการใช้งานจริง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-z-trifolds-folding-mechanism-looks-odd-but-its-the-right-call-on-a-crucial-design-decision

    กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย Tomiris หันโจมตีรัฐบาล
    รายงานจาก Kaspersky เผยว่า Tomiris กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่พูดภาษารัสเซีย กำลังเปลี่ยนเป้าหมายจากการโจมตีทั่วไป มาสู่การเจาะระบบหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ พวกเขาใช้มัลแวร์หลายภาษา ทั้ง Go, Rust, Python และ PowerShell เพื่อทำให้ตรวจจับยากขึ้น รวมถึงซ่อนการสื่อสารผ่าน Telegram และ Discord วิธีเข้าถึงระบบมักเริ่มจาก phishing ก่อนจะฝังมัลแวร์หลายชั้น จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและเก็บข้อมูลเชิงลึกในระดับรัฐ ไม่ใช่แค่การโจมตีเพื่อเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-speaking-hacking-group-now-shifting-focus-to-government-targets

    Amazon ทดลองส่งของภายใน 30 นาที
    Amazon เปิดบริการใหม่ที่ทำให้การสั่งซื้อออนไลน์เร็วขึ้นไปอีกขั้น โดยไม่ต้องรอ Prime หรือบริการพิเศษใด ๆ พวกเขาเริ่มทดสอบการส่งของภายใน 30 นาที เพื่อโชว์ศักยภาพด้านโลจิสติกส์และระบบจัดการคลังสินค้าแบบทันสมัย แนวคิดนี้คือการทำให้ลูกค้าได้ของแทบจะทันทีหลังสั่งซื้อ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการช้อปปิ้งออนไลน์ และอาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคต
    https://www.techradar.com/computing/software/forget-prime-amazon-starts-30-minute-deliveries-to-show-good-things-come-to-those-with-zero-patience

    สหรัฐทลายเครือข่าย Cryptomixer ยึดเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์
    หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐประสบความสำเร็จในการปิดเครือข่าย Cryptomixer ที่ใช้ฟอกเงินดิจิทัล โดยสามารถยึดเงินได้มากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการเงินคริปโต เพราะ Cryptomixer ถูกใช้เพื่อซ่อนเส้นทางการเงินที่ผิดกฎหมาย การยึดเงินครั้งนี้จึงเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลกำลังจริงจังกับการควบคุมตลาดคริปโตและการฟอกเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/huge-cryptomixer-takedown-sees-feds-seize-over-usd30milion

    ออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายแบนโซเชียลมีเดีย
    รัฐบาลออสเตรเลียประกาศว่ากฎหมายใหม่ที่จะห้ามการใช้โซเชียลมีเดียบางประเภทจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า มาตรการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องเยาวชนและลดผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากเกินไป แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าละเมิดเสรีภาพในการสื่อสาร แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับประชาชน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/australias-social-media-ban-will-come-into-force-next-week

    อินเดียบังคับให้มือถือทุกเครื่องติดตั้งแอปความปลอดภัยล่วงหน้า
    รัฐบาลอินเดียมีแผนจะบังคับให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอปความปลอดภัยที่รัฐกำหนดไว้ล่วงหน้า ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวออกมาแสดงความกังวลอย่างมาก เพราะอาจทำให้ข้อมูลผู้ใช้ถูกตรวจสอบหรือเก็บโดยรัฐโดยตรง แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและอาจกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัลในระยะยาว
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/experts-deeply-concerned-by-indias-plan-to-force-all-smartphones-to-run-pre-installed-security-app

    EU อนุญาตให้เนเธอร์แลนด์ดำเนินคดี Apple เรื่อง App Store
    ศาลยุโรปตัดสินให้เนเธอร์แลนด์สามารถเดินหน้าคดีต่อต้านการผูกขาดกับ Apple เกี่ยวกับการดำเนินงานของ App Store ได้ โดยก่อนหน้านี้ Apple ถูกกล่าวหาว่ามีการบังคับใช้กฎที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้พัฒนาแอป การตัดสินครั้งนี้ถือเป็นการเปิดทางให้ประเทศสมาชิก EU อื่น ๆ สามารถดำเนินการในลักษณะเดียวกันได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบธุรกิจของ Apple ในยุโรปอย่างมีนัยสำคัญ
    https://www.techradar.com/pro/eu-court-gives-the-dutch-the-green-light-to-pursue-apple-app-store-anti-trust-case

    Samsung Galaxy Z TriFold – มือถือพับสามตอนที่แพงที่สุด
    Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z TriFold ที่หลายคนคาดว่าจะเป็นมือถือที่แพงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะอยู่ราวๆ 2,799 ดอลลาร์ ซึ่งแพงกว่ารุ่น Z Fold 7 ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ จุดเด่นคือดีไซน์ที่พับได้สามตอน แต่ใช้งานได้แบบโทรศัพท์ 6.5 นิ้ว หรือแท็บเล็ต 10 นิ้วเท่านั้น ไม่เหมือน Huawei Mate XT ที่ซับซ้อนกว่าและราคาเกือบ 3,400 ดอลลาร์ การเลือกใช้ชิป Snapdragon รุ่นปีที่แล้วช่วยลดต้นทุน และที่สำคัญคือผู้ใช้ส่วนใหญ่จะซื้อผ่านสัญญากับเครือข่าย ทำให้จ่ายเป็นรายเดือนแทนที่จะจ่ายเต็มจำนวนทันที
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/how-much-will-the-galaxy-z-trifold-cost-im-a-samsung-expert-and-heres-my-prediction

    Steam บังคับติดป้ายเกมที่ใช้ AI แต่ Epic บอกว่าไร้สาระ
    Steam ได้ออกกฎใหม่ให้ผู้พัฒนาเกมต้องเปิดเผยว่าใช้ AI สร้างเนื้อหาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก บทสนทนา หรือโค้ด แต่ Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games มองว่าป้าย “Made with AI” ไม่มีประโยชน์ เพราะอนาคตเกมแทบทุกเกมจะใช้ AI อยู่แล้ว เขาเปรียบเทียบว่ามันเหมือนการติดสติกเกอร์เตือนว่าเกมใช้กราฟิก 3D ซึ่งเป็นเรื่องปกติไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นหลายคนกลับมองว่าป้ายนี้ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ว่าจะสนับสนุนเกมที่สร้างโดยมนุษย์หรือใช้ AI มากน้อยแค่ไหน ประเด็นนี้จึงกลายเป็นการถกเถียงเรื่องความโปร่งใสและความเชื่อใจระหว่างผู้เล่นกับผู้พัฒนา https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/steam-requires-ai-game-disclosures-epics-ceo-says-theyre-meaningless

    Wayback Machine เก็บครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว
    Wayback Machine ซึ่งเป็นคลังเก็บประวัติหน้าเว็บของ Internet Archive ได้บันทึกครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว ถือเป็นหลักไมล์สำคัญของการเก็บรักษาประวัติอินเทอร์เน็ต ทุกวันมีการเพิ่มข้อมูลกว่า 150TB เข้าไปในระบบ จุดเด่นคือช่วยให้เราย้อนดูการเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาล บริษัท หรือบล็อกส่วนตัว อีกทั้งยังเก็บสื่ออื่นๆ เช่น หนังสือ เพลงแผ่นเสียง เทป และเกมเก่าๆ ด้วย ผู้ก่อตั้งคือ Brewster Kahle ผู้บุกเบิกยุคแรกของอินเทอร์เน็ต ทำให้ Wayback Machine กลายเป็น “ห้องสมุดดิจิทัล” ที่ช่วยรักษาความทรงจำของโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/computing/internet/the-wayback-machine-recently-captured-its-trillionth-web-page-here-are-5-surprising-facts-about-the-living-history-of-the-internet

    AWS จับมือ Nvidia สร้าง “AI Factories”
    AWS ประกาศความร่วมมือกับ Nvidia เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า “AI Factories” หรือศูนย์กลางประมวลผล AI ขนาดใหญ่ โดยจะรวมฮาร์ดแวร์ล่าสุดของ Nvidia เข้ากับชิป Trainium ของ AWS รวมถึงระบบเครือข่ายและฐานข้อมูล เพื่อให้ธุรกิจและรัฐบาลสามารถพัฒนาโมเดล AI ได้เร็วขึ้นและปลอดภัยขึ้น แนวคิดนี้คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบครบวงจรที่สามารถติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เปรียบเสมือน AWS Region ส่วนตัว ซึ่งจะช่วยให้การสร้างและใช้งานโมเดลขนาดใหญ่ทำได้ง่ายและเร็วกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/pro/aws-wants-to-be-a-part-of-nvidias-ai-factories-and-it-could-change-everything-about-how-your-business-treats-ai

    Netflix ตัดฟีเจอร์ Cast บนมือถือออกไปแบบไม่บอกล่วงหน้า
    Netflix ได้ยกเลิกฟีเจอร์การ Cast จากแอปบนมือถือไปยังอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถส่งภาพจากมือถือไปยังทีวีได้เหมือนเดิม โดยเฉพาะผู้ที่ใช้แพ็กเกจราคาถูกแบบมีโฆษณาจะไม่สามารถ Cast ได้เลย แม้แต่กับ Chromecast รุ่นเก่า การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ที่มักใช้ฟีเจอร์นี้เวลาเดินทางหรือพักในโรงแรม เพราะมันสะดวกกว่าการล็อกอินบนทีวีเครื่องอื่น Netflix อ้างว่าการตัดฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การรับชมมีคุณภาพที่ดีกว่า แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่าเป็นการลดความสะดวกเพื่อควบคุมการใช้งานอุปกรณ์
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/netflix-just-ditched-a-useful-android-and-ios-feature-that-travelers-rely-on-for-hotel-streaming

    รีวิว Prusa Core One L – เครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่
    Prusa เปิดตัว Core One L เครื่องพิมพ์ 3D ที่ออกแบบมาเพื่อความแม่นยำและความเสถียรสูง ใช้โครงสร้าง CoreXY ที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการพิมพ์ขนาดใหญ่และวัสดุหลากหลาย เหมาะทั้งงานต้นแบบและงานผลิตจริง รีวิวชี้ว่าคุณภาพการพิมพ์ออกมาเนียนละเอียด แต่ราคาก็สูงตามสมรรถนะ ถือเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่จริงจังกับงาน 3D printing และต้องการเครื่องที่เชื่อถือได้ในระยะยาว
    https://www.techradar.com/pro/original-prusa-core-one-l-3d-printer-review

    FiiO FT13 – หูฟังครอบหูแบบมีสาย
    FiiO เปิดตัว FT13 หูฟังครอบหูแบบปิดหลังที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างในตลาดหูฟังสาย จุดเด่นคือเสียงที่สมดุลและการออกแบบที่สวมใส่สบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงจริงจังโดยไม่พึ่งระบบไร้สาย รีวิวระบุว่าแม้จะไม่ใช่หูฟังระดับไฮเอนด์ แต่ก็ให้คุณภาพเสียงที่คุ้มค่ากับราคา และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ยังชอบหูฟังแบบมีสาย https://www.techradar.com/audio/headphones/fiio-ft13-wired-headphones-review

    ศูนย์ข้อมูลใหม่อาจใช้พลังงานเพิ่มเกือบ 3 เท่าในปี 2035
    รายงานใหม่เผยว่าศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าภายในปี 2035 เนื่องจากความต้องการประมวลผล AI และการเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ปัจจุบันศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานมากอยู่แล้ว แต่การเติบโตของโมเดล AI ขนาดใหญ่และการสตรีมมิ่งจะทำให้ความต้องการพุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์เตือนว่าหากไม่มีการลงทุนในพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ อาจเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/new-data-centers-will-need-almost-triple-the-current-energy-demand-by-2035

    มอเตอร์ไฟฟ้าแรงสูงอาจนำการบินเหนือเสียงกลับมา
    นักวิจัยกำลังพัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่สามารถทำให้เครื่องบินกลับมาบินด้วยความเร็วเหนือเสียงแบบ Concorde ได้อีกครั้ง การออกแบบใหม่นี้ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้การบินเร็วระดับ Mach 2 มีโอกาสกลับมาในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หากสำเร็จจะเป็นการพลิกโฉมการเดินทางทางอากาศ โดยให้ผู้โดยสารเดินทางข้ามทวีปได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/concorde-style-air-travel-could-be-back-soon-these-powerful-ev-motors-are-unlocking-the-secrets-to-supersonic-air-speeds

    AWS CEO มองว่า AI Agents จะใหญ่กว่าอินเทอร์เน็ต
    Adam Selipsky ซีอีโอของ AWS กล่าวว่าการมาของ AI Agents จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กว่าการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ต เขาเชื่อว่าโลกกำลังเร่งไปข้างหน้าและธุรกิจต้องปรับตัวทันที โดย AWS กำลังลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งาน AI Agents ในระดับองค์กร มุมมองนี้สะท้อนว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังเห็น AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คน
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/the-world-is-not-slowing-down-aws-ceo-says-ai-agents-will-be-bigger-than-the-internet-so-act-now
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251203 #TechRadar 🏛️ สภาคองเกรสสหรัฐฯ เตรียมพิจารณากฎหมายตรวจสอบอายุใน App Store ตอนนี้สภาคองเกรสของสหรัฐฯ กำลังจะหยิบยกกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า App Store Accountability Act (ASA) มาพิจารณา โดยเป้าหมายคือการเพิ่มมาตรการปกป้องเยาวชนบนโลกออนไลน์ กฎหมายนี้จะบังคับให้ผู้ให้บริการ App Store อย่าง Apple และ Google ต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบอายุผู้ใช้งานและจำกัดการเข้าถึงแอปที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก แม้จะมีการสนับสนุนจาก Meta, X และ Pinterest แต่ Apple และ Google กลับกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและการแชร์ข้อมูล ASA เป็นเพียงหนึ่งใน 19 กฎหมายที่ถูกหยิบขึ้นมาหารือในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึง Kids Online Safety Act (KOSA) และ SCREEN Act ที่ต่างก็มีข้อถกเถียงว่าจะกระทบต่อเสรีภาพและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-congress-to-consider-app-store-age-verification-measures 💻 ผู้ใช้ Windows 11 กังวลเรื่อง AI Agents แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกอย่าเพิ่งตื่นตระหนก Windows 11 กำลังถูกจับตามองอีกครั้งหลัง Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า AI Agents โดยเฉพาะ Copilot Actions ที่สามารถช่วยจัดการไฟล์และงานต่าง ๆ บนเครื่องได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ใช้กังวลคือเอกสารที่เตือนถึงความเสี่ยง เช่น การ “หลอน” ของ AI ที่อาจให้ข้อมูลผิด ๆ หรือการโจมตีแบบ cross-prompt injection ที่อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล แม้ Microsoft จะออกแบบระบบให้ AI Agents ทำงานในพื้นที่แยกต่างหากเพื่อความปลอดภัย แต่หลายคนยังไม่มั่นใจว่าจะป้องกันได้จริงเมื่อใช้งานในโลกจริง ความกังวลนี้จึงสะท้อนว่า แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ยังต้องจับตาดูว่ามันจะปลอดภัยพอหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/i-get-why-some-people-are-suddenly-freaking-out-about-ai-agents-in-windows-11-im-worried-too-but-lets-not-panic-just-yet 🏢 Instagram สั่งพนักงานกลับเข้าออฟฟิศเต็มเวลา Adam Mosseri ซีอีโอของ Instagram ประกาศว่าตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2026 พนักงานส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ จะต้องกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา โดยให้เหตุผลว่าการทำงานแบบนี้จะช่วยให้บริษัท “คล่องตัวและสร้างสรรค์มากขึ้น” แม้จะยังมีข้อยกเว้นสำหรับพนักงานที่ทำงานแบบรีโมตเต็มเวลา แต่รูปแบบ hybrid กำลังจะหมดไป นอกจากนี้ Mosseri ยังวางแผนลดจำนวนการประชุมที่ไม่จำเป็น และบังคับให้เอกสารกลยุทธ์ต้องกระชับไม่เกินสามหน้า เพื่อให้ทุกคนมีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างผลิตภัณฑ์มากกว่าการเตรียมสไลด์หรือประชุมยืดยาว 🔗 https://www.techradar.com/pro/instagram-ceo-issues-full-time-return-to-office-order ⚠️ 4.3 ล้านเครื่องติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่กลายเป็นมัลแวร์ มีการค้นพบว่า ส่วนขยายบน Chrome และ Edge กว่า 145 ตัวที่เคยทำงานปกติมานานหลายปี ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายภายใต้แคมเปญที่ชื่อว่า ShadyPanda โดยเริ่มจากการทำ affiliate fraud แอบใส่โค้ดติดตามการซื้อสินค้า จากนั้นพัฒนาไปสู่การขโมยคุกกี้ การเปลี่ยนเส้นทางการค้นหา และล่าสุดถึงขั้นเปิดช่องให้รันโค้ดจากระยะไกล ทำให้ผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านเครื่องตกอยู่ในความเสี่ยง แม้ Google จะลบออกจาก Chrome Web Store แล้ว แต่ Microsoft ยังตอบสนองช้ากว่า ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบว่ามีส่วนขยายเหล่านี้อยู่ในเครื่องหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/4-3-million-have-installed-this-malicious-browser-extension-on-chrome-and-edge-heres-how-to-check 🖥️ อดีตวิศวกร Microsoft จวก Windows 11 ควรแก้ไขพื้นฐานก่อนใส่ฟีเจอร์ AI Dave Plummer อดีตวิศวกรผู้สร้าง Task Manager และเกม Space Cadet Pinball ออกมาแสดงความเห็นว่า Microsoft ควรหยุดเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI แล้วหันมาแก้ไขปัญหาพื้นฐานของ Windows 11 ให้เสถียรและใช้งานได้ดีเสียก่อน เขายกตัวอย่างช่วงที่ Windows XP เจอไวรัส Blaster จน Microsoft ต้องออก Service Pack 2 เพื่อแก้ไขบั๊กและเพิ่มความปลอดภัย โดยไม่สนใจฟีเจอร์ใหม่ ๆ Plummer เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ Windows 11 ต้องมีการปรับปรุงแบบเดียวกัน เพื่อให้ระบบ “ไม่ห่วย” ก่อนจะไปต่อยอดด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/ex-engineer-blasts-microsoft-argues-it-must-fix-windows-11-until-it-doesnt-suck-never-mind-about-ai 📱 ฟีเจอร์ใหม่ Android อาจเปิดช่องให้เจ้านายอ่านข้อความ RCS ของคุณ Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ทำให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรสามารถเข้าถึงข้อความ RCS บนมือถือที่ใช้เพื่อการทำงานได้ ซึ่งหมายความว่าหากคุณใช้โทรศัพท์บริษัท ข้อความที่คุณส่งผ่าน RCS อาจถูกเจ้านายหรือฝ่ายไอทีตรวจสอบได้ ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อการจัดการอุปกรณ์และความปลอดภัย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของพนักงาน เพราะ RCS ถูกมองว่าเป็นการสื่อสารที่ทันสมัยและปลอดภัยกว่าข้อความ SMS แบบเดิม 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/googles-latest-android-feature-could-let-your-boss-read-your-rcs-texts-on-your-work-phone 🔒 Google ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ Android กว่า 107 จุด Google ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Android ที่แก้ไขช่องโหว่ถึง 107 จุด โดยมีบางจุดที่ถูกจัดว่าเป็นความเสี่ยงระดับร้ายแรง ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลได้ การอัปเดตนี้ครอบคลุมทั้งระบบ Android และชิปจากผู้ผลิตต่าง ๆ เช่น Qualcomm และ MediaTek ผู้ใช้จึงควรรีบตรวจสอบและติดตั้งแพตช์ล่าสุดเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของตนปลอดภัยจากการโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/107-android-flaws-just-got-patched-by-google-heres-how-to-make-sure-youre-up-to-date 🤖 DeepSeek แจกโมเดล AI ที่ท้าชน GPT-5 บริษัท DeepSeek ได้สร้างความฮือฮาในวงการ AI ด้วยการปล่อยโมเดลใหม่ที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับ GPT-5 และเปิดให้ใช้งานฟรี โมเดลนี้ถูกมองว่าอาจเปลี่ยนแปลงสมดุลของตลาด AI เพราะทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาและนวัตกรรมที่รวดเร็วขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/deepseek-just-gave-away-an-ai-model-that-rivals-gpt-5-and-it-could-change-everything 🖥️ ChatGPT ล่มชั่วคราว แต่กลับมาแล้ว วันนี้หลายคนเจอปัญหา ChatGPT ตอบช้า หรือไม่ตอบเลย เหมือนวงกลมหมุนค้างอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น OpenAI ก็รีบออกมาชี้แจงว่ามี “error rates” สูงผิดปกติ และได้เร่งแก้ไขทันที หลังจากนั้นไม่นานก็ปล่อยการแก้ไขออกมา ทำให้ระบบกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แม้บางคนยังเจออาการหน่วงอยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่เร็วมาก สุดท้ายสถานะก็กลับมาเป็นสีเขียว แปลว่าระบบทำงานได้แล้ว ใครที่ยังเจอปัญหาก็ลองรีเฟรชหรือเปิดแอปใหม่อีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/news/live/chatgpt-outage-december-openai 🍏 Apple เปลี่ยนตัวผู้บริหาร AI คนสำคัญ John Giannandrea ผู้ที่ดูแลกลยุทธ์ AI ของ Apple มานานเกือบ 8 ปี กำลังจะเกษียณในปี 2026 โดยจะมี Amar Subramanya เข้ามารับตำแหน่งแทน เขาเคยทำงานทั้งที่ Microsoft และ Google ดูแลโครงการ AI ใหญ่ ๆ อย่าง Gemini และ Bard การเข้ามาของ Subramanya ถือเป็นการเสริมทัพครั้งใหญ่ เพราะ Apple กำลังถูกวิจารณ์ว่าตามหลังคู่แข่งในเรื่อง AI การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงถูกจับตามองว่าจะทำให้ Siri และบริการ AI ของ Apple ก้าวทันโลกได้หรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-and-google-ai-veteran-to-replace-outgoing-apple-exec-john-giannandrea 📱 Android 16 อัปเดตใหม่ เพิ่ม 7 ฟีเจอร์เด็ด Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้ Android 16 แม้ยังใช้ชื่อเดิม แต่เพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เพียบ เช่น AI ช่วยสรุปการแจ้งเตือน, ระบบจัดระเบียบ notification ให้ดูง่ายขึ้น, ปรับแต่งไอคอนตามใจ, เพิ่ม parental controls สำหรับควบคุมเวลาเล่นมือถือของเด็ก, ฟีเจอร์ Call Reason ที่บอกว่าโทรด่วนจริงหรือไม่, ระบบตรวจสอบข้อความหลอกลวงด้วย Circle to Search และการปรับปรุง accessibility ให้ใช้งานสะดวกขึ้น โดยตอนนี้ปล่อยให้กับ Pixel ก่อน ส่วนมือถือแบรนด์อื่นต้องรออีกหน่อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/the-next-android-16-update-has-landed-and-these-are-the-7-biggest-features 📲 Samsung เปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับสามตอน Samsung สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับได้แบบสามตอน มีจอด้านนอก 6.5 นิ้ว และจอด้านในใหญ่ถึง 10 นิ้ว ใช้การพับแบบ “pamphlet-style” ทำให้เมื่อพับแล้วหนากว่ามือถือทั่วไป แต่ช่วยป้องกันหน้าจอด้านในไม่ให้โดนรอยขีดข่วน ต่างจาก Huawei Mate XT ที่พับแบบ Z แล้วมีส่วนจอโผล่ออกมาเสี่ยงต่อการเสียหาย ถึงแม้ยังไม่มีวันวางขายแน่ชัดในสหรัฐ แต่ดีไซน์นี้ถูกมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับการใช้งานจริง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-z-trifolds-folding-mechanism-looks-odd-but-its-the-right-call-on-a-crucial-design-decision 🛡️ กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย Tomiris หันโจมตีรัฐบาล รายงานจาก Kaspersky เผยว่า Tomiris กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่พูดภาษารัสเซีย กำลังเปลี่ยนเป้าหมายจากการโจมตีทั่วไป มาสู่การเจาะระบบหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ พวกเขาใช้มัลแวร์หลายภาษา ทั้ง Go, Rust, Python และ PowerShell เพื่อทำให้ตรวจจับยากขึ้น รวมถึงซ่อนการสื่อสารผ่าน Telegram และ Discord วิธีเข้าถึงระบบมักเริ่มจาก phishing ก่อนจะฝังมัลแวร์หลายชั้น จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและเก็บข้อมูลเชิงลึกในระดับรัฐ ไม่ใช่แค่การโจมตีเพื่อเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-speaking-hacking-group-now-shifting-focus-to-government-targets 🚚 Amazon ทดลองส่งของภายใน 30 นาที Amazon เปิดบริการใหม่ที่ทำให้การสั่งซื้อออนไลน์เร็วขึ้นไปอีกขั้น โดยไม่ต้องรอ Prime หรือบริการพิเศษใด ๆ พวกเขาเริ่มทดสอบการส่งของภายใน 30 นาที เพื่อโชว์ศักยภาพด้านโลจิสติกส์และระบบจัดการคลังสินค้าแบบทันสมัย แนวคิดนี้คือการทำให้ลูกค้าได้ของแทบจะทันทีหลังสั่งซื้อ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการช้อปปิ้งออนไลน์ และอาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/forget-prime-amazon-starts-30-minute-deliveries-to-show-good-things-come-to-those-with-zero-patience 💰 สหรัฐทลายเครือข่าย Cryptomixer ยึดเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์ หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐประสบความสำเร็จในการปิดเครือข่าย Cryptomixer ที่ใช้ฟอกเงินดิจิทัล โดยสามารถยึดเงินได้มากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการเงินคริปโต เพราะ Cryptomixer ถูกใช้เพื่อซ่อนเส้นทางการเงินที่ผิดกฎหมาย การยึดเงินครั้งนี้จึงเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลกำลังจริงจังกับการควบคุมตลาดคริปโตและการฟอกเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/huge-cryptomixer-takedown-sees-feds-seize-over-usd30milion 📵 ออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายแบนโซเชียลมีเดีย รัฐบาลออสเตรเลียประกาศว่ากฎหมายใหม่ที่จะห้ามการใช้โซเชียลมีเดียบางประเภทจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า มาตรการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องเยาวชนและลดผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากเกินไป แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าละเมิดเสรีภาพในการสื่อสาร แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับประชาชน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/australias-social-media-ban-will-come-into-force-next-week 📱 อินเดียบังคับให้มือถือทุกเครื่องติดตั้งแอปความปลอดภัยล่วงหน้า รัฐบาลอินเดียมีแผนจะบังคับให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอปความปลอดภัยที่รัฐกำหนดไว้ล่วงหน้า ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวออกมาแสดงความกังวลอย่างมาก เพราะอาจทำให้ข้อมูลผู้ใช้ถูกตรวจสอบหรือเก็บโดยรัฐโดยตรง แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและอาจกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัลในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/experts-deeply-concerned-by-indias-plan-to-force-all-smartphones-to-run-pre-installed-security-app ⚖️ EU อนุญาตให้เนเธอร์แลนด์ดำเนินคดี Apple เรื่อง App Store ศาลยุโรปตัดสินให้เนเธอร์แลนด์สามารถเดินหน้าคดีต่อต้านการผูกขาดกับ Apple เกี่ยวกับการดำเนินงานของ App Store ได้ โดยก่อนหน้านี้ Apple ถูกกล่าวหาว่ามีการบังคับใช้กฎที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้พัฒนาแอป การตัดสินครั้งนี้ถือเป็นการเปิดทางให้ประเทศสมาชิก EU อื่น ๆ สามารถดำเนินการในลักษณะเดียวกันได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบธุรกิจของ Apple ในยุโรปอย่างมีนัยสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-court-gives-the-dutch-the-green-light-to-pursue-apple-app-store-anti-trust-case 📱 Samsung Galaxy Z TriFold – มือถือพับสามตอนที่แพงที่สุด Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z TriFold ที่หลายคนคาดว่าจะเป็นมือถือที่แพงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะอยู่ราวๆ 2,799 ดอลลาร์ ซึ่งแพงกว่ารุ่น Z Fold 7 ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ จุดเด่นคือดีไซน์ที่พับได้สามตอน แต่ใช้งานได้แบบโทรศัพท์ 6.5 นิ้ว หรือแท็บเล็ต 10 นิ้วเท่านั้น ไม่เหมือน Huawei Mate XT ที่ซับซ้อนกว่าและราคาเกือบ 3,400 ดอลลาร์ การเลือกใช้ชิป Snapdragon รุ่นปีที่แล้วช่วยลดต้นทุน และที่สำคัญคือผู้ใช้ส่วนใหญ่จะซื้อผ่านสัญญากับเครือข่าย ทำให้จ่ายเป็นรายเดือนแทนที่จะจ่ายเต็มจำนวนทันที 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/how-much-will-the-galaxy-z-trifold-cost-im-a-samsung-expert-and-heres-my-prediction 🎮 Steam บังคับติดป้ายเกมที่ใช้ AI แต่ Epic บอกว่าไร้สาระ Steam ได้ออกกฎใหม่ให้ผู้พัฒนาเกมต้องเปิดเผยว่าใช้ AI สร้างเนื้อหาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก บทสนทนา หรือโค้ด แต่ Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games มองว่าป้าย “Made with AI” ไม่มีประโยชน์ เพราะอนาคตเกมแทบทุกเกมจะใช้ AI อยู่แล้ว เขาเปรียบเทียบว่ามันเหมือนการติดสติกเกอร์เตือนว่าเกมใช้กราฟิก 3D ซึ่งเป็นเรื่องปกติไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นหลายคนกลับมองว่าป้ายนี้ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ว่าจะสนับสนุนเกมที่สร้างโดยมนุษย์หรือใช้ AI มากน้อยแค่ไหน ประเด็นนี้จึงกลายเป็นการถกเถียงเรื่องความโปร่งใสและความเชื่อใจระหว่างผู้เล่นกับผู้พัฒนา 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/steam-requires-ai-game-disclosures-epics-ceo-says-theyre-meaningless 🌐 Wayback Machine เก็บครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว Wayback Machine ซึ่งเป็นคลังเก็บประวัติหน้าเว็บของ Internet Archive ได้บันทึกครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว ถือเป็นหลักไมล์สำคัญของการเก็บรักษาประวัติอินเทอร์เน็ต ทุกวันมีการเพิ่มข้อมูลกว่า 150TB เข้าไปในระบบ จุดเด่นคือช่วยให้เราย้อนดูการเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาล บริษัท หรือบล็อกส่วนตัว อีกทั้งยังเก็บสื่ออื่นๆ เช่น หนังสือ เพลงแผ่นเสียง เทป และเกมเก่าๆ ด้วย ผู้ก่อตั้งคือ Brewster Kahle ผู้บุกเบิกยุคแรกของอินเทอร์เน็ต ทำให้ Wayback Machine กลายเป็น “ห้องสมุดดิจิทัล” ที่ช่วยรักษาความทรงจำของโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/computing/internet/the-wayback-machine-recently-captured-its-trillionth-web-page-here-are-5-surprising-facts-about-the-living-history-of-the-internet 🤝 AWS จับมือ Nvidia สร้าง “AI Factories” AWS ประกาศความร่วมมือกับ Nvidia เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า “AI Factories” หรือศูนย์กลางประมวลผล AI ขนาดใหญ่ โดยจะรวมฮาร์ดแวร์ล่าสุดของ Nvidia เข้ากับชิป Trainium ของ AWS รวมถึงระบบเครือข่ายและฐานข้อมูล เพื่อให้ธุรกิจและรัฐบาลสามารถพัฒนาโมเดล AI ได้เร็วขึ้นและปลอดภัยขึ้น แนวคิดนี้คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบครบวงจรที่สามารถติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เปรียบเสมือน AWS Region ส่วนตัว ซึ่งจะช่วยให้การสร้างและใช้งานโมเดลขนาดใหญ่ทำได้ง่ายและเร็วกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-wants-to-be-a-part-of-nvidias-ai-factories-and-it-could-change-everything-about-how-your-business-treats-ai 📺 Netflix ตัดฟีเจอร์ Cast บนมือถือออกไปแบบไม่บอกล่วงหน้า Netflix ได้ยกเลิกฟีเจอร์การ Cast จากแอปบนมือถือไปยังอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถส่งภาพจากมือถือไปยังทีวีได้เหมือนเดิม โดยเฉพาะผู้ที่ใช้แพ็กเกจราคาถูกแบบมีโฆษณาจะไม่สามารถ Cast ได้เลย แม้แต่กับ Chromecast รุ่นเก่า การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ที่มักใช้ฟีเจอร์นี้เวลาเดินทางหรือพักในโรงแรม เพราะมันสะดวกกว่าการล็อกอินบนทีวีเครื่องอื่น Netflix อ้างว่าการตัดฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การรับชมมีคุณภาพที่ดีกว่า แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่าเป็นการลดความสะดวกเพื่อควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/netflix-just-ditched-a-useful-android-and-ios-feature-that-travelers-rely-on-for-hotel-streaming 🖨️ รีวิว Prusa Core One L – เครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่ Prusa เปิดตัว Core One L เครื่องพิมพ์ 3D ที่ออกแบบมาเพื่อความแม่นยำและความเสถียรสูง ใช้โครงสร้าง CoreXY ที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการพิมพ์ขนาดใหญ่และวัสดุหลากหลาย เหมาะทั้งงานต้นแบบและงานผลิตจริง รีวิวชี้ว่าคุณภาพการพิมพ์ออกมาเนียนละเอียด แต่ราคาก็สูงตามสมรรถนะ ถือเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่จริงจังกับงาน 3D printing และต้องการเครื่องที่เชื่อถือได้ในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/pro/original-prusa-core-one-l-3d-printer-review 🎧 FiiO FT13 – หูฟังครอบหูแบบมีสาย FiiO เปิดตัว FT13 หูฟังครอบหูแบบปิดหลังที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างในตลาดหูฟังสาย จุดเด่นคือเสียงที่สมดุลและการออกแบบที่สวมใส่สบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงจริงจังโดยไม่พึ่งระบบไร้สาย รีวิวระบุว่าแม้จะไม่ใช่หูฟังระดับไฮเอนด์ แต่ก็ให้คุณภาพเสียงที่คุ้มค่ากับราคา และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ยังชอบหูฟังแบบมีสาย 🔗 https://www.techradar.com/audio/headphones/fiio-ft13-wired-headphones-review ⚡ ศูนย์ข้อมูลใหม่อาจใช้พลังงานเพิ่มเกือบ 3 เท่าในปี 2035 รายงานใหม่เผยว่าศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าภายในปี 2035 เนื่องจากความต้องการประมวลผล AI และการเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ปัจจุบันศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานมากอยู่แล้ว แต่การเติบโตของโมเดล AI ขนาดใหญ่และการสตรีมมิ่งจะทำให้ความต้องการพุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์เตือนว่าหากไม่มีการลงทุนในพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ อาจเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-data-centers-will-need-almost-triple-the-current-energy-demand-by-2035 ✈️ มอเตอร์ไฟฟ้าแรงสูงอาจนำการบินเหนือเสียงกลับมา นักวิจัยกำลังพัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่สามารถทำให้เครื่องบินกลับมาบินด้วยความเร็วเหนือเสียงแบบ Concorde ได้อีกครั้ง การออกแบบใหม่นี้ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้การบินเร็วระดับ Mach 2 มีโอกาสกลับมาในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หากสำเร็จจะเป็นการพลิกโฉมการเดินทางทางอากาศ โดยให้ผู้โดยสารเดินทางข้ามทวีปได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/concorde-style-air-travel-could-be-back-soon-these-powerful-ev-motors-are-unlocking-the-secrets-to-supersonic-air-speeds 🌍 AWS CEO มองว่า AI Agents จะใหญ่กว่าอินเทอร์เน็ต Adam Selipsky ซีอีโอของ AWS กล่าวว่าการมาของ AI Agents จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กว่าการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ต เขาเชื่อว่าโลกกำลังเร่งไปข้างหน้าและธุรกิจต้องปรับตัวทันที โดย AWS กำลังลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งาน AI Agents ในระดับองค์กร มุมมองนี้สะท้อนว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังเห็น AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คน ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/the-world-is-not-slowing-down-aws-ceo-says-ai-agents-will-be-bigger-than-the-internet-so-act-now
    0 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • Samsung และ SK hynix ระวังการเพิ่มกำลังผลิต DRAM

    สองผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของโลก Samsung และ SK hynix ได้ออกมาประกาศจุดยืนชัดเจนว่า แม้ตลาดหน่วยความจำกำลังอยู่ในภาวะ “supercycle” ที่ความต้องการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่พวกเขาจะไม่เร่งขยายกำลังการผลิตทันที เนื่องจากกังวลว่าหากลงทุนมหาศาลเพื่อเพิ่ม capacity อาจนำไปสู่ ภาวะ oversupply เมื่อกระแส AI ลดลงในอนาคต

    รายงานระบุว่า ราคาหน่วยความจำ RAM พุ่งสูงจนเกือบ “ไม่สามารถซื้อได้” ในตลาดผู้บริโภค โดยเฉพาะ DDR5 และ GPU ที่ใช้ DRAM อย่างหนัก ซึ่งทำให้ผู้ใช้ทั่วไปได้รับผลกระทบมากที่สุด อย่างไรก็ตาม Samsung และ SK hynix ยืนยันว่าจะใช้กลยุทธ์ CAPEX ที่เน้นความสมดุลระหว่างความต้องการและราคา เพื่อรักษากำไรระยะยาว

    ทั้งสองบริษัทเคยเผชิญปัญหาการผลิตเกินในอดีต โดยเฉพาะช่วง COVID-19 ที่ความต้องการลดลง ทำให้ต้องลดกำลังการผลิตอย่างหนัก ปัจจุบันพวกเขาจึงเลือกแนวทางระมัดระวังมากขึ้น และคาดการณ์ว่า ภาวะขาดแคลน DRAM จะยืดเยื้อไปจนถึงปี 2028

    ผลกระทบที่ตามมาคือผู้ผลิตอุปกรณ์และผู้บริโภคต้องเผชิญราคาที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยมีการทำสัญญาระยะสั้นเพื่อสะท้อนการปรับราคาที่รวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้ตลาดฮาร์ดแวร์เช่น PC และสมาร์ทโฟนยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวอีกหลายปี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Samsung และ SK hynix ไม่เร่งเพิ่มกำลังผลิต DRAM
    เน้นกลยุทธ์ “กำไรระยะยาว”
    หลีกเลี่ยงความเสี่ยง oversupply เมื่อกระแส AI ลดลง

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาด
    ราคาหน่วยความจำ RAM และ GPU พุ่งสูง
    สัญญาระยะสั้นสะท้อนการปรับราคาที่รวดเร็ว

    ประสบการณ์ในอดีตทำให้ระมัดระวังมากขึ้น
    ช่วง COVID-19 เคยลดกำลังผลิตหนักเพราะความต้องการตกต่ำ
    ปัจจุบันเลือกแนวทางระวังเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม

    คำเตือนและความท้าทาย
    ภาวะขาดแคลน DRAM อาจยืดเยื้อถึงปี 2028
    ราคาฮาร์ดแวร์สำหรับผู้บริโภคอาจยังสูงต่อเนื่อง
    การลงทุนเพิ่ม capacity ต้องใช้ทรัพยากรและเวลาอย่างมาก

    https://wccftech.com/two-of-the-biggest-dram-suppliers-are-skeptical-about-increasing-production/
    🏭 Samsung และ SK hynix ระวังการเพิ่มกำลังผลิต DRAM สองผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของโลก Samsung และ SK hynix ได้ออกมาประกาศจุดยืนชัดเจนว่า แม้ตลาดหน่วยความจำกำลังอยู่ในภาวะ “supercycle” ที่ความต้องการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่พวกเขาจะไม่เร่งขยายกำลังการผลิตทันที เนื่องจากกังวลว่าหากลงทุนมหาศาลเพื่อเพิ่ม capacity อาจนำไปสู่ ภาวะ oversupply เมื่อกระแส AI ลดลงในอนาคต รายงานระบุว่า ราคาหน่วยความจำ RAM พุ่งสูงจนเกือบ “ไม่สามารถซื้อได้” ในตลาดผู้บริโภค โดยเฉพาะ DDR5 และ GPU ที่ใช้ DRAM อย่างหนัก ซึ่งทำให้ผู้ใช้ทั่วไปได้รับผลกระทบมากที่สุด อย่างไรก็ตาม Samsung และ SK hynix ยืนยันว่าจะใช้กลยุทธ์ CAPEX ที่เน้นความสมดุลระหว่างความต้องการและราคา เพื่อรักษากำไรระยะยาว ทั้งสองบริษัทเคยเผชิญปัญหาการผลิตเกินในอดีต โดยเฉพาะช่วง COVID-19 ที่ความต้องการลดลง ทำให้ต้องลดกำลังการผลิตอย่างหนัก ปัจจุบันพวกเขาจึงเลือกแนวทางระมัดระวังมากขึ้น และคาดการณ์ว่า ภาวะขาดแคลน DRAM จะยืดเยื้อไปจนถึงปี 2028 ผลกระทบที่ตามมาคือผู้ผลิตอุปกรณ์และผู้บริโภคต้องเผชิญราคาที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยมีการทำสัญญาระยะสั้นเพื่อสะท้อนการปรับราคาที่รวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้ตลาดฮาร์ดแวร์เช่น PC และสมาร์ทโฟนยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวอีกหลายปี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Samsung และ SK hynix ไม่เร่งเพิ่มกำลังผลิต DRAM ➡️ เน้นกลยุทธ์ “กำไรระยะยาว” ➡️ หลีกเลี่ยงความเสี่ยง oversupply เมื่อกระแส AI ลดลง ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาด ➡️ ราคาหน่วยความจำ RAM และ GPU พุ่งสูง ➡️ สัญญาระยะสั้นสะท้อนการปรับราคาที่รวดเร็ว ✅ ประสบการณ์ในอดีตทำให้ระมัดระวังมากขึ้น ➡️ ช่วง COVID-19 เคยลดกำลังผลิตหนักเพราะความต้องการตกต่ำ ➡️ ปัจจุบันเลือกแนวทางระวังเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ ภาวะขาดแคลน DRAM อาจยืดเยื้อถึงปี 2028 ⛔ ราคาฮาร์ดแวร์สำหรับผู้บริโภคอาจยังสูงต่อเนื่อง ⛔ การลงทุนเพิ่ม capacity ต้องใช้ทรัพยากรและเวลาอย่างมาก https://wccftech.com/two-of-the-biggest-dram-suppliers-are-skeptical-about-increasing-production/
    WCCFTECH.COM
    Two of the Biggest DRAM Suppliers Are Skeptical About Increasing Production as They Eye "Long-Term" Profitability
    Samsung and SK hynix are stating that their strategy towards the ongoing 'memory boom' will focus on profitability.
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • MediaTek ร่วมพัฒนา Google TPU v7 เพื่อยกระดับ Dimensity 9600

    MediaTek ได้เข้าร่วมในโครงการพัฒนา Google TPU v7 Ironwood ซึ่งถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ NVIDIA Blackwell GPUs โดย MediaTek มีบทบาทสำคัญในการออกแบบ I/O modules ของ TPU รุ่นนี้ เพื่อให้การสื่อสารระหว่างโปรเซสเซอร์และอุปกรณ์รอบข้างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น การมีส่วนร่วมครั้งนี้ไม่เพียงสร้างรายได้มหาศาลให้กับ MediaTek แต่ยังเปิดโอกาสให้บริษัทนำประสบการณ์ไปปรับใช้กับชิปสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง Dimensity 9600

    สถาปัตยกรรมของ TPU v7 ใช้ dual-chiplet design ที่ประกอบด้วย TensorCore, Vector Processing Unit (VPU), Matrix Multiply Unit (MXU) และ SparseCores พร้อมหน่วยความจำ HBM ขนาด 96GB เชื่อมต่อกันด้วย die-to-die interconnect ที่เร็วกว่าเดิมถึง 6 เท่า และสามารถขยายเป็นระบบ superpod ที่มีมากกว่า 9,000 ชิปเพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่

    สำหรับ Dimensity 9600 แม้จะเป็น Application Processor (AP) ที่แตกต่างจาก ASIC อย่าง TPU แต่ MediaTek สามารถนำแนวคิดจากการทำงานร่วมกับ Google มาปรับใช้ เช่น กลยุทธ์ power gating ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น, การปรับปรุง voltage scaling และ การจัดการ clock-gating เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่และลดการใช้พลังงาน ซึ่งถือเป็นการยกระดับชิปมือถือให้แข่งขันได้ในตลาดที่เน้น AI และประสิทธิภาพพลังงาน

    การร่วมมือครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ ที่บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเริ่มมีบทบาทในโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ MediaTek ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด AI chips ในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    MediaTek มีบทบาทใน Google TPU v7 Ironwood
    ออกแบบ I/O modules เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร
    คาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 4 พันล้านดอลลาร์

    สถาปัตยกรรม TPU v7 ที่ล้ำสมัย
    Dual-chiplet design พร้อม TensorCore, VPU, MXU และ SparseCores
    ใช้ HBM 96GB และ interconnect ที่เร็วกว่าเดิม 6 เท่า

    ผลต่อ Dimensity 9600
    ปรับปรุง power gating และ voltage scaling
    clock-gating ที่ดีขึ้นเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    ASIC และ AP มีโครงสร้างต่างกัน ทำให้ไม่สามารถนำประสบการณ์มาใช้ได้ทั้งหมด
    การแข่งขันกับ NVIDIA และ Qualcomm ในตลาด AI chips ยังเข้มข้น
    การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน

    https://wccftech.com/mediateks-work-on-the-google-tpu-v7-to-boost-dimensity-9600s-efficiency/
    ⚙️ MediaTek ร่วมพัฒนา Google TPU v7 เพื่อยกระดับ Dimensity 9600 MediaTek ได้เข้าร่วมในโครงการพัฒนา Google TPU v7 Ironwood ซึ่งถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ NVIDIA Blackwell GPUs โดย MediaTek มีบทบาทสำคัญในการออกแบบ I/O modules ของ TPU รุ่นนี้ เพื่อให้การสื่อสารระหว่างโปรเซสเซอร์และอุปกรณ์รอบข้างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น การมีส่วนร่วมครั้งนี้ไม่เพียงสร้างรายได้มหาศาลให้กับ MediaTek แต่ยังเปิดโอกาสให้บริษัทนำประสบการณ์ไปปรับใช้กับชิปสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง Dimensity 9600 สถาปัตยกรรมของ TPU v7 ใช้ dual-chiplet design ที่ประกอบด้วย TensorCore, Vector Processing Unit (VPU), Matrix Multiply Unit (MXU) และ SparseCores พร้อมหน่วยความจำ HBM ขนาด 96GB เชื่อมต่อกันด้วย die-to-die interconnect ที่เร็วกว่าเดิมถึง 6 เท่า และสามารถขยายเป็นระบบ superpod ที่มีมากกว่า 9,000 ชิปเพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ สำหรับ Dimensity 9600 แม้จะเป็น Application Processor (AP) ที่แตกต่างจาก ASIC อย่าง TPU แต่ MediaTek สามารถนำแนวคิดจากการทำงานร่วมกับ Google มาปรับใช้ เช่น กลยุทธ์ power gating ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น, การปรับปรุง voltage scaling และ การจัดการ clock-gating เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่และลดการใช้พลังงาน ซึ่งถือเป็นการยกระดับชิปมือถือให้แข่งขันได้ในตลาดที่เน้น AI และประสิทธิภาพพลังงาน การร่วมมือครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ ที่บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเริ่มมีบทบาทในโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ MediaTek ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด AI chips ในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ MediaTek มีบทบาทใน Google TPU v7 Ironwood ➡️ ออกแบบ I/O modules เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร ➡️ คาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ✅ สถาปัตยกรรม TPU v7 ที่ล้ำสมัย ➡️ Dual-chiplet design พร้อม TensorCore, VPU, MXU และ SparseCores ➡️ ใช้ HBM 96GB และ interconnect ที่เร็วกว่าเดิม 6 เท่า ✅ ผลต่อ Dimensity 9600 ➡️ ปรับปรุง power gating และ voltage scaling ➡️ clock-gating ที่ดีขึ้นเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ ASIC และ AP มีโครงสร้างต่างกัน ทำให้ไม่สามารถนำประสบการณ์มาใช้ได้ทั้งหมด ⛔ การแข่งขันกับ NVIDIA และ Qualcomm ในตลาด AI chips ยังเข้มข้น ⛔ การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน https://wccftech.com/mediateks-work-on-the-google-tpu-v7-to-boost-dimensity-9600s-efficiency/
    WCCFTECH.COM
    MediaTek Dimensity 9600: Google's TPU v7 Partnership Unlocks Next-Gen Efficiency
    MediaTek won't be able to use all of its TPU v7 Ironwood experience on the Dimensity 9600, but can still use the know-how to make a difference.
    0 Comments 0 Shares 128 Views 0 Reviews
  • NVIDIA จับมือ TSMC ใช้เทคโนโลยี A16 สำหรับ GPU รุ่น Feynman

    รายงานล่าสุดเผยว่า NVIDIA เป็นลูกค้ารายแรกและรายเดียวของ TSMC สำหรับกระบวนการผลิต A16 (1.6nm) ซึ่งจะถูกนำมาใช้กับ GPU รุ่นใหม่ในตระกูล Feynman โดยจะต่อยอดจากรุ่น Rubin ที่วางแผนเปิดตัวในปี 2026–2027 การใช้ A16 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความเร็ว 8–10% ลดการใช้พลังงาน 15–20% และเพิ่มความหนาแน่นของชิป 7–10% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี N2P.

    เทคโนโลยี A16 ใช้โครงสร้าง Nanosheet พร้อมระบบ Super Power Rail (SPR) ที่ช่วยปรับปรุงการส่งพลังงานจากด้านหลังของชิป ทำให้เหมาะกับงาน AI และ High-Performance Computing (HPC) ซึ่งเป็นตลาดที่ NVIDIA ครองความเป็นผู้นำอยู่แล้ว การเป็นลูกค้ารายแรกยังทำให้ NVIDIA ได้สิทธิ์เข้าถึงกำลังการผลิตก่อนคู่แข่ง.

    แผนการผลิตระบุว่าโรงงาน P3 ของ TSMC ในเมืองเกาสงจะเริ่มผลิตชิป A16 ในปี 2027 เพื่อตอบสนองต่อโรดแมปของ NVIDIA ที่วางแผนเปิดตัว GPU Feynman ในปี 2028 โดยก่อนหน้านั้น NVIDIA จะใช้ชิป Rubin ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี N3P (3nm) และ Rubin Ultra ที่ใช้ N2P (2nm).

    ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่าง NVIDIA และ TSMC ในยุคที่ความต้องการชิป AI พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองบริษัทเพิ่งฉลองการผลิตเวเฟอร์ Blackwell บนแผ่นดินสหรัฐเป็นครั้งแรก และกำลังเร่งขยายกำลังผลิตเพื่อรับมือกับความต้องการมหาศาลจากตลาด AI และดาต้าเซ็นเตอร์.

    สรุปสาระสำคัญและข้อควรระวัง
    NVIDIA เป็นลูกค้ารายแรกของ TSMC สำหรับ A16
    ใช้กับ GPU รุ่น Feynman ที่คาดว่าจะเปิดตัวปี 2028
    ได้สิทธิ์เข้าถึงกำลังการผลิตก่อนคู่แข่ง

    เทคโนโลยี A16 มีประสิทธิภาพสูงกว่า N2P
    ความเร็วเพิ่มขึ้น 8–10%
    ลดการใช้พลังงาน 15–20%
    ความหนาแน่นชิปสูงขึ้น 7–10%

    โรงงาน P3 ของ TSMC จะเริ่มผลิตในปี 2027
    รองรับโรดแมป GPU Rubin และ Feynman
    สอดคล้องกับความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้น

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขันและตลาด
    คู่แข่งอย่าง AMD, Google, Microsoft อาจเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อตามทัน
    ความต้องการสูงอาจทำให้เกิดปัญหาคอขวดด้านซัพพลาย

    ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและการผลิต
    การผลิตชิปขั้นสูงใช้ทรัพยากรและพลังงานมหาศาล
    อาจกระทบต่อความยั่งยืนหากไม่มีมาตรการจัดการที่ดี

    https://wccftech.com/nvidia-first-only-customer-for-tsmc-a16-process-node-for-next-gen-feynman-gpus/
    📰 NVIDIA จับมือ TSMC ใช้เทคโนโลยี A16 สำหรับ GPU รุ่น Feynman 🔧 รายงานล่าสุดเผยว่า NVIDIA เป็นลูกค้ารายแรกและรายเดียวของ TSMC สำหรับกระบวนการผลิต A16 (1.6nm) ซึ่งจะถูกนำมาใช้กับ GPU รุ่นใหม่ในตระกูล Feynman โดยจะต่อยอดจากรุ่น Rubin ที่วางแผนเปิดตัวในปี 2026–2027 การใช้ A16 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความเร็ว 8–10% ลดการใช้พลังงาน 15–20% และเพิ่มความหนาแน่นของชิป 7–10% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี N2P. ⚡ เทคโนโลยี A16 ใช้โครงสร้าง Nanosheet พร้อมระบบ Super Power Rail (SPR) ที่ช่วยปรับปรุงการส่งพลังงานจากด้านหลังของชิป ทำให้เหมาะกับงาน AI และ High-Performance Computing (HPC) ซึ่งเป็นตลาดที่ NVIDIA ครองความเป็นผู้นำอยู่แล้ว การเป็นลูกค้ารายแรกยังทำให้ NVIDIA ได้สิทธิ์เข้าถึงกำลังการผลิตก่อนคู่แข่ง. 🏭 แผนการผลิตระบุว่าโรงงาน P3 ของ TSMC ในเมืองเกาสงจะเริ่มผลิตชิป A16 ในปี 2027 เพื่อตอบสนองต่อโรดแมปของ NVIDIA ที่วางแผนเปิดตัว GPU Feynman ในปี 2028 โดยก่อนหน้านั้น NVIDIA จะใช้ชิป Rubin ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี N3P (3nm) และ Rubin Ultra ที่ใช้ N2P (2nm). 🌍 ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่าง NVIDIA และ TSMC ในยุคที่ความต้องการชิป AI พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองบริษัทเพิ่งฉลองการผลิตเวเฟอร์ Blackwell บนแผ่นดินสหรัฐเป็นครั้งแรก และกำลังเร่งขยายกำลังผลิตเพื่อรับมือกับความต้องการมหาศาลจากตลาด AI และดาต้าเซ็นเตอร์. 📌 สรุปสาระสำคัญและข้อควรระวัง ✅ NVIDIA เป็นลูกค้ารายแรกของ TSMC สำหรับ A16 ➡️ ใช้กับ GPU รุ่น Feynman ที่คาดว่าจะเปิดตัวปี 2028 ➡️ ได้สิทธิ์เข้าถึงกำลังการผลิตก่อนคู่แข่ง ✅ เทคโนโลยี A16 มีประสิทธิภาพสูงกว่า N2P ➡️ ความเร็วเพิ่มขึ้น 8–10% ➡️ ลดการใช้พลังงาน 15–20% ➡️ ความหนาแน่นชิปสูงขึ้น 7–10% ✅ โรงงาน P3 ของ TSMC จะเริ่มผลิตในปี 2027 ➡️ รองรับโรดแมป GPU Rubin และ Feynman ➡️ สอดคล้องกับความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้น ‼️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขันและตลาด ⛔ คู่แข่งอย่าง AMD, Google, Microsoft อาจเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อตามทัน ⛔ ความต้องการสูงอาจทำให้เกิดปัญหาคอขวดด้านซัพพลาย ‼️ ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและการผลิต ⛔ การผลิตชิปขั้นสูงใช้ทรัพยากรและพลังงานมหาศาล ⛔ อาจกระทบต่อความยั่งยืนหากไม่มีมาตรการจัดการที่ดี https://wccftech.com/nvidia-first-only-customer-for-tsmc-a16-process-node-for-next-gen-feynman-gpus/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA Reportedly The First & Only Customer For TSMC's Bleeding-Edge A16 Process Node, Utilizing For Next-Gen GPUs
    NVIDIA is reportedly the only customer in line for TSMC's next-gen A16 process technology, eyeing it for future GPUs such as Feynman.
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • ขุมทรัพย์ลิเธียมใต้ซูเปอร์ภูเขาไฟในสหรัฐ มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์

    การค้นพบครั้งสำคัญเกิดขึ้นที่ McDermitt Caldera บริเวณชายแดนรัฐเนวาดา–โอเรกอน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นแหล่งลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการประเมินว่ามีปริมาณระหว่าง 20–40 ล้านตันของดินเหนียวที่อุดมไปด้วยลิเธียม มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ การค้นพบนี้อาจพลิกโฉมอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ทั่วโลก และทำให้สหรัฐมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานพลังงานสะอาดในอนาคต

    ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของแหล่งนี้คือการลดการพึ่งพาการนำเข้าลิเธียมจากต่างประเทศ ปัจจุบันสหรัฐพึ่งพาเหมือง Silver Peak ในเนวาดามาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 การมีแหล่งใหม่ขนาดมหึมาจะช่วยตอบสนองความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3–5 เท่าภายในปี 2040 จากการขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงานหมุนเวียน

    อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเหมืองลิเธียมในพื้นที่นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น ชุมชนชนเผ่าและนักอนุรักษ์เตือนว่าการทำเหมืองอาจกระทบต่อระบบนิเวศทะเลทราย เช่น sage-grouse และสัตว์ป่าอื่น ๆ รวมถึงพื้นที่ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชนพื้นเมือง

    ในอีกด้านหนึ่ง เทคโนโลยีแบตเตอรี่ทางเลือก เช่น sodium-ion กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว นักวิจัยในแคนาดาเพิ่งเปิดตัวแบตเตอรี่โซเดียมแบบ solid-state ที่มีความปลอดภัยสูงและราคาถูกกว่า แม้ยังไม่พร้อมเชิงพาณิชย์ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจลดการพึ่งพาลิเธียมในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญและข้อควรระวัง
    การค้นพบแหล่งลิเธียมมหึมาที่ McDermitt Caldera
    ปริมาณลิเธียม 20–40 ล้านตัน มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
    อาจทำให้สหรัฐเป็นผู้นำด้านวัตถุดิบแบตเตอรี่โลก

    ความต้องการลิเธียมทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
    คาดว่าจะโต 3–5 เท่าภายในปี 2040 จากรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด
    การมีแหล่งใหม่ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้า

    การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ทางเลือก
    Sodium-ion และ solid-state กำลังพัฒนาเพื่อเป็นทางเลือกที่ถูกและปลอดภัยกว่า
    อาจช่วยลดแรงกดดันต่อการทำเหมืองลิเธียมในอนาคต

    ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
    การทำเหมืองอาจกระทบสัตว์ป่าและระบบนิเวศทะเลทราย
    พื้นที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองอาจถูกทำลาย

    ความไม่แน่นอนของตลาดและเทคโนโลยี
    ราคาลิเธียมผันผวนสูง อาจกระทบการลงทุนระยะยาว
    เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ยังไม่พร้อมเชิงพาณิชย์ อาจใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/manufacturing/usd1-5-trillion-lithium-deposit-found-in-u-s-supervolcano-crater-site-could-supply-batteries-for-decades
    🌋 ขุมทรัพย์ลิเธียมใต้ซูเปอร์ภูเขาไฟในสหรัฐ มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ การค้นพบครั้งสำคัญเกิดขึ้นที่ McDermitt Caldera บริเวณชายแดนรัฐเนวาดา–โอเรกอน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นแหล่งลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการประเมินว่ามีปริมาณระหว่าง 20–40 ล้านตันของดินเหนียวที่อุดมไปด้วยลิเธียม มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ การค้นพบนี้อาจพลิกโฉมอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ทั่วโลก และทำให้สหรัฐมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานพลังงานสะอาดในอนาคต 🔋 ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของแหล่งนี้คือการลดการพึ่งพาการนำเข้าลิเธียมจากต่างประเทศ ปัจจุบันสหรัฐพึ่งพาเหมือง Silver Peak ในเนวาดามาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 การมีแหล่งใหม่ขนาดมหึมาจะช่วยตอบสนองความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3–5 เท่าภายในปี 2040 จากการขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงานหมุนเวียน 🌱 อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเหมืองลิเธียมในพื้นที่นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น ชุมชนชนเผ่าและนักอนุรักษ์เตือนว่าการทำเหมืองอาจกระทบต่อระบบนิเวศทะเลทราย เช่น sage-grouse และสัตว์ป่าอื่น ๆ รวมถึงพื้นที่ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชนพื้นเมือง ⚡ ในอีกด้านหนึ่ง เทคโนโลยีแบตเตอรี่ทางเลือก เช่น sodium-ion กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว นักวิจัยในแคนาดาเพิ่งเปิดตัวแบตเตอรี่โซเดียมแบบ solid-state ที่มีความปลอดภัยสูงและราคาถูกกว่า แม้ยังไม่พร้อมเชิงพาณิชย์ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจลดการพึ่งพาลิเธียมในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญและข้อควรระวัง ✅ การค้นพบแหล่งลิเธียมมหึมาที่ McDermitt Caldera ➡️ ปริมาณลิเธียม 20–40 ล้านตัน มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ➡️ อาจทำให้สหรัฐเป็นผู้นำด้านวัตถุดิบแบตเตอรี่โลก ✅ ความต้องการลิเธียมทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ➡️ คาดว่าจะโต 3–5 เท่าภายในปี 2040 จากรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด ➡️ การมีแหล่งใหม่ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้า ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ทางเลือก ➡️ Sodium-ion และ solid-state กำลังพัฒนาเพื่อเป็นทางเลือกที่ถูกและปลอดภัยกว่า ➡️ อาจช่วยลดแรงกดดันต่อการทำเหมืองลิเธียมในอนาคต ‼️ ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ⛔ การทำเหมืองอาจกระทบสัตว์ป่าและระบบนิเวศทะเลทราย ⛔ พื้นที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองอาจถูกทำลาย ‼️ ความไม่แน่นอนของตลาดและเทคโนโลยี ⛔ ราคาลิเธียมผันผวนสูง อาจกระทบการลงทุนระยะยาว ⛔ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ยังไม่พร้อมเชิงพาณิชย์ อาจใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา https://www.tomshardware.com/tech-industry/manufacturing/usd1-5-trillion-lithium-deposit-found-in-u-s-supervolcano-crater-site-could-supply-batteries-for-decades
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    $1.5 trillion lithium deposit found in U.S. supervolcano crater — site could supply batteries for decades
    Enough lithium for decades worth of battery manufacturing has been discovered in the McDermitt Caldera, on the Nevada – Oregon border.
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • “จีนโชว์ GPU รุ่นแรกบนสถาปัตยกรรม Imagination DXD – รองรับ Ray Tracing”

    บริษัท Xiang Di Xian ได้เปิดตัวการ์ดจอที่ใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD ในงาน ICCAD 2025 ที่เมืองเฉิงตู โดยระบุว่าเป็นการ์ดจอเชิงพาณิชย์รุ่นแรกที่ผลิตจำนวนมากในตลาด GPU ของจีน จุดเด่นคือการรองรับ DirectX Feature Level 11_0, Vulkan และ OpenGL รวมถึงการออกแบบแบบ multicore decentralized ที่สามารถขยายไปยังเวิร์กสเตชันและโครงสร้างพื้นฐาน cloud gaming ได้

    บริษัทอ้างว่า GPU รุ่นนี้มี ประสิทธิภาพการเรนเดอร์มากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า (BXT family) และสามารถทำงานกับ digital twin workloads และ 3D simulation ได้อย่างราบรื่น พร้อมสาธิตการใช้งาน ray tracing และ super resolution ในงานเปิดตัว แม้จะยังไม่เปิดเผยชื่อรุ่นหรือสเปกเต็ม แต่มีการกล่าวถึงตัวเลขเช่น 2.3 TFLOPS และ 72 GTexel/s ต่อคอร์

    สิ่งที่น่าสนใจคือ DXD ถูกออกแบบเป็น “raster-first architecture” แต่ยังสามารถผสานการทำงานกับ DXT mobile IP ที่มี hardware ray tracing ทำให้เกิดคำถามว่าการ์ดที่เปิดตัวนี้ใช้การปรับแต่งพิเศษหรือเป็นเวอร์ชันขยายของ DXD เพื่อรองรับ ray tracing โดยตรง

    อย่างไรก็ตาม บทความชี้ว่า ยังไม่มีการทดสอบอิสระ และการ์ดยังไม่ถูกส่งออกนอกจีน ทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ว่าประสิทธิภาพจริงตรงตามที่บริษัทเคลมไว้หรือไม่ นักวิเคราะห์มองว่านี่เป็นก้าวสำคัญของจีนในการพัฒนา GPU ภายในประเทศ แต่ยังต้องรอการพิสูจน์ในตลาดโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว GPU DXD
    เปิดตัวโดย Xiang Di Xian ในงาน ICCAD 2025
    เป็นการ์ดจอเชิงพาณิชย์รุ่นแรกที่ใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD

    คุณสมบัติเด่น
    รองรับ DirectX, Vulkan, OpenGL
    Multicore decentralized design ขยายสู่ cloud gaming
    Ray Tracing และ Super Resolution

    ประสิทธิภาพที่เคลม
    เรนเดอร์เร็วกว่าเดิม 2 เท่า
    2.3 TFLOPS และ 72 GTexel/s ต่อคอร์

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่มีการทดสอบอิสระนอกจีน
    ไม่เปิดเผยสเปกเต็มและชื่อรุ่น ทำให้ข้อมูลยังไม่ชัดเจน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-vendor-showcases-first-mass-produced-imagination-dxd-gpu-with-ray-tracing
    🎮 “จีนโชว์ GPU รุ่นแรกบนสถาปัตยกรรม Imagination DXD – รองรับ Ray Tracing” บริษัท Xiang Di Xian ได้เปิดตัวการ์ดจอที่ใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD ในงาน ICCAD 2025 ที่เมืองเฉิงตู โดยระบุว่าเป็นการ์ดจอเชิงพาณิชย์รุ่นแรกที่ผลิตจำนวนมากในตลาด GPU ของจีน จุดเด่นคือการรองรับ DirectX Feature Level 11_0, Vulkan และ OpenGL รวมถึงการออกแบบแบบ multicore decentralized ที่สามารถขยายไปยังเวิร์กสเตชันและโครงสร้างพื้นฐาน cloud gaming ได้ บริษัทอ้างว่า GPU รุ่นนี้มี ประสิทธิภาพการเรนเดอร์มากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า (BXT family) และสามารถทำงานกับ digital twin workloads และ 3D simulation ได้อย่างราบรื่น พร้อมสาธิตการใช้งาน ray tracing และ super resolution ในงานเปิดตัว แม้จะยังไม่เปิดเผยชื่อรุ่นหรือสเปกเต็ม แต่มีการกล่าวถึงตัวเลขเช่น 2.3 TFLOPS และ 72 GTexel/s ต่อคอร์ สิ่งที่น่าสนใจคือ DXD ถูกออกแบบเป็น “raster-first architecture” แต่ยังสามารถผสานการทำงานกับ DXT mobile IP ที่มี hardware ray tracing ทำให้เกิดคำถามว่าการ์ดที่เปิดตัวนี้ใช้การปรับแต่งพิเศษหรือเป็นเวอร์ชันขยายของ DXD เพื่อรองรับ ray tracing โดยตรง อย่างไรก็ตาม บทความชี้ว่า ยังไม่มีการทดสอบอิสระ และการ์ดยังไม่ถูกส่งออกนอกจีน ทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ว่าประสิทธิภาพจริงตรงตามที่บริษัทเคลมไว้หรือไม่ นักวิเคราะห์มองว่านี่เป็นก้าวสำคัญของจีนในการพัฒนา GPU ภายในประเทศ แต่ยังต้องรอการพิสูจน์ในตลาดโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว GPU DXD ➡️ เปิดตัวโดย Xiang Di Xian ในงาน ICCAD 2025 ➡️ เป็นการ์ดจอเชิงพาณิชย์รุ่นแรกที่ใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD ✅ คุณสมบัติเด่น ➡️ รองรับ DirectX, Vulkan, OpenGL ➡️ Multicore decentralized design ขยายสู่ cloud gaming ➡️ Ray Tracing และ Super Resolution ✅ ประสิทธิภาพที่เคลม ➡️ เรนเดอร์เร็วกว่าเดิม 2 เท่า ➡️ 2.3 TFLOPS และ 72 GTexel/s ต่อคอร์ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่มีการทดสอบอิสระนอกจีน ⛔ ไม่เปิดเผยสเปกเต็มและชื่อรุ่น ทำให้ข้อมูลยังไม่ชัดเจน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-vendor-showcases-first-mass-produced-imagination-dxd-gpu-with-ray-tracing
    0 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • Fuxi A0 GPU: การ์ดจอจีนรุ่นใหม่พร้อม Ray Tracing

    บริษัท Xiang Dixian จากจีนได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ชื่อ Fuxi A0 GPU ในงาน ICCAD Expo ที่เมืองเฉิงตู โดยใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD ซึ่งเป็นกราฟิก IP รุ่นล่าสุดจาก Imagination Technologies จุดเด่นคือการผลิตด้วยกระบวนการ 5nm ทำให้มีประสิทธิภาพสูงและรองรับฟีเจอร์ทันสมัยอย่าง Ray Tracing และ Super Resolution (Upscaling).

    การ์ดจอรุ่นนี้มาพร้อม หน่วยความจำ 12GB และคาดว่าจะให้พลังการประมวลผลสูงสุดถึง 160 TFLOPs โดยดีไซน์เป็นแบบ dual-slot, dual-fan เพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น ในงานเปิดตัวมีการสาธิตเกม Black Myth: Wukong ที่สามารถรันด้วยเฟรมเรตเฉลี่ยประมาณ 35 FPS พร้อมเปิด Ray Tracing ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญของการ์ดจอจีนที่พยายามแข่งขันกับ NVIDIA และ AMD.

    นอกจากรุ่น A0 ที่เน้นการเล่นเกมและการเรนเดอร์แล้ว Xiang Dixian ยังเตรียมเปิดตัวรุ่น Fuxi B0 ที่จะรวม GPU เข้ากับ NPU (Neural Processing Unit) รองรับการประมวลผล FP8 เพื่อใช้งานด้าน AI โดยเฉพาะ ถือเป็นการขยายตลาดไปสู่การประมวลผลเชิงลึกและงานวิจัย.

    บริษัทมีประสบการณ์ยาวนานในการผลิตการ์ดจอจาก IP ของ Imagination เช่น XDX 121 และ XDX 151 สำหรับเดสก์ท็อป รวมถึง XDX R1900 สำหรับเวิร์กสเตชัน ทำให้ Fuxi A0 ถูกมองว่าเป็นการต่อยอดสู่การ์ดจอที่ทันสมัยและพร้อมเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในปีหน้า.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดตัว Fuxi A0 GPU
    ใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD
    ผลิตด้วยเทคโนโลยี 5nm

    สเปกและประสิทธิภาพ
    หน่วยความจำ 12GB
    พลังการประมวลผลสูงสุด 160 TFLOPs
    ดีไซน์ dual-slot, dual-fan

    ฟีเจอร์เด่น
    รองรับ Ray Tracing และ Super Resolution
    รัน Black Myth: Wukong ได้ ~35 FPS

    แผนการขยาย
    รุ่น B0 จะรวม GPU + NPU รองรับ FP8 สำหรับงาน AI
    เตรียมเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในปีหน้า

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่ชัดเจนว่าประสิทธิภาพจะเทียบกับ NVIDIA/AMD ได้จริงหรือไม่
    เฟรมเรต 35 FPS อาจยังไม่เพียงพอสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความลื่นไหลสูง

    https://wccftech.com/chinese-next-gen-fuxi-gpu-imagination-ip-5nm-12-gb-ray-tracing-super-res-support/
    🖥️ Fuxi A0 GPU: การ์ดจอจีนรุ่นใหม่พร้อม Ray Tracing บริษัท Xiang Dixian จากจีนได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ชื่อ Fuxi A0 GPU ในงาน ICCAD Expo ที่เมืองเฉิงตู โดยใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD ซึ่งเป็นกราฟิก IP รุ่นล่าสุดจาก Imagination Technologies จุดเด่นคือการผลิตด้วยกระบวนการ 5nm ทำให้มีประสิทธิภาพสูงและรองรับฟีเจอร์ทันสมัยอย่าง Ray Tracing และ Super Resolution (Upscaling). การ์ดจอรุ่นนี้มาพร้อม หน่วยความจำ 12GB และคาดว่าจะให้พลังการประมวลผลสูงสุดถึง 160 TFLOPs โดยดีไซน์เป็นแบบ dual-slot, dual-fan เพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น ในงานเปิดตัวมีการสาธิตเกม Black Myth: Wukong ที่สามารถรันด้วยเฟรมเรตเฉลี่ยประมาณ 35 FPS พร้อมเปิด Ray Tracing ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญของการ์ดจอจีนที่พยายามแข่งขันกับ NVIDIA และ AMD. นอกจากรุ่น A0 ที่เน้นการเล่นเกมและการเรนเดอร์แล้ว Xiang Dixian ยังเตรียมเปิดตัวรุ่น Fuxi B0 ที่จะรวม GPU เข้ากับ NPU (Neural Processing Unit) รองรับการประมวลผล FP8 เพื่อใช้งานด้าน AI โดยเฉพาะ ถือเป็นการขยายตลาดไปสู่การประมวลผลเชิงลึกและงานวิจัย. บริษัทมีประสบการณ์ยาวนานในการผลิตการ์ดจอจาก IP ของ Imagination เช่น XDX 121 และ XDX 151 สำหรับเดสก์ท็อป รวมถึง XDX R1900 สำหรับเวิร์กสเตชัน ทำให้ Fuxi A0 ถูกมองว่าเป็นการต่อยอดสู่การ์ดจอที่ทันสมัยและพร้อมเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในปีหน้า. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดตัว Fuxi A0 GPU ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD ➡️ ผลิตด้วยเทคโนโลยี 5nm ✅ สเปกและประสิทธิภาพ ➡️ หน่วยความจำ 12GB ➡️ พลังการประมวลผลสูงสุด 160 TFLOPs ➡️ ดีไซน์ dual-slot, dual-fan ✅ ฟีเจอร์เด่น ➡️ รองรับ Ray Tracing และ Super Resolution ➡️ รัน Black Myth: Wukong ได้ ~35 FPS ✅ แผนการขยาย ➡️ รุ่น B0 จะรวม GPU + NPU รองรับ FP8 สำหรับงาน AI ➡️ เตรียมเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในปีหน้า ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่ชัดเจนว่าประสิทธิภาพจะเทียบกับ NVIDIA/AMD ได้จริงหรือไม่ ⛔ เฟรมเรต 35 FPS อาจยังไม่เพียงพอสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความลื่นไหลสูง https://wccftech.com/chinese-next-gen-fuxi-gpu-imagination-ip-5nm-12-gb-ray-tracing-super-res-support/
    WCCFTECH.COM
    Chinese GPU Maker Demos Its Next-Gen Fuxi A0 GPU Based on Imagination DXD GPU IP: Features 5nm Core, 12 GB VRAM, Ray Tracing & Super-Res Support
    The Chinese Fuxi A0 GPU is based on a 5nm Imagination DXD Graphics IP, offering Ray Tracing & Super Resolution support.
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • เด็กอัจฉริยะเบลเยียมคว้า PhD ฟิสิกส์ควอนตัม

    Laurent Simons วัย 15 ปี ได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย Antwerp หลังจากเริ่มเรียนตั้งแต่เล็กและจบปริญญาโทตั้งแต่อายุ 12 ปี เขามี IQ สูงถึง 145 และความจำระดับภาพถ่าย ทำให้สามารถทำวิจัยเชิงลึกด้านอนุภาคและหลุมดำได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ความสำเร็จนี้ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “Little Einstein” ของเบลเยียม

    เส้นทางของอัจฉริยะและแรงบันดาลใจ
    Simons ไม่ได้หยุดเพียงแค่ฟิสิกส์ เขายังตั้งเป้าศึกษาต่อด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อพัฒนาแนวทางการยืดอายุมนุษย์ เขาเคยกล่าวว่าความฝันสูงสุดคือการทำให้มนุษย์ “เป็นอมตะ” หรืออย่างน้อยก็มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ความคิดนี้สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างฟิสิกส์ เคมี และการแพทย์ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของมนุษยชาติ

    ประวัติศาสตร์ของผู้ได้ปริญญาเอกอายุน้อย
    ในอดีต Karl Witte เคยได้รับปริญญาเอกตอนอายุ 13 ปี และในยุคใหม่มี Sho Yano ที่ได้ปริญญาเอกด้านการแพทย์ตอนอายุ 18 ปี รวมถึง Juliet Beni ที่ได้ปริญญาเอกด้านจิตวิทยาตอนอายุ 19 ปี เรื่องราวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการศึกษาและการสนับสนุนจากครอบครัวมีบทบาทสำคัญต่อการผลักดันศักยภาพของเด็กอัจฉริยะ

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้ความสำเร็จจะน่าทึ่ง แต่เด็กอัจฉริยะมักเผชิญแรงกดดันสูง ทั้งจากสังคมและความคาดหวังของครอบครัว นักจิตวิทยาเตือนว่าความสามารถทางสติปัญญาอาจไม่สมดุลกับพัฒนาการทางอารมณ์ ทำให้เกิดความเครียดหรือความโดดเดี่ยวได้ การดูแลด้านจิตใจและสังคมจึงสำคัญไม่แพ้การสนับสนุนทางวิชาการ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความสำเร็จของ Laurent Simons
    ได้รับปริญญาเอกฟิสิกส์ควอนตัมตอนอายุ 15 ปี
    มี IQ 145 และความจำระดับภาพถ่าย

    เป้าหมายในอนาคต
    ศึกษาต่อด้านการแพทย์และ AI
    ตั้งเป้ายืดอายุมนุษย์และสร้าง “super-humans”

    ตัวอย่างจากประวัติศาสตร์
    Karl Witte ได้ปริญญาเอกตอนอายุ 13 ปี
    Sho Yano และ Juliet Beni ได้ปริญญาเอกก่อนอายุ 20

    https://www.sciencealert.com/belgiums-little-einstein-earns-phd-in-quantum-physics-at-age-15
    🧠 เด็กอัจฉริยะเบลเยียมคว้า PhD ฟิสิกส์ควอนตัม Laurent Simons วัย 15 ปี ได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย Antwerp หลังจากเริ่มเรียนตั้งแต่เล็กและจบปริญญาโทตั้งแต่อายุ 12 ปี เขามี IQ สูงถึง 145 และความจำระดับภาพถ่าย ทำให้สามารถทำวิจัยเชิงลึกด้านอนุภาคและหลุมดำได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ความสำเร็จนี้ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “Little Einstein” ของเบลเยียม 🌍 เส้นทางของอัจฉริยะและแรงบันดาลใจ Simons ไม่ได้หยุดเพียงแค่ฟิสิกส์ เขายังตั้งเป้าศึกษาต่อด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อพัฒนาแนวทางการยืดอายุมนุษย์ เขาเคยกล่าวว่าความฝันสูงสุดคือการทำให้มนุษย์ “เป็นอมตะ” หรืออย่างน้อยก็มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ความคิดนี้สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างฟิสิกส์ เคมี และการแพทย์ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของมนุษยชาติ 📚 ประวัติศาสตร์ของผู้ได้ปริญญาเอกอายุน้อย ในอดีต Karl Witte เคยได้รับปริญญาเอกตอนอายุ 13 ปี และในยุคใหม่มี Sho Yano ที่ได้ปริญญาเอกด้านการแพทย์ตอนอายุ 18 ปี รวมถึง Juliet Beni ที่ได้ปริญญาเอกด้านจิตวิทยาตอนอายุ 19 ปี เรื่องราวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการศึกษาและการสนับสนุนจากครอบครัวมีบทบาทสำคัญต่อการผลักดันศักยภาพของเด็กอัจฉริยะ ⚠️ ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้ความสำเร็จจะน่าทึ่ง แต่เด็กอัจฉริยะมักเผชิญแรงกดดันสูง ทั้งจากสังคมและความคาดหวังของครอบครัว นักจิตวิทยาเตือนว่าความสามารถทางสติปัญญาอาจไม่สมดุลกับพัฒนาการทางอารมณ์ ทำให้เกิดความเครียดหรือความโดดเดี่ยวได้ การดูแลด้านจิตใจและสังคมจึงสำคัญไม่แพ้การสนับสนุนทางวิชาการ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความสำเร็จของ Laurent Simons ➡️ ได้รับปริญญาเอกฟิสิกส์ควอนตัมตอนอายุ 15 ปี ➡️ มี IQ 145 และความจำระดับภาพถ่าย ✅ เป้าหมายในอนาคต ➡️ ศึกษาต่อด้านการแพทย์และ AI ➡️ ตั้งเป้ายืดอายุมนุษย์และสร้าง “super-humans” ✅ ตัวอย่างจากประวัติศาสตร์ ➡️ Karl Witte ได้ปริญญาเอกตอนอายุ 13 ปี ➡️ Sho Yano และ Juliet Beni ได้ปริญญาเอกก่อนอายุ 20 https://www.sciencealert.com/belgiums-little-einstein-earns-phd-in-quantum-physics-at-age-15
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Belgium's 'Little Einstein' Earns PhD in Quantum Physics at Age 15
    A fifteen-year-old dubbed "Belgium's little Einstein" has completed his PhD in quantum physics in what could be record time.
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • ฟ้าแลบบนดาวอังคาร

    ทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย Baptiste Chide จาก University of Toulouse ใช้ไมโครโฟน SuperCam บนยาน Perseverance Rover ตรวจพบการปลดปล่อยไฟฟ้า (electrical discharges) ระหว่างพายุฝุ่นและ “dust devils” บนดาวอังคาร รวมทั้งหมด 55 ครั้งในช่วงสองปีดาวอังคาร การค้นพบนี้ยืนยันว่าบรรยากาศที่บางและแห้งของดาวอังคารสามารถสร้างไฟฟ้าได้จริง แม้จะไม่มีไอน้ำเหมือนโลก

    วิธีการตรวจจับ
    ไมโครโฟนของ Perseverance สามารถบันทึกทั้งเสียงและสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า นักวิจัยพบ “blip” อิเล็กทรอนิกส์ตามด้วยเสียงคล้ายฟ้าร้องขนาดเล็กที่เกิดจากการขยายตัวของอากาศรอบการปลดปล่อยไฟฟ้า ซึ่งเป็นหลักฐานตรงของฟ้าแลบขนาดจิ๋วบนดาวอังคาร

    เงื่อนไขที่ทำให้เกิดฟ้าแลบ
    การเกิดฟ้าแลบไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝุ่นหนาแน่นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมี ลมแรงจัด ซึ่งส่วนใหญ่พบในช่วงพายุฝุ่นและที่ขอบของกระแสลมแรง โดย 54 ใน 55 เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่แรงลมอยู่ในระดับสูงสุด 30% ของที่บันทึกได้

    ความหมายต่ออนาคต
    แม้พลังงานของฟ้าแลบบนดาวอังคารจะเล็กมาก (0.1–150 นาโนจูล และสูงสุด 40 มิลลิจูล) เมื่อเทียบกับฟ้าแลบบนโลกที่มีพลังงานระดับพันล้านจูล แต่การค้นพบนี้มีผลต่อการออกแบบเทคโนโลยีสำรวจในอนาคต และยังช่วยให้นักดาราศาสตร์ชีววิทยาประเมินโอกาสการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่อาจนำไปสู่การกำเนิดชีวิตบนดาวอังคารได้

    สรุปสาระสำคัญ
    NASA ตรวจพบฟ้าแลบบนดาวอังคารครั้งแรก
    บันทึกได้ 55 ครั้งในสองปีดาวอังคาร
    ใช้ไมโครโฟน SuperCam บน Perseverance Rover

    หลักฐานการเกิดฟ้าแลบ
    พบสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้าและเสียงคล้ายฟ้าร้อง
    ยืนยันการปลดปล่อยไฟฟ้าในบรรยากาศบางและแห้ง

    เงื่อนไขการเกิดฟ้าแลบ
    ต้องมีลมแรงจัดและพายุฝุ่น
    ส่วนใหญ่เกิดในช่วงแรงลมสูงสุด 30%

    ความหมายต่อการสำรวจ
    ช่วยออกแบบเทคโนโลยีป้องกันไฟฟ้าสำหรับภารกิจในอนาคต
    เพิ่มข้อมูลต่อการศึกษาความเป็นไปได้ของชีวิตบนดาวอังคาร

    ข้อควรระวัง
    ฟ้าแลบบนดาวอังคารมีพลังงานต่ำมากเมื่อเทียบกับโลก
    อาจสร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์สำรวจหากไม่ได้รับการป้องกัน

    https://www.sciencealert.com/nasa-recorded-lightning-crackling-on-mars-for-the-first-time
    ⚡ ฟ้าแลบบนดาวอังคาร ทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย Baptiste Chide จาก University of Toulouse ใช้ไมโครโฟน SuperCam บนยาน Perseverance Rover ตรวจพบการปลดปล่อยไฟฟ้า (electrical discharges) ระหว่างพายุฝุ่นและ “dust devils” บนดาวอังคาร รวมทั้งหมด 55 ครั้งในช่วงสองปีดาวอังคาร การค้นพบนี้ยืนยันว่าบรรยากาศที่บางและแห้งของดาวอังคารสามารถสร้างไฟฟ้าได้จริง แม้จะไม่มีไอน้ำเหมือนโลก 🎙️ วิธีการตรวจจับ ไมโครโฟนของ Perseverance สามารถบันทึกทั้งเสียงและสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า นักวิจัยพบ “blip” อิเล็กทรอนิกส์ตามด้วยเสียงคล้ายฟ้าร้องขนาดเล็กที่เกิดจากการขยายตัวของอากาศรอบการปลดปล่อยไฟฟ้า ซึ่งเป็นหลักฐานตรงของฟ้าแลบขนาดจิ๋วบนดาวอังคาร 🌪️ เงื่อนไขที่ทำให้เกิดฟ้าแลบ การเกิดฟ้าแลบไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝุ่นหนาแน่นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมี ลมแรงจัด ซึ่งส่วนใหญ่พบในช่วงพายุฝุ่นและที่ขอบของกระแสลมแรง โดย 54 ใน 55 เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่แรงลมอยู่ในระดับสูงสุด 30% ของที่บันทึกได้ 🌍 ความหมายต่ออนาคต แม้พลังงานของฟ้าแลบบนดาวอังคารจะเล็กมาก (0.1–150 นาโนจูล และสูงสุด 40 มิลลิจูล) เมื่อเทียบกับฟ้าแลบบนโลกที่มีพลังงานระดับพันล้านจูล แต่การค้นพบนี้มีผลต่อการออกแบบเทคโนโลยีสำรวจในอนาคต และยังช่วยให้นักดาราศาสตร์ชีววิทยาประเมินโอกาสการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่อาจนำไปสู่การกำเนิดชีวิตบนดาวอังคารได้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ NASA ตรวจพบฟ้าแลบบนดาวอังคารครั้งแรก ➡️ บันทึกได้ 55 ครั้งในสองปีดาวอังคาร ➡️ ใช้ไมโครโฟน SuperCam บน Perseverance Rover ✅ หลักฐานการเกิดฟ้าแลบ ➡️ พบสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้าและเสียงคล้ายฟ้าร้อง ➡️ ยืนยันการปลดปล่อยไฟฟ้าในบรรยากาศบางและแห้ง ✅ เงื่อนไขการเกิดฟ้าแลบ ➡️ ต้องมีลมแรงจัดและพายุฝุ่น ➡️ ส่วนใหญ่เกิดในช่วงแรงลมสูงสุด 30% ✅ ความหมายต่อการสำรวจ ➡️ ช่วยออกแบบเทคโนโลยีป้องกันไฟฟ้าสำหรับภารกิจในอนาคต ➡️ เพิ่มข้อมูลต่อการศึกษาความเป็นไปได้ของชีวิตบนดาวอังคาร ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ฟ้าแลบบนดาวอังคารมีพลังงานต่ำมากเมื่อเทียบกับโลก ⛔ อาจสร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์สำรวจหากไม่ได้รับการป้องกัน https://www.sciencealert.com/nasa-recorded-lightning-crackling-on-mars-for-the-first-time
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    NASA Recorded Lightning Crackling on Mars For The First Time
    A lonely rover toiling among the sands of Mars has now answered an age-old question: If lightning crackles on the red planet and no one hears it, does it still make a sound? In recordings obtained by NASA's Perseverance rover, scientists have identified, for the first time, electrical discharges captured during Mars's wild dust events and whirling dust devils – not once, but 55 times over two Martian years of observation.
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • Quantum Computing กับการออกแบบเลเซอร์

    ข่าวนี้เล่าถึงบริษัท Trumpf ผู้ผลิตเลเซอร์สำหรับเครื่อง EUV ของ ASML ที่กำลังทดลองใช้ Quantum Computing เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการออกแบบเลเซอร์ CO₂ โดยร่วมมือกับ Fraunhofer ILT และมหาวิทยาลัย Freie Universität Berlin โครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนี

    Trumpf กำลังทดสอบว่า Quantum Computing สามารถจำลองพฤติกรรมเชิงควอนตัมของเลเซอร์ CO₂ ได้ดีกว่า Supercomputer แบบดั้งเดิมหรือไม่ เนื่องจากการจำลองการแลกเปลี่ยนพลังงาน การชนกันของโมเลกุล และการสร้างแสงเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีสถานะจำนวนมหาศาล การใช้ Quantum Computing อาจช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและรวดเร็วขึ้น

    การใช้งานในอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์
    เลเซอร์ CO₂ ของ Trumpf ถูกใช้ทั้งใน การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (DUV/EUV lithography) และในอุตสาหกรรมทั่วไป เช่น การตัดโลหะ รวมถึงการใช้งานใน Silicon Photonics เพื่อการเชื่อมต่อข้อมูล หาก Quantum Computing สามารถจำลองและปรับปรุงการออกแบบได้จริง จะช่วยให้เลเซอร์รุ่นใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และมีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี
    หนึ่งในเป้าหมายของโครงการคือการลด ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ของอุปกรณ์ที่ใช้เลเซอร์ โดยการออกแบบที่แม่นยำขึ้นจะช่วยลดการสูญเสียพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับยุคที่ Quantum Computing มีความเสถียรมากขึ้น ซึ่งจะเปิดทางให้การออกแบบอุปกรณ์อุตสาหกรรมก้าวไปอีกขั้น

    ความท้าทายและอนาคต
    แม้ Quantum Computing ยังอยู่ในช่วงต้นและยังไม่สามารถรองรับงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้ แต่การเริ่มต้นทดลองและพัฒนาอัลกอริทึมตั้งแต่ตอนนี้ จะช่วยให้ Trumpf และพันธมิตรมีความพร้อมเมื่อเทคโนโลยี Quantum ก้าวสู่ระดับที่ใช้งานจริงในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    Trumpf ทดลองใช้ Quantum Computing
    เพื่อจำลองพฤติกรรมเลเซอร์ CO₂ ที่ซับซ้อน
    หวังได้ผลลัพธ์แม่นยำและรวดเร็วกว่า Supercomputer

    การใช้งานเลเซอร์ CO₂
    ใช้ใน EUV lithography และอุตสาหกรรมทั่วไป
    มีบทบาทใน Silicon Photonics สำหรับการเชื่อมต่อข้อมูล

    ผลกระทบเชิงบวก
    ลดการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    เพิ่มประสิทธิภาพและความกะทัดรัดของอุปกรณ์

    ความท้าทาย
    Quantum Computing ยังไม่เสถียรพอสำหรับงานใหญ่
    แต่การพัฒนาอัลกอริทึมตั้งแต่ตอนนี้คือการเตรียมความพร้อม

    คำเตือนต่ออุตสาหกรรม
    การพึ่งพา Quantum Computing ที่ยังไม่สมบูรณ์อาจเสี่ยงต่อการลงทุน
    หากเทคโนโลยีไม่ก้าวทัน อาจทำให้โครงการล่าช้าและสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/euv-laser-maker-trumpf-explores-quantum-computing-to-improve-laser-tech
    🔬 Quantum Computing กับการออกแบบเลเซอร์ ข่าวนี้เล่าถึงบริษัท Trumpf ผู้ผลิตเลเซอร์สำหรับเครื่อง EUV ของ ASML ที่กำลังทดลองใช้ Quantum Computing เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการออกแบบเลเซอร์ CO₂ โดยร่วมมือกับ Fraunhofer ILT และมหาวิทยาลัย Freie Universität Berlin โครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนี Trumpf กำลังทดสอบว่า Quantum Computing สามารถจำลองพฤติกรรมเชิงควอนตัมของเลเซอร์ CO₂ ได้ดีกว่า Supercomputer แบบดั้งเดิมหรือไม่ เนื่องจากการจำลองการแลกเปลี่ยนพลังงาน การชนกันของโมเลกุล และการสร้างแสงเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีสถานะจำนวนมหาศาล การใช้ Quantum Computing อาจช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและรวดเร็วขึ้น 🏭 การใช้งานในอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์ เลเซอร์ CO₂ ของ Trumpf ถูกใช้ทั้งใน การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (DUV/EUV lithography) และในอุตสาหกรรมทั่วไป เช่น การตัดโลหะ รวมถึงการใช้งานใน Silicon Photonics เพื่อการเชื่อมต่อข้อมูล หาก Quantum Computing สามารถจำลองและปรับปรุงการออกแบบได้จริง จะช่วยให้เลเซอร์รุ่นใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และมีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น 🌍 ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี หนึ่งในเป้าหมายของโครงการคือการลด ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ของอุปกรณ์ที่ใช้เลเซอร์ โดยการออกแบบที่แม่นยำขึ้นจะช่วยลดการสูญเสียพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นอกจากนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับยุคที่ Quantum Computing มีความเสถียรมากขึ้น ซึ่งจะเปิดทางให้การออกแบบอุปกรณ์อุตสาหกรรมก้าวไปอีกขั้น 💡 ความท้าทายและอนาคต แม้ Quantum Computing ยังอยู่ในช่วงต้นและยังไม่สามารถรองรับงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้ แต่การเริ่มต้นทดลองและพัฒนาอัลกอริทึมตั้งแต่ตอนนี้ จะช่วยให้ Trumpf และพันธมิตรมีความพร้อมเมื่อเทคโนโลยี Quantum ก้าวสู่ระดับที่ใช้งานจริงในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Trumpf ทดลองใช้ Quantum Computing ➡️ เพื่อจำลองพฤติกรรมเลเซอร์ CO₂ ที่ซับซ้อน ➡️ หวังได้ผลลัพธ์แม่นยำและรวดเร็วกว่า Supercomputer ✅ การใช้งานเลเซอร์ CO₂ ➡️ ใช้ใน EUV lithography และอุตสาหกรรมทั่วไป ➡️ มีบทบาทใน Silicon Photonics สำหรับการเชื่อมต่อข้อมูล ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ ลดการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพและความกะทัดรัดของอุปกรณ์ ✅ ความท้าทาย ➡️ Quantum Computing ยังไม่เสถียรพอสำหรับงานใหญ่ ➡️ แต่การพัฒนาอัลกอริทึมตั้งแต่ตอนนี้คือการเตรียมความพร้อม ‼️ คำเตือนต่ออุตสาหกรรม ⛔ การพึ่งพา Quantum Computing ที่ยังไม่สมบูรณ์อาจเสี่ยงต่อการลงทุน ⛔ หากเทคโนโลยีไม่ก้าวทัน อาจทำให้โครงการล่าช้าและสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/euv-laser-maker-trumpf-explores-quantum-computing-to-improve-laser-tech
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251126 #TechRadar

    Amazon ทุ่มงบ 50 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างระบบ AI และ HPC สำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ
    เรื่องนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ Amazon ที่ต้องการยกระดับศักยภาพด้านการประมวลผลให้กับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ โดยจะเน้นไปที่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ความมั่นคงไซเบอร์ พลังงาน และการแพทย์ การลงทุนนี้จะเพิ่มกำลังการประมวลผลกว่า 1.3 กิกะวัตต์ในระบบคลาวด์ของรัฐบาล ทำให้สามารถทำงานจำลองและวิเคราะห์ข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก AWS CEO กล่าวว่านี่คือการเปิดทางให้หน่วยงานรัฐเข้าถึง AI ขั้นสูงเพื่อเร่งภารกิจสำคัญของประเทศ
    https://www.techradar.com/pro/talk-about-an-upgrade-amazon-is-spending-usd50-billion-on-new-ai-and-hpc-hardware-for-the-us-government

    ข่าวลือราคา iPhone พับได้ อาจสูงถึง $2,399 ทำให้ iPad Mini 8 ดูคุ้มกว่า
    มีรายงานจาก Fubon Research ว่า iPhone รุ่นพับได้ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 อาจมีราคาสูงถึง $2,399 ซึ่งถือว่าแพงกว่าที่หลายคนคาดไว้ แม้จะมีข่าวดีว่าหน้าจออาจไร้รอยพับ แต่ราคาที่สูงขนาดนี้ทำให้หลายคนมองว่าซื้อ iPhone รุ่นปกติพร้อม iPad Mini 8 อาจจะคุ้มกว่า เพราะได้สองหน้าจอในราคาที่ใกล้เคียงกัน การเปิดตัวคาดว่าจะใช้ชื่อ “iPhone Fold” และอยู่ในขั้นตอนการทดสอบก่อนผลิตจริง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/if-the-latest-foldable-iphone-price-rumor-is-correct-the-ipad-mini-8-will-be-the-only-sensible-choice

    ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ในระบบ Cloud Security
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้ระบบคลาวด์หลายเจ้า (multicloud) และการนำ AI หรือ container มาใช้งาน ทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่องค์กรอาจมองไม่เห็น โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายข้อมูลภายใน (east-west traffic) และการส่งข้อมูลออกไปภายนอก (egress traffic) ที่มักไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวคิดใหม่ “Cloud Native Security Fabric” ที่ฝังระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปในโครงสร้างเครือข่ายโดยตรง เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของ workload แบบเรียลไทม์
    https://www.techradar.com/pro/the-hidden-gaps-in-your-cloud-security-fabric

    Gemini 3 กับ Nano Banana Pro: AI ที่เปลี่ยนการแต่งภาพให้เหมือนงานศิลป์
    Google เปิดตัวเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งใช้พลังจาก Gemini 3 จุดเด่นคือสามารถปรับแสงเหมือนเปลี่ยนบรรยากาศจริง เช่น จากภาพธรรมดาให้กลายเป็นช่วง golden hour หรือเปลี่ยนฉากหลังโดยไม่ทำให้ตัวแบบดูหลุดออกจากภาพ นอกจากนี้ยังสามารถย้ายวัตถุหรือปรับโครงสร้างภาพได้อย่างสมจริง ทำให้การแก้ไขภาพซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่บอกคำสั่งเหมือนเล่าให้คนเข้าใจ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/gemini-3s-nano-banana-pro-photo-editing-is-amazing-here-are-3-ways-to-make-the-most-of-it

    สิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7: Broadcom ปรับโมเดลราคาใหม่จนลูกค้าหนักใจ
    หลังจาก Broadcom เข้าซื้อ VMware ด้วยมูลค่า 61 พันล้านดอลลาร์ ก็มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ทั้งการยกเลิกการขายแบบ perpetual license และเปลี่ยนเป็น subscription bundles ทำให้ต้นทุนของลูกค้าเพิ่มขึ้นหลายเท่า การสิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7 ในเดือนตุลาคม 2025 ยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธุรกิจต้องหาทางเลือกใหม่ หลายองค์กรเริ่มมองหาผู้ให้บริการรายอื่นหรือใช้ third-party support เพื่อคงระบบเดิมไว้โดยไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสูงตามโมเดลใหม่
    https://www.techradar.com/pro/vsphere-7-support-ends-the-challenges-of-broadcoms-new-licensing-and-pricing-models

    Linux OS มียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งหลัง Windows 10 หมดการสนับสนุน
    หลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปหา Linux OS ทางเลือกใหม่ที่มีความปลอดภัยและเสถียร โดยมีรายงานว่ามียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งในเวลาไม่นาน ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้เริ่มมองหาทางเลือกที่ไม่ต้องพึ่งพา Windows และยังได้ฟีเจอร์ที่ทันสมัยพร้อมการอัปเดตต่อเนื่องจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    https://www.techradar.com/computing/windows/this-linux-os-has-got-a-million-downloads-since-windows-10-support-ended-should-microsoft-start-worrying-now

    ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Agent ให้ผู้ใช้สั่งงานแล้วปล่อยให้ทำเอง
    ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่ชื่อว่า Agent ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งภารกิจ เช่น ค้นหาข้อมูลหรือจัดการงาน แล้วปล่อยให้ระบบทำงานต่อเองโดยไม่ต้องติดตามตลอดเวลา ถือเป็นการยกระดับจากการสนทนาแบบโต้ตอบไปสู่การทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับงานอื่นได้ในขณะที่ AI ทำงานเบื้องหลัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-agent-feature-lets-you-assign-tasks-and-walk-away-heres-how-it-works

    มหาวิทยาลัย Harvard เผยข้อมูลรั่วไหลกระทบศิษย์เก่าและผู้บริจาค
    Harvard University ประกาศว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำให้ข้อมูลของศิษย์เก่าและผู้บริจาคถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการตรวจสอบและเสริมมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
    https://www.techradar.com/pro/security/harvard-university-reveals-data-breach-hitting-alumni-and-donors

    Zero Trust มี 3 ระดับความเร็วในการปรับใช้
    แนวคิด Zero Trust ที่เน้นการตรวจสอบทุกการเข้าถึงระบบ ไม่ว่าจะมาจากภายในหรือภายนอกองค์กร ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับความเร็วในการนำไปใช้ ได้แก่ ระดับเริ่มต้นที่เน้นการควบคุมพื้นฐาน ระดับกลางที่เริ่มใช้ระบบอัตโนมัติ และระดับสูงสุดที่ผสาน AI และการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อสร้างความปลอดภัยแบบครบวงจร องค์กรสามารถเลือกปรับใช้ตามความพร้อมและทรัพยากรที่มี
    https://www.techradar.com/pro/the-three-speeds-of-zero-trust

    iLamp พลังงานแสงอาทิตย์ เปลี่ยนเสาไฟให้กลายเป็นศูนย์กลาง AI
    นวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า iLamp ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และติดตั้งระบบ AI ภายในเสาไฟ ทำให้สามารถทำหน้าที่มากกว่าแค่ให้แสงสว่าง เช่น การตรวจสอบสภาพแวดล้อม การเชื่อมต่อกับระบบเมืองอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการเปลี่ยนเสาไฟธรรมดาให้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเมืองในอนาคต
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/solar-powered-ilamp-turns-the-humble-lamppost-into-an-ai-hub

    CEO Salesforce หันหลังให้ ChatGPT หันไปหา Gemini 3
    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศเลิกใช้ ChatGPT หลังจากได้ลอง Google Gemini 3 เพียงสองชั่วโมง เขายกย่อง Gemini 3 ว่าเหนือกว่าในด้านความเร็ว การให้เหตุผล และความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับทั้งข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ การเปลี่ยนใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในโลก AI และอาจส่งผลต่อทิศทางการใช้งาน AI ในองค์กรระดับโลก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-leap-is-insane-salesforce-ceo-swaps-chatgpt-for-gemini-3-and-says-hes-not-going-back

    โน้ตบุ๊ก Geekom GeekBook X14 Pro เบาแต่แรง
    Geekom เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ GeekBook X14 Pro ที่มีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม แต่สเปกจัดเต็มด้วย Intel Core Ultra 9 และ Intel Arc GPU ที่รองรับการเร่งผลกราฟิกด้วย AI หน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ทำให้ภาพคมชัดและสดใส แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง และรองรับชาร์จเร็ว จุดเด่นคือความเบาและพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงสำหรับงานหนักและงานสร้างสรรค์
    https://www.techradar.com/pro/geekoms-new-laptop-offers-a-bright-and-wide-screen-impressive-hardware-but-it-weighs-less-than-a-bag-of-sugar

    บั๊ก Windows 11 เล่นงานการ์ดจอ Nvidia RTX 5090
    การอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคมทำให้เกิดปัญหากับเกมเมอร์ โดยเฉพาะเกม Assassin’s Creed Shadows ที่เฟรมเรตตกลงถึง 50% แม้ใช้การ์ดจอระดับเทพ RTX 5090 Nvidia ต้องรีบออกแพตช์แก้ไขฉุกเฉิน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าต้นเหตุจริง ๆ มาจาก Microsoft หรือ Nvidia เอง ปัญหานี้ทำให้ผู้ใช้หลายคนต้องหาทางแก้ชั่วคราว เช่น ปิดฟีเจอร์ Resizable Bar เพื่อให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/possible-windows-11-bug-with-nvidia-gpus-tanks-assassins-creed-shadows-performance-bringing-even-an-rtx-5090-to-its-knees

    แฟนเทคโนโลยีย้อนยุคสร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรู
    นักประดิษฐ์สายเรโทรได้สร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรูขึ้นใหม่ โดยใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์และเซ็นเซอร์แสงสมัยใหม่แทนกลไกเก่า ๆ เครื่องนี้สามารถอ่านข้อมูลจากเทปกระดาษได้ แม้ความเร็วจะอยู่ที่ประมาณ 50 ไบต์ต่อวินาที ซึ่งถือว่าช้ามากเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่ก็เป็นการรื้อฟื้นเทคโนโลยีเก่าที่เคยมีบทบาทสำคัญในยุคแรกของคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์หลักคือการทดลองและอนุรักษ์ ไม่ใช่การใช้งานจริง
    https://www.techradar.com/pro/retro-computer-boffin-creates-a-freshly-created-perforated-tape-reader-just-dont-expect-high-data-reading-speeds

    DeepSeek-R1 ผู้ช่วย AI จากจีนเริ่มสะดุด DeepSeek-R1 ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งแห่งวงการ AI ตอนนี้กลับถูกวิจารณ์หนัก เพราะไม่สามารถจัดการกับหัวข้ออ่อนไหวได้ดี แถมยังสร้างโค้ดที่ผิดพลาดและมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย นักพัฒนาองค์กรที่เคยหวังพึ่งพากลับต้องระวังมากขึ้น เพราะความผิดพลาดเหล่านี้อาจนำไปสู่หายนะด้านความปลอดภัยในระบบใหญ่ ๆ ได้ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าการพัฒนา AI ไม่ใช่แค่เรื่องความฉลาด แต่ต้องมั่นคงและปลอดภัยด้วย https://www.techradar.com/pro/deepseek-took-off-as-an-ai-superstar-a-year-ago-but-could-it-also-be-a-major-security-risk-these-experts-think-so

    แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นนักข่าว TechCrunch
    มีการเปิดโปงว่าแฮกเกอร์จำนวนมากกำลังสวมรอยเป็นผู้สื่อข่าวจาก TechCrunch เพื่อหลอกบริษัทต่าง ๆ ให้เปิดเผยข้อมูลลับ ทั้งผ่านอีเมลและการโทรศัพท์ พวกเขาใช้ความน่าเชื่อถือของสื่อใหญ่เป็นเครื่องมือในการโจมตี ทำให้หลายองค์กรตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าการตรวจสอบแหล่งที่มาของการติดต่อเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า
    https://www.techradar.com/pro/hackers-impersonate-techcrunch-reporters-to-steal-sensitive-information-but-you-can-always-trust-us

    แผน AI ระดับโลกของรัฐบาล Trump
    รัฐบาลสหรัฐภายใต้ Donald Trump ได้เปิดตัวแผนการครอบครองความเป็นผู้นำด้าน AI ระดับโลก โดยมีเป้าหมายผลักดันให้สหรัฐเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี AI ที่เหนือกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนตั้งคำถามว่าแผนนี้อาจมีช่องโหว่และความเสี่ยง ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความปลอดภัย เพราะการเร่งรีบเพื่อครองความเป็นใหญ่ อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-trump-administration-just-launched-its-own-plan-for-global-ai-dominance-and-what-could-go-wrong

    Meta เปิดโปรแกรมแลกเปลี่ยน Ray-Ban Smart Glasses
    Meta เปิดตัวโปรแกรมใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถนำ AirPods มาแลกเป็นแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban ได้ แต่มีเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องระวัง เช่น รุ่นที่สามารถแลกได้ และข้อจำกัดในการใช้งาน แม้จะเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากลองเทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สิทธิ์นี้ทันที
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/metas-new-ray-ban-trade-in-program-lets-you-swap-your-airpods-for-smart-glasses-but-theres-a-catch
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251126 #TechRadar 🖥️ Amazon ทุ่มงบ 50 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างระบบ AI และ HPC สำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ Amazon ที่ต้องการยกระดับศักยภาพด้านการประมวลผลให้กับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ โดยจะเน้นไปที่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ความมั่นคงไซเบอร์ พลังงาน และการแพทย์ การลงทุนนี้จะเพิ่มกำลังการประมวลผลกว่า 1.3 กิกะวัตต์ในระบบคลาวด์ของรัฐบาล ทำให้สามารถทำงานจำลองและวิเคราะห์ข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก AWS CEO กล่าวว่านี่คือการเปิดทางให้หน่วยงานรัฐเข้าถึง AI ขั้นสูงเพื่อเร่งภารกิจสำคัญของประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/pro/talk-about-an-upgrade-amazon-is-spending-usd50-billion-on-new-ai-and-hpc-hardware-for-the-us-government 📱 ข่าวลือราคา iPhone พับได้ อาจสูงถึง $2,399 ทำให้ iPad Mini 8 ดูคุ้มกว่า มีรายงานจาก Fubon Research ว่า iPhone รุ่นพับได้ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 อาจมีราคาสูงถึง $2,399 ซึ่งถือว่าแพงกว่าที่หลายคนคาดไว้ แม้จะมีข่าวดีว่าหน้าจออาจไร้รอยพับ แต่ราคาที่สูงขนาดนี้ทำให้หลายคนมองว่าซื้อ iPhone รุ่นปกติพร้อม iPad Mini 8 อาจจะคุ้มกว่า เพราะได้สองหน้าจอในราคาที่ใกล้เคียงกัน การเปิดตัวคาดว่าจะใช้ชื่อ “iPhone Fold” และอยู่ในขั้นตอนการทดสอบก่อนผลิตจริง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/if-the-latest-foldable-iphone-price-rumor-is-correct-the-ipad-mini-8-will-be-the-only-sensible-choice 🔒 ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ในระบบ Cloud Security บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้ระบบคลาวด์หลายเจ้า (multicloud) และการนำ AI หรือ container มาใช้งาน ทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่องค์กรอาจมองไม่เห็น โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายข้อมูลภายใน (east-west traffic) และการส่งข้อมูลออกไปภายนอก (egress traffic) ที่มักไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวคิดใหม่ “Cloud Native Security Fabric” ที่ฝังระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปในโครงสร้างเครือข่ายโดยตรง เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของ workload แบบเรียลไทม์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-hidden-gaps-in-your-cloud-security-fabric 🎨 Gemini 3 กับ Nano Banana Pro: AI ที่เปลี่ยนการแต่งภาพให้เหมือนงานศิลป์ Google เปิดตัวเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งใช้พลังจาก Gemini 3 จุดเด่นคือสามารถปรับแสงเหมือนเปลี่ยนบรรยากาศจริง เช่น จากภาพธรรมดาให้กลายเป็นช่วง golden hour หรือเปลี่ยนฉากหลังโดยไม่ทำให้ตัวแบบดูหลุดออกจากภาพ นอกจากนี้ยังสามารถย้ายวัตถุหรือปรับโครงสร้างภาพได้อย่างสมจริง ทำให้การแก้ไขภาพซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่บอกคำสั่งเหมือนเล่าให้คนเข้าใจ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/gemini-3s-nano-banana-pro-photo-editing-is-amazing-here-are-3-ways-to-make-the-most-of-it 💸 สิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7: Broadcom ปรับโมเดลราคาใหม่จนลูกค้าหนักใจ หลังจาก Broadcom เข้าซื้อ VMware ด้วยมูลค่า 61 พันล้านดอลลาร์ ก็มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ทั้งการยกเลิกการขายแบบ perpetual license และเปลี่ยนเป็น subscription bundles ทำให้ต้นทุนของลูกค้าเพิ่มขึ้นหลายเท่า การสิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7 ในเดือนตุลาคม 2025 ยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธุรกิจต้องหาทางเลือกใหม่ หลายองค์กรเริ่มมองหาผู้ให้บริการรายอื่นหรือใช้ third-party support เพื่อคงระบบเดิมไว้โดยไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสูงตามโมเดลใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/vsphere-7-support-ends-the-challenges-of-broadcoms-new-licensing-and-pricing-models 🐧 Linux OS มียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งหลัง Windows 10 หมดการสนับสนุน หลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปหา Linux OS ทางเลือกใหม่ที่มีความปลอดภัยและเสถียร โดยมีรายงานว่ามียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งในเวลาไม่นาน ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้เริ่มมองหาทางเลือกที่ไม่ต้องพึ่งพา Windows และยังได้ฟีเจอร์ที่ทันสมัยพร้อมการอัปเดตต่อเนื่องจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/this-linux-os-has-got-a-million-downloads-since-windows-10-support-ended-should-microsoft-start-worrying-now 🤖 ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Agent ให้ผู้ใช้สั่งงานแล้วปล่อยให้ทำเอง ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่ชื่อว่า Agent ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งภารกิจ เช่น ค้นหาข้อมูลหรือจัดการงาน แล้วปล่อยให้ระบบทำงานต่อเองโดยไม่ต้องติดตามตลอดเวลา ถือเป็นการยกระดับจากการสนทนาแบบโต้ตอบไปสู่การทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับงานอื่นได้ในขณะที่ AI ทำงานเบื้องหลัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-agent-feature-lets-you-assign-tasks-and-walk-away-heres-how-it-works 🏫 มหาวิทยาลัย Harvard เผยข้อมูลรั่วไหลกระทบศิษย์เก่าและผู้บริจาค Harvard University ประกาศว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำให้ข้อมูลของศิษย์เก่าและผู้บริจาคถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการตรวจสอบและเสริมมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/harvard-university-reveals-data-breach-hitting-alumni-and-donors 🛡️ Zero Trust มี 3 ระดับความเร็วในการปรับใช้ แนวคิด Zero Trust ที่เน้นการตรวจสอบทุกการเข้าถึงระบบ ไม่ว่าจะมาจากภายในหรือภายนอกองค์กร ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับความเร็วในการนำไปใช้ ได้แก่ ระดับเริ่มต้นที่เน้นการควบคุมพื้นฐาน ระดับกลางที่เริ่มใช้ระบบอัตโนมัติ และระดับสูงสุดที่ผสาน AI และการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อสร้างความปลอดภัยแบบครบวงจร องค์กรสามารถเลือกปรับใช้ตามความพร้อมและทรัพยากรที่มี 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-three-speeds-of-zero-trust 🌞 iLamp พลังงานแสงอาทิตย์ เปลี่ยนเสาไฟให้กลายเป็นศูนย์กลาง AI นวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า iLamp ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และติดตั้งระบบ AI ภายในเสาไฟ ทำให้สามารถทำหน้าที่มากกว่าแค่ให้แสงสว่าง เช่น การตรวจสอบสภาพแวดล้อม การเชื่อมต่อกับระบบเมืองอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการเปลี่ยนเสาไฟธรรมดาให้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเมืองในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/solar-powered-ilamp-turns-the-humble-lamppost-into-an-ai-hub 🤖 CEO Salesforce หันหลังให้ ChatGPT หันไปหา Gemini 3 Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศเลิกใช้ ChatGPT หลังจากได้ลอง Google Gemini 3 เพียงสองชั่วโมง เขายกย่อง Gemini 3 ว่าเหนือกว่าในด้านความเร็ว การให้เหตุผล และความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับทั้งข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ การเปลี่ยนใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในโลก AI และอาจส่งผลต่อทิศทางการใช้งาน AI ในองค์กรระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-leap-is-insane-salesforce-ceo-swaps-chatgpt-for-gemini-3-and-says-hes-not-going-back 💻 โน้ตบุ๊ก Geekom GeekBook X14 Pro เบาแต่แรง Geekom เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ GeekBook X14 Pro ที่มีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม แต่สเปกจัดเต็มด้วย Intel Core Ultra 9 และ Intel Arc GPU ที่รองรับการเร่งผลกราฟิกด้วย AI หน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ทำให้ภาพคมชัดและสดใส แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง และรองรับชาร์จเร็ว จุดเด่นคือความเบาและพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงสำหรับงานหนักและงานสร้างสรรค์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/geekoms-new-laptop-offers-a-bright-and-wide-screen-impressive-hardware-but-it-weighs-less-than-a-bag-of-sugar 🎮 บั๊ก Windows 11 เล่นงานการ์ดจอ Nvidia RTX 5090 การอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคมทำให้เกิดปัญหากับเกมเมอร์ โดยเฉพาะเกม Assassin’s Creed Shadows ที่เฟรมเรตตกลงถึง 50% แม้ใช้การ์ดจอระดับเทพ RTX 5090 Nvidia ต้องรีบออกแพตช์แก้ไขฉุกเฉิน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าต้นเหตุจริง ๆ มาจาก Microsoft หรือ Nvidia เอง ปัญหานี้ทำให้ผู้ใช้หลายคนต้องหาทางแก้ชั่วคราว เช่น ปิดฟีเจอร์ Resizable Bar เพื่อให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/possible-windows-11-bug-with-nvidia-gpus-tanks-assassins-creed-shadows-performance-bringing-even-an-rtx-5090-to-its-knees 📼 แฟนเทคโนโลยีย้อนยุคสร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรู นักประดิษฐ์สายเรโทรได้สร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรูขึ้นใหม่ โดยใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์และเซ็นเซอร์แสงสมัยใหม่แทนกลไกเก่า ๆ เครื่องนี้สามารถอ่านข้อมูลจากเทปกระดาษได้ แม้ความเร็วจะอยู่ที่ประมาณ 50 ไบต์ต่อวินาที ซึ่งถือว่าช้ามากเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่ก็เป็นการรื้อฟื้นเทคโนโลยีเก่าที่เคยมีบทบาทสำคัญในยุคแรกของคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์หลักคือการทดลองและอนุรักษ์ ไม่ใช่การใช้งานจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/retro-computer-boffin-creates-a-freshly-created-perforated-tape-reader-just-dont-expect-high-data-reading-speeds 🧠 DeepSeek-R1 ผู้ช่วย AI จากจีนเริ่มสะดุด DeepSeek-R1 ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งแห่งวงการ AI ตอนนี้กลับถูกวิจารณ์หนัก เพราะไม่สามารถจัดการกับหัวข้ออ่อนไหวได้ดี แถมยังสร้างโค้ดที่ผิดพลาดและมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย นักพัฒนาองค์กรที่เคยหวังพึ่งพากลับต้องระวังมากขึ้น เพราะความผิดพลาดเหล่านี้อาจนำไปสู่หายนะด้านความปลอดภัยในระบบใหญ่ ๆ ได้ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าการพัฒนา AI ไม่ใช่แค่เรื่องความฉลาด แต่ต้องมั่นคงและปลอดภัยด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/deepseek-took-off-as-an-ai-superstar-a-year-ago-but-could-it-also-be-a-major-security-risk-these-experts-think-so 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นนักข่าว TechCrunch มีการเปิดโปงว่าแฮกเกอร์จำนวนมากกำลังสวมรอยเป็นผู้สื่อข่าวจาก TechCrunch เพื่อหลอกบริษัทต่าง ๆ ให้เปิดเผยข้อมูลลับ ทั้งผ่านอีเมลและการโทรศัพท์ พวกเขาใช้ความน่าเชื่อถือของสื่อใหญ่เป็นเครื่องมือในการโจมตี ทำให้หลายองค์กรตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าการตรวจสอบแหล่งที่มาของการติดต่อเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/hackers-impersonate-techcrunch-reporters-to-steal-sensitive-information-but-you-can-always-trust-us 🌍 แผน AI ระดับโลกของรัฐบาล Trump รัฐบาลสหรัฐภายใต้ Donald Trump ได้เปิดตัวแผนการครอบครองความเป็นผู้นำด้าน AI ระดับโลก โดยมีเป้าหมายผลักดันให้สหรัฐเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี AI ที่เหนือกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนตั้งคำถามว่าแผนนี้อาจมีช่องโหว่และความเสี่ยง ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความปลอดภัย เพราะการเร่งรีบเพื่อครองความเป็นใหญ่ อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-trump-administration-just-launched-its-own-plan-for-global-ai-dominance-and-what-could-go-wrong 👓 Meta เปิดโปรแกรมแลกเปลี่ยน Ray-Ban Smart Glasses Meta เปิดตัวโปรแกรมใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถนำ AirPods มาแลกเป็นแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban ได้ แต่มีเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องระวัง เช่น รุ่นที่สามารถแลกได้ และข้อจำกัดในการใช้งาน แม้จะเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากลองเทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สิทธิ์นี้ทันที ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/metas-new-ray-ban-trade-in-program-lets-you-swap-your-airpods-for-smart-glasses-but-theres-a-catch
    0 Comments 0 Shares 704 Views 0 Reviews
  • Samsung เริ่มผลิตชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb อย่างเป็นทางการ

    รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Samsung ได้เข้าสู่ขั้นตอน mass production ของชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb (3GB ต่อชิป) ที่มีความเร็ว 28Gbps โดยชิปนี้ถูกคาดว่าจะถูกใช้ใน NVIDIA GeForce RTX 50 series รุ่นใหม่ ยกเว้น RTX 5080 ที่จะใช้ชิปความเร็ว 30Gbps

    รายละเอียดทางเทคนิค
    ขนาดชิป: 24Gb (3GB ต่อชิป)
    ความเร็ว: 28Gbps (รุ่นที่ผลิตจริง), มีรุ่นทดสอบที่ 32Gbps และ 36Gbps
    รหัสชิป: K4vcf325zc-sc28 สำหรับรุ่น 28Gbps, และ sc32 / sc36 สำหรับรุ่นที่เร็วกว่า
    การใช้งาน: คาดว่าจะถูกใช้ใน RTX 5090, RTX 5070 Super และรุ่นอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความจุ VRAM และแบนด์วิดท์

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU
    การผลิตชิป GDDR7 รุ่นใหม่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ DRAM กำลังพุ่งสูง ทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series อาจถูกเลื่อนออกไปถึงไตรมาส 3 ปี 2026 อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ GDDR7 ความเร็วสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมและงาน AI ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูงมาก

    สิ่งที่ต้องจับตา
    NVIDIA จะเลือกใช้ชิป 28Gbps หรือรุ่นที่เร็วกว่าในซีรีส์ Super
    ผลกระทบจากราคาหน่วยความจำที่สูง อาจทำให้การเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ล่าช้า
    การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง SK hynix ที่เตรียมเปิดตัวชิป GDDR7 ความเร็ว 48Gbps ในปี 2026

    สรุปสาระสำคัญ
    Samsung เริ่มผลิต GDDR7 24Gb (28Gbps) อย่างเป็นทางการ
    มีรุ่นทดสอบที่เร็วกว่า (32Gbps และ 36Gbps)
    ใช้ใน RTX 50 series เพื่อเพิ่ม VRAM และแบนด์วิดท์
    ราคาหน่วยความจำสูงอาจทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series ล่าช้า
    ความเสี่ยง: การแข่งขันกับ SK hynix และผลกระทบจากต้นทุน DRAM
    สิ่งที่ต้องจับตา: NVIDIA จะเลือกใช้ชิปความเร็วใดในรุ่น Super

    https://wccftech.com/samsung-officially-starts-mass-producing-24-gb-gddr7/
    🏭 Samsung เริ่มผลิตชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb อย่างเป็นทางการ รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Samsung ได้เข้าสู่ขั้นตอน mass production ของชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb (3GB ต่อชิป) ที่มีความเร็ว 28Gbps โดยชิปนี้ถูกคาดว่าจะถูกใช้ใน NVIDIA GeForce RTX 50 series รุ่นใหม่ ยกเว้น RTX 5080 ที่จะใช้ชิปความเร็ว 30Gbps ⚙️ รายละเอียดทางเทคนิค 🔷 ขนาดชิป: 24Gb (3GB ต่อชิป) 🔷 ความเร็ว: 28Gbps (รุ่นที่ผลิตจริง), มีรุ่นทดสอบที่ 32Gbps และ 36Gbps 🔷 รหัสชิป: K4vcf325zc-sc28 สำหรับรุ่น 28Gbps, และ sc32 / sc36 สำหรับรุ่นที่เร็วกว่า 🔷 การใช้งาน: คาดว่าจะถูกใช้ใน RTX 5090, RTX 5070 Super และรุ่นอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความจุ VRAM และแบนด์วิดท์ 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU การผลิตชิป GDDR7 รุ่นใหม่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ DRAM กำลังพุ่งสูง ทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series อาจถูกเลื่อนออกไปถึงไตรมาส 3 ปี 2026 อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ GDDR7 ความเร็วสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมและงาน AI ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูงมาก 🛡️ สิ่งที่ต้องจับตา 🔷 NVIDIA จะเลือกใช้ชิป 28Gbps หรือรุ่นที่เร็วกว่าในซีรีส์ Super 🔷 ผลกระทบจากราคาหน่วยความจำที่สูง อาจทำให้การเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ล่าช้า 🔷 การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง SK hynix ที่เตรียมเปิดตัวชิป GDDR7 ความเร็ว 48Gbps ในปี 2026 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Samsung เริ่มผลิต GDDR7 24Gb (28Gbps) อย่างเป็นทางการ ✅ มีรุ่นทดสอบที่เร็วกว่า (32Gbps และ 36Gbps) ✅ ใช้ใน RTX 50 series เพื่อเพิ่ม VRAM และแบนด์วิดท์ ✅ ราคาหน่วยความจำสูงอาจทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series ล่าช้า ‼️ ความเสี่ยง: การแข่งขันกับ SK hynix และผลกระทบจากต้นทุน DRAM ‼️ สิ่งที่ต้องจับตา: NVIDIA จะเลือกใช้ชิปความเร็วใดในรุ่น Super https://wccftech.com/samsung-officially-starts-mass-producing-24-gb-gddr7/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Officially Starts Mass Producing 24 Gb GDDR7 Memory Chips; 36 Gbps Chips Enters Sampling
    Samsung has initiated the mass production of its new 24 Gb aka 3 GB GDDR7 memory chips for higher video memory in GPUs.
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • “AMD เตรียมขึ้นราคาการ์ดจอ 10% ปี 2026 เหตุวิกฤติ DRAM จาก AI”

    AMD ได้แจ้งต่อพันธมิตรในซัพพลายเชนว่าจะปรับขึ้นราคาการ์ดจออย่างน้อย 10% ตั้งแต่ต้นปี 2026 เนื่องจากต้นทุนหน่วยความจำ DRAM ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการที่ศูนย์ข้อมูล AI ทั่วโลกกำลังแย่งชิงทรัพยากรเหล่านี้ไปใช้ในโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ราคาหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเกือบ 200% ในช่วงปีที่ผ่านมา

    นี่ถือเป็นครั้งที่สองที่ AMD ปรับขึ้นราคาในรอบปี โดยครั้งแรกเลือกแบกรับต้นทุนเอง แต่ครั้งนี้บริษัทตัดสินใจส่งต่อภาระไปยังผู้บริโภคและพันธมิตร ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั่วไปจะต้องจ่ายแพงขึ้นในการซื้อการ์ดจอรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ RX 9000 หรือรุ่นอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาด

    นอกจาก AMD แล้ว Nvidia ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยมีรายงานว่าบริษัทอาจเลื่อนการเปิดตัวซีรีส์ RTX 50 Super เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนหน่วยความจำ และไม่ต้องการลดกำไรจากการขายให้กับผู้เล่นเกม เพราะรายได้หลักมาจากการขายให้กับศูนย์ข้อมูล AI ที่ยินดีจ่ายราคาสูงกว่า

    สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ที่ความต้องการจาก AI กำลังเบียดบังผู้บริโภคทั่วไป และทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์คาดว่าผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดการ์ดจอควรรีบซื้อก่อนสิ้นปี 2025 เพราะราคาจะยิ่งแพงขึ้นในปีหน้า

    สรุปเป็นหัวข้อ
    AMD เตรียมขึ้นราคาการ์ดจอ
    อย่างน้อย 10% ตั้งแต่ต้นปี 2026
    แจ้งต่อพันธมิตรในซัพพลายเชนแล้ว

    สาเหตุหลักคือวิกฤติ DRAM
    ราคาหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเกือบ 200%
    ความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI เป็นตัวการสำคัญ

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาดเกม
    ผู้ใช้ทั่วไปต้องจ่ายแพงขึ้นในการซื้อการ์ดจอ
    ซีรีส์ RX 9000 และรุ่นอื่น ๆ จะได้รับผลกระทบ

    Nvidia ก็ได้รับผลกระทบ
    อาจเลื่อนเปิดตัว RTX 50 Super
    เน้นขายให้ศูนย์ข้อมูล AI มากกว่าผู้เล่นเกม

    ข้อกังวลในอนาคต
    ราคาการ์ดจอจะพุ่งสูงต่อเนื่องในปี 2026
    ผู้บริโภคทั่วไปถูกเบียดบังจากความต้องการของ AI

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-to-raise-graphics-card-prices-by-at-least-10-percent-in-2026-price-surge-attributed-to-ongoing-ai-related-dram-supply-crisis
    🎮 “AMD เตรียมขึ้นราคาการ์ดจอ 10% ปี 2026 เหตุวิกฤติ DRAM จาก AI” AMD ได้แจ้งต่อพันธมิตรในซัพพลายเชนว่าจะปรับขึ้นราคาการ์ดจออย่างน้อย 10% ตั้งแต่ต้นปี 2026 เนื่องจากต้นทุนหน่วยความจำ DRAM ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการที่ศูนย์ข้อมูล AI ทั่วโลกกำลังแย่งชิงทรัพยากรเหล่านี้ไปใช้ในโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ราคาหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเกือบ 200% ในช่วงปีที่ผ่านมา นี่ถือเป็นครั้งที่สองที่ AMD ปรับขึ้นราคาในรอบปี โดยครั้งแรกเลือกแบกรับต้นทุนเอง แต่ครั้งนี้บริษัทตัดสินใจส่งต่อภาระไปยังผู้บริโภคและพันธมิตร ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั่วไปจะต้องจ่ายแพงขึ้นในการซื้อการ์ดจอรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ RX 9000 หรือรุ่นอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาด นอกจาก AMD แล้ว Nvidia ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยมีรายงานว่าบริษัทอาจเลื่อนการเปิดตัวซีรีส์ RTX 50 Super เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนหน่วยความจำ และไม่ต้องการลดกำไรจากการขายให้กับผู้เล่นเกม เพราะรายได้หลักมาจากการขายให้กับศูนย์ข้อมูล AI ที่ยินดีจ่ายราคาสูงกว่า สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ที่ความต้องการจาก AI กำลังเบียดบังผู้บริโภคทั่วไป และทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์คาดว่าผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดการ์ดจอควรรีบซื้อก่อนสิ้นปี 2025 เพราะราคาจะยิ่งแพงขึ้นในปีหน้า 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ AMD เตรียมขึ้นราคาการ์ดจอ ➡️ อย่างน้อย 10% ตั้งแต่ต้นปี 2026 ➡️ แจ้งต่อพันธมิตรในซัพพลายเชนแล้ว ✅ สาเหตุหลักคือวิกฤติ DRAM ➡️ ราคาหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเกือบ 200% ➡️ ความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI เป็นตัวการสำคัญ ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาดเกม ➡️ ผู้ใช้ทั่วไปต้องจ่ายแพงขึ้นในการซื้อการ์ดจอ ➡️ ซีรีส์ RX 9000 และรุ่นอื่น ๆ จะได้รับผลกระทบ ✅ Nvidia ก็ได้รับผลกระทบ ➡️ อาจเลื่อนเปิดตัว RTX 50 Super ➡️ เน้นขายให้ศูนย์ข้อมูล AI มากกว่าผู้เล่นเกม ‼️ ข้อกังวลในอนาคต ⛔ ราคาการ์ดจอจะพุ่งสูงต่อเนื่องในปี 2026 ⛔ ผู้บริโภคทั่วไปถูกเบียดบังจากความต้องการของ AI https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-to-raise-graphics-card-prices-by-at-least-10-percent-in-2026-price-surge-attributed-to-ongoing-ai-related-dram-supply-crisis
    0 Comments 0 Shares 211 Views 0 Reviews
  • ฉลองครบรอบ 54 ปีของ Intel 4004 ซึ่งเป็นไมโครโปรเซสเซอร์เชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลก

    โปรเจกต์ “Supersized Intel 4004” คือการสร้างชิปตระกูล Intel 4000 ขึ้นใหม่ในขนาดใหญ่กว่าของจริงกว่า 130 เท่า เพื่อฉลองครบรอบ 54 ปี โดยจะถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ Enter Museum ที่สวิตเซอร์แลนด์ในปี 2026 พร้อมทั้งเป็นนิทรรศการเชิงโต้ตอบที่ผู้ชมสามารถทดลองใช้งานได้

    การฉลองครบรอบ 54 ปีของ Intel 4004 ซึ่งเป็นไมโครโปรเซสเซอร์เชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลก ได้ถูกยกขึ้นมาเล่าใหม่ในรูปแบบที่น่าตื่นตาตื่นใจ นักวิศวกร Klaus Scheffler และ Lajos Kintli ได้สร้างชิปตระกูล Intel 4000 ทั้งชุด ได้แก่ 4004 CPU, 4001 ROM, 4002 RAM และ 4003 Shift Register ในขนาดใหญ่กว่าของจริงถึง 130 เท่า โดยทั้งหมดถูกประกอบเข้ากับเครื่องคิดเลข Busicom 141-PF ที่เคยเป็นต้นแบบการใช้งานจริงเมื่อปี 1971

    นิทรรศการที่ Enter Museum สวิตเซอร์แลนด์
    โปรเจกต์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างเพื่อโชว์เท่านั้น แต่ยังถูกจัดเตรียมให้เป็น นิทรรศการเชิงโต้ตอบ ที่ Enter Museum เมือง Solothurn ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้เข้าชมสามารถกดปุ่มเครื่องคิดเลข ทดลองดู flowchart และค่าการทำงานของ register ได้จริง ทำให้ประวัติศาสตร์ของไมโครโปรเซสเซอร์กลับมามีชีวิตอีกครั้งในยุคปัจจุบัน

    ความพิเศษของชิปขนาดยักษ์
    แม้จะเป็นการสร้างใหม่ แต่ชิป supersized 4004 กลับทำงานได้เร็วกว่าเดิมถึง สองเท่า (1.5 MHz เทียบกับ 740 KHz ของต้นฉบับ) เนื่องจากใช้ทรานซิสเตอร์ FET แบบ low-capacitance ที่ออกแบบมาสำหรับงาน RF การพัฒนาเช่นนี้จึงไม่ใช่เพียงการย้อนอดีต แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่กับการออกแบบดั้งเดิม

    บทเรียนจากประวัติศาสตร์
    Intel 4004 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ แต่ที่น่าสนใจคือ ก่อนหน้าการเปิดตัวของ 4004 หนึ่งปี กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้พัฒนาไมโครโปรเซสเซอร์ MP944 ขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ถูกเก็บเป็นความลับจนถึงปี 1989 เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกบางครั้งก็เริ่มต้นจากการใช้งานทางทหาร ก่อนจะเข้าสู่ภาคพลเรือนและกลายเป็นรากฐานของชีวิตประจำวัน

    สรุปสาระสำคัญ
    โปรเจกต์ Supersized Intel 4004
    สร้างชิปตระกูล Intel 4000 ขึ้นใหม่ในขนาดใหญ่กว่า 130 เท่า
    ใช้ประกอบกับเครื่องคิดเลข Busicom 141-PF รุ่นปี 1971

    นิทรรศการ Enter Museum
    จัดแสดงในเมือง Solothurn ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปี 2026
    ผู้ชมสามารถทดลองใช้งานเครื่องคิดเลขและดูการทำงานของ register ได้จริง

    ความพิเศษของชิปใหม่
    ทำงานเร็วกว่าเดิมถึงสองเท่า (1.5 MHz เทียบกับ 740 KHz)
    ใช้ทรานซิสเตอร์ FET แบบ low-capacitance

    บทเรียนจากประวัติศาสตร์
    Intel 4004 เป็นไมโครโปรเซสเซอร์เชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลก
    แต่ MP944 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ถูกพัฒนาก่อนและเก็บเป็นความลับ

    คำเตือนด้านข้อมูล
    เทคโนโลยีที่ถูกเก็บเป็นความลับอาจทำให้สังคมพลเรือนล่าช้าในการเข้าถึงนวัตกรรม
    การพึ่งพาเทคโนโลยีเก่าโดยไม่พัฒนาอาจทำให้เสียโอกาสเชิงเศรษฐกิจและวิทยาการ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/supersized-family-gathers-for-the-intel-4004-cpu-anniversary-4001-rom-4002-ram-and-4003-shift-registers-feature-in-a-reconstructed-busicom-calculator-build
    🎂 ฉลองครบรอบ 54 ปีของ Intel 4004 ซึ่งเป็นไมโครโปรเซสเซอร์เชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลก โปรเจกต์ “Supersized Intel 4004” คือการสร้างชิปตระกูล Intel 4000 ขึ้นใหม่ในขนาดใหญ่กว่าของจริงกว่า 130 เท่า เพื่อฉลองครบรอบ 54 ปี โดยจะถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ Enter Museum ที่สวิตเซอร์แลนด์ในปี 2026 พร้อมทั้งเป็นนิทรรศการเชิงโต้ตอบที่ผู้ชมสามารถทดลองใช้งานได้ การฉลองครบรอบ 54 ปีของ Intel 4004 ซึ่งเป็นไมโครโปรเซสเซอร์เชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลก ได้ถูกยกขึ้นมาเล่าใหม่ในรูปแบบที่น่าตื่นตาตื่นใจ นักวิศวกร Klaus Scheffler และ Lajos Kintli ได้สร้างชิปตระกูล Intel 4000 ทั้งชุด ได้แก่ 4004 CPU, 4001 ROM, 4002 RAM และ 4003 Shift Register ในขนาดใหญ่กว่าของจริงถึง 130 เท่า โดยทั้งหมดถูกประกอบเข้ากับเครื่องคิดเลข Busicom 141-PF ที่เคยเป็นต้นแบบการใช้งานจริงเมื่อปี 1971 🏛️ นิทรรศการที่ Enter Museum สวิตเซอร์แลนด์ โปรเจกต์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างเพื่อโชว์เท่านั้น แต่ยังถูกจัดเตรียมให้เป็น นิทรรศการเชิงโต้ตอบ ที่ Enter Museum เมือง Solothurn ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้เข้าชมสามารถกดปุ่มเครื่องคิดเลข ทดลองดู flowchart และค่าการทำงานของ register ได้จริง ทำให้ประวัติศาสตร์ของไมโครโปรเซสเซอร์กลับมามีชีวิตอีกครั้งในยุคปัจจุบัน ⚡ ความพิเศษของชิปขนาดยักษ์ แม้จะเป็นการสร้างใหม่ แต่ชิป supersized 4004 กลับทำงานได้เร็วกว่าเดิมถึง สองเท่า (1.5 MHz เทียบกับ 740 KHz ของต้นฉบับ) เนื่องจากใช้ทรานซิสเตอร์ FET แบบ low-capacitance ที่ออกแบบมาสำหรับงาน RF การพัฒนาเช่นนี้จึงไม่ใช่เพียงการย้อนอดีต แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่กับการออกแบบดั้งเดิม 📜 บทเรียนจากประวัติศาสตร์ Intel 4004 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ แต่ที่น่าสนใจคือ ก่อนหน้าการเปิดตัวของ 4004 หนึ่งปี กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้พัฒนาไมโครโปรเซสเซอร์ MP944 ขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ถูกเก็บเป็นความลับจนถึงปี 1989 เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกบางครั้งก็เริ่มต้นจากการใช้งานทางทหาร ก่อนจะเข้าสู่ภาคพลเรือนและกลายเป็นรากฐานของชีวิตประจำวัน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ โปรเจกต์ Supersized Intel 4004 ➡️ สร้างชิปตระกูล Intel 4000 ขึ้นใหม่ในขนาดใหญ่กว่า 130 เท่า ➡️ ใช้ประกอบกับเครื่องคิดเลข Busicom 141-PF รุ่นปี 1971 ✅ นิทรรศการ Enter Museum ➡️ จัดแสดงในเมือง Solothurn ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปี 2026 ➡️ ผู้ชมสามารถทดลองใช้งานเครื่องคิดเลขและดูการทำงานของ register ได้จริง ✅ ความพิเศษของชิปใหม่ ➡️ ทำงานเร็วกว่าเดิมถึงสองเท่า (1.5 MHz เทียบกับ 740 KHz) ➡️ ใช้ทรานซิสเตอร์ FET แบบ low-capacitance ✅ บทเรียนจากประวัติศาสตร์ ➡️ Intel 4004 เป็นไมโครโปรเซสเซอร์เชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลก ➡️ แต่ MP944 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ถูกพัฒนาก่อนและเก็บเป็นความลับ ‼️ คำเตือนด้านข้อมูล ⛔ เทคโนโลยีที่ถูกเก็บเป็นความลับอาจทำให้สังคมพลเรือนล่าช้าในการเข้าถึงนวัตกรรม ⛔ การพึ่งพาเทคโนโลยีเก่าโดยไม่พัฒนาอาจทำให้เสียโอกาสเชิงเศรษฐกิจและวิทยาการ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/supersized-family-gathers-for-the-intel-4004-cpu-anniversary-4001-rom-4002-ram-and-4003-shift-registers-feature-in-a-reconstructed-busicom-calculator-build
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • AMD ประกาศเปลี่ยน FidelityFX Super Resolution (FSR) ให้เหลือเพียง “FSR”

    AMD ยืนยันว่าแบรนด์ FidelityFX Super Resolution จะถูกยกเลิก และใช้ชื่อสั้น ๆ ว่า FSR แทน แม้ชื่อเดิมจะมีความหมายชัดเจน แต่การเปลี่ยนครั้งนี้สะท้อนว่า FSR ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การ “อัปสเกลภาพ” อีกต่อไป แต่จะครอบคลุมหลายเทคโนโลยีกราฟิก

    Fluid Motion Frames → FSR Frame Generation
    เทคโนโลยี FMF (Fluid Motion Frames) ที่เคยใช้ในการสร้างเฟรมเสมือนเพื่อเพิ่มความลื่นไหล ถูกรีแบรนด์ใหม่เป็น FSR Frame Generation เพื่อรวมเข้ากับชุด FSR Redstone ทำให้ผู้ใช้เข้าใจง่ายขึ้นว่าเป็นส่วนหนึ่งของ FSR ecosystem

    เทคโนโลยีใหม่ใน FSR Redstone
    AMD เปิดเผยว่า FSR Redstone จะมี 4 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่
    FSR 4 Upscaling – รุ่นใหม่ของการอัปสเกลภาพ
    FSR Ray Regeneration – คู่แข่งของ Nvidia DLSS Ray Reconstruction
    FSR Frame Generation – การสร้างเฟรมเสมือน (เดิม FMF)
    FSR Radiance Caching – ใช้ AI คำนวณการสะท้อนและการกระจายแสง

    ความหมายต่ออนาคตเกมกราฟิก
    การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้สะท้อนว่า AMD ต้องการสร้างแบรนด์ FSR ให้เป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีกราฟิกทั้งหมด ไม่ใช่แค่การอัปสเกลภาพ แต่รวมถึงการเรนเดอร์แสง เฟรม และการใช้ AI เพื่อยกระดับคุณภาพภาพในเกมยุคใหม่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปลี่ยนชื่อแบรนด์
    FidelityFX Super Resolution → FSR
    ลดความยาวชื่อและรวมเทคโนโลยี

    การรีแบรนด์ FMF
    Fluid Motion Frames → FSR Frame Generation
    รวมเข้ากับ FSR Redstone

    เทคโนโลยีใน FSR Redstone
    FSR 4 Upscaling
    FSR Ray Regeneration
    FSR Frame Generation
    FSR Radiance Caching

    ความหมายต่ออนาคต
    FSR กลายเป็นแบรนด์หลักของ AMD ด้านกราฟิก
    แข่งตรงกับ Nvidia DLSS และเทคโนโลยีเรนเดอร์ AI

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การเปลี่ยนชื่ออาจทำให้ผู้ใช้สับสนว่า FSR หมายถึงอะไร
    คุณภาพของ FSR ยังถูกวิจารณ์ว่า “ด้อยกว่า DLSS” ในบางเกม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-ditches-fidelityfx-in-favor-of-apparently-meaningless-fsr-branding-fluid-motion-frames-also-renamed-to-fmf
    🥱 AMD ประกาศเปลี่ยน FidelityFX Super Resolution (FSR) ให้เหลือเพียง “FSR” AMD ยืนยันว่าแบรนด์ FidelityFX Super Resolution จะถูกยกเลิก และใช้ชื่อสั้น ๆ ว่า FSR แทน แม้ชื่อเดิมจะมีความหมายชัดเจน แต่การเปลี่ยนครั้งนี้สะท้อนว่า FSR ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การ “อัปสเกลภาพ” อีกต่อไป แต่จะครอบคลุมหลายเทคโนโลยีกราฟิก 🎮 Fluid Motion Frames → FSR Frame Generation เทคโนโลยี FMF (Fluid Motion Frames) ที่เคยใช้ในการสร้างเฟรมเสมือนเพื่อเพิ่มความลื่นไหล ถูกรีแบรนด์ใหม่เป็น FSR Frame Generation เพื่อรวมเข้ากับชุด FSR Redstone ทำให้ผู้ใช้เข้าใจง่ายขึ้นว่าเป็นส่วนหนึ่งของ FSR ecosystem ⚡ เทคโนโลยีใหม่ใน FSR Redstone AMD เปิดเผยว่า FSR Redstone จะมี 4 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ 🎗️ FSR 4 Upscaling – รุ่นใหม่ของการอัปสเกลภาพ 🎗️ FSR Ray Regeneration – คู่แข่งของ Nvidia DLSS Ray Reconstruction 🎗️ FSR Frame Generation – การสร้างเฟรมเสมือน (เดิม FMF) 🎗️ FSR Radiance Caching – ใช้ AI คำนวณการสะท้อนและการกระจายแสง 🔮 ความหมายต่ออนาคตเกมกราฟิก การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้สะท้อนว่า AMD ต้องการสร้างแบรนด์ FSR ให้เป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีกราฟิกทั้งหมด ไม่ใช่แค่การอัปสเกลภาพ แต่รวมถึงการเรนเดอร์แสง เฟรม และการใช้ AI เพื่อยกระดับคุณภาพภาพในเกมยุคใหม่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปลี่ยนชื่อแบรนด์ ➡️ FidelityFX Super Resolution → FSR ➡️ ลดความยาวชื่อและรวมเทคโนโลยี ✅ การรีแบรนด์ FMF ➡️ Fluid Motion Frames → FSR Frame Generation ➡️ รวมเข้ากับ FSR Redstone ✅ เทคโนโลยีใน FSR Redstone ➡️ FSR 4 Upscaling ➡️ FSR Ray Regeneration ➡️ FSR Frame Generation ➡️ FSR Radiance Caching ✅ ความหมายต่ออนาคต ➡️ FSR กลายเป็นแบรนด์หลักของ AMD ด้านกราฟิก ➡️ แข่งตรงกับ Nvidia DLSS และเทคโนโลยีเรนเดอร์ AI ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การเปลี่ยนชื่ออาจทำให้ผู้ใช้สับสนว่า FSR หมายถึงอะไร ⛔ คุณภาพของ FSR ยังถูกวิจารณ์ว่า “ด้อยกว่า DLSS” ในบางเกม https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-ditches-fidelityfx-in-favor-of-apparently-meaningless-fsr-branding-fluid-motion-frames-also-renamed-to-fmf
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • การขยายกำลังผลิต DRAM ของ SK hynix

    SK hynix หนึ่งในผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศว่าจะเพิ่มกำลังผลิต 1c DRAM จาก 20,000 หน่วยต่อเดือนเป็น 140,000 หน่วยต่อเดือน ที่โรงงาน Icheon ภายในปี 2026 การขยายนี้จะเน้นไปที่ GDDR7 modules และ SOCAMM memory ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในเซิร์ฟเวอร์ AI

    ความต้องการจากอุตสาหกรรม AI
    ความต้องการ DRAM ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกิดจากการขยายตัวของ AI inference workloads โดยเฉพาะในศูนย์ข้อมูลทั่วโลก ตัวอย่างเช่น โครงการ Stargate ของ OpenAI เพียงโครงการเดียวคาดว่าจะใช้ DRAM wafers ถึง 900,000 ต่อเดือน ซึ่งคิดเป็นกว่า 40% ของกำลังผลิตรวมในปัจจุบัน

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคทั่วไป
    แม้ SK hynix และคู่แข่งอย่าง Samsung และ Micron จะเร่งขยายกำลังผลิต แต่การเพิ่มนี้จะถูกจัดสรรไปยัง ตลาด AI เป็นหลัก ทำให้ผู้บริโภคทั่วไป เช่น ผู้ใช้พีซีและเกมเมอร์ ยังต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนและราคาที่สูงต่อไปในระยะสั้น

    แนวโน้ม “DRAM Supercycle”
    นักวิเคราะห์คาดว่าตลาด DRAM กำลังเข้าสู่ “supercycle” ซึ่งหมายถึงช่วงเวลาที่ความต้องการสูงต่อเนื่องหลายปี โดยมีแรงขับเคลื่อนจาก AI, HBM4/HBM4E และการสร้างศูนย์ข้อมูลทั่วโลก แม้ผู้ผลิตจะเร่งขยายกำลังผลิต แต่ก็ยังต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อให้ทันกับความต้องการ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SK hynix จะเพิ่มกำลังผลิต DRAM มากกว่า 8 เท่า
    จาก 20,000 หน่วยต่อเดือนเป็น 140,000 หน่วยต่อเดือนภายในปี 2026

    การผลิตเน้นไปที่ GDDR7 และ SOCAMM memory
    ใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI และงานประมวลผลขั้นสูง

    ความต้องการจากโครงการ AI เช่น OpenAI Stargate
    ใช้ DRAM wafers 900,000 ต่อเดือน คิดเป็น 40% ของกำลังผลิตรวม

    ตลาดผู้บริโภคทั่วไปยังคงขาดแคลน
    การขยายกำลังผลิตถูกจัดสรรไปที่ตลาด AI เป็นหลัก

    ความเสี่ยงจาก “DRAM Supercycle”
    ความต้องการสูงต่อเนื่องหลายปี อาจทำให้ราคายังอยู่ในระดับสูง

    ผู้ใช้พีซีและเกมเมอร์ได้รับผลกระทบ
    ราคาหน่วยความจำยังคงแพงและหายากในระยะสั้น

    https://wccftech.com/sk-hynix-to-increase-dram-production-by-a-whopping-eight-folds/
    🏭 การขยายกำลังผลิต DRAM ของ SK hynix SK hynix หนึ่งในผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศว่าจะเพิ่มกำลังผลิต 1c DRAM จาก 20,000 หน่วยต่อเดือนเป็น 140,000 หน่วยต่อเดือน ที่โรงงาน Icheon ภายในปี 2026 การขยายนี้จะเน้นไปที่ GDDR7 modules และ SOCAMM memory ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในเซิร์ฟเวอร์ AI 🤖 ความต้องการจากอุตสาหกรรม AI ความต้องการ DRAM ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกิดจากการขยายตัวของ AI inference workloads โดยเฉพาะในศูนย์ข้อมูลทั่วโลก ตัวอย่างเช่น โครงการ Stargate ของ OpenAI เพียงโครงการเดียวคาดว่าจะใช้ DRAM wafers ถึง 900,000 ต่อเดือน ซึ่งคิดเป็นกว่า 40% ของกำลังผลิตรวมในปัจจุบัน 📉 ผลกระทบต่อผู้บริโภคทั่วไป แม้ SK hynix และคู่แข่งอย่าง Samsung และ Micron จะเร่งขยายกำลังผลิต แต่การเพิ่มนี้จะถูกจัดสรรไปยัง ตลาด AI เป็นหลัก ทำให้ผู้บริโภคทั่วไป เช่น ผู้ใช้พีซีและเกมเมอร์ ยังต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนและราคาที่สูงต่อไปในระยะสั้น 🔮 แนวโน้ม “DRAM Supercycle” นักวิเคราะห์คาดว่าตลาด DRAM กำลังเข้าสู่ “supercycle” ซึ่งหมายถึงช่วงเวลาที่ความต้องการสูงต่อเนื่องหลายปี โดยมีแรงขับเคลื่อนจาก AI, HBM4/HBM4E และการสร้างศูนย์ข้อมูลทั่วโลก แม้ผู้ผลิตจะเร่งขยายกำลังผลิต แต่ก็ยังต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อให้ทันกับความต้องการ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SK hynix จะเพิ่มกำลังผลิต DRAM มากกว่า 8 เท่า ➡️ จาก 20,000 หน่วยต่อเดือนเป็น 140,000 หน่วยต่อเดือนภายในปี 2026 ✅ การผลิตเน้นไปที่ GDDR7 และ SOCAMM memory ➡️ ใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI และงานประมวลผลขั้นสูง ✅ ความต้องการจากโครงการ AI เช่น OpenAI Stargate ➡️ ใช้ DRAM wafers 900,000 ต่อเดือน คิดเป็น 40% ของกำลังผลิตรวม ✅ ตลาดผู้บริโภคทั่วไปยังคงขาดแคลน ➡️ การขยายกำลังผลิตถูกจัดสรรไปที่ตลาด AI เป็นหลัก ‼️ ความเสี่ยงจาก “DRAM Supercycle” ⛔ ความต้องการสูงต่อเนื่องหลายปี อาจทำให้ราคายังอยู่ในระดับสูง ‼️ ผู้ใช้พีซีและเกมเมอร์ได้รับผลกระทบ ⛔ ราคาหน่วยความจำยังคงแพงและหายากในระยะสั้น https://wccftech.com/sk-hynix-to-increase-dram-production-by-a-whopping-eight-folds/
    WCCFTECH.COM
    SK Hynix to Boost DRAM Production by a Whopping Eight Times Next Year, But It Still Won’t Be Enough to Ease the Ongoing Memory Shortage
    SK hynix plans to increase DRAM production by a significant level; however, it appears that demand is currently 'too high'.
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews
  • กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาชาวอเมริกัน 4 คนในคดีลักลอบส่งออก GPU Nvidia มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 200 ปี

    กลุ่มผู้ต้องหานำโดย Brian Curtis Raymond ผู้ก่อตั้งบริษัท Bitworks ใน Alabama ถูกกล่าวหาว่าซื้อ GPU Nvidia A100, H100, H200 และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ HPE จากช่องทางถูกกฎหมาย ก่อนจะขายต่อให้บริษัท Janford Realtor ใน Florida ซึ่งควบคุมโดย Hon Ning “Mathew” Ho จากนั้นมีการส่งออกไปจีนผ่านฮ่องกง มาเลเซีย และไทย โดยใช้เอกสารปลอมและเส้นทางการขนส่งที่ซับซ้อน

    มูลค่าการลักลอบและเส้นทางเงิน
    การดำเนินการนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2023–2025 หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ขั้นสูง ผู้ต้องหาสามารถลักลอบส่งออก GPU A100 จำนวน 400 ตัว ไปจีนได้สำเร็จ และพยายามส่งออกซูเปอร์คอมพิวเตอร์ HPE อีก 10 เครื่องพร้อม GPU H100 และ H200 แต่ถูกจับกุมก่อน มูลค่าการทำธุรกรรมรวมกว่า 3.89 ล้านดอลลาร์ โดยมีการโอนเงินจากจีนมายังสหรัฐฯ ผ่านการฟอกเงิน

    ความสำคัญเชิงภูมิรัฐศาสตร์
    ชิป AI อย่าง A100/H100/H200 ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา AI และการประมวลผลขั้นสูง รัฐบาลสหรัฐฯ จึงเข้มงวดต่อการส่งออกไปจีนเพราะเกรงว่าจะถูกนำไปใช้ในงานด้านทหารและการวิจัยเชิงกลยุทธ์ การจับกุมครั้งนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงรุนแรง

    บทเรียนและผลกระทบ
    แม้ตัวเลข 3.89 ล้านดอลลาร์จะดูเล็กเมื่อเทียบกับตลาด AI ที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้าน แต่คดีนี้ชี้ให้เห็นช่องโหว่ในระบบควบคุมการส่งออก และอาจทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้มงวดมากขึ้นต่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการจัดจำหน่ายฮาร์ดแวร์ AI ในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    DOJ ตั้งข้อหาชาวอเมริกัน 4 คนในคดีลักลอบส่งออก GPU และซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    ผู้ต้องหาหลักคือ Brian Curtis Raymond และ Hon Ning “Mathew” Ho

    ลักลอบส่งออก GPU A100 จำนวน 400 ตัว สำเร็จ
    พยายามส่งออก HPE Supercomputers และ GPU H200 แต่ถูกจับกุม
    มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 200 ปี

    มูลค่าการลักลอบรวมกว่า 3.89 ล้านดอลลาร์
    มีการฟอกเงินผ่านบริษัท Janford Realtor

    สหรัฐฯ คุมเข้มการส่งออกชิป AI ขั้นสูง
    เกรงว่าจะถูกนำไปใช้ในงานด้านทหารและการวิจัยเชิงกลยุทธ์

    ความเสี่ยงด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์
    การลักลอบส่งออกชิปอาจช่วยเพิ่มศักยภาพด้าน AI ของจีน

    ช่องโหว่ในระบบควบคุมการส่งออก
    อาจทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้มงวดมากขึ้นต่อบริษัทผู้จัดจำหน่ายฮาร์ดแวร์ AI

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/four-americans-charged-with-smuggling-nvidia-gpus-and-hpe-supercomputers-to-china-face-up-to-200-years-in-prison-usd3-89-million-worth-of-gear-smuggled-in-operation
    ⚖️ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาชาวอเมริกัน 4 คนในคดีลักลอบส่งออก GPU Nvidia มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 200 ปี กลุ่มผู้ต้องหานำโดย Brian Curtis Raymond ผู้ก่อตั้งบริษัท Bitworks ใน Alabama ถูกกล่าวหาว่าซื้อ GPU Nvidia A100, H100, H200 และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ HPE จากช่องทางถูกกฎหมาย ก่อนจะขายต่อให้บริษัท Janford Realtor ใน Florida ซึ่งควบคุมโดย Hon Ning “Mathew” Ho จากนั้นมีการส่งออกไปจีนผ่านฮ่องกง มาเลเซีย และไทย โดยใช้เอกสารปลอมและเส้นทางการขนส่งที่ซับซ้อน 💰 มูลค่าการลักลอบและเส้นทางเงิน การดำเนินการนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2023–2025 หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ขั้นสูง ผู้ต้องหาสามารถลักลอบส่งออก GPU A100 จำนวน 400 ตัว ไปจีนได้สำเร็จ และพยายามส่งออกซูเปอร์คอมพิวเตอร์ HPE อีก 10 เครื่องพร้อม GPU H100 และ H200 แต่ถูกจับกุมก่อน มูลค่าการทำธุรกรรมรวมกว่า 3.89 ล้านดอลลาร์ โดยมีการโอนเงินจากจีนมายังสหรัฐฯ ผ่านการฟอกเงิน 🌐 ความสำคัญเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ชิป AI อย่าง A100/H100/H200 ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา AI และการประมวลผลขั้นสูง รัฐบาลสหรัฐฯ จึงเข้มงวดต่อการส่งออกไปจีนเพราะเกรงว่าจะถูกนำไปใช้ในงานด้านทหารและการวิจัยเชิงกลยุทธ์ การจับกุมครั้งนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงรุนแรง 🚨 บทเรียนและผลกระทบ แม้ตัวเลข 3.89 ล้านดอลลาร์จะดูเล็กเมื่อเทียบกับตลาด AI ที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้าน แต่คดีนี้ชี้ให้เห็นช่องโหว่ในระบบควบคุมการส่งออก และอาจทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้มงวดมากขึ้นต่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการจัดจำหน่ายฮาร์ดแวร์ AI ในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ DOJ ตั้งข้อหาชาวอเมริกัน 4 คนในคดีลักลอบส่งออก GPU และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ➡️ ผู้ต้องหาหลักคือ Brian Curtis Raymond และ Hon Ning “Mathew” Ho ✅ ลักลอบส่งออก GPU A100 จำนวน 400 ตัว สำเร็จ ➡️ พยายามส่งออก HPE Supercomputers และ GPU H200 แต่ถูกจับกุม ➡️ มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 200 ปี ✅ มูลค่าการลักลอบรวมกว่า 3.89 ล้านดอลลาร์ ➡️ มีการฟอกเงินผ่านบริษัท Janford Realtor ✅ สหรัฐฯ คุมเข้มการส่งออกชิป AI ขั้นสูง ➡️ เกรงว่าจะถูกนำไปใช้ในงานด้านทหารและการวิจัยเชิงกลยุทธ์ ‼️ ความเสี่ยงด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ การลักลอบส่งออกชิปอาจช่วยเพิ่มศักยภาพด้าน AI ของจีน ‼️ ช่องโหว่ในระบบควบคุมการส่งออก ⛔ อาจทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้มงวดมากขึ้นต่อบริษัทผู้จัดจำหน่ายฮาร์ดแวร์ AI https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/four-americans-charged-with-smuggling-nvidia-gpus-and-hpe-supercomputers-to-china-face-up-to-200-years-in-prison-usd3-89-million-worth-of-gear-smuggled-in-operation
    0 Comments 0 Shares 360 Views 0 Reviews
  • 40 Genericized Trademarks You Probably Say (And Use) Every Day

    Legally, to trademark something means to make it so that only one company can make money off of something with that name. You might not realize it, but many of the seemingly generic words we use all of the time are or were registered trademarks. This is often a problem for companies who want to avoid their lucrative trademarks being killed by “genericide,” meaning they can no longer claim legal exclusivity to a particular name.

    In general, there are two categories of so-called “genericized trademarks.” Sometimes, a trademark is legally abandoned. This means, for example, that any company can make a bouncy toy called a trampoline. However, a lot of common words are still legally trademarked, which means only one company can use that name. For example, to avoid getting Nickelodeon in trouble with licensing deals, Spongebob and friends have never heard of a Frisbee and must instead play a rousing game of “small plastic disc that you throw.” (Of course, Spongebob wryly notes, “If only small plastic disc that you throw had a shorter, catchier name.”)

    The following list contains 40 common words that have actually been trademarked at some point. The first six have been legally abandoned, meaning they are now generic words. The rest, however, are still on the books, and so you will need to be careful if you ever think about using them to make money.

    If you want to learn more about trademarks and other corporate symbols, check out our handy guide here.

    aspirin
    Last owner: Bayer AG

    The word aspirin is a combination of acetyl, spirea, and the suffix -in that is commonly used in the names of many drugs.

    heroin
    Last owner: Bayer AG

    The drug heroin is said to have been named for the German word heroisch, which translates to “heroic.” It is often thought that the name was inspired by the euphoric feelings a person has when taking this now illegal drug.

    escalator
    Last owner: Otis Elevator Company

    The escalator was named by patent owner Charles Seeberger, who is believed to have combined the English word elevator with the Latin word scala, meaning “stairs.”

    granola
    Last owners: Our Home Granula Company (granula) and Kellogg’s (granola)

    Originally called granula, granola was invented by James Caleb Jackson, who is also often credited as the inventor of dry cereal. It is thought that Jackson took the name either from the English word granular (“grainy”) or the Latin grānum, meaning “grain.”

    Saran wrap
    Last Owner: S.C. Johnson & Son, Inc.

    Saran wrap was originally created by the Dow Chemical Company in 1933. The saran in Saran wrap comes from a combination of the first names of Dow employee John Reilly’s daughter and wife, Sarah and Ann.

    trampoline
    Last Owner: Griswold-Nissen Trampoline & Tumbling Company

    According to inventor George Nissen, the trampoline’s name was inspired by the Spanish word trampolín, which means “diving board.”

    AstroTurf
    Owner: Sport Group

    According to Sport Group, Astroturf is named for the Houston Astrodome, where it was first used as a grass replica. The Astrodome’s name comes from the baseball team that plays there, the Houston Astros.

    Band-Aid
    Owner: Johnson & Johnson

    Band-Aid adhesive bandages were invented by Earle Dickinson in 1920 for his wife, Josephine. Although we don’t know for certain, the name is most likely a combination of the words bandage and aid.

    Bubble Wrap
    Owner: Sealed Air Corporation

    Bubble Wrap was invented in 1957 by Alfred Fielding and Marc Chavannes, who originally intended to use it as wallpaper. The name is most likely a combination of the words bubble and wrap.

    Frisbee
    Owner: Wham-O

    The name Frisbee was inspired by an Old Connecticut Bakery, the Frisbie Pie Company. Allegedly, college students had popularly referred to Wham-O’s Pluto Platter toys as “Frisbies,” which would motivate the toymaker to change the name.

    Hacky Sack
    Owner: Wham-O

    The game of Hacky Sack, called footbag by anyone who isn’t Wham-O, was invented by John Stalberger and Mike Mitchell in 1972. Allegedly, the two friends would say “Let’s hack the sack” before playing the game, which would be the inspiration for their trademark.

    Hula-Hoop
    Owner: Wham-O

    The Hula-Hoop was patented by Wham-O in 1963. As you could probably guess, the hoop-shaped toy was named after the Hawaiian hula dance because of the hip movements needed to keep the toy from falling to the ground.

    Jacuzzi
    Owner: Jacuzzi Inc.

    The Jacuzzi is named after Italian inventor Candido Jacuzzi, who invented the whirlpool bath in 1949.

    Jeep
    Owner: Chrysler Group LLC

    Fascinatingly, even the current owner of the Jeep trademark, Chrysler, is unsure of where the name originally came from. The most popular theory is that the vehicle was named after Eugene the Jeep, a character from the Popeye series of comic strips.

    Jet Ski
    Owner: Kawasaki Heavy Industries Ltd.

    According to Kawasaki, the first Jet Ski was developed in 1972 based on the designs of American inventor Clayton Jacobson II. It seems likely that the name Jet Ski uses the words jet and ski to reference how the vehicle quickly skates across the surface of water.

    JumboTron
    Owner: Sony Corporation

    The Sony JumboTron debuted in 1985, but similar large screens had been developed by Japanese companies as early as 1980. The name is likely a combination of the adjective jumbo, meaning very large, and the combining form -tron, which is sometimes used in the names of electronics.

    Kleenex
    Owner: Kimberly-Clark Corporation

    Kleenex brand tissues debuted in 1924. According to the Kleenex website, the name Kleenex is a combination of an alternate spelling of the word clean (“Kleen”) and the ending “ex” from Kotex, a feminine hygiene brand name still owned by the Kimberly-Clark Corporation.

    Mace
    Owner: Mace Security International, Inc.

    The brand of pepper spray known as Mace or Chemical Mace was invented in 1965. According to both the Mace company and newspaper reports from the time, the name Mace was inspired by the fact that getting sprayed in the face with Mace was said to be as unpleasant as being hit in the face with a medieval mace, a spiked weapon.

    Magic Marker
    Owner: Bic Corporation

    The name Magic Marker is said to have been coined by Sidney Rosenthal, who is also credited with inventing the felt-tip pen in 1952. According to Crayola, Magic Marker was inspired by the fact that the “magical” device could make marks on any surface.

    Muzak
    Owner: Muzak LLC

    The creation of Muzak is credited to—or perhaps blamed on—Major General George O. Squier, who developed a way to transmit music through electric wires in the 1920s. According to most sources, Squier named his company Muzak by combining the first syllable of the word music with the end syllable of Kodak, a major American photography company.

    Onesie
    Owner: Gerber Childrenswear LLC

    Although Gerber legally only owns the trademark of the plural Onesies, they have successfully (and aggressively) enforced their trademark over the singular onesie as well. The name is a combination of the word one, referring to a one-piece garment, and the cutesy-sounding suffix -sie.

    Ping-pong
    Owner: Indian Industries, Inc.

    Surprisingly, the trademarked name ping-pong may actually be older than the generic table tennis, which is the official name of the game. The name ping-pong has been used since at least the 1800s, and the name was inspired by the sound that the ball makes when hit with paddles.

    Plexiglas
    Owner: Trinseo

    The origin of the name Plexiglas, often incorrectly written as plexiglass, is unknown. According to the Plexiglas website, Plexiglas was named after one of inventor Otto Röhm’s earlier products known as “Plexigum,” but beyond that the trail goes cold.

    Popsicle
    Owner: Conopco, Inc.

    The idea of “frozen ice juice on a stick” is credited to Frank Epperson. Epperson originally named the treat after himself and called it an “Epsicle” with the “-sicle” coming from icicle. Epperson’s children were not fans of the name and instead called them “Pop’s sicles.” In the end, Epperson sided with his children and patented his invention as the Popsicle.

    Post-it Note
    Owner: Minnesota Mining and Manufacturing Company (3M)

    3M credits the creation of the Post-it Note to scientists Spencer Silver and Art Fry. The name refers to the fact that the adhesive paper notes can be posted (stuck) wherever you want. An added bit of legal fun: 3M also legally owns the “Canary Yellow” color that many Post-it Notes typically have.

    Q-tip
    Owner: Conopco, Inc.

    The cotton swabs known as Q-tips originally had the very unmarketable name of “Baby Gays.” The name was quickly switched to Q-tips in 1926. According to the Q-tips website, the Q stands for quality, and the tip refers to the cotton tip at the end of the swab.

    Realtor
    Owner: National Association of Realtors

    Legally, only people who belong to the National Association of Realtors can use the trademarked name Realtor. The term Realtor is credited to Charles N. Chadbourn, and it is a combination of the word realty, meaning real estate, and the suffix -or, indicating a person related to something (in this case, real estate).

    Rollerblade
    Owner: Tecnica Group S.P.A.

    This trademarked brand of roller skates was created by inventor Scott Olson in the 1980s. The name Rollerblade references the fact that Olson’s roller skates were based on ice skates with wheels instead of blades.

    Sheetrock
    Owner: United States Gypsum Company

    The particular brand of drywall or gypsum boards known as Sheetrock seems to have a straightforward name: Sheetrock makes boards (“sheets”) of gypsum, a mineral (a “rock”).

    Skee-Ball
    Owner: Bay Tek Entertainment, Inc.

    The game of Skee-Ball was invented by Joseph Fourestier Simpson in the early 1900s. The name is a combination of the word ball and skee (an uncommon variant of the word ski) in reference to the ski jump-like ramp that the balls roll off of.

    Styrofoam
    Owner: DDP Specialty Electronic Materials Us, Inc.

    Styrofoam’s name is a reference to the chemistry used to make it. Styrofoam is a plastic foam made from polystyrene.

    Super Glue
    Owner: The Original Super Glue Corporation/Pacer Technology

    Super Glue was named by its inventor Dr. Harry Coover, who discovered it in 1942. The marketable name combines the word glue with the word super, referencing how incredibly sticky it is.

    Taser
    Owner: Axon Enterprise Inc.

    The Taser was invented in the 1970s by Jack Cover. The name Taser is an acronym of “Tom A. Swift Electric Rifle,” a reference to the Tom Swift series of books about an inventor that Cover enjoyed as a child.

    Tarmac
    Owner: Tarmac

    The name Tarmac is a shortening of tarmacadam, an asphalt-like paving material made of tar and crushed stones.

    Teflon
    Owner: The Chemours Company

    The name Teflon is a short, marketable word that refers to what Teflon is made of: polytetrafluoroethylene.

    Velcro
    Owner: Velcro IP Holdings LLC

    Velcro was invented and named by Swiss engineer George de Mestrel. De Mestrel got the name Velcro from a combination of the French words velour and crochet, referencing the fact that his new material resembled “hooked velvet.”

    Xerox
    Owner: Xerox Corporation

    The name Xerox comes from the word xerography, a specific type of printing technology. Xerography is formed from xero-, meaning “dry,” and –graphy, which denotes a form of artistry.

    Zamboni
    Owner: Frank J. Zamboni & Company, Inc.

    The ice surfacing machine known as a Zamboni is named after its Italian inventor, Frank Zamboni.

    The last two names on our list are fairly modern and are both closely associated with large companies that aggressively protect their trademarks. However, they are both commonly used as generic verbs, which may make it less likely that future generations know who the trademark owners are.

    Google
    Owner: Alphabet Inc. (Google’s new parent company)

    The name Google is based on a misspelling of the mathematical term googol, a number equal to one with 100 zeros. The story goes that Google developer Larry Page suggested the name “Googol” for a new search engine to fellow Stanford graduate Sean Anderson. Anderson misspelled the word as “google” when checking if the domain name was taken, and Page preferred this original name instead.

    Photoshop
    Owner: Adobe Inc

    The Photoshop software was created by Thomas and John Knoll in 1987. It is unknown exactly why the program that was originally named “Display,” and then “ImagePro,” was renamed to “PhotoShop” before it was sold to Adobe, although the name does seem to refer to the fact that the program functions as a kind of photography workshop.

    สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    40 Genericized Trademarks You Probably Say (And Use) Every Day Legally, to trademark something means to make it so that only one company can make money off of something with that name. You might not realize it, but many of the seemingly generic words we use all of the time are or were registered trademarks. This is often a problem for companies who want to avoid their lucrative trademarks being killed by “genericide,” meaning they can no longer claim legal exclusivity to a particular name. In general, there are two categories of so-called “genericized trademarks.” Sometimes, a trademark is legally abandoned. This means, for example, that any company can make a bouncy toy called a trampoline. However, a lot of common words are still legally trademarked, which means only one company can use that name. For example, to avoid getting Nickelodeon in trouble with licensing deals, Spongebob and friends have never heard of a Frisbee and must instead play a rousing game of “small plastic disc that you throw.” (Of course, Spongebob wryly notes, “If only small plastic disc that you throw had a shorter, catchier name.”) The following list contains 40 common words that have actually been trademarked at some point. The first six have been legally abandoned, meaning they are now generic words. The rest, however, are still on the books, and so you will need to be careful if you ever think about using them to make money. If you want to learn more about trademarks and other corporate symbols, check out our handy guide here. aspirin Last owner: Bayer AG The word aspirin is a combination of acetyl, spirea, and the suffix -in that is commonly used in the names of many drugs. heroin Last owner: Bayer AG The drug heroin is said to have been named for the German word heroisch, which translates to “heroic.” It is often thought that the name was inspired by the euphoric feelings a person has when taking this now illegal drug. escalator Last owner: Otis Elevator Company The escalator was named by patent owner Charles Seeberger, who is believed to have combined the English word elevator with the Latin word scala, meaning “stairs.” granola Last owners: Our Home Granula Company (granula) and Kellogg’s (granola) Originally called granula, granola was invented by James Caleb Jackson, who is also often credited as the inventor of dry cereal. It is thought that Jackson took the name either from the English word granular (“grainy”) or the Latin grānum, meaning “grain.” Saran wrap Last Owner: S.C. Johnson & Son, Inc. Saran wrap was originally created by the Dow Chemical Company in 1933. The saran in Saran wrap comes from a combination of the first names of Dow employee John Reilly’s daughter and wife, Sarah and Ann. trampoline Last Owner: Griswold-Nissen Trampoline & Tumbling Company According to inventor George Nissen, the trampoline’s name was inspired by the Spanish word trampolín, which means “diving board.” AstroTurf Owner: Sport Group According to Sport Group, Astroturf is named for the Houston Astrodome, where it was first used as a grass replica. The Astrodome’s name comes from the baseball team that plays there, the Houston Astros. Band-Aid Owner: Johnson & Johnson Band-Aid adhesive bandages were invented by Earle Dickinson in 1920 for his wife, Josephine. Although we don’t know for certain, the name is most likely a combination of the words bandage and aid. Bubble Wrap Owner: Sealed Air Corporation Bubble Wrap was invented in 1957 by Alfred Fielding and Marc Chavannes, who originally intended to use it as wallpaper. The name is most likely a combination of the words bubble and wrap. Frisbee Owner: Wham-O The name Frisbee was inspired by an Old Connecticut Bakery, the Frisbie Pie Company. Allegedly, college students had popularly referred to Wham-O’s Pluto Platter toys as “Frisbies,” which would motivate the toymaker to change the name. Hacky Sack Owner: Wham-O The game of Hacky Sack, called footbag by anyone who isn’t Wham-O, was invented by John Stalberger and Mike Mitchell in 1972. Allegedly, the two friends would say “Let’s hack the sack” before playing the game, which would be the inspiration for their trademark. Hula-Hoop Owner: Wham-O The Hula-Hoop was patented by Wham-O in 1963. As you could probably guess, the hoop-shaped toy was named after the Hawaiian hula dance because of the hip movements needed to keep the toy from falling to the ground. Jacuzzi Owner: Jacuzzi Inc. The Jacuzzi is named after Italian inventor Candido Jacuzzi, who invented the whirlpool bath in 1949. Jeep Owner: Chrysler Group LLC Fascinatingly, even the current owner of the Jeep trademark, Chrysler, is unsure of where the name originally came from. The most popular theory is that the vehicle was named after Eugene the Jeep, a character from the Popeye series of comic strips. Jet Ski Owner: Kawasaki Heavy Industries Ltd. According to Kawasaki, the first Jet Ski was developed in 1972 based on the designs of American inventor Clayton Jacobson II. It seems likely that the name Jet Ski uses the words jet and ski to reference how the vehicle quickly skates across the surface of water. JumboTron Owner: Sony Corporation The Sony JumboTron debuted in 1985, but similar large screens had been developed by Japanese companies as early as 1980. The name is likely a combination of the adjective jumbo, meaning very large, and the combining form -tron, which is sometimes used in the names of electronics. Kleenex Owner: Kimberly-Clark Corporation Kleenex brand tissues debuted in 1924. According to the Kleenex website, the name Kleenex is a combination of an alternate spelling of the word clean (“Kleen”) and the ending “ex” from Kotex, a feminine hygiene brand name still owned by the Kimberly-Clark Corporation. Mace Owner: Mace Security International, Inc. The brand of pepper spray known as Mace or Chemical Mace was invented in 1965. According to both the Mace company and newspaper reports from the time, the name Mace was inspired by the fact that getting sprayed in the face with Mace was said to be as unpleasant as being hit in the face with a medieval mace, a spiked weapon. Magic Marker Owner: Bic Corporation The name Magic Marker is said to have been coined by Sidney Rosenthal, who is also credited with inventing the felt-tip pen in 1952. According to Crayola, Magic Marker was inspired by the fact that the “magical” device could make marks on any surface. Muzak Owner: Muzak LLC The creation of Muzak is credited to—or perhaps blamed on—Major General George O. Squier, who developed a way to transmit music through electric wires in the 1920s. According to most sources, Squier named his company Muzak by combining the first syllable of the word music with the end syllable of Kodak, a major American photography company. Onesie Owner: Gerber Childrenswear LLC Although Gerber legally only owns the trademark of the plural Onesies, they have successfully (and aggressively) enforced their trademark over the singular onesie as well. The name is a combination of the word one, referring to a one-piece garment, and the cutesy-sounding suffix -sie. Ping-pong Owner: Indian Industries, Inc. Surprisingly, the trademarked name ping-pong may actually be older than the generic table tennis, which is the official name of the game. The name ping-pong has been used since at least the 1800s, and the name was inspired by the sound that the ball makes when hit with paddles. Plexiglas Owner: Trinseo The origin of the name Plexiglas, often incorrectly written as plexiglass, is unknown. According to the Plexiglas website, Plexiglas was named after one of inventor Otto Röhm’s earlier products known as “Plexigum,” but beyond that the trail goes cold. Popsicle Owner: Conopco, Inc. The idea of “frozen ice juice on a stick” is credited to Frank Epperson. Epperson originally named the treat after himself and called it an “Epsicle” with the “-sicle” coming from icicle. Epperson’s children were not fans of the name and instead called them “Pop’s sicles.” In the end, Epperson sided with his children and patented his invention as the Popsicle. Post-it Note Owner: Minnesota Mining and Manufacturing Company (3M) 3M credits the creation of the Post-it Note to scientists Spencer Silver and Art Fry. The name refers to the fact that the adhesive paper notes can be posted (stuck) wherever you want. An added bit of legal fun: 3M also legally owns the “Canary Yellow” color that many Post-it Notes typically have. Q-tip Owner: Conopco, Inc. The cotton swabs known as Q-tips originally had the very unmarketable name of “Baby Gays.” The name was quickly switched to Q-tips in 1926. According to the Q-tips website, the Q stands for quality, and the tip refers to the cotton tip at the end of the swab. Realtor Owner: National Association of Realtors Legally, only people who belong to the National Association of Realtors can use the trademarked name Realtor. The term Realtor is credited to Charles N. Chadbourn, and it is a combination of the word realty, meaning real estate, and the suffix -or, indicating a person related to something (in this case, real estate). Rollerblade Owner: Tecnica Group S.P.A. This trademarked brand of roller skates was created by inventor Scott Olson in the 1980s. The name Rollerblade references the fact that Olson’s roller skates were based on ice skates with wheels instead of blades. Sheetrock Owner: United States Gypsum Company The particular brand of drywall or gypsum boards known as Sheetrock seems to have a straightforward name: Sheetrock makes boards (“sheets”) of gypsum, a mineral (a “rock”). Skee-Ball Owner: Bay Tek Entertainment, Inc. The game of Skee-Ball was invented by Joseph Fourestier Simpson in the early 1900s. The name is a combination of the word ball and skee (an uncommon variant of the word ski) in reference to the ski jump-like ramp that the balls roll off of. Styrofoam Owner: DDP Specialty Electronic Materials Us, Inc. Styrofoam’s name is a reference to the chemistry used to make it. Styrofoam is a plastic foam made from polystyrene. Super Glue Owner: The Original Super Glue Corporation/Pacer Technology Super Glue was named by its inventor Dr. Harry Coover, who discovered it in 1942. The marketable name combines the word glue with the word super, referencing how incredibly sticky it is. Taser Owner: Axon Enterprise Inc. The Taser was invented in the 1970s by Jack Cover. The name Taser is an acronym of “Tom A. Swift Electric Rifle,” a reference to the Tom Swift series of books about an inventor that Cover enjoyed as a child. Tarmac Owner: Tarmac The name Tarmac is a shortening of tarmacadam, an asphalt-like paving material made of tar and crushed stones. Teflon Owner: The Chemours Company The name Teflon is a short, marketable word that refers to what Teflon is made of: polytetrafluoroethylene. Velcro Owner: Velcro IP Holdings LLC Velcro was invented and named by Swiss engineer George de Mestrel. De Mestrel got the name Velcro from a combination of the French words velour and crochet, referencing the fact that his new material resembled “hooked velvet.” Xerox Owner: Xerox Corporation The name Xerox comes from the word xerography, a specific type of printing technology. Xerography is formed from xero-, meaning “dry,” and –graphy, which denotes a form of artistry. Zamboni Owner: Frank J. Zamboni & Company, Inc. The ice surfacing machine known as a Zamboni is named after its Italian inventor, Frank Zamboni. The last two names on our list are fairly modern and are both closely associated with large companies that aggressively protect their trademarks. However, they are both commonly used as generic verbs, which may make it less likely that future generations know who the trademark owners are. Google Owner: Alphabet Inc. (Google’s new parent company) The name Google is based on a misspelling of the mathematical term googol, a number equal to one with 100 zeros. The story goes that Google developer Larry Page suggested the name “Googol” for a new search engine to fellow Stanford graduate Sean Anderson. Anderson misspelled the word as “google” when checking if the domain name was taken, and Page preferred this original name instead. Photoshop Owner: Adobe Inc The Photoshop software was created by Thomas and John Knoll in 1987. It is unknown exactly why the program that was originally named “Display,” and then “ImagePro,” was renamed to “PhotoShop” before it was sold to Adobe, although the name does seem to refer to the fact that the program functions as a kind of photography workshop. สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    0 Comments 0 Shares 656 Views 0 Reviews
  • ศาลเวียดนามพิพากษาจำคุก “เหงียน ถึก ถวี เตียน” อดีตมิสแกรนด์ฯ 2 ปี ฐานโฆษณาผลิตภัณฑ์กัมมี่ Kera Supergreens เกินจริง อ้างมีไฟเบอร์เทียบเท่าผัก 1 จาน ทั้งที่จริงมีเพียง 0.935% พร้อมพบมีซอร์บิทอลกว่า 30% ซึ่งเป็นสารให้ความหวานที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000111023

    #Vietnam #MissGrand #Influencer #โฆษณาเกินจริง #ผู้บริโภค #KeraSupergreens #News1live #News1
    ศาลเวียดนามพิพากษาจำคุก “เหงียน ถึก ถวี เตียน” อดีตมิสแกรนด์ฯ 2 ปี ฐานโฆษณาผลิตภัณฑ์กัมมี่ Kera Supergreens เกินจริง อ้างมีไฟเบอร์เทียบเท่าผัก 1 จาน ทั้งที่จริงมีเพียง 0.935% พร้อมพบมีซอร์บิทอลกว่า 30% ซึ่งเป็นสารให้ความหวานที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000111023 • #Vietnam #MissGrand #Influencer #โฆษณาเกินจริง #ผู้บริโภค #KeraSupergreens #News1live #News1
    0 Comments 0 Shares 520 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251120 #TechRadar

    Garmin อัปเดตสมาร์ทวอทช์ จับสัญญาณความเครียดได้
    Garmin ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้สมาร์ทวอทช์รุ่นดังอย่าง Vivoactive 6, Forerunner 570 และ Venu X1 รวมถึงคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 540 และ 1050 จุดเด่นคือฟีเจอร์ Health Status ที่ช่วยดูแนวโน้มสุขภาพระยะยาว เช่น อัตราการเต้นหัวใจ, HRV, การหายใจ, อุณหภูมิผิว และค่าออกซิเจนในเลือดตอนนอน หากค่าผิดปกติอาจบอกได้ว่าร่างกายกำลังเครียดหรือเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังมีแผนที่ 3D (สำหรับผู้ใช้แบบพรีเมียม) และฟีเจอร์ใหม่ ๆ สำหรับนักปั่น เช่น เตือนให้ดื่มน้ำ, เช็กสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์อัตราทดเกียร์
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/garmins-latest-smartwatch-update-helps-catch-signs-of-stress-in-one-key-way

    AMD เปิดตัว FSR Redstone แต่ใช้ได้เฉพาะ RX 9000
    AMD ประกาศเปิดตัว FSR Redstone วันที่ 10 ธันวาคมนี้ เป็นชุดเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเร่งเฟรมเรตและปรับปรุงคุณภาพภาพกราฟิก แต่ข่าวร้ายคือใช้ได้เฉพาะการ์ดจอรุ่น RX 9000 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ RX 7000 และรุ่นก่อนหน้าไม่พอใจ เพราะยังถือว่าเป็นการ์ดจอใหม่อยู่ ฟีเจอร์ที่มาพร้อม Redstone เช่น Ray Regeneration (ปรับปรุงภาพ Ray Tracing), Radiance Caching (ปรับแสงให้สมจริง) และ Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-fsr-redstone-for-supercharged-gaming-debuts-on-december-10-but-its-rx-9000-only-leaving-older-radeon-gpus-in-the-cold

    รหัสผ่านธีมเทศกาล เสี่ยงโดนเจาะง่าย
    มีการวิเคราะห์รหัสผ่านที่รั่วไหลกว่า 800 ล้านรายการ พบว่ามีจำนวนมากที่ใช้คำเกี่ยวกับเทศกาล เช่น Christmas, Santa, หรือการดัดแปลงด้วยตัวเลข/สัญลักษณ์ แม้ดูซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วเครื่องมือเจาะรหัสสมัยใหม่สามารถเดาได้ง่าย เพราะรูปแบบซ้ำ ๆ และคาดเดาได้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงสิ้นปีที่หลายองค์กรบังคับเปลี่ยนรหัสผ่าน มักเป็นจังหวะที่แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมนี้
    https://www.techradar.com/pro/this-company-analyzed-800-million-breached-passwords-and-found-a-surprising-amount-of-festive-themes-so-maybe-choose-a-better-password-please

    โรงเก็บของกลายเป็น Data Center ช่วยลดค่าไฟ
    คู่รักใน Essex, UK ทดลองติดตั้ง HeatHub ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในโรงเก็บของ ใช้ Raspberry Pi กว่า 500 เครื่องในการประมวลผล และนำความร้อนที่เกิดขึ้นไปใช้ทำความร้อนในบ้าน ผลคือค่าไฟลดจาก £375 เหลือเพียง £40 ต่อเดือน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองระดับประเทศ เพื่อหาทางใช้พลังงานจากการประมวลผลคอมพิวเตอร์มาเป็นพลังงานความร้อนในครัวเรือน
    https://www.techradar.com/pro/looking-to-lower-your-energy-bills-this-winter-how-about-hosting-a-data-center-in-your-garden-shed-to-help-heat-your-home

    เครื่องมือ Unix เก่ากลับมาพร้อมภัยใหม่
    คำสั่ง finger ที่เคยใช้ในระบบ Unix เพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้ ถูกนำกลับมาใช้ในทางร้าย โดยแฮกเกอร์ใช้สคริปต์ดึงคำสั่งจากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลแล้วรันใน Windows ทำให้สามารถแอบติดตั้งโปรแกรม Python ที่ขโมยข้อมูลได้โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว เทคนิคนี้ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับจากเครื่องมือวิเคราะห์ได้ ถือเป็นการฟื้นคืนชีพของภัยคุกคามเก่าที่อันตรายมาก
    https://www.techradar.com/pro/a-decades-old-threat-command-is-making-a-comeback-so-dont-let-the-finger-of-doom-affect-you

    Meta ทุ่มงบเพิ่มความปลอดภัย WhatsApp
    Meta ลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในโครงการ Bug Bounty และเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อเสริมความปลอดภัยของ WhatsApp เป้าหมายคือป้องกันการโจมตีและหาช่องโหว่ก่อนที่แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์ การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงจังของ Meta ที่ต้องการให้ WhatsApp เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/security/meta-is-spending-millions-on-bug-bounties-and-security-tools-to-boost-whatsapp-security

    Google Maps เพิ่ม 4 ฟีเจอร์ใหม่รับเทศกาล
    Google Maps อัปเดตครั้งใหญ่เพื่อช่วยผู้ใช้ช่วงเทศกาลปลายปี ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วยการแสดงข้อมูลการจราจรที่ละเอียดขึ้น, การแจ้งเตือนเส้นทางที่หนาแน่น, การแนะนำเส้นทางทางเลือก และการปรับปรุงการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว/ร้านค้าให้ตรงใจมากขึ้น เหมาะกับการเดินทางในช่วงวันหยุดที่ผู้คนออกเดินทางจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/google-maps-is-adding-4-new-features-to-help-you-navigate-the-holiday-season

    LG Battery โดนโจมตี Ransomware
    บริษัทลูกของ LG ที่ทำธุรกิจแบตเตอรี่ถูกโจมตีด้วย Ransomware ส่งผลให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลถูกเข้ารหัส ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการโจมตีลักษณะนี้กำลังเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงาน เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่แฮกเกอร์เล็งเป้าเพื่อเรียกค่าไถ่สูง
    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-attack-hits-lg-battery-subsidiary

    Asus Router ถูกโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่
    มีรายงานว่า Router ของ Asus ทั่วโลกถูกโจมตีจากกลุ่มที่เชื่อมโยงกับจีน ทำให้ผู้ใช้งานหลายรายประสบปัญหาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ การโจมตีครั้งนี้ถูกจับตามองว่าอาจเป็นการแสดงศักยภาพด้านไซเบอร์ของรัฐชาติ และยังสร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้กันแพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/security/asus-routers-across-the-globe-hit-by-suspected-chinese-cyberattack-heres-what-we-know

    ข่าวสด VPN และสิทธิด้านดิจิทัล
    TechRadar เปิดหน้า VPN News Live อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์, สิทธิด้านดิจิทัล และความเป็นส่วนตัวออนไลน์ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี VPN ใหม่ ๆ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวด้านสิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก
    https://www.techradar.com/live/news/latest-vpn-news-wednesday-19-november

    Porsche Cayenne Turbo Electric แรงที่สุดที่เคยมี
    Porsche ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Cayenne Turbo Electric จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดที่บริษัทเคยผลิต กำลังสูงสุดมากกว่า 1,000 แรงม้า ทำให้เป็น SUV ที่เร็วและแรงที่สุดในสายการผลิตของ Porsche ถือเป็นการยกระดับตลาดรถไฟฟ้าไปอีกขั้น
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/its-official-the-porsche-cayenne-turbo-electric-will-be-the-most-powerful-production-porsche-ever-made

    Chrome เจอช่องโหว่ Zero-Day อันตราย
    Google ออกแพตช์เร่งด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ใน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้ว ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบโดยไม่รู้ตัว ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดต Chrome ทันทีเพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/security/google-patches-worrying-chrome-zero-day-flaw-being-exploited-in-the-wild-heres-how-to-stay-safe

    Botnet ใหม่แอบใช้ Ray Cluster ขุดคริปโต
    มีการค้นพบ Botnet ลึกลับที่แอบเข้ายึด Ray Clusters แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องขุดคริปโตโดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว การโจมตีนี้ทำให้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ถูกใช้ไปอย่างมหาศาล และยังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลอีกด้วย
    https://www.techradar.com/pro/security/ray-clusters-hijacked-and-turned-into-crypto-miners-by-shadowy-new-botnet

    iOS 26 Autocorrect พังหนัก
    ผู้ใช้ iPhone หลายรายบ่นว่า Autocorrect ใน iOS 26 ทำงานผิดพลาดอย่างมาก พิมพ์ผิดบ่อยและแก้คำไม่ตรงใจ แม้ Apple จะออก iOS 26.2 แล้ว แต่ปัญหายังไม่ถูกแก้ไข ทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและรอการแก้ไขจริงจังจาก Apple
    https://www.techradar.com/phones/ios/youre-not-bad-at-typing-ios-26s-autocorrect-is-broken-and-theres-still-no-fix-in-ios-26-2

    NordVPN เปิดฟีเจอร์กันสแกมโทรศัพท์
    NordVPN เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Call Protection สำหรับผู้ใช้ใน UK และแคนาดา ช่วยตรวจจับและบล็อกสายโทรศัพท์ที่เป็นสแกมก่อนถึงผู้ใช้ ถือเป็นการขยายบทบาทของ VPN จากการป้องกันออนไลน์ไปสู่การป้องกันการสื่อสารโทรศัพท์ด้วย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-takes-on-phone-scammers-with-new-call-protection-feature-for-the-uk-and-canada

    Xiaomi เตือนราคาสมาร์ทโฟนจะพุ่งขึ้น
    Xiaomi ออกมาเตือนว่าปีหน้าราคาสมาร์ทโฟนจะปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งชิป, วัสดุ และค่าแรง ทำให้ผู้บริโภคอาจต้องเตรียมรับมือกับมือถือที่แพงกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/phones/brace-yourself-xiaomi-warns-of-a-sizeable-rise-in-smartphone-prices-next-year

    VMware ยอมรับข้อมูลสเปกเซิร์ฟเวอร์ผิดพลาด
    VMware ยืนยันว่าคู่มือสเปกสำหรับเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้มีความคลาดเคลื่อน ทำให้ผู้ใช้บางรายอาจเข้าใจผิดในการเลือกใช้งาน แม้จะเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้กระทบต่อระบบโดยตรง แต่ก็สร้างความสับสนและทำให้บริษัทต้องรีบแก้ไขข้อมูลใหม่
    https://www.techradar.com/pro/vmware-confirms-its-spec-guidance-on-storage-servers-was-rather-inaccurate
    📌📰🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📰📌 #รวมข่าวIT #20251120 #TechRadar ⌚ Garmin อัปเดตสมาร์ทวอทช์ จับสัญญาณความเครียดได้ Garmin ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้สมาร์ทวอทช์รุ่นดังอย่าง Vivoactive 6, Forerunner 570 และ Venu X1 รวมถึงคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 540 และ 1050 จุดเด่นคือฟีเจอร์ Health Status ที่ช่วยดูแนวโน้มสุขภาพระยะยาว เช่น อัตราการเต้นหัวใจ, HRV, การหายใจ, อุณหภูมิผิว และค่าออกซิเจนในเลือดตอนนอน หากค่าผิดปกติอาจบอกได้ว่าร่างกายกำลังเครียดหรือเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังมีแผนที่ 3D (สำหรับผู้ใช้แบบพรีเมียม) และฟีเจอร์ใหม่ ๆ สำหรับนักปั่น เช่น เตือนให้ดื่มน้ำ, เช็กสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์อัตราทดเกียร์ 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/garmins-latest-smartwatch-update-helps-catch-signs-of-stress-in-one-key-way 🎮 AMD เปิดตัว FSR Redstone แต่ใช้ได้เฉพาะ RX 9000 AMD ประกาศเปิดตัว FSR Redstone วันที่ 10 ธันวาคมนี้ เป็นชุดเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเร่งเฟรมเรตและปรับปรุงคุณภาพภาพกราฟิก แต่ข่าวร้ายคือใช้ได้เฉพาะการ์ดจอรุ่น RX 9000 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ RX 7000 และรุ่นก่อนหน้าไม่พอใจ เพราะยังถือว่าเป็นการ์ดจอใหม่อยู่ ฟีเจอร์ที่มาพร้อม Redstone เช่น Ray Regeneration (ปรับปรุงภาพ Ray Tracing), Radiance Caching (ปรับแสงให้สมจริง) และ Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-fsr-redstone-for-supercharged-gaming-debuts-on-december-10-but-its-rx-9000-only-leaving-older-radeon-gpus-in-the-cold 🎄 รหัสผ่านธีมเทศกาล เสี่ยงโดนเจาะง่าย มีการวิเคราะห์รหัสผ่านที่รั่วไหลกว่า 800 ล้านรายการ พบว่ามีจำนวนมากที่ใช้คำเกี่ยวกับเทศกาล เช่น Christmas, Santa, หรือการดัดแปลงด้วยตัวเลข/สัญลักษณ์ แม้ดูซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วเครื่องมือเจาะรหัสสมัยใหม่สามารถเดาได้ง่าย เพราะรูปแบบซ้ำ ๆ และคาดเดาได้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงสิ้นปีที่หลายองค์กรบังคับเปลี่ยนรหัสผ่าน มักเป็นจังหวะที่แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมนี้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-company-analyzed-800-million-breached-passwords-and-found-a-surprising-amount-of-festive-themes-so-maybe-choose-a-better-password-please 🏠 โรงเก็บของกลายเป็น Data Center ช่วยลดค่าไฟ คู่รักใน Essex, UK ทดลองติดตั้ง HeatHub ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในโรงเก็บของ ใช้ Raspberry Pi กว่า 500 เครื่องในการประมวลผล และนำความร้อนที่เกิดขึ้นไปใช้ทำความร้อนในบ้าน ผลคือค่าไฟลดจาก £375 เหลือเพียง £40 ต่อเดือน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองระดับประเทศ เพื่อหาทางใช้พลังงานจากการประมวลผลคอมพิวเตอร์มาเป็นพลังงานความร้อนในครัวเรือน 🔗 https://www.techradar.com/pro/looking-to-lower-your-energy-bills-this-winter-how-about-hosting-a-data-center-in-your-garden-shed-to-help-heat-your-home 💻 เครื่องมือ Unix เก่ากลับมาพร้อมภัยใหม่ คำสั่ง finger ที่เคยใช้ในระบบ Unix เพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้ ถูกนำกลับมาใช้ในทางร้าย โดยแฮกเกอร์ใช้สคริปต์ดึงคำสั่งจากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลแล้วรันใน Windows ทำให้สามารถแอบติดตั้งโปรแกรม Python ที่ขโมยข้อมูลได้โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว เทคนิคนี้ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับจากเครื่องมือวิเคราะห์ได้ ถือเป็นการฟื้นคืนชีพของภัยคุกคามเก่าที่อันตรายมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/a-decades-old-threat-command-is-making-a-comeback-so-dont-let-the-finger-of-doom-affect-you 🔒 Meta ทุ่มงบเพิ่มความปลอดภัย WhatsApp Meta ลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในโครงการ Bug Bounty และเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อเสริมความปลอดภัยของ WhatsApp เป้าหมายคือป้องกันการโจมตีและหาช่องโหว่ก่อนที่แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์ การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงจังของ Meta ที่ต้องการให้ WhatsApp เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/meta-is-spending-millions-on-bug-bounties-and-security-tools-to-boost-whatsapp-security 🗺️ Google Maps เพิ่ม 4 ฟีเจอร์ใหม่รับเทศกาล Google Maps อัปเดตครั้งใหญ่เพื่อช่วยผู้ใช้ช่วงเทศกาลปลายปี ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วยการแสดงข้อมูลการจราจรที่ละเอียดขึ้น, การแจ้งเตือนเส้นทางที่หนาแน่น, การแนะนำเส้นทางทางเลือก และการปรับปรุงการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว/ร้านค้าให้ตรงใจมากขึ้น เหมาะกับการเดินทางในช่วงวันหยุดที่ผู้คนออกเดินทางจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/google-maps-is-adding-4-new-features-to-help-you-navigate-the-holiday-season 🔋 LG Battery โดนโจมตี Ransomware บริษัทลูกของ LG ที่ทำธุรกิจแบตเตอรี่ถูกโจมตีด้วย Ransomware ส่งผลให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลถูกเข้ารหัส ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการโจมตีลักษณะนี้กำลังเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงาน เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่แฮกเกอร์เล็งเป้าเพื่อเรียกค่าไถ่สูง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-attack-hits-lg-battery-subsidiary 📡 Asus Router ถูกโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ มีรายงานว่า Router ของ Asus ทั่วโลกถูกโจมตีจากกลุ่มที่เชื่อมโยงกับจีน ทำให้ผู้ใช้งานหลายรายประสบปัญหาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ การโจมตีครั้งนี้ถูกจับตามองว่าอาจเป็นการแสดงศักยภาพด้านไซเบอร์ของรัฐชาติ และยังสร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้กันแพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/asus-routers-across-the-globe-hit-by-suspected-chinese-cyberattack-heres-what-we-know 🌐 ข่าวสด VPN และสิทธิด้านดิจิทัล TechRadar เปิดหน้า VPN News Live อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์, สิทธิด้านดิจิทัล และความเป็นส่วนตัวออนไลน์ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี VPN ใหม่ ๆ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวด้านสิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/live/news/latest-vpn-news-wednesday-19-november 🚗 Porsche Cayenne Turbo Electric แรงที่สุดที่เคยมี Porsche ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Cayenne Turbo Electric จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดที่บริษัทเคยผลิต กำลังสูงสุดมากกว่า 1,000 แรงม้า ทำให้เป็น SUV ที่เร็วและแรงที่สุดในสายการผลิตของ Porsche ถือเป็นการยกระดับตลาดรถไฟฟ้าไปอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/its-official-the-porsche-cayenne-turbo-electric-will-be-the-most-powerful-production-porsche-ever-made 🌐 Chrome เจอช่องโหว่ Zero-Day อันตราย Google ออกแพตช์เร่งด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ใน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้ว ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบโดยไม่รู้ตัว ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดต Chrome ทันทีเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-patches-worrying-chrome-zero-day-flaw-being-exploited-in-the-wild-heres-how-to-stay-safe 🪙 Botnet ใหม่แอบใช้ Ray Cluster ขุดคริปโต มีการค้นพบ Botnet ลึกลับที่แอบเข้ายึด Ray Clusters แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องขุดคริปโตโดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว การโจมตีนี้ทำให้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ถูกใช้ไปอย่างมหาศาล และยังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลอีกด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ray-clusters-hijacked-and-turned-into-crypto-miners-by-shadowy-new-botnet 📱 iOS 26 Autocorrect พังหนัก ผู้ใช้ iPhone หลายรายบ่นว่า Autocorrect ใน iOS 26 ทำงานผิดพลาดอย่างมาก พิมพ์ผิดบ่อยและแก้คำไม่ตรงใจ แม้ Apple จะออก iOS 26.2 แล้ว แต่ปัญหายังไม่ถูกแก้ไข ทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและรอการแก้ไขจริงจังจาก Apple 🔗 https://www.techradar.com/phones/ios/youre-not-bad-at-typing-ios-26s-autocorrect-is-broken-and-theres-still-no-fix-in-ios-26-2 📞 NordVPN เปิดฟีเจอร์กันสแกมโทรศัพท์ NordVPN เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Call Protection สำหรับผู้ใช้ใน UK และแคนาดา ช่วยตรวจจับและบล็อกสายโทรศัพท์ที่เป็นสแกมก่อนถึงผู้ใช้ ถือเป็นการขยายบทบาทของ VPN จากการป้องกันออนไลน์ไปสู่การป้องกันการสื่อสารโทรศัพท์ด้วย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-takes-on-phone-scammers-with-new-call-protection-feature-for-the-uk-and-canada 📱 Xiaomi เตือนราคาสมาร์ทโฟนจะพุ่งขึ้น Xiaomi ออกมาเตือนว่าปีหน้าราคาสมาร์ทโฟนจะปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งชิป, วัสดุ และค่าแรง ทำให้ผู้บริโภคอาจต้องเตรียมรับมือกับมือถือที่แพงกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/phones/brace-yourself-xiaomi-warns-of-a-sizeable-rise-in-smartphone-prices-next-year 💾 VMware ยอมรับข้อมูลสเปกเซิร์ฟเวอร์ผิดพลาด VMware ยืนยันว่าคู่มือสเปกสำหรับเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้มีความคลาดเคลื่อน ทำให้ผู้ใช้บางรายอาจเข้าใจผิดในการเลือกใช้งาน แม้จะเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้กระทบต่อระบบโดยตรง แต่ก็สร้างความสับสนและทำให้บริษัทต้องรีบแก้ไขข้อมูลใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/vmware-confirms-its-spec-guidance-on-storage-servers-was-rather-inaccurate
    0 Comments 0 Shares 863 Views 0 Reviews
  • “Taiwan เปิดการสอบสวนกรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC กลับเข้าร่วม Intel”

    ทางการไต้หวันได้เปิดการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติ กรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหารฝ่าย R&D ของ TSMC ที่เพิ่งเกษียณหลังทำงานกว่า 21 ปี แต่กลับไปปรากฏตัวที่ Intel ในตำแหน่งรองประธานฝ่าย R&D เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า Lo อาจนำเอกสารทางเทคนิคที่เป็นความลับของ TSMC ไปด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เช่น N2, A16, A14 และ post-A14 nodes

    ก่อนออกจาก TSMC Lo เคยมีอำนาจสั่งให้ทีมงานส่งมอบเอกสารภายในที่มีข้อจำกัดด้านการเข้าถึง โดยไม่มีการตั้งข้อสงสัยในตอนนั้น เนื่องจากตำแหน่งของเขาสูงมาก ทำให้คำสั่งดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาปรากฏตัวที่ Intel พร้อมรับผิดชอบด้านการพัฒนาอุปกรณ์และโมดูลใหม่ ๆ จึงเกิดข้อกังวลว่าเอกสารเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์เชิงแข่งขัน

    แม้จะมีข้อกล่าวหา แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ข้อมูลของ TSMC อาจไม่สามารถนำไปใช้ตรง ๆ กับ Intel ได้ เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตของทั้งสองบริษัทมีความแตกต่างกัน เช่น Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV ในบางกระบวนการ ขณะที่ TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV multipatterning อย่างไรก็ตาม เอกสารเหล่านี้ยังคงมีค่าในเชิงการวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ทางธุรกิจ

    กรณีนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่การเคลื่อนไหวของผู้บริหารระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก รัฐบาลไต้หวันกำลังตรวจสอบว่า Lo ละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้าไปยังต่างประเทศหรือไม่

    สรุปสาระสำคัญ
    Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC
    กลับไปทำงานที่ Intel ในตำแหน่ง VP of R&D

    ข้อกล่าวหานำเอกสารลับติดตัวไป
    ครอบคลุมเทคโนโลยี N2, A16, A14 และ post-A14

    ความแตกต่างด้านเทคโนโลยีระหว่าง Intel และ TSMC
    Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV, TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV

    รัฐบาลไต้หวันเปิดการสอบสวนด้านความมั่นคง
    ตรวจสอบการละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้า

    ความเสี่ยงต่อการแข่งขันระดับโลก
    เอกสารลับอาจถูกใช้เพื่อวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ธุรกิจ

    การขาดมาตรการป้องกันภายในองค์กร
    TSMC ไม่ได้บังคับใช้ข้อตกลง non-compete กับ Lo ก่อนออกจากบริษัท

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/high-ranking-tsmc-executive-faces-taiwan-legal-investigation-over-murky-return-to-intel-report-alleges-employee-took-technical-documents-with-him
    📰 “Taiwan เปิดการสอบสวนกรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC กลับเข้าร่วม Intel” ทางการไต้หวันได้เปิดการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติ กรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหารฝ่าย R&D ของ TSMC ที่เพิ่งเกษียณหลังทำงานกว่า 21 ปี แต่กลับไปปรากฏตัวที่ Intel ในตำแหน่งรองประธานฝ่าย R&D เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า Lo อาจนำเอกสารทางเทคนิคที่เป็นความลับของ TSMC ไปด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เช่น N2, A16, A14 และ post-A14 nodes ก่อนออกจาก TSMC Lo เคยมีอำนาจสั่งให้ทีมงานส่งมอบเอกสารภายในที่มีข้อจำกัดด้านการเข้าถึง โดยไม่มีการตั้งข้อสงสัยในตอนนั้น เนื่องจากตำแหน่งของเขาสูงมาก ทำให้คำสั่งดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาปรากฏตัวที่ Intel พร้อมรับผิดชอบด้านการพัฒนาอุปกรณ์และโมดูลใหม่ ๆ จึงเกิดข้อกังวลว่าเอกสารเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์เชิงแข่งขัน แม้จะมีข้อกล่าวหา แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ข้อมูลของ TSMC อาจไม่สามารถนำไปใช้ตรง ๆ กับ Intel ได้ เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตของทั้งสองบริษัทมีความแตกต่างกัน เช่น Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV ในบางกระบวนการ ขณะที่ TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV multipatterning อย่างไรก็ตาม เอกสารเหล่านี้ยังคงมีค่าในเชิงการวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ทางธุรกิจ กรณีนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่การเคลื่อนไหวของผู้บริหารระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก รัฐบาลไต้หวันกำลังตรวจสอบว่า Lo ละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้าไปยังต่างประเทศหรือไม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC ➡️ กลับไปทำงานที่ Intel ในตำแหน่ง VP of R&D ✅ ข้อกล่าวหานำเอกสารลับติดตัวไป ➡️ ครอบคลุมเทคโนโลยี N2, A16, A14 และ post-A14 ✅ ความแตกต่างด้านเทคโนโลยีระหว่าง Intel และ TSMC ➡️ Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV, TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV ✅ รัฐบาลไต้หวันเปิดการสอบสวนด้านความมั่นคง ➡️ ตรวจสอบการละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้า ‼️ ความเสี่ยงต่อการแข่งขันระดับโลก ⛔ เอกสารลับอาจถูกใช้เพื่อวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ธุรกิจ ‼️ การขาดมาตรการป้องกันภายในองค์กร ⛔ TSMC ไม่ได้บังคับใช้ข้อตกลง non-compete กับ Lo ก่อนออกจากบริษัท https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/high-ranking-tsmc-executive-faces-taiwan-legal-investigation-over-murky-return-to-intel-report-alleges-employee-took-technical-documents-with-him
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • ยุโรปเปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Exascale เครื่องที่สอง

    ยุโรปได้เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Alice Recoque ซึ่งถือเป็นระบบ Exascale เครื่องที่สองของภูมิภาค โดยใช้พลังจากซีพียู AMD EPYC “Venice” รุ่นใหม่และจีพียู Instinct MI430X ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI และการประมวลผลทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่

    สเปกและเทคโนโลยีล้ำสมัย
    Alice Recoque จะประกอบด้วย 94 แร็ค บนแพลตฟอร์ม BullSequana XH3500 ของ Eviden พร้อมระบบจัดเก็บข้อมูลจาก DDN และโครงสร้างการเชื่อมต่อ BXI fabric ที่ช่วยให้การประมวลผลแบบขยายตัวมีประสิทธิภาพสูงสุด ซีพียู Venice มีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 256 คอร์ ขณะที่จีพียู MI430X มาพร้อมหน่วยความจำ HBM4 ขนาด 432 GB และรองรับรูปแบบข้อมูล FP4 และ FP8 เพื่อให้เหมาะกับงาน AI โดยเฉพาะ

    พลังงานและการติดตั้ง
    ระบบนี้จะใช้พลังงานประมาณ 12 เมกะวัตต์ ภายใต้การทำงานปกติ และใช้เทคโนโลยี การระบายความร้อนด้วยน้ำอุ่นรุ่นที่ 5 ของ Eviden เพื่อจัดการกับความร้อนจากส่วนประกอบที่ใช้พลังงานสูง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะถูกติดตั้งที่ประเทศฝรั่งเศส ภายใต้การดูแลของ GENCI และดำเนินงานโดย CEA โดยมีการสนับสนุนจากหลายประเทศในยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ และกรีซ

    การใช้งานและอนาคต
    Alice Recoque จะถูกใช้ในงานวิจัยที่หลากหลาย ตั้งแต่ การพัฒนาโมเดล AI, การแพทย์เฉพาะบุคคล, การวิจัยสภาพภูมิอากาศ, ไปจนถึง การวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียมและกล้องโทรทรรศน์ คาดว่าระบบจะเริ่มใช้งานจริงในช่วงปี 2027–2028 หลังจาก AMD เปิดตัวซีพียู Venice และจีพียู MI430X อย่างเป็นทางการในปี 2026

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เปิดตัว Alice Recoque
    ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Exascale เครื่องที่สองของยุโรป

    สเปกหลัก
    ใช้ AMD EPYC Venice (256 คอร์) และ Instinct MI430X (432 GB HBM4)

    โครงสร้างระบบ
    94 แร็ค บน BullSequana XH3500 พร้อม BXI fabric และ DDN storage

    พลังงานและการระบายความร้อน
    ใช้พลังงาน ~12 เมกะวัตต์ พร้อมระบบน้ำอุ่นรุ่นที่ 5

    การติดตั้งและการดำเนินงาน
    ติดตั้งที่ฝรั่งเศส ดูแลโดย GENCI และ CEA

    ความท้าทายด้านเวลาและเทคโนโลยี
    ระบบจะพร้อมใช้งานจริงได้ราวปี 2027–2028 หลังจากฮาร์ดแวร์หลักเปิดตัว

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่
    หากการพัฒนา Venice และ MI430X ล่าช้า อาจกระทบต่อกำหนดการใช้งาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/amd-and-eviden-unveil-europes-second-exascale-system-epyc-venice-and-instinct-mi430x-power-system-breaks-the-exaflop-barrier
    ⚡ ยุโรปเปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Exascale เครื่องที่สอง ยุโรปได้เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Alice Recoque ซึ่งถือเป็นระบบ Exascale เครื่องที่สองของภูมิภาค โดยใช้พลังจากซีพียู AMD EPYC “Venice” รุ่นใหม่และจีพียู Instinct MI430X ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI และการประมวลผลทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่ 🖥️ สเปกและเทคโนโลยีล้ำสมัย Alice Recoque จะประกอบด้วย 94 แร็ค บนแพลตฟอร์ม BullSequana XH3500 ของ Eviden พร้อมระบบจัดเก็บข้อมูลจาก DDN และโครงสร้างการเชื่อมต่อ BXI fabric ที่ช่วยให้การประมวลผลแบบขยายตัวมีประสิทธิภาพสูงสุด ซีพียู Venice มีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 256 คอร์ ขณะที่จีพียู MI430X มาพร้อมหน่วยความจำ HBM4 ขนาด 432 GB และรองรับรูปแบบข้อมูล FP4 และ FP8 เพื่อให้เหมาะกับงาน AI โดยเฉพาะ 🌍 พลังงานและการติดตั้ง ระบบนี้จะใช้พลังงานประมาณ 12 เมกะวัตต์ ภายใต้การทำงานปกติ และใช้เทคโนโลยี การระบายความร้อนด้วยน้ำอุ่นรุ่นที่ 5 ของ Eviden เพื่อจัดการกับความร้อนจากส่วนประกอบที่ใช้พลังงานสูง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะถูกติดตั้งที่ประเทศฝรั่งเศส ภายใต้การดูแลของ GENCI และดำเนินงานโดย CEA โดยมีการสนับสนุนจากหลายประเทศในยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ และกรีซ 🔮 การใช้งานและอนาคต Alice Recoque จะถูกใช้ในงานวิจัยที่หลากหลาย ตั้งแต่ การพัฒนาโมเดล AI, การแพทย์เฉพาะบุคคล, การวิจัยสภาพภูมิอากาศ, ไปจนถึง การวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียมและกล้องโทรทรรศน์ คาดว่าระบบจะเริ่มใช้งานจริงในช่วงปี 2027–2028 หลังจาก AMD เปิดตัวซีพียู Venice และจีพียู MI430X อย่างเป็นทางการในปี 2026 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เปิดตัว Alice Recoque ➡️ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Exascale เครื่องที่สองของยุโรป ✅ สเปกหลัก ➡️ ใช้ AMD EPYC Venice (256 คอร์) และ Instinct MI430X (432 GB HBM4) ✅ โครงสร้างระบบ ➡️ 94 แร็ค บน BullSequana XH3500 พร้อม BXI fabric และ DDN storage ✅ พลังงานและการระบายความร้อน ➡️ ใช้พลังงาน ~12 เมกะวัตต์ พร้อมระบบน้ำอุ่นรุ่นที่ 5 ✅ การติดตั้งและการดำเนินงาน ➡️ ติดตั้งที่ฝรั่งเศส ดูแลโดย GENCI และ CEA ‼️ ความท้าทายด้านเวลาและเทคโนโลยี ⛔ ระบบจะพร้อมใช้งานจริงได้ราวปี 2027–2028 หลังจากฮาร์ดแวร์หลักเปิดตัว ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ ⛔ หากการพัฒนา Venice และ MI430X ล่าช้า อาจกระทบต่อกำหนดการใช้งาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/amd-and-eviden-unveil-europes-second-exascale-system-epyc-venice-and-instinct-mi430x-power-system-breaks-the-exaflop-barrier
    0 Comments 0 Shares 312 Views 0 Reviews
  • Proton อัปเดต VKD3D-Proton 3.0 รองรับ FSR4 และฟีเจอร์ใหม่

    Valve ได้ปล่อยอัปเดตครั้งสำคัญให้กับ VKD3D-Proton ซึ่งเป็นเครื่องมือแปลคำสั่งจาก DirectX 12 ไปเป็น Vulkan ที่ใช้ใน Proton เพื่อให้เกม Windows สามารถรันบน Linux ได้ โดยเวอร์ชัน 3.0 นี้ถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุด มีการเพิ่ม AMD FSR4 (FidelityFX Super Resolution 4) และระบบ Anti-Lag เข้ามา ทำให้ผู้เล่นเกมบน Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและภาพคมชัดมากขึ้น

    สิ่งที่น่าสนใจคือ FSR4 ไม่ได้จำกัดเฉพาะการ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง RDNA4 เท่านั้น แต่ยังมีโหมด fallback ที่ทำให้สามารถใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า แม้จะทำงานช้ากว่าก็ตาม ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ฮาร์ดแวร์หลากหลายสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ ขณะที่ฝั่ง Nvidia DLSS4 ยังไม่รองรับใน Proton ซึ่งทำให้ AMD ได้เปรียบในแง่การใช้งานจริงบน Linux

    นอกจากนี้ VKD3D-Proton 3.0 ยังมีการ เขียนใหม่ Shader Backend (DXBC) เพื่อแก้ปัญหาที่เคยทำให้เกมบางเกมไม่สามารถรันได้ และเพิ่มความเข้ากันได้กับ DXVK ซึ่งเป็นเครื่องมือแปล DirectX 8–11 ไปเป็น Vulkan ทำให้การพัฒนาและแก้ไขโค้ดง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีการทดลองเพิ่มฟีเจอร์ Work Graphs ที่ช่วยลดการใช้ VRAM อย่างมหาศาล เช่นจาก 38GB เหลือเพียง 52KB ในการเรนเดอร์วัตถุ 3D บางประเภท

    การอัปเดตนี้สะท้อนให้เห็นว่า Linux Gaming กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ Proton กลายเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ Steam Deck และผู้เล่นบน Linux สามารถเข้าถึงเกม Windows ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    VKD3D-Proton เวอร์ชัน 3.0 อัปเดตครั้งใหญ่
    รองรับ AMD FSR4 และ Anti-Lag เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบน Linux

    FSR4 ใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า
    แม้จะทำงานช้ากว่า แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ฮาร์ดแวร์หลากหลายเข้าถึงเทคโนโลยี

    Shader Backend ถูกเขียนใหม่
    แก้ปัญหาเกมที่เคยรันไม่ได้ และทำงานร่วมกับ DXVK ได้ดีขึ้น

    เพิ่มฟีเจอร์ Work Graphs แบบทดลอง
    ลดการใช้ VRAM อย่างมหาศาลในการเรนเดอร์วัตถุ 3D

    DLSS4 ของ Nvidia ยังไม่รองรับใน Proton
    ผู้ใช้การ์ดจอ Nvidia อาจเสียเปรียบเมื่อเล่นเกมบน Linux

    โหมด fallback ของ FSR4 ทำงานช้ากว่าเวอร์ชันเต็ม
    ประสิทธิภาพไม่เทียบเท่ากับการใช้งานบน GPU รุ่นใหม่

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/vulkan-to-directx-12-translation-tool-used-in-valves-proton-now-supports-amds-fsr4-and-anti-lag-while-nvidias-dlss4-remains-unsupported-fsr4-now-also-works-on-older-gpus-vkd3d-proton-v3-0-brings-other-performance-improvements
    🎮 Proton อัปเดต VKD3D-Proton 3.0 รองรับ FSR4 และฟีเจอร์ใหม่ Valve ได้ปล่อยอัปเดตครั้งสำคัญให้กับ VKD3D-Proton ซึ่งเป็นเครื่องมือแปลคำสั่งจาก DirectX 12 ไปเป็น Vulkan ที่ใช้ใน Proton เพื่อให้เกม Windows สามารถรันบน Linux ได้ โดยเวอร์ชัน 3.0 นี้ถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุด มีการเพิ่ม AMD FSR4 (FidelityFX Super Resolution 4) และระบบ Anti-Lag เข้ามา ทำให้ผู้เล่นเกมบน Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและภาพคมชัดมากขึ้น สิ่งที่น่าสนใจคือ FSR4 ไม่ได้จำกัดเฉพาะการ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง RDNA4 เท่านั้น แต่ยังมีโหมด fallback ที่ทำให้สามารถใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า แม้จะทำงานช้ากว่าก็ตาม ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ฮาร์ดแวร์หลากหลายสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ ขณะที่ฝั่ง Nvidia DLSS4 ยังไม่รองรับใน Proton ซึ่งทำให้ AMD ได้เปรียบในแง่การใช้งานจริงบน Linux นอกจากนี้ VKD3D-Proton 3.0 ยังมีการ เขียนใหม่ Shader Backend (DXBC) เพื่อแก้ปัญหาที่เคยทำให้เกมบางเกมไม่สามารถรันได้ และเพิ่มความเข้ากันได้กับ DXVK ซึ่งเป็นเครื่องมือแปล DirectX 8–11 ไปเป็น Vulkan ทำให้การพัฒนาและแก้ไขโค้ดง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีการทดลองเพิ่มฟีเจอร์ Work Graphs ที่ช่วยลดการใช้ VRAM อย่างมหาศาล เช่นจาก 38GB เหลือเพียง 52KB ในการเรนเดอร์วัตถุ 3D บางประเภท การอัปเดตนี้สะท้อนให้เห็นว่า Linux Gaming กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ Proton กลายเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ Steam Deck และผู้เล่นบน Linux สามารถเข้าถึงเกม Windows ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ VKD3D-Proton เวอร์ชัน 3.0 อัปเดตครั้งใหญ่ ➡️ รองรับ AMD FSR4 และ Anti-Lag เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบน Linux ✅ FSR4 ใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า ➡️ แม้จะทำงานช้ากว่า แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ฮาร์ดแวร์หลากหลายเข้าถึงเทคโนโลยี ✅ Shader Backend ถูกเขียนใหม่ ➡️ แก้ปัญหาเกมที่เคยรันไม่ได้ และทำงานร่วมกับ DXVK ได้ดีขึ้น ✅ เพิ่มฟีเจอร์ Work Graphs แบบทดลอง ➡️ ลดการใช้ VRAM อย่างมหาศาลในการเรนเดอร์วัตถุ 3D ‼️ DLSS4 ของ Nvidia ยังไม่รองรับใน Proton ⛔ ผู้ใช้การ์ดจอ Nvidia อาจเสียเปรียบเมื่อเล่นเกมบน Linux ‼️ โหมด fallback ของ FSR4 ทำงานช้ากว่าเวอร์ชันเต็ม ⛔ ประสิทธิภาพไม่เทียบเท่ากับการใช้งานบน GPU รุ่นใหม่ https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/vulkan-to-directx-12-translation-tool-used-in-valves-proton-now-supports-amds-fsr4-and-anti-lag-while-nvidias-dlss4-remains-unsupported-fsr4-now-also-works-on-older-gpus-vkd3d-proton-v3-0-brings-other-performance-improvements
    0 Comments 0 Shares 240 Views 0 Reviews
  • Arm เข้าร่วม NVLink Fusion Ecosystem

    Arm ประกาศเข้าร่วมโครงการ NVLink Fusion ของ Nvidia ที่งาน Supercomputing 2025 โดยการผนวกรวม NVLink IP เข้ากับสถาปัตยกรรมของตนเอง ทำให้ลูกค้า Arm สามารถออกแบบ CPU ที่เชื่อมต่อกับ GPU ของ Nvidia ได้โดยตรง ไม่ต้องพึ่งพา PCIe แบบเดิม ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนในการออกแบบและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระบบ AI และ HPC

    ผลประโยชน์ต่อ Arm และลูกค้า
    การเข้าร่วมครั้งนี้ทำให้ Arm licensees เช่น Google, Meta และ Microsoft สามารถสร้าง SoC ที่รองรับการทำงานร่วมกับ GPU ของ Nvidia ได้ทันที โดยไม่ต้องพัฒนาระบบเชื่อมต่อใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ Arm ยังสามารถแข่งขันโดยตรงกับ CPU ของ Nvidia (Grace, Vera) และ Intel Xeon ในระบบที่ใช้ GPU ของ Nvidia เป็นแกนหลัก

    ผลกระทบต่อ Ecosystem
    การที่ Arm เข้าร่วม NVLink Fusion ทำให้สถาปัตยกรรม Arm มีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับ hyperscalers และ sovereign cloud builders ที่ต้องการ CPU แบบ custom เพื่อทำงานร่วมกับ GPU ของ Nvidia โดยตรง สิ่งนี้อาจลดแรงดึงดูดของทางเลือกเปิดอย่าง UALink และลดความน่าสนใจของ AI accelerators จากคู่แข่ง เช่น AMD, Broadcom และ Tenstorrent

    ความเสี่ยงและการแข่งขัน
    แม้จะเป็นการขยาย ecosystem ที่แข็งแกร่ง แต่ก็มีความเสี่ยงว่า Arm อาจต้องแข่งขันโดยตรงกับ Nvidia และ Intel ในตลาด CPU สำหรับระบบที่ใช้ GPU ของ Nvidia เป็นศูนย์กลาง อีกทั้ง AMD ยังไม่สนับสนุน NVLink อย่างจริงจัง และ Intel กำลังพัฒนาซีพียู Xeon รุ่นใหม่ที่รองรับ NVLink ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    สรุปสาระสำคัญ
    Arm เข้าร่วม NVLink Fusion Ecosystem ของ Nvidia
    ผนวก NVLink IP เข้ากับสถาปัตยกรรม Arm

    ลูกค้า Arm ได้ประโยชน์โดยตรง
    Google, Meta, Microsoft สามารถสร้าง SoC ที่เชื่อมต่อ GPU Nvidia ได้ทันที

    Arm สามารถแข่งขันกับ Grace และ Xeon
    เปิดโอกาสให้ Arm CPU เข้าสู่ระบบที่ใช้ GPU Nvidia

    Ecosystem ของ Nvidia แข็งแกร่งขึ้น
    ลดแรงดึงดูดของ UALink และคู่แข่ง AI accelerators

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
    Arm ต้องเผชิญการแข่งขันกับ Nvidia และ Intel โดยตรง

    ผลกระทบต่อคู่แข่งรายอื่น
    AMD และ Broadcom อาจเสียโอกาสในตลาด AI/HPC

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/arm-joins-nvlink-fusion-ecosystem-arms-clients-to-get-access-to-nvidia-gpus
    🤝 Arm เข้าร่วม NVLink Fusion Ecosystem Arm ประกาศเข้าร่วมโครงการ NVLink Fusion ของ Nvidia ที่งาน Supercomputing 2025 โดยการผนวกรวม NVLink IP เข้ากับสถาปัตยกรรมของตนเอง ทำให้ลูกค้า Arm สามารถออกแบบ CPU ที่เชื่อมต่อกับ GPU ของ Nvidia ได้โดยตรง ไม่ต้องพึ่งพา PCIe แบบเดิม ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนในการออกแบบและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระบบ AI และ HPC ⚙️ ผลประโยชน์ต่อ Arm และลูกค้า การเข้าร่วมครั้งนี้ทำให้ Arm licensees เช่น Google, Meta และ Microsoft สามารถสร้าง SoC ที่รองรับการทำงานร่วมกับ GPU ของ Nvidia ได้ทันที โดยไม่ต้องพัฒนาระบบเชื่อมต่อใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ Arm ยังสามารถแข่งขันโดยตรงกับ CPU ของ Nvidia (Grace, Vera) และ Intel Xeon ในระบบที่ใช้ GPU ของ Nvidia เป็นแกนหลัก 🌐 ผลกระทบต่อ Ecosystem การที่ Arm เข้าร่วม NVLink Fusion ทำให้สถาปัตยกรรม Arm มีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับ hyperscalers และ sovereign cloud builders ที่ต้องการ CPU แบบ custom เพื่อทำงานร่วมกับ GPU ของ Nvidia โดยตรง สิ่งนี้อาจลดแรงดึงดูดของทางเลือกเปิดอย่าง UALink และลดความน่าสนใจของ AI accelerators จากคู่แข่ง เช่น AMD, Broadcom และ Tenstorrent 🔮 ความเสี่ยงและการแข่งขัน แม้จะเป็นการขยาย ecosystem ที่แข็งแกร่ง แต่ก็มีความเสี่ยงว่า Arm อาจต้องแข่งขันโดยตรงกับ Nvidia และ Intel ในตลาด CPU สำหรับระบบที่ใช้ GPU ของ Nvidia เป็นศูนย์กลาง อีกทั้ง AMD ยังไม่สนับสนุน NVLink อย่างจริงจัง และ Intel กำลังพัฒนาซีพียู Xeon รุ่นใหม่ที่รองรับ NVLink ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Arm เข้าร่วม NVLink Fusion Ecosystem ของ Nvidia ➡️ ผนวก NVLink IP เข้ากับสถาปัตยกรรม Arm ✅ ลูกค้า Arm ได้ประโยชน์โดยตรง ➡️ Google, Meta, Microsoft สามารถสร้าง SoC ที่เชื่อมต่อ GPU Nvidia ได้ทันที ✅ Arm สามารถแข่งขันกับ Grace และ Xeon ➡️ เปิดโอกาสให้ Arm CPU เข้าสู่ระบบที่ใช้ GPU Nvidia ✅ Ecosystem ของ Nvidia แข็งแกร่งขึ้น ➡️ ลดแรงดึงดูดของ UALink และคู่แข่ง AI accelerators ‼️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน ⛔ Arm ต้องเผชิญการแข่งขันกับ Nvidia และ Intel โดยตรง ‼️ ผลกระทบต่อคู่แข่งรายอื่น ⛔ AMD และ Broadcom อาจเสียโอกาสในตลาด AI/HPC https://www.tomshardware.com/tech-industry/arm-joins-nvlink-fusion-ecosystem-arms-clients-to-get-access-to-nvidia-gpus
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • VKD3D-Proton 3.0 มาพร้อม FSR4 และ Shader Backend Rewrite

    ทีมพัฒนา VKD3D-Proton ได้ปล่อยเวอร์ชัน 3.0 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่หลังจาก Proton 10 โดยมีการเพิ่มการรองรับ AMD FidelityFX Super Resolution 4 (FSR4) ผ่านการใช้ Vulkan extensions เช่น VK_KHR_cooperative_matrix และ VK_KHR_shader_float8 ทำให้เกมที่รองรับสามารถเรนเดอร์ได้คมชัดขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นบน Linux

    หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการเขียนระบบ DXBC Shader Backend ใหม่ทั้งหมด แทนที่ระบบเก่า (vkd3d-shader) ที่มีบั๊กและฟีเจอร์ไม่ครบ ส่งผลให้เกมที่เคยไม่สามารถรันได้ เช่น Red Dead Redemption 2 ตอนนี้สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ในโหมด D3D12

    นอกจากนี้ VKD3D-Proton 3.0 ยังเพิ่มการรองรับ D3D12 Work Graphs, ปรับปรุงการทำงานกับ AgilitySDK, และเพิ่มการจัดการทรัพยากรใหม่ เช่น Sparse TIER_4 รวมถึงระบบ batching logic ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในหลายเกม อีกทั้งยังแก้ไขปัญหาการทำงานกับ Halo Infinite, The Last of Us Part 1, และเกมดังอื่น ๆ เช่น Death Stranding, Helldivers II, Star Citizen, Final Fantasy VII Rebirth, Monster Hunter Wilds, Starfield และอีกมากมาย

    การอัปเดตนี้ยังช่วยให้ VKD3D-Proton ใช้งานง่ายขึ้นในโปรเจกต์ Linux-native และปรับปรุงการทำงานกับการบีบอัด GDeflate รวมถึงการจัดการภาพแบบ depth/stencil ↔ color copies ได้ดีขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ Linux กลายเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับเกม Windows ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน VKD3D-Proton 3.0
    รองรับ AMD FSR4 ผ่าน Vulkan extensions
    เขียน DXBC Shader Backend ใหม่ทั้งหมด

    การปรับปรุงเกมที่รองรับ
    Red Dead Redemption 2 รันได้ในโหมด D3D12
    ปรับปรุงเกมดัง เช่น Halo Infinite, The Last of Us Part 1, Death Stranding, Starfield

    ฟีเจอร์ด้านเทคนิคเพิ่มเติม
    รองรับ D3D12 Work Graphs และ Sparse TIER_4
    ปรับปรุง batching logic และการจัดการ GDeflate

    การใช้งานใน Linux-native projects
    ทำให้การนำ VKD3D-Proton ไปใช้ในโปรเจกต์ Linux ง่ายขึ้น
    ปรับปรุงการจัดการ depth/stencil ↔ color copies

    ข้อควรระวัง
    ผู้ใช้ต้องใช้ Vulkan extensions รุ่นใหม่เพื่อให้ฟีเจอร์ทำงานได้เต็มที่
    เกมบางเกมอาจยังมีบั๊กที่ต้องรอการแก้ไขเพิ่มเติม

    https://9to5linux.com/vkd3d-proton-3-0-released-with-fsr4-support-dxbc-shader-backend-rewrite
    🎮 VKD3D-Proton 3.0 มาพร้อม FSR4 และ Shader Backend Rewrite ทีมพัฒนา VKD3D-Proton ได้ปล่อยเวอร์ชัน 3.0 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่หลังจาก Proton 10 โดยมีการเพิ่มการรองรับ AMD FidelityFX Super Resolution 4 (FSR4) ผ่านการใช้ Vulkan extensions เช่น VK_KHR_cooperative_matrix และ VK_KHR_shader_float8 ทำให้เกมที่รองรับสามารถเรนเดอร์ได้คมชัดขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นบน Linux หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการเขียนระบบ DXBC Shader Backend ใหม่ทั้งหมด แทนที่ระบบเก่า (vkd3d-shader) ที่มีบั๊กและฟีเจอร์ไม่ครบ ส่งผลให้เกมที่เคยไม่สามารถรันได้ เช่น Red Dead Redemption 2 ตอนนี้สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ในโหมด D3D12 นอกจากนี้ VKD3D-Proton 3.0 ยังเพิ่มการรองรับ D3D12 Work Graphs, ปรับปรุงการทำงานกับ AgilitySDK, และเพิ่มการจัดการทรัพยากรใหม่ เช่น Sparse TIER_4 รวมถึงระบบ batching logic ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในหลายเกม อีกทั้งยังแก้ไขปัญหาการทำงานกับ Halo Infinite, The Last of Us Part 1, และเกมดังอื่น ๆ เช่น Death Stranding, Helldivers II, Star Citizen, Final Fantasy VII Rebirth, Monster Hunter Wilds, Starfield และอีกมากมาย การอัปเดตนี้ยังช่วยให้ VKD3D-Proton ใช้งานง่ายขึ้นในโปรเจกต์ Linux-native และปรับปรุงการทำงานกับการบีบอัด GDeflate รวมถึงการจัดการภาพแบบ depth/stencil ↔ color copies ได้ดีขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ Linux กลายเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับเกม Windows ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน VKD3D-Proton 3.0 ➡️ รองรับ AMD FSR4 ผ่าน Vulkan extensions ➡️ เขียน DXBC Shader Backend ใหม่ทั้งหมด ✅ การปรับปรุงเกมที่รองรับ ➡️ Red Dead Redemption 2 รันได้ในโหมด D3D12 ➡️ ปรับปรุงเกมดัง เช่น Halo Infinite, The Last of Us Part 1, Death Stranding, Starfield ✅ ฟีเจอร์ด้านเทคนิคเพิ่มเติม ➡️ รองรับ D3D12 Work Graphs และ Sparse TIER_4 ➡️ ปรับปรุง batching logic และการจัดการ GDeflate ✅ การใช้งานใน Linux-native projects ➡️ ทำให้การนำ VKD3D-Proton ไปใช้ในโปรเจกต์ Linux ง่ายขึ้น ➡️ ปรับปรุงการจัดการ depth/stencil ↔ color copies ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ผู้ใช้ต้องใช้ Vulkan extensions รุ่นใหม่เพื่อให้ฟีเจอร์ทำงานได้เต็มที่ ⛔ เกมบางเกมอาจยังมีบั๊กที่ต้องรอการแก้ไขเพิ่มเติม https://9to5linux.com/vkd3d-proton-3-0-released-with-fsr4-support-dxbc-shader-backend-rewrite
    9TO5LINUX.COM
    VKD3D-Proton 3.0 Released with FSR4 Support, DXBC Shader Backend Rewrite - 9to5Linux
    VKD3D-Proton 3.0 open-source implementation of the full Direct3D 12 API on top of Vulkan is now available for download as a major update.
    0 Comments 0 Shares 173 Views 0 Reviews
More Results