• เรื่องเล่าจากโลกชิป: จาก 4 บิตสู่ 10 ล้านล้านพารามิเตอร์

    ย้อนกลับไปปี 1971 Intel เปิดตัวชิป 4004 ซึ่งเป็นไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรกของโลก ด้วยความเร็วเพียง 740kHz และประมวลผลได้ 92,600 คำสั่งต่อวินาที (IPS) ใช้หน่วยความจำแค่ 4KB ROM และ 640 bytes RAM—เล็กจนเทียบไม่ได้กับมือถือยุคนี้

    แต่ในปี 2025 NVIDIA เปิดตัว Blackwell ซึ่งเป็นชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ด้วยพลังประมวลผลสูงถึง 20 PetaFLOPS ต่อ GPU รองรับโมเดลขนาด 10 ล้านล้านพารามิเตอร์ และใช้เทคโนโลยี NVLink รุ่นที่ 5 ที่เชื่อมต่อ GPU ได้ถึง 576 ตัวในคลัสเตอร์เดียว

    เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว Blackwell มีประสิทธิภาพมากกว่า Intel 4004 ถึง 217 ล้านเท่า! นี่คือผลลัพธ์ของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามกฎของ Moore’s Law และความต้องการด้าน AI ที่เติบโตแบบทวีคูณ

    Intel 4004 คือจุดเริ่มต้นของยุคไมโครโปรเซสเซอร์ในปี 1971
    ความเร็ว 740kHz, 4-bit CPU, 2,300 ทรานซิสเตอร์
    ใช้ในเครื่องคิดเลขของบริษัท Busicom

    NVIDIA Blackwell คือชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดในปี 2025
    มี 208 พันล้านทรานซิสเตอร์
    รองรับโมเดล AI ขนาด 10 ล้านล้านพารามิเตอร์
    ใช้เทคโนโลยี NVLink 5.0 ที่มีแบนด์วิดธ์ 1.8TB/s ต่อ GPU

    Blackwell มีพลังประมวลผลสูงถึง 20 PetaFLOPS ต่อ GPU
    ใช้หน่วยความจำ HBM3e สูงสุด 192GB
    มี Tensor Core รุ่นใหม่ที่รองรับ FP4 สำหรับ AI inference

    การพัฒนาใน 50 ปีทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 217 ล้านเท่า
    จาก 92,600 IPS ของ 4004 สู่ระดับ ExaFLOPS ของ Blackwell
    สะท้อนความก้าวหน้าของมนุษยชาติในด้านคอมพิวเตอร์

    Blackwell ถูกนำไปใช้ในระบบ AI ของบริษัทชั้นนำทั่วโลก
    เช่น Microsoft Azure, Google DeepMind, Meta, Tesla และ OpenAI
    ใช้ในงาน LLM, quantum computing, และ data analytics

    https://wccftech.com/computing-power-has-skyrocketed-over-the-last-50-years-with-a-whopping-217-million-times-increase/
    🧠 เรื่องเล่าจากโลกชิป: จาก 4 บิตสู่ 10 ล้านล้านพารามิเตอร์ ย้อนกลับไปปี 1971 Intel เปิดตัวชิป 4004 ซึ่งเป็นไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรกของโลก ด้วยความเร็วเพียง 740kHz และประมวลผลได้ 92,600 คำสั่งต่อวินาที (IPS) ใช้หน่วยความจำแค่ 4KB ROM และ 640 bytes RAM—เล็กจนเทียบไม่ได้กับมือถือยุคนี้ แต่ในปี 2025 NVIDIA เปิดตัว Blackwell ซึ่งเป็นชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ด้วยพลังประมวลผลสูงถึง 20 PetaFLOPS ต่อ GPU รองรับโมเดลขนาด 10 ล้านล้านพารามิเตอร์ และใช้เทคโนโลยี NVLink รุ่นที่ 5 ที่เชื่อมต่อ GPU ได้ถึง 576 ตัวในคลัสเตอร์เดียว เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว Blackwell มีประสิทธิภาพมากกว่า Intel 4004 ถึง 217 ล้านเท่า! นี่คือผลลัพธ์ของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามกฎของ Moore’s Law และความต้องการด้าน AI ที่เติบโตแบบทวีคูณ ✅ Intel 4004 คือจุดเริ่มต้นของยุคไมโครโปรเซสเซอร์ในปี 1971 ➡️ ความเร็ว 740kHz, 4-bit CPU, 2,300 ทรานซิสเตอร์ ➡️ ใช้ในเครื่องคิดเลขของบริษัท Busicom ✅ NVIDIA Blackwell คือชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดในปี 2025 ➡️ มี 208 พันล้านทรานซิสเตอร์ ➡️ รองรับโมเดล AI ขนาด 10 ล้านล้านพารามิเตอร์ ➡️ ใช้เทคโนโลยี NVLink 5.0 ที่มีแบนด์วิดธ์ 1.8TB/s ต่อ GPU ✅ Blackwell มีพลังประมวลผลสูงถึง 20 PetaFLOPS ต่อ GPU ➡️ ใช้หน่วยความจำ HBM3e สูงสุด 192GB ➡️ มี Tensor Core รุ่นใหม่ที่รองรับ FP4 สำหรับ AI inference ✅ การพัฒนาใน 50 ปีทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 217 ล้านเท่า ➡️ จาก 92,600 IPS ของ 4004 สู่ระดับ ExaFLOPS ของ Blackwell ➡️ สะท้อนความก้าวหน้าของมนุษยชาติในด้านคอมพิวเตอร์ ✅ Blackwell ถูกนำไปใช้ในระบบ AI ของบริษัทชั้นนำทั่วโลก ➡️ เช่น Microsoft Azure, Google DeepMind, Meta, Tesla และ OpenAI ➡️ ใช้ในงาน LLM, quantum computing, และ data analytics https://wccftech.com/computing-power-has-skyrocketed-over-the-last-50-years-with-a-whopping-217-million-times-increase/
    WCCFTECH.COM
    Computing Power Has Skyrocketed Over the Last 50 Years, With a Whopping 217 Million Times Increase in Performance — From the Humble Intel 4004 to Cutting-Edge NVIDIA Blackwell Chip
    The evolution of humans has been the "talk of the town," but in the computing segment, we have achieved a lot in just five decades.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น

    วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้

    วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    2/ เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้ วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 1/
    เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น

    วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้

    วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    1/ เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้ วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เริ่มนับหนึ่ง MRT3 Circle Line รถไฟฟ้าวงแหวนรอบนอก KL

    หลังจากประเทศมาเลเซียพัฒนารถไฟฟ้าไปทั่วกรุงกัวลาลัมเปอร์และหุบเขาแคลงมาแล้ว 12 เส้นทาง ล่าสุดโครงการรถไฟฟ้า MRT3 Circle Line ของบริษัท มาเลเซีย แรพิด ทรานซิท คอร์ปอเรชัน (MRT Corp) นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ได้อนุมัติลงนามโครงการในขั้นตอนสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว หลังเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน 45,000 ราย พบว่ามีผู้สนับสนุนโครงการ 93.3% นับจากนี้จะเริ่มกระบวนการจัดซื้อที่ดินตามแนวเส้นทาง 690 แปลงภายในปี 2569 ก่อนประกวดราคาและก่อสร้างต่อไป

    สำหรับโครงการรถไฟฟ้า MRT3 Circle Line มีระยะทาง 51 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางวนรอบ 73 นาที แบ่งเป็นทางรถไฟยกระดับ 39 กิโลเมตร และทางรถไฟใต้ดิน 12 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีบูกิต เคียรา เซลาตัน (Bukit Kiara Selatan) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT Kajang Line วนตามเข็มนาฬิกาจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก มีสถานีทั้งหมด 32 สถานี แบ่งเป็นสถานียกระดับ 22 สถานี สถานีใต้ดิน 7 สถานี รองรับผู้โดยสาร 25,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการผู้โดยสารรอบนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ และเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่นแบบบูรณาการ สามารถเดินทางระหว่างกันได้อย่างราบรื่น

    เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายต่างๆ ได้แก่ สถานีคอมเพล็กซ์ ดูตา (Kompleks Duta) เชื่อมต่อรถไฟ KTM Tanjung Malim-Port Klang Line, สถานีตีตี้วังซา (Titiwangsa) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 4 สาย ได้แก่ LRT Ampang Line, LRT Sri Petaling Line, KL Monorail Line and MRT Putrajaya Line, สถานีเซเตียวังซา (Setiawangsa) เชื่อมต่อรถไฟ LRT Kelana Jaya Line, สถานีพันดัน อินดาห์ (Pandan Indah) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Ampang Line,

    สถานีตามันมิดาห์ (Taman Midah) เชื่อมต่อรถไฟ MRT Kajang Line, สถานีซาลัคเซลาตัน (Salak Selatan) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Sri Petaling Line, สถานีกูชาย (Kuchai) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT Putrajaya Line, สถานีพันทายดาลัม (Pantai Dalam) เชื่อมต่อรถไฟ KTM Tanjung Malim-Port Klang Line, สถานียูนิเวอร์ซิตี้ (Universiti) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Kelana Jaya Line

    ผ่านสถานที่สำคัญ ได้แก่ ศูนย์นิทรรศการและการค้าระหว่างประเทศมาเลเซีย (MITEC) สถานีดูตามาส (Dutamas), โรงพยาบาลเฉพาะทาง Pusat Perubatan Universiti Kebangsaan Malaysia (PPUKM) and UKM Child Specialist Hospital สถานีจาลันยาโคบลาทิฟ (Jalan Yaacob Latif), ศูนย์การค้าเคแอลเกตเวย์มอลล์ สถานียูนิเวอร์ซิตี้ และศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยมาลายา (University of Malaya Medical Centre) สถานียูเอ็ม (UM) เป็นต้น

    #Newskit
    เริ่มนับหนึ่ง MRT3 Circle Line รถไฟฟ้าวงแหวนรอบนอก KL หลังจากประเทศมาเลเซียพัฒนารถไฟฟ้าไปทั่วกรุงกัวลาลัมเปอร์และหุบเขาแคลงมาแล้ว 12 เส้นทาง ล่าสุดโครงการรถไฟฟ้า MRT3 Circle Line ของบริษัท มาเลเซีย แรพิด ทรานซิท คอร์ปอเรชัน (MRT Corp) นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ได้อนุมัติลงนามโครงการในขั้นตอนสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว หลังเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน 45,000 ราย พบว่ามีผู้สนับสนุนโครงการ 93.3% นับจากนี้จะเริ่มกระบวนการจัดซื้อที่ดินตามแนวเส้นทาง 690 แปลงภายในปี 2569 ก่อนประกวดราคาและก่อสร้างต่อไป สำหรับโครงการรถไฟฟ้า MRT3 Circle Line มีระยะทาง 51 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางวนรอบ 73 นาที แบ่งเป็นทางรถไฟยกระดับ 39 กิโลเมตร และทางรถไฟใต้ดิน 12 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีบูกิต เคียรา เซลาตัน (Bukit Kiara Selatan) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT Kajang Line วนตามเข็มนาฬิกาจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก มีสถานีทั้งหมด 32 สถานี แบ่งเป็นสถานียกระดับ 22 สถานี สถานีใต้ดิน 7 สถานี รองรับผู้โดยสาร 25,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการผู้โดยสารรอบนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ และเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่นแบบบูรณาการ สามารถเดินทางระหว่างกันได้อย่างราบรื่น เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายต่างๆ ได้แก่ สถานีคอมเพล็กซ์ ดูตา (Kompleks Duta) เชื่อมต่อรถไฟ KTM Tanjung Malim-Port Klang Line, สถานีตีตี้วังซา (Titiwangsa) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 4 สาย ได้แก่ LRT Ampang Line, LRT Sri Petaling Line, KL Monorail Line and MRT Putrajaya Line, สถานีเซเตียวังซา (Setiawangsa) เชื่อมต่อรถไฟ LRT Kelana Jaya Line, สถานีพันดัน อินดาห์ (Pandan Indah) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Ampang Line, สถานีตามันมิดาห์ (Taman Midah) เชื่อมต่อรถไฟ MRT Kajang Line, สถานีซาลัคเซลาตัน (Salak Selatan) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Sri Petaling Line, สถานีกูชาย (Kuchai) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT Putrajaya Line, สถานีพันทายดาลัม (Pantai Dalam) เชื่อมต่อรถไฟ KTM Tanjung Malim-Port Klang Line, สถานียูนิเวอร์ซิตี้ (Universiti) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT Kelana Jaya Line ผ่านสถานที่สำคัญ ได้แก่ ศูนย์นิทรรศการและการค้าระหว่างประเทศมาเลเซีย (MITEC) สถานีดูตามาส (Dutamas), โรงพยาบาลเฉพาะทาง Pusat Perubatan Universiti Kebangsaan Malaysia (PPUKM) and UKM Child Specialist Hospital สถานีจาลันยาโคบลาทิฟ (Jalan Yaacob Latif), ศูนย์การค้าเคแอลเกตเวย์มอลล์ สถานียูนิเวอร์ซิตี้ และศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยมาลายา (University of Malaya Medical Centre) สถานียูเอ็ม (UM) เป็นต้น #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 409 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก Oxford และ Lisbon ได้ใช้ซอฟต์แวร์ OSIRIS รันการจำลอง 3D แบบเรียลไทม์ เพื่อศึกษาว่าเลเซอร์พลังสูงมีผลต่อ “สุญญากาศควอนตัม” อย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วสุญญากาศไม่ได้ว่างเปล่า แต่เต็มไปด้วยอนุภาคเสมือน เช่น อิเล็กตรอน-โพซิตรอน ที่เกิดและดับในช่วงเวลาสั้น ๆ

    เมื่อยิงเลเซอร์สามชุดเข้าไปในสุญญากาศ จะเกิดปรากฏการณ์ “vacuum four-wave mixing” ซึ่งทำให้โฟตอนกระเด้งใส่กันและสร้างลำแสงที่สี่ขึ้นมา—เหมือนแสงเกิดจากความว่างเปล่า

    นี่ไม่ใช่แค่การจำลองเพื่อความรู้ แต่เป็นก้าวสำคัญในการยืนยันปรากฏการณ์ควอนตัมที่เคยเป็นแค่ทฤษฎี โดยใช้เลเซอร์ระดับ Petawatt ที่กำลังถูกติดตั้งทั่วโลก เช่น Vulcan 20-20 (UK), ELI (EU), SHINE และ SEL (จีน), OPAL (สหรัฐฯ)

    ทีมงานยังใช้ตัวแก้สมการแบบกึ่งคลาสสิกจาก Heisenberg-Euler Lagrangian เพื่อจำลองผลกระทบของสุญญากาศต่อแสง เช่น vacuum birefringence (การแยกแสงในสนามแม่เหล็กแรงสูง)

    ผลการจำลองตรงกับทฤษฎีเดิม และยังเผยรายละเอียดใหม่ เช่น รูปร่างของลำแสงที่เบี้ยวเล็กน้อย (astigmatism) และระยะเวลาการเกิดปฏิกิริยา

    นอกจากยืนยันทฤษฎีควอนตัมแล้ว เครื่องมือนี้ยังอาจช่วยค้นหาอนุภาคใหม่ เช่น axions และ millicharged particles ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจเป็น “สสารมืด” ที่ยังไม่มีใครเห็น

    ข้อมูลจากข่าว
    - นักวิจัย Oxford และ Lisbon สร้างแสงจากสุญญากาศโดยใช้เลเซอร์พลังสูง
    - ใช้ปรากฏการณ์ vacuum four-wave mixing ที่โฟตอนกระเด้งใส่กัน
    - สุญญากาศควอนตัมเต็มไปด้วยอนุภาคเสมือนที่เกิดและดับตลอดเวลา
    - ใช้ซอฟต์แวร์ OSIRIS และตัวแก้สมการ Heisenberg-Euler Lagrangian
    - ผลการจำลองตรงกับทฤษฎี vacuum birefringence และเผยรายละเอียดใหม่
    - เลเซอร์ระดับ Petawatt เช่น Vulcan, ELI, SHINE, OPAL จะช่วยทดสอบทฤษฎีนี้ในโลกจริง
    - อาจช่วยค้นหาอนุภาคใหม่ เช่น axions และ millicharged particles ที่เกี่ยวข้องกับสสารมืด

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ปรากฏการณ์นี้ยังอยู่ในขั้นจำลอง ต้องรอการทดลองจริงจากเลเซอร์ระดับ Petawatt
    - การสร้างแสงจากสุญญากาศต้องใช้พลังงานมหาศาลและเทคโนโลยีขั้นสูง
    - การค้นหาอนุภาคใหม่ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ ต้องใช้เวลาและการตรวจสอบซ้ำ
    - การเข้าใจสุญญากาศควอนตัมต้องใช้ฟิสิกส์ระดับสูง ซึ่งอาจยังไม่เข้าถึงได้สำหรับผู้ทั่วไป
    - หากทฤษฎีนี้ถูกยืนยัน อาจต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของแสงและสุญญากาศ

    https://www.neowin.net/news/oxford-scientists-create-light-from-darkness-and-no-its-not-magic/
    นักวิจัยจาก Oxford และ Lisbon ได้ใช้ซอฟต์แวร์ OSIRIS รันการจำลอง 3D แบบเรียลไทม์ เพื่อศึกษาว่าเลเซอร์พลังสูงมีผลต่อ “สุญญากาศควอนตัม” อย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วสุญญากาศไม่ได้ว่างเปล่า แต่เต็มไปด้วยอนุภาคเสมือน เช่น อิเล็กตรอน-โพซิตรอน ที่เกิดและดับในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อยิงเลเซอร์สามชุดเข้าไปในสุญญากาศ จะเกิดปรากฏการณ์ “vacuum four-wave mixing” ซึ่งทำให้โฟตอนกระเด้งใส่กันและสร้างลำแสงที่สี่ขึ้นมา—เหมือนแสงเกิดจากความว่างเปล่า นี่ไม่ใช่แค่การจำลองเพื่อความรู้ แต่เป็นก้าวสำคัญในการยืนยันปรากฏการณ์ควอนตัมที่เคยเป็นแค่ทฤษฎี โดยใช้เลเซอร์ระดับ Petawatt ที่กำลังถูกติดตั้งทั่วโลก เช่น Vulcan 20-20 (UK), ELI (EU), SHINE และ SEL (จีน), OPAL (สหรัฐฯ) ทีมงานยังใช้ตัวแก้สมการแบบกึ่งคลาสสิกจาก Heisenberg-Euler Lagrangian เพื่อจำลองผลกระทบของสุญญากาศต่อแสง เช่น vacuum birefringence (การแยกแสงในสนามแม่เหล็กแรงสูง) ผลการจำลองตรงกับทฤษฎีเดิม และยังเผยรายละเอียดใหม่ เช่น รูปร่างของลำแสงที่เบี้ยวเล็กน้อย (astigmatism) และระยะเวลาการเกิดปฏิกิริยา นอกจากยืนยันทฤษฎีควอนตัมแล้ว เครื่องมือนี้ยังอาจช่วยค้นหาอนุภาคใหม่ เช่น axions และ millicharged particles ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจเป็น “สสารมืด” ที่ยังไม่มีใครเห็น ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักวิจัย Oxford และ Lisbon สร้างแสงจากสุญญากาศโดยใช้เลเซอร์พลังสูง - ใช้ปรากฏการณ์ vacuum four-wave mixing ที่โฟตอนกระเด้งใส่กัน - สุญญากาศควอนตัมเต็มไปด้วยอนุภาคเสมือนที่เกิดและดับตลอดเวลา - ใช้ซอฟต์แวร์ OSIRIS และตัวแก้สมการ Heisenberg-Euler Lagrangian - ผลการจำลองตรงกับทฤษฎี vacuum birefringence และเผยรายละเอียดใหม่ - เลเซอร์ระดับ Petawatt เช่น Vulcan, ELI, SHINE, OPAL จะช่วยทดสอบทฤษฎีนี้ในโลกจริง - อาจช่วยค้นหาอนุภาคใหม่ เช่น axions และ millicharged particles ที่เกี่ยวข้องกับสสารมืด ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ปรากฏการณ์นี้ยังอยู่ในขั้นจำลอง ต้องรอการทดลองจริงจากเลเซอร์ระดับ Petawatt - การสร้างแสงจากสุญญากาศต้องใช้พลังงานมหาศาลและเทคโนโลยีขั้นสูง - การค้นหาอนุภาคใหม่ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ ต้องใช้เวลาและการตรวจสอบซ้ำ - การเข้าใจสุญญากาศควอนตัมต้องใช้ฟิสิกส์ระดับสูง ซึ่งอาจยังไม่เข้าถึงได้สำหรับผู้ทั่วไป - หากทฤษฎีนี้ถูกยืนยัน อาจต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของแสงและสุญญากาศ https://www.neowin.net/news/oxford-scientists-create-light-from-darkness-and-no-its-not-magic/
    WWW.NEOWIN.NET
    Oxford scientists create light from "darkness" and no it's not magic
    Scientists over at the University of Oxford have managed to generate light out of "darkness" and there is no magic involved here, just pure science.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนใช้ฮาร์ดไดรฟ์ขนส่งข้อมูล AI เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านชิป
    บริษัท AI ในจีนกำลังใช้ ฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูง เพื่อขนส่งข้อมูลฝึกสอนโมเดล AI ข้ามพรมแดน หลังจากที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI เช่น Nvidia H100 ซึ่งเป็นชิปที่สำคัญสำหรับการประมวลผล AI.

    รายละเอียดกลยุทธ์ใหม่
    บริษัทจีนใช้ฮาร์ดไดรฟ์แทนการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานสหรัฐฯ.
    นักวิจัยจีนเดินทางไปมาเลเซียพร้อมฮาร์ดไดรฟ์ 15 ลูก ซึ่งมีข้อมูลรวมกว่า 4.8 เพตะไบต์ สำหรับฝึกโมเดล AI.
    ศูนย์ข้อมูลในมาเลเซียกลายเป็นศูนย์กลางการประมวลผล AI ของจีน เนื่องจากมีเซิร์ฟเวอร์ที่มี GPU ประสิทธิภาพสูง.
    บริษัทจีนใช้บริษัทลูกในสิงคโปร์เพื่อเซ็นสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูล แต่ต้องลงทะเบียนในมาเลเซียเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันทางกฎหมาย.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    การขนส่งข้อมูลด้วยฮาร์ดไดรฟ์อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การสูญหายหรือถูกขโมยระหว่างการเดินทาง.
    การใช้ฮาร์ดไดรฟ์แทนการส่งข้อมูลออนไลน์อาจทำให้กระบวนการฝึกโมเดลล่าช้า เนื่องจากต้องรอการขนส่ง.
    สหรัฐฯ อาจเพิ่มมาตรการตรวจสอบการขนส่งฮาร์ดไดรฟ์ เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านชิป.

    แนวทางการรับมือและการพัฒนา
    บริษัทจีนอาจต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ.
    การใช้เทคโนโลยีบีบอัดข้อมูลอาจช่วยลดขนาดไฟล์ ทำให้สามารถส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น.
    การพัฒนา AI ที่ใช้พลังงานต่ำและไม่ต้องพึ่งพา GPU ระดับสูง อาจเป็นทางออกในระยะยาว.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านชิปและ AI
    Nvidia กำลังพัฒนา GPU รุ่นพิเศษสำหรับตลาดจีน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของสหรัฐฯ.
    Huawei เปิดตัวชิป AI ที่เร็วที่สุดของบริษัท หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ แบน Nvidia H20 ในจีน.
    ตลาดศูนย์ข้อมูล AI ในจีนกำลังเผชิญกับปัญหาความต้องการที่ลดลง เนื่องจากข้อจำกัดด้านชิปและการลงทุนที่ชะลอตัว.

    https://www.techradar.com/pro/no-ai-gpu-no-problem-ai-firms-from-china-skirt-around-us-chip-restrictions-by-moving-petabytes-of-data-on-good-ol-hard-drives-but-why-not-use-tape
    จีนใช้ฮาร์ดไดรฟ์ขนส่งข้อมูล AI เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านชิป บริษัท AI ในจีนกำลังใช้ ฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูง เพื่อขนส่งข้อมูลฝึกสอนโมเดล AI ข้ามพรมแดน หลังจากที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI เช่น Nvidia H100 ซึ่งเป็นชิปที่สำคัญสำหรับการประมวลผล AI. รายละเอียดกลยุทธ์ใหม่ ✅ บริษัทจีนใช้ฮาร์ดไดรฟ์แทนการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานสหรัฐฯ. ✅ นักวิจัยจีนเดินทางไปมาเลเซียพร้อมฮาร์ดไดรฟ์ 15 ลูก ซึ่งมีข้อมูลรวมกว่า 4.8 เพตะไบต์ สำหรับฝึกโมเดล AI. ✅ ศูนย์ข้อมูลในมาเลเซียกลายเป็นศูนย์กลางการประมวลผล AI ของจีน เนื่องจากมีเซิร์ฟเวอร์ที่มี GPU ประสิทธิภาพสูง. ✅ บริษัทจีนใช้บริษัทลูกในสิงคโปร์เพื่อเซ็นสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูล แต่ต้องลงทะเบียนในมาเลเซียเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันทางกฎหมาย. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ การขนส่งข้อมูลด้วยฮาร์ดไดรฟ์อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การสูญหายหรือถูกขโมยระหว่างการเดินทาง. ‼️ การใช้ฮาร์ดไดรฟ์แทนการส่งข้อมูลออนไลน์อาจทำให้กระบวนการฝึกโมเดลล่าช้า เนื่องจากต้องรอการขนส่ง. ‼️ สหรัฐฯ อาจเพิ่มมาตรการตรวจสอบการขนส่งฮาร์ดไดรฟ์ เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านชิป. แนวทางการรับมือและการพัฒนา ✅ บริษัทจีนอาจต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ. ✅ การใช้เทคโนโลยีบีบอัดข้อมูลอาจช่วยลดขนาดไฟล์ ทำให้สามารถส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น. ✅ การพัฒนา AI ที่ใช้พลังงานต่ำและไม่ต้องพึ่งพา GPU ระดับสูง อาจเป็นทางออกในระยะยาว. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านชิปและ AI ✅ Nvidia กำลังพัฒนา GPU รุ่นพิเศษสำหรับตลาดจีน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของสหรัฐฯ. ✅ Huawei เปิดตัวชิป AI ที่เร็วที่สุดของบริษัท หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ แบน Nvidia H20 ในจีน. ‼️ ตลาดศูนย์ข้อมูล AI ในจีนกำลังเผชิญกับปัญหาความต้องการที่ลดลง เนื่องจากข้อจำกัดด้านชิปและการลงทุนที่ชะลอตัว. https://www.techradar.com/pro/no-ai-gpu-no-problem-ai-firms-from-china-skirt-around-us-chip-restrictions-by-moving-petabytes-of-data-on-good-ol-hard-drives-but-why-not-use-tape
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิดีโออีกหนึ่งมุมช่วงเวลาที่ขีปนาวุธอิหร่านโจมตีนิคมเปตาห์ติกวา (Petah Tikva) ตอนกลางของอิสราเอล ใกล้กับเทลอาวีฟ
    วิดีโออีกหนึ่งมุมช่วงเวลาที่ขีปนาวุธอิหร่านโจมตีนิคมเปตาห์ติกวา (Petah Tikva) ตอนกลางของอิสราเอล ใกล้กับเทลอาวีฟ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาคารสูงระฟ้าในเขตเปตาห์ติกวา (Petah Tikva) ตอนกลางของอิสราเอล ได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังได้รับผลกระทบจากขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่าน
    อาคารสูงระฟ้าในเขตเปตาห์ติกวา (Petah Tikva) ตอนกลางของอิสราเอล ได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังได้รับผลกระทบจากขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • Inversion Semiconductor เตรียมปฏิวัติการผลิตชิปด้วยเครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็ก
    Inversion Semiconductor ซึ่งเป็น สตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจาก Y Combinator กำลังพัฒนา เครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็กแบบตั้งโต๊ะ ที่สามารถ เพิ่มความเร็วในการผลิตชิปได้ถึง 15 เท่า โดยใช้ เทคนิค Laser Wakefield Acceleration (LWFA)

    วิธีการทำงานของเครื่องเร่งอนุภาค
    เครื่องเร่งอนุภาคของ Inversion Semiconductor มีขนาดเล็กกว่าเครื่องเร่งอนุภาคทั่วไปถึง 1,000 เท่า แต่สามารถ ให้กำลังสูงสุดถึง 10 kW ซึ่งมากกว่าเทคโนโลยีของ ASML ถึง 10 เท่า

    ข้อมูลจากข่าว
    - Inversion Semiconductor พัฒนาเครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็กเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตชิป
    - เทคโนโลยีนี้สามารถเพิ่มความเร็วในการผลิตชิปได้ถึง 15 เท่า
    - ใช้ Laser Wakefield Acceleration (LWFA) ซึ่งช่วยให้สามารถเร่งอิเล็กตรอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - เครื่องเร่งอนุภาคนี้มีขนาดเล็กกว่าเครื่องเร่งอนุภาคทั่วไปถึง 1,000 เท่า
    - สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 10 kW ซึ่งมากกว่าเทคโนโลยีของ ASML ถึง 10 เท่า

    ความท้าทายในการพัฒนาเทคโนโลยี
    แม้ว่าแนวคิดนี้จะมีศักยภาพสูง แต่ต้องใช้เลเซอร์ระดับเพตะวัตต์ ซึ่งมีต้นทุนสูงและต้องการระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ต้องใช้เลเซอร์ระดับเพตะวัตต์ ซึ่งมีต้นทุนสูงและใช้พลังงานมาก
    - Inversion Semiconductor ไม่มีประสบการณ์ในการผลิตเครื่องมือสำหรับโรงงานที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง
    - ต้องพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด หากไม่สามารถร่วมมือกับ ASML หรือผู้ผลิตเครื่องมืออื่น ๆ
    - การใช้แหล่งกำเนิดแสงที่มีความยาวคลื่นต่ำกว่า 10nm อาจมีข้อจำกัดด้านการดูดซับแสงของวัสดุ

    หาก Inversion Semiconductor สามารถพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้สำเร็จ อาจช่วยให้ การผลิตชิปมีความเร็วสูงขึ้นและลดต้นทุน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าบริษัทจะสามารถแก้ไขข้อจำกัดทางเทคนิคได้หรือไม่


    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/plans-to-shrink-particle-accelerators-by-1000x-could-speed-chipmaking-by-15x-inversion-semiconductor-proposes-tabletop-particle-accelerators-with-petawatt-lasers
    ⚡ Inversion Semiconductor เตรียมปฏิวัติการผลิตชิปด้วยเครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็ก Inversion Semiconductor ซึ่งเป็น สตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจาก Y Combinator กำลังพัฒนา เครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็กแบบตั้งโต๊ะ ที่สามารถ เพิ่มความเร็วในการผลิตชิปได้ถึง 15 เท่า โดยใช้ เทคนิค Laser Wakefield Acceleration (LWFA) 🔍 วิธีการทำงานของเครื่องเร่งอนุภาค เครื่องเร่งอนุภาคของ Inversion Semiconductor มีขนาดเล็กกว่าเครื่องเร่งอนุภาคทั่วไปถึง 1,000 เท่า แต่สามารถ ให้กำลังสูงสุดถึง 10 kW ซึ่งมากกว่าเทคโนโลยีของ ASML ถึง 10 เท่า ✅ ข้อมูลจากข่าว - Inversion Semiconductor พัฒนาเครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็กเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตชิป - เทคโนโลยีนี้สามารถเพิ่มความเร็วในการผลิตชิปได้ถึง 15 เท่า - ใช้ Laser Wakefield Acceleration (LWFA) ซึ่งช่วยให้สามารถเร่งอิเล็กตรอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ - เครื่องเร่งอนุภาคนี้มีขนาดเล็กกว่าเครื่องเร่งอนุภาคทั่วไปถึง 1,000 เท่า - สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 10 kW ซึ่งมากกว่าเทคโนโลยีของ ASML ถึง 10 เท่า 🔥 ความท้าทายในการพัฒนาเทคโนโลยี แม้ว่าแนวคิดนี้จะมีศักยภาพสูง แต่ต้องใช้เลเซอร์ระดับเพตะวัตต์ ซึ่งมีต้นทุนสูงและต้องการระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ต้องใช้เลเซอร์ระดับเพตะวัตต์ ซึ่งมีต้นทุนสูงและใช้พลังงานมาก - Inversion Semiconductor ไม่มีประสบการณ์ในการผลิตเครื่องมือสำหรับโรงงานที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง - ต้องพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด หากไม่สามารถร่วมมือกับ ASML หรือผู้ผลิตเครื่องมืออื่น ๆ - การใช้แหล่งกำเนิดแสงที่มีความยาวคลื่นต่ำกว่า 10nm อาจมีข้อจำกัดด้านการดูดซับแสงของวัสดุ หาก Inversion Semiconductor สามารถพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้สำเร็จ อาจช่วยให้ การผลิตชิปมีความเร็วสูงขึ้นและลดต้นทุน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าบริษัทจะสามารถแก้ไขข้อจำกัดทางเทคนิคได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/plans-to-shrink-particle-accelerators-by-1000x-could-speed-chipmaking-by-15x-inversion-semiconductor-proposes-tabletop-particle-accelerators-with-petawatt-lasers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • Dell เปิดตัวแล็ปท็อป AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อม NPU ระดับองค์กร

    Dell เปิดตัว Dell Pro Max Plus ซึ่งเป็นแล็ปท็อป AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ NPU ระดับองค์กร โดยใช้ Qualcomm AI 100 PC Inference Card ที่มี 32 AI-cores และหน่วยความจำ 64GB ซึ่งช่วยให้สามารถ ประมวลผลงาน AI ที่มีความเข้มข้นสูงได้แม้ในขณะเดินทาง

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Dell Pro Max Plus
    Dell Pro Max Plus เป็นแล็ปท็อปเครื่องแรกที่มี NPU ระดับองค์กร
    - ใช้ Qualcomm AI 100 PC Inference Card ที่มี 32 AI-cores และ 64GB RAM

    สามารถรองรับงาน AI ที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่
    - เหมาะสำหรับ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและวิศวกร AI

    มาพร้อมกับ Nvidia GB300 ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดถึง 20 petaflops
    - สามารถ รันและฝึกโมเดลที่มีพารามิเตอร์ระดับล้านล้านได้

    Dell เน้นว่าแล็ปท็อป AI กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม
    - CEO Michael Dell ระบุว่า Windows 10 กำลังจะหมดอายุ และ AI PC จะเป็นอนาคตของการทำงาน

    มีหน่วยความจำสูงสุดถึง 800GB เพื่อรองรับงาน AI ที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก
    - ทำให้ สามารถจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.techradar.com/pro/dells-super-powered-new-mobile-workstation-has-one-crucial-feature-which-sets-it-apart-from-all-the-competition
    Dell เปิดตัวแล็ปท็อป AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อม NPU ระดับองค์กร Dell เปิดตัว Dell Pro Max Plus ซึ่งเป็นแล็ปท็อป AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ NPU ระดับองค์กร โดยใช้ Qualcomm AI 100 PC Inference Card ที่มี 32 AI-cores และหน่วยความจำ 64GB ซึ่งช่วยให้สามารถ ประมวลผลงาน AI ที่มีความเข้มข้นสูงได้แม้ในขณะเดินทาง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Dell Pro Max Plus ✅ Dell Pro Max Plus เป็นแล็ปท็อปเครื่องแรกที่มี NPU ระดับองค์กร - ใช้ Qualcomm AI 100 PC Inference Card ที่มี 32 AI-cores และ 64GB RAM ✅ สามารถรองรับงาน AI ที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ - เหมาะสำหรับ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและวิศวกร AI ✅ มาพร้อมกับ Nvidia GB300 ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดถึง 20 petaflops - สามารถ รันและฝึกโมเดลที่มีพารามิเตอร์ระดับล้านล้านได้ ✅ Dell เน้นว่าแล็ปท็อป AI กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม - CEO Michael Dell ระบุว่า Windows 10 กำลังจะหมดอายุ และ AI PC จะเป็นอนาคตของการทำงาน ✅ มีหน่วยความจำสูงสุดถึง 800GB เพื่อรองรับงาน AI ที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก - ทำให้ สามารถจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.techradar.com/pro/dells-super-powered-new-mobile-workstation-has-one-crucial-feature-which-sets-it-apart-from-all-the-competition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแอริโซนาเผยเทคโนโลยีทรานซิสเตอร์ความเร็วระดับเพตะเฮิรตซ์

    ทีมนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยแอริโซนา ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการพัฒนา ทรานซิสเตอร์ที่สามารถทำงานด้วยความเร็วระดับเพตะเฮิรตซ์ ซึ่งเร็วกว่าชิปคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันหลายล้านเท่า โดยใช้ พัลส์แสงอัลตราฟาสต์ควบคุมการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนในกราฟีน

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับทรานซิสเตอร์เพตะเฮิรตซ์
    ทรานซิสเตอร์ใหม่นี้ใช้พัลส์เลเซอร์ที่มีความเร็ว 638 อัตโตวินาที
    - อัตโตวินาที เท่ากับหนึ่งในพันล้านล้านวินาที

    นักวิจัยใช้กราฟีนที่มีโครงสร้างบางเพียงหนึ่งอะตอม
    - ทำให้ สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนได้อย่างแม่นยำ

    เทคโนโลยีนี้อาศัยปรากฏการณ์ควอนตัมทันเนลลิง
    - อิเล็กตรอนสามารถ ข้ามสิ่งกีดขวางได้แทบจะทันทีเมื่อถูกยิงด้วยพัลส์เลเซอร์

    ทรานซิสเตอร์นี้สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมทั่วไป ไม่ต้องใช้ห้องทดลองพิเศษ
    - เปิดโอกาสให้ สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมได้ง่ายขึ้น

    นักวิจัยกำลังทำงานร่วมกับ Tech Launch Arizona เพื่อจดสิทธิบัตรและพัฒนาเชิงพาณิชย์
    - เป้าหมายคือ ทำให้เทคโนโลยีนี้สามารถใช้กับเลเซอร์ที่มีจำหน่ายทั่วไป

    https://www.techspot.com/news/108050-university-arizona-scientists-unveil-breakthrough-petahertz-speed-transistor.html
    นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแอริโซนาเผยเทคโนโลยีทรานซิสเตอร์ความเร็วระดับเพตะเฮิรตซ์ ทีมนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยแอริโซนา ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการพัฒนา ทรานซิสเตอร์ที่สามารถทำงานด้วยความเร็วระดับเพตะเฮิรตซ์ ซึ่งเร็วกว่าชิปคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันหลายล้านเท่า โดยใช้ พัลส์แสงอัลตราฟาสต์ควบคุมการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนในกราฟีน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับทรานซิสเตอร์เพตะเฮิรตซ์ ✅ ทรานซิสเตอร์ใหม่นี้ใช้พัลส์เลเซอร์ที่มีความเร็ว 638 อัตโตวินาที - อัตโตวินาที เท่ากับหนึ่งในพันล้านล้านวินาที ✅ นักวิจัยใช้กราฟีนที่มีโครงสร้างบางเพียงหนึ่งอะตอม - ทำให้ สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนได้อย่างแม่นยำ ✅ เทคโนโลยีนี้อาศัยปรากฏการณ์ควอนตัมทันเนลลิง - อิเล็กตรอนสามารถ ข้ามสิ่งกีดขวางได้แทบจะทันทีเมื่อถูกยิงด้วยพัลส์เลเซอร์ ✅ ทรานซิสเตอร์นี้สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมทั่วไป ไม่ต้องใช้ห้องทดลองพิเศษ - เปิดโอกาสให้ สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมได้ง่ายขึ้น ✅ นักวิจัยกำลังทำงานร่วมกับ Tech Launch Arizona เพื่อจดสิทธิบัตรและพัฒนาเชิงพาณิชย์ - เป้าหมายคือ ทำให้เทคโนโลยีนี้สามารถใช้กับเลเซอร์ที่มีจำหน่ายทั่วไป https://www.techspot.com/news/108050-university-arizona-scientists-unveil-breakthrough-petahertz-speed-transistor.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    University of Arizona scientists unveil breakthrough petahertz-speed transistor
    A team of scientists has unveiled a breakthrough that could one day propel computers to operate at speeds millions of times faster than today's most advanced processors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • Phison เปิดตัว SSD X200Z ที่ทำลายสถิติด้านความเร็วและความทนทาน

    Phison เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ X200Z ซึ่งเป็น SSD ระดับองค์กรที่มีความเร็วและความทนทานสูงสุดในตลาด โดยสามารถ เขียนข้อมูลเต็มไดรฟ์ทุก 24 นาที และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ารุ่นอื่น ๆ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Phison X200Z
    ใช้เทคโนโลยี SLC Flash และอินเทอร์เฟซ PCIe Gen5 x4
    - ช่วยให้ มีความเร็วในการอ่านสูงสุดถึง 15,026 MB/s และเขียนมากกว่า 10,200 MB/s

    มีความสามารถในการเขียนข้อมูล 60 DWPD (Drive Writes Per Day)
    - เทียบเท่ากับ การเขียนข้อมูลเต็มไดรฟ์ทุก 24 นาที

    ออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ศูนย์ข้อมูลและแพลตฟอร์มวิดีโอ
    - มีอายุการใช้งาน สูงถึง 350 Petabytes

    รองรับฟอร์มแฟกเตอร์ U.2 และ E3.S พร้อมการเชื่อมต่อแบบ Dual-Port
    - ช่วยให้ สามารถใช้งานในระบบที่ต้องการความเร็วและความเสถียรสูง

    ได้รับการทดสอบโดย TweakTown และได้รับคำชมว่าเป็น SSD ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
    - มีประสิทธิภาพ สูงสุดในงานที่ต้องใช้การอ่านและเขียนแบบสุ่ม

    https://www.techradar.com/pro/this-extraordinary-ssd-can-do-something-no-other-ssd-can-do-a-full-groundhog-day-write-every-24-minutes
    Phison เปิดตัว SSD X200Z ที่ทำลายสถิติด้านความเร็วและความทนทาน Phison เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ X200Z ซึ่งเป็น SSD ระดับองค์กรที่มีความเร็วและความทนทานสูงสุดในตลาด โดยสามารถ เขียนข้อมูลเต็มไดรฟ์ทุก 24 นาที และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ารุ่นอื่น ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Phison X200Z ✅ ใช้เทคโนโลยี SLC Flash และอินเทอร์เฟซ PCIe Gen5 x4 - ช่วยให้ มีความเร็วในการอ่านสูงสุดถึง 15,026 MB/s และเขียนมากกว่า 10,200 MB/s ✅ มีความสามารถในการเขียนข้อมูล 60 DWPD (Drive Writes Per Day) - เทียบเท่ากับ การเขียนข้อมูลเต็มไดรฟ์ทุก 24 นาที ✅ ออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ศูนย์ข้อมูลและแพลตฟอร์มวิดีโอ - มีอายุการใช้งาน สูงถึง 350 Petabytes ✅ รองรับฟอร์มแฟกเตอร์ U.2 และ E3.S พร้อมการเชื่อมต่อแบบ Dual-Port - ช่วยให้ สามารถใช้งานในระบบที่ต้องการความเร็วและความเสถียรสูง ✅ ได้รับการทดสอบโดย TweakTown และได้รับคำชมว่าเป็น SSD ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา - มีประสิทธิภาพ สูงสุดในงานที่ต้องใช้การอ่านและเขียนแบบสุ่ม https://www.techradar.com/pro/this-extraordinary-ssd-can-do-something-no-other-ssd-can-do-a-full-groundhog-day-write-every-24-minutes
    WWW.TECHRADAR.COM
    Built for endurance, Phison X200Z hits speeds and lifespans never seen before
    Phison Pascari X200Z SSD declared "incredible" in first review
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • ZEUS: เลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ ทำลายสถิติ 2 เพตะวัตต์

    มหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดตัว ZEUS ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ โดยสามารถ สร้างพลังงานสูงถึง 2 เพตะวัตต์ ซึ่งมากกว่ากำลังไฟฟ้าทั้งหมดของโลกถึง 100 เท่า แม้ว่าพลังงานนี้จะคงอยู่เพียง 25 ควินทริลเลียนวินาที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ ZEUS
    ZEUS เป็นเลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ ด้วยกำลัง 2 เพตะวัตต์
    - มากกว่ากำลังไฟฟ้าทั้งหมดของโลกถึง 100 เท่า

    ใช้เทคโนโลยี Double Chirped Pulse Amplifier และ Acousto-Optic Filters
    - ช่วยให้ สามารถสร้างพัลส์เลเซอร์ที่สั้นและทรงพลังได้

    มีพื้นที่ทดลอง 3 ส่วน รองรับการทดลองด้านฟิสิกส์พลาสมาและการเร่งอนุภาค
    - สามารถ เร่งอิเล็กตรอนได้ถึง 5 GeV

    ได้รับการสนับสนุนจาก National Science Foundation และเปิดให้ทีมนักวิจัยทั่วโลกใช้งาน
    - ผ่านกระบวนการคัดเลือกโครงการทดลองอย่างเข้มงวด

    มีแผนพัฒนาไปสู่ระดับ 3 เพตะวัตต์ภายในปีนี้
    - จะช่วยให้ สามารถศึกษาปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่ซับซ้อนมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/107997-america-most-powerful-laser-reaches-2-petawatts-raising.html
    ZEUS: เลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ ทำลายสถิติ 2 เพตะวัตต์ มหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดตัว ZEUS ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ โดยสามารถ สร้างพลังงานสูงถึง 2 เพตะวัตต์ ซึ่งมากกว่ากำลังไฟฟ้าทั้งหมดของโลกถึง 100 เท่า แม้ว่าพลังงานนี้จะคงอยู่เพียง 25 ควินทริลเลียนวินาที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ ZEUS ✅ ZEUS เป็นเลเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในสหรัฐฯ ด้วยกำลัง 2 เพตะวัตต์ - มากกว่ากำลังไฟฟ้าทั้งหมดของโลกถึง 100 เท่า ✅ ใช้เทคโนโลยี Double Chirped Pulse Amplifier และ Acousto-Optic Filters - ช่วยให้ สามารถสร้างพัลส์เลเซอร์ที่สั้นและทรงพลังได้ ✅ มีพื้นที่ทดลอง 3 ส่วน รองรับการทดลองด้านฟิสิกส์พลาสมาและการเร่งอนุภาค - สามารถ เร่งอิเล็กตรอนได้ถึง 5 GeV ✅ ได้รับการสนับสนุนจาก National Science Foundation และเปิดให้ทีมนักวิจัยทั่วโลกใช้งาน - ผ่านกระบวนการคัดเลือกโครงการทดลองอย่างเข้มงวด ✅ มีแผนพัฒนาไปสู่ระดับ 3 เพตะวัตต์ภายในปีนี้ - จะช่วยให้ สามารถศึกษาปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่ซับซ้อนมากขึ้น https://www.techspot.com/news/107997-america-most-powerful-laser-reaches-2-petawatts-raising.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The most powerful laser in the US reaches 2 petawatts, setting new records
    The ZEUS laser facility at the University of Michigan has vaulted the United States to the forefront of high-intensity laser science. In its first official experiment, ZEUS...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉลองพระองค์ไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบปักลูกปัด
    พระภูษาผ้าไหมยกดอก ลายกลีบบงกช

    ภูฏานเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ยอมรับนับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ เป็นศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ นิกายตันตรยานหรือวัชรยานถือกำเนิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของพัฒนาการอันยาวนานของพุทธศาสนา พุทธศาสนาตันตรายานสูญหายไปจากอินเดียซึ่งเป็นดินแดนต้นกำเนิดในช่วงที่พวกมุสลิมยกมารุกรานในต้นศตวรรษที่ ๑๓ และไปรุ่งเรืองอยู่ในทิเบต ลาดัคห์ สิกขิม มองโกเลีย ภาคเหนือของเนปาล ภูฏาน จีน และญี่ปุ่นแทน

    สิ่งที่ชาวภูฏานถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล ๘ ประการ ของชีวิตตามความเชื่อและความศรัทธา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะปรากฎเป็นรูปเคารพตามโบราณสถาน ตลอดจนในบ้านเรือน ของผู้นับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ หนึ่งสิ่งนั้นคือ ปัทมะ

    ปัทมะ หรือ ดอกบัว (Lotus หรือ meto pema) ดอกบัวมีความหมายเหมือนสังข์ขาว ดอกบัวถือเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ดังพุทธวัจนะที่ว่า “ดอกบัวเกิดแต่โคลนตมในนน้ำ แต่ไม่เปียกน้ำ พระพุทธเจ้าก็เช่นกัน เกิดในโลก แต่ไม่เปรอะเปื้อนด้วยมลทินของโลกฉันนั้น”
    -------
    HER ROYAL ATTIRE IN THAI AMARIN
    EMBROIDERED BEADS LUMPHUN BROCADE SILK
    PETALS OF LOTUS MOTIF

    Bhutan is the only country in the world to accept Tantric Mahayana Buddhism as its official state religion. Tantric or Vajrayana Buddhism emerged at the end of a long development of Buddhism. Tantric Buddhism disappeared from its homeland of India during the Muslim invasions in the early 13th century and flourished instead in Tibet, Ladakh, Sikkim, Mongolia, northern Nepal, Bhutan, China and Japan.

    The Bhutanese believe in the Eight Auspicious Symbols of Life, which are often depicted in ancient monuments and in the homes of Tantric Mahayana Buddhists. One of these is the Padma.

    The Padma or Lotus (meto pema) is like a white conch shell. The lotus is considered to represent the Buddha, as the Buddha said: “A lotus flower is born from the mud in the water, but it is not wet with water. Similarly, the Buddha was born in the world, but it was not stained by the world’s impurities.”
    _________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    ฉลองพระองค์ไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบปักลูกปัด พระภูษาผ้าไหมยกดอก ลายกลีบบงกช ภูฏานเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ยอมรับนับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ เป็นศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ นิกายตันตรยานหรือวัชรยานถือกำเนิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของพัฒนาการอันยาวนานของพุทธศาสนา พุทธศาสนาตันตรายานสูญหายไปจากอินเดียซึ่งเป็นดินแดนต้นกำเนิดในช่วงที่พวกมุสลิมยกมารุกรานในต้นศตวรรษที่ ๑๓ และไปรุ่งเรืองอยู่ในทิเบต ลาดัคห์ สิกขิม มองโกเลีย ภาคเหนือของเนปาล ภูฏาน จีน และญี่ปุ่นแทน สิ่งที่ชาวภูฏานถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล ๘ ประการ ของชีวิตตามความเชื่อและความศรัทธา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะปรากฎเป็นรูปเคารพตามโบราณสถาน ตลอดจนในบ้านเรือน ของผู้นับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ หนึ่งสิ่งนั้นคือ ปัทมะ ปัทมะ หรือ ดอกบัว (Lotus หรือ meto pema) ดอกบัวมีความหมายเหมือนสังข์ขาว ดอกบัวถือเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ดังพุทธวัจนะที่ว่า “ดอกบัวเกิดแต่โคลนตมในนน้ำ แต่ไม่เปียกน้ำ พระพุทธเจ้าก็เช่นกัน เกิดในโลก แต่ไม่เปรอะเปื้อนด้วยมลทินของโลกฉันนั้น” ------- HER ROYAL ATTIRE IN THAI AMARIN EMBROIDERED BEADS LUMPHUN BROCADE SILK PETALS OF LOTUS MOTIF Bhutan is the only country in the world to accept Tantric Mahayana Buddhism as its official state religion. Tantric or Vajrayana Buddhism emerged at the end of a long development of Buddhism. Tantric Buddhism disappeared from its homeland of India during the Muslim invasions in the early 13th century and flourished instead in Tibet, Ladakh, Sikkim, Mongolia, northern Nepal, Bhutan, China and Japan. The Bhutanese believe in the Eight Auspicious Symbols of Life, which are often depicted in ancient monuments and in the homes of Tantric Mahayana Buddhists. One of these is the Padma. The Padma or Lotus (meto pema) is like a white conch shell. The lotus is considered to represent the Buddha, as the Buddha said: “A lotus flower is born from the mud in the water, but it is not wet with water. Similarly, the Buddha was born in the world, but it was not stained by the world’s impurities.” _________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 756 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเปิดตัวเครือข่ายดาวเทียมคอมพิวเตอร์ในอวกาศ

    จีน ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม 12 ดวงแรกของโครงการ "Satellite Computing" ซึ่งเป็นเครือข่ายดาวเทียมที่มีความสามารถในการประมวลผล AI ในวงโคจรของโลก โครงการนี้มีเป้าหมาย เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ในอวกาศ และสามารถรองรับการประมวลผลแบบเรียลไทม์

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเครือข่ายดาวเทียมคอมพิวเตอร์ของจีน
    ดาวเทียม 12 ดวงแรกถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด Long March-2D
    - เป็น ก้าวแรกของเครือข่ายที่วางแผนจะมีทั้งหมด 2,800 ดวง

    แต่ละดาวเทียมมีความสามารถในการประมวลผลสูงถึง 5 peta-operations per second (POPS)
    - เป้าหมายระยะยาว คือการสร้างเครือข่ายที่สามารถประมวลผลได้ถึง 1,000 POPS

    ดาวเทียมใช้ระบบสื่อสารด้วยเลเซอร์ที่มีความเร็ว 100 Gbps
    - ช่วยให้ สามารถส่งข้อมูลระหว่างดาวเทียมได้อย่างรวดเร็ว

    มีเซ็นเซอร์ X-ray ที่พัฒนาโดย Guangxi University เพื่อศึกษาปรากฏการณ์ในอวกาศ
    - เช่น การระเบิดของรังสีแกมมา

    โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ADA Space และ Zhejiang Lab ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลจีนและ Alibaba Group
    - รวมถึง SoftStone และ Kepu Cloud ที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน

    https://www.techspot.com/news/107969-china-launches-first-12-satellites-massive-computing-constellation.html
    จีนเปิดตัวเครือข่ายดาวเทียมคอมพิวเตอร์ในอวกาศ จีน ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม 12 ดวงแรกของโครงการ "Satellite Computing" ซึ่งเป็นเครือข่ายดาวเทียมที่มีความสามารถในการประมวลผล AI ในวงโคจรของโลก โครงการนี้มีเป้าหมาย เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ในอวกาศ และสามารถรองรับการประมวลผลแบบเรียลไทม์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเครือข่ายดาวเทียมคอมพิวเตอร์ของจีน ✅ ดาวเทียม 12 ดวงแรกถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด Long March-2D - เป็น ก้าวแรกของเครือข่ายที่วางแผนจะมีทั้งหมด 2,800 ดวง ✅ แต่ละดาวเทียมมีความสามารถในการประมวลผลสูงถึง 5 peta-operations per second (POPS) - เป้าหมายระยะยาว คือการสร้างเครือข่ายที่สามารถประมวลผลได้ถึง 1,000 POPS ✅ ดาวเทียมใช้ระบบสื่อสารด้วยเลเซอร์ที่มีความเร็ว 100 Gbps - ช่วยให้ สามารถส่งข้อมูลระหว่างดาวเทียมได้อย่างรวดเร็ว ✅ มีเซ็นเซอร์ X-ray ที่พัฒนาโดย Guangxi University เพื่อศึกษาปรากฏการณ์ในอวกาศ - เช่น การระเบิดของรังสีแกมมา ✅ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ADA Space และ Zhejiang Lab ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลจีนและ Alibaba Group - รวมถึง SoftStone และ Kepu Cloud ที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน https://www.techspot.com/news/107969-china-launches-first-12-satellites-massive-computing-constellation.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    China launches the first 12 satellites of a massive computing constellation in space
    While Eric Schmidt and other Western space entrepreneurs are still exploring the idea of orbital data centers, Chinese companies have already begun moving forward. Last week, China...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • DeepSeek บริษัทที่สร้างชื่อเสียงในวงการ AI ด้วยโมเดล R1 กำลังเตรียมเปิดตัวโมเดลใหม่ที่ชื่อว่า DeepSeek R2 ซึ่งมีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงถึง 512 PetaFLOPS โดยใช้ชิป Huawei Ascend 910B และระบบการฝึกอบรมแบบกระจายที่พัฒนาโดย DeepSeek เอง โมเดลนี้มีการปรับปรุงการใช้งานชิปให้มีประสิทธิภาพถึง 82% และลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมต่อหน่วยลงถึง 97.3%

    DeepSeek R2 ยังมีการสนับสนุนจากพันธมิตรหลายราย เช่น Tuowei Information ที่จัดการคำสั่งซื้อฮาร์ดแวร์กว่า 50% และ Sugon ที่ให้บริการตู้เซิร์ฟเวอร์ระบายความร้อนด้วยของเหลวที่รองรับพลังงานสูงถึง 40 kW ต่อหน่วย นอกจากนี้ Huawei ยังเตรียมเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ซึ่งเป็นทางเลือกในประเทศสำหรับ NVIDIA GB200 NVL72 โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่าในด้านการประมวลผลรวมและความจุ HBM

    ประสิทธิภาพการประมวลผล
    - DeepSeek R2 มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงถึง 512 PetaFLOPS
    - ใช้ชิป Huawei Ascend 910B และระบบการฝึกอบรมแบบกระจาย

    การลดค่าใช้จ่าย
    - ลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมต่อหน่วยลงถึง 97.3%

    การสนับสนุนจากพันธมิตร
    - Tuowei Information จัดการคำสั่งซื้อฮาร์ดแวร์กว่า 50%
    - Sugon ให้บริการตู้เซิร์ฟเวอร์ระบายความร้อนด้วยของเหลว

    การใช้งานในโครงการสมาร์ทซิตี้
    - DeepSeek R2 สนับสนุนโครงการสมาร์ทซิตี้ใน 15 จังหวัดผ่านแพลตฟอร์ม Yun Sai Zhilian

    การเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384
    - Huawei เตรียมเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า NVIDIA GB200 NVL72

    https://www.techpowerup.com/335984/deepseek-r2-leak-reveals-512-petaflops-push-on-domestic-ai-accelerator-infrastructure
    DeepSeek บริษัทที่สร้างชื่อเสียงในวงการ AI ด้วยโมเดล R1 กำลังเตรียมเปิดตัวโมเดลใหม่ที่ชื่อว่า DeepSeek R2 ซึ่งมีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงถึง 512 PetaFLOPS โดยใช้ชิป Huawei Ascend 910B และระบบการฝึกอบรมแบบกระจายที่พัฒนาโดย DeepSeek เอง โมเดลนี้มีการปรับปรุงการใช้งานชิปให้มีประสิทธิภาพถึง 82% และลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมต่อหน่วยลงถึง 97.3% DeepSeek R2 ยังมีการสนับสนุนจากพันธมิตรหลายราย เช่น Tuowei Information ที่จัดการคำสั่งซื้อฮาร์ดแวร์กว่า 50% และ Sugon ที่ให้บริการตู้เซิร์ฟเวอร์ระบายความร้อนด้วยของเหลวที่รองรับพลังงานสูงถึง 40 kW ต่อหน่วย นอกจากนี้ Huawei ยังเตรียมเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ซึ่งเป็นทางเลือกในประเทศสำหรับ NVIDIA GB200 NVL72 โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่าในด้านการประมวลผลรวมและความจุ HBM ✅ ประสิทธิภาพการประมวลผล - DeepSeek R2 มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงถึง 512 PetaFLOPS - ใช้ชิป Huawei Ascend 910B และระบบการฝึกอบรมแบบกระจาย ✅ การลดค่าใช้จ่าย - ลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมต่อหน่วยลงถึง 97.3% ✅ การสนับสนุนจากพันธมิตร - Tuowei Information จัดการคำสั่งซื้อฮาร์ดแวร์กว่า 50% - Sugon ให้บริการตู้เซิร์ฟเวอร์ระบายความร้อนด้วยของเหลว ✅ การใช้งานในโครงการสมาร์ทซิตี้ - DeepSeek R2 สนับสนุนโครงการสมาร์ทซิตี้ใน 15 จังหวัดผ่านแพลตฟอร์ม Yun Sai Zhilian ✅ การเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 - Huawei เตรียมเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า NVIDIA GB200 NVL72 https://www.techpowerup.com/335984/deepseek-r2-leak-reveals-512-petaflops-push-on-domestic-ai-accelerator-infrastructure
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    DeepSeek R2 Leak Reveals 512 PetaFLOPS Push on Domestic AI Accelerator Infrastructure
    DeepSeek, a company that took the AI world by storm with its R1 model, is preparing a new and reportedly much improved DeepSeek R2 model release, according to a well-known AI insider @iruletheworldmo on X. Powered by Huawei's Ascend 910B chip clusters, a possible Huawei Atlas 900, and DeepSeek's in-...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 423 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคาะวันเปิด LRT3 มาเลเซีย 30 กันยายน 2025

    ในที่สุดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาสายชาห์อลัม (Shah Alam Line) หรือ LRT3 รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เชื่อมระหว่างสถานีบันดาร์ อูตามา (Bandar Utama) กับสถานีโยฮัน เซเตีย (Johan Setia) มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 30 ก.ย. 2568 หลังส่งมอบโครงการให้กับบริษัท ปราซารานา (Prasarana) ในวันที่ 31 ก.ค. 2568 ตามที่กระทรวงคมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวันพุธ (26 ก.พ.) ระบุว่าความคืบหน้าของโครงการอยู่ที่ 98.16%

    สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายที่ 3 (LRT3) ถือเป็นระบบขนส่งมวลชนลำดับที่ 11 ในหุบเขาแคลง มีระยะทาง 37 กิโลเมตร รวมทั้งอุโมงค์ความยาว 2 กิโลเมตร พาดผ่านเขตเปตาลิง จายา (Petaling Jaya) ชาห์อลัม (Shah Alam) และแคลง (Klang) รองรับประชากรมากกว่า 2 ล้านคน มีสถานีรถไฟฟ้า 20 สถานี และอีก 5 สถานีที่ก่อสร้างเพิ่มเติม พร้อมที่จอดรถ 6 สถานี รองรับรถยนต์รวม 2,000 คัน

    ส่วนขบวนรถมี 3 ตู้ รวม 22 ขบวน ผลิตโดยบริษัท CRRC Corporation รองรับผู้โดยสารสูงสุด 18,630 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการความถี่ทุก 6 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 67,000 เที่ยวคนต่อวัน

    จุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานีบันดาร์ อูตามา ใกล้กับศูนย์การค้าวันอูตามา (1 Utama) ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ผ่านสถานที่สำคัญอย่างสนามกีฬาชาห์อลัม (Stadium Shah Alam) มัสยิดสุลต่านซาลาฮุดดินอับดุลอาซิซ (Masjid Sultan Salahuddin Abdul Aziz Shah) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยียูไอทีเอ็ม (UiTM) โครงการไอ-ซิตี้ (i-City) สวนสนุกไอ-ซิตี้ ธีมพาร์ค (i-City Theme Park) มัสยิดบันดาร์ดิราจาแคลงอูตารา (Masjid Bandar Diraja Klang Utara)

    มีสถานีเชื่อมต่อ ได้แก่ 1. สถานีบันดาร์ อูตามา เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สายกาจัง (MRT Kajang Line) เส้นทางระหว่างสถานีควาซาดามานซารา (Kwasa Damansara) กับสถานีกาจัง (Kajang) ผ่านสถานีบูกิตบินตัง (Bukit Bintang) และสถานีตุนราซัคเอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange)

    2. สถานีเกลนมารี 2 (Glenmarie 2) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า LRT สายเกลานา จายา (Kelana Jaya Line) เส้นทางระหว่างสถานีปูตราไฮต์ (Putra Heights) กับสถานีกอมบัค (Gombak) ผ่านสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) และสถานีเคแอลซีซี (KLCC) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์

    อนึ่ง ที่สถานีเซคชันตูจู (Seksyen 7) บริเวณเขต 7 ของรัฐสลังงอร์ มีศูนย์การค้าเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ (Central i-City) ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาจากประเทศไทย ลงทุนร่วมกับไอ-เบอร์ฮัด (I-Berhad) เปิดให้บริการเมื่อปี 2562

    #Newskit
    เคาะวันเปิด LRT3 มาเลเซีย 30 กันยายน 2025 ในที่สุดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาสายชาห์อลัม (Shah Alam Line) หรือ LRT3 รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เชื่อมระหว่างสถานีบันดาร์ อูตามา (Bandar Utama) กับสถานีโยฮัน เซเตีย (Johan Setia) มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 30 ก.ย. 2568 หลังส่งมอบโครงการให้กับบริษัท ปราซารานา (Prasarana) ในวันที่ 31 ก.ค. 2568 ตามที่กระทรวงคมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวันพุธ (26 ก.พ.) ระบุว่าความคืบหน้าของโครงการอยู่ที่ 98.16% สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายที่ 3 (LRT3) ถือเป็นระบบขนส่งมวลชนลำดับที่ 11 ในหุบเขาแคลง มีระยะทาง 37 กิโลเมตร รวมทั้งอุโมงค์ความยาว 2 กิโลเมตร พาดผ่านเขตเปตาลิง จายา (Petaling Jaya) ชาห์อลัม (Shah Alam) และแคลง (Klang) รองรับประชากรมากกว่า 2 ล้านคน มีสถานีรถไฟฟ้า 20 สถานี และอีก 5 สถานีที่ก่อสร้างเพิ่มเติม พร้อมที่จอดรถ 6 สถานี รองรับรถยนต์รวม 2,000 คัน ส่วนขบวนรถมี 3 ตู้ รวม 22 ขบวน ผลิตโดยบริษัท CRRC Corporation รองรับผู้โดยสารสูงสุด 18,630 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการความถี่ทุก 6 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 67,000 เที่ยวคนต่อวัน จุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานีบันดาร์ อูตามา ใกล้กับศูนย์การค้าวันอูตามา (1 Utama) ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ผ่านสถานที่สำคัญอย่างสนามกีฬาชาห์อลัม (Stadium Shah Alam) มัสยิดสุลต่านซาลาฮุดดินอับดุลอาซิซ (Masjid Sultan Salahuddin Abdul Aziz Shah) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยียูไอทีเอ็ม (UiTM) โครงการไอ-ซิตี้ (i-City) สวนสนุกไอ-ซิตี้ ธีมพาร์ค (i-City Theme Park) มัสยิดบันดาร์ดิราจาแคลงอูตารา (Masjid Bandar Diraja Klang Utara) มีสถานีเชื่อมต่อ ได้แก่ 1. สถานีบันดาร์ อูตามา เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สายกาจัง (MRT Kajang Line) เส้นทางระหว่างสถานีควาซาดามานซารา (Kwasa Damansara) กับสถานีกาจัง (Kajang) ผ่านสถานีบูกิตบินตัง (Bukit Bintang) และสถานีตุนราซัคเอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) 2. สถานีเกลนมารี 2 (Glenmarie 2) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า LRT สายเกลานา จายา (Kelana Jaya Line) เส้นทางระหว่างสถานีปูตราไฮต์ (Putra Heights) กับสถานีกอมบัค (Gombak) ผ่านสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) และสถานีเคแอลซีซี (KLCC) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ อนึ่ง ที่สถานีเซคชันตูจู (Seksyen 7) บริเวณเขต 7 ของรัฐสลังงอร์ มีศูนย์การค้าเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ (Central i-City) ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาจากประเทศไทย ลงทุนร่วมกับไอ-เบอร์ฮัด (I-Berhad) เปิดให้บริการเมื่อปี 2562 #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 911 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มอนุรักษ์สิทธิสัตว์ PETA ออกมาโต้รัฐมนตรีเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่ก่อนหน้ายืนยันรับประกันสวัสดิภาพหมูเด้งและสวนสัตว์เขาเขียวได้มาตรฐานว่า ให้ความสนใจหมูเด้งเป็นพิเศษ เนื่องมาจากกระแสความโด่งดังหมูเด้งที่มาจากการกักขังในสวนสัตว์เป็นสำคัญที่ทำให้สัตว์ป่าเช่นฮิปโปแคระสูญเสียธรรมชาติดั้งเดิมความเป็นสัตว์ป่าของตัวเองไป แต่ไม่ตอบคำเชิญเข้ามาดูหมูเด้งถึงสวนสัตว์เขาเขียว ด้านอดีตเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำธนาคารพัฒนาเอเชีย (AsDB) สวนกระแสแบนบุกเยือน “หมูเด้ง” ถึงที่โพสต์ชื่นชมพี่เบนซ์ที่อุทิศตัวจนหมูเด้งมีชื่อไปทั่วโลก

    เจสัน เบเกอร์ (Jason Baker) รองประธานอาวุโสกลุ่มอนุรักษ์สิทธิสัตว์ PETA ชื่อดังออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 25 ก.พ. มายังผู้จัดการออนไลน์ ตอบโต้รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฉลิมชัย ศรีอ่อน หลังข่าว PETA จับมือ Born Free รณรงค์ไม่ให้นักท่องเที่ยวในอังกฤษเดินทางบินเข้ามาชมหมูเด้งในไทยออกมาเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว

    แถลงการณ์ PETA ที่ออกมาในวันเดียวกัน (25) กับการแถลงของรัฐมนตรีเฉลิมชัย โดยทางกลุ่มแถลงยังคงโจมตีไปที่กระแสความโด่งดังหมูเด้งที่มาจากการกักขังในสวนสัตว์เป็นสำคัญ PETA จุดยืนการรณรงค์หมูเด้งเนื่องมาจากทางกลุ่มต้องการให้ข้อมูลว่า สัตว์ที่ถูกกักกันนั้นแท้จริงเป็นสิ่งที่มีความรู้สึกเหมือนเช่นมนุษย์ และไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาจัดแสดงได้ตามข้ออ้างของรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000020286

    #MGROnline #กลุ่มอนุรักษ์สิทธิสัตว์ #PETA #หมูเด้ง
    กลุ่มอนุรักษ์สิทธิสัตว์ PETA ออกมาโต้รัฐมนตรีเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่ก่อนหน้ายืนยันรับประกันสวัสดิภาพหมูเด้งและสวนสัตว์เขาเขียวได้มาตรฐานว่า ให้ความสนใจหมูเด้งเป็นพิเศษ เนื่องมาจากกระแสความโด่งดังหมูเด้งที่มาจากการกักขังในสวนสัตว์เป็นสำคัญที่ทำให้สัตว์ป่าเช่นฮิปโปแคระสูญเสียธรรมชาติดั้งเดิมความเป็นสัตว์ป่าของตัวเองไป แต่ไม่ตอบคำเชิญเข้ามาดูหมูเด้งถึงสวนสัตว์เขาเขียว ด้านอดีตเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำธนาคารพัฒนาเอเชีย (AsDB) สวนกระแสแบนบุกเยือน “หมูเด้ง” ถึงที่โพสต์ชื่นชมพี่เบนซ์ที่อุทิศตัวจนหมูเด้งมีชื่อไปทั่วโลก • เจสัน เบเกอร์ (Jason Baker) รองประธานอาวุโสกลุ่มอนุรักษ์สิทธิสัตว์ PETA ชื่อดังออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 25 ก.พ. มายังผู้จัดการออนไลน์ ตอบโต้รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฉลิมชัย ศรีอ่อน หลังข่าว PETA จับมือ Born Free รณรงค์ไม่ให้นักท่องเที่ยวในอังกฤษเดินทางบินเข้ามาชมหมูเด้งในไทยออกมาเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว • แถลงการณ์ PETA ที่ออกมาในวันเดียวกัน (25) กับการแถลงของรัฐมนตรีเฉลิมชัย โดยทางกลุ่มแถลงยังคงโจมตีไปที่กระแสความโด่งดังหมูเด้งที่มาจากการกักขังในสวนสัตว์เป็นสำคัญ PETA จุดยืนการรณรงค์หมูเด้งเนื่องมาจากทางกลุ่มต้องการให้ข้อมูลว่า สัตว์ที่ถูกกักกันนั้นแท้จริงเป็นสิ่งที่มีความรู้สึกเหมือนเช่นมนุษย์ และไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาจัดแสดงได้ตามข้ออ้างของรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000020286 • #MGROnline #กลุ่มอนุรักษ์สิทธิสัตว์ #PETA #หมูเด้ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 888 มุมมอง 0 รีวิว
  • PETA อีกแล้ว! : [News story]

    PETA - Born Free แบน "หมูเด้ง" ห้าม นักท่องเที่ยวอังกฤษบินมาดูที่สวนสัตว์เขาเขียว
    PETA อีกแล้ว! : [News story] PETA - Born Free แบน "หมูเด้ง" ห้าม นักท่องเที่ยวอังกฤษบินมาดูที่สวนสัตว์เขาเขียว
    Like
    Angry
    Love
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1195 มุมมอง 34 0 รีวิว
  • Born Free และ PETA เรียกร้องนักท่องเที่ยวอังกฤษเลิกชม "หมูเด้ง" ฮิปโปแคระชื่อดังในไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/17335/
    Born Free และ PETA เรียกร้องนักท่องเที่ยวอังกฤษเลิกชม "หมูเด้ง" ฮิปโปแคระชื่อดังในไทย https://www.thai-tai.tv/news/17335/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮิปโปแคระ "หมูเด้ง" ของไทยตกเป็นข่าวดังเมื่อองค์กรอนุรักษ์ใหญ่ทั้ง Born Free และ PETA ออกรณรงค์แคมเปญ “แบนหมูเด้ง” ห้ามนักท่องเที่ยวในอังกฤษบินเข้ามาดูตัวหมูเด้งที่สวนสัตว์เขาเขียว ชี้สวนสัตว์เขาเขียวไม่ได้มาตรฐานสากลเพาะพันธุ์สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์เพื่ออนุรักษ์แต่กลับใช้เพื่อแสวงกำไรล้วนๆ อ้างหมูเด้งหมดโอกาสตลอดชีวิตจะได้สัมผัสธรรมชาติที่แท้จริงที่ถิ่นเกิดแอฟริกาตะวันตก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000017873

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ฮิปโปแคระ "หมูเด้ง" ของไทยตกเป็นข่าวดังเมื่อองค์กรอนุรักษ์ใหญ่ทั้ง Born Free และ PETA ออกรณรงค์แคมเปญ “แบนหมูเด้ง” ห้ามนักท่องเที่ยวในอังกฤษบินเข้ามาดูตัวหมูเด้งที่สวนสัตว์เขาเขียว ชี้สวนสัตว์เขาเขียวไม่ได้มาตรฐานสากลเพาะพันธุ์สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์เพื่ออนุรักษ์แต่กลับใช้เพื่อแสวงกำไรล้วนๆ อ้างหมูเด้งหมดโอกาสตลอดชีวิตจะได้สัมผัสธรรมชาติที่แท้จริงที่ถิ่นเกิดแอฟริกาตะวันตก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000017873 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    Love
    Yay
    10
    6 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1458 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๒ฮิปโปแคระ "หมูเด้ง" ของไทยตกเป็นข่าวดังเมื่อองค์กรอนุรักษ์ใหญ่ทั้ง Born Free และ PETA ออกรณรงค์แคมเปญ “แบนหมูเด้ง” ห้ามนักท่องเที่ยวในอังกฤษบินเข้ามาดูตัวหมูเด้งที่สวนสัตว์เขาเขียว ชี้สวนสัตว์เขาเขียวไม่ได้มาตรฐานสากลเพาะพันธุ์สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์เพื่ออนุรักษ์แต่กลับใช้เพื่อแสวงกำไรล้วนๆ อ้างหมูเด้งหมดโอกาสตลอดชีวิตจะได้สัมผัสธรรมชาติที่แท้จริงที่ถิ่นเกิดแอฟริกาตะวันตก

    เดอะมิร์เรอร์ของอังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี(20 ก.พ)ว่า ฮิปโปแคระ “หมูเด้ง” (Moo Deng) ชื่อดังที่กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลกจากความน่ารักแก้มสีชมพูเป็นสัญลักษ์แต่ทว่าล่าสุดองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าชื่อดังข้ามชาติ PETA และ Born Free เปิดฉากรณรงค์กดดันนักท่องเที่ยวอังกฤษไม่ให้เดินทางเข้ามาเที่ยวสวนสัตว์ต่างๆ รวมสวนสัตว์เขาเขียวของไทย ต่อแถวยาวเพื่อชมความน่ารักของฮิปโปแคระหมูเด้งดาวประจำสวนสัตว์ตัวทำเงินเรียกแขก

    PETA และ Born Free วิตกว่ากระแสความโด่งดังของหมูเด้งจะเป็นภัยต่อสวัสดิภาพความเป็นอยู่ในฐานะสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์จากการที่มีนักท่องเที่ยวมือบอนปาขวดน้ำ สิ่งของ หรือส่งเสียงดังเพื่อเรียกความสนใจให้หมูเด้งอยู่ในเฟรมเพื่อถ่ายเซลฟี

    PETA แถลงว่า “สวนสัตว์เปิดเขาเขียวอ้างเพาะพันธุ์สัตว์ป่าในที่กักขังเพื่อการอนุรักษ์ แต่ขอให้พูดความจริง ธุรกิจเพื่อการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าเหล่านี้ห่างไกลจากถิ่นเกิดตามธรรมชาติของพวกมันและขังสัตว์เหล่านี้ในฐานะนักโทษเพื่อผลกำไร”

    และยังโจมตีสวนสัตว์เขาเขียวต่อว่า “เขาเขียวเพาะพันธุ์หมูเด้งในสวนสัตว์ของไทยที่ไม่ได้มาตรฐาน และดูเหมือนว่าหมูเด้งคงจะต้องตายอยู่ในนั้น หมูเด้งรู้จักเพียงแต่คอกที่แห้งแล้งปราศจากพืชผลและหมูเด้งยังปราศจากโอกาสที่จะมีประสบการณในความกว้างขวาง หลากหลาย และความอบอุ่นของถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติที่แท้จริงที่แอฟริกาตะวันตก”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000017873

    #MGROnline #สวนสัตว์เขาเขียว #หมูเด้ง #BornFree #PETA #แบนหมูเด้ง #นักท่องเที่ยว #อังกฤษ
    ๒ฮิปโปแคระ "หมูเด้ง" ของไทยตกเป็นข่าวดังเมื่อองค์กรอนุรักษ์ใหญ่ทั้ง Born Free และ PETA ออกรณรงค์แคมเปญ “แบนหมูเด้ง” ห้ามนักท่องเที่ยวในอังกฤษบินเข้ามาดูตัวหมูเด้งที่สวนสัตว์เขาเขียว ชี้สวนสัตว์เขาเขียวไม่ได้มาตรฐานสากลเพาะพันธุ์สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์เพื่ออนุรักษ์แต่กลับใช้เพื่อแสวงกำไรล้วนๆ อ้างหมูเด้งหมดโอกาสตลอดชีวิตจะได้สัมผัสธรรมชาติที่แท้จริงที่ถิ่นเกิดแอฟริกาตะวันตก • เดอะมิร์เรอร์ของอังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี(20 ก.พ)ว่า ฮิปโปแคระ “หมูเด้ง” (Moo Deng) ชื่อดังที่กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลกจากความน่ารักแก้มสีชมพูเป็นสัญลักษ์แต่ทว่าล่าสุดองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าชื่อดังข้ามชาติ PETA และ Born Free เปิดฉากรณรงค์กดดันนักท่องเที่ยวอังกฤษไม่ให้เดินทางเข้ามาเที่ยวสวนสัตว์ต่างๆ รวมสวนสัตว์เขาเขียวของไทย ต่อแถวยาวเพื่อชมความน่ารักของฮิปโปแคระหมูเด้งดาวประจำสวนสัตว์ตัวทำเงินเรียกแขก • PETA และ Born Free วิตกว่ากระแสความโด่งดังของหมูเด้งจะเป็นภัยต่อสวัสดิภาพความเป็นอยู่ในฐานะสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์จากการที่มีนักท่องเที่ยวมือบอนปาขวดน้ำ สิ่งของ หรือส่งเสียงดังเพื่อเรียกความสนใจให้หมูเด้งอยู่ในเฟรมเพื่อถ่ายเซลฟี • PETA แถลงว่า “สวนสัตว์เปิดเขาเขียวอ้างเพาะพันธุ์สัตว์ป่าในที่กักขังเพื่อการอนุรักษ์ แต่ขอให้พูดความจริง ธุรกิจเพื่อการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าเหล่านี้ห่างไกลจากถิ่นเกิดตามธรรมชาติของพวกมันและขังสัตว์เหล่านี้ในฐานะนักโทษเพื่อผลกำไร” • และยังโจมตีสวนสัตว์เขาเขียวต่อว่า “เขาเขียวเพาะพันธุ์หมูเด้งในสวนสัตว์ของไทยที่ไม่ได้มาตรฐาน และดูเหมือนว่าหมูเด้งคงจะต้องตายอยู่ในนั้น หมูเด้งรู้จักเพียงแต่คอกที่แห้งแล้งปราศจากพืชผลและหมูเด้งยังปราศจากโอกาสที่จะมีประสบการณในความกว้างขวาง หลากหลาย และความอบอุ่นของถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติที่แท้จริงที่แอฟริกาตะวันตก” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000017873 • #MGROnline #สวนสัตว์เขาเขียว #หมูเด้ง #BornFree #PETA #แบนหมูเด้ง #นักท่องเที่ยว #อังกฤษ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1109 มุมมอง 0 รีวิว
  • PETA โดน Community Note จากโพสต์กลุ่มนักเคลื่อนไหวประท้วงไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าวหน้าสถานทูตไทยในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

    "ตามข้อมูลของกรมวิชาการเกษตร ระบุว่าไม่มีลิงสักตัวที่ใช้เก็บมะพร้าวในประเทศไทย เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ลิงเหล่านี้ในการเก็บมะพร้าวเพราะไม่มีประสิทธิภาพ วิดีโอที่ PETA นำเสนอนั้นมีเพียงลิงหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น ไม่ใช่ลิงนับพันตัว"

    https://x.com/peta/status/1892212279749300704
    PETA โดน Community Note จากโพสต์กลุ่มนักเคลื่อนไหวประท้วงไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าวหน้าสถานทูตไทยในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ "ตามข้อมูลของกรมวิชาการเกษตร ระบุว่าไม่มีลิงสักตัวที่ใช้เก็บมะพร้าวในประเทศไทย เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ลิงเหล่านี้ในการเก็บมะพร้าวเพราะไม่มีประสิทธิภาพ วิดีโอที่ PETA นำเสนอนั้นมีเพียงลิงหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น ไม่ใช่ลิงนับพันตัว" https://x.com/peta/status/1892212279749300704
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 407 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักเคลื่อนไหวของ PETAUK กลับมาประท้วงหน้าสถานทูตไทยในลอนดอน ประเทศอังกฤษอีกครั้ง พวกเขายังคงกล่าวหาว่า อุตสาหกรรมกะทิของไทย บังคับลิงเก็บมะพร้าวโดยการล่ามโซ่และใช้งานจนหมดแรง!

    https://t.co/vfaaeFufau
    https://x.com/peta/status/1892212279749300704
    https://x.com/PETAUK/status/1889994792161165545
    นักเคลื่อนไหวของ PETAUK กลับมาประท้วงหน้าสถานทูตไทยในลอนดอน ประเทศอังกฤษอีกครั้ง พวกเขายังคงกล่าวหาว่า อุตสาหกรรมกะทิของไทย บังคับลิงเก็บมะพร้าวโดยการล่ามโซ่และใช้งานจนหมดแรง! https://t.co/vfaaeFufau https://x.com/peta/status/1892212279749300704 https://x.com/PETAUK/status/1889994792161165545
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 482 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Hydra Host ได้เปิดตัว Exacluster ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ที่ประกอบด้วย 18 เครื่องที่ใช้ GPU Nvidia H200 จำนวน 144 หน่วย คลัสเตอร์นี้เป็นหนึ่งในคลัสเตอร์แรกที่ใช้ GPU รุ่นนี้ และมีการปรับแต่งหลายอย่างจาก Hydra Host เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

    คลัสเตอร์นี้ใช้ระบบของ Lenovo ที่มีการปรับแต่งจาก Hydra Host และสามารถเช่าใช้งานได้ผ่านแพลตฟอร์ม Brokkr ของ Hydra Host คลัสเตอร์นี้มีพลังการประมวลผลสูงถึง 570 FP8 PetaTOPS สำหรับงาน AI และมีหน่วยความจำ HBM3E ขนาด 20TB

    Hydra Host ได้ร่วมมือกับ Computacenter ในการออกแบบสถาปัตยกรรมเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง โดยใช้ InfiniBand ความเร็ว 3.2Tbps สำหรับการสื่อสารภายในคลัสเตอร์ และ Ethernet ความเร็ว 400Gbps สำหรับการสื่อสารภายนอก

    คลัสเตอร์นี้มีราคา 5 ล้านดอลลาร์ หรือเฉลี่ย 277,777 ดอลลาร์ต่อเครื่อง ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้รับ Hydra Host ยังมีแพลตฟอร์ม Brokkr ที่ช่วยในการจัดการและให้เช่า GPU เมื่อไม่ได้ใช้งาน ทำให้สามารถเพิ่มรายได้จากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/exacluster-with-144-nvidia-h200-ai-gpus-detailed-by-its-designer-hydra-host-enters-the-scene
    บริษัท Hydra Host ได้เปิดตัว Exacluster ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ที่ประกอบด้วย 18 เครื่องที่ใช้ GPU Nvidia H200 จำนวน 144 หน่วย คลัสเตอร์นี้เป็นหนึ่งในคลัสเตอร์แรกที่ใช้ GPU รุ่นนี้ และมีการปรับแต่งหลายอย่างจาก Hydra Host เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คลัสเตอร์นี้ใช้ระบบของ Lenovo ที่มีการปรับแต่งจาก Hydra Host และสามารถเช่าใช้งานได้ผ่านแพลตฟอร์ม Brokkr ของ Hydra Host คลัสเตอร์นี้มีพลังการประมวลผลสูงถึง 570 FP8 PetaTOPS สำหรับงาน AI และมีหน่วยความจำ HBM3E ขนาด 20TB Hydra Host ได้ร่วมมือกับ Computacenter ในการออกแบบสถาปัตยกรรมเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง โดยใช้ InfiniBand ความเร็ว 3.2Tbps สำหรับการสื่อสารภายในคลัสเตอร์ และ Ethernet ความเร็ว 400Gbps สำหรับการสื่อสารภายนอก คลัสเตอร์นี้มีราคา 5 ล้านดอลลาร์ หรือเฉลี่ย 277,777 ดอลลาร์ต่อเครื่อง ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้รับ Hydra Host ยังมีแพลตฟอร์ม Brokkr ที่ช่วยในการจัดการและให้เช่า GPU เมื่อไม่ได้ใช้งาน ทำให้สามารถเพิ่มรายได้จากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/exacluster-with-144-nvidia-h200-ai-gpus-detailed-by-its-designer-hydra-host-enters-the-scene
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 423 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts