• Animal Farm 1954 | Animation Film | Cartoon Film
    Animal Farm 1954 | Animation Film | Cartoon Film
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 75 Views 1 0 Reviews
  • RS มาถึงจุดตกต่ำเช่นนี้ ใครจะคิด...
    ไม่สามารถชำระหนี้แค่ 27 ล้าน
    หากถูกทวงหนี้ต้นทุนทั้งหมดหลักพันล้านจะทำอย่างไร?
    ทรัพย์สินเดียวที่มีคือลิขสิทธิ์เพลงที่เพื่อนพ้องน้องพี่ได้สร้างสรรค์ไว้
    .
    ผมทำงานในวงการเพลงในฐานะคอมโพสเซอร์ นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์มาตั้งแต่ปี 2530 งานโปรดิวซ์ครั้งแรกคืองานชุดคนเขียนเพลงบรรเลงชีวิตของเธนศร์ วรากุลนุเคราะห์ เห็นวัฏจักรวงการเพลงมาตั้งแต่ยุคเก่ารุ่นพ่อช่วงปลายๆ ต่อเข้ายุคมืดที่นายทุนเอาเปรียบนักแต่งเพลงรุ่นครู จ่ายสองสามพันบาทค่าจ้างแต่งเพลงแล้วถือครองสิทธิ์ตลอดกาลจนถึงลูกเต้ามัน
    .
    ในช่วงก่อนยุคเปลี่ยนผ่านครั้งที่หนึ่ง เรียกว่ายุคปฏิวัติวงการก็ได้ (มันจะมีครั้งที่สองที่เรียกดิสรัพชั่น) ผมกำลังเรียนรู้อยู่ที่บริษัทบัตเตอร์ฟลาย ความที่มีครูดีเป็นแบบอย่าง ได้เรียนรู้ระบบแบบฝรั่งว่าเป็นอย่างไร ทำให้เราเข้าใจกลไกของมัน รู้แล้วก็อยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลง เลยริเริ่มไปเรียกร้องกับนายทุนมาเฟียค่ายเพลงคนนึงที่วงที่ผมไปเล่นอยู่ด้วยสังกัดอยู่ กำลังจะมีการทำงานชุดใหม่ ก็เลยไปเสนอว่าอยากให้มีการจ่ายค่าผลิตอย่างเป็นธรรม ทั้งเรียบเรียง คำร้องทำนอง มิกซ์เสียง ค่าควบคุมการผลิตต่างๆ รวมทั้งขอส่วนแบ่งจากยอดขาย ผลคือ "มึงหัวหมอหรือ?" งานหยุดชะงัก พวกผมถูกแบนจากสังกัดนั้นจนภายหลังพากันออกมาตั้งเป็นวงตาวัน แต่ไม่วายยังโดนไอ้เสี่ยคนนั้นตามมากลั่นแกล้งภายหลังได้ ตอนที่ออกผลงานชุดแรกของวงตาวัน หุ่นกระบอก แม้จะสังกัดแกรมมี่แล้ว แต่ต้องขายกับบริษัทจัดจำหน่ายของพวกมัน แกรมมี่ยังไม่มีระบบจัดจำหน่ายในตอนนั้น เอ็มจีเอเกิดขึ้นในภายหลัง เสี่ยมันให้สถานีวิทยุในเครือมันมาเรียกวงไปสัมภาษ เสร็จแล้วเรียกไปเชือดที่ห้องทำงานมัน แล้วบอกเราว่า "มึงคิดว่าจะหนีกูพ้นหรือ" ตอนนี้มันเป็นคนจัดจำหน่ายอัลบั้มของพวกผม มันคุมยี่ปั๊ว ซาปั๊ว สถานีวิทยุทั่วประเทศ มันว่าอย่าหวังเลยว่ามึงจะขายได้ และกูจะไม่ให้สถานีวิทยุของกูที่มึงเห็นปักหมุดอยู่เต็มบนแผนที่ประเทศไทยนั่นเล่นเพลงของพวกมึง... มันกดอินเตอร์คอมหาเลขา "เฮ้ย ไอ้อัลบั้มหุ่นกระป๋องนี่ขายได้เท่าไหร่แล้ววันนี้... สองพันค่ะ... สองพัน! มึงได้ยินไหม มึงคงขายได้ประมาณนี้แหละ อย่าหวังว่าจะมากกว่านี้" พี่หมูมือกีต้าร์เลือดขึ้นหน้าเกือบลุกขึ้นเตะก้านคอมัน แต่รู้ว่าอยู่ในตึกมัน หากไปกระทืบมันเข้า วงตาวันวันนั้นคงหามใส่เปลกันออกมาจากตึกนั่นทั้งวง
    .
    นายทุนยุคมืดมีความระยำเช่นนี้ ศิลปินคนไหนขายได้มันแจกสร้อยทองแจกเงินให้ตามความพอใจ ขายดีมากมันให้กุญแจรถไปขับ หมดพิสวาทก็เรียกกุญแจคืน ชอบนักร้องหญิงของวงก็เอาทำเมีย ไม่มีส่วนแบ่งจากการขายใดๆ ทั้งสิ้น มีเสี่ยในวงการยุคมืดอยู่สองสามคนที่รู้จักกันนับแต่เวลานั้น
    .
    การดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นธรรมในวงการเพลงนั้นเป็นสิ่งที่หาแทบไม่ได้ เถ้าแก่พวกนี้ เจ่กแปะพวกนี้ โน๊ตตัวเดียวก็ไม่กระดิก แต่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นับร้อยนับพันเพลงไปได้อย่างน่าขนลุก นักแต่งเพลงไม่เคยถูกให้เกียรติ ทั้งที่ธุรกิจมีไม่ได้หากไม่มีคนสร้างสรรค์ แต่สิทธิ์ผู้ประพันธ์ของผู้สร้างสรรค์กลับกลายเป็นของนายทุนพวกนี้ นับจากนาทีนั้น ผมสาบานกับตัวเองว่าจะดิ้นให้หลุดจากบ่วงอุบาทย์นี้สักวัน รวมทั้งกฏหมายที่ว่าด้วยการจ้างทำของ และแน่นอนว่า ผมพบทางสลัดหลุดจากวังวนพวกนี้ได้ในที่สุด
    .
    คุณธรรม กรรมใดที่ใครก่อ ย่อมบ่งชี้เจตนาของบุคคลนั้น และบุคคลย่อมต้องรับผลนั้นในสักวัน ไม่ช้าก็เร็ว
    .
    วันนึง เมื่อผมดำเนินอาชีพของผมมาถึงจุดที่เป็นคอมโพสเซอร์ที่มีค่าตัวแพงที่สุดคนนึง ดนตรีผมหนึ่งนาทีมีราคาประมาณแสนบาท ผมรับดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องละหนึ่งล้านบาท และไม่เคยเสียสิทธิ์ผู้ประพันธ์ไปให้ใครอีกเลย วันนั้นที่งานออกร้านของนักโทษกรมราชทันฑ์ มีพ่อค้าแม่ค้ามาร่วมเปิดท้ายขายของ ผมเห็นไอ้เสี่ยระยำที่เคยยิ่งใหญ่นั่นหอบกล่องอัลบั้มเพลงเก่าๆ ทั้งเทปเก่าและซีดีเก่ามาขายถูกๆ น่าสมเพชที่เมืองไทยมาถึงจุดพินาศเพราะมีเทปผีซีดีเถื่อนเกลื่อนเมือง ซึ่งพวกเพื่อนเสี่ยในยุคของมันบางคนก็มีส่วนในธุรกิจผีพวกนี้... ผมเห็นมันนั่งหน้ามันอยู่ข้างแผงและกล่องอัลบั้มแทบไม่มีใครซื้อ เพลงพวกนี้มีโหลดได้ฟรีๆ ทั่วไปหมด ผมไปหยุดยืนดูมันหัวจรดตีนด้วยใบหน้าเหยียดหยาม สะใจสุดๆ ยามรุ่งเรืองฟุ้งเฟ้อใช้ชีวิตสุดโต่ง ยามตกต่ำสิ้นไร้มีแต่หนี้สิน
    .
    ทำไมผมถึงรำลึกถึงพี่เต๋อด้วยความยกย่องเสมอ ก็เพราะเหตุนี้ ระบบที่ดีกว่าเป็นธรรมกว่าอย่างที่ผมไปพลีชีพเรียกร้องกัน ในที่สุดเกิดขึ้นเพราะพี่เต๋อไปก่อตั้งแกรมมี่แล้วสร้างระบบแบบนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ ทีมผลิตมีค่าผลิตเป็นสัดส่วนครบถ้วนตามหน้าที่แบบฝรั่งและมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขายให้ผู้ประพันธ์และโปรดิวเซอร์ ผมไม่ยกย่องคุณไพบูลย์ในข้อนี้หรอก เพราะระบบเช่นนี้ บังเกิดขึ้นได้เพราะพี่เต๋อ ไม่ใช่พี่บูลย์ ถ้าพี่บูลย์ไม่ยอมรับให้สร้างระบบธุรกิจเช่นนี้พี่เต๋อคงไม่เอาด้วย และพวกพี่ๆ จากบัตเตอร์ฟลายก็คงจะไม่ไปเป็นกำลังผลิตให้ บริษัทแกรมมี่ก็จะไม่เกิด พอแกรมมี่เริ่มระบบนี้ ทุกค่ายเพลงต้องเดินตามเปลี่ยนมาใช้ระบบแบบเดียวกันทุกค่าย เอาตรงๆ เขาไม่ได้อยากเปลี่ยนกันหรอกนะ แต่มันจำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะแกรมมี่แจ้งเกิดสำเร็จแล้วแซงทุกค่ายจนใครๆ ก็อยากไปอยู่ที่นั่น ค่ายอื่นก็ต้องปรับตาม ต่างกันเล็กน้อยที่บางพวกยังจ้องเอาเปรียบอยู่ แม้แต่ค่ายมาเฟียก็ต้องปรับตาม ไม่เช่นนั้นศิลปินทุกคน คนมีฝีมือจะเดินไปที่แกรมมี่หมด กระนั้นพวกเสี่ยนั่นก็ปรับตัวได้ไม่ดี ผลประโยชน์ยังเอาเปรียบ ค่าผลิตและส่วนแบ่งต่ำกว่าที่อื่น และคุณภาพงานไม่ดี
    .
    อย่างไรก็ตาม มีรุ่งเรืองก็มีเสื่อมถอย สำหรับผมมันเริ่มเสื่อมลงเมื่อมี mp3 แต่ยิ่งเสื่อมกว่าหลังจากพี่เต๋อเสียชีวิต.. หนึ่งปีให้หลังจากนั้น ผมก็ลาออกจากแกรมมี่ มูลเหตุของการลาออกน่าจะเคยเล่าให้บางคนฟังบ้างแล้ว พวกเราทีมผลิตที่อยู่ในทีมใบตองได้รับอนุญาตให้ขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกับที่พี่เต๋อพี่บูลย์ขึ้น วันหนึ่งผมเจอพี่บูลย์ ตอนนั้นเราแยกจากแกรมมี่แกรนด์มาตั้งเป็นอีกเลเบลหนึ่งคือ RPG (Rewat's Producer Group) แล้ว ในลิฟท์พี่บูลย์พูดกับผม... "พี่ปุ้ม.. ผมว่าเราต้องทำงานหนักให้เป็นสองเท่าเพื่อกำไรเท่าเดิม ต้องผลิตให้เร็วขึ้น... ผมว่าอย่างพี่เอาตีนเขี่ยแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว... เก่งไม่กลัวกลัวช้า..." ผมจำประโยคนี้แจ่มชัดแม้ผ่านไปยี่สิบปี พวกเราไม่ได้ช้า ไม่มีใครในตึกมีทักษะทางดนตรีและทักษะทางเทคนิคัลเท่าพวกเราอีกแล้ว เราทำงานละเอียด แม้แต่เสียง Snare แค่แทร็คเดียวเรายังพิถีพิถันเลือกกันอยู่หลายชั่วโมง ทุกเทคทุกแทร็คปราณีต เล่นและบันทึกอย่างตั้งใจ มันปลูกฝังกันมาจากการทำงานกับพี่ๆ กับครูของเราและพี่เต๋อ ทุกวันนี้ย้อนไปฟังงานยุคนั้นดูได้ คุณภาพเสียงยังดีอยู่เลย ความตั้งใจนี้เป็นสันดานและ "เอาตีนเขี่ยไม่ได้..." ผมออกจากลิฟท์วันนั้นแล้วตรงไปลาออกกับโอม ชาตรี คงสุวรรณ ซึ่งนั่งแท่นเป็น managing director อยู่
    .
    เพียงหนึ่งปีให้หลังการเสียชีวิตของพี่เต๋อ ผมรู้สึกได้เลยว่าคุณธรรมที่เคยมีก็เสื่อมลง ผมรู้ทันทีว่าถึงเวลาต้องไป จากวันนั้นเป็นต้นมา ผมรู้ว่าแกรมมี่จะเสื่อมถอยลง อีกปีต่อมาผมกับเพื่อนชื่อฝิ่น คณิต พฤกษ์พระกานต์ ซึ่งเป็นคนลงทุน เราเปิดสถาบันผลิตบุคคลากรสายอาชีพบันเทิงชื่อ Gen-X Academy เปิดอยู่ 14 ปี สอนวิชาที่ไม่เคยมีสอนในมหาวิทยาลัยเมืองไทยมาก่อนนอกจากที่ต่างประเทศ เช่น Songwriting, Arranging, Computer Music, Studio Sound Engineer, Live Sound Engineer, Film Scoring, Sounddesign, Video Post Production, Motion Graphics... เราผลิตบุคคลากรให้กับวงการบันเทิงอาชีพไปนับพันคน ผลิตนักแต่งเพลงไปประมาณสองร้อยกว่าคนเป็นอย่างน้อย ซาวด์เอนจิเนียร์สตูดิโอไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน ไลฟ์ซาวด์เอนจิเนียร์อีกไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน ยังไม่นับสาขาอื่นเช่น คอมพิวเตอร์กราฟฟิค นักตัดต่อวิดิโอ ทีวีรีพอร์ตเตอร์ ดีเจ นักพากย์... จนกระทั่งมหาวิทยาลัย-วิทยาลัยทั่วทั้งประเทศเกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ บรรจุการสอนวิชาเหล่านี้เข้าในระดับปริญญาตรีของคณะดนตรีทุกแห่ง มีห้องอัด มีแลบคอมพิวเตอร์ให้นักศึกษาใช้ ในที่สุดพวกเขาทำตามทุกอย่างที่เรานำร่องมาก่อน แม้ธุรกิจจบ แต่ผมกลับภูมิใจที่ภารกิจจบ GenX Academy ปิดลงเพราะเราไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่เราทำมันได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นผลไปทั่วอย่างที่เราอยากเห็น
    .
    มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผลลัพธ์จากการได้แบบอย่างที่ดีมาก่อนหน้านั้น มันได้ขยายผลอย่างเป็นรูปธรรมในภายหลัง ตอนอยู่ที่บัตเตอร์ฟลาย พี่ๆ ทำโรงเรียน B.I.T. กันให้ผมเห็นเป็นตัวอย่าง สอนกันอยู่หลายรุ่น ผมได้ช่วยสอนเรื่อง Synthesizer พอมาทำงานกับพี่เต๋อ ไม่ว่าพี่เขาจะมีงานบริหารตื่นเช้าเพียงใด ตกเย็นพี่เต๋อจะมาขลุกอยู่กับพวกเราที่สตูดิโอแทบทุกวัน มีเรื่องมากมายที่ผมได้เรียนรู้ ตอนนั้นยึดหัวหาดที่ห้องอัดศรีสยามเป็นหลัก ผมยังจำประโยคที่พี่เต๋อพูดตอนที่ทานอาหารร่วมกันในคืนหนึ่ง ผมอยู่กับทีมและมีน้องๆ รุ่นใหม่บางคนกำลังเรียนรู้การทำงาน ดูเหมือนวันนั้นจะมีก๊อล์ฟวายนอทเซเว่น... พี่เต๋อพูดว่า "เราต้องสอนน้องๆ ต้องสร้างน้องๆ รุ่นใหม่ที่คิดเหมือนเรา ตั้งใจทำงานให้ดีมีคุณภาพ เชื่อในมาตรฐานการทำงานแบบที่เราทำ"
    .
    คุณธรรมในวงการเพลง ไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่ายโดยทั่วไป แม้เคยเจอกับพวกยุคมืด แต่ผมก็ยังโชคดีที่เห็นมันในยุคของพี่เต๋อและการทำงานกับพี่ๆ หลายคน ผมมีน้องๆ ที่รู้จักชอบพอกันหลายคนอยู่ในค่ายเพลงอื่น ผมมักจะได้ยินเสียงสะท้อนออกมาให้รู้เสมอ หลากหลายเรื่องราว.. อย่างหนึ่งที่มักได้ยินจากฝั่งของอาร์เอส พูดตามจริง ไม่ค่อยดีนัก การดูแลชีวิตและให้เกียรติคนทำงานผลิตไม่ได้ดีเท่าไหร่ ความเป็นธรรมในการจ้าง ส่วนแบ่งในรายได้ ที่สำคัญคือการปันผลให้คนสร้างสรรค์ ไม่ค่อยดีนัก และลิขสิทธิ์อยู่กับนายทุนหมด ผู้ประพันธ์ไม่มีสิทธิ์เลย อย่างน้อยก็ได้ยินมาอย่างนั้น อย่างที่เคยเป็นข่าวไป ผู้แต่งไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเล่นเพลงที่ตัวเองสร้างขึ้นเพราะสิทธิ์ไปอยู่กับเสี่ยเจ้าของค่าย และน่าทุเรศคือ มันฟ้องผู้แต่งที่เอาเพลงที่ตนเองแต่งมาเล่นโดยไม่ขออนุญาตมัน... ยังดีที่แกรมมี่ถือลิขสิทธิ์ร่วมกันกับผู้ประพันธ์ แม้ว่าระบบจะไม่มีการปรับระดับเพดานให้ดีมากขึ้นตามกาลเวลาและค่าครองชีพ แต่ระบบจัดเก็บและดูแลพับลิชชิ่งของแกรมมี่ยังคงทำงานมาตลอด และยี่สิบปีที่ผ่านมายังคงมีส่วนแบ่งโอนเข้าบัญชีเสมอไม่ได้ขาด มากบ้างน้อยบ้าง
    .
    มีนายทุนสายบันเทิงไม่น้อยที่ผมรู้เช่นเห็นชาติมาแต่โบราณ ต้องใช้คำนี้ เช่น บริษัทหนึ่งที่โดดเด่นในการทำคาราโอเกะมีนางแบบโป๊เดินอล่างฉ่างประกอบแบ๊คกิ้งแทร็ค วันนึงร่วมกับบริษัทญี่ปุ่นที่มีเน็ทเวิร์คโฟโต้บุ๊ควัยรุ่นนุ่งน้อยห่มน้อยซึ่งบางที น้อยมาก... ทำค่ายไอดอลข้ามชาติกัน ผมเคยพยายามเตือน ผลคือทัวร์ลง. ไม่มีใครรู้ว่าสัญญาที่เซ็นต์นั้นครอบคลุมการเป็นเจ้าของตัวตนไปจนถึงภาพถ่ายเซลฟี่ส่วนตัวของศิลปินในสังกัดคนนั้น พวกนั้นสามารถอ้างได้แม้ลิขสิทธิของภาพที่เป็นส่วนตัว ในพื้นที่การทำงานเช่น คอนเสิร์ท การปรากฏตัวในที่ต่างๆ ฯ เขาไม่อนุญาตให้ช่างภาพอื่นที่เป็นคนนอกถ่ายภาพเลย แต่จะมีช่างภาพของเขาเท่านั้นที่จะตามถ่ายตลอดเวลา แม้จะเป็นเวลาและพื้นที่ที่ไม่สมควรถ่ายก็จะถูกถ่ายไปได้ คลังภาพจำนวนมากถูกเก็บไว้และเป็นสิทธิของเขาตามกฏหมาย และคุณไม่มีทางรู้ว่ามีภาพอะไรที่ไม่ควรถ่ายถูกถ่ายเก็บไว้
    .
    คุณธรรมในวงการนี้หายากมาก และยิ่งในยุคนี้คุณจะยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นไปอีกเพราะมาตรฐานทางจริยธรรมของมนุษย์ตกต่ำมาก ไม่กี่วันมานี้ มีคุณแม่คนหนึ่งออกมาพูดออกสื่อโซเชียลแทนลูกชายที่โดนคดีทำร้ายผู้หญิงว่า... "อย่าให้เรื่องทะเลาะกันของชายหญิงมาทำให้อนาคตเสียเลย มันเล็กน้อยมาก ขอให้คิดว่าน้องเขาเป็นเด็กเรียนดี เรียนเก่ง ให้ดูที่การเรียนของน้องเป็นสำคัญ เรื่องอื่นมันเล็กน้อย".... นี่คือตรรกะของสังคมที่ป่วยและผู้คนขาดวิจารณญาณในการพิจารณาชั่วดี
    .
    กรรมเป็นตัวกำหนด คนที่ทำกรรมใดไว้จะได้รับผลของกรรมนั้นแล
    กราบขอบพระคุณ พี่ๆ และครูอาจารย์ที่ปูทางให้โลกของผมตลอดสามสิบกว่าปีที่ผ่านไป มีความดีงามและอุ้มชูผมมาตลอดอาชีพการทำงาน
    .
    ขอภาวนาให้สิทธิผู้ประพันธ์คืนกลับไปยังผู้สร้างสรรค์ทุกท่าน
    .
    RS มาถึงจุดตกต่ำเช่นนี้ ใครจะคิด... ไม่สามารถชำระหนี้แค่ 27 ล้าน หากถูกทวงหนี้ต้นทุนทั้งหมดหลักพันล้านจะทำอย่างไร? ทรัพย์สินเดียวที่มีคือลิขสิทธิ์เพลงที่เพื่อนพ้องน้องพี่ได้สร้างสรรค์ไว้ . ผมทำงานในวงการเพลงในฐานะคอมโพสเซอร์ นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์มาตั้งแต่ปี 2530 งานโปรดิวซ์ครั้งแรกคืองานชุดคนเขียนเพลงบรรเลงชีวิตของเธนศร์ วรากุลนุเคราะห์ เห็นวัฏจักรวงการเพลงมาตั้งแต่ยุคเก่ารุ่นพ่อช่วงปลายๆ ต่อเข้ายุคมืดที่นายทุนเอาเปรียบนักแต่งเพลงรุ่นครู จ่ายสองสามพันบาทค่าจ้างแต่งเพลงแล้วถือครองสิทธิ์ตลอดกาลจนถึงลูกเต้ามัน . ในช่วงก่อนยุคเปลี่ยนผ่านครั้งที่หนึ่ง เรียกว่ายุคปฏิวัติวงการก็ได้ (มันจะมีครั้งที่สองที่เรียกดิสรัพชั่น) ผมกำลังเรียนรู้อยู่ที่บริษัทบัตเตอร์ฟลาย ความที่มีครูดีเป็นแบบอย่าง ได้เรียนรู้ระบบแบบฝรั่งว่าเป็นอย่างไร ทำให้เราเข้าใจกลไกของมัน รู้แล้วก็อยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลง เลยริเริ่มไปเรียกร้องกับนายทุนมาเฟียค่ายเพลงคนนึงที่วงที่ผมไปเล่นอยู่ด้วยสังกัดอยู่ กำลังจะมีการทำงานชุดใหม่ ก็เลยไปเสนอว่าอยากให้มีการจ่ายค่าผลิตอย่างเป็นธรรม ทั้งเรียบเรียง คำร้องทำนอง มิกซ์เสียง ค่าควบคุมการผลิตต่างๆ รวมทั้งขอส่วนแบ่งจากยอดขาย ผลคือ "มึงหัวหมอหรือ?" งานหยุดชะงัก พวกผมถูกแบนจากสังกัดนั้นจนภายหลังพากันออกมาตั้งเป็นวงตาวัน แต่ไม่วายยังโดนไอ้เสี่ยคนนั้นตามมากลั่นแกล้งภายหลังได้ ตอนที่ออกผลงานชุดแรกของวงตาวัน หุ่นกระบอก แม้จะสังกัดแกรมมี่แล้ว แต่ต้องขายกับบริษัทจัดจำหน่ายของพวกมัน แกรมมี่ยังไม่มีระบบจัดจำหน่ายในตอนนั้น เอ็มจีเอเกิดขึ้นในภายหลัง เสี่ยมันให้สถานีวิทยุในเครือมันมาเรียกวงไปสัมภาษ เสร็จแล้วเรียกไปเชือดที่ห้องทำงานมัน แล้วบอกเราว่า "มึงคิดว่าจะหนีกูพ้นหรือ" ตอนนี้มันเป็นคนจัดจำหน่ายอัลบั้มของพวกผม มันคุมยี่ปั๊ว ซาปั๊ว สถานีวิทยุทั่วประเทศ มันว่าอย่าหวังเลยว่ามึงจะขายได้ และกูจะไม่ให้สถานีวิทยุของกูที่มึงเห็นปักหมุดอยู่เต็มบนแผนที่ประเทศไทยนั่นเล่นเพลงของพวกมึง... มันกดอินเตอร์คอมหาเลขา "เฮ้ย ไอ้อัลบั้มหุ่นกระป๋องนี่ขายได้เท่าไหร่แล้ววันนี้... สองพันค่ะ... สองพัน! มึงได้ยินไหม มึงคงขายได้ประมาณนี้แหละ อย่าหวังว่าจะมากกว่านี้" พี่หมูมือกีต้าร์เลือดขึ้นหน้าเกือบลุกขึ้นเตะก้านคอมัน แต่รู้ว่าอยู่ในตึกมัน หากไปกระทืบมันเข้า วงตาวันวันนั้นคงหามใส่เปลกันออกมาจากตึกนั่นทั้งวง . นายทุนยุคมืดมีความระยำเช่นนี้ ศิลปินคนไหนขายได้มันแจกสร้อยทองแจกเงินให้ตามความพอใจ ขายดีมากมันให้กุญแจรถไปขับ หมดพิสวาทก็เรียกกุญแจคืน ชอบนักร้องหญิงของวงก็เอาทำเมีย ไม่มีส่วนแบ่งจากการขายใดๆ ทั้งสิ้น มีเสี่ยในวงการยุคมืดอยู่สองสามคนที่รู้จักกันนับแต่เวลานั้น . การดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นธรรมในวงการเพลงนั้นเป็นสิ่งที่หาแทบไม่ได้ เถ้าแก่พวกนี้ เจ่กแปะพวกนี้ โน๊ตตัวเดียวก็ไม่กระดิก แต่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นับร้อยนับพันเพลงไปได้อย่างน่าขนลุก นักแต่งเพลงไม่เคยถูกให้เกียรติ ทั้งที่ธุรกิจมีไม่ได้หากไม่มีคนสร้างสรรค์ แต่สิทธิ์ผู้ประพันธ์ของผู้สร้างสรรค์กลับกลายเป็นของนายทุนพวกนี้ นับจากนาทีนั้น ผมสาบานกับตัวเองว่าจะดิ้นให้หลุดจากบ่วงอุบาทย์นี้สักวัน รวมทั้งกฏหมายที่ว่าด้วยการจ้างทำของ และแน่นอนว่า ผมพบทางสลัดหลุดจากวังวนพวกนี้ได้ในที่สุด . คุณธรรม กรรมใดที่ใครก่อ ย่อมบ่งชี้เจตนาของบุคคลนั้น และบุคคลย่อมต้องรับผลนั้นในสักวัน ไม่ช้าก็เร็ว . วันนึง เมื่อผมดำเนินอาชีพของผมมาถึงจุดที่เป็นคอมโพสเซอร์ที่มีค่าตัวแพงที่สุดคนนึง ดนตรีผมหนึ่งนาทีมีราคาประมาณแสนบาท ผมรับดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องละหนึ่งล้านบาท และไม่เคยเสียสิทธิ์ผู้ประพันธ์ไปให้ใครอีกเลย วันนั้นที่งานออกร้านของนักโทษกรมราชทันฑ์ มีพ่อค้าแม่ค้ามาร่วมเปิดท้ายขายของ ผมเห็นไอ้เสี่ยระยำที่เคยยิ่งใหญ่นั่นหอบกล่องอัลบั้มเพลงเก่าๆ ทั้งเทปเก่าและซีดีเก่ามาขายถูกๆ น่าสมเพชที่เมืองไทยมาถึงจุดพินาศเพราะมีเทปผีซีดีเถื่อนเกลื่อนเมือง ซึ่งพวกเพื่อนเสี่ยในยุคของมันบางคนก็มีส่วนในธุรกิจผีพวกนี้... ผมเห็นมันนั่งหน้ามันอยู่ข้างแผงและกล่องอัลบั้มแทบไม่มีใครซื้อ เพลงพวกนี้มีโหลดได้ฟรีๆ ทั่วไปหมด ผมไปหยุดยืนดูมันหัวจรดตีนด้วยใบหน้าเหยียดหยาม สะใจสุดๆ ยามรุ่งเรืองฟุ้งเฟ้อใช้ชีวิตสุดโต่ง ยามตกต่ำสิ้นไร้มีแต่หนี้สิน . ทำไมผมถึงรำลึกถึงพี่เต๋อด้วยความยกย่องเสมอ ก็เพราะเหตุนี้ ระบบที่ดีกว่าเป็นธรรมกว่าอย่างที่ผมไปพลีชีพเรียกร้องกัน ในที่สุดเกิดขึ้นเพราะพี่เต๋อไปก่อตั้งแกรมมี่แล้วสร้างระบบแบบนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ ทีมผลิตมีค่าผลิตเป็นสัดส่วนครบถ้วนตามหน้าที่แบบฝรั่งและมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขายให้ผู้ประพันธ์และโปรดิวเซอร์ ผมไม่ยกย่องคุณไพบูลย์ในข้อนี้หรอก เพราะระบบเช่นนี้ บังเกิดขึ้นได้เพราะพี่เต๋อ ไม่ใช่พี่บูลย์ ถ้าพี่บูลย์ไม่ยอมรับให้สร้างระบบธุรกิจเช่นนี้พี่เต๋อคงไม่เอาด้วย และพวกพี่ๆ จากบัตเตอร์ฟลายก็คงจะไม่ไปเป็นกำลังผลิตให้ บริษัทแกรมมี่ก็จะไม่เกิด พอแกรมมี่เริ่มระบบนี้ ทุกค่ายเพลงต้องเดินตามเปลี่ยนมาใช้ระบบแบบเดียวกันทุกค่าย เอาตรงๆ เขาไม่ได้อยากเปลี่ยนกันหรอกนะ แต่มันจำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะแกรมมี่แจ้งเกิดสำเร็จแล้วแซงทุกค่ายจนใครๆ ก็อยากไปอยู่ที่นั่น ค่ายอื่นก็ต้องปรับตาม ต่างกันเล็กน้อยที่บางพวกยังจ้องเอาเปรียบอยู่ แม้แต่ค่ายมาเฟียก็ต้องปรับตาม ไม่เช่นนั้นศิลปินทุกคน คนมีฝีมือจะเดินไปที่แกรมมี่หมด กระนั้นพวกเสี่ยนั่นก็ปรับตัวได้ไม่ดี ผลประโยชน์ยังเอาเปรียบ ค่าผลิตและส่วนแบ่งต่ำกว่าที่อื่น และคุณภาพงานไม่ดี . อย่างไรก็ตาม มีรุ่งเรืองก็มีเสื่อมถอย สำหรับผมมันเริ่มเสื่อมลงเมื่อมี mp3 แต่ยิ่งเสื่อมกว่าหลังจากพี่เต๋อเสียชีวิต.. หนึ่งปีให้หลังจากนั้น ผมก็ลาออกจากแกรมมี่ มูลเหตุของการลาออกน่าจะเคยเล่าให้บางคนฟังบ้างแล้ว พวกเราทีมผลิตที่อยู่ในทีมใบตองได้รับอนุญาตให้ขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกับที่พี่เต๋อพี่บูลย์ขึ้น วันหนึ่งผมเจอพี่บูลย์ ตอนนั้นเราแยกจากแกรมมี่แกรนด์มาตั้งเป็นอีกเลเบลหนึ่งคือ RPG (Rewat's Producer Group) แล้ว ในลิฟท์พี่บูลย์พูดกับผม... "พี่ปุ้ม.. ผมว่าเราต้องทำงานหนักให้เป็นสองเท่าเพื่อกำไรเท่าเดิม ต้องผลิตให้เร็วขึ้น... ผมว่าอย่างพี่เอาตีนเขี่ยแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว... เก่งไม่กลัวกลัวช้า..." ผมจำประโยคนี้แจ่มชัดแม้ผ่านไปยี่สิบปี พวกเราไม่ได้ช้า ไม่มีใครในตึกมีทักษะทางดนตรีและทักษะทางเทคนิคัลเท่าพวกเราอีกแล้ว เราทำงานละเอียด แม้แต่เสียง Snare แค่แทร็คเดียวเรายังพิถีพิถันเลือกกันอยู่หลายชั่วโมง ทุกเทคทุกแทร็คปราณีต เล่นและบันทึกอย่างตั้งใจ มันปลูกฝังกันมาจากการทำงานกับพี่ๆ กับครูของเราและพี่เต๋อ ทุกวันนี้ย้อนไปฟังงานยุคนั้นดูได้ คุณภาพเสียงยังดีอยู่เลย ความตั้งใจนี้เป็นสันดานและ "เอาตีนเขี่ยไม่ได้..." ผมออกจากลิฟท์วันนั้นแล้วตรงไปลาออกกับโอม ชาตรี คงสุวรรณ ซึ่งนั่งแท่นเป็น managing director อยู่ . เพียงหนึ่งปีให้หลังการเสียชีวิตของพี่เต๋อ ผมรู้สึกได้เลยว่าคุณธรรมที่เคยมีก็เสื่อมลง ผมรู้ทันทีว่าถึงเวลาต้องไป จากวันนั้นเป็นต้นมา ผมรู้ว่าแกรมมี่จะเสื่อมถอยลง อีกปีต่อมาผมกับเพื่อนชื่อฝิ่น คณิต พฤกษ์พระกานต์ ซึ่งเป็นคนลงทุน เราเปิดสถาบันผลิตบุคคลากรสายอาชีพบันเทิงชื่อ Gen-X Academy เปิดอยู่ 14 ปี สอนวิชาที่ไม่เคยมีสอนในมหาวิทยาลัยเมืองไทยมาก่อนนอกจากที่ต่างประเทศ เช่น Songwriting, Arranging, Computer Music, Studio Sound Engineer, Live Sound Engineer, Film Scoring, Sounddesign, Video Post Production, Motion Graphics... เราผลิตบุคคลากรให้กับวงการบันเทิงอาชีพไปนับพันคน ผลิตนักแต่งเพลงไปประมาณสองร้อยกว่าคนเป็นอย่างน้อย ซาวด์เอนจิเนียร์สตูดิโอไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน ไลฟ์ซาวด์เอนจิเนียร์อีกไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน ยังไม่นับสาขาอื่นเช่น คอมพิวเตอร์กราฟฟิค นักตัดต่อวิดิโอ ทีวีรีพอร์ตเตอร์ ดีเจ นักพากย์... จนกระทั่งมหาวิทยาลัย-วิทยาลัยทั่วทั้งประเทศเกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ บรรจุการสอนวิชาเหล่านี้เข้าในระดับปริญญาตรีของคณะดนตรีทุกแห่ง มีห้องอัด มีแลบคอมพิวเตอร์ให้นักศึกษาใช้ ในที่สุดพวกเขาทำตามทุกอย่างที่เรานำร่องมาก่อน แม้ธุรกิจจบ แต่ผมกลับภูมิใจที่ภารกิจจบ GenX Academy ปิดลงเพราะเราไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่เราทำมันได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นผลไปทั่วอย่างที่เราอยากเห็น . มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผลลัพธ์จากการได้แบบอย่างที่ดีมาก่อนหน้านั้น มันได้ขยายผลอย่างเป็นรูปธรรมในภายหลัง ตอนอยู่ที่บัตเตอร์ฟลาย พี่ๆ ทำโรงเรียน B.I.T. กันให้ผมเห็นเป็นตัวอย่าง สอนกันอยู่หลายรุ่น ผมได้ช่วยสอนเรื่อง Synthesizer พอมาทำงานกับพี่เต๋อ ไม่ว่าพี่เขาจะมีงานบริหารตื่นเช้าเพียงใด ตกเย็นพี่เต๋อจะมาขลุกอยู่กับพวกเราที่สตูดิโอแทบทุกวัน มีเรื่องมากมายที่ผมได้เรียนรู้ ตอนนั้นยึดหัวหาดที่ห้องอัดศรีสยามเป็นหลัก ผมยังจำประโยคที่พี่เต๋อพูดตอนที่ทานอาหารร่วมกันในคืนหนึ่ง ผมอยู่กับทีมและมีน้องๆ รุ่นใหม่บางคนกำลังเรียนรู้การทำงาน ดูเหมือนวันนั้นจะมีก๊อล์ฟวายนอทเซเว่น... พี่เต๋อพูดว่า "เราต้องสอนน้องๆ ต้องสร้างน้องๆ รุ่นใหม่ที่คิดเหมือนเรา ตั้งใจทำงานให้ดีมีคุณภาพ เชื่อในมาตรฐานการทำงานแบบที่เราทำ" . คุณธรรมในวงการเพลง ไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่ายโดยทั่วไป แม้เคยเจอกับพวกยุคมืด แต่ผมก็ยังโชคดีที่เห็นมันในยุคของพี่เต๋อและการทำงานกับพี่ๆ หลายคน ผมมีน้องๆ ที่รู้จักชอบพอกันหลายคนอยู่ในค่ายเพลงอื่น ผมมักจะได้ยินเสียงสะท้อนออกมาให้รู้เสมอ หลากหลายเรื่องราว.. อย่างหนึ่งที่มักได้ยินจากฝั่งของอาร์เอส พูดตามจริง ไม่ค่อยดีนัก การดูแลชีวิตและให้เกียรติคนทำงานผลิตไม่ได้ดีเท่าไหร่ ความเป็นธรรมในการจ้าง ส่วนแบ่งในรายได้ ที่สำคัญคือการปันผลให้คนสร้างสรรค์ ไม่ค่อยดีนัก และลิขสิทธิ์อยู่กับนายทุนหมด ผู้ประพันธ์ไม่มีสิทธิ์เลย อย่างน้อยก็ได้ยินมาอย่างนั้น อย่างที่เคยเป็นข่าวไป ผู้แต่งไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเล่นเพลงที่ตัวเองสร้างขึ้นเพราะสิทธิ์ไปอยู่กับเสี่ยเจ้าของค่าย และน่าทุเรศคือ มันฟ้องผู้แต่งที่เอาเพลงที่ตนเองแต่งมาเล่นโดยไม่ขออนุญาตมัน... ยังดีที่แกรมมี่ถือลิขสิทธิ์ร่วมกันกับผู้ประพันธ์ แม้ว่าระบบจะไม่มีการปรับระดับเพดานให้ดีมากขึ้นตามกาลเวลาและค่าครองชีพ แต่ระบบจัดเก็บและดูแลพับลิชชิ่งของแกรมมี่ยังคงทำงานมาตลอด และยี่สิบปีที่ผ่านมายังคงมีส่วนแบ่งโอนเข้าบัญชีเสมอไม่ได้ขาด มากบ้างน้อยบ้าง . มีนายทุนสายบันเทิงไม่น้อยที่ผมรู้เช่นเห็นชาติมาแต่โบราณ ต้องใช้คำนี้ เช่น บริษัทหนึ่งที่โดดเด่นในการทำคาราโอเกะมีนางแบบโป๊เดินอล่างฉ่างประกอบแบ๊คกิ้งแทร็ค วันนึงร่วมกับบริษัทญี่ปุ่นที่มีเน็ทเวิร์คโฟโต้บุ๊ควัยรุ่นนุ่งน้อยห่มน้อยซึ่งบางที น้อยมาก... ทำค่ายไอดอลข้ามชาติกัน ผมเคยพยายามเตือน ผลคือทัวร์ลง. ไม่มีใครรู้ว่าสัญญาที่เซ็นต์นั้นครอบคลุมการเป็นเจ้าของตัวตนไปจนถึงภาพถ่ายเซลฟี่ส่วนตัวของศิลปินในสังกัดคนนั้น พวกนั้นสามารถอ้างได้แม้ลิขสิทธิของภาพที่เป็นส่วนตัว ในพื้นที่การทำงานเช่น คอนเสิร์ท การปรากฏตัวในที่ต่างๆ ฯ เขาไม่อนุญาตให้ช่างภาพอื่นที่เป็นคนนอกถ่ายภาพเลย แต่จะมีช่างภาพของเขาเท่านั้นที่จะตามถ่ายตลอดเวลา แม้จะเป็นเวลาและพื้นที่ที่ไม่สมควรถ่ายก็จะถูกถ่ายไปได้ คลังภาพจำนวนมากถูกเก็บไว้และเป็นสิทธิของเขาตามกฏหมาย และคุณไม่มีทางรู้ว่ามีภาพอะไรที่ไม่ควรถ่ายถูกถ่ายเก็บไว้ . คุณธรรมในวงการนี้หายากมาก และยิ่งในยุคนี้คุณจะยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นไปอีกเพราะมาตรฐานทางจริยธรรมของมนุษย์ตกต่ำมาก ไม่กี่วันมานี้ มีคุณแม่คนหนึ่งออกมาพูดออกสื่อโซเชียลแทนลูกชายที่โดนคดีทำร้ายผู้หญิงว่า... "อย่าให้เรื่องทะเลาะกันของชายหญิงมาทำให้อนาคตเสียเลย มันเล็กน้อยมาก ขอให้คิดว่าน้องเขาเป็นเด็กเรียนดี เรียนเก่ง ให้ดูที่การเรียนของน้องเป็นสำคัญ เรื่องอื่นมันเล็กน้อย".... นี่คือตรรกะของสังคมที่ป่วยและผู้คนขาดวิจารณญาณในการพิจารณาชั่วดี . กรรมเป็นตัวกำหนด คนที่ทำกรรมใดไว้จะได้รับผลของกรรมนั้นแล กราบขอบพระคุณ พี่ๆ และครูอาจารย์ที่ปูทางให้โลกของผมตลอดสามสิบกว่าปีที่ผ่านไป มีความดีงามและอุ้มชูผมมาตลอดอาชีพการทำงาน . ขอภาวนาให้สิทธิผู้ประพันธ์คืนกลับไปยังผู้สร้างสรรค์ทุกท่าน .
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • ความมีอยู่ว่า...

    ... เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ย “หลานจ้าน! อย่า! เจ้าอย่ายอมถอย!”
    หากแต่หลานว่างจีถอยไปห้าก้าวแล้วอย่างไม่ลังเล จินกวงเหยาจึงกล่าว “ดีมาก ขั้นต่อมาก็คือขอให้ท่านนำกระบี่ปี้เฉินเก็บเข้าฝักด้วย”
    ในความเงียบ หลานว่างจีทำตามอย่างไม่ชักช้า เว่ยอู๋เซี่ยนกล่าว “เจ้าอย่าได้คืบเอาศอก!”
    จินกวงเหยากล่าว “เพียงเท่านี้ก็เรียกได้คืบเอาศอก? ข้าพเจ้ากำลังจะขอให้ท่านหานกวงจวินจี้สกัดจุดพลังของตนเองอยู่เชียว เช่นนั้นจะเรียกว่าอย่างไร?” ...

    - จากเรื่อง <ปรมาจารย์ลัทธิมาร>

    เพียงคนเดียวแต่กลับเรียกขานด้วยถึงสามชื่อ คือ หลานจ้าน หลานว่างจี และหานกวงจวิน ลูกเพจเคยสงสัยไหมคะว่าทำไม?

    ชื่อจีนในสมัยโบราณ มีคำว่า หมิง (名) จึ้อ (字) และอาจมี ฮ่าว (号)

    หมิง (名) คือชื่อที่ครอบครัวตั้งให้ มีทั้งที่มีความหมายดี หรือบางครั้งก็เป็นชื่อเรียกเล่นๆ ในที่นี่หลานจ้านของเรามีชื่อ (หรือหมิง) ว่า “จ้าน” ซึ่งแปลว่าความกระจ่างหรือความลึกซึ้ง

    ส่วน จึ้อ (字) คือชื่อรอง หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นชื่อที่ครูบาอาจารย์หรือผู้ใหญ่ที่นับถือตั้งให้สำหรับผู้ที่ได้ผ่านการเล่าเรียนมา โดยทั่วไปจะได้รับการตั้งชื่อเมื่อสตรีอายุครบสิบห้าปี (หรือวัยปักปิ่น) หรือเมื่อบุรุษอายุครบยี่สิบปี (หรือวัยครอบมงกฎผม) ซึ่งชื่อนี้มักเป็นชื่อที่บ่งบอกคุณธรรมประจำตัวของลูกศิษย์ที่อาจารย์ได้สังเกตเห็น เมื่อมีชื่อเป็นทางการนี้แล้ว คนทั่วไปจะต้องเรียกขานเขาผู้นั้นด้วยชื่อทางการนี้เพื่อแสดงการให้เกียรติ ในขณะที่ชื่อที่ครอบครัวตั้งให้จะมีเฉพาะคนในครอบครัวหรือคนที่สนิทจริงๆ จึงจะเรียกได้ โดยสังเกตได้จากในเนื้อเรื่องที่มีเพียงพระเอก(เว่ยอู๋เซี่ยน)และพี่ชายของหลานจ้านที่เรียกเขาด้วยนามนี้ ซึ่ง “ว่างจี” เป็นชื่อทางการ มีความหมายว่าลืมหรือปล่อยวางเล่ห์กลหรือความคิดไม่สุจริต

    ส่วนฮ่าว (号) ก็คือฉายา ซึ่งลูกเพจที่คุ้นเคยกับนิยายกำลังภายในจะคุ้นกับการมีฉายาบ้าง ในจีนโบราณไม่ใช่ทุกคนที่จะมีฉายา คนที่ได้รับการตั้งฉายาจะเป็นผู้ที่มีสถานะหรือตำแหน่งสูงส่ง เพราะเป็นการเรียกอย่างยกย่องยิ่ง หลานจ้านมีฉายาว่า “หานกวงจวิน” แปลได้ว่าผู้ซึ่งมีแสงสว่างอยู่ภายใน

    Credit รูปภาพจาก: https://filmdaily.co/obsessions/the-untamed-supporting-characters/
    Credit เนื้อหารวบรวมจาก:
    http://m.tianya999.com/question/2019/0902/18259581.html
    https://www.sohu.com/a/205641364_786465
    https://www.xingming.com/xmzs/1584.html

    #ปรมาจารย์ลัทธิมาร #ชื่อแซ่จีน StoryfromStory
    ความมีอยู่ว่า... ... เว่ยอู๋เซี่ยนเอ่ย “หลานจ้าน! อย่า! เจ้าอย่ายอมถอย!” หากแต่หลานว่างจีถอยไปห้าก้าวแล้วอย่างไม่ลังเล จินกวงเหยาจึงกล่าว “ดีมาก ขั้นต่อมาก็คือขอให้ท่านนำกระบี่ปี้เฉินเก็บเข้าฝักด้วย” ในความเงียบ หลานว่างจีทำตามอย่างไม่ชักช้า เว่ยอู๋เซี่ยนกล่าว “เจ้าอย่าได้คืบเอาศอก!” จินกวงเหยากล่าว “เพียงเท่านี้ก็เรียกได้คืบเอาศอก? ข้าพเจ้ากำลังจะขอให้ท่านหานกวงจวินจี้สกัดจุดพลังของตนเองอยู่เชียว เช่นนั้นจะเรียกว่าอย่างไร?” ... - จากเรื่อง <ปรมาจารย์ลัทธิมาร> เพียงคนเดียวแต่กลับเรียกขานด้วยถึงสามชื่อ คือ หลานจ้าน หลานว่างจี และหานกวงจวิน ลูกเพจเคยสงสัยไหมคะว่าทำไม? ชื่อจีนในสมัยโบราณ มีคำว่า หมิง (名) จึ้อ (字) และอาจมี ฮ่าว (号) หมิง (名) คือชื่อที่ครอบครัวตั้งให้ มีทั้งที่มีความหมายดี หรือบางครั้งก็เป็นชื่อเรียกเล่นๆ ในที่นี่หลานจ้านของเรามีชื่อ (หรือหมิง) ว่า “จ้าน” ซึ่งแปลว่าความกระจ่างหรือความลึกซึ้ง ส่วน จึ้อ (字) คือชื่อรอง หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นชื่อที่ครูบาอาจารย์หรือผู้ใหญ่ที่นับถือตั้งให้สำหรับผู้ที่ได้ผ่านการเล่าเรียนมา โดยทั่วไปจะได้รับการตั้งชื่อเมื่อสตรีอายุครบสิบห้าปี (หรือวัยปักปิ่น) หรือเมื่อบุรุษอายุครบยี่สิบปี (หรือวัยครอบมงกฎผม) ซึ่งชื่อนี้มักเป็นชื่อที่บ่งบอกคุณธรรมประจำตัวของลูกศิษย์ที่อาจารย์ได้สังเกตเห็น เมื่อมีชื่อเป็นทางการนี้แล้ว คนทั่วไปจะต้องเรียกขานเขาผู้นั้นด้วยชื่อทางการนี้เพื่อแสดงการให้เกียรติ ในขณะที่ชื่อที่ครอบครัวตั้งให้จะมีเฉพาะคนในครอบครัวหรือคนที่สนิทจริงๆ จึงจะเรียกได้ โดยสังเกตได้จากในเนื้อเรื่องที่มีเพียงพระเอก(เว่ยอู๋เซี่ยน)และพี่ชายของหลานจ้านที่เรียกเขาด้วยนามนี้ ซึ่ง “ว่างจี” เป็นชื่อทางการ มีความหมายว่าลืมหรือปล่อยวางเล่ห์กลหรือความคิดไม่สุจริต ส่วนฮ่าว (号) ก็คือฉายา ซึ่งลูกเพจที่คุ้นเคยกับนิยายกำลังภายในจะคุ้นกับการมีฉายาบ้าง ในจีนโบราณไม่ใช่ทุกคนที่จะมีฉายา คนที่ได้รับการตั้งฉายาจะเป็นผู้ที่มีสถานะหรือตำแหน่งสูงส่ง เพราะเป็นการเรียกอย่างยกย่องยิ่ง หลานจ้านมีฉายาว่า “หานกวงจวิน” แปลได้ว่าผู้ซึ่งมีแสงสว่างอยู่ภายใน Credit รูปภาพจาก: https://filmdaily.co/obsessions/the-untamed-supporting-characters/ Credit เนื้อหารวบรวมจาก: http://m.tianya999.com/question/2019/0902/18259581.html https://www.sohu.com/a/205641364_786465 https://www.xingming.com/xmzs/1584.html #ปรมาจารย์ลัทธิมาร #ชื่อแซ่จีน StoryfromStory
    FILMDAILY.CO
    'The Untamed': Don't overlook these amazing supporting characters – Film Daily
    Here are some of the best supporting characters in 'The Untamed' that cannot go overlooked in this C-drama fantasy.
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • EP 51 Make PCB แบบ DIY by using 3D resin printer
    ทำ PCB จาก 3D resin printer แบบเต็มรูปแบบ Fix bug มี 2 แบบให้เลือก ทั้ง Positive & Negative PCB dry film
    3D Resin printer มีลำแสง UV 405 nM เหมาะสำหรับ PCB dryfilm

    Software ที่ใช้
    gerbv ใช้แปลงไฟล์ Gerber เป้น SVG
    Inkscape ใช้เปิด SVG และ save file เปลี่ยน Raster เป็น vector file.
    CAM350 change positive gerber to Negative gerber
    Bambu Studio ใช้ Import SVG file to 3D file ( STL and etc.. ) and export
    Use STL program to 3D resin printer make PCB DIY

    Note : วิธีต่างจากของฝร้่ง
    EP 51 Make PCB แบบ DIY by using 3D resin printer ทำ PCB จาก 3D resin printer แบบเต็มรูปแบบ Fix bug มี 2 แบบให้เลือก ทั้ง Positive & Negative PCB dry film 3D Resin printer มีลำแสง UV 405 nM เหมาะสำหรับ PCB dryfilm Software ที่ใช้ gerbv ใช้แปลงไฟล์ Gerber เป้น SVG Inkscape ใช้เปิด SVG และ save file เปลี่ยน Raster เป็น vector file. CAM350 change positive gerber to Negative gerber Bambu Studio ใช้ Import SVG file to 3D file ( STL and etc.. ) and export Use STL program to 3D resin printer make PCB DIY Note : วิธีต่างจากของฝร้่ง
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • Google ได้เปิดตัว 100 Zeros ซึ่งเป็นโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่ โดยร่วมมือกับ Range Media Partners ซึ่งเป็นบริษัทด้านความสามารถและการผลิตที่มีผลงานในภาพยนตร์ เช่น A Complete Unknown และ Longlegs

    โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อ สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่สามารถใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสานโลกจริงกับโลกเสมือน นอกจากนี้ Google ยังต้องการ เพิ่มการยอมรับและการใช้งานบริการใหม่ ๆ เช่น Gemini ซึ่งเป็นคู่แข่งของ ChatGPT

    แม้ว่าจะมีการลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิง แต่ Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเผยแพร่ผลงานของ 100 Zeros โดยตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix

    ✅ Google เปิดตัวโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่
    - ร่วมมือกับ Range Media Partners
    - สนับสนุน การใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing

    ✅ เป้าหมายของโครงการ
    - เพิ่มการยอมรับและการใช้งาน บริการใหม่ ๆ เช่น Gemini
    - สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย

    ✅ ตัวอย่างภาพยนตร์ที่ได้รับการสนับสนุน
    - Cuckoo ซึ่งเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอินดี้
    - Sweetwater และ LUCID ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับ AI

    ✅ Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักของโครงการ
    - ตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/google-has-launched-new-film-and-tv-production-wing-business-insider-reports
    Google ได้เปิดตัว 100 Zeros ซึ่งเป็นโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่ โดยร่วมมือกับ Range Media Partners ซึ่งเป็นบริษัทด้านความสามารถและการผลิตที่มีผลงานในภาพยนตร์ เช่น A Complete Unknown และ Longlegs โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อ สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่สามารถใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสานโลกจริงกับโลกเสมือน นอกจากนี้ Google ยังต้องการ เพิ่มการยอมรับและการใช้งานบริการใหม่ ๆ เช่น Gemini ซึ่งเป็นคู่แข่งของ ChatGPT แม้ว่าจะมีการลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิง แต่ Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเผยแพร่ผลงานของ 100 Zeros โดยตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix ✅ Google เปิดตัวโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่ - ร่วมมือกับ Range Media Partners - สนับสนุน การใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing ✅ เป้าหมายของโครงการ - เพิ่มการยอมรับและการใช้งาน บริการใหม่ ๆ เช่น Gemini - สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ✅ ตัวอย่างภาพยนตร์ที่ได้รับการสนับสนุน - Cuckoo ซึ่งเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอินดี้ - Sweetwater และ LUCID ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับ AI ✅ Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักของโครงการ - ตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/google-has-launched-new-film-and-tv-production-wing-business-insider-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Google has launched new film and TV production wing, Business Insider reports
    (Reuters) -Google has launched a new film and TV production initiative to scout projects it could fund or co-produce, Business Insider reported, a move that could help it capitalize on an industry reeling from rising production costs and potential U.S. tariffs.
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • Fujifilm ได้เปิดตัวทีเซอร์สำหรับกล้องดิจิทัลแบบครึ่งเฟรม (half-frame) รุ่นใหม่ที่อาจใช้ชื่อว่า X-Half โดยกล้องนี้มีการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ ทีเซอร์นี้มาพร้อมกับคำโปรยว่า "Half the Size, Twice the Story" ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการถ่ายภาพในรูปแบบครึ่งเฟรมที่ช่วยเพิ่มจำนวนภาพต่อม้วนฟิล์ม

    ✅ กล้องครึ่งเฟรมที่ผสมผสานความคลาสสิกและดิจิทัล
    - ใช้การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกล้องฟิล์ม 35 มม.
    - มีหน้าจอ LCD แนวตั้งที่ช่วยในการจัดองค์ประกอบภาพ

    ✅ รองรับการถ่ายภาพในรูปแบบครึ่งเฟรม
    - สามารถถ่ายภาพสองภาพในเฟรมเดียวของฟิล์ม 35 มม.
    - เหมาะสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ต้องการภาพแนวตั้งสำหรับโซเชียลมีเดีย

    ✅ การออกแบบที่เน้นความคลาสสิกและการใช้งานง่าย
    - มีปุ่มควบคุมแบบ manual และช่องมองภาพแบบ optical
    - อาจมีหน้าจอแสดงผลฟิล์มจำลอง (film simulation) ที่ด้านหลัง

    ✅ การใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว
    - ช่วยให้สามารถสร้างภาพแบบ diptych หรือภาพสองภาพในเฟรมเดียว

    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/fujifilm-has-officially-teased-its-unique-half-frame-camera-and-there-could-be-a-secret-screen
    Fujifilm ได้เปิดตัวทีเซอร์สำหรับกล้องดิจิทัลแบบครึ่งเฟรม (half-frame) รุ่นใหม่ที่อาจใช้ชื่อว่า X-Half โดยกล้องนี้มีการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ ทีเซอร์นี้มาพร้อมกับคำโปรยว่า "Half the Size, Twice the Story" ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการถ่ายภาพในรูปแบบครึ่งเฟรมที่ช่วยเพิ่มจำนวนภาพต่อม้วนฟิล์ม ✅ กล้องครึ่งเฟรมที่ผสมผสานความคลาสสิกและดิจิทัล - ใช้การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกล้องฟิล์ม 35 มม. - มีหน้าจอ LCD แนวตั้งที่ช่วยในการจัดองค์ประกอบภาพ ✅ รองรับการถ่ายภาพในรูปแบบครึ่งเฟรม - สามารถถ่ายภาพสองภาพในเฟรมเดียวของฟิล์ม 35 มม. - เหมาะสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ต้องการภาพแนวตั้งสำหรับโซเชียลมีเดีย ✅ การออกแบบที่เน้นความคลาสสิกและการใช้งานง่าย - มีปุ่มควบคุมแบบ manual และช่องมองภาพแบบ optical - อาจมีหน้าจอแสดงผลฟิล์มจำลอง (film simulation) ที่ด้านหลัง ✅ การใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว - ช่วยให้สามารถสร้างภาพแบบ diptych หรือภาพสองภาพในเฟรมเดียว https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/fujifilm-has-officially-teased-its-unique-half-frame-camera-and-there-could-be-a-secret-screen
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • Anker ได้เปิดตัว UV Printer E1 ภายใต้แบรนด์ eufyMake ซึ่งเป็น เครื่องพิมพ์ UV แบบ 3D สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวหลากหลายประเภท เช่น ไม้, โลหะ, อะคริลิก, หนัง, แก้ว, หิน และเซรามิก

    ✅ UV Printer E1 สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวที่หลากหลาย
    - ใช้ UV light เพื่อทำให้หมึกแห้งอย่างรวดเร็ว
    - สามารถพิมพ์ลงบน ถ้วย, กระเบื้อง, กระดาษ, ผ้าใบ และวัสดุอื่นๆ

    ✅ รองรับการพิมพ์แบบ 3D และเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI
    - สามารถสร้าง พื้นผิวแบบ 3D และใช้ AI ในการแก้ไขภาพ
    - รองรับการพิมพ์แบบ Direct-to-Film (DTF) ซึ่งช่วยให้สามารถถ่ายโอนภาพไปยังพื้นผิวที่หลากหลาย

    ✅ ขนาดกะทัดรัดและเหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    - เครื่องพิมพ์นี้มีขนาดเล็กกว่ารุ่นอุตสาหกรรมถึง 90%
    - เหมาะสำหรับ ธุรกิจขนาดเล็ก, นักออกแบบ และผู้ใช้ทั่วไป

    ✅ การเปิดตัวและราคา
    - เปิดตัวผ่าน Kickstarter ในเดือนเมษายน 2025
    - ราคาเริ่มต้นที่ $1,499 พร้อมเงินมัดจำ $50
    - การจัดส่งเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2025 ไปยัง สหรัฐฯ, แคนาดา, ยุโรป, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์

    https://www.techspot.com/news/107560-world-first-personal-3d-texturing-uv-printer-paints.html
    Anker ได้เปิดตัว UV Printer E1 ภายใต้แบรนด์ eufyMake ซึ่งเป็น เครื่องพิมพ์ UV แบบ 3D สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวหลากหลายประเภท เช่น ไม้, โลหะ, อะคริลิก, หนัง, แก้ว, หิน และเซรามิก ✅ UV Printer E1 สามารถพิมพ์ลงบนพื้นผิวที่หลากหลาย - ใช้ UV light เพื่อทำให้หมึกแห้งอย่างรวดเร็ว - สามารถพิมพ์ลงบน ถ้วย, กระเบื้อง, กระดาษ, ผ้าใบ และวัสดุอื่นๆ ✅ รองรับการพิมพ์แบบ 3D และเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI - สามารถสร้าง พื้นผิวแบบ 3D และใช้ AI ในการแก้ไขภาพ - รองรับการพิมพ์แบบ Direct-to-Film (DTF) ซึ่งช่วยให้สามารถถ่ายโอนภาพไปยังพื้นผิวที่หลากหลาย ✅ ขนาดกะทัดรัดและเหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป - เครื่องพิมพ์นี้มีขนาดเล็กกว่ารุ่นอุตสาหกรรมถึง 90% - เหมาะสำหรับ ธุรกิจขนาดเล็ก, นักออกแบบ และผู้ใช้ทั่วไป ✅ การเปิดตัวและราคา - เปิดตัวผ่าน Kickstarter ในเดือนเมษายน 2025 - ราคาเริ่มต้นที่ $1,499 พร้อมเงินมัดจำ $50 - การจัดส่งเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2025 ไปยัง สหรัฐฯ, แคนาดา, ยุโรป, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์ https://www.techspot.com/news/107560-world-first-personal-3d-texturing-uv-printer-paints.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The world's first personal 3D texturing UV printer paints on almost any surface
    The UV Printer E1 from Anker's eufyMake brand allows non-business customers to print detailed color designs onto cups, tiles, paper, canvas, and numerous other materials. It supports...
    0 Comments 0 Shares 375 Views 0 Reviews
  • แม้ชื่อ Ajinomoto จะเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิต MSG (Monosodium Glutamate) ซึ่งเป็นเครื่องปรุงรสยอดนิยมในอาหารทั่วโลก แต่บริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ยังมีบทบาทสำคัญในโลกเทคโนโลยี ด้วยการเป็นผู้ผลิตวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญอย่าง Ajinomoto Build-up Film (ABF) ซึ่งเป็นวัสดุฉนวนที่จำเป็นสำหรับบรรจุภัณฑ์ CPU และ GPU โดย Ajinomoto ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 95% ของ ABF ทั่วโลก

    ✅ การขยายกำลังการผลิต:
    - Ajinomoto วางแผนเพิ่มกำลังการผลิต ABF ขึ้น 50% ภายในปี 2030 เพื่อรองรับความต้องการของเซมิคอนดักเตอร์รุ่นใหม่
    - บริษัทได้ลงทุนไปกว่า 25 พันล้านเยน ในสองปีที่ผ่านมาเพื่อขยายโรงงานในเมือง Gunma และ Kawasaki และมีแผนลงทุนเพิ่มในระดับเดียวกันหรือมากกว่านี้

    ✅ ความสำคัญของ ABF:
    - ABF ถูกพัฒนาโดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านเคมีกรดอะมิโน และเป็นวัสดุสำคัญที่ช่วยสร้างความเสถียรทางความร้อนและฉนวนไฟฟ้าในเซมิคอนดักเตอร์
    - วัสดุนี้เป็นหัวใจสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยุคใหม่ ซึ่งช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของ CPU และ GPU

    ✅ การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง:
    - Ajinomoto ตั้งเป้าพัฒนา ABF ให้มีความสามารถสูงยิ่งขึ้นเพื่อรองรับเซมิคอนดักเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในระยะยาว
    - นาย Shigeo Nakamura ซึ่งเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทในปี 2025 มีบทบาทสำคัญในการผลักดันการพัฒนาด้านวัสดุอิเล็กทรอนิกส์

    https://www.techradar.com/pro/japanese-firm-behind-ubiquitous-msg-is-ramping-up-production-of-key-material-in-semiconductor-packaging
    แม้ชื่อ Ajinomoto จะเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิต MSG (Monosodium Glutamate) ซึ่งเป็นเครื่องปรุงรสยอดนิยมในอาหารทั่วโลก แต่บริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ยังมีบทบาทสำคัญในโลกเทคโนโลยี ด้วยการเป็นผู้ผลิตวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญอย่าง Ajinomoto Build-up Film (ABF) ซึ่งเป็นวัสดุฉนวนที่จำเป็นสำหรับบรรจุภัณฑ์ CPU และ GPU โดย Ajinomoto ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 95% ของ ABF ทั่วโลก ✅ การขยายกำลังการผลิต: - Ajinomoto วางแผนเพิ่มกำลังการผลิต ABF ขึ้น 50% ภายในปี 2030 เพื่อรองรับความต้องการของเซมิคอนดักเตอร์รุ่นใหม่ - บริษัทได้ลงทุนไปกว่า 25 พันล้านเยน ในสองปีที่ผ่านมาเพื่อขยายโรงงานในเมือง Gunma และ Kawasaki และมีแผนลงทุนเพิ่มในระดับเดียวกันหรือมากกว่านี้ ✅ ความสำคัญของ ABF: - ABF ถูกพัฒนาโดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านเคมีกรดอะมิโน และเป็นวัสดุสำคัญที่ช่วยสร้างความเสถียรทางความร้อนและฉนวนไฟฟ้าในเซมิคอนดักเตอร์ - วัสดุนี้เป็นหัวใจสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยุคใหม่ ซึ่งช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของ CPU และ GPU ✅ การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง: - Ajinomoto ตั้งเป้าพัฒนา ABF ให้มีความสามารถสูงยิ่งขึ้นเพื่อรองรับเซมิคอนดักเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในระยะยาว - นาย Shigeo Nakamura ซึ่งเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทในปี 2025 มีบทบาทสำคัญในการผลักดันการพัฒนาด้านวัสดุอิเล็กทรอนิกส์ https://www.techradar.com/pro/japanese-firm-behind-ubiquitous-msg-is-ramping-up-production-of-key-material-in-semiconductor-packaging
    0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องเคยเห็นอุปกรณ์จุดไฟชนิดหนึ่งในละครจีนหลายเรื่อง หน้าตาเป็นกระบอกไม้ไผ่เล็กๆ เปิดฝามาใช้มือโบกพัดหรือปากเป่าไม่กี่ทีก็มีไฟติด ใช้แทนเทียนได้ ซึ่ง Storyฯ คิดว่ามันน่าทึ่งมากเพราะไม่ต้องใช้หินเหล็กตีให้เกิดประกายไฟและไม่ต้องมีการชักสูบเหมือนตะบันไฟ Storyฯ ขอเรียกมันว่า ‘กระบอกจุดไฟ’ หรือที่ชาวจีนเรียกว่า ‘หั่วเจ๋อจื่อ’ (火折子)

    จากบันทึกโบราณ เทคโนโลยีนี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ประมาณช่วงปีค.ศ. 577) เป็นวิธีการเก็บไฟไว้ใช้ของนางกำนัลในวังโดยใช้กระดาษเนื้อหยาบมาม้วนอัดลงไปในถังไม้แล้วจุดไฟ จากนั้นก็ดับไฟลงจนไม่เหลือเปลวไฟแต่ยังมีสะเก็ดไฟคุกรุ่นไว้แล้วก็ปิดฝาไว้ พอจะใช้ก็เปิดฝาออกมาเป่าจนไฟติด ต่อมาจึงพัฒนามาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พกพาได้ แต่แรกเริ่มนั้น จุดติดได้เพียงครั้งเดียว

    กระบอกจุดไฟแบบนี้เป็นที่นิยมเพราะสะดวกต่อการพกพา และเมื่อเป็นที่นิยมมากขึ้นกรรมวิธีการทำก็ซับซ้อนขึ้น วิธีทำกระบอกไฟที่ดีคือใช้วัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงได้ (เช่น กระดาษเนื้อหยาบ หญ้าบางชนิด มูลสัตว์ หรืออย่างดีคือเถามันเทศและปุยนุ่น) มาหมักน้ำแล้วบีบทุบและเค้นจนเป็นใย ทำอย่างนี้หลายครั้งก่อนจะนำไปตากแห้ง จากนั้นก็นำไปผสมกับขี้ไต้ (ส่วนผสมเท่าที่หาข้อมูลได้ก็มี ดีเกลือ ผงกำมะถัน ยางสน และการบูร) แล้วอัดเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ ก่อนใช้ต้องจุดไฟจนติดแรง แล้วค่อยดับไฟลงจนเหลือเพียงสะเก็ดไฟคุกรุ่นอยู่ข้างในแต่ไม่เหลือเปลวไฟ แล้วจึงปิดกระบอกด้วยฝาที่มีรูเล็ก พอจะใช้ก็เปิดออกแล้วเป่าจนไฟติด สามารถใช้ได้หลายครั้งจนเชื้อเพลิงหมดกระบอก และสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานหลายวัน

    ฟังดูเหมือนง่าย แต่ความยากของมันอยู่ที่ความพอดีของวัสดุเชื้อเพลิงและขี้ไต้ และความหนาแน่นที่พอดีในกระบอกที่ใส่ แน่นอนว่ากระบอกจุดไฟหั่วเจ๋อจื่อมีหลายเกรดแตกต่างกัน ในกลุ่มผู้มีอันจะกินจะใช้เชื้อเพลิงจากใยมันเทศและนุ่นผสมขี้ไต้ตามที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งกรรมวิธีทำจะซับซ้อน แต่จุดง่ายกว่า เพียงใช้มือโบกพัดไม่กี่ทีก็จุดติด

    ส่วนชาวบ้านธรรมดานิยมใช้เยื่อกระดาษหยาบ จะติดไฟยากกว่า เวลาเป่าให้ไฟติดจึงต้องมีเทคนิคมากหน่อย เพราะต้องเป็นลมที่เกิดอย่างกะทันหัน สั้นและแรง จึงจะก่อให้เกิดแรงกระตุ้นที่ดี เพราะฉะนั้นอย่างที่เราเห็นในละคร... ถ้าเราเป็นจอมยุทธ์ก็เพียงสะบัดมือวืดเดียวค่ะ แต่ถ้าไร้วรยุทธ์ก็ต้องใช้ปากเป่าค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากละคร <ปริศนาลับราชวงศ์ถัง> และจาก:
    https://k.sina.cn/article_5100008885_12ffbf5b500100ysyy.html?from=ent&subch=film
    https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html
    https://kknews.cc/history/x4q6ojr.html
    http://m.qulishi.com/article/202009/438462.html

    #ปริศนาลับราชวงศ์ถัง #กระบอกไฟ #แท่งไฟโบราณ #แท่งจุดไฟ #หั่วเจ๋อจื่อ #กระบอกจุดไฟโบราณ
    เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องเคยเห็นอุปกรณ์จุดไฟชนิดหนึ่งในละครจีนหลายเรื่อง หน้าตาเป็นกระบอกไม้ไผ่เล็กๆ เปิดฝามาใช้มือโบกพัดหรือปากเป่าไม่กี่ทีก็มีไฟติด ใช้แทนเทียนได้ ซึ่ง Storyฯ คิดว่ามันน่าทึ่งมากเพราะไม่ต้องใช้หินเหล็กตีให้เกิดประกายไฟและไม่ต้องมีการชักสูบเหมือนตะบันไฟ Storyฯ ขอเรียกมันว่า ‘กระบอกจุดไฟ’ หรือที่ชาวจีนเรียกว่า ‘หั่วเจ๋อจื่อ’ (火折子) จากบันทึกโบราณ เทคโนโลยีนี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ประมาณช่วงปีค.ศ. 577) เป็นวิธีการเก็บไฟไว้ใช้ของนางกำนัลในวังโดยใช้กระดาษเนื้อหยาบมาม้วนอัดลงไปในถังไม้แล้วจุดไฟ จากนั้นก็ดับไฟลงจนไม่เหลือเปลวไฟแต่ยังมีสะเก็ดไฟคุกรุ่นไว้แล้วก็ปิดฝาไว้ พอจะใช้ก็เปิดฝาออกมาเป่าจนไฟติด ต่อมาจึงพัฒนามาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พกพาได้ แต่แรกเริ่มนั้น จุดติดได้เพียงครั้งเดียว กระบอกจุดไฟแบบนี้เป็นที่นิยมเพราะสะดวกต่อการพกพา และเมื่อเป็นที่นิยมมากขึ้นกรรมวิธีการทำก็ซับซ้อนขึ้น วิธีทำกระบอกไฟที่ดีคือใช้วัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงได้ (เช่น กระดาษเนื้อหยาบ หญ้าบางชนิด มูลสัตว์ หรืออย่างดีคือเถามันเทศและปุยนุ่น) มาหมักน้ำแล้วบีบทุบและเค้นจนเป็นใย ทำอย่างนี้หลายครั้งก่อนจะนำไปตากแห้ง จากนั้นก็นำไปผสมกับขี้ไต้ (ส่วนผสมเท่าที่หาข้อมูลได้ก็มี ดีเกลือ ผงกำมะถัน ยางสน และการบูร) แล้วอัดเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ ก่อนใช้ต้องจุดไฟจนติดแรง แล้วค่อยดับไฟลงจนเหลือเพียงสะเก็ดไฟคุกรุ่นอยู่ข้างในแต่ไม่เหลือเปลวไฟ แล้วจึงปิดกระบอกด้วยฝาที่มีรูเล็ก พอจะใช้ก็เปิดออกแล้วเป่าจนไฟติด สามารถใช้ได้หลายครั้งจนเชื้อเพลิงหมดกระบอก และสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานหลายวัน ฟังดูเหมือนง่าย แต่ความยากของมันอยู่ที่ความพอดีของวัสดุเชื้อเพลิงและขี้ไต้ และความหนาแน่นที่พอดีในกระบอกที่ใส่ แน่นอนว่ากระบอกจุดไฟหั่วเจ๋อจื่อมีหลายเกรดแตกต่างกัน ในกลุ่มผู้มีอันจะกินจะใช้เชื้อเพลิงจากใยมันเทศและนุ่นผสมขี้ไต้ตามที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งกรรมวิธีทำจะซับซ้อน แต่จุดง่ายกว่า เพียงใช้มือโบกพัดไม่กี่ทีก็จุดติด ส่วนชาวบ้านธรรมดานิยมใช้เยื่อกระดาษหยาบ จะติดไฟยากกว่า เวลาเป่าให้ไฟติดจึงต้องมีเทคนิคมากหน่อย เพราะต้องเป็นลมที่เกิดอย่างกะทันหัน สั้นและแรง จึงจะก่อให้เกิดแรงกระตุ้นที่ดี เพราะฉะนั้นอย่างที่เราเห็นในละคร... ถ้าเราเป็นจอมยุทธ์ก็เพียงสะบัดมือวืดเดียวค่ะ แต่ถ้าไร้วรยุทธ์ก็ต้องใช้ปากเป่าค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากละคร <ปริศนาลับราชวงศ์ถัง> และจาก: https://k.sina.cn/article_5100008885_12ffbf5b500100ysyy.html?from=ent&subch=film https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html https://kknews.cc/history/x4q6ojr.html http://m.qulishi.com/article/202009/438462.html #ปริศนาลับราชวงศ์ถัง #กระบอกไฟ #แท่งไฟโบราณ #แท่งจุดไฟ #หั่วเจ๋อจื่อ #กระบอกจุดไฟโบราณ
    该文章已不存在_手机新浪网
    手机新浪网是新浪网的手机门户网站,为亿万用户打造一个手机联通世界的超级平台,提供24小时全面及时的中文资讯,内容覆盖国内外突发新闻事件、体坛赛事、娱乐时尚、产业资讯、实用信息等。手机新浪网触屏版 - sina.cn
    1 Comments 0 Shares 608 Views 0 Reviews
  • ทีมนักวิจัยจากจีนและอังกฤษพัฒนา nano-PeLEDs ที่สร้างหน้าจอระดับนาโนที่มีความละเอียดสูงอย่างไม่น่าเชื่อ เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงช่วยให้ภาพคมชัด แต่ยังสามารถใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เกมและการแพทย์ พร้อมทั้งมีการพัฒนา Active-Matrix Display เพื่อนำไปใช้เชิงพาณิชย์

    ความยืดหยุ่นในขนาดจิ๋ว:
    - ต่างจาก micro-LEDs ทั่วไปที่ประสิทธิภาพลดลงเมื่อขนาดเล็กลง Nano-PeLEDs สามารถรักษาประสิทธิภาพการใช้งานได้ดีแม้ขนาดเล็กถึง 3.5 ไมครอน ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าในการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์.

    เทคนิคการผลิตที่ก้าวล้ำ:
    - เนื่องจากวัสดุ Perovskites เปราะบาง ทีมวิจัยได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่ใช้ Localized Contact Fabrication ซึ่งช่วยปกป้องวัสดุและยังคงคุณภาพของภาพระดับสูง.

    การประยุกต์ใช้งานที่กว้างขวาง:
    - นวัตกรรมนี้สามารถนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การเล่นเกม Augmented Reality และภาพทางการแพทย์ ด้วยความสามารถในการแสดงผลที่ละเอียดและแม่นยำอย่างยิ่ง.

    ขั้นตอนต่อไปสำหรับการใช้งานจริง:
    - นักวิจัยร่วมมือกับบริษัทที่เชี่ยวชาญด้าน Thin-Film Transistor (TFT) เพื่อพัฒนา Active-Matrix Micro-PeLED Display ที่นำไปสู่การใช้งานจริงสำหรับการแสดงผลในเชิงพาณิชย์

    https://www.techspot.com/news/107344-researchers-develop-90-nanometer-leds-future-ultra-high.html
    ทีมนักวิจัยจากจีนและอังกฤษพัฒนา nano-PeLEDs ที่สร้างหน้าจอระดับนาโนที่มีความละเอียดสูงอย่างไม่น่าเชื่อ เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงช่วยให้ภาพคมชัด แต่ยังสามารถใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เกมและการแพทย์ พร้อมทั้งมีการพัฒนา Active-Matrix Display เพื่อนำไปใช้เชิงพาณิชย์ ความยืดหยุ่นในขนาดจิ๋ว: - ต่างจาก micro-LEDs ทั่วไปที่ประสิทธิภาพลดลงเมื่อขนาดเล็กลง Nano-PeLEDs สามารถรักษาประสิทธิภาพการใช้งานได้ดีแม้ขนาดเล็กถึง 3.5 ไมครอน ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าในการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์. เทคนิคการผลิตที่ก้าวล้ำ: - เนื่องจากวัสดุ Perovskites เปราะบาง ทีมวิจัยได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่ใช้ Localized Contact Fabrication ซึ่งช่วยปกป้องวัสดุและยังคงคุณภาพของภาพระดับสูง. การประยุกต์ใช้งานที่กว้างขวาง: - นวัตกรรมนี้สามารถนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การเล่นเกม Augmented Reality และภาพทางการแพทย์ ด้วยความสามารถในการแสดงผลที่ละเอียดและแม่นยำอย่างยิ่ง. ขั้นตอนต่อไปสำหรับการใช้งานจริง: - นักวิจัยร่วมมือกับบริษัทที่เชี่ยวชาญด้าน Thin-Film Transistor (TFT) เพื่อพัฒนา Active-Matrix Micro-PeLED Display ที่นำไปสู่การใช้งานจริงสำหรับการแสดงผลในเชิงพาณิชย์ https://www.techspot.com/news/107344-researchers-develop-90-nanometer-leds-future-ultra-high.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Researchers develop 90-nanometer LEDs for future ultra high-resolution displays
    These nano-PeLEDs feature pixel lengths as small as 90 nanometers, enabling an unprecedented pixel density of 127,000 pixels per inch (PPI). For comparison, a typical 27-inch 4K...
    0 Comments 0 Shares 322 Views 0 Reviews
  • หลังจากมีรายงานว่า “ยูอาอิน” นักแสดงชื่อดังถูกปล่อยตัวจากการถูกควบคุมตัวนาน 5 เดือน เจ้าตัวก็หวนคืนวงการบันเทิงทันทีโดยมีกำหนดปล่อยหนัง “The Match” ในเดือน มี.ค. นี้

    เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ทีมโปรดักชันเรื่อง The Match ได้ปล่อยทีเซอร์ภาพยนตร์ออกมาทันทีที่ทคาบข่าว ยูอาอิน ได้รับการปล่อยตัว

    โดยตัวอย่างหนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของ อีบยองฮุน ที่แปลงร่างเป็น โชฮุนฮยอน ผู้เล่นโกะในตำนาน นอกจากนี้ยังมีนักแสดงอย่าง โกชางซอก, ฮยอนบองชิก, มุนจองฮี และ คิมคังฮุน อีกด้วย แม้ว่าใบหน้าของเขาจะไม่ปรากฏในตัวอย่างหนัง แต่ ยูอาอิน ก็ได้เข้าร่วมใน The Match โดยแสดงร่วมกับ อีบยองฮุน

    The Match บอกเล่าเรื่องราวของตำนานโกะของเกาหลีใต้ โชฮุนฮยอน (รับบทโดย อีบยองฮุน) ที่ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ต่อลูกศิษย์ของเขา อีชางโฮ (รับบทโดย ยูอาอิน และ คิมคังฮุน) และพยายามที่จะกลับมาอยู่ในตำแหน่งสูงสุดอีกครั้งด้วยจิตวิญญาณการแข่งขันโดยกำเนิดของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้กำหนดฉายรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 26 มี.ค.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000016796

    #MGROnline #ยูอาอิน #YooAhIn #film #TheMatch
    หลังจากมีรายงานว่า “ยูอาอิน” นักแสดงชื่อดังถูกปล่อยตัวจากการถูกควบคุมตัวนาน 5 เดือน เจ้าตัวก็หวนคืนวงการบันเทิงทันทีโดยมีกำหนดปล่อยหนัง “The Match” ในเดือน มี.ค. นี้ • เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ทีมโปรดักชันเรื่อง The Match ได้ปล่อยทีเซอร์ภาพยนตร์ออกมาทันทีที่ทคาบข่าว ยูอาอิน ได้รับการปล่อยตัว • โดยตัวอย่างหนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของ อีบยองฮุน ที่แปลงร่างเป็น โชฮุนฮยอน ผู้เล่นโกะในตำนาน นอกจากนี้ยังมีนักแสดงอย่าง โกชางซอก, ฮยอนบองชิก, มุนจองฮี และ คิมคังฮุน อีกด้วย แม้ว่าใบหน้าของเขาจะไม่ปรากฏในตัวอย่างหนัง แต่ ยูอาอิน ก็ได้เข้าร่วมใน The Match โดยแสดงร่วมกับ อีบยองฮุน • The Match บอกเล่าเรื่องราวของตำนานโกะของเกาหลีใต้ โชฮุนฮยอน (รับบทโดย อีบยองฮุน) ที่ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ต่อลูกศิษย์ของเขา อีชางโฮ (รับบทโดย ยูอาอิน และ คิมคังฮุน) และพยายามที่จะกลับมาอยู่ในตำแหน่งสูงสุดอีกครั้งด้วยจิตวิญญาณการแข่งขันโดยกำเนิดของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้กำหนดฉายรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 26 มี.ค. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000016796 • #MGROnline #ยูอาอิน #YooAhIn #film #TheMatch
    0 Comments 0 Shares 577 Views 0 Reviews
  • - #คิดถึงหนังเก่า -

    ในปี 1989 เลสลี จาง ประกาศอำลาวงการเพลง ไม่เพียงเท่านั้น เขายังวางแผนจะหยุดพักหลังจากถ่ายทำ Days of Being Wild (วันที่หัวใจรักกล้าตัดขอบฟ้า) ของ หว่องกาไว เสร็จ โชคดีที่ ผู้กำกับหวัง ใช้เวลาในการถ่ายทำอย่างมาก และเขาก็ถ่ายทำ Days of Being Wild เสร็จในปี 1990

    เมื่อ จอห์น วู ตั้งใจจะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Once a Thief (ตีแสกตะวัน)" และเขียนเนื้อเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเป็นหลัก แต่เนื่องจากปัจจัยหลายประการ ทำให้การถ่ายทำไม่ได้เริ่มต้นขึ้น

    หลังจากเข้าร่วม Milestone Films จอห์น วู ก็ดึงโครงการที่จะถ่ายทำ "Once a Thief (ตีแสกตะวัน)" เจ้าของบริษัท Golden Princess Film Company อนุมัติ และต้องการให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่กำหนดให้เนื้อเรื่องต้องมีความสนุก

    กู่เหวยลี่ (ลินดา คุค) โปรดิวเซอร์ของหนัง ได้ขอให้ "โจวเหวินฟะ" มารับบทนำโดยเฉพาะ ในปี 1990 โจวเหวินฟะรู้สึกเหนื่อยมากและต้องการพักผ่อนยาวๆ แต่เมื่อได้ยินว่าผู้กำกับคือ "จอห์น วู" เขาก็ตกลงทันที

    เช่นเดียวกับ เลสลี่ จาง ที่กำลังจะหยุดพัก หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำ Days of Being Wild ก็ตอบตกลงอย่างเต็มใจ และยังได้ จงฉู่หง มาแสดงร่วมกับ โจวเหวินฟะ ด้วย

    “Once a Thief (ตีแสกตะวัน)” ออกฉายในปี 1991 ด้วยต้นทุนเพียง 1 ล้านเหรียญฮ่องกง ถ่ายทำนานสองเดือนครึ่ง เข้าฉายนาน 33 วัน กวาดรายได้ที่บ็อกซ์ออฟฟิศไปได้ถึง 33.39 ล้านเหรียญฮ่องกง ในปีนี้ เลสลี่จาง ยังได้รับรางวัล Hong Kong Film Awards ครั้งที่ 10 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง Days of Being Wild อีกด้วย
    - #คิดถึงหนังเก่า - ในปี 1989 เลสลี จาง ประกาศอำลาวงการเพลง ไม่เพียงเท่านั้น เขายังวางแผนจะหยุดพักหลังจากถ่ายทำ Days of Being Wild (วันที่หัวใจรักกล้าตัดขอบฟ้า) ของ หว่องกาไว เสร็จ โชคดีที่ ผู้กำกับหวัง ใช้เวลาในการถ่ายทำอย่างมาก และเขาก็ถ่ายทำ Days of Being Wild เสร็จในปี 1990 เมื่อ จอห์น วู ตั้งใจจะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Once a Thief (ตีแสกตะวัน)" และเขียนเนื้อเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเป็นหลัก แต่เนื่องจากปัจจัยหลายประการ ทำให้การถ่ายทำไม่ได้เริ่มต้นขึ้น หลังจากเข้าร่วม Milestone Films จอห์น วู ก็ดึงโครงการที่จะถ่ายทำ "Once a Thief (ตีแสกตะวัน)" เจ้าของบริษัท Golden Princess Film Company อนุมัติ และต้องการให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่กำหนดให้เนื้อเรื่องต้องมีความสนุก กู่เหวยลี่ (ลินดา คุค) โปรดิวเซอร์ของหนัง ได้ขอให้ "โจวเหวินฟะ" มารับบทนำโดยเฉพาะ ในปี 1990 โจวเหวินฟะรู้สึกเหนื่อยมากและต้องการพักผ่อนยาวๆ แต่เมื่อได้ยินว่าผู้กำกับคือ "จอห์น วู" เขาก็ตกลงทันที เช่นเดียวกับ เลสลี่ จาง ที่กำลังจะหยุดพัก หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำ Days of Being Wild ก็ตอบตกลงอย่างเต็มใจ และยังได้ จงฉู่หง มาแสดงร่วมกับ โจวเหวินฟะ ด้วย “Once a Thief (ตีแสกตะวัน)” ออกฉายในปี 1991 ด้วยต้นทุนเพียง 1 ล้านเหรียญฮ่องกง ถ่ายทำนานสองเดือนครึ่ง เข้าฉายนาน 33 วัน กวาดรายได้ที่บ็อกซ์ออฟฟิศไปได้ถึง 33.39 ล้านเหรียญฮ่องกง ในปีนี้ เลสลี่จาง ยังได้รับรางวัล Hong Kong Film Awards ครั้งที่ 10 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง Days of Being Wild อีกด้วย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 804 Views 0 Reviews
  • #ไส้ติ่งอักเสบ(Appendicitis)

    ไส้ติ่งเป็นถุงขนาดเรียว ยาว 2-4 นิ้ว ตั้งอยู่ใกล้บริเวณหัวต่อของลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็ก

    ไส้ติ่งถูกดูหมิ่นมายาวนานว่าเป็นแค่ร่องรอยหรือไร้ประโยชน์ แต่เมื่อความรู้ทันสมัยขึ้น ดูเหมือนว่าไส้ติ่งจะเป็น "safe house-บ้านที่ปลอดภัย" สำหรับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์

    ในลำไส้ของมนุษย์มีจุลินทรีย์อาศัยอยู่นับล้านๆตัว และมีจุลินทรีย์ฝังดีต่อฝั่งที่ไม่ดีในอัตราส่วน 200 ต่อ 1

    จากข้อสังเกตและการทดลองต่างๆ นักวิจัยของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย Duke ตั้งสมมติฐานว่าจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในไส้ติ่งช่วยในการย่อยอาหารและรักษาระบบในลำไส้ให้สมดุล

    ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา Parker ได้ศึกษาการทำงานร่วมกันของจุลินทรีย์เหล่านี้ในลำไส้ และในกระบวนการนี้ได้บันทึกการมีอยู่ของสิ่งที่เรียกว่า biofilms(แผ่นชีวะในลำไส้)

    biofilms ชั้นที่บางและละเอียดอ่อนนี้เป็นการรวมตัวของจุลินทรีย์ เมือก และโมเลกุลของระบบภูมิคุ้มกันที่อาศัยอยู่รวมกันบนเยื่อบุลำไส้

    “การศึกษาของเราระบุว่าระบบภูมิคุ้มกันปกป้องและบำรุงที่อยู่อาศัย ของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในแผ่นชีวะ” ปาร์กเกอร์อธิบาย

    ด้วยการปกป้องจุลินทรีย์ที่ดีเหล่านี้ จุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายจึงไม่มีที่อยู่ นอกจากนี้ เรายังแสดงให้เห็นว่าแผ่นชีวะมีความเด่นชัดมากที่สุดในไส้ติ่ง และความชุกของพวกมันจะลดลงเมื่อเคลื่อนตัวออกมา

    โรคที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงงมักส่งผลให้สิ่งที่อยู่ในลำไส้รวมถึงแผ่นชีวะถูกขับออกจากร่างกาย

    เมื่อสิ่งที่อยู่ในลำไส้ออกจากร่างกาย จุลินทรีย์ที่ดี ที่ซ่อนอยู่ในไส้ติ่งสามารถเกิดขึ้นและสร้างใหม่ให้กับเยื่อบุลำไส้ ก่อนที่แบคทีเรียที่เป็นอันตรายจะอาศัยอยู่ต่อไป

    การรับประทานอาหารหรือยาปฏิชีวนะ ที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน อาจนำไปสู่การอักเสบที่เกี่ยวข้องกับไส้ติ่งอักเสบ และอาจนำไปสู่การอุดตันของลำไส้ที่ทำให้เกิดไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน

    ดังนั้น แนวทางปฏิบัติด้านการดูแลสุขภาพคือการลดการบริโภคอาหารที่ทำให้แบคทีเรียฝั่งที่ไม่ดีเจริญเติบโตได้ดี และรับประทานอาหารให้กับจุลินทรีย์ฝั่งดี

    เมื่อมีการอุดตันของโพรงในไส้ติ่งจนทำให้เกิดการบวม อักเสบ หรือทำให้ไส้ติ่งแตกและเกิดมีการติดเชื้อในช่องท้องหรือในกระแสเลือด อาจทำให้มีอันตรายถึงชีวิตได้

    อาการ

    • เมื่อเริ่มมีการอุดตัน คุณจะมีอาการปวดท้องตรงกลางๆ หน้าท้อง รอบๆ สะดือ ต่อมาเมื่อไส้ติ่งมีการอักเสบ จะทำให้ปวดท้องที่ตำแหน่งของไส้ติ่งคือ บริเวณท้องน้อยด้านขวา ที่อยู่ใต้ ซี่โครงซี่สุดท้าย

    • เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้

    • เมื่อมีการอักเสบและติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น อาจมีไข้สูง ปากแห้ง คอแห้ง อ่อนเพลียรุนแรง

    การเยียวยาด้วยตัวเองที่บ้าน

    รับประทานกรีกโยเกิร์ต หรือโยเกิร์ตที่ไม่มีน้ำตาล ในปริมาณ 4-5 ถ้วย ขนาดเท่ากับที่ขายในท้องตลาด

    รับประทาน synbc 5 ซองทันที

    วิธีการป้องกันไส้ติ่งอักเสบ

    รับประทานอาหารที่เป็นโปรไบโอติกและพรีไบโอติกเป็นประจำ

    สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

    น้ำตาล ผลไม้หวาน เห็ดและขนมปัง เบียร์

    ยาปฏิชีวนะหรือยาแก้อักเสบ

    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำ

    Synbc

    Cr. Santi Manadee
    #ไส้ติ่งอักเสบ(Appendicitis) ไส้ติ่งเป็นถุงขนาดเรียว ยาว 2-4 นิ้ว ตั้งอยู่ใกล้บริเวณหัวต่อของลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็ก ไส้ติ่งถูกดูหมิ่นมายาวนานว่าเป็นแค่ร่องรอยหรือไร้ประโยชน์ แต่เมื่อความรู้ทันสมัยขึ้น ดูเหมือนว่าไส้ติ่งจะเป็น "safe house-บ้านที่ปลอดภัย" สำหรับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์ ในลำไส้ของมนุษย์มีจุลินทรีย์อาศัยอยู่นับล้านๆตัว และมีจุลินทรีย์ฝังดีต่อฝั่งที่ไม่ดีในอัตราส่วน 200 ต่อ 1 จากข้อสังเกตและการทดลองต่างๆ นักวิจัยของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย Duke ตั้งสมมติฐานว่าจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในไส้ติ่งช่วยในการย่อยอาหารและรักษาระบบในลำไส้ให้สมดุล ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา Parker ได้ศึกษาการทำงานร่วมกันของจุลินทรีย์เหล่านี้ในลำไส้ และในกระบวนการนี้ได้บันทึกการมีอยู่ของสิ่งที่เรียกว่า biofilms(แผ่นชีวะในลำไส้) biofilms ชั้นที่บางและละเอียดอ่อนนี้เป็นการรวมตัวของจุลินทรีย์ เมือก และโมเลกุลของระบบภูมิคุ้มกันที่อาศัยอยู่รวมกันบนเยื่อบุลำไส้ “การศึกษาของเราระบุว่าระบบภูมิคุ้มกันปกป้องและบำรุงที่อยู่อาศัย ของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในแผ่นชีวะ” ปาร์กเกอร์อธิบาย ด้วยการปกป้องจุลินทรีย์ที่ดีเหล่านี้ จุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายจึงไม่มีที่อยู่ นอกจากนี้ เรายังแสดงให้เห็นว่าแผ่นชีวะมีความเด่นชัดมากที่สุดในไส้ติ่ง และความชุกของพวกมันจะลดลงเมื่อเคลื่อนตัวออกมา โรคที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงงมักส่งผลให้สิ่งที่อยู่ในลำไส้รวมถึงแผ่นชีวะถูกขับออกจากร่างกาย เมื่อสิ่งที่อยู่ในลำไส้ออกจากร่างกาย จุลินทรีย์ที่ดี ที่ซ่อนอยู่ในไส้ติ่งสามารถเกิดขึ้นและสร้างใหม่ให้กับเยื่อบุลำไส้ ก่อนที่แบคทีเรียที่เป็นอันตรายจะอาศัยอยู่ต่อไป การรับประทานอาหารหรือยาปฏิชีวนะ ที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน อาจนำไปสู่การอักเสบที่เกี่ยวข้องกับไส้ติ่งอักเสบ และอาจนำไปสู่การอุดตันของลำไส้ที่ทำให้เกิดไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ดังนั้น แนวทางปฏิบัติด้านการดูแลสุขภาพคือการลดการบริโภคอาหารที่ทำให้แบคทีเรียฝั่งที่ไม่ดีเจริญเติบโตได้ดี และรับประทานอาหารให้กับจุลินทรีย์ฝั่งดี เมื่อมีการอุดตันของโพรงในไส้ติ่งจนทำให้เกิดการบวม อักเสบ หรือทำให้ไส้ติ่งแตกและเกิดมีการติดเชื้อในช่องท้องหรือในกระแสเลือด อาจทำให้มีอันตรายถึงชีวิตได้ อาการ • เมื่อเริ่มมีการอุดตัน คุณจะมีอาการปวดท้องตรงกลางๆ หน้าท้อง รอบๆ สะดือ ต่อมาเมื่อไส้ติ่งมีการอักเสบ จะทำให้ปวดท้องที่ตำแหน่งของไส้ติ่งคือ บริเวณท้องน้อยด้านขวา ที่อยู่ใต้ ซี่โครงซี่สุดท้าย • เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ • เมื่อมีการอักเสบและติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น อาจมีไข้สูง ปากแห้ง คอแห้ง อ่อนเพลียรุนแรง การเยียวยาด้วยตัวเองที่บ้าน รับประทานกรีกโยเกิร์ต หรือโยเกิร์ตที่ไม่มีน้ำตาล ในปริมาณ 4-5 ถ้วย ขนาดเท่ากับที่ขายในท้องตลาด รับประทาน synbc 5 ซองทันที วิธีการป้องกันไส้ติ่งอักเสบ รับประทานอาหารที่เป็นโปรไบโอติกและพรีไบโอติกเป็นประจำ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง น้ำตาล ผลไม้หวาน เห็ดและขนมปัง เบียร์ ยาปฏิชีวนะหรือยาแก้อักเสบ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำ Synbc Cr. Santi Manadee
    0 Comments 0 Shares 981 Views 0 Reviews
  • 'มัสก์' จวกระบบสื่อสหรัฐฯ! ชี้ 5 ผู้ทรงอิทธิพล มหาเศรษฐีครองอำนาจสื่อกระแสหลักสหรัฐฯ ผูกขาดอำนาจกรองข่าวสารเบ็ดเสร็จ


    https://www.imctnews.com/news_details-news-6525.html

    อีลอน มัสก์ จุดประเด็นร้อนวิพากษ์วิจารณ์การกระจุกตัวของอำนาจสื่อในสหรัฐอเมริกา ระบุมีผู้ทรงอิทธิพลเพียง 5 คนที่ควบคุมและกรองข้อมูลข่าวสารทั้งหมด

    นำโดย ไบรอัน แอล โรเบิร์ตส์ ประธานและซีอีโอของ Comcast Corporation ที่ครอบครองเครือข่าย NBC, MSNBC, CNBC, Universal Pictures และ Peacock

    ด้านตระกูล Disney มีคริสติน แมคคาร์ธี และบ็อบ ไอเกอร์ ควบคุม ABC, ESPN, Disney+, Hulu รวมถึงค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่าง Disney, Pixar, Marvel และ Lucasfilm

    ขณะที่ชารี เรดสโตน แห่ง Paramount Global กุมบังเหียน CBS, MTV, Nickelodeon และ Paramount Pictures
    ส่วนตระกูลเมอร์ด็อกครอบครอง Fox Corporation และ News Corporation รวมถึง Wall Street Journal

    ตระกูลเฮิร์สต์เจ้าของ Hearst Communications ที่ควบคุมหนังสือพิมพ์และนิตยสารชั้นนำมากมาย อีกทั้งยังถือหุ้นใน A&E Networks และ ESPN ร่วมกับ Disney

    สะท้อนการผูกขาดอำนาจสื่อที่ส่งผลต่อการควบคุมข้อมูลข่าวสารและการรับรู้ของประชาชนชาวอเมริกันในชีวิตประจำวัน
    'มัสก์' จวกระบบสื่อสหรัฐฯ! ชี้ 5 ผู้ทรงอิทธิพล มหาเศรษฐีครองอำนาจสื่อกระแสหลักสหรัฐฯ ผูกขาดอำนาจกรองข่าวสารเบ็ดเสร็จ https://www.imctnews.com/news_details-news-6525.html อีลอน มัสก์ จุดประเด็นร้อนวิพากษ์วิจารณ์การกระจุกตัวของอำนาจสื่อในสหรัฐอเมริกา ระบุมีผู้ทรงอิทธิพลเพียง 5 คนที่ควบคุมและกรองข้อมูลข่าวสารทั้งหมด นำโดย ไบรอัน แอล โรเบิร์ตส์ ประธานและซีอีโอของ Comcast Corporation ที่ครอบครองเครือข่าย NBC, MSNBC, CNBC, Universal Pictures และ Peacock ด้านตระกูล Disney มีคริสติน แมคคาร์ธี และบ็อบ ไอเกอร์ ควบคุม ABC, ESPN, Disney+, Hulu รวมถึงค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่าง Disney, Pixar, Marvel และ Lucasfilm ขณะที่ชารี เรดสโตน แห่ง Paramount Global กุมบังเหียน CBS, MTV, Nickelodeon และ Paramount Pictures ส่วนตระกูลเมอร์ด็อกครอบครอง Fox Corporation และ News Corporation รวมถึง Wall Street Journal ตระกูลเฮิร์สต์เจ้าของ Hearst Communications ที่ควบคุมหนังสือพิมพ์และนิตยสารชั้นนำมากมาย อีกทั้งยังถือหุ้นใน A&E Networks และ ESPN ร่วมกับ Disney สะท้อนการผูกขาดอำนาจสื่อที่ส่งผลต่อการควบคุมข้อมูลข่าวสารและการรับรู้ของประชาชนชาวอเมริกันในชีวิตประจำวัน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 765 Views 0 Reviews
  • Swift Short film (2018)
    Swift Short film (2018)
    0 Comments 0 Shares 224 Views 13 0 Reviews
  • Fujifilm Holdings วางแผนที่จะลงทุน 100 พันล้านเยน (ประมาณ 640.5 ล้านดอลลาร์) ภายในเดือนมีนาคม 2027 เพื่อเพิ่มการผลิตวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก การลงทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการสร้างโรงงานผลิตชิปใหม่ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

    Fujifilm เป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการผลิต photoresists สำหรับการลิโทกราฟีอัลตราไวโอเลตขั้นสูง (EUV) การลิโทกราฟี EUV ใช้ความยาวคลื่นที่สั้นมาก (13.5 นาโนเมตร) ทำให้ photoresists ต้องมีคุณสมบัติที่เข้มงวดในด้านความไว ความละเอียด และความเข้ากันได้กับวัสดุ photomask ของ EUV

    การลงทุนนี้จะช่วยให้ Fujifilm สามารถขยายกำลังการผลิตในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เพื่อรองรับการผลิตชิปที่มีความซับซ้อนสูงสำหรับภาค AI และ HPC นอกจากนี้ Fujifilm ยังมีแผนที่จะเข้าสู่ตลาดอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังมุ่งเน้นการผลิตไมโครอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน

    การขยายการผลิตวัสดุเซมิคอนดักเตอร์นี้สอดคล้องกับตำแหน่งที่โดดเด่นของญี่ปุ่นในห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญนี้ โดยปัจจุบันญี่ปุ่นควบคุมครึ่งหนึ่งของตลาดวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ที่จำเป็น การวิจัยโดย Fuji Keizai คาดการณ์ว่าตลาดวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกจะขยายตัว 35% โดยมีมูลค่า 58.3 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/fujifilm-to-double-spending-on-chip-materials-as-u-s-japan-and-south-korea-up-chip-production
    Fujifilm Holdings วางแผนที่จะลงทุน 100 พันล้านเยน (ประมาณ 640.5 ล้านดอลลาร์) ภายในเดือนมีนาคม 2027 เพื่อเพิ่มการผลิตวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก การลงทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการสร้างโรงงานผลิตชิปใหม่ในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ Fujifilm เป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการผลิต photoresists สำหรับการลิโทกราฟีอัลตราไวโอเลตขั้นสูง (EUV) การลิโทกราฟี EUV ใช้ความยาวคลื่นที่สั้นมาก (13.5 นาโนเมตร) ทำให้ photoresists ต้องมีคุณสมบัติที่เข้มงวดในด้านความไว ความละเอียด และความเข้ากันได้กับวัสดุ photomask ของ EUV การลงทุนนี้จะช่วยให้ Fujifilm สามารถขยายกำลังการผลิตในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เพื่อรองรับการผลิตชิปที่มีความซับซ้อนสูงสำหรับภาค AI และ HPC นอกจากนี้ Fujifilm ยังมีแผนที่จะเข้าสู่ตลาดอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังมุ่งเน้นการผลิตไมโครอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน การขยายการผลิตวัสดุเซมิคอนดักเตอร์นี้สอดคล้องกับตำแหน่งที่โดดเด่นของญี่ปุ่นในห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญนี้ โดยปัจจุบันญี่ปุ่นควบคุมครึ่งหนึ่งของตลาดวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ที่จำเป็น การวิจัยโดย Fuji Keizai คาดการณ์ว่าตลาดวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกจะขยายตัว 35% โดยมีมูลค่า 58.3 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029 https://www.tomshardware.com/tech-industry/fujifilm-to-double-spending-on-chip-materials-as-u-s-japan-and-south-korea-up-chip-production
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Fujifilm to double spending on chip materials as U.S., Japan and South Korea up chip production
    Fujifilm to invest $640 million in the preparation of raw materials for chip production.
    0 Comments 0 Shares 391 Views 0 Reviews
  • "อวสาน" รถญี่ปุ่นในไทย
    จากมุมมองของ Nikkei Asia
    .
    ในวาระส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 สื่อยักษ์ใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่นคือ นิคเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ได้เผยแพร่สารคดีข่าว NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand (นิคเคอิ ฟิล์ม : เสียงของเครื่องยนต์ที่กำลังหายไปจากประเทศไทย) ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบรรดารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยครอบครองตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 90% แต่ในห้วงระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นกลับถูกรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรุกไล่ ทำให้ในปี 2567 เหลือส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ในตลาดรถใหม่เพียง 76%
    .
    แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นจะยังคงสามารถครอบครองตลาดรถใหม่ในประเทศไทยได้มากกว่า 3 ใน 4 แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยจากรอบด้านแล้วไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค พลวัตรของเหล่าดีลเลอร์ผู้ขายรถยนต์ทั่วประเทศไทย การทยอยปิดโรงงาน การไหลออกของบุคลากร-พนักงาน-ผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นไปสู่ค่ายรถจีน รวมไปถึงการคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในอนาคตแล้วรถยนต์ญี่ปุ่นหนีไม่พ้นอาจต้องสูญพันธุ์จากประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ หากไม่เร่งปรับตัวให้เร็วกว่านี้
    .
    "ผมเพิ่งซื้อรถยนต์บีวายดีรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วผมก็เปรียบเทียบรถอีวี กับ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบดั้งเดิมเพื่อศึกษาความแตกต่าง ... ฟังก์ชันในรถอีวีของจีนนั้นครบครันมาก อัตราการเร่งก็ฉับไวมาก" คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับนิคเคอิเป็นภาษาญี่ปุ่นอันคล่องแคล่ว และเปรียบเทียบต่อว่า
    .
    "ผมมองญี่ปุ่นจากหลาย ๆ มุม ด้วยความที่สำเร็จมาตั้งแต่ในยุคอะนาล็อก ญี่ปุ่นกลับไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพอในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล เทียบกับจีนที่ไม่ได้มีความสำเร็จมากนักในยุคของอะนาล็อก แต่พอยุคสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลมาถึง จีนจึงพยายามอย่างมากที่จะดิสรัปอุตสาหกรรมรถยนต์"
    .
    นิคเคอิอธิบายว่า ประเทศไทยซึ่งมีประชากรราว 66 ล้านคน และเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน นั้นได้ชื่อเล่นว่าเป็น "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)" ด้วยบรรดาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศก่อนหน้านี้นานหลายทศวรรษ แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2566 ที่บริษัทรถยนต์จากจีนรุกเข้่ามาทำตลาด และย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างจริงจัง
    .
    "เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ญี่ปุ่นสามารถครอบครองยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยได้มากเกือบ 90% แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ รถอีวีจากจีนบุกตลาดประเทศไทยในปี 2566 ส่งผลให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศไทยของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 80% (เหลือ 77.8% ในปี 2566 และ เหลือ 76.2% ในปี 2567)" นิคเคอิระบุ
    .
    จากนั้นจึงกล่าวกว่า บีวายดี (BYD) คือ หัวหอกของบริษัทรถยนต์จีนที่เข้ามาแย่งชิงตลาดในประเทศไทยจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น โดยนิคเคอิได้ดำเนินการสำรวจการขยายตัวของจำนวนดีลเลอร์รถบีวายดีในไทยพบว่า เกือบ 50% ของดีลเลอร์รถบีวายดีนั้นก่อนหน้านั้นเคยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น โดยบีวายดีขยายสาขาไปทั่วประเทศ โดยไม่เพียงกวาดดีลเลอร์จากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้เข้ามาซุกใต้ปีก แต่รวมถึงค่ายรถยนต์จากตะวันตกด้วยเช่นกัน
    .
    การรุกไล่ของค่ายรถยนต์จากจีนไม่หยุดอยู่แค่ในระดับการส่งรถยนต์จากจีนมาขายยังเมืองไทย แต่ยังมีการขยายโรงงานผลิตมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วย ยกตัวอย่างเช่น บีวายดีที่เพิ่งเริ่มเดินสายพานโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มระบบแห่งแรกในต่างแดนที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรในแวดวงรถยนต์คนไทยที่มีความสามารถตั้งแต่ระดับฝ่ายผลิต จนถึงผู้บริหารที่เคยสังกัดอยู่กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ไหลไปอยู่กับบริษัทรถยนต์จีนจำนวนมาก
    .
    ด้วยแรงจูงใจสำคัญเป็นค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม 30% 50% 80% หรือกระทั่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว!
    .
    นายสื่อ ชิงเคอ (史青科) หรือ Parker Shi ประธานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล เจ้าของแบรนด์รถยนต์จีน GWM ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงคู่แข่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และการดึงตัวผู้บริหารระดับสูงจากโตโยต้ามาทำงานกับเกรทวอลล์ฯ โดยระบุว่า
    .
    "ด้วยความสัตย์จริง และความเคารพต่อโตโยต้า และรถแบรนด์จากใจ เพราะพวกเขานั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ (excellent) คุณวุฒิกร (สุริยะฉันทนานนท์) นั้นเคยทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่โตโยต้า และนี่คือเหตุผลที่เขามาอยู่กับเรา" และกล่าวต่อว่า "ถ้าหากคุณไม่มีความกล้าหาญที่จะสู้ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณก็ตาย ถ้าหากคุณไม่มีอาวุธที่ดีพอ ผลิตภัณฑ์ที่ดี รูปแบบธุรกิจที่ดี กลยุทธ์ที่ดี คุณก็ตาย ถ้าคุณไม่มีทีมเวิร์คที่ดี คุณก็ตาย ... มันไม่มีคนอยู่รอดหรอก เพราะที่กำลังเป็นอยู่นี้คือคือสงคราม ที่เกิดขึ้นในตลาดที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง"
    .
    นิคเคอิ เอเชียยังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทรถยนต์ชาวญี่ปุ่นในไทยที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม โดยผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนนี้ยอมรับว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นละเลยความต้องการของผู้บริโภคไทยไปมาก รวมถึงนำเสนอสินค้าที่เทคโนโลยีล้าหลังไปแล้วให้กับตลาดในประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ซึ่งแตกต่างจากค่ายรถจากจีน
    .
    "มันเป็นความจริงที่ว่าแบรนด์รถญี่ปุ่นนั้นมัวแต่มุ่งเน้นไปที่ตลาดใหญ่ ๆ อย่างในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตลาดนั้น ๆ นอกจากนี้สิ่งที่เราตัดสินใจผิดพลาดมากที่สุดก็คือ ความรวดเร็วของการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
    .
    "และมันเป็นเรื่องจริงที่ค่ายรถญี่ปุ่นนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างล้าหลัง ซึ่งวางขายอยู่แล้วในประเทศกำลังพัฒนามาขายให้ (ตลาดไทย) ผมคิดว่า นี่เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่พอใจ และความไม่พอใจนั้นยิ่งนานวันก็สะสมเพิ่มขึ้น ๆ" ผู้บริหารค่ายรถญี่ปุ่นในไทยกล่าวเปิดอก
    .
    ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจของ LiB Consulting ระบุว่า ภายในปี 2578 (ค.ศ.2035) หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ยอดขายรถใหม่ในเมืองไทยจะเปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง โดยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะลดปริมาณลงจากปัจจุบันที่ราว 78.5% เหลือเพียง 15% โดยรถอีวี และรถยนต์พลังงานใหม่จะกินส่วนแบ่งการตลาดที่เหลือ จะถูกแบ่งให้รถอีวี (50.7%) และ รถยนต์เทคโนโลยีไฮบริด-อื่นๆ (34.3%)
    .
    ด้วยสถานการณ์และแนวโน้มเช่นนี้ทำให้ ณ ปัจจุบันถือเป็นโอกาสสุดท้ายของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นในการขยับขับเคลื่อนเพื่อไล่ตามรถอีวีจากจีนให้ทัน และกอบกู้สถานการณ์ด้วยการอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และตัดสินใจให้เร็ว และฉับไวมากขึ้น
    .
    ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องนี้คุณบุณยสิทธิ์ ประธานเครือสหพัฒน์วัย 87 ที่คร่ำหวอดทั้งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค แวดวงอุตสาหกรรม และมีสายสัมพันธ์อันล้ำลึกกับแวดวงอุตสาหกรรมไทย ญี่ปุ่น และจีน กล่าวทิ้งท้ายสารคดีข่าวชิ้นนี้เป็นคำแนะนำให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า
    .
    ในมุมของคุณบุญยสิทธิ์ เดิมทีประธานบริษัทญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดนั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โดยคนเหล่านี้มีจิตวิญญาณของการบุกเบิกและก่อตั้ง แต่เมื่อมาถึงวันนี้ที่ประธานบริษัทกลายเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เติบโตมาภายในกรอบของบริษัท คนเหล่านี้เวลาตัดสินใจอะไรจึงกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งหากผู้บริหารรุ่นใหม่เล่านี้ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การตัดสินใจก็จะล่าช้า ไม่ทันการณ์
    .
    อย่างไรก็ตาม ประธานเครือสหพัฒน์ยังกล่าวให้ความหวังด้วยว่า ในสายตาของชาวไทยแบรนด์ญี่ปุ่นยังได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสูงอยู่ คนไทยยังมีความเชื่อว่ารถญี่ปุ่นนั้นดีกว่ารถจีน รถยนต์จีนนั้นมีดีเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่ และรถอีวี ซึ่งเมื่อไหร่ที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดตัวรถที่เป็นรถยนต์อีวีบ้าง ตนก็เชื่อว่าคนไทยจะกลับมานิยมรถยนต์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ซึ่งตนก็คาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะสามารถแข่งขันกับบริษัทรถยนต์จากจีนได้
    .
    สารคดีข่าวชิ้นนี้ของนิคเคอิ สื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ด้วยการรุกคืบอย่างไม่หยุดหย่อนของค่ายรถยนต์จีน เวลาของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยนั้นคงเหลือน้อยลงทุกที พร้อมกับทิ้งฉากหลังเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณยามดวงอาทิตย์อัสดง
    .
    แล้วท่านผู้อ่านบูรพาไม่แพ้ละครับ มองว่า ค่ายรถญี่ปุ่นใกล้ถึงคราอวสานจากตลาดไทยหรือยัง? หรือ คิดว่าค่ายรถญี่ปุ่นยังมีโอกาสที่จะกู้สถานการณ์ ช่วงชิงตลาดรถยนต์ไทยกลับคืนมาได้ หากมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำดังที่นิคเคอิ เอเชียรายงานเอาไว้?
    .
    เนื่องวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๘ ทีมงานเพจบูรพาไม่แพ้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน และครอบครัวมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ สวัสดีปีใหม่ครับ 😄 🙏 🎊 🇹🇭 🇯🇵 🇨🇳
    .
    .
    อ้างอิง :
    NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand
    https://www.youtube.com/watch?v=w7ldtHt6Mn4
    "อวสาน" รถญี่ปุ่นในไทย จากมุมมองของ Nikkei Asia . ในวาระส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 สื่อยักษ์ใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่นคือ นิคเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ได้เผยแพร่สารคดีข่าว NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand (นิคเคอิ ฟิล์ม : เสียงของเครื่องยนต์ที่กำลังหายไปจากประเทศไทย) ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบรรดารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยครอบครองตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 90% แต่ในห้วงระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นกลับถูกรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรุกไล่ ทำให้ในปี 2567 เหลือส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ในตลาดรถใหม่เพียง 76% . แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นจะยังคงสามารถครอบครองตลาดรถใหม่ในประเทศไทยได้มากกว่า 3 ใน 4 แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยจากรอบด้านแล้วไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค พลวัตรของเหล่าดีลเลอร์ผู้ขายรถยนต์ทั่วประเทศไทย การทยอยปิดโรงงาน การไหลออกของบุคลากร-พนักงาน-ผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นไปสู่ค่ายรถจีน รวมไปถึงการคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในอนาคตแล้วรถยนต์ญี่ปุ่นหนีไม่พ้นอาจต้องสูญพันธุ์จากประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ หากไม่เร่งปรับตัวให้เร็วกว่านี้ . "ผมเพิ่งซื้อรถยนต์บีวายดีรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วผมก็เปรียบเทียบรถอีวี กับ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบดั้งเดิมเพื่อศึกษาความแตกต่าง ... ฟังก์ชันในรถอีวีของจีนนั้นครบครันมาก อัตราการเร่งก็ฉับไวมาก" คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับนิคเคอิเป็นภาษาญี่ปุ่นอันคล่องแคล่ว และเปรียบเทียบต่อว่า . "ผมมองญี่ปุ่นจากหลาย ๆ มุม ด้วยความที่สำเร็จมาตั้งแต่ในยุคอะนาล็อก ญี่ปุ่นกลับไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพอในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล เทียบกับจีนที่ไม่ได้มีความสำเร็จมากนักในยุคของอะนาล็อก แต่พอยุคสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลมาถึง จีนจึงพยายามอย่างมากที่จะดิสรัปอุตสาหกรรมรถยนต์" . นิคเคอิอธิบายว่า ประเทศไทยซึ่งมีประชากรราว 66 ล้านคน และเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน นั้นได้ชื่อเล่นว่าเป็น "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)" ด้วยบรรดาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศก่อนหน้านี้นานหลายทศวรรษ แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2566 ที่บริษัทรถยนต์จากจีนรุกเข้่ามาทำตลาด และย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างจริงจัง . "เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ญี่ปุ่นสามารถครอบครองยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยได้มากเกือบ 90% แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ รถอีวีจากจีนบุกตลาดประเทศไทยในปี 2566 ส่งผลให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศไทยของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 80% (เหลือ 77.8% ในปี 2566 และ เหลือ 76.2% ในปี 2567)" นิคเคอิระบุ . จากนั้นจึงกล่าวกว่า บีวายดี (BYD) คือ หัวหอกของบริษัทรถยนต์จีนที่เข้ามาแย่งชิงตลาดในประเทศไทยจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น โดยนิคเคอิได้ดำเนินการสำรวจการขยายตัวของจำนวนดีลเลอร์รถบีวายดีในไทยพบว่า เกือบ 50% ของดีลเลอร์รถบีวายดีนั้นก่อนหน้านั้นเคยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น โดยบีวายดีขยายสาขาไปทั่วประเทศ โดยไม่เพียงกวาดดีลเลอร์จากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้เข้ามาซุกใต้ปีก แต่รวมถึงค่ายรถยนต์จากตะวันตกด้วยเช่นกัน . การรุกไล่ของค่ายรถยนต์จากจีนไม่หยุดอยู่แค่ในระดับการส่งรถยนต์จากจีนมาขายยังเมืองไทย แต่ยังมีการขยายโรงงานผลิตมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วย ยกตัวอย่างเช่น บีวายดีที่เพิ่งเริ่มเดินสายพานโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มระบบแห่งแรกในต่างแดนที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรในแวดวงรถยนต์คนไทยที่มีความสามารถตั้งแต่ระดับฝ่ายผลิต จนถึงผู้บริหารที่เคยสังกัดอยู่กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ไหลไปอยู่กับบริษัทรถยนต์จีนจำนวนมาก . ด้วยแรงจูงใจสำคัญเป็นค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม 30% 50% 80% หรือกระทั่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว! . นายสื่อ ชิงเคอ (史青科) หรือ Parker Shi ประธานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล เจ้าของแบรนด์รถยนต์จีน GWM ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงคู่แข่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และการดึงตัวผู้บริหารระดับสูงจากโตโยต้ามาทำงานกับเกรทวอลล์ฯ โดยระบุว่า . "ด้วยความสัตย์จริง และความเคารพต่อโตโยต้า และรถแบรนด์จากใจ เพราะพวกเขานั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ (excellent) คุณวุฒิกร (สุริยะฉันทนานนท์) นั้นเคยทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่โตโยต้า และนี่คือเหตุผลที่เขามาอยู่กับเรา" และกล่าวต่อว่า "ถ้าหากคุณไม่มีความกล้าหาญที่จะสู้ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณก็ตาย ถ้าหากคุณไม่มีอาวุธที่ดีพอ ผลิตภัณฑ์ที่ดี รูปแบบธุรกิจที่ดี กลยุทธ์ที่ดี คุณก็ตาย ถ้าคุณไม่มีทีมเวิร์คที่ดี คุณก็ตาย ... มันไม่มีคนอยู่รอดหรอก เพราะที่กำลังเป็นอยู่นี้คือคือสงคราม ที่เกิดขึ้นในตลาดที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง" . นิคเคอิ เอเชียยังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทรถยนต์ชาวญี่ปุ่นในไทยที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม โดยผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนนี้ยอมรับว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นละเลยความต้องการของผู้บริโภคไทยไปมาก รวมถึงนำเสนอสินค้าที่เทคโนโลยีล้าหลังไปแล้วให้กับตลาดในประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ซึ่งแตกต่างจากค่ายรถจากจีน . "มันเป็นความจริงที่ว่าแบรนด์รถญี่ปุ่นนั้นมัวแต่มุ่งเน้นไปที่ตลาดใหญ่ ๆ อย่างในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตลาดนั้น ๆ นอกจากนี้สิ่งที่เราตัดสินใจผิดพลาดมากที่สุดก็คือ ความรวดเร็วของการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า . "และมันเป็นเรื่องจริงที่ค่ายรถญี่ปุ่นนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างล้าหลัง ซึ่งวางขายอยู่แล้วในประเทศกำลังพัฒนามาขายให้ (ตลาดไทย) ผมคิดว่า นี่เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่พอใจ และความไม่พอใจนั้นยิ่งนานวันก็สะสมเพิ่มขึ้น ๆ" ผู้บริหารค่ายรถญี่ปุ่นในไทยกล่าวเปิดอก . ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจของ LiB Consulting ระบุว่า ภายในปี 2578 (ค.ศ.2035) หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ยอดขายรถใหม่ในเมืองไทยจะเปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง โดยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะลดปริมาณลงจากปัจจุบันที่ราว 78.5% เหลือเพียง 15% โดยรถอีวี และรถยนต์พลังงานใหม่จะกินส่วนแบ่งการตลาดที่เหลือ จะถูกแบ่งให้รถอีวี (50.7%) และ รถยนต์เทคโนโลยีไฮบริด-อื่นๆ (34.3%) . ด้วยสถานการณ์และแนวโน้มเช่นนี้ทำให้ ณ ปัจจุบันถือเป็นโอกาสสุดท้ายของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นในการขยับขับเคลื่อนเพื่อไล่ตามรถอีวีจากจีนให้ทัน และกอบกู้สถานการณ์ด้วยการอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และตัดสินใจให้เร็ว และฉับไวมากขึ้น . ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องนี้คุณบุณยสิทธิ์ ประธานเครือสหพัฒน์วัย 87 ที่คร่ำหวอดทั้งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค แวดวงอุตสาหกรรม และมีสายสัมพันธ์อันล้ำลึกกับแวดวงอุตสาหกรรมไทย ญี่ปุ่น และจีน กล่าวทิ้งท้ายสารคดีข่าวชิ้นนี้เป็นคำแนะนำให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า . ในมุมของคุณบุญยสิทธิ์ เดิมทีประธานบริษัทญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดนั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โดยคนเหล่านี้มีจิตวิญญาณของการบุกเบิกและก่อตั้ง แต่เมื่อมาถึงวันนี้ที่ประธานบริษัทกลายเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เติบโตมาภายในกรอบของบริษัท คนเหล่านี้เวลาตัดสินใจอะไรจึงกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งหากผู้บริหารรุ่นใหม่เล่านี้ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การตัดสินใจก็จะล่าช้า ไม่ทันการณ์ . อย่างไรก็ตาม ประธานเครือสหพัฒน์ยังกล่าวให้ความหวังด้วยว่า ในสายตาของชาวไทยแบรนด์ญี่ปุ่นยังได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสูงอยู่ คนไทยยังมีความเชื่อว่ารถญี่ปุ่นนั้นดีกว่ารถจีน รถยนต์จีนนั้นมีดีเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่ และรถอีวี ซึ่งเมื่อไหร่ที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดตัวรถที่เป็นรถยนต์อีวีบ้าง ตนก็เชื่อว่าคนไทยจะกลับมานิยมรถยนต์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ซึ่งตนก็คาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะสามารถแข่งขันกับบริษัทรถยนต์จากจีนได้ . สารคดีข่าวชิ้นนี้ของนิคเคอิ สื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ด้วยการรุกคืบอย่างไม่หยุดหย่อนของค่ายรถยนต์จีน เวลาของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยนั้นคงเหลือน้อยลงทุกที พร้อมกับทิ้งฉากหลังเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณยามดวงอาทิตย์อัสดง . แล้วท่านผู้อ่านบูรพาไม่แพ้ละครับ มองว่า ค่ายรถญี่ปุ่นใกล้ถึงคราอวสานจากตลาดไทยหรือยัง? หรือ คิดว่าค่ายรถญี่ปุ่นยังมีโอกาสที่จะกู้สถานการณ์ ช่วงชิงตลาดรถยนต์ไทยกลับคืนมาได้ หากมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำดังที่นิคเคอิ เอเชียรายงานเอาไว้? . เนื่องวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๘ ทีมงานเพจบูรพาไม่แพ้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน และครอบครัวมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ สวัสดีปีใหม่ครับ 😄 🙏 🎊 🇹🇭 🇯🇵 🇨🇳 . . อ้างอิง : NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand https://www.youtube.com/watch?v=w7ldtHt6Mn4
    Like
    7
    0 Comments 1 Shares 1698 Views 1 Reviews
  • จีนกำลังพัฒนาห่วงโซ่อุปทานของการผลิตชิปที่สำคัญของจีน โดยเฉพาะการพัฒนาโฟโตเรซิสต์ที่มีความบริสุทธิ์สูงสำหรับการผลิตชิปในระดับการผลิตขั้นสูง

    ในปี 2024 จีนได้ก้าวหน้าอย่างมากในการพัฒนาโฟโตเรซิสต์ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตชิปในประเทศ

    โฟโตเรซิสต์สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ถูกจัดประเภทตามความยาวคลื่นของการเปิดรับแสง เช่น KrF (248nm), ArF (193nm), และ EUV (13.5nm) ซึ่งเป็นโฟโตเรซิสต์ที่บริสุทธิ์และทันสมัยที่สุด ตลาดโลกถูกครอบครองโดยผู้เล่นหลักจากญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เช่น JSR, Tokyo Ohka Kogyo, Shin-Etsu Chemical, Sumitomo Chemical, Fujifilm, และ DuPont

    บริษัทจีน เช่น Shanghai Sinyang, Rachem, และ Bcpharma ได้ทำความก้าวหน้าในโฟโตเรซิสต์ระดับเริ่มต้น แต่ยังคงประสบปัญหาในการแข่งขันในตลาดระดับสูงเนื่องจากความท้าทายทางเทคนิคและการเริ่มต้นที่ล่าช้า

    อย่างไรก็ตาม บริษัทจีนบางแห่งกำลังทำความก้าวหน้าในโฟโตเรซิสต์ขั้นสูง เช่น Hubei Dinglong ที่เพิ่งประกาศว่าโฟโตเรซิสต์ ArF และ KrF ของพวกเขาผ่านการประเมินจากลูกค้าและได้รับคำสั่งซื้อจากผู้ผลิตเวเฟอร์ในประเทศสองราย รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านหยวน หรือ 137,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-developing-critical-chipmaking-supply-chains-photoresist-ecosystem-emerges-for-arf-and-krf-lasers
    จีนกำลังพัฒนาห่วงโซ่อุปทานของการผลิตชิปที่สำคัญของจีน โดยเฉพาะการพัฒนาโฟโตเรซิสต์ที่มีความบริสุทธิ์สูงสำหรับการผลิตชิปในระดับการผลิตขั้นสูง ในปี 2024 จีนได้ก้าวหน้าอย่างมากในการพัฒนาโฟโตเรซิสต์ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตชิปในประเทศ โฟโตเรซิสต์สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ถูกจัดประเภทตามความยาวคลื่นของการเปิดรับแสง เช่น KrF (248nm), ArF (193nm), และ EUV (13.5nm) ซึ่งเป็นโฟโตเรซิสต์ที่บริสุทธิ์และทันสมัยที่สุด ตลาดโลกถูกครอบครองโดยผู้เล่นหลักจากญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เช่น JSR, Tokyo Ohka Kogyo, Shin-Etsu Chemical, Sumitomo Chemical, Fujifilm, และ DuPont บริษัทจีน เช่น Shanghai Sinyang, Rachem, และ Bcpharma ได้ทำความก้าวหน้าในโฟโตเรซิสต์ระดับเริ่มต้น แต่ยังคงประสบปัญหาในการแข่งขันในตลาดระดับสูงเนื่องจากความท้าทายทางเทคนิคและการเริ่มต้นที่ล่าช้า อย่างไรก็ตาม บริษัทจีนบางแห่งกำลังทำความก้าวหน้าในโฟโตเรซิสต์ขั้นสูง เช่น Hubei Dinglong ที่เพิ่งประกาศว่าโฟโตเรซิสต์ ArF และ KrF ของพวกเขาผ่านการประเมินจากลูกค้าและได้รับคำสั่งซื้อจากผู้ผลิตเวเฟอร์ในประเทศสองราย รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านหยวน หรือ 137,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-developing-critical-chipmaking-supply-chains-photoresist-ecosystem-emerges-for-arf-and-krf-lasers
    0 Comments 0 Shares 474 Views 0 Reviews
  • วลาดิมีร์ ปูติน แสดงความยินดีกับ เอมีร์ คุสตูริซา ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเซอร์เบีย เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ ๗๐ ปีของเขา และเน้นย้ำถึงผลงานอันทรงคุณค่าของเขาที่กลายมาเป็นหน้าใหม่ที่สดใสในประวัติศาสตร์ศิลปะระดับโลก:
    .
    Vladimir Putin congratulated Serbian film director Emir Kusturica with his seventieth birthday and highlighted his gifted works making a bright page in the global art history:
    https://tass.com/society/1876811
    .
    1:41 PM · Nov 24, 2024 · 3,285 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1860574453568082244
    วลาดิมีร์ ปูติน แสดงความยินดีกับ เอมีร์ คุสตูริซา ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเซอร์เบีย เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ ๗๐ ปีของเขา และเน้นย้ำถึงผลงานอันทรงคุณค่าของเขาที่กลายมาเป็นหน้าใหม่ที่สดใสในประวัติศาสตร์ศิลปะระดับโลก: . Vladimir Putin congratulated Serbian film director Emir Kusturica with his seventieth birthday and highlighted his gifted works making a bright page in the global art history: https://tass.com/society/1876811 . 1:41 PM · Nov 24, 2024 · 3,285 Views https://x.com/tassagency_en/status/1860574453568082244
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 662 Views 0 Reviews
  • แปลงไฟล์ Gerber ให้เป็นไฟล์ 3D เพื่อทำ PCB โดยใช้ 3D printer ถ่าย Film และ dryfilm (Convert Gerber to 3D file for DIY PCB Fabricate) 3D printer แสงเป็นแสง UV
    https://fb.watch/vXLSKsfpm2/
    แปลงไฟล์ Gerber ให้เป็นไฟล์ 3D เพื่อทำ PCB โดยใช้ 3D printer ถ่าย Film และ dryfilm (Convert Gerber to 3D file for DIY PCB Fabricate) 3D printer แสงเป็นแสง UV https://fb.watch/vXLSKsfpm2/
    0 Comments 0 Shares 356 Views 0 Reviews
  • Cloudy with a chance of MUDBALLS! Meet Colombia's San Jose Mulatos volcano - it doesn't do lavaWatch the terrifying moment onlookers filmed the mud volcano spewing up in a blaze of glory. While no casualties were reported, several people are said to have fainted from fear.#Colombia - Boost
    Cloudy with a chance of MUDBALLS! Meet Colombia's San Jose Mulatos volcano - it doesn't do lavaWatch the terrifying moment onlookers filmed the mud volcano spewing up in a blaze of glory. While no casualties were reported, several people are said to have fainted from fear.#Colombia - Boost
    0 Comments 0 Shares 941 Views 22 0 Reviews
  • การเดินทางของถุงพลาสติก The journey of the plastic bag | a film by Changyai

    #cinematicvideo #ช้างเรื่องเยอะ #ลุงช้างหญ่าย #ช้างชักภาพ @uncle Changyai
    การเดินทางของถุงพลาสติก The journey of the plastic bag | a film by Changyai #cinematicvideo #ช้างเรื่องเยอะ #ลุงช้างหญ่าย #ช้างชักภาพ @uncle Changyai
    0 Comments 0 Shares 793 Views 38 0 Reviews
  • Cinematic Video l French sandwich ham cheese / a film by Changyai

    #ช้างเรื่องเยอะ #ช้างชักภาพ #cinematicvideo #frenchsandwichhamcheese #CapCut
    Cinematic Video l French sandwich ham cheese / a film by Changyai #ช้างเรื่องเยอะ #ช้างชักภาพ #cinematicvideo #frenchsandwichhamcheese #CapCut
    0 Comments 0 Shares 919 Views 38 0 Reviews
  • Cinematic Video : mini mart / a film by : Changyai

    #ช้างชักภาพ #changyai #cinematicvideo
    Cinematic Video : mini mart / a film by : Changyai #ช้างชักภาพ #changyai #cinematicvideo
    0 Comments 0 Shares 579 Views 27 0 Reviews
  • Changyai Elephant Key : Up & Down / เพลง : มีขึ้นมีลง / Short Rap

    หนังสั้นก็มีแล้ว ละครสั้นก็มีแล้ว เรื่องสั้นก็มีแล้ว ขอมีแร็พสั้นบ้างนะ

    There are short films, there are short dramas, there are short stories.I am proud to present Short Rap

    #changyai #elephantkey #upanddown #shortrap #rap #ขึ้นๆลงๆ #แร็พสั้น # แร็พสั้นสักวันจะยาว
    Changyai Elephant Key : Up & Down / เพลง : มีขึ้นมีลง / Short Rap หนังสั้นก็มีแล้ว ละครสั้นก็มีแล้ว เรื่องสั้นก็มีแล้ว ขอมีแร็พสั้นบ้างนะ There are short films, there are short dramas, there are short stories.I am proud to present Short Rap #changyai #elephantkey #upanddown #shortrap #rap #ขึ้นๆลงๆ #แร็พสั้น # แร็พสั้นสักวันจะยาว
    0 Comments 0 Shares 960 Views 48 0 Reviews
More Results