• อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การให้ผลของมิจฉัตตะและสัมมัตตะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 1029
    ชื่อบทธรรม :- การให้ผลของมิจฉัตตะและสัมมัตตะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1029
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --การให้ผลของ มิจฉัตตะ และ สัมมัตตะ
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อบุคคลมี
    มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา
    .... ฯลฯ ....
    มิจฉาญาณะ มิจฉาวิมุตติ เสียแล้ว,
    กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
    ที่เขากระทำเต็มที่ตาม
    ทิฏฐินั้น ใดๆ ก็ดี
    เจตนา ก็ดี
    ความปรารถนา ก็ดี
    ปณิธาน ก็ดี
    สังขาร (การปรุงแต่ง) ใดๆ ก็ดี
    ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดของบุคคลนั้น #ย่อมเป็นไปเพื่อความทุกข์
    อันไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจ ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล.
    ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่า ทิฏฐินั้นเป็นทิฏฐิชั่ว (ปาปิก).
    http://etipitaka.com/read/pali/24/227/?keywords=ปาปิก

    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน พรรณไม้สะเดา พรรณไม้ บวบขม พรรณไม้น้ำเต้าขม
    ที่เขาปลูกลงไปในดินเปียก;
    พืชนั้นเข้าไปจับเอา รสแห่งดินและรสแห่งน้ำใดๆ
    รสแห่งดินและรสแห่งน้ำทั้งหมดนั้น
    ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นของขม ของเผ็ดร้อน ของไม่อร่อย.
    ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
    ข้อนั้นเพราะเหตุว่าพืชนั้นเป็นพืชชั่ว, ฉันใดก็ฉันนั้น.
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อบุคคลมี
    สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา
    ….ฯลฯ....
    สัมมาญานะ สัมมาวิมุตติ แล้ว,
    กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เขากระทำเต็มที่ตาม
    ทิฏฐินั้น ใดๆ ก็ดี
    เจตนา ก็ดี
    ความปรารถนา ก็ดี
    ปณิธาน ก็ดี
    สังขาร ใดๆ ก็ดี
    ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดของบุคคลนั้น #ย่อมเป็นไปเพื่อความสุข
    อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ เป็นประโยชน์เกื้อกูล.
    ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
    ข้อนั้นเพราะเหตุว่า ทิฏฐินั้นเป็นทิฏฐิดี (ภทฺทิก).
    http://etipitaka.com/read/pali/24/228/?keywords=ภทฺทิก

    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน พืชพรรณอ้อย พืชพรรณข้าวสาลี พืชพรรณองุ่น (มุทฺทิก)
    http://etipitaka.com/read/pali/24/228/?keywords=มุทฺทิกพีชํ
    ที่เขาปลูกลงไปในดินเปียก;
    พืชนั้นเข้าไปจับเอารสแห่งดินและรสแห่งน้ำใดๆ รสแห่งดินและรสแห่งน้ำ ทั้งหมดนั้น
    ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นรสน่ายินดี รสหวาน รสชุ่มฉ่ำ.
    ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
    ข้อนั้นเพราะเหตุว่าพืชนั้นเป็นพืชดี ฉันใดก็ฉันนั้น.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/182 - 184/104.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/182/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๒๖ - ๒๒๘/๑๐๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1029
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1029
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89
    ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การให้ผลของมิจฉัตตะและสัมมัตตะ สัทธรรมลำดับที่ : 1029 ชื่อบทธรรม :- การให้ผลของมิจฉัตตะและสัมมัตตะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1029 เนื้อความทั้งหมด :- --การให้ผลของ มิจฉัตตะ และ สัมมัตตะ --ภิกษุ ท. ! เมื่อบุคคลมี มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา .... ฯลฯ .... มิจฉาญาณะ มิจฉาวิมุตติ เสียแล้ว, กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เขากระทำเต็มที่ตาม ทิฏฐินั้น ใดๆ ก็ดี เจตนา ก็ดี ความปรารถนา ก็ดี ปณิธาน ก็ดี สังขาร (การปรุงแต่ง) ใดๆ ก็ดี ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดของบุคคลนั้น #ย่อมเป็นไปเพื่อความทุกข์ อันไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจ ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่า ทิฏฐินั้นเป็นทิฏฐิชั่ว (ปาปิก). http://etipitaka.com/read/pali/24/227/?keywords=ปาปิก --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน พรรณไม้สะเดา พรรณไม้ บวบขม พรรณไม้น้ำเต้าขม ที่เขาปลูกลงไปในดินเปียก; พืชนั้นเข้าไปจับเอา รสแห่งดินและรสแห่งน้ำใดๆ รสแห่งดินและรสแห่งน้ำทั้งหมดนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นของขม ของเผ็ดร้อน ของไม่อร่อย. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ข้อนั้นเพราะเหตุว่าพืชนั้นเป็นพืชชั่ว, ฉันใดก็ฉันนั้น. --ภิกษุ ท. ! เมื่อบุคคลมี สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา ….ฯลฯ.... สัมมาญานะ สัมมาวิมุตติ แล้ว, กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เขากระทำเต็มที่ตาม ทิฏฐินั้น ใดๆ ก็ดี เจตนา ก็ดี ความปรารถนา ก็ดี ปณิธาน ก็ดี สังขาร ใดๆ ก็ดี ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดของบุคคลนั้น #ย่อมเป็นไปเพื่อความสุข อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ เป็นประโยชน์เกื้อกูล. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ข้อนั้นเพราะเหตุว่า ทิฏฐินั้นเป็นทิฏฐิดี (ภทฺทิก). http://etipitaka.com/read/pali/24/228/?keywords=ภทฺทิก --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน พืชพรรณอ้อย พืชพรรณข้าวสาลี พืชพรรณองุ่น (มุทฺทิก) http://etipitaka.com/read/pali/24/228/?keywords=มุทฺทิกพีชํ ที่เขาปลูกลงไปในดินเปียก; พืชนั้นเข้าไปจับเอารสแห่งดินและรสแห่งน้ำใดๆ รสแห่งดินและรสแห่งน้ำ ทั้งหมดนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นรสน่ายินดี รสหวาน รสชุ่มฉ่ำ. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ข้อนั้นเพราะเหตุว่าพืชนั้นเป็นพืชดี ฉันใดก็ฉันนั้น.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/182 - 184/104. http://etipitaka.com/read/thai/24/182/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๒๖ - ๒๒๘/๑๐๔. http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1029 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1029 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89 ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - การให้ผลของมิจฉัตตะและสัมมัตตะ
    -(ความไม่ประสงค์ (วิราธนา) มีได้เพราะอาศัยมิจฉัตตะ ตรัสไว้โดยนัยตรงกันข้าม ผู้ศึกษาพึงเทียบเคียงได้เอง. คำขยายความที่กว้างขวางออกไป มีอยู่ในข้อความต่อไป จากข้อความตอนนี้). การให้ผลของมิจฉัตตะและสัมมัตตะ ภิกษุ ท. ! เมื่อบุคคลมีมิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา .... ฯลฯ .... มิจฉาญาณะ มิจฉาวิมุตติ เสียแล้ว, กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เขากระทำเต็มที่ตามทิฏฐินั้น ใดๆ ก็ดี เจตนา ก็ดี ความปรารถนา ก็ดี ปณิธาน ก็ดี สังขาร (การปรุงแต่ง) ใดๆ ก็ดี ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดของบุคคลนั้น ย่อม เป็นไปเพื่อความทุกข์อันไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจ ไม่เป็นประโยชน์ เกื้อกูล. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่า ทิฏฐินั้นเป็นทิฏฐิชั่ว (ปาปิก). ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน พรรณไม้สะเดา พรรณไม้ บวบขม พรรณไม้น้ำเต้าขม ที่เขาปลูกลงไปในดินเปียก; พืชนั้นเข้าไปจับเอา รสแห่งดินและรสแห่งน้ำใดๆ รสแห่งดินและรสแห่งน้ำทั้งหมดนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นของขม ของเผ็ดร้อน ของไม่อร่อย. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ข้อนั้นเพราะเหตุว่าพืชนั้นเป็นพืชชั่ว, ฉันใดก็ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เมื่อบุคคลมีสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา ….ฯลฯ.... สัมมาญานะ สัมมาวิมุตติ แล้ว, กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เขากระทำเต็มที่ตามทิฏฐินั้น ใดๆ ก็ดี เจตนา ก็ดี ความปรารถนา ก็ดี ปณิธาน ก็ดี สังขาร ใดๆ ก็ดี ธรรมเหล่านั้นทั้งหมดของบุคคลนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อความสุขอันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ เป็นประโยชน์เกื้อกูล. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ข้อนั้นเพราะเหตุว่า ทิฏฐินั้นเป็นทิฏฐิดี (ภทฺทิก). ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน พืชพรรณอ้อย พืชพรรณข้าวสาลี พืชพรรณองุ่น (มุทฺทิก) ที่เขาปลูกลงไปในดินเปียก; พืชนั้นเข้าไปจับเอารสแห่งดินและรสแห่งน้ำใดๆ รสแห่ง ดินและรสแห่งน้ำทั้งหมดนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อความเป็นรสน่ายินดี รสหวาน รสชุ่มฉ่ำ. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ข้อนั้นเพราะเหตุว่าพืชนั้นเป็นพืชดี ฉันใดก็ฉันนั้น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าการออกไปเสียได้จากทางไปแห่งจิตของสัตว์บุถุชน
    สัทธรรมลำดับที่ : 661
    ชื่อบทธรรม :- การออกไปเสียได้จากทางไปแห่งจิตของสัตว์บุถุชน
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=661
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --การออกไปเสียได้จากทางเดินแห่งจิตของสัตว์บุถุชน
    (ทางไปแห่งจิตของสัตว์ มีอยู่ ๓๖ อย่าง มีอยู่ที่หัวข้อว่า
    “#เวทนาคือทางไปแห่งจิตของสัตว์”. ข้อความต่อไปนี้
    แสดงการออกมาเสียได้จากทางไปแห่งจิตของสัตว์เหล่านั้น
    โดยอาศัยธรรมที่เป็นคู่ปรับแก่กันเป็นคู่ๆ ละฝ่ายที่ควรละเสีย
    จนกระทั่งออกมาเสียได้จากทางแห่งทุกข์ถึงที่สุดโดยประการทั้งปวง ดังต่อไปนี้ : -
    )​
    --ภิกษุ ท. ! คำ ที่เรากล่าวว่า “จงอาศัยทางนี้ แล้วละทางนี้เสีย” ดังนี้ นั้น,
    เรากล่าวอาศัยหลักเกณฑ์อะไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ข้อนั้น เรากล่าวอาศัยหลักเกณฑ์ คือ :-
    --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น
    โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตโสมนัส)
    http://etipitaka.com/read/pali/14/406/?keywords=โสมนสฺ
    +--หกอย่างมีอยู่ เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น
    ละเสียก้าวล่วงเสียซึ่ง โสมนัสอาศัยเรือนหกอย่าง.
    การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่ง โสมนัสอาศัยเรือนหกอย่างเหล่านั้น
    ย่อมมีด้วยอาการเหล่านี้.
    --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น
    โทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตโทมนัส)
    http://etipitaka.com/read/pali/14/406/?keywords=โทมนสฺ
    +--หกอย่างมีอยู่ เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง โทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น
    ละเสียก้าวล่วงเสียซึ่ง โทมนัสอาศัยเรือนหกอย่าง.
    การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่ง โทมนัสอาศัยเรือนหกอย่างเหล่านั้น
    ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.
    --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น
    อุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตอุเบกขา)
    http://etipitaka.com/read/pali/14/406/?keywords=อุเปกฺขา
    หกอย่างมีอยู่ เธอจงอาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง อุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น
    ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่ง อุเบกขาอาศัยเรือนหกอย่าง.
    การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่ง อุเบกขาอาศัยเรือนหกอย่างเหล่านั้น
    ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.
    --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น
    โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตโสมนัส)
    http://etipitaka.com/read/pali/14/407/?keywords=โสมนสฺ
    +--หกอย่างมีอยู่ เธอจงอาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง โทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น
    ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่ง โทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่าง.
    การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่ง โทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.
    --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น
    อุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตอุเบกขา) http://etipitaka.com/read/pali/14/407/?keywords=อุเปกฺขา
    +--หกอย่างมีอยู่ เธอจงอาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง อุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น
    ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่ง โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่าง.
    การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่ง โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.
    --ภิกษุ ท. ! อุเบกขามีภาวะต่างๆ (นานัตตอุเบกขา) อาศัยภาวะต่างๆ ก็มีอยู่.
    อุเบกขามีภาวะอย่างเดียว (เอกัตตอุเบกขา) อาศัยภาวะอย่างเดียว ก็มีอยู่.
    --ภิกษุ ท. ! อุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษ ท. ! อุเบกขาในรูป ท. มีอยู่, อุเบกขาในเสียง ท. มีอยู่, อุเบกขาในกลิ่น ท. มีอยู่, อุเบกขาในรส ท. มีอยู่, อุเบกขาในโผฏฐัพพะ ท. มีอยู่.
    --ภิกษุ ท. ! นี้คือ อุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! อุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียว เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! อุเบกขาอาศัยอากาสานัญจายตนะมีอยู่,
    อุเบกขาอาศัยวิญญาณัญจายตนะมีอยู่,
    อุเบกขาอาศัยอากิญจัญญายตนะมีอยู่,
    อุเบกขาอาศัยเนวสัญญานาสัญญายตนะมีอยู่.
    --ภิกษุ ท. ! นี้คือ อุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียว.
    --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาอุเบกขาเหล่านั้น
    เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่งอุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียว
    ละเสียก้าวล่วงเสียซึ่งอุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ นั้น.
    การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งอุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ นั้น
    ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.

    --ภิกษุ ท. ! เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง #อตัมมยตา*--๑. ;
    http://etipitaka.com/read/pali/14/407/?keywords=อตมฺมยต
    ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่งอุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียวนั้น.
    การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งอุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียวกัน ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.
    --ภิกษุ ท. ! คำใดที่เรากล่าวว่า “จงอาศัยทางนี้ แล้วละทางนี้เสีย”ดังนี้ นั้น,
    คำนั้นเรากล่าวอาศัยหลักเกณฑ์อย่างนี้แล.-

    *--๑. อตัมมยตา คำนี้ ยากที่จะแปลออกมาตรง ๆ และไม่ควรจะแปลออกมา, ให้ใช้ทับศัพท์จนกลายเป็นคำในภาษาไทย เหมือนคำสำคัญอื่น ๆ เช่นคำว่า นิพพาน เป็นต้นก็แล้วกัน.
    สำหรับความหมายของคำ ว่า อตัมมยตา นั้น หมายถึงภาวะที่ไม่ต้องเนื่องหรืออาศัยปัจจัยอะไร ๆ, ได้แก่อสัขตธรรมอันเป็นธรรมที่ปราศจากตัณหาเป็นต้น อันปัจจัยปรุงแต่งไม่ได้นั่นเอง.
    (นี้แสดงว่า การอาศัยทางอย่างหนึ่งละทางอย่างหนึ่งเสียนั้น เป็นนิโรธอย่างหนึ่ง ๆ ซึ่งควรจะมองให้เห็นว่าเป็นนิโรธ ๗ ขั้นตอน ดังนี้คือ :-
    ๑.--อาศัย เนกขัมมสิตโสมนัส ละเคหสิตโสมนัส คู่หนึ่ง ;
    ๒.--อาศัย เนกขัมมสิตโสมนัส ละเนกขัมมสิตโทมนัส คู่หนึ่ง ;
    ๓.--อาศัย เนกขัมมสิตโทมนัส ละเคหสิตโทมนัส คู่หนึ่ง ;
    ๔.--อาศัย เนกขัมมสิตอุเบกขา ละเคหสิตอุเบกขา คู่หนึ่ง ;
    ๕.--อาศัย เนกขัมมสิตอุเบกขา ละเนกขัมมสิตโสมนัส คู่หนึ่ง ;
    ๖.--อาศัย เอกัตตอุเบกขา ละนานัตตอุเบกขา คู่หนึ่ง ;
    ๗.--อาศัย อตัมมยตา ละเอกัตตอุเบกขา คู่หนึ่ง ).

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/306/631-632.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/306/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๔๐๖/๖๓๑-๖๓๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/406/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93%E0%B9%91
    ถึง
    http://etipitaka.com/read/pali/14/406/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=661
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46&id=661
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46
    ลำดับสาธยายธรรม : 46 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_46.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าการออกไปเสียได้จากทางไปแห่งจิตของสัตว์บุถุชน สัทธรรมลำดับที่ : 661 ชื่อบทธรรม :- การออกไปเสียได้จากทางไปแห่งจิตของสัตว์บุถุชน https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=661 เนื้อความทั้งหมด :- --การออกไปเสียได้จากทางเดินแห่งจิตของสัตว์บุถุชน (ทางไปแห่งจิตของสัตว์ มีอยู่ ๓๖ อย่าง มีอยู่ที่หัวข้อว่า “#เวทนาคือทางไปแห่งจิตของสัตว์”. ข้อความต่อไปนี้ แสดงการออกมาเสียได้จากทางไปแห่งจิตของสัตว์เหล่านั้น โดยอาศัยธรรมที่เป็นคู่ปรับแก่กันเป็นคู่ๆ ละฝ่ายที่ควรละเสีย จนกระทั่งออกมาเสียได้จากทางแห่งทุกข์ถึงที่สุดโดยประการทั้งปวง ดังต่อไปนี้ : - )​ --ภิกษุ ท. ! คำ ที่เรากล่าวว่า “จงอาศัยทางนี้ แล้วละทางนี้เสีย” ดังนี้ นั้น, เรากล่าวอาศัยหลักเกณฑ์อะไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ข้อนั้น เรากล่าวอาศัยหลักเกณฑ์ คือ :- --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตโสมนัส) http://etipitaka.com/read/pali/14/406/?keywords=โสมนสฺ +--หกอย่างมีอยู่ เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น ละเสียก้าวล่วงเสียซึ่ง โสมนัสอาศัยเรือนหกอย่าง. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่ง โสมนัสอาศัยเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการเหล่านี้. --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น โทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตโทมนัส) http://etipitaka.com/read/pali/14/406/?keywords=โทมนสฺ +--หกอย่างมีอยู่ เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง โทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น ละเสียก้าวล่วงเสียซึ่ง โทมนัสอาศัยเรือนหกอย่าง. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่ง โทมนัสอาศัยเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น อุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตอุเบกขา) http://etipitaka.com/read/pali/14/406/?keywords=อุเปกฺขา หกอย่างมีอยู่ เธอจงอาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง อุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่ง อุเบกขาอาศัยเรือนหกอย่าง. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่ง อุเบกขาอาศัยเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตโสมนัส) http://etipitaka.com/read/pali/14/407/?keywords=โสมนสฺ +--หกอย่างมีอยู่ เธอจงอาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง โทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่ง โทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่าง. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่ง โทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น อุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตอุเบกขา) http://etipitaka.com/read/pali/14/407/?keywords=อุเปกฺขา +--หกอย่างมีอยู่ เธอจงอาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง อุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่ง โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่าง. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่ง โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! อุเบกขามีภาวะต่างๆ (นานัตตอุเบกขา) อาศัยภาวะต่างๆ ก็มีอยู่. อุเบกขามีภาวะอย่างเดียว (เอกัตตอุเบกขา) อาศัยภาวะอย่างเดียว ก็มีอยู่. --ภิกษุ ท. ! อุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษ ท. ! อุเบกขาในรูป ท. มีอยู่, อุเบกขาในเสียง ท. มีอยู่, อุเบกขาในกลิ่น ท. มีอยู่, อุเบกขาในรส ท. มีอยู่, อุเบกขาในโผฏฐัพพะ ท. มีอยู่. --ภิกษุ ท. ! นี้คือ อุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ. --ภิกษุ ท. ! อุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียว เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! อุเบกขาอาศัยอากาสานัญจายตนะมีอยู่, อุเบกขาอาศัยวิญญาณัญจายตนะมีอยู่, อุเบกขาอาศัยอากิญจัญญายตนะมีอยู่, อุเบกขาอาศัยเนวสัญญานาสัญญายตนะมีอยู่. --ภิกษุ ท. ! นี้คือ อุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียว. --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาอุเบกขาเหล่านั้น เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่งอุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียว ละเสียก้าวล่วงเสียซึ่งอุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ นั้น. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งอุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ นั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่ง #อตัมมยตา*--๑. ; http://etipitaka.com/read/pali/14/407/?keywords=อตมฺมยต ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่งอุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียวนั้น. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งอุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียวกัน ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! คำใดที่เรากล่าวว่า “จงอาศัยทางนี้ แล้วละทางนี้เสีย”ดังนี้ นั้น, คำนั้นเรากล่าวอาศัยหลักเกณฑ์อย่างนี้แล.- *--๑. อตัมมยตา คำนี้ ยากที่จะแปลออกมาตรง ๆ และไม่ควรจะแปลออกมา, ให้ใช้ทับศัพท์จนกลายเป็นคำในภาษาไทย เหมือนคำสำคัญอื่น ๆ เช่นคำว่า นิพพาน เป็นต้นก็แล้วกัน. สำหรับความหมายของคำ ว่า อตัมมยตา นั้น หมายถึงภาวะที่ไม่ต้องเนื่องหรืออาศัยปัจจัยอะไร ๆ, ได้แก่อสัขตธรรมอันเป็นธรรมที่ปราศจากตัณหาเป็นต้น อันปัจจัยปรุงแต่งไม่ได้นั่นเอง. (นี้แสดงว่า การอาศัยทางอย่างหนึ่งละทางอย่างหนึ่งเสียนั้น เป็นนิโรธอย่างหนึ่ง ๆ ซึ่งควรจะมองให้เห็นว่าเป็นนิโรธ ๗ ขั้นตอน ดังนี้คือ :- ๑.--อาศัย เนกขัมมสิตโสมนัส ละเคหสิตโสมนัส คู่หนึ่ง ; ๒.--อาศัย เนกขัมมสิตโสมนัส ละเนกขัมมสิตโทมนัส คู่หนึ่ง ; ๓.--อาศัย เนกขัมมสิตโทมนัส ละเคหสิตโทมนัส คู่หนึ่ง ; ๔.--อาศัย เนกขัมมสิตอุเบกขา ละเคหสิตอุเบกขา คู่หนึ่ง ; ๕.--อาศัย เนกขัมมสิตอุเบกขา ละเนกขัมมสิตโสมนัส คู่หนึ่ง ; ๖.--อาศัย เอกัตตอุเบกขา ละนานัตตอุเบกขา คู่หนึ่ง ; ๗.--อาศัย อตัมมยตา ละเอกัตตอุเบกขา คู่หนึ่ง ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/306/631-632. http://etipitaka.com/read/thai/14/306/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๔๐๖/๖๓๑-๖๓๒. http://etipitaka.com/read/pali/14/406/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93%E0%B9%91 ถึง http://etipitaka.com/read/pali/14/406/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=661 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46&id=661 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46 ลำดับสาธยายธรรม : 46 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_46.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - การออกไปเสียได้จากทางเดินแห่งจิตของสัตว์บุถุชน
    -การออกไปเสียได้จากทางเดินแห่งจิตของสัตว์บุถุชน (ทางเดินแห่งจิตของสัตว์ มีอยู่ ๓๖ อย่าง มีอยู่ที่หัวข้อว่า “เวทนาคือทางไปแห่งจิตของสัตว์” ในภาค ๑ ที่ว่าด้วยทุกขอริยสัจ หน้า ๑๘๖ แห่งหนังสือเล่มนี้. ข้อความต่อไปนี้ แสดงการออกมาเสียได้จากทางเดินแห่งจิตของสัตว์เหล่านั้น โดยอาศัยธรรมที่เป็นคู่ปรับแก่กันเป็นคู่ๆ ละฝ่ายที่ควรละเสีย จนกระทั่งออกมาเสียได้จากทางแห่งทุกข์ถึงที่สุดโดยประการทั้งปวง ดังต่อไปนี้ :-) ภิกษุ ท. ! คำ ที่เรากล่าวว่า “จงอาศัยทางนี้ แล้วละทางนี้เสีย” ดังนี้ นั้น, เรากล่าวอาศัยหลักเกณฑ์อะไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ข้อนั้น เรากล่าวอาศัยหลักเกณฑ์ คือ : ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตโสมนัส) หกอย่างมีอยู่ เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่งโสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น ละเสียก้าวล่วงเสียซึ่งโสมนัสอาศัยเรือนหกอย่าง. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งโสมนัสอาศัยเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการเหล่านี้. ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น โทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตโทมนัส) หกอย่างมีอยู่ เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่งโทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น ละเสียก้าวล่วงเสียซึ่ง โทมนัสอาศัยเรือนหกอย่าง. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งโทมนัสอาศัยเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น อุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตอุเบกขา) หกอย่างมีอยู่ เธอจงอาศัยแล้ว ๆ ซึ่งอุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่งอุเบกขาอาศัยเรือนหกอย่าง. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งอุเบกขาอาศัยเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น โสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตโสมนัส) หกอย่างมีอยู่ เธอจงอาศัยแล้ว ๆ ซึ่งโทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่งโทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่าง. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งโทมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! ในบรรดาทางไป (แห่งจิต) ของสัตว์ทั้งสามสิบหกนั้น อุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือน (เนกขัมมสิตอุเบกขา) หกอย่างมีอยู่ เธอจงอาศัยแล้ว ๆ ซึ่งอุเบกขาอาศัยการหลีกออกจากเรือนนั้น ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่งโสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่าง. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งโสมนัสอาศัยการหลีกออกจากเรือนหกอย่างเหล่านั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! อุเบกขามีภาวะต่างๆ (นานัตตอุเบกขา) อาศัยภาวะต่างๆ ก็มีอยู่. อุเบกขามีภาวะอย่างเดียว (เอกัตตอุเบกขา) อาศัยภาวะอย่างเดียว ก็มีอยู่. ภิกษุ ท. ! อุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษ ท. ! อุเบกขาในรูป ท. มีอยู่, อุเบกขาในเสียง ท. มีอยู่, อุเบกขาในกลิ่น ท. มีอยู่, อุเบกขาในรส ท. มีอยู่, อุเบกขาในโผฏฐัพพะ ท. มีอยู่. ภิกษุ ท. ! นี้คือ อุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ. ภิกษุ ท. ! อุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียว เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! อุเบกขาอาศัยอากาสานัญจายตนะมีอยู่, อุเบกขาอาศัยวิญญาณัญจายตนะมีอยู่, อุเบกขาอาศัยอากิญจัญญายตนะมีอยู่, อุเบกขาอาศัยเนวสัญญานาสัญญายตนะมีอยู่. ภิกษุ ท. ! นี้คือ อุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียว. ภิกษุ ท. ! ในบรรดาอุเบกขาเหล่านั้น เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่งอุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียว ละเสียก้าวล่วงเสียซึ่งอุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ นั้น. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งอุเบกขามีภาวะต่าง ๆ อาศัยภาวะต่าง ๆ นั้น ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! เธอจง อาศัยแล้ว ๆ ซึ่งอตัมมยตา๑ ละเสียก้าวล่วงเสีย ซึ่งอุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียวนั้น. การละเสียได้ การก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งอุเบกขามีภาวะอย่างเดียว อาศัยภาวะอย่างเดียวกัน ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. ๑. อตัมมยตา คำนี้ ยากที่จะแปลออกมาตรง ๆ และไม่ควรจะแปลออกมา, ให้ใช้ทับศัพท์จนกลายเป็นคำในภาษาไทย เหมือนคำสำคัญอื่น ๆ เช่นคำว่า นิพพาน เป็นต้นก็แล้วกัน. สำหรับความหมายของคำ ว่า อตัมมยตา นั้น หมายถึงภาวะที่ไม่ต้องเนื่องหรืออาศัยปัจจัยอะไร ๆ, ได้แก่อสัขตธรรมอันเป็นธรรมที่ปราศจากตัณหาเป็นต้น อันปัจจัยปรุงแต่งไม่ได้นั่นเอง. ภิกษุ ท. ! คำใดที่เรากล่าวว่า “จงอาศัยทางนี้ แล้วละทางนี้เสีย”ดังนี้ นั้น, คำนั้นเรากล่าวอาศัยหลักเกณฑ์อย่างนี้แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)
    สัทธรรมลำดับที่ : 294
    ชื่อบทธรรม :- อาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=294
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)
    (ทรงแสดงด้วยอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งภพใหม่)
    --ภิกษุ ท. ! ถ้าบุคคลย่อมคิด (เจเตติ) ถึงสิ่งใดอยู่,
    http://etipitaka.com/read/pali/16/78/?keywords=เจเตติ
    ย่อมดำริ (ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใดอยู่,
    และย่อมมีใจฝังลงไป (อนุเสติ) ในสิ่งใดอยู่ ;
    สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ.
    เมื่ออารมณ์ มีอยู่,
    ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณ ย่อมมี;
    เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว,
    ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป ย่อมมี ;
    เมื่อความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป มี,
    ชาติชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วนต่อไป :
    &ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ ทั้งสิ้นนี้ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้.
    --ภิกษุ ท. ! ถ้าบุคคลย่อมไม่คิด (โน เจเตติ) ถึงสิ่งใด,
    http://etipitaka.com/read/pali/16/78/?keywords=โน+เจเตติ
    ย่อมไม่ดำริ (โน ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใด,
    แต่เขายังมีใจฝังลงไป (อนุเสติ) ในสิ่งใดอยู่;
    สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ.
    เมื่ออารมณ์ มีอยู่,
    ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณ ย่อมมี;
    เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว,
    ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป ย่อมมี ;
    เมื่อความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป มี,
    ชาติชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย ย่อมเกิดขึ้นครบถ้วนต่อไป :
    #ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ ทั้งสิ้นนี้ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/63/145.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/63/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๗๘/๑๔๕.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/78/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%95
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=294
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=294
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
    ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง) สัทธรรมลำดับที่ : 294 ชื่อบทธรรม :- อาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=294 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง) (ทรงแสดงด้วยอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งภพใหม่) --ภิกษุ ท. ! ถ้าบุคคลย่อมคิด (เจเตติ) ถึงสิ่งใดอยู่, http://etipitaka.com/read/pali/16/78/?keywords=เจเตติ ย่อมดำริ (ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใดอยู่, และย่อมมีใจฝังลงไป (อนุเสติ) ในสิ่งใดอยู่ ; สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ. เมื่ออารมณ์ มีอยู่, ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณ ย่อมมี; เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว, ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป ย่อมมี ; เมื่อความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป มี, ชาติชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วนต่อไป : &ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ ทั้งสิ้นนี้ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! ถ้าบุคคลย่อมไม่คิด (โน เจเตติ) ถึงสิ่งใด, http://etipitaka.com/read/pali/16/78/?keywords=โน+เจเตติ ย่อมไม่ดำริ (โน ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใด, แต่เขายังมีใจฝังลงไป (อนุเสติ) ในสิ่งใดอยู่; สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ. เมื่ออารมณ์ มีอยู่, ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณ ย่อมมี; เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว, ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป ย่อมมี ; เมื่อความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป มี, ชาติชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย ย่อมเกิดขึ้นครบถ้วนต่อไป : #ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ ทั้งสิ้นนี้ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/63/145. http://etipitaka.com/read/thai/16/63/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๗๘/๑๔๕. http://etipitaka.com/read/pali/16/78/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=294 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=294 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19 ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)
    -อาการเกิดขึ้นแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง) (ทรงแสดงด้วยอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งภพใหม่) ภิกษุ ท. ! ถ้าบุคคลย่อมคิด (เจเตติ) ถึงสิ่งใดอยู่, ย่อมดำริ (ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใดอยู่, และย่อมมีจิตฝังลงไป (อนุเสติ) ในสิ่งใดอยู่ ; สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ. เมื่ออารมณ์ มีอยู่, ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่งวิญญาณ ย่อมมี; เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว, ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป ย่อมมี ; เมื่อความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป มี, ชาติชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วนต่อไป : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! ถ้าบุคคลย่อมไม่คิด (โน เจเตติ) ถึงสิ่งใด, ย่อมไม่ดำริ (โน ปกปฺเปติ) ถึงสิ่งใด, แต่เขายังมีใจฝังลงไป (อนุเสติ) ในสิ่งใดอยู่; สิ่งนั้นย่อมเป็นอารมณ์ เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาณ. เมื่ออารมณ์ มีอยู่, ความตั้งขึ้นเฉพาะแห่ง วิญญาณ ย่อมมี; เมื่อวิญญาณนั้น ตั้งขึ้นเฉพาะ เจริญงอกงามแล้ว, ความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป ย่อมมี ; เมื่อความเกิดขึ้นแห่งภพใหม่ต่อไป มี, ชาติชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย ย่อมเกิดขึ้นครบถ้วนต่อไป : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my sweet heart 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my sweet heart 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎯 จุดเช็คอินที่ต้องมา! แสงสวย วิวดี ขนมอร่อย ครบจบในที่เดียว ว่าแล้วก็ tag ชวนเพื่อนกันเลย 😍

    𝐓𝐡𝐞 𝐮𝐥𝐭𝐢𝐦𝐚𝐭𝐞 𝐬𝐩𝐨𝐭 𝐲𝐨𝐮 𝐡𝐚𝐯𝐞 𝐭𝐨 𝐜𝐡𝐞𝐜𝐤 𝐢𝐧! 𝐏𝐞𝐫𝐟𝐞𝐜𝐭 𝐥𝐢𝐠𝐡𝐭, 𝐬𝐭𝐮𝐧𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐯𝐢𝐞𝐰𝐬, 𝐚𝐧𝐝 𝐭𝐚𝐬𝐭𝐲 𝐭𝐫𝐞𝐚𝐭𝐬. 𝐓𝐡𝐢𝐬 𝐩𝐥𝐚𝐜𝐞 𝐡𝐚𝐬 𝐢𝐭 𝐚𝐥𝐥!

    📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #sunsetlover #skylover #cafehopping #cafe
    🎯 จุดเช็คอินที่ต้องมา! แสงสวย วิวดี ขนมอร่อย ครบจบในที่เดียว ว่าแล้วก็ tag ชวนเพื่อนกันเลย 😍 𝐓𝐡𝐞 𝐮𝐥𝐭𝐢𝐦𝐚𝐭𝐞 𝐬𝐩𝐨𝐭 𝐲𝐨𝐮 𝐡𝐚𝐯𝐞 𝐭𝐨 𝐜𝐡𝐞𝐜𝐤 𝐢𝐧! 𝐏𝐞𝐫𝐟𝐞𝐜𝐭 𝐥𝐢𝐠𝐡𝐭, 𝐬𝐭𝐮𝐧𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐯𝐢𝐞𝐰𝐬, 𝐚𝐧𝐝 𝐭𝐚𝐬𝐭𝐲 𝐭𝐫𝐞𝐚𝐭𝐬. 𝐓𝐡𝐢𝐬 𝐩𝐥𝐚𝐜𝐞 𝐡𝐚𝐬 𝐢𝐭 𝐚𝐥𝐥! 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #sunsetlover #skylover #cafehopping #cafe
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เก่าไปนิด แต่ Storyฯ เพิ่งได้มีโอกาสอ่านนิยายจีนเรื่อง <ตงกง ตำนานรักตำหนักบูรพา> จบไป สะดุดตากับสิ่งที่เรียกว่า ‘เยี่ยจื่อไผ’

    ความมีอยู่ว่า
    ...ปัญหาคือว่าหลี่เฉิงอิ๋นไม่เคยมายามวิกาล ... ดังนั้น เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้อง จึงมีเพียงข้าและอาตู้นั่งอยู่หน้าโต๊ะ กำลังเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นเยี่ยจื่อไผ ข้าจับได้ไพ่สวยทั้งมือ...
    จากเรื่อง <ตงกง ตำนานตำหนักบูรพา> ผู้แต่ง เฟยอั่วซือฉุน
    (หมายเหตุ ชื่อเรื่องใช้ตามชื่อละครที่สร้างมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ‘เยี่ยจื่อไผ’ ที่กล่าวถึงข้างต้น ในละครจะเห็นว่ามันคือไพ่ที่ทำจากไม้ พอพูดถึงเรื่องไพ่ แม้แต่ฝรั่งยังบันทึกไว้ว่าไพ่ถือกำเนิดมาจากจีนโบราณ และเนื่องด้วยวิธีการเล่นไพ่แตกแขนงไปมากมาย การรวบรวมข้อมูลนั้นไม่ง่าย

    Storyฯ พอจะเรียบเรียงได้ว่า เยี่ยจื่อไผเดิมคือ ‘เยี่ยจื่อซี่’ (เกมใบไม้ หรือ 叶子戏 หรือที่มีฝรั่งไปเขียนถึงว่า Leaf Game) เป็นการละเล่นที่เริ่มขึ้นในยุคสมัยปลายราชวงศ์ถัง เป็นที่นิยมในวังและในกลุ่มนักวิชาการไว้เล่นยามสังสรรค์ ใน <บันทึกแห่งองค์หญิงถงชาง> ในสมัยราชวงศ์ถัง เคยบันทึกไว้ว่าองค์หญิงถงชาง (พระราชธิดาในฮ่องเต้อี้จง) ทรงโปรดปรานเกมนี้ถึงขนาดใช้ของล้ำค่าหายากอย่างไข่มุกราตรีมาให้แสงสว่างเพื่อจะได้เล่นจนดึกดื่น จากข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ฟากตะวันตก ว่ากันว่าเยี่ยจื่อซี่เดิมเป็นเกมทอยลูกเต๋าขนาดใหญ่ ต่อมาจึงนำมาวาดลงเป็นไม้แผ่นเล็กเพื่อสะดวกในการพกพายามเดินทาง เรียกว่าเยี่ยจื่อไผ ต่อมาจึงพัฒนาเป็นใช้กระดาษ มีการเขียนกำหนดกติกาการเล่นชัดเจนเป็นบันทึกเรียกว่า ‘เยี่ยจื่อเก๋อ’

    เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป กฎกติกาการเล่นก็พัฒนามากขึ้นไปหลากหลายจวบจนถึงยุคสมัยราชวงศ์ชิงจึง ‘นิ่ง’ หรือ ‘เข้าที่’

    แต่กว่าจะถึงวันนั้น ลวดลายของไพ่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย จากเดิมเป็นเพียงตัวเลขจากเล็กไปใหญ่แบบที่เห็นในรูปที่เป็นป้ายไม้จากละคร (ไพ่เบอร์ใหญ่ชนะไพ่เบอร์เล็ก) ก็มีการใช้ชุดตัวเลขหลักหมื่น (ตามรูปไพ่กระดาษที่มีลวดลายหน้าคน) ต่อมามีการเพิ่มเป็นชุดเรียงจำนวนเงินจากครึ่งอีแปะไปเป็นเก้าเฉียน (เข้าใจว่าหนึ่งเฉียนคือหนึ่งร้อยอีแปะ) เป็นต้น

    นอกจากตัวเลขที่เปลี่ยนไปยังมีการวาดลวดลายเพิ่มเติม เช่น ในยุคสมัยราชวงศ์หมิงมีการนิยมเอาตัวละครจากบทประพันธ์ชื่อดังมาวาดเป็นลายไพ่ อย่างตัวละครจากเรื่อง <ซ้องกั๋ง> เป็นต้น ว่ากันว่าลวดลายเหล่านี้เป็นต้นแบบของหน้าไพ่แจ็คเกอร์ของไพ่ป๊อก

    นอกจากนี้ยังมีการคงไว้ซึ่งรูปแบบของการใช้ไม้หรือวัสดุอื่น เป็นที่มาของไพ่โดมิโน (Domino Tiles) อันเป็นต้นแบบของ Mahjong หรือไพ่นกกระจอกนั่นเอง

    Storyฯ ไม่สันทัดการเล่นไพ่ ไม่เข้าใจกติกาของไพ่ประเภทต่างๆ อาจอธิบายไม่ได้ดีนัก ลองทำการบ้านเพิ่มดู เห็นในเว็บสามเกลอมีการคุยเรื่องไพ่ผ่องของไทยเปรียบเทียบกับไพ่จีนไว้ตามนี้ เพื่อนเพจที่สนใจลองอ่านดูนะคะ http://www.samgler.org/archives/card3.htm

    ยังมีละครจีนอีกหลายเรื่องที่พูดถึงเยี่ยจื่อไผ เพื่อนเพจพอจะจำกันได้บ้างไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://dramapanda.com/2018/12/goodbye-my-princess-2018.html
    http://www.chinawenhua.com.cn/zyanjiu/2018/4894.html
    Credit ข้อมูลจาก:
    https://theplayingcardfactory.com/history
    https://www.parlettgames.uk/histocs/leafgame.html
    http://www.qulishi.com/article/202010/448890.html
    https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%91%89%E5%AD%90%E6%88%B2

    #ตงกง #ไพ่จีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    เก่าไปนิด แต่ Storyฯ เพิ่งได้มีโอกาสอ่านนิยายจีนเรื่อง <ตงกง ตำนานรักตำหนักบูรพา> จบไป สะดุดตากับสิ่งที่เรียกว่า ‘เยี่ยจื่อไผ’ ความมีอยู่ว่า ...ปัญหาคือว่าหลี่เฉิงอิ๋นไม่เคยมายามวิกาล ... ดังนั้น เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้อง จึงมีเพียงข้าและอาตู้นั่งอยู่หน้าโต๊ะ กำลังเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นเยี่ยจื่อไผ ข้าจับได้ไพ่สวยทั้งมือ... จากเรื่อง <ตงกง ตำนานตำหนักบูรพา> ผู้แต่ง เฟยอั่วซือฉุน (หมายเหตุ ชื่อเรื่องใช้ตามชื่อละครที่สร้างมาจากนิยายเรื่องนี้) ‘เยี่ยจื่อไผ’ ที่กล่าวถึงข้างต้น ในละครจะเห็นว่ามันคือไพ่ที่ทำจากไม้ พอพูดถึงเรื่องไพ่ แม้แต่ฝรั่งยังบันทึกไว้ว่าไพ่ถือกำเนิดมาจากจีนโบราณ และเนื่องด้วยวิธีการเล่นไพ่แตกแขนงไปมากมาย การรวบรวมข้อมูลนั้นไม่ง่าย Storyฯ พอจะเรียบเรียงได้ว่า เยี่ยจื่อไผเดิมคือ ‘เยี่ยจื่อซี่’ (เกมใบไม้ หรือ 叶子戏 หรือที่มีฝรั่งไปเขียนถึงว่า Leaf Game) เป็นการละเล่นที่เริ่มขึ้นในยุคสมัยปลายราชวงศ์ถัง เป็นที่นิยมในวังและในกลุ่มนักวิชาการไว้เล่นยามสังสรรค์ ใน <บันทึกแห่งองค์หญิงถงชาง> ในสมัยราชวงศ์ถัง เคยบันทึกไว้ว่าองค์หญิงถงชาง (พระราชธิดาในฮ่องเต้อี้จง) ทรงโปรดปรานเกมนี้ถึงขนาดใช้ของล้ำค่าหายากอย่างไข่มุกราตรีมาให้แสงสว่างเพื่อจะได้เล่นจนดึกดื่น จากข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ฟากตะวันตก ว่ากันว่าเยี่ยจื่อซี่เดิมเป็นเกมทอยลูกเต๋าขนาดใหญ่ ต่อมาจึงนำมาวาดลงเป็นไม้แผ่นเล็กเพื่อสะดวกในการพกพายามเดินทาง เรียกว่าเยี่ยจื่อไผ ต่อมาจึงพัฒนาเป็นใช้กระดาษ มีการเขียนกำหนดกติกาการเล่นชัดเจนเป็นบันทึกเรียกว่า ‘เยี่ยจื่อเก๋อ’ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป กฎกติกาการเล่นก็พัฒนามากขึ้นไปหลากหลายจวบจนถึงยุคสมัยราชวงศ์ชิงจึง ‘นิ่ง’ หรือ ‘เข้าที่’ แต่กว่าจะถึงวันนั้น ลวดลายของไพ่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย จากเดิมเป็นเพียงตัวเลขจากเล็กไปใหญ่แบบที่เห็นในรูปที่เป็นป้ายไม้จากละคร (ไพ่เบอร์ใหญ่ชนะไพ่เบอร์เล็ก) ก็มีการใช้ชุดตัวเลขหลักหมื่น (ตามรูปไพ่กระดาษที่มีลวดลายหน้าคน) ต่อมามีการเพิ่มเป็นชุดเรียงจำนวนเงินจากครึ่งอีแปะไปเป็นเก้าเฉียน (เข้าใจว่าหนึ่งเฉียนคือหนึ่งร้อยอีแปะ) เป็นต้น นอกจากตัวเลขที่เปลี่ยนไปยังมีการวาดลวดลายเพิ่มเติม เช่น ในยุคสมัยราชวงศ์หมิงมีการนิยมเอาตัวละครจากบทประพันธ์ชื่อดังมาวาดเป็นลายไพ่ อย่างตัวละครจากเรื่อง <ซ้องกั๋ง> เป็นต้น ว่ากันว่าลวดลายเหล่านี้เป็นต้นแบบของหน้าไพ่แจ็คเกอร์ของไพ่ป๊อก นอกจากนี้ยังมีการคงไว้ซึ่งรูปแบบของการใช้ไม้หรือวัสดุอื่น เป็นที่มาของไพ่โดมิโน (Domino Tiles) อันเป็นต้นแบบของ Mahjong หรือไพ่นกกระจอกนั่นเอง Storyฯ ไม่สันทัดการเล่นไพ่ ไม่เข้าใจกติกาของไพ่ประเภทต่างๆ อาจอธิบายไม่ได้ดีนัก ลองทำการบ้านเพิ่มดู เห็นในเว็บสามเกลอมีการคุยเรื่องไพ่ผ่องของไทยเปรียบเทียบกับไพ่จีนไว้ตามนี้ เพื่อนเพจที่สนใจลองอ่านดูนะคะ http://www.samgler.org/archives/card3.htm ยังมีละครจีนอีกหลายเรื่องที่พูดถึงเยี่ยจื่อไผ เพื่อนเพจพอจะจำกันได้บ้างไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://dramapanda.com/2018/12/goodbye-my-princess-2018.html http://www.chinawenhua.com.cn/zyanjiu/2018/4894.html Credit ข้อมูลจาก: https://theplayingcardfactory.com/history https://www.parlettgames.uk/histocs/leafgame.html http://www.qulishi.com/article/202010/448890.html https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%91%89%E5%AD%90%E6%88%B2 #ตงกง #ไพ่จีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • Take a break
    Take a break
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • New Year's Gift พรจากฟ้า 2016
    New Year's Gift พรจากฟ้า 2016
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Journey 1 to the Center of the Earth ดิ่งทะลุสะดือโลก (2008)
    Journey 1 to the Center of the Earth ดิ่งทะลุสะดือโลก (2008)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • ปกติเราคุ้นกับ 3D printer ที่พิมพ์ของเล่น ชิ้นส่วนรถ หรือแม้แต่บ้านทั้งหลังใช่ไหมครับ? แต่โปรเจกต์นี้กลับสวนทาง ด้วยการพิมพ์ “โครงสร้างขนาดเล็กจิ๋ว” จนต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ดูถึงจะเห็น เพราะเส้นผ่านศูนย์กลางของเลเซอร์ที่ใช้พิมพ์นั้น บางกว่าเส้นผมถึง 10 เท่า

    วิธีที่เขาใช้คือเทคนิค “Two-Photon Polymerization” (2PP) คือการยิงลำแสงเลเซอร์ที่เข้มมากเป็นพิเศษในช่วงพัลส์สั้น ๆ ทำให้วัสดุโพลิเมอร์เกิดปฏิกิริยาเฉพาะจุด กลายเป็นชิ้นงานแบบสามมิติ และสามารถ ควบคุมให้ดูดซับเสียงเฉพาะความถี่ได้ ด้วยการออกแบบรูปร่างภายในได้ละเอียดสุด ๆ — เรียกว่า “Phononic Metamaterials”

    สิ่งที่เจ๋งคือ ผลลัพธ์นี้สามารถต่อยอดไปใช้ในงานป้องกันเสียง เช่น ในอาคารขนาดใหญ่ หรืองานทางการแพทย์ก็ได้เหมือนกัน อย่างการดูดซับเสียงภายในร่างกายเพื่อใช้กับอุปกรณ์ตรวจวินิจฉัย

    ตอนนี้ยังต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ ไม่ใช่ 3D printer บ้าน ๆ ที่เรามี แต่มันบอกใบ้ว่าอีกไม่นาน เราจะเห็นการพิมพ์ระดับนาโนแบบ customized ได้ด้วยตัวเอง ก็เป็นได้

    ✅ นักวิทยาศาสตร์ใช้เทคนิค “Two-Photon Polymerization” สร้างโครงสร้าง 3D ขนาดนาโน  
    • ใช้เลเซอร์พัลส์เข้มสูง ยิงจุดเฉพาะในวัสดุ  
    • เส้นผ่านศูนย์กลางของเลเซอร์บางกว่าเส้นผม 10 เท่า

    ✅ โครงสร้างนี้เป็น “Phononic Metamaterials” — ใช้ดูดซับเสียงเฉพาะความถี่ได้  
    • ปรับรูปร่างในระดับนาโนเพื่อคอนโทรลพฤติกรรมเสียง  
    • ศักยภาพต่อยอดสูงในงานอาคาร, การแพทย์, หุ่นยนต์จิ๋ว

    ✅ นักวิจัยทดลองหลายรูปแบบโครงสร้างเพื่อศึกษาและหาทางใช้งานที่เหมาะสมในอนาคต  
    • อาจใช้สร้างวัสดุกำบังเสียงแบบใหม่  
    • ใช้ตรวจสอบระดับจุลภาคในร่างกายผ่านการสะท้อนคลื่น

    ✅ แม้ยังใช้กับ 3D printer ทั่วไปไม่ได้ แต่ถือเป็น proof of concept สำคัญในวงการนาโนพิมพ์  
    • มีโอกาสพัฒนาเป็นเครื่องต้นแบบสำหรับอุตสาหกรรมระดับสูงในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printed-structures-10-times-thinner-than-a-human-hair-extremely-intense-laser-pulses-bring-3d-printing-closer-to-ant-mans-quantum-realm
    ปกติเราคุ้นกับ 3D printer ที่พิมพ์ของเล่น ชิ้นส่วนรถ หรือแม้แต่บ้านทั้งหลังใช่ไหมครับ? แต่โปรเจกต์นี้กลับสวนทาง ด้วยการพิมพ์ “โครงสร้างขนาดเล็กจิ๋ว” จนต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ดูถึงจะเห็น เพราะเส้นผ่านศูนย์กลางของเลเซอร์ที่ใช้พิมพ์นั้น บางกว่าเส้นผมถึง 10 เท่า วิธีที่เขาใช้คือเทคนิค “Two-Photon Polymerization” (2PP) คือการยิงลำแสงเลเซอร์ที่เข้มมากเป็นพิเศษในช่วงพัลส์สั้น ๆ ทำให้วัสดุโพลิเมอร์เกิดปฏิกิริยาเฉพาะจุด กลายเป็นชิ้นงานแบบสามมิติ และสามารถ ควบคุมให้ดูดซับเสียงเฉพาะความถี่ได้ ด้วยการออกแบบรูปร่างภายในได้ละเอียดสุด ๆ — เรียกว่า “Phononic Metamaterials” สิ่งที่เจ๋งคือ ผลลัพธ์นี้สามารถต่อยอดไปใช้ในงานป้องกันเสียง เช่น ในอาคารขนาดใหญ่ หรืองานทางการแพทย์ก็ได้เหมือนกัน อย่างการดูดซับเสียงภายในร่างกายเพื่อใช้กับอุปกรณ์ตรวจวินิจฉัย ตอนนี้ยังต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ ไม่ใช่ 3D printer บ้าน ๆ ที่เรามี แต่มันบอกใบ้ว่าอีกไม่นาน เราจะเห็นการพิมพ์ระดับนาโนแบบ customized ได้ด้วยตัวเอง ก็เป็นได้ ✅ นักวิทยาศาสตร์ใช้เทคนิค “Two-Photon Polymerization” สร้างโครงสร้าง 3D ขนาดนาโน   • ใช้เลเซอร์พัลส์เข้มสูง ยิงจุดเฉพาะในวัสดุ   • เส้นผ่านศูนย์กลางของเลเซอร์บางกว่าเส้นผม 10 เท่า ✅ โครงสร้างนี้เป็น “Phononic Metamaterials” — ใช้ดูดซับเสียงเฉพาะความถี่ได้   • ปรับรูปร่างในระดับนาโนเพื่อคอนโทรลพฤติกรรมเสียง   • ศักยภาพต่อยอดสูงในงานอาคาร, การแพทย์, หุ่นยนต์จิ๋ว ✅ นักวิจัยทดลองหลายรูปแบบโครงสร้างเพื่อศึกษาและหาทางใช้งานที่เหมาะสมในอนาคต   • อาจใช้สร้างวัสดุกำบังเสียงแบบใหม่   • ใช้ตรวจสอบระดับจุลภาคในร่างกายผ่านการสะท้อนคลื่น ✅ แม้ยังใช้กับ 3D printer ทั่วไปไม่ได้ แต่ถือเป็น proof of concept สำคัญในวงการนาโนพิมพ์   • มีโอกาสพัฒนาเป็นเครื่องต้นแบบสำหรับอุตสาหกรรมระดับสูงในอนาคต https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printed-structures-10-times-thinner-than-a-human-hair-extremely-intense-laser-pulses-bring-3d-printing-closer-to-ant-mans-quantum-realm
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า GPU = เล่นเกม แต่ ASRock กำลังจะเปลี่ยนภาพนั้น ด้วยการเปิดตัว Radeon RX AI Pro R9700 Creator ที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อแค่เฟรมเรตสูง...แต่เน้น “ประสิทธิภาพเสถียรและหน่วยความจำเยอะ” สำหรับทำงาน AI inference, video rendering, CAD, หรือ data science โดยเฉพาะ

    ตัวการ์ดใช้ดีไซน์ blower แบบ 2 สล็อตระบายความร้อนได้ดีในเคสแคบ ๆ เหมาะมากสำหรับติดตั้งหลายใบในเครื่องเดียว โดยใช้ แรม GDDR6 ขนาด 32GB ความเร็ว 20 Gbps และ อินเทอร์เฟซความกว้าง 256 บิต ทำให้ได้แบนด์วิธสูงถึง 644.6 GB/s ซึ่งเพียงพอสำหรับโหลดโมเดลขนาดใหญ่

    ด้านกำลังไฟ การ์ดใช้หัวต่อ 12V-2x6 (แบบเดียวกับ RTX 40 ซีรีส์) ซึ่งรับไฟได้ถึง 300W และแนะนำให้ใช้ PSU อย่างน้อย 800W — ฟังดูแรง แต่ถือเป็นมาตรฐานของการ์ดระดับมืออาชีพในยุคนี้

    พอร์ตจอดูอาจจะเก่า (DisplayPort 1.2a) แต่ก็ยังแสดงผลระดับ 8K ได้ถึง 4 จอพร้อมกัน เรียกว่าเน้นงานมากกว่าความใหม่หรูของเกม

    ✅ ASRock เปิดตัว Radeon RX AI Pro R9700 Creator สำหรับงาน AI / เวิร์กสเตชัน  
    • ใช้ชิป Navi 48 พร้อม 4,096 SPs  
    • Clock สูงสุดที่ 2,920 MHz (boost), 2,350 MHz (base)

    ✅ แรม 32GB GDDR6 @ 20 Gbps พร้อม bus 256-bit  
    • แบนด์วิธรวม 644.6 GB/s

    ✅ ออกแบบแบบ blower 2 สล็อต เหมาะสำหรับ multi-GPU workstation  
    • มี vapor chamber + thermal pad ระดับสูง (Honeywell PTM7950)

    ✅ พอร์ตจอแบบ DisplayPort 1.2a รองรับ 8K ได้สูงสุด 4 จอ

    ✅ ใช้พลังงาน 300W ผ่านหัว 12V-2x6  
    • แนะนำ PSU อย่างน้อย 800W จากแบรนด์น่าเชื่อถือ

    ✅ มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2025  
    • ยังไม่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/asrock-preps-radeon-rx-ai-pro-r9700-creator-for-ai-and-workstation-users-blower-card-adopts-16-pin-connector-features-300w-tbp-rating
    คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า GPU = เล่นเกม แต่ ASRock กำลังจะเปลี่ยนภาพนั้น ด้วยการเปิดตัว Radeon RX AI Pro R9700 Creator ที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อแค่เฟรมเรตสูง...แต่เน้น “ประสิทธิภาพเสถียรและหน่วยความจำเยอะ” สำหรับทำงาน AI inference, video rendering, CAD, หรือ data science โดยเฉพาะ ตัวการ์ดใช้ดีไซน์ blower แบบ 2 สล็อตระบายความร้อนได้ดีในเคสแคบ ๆ เหมาะมากสำหรับติดตั้งหลายใบในเครื่องเดียว โดยใช้ แรม GDDR6 ขนาด 32GB ความเร็ว 20 Gbps และ อินเทอร์เฟซความกว้าง 256 บิต ทำให้ได้แบนด์วิธสูงถึง 644.6 GB/s ซึ่งเพียงพอสำหรับโหลดโมเดลขนาดใหญ่ ด้านกำลังไฟ การ์ดใช้หัวต่อ 12V-2x6 (แบบเดียวกับ RTX 40 ซีรีส์) ซึ่งรับไฟได้ถึง 300W และแนะนำให้ใช้ PSU อย่างน้อย 800W — ฟังดูแรง แต่ถือเป็นมาตรฐานของการ์ดระดับมืออาชีพในยุคนี้ พอร์ตจอดูอาจจะเก่า (DisplayPort 1.2a) แต่ก็ยังแสดงผลระดับ 8K ได้ถึง 4 จอพร้อมกัน เรียกว่าเน้นงานมากกว่าความใหม่หรูของเกม ✅ ASRock เปิดตัว Radeon RX AI Pro R9700 Creator สำหรับงาน AI / เวิร์กสเตชัน   • ใช้ชิป Navi 48 พร้อม 4,096 SPs   • Clock สูงสุดที่ 2,920 MHz (boost), 2,350 MHz (base) ✅ แรม 32GB GDDR6 @ 20 Gbps พร้อม bus 256-bit   • แบนด์วิธรวม 644.6 GB/s ✅ ออกแบบแบบ blower 2 สล็อต เหมาะสำหรับ multi-GPU workstation   • มี vapor chamber + thermal pad ระดับสูง (Honeywell PTM7950) ✅ พอร์ตจอแบบ DisplayPort 1.2a รองรับ 8K ได้สูงสุด 4 จอ ✅ ใช้พลังงาน 300W ผ่านหัว 12V-2x6   • แนะนำ PSU อย่างน้อย 800W จากแบรนด์น่าเชื่อถือ ✅ มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2025   • ยังไม่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/asrock-preps-radeon-rx-ai-pro-r9700-creator-for-ai-and-workstation-users-blower-card-adopts-16-pin-connector-features-300w-tbp-rating
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่ผ่านมา Microsoft ขึ้นชื่อว่า “รักษา compatibility ดีเยี่ยม” ต่ออุปกรณ์เก่า ๆ แต่ยุคนี้ปัญหาด้าน ความปลอดภัย + ระบบอัปเดตที่เทอะทะ ทำให้ต้องเปลี่ยนทิศ

    Microsoft จึงออกแถลงถึงพันธมิตรฮาร์ดแวร์ว่าเริ่ม “กวาดล้างไดรเวอร์ที่ล้าสมัย” ออกจากระบบ Windows Update แล้ว โดยจะลบเป็นรอบ ๆ และเริ่มจากไดรเวอร์ที่มีเวอร์ชันใหม่กว่าใช้งานอยู่แล้ว — ส่วนไดรเวอร์เก่า จะ “หมดอายุ” (expire) และไม่ถูกติดตั้งจาก Windows Update อีกต่อไป

    ถ้าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อยากให้ driver เดิมยังใช้งานได้ ก็ต้อง “ยื่นเรื่องขออนุมัติ” พร้อมเหตุผลเฉพาะภายใน 6 เดือนหลังประกาศ

    Microsoft ยืนยันว่าแนวทางนี้จะ “ลดความเสี่ยงจาก driver ที่ไม่ปลอดภัยและลดความวุ่นวายในการอัปเดต” แต่ก็รู้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เลยจะดำเนินการเป็นเฟส ๆ พร้อมประกาศผ่านบล็อกหลังจากลบชุดแรกสำเร็จ

    ✅ Microsoft เริ่มลบ driver เก่าที่หมดอายุจาก Windows Update Catalog แล้ว  
    • เริ่มจาก driver ที่มีเวอร์ชันใหม่กว่าใช้งานอยู่แล้ว  
    • เรียกกระบวนการนี้ว่า “driver cleanup”

    ✅ ผู้ผลิตที่ต้องการให้ driver เดิมยังอยู่ในระบบ ต้องยื่นขอภายใน 6 เดือนหลังถูกลบ  
    • Microsoft อาจขอเหตุผลว่าทำไมถึงจำเป็นต้องคงไว้

    ✅ เป้าหมายของโครงการคือเพื่อเพิ่มความปลอดภัย และทำให้ระบบอัปเดต lean & efficient  
    • ลดการโหลดไฟล์ driver ที่ไม่จำเป็นกับเครื่องรุ่นใหม่  
    • ป้องกันความขัดแย้งของ driver เก่าในการติดตั้ง patch ใหม่

    ✅ บริษัทเตือนว่า driver cleanup จะกลายเป็น “routine process” สำหรับ Windows ในอนาคต • แนะนำให้ผู้ผลิตเข้ามาตรวจสอบรายการไดรเวอร์ของตนใน Windows Hardware Program

    https://www.techspot.com/news/108397-microsoft-begins-cleaning-legacy-drivers-windows-update.html
    ที่ผ่านมา Microsoft ขึ้นชื่อว่า “รักษา compatibility ดีเยี่ยม” ต่ออุปกรณ์เก่า ๆ แต่ยุคนี้ปัญหาด้าน ความปลอดภัย + ระบบอัปเดตที่เทอะทะ ทำให้ต้องเปลี่ยนทิศ Microsoft จึงออกแถลงถึงพันธมิตรฮาร์ดแวร์ว่าเริ่ม “กวาดล้างไดรเวอร์ที่ล้าสมัย” ออกจากระบบ Windows Update แล้ว โดยจะลบเป็นรอบ ๆ และเริ่มจากไดรเวอร์ที่มีเวอร์ชันใหม่กว่าใช้งานอยู่แล้ว — ส่วนไดรเวอร์เก่า จะ “หมดอายุ” (expire) และไม่ถูกติดตั้งจาก Windows Update อีกต่อไป ถ้าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อยากให้ driver เดิมยังใช้งานได้ ก็ต้อง “ยื่นเรื่องขออนุมัติ” พร้อมเหตุผลเฉพาะภายใน 6 เดือนหลังประกาศ Microsoft ยืนยันว่าแนวทางนี้จะ “ลดความเสี่ยงจาก driver ที่ไม่ปลอดภัยและลดความวุ่นวายในการอัปเดต” แต่ก็รู้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เลยจะดำเนินการเป็นเฟส ๆ พร้อมประกาศผ่านบล็อกหลังจากลบชุดแรกสำเร็จ ✅ Microsoft เริ่มลบ driver เก่าที่หมดอายุจาก Windows Update Catalog แล้ว   • เริ่มจาก driver ที่มีเวอร์ชันใหม่กว่าใช้งานอยู่แล้ว   • เรียกกระบวนการนี้ว่า “driver cleanup” ✅ ผู้ผลิตที่ต้องการให้ driver เดิมยังอยู่ในระบบ ต้องยื่นขอภายใน 6 เดือนหลังถูกลบ   • Microsoft อาจขอเหตุผลว่าทำไมถึงจำเป็นต้องคงไว้ ✅ เป้าหมายของโครงการคือเพื่อเพิ่มความปลอดภัย และทำให้ระบบอัปเดต lean & efficient   • ลดการโหลดไฟล์ driver ที่ไม่จำเป็นกับเครื่องรุ่นใหม่   • ป้องกันความขัดแย้งของ driver เก่าในการติดตั้ง patch ใหม่ ✅ บริษัทเตือนว่า driver cleanup จะกลายเป็น “routine process” สำหรับ Windows ในอนาคต • แนะนำให้ผู้ผลิตเข้ามาตรวจสอบรายการไดรเวอร์ของตนใน Windows Hardware Program https://www.techspot.com/news/108397-microsoft-begins-cleaning-legacy-drivers-windows-update.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft begins cleanup of legacy drivers from Windows Update
    According to a recent post addressing partners in the Windows Hardware Program, Microsoft is working to remove legacy drivers from the Windows Update system. The company says...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองจินตนาการว่าคุณส่องกล้องดูจักรวาล แล้วสามารถเห็น “แก๊สที่หลั่งออกมาจากหลุมดำ” หรือ “ซากดาวที่กำลังตาย” ได้แบบละเอียดยิบ — นั่นคือสิ่งที่ทีมจาก ESO ทำได้ในงานนี้!

    ดาราจักร Sculptor อยู่ห่างจากโลกประมาณ 11 ล้านปีแสง มีขนาด ความมวล และรูปทรงใกล้เคียงกับทางช้างเผือกของเรา การถ่ายภาพนี้ใช้เทคนิครวมภาพกว่า 100 เฟรม เพื่อสร้าง “แผนที่สามสี” จากแสงของ ไฮโดรเจน, ออกซิเจน และกำมะถัน ทำให้เห็นโครงสร้างภายในของดาราจักรได้ชัดเจนสุด ๆ

    ที่น่าทึ่งคือ นักวิจัยพบ เนบิวลาดาวเคราะห์ (Planetary Nebulae) มากถึง 500 แห่ง — ปกติเห็นแค่ 100 แห่งต่อดาราจักร นอกจากนี้ยังเห็นการพ่นก๊าซออกจากใจกลางของดาราจักร ซึ่งอาจมาจาก หลุมดำมวลยิ่งยวด ที่อยู่ตรงนั้น

    นักดาราศาสตร์จะใช้ข้อมูลนี้ในการศึกษาเรื่อง:
    - โครงสร้างของดาราจักรแบบละเอียด
    - การเคลื่อนที่ของแก๊สและการก่อตัวของดาว
    - การตรวจสอบระยะห่างของดาราจักรผ่านการกระจายตัวของเนบิวลา

    ✅ ทีมวิจัยจาก ESO ถ่ายภาพ Sculptor galaxy แบบละเอียดที่สุดเท่าที่เคยมี  
    • ใช้เวลาสะสมข้อมูลกว่า 50 ชั่วโมง  
    • รวมภาพมากกว่า 100 เฟรมจากกล้อง VLT

    ✅ Sculptor เป็นดาราจักรแบบเกลียวขนาดใหญ่ ใกล้โลกเพียง 11 ล้านปีแสง  
    • ขนาดราว 90,000 ปีแสง  • พื้นที่ที่ถูกวิเคราะห์คือราว 65,000 ปีแสง

    ✅ พบเนบิวลาดาวเคราะห์ถึง 500 แห่ง — มากผิดปกติ  
    • ใช้เป็นตัวชี้วัดระยะห่างของดาราจักรได้

    ✅ ภาพแสดงแถบแก๊สจากใจกลางดาราจักร พ่นออกมาจากหลุมดำขนาดยักษ์  
    • ใช้แสง false-color แสดงองค์ประกอบของธาตุ

    ✅ การวิเคราะห์นี้จะช่วยให้เข้าใจกลไกการก่อตัวของดาวและองค์ประกอบของแก๊สในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    ✅ ดาราจักร Sculptor เป็นดาราจักรสว่างที่กล้องส่องทางไกลบนโลกมองเห็นได้ง่าย  
    • จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Andromeda สำหรับนักดูดาวสมัครเล่น

    https://www.techspot.com/news/108396-astronomers-capture-ultra-detailed-image-nearby-sculptor-galaxy.html
    ลองจินตนาการว่าคุณส่องกล้องดูจักรวาล แล้วสามารถเห็น “แก๊สที่หลั่งออกมาจากหลุมดำ” หรือ “ซากดาวที่กำลังตาย” ได้แบบละเอียดยิบ — นั่นคือสิ่งที่ทีมจาก ESO ทำได้ในงานนี้! ดาราจักร Sculptor อยู่ห่างจากโลกประมาณ 11 ล้านปีแสง มีขนาด ความมวล และรูปทรงใกล้เคียงกับทางช้างเผือกของเรา การถ่ายภาพนี้ใช้เทคนิครวมภาพกว่า 100 เฟรม เพื่อสร้าง “แผนที่สามสี” จากแสงของ ไฮโดรเจน, ออกซิเจน และกำมะถัน ทำให้เห็นโครงสร้างภายในของดาราจักรได้ชัดเจนสุด ๆ ที่น่าทึ่งคือ นักวิจัยพบ เนบิวลาดาวเคราะห์ (Planetary Nebulae) มากถึง 500 แห่ง — ปกติเห็นแค่ 100 แห่งต่อดาราจักร นอกจากนี้ยังเห็นการพ่นก๊าซออกจากใจกลางของดาราจักร ซึ่งอาจมาจาก หลุมดำมวลยิ่งยวด ที่อยู่ตรงนั้น นักดาราศาสตร์จะใช้ข้อมูลนี้ในการศึกษาเรื่อง: - โครงสร้างของดาราจักรแบบละเอียด - การเคลื่อนที่ของแก๊สและการก่อตัวของดาว - การตรวจสอบระยะห่างของดาราจักรผ่านการกระจายตัวของเนบิวลา ✅ ทีมวิจัยจาก ESO ถ่ายภาพ Sculptor galaxy แบบละเอียดที่สุดเท่าที่เคยมี   • ใช้เวลาสะสมข้อมูลกว่า 50 ชั่วโมง   • รวมภาพมากกว่า 100 เฟรมจากกล้อง VLT ✅ Sculptor เป็นดาราจักรแบบเกลียวขนาดใหญ่ ใกล้โลกเพียง 11 ล้านปีแสง   • ขนาดราว 90,000 ปีแสง  • พื้นที่ที่ถูกวิเคราะห์คือราว 65,000 ปีแสง ✅ พบเนบิวลาดาวเคราะห์ถึง 500 แห่ง — มากผิดปกติ   • ใช้เป็นตัวชี้วัดระยะห่างของดาราจักรได้ ✅ ภาพแสดงแถบแก๊สจากใจกลางดาราจักร พ่นออกมาจากหลุมดำขนาดยักษ์   • ใช้แสง false-color แสดงองค์ประกอบของธาตุ ✅ การวิเคราะห์นี้จะช่วยให้เข้าใจกลไกการก่อตัวของดาวและองค์ประกอบของแก๊สในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ✅ ดาราจักร Sculptor เป็นดาราจักรสว่างที่กล้องส่องทางไกลบนโลกมองเห็นได้ง่าย   • จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Andromeda สำหรับนักดูดาวสมัครเล่น https://www.techspot.com/news/108396-astronomers-capture-ultra-detailed-image-nearby-sculptor-galaxy.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Astronomers capture ultra-detailed image of nearby Sculptor galaxy
    The Sculptor galaxy, also known as NGC 253, is similar in size, mass, and shape to our own spiral Milky Way. ESO researcher Enrico Congiu said the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกวันนี้ YouTube คือขุมทรัพย์ของข้อมูลระดับโลก มีวิดีโอกว่า 20 พันล้านคลิป จากผู้คนทุกวงการ ทั้งสื่อ กระทรวงครู ช่างเทคนิค ไปจนถึง influencer ซึ่ง Google เองก็เก็บข้อมูลพวกนี้ไปฝึก AI ทั้ง Gemini และ Veo 3 โดยใช้วิธี “คัดเลือกบางส่วน” ของคลิปมาเทรนโมเดล

    แต่ประเด็นคือ… creators ส่วนใหญ่ “ไม่รู้เลย” ว่าผลงานของตัวเองถูกนำไปฝึก AI! ไม่มีอีเมลแจ้ง ไม่มีหน้าตั้งค่าให้ปฏิเสธ และแม้ Google จะอนุญาตให้ “ปิดไม่ให้บริษัทภายนอก เช่น Amazon หรือ Nvidia เข้าถึงข้อมูลได้” แต่ เจ้าของบ้านอย่าง Google เองกลับไม่มีทางเลือกให้ปิดกั้น

    รายงานบอกว่าต่อให้ใช้แค่ 1% ของวิดีโอบน YouTube มาฝึก AI ก็ได้ข้อมูลกว่า 2.3 พันล้านนาที — มากกว่าที่ OpenAI ใช้ฝึก GPT หลายสิบเท่า และนั่นยังไม่นับว่า OpenAI, Nvidia, Apple และบริษัทอื่นๆ ก็เคยแอบ scrape YouTube โดยไม่ได้ขออนุญาตมาก่อน

    บาง creators เริ่มยอมรับและใช้โมเดลอย่าง Veo 3 กลับมาช่วยทำคอนเทนต์ของตัวเอง แต่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าถ้าเทรนด์นี้ยังไม่มีมาตรฐานควบคุม อนาคต “AI ที่เกิดจากผลงานของเรา...อาจมาแย่งงานเราเอง”

    https://www.techspot.com/news/108391-youtube-creators-unaware-google-uses-their-videos-train.html
    ทุกวันนี้ YouTube คือขุมทรัพย์ของข้อมูลระดับโลก มีวิดีโอกว่า 20 พันล้านคลิป จากผู้คนทุกวงการ ทั้งสื่อ กระทรวงครู ช่างเทคนิค ไปจนถึง influencer ซึ่ง Google เองก็เก็บข้อมูลพวกนี้ไปฝึก AI ทั้ง Gemini และ Veo 3 โดยใช้วิธี “คัดเลือกบางส่วน” ของคลิปมาเทรนโมเดล แต่ประเด็นคือ… creators ส่วนใหญ่ “ไม่รู้เลย” ว่าผลงานของตัวเองถูกนำไปฝึก AI! ไม่มีอีเมลแจ้ง ไม่มีหน้าตั้งค่าให้ปฏิเสธ และแม้ Google จะอนุญาตให้ “ปิดไม่ให้บริษัทภายนอก เช่น Amazon หรือ Nvidia เข้าถึงข้อมูลได้” แต่ เจ้าของบ้านอย่าง Google เองกลับไม่มีทางเลือกให้ปิดกั้น รายงานบอกว่าต่อให้ใช้แค่ 1% ของวิดีโอบน YouTube มาฝึก AI ก็ได้ข้อมูลกว่า 2.3 พันล้านนาที — มากกว่าที่ OpenAI ใช้ฝึก GPT หลายสิบเท่า และนั่นยังไม่นับว่า OpenAI, Nvidia, Apple และบริษัทอื่นๆ ก็เคยแอบ scrape YouTube โดยไม่ได้ขออนุญาตมาก่อน บาง creators เริ่มยอมรับและใช้โมเดลอย่าง Veo 3 กลับมาช่วยทำคอนเทนต์ของตัวเอง แต่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าถ้าเทรนด์นี้ยังไม่มีมาตรฐานควบคุม อนาคต “AI ที่เกิดจากผลงานของเรา...อาจมาแย่งงานเราเอง” https://www.techspot.com/news/108391-youtube-creators-unaware-google-uses-their-videos-train.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    YouTube creators unaware Google uses their videos to train AI
    With more than 20 billion videos on the platform, YouTube is a treasure trove of data for AI companies to exploit – and many already have.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • การใช้ Generative AI (โดยเฉพาะ LLM อย่าง ChatGPT) ขณะทำงานเขียนบทความ อาจลดการทำงานของสมองในหลายด้าน โดยเฉพาะความจำและความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูล

    นักวิจัยจาก MIT ทำการทดลองกับกลุ่มคน 3 กลุ่ม ให้เขียนเรียงความ 3 ฉบับ:
    - กลุ่ม A: ใช้ LLM ช่วย (เช่น ChatGPT)
    - กลุ่ม B: ใช้ search engine (เช่น Google)
    - กลุ่ม C: เขียนโดยไม่ใช้อะไรเลย (ใช้สมองล้วน ๆ)

    จากนั้นกลุ่ม A กับ C สลับกันในบทความที่ 4 เพื่อดูว่า “พอเปลี่ยนวิธีแล้ว สมองเปลี่ยนยังไงบ้าง”

    ผลปรากฏว่า:
    - กลุ่ม C ที่ใช้แต่สมอง มีการเชื่อมต่อระหว่างสมองส่วนต่าง ๆ มากที่สุด
    - กลุ่ม A ที่ใช้ AI นั้น มีสมอง “เงียบกว่า” อย่างเห็นได้ชัด และจำอะไรไม่ค่อยได้ แม้จะเขียนบทความได้เนียนจน AI กับคนให้คะแนนสูง
    - กลุ่ม B ที่ใช้ search ก็อยู่กลาง ๆ: เนื้อหาออกแนว “เหมือนกันหมด” แต่ยังพอจำได้

    สิ่งที่น่ากังวลคือ แม้ AI จะช่วยเขียนให้ “ดูดี” แต่สมองคนเขียนกลับ “ไม่จำ” หรือมีการใช้พลังงานน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะ ช่วงที่ต้องวางโครงคิดเอง

    ✅ MIT ทดลองให้ผู้เข้าร่วมเขียนเรียงความ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม: ใช้ LLM, ใช้ search engine และไม่ใช้อะไรเลย  
    • กลุ่มไม่ใช้อะไรเลยแสดงกิจกรรมของสมองที่เชื่อมโยงกันสูงกว่ากลุ่มอื่น  
    • กลุ่มใช้ LLM มีการเชื่อมโยงของสมองลดลง และมีความจำระยะสั้นด้อยลง

    ✅ งานเขียนจาก LLM ถูกให้คะแนนสูง แต่กลับขาดมิติคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking)  
    • ผู้ใช้ LLM แก้ไขงานน้อย, copy-paste เยอะ, และจำไม่ได้ว่าเขียนอะไรไป

    ✅ ในรอบสุดท้าย กลุ่มที่เปลี่ยนจาก AI → สมองเอง มีการเชื่อมต่อของสมองเพิ่มขึ้น  
    • แสดงให้เห็นว่าเราสามารถ "ฟื้นการทำงานของสมอง" ได้ถ้าหยุดพึ่ง AI

    ✅ กลุ่มที่ใช้ search engine ได้ผลลัพธ์ “กลาง ๆ”  
    • เนื้อหาเหมือนกันมาก แต่ความจำยังดีพอสมควร

    ✅ ผลวิจัยชี้ว่า การใช้ digital tool ใด ๆ ก็มีผลต่อสมอง — แต่ LLM มีผลมากที่สุด  
    • โดยเฉพาะเมื่อใช้เพียงอย่างเดียว โดยไม่เสริมการคิด

    https://www.techspot.com/news/108386-mit-brain-scans-suggest-using-genai-tools-reduces.html
    การใช้ Generative AI (โดยเฉพาะ LLM อย่าง ChatGPT) ขณะทำงานเขียนบทความ อาจลดการทำงานของสมองในหลายด้าน โดยเฉพาะความจำและความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูล นักวิจัยจาก MIT ทำการทดลองกับกลุ่มคน 3 กลุ่ม ให้เขียนเรียงความ 3 ฉบับ: - กลุ่ม A: ใช้ LLM ช่วย (เช่น ChatGPT) - กลุ่ม B: ใช้ search engine (เช่น Google) - กลุ่ม C: เขียนโดยไม่ใช้อะไรเลย (ใช้สมองล้วน ๆ) จากนั้นกลุ่ม A กับ C สลับกันในบทความที่ 4 เพื่อดูว่า “พอเปลี่ยนวิธีแล้ว สมองเปลี่ยนยังไงบ้าง” ผลปรากฏว่า: - กลุ่ม C ที่ใช้แต่สมอง มีการเชื่อมต่อระหว่างสมองส่วนต่าง ๆ มากที่สุด - กลุ่ม A ที่ใช้ AI นั้น มีสมอง “เงียบกว่า” อย่างเห็นได้ชัด และจำอะไรไม่ค่อยได้ แม้จะเขียนบทความได้เนียนจน AI กับคนให้คะแนนสูง - กลุ่ม B ที่ใช้ search ก็อยู่กลาง ๆ: เนื้อหาออกแนว “เหมือนกันหมด” แต่ยังพอจำได้ สิ่งที่น่ากังวลคือ แม้ AI จะช่วยเขียนให้ “ดูดี” แต่สมองคนเขียนกลับ “ไม่จำ” หรือมีการใช้พลังงานน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะ ช่วงที่ต้องวางโครงคิดเอง ✅ MIT ทดลองให้ผู้เข้าร่วมเขียนเรียงความ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม: ใช้ LLM, ใช้ search engine และไม่ใช้อะไรเลย   • กลุ่มไม่ใช้อะไรเลยแสดงกิจกรรมของสมองที่เชื่อมโยงกันสูงกว่ากลุ่มอื่น   • กลุ่มใช้ LLM มีการเชื่อมโยงของสมองลดลง และมีความจำระยะสั้นด้อยลง ✅ งานเขียนจาก LLM ถูกให้คะแนนสูง แต่กลับขาดมิติคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking)   • ผู้ใช้ LLM แก้ไขงานน้อย, copy-paste เยอะ, และจำไม่ได้ว่าเขียนอะไรไป ✅ ในรอบสุดท้าย กลุ่มที่เปลี่ยนจาก AI → สมองเอง มีการเชื่อมต่อของสมองเพิ่มขึ้น   • แสดงให้เห็นว่าเราสามารถ "ฟื้นการทำงานของสมอง" ได้ถ้าหยุดพึ่ง AI ✅ กลุ่มที่ใช้ search engine ได้ผลลัพธ์ “กลาง ๆ”   • เนื้อหาเหมือนกันมาก แต่ความจำยังดีพอสมควร ✅ ผลวิจัยชี้ว่า การใช้ digital tool ใด ๆ ก็มีผลต่อสมอง — แต่ LLM มีผลมากที่สุด   • โดยเฉพาะเมื่อใช้เพียงอย่างเดียว โดยไม่เสริมการคิด https://www.techspot.com/news/108386-mit-brain-scans-suggest-using-genai-tools-reduces.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    MIT brain scans suggest that using GenAI tools reduces cognitive activity
    The newly published paper explains that as participants in an experiment wrote a series of essays, electronic brain monitoring revealed substantially weaker connections between regions of the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนอาจคุ้นเคยกับการเข้า Control Panel เพื่อไปตั้งเวลาหรือเพิ่ม “นาฬิกาเสริม” สำหรับโซนเวลาอื่น (เช่น เวลาญี่ปุ่น – เวลานิวยอร์ก) แต่ตอนนี้ Microsoft กำลังย้ายฟีเจอร์เหล่านี้เข้าสู่แอป Settings แบบเต็มตัว

    สิ่งที่เปลี่ยนไปล่าสุด คือ:
    - ฟีเจอร์ “Additional Clocks” (นาฬิกาเสริม) ย้ายเข้า Settings โดยสามารถเพิ่มได้ 2 นาฬิกา พร้อมปรับชื่อได้เองเหมือนใน Control Panel
    - หน้าตา UI ใหม่ทันสมัยขึ้น รองรับธีมมืด–สว่าง, ปุ่มใหญ่ขึ้น และเข้าถึงง่าย
    - ตั้งค่า AM/PM indicator ได้โดยตรงที่ Settings > Time & Language > Language & Region > Regional Format

    ทั้งหมดนี้ช่วยให้แอป Settings กลายเป็นศูนย์กลางมากขึ้น ไม่ต้องแยกใช้งานระหว่าง Settings กับ Control Panel เหมือนแต่ก่อน (ซึ่งยุ่งยากและไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ใหม่)

    ✅ Microsoft ย้ายฟีเจอร์นาฬิกาเสริม (Additional Clocks) เข้าสู่แอป Settings แล้ว  
    • รองรับการตั้งค่าได้ 2 นาฬิกา พร้อมชื่อโซนเวลา  
    • ใช้ได้ใน notification center ของ Windows 11

    ✅ รองรับการปรับแต่ง AM/PM ในหน้า Regional Format ของ Settings  
    • ไม่ต้องเปิด Control Panel เพื่อเปลี่ยนค่าการแสดงเวลาแล้ว

    ✅ UI ใหม่ใน Settings รองรับธีมมืด–สว่าง + ขนาดปุ่มใหญ่ขึ้น ช่วยเรื่องการเข้าถึง (accessibility)

    ✅ เป็นส่วนหนึ่งของแผน “ลดการพึ่งพา Control Panel” ของ Windows 11  
    • ก่อนหน้านี้ได้ย้าย keyboard settings และฟีเจอร์อื่น ๆ มาแล้ว

    ✅ Microsoft เตรียมเผยฟีเจอร์อื่นเพิ่มเติมในเวอร์ชันทดลอง (Canary build)  
    • เช่น ปรับเมนูคลิกขวา (context menus), ปรับ taskbar, ฟีเจอร์ช่วยการเข้าถึง

    https://www.neowin.net/news/you-will-soon-have-fewer-reasons-to-open-control-panel-in-windows-11/
    หลายคนอาจคุ้นเคยกับการเข้า Control Panel เพื่อไปตั้งเวลาหรือเพิ่ม “นาฬิกาเสริม” สำหรับโซนเวลาอื่น (เช่น เวลาญี่ปุ่น – เวลานิวยอร์ก) แต่ตอนนี้ Microsoft กำลังย้ายฟีเจอร์เหล่านี้เข้าสู่แอป Settings แบบเต็มตัว สิ่งที่เปลี่ยนไปล่าสุด คือ: - ฟีเจอร์ “Additional Clocks” (นาฬิกาเสริม) ย้ายเข้า Settings โดยสามารถเพิ่มได้ 2 นาฬิกา พร้อมปรับชื่อได้เองเหมือนใน Control Panel - หน้าตา UI ใหม่ทันสมัยขึ้น รองรับธีมมืด–สว่าง, ปุ่มใหญ่ขึ้น และเข้าถึงง่าย - ตั้งค่า AM/PM indicator ได้โดยตรงที่ Settings > Time & Language > Language & Region > Regional Format ทั้งหมดนี้ช่วยให้แอป Settings กลายเป็นศูนย์กลางมากขึ้น ไม่ต้องแยกใช้งานระหว่าง Settings กับ Control Panel เหมือนแต่ก่อน (ซึ่งยุ่งยากและไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ใหม่) ✅ Microsoft ย้ายฟีเจอร์นาฬิกาเสริม (Additional Clocks) เข้าสู่แอป Settings แล้ว   • รองรับการตั้งค่าได้ 2 นาฬิกา พร้อมชื่อโซนเวลา   • ใช้ได้ใน notification center ของ Windows 11 ✅ รองรับการปรับแต่ง AM/PM ในหน้า Regional Format ของ Settings   • ไม่ต้องเปิด Control Panel เพื่อเปลี่ยนค่าการแสดงเวลาแล้ว ✅ UI ใหม่ใน Settings รองรับธีมมืด–สว่าง + ขนาดปุ่มใหญ่ขึ้น ช่วยเรื่องการเข้าถึง (accessibility) ✅ เป็นส่วนหนึ่งของแผน “ลดการพึ่งพา Control Panel” ของ Windows 11   • ก่อนหน้านี้ได้ย้าย keyboard settings และฟีเจอร์อื่น ๆ มาแล้ว ✅ Microsoft เตรียมเผยฟีเจอร์อื่นเพิ่มเติมในเวอร์ชันทดลอง (Canary build)   • เช่น ปรับเมนูคลิกขวา (context menus), ปรับ taskbar, ฟีเจอร์ช่วยการเข้าถึง https://www.neowin.net/news/you-will-soon-have-fewer-reasons-to-open-control-panel-in-windows-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    You will soon have fewer reasons to open Control Panel in Windows 11
    Microsoft is making additional changes to Windows 11 and its Settings app, giving you fewer reasons to open the old Control Panel.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk เคยให้คำมั่นว่าจะเปิดบริการ Robotaxi ที่ “ขับเองเต็มรูปแบบ” ไม่มีคนขับภายในปี 2025 และตอนนี้ Tesla ก็กำลังจะเปิดให้ทดสอบใช้งานจริงในเมือง Austin, Texas

    แต่ข้อมูลล่าสุดเผยว่า... จะมี “พนักงาน Tesla” นั่งประจำเบาะหน้าในชื่อ “Safety Monitor” เพื่อเฝ้าระวังระบบการขับอัตโนมัติ ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งตรงข้ามกับคำพูดก่อนหน้าของ Musk ที่ว่า Robotaxi จะไร้คนขับโดยสิ้นเชิง

    Robotaxi รุ่นนี้จะมีระบบ “ปุ่มหยุดฉุกเฉิน” คล้ายกับบริการของ Waymo และจะให้บริการ เฉพาะในเขตจำกัด (geofenced) ตั้งแต่ 6:00–24:00 น. และงดวิ่งในสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย

    ที่น่าสนใจคือ ผู้เข้าร่วมทดสอบต้องลงทะเบียนบัตรเครดิต + เซ็นสัญญาว่าจะไม่ “ทำตัวแย่” และห้ามโพสต์วิดีโอการใช้งานที่ทำให้ Tesla ดูแย่ในโซเชียลด้วย!

    ✅ Tesla Robotaxi เตรียมเปิดให้ใช้งานจริงใน Austin ภายในกรอบเวลา 6:00–24:00 น.  
    • จำกัดพื้นที่ geofence เพื่อควบคุมความปลอดภัย  
    • งดให้บริการเมื่อสภาพอากาศไม่เหมาะสม

    ✅ ทุกคันจะมี “Safety Monitor” เป็นพนักงาน Tesla นั่งร่วมในรถ  
    • ทำหน้าที่เฝ้าระวังและกดหยุดรถในกรณีฉุกเฉิน  
    • คล้ายรูปแบบ “safety driver” ที่บริษัท Waymo ใช้ในช่วงทดสอบ

    ✅ ผู้ทดสอบต้องยอมรับเงื่อนไขการใช้งานหลายข้อ เช่น:  
    • ไม่แชร์วิดีโอล้อเลียนหรือ misuse บนโซเชียล  
    • ห้ามพยายามเจาะระบบหรือ reverse engineer

    ✅ แตกต่างจาก Full-Self Driving Beta ของ Tesla ที่ต้องให้เจ้าของนั่งดูแลเองตลอดการขับ  
    • Robotaxi เน้นให้ผู้โดยสาร “นั่งเฉย ๆ” และปล่อยระบบทำงาน (พร้อมคนเฝ้าระวัง)

    ✅ กลุ่ม Influencer บางคนได้รับเชิญให้ลองใช้ก่อนใคร พร้อมเงื่อนไขใช้บริการแบบจำกัดสิทธิ์

    https://www.neowin.net/news/elon-musks-robotaxi-will-have-a-human-driver-for-safety-reasons/
    Elon Musk เคยให้คำมั่นว่าจะเปิดบริการ Robotaxi ที่ “ขับเองเต็มรูปแบบ” ไม่มีคนขับภายในปี 2025 และตอนนี้ Tesla ก็กำลังจะเปิดให้ทดสอบใช้งานจริงในเมือง Austin, Texas แต่ข้อมูลล่าสุดเผยว่า... จะมี “พนักงาน Tesla” นั่งประจำเบาะหน้าในชื่อ “Safety Monitor” เพื่อเฝ้าระวังระบบการขับอัตโนมัติ ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งตรงข้ามกับคำพูดก่อนหน้าของ Musk ที่ว่า Robotaxi จะไร้คนขับโดยสิ้นเชิง Robotaxi รุ่นนี้จะมีระบบ “ปุ่มหยุดฉุกเฉิน” คล้ายกับบริการของ Waymo และจะให้บริการ เฉพาะในเขตจำกัด (geofenced) ตั้งแต่ 6:00–24:00 น. และงดวิ่งในสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ที่น่าสนใจคือ ผู้เข้าร่วมทดสอบต้องลงทะเบียนบัตรเครดิต + เซ็นสัญญาว่าจะไม่ “ทำตัวแย่” และห้ามโพสต์วิดีโอการใช้งานที่ทำให้ Tesla ดูแย่ในโซเชียลด้วย! ✅ Tesla Robotaxi เตรียมเปิดให้ใช้งานจริงใน Austin ภายในกรอบเวลา 6:00–24:00 น.   • จำกัดพื้นที่ geofence เพื่อควบคุมความปลอดภัย   • งดให้บริการเมื่อสภาพอากาศไม่เหมาะสม ✅ ทุกคันจะมี “Safety Monitor” เป็นพนักงาน Tesla นั่งร่วมในรถ   • ทำหน้าที่เฝ้าระวังและกดหยุดรถในกรณีฉุกเฉิน   • คล้ายรูปแบบ “safety driver” ที่บริษัท Waymo ใช้ในช่วงทดสอบ ✅ ผู้ทดสอบต้องยอมรับเงื่อนไขการใช้งานหลายข้อ เช่น:   • ไม่แชร์วิดีโอล้อเลียนหรือ misuse บนโซเชียล   • ห้ามพยายามเจาะระบบหรือ reverse engineer ✅ แตกต่างจาก Full-Self Driving Beta ของ Tesla ที่ต้องให้เจ้าของนั่งดูแลเองตลอดการขับ   • Robotaxi เน้นให้ผู้โดยสาร “นั่งเฉย ๆ” และปล่อยระบบทำงาน (พร้อมคนเฝ้าระวัง) ✅ กลุ่ม Influencer บางคนได้รับเชิญให้ลองใช้ก่อนใคร พร้อมเงื่อนไขใช้บริการแบบจำกัดสิทธิ์ https://www.neowin.net/news/elon-musks-robotaxi-will-have-a-human-driver-for-safety-reasons/
    WWW.NEOWIN.NET
    Elon Musk's robotaxi will have a human driver for 'safety' reasons
    As the tentative launch date for Tesla's Robotaxi service approaches, more details are emerging, including the presence of a human safety driver and other key aspects.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Family Safety เป็นระบบ parental control ที่ให้ผู้ปกครองควบคุมสิ่งที่ลูกดูบน Windows ได้ เช่น บล็อกเว็บไม่เหมาะสม จำกัดแอปและเวลาเล่นเกม ฯลฯ ซึ่งปกติก็ทำงานโอเคนะครับ...แต่ล่าสุดกลับไป “ปิดกั้น Chrome แบบเหมารวม” ซะอย่างนั้น 😵

    หลัง Chrome อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 137.0.7151.68/69 ผู้ใช้เริ่มเจอปัญหา Chrome ปิดตัวเองทันที หรือเปิดไม่ติดเลย แต่ Edge กลับรันได้ปกติ สร้างความงุนงงจนมีคนตั้งกระทู้ถามในฟอรั่ม Microsoft กันมากมาย — บางคนถึงขั้นลองลบ cache, รีเฟรชเครื่อง ฯลฯ ก็ไม่หาย

    จนกระทั่ง Google และผู้ดูแลชุมชน Chrome ออกมายืนยันว่า ตัวบล็อกมาจาก Microsoft Family Safety จริง ๆ และแนะนำให้ไป “ปลดล็อก Chrome” ด้วยตัวเองในหน้า Family Safety

    ✅ Microsoft Family Safety บล็อก Google Chrome โดยไม่ได้ตั้งใจบน Windows 11  
    • หลังอัปเดต Chrome เป็นเวอร์ชันล่าสุด (137.0.7151.68/69)  
    • อาการ: Chrome เปิดไม่ได้, ปิดทันที, รันแล้ว crash

    ✅ Edge ไม่ได้รับผลกระทบ ทำให้ผู้ใช้เริ่มตั้งข้อสงสัยว่า Microsoft เลือกปฏิบัติหรือไม่  
    • แต่ Microsoft ยังไม่ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ

    ✅ Google ชี้แจงและแนะนำวิธีแก้เบื้องต้นให้ผู้ปกครองปลดล็อก Chrome ด้วยตนเอง  
    • เข้าไปที่ Family Safety หรือแอป Family Safety  
    • ไปที่โปรไฟล์ลูก → ปิด “Filter inappropriate websites” หรือ  
    • ไปที่แท็บ Windows → Apps & Games → เลือก “unblock Chrome”

    ✅ ชุมชนผู้ใช้พบว่า rename chrome.exe เป็นชื่ออื่น เช่น chrome1.exe ก็ช่วยให้ใช้งานได้ชั่วคราว  
    • เป็นวิธี workaround ชั่วคราวก่อน Microsoft ออกแพตช์แก้

    https://www.neowin.net/news/windows-11-blocks-google-chrome-due-to-a-microsoft-safety-feature-fix-out/
    Microsoft Family Safety เป็นระบบ parental control ที่ให้ผู้ปกครองควบคุมสิ่งที่ลูกดูบน Windows ได้ เช่น บล็อกเว็บไม่เหมาะสม จำกัดแอปและเวลาเล่นเกม ฯลฯ ซึ่งปกติก็ทำงานโอเคนะครับ...แต่ล่าสุดกลับไป “ปิดกั้น Chrome แบบเหมารวม” ซะอย่างนั้น 😵 หลัง Chrome อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 137.0.7151.68/69 ผู้ใช้เริ่มเจอปัญหา Chrome ปิดตัวเองทันที หรือเปิดไม่ติดเลย แต่ Edge กลับรันได้ปกติ สร้างความงุนงงจนมีคนตั้งกระทู้ถามในฟอรั่ม Microsoft กันมากมาย — บางคนถึงขั้นลองลบ cache, รีเฟรชเครื่อง ฯลฯ ก็ไม่หาย จนกระทั่ง Google และผู้ดูแลชุมชน Chrome ออกมายืนยันว่า ตัวบล็อกมาจาก Microsoft Family Safety จริง ๆ และแนะนำให้ไป “ปลดล็อก Chrome” ด้วยตัวเองในหน้า Family Safety ✅ Microsoft Family Safety บล็อก Google Chrome โดยไม่ได้ตั้งใจบน Windows 11   • หลังอัปเดต Chrome เป็นเวอร์ชันล่าสุด (137.0.7151.68/69)   • อาการ: Chrome เปิดไม่ได้, ปิดทันที, รันแล้ว crash ✅ Edge ไม่ได้รับผลกระทบ ทำให้ผู้ใช้เริ่มตั้งข้อสงสัยว่า Microsoft เลือกปฏิบัติหรือไม่   • แต่ Microsoft ยังไม่ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ✅ Google ชี้แจงและแนะนำวิธีแก้เบื้องต้นให้ผู้ปกครองปลดล็อก Chrome ด้วยตนเอง   • เข้าไปที่ Family Safety หรือแอป Family Safety   • ไปที่โปรไฟล์ลูก → ปิด “Filter inappropriate websites” หรือ   • ไปที่แท็บ Windows → Apps & Games → เลือก “unblock Chrome” ✅ ชุมชนผู้ใช้พบว่า rename chrome.exe เป็นชื่ออื่น เช่น chrome1.exe ก็ช่วยให้ใช้งานได้ชั่วคราว   • เป็นวิธี workaround ชั่วคราวก่อน Microsoft ออกแพตช์แก้ https://www.neowin.net/news/windows-11-blocks-google-chrome-due-to-a-microsoft-safety-feature-fix-out/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows 11 blocks Google Chrome due to a Microsoft safety feature, fix out
    Windows 11 systems are automatically breaking and blocking Google Chrome as it is triggering a Microsoft safety feature.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • Perplexity เป็นคู่แข่งของ ChatGPT ที่เน้น "ตอบแบบอิงแหล่งข้อมูลจากเว็บ" โดยจะรวบรวมเนื้อหาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ มาสรุปตอบผู้ใช้ ซึ่งฟังดูดี...แต่ดันไปดึงบทความจากเว็บไซต์ข่าวอย่าง BBC, New York Times, Forbes ฯลฯ โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน

    BBC จึงส่งจดหมายถึง Perplexity ให้:
    - หยุดการ scrape (ดึง) ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ BBC
    - ลบเนื้อหาที่ได้มาทั้งหมด
    - ถ้าจะใช้ต่อ ต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนให้ด้วย

    BBC อาจฟ้องศาลและขอคำสั่งห้าม หาก Perplexity ไม่ยอมทำตาม ซึ่งสะท้อนแนวโน้มที่สำนักข่าวเริ่มหวงข้อมูลมากขึ้น—เพราะ AI ทำให้เซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาโดนโหลดหนักขึ้น โดยไม่ได้มีรายได้เพิ่มจากคนอ่านจริง

    ฝั่ง Perplexity เองก็ไม่ยอมง่าย ๆ ตอบโต้ผ่าน Financial Times ว่าการกระทำของ BBC “บิดเบือนและฉวยโอกาส” พร้อมตำหนิว่า BBC “ไม่เข้าใจอินเทอร์เน็ตและกฎหมายลิขสิทธิ์” ด้วยซ้ำ

    ปัญหานี้ไม่ได้มีแค่ BBC—ก่อนหน้านี้ Perplexity เคยโดน Forbes, Wired, และ NYT กล่าวหาว่า “ลอกเนื้อหา” โดยไม่ได้รับอนุญาต และเคยโดน NYT ส่งจดหมาย cease & desist มาแล้ว

    แม้ Perplexity จะพยายามผูกมิตรด้วยการตั้งโปรแกรม revenue share กับ TIME, Fortune, Der Spiegel ฯลฯ โดยให้ส่วนแบ่งสูงสุดถึง 25% แต่ BBC ยังไม่ได้เข้าร่วม

    https://www.neowin.net/news/bbc-threatens-perplexity-with-legal-action-over-content-scraping/
    Perplexity เป็นคู่แข่งของ ChatGPT ที่เน้น "ตอบแบบอิงแหล่งข้อมูลจากเว็บ" โดยจะรวบรวมเนื้อหาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ มาสรุปตอบผู้ใช้ ซึ่งฟังดูดี...แต่ดันไปดึงบทความจากเว็บไซต์ข่าวอย่าง BBC, New York Times, Forbes ฯลฯ โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน BBC จึงส่งจดหมายถึง Perplexity ให้: - หยุดการ scrape (ดึง) ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ BBC - ลบเนื้อหาที่ได้มาทั้งหมด - ถ้าจะใช้ต่อ ต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนให้ด้วย BBC อาจฟ้องศาลและขอคำสั่งห้าม หาก Perplexity ไม่ยอมทำตาม ซึ่งสะท้อนแนวโน้มที่สำนักข่าวเริ่มหวงข้อมูลมากขึ้น—เพราะ AI ทำให้เซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาโดนโหลดหนักขึ้น โดยไม่ได้มีรายได้เพิ่มจากคนอ่านจริง ฝั่ง Perplexity เองก็ไม่ยอมง่าย ๆ ตอบโต้ผ่าน Financial Times ว่าการกระทำของ BBC “บิดเบือนและฉวยโอกาส” พร้อมตำหนิว่า BBC “ไม่เข้าใจอินเทอร์เน็ตและกฎหมายลิขสิทธิ์” ด้วยซ้ำ ปัญหานี้ไม่ได้มีแค่ BBC—ก่อนหน้านี้ Perplexity เคยโดน Forbes, Wired, และ NYT กล่าวหาว่า “ลอกเนื้อหา” โดยไม่ได้รับอนุญาต และเคยโดน NYT ส่งจดหมาย cease & desist มาแล้ว แม้ Perplexity จะพยายามผูกมิตรด้วยการตั้งโปรแกรม revenue share กับ TIME, Fortune, Der Spiegel ฯลฯ โดยให้ส่วนแบ่งสูงสุดถึง 25% แต่ BBC ยังไม่ได้เข้าร่วม https://www.neowin.net/news/bbc-threatens-perplexity-with-legal-action-over-content-scraping/
    WWW.NEOWIN.NET
    BBC threatens Perplexity with legal action over content scraping
    The BBC is the latest news publisher to take issue with Perplexity scraping its content for free. It has outlined several options that Perplexity can take.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ความ​ประสงค์​สูง​สุด​ มีได้เพราะการปฏิบัติ​ที่ถูกทาง
    สัทธรรมลำดับที่ : 1028
    ชื่อบทธรรม : -ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ(การปฏิบัติ​ที่ถูกทาง)​
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1028
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ
    --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยสัมมัตตะ (การปฏิบัติ​ที่ถูกทาง)​
    http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=สมฺมตฺตะ
    อาราธนา (ความสำเร็จสูงสุดชนิดเป็นที่พอใจของพระอริยเจ้า) ย่อมมี
    มิใช่มีวิราธนา (ความไม่ประสพความสำเร็จฯ).
    ข้อนั้น เป็นอย่าไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. !
    +--สำหรับผู้มีสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจาย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาวายามะ สัมมาสติย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาสติ สัมมาสมาธิย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาสมาธิ สัมมาญาณะย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติย่อมมีเพียงพอ ;
    --ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล
    : เรียกว่า #เพราะอาศัยสัมมัตตะจึงมีอาราธนา(ความประสงค์)​ มิใช่ มีวิราธนา.-
    http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=อาราธนา

    (ความไม่ประสงค์ (วิราธนา) มีได้เพราะอาศัย มิจฉัตตะ
    http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=มิจฺฉตฺต
    ตรัสไว้โดยนัยตรงกันข้าม ผู้ศึกษาพึงเทียบเคียงได้เอง.
    คำขยายความที่กว้างขวางออกไป
    มีอยู่ในสัทธรรมสูตรลำดับมลำดับถัดไป จากสัทธรรมบทนี้
    http://etipitaka.com/read/pali/24/227/?keywords=สมฺมตฺตะ+มิจฺฉตฺต
    ).
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/226/104, 103.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/182/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/182/๑๐๔, ๑๐๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1028
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1028
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89
    ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ความ​ประสงค์​สูง​สุด​ มีได้เพราะการปฏิบัติ​ที่ถูกทาง สัทธรรมลำดับที่ : 1028 ชื่อบทธรรม : -ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ(การปฏิบัติ​ที่ถูกทาง)​ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1028 เนื้อความทั้งหมด :- --ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยสัมมัตตะ (การปฏิบัติ​ที่ถูกทาง)​ http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=สมฺมตฺตะ อาราธนา (ความสำเร็จสูงสุดชนิดเป็นที่พอใจของพระอริยเจ้า) ย่อมมี มิใช่มีวิราธนา (ความไม่ประสพความสำเร็จฯ). ข้อนั้น เป็นอย่าไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! +--สำหรับผู้มีสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจาย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาวายามะ สัมมาสติย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาสติ สัมมาสมาธิย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาสมาธิ สัมมาญาณะย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติย่อมมีเพียงพอ ; --ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล : เรียกว่า #เพราะอาศัยสัมมัตตะจึงมีอาราธนา(ความประสงค์)​ มิใช่ มีวิราธนา.- http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=อาราธนา (ความไม่ประสงค์ (วิราธนา) มีได้เพราะอาศัย มิจฉัตตะ http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=มิจฺฉตฺต ตรัสไว้โดยนัยตรงกันข้าม ผู้ศึกษาพึงเทียบเคียงได้เอง. คำขยายความที่กว้างขวางออกไป มีอยู่ในสัทธรรมสูตรลำดับมลำดับถัดไป จากสัทธรรมบทนี้ http://etipitaka.com/read/pali/24/227/?keywords=สมฺมตฺตะ+มิจฺฉตฺต ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/226/104, 103. http://etipitaka.com/read/thai/24/182/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/182/๑๐๔, ๑๐๓. http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1028 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1028 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89 ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ
    -ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยสัมมัตตะ อาราธนา (ความสำเร็จสูงสุดชนิดเป็นที่พอใจของพระอริยเจ้า) ย่อมมี มิใช่มีวิราธนา (ความไม่ประสพความสำเร็จฯ). ข้อนั้น เป็นอย่าไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! สำหรับผู้มีสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจาย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาวายามะ สัมมาสติย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาสติ สัมมาสมาธิย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาสมาธิ สัมมาญาณะย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติย่อมมีเพียงพอ ; ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า เพราะอาศัยสัมมัตตะ จึงมีอาราธนา มิใช่มีวิราธนา.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่
    สัทธรรมลำดับที่ : 660
    ชื่อบทธรรม : -อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ)
    --ภิกษุ ท. !
    +--ส่วนบุคคล
    เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง ๑.จักษุ ตามที่เป็นจริง.
    เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง รูปทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง,
    เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง จักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง,
    เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง,
    เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่งเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย
    อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริงแล้ว ;
    เขาย่อมไม่กำหนัดในจักษุ, ไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย,
    ไม่กำหนัดในจักขุวิญญาณ, ไม่กำหนัดในจักขุสัมผัส, และ
    ไม่กำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย
    อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม.
    เมื่อบุคคลนั้นไม่กำหนัดแล้ว ไม่ติดพันแล้ว ไม่ลุ่มหลงแล้ว
    ตามเห็นอาทีนวะ (โทษของสิ่งเหล่านั้น) อยู่เนือง ๆ ,
    ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความไม่ก่อเกิดต่อไป ;
    และตัณหา อันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพใหม่
    อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน
    เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ นั้นอันเขาย่อมละเสียได้ ;
    +--ความกระวนกระวาย (ทรถ) แม้ ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้,
    ความกระวนกระวายแม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ;
    +--ความแผดเผา (สนฺตาป) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้,
    ความแผดเผา แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ;
    +-ความเร่าร้อน (ปริฬาห) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้,
    ความเร่าร้อน แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้.

    +--บุคคลนั้นย่อม เสวยซึ่งความสุข อันเป็นไป ทางกายด้วย.
    ซึ่งความสุขอันเป็นไป ทางจิต ด้วย.
    +--เมื่อบุคคลเป็นเช่นนั้นแล้ว
    ทิฏฐิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาทิฏฐิ ;
    ความดำริของเขา ย่อมเป็นสัมมาสังกัปปะ;
    ความพยายาม ของเขา ย่อมเป็นสัมมาวายามะ;
    สติ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสติ ;
    สมาธิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสมาธิ ;
    ส่วน กายกรรม วจีกรรม และ อาชีวะ
    ของเขา เป็นธรรมบริสุทธิ์อยู่ก่อนแล้วนั่นเทียว.
    ด้วยอาการอย่างนี้ เป็นอันว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้
    ของเขานั้น ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ.
    +--เมื่อเขาทำอริยอัฏฐังคิกมรรค ให้เจริญอยู่ด้วยอาการอย่างนี้,
    สติปัฏฐาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ;
    สัมมัปปธาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    อิทธิบาท แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    อินทรีย์ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    พละ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    โพชฌงค์ แม้ทั้ง ๗ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ.

    +--ธรรมทั้งสองคือ #สมถะและวิปัสสนา ของเขานั้น ย่อมเป็นธรรมเคียงคู่กันไป.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=สมโถ+วิปสฺสนา
    +--บุคคลนั้น ย่อม
    กำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ;
    ย่อมละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง ;
    ย่อมทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง;
    ย่อม ทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง.
    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู ้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า ปัญจุปาทานขันธ์ ทั้งหลาย กล่าวคือ
    อุปาทานขันธ์คือรูป
    อุปาทานขันธ์คือเวทนา
    อุปาทานขันธ์คือสัญญา
    อุปาทานขันธ์คือสังขาร
    อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วย ปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า อวิชชา ด้วย ภวตัณหา ด้วย :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า สมถะ ด้วย วิปัสสนา ด้วย :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า วิชชา ด้วย วิมุตติ ด้วย :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    (ในกรณีที่เกี่ยวกับ
    ๒.โสต ๓.ฆาน ๔.ชิวหา ๕.กาย ๖.มโน และ สหคตธรรมแห่งอายตนะมีโสต เป็นต้น
    ก็มีเนื้อความเหมือนกับที่กล่าวแล้วในกรณีแห่ง ๑.จักษุและสหคตธรรมของจักษุ
    ดังที่กล่าวข้างต้นนี้ทุกประการ พึงขยายความเอาเองให้เต็มตามนั้น
    ).-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/395-398/828-831.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/395/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๕๒๓-๕๒๖/๘๒๘-๘๓๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/523/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98
    ถึง
    http://etipitaka.com/read/pali/14/526/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%93%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46&id=660
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46
    ลำดับสาธยายธรรม : 46 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_46.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่ สัทธรรมลำดับที่ : 660 ชื่อบทธรรม : -อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ) --ภิกษุ ท. ! +--ส่วนบุคคล เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง ๑.จักษุ ตามที่เป็นจริง. เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง รูปทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง จักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่งเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริงแล้ว ; เขาย่อมไม่กำหนัดในจักษุ, ไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย, ไม่กำหนัดในจักขุวิญญาณ, ไม่กำหนัดในจักขุสัมผัส, และ ไม่กำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม. เมื่อบุคคลนั้นไม่กำหนัดแล้ว ไม่ติดพันแล้ว ไม่ลุ่มหลงแล้ว ตามเห็นอาทีนวะ (โทษของสิ่งเหล่านั้น) อยู่เนือง ๆ , ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความไม่ก่อเกิดต่อไป ; และตัณหา อันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพใหม่ อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ นั้นอันเขาย่อมละเสียได้ ; +--ความกระวนกระวาย (ทรถ) แม้ ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความกระวนกระวายแม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; +--ความแผดเผา (สนฺตาป) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความแผดเผา แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; +-ความเร่าร้อน (ปริฬาห) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความเร่าร้อน แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้. +--บุคคลนั้นย่อม เสวยซึ่งความสุข อันเป็นไป ทางกายด้วย. ซึ่งความสุขอันเป็นไป ทางจิต ด้วย. +--เมื่อบุคคลเป็นเช่นนั้นแล้ว ทิฏฐิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาทิฏฐิ ; ความดำริของเขา ย่อมเป็นสัมมาสังกัปปะ; ความพยายาม ของเขา ย่อมเป็นสัมมาวายามะ; สติ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสติ ; สมาธิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสมาธิ ; ส่วน กายกรรม วจีกรรม และ อาชีวะ ของเขา เป็นธรรมบริสุทธิ์อยู่ก่อนแล้วนั่นเทียว. ด้วยอาการอย่างนี้ เป็นอันว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้ ของเขานั้น ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. +--เมื่อเขาทำอริยอัฏฐังคิกมรรค ให้เจริญอยู่ด้วยอาการอย่างนี้, สติปัฏฐาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ; สัมมัปปธาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อิทธิบาท แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อินทรีย์ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; พละ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; โพชฌงค์ แม้ทั้ง ๗ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. +--ธรรมทั้งสองคือ #สมถะและวิปัสสนา ของเขานั้น ย่อมเป็นธรรมเคียงคู่กันไป. http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=สมโถ+วิปสฺสนา +--บุคคลนั้น ย่อม กำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อมละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อมทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง; ย่อม ทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู ้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า ปัญจุปาทานขันธ์ ทั้งหลาย กล่าวคือ อุปาทานขันธ์คือรูป อุปาทานขันธ์คือเวทนา อุปาทานขันธ์คือสัญญา อุปาทานขันธ์คือสังขาร อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วย ปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า อวิชชา ด้วย ภวตัณหา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า สมถะ ด้วย วิปัสสนา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า วิชชา ด้วย วิมุตติ ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง. (ในกรณีที่เกี่ยวกับ ๒.โสต ๓.ฆาน ๔.ชิวหา ๕.กาย ๖.มโน และ สหคตธรรมแห่งอายตนะมีโสต เป็นต้น ก็มีเนื้อความเหมือนกับที่กล่าวแล้วในกรณีแห่ง ๑.จักษุและสหคตธรรมของจักษุ ดังที่กล่าวข้างต้นนี้ทุกประการ พึงขยายความเอาเองให้เต็มตามนั้น ).- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/395-398/828-831. http://etipitaka.com/read/thai/14/395/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๕๒๓-๕๒๖/๘๒๘-๘๓๑. http://etipitaka.com/read/pali/14/523/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98 ถึง http://etipitaka.com/read/pali/14/526/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%93%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46&id=660 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46 ลำดับสาธยายธรรม : 46 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_46.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่--ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ
    -(ในสูตรถัดไป (๑๘/๒๖๔/๓๘๕) ทรงแสดง ที่เกิดของเวทนาทั้งสาม ว่าได้แก่ “ผัสสะ” แทนที่จะทรงแสดงว่าได้แก่ “กาย” เหมือนที่ทรงแสดงไว้ในสูตรข้างบนนี้, ส่วนเนื้อความนอกนั้น ก็เหมือนกับข้อความแห่งสูตรข้างบนนี้ ทุกประการ). อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่ ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ ภิกษุ ท. ! ....ส่วนบุคคล เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักษุ ตามที่เป็นจริง. เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง รูปทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง จักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่งเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริงแล้ว ; เขาย่อมไม่กำหนัดในจักษุ, ไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย, ไม่กำหนัดในจักขุวิญญาณ, ไม่กำหนัดในจักขุสัมผัส, และไม่กำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม. เมื่อบุคคลนั้นไม่กำหนัดแล้ว ไม่ติดพันแล้ว ไม่ลุ่มหลงแล้ว ตามเห็นอาทีนวะ (โทษของสิ่งเหล่านั้น) อยู่เนือง ๆ , ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความไม่ก่อเกิดต่อไป ; และตัณหา อัน เป็นเครื่องนำไปสู่ภพใหม่ อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ นั้นอันเขาย่อมละเสียได้ ; ความกระวนกระวาย (ทรถ) แม้ ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความกระวนกระวายแม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; ความแผดเผา (สนฺตาป) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความแผดเผา แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; ความเร่าร้อน (ปริฬาห) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความเร่าร้อน แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้. บุคคลนั้นย่อม เสวยซึ่งความสุข อันเป็นไป ทางกายด้วย. ซึ่งความสุขอันเป็นไป ทางจิต ด้วย. เมื่อบุคคลเป็นเช่นนั้นแล้ว ทิฏฐิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาทิฏฐิ ; ความดำริของเขา ย่อมเป็นสัมมาสังกัปปะ; ความพยายาม ของเขา ย่อมเป็นสัมมาวายามะ; สติ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสติ ; สมาธิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสมาธิ ; ส่วน กายกรรม วจีกรรม และ อาชีวะ ของเขา เป็นธรรมบริสุทธิ์อยู่ก่อนแล้วนั่นเทียว. ด้วยอาการอย่างนี้ เป็นอันว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้ ของเขานั้น ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. เมื่อเขาทำอริยอัฏฐังคิกมรรค ให้เจริญอยู่ด้วยอาการอย่างนี้, สติปัฏฐาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ; สัมมัปปธาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อิทธิบาท แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อินทรีย์ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; พละ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; โพชฌงค์ แม้ทั้ง ๗ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. ธรรมทั้งสองคือ สมถะ และวิปัสสนา ของเขานั้น ย่อมเป็นธรรมเคียงคู่กันไป. บุคคลนั้น ย่อม กำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อม ละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อมทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง; ย่อม ทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู ้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า ปัญจุปาทานขันธ์ ทั้งหลาย กล่าวคืออุปาทานขันธ์คือรูป อุปาทานขันธ์คือเวทนา อุปาทานขันธ์คือสัญญา อุปาทานขันธ์คือสังขาร อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรม อันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วย ปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า อวิชชา ด้วย ภวตัณหา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า สมถะ ด้วย วิปัสสนา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า วิชชา ด้วย วิมุตติ ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง. (ในกรณีที่เกี่ยวกับ โสต ฆาน ชิวหา กาย มโน และ สหคตธรรมแห่งอายตนะมีโสตเป็นต้น ก็มีเนื้อความเหมือนกับที่กล่าวแล้วในกรณีแห่ง จักษุและสหคตธรรมของจักษุ ดังที่กล่าวข้างบนนี้ทุกประการ พึงขยายความเอาเองให้เต็มตามนั้น).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)
    สัทธรรมลำดับที่ : 293
    ชื่อบทธรรม :- อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=293
    เนื้อความทั้งหมด : -
    --อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)(ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ)
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์ขอโอกาส ขอพระผู้มีพระภาค
    จงทรงแสดงซึ่งความเกิดและความดับไปแห่งทุกข์ แก่ข้าพระองค์เถิด.”
    --คามณิ ! ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน
    ปรารภอดีตกาลนานไกลว่า มันได้มีแล้วอย่างนี้ในอดีตกาล ดังนี้ไซร้,
    ความสงสัยเคลือบแคลงในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน.
    ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์ ปรารภอนาคตกาลนานไกล
    ว่ามันได้มีแล้วอย่างนี้ในอนาคตกาล ดังนี้ไซร้,
    ความสงสัยเคลือบแคลงแม้ในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน. เอาละ
    --คามณิ ! เรานั่งอยู่ที่นี่
    6จะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน
    ผู้นั่งอยู่ที่นี่ด้วยกัน,
    ท่านจงฟัง จงทำในใจให้ดี, เราจะกล่าว.
    --คามณิ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร
    : มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย
    ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่ท่าน ?
    “มี พระเจ้าข้า !”
    --คามณิ !
    :มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย
    ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะไม่เกิดขึ้นแก่ท่าน ?
    “มี พระเจ้าข้า!”
    --คามณิ ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้น
    แก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง และไม่เกิดขึ้นแก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง ?
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะว่า
    +--ฉันทราคะของข้าพระองค์มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ทำให้ความโศก (เป็นต้น)
    เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์ และ
    +--ฉันทราคะของข้าพระองค์ไม่มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ไม่ทำให้ความโศก (เป็นต้น)
    เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์.
    --คามณิ ! ด้วยธรรมนี้ อันท่านเห็นแล้ว รู้แจ้งแล้ว บรรลุแล้ว หยั่งลงทั่วถึงแล้ว
    อันไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ท่านจงนำไปซึ่งนัยนี้สู่ธรรมในอดีตและอนาคต ว่า
    “ทุกข์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต
    ทุกข์ทั้งหมดนั้นมีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ
    เพราะว่า ฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์ ;
    และทุกข์ใด ๆ อันจะเกิดขึ้นใน อนาคต
    ทุกข์ทั้งหมดนั้นก็มีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ
    เพราะว่า #ฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์,”
    http://etipitaka.com/read/pali/18/405/?keywords=ฉนฺท
    ดังนี้.-

    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/333/627.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/333/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก :- สฬา.สํ. ๑๘/๔๐๓/๖๒๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/403/?keywords=๖๒๗
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=293
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=293
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
    ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง) สัทธรรมลำดับที่ : 293 ชื่อบทธรรม :- อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=293 เนื้อความทั้งหมด : - --อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)(ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ) --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์ขอโอกาส ขอพระผู้มีพระภาค จงทรงแสดงซึ่งความเกิดและความดับไปแห่งทุกข์ แก่ข้าพระองค์เถิด.” --คามณิ ! ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน ปรารภอดีตกาลนานไกลว่า มันได้มีแล้วอย่างนี้ในอดีตกาล ดังนี้ไซร้, ความสงสัยเคลือบแคลงในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน. ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์ ปรารภอนาคตกาลนานไกล ว่ามันได้มีแล้วอย่างนี้ในอนาคตกาล ดังนี้ไซร้, ความสงสัยเคลือบแคลงแม้ในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน. เอาละ --คามณิ ! เรานั่งอยู่ที่นี่ 6จะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน ผู้นั่งอยู่ที่นี่ด้วยกัน, ท่านจงฟัง จงทำในใจให้ดี, เราจะกล่าว. --คามณิ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่ท่าน ? “มี พระเจ้าข้า !” --คามณิ ! :มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะไม่เกิดขึ้นแก่ท่าน ? “มี พระเจ้าข้า!” --คามณิ ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้น แก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง และไม่เกิดขึ้นแก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง ? --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะว่า +--ฉันทราคะของข้าพระองค์มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ทำให้ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์ และ +--ฉันทราคะของข้าพระองค์ไม่มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ไม่ทำให้ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์. --คามณิ ! ด้วยธรรมนี้ อันท่านเห็นแล้ว รู้แจ้งแล้ว บรรลุแล้ว หยั่งลงทั่วถึงแล้ว อันไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ท่านจงนำไปซึ่งนัยนี้สู่ธรรมในอดีตและอนาคต ว่า “ทุกข์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ทุกข์ทั้งหมดนั้นมีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ เพราะว่า ฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์ ; และทุกข์ใด ๆ อันจะเกิดขึ้นใน อนาคต ทุกข์ทั้งหมดนั้นก็มีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ เพราะว่า #ฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์,” http://etipitaka.com/read/pali/18/405/?keywords=ฉนฺท ดังนี้.- #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/333/627. http://etipitaka.com/read/thai/18/333/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก :- สฬา.สํ. ๑๘/๔๐๓/๖๒๗. http://etipitaka.com/read/pali/18/403/?keywords=๖๒๗ ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=293 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=293 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19 ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ
    -อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง) (ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ) “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์ขอโอกาส ขอพระผู้มีพระภาค จงทรงแสดงซึ่งความเกิดและความดับไปแห่งทุกข์ แก่ข้าพระองค์เถิด.” คามณิ ! ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน ปรารภอดีตกาลนานไกลว่า มันได้มีแล้วอย่างนี้ในอดีตกาล ดังนี้ไซร้, ความสงสัยเคลือบแคลงในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน. ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์ ปรารภอนาคตกาลนานไกล ว่ามันได้มีแล้วอย่างนี้ในอนาคตกาล ดังนี้ไซร้, ความสงสัยเคลือบแคลงแม้ในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน. เอาละ คามณิ ! เรานั่งอยู่ที่นี่ จะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน ผู้นั่งอยู่ที่นี่ด้วยกัน, ท่านจงฟัง จงทำในใจให้ดี, เราจะกล่าว. คามณิ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่ท่าน ? “มี พระเจ้าข้า !” คามณิ ! มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะไม่เกิดขึ้นแก่ท่าน ? “มี พระเจ้าข้า!” คามณิ ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้น แก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง และไม่เกิดขึ้นแก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะว่า ฉันทราคะของข้าพระองค์มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ทำให้ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์ และ ฉันทราคะของข้าพระองค์ไม่มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ไม่ทำให้ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์. คามณิ ! ด้วยธรรมนี้ อันท่านเห็นแล้ว รู้แจ้งแล้ว บรรลุแล้ว หยั่งลงทั่วถึงแล้ว อันไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ท่านจงนำไปซึ่งนัยนี้สู่ธรรมในอดีตและอนาคต ว่า “ทุกข์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ทุกข์ทั้งหมดนั้นมีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะ เป็นเหตุ เพราะว่า ฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์ ; และทุกข์ใด ๆ อันจะเกิดขึ้นใน อนาคต ทุกข์ทั้งหมดนั้นก็มีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ เพราะว่าฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์,” ดังนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱🥰😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇💖😴
    Goodnight my dear friends 🥱🥰😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇💖😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • BRICS ระเบิด: จากสหภาพธนาคารสู่แกนทหาร — จีนและรัสเซียส่งอาวุธให้อิหร่าน ขณะที่แผนสงครามเริ่มมีผลบังคับใช้ ขีปนาวุธ 800 ลูกพร้อมแล้ว เส้นทางส่งกำลังบำรุงกำลังร้อนระอุ

    ข่าวด่วน: จีนส่งเชื้อเพลิงขีปนาวุธพิสัยไกลให้กับอิหร่านอย่างเงียบๆ — เพียงพอสำหรับหัวรบนิวเคลียร์ 800 ลูก รัสเซียสนับสนุนคลังอาวุธของเตหะราน BRICS กลายเป็นแกนกลางทางการทหาร แนวรบต่อไปไม่ใช่สมมติฐาน แต่เป็นปฏิบัติการเต็มรูปแบบ

    🟥 จีน: การเสริมกำลังผ่านห่วงโซ่อุปทานผี!

    👉 อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่: https://amg-news.com/brics-detonated-from-banking-union-to-military-axis-china-russia-arm-iran-as-war-blueprint-goes-live-800-missiles-ready-supply-lines-hot/
    BRICS ระเบิด: จากสหภาพธนาคารสู่แกนทหาร — จีนและรัสเซียส่งอาวุธให้อิหร่าน ขณะที่แผนสงครามเริ่มมีผลบังคับใช้ ขีปนาวุธ 800 ลูกพร้อมแล้ว เส้นทางส่งกำลังบำรุงกำลังร้อนระอุ ข่าวด่วน: จีนส่งเชื้อเพลิงขีปนาวุธพิสัยไกลให้กับอิหร่านอย่างเงียบๆ — เพียงพอสำหรับหัวรบนิวเคลียร์ 800 ลูก รัสเซียสนับสนุนคลังอาวุธของเตหะราน BRICS กลายเป็นแกนกลางทางการทหาร แนวรบต่อไปไม่ใช่สมมติฐาน แต่เป็นปฏิบัติการเต็มรูปแบบ 🟥 จีน: การเสริมกำลังผ่านห่วงโซ่อุปทานผี! 👉 อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่: https://amg-news.com/brics-detonated-from-banking-union-to-military-axis-china-russia-arm-iran-as-war-blueprint-goes-live-800-missiles-ready-supply-lines-hot/
    AMG-NEWS.COM
    BRICS DETONATED: FROM BANKING UNION TO MILITARY AXIS — CHINA & RUSSIA ARM IRAN AS WAR BLUEPRINT GOES LIVE, 800 Missiles Ready. Supply Lines Hot. - amg-news.com - American Media Group
    BREAKING: China is quietly supplying Iran with ballistic missile fuel — enough for 800 warheads. Russia backs Tehran’s arsenal. BRICS morphs into a military axis. The next warfront is not hypothetical — it’s fully operational.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • Common Grammar Mistakes You May Be Making

    It’s no secret that English is a tough and pretty weird language to learn. There are so many grammar rules and exceptions that even the best of us make mistakes every now and then. However, some grammar mistakes are more common than others. In fact, you might be making some simple grammar mistakes without even knowing it. To do our part in helping everybody become a grammar great, we’ve put together a list that will help solve some of the most common grammar mistakes out there. Keep this list handy before you turn in your next paper or hit send on that important email to be the boss!

    Mistake 1: who or whom?
    Let’s start with a biggie: who and whom are a pair of commonly confused pronouns that are often used to ask questions or refer to unknown people. In short, who is a subject pronoun while whom is an object pronoun. This means that you would use who as you would use I, he, she, and they, and you would use whom in the same places as me, him, them, and us. For example:

    Who (subject) ate my lunch?
    You went to the beach with whom (object)?
    But interrogative sentences often jumble word order around, and many writers hesitate to place the object whom at the beginning of the sentence. Although correct, it just seems odd. For example:

    Whom (object) did you (subject) ask questions to?
    All of that said, in informal speech and writing, speakers will often opt for who where whom has traditionally been used. To learn much more about the differences between who and whom, check out our guide When Do You Use “Who” vs. “Whom”?

    Mistake 2: who or that?
    Who is back again to confuse us. Who and that are another pair of pronouns that can be easily mixed up. Generally speaking, who is used to refer to people (and possibly named animals) and that is used to refer to non-living things (and possibly unnamed animals). For example:

    Who lives here? (refers to a person or people)
    I never want to see that again. (refers to a thing or unnamed animal)
    Both who and that can also be used as relative pronouns to introduce relative clauses that describe nouns. As before, who is typically used to refer to people while that is used to refer to objects.

    I sat by the girl (person) who was wearing a hat.
    Kelly bought a car (object) that has good gas mileage.
    That being said, that is often used to describe people in informal writing. For example:

    He just met the girl that moved in next door.
    Most style guides recommend avoiding using that in this way in formal writing.

    Mistake 3: commas—all the commas
    We move from the apostrophe to possibly the most dreaded punctuation mark of all: the comma. It is hard to know where to even begin with commas, as they are the source of many, many grammar errors. To really master commas, you are best off checking out our amazing guide to proper comma usage. For now, we’ll just look at a couple of common comma mistakes to avoid:

    Common comma mistake: the splice
    This mistake occurs when a comma appears where it shouldn’t. When joining two independent clauses, a comma needs to be followed by a conjunction. But using a comma by itself (as in the first sentence below) is considered an error.

    ❌ Mistake: I like strawberry ice cream, my sister doesn’t.
    ✅ Fixed: I like strawberry ice cream, but my sister doesn’t.

    Common comma mistake: tricky subordinate clauses
    Subordinate clauses do not require a comma, and it is considered a mistake to use one.

    ❌ Mistake: Luke avoids cats, because he is allergic to them.
    ✅ Fixed: Luke avoids cats because he is allergic to them.

    Subordinate clauses begin with subordinating conjunctions, such as because, after, before, since, or although.

    Mistake 4: its or it’s?
    Only a single apostrophe separates the frustrating duo if its and it’s. The word its is a possessive pronoun that is used like the words my, his, her, and our. The word it’s is a contraction for the phrase “it is” or “it has.” Despite how similar they look, its and it’s have completely different meanings and usage. For example:

    The door fell off its (possessive) hinges.
    The idea is really bad but it’s (“it is”) the only one we have.
    This common mistake likely has to do with the fact that an apostrophe is used to form the possessive of nouns such as Dave’s or Canada’s. As weird as it looks, its is in fact a possessive despite not using an apostrophe.

    If you are still a little lost, our thorough guide to its and it’s can provide more assistance in separating these two very similar words.

    Mistake 5: their, there, and they’re? (And what about your or you’re?)
    Their, there, and they’re are a trio of homophones that frequently get mistaken for one another. However, they all have different, unique meanings. Let’s look at each one.

    Their is the possessive form of they, and it can be used in place of either the singular or plural they to express ownership or possession. For example:

    The scientists put on their lab coats.
    They’re is a contraction of they are and fills in for it to shorten sentences. For example:

    Becky and Jayden were supposed to be here already, but they’re (“they are”) late.
    There is a word that usually means “that place” as in Tokyo looks so exciting; I wish I could go there. It has a few other meanings, but it isn’t a synonym of either their or they’re.

    Your and you’re are another pair of homophones that commonly get mixed up. Like their, your is the possessive form of the singular and plural you. Like they’re, you’re is a contraction that stands for “you are.” Here are examples of how we use these two similar words:

    I like your jacket. (possession)
    You’re (“you are”) smarter than you think.

    Mistake 6: me or I?
    At first glance, me and I seem simple enough: I is a subject pronoun and me is an object pronoun. We use I as the subject of sentences/clauses and me as the object. For example:

    I (subject) went to sleep.
    Erica likes me (object).
    However, it can be easy to forget these rules when sentences get more complicated, and it gets harder to figure out if something is a subject or object.

    Chris, Daniela, and I (compound subject) played soccer.
    Dad sent birthday presents to my sister and me (compound object).
    The main source of this confusion might be the word than, which can be used as either a conjunction or a preposition. Because of this, both of the following sentences are correct:

    Nobody sings karaoke better than I.
    Nobody sings karaoke better than me.

    Mistake 7: dangling modifiers
    When we use modifiers such as adverbial or participial phrases, we typically want to place them as close to the word they modify as possible. Otherwise, a sentence may end up with a type of mistake called a “dangling modifier.” A dangling modifier is a phrase or clause that either appears to modify the wrong things or seems to modify nothing at all. This common grammar mistake can result in confusing or unintentionally funny sentences. To fix these misplaced modifiers, you’ll want to place them close to the word they modify and make it clear which word or part of the sentence they modify. For example:

    ❌ Mistake: While driving, a bear walked in front of my car. (Is a bear driving something?)
    ✅ Fixed: While I was driving my car, a bear walked in front of me.

    ❌ Mistake: Rubbing their hands together, the winter weather was harsh and cold. (Whoever is rubbing their hands is missing.)
    ✅ Fixed: Rubbing their hands together, the explorers tried to stay warm in the harsh and cold winter weather.

    ❌ Mistake: Yesterday, I found a stray dog in my underpants. (Was the dog hiding inside your underpants?)
    ✅ Fixed: While wearing just my underpants, I found a stray dog yesterday.

    Mistake 8: pronoun antecedents
    When we use pronouns, they must agree in number with their antecedents. The antecedent is the noun that a pronoun is filling in for. It is a mistake to use a plural pronoun with a singular antecedent and a singular pronoun with a plural antecedent. For example:

    ❌ Mistake: The bees hid in its hive.
    ✅ Fixed: The bees hid in their hive.

    Additionally, we wouldn’t use its to refer to a person, nor would we use personal pronouns to refer to non-living things.

    ❌ Mistake: The zoo that Amanda owns is having her grand opening tomorrow.
    ✅ Fixed: The zoo that Amanda owns is having its grand opening tomorrow.

    At the same time, it should be clear in a sentence what a pronoun’s antecedent actually is. Avoid making the mistake of having missing or unclear antecedents.

    Missing antecedent: I looked everywhere but couldn’t find her. (Who is her?)
    Unclear antecedent: The toaster was next to the sink when it broke. (What broke? Does “it” refer to the toaster or the sink?)

    To learn a lot more about pronouns and how to use them, check out our great guide to pronouns here.

    Mistake 9: semicolons
    For many, the semicolon is not a punctuation mark that sees a lot of use, which may explain why people make mistakes when trying to use it. As it turns out, semicolons are fairly simple to use. The main thing to remember when using a semicolon is that the sentence following the semicolon doesn’t begin with a capital letter unless it begins with a proper noun. For example:

    I love cats; they are cute and smart.
    Jack and Jill went up a hill; Jill made it up first.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Common Grammar Mistakes You May Be Making It’s no secret that English is a tough and pretty weird language to learn. There are so many grammar rules and exceptions that even the best of us make mistakes every now and then. However, some grammar mistakes are more common than others. In fact, you might be making some simple grammar mistakes without even knowing it. To do our part in helping everybody become a grammar great, we’ve put together a list that will help solve some of the most common grammar mistakes out there. Keep this list handy before you turn in your next paper or hit send on that important email to be the boss! Mistake 1: who or whom? Let’s start with a biggie: who and whom are a pair of commonly confused pronouns that are often used to ask questions or refer to unknown people. In short, who is a subject pronoun while whom is an object pronoun. This means that you would use who as you would use I, he, she, and they, and you would use whom in the same places as me, him, them, and us. For example: Who (subject) ate my lunch? You went to the beach with whom (object)? But interrogative sentences often jumble word order around, and many writers hesitate to place the object whom at the beginning of the sentence. Although correct, it just seems odd. For example: Whom (object) did you (subject) ask questions to? All of that said, in informal speech and writing, speakers will often opt for who where whom has traditionally been used. To learn much more about the differences between who and whom, check out our guide When Do You Use “Who” vs. “Whom”? Mistake 2: who or that? Who is back again to confuse us. Who and that are another pair of pronouns that can be easily mixed up. Generally speaking, who is used to refer to people (and possibly named animals) and that is used to refer to non-living things (and possibly unnamed animals). For example: Who lives here? (refers to a person or people) I never want to see that again. (refers to a thing or unnamed animal) Both who and that can also be used as relative pronouns to introduce relative clauses that describe nouns. As before, who is typically used to refer to people while that is used to refer to objects. I sat by the girl (person) who was wearing a hat. Kelly bought a car (object) that has good gas mileage. That being said, that is often used to describe people in informal writing. For example: He just met the girl that moved in next door. Most style guides recommend avoiding using that in this way in formal writing. Mistake 3: commas—all the commas We move from the apostrophe to possibly the most dreaded punctuation mark of all: the comma. It is hard to know where to even begin with commas, as they are the source of many, many grammar errors. To really master commas, you are best off checking out our amazing guide to proper comma usage. For now, we’ll just look at a couple of common comma mistakes to avoid: Common comma mistake: the splice This mistake occurs when a comma appears where it shouldn’t. When joining two independent clauses, a comma needs to be followed by a conjunction. But using a comma by itself (as in the first sentence below) is considered an error. ❌ Mistake: I like strawberry ice cream, my sister doesn’t. ✅ Fixed: I like strawberry ice cream, but my sister doesn’t. Common comma mistake: tricky subordinate clauses Subordinate clauses do not require a comma, and it is considered a mistake to use one. ❌ Mistake: Luke avoids cats, because he is allergic to them. ✅ Fixed: Luke avoids cats because he is allergic to them. Subordinate clauses begin with subordinating conjunctions, such as because, after, before, since, or although. Mistake 4: its or it’s? Only a single apostrophe separates the frustrating duo if its and it’s. The word its is a possessive pronoun that is used like the words my, his, her, and our. The word it’s is a contraction for the phrase “it is” or “it has.” Despite how similar they look, its and it’s have completely different meanings and usage. For example: The door fell off its (possessive) hinges. The idea is really bad but it’s (“it is”) the only one we have. This common mistake likely has to do with the fact that an apostrophe is used to form the possessive of nouns such as Dave’s or Canada’s. As weird as it looks, its is in fact a possessive despite not using an apostrophe. If you are still a little lost, our thorough guide to its and it’s can provide more assistance in separating these two very similar words. Mistake 5: their, there, and they’re? (And what about your or you’re?) Their, there, and they’re are a trio of homophones that frequently get mistaken for one another. However, they all have different, unique meanings. Let’s look at each one. Their is the possessive form of they, and it can be used in place of either the singular or plural they to express ownership or possession. For example: The scientists put on their lab coats. They’re is a contraction of they are and fills in for it to shorten sentences. For example: Becky and Jayden were supposed to be here already, but they’re (“they are”) late. There is a word that usually means “that place” as in Tokyo looks so exciting; I wish I could go there. It has a few other meanings, but it isn’t a synonym of either their or they’re. Your and you’re are another pair of homophones that commonly get mixed up. Like their, your is the possessive form of the singular and plural you. Like they’re, you’re is a contraction that stands for “you are.” Here are examples of how we use these two similar words: I like your jacket. (possession) You’re (“you are”) smarter than you think. Mistake 6: me or I? At first glance, me and I seem simple enough: I is a subject pronoun and me is an object pronoun. We use I as the subject of sentences/clauses and me as the object. For example: I (subject) went to sleep. Erica likes me (object). However, it can be easy to forget these rules when sentences get more complicated, and it gets harder to figure out if something is a subject or object. Chris, Daniela, and I (compound subject) played soccer. Dad sent birthday presents to my sister and me (compound object). The main source of this confusion might be the word than, which can be used as either a conjunction or a preposition. Because of this, both of the following sentences are correct: Nobody sings karaoke better than I. Nobody sings karaoke better than me. Mistake 7: dangling modifiers When we use modifiers such as adverbial or participial phrases, we typically want to place them as close to the word they modify as possible. Otherwise, a sentence may end up with a type of mistake called a “dangling modifier.” A dangling modifier is a phrase or clause that either appears to modify the wrong things or seems to modify nothing at all. This common grammar mistake can result in confusing or unintentionally funny sentences. To fix these misplaced modifiers, you’ll want to place them close to the word they modify and make it clear which word or part of the sentence they modify. For example: ❌ Mistake: While driving, a bear walked in front of my car. (Is a bear driving something?) ✅ Fixed: While I was driving my car, a bear walked in front of me. ❌ Mistake: Rubbing their hands together, the winter weather was harsh and cold. (Whoever is rubbing their hands is missing.) ✅ Fixed: Rubbing their hands together, the explorers tried to stay warm in the harsh and cold winter weather. ❌ Mistake: Yesterday, I found a stray dog in my underpants. (Was the dog hiding inside your underpants?) ✅ Fixed: While wearing just my underpants, I found a stray dog yesterday. Mistake 8: pronoun antecedents When we use pronouns, they must agree in number with their antecedents. The antecedent is the noun that a pronoun is filling in for. It is a mistake to use a plural pronoun with a singular antecedent and a singular pronoun with a plural antecedent. For example: ❌ Mistake: The bees hid in its hive. ✅ Fixed: The bees hid in their hive. Additionally, we wouldn’t use its to refer to a person, nor would we use personal pronouns to refer to non-living things. ❌ Mistake: The zoo that Amanda owns is having her grand opening tomorrow. ✅ Fixed: The zoo that Amanda owns is having its grand opening tomorrow. At the same time, it should be clear in a sentence what a pronoun’s antecedent actually is. Avoid making the mistake of having missing or unclear antecedents. Missing antecedent: I looked everywhere but couldn’t find her. (Who is her?) Unclear antecedent: The toaster was next to the sink when it broke. (What broke? Does “it” refer to the toaster or the sink?) To learn a lot more about pronouns and how to use them, check out our great guide to pronouns here. Mistake 9: semicolons For many, the semicolon is not a punctuation mark that sees a lot of use, which may explain why people make mistakes when trying to use it. As it turns out, semicolons are fairly simple to use. The main thing to remember when using a semicolon is that the sentence following the semicolon doesn’t begin with a capital letter unless it begins with a proper noun. For example: I love cats; they are cute and smart. Jack and Jill went up a hill; Jill made it up first. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts