• CAAT เชิญชวนเกษตรกรขึ้นทะเบียนโดรน...ย้ำฟรี! เพื่อยกระดับมาตรฐาน-เปิดทางบินอย่างยั่งยืน
    https://www.thai-tai.tv/news/20753/
    .
    #CAAT #โดรนเกษตร #ขึ้นทะเบียนโดรน #UASPortal #ความปลอดภัยทางการบิน #ไทยไท
    CAAT เชิญชวนเกษตรกรขึ้นทะเบียนโดรน...ย้ำฟรี! เพื่อยกระดับมาตรฐาน-เปิดทางบินอย่างยั่งยืน https://www.thai-tai.tv/news/20753/ . #CAAT #โดรนเกษตร #ขึ้นทะเบียนโดรน #UASPortal #ความปลอดภัยทางการบิน #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • No Processing Fee แค่มุกใหม่ไทยแอร์เอเชีย

    แคมเปญล่าสุดของสายการบินไทยแอร์เอเชีย คือการงดเก็บค่าธรรมเนียมการชำระเงิน (Processing Fee) สำหรับทุกการจองเที่ยวบิน FD ผ่านแอปพลิเคชัน AirAsia MOVE ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. ถึง 15 ส.ค. 2568 ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดล่าสุดนอกจากการออกโปรโมชัน BIG SALE จ่ายเฉพาะภาษีสนามบิน (Airport Tax) แต่ก็ต้องจ่ายค่า Processing Fee ตั้งแต่ 107.00 ถึง 128.40 บาทต่อคนต่อเที่ยวบิน เท่ากับค่าโดยสารราคาโปรโมชันประมาณ 300-600 บาทต่อเที่ยวบิน ถึงกระนั้น ในช่วงนี้ยังไม่มีโปรโมชันแรงๆ อย่าง BIG SALE เกิดขึ้น มีแต่โปรโมชันปกติ ราคาเริ่มต้นที่ 900-930 บาทต่อเที่ยว ซึ่งช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว (Low Season) ที่นักท่องเที่ยวลดลง ราคาบัตรโดยสารไม่น่าจะเกิน 2,000 บาทต่อเที่ยว

    แต่ถ้าเป็นประเทศมาเลเซีย ต้นกำเนิดแอร์เอเชีย เส้นทางบินทั้งในมาเลเซียและต่างประเทศ เช่น ดอนเมือง สุวรรณภูมิ ไม่มีค่า Processing Fee อย่างชัดเจน เพราะได้ยกเลิกไปตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. 2562 หรือเมื่อ 6 ปีก่อน หลังคณะกรรมการการบินแห่งมาเลเซีย (MAVCOM) สั่งปรับสายการบินแอร์เอเชีย และแอร์เอเชียเอ็กซ์ สายการบินละ 200,000 ริงกิต เนื่องจากคิดค่า Processing Fee แยกจากค่าโดยสารพื้นฐาน เพราะก่อนหน้านี้ MAVCOM กำหนดให้ทุกสายการบินในมาเลเซียยกเลิกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแฝง หนึ่งในนั้นคือค่า Processing Fee ตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคการบินแห่งมาเลเซีย 2016 (MACPC) นับจากนั้นเป็นต้นมาการจองผ่านแอปฯ ของแอร์เอเชีย โดยเฉพาะบัตรเครดิตจะไม่ถูกเรียกเก็บค่า Processing Fee อีกต่อไป

    น่าเสียดายที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT กลับมองข้ามถึงเรื่องนี้ ทั้งที่เป็นการคุ้มครองผู้โดยสารไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบอีกทางหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาโปรโมชันค่าโดยสารถูกที่สุดมีเพียงแค่การนำที่นั่งในช่วงเวลาที่ไม่มีผู้โดยสารคับคั่งออกมาลดราคา เฉลี่ยแล้วไม่เกิน 20% ของจำนวนที่นั่งต่อเที่ยวบิน ผู้โดยสารจำนวนไม่น้อยนอกจากจะต้องจ่ายในราคาที่สูงแล้ว ต่อที่สองยังต้องจ่ายค่า Processing Fee ต่อคนต่อเที่ยวบินอีก ถึงกระนั้นหากมองอีกมุมหนึ่ง ถือเป็นช่องทางหารายได้ของสายการบิน ตราบใดที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายห้ามเหมือนมาเลเซีย อีกทั้งการชำระเงินผ่านช่องทาง Direct Debit และบัตรเครดิต สายการบินยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแก่ผู้ให้บริการอีก

    สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2568 บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ถือหุ้นในสายการบินแอร์เอเชีย พบว่า รายได้จากการขายและบริการ 13,225 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,387 ล้านบาท

    #Newskit
    No Processing Fee แค่มุกใหม่ไทยแอร์เอเชีย แคมเปญล่าสุดของสายการบินไทยแอร์เอเชีย คือการงดเก็บค่าธรรมเนียมการชำระเงิน (Processing Fee) สำหรับทุกการจองเที่ยวบิน FD ผ่านแอปพลิเคชัน AirAsia MOVE ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. ถึง 15 ส.ค. 2568 ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดล่าสุดนอกจากการออกโปรโมชัน BIG SALE จ่ายเฉพาะภาษีสนามบิน (Airport Tax) แต่ก็ต้องจ่ายค่า Processing Fee ตั้งแต่ 107.00 ถึง 128.40 บาทต่อคนต่อเที่ยวบิน เท่ากับค่าโดยสารราคาโปรโมชันประมาณ 300-600 บาทต่อเที่ยวบิน ถึงกระนั้น ในช่วงนี้ยังไม่มีโปรโมชันแรงๆ อย่าง BIG SALE เกิดขึ้น มีแต่โปรโมชันปกติ ราคาเริ่มต้นที่ 900-930 บาทต่อเที่ยว ซึ่งช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว (Low Season) ที่นักท่องเที่ยวลดลง ราคาบัตรโดยสารไม่น่าจะเกิน 2,000 บาทต่อเที่ยว แต่ถ้าเป็นประเทศมาเลเซีย ต้นกำเนิดแอร์เอเชีย เส้นทางบินทั้งในมาเลเซียและต่างประเทศ เช่น ดอนเมือง สุวรรณภูมิ ไม่มีค่า Processing Fee อย่างชัดเจน เพราะได้ยกเลิกไปตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. 2562 หรือเมื่อ 6 ปีก่อน หลังคณะกรรมการการบินแห่งมาเลเซีย (MAVCOM) สั่งปรับสายการบินแอร์เอเชีย และแอร์เอเชียเอ็กซ์ สายการบินละ 200,000 ริงกิต เนื่องจากคิดค่า Processing Fee แยกจากค่าโดยสารพื้นฐาน เพราะก่อนหน้านี้ MAVCOM กำหนดให้ทุกสายการบินในมาเลเซียยกเลิกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแฝง หนึ่งในนั้นคือค่า Processing Fee ตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคการบินแห่งมาเลเซีย 2016 (MACPC) นับจากนั้นเป็นต้นมาการจองผ่านแอปฯ ของแอร์เอเชีย โดยเฉพาะบัตรเครดิตจะไม่ถูกเรียกเก็บค่า Processing Fee อีกต่อไป น่าเสียดายที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT กลับมองข้ามถึงเรื่องนี้ ทั้งที่เป็นการคุ้มครองผู้โดยสารไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบอีกทางหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาโปรโมชันค่าโดยสารถูกที่สุดมีเพียงแค่การนำที่นั่งในช่วงเวลาที่ไม่มีผู้โดยสารคับคั่งออกมาลดราคา เฉลี่ยแล้วไม่เกิน 20% ของจำนวนที่นั่งต่อเที่ยวบิน ผู้โดยสารจำนวนไม่น้อยนอกจากจะต้องจ่ายในราคาที่สูงแล้ว ต่อที่สองยังต้องจ่ายค่า Processing Fee ต่อคนต่อเที่ยวบินอีก ถึงกระนั้นหากมองอีกมุมหนึ่ง ถือเป็นช่องทางหารายได้ของสายการบิน ตราบใดที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายห้ามเหมือนมาเลเซีย อีกทั้งการชำระเงินผ่านช่องทาง Direct Debit และบัตรเครดิต สายการบินยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแก่ผู้ให้บริการอีก สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2568 บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ถือหุ้นในสายการบินแอร์เอเชีย พบว่า รายได้จากการขายและบริการ 13,225 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,387 ล้านบาท #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 624 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/vyvHIUW70A8?si=CAeKpo4cAaT9W7hU
    https://www.youtube.com/live/vyvHIUW70A8?si=CAeKpo4cAaT9W7hU
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • CAAT ตรวจสอบ“เจจูแอร์” มีประกันภัยตามกฎหมายระหว่างประเทศ ผู้เสียหายหรือญาติสามารถประสานกับเจ้าหน้าที่สายการบิน ได้โดยตรง

    สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT เปิดเผยว่า จากกรณีอุบัติเหตุของสายการบินเจจูแอร์ (JEJU AIR) เที่ยวบิน 7C2216 เส้นทางกรุงเทพฯ - มูอัน ประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 29 ธันวาคม 2567 และเจ้าหน้าที่สายการบินแจ้งว่า มีผู้โดยสารคนไทย 2 ราย ในเที่ยวบินดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานะ

    เนื่องจากสายการบินเจจูแอร์จดทะเบียนในประเทศเกาหลีใต้ และอุบัติเหตุเกิดขึ้นในประเทศนั้น การเรียกร้องค่าเสียหาย เช่น กรณีผู้โดยสารถึงแก่ความตายหรือได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย หรือกรณีสัมภาระสูญหายหรือถูกทำลาย การดำเนินการจึงเป็นไปตามกฎหมายและแนวทางปฏิบัติของประเทศเกาหลีใต้

    CAAT ได้ตรวจสอบและยืนยันว่า สายการบินเจจูแอร์ได้จัดทำประกันภัยที่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศและยังมีผลใช้บังคับอยู่ ดังนั้น ผู้เสียหายหรือญาติสามารถประสานกับเจ้าหน้าที่สายการบิน เพื่อติดตามแนวทางการดำเนินการต่าง ๆ ได้โดยตรง

    กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนด้านการบินพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น CAAT ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และในฐานะหน่วยงานที่ดูแลสิทธิของผู้โดยสาร พร้อมให้คำแนะนำเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9670000124878

    #MGROnline #JejuAir #เครื่องบินตก #SouthKorea
    CAAT ตรวจสอบ“เจจูแอร์” มีประกันภัยตามกฎหมายระหว่างประเทศ ผู้เสียหายหรือญาติสามารถประสานกับเจ้าหน้าที่สายการบิน ได้โดยตรง • สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT เปิดเผยว่า จากกรณีอุบัติเหตุของสายการบินเจจูแอร์ (JEJU AIR) เที่ยวบิน 7C2216 เส้นทางกรุงเทพฯ - มูอัน ประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 29 ธันวาคม 2567 และเจ้าหน้าที่สายการบินแจ้งว่า มีผู้โดยสารคนไทย 2 ราย ในเที่ยวบินดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานะ • เนื่องจากสายการบินเจจูแอร์จดทะเบียนในประเทศเกาหลีใต้ และอุบัติเหตุเกิดขึ้นในประเทศนั้น การเรียกร้องค่าเสียหาย เช่น กรณีผู้โดยสารถึงแก่ความตายหรือได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย หรือกรณีสัมภาระสูญหายหรือถูกทำลาย การดำเนินการจึงเป็นไปตามกฎหมายและแนวทางปฏิบัติของประเทศเกาหลีใต้ • CAAT ได้ตรวจสอบและยืนยันว่า สายการบินเจจูแอร์ได้จัดทำประกันภัยที่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศและยังมีผลใช้บังคับอยู่ ดังนั้น ผู้เสียหายหรือญาติสามารถประสานกับเจ้าหน้าที่สายการบิน เพื่อติดตามแนวทางการดำเนินการต่าง ๆ ได้โดยตรง • กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนด้านการบินพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น CAAT ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และในฐานะหน่วยงานที่ดูแลสิทธิของผู้โดยสาร พร้อมให้คำแนะนำเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9670000124878 • #MGROnline #JejuAir #เครื่องบินตก #SouthKorea
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 622 มุมมอง 0 รีวิว
  • จนท.ผู้ควบคุมอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิแจ้งความดำเนินคดีกับสาวโปแลนด์ผู้ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ หลังจากสายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ

    28 กันยายน 2567 -รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี สายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้โดยสารชาวโปแลนด์หญิงวัย34ปี ที่ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ซึ่งการขู่วางระเบิดในสนามบิน หรือในอากาศยาน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22

    ดังนั้น CATT จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว โดยผู้ควบคุมอากาศยานหรือนักบินในเที่ยวบินนั้นเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งไม่ใช่สายการบินซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นผู้แจ้งความ ตามที่ปรากฏในข่าว และทางตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ในข้อหาแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    คำพูดต้องห้ามที่ไม่ควรพูดทั้งในสนามบินและบนเครื่องบิน เช่น
    – ระเบิด Bomb
    – อาวุธและวัตถุอันตราย ปืน Gun or Fire Arm
    – การก่อการร้าย Terrorist
    – โรคระบาดร้ายแรง

    CAAT จึงขอแนะนำว่า ไม่ควรพูดคำต้องห้ามเหล่านี้ แม้จะเป็นการพูดเล่นกับเพื่อน หรือพูดเล่นกับเจ้าหน้าที่ เพราะอาจทำให้ผู้อื่นเกิดความไม่สบายใจ ตื่นตระหนก หรือเกิดความเข้าใจผิดจนอาจจะนำมาสู่ความวุ่นวาย และผู้พูดอาจถูกดำเนินการตามกฎหมายได้

    ภาพจากข่าวสด

    #Thaitimes
    จนท.ผู้ควบคุมอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิแจ้งความดำเนินคดีกับสาวโปแลนด์ผู้ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ หลังจากสายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ 28 กันยายน 2567 -รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี สายการบินไทยเวียตเจ็ท ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้โดยสารชาวโปแลนด์หญิงวัย34ปี ที่ก่อเหตุขู่วางระเบิดเที่ยวบิน VZ961เส้นทางดานัง- สุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ซึ่งการขู่วางระเบิดในสนามบิน หรือในอากาศยาน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ดังนั้น CATT จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว โดยผู้ควบคุมอากาศยานหรือนักบินในเที่ยวบินนั้นเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งไม่ใช่สายการบินซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นผู้แจ้งความ ตามที่ปรากฏในข่าว และทางตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ในข้อหาแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คำพูดต้องห้ามที่ไม่ควรพูดทั้งในสนามบินและบนเครื่องบิน เช่น – ระเบิด Bomb – อาวุธและวัตถุอันตราย ปืน Gun or Fire Arm – การก่อการร้าย Terrorist – โรคระบาดร้ายแรง CAAT จึงขอแนะนำว่า ไม่ควรพูดคำต้องห้ามเหล่านี้ แม้จะเป็นการพูดเล่นกับเพื่อน หรือพูดเล่นกับเจ้าหน้าที่ เพราะอาจทำให้ผู้อื่นเกิดความไม่สบายใจ ตื่นตระหนก หรือเกิดความเข้าใจผิดจนอาจจะนำมาสู่ความวุ่นวาย และผู้พูดอาจถูกดำเนินการตามกฎหมายได้ ภาพจากข่าวสด #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1472 มุมมอง 0 รีวิว