• แกะรอยเก่า ตอนที่ 14
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 14 (ตอนจบ)
    หลังจากนาย Kenneth จัดอบรมหลักสูตรปรับพื้นสนามล่าได้ประมาณ
2 ปี วันหนึ่งในปี ค.ศ.1963 นาย Alexis Johnson ก็เข้ามาเยี่ยมระหว่างการฝึกอบรมและประกาศว่านาย Kenneth ทำหน้าที่ปรับพื้นสนามล่าได้ผล เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงจะให้นาย Kenneth ไปทำหน้าที่สำคัญกว่านั้น โดยเป็น Dean of Area Studies for the Foreign Service Institute ซึ่งเป็นการสร้างหลักสูตรสำหรับโปรแกรมต่างๆ ทั่วโลก เป็นงานนั่งโต๊ะ ซึ่งนาย Kenneth บอกว่าไม่รู้ตัวเลย ว่าเขาถูกปลดจากที่ยืนบนแท่นที่ มีไฟส่อง ไปนั่งโต๊ะทำงานในมุมมืด แต่งานมันมีมุมลึกกว่าเดิม ถึงจะลึกยังไง คงไม่สบกับอารมณ์ของนาย Kenneth ซึ่งชอบเสนอหน้า เขาทนนั่งทำงานอยู่ที่สถาบันนี้อยู่ 2,3 ปี จึงออกไปทำงานเป็นศาสตราจารย์เต็ม ตัวใน American University ตามคำชวนของนาย Ernest Griffith แห่ง Council for American Learned Studies ตกลง ใครนะเป็นเจ้าของ มิชชั่นนารี จากเมืองตรัง
    นาย Griffith ขอให้เขาตั้งสถาบันเอเซีย ท้ังตะวันออกเฉียงใต้และเอเซียใต้ที่ American University ซึ่งนาย Kenneth ก็ตกลง เขาคิดหลักสูตรและให้มีการสอนทั้งภาษา ไทย พม่า เวียตนาม ฮินดู และอินโดนีเซีย ฯลฯ หลังจากนั้นมหาวิทยาลัยดังๆ ต่างๆ ในอเมริกา ต่างพากันตั้งสถาบันทำนองนี้กันหมด ครอบคลุมไปหลาย area เครื่องมือนักล่าแพร่หลายและใช้การได้อย่างดี นาย Kenneth (หรือคนสร้างนาย Kenneth ? ) เป็นคนมองเห็นการณ์ไกลจริง
    และก็สถาบันแบบนี้แหละ ที่ ประมาณ 6,7 ปีมานี้ ไอ้โจรร้ายได้ส่งพวกอาจารย์นักบิด(เบือน)รุ่นใหญ่ ไปเป็นหัวหน้าภาควิชา โดยการสนับสนุนให้ทุนก้อนใหญ่ และการร่วมมือของพวกนักล่า ไปปรับหลักสูตรใหม่ โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับสถาบัน หลังจากน้ัน บทความที่บิดเบือนเกี่ยวกับสถาบัน เขียนโดยสมุนนักล่า และ ขี้ข้าโจร ก็ทยอยกันออกมา จนถึงทุกวันนี้ และตอนนี้ก็กำลังโหมฟืนเพิ่มไฟ นักล่าและไอ้โจรร้าย ทำทุกวิถีทางที่จะเขย่าเสาหลักให้คลอน การครอบครองแดนสมันน้อยจะได้ง่ายขึ้น เลิกสงสัยกันได้ว่า เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
    อเมริกาซึ่งเคยรู้จักเมืองไทยแบบลางเลือน รู้แค่ว่าเมืองไทยมีแต่คนฝาแฝดตัวติดกัน รู้จักสถาบันกษัตริย์ของไทยผ่านสายตา ของนางพี่เลี้ยงที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและเพ้อเจ้อ เช่น นาง Anna Leonowens ก็ได้ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนไป คงต้องยอมรับว่า ฝีมือกระล่อนและความเป็นนักฉวยโอกาสของนาย Kenneth ได้ผล ทำให้เครื่องมือนักล่าประเภทนี้ขึ้นอันดับ อเมริกาติดใจดัดแปลงเครื่องมือชนิดนี้ไปเรื่อๆ นาย Kenneth มาเป็นมิชชั่นนารี อาสามาทำงานในเมืองไทยเอง หรือจะมาด้วยเหตุผลอื่น เรายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัด แต่ก็ต้องยอมรับว่าเครื่องมือนักล่าเช่นนี้ ได้ผลอย่างชนิดเหลือเชื่อ การเรียนภาษาไทยจนเข้าใจและอ่านได้ ถึงขนาดอ่านขาดว่าม้าตัวเต็งชื่อสฤษดิ์จะเข้าวิน ทำให้อเมริกาเดินงานได้ตามแผนที่วางไว้เกือบทุกอย่าง แบบนี้จะมีหรือที่ อเมริกาจะไม่เก็บเครื่องมือชนิดนี้ไว้ใช้ต่อ แค่ดัดแปลงใส่ app ใหม่ๆเข้าไปเรื่อยๆเท่านั้น
    สถาบันเอเซียศึกษาไม่ว่าอยู่ใน เมืองไทย หรือในอเมริกา มาจากไหน หนังสือเกือบ 2000 เล่ม และแผ่นที่หอบไป ขยายผลได้มากมาย มูลนิธิต่างๆ เช่น Asia Foundation ….. ได้ถูกนำมาก่อตั้งในเมืองไทยมีทั้งแบบโจ๋งครึ่ม และปกปิด ครูบาอาจารย์หรือ ให้ทุนมันเข้าไป จะได้ไปรับวัฒนธรรมทางความคิดของอเมริกากลับเข้ามา เหตุการณ์ ค.ศ.1960 ที่ประธานาธิบดี Kennedy ฉุนขาดจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ผ่านมากว่า 50 ปี เรารู้กันบ้างไหมว่าเขาเอานาย Kenneth 1,2,3….. ถึง 1000 มาไว้บ้านเรากี่คนแล้ว ยกตัวอย่างเช่น นาย Kenneth รุ่นใหม่ ชื่อพี่เจฟ เข้ามาเป็น Peace Corp อยู่ทางใต้ (เดินตามรอยกันมาเดี๊ยะเชียวนะ ! ) ตั้งแต่ยังแน่นหนุ่ม ตอนนั้นทั้งเหี่ยวทั้งล้านก็ยังอยู่เมืองไทย เข้าออกในที่สูงที่ลับที่แจ้ง บนเวทีลุงกำนันก็ไปขึ้นมาแล้ว ขนพรรคพวกมาอยู่ข้างเวทีเกือบทุกวัน สมัยหนึ่ง 3-4 ปีมาแล้วถึงกับจัดงานหาทุนให้พรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่ง (ไม่เข็ดเรื่อง Lotus Project หรือไง ต้องให้แฉกันมากกว่านี้มั๊ย ? ท่านใดอ่านแล้วงงก็ไปหาอ่านกันต่อในนิทานเรื่องจิ๊กโก๋ปากซอยนะครับ) ยังมีทุนการศึกษาต่างๆ เช่น American Field Service (AFS) ที่ให้แก่นักเรียนชั้น ม. ปลาย ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยไปอยู่กับครอบครัวอเมริกัน ตั้งแต่สมัยสงครามเวียตนาม หลายๆคน เดี๋ยวนี้ก็ยังเข้มแข็งจัดงานเฉลิมฉลองมิตรไมตรีความเข้าใจอันดีของ 2 ประเทศอยู่ทุกปี ขนาดโดนเขาด่า เขามาแทรกแซงประเทศ คนพวกนี้ก็เหมือนจะเห็นบุญคุณของ 1 ปี ที่ไปอยู่กับเขามากกว่าแผ่นดินเกิดของตนเอง
    นี่ยังไม่ได้พูดถึงครูบาอาจารย์ ที่ได้ทุนไปเรียนปริญญาตรี โท เอก ของ Asia Foundation, Fulbright, Ford Foundation, Rockefeller ฯลฯ อาจารย์ต่างๆเหล่านี้ กลับมาสอนในมหาวิทยาลัยไทย แต่จัดหลักสูตรใหม่ตามที่ผู้ให้ทุนต้องการ เขารู้จักเรามากว่า 50 ปีแล้วจากที่แทบจะไม่มีใครในบ้านเมืองเขาได้ยินชื่อเมืองเราเลย จนเดี๋ยวนี้เขารู้จักเมืองเราทุกตารางนิ้ว รู้จักและใช้คนของเราทำงานเพื่อ ประโยชน์ของเขา เขาติดตามเราทุกย่างก้าว ครอบงำความคิด วัฒนธรรม การศึกษา ฯลฯ เราเกือบทุกเรื่อง โดยเราไม่รู้ตัว หรือรู้ตัว แต่ไม่รู้สึก ไม่ฉุกคิด ไม่เฉลียวใจ ไม่รับรู้ ไม่หวงแหน นี่ขนาดเขาใช้เครื่องมือล่าระดับง่ามไม้เล็กๆ เขายังกวาดข้อมูล นำไปใช้เป็นต้นแบบเครื่องมือล่าให้แม่นยำขึ้นไปอีก แล้วถ้าเราเจอเครื่องมือล่าประเภทหัวเจาะ ไม่ว่าเป็นประเภทหัวเจาะผมทอง หรือผมดำสัญชาติไทยแต่ใจเป็นอื่น ซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อยในบ้านเรา และอาจจะกำลังถูกนำมาใช้งานเร็วๆนี้ แล้วเราจะนั่งไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปหรือครับ

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 14 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 14 (ตอนจบ) หลังจากนาย Kenneth จัดอบรมหลักสูตรปรับพื้นสนามล่าได้ประมาณ
2 ปี วันหนึ่งในปี ค.ศ.1963 นาย Alexis Johnson ก็เข้ามาเยี่ยมระหว่างการฝึกอบรมและประกาศว่านาย Kenneth ทำหน้าที่ปรับพื้นสนามล่าได้ผล เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงจะให้นาย Kenneth ไปทำหน้าที่สำคัญกว่านั้น โดยเป็น Dean of Area Studies for the Foreign Service Institute ซึ่งเป็นการสร้างหลักสูตรสำหรับโปรแกรมต่างๆ ทั่วโลก เป็นงานนั่งโต๊ะ ซึ่งนาย Kenneth บอกว่าไม่รู้ตัวเลย ว่าเขาถูกปลดจากที่ยืนบนแท่นที่ มีไฟส่อง ไปนั่งโต๊ะทำงานในมุมมืด แต่งานมันมีมุมลึกกว่าเดิม ถึงจะลึกยังไง คงไม่สบกับอารมณ์ของนาย Kenneth ซึ่งชอบเสนอหน้า เขาทนนั่งทำงานอยู่ที่สถาบันนี้อยู่ 2,3 ปี จึงออกไปทำงานเป็นศาสตราจารย์เต็ม ตัวใน American University ตามคำชวนของนาย Ernest Griffith แห่ง Council for American Learned Studies ตกลง ใครนะเป็นเจ้าของ มิชชั่นนารี จากเมืองตรัง นาย Griffith ขอให้เขาตั้งสถาบันเอเซีย ท้ังตะวันออกเฉียงใต้และเอเซียใต้ที่ American University ซึ่งนาย Kenneth ก็ตกลง เขาคิดหลักสูตรและให้มีการสอนทั้งภาษา ไทย พม่า เวียตนาม ฮินดู และอินโดนีเซีย ฯลฯ หลังจากนั้นมหาวิทยาลัยดังๆ ต่างๆ ในอเมริกา ต่างพากันตั้งสถาบันทำนองนี้กันหมด ครอบคลุมไปหลาย area เครื่องมือนักล่าแพร่หลายและใช้การได้อย่างดี นาย Kenneth (หรือคนสร้างนาย Kenneth ? ) เป็นคนมองเห็นการณ์ไกลจริง และก็สถาบันแบบนี้แหละ ที่ ประมาณ 6,7 ปีมานี้ ไอ้โจรร้ายได้ส่งพวกอาจารย์นักบิด(เบือน)รุ่นใหญ่ ไปเป็นหัวหน้าภาควิชา โดยการสนับสนุนให้ทุนก้อนใหญ่ และการร่วมมือของพวกนักล่า ไปปรับหลักสูตรใหม่ โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับสถาบัน หลังจากน้ัน บทความที่บิดเบือนเกี่ยวกับสถาบัน เขียนโดยสมุนนักล่า และ ขี้ข้าโจร ก็ทยอยกันออกมา จนถึงทุกวันนี้ และตอนนี้ก็กำลังโหมฟืนเพิ่มไฟ นักล่าและไอ้โจรร้าย ทำทุกวิถีทางที่จะเขย่าเสาหลักให้คลอน การครอบครองแดนสมันน้อยจะได้ง่ายขึ้น เลิกสงสัยกันได้ว่า เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร อเมริกาซึ่งเคยรู้จักเมืองไทยแบบลางเลือน รู้แค่ว่าเมืองไทยมีแต่คนฝาแฝดตัวติดกัน รู้จักสถาบันกษัตริย์ของไทยผ่านสายตา ของนางพี่เลี้ยงที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและเพ้อเจ้อ เช่น นาง Anna Leonowens ก็ได้ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนไป คงต้องยอมรับว่า ฝีมือกระล่อนและความเป็นนักฉวยโอกาสของนาย Kenneth ได้ผล ทำให้เครื่องมือนักล่าประเภทนี้ขึ้นอันดับ อเมริกาติดใจดัดแปลงเครื่องมือชนิดนี้ไปเรื่อๆ นาย Kenneth มาเป็นมิชชั่นนารี อาสามาทำงานในเมืองไทยเอง หรือจะมาด้วยเหตุผลอื่น เรายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัด แต่ก็ต้องยอมรับว่าเครื่องมือนักล่าเช่นนี้ ได้ผลอย่างชนิดเหลือเชื่อ การเรียนภาษาไทยจนเข้าใจและอ่านได้ ถึงขนาดอ่านขาดว่าม้าตัวเต็งชื่อสฤษดิ์จะเข้าวิน ทำให้อเมริกาเดินงานได้ตามแผนที่วางไว้เกือบทุกอย่าง แบบนี้จะมีหรือที่ อเมริกาจะไม่เก็บเครื่องมือชนิดนี้ไว้ใช้ต่อ แค่ดัดแปลงใส่ app ใหม่ๆเข้าไปเรื่อยๆเท่านั้น สถาบันเอเซียศึกษาไม่ว่าอยู่ใน เมืองไทย หรือในอเมริกา มาจากไหน หนังสือเกือบ 2000 เล่ม และแผ่นที่หอบไป ขยายผลได้มากมาย มูลนิธิต่างๆ เช่น Asia Foundation ….. ได้ถูกนำมาก่อตั้งในเมืองไทยมีทั้งแบบโจ๋งครึ่ม และปกปิด ครูบาอาจารย์หรือ ให้ทุนมันเข้าไป จะได้ไปรับวัฒนธรรมทางความคิดของอเมริกากลับเข้ามา เหตุการณ์ ค.ศ.1960 ที่ประธานาธิบดี Kennedy ฉุนขาดจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ผ่านมากว่า 50 ปี เรารู้กันบ้างไหมว่าเขาเอานาย Kenneth 1,2,3….. ถึง 1000 มาไว้บ้านเรากี่คนแล้ว ยกตัวอย่างเช่น นาย Kenneth รุ่นใหม่ ชื่อพี่เจฟ เข้ามาเป็น Peace Corp อยู่ทางใต้ (เดินตามรอยกันมาเดี๊ยะเชียวนะ ! ) ตั้งแต่ยังแน่นหนุ่ม ตอนนั้นทั้งเหี่ยวทั้งล้านก็ยังอยู่เมืองไทย เข้าออกในที่สูงที่ลับที่แจ้ง บนเวทีลุงกำนันก็ไปขึ้นมาแล้ว ขนพรรคพวกมาอยู่ข้างเวทีเกือบทุกวัน สมัยหนึ่ง 3-4 ปีมาแล้วถึงกับจัดงานหาทุนให้พรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่ง (ไม่เข็ดเรื่อง Lotus Project หรือไง ต้องให้แฉกันมากกว่านี้มั๊ย ? ท่านใดอ่านแล้วงงก็ไปหาอ่านกันต่อในนิทานเรื่องจิ๊กโก๋ปากซอยนะครับ) ยังมีทุนการศึกษาต่างๆ เช่น American Field Service (AFS) ที่ให้แก่นักเรียนชั้น ม. ปลาย ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยไปอยู่กับครอบครัวอเมริกัน ตั้งแต่สมัยสงครามเวียตนาม หลายๆคน เดี๋ยวนี้ก็ยังเข้มแข็งจัดงานเฉลิมฉลองมิตรไมตรีความเข้าใจอันดีของ 2 ประเทศอยู่ทุกปี ขนาดโดนเขาด่า เขามาแทรกแซงประเทศ คนพวกนี้ก็เหมือนจะเห็นบุญคุณของ 1 ปี ที่ไปอยู่กับเขามากกว่าแผ่นดินเกิดของตนเอง นี่ยังไม่ได้พูดถึงครูบาอาจารย์ ที่ได้ทุนไปเรียนปริญญาตรี โท เอก ของ Asia Foundation, Fulbright, Ford Foundation, Rockefeller ฯลฯ อาจารย์ต่างๆเหล่านี้ กลับมาสอนในมหาวิทยาลัยไทย แต่จัดหลักสูตรใหม่ตามที่ผู้ให้ทุนต้องการ เขารู้จักเรามากว่า 50 ปีแล้วจากที่แทบจะไม่มีใครในบ้านเมืองเขาได้ยินชื่อเมืองเราเลย จนเดี๋ยวนี้เขารู้จักเมืองเราทุกตารางนิ้ว รู้จักและใช้คนของเราทำงานเพื่อ ประโยชน์ของเขา เขาติดตามเราทุกย่างก้าว ครอบงำความคิด วัฒนธรรม การศึกษา ฯลฯ เราเกือบทุกเรื่อง โดยเราไม่รู้ตัว หรือรู้ตัว แต่ไม่รู้สึก ไม่ฉุกคิด ไม่เฉลียวใจ ไม่รับรู้ ไม่หวงแหน นี่ขนาดเขาใช้เครื่องมือล่าระดับง่ามไม้เล็กๆ เขายังกวาดข้อมูล นำไปใช้เป็นต้นแบบเครื่องมือล่าให้แม่นยำขึ้นไปอีก แล้วถ้าเราเจอเครื่องมือล่าประเภทหัวเจาะ ไม่ว่าเป็นประเภทหัวเจาะผมทอง หรือผมดำสัญชาติไทยแต่ใจเป็นอื่น ซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อยในบ้านเรา และอาจจะกำลังถูกนำมาใช้งานเร็วๆนี้ แล้วเราจะนั่งไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปหรือครับ คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำธุรกิจต้องไว! เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ตัวเดียวจบทุกงาน!
    การทำผงวัตถุดิบแห้งให้ได้คุณภาพไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ช่วยให้การทำงานของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
    - ทรงพลัง: กำลังไฟ 1,400W บดได้ละเอียดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร เมล็ดกาแฟ หรือธัญพืช
    - รวดเร็ว: ความเร็ว 25,000 รอบ/นาที ประหยัดเวลาทำงาน เพิ่มกำลังการผลิต
    - คุ้มค่า: ความจุ 500g เหมาะสำหรับงานหลากหลาย ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง
    ลงทุนครั้งเดียว แต่คุ้มค่าเกินราคาแน่นอน!
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    แชท Facebook: m.me/yonghahheng
    LINE Business ID: @588okjbj (มี @ ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    E-mail: sales@yoryonghahheng.com และ yonghahheng@gmail.com
    เวลาเปิดทำการ:
    จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น.
    เสาร์: 8.00 - 16.00 น.
    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY #เครื่องบดสมุนไพร #บดแห้ง #เครื่องบดยา #ผงสมุนไพร #เครื่องบดอาหารแห้ง #เครื่องบดความเร็วสูง #ธุรกิจขนาดเล็ก #อุปกรณ์ทำอาหาร #สมุนไพร #เครื่องเทศ #เครื่องบดละเอียด #เครื่องบดอเนกประสงค์ #เครื่องบดพริก #เครื่องบดกาแฟ #เครื่องบดธัญพืช #เครื่องบดสมุนไพรผง #เครื่องบดสแตนเลส #เครื่องบดไฟฟ้า #เครื่องบดเมล็ดพืช #เครื่องบดวัตถุดิบ #เครื่องบดเครื่องเทศ #บดผง #อุปกรณ์ทำครัว #เครื่องบด #เครื่องบดอาหาร #ของแห้ง
    ทำธุรกิจต้องไว! 🚀 เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ตัวเดียวจบทุกงาน! การทำผงวัตถุดิบแห้งให้ได้คุณภาพไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ช่วยให้การทำงานของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว 💨 - ทรงพลัง: กำลังไฟ 1,400W บดได้ละเอียดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร เมล็ดกาแฟ หรือธัญพืช 🌾 - รวดเร็ว: ความเร็ว 25,000 รอบ/นาที ประหยัดเวลาทำงาน เพิ่มกำลังการผลิต 📈 - คุ้มค่า: ความจุ 500g เหมาะสำหรับงานหลากหลาย ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง 👍 ลงทุนครั้งเดียว แต่คุ้มค่าเกินราคาแน่นอน! ✨ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 📍 แชท Facebook: m.me/yonghahheng 💬 LINE Business ID: @588okjbj (มี @ ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp 📱 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098 📞 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 💻 E-mail: sales@yoryonghahheng.com และ yonghahheng@gmail.com 📧 เวลาเปิดทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น. เสาร์: 8.00 - 16.00 น. #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY #เครื่องบดสมุนไพร #บดแห้ง #เครื่องบดยา #ผงสมุนไพร #เครื่องบดอาหารแห้ง #เครื่องบดความเร็วสูง #ธุรกิจขนาดเล็ก #อุปกรณ์ทำอาหาร #สมุนไพร #เครื่องเทศ #เครื่องบดละเอียด #เครื่องบดอเนกประสงค์ #เครื่องบดพริก #เครื่องบดกาแฟ #เครื่องบดธัญพืช #เครื่องบดสมุนไพรผง #เครื่องบดสแตนเลส #เครื่องบดไฟฟ้า #เครื่องบดเมล็ดพืช #เครื่องบดวัตถุดิบ #เครื่องบดเครื่องเทศ #บดผง #อุปกรณ์ทำครัว #เครื่องบด #เครื่องบดอาหาร #ของแห้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความผิดฐานชิงทรัพย์ ตามมาตรา 339
    #กฎหมาย #ทนายความ
    --------------------------------------------------------------------
    ช่องทางการติดตามจันทศิษฐ์ทนายความ
    Instagram : https://www.instagram.com/jantasit_lawyer/...#
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYy2exOkFMr_k62i0a_vbCQ
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@jantasit_law36?is_from_webapp=1...
    Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/jtslawyer
    Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/684063179fb20fd9a69d4639
    Line Offcial : https://lin.ee/HfQHAph
    ความผิดฐานชิงทรัพย์ ตามมาตรา 339 #กฎหมาย #ทนายความ -------------------------------------------------------------------- ช่องทางการติดตามจันทศิษฐ์ทนายความ Instagram : https://www.instagram.com/jantasit_lawyer/...# Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYy2exOkFMr_k62i0a_vbCQ Tiktok : https://www.tiktok.com/@jantasit_law36?is_from_webapp=1... Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/jtslawyer Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/684063179fb20fd9a69d4639 Line Offcial : https://lin.ee/HfQHAph
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • EP.79 : ความผิดฐานชิงทรัพย์ ตามมาตรา 339
    --------------------------------------------------------------------
    ช่องทางการติดตามจันทศิษฐ์ทนายความ
    Instagram : https://www.instagram.com/jantasit_lawyer/...#
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYy2exOkFMr_k62i0a_vbCQ
    Tiktok : https://www.tiktok.com/@jantasit_law36?is_from_webapp=1...
    Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/jtslawyer
    Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/684063179fb20fd9a69d4639
    Line Offcial : https://lin.ee/HfQHAph
    EP.79 : ความผิดฐานชิงทรัพย์ ตามมาตรา 339 -------------------------------------------------------------------- ช่องทางการติดตามจันทศิษฐ์ทนายความ Instagram : https://www.instagram.com/jantasit_lawyer/...# Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYy2exOkFMr_k62i0a_vbCQ Tiktok : https://www.tiktok.com/@jantasit_law36?is_from_webapp=1... Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/jtslawyer Blockdit : https://www.blockdit.com/pages/684063179fb20fd9a69d4639 Line Offcial : https://lin.ee/HfQHAph
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศึกขายคีย์ Windows มือสองเดือด! Microsoft สู้คดีในศาลอังกฤษ อาจทำให้ตลาดคีย์ราคาถูกทั่วยุโรปพังทั้งระบบ”

    ถ้าคุณเคยซื้อคีย์ Windows หรือ Office ราคาถูกจากเว็บรีเซลเลอร์ในยุโรป — ตอนนี้สิ่งนั้นอาจกลายเป็นอดีต เพราะ Microsoft กำลังต่อสู้คดีครั้งสำคัญกับบริษัท ValueLicensing ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงกฎการขายซอฟต์แวร์มือสองทั้งทวีป

    คดีนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 เมื่อ ValueLicensing ฟ้อง Microsoft มูลค่า 270 ล้านปอนด์ โดยกล่าวหาว่า Microsoft ใช้กลยุทธ์ผูกขาด เช่น เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อของไลเซนส์แบบถาวร ทำให้ตลาดซอฟต์แวร์มือสองถูกบีบจนแทบหายไป

    แต่ในปี 2025 Microsoft เปลี่ยนแนวทางการป้องกันจาก “เราไม่ได้ทำ” เป็น “ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก” โดยอ้างว่ากฎหมายการขายต่อซอฟต์แวร์ในยุโรป (EU Software Directive) ใช้ได้เฉพาะกับ “โปรแกรม” เท่านั้น ไม่รวมส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI หรือองค์ประกอบอื่นที่ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ — ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์ทั้งหมดอาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

    การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน และจะใช้เวลาสามวันเพื่อวินิจฉัยประเด็นลิขสิทธิ์ก่อนเข้าสู่การไต่สวนเต็มรูปแบบในปี 2026 ซึ่งจะเป็นการตัดสินว่าการขายคีย์มือสองในยุโรปนั้น “ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่”

    ผลกระทบอาจรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงที่ Windows 10 กำลังจะหมดการสนับสนุนในเดือนหน้า และผู้ใช้จำนวนมากต้องอัปเกรด — ถ้าคีย์ราคาถูกหายไป ราคาค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดอาจพุ่งขึ้นทันที

    ข้อมูลจากคดี Microsoft vs ValueLicensing
    คดีเริ่มต้นในปี 2021 ด้วยข้อกล่าวหาว่า Microsoft ผูกขาดตลาดซอฟต์แวร์มือสอง
    มูลค่าความเสียหายที่ ValueLicensing อ้างคือ 270 ล้านปอนด์
    Microsoft เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อ
    การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มวันที่ 9 กันยายน 2025

    ประเด็นทางกฎหมายที่ถกเถียง
    Microsoft อ้างว่ากฎหมาย EU Software Directive ใช้ได้เฉพาะ “โปรแกรม”
    ส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์
    ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์อาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
    การตีความนี้อาจส่งผลต่อการขายซอฟต์แวร์มือสองทั่วทั้งยุโรปและสหราชอาณาจักร

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
    คีย์ราคาถูกเป็นที่นิยมในกลุ่ม DIY และผู้ประกอบคอมพิวเตอร์
    การอัปเกรดจาก Windows 10 อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
    ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ Microsoft 365 อาจไม่มีทางเลือกอื่น
    ตลาดรีเซลอาจหายไปทั้งระบบ หากคำตัดสินเข้าข้าง Microsoft

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    คดีนี้อยู่ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร
    ValueLicensing เคยกล่าวว่า “ถ้า Microsoft ชนะ ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก”
    Microsoft เคยใช้แนวทาง “เราไม่ได้ทำ” ก่อนเปลี่ยนเป็น “ตลาดนี้ผิดกฎหมาย”
    คดีเต็มรูปแบบจะเริ่มในปี 2026

    https://www.tomshardware.com/software/microsoft-resale-fight-heads-to-uk-court
    ⚖️ “ศึกขายคีย์ Windows มือสองเดือด! Microsoft สู้คดีในศาลอังกฤษ อาจทำให้ตลาดคีย์ราคาถูกทั่วยุโรปพังทั้งระบบ” ถ้าคุณเคยซื้อคีย์ Windows หรือ Office ราคาถูกจากเว็บรีเซลเลอร์ในยุโรป — ตอนนี้สิ่งนั้นอาจกลายเป็นอดีต เพราะ Microsoft กำลังต่อสู้คดีครั้งสำคัญกับบริษัท ValueLicensing ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงกฎการขายซอฟต์แวร์มือสองทั้งทวีป คดีนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 เมื่อ ValueLicensing ฟ้อง Microsoft มูลค่า 270 ล้านปอนด์ โดยกล่าวหาว่า Microsoft ใช้กลยุทธ์ผูกขาด เช่น เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อของไลเซนส์แบบถาวร ทำให้ตลาดซอฟต์แวร์มือสองถูกบีบจนแทบหายไป แต่ในปี 2025 Microsoft เปลี่ยนแนวทางการป้องกันจาก “เราไม่ได้ทำ” เป็น “ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก” โดยอ้างว่ากฎหมายการขายต่อซอฟต์แวร์ในยุโรป (EU Software Directive) ใช้ได้เฉพาะกับ “โปรแกรม” เท่านั้น ไม่รวมส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI หรือองค์ประกอบอื่นที่ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ — ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์ทั้งหมดอาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน และจะใช้เวลาสามวันเพื่อวินิจฉัยประเด็นลิขสิทธิ์ก่อนเข้าสู่การไต่สวนเต็มรูปแบบในปี 2026 ซึ่งจะเป็นการตัดสินว่าการขายคีย์มือสองในยุโรปนั้น “ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่” ผลกระทบอาจรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงที่ Windows 10 กำลังจะหมดการสนับสนุนในเดือนหน้า และผู้ใช้จำนวนมากต้องอัปเกรด — ถ้าคีย์ราคาถูกหายไป ราคาค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดอาจพุ่งขึ้นทันที ✅ ข้อมูลจากคดี Microsoft vs ValueLicensing ➡️ คดีเริ่มต้นในปี 2021 ด้วยข้อกล่าวหาว่า Microsoft ผูกขาดตลาดซอฟต์แวร์มือสอง ➡️ มูลค่าความเสียหายที่ ValueLicensing อ้างคือ 270 ล้านปอนด์ ➡️ Microsoft เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อ ➡️ การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มวันที่ 9 กันยายน 2025 ✅ ประเด็นทางกฎหมายที่ถกเถียง ➡️ Microsoft อ้างว่ากฎหมาย EU Software Directive ใช้ได้เฉพาะ “โปรแกรม” ➡️ ส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ ➡️ ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์อาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ➡️ การตีความนี้อาจส่งผลต่อการขายซอฟต์แวร์มือสองทั่วทั้งยุโรปและสหราชอาณาจักร ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน ➡️ คีย์ราคาถูกเป็นที่นิยมในกลุ่ม DIY และผู้ประกอบคอมพิวเตอร์ ➡️ การอัปเกรดจาก Windows 10 อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ➡️ ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ Microsoft 365 อาจไม่มีทางเลือกอื่น ➡️ ตลาดรีเซลอาจหายไปทั้งระบบ หากคำตัดสินเข้าข้าง Microsoft ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ คดีนี้อยู่ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร ➡️ ValueLicensing เคยกล่าวว่า “ถ้า Microsoft ชนะ ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก” ➡️ Microsoft เคยใช้แนวทาง “เราไม่ได้ทำ” ก่อนเปลี่ยนเป็น “ตลาดนี้ผิดกฎหมาย” ➡️ คดีเต็มรูปแบบจะเริ่มในปี 2026 https://www.tomshardware.com/software/microsoft-resale-fight-heads-to-uk-court
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Microsoft key resale fight heads to court in the UK — case potentially puts cheap Windows keys at risk
    Tribunal weighs whether parts of Windows and Office fall outside Europe’s resale rules.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Apple เปิดตัวชิป A19 และ A19 Pro สำหรับ iPhone 17 และ iPhone Air — เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น เย็นขึ้น พร้อม AI แบบ MacBook ในมือถือ!”

    Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ 4 รุ่น ได้แก่ iPhone 17, iPhone Air, iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max พร้อมชิปใหม่ล่าสุด A19 และ A19 Pro ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับยุคของ Apple Intelligence และการประมวลผล AI บนอุปกรณ์โดยตรง

    ชิป A19 ใช้ใน iPhone 17 รุ่นพื้นฐาน มี CPU แบบ 6-core (2 performance + 4 efficiency) และ GPU 5-core รองรับ ray tracing, mesh shading และ MetalFX upscaling ส่วน A19 Pro ใช้ใน iPhone Air และรุ่น Pro โดยมี GPU 5-core สำหรับ Air และ 6-core สำหรับรุ่น Pro พร้อม Neural Accelerators ในแต่ละ core เพื่อเร่งการประมวลผล AI แบบ on-device

    A19 Pro ยังมีการปรับปรุงสถาปัตยกรรม CPU เช่น branch prediction ที่แม่นยำขึ้น, front-end bandwidth ที่กว้างขึ้น และ cache ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 50% ใน efficiency core ทำให้สามารถรักษาประสิทธิภาพได้สูงขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับ A18 Pro รุ่นก่อนหน้า

    iPhone 17 Pro และ Pro Max ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber ที่ใช้ดีไอออนไนซ์วอเตอร์ในโครงสร้าง unibody อะลูมิเนียม ซึ่ง Apple เคลมว่าระบายความร้อนได้ดีกว่าไทเทเนียมถึง 20 เท่า — ช่วยให้ชิปทำงานเต็มประสิทธิภาพโดยไม่ร้อนเกินไป

    นอกจากนี้ Apple ยังเปิดตัวชิป N1 สำหรับการเชื่อมต่อไร้สาย รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread รวมถึงโมเด็ม C1X ที่เร็วขึ้น 2 เท่าแต่ยังไม่รองรับ mmWave โดย iPhone 17 และ Pro รุ่นใหม่ยังใช้โมเด็ม Qualcomm เพื่อรองรับ 5G แบบเต็มรูปแบบ

    ชิป A19 และ A19 Pro
    A19: CPU 6-core (2P + 4E), GPU 5-core, รองรับ ray tracing และ MetalFX
    A19 Pro: GPU 5-core (Air) / 6-core (Pro), มี Neural Accelerators ในแต่ละ core
    ปรับปรุง branch prediction, bandwidth และ cache ใน efficiency core
    ประสิทธิภาพสูงขึ้น 40% เมื่อเทียบกับ A18 Pro

    ระบบระบายความร้อนใหม่
    ใช้ vapor chamber filled with deionized water
    โครงสร้าง unibody อะลูมิเนียม ระบายความร้อนได้ดีกว่าไทเทเนียม 20 เท่า
    ช่วยให้ iPhone Pro รุ่นใหม่รักษาความเร็วได้ต่อเนื่อง

    ชิปเชื่อมต่อ N1 และโมเด็ม C1X
    N1 รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread
    เพิ่มประสิทธิภาพ AirDrop และ Personal Hotspot
    C1X เร็วขึ้น 2 เท่า แต่ไม่รองรับ mmWave
    iPhone 17 และ Pro ยังใช้โมเด็ม Qualcomm สำหรับ 5G เต็มรูปแบบ

    การใช้งาน AI บนอุปกรณ์
    Neural Accelerators ช่วยให้ประมวลผล Apple Intelligence ได้เร็วขึ้น
    รองรับฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26 เช่น การแปลภาษา, การจัดการข้อความ, และการวิเคราะห์ภาพ
    iPhone Air มีประสิทธิภาพระดับ MacBook Pro ในขนาดมือถือ

    ราคาและการวางจำหน่าย
    iPhone 17 เริ่มต้นที่ $799, iPhone Air เริ่มต้นที่ $999
    iPhone 17 Pro และ Pro Max เริ่มต้นที่ $1,099 และ $1,199
    เปิดพรีออเดอร์วันที่ 12 กันยายน และวางขายวันที่ 19 กันยายน
    รุ่น Pro Max มีตัวเลือกความจุสูงสุดถึง 2TB

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/apple-debuts-a19-and-a19-pro-processors-for-iphone-17-iphone-air-and-iphone-17-pro
    📱 “Apple เปิดตัวชิป A19 และ A19 Pro สำหรับ iPhone 17 และ iPhone Air — เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น เย็นขึ้น พร้อม AI แบบ MacBook ในมือถือ!” Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ 4 รุ่น ได้แก่ iPhone 17, iPhone Air, iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max พร้อมชิปใหม่ล่าสุด A19 และ A19 Pro ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับยุคของ Apple Intelligence และการประมวลผล AI บนอุปกรณ์โดยตรง ชิป A19 ใช้ใน iPhone 17 รุ่นพื้นฐาน มี CPU แบบ 6-core (2 performance + 4 efficiency) และ GPU 5-core รองรับ ray tracing, mesh shading และ MetalFX upscaling ส่วน A19 Pro ใช้ใน iPhone Air และรุ่น Pro โดยมี GPU 5-core สำหรับ Air และ 6-core สำหรับรุ่น Pro พร้อม Neural Accelerators ในแต่ละ core เพื่อเร่งการประมวลผล AI แบบ on-device A19 Pro ยังมีการปรับปรุงสถาปัตยกรรม CPU เช่น branch prediction ที่แม่นยำขึ้น, front-end bandwidth ที่กว้างขึ้น และ cache ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 50% ใน efficiency core ทำให้สามารถรักษาประสิทธิภาพได้สูงขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับ A18 Pro รุ่นก่อนหน้า iPhone 17 Pro และ Pro Max ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber ที่ใช้ดีไอออนไนซ์วอเตอร์ในโครงสร้าง unibody อะลูมิเนียม ซึ่ง Apple เคลมว่าระบายความร้อนได้ดีกว่าไทเทเนียมถึง 20 เท่า — ช่วยให้ชิปทำงานเต็มประสิทธิภาพโดยไม่ร้อนเกินไป นอกจากนี้ Apple ยังเปิดตัวชิป N1 สำหรับการเชื่อมต่อไร้สาย รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread รวมถึงโมเด็ม C1X ที่เร็วขึ้น 2 เท่าแต่ยังไม่รองรับ mmWave โดย iPhone 17 และ Pro รุ่นใหม่ยังใช้โมเด็ม Qualcomm เพื่อรองรับ 5G แบบเต็มรูปแบบ ✅ ชิป A19 และ A19 Pro ➡️ A19: CPU 6-core (2P + 4E), GPU 5-core, รองรับ ray tracing และ MetalFX ➡️ A19 Pro: GPU 5-core (Air) / 6-core (Pro), มี Neural Accelerators ในแต่ละ core ➡️ ปรับปรุง branch prediction, bandwidth และ cache ใน efficiency core ➡️ ประสิทธิภาพสูงขึ้น 40% เมื่อเทียบกับ A18 Pro ✅ ระบบระบายความร้อนใหม่ ➡️ ใช้ vapor chamber filled with deionized water ➡️ โครงสร้าง unibody อะลูมิเนียม ระบายความร้อนได้ดีกว่าไทเทเนียม 20 เท่า ➡️ ช่วยให้ iPhone Pro รุ่นใหม่รักษาความเร็วได้ต่อเนื่อง ✅ ชิปเชื่อมต่อ N1 และโมเด็ม C1X ➡️ N1 รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพ AirDrop และ Personal Hotspot ➡️ C1X เร็วขึ้น 2 เท่า แต่ไม่รองรับ mmWave ➡️ iPhone 17 และ Pro ยังใช้โมเด็ม Qualcomm สำหรับ 5G เต็มรูปแบบ ✅ การใช้งาน AI บนอุปกรณ์ ➡️ Neural Accelerators ช่วยให้ประมวลผล Apple Intelligence ได้เร็วขึ้น ➡️ รองรับฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26 เช่น การแปลภาษา, การจัดการข้อความ, และการวิเคราะห์ภาพ ➡️ iPhone Air มีประสิทธิภาพระดับ MacBook Pro ในขนาดมือถือ ✅ ราคาและการวางจำหน่าย ➡️ iPhone 17 เริ่มต้นที่ $799, iPhone Air เริ่มต้นที่ $999 ➡️ iPhone 17 Pro และ Pro Max เริ่มต้นที่ $1,099 และ $1,199 ➡️ เปิดพรีออเดอร์วันที่ 12 กันยายน และวางขายวันที่ 19 กันยายน ➡️ รุ่น Pro Max มีตัวเลือกความจุสูงสุดถึง 2TB https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/apple-debuts-a19-and-a19-pro-processors-for-iphone-17-iphone-air-and-iphone-17-pro
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Alterego เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ ‘ใกล้เคียงโทรจิต’ พิมพ์ด้วยความคิด คุยเงียบๆ ได้ และแปลภาษาแบบไร้เสียง — ก้าวใหม่ของการสื่อสารมนุษย์กับ AI”

    ถ้าคุณเคยฝันถึงการสื่อสารแบบไม่ต้องพูด ไม่ต้องพิมพ์ แค่ “คิด” แล้วคำพูดก็ปรากฏ — ตอนนี้มันไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไป เพราะสตาร์ทอัพชื่อ Alterego ได้เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ที่อ้างว่าเป็น “wearable ใกล้เคียงโทรจิตตัวแรกของโลก” ที่สามารถพิมพ์ข้อความด้วยความคิด ควบคุมอุปกรณ์แบบไร้มือ และสื่อสารกับคนอื่นแบบเงียบๆ ได้

    อุปกรณ์นี้พัฒนาโดย Arnav Kapur จาก MIT Media Lab และ Max Newlon จาก Harvard Innovation Labs โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “Silent Sense” ซึ่งไม่ใช่การอ่านความคิดโดยตรง แต่เป็นการตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อที่สมองส่งไปยังระบบพูด ก่อนที่เราจะเปล่งเสียงออกมา — ทำให้สามารถแปลงความตั้งใจเป็นคำสั่งหรือข้อความได้ทันที

    ในวิดีโอสาธิต Kapur ใช้อุปกรณ์นี้พิมพ์ข้อความโดยไม่แตะคีย์บอร์ด ตั้งเตือนในมือถือ และถามคำถามเกี่ยวกับภาพที่เห็นผ่านกล้องขนาดเล็กในตัวอุปกรณ์ จากนั้นเขาสื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้ร่วมก่อตั้งผ่าน bone-conduction audio โดยไม่มีเสียงใดๆ ออกมา

    ที่น่าทึ่งคือการแปลภาษาแบบไร้เสียง — Kapur พูดภาษาอังกฤษ แล้วผู้ร่วมสนทนาที่พูดภาษาจีนเข้าใจทันทีผ่านระบบแปลในตัว ซึ่งอาจเป็นประโยชน์มหาศาลสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการพูด เช่น ALS หรือผู้พิการทางเสียง

    แม้จะดูเหมือนหลุดมาจากนิยายไซไฟ แต่ Alterego ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้ไม่อ่านความคิดลึกๆ และไม่มีการเก็บข้อมูลสมองโดยตรง ต่างจากเทคโนโลยีฝังชิปอย่าง Neuralink หรือ EMG แบบสายรัดข้อมือของ Meta — โดยเน้นความปลอดภัยและการควบคุมจากผู้ใช้เป็นหลัก

    ความสามารถของอุปกรณ์ Alterego
    พิมพ์ข้อความด้วยความคิดโดยไม่ต้องใช้คีย์บอร์ด
    สื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้อื่นผ่าน bone-conduction audio
    ควบคุมอุปกรณ์และแอปพลิเคชันแบบไร้มือ
    ค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแบบไร้เสียง
    ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวผ่านกล้องในตัว
    แปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องพูดออกเสียง
    ช่วยฟื้นฟูการพูดสำหรับผู้มีปัญหาด้านเสียงหรือระบบประสาท

    เทคโนโลยีเบื้องหลัง
    ใช้การตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อจากใบหน้าและลำคอ
    ไม่ใช่การอ่านคลื่นสมองหรือ EEG
    ส่งข้อมูลผ่าน bone-conduction กลับไปยังผู้ใช้
    พัฒนาโดยทีมจาก MIT และ Harvard Innovation Labs

    การใช้งานจริงในวิดีโอสาธิต
    พิมพ์ข้อความ ตั้งเตือน และถามคำถามจากภาพ
    สื่อสารแบบเงียบกับผู้ร่วมก่อตั้ง
    แปลภาษาอังกฤษ–จีนแบบไร้เสียง
    ใช้กล้องในตัวเพื่อเข้าใจสิ่งแวดล้อม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เทคโนโลยีนี้เคยถูกนำเสนอใน TED ปี 2019
    เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องฝังชิปหรือใช้สายรัดกล้ามเนื้อ
    เหมาะกับผู้ใช้งานในพื้นที่เสียงดัง เช่น โรงงานหรือสนามบิน
    อาจเป็นจุดเปลี่ยนของการสื่อสารมนุษย์กับ AI ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/alterego-demoes-worlds-first-near-telepathic-wearable-that-enables-typing-at-the-speed-of-thought-other-abilities-device-said-to-enable-silent-communication-with-others-control-devices-hands-free-and-restore-speech-for-impaired
    🧠 “Alterego เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ ‘ใกล้เคียงโทรจิต’ พิมพ์ด้วยความคิด คุยเงียบๆ ได้ และแปลภาษาแบบไร้เสียง — ก้าวใหม่ของการสื่อสารมนุษย์กับ AI” ถ้าคุณเคยฝันถึงการสื่อสารแบบไม่ต้องพูด ไม่ต้องพิมพ์ แค่ “คิด” แล้วคำพูดก็ปรากฏ — ตอนนี้มันไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไป เพราะสตาร์ทอัพชื่อ Alterego ได้เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ที่อ้างว่าเป็น “wearable ใกล้เคียงโทรจิตตัวแรกของโลก” ที่สามารถพิมพ์ข้อความด้วยความคิด ควบคุมอุปกรณ์แบบไร้มือ และสื่อสารกับคนอื่นแบบเงียบๆ ได้ อุปกรณ์นี้พัฒนาโดย Arnav Kapur จาก MIT Media Lab และ Max Newlon จาก Harvard Innovation Labs โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “Silent Sense” ซึ่งไม่ใช่การอ่านความคิดโดยตรง แต่เป็นการตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อที่สมองส่งไปยังระบบพูด ก่อนที่เราจะเปล่งเสียงออกมา — ทำให้สามารถแปลงความตั้งใจเป็นคำสั่งหรือข้อความได้ทันที ในวิดีโอสาธิต Kapur ใช้อุปกรณ์นี้พิมพ์ข้อความโดยไม่แตะคีย์บอร์ด ตั้งเตือนในมือถือ และถามคำถามเกี่ยวกับภาพที่เห็นผ่านกล้องขนาดเล็กในตัวอุปกรณ์ จากนั้นเขาสื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้ร่วมก่อตั้งผ่าน bone-conduction audio โดยไม่มีเสียงใดๆ ออกมา ที่น่าทึ่งคือการแปลภาษาแบบไร้เสียง — Kapur พูดภาษาอังกฤษ แล้วผู้ร่วมสนทนาที่พูดภาษาจีนเข้าใจทันทีผ่านระบบแปลในตัว ซึ่งอาจเป็นประโยชน์มหาศาลสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการพูด เช่น ALS หรือผู้พิการทางเสียง แม้จะดูเหมือนหลุดมาจากนิยายไซไฟ แต่ Alterego ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้ไม่อ่านความคิดลึกๆ และไม่มีการเก็บข้อมูลสมองโดยตรง ต่างจากเทคโนโลยีฝังชิปอย่าง Neuralink หรือ EMG แบบสายรัดข้อมือของ Meta — โดยเน้นความปลอดภัยและการควบคุมจากผู้ใช้เป็นหลัก ✅ ความสามารถของอุปกรณ์ Alterego ➡️ พิมพ์ข้อความด้วยความคิดโดยไม่ต้องใช้คีย์บอร์ด ➡️ สื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้อื่นผ่าน bone-conduction audio ➡️ ควบคุมอุปกรณ์และแอปพลิเคชันแบบไร้มือ ➡️ ค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแบบไร้เสียง ➡️ ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวผ่านกล้องในตัว ➡️ แปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องพูดออกเสียง ➡️ ช่วยฟื้นฟูการพูดสำหรับผู้มีปัญหาด้านเสียงหรือระบบประสาท ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง ➡️ ใช้การตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อจากใบหน้าและลำคอ ➡️ ไม่ใช่การอ่านคลื่นสมองหรือ EEG ➡️ ส่งข้อมูลผ่าน bone-conduction กลับไปยังผู้ใช้ ➡️ พัฒนาโดยทีมจาก MIT และ Harvard Innovation Labs ✅ การใช้งานจริงในวิดีโอสาธิต ➡️ พิมพ์ข้อความ ตั้งเตือน และถามคำถามจากภาพ ➡️ สื่อสารแบบเงียบกับผู้ร่วมก่อตั้ง ➡️ แปลภาษาอังกฤษ–จีนแบบไร้เสียง ➡️ ใช้กล้องในตัวเพื่อเข้าใจสิ่งแวดล้อม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เทคโนโลยีนี้เคยถูกนำเสนอใน TED ปี 2019 ➡️ เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องฝังชิปหรือใช้สายรัดกล้ามเนื้อ ➡️ เหมาะกับผู้ใช้งานในพื้นที่เสียงดัง เช่น โรงงานหรือสนามบิน ➡️ อาจเป็นจุดเปลี่ยนของการสื่อสารมนุษย์กับ AI ในอนาคต https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/alterego-demoes-worlds-first-near-telepathic-wearable-that-enables-typing-at-the-speed-of-thought-other-abilities-device-said-to-enable-silent-communication-with-others-control-devices-hands-free-and-restore-speech-for-impaired
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • “มัลแวร์สายพันธุ์ใหม่โจมตี Docker API! ไม่ขุดคริปโต แต่สร้างเครือข่ายบอตเน็ต — พร้อมกลไกปิดประตูใส่คู่แข่ง”

    ถ้าคุณคิดว่า Docker API ที่เปิดไว้แค่ “ทดสอบ” จะไม่มีใครสนใจ — ตอนนี้คุณอาจต้องคิดใหม่ เพราะ Akamai พบมัลแวร์สายพันธุ์ใหม่ที่ใช้ช่องโหว่จาก Docker API ที่เปิดสาธารณะ เพื่อสร้างเครือข่ายควบคุมระบบแบบลับๆ โดยไม่เน้นขุดคริปโตเหมือนที่ผ่านมา แต่เน้น “ยึดพื้นที่” และ “กันคู่แข่งออก” เพื่อเตรียมสร้างบอตเน็ตในอนาคต

    ย้อนกลับไปช่วงกลางปี 2025 Trend Micro เคยรายงานมัลแวร์ที่ใช้ Docker API ที่เปิดไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อรัน container ที่มี cryptominer ผ่านโดเมน Tor แต่ในเวอร์ชันล่าสุดที่ Akamai ตรวจพบจาก honeypot ในเดือนสิงหาคมนั้น เป้าหมายเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน — มัลแวร์จะบล็อกการเข้าถึง API จากภายนอกทันทีที่ติดตั้ง และฝังเครื่องมือควบคุมระบบแทน

    หลังจากเข้าถึงระบบได้ มัลแวร์จะรันสคริปต์ที่ถูกเข้ารหัสแบบ Base64 เพื่อฝังตัวถาวร และบล็อกพอร์ต 2375 ซึ่งเป็นพอร์ตหลักของ Docker API เพื่อกันไม่ให้แฮกเกอร์รายอื่นเข้ามาแทรกแซง จากนั้นจะดาวน์โหลด binary dropper ที่เขียนด้วยภาษา Go ซึ่งมีโค้ดแปลกๆ เช่น emoji รูป “ผู้ใช้” ที่อาจบ่งบอกว่าใช้ LLM ช่วยเขียนโค้ด

    มัลแวร์ยังใช้ masscan เพื่อสแกนหา Docker API ที่เปิดอยู่ในระบบอื่น แล้วพยายามติดตั้งตัวเองซ้ำในเซิร์ฟเวอร์เหล่านั้น — เป็นการเริ่มต้นสร้างเครือข่ายบอตเน็ตแบบแพร่กระจายตัวเอง และยังมีโค้ดที่เตรียมไว้สำหรับโจมตีผ่าน Telnet และ Chrome remote debugging port แม้ยังไม่เปิดใช้งานในเวอร์ชันนี้

    ที่น่าสนใจคือ มัลแวร์จะตรวจสอบ container ที่รัน Ubuntu ซึ่งมักถูกใช้โดยแฮกเกอร์รายอื่นในการขุดคริปโต แล้วลบออกทันที เพื่อยึดพื้นที่ให้ตัวเอง — สะท้อนว่าเป้าหมายของแคมเปญนี้ไม่ใช่แค่การหารายได้ แต่เป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานควบคุมระบบในระยะยาว

    Akamai ใช้โครงการ Beelzebub honeypot ที่จำลองการตอบสนองของ Docker API เพื่อดึงดูดแฮกเกอร์ให้เปิดเผยพฤติกรรม และสามารถระบุ IOC (Indicators of Compromise) ได้ เช่น onion domain, webhook และ hash ของไฟล์มัลแวร์.

    ลักษณะของมัลแวร์ Docker สายพันธุ์ใหม่
    โจมตีผ่าน Docker API ที่เปิดสาธารณะโดยไม่ได้ตั้งใจ
    ไม่ติดตั้ง cryptominer แต่ฝังเครื่องมือควบคุมระบบ
    บล็อกพอร์ต 2375 เพื่อกันไม่ให้แฮกเกอร์รายอื่นเข้ามา
    ใช้ Base64 script เพื่อฝังตัวและสร้าง persistence

    พฤติกรรมหลังติดตั้ง
    ดาวน์โหลด binary dropper ที่เขียนด้วย Go
    ใช้ masscan สแกนหา Docker API ในระบบอื่น
    พยายามติดตั้งตัวเองซ้ำเพื่อสร้างเครือข่ายบอตเน็ต
    มีโค้ดเตรียมโจมตีผ่าน Telnet และ Chrome remote debugging port

    การจัดการคู่แข่ง
    ตรวจสอบ container ที่รัน Ubuntu ซึ่งมักใช้ขุดคริปโต
    ลบ container เหล่านั้นเพื่อยึดพื้นที่ให้ตัวเอง
    สะท้อนเป้าหมายในการสร้างโครงสร้างควบคุมระยะยาว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เวอร์ชันก่อนหน้าที่ Trend Micro พบในเดือนมิถุนายน 2025 ใช้ Tor และติดตั้ง XMRig miner
    โค้ดของ dropper มี emoji ซึ่งอาจบ่งบอกว่าใช้ LLM ช่วยเขียน
    Akamai ใช้ Beelzebub honeypot เพื่อศึกษาพฤติกรรมมัลแวร์
    พบ IOC เช่น onion domain, webhook และ file hash ที่เกี่ยวข้องกับมัลแวร์

    https://hackread.com/new-docker-malware-blocking-rivals-exposed-apis/
    🐙 “มัลแวร์สายพันธุ์ใหม่โจมตี Docker API! ไม่ขุดคริปโต แต่สร้างเครือข่ายบอตเน็ต — พร้อมกลไกปิดประตูใส่คู่แข่ง” ถ้าคุณคิดว่า Docker API ที่เปิดไว้แค่ “ทดสอบ” จะไม่มีใครสนใจ — ตอนนี้คุณอาจต้องคิดใหม่ เพราะ Akamai พบมัลแวร์สายพันธุ์ใหม่ที่ใช้ช่องโหว่จาก Docker API ที่เปิดสาธารณะ เพื่อสร้างเครือข่ายควบคุมระบบแบบลับๆ โดยไม่เน้นขุดคริปโตเหมือนที่ผ่านมา แต่เน้น “ยึดพื้นที่” และ “กันคู่แข่งออก” เพื่อเตรียมสร้างบอตเน็ตในอนาคต ย้อนกลับไปช่วงกลางปี 2025 Trend Micro เคยรายงานมัลแวร์ที่ใช้ Docker API ที่เปิดไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อรัน container ที่มี cryptominer ผ่านโดเมน Tor แต่ในเวอร์ชันล่าสุดที่ Akamai ตรวจพบจาก honeypot ในเดือนสิงหาคมนั้น เป้าหมายเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน — มัลแวร์จะบล็อกการเข้าถึง API จากภายนอกทันทีที่ติดตั้ง และฝังเครื่องมือควบคุมระบบแทน หลังจากเข้าถึงระบบได้ มัลแวร์จะรันสคริปต์ที่ถูกเข้ารหัสแบบ Base64 เพื่อฝังตัวถาวร และบล็อกพอร์ต 2375 ซึ่งเป็นพอร์ตหลักของ Docker API เพื่อกันไม่ให้แฮกเกอร์รายอื่นเข้ามาแทรกแซง จากนั้นจะดาวน์โหลด binary dropper ที่เขียนด้วยภาษา Go ซึ่งมีโค้ดแปลกๆ เช่น emoji รูป “ผู้ใช้” ที่อาจบ่งบอกว่าใช้ LLM ช่วยเขียนโค้ด มัลแวร์ยังใช้ masscan เพื่อสแกนหา Docker API ที่เปิดอยู่ในระบบอื่น แล้วพยายามติดตั้งตัวเองซ้ำในเซิร์ฟเวอร์เหล่านั้น — เป็นการเริ่มต้นสร้างเครือข่ายบอตเน็ตแบบแพร่กระจายตัวเอง และยังมีโค้ดที่เตรียมไว้สำหรับโจมตีผ่าน Telnet และ Chrome remote debugging port แม้ยังไม่เปิดใช้งานในเวอร์ชันนี้ ที่น่าสนใจคือ มัลแวร์จะตรวจสอบ container ที่รัน Ubuntu ซึ่งมักถูกใช้โดยแฮกเกอร์รายอื่นในการขุดคริปโต แล้วลบออกทันที เพื่อยึดพื้นที่ให้ตัวเอง — สะท้อนว่าเป้าหมายของแคมเปญนี้ไม่ใช่แค่การหารายได้ แต่เป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานควบคุมระบบในระยะยาว Akamai ใช้โครงการ Beelzebub honeypot ที่จำลองการตอบสนองของ Docker API เพื่อดึงดูดแฮกเกอร์ให้เปิดเผยพฤติกรรม และสามารถระบุ IOC (Indicators of Compromise) ได้ เช่น onion domain, webhook และ hash ของไฟล์มัลแวร์. ✅ ลักษณะของมัลแวร์ Docker สายพันธุ์ใหม่ ➡️ โจมตีผ่าน Docker API ที่เปิดสาธารณะโดยไม่ได้ตั้งใจ ➡️ ไม่ติดตั้ง cryptominer แต่ฝังเครื่องมือควบคุมระบบ ➡️ บล็อกพอร์ต 2375 เพื่อกันไม่ให้แฮกเกอร์รายอื่นเข้ามา ➡️ ใช้ Base64 script เพื่อฝังตัวและสร้าง persistence ✅ พฤติกรรมหลังติดตั้ง ➡️ ดาวน์โหลด binary dropper ที่เขียนด้วย Go ➡️ ใช้ masscan สแกนหา Docker API ในระบบอื่น ➡️ พยายามติดตั้งตัวเองซ้ำเพื่อสร้างเครือข่ายบอตเน็ต ➡️ มีโค้ดเตรียมโจมตีผ่าน Telnet และ Chrome remote debugging port ✅ การจัดการคู่แข่ง ➡️ ตรวจสอบ container ที่รัน Ubuntu ซึ่งมักใช้ขุดคริปโต ➡️ ลบ container เหล่านั้นเพื่อยึดพื้นที่ให้ตัวเอง ➡️ สะท้อนเป้าหมายในการสร้างโครงสร้างควบคุมระยะยาว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เวอร์ชันก่อนหน้าที่ Trend Micro พบในเดือนมิถุนายน 2025 ใช้ Tor และติดตั้ง XMRig miner ➡️ โค้ดของ dropper มี emoji ซึ่งอาจบ่งบอกว่าใช้ LLM ช่วยเขียน ➡️ Akamai ใช้ Beelzebub honeypot เพื่อศึกษาพฤติกรรมมัลแวร์ ➡️ พบ IOC เช่น onion domain, webhook และ file hash ที่เกี่ยวข้องกับมัลแวร์ https://hackread.com/new-docker-malware-blocking-rivals-exposed-apis/
    HACKREAD.COM
    New Docker Malware Strain Spotted Blocking Rivals on Exposed APIs
    Akamai finds new Docker malware blocking rivals on exposed APIs, replacing cryptominers with tools that hint at early botnet development.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Honor Magic V5: มือถือพับได้ที่บางที่สุดในโลก พร้อมแบต 5,820mAh และกล้อง 100x — แต่ยังเข้าอเมริกาไม่ได้!”

    ถ้าคุณกำลังมองหามือถือพับได้ที่ไม่ใช่แค่ “พับได้” แต่ยังบางเฉียบ แบตอึด กล้องแรง และใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้แบบลื่นไหล — Honor Magic V5 คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025 แม้จะยังไม่วางขายในสหรัฐฯ ก็ตาม

    Magic V5 เปิดตัวในยุโรปและเอเชีย พร้อมสเปกระดับเรือธง: ชิป Snapdragon 8 Elite, RAM 16GB, ความจุ 512GB และแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 5,820mAh ที่ใช้งานได้ถึง 2 วันเต็ม รองรับชาร์จเร็ว 66W และชาร์จไร้สาย 50W พร้อม reverse charging ด้วย

    หน้าจอด้านในขนาด 7.95 นิ้ว OLED LTPO ความสว่างสูงสุด 5,000 nits ส่วนหน้าจอด้านนอกขนาด 6.43 นิ้ว ก็ยังรองรับ HDR และ Dolby Vision ทั้งคู่มีรีเฟรชเรต 120Hz และรองรับปากกา Stylus พร้อมเทคโนโลยี NanoCrystal Shield กันรอยขีดข่วน

    กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว: กล้องหลัก 50MP, กล้อง Ultra-wide 50MP และกล้อง Telephoto 64MP ที่ซูมได้ 3.5x แบบออปติคอล และสูงสุด 100x แบบดิจิทัล พร้อมระบบกันสั่น OIS และ AI Zoom ที่ช่วยให้ภาพคมชัดแม้ในระยะไกล ส่วนกล้องหน้า 20MP มีทั้งด้านในและด้านนอก รองรับวิดีโอ 4K

    จุดเด่นอีกอย่างคือระบบ multitasking แบบใหม่ที่เรียกว่า “Quick Layout” ซึ่งให้ผู้ใช้เปิด 2–3 แอปพร้อมกันได้ทันที โดยใช้การจัดวางแบบ 90/10 หรือแบบแยกแนวตั้งแนวนอน เหมาะกับการทำงานหรือดูคอนเทนต์หลายอย่างพร้อมกัน

    ตัวเครื่องบางเพียง 8.8 มม. เมื่อพับ และ 4.1 มม. เมื่อกางออก น้ำหนัก 217 กรัม พร้อมบอดี้ที่ทนทานระดับ IP58/IP59 กันน้ำและฝุ่นได้ดีเยี่ยม มีให้เลือก 4 สี: Ivory White, Black, Dawn Gold และ Reddish Brown

    สเปกหลักของ Honor Magic V5
    ชิป Snapdragon 8 Elite + GPU Adreno 830
    RAM 16GB + ROM 512GB
    แบตเตอรี่ 5,820mAh รองรับชาร์จเร็ว 66W และไร้สาย 50W
    รองรับ reverse charging และระบบจัดการพลังงานแบบใหม่

    หน้าจอและดีไซน์
    หน้าจอด้านใน 7.95 นิ้ว OLED LTPO ความละเอียด 2172×2352
    หน้าจอด้านนอก 6.43 นิ้ว OLED ความละเอียด 2376×1060
    ความสว่างสูงสุด 5,000 nits ทั้งสองจอ
    รองรับ Stylus และเทคโนโลยี NanoCrystal Shield กันรอย

    กล้องและการถ่ายภาพ
    กล้องหลัก 50MP f/1.6 + Ultra-wide 50MP f/2.0 + Telephoto 64MP f/2.5
    ซูมออปติคอล 3.5x และดิจิทัลสูงสุด 100x
    กล้องหน้า 20MP ทั้งด้านในและด้านนอก รองรับวิดีโอ 4K
    ระบบ AI Zoom, Motion Sensing Capture และ Enhanced Portraits

    ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์
    รัน Android 15 + MagicOS 9.0.1
    รองรับ multitasking แบบ Quick Layout เปิด 2–3 แอปพร้อมกัน
    มีฟีเจอร์ AI เช่น real-time translation, transcription, image-to-video
    รองรับ Google Gemini AI และระบบ Multi-Flex

    ความทนทานและการออกแบบ
    ตัวเครื่องบาง 8.8 มม. (พับ) / 4.1 มม. (กาง) น้ำหนัก 217 กรัม
    กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP58/IP59
    บานพับ Super Steel Hinge รองรับการพับมากกว่า 500,000 ครั้ง
    มีให้เลือก 4 สี พร้อมดีไซน์แบบหนังเทียมและโลหะพรีเมียม

    ราคาและการวางจำหน่าย
    วางขายในยุโรปและเอเชีย ราคาเริ่มต้น £1,699.99 / €1,999.90
    ยังไม่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ
    มีจำหน่ายผ่าน Honor Store และตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก

    https://www.slashgear.com/1963624/honor-magic-v5-review-foldable/
    📱 “Honor Magic V5: มือถือพับได้ที่บางที่สุดในโลก พร้อมแบต 5,820mAh และกล้อง 100x — แต่ยังเข้าอเมริกาไม่ได้!” ถ้าคุณกำลังมองหามือถือพับได้ที่ไม่ใช่แค่ “พับได้” แต่ยังบางเฉียบ แบตอึด กล้องแรง และใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้แบบลื่นไหล — Honor Magic V5 คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2025 แม้จะยังไม่วางขายในสหรัฐฯ ก็ตาม Magic V5 เปิดตัวในยุโรปและเอเชีย พร้อมสเปกระดับเรือธง: ชิป Snapdragon 8 Elite, RAM 16GB, ความจุ 512GB และแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 5,820mAh ที่ใช้งานได้ถึง 2 วันเต็ม รองรับชาร์จเร็ว 66W และชาร์จไร้สาย 50W พร้อม reverse charging ด้วย หน้าจอด้านในขนาด 7.95 นิ้ว OLED LTPO ความสว่างสูงสุด 5,000 nits ส่วนหน้าจอด้านนอกขนาด 6.43 นิ้ว ก็ยังรองรับ HDR และ Dolby Vision ทั้งคู่มีรีเฟรชเรต 120Hz และรองรับปากกา Stylus พร้อมเทคโนโลยี NanoCrystal Shield กันรอยขีดข่วน กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว: กล้องหลัก 50MP, กล้อง Ultra-wide 50MP และกล้อง Telephoto 64MP ที่ซูมได้ 3.5x แบบออปติคอล และสูงสุด 100x แบบดิจิทัล พร้อมระบบกันสั่น OIS และ AI Zoom ที่ช่วยให้ภาพคมชัดแม้ในระยะไกล ส่วนกล้องหน้า 20MP มีทั้งด้านในและด้านนอก รองรับวิดีโอ 4K จุดเด่นอีกอย่างคือระบบ multitasking แบบใหม่ที่เรียกว่า “Quick Layout” ซึ่งให้ผู้ใช้เปิด 2–3 แอปพร้อมกันได้ทันที โดยใช้การจัดวางแบบ 90/10 หรือแบบแยกแนวตั้งแนวนอน เหมาะกับการทำงานหรือดูคอนเทนต์หลายอย่างพร้อมกัน ตัวเครื่องบางเพียง 8.8 มม. เมื่อพับ และ 4.1 มม. เมื่อกางออก น้ำหนัก 217 กรัม พร้อมบอดี้ที่ทนทานระดับ IP58/IP59 กันน้ำและฝุ่นได้ดีเยี่ยม มีให้เลือก 4 สี: Ivory White, Black, Dawn Gold และ Reddish Brown ✅ สเปกหลักของ Honor Magic V5 ➡️ ชิป Snapdragon 8 Elite + GPU Adreno 830 ➡️ RAM 16GB + ROM 512GB ➡️ แบตเตอรี่ 5,820mAh รองรับชาร์จเร็ว 66W และไร้สาย 50W ➡️ รองรับ reverse charging และระบบจัดการพลังงานแบบใหม่ ✅ หน้าจอและดีไซน์ ➡️ หน้าจอด้านใน 7.95 นิ้ว OLED LTPO ความละเอียด 2172×2352 ➡️ หน้าจอด้านนอก 6.43 นิ้ว OLED ความละเอียด 2376×1060 ➡️ ความสว่างสูงสุด 5,000 nits ทั้งสองจอ ➡️ รองรับ Stylus และเทคโนโลยี NanoCrystal Shield กันรอย ✅ กล้องและการถ่ายภาพ ➡️ กล้องหลัก 50MP f/1.6 + Ultra-wide 50MP f/2.0 + Telephoto 64MP f/2.5 ➡️ ซูมออปติคอล 3.5x และดิจิทัลสูงสุด 100x ➡️ กล้องหน้า 20MP ทั้งด้านในและด้านนอก รองรับวิดีโอ 4K ➡️ ระบบ AI Zoom, Motion Sensing Capture และ Enhanced Portraits ✅ ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์ ➡️ รัน Android 15 + MagicOS 9.0.1 ➡️ รองรับ multitasking แบบ Quick Layout เปิด 2–3 แอปพร้อมกัน ➡️ มีฟีเจอร์ AI เช่น real-time translation, transcription, image-to-video ➡️ รองรับ Google Gemini AI และระบบ Multi-Flex ✅ ความทนทานและการออกแบบ ➡️ ตัวเครื่องบาง 8.8 มม. (พับ) / 4.1 มม. (กาง) น้ำหนัก 217 กรัม ➡️ กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP58/IP59 ➡️ บานพับ Super Steel Hinge รองรับการพับมากกว่า 500,000 ครั้ง ➡️ มีให้เลือก 4 สี พร้อมดีไซน์แบบหนังเทียมและโลหะพรีเมียม ✅ ราคาและการวางจำหน่าย ➡️ วางขายในยุโรปและเอเชีย ราคาเริ่มต้น £1,699.99 / €1,999.90 ➡️ ยังไม่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ ➡️ มีจำหน่ายผ่าน Honor Store และตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก https://www.slashgear.com/1963624/honor-magic-v5-review-foldable/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Honor Magic V5: Better Value And A Monster Battery, But Can It Beat The Competition? - SlashGear
    Honor Magic V5 delivers the best big foldable smartphone yet, complete with performance to beat most -- but is it worth the cash?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ลองเล่น LLM บน Mac แบบไม่ต้องพึ่งคลาวด์! จากคนไม่อิน AI สู่การสร้างผู้ช่วยส่วนตัวในเครื่อง — ปลอดภัยกว่า เร็วกว่า และสนุกกว่าที่คิด”

    ถ้าคุณคิดว่า AI ต้องรันบนเซิร์ฟเวอร์ใหญ่ๆ เท่านั้น — บล็อกนี้จะเปลี่ยนความคิดคุณ เพราะผู้เขียน Fatih ซึ่งออกตัวว่า “ไม่อินกับ AI” ได้ทดลองรันโมเดล LLM แบบ local บน MacBook M2 รุ่นปี 2022 โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์เลยแม้แต่นิดเดียว

    เขาเริ่มจากความสงสัยในกระแส AI ที่ดูจะเกินจริง และไม่เชื่อว่าโมเดลพวกนี้จะมี “ความคิด” หรือ “ความสร้างสรรค์” จริงๆ แต่ก็ยอมรับว่า LLM มีพฤติกรรม emergent ที่น่าสนใจ และสามารถใช้ประโยชน์ได้ เช่น สรุปข้อมูล, เขียนโน้ต, หรือแม้แต่ช่วยระบายความรู้สึกตอนตี 4

    Fatih เลือกใช้สองเครื่องมือหลักในการรัน LLM บน macOS ได้แก่:

    Llama.cpp: ไลบรารีโอเพ่นซอร์สที่รันได้เร็วและปรับแต่งได้เยอะ ติดตั้งผ่าน Nix และใช้โมเดล GGUF เช่น Gemma 3 4B QAT

    LM Studio: แอป GUI ที่ใช้ง่ายกว่า รองรับทั้ง llama.cpp และ MLX (เอนจิน ML ของ Apple) มีระบบจัดการโมเดล, แชต, และการตั้งค่าที่หลากหลาย

    เขาแนะนำให้ใช้โมเดลขนาดเล็ก เช่น Qwen3 4B หรือ Gemma 3 12B เพื่อให้รันได้ลื่นบน RAM 16GB โดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง และยังสามารถใช้ฟีเจอร์ reasoning, tool use, และ vision ได้ในบางโมเดล

    นอกจากนี้ LM Studio ยังมีระบบ MCP (Model Capability Provider) ที่ให้โมเดลเรียกใช้เครื่องมือภายนอก เช่น JavaScript sandbox, web search, หรือแม้แต่ memory สำหรับเก็บข้อมูลระยะยาว — ทำให้สามารถสร้าง “agent” ที่คิด วิเคราะห์ และเรียกใช้เครื่องมือได้เอง

    Fatih ย้ำว่าเขาไม่เชื่อใน AI ที่รันบนคลาวด์ เพราะเสี่ยงต่อการเก็บข้อมูลส่วนตัว และไม่อยากสนับสนุนบริษัทที่มีพฤติกรรมไม่โปร่งใส เขาจึงเลือกใช้โมเดล open-weight ที่รันในเครื่อง และเชื่อว่า “ความลับบางอย่างควรอยู่ในเครื่องเราเท่านั้น”

    แนวคิดการใช้ LLM แบบ local บน macOS
    ไม่ต้องพึ่งคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ภายนอก
    ปลอดภัยกว่าและควบคุมข้อมูลได้เอง
    ใช้ได้แม้ในเครื่อง MacBook M2 RAM 16GB

    เครื่องมือที่ใช้
    Llama.cpp: โอเพ่นซอร์ส ปรับแต่งได้เยอะ รองรับ GGUF
    LM Studio: GUI ใช้ง่าย รองรับทั้ง llama.cpp และ MLX
    LM Studio มีระบบจัดการแชต, โมเดล, และการตั้งค่าขั้นสูง

    โมเดลที่แนะนำ
    Gemma 3 4B QAT: เร็วและคุณภาพดี
    Qwen3 4B Thinking: มี reasoning และขนาดเล็ก
    GPT-OSS 20B: ใหญ่แต่ฉลาดที่สุดในกลุ่มที่รันได้บนเครื่อง
    Phi-4 14B: เคยเป็นตัวโปรดก่อน GPT-OSS

    ฟีเจอร์พิเศษใน LM Studio
    MCP: ให้โมเดลเรียกใช้เครื่องมือ เช่น JavaScript, web search, memory
    Vision: โมเดลบางตัวสามารถอ่านภาพและวิเคราะห์ได้
    Reasoning: โมเดลที่ “คิดก่อนตอบ” แม้จะช้ากว่าแต่แม่นยำกว่า
    Preset: ตั้งค่า system prompt สำหรับบทบาทต่างๆ ได้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    LM Studio รองรับ macOS M1–M4 และ Windows/Linux ที่มี AVX2
    GGUF เป็นฟอร์แมตที่ใช้กับ llama.cpp ส่วน MLX ใช้กับเอนจินของ Apple
    โมเดล reasoning ใช้เวลานานและกิน context window มาก
    Vision model ยังไม่แม่นเท่า OCR จริง แต่ใช้ได้ในงานเบื้องต้น

    https://blog.6nok.org/experimenting-with-local-llms-on-macos/
    🧠 “ลองเล่น LLM บน Mac แบบไม่ต้องพึ่งคลาวด์! จากคนไม่อิน AI สู่การสร้างผู้ช่วยส่วนตัวในเครื่อง — ปลอดภัยกว่า เร็วกว่า และสนุกกว่าที่คิด” ถ้าคุณคิดว่า AI ต้องรันบนเซิร์ฟเวอร์ใหญ่ๆ เท่านั้น — บล็อกนี้จะเปลี่ยนความคิดคุณ เพราะผู้เขียน Fatih ซึ่งออกตัวว่า “ไม่อินกับ AI” ได้ทดลองรันโมเดล LLM แบบ local บน MacBook M2 รุ่นปี 2022 โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์เลยแม้แต่นิดเดียว เขาเริ่มจากความสงสัยในกระแส AI ที่ดูจะเกินจริง และไม่เชื่อว่าโมเดลพวกนี้จะมี “ความคิด” หรือ “ความสร้างสรรค์” จริงๆ แต่ก็ยอมรับว่า LLM มีพฤติกรรม emergent ที่น่าสนใจ และสามารถใช้ประโยชน์ได้ เช่น สรุปข้อมูล, เขียนโน้ต, หรือแม้แต่ช่วยระบายความรู้สึกตอนตี 4 Fatih เลือกใช้สองเครื่องมือหลักในการรัน LLM บน macOS ได้แก่: Llama.cpp: ไลบรารีโอเพ่นซอร์สที่รันได้เร็วและปรับแต่งได้เยอะ ติดตั้งผ่าน Nix และใช้โมเดล GGUF เช่น Gemma 3 4B QAT LM Studio: แอป GUI ที่ใช้ง่ายกว่า รองรับทั้ง llama.cpp และ MLX (เอนจิน ML ของ Apple) มีระบบจัดการโมเดล, แชต, และการตั้งค่าที่หลากหลาย เขาแนะนำให้ใช้โมเดลขนาดเล็ก เช่น Qwen3 4B หรือ Gemma 3 12B เพื่อให้รันได้ลื่นบน RAM 16GB โดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง และยังสามารถใช้ฟีเจอร์ reasoning, tool use, และ vision ได้ในบางโมเดล นอกจากนี้ LM Studio ยังมีระบบ MCP (Model Capability Provider) ที่ให้โมเดลเรียกใช้เครื่องมือภายนอก เช่น JavaScript sandbox, web search, หรือแม้แต่ memory สำหรับเก็บข้อมูลระยะยาว — ทำให้สามารถสร้าง “agent” ที่คิด วิเคราะห์ และเรียกใช้เครื่องมือได้เอง Fatih ย้ำว่าเขาไม่เชื่อใน AI ที่รันบนคลาวด์ เพราะเสี่ยงต่อการเก็บข้อมูลส่วนตัว และไม่อยากสนับสนุนบริษัทที่มีพฤติกรรมไม่โปร่งใส เขาจึงเลือกใช้โมเดล open-weight ที่รันในเครื่อง และเชื่อว่า “ความลับบางอย่างควรอยู่ในเครื่องเราเท่านั้น” ✅ แนวคิดการใช้ LLM แบบ local บน macOS ➡️ ไม่ต้องพึ่งคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ➡️ ปลอดภัยกว่าและควบคุมข้อมูลได้เอง ➡️ ใช้ได้แม้ในเครื่อง MacBook M2 RAM 16GB ✅ เครื่องมือที่ใช้ ➡️ Llama.cpp: โอเพ่นซอร์ส ปรับแต่งได้เยอะ รองรับ GGUF ➡️ LM Studio: GUI ใช้ง่าย รองรับทั้ง llama.cpp และ MLX ➡️ LM Studio มีระบบจัดการแชต, โมเดล, และการตั้งค่าขั้นสูง ✅ โมเดลที่แนะนำ ➡️ Gemma 3 4B QAT: เร็วและคุณภาพดี ➡️ Qwen3 4B Thinking: มี reasoning และขนาดเล็ก ➡️ GPT-OSS 20B: ใหญ่แต่ฉลาดที่สุดในกลุ่มที่รันได้บนเครื่อง ➡️ Phi-4 14B: เคยเป็นตัวโปรดก่อน GPT-OSS ✅ ฟีเจอร์พิเศษใน LM Studio ➡️ MCP: ให้โมเดลเรียกใช้เครื่องมือ เช่น JavaScript, web search, memory ➡️ Vision: โมเดลบางตัวสามารถอ่านภาพและวิเคราะห์ได้ ➡️ Reasoning: โมเดลที่ “คิดก่อนตอบ” แม้จะช้ากว่าแต่แม่นยำกว่า ➡️ Preset: ตั้งค่า system prompt สำหรับบทบาทต่างๆ ได้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ LM Studio รองรับ macOS M1–M4 และ Windows/Linux ที่มี AVX2 ➡️ GGUF เป็นฟอร์แมตที่ใช้กับ llama.cpp ส่วน MLX ใช้กับเอนจินของ Apple ➡️ โมเดล reasoning ใช้เวลานานและกิน context window มาก ➡️ Vision model ยังไม่แม่นเท่า OCR จริง แต่ใช้ได้ในงานเบื้องต้น https://blog.6nok.org/experimenting-with-local-llms-on-macos/
    BLOG.6NOK.ORG
    Experimenting with local LLMs on macOS
    A developer's guide to downloading and running LLMs on macOS, for experimentation and privacy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ICE ใช้ ‘Stingray’ ดักสัญญาณมือถือกลางเมือง! เครื่องมือลับที่ตามหาผู้ต้องสงสัย แต่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชนรอบข้าง”

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินอยู่ในเมือง แล้วมือถือของคุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ดูเหมือนเป็นของผู้ให้บริการ…แต่จริงๆ แล้วมันคือเครื่องดักสัญญาณที่รัฐบาลใช้ติดตามผู้ต้องสงสัย — นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสหรัฐฯ เมื่อ ICE (สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร) กลับมาใช้เทคโนโลยี “Stingray” หรือ cell-site simulator อีกครั้งในการตามหาผู้หลบหนีจากการเนรเทศ

    Stingray คืออุปกรณ์ที่ปลอมตัวเป็นเสาสัญญาณมือถือ เพื่อหลอกให้โทรศัพท์ของเป้าหมายเชื่อมต่อเข้ามา เมื่อเชื่อมต่อแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถระบุตำแหน่งของอุปกรณ์นั้นได้อย่างแม่นยำ แต่ปัญหาคือ…โทรศัพท์ของคนทั่วไปที่อยู่ในบริเวณเดียวกันก็อาจถูกดักข้อมูลไปด้วยโดยไม่รู้ตัว

    ในกรณีล่าสุด ICE ได้ขอหมายค้นเพื่อใช้ Stingray ติดตามผู้ต้องสงสัยในเมือง Orem รัฐ Utah ซึ่งเคยถูกสั่งเนรเทศในปี 2023 แต่ยังคงอยู่ในประเทศ และมีประวัติหลบหนีจากเรือนจำในเวเนซุเอลา รวมถึงพัวพันกับแก๊งอาชญากรรม

    แม้จะมีการขอหมายค้นเพื่อระบุตำแหน่งเบื้องต้นจากผู้ให้บริการมือถือ แต่ข้อมูลที่ได้ครอบคลุมพื้นที่ถึง 30 บล็อก ทำให้ต้องใช้ Stingray เพื่อระบุตำแหน่งที่แม่นยำยิ่งขึ้น โดยยังไม่แน่ชัดว่าผู้ต้องสงสัยถูกจับได้หรือไม่

    ที่น่าจับตามองคือ ICE ได้ซื้อ “รถดักสัญญาณมือถือ” มูลค่ากว่า 1 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม และยังมีสัญญากับบริษัทผู้ผลิต Stingray อย่าง Harris Corporation มูลค่าสูงถึง 4.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลปัจจุบัน

    การใช้งาน Stingray โดย ICE
    Stingray เป็นอุปกรณ์ที่ปลอมตัวเป็นเสาสัญญาณมือถือ
    เมื่อโทรศัพท์เชื่อมต่อ เจ้าหน้าที่สามารถระบุตำแหน่งได้
    ใช้ในการติดตามผู้ต้องสงสัยที่หลบหนีจากการเนรเทศ
    ล่าสุดใช้ในเมือง Orem, Utah เพื่อตามหาผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม

    ข้อมูลจากหมายค้นและการติดตาม
    ผู้ต้องสงสัยเคยหลบหนีจากเรือนจำในเวเนซุเอลา
    มีประวัติเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรม
    การติดตามเบื้องต้นครอบคลุมพื้นที่ 30 บล็อก
    ต้องใช้ Stingray เพื่อระบุตำแหน่งที่แม่นยำ

    การลงทุนด้านเทคโนโลยีของ ICE
    ซื้อรถดักสัญญาณมือถือมูลค่า $1 ล้านในเดือนพฤษภาคม
    มีสัญญากับ Harris Corporation มูลค่า $4.4 ล้าน
    สัญญาเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงปี 2024–2025
    แสดงถึงการผลักดันการใช้เทคโนโลยีติดตามแบบเคลื่อนที่

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Stingray เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักในยุครัฐบาลก่อนหน้า
    อุปกรณ์นี้สามารถดักข้อมูลจากโทรศัพท์ใกล้เคียงโดยไม่เลือกเป้าหมาย
    ใช้เทคนิค IMSI-catcher เพื่อดึงข้อมูลหมายเลขอุปกรณ์
    สามารถบังคับให้โทรศัพท์ลดระดับความปลอดภัยของการเชื่อมต่อ

    https://www.forbes.com/sites/the-wiretap/2025/09/09/how-ice-is-using-fake-cell-towers-to-spy-on-peoples-phones/
    📡 “ICE ใช้ ‘Stingray’ ดักสัญญาณมือถือกลางเมือง! เครื่องมือลับที่ตามหาผู้ต้องสงสัย แต่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชนรอบข้าง” ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินอยู่ในเมือง แล้วมือถือของคุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ดูเหมือนเป็นของผู้ให้บริการ…แต่จริงๆ แล้วมันคือเครื่องดักสัญญาณที่รัฐบาลใช้ติดตามผู้ต้องสงสัย — นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสหรัฐฯ เมื่อ ICE (สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร) กลับมาใช้เทคโนโลยี “Stingray” หรือ cell-site simulator อีกครั้งในการตามหาผู้หลบหนีจากการเนรเทศ Stingray คืออุปกรณ์ที่ปลอมตัวเป็นเสาสัญญาณมือถือ เพื่อหลอกให้โทรศัพท์ของเป้าหมายเชื่อมต่อเข้ามา เมื่อเชื่อมต่อแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถระบุตำแหน่งของอุปกรณ์นั้นได้อย่างแม่นยำ แต่ปัญหาคือ…โทรศัพท์ของคนทั่วไปที่อยู่ในบริเวณเดียวกันก็อาจถูกดักข้อมูลไปด้วยโดยไม่รู้ตัว ในกรณีล่าสุด ICE ได้ขอหมายค้นเพื่อใช้ Stingray ติดตามผู้ต้องสงสัยในเมือง Orem รัฐ Utah ซึ่งเคยถูกสั่งเนรเทศในปี 2023 แต่ยังคงอยู่ในประเทศ และมีประวัติหลบหนีจากเรือนจำในเวเนซุเอลา รวมถึงพัวพันกับแก๊งอาชญากรรม แม้จะมีการขอหมายค้นเพื่อระบุตำแหน่งเบื้องต้นจากผู้ให้บริการมือถือ แต่ข้อมูลที่ได้ครอบคลุมพื้นที่ถึง 30 บล็อก ทำให้ต้องใช้ Stingray เพื่อระบุตำแหน่งที่แม่นยำยิ่งขึ้น โดยยังไม่แน่ชัดว่าผู้ต้องสงสัยถูกจับได้หรือไม่ ที่น่าจับตามองคือ ICE ได้ซื้อ “รถดักสัญญาณมือถือ” มูลค่ากว่า 1 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม และยังมีสัญญากับบริษัทผู้ผลิต Stingray อย่าง Harris Corporation มูลค่าสูงถึง 4.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลปัจจุบัน ✅ การใช้งาน Stingray โดย ICE ➡️ Stingray เป็นอุปกรณ์ที่ปลอมตัวเป็นเสาสัญญาณมือถือ ➡️ เมื่อโทรศัพท์เชื่อมต่อ เจ้าหน้าที่สามารถระบุตำแหน่งได้ ➡️ ใช้ในการติดตามผู้ต้องสงสัยที่หลบหนีจากการเนรเทศ ➡️ ล่าสุดใช้ในเมือง Orem, Utah เพื่อตามหาผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม ✅ ข้อมูลจากหมายค้นและการติดตาม ➡️ ผู้ต้องสงสัยเคยหลบหนีจากเรือนจำในเวเนซุเอลา ➡️ มีประวัติเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรม ➡️ การติดตามเบื้องต้นครอบคลุมพื้นที่ 30 บล็อก ➡️ ต้องใช้ Stingray เพื่อระบุตำแหน่งที่แม่นยำ ✅ การลงทุนด้านเทคโนโลยีของ ICE ➡️ ซื้อรถดักสัญญาณมือถือมูลค่า $1 ล้านในเดือนพฤษภาคม ➡️ มีสัญญากับ Harris Corporation มูลค่า $4.4 ล้าน ➡️ สัญญาเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงปี 2024–2025 ➡️ แสดงถึงการผลักดันการใช้เทคโนโลยีติดตามแบบเคลื่อนที่ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Stingray เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักในยุครัฐบาลก่อนหน้า ➡️ อุปกรณ์นี้สามารถดักข้อมูลจากโทรศัพท์ใกล้เคียงโดยไม่เลือกเป้าหมาย ➡️ ใช้เทคนิค IMSI-catcher เพื่อดึงข้อมูลหมายเลขอุปกรณ์ ➡️ สามารถบังคับให้โทรศัพท์ลดระดับความปลอดภัยของการเชื่อมต่อ https://www.forbes.com/sites/the-wiretap/2025/09/09/how-ice-is-using-fake-cell-towers-to-spy-on-peoples-phones/
    WWW.FORBES.COM
    How ICE Is Using Fake Cell Towers To Spy On People’s Phones
    ICE is using a controversial spy tool to locate smartphones, court records show.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • “iPhone Air เปิดตัวแล้ว! บางเฉียบ 5.6 มม. พร้อมชิป A19 Pro และกล้อง 48MP ที่ถ่ายได้ 4 ระยะ — เบาเหมือนฝัน แรงเหมือน MacBook”

    ถ้าคุณเคยคิดว่า iPhone จะบางได้แค่ไหน — Apple เพิ่งตอบคำถามนั้นด้วยการเปิดตัว “iPhone Air” รุ่นใหม่ล่าสุดที่บางเพียง 5.6 มิลลิเมตร แต่ยังคงความแรงระดับโปรด้วยชิป A19 Pro และกล้องที่ถ่ายได้ถึง 4 ระยะในตัวเดียว

    iPhone Air มาพร้อมดีไซน์ไทเทเนียมเกรด 5 แบบเงาสะท้อน พร้อม Ceramic Shield 2 ที่แข็งแรงกว่ากระจกสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 3 เท่า ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึง “plateau” กล้องที่ถูกเจาะแบบละเอียดเพื่อเพิ่มพื้นที่แบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ตลอดวัน

    หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว รองรับ ProMotion 120Hz และ Always-On Display พร้อมความสว่างสูงสุด 3,000 nits — ใช้งานกลางแดดได้สบาย และยังมี Action Button กับ Camera Control ที่ช่วยให้เรียกใช้งานฟีเจอร์ได้รวดเร็ว

    กล้องหลัง 48MP Fusion สามารถถ่ายภาพได้ 4 ระยะ: 26mm, 28mm, 35mm และ 52mm ด้วยการครอปในเซนเซอร์แบบ AI พร้อมระบบกันสั่น sensor-shift และ Photonic Engine รุ่นใหม่ ส่วนกล้องหน้า Center Stage 18MP ใช้เซนเซอร์แบบสี่เหลี่ยมครั้งแรกใน iPhone ถ่ายวิดีโอ 4K HDR ได้แบบนิ่งสุดๆ และยังสามารถถ่ายพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและหลังด้วย Dual Capture

    ภายในใช้ชิป A19 Pro ที่มี CPU 6-core และ GPU 5-core พร้อม Neural Accelerator ในทุกคอร์ GPU เพื่อรองรับโมเดล AI แบบ on-device ได้อย่างลื่นไหล รวมถึงชิป N1 สำหรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread และโมเด็ม C1X ที่เร็วกว่าเดิม 2 เท่าแต่ใช้พลังงานน้อยลง 30%

    iPhone Air ใช้ eSIM เท่านั้น เพื่อประหยัดพื้นที่ภายใน และมาพร้อม iOS 26 ที่มี Apple Intelligence สำหรับแปลภาษาแบบเรียลไทม์, ค้นหาข้อมูลจากภาพหน้าจอ และจัดการข้อความแบบอัจฉริยะ

    ดีไซน์และวัสดุ
    บางเพียง 5.6 มม. น้ำหนัก 165 กรัม
    ใช้ไทเทเนียมเกรด 5 พร้อม Ceramic Shield 2 ทั้งหน้าและหลัง
    Plateau กล้องแบบใหม่ช่วยเพิ่มพื้นที่แบตเตอรี่
    มี Action Button และ Camera Control สำหรับเรียกใช้งานเร็ว

    หน้าจอและการแสดงผล
    Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2736x1260
    รองรับ ProMotion 120Hz และ Always-On Display
    ความสว่างสูงสุด 3,000 nits และ contrast 2,000,000:1
    รองรับ HDR, True Tone, และ anti-reflective coating

    กล้องและการถ่ายภาพ
    กล้องหลัง 48MP Fusion รองรับ 4 ระยะ: 26mm, 28mm, 35mm, 52mm
    กล้องหน้า Center Stage 18MP ใช้เซนเซอร์สี่เหลี่ยม
    รองรับ Dual Capture, Focus Control, และ Photographic Styles ใหม่
    ถ่ายวิดีโอ 4K60 Dolby Vision พร้อม Spatial Audio และ Action Mode

    ชิปและประสิทธิภาพ
    A19 Pro: CPU 6-core + GPU 5-core พร้อม Neural Accelerator
    N1: รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6, Thread และปรับปรุง AirDrop/Hotspot
    C1X: โมเด็มเร็วกว่าเดิม 2 เท่า ใช้พลังงานน้อยลง 30%
    รองรับการรันโมเดล AI บนอุปกรณ์แบบไม่ต้องต่อเน็ต

    แบตเตอรี่และการใช้งาน
    ใช้ Adaptive Power Mode ใน iOS 26 เพื่อจัดการพลังงานอัจฉริยะ
    รองรับ MagSafe Battery แบบบางที่เพิ่มเวลาเล่นวิดีโอถึง 40 ชั่วโมง
    รองรับชาร์จเร็ว 30W และชาร์จไร้สาย 20W

    ระบบปฏิบัติการและฟีเจอร์ใหม่
    iOS 26 มาพร้อม Apple Intelligence สำหรับแปลภาษา, ค้นหาจากภาพ, และจัดการข้อความ
    รองรับ Live Translation, Visual Intelligence และ Apple Games
    ใช้ eSIM เท่านั้น รองรับกว่า 500 ผู้ให้บริการทั่วโลก

    ราคาและการวางจำหน่าย
    เริ่มต้นที่ $999 สำหรับรุ่น 256GB
    มีรุ่น 512GB และ 1TB ให้เลือก
    เปิดพรีออเดอร์วันที่ 12 กันยายน และวางขายวันที่ 19 กันยายน

    https://www.apple.com/newsroom/2025/09/introducing-iphone-air-a-powerful-new-iphone-with-a-breakthrough-design/
    📱 “iPhone Air เปิดตัวแล้ว! บางเฉียบ 5.6 มม. พร้อมชิป A19 Pro และกล้อง 48MP ที่ถ่ายได้ 4 ระยะ — เบาเหมือนฝัน แรงเหมือน MacBook” ถ้าคุณเคยคิดว่า iPhone จะบางได้แค่ไหน — Apple เพิ่งตอบคำถามนั้นด้วยการเปิดตัว “iPhone Air” รุ่นใหม่ล่าสุดที่บางเพียง 5.6 มิลลิเมตร แต่ยังคงความแรงระดับโปรด้วยชิป A19 Pro และกล้องที่ถ่ายได้ถึง 4 ระยะในตัวเดียว iPhone Air มาพร้อมดีไซน์ไทเทเนียมเกรด 5 แบบเงาสะท้อน พร้อม Ceramic Shield 2 ที่แข็งแรงกว่ากระจกสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 3 เท่า ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึง “plateau” กล้องที่ถูกเจาะแบบละเอียดเพื่อเพิ่มพื้นที่แบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ตลอดวัน หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว รองรับ ProMotion 120Hz และ Always-On Display พร้อมความสว่างสูงสุด 3,000 nits — ใช้งานกลางแดดได้สบาย และยังมี Action Button กับ Camera Control ที่ช่วยให้เรียกใช้งานฟีเจอร์ได้รวดเร็ว กล้องหลัง 48MP Fusion สามารถถ่ายภาพได้ 4 ระยะ: 26mm, 28mm, 35mm และ 52mm ด้วยการครอปในเซนเซอร์แบบ AI พร้อมระบบกันสั่น sensor-shift และ Photonic Engine รุ่นใหม่ ส่วนกล้องหน้า Center Stage 18MP ใช้เซนเซอร์แบบสี่เหลี่ยมครั้งแรกใน iPhone ถ่ายวิดีโอ 4K HDR ได้แบบนิ่งสุดๆ และยังสามารถถ่ายพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและหลังด้วย Dual Capture ภายในใช้ชิป A19 Pro ที่มี CPU 6-core และ GPU 5-core พร้อม Neural Accelerator ในทุกคอร์ GPU เพื่อรองรับโมเดล AI แบบ on-device ได้อย่างลื่นไหล รวมถึงชิป N1 สำหรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread และโมเด็ม C1X ที่เร็วกว่าเดิม 2 เท่าแต่ใช้พลังงานน้อยลง 30% iPhone Air ใช้ eSIM เท่านั้น เพื่อประหยัดพื้นที่ภายใน และมาพร้อม iOS 26 ที่มี Apple Intelligence สำหรับแปลภาษาแบบเรียลไทม์, ค้นหาข้อมูลจากภาพหน้าจอ และจัดการข้อความแบบอัจฉริยะ ✅ ดีไซน์และวัสดุ ➡️ บางเพียง 5.6 มม. น้ำหนัก 165 กรัม ➡️ ใช้ไทเทเนียมเกรด 5 พร้อม Ceramic Shield 2 ทั้งหน้าและหลัง ➡️ Plateau กล้องแบบใหม่ช่วยเพิ่มพื้นที่แบตเตอรี่ ➡️ มี Action Button และ Camera Control สำหรับเรียกใช้งานเร็ว ✅ หน้าจอและการแสดงผล ➡️ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2736x1260 ➡️ รองรับ ProMotion 120Hz และ Always-On Display ➡️ ความสว่างสูงสุด 3,000 nits และ contrast 2,000,000:1 ➡️ รองรับ HDR, True Tone, และ anti-reflective coating ✅ กล้องและการถ่ายภาพ ➡️ กล้องหลัง 48MP Fusion รองรับ 4 ระยะ: 26mm, 28mm, 35mm, 52mm ➡️ กล้องหน้า Center Stage 18MP ใช้เซนเซอร์สี่เหลี่ยม ➡️ รองรับ Dual Capture, Focus Control, และ Photographic Styles ใหม่ ➡️ ถ่ายวิดีโอ 4K60 Dolby Vision พร้อม Spatial Audio และ Action Mode ✅ ชิปและประสิทธิภาพ ➡️ A19 Pro: CPU 6-core + GPU 5-core พร้อม Neural Accelerator ➡️ N1: รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6, Thread และปรับปรุง AirDrop/Hotspot ➡️ C1X: โมเด็มเร็วกว่าเดิม 2 เท่า ใช้พลังงานน้อยลง 30% ➡️ รองรับการรันโมเดล AI บนอุปกรณ์แบบไม่ต้องต่อเน็ต ✅ แบตเตอรี่และการใช้งาน ➡️ ใช้ Adaptive Power Mode ใน iOS 26 เพื่อจัดการพลังงานอัจฉริยะ ➡️ รองรับ MagSafe Battery แบบบางที่เพิ่มเวลาเล่นวิดีโอถึง 40 ชั่วโมง ➡️ รองรับชาร์จเร็ว 30W และชาร์จไร้สาย 20W ✅ ระบบปฏิบัติการและฟีเจอร์ใหม่ ➡️ iOS 26 มาพร้อม Apple Intelligence สำหรับแปลภาษา, ค้นหาจากภาพ, และจัดการข้อความ ➡️ รองรับ Live Translation, Visual Intelligence และ Apple Games ➡️ ใช้ eSIM เท่านั้น รองรับกว่า 500 ผู้ให้บริการทั่วโลก ✅ ราคาและการวางจำหน่าย ➡️ เริ่มต้นที่ $999 สำหรับรุ่น 256GB ➡️ มีรุ่น 512GB และ 1TB ให้เลือก ➡️ เปิดพรีออเดอร์วันที่ 12 กันยายน และวางขายวันที่ 19 กันยายน https://www.apple.com/newsroom/2025/09/introducing-iphone-air-a-powerful-new-iphone-with-a-breakthrough-design/
    WWW.APPLE.COM
    Introducing iPhone Air, a powerful new iPhone with a breakthrough design
    Apple today debuted the all-new iPhone Air, the thinnest iPhone ever made, with pro performance.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Liquid Glass บนเว็บ: เมื่อแสงหักเหกลายเป็นศิลปะ UI ด้วย CSS และ SVG — สวยระดับ Apple แต่ยังใช้ได้แค่ Chrome!”

    ถ้าคุณเคยเห็นเอฟเฟกต์ Liquid Glass ที่ Apple เปิดตัวในงาน WWDC 2025 แล้วรู้สึกว่า “อยากได้แบบนี้บนเว็บบ้าง” — บทความนี้คือคำตอบที่คุณรอคอย เพราะมันคือการทดลองสร้างเอฟเฟกต์หักเหแสงแบบกระจกโค้งบนเบราว์เซอร์ โดยใช้แค่ CSS, SVG และคณิตศาสตร์ฟิสิกส์พื้นฐาน

    แนวคิดหลักคือการจำลองการหักเหของแสง (refraction) ตามกฎของ Snell–Descartes ซึ่งอธิบายว่ามุมของแสงจะเปลี่ยนไปเมื่อผ่านจากวัสดุหนึ่งไปสู่อีกวัสดุหนึ่ง เช่น จากอากาศเข้าสู่กระจก โดยใช้ค่าดัชนีหักเห (refractive index) เพื่อคำนวณทิศทางใหม่ของแสง

    บทความนี้เลือกใช้รูปทรงวงกลมเป็นพื้นฐาน เพราะง่ายต่อการคำนวณและสามารถขยายเป็นรูปทรงอื่นได้ในอนาคต โดยใช้ฟังก์ชันความสูงของพื้นผิวกระจกเพื่อคำนวณมุมตกกระทบและมุมหักเห จากนั้นสร้าง “สนามเวกเตอร์การเลื่อนตำแหน่ง” (displacement vector field) เพื่อบอกว่าแสงควรเบนไปทางไหน

    เมื่อได้เวกเตอร์แล้ว ก็แปลงเป็นภาพ SVG displacement map โดยใช้สีแดงและเขียวแทนการเลื่อนในแกน X และ Y ตามลำดับ แล้วนำไปใช้ในฟิลเตอร์ SVG เพื่อสร้างเอฟเฟกต์หักเหแสงบนองค์ประกอบ UI จริง เช่น ปุ่ม, สวิตช์, กล่องค้นหา และมิวสิกเพลเยอร์

    สุดท้ายยังเพิ่ม “specular highlight” หรือแสงสะท้อนขอบกระจก เพื่อให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น โดยใช้การเบลนด์ภาพ highlight เข้ากับภาพที่ผ่านการหักเหแล้ว — ทั้งหมดนี้ทำงานได้เฉพาะใน Chrome เท่านั้น เพราะยังไม่มีเบราว์เซอร์อื่นรองรับ SVG filter เป็น backdrop-filter

    แนวคิดหลักของ Liquid Glass บนเว็บ
    จำลองการหักเหแสงตามกฎ Snell–Descartes
    ใช้ค่าดัชนีหักเหของวัสดุ เช่น อากาศ (n=1) และกระจก (n=1.5)
    ใช้ฟังก์ชันความสูงของพื้นผิวเพื่อคำนวณมุมตกกระทบ
    สร้าง displacement vector field เพื่อบอกทิศทางการเบนของแสง

    การสร้าง SVG displacement map
    แปลงเวกเตอร์เป็นสีในภาพ SVG โดยใช้ Red = X, Green = Y
    ใช้ <feDisplacementMap /> เพื่อเลื่อนตำแหน่งพิกเซลตามเวกเตอร์
    scale ของฟิลเตอร์ใช้ค่าการเบนสูงสุดที่คำนวณไว้
    สามารถ animate scale เพื่อควบคุมความแรงของเอฟเฟกต์

    การใช้งานใน UI จริง
    ใช้กับองค์ประกอบ UI เช่น ปุ่ม, สวิตช์, กล่องค้นหา, มิวสิกเพลเยอร์
    เพิ่ม specular highlight เพื่อให้ดูมีแสงสะท้อนขอบกระจก
    ใช้ <feBlend /> เพื่อรวมภาพ highlight กับภาพหักเห
    ปรับค่าความเงา, ความอิ่มสี, และระดับการหักเหได้ตามต้องการ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Apple เปิดตัว Liquid Glass ใน WWDC 2025 เป็นส่วนหนึ่งของ iOS 26 และ visionOS
    เอฟเฟกต์นี้มีต้นแบบจาก Dynamic Island และ macOS Aqua
    นักพัฒนาเริ่มสร้างเวอร์ชัน CSS-only เพื่อใช้บนเว็บโดยไม่พึ่ง JavaScript
    GitHub มีโปรเจกต์ทดลองหลายตัว เช่น liquid-glass-effect-macos

    https://kube.io/blog/liquid-glass-css-svg/
    🧊 “Liquid Glass บนเว็บ: เมื่อแสงหักเหกลายเป็นศิลปะ UI ด้วย CSS และ SVG — สวยระดับ Apple แต่ยังใช้ได้แค่ Chrome!” ถ้าคุณเคยเห็นเอฟเฟกต์ Liquid Glass ที่ Apple เปิดตัวในงาน WWDC 2025 แล้วรู้สึกว่า “อยากได้แบบนี้บนเว็บบ้าง” — บทความนี้คือคำตอบที่คุณรอคอย เพราะมันคือการทดลองสร้างเอฟเฟกต์หักเหแสงแบบกระจกโค้งบนเบราว์เซอร์ โดยใช้แค่ CSS, SVG และคณิตศาสตร์ฟิสิกส์พื้นฐาน แนวคิดหลักคือการจำลองการหักเหของแสง (refraction) ตามกฎของ Snell–Descartes ซึ่งอธิบายว่ามุมของแสงจะเปลี่ยนไปเมื่อผ่านจากวัสดุหนึ่งไปสู่อีกวัสดุหนึ่ง เช่น จากอากาศเข้าสู่กระจก โดยใช้ค่าดัชนีหักเห (refractive index) เพื่อคำนวณทิศทางใหม่ของแสง บทความนี้เลือกใช้รูปทรงวงกลมเป็นพื้นฐาน เพราะง่ายต่อการคำนวณและสามารถขยายเป็นรูปทรงอื่นได้ในอนาคต โดยใช้ฟังก์ชันความสูงของพื้นผิวกระจกเพื่อคำนวณมุมตกกระทบและมุมหักเห จากนั้นสร้าง “สนามเวกเตอร์การเลื่อนตำแหน่ง” (displacement vector field) เพื่อบอกว่าแสงควรเบนไปทางไหน เมื่อได้เวกเตอร์แล้ว ก็แปลงเป็นภาพ SVG displacement map โดยใช้สีแดงและเขียวแทนการเลื่อนในแกน X และ Y ตามลำดับ แล้วนำไปใช้ในฟิลเตอร์ SVG เพื่อสร้างเอฟเฟกต์หักเหแสงบนองค์ประกอบ UI จริง เช่น ปุ่ม, สวิตช์, กล่องค้นหา และมิวสิกเพลเยอร์ สุดท้ายยังเพิ่ม “specular highlight” หรือแสงสะท้อนขอบกระจก เพื่อให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น โดยใช้การเบลนด์ภาพ highlight เข้ากับภาพที่ผ่านการหักเหแล้ว — ทั้งหมดนี้ทำงานได้เฉพาะใน Chrome เท่านั้น เพราะยังไม่มีเบราว์เซอร์อื่นรองรับ SVG filter เป็น backdrop-filter ✅ แนวคิดหลักของ Liquid Glass บนเว็บ ➡️ จำลองการหักเหแสงตามกฎ Snell–Descartes ➡️ ใช้ค่าดัชนีหักเหของวัสดุ เช่น อากาศ (n=1) และกระจก (n=1.5) ➡️ ใช้ฟังก์ชันความสูงของพื้นผิวเพื่อคำนวณมุมตกกระทบ ➡️ สร้าง displacement vector field เพื่อบอกทิศทางการเบนของแสง ✅ การสร้าง SVG displacement map ➡️ แปลงเวกเตอร์เป็นสีในภาพ SVG โดยใช้ Red = X, Green = Y ➡️ ใช้ <feDisplacementMap /> เพื่อเลื่อนตำแหน่งพิกเซลตามเวกเตอร์ ➡️ scale ของฟิลเตอร์ใช้ค่าการเบนสูงสุดที่คำนวณไว้ ➡️ สามารถ animate scale เพื่อควบคุมความแรงของเอฟเฟกต์ ✅ การใช้งานใน UI จริง ➡️ ใช้กับองค์ประกอบ UI เช่น ปุ่ม, สวิตช์, กล่องค้นหา, มิวสิกเพลเยอร์ ➡️ เพิ่ม specular highlight เพื่อให้ดูมีแสงสะท้อนขอบกระจก ➡️ ใช้ <feBlend /> เพื่อรวมภาพ highlight กับภาพหักเห ➡️ ปรับค่าความเงา, ความอิ่มสี, และระดับการหักเหได้ตามต้องการ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Apple เปิดตัว Liquid Glass ใน WWDC 2025 เป็นส่วนหนึ่งของ iOS 26 และ visionOS ➡️ เอฟเฟกต์นี้มีต้นแบบจาก Dynamic Island และ macOS Aqua ➡️ นักพัฒนาเริ่มสร้างเวอร์ชัน CSS-only เพื่อใช้บนเว็บโดยไม่พึ่ง JavaScript ➡️ GitHub มีโปรเจกต์ทดลองหลายตัว เช่น liquid-glass-effect-macos https://kube.io/blog/liquid-glass-css-svg/
    KUBE.IO
    Liquid Glass in the Browser: Refraction with CSS and SVG — kube.io
    Explore how to recreate Apple's stunning Liquid Glass effect using CSS, SVG Displacement Maps, and refraction calculations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • Highlight Words In Action : August 2025

    bipartisan
    adjective: representing, characterized by, or including members from two parties or factions

    From the headlines: The Trump administration’s decision to cut funding for the Open Technology Fund (OTF) has raised concerns among lawmakers, who see it as a vital tool against internet censorship in authoritarian regimes. Trump’s executive order effectively terminated the OTF’s budget, prompting bipartisan efforts to save the program. Advocates warn that without OTF-backed tools, many citizens and activists could lose secure communication channels, increasing their risk of surveillance and persecution.

    bounty
    noun: a premium or reward, especially one offered by a government

    From the headlines: The United States has lifted bounties on three senior Taliban figures. The three members of the Haqqani militant network in Afghanistan were allegedly involved in planning deadly attacks during the war with the U.S., some of which killed American citizens. Until this week, the State Department had offered rewards of up to $10 million for the death or capture of the militant leaders. The move follows last week’s release of a U.S. hostage who had been held by the Taliban since 2022.

    breach
    noun: an infraction or violation, such as of a law, contract, trust, or promise

    Jeffrey Goldberg, editor-in-chief of The Atlantic, disclosed that he was inadvertently added to a private Signal group chat used by U.S. national security officials. This unexpected breach exposed sensitive information, including details about military strikes in Yemen. The incident underscored a serious protocol violation, as national security deliberations are typically confined to secure, classified settings rather than informal messaging platforms.

    cartography
    noun: the production of maps, including construction of projections, design, compilation, drafting, and reproduction

    From the headlines: After more than a decade of unraveling the mysteries of the universe, the space telescope Gaia has officially powered down. In its ten years of operation, Gaia meticulously mapped nearly 2 billion stars, 150,000 asteroids, and countless other celestial wonders. This cartography resulted in a precise, three-dimensional map of our solar system, which has transformed our understanding of the Milky Way.

    civil liberty
    noun: the freedom of a citizen to exercise customary rights, as of speech or assembly, without unwarranted or arbitrary interference by the government

    From the headlines: Legal experts say surveillance methods being used by colleges and universities on their students may violate their civil liberties. When investigating vandalism connected to political protests, campus police have been using new tactics, including seizing students’ phones and laptops. They have also issued warrants based on social media posts or participation in campus protests. Civil liberties experts say these actions amount to stifling university students’ right to free speech.

    confiscate
    verb: to seize as forfeited to the public domain; appropriate, by way of penalty, for public use

    From the headlines: A kite was briefly confiscated after it came into contact with a United Airlines plane near Washington, D.C. The aircraft landed safely at Ronald Reagan National Airport following reports of a kite hitting it. Police seized the kite from a family at nearby Gravelly Point park, but returned it later. Despite the fact that kite flying is banned there because the sky overhead is “restricted airspace,” about a dozen people had reportedly been flying kites at the park that day.

    defraud
    verb: to deprive of a right, money, or property by fraud

    From the headlines: Hollywood writer-director Carl Erik Rinsch was arrested for defrauding Netflix of $11 million, meant for his unfinished sci-fi show White Horse. Prosecutors say he spent around $10 million on luxury purchases, including Rolls-Royces, a Ferrari, and antiques. Prosecutors also claim that he used the money to pay legal fees to sue Netflix for additional money. Rinsch has been charged with wire fraud and money laundering, while Netflix has declined to comment.

    embezzlement
    noun: the stealing of money entrusted to one’s care

    From the headlines: French politician Marine Le Pen was convicted of embezzlement and barred from public office for five years. Le Pen, who leads the far-right National Rally party, had planned to run for president in 2027. She was also sentenced to four years in prison for spending $4.3 million in European Parliament funds on her own party expenses.

    Fun fact: Embezzlement is from the Anglo-French enbesiler, “cause to disappear,” and an Old French root meaning “to destroy or gouge.”

    fairway
    noun: Golf. the part of the course where the grass is cut short between the tees and the putting greens

    From the headlines: When golf courses close, research shows the surrounding environment improves. With declining interest in golf, nearby neighborhoods report benefits like less flooding and reduced pesticide runoff. Across the U.S., many former courses have been repurposed as nature reserves, where manicured fairways have been replaced by thriving wildflower meadows.

    forage
    verb: to wander or go in search of provisions

    From the headlines: A new online map shows where 1.6 million edible plants grow in cities around the world. The guide, called Falling Fruit, is meant to help urban dwellers and visitors forage for food. Its open source design means people can add locations, mapping additional fruit trees, berry bushes, beehives, and plants that might otherwise go unnoticed.

    franchise
    noun: Sports. a professional sports team

    From the headlines: A group led by Bill Chisholm has agreed to buy the Boston Celtics for $6.1 billion, making it the most expensive franchise sale in North American sports history. The Celtics, fresh off their 18th NBA title, are facing significant financial challenges under the new collective bargaining agreement, but remain favorites to repeat as champions.

    geriatric
    adjective: noting or relating to aged people or animals

    From the headlines: The New England Aquarium in Boston has introduced a new “retirement home” for geriatric aquarium penguins, relocating six elderly birds to a designated island. While wild penguins typically live about ten years, the new aquarium houses twenty penguins in their twenties and thirties. This specialized haven ensures these aging animals receive monitoring for conditions such as arthritis and cataracts.

    Fun fact: The Greek gērōs, “old,” is the root of geriatric.

    iguana
    noun: a large, arboreal lizard, native to Central and South America, having stout legs and a crest of spines from neck to tail

    From the headlines: A recent study sheds light on how North American iguanas may have reached a remote island in Fiji. Genetic analysis suggests that these large reptiles likely traversed thousands of miles across the Pacific Ocean by drifting on makeshift rafts of fallen trees. If confirmed, this would represent the longest documented oceanic migration by any terrestrial vertebrate, apart from humans.

    inaccessible
    adjective: not accessible; unapproachable

    From the headlines: Researchers investigating why we can’t remember being babies found evidence that those memories still exist in our brains, but are inaccessible. Scientists have long suspected that infants don’t create memories at all. A new study using MRI imaging to observe babies’ brains found that around 12 months old, they do begin storing memories of specific images. Neuroscientists are now focused on learning why these early recollections become locked away and out of reach as we grow older.

    magnitude
    noun: greatness of size or amount

    From the headlines: A devastating 7.7 magnitude earthquake struck Myanmar, killing over 3,000 people and leaving hundreds missing. The tremors were so intense they reached 600 miles to Bangkok, where skyscrapers swayed. In response, China, India, and Russia sent rescue teams, while countries like Thailand, Malaysia, and Vietnam offered aid.

    manipulate
    verb: to adapt or change (accounts, figures, etc.) to suit one’s purpose or advantage

    From the headlines: A cheating scandal shook the world of professional ski jumping this week. Several members of Team Norway were suspended after officials found evidence that their ski suits had been manipulated to make the athletes more aerodynamic. The team’s manager admitted to illegally adding an extra seam where the legs are sewn together; more material there was hoped to give the jumpers extra lift and allow air to flow around them more efficiently.

    mush
    verb: to drive or spur on (sled dogs or a sled drawn by dogs)

    From the headlines: Greenland’s annual dog sledding race attracted unusual international attention when the White House said the vice president’s wife, Usha Vance, would attend. Vance canceled her trip after Greenlanders planned to protest her presence at the event. Competitors in the Avannaata Qimussersua, or “Great Race of the North,” mushed their dogs over 26 snowy miles. Henrik Jensen, a musher from northern Greenland, crossed the finish line in first place, pulled by his team of Greenlandic sled dogs.

    ovine
    adjective: pertaining to, of the nature of, or like sheep

    From the headlines: The world’s first known case of bird flu in sheep was diagnosed in Yorkshire, England. After the H5N1 virus was found among birds on a farm, health officials also tested its flock of sheep; only one ovine case was detected. The infected sheep was euthanized to prevent the disease from spreading, and officials said “the risk to livestock remains low.”

    pontiff
    noun: Ecclesiastical. the Roman Catholic pope, the Bishop of Rome

    From the headlines: Following the release of Pope Francis from the hospital on March 23, his lead physician said the pontiff had faced such grave danger that his medical team considered halting treatment. During his hospitalization, the pope endured two critical health crises, prompting intense deliberations over whether aggressive interventions should continue, given the potential risks to his internal organs. Ultimately, the doctors opted to pursue “all available medicines and treatments,” a decision that proved pivotal to his recovery.

    populism
    noun: grass-roots democracy; working-class activism; egalitarianism

    From the headlines: Bernie Sanders is drawing unprecedented crowds on his “Fighting Oligarchy” tour, fueled by a message rooted in economic populism. His rhetoric resonates with disillusioned voters seeking an alternative to both President Trump and the Democratic Party. The independent senator from Vermont frequently denounces what he terms a “government of the billionaires, by the billionaires, and for the billionaires,” while chastising Democrats for failing to adequately champion the interests of the working class.

    prescription
    noun: a direction, usually written, by the physician to the pharmacist for the preparation and use of a medicine or remedy

    From the headlines: A new trend is emerging in healthcare — doctors are now prescribing museum visits. Backed by research showing that time spent in cultural spots can boost mental health and ease loneliness, more physicians are encouraging patients to explore art galleries, theaters, concert halls, and libraries. These cultural outings are said to reduce stress, alleviate mild anxiety and depression, and even improve conditions like high blood pressure. It’s the prescription you didn’t know you needed.

    pristine
    adjective: having its original purity; uncorrupted or unsullied

    From the headlines: Many countries are looking to Switzerland as a model, hoping to replicate its transformation of once heavily polluted rivers and lakes into some of the most pristine in Europe. In the 1960s, Swiss waterways were choked with algae and dead fish due to sewage and industrial pollution. However, over the following decades, the country made significant investments in advanced water treatment facilities. Today, nearly all of its lakes and rivers are once again pristine and safe for swimming.

    prolong
    verb: to lengthen out in time; extend the duration of; cause to continue longer

    From the headlines: After their quick trip to the International Space Station turned out to have an unexpectedly long duration, two NASA astronauts have been safely returned to Earth. What began as an eight-day mission for Butch Wilmore and Suni Williams had to be prolonged after their Starliner spacecraft experienced helium leaks and thruster problems. The two ended up staying on the ISS for more than nine months, until two seats were available on a returning space capsule.

    recruit
    verb: to attempt to acquire the services of (a person) for an employer

    From the headlines: As the White House cuts funding for scientific research, European countries are stepping up to recruit top U.S. scientists. Experts in climate change and vaccine safety are now eyeing job offers across the Atlantic, with France and the Netherlands boosting their budgets to hire talent for their universities.

    reinstate
    verb: to put back or establish again, as in a former position or state

    From the headlines: On March 24, a South Korean court reinstated impeached Prime Minister Han Duck-soo. Han was returned to the government and named acting leader once his impeachment was overturned. President Yoon Suk Yeol, who was also removed from office, is still awaiting a verdict. Han and Yoon were both suspended by South Korea’s National Assembly in December.

    repatriation
    noun: the act or process of returning a person or thing to the country of origin

    From the headlines: After several weeks of refusal, Venezuela agreed to accept repatriation flights from the United States, and the first plane carrying Venezuelan migrants back to their home country landed on March 24. About 200 people who had been deported from the U.S. were on the initial flight. Conflicts between the two countries had previously put the returns on hold.

    serenade
    verb: to entertain with or perform with vocal or instrumental music

    From the headlines: After an incredible 70-year career, Johnny Mathis, the legendary crooner with the famously smooth “velvet voice,” has announced his retirement at the age of 89. Known for his romantic ballads, jazz classics, and soft rock hits, Mathis has been serenading audiences since his teenage years. With more albums sold than any pop artist except Frank Sinatra, his voice has been the soundtrack to countless memories.

    tuition
    noun: the charge or fee for instruction, as at a private school or a college or university

    From the headlines: Starting this fall, attending Harvard University will cost nothing for most students. The school announced that tuition will be free for people whose families earn less than $200,000 per year. The average household income in the U.S. is $80,000. Food, housing, health insurance, and travel will also be free for less wealthy students. The University of Pennsylvania and the Massachusetts Institute of Technology have adopted the same financial aid policy.

    unredacted
    adjective: (of a document) with confidential or sensitive information included or visible

    From the headlines: The Trump administration released over 2,000 documents on JFK’s assassination, leading to a search for new insights. While the unredacted files do not dispute that Lee Harvey Oswald acted alone, they reveal long-hidden details about CIA agents and operations. Attorney Larry Schnapf, who has pushed for their release, argues the disclosures highlight excessive government secrecy. He believes the unredacted documents demonstrate how overclassification has been misused by national security officials.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Highlight Words In Action : August 2025 bipartisan adjective: representing, characterized by, or including members from two parties or factions From the headlines: The Trump administration’s decision to cut funding for the Open Technology Fund (OTF) has raised concerns among lawmakers, who see it as a vital tool against internet censorship in authoritarian regimes. Trump’s executive order effectively terminated the OTF’s budget, prompting bipartisan efforts to save the program. Advocates warn that without OTF-backed tools, many citizens and activists could lose secure communication channels, increasing their risk of surveillance and persecution. bounty noun: a premium or reward, especially one offered by a government From the headlines: The United States has lifted bounties on three senior Taliban figures. The three members of the Haqqani militant network in Afghanistan were allegedly involved in planning deadly attacks during the war with the U.S., some of which killed American citizens. Until this week, the State Department had offered rewards of up to $10 million for the death or capture of the militant leaders. The move follows last week’s release of a U.S. hostage who had been held by the Taliban since 2022. breach noun: an infraction or violation, such as of a law, contract, trust, or promise Jeffrey Goldberg, editor-in-chief of The Atlantic, disclosed that he was inadvertently added to a private Signal group chat used by U.S. national security officials. This unexpected breach exposed sensitive information, including details about military strikes in Yemen. The incident underscored a serious protocol violation, as national security deliberations are typically confined to secure, classified settings rather than informal messaging platforms. cartography noun: the production of maps, including construction of projections, design, compilation, drafting, and reproduction From the headlines: After more than a decade of unraveling the mysteries of the universe, the space telescope Gaia has officially powered down. In its ten years of operation, Gaia meticulously mapped nearly 2 billion stars, 150,000 asteroids, and countless other celestial wonders. This cartography resulted in a precise, three-dimensional map of our solar system, which has transformed our understanding of the Milky Way. civil liberty noun: the freedom of a citizen to exercise customary rights, as of speech or assembly, without unwarranted or arbitrary interference by the government From the headlines: Legal experts say surveillance methods being used by colleges and universities on their students may violate their civil liberties. When investigating vandalism connected to political protests, campus police have been using new tactics, including seizing students’ phones and laptops. They have also issued warrants based on social media posts or participation in campus protests. Civil liberties experts say these actions amount to stifling university students’ right to free speech. confiscate verb: to seize as forfeited to the public domain; appropriate, by way of penalty, for public use From the headlines: A kite was briefly confiscated after it came into contact with a United Airlines plane near Washington, D.C. The aircraft landed safely at Ronald Reagan National Airport following reports of a kite hitting it. Police seized the kite from a family at nearby Gravelly Point park, but returned it later. Despite the fact that kite flying is banned there because the sky overhead is “restricted airspace,” about a dozen people had reportedly been flying kites at the park that day. defraud verb: to deprive of a right, money, or property by fraud From the headlines: Hollywood writer-director Carl Erik Rinsch was arrested for defrauding Netflix of $11 million, meant for his unfinished sci-fi show White Horse. Prosecutors say he spent around $10 million on luxury purchases, including Rolls-Royces, a Ferrari, and antiques. Prosecutors also claim that he used the money to pay legal fees to sue Netflix for additional money. Rinsch has been charged with wire fraud and money laundering, while Netflix has declined to comment. embezzlement noun: the stealing of money entrusted to one’s care From the headlines: French politician Marine Le Pen was convicted of embezzlement and barred from public office for five years. Le Pen, who leads the far-right National Rally party, had planned to run for president in 2027. She was also sentenced to four years in prison for spending $4.3 million in European Parliament funds on her own party expenses. Fun fact: Embezzlement is from the Anglo-French enbesiler, “cause to disappear,” and an Old French root meaning “to destroy or gouge.” fairway noun: Golf. the part of the course where the grass is cut short between the tees and the putting greens From the headlines: When golf courses close, research shows the surrounding environment improves. With declining interest in golf, nearby neighborhoods report benefits like less flooding and reduced pesticide runoff. Across the U.S., many former courses have been repurposed as nature reserves, where manicured fairways have been replaced by thriving wildflower meadows. forage verb: to wander or go in search of provisions From the headlines: A new online map shows where 1.6 million edible plants grow in cities around the world. The guide, called Falling Fruit, is meant to help urban dwellers and visitors forage for food. Its open source design means people can add locations, mapping additional fruit trees, berry bushes, beehives, and plants that might otherwise go unnoticed. franchise noun: Sports. a professional sports team From the headlines: A group led by Bill Chisholm has agreed to buy the Boston Celtics for $6.1 billion, making it the most expensive franchise sale in North American sports history. The Celtics, fresh off their 18th NBA title, are facing significant financial challenges under the new collective bargaining agreement, but remain favorites to repeat as champions. geriatric adjective: noting or relating to aged people or animals From the headlines: The New England Aquarium in Boston has introduced a new “retirement home” for geriatric aquarium penguins, relocating six elderly birds to a designated island. While wild penguins typically live about ten years, the new aquarium houses twenty penguins in their twenties and thirties. This specialized haven ensures these aging animals receive monitoring for conditions such as arthritis and cataracts. Fun fact: The Greek gērōs, “old,” is the root of geriatric. iguana noun: a large, arboreal lizard, native to Central and South America, having stout legs and a crest of spines from neck to tail From the headlines: A recent study sheds light on how North American iguanas may have reached a remote island in Fiji. Genetic analysis suggests that these large reptiles likely traversed thousands of miles across the Pacific Ocean by drifting on makeshift rafts of fallen trees. If confirmed, this would represent the longest documented oceanic migration by any terrestrial vertebrate, apart from humans. inaccessible adjective: not accessible; unapproachable From the headlines: Researchers investigating why we can’t remember being babies found evidence that those memories still exist in our brains, but are inaccessible. Scientists have long suspected that infants don’t create memories at all. A new study using MRI imaging to observe babies’ brains found that around 12 months old, they do begin storing memories of specific images. Neuroscientists are now focused on learning why these early recollections become locked away and out of reach as we grow older. magnitude noun: greatness of size or amount From the headlines: A devastating 7.7 magnitude earthquake struck Myanmar, killing over 3,000 people and leaving hundreds missing. The tremors were so intense they reached 600 miles to Bangkok, where skyscrapers swayed. In response, China, India, and Russia sent rescue teams, while countries like Thailand, Malaysia, and Vietnam offered aid. manipulate verb: to adapt or change (accounts, figures, etc.) to suit one’s purpose or advantage From the headlines: A cheating scandal shook the world of professional ski jumping this week. Several members of Team Norway were suspended after officials found evidence that their ski suits had been manipulated to make the athletes more aerodynamic. The team’s manager admitted to illegally adding an extra seam where the legs are sewn together; more material there was hoped to give the jumpers extra lift and allow air to flow around them more efficiently. mush verb: to drive or spur on (sled dogs or a sled drawn by dogs) From the headlines: Greenland’s annual dog sledding race attracted unusual international attention when the White House said the vice president’s wife, Usha Vance, would attend. Vance canceled her trip after Greenlanders planned to protest her presence at the event. Competitors in the Avannaata Qimussersua, or “Great Race of the North,” mushed their dogs over 26 snowy miles. Henrik Jensen, a musher from northern Greenland, crossed the finish line in first place, pulled by his team of Greenlandic sled dogs. ovine adjective: pertaining to, of the nature of, or like sheep From the headlines: The world’s first known case of bird flu in sheep was diagnosed in Yorkshire, England. After the H5N1 virus was found among birds on a farm, health officials also tested its flock of sheep; only one ovine case was detected. The infected sheep was euthanized to prevent the disease from spreading, and officials said “the risk to livestock remains low.” pontiff noun: Ecclesiastical. the Roman Catholic pope, the Bishop of Rome From the headlines: Following the release of Pope Francis from the hospital on March 23, his lead physician said the pontiff had faced such grave danger that his medical team considered halting treatment. During his hospitalization, the pope endured two critical health crises, prompting intense deliberations over whether aggressive interventions should continue, given the potential risks to his internal organs. Ultimately, the doctors opted to pursue “all available medicines and treatments,” a decision that proved pivotal to his recovery. populism noun: grass-roots democracy; working-class activism; egalitarianism From the headlines: Bernie Sanders is drawing unprecedented crowds on his “Fighting Oligarchy” tour, fueled by a message rooted in economic populism. His rhetoric resonates with disillusioned voters seeking an alternative to both President Trump and the Democratic Party. The independent senator from Vermont frequently denounces what he terms a “government of the billionaires, by the billionaires, and for the billionaires,” while chastising Democrats for failing to adequately champion the interests of the working class. prescription noun: a direction, usually written, by the physician to the pharmacist for the preparation and use of a medicine or remedy From the headlines: A new trend is emerging in healthcare — doctors are now prescribing museum visits. Backed by research showing that time spent in cultural spots can boost mental health and ease loneliness, more physicians are encouraging patients to explore art galleries, theaters, concert halls, and libraries. These cultural outings are said to reduce stress, alleviate mild anxiety and depression, and even improve conditions like high blood pressure. It’s the prescription you didn’t know you needed. pristine adjective: having its original purity; uncorrupted or unsullied From the headlines: Many countries are looking to Switzerland as a model, hoping to replicate its transformation of once heavily polluted rivers and lakes into some of the most pristine in Europe. In the 1960s, Swiss waterways were choked with algae and dead fish due to sewage and industrial pollution. However, over the following decades, the country made significant investments in advanced water treatment facilities. Today, nearly all of its lakes and rivers are once again pristine and safe for swimming. prolong verb: to lengthen out in time; extend the duration of; cause to continue longer From the headlines: After their quick trip to the International Space Station turned out to have an unexpectedly long duration, two NASA astronauts have been safely returned to Earth. What began as an eight-day mission for Butch Wilmore and Suni Williams had to be prolonged after their Starliner spacecraft experienced helium leaks and thruster problems. The two ended up staying on the ISS for more than nine months, until two seats were available on a returning space capsule. recruit verb: to attempt to acquire the services of (a person) for an employer From the headlines: As the White House cuts funding for scientific research, European countries are stepping up to recruit top U.S. scientists. Experts in climate change and vaccine safety are now eyeing job offers across the Atlantic, with France and the Netherlands boosting their budgets to hire talent for their universities. reinstate verb: to put back or establish again, as in a former position or state From the headlines: On March 24, a South Korean court reinstated impeached Prime Minister Han Duck-soo. Han was returned to the government and named acting leader once his impeachment was overturned. President Yoon Suk Yeol, who was also removed from office, is still awaiting a verdict. Han and Yoon were both suspended by South Korea’s National Assembly in December. repatriation noun: the act or process of returning a person or thing to the country of origin From the headlines: After several weeks of refusal, Venezuela agreed to accept repatriation flights from the United States, and the first plane carrying Venezuelan migrants back to their home country landed on March 24. About 200 people who had been deported from the U.S. were on the initial flight. Conflicts between the two countries had previously put the returns on hold. serenade verb: to entertain with or perform with vocal or instrumental music From the headlines: After an incredible 70-year career, Johnny Mathis, the legendary crooner with the famously smooth “velvet voice,” has announced his retirement at the age of 89. Known for his romantic ballads, jazz classics, and soft rock hits, Mathis has been serenading audiences since his teenage years. With more albums sold than any pop artist except Frank Sinatra, his voice has been the soundtrack to countless memories. tuition noun: the charge or fee for instruction, as at a private school or a college or university From the headlines: Starting this fall, attending Harvard University will cost nothing for most students. The school announced that tuition will be free for people whose families earn less than $200,000 per year. The average household income in the U.S. is $80,000. Food, housing, health insurance, and travel will also be free for less wealthy students. The University of Pennsylvania and the Massachusetts Institute of Technology have adopted the same financial aid policy. unredacted adjective: (of a document) with confidential or sensitive information included or visible From the headlines: The Trump administration released over 2,000 documents on JFK’s assassination, leading to a search for new insights. While the unredacted files do not dispute that Lee Harvey Oswald acted alone, they reveal long-hidden details about CIA agents and operations. Attorney Larry Schnapf, who has pushed for their release, argues the disclosures highlight excessive government secrecy. He believes the unredacted documents demonstrate how overclassification has been misused by national security officials. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 12
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 12
    ประมาณปี พ.ศ.1960 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของรัฐบาลEisenhower นาย Kenneth ขออนุญาตกระทรวงต่างประเทศอเม ริกา เดินทางมาสำรวจเมืองไทย และแถบอินโดจีนอีกรอบ (!!!) ตอนนั้น นาย Alexis Johnson เป็นฑูต และ นาย Leonard Unger เป็นผู้ช่วยฑูต ทั้ง 2 คนเป็นคนฉลาดรู้จักเมืองไทยอย่างดี เข้ ากับทหารไทยได้แบบคอหอยกับลูกกระเดือก โดยเฉพาะนาย Unger เมื่อมาถึงปรากฏว่าจอมพลสฤษดิ์ส่งนายทหารคนสนิทมารับนาย Kenneth ถึงสนามบิน จอมพลสฤษดิ์ถามเขาว่า มาทำไม นาย Kenneth บอกจะมาดูสถานการณ์ในลาวสักหน่อย หลังจากนั้นจะไปกัมพูชา ไซ่ง่อนและพม่า นาย Kenneth บอกว่า จริงๆจะมาตรวจการบ้านด้วยว่าเงินช่วยเหลือทางทหาร Military Assistance Program (MAP) ที่อเมริกาให้แต่ละประเทศ ได้ผลมากน้อยแค่ไหน จอมพลสฤษดิ์บอกว่ากลับมาแล้ว มาเล่าให้ฟังกันด้วย ปรากฎว่าส่วนใหญ่ได้ผล ยกเว้นแต่ลาว ซึ่งอเมริกาให้เงินช่วยเหลือมากกว่าไทยเสียอีก แต่อเมริกาทำท่าจะเสียลาวให้แก่คอมมิวนิสต์ (และในที่สุดก็เสียจริงๆ ! ) โดยอาจจะมีการปฏิวัติโดยลาวแดงเร็วๆนี้ ขากลับ นาย Kenneth ก็รายงานเรื่องลาวอาจมีการปฏิวัติให้จอมพลสฤษดิ์ทราบ แล้วก็เดินทางต่อลงมาที่สิงค์โปร์
    ที่สิงคโปร์ เขาได้พบกับเศรษฐีสิงคโปร์คนหนึ่งชื่อ Ko Geng Hsui ซึ่งเป็นกระเป๋าใหญ่ให้แก่นาย Lee Kwan Yew และภายหลังได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม นาย Ko ต้องการให้นาย Kenneth ช่วยตั้งสถาบันเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ให้ ภายหลังนาย Kenneth ได้ลางานจากรัฐบาลอเมริกัน 1 ปี เพื่อมาจัดตั้งสถาบันนี้ให้สิงคโปร์ โดยเอาชาวยิวชื่อ Harry Benda จากมหาวิทยาลัย Yale มาช่วย สิงคโปร์จึงเป็นประเทศแรกในแถบนี้ ที่มีสถาบันการศึกษาลงลึกอย่างจริงจังเกี่ยวกับเอเซียอาคเณย์ ตกลงสิงคโปร์ไม่ได้ลอกเลียนแค่งานสงกรานต์ไปจากบ้านเรา แต่ลอกหลายอย่างรวมทั้งวิชาความรู้เกี่ยวกับภูมิภาคนี้ สิงคโปร์ประเทศที่ไม่มีรากไม่มีเหง้า ไม่มีวัฒนธรรม ประเพณีของตนเอง แต่มีคนไทยหลายคนปลาบปลื้มกับความเจริญของสิงคโปร์ จนถึงขนาดอยากให้เมืองไทยเป็นเหมือนสิงคโปร์ เศร้าครับ!
    เมื่อนาย Kenneth กลับมาถึงวอซิงตัน การเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังเข้มข้น แล้วนาย Kennedy ก็ชนะการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันลาวก็อาการทรุดตามที่นาย Kenneth คาด รัฐบาล Kennedy เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ยังจับต้นไม่ชนปลาย นาย Mc Geroge Bundy จอมแสบที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดี Kennedy ถึงจะแสนรู้อย่างไร มาใหม่ๆก็มึนรับประทาน แนะนำสั่งการอะไรไม่ถูก ได้แต่เรียกให้นาย Kenneth ให้มาสรุปสถานการณ์ในลาวให้รัฐบาลฟังก่อนตัดสินใจ ทุกอย่างอลเวงไปหมด และนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ประธานธิบดี Kennedy ฉุนขาด ประกาศว่าหน่วยงาน National Security Council ทำงานไม่ได้ผล (คงไม่ให้ราคานาย Kenneth สักเท่าไหร่) ถ้าเขายุบหน่วยงานนี้ได้เขาจะยุบแล้ว เพียงแต่ต้องไปขออนุมัติจากสภาสูง ต้องออกกฏหมาย ฯลฯ ดังนั้นเขาจึงสั่ง “แขวน” พนักงานทุกคนในหน่วยงานรวมทั้งนาย Kenneth ด้วย และได้ยกเครื่องการทำงานสภาความมั่นคงเสียใหม่
    หลังจากโดนแขวนอยู่หลายเดือน นาย Kenneth ก็เดินแกว่งไปตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาที่ลง เพราะแม้จะมีเงินเดือนกิน แต่ไม่มีเก้าอี้นั่งชูคอ แบบรัฐบาลก่อนๆ มันก็ทำให้เขาเสียรังวัดไปพอสมควร จะโม้อะไร โอ้อวดอะไร อย่างเมื่อก่อนก็ไม่ถนัดปาก ก็คนโดนแขวนอยู่มันจะให้โม้อะไร ไหว จนวันหนึ่ง นาย Walt Rostow ซึ่งเป็นผู้ช่วยของนาย McGeorge Bundy และรู้จักกับนาย Kenneth ตั้งแต่สมัยทำงานอยู่ OSS เป็นลูกน้องนาย Donovan มาด้วยกัน ก็ติดต่อนาย Kenneth บอกว่ามีงานให้ทำแล้ว ประธานาธิบดี Kennedy เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของอเมริกาไม่ว่าทหาร หรือพลเรือน เมื่อจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เมืองใด ควรรู้เรื่องเมืองนั้นอย่างดี ไม่ใช่ไปแบบยืนหน้าเซ่อ ร้องเพลงรำวงวันคริสตมาสให้ชาวบ้านฟัง (สงสัยคุณนายเคนนี่ฑูตอเมริกาคนปัจจุบัน คงไม่เคยได้รับการอบรมอะไรเลยก่อนมาประจำเมืองไทย คุณนายถึงได้ทำตัวทุเรศปานนั้น) จึงมอบหมายให้นาย Kenneth เป็นผู้จัดการหลักสูตรอบรม เกี่ยวกับการต่อต้านเหตุการณ์ไม่สงบ (Counter Insurgency) ชื่อเต็มก็คือการต่อต้านความไม่สงบ อันเกิดจากภัยคอมมิวนิสต์ในโลกที่ 3 นั่นแหละ เป็นหลักสูตรที่จัดรวมให้สมุนนักล่าไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบใด นาย Kenneth บอกไม่มีปัญหาขอให้จัดงบแบบไม่อั้นมาแล้วกัน นักล่ากำลังฟิต เพราะฉะนั้น เท่าไรเท่ากัน จัดไปเลยย
    นาย Kenneth สารภาพว่า แรกๆ เขาก็ยังงงว่าจะทำได้อย่างไร เขาไม่ใช่ทหาร ไม่รู้เรื่องการรบ แต่เขารู้จักประเทศต่างๆ ที่คอมมิวนิสต์กำลังคุกคาม เขาจึงนำประสพการณ์ ข้อมูลที่เขาได้จากการที่เขาเคยอยู่ในเมืองไทยและการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ และเจอผู้คนในประเทศเหล่านั้น ไม่ว่าจะระดับรัฐบาล ผู้นำประเทศ หรือชาวบ้านทั่วไป บวกกับข้อมูลจากหนังสืออีกเกือบ 2,000 เล่ม ที่เขาสะสมไว้ เอามาผสมปนเปแบบตอแหล ทำเป็นหลักสูตรสำหรับการอบรมประมาณ 2 เดือน เป็นการติวเข้มสมุนนักล่า
    ปรากฎว่าการตอแหลได้ผลดีเกินคาด เจ้านายสั่งให้เพิ่มบริเวณพื้นที่การอบรม จากครอบคลุมเฉพาะแถบเอเซีย เพิ่มลาตินอเมริกา อาฟริกา และตะวันออกกลางเข้าไปด้วย นี่มันกำลังทำสนามนักล่าขนาดใหญ่ครอบคลุมโลกนี่หว่า นักล่าหน้าใหม่มาแรงจริงๆ แต่นาย Kenneth มีภูมิมีพื้นแค่แถบอินโดจีน แต่คนพันธ์นาย Kenneth ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เสียเหลี่ยมมิชชันนารีจากเมืองตรังหมด โม้เอาไว้เยอะ เขาบอกไม่มีปัญหา เขาไปกว้านเอาอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญตามที่เจ้านายต้องการ มาช่วยกันสร้างหลักสูตรปรับพื้น สนามนักล่าจนสำเร็จ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกไม่ถึง 15 ปี อเมริกานักล่าหน้าใหม่ ก็พร้อมที่ลงสนามล่า ที่ได้ส่งสมุนไปปรับพื้นทำสนาม เตรียมไว้ตามแผน โดยการอนุเคราะห์ของผู้ถูกล่าเองเสียหลายส่วน! น่าเศร้าใจจนต้องหยุดพักเขียนไปหลายวัน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 12 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 12 ประมาณปี พ.ศ.1960 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของรัฐบาลEisenhower นาย Kenneth ขออนุญาตกระทรวงต่างประเทศอเม ริกา เดินทางมาสำรวจเมืองไทย และแถบอินโดจีนอีกรอบ (!!!) ตอนนั้น นาย Alexis Johnson เป็นฑูต และ นาย Leonard Unger เป็นผู้ช่วยฑูต ทั้ง 2 คนเป็นคนฉลาดรู้จักเมืองไทยอย่างดี เข้ ากับทหารไทยได้แบบคอหอยกับลูกกระเดือก โดยเฉพาะนาย Unger เมื่อมาถึงปรากฏว่าจอมพลสฤษดิ์ส่งนายทหารคนสนิทมารับนาย Kenneth ถึงสนามบิน จอมพลสฤษดิ์ถามเขาว่า มาทำไม นาย Kenneth บอกจะมาดูสถานการณ์ในลาวสักหน่อย หลังจากนั้นจะไปกัมพูชา ไซ่ง่อนและพม่า นาย Kenneth บอกว่า จริงๆจะมาตรวจการบ้านด้วยว่าเงินช่วยเหลือทางทหาร Military Assistance Program (MAP) ที่อเมริกาให้แต่ละประเทศ ได้ผลมากน้อยแค่ไหน จอมพลสฤษดิ์บอกว่ากลับมาแล้ว มาเล่าให้ฟังกันด้วย ปรากฎว่าส่วนใหญ่ได้ผล ยกเว้นแต่ลาว ซึ่งอเมริกาให้เงินช่วยเหลือมากกว่าไทยเสียอีก แต่อเมริกาทำท่าจะเสียลาวให้แก่คอมมิวนิสต์ (และในที่สุดก็เสียจริงๆ ! ) โดยอาจจะมีการปฏิวัติโดยลาวแดงเร็วๆนี้ ขากลับ นาย Kenneth ก็รายงานเรื่องลาวอาจมีการปฏิวัติให้จอมพลสฤษดิ์ทราบ แล้วก็เดินทางต่อลงมาที่สิงค์โปร์ ที่สิงคโปร์ เขาได้พบกับเศรษฐีสิงคโปร์คนหนึ่งชื่อ Ko Geng Hsui ซึ่งเป็นกระเป๋าใหญ่ให้แก่นาย Lee Kwan Yew และภายหลังได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม นาย Ko ต้องการให้นาย Kenneth ช่วยตั้งสถาบันเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ให้ ภายหลังนาย Kenneth ได้ลางานจากรัฐบาลอเมริกัน 1 ปี เพื่อมาจัดตั้งสถาบันนี้ให้สิงคโปร์ โดยเอาชาวยิวชื่อ Harry Benda จากมหาวิทยาลัย Yale มาช่วย สิงคโปร์จึงเป็นประเทศแรกในแถบนี้ ที่มีสถาบันการศึกษาลงลึกอย่างจริงจังเกี่ยวกับเอเซียอาคเณย์ ตกลงสิงคโปร์ไม่ได้ลอกเลียนแค่งานสงกรานต์ไปจากบ้านเรา แต่ลอกหลายอย่างรวมทั้งวิชาความรู้เกี่ยวกับภูมิภาคนี้ สิงคโปร์ประเทศที่ไม่มีรากไม่มีเหง้า ไม่มีวัฒนธรรม ประเพณีของตนเอง แต่มีคนไทยหลายคนปลาบปลื้มกับความเจริญของสิงคโปร์ จนถึงขนาดอยากให้เมืองไทยเป็นเหมือนสิงคโปร์ เศร้าครับ! เมื่อนาย Kenneth กลับมาถึงวอซิงตัน การเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังเข้มข้น แล้วนาย Kennedy ก็ชนะการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันลาวก็อาการทรุดตามที่นาย Kenneth คาด รัฐบาล Kennedy เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ยังจับต้นไม่ชนปลาย นาย Mc Geroge Bundy จอมแสบที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดี Kennedy ถึงจะแสนรู้อย่างไร มาใหม่ๆก็มึนรับประทาน แนะนำสั่งการอะไรไม่ถูก ได้แต่เรียกให้นาย Kenneth ให้มาสรุปสถานการณ์ในลาวให้รัฐบาลฟังก่อนตัดสินใจ ทุกอย่างอลเวงไปหมด และนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ประธานธิบดี Kennedy ฉุนขาด ประกาศว่าหน่วยงาน National Security Council ทำงานไม่ได้ผล (คงไม่ให้ราคานาย Kenneth สักเท่าไหร่) ถ้าเขายุบหน่วยงานนี้ได้เขาจะยุบแล้ว เพียงแต่ต้องไปขออนุมัติจากสภาสูง ต้องออกกฏหมาย ฯลฯ ดังนั้นเขาจึงสั่ง “แขวน” พนักงานทุกคนในหน่วยงานรวมทั้งนาย Kenneth ด้วย และได้ยกเครื่องการทำงานสภาความมั่นคงเสียใหม่ หลังจากโดนแขวนอยู่หลายเดือน นาย Kenneth ก็เดินแกว่งไปตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาที่ลง เพราะแม้จะมีเงินเดือนกิน แต่ไม่มีเก้าอี้นั่งชูคอ แบบรัฐบาลก่อนๆ มันก็ทำให้เขาเสียรังวัดไปพอสมควร จะโม้อะไร โอ้อวดอะไร อย่างเมื่อก่อนก็ไม่ถนัดปาก ก็คนโดนแขวนอยู่มันจะให้โม้อะไร ไหว จนวันหนึ่ง นาย Walt Rostow ซึ่งเป็นผู้ช่วยของนาย McGeorge Bundy และรู้จักกับนาย Kenneth ตั้งแต่สมัยทำงานอยู่ OSS เป็นลูกน้องนาย Donovan มาด้วยกัน ก็ติดต่อนาย Kenneth บอกว่ามีงานให้ทำแล้ว ประธานาธิบดี Kennedy เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของอเมริกาไม่ว่าทหาร หรือพลเรือน เมื่อจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เมืองใด ควรรู้เรื่องเมืองนั้นอย่างดี ไม่ใช่ไปแบบยืนหน้าเซ่อ ร้องเพลงรำวงวันคริสตมาสให้ชาวบ้านฟัง (สงสัยคุณนายเคนนี่ฑูตอเมริกาคนปัจจุบัน คงไม่เคยได้รับการอบรมอะไรเลยก่อนมาประจำเมืองไทย คุณนายถึงได้ทำตัวทุเรศปานนั้น) จึงมอบหมายให้นาย Kenneth เป็นผู้จัดการหลักสูตรอบรม เกี่ยวกับการต่อต้านเหตุการณ์ไม่สงบ (Counter Insurgency) ชื่อเต็มก็คือการต่อต้านความไม่สงบ อันเกิดจากภัยคอมมิวนิสต์ในโลกที่ 3 นั่นแหละ เป็นหลักสูตรที่จัดรวมให้สมุนนักล่าไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบใด นาย Kenneth บอกไม่มีปัญหาขอให้จัดงบแบบไม่อั้นมาแล้วกัน นักล่ากำลังฟิต เพราะฉะนั้น เท่าไรเท่ากัน จัดไปเลยย นาย Kenneth สารภาพว่า แรกๆ เขาก็ยังงงว่าจะทำได้อย่างไร เขาไม่ใช่ทหาร ไม่รู้เรื่องการรบ แต่เขารู้จักประเทศต่างๆ ที่คอมมิวนิสต์กำลังคุกคาม เขาจึงนำประสพการณ์ ข้อมูลที่เขาได้จากการที่เขาเคยอยู่ในเมืองไทยและการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ และเจอผู้คนในประเทศเหล่านั้น ไม่ว่าจะระดับรัฐบาล ผู้นำประเทศ หรือชาวบ้านทั่วไป บวกกับข้อมูลจากหนังสืออีกเกือบ 2,000 เล่ม ที่เขาสะสมไว้ เอามาผสมปนเปแบบตอแหล ทำเป็นหลักสูตรสำหรับการอบรมประมาณ 2 เดือน เป็นการติวเข้มสมุนนักล่า ปรากฎว่าการตอแหลได้ผลดีเกินคาด เจ้านายสั่งให้เพิ่มบริเวณพื้นที่การอบรม จากครอบคลุมเฉพาะแถบเอเซีย เพิ่มลาตินอเมริกา อาฟริกา และตะวันออกกลางเข้าไปด้วย นี่มันกำลังทำสนามนักล่าขนาดใหญ่ครอบคลุมโลกนี่หว่า นักล่าหน้าใหม่มาแรงจริงๆ แต่นาย Kenneth มีภูมิมีพื้นแค่แถบอินโดจีน แต่คนพันธ์นาย Kenneth ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เสียเหลี่ยมมิชชันนารีจากเมืองตรังหมด โม้เอาไว้เยอะ เขาบอกไม่มีปัญหา เขาไปกว้านเอาอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญตามที่เจ้านายต้องการ มาช่วยกันสร้างหลักสูตรปรับพื้น สนามนักล่าจนสำเร็จ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกไม่ถึง 15 ปี อเมริกานักล่าหน้าใหม่ ก็พร้อมที่ลงสนามล่า ที่ได้ส่งสมุนไปปรับพื้นทำสนาม เตรียมไว้ตามแผน โดยการอนุเคราะห์ของผู้ถูกล่าเองเสียหลายส่วน! น่าเศร้าใจจนต้องหยุดพักเขียนไปหลายวัน คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Kodi 22 ‘Piers’ มาแล้ว! รองรับ HDR บน Wayland และ OpenGL พร้อมฟีเจอร์ใหม่เพียบทั้งเกม หนัง และระบบเสียง”

    ถ้าคุณเป็นสายดูหนัง เล่นเกม หรือใช้ Kodi เป็นศูนย์กลางความบันเทิงในบ้าน — เวอร์ชันใหม่ที่กำลังจะมาในชื่อ Kodi 22 “Piers” คือการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะผู้ใช้ Linux เพราะมันมาพร้อมฟีเจอร์ที่รอคอยมานาน: รองรับ HDR บน Wayland และ HDR passthrough บน OpenGL

    Kodi 22 ได้เพิ่มการรองรับ Wayland Color Management Protocol ซึ่งทำให้สามารถแสดงภาพ HDR ได้บนระบบที่ใช้ Wayland compositor ที่รองรับ — ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการคุณภาพภาพระดับสูงโดยไม่ต้องพึ่ง X11 อีกต่อไป

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้านเกม เช่น รองรับ shader, ปรับปรุงการใช้เมาส์และคีย์บอร์ด, และการเรนเดอร์แบบ front-to-back บน OpenGL เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงการลดการใช้หน่วยความจำสำหรับ texture แบบ single และ dual channel

    ฝั่งวิดีโอและเสียงก็ไม่น้อยหน้า: Kodi 22 รองรับ FFmpeg 7, เพิ่มระบบ chapter สำหรับ audiobook, ปรับปรุงเมนูเลือกตอนใน Blu-ray, และเพิ่มระบบจัดการ Movie Versions/Extras แบบใหม่ที่แสดง artwork และข้อมูลได้ละเอียดขึ้น

    สำหรับ Android ก็รองรับ Android 15 และ page size 16KB พร้อมฟีเจอร์แชร์ไฟล์กับแอปอื่น ส่วน LG webOS ก็มี unified media pipeline ใหม่ และ Windows ARM64 ก็เริ่มรองรับแล้วเช่นกัน

    ด้าน PVR (Personal Video Recorder) มีการเพิ่ม Recently Added Channels, widget ใหม่, ระบบ Custom Timers, และปรับปรุงการค้นหา EPG รวมถึงการจัดกลุ่มช่องรายการ

    สุดท้ายคือการปรับปรุงด้านเครือข่าย เช่น การแสดง SMB directory ขนาดใหญ่ได้เร็วขึ้น, รองรับ SMB 2.0 ที่ไม่มีฟีเจอร์ “large MTU”, และเชื่อมต่อกับ Windows SMB server ที่ไม่มีรหัสผ่านได้ดีขึ้น

    การรองรับ HDR และกราฟิกบน Linux
    รองรับ HDR passthrough บน OpenGL
    รองรับ HDR บน Wayland ผ่าน Wayland Color Management Protocol
    ปรับปรุงการเรนเดอร์แบบ front-to-back บน OpenGL(ES)
    ลดการใช้หน่วยความจำสำหรับ texture แบบ single และ dual channel

    ฟีเจอร์ใหม่ด้านวิดีโอและเสียง
    รองรับ FFmpeg 7
    เพิ่มระบบ audiobook chapter
    ปรับปรุง Movie Versions/Extras และ Blu-ray episode menu
    เพิ่มระบบจัดการ artwork และข้อมูลตอนใน Blu-ray

    ฟีเจอร์ด้านเกม
    รองรับ shader สำหรับเกม
    ปรับปรุงการใช้เมาส์และคีย์บอร์ด
    ปรับปรุงคุณภาพ texture สำหรับอุปกรณ์ช้า

    การรองรับแพลตฟอร์มต่างๆ
    Android รองรับ Android 15 และ page size 16KB
    LG webOS มี unified media pipeline ใหม่
    Windows รองรับ ARM64 desktop และ Python 3.13
    รองรับการแชร์ไฟล์กับแอปอื่นบน Android

    การปรับปรุงระบบ PVR
    เพิ่ม Recently Added Channels และ widget ใหม่
    เพิ่ม Providers window และ Custom Timers
    ปรับปรุงการจัดกลุ่มช่อง, การค้นหา, และการบันทึก

    การปรับปรุงด้านเครือข่าย
    แสดง SMB directory ขนาดใหญ่ได้เร็วขึ้น
    รองรับ SMB 2.0 ที่ไม่มีฟีเจอร์ large MTU
    เชื่อมต่อกับ Windows SMB server ที่ไม่มีรหัสผ่านได้ดีขึ้น

    การรองรับอุปกรณ์เสริม
    ปรับปรุงการใช้งาน OSMC Remote
    รองรับ Pulse-Eight CEC adapter และ Flirc receiver

    https://9to5linux.com/kodi-22-piers-promises-hdr-passthrough-on-opengl-and-hdr-on-wayland
    🎬 “Kodi 22 ‘Piers’ มาแล้ว! รองรับ HDR บน Wayland และ OpenGL พร้อมฟีเจอร์ใหม่เพียบทั้งเกม หนัง และระบบเสียง” ถ้าคุณเป็นสายดูหนัง เล่นเกม หรือใช้ Kodi เป็นศูนย์กลางความบันเทิงในบ้าน — เวอร์ชันใหม่ที่กำลังจะมาในชื่อ Kodi 22 “Piers” คือการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะผู้ใช้ Linux เพราะมันมาพร้อมฟีเจอร์ที่รอคอยมานาน: รองรับ HDR บน Wayland และ HDR passthrough บน OpenGL Kodi 22 ได้เพิ่มการรองรับ Wayland Color Management Protocol ซึ่งทำให้สามารถแสดงภาพ HDR ได้บนระบบที่ใช้ Wayland compositor ที่รองรับ — ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการคุณภาพภาพระดับสูงโดยไม่ต้องพึ่ง X11 อีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้านเกม เช่น รองรับ shader, ปรับปรุงการใช้เมาส์และคีย์บอร์ด, และการเรนเดอร์แบบ front-to-back บน OpenGL เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงการลดการใช้หน่วยความจำสำหรับ texture แบบ single และ dual channel ฝั่งวิดีโอและเสียงก็ไม่น้อยหน้า: Kodi 22 รองรับ FFmpeg 7, เพิ่มระบบ chapter สำหรับ audiobook, ปรับปรุงเมนูเลือกตอนใน Blu-ray, และเพิ่มระบบจัดการ Movie Versions/Extras แบบใหม่ที่แสดง artwork และข้อมูลได้ละเอียดขึ้น สำหรับ Android ก็รองรับ Android 15 และ page size 16KB พร้อมฟีเจอร์แชร์ไฟล์กับแอปอื่น ส่วน LG webOS ก็มี unified media pipeline ใหม่ และ Windows ARM64 ก็เริ่มรองรับแล้วเช่นกัน ด้าน PVR (Personal Video Recorder) มีการเพิ่ม Recently Added Channels, widget ใหม่, ระบบ Custom Timers, และปรับปรุงการค้นหา EPG รวมถึงการจัดกลุ่มช่องรายการ สุดท้ายคือการปรับปรุงด้านเครือข่าย เช่น การแสดง SMB directory ขนาดใหญ่ได้เร็วขึ้น, รองรับ SMB 2.0 ที่ไม่มีฟีเจอร์ “large MTU”, และเชื่อมต่อกับ Windows SMB server ที่ไม่มีรหัสผ่านได้ดีขึ้น ✅ การรองรับ HDR และกราฟิกบน Linux ➡️ รองรับ HDR passthrough บน OpenGL ➡️ รองรับ HDR บน Wayland ผ่าน Wayland Color Management Protocol ➡️ ปรับปรุงการเรนเดอร์แบบ front-to-back บน OpenGL(ES) ➡️ ลดการใช้หน่วยความจำสำหรับ texture แบบ single และ dual channel ✅ ฟีเจอร์ใหม่ด้านวิดีโอและเสียง ➡️ รองรับ FFmpeg 7 ➡️ เพิ่มระบบ audiobook chapter ➡️ ปรับปรุง Movie Versions/Extras และ Blu-ray episode menu ➡️ เพิ่มระบบจัดการ artwork และข้อมูลตอนใน Blu-ray ✅ ฟีเจอร์ด้านเกม ➡️ รองรับ shader สำหรับเกม ➡️ ปรับปรุงการใช้เมาส์และคีย์บอร์ด ➡️ ปรับปรุงคุณภาพ texture สำหรับอุปกรณ์ช้า ✅ การรองรับแพลตฟอร์มต่างๆ ➡️ Android รองรับ Android 15 และ page size 16KB ➡️ LG webOS มี unified media pipeline ใหม่ ➡️ Windows รองรับ ARM64 desktop และ Python 3.13 ➡️ รองรับการแชร์ไฟล์กับแอปอื่นบน Android ✅ การปรับปรุงระบบ PVR ➡️ เพิ่ม Recently Added Channels และ widget ใหม่ ➡️ เพิ่ม Providers window และ Custom Timers ➡️ ปรับปรุงการจัดกลุ่มช่อง, การค้นหา, และการบันทึก ✅ การปรับปรุงด้านเครือข่าย ➡️ แสดง SMB directory ขนาดใหญ่ได้เร็วขึ้น ➡️ รองรับ SMB 2.0 ที่ไม่มีฟีเจอร์ large MTU ➡️ เชื่อมต่อกับ Windows SMB server ที่ไม่มีรหัสผ่านได้ดีขึ้น ✅ การรองรับอุปกรณ์เสริม ➡️ ปรับปรุงการใช้งาน OSMC Remote ➡️ รองรับ Pulse-Eight CEC adapter และ Flirc receiver https://9to5linux.com/kodi-22-piers-promises-hdr-passthrough-on-opengl-and-hdr-on-wayland
    9TO5LINUX.COM
    Kodi 22 "Piers" Promises HDR Passthrough on OpenGL and HDR on Wayland - 9to5Linux
    Kodi 22 "Piers" open-source media center is now available for public testing promising HDR on Wayland support for Linux systems.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Debian 13.1 ‘Trixie’ มาแล้ว! อัปเดตแรกของดิสโทรสายเสถียร พร้อม 71 แพตช์บั๊กและ 16 ช่องโหว่ความปลอดภัย”

    ถ้าคุณเป็นสาย Linux ที่รักความเสถียรและความปลอดภัยเป็นหลัก — ข่าวนี้คือสิ่งที่คุณรอคอย: Debian 13.1 “Trixie” ได้รับการปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 6 กันยายน 2025 โดยเป็นอัปเดตแรกของ Debian 13 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนก่อน

    Debian 13.1 ไม่ใช่เวอร์ชันใหม่ แต่เป็น “point release” ที่รวมการแก้ไขบั๊กจำนวน 71 รายการ และอัปเดตด้านความปลอดภัยอีก 16 รายการ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งระบบได้จาก ISO ที่ใหม่กว่า โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแพตช์จำนวนมากหลังติดตั้ง

    สำหรับผู้ใช้ที่ติดตั้ง Debian 13 ไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด ISO ใหม่ เพียงแค่รันคำสั่ง sudo apt update && sudo apt full-upgrade ก็จะได้รับอัปเดตทั้งหมดทันที

    Debian 13.1 รองรับสถาปัตยกรรมหลากหลาย เช่น amd64, arm64, riscv64, ppc64el, s390x และ armhf โดยมี Live ISO สำหรับ 64-bit ที่มาพร้อมเดสก์ท็อปยอดนิยม เช่น KDE Plasma 6.3, GNOME 48, Xfce 4.20, Cinnamon 6.4, LXQt 2.1, MATE 1.26.1 และ LXDE 13 รวมถึงรุ่น “Junior” ที่ใช้ IceWM และรุ่น “Standard” ที่ไม่มี GUI

    นอกจากนี้ Debian ยังปล่อย Debian 12.12 “Bookworm” ออกมาพร้อมกัน โดยมีการแก้ไขบั๊กถึง 135 รายการ และอัปเดตความปลอดภัยอีก 83 รายการ — สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดูแลทั้งเวอร์ชันใหม่และเก่าอย่างต่อเนื่อง

    การเปิดตัว Debian 13.1 “Trixie”
    เป็น point release แรกของ Debian 13
    รวม 71 bug fixes และ 16 security updates
    ปล่อยออกมาเพื่อให้ผู้ใช้ติดตั้งจาก ISO ที่อัปเดตแล้ว

    วิธีอัปเดตสำหรับผู้ใช้เดิม
    ใช้คำสั่ง sudo apt update && sudo apt full-upgrade
    ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด ISO ใหม่
    สามารถตรวจสอบเวอร์ชันด้วย cat /etc/debian_version

    สถาปัตยกรรมและเดสก์ท็อปที่รองรับ
    รองรับ amd64, arm64, riscv64, ppc64el, s390x, armhf
    Live ISO มีเฉพาะสำหรับ 64-bit
    เดสก์ท็อปที่มีให้เลือก: KDE, GNOME, Xfce, Cinnamon, LXQt, MATE, LXDE
    รุ่น Junior ใช้ IceWM และรุ่น Standard ไม่มี GUI

    การอัปเดต Debian 12.12 “Bookworm”
    รวม 135 bug fixes และ 83 security updates
    เป็นการดูแลเวอร์ชันก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Debian เป็นหนึ่งในดิสโทรที่มีอายุยาวนานที่สุดในโลก Linux
    ใช้เป็นฐานให้กับดิสโทรยอดนิยม เช่น Ubuntu, Kali Linux และ Raspbian
    จุดเด่นคือความเสถียร ความปลอดภัย และการควบคุมแพ็กเกจแบบละเอียด

    https://9to5linux.com/debian-13-1-trixie-released-with-71-bug-fixes-and-16-security-updates
    🐧 “Debian 13.1 ‘Trixie’ มาแล้ว! อัปเดตแรกของดิสโทรสายเสถียร พร้อม 71 แพตช์บั๊กและ 16 ช่องโหว่ความปลอดภัย” ถ้าคุณเป็นสาย Linux ที่รักความเสถียรและความปลอดภัยเป็นหลัก — ข่าวนี้คือสิ่งที่คุณรอคอย: Debian 13.1 “Trixie” ได้รับการปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 6 กันยายน 2025 โดยเป็นอัปเดตแรกของ Debian 13 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนก่อน Debian 13.1 ไม่ใช่เวอร์ชันใหม่ แต่เป็น “point release” ที่รวมการแก้ไขบั๊กจำนวน 71 รายการ และอัปเดตด้านความปลอดภัยอีก 16 รายการ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งระบบได้จาก ISO ที่ใหม่กว่า โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแพตช์จำนวนมากหลังติดตั้ง สำหรับผู้ใช้ที่ติดตั้ง Debian 13 ไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด ISO ใหม่ เพียงแค่รันคำสั่ง sudo apt update && sudo apt full-upgrade ก็จะได้รับอัปเดตทั้งหมดทันที Debian 13.1 รองรับสถาปัตยกรรมหลากหลาย เช่น amd64, arm64, riscv64, ppc64el, s390x และ armhf โดยมี Live ISO สำหรับ 64-bit ที่มาพร้อมเดสก์ท็อปยอดนิยม เช่น KDE Plasma 6.3, GNOME 48, Xfce 4.20, Cinnamon 6.4, LXQt 2.1, MATE 1.26.1 และ LXDE 13 รวมถึงรุ่น “Junior” ที่ใช้ IceWM และรุ่น “Standard” ที่ไม่มี GUI นอกจากนี้ Debian ยังปล่อย Debian 12.12 “Bookworm” ออกมาพร้อมกัน โดยมีการแก้ไขบั๊กถึง 135 รายการ และอัปเดตความปลอดภัยอีก 83 รายการ — สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดูแลทั้งเวอร์ชันใหม่และเก่าอย่างต่อเนื่อง ✅ การเปิดตัว Debian 13.1 “Trixie” ➡️ เป็น point release แรกของ Debian 13 ➡️ รวม 71 bug fixes และ 16 security updates ➡️ ปล่อยออกมาเพื่อให้ผู้ใช้ติดตั้งจาก ISO ที่อัปเดตแล้ว ✅ วิธีอัปเดตสำหรับผู้ใช้เดิม ➡️ ใช้คำสั่ง sudo apt update && sudo apt full-upgrade ➡️ ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด ISO ใหม่ ➡️ สามารถตรวจสอบเวอร์ชันด้วย cat /etc/debian_version ✅ สถาปัตยกรรมและเดสก์ท็อปที่รองรับ ➡️ รองรับ amd64, arm64, riscv64, ppc64el, s390x, armhf ➡️ Live ISO มีเฉพาะสำหรับ 64-bit ➡️ เดสก์ท็อปที่มีให้เลือก: KDE, GNOME, Xfce, Cinnamon, LXQt, MATE, LXDE ➡️ รุ่น Junior ใช้ IceWM และรุ่น Standard ไม่มี GUI ✅ การอัปเดต Debian 12.12 “Bookworm” ➡️ รวม 135 bug fixes และ 83 security updates ➡️ เป็นการดูแลเวอร์ชันก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Debian เป็นหนึ่งในดิสโทรที่มีอายุยาวนานที่สุดในโลก Linux ➡️ ใช้เป็นฐานให้กับดิสโทรยอดนิยม เช่น Ubuntu, Kali Linux และ Raspbian ➡️ จุดเด่นคือความเสถียร ความปลอดภัย และการควบคุมแพ็กเกจแบบละเอียด https://9to5linux.com/debian-13-1-trixie-released-with-71-bug-fixes-and-16-security-updates
    9TO5LINUX.COM
    Debian 13.1 “Trixie” Released with 71 Bug Fixes and 16 Security Updates - 9to5Linux
    Debian 13.1 is now available for download as a new point release to Debian 13 “Trixie” with 71 bug fixes and 16 security updates.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว


  • จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือ จังหวัดเกาะกง

    เมืองปัจจันตคิรีเขตร
    เมือง
    พ.ศ. 2398 – 2447
    ยุคทางประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์
    • ก่อตั้ง
    พ.ศ. 2398
    • ฝรั่งเศสไม่ยอมคืนดินแดน
    30 ธันวาคม พ.ศ. 2447

    เมืองตราด
    กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส
    ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ กัมพูชา
    จังหวัดปัจจันตคิรีเขตรChoawalit Chotwattanaphong หรือบางเอกสารจะเรียกว่า ปัตจันตคีรีเขตร์ บ้าง ประจันต์คิรีเขตต์ บ้าง[2] เป็นเมืองเดิมของราชอาณาจักรสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีความสำคัญเทียบเท่าจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ในอดีต มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะกง เขตจังหวัดเกาะกงในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน ดินแดนจังหวัดนี้ตกเป็นของฝรั่งเศสพร้อมกับหัวเมืองฝั่งขวาแม่น้ำโขง คือ แขวงไชยบุรีและแขวงจำปาศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2447

    ประวัติ

    Map of Siam in 1900
    แต่เดิมมาเกาะกงเป็นจังหวัดของราชอาณาจักรเขมร แต่มาถึงสมัยที่เขมรตกเป็นประเทศราชอยู่ในอำนาจของสยาม พระเจ้ากรุงสยามก็มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกงให้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองตราด

    เมื่อปี พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกง โดยพระราชทานนามเมืองนี้ว่า เมืองปัจจันตคีรีเขตต์ เพื่อให้เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีเขตติดต่อกับเขมรและญวน

    เหตุที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามเกาะกงว่า ปัจจันตคิรีเขตร ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ทางด้านภาคตะวันตกของไทย ซึ่งตั้งอยู่ในแนวรุ้ง (Latitude) เดียวกัน[3]

    ถึง พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์จัดตั้งสถานีทหารเรือขึ้นตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่เมืองชลบุรี บางพระ อำเภอบางละมุง เมืองระยอง เมืองแกลง เมืองจันทบุรี อำเภอขลุง เมืองตราด เมืองปัจจันตคิรีเขตร และเกาะเสม็ดนอก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสทางทะเล

    ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ฝรั่งเศสได้เริ่มดำเนินการทางทหารใช้กำลังเข้าบีบบังคับสยาม โดยยกกองทัพมาเข้าขับไล่ทหารไทยให้ถอยร่นออกจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ทำให้ความยุ่งยากทางชายแดนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการปรึกษาการป้องกันพระราชอาณาเขตขึ้น และจัดกองบัญชาการทัพอยู่ตามหัวเมืองชายทะเลแต่ละด้านขึ้นด้วย

    ในปี พ.ศ. 2436 รัฐบาลสยามได้แต่งตั้งให้นายพลเรือจัตวาพระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plésis de Richelieu) เป็นผู้จัดการป้องกันพระราชอาณาเขตทางหัวเมืองฝ่ายตะวันออก ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีคำสั่งมายังผู้ว่าราชการเมืองแถบนี้ ซึ่งรวมทั้งเมืองตราดและเมืองปัจจันตคิรีเขตรด้วย ให้ช่วยพระยาชลยุทธโยธินทร์จัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาเขต

    การเสียดินแดนจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร

    การส่งมอบตราดให้กับฝรั่งเศส
    วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศสสามารถฝ่าแนวป้องกันของสยามเข้ามาทอดสมอในกรุงเทพฯ ได้ ฝ่ายฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตามเมื่อ 20 กรกฎาคม โดยให้เวลาตอบ 48 ชั่วโมง ฝ่ายไทยได้ตอบข้อเรียกร้องเมื่อ 22 กรกฎาคม แต่ไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายฝรั่งเศส ดังนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ฝรั่งเศสจึงประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย สองวันถัดมา (26 กรกฎาคม) ฝรั่งเศสได้สั่งให้ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันออกไกลที่ไซ่ง่อนปิดล้อมอ่าวไทย ตั้งแต่แหลมเจ้าลายถึงบริเวณแหลมกระบัง และในวันที่ 29 กรกฎาคม ฝรั่งเศสได้ประกาศปิดล้อมอ่าวไทยครั้งที่ 2 โดยขยายเขตเพิ่มบริเวณเกาะเสม็ด จนถึงแหลมสิง รวม 2 เขต ฝ่ายไทยจำต้องยอมรับคำขาดของฝรั่งเศสที่ยื่นไว้แต่เดิมในวันเดียวกันนั้นเอง แต่ในวันรุ่งขึ้นฝรั่งเศสถือโอกาสยื่นคำขาดเพิ่มเติมอีก โดยประกาศยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน และบังคับให้ไทยถอนตัวออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอีกด้วย ไทยจำเป็นต้องยอมรับโดยไม่มีทางเลือก เมื่อฝ่ายไทยปฏิบัติตามคำขาดนั้นแล้ว ฝรั่งเศสจึงได้ยกเลิกการปิดอ่าวในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 12.00 น. แต่การยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรียังคงยึดไว้ตามเดิม

    ต่อมาได้มีการทำสัญญาสงบศึกกันโดยหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) ในหนังสือสัญญาฉบับนี้ มีข้อความระบุไว้ในอนุสัญญาผนวกต่อท้ายหนังสือสัญญาข้อ 6 ว่า "คอนเวอนแมนต์ (Government - รัฐบาล) ฝรั่งเศสจะได้ตั้งอยู่ต่อไปที่เมืองจันทบุรี จนกว่าจะได้ทำการสำเร็จแล้วตามข้อความในหนังสือสัญญานี้…"

    แม้ทางฝ่ายไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ฝรั่งเศสบีบบังคับทุกอย่าง ฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอมถอนทหาร ยังคงยึดจันทบุรีไว้อีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี เป็นเหตุให้ต้องมีการตกลงทำสัญญาขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่งคือ อนุสัญญาลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2445 แต่หนังสือฉบับนี้ฝรั่งเศสไม่ยอมให้สัตยาบันและไม่ถอนกำลังออกจากจันทบุรี จึงได้ตกลงมีสัญญาอีกฉบับหนึ่ง คือ สัญญาลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 คราวนี้ฝรั่งเศสจึงถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่ได้เข้ายึดครองเมืองตราดและบรรดาเกาะทั้งหลายภายใต้แหลมสิงลงไปซึ่งรวมถึงเกาะกงแทน ฝ่ายไทยจำต้องมอบเมืองตราดและเมืองประจันตคีรีเขตให้แก่ฝรั่งเศส ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447

    พื้นที่ดังกล่าวได้ตกอยู่ในการยึดครองของฝรั่งเศส จนถึงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 จึงได้มีการตกลงทำหนังสือสัญญาขึ้นอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า "หนังสือสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเปรสสิเดนต์แห่งรีปัปลิคฝรั่งเศส" ฝรั่งเศสจึงคืนเมืองตราดให้ไทยตามเดิม แต่ฝ่ายไทยจะต้องยอมยกดินแดนเขมรส่วนใน (มณฑลบูรพา) คือ เมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน แต่ปรากฏว่าเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) นั้นฝรั่งเศสมิได้คืนให้ไทยแต่ประการใด ปัจจุบันเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาไปโดยปริยาย[4]

    การสูญเสียแผ่นดินเกาะกงในสมัยนั้น ประวัติศาสตร์ของชาติไทยมิได้มีบันทึกการเสียดินแดนเกาะกงไว้แต่อย่างใด คงกล่าวโดยรวมในกรณีของดินแดนจังหวัดตราดเท่านั้น เพราะในขณะนั้นไทยต้องการดินแดนเขมรสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือดินแดนอีสานตอนใต้ในปัจจุบัน โดยให้ยึดทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นเขตแดน ซึ่งฝรั่งเศสก็ยินยอม



    จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือ จังหวัดเกาะกง เมืองปัจจันตคิรีเขตร เมือง พ.ศ. 2398 – 2447 ยุคทางประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์ • ก่อตั้ง พ.ศ. 2398 • ฝรั่งเศสไม่ยอมคืนดินแดน 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447 เมืองตราด กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ กัมพูชา จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร[1] หรือบางเอกสารจะเรียกว่า ปัตจันตคีรีเขตร์ บ้าง ประจันต์คิรีเขตต์ บ้าง[2] เป็นเมืองเดิมของราชอาณาจักรสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีความสำคัญเทียบเท่าจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ในอดีต มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะกง เขตจังหวัดเกาะกงในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน ดินแดนจังหวัดนี้ตกเป็นของฝรั่งเศสพร้อมกับหัวเมืองฝั่งขวาแม่น้ำโขง คือ แขวงไชยบุรีและแขวงจำปาศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2447 ประวัติ Map of Siam in 1900 แต่เดิมมาเกาะกงเป็นจังหวัดของราชอาณาจักรเขมร แต่มาถึงสมัยที่เขมรตกเป็นประเทศราชอยู่ในอำนาจของสยาม พระเจ้ากรุงสยามก็มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกงให้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองตราด เมื่อปี พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกง โดยพระราชทานนามเมืองนี้ว่า เมืองปัจจันตคีรีเขตต์ เพื่อให้เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีเขตติดต่อกับเขมรและญวน เหตุที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามเกาะกงว่า ปัจจันตคิรีเขตร ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ทางด้านภาคตะวันตกของไทย ซึ่งตั้งอยู่ในแนวรุ้ง (Latitude) เดียวกัน[3] ถึง พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์จัดตั้งสถานีทหารเรือขึ้นตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่เมืองชลบุรี บางพระ อำเภอบางละมุง เมืองระยอง เมืองแกลง เมืองจันทบุรี อำเภอขลุง เมืองตราด เมืองปัจจันตคิรีเขตร และเกาะเสม็ดนอก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสทางทะเล ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ฝรั่งเศสได้เริ่มดำเนินการทางทหารใช้กำลังเข้าบีบบังคับสยาม โดยยกกองทัพมาเข้าขับไล่ทหารไทยให้ถอยร่นออกจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ทำให้ความยุ่งยากทางชายแดนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการปรึกษาการป้องกันพระราชอาณาเขตขึ้น และจัดกองบัญชาการทัพอยู่ตามหัวเมืองชายทะเลแต่ละด้านขึ้นด้วย ในปี พ.ศ. 2436 รัฐบาลสยามได้แต่งตั้งให้นายพลเรือจัตวาพระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plésis de Richelieu) เป็นผู้จัดการป้องกันพระราชอาณาเขตทางหัวเมืองฝ่ายตะวันออก ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีคำสั่งมายังผู้ว่าราชการเมืองแถบนี้ ซึ่งรวมทั้งเมืองตราดและเมืองปัจจันตคิรีเขตรด้วย ให้ช่วยพระยาชลยุทธโยธินทร์จัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาเขต การเสียดินแดนจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร การส่งมอบตราดให้กับฝรั่งเศส วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศสสามารถฝ่าแนวป้องกันของสยามเข้ามาทอดสมอในกรุงเทพฯ ได้ ฝ่ายฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตามเมื่อ 20 กรกฎาคม โดยให้เวลาตอบ 48 ชั่วโมง ฝ่ายไทยได้ตอบข้อเรียกร้องเมื่อ 22 กรกฎาคม แต่ไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายฝรั่งเศส ดังนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ฝรั่งเศสจึงประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย สองวันถัดมา (26 กรกฎาคม) ฝรั่งเศสได้สั่งให้ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันออกไกลที่ไซ่ง่อนปิดล้อมอ่าวไทย ตั้งแต่แหลมเจ้าลายถึงบริเวณแหลมกระบัง และในวันที่ 29 กรกฎาคม ฝรั่งเศสได้ประกาศปิดล้อมอ่าวไทยครั้งที่ 2 โดยขยายเขตเพิ่มบริเวณเกาะเสม็ด จนถึงแหลมสิง รวม 2 เขต ฝ่ายไทยจำต้องยอมรับคำขาดของฝรั่งเศสที่ยื่นไว้แต่เดิมในวันเดียวกันนั้นเอง แต่ในวันรุ่งขึ้นฝรั่งเศสถือโอกาสยื่นคำขาดเพิ่มเติมอีก โดยประกาศยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน และบังคับให้ไทยถอนตัวออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอีกด้วย ไทยจำเป็นต้องยอมรับโดยไม่มีทางเลือก เมื่อฝ่ายไทยปฏิบัติตามคำขาดนั้นแล้ว ฝรั่งเศสจึงได้ยกเลิกการปิดอ่าวในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 12.00 น. แต่การยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรียังคงยึดไว้ตามเดิม ต่อมาได้มีการทำสัญญาสงบศึกกันโดยหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) ในหนังสือสัญญาฉบับนี้ มีข้อความระบุไว้ในอนุสัญญาผนวกต่อท้ายหนังสือสัญญาข้อ 6 ว่า "คอนเวอนแมนต์ (Government - รัฐบาล) ฝรั่งเศสจะได้ตั้งอยู่ต่อไปที่เมืองจันทบุรี จนกว่าจะได้ทำการสำเร็จแล้วตามข้อความในหนังสือสัญญานี้…" แม้ทางฝ่ายไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ฝรั่งเศสบีบบังคับทุกอย่าง ฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอมถอนทหาร ยังคงยึดจันทบุรีไว้อีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี เป็นเหตุให้ต้องมีการตกลงทำสัญญาขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่งคือ อนุสัญญาลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2445 แต่หนังสือฉบับนี้ฝรั่งเศสไม่ยอมให้สัตยาบันและไม่ถอนกำลังออกจากจันทบุรี จึงได้ตกลงมีสัญญาอีกฉบับหนึ่ง คือ สัญญาลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 คราวนี้ฝรั่งเศสจึงถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่ได้เข้ายึดครองเมืองตราดและบรรดาเกาะทั้งหลายภายใต้แหลมสิงลงไปซึ่งรวมถึงเกาะกงแทน ฝ่ายไทยจำต้องมอบเมืองตราดและเมืองประจันตคีรีเขตให้แก่ฝรั่งเศส ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447 พื้นที่ดังกล่าวได้ตกอยู่ในการยึดครองของฝรั่งเศส จนถึงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 จึงได้มีการตกลงทำหนังสือสัญญาขึ้นอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า "หนังสือสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเปรสสิเดนต์แห่งรีปัปลิคฝรั่งเศส" ฝรั่งเศสจึงคืนเมืองตราดให้ไทยตามเดิม แต่ฝ่ายไทยจะต้องยอมยกดินแดนเขมรส่วนใน (มณฑลบูรพา) คือ เมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน แต่ปรากฏว่าเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) นั้นฝรั่งเศสมิได้คืนให้ไทยแต่ประการใด ปัจจุบันเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาไปโดยปริยาย[4] การสูญเสียแผ่นดินเกาะกงในสมัยนั้น ประวัติศาสตร์ของชาติไทยมิได้มีบันทึกการเสียดินแดนเกาะกงไว้แต่อย่างใด คงกล่าวโดยรวมในกรณีของดินแดนจังหวัดตราดเท่านั้น เพราะในขณะนั้นไทยต้องการดินแดนเขมรสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือดินแดนอีสานตอนใต้ในปัจจุบัน โดยให้ยึดทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นเขตแดน ซึ่งฝรั่งเศสก็ยินยอม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ควอนตัมคอมพิวติ้งอาจปลดล็อก Bitcoin มูลค่า 879 พันล้านดอลลาร์! กระเป๋าเงินที่ถูกลืมอาจกลายเป็นขุมทรัพย์แห่งอนาคต”

    ลองจินตนาการว่า Bitcoin ที่คุณเคยได้ยินว่าหายไปแล้ว — เพราะเจ้าของลืมรหัส หรือเสียชีวิตโดยไม่มีใครเข้าถึงได้ — วันหนึ่งกลับถูกปลดล็อกขึ้นมาอีกครั้งด้วยเทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้งที่ทรงพลังพอจะเจาะระบบเข้ารหัส AES ได้สำเร็จ…นั่นคือสิ่งที่นักวิเคราะห์หลายคนเริ่มพูดถึงในปี 2025

    จุดเริ่มต้นของความกังวลนี้มาจากความก้าวหน้าของชิปควอนตัม “Willow” จาก Google ที่สามารถทำงานบางอย่างได้ในเวลาไม่ถึง 5 นาที — เทียบกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ปัจจุบันที่ต้องใช้เวลาถึง 10^25 ปีในการทำงานเดียวกัน แม้ Willow จะมีเพียง 105 qubits แต่ก็แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้กำลังเร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ตามการวิเคราะห์ของ Ronan Manly จาก Sound Money Report มี Bitcoin จำนวนมหาศาลระหว่าง 2.3 ถึง 7.8 ล้าน BTC ที่ถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเงินที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเลย — คิดเป็น 11% ถึง 37% ของจำนวน Bitcoin ทั้งหมดในระบบ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการลืมรหัส หรือเจ้าของเสียชีวิตโดยไม่มีการถ่ายทอดข้อมูล

    หากควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถเจาะระบบ AES ได้จริงในอนาคต กระเป๋าเงินเหล่านี้อาจถูกปลดล็อก และ Bitcoin มูลค่ารวมกว่า 879 พันล้านดอลลาร์ (ตามราคาปัจจุบันที่ ~$112,000 ต่อเหรียญ) อาจถูกนำออกมาใช้ — ซึ่งอาจทำให้ตลาดเกิดการเทขายครั้งใหญ่ และเข้าสู่ภาวะขาลงโดยไม่ต้องมีปัจจัยอื่นใดเลย

    แม้ผู้ใช้ Bitcoin ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไปใช้กระเป๋าเงินที่ปลอดภัยต่อควอนตัมแล้ว แต่กระเป๋าเงินที่ถูกลืมและไม่มีเจ้าของจะยังคงเสี่ยงต่อการถูกเจาะในอนาคต หากไม่มีการอัปเกรดหรือเปลี่ยนระบบเข้ารหัส

    ความก้าวหน้าของควอนตัมคอมพิวติ้ง
    Google Willow chip ทำงานบางอย่างได้ใน 5 นาที เทียบกับ 10^25 ปีของซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    Willow มี 105 qubits และสามารถลดข้อผิดพลาดเมื่อเพิ่มจำนวน qubits
    เทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจจาก Elon Musk และ Sam Altman

    ความเสี่ยงต่อ Bitcoin
    Bitcoin ใช้การเข้ารหัส AES และ elliptic curve cryptography (ECC)
    หากควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถเจาะ AES ได้ จะสามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินที่ถูกลืม
    คาดว่ามี Bitcoin ระหว่าง 2.3 ถึง 7.8 ล้าน BTC ที่อยู่ในกระเป๋าเงินนิ่ง
    มูลค่ารวมของ Bitcoin ที่อาจถูกปลดล็อกสูงถึง $879 พันล้าน

    กระเป๋าเงินนิ่ง (Dormant Wallets)
    เกิดจากการลืมรหัส, การเสียชีวิต, หรือการเก็บไว้โดยไม่มีการเคลื่อนไหว
    ส่วนใหญ่ไม่สามารถอัปเกรดระบบเข้ารหัสได้
    อาจกลายเป็นเป้าหมายหลักของการเจาะระบบในอนาคต

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ECC และ SHA-256 ยังปลอดภัยกว่า RSA แต่ก็เริ่มถูกตั้งคำถามจากนักวิจัยควอนตัม
    Quantum-safe wallets กำลังถูกพัฒนา เช่น lattice-based cryptography
    นักพัฒนา Bitcoin เริ่มเตรียมแผนรับมือ “Q-Day” หรือวันที่ควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถเจาะระบบได้จริง

    https://wccftech.com/quantum-computing-could-leave-a-shocking-879-billion-of-bitcoin-up-for-grabs-heres-how/
    💥 “ควอนตัมคอมพิวติ้งอาจปลดล็อก Bitcoin มูลค่า 879 พันล้านดอลลาร์! กระเป๋าเงินที่ถูกลืมอาจกลายเป็นขุมทรัพย์แห่งอนาคต” ลองจินตนาการว่า Bitcoin ที่คุณเคยได้ยินว่าหายไปแล้ว — เพราะเจ้าของลืมรหัส หรือเสียชีวิตโดยไม่มีใครเข้าถึงได้ — วันหนึ่งกลับถูกปลดล็อกขึ้นมาอีกครั้งด้วยเทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้งที่ทรงพลังพอจะเจาะระบบเข้ารหัส AES ได้สำเร็จ…นั่นคือสิ่งที่นักวิเคราะห์หลายคนเริ่มพูดถึงในปี 2025 จุดเริ่มต้นของความกังวลนี้มาจากความก้าวหน้าของชิปควอนตัม “Willow” จาก Google ที่สามารถทำงานบางอย่างได้ในเวลาไม่ถึง 5 นาที — เทียบกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ปัจจุบันที่ต้องใช้เวลาถึง 10^25 ปีในการทำงานเดียวกัน แม้ Willow จะมีเพียง 105 qubits แต่ก็แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้กำลังเร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามการวิเคราะห์ของ Ronan Manly จาก Sound Money Report มี Bitcoin จำนวนมหาศาลระหว่าง 2.3 ถึง 7.8 ล้าน BTC ที่ถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเงินที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเลย — คิดเป็น 11% ถึง 37% ของจำนวน Bitcoin ทั้งหมดในระบบ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการลืมรหัส หรือเจ้าของเสียชีวิตโดยไม่มีการถ่ายทอดข้อมูล หากควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถเจาะระบบ AES ได้จริงในอนาคต กระเป๋าเงินเหล่านี้อาจถูกปลดล็อก และ Bitcoin มูลค่ารวมกว่า 879 พันล้านดอลลาร์ (ตามราคาปัจจุบันที่ ~$112,000 ต่อเหรียญ) อาจถูกนำออกมาใช้ — ซึ่งอาจทำให้ตลาดเกิดการเทขายครั้งใหญ่ และเข้าสู่ภาวะขาลงโดยไม่ต้องมีปัจจัยอื่นใดเลย แม้ผู้ใช้ Bitcoin ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไปใช้กระเป๋าเงินที่ปลอดภัยต่อควอนตัมแล้ว แต่กระเป๋าเงินที่ถูกลืมและไม่มีเจ้าของจะยังคงเสี่ยงต่อการถูกเจาะในอนาคต หากไม่มีการอัปเกรดหรือเปลี่ยนระบบเข้ารหัส ✅ ความก้าวหน้าของควอนตัมคอมพิวติ้ง ➡️ Google Willow chip ทำงานบางอย่างได้ใน 5 นาที เทียบกับ 10^25 ปีของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ➡️ Willow มี 105 qubits และสามารถลดข้อผิดพลาดเมื่อเพิ่มจำนวน qubits ➡️ เทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจจาก Elon Musk และ Sam Altman ✅ ความเสี่ยงต่อ Bitcoin ➡️ Bitcoin ใช้การเข้ารหัส AES และ elliptic curve cryptography (ECC) ➡️ หากควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถเจาะ AES ได้ จะสามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินที่ถูกลืม ➡️ คาดว่ามี Bitcoin ระหว่าง 2.3 ถึง 7.8 ล้าน BTC ที่อยู่ในกระเป๋าเงินนิ่ง ➡️ มูลค่ารวมของ Bitcoin ที่อาจถูกปลดล็อกสูงถึง $879 พันล้าน ✅ กระเป๋าเงินนิ่ง (Dormant Wallets) ➡️ เกิดจากการลืมรหัส, การเสียชีวิต, หรือการเก็บไว้โดยไม่มีการเคลื่อนไหว ➡️ ส่วนใหญ่ไม่สามารถอัปเกรดระบบเข้ารหัสได้ ➡️ อาจกลายเป็นเป้าหมายหลักของการเจาะระบบในอนาคต ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ECC และ SHA-256 ยังปลอดภัยกว่า RSA แต่ก็เริ่มถูกตั้งคำถามจากนักวิจัยควอนตัม ➡️ Quantum-safe wallets กำลังถูกพัฒนา เช่น lattice-based cryptography ➡️ นักพัฒนา Bitcoin เริ่มเตรียมแผนรับมือ “Q-Day” หรือวันที่ควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถเจาะระบบได้จริง https://wccftech.com/quantum-computing-could-leave-a-shocking-879-billion-of-bitcoin-up-for-grabs-heres-how/
    WCCFTECH.COM
    Quantum Computing Could Leave A Shocking $879 Billion Of Bitcoin Up For Grabs - Here's How!
    A large proportion of Bitcoin's circulating supply is currently sitting in dormant wallets that are susceptible to quantum computing hacks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Getac F120: แท็บเล็ตพันธุ์แกร่งที่รัน AI ได้แรงกว่าละครหลังข่าว พร้อมลุยทุกสนามรบและงานภาคสนาม!”

    ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานในพื้นที่กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยฝุ่น น้ำ หรืออุณหภูมิสุดขั้ว แล้วต้องใช้แท็บเล็ตในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากโดรน หรือรันโมเดล AI เพื่อวินิจฉัยอุปกรณ์ — Getac F120 คือแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อสถานการณ์แบบนั้นโดยเฉพาะ

    Getac เปิดตัว F120 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC แบบเต็มตัวในรูปแบบ rugged tablet — หมายความว่ามันไม่ใช่แค่ทนทาน แต่ยังมีสมองที่ฉลาดระดับ AI ด้วย NPU ที่แรงถึง 48 TOPS (Trillion Operations Per Second) มากกว่าขั้นต่ำที่ Microsoft กำหนดไว้ที่ 40 TOPS

    ภายในใช้ชิป Intel Core Ultra 200V Series พร้อม RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD PCIe NVMe สูงสุด 2TB — เรียกได้ว่าแรงกว่าคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไปหลายรุ่น แถมยังมี Windows Hello สำหรับสแกนใบหน้า และระบบรักษาความปลอดภัยระดับ TPM 2.0

    หน้าจอขนาด 12.2 นิ้วแบบ LumiBond ให้ความสว่างสูงถึง 1,200 nits อ่านกลางแดดได้สบาย พร้อม Smart Touch ที่ใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ ตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ทนต่อการตกจากที่สูง 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C

    สำหรับการเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 สองช่อง และรองรับ 5G Sub-6 แบบออปชัน พร้อมแบตเตอรี่แบบ hot-swappable ที่เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง — เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาเสีย

    สเปกหลักของ Getac F120
    ใช้ Intel Core Ultra 200V Series + Intel AI Boost NPU (สูงสุด 48 TOPS)
    RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD สูงสุด 2TB PCIe NVMe
    รองรับ Windows Hello facial recognition และ TPM 2.0

    หน้าจอและความทนทาน
    หน้าจอ LumiBond ขนาด 12.2 นิ้ว ความสว่าง 1,200 nits
    รองรับ Smart Touch แม้ใส่ถุงมือ
    ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66
    ทนต่อการตกจาก 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C

    การเชื่อมต่อและการใช้งานภาคสนาม
    รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 x2
    มีออปชันสำหรับ 5G Sub-6
    ใช้แบตเตอรี่แบบ hot-swappable เพื่อการทำงานต่อเนื่อง

    การใช้งานในอุตสาหกรรม
    เหมาะกับงานด้านสาธารณูปโภค, ยานยนต์, ความปลอดภัยสาธารณะ
    รองรับการประมวลผลภาพ, การวินิจฉัย, และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์
    ออกแบบมาเพื่องานที่ “ล้มไม่ได้” เช่น ภารกิจภาคสนามหรือการกู้ภัย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Copilot+ PC ต้องมี NPU 40+ TOPS, RAM 16GB+, SSD 256GB+, และระบบ biometric
    Getac เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ rugged สำหรับภาคอุตสาหกรรม
    รุ่น F120 เริ่มต้นที่ราคา $3,079 — เน้นกลุ่มมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป

    https://www.techradar.com/pro/the-worlds-fastest-rugged-tablet-just-launched-and-its-perfect-for-those-who-want-to-work-in-challenging-environments-while-compiling-ai-code
    🛡️ “Getac F120: แท็บเล็ตพันธุ์แกร่งที่รัน AI ได้แรงกว่าละครหลังข่าว พร้อมลุยทุกสนามรบและงานภาคสนาม!” ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานในพื้นที่กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยฝุ่น น้ำ หรืออุณหภูมิสุดขั้ว แล้วต้องใช้แท็บเล็ตในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากโดรน หรือรันโมเดล AI เพื่อวินิจฉัยอุปกรณ์ — Getac F120 คือแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อสถานการณ์แบบนั้นโดยเฉพาะ Getac เปิดตัว F120 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC แบบเต็มตัวในรูปแบบ rugged tablet — หมายความว่ามันไม่ใช่แค่ทนทาน แต่ยังมีสมองที่ฉลาดระดับ AI ด้วย NPU ที่แรงถึง 48 TOPS (Trillion Operations Per Second) มากกว่าขั้นต่ำที่ Microsoft กำหนดไว้ที่ 40 TOPS ภายในใช้ชิป Intel Core Ultra 200V Series พร้อม RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD PCIe NVMe สูงสุด 2TB — เรียกได้ว่าแรงกว่าคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไปหลายรุ่น แถมยังมี Windows Hello สำหรับสแกนใบหน้า และระบบรักษาความปลอดภัยระดับ TPM 2.0 หน้าจอขนาด 12.2 นิ้วแบบ LumiBond ให้ความสว่างสูงถึง 1,200 nits อ่านกลางแดดได้สบาย พร้อม Smart Touch ที่ใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ ตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ทนต่อการตกจากที่สูง 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C สำหรับการเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 สองช่อง และรองรับ 5G Sub-6 แบบออปชัน พร้อมแบตเตอรี่แบบ hot-swappable ที่เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง — เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาเสีย ✅ สเปกหลักของ Getac F120 ➡️ ใช้ Intel Core Ultra 200V Series + Intel AI Boost NPU (สูงสุด 48 TOPS) ➡️ RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD สูงสุด 2TB PCIe NVMe ➡️ รองรับ Windows Hello facial recognition และ TPM 2.0 ✅ หน้าจอและความทนทาน ➡️ หน้าจอ LumiBond ขนาด 12.2 นิ้ว ความสว่าง 1,200 nits ➡️ รองรับ Smart Touch แม้ใส่ถุงมือ ➡️ ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ➡️ ทนต่อการตกจาก 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C ✅ การเชื่อมต่อและการใช้งานภาคสนาม ➡️ รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 x2 ➡️ มีออปชันสำหรับ 5G Sub-6 ➡️ ใช้แบตเตอรี่แบบ hot-swappable เพื่อการทำงานต่อเนื่อง ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรม ➡️ เหมาะกับงานด้านสาธารณูปโภค, ยานยนต์, ความปลอดภัยสาธารณะ ➡️ รองรับการประมวลผลภาพ, การวินิจฉัย, และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ➡️ ออกแบบมาเพื่องานที่ “ล้มไม่ได้” เช่น ภารกิจภาคสนามหรือการกู้ภัย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Copilot+ PC ต้องมี NPU 40+ TOPS, RAM 16GB+, SSD 256GB+, และระบบ biometric ➡️ Getac เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ rugged สำหรับภาคอุตสาหกรรม ➡️ รุ่น F120 เริ่มต้นที่ราคา $3,079 — เน้นกลุ่มมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป https://www.techradar.com/pro/the-worlds-fastest-rugged-tablet-just-launched-and-its-perfect-for-those-who-want-to-work-in-challenging-environments-while-compiling-ai-code
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition: พีซีจิ๋วไร้พัดลมที่แรงระดับเวิร์กสเตชัน พร้อม Intel Core Ultra และ RAM 128GB!”

    ลองนึกภาพว่าคุณต้องการคอมพิวเตอร์สำหรับงานธุรกิจหรือวิศวกรรมที่ต้องการความแรงระดับเวิร์กสเตชัน แต่ไม่อยากได้เสียงพัดลมดังรบกวน หรือเครื่องใหญ่เทอะทะ — Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition คือคำตอบที่น่าสนใจมากในปี 2025 นี้

    Cirrus7 เปิดตัวมินิพีซีรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling เต็มรูปแบบ ไม่มีพัดลมเลยแม้แต่ตัวเดียว ตัวเคสถูกออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ที่ช่วยระบายความร้อนจากซีพียูระดับแล็ปท็อปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว

    ภายในใช้เมนบอร์ด Intel NUC 15 Pro พร้อมรองรับซีพียูตั้งแต่ Core 3 100U ไปจนถึงตัวท็อปอย่าง Core Ultra 7 265H ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 5.1GHz และมี iGPU Intel Arc 140T ในตัว รองรับ RAM DDR5-5600 สูงสุดถึง 128GB และ SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุสูงสุด 4TB

    พอร์ตเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Thunderbolt 4 สองช่อง, USB-A 3.2 Gen 2 สามช่อง, HDMI 2.0b สองช่อง, LAN 2.5GbE, Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201 รวมถึงมีตัวเลือกติดตั้ง Linux ฟรี หรือ Windows แบบมีลิขสิทธิ์ พร้อมการรับประกัน 3 ปีที่ขยายได้ถึง 5 ปี

    แม้จะมีรุ่นเริ่มต้นที่ราคา €728 แต่ถ้าคุณเลือกสเปกสูงสุด ราคาจะพุ่งไปถึง €2,796.20 ซึ่งถือว่าแพงไม่น้อยสำหรับมินิพีซี แต่ก็แลกกับความเงียบ ความแรง และดีไซน์ที่ดูเรียบหรูแบบมืออาชีพ

    สเปกของ Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition
    ใช้ Intel NUC 15 Pro motherboard รองรับ CPU ตั้งแต่ Core 3 100U ถึง Core Ultra 7 265H
    RAM รองรับสูงสุด 128GB DDR5-5600
    SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุ 1TB–4TB
    มี iGPU Intel Arc 140T ในตัว

    ระบบระบายความร้อนแบบไร้พัดลม
    เคสออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่
    ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว — ลดเสียงรบกวนและเพิ่มความทนทาน
    มีตัวเลือกเพิ่มจำนวนฟินระบายความร้อน หากใช้สเปกสูง

    พอร์ตและการเชื่อมต่อ
    2x Thunderbolt 4, 3x USB-A 3.2 Gen 2, 1x USB 2.0
    2x HDMI 2.0b, 1x 2.5GbE LAN, IR receiver, Wi-Fi antenna slots
    รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201

    ระบบปฏิบัติการและการรับประกัน
    รองรับ Linux ฟรี เช่น Ubuntu 24/25 LTS และ Mint 22
    รองรับ Windows 11 Home/Pro แบบมีลิขสิทธิ์
    รับประกัน 3 ปี ขยายได้ถึง 5 ปี

    ราคาและตัวเลือก
    รุ่นเริ่มต้น €728 (Core 3 100U + 8GB RAM + 250GB SSD)
    รุ่นสูงสุด €2,796.20 (Core Ultra 7 265H + 128GB RAM + 4TB SSD)
    มีตัวเลือกติดตั้ง VESA mount และซีลกันฝุ่น

    https://www.techradar.com/pro/looking-for-a-silent-mini-pc-the-cirrus7-pairs-an-intel-core-ultra-7-265h-with-a-casing-that-looks-like-a-giant-heatsink-but-it-aint-cheap
    🖥️ “Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition: พีซีจิ๋วไร้พัดลมที่แรงระดับเวิร์กสเตชัน พร้อม Intel Core Ultra และ RAM 128GB!” ลองนึกภาพว่าคุณต้องการคอมพิวเตอร์สำหรับงานธุรกิจหรือวิศวกรรมที่ต้องการความแรงระดับเวิร์กสเตชัน แต่ไม่อยากได้เสียงพัดลมดังรบกวน หรือเครื่องใหญ่เทอะทะ — Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition คือคำตอบที่น่าสนใจมากในปี 2025 นี้ Cirrus7 เปิดตัวมินิพีซีรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling เต็มรูปแบบ ไม่มีพัดลมเลยแม้แต่ตัวเดียว ตัวเคสถูกออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ที่ช่วยระบายความร้อนจากซีพียูระดับแล็ปท็อปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ภายในใช้เมนบอร์ด Intel NUC 15 Pro พร้อมรองรับซีพียูตั้งแต่ Core 3 100U ไปจนถึงตัวท็อปอย่าง Core Ultra 7 265H ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 5.1GHz และมี iGPU Intel Arc 140T ในตัว รองรับ RAM DDR5-5600 สูงสุดถึง 128GB และ SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุสูงสุด 4TB พอร์ตเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Thunderbolt 4 สองช่อง, USB-A 3.2 Gen 2 สามช่อง, HDMI 2.0b สองช่อง, LAN 2.5GbE, Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201 รวมถึงมีตัวเลือกติดตั้ง Linux ฟรี หรือ Windows แบบมีลิขสิทธิ์ พร้อมการรับประกัน 3 ปีที่ขยายได้ถึง 5 ปี แม้จะมีรุ่นเริ่มต้นที่ราคา €728 แต่ถ้าคุณเลือกสเปกสูงสุด ราคาจะพุ่งไปถึง €2,796.20 ซึ่งถือว่าแพงไม่น้อยสำหรับมินิพีซี แต่ก็แลกกับความเงียบ ความแรง และดีไซน์ที่ดูเรียบหรูแบบมืออาชีพ ✅ สเปกของ Cirrus7 Nimbini v4 Pro Edition ➡️ ใช้ Intel NUC 15 Pro motherboard รองรับ CPU ตั้งแต่ Core 3 100U ถึง Core Ultra 7 265H ➡️ RAM รองรับสูงสุด 128GB DDR5-5600 ➡️ SSD แบบ M.2 PCIe 4.0 ความจุ 1TB–4TB ➡️ มี iGPU Intel Arc 140T ในตัว ✅ ระบบระบายความร้อนแบบไร้พัดลม ➡️ เคสออกแบบให้เป็นฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ ➡️ ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว — ลดเสียงรบกวนและเพิ่มความทนทาน ➡️ มีตัวเลือกเพิ่มจำนวนฟินระบายความร้อน หากใช้สเปกสูง ✅ พอร์ตและการเชื่อมต่อ ➡️ 2x Thunderbolt 4, 3x USB-A 3.2 Gen 2, 1x USB 2.0 ➡️ 2x HDMI 2.0b, 1x 2.5GbE LAN, IR receiver, Wi-Fi antenna slots ➡️ รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ผ่าน Intel BE201 ✅ ระบบปฏิบัติการและการรับประกัน ➡️ รองรับ Linux ฟรี เช่น Ubuntu 24/25 LTS และ Mint 22 ➡️ รองรับ Windows 11 Home/Pro แบบมีลิขสิทธิ์ ➡️ รับประกัน 3 ปี ขยายได้ถึง 5 ปี ✅ ราคาและตัวเลือก ➡️ รุ่นเริ่มต้น €728 (Core 3 100U + 8GB RAM + 250GB SSD) ➡️ รุ่นสูงสุด €2,796.20 (Core Ultra 7 265H + 128GB RAM + 4TB SSD) ➡️ มีตัวเลือกติดตั้ง VESA mount และซีลกันฝุ่น https://www.techradar.com/pro/looking-for-a-silent-mini-pc-the-cirrus7-pairs-an-intel-core-ultra-7-265h-with-a-casing-that-looks-like-a-giant-heatsink-but-it-aint-cheap
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ตุรกีปิดโซเชียลมีเดียทั่วประเทศ! X, YouTube, WhatsApp ดับกลางดึก — VPN พุ่ง 500% ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง”

    ลองนึกภาพว่าคุณอยู่ในอิสตันบูล คืนวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2025 แล้วจู่ๆ โซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มที่คุณใช้ — X (Twitter), YouTube, Instagram, Facebook, TikTok และ WhatsApp — หายไปจากหน้าจอแบบไม่มีคำอธิบาย นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในตุรกี เมื่อรัฐบาลเริ่มบล็อกการเข้าถึงแพลตฟอร์มหลักทั้งหมด ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนระอุ

    เหตุการณ์เริ่มต้นหลังพรรคฝ่ายค้าน CHP เรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุม หลังตำรวจปิดล้อมสำนักงานใหญ่ในอิสตันบูล โดย NetBlocks รายงานว่าการบล็อกเกิดขึ้นเฉพาะในเครือข่ายของเมืองนี้เป็นหลัก และยังคงดำเนินอยู่ในช่วงเวลาที่รายงาน

    ประชาชนไม่รอช้า รีบหาทางเข้าถึงโซเชียลมีเดียผ่าน VPN โดย Proton VPN รายงานว่ามีการสมัครใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 500% ภายในหนึ่งชั่วโมงในคืนวันอาทิตย์ และแนะนำให้ใช้โหมด Stealth พร้อมการตั้งค่า alternative routing เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตุรกีใช้มาตรการแบบนี้ — ก่อนหน้านี้เคยมีการบล็อกโซเชียลมีเดียหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว การเลือกตั้ง และการจับกุมผู้นำฝ่ายค้าน โดยมีการใช้ VPN เพิ่มขึ้นถึง 15,000% ในบางช่วงเวลา

    แม้ VPN จะเป็นทางออกที่ประชาชนใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการ VPN หลายราย เช่น Proton, NordVPN, Surfshark และ ExpressVPN ก็ถูกบล็อกเช่นกัน ทำให้ต้องดาวน์โหลดแอปผ่านช่องทางสำรอง เช่น GitHub หรือ App Store เท่านั้น

    เหตุการณ์บล็อกโซเชียลมีเดียในตุรกี
    เริ่มต้นคืนวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2025
    แพลตฟอร์มที่ถูกบล็อก: X, YouTube, Instagram, Facebook, TikTok, WhatsApp
    เกิดขึ้นหลังพรรค CHP เรียกร้องให้ประชาชนชุมนุม
    เครือข่ายในอิสตันบูลถูกบล็อกเป็นหลัก

    การตอบสนองของประชาชน
    Proton VPN รายงานการสมัครใช้งานเพิ่มขึ้น 500% ภายในหนึ่งชั่วโมง
    แนะนำให้ใช้โหมด Stealth และ alternative routing เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก
    ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปผ่าน App Store หรือ GitHub หากเว็บไซต์ถูกบล็อก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ตุรกีเคยบล็อกโซเชียลมีเดียในปี 2023–2024 หลังเหตุการณ์ทางการเมืองและภัยพิบัติ
    มีการใช้ VPN เพิ่มขึ้นถึง 15,000% ในบางช่วงเวลา
    ประเทศมีประวัติการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง
    VPN เช่น Octohide ใช้เทคนิค VLESS และ REALITY เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับจากระบบ DPI

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/x-whatsapp-youtube-and-other-social-media-platforms-go-dark-in-turkey-and-vpn-usage-spikes
    📵 “ตุรกีปิดโซเชียลมีเดียทั่วประเทศ! X, YouTube, WhatsApp ดับกลางดึก — VPN พุ่ง 500% ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง” ลองนึกภาพว่าคุณอยู่ในอิสตันบูล คืนวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2025 แล้วจู่ๆ โซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มที่คุณใช้ — X (Twitter), YouTube, Instagram, Facebook, TikTok และ WhatsApp — หายไปจากหน้าจอแบบไม่มีคำอธิบาย นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในตุรกี เมื่อรัฐบาลเริ่มบล็อกการเข้าถึงแพลตฟอร์มหลักทั้งหมด ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนระอุ เหตุการณ์เริ่มต้นหลังพรรคฝ่ายค้าน CHP เรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุม หลังตำรวจปิดล้อมสำนักงานใหญ่ในอิสตันบูล โดย NetBlocks รายงานว่าการบล็อกเกิดขึ้นเฉพาะในเครือข่ายของเมืองนี้เป็นหลัก และยังคงดำเนินอยู่ในช่วงเวลาที่รายงาน ประชาชนไม่รอช้า รีบหาทางเข้าถึงโซเชียลมีเดียผ่าน VPN โดย Proton VPN รายงานว่ามีการสมัครใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 500% ภายในหนึ่งชั่วโมงในคืนวันอาทิตย์ และแนะนำให้ใช้โหมด Stealth พร้อมการตั้งค่า alternative routing เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตุรกีใช้มาตรการแบบนี้ — ก่อนหน้านี้เคยมีการบล็อกโซเชียลมีเดียหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว การเลือกตั้ง และการจับกุมผู้นำฝ่ายค้าน โดยมีการใช้ VPN เพิ่มขึ้นถึง 15,000% ในบางช่วงเวลา แม้ VPN จะเป็นทางออกที่ประชาชนใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการ VPN หลายราย เช่น Proton, NordVPN, Surfshark และ ExpressVPN ก็ถูกบล็อกเช่นกัน ทำให้ต้องดาวน์โหลดแอปผ่านช่องทางสำรอง เช่น GitHub หรือ App Store เท่านั้น ✅ เหตุการณ์บล็อกโซเชียลมีเดียในตุรกี ➡️ เริ่มต้นคืนวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2025 ➡️ แพลตฟอร์มที่ถูกบล็อก: X, YouTube, Instagram, Facebook, TikTok, WhatsApp ➡️ เกิดขึ้นหลังพรรค CHP เรียกร้องให้ประชาชนชุมนุม ➡️ เครือข่ายในอิสตันบูลถูกบล็อกเป็นหลัก ✅ การตอบสนองของประชาชน ➡️ Proton VPN รายงานการสมัครใช้งานเพิ่มขึ้น 500% ภายในหนึ่งชั่วโมง ➡️ แนะนำให้ใช้โหมด Stealth และ alternative routing เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก ➡️ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปผ่าน App Store หรือ GitHub หากเว็บไซต์ถูกบล็อก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ตุรกีเคยบล็อกโซเชียลมีเดียในปี 2023–2024 หลังเหตุการณ์ทางการเมืองและภัยพิบัติ ➡️ มีการใช้ VPN เพิ่มขึ้นถึง 15,000% ในบางช่วงเวลา ➡️ ประเทศมีประวัติการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง ➡️ VPN เช่น Octohide ใช้เทคนิค VLESS และ REALITY เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับจากระบบ DPI https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/x-whatsapp-youtube-and-other-social-media-platforms-go-dark-in-turkey-and-vpn-usage-spikes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • “OneXGPU Lite เปิดตัว eGPU ขนาดพกพา พร้อมพอร์ต ‘USB 5.0’ ที่แท้คือ USB4 v2 — แรงระดับ RTX 4060 ในขนาดใส่กระเป๋า!”

    ลองนึกภาพว่าคุณใช้แล็ปท็อปบางเบาอย่าง Surface Pro หรือ Steam Deck แล้วอยากเล่นเกม AAA หรือเรนเดอร์งาน 3D หนักๆ แบบลื่นไหล…แต่ไม่อยากแบกเครื่องใหญ่หรือซื้อโน้ตบุ๊กเกมมิ่งราคาแพง ตอนนี้มีทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจมาก — OneXGPU Lite คือ eGPU ขนาดเล็กจาก One-Netbook ที่เปิดตัวในงาน Fall Launch 2025 พร้อมชิป AMD Radeon RX 7600M XT และพอร์ตเชื่อมต่อที่เรียกว่า “USB 5.0” ซึ่งจริงๆ แล้วคือ USB4 v2 หรือ Thunderbolt 5

    แม้ชื่อ USB 5.0 จะยังไม่ใช่มาตรฐานที่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ One-Netbook อาจกำลังใช้ชื่อเรียกล่วงหน้าเพื่อสื่อถึงความเร็วสูงสุด 80 Gbps ที่พอร์ตนี้รองรับ ซึ่งมากพอสำหรับการส่งข้อมูลกราฟิกระดับ PCIe ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ตัวเครื่องมีขนาดเพียง 114 x 116 x 34.5 มม. และหนักแค่ 493.5 กรัม — เล็กกว่าการ์ดจอ mini-ITX ทั่วไป และสามารถใส่ในกระเป๋ากางเกงได้จริง CEO ของบริษัทถึงกับโชว์การหยิบออกจากกระเป๋าตัวเองกลางเวที

    ด้านประสิทธิภาพ RX 7600M XT ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA3 พร้อม VRAM 8GB และ Infinity Cache 32MB สามารถรันที่ 120W และให้คะแนน Time Spy สูงถึง 10,245 ซึ่งใกล้เคียงกับ RTX 4060 รุ่นโน้ตบุ๊ก และแรงกว่ากราฟิกใน Steam Deck ถึง 3 เท่า

    ยังมีพอร์ต OCuLink สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็ว PCIe เต็มรูปแบบ และพอร์ต HDMI 2.1 + DisplayPort 2.0 ที่รองรับ 4K 120Hz พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber ที่เงียบไม่เกิน 42dBA

    การเปิดตัว OneXGPU Lite
    เปิดตัวในงาน Fall Launch 2025 โดย One-Netbook
    ใช้ GPU AMD Radeon RX 7600M XT สถาปัตยกรรม RDNA3
    ขนาด 114 x 116 x 34.5 มม. น้ำหนัก 493.5 กรัม
    มี RGB, พอร์ต HDMI 2.1 และ DisplayPort 2.0 รองรับ 4K 120Hz

    พอร์ตเชื่อมต่อและความเร็ว
    ใช้พอร์ต “USB 5.0” ที่แท้คือ USB4 v2 หรือ Thunderbolt 5
    รองรับความเร็วสูงสุด 80 Gbps แบบ bidirectional
    มีพอร์ต OCuLink สำหรับการเชื่อมต่อ PCIe โดยตรง
    รองรับ reverse charging สูงสุด 65W สำหรับโน้ตบุ๊กหรือ handheld

    ประสิทธิภาพของ GPU
    RX 7600M XT มี 2048 Stream Processors, VRAM 8GB GDDR6
    Infinity Cache 32MB และ TDP สูงสุด 120W
    คะแนน Time Spy 10,245 ใกล้เคียง RTX 4060
    แรงกว่ากราฟิกใน Steam Deck หรือ ROG Ally ถึง 3 เท่า

    ระบบระบายความร้อน
    ใช้ vapor chamber cooling พร้อมเสียงรบกวนต่ำกว่า 42dBA
    ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม CNC พร้อมรูระบายอากาศกว่า 15,000 จุด

    ราคาและการวางจำหน่าย
    เปิดราคาที่ 3,899 หยวน (~$535 USD)
    มีสาย “USB 5.0” แถมในกล่อง มูลค่า 199 หยวน (~$27 USD)
    เริ่มจัดส่งวันที่ 25 กันยายน 2025
    ยังไม่มีข้อมูลการวางจำหน่ายนอกประเทศจีน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/usb-5-0-connection-touted-on-new-slim-egpu-with-rx-7600m-xt-compact-onexgpu-lite-unveiled-likely-using-usb4-v2
    🔌 “OneXGPU Lite เปิดตัว eGPU ขนาดพกพา พร้อมพอร์ต ‘USB 5.0’ ที่แท้คือ USB4 v2 — แรงระดับ RTX 4060 ในขนาดใส่กระเป๋า!” ลองนึกภาพว่าคุณใช้แล็ปท็อปบางเบาอย่าง Surface Pro หรือ Steam Deck แล้วอยากเล่นเกม AAA หรือเรนเดอร์งาน 3D หนักๆ แบบลื่นไหล…แต่ไม่อยากแบกเครื่องใหญ่หรือซื้อโน้ตบุ๊กเกมมิ่งราคาแพง ตอนนี้มีทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจมาก — OneXGPU Lite คือ eGPU ขนาดเล็กจาก One-Netbook ที่เปิดตัวในงาน Fall Launch 2025 พร้อมชิป AMD Radeon RX 7600M XT และพอร์ตเชื่อมต่อที่เรียกว่า “USB 5.0” ซึ่งจริงๆ แล้วคือ USB4 v2 หรือ Thunderbolt 5 แม้ชื่อ USB 5.0 จะยังไม่ใช่มาตรฐานที่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ One-Netbook อาจกำลังใช้ชื่อเรียกล่วงหน้าเพื่อสื่อถึงความเร็วสูงสุด 80 Gbps ที่พอร์ตนี้รองรับ ซึ่งมากพอสำหรับการส่งข้อมูลกราฟิกระดับ PCIe ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเครื่องมีขนาดเพียง 114 x 116 x 34.5 มม. และหนักแค่ 493.5 กรัม — เล็กกว่าการ์ดจอ mini-ITX ทั่วไป และสามารถใส่ในกระเป๋ากางเกงได้จริง CEO ของบริษัทถึงกับโชว์การหยิบออกจากกระเป๋าตัวเองกลางเวที ด้านประสิทธิภาพ RX 7600M XT ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA3 พร้อม VRAM 8GB และ Infinity Cache 32MB สามารถรันที่ 120W และให้คะแนน Time Spy สูงถึง 10,245 ซึ่งใกล้เคียงกับ RTX 4060 รุ่นโน้ตบุ๊ก และแรงกว่ากราฟิกใน Steam Deck ถึง 3 เท่า ยังมีพอร์ต OCuLink สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็ว PCIe เต็มรูปแบบ และพอร์ต HDMI 2.1 + DisplayPort 2.0 ที่รองรับ 4K 120Hz พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber ที่เงียบไม่เกิน 42dBA ✅ การเปิดตัว OneXGPU Lite ➡️ เปิดตัวในงาน Fall Launch 2025 โดย One-Netbook ➡️ ใช้ GPU AMD Radeon RX 7600M XT สถาปัตยกรรม RDNA3 ➡️ ขนาด 114 x 116 x 34.5 มม. น้ำหนัก 493.5 กรัม ➡️ มี RGB, พอร์ต HDMI 2.1 และ DisplayPort 2.0 รองรับ 4K 120Hz ✅ พอร์ตเชื่อมต่อและความเร็ว ➡️ ใช้พอร์ต “USB 5.0” ที่แท้คือ USB4 v2 หรือ Thunderbolt 5 ➡️ รองรับความเร็วสูงสุด 80 Gbps แบบ bidirectional ➡️ มีพอร์ต OCuLink สำหรับการเชื่อมต่อ PCIe โดยตรง ➡️ รองรับ reverse charging สูงสุด 65W สำหรับโน้ตบุ๊กหรือ handheld ✅ ประสิทธิภาพของ GPU ➡️ RX 7600M XT มี 2048 Stream Processors, VRAM 8GB GDDR6 ➡️ Infinity Cache 32MB และ TDP สูงสุด 120W ➡️ คะแนน Time Spy 10,245 ใกล้เคียง RTX 4060 ➡️ แรงกว่ากราฟิกใน Steam Deck หรือ ROG Ally ถึง 3 เท่า ✅ ระบบระบายความร้อน ➡️ ใช้ vapor chamber cooling พร้อมเสียงรบกวนต่ำกว่า 42dBA ➡️ ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม CNC พร้อมรูระบายอากาศกว่า 15,000 จุด ✅ ราคาและการวางจำหน่าย ➡️ เปิดราคาที่ 3,899 หยวน (~$535 USD) ➡️ มีสาย “USB 5.0” แถมในกล่อง มูลค่า 199 หยวน (~$27 USD) ➡️ เริ่มจัดส่งวันที่ 25 กันยายน 2025 ➡️ ยังไม่มีข้อมูลการวางจำหน่ายนอกประเทศจีน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/usb-5-0-connection-touted-on-new-slim-egpu-with-rx-7600m-xt-compact-onexgpu-lite-unveiled-likely-using-usb4-v2
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    ‘USB 5.0’ connection touted on new slim eGPU with RX 7600M XT — Compact OneXGPU Lite unveiled, likely using USB4 v2
    Though it has a fancy 80 Gbps Type-C connector, its performance is a step back from last year’s OneXGPU 2.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Intel 14A: เทคโนโลยีสุดล้ำที่แรงกว่า 18A แต่แพงกว่า เพราะใช้เครื่องพิมพ์ชิประดับนาโนรุ่นใหม่จาก ASML!”

    ลองนึกภาพว่าคุณกำลังออกแบบชิปที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและประหยัดพลังงานที่สุดในโลก แล้ว Intel บอกว่า “เรามี 14A node ที่แรงกว่า 18A ถึง 20% และกินไฟน้อยลงถึง 35%” — ฟังดูน่าสนใจใช่ไหม? แต่เบื้องหลังนั้นคือค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่ว เพราะต้องใช้เครื่องพิมพ์ชิปรุ่นใหม่ที่เรียกว่า High-NA EUV จาก ASML ซึ่งมีราคาสูงถึง $380 ล้านต่อเครื่อง!

    David Zinsner, CFO ของ Intel ยืนยันในงานประชุม Citi’s Global TMT ว่า 14A จะมีต้นทุนต่อแผ่นเวเฟอร์สูงกว่า 18A อย่างแน่นอน แม้จะไม่สูงมากในแง่การลงทุนรวม แต่เครื่องพิมพ์ Twinscan EXE:5200B ที่ใช้เลนส์ขนาด 0.55 NA (Numerical Aperture) ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยพุ่งขึ้น

    Intel 14A ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่หลายอย่าง เช่น RibbonFET 2 ที่เป็นโครงสร้างทรานซิสเตอร์แบบ gate-all-around รุ่นปรับปรุง และ PowerDirect ที่เป็นระบบส่งพลังงานจากด้านหลังของชิปโดยตรง ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนของการเดินสายไฟและเพิ่มประสิทธิภาพ

    นอกจากนี้ยังมี Turbo Cells ที่ช่วยเพิ่มความเร็วของ CPU และ GPU โดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่หรือพลังงานมากนัก — ทั้งหมดนี้ทำให้ 14A เป็น node ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งผลิตภัณฑ์ของ Intel และลูกค้าภายนอกในอนาคต

    แต่ปัญหาคือ หาก Intel ไม่สามารถหาลูกค้าภายนอกมาใช้ 14A ได้ ก็อาจไม่คุ้มค่าการลงทุน และอาจต้องชะลอหรือยกเลิก node นี้ไปเลย ซึ่งจะส่งผลต่อแผนการฟื้นตัวของ Intel Foundry ที่กำลังพยายามกลับมาเป็นผู้นำในตลาดโลก

    Intel 14A node คืออะไร
    เป็นกระบวนการผลิตชิประดับ 1.4nm ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด
    ใช้เทคโนโลยี RibbonFET 2 และ PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    มี Turbo Cells ที่ช่วยเพิ่มความเร็วโดยไม่เพิ่มพื้นที่หรือพลังงาน
    ให้ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่า 18A ถึง 15–20% และลดการใช้พลังงานได้ 25–35%

    เครื่องมือที่ใช้ใน 14A
    ใช้เครื่องพิมพ์ชิป High-NA EUV จาก ASML รุ่น Twinscan EXE:5200B
    ความละเอียดสูงถึง 8nm ต่อการยิงแสงครั้งเดียว
    ลดความจำเป็นในการใช้ multi-patterning ซึ่งช่วยเพิ่ม yield
    เครื่องมีราคาสูงถึง $380 ล้านต่อเครื่อง เทียบกับ $235 ล้านของรุ่นเดิม

    บริบททางธุรกิจและการลงทุน
    Intel ต้องการลูกค้าภายนอกเพื่อให้คุ้มค่าการลงทุนใน 14A
    หากไม่มีลูกค้ารายใหญ่ อาจต้องชะลอหรือยกเลิก node นี้
    Intel Foundry ต้องรักษาสัดส่วนการถือหุ้น 51% ตามข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ
    การพัฒนา 14A ใช้งบวิจัยหลายพันล้านดอลลาร์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    14A-E เป็นเวอร์ชันปรับปรุงของ 14A ที่เพิ่มประสิทธิภาพอีก 5%
    Samsung และ TSMC กำลังพัฒนา 2nm node เพื่อแข่งขันกับ Intel
    Intel ได้รับสัญญาผลิตชิป 18A มูลค่า $15 พันล้านจาก Microsoft1
    High-NA EUV ยังมีข้อจำกัดด้านขนาด field ทำให้ต้องปรับการออกแบบชิปใหม่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-cfo-confirms-that-14a-will-be-more-expensive-to-use-than-18a-intel-expects-14a-fabrication-process-to-offer-15-20-percent-better-performance-per-watt-or-25-35-percent-lower-power-consumption-compared-to-18a
    ⚙️ “Intel 14A: เทคโนโลยีสุดล้ำที่แรงกว่า 18A แต่แพงกว่า เพราะใช้เครื่องพิมพ์ชิประดับนาโนรุ่นใหม่จาก ASML!” ลองนึกภาพว่าคุณกำลังออกแบบชิปที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและประหยัดพลังงานที่สุดในโลก แล้ว Intel บอกว่า “เรามี 14A node ที่แรงกว่า 18A ถึง 20% และกินไฟน้อยลงถึง 35%” — ฟังดูน่าสนใจใช่ไหม? แต่เบื้องหลังนั้นคือค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่ว เพราะต้องใช้เครื่องพิมพ์ชิปรุ่นใหม่ที่เรียกว่า High-NA EUV จาก ASML ซึ่งมีราคาสูงถึง $380 ล้านต่อเครื่อง! David Zinsner, CFO ของ Intel ยืนยันในงานประชุม Citi’s Global TMT ว่า 14A จะมีต้นทุนต่อแผ่นเวเฟอร์สูงกว่า 18A อย่างแน่นอน แม้จะไม่สูงมากในแง่การลงทุนรวม แต่เครื่องพิมพ์ Twinscan EXE:5200B ที่ใช้เลนส์ขนาด 0.55 NA (Numerical Aperture) ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยพุ่งขึ้น Intel 14A ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่หลายอย่าง เช่น RibbonFET 2 ที่เป็นโครงสร้างทรานซิสเตอร์แบบ gate-all-around รุ่นปรับปรุง และ PowerDirect ที่เป็นระบบส่งพลังงานจากด้านหลังของชิปโดยตรง ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนของการเดินสายไฟและเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมี Turbo Cells ที่ช่วยเพิ่มความเร็วของ CPU และ GPU โดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่หรือพลังงานมากนัก — ทั้งหมดนี้ทำให้ 14A เป็น node ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งผลิตภัณฑ์ของ Intel และลูกค้าภายนอกในอนาคต แต่ปัญหาคือ หาก Intel ไม่สามารถหาลูกค้าภายนอกมาใช้ 14A ได้ ก็อาจไม่คุ้มค่าการลงทุน และอาจต้องชะลอหรือยกเลิก node นี้ไปเลย ซึ่งจะส่งผลต่อแผนการฟื้นตัวของ Intel Foundry ที่กำลังพยายามกลับมาเป็นผู้นำในตลาดโลก ✅ Intel 14A node คืออะไร ➡️ เป็นกระบวนการผลิตชิประดับ 1.4nm ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ➡️ ใช้เทคโนโลยี RibbonFET 2 และ PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ มี Turbo Cells ที่ช่วยเพิ่มความเร็วโดยไม่เพิ่มพื้นที่หรือพลังงาน ➡️ ให้ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่า 18A ถึง 15–20% และลดการใช้พลังงานได้ 25–35% ✅ เครื่องมือที่ใช้ใน 14A ➡️ ใช้เครื่องพิมพ์ชิป High-NA EUV จาก ASML รุ่น Twinscan EXE:5200B ➡️ ความละเอียดสูงถึง 8nm ต่อการยิงแสงครั้งเดียว ➡️ ลดความจำเป็นในการใช้ multi-patterning ซึ่งช่วยเพิ่ม yield ➡️ เครื่องมีราคาสูงถึง $380 ล้านต่อเครื่อง เทียบกับ $235 ล้านของรุ่นเดิม ✅ บริบททางธุรกิจและการลงทุน ➡️ Intel ต้องการลูกค้าภายนอกเพื่อให้คุ้มค่าการลงทุนใน 14A ➡️ หากไม่มีลูกค้ารายใหญ่ อาจต้องชะลอหรือยกเลิก node นี้ ➡️ Intel Foundry ต้องรักษาสัดส่วนการถือหุ้น 51% ตามข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ ➡️ การพัฒนา 14A ใช้งบวิจัยหลายพันล้านดอลลาร์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ 14A-E เป็นเวอร์ชันปรับปรุงของ 14A ที่เพิ่มประสิทธิภาพอีก 5% ➡️ Samsung และ TSMC กำลังพัฒนา 2nm node เพื่อแข่งขันกับ Intel ➡️ Intel ได้รับสัญญาผลิตชิป 18A มูลค่า $15 พันล้านจาก Microsoft1 ➡️ High-NA EUV ยังมีข้อจำกัดด้านขนาด field ทำให้ต้องปรับการออกแบบชิปใหม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-cfo-confirms-that-14a-will-be-more-expensive-to-use-than-18a-intel-expects-14a-fabrication-process-to-offer-15-20-percent-better-performance-per-watt-or-25-35-percent-lower-power-consumption-compared-to-18a
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • “TSMC ปั้นคนท้องถิ่น! ขยายโครงการฝึกงานในรัฐแอริโซนา รับมือโรงงานผลิตชิป 4nm–2nm ที่กำลังบูม”

    ลองจินตนาการว่าคุณเป็นนักศึกษาด้านวิศวกรรมไฟฟ้า หรือวิทยาการคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ แล้ววันหนึ่งคุณได้รับโอกาสฝึกงานกับ TSMC — บริษัทผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งกำลังสร้างโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนาเพื่อผลิตชิประดับ 4nm และ 2nm ที่ใช้ใน AI, GPU และอุปกรณ์ล้ำยุคของ Apple, Nvidia และ AMD

    ในฤดูร้อนปี 2025 นี้ TSMC ได้ขยายโครงการฝึกงานในรัฐแอริโซนาอย่างมหาศาล โดยรับนักศึกษากว่า 200 คนจาก 60 มหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 130 คนเมื่อปีที่แล้ว และจากเพียง 16 คนในปี 2023 — ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดเพื่อเตรียมบุคลากรรองรับโรงงานผลิตชิปที่กำลังเร่งเปิดใช้งาน

    โรงงานแห่งแรกในเมืองฟีนิกซ์เริ่มผลิตชิป 4nm แล้วตั้งแต่ต้นปีนี้ และกำลังสร้างโรงงานที่สองและสามตามแผนที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act ของรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 6.6 พันล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าโรงงานทั้งสามจะสร้างงานโดยตรงกว่า 6,000 ตำแหน่ง และเป็นหัวใจของห่วงโซ่อุปทานชิปในประเทศ

    นอกจากฝึกงานแล้ว TSMC ยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Arizona State University (ASU) และหน่วยงานรัฐเพื่อเปิดหลักสูตรเร่งรัด 15 สัปดาห์สำหรับช่างเทคนิคในโรงงาน พร้อมทุนวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา และศูนย์ฝึกอบรมด้านการบรรจุชิป (advanced packaging) ร่วมกับ Amkor ในเมือง Peoria

    การขยายโครงการฝึกงานของ TSMC
    รับนักศึกษากว่า 200 คนจาก 60 มหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐฯ
    เพิ่มขึ้นจาก 130 คนในปี 2024 และ 16 คนในปี 2023
    มีนักศึกษาจาก ASU เข้าร่วมกว่า 30 คน
    เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมบุคลากรสำหรับโรงงานผลิตชิประดับ 4nm และ 2nm

    โรงงานผลิตชิปในรัฐแอริโซนา
    โรงงานแรกเริ่มผลิตชิป 4nm แล้วในต้นปี 2025
    โรงงานที่สองและสามอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
    ได้รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act มูลค่า $6.6 พันล้าน
    คาดว่าจะสร้างงานโดยตรงกว่า 6,000 ตำแหน่ง
    เป็นการลงทุนรวมกว่า $65 พันล้าน ถือเป็นการลงทุนจากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐแอริโซนา

    ความร่วมมือด้านการศึกษาและการฝึกอบรม
    ASU เปิดหลักสูตรวิจัยระดับปริญญาตรีและบัณฑิตด้านเซมิคอนดักเตอร์
    รัฐแอริโซนาเปิดโปรแกรมฝึกอบรมช่างเทคนิคแบบเร่งรัด 15 สัปดาห์
    Amkor เปิดศูนย์บรรจุชิปมูลค่า $2 พันล้านในเมือง Peoria
    รองรับเทคโนโลยี CoWoS และ InFO สำหรับ GPU และ AI accelerators

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-increases-arizona-internships-to-feed-fabs
    🏗️ “TSMC ปั้นคนท้องถิ่น! ขยายโครงการฝึกงานในรัฐแอริโซนา รับมือโรงงานผลิตชิป 4nm–2nm ที่กำลังบูม” ลองจินตนาการว่าคุณเป็นนักศึกษาด้านวิศวกรรมไฟฟ้า หรือวิทยาการคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ แล้ววันหนึ่งคุณได้รับโอกาสฝึกงานกับ TSMC — บริษัทผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งกำลังสร้างโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนาเพื่อผลิตชิประดับ 4nm และ 2nm ที่ใช้ใน AI, GPU และอุปกรณ์ล้ำยุคของ Apple, Nvidia และ AMD ในฤดูร้อนปี 2025 นี้ TSMC ได้ขยายโครงการฝึกงานในรัฐแอริโซนาอย่างมหาศาล โดยรับนักศึกษากว่า 200 คนจาก 60 มหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 130 คนเมื่อปีที่แล้ว และจากเพียง 16 คนในปี 2023 — ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดเพื่อเตรียมบุคลากรรองรับโรงงานผลิตชิปที่กำลังเร่งเปิดใช้งาน โรงงานแห่งแรกในเมืองฟีนิกซ์เริ่มผลิตชิป 4nm แล้วตั้งแต่ต้นปีนี้ และกำลังสร้างโรงงานที่สองและสามตามแผนที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act ของรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 6.6 พันล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าโรงงานทั้งสามจะสร้างงานโดยตรงกว่า 6,000 ตำแหน่ง และเป็นหัวใจของห่วงโซ่อุปทานชิปในประเทศ นอกจากฝึกงานแล้ว TSMC ยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Arizona State University (ASU) และหน่วยงานรัฐเพื่อเปิดหลักสูตรเร่งรัด 15 สัปดาห์สำหรับช่างเทคนิคในโรงงาน พร้อมทุนวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา และศูนย์ฝึกอบรมด้านการบรรจุชิป (advanced packaging) ร่วมกับ Amkor ในเมือง Peoria ✅ การขยายโครงการฝึกงานของ TSMC ➡️ รับนักศึกษากว่า 200 คนจาก 60 มหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐฯ ➡️ เพิ่มขึ้นจาก 130 คนในปี 2024 และ 16 คนในปี 2023 ➡️ มีนักศึกษาจาก ASU เข้าร่วมกว่า 30 คน ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมบุคลากรสำหรับโรงงานผลิตชิประดับ 4nm และ 2nm ✅ โรงงานผลิตชิปในรัฐแอริโซนา ➡️ โรงงานแรกเริ่มผลิตชิป 4nm แล้วในต้นปี 2025 ➡️ โรงงานที่สองและสามอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ➡️ ได้รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act มูลค่า $6.6 พันล้าน ➡️ คาดว่าจะสร้างงานโดยตรงกว่า 6,000 ตำแหน่ง ➡️ เป็นการลงทุนรวมกว่า $65 พันล้าน ถือเป็นการลงทุนจากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐแอริโซนา ✅ ความร่วมมือด้านการศึกษาและการฝึกอบรม ➡️ ASU เปิดหลักสูตรวิจัยระดับปริญญาตรีและบัณฑิตด้านเซมิคอนดักเตอร์ ➡️ รัฐแอริโซนาเปิดโปรแกรมฝึกอบรมช่างเทคนิคแบบเร่งรัด 15 สัปดาห์ ➡️ Amkor เปิดศูนย์บรรจุชิปมูลค่า $2 พันล้านในเมือง Peoria ➡️ รองรับเทคโนโลยี CoWoS และ InFO สำหรับ GPU และ AI accelerators https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-increases-arizona-internships-to-feed-fabs
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    TSMC increases Arizona internships to feed its Phoenix fabs — CHIPS-fueled supply chain begins to take shape
    A wave of homegrown talent arrives just as TSMC’s 4nm ramp-up in Arizona turns into a three-fab silicon supercluster.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts