• เปิดรับสมัครแล้ว !!!!!!!
    ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดสอนหลักสูตรสรีรวิทยาการแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ) ซึ่งหลักสูตรมุ่งผลิตบัณฑิตที่เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีและปฏิบัติทางสรีรวิทยาการแพทย์ มีคุณธรรมและจริยธรรมวิชาชีพ พร้อมใช้งานเทคโนโลยีสมัยใหม่และพัฒนาตนเองตลอดชีวิต โดยเปิดรับสมัครผู้สนใจศึกษาในหลักสูตรฯ ปีการศึกษา 2568 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2569 ทางเว็บไซต์บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล https://graduate.mahidol.ac.th/thai
    ในการนี้ ภาควิชาสรีรวิทยา จึงขอความอนุเคราะห์ประชาสัมพันธ์การเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต และ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2568 ตามรายละเอียดที่ส่งมาด้วย (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุนทรี มีชำนาญ โทร 0 2419 8309, email: soontaree.mee@mahidol.ac.th)
    เปิดรับสมัครแล้ว !!!!!!! ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดสอนหลักสูตรสรีรวิทยาการแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ) ซึ่งหลักสูตรมุ่งผลิตบัณฑิตที่เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีและปฏิบัติทางสรีรวิทยาการแพทย์ มีคุณธรรมและจริยธรรมวิชาชีพ พร้อมใช้งานเทคโนโลยีสมัยใหม่และพัฒนาตนเองตลอดชีวิต โดยเปิดรับสมัครผู้สนใจศึกษาในหลักสูตรฯ ปีการศึกษา 2568 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2569 ทางเว็บไซต์บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล https://graduate.mahidol.ac.th/thai ในการนี้ ภาควิชาสรีรวิทยา จึงขอความอนุเคราะห์ประชาสัมพันธ์การเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต และ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2568 ตามรายละเอียดที่ส่งมาด้วย (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุนทรี มีชำนาญ โทร 0 2419 8309, email: soontaree.mee@mahidol.ac.th)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline

    Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่
    ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย
    https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks

    DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero
    https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย
    มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว
    https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism

    EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย
    หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit

    Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO
    OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle

    Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS
    ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports

    Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal
    นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที
    https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass

    GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki
    GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages

    Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO
    มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
    https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait

    SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
    SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX
    https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers

    จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure
    มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน
    https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud

    ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน
    มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce

    FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย
    หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา
    https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน
    CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication

    ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว
    https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack

    นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ
    Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น
    https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline 🛡️ Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่ ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks 💻 DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero 🔗 https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass ⚙️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism 🪙 EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit 🤝 Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle 🛠️ Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports 🐙 Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที 🔗 https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass 🧩 GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages 📱 Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ 🔗 https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait 🚀 SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX 🔗 https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers 🐼 จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน 🔗 https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud 📡 ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce ⚠️ FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา 🔗 https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis 🎥 ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication 🛡️ ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว 🔗 https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack 🤖 นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • Bari Cruise Port — ประตูสู่แคว้นพูลยา เมืองชายฝั่งสุดมีเสน่ห์แห่งอิตาลีใต้
    เมืองท่าเรือสำคัญในแคว้น Puglia (พูเกลีย) ทางตอนใต้ของอิตาลี
    หนึ่งในจุดแวะยอดฮิตของเรือสำราญยุโรป เช่น MSC, Costa, Norwegian และอื่น ๆ
    โดดเด่นด้วยถนนหินกรวด เมืองเก่าอายุกว่าพันปี และวัฒนธรรมอิตาเลียนแท้ที่นักเดินทางหลงรัก

    Basilica di San Nicola - มหาวิหารนักบุญนิโคลัส
    ที่เก็บพระธาตุของนักบุญนิโคลัส เป็นโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญทั้งสำหรับ นิกายโรมันคาทอลิกและออร์โธดอกซ์ ภายในตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Romanesque Pugliese

    Cattedrale di San Sabino - มหาวิหารซานซาบิโน
    โบสถ์ไบแซนไทน์ที่ถูกทำลายในศตวรรษที่ 11 และสร้างขึ้นใหม่ในสไตล์โรมันเนสก์ เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในแคว้น Puglia และเป็นที่เก็บ พระธาตุของนักบุญซาบิโน

    Castello Normanno-Svevo -ปราสาทนอร์มัน-สเวเวียน
    ถูกสร้างขึ้นโดย ราชวงศ์นอร์มัน และต่อมาได้รับการปรับปรุงโดยจักรพรรดิ Frederick II แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เคยถูกใช้เป็น ป้อมปราการ, ค่ายทหาร, และคุกมาก่อน

    Bari Vecchia - เมืองเก่าบารี
    จุดชมวิวที่โดดเด่นที่สุดของ Geirangerfjord ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO สร้างขึ้นในปี 1939 โดยเป็นโครงการพัฒนาถนนเพื่อเชื่อมระหว่าง Geiranger และยอดเขา Dalsnibba

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #BariCruisePort #Italy #BasilicadiSanNicola #CattedralediSanSabino #CastelloNormannoSvevo #BariVecchia #port #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #cruisedomain
    ⚓ Bari Cruise Port — ประตูสู่แคว้นพูลยา เมืองชายฝั่งสุดมีเสน่ห์แห่งอิตาลีใต้ 🇮🇹🌊 เมืองท่าเรือสำคัญในแคว้น Puglia (พูเกลีย) ทางตอนใต้ของอิตาลี หนึ่งในจุดแวะยอดฮิตของเรือสำราญยุโรป เช่น MSC, Costa, Norwegian และอื่น ๆ โดดเด่นด้วยถนนหินกรวด เมืองเก่าอายุกว่าพันปี และวัฒนธรรมอิตาเลียนแท้ที่นักเดินทางหลงรัก ✅ Basilica di San Nicola - มหาวิหารนักบุญนิโคลัส ที่เก็บพระธาตุของนักบุญนิโคลัส เป็นโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญทั้งสำหรับ นิกายโรมันคาทอลิกและออร์โธดอกซ์ ภายในตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Romanesque Pugliese ✅ Cattedrale di San Sabino - มหาวิหารซานซาบิโน โบสถ์ไบแซนไทน์ที่ถูกทำลายในศตวรรษที่ 11 และสร้างขึ้นใหม่ในสไตล์โรมันเนสก์ เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในแคว้น Puglia และเป็นที่เก็บ พระธาตุของนักบุญซาบิโน ✅ Castello Normanno-Svevo -ปราสาทนอร์มัน-สเวเวียน ถูกสร้างขึ้นโดย ราชวงศ์นอร์มัน และต่อมาได้รับการปรับปรุงโดยจักรพรรดิ Frederick II แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เคยถูกใช้เป็น ป้อมปราการ, ค่ายทหาร, และคุกมาก่อน ✅ Bari Vecchia - เมืองเก่าบารี จุดชมวิวที่โดดเด่นที่สุดของ Geirangerfjord ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO สร้างขึ้นในปี 1939 โดยเป็นโครงการพัฒนาถนนเพื่อเชื่อมระหว่าง Geiranger และยอดเขา Dalsnibba ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #BariCruisePort #Italy #BasilicadiSanNicola #CattedralediSanSabino #CastelloNormannoSvevo #BariVecchia #port #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #cruisedomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขายการ์ดจอ Asus GeForce RTX 5090 32GB OC GDDR7 Tuff Gaming ใหม่เอี่ยม (ไม่เคยแกะกล่อง/ใช้งาน) สินค้าแท้ 100% คุณภาพสูง อยู่ในกล่องและบรรจุภัณฑ์เดิมจากโรงงาน ปิดผนึกอย่างดี!!!!

    สิ่งที่อยู่ในกล่อง:

    • การ์ดจอ ASUS TUF Gaming GeForce RTX 5090 32GB GDDR7 OC Edition จำนวน 1 ใบ

    • อุปกรณ์เสริมที่ปิดผนึกจากโรงงาน

    • ใบรับประกันจากผู้ผลิต Asus

    • คู่มือการใช้งาน Asus

    สำเนาใบรับประกัน 3 ปีจาก Asus

    ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา การสั่งซื้อ และการจัดส่งได้

    สุขสันต์วันคริสต์มาสล่วงหน้า!
    ขายการ์ดจอ Asus GeForce RTX 5090 32GB OC GDDR7 Tuff Gaming ใหม่เอี่ยม (ไม่เคยแกะกล่อง/ใช้งาน) สินค้าแท้ 100% คุณภาพสูง อยู่ในกล่องและบรรจุภัณฑ์เดิมจากโรงงาน ปิดผนึกอย่างดี!!!! สิ่งที่อยู่ในกล่อง: • การ์ดจอ ASUS TUF Gaming GeForce RTX 5090 32GB GDDR7 OC Edition จำนวน 1 ใบ • อุปกรณ์เสริมที่ปิดผนึกจากโรงงาน • ใบรับประกันจากผู้ผลิต Asus • คู่มือการใช้งาน Asus สำเนาใบรับประกัน 3 ปีจาก Asus ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา การสั่งซื้อ และการจัดส่งได้ สุขสันต์วันคริสต์มาสล่วงหน้า!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผ่นดินกู! แผ่นดินไทย กูอยากไปไหนก็ที่กู!!(11/12/68) #news1 #TruthFromThailand #SaveThailand #เขมร
    แผ่นดินกู! แผ่นดินไทย กูอยากไปไหนก็ที่กู!!(11/12/68) #news1 #TruthFromThailand #SaveThailand #เขมร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อิทธิพล Delta กดดัน Set (11/12/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    อิทธิพล Delta กดดัน Set (11/12/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ก.ล.ต. เตือนผู้ถือหุ้นกู้ 6รุ่น Phuket ใช้สิทธิ์ (11/12/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ก.ล.ต. #ตลาดหุ้น #หุ้น
    ก.ล.ต. เตือนผู้ถือหุ้นกู้ 6รุ่น Phuket ใช้สิทธิ์ (11/12/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ก.ล.ต. #ตลาดหุ้น #หุ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์กลางคืนถึงเช้า เขมรยังระดมยิงปืนใหญ่-โดรนพลีชีพโจมตีหลายพื้นที่สำคัญ ฝ่ายไทยยิงตอบโต้ ทำลายรถบรรทุกของข้าศึก โจมตีที่ตั้งอาวุธและที่ตั้งทางทหารกัมพูชา ยึดพื้นที่ 'ช่องระยี–ปลดต่าง' ได้แล้ว พร้อมยึดครองที่หมายสำคัญของปราสาทคนา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118962

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์กลางคืนถึงเช้า เขมรยังระดมยิงปืนใหญ่-โดรนพลีชีพโจมตีหลายพื้นที่สำคัญ ฝ่ายไทยยิงตอบโต้ ทำลายรถบรรทุกของข้าศึก โจมตีที่ตั้งอาวุธและที่ตั้งทางทหารกัมพูชา ยึดพื้นที่ 'ช่องระยี–ปลดต่าง' ได้แล้ว พร้อมยึดครองที่หมายสำคัญของปราสาทคนา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118962 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • นอกจากต้องรบกับทัพเหมน(1)แล้ว ทหารไทยยังต้องเผชิญนักรบรับจ้าง(2) ทุนเทาสแกมเมอร์ (3) และชาติหมาอำนาจ (4) แต่ที่เจ็บปวดกว่าคือ ทัพนักสิทธิฯคนไทย(5) และพรรคส้ม(6)ที่ไม่หยุดเล่นงานกันเอง เพื่อตีกินทางการเมือง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    นอกจากต้องรบกับทัพเหมน(1)แล้ว ทหารไทยยังต้องเผชิญนักรบรับจ้าง(2) ทุนเทาสแกมเมอร์ (3) และชาติหมาอำนาจ (4) แต่ที่เจ็บปวดกว่าคือ ทัพนักสิทธิฯคนไทย(5) และพรรคส้ม(6)ที่ไม่หยุดเล่นงานกันเอง เพื่อตีกินทางการเมือง #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเนสโก้รู้ทันเขมร
    ไม่เป็นเครื่องมือเล่นงานไทย เพราะ 1.ปราสาทเป็นของไทย 2.เขมรจงใจใช้เป็นฐานและที่กำบังจึงพังยับ
    #7ดอกจิก
    ยูเนสโก้รู้ทันเขมร ไม่เป็นเครื่องมือเล่นงานไทย เพราะ 1.ปราสาทเป็นของไทย 2.เขมรจงใจใช้เป็นฐานและที่กำบังจึงพังยับ #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันศุกร์ที่ 12 เดือนธันวาคม พ.ศ.2568
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันศุกร์ที่ 12 เดือนธันวาคม พ.ศ.2568 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จิ๋วแต่ทรงพลัง

    Tiiny AI เปิดตัวเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กมากจนสามารถถือได้ด้วยมือเดียว แต่ภายในบรรจุฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังพอจะรองรับโมเดล AI ขนาดมหึมา จุดเด่นคือการออกแบบที่เน้น local-first computing ทำให้สามารถประมวลผลโมเดลได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก

    สเปกและความสามารถ
    เครื่องนี้ใช้สถาปัตยกรรมที่รองรับการประมวลผลโมเดล AI ขนาด 120B parameters พร้อมระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับเซิร์ฟเวอร์ AI ระดับศูนย์ข้อมูล โดยยังคงรักษาความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ทั่วไป

    ความหมายต่อวงการ AI
    การมาของ Tiiny AI Supercomputer สะท้อนถึงแนวโน้มการทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่บริษัทใหญ่หรือศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมา แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไป, นักวิจัยอิสระ และสตาร์ทอัพสามารถทดลองโมเดลขนาดใหญ่ได้ด้วยเครื่องที่ตั้งบนโต๊ะทำงาน

    ผลกระทบในอนาคต
    หากเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาและผลิตในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง อาจเปลี่ยนโฉมการใช้งาน AI ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะจะทำให้การฝึกและรันโมเดลขนาดใหญ่ไม่ต้องพึ่งพา cloud computing เพียงอย่างเดียว แต่สามารถทำได้ในระดับ local ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความเป็นส่วนตัว

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Tiiny AI Supercomputer
    ขนาดเล็กที่สุดในโลก
    รองรับโมเดล AI ขนาด 120B parameters

    จุดเด่นด้านเทคโนโลยี
    ออกแบบเพื่อ local-first computing
    ประสิทธิภาพใกล้เคียงเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูล

    ความหมายต่อวงการ AI
    ทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
    เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไปและสตาร์ทอัพ

    ผลกระทบในอนาคต
    ลดการพึ่งพา cloud computing
    เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดค่าใช้จ่าย

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ยังไม่ชัดเจนเรื่องราคาและการวางจำหน่ายจริง
    อาจมีข้อจำกัดด้านการระบายความร้อนและการขยายระบบ
    ต้องพิสูจน์ความเสถียรในการใช้งานระยะยาว

    https://wccftech.com/meet-the-worlds-smallest-supercomputer-a-machine-bold-enough-to-run-120b-ai-models/
    🖥️ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จิ๋วแต่ทรงพลัง Tiiny AI เปิดตัวเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กมากจนสามารถถือได้ด้วยมือเดียว แต่ภายในบรรจุฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังพอจะรองรับโมเดล AI ขนาดมหึมา จุดเด่นคือการออกแบบที่เน้น local-first computing ทำให้สามารถประมวลผลโมเดลได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ⚡ สเปกและความสามารถ เครื่องนี้ใช้สถาปัตยกรรมที่รองรับการประมวลผลโมเดล AI ขนาด 120B parameters พร้อมระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับเซิร์ฟเวอร์ AI ระดับศูนย์ข้อมูล โดยยังคงรักษาความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ทั่วไป 🌍 ความหมายต่อวงการ AI การมาของ Tiiny AI Supercomputer สะท้อนถึงแนวโน้มการทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่บริษัทใหญ่หรือศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมา แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไป, นักวิจัยอิสระ และสตาร์ทอัพสามารถทดลองโมเดลขนาดใหญ่ได้ด้วยเครื่องที่ตั้งบนโต๊ะทำงาน 🔍 ผลกระทบในอนาคต หากเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาและผลิตในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง อาจเปลี่ยนโฉมการใช้งาน AI ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะจะทำให้การฝึกและรันโมเดลขนาดใหญ่ไม่ต้องพึ่งพา cloud computing เพียงอย่างเดียว แต่สามารถทำได้ในระดับ local ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความเป็นส่วนตัว 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Tiiny AI Supercomputer ➡️ ขนาดเล็กที่สุดในโลก ➡️ รองรับโมเดล AI ขนาด 120B parameters ✅ จุดเด่นด้านเทคโนโลยี ➡️ ออกแบบเพื่อ local-first computing ➡️ ประสิทธิภาพใกล้เคียงเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูล ✅ ความหมายต่อวงการ AI ➡️ ทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ➡️ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไปและสตาร์ทอัพ ✅ ผลกระทบในอนาคต ➡️ ลดการพึ่งพา cloud computing ➡️ เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดค่าใช้จ่าย ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ยังไม่ชัดเจนเรื่องราคาและการวางจำหน่ายจริง ⛔ อาจมีข้อจำกัดด้านการระบายความร้อนและการขยายระบบ ⛔ ต้องพิสูจน์ความเสถียรในการใช้งานระยะยาว https://wccftech.com/meet-the-worlds-smallest-supercomputer-a-machine-bold-enough-to-run-120b-ai-models/
    WCCFTECH.COM
    Meet the World’s Smallest ‘Supercomputer’ from Tiiny AI; A Machine Bold Enough to Run 120B AI Models Right in the Palm of Your Hand
    Compact AI devices have become mainstream, but Tiiny AI has broken the barriers by introducing the world's smallest AI supercomputer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • HWiNFO ยืนยันการเปิดตัว Intel Nova Lake H และ HX รวมถึง Arrow Lake Refresh

    HWiNFO เวอร์ชันใหม่ (8.35) ได้เพิ่มข้อมูลรองรับซีพียู Nova Lake H และ Nova Lake HX ลงในฐานข้อมูล ซึ่งถือเป็นการยืนยันว่าชิปเหล่านี้กำลังถูกเตรียมสำหรับการเปิดตัวจริง แม้จะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่ HWiNFO มักเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์ที่เผยข้อมูลล่วงหน้าของซีพียูรุ่นใหม่เสมอ

    รายละเอียดของ Nova Lake H และ HX
    Nova Lake H จะมาแทนที่ตระกูล Panther Lake H โดยมีการออกแบบแบบ hybrid สูงสุด 16 คอร์ (4 P-Core + 8 E-Core + 4 LP-E Core)

    Nova Lake HX จะเป็นรุ่นที่ใหญ่กว่า รองรับสูงสุดถึง 28 คอร์ โดยเพิ่มจำนวน P-Core และ E-Core เป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับรุ่น H

    Nova Lake HX ใช้ซ็อกเก็ต BGA 2540 ซึ่งใหญ่กว่าซ็อกเก็ต BGA 2114 ของ Arrow Lake HX ประมาณ 20%

    Arrow Lake Refresh
    นอกจาก Nova Lake แล้ว HWiNFO ยังเพิ่มการรองรับ Arrow Lake Refresh ซึ่งคาดว่าจะมีรุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 9 290K Plus, Core Ultra 7 270K Plus และ Core Ultra 5 250K Plus โดยทั้งหมดจะมาพร้อมความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงขึ้นและจำนวนคอร์ที่มากกว่าเดิม

    ความหมายต่อวงการซีพียู
    การที่ HWiNFO เพิ่มการรองรับซีพียูเหล่านี้สะท้อนว่า Intel กำลังเร่งพัฒนาตระกูลใหม่เพื่อแข่งขันกับ AMD โดยเฉพาะในตลาดโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อประดับสูง Nova Lake HX ที่มี 28 คอร์จะเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ และ Arrow Lake Refresh จะช่วยต่ออายุแพลตฟอร์มปัจจุบันให้แข็งแกร่งขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การยืนยันจาก HWiNFO
    เวอร์ชัน 8.35 เพิ่มการรองรับ Nova Lake H/HX และ Arrow Lake Refresh

    รายละเอียด Nova Lake H
    แทนที่ Panther Lake H
    สูงสุด 16 คอร์ (4P + 8E + 4LP-E)

    รายละเอียด Nova Lake HX
    สูงสุด 28 คอร์
    ใช้ซ็อกเก็ต BGA 2540 ใหญ่กว่า Arrow Lake HX

    Arrow Lake Refresh
    รุ่นใหม่ Core Ultra 9 290K Plus, 7 270K Plus, 5 250K Plus
    เพิ่มความเร็วและจำนวนคอร์

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel
    ข้อมูลจาก HWiNFO ไม่ได้การันตีวันเปิดตัวจริง
    ต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องสเปกและราคา

    https://wccftech.com/hwinfo-confirms-nova-lake-h-and-hx-also-adds-support-for-arrow-lake-refresh/
    🖥️ HWiNFO ยืนยันการเปิดตัว Intel Nova Lake H และ HX รวมถึง Arrow Lake Refresh HWiNFO เวอร์ชันใหม่ (8.35) ได้เพิ่มข้อมูลรองรับซีพียู Nova Lake H และ Nova Lake HX ลงในฐานข้อมูล ซึ่งถือเป็นการยืนยันว่าชิปเหล่านี้กำลังถูกเตรียมสำหรับการเปิดตัวจริง แม้จะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่ HWiNFO มักเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์ที่เผยข้อมูลล่วงหน้าของซีพียูรุ่นใหม่เสมอ ⚡ รายละเอียดของ Nova Lake H และ HX 💠 Nova Lake H จะมาแทนที่ตระกูล Panther Lake H โดยมีการออกแบบแบบ hybrid สูงสุด 16 คอร์ (4 P-Core + 8 E-Core + 4 LP-E Core) 💠 Nova Lake HX จะเป็นรุ่นที่ใหญ่กว่า รองรับสูงสุดถึง 28 คอร์ โดยเพิ่มจำนวน P-Core และ E-Core เป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับรุ่น H 💠 Nova Lake HX ใช้ซ็อกเก็ต BGA 2540 ซึ่งใหญ่กว่าซ็อกเก็ต BGA 2114 ของ Arrow Lake HX ประมาณ 20% 🔧 Arrow Lake Refresh นอกจาก Nova Lake แล้ว HWiNFO ยังเพิ่มการรองรับ Arrow Lake Refresh ซึ่งคาดว่าจะมีรุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 9 290K Plus, Core Ultra 7 270K Plus และ Core Ultra 5 250K Plus โดยทั้งหมดจะมาพร้อมความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงขึ้นและจำนวนคอร์ที่มากกว่าเดิม 🔍 ความหมายต่อวงการซีพียู การที่ HWiNFO เพิ่มการรองรับซีพียูเหล่านี้สะท้อนว่า Intel กำลังเร่งพัฒนาตระกูลใหม่เพื่อแข่งขันกับ AMD โดยเฉพาะในตลาดโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อประดับสูง Nova Lake HX ที่มี 28 คอร์จะเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ และ Arrow Lake Refresh จะช่วยต่ออายุแพลตฟอร์มปัจจุบันให้แข็งแกร่งขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การยืนยันจาก HWiNFO ➡️ เวอร์ชัน 8.35 เพิ่มการรองรับ Nova Lake H/HX และ Arrow Lake Refresh ✅ รายละเอียด Nova Lake H ➡️ แทนที่ Panther Lake H ➡️ สูงสุด 16 คอร์ (4P + 8E + 4LP-E) ✅ รายละเอียด Nova Lake HX ➡️ สูงสุด 28 คอร์ ➡️ ใช้ซ็อกเก็ต BGA 2540 ใหญ่กว่า Arrow Lake HX ✅ Arrow Lake Refresh ➡️ รุ่นใหม่ Core Ultra 9 290K Plus, 7 270K Plus, 5 250K Plus ➡️ เพิ่มความเร็วและจำนวนคอร์ ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel ⛔ ข้อมูลจาก HWiNFO ไม่ได้การันตีวันเปิดตัวจริง ⛔ ต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องสเปกและราคา https://wccftech.com/hwinfo-confirms-nova-lake-h-and-hx-also-adds-support-for-arrow-lake-refresh/
    WCCFTECH.COM
    HWiNFO Confirms Nova Lake H And HX; Also Adds Support For Arrow Lake Refresh
    The upcoming HWiNFO software version will support the Arrow lake Refresh as well as confirms the Intel Nova Lake H and HX series.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 December Security Update (KB5070311) ช่วยแก้ปัญหาการ์ดจอ AMD

    ตลอดปีที่ผ่านมา ผู้ใช้การ์ดจอ AMD โดยเฉพาะรุ่น RX 9000 Series รายงานปัญหา GPU ค้างและไดรเวอร์ล่มในหลายเกม เช่น Battlefield 6, Arc Raiders และ BO7 ปัญหานี้คล้ายกับที่ Nvidia เคยเจอหลังอัปเดต Windows 11 ในเดือนตุลาคม ซึ่งทำให้ต้องออกไดรเวอร์ hotfix เพื่อแก้ไข

    การแก้ไขที่มากับอัปเดตเดือนธันวาคม
    ผู้ใช้จำนวนมากระบุว่าอัปเดต KB5070311 ช่วยแก้ปัญหาการค้างและการแครชของ AMD GPU โดยเฉพาะในเกมที่มีการรายงานบ่อย แม้ Microsoft ไม่ได้ระบุรายละเอียดใน patch note แต่มีการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ข้อความ “unsupported graphics card detected” ไม่ปรากฏอีกเมื่อใช้การ์ดที่รองรับ

    ความแตกต่างจากไดรเวอร์ AMD
    AMD เองก็ออกไดรเวอร์ Adrenalin รุ่นใหม่ (25.12.1) ที่แก้ไขปัญหาบางเกม แต่ไม่ได้ระบุว่า Windows เป็นสาเหตุหลัก การที่อัปเดต Windows 11 ช่วยแก้ปัญหานี้จึงอาจเป็นผลลัพธ์โดยบังเอิญจากการปรับปรุงระบบความปลอดภัย แต่กลับส่งผลดีต่อผู้ใช้ AMD GPU

    ผลกระทบต่อผู้ใช้เกมเมอร์
    สำหรับผู้ใช้ AMD GPU โดยเฉพาะ RX 9000 Series ที่เจอปัญหามานาน การอัปเดตนี้ถือเป็นข่าวดี เพราะช่วยให้เล่นเกมได้เสถียรมากขึ้น แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้จำนวนมากยืนยันว่าประสบการณ์ดีขึ้นหลังอัปเดต

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ปัญหาที่เกิดขึ้น
    AMD GPU ค้างและไดรเวอร์แครชในเกมดังหลายเกม
    คล้ายกับปัญหาที่ Nvidia เคยเจอใน Windows 11

    การแก้ไขในอัปเดตเดือนธันวาคม
    KB5070311 ช่วยแก้ปัญหาการค้างและแครช
    ข้อความ “unsupported graphics card detected” หายไป

    ความแตกต่างจากไดรเวอร์ AMD
    AMD Adrenalin 25.12.1 แก้บางเกม แต่ไม่ชี้ว่า Windows เป็นสาเหตุ
    อัปเดต Windows อาจแก้โดยบังเอิญแต่ส่งผลดี

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    เกมเมอร์ AMD RX 9000 Series เล่นเกมได้เสถียรมากขึ้น
    ผู้ใช้จำนวนมากยืนยันว่าปัญหาลดลงหลังอัปเดต

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    Microsoft และ AMD ยังไม่ยืนยันการแก้ไขอย่างเป็นทางการ
    ไม่รับประกันว่าปัญหาทุกเครื่องจะถูกแก้
    อาจยังมีบั๊กอื่นที่ต้องรอการอัปเดตเพิ่มเติม

    https://www.tomshardware.com/software/windows/user-reports-claim-december-windows-11-security-update-fixes-amd-gpu-hanging-and-driver-crashing
    🖥️ Windows 11 December Security Update (KB5070311) ช่วยแก้ปัญหาการ์ดจอ AMD ตลอดปีที่ผ่านมา ผู้ใช้การ์ดจอ AMD โดยเฉพาะรุ่น RX 9000 Series รายงานปัญหา GPU ค้างและไดรเวอร์ล่มในหลายเกม เช่น Battlefield 6, Arc Raiders และ BO7 ปัญหานี้คล้ายกับที่ Nvidia เคยเจอหลังอัปเดต Windows 11 ในเดือนตุลาคม ซึ่งทำให้ต้องออกไดรเวอร์ hotfix เพื่อแก้ไข ⚡ การแก้ไขที่มากับอัปเดตเดือนธันวาคม ผู้ใช้จำนวนมากระบุว่าอัปเดต KB5070311 ช่วยแก้ปัญหาการค้างและการแครชของ AMD GPU โดยเฉพาะในเกมที่มีการรายงานบ่อย แม้ Microsoft ไม่ได้ระบุรายละเอียดใน patch note แต่มีการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ข้อความ “unsupported graphics card detected” ไม่ปรากฏอีกเมื่อใช้การ์ดที่รองรับ 🔍 ความแตกต่างจากไดรเวอร์ AMD AMD เองก็ออกไดรเวอร์ Adrenalin รุ่นใหม่ (25.12.1) ที่แก้ไขปัญหาบางเกม แต่ไม่ได้ระบุว่า Windows เป็นสาเหตุหลัก การที่อัปเดต Windows 11 ช่วยแก้ปัญหานี้จึงอาจเป็นผลลัพธ์โดยบังเอิญจากการปรับปรุงระบบความปลอดภัย แต่กลับส่งผลดีต่อผู้ใช้ AMD GPU 🎮 ผลกระทบต่อผู้ใช้เกมเมอร์ สำหรับผู้ใช้ AMD GPU โดยเฉพาะ RX 9000 Series ที่เจอปัญหามานาน การอัปเดตนี้ถือเป็นข่าวดี เพราะช่วยให้เล่นเกมได้เสถียรมากขึ้น แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้จำนวนมากยืนยันว่าประสบการณ์ดีขึ้นหลังอัปเดต 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้น ➡️ AMD GPU ค้างและไดรเวอร์แครชในเกมดังหลายเกม ➡️ คล้ายกับปัญหาที่ Nvidia เคยเจอใน Windows 11 ✅ การแก้ไขในอัปเดตเดือนธันวาคม ➡️ KB5070311 ช่วยแก้ปัญหาการค้างและแครช ➡️ ข้อความ “unsupported graphics card detected” หายไป ✅ ความแตกต่างจากไดรเวอร์ AMD ➡️ AMD Adrenalin 25.12.1 แก้บางเกม แต่ไม่ชี้ว่า Windows เป็นสาเหตุ ➡️ อัปเดต Windows อาจแก้โดยบังเอิญแต่ส่งผลดี ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ➡️ เกมเมอร์ AMD RX 9000 Series เล่นเกมได้เสถียรมากขึ้น ➡️ ผู้ใช้จำนวนมากยืนยันว่าปัญหาลดลงหลังอัปเดต ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ Microsoft และ AMD ยังไม่ยืนยันการแก้ไขอย่างเป็นทางการ ⛔ ไม่รับประกันว่าปัญหาทุกเครื่องจะถูกแก้ ⛔ อาจยังมีบั๊กอื่นที่ต้องรอการอัปเดตเพิ่มเติม https://www.tomshardware.com/software/windows/user-reports-claim-december-windows-11-security-update-fixes-amd-gpu-hanging-and-driver-crashing
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    User reports claim December Windows 11 security update fixes AMD GPU hanging and driver crashing
    Nvidia apparently wasn't the only GPU maker affected by previous Windows 11 cumulative updates.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • Framework ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กแบบโมดูลาร์ ออกมาโจมตีคู่แข่งเรื่องราคา RAM

    Framework กล่าวว่าการอัปเกรด RAM บนโน้ตบุ๊ก Dell และ Apple มีราคาสูงเกินจริง เช่น Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บถึง 550 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB (แม้ภายหลังจะถูกแก้ไขว่าเป็นความเข้าใจผิด) ขณะที่ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB มานานหลายปี

    จุดยืนของ Framework
    Framework ยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาที่จะเกิดขึ้นเป็นผลจากต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น แต่จะไม่ใช้เป็นข้ออ้างในการเอาเปรียบลูกค้า โดยปัจจุบันการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB บนโน้ตบุ๊ก Framework มีค่าใช้จ่ายเพียง 80 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่างมาก

    สถานการณ์ตลาดหน่วยความจำ
    ตลาด DRAM กำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตหลายราย เช่น CyberPowerPC และ Minisforum ต้องปรับขึ้นราคาสินค้าที่ใช้ RAM และ SSD โดยบางรายเพิ่มราคามากกว่า 100% ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและพีซี

    ความหมายต่อผู้บริโภค
    การออกมาโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงกลยุทธ์ของ Framework ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ “เป็นมิตรกับผู้ใช้” และโปร่งใสด้านราคา แม้จะต้องขึ้นราคาตามตลาด แต่ก็ยังพยายามรักษาความยุติธรรมในการขาย ซึ่งอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความแตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การโจมตีคู่แข่ง
    Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บ 550 ดอลลาร์สำหรับอัปเกรด RAM
    Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB

    จุดยืนของ Framework
    จะขึ้นราคาตามต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น
    ปัจจุบันอัปเกรด 16GB → 32GB เพียง 80 ดอลลาร์

    สถานการณ์ตลาด DRAM
    ภาวะขาดแคลนทำให้หลายบริษัทขึ้นราคา
    CyberPowerPC และ Minisforum ปรับขึ้นมากกว่า 100%

    ความหมายต่อผู้บริโภค
    Framework สร้างภาพลักษณ์โปร่งใสและยุติธรรม
    แตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ที่ถูกมองว่า “โก่งราคา”

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ราคาหน่วยความจำมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง
    ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายแพงขึ้นแม้กับแบรนด์ที่โปร่งใส
    ตลาด DRAM ยังมีความเสี่ยงจากการขาดแคลนและการเก็งกำไร

    https://www.tomshardware.com/laptops/framework-puts-dell-and-apple-on-blast-over-egregious-ram-prices-modular-laptop-maker-will-be-forced-to-increase-memory-prices-but-wont-gouge-customers-like-other-vendors
    💻 Framework ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กแบบโมดูลาร์ ออกมาโจมตีคู่แข่งเรื่องราคา RAM Framework กล่าวว่าการอัปเกรด RAM บนโน้ตบุ๊ก Dell และ Apple มีราคาสูงเกินจริง เช่น Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บถึง 550 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB (แม้ภายหลังจะถูกแก้ไขว่าเป็นความเข้าใจผิด) ขณะที่ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB มานานหลายปี 🛠️ จุดยืนของ Framework Framework ยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาที่จะเกิดขึ้นเป็นผลจากต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น แต่จะไม่ใช้เป็นข้ออ้างในการเอาเปรียบลูกค้า โดยปัจจุบันการอัปเกรดจาก 16GB เป็น 32GB บนโน้ตบุ๊ก Framework มีค่าใช้จ่ายเพียง 80 ดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่างมาก ⚡ สถานการณ์ตลาดหน่วยความจำ ตลาด DRAM กำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตหลายราย เช่น CyberPowerPC และ Minisforum ต้องปรับขึ้นราคาสินค้าที่ใช้ RAM และ SSD โดยบางรายเพิ่มราคามากกว่า 100% ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นทั้งในตลาดโน้ตบุ๊กและพีซี 🔍 ความหมายต่อผู้บริโภค การออกมาโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงกลยุทธ์ของ Framework ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ “เป็นมิตรกับผู้ใช้” และโปร่งใสด้านราคา แม้จะต้องขึ้นราคาตามตลาด แต่ก็ยังพยายามรักษาความยุติธรรมในการขาย ซึ่งอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความแตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การโจมตีคู่แข่ง ➡️ Dell ถูกกล่าวหาว่าเรียกเก็บ 550 ดอลลาร์สำหรับอัปเกรด RAM ➡️ Apple เรียกเก็บ 400 ดอลลาร์สำหรับการอัปเกรด 16GB ✅ จุดยืนของ Framework ➡️ จะขึ้นราคาตามต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้น ➡️ ปัจจุบันอัปเกรด 16GB → 32GB เพียง 80 ดอลลาร์ ✅ สถานการณ์ตลาด DRAM ➡️ ภาวะขาดแคลนทำให้หลายบริษัทขึ้นราคา ➡️ CyberPowerPC และ Minisforum ปรับขึ้นมากกว่า 100% ✅ ความหมายต่อผู้บริโภค ➡️ Framework สร้างภาพลักษณ์โปร่งใสและยุติธรรม ➡️ แตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ที่ถูกมองว่า “โก่งราคา” ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ราคาหน่วยความจำมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ⛔ ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายแพงขึ้นแม้กับแบรนด์ที่โปร่งใส ⛔ ตลาด DRAM ยังมีความเสี่ยงจากการขาดแคลนและการเก็งกำไร https://www.tomshardware.com/laptops/framework-puts-dell-and-apple-on-blast-over-egregious-ram-prices-modular-laptop-maker-will-be-forced-to-increase-memory-prices-but-wont-gouge-customers-like-other-vendors
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานการลักลอบนำเข้า Blackwell ขแง DeepSeek

    แหล่งข่าวนิรนามหลายรายอ้างว่า DeepSeek ใช้บริษัทเชลล์สร้างศูนย์ข้อมูลปลอมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ผ่านการตรวจสอบจาก Nvidia และพันธมิตร OEM หลังจากนั้นจึงรื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ออกเป็นชิ้น ๆ และลักลอบนำเข้าไปยังจีน ซึ่งถูกห้ามนำเข้า GPU รุ่นใหม่ตามข้อจำกัดของสหรัฐ

    ความต้องการ GPU ของ DeepSeek
    DeepSeek เคยสร้างชื่อจากโมเดล R1 ที่ใช้เพียง 2,048 Nvidia H800s แต่สามารถฝึกได้ภายในสองเดือน ทำให้บริษัทถูกจับตามองว่ามีความสามารถในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน DeepSeek ยังคงพยายามหาทางเข้าถึง GPU รุ่นใหม่เพื่อพัฒนาโมเดล AI ต่อไป แม้รัฐบาลจีนจะผลักดันให้ใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend

    ปฏิกิริยาของ Nvidia
    Nvidia ออกแถลงการณ์ว่า “ยังไม่พบหลักฐานหรือได้รับข้อมูลยืนยัน” เกี่ยวกับการสร้างศูนย์ข้อมูลปลอมและการลักลอบนำเข้า พร้อมย้ำว่าบริษัทจะตรวจสอบทุกเบาะแสที่ได้รับ แม้จะมองว่าข่าวนี้เป็นเรื่อง “far-fetched” แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะติดตามอย่างจริงจัง

    ความหมายต่อสงครามชิป
    เหตุการณ์นี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีน การที่ DeepSeek ถูกกล่าวหาว่าลักลอบนำเข้า Blackwell แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ GPU ในการพัฒนา AI ขั้นสูง และความพยายามของจีนที่จะหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้จะมีข้อจำกัดทางการค้า

    สรุปเป็นหัวข้อ
    รายงานการลักลอบนำเข้า
    DeepSeek ถูกกล่าวหาว่าสร้างศูนย์ข้อมูลปลอม
    รื้อเซิร์ฟเวอร์แล้วลักลอบนำ GPU เข้าจีน

    ความต้องการของ DeepSeek
    โมเดล R1 ใช้เพียง 2,048 H800s
    พยายามเข้าถึง GPU รุ่นใหม่เพื่อพัฒนาโมเดลต่อ

    ปฏิกิริยาของ Nvidia
    ปฏิเสธข่าวว่าเป็น “far-fetched”
    ยืนยันว่าจะตรวจสอบทุกเบาะแส

    ความหมายต่อสงครามชิป
    GPU เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา AI
    จีนพยายามหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้ถูกจำกัด

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ยังไม่มีหลักฐานยืนยันการลักลอบนำเข้า
    ข่าวอาจสร้างความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน
    ความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนและการควบคุมการส่งออก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-decries-far-fetched-reports-of-smuggling-in-face-of-deepseek-training-reports-unnamed-sources-claim-chinese-company-is-involved-in-blackwell-smuggling-ring
    🛰️ รายงานการลักลอบนำเข้า Blackwell ขแง DeepSeek แหล่งข่าวนิรนามหลายรายอ้างว่า DeepSeek ใช้บริษัทเชลล์สร้างศูนย์ข้อมูลปลอมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ผ่านการตรวจสอบจาก Nvidia และพันธมิตร OEM หลังจากนั้นจึงรื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ออกเป็นชิ้น ๆ และลักลอบนำเข้าไปยังจีน ซึ่งถูกห้ามนำเข้า GPU รุ่นใหม่ตามข้อจำกัดของสหรัฐ ⚡ ความต้องการ GPU ของ DeepSeek DeepSeek เคยสร้างชื่อจากโมเดล R1 ที่ใช้เพียง 2,048 Nvidia H800s แต่สามารถฝึกได้ภายในสองเดือน ทำให้บริษัทถูกจับตามองว่ามีความสามารถในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน DeepSeek ยังคงพยายามหาทางเข้าถึง GPU รุ่นใหม่เพื่อพัฒนาโมเดล AI ต่อไป แม้รัฐบาลจีนจะผลักดันให้ใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend 🖥️ ปฏิกิริยาของ Nvidia Nvidia ออกแถลงการณ์ว่า “ยังไม่พบหลักฐานหรือได้รับข้อมูลยืนยัน” เกี่ยวกับการสร้างศูนย์ข้อมูลปลอมและการลักลอบนำเข้า พร้อมย้ำว่าบริษัทจะตรวจสอบทุกเบาะแสที่ได้รับ แม้จะมองว่าข่าวนี้เป็นเรื่อง “far-fetched” แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะติดตามอย่างจริงจัง 🔍 ความหมายต่อสงครามชิป เหตุการณ์นี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีน การที่ DeepSeek ถูกกล่าวหาว่าลักลอบนำเข้า Blackwell แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ GPU ในการพัฒนา AI ขั้นสูง และความพยายามของจีนที่จะหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้จะมีข้อจำกัดทางการค้า 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ รายงานการลักลอบนำเข้า ➡️ DeepSeek ถูกกล่าวหาว่าสร้างศูนย์ข้อมูลปลอม ➡️ รื้อเซิร์ฟเวอร์แล้วลักลอบนำ GPU เข้าจีน ✅ ความต้องการของ DeepSeek ➡️ โมเดล R1 ใช้เพียง 2,048 H800s ➡️ พยายามเข้าถึง GPU รุ่นใหม่เพื่อพัฒนาโมเดลต่อ ✅ ปฏิกิริยาของ Nvidia ➡️ ปฏิเสธข่าวว่าเป็น “far-fetched” ➡️ ยืนยันว่าจะตรวจสอบทุกเบาะแส ✅ ความหมายต่อสงครามชิป ➡️ GPU เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา AI ➡️ จีนพยายามหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้ถูกจำกัด ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ยังไม่มีหลักฐานยืนยันการลักลอบนำเข้า ⛔ ข่าวอาจสร้างความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน ⛔ ความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนและการควบคุมการส่งออก https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-decries-far-fetched-reports-of-smuggling-in-face-of-deepseek-training-reports-unnamed-sources-claim-chinese-company-is-involved-in-blackwell-smuggling-ring
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • การประชุมฉุกเฉินของรัฐบาลจีน พิจารณาจำกัดการนำเข้าชิป Nvidia H200

    หน่วยงานกำกับดูแลของจีน เช่น National Development and Reform Commission (NDRC) และ Ministry of Industry and Information Technology (MIIT) ได้จัดประชุมกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ Alibaba, ByteDance และ Tencent เพื่อสอบถามความต้องการชิป H200 หลังสหรัฐอนุญาตให้ส่งออก โดยจีนกำลังพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ซื้อในปริมาณเท่าใด

    ความขัดแย้งระหว่างความต้องการและนโยบาย
    แม้ H200 จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20 ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน แต่รัฐบาลยังคงกดดันให้บริษัทหันไปใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend การนำเข้า H200 จึงถูกมองว่าเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เสี่ยงต่อการลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีนเอง

    ผลกระทบต่อ Nvidia
    ก่อนหน้านี้ Nvidia สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% เมื่อไม่สามารถขาย H100 ได้ แต่หากจีนอนุญาตให้ซื้อ H200 ความต้องการคาดว่าจะสูงมาก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนอาจใช้มาตรการจำกัด เช่น กำหนดโควตาการซื้อ หรือห้ามใช้ในอุตสาหกรรมที่ถือว่า “มีความอ่อนไหวเชิงกลยุทธ์” เช่น การเงินและพลังงาน

    ความหมายต่อการแข่งขัน AI
    การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการหาจุดสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีต่างชาติและการสร้างความพึ่งพาตนเอง หากจีนจำกัดการนำเข้า H200 จะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทหันไปลงทุนในชิปภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งอาจเร่งการพัฒนา ecosystem AI ของจีนในระยะยาว

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การประชุมฉุกเฉินของจีน
    NDRC และ MIIT เรียก Alibaba, ByteDance, Tencent เข้าหารือ
    ประเมินความต้องการชิป H200

    ความขัดแย้งด้านนโยบาย
    H200 มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20
    รัฐบาลจีนกดดันให้ใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend

    ผลกระทบต่อ Nvidia
    สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% หลังห้ามขาย H100
    หากอนุญาต H200 ความต้องการจะสูง แต่มีโควตาจำกัด

    ความหมายต่อการแข่งขัน AI
    จีนพยายามหาสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพึ่งพาตนเอง
    อาจเร่งการพัฒนาชิปและ ecosystem AI ภายในประเทศ

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    อาจห้ามใช้ H200 ในอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ เช่น การเงินและพลังงาน
    การนำเข้า H200 มากเกินไปอาจลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีน
    ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์จากการพึ่งพาเทคโนโลยีสหรัฐ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-weighs-import-limits-on-nvidias-h200-after-us-export-rules-relaxed
    🇨🇳 การประชุมฉุกเฉินของรัฐบาลจีน พิจารณาจำกัดการนำเข้าชิป Nvidia H200 หน่วยงานกำกับดูแลของจีน เช่น National Development and Reform Commission (NDRC) และ Ministry of Industry and Information Technology (MIIT) ได้จัดประชุมกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ Alibaba, ByteDance และ Tencent เพื่อสอบถามความต้องการชิป H200 หลังสหรัฐอนุญาตให้ส่งออก โดยจีนกำลังพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ซื้อในปริมาณเท่าใด ⚡ ความขัดแย้งระหว่างความต้องการและนโยบาย แม้ H200 จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20 ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน แต่รัฐบาลยังคงกดดันให้บริษัทหันไปใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend การนำเข้า H200 จึงถูกมองว่าเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เสี่ยงต่อการลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีนเอง 💹 ผลกระทบต่อ Nvidia ก่อนหน้านี้ Nvidia สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% เมื่อไม่สามารถขาย H100 ได้ แต่หากจีนอนุญาตให้ซื้อ H200 ความต้องการคาดว่าจะสูงมาก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนอาจใช้มาตรการจำกัด เช่น กำหนดโควตาการซื้อ หรือห้ามใช้ในอุตสาหกรรมที่ถือว่า “มีความอ่อนไหวเชิงกลยุทธ์” เช่น การเงินและพลังงาน 🔍 ความหมายต่อการแข่งขัน AI การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการหาจุดสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีต่างชาติและการสร้างความพึ่งพาตนเอง หากจีนจำกัดการนำเข้า H200 จะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทหันไปลงทุนในชิปภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งอาจเร่งการพัฒนา ecosystem AI ของจีนในระยะยาว 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การประชุมฉุกเฉินของจีน ➡️ NDRC และ MIIT เรียก Alibaba, ByteDance, Tencent เข้าหารือ ➡️ ประเมินความต้องการชิป H200 ✅ ความขัดแย้งด้านนโยบาย ➡️ H200 มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20 ➡️ รัฐบาลจีนกดดันให้ใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend ✅ ผลกระทบต่อ Nvidia ➡️ สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% หลังห้ามขาย H100 ➡️ หากอนุญาต H200 ความต้องการจะสูง แต่มีโควตาจำกัด ✅ ความหมายต่อการแข่งขัน AI ➡️ จีนพยายามหาสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพึ่งพาตนเอง ➡️ อาจเร่งการพัฒนาชิปและ ecosystem AI ภายในประเทศ ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ อาจห้ามใช้ H200 ในอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ เช่น การเงินและพลังงาน ⛔ การนำเข้า H200 มากเกินไปอาจลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีน ⛔ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์จากการพึ่งพาเทคโนโลยีสหรัฐ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-weighs-import-limits-on-nvidias-h200-after-us-export-rules-relaxed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป้าหมายใหม่ของ Microsoft - เป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม !!

    Microsoft ประกาศแผนทำให้ Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม โดยเน้นการปรับปรุงการจัดการงานเบื้องหลัง, การใช้พลังงานและการจัดตาราง, การปรับแต่งกราฟิกสแต็ก และการอัปเดตไดรเวอร์ เพื่อยกระดับประสบการณ์เกมเมอร์ในปี 2026

    Microsoft ยืนยันว่าจะเดินหน้าพัฒนา Windows 11 ให้เป็นแพลตฟอร์มเกมที่ดีที่สุด โดยมุ่งเน้นการปรับปรุง การจัดการงานเบื้องหลัง (background workload management) และ การใช้พลังงานและการจัดตาราง (power & scheduling) เพื่อให้เกมทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น ลดการรบกวนจากโปรเซสอื่น ๆ

    ฟีเจอร์ใหม่สำหรับเกมเมอร์
    Windows 11 จะได้รับการปรับปรุง graphics stack และ driver updates เพื่อรองรับเกมรุ่นใหม่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการขยายฟีเจอร์ Xbox Full Screen Experience (FSE) ไปยัง PC ทุกประเภท และการนำ Auto Super Resolution (Auto SR) มาสู่เครื่องเล่นเกมพกพา เช่น ROG Ally X เพื่อให้ภาพคมชัดและเฟรมเรตสูงขึ้น

    การพัฒนาเทคโนโลยีเสริม
    Microsoft ยังเตรียมขยาย Advanced Shader Delivery (ASD) ไปยังอุปกรณ์ Windows 11 มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ช่วยให้เกมโหลดเร็วขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการเล่นเกมบนอุปกรณ์ ARM โดยเพิ่มการรองรับการติดตั้งเกมผ่าน Xbox App และระบบ anti-cheat แบบ native

    แผนการสื่อสารและอนาคต
    Microsoft จะเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน Game Developers Conference (GDC) เดือนมีนาคม 2026 ซึ่งคาดว่าจะมีการโชว์ฟีเจอร์ใหม่และแนวทางการพัฒนา Windows 11 ให้เป็นแพลตฟอร์มเกมที่ครบวงจรที่สุด

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เป้าหมายของ Microsoft
    ทำให้ Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดสำหรับเกม
    ปรับปรุงการจัดการงานเบื้องหลังและการใช้พลังงาน

    ฟีเจอร์ใหม่
    Xbox Full Screen Experience (FSE) บน PC
    Auto Super Resolution (Auto SR) สำหรับเครื่องเล่นเกมพกพา
    Advanced Shader Delivery (ASD) เพื่อโหลดเกมเร็วขึ้น

    การรองรับเพิ่มเติม
    ปรับปรุงการเล่นเกมบน ARM
    เพิ่มการติดตั้งเกมผ่าน Xbox App
    ระบบ anti-cheat แบบ native

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ฟีเจอร์ใหม่ยังอยู่ในช่วงทดสอบ ต้องอัปเดต Windows 11 build ล่าสุด
    เกมบางส่วนอาจยังไม่รองรับ Auto SR หรือ ASD
    ต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมจากงาน GDC 2026

    https://www.tomshardware.com/software/windows/microsoft-promises-to-make-windows-11-the-best-operating-system-for-gaming-says-it-will-focus-on-background-workloads-power-and-scheduling-graphics-stack-and-drivers
    🎮 เป้าหมายใหม่ของ Microsoft - เป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม !! Microsoft ประกาศแผนทำให้ Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม โดยเน้นการปรับปรุงการจัดการงานเบื้องหลัง, การใช้พลังงานและการจัดตาราง, การปรับแต่งกราฟิกสแต็ก และการอัปเดตไดรเวอร์ เพื่อยกระดับประสบการณ์เกมเมอร์ในปี 2026 Microsoft ยืนยันว่าจะเดินหน้าพัฒนา Windows 11 ให้เป็นแพลตฟอร์มเกมที่ดีที่สุด โดยมุ่งเน้นการปรับปรุง การจัดการงานเบื้องหลัง (background workload management) และ การใช้พลังงานและการจัดตาราง (power & scheduling) เพื่อให้เกมทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น ลดการรบกวนจากโปรเซสอื่น ๆ 🖥️ ฟีเจอร์ใหม่สำหรับเกมเมอร์ Windows 11 จะได้รับการปรับปรุง graphics stack และ driver updates เพื่อรองรับเกมรุ่นใหม่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการขยายฟีเจอร์ Xbox Full Screen Experience (FSE) ไปยัง PC ทุกประเภท และการนำ Auto Super Resolution (Auto SR) มาสู่เครื่องเล่นเกมพกพา เช่น ROG Ally X เพื่อให้ภาพคมชัดและเฟรมเรตสูงขึ้น ⚡ การพัฒนาเทคโนโลยีเสริม Microsoft ยังเตรียมขยาย Advanced Shader Delivery (ASD) ไปยังอุปกรณ์ Windows 11 มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ช่วยให้เกมโหลดเร็วขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการเล่นเกมบนอุปกรณ์ ARM โดยเพิ่มการรองรับการติดตั้งเกมผ่าน Xbox App และระบบ anti-cheat แบบ native 🔍 แผนการสื่อสารและอนาคต Microsoft จะเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน Game Developers Conference (GDC) เดือนมีนาคม 2026 ซึ่งคาดว่าจะมีการโชว์ฟีเจอร์ใหม่และแนวทางการพัฒนา Windows 11 ให้เป็นแพลตฟอร์มเกมที่ครบวงจรที่สุด 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เป้าหมายของ Microsoft ➡️ ทำให้ Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดสำหรับเกม ➡️ ปรับปรุงการจัดการงานเบื้องหลังและการใช้พลังงาน ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ Xbox Full Screen Experience (FSE) บน PC ➡️ Auto Super Resolution (Auto SR) สำหรับเครื่องเล่นเกมพกพา ➡️ Advanced Shader Delivery (ASD) เพื่อโหลดเกมเร็วขึ้น ✅ การรองรับเพิ่มเติม ➡️ ปรับปรุงการเล่นเกมบน ARM ➡️ เพิ่มการติดตั้งเกมผ่าน Xbox App ➡️ ระบบ anti-cheat แบบ native ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ฟีเจอร์ใหม่ยังอยู่ในช่วงทดสอบ ต้องอัปเดต Windows 11 build ล่าสุด ⛔ เกมบางส่วนอาจยังไม่รองรับ Auto SR หรือ ASD ⛔ ต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมจากงาน GDC 2026 https://www.tomshardware.com/software/windows/microsoft-promises-to-make-windows-11-the-best-operating-system-for-gaming-says-it-will-focus-on-background-workloads-power-and-scheduling-graphics-stack-and-drivers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • การกลับลำของสหรัฐ อนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน

    ทำเนียบขาวอนุญาตให้ Nvidia ส่งออกชิป H200 ไปยังจีน แม้ก่อนหน้านี้มีข้อจำกัดเข้มงวด โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายเพื่อรักษาความเป็นผู้นำของ “American tech stack” และยังคงควบคุมไม่ให้จีนเข้าถึงสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุดอย่าง Blackwell

    ความท้าทายจาก Huawei
    Huawei เปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ที่ใช้ชิป Ascend 910C จำนวน 384 ตัว ซึ่งถูกวางตำแหน่งแข่งกับ Nvidia GB200 NVL72 แม้ยังมีข้อด้อยด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้จีนมีทางเลือกนอกเหนือจาก CUDA ของ Nvidia

    กลยุทธ์ของสหรัฐ
    รายงานเผยว่ามีการพิจารณาหลายทางเลือก ตั้งแต่การห้ามส่งออกทั้งหมด ไปจนถึงการ “ท่วมตลาด” ด้วยชิป Nvidia เพื่อกดดัน Huawei สุดท้ายเลือกแนวทางกลาง ๆ คืออนุญาตให้ส่งออก H200 แต่ไม่ใช่ Blackwell เพื่อรักษาความได้เปรียบเชิงสถาปัตยกรรม

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในตลาด AI ที่กำลังร้อนแรง Nvidia ยังคงครองความได้เปรียบด้วย CUDA แต่ Huawei กำลังเร่งผลิตชิป 910C ให้ได้ถึง 600,000 ตัวในปีหน้า และอาจแตะระดับ “หลายล้านตัว” ภายในปี 2026 ซึ่งจะเป็นการท้าทายอำนาจผูกขาดของ Nvidia

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การกลับลำของสหรัฐ
    อนุญาตส่งออก Nvidia H200 ไปจีน
    เก็บค่าธรรมเนียม 25%

    ความท้าทายจาก Huawei
    เปิดตัว CloudMatrix 384 ใช้ชิป Ascend 910C
    แข่งกับ Nvidia GB200 NVL72

    กลยุทธ์ของสหรัฐ
    พิจารณาหลายทางเลือก ตั้งแต่ห้ามส่งออกจนถึงท่วมตลาด
    เลือกอนุญาต H200 แต่ห้าม Blackwell

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    Nvidia ยังคงครองตลาดด้วย CUDA
    Huawei ตั้งเป้าผลิตชิป 910C หลายล้านตัวในปี 2026

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    การแข่งขันอาจทำให้ตลาด AI แบ่งขั้วชัดเจน
    ความเสี่ยงด้านความมั่นคงหากจีนเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง
    อาจกระทบต่อซัพพลายเชนและราคาชิปทั่วโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/white-house-u-turn-on-nvidia-h200-ai-accelerator-exports-down-to-huaweis-powerful-new-ascend-chips-report-claims-u-s-committed-to-dominance-of-the-american-tech-stack
    🇺🇸 การกลับลำของสหรัฐ อนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน ทำเนียบขาวอนุญาตให้ Nvidia ส่งออกชิป H200 ไปยังจีน แม้ก่อนหน้านี้มีข้อจำกัดเข้มงวด โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายเพื่อรักษาความเป็นผู้นำของ “American tech stack” และยังคงควบคุมไม่ให้จีนเข้าถึงสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุดอย่าง Blackwell 🇨🇳 ความท้าทายจาก Huawei Huawei เปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ที่ใช้ชิป Ascend 910C จำนวน 384 ตัว ซึ่งถูกวางตำแหน่งแข่งกับ Nvidia GB200 NVL72 แม้ยังมีข้อด้อยด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้จีนมีทางเลือกนอกเหนือจาก CUDA ของ Nvidia ⚡ กลยุทธ์ของสหรัฐ รายงานเผยว่ามีการพิจารณาหลายทางเลือก ตั้งแต่การห้ามส่งออกทั้งหมด ไปจนถึงการ “ท่วมตลาด” ด้วยชิป Nvidia เพื่อกดดัน Huawei สุดท้ายเลือกแนวทางกลาง ๆ คืออนุญาตให้ส่งออก H200 แต่ไม่ใช่ Blackwell เพื่อรักษาความได้เปรียบเชิงสถาปัตยกรรม 🔍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในตลาด AI ที่กำลังร้อนแรง Nvidia ยังคงครองความได้เปรียบด้วย CUDA แต่ Huawei กำลังเร่งผลิตชิป 910C ให้ได้ถึง 600,000 ตัวในปีหน้า และอาจแตะระดับ “หลายล้านตัว” ภายในปี 2026 ซึ่งจะเป็นการท้าทายอำนาจผูกขาดของ Nvidia 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การกลับลำของสหรัฐ ➡️ อนุญาตส่งออก Nvidia H200 ไปจีน ➡️ เก็บค่าธรรมเนียม 25% ✅ ความท้าทายจาก Huawei ➡️ เปิดตัว CloudMatrix 384 ใช้ชิป Ascend 910C ➡️ แข่งกับ Nvidia GB200 NVL72 ✅ กลยุทธ์ของสหรัฐ ➡️ พิจารณาหลายทางเลือก ตั้งแต่ห้ามส่งออกจนถึงท่วมตลาด ➡️ เลือกอนุญาต H200 แต่ห้าม Blackwell ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI ➡️ Nvidia ยังคงครองตลาดด้วย CUDA ➡️ Huawei ตั้งเป้าผลิตชิป 910C หลายล้านตัวในปี 2026 ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ การแข่งขันอาจทำให้ตลาด AI แบ่งขั้วชัดเจน ⛔ ความเสี่ยงด้านความมั่นคงหากจีนเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ⛔ อาจกระทบต่อซัพพลายเชนและราคาชิปทั่วโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/white-house-u-turn-on-nvidia-h200-ai-accelerator-exports-down-to-huaweis-powerful-new-ascend-chips-report-claims-u-s-committed-to-dominance-of-the-american-tech-stack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • Snapmaker ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D จากจีน ประกาศระดมทุน Series B ได้

    Snapmaker ยืนยันว่าได้รับเงินลงทุน Series B หลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Hillhouse Ventures และ Meituan เป็นผู้นำรอบ พร้อมด้วย Shunwei Capital, Longzhu Capital และนักลงทุนรายเดิมอย่าง Cowin Capital และ Orient Securities Capital การเข้ามาของ Shunwei Capital ซึ่งก่อตั้งโดย Lei Jun (CEO ของ Xiaomi) ยิ่งทำให้ดีลนี้น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ในอนาคตของ Snapmaker

    ผลงานและความสำเร็จที่ผ่านมา
    Snapmaker ก่อตั้งในปี 2016 และสร้างชื่อจากการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D แบบโมดูลาร์ที่สามารถทำงานได้ทั้งการพิมพ์ 3D, เลเซอร์คัต และ CNC โดยเฉพาะรุ่น Snapmaker 2.0 ที่เคยระดมทุนบน Kickstarter ได้กว่า 7.85 ล้านดอลลาร์ และรุ่น U1 Tool Changer ที่ทำสถิติสูงสุดในวงการ 3D Printing ด้วยยอดระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุนกว่า 20,000 คน

    แผนการขยายสู่ระดับโลก
    เงินทุนใหม่จะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก, การดึงดูดบุคลากรระดับโลก และการสร้าง ecosystem ที่ครบวงจร Snapmaker ตั้งเป้าที่จะลดอุปสรรคในการเข้าถึงเทคโนโลยี 3D Printing และทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ใช่แค่กลุ่มนักสร้างสรรค์หรือผู้เชี่ยวชาญ

    ความหมายต่อวงการ 3D Printing
    การลงทุนครั้งนี้สะท้อนว่าตลาด 3D Printing กำลังเข้าสู่ “arms race” ของบริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น Tencent ที่สนใจ Bambu Lab และ DJI ที่ลงทุนใน Elegoo การแข่งขันนี้จะเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่เร็วขึ้น, ถูกลง และใช้งานง่ายขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Snapmaker ระดมทุน Series B
    ได้เงินลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์
    Hillhouse Ventures และ Meituan นำรอบ

    นักลงทุนรายสำคัญ
    Shunwei Capital (ก่อตั้งโดย Lei Jun จาก Xiaomi)
    Cowin Capital และ Orient Securities Capital ร่วมลงทุนต่อเนื่อง

    ผลงานเด่นของ Snapmaker
    Snapmaker 2.0 ระดมทุน 7.85 ล้านดอลลาร์
    U1 Tool Changer ระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์

    แผนการใช้เงินทุน
    วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
    ดึงดูดบุคลากรระดับโลก
    สร้าง ecosystem ครบวงจร

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ตลาด 3D Printing จีนแข่งขันสูงจากผู้เล่นรายใหญ่
    ความเสี่ยงด้านการพึ่งพานักลงทุนรายใหญ่
    ต้องพิสูจน์ว่าสามารถขยายสู่ตลาดโลกได้จริง

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/snapmaker-raises-millions-as-chinese-big-tech-investors-pile-into-3d-printing
    💰 Snapmaker ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D จากจีน ประกาศระดมทุน Series B ได้ Snapmaker ยืนยันว่าได้รับเงินลงทุน Series B หลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Hillhouse Ventures และ Meituan เป็นผู้นำรอบ พร้อมด้วย Shunwei Capital, Longzhu Capital และนักลงทุนรายเดิมอย่าง Cowin Capital และ Orient Securities Capital การเข้ามาของ Shunwei Capital ซึ่งก่อตั้งโดย Lei Jun (CEO ของ Xiaomi) ยิ่งทำให้ดีลนี้น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ในอนาคตของ Snapmaker 🛠️ ผลงานและความสำเร็จที่ผ่านมา Snapmaker ก่อตั้งในปี 2016 และสร้างชื่อจากการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D แบบโมดูลาร์ที่สามารถทำงานได้ทั้งการพิมพ์ 3D, เลเซอร์คัต และ CNC โดยเฉพาะรุ่น Snapmaker 2.0 ที่เคยระดมทุนบน Kickstarter ได้กว่า 7.85 ล้านดอลลาร์ และรุ่น U1 Tool Changer ที่ทำสถิติสูงสุดในวงการ 3D Printing ด้วยยอดระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุนกว่า 20,000 คน 🌍 แผนการขยายสู่ระดับโลก เงินทุนใหม่จะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก, การดึงดูดบุคลากรระดับโลก และการสร้าง ecosystem ที่ครบวงจร Snapmaker ตั้งเป้าที่จะลดอุปสรรคในการเข้าถึงเทคโนโลยี 3D Printing และทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ใช่แค่กลุ่มนักสร้างสรรค์หรือผู้เชี่ยวชาญ 🔍 ความหมายต่อวงการ 3D Printing การลงทุนครั้งนี้สะท้อนว่าตลาด 3D Printing กำลังเข้าสู่ “arms race” ของบริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น Tencent ที่สนใจ Bambu Lab และ DJI ที่ลงทุนใน Elegoo การแข่งขันนี้จะเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่เร็วขึ้น, ถูกลง และใช้งานง่ายขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Snapmaker ระดมทุน Series B ➡️ ได้เงินลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์ ➡️ Hillhouse Ventures และ Meituan นำรอบ ✅ นักลงทุนรายสำคัญ ➡️ Shunwei Capital (ก่อตั้งโดย Lei Jun จาก Xiaomi) ➡️ Cowin Capital และ Orient Securities Capital ร่วมลงทุนต่อเนื่อง ✅ ผลงานเด่นของ Snapmaker ➡️ Snapmaker 2.0 ระดมทุน 7.85 ล้านดอลลาร์ ➡️ U1 Tool Changer ระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์ ✅ แผนการใช้เงินทุน ➡️ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ➡️ ดึงดูดบุคลากรระดับโลก ➡️ สร้าง ecosystem ครบวงจร ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ตลาด 3D Printing จีนแข่งขันสูงจากผู้เล่นรายใหญ่ ⛔ ความเสี่ยงด้านการพึ่งพานักลงทุนรายใหญ่ ⛔ ต้องพิสูจน์ว่าสามารถขยายสู่ตลาดโลกได้จริง https://www.tomshardware.com/3d-printing/snapmaker-raises-millions-as-chinese-big-tech-investors-pile-into-3d-printing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคโนโลยีจากเครื่องบินสู่ศูนย์ข้อมูล

    บริษัท Boom ที่พัฒนาเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง ได้เปิดตัว Superpower Turbine ขนาด 42 เมกะวัตต์ ซึ่งใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องยนต์ Symphony ที่ออกแบบมาสำหรับการบิน Mach 1.7 ที่ระดับความสูง 60,000 ฟุต แต่ถูกปรับมาใช้กับศูนย์ข้อมูล AI เพื่อแก้ปัญหาการใช้พลังงานมหาศาล

    Boom นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ Symphony ที่เดิมออกแบบเพื่อเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง มาปรับใช้เป็นกังหันก๊าซสำหรับศูนย์ข้อมูล AI โดยรุ่น Superpower Turbine สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 42 เมกะวัตต์ด้วยประสิทธิภาพ 39% และยังคงทำงานได้แม้อุณหภูมิสูงถึง 43°C ซึ่งเหนือกว่ากังหันทั่วไปที่มักลดประสิทธิภาพเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 30°C

    จุดเด่นด้านการประหยัดน้ำ
    หนึ่งในจุดขายสำคัญคือการออกแบบที่ “waterless” สำหรับตัวกังหันเอง หมายความว่าไม่ต้องใช้น้ำในการทำความเย็น ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำในระบบศูนย์ข้อมูลที่ปกติสิ้นเปลืองมหาศาล แม้ระบบระบายความร้อนของเซิร์ฟเวอร์ยังต้องใช้น้ำ แต่การลดภาระจากกังหันถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ

    แผนการผลิตและลูกค้ารายแรก
    Boom ได้รับคำสั่งซื้อจาก Crusoe AI จำนวน 29 เครื่อง รวมกำลังผลิตกว่า 1.21 กิกะวัตต์ โดยจะเริ่มส่งมอบในปี 2027 และตั้งเป้าผลิตได้ถึง 2 กิกะวัตต์ภายในปี 2029 ทั้งหมดจะผลิตในโรงงานที่ Denver, Colorado ซึ่ง Boom วางแผนสร้าง “Superfactory” เพื่อรองรับการผลิตในระดับอุตสาหกรรม

    ความหมายต่ออนาคตพลังงานและการบิน
    นอกจากตอบโจทย์ศูนย์ข้อมูล AI ที่ใช้พลังงานมหาศาลแล้ว Boom ยังมองว่าโครงการนี้จะช่วยเร่งการพัฒนาเครื่องยนต์ Symphony สำหรับการบินโดยสารจริง เพราะการใช้งานในศูนย์ข้อมูลจะเป็นเหมือนการทดสอบระยะยาวนับแสนชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้เครื่องยนต์พร้อมสำหรับการรับรองในอนาคต

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Superpower Turbine ของ Boom
    กำลังผลิต 42 เมกะวัตต์
    ประสิทธิภาพ 39%
    ทำงานได้ที่อุณหภูมิสูงถึง 43°C

    จุดเด่นด้านการใช้น้ำ
    ไม่ต้องใช้น้ำในการทำความเย็นกังหัน
    ลดภาระการใช้น้ำในศูนย์ข้อมูล

    แผนการผลิตและลูกค้า
    Crusoe AI สั่งซื้อ 29 เครื่อง กำลังรวม 1.21 กิกะวัตต์
    เริ่มส่งมอบปี 2027 และตั้งเป้า 2 กิกะวัตต์ในปี 2029

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ไม่ใช่พลังงานสะอาด
    ยังต้องใช้น้ำในการระบายความร้อนเซิร์ฟเวอร์
    พลังงานสูงอาจเพิ่มภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้าในบางพื้นที่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supersonic-airline-outfit-boom-unveils-turbine-for-ai-data-centers-42-mw-superpower-turbine-uses-the-same-tech-designed-to-power-concorde-successor-to-mach-1-7-at-60-000-ft
    ✈️ เทคโนโลยีจากเครื่องบินสู่ศูนย์ข้อมูล บริษัท Boom ที่พัฒนาเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง ได้เปิดตัว Superpower Turbine ขนาด 42 เมกะวัตต์ ซึ่งใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องยนต์ Symphony ที่ออกแบบมาสำหรับการบิน Mach 1.7 ที่ระดับความสูง 60,000 ฟุต แต่ถูกปรับมาใช้กับศูนย์ข้อมูล AI เพื่อแก้ปัญหาการใช้พลังงานมหาศาล Boom นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ Symphony ที่เดิมออกแบบเพื่อเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง มาปรับใช้เป็นกังหันก๊าซสำหรับศูนย์ข้อมูล AI โดยรุ่น Superpower Turbine สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 42 เมกะวัตต์ด้วยประสิทธิภาพ 39% และยังคงทำงานได้แม้อุณหภูมิสูงถึง 43°C ซึ่งเหนือกว่ากังหันทั่วไปที่มักลดประสิทธิภาพเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 30°C 💧 จุดเด่นด้านการประหยัดน้ำ หนึ่งในจุดขายสำคัญคือการออกแบบที่ “waterless” สำหรับตัวกังหันเอง หมายความว่าไม่ต้องใช้น้ำในการทำความเย็น ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำในระบบศูนย์ข้อมูลที่ปกติสิ้นเปลืองมหาศาล แม้ระบบระบายความร้อนของเซิร์ฟเวอร์ยังต้องใช้น้ำ แต่การลดภาระจากกังหันถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ ⚡ แผนการผลิตและลูกค้ารายแรก Boom ได้รับคำสั่งซื้อจาก Crusoe AI จำนวน 29 เครื่อง รวมกำลังผลิตกว่า 1.21 กิกะวัตต์ โดยจะเริ่มส่งมอบในปี 2027 และตั้งเป้าผลิตได้ถึง 2 กิกะวัตต์ภายในปี 2029 ทั้งหมดจะผลิตในโรงงานที่ Denver, Colorado ซึ่ง Boom วางแผนสร้าง “Superfactory” เพื่อรองรับการผลิตในระดับอุตสาหกรรม 🔍 ความหมายต่ออนาคตพลังงานและการบิน นอกจากตอบโจทย์ศูนย์ข้อมูล AI ที่ใช้พลังงานมหาศาลแล้ว Boom ยังมองว่าโครงการนี้จะช่วยเร่งการพัฒนาเครื่องยนต์ Symphony สำหรับการบินโดยสารจริง เพราะการใช้งานในศูนย์ข้อมูลจะเป็นเหมือนการทดสอบระยะยาวนับแสนชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้เครื่องยนต์พร้อมสำหรับการรับรองในอนาคต 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Superpower Turbine ของ Boom ➡️ กำลังผลิต 42 เมกะวัตต์ ➡️ ประสิทธิภาพ 39% ➡️ ทำงานได้ที่อุณหภูมิสูงถึง 43°C ✅ จุดเด่นด้านการใช้น้ำ ➡️ ไม่ต้องใช้น้ำในการทำความเย็นกังหัน ➡️ ลดภาระการใช้น้ำในศูนย์ข้อมูล ✅ แผนการผลิตและลูกค้า ➡️ Crusoe AI สั่งซื้อ 29 เครื่อง กำลังรวม 1.21 กิกะวัตต์ ➡️ เริ่มส่งมอบปี 2027 และตั้งเป้า 2 กิกะวัตต์ในปี 2029 ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ไม่ใช่พลังงานสะอาด ⛔ ยังต้องใช้น้ำในการระบายความร้อนเซิร์ฟเวอร์ ⛔ พลังงานสูงอาจเพิ่มภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้าในบางพื้นที่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/supersonic-airline-outfit-boom-unveils-turbine-for-ai-data-centers-42-mw-superpower-turbine-uses-the-same-tech-designed-to-power-concorde-successor-to-mach-1-7-at-60-000-ft
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้( 11 ธ.ค.) เพจ “กองทัพภาคที่ 2“ โพสต์ข้อความ ชำแหละแผนโดรนพลีชีพเขมร งามไส้! ทภ.2 พบคนบังคับไม่ใช่ทหารกัมพูชา โดยได้ระบุข้อความว่า
    .
    “#ยุทธวิธีโดรนที่กัมพูชาใช้ในพื้นที่ช่องอานม้า
    .
    ลักษณะโดรนที่ใช้จะเป็น FPV ติดลูก ค.82 มม. และใช้สายไฟเบอร์ออปติกในการบังคับ
    .
    จะมีโดรนชี้เป้าจำนวน 1 ตัว บินคอยดูสังเกตและแจ้งที่หมาย จากการฟังเสียงจะไม่มีรวดเร็วและบินได้นาน
    .
    โดรนพลีชีพจะทิ้งทำลายบริเวณช่องด้านหน้า หรือด้านหลังบังเกอร์ หวังให้สะเก็ดกระเด็นเข้าด้านใน / บางจังหวะมีลงจอดที่พื้นเพื่อประหยัดแบตและรอเป้าหมาย
    .
    สังเกตลักษณะการบินจะไม่ผ่านจุดที่มีสิ่งกีดขวางเยอะและบินเลือกเป้าไปกลับไปมา (ทำให้คาดว่าใช้สายไฟเบอร์ออฟติก)
    .
    การบังคับจากการสอบถามเพื่อนชุดโดรนที่ใช้ FPV จะสามารถควบคุมได้ 2 ลักษณะ
    .
    1 ให้บินตาม gps ขึ้นได้ทีละหลายลำ แต่จะบินมั่ว ชนกิ่งไม้ หรือตาข่ายง่าย

    2 ใช้คนบังคับทีละลำ ลักษณะจะบินหาที่มุดเข้าบังเกอร์ (อานม้าเจอลักษณะนี้)
    .
    ข้อสังเกต :

    คนบังคับน่าจะไม่ใช่ทหาร กพช. เนื่องจากมีสัญญาณเข้ามาวิทยุทางทหารโหมด CRL คำภาษาอังกฤษลงท้ายประโยคว่า finished …. / ประกอบกับจุดตรวจการณ์ จะตรวจพบ จยย. ขับลงไปหลังจากโดรนพลีชีพเงียบไป (ทั้ง 2 วันที่อานม้าโดน)
    .
    คำแนะนำ :

    ตาข่าย และการปิดหลัง รวมถึงช่องยิงช่วยป้องกัน / การยิงปืนทำลายได้ยากเนื่องจากบินเร็วมาก / ปืนแอนตี้โดรนยิงไม่ตก (อยู่ในบังเกอร์ก้มตัวต่ำครับ)”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118925

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    วันนี้( 11 ธ.ค.) เพจ “กองทัพภาคที่ 2“ โพสต์ข้อความ ชำแหละแผนโดรนพลีชีพเขมร งามไส้! ทภ.2 พบคนบังคับไม่ใช่ทหารกัมพูชา โดยได้ระบุข้อความว่า . “#ยุทธวิธีโดรนที่กัมพูชาใช้ในพื้นที่ช่องอานม้า . ลักษณะโดรนที่ใช้จะเป็น FPV ติดลูก ค.82 มม. และใช้สายไฟเบอร์ออปติกในการบังคับ . จะมีโดรนชี้เป้าจำนวน 1 ตัว บินคอยดูสังเกตและแจ้งที่หมาย จากการฟังเสียงจะไม่มีรวดเร็วและบินได้นาน . โดรนพลีชีพจะทิ้งทำลายบริเวณช่องด้านหน้า หรือด้านหลังบังเกอร์ หวังให้สะเก็ดกระเด็นเข้าด้านใน / บางจังหวะมีลงจอดที่พื้นเพื่อประหยัดแบตและรอเป้าหมาย . สังเกตลักษณะการบินจะไม่ผ่านจุดที่มีสิ่งกีดขวางเยอะและบินเลือกเป้าไปกลับไปมา (ทำให้คาดว่าใช้สายไฟเบอร์ออฟติก) . การบังคับจากการสอบถามเพื่อนชุดโดรนที่ใช้ FPV จะสามารถควบคุมได้ 2 ลักษณะ . 1 ให้บินตาม gps ขึ้นได้ทีละหลายลำ แต่จะบินมั่ว ชนกิ่งไม้ หรือตาข่ายง่าย 2 ใช้คนบังคับทีละลำ ลักษณะจะบินหาที่มุดเข้าบังเกอร์ (อานม้าเจอลักษณะนี้) . ข้อสังเกต : คนบังคับน่าจะไม่ใช่ทหาร กพช. เนื่องจากมีสัญญาณเข้ามาวิทยุทางทหารโหมด CRL คำภาษาอังกฤษลงท้ายประโยคว่า finished …. / ประกอบกับจุดตรวจการณ์ จะตรวจพบ จยย. ขับลงไปหลังจากโดรนพลีชีพเงียบไป (ทั้ง 2 วันที่อานม้าโดน) . คำแนะนำ : ตาข่าย และการปิดหลัง รวมถึงช่องยิงช่วยป้องกัน / การยิงปืนทำลายได้ยากเนื่องจากบินเร็วมาก / ปืนแอนตี้โดรนยิงไม่ตก (อยู่ในบังเกอร์ก้มตัวต่ำครับ)” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000118925 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • การ์ดจอเก่า AMD FirePro S10000 ปี 2012 ที่กลับมามีชีวิตใหม่

    AMD FirePro S10000 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 เป็นการ์ดจอระดับเวิร์กสเตชันที่ใช้ชิป Tahiti สองตัวบนบอร์ดเดียวกัน เดิมทีออกแบบมาเพื่อการประมวลผลเชิงวิชาชีพ เช่น CAD และงานเรนเดอร์ ไม่ใช่สำหรับเล่นเกม แต่ยูทูบเบอร์สายฮาร์ดแวร์ได้ทดลองนำมาปรับแต่งใหม่ในปี 2025 เพื่อดูว่ามันยังพอเล่นเกมได้หรือไม่ ผลคือสามารถรัน Arc Raiders ได้ที่เฟรมเรตประมาณ 40-45 FPS แม้จะใช้เพียง GPU เดียวจากสองตัวที่มีอยู่

    การปรับแต่งเพื่อเล่นเกม
    การ์ดรุ่นนี้ไม่รองรับไดรเวอร์ Adrenalin โดยตรง ทำให้ต้องแฟลช BIOS ให้กลายเป็น Radeon HD 7990 เพื่อเปิดใช้งาน CrossFire และใช้ไดรเวอร์ใหม่กว่า หลังจากปรับแต่งแล้ว ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น Crysis สามารถวิ่งได้เกิน 110 FPS โดยใช้ GPU ทั้งสองตัวพร้อมกัน ถือเป็นการพิสูจน์ว่าฮาร์ดแวร์เก่าหากได้รับการปรับแต่งก็ยังมีศักยภาพซ่อนอยู่

    ข้อจำกัดและความท้าทาย
    แม้จะทำงานได้ แต่การ์ดนี้มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ความร้อนสูง การใช้พลังงานมากถึง 375W และไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของเกมยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ เกมใหม่ส่วนใหญ่ไม่รองรับระบบ Multi-GPU แล้ว ทำให้ศักยภาพของการ์ดถูกใช้ไม่เต็มที่ ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 ทำเฟรมเรตได้เพียง 20-30 FPS แม้จะปรับกราฟิกต่ำสุด

    มุมมองจากเกมยุคใหม่
    เมื่อเทียบกับสเปกขั้นต่ำของ Arc Raiders ที่ต้องการการ์ดระดับ GTX 1050 Ti หรือ RX 580 พร้อม RAM 12GB การ์ด FirePro S10000 แม้จะเก่า แต่ยังพอมีพลังใกล้เคียงกับการ์ดเกมมิ่งรุ่นกลางในอดีต การทดลองนี้จึงสะท้อนว่าเทคโนโลยีเก่าหากถูกปรับแต่งอย่างถูกวิธีก็ยังสามารถใช้งานได้ในโลกเกมยุคใหม่ แม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้สายโมดิฟาย

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การ์ดจอ AMD FirePro S10000
    เปิดตัวปี 2012 ใช้ชิป Tahiti สองตัว
    เดิมออกแบบเพื่อเวิร์กสเตชัน ไม่ใช่เล่นเกม

    การปรับแต่งเพื่อเล่นเกม
    แฟลช BIOS ให้กลายเป็น Radeon HD 7990
    ใช้ไดรเวอร์ Adrenalin เพื่อเปิด CrossFire

    ผลลัพธ์การทดสอบ
    Crysis วิ่งได้เกิน 110 FPS
    Arc Raiders รันได้ 40-45 FPS
    CS2 ทำได้ 120-160 FPS

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ใช้พลังงานสูงถึง 375W
    ความร้อนสูง ต้องจัดการระบบระบายอากาศ
    เกมใหม่ไม่รองรับ Multi-GPU ทำให้ศักยภาพถูกใช้ไม่เต็มที่
    เกมหนักอย่าง Cyberpunk 2077 รันได้เพียง 20-30 FPS

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/2012-amd-firepro-s10000-dual-gpu-card-runs-arc-raiders-at-playable-frame-rates-but-half-of-its-gpu-power-goes-unused-in-the-process
    🖥️ การ์ดจอเก่า AMD FirePro S10000 ปี 2012 ที่กลับมามีชีวิตใหม่ AMD FirePro S10000 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 เป็นการ์ดจอระดับเวิร์กสเตชันที่ใช้ชิป Tahiti สองตัวบนบอร์ดเดียวกัน เดิมทีออกแบบมาเพื่อการประมวลผลเชิงวิชาชีพ เช่น CAD และงานเรนเดอร์ ไม่ใช่สำหรับเล่นเกม แต่ยูทูบเบอร์สายฮาร์ดแวร์ได้ทดลองนำมาปรับแต่งใหม่ในปี 2025 เพื่อดูว่ามันยังพอเล่นเกมได้หรือไม่ ผลคือสามารถรัน Arc Raiders ได้ที่เฟรมเรตประมาณ 40-45 FPS แม้จะใช้เพียง GPU เดียวจากสองตัวที่มีอยู่ 🎮 การปรับแต่งเพื่อเล่นเกม การ์ดรุ่นนี้ไม่รองรับไดรเวอร์ Adrenalin โดยตรง ทำให้ต้องแฟลช BIOS ให้กลายเป็น Radeon HD 7990 เพื่อเปิดใช้งาน CrossFire และใช้ไดรเวอร์ใหม่กว่า หลังจากปรับแต่งแล้ว ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น Crysis สามารถวิ่งได้เกิน 110 FPS โดยใช้ GPU ทั้งสองตัวพร้อมกัน ถือเป็นการพิสูจน์ว่าฮาร์ดแวร์เก่าหากได้รับการปรับแต่งก็ยังมีศักยภาพซ่อนอยู่ ⚡ ข้อจำกัดและความท้าทาย แม้จะทำงานได้ แต่การ์ดนี้มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ความร้อนสูง การใช้พลังงานมากถึง 375W และไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของเกมยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ เกมใหม่ส่วนใหญ่ไม่รองรับระบบ Multi-GPU แล้ว ทำให้ศักยภาพของการ์ดถูกใช้ไม่เต็มที่ ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 ทำเฟรมเรตได้เพียง 20-30 FPS แม้จะปรับกราฟิกต่ำสุด 🔍 มุมมองจากเกมยุคใหม่ เมื่อเทียบกับสเปกขั้นต่ำของ Arc Raiders ที่ต้องการการ์ดระดับ GTX 1050 Ti หรือ RX 580 พร้อม RAM 12GB การ์ด FirePro S10000 แม้จะเก่า แต่ยังพอมีพลังใกล้เคียงกับการ์ดเกมมิ่งรุ่นกลางในอดีต การทดลองนี้จึงสะท้อนว่าเทคโนโลยีเก่าหากถูกปรับแต่งอย่างถูกวิธีก็ยังสามารถใช้งานได้ในโลกเกมยุคใหม่ แม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้สายโมดิฟาย 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การ์ดจอ AMD FirePro S10000 ➡️ เปิดตัวปี 2012 ใช้ชิป Tahiti สองตัว ➡️ เดิมออกแบบเพื่อเวิร์กสเตชัน ไม่ใช่เล่นเกม ✅ การปรับแต่งเพื่อเล่นเกม ➡️ แฟลช BIOS ให้กลายเป็น Radeon HD 7990 ➡️ ใช้ไดรเวอร์ Adrenalin เพื่อเปิด CrossFire ✅ ผลลัพธ์การทดสอบ ➡️ Crysis วิ่งได้เกิน 110 FPS ➡️ Arc Raiders รันได้ 40-45 FPS ➡️ CS2 ทำได้ 120-160 FPS ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ใช้พลังงานสูงถึง 375W ⛔ ความร้อนสูง ต้องจัดการระบบระบายอากาศ ⛔ เกมใหม่ไม่รองรับ Multi-GPU ทำให้ศักยภาพถูกใช้ไม่เต็มที่ ⛔ เกมหนักอย่าง Cyberpunk 2077 รันได้เพียง 20-30 FPS https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/2012-amd-firepro-s10000-dual-gpu-card-runs-arc-raiders-at-playable-frame-rates-but-half-of-its-gpu-power-goes-unused-in-the-process
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักเทรดคริปโตเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังเหตุลักพาตัวพุ่งสูง

    รายงานจาก Bloomberg ผ่าน The Star ระบุว่าในปี 2025 มีเหตุการณ์ลักพาตัวและทำร้ายร่างกายเพื่อบังคับให้เหยื่อส่งมอบคริปโต (“wrench attacks”) เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยมีมากกว่า 60 กรณีที่ถูกบันทึก ซึ่งสูงกว่าปี 2024 ที่มีประมาณ 40 กรณี เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นทั้งในสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอิตาลี สะท้อนว่าการถือครองคริปโตไม่ใช่แค่ความเสี่ยงทางการเงิน แต่ยังเป็นภัยต่อความปลอดภัยส่วนบุคคล

    วิธีการโจมตีและผลกระทบ
    คนร้ายมักใช้วิธีการรุนแรง เช่น บุกบ้าน ปลอมตัวเป็นคนส่งของ หรือแม้แต่ทำร้ายร่างกายเพื่อบังคับให้เหยื่อเปิดเผย private key หรือโอนเงินดิจิทัล ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ในซานฟรานซิสโกที่คนร้ายปลอมเป็นคนส่งของแล้วขโมยคริปโตมูลค่า 11 ล้านดอลลาร์ หรือกรณีในฝรั่งเศสที่ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Ledger ถูกลักพาตัวพร้อมครอบครัว

    การตอบสนองของนักเทรดและบริษัทความปลอดภัย
    นักเทรดคริปโตจำนวนมากเริ่มจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยเพื่อ ลบข้อมูลส่วนตัวจากอินเทอร์เน็ต และลด “attack surface” เช่น การลบข้อมูลบ้าน รถ หรือรูปถ่ายครอบครัวที่อาจถูกใช้เป็นเบาะแส นอกจากนี้ยังมีการใช้ multi-signature wallets และ timelocks เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการโอนเงิน บริษัทอย่าง BlackCloak และ Solace Global กำลังขยายบริการเพื่อรองรับความต้องการนี้

    ความหมายต่อวงการคริปโต
    เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนว่าการถือครองคริปโตในรูปแบบ self-custody แม้จะให้ความเป็นอิสระ แต่ก็ขาดการป้องกันแบบสถาบันการเงินดั้งเดิม หากถูกบังคับโอนเงิน ผู้ใช้แทบไม่มีทางเรียกคืนได้ ต่างจากระบบธนาคารที่อาจชดเชยความเสียหาย กรณีนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่า ความปลอดภัยทางกายภาพและดิจิทัลต้องเดินคู่กัน ในโลกคริปโต

    สรุปสาระสำคัญ
    จำนวนเหตุการณ์ลักพาตัวเพื่อบังคับโอนคริปโตเพิ่มขึ้นในปี 2025
    มากกว่า 60 กรณีทั่วโลก สูงกว่าปี 2024

    คนร้ายใช้วิธีรุนแรง เช่น บุกบ้าน ปลอมตัว ทำร้ายร่างกาย
    ตัวอย่าง: ซานฟรานซิสโก, ฝรั่งเศส, อิตาลี

    นักเทรดเริ่มจ้างบริษัทความปลอดภัยและใช้เทคนิคใหม่
    ลบข้อมูลส่วนตัว, ใช้ multi-signature wallets และ timelocks

    บริษัทความปลอดภัยอย่าง BlackCloak และ Solace Global ขยายบริการ
    รองรับนักเทรดและผู้ถือคริปโตที่กังวลความปลอดภัย

    การถือครองแบบ self-custody ขาดการป้องกันจากสถาบันการเงิน
    หากถูกบังคับโอนเงิน แทบไม่มีทางเรียกคืนได้

    การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี
    แม้เพียงรูปถ่ายหรือข้อมูลบ้านก็อาจถูกใช้เป็นเบาะแส

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/11/crypto-traders-seek-outextra-security-as-kidnappings-rise
    🪙 นักเทรดคริปโตเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังเหตุลักพาตัวพุ่งสูง รายงานจาก Bloomberg ผ่าน The Star ระบุว่าในปี 2025 มีเหตุการณ์ลักพาตัวและทำร้ายร่างกายเพื่อบังคับให้เหยื่อส่งมอบคริปโต (“wrench attacks”) เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยมีมากกว่า 60 กรณีที่ถูกบันทึก ซึ่งสูงกว่าปี 2024 ที่มีประมาณ 40 กรณี เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นทั้งในสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอิตาลี สะท้อนว่าการถือครองคริปโตไม่ใช่แค่ความเสี่ยงทางการเงิน แต่ยังเป็นภัยต่อความปลอดภัยส่วนบุคคล 🕵️‍♂️ วิธีการโจมตีและผลกระทบ คนร้ายมักใช้วิธีการรุนแรง เช่น บุกบ้าน ปลอมตัวเป็นคนส่งของ หรือแม้แต่ทำร้ายร่างกายเพื่อบังคับให้เหยื่อเปิดเผย private key หรือโอนเงินดิจิทัล ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ในซานฟรานซิสโกที่คนร้ายปลอมเป็นคนส่งของแล้วขโมยคริปโตมูลค่า 11 ล้านดอลลาร์ หรือกรณีในฝรั่งเศสที่ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Ledger ถูกลักพาตัวพร้อมครอบครัว 🛡️ การตอบสนองของนักเทรดและบริษัทความปลอดภัย นักเทรดคริปโตจำนวนมากเริ่มจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยเพื่อ ลบข้อมูลส่วนตัวจากอินเทอร์เน็ต และลด “attack surface” เช่น การลบข้อมูลบ้าน รถ หรือรูปถ่ายครอบครัวที่อาจถูกใช้เป็นเบาะแส นอกจากนี้ยังมีการใช้ multi-signature wallets และ timelocks เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการโอนเงิน บริษัทอย่าง BlackCloak และ Solace Global กำลังขยายบริการเพื่อรองรับความต้องการนี้ 🌐 ความหมายต่อวงการคริปโต เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนว่าการถือครองคริปโตในรูปแบบ self-custody แม้จะให้ความเป็นอิสระ แต่ก็ขาดการป้องกันแบบสถาบันการเงินดั้งเดิม หากถูกบังคับโอนเงิน ผู้ใช้แทบไม่มีทางเรียกคืนได้ ต่างจากระบบธนาคารที่อาจชดเชยความเสียหาย กรณีนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่า ความปลอดภัยทางกายภาพและดิจิทัลต้องเดินคู่กัน ในโลกคริปโต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ จำนวนเหตุการณ์ลักพาตัวเพื่อบังคับโอนคริปโตเพิ่มขึ้นในปี 2025 ➡️ มากกว่า 60 กรณีทั่วโลก สูงกว่าปี 2024 ✅ คนร้ายใช้วิธีรุนแรง เช่น บุกบ้าน ปลอมตัว ทำร้ายร่างกาย ➡️ ตัวอย่าง: ซานฟรานซิสโก, ฝรั่งเศส, อิตาลี ✅ นักเทรดเริ่มจ้างบริษัทความปลอดภัยและใช้เทคนิคใหม่ ➡️ ลบข้อมูลส่วนตัว, ใช้ multi-signature wallets และ timelocks ✅ บริษัทความปลอดภัยอย่าง BlackCloak และ Solace Global ขยายบริการ ➡️ รองรับนักเทรดและผู้ถือคริปโตที่กังวลความปลอดภัย ‼️ การถือครองแบบ self-custody ขาดการป้องกันจากสถาบันการเงิน ⛔ หากถูกบังคับโอนเงิน แทบไม่มีทางเรียกคืนได้ ‼️ การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ⛔ แม้เพียงรูปถ่ายหรือข้อมูลบ้านก็อาจถูกใช้เป็นเบาะแส https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/11/crypto-traders-seek-outextra-security-as-kidnappings-rise
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Crypto traders seek out extra security as kidnappings rise
    As the price of bitcoin and other cryptocurrencies has surged over the past three years, so too have so-called "wrench attacks" – the violent kidnappings, beatings, and even finger amputations used to coerce victims into surrendering their holdings.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • YouTube TV เปิดตัวแพ็กเกจตามประเภทคอนเทนต์ เน้นเจาะตลาดกีฬา

    YouTube TV ประกาศว่าจะเปิดตัว แพ็กเกจสมัครสมาชิกตามประเภท (genre-based plans) ในสหรัฐฯ ต้นปี 2026 โดยมีมากกว่า 10 แพ็กเกจ เช่น กีฬา ข่าว และครอบครัว เพื่อให้ผู้ใช้เลือกตามความสนใจ จุดเด่นคือแพ็กเกจกีฬา ที่รวมช่องดังอย่าง ESPN, FS1 และ NBC Sports Network พร้อมตัวเลือกเสริมอย่าง NFL Sunday Ticket และ RedZone

    กลยุทธ์เจาะตลาดกีฬา
    YouTube TV มองว่ากีฬาเป็นสมรภูมิสำคัญในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Netflix และ Disney การเพิ่มแพ็กเกจเฉพาะด้านกีฬา พร้อมฟีเจอร์ multiview (ดูได้ 4 สตรีมพร้อมกัน) และ unlimited DVR จะช่วยดึงดูดแฟนกีฬาและผู้ลงโฆษณาให้มากขึ้น Nielsen รายงานว่า YouTube TV ตอนนี้ครองสัดส่วนการรับชมทีวีในสหรัฐฯ มากที่สุด แซงหน้า Netflix และบริษัทสื่อดั้งเดิม

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด
    ผู้ใช้จะมีอิสระมากขึ้นในการเลือกแพ็กเกจที่ตรงกับความต้องการ เช่น เลือกเฉพาะกีฬา หรือเน้นข่าวและครอบครัว โดยไม่ต้องจ่ายเต็มราคาเหมือนแพ็กเกจหลักเดิม แม้ยังไม่มีการเปิดเผยราคา แต่การปรับโครงสร้างนี้สะท้อนถึงแนวโน้มการทำให้บริการสตรีมมิง “ยืดหยุ่นและเฉพาะกลุ่ม” มากขึ้น

    ความหมายต่ออนาคตสตรีมมิง
    การเปิดตัว genre-based plans ของ YouTube TV อาจเป็นต้นแบบให้แพลตฟอร์มอื่นปรับตาม เพราะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และสร้างรายได้จากโฆษณาได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันสตรีมมิงรุนแรงและผู้ใช้ต้องการความคุ้มค่าในการเลือกคอนเทนต์

    สรุปสาระสำคัญ
    YouTube TV เตรียมเปิดแพ็กเกจตามประเภทคอนเทนต์ต้นปี 2026
    มีมากกว่า 10 แพ็กเกจ เช่น กีฬา ข่าว ครอบครัว

    แพ็กเกจกีฬาเป็นจุดขายหลัก
    รวม ESPN, FS1, NBC Sports และเสริม NFL Sunday Ticket

    ฟีเจอร์ multiview และ unlimited DVR ยังคงอยู่
    ดูได้ 4 สตรีมพร้อมกันและบันทึกไม่จำกัด

    Nielsen ระบุ YouTube TV ครองสัดส่วนการรับชมทีวีสูงสุดในสหรัฐฯ
    แซงหน้า Netflix และ Disney

    ราคายังไม่เปิดเผย อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเข้าถึง
    หากแพ็กเกจแพงเกินไป ผู้ใช้บางกลุ่มอาจไม่เลือก

    การแข่งขันสตรีมมิงรุนแรง อาจทำให้ผู้ใช้สับสนกับหลายแพ็กเกจ
    เสี่ยงต่อการกระจายฐานผู้ชมและความภักดีต่อแบรนด์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/11/youtube-tv-to-roll-out-genre-based-plans-deepens-sports-streaming-bet
    📺 YouTube TV เปิดตัวแพ็กเกจตามประเภทคอนเทนต์ เน้นเจาะตลาดกีฬา YouTube TV ประกาศว่าจะเปิดตัว แพ็กเกจสมัครสมาชิกตามประเภท (genre-based plans) ในสหรัฐฯ ต้นปี 2026 โดยมีมากกว่า 10 แพ็กเกจ เช่น กีฬา ข่าว และครอบครัว เพื่อให้ผู้ใช้เลือกตามความสนใจ จุดเด่นคือแพ็กเกจกีฬา ที่รวมช่องดังอย่าง ESPN, FS1 และ NBC Sports Network พร้อมตัวเลือกเสริมอย่าง NFL Sunday Ticket และ RedZone ⚡ กลยุทธ์เจาะตลาดกีฬา YouTube TV มองว่ากีฬาเป็นสมรภูมิสำคัญในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Netflix และ Disney การเพิ่มแพ็กเกจเฉพาะด้านกีฬา พร้อมฟีเจอร์ multiview (ดูได้ 4 สตรีมพร้อมกัน) และ unlimited DVR จะช่วยดึงดูดแฟนกีฬาและผู้ลงโฆษณาให้มากขึ้น Nielsen รายงานว่า YouTube TV ตอนนี้ครองสัดส่วนการรับชมทีวีในสหรัฐฯ มากที่สุด แซงหน้า Netflix และบริษัทสื่อดั้งเดิม 🎮 ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด ผู้ใช้จะมีอิสระมากขึ้นในการเลือกแพ็กเกจที่ตรงกับความต้องการ เช่น เลือกเฉพาะกีฬา หรือเน้นข่าวและครอบครัว โดยไม่ต้องจ่ายเต็มราคาเหมือนแพ็กเกจหลักเดิม แม้ยังไม่มีการเปิดเผยราคา แต่การปรับโครงสร้างนี้สะท้อนถึงแนวโน้มการทำให้บริการสตรีมมิง “ยืดหยุ่นและเฉพาะกลุ่ม” มากขึ้น 🌐 ความหมายต่ออนาคตสตรีมมิง การเปิดตัว genre-based plans ของ YouTube TV อาจเป็นต้นแบบให้แพลตฟอร์มอื่นปรับตาม เพราะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และสร้างรายได้จากโฆษณาได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันสตรีมมิงรุนแรงและผู้ใช้ต้องการความคุ้มค่าในการเลือกคอนเทนต์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ YouTube TV เตรียมเปิดแพ็กเกจตามประเภทคอนเทนต์ต้นปี 2026 ➡️ มีมากกว่า 10 แพ็กเกจ เช่น กีฬา ข่าว ครอบครัว ✅ แพ็กเกจกีฬาเป็นจุดขายหลัก ➡️ รวม ESPN, FS1, NBC Sports และเสริม NFL Sunday Ticket ✅ ฟีเจอร์ multiview และ unlimited DVR ยังคงอยู่ ➡️ ดูได้ 4 สตรีมพร้อมกันและบันทึกไม่จำกัด ✅ Nielsen ระบุ YouTube TV ครองสัดส่วนการรับชมทีวีสูงสุดในสหรัฐฯ ➡️ แซงหน้า Netflix และ Disney ‼️ ราคายังไม่เปิดเผย อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเข้าถึง ⛔ หากแพ็กเกจแพงเกินไป ผู้ใช้บางกลุ่มอาจไม่เลือก ‼️ การแข่งขันสตรีมมิงรุนแรง อาจทำให้ผู้ใช้สับสนกับหลายแพ็กเกจ ⛔ เสี่ยงต่อการกระจายฐานผู้ชมและความภักดีต่อแบรนด์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/11/youtube-tv-to-roll-out-genre-based-plans-deepens-sports-streaming-bet
    WWW.THESTAR.COM.MY
    YouTube TV to roll out genre-based plans, deepens sports streaming bet
    (Corrects to remove reference to number of subscribers in paragraph 5)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts