• หมดปัญหาก้างปลาเยอะ! แปรรูปปลาทูง่ายๆ ด้วยเครื่องแยกก้างปลา!

    เบื่อไหมกับการนั่งแกะก้างปลาทูที่ทั้งเสียเวลาและได้เนื้อน้อย? ลองเปลี่ยนมาใช้ตัวช่วยสุดปังอย่าง "เครื่องแยกก้างปลา" ที่จะช่วยให้การทำอาหารของคุณง่ายขึ้นหลายเท่า!

    ทำไมต้องมีเครื่องนี้?
    แยกเนื้อปลาได้แบบเนียนกริบ: ด้วยระบบตะแกรงขนาด 3 มม. ทำให้ได้เนื้อปลาละเอียดพร้อมใช้งานทันที!
    ใช้งานง่าย ปลอดภัย: แค่ป้อนปลาเข้าเครื่องก็ได้เนื้อและก้างแยกออกจากกันอย่างชัดเจน!
    มอเตอร์ทรงพลัง ทนทาน: มาพร้อมมอเตอร์ 3 แรงม้า กำลังไฟ 380V ใช้งานต่อเนื่องไม่มีสะดุด!
    ทำจากสแตนเลสอย่างดี: วัสดุเกรดอาหาร SUS 304 ทำความสะอาดง่าย หมดกังวลเรื่องสนิม!
    เคลื่อนย้ายสะดวก: มีล้อเลื่อน 4 ล้อ จะย้ายไปมุมไหนก็สบาย!

    เปลี่ยนปลาทูธรรมดาให้เป็นเมนูพิเศษได้ง่ายๆ เช่น
    ลูกชิ้นปลาทู: เนื้อเด้ง สดใหม่
    ห่อหมกปลาทู: เนื้อเนียน เครื่องแน่น
    ทอดมันปลาทู: อร่อยเต็มคำ ไม่ต้องห่วงก้าง!
    ไม่ว่าจะทำขายหรือทำทานเองที่บ้านก็คุ้มค่าสุดๆ!

    เลือกคุณภาพ เลือก BONNY

    ย.ย่งฮะเฮง จำหน่ายเครื่องจักรแปรรูปอาหารหลากหลายชนิด
    เราเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องจักรแปรรูปอาหาร เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา และพลังงานหมุนเวียน

    สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูสินค้าจริงที่ร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ:
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น.
    วันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 น.

    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    ติดต่อเรา:
    แชทเลย: m.me/yonghahheng
    LINE Business ID: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    Website: www.yoryonghahheng.com
    E-mail: sales@yoryonghahheng.com | yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องแยกก้างปลา #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #ปลาทู #เมนูสร้างอาชีพ #เพิ่มมูลค่า #ยงยงเฮง #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY #เครื่องบด #เครื่องบดเนื้อ #เครื่องสับ #เครื่องบดอาหาร #เครื่องทำอาหาร #อาหารแปรรูป #โรงงานอาหาร #เครื่องจักร #อุปกรณ์ทำอาหาร #สร้างรายได้ #อาชีพเสริม #ทำอาหารง่ายๆ #แม่บ้านยุคใหม่ #สินค้าคุณภาพ #เครื่องจักรอาหาร #ปลา #เนื้อปลา #วัตถุดิบ
    📢 หมดปัญหาก้างปลาเยอะ! แปรรูปปลาทูง่ายๆ ด้วยเครื่องแยกก้างปลา! 🐟✨ เบื่อไหมกับการนั่งแกะก้างปลาทูที่ทั้งเสียเวลาและได้เนื้อน้อย? 😩 ลองเปลี่ยนมาใช้ตัวช่วยสุดปังอย่าง "เครื่องแยกก้างปลา" ที่จะช่วยให้การทำอาหารของคุณง่ายขึ้นหลายเท่า! ทำไมต้องมีเครื่องนี้? ✅ แยกเนื้อปลาได้แบบเนียนกริบ: ด้วยระบบตะแกรงขนาด 3 มม. ทำให้ได้เนื้อปลาละเอียดพร้อมใช้งานทันที! ✅ ใช้งานง่าย ปลอดภัย: แค่ป้อนปลาเข้าเครื่องก็ได้เนื้อและก้างแยกออกจากกันอย่างชัดเจน! ✅ มอเตอร์ทรงพลัง ทนทาน: มาพร้อมมอเตอร์ 3 แรงม้า กำลังไฟ 380V ใช้งานต่อเนื่องไม่มีสะดุด! ✅ ทำจากสแตนเลสอย่างดี: วัสดุเกรดอาหาร SUS 304 ทำความสะอาดง่าย หมดกังวลเรื่องสนิม! ✅ เคลื่อนย้ายสะดวก: มีล้อเลื่อน 4 ล้อ จะย้ายไปมุมไหนก็สบาย! เปลี่ยนปลาทูธรรมดาให้เป็นเมนูพิเศษได้ง่ายๆ เช่น 📍 ลูกชิ้นปลาทู: เนื้อเด้ง สดใหม่ 📍 ห่อหมกปลาทู: เนื้อเนียน เครื่องแน่น 📍 ทอดมันปลาทู: อร่อยเต็มคำ ไม่ต้องห่วงก้าง! ไม่ว่าจะทำขายหรือทำทานเองที่บ้านก็คุ้มค่าสุดๆ! เลือกคุณภาพ เลือก BONNY ย.ย่งฮะเฮง จำหน่ายเครื่องจักรแปรรูปอาหารหลากหลายชนิด เราเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องจักรแปรรูปอาหาร เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา และพลังงานหมุนเวียน สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูสินค้าจริงที่ร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ: จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น. วันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 ติดต่อเรา: แชทเลย: m.me/yonghahheng LINE Business ID: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 Website: www.yoryonghahheng.com E-mail: sales@yoryonghahheng.com | yonghahheng@gmail.com #เครื่องแยกก้างปลา #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #ปลาทู #เมนูสร้างอาชีพ #เพิ่มมูลค่า #ยงยงเฮง #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY #เครื่องบด #เครื่องบดเนื้อ #เครื่องสับ #เครื่องบดอาหาร #เครื่องทำอาหาร #อาหารแปรรูป #โรงงานอาหาร #เครื่องจักร #อุปกรณ์ทำอาหาร #สร้างรายได้ #อาชีพเสริม #ทำอาหารง่ายๆ #แม่บ้านยุคใหม่ #สินค้าคุณภาพ #เครื่องจักรอาหาร #ปลา #เนื้อปลา #วัตถุดิบ
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • เมื่อเงินช่วยเหลือกลายเป็นหุ้น – สหรัฐฯ กับแนวคิดถือหุ้นใน Samsung และ Intel

    ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2025 โลกเทคโนโลยีต้องสะเทือน เมื่อมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจากับ Intel เพื่อแลกเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นหุ้น 10% ในบริษัท ซึ่งถือเป็นแนวทางใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในนโยบายอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ

    ข่าวลือเริ่มลุกลามไปถึง Samsung ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 4.75 พันล้านดอลลาร์จาก CHIPS Act เพื่อสร้างโรงงานในเท็กซัส แม้รัฐบาลเกาหลีใต้จะออกมาปฏิเสธทันทีว่าไม่มีแผนให้สหรัฐฯ เข้าถือหุ้นใน Samsung แต่ความกังวลในแวดวงธุรกิจและการเมืองก็ยังคงอยู่

    แนวคิดนี้มาจากรัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick ซึ่งเสนอว่าหากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เงินสนับสนุนบริษัทเอกชน ก็ควรได้รับผลตอบแทนในรูปแบบหุ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีสิทธิบริหาร แต่สามารถรับเงินปันผลหรือมีสิทธิ์ยับยั้งการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ เช่น การปิดโรงงานหรือการย้ายฐานผลิต

    แม้จะดูเหมือนเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติ แต่ก็มีคำถามตามมามากมาย เช่น หากรัฐบาลเปลี่ยนชุดบริหาร จะมีผลต่อการถือหุ้นหรือไม่? และจะกระทบต่อความเป็นอิสระของบริษัทหรือเปล่า?

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจากับ Intel เพื่อแลกเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นหุ้น 10%
    Samsung ได้รับเงินสนับสนุนกว่า $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act เพื่อสร้างโรงงานในเท็กซัส
    รัฐบาลเกาหลีใต้ปฏิเสธข่าวลือเรื่องการถือหุ้นของสหรัฐฯ ใน Samsung
    แนวคิดถือหุ้นมาจากรัฐมนตรี Lutnick เพื่อให้เงินสนับสนุนมีผลตอบแทน
    การถือหุ้นอาจไม่มีสิทธิบริหาร แต่สามารถรับเงินปันผลหรือมีสิทธิ์ยับยั้งบางการตัดสินใจ
    CHIPS Act มีงบประมาณรวม $52.7 พันล้านเพื่อสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ
    Intel เป็นผู้รับเงินสนับสนุนรายใหญ่ที่สุด และอาจกลายเป็นบริษัทที่รัฐบาลถือหุ้นมากที่สุด
    การถือหุ้นในบริษัทเทคโนโลยีเป็นแนวทางใหม่ของสหรัฐฯ ที่ไม่เคยใช้มาก่อน
    รัฐบาลเคยถือหุ้นในบริษัทช่วงวิกฤตปี 2008 เช่น General Motors เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
    การถือหุ้นอาจช่วยให้บริษัทเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ ได้ง่ายขึ้น และลดภาษีนำเข้า

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SoftBank ลงทุน $2 พันล้านใน Intel โดยไม่ขอสิทธิบริหาร
    รัฐบาลสหรัฐฯ เคยเจรจา “golden share” กับ Nippon Steel เพื่อควบคุมการปิดโรงงาน
    CHIPS Act ถูกผลักดันหลัง COVID-19 และสงครามเทคโนโลยีสหรัฐ–จีน
    Intel ประสบปัญหาการแข่งขันจาก TSMC และ Samsung ในด้านเทคโนโลยี
    การถือหุ้นอาจเป็นกลยุทธ์เพื่อเสริมความมั่นคงด้าน AI และการทหาร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/south-korea-says-there-are-no-plans-for-the-u-s-to-acquire-samsung-shares-denial-comes-amid-talks-about-washington-acquiring-a-10-percent-equity-stake-in-intel-for-chips-act-funds
    🎙️ เมื่อเงินช่วยเหลือกลายเป็นหุ้น – สหรัฐฯ กับแนวคิดถือหุ้นใน Samsung และ Intel ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2025 โลกเทคโนโลยีต้องสะเทือน เมื่อมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจากับ Intel เพื่อแลกเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นหุ้น 10% ในบริษัท ซึ่งถือเป็นแนวทางใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในนโยบายอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ข่าวลือเริ่มลุกลามไปถึง Samsung ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 4.75 พันล้านดอลลาร์จาก CHIPS Act เพื่อสร้างโรงงานในเท็กซัส แม้รัฐบาลเกาหลีใต้จะออกมาปฏิเสธทันทีว่าไม่มีแผนให้สหรัฐฯ เข้าถือหุ้นใน Samsung แต่ความกังวลในแวดวงธุรกิจและการเมืองก็ยังคงอยู่ แนวคิดนี้มาจากรัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick ซึ่งเสนอว่าหากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เงินสนับสนุนบริษัทเอกชน ก็ควรได้รับผลตอบแทนในรูปแบบหุ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีสิทธิบริหาร แต่สามารถรับเงินปันผลหรือมีสิทธิ์ยับยั้งการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ เช่น การปิดโรงงานหรือการย้ายฐานผลิต แม้จะดูเหมือนเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติ แต่ก็มีคำถามตามมามากมาย เช่น หากรัฐบาลเปลี่ยนชุดบริหาร จะมีผลต่อการถือหุ้นหรือไม่? และจะกระทบต่อความเป็นอิสระของบริษัทหรือเปล่า? 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจากับ Intel เพื่อแลกเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นหุ้น 10% ➡️ Samsung ได้รับเงินสนับสนุนกว่า $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act เพื่อสร้างโรงงานในเท็กซัส ➡️ รัฐบาลเกาหลีใต้ปฏิเสธข่าวลือเรื่องการถือหุ้นของสหรัฐฯ ใน Samsung ➡️ แนวคิดถือหุ้นมาจากรัฐมนตรี Lutnick เพื่อให้เงินสนับสนุนมีผลตอบแทน ➡️ การถือหุ้นอาจไม่มีสิทธิบริหาร แต่สามารถรับเงินปันผลหรือมีสิทธิ์ยับยั้งบางการตัดสินใจ ➡️ CHIPS Act มีงบประมาณรวม $52.7 พันล้านเพื่อสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ ➡️ Intel เป็นผู้รับเงินสนับสนุนรายใหญ่ที่สุด และอาจกลายเป็นบริษัทที่รัฐบาลถือหุ้นมากที่สุด ➡️ การถือหุ้นในบริษัทเทคโนโลยีเป็นแนวทางใหม่ของสหรัฐฯ ที่ไม่เคยใช้มาก่อน ➡️ รัฐบาลเคยถือหุ้นในบริษัทช่วงวิกฤตปี 2008 เช่น General Motors เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ➡️ การถือหุ้นอาจช่วยให้บริษัทเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ ได้ง่ายขึ้น และลดภาษีนำเข้า ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SoftBank ลงทุน $2 พันล้านใน Intel โดยไม่ขอสิทธิบริหาร ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ เคยเจรจา “golden share” กับ Nippon Steel เพื่อควบคุมการปิดโรงงาน ➡️ CHIPS Act ถูกผลักดันหลัง COVID-19 และสงครามเทคโนโลยีสหรัฐ–จีน ➡️ Intel ประสบปัญหาการแข่งขันจาก TSMC และ Samsung ในด้านเทคโนโลยี ➡️ การถือหุ้นอาจเป็นกลยุทธ์เพื่อเสริมความมั่นคงด้าน AI และการทหาร https://www.tomshardware.com/tech-industry/south-korea-says-there-are-no-plans-for-the-u-s-to-acquire-samsung-shares-denial-comes-amid-talks-about-washington-acquiring-a-10-percent-equity-stake-in-intel-for-chips-act-funds
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • Samsung จับมือ Intel – เกมการเมืองระดับโลกในสนามเซมิคอนดักเตอร์

    ในช่วงที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังกลายเป็นสมรภูมิทางเศรษฐกิจและความมั่นคงระดับชาติ Samsung กำลังพิจารณาลงทุนใน Intel เพื่อสร้างความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Trump

    หลังจาก SoftBank ประกาศลงทุน $2 พันล้านใน Intel เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐฯ Samsung ก็ถูกเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาทำแบบเดียวกัน โดยหวังว่าจะได้รับความสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในโครงการโรงงานและการผลิตชิปในประเทศ

    Intel กลายเป็นศูนย์กลางของนโยบาย CHIPS Act ที่รัฐบาล Trump กำลังปรับเปลี่ยนจาก “เงินสนับสนุน” เป็น “การถือหุ้น” โดยมีแผนจะเปลี่ยนเงินช่วยเหลือมูลค่ากว่า $10.9 พันล้านให้กลายเป็นหุ้น 10% ใน Intel ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด

    Samsung ซึ่งได้รับเงินสนับสนุน $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act ก็อาจถูกเสนอให้แลกเงินนั้นกับการถือหุ้นเช่นกัน ซึ่งอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ และยุทธศาสตร์การผลิตของ Samsung ในระดับโลก

    นอกจากนี้ Samsung ยังพิจารณาร่วมมือกับบริษัท Amkor ในด้านการแพ็กเกจชิป ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ Samsung เมื่อเทียบกับ TSMC ที่มีโรงงานแพ็กเกจในสหรัฐฯ แล้ว

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Samsung กำลังพิจารณาลงทุนใน Intel เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาล Trump
    Intel ได้รับเงินสนับสนุน $10.9 พันล้านจาก CHIPS Act และอาจถูกเปลี่ยนเป็นหุ้น 10%
    SoftBank ลงทุน $2 พันล้านใน Intel เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐฯ
    Samsung ได้รับเงินสนับสนุน $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act
    รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนแนวทางจาก “เงินช่วยเหลือ” เป็น “การถือหุ้น”
    Samsung พิจารณาร่วมมือกับ Amkor เพื่อเสริมความสามารถด้านการแพ็กเกจชิป
    Samsung มีข้อตกลงผลิตชิป AI ให้ Tesla มูลค่า $16.5 พันล้านในรัฐเท็กซัส
    TSMC ประกาศลงทุนเพิ่ม $100 พันล้านในสหรัฐฯ ผ่านการสนับสนุนจากทำเนียบขาว
    การลงทุนใน Intel ถูกมองว่าเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อนโยบายของรัฐบาล Trump
    Samsung หวังใช้การลงทุนนี้เพื่อเสริมบทบาทในตลาดสหรัฐฯ และลดผลกระทบจากภาษี

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาถือหุ้นใน TSMC, Micron และ Samsung เช่นเดียวกับ Intel
    การถือหุ้นโดยรัฐเป็นแนวทางที่ใช้ในจีน, เกาหลีใต้ และไต้หวัน เพื่อเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยี Samsung ลงทุน $37 พันล้านในโรงงานและศูนย์วิจัยในสหรัฐฯ ภายในปี 2030
    SK hynix ก็ได้รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act และอาจถูกเสนอให้แลกเป็นหุ้นเช่นกัน
    การถือหุ้นของรัฐบาลอาจไม่ให้สิทธิ์บริหาร แต่มีผลต่อยุทธศาสตร์และความมั่นคง

    https://wccftech.com/samsung-seeking-to-woo-trump-administration-by-investing-in-intel-after-softbank-says-report/
    🎙️ Samsung จับมือ Intel – เกมการเมืองระดับโลกในสนามเซมิคอนดักเตอร์ ในช่วงที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังกลายเป็นสมรภูมิทางเศรษฐกิจและความมั่นคงระดับชาติ Samsung กำลังพิจารณาลงทุนใน Intel เพื่อสร้างความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Trump หลังจาก SoftBank ประกาศลงทุน $2 พันล้านใน Intel เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐฯ Samsung ก็ถูกเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาทำแบบเดียวกัน โดยหวังว่าจะได้รับความสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในโครงการโรงงานและการผลิตชิปในประเทศ Intel กลายเป็นศูนย์กลางของนโยบาย CHIPS Act ที่รัฐบาล Trump กำลังปรับเปลี่ยนจาก “เงินสนับสนุน” เป็น “การถือหุ้น” โดยมีแผนจะเปลี่ยนเงินช่วยเหลือมูลค่ากว่า $10.9 พันล้านให้กลายเป็นหุ้น 10% ใน Intel ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด Samsung ซึ่งได้รับเงินสนับสนุน $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act ก็อาจถูกเสนอให้แลกเงินนั้นกับการถือหุ้นเช่นกัน ซึ่งอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ และยุทธศาสตร์การผลิตของ Samsung ในระดับโลก นอกจากนี้ Samsung ยังพิจารณาร่วมมือกับบริษัท Amkor ในด้านการแพ็กเกจชิป ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ Samsung เมื่อเทียบกับ TSMC ที่มีโรงงานแพ็กเกจในสหรัฐฯ แล้ว 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Samsung กำลังพิจารณาลงทุนใน Intel เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาล Trump ➡️ Intel ได้รับเงินสนับสนุน $10.9 พันล้านจาก CHIPS Act และอาจถูกเปลี่ยนเป็นหุ้น 10% ➡️ SoftBank ลงทุน $2 พันล้านใน Intel เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐฯ ➡️ Samsung ได้รับเงินสนับสนุน $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนแนวทางจาก “เงินช่วยเหลือ” เป็น “การถือหุ้น” ➡️ Samsung พิจารณาร่วมมือกับ Amkor เพื่อเสริมความสามารถด้านการแพ็กเกจชิป ➡️ Samsung มีข้อตกลงผลิตชิป AI ให้ Tesla มูลค่า $16.5 พันล้านในรัฐเท็กซัส ➡️ TSMC ประกาศลงทุนเพิ่ม $100 พันล้านในสหรัฐฯ ผ่านการสนับสนุนจากทำเนียบขาว ➡️ การลงทุนใน Intel ถูกมองว่าเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อนโยบายของรัฐบาล Trump ➡️ Samsung หวังใช้การลงทุนนี้เพื่อเสริมบทบาทในตลาดสหรัฐฯ และลดผลกระทบจากภาษี ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาถือหุ้นใน TSMC, Micron และ Samsung เช่นเดียวกับ Intel ➡️ การถือหุ้นโดยรัฐเป็นแนวทางที่ใช้ในจีน, เกาหลีใต้ และไต้หวัน เพื่อเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยี ➡️ Samsung ลงทุน $37 พันล้านในโรงงานและศูนย์วิจัยในสหรัฐฯ ภายในปี 2030 ➡️ SK hynix ก็ได้รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act และอาจถูกเสนอให้แลกเป็นหุ้นเช่นกัน ➡️ การถือหุ้นของรัฐบาลอาจไม่ให้สิทธิ์บริหาร แต่มีผลต่อยุทธศาสตร์และความมั่นคง https://wccftech.com/samsung-seeking-to-woo-trump-administration-by-investing-in-intel-after-softbank-says-report/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Seeking To Woo Trump Administration By Investing In Intel After Softbank, Says Report
    Samsung is considering investing in Intel to support U.S. chip production after Softbank's $2 billion investment.
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 สิงหาคม 2568) ต่อเนื่องจนถึงรุ่งเช้า กองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีอย่างหนักอีกครั้งในพื้นที่ของยูเครน

    มีรายงานการใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhals" และ "Zircons" ในครั้งนี้ด้วย

    ภูมิภาคดนีปรอเปตรอฟสค์ (Dnipropetrovsk) เป้าหมายของการโจมตีของรัสเซียคือโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานก๊าซ ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

    ภูมิภาค ลวอฟ (Lvov/Lviv) ซึ่งมีรายงานการระเบิดรุนแรงสามครั้งติดต่อกัน

    ภูมิภาคลุตสก์ (Lust) มีรายงานการโจมตีอย่างน้อยสี่ครั้ง ยืนยันโดยนายกเทศมนตรีของเมือง

    มีรายงานขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhals" และ "Zircons" อย่างน้อย 4 ลูก โจมตีเป้าหมายในภูมิภาคริฟเน (Rivne)

    เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 สิงหาคม 2568) ต่อเนื่องจนถึงรุ่งเช้า กองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีอย่างหนักอีกครั้งในพื้นที่ของยูเครน มีรายงานการใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhals" และ "Zircons" ในครั้งนี้ด้วย 🟥ภูมิภาคดนีปรอเปตรอฟสค์ (Dnipropetrovsk) เป้าหมายของการโจมตีของรัสเซียคือโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานก๊าซ ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง 🟥ภูมิภาค ลวอฟ (Lvov/Lviv) ซึ่งมีรายงานการระเบิดรุนแรงสามครั้งติดต่อกัน 🟥ภูมิภาคลุตสก์ (Lust) มีรายงานการโจมตีอย่างน้อยสี่ครั้ง ยืนยันโดยนายกเทศมนตรีของเมือง 🟥มีรายงานขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Kinzhals" และ "Zircons" อย่างน้อย 4 ลูก โจมตีเป้าหมายในภูมิภาคริฟเน (Rivne)
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • Tensor G5 – ชิป 3nm ตัวแรกจาก Google ที่ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ฉลาดขึ้นอย่างมีนัย

    Google เปิดตัวชิป Tensor G5 พร้อมกับ Pixel 10 Series ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในด้านฮาร์ดแวร์ เพราะนี่คือชิปแรกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm โดย TSMC แทนที่จะใช้โรงงานของ Samsung เหมือนรุ่นก่อนหน้า

    Tensor G5 ไม่ได้เน้นแค่ความเร็ว แต่ถูกออกแบบเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ โดยมีการปรับโครงสร้าง CPU เป็นแบบ 1+5+2 (1 core แรง, 5 core กลาง, 2 core ประหยัดพลังงาน) และมีความเร็วสูงสุดถึง 3.78GHz จากผลทดสอบ Geekbench

    Google เคลมว่า Tensor G5 เร็วขึ้น 34% โดยเฉลี่ยเมื่อเทียบกับ Tensor G4 และ TPU (หน่วยประมวลผล AI) ก็แรงขึ้นถึง 60% ซึ่งช่วยให้ Gemini Nano รุ่นใหม่ทำงานเร็วขึ้น 2.6 เท่า และประหยัดพลังงานมากขึ้น

    ชิปนี้ยังรองรับ context window ขนาด 32,000 token ซึ่งเทียบเท่ากับการประมวลผลข้อมูลจากอีเมลทั้งเดือนหรือภาพหน้าจอ 100 ภาพ ทำให้ฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Cue, Call Notes, Scam Detection และ Camera Coach ทำงานได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์

    ด้านกราฟิก แม้จะมีการอัปเกรด GPU แต่ Tensor G5 ยังไม่รองรับ ray tracing ซึ่งทำให้ยังตามหลังคู่แข่งในด้านเกมมือถือ ส่วน ISP (Image Signal Processor) ก็ได้รับการปรับปรุงให้รองรับ 10-bit HDR และลดการเบลอในวิดีโอแสงน้อย

    Pixel 10 Series ที่ใช้ Tensor G5 มีให้เลือกหลายรุ่น ตั้งแต่ Pixel 10 ธรรมดาไปจนถึง Pixel 10 Pro Fold โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $799 และมีโปรโมชั่นแจกบัตรของขวัญสูงสุดถึง $300

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Tensor G5 เป็นชิป 3nm ตัวแรกจาก Google ผลิตโดย TSMC
    ใช้โครงสร้าง CPU แบบ 1+5+2 และความเร็วสูงสุด 3.78GHz
    เร็วขึ้น 34% โดยเฉลี่ยจาก Tensor G4 และ TPU แรงขึ้น 60%
    Gemini Nano ทำงานเร็วขึ้น 2.6 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น
    รองรับ context window ขนาด 32,000 token สำหรับงาน AI
    ฟีเจอร์ AI ใหม่ เช่น Magic Cue, Scam Detection, Journal, Call Notes
    GPU อัปเกรดแต่ไม่รองรับ ray tracing
    ISP รองรับ 10-bit HDR และลดเบลอในวิดีโอแสงน้อย
    Pixel 10 Series มีรุ่นธรรมดา, Pro, Pro XL และ Pro Fold
    ราคาเริ่มต้น $799 พร้อมบัตรของขวัญสูงสุด $300

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Tensor G5 ใช้ LPDDR5X และ UFS 4.0 เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และความเร็ว
    ใช้สถาปัตยกรรม Matryoshka Transformer และ Per Layer Embedding
    Pixel 10 รองรับ Android 16 และอัปเดตนาน 7 ปี
    Pixel 10 Pro มี vapor chamber cooling แต่รุ่นธรรมดาใช้ graphene
    Pixel 10 รองรับ Qi2 wireless charging และมีจอ Actua 120Hz

    https://wccftech.com/tensor-g5-goes-official-first-3nm-chipset-from-google/
    🎙️ Tensor G5 – ชิป 3nm ตัวแรกจาก Google ที่ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ฉลาดขึ้นอย่างมีนัย Google เปิดตัวชิป Tensor G5 พร้อมกับ Pixel 10 Series ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในด้านฮาร์ดแวร์ เพราะนี่คือชิปแรกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm โดย TSMC แทนที่จะใช้โรงงานของ Samsung เหมือนรุ่นก่อนหน้า Tensor G5 ไม่ได้เน้นแค่ความเร็ว แต่ถูกออกแบบเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ โดยมีการปรับโครงสร้าง CPU เป็นแบบ 1+5+2 (1 core แรง, 5 core กลาง, 2 core ประหยัดพลังงาน) และมีความเร็วสูงสุดถึง 3.78GHz จากผลทดสอบ Geekbench Google เคลมว่า Tensor G5 เร็วขึ้น 34% โดยเฉลี่ยเมื่อเทียบกับ Tensor G4 และ TPU (หน่วยประมวลผล AI) ก็แรงขึ้นถึง 60% ซึ่งช่วยให้ Gemini Nano รุ่นใหม่ทำงานเร็วขึ้น 2.6 เท่า และประหยัดพลังงานมากขึ้น ชิปนี้ยังรองรับ context window ขนาด 32,000 token ซึ่งเทียบเท่ากับการประมวลผลข้อมูลจากอีเมลทั้งเดือนหรือภาพหน้าจอ 100 ภาพ ทำให้ฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Cue, Call Notes, Scam Detection และ Camera Coach ทำงานได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ด้านกราฟิก แม้จะมีการอัปเกรด GPU แต่ Tensor G5 ยังไม่รองรับ ray tracing ซึ่งทำให้ยังตามหลังคู่แข่งในด้านเกมมือถือ ส่วน ISP (Image Signal Processor) ก็ได้รับการปรับปรุงให้รองรับ 10-bit HDR และลดการเบลอในวิดีโอแสงน้อย Pixel 10 Series ที่ใช้ Tensor G5 มีให้เลือกหลายรุ่น ตั้งแต่ Pixel 10 ธรรมดาไปจนถึง Pixel 10 Pro Fold โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $799 และมีโปรโมชั่นแจกบัตรของขวัญสูงสุดถึง $300 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Tensor G5 เป็นชิป 3nm ตัวแรกจาก Google ผลิตโดย TSMC ➡️ ใช้โครงสร้าง CPU แบบ 1+5+2 และความเร็วสูงสุด 3.78GHz ➡️ เร็วขึ้น 34% โดยเฉลี่ยจาก Tensor G4 และ TPU แรงขึ้น 60% ➡️ Gemini Nano ทำงานเร็วขึ้น 2.6 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น ➡️ รองรับ context window ขนาด 32,000 token สำหรับงาน AI ➡️ ฟีเจอร์ AI ใหม่ เช่น Magic Cue, Scam Detection, Journal, Call Notes ➡️ GPU อัปเกรดแต่ไม่รองรับ ray tracing ➡️ ISP รองรับ 10-bit HDR และลดเบลอในวิดีโอแสงน้อย ➡️ Pixel 10 Series มีรุ่นธรรมดา, Pro, Pro XL และ Pro Fold ➡️ ราคาเริ่มต้น $799 พร้อมบัตรของขวัญสูงสุด $300 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Tensor G5 ใช้ LPDDR5X และ UFS 4.0 เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และความเร็ว ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Matryoshka Transformer และ Per Layer Embedding ➡️ Pixel 10 รองรับ Android 16 และอัปเดตนาน 7 ปี ➡️ Pixel 10 Pro มี vapor chamber cooling แต่รุ่นธรรมดาใช้ graphene ➡️ Pixel 10 รองรับ Qi2 wireless charging และมีจอ Actua 120Hz https://wccftech.com/tensor-g5-goes-official-first-3nm-chipset-from-google/
    WCCFTECH.COM
    Google Has Announced Its First 3nm Chipset, The Tensor G5, Alongside The Pixel 10 Series; Company Claims A 34 Percent Average Performance Increase Over The Tensor G4, No RT Support & More
    Google has officially announced its first 3nm SoC, the Tensor G5, and here is everything you need to know about the flagship silicon
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • CHIPS Act ไม่ใช่แค่เงินช่วยเหลืออีกต่อไป — รัฐบาลสหรัฐฯ อาจกลายเป็นผู้ถือหุ้นใน Intel และบริษัทชิปอื่น ๆ

    เดิมที CHIPS Act ถูกออกแบบมาเพื่อให้เงินสนับสนุนแก่บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในการสร้างโรงงานผลิตชิปในสหรัฐฯ แต่ล่าสุด Howard Lutnick รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เสนอแนวคิดใหม่ที่พลิกเกม: แทนที่จะให้เงินเปล่า รัฐบาลควร “ซื้อหุ้น” ในบริษัทเหล่านี้ เพื่อให้ผู้เสียภาษีได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน

    แนวคิดนี้เริ่มต้นจาก Intel ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนกว่า $7.86 พันล้าน และอาจได้รับเงินกู้เพิ่มอีก $11 พันล้าน แต่รัฐบาลกำลังพิจารณาถือหุ้น 10% ใน Intel เพื่อแลกกับเงินสนับสนุนดังกล่าว

    หากแนวทางนี้ขยายไปยังบริษัทอื่น เช่น Micron, TSMC, Samsung หรือ GlobalFoundries ก็อาจเปลี่ยนโฉมหน้าความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับเอกชนในอุตสาหกรรมชิปไปอย่างสิ้นเชิง

    แม้แนวคิดนี้จะดูเหมือนการลงทุนแบบ VC แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น บริษัทต่างชาติอย่าง Samsung หรือ TSMC อาจไม่ยอมให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้ามาถือหุ้นง่าย ๆ เพราะเกี่ยวข้องกับรัฐบาลของประเทศตนเอง และอาจซับซ้อนทางการเมือง

    อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้สะท้อนถึงความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากไต้หวัน ซึ่งผลิตชิปขั้นสูงกว่า 90% ของโลก และอยู่ห่างจากจีนเพียง 80 ไมล์

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    รัฐบาลสหรัฐฯ เสนอแนวคิดเปลี่ยนเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นการซื้อหุ้นในบริษัทชิป
    Howard Lutnick เสนอให้ถือหุ้น 10% ใน Intel เพื่อแลกกับเงินสนับสนุนกว่า $7.86 พันล้าน
    แนวคิดนี้อาจขยายไปยังบริษัทอื่น เช่น Micron, TSMC, Samsung และ GlobalFoundries
    เป้าหมายคือให้ผู้เสียภาษีได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ไม่ใช่แค่ให้เงินเปล่า
    รัฐบาลสหรัฐฯ เคยให้เงินสนับสนุน Samsung $4.75B, Micron $6.2B และ TSMC $6.6B
    Lutnick ระบุว่า “เราไม่สามารถพึ่งพาไต้หวันในการผลิตชิปขั้นสูงได้อีกต่อไป”
    แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากอดีตประธานาธิบดี Donald Trump
    กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กำลังเจรจาใหม่กับบริษัทที่เคยได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลก่อนหน้านี้
    การถือหุ้นจะไม่ให้สิทธิ์ในการบริหาร แต่จะให้รัฐบาลมีอิทธิพลทางยุทธศาสตร์
    มีการเปรียบเทียบกับการถือหุ้นของรัฐบาลจีนในบริษัทเทคโนโลยีของตนเอง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    รัฐบาลสหรัฐฯ เคยถือหุ้นในบริษัทเอกชนช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น GM และ AIG
    TSMC มีผู้ถือหุ้นจากหลายประเทศ เช่น รัฐบาลไต้หวันและกองทุนจากสิงคโปร์
    การถือหุ้นของรัฐอาจช่วยดึงดูดลูกค้ารายใหญ่ให้กับ Intel ที่กำลังขาดทุน
    Nvidia เคยทำข้อตกลงให้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ส่วนแบ่ง 15% จากการขายชิป H20 ให้จีน
    Pentagon เตรียมถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเหมืองเพื่อเพิ่มการผลิตแม่เหล็กหายาก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/chips-act-funding-could-herald-an-era-where-the-u-s-is-not-offering-grants-but-buying-equity-lutnicks-semiconductor-strategy-might-not-end-with-intel
    🎙️ CHIPS Act ไม่ใช่แค่เงินช่วยเหลืออีกต่อไป — รัฐบาลสหรัฐฯ อาจกลายเป็นผู้ถือหุ้นใน Intel และบริษัทชิปอื่น ๆ เดิมที CHIPS Act ถูกออกแบบมาเพื่อให้เงินสนับสนุนแก่บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในการสร้างโรงงานผลิตชิปในสหรัฐฯ แต่ล่าสุด Howard Lutnick รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เสนอแนวคิดใหม่ที่พลิกเกม: แทนที่จะให้เงินเปล่า รัฐบาลควร “ซื้อหุ้น” ในบริษัทเหล่านี้ เพื่อให้ผู้เสียภาษีได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน แนวคิดนี้เริ่มต้นจาก Intel ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนกว่า $7.86 พันล้าน และอาจได้รับเงินกู้เพิ่มอีก $11 พันล้าน แต่รัฐบาลกำลังพิจารณาถือหุ้น 10% ใน Intel เพื่อแลกกับเงินสนับสนุนดังกล่าว หากแนวทางนี้ขยายไปยังบริษัทอื่น เช่น Micron, TSMC, Samsung หรือ GlobalFoundries ก็อาจเปลี่ยนโฉมหน้าความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับเอกชนในอุตสาหกรรมชิปไปอย่างสิ้นเชิง แม้แนวคิดนี้จะดูเหมือนการลงทุนแบบ VC แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น บริษัทต่างชาติอย่าง Samsung หรือ TSMC อาจไม่ยอมให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้ามาถือหุ้นง่าย ๆ เพราะเกี่ยวข้องกับรัฐบาลของประเทศตนเอง และอาจซับซ้อนทางการเมือง อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้สะท้อนถึงความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากไต้หวัน ซึ่งผลิตชิปขั้นสูงกว่า 90% ของโลก และอยู่ห่างจากจีนเพียง 80 ไมล์ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ เสนอแนวคิดเปลี่ยนเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นการซื้อหุ้นในบริษัทชิป ➡️ Howard Lutnick เสนอให้ถือหุ้น 10% ใน Intel เพื่อแลกกับเงินสนับสนุนกว่า $7.86 พันล้าน ➡️ แนวคิดนี้อาจขยายไปยังบริษัทอื่น เช่น Micron, TSMC, Samsung และ GlobalFoundries ➡️ เป้าหมายคือให้ผู้เสียภาษีได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ไม่ใช่แค่ให้เงินเปล่า ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ เคยให้เงินสนับสนุน Samsung $4.75B, Micron $6.2B และ TSMC $6.6B ➡️ Lutnick ระบุว่า “เราไม่สามารถพึ่งพาไต้หวันในการผลิตชิปขั้นสูงได้อีกต่อไป” ➡️ แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ➡️ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กำลังเจรจาใหม่กับบริษัทที่เคยได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ ➡️ การถือหุ้นจะไม่ให้สิทธิ์ในการบริหาร แต่จะให้รัฐบาลมีอิทธิพลทางยุทธศาสตร์ ➡️ มีการเปรียบเทียบกับการถือหุ้นของรัฐบาลจีนในบริษัทเทคโนโลยีของตนเอง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ เคยถือหุ้นในบริษัทเอกชนช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น GM และ AIG ➡️ TSMC มีผู้ถือหุ้นจากหลายประเทศ เช่น รัฐบาลไต้หวันและกองทุนจากสิงคโปร์ ➡️ การถือหุ้นของรัฐอาจช่วยดึงดูดลูกค้ารายใหญ่ให้กับ Intel ที่กำลังขาดทุน ➡️ Nvidia เคยทำข้อตกลงให้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ส่วนแบ่ง 15% จากการขายชิป H20 ให้จีน ➡️ Pentagon เตรียมถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเหมืองเพื่อเพิ่มการผลิตแม่เหล็กหายาก https://www.tomshardware.com/tech-industry/chips-act-funding-could-herald-an-era-where-the-u-s-is-not-offering-grants-but-buying-equity-lutnicks-semiconductor-strategy-might-not-end-with-intel
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • Intel กำลังหายใจ – เมื่อยักษ์ใหญ่ต้องลดราคาหุ้นเพื่อความอยู่รอด

    ในเดือนสิงหาคม 2025 Intel กำลังเจรจากับนักลงทุนรายใหญ่เพื่อขอเงินทุนเพิ่มผ่านการขายหุ้นในราคาส่วนลด หลังจากเพิ่งได้รับเงินลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์จาก SoftBank ที่ซื้อหุ้นในราคา $23 ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาปิดเล็กน้อย

    การระดมทุนนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของ Intel ที่จะฟื้นฟูธุรกิจผลิตชิปในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในตลาด AI ที่ถูกครอบครองโดย Nvidia และ TSMC มานานหลายปี เนื่องจากความผิดพลาดในการบริหารและการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล่าช้า

    รัฐบาลสหรัฐฯ โดยรัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick เสนอให้เปลี่ยนเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นหุ้นของ Intel ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลถือหุ้นถึง 10% และกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด

    Intel ต้องการเงินทุนมหาศาลถึง $40 พันล้านเพื่อแข่งขันในตลาดชิประดับสูง โดยเฉพาะโครงการโรงงานผลิตชิปในรัฐโอไฮโอที่ล่าช้ามาหลายปี และการยกเลิกโครงการในเยอรมนีและโปแลนด์

    แม้ SoftBank จะไม่ขอที่นั่งในบอร์ด แต่การลงทุนครั้งนี้ถือเป็น “เดิมพัน” ว่า Intel จะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ และกลับมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมชิปอีกครั้ง

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Intel กำลังเจรจากับนักลงทุนรายใหญ่เพื่อระดมทุนผ่านการขายหุ้นราคาส่วนลด
    SoftBank ลงทุน $2 พันล้าน ซื้อหุ้นที่ $23 ต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 2%
    หุ้น Intel ร่วง 7% หลังข่าวการระดมทุนเพิ่มเติม
    รัฐบาลสหรัฐฯ เสนอเปลี่ยนเงินสนับสนุน CHIPS Act เป็นหุ้นของ Intel
    หากเปลี่ยนทั้งหมด รัฐบาลจะถือหุ้นถึง 10%
    Intel ต้องการเงินทุนรวมประมาณ $40 พันล้านเพื่อแข่งขันในตลาดชิป
    โครงการโรงงานในโอไฮโอล่าช้า และโครงการในเยอรมนี-โปแลนด์ถูกยกเลิก
    SoftBank ไม่ขอที่นั่งในบอร์ด และไม่มีข้อผูกพันในการซื้อชิปจาก Intel
    CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan เข้ามาแทน Pat Gelsinger ตั้งแต่มีนาคม 2025
    Intel เคยขาดทุน $18.8 พันล้านในปี 2024 ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1986

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SoftBank มีแผนลงทุน $30 พันล้านใน OpenAI และโครงการ Stargate ร่วมกับ Oracle
    Foxconn จะผลิตอุปกรณ์ดาต้าเซ็นเตอร์ในโรงงานเดิมที่โอไฮโอให้ SoftBank
    BlackRock และ Vanguard เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Intel อยู่แล้ว
    การถือหุ้นโดยรัฐบาลสหรัฐฯ อาจเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารของ Intel
    ตลาดชิป AI มีมูลค่ามากกว่า $500 พันล้าน และเติบโตอย่างรวดเร็ว
    Intel ยังไม่มีลูกค้าหลักในธุรกิจผลิตชิปตามสั่ง (foundry)

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/20/intel-in-talks-with-large-investors-for-equity-boost-at-discount-cnbc-reports
    💬 Intel กำลังหายใจ – เมื่อยักษ์ใหญ่ต้องลดราคาหุ้นเพื่อความอยู่รอด ในเดือนสิงหาคม 2025 Intel กำลังเจรจากับนักลงทุนรายใหญ่เพื่อขอเงินทุนเพิ่มผ่านการขายหุ้นในราคาส่วนลด หลังจากเพิ่งได้รับเงินลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์จาก SoftBank ที่ซื้อหุ้นในราคา $23 ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาปิดเล็กน้อย การระดมทุนนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของ Intel ที่จะฟื้นฟูธุรกิจผลิตชิปในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในตลาด AI ที่ถูกครอบครองโดย Nvidia และ TSMC มานานหลายปี เนื่องจากความผิดพลาดในการบริหารและการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล่าช้า รัฐบาลสหรัฐฯ โดยรัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick เสนอให้เปลี่ยนเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นหุ้นของ Intel ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลถือหุ้นถึง 10% และกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด Intel ต้องการเงินทุนมหาศาลถึง $40 พันล้านเพื่อแข่งขันในตลาดชิประดับสูง โดยเฉพาะโครงการโรงงานผลิตชิปในรัฐโอไฮโอที่ล่าช้ามาหลายปี และการยกเลิกโครงการในเยอรมนีและโปแลนด์ แม้ SoftBank จะไม่ขอที่นั่งในบอร์ด แต่การลงทุนครั้งนี้ถือเป็น “เดิมพัน” ว่า Intel จะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ และกลับมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมชิปอีกครั้ง 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Intel กำลังเจรจากับนักลงทุนรายใหญ่เพื่อระดมทุนผ่านการขายหุ้นราคาส่วนลด ➡️ SoftBank ลงทุน $2 พันล้าน ซื้อหุ้นที่ $23 ต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 2% ➡️ หุ้น Intel ร่วง 7% หลังข่าวการระดมทุนเพิ่มเติม ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ เสนอเปลี่ยนเงินสนับสนุน CHIPS Act เป็นหุ้นของ Intel ➡️ หากเปลี่ยนทั้งหมด รัฐบาลจะถือหุ้นถึง 10% ➡️ Intel ต้องการเงินทุนรวมประมาณ $40 พันล้านเพื่อแข่งขันในตลาดชิป ➡️ โครงการโรงงานในโอไฮโอล่าช้า และโครงการในเยอรมนี-โปแลนด์ถูกยกเลิก ➡️ SoftBank ไม่ขอที่นั่งในบอร์ด และไม่มีข้อผูกพันในการซื้อชิปจาก Intel ➡️ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan เข้ามาแทน Pat Gelsinger ตั้งแต่มีนาคม 2025 ➡️ Intel เคยขาดทุน $18.8 พันล้านในปี 2024 ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1986 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SoftBank มีแผนลงทุน $30 พันล้านใน OpenAI และโครงการ Stargate ร่วมกับ Oracle ➡️ Foxconn จะผลิตอุปกรณ์ดาต้าเซ็นเตอร์ในโรงงานเดิมที่โอไฮโอให้ SoftBank ➡️ BlackRock และ Vanguard เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Intel อยู่แล้ว ➡️ การถือหุ้นโดยรัฐบาลสหรัฐฯ อาจเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารของ Intel ➡️ ตลาดชิป AI มีมูลค่ามากกว่า $500 พันล้าน และเติบโตอย่างรวดเร็ว ➡️ Intel ยังไม่มีลูกค้าหลักในธุรกิจผลิตชิปตามสั่ง (foundry) https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/20/intel-in-talks-with-large-investors-for-equity-boost-at-discount-cnbc-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Intel in talks with large investors for equity boost at discount, CNBC reports
    (Reuters) -Intel is in talks with other large investors to receive an equity infusion at a discounted price, CNBC reported on Wednesday, just days after the chipmaker got a $2 billion capital injection from SoftBank Group.
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • แคมโบเดีย โคล่า น้ำอัดลมชาตินิยมเศรษฐีเขมร

    กระแสความไม่พอใจของชาวกัมพูชา หลังโคคา-โคล่า กัมพูชา ลบรูปแวนด้า (Vann Da) หรือ วัณณ์ฎา มาน (Vannda Mann) นักร้องเพลงแร็ปชาวเขมร ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องดื่มโคคา-โคล่าออกจากสื่อโฆษณา แม้นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จะออกมาปรามว่าโคคา-โคล่า เป็นแบรนด์จากสหรัฐฯ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ขายในกัมพูชา ผลิตโดยแรงงานชาวกัมพูชา สร้างรายได้และเงินภาษีให้กับรัฐบาล หากโคคา-โคล่าถอนตัวออกจากกัมพูชา ประเทศจะเสียหาย ถึงกระนั้น ยังมีภาคธุรกิจชาวกัมพูชาอย่างชิปมงกรุ๊ป (Chip Mong Group) สบโอกาสเปิดตัวน้ำอัดลมแบรนด์ใหม่ แคมโบเดีย โคล่า (Cambodia Cola)

    แคมโบเดีย โคล่า ผลิตโดยบริษัทขแมร์เบเวอเรจ (Khmer Beverages) ในเครือชิปมงกรุ๊ป ในสโลแกน "เติมความซ่ากับรสชาติแห่งความสุข" (Fizz Up the Flavor of Joy) ปัดฝุ่นเพจเฟซบุ๊ก Vikingz ของเครื่องดื่มชูกำลังที่หยุดจำหน่ายไปแล้ว และมีผู้ติดตามเพจราว 4 หมื่นรายมาปัดฝุ่นใหม่ พร้อมเผยแพร่วิดีโอคลิปโฆษณาเชิงซีเอสอาร์ ชูความเป็นผลิตภัณฑ์เขมร ผลิตในโรงงานเขมร ของผู้ประกอบการเขมร 100% เชิญชวนมาอุดหนุนสินค้าเขมรด้วยกัน และกิจกรรมเยี่ยมครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนกัมพูชา-ไทย พร้อมมอบเงินแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 20 ล้านเรียล และทหารที่บาดเจ็บ 2 ล้านเรียล

    อย่างไรก็ตาม แคมโบเดีย โคล่า ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการเครื่องดื่ม เพราะขแมร์เบเวอเรจ เป็นผู้ผลิตเบียร์แคมโบเดีย (Cambodia Beer) และน้ำดื่มตราแคมโบเดียวอเตอร์ (Cambodia Water) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 7 ล้านเฮกโตลิตรต่อปี โดยก่อนหน้านี้ได้ผลิตน้ำอัดลมทั้งน้ำดำและน้ำสียี่ห้อไอซ์ (IZE) เครื่องดื่มชูกำลังตราเวิร์คซ์ (WURKZ) วางจำหน่ายในปี 2560 แม้จะออกผลิตภัณฑ์ซ้ำซ้อนกันแต่เป็นไปได้ว่าเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างกัน เน้นไปที่กระแสชาตินิยมสู้ศึกต่างชาติอย่างโคคา-โคล่าและเป๊ปซี่

    สำหรับชิปมง กรุ๊ป เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทในประเทศกัมพูชารายใหญ่ที่สุด ก่อตั้งโดยมาดามเพี๊ยบ เฮียก (Pheap Heak) เมื่อปี 2525 เริ่มจากนำเข้าเหล็ก ก่อนจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ กระเบื้อง อสังหาริมทรัพย์ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์กระป๋อง อาหารสัตว์ ค้าปลีก ศูนย์การค้า โรงแรมหรูอย่างไฮแอท รีเจนซี่ พนมเปญ และแฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท พนมเปญ สนามกอล์ฟแกรนด์ รอยัล กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท ธนาคารชิปมง มีบริษัทร่วมทุนกับประเทศไทย เช่น ชิปมงอินทรี ผลิตปูนซีเมนต์ในจังหวัดกำปอด ร่วมกับ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง และชิปมงฤทธา ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ร่วมกับบริษัทฤทธา

    #Newskit
    แคมโบเดีย โคล่า น้ำอัดลมชาตินิยมเศรษฐีเขมร กระแสความไม่พอใจของชาวกัมพูชา หลังโคคา-โคล่า กัมพูชา ลบรูปแวนด้า (Vann Da) หรือ วัณณ์ฎา มาน (Vannda Mann) นักร้องเพลงแร็ปชาวเขมร ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องดื่มโคคา-โคล่าออกจากสื่อโฆษณา แม้นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จะออกมาปรามว่าโคคา-โคล่า เป็นแบรนด์จากสหรัฐฯ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ขายในกัมพูชา ผลิตโดยแรงงานชาวกัมพูชา สร้างรายได้และเงินภาษีให้กับรัฐบาล หากโคคา-โคล่าถอนตัวออกจากกัมพูชา ประเทศจะเสียหาย ถึงกระนั้น ยังมีภาคธุรกิจชาวกัมพูชาอย่างชิปมงกรุ๊ป (Chip Mong Group) สบโอกาสเปิดตัวน้ำอัดลมแบรนด์ใหม่ แคมโบเดีย โคล่า (Cambodia Cola) แคมโบเดีย โคล่า ผลิตโดยบริษัทขแมร์เบเวอเรจ (Khmer Beverages) ในเครือชิปมงกรุ๊ป ในสโลแกน "เติมความซ่ากับรสชาติแห่งความสุข" (Fizz Up the Flavor of Joy) ปัดฝุ่นเพจเฟซบุ๊ก Vikingz ของเครื่องดื่มชูกำลังที่หยุดจำหน่ายไปแล้ว และมีผู้ติดตามเพจราว 4 หมื่นรายมาปัดฝุ่นใหม่ พร้อมเผยแพร่วิดีโอคลิปโฆษณาเชิงซีเอสอาร์ ชูความเป็นผลิตภัณฑ์เขมร ผลิตในโรงงานเขมร ของผู้ประกอบการเขมร 100% เชิญชวนมาอุดหนุนสินค้าเขมรด้วยกัน และกิจกรรมเยี่ยมครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนกัมพูชา-ไทย พร้อมมอบเงินแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 20 ล้านเรียล และทหารที่บาดเจ็บ 2 ล้านเรียล อย่างไรก็ตาม แคมโบเดีย โคล่า ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการเครื่องดื่ม เพราะขแมร์เบเวอเรจ เป็นผู้ผลิตเบียร์แคมโบเดีย (Cambodia Beer) และน้ำดื่มตราแคมโบเดียวอเตอร์ (Cambodia Water) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 7 ล้านเฮกโตลิตรต่อปี โดยก่อนหน้านี้ได้ผลิตน้ำอัดลมทั้งน้ำดำและน้ำสียี่ห้อไอซ์ (IZE) เครื่องดื่มชูกำลังตราเวิร์คซ์ (WURKZ) วางจำหน่ายในปี 2560 แม้จะออกผลิตภัณฑ์ซ้ำซ้อนกันแต่เป็นไปได้ว่าเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างกัน เน้นไปที่กระแสชาตินิยมสู้ศึกต่างชาติอย่างโคคา-โคล่าและเป๊ปซี่ สำหรับชิปมง กรุ๊ป เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทในประเทศกัมพูชารายใหญ่ที่สุด ก่อตั้งโดยมาดามเพี๊ยบ เฮียก (Pheap Heak) เมื่อปี 2525 เริ่มจากนำเข้าเหล็ก ก่อนจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ กระเบื้อง อสังหาริมทรัพย์ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์กระป๋อง อาหารสัตว์ ค้าปลีก ศูนย์การค้า โรงแรมหรูอย่างไฮแอท รีเจนซี่ พนมเปญ และแฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท พนมเปญ สนามกอล์ฟแกรนด์ รอยัล กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท ธนาคารชิปมง มีบริษัทร่วมทุนกับประเทศไทย เช่น ชิปมงอินทรี ผลิตปูนซีเมนต์ในจังหวัดกำปอด ร่วมกับ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง และชิปมงฤทธา ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ร่วมกับบริษัทฤทธา #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • TSMC ขึ้นราคาชิป 2nm เป็น $30,000 ต่อเวเฟอร์ – โรงงานในสหรัฐฯ เริ่มทำกำไรต่อเนื่อง

    TSMC ผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก เตรียมขึ้นราคาชิปขนาด 2 นาโนเมตรเป็น $30,000 ต่อเวเฟอร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 66% จากราคาชิป 3nm ที่เคยอยู่ที่ประมาณ $18,000 โดยราคานี้สะท้อนต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และเป็นกลยุทธ์ของ TSMC ที่ต้องการคัดกรองลูกค้าให้เหลือเฉพาะบริษัทที่สามารถจ่ายเพื่อเทคโนโลยีระดับสูง เช่น Apple, NVIDIA, AMD และ Intel

    แม้ราคาจะสูง แต่ TSMC รายงานว่า yield หรืออัตราการผลิตสำเร็จของชิป 2nm เริ่มแตะระดับ 90% สำหรับชิป SRAM ขนาดเล็ก ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณดีสำหรับการเข้าสู่การผลิตจำนวนมากภายในปีนี้ โดย Apple คาดว่าจะใช้ชิป 2nm ใน iPhone 18 Pro และ AMD จะใช้ใน Zen 6 “Venice” CPUs

    ด้านโรงงานในรัฐแอริโซนา ซึ่งเคยถูกวิจารณ์เรื่องต้นทุนสูง ตอนนี้กลับทำกำไรได้ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง โดยมีรายได้กว่า NT$4.2 พันล้านในไตรมาสล่าสุด และมีลูกค้าหลักคือ Apple, NVIDIA และ AMD ซึ่งช่วยให้มีคำสั่งซื้อที่มั่นคง

    อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าค่าเสื่อมราคาของโรงงานในสหรัฐฯ อาจกระทบต่อกำไรในระยะยาว และโรงงานในญี่ปุ่นของ TSMC ยังขาดทุนอยู่ในครึ่งปีแรก

    ข้อมูลจากข่าวหลัก
    TSMC ขึ้นราคาชิป 2nm เป็น $30,000 ต่อเวเฟอร์ เพิ่มขึ้น 66% จาก 3nm
    Yield ของชิป 2nm แตะระดับ 90% สำหรับชิป SRAM ขนาดเล็ก
    Apple, AMD, NVIDIA และ Intel เตรียมใช้เทคโนโลยี 2nm ในผลิตภัณฑ์ใหม่
    โรงงาน TSMC ในรัฐแอริโซนาเริ่มทำกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง
    รายได้ล่าสุดของโรงงานแอริโซนาอยู่ที่ NT$4.2 พันล้าน
    โรงงานนี้เริ่มผลิตชิป 4nm ตั้งแต่ Q4 ปี 2024
    ลูกค้าหลักของโรงงานคือ Apple, NVIDIA และ AMD
    TSMC เตรียมขยายโรงงานในสหรัฐฯ เพิ่มอีกสองแห่ง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ชิป 2nm ใช้สถาปัตยกรรม Gate-All-Around (GAA) เพื่อควบคุมกระแสไฟฟ้าได้แม่นยำขึ้น
    N2P และ N2X จะเป็นรุ่นต่อยอดจาก 2nm โดยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน
    ราคาชิปอาจแตะ $45,000 ต่อเวเฟอร์เมื่อเข้าสู่ยุค 1.4nm (Angstrom era)
    การขึ้นราคาชิปสะท้อนว่าต้นทุนต่อทรานซิสเตอร์ไม่ได้ลดลงอีกแล้ว
    Samsung ยังมี yield ต่ำกว่า TSMC ที่ประมาณ 40% และใช้กลยุทธ์ราคาถูกเพื่อดึงลูกค้า
    โรงงานในญี่ปุ่นของ TSMC ยังขาดทุน และไม่ผลิตชิปรุ่นล่าสุด

    https://wccftech.com/tsmc-latest-chips-to-get-super-expensive-with-30k-wafer-tag-us-arizona-plant-becomes-profitable-for-second-consecutive-quarter/
    🏭 TSMC ขึ้นราคาชิป 2nm เป็น $30,000 ต่อเวเฟอร์ – โรงงานในสหรัฐฯ เริ่มทำกำไรต่อเนื่อง TSMC ผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก เตรียมขึ้นราคาชิปขนาด 2 นาโนเมตรเป็น $30,000 ต่อเวเฟอร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 66% จากราคาชิป 3nm ที่เคยอยู่ที่ประมาณ $18,000 โดยราคานี้สะท้อนต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และเป็นกลยุทธ์ของ TSMC ที่ต้องการคัดกรองลูกค้าให้เหลือเฉพาะบริษัทที่สามารถจ่ายเพื่อเทคโนโลยีระดับสูง เช่น Apple, NVIDIA, AMD และ Intel แม้ราคาจะสูง แต่ TSMC รายงานว่า yield หรืออัตราการผลิตสำเร็จของชิป 2nm เริ่มแตะระดับ 90% สำหรับชิป SRAM ขนาดเล็ก ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณดีสำหรับการเข้าสู่การผลิตจำนวนมากภายในปีนี้ โดย Apple คาดว่าจะใช้ชิป 2nm ใน iPhone 18 Pro และ AMD จะใช้ใน Zen 6 “Venice” CPUs ด้านโรงงานในรัฐแอริโซนา ซึ่งเคยถูกวิจารณ์เรื่องต้นทุนสูง ตอนนี้กลับทำกำไรได้ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง โดยมีรายได้กว่า NT$4.2 พันล้านในไตรมาสล่าสุด และมีลูกค้าหลักคือ Apple, NVIDIA และ AMD ซึ่งช่วยให้มีคำสั่งซื้อที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าค่าเสื่อมราคาของโรงงานในสหรัฐฯ อาจกระทบต่อกำไรในระยะยาว และโรงงานในญี่ปุ่นของ TSMC ยังขาดทุนอยู่ในครึ่งปีแรก ✅ ข้อมูลจากข่าวหลัก ➡️ TSMC ขึ้นราคาชิป 2nm เป็น $30,000 ต่อเวเฟอร์ เพิ่มขึ้น 66% จาก 3nm ➡️ Yield ของชิป 2nm แตะระดับ 90% สำหรับชิป SRAM ขนาดเล็ก ➡️ Apple, AMD, NVIDIA และ Intel เตรียมใช้เทคโนโลยี 2nm ในผลิตภัณฑ์ใหม่ ➡️ โรงงาน TSMC ในรัฐแอริโซนาเริ่มทำกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง ➡️ รายได้ล่าสุดของโรงงานแอริโซนาอยู่ที่ NT$4.2 พันล้าน ➡️ โรงงานนี้เริ่มผลิตชิป 4nm ตั้งแต่ Q4 ปี 2024 ➡️ ลูกค้าหลักของโรงงานคือ Apple, NVIDIA และ AMD ➡️ TSMC เตรียมขยายโรงงานในสหรัฐฯ เพิ่มอีกสองแห่ง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ชิป 2nm ใช้สถาปัตยกรรม Gate-All-Around (GAA) เพื่อควบคุมกระแสไฟฟ้าได้แม่นยำขึ้น ➡️ N2P และ N2X จะเป็นรุ่นต่อยอดจาก 2nm โดยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน ➡️ ราคาชิปอาจแตะ $45,000 ต่อเวเฟอร์เมื่อเข้าสู่ยุค 1.4nm (Angstrom era) ➡️ การขึ้นราคาชิปสะท้อนว่าต้นทุนต่อทรานซิสเตอร์ไม่ได้ลดลงอีกแล้ว ➡️ Samsung ยังมี yield ต่ำกว่า TSMC ที่ประมาณ 40% และใช้กลยุทธ์ราคาถูกเพื่อดึงลูกค้า ➡️ โรงงานในญี่ปุ่นของ TSMC ยังขาดทุน และไม่ผลิตชิปรุ่นล่าสุด https://wccftech.com/tsmc-latest-chips-to-get-super-expensive-with-30k-wafer-tag-us-arizona-plant-becomes-profitable-for-second-consecutive-quarter/
    WCCFTECH.COM
    TSMC Latest Chips To Get Super Expensive With $30k/Wafer Tag - US Arizona Plant Becomes Profitable For Second Consecutive Quarter
    TSMC charges $30,000 per 2nm wafer as it enters mass production, achieving profitability at its Arizona fab with NT$4.2 billion in Q2 profit.
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • AI Token Factory: โรงงานผลิตความฉลาดแห่งยุคใหม่

    ในอดีต เราวัดพลังคอมพิวเตอร์ด้วย CPU หรือ GPU แต่ในยุค AI ที่มีโมเดลขนาดมหึมาอย่าง GPT-4, Claude หรือ Gemini สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “โทเคน” ซึ่งเป็นหน่วยข้อมูลที่ AI ใช้ในการคิด วิเคราะห์ และตอบสนองต่อคำสั่งของผู้ใช้

    AI Token Factory คือระบบที่ออกแบบมาเพื่อผลิตโทเคนให้ได้มากที่สุดต่อวินาที โดยใช้ GPU จำนวนมหาศาล เช่นระบบ Colossus 1 ของ xAI ที่ใช้ NVIDIA H100 กว่า 100,000 ตัว และ Colossus 2 ที่จะใช้ GB200 และ GB300 มากกว่า 550,000 ตัว เพื่อรองรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI ขนาดใหญ่

    Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA อธิบายว่า AI Factory คือโรงงานที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าและข้อมูลดิบให้กลายเป็นความฉลาด พร้อมเปิดตัว Blackwell Ultra ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้ถึง 50 เท่าเมื่อเทียบกับ Hopper รุ่นก่อนหน้า

    ในยุค “agentic AI” ที่กำลังมาถึง AI จะไม่เพียงแค่ตอบคำถาม แต่จะทำงานแทนมนุษย์โดยอัตโนมัติ เช่น วางแผนงาน ค้นคว้า หรือออกแบบโมเลกุล โดยใช้โทเคนจำนวนมหาศาลในการประมวลผล ซึ่งทำให้แม้แต่ศูนย์ข้อมูลที่มี GPU เป็นล้านตัวก็ยังไม่พอ

    Cisco รายงานว่า inference แบบ agentic ใช้ทรัพยากรมากกว่าการแชททั่วไปหลายเท่า และ Google ก็เปิดเผยว่า API ของตนให้บริการโทเคนกว่า 980 ล้านล้านต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 480 ล้านล้านในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

    ข้อมูลจากข่าวหลัก
    AI Token Factory คือระบบที่ออกแบบมาเพื่อผลิตโทเคน AI ให้ได้มากที่สุด
    โทเคนคือหน่วยพื้นฐานที่ AI ใช้ในการคิด วิเคราะห์ และตอบสนอง
    xAI ใช้ GPU กว่า 100,000 ตัวใน Colossus 1 และจะใช้กว่า 550,000 ตัวใน Colossus 2
    NVIDIA เปิดตัว Blackwell Ultra ที่เพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 50 เท่าเมื่อเทียบกับ Hopper
    AI Factory คือโรงงานที่เปลี่ยนพลังงานและข้อมูลให้กลายเป็นความฉลาด
    ในยุค agentic AI โมเดลจะทำงานแทนมนุษย์โดยอัตโนมัติ
    Cisco และ Google รายงานว่าความต้องการโทเคนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
    Google ให้บริการโทเคนกว่า 980 ล้านล้านต่อเดือนผ่าน API
    AI Factory ประกอบด้วย GPU, networking, software, storage และระบบจัดการ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    NVIDIA GB300 NVL72 เชื่อมต่อ GPU 72 ตัวและ Grace CPU 36 ตัวในระบบเดียว
    Blackwell Ultra มี inference เร็วขึ้น 11 เท่า และหน่วยความจำใหญ่ขึ้น 4 เท่า
    NVIDIA Dynamo เป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่ช่วยจัดการงาน inference แบบอัตโนมัติ
    บริษัทอย่าง Zoom, Deloitte เริ่มนำ agentic AI ไปใช้ในระบบงานจริง
    Blackwell Ultra จะให้บริการผ่าน DGX Cloud และผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่
    AI Factory ถูกมองว่าเป็นเครื่องจักรแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคใหม่

    https://www.techpowerup.com/340014/ai-token-factory-is-the-new-unit-of-computing
    🏗️ AI Token Factory: โรงงานผลิตความฉลาดแห่งยุคใหม่ ในอดีต เราวัดพลังคอมพิวเตอร์ด้วย CPU หรือ GPU แต่ในยุค AI ที่มีโมเดลขนาดมหึมาอย่าง GPT-4, Claude หรือ Gemini สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “โทเคน” ซึ่งเป็นหน่วยข้อมูลที่ AI ใช้ในการคิด วิเคราะห์ และตอบสนองต่อคำสั่งของผู้ใช้ AI Token Factory คือระบบที่ออกแบบมาเพื่อผลิตโทเคนให้ได้มากที่สุดต่อวินาที โดยใช้ GPU จำนวนมหาศาล เช่นระบบ Colossus 1 ของ xAI ที่ใช้ NVIDIA H100 กว่า 100,000 ตัว และ Colossus 2 ที่จะใช้ GB200 และ GB300 มากกว่า 550,000 ตัว เพื่อรองรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI ขนาดใหญ่ Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA อธิบายว่า AI Factory คือโรงงานที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าและข้อมูลดิบให้กลายเป็นความฉลาด พร้อมเปิดตัว Blackwell Ultra ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้ถึง 50 เท่าเมื่อเทียบกับ Hopper รุ่นก่อนหน้า ในยุค “agentic AI” ที่กำลังมาถึง AI จะไม่เพียงแค่ตอบคำถาม แต่จะทำงานแทนมนุษย์โดยอัตโนมัติ เช่น วางแผนงาน ค้นคว้า หรือออกแบบโมเลกุล โดยใช้โทเคนจำนวนมหาศาลในการประมวลผล ซึ่งทำให้แม้แต่ศูนย์ข้อมูลที่มี GPU เป็นล้านตัวก็ยังไม่พอ Cisco รายงานว่า inference แบบ agentic ใช้ทรัพยากรมากกว่าการแชททั่วไปหลายเท่า และ Google ก็เปิดเผยว่า API ของตนให้บริการโทเคนกว่า 980 ล้านล้านต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 480 ล้านล้านในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ✅ ข้อมูลจากข่าวหลัก ➡️ AI Token Factory คือระบบที่ออกแบบมาเพื่อผลิตโทเคน AI ให้ได้มากที่สุด ➡️ โทเคนคือหน่วยพื้นฐานที่ AI ใช้ในการคิด วิเคราะห์ และตอบสนอง ➡️ xAI ใช้ GPU กว่า 100,000 ตัวใน Colossus 1 และจะใช้กว่า 550,000 ตัวใน Colossus 2 ➡️ NVIDIA เปิดตัว Blackwell Ultra ที่เพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 50 เท่าเมื่อเทียบกับ Hopper ➡️ AI Factory คือโรงงานที่เปลี่ยนพลังงานและข้อมูลให้กลายเป็นความฉลาด ➡️ ในยุค agentic AI โมเดลจะทำงานแทนมนุษย์โดยอัตโนมัติ ➡️ Cisco และ Google รายงานว่าความต้องการโทเคนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ➡️ Google ให้บริการโทเคนกว่า 980 ล้านล้านต่อเดือนผ่าน API ➡️ AI Factory ประกอบด้วย GPU, networking, software, storage และระบบจัดการ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ NVIDIA GB300 NVL72 เชื่อมต่อ GPU 72 ตัวและ Grace CPU 36 ตัวในระบบเดียว ➡️ Blackwell Ultra มี inference เร็วขึ้น 11 เท่า และหน่วยความจำใหญ่ขึ้น 4 เท่า ➡️ NVIDIA Dynamo เป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่ช่วยจัดการงาน inference แบบอัตโนมัติ ➡️ บริษัทอย่าง Zoom, Deloitte เริ่มนำ agentic AI ไปใช้ในระบบงานจริง ➡️ Blackwell Ultra จะให้บริการผ่าน DGX Cloud และผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ ➡️ AI Factory ถูกมองว่าเป็นเครื่องจักรแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคใหม่ https://www.techpowerup.com/340014/ai-token-factory-is-the-new-unit-of-computing
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AI Token Factory is the New Unit of Computing
    First, it was the CPU; after came the GPU; then all parallel workloads started running on GPUs, integrated or hyperscale. Similarly, the large language models we use today have adapted to the parallel nature of data processing on the GPU. The scale at which AI workloads operate is much larger than m...
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • SoftBank ซื้อโรงงาน Foxconn ในโอไฮโอ: จุดเริ่มต้นของจักรวาล AI ชื่อ Stargate

    SoftBank ได้ซื้อโรงงานขนาดใหญ่ในเมือง Lordstown รัฐโอไฮโอ จาก Foxconn ด้วยมูลค่า $375 ล้าน โรงงานนี้มีพื้นที่กว่า 6.2 ล้านตารางฟุต เดิมใช้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แต่จะถูกปรับเปลี่ยนเพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI และอุปกรณ์สำหรับศูนย์ข้อมูล Stargate ซึ่งเป็นโครงการยักษ์ที่มีเป้าหมายสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า $500 พันล้านในหลายปีข้างหน้า

    แม้ว่า SoftBank จะเป็นเจ้าของโรงงาน แต่ Foxconn จะยังคงเป็นผู้ดำเนินการผลิต โดยทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกันในรูปแบบพันธมิตรระยะยาว จุดเด่นของโรงงานนี้คือมีพลังงานไฟฟ้าสำรองมหาศาล และพื้นที่ขยายตัวได้อีกมาก ซึ่งเหมาะกับการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ต้องใช้พลังงานสูง

    SoftBank ยังอยู่ระหว่างการเลือกสถานที่ตั้งศูนย์ข้อมูล Stargate โดยพิจารณาจากแหล่งพลังงาน น้ำ และโครงสร้างโทรคมนาคม ซึ่งเมื่อสถานที่พร้อม โรงงานในโอไฮโอก็จะเป็นแหล่งผลิตเครื่องจักรหลักทันที

    นอกจากนี้ SoftBank ยังถือหุ้นในบริษัทผลิตชิปอย่าง Ampere และ Graphcore ซึ่งอาจนำชิปของตนมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI เพื่อลดการพึ่งพา Nvidia ที่ปัจจุบันครองตลาดอยู่

    ข้อมูลจากข่าวหลัก
    SoftBank ซื้อโรงงาน Foxconn ในโอไฮโอด้วยมูลค่า $375 ล้าน
    โรงงานมีขนาด 6.2 ล้านตารางฟุต ใหญ่กว่าศูนย์ผลิตในฮิวสตันถึง 6 เท่า
    Foxconn จะยังคงดำเนินการผลิต แม้โรงงานเป็นของ SoftBank
    โรงงานจะถูกปรับเปลี่ยนเพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI สำหรับโครงการ Stargate
    โครงการ Stargate มีเป้าหมายสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า $500 พันล้าน
    SoftBank กำลังเลือกสถานที่ตั้งศูนย์ข้อมูล โดยพิจารณาจากพลังงาน น้ำ และโครงสร้างโทรคมนาคม
    โรงงานโอไฮโอจะเป็นฐานผลิตหลักของ Stargate และรับคำสั่งซื้อจาก OpenAI, Oracle และ SoftBank
    Foxconn เป็นผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI รายใหญ่ที่สุดในโลก และกำลังขยายกำลังการผลิตในสหรัฐฯ
    SoftBank เคยประกาศลงทุน $100 พันล้านในโครงการนี้เมื่อเดือนมกราคม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SoftBank ถือหุ้นใน Ampere และ Graphcore ซึ่งผลิตชิปสำหรับ AI
    การใช้ชิปของตัวเองอาจช่วยลดต้นทุนและลดการพึ่งพา Nvidia
    Foxconn เคยใช้โรงงานนี้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ก่อนขายให้ SoftBank
    โครงการ Stargate ได้รับความสนใจจากธนาคารญี่ปุ่นและนักลงทุนสถาบันทั่วโลก
    SoftBank มีบริษัทลูกชื่อ SB Energy ที่พัฒนาโซลาร์ฟาร์มในสหรัฐฯ ซึ่งอาจใช้เป็นฐานพลังงานให้ Stargate

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/softbank-acquires-foxconns-ohio-facility-to-build-stargate-ai-servers-usd375-million-deal-says-foxconn-will-continue-to-operate-the-plant
    🏗️ SoftBank ซื้อโรงงาน Foxconn ในโอไฮโอ: จุดเริ่มต้นของจักรวาล AI ชื่อ Stargate SoftBank ได้ซื้อโรงงานขนาดใหญ่ในเมือง Lordstown รัฐโอไฮโอ จาก Foxconn ด้วยมูลค่า $375 ล้าน โรงงานนี้มีพื้นที่กว่า 6.2 ล้านตารางฟุต เดิมใช้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แต่จะถูกปรับเปลี่ยนเพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI และอุปกรณ์สำหรับศูนย์ข้อมูล Stargate ซึ่งเป็นโครงการยักษ์ที่มีเป้าหมายสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า $500 พันล้านในหลายปีข้างหน้า แม้ว่า SoftBank จะเป็นเจ้าของโรงงาน แต่ Foxconn จะยังคงเป็นผู้ดำเนินการผลิต โดยทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกันในรูปแบบพันธมิตรระยะยาว จุดเด่นของโรงงานนี้คือมีพลังงานไฟฟ้าสำรองมหาศาล และพื้นที่ขยายตัวได้อีกมาก ซึ่งเหมาะกับการผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ต้องใช้พลังงานสูง SoftBank ยังอยู่ระหว่างการเลือกสถานที่ตั้งศูนย์ข้อมูล Stargate โดยพิจารณาจากแหล่งพลังงาน น้ำ และโครงสร้างโทรคมนาคม ซึ่งเมื่อสถานที่พร้อม โรงงานในโอไฮโอก็จะเป็นแหล่งผลิตเครื่องจักรหลักทันที นอกจากนี้ SoftBank ยังถือหุ้นในบริษัทผลิตชิปอย่าง Ampere และ Graphcore ซึ่งอาจนำชิปของตนมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI เพื่อลดการพึ่งพา Nvidia ที่ปัจจุบันครองตลาดอยู่ ✅ ข้อมูลจากข่าวหลัก ➡️ SoftBank ซื้อโรงงาน Foxconn ในโอไฮโอด้วยมูลค่า $375 ล้าน ➡️ โรงงานมีขนาด 6.2 ล้านตารางฟุต ใหญ่กว่าศูนย์ผลิตในฮิวสตันถึง 6 เท่า ➡️ Foxconn จะยังคงดำเนินการผลิต แม้โรงงานเป็นของ SoftBank ➡️ โรงงานจะถูกปรับเปลี่ยนเพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI สำหรับโครงการ Stargate ➡️ โครงการ Stargate มีเป้าหมายสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า $500 พันล้าน ➡️ SoftBank กำลังเลือกสถานที่ตั้งศูนย์ข้อมูล โดยพิจารณาจากพลังงาน น้ำ และโครงสร้างโทรคมนาคม ➡️ โรงงานโอไฮโอจะเป็นฐานผลิตหลักของ Stargate และรับคำสั่งซื้อจาก OpenAI, Oracle และ SoftBank ➡️ Foxconn เป็นผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI รายใหญ่ที่สุดในโลก และกำลังขยายกำลังการผลิตในสหรัฐฯ ➡️ SoftBank เคยประกาศลงทุน $100 พันล้านในโครงการนี้เมื่อเดือนมกราคม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SoftBank ถือหุ้นใน Ampere และ Graphcore ซึ่งผลิตชิปสำหรับ AI ➡️ การใช้ชิปของตัวเองอาจช่วยลดต้นทุนและลดการพึ่งพา Nvidia ➡️ Foxconn เคยใช้โรงงานนี้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ก่อนขายให้ SoftBank ➡️ โครงการ Stargate ได้รับความสนใจจากธนาคารญี่ปุ่นและนักลงทุนสถาบันทั่วโลก ➡️ SoftBank มีบริษัทลูกชื่อ SB Energy ที่พัฒนาโซลาร์ฟาร์มในสหรัฐฯ ซึ่งอาจใช้เป็นฐานพลังงานให้ Stargate https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/softbank-acquires-foxconns-ohio-facility-to-build-stargate-ai-servers-usd375-million-deal-says-foxconn-will-continue-to-operate-the-plant
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • กลาโหมจัดใหญ่เปิดตัวอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ด้วยการทดสอบอาวุธทางยุทธวิธีของปืนในตระกูล คชสีห์ KOCHASI MOD2020 ในงาน MOD CHALLENGE 2025 วันที่ 9 กย.นี้ ที่ หัวหิน
    .
    ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (ศอว.ศอพท. ) จัดงานแสดงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและ
    การทดสอบอาวุธทางยุทธวิธี ด้วยปืน KOCHASI MOD2020 ปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มม. และ ปืน KOCHASI SAN9 ปืนพก ขนาด 9 มม. กับงาน MOD CHALLENGE 2025 ถือเป็นงานวิจัย และควบคุมการผลิตโดย "ศอว.ศอพท." โรงงานต้นแบบการวิจัยพัฒนาอาวุธ กับ “คชสีห์” แบรนด์ ยุทโธปกรณ์ทางทหารใหม่ไทยแท้ ด้วยมาตรฐานระดับสากลของปืนสัญชาติไทย ที่คิดและออกแบบโดยคนไทย ผลิตโดยคนไทย ด้วยวัตถุดิบในประเทศไทย เพื่อทหารของไทย

    การทดสอบอาวุธทางยุทธวิธีในครั้งนี้ เป็นการสะท้อนความสำเร็จในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และเป็นภาพสะท้อนของความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางเทคโนโลยีและการป้องกันตนเอง

    ร่วมชมศักยภาพเหล่าทัพทหารไทย ทั้ง 9 ทีม ผ่าน Live Streaming วันอังคารที่ 9 กันยายน 2568 เวลา 08.00 - 17.00 น. ถ่ายทอดสดทาง: Kochasi Weapon Plant

    Facebook: http://bit.ly/3JtfNXn
    YouTube: http://bit.ly/412tjHB
    กลาโหมจัดใหญ่เปิดตัวอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ด้วยการทดสอบอาวุธทางยุทธวิธีของปืนในตระกูล คชสีห์ KOCHASI MOD2020 ในงาน MOD CHALLENGE 2025 วันที่ 9 กย.นี้ ที่ หัวหิน . ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (ศอว.ศอพท. ) จัดงานแสดงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและ การทดสอบอาวุธทางยุทธวิธี ด้วยปืน KOCHASI MOD2020 ปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มม. และ ปืน KOCHASI SAN9 ปืนพก ขนาด 9 มม. กับงาน MOD CHALLENGE 2025 ถือเป็นงานวิจัย และควบคุมการผลิตโดย "ศอว.ศอพท." โรงงานต้นแบบการวิจัยพัฒนาอาวุธ กับ “คชสีห์” แบรนด์ ยุทโธปกรณ์ทางทหารใหม่ไทยแท้ ด้วยมาตรฐานระดับสากลของปืนสัญชาติไทย ที่คิดและออกแบบโดยคนไทย ผลิตโดยคนไทย ด้วยวัตถุดิบในประเทศไทย เพื่อทหารของไทย การทดสอบอาวุธทางยุทธวิธีในครั้งนี้ เป็นการสะท้อนความสำเร็จในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และเป็นภาพสะท้อนของความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางเทคโนโลยีและการป้องกันตนเอง ร่วมชมศักยภาพเหล่าทัพทหารไทย ทั้ง 9 ทีม ผ่าน Live Streaming วันอังคารที่ 9 กันยายน 2568 เวลา 08.00 - 17.00 น. ถ่ายทอดสดทาง: Kochasi Weapon Plant Facebook: http://bit.ly/3JtfNXn YouTube: http://bit.ly/412tjHB
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • จากนำเข้า สู่ผลิตเอง: สหรัฐฯ เริ่มผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนในประเทศ

    ในอดีต สหรัฐฯ ต้องพึ่งพาการนำเข้าแผ่นเวเฟอร์ซิลิกอนจากบริษัทในญี่ปุ่นและไต้หวัน เช่น Shin-Etsu และ Sumco เพื่อใช้เป็นฐานในการผลิตชิป แต่ในปี 2025 GlobalWafers ได้เปิดโรงงานแห่งใหม่ในเมือง Sherman รัฐเท็กซัส ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนขนาด 300 มม. ภายในประเทศ

    โรงงานนี้มีมูลค่าการลงทุนกว่า $3.5 พันล้าน และได้รับการสนับสนุนจาก CHIPS Act รวมถึงเงินลงทุนจาก Apple และ TSMC โดยมีเป้าหมายผลิตเวเฟอร์เดือนละ 300,000 แผ่นในเฟสแรก

    การผลิตในประเทศจะช่วยลดเวลาการขนส่ง เพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน และลดต้นทุนการผลิตให้กับบริษัทผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เช่น Texas Instruments, NVIDIA และ Samsung ที่มีโรงงานในเท็กซัส

    นอกจากนี้ GlobalWafers ยังมีแผนผลิตเวเฟอร์ชนิดพิเศษ เช่น SOI (Silicon-on-Insulator) สำหรับงานด้านอวกาศและกลาโหม และ SiC (Silicon Carbide) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาด

    การเปิดโรงงานนี้ยังสร้างงานกว่า 2,500 ตำแหน่ง และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์จากการพึ่งพาเอเชีย สู่การสร้างอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งในฝั่งตะวันตก

    ความสำเร็จของ GlobalWafers ในสหรัฐฯ
    เป็นบริษัทแรกที่ผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนขนาด 300 มม. ภายในสหรัฐฯ
    โรงงานตั้งอยู่ในเมือง Sherman รัฐเท็กซัส มูลค่าการลงทุน $3.5 พันล้าน
    ได้รับการสนับสนุนจาก CHIPS Act และเงินลงทุนจาก Apple และ TSMC
    ผลิตเวเฟอร์เดือนละ 300,000 แผ่นในเฟสแรก
    ลดการพึ่งพาการนำเข้าจากญี่ปุ่นและไต้หวัน
    ช่วยเสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมชิป
    สร้างงานกว่า 2,500 ตำแหน่งในเท็กซัสและมิสซูรี

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    GlobalWafers เป็นหนึ่งใน 5 ผู้นำตลาดเวเฟอร์โลก ร่วมกับ Shin-Etsu และ Sumco
    มีโรงงานในยุโรป เอเชีย และสหรัฐฯ ทำให้ลดต้นทุนขนส่งได้ถึง 5%
    เวเฟอร์ SOI ใช้ในงานอวกาศ กลาโหม และ HPC ด้วยคุณสมบัติกันรังสี
    เวเฟอร์ SiC ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าและระบบพลังงานสะอาด
    ตลาดเวเฟอร์คาดว่าจะเติบโต 5.5% ต่อปีในด้านพื้นที่ และ 2% ในด้านราคา
    GlobalWafers มีข้อตกลงระยะยาวกับลูกค้าเพื่อรักษาเสถียรภาพรายได้

    https://wccftech.com/u-s-chip-industry-reaches-another-milestone-as-globalwafers-becomes-the-first-firm-to-produce-silicon-wafers-domestically/
    🏭 จากนำเข้า สู่ผลิตเอง: สหรัฐฯ เริ่มผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนในประเทศ ในอดีต สหรัฐฯ ต้องพึ่งพาการนำเข้าแผ่นเวเฟอร์ซิลิกอนจากบริษัทในญี่ปุ่นและไต้หวัน เช่น Shin-Etsu และ Sumco เพื่อใช้เป็นฐานในการผลิตชิป แต่ในปี 2025 GlobalWafers ได้เปิดโรงงานแห่งใหม่ในเมือง Sherman รัฐเท็กซัส ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนขนาด 300 มม. ภายในประเทศ โรงงานนี้มีมูลค่าการลงทุนกว่า $3.5 พันล้าน และได้รับการสนับสนุนจาก CHIPS Act รวมถึงเงินลงทุนจาก Apple และ TSMC โดยมีเป้าหมายผลิตเวเฟอร์เดือนละ 300,000 แผ่นในเฟสแรก การผลิตในประเทศจะช่วยลดเวลาการขนส่ง เพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน และลดต้นทุนการผลิตให้กับบริษัทผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เช่น Texas Instruments, NVIDIA และ Samsung ที่มีโรงงานในเท็กซัส นอกจากนี้ GlobalWafers ยังมีแผนผลิตเวเฟอร์ชนิดพิเศษ เช่น SOI (Silicon-on-Insulator) สำหรับงานด้านอวกาศและกลาโหม และ SiC (Silicon Carbide) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาด การเปิดโรงงานนี้ยังสร้างงานกว่า 2,500 ตำแหน่ง และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์จากการพึ่งพาเอเชีย สู่การสร้างอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งในฝั่งตะวันตก ✅ ความสำเร็จของ GlobalWafers ในสหรัฐฯ ➡️ เป็นบริษัทแรกที่ผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนขนาด 300 มม. ภายในสหรัฐฯ ➡️ โรงงานตั้งอยู่ในเมือง Sherman รัฐเท็กซัส มูลค่าการลงทุน $3.5 พันล้าน ➡️ ได้รับการสนับสนุนจาก CHIPS Act และเงินลงทุนจาก Apple และ TSMC ➡️ ผลิตเวเฟอร์เดือนละ 300,000 แผ่นในเฟสแรก ➡️ ลดการพึ่งพาการนำเข้าจากญี่ปุ่นและไต้หวัน ➡️ ช่วยเสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมชิป ➡️ สร้างงานกว่า 2,500 ตำแหน่งในเท็กซัสและมิสซูรี ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ GlobalWafers เป็นหนึ่งใน 5 ผู้นำตลาดเวเฟอร์โลก ร่วมกับ Shin-Etsu และ Sumco ➡️ มีโรงงานในยุโรป เอเชีย และสหรัฐฯ ทำให้ลดต้นทุนขนส่งได้ถึง 5% ➡️ เวเฟอร์ SOI ใช้ในงานอวกาศ กลาโหม และ HPC ด้วยคุณสมบัติกันรังสี ➡️ เวเฟอร์ SiC ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าและระบบพลังงานสะอาด ➡️ ตลาดเวเฟอร์คาดว่าจะเติบโต 5.5% ต่อปีในด้านพื้นที่ และ 2% ในด้านราคา ➡️ GlobalWafers มีข้อตกลงระยะยาวกับลูกค้าเพื่อรักษาเสถียรภาพรายได้ https://wccftech.com/u-s-chip-industry-reaches-another-milestone-as-globalwafers-becomes-the-first-firm-to-produce-silicon-wafers-domestically/
    WCCFTECH.COM
    U.S. Chip Industry Reaches Another Massive Milestone as GlobalWafers Becomes the First Firm to Produce Silicon Wafers Domestically, Backed By Investments from Apple & TSMC
    America's chip industry is heading towards complete self-reliance, as GlobalWafers has announced plans to develop silicon wafers in Texas.
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • แผ่นซีดี: จากนวัตกรรมแห่งยุค สู่ความทรงจำที่ยังไม่จางหาย

    เมื่อ 43 ปีก่อน—วันที่ 17 สิงหาคม 1982—โรงงาน Polygram ในเยอรมนีได้ผลิตแผ่นซีดีเชิงพาณิชย์แผ่นแรกของโลก โดยบรรจุอัลบั้ม “The Visitors” ของ ABBA ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านจากยุคแอนะล็อกสู่ยุคดิจิทัล

    เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือความร่วมมือระหว่าง Sony และ Philips ที่เริ่มต้นในปี 1979 โดยตั้งเป้าสร้างแผ่นดิจิทัลที่สามารถบรรจุเพลงได้อย่างน้อย 74 นาที—ซึ่งเท่ากับความยาวของ Beethoven’s 9th Symphony ที่เป็นที่โปรดปรานของผู้บริหาร Sony

    มาตรฐาน Red Book ถูกกำหนดในปี 1980 และกลายเป็นรากฐานของการผลิตแผ่นซีดีทั่วโลก ทั้งในด้านเสียงและข้อมูล โดยต่อมาได้ขยายไปสู่ CD-ROM, CD-R และ CD-RW สำหรับการใช้งานในคอมพิวเตอร์

    ในปี 2000 ยอดขายซีดีในสหรัฐฯ พุ่งถึงจุดสูงสุดที่กว่า 943 ล้านแผ่นต่อปี ก่อนจะลดลงอย่างรวดเร็วในยุค MP3 และการสตรีม แต่ก็ยังมีแฟนเพลงบางกลุ่มที่นิยมฟังจากแผ่นจริง เช่น Taylor Swift ที่ออกอัลบั้มล่าสุดในรูปแบบซีดีถึง 20 เวอร์ชัน

    แม้จะดู “โบราณ” ในปี 2025 แต่แผ่นซีดียังมีบทบาทในด้านการเก็บข้อมูล การฟังเพลงแบบมีคุณภาพ และการเก็บสะสม โดยมีเครื่องอ่านซีดีแบบ USB ที่ยังวางขายอยู่ในราคาประหยัด

    จุดเริ่มต้นของแผ่นซีดี
    แผ่นซีดีเชิงพาณิชย์แผ่นแรกคือ “The Visitors” ของ ABBA ผลิตเมื่อ 17 ส.ค. 1982
    Sony และ Philips ร่วมมือกันตั้งแต่ปี 1979 เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้
    ขนาดแผ่น 12 ซม. ความจุ 74 นาที เพื่อรองรับ Beethoven’s 9th Symphony
    มาตรฐาน Red Book ถูกกำหนดในปี 1980 สำหรับซีดีเสียง
    แผ่นซีดีแรกในสหรัฐฯ คือ “Born in the U.S.A.” ของ Bruce Springsteen ปี 1984

    การพัฒนาและการใช้งาน
    ปี 1985 มีมาตรฐาน Yellow Book สำหรับซีดีข้อมูล (CD-ROM)
    ปี 1988 มีมาตรฐาน ISO 9660 สำหรับโครงสร้างไฟล์ในแผ่น
    ปี 1992 เริ่มมีเครื่องเขียนซีดี (CD burner) สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    ซีดีใช้เลเซอร์ 780 nm ในการอ่านและเขียนข้อมูล
    ความจุทั่วไป 650–700 MB หรือ 74–80 นาทีเสียง
    มีการพัฒนา Mini CD สำหรับซิงเกิลและไดรเวอร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/the-first-commercial-compact-disc-was-created-43-years-ago-today-nearly-one-billion-cds-were-shipped-per-year-in-early-2000s
    📼 แผ่นซีดี: จากนวัตกรรมแห่งยุค สู่ความทรงจำที่ยังไม่จางหาย เมื่อ 43 ปีก่อน—วันที่ 17 สิงหาคม 1982—โรงงาน Polygram ในเยอรมนีได้ผลิตแผ่นซีดีเชิงพาณิชย์แผ่นแรกของโลก โดยบรรจุอัลบั้ม “The Visitors” ของ ABBA ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านจากยุคแอนะล็อกสู่ยุคดิจิทัล เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือความร่วมมือระหว่าง Sony และ Philips ที่เริ่มต้นในปี 1979 โดยตั้งเป้าสร้างแผ่นดิจิทัลที่สามารถบรรจุเพลงได้อย่างน้อย 74 นาที—ซึ่งเท่ากับความยาวของ Beethoven’s 9th Symphony ที่เป็นที่โปรดปรานของผู้บริหาร Sony มาตรฐาน Red Book ถูกกำหนดในปี 1980 และกลายเป็นรากฐานของการผลิตแผ่นซีดีทั่วโลก ทั้งในด้านเสียงและข้อมูล โดยต่อมาได้ขยายไปสู่ CD-ROM, CD-R และ CD-RW สำหรับการใช้งานในคอมพิวเตอร์ ในปี 2000 ยอดขายซีดีในสหรัฐฯ พุ่งถึงจุดสูงสุดที่กว่า 943 ล้านแผ่นต่อปี ก่อนจะลดลงอย่างรวดเร็วในยุค MP3 และการสตรีม แต่ก็ยังมีแฟนเพลงบางกลุ่มที่นิยมฟังจากแผ่นจริง เช่น Taylor Swift ที่ออกอัลบั้มล่าสุดในรูปแบบซีดีถึง 20 เวอร์ชัน แม้จะดู “โบราณ” ในปี 2025 แต่แผ่นซีดียังมีบทบาทในด้านการเก็บข้อมูล การฟังเพลงแบบมีคุณภาพ และการเก็บสะสม โดยมีเครื่องอ่านซีดีแบบ USB ที่ยังวางขายอยู่ในราคาประหยัด ✅ จุดเริ่มต้นของแผ่นซีดี ➡️ แผ่นซีดีเชิงพาณิชย์แผ่นแรกคือ “The Visitors” ของ ABBA ผลิตเมื่อ 17 ส.ค. 1982 ➡️ Sony และ Philips ร่วมมือกันตั้งแต่ปี 1979 เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้ ➡️ ขนาดแผ่น 12 ซม. ความจุ 74 นาที เพื่อรองรับ Beethoven’s 9th Symphony ➡️ มาตรฐาน Red Book ถูกกำหนดในปี 1980 สำหรับซีดีเสียง ➡️ แผ่นซีดีแรกในสหรัฐฯ คือ “Born in the U.S.A.” ของ Bruce Springsteen ปี 1984 ✅ การพัฒนาและการใช้งาน ➡️ ปี 1985 มีมาตรฐาน Yellow Book สำหรับซีดีข้อมูล (CD-ROM) ➡️ ปี 1988 มีมาตรฐาน ISO 9660 สำหรับโครงสร้างไฟล์ในแผ่น ➡️ ปี 1992 เริ่มมีเครื่องเขียนซีดี (CD burner) สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ➡️ ซีดีใช้เลเซอร์ 780 nm ในการอ่านและเขียนข้อมูล ➡️ ความจุทั่วไป 650–700 MB หรือ 74–80 นาทีเสียง ➡️ มีการพัฒนา Mini CD สำหรับซิงเกิลและไดรเวอร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/the-first-commercial-compact-disc-was-created-43-years-ago-today-nearly-one-billion-cds-were-shipped-per-year-in-early-2000s
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • เมื่อฮาร์ดดิสก์ปลอมกลายเป็นภัยเงียบ: ปฏิบัติการบุกจับโรงงานรีไซเคิลอุปกรณ์ไอที

    เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Seagate พบความผิดปกติในราคาฮาร์ดดิสก์บนแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada ซึ่งมีการขายรุ่น IronWolf Pro ขนาด 16TB ในราคาต่ำกว่าท้องตลาดถึง 70% จึงเริ่มสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่มาเลเซีย

    ผลคือการบุกจับโรงงานลับนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ในเดือนพฤษภาคม 2025 พบฮาร์ดดิสก์ปลอมกว่า 700 ลูกจาก Seagate, Western Digital และ Toshiba โดยมีการลบข้อมูล SMART เพื่อให้ดูเหมือนใหม่ พร้อมรีแพ็คเกจและเปลี่ยนฉลากให้เป็นรุ่นระดับสูง เช่น Barracuda ถูกแปลงเป็น IronWolf หรือ SkyHawk

    ฮาร์ดดิสก์เหล่านี้ส่วนใหญ่เคยถูกใช้ในการขุดเหรียญ Chia จากจีน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์อย่างหนัก ก่อนจะถูกขายต่อให้โรงงานรีไซเคิลเพื่อปลอมแปลงเป็นของใหม่

    Seagate จึงปรับนโยบายใหม่ โดยบังคับให้ตัวแทนจำหน่ายต้องซื้อสินค้าจากช่องทางที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น พร้อมใช้ระบบ Global Trade Screening (GTS) เพื่อคัดกรองซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยง

    การสืบสวนและจับกุม
    Seagate พบราคาฮาร์ดดิสก์ผิดปกติบน Shopee และ Lazada
    ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มาเลเซียบุกจับโรงงานนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์
    ยึดฮาร์ดดิสก์ปลอมกว่า 700 ลูกจากหลายแบรนด์

    วิธีการปลอมแปลง
    ลบข้อมูล SMART เพื่อให้ดูเหมือนใหม่
    รีแพ็คเกจและเปลี่ยนฉลากเป็นรุ่นระดับสูง
    ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด

    ที่มาของฮาร์ดดิสก์มือสอง
    ส่วนใหญ่เคยใช้ขุดเหรียญ Chia จากจีน
    ถูกขายต่อให้โรงงานรีไซเคิลเพื่อปลอมแปลง
    ประเมินว่ามีฮาร์ดดิสก์จาก Chia กว่า 1 ล้านลูกในตลาด

    มาตรการของ Seagate
    ปรับนโยบายให้ซื้อขายผ่านตัวแทนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
    ใช้ระบบ GTS คัดกรองซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยง
    ตรวจสอบเฟิร์มแวร์เพื่อหาการปลอมแปลง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/seagate-spins-up-a-raid-on-a-counterfeit-hard-drive-workshop-authorities-read-criminals-writes-while-they-spill-the-beans
    🧠 เมื่อฮาร์ดดิสก์ปลอมกลายเป็นภัยเงียบ: ปฏิบัติการบุกจับโรงงานรีไซเคิลอุปกรณ์ไอที เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Seagate พบความผิดปกติในราคาฮาร์ดดิสก์บนแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada ซึ่งมีการขายรุ่น IronWolf Pro ขนาด 16TB ในราคาต่ำกว่าท้องตลาดถึง 70% จึงเริ่มสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่มาเลเซีย ผลคือการบุกจับโรงงานลับนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ในเดือนพฤษภาคม 2025 พบฮาร์ดดิสก์ปลอมกว่า 700 ลูกจาก Seagate, Western Digital และ Toshiba โดยมีการลบข้อมูล SMART เพื่อให้ดูเหมือนใหม่ พร้อมรีแพ็คเกจและเปลี่ยนฉลากให้เป็นรุ่นระดับสูง เช่น Barracuda ถูกแปลงเป็น IronWolf หรือ SkyHawk ฮาร์ดดิสก์เหล่านี้ส่วนใหญ่เคยถูกใช้ในการขุดเหรียญ Chia จากจีน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์อย่างหนัก ก่อนจะถูกขายต่อให้โรงงานรีไซเคิลเพื่อปลอมแปลงเป็นของใหม่ Seagate จึงปรับนโยบายใหม่ โดยบังคับให้ตัวแทนจำหน่ายต้องซื้อสินค้าจากช่องทางที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น พร้อมใช้ระบบ Global Trade Screening (GTS) เพื่อคัดกรองซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยง ✅ การสืบสวนและจับกุม ➡️ Seagate พบราคาฮาร์ดดิสก์ผิดปกติบน Shopee และ Lazada ➡️ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มาเลเซียบุกจับโรงงานนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ ➡️ ยึดฮาร์ดดิสก์ปลอมกว่า 700 ลูกจากหลายแบรนด์ ✅ วิธีการปลอมแปลง ➡️ ลบข้อมูล SMART เพื่อให้ดูเหมือนใหม่ ➡️ รีแพ็คเกจและเปลี่ยนฉลากเป็นรุ่นระดับสูง ➡️ ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ✅ ที่มาของฮาร์ดดิสก์มือสอง ➡️ ส่วนใหญ่เคยใช้ขุดเหรียญ Chia จากจีน ➡️ ถูกขายต่อให้โรงงานรีไซเคิลเพื่อปลอมแปลง ➡️ ประเมินว่ามีฮาร์ดดิสก์จาก Chia กว่า 1 ล้านลูกในตลาด ✅ มาตรการของ Seagate ➡️ ปรับนโยบายให้ซื้อขายผ่านตัวแทนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ➡️ ใช้ระบบ GTS คัดกรองซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยง ➡️ ตรวจสอบเฟิร์มแวร์เพื่อหาการปลอมแปลง https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/seagate-spins-up-a-raid-on-a-counterfeit-hard-drive-workshop-authorities-read-criminals-writes-while-they-spill-the-beans
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • ร้านเรามีถุงหลายแบบ หลายขนาด ราคาโรงงานมาเอง…จะซื้อแบบทดลองใช้ทีละนิด หรือซื้อชุดใหญ่ไฟกระพริบกฌได้ค่ะ ราคาสุดคุ้มเลย …ของดี ต้องร้านกินจุ๊บจิ๊บเท่านั้น #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ถุงพีพี #ถุงหูหิ้ว #ถุงร้อน และร้านเรายังมัดรวมความอร่อยคุ้มค่า ทั้งอาหารทะเลแห้งอร่อยๆ … ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนน…ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ร้านกินจุ๊บจิ๊บ ถุงดี ราคาคุ้มค่า อาหารทะเลแห้งอร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    ร้านเรามีถุงหลายแบบ หลายขนาด ราคาโรงงานมาเอง…จะซื้อแบบทดลองใช้ทีละนิด หรือซื้อชุดใหญ่ไฟกระพริบกฌได้ค่ะ ราคาสุดคุ้มเลย …ของดี ต้องร้านกินจุ๊บจิ๊บเท่านั้น #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ถุงพีพี #ถุงหูหิ้ว #ถุงร้อน และร้านเรายังมัดรวมความอร่อยคุ้มค่า ทั้งอาหารทะเลแห้งอร่อยๆ … ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนน…ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่😍ร้านกินจุ๊บจิ๊บ ถุงดี ราคาคุ้มค่า อาหารทะเลแห้งอร่อย สดใหม่ 🥰 ส่งไว ได้คุณภาพ😍🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 0 Reviews
  • Intel โชว์ชิป Arm บนเทคโนโลยี 18A: เกมใหม่ของโรงงานผลิตชิป

    ในโลกที่ Intel เคยเป็นเจ้าพ่อแห่ง x86 การที่บริษัทลุกขึ้นมาสร้างชิป Arm ด้วยตัวเองถือเป็นการเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “Deer Creek Falls”—ชิป SoC ต้นแบบที่ผลิตบนเทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตระดับล้ำยุคของ Intel

    ชิปนี้มีโครงสร้างแบบ hybrid ประกอบด้วย 7 คอร์: 1 คอร์ประสิทธิภาพสูง, 2 คอร์ประหยัดพลังงาน และ 4 คอร์ประหยัดพลังงานขั้นสุด พร้อม PCIe และ memory controller ที่ได้จากพันธมิตรใน ecosystem ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Intel พร้อมเปิดรับการออกแบบจากภายนอก ไม่ใช่แค่ x86 อีกต่อไป

    แม้ Intel จะไม่พูดตรง ๆ ว่าเป็นชิป Arm แต่ในวิดีโอที่โชว์การปรับแต่งประสิทธิภาพ มีการพูดถึง AArch64 ซึ่งเป็นชุดคำสั่ง 64-bit ของ Arm อย่างชัดเจน แถมยังโชว์เครื่องมือปรับแต่งซอฟต์แวร์สำหรับ Arm โดยเฉพาะ ซึ่งสวนทางกับข่าวลือว่า Intel ยังไม่มีเครื่องมือรองรับลูกค้าภายนอก

    แม้ชิปนี้จะยังไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ แต่มันคือการส่งสัญญาณว่า Intel Foundry พร้อมรับงานจากลูกค้า Arm และอาจใช้ชิปนี้เป็นตัวดึงดูดให้ Apple หรือ NVIDIA หันมาพิจารณาเทคโนโลยี 14A ที่กำลังจะมา

    การออกแบบของ Deer Creek Falls SoC
    ใช้โครงสร้าง hybrid: 1 คอร์ประสิทธิภาพสูง, 2 คอร์ประหยัดพลังงาน, 4 คอร์ประหยัดพลังงานขั้นสุด
    รวม PCIe controller และ memory controller จากพันธมิตรใน ecosystem
    ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งมี RibbonFET และ PowerVia เพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์

    การยืนยันว่าเป็นชิป Arm
    มีการกล่าวถึง AArch64 ในวิดีโอ ซึ่งเป็นชุดคำสั่งของ Arm
    โครงสร้างคอร์แบบสามระดับคล้าย Snapdragon 8 จาก Qualcomm
    Intel ไม่พูดตรง ๆ ว่าเป็น Arm แต่โครงสร้างและคำศัพท์บ่งชี้ชัดเจน

    เครื่องมือปรับแต่งประสิทธิภาพสำหรับ Arm
    Intel โชว์ชุดเครื่องมือปรับแต่งซอฟต์แวร์สำหรับ Arm โดยเฉพาะ
    แสดงให้เห็นว่า Intel Foundry พร้อมรองรับลูกค้าภายนอก
    สวนทางกับข่าวลือว่า Intel ยังไม่มีเครื่องมือสำหรับ Arm

    เป้าหมายของ Intel Foundry
    ใช้ Deer Creek Falls เป็นตัวโชว์ศักยภาพของโรงงาน
    หวังดึงดูดลูกค้าอย่าง Apple และ NVIDIA ให้ใช้เทคโนโลยี 14A
    รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสนใจ อาจผลักดันให้เกิดการใช้งานจริงเร็วขึ้น

    https://www.techpowerup.com/339952/intel-showcases-reference-arm-based-soc-manufactured-on-18a-node
    🧠 Intel โชว์ชิป Arm บนเทคโนโลยี 18A: เกมใหม่ของโรงงานผลิตชิป ในโลกที่ Intel เคยเป็นเจ้าพ่อแห่ง x86 การที่บริษัทลุกขึ้นมาสร้างชิป Arm ด้วยตัวเองถือเป็นการเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “Deer Creek Falls”—ชิป SoC ต้นแบบที่ผลิตบนเทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตระดับล้ำยุคของ Intel ชิปนี้มีโครงสร้างแบบ hybrid ประกอบด้วย 7 คอร์: 1 คอร์ประสิทธิภาพสูง, 2 คอร์ประหยัดพลังงาน และ 4 คอร์ประหยัดพลังงานขั้นสุด พร้อม PCIe และ memory controller ที่ได้จากพันธมิตรใน ecosystem ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Intel พร้อมเปิดรับการออกแบบจากภายนอก ไม่ใช่แค่ x86 อีกต่อไป แม้ Intel จะไม่พูดตรง ๆ ว่าเป็นชิป Arm แต่ในวิดีโอที่โชว์การปรับแต่งประสิทธิภาพ มีการพูดถึง AArch64 ซึ่งเป็นชุดคำสั่ง 64-bit ของ Arm อย่างชัดเจน แถมยังโชว์เครื่องมือปรับแต่งซอฟต์แวร์สำหรับ Arm โดยเฉพาะ ซึ่งสวนทางกับข่าวลือว่า Intel ยังไม่มีเครื่องมือรองรับลูกค้าภายนอก แม้ชิปนี้จะยังไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ แต่มันคือการส่งสัญญาณว่า Intel Foundry พร้อมรับงานจากลูกค้า Arm และอาจใช้ชิปนี้เป็นตัวดึงดูดให้ Apple หรือ NVIDIA หันมาพิจารณาเทคโนโลยี 14A ที่กำลังจะมา ✅ การออกแบบของ Deer Creek Falls SoC ➡️ ใช้โครงสร้าง hybrid: 1 คอร์ประสิทธิภาพสูง, 2 คอร์ประหยัดพลังงาน, 4 คอร์ประหยัดพลังงานขั้นสุด ➡️ รวม PCIe controller และ memory controller จากพันธมิตรใน ecosystem ➡️ ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งมี RibbonFET และ PowerVia เพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ ✅ การยืนยันว่าเป็นชิป Arm ➡️ มีการกล่าวถึง AArch64 ในวิดีโอ ซึ่งเป็นชุดคำสั่งของ Arm ➡️ โครงสร้างคอร์แบบสามระดับคล้าย Snapdragon 8 จาก Qualcomm ➡️ Intel ไม่พูดตรง ๆ ว่าเป็น Arm แต่โครงสร้างและคำศัพท์บ่งชี้ชัดเจน ✅ เครื่องมือปรับแต่งประสิทธิภาพสำหรับ Arm ➡️ Intel โชว์ชุดเครื่องมือปรับแต่งซอฟต์แวร์สำหรับ Arm โดยเฉพาะ ➡️ แสดงให้เห็นว่า Intel Foundry พร้อมรองรับลูกค้าภายนอก ➡️ สวนทางกับข่าวลือว่า Intel ยังไม่มีเครื่องมือสำหรับ Arm ✅ เป้าหมายของ Intel Foundry ➡️ ใช้ Deer Creek Falls เป็นตัวโชว์ศักยภาพของโรงงาน ➡️ หวังดึงดูดลูกค้าอย่าง Apple และ NVIDIA ให้ใช้เทคโนโลยี 14A ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสนใจ อาจผลักดันให้เกิดการใช้งานจริงเร็วขึ้น https://www.techpowerup.com/339952/intel-showcases-reference-arm-based-soc-manufactured-on-18a-node
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel Showcases Reference Arm-based SoC Manufactured on 18A Node
    Intel Foundry has been releasing content on its products and services, and today, an interesting update came across. Intel showed a reference "Deer Creek Falls" SoC of what they call a "non-x86" design, manufactured on the 18A node. However, the design is actually Arm-based SoC. Consisting of seven ...
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • ⚡️ เมื่อ AI กลายเป็นตัวดูดพลังงาน: จีนพร้อม แต่สหรัฐฯ ยังติดหล่ม

    ลองจินตนาการว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ แต่เป็นเครื่องจักรที่กินไฟมหาศาลเหมือนสัตว์ประหลาดในโรงงานไฟฟ้า และในสงครามเทคโนโลยีนี้ จีนดูเหมือนจะเตรียมตัวมาดีกว่าสหรัฐฯ หลายช่วงตัว

    จีนลงทุนมหาศาลในพลังงานสะอาด ทั้งพลังน้ำ พลังงานนิวเคลียร์ และโซลาร์ฟาร์มขนาดยักษ์ ทำให้มีพลังงานสำรองถึง 80–100% พร้อมรองรับการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ใหม่ได้ทันที ในขณะที่สหรัฐฯ กลับต้องเผชิญกับปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าที่ไม่ทันความต้องการ จนบริษัทเทคโนโลยีต้องสร้างโรงไฟฟ้าเอง หรือหันไปพัฒนานิวเคลียร์ขนาดเล็ก

    แม้จีนจะมีข้อครหาว่าใช้โรงไฟฟ้าถ่านหิน แต่ก็มีแผนรองรับด้วยการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน และสามารถเปิดโรงไฟฟ้าสำรองได้ทันทีหากจำเป็น ขณะที่สหรัฐฯ ยังต้องเผชิญกับความล่าช้าในการอนุมัติโครงการใหม่ และความไม่แน่นอนของระบบสายส่ง

    ที่น่าสนใจคือ แม้จีนจะมีพลังงานเหลือเฟือ แต่ศูนย์ข้อมูลหลายแห่งกลับยังไม่ได้ใช้งานเต็มที่ จึงกำลังพัฒนาเครือข่ายซื้อขายพลังงานสำรองระหว่างกัน ส่วนสหรัฐฯ หากไม่เร่งแก้ปัญหา อาจเสียเปรียบในสงคราม AI แม้จะมีฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่า เพราะ “ไม่มีไฟ ก็ไม่มี AI”

    จีนเตรียมพร้อมด้านพลังงานเพื่อรองรับ AI
    มีพลังงานสำรอง 80–100% รองรับการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่
    ลงทุนในพลังงานสะอาด เช่น พลังน้ำ นิวเคลียร์ และโซลาร์
    วางแผนพลังงานล่วงหน้าเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต
    สามารถเปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินสำรองได้ทันทีหากจำเป็น
    พัฒนาเครือข่ายซื้อขายพลังงานสำรองระหว่างศูนย์ข้อมูล

    สหรัฐฯ เผชิญปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้า
    ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้ระบบไฟฟ้าสหรัฐฯ ตึงเครียด
    บริษัทเทคโนโลยีต้องสร้างโรงไฟฟ้าเอง เช่น Elon Musk
    ลงทุนในนิวเคลียร์ขนาดเล็กเพื่อรองรับความต้องการ
    ความล่าช้าในการอนุมัติโครงการใหม่เป็นอุปสรรคใหญ่
    ระบบสายส่งยังไม่พร้อมรองรับการขยายตัวของ AI

    ผลกระทบต่อการแข่งขันด้าน AI
    จีนสามารถใช้พลังงานมหาศาลเพื่อเร่งการประมวลผล AI
    สหรัฐฯ แม้มีฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่า แต่ขาดพลังงานอาจเสียเปรียบ
    Huawei CloudMatrix ใช้พลังงานมหาศาลเพื่อเอาชนะ Nvidia GB200

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-experts-warn-that-china-is-miles-ahead-of-the-us-in-electricity-generation-lack-of-supply-and-infrastructure-threatens-the-uss-long-term-ai-plans
    ⚡️ เมื่อ AI กลายเป็นตัวดูดพลังงาน: จีนพร้อม แต่สหรัฐฯ ยังติดหล่ม ลองจินตนาการว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ แต่เป็นเครื่องจักรที่กินไฟมหาศาลเหมือนสัตว์ประหลาดในโรงงานไฟฟ้า และในสงครามเทคโนโลยีนี้ จีนดูเหมือนจะเตรียมตัวมาดีกว่าสหรัฐฯ หลายช่วงตัว จีนลงทุนมหาศาลในพลังงานสะอาด ทั้งพลังน้ำ พลังงานนิวเคลียร์ และโซลาร์ฟาร์มขนาดยักษ์ ทำให้มีพลังงานสำรองถึง 80–100% พร้อมรองรับการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ใหม่ได้ทันที ในขณะที่สหรัฐฯ กลับต้องเผชิญกับปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าที่ไม่ทันความต้องการ จนบริษัทเทคโนโลยีต้องสร้างโรงไฟฟ้าเอง หรือหันไปพัฒนานิวเคลียร์ขนาดเล็ก แม้จีนจะมีข้อครหาว่าใช้โรงไฟฟ้าถ่านหิน แต่ก็มีแผนรองรับด้วยการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน และสามารถเปิดโรงไฟฟ้าสำรองได้ทันทีหากจำเป็น ขณะที่สหรัฐฯ ยังต้องเผชิญกับความล่าช้าในการอนุมัติโครงการใหม่ และความไม่แน่นอนของระบบสายส่ง ที่น่าสนใจคือ แม้จีนจะมีพลังงานเหลือเฟือ แต่ศูนย์ข้อมูลหลายแห่งกลับยังไม่ได้ใช้งานเต็มที่ จึงกำลังพัฒนาเครือข่ายซื้อขายพลังงานสำรองระหว่างกัน ส่วนสหรัฐฯ หากไม่เร่งแก้ปัญหา อาจเสียเปรียบในสงคราม AI แม้จะมีฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่า เพราะ “ไม่มีไฟ ก็ไม่มี AI” ✅ จีนเตรียมพร้อมด้านพลังงานเพื่อรองรับ AI ➡️ มีพลังงานสำรอง 80–100% รองรับการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ ➡️ ลงทุนในพลังงานสะอาด เช่น พลังน้ำ นิวเคลียร์ และโซลาร์ ➡️ วางแผนพลังงานล่วงหน้าเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต ➡️ สามารถเปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินสำรองได้ทันทีหากจำเป็น ➡️ พัฒนาเครือข่ายซื้อขายพลังงานสำรองระหว่างศูนย์ข้อมูล ✅ สหรัฐฯ เผชิญปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้า ➡️ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้ระบบไฟฟ้าสหรัฐฯ ตึงเครียด ➡️ บริษัทเทคโนโลยีต้องสร้างโรงไฟฟ้าเอง เช่น Elon Musk ➡️ ลงทุนในนิวเคลียร์ขนาดเล็กเพื่อรองรับความต้องการ ➡️ ความล่าช้าในการอนุมัติโครงการใหม่เป็นอุปสรรคใหญ่ ➡️ ระบบสายส่งยังไม่พร้อมรองรับการขยายตัวของ AI ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันด้าน AI ➡️ จีนสามารถใช้พลังงานมหาศาลเพื่อเร่งการประมวลผล AI ➡️ สหรัฐฯ แม้มีฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่า แต่ขาดพลังงานอาจเสียเปรียบ ➡️ Huawei CloudMatrix ใช้พลังงานมหาศาลเพื่อเอาชนะ Nvidia GB200 https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-experts-warn-that-china-is-miles-ahead-of-the-us-in-electricity-generation-lack-of-supply-and-infrastructure-threatens-the-uss-long-term-ai-plans
    0 Comments 0 Shares 184 Views 0 Reviews
  • ประชาชนเรายึดอำนาจเถอะ,จากนั้นลงมติ สร้างรั้วลวดหนามแบบเวียดนามหนาแน่นนั้นเลย มรึงก็ไปรักษาโรงพยาบาลเขมรมรึงเถอะ ประเทศใครประเทศมันปิดด่านถาวรจริงจังเลย อยู่ใครอยู่มันเงียบๆสัก10-20ปีไปก่อน,ห้ามคนไทยไปเขมรเด็ดขาดจะไม่รับรองความปลอดภัยใดๆ,แต่ถ้าเขมรลักพาตัว สถานที่ราชการเขมรจะถูกไทยระเบิดทิ้งหากไม่จับกุมคนลักพาตัวคนไทยมาลงโทษและไม่ส่งตัวคนไทยเรากลับมาคืนอย่างปลอดภัย,ตัดสายสัมพันธ์ค้าขายทั้งหมดกับเขมร ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ตตัดสายเคเบิล ตัดถนนรถไฟเชื่อมไปหาเขมรทั้งหมดทันที,แรงงานเขมรส่งกลับเขมรทั้งหมดที่อยู่ประเทศไทยไม่มีเงื่อนไขใดๆให้อยู่ต่อทุกๆกรณี,ไทยเราต้องเด็ดขาดจริงๆนะ อย่าเลอะเทอะแบบปัจจุบัน,อย่าอ้างเมตตาสงสารใดๆเลย เกิดชาติหน้ามาเกิดบนแผ่นดินไทยก็แล้วกัน ชาติปัจจุบันนี้เราปกป้องคนไทยดูแลคนไทยเราก่อนคืออันดับแรกในภัยคุกคามความขัดแย้งรุกรานอธิปไตยไทย เกลียดชังประเทศไทยว่าไทยคือโจรสยามก็ว่า เคลมสาระพัดต่างๆของไทย ว่ากล่าวด่าทอคนไทยสินค้าไทย เนรคุณคนไทย,เรา..ประเทศไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ,มันจะเป็นจะตายมิใช่สถานะคนไทยไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป,โรงงานใดเมตตาสงสารคนเขมรก็รับความเสี่ยงเองไปตั้งฐานผลิตที่เขมร,แต่ทุกๆสินค้าบริการของเขมรทั้งหมด ประเทศไทยห้ามนำเข้าและยกเลิกการค้าขายกับเขมรทั้งหมด ยกเลิกธุรกรรมกิจการใดๆกับเขมรทั้งหมด,ส่วนชาติใดค้าขายกับเขมร ช่วยเหลือเขมรที่เป็นภัยความมั่นคงกับเราโดยเฉพาะภูมิภาคนี้เราประเทศไทยจะกลับไปพิจารณาประเทศนั้นๆอย่างมีสติปัญญาและรอบคอบที่สุด,
    ..
    ..เรา..ประชาชนคนไทยต้องสั่งสอนเขมรจริงจังได้แล้ว,โรงงานกิจการใดๆที่ใช้คนเขมรต่างพิจารณาสถานะใหม่จริงๆด้วย.,คนเขมรเขามีวิถีคนเขมรเอง,มาใช้วิถีเขมรบนแผ่นดินวิถีไทยแบบเนรคุณหักหลังทรยศว่ากล่าวด่าดูถูกเรามาเก่งกล้าสามารถตีลูกตีหลานฆ่าเด็กๆเราฆ่าลูกฆ่าหลานคนไทยเราประชาชนผู้บริสุทธิ์เรา ,หมายยึดบ้านยึดเมืองเรามันสมควรมั้ย.
    ..
    https://youtube.com/shorts/jakwmzORgoc?si=l9z9DBpc1kjOSd6J
    ประชาชนเรายึดอำนาจเถอะ,จากนั้นลงมติ สร้างรั้วลวดหนามแบบเวียดนามหนาแน่นนั้นเลย มรึงก็ไปรักษาโรงพยาบาลเขมรมรึงเถอะ ประเทศใครประเทศมันปิดด่านถาวรจริงจังเลย อยู่ใครอยู่มันเงียบๆสัก10-20ปีไปก่อน,ห้ามคนไทยไปเขมรเด็ดขาดจะไม่รับรองความปลอดภัยใดๆ,แต่ถ้าเขมรลักพาตัว สถานที่ราชการเขมรจะถูกไทยระเบิดทิ้งหากไม่จับกุมคนลักพาตัวคนไทยมาลงโทษและไม่ส่งตัวคนไทยเรากลับมาคืนอย่างปลอดภัย,ตัดสายสัมพันธ์ค้าขายทั้งหมดกับเขมร ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ตตัดสายเคเบิล ตัดถนนรถไฟเชื่อมไปหาเขมรทั้งหมดทันที,แรงงานเขมรส่งกลับเขมรทั้งหมดที่อยู่ประเทศไทยไม่มีเงื่อนไขใดๆให้อยู่ต่อทุกๆกรณี,ไทยเราต้องเด็ดขาดจริงๆนะ อย่าเลอะเทอะแบบปัจจุบัน,อย่าอ้างเมตตาสงสารใดๆเลย เกิดชาติหน้ามาเกิดบนแผ่นดินไทยก็แล้วกัน ชาติปัจจุบันนี้เราปกป้องคนไทยดูแลคนไทยเราก่อนคืออันดับแรกในภัยคุกคามความขัดแย้งรุกรานอธิปไตยไทย เกลียดชังประเทศไทยว่าไทยคือโจรสยามก็ว่า เคลมสาระพัดต่างๆของไทย ว่ากล่าวด่าทอคนไทยสินค้าไทย เนรคุณคนไทย,เรา..ประเทศไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ,มันจะเป็นจะตายมิใช่สถานะคนไทยไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป,โรงงานใดเมตตาสงสารคนเขมรก็รับความเสี่ยงเองไปตั้งฐานผลิตที่เขมร,แต่ทุกๆสินค้าบริการของเขมรทั้งหมด ประเทศไทยห้ามนำเข้าและยกเลิกการค้าขายกับเขมรทั้งหมด ยกเลิกธุรกรรมกิจการใดๆกับเขมรทั้งหมด,ส่วนชาติใดค้าขายกับเขมร ช่วยเหลือเขมรที่เป็นภัยความมั่นคงกับเราโดยเฉพาะภูมิภาคนี้เราประเทศไทยจะกลับไปพิจารณาประเทศนั้นๆอย่างมีสติปัญญาและรอบคอบที่สุด, .. ..เรา..ประชาชนคนไทยต้องสั่งสอนเขมรจริงจังได้แล้ว,โรงงานกิจการใดๆที่ใช้คนเขมรต่างพิจารณาสถานะใหม่จริงๆด้วย.,คนเขมรเขามีวิถีคนเขมรเอง,มาใช้วิถีเขมรบนแผ่นดินวิถีไทยแบบเนรคุณหักหลังทรยศว่ากล่าวด่าดูถูกเรามาเก่งกล้าสามารถตีลูกตีหลานฆ่าเด็กๆเราฆ่าลูกฆ่าหลานคนไทยเราประชาชนผู้บริสุทธิ์เรา ,หมายยึดบ้านยึดเมืองเรามันสมควรมั้ย. .. https://youtube.com/shorts/jakwmzORgoc?si=l9z9DBpc1kjOSd6J
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • ย้อนดูเขมรอีกรอบ,มันก็กล้าเคลมสำเนียงคนลาวนะ.,เกินจริงๆเขมร,อย่าสงสารมันเลย,ที่เห็นๆน้ำตาเหี้ยสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้ไหล เจ้าแม่เมียฮุนเซนคือต้นแบบคนเขมรทุกๆตัวล่ะ,จากนั้นก็พร้อมหักหลังแดกเนื้อมนุษย์คนนั้นลงท้องจระเข้แบบมันล่ะ,คนเขมรมีสะสมมากเกินไปบนแผ่นดินไทยก็เพราะนักการเมืองและเจ้าของกิจการทั้งหลายที่สุมหัวตกลงกันหมดแล้วว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามเรา ประเทศไทยนำโดยสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามมัน,กระบวนการชูสามนิ้วจึงเกิด กระบวนการนำเข้าคนเขมรคนพม่าอย่างมากล้นจึงเกิดผิดปกติในช่วงเวลาที่ผ่านๆมา ไม่รวมนักการเมือง เจ้าของกิจการ คนราชการรัฐหาแดกเถื่อนๆกับคนพวกนี้ให้เกียจชังประเทศไทยสะสมความโกรธแค้นที่เป็นฝ่ายถูกกระทำจากตัวแทนที่ชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐ คนราชการ นักการเมือง เจ้าของกิจการต่างๆนั้นอีก คือมันสามารถสุมหัวกันทำลายภายในประเทศไทยให้สำเร็จให้ได้นั้นเอง,ต่างชาติต่างด้าวเถื่อนๆไร้จิตสำนึกไร้คุณภาพจึงวิ่งมาไทยตรึม,ปัญหามากมายทางสังคมจึงเก็บสะสมถึงปัจจุบันอย่างมีนัยยะโคตรอันตรายต่อชาติบ้านเมืองเราเพราะเดอะแก๊งทีมสุมหัวทั้งหมดเหล่านี้ทั้งได้เงินทุนมหาศาลผ่านองค์กรสากลหน้านักบุญแก่ใจอำมหิตพฤติกรรมชั่วเลวแต่วาติกันนั้นล่ะ,

    ..สรุปก่อนวิกฤติสงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดจริงต้องเคลียร์คนต่างด้าวต่างชาติออกจากประเทศทั้งหมดทันที,แค่คนไทยก็ดูแลกันลำบากแล้วในบ้านเรา,รับเลี้ยงคนต่างด้าวต่างชาติมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอีก,แบบบังเบียดทรัพยากรตัวยาและสาระพัดในโรงพยาบาลเรานั้นล่ะ นี้ไม่รวมด้านอื่นๆข้อความสงบสุข ไว้เนื้อเชื่อใจอีก ดูสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติทั่วไทยเลย น้ำตก ภูดอย พม่า เขมรมั่วsexในป่าในน้ำตกไทบ้านคนไทยเต็มไปหมด มั่วยาบ้าคนละเม็ดวันละเม็ดโดยคนขายจับขึ้นทะเบียนก็ไม่ได้ โรงงานแหล่งผลิตก็ไม่ผ่าน อย. เสือกรัฐบาลอนุมัติอีก,โรงงานต่างชาติอีกรับพม่าเขมรเต็มโรงงานมิใช่แค่โรงงานคนไทย,คือเหี้ยหมด ต้องผลักดันออกทั้งหมด,อย่าพึ่งรับใครเข้ามาทดแทนเด็ดขาด,มีข่าวเอาแขกศรีลังกามาอีก ตัวพ่อเผาบ้านเผาเมืองเผาประเทศตัวจริงล่ะใครคิดสมองคิด,การจัดระเบียบยังเหี้ยในปัจจุบันทั้งระบบ,คนไทยตนเองตกงานยังแก้ไม่ได้ สั่งควบคุมเอกชนไม่ได้ ยังมีหน้ารับไปทั่ว,ไปดูข่าวคนศรีลังกาดีๆนะสันดานคนพวกนี้ธรรมดาน้อยเช่นกันขนาดไหน,นัยยะอันตรายโคตรๆนะ,กองโจรมีอาชีพของคนเกาะศรีลังกาธรรมดาที่ไหน,สมองก่อการร้ายทำลายเป้าหมายก็ใช่เล่น,เผ่าชนชั้นคนเกาะนี้แทรกซึมมาได้หมด,รับงานใครก็ได้จัดการไทยภายในอีกมาในรูปแบบแรงงาน,เข้าล้ำนะคนพวกนี้ จนมีองค์กรติดตามเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวอย่างเปิดเผยที่มีรัฐบาลสนับสนุน,ไม่กากนะ แม้คนโง่ไม่น้อยแต่ประวัติคือเผ่าพันธุ์ยักษ์และวานรอยู่เต็มเกาะแต่ยักษ์ปกครองส่วนพื้นที่มาก.



    https://youtube.com/watch?v=FA9Pg_dvSPk&si=5ZwSjun6TWhMRMV5
    ย้อนดูเขมรอีกรอบ,มันก็กล้าเคลมสำเนียงคนลาวนะ.,เกินจริงๆเขมร,อย่าสงสารมันเลย,ที่เห็นๆน้ำตาเหี้ยสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้ไหล เจ้าแม่เมียฮุนเซนคือต้นแบบคนเขมรทุกๆตัวล่ะ,จากนั้นก็พร้อมหักหลังแดกเนื้อมนุษย์คนนั้นลงท้องจระเข้แบบมันล่ะ,คนเขมรมีสะสมมากเกินไปบนแผ่นดินไทยก็เพราะนักการเมืองและเจ้าของกิจการทั้งหลายที่สุมหัวตกลงกันหมดแล้วว่า ทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามเรา ประเทศไทยนำโดยสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามมัน,กระบวนการชูสามนิ้วจึงเกิด กระบวนการนำเข้าคนเขมรคนพม่าอย่างมากล้นจึงเกิดผิดปกติในช่วงเวลาที่ผ่านๆมา ไม่รวมนักการเมือง เจ้าของกิจการ คนราชการรัฐหาแดกเถื่อนๆกับคนพวกนี้ให้เกียจชังประเทศไทยสะสมความโกรธแค้นที่เป็นฝ่ายถูกกระทำจากตัวแทนที่ชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐ คนราชการ นักการเมือง เจ้าของกิจการต่างๆนั้นอีก คือมันสามารถสุมหัวกันทำลายภายในประเทศไทยให้สำเร็จให้ได้นั้นเอง,ต่างชาติต่างด้าวเถื่อนๆไร้จิตสำนึกไร้คุณภาพจึงวิ่งมาไทยตรึม,ปัญหามากมายทางสังคมจึงเก็บสะสมถึงปัจจุบันอย่างมีนัยยะโคตรอันตรายต่อชาติบ้านเมืองเราเพราะเดอะแก๊งทีมสุมหัวทั้งหมดเหล่านี้ทั้งได้เงินทุนมหาศาลผ่านองค์กรสากลหน้านักบุญแก่ใจอำมหิตพฤติกรรมชั่วเลวแต่วาติกันนั้นล่ะ, ..สรุปก่อนวิกฤติสงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดจริงต้องเคลียร์คนต่างด้าวต่างชาติออกจากประเทศทั้งหมดทันที,แค่คนไทยก็ดูแลกันลำบากแล้วในบ้านเรา,รับเลี้ยงคนต่างด้าวต่างชาติมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอีก,แบบบังเบียดทรัพยากรตัวยาและสาระพัดในโรงพยาบาลเรานั้นล่ะ นี้ไม่รวมด้านอื่นๆข้อความสงบสุข ไว้เนื้อเชื่อใจอีก ดูสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติทั่วไทยเลย น้ำตก ภูดอย พม่า เขมรมั่วsexในป่าในน้ำตกไทบ้านคนไทยเต็มไปหมด มั่วยาบ้าคนละเม็ดวันละเม็ดโดยคนขายจับขึ้นทะเบียนก็ไม่ได้ โรงงานแหล่งผลิตก็ไม่ผ่าน อย. เสือกรัฐบาลอนุมัติอีก,โรงงานต่างชาติอีกรับพม่าเขมรเต็มโรงงานมิใช่แค่โรงงานคนไทย,คือเหี้ยหมด ต้องผลักดันออกทั้งหมด,อย่าพึ่งรับใครเข้ามาทดแทนเด็ดขาด,มีข่าวเอาแขกศรีลังกามาอีก ตัวพ่อเผาบ้านเผาเมืองเผาประเทศตัวจริงล่ะใครคิดสมองคิด,การจัดระเบียบยังเหี้ยในปัจจุบันทั้งระบบ,คนไทยตนเองตกงานยังแก้ไม่ได้ สั่งควบคุมเอกชนไม่ได้ ยังมีหน้ารับไปทั่ว,ไปดูข่าวคนศรีลังกาดีๆนะสันดานคนพวกนี้ธรรมดาน้อยเช่นกันขนาดไหน,นัยยะอันตรายโคตรๆนะ,กองโจรมีอาชีพของคนเกาะศรีลังกาธรรมดาที่ไหน,สมองก่อการร้ายทำลายเป้าหมายก็ใช่เล่น,เผ่าชนชั้นคนเกาะนี้แทรกซึมมาได้หมด,รับงานใครก็ได้จัดการไทยภายในอีกมาในรูปแบบแรงงาน,เข้าล้ำนะคนพวกนี้ จนมีองค์กรติดตามเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวอย่างเปิดเผยที่มีรัฐบาลสนับสนุน,ไม่กากนะ แม้คนโง่ไม่น้อยแต่ประวัติคือเผ่าพันธุ์ยักษ์และวานรอยู่เต็มเกาะแต่ยักษ์ปกครองส่วนพื้นที่มาก. https://youtube.com/watch?v=FA9Pg_dvSPk&si=5ZwSjun6TWhMRMV5
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 Reviews
  • ..กับสันดานคนเขมรต้องรั้วลวดหนามแบบเวียดนามนี้ล่ะ,เวียดนามมันได้จริงๆกับพวกเขมรแบบนี้.ต้นทุนไม่แพงอะไร,เหล็กลวดไทยมีวัตถุดิบ,รัฐสร้างโรงงานผลิตตรงเลยก็ได้,นำเข้าวัตถุดิบปลอดภาษีก็ได้อีก,ห้ามเอกชนรายใดมาวุ่นวายด้วย,หรือหาแดกงบหลวงแม้ตัวนายพลชั่วเลวฝ่ายทหารเองก็ด้วย,เอาจริงๆมันจัดการง่ายจะตายก็ว่า,ถนนลาดยางกิโลเมตรละ1ล้านยังทำได้,แค่800กว่ากิโลเมตรตลอดพรมแดนให้กิโลเมตรละ10ล้านบาทอย่างดีแบบหนาแบบเปลี่ยนสะดวกสบายยกแผงก็ทำได้,รวมก็แค่8,000ล้านบาทเอง,กากมาก,ที่ชดเชยภาษีทรัมป์ที่เป็นข่าวว่าใช้ตังกว่า200,000ล้านบาทใช้ช่วยกิจการเอกชนไทยและโรงงานนายทุนต่างชาติที่มาตั้งฐานผลิตในไทยส่งไปอเมริกามันยังช่วยพวกเหี้ยนี้มากกว่าอีก,200,000ล้านบาทนะถ้าให้แจกแจงรายละเอียดเปิดเผยเอกสารเป็นเว็บสาธารณะว่าใช้จริงไปไหนบ้าง เงิน200,000ล้านบาทนี้ชดเชยเอกชนรายใด โรงงานใดบ้างเป็นกระแสการไหลของเงินสดอย่างชัดเจนคงประชาชนตาสว่างกว่านี้อีก,หรืออดีตงบสร้างถนนหนทางปัจจุบันแบบกูขยายถนนแล้วขยายอีกซ้อมแล้วซ้อมซ้ำซากอีก ทั่วไทยอาจใช้งบตลอดทั้งปีกว่าแสนล้านบาทล่ะ ทำให้มีคุณภาพมาตราขนาดไหนอีกก็ไม่รู้ รถพ่วงเกิน21ตันเหยียบถนนหลวงไม่กี่เที่ยวก็ซ้อมอีกแล้วเป็นต้น,ถนนชาวบ้านไทบ้านรถพ่วงไปเหยียบครั้งเดียวถนนเป็นหลุมเลยพังเลยก็ว่า,จริงๆมาตราฐานถนนทั้งหมดทั่วประเทศต้องเกิน21ตันให้หมดเพราะเอกชนมักง่ายมาก หลายๆถนนชนบททั่วไทยใช้ทางโทมิใช่ทางเอก ลัดทางสั้นตรึม ถนนไทบ้านในชุมชนพังกันมากเพราะมิให้รถเกิน21ตันใช้,แต่เสือกวิ่งเป็นว่าเล่น,รถบรรทุกไทยเยอะมากๆในเวลานี้,ความปลอดภัยชาวบ้านประชาชนอันตรายด้วย,คนขับก็คนจีน คนลาว คนเขมร คนพม่า คนเวียดนามมากกว่าคนไทย,ยิ่งเป็นถนนข้ามแดนง่ายขึ้นเพื่อค้าขายขนส่ง วิ่งกระจายจริงๆ มอไซค์อักเสบและไปวัดไม่น้อย เพราะคนพวกนี้หมายสังหารคนไทยในท้องถนนง่ายๆด้วย ไร้น้ำจิตน้ำใจแบบคนไทย บดเบียด สีใกล้เหี้ยมีหมด.เข้าใต้ท้องมันมีมิใช่น้อยจากนั้นเอาตังตบหัวจบ.

    ..รั้วหนามทำได้สบายแต่เพราะผลประโยชน์ทางการเมืองหรือทางหนีภัยลี้ภัยทางการเมืองตนจะลำบาก สมุนขี้ข้าลูกน้องจะหนีลำบาก ถูกจับได้จะซวยถึงนักการเมืองเดอะแก๊งอิทธิพลสั่งตายใครต่างๆไร้หลบหนีสะดวกทั้งกูและมรึงหากโดนคดีทางการเมืองจากไทย ช่องทางธรรมชาติทั่วรอบไทยจึงละเว้นไม่พยายามสร้าง นัยยะนี้ด้วย อะไรค้าขายเถื่อนๆกูก็ลำบากด้วยเป็นต้น ใครผีบ้าจะสร้างกำแพงตัดแหล่งช่องทางทำเงินทำตังมหาศาลของกู.



    https://www.youtube.com/shorts/lD7tGLBMEDE
    ..กับสันดานคนเขมรต้องรั้วลวดหนามแบบเวียดนามนี้ล่ะ,เวียดนามมันได้จริงๆกับพวกเขมรแบบนี้.ต้นทุนไม่แพงอะไร,เหล็กลวดไทยมีวัตถุดิบ,รัฐสร้างโรงงานผลิตตรงเลยก็ได้,นำเข้าวัตถุดิบปลอดภาษีก็ได้อีก,ห้ามเอกชนรายใดมาวุ่นวายด้วย,หรือหาแดกงบหลวงแม้ตัวนายพลชั่วเลวฝ่ายทหารเองก็ด้วย,เอาจริงๆมันจัดการง่ายจะตายก็ว่า,ถนนลาดยางกิโลเมตรละ1ล้านยังทำได้,แค่800กว่ากิโลเมตรตลอดพรมแดนให้กิโลเมตรละ10ล้านบาทอย่างดีแบบหนาแบบเปลี่ยนสะดวกสบายยกแผงก็ทำได้,รวมก็แค่8,000ล้านบาทเอง,กากมาก,ที่ชดเชยภาษีทรัมป์ที่เป็นข่าวว่าใช้ตังกว่า200,000ล้านบาทใช้ช่วยกิจการเอกชนไทยและโรงงานนายทุนต่างชาติที่มาตั้งฐานผลิตในไทยส่งไปอเมริกามันยังช่วยพวกเหี้ยนี้มากกว่าอีก,200,000ล้านบาทนะถ้าให้แจกแจงรายละเอียดเปิดเผยเอกสารเป็นเว็บสาธารณะว่าใช้จริงไปไหนบ้าง เงิน200,000ล้านบาทนี้ชดเชยเอกชนรายใด โรงงานใดบ้างเป็นกระแสการไหลของเงินสดอย่างชัดเจนคงประชาชนตาสว่างกว่านี้อีก,หรืออดีตงบสร้างถนนหนทางปัจจุบันแบบกูขยายถนนแล้วขยายอีกซ้อมแล้วซ้อมซ้ำซากอีก ทั่วไทยอาจใช้งบตลอดทั้งปีกว่าแสนล้านบาทล่ะ ทำให้มีคุณภาพมาตราขนาดไหนอีกก็ไม่รู้ รถพ่วงเกิน21ตันเหยียบถนนหลวงไม่กี่เที่ยวก็ซ้อมอีกแล้วเป็นต้น,ถนนชาวบ้านไทบ้านรถพ่วงไปเหยียบครั้งเดียวถนนเป็นหลุมเลยพังเลยก็ว่า,จริงๆมาตราฐานถนนทั้งหมดทั่วประเทศต้องเกิน21ตันให้หมดเพราะเอกชนมักง่ายมาก หลายๆถนนชนบททั่วไทยใช้ทางโทมิใช่ทางเอก ลัดทางสั้นตรึม ถนนไทบ้านในชุมชนพังกันมากเพราะมิให้รถเกิน21ตันใช้,แต่เสือกวิ่งเป็นว่าเล่น,รถบรรทุกไทยเยอะมากๆในเวลานี้,ความปลอดภัยชาวบ้านประชาชนอันตรายด้วย,คนขับก็คนจีน คนลาว คนเขมร คนพม่า คนเวียดนามมากกว่าคนไทย,ยิ่งเป็นถนนข้ามแดนง่ายขึ้นเพื่อค้าขายขนส่ง วิ่งกระจายจริงๆ มอไซค์อักเสบและไปวัดไม่น้อย เพราะคนพวกนี้หมายสังหารคนไทยในท้องถนนง่ายๆด้วย ไร้น้ำจิตน้ำใจแบบคนไทย บดเบียด สีใกล้เหี้ยมีหมด.เข้าใต้ท้องมันมีมิใช่น้อยจากนั้นเอาตังตบหัวจบ. ..รั้วหนามทำได้สบายแต่เพราะผลประโยชน์ทางการเมืองหรือทางหนีภัยลี้ภัยทางการเมืองตนจะลำบาก สมุนขี้ข้าลูกน้องจะหนีลำบาก ถูกจับได้จะซวยถึงนักการเมืองเดอะแก๊งอิทธิพลสั่งตายใครต่างๆไร้หลบหนีสะดวกทั้งกูและมรึงหากโดนคดีทางการเมืองจากไทย ช่องทางธรรมชาติทั่วรอบไทยจึงละเว้นไม่พยายามสร้าง นัยยะนี้ด้วย อะไรค้าขายเถื่อนๆกูก็ลำบากด้วยเป็นต้น ใครผีบ้าจะสร้างกำแพงตัดแหล่งช่องทางทำเงินทำตังมหาศาลของกู. https://www.youtube.com/shorts/lD7tGLBMEDE
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • อียิปต์ดินแดนแห่งมนต์ขลัง! 6 วัน 3 คืน
    บินตรงกับ GF-กัลฟ์ แอร์ (รวมค่าวีซ่าแล้ว)
    ราคาเริ่มต้นเพียง 45,990.-

    ไฮไลท์สุดอลังการ
    อนุสรณ์สถานทหารนิรนาม – สุเหร่าแห่งโมฮัมหมัดอาลี – มัสยิดอิบันตูลูน
    โบถส์แขวน – โบสถ์เซนต์เซอร์เจียส – ตลาดข่านเอลคาลิลิ
    เมืองเมมฟิส – เมืองโบราณซัคคารา – พีระมิดขั้นบันไดกษัตริย์โจเซอร์
    มหาพีระมิดแห่งกีซา – มหาสฟิงซ์ – โรงงานหัวน้ำหอม – ศูนย์ปาปีรุส
    เมืองอเล็กซานเดรีย – หลุมฝังศพใต้ดิน – เสาปอมเปย์ – ป้อมซิทาเดล – ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย
    พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ – ช้อปปิ้งซิตี้สตาร์มอลล์

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e8afbf
    -------------------------------------
    รายการอื่นน่าสนใจ เพิ่มเติม

    A15806 / THAAI7-GF-ZGCAI-2501GF-P
    อียิปต์ ไคโร กีซา เมมฟิส อเล็กซานเดรีย (รวมค่าวีซ่า)
    ⭕️ราคาเริ่มต้น 45,990 บาท
    ⭕️เดินทาง ต.ค.68 - ปีใหม่
    คลิกดูโปรแกรม PDF : 78s.me/eb7ed4
    .........................................

    A15805 / THAAI7-QR-ZGCAI-2502QR-P
    อียิปต์ ไคโร กีซา เมมฟิส อเล็กซานเดรีย - รวมค่าวีซ่า
    ⭕️ราคาเริ่มต้น 49,990 บาท
    ⭕️เดินทาง 9-14 ธ.ค.68
    คลิกดูโปรแกรม PDF : 78s.me/e43dbf

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #EgyptTrip #Cairo #Giza #Memphis #Alexandria #GrandEgyptianMuseum #เที่ยวอียิปต์ #มหาพีระมิด #สฟิงซ์ #ตลาดข่านเอลคาลิลิ #อเล็กซานเดรีย #ทัวร์อียิปต์ #EgyptTravel #Egypt2025 #ทัวร์ต่างประเทศ
    🌍✨ อียิปต์ดินแดนแห่งมนต์ขลัง! 6 วัน 3 คืน 🏜️ บินตรงกับ ✈️ GF-กัลฟ์ แอร์ (รวมค่าวีซ่าแล้ว) 💰 ราคาเริ่มต้นเพียง 45,990.- 📍 ไฮไลท์สุดอลังการ 🏛️ อนุสรณ์สถานทหารนิรนาม – สุเหร่าแห่งโมฮัมหมัดอาลี – มัสยิดอิบันตูลูน ⛪ โบถส์แขวน – โบสถ์เซนต์เซอร์เจียส – ตลาดข่านเอลคาลิลิ 🏺 เมืองเมมฟิส – เมืองโบราณซัคคารา – พีระมิดขั้นบันไดกษัตริย์โจเซอร์ 🗿 มหาพีระมิดแห่งกีซา – มหาสฟิงซ์ – โรงงานหัวน้ำหอม – ศูนย์ปาปีรุส 🏖️ เมืองอเล็กซานเดรีย – หลุมฝังศพใต้ดิน – เสาปอมเปย์ – ป้อมซิทาเดล – ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย 🏬 พิพิธภัณฑ์แกรนด์อียิปต์ – ช้อปปิ้งซิตี้สตาร์มอลล์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e8afbf ------------------------------------- รายการอื่นน่าสนใจ 💓เพิ่มเติม💓 A15806 / THAAI7-GF-ZGCAI-2501GF-P 🚩อียิปต์ ไคโร กีซา เมมฟิส อเล็กซานเดรีย (รวมค่าวีซ่า) ⭕️ราคาเริ่มต้น 45,990 บาท ⭕️เดินทาง ต.ค.68 - ปีใหม่ ✔️คลิกดูโปรแกรม PDF : 78s.me/eb7ed4 ......................................... A15805 / THAAI7-QR-ZGCAI-2502QR-P 🚩อียิปต์ ไคโร กีซา เมมฟิส อเล็กซานเดรีย - รวมค่าวีซ่า ⭕️ราคาเริ่มต้น 49,990 บาท ⭕️เดินทาง 9-14 ธ.ค.68 ✔️คลิกดูโปรแกรม PDF : 78s.me/e43dbf LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #EgyptTrip #Cairo #Giza #Memphis #Alexandria #GrandEgyptianMuseum #เที่ยวอียิปต์ #มหาพีระมิด #สฟิงซ์ #ตลาดข่านเอลคาลิลิ #อเล็กซานเดรีย #ทัวร์อียิปต์ #EgyptTravel #Egypt2025 #ทัวร์ต่างประเทศ
    0 Comments 0 Shares 257 Views 0 Reviews
  • เล่าให้ฟังใหม่: Intel เปิดตัวแคมเปญ “USAI” — เมื่อชิปกลายเป็นเรื่องของความมั่นคงชาติ

    Intel กำลังผลักดันแคมเปญใหม่ชื่อว่า “USAI” (United States Artificial Intelligence) เพื่อแสดงจุดยืนว่าเป็นบริษัทเดียวที่ผลิตชิปขั้นสูงบนแผ่นดินอเมริกา โดยเน้นความรักชาติ ความมั่นคง และความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งในภาคพลเรือนและทหาร

    แคมเปญนี้เกิดขึ้นหลังจากซีอีโอคนใหม่ Lip-Bu Tan ถูกตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับบริษัทจีน ซึ่งสร้างความกังวลด้านความมั่นคง Intel จึงต้องแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อสหรัฐฯ โดยเฉพาะในยุคที่ TSMC และ Samsung ครองตลาดชิปขั้นสูง

    Intel ยังประกาศความร่วมมือกับ EdgeRunner AI เพื่อพัฒนา “AI agents” สำหรับกองทัพสหรัฐฯ โดยใช้ชิปที่ทำงานแบบ air-gapped (ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

    แม้จะมีความพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ แต่ Intel ยังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งการล้าหลังด้านเทคโนโลยี การสูญเสียบุคลากรสำคัญ และความไม่มั่นใจจากพนักงานภายในองค์กร

    Intel เปิดตัวแคมเปญ “USAI” เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสหรัฐฯ
    เน้นการผลิตชิปขั้นสูงบนแผ่นดินอเมริกา

    ซีอีโอ Lip-Bu Tan ถูกตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับบริษัทจีน
    พบกับประธานาธิบดี Trump เพื่อเคลียร์ข้อสงสัย

    Intel ร่วมมือกับ EdgeRunner AI พัฒนา AI agents สำหรับกองทัพ
    ใช้ชิปแบบ air-gapped เพื่อความปลอดภัย

    Intel ระบุว่าเป็นบริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ผลิตชิปขั้นสูงเอง
    ต่างจากบริษัทอื่นที่พึ่งพาโรงงานในต่างประเทศ

    แคมเปญ USAI มุ่งสร้างภาพลักษณ์ใหม่หลังถูก TSMC แซงหน้า
    หวังดึงความเชื่อมั่นจากรัฐบาลและตลาด

    https://wccftech.com/intel-unveils-usai-narrative-emphasizing-its-patriotic-mission/
    🇺🇸🔧 เล่าให้ฟังใหม่: Intel เปิดตัวแคมเปญ “USAI” — เมื่อชิปกลายเป็นเรื่องของความมั่นคงชาติ Intel กำลังผลักดันแคมเปญใหม่ชื่อว่า “USAI” (United States Artificial Intelligence) เพื่อแสดงจุดยืนว่าเป็นบริษัทเดียวที่ผลิตชิปขั้นสูงบนแผ่นดินอเมริกา โดยเน้นความรักชาติ ความมั่นคง และความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งในภาคพลเรือนและทหาร แคมเปญนี้เกิดขึ้นหลังจากซีอีโอคนใหม่ Lip-Bu Tan ถูกตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับบริษัทจีน ซึ่งสร้างความกังวลด้านความมั่นคง Intel จึงต้องแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อสหรัฐฯ โดยเฉพาะในยุคที่ TSMC และ Samsung ครองตลาดชิปขั้นสูง Intel ยังประกาศความร่วมมือกับ EdgeRunner AI เพื่อพัฒนา “AI agents” สำหรับกองทัพสหรัฐฯ โดยใช้ชิปที่ทำงานแบบ air-gapped (ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด แม้จะมีความพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ แต่ Intel ยังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งการล้าหลังด้านเทคโนโลยี การสูญเสียบุคลากรสำคัญ และความไม่มั่นใจจากพนักงานภายในองค์กร ✅ Intel เปิดตัวแคมเปญ “USAI” เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสหรัฐฯ ➡️ เน้นการผลิตชิปขั้นสูงบนแผ่นดินอเมริกา ✅ ซีอีโอ Lip-Bu Tan ถูกตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับบริษัทจีน ➡️ พบกับประธานาธิบดี Trump เพื่อเคลียร์ข้อสงสัย ✅ Intel ร่วมมือกับ EdgeRunner AI พัฒนา AI agents สำหรับกองทัพ ➡️ ใช้ชิปแบบ air-gapped เพื่อความปลอดภัย ✅ Intel ระบุว่าเป็นบริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ผลิตชิปขั้นสูงเอง ➡️ ต่างจากบริษัทอื่นที่พึ่งพาโรงงานในต่างประเทศ ✅ แคมเปญ USAI มุ่งสร้างภาพลักษณ์ใหม่หลังถูก TSMC แซงหน้า ➡️ หวังดึงความเชื่อมั่นจากรัฐบาลและตลาด https://wccftech.com/intel-unveils-usai-narrative-emphasizing-its-patriotic-mission/
    WCCFTECH.COM
    Intel Unveils ‘USAI’ Narrative, Emphasizing Its Patriotic Mission and Positioning Team Blue as America’s Sole Option for Advanced Chip Manufacturing
    Intel is now in the pursuit of showcasing its commitment to US manufacturing, especially after the recent political situation.
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • เล่าให้ฟังใหม่: TSMC ปิดสายการผลิตเวเฟอร์ 6 นิ้ว — ยุคใหม่ของ Gigafab กำลังมา

    TSMC ผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก ประกาศว่าจะทยอยเลิกผลิตเวเฟอร์ขนาด 6 นิ้ว (150 มม.) ภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยจะรวมสายการผลิตเก่าในเมือง Hsinchu และย้ายลูกค้าไปยังโรงงานที่ใช้เวเฟอร์ขนาดใหญ่ขึ้น เช่น 8 นิ้ว (200 มม.) และ 12 นิ้ว (300 มม.) ซึ่งมีประสิทธิภาพและต้นทุนต่อชิปที่ดีกว่า

    เหตุผลหลักคือ เวเฟอร์ขนาดเล็กให้จำนวนชิปต่อแผ่นน้อย ทำให้ต้นทุนสูง ไม่เหมาะกับเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI และ HPC อีกทั้งยังมีการแข่งขันจากโรงงานในจีนที่ผลิตชิปบนเทคโนโลยีเก่าในราคาถูก ทำให้ TSMC ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันระยะยาว

    โรงงาน Fab 2 และ Fab 5 จะหยุดผลิตภายในปี 2027 โดยบางส่วนจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์วิจัยหรือโรงงานประกอบชิ้นส่วนขั้นสูง (advanced packaging) สำหรับเวเฟอร์ 300 มม. ซึ่งเป็นทิศทางที่ TSMC มุ่งไปในยุคหลัง 2 นาโนเมตร

    TSMC จะเลิกผลิตเวเฟอร์ขนาด 6 นิ้วภายใน 2 ปี
    เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต

    โรงงาน Fab 2 และ Fab 5 จะหยุดผลิตภายในปี 2027
    อาจถูกปรับเป็นศูนย์วิจัยหรือโรงงานประกอบชิ้นส่วน

    ลูกค้าจะถูกย้ายไปยังโรงงานที่ใช้เวเฟอร์ 200 มม. และ 300 มม.
    เพื่อรองรับการผลิตในปริมาณมากและเทคโนโลยีขั้นสูง

    เวเฟอร์ขนาดใหญ่ให้จำนวนชิปต่อแผ่นมากกว่า
    ส่งผลให้ต้นทุนต่อชิปลดลงและประสิทธิภาพดีขึ้น

    TSMC ต้องการเพิ่มการใช้พื้นที่และบุคลากรในโรงงานขนาดใหญ่
    เช่น Fab 12 และโรงงานใหม่ที่อยู่ใกล้กัน

    การตัดสินใจนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัท
    มุ่งเน้นการผลิตชิปขั้นสูงสำหรับตลาด AI และ HPC

    https://www.techpowerup.com/339890/tsmc-phases-out-6-inch-wafer-production-encourages-customers-to-move-to-gigafabs
    🏭🔄 เล่าให้ฟังใหม่: TSMC ปิดสายการผลิตเวเฟอร์ 6 นิ้ว — ยุคใหม่ของ Gigafab กำลังมา TSMC ผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก ประกาศว่าจะทยอยเลิกผลิตเวเฟอร์ขนาด 6 นิ้ว (150 มม.) ภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยจะรวมสายการผลิตเก่าในเมือง Hsinchu และย้ายลูกค้าไปยังโรงงานที่ใช้เวเฟอร์ขนาดใหญ่ขึ้น เช่น 8 นิ้ว (200 มม.) และ 12 นิ้ว (300 มม.) ซึ่งมีประสิทธิภาพและต้นทุนต่อชิปที่ดีกว่า เหตุผลหลักคือ เวเฟอร์ขนาดเล็กให้จำนวนชิปต่อแผ่นน้อย ทำให้ต้นทุนสูง ไม่เหมาะกับเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI และ HPC อีกทั้งยังมีการแข่งขันจากโรงงานในจีนที่ผลิตชิปบนเทคโนโลยีเก่าในราคาถูก ทำให้ TSMC ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันระยะยาว โรงงาน Fab 2 และ Fab 5 จะหยุดผลิตภายในปี 2027 โดยบางส่วนจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์วิจัยหรือโรงงานประกอบชิ้นส่วนขั้นสูง (advanced packaging) สำหรับเวเฟอร์ 300 มม. ซึ่งเป็นทิศทางที่ TSMC มุ่งไปในยุคหลัง 2 นาโนเมตร ✅ TSMC จะเลิกผลิตเวเฟอร์ขนาด 6 นิ้วภายใน 2 ปี ➡️ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต ✅ โรงงาน Fab 2 และ Fab 5 จะหยุดผลิตภายในปี 2027 ➡️ อาจถูกปรับเป็นศูนย์วิจัยหรือโรงงานประกอบชิ้นส่วน ✅ ลูกค้าจะถูกย้ายไปยังโรงงานที่ใช้เวเฟอร์ 200 มม. และ 300 มม. ➡️ เพื่อรองรับการผลิตในปริมาณมากและเทคโนโลยีขั้นสูง ✅ เวเฟอร์ขนาดใหญ่ให้จำนวนชิปต่อแผ่นมากกว่า ➡️ ส่งผลให้ต้นทุนต่อชิปลดลงและประสิทธิภาพดีขึ้น ✅ TSMC ต้องการเพิ่มการใช้พื้นที่และบุคลากรในโรงงานขนาดใหญ่ ➡️ เช่น Fab 12 และโรงงานใหม่ที่อยู่ใกล้กัน ✅ การตัดสินใจนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัท ➡️ มุ่งเน้นการผลิตชิปขั้นสูงสำหรับตลาด AI และ HPC https://www.techpowerup.com/339890/tsmc-phases-out-6-inch-wafer-production-encourages-customers-to-move-to-gigafabs
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    TSMC Phases Out 6-Inch Wafer Production, Encourages Customers to Move to Gigafabs
    TSMC will retire its smallest wafer line and reorganize several legacy fabs in Hsinchu as part of a cost and efficiency drive. TSMC plans to discontinue production on 6-inch 150 mm wafers within two years and consolidate its 8-inch 200 mm capacity, enabling machines and staff to operate more efficie...
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • เล่าให้ฟังใหม่: เมื่อ AI กลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของโรงงานในยุคสงครามภาษี

    ในยุคที่สงครามภาษีระหว่างประเทศกลับมารุนแรงอีกครั้ง ผู้ผลิตในสหรัฐฯ อย่าง The Toro Company กลับไม่ตื่นตระหนก พวกเขาเลือกใช้แนวทาง “Just-in-Time” หรือการบริหารสินค้าคงคลังแบบพอดีพอใช้ แทนที่จะกักตุนสินค้าไว้เต็มโกดังเหมือนในช่วงโควิด

    แต่การทำแบบนี้ในยุคที่ภาษีเปลี่ยนแปลงรายวันและความขัดแย้งระหว่างประเทศเกิดขึ้นตลอดเวลา ต้องอาศัยเครื่องมือที่ฉลาดมาก — และนั่นคือ AI

    Kevin Carpenter หัวหน้าฝ่ายซัพพลายเชนของ Toro ใช้ AI สร้างพอดแคสต์ส่วนตัวที่สรุปข่าวสารสำคัญทุกเช้า และใช้ generative AI วิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลเพื่อแนะนำว่า ควรซื้อชิ้นส่วนจากใคร เมื่อไร และจำนวนเท่าไร

    บริษัทต่าง ๆ เริ่มลงทุนใน AI สำหรับซัพพลายเชนมากขึ้น โดยคาดว่ามูลค่าตลาดจะพุ่งถึง 55 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029 จากเพียง 2.7 พันล้านในปัจจุบัน

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า AI ไม่ใช่ยาวิเศษ และการลงทุนโดยไม่เข้าใจอาจนำไปสู่ความสูญเปล่า

    AI ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการพยากรณ์ความต้องการสินค้า
    ลดปัญหาสินค้าขาดหรือค้างสต็อก

    AI ช่วยเลือกซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมโดยวิเคราะห์ราคา ความเสี่ยง และระยะเวลาส่งมอบ
    เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดซื้อ

    AI ช่วยปรับระดับสินค้าคงคลังแบบไดนามิกตามความต้องการ
    ลดของเสียและเพิ่มความพร้อมในการส่งมอบ

    AI สามารถเชื่อมระบบ ERP, WMS, TMS เข้าด้วยกันเพื่อสร้าง “single source of truth”
    ลดความผิดพลาดจากข้อมูลที่กระจัดกระจาย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/13/analysis-just-in-time-manufacturers-turn-to-ai-to-weather-tariff-storm
    🤖📦 เล่าให้ฟังใหม่: เมื่อ AI กลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของโรงงานในยุคสงครามภาษี ในยุคที่สงครามภาษีระหว่างประเทศกลับมารุนแรงอีกครั้ง ผู้ผลิตในสหรัฐฯ อย่าง The Toro Company กลับไม่ตื่นตระหนก พวกเขาเลือกใช้แนวทาง “Just-in-Time” หรือการบริหารสินค้าคงคลังแบบพอดีพอใช้ แทนที่จะกักตุนสินค้าไว้เต็มโกดังเหมือนในช่วงโควิด แต่การทำแบบนี้ในยุคที่ภาษีเปลี่ยนแปลงรายวันและความขัดแย้งระหว่างประเทศเกิดขึ้นตลอดเวลา ต้องอาศัยเครื่องมือที่ฉลาดมาก — และนั่นคือ AI Kevin Carpenter หัวหน้าฝ่ายซัพพลายเชนของ Toro ใช้ AI สร้างพอดแคสต์ส่วนตัวที่สรุปข่าวสารสำคัญทุกเช้า และใช้ generative AI วิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลเพื่อแนะนำว่า ควรซื้อชิ้นส่วนจากใคร เมื่อไร และจำนวนเท่าไร บริษัทต่าง ๆ เริ่มลงทุนใน AI สำหรับซัพพลายเชนมากขึ้น โดยคาดว่ามูลค่าตลาดจะพุ่งถึง 55 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029 จากเพียง 2.7 พันล้านในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า AI ไม่ใช่ยาวิเศษ และการลงทุนโดยไม่เข้าใจอาจนำไปสู่ความสูญเปล่า ✅ AI ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการพยากรณ์ความต้องการสินค้า ➡️ ลดปัญหาสินค้าขาดหรือค้างสต็อก ✅ AI ช่วยเลือกซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมโดยวิเคราะห์ราคา ความเสี่ยง และระยะเวลาส่งมอบ ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดซื้อ ✅ AI ช่วยปรับระดับสินค้าคงคลังแบบไดนามิกตามความต้องการ ➡️ ลดของเสียและเพิ่มความพร้อมในการส่งมอบ ✅ AI สามารถเชื่อมระบบ ERP, WMS, TMS เข้าด้วยกันเพื่อสร้าง “single source of truth” ➡️ ลดความผิดพลาดจากข้อมูลที่กระจัดกระจาย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/13/analysis-just-in-time-manufacturers-turn-to-ai-to-weather-tariff-storm
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Analysis-Just in time? Manufacturers turn to AI to weather tariff storm
    LONDON (Reuters) -Manufacturers like U.S. lawnmower maker The Toro Company are not panicking at the prospect of U.S. President Donald Trump's global trade tariffs.
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
More Results