หลังจากการโจมตีทางไซเบอร์โดยกลุ่ม Salt Typhoon หลายฝ่ายเรียกร้องให้สหรัฐฯ ตอบโต้จีน อย่างไรก็ตาม Marcus Hutchins เตือนว่าการตอบโต้ไซเบอร์อาจทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงต่อการโจมตีครั้งใหญ่จากจีน เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ล้าสมัยและไม่ได้รับการปกป้องที่เพียงพอ Hutchins เสนอให้สหรัฐฯ ลงทุนในระบบป้องกันไซเบอร์ก่อนดำเนินยุทธวิธีตอบโต้
✅ Salt Typhoon เจาะระบบผ่านช่องโหว่ของกฎหมาย CALEA
- กฎหมาย Communications Assistance for Law Enforcement Act (CALEA) ที่ออกในปี 1994 กำหนดให้มี ช่องทางเข้าถึงข้อมูลสื่อสารของผู้ต้องสงสัย
- อย่างไรก็ตาม ระบบที่ออกแบบเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามอาชญากร กลับกลายเป็นช่องโหว่ที่แฮกเกอร์สามารถใช้โจมตี
✅ สหรัฐฯ มีขีดความสามารถในการโจมตีไซเบอร์ แต่ไม่พร้อมรับมือการตอบโต้จากจีน
- Hutchins เตือนว่า โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ ล้าสมัย และไม่ได้รับการปกป้องที่เพียงพอ
- ะบบบางส่วน ไม่ได้รับการอัปเดตมานานกว่า 10 ปี ทำให้จีนสามารถใช้การโจมตีขนาดใหญ่เพื่อตอบโต้ได้ทันที
✅ จีนใช้เวลากว่าทศวรรษในการศึกษาระบบของสหรัฐฯ
- นักวิเคราะห์เชื่อว่ากลุ่ม Typhoon ใช้การโจมตีขนาดเล็กเพื่อทดสอบความสามารถในการตอบโต้ของสหรัฐฯ
- หากเกิดความขัดแย้งระดับสูง จีนสามารถใช้ข้อมูลที่เก็บสะสมไว้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ได้อย่างแม่นยำ
✅ ภาคเอกชนของสหรัฐฯ ไม่มีมาตรการป้องกันที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
- ในสหรัฐฯ แต่ละองค์กรต้องรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ของตนเอง
- Hutchins วิจารณ์ว่า ภาคเอกชนมักมองว่าการเพิกเฉยต่อการโจมตีไซเบอร์มีต้นทุนต่ำกว่าการป้องกัน
✅ ข้อเสนอให้สหรัฐฯ ปรับปรุงมาตรการป้องกันก่อนดำเนินยุทธวิธีตอบโต้
- Hutchins ย้ำว่า สหรัฐฯ ควรสร้างระบบป้องกันที่แข็งแกร่งก่อนเข้าสู่สงครามไซเบอร์
- นักวิเคราะห์หลายคนเห็นด้วยว่า การโจมตีจีนโดยไม่มีการป้องกันที่ดี อาจกลายเป็นหายนะสำหรับสหรัฐฯ เอง
https://www.techradar.com/pro/security/american-cyber-brass-calls-for-retaliatory-strikes-against-china-but-is-the-us-really-ready
✅ Salt Typhoon เจาะระบบผ่านช่องโหว่ของกฎหมาย CALEA
- กฎหมาย Communications Assistance for Law Enforcement Act (CALEA) ที่ออกในปี 1994 กำหนดให้มี ช่องทางเข้าถึงข้อมูลสื่อสารของผู้ต้องสงสัย
- อย่างไรก็ตาม ระบบที่ออกแบบเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามอาชญากร กลับกลายเป็นช่องโหว่ที่แฮกเกอร์สามารถใช้โจมตี
✅ สหรัฐฯ มีขีดความสามารถในการโจมตีไซเบอร์ แต่ไม่พร้อมรับมือการตอบโต้จากจีน
- Hutchins เตือนว่า โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ ล้าสมัย และไม่ได้รับการปกป้องที่เพียงพอ
- ะบบบางส่วน ไม่ได้รับการอัปเดตมานานกว่า 10 ปี ทำให้จีนสามารถใช้การโจมตีขนาดใหญ่เพื่อตอบโต้ได้ทันที
✅ จีนใช้เวลากว่าทศวรรษในการศึกษาระบบของสหรัฐฯ
- นักวิเคราะห์เชื่อว่ากลุ่ม Typhoon ใช้การโจมตีขนาดเล็กเพื่อทดสอบความสามารถในการตอบโต้ของสหรัฐฯ
- หากเกิดความขัดแย้งระดับสูง จีนสามารถใช้ข้อมูลที่เก็บสะสมไว้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ได้อย่างแม่นยำ
✅ ภาคเอกชนของสหรัฐฯ ไม่มีมาตรการป้องกันที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
- ในสหรัฐฯ แต่ละองค์กรต้องรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ของตนเอง
- Hutchins วิจารณ์ว่า ภาคเอกชนมักมองว่าการเพิกเฉยต่อการโจมตีไซเบอร์มีต้นทุนต่ำกว่าการป้องกัน
✅ ข้อเสนอให้สหรัฐฯ ปรับปรุงมาตรการป้องกันก่อนดำเนินยุทธวิธีตอบโต้
- Hutchins ย้ำว่า สหรัฐฯ ควรสร้างระบบป้องกันที่แข็งแกร่งก่อนเข้าสู่สงครามไซเบอร์
- นักวิเคราะห์หลายคนเห็นด้วยว่า การโจมตีจีนโดยไม่มีการป้องกันที่ดี อาจกลายเป็นหายนะสำหรับสหรัฐฯ เอง
https://www.techradar.com/pro/security/american-cyber-brass-calls-for-retaliatory-strikes-against-china-but-is-the-us-really-ready
หลังจากการโจมตีทางไซเบอร์โดยกลุ่ม Salt Typhoon หลายฝ่ายเรียกร้องให้สหรัฐฯ ตอบโต้จีน อย่างไรก็ตาม Marcus Hutchins เตือนว่าการตอบโต้ไซเบอร์อาจทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงต่อการโจมตีครั้งใหญ่จากจีน เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ล้าสมัยและไม่ได้รับการปกป้องที่เพียงพอ Hutchins เสนอให้สหรัฐฯ ลงทุนในระบบป้องกันไซเบอร์ก่อนดำเนินยุทธวิธีตอบโต้
✅ Salt Typhoon เจาะระบบผ่านช่องโหว่ของกฎหมาย CALEA
- กฎหมาย Communications Assistance for Law Enforcement Act (CALEA) ที่ออกในปี 1994 กำหนดให้มี ช่องทางเข้าถึงข้อมูลสื่อสารของผู้ต้องสงสัย
- อย่างไรก็ตาม ระบบที่ออกแบบเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามอาชญากร กลับกลายเป็นช่องโหว่ที่แฮกเกอร์สามารถใช้โจมตี
✅ สหรัฐฯ มีขีดความสามารถในการโจมตีไซเบอร์ แต่ไม่พร้อมรับมือการตอบโต้จากจีน
- Hutchins เตือนว่า โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ ล้าสมัย และไม่ได้รับการปกป้องที่เพียงพอ
- ะบบบางส่วน ไม่ได้รับการอัปเดตมานานกว่า 10 ปี ทำให้จีนสามารถใช้การโจมตีขนาดใหญ่เพื่อตอบโต้ได้ทันที
✅ จีนใช้เวลากว่าทศวรรษในการศึกษาระบบของสหรัฐฯ
- นักวิเคราะห์เชื่อว่ากลุ่ม Typhoon ใช้การโจมตีขนาดเล็กเพื่อทดสอบความสามารถในการตอบโต้ของสหรัฐฯ
- หากเกิดความขัดแย้งระดับสูง จีนสามารถใช้ข้อมูลที่เก็บสะสมไว้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ได้อย่างแม่นยำ
✅ ภาคเอกชนของสหรัฐฯ ไม่มีมาตรการป้องกันที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
- ในสหรัฐฯ แต่ละองค์กรต้องรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ของตนเอง
- Hutchins วิจารณ์ว่า ภาคเอกชนมักมองว่าการเพิกเฉยต่อการโจมตีไซเบอร์มีต้นทุนต่ำกว่าการป้องกัน
✅ ข้อเสนอให้สหรัฐฯ ปรับปรุงมาตรการป้องกันก่อนดำเนินยุทธวิธีตอบโต้
- Hutchins ย้ำว่า สหรัฐฯ ควรสร้างระบบป้องกันที่แข็งแกร่งก่อนเข้าสู่สงครามไซเบอร์
- นักวิเคราะห์หลายคนเห็นด้วยว่า การโจมตีจีนโดยไม่มีการป้องกันที่ดี อาจกลายเป็นหายนะสำหรับสหรัฐฯ เอง
https://www.techradar.com/pro/security/american-cyber-brass-calls-for-retaliatory-strikes-against-china-but-is-the-us-really-ready
0 Comments
0 Shares
34 Views
0 Reviews