• แผนชั่ว ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 2
    หลังจากพระเอกหนัง มาเดินตีหน้าเศร้าในซูดานใต้ไม่เท่าไหร CNN กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ก็เริ่มตีข่าวเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ ที่ซูดานใต้
    ฝ่ายอเมริกาโดย คุณนาย Ellen Sauerbrey หัวหน้าฝ่ายศูนย์อพยพ และตรวจคนเข้าเมืองของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา
    ก็ออกมาบอกว่า นี่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เป็นเรื่องที่นานาชาติ และ องค์การสหประชาชาติต้องให้ความสนใจ
    แหม บทมันซ้ำจังคุณนาย ไอ้เรื่องอ้างสิทธิมนุษยชนนี่ ผมอยากจะอ้วก ท่านผู้อ่าน ก็คงเบื่อที่จะอ่านกัน ผมก็เบื่อที่จะเขียน แต่ช่วยทนอ่านนิทานเรื่องนี่หน่อยนะครับ อ่านแล้วจะได้รู้ว่า เรื่องไหนมันน่าสงสารจริง หรือเรื่องไหนมันน่าคลื่นไส้ น่าทุเรศ
    ปรากฏว่า คงเตี้ยมสหประชาชาติไม่ทัน ดันรีบตั้งคณะกรรมาธิการมาตรวจสอบเรื่องนี้ คณะตรวจสอบมี 5 คน มีผู้พิพากษา Antonio Cassese เป็นประธาน
    ซึ่งพิจารณาแล้วก็บอกว่า เรายังไม่เห็นการฆ่าล้างเผ่าพันธ์เกิดขี้น ในดาร์ฟู แต่มีเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่ามีการทำร้ายกันรุนแรงเกิดขึ้น อ้าว
    อเมริกา จัดการประคองเอาตัว John Garang นักการเมืองชาวซูดานหัวรุนแรง ที่พยายามก่อกบฏกับรัฐบาลซูดานมานาน แต่ยังไปไม่ถึงไหน มารับการฝึกอบรมจากหน่วยรบพิเศษของอเมริกาที่ Fort Benning รัฐ Georgia
    หลังจากนั้น ก็เลื่อนชั้นให้เป็นผู้อำนวยการกองกำลังใหญ่ กลับมาให้การฝึกอบรมกับพรรคพวก ที่มีการจัดตั้งเตรียมพร้อมไว้ ให้เป็นกองทัพปลดปล่อยซูดาน ชื่อ Sudan Peoples’ Liberation Army
    โดยทางวอชิงตัน อำนวยการจัดทั้งคน จัดทั้งอาวุธ ให้เต็มอัตรา เพื่อจะให้ชาวซูดานตีกันสมใจ (อเมริกา)
    แล้วอเมริกาก็แยงซ้าย เสี้ยมขวา ในที่สุดชาวซูดานก็ทะเลาะกัน ตีกันจริง มีผู้บาดเจ็บล้มตายเรือนแสน และคนหลายล้านไม่มีที่อยู่
    ส่วนนาย Garang เมื่อปฏิบัติหน้าที่ได้ผลตามใบสั่ง อเมริกาก็ตกรางวัลให้เป็น รองประธานาธิบดี แต่ เป็นได้ไม่ถึงเดือน ขณะที่ Garang กำลังเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์
    เครื่องก็ถลาร่อน แกว่งไปมา แล้วก็หล่นกระแทกพื้น และ Garang ก็ตายอยู่กับซากเฮลิคอปเตอร์ สงสัยเป็นรางวัลแบบมีวันหมดอายุ จะรับรางวัลอะไรกัน ก็ดูวันหมดอายุด้วย ไม่ใช่รับปุ๊บ ยังไม่ถึงเดือน หมดอายุเสียแล้ว
    ฝ่ายกบฏที่เมืองดาร์ฟูทางซูดานใต้ มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Justice for Equality Movement (JEM) ส่วนอีกกลุ่มใหญ่กว่าคือ Sudan Liberation Army (SLA) ของ Garang ทั้ง 2 กลุ่ม มีเป้าหมายที่จะขับไล่รัฐบาลซูดานที่กำลังสร้างมิตรภาพกับจีน
    และทั้ง 2 กลุ่ม ได้รับการสนับสนุนทั้งด้านกำลัง และอาวุธจากอเมริกา เพื่อความรอบคอบ อเมริกาซื้อไพ่ทุกใบอย่างเคยๆ
    เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2006 สภาสูงของอเมริกา ลงมติให้ (อเมริกาสั่ง) นาโต้ ส่งกองกำลังเข้ามาดูแลดาร์ฟู และให้สหประชาชาติ ส่งหน่วยรักษาสันติภาพมาประจำดาร์ฟูด้วย จริงๆก็ให้มาทำอะไรก็ได้ ที่จะเป็นการขัดขวาง ไม่ให้การเข้ามาลงทุน การสำรวจ และ ซื้อน้ำมันในดาร์ฟูของจีน ประสพผลสำเร็จนั่นแหละ
    จะเล่นแต่ที่ซูดาน กลัวจะขวางจีนไม่อยู่ อเมริกาลงทุน “สนับสนุน” Idriss Deby ประธานาธิบดีของชาด Chad ให้เป็นผู้รับผิดชอบส่งกองกำลังจากชาด เข้าไปในซูดานอีกทาง กองกำลังพวกนี้เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดี Deby เอง ที่ได้รับการฝึกอบรมจากอเมริกา (เหมือนกัน) กองกำลังที่ส่งไปส่วนใหญ่ เป็นคนที่คุ้นเคยกับพื้นที่ในซูดาน พวกนี้เข้าไปดาร์ฟูพร้อมกับอาวุธหนักเบา ที่ได้รับอภินันทนาการจากอเมริกา และด้วยกองกำลังจากชาด รวมทั้งกองกำลังจากยูกันดา เอธิโอเปีย ที่ได้ใบสั่งจาก อเมริกา เข้าตีกระนาบ 3 ด้านใส่ดาร์ฟู ไม่นาน ดาร์ฟูก็กลายเป็นแผ่นดินเดือด ชาวซูดานตายเกลื่อน
    นาย Keith Harmon Snow นักวิจัยเกี่ยวกับอาฟริกา เขียนสรุปเหตุการณ์ที่ซูดานไว้ว่า ขณะที่กองทหารของอเมริกาและนาโต้เข้าไปประจำการณ์อยู่ที่ดาร์ฟู โดยอ้างว่าเพื่อทำหน้าที่รักษาความสงบในภูมิภาคนั้น แต่ในความเป็นจริง ทั้งอเมริกาและนาโต้ ไปให้การสนับสนุนกับกองกำลังร่วมของอาฟริกามากกว่า
    โดยนาโต้รับหน้าที่ดูแลด้านภาคพื้นดิน และการโจมตีทางอากาศ ซูดานจึงอยู่ในสภาวะสงครามจากศึกนอก โดยการยกกำลังมารบ ของเพื่อนบ้าน 3 ประเทศ คือ ชาด ยูกานดา และเอธิโอเปีย ที่มีอเมริกา และนาโต้สนับสนุน
    นอกจากนี้ ซูดานยังต้องต่อสู้กับศึกในที่เป็นพวกกบฏ ที่อเมริกาก็ให้การสนับสนุน เช่นเดียวกันทั้งด้านอาวุธ และคนที่เป็นกองกำลังนอกระบบแบบพวกน้ำดำ Black Water ที่โด่งดังก็มาร่วมด้วย ช่วยกระหน่ำอีกด้วย
    สรุปว่า ซูดานถูกรุมกินโต๊ะจากเพื่อนบ้าน 3 ทาง ที่อเมริกาทั้งยุแยง และ สนับสนุน รวมทั้งกลุ่มกบฏอีก 2 กลุ่ม ที่อเมริกาก็ให้การสนับสนุนอีกเช่นกัน เพราะ ซูดานมีแหล่งน้ำมันใหญ่ และไปตกลงร่วมทุนและขายน้ำมันให้กับกับจีน
    แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้แน่ใจว่าจีนไม่กล้าเข้ามาแหยม อเมริกาถึงกับส่งกองทหารของตัวร่วมกับนาโต้ มาตีกันจีนอีกด้วย ทำไมไม่ขนมาทั้งประเทศเลยวะไอ้ใบตองแห้ง ผล ซูดาน ใกล้จะแตกเป็น 2 เสี่ยง 2 ประเทศ
    จีนทำอย่างไรหรือ เมื่อเจอกับดัก แผนชั่วขนาดนี้
    เดือนสิงหาคม ค.ศ.2006 จีนเชิญรัฐมนตรีต่างประเทศของชาดไปหารือกันที่จีน รื้อฟื้นสัมพันธไมตรีที่ถูกตัดขาดไป เมื่อปี ค.ศ.1997 ขึ้นมาใหม่ พร้อมทำสัญญาซื้อน้ำมันจากชาด ในเงื่อนไขที่ชาดยอมรับว่าเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกัน และเป็นธรรมกว่าที่ค่ายอื่นเคยมาทำด้วย
    ศึกซูดาน ด้านชาดจึงเบาลงไปบ้าง
    หลังจากนั้น เดือนธันวาคม ค.ศ.2006 จีนจัด African Summit เชิญ 40 ผู้นำจากอาฟริกามาประชุมแบบสุดยอด สุดหรู มีผู้นำจากอัลจีเรีย ไนจีเรีย มาลี แองโกลา อาฟริกากลาง แซมเบีย อาฟริกาใต้ รวมทั้งซูดาน เป็นต้น มาร่วมประชุม เสร็จการประชุม มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือสาระพัด ที่สำคัญ จีนแอบจับมือไนจีเรียมาเป็นพวก แถมเข้าไปถือหุ้นในแหล่งพลังงานนอกฝั่งของไนจีเรียอีกด้วย เรื่องนี้มีความหมายมาก เพราะไนจีเรีย อยู่ในอวยของนักล่าใบตองแห้งกับชาวเกาะใหญ่ โดย ExxonMobil, Shell, Chevron ต่างตีตั๋วจองเอาไว้แล้วทั้งนั้น อาเฮียกำลังลองของหรือไงครับ
    จีนเดินหน้าเอาเงินช่วยเหลือนำหน้า ให้อาฟริกาเอาไปพัฒนาประเทศ อาฟริกาซึ่งเคยแต่ถูกพวกนักล่ารุ่นเก่ารุ่นใหม่เอาเปรียบ ขูดเลือดเถือเนื้อ เหลือแต่กระดูกก็คงต้องคิดหนัก รับจ้างเขาทำสงคราม แต่ประเทศจน และประชาชนอดตาย หรือจะค้าขายกับจีนแล้วประเทศมีกิน
    เฉพาะ ค.ศ.2006 ปีเดียว จีนตกลงให้เงินกู้กับไนจีเรีย แองโกลาและโมแซมบิก เป็นจำนวนรวมกันประมาณ 8 พันล้านเหรียญ ขณะที่ World Bank ให้เงินกู้กับกลุ่มประเทศในอาฟริกาทั้งหมด เพียง 2.3 พันล้าน
    เดือนมกราคม ค.ศ.2007 ประธานาธิบดีหูจินเทา เดินทางไปปลอบใจซูดานด้วยตนเอง ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง หลังจากนั้น คุณลุงหูก็บุกเข้าไปจับเข่ากับแคเมอรูน ซึ่งมีท่อส่งน้ำมันต่อกับชาด ดาร์ฟูของซูดาน เป็นเสมือนข้อต่ออยู่ตรงกลาง ด้านหนึ่งมีชาด แคมมารูน อีกด้านหนึ่ง มีลิเบียกับ อียิปต์ จะเชื่อมต่อกัน ให้มันได้ประโยชน์กับทุกฝ่ายไหม หรือคิดแต่จะรบกัน ตามที่เขายุแยง ให้ฉิบหายและจนอยู่อย่างนี้
    นี่ผมเดาเอาว่า คุณลุงหู คงพูดแบบนี้ เพราะจีนไม่มีนโยบายแทรกแซงกิจการภายในบ้านใคร แม้จะเป็นคู่ค้า คู่ลงทุนรายใหญ่อย่างซูดาน และนั่นดูเหมือนจะทำให้จีน ยิ่งเดินเข้าไปยืน อยู่กลางกับดัก โดยไม่รู้ตัว

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 2 หลังจากพระเอกหนัง มาเดินตีหน้าเศร้าในซูดานใต้ไม่เท่าไหร CNN กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ก็เริ่มตีข่าวเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ ที่ซูดานใต้ ฝ่ายอเมริกาโดย คุณนาย Ellen Sauerbrey หัวหน้าฝ่ายศูนย์อพยพ และตรวจคนเข้าเมืองของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา ก็ออกมาบอกว่า นี่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เป็นเรื่องที่นานาชาติ และ องค์การสหประชาชาติต้องให้ความสนใจ แหม บทมันซ้ำจังคุณนาย ไอ้เรื่องอ้างสิทธิมนุษยชนนี่ ผมอยากจะอ้วก ท่านผู้อ่าน ก็คงเบื่อที่จะอ่านกัน ผมก็เบื่อที่จะเขียน แต่ช่วยทนอ่านนิทานเรื่องนี่หน่อยนะครับ อ่านแล้วจะได้รู้ว่า เรื่องไหนมันน่าสงสารจริง หรือเรื่องไหนมันน่าคลื่นไส้ น่าทุเรศ ปรากฏว่า คงเตี้ยมสหประชาชาติไม่ทัน ดันรีบตั้งคณะกรรมาธิการมาตรวจสอบเรื่องนี้ คณะตรวจสอบมี 5 คน มีผู้พิพากษา Antonio Cassese เป็นประธาน ซึ่งพิจารณาแล้วก็บอกว่า เรายังไม่เห็นการฆ่าล้างเผ่าพันธ์เกิดขี้น ในดาร์ฟู แต่มีเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่ามีการทำร้ายกันรุนแรงเกิดขึ้น อ้าว อเมริกา จัดการประคองเอาตัว John Garang นักการเมืองชาวซูดานหัวรุนแรง ที่พยายามก่อกบฏกับรัฐบาลซูดานมานาน แต่ยังไปไม่ถึงไหน มารับการฝึกอบรมจากหน่วยรบพิเศษของอเมริกาที่ Fort Benning รัฐ Georgia หลังจากนั้น ก็เลื่อนชั้นให้เป็นผู้อำนวยการกองกำลังใหญ่ กลับมาให้การฝึกอบรมกับพรรคพวก ที่มีการจัดตั้งเตรียมพร้อมไว้ ให้เป็นกองทัพปลดปล่อยซูดาน ชื่อ Sudan Peoples’ Liberation Army โดยทางวอชิงตัน อำนวยการจัดทั้งคน จัดทั้งอาวุธ ให้เต็มอัตรา เพื่อจะให้ชาวซูดานตีกันสมใจ (อเมริกา) แล้วอเมริกาก็แยงซ้าย เสี้ยมขวา ในที่สุดชาวซูดานก็ทะเลาะกัน ตีกันจริง มีผู้บาดเจ็บล้มตายเรือนแสน และคนหลายล้านไม่มีที่อยู่ ส่วนนาย Garang เมื่อปฏิบัติหน้าที่ได้ผลตามใบสั่ง อเมริกาก็ตกรางวัลให้เป็น รองประธานาธิบดี แต่ เป็นได้ไม่ถึงเดือน ขณะที่ Garang กำลังเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ เครื่องก็ถลาร่อน แกว่งไปมา แล้วก็หล่นกระแทกพื้น และ Garang ก็ตายอยู่กับซากเฮลิคอปเตอร์ สงสัยเป็นรางวัลแบบมีวันหมดอายุ จะรับรางวัลอะไรกัน ก็ดูวันหมดอายุด้วย ไม่ใช่รับปุ๊บ ยังไม่ถึงเดือน หมดอายุเสียแล้ว ฝ่ายกบฏที่เมืองดาร์ฟูทางซูดานใต้ มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Justice for Equality Movement (JEM) ส่วนอีกกลุ่มใหญ่กว่าคือ Sudan Liberation Army (SLA) ของ Garang ทั้ง 2 กลุ่ม มีเป้าหมายที่จะขับไล่รัฐบาลซูดานที่กำลังสร้างมิตรภาพกับจีน และทั้ง 2 กลุ่ม ได้รับการสนับสนุนทั้งด้านกำลัง และอาวุธจากอเมริกา เพื่อความรอบคอบ อเมริกาซื้อไพ่ทุกใบอย่างเคยๆ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2006 สภาสูงของอเมริกา ลงมติให้ (อเมริกาสั่ง) นาโต้ ส่งกองกำลังเข้ามาดูแลดาร์ฟู และให้สหประชาชาติ ส่งหน่วยรักษาสันติภาพมาประจำดาร์ฟูด้วย จริงๆก็ให้มาทำอะไรก็ได้ ที่จะเป็นการขัดขวาง ไม่ให้การเข้ามาลงทุน การสำรวจ และ ซื้อน้ำมันในดาร์ฟูของจีน ประสพผลสำเร็จนั่นแหละ จะเล่นแต่ที่ซูดาน กลัวจะขวางจีนไม่อยู่ อเมริกาลงทุน “สนับสนุน” Idriss Deby ประธานาธิบดีของชาด Chad ให้เป็นผู้รับผิดชอบส่งกองกำลังจากชาด เข้าไปในซูดานอีกทาง กองกำลังพวกนี้เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดี Deby เอง ที่ได้รับการฝึกอบรมจากอเมริกา (เหมือนกัน) กองกำลังที่ส่งไปส่วนใหญ่ เป็นคนที่คุ้นเคยกับพื้นที่ในซูดาน พวกนี้เข้าไปดาร์ฟูพร้อมกับอาวุธหนักเบา ที่ได้รับอภินันทนาการจากอเมริกา และด้วยกองกำลังจากชาด รวมทั้งกองกำลังจากยูกันดา เอธิโอเปีย ที่ได้ใบสั่งจาก อเมริกา เข้าตีกระนาบ 3 ด้านใส่ดาร์ฟู ไม่นาน ดาร์ฟูก็กลายเป็นแผ่นดินเดือด ชาวซูดานตายเกลื่อน นาย Keith Harmon Snow นักวิจัยเกี่ยวกับอาฟริกา เขียนสรุปเหตุการณ์ที่ซูดานไว้ว่า ขณะที่กองทหารของอเมริกาและนาโต้เข้าไปประจำการณ์อยู่ที่ดาร์ฟู โดยอ้างว่าเพื่อทำหน้าที่รักษาความสงบในภูมิภาคนั้น แต่ในความเป็นจริง ทั้งอเมริกาและนาโต้ ไปให้การสนับสนุนกับกองกำลังร่วมของอาฟริกามากกว่า โดยนาโต้รับหน้าที่ดูแลด้านภาคพื้นดิน และการโจมตีทางอากาศ ซูดานจึงอยู่ในสภาวะสงครามจากศึกนอก โดยการยกกำลังมารบ ของเพื่อนบ้าน 3 ประเทศ คือ ชาด ยูกานดา และเอธิโอเปีย ที่มีอเมริกา และนาโต้สนับสนุน นอกจากนี้ ซูดานยังต้องต่อสู้กับศึกในที่เป็นพวกกบฏ ที่อเมริกาก็ให้การสนับสนุน เช่นเดียวกันทั้งด้านอาวุธ และคนที่เป็นกองกำลังนอกระบบแบบพวกน้ำดำ Black Water ที่โด่งดังก็มาร่วมด้วย ช่วยกระหน่ำอีกด้วย สรุปว่า ซูดานถูกรุมกินโต๊ะจากเพื่อนบ้าน 3 ทาง ที่อเมริกาทั้งยุแยง และ สนับสนุน รวมทั้งกลุ่มกบฏอีก 2 กลุ่ม ที่อเมริกาก็ให้การสนับสนุนอีกเช่นกัน เพราะ ซูดานมีแหล่งน้ำมันใหญ่ และไปตกลงร่วมทุนและขายน้ำมันให้กับกับจีน แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้แน่ใจว่าจีนไม่กล้าเข้ามาแหยม อเมริกาถึงกับส่งกองทหารของตัวร่วมกับนาโต้ มาตีกันจีนอีกด้วย ทำไมไม่ขนมาทั้งประเทศเลยวะไอ้ใบตองแห้ง ผล ซูดาน ใกล้จะแตกเป็น 2 เสี่ยง 2 ประเทศ จีนทำอย่างไรหรือ เมื่อเจอกับดัก แผนชั่วขนาดนี้ เดือนสิงหาคม ค.ศ.2006 จีนเชิญรัฐมนตรีต่างประเทศของชาดไปหารือกันที่จีน รื้อฟื้นสัมพันธไมตรีที่ถูกตัดขาดไป เมื่อปี ค.ศ.1997 ขึ้นมาใหม่ พร้อมทำสัญญาซื้อน้ำมันจากชาด ในเงื่อนไขที่ชาดยอมรับว่าเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกัน และเป็นธรรมกว่าที่ค่ายอื่นเคยมาทำด้วย ศึกซูดาน ด้านชาดจึงเบาลงไปบ้าง หลังจากนั้น เดือนธันวาคม ค.ศ.2006 จีนจัด African Summit เชิญ 40 ผู้นำจากอาฟริกามาประชุมแบบสุดยอด สุดหรู มีผู้นำจากอัลจีเรีย ไนจีเรีย มาลี แองโกลา อาฟริกากลาง แซมเบีย อาฟริกาใต้ รวมทั้งซูดาน เป็นต้น มาร่วมประชุม เสร็จการประชุม มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือสาระพัด ที่สำคัญ จีนแอบจับมือไนจีเรียมาเป็นพวก แถมเข้าไปถือหุ้นในแหล่งพลังงานนอกฝั่งของไนจีเรียอีกด้วย เรื่องนี้มีความหมายมาก เพราะไนจีเรีย อยู่ในอวยของนักล่าใบตองแห้งกับชาวเกาะใหญ่ โดย ExxonMobil, Shell, Chevron ต่างตีตั๋วจองเอาไว้แล้วทั้งนั้น อาเฮียกำลังลองของหรือไงครับ จีนเดินหน้าเอาเงินช่วยเหลือนำหน้า ให้อาฟริกาเอาไปพัฒนาประเทศ อาฟริกาซึ่งเคยแต่ถูกพวกนักล่ารุ่นเก่ารุ่นใหม่เอาเปรียบ ขูดเลือดเถือเนื้อ เหลือแต่กระดูกก็คงต้องคิดหนัก รับจ้างเขาทำสงคราม แต่ประเทศจน และประชาชนอดตาย หรือจะค้าขายกับจีนแล้วประเทศมีกิน เฉพาะ ค.ศ.2006 ปีเดียว จีนตกลงให้เงินกู้กับไนจีเรีย แองโกลาและโมแซมบิก เป็นจำนวนรวมกันประมาณ 8 พันล้านเหรียญ ขณะที่ World Bank ให้เงินกู้กับกลุ่มประเทศในอาฟริกาทั้งหมด เพียง 2.3 พันล้าน เดือนมกราคม ค.ศ.2007 ประธานาธิบดีหูจินเทา เดินทางไปปลอบใจซูดานด้วยตนเอง ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง หลังจากนั้น คุณลุงหูก็บุกเข้าไปจับเข่ากับแคเมอรูน ซึ่งมีท่อส่งน้ำมันต่อกับชาด ดาร์ฟูของซูดาน เป็นเสมือนข้อต่ออยู่ตรงกลาง ด้านหนึ่งมีชาด แคมมารูน อีกด้านหนึ่ง มีลิเบียกับ อียิปต์ จะเชื่อมต่อกัน ให้มันได้ประโยชน์กับทุกฝ่ายไหม หรือคิดแต่จะรบกัน ตามที่เขายุแยง ให้ฉิบหายและจนอยู่อย่างนี้ นี่ผมเดาเอาว่า คุณลุงหู คงพูดแบบนี้ เพราะจีนไม่มีนโยบายแทรกแซงกิจการภายในบ้านใคร แม้จะเป็นคู่ค้า คู่ลงทุนรายใหญ่อย่างซูดาน และนั่นดูเหมือนจะทำให้จีน ยิ่งเดินเข้าไปยืน อยู่กลางกับดัก โดยไม่รู้ตัว สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 1
    อเมริกา นักล่าใบตองแห้ง ทำชั่วได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ระดับชั่วธรรมดา จนถึง ชั่วจนเหลือเชื่อ เพื่อจะได้ตามที่ตนเองต้องการ แผนชั่วของนักล่าใบตองแห้ง ซับซ้อน ซ่อนลึก แถมสร้างเรื่องกลบ จนดูแทบไม่ออกว่า เรื่องไหน เป็นเรื่องจริง เรื่องไหน เป็นเรื่องลวง
    ประมาณปี ค.ศ.2006 ขณะที่ George Clooney พระเอกหนังฮอลลีวู้ดคนดัง ความหล่อใกล้เคียงลุงนิทาน กำลังเดินทำหน้าหล่ออยู่ที่ซูดานใต้ เพื่อไปช่วยชาวซูดาน ที่กำลังหนีภัยสงครามกลางเมือง โดยมีนักข่าวซีเอนเอน เดินตามประกบพระเอกรูปหล่อทุกฝีก้าว ทำหน้าที่รายงานข่าว แบบรายนาที
    พระเอกกำลังเล่นบทดาราใจบุญ ดังแล้วไม่ลืมคนลำบาก เดินเข้าไปหาชาวซูดาน ที่กำลังนอนอยู่กลางดิน กินแต่ทราย พระเอกทำมาดนุ่ม ก้มไปอุ้มเด็ก ที่ขี้มูกกำลังไหลย้อย ต่อมา พระเอกก็ทำหน้าเครียด คุยกับหญิงชาวซูดาน ที่กำลังปัดแมงวันว่อน พระเอกบอกกำลังจะตั้งมูลนิธิเพื่อมาช่วยชาวซูดานนะ รอหน่อย อย่าเพิ่งหิวตายนะจ้ะ พระเอกยังบอกอีกว่า กำลังชวนเพื่อนดาราใจบุญอีกหลายสิบ ให้มาช่วยกันจัดคอนเสิตร์ เอาเงินมาช่วยชาวซูดานใต้ ฯลฯ สาระพัดจะมีรายงานข่าว เกี่ยวกับพระเอกรูปหล่อ กับชาวซูดานใต้ที่น่าสงสาร
    แต่ ซีเอนเอน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ของนักล่าใบตองแห้ง ไม่เสนอข่าวเล่าให้ชัดสักหน่อย ว่าทำไมชาวซูดานใต้ ถึงบ้านแตกสาแหรกหลุดขนาดนั้น
    ในปี ค.ศ.1994 จีนเปลี่ยนชั้นจากประเทศที่ส่งนำ้มันออก กลายเป็นประเทศ ที่ต้องสั่งน้ำมันเข้า การเปลี่ยนชั้นแบบนี้ของจีน ไม่ดีกับจีนนัก เห็นชัดว่า ความมั่นคงของจีนคงผูกติดกับเรื่องน้ำมันอย่างน่าเป็นห่วง และก็ทำให้ บรรดานักล่ารุ่นใหม่รุ่นเก่าได้ที รีบหาทางปิดกั้น ไม่ให้จีนเข้าถึงแหล่งน้ำมันในโลก ไม่ว่าแหล่งนั้นจะเกี่ยว หรือไม่เกี่ยวกับพวกนักล่าใบตองแห้ง ใบตองสด
    จีนโตไว ยิ่งกว่าไก่ได้ฮอร์โมน ประมาณว่า ในปี ค.ศ.2030 หรือเร็วกว่านั้น จีน อาจมีรถยนตร์ มากกว่าอเมริกา เสียด้วยซ้ำ จีนจึงต้องการน้ำมันมากจริงๆ แต่ใช่ว่าจีนไม่รับรู้ถึงความต้องการของตนเอง จีนเข้าใจเรื่องความต้องการใช้น้ำมันว่าเป็นเรื่องที่ “ต้องจัดการ” เป็นอันดับหนึ่งของชาติ
    ประมาณต้นปี ค.ศ.1999 ข่าวการลงทุนของจีนในซูดาน เกี่ยวกับการสำรวจแหล่งน้ำมัน ทำให้นักล่าใบตองแห้งตาโต ถล่นออกมานอกเบ้า หูผึ่งบาน แต่ยังเก็บอาการ แค่ติดตามดูผลจากดาวเทียม ที่รีบจัดการย้ายตำแหน่ง เอามาจ่อซูดานเรียงกันเป็นตับ ไม่นาน ก็มีข่าวว่า จีนค้นพบแหล่งน้ำมันแล้วที่เมืองดาฟูร์ Darfur ที่อยู่ในซูดานใต้ และมีแผนจะสร้างท่อส่งน้ำมัน ยาว 900 ไมล์ จากแหล่งน้ำมันในซูดานใต้ ไปยังท่าเรือซูดาน เพื่อไปออกทะเลแดง ไปลงถังน้ำมัน เพื่อส่งไปจีน ครบถ้วนกระบวนการ อาเฮียถอนหายใจดังเฮือก
    ข่าวนี้ ทำให้นักล่าใบตองแห้งและอังกฤษชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย แทบจะลงดิ้นกลิ้งกับพื้นด้วยความขัดใจ มันทำได้ยังไง มันหลุดมือพวกเราไปได้อย่างไร แบบนี้แผนการสร้าง กับดักท่อ รัดคอซูดาน ต้องรีบดำเนินการด่วน
    เดือนเมษายน ค.ศ.2005 รัฐมนตรีพลังงานของซูดานประกาศ ที่คาร์ทูม Khartoum เมืองหลวงของซูดานว่า เราพบแหล่งน้ำมันใหญ่ ที่ทางใต้ของเมืองดาร์ฟู Darfur ซึ่งคาดว่าจะทำการผลิตน้ำมันได้ประมาณ 5 แสน บาเรลต่อวัน ในไม่กี่สัปดาห์นี้ นักธรณีวิทยาคาดว่า จะเป็นแหล่งน้ำมันที่ยาวจากดาร์ฟูไปถึงเพื่อนบ้านอย่างชาด Chad และแคเมอรูน Cameroon แหล่งนี้ อาจจะเป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุด ที่พบนอกประเทศซาอุดิอารเบีย… (อ่านนิทานเรื่องนี้ จะได้รสอร่อยขึ้น ถ้าดูแผนที่ประกอบนะครับ)
    หลังจากการขุดเจอน้ำมันที่ดาร์ฟู จีนเร่งเดินสาย ผูกข้อมือกับชาวอาฟริกา อย่างจริงจัง และจริงใจ ด้วยการเสนอเงินกู้ระยะยาว แบบเงินช่วยเหลือคือไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเงื่อนไงผูกมัด ไม่บังคับว่าจะต้องขายสมบัติเก่า หรือแปรรูปบ้าบออะไร แค่ให้เอาเงินไปพัฒนา สร้างสาธารณูประโภค ถนน โรงพยาบาล โรงเรียน ตามอัธยาศัยของผู้กู้ ไม่มีการขู่ ไม่มีการบีบ มันเป็นหนังคนละม้วน เงื่อนไขคนละชุด กับของพวกก๊วนหน้าเลือด ใจดำ ธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ World Bank, IMF
    สำหรับซูดาน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 ที่เจอแหล่งน้ำมัน จีนลงทุนในซูดานไปแล้ว เป็นจำนวน 1 หมื่น 5 พันล้านเหรียญ ส่วนบริษัท China National Petroleum Company (CNPC) ร่วมลงทุนในการขุดสำรวจน้ำม้นกับซูดาน เป็นจำนวน 5 พันล้านเหรียญ และจีนยังถือหุ้นอีก 50% ในโรงกลั่นน้ำมันที่ คาร์ทูมร่วมกับรัฐบาลซูดานอีกด้วย และจีนได้ทำสัญญาสั่งน้ำมันล่วงหน้าจากซูดาน เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งใจป้ำจ่ายเงินล่วงหน้าด้วย ให้เห็นว่าจีนเอาจริง ซื้อจริง รวยจริง ต่างกับค่ายอื่น ที่ดูเหมือน จะรวยแค่ลมปาก
    ทันทีที่มีข่าวนี้ออกไป กองกำลังจากไหนไม่รู้ ผุดขึ้นมาเต็มทะเลทราย ไล่ไปตั้งแต่ แนวเขตแดนของ ชาด ที่อยู่ติดกับซูดาน เป็นกองกำลังที่ติดอาวุธอย่างดี ของตะวันตก หลังจากนั้น ก็มีข่าวปล้น ฆ่า ข่มขืน ตลอดไปทั้งภูมิภาค คราวนี้ วอชิงตัน และ กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ยี่ห้อซีเอนเอน ต่างประโคมข่าวทั้งวัน ว่าเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ที่ดาร์ฟู Darfur Genocide ทั้งหมด ที่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ตีปีบโหมข่าว ก็เพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจว่า เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องเอากองทัพนาโต้ เข้าไปอยู่เต็มซูดานใต้ เพื่อดูแลความสงบ
    จำไว้ให้ดีนะครับ “ฆ่าล้างเผ่าพันธ์” เป็นข้ออ้างของ ไอ้นักล่าใบตองแห้ง และสมุน ขี้ข้ารับใช้ทั้งหลาย ชอบเอามาใช้อ้าง เวลาเสียเปรียบ หรือเวลาจะเอาเปรียบ หรือเวลาอะไรก็ได้ เพื่อจะเอากองกำลังของตัวเองเข้าไปในบ้านของคนอื่นว่ากำลังมีเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธ์กัน ก็มาจากการสร้างเรื่องของพวกเอ็งทั้งนั้นแหละ แมวถูกหมาไล่กัด ก็เป็นเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเหมือนกันนะ
    ท่อส่งน้ำมัน ที่จีนสร้างในซูดาน ส่วนใหญ่อยู่ทางซูดานใต้ มีแหล่งสำรวจใหญ่แหล่งเดียวอยู่ ที่ทางซูดานเหนือ ทางเหนือของซูดานมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองคาร์ทูม ควบคุมโดยรัฐบาลที่เป็นอิสลาม อเมริกาพยายามสร้างสงครามกลางเมือง แบ่งซูดานเป็น 2 ส่วน ซูดานเหนือกับซูดานใต้ โดยอเมริกา เล็งยึดซูดานใต้ มาเป็นของพวกตัว และเป็นการถีบจีนออกจากแหล่งทรัพยากรใหญ่ ที่สามารถจะช่วยจีนได้แยะ (ถ้าจีนได้ไป) เรื่องนี้ นักล่าใบตองแห้งกับพวกยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ อาเฮียชักหายใจไม่โล่ง
    พระเอกหนัง George Cloony เลยต้องไปเข้าฉาก แสดงบทดาราใจบุญ อยู่ที่ซูดานใต้ ใช้พระเอกรูปหล่อใจบุญ ทำหน้าที่ตีข่าว ประกาศให้โลกสนใจ และหลงเชื่อว่า กำลังมีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ เกิดขึ้นในซูดานใต้ มีคนใจร้ายกำลังฆ่าคนบริสุทธิ์ แบบนี้ได้ผลเร็วกว่า เอานักข่าวธรรมดา เดินเซไปเซมา รายงานข่าว ก็เรื่องมันด่วน รอช้าได้ที่ไหน เดี๋ยวอาเฮีย เขาเอาไปหมด
    มันเล่นแบบหนังฮอลลีวู้ด เอาดารามาแสดงได้จริงๆ แน่จริงๆ ไอ้ใบตองแห้ง

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    14 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 1 อเมริกา นักล่าใบตองแห้ง ทำชั่วได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ระดับชั่วธรรมดา จนถึง ชั่วจนเหลือเชื่อ เพื่อจะได้ตามที่ตนเองต้องการ แผนชั่วของนักล่าใบตองแห้ง ซับซ้อน ซ่อนลึก แถมสร้างเรื่องกลบ จนดูแทบไม่ออกว่า เรื่องไหน เป็นเรื่องจริง เรื่องไหน เป็นเรื่องลวง ประมาณปี ค.ศ.2006 ขณะที่ George Clooney พระเอกหนังฮอลลีวู้ดคนดัง ความหล่อใกล้เคียงลุงนิทาน กำลังเดินทำหน้าหล่ออยู่ที่ซูดานใต้ เพื่อไปช่วยชาวซูดาน ที่กำลังหนีภัยสงครามกลางเมือง โดยมีนักข่าวซีเอนเอน เดินตามประกบพระเอกรูปหล่อทุกฝีก้าว ทำหน้าที่รายงานข่าว แบบรายนาที พระเอกกำลังเล่นบทดาราใจบุญ ดังแล้วไม่ลืมคนลำบาก เดินเข้าไปหาชาวซูดาน ที่กำลังนอนอยู่กลางดิน กินแต่ทราย พระเอกทำมาดนุ่ม ก้มไปอุ้มเด็ก ที่ขี้มูกกำลังไหลย้อย ต่อมา พระเอกก็ทำหน้าเครียด คุยกับหญิงชาวซูดาน ที่กำลังปัดแมงวันว่อน พระเอกบอกกำลังจะตั้งมูลนิธิเพื่อมาช่วยชาวซูดานนะ รอหน่อย อย่าเพิ่งหิวตายนะจ้ะ พระเอกยังบอกอีกว่า กำลังชวนเพื่อนดาราใจบุญอีกหลายสิบ ให้มาช่วยกันจัดคอนเสิตร์ เอาเงินมาช่วยชาวซูดานใต้ ฯลฯ สาระพัดจะมีรายงานข่าว เกี่ยวกับพระเอกรูปหล่อ กับชาวซูดานใต้ที่น่าสงสาร แต่ ซีเอนเอน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ของนักล่าใบตองแห้ง ไม่เสนอข่าวเล่าให้ชัดสักหน่อย ว่าทำไมชาวซูดานใต้ ถึงบ้านแตกสาแหรกหลุดขนาดนั้น ในปี ค.ศ.1994 จีนเปลี่ยนชั้นจากประเทศที่ส่งนำ้มันออก กลายเป็นประเทศ ที่ต้องสั่งน้ำมันเข้า การเปลี่ยนชั้นแบบนี้ของจีน ไม่ดีกับจีนนัก เห็นชัดว่า ความมั่นคงของจีนคงผูกติดกับเรื่องน้ำมันอย่างน่าเป็นห่วง และก็ทำให้ บรรดานักล่ารุ่นใหม่รุ่นเก่าได้ที รีบหาทางปิดกั้น ไม่ให้จีนเข้าถึงแหล่งน้ำมันในโลก ไม่ว่าแหล่งนั้นจะเกี่ยว หรือไม่เกี่ยวกับพวกนักล่าใบตองแห้ง ใบตองสด จีนโตไว ยิ่งกว่าไก่ได้ฮอร์โมน ประมาณว่า ในปี ค.ศ.2030 หรือเร็วกว่านั้น จีน อาจมีรถยนตร์ มากกว่าอเมริกา เสียด้วยซ้ำ จีนจึงต้องการน้ำมันมากจริงๆ แต่ใช่ว่าจีนไม่รับรู้ถึงความต้องการของตนเอง จีนเข้าใจเรื่องความต้องการใช้น้ำมันว่าเป็นเรื่องที่ “ต้องจัดการ” เป็นอันดับหนึ่งของชาติ ประมาณต้นปี ค.ศ.1999 ข่าวการลงทุนของจีนในซูดาน เกี่ยวกับการสำรวจแหล่งน้ำมัน ทำให้นักล่าใบตองแห้งตาโต ถล่นออกมานอกเบ้า หูผึ่งบาน แต่ยังเก็บอาการ แค่ติดตามดูผลจากดาวเทียม ที่รีบจัดการย้ายตำแหน่ง เอามาจ่อซูดานเรียงกันเป็นตับ ไม่นาน ก็มีข่าวว่า จีนค้นพบแหล่งน้ำมันแล้วที่เมืองดาฟูร์ Darfur ที่อยู่ในซูดานใต้ และมีแผนจะสร้างท่อส่งน้ำมัน ยาว 900 ไมล์ จากแหล่งน้ำมันในซูดานใต้ ไปยังท่าเรือซูดาน เพื่อไปออกทะเลแดง ไปลงถังน้ำมัน เพื่อส่งไปจีน ครบถ้วนกระบวนการ อาเฮียถอนหายใจดังเฮือก ข่าวนี้ ทำให้นักล่าใบตองแห้งและอังกฤษชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย แทบจะลงดิ้นกลิ้งกับพื้นด้วยความขัดใจ มันทำได้ยังไง มันหลุดมือพวกเราไปได้อย่างไร แบบนี้แผนการสร้าง กับดักท่อ รัดคอซูดาน ต้องรีบดำเนินการด่วน เดือนเมษายน ค.ศ.2005 รัฐมนตรีพลังงานของซูดานประกาศ ที่คาร์ทูม Khartoum เมืองหลวงของซูดานว่า เราพบแหล่งน้ำมันใหญ่ ที่ทางใต้ของเมืองดาร์ฟู Darfur ซึ่งคาดว่าจะทำการผลิตน้ำมันได้ประมาณ 5 แสน บาเรลต่อวัน ในไม่กี่สัปดาห์นี้ นักธรณีวิทยาคาดว่า จะเป็นแหล่งน้ำมันที่ยาวจากดาร์ฟูไปถึงเพื่อนบ้านอย่างชาด Chad และแคเมอรูน Cameroon แหล่งนี้ อาจจะเป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุด ที่พบนอกประเทศซาอุดิอารเบีย… (อ่านนิทานเรื่องนี้ จะได้รสอร่อยขึ้น ถ้าดูแผนที่ประกอบนะครับ) หลังจากการขุดเจอน้ำมันที่ดาร์ฟู จีนเร่งเดินสาย ผูกข้อมือกับชาวอาฟริกา อย่างจริงจัง และจริงใจ ด้วยการเสนอเงินกู้ระยะยาว แบบเงินช่วยเหลือคือไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเงื่อนไงผูกมัด ไม่บังคับว่าจะต้องขายสมบัติเก่า หรือแปรรูปบ้าบออะไร แค่ให้เอาเงินไปพัฒนา สร้างสาธารณูประโภค ถนน โรงพยาบาล โรงเรียน ตามอัธยาศัยของผู้กู้ ไม่มีการขู่ ไม่มีการบีบ มันเป็นหนังคนละม้วน เงื่อนไขคนละชุด กับของพวกก๊วนหน้าเลือด ใจดำ ธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ World Bank, IMF สำหรับซูดาน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 ที่เจอแหล่งน้ำมัน จีนลงทุนในซูดานไปแล้ว เป็นจำนวน 1 หมื่น 5 พันล้านเหรียญ ส่วนบริษัท China National Petroleum Company (CNPC) ร่วมลงทุนในการขุดสำรวจน้ำม้นกับซูดาน เป็นจำนวน 5 พันล้านเหรียญ และจีนยังถือหุ้นอีก 50% ในโรงกลั่นน้ำมันที่ คาร์ทูมร่วมกับรัฐบาลซูดานอีกด้วย และจีนได้ทำสัญญาสั่งน้ำมันล่วงหน้าจากซูดาน เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งใจป้ำจ่ายเงินล่วงหน้าด้วย ให้เห็นว่าจีนเอาจริง ซื้อจริง รวยจริง ต่างกับค่ายอื่น ที่ดูเหมือน จะรวยแค่ลมปาก ทันทีที่มีข่าวนี้ออกไป กองกำลังจากไหนไม่รู้ ผุดขึ้นมาเต็มทะเลทราย ไล่ไปตั้งแต่ แนวเขตแดนของ ชาด ที่อยู่ติดกับซูดาน เป็นกองกำลังที่ติดอาวุธอย่างดี ของตะวันตก หลังจากนั้น ก็มีข่าวปล้น ฆ่า ข่มขืน ตลอดไปทั้งภูมิภาค คราวนี้ วอชิงตัน และ กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ยี่ห้อซีเอนเอน ต่างประโคมข่าวทั้งวัน ว่าเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ที่ดาร์ฟู Darfur Genocide ทั้งหมด ที่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ตีปีบโหมข่าว ก็เพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจว่า เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องเอากองทัพนาโต้ เข้าไปอยู่เต็มซูดานใต้ เพื่อดูแลความสงบ จำไว้ให้ดีนะครับ “ฆ่าล้างเผ่าพันธ์” เป็นข้ออ้างของ ไอ้นักล่าใบตองแห้ง และสมุน ขี้ข้ารับใช้ทั้งหลาย ชอบเอามาใช้อ้าง เวลาเสียเปรียบ หรือเวลาจะเอาเปรียบ หรือเวลาอะไรก็ได้ เพื่อจะเอากองกำลังของตัวเองเข้าไปในบ้านของคนอื่นว่ากำลังมีเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธ์กัน ก็มาจากการสร้างเรื่องของพวกเอ็งทั้งนั้นแหละ แมวถูกหมาไล่กัด ก็เป็นเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเหมือนกันนะ ท่อส่งน้ำมัน ที่จีนสร้างในซูดาน ส่วนใหญ่อยู่ทางซูดานใต้ มีแหล่งสำรวจใหญ่แหล่งเดียวอยู่ ที่ทางซูดานเหนือ ทางเหนือของซูดานมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองคาร์ทูม ควบคุมโดยรัฐบาลที่เป็นอิสลาม อเมริกาพยายามสร้างสงครามกลางเมือง แบ่งซูดานเป็น 2 ส่วน ซูดานเหนือกับซูดานใต้ โดยอเมริกา เล็งยึดซูดานใต้ มาเป็นของพวกตัว และเป็นการถีบจีนออกจากแหล่งทรัพยากรใหญ่ ที่สามารถจะช่วยจีนได้แยะ (ถ้าจีนได้ไป) เรื่องนี้ นักล่าใบตองแห้งกับพวกยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ อาเฮียชักหายใจไม่โล่ง พระเอกหนัง George Cloony เลยต้องไปเข้าฉาก แสดงบทดาราใจบุญ อยู่ที่ซูดานใต้ ใช้พระเอกรูปหล่อใจบุญ ทำหน้าที่ตีข่าว ประกาศให้โลกสนใจ และหลงเชื่อว่า กำลังมีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ เกิดขึ้นในซูดานใต้ มีคนใจร้ายกำลังฆ่าคนบริสุทธิ์ แบบนี้ได้ผลเร็วกว่า เอานักข่าวธรรมดา เดินเซไปเซมา รายงานข่าว ก็เรื่องมันด่วน รอช้าได้ที่ไหน เดี๋ยวอาเฮีย เขาเอาไปหมด มันเล่นแบบหนังฮอลลีวู้ด เอาดารามาแสดงได้จริงๆ แน่จริงๆ ไอ้ใบตองแห้ง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 14 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระยอดธงเจ้าสัว โบสถ์ไม้ตาล วัดอ่างสุวรรณ จ.ประจวบ
    เหรียญพระยอดธงเจ้าสัว (หลังตอกโค็ด) เนื้อกระไหล่ทอง โบสถ์ไม้ตาล วัดอ่างสุวรรณ จ.ประจวบ // พระดีพิธีใหญ่ เหรียญขนาดใหญ่ ประมาณ 2 นิ้ว // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    **พุทธคุณโดดเด่นทางด้านโชคลาภ ทำมาค้าขาย อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน มีความรุ่งเรืองในการทำมาหากิน เมตตามหานิยม และมีชัยชนะเหนือคู่แข่ง ศัตรู แคล้วคลาด คงกระพันและมหาอุตม์ ปกป้องภยันตราย ผู้ที่มีเหรียญนี้ไว้ล้วนแต่อุดมด้วยโชคลาภ ทรัพย์สินพูนทวีมีฐานะ **

    ** “วัดอ่างสุวรรณ” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดหนองหอย” ในอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อุโบสถของวัดนี้งดงามเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของไทย เพราะเป็นโบสถ์ไม้ที่ทำมาจากต้นตาล ไม้ตาลที่ใช้สร้างต้องเป็นไม้ตาลอายุ 70-100 ปี เพราะเนื้อไม้จะมีความแข็งแรงทนทาน มดปลวกไม่มายุ่ง และใช้เฉพาะส่วนแก่นตาลที่แข็งที่สุด โดยโบสถ์หลังนี้ใช้ไม้ตาลกว่า 10,000 ต้น และใช้เวลาสร้างกว่า 7 ปี เลยทีเดียว **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระยอดธงเจ้าสัว โบสถ์ไม้ตาล วัดอ่างสุวรรณ จ.ประจวบ เหรียญพระยอดธงเจ้าสัว (หลังตอกโค็ด) เนื้อกระไหล่ทอง โบสถ์ไม้ตาล วัดอ่างสุวรรณ จ.ประจวบ // พระดีพิธีใหญ่ เหรียญขนาดใหญ่ ประมาณ 2 นิ้ว // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // **พุทธคุณโดดเด่นทางด้านโชคลาภ ทำมาค้าขาย อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน มีความรุ่งเรืองในการทำมาหากิน เมตตามหานิยม และมีชัยชนะเหนือคู่แข่ง ศัตรู แคล้วคลาด คงกระพันและมหาอุตม์ ปกป้องภยันตราย ผู้ที่มีเหรียญนี้ไว้ล้วนแต่อุดมด้วยโชคลาภ ทรัพย์สินพูนทวีมีฐานะ ** ** “วัดอ่างสุวรรณ” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดหนองหอย” ในอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อุโบสถของวัดนี้งดงามเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของไทย เพราะเป็นโบสถ์ไม้ที่ทำมาจากต้นตาล ไม้ตาลที่ใช้สร้างต้องเป็นไม้ตาลอายุ 70-100 ปี เพราะเนื้อไม้จะมีความแข็งแรงทนทาน มดปลวกไม่มายุ่ง และใช้เฉพาะส่วนแก่นตาลที่แข็งที่สุด โดยโบสถ์หลังนี้ใช้ไม้ตาลกว่า 10,000 ต้น และใช้เวลาสร้างกว่า 7 ปี เลยทีเดียว ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ONLYOFFICE Docs 9.2 มาพร้อม AI Grammar Check และฟีเจอร์ใหม่

    ONLYOFFICE Docs 9.2 ได้รับการเปิดตัวเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2025 โดยยังคงรักษาจุดแข็งด้านความเข้ากันได้ของไฟล์เอกสารและการเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่นคือ AI Grammar & Spell Check ที่ช่วยตรวจสอบและแนะนำการแก้ไขข้อความอย่างละเอียด พร้อมคำอธิบาย ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกปรับแก้ได้ตามต้องการ

    ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
    Customizable Hotkeys: ผู้ใช้สามารถปรับแต่งคีย์ลัดให้ตรงกับรูปแบบการทำงานของตนเอง
    Macro Recording: บันทึกการทำงานซ้ำ ๆ เช่น การจัดรูปแบบหรือการประมวลผลข้อมูล เพื่อเรียกใช้ซ้ำได้ทันที
    AI Grammar Check: ใช้ปลั๊กอิน AI ตรวจสอบไวยากรณ์และการสะกด พร้อมคำอธิบายประกอบ
    Form Editor Improvements: เพิ่มข้อความอธิบายให้กับ checkbox และ radio button รวมถึงการกำหนดบทบาทของฟิลด์สำหรับงานร่วมกัน

    การใช้งานและการอัปเดต
    ผู้ใช้ที่ติดตั้งแบบ Self-hosting สามารถดาวน์โหลดแพ็กเกจล่าสุดได้จากเว็บไซต์ทางการ ส่วนผู้ใช้ทั่วไปจะได้รับการอัปเดตผ่าน Desktop Editors ในเร็ว ๆ นี้ โดยมี changelog ให้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม

    ความสำคัญต่อผู้ใช้
    การเพิ่มฟีเจอร์เหล่านี้สะท้อนถึงความพยายามของ ONLYOFFICE ในการเป็นทางเลือกที่แข็งแกร่งต่อ Microsoft Office โดยเน้นทั้ง ความเป็นมืออาชีพและการปกป้องข้อมูลผู้ใช้ ทำให้เหมาะกับทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กรที่ต้องการเครื่องมือที่เชื่อถือได้

    สรุปสาระสำคัญ
    AI Grammar & Spell Check เปิดตัวใน Docs 9.2
    ตรวจสอบและแนะนำการแก้ไข พร้อมคำอธิบายประกอบ

    Macro Recording เพิ่มความสะดวกในการทำงานซ้ำ ๆ
    บันทึกขั้นตอนและเรียกใช้ซ้ำได้ทันที

    Customizable Hotkeys ช่วยปรับ workflow ส่วนตัว
    เหมาะกับผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับคีย์ลัดจากซอฟต์แวร์อื่น

    Form Editor ได้รับการปรับปรุง
    เพิ่มข้อความอธิบายและการกำหนดบทบาทฟิลด์

    ผู้ใช้ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของปลั๊กอิน AI
    อาจมีข้อจำกัดในการใช้งานกับบางระบบหรือเอกสาร

    การอัปเดตอาจใช้เวลาสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    ผู้ใช้ Desktop Editors ต้องรอการปล่อยอัปเดตอย่างเป็นทางการ

    https://itsfoss.com/news/onlyoffice-docs-9-2-release/
    📝 ONLYOFFICE Docs 9.2 มาพร้อม AI Grammar Check และฟีเจอร์ใหม่ ONLYOFFICE Docs 9.2 ได้รับการเปิดตัวเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2025 โดยยังคงรักษาจุดแข็งด้านความเข้ากันได้ของไฟล์เอกสารและการเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่นคือ AI Grammar & Spell Check ที่ช่วยตรวจสอบและแนะนำการแก้ไขข้อความอย่างละเอียด พร้อมคำอธิบาย ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกปรับแก้ได้ตามต้องการ ⚡ ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ 💠 Customizable Hotkeys: ผู้ใช้สามารถปรับแต่งคีย์ลัดให้ตรงกับรูปแบบการทำงานของตนเอง 💠 Macro Recording: บันทึกการทำงานซ้ำ ๆ เช่น การจัดรูปแบบหรือการประมวลผลข้อมูล เพื่อเรียกใช้ซ้ำได้ทันที 💠 AI Grammar Check: ใช้ปลั๊กอิน AI ตรวจสอบไวยากรณ์และการสะกด พร้อมคำอธิบายประกอบ 💠 Form Editor Improvements: เพิ่มข้อความอธิบายให้กับ checkbox และ radio button รวมถึงการกำหนดบทบาทของฟิลด์สำหรับงานร่วมกัน 📑 การใช้งานและการอัปเดต ผู้ใช้ที่ติดตั้งแบบ Self-hosting สามารถดาวน์โหลดแพ็กเกจล่าสุดได้จากเว็บไซต์ทางการ ส่วนผู้ใช้ทั่วไปจะได้รับการอัปเดตผ่าน Desktop Editors ในเร็ว ๆ นี้ โดยมี changelog ให้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ การเพิ่มฟีเจอร์เหล่านี้สะท้อนถึงความพยายามของ ONLYOFFICE ในการเป็นทางเลือกที่แข็งแกร่งต่อ Microsoft Office โดยเน้นทั้ง ความเป็นมืออาชีพและการปกป้องข้อมูลผู้ใช้ ทำให้เหมาะกับทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กรที่ต้องการเครื่องมือที่เชื่อถือได้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ AI Grammar & Spell Check เปิดตัวใน Docs 9.2 ➡️ ตรวจสอบและแนะนำการแก้ไข พร้อมคำอธิบายประกอบ ✅ Macro Recording เพิ่มความสะดวกในการทำงานซ้ำ ๆ ➡️ บันทึกขั้นตอนและเรียกใช้ซ้ำได้ทันที ✅ Customizable Hotkeys ช่วยปรับ workflow ส่วนตัว ➡️ เหมาะกับผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับคีย์ลัดจากซอฟต์แวร์อื่น ✅ Form Editor ได้รับการปรับปรุง ➡️ เพิ่มข้อความอธิบายและการกำหนดบทบาทฟิลด์ ‼️ ผู้ใช้ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของปลั๊กอิน AI ⛔ อาจมีข้อจำกัดในการใช้งานกับบางระบบหรือเอกสาร ‼️ การอัปเดตอาจใช้เวลาสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ผู้ใช้ Desktop Editors ต้องรอการปล่อยอัปเดตอย่างเป็นทางการ https://itsfoss.com/news/onlyoffice-docs-9-2-release/
    ITSFOSS.COM
    ONLYOFFICE Docs 9.2 Release Brings AI Grammar Checks to the Free Office Suite
    Along with macro recording, customizable hotkeys, and enhanced PDF redaction tools.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เปิดตัว Code Wiki – ผู้ช่วยเอกสารโค้ดอัจฉริยะ

    Google ได้เปิดตัว Code Wiki ในรูปแบบ Public Preview เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 โดยใช้ AI Gemini เพื่อแก้ปัญหาที่นักพัฒนามักเจอ คือการอ่านและทำความเข้าใจโค้ดที่ซับซ้อนและใช้เวลามาก เครื่องมือนี้จะสร้างเอกสารที่อัปเดตตามการเปลี่ยนแปลงของโค้ด ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาเอกสารแบบคงที่ที่มักล้าสมัย

    ฟีเจอร์หลักของ Code Wiki
    Code Wiki สามารถสร้างเอกสารเชิงโต้ตอบที่เชื่อมโยงคำอธิบายระดับสูงกับไฟล์โค้ด คลาส และฟังก์ชันโดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง แผนภาพสถาปัตยกรรม, แผนภาพคลาส และแผนภาพลำดับ ที่ปรับเปลี่ยนตามโค้ดได้ทันที อีกทั้งยังมี Gemini-powered Chat Agent ที่ใช้ข้อมูลจากเอกสารล่าสุดมาตอบคำถามเกี่ยวกับโค้ด ทำให้การเรียนรู้และสำรวจโค้ดเป็นเรื่องง่ายขึ้น

    การทดสอบและประสิทธิภาพ
    จากการทดสอบกับ Kubernetes Repository พบว่า Code Wiki สามารถแสดงข้อมูลโครงสร้างโปรเจกต์ได้ละเอียด พร้อมทั้งมีวิดีโอ แผนภาพ และคำอธิบายที่เข้าใจง่าย เมื่อถามคำถามผ่านแชทบอท ระบบสามารถตอบได้อย่างเป็นระเบียบและชัดเจน ถือเป็นการยกระดับการจัดการเอกสารโค้ดที่นักพัฒนาหลายคนรอคอย

    แผนในอนาคต
    Google ยังพัฒนา Gemini CLI Extension สำหรับใช้งานกับ Repository ส่วนตัว เพื่อให้ทีมสามารถรัน Code Wiki บนโค้ดภายในองค์กรได้ แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งาน แต่ผู้สนใจสามารถลงชื่อใน Waitlist เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์นี้เมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    สรุปสาระสำคัญ
    Code Wiki เปิดตัว Public Preview
    ใช้ AI Gemini สร้างและอัปเดตเอกสารโค้ดอัตโนมัติ

    ฟีเจอร์หลักของ Code Wiki
    เอกสารเชิงโต้ตอบ, แผนภาพอัตโนมัติ, และ Gemini Chat Agent

    ผลการทดสอบกับ Kubernetes Repository
    แสดงข้อมูลละเอียด พร้อมตอบคำถามได้ชัดเจน

    แผนในอนาคตของ Google
    พัฒนา Gemini CLI Extension สำหรับ Repository ส่วนตัว

    ข้อควรระวังในการใช้งาน Public Preview
    อาจยังมีข้อจำกัดหรือบั๊กที่ต้องแก้ไขก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ

    https://itsfoss.com/news/google-code-wiki/
    🤖 Google เปิดตัว Code Wiki – ผู้ช่วยเอกสารโค้ดอัจฉริยะ Google ได้เปิดตัว Code Wiki ในรูปแบบ Public Preview เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 โดยใช้ AI Gemini เพื่อแก้ปัญหาที่นักพัฒนามักเจอ คือการอ่านและทำความเข้าใจโค้ดที่ซับซ้อนและใช้เวลามาก เครื่องมือนี้จะสร้างเอกสารที่อัปเดตตามการเปลี่ยนแปลงของโค้ด ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาเอกสารแบบคงที่ที่มักล้าสมัย 📚 ฟีเจอร์หลักของ Code Wiki Code Wiki สามารถสร้างเอกสารเชิงโต้ตอบที่เชื่อมโยงคำอธิบายระดับสูงกับไฟล์โค้ด คลาส และฟังก์ชันโดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง แผนภาพสถาปัตยกรรม, แผนภาพคลาส และแผนภาพลำดับ ที่ปรับเปลี่ยนตามโค้ดได้ทันที อีกทั้งยังมี Gemini-powered Chat Agent ที่ใช้ข้อมูลจากเอกสารล่าสุดมาตอบคำถามเกี่ยวกับโค้ด ทำให้การเรียนรู้และสำรวจโค้ดเป็นเรื่องง่ายขึ้น 🧪 การทดสอบและประสิทธิภาพ จากการทดสอบกับ Kubernetes Repository พบว่า Code Wiki สามารถแสดงข้อมูลโครงสร้างโปรเจกต์ได้ละเอียด พร้อมทั้งมีวิดีโอ แผนภาพ และคำอธิบายที่เข้าใจง่าย เมื่อถามคำถามผ่านแชทบอท ระบบสามารถตอบได้อย่างเป็นระเบียบและชัดเจน ถือเป็นการยกระดับการจัดการเอกสารโค้ดที่นักพัฒนาหลายคนรอคอย 🔮 แผนในอนาคต Google ยังพัฒนา Gemini CLI Extension สำหรับใช้งานกับ Repository ส่วนตัว เพื่อให้ทีมสามารถรัน Code Wiki บนโค้ดภายในองค์กรได้ แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งาน แต่ผู้สนใจสามารถลงชื่อใน Waitlist เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์นี้เมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Code Wiki เปิดตัว Public Preview ➡️ ใช้ AI Gemini สร้างและอัปเดตเอกสารโค้ดอัตโนมัติ ✅ ฟีเจอร์หลักของ Code Wiki ➡️ เอกสารเชิงโต้ตอบ, แผนภาพอัตโนมัติ, และ Gemini Chat Agent ✅ ผลการทดสอบกับ Kubernetes Repository ➡️ แสดงข้อมูลละเอียด พร้อมตอบคำถามได้ชัดเจน ✅ แผนในอนาคตของ Google ➡️ พัฒนา Gemini CLI Extension สำหรับ Repository ส่วนตัว ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน Public Preview ⛔ อาจยังมีข้อจำกัดหรือบั๊กที่ต้องแก้ไขก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ https://itsfoss.com/news/google-code-wiki/
    ITSFOSS.COM
    Google's New AI Tool Solves a Problem for Every Lazy Developer
    Code Wiki uses Gemini to create and maintain up-to-date documentation for code repositories.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251203 #TechRadar

    สภาคองเกรสสหรัฐฯ เตรียมพิจารณากฎหมายตรวจสอบอายุใน App Store
    ตอนนี้สภาคองเกรสของสหรัฐฯ กำลังจะหยิบยกกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า App Store Accountability Act (ASA) มาพิจารณา โดยเป้าหมายคือการเพิ่มมาตรการปกป้องเยาวชนบนโลกออนไลน์ กฎหมายนี้จะบังคับให้ผู้ให้บริการ App Store อย่าง Apple และ Google ต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบอายุผู้ใช้งานและจำกัดการเข้าถึงแอปที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก แม้จะมีการสนับสนุนจาก Meta, X และ Pinterest แต่ Apple และ Google กลับกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและการแชร์ข้อมูล ASA เป็นเพียงหนึ่งใน 19 กฎหมายที่ถูกหยิบขึ้นมาหารือในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึง Kids Online Safety Act (KOSA) และ SCREEN Act ที่ต่างก็มีข้อถกเถียงว่าจะกระทบต่อเสรีภาพและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานหรือไม่
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-congress-to-consider-app-store-age-verification-measures

    ผู้ใช้ Windows 11 กังวลเรื่อง AI Agents แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกอย่าเพิ่งตื่นตระหนก
    Windows 11 กำลังถูกจับตามองอีกครั้งหลัง Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า AI Agents โดยเฉพาะ Copilot Actions ที่สามารถช่วยจัดการไฟล์และงานต่าง ๆ บนเครื่องได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ใช้กังวลคือเอกสารที่เตือนถึงความเสี่ยง เช่น การ “หลอน” ของ AI ที่อาจให้ข้อมูลผิด ๆ หรือการโจมตีแบบ cross-prompt injection ที่อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล แม้ Microsoft จะออกแบบระบบให้ AI Agents ทำงานในพื้นที่แยกต่างหากเพื่อความปลอดภัย แต่หลายคนยังไม่มั่นใจว่าจะป้องกันได้จริงเมื่อใช้งานในโลกจริง ความกังวลนี้จึงสะท้อนว่า แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ยังต้องจับตาดูว่ามันจะปลอดภัยพอหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/windows/i-get-why-some-people-are-suddenly-freaking-out-about-ai-agents-in-windows-11-im-worried-too-but-lets-not-panic-just-yet

    Instagram สั่งพนักงานกลับเข้าออฟฟิศเต็มเวลา
    Adam Mosseri ซีอีโอของ Instagram ประกาศว่าตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2026 พนักงานส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ จะต้องกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา โดยให้เหตุผลว่าการทำงานแบบนี้จะช่วยให้บริษัท “คล่องตัวและสร้างสรรค์มากขึ้น” แม้จะยังมีข้อยกเว้นสำหรับพนักงานที่ทำงานแบบรีโมตเต็มเวลา แต่รูปแบบ hybrid กำลังจะหมดไป นอกจากนี้ Mosseri ยังวางแผนลดจำนวนการประชุมที่ไม่จำเป็น และบังคับให้เอกสารกลยุทธ์ต้องกระชับไม่เกินสามหน้า เพื่อให้ทุกคนมีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างผลิตภัณฑ์มากกว่าการเตรียมสไลด์หรือประชุมยืดยาว
    https://www.techradar.com/pro/instagram-ceo-issues-full-time-return-to-office-order

    4.3 ล้านเครื่องติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่กลายเป็นมัลแวร์
    มีการค้นพบว่า ส่วนขยายบน Chrome และ Edge กว่า 145 ตัวที่เคยทำงานปกติมานานหลายปี ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายภายใต้แคมเปญที่ชื่อว่า ShadyPanda โดยเริ่มจากการทำ affiliate fraud แอบใส่โค้ดติดตามการซื้อสินค้า จากนั้นพัฒนาไปสู่การขโมยคุกกี้ การเปลี่ยนเส้นทางการค้นหา และล่าสุดถึงขั้นเปิดช่องให้รันโค้ดจากระยะไกล ทำให้ผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านเครื่องตกอยู่ในความเสี่ยง แม้ Google จะลบออกจาก Chrome Web Store แล้ว แต่ Microsoft ยังตอบสนองช้ากว่า ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบว่ามีส่วนขยายเหล่านี้อยู่ในเครื่องหรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/security/4-3-million-have-installed-this-malicious-browser-extension-on-chrome-and-edge-heres-how-to-check

    อดีตวิศวกร Microsoft จวก Windows 11 ควรแก้ไขพื้นฐานก่อนใส่ฟีเจอร์ AI
    Dave Plummer อดีตวิศวกรผู้สร้าง Task Manager และเกม Space Cadet Pinball ออกมาแสดงความเห็นว่า Microsoft ควรหยุดเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI แล้วหันมาแก้ไขปัญหาพื้นฐานของ Windows 11 ให้เสถียรและใช้งานได้ดีเสียก่อน เขายกตัวอย่างช่วงที่ Windows XP เจอไวรัส Blaster จน Microsoft ต้องออก Service Pack 2 เพื่อแก้ไขบั๊กและเพิ่มความปลอดภัย โดยไม่สนใจฟีเจอร์ใหม่ ๆ Plummer เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ Windows 11 ต้องมีการปรับปรุงแบบเดียวกัน เพื่อให้ระบบ “ไม่ห่วย” ก่อนจะไปต่อยอดด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ
    https://www.techradar.com/computing/windows/ex-engineer-blasts-microsoft-argues-it-must-fix-windows-11-until-it-doesnt-suck-never-mind-about-ai

    ฟีเจอร์ใหม่ Android อาจเปิดช่องให้เจ้านายอ่านข้อความ RCS ของคุณ
    Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ทำให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรสามารถเข้าถึงข้อความ RCS บนมือถือที่ใช้เพื่อการทำงานได้ ซึ่งหมายความว่าหากคุณใช้โทรศัพท์บริษัท ข้อความที่คุณส่งผ่าน RCS อาจถูกเจ้านายหรือฝ่ายไอทีตรวจสอบได้ ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อการจัดการอุปกรณ์และความปลอดภัย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของพนักงาน เพราะ RCS ถูกมองว่าเป็นการสื่อสารที่ทันสมัยและปลอดภัยกว่าข้อความ SMS แบบเดิม
    https://www.techradar.com/phones/android/googles-latest-android-feature-could-let-your-boss-read-your-rcs-texts-on-your-work-phone

    Google ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ Android กว่า 107 จุด
    Google ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Android ที่แก้ไขช่องโหว่ถึง 107 จุด โดยมีบางจุดที่ถูกจัดว่าเป็นความเสี่ยงระดับร้ายแรง ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลได้ การอัปเดตนี้ครอบคลุมทั้งระบบ Android และชิปจากผู้ผลิตต่าง ๆ เช่น Qualcomm และ MediaTek ผู้ใช้จึงควรรีบตรวจสอบและติดตั้งแพตช์ล่าสุดเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของตนปลอดภัยจากการโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/security/107-android-flaws-just-got-patched-by-google-heres-how-to-make-sure-youre-up-to-date

    DeepSeek แจกโมเดล AI ที่ท้าชน GPT-5
    บริษัท DeepSeek ได้สร้างความฮือฮาในวงการ AI ด้วยการปล่อยโมเดลใหม่ที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับ GPT-5 และเปิดให้ใช้งานฟรี โมเดลนี้ถูกมองว่าอาจเปลี่ยนแปลงสมดุลของตลาด AI เพราะทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาและนวัตกรรมที่รวดเร็วขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/deepseek-just-gave-away-an-ai-model-that-rivals-gpt-5-and-it-could-change-everything

    ChatGPT ล่มชั่วคราว แต่กลับมาแล้ว
    วันนี้หลายคนเจอปัญหา ChatGPT ตอบช้า หรือไม่ตอบเลย เหมือนวงกลมหมุนค้างอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น OpenAI ก็รีบออกมาชี้แจงว่ามี “error rates” สูงผิดปกติ และได้เร่งแก้ไขทันที หลังจากนั้นไม่นานก็ปล่อยการแก้ไขออกมา ทำให้ระบบกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แม้บางคนยังเจออาการหน่วงอยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่เร็วมาก สุดท้ายสถานะก็กลับมาเป็นสีเขียว แปลว่าระบบทำงานได้แล้ว ใครที่ยังเจอปัญหาก็ลองรีเฟรชหรือเปิดแอปใหม่อีกครั้ง
    https://www.techradar.com/news/live/chatgpt-outage-december-openai

    Apple เปลี่ยนตัวผู้บริหาร AI คนสำคัญ
    John Giannandrea ผู้ที่ดูแลกลยุทธ์ AI ของ Apple มานานเกือบ 8 ปี กำลังจะเกษียณในปี 2026 โดยจะมี Amar Subramanya เข้ามารับตำแหน่งแทน เขาเคยทำงานทั้งที่ Microsoft และ Google ดูแลโครงการ AI ใหญ่ ๆ อย่าง Gemini และ Bard การเข้ามาของ Subramanya ถือเป็นการเสริมทัพครั้งใหญ่ เพราะ Apple กำลังถูกวิจารณ์ว่าตามหลังคู่แข่งในเรื่อง AI การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงถูกจับตามองว่าจะทำให้ Siri และบริการ AI ของ Apple ก้าวทันโลกได้หรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-and-google-ai-veteran-to-replace-outgoing-apple-exec-john-giannandrea

    Android 16 อัปเดตใหม่ เพิ่ม 7 ฟีเจอร์เด็ด
    Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้ Android 16 แม้ยังใช้ชื่อเดิม แต่เพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เพียบ เช่น AI ช่วยสรุปการแจ้งเตือน, ระบบจัดระเบียบ notification ให้ดูง่ายขึ้น, ปรับแต่งไอคอนตามใจ, เพิ่ม parental controls สำหรับควบคุมเวลาเล่นมือถือของเด็ก, ฟีเจอร์ Call Reason ที่บอกว่าโทรด่วนจริงหรือไม่, ระบบตรวจสอบข้อความหลอกลวงด้วย Circle to Search และการปรับปรุง accessibility ให้ใช้งานสะดวกขึ้น โดยตอนนี้ปล่อยให้กับ Pixel ก่อน ส่วนมือถือแบรนด์อื่นต้องรออีกหน่อย
    https://www.techradar.com/phones/android/the-next-android-16-update-has-landed-and-these-are-the-7-biggest-features

    Samsung เปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับสามตอน
    Samsung สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับได้แบบสามตอน มีจอด้านนอก 6.5 นิ้ว และจอด้านในใหญ่ถึง 10 นิ้ว ใช้การพับแบบ “pamphlet-style” ทำให้เมื่อพับแล้วหนากว่ามือถือทั่วไป แต่ช่วยป้องกันหน้าจอด้านในไม่ให้โดนรอยขีดข่วน ต่างจาก Huawei Mate XT ที่พับแบบ Z แล้วมีส่วนจอโผล่ออกมาเสี่ยงต่อการเสียหาย ถึงแม้ยังไม่มีวันวางขายแน่ชัดในสหรัฐ แต่ดีไซน์นี้ถูกมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับการใช้งานจริง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-z-trifolds-folding-mechanism-looks-odd-but-its-the-right-call-on-a-crucial-design-decision

    กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย Tomiris หันโจมตีรัฐบาล
    รายงานจาก Kaspersky เผยว่า Tomiris กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่พูดภาษารัสเซีย กำลังเปลี่ยนเป้าหมายจากการโจมตีทั่วไป มาสู่การเจาะระบบหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ พวกเขาใช้มัลแวร์หลายภาษา ทั้ง Go, Rust, Python และ PowerShell เพื่อทำให้ตรวจจับยากขึ้น รวมถึงซ่อนการสื่อสารผ่าน Telegram และ Discord วิธีเข้าถึงระบบมักเริ่มจาก phishing ก่อนจะฝังมัลแวร์หลายชั้น จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและเก็บข้อมูลเชิงลึกในระดับรัฐ ไม่ใช่แค่การโจมตีเพื่อเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-speaking-hacking-group-now-shifting-focus-to-government-targets

    Amazon ทดลองส่งของภายใน 30 นาที
    Amazon เปิดบริการใหม่ที่ทำให้การสั่งซื้อออนไลน์เร็วขึ้นไปอีกขั้น โดยไม่ต้องรอ Prime หรือบริการพิเศษใด ๆ พวกเขาเริ่มทดสอบการส่งของภายใน 30 นาที เพื่อโชว์ศักยภาพด้านโลจิสติกส์และระบบจัดการคลังสินค้าแบบทันสมัย แนวคิดนี้คือการทำให้ลูกค้าได้ของแทบจะทันทีหลังสั่งซื้อ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการช้อปปิ้งออนไลน์ และอาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคต
    https://www.techradar.com/computing/software/forget-prime-amazon-starts-30-minute-deliveries-to-show-good-things-come-to-those-with-zero-patience

    สหรัฐทลายเครือข่าย Cryptomixer ยึดเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์
    หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐประสบความสำเร็จในการปิดเครือข่าย Cryptomixer ที่ใช้ฟอกเงินดิจิทัล โดยสามารถยึดเงินได้มากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการเงินคริปโต เพราะ Cryptomixer ถูกใช้เพื่อซ่อนเส้นทางการเงินที่ผิดกฎหมาย การยึดเงินครั้งนี้จึงเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลกำลังจริงจังกับการควบคุมตลาดคริปโตและการฟอกเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/huge-cryptomixer-takedown-sees-feds-seize-over-usd30milion

    ออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายแบนโซเชียลมีเดีย
    รัฐบาลออสเตรเลียประกาศว่ากฎหมายใหม่ที่จะห้ามการใช้โซเชียลมีเดียบางประเภทจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า มาตรการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องเยาวชนและลดผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากเกินไป แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าละเมิดเสรีภาพในการสื่อสาร แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับประชาชน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/australias-social-media-ban-will-come-into-force-next-week

    อินเดียบังคับให้มือถือทุกเครื่องติดตั้งแอปความปลอดภัยล่วงหน้า
    รัฐบาลอินเดียมีแผนจะบังคับให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอปความปลอดภัยที่รัฐกำหนดไว้ล่วงหน้า ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวออกมาแสดงความกังวลอย่างมาก เพราะอาจทำให้ข้อมูลผู้ใช้ถูกตรวจสอบหรือเก็บโดยรัฐโดยตรง แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและอาจกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัลในระยะยาว
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/experts-deeply-concerned-by-indias-plan-to-force-all-smartphones-to-run-pre-installed-security-app

    EU อนุญาตให้เนเธอร์แลนด์ดำเนินคดี Apple เรื่อง App Store
    ศาลยุโรปตัดสินให้เนเธอร์แลนด์สามารถเดินหน้าคดีต่อต้านการผูกขาดกับ Apple เกี่ยวกับการดำเนินงานของ App Store ได้ โดยก่อนหน้านี้ Apple ถูกกล่าวหาว่ามีการบังคับใช้กฎที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้พัฒนาแอป การตัดสินครั้งนี้ถือเป็นการเปิดทางให้ประเทศสมาชิก EU อื่น ๆ สามารถดำเนินการในลักษณะเดียวกันได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบธุรกิจของ Apple ในยุโรปอย่างมีนัยสำคัญ
    https://www.techradar.com/pro/eu-court-gives-the-dutch-the-green-light-to-pursue-apple-app-store-anti-trust-case

    Samsung Galaxy Z TriFold – มือถือพับสามตอนที่แพงที่สุด
    Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z TriFold ที่หลายคนคาดว่าจะเป็นมือถือที่แพงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะอยู่ราวๆ 2,799 ดอลลาร์ ซึ่งแพงกว่ารุ่น Z Fold 7 ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ จุดเด่นคือดีไซน์ที่พับได้สามตอน แต่ใช้งานได้แบบโทรศัพท์ 6.5 นิ้ว หรือแท็บเล็ต 10 นิ้วเท่านั้น ไม่เหมือน Huawei Mate XT ที่ซับซ้อนกว่าและราคาเกือบ 3,400 ดอลลาร์ การเลือกใช้ชิป Snapdragon รุ่นปีที่แล้วช่วยลดต้นทุน และที่สำคัญคือผู้ใช้ส่วนใหญ่จะซื้อผ่านสัญญากับเครือข่าย ทำให้จ่ายเป็นรายเดือนแทนที่จะจ่ายเต็มจำนวนทันที
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/how-much-will-the-galaxy-z-trifold-cost-im-a-samsung-expert-and-heres-my-prediction

    Steam บังคับติดป้ายเกมที่ใช้ AI แต่ Epic บอกว่าไร้สาระ
    Steam ได้ออกกฎใหม่ให้ผู้พัฒนาเกมต้องเปิดเผยว่าใช้ AI สร้างเนื้อหาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก บทสนทนา หรือโค้ด แต่ Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games มองว่าป้าย “Made with AI” ไม่มีประโยชน์ เพราะอนาคตเกมแทบทุกเกมจะใช้ AI อยู่แล้ว เขาเปรียบเทียบว่ามันเหมือนการติดสติกเกอร์เตือนว่าเกมใช้กราฟิก 3D ซึ่งเป็นเรื่องปกติไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นหลายคนกลับมองว่าป้ายนี้ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ว่าจะสนับสนุนเกมที่สร้างโดยมนุษย์หรือใช้ AI มากน้อยแค่ไหน ประเด็นนี้จึงกลายเป็นการถกเถียงเรื่องความโปร่งใสและความเชื่อใจระหว่างผู้เล่นกับผู้พัฒนา https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/steam-requires-ai-game-disclosures-epics-ceo-says-theyre-meaningless

    Wayback Machine เก็บครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว
    Wayback Machine ซึ่งเป็นคลังเก็บประวัติหน้าเว็บของ Internet Archive ได้บันทึกครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว ถือเป็นหลักไมล์สำคัญของการเก็บรักษาประวัติอินเทอร์เน็ต ทุกวันมีการเพิ่มข้อมูลกว่า 150TB เข้าไปในระบบ จุดเด่นคือช่วยให้เราย้อนดูการเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาล บริษัท หรือบล็อกส่วนตัว อีกทั้งยังเก็บสื่ออื่นๆ เช่น หนังสือ เพลงแผ่นเสียง เทป และเกมเก่าๆ ด้วย ผู้ก่อตั้งคือ Brewster Kahle ผู้บุกเบิกยุคแรกของอินเทอร์เน็ต ทำให้ Wayback Machine กลายเป็น “ห้องสมุดดิจิทัล” ที่ช่วยรักษาความทรงจำของโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/computing/internet/the-wayback-machine-recently-captured-its-trillionth-web-page-here-are-5-surprising-facts-about-the-living-history-of-the-internet

    AWS จับมือ Nvidia สร้าง “AI Factories”
    AWS ประกาศความร่วมมือกับ Nvidia เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า “AI Factories” หรือศูนย์กลางประมวลผล AI ขนาดใหญ่ โดยจะรวมฮาร์ดแวร์ล่าสุดของ Nvidia เข้ากับชิป Trainium ของ AWS รวมถึงระบบเครือข่ายและฐานข้อมูล เพื่อให้ธุรกิจและรัฐบาลสามารถพัฒนาโมเดล AI ได้เร็วขึ้นและปลอดภัยขึ้น แนวคิดนี้คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบครบวงจรที่สามารถติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เปรียบเสมือน AWS Region ส่วนตัว ซึ่งจะช่วยให้การสร้างและใช้งานโมเดลขนาดใหญ่ทำได้ง่ายและเร็วกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/pro/aws-wants-to-be-a-part-of-nvidias-ai-factories-and-it-could-change-everything-about-how-your-business-treats-ai

    Netflix ตัดฟีเจอร์ Cast บนมือถือออกไปแบบไม่บอกล่วงหน้า
    Netflix ได้ยกเลิกฟีเจอร์การ Cast จากแอปบนมือถือไปยังอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถส่งภาพจากมือถือไปยังทีวีได้เหมือนเดิม โดยเฉพาะผู้ที่ใช้แพ็กเกจราคาถูกแบบมีโฆษณาจะไม่สามารถ Cast ได้เลย แม้แต่กับ Chromecast รุ่นเก่า การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ที่มักใช้ฟีเจอร์นี้เวลาเดินทางหรือพักในโรงแรม เพราะมันสะดวกกว่าการล็อกอินบนทีวีเครื่องอื่น Netflix อ้างว่าการตัดฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การรับชมมีคุณภาพที่ดีกว่า แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่าเป็นการลดความสะดวกเพื่อควบคุมการใช้งานอุปกรณ์
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/netflix-just-ditched-a-useful-android-and-ios-feature-that-travelers-rely-on-for-hotel-streaming

    รีวิว Prusa Core One L – เครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่
    Prusa เปิดตัว Core One L เครื่องพิมพ์ 3D ที่ออกแบบมาเพื่อความแม่นยำและความเสถียรสูง ใช้โครงสร้าง CoreXY ที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการพิมพ์ขนาดใหญ่และวัสดุหลากหลาย เหมาะทั้งงานต้นแบบและงานผลิตจริง รีวิวชี้ว่าคุณภาพการพิมพ์ออกมาเนียนละเอียด แต่ราคาก็สูงตามสมรรถนะ ถือเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่จริงจังกับงาน 3D printing และต้องการเครื่องที่เชื่อถือได้ในระยะยาว
    https://www.techradar.com/pro/original-prusa-core-one-l-3d-printer-review

    FiiO FT13 – หูฟังครอบหูแบบมีสาย
    FiiO เปิดตัว FT13 หูฟังครอบหูแบบปิดหลังที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างในตลาดหูฟังสาย จุดเด่นคือเสียงที่สมดุลและการออกแบบที่สวมใส่สบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงจริงจังโดยไม่พึ่งระบบไร้สาย รีวิวระบุว่าแม้จะไม่ใช่หูฟังระดับไฮเอนด์ แต่ก็ให้คุณภาพเสียงที่คุ้มค่ากับราคา และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ยังชอบหูฟังแบบมีสาย https://www.techradar.com/audio/headphones/fiio-ft13-wired-headphones-review

    ศูนย์ข้อมูลใหม่อาจใช้พลังงานเพิ่มเกือบ 3 เท่าในปี 2035
    รายงานใหม่เผยว่าศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าภายในปี 2035 เนื่องจากความต้องการประมวลผล AI และการเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ปัจจุบันศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานมากอยู่แล้ว แต่การเติบโตของโมเดล AI ขนาดใหญ่และการสตรีมมิ่งจะทำให้ความต้องการพุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์เตือนว่าหากไม่มีการลงทุนในพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ อาจเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/new-data-centers-will-need-almost-triple-the-current-energy-demand-by-2035

    มอเตอร์ไฟฟ้าแรงสูงอาจนำการบินเหนือเสียงกลับมา
    นักวิจัยกำลังพัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่สามารถทำให้เครื่องบินกลับมาบินด้วยความเร็วเหนือเสียงแบบ Concorde ได้อีกครั้ง การออกแบบใหม่นี้ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้การบินเร็วระดับ Mach 2 มีโอกาสกลับมาในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หากสำเร็จจะเป็นการพลิกโฉมการเดินทางทางอากาศ โดยให้ผู้โดยสารเดินทางข้ามทวีปได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/concorde-style-air-travel-could-be-back-soon-these-powerful-ev-motors-are-unlocking-the-secrets-to-supersonic-air-speeds

    AWS CEO มองว่า AI Agents จะใหญ่กว่าอินเทอร์เน็ต
    Adam Selipsky ซีอีโอของ AWS กล่าวว่าการมาของ AI Agents จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กว่าการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ต เขาเชื่อว่าโลกกำลังเร่งไปข้างหน้าและธุรกิจต้องปรับตัวทันที โดย AWS กำลังลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งาน AI Agents ในระดับองค์กร มุมมองนี้สะท้อนว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังเห็น AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คน
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/the-world-is-not-slowing-down-aws-ceo-says-ai-agents-will-be-bigger-than-the-internet-so-act-now
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251203 #TechRadar 🏛️ สภาคองเกรสสหรัฐฯ เตรียมพิจารณากฎหมายตรวจสอบอายุใน App Store ตอนนี้สภาคองเกรสของสหรัฐฯ กำลังจะหยิบยกกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า App Store Accountability Act (ASA) มาพิจารณา โดยเป้าหมายคือการเพิ่มมาตรการปกป้องเยาวชนบนโลกออนไลน์ กฎหมายนี้จะบังคับให้ผู้ให้บริการ App Store อย่าง Apple และ Google ต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบอายุผู้ใช้งานและจำกัดการเข้าถึงแอปที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก แม้จะมีการสนับสนุนจาก Meta, X และ Pinterest แต่ Apple และ Google กลับกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและการแชร์ข้อมูล ASA เป็นเพียงหนึ่งใน 19 กฎหมายที่ถูกหยิบขึ้นมาหารือในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึง Kids Online Safety Act (KOSA) และ SCREEN Act ที่ต่างก็มีข้อถกเถียงว่าจะกระทบต่อเสรีภาพและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-congress-to-consider-app-store-age-verification-measures 💻 ผู้ใช้ Windows 11 กังวลเรื่อง AI Agents แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกอย่าเพิ่งตื่นตระหนก Windows 11 กำลังถูกจับตามองอีกครั้งหลัง Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า AI Agents โดยเฉพาะ Copilot Actions ที่สามารถช่วยจัดการไฟล์และงานต่าง ๆ บนเครื่องได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ใช้กังวลคือเอกสารที่เตือนถึงความเสี่ยง เช่น การ “หลอน” ของ AI ที่อาจให้ข้อมูลผิด ๆ หรือการโจมตีแบบ cross-prompt injection ที่อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล แม้ Microsoft จะออกแบบระบบให้ AI Agents ทำงานในพื้นที่แยกต่างหากเพื่อความปลอดภัย แต่หลายคนยังไม่มั่นใจว่าจะป้องกันได้จริงเมื่อใช้งานในโลกจริง ความกังวลนี้จึงสะท้อนว่า แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ยังต้องจับตาดูว่ามันจะปลอดภัยพอหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/i-get-why-some-people-are-suddenly-freaking-out-about-ai-agents-in-windows-11-im-worried-too-but-lets-not-panic-just-yet 🏢 Instagram สั่งพนักงานกลับเข้าออฟฟิศเต็มเวลา Adam Mosseri ซีอีโอของ Instagram ประกาศว่าตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2026 พนักงานส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ จะต้องกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา โดยให้เหตุผลว่าการทำงานแบบนี้จะช่วยให้บริษัท “คล่องตัวและสร้างสรรค์มากขึ้น” แม้จะยังมีข้อยกเว้นสำหรับพนักงานที่ทำงานแบบรีโมตเต็มเวลา แต่รูปแบบ hybrid กำลังจะหมดไป นอกจากนี้ Mosseri ยังวางแผนลดจำนวนการประชุมที่ไม่จำเป็น และบังคับให้เอกสารกลยุทธ์ต้องกระชับไม่เกินสามหน้า เพื่อให้ทุกคนมีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างผลิตภัณฑ์มากกว่าการเตรียมสไลด์หรือประชุมยืดยาว 🔗 https://www.techradar.com/pro/instagram-ceo-issues-full-time-return-to-office-order ⚠️ 4.3 ล้านเครื่องติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่กลายเป็นมัลแวร์ มีการค้นพบว่า ส่วนขยายบน Chrome และ Edge กว่า 145 ตัวที่เคยทำงานปกติมานานหลายปี ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายภายใต้แคมเปญที่ชื่อว่า ShadyPanda โดยเริ่มจากการทำ affiliate fraud แอบใส่โค้ดติดตามการซื้อสินค้า จากนั้นพัฒนาไปสู่การขโมยคุกกี้ การเปลี่ยนเส้นทางการค้นหา และล่าสุดถึงขั้นเปิดช่องให้รันโค้ดจากระยะไกล ทำให้ผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านเครื่องตกอยู่ในความเสี่ยง แม้ Google จะลบออกจาก Chrome Web Store แล้ว แต่ Microsoft ยังตอบสนองช้ากว่า ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบว่ามีส่วนขยายเหล่านี้อยู่ในเครื่องหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/4-3-million-have-installed-this-malicious-browser-extension-on-chrome-and-edge-heres-how-to-check 🖥️ อดีตวิศวกร Microsoft จวก Windows 11 ควรแก้ไขพื้นฐานก่อนใส่ฟีเจอร์ AI Dave Plummer อดีตวิศวกรผู้สร้าง Task Manager และเกม Space Cadet Pinball ออกมาแสดงความเห็นว่า Microsoft ควรหยุดเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI แล้วหันมาแก้ไขปัญหาพื้นฐานของ Windows 11 ให้เสถียรและใช้งานได้ดีเสียก่อน เขายกตัวอย่างช่วงที่ Windows XP เจอไวรัส Blaster จน Microsoft ต้องออก Service Pack 2 เพื่อแก้ไขบั๊กและเพิ่มความปลอดภัย โดยไม่สนใจฟีเจอร์ใหม่ ๆ Plummer เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ Windows 11 ต้องมีการปรับปรุงแบบเดียวกัน เพื่อให้ระบบ “ไม่ห่วย” ก่อนจะไปต่อยอดด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/ex-engineer-blasts-microsoft-argues-it-must-fix-windows-11-until-it-doesnt-suck-never-mind-about-ai 📱 ฟีเจอร์ใหม่ Android อาจเปิดช่องให้เจ้านายอ่านข้อความ RCS ของคุณ Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ทำให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรสามารถเข้าถึงข้อความ RCS บนมือถือที่ใช้เพื่อการทำงานได้ ซึ่งหมายความว่าหากคุณใช้โทรศัพท์บริษัท ข้อความที่คุณส่งผ่าน RCS อาจถูกเจ้านายหรือฝ่ายไอทีตรวจสอบได้ ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อการจัดการอุปกรณ์และความปลอดภัย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของพนักงาน เพราะ RCS ถูกมองว่าเป็นการสื่อสารที่ทันสมัยและปลอดภัยกว่าข้อความ SMS แบบเดิม 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/googles-latest-android-feature-could-let-your-boss-read-your-rcs-texts-on-your-work-phone 🔒 Google ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ Android กว่า 107 จุด Google ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Android ที่แก้ไขช่องโหว่ถึง 107 จุด โดยมีบางจุดที่ถูกจัดว่าเป็นความเสี่ยงระดับร้ายแรง ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลได้ การอัปเดตนี้ครอบคลุมทั้งระบบ Android และชิปจากผู้ผลิตต่าง ๆ เช่น Qualcomm และ MediaTek ผู้ใช้จึงควรรีบตรวจสอบและติดตั้งแพตช์ล่าสุดเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของตนปลอดภัยจากการโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/107-android-flaws-just-got-patched-by-google-heres-how-to-make-sure-youre-up-to-date 🤖 DeepSeek แจกโมเดล AI ที่ท้าชน GPT-5 บริษัท DeepSeek ได้สร้างความฮือฮาในวงการ AI ด้วยการปล่อยโมเดลใหม่ที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับ GPT-5 และเปิดให้ใช้งานฟรี โมเดลนี้ถูกมองว่าอาจเปลี่ยนแปลงสมดุลของตลาด AI เพราะทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาและนวัตกรรมที่รวดเร็วขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/deepseek-just-gave-away-an-ai-model-that-rivals-gpt-5-and-it-could-change-everything 🖥️ ChatGPT ล่มชั่วคราว แต่กลับมาแล้ว วันนี้หลายคนเจอปัญหา ChatGPT ตอบช้า หรือไม่ตอบเลย เหมือนวงกลมหมุนค้างอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น OpenAI ก็รีบออกมาชี้แจงว่ามี “error rates” สูงผิดปกติ และได้เร่งแก้ไขทันที หลังจากนั้นไม่นานก็ปล่อยการแก้ไขออกมา ทำให้ระบบกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แม้บางคนยังเจออาการหน่วงอยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่เร็วมาก สุดท้ายสถานะก็กลับมาเป็นสีเขียว แปลว่าระบบทำงานได้แล้ว ใครที่ยังเจอปัญหาก็ลองรีเฟรชหรือเปิดแอปใหม่อีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/news/live/chatgpt-outage-december-openai 🍏 Apple เปลี่ยนตัวผู้บริหาร AI คนสำคัญ John Giannandrea ผู้ที่ดูแลกลยุทธ์ AI ของ Apple มานานเกือบ 8 ปี กำลังจะเกษียณในปี 2026 โดยจะมี Amar Subramanya เข้ามารับตำแหน่งแทน เขาเคยทำงานทั้งที่ Microsoft และ Google ดูแลโครงการ AI ใหญ่ ๆ อย่าง Gemini และ Bard การเข้ามาของ Subramanya ถือเป็นการเสริมทัพครั้งใหญ่ เพราะ Apple กำลังถูกวิจารณ์ว่าตามหลังคู่แข่งในเรื่อง AI การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงถูกจับตามองว่าจะทำให้ Siri และบริการ AI ของ Apple ก้าวทันโลกได้หรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-and-google-ai-veteran-to-replace-outgoing-apple-exec-john-giannandrea 📱 Android 16 อัปเดตใหม่ เพิ่ม 7 ฟีเจอร์เด็ด Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้ Android 16 แม้ยังใช้ชื่อเดิม แต่เพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เพียบ เช่น AI ช่วยสรุปการแจ้งเตือน, ระบบจัดระเบียบ notification ให้ดูง่ายขึ้น, ปรับแต่งไอคอนตามใจ, เพิ่ม parental controls สำหรับควบคุมเวลาเล่นมือถือของเด็ก, ฟีเจอร์ Call Reason ที่บอกว่าโทรด่วนจริงหรือไม่, ระบบตรวจสอบข้อความหลอกลวงด้วย Circle to Search และการปรับปรุง accessibility ให้ใช้งานสะดวกขึ้น โดยตอนนี้ปล่อยให้กับ Pixel ก่อน ส่วนมือถือแบรนด์อื่นต้องรออีกหน่อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/the-next-android-16-update-has-landed-and-these-are-the-7-biggest-features 📲 Samsung เปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับสามตอน Samsung สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับได้แบบสามตอน มีจอด้านนอก 6.5 นิ้ว และจอด้านในใหญ่ถึง 10 นิ้ว ใช้การพับแบบ “pamphlet-style” ทำให้เมื่อพับแล้วหนากว่ามือถือทั่วไป แต่ช่วยป้องกันหน้าจอด้านในไม่ให้โดนรอยขีดข่วน ต่างจาก Huawei Mate XT ที่พับแบบ Z แล้วมีส่วนจอโผล่ออกมาเสี่ยงต่อการเสียหาย ถึงแม้ยังไม่มีวันวางขายแน่ชัดในสหรัฐ แต่ดีไซน์นี้ถูกมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับการใช้งานจริง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-z-trifolds-folding-mechanism-looks-odd-but-its-the-right-call-on-a-crucial-design-decision 🛡️ กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย Tomiris หันโจมตีรัฐบาล รายงานจาก Kaspersky เผยว่า Tomiris กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่พูดภาษารัสเซีย กำลังเปลี่ยนเป้าหมายจากการโจมตีทั่วไป มาสู่การเจาะระบบหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ พวกเขาใช้มัลแวร์หลายภาษา ทั้ง Go, Rust, Python และ PowerShell เพื่อทำให้ตรวจจับยากขึ้น รวมถึงซ่อนการสื่อสารผ่าน Telegram และ Discord วิธีเข้าถึงระบบมักเริ่มจาก phishing ก่อนจะฝังมัลแวร์หลายชั้น จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและเก็บข้อมูลเชิงลึกในระดับรัฐ ไม่ใช่แค่การโจมตีเพื่อเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-speaking-hacking-group-now-shifting-focus-to-government-targets 🚚 Amazon ทดลองส่งของภายใน 30 นาที Amazon เปิดบริการใหม่ที่ทำให้การสั่งซื้อออนไลน์เร็วขึ้นไปอีกขั้น โดยไม่ต้องรอ Prime หรือบริการพิเศษใด ๆ พวกเขาเริ่มทดสอบการส่งของภายใน 30 นาที เพื่อโชว์ศักยภาพด้านโลจิสติกส์และระบบจัดการคลังสินค้าแบบทันสมัย แนวคิดนี้คือการทำให้ลูกค้าได้ของแทบจะทันทีหลังสั่งซื้อ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการช้อปปิ้งออนไลน์ และอาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/forget-prime-amazon-starts-30-minute-deliveries-to-show-good-things-come-to-those-with-zero-patience 💰 สหรัฐทลายเครือข่าย Cryptomixer ยึดเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์ หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐประสบความสำเร็จในการปิดเครือข่าย Cryptomixer ที่ใช้ฟอกเงินดิจิทัล โดยสามารถยึดเงินได้มากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการเงินคริปโต เพราะ Cryptomixer ถูกใช้เพื่อซ่อนเส้นทางการเงินที่ผิดกฎหมาย การยึดเงินครั้งนี้จึงเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลกำลังจริงจังกับการควบคุมตลาดคริปโตและการฟอกเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/huge-cryptomixer-takedown-sees-feds-seize-over-usd30milion 📵 ออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายแบนโซเชียลมีเดีย รัฐบาลออสเตรเลียประกาศว่ากฎหมายใหม่ที่จะห้ามการใช้โซเชียลมีเดียบางประเภทจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า มาตรการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องเยาวชนและลดผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากเกินไป แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าละเมิดเสรีภาพในการสื่อสาร แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับประชาชน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/australias-social-media-ban-will-come-into-force-next-week 📱 อินเดียบังคับให้มือถือทุกเครื่องติดตั้งแอปความปลอดภัยล่วงหน้า รัฐบาลอินเดียมีแผนจะบังคับให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอปความปลอดภัยที่รัฐกำหนดไว้ล่วงหน้า ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวออกมาแสดงความกังวลอย่างมาก เพราะอาจทำให้ข้อมูลผู้ใช้ถูกตรวจสอบหรือเก็บโดยรัฐโดยตรง แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและอาจกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัลในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/experts-deeply-concerned-by-indias-plan-to-force-all-smartphones-to-run-pre-installed-security-app ⚖️ EU อนุญาตให้เนเธอร์แลนด์ดำเนินคดี Apple เรื่อง App Store ศาลยุโรปตัดสินให้เนเธอร์แลนด์สามารถเดินหน้าคดีต่อต้านการผูกขาดกับ Apple เกี่ยวกับการดำเนินงานของ App Store ได้ โดยก่อนหน้านี้ Apple ถูกกล่าวหาว่ามีการบังคับใช้กฎที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้พัฒนาแอป การตัดสินครั้งนี้ถือเป็นการเปิดทางให้ประเทศสมาชิก EU อื่น ๆ สามารถดำเนินการในลักษณะเดียวกันได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบธุรกิจของ Apple ในยุโรปอย่างมีนัยสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-court-gives-the-dutch-the-green-light-to-pursue-apple-app-store-anti-trust-case 📱 Samsung Galaxy Z TriFold – มือถือพับสามตอนที่แพงที่สุด Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z TriFold ที่หลายคนคาดว่าจะเป็นมือถือที่แพงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะอยู่ราวๆ 2,799 ดอลลาร์ ซึ่งแพงกว่ารุ่น Z Fold 7 ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ จุดเด่นคือดีไซน์ที่พับได้สามตอน แต่ใช้งานได้แบบโทรศัพท์ 6.5 นิ้ว หรือแท็บเล็ต 10 นิ้วเท่านั้น ไม่เหมือน Huawei Mate XT ที่ซับซ้อนกว่าและราคาเกือบ 3,400 ดอลลาร์ การเลือกใช้ชิป Snapdragon รุ่นปีที่แล้วช่วยลดต้นทุน และที่สำคัญคือผู้ใช้ส่วนใหญ่จะซื้อผ่านสัญญากับเครือข่าย ทำให้จ่ายเป็นรายเดือนแทนที่จะจ่ายเต็มจำนวนทันที 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/how-much-will-the-galaxy-z-trifold-cost-im-a-samsung-expert-and-heres-my-prediction 🎮 Steam บังคับติดป้ายเกมที่ใช้ AI แต่ Epic บอกว่าไร้สาระ Steam ได้ออกกฎใหม่ให้ผู้พัฒนาเกมต้องเปิดเผยว่าใช้ AI สร้างเนื้อหาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก บทสนทนา หรือโค้ด แต่ Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games มองว่าป้าย “Made with AI” ไม่มีประโยชน์ เพราะอนาคตเกมแทบทุกเกมจะใช้ AI อยู่แล้ว เขาเปรียบเทียบว่ามันเหมือนการติดสติกเกอร์เตือนว่าเกมใช้กราฟิก 3D ซึ่งเป็นเรื่องปกติไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นหลายคนกลับมองว่าป้ายนี้ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ว่าจะสนับสนุนเกมที่สร้างโดยมนุษย์หรือใช้ AI มากน้อยแค่ไหน ประเด็นนี้จึงกลายเป็นการถกเถียงเรื่องความโปร่งใสและความเชื่อใจระหว่างผู้เล่นกับผู้พัฒนา 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/steam-requires-ai-game-disclosures-epics-ceo-says-theyre-meaningless 🌐 Wayback Machine เก็บครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว Wayback Machine ซึ่งเป็นคลังเก็บประวัติหน้าเว็บของ Internet Archive ได้บันทึกครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว ถือเป็นหลักไมล์สำคัญของการเก็บรักษาประวัติอินเทอร์เน็ต ทุกวันมีการเพิ่มข้อมูลกว่า 150TB เข้าไปในระบบ จุดเด่นคือช่วยให้เราย้อนดูการเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาล บริษัท หรือบล็อกส่วนตัว อีกทั้งยังเก็บสื่ออื่นๆ เช่น หนังสือ เพลงแผ่นเสียง เทป และเกมเก่าๆ ด้วย ผู้ก่อตั้งคือ Brewster Kahle ผู้บุกเบิกยุคแรกของอินเทอร์เน็ต ทำให้ Wayback Machine กลายเป็น “ห้องสมุดดิจิทัล” ที่ช่วยรักษาความทรงจำของโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/computing/internet/the-wayback-machine-recently-captured-its-trillionth-web-page-here-are-5-surprising-facts-about-the-living-history-of-the-internet 🤝 AWS จับมือ Nvidia สร้าง “AI Factories” AWS ประกาศความร่วมมือกับ Nvidia เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า “AI Factories” หรือศูนย์กลางประมวลผล AI ขนาดใหญ่ โดยจะรวมฮาร์ดแวร์ล่าสุดของ Nvidia เข้ากับชิป Trainium ของ AWS รวมถึงระบบเครือข่ายและฐานข้อมูล เพื่อให้ธุรกิจและรัฐบาลสามารถพัฒนาโมเดล AI ได้เร็วขึ้นและปลอดภัยขึ้น แนวคิดนี้คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบครบวงจรที่สามารถติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เปรียบเสมือน AWS Region ส่วนตัว ซึ่งจะช่วยให้การสร้างและใช้งานโมเดลขนาดใหญ่ทำได้ง่ายและเร็วกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-wants-to-be-a-part-of-nvidias-ai-factories-and-it-could-change-everything-about-how-your-business-treats-ai 📺 Netflix ตัดฟีเจอร์ Cast บนมือถือออกไปแบบไม่บอกล่วงหน้า Netflix ได้ยกเลิกฟีเจอร์การ Cast จากแอปบนมือถือไปยังอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถส่งภาพจากมือถือไปยังทีวีได้เหมือนเดิม โดยเฉพาะผู้ที่ใช้แพ็กเกจราคาถูกแบบมีโฆษณาจะไม่สามารถ Cast ได้เลย แม้แต่กับ Chromecast รุ่นเก่า การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ที่มักใช้ฟีเจอร์นี้เวลาเดินทางหรือพักในโรงแรม เพราะมันสะดวกกว่าการล็อกอินบนทีวีเครื่องอื่น Netflix อ้างว่าการตัดฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การรับชมมีคุณภาพที่ดีกว่า แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่าเป็นการลดความสะดวกเพื่อควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/netflix-just-ditched-a-useful-android-and-ios-feature-that-travelers-rely-on-for-hotel-streaming 🖨️ รีวิว Prusa Core One L – เครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่ Prusa เปิดตัว Core One L เครื่องพิมพ์ 3D ที่ออกแบบมาเพื่อความแม่นยำและความเสถียรสูง ใช้โครงสร้าง CoreXY ที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการพิมพ์ขนาดใหญ่และวัสดุหลากหลาย เหมาะทั้งงานต้นแบบและงานผลิตจริง รีวิวชี้ว่าคุณภาพการพิมพ์ออกมาเนียนละเอียด แต่ราคาก็สูงตามสมรรถนะ ถือเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่จริงจังกับงาน 3D printing และต้องการเครื่องที่เชื่อถือได้ในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/pro/original-prusa-core-one-l-3d-printer-review 🎧 FiiO FT13 – หูฟังครอบหูแบบมีสาย FiiO เปิดตัว FT13 หูฟังครอบหูแบบปิดหลังที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างในตลาดหูฟังสาย จุดเด่นคือเสียงที่สมดุลและการออกแบบที่สวมใส่สบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงจริงจังโดยไม่พึ่งระบบไร้สาย รีวิวระบุว่าแม้จะไม่ใช่หูฟังระดับไฮเอนด์ แต่ก็ให้คุณภาพเสียงที่คุ้มค่ากับราคา และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ยังชอบหูฟังแบบมีสาย 🔗 https://www.techradar.com/audio/headphones/fiio-ft13-wired-headphones-review ⚡ ศูนย์ข้อมูลใหม่อาจใช้พลังงานเพิ่มเกือบ 3 เท่าในปี 2035 รายงานใหม่เผยว่าศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าภายในปี 2035 เนื่องจากความต้องการประมวลผล AI และการเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ปัจจุบันศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานมากอยู่แล้ว แต่การเติบโตของโมเดล AI ขนาดใหญ่และการสตรีมมิ่งจะทำให้ความต้องการพุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์เตือนว่าหากไม่มีการลงทุนในพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ อาจเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-data-centers-will-need-almost-triple-the-current-energy-demand-by-2035 ✈️ มอเตอร์ไฟฟ้าแรงสูงอาจนำการบินเหนือเสียงกลับมา นักวิจัยกำลังพัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่สามารถทำให้เครื่องบินกลับมาบินด้วยความเร็วเหนือเสียงแบบ Concorde ได้อีกครั้ง การออกแบบใหม่นี้ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้การบินเร็วระดับ Mach 2 มีโอกาสกลับมาในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หากสำเร็จจะเป็นการพลิกโฉมการเดินทางทางอากาศ โดยให้ผู้โดยสารเดินทางข้ามทวีปได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/concorde-style-air-travel-could-be-back-soon-these-powerful-ev-motors-are-unlocking-the-secrets-to-supersonic-air-speeds 🌍 AWS CEO มองว่า AI Agents จะใหญ่กว่าอินเทอร์เน็ต Adam Selipsky ซีอีโอของ AWS กล่าวว่าการมาของ AI Agents จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กว่าการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ต เขาเชื่อว่าโลกกำลังเร่งไปข้างหน้าและธุรกิจต้องปรับตัวทันที โดย AWS กำลังลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งาน AI Agents ในระดับองค์กร มุมมองนี้สะท้อนว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังเห็น AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คน ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/the-world-is-not-slowing-down-aws-ceo-says-ai-agents-will-be-bigger-than-the-internet-so-act-now
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Mistral 3 – ยกระดับ AI Open Source สู่ยุค Multimodal และ Reasoning”

    Mistral AI ประกาศเปิดตัว Mistral 3 ซึ่งเป็นเจเนอเรชันใหม่ของโมเดล AI ที่เน้นความเปิดกว้างและการเข้าถึง โดยมีทั้งรุ่นเล็กที่เหมาะกับการใช้งาน edge (Ministral 3B, 8B, 14B) และรุ่นใหญ่ Mistral Large 3 ที่ถือเป็นโมเดล Mixture-of-Experts รุ่นแรกของบริษัทนับตั้งแต่ Mixtral series จุดเด่นคือการใช้ 41B active parameters จากทั้งหมด 675B ทำให้สามารถรองรับงาน reasoning และ multilingual ได้ในระดับสูงสุด

    Mistral Large 3 ถูกเทรนจากศูนย์ด้วย GPU NVIDIA H200 จำนวน 3000 ตัว และหลังการปรับแต่ง (post-training) สามารถทำงานได้ทัดเทียมกับโมเดล instruction-tuned ชั้นนำในตลาด ทั้งด้านการเข้าใจภาพ (image understanding) และการสนทนาแบบหลายภาษา โดยติดอันดับ #2 ในหมวด OSS non-reasoning models และ #6 รวมทั้งหมดบน LMArena leaderboard

    นอกจากนี้ Mistral ยังร่วมมือกับ NVIDIA, vLLM และ Red Hat เพื่อทำให้การใช้งาน Mistral 3 มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น การรองรับ speculative decoding, Blackwell attention และการ deploy บน edge devices อย่าง Jetson และ RTX PCs ได้อย่างราบรื่น จุดนี้ทำให้ Mistral 3 ไม่เพียงแต่เป็นโมเดลสำหรับ data center แต่ยังสามารถใช้งานในหุ่นยนต์หรืออุปกรณ์พกพาได้ด้วย

    สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป Mistral 3 พร้อมให้ใช้งานแล้วบนหลายแพลตฟอร์ม เช่น Hugging Face, Amazon Bedrock, Azure Foundry, IBM WatsonX และ OpenRouter รวมถึงบริการ API ของ Mistral AI เอง อีกทั้งยังมีบริการ custom training สำหรับองค์กรที่ต้องการปรับแต่งโมเดลให้เหมาะกับงานเฉพาะทาง เช่น การวิเคราะห์เอกสาร, coding, หรือ creative collaboration

    สรุปเป็นหัวข้อ
    คุณสมบัติหลักของ Mistral 3
    มีทั้งรุ่นเล็ก (3B, 8B, 14B) และรุ่นใหญ่ Mistral Large 3
    รองรับ multimodal (ข้อความ + ภาพ) และ multilingual (40+ ภาษา)
    ใช้ Mixture-of-Experts พร้อม 41B active parameters จากทั้งหมด 675B

    ความร่วมมือด้านเทคโนโลยี
    เทรนด้วย NVIDIA H200 GPUs กว่า 3000 ตัว
    รองรับ speculative decoding และ Blackwell attention
    ใช้งานได้ทั้ง data center และ edge devices เช่น Jetson, RTX PCs

    การเข้าถึงและการใช้งาน
    เปิดให้ใช้งานบน Hugging Face, Amazon Bedrock, Azure Foundry, IBM WatsonX
    มีบริการ API และ custom training สำหรับองค์กร
    โมเดลทั้งหมดเปิดภายใต้ Apache 2.0 license

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    แม้จะเป็น open-source แต่การ deploy บนระบบใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรสูงมาก
    การใช้งาน reasoning model อาจมี latency สูงกว่า instruct model
    องค์กรต้องมีการกำกับดูแลเพื่อป้องกันการใช้ผิดวัตถุประสงค์

    https://mistral.ai/news/mistral-3
    🤖 “Mistral 3 – ยกระดับ AI Open Source สู่ยุค Multimodal และ Reasoning” Mistral AI ประกาศเปิดตัว Mistral 3 ซึ่งเป็นเจเนอเรชันใหม่ของโมเดล AI ที่เน้นความเปิดกว้างและการเข้าถึง โดยมีทั้งรุ่นเล็กที่เหมาะกับการใช้งาน edge (Ministral 3B, 8B, 14B) และรุ่นใหญ่ Mistral Large 3 ที่ถือเป็นโมเดล Mixture-of-Experts รุ่นแรกของบริษัทนับตั้งแต่ Mixtral series จุดเด่นคือการใช้ 41B active parameters จากทั้งหมด 675B ทำให้สามารถรองรับงาน reasoning และ multilingual ได้ในระดับสูงสุด Mistral Large 3 ถูกเทรนจากศูนย์ด้วย GPU NVIDIA H200 จำนวน 3000 ตัว และหลังการปรับแต่ง (post-training) สามารถทำงานได้ทัดเทียมกับโมเดล instruction-tuned ชั้นนำในตลาด ทั้งด้านการเข้าใจภาพ (image understanding) และการสนทนาแบบหลายภาษา โดยติดอันดับ #2 ในหมวด OSS non-reasoning models และ #6 รวมทั้งหมดบน LMArena leaderboard นอกจากนี้ Mistral ยังร่วมมือกับ NVIDIA, vLLM และ Red Hat เพื่อทำให้การใช้งาน Mistral 3 มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น การรองรับ speculative decoding, Blackwell attention และการ deploy บน edge devices อย่าง Jetson และ RTX PCs ได้อย่างราบรื่น จุดนี้ทำให้ Mistral 3 ไม่เพียงแต่เป็นโมเดลสำหรับ data center แต่ยังสามารถใช้งานในหุ่นยนต์หรืออุปกรณ์พกพาได้ด้วย สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป Mistral 3 พร้อมให้ใช้งานแล้วบนหลายแพลตฟอร์ม เช่น Hugging Face, Amazon Bedrock, Azure Foundry, IBM WatsonX และ OpenRouter รวมถึงบริการ API ของ Mistral AI เอง อีกทั้งยังมีบริการ custom training สำหรับองค์กรที่ต้องการปรับแต่งโมเดลให้เหมาะกับงานเฉพาะทาง เช่น การวิเคราะห์เอกสาร, coding, หรือ creative collaboration 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ คุณสมบัติหลักของ Mistral 3 ➡️ มีทั้งรุ่นเล็ก (3B, 8B, 14B) และรุ่นใหญ่ Mistral Large 3 ➡️ รองรับ multimodal (ข้อความ + ภาพ) และ multilingual (40+ ภาษา) ➡️ ใช้ Mixture-of-Experts พร้อม 41B active parameters จากทั้งหมด 675B ✅ ความร่วมมือด้านเทคโนโลยี ➡️ เทรนด้วย NVIDIA H200 GPUs กว่า 3000 ตัว ➡️ รองรับ speculative decoding และ Blackwell attention ➡️ ใช้งานได้ทั้ง data center และ edge devices เช่น Jetson, RTX PCs ✅ การเข้าถึงและการใช้งาน ➡️ เปิดให้ใช้งานบน Hugging Face, Amazon Bedrock, Azure Foundry, IBM WatsonX ➡️ มีบริการ API และ custom training สำหรับองค์กร ➡️ โมเดลทั้งหมดเปิดภายใต้ Apache 2.0 license ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ แม้จะเป็น open-source แต่การ deploy บนระบบใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรสูงมาก ⛔ การใช้งาน reasoning model อาจมี latency สูงกว่า instruct model ⛔ องค์กรต้องมีการกำกับดูแลเพื่อป้องกันการใช้ผิดวัตถุประสงค์ https://mistral.ai/news/mistral-3
    MISTRAL.AI
    Introducing Mistral 3 | Mistral AI
    A family of frontier open-source multimodal models
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแรนซัมแวร์ Everest อ้างว่าได้เจาะระบบของ ASUS และขโมยข้อมูลกว่า 1TB

    Everest ซึ่งเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ที่เคยโจมตีองค์กรใหญ่หลายแห่ง ได้โพสต์บนเว็บไซต์ Dark Web ว่าพวกเขาได้เจาะระบบของ ASUS และได้ข้อมูลกว่า 1TB โดยเฉพาะซอร์สโค้ดที่เกี่ยวข้องกับกล้องในอุปกรณ์ของ ASUS เช่นโน้ตบุ๊กและสมาร์ทโฟน การอ้างนี้สร้างความกังวลอย่างมาก เนื่องจากซอร์สโค้ดดังกล่าวถือเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญต่อการพัฒนาและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

    คำขู่และการเรียกร้อง
    กลุ่ม Everest ระบุว่า ASUS ต้องติดต่อพวกเขาผ่าน Qtox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแชทเข้ารหัสภายในเวลา 21 ชั่วโมง แต่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนเงินค่าไถ่ที่ต้องการ การโจมตีครั้งนี้คล้ายกับเหตุการณ์ก่อนหน้า ที่ Everest เคยอ้างว่าเจาะระบบของ Under Armour, Petrobras และ Iberia Airlines โดยขโมยข้อมูลผู้ใช้และเอกสารภายใน

    ความเสี่ยงและผลกระทบ
    หากข้อมูลที่ Everest อ้างว่าถูกขโมยเป็นจริง ผลกระทบอาจรวมถึง:
    การรั่วไหลของซอร์สโค้ดที่อาจถูกนำไปใช้สร้างมัลแวร์หรือช่องโหว่ใหม่
    ความเสียหายต่อชื่อเสียงของ ASUS ในฐานะผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ระดับโลก
    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ที่อาจถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ที่เปิดเผยจากซอร์สโค้ด

    ASUS ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันหรือปฏิเสธ ทำให้สถานการณ์ยังอยู่ในขั้นไม่แน่ชัด

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การอ้างการโจมตี
    Everest อ้างว่าเจาะระบบ ASUS และขโมยข้อมูลกว่า 1TB
    ข้อมูลรวมถึงซอร์สโค้ดที่เกี่ยวข้องกับกล้อง

    คำขู่และการเรียกร้อง
    ให้เวลา 21 ชั่วโมงในการติดต่อผ่าน Qtox
    ไม่เปิดเผยจำนวนเงินค่าไถ่

    เหตุการณ์ก่อนหน้า
    Everest เคยอ้างโจมตี Under Armour, Petrobras และ Iberia Airlines
    ขโมยข้อมูลผู้ใช้และเอกสารภายใน

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    ซอร์สโค้ดรั่วไหลอาจนำไปสู่ช่องโหว่ใหม่
    กระทบชื่อเสียงของ ASUS
    ผู้ใช้อาจเสี่ยงต่อการโจมตีเพิ่มเติม

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    หากข้อมูลจริง ผู้ใช้ ASUS อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ใหม่
    องค์กรควรติดตามข่าวสารและอัปเดตระบบอย่างต่อเนื่อง
    การไม่ยืนยันหรือปฏิเสธจาก ASUS ทำให้สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน

    https://hackread.com/everest-ransomware-asus-breach-1tb-data/
    👥 กลุ่มแรนซัมแวร์ Everest อ้างว่าได้เจาะระบบของ ASUS และขโมยข้อมูลกว่า 1TB Everest ซึ่งเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ที่เคยโจมตีองค์กรใหญ่หลายแห่ง ได้โพสต์บนเว็บไซต์ Dark Web ว่าพวกเขาได้เจาะระบบของ ASUS และได้ข้อมูลกว่า 1TB โดยเฉพาะซอร์สโค้ดที่เกี่ยวข้องกับกล้องในอุปกรณ์ของ ASUS เช่นโน้ตบุ๊กและสมาร์ทโฟน การอ้างนี้สร้างความกังวลอย่างมาก เนื่องจากซอร์สโค้ดดังกล่าวถือเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญต่อการพัฒนาและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ⚠️ คำขู่และการเรียกร้อง กลุ่ม Everest ระบุว่า ASUS ต้องติดต่อพวกเขาผ่าน Qtox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแชทเข้ารหัสภายในเวลา 21 ชั่วโมง แต่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนเงินค่าไถ่ที่ต้องการ การโจมตีครั้งนี้คล้ายกับเหตุการณ์ก่อนหน้า ที่ Everest เคยอ้างว่าเจาะระบบของ Under Armour, Petrobras และ Iberia Airlines โดยขโมยข้อมูลผู้ใช้และเอกสารภายใน 🔒 ความเสี่ยงและผลกระทบ หากข้อมูลที่ Everest อ้างว่าถูกขโมยเป็นจริง ผลกระทบอาจรวมถึง: 💠 การรั่วไหลของซอร์สโค้ดที่อาจถูกนำไปใช้สร้างมัลแวร์หรือช่องโหว่ใหม่ 💠 ความเสียหายต่อชื่อเสียงของ ASUS ในฐานะผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ระดับโลก 💠 ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ที่อาจถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ที่เปิดเผยจากซอร์สโค้ด ASUS ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันหรือปฏิเสธ ทำให้สถานการณ์ยังอยู่ในขั้นไม่แน่ชัด 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การอ้างการโจมตี ➡️ Everest อ้างว่าเจาะระบบ ASUS และขโมยข้อมูลกว่า 1TB ➡️ ข้อมูลรวมถึงซอร์สโค้ดที่เกี่ยวข้องกับกล้อง ✅ คำขู่และการเรียกร้อง ➡️ ให้เวลา 21 ชั่วโมงในการติดต่อผ่าน Qtox ➡️ ไม่เปิดเผยจำนวนเงินค่าไถ่ ✅ เหตุการณ์ก่อนหน้า ➡️ Everest เคยอ้างโจมตี Under Armour, Petrobras และ Iberia Airlines ➡️ ขโมยข้อมูลผู้ใช้และเอกสารภายใน ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ ซอร์สโค้ดรั่วไหลอาจนำไปสู่ช่องโหว่ใหม่ ➡️ กระทบชื่อเสียงของ ASUS ➡️ ผู้ใช้อาจเสี่ยงต่อการโจมตีเพิ่มเติม ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ หากข้อมูลจริง ผู้ใช้ ASUS อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ใหม่ ⛔ องค์กรควรติดตามข่าวสารและอัปเดตระบบอย่างต่อเนื่อง ⛔ การไม่ยืนยันหรือปฏิเสธจาก ASUS ทำให้สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน https://hackread.com/everest-ransomware-asus-breach-1tb-data/
    HACKREAD.COM
    Everest Ransomware Claims ASUS Breach and 1TB Data Theft
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือได้ปล่อยแพ็กเกจอันตรายกว่า 200 ตัวลงใน npm registry

    ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2025 แฮกเกอร์ได้อัปโหลดแพ็กเกจปลอมกว่า 200 ตัว เช่น tailwind-magic, node-tailwind, และ react-modal-select ลงใน npm registry โดยปลอมเป็นเครื่องมือยูทิลิตี้ที่ดูเหมือนจริง แต่เมื่อถูกติดตั้ง แพ็กเกจเหล่านี้จะเชื่อมต่อไปยัง Vercel เพื่อดึง Payload ต่อไป และสุดท้ายโหลดโค้ดอันตรายจากบัญชี GitHub ที่ถูกซ่อนเอาไว้

    วิธีการทำงานของ OtterCookie
    มัลแวร์ OtterCookie ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ของ BeaverTail จะทำการตรวจสอบก่อนว่ากำลังถูกนักวิจัยวิเคราะห์หรือไม่ หากปลอดภัย มันจะเชื่อมต่อกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตีเพื่อเปิด Remote Shell ทำให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ จากนั้นมันจะเริ่มทำงาน เช่น
    ขโมยข้อมูลจาก Clipboard
    Keylogging และจับภาพหน้าจอ
    สแกนหาเอกสารสำคัญ
    ล้วงข้อมูล Credential ของเบราว์เซอร์และกระเป๋าเงินคริปโต ทั้งบน Windows, macOS และ Linux

    ความร้ายแรงของการโจมตี
    รายงานจาก Socket ระบุว่าแพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 31,000 ครั้ง ทำให้การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในแคมเปญที่แพร่หลายที่สุดบน npm ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเปรียบเทียบว่าแฮกเกอร์ใช้กระบวนการที่คล้ายกับ Software Development Lifecycle แต่แทนที่จะสร้างฟีเจอร์ใหม่ พวกเขาสร้างมัลแวร์และอัปเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อหลอกนักพัฒนา

    สรุปเป็นหัวข้อ
    รายละเอียดการโจมตี
    แฮกเกอร์เกาหลีเหนือปล่อยแพ็กเกจปลอมกว่า 200 ตัวบน npm
    ใช้กลยุทธ์ Contagious Interview หลอกนักพัฒนา Web3 และ Blockchain

    การทำงานของ OtterCookie
    ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนทำงาน
    เปิด Remote Shell ให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่อง
    ขโมยข้อมูล Clipboard, Keylogging, Screenshot และ Credential

    ผลกระทบที่เกิดขึ้น
    แพ็กเกจถูกดาวน์โหลดแล้วกว่า 31,000 ครั้ง
    ถือเป็นหนึ่งในแคมเปญมัลแวร์ที่แพร่หลายที่สุดบน npm
    ใช้โครงสร้างคล้าย Software Development Lifecycle แต่เพื่อสร้างมัลแวร์

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    นักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจปลอมเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลสำคัญ
    การใช้ npm โดยไม่ตรวจสอบแพ็กเกจอาจเปิดช่องให้มัลแวร์เข้ามา
    องค์กรที่พัฒนา Web3/Blockchain ต้องเพิ่มมาตรการตรวจสอบโค้ดและแหล่งที่มา

    https://hackread.com/nk-hackers-npm-packages-ottercookie-malware/
    🪲 กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือได้ปล่อยแพ็กเกจอันตรายกว่า 200 ตัวลงใน npm registry ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2025 แฮกเกอร์ได้อัปโหลดแพ็กเกจปลอมกว่า 200 ตัว เช่น tailwind-magic, node-tailwind, และ react-modal-select ลงใน npm registry โดยปลอมเป็นเครื่องมือยูทิลิตี้ที่ดูเหมือนจริง แต่เมื่อถูกติดตั้ง แพ็กเกจเหล่านี้จะเชื่อมต่อไปยัง Vercel เพื่อดึง Payload ต่อไป และสุดท้ายโหลดโค้ดอันตรายจากบัญชี GitHub ที่ถูกซ่อนเอาไว้ 🔐 วิธีการทำงานของ OtterCookie มัลแวร์ OtterCookie ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ของ BeaverTail จะทำการตรวจสอบก่อนว่ากำลังถูกนักวิจัยวิเคราะห์หรือไม่ หากปลอดภัย มันจะเชื่อมต่อกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตีเพื่อเปิด Remote Shell ทำให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ จากนั้นมันจะเริ่มทำงาน เช่น 🪲 ขโมยข้อมูลจาก Clipboard 🪲 Keylogging และจับภาพหน้าจอ 🪲 สแกนหาเอกสารสำคัญ 🪲 ล้วงข้อมูล Credential ของเบราว์เซอร์และกระเป๋าเงินคริปโต ทั้งบน Windows, macOS และ Linux ⚠️ ความร้ายแรงของการโจมตี รายงานจาก Socket ระบุว่าแพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 31,000 ครั้ง ทำให้การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในแคมเปญที่แพร่หลายที่สุดบน npm ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเปรียบเทียบว่าแฮกเกอร์ใช้กระบวนการที่คล้ายกับ Software Development Lifecycle แต่แทนที่จะสร้างฟีเจอร์ใหม่ พวกเขาสร้างมัลแวร์และอัปเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อหลอกนักพัฒนา 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ รายละเอียดการโจมตี ➡️ แฮกเกอร์เกาหลีเหนือปล่อยแพ็กเกจปลอมกว่า 200 ตัวบน npm ➡️ ใช้กลยุทธ์ Contagious Interview หลอกนักพัฒนา Web3 และ Blockchain ✅ การทำงานของ OtterCookie ➡️ ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนทำงาน ➡️ เปิด Remote Shell ให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่อง ➡️ ขโมยข้อมูล Clipboard, Keylogging, Screenshot และ Credential ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้น ➡️ แพ็กเกจถูกดาวน์โหลดแล้วกว่า 31,000 ครั้ง ➡️ ถือเป็นหนึ่งในแคมเปญมัลแวร์ที่แพร่หลายที่สุดบน npm ➡️ ใช้โครงสร้างคล้าย Software Development Lifecycle แต่เพื่อสร้างมัลแวร์ ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ นักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจปลอมเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลสำคัญ ⛔ การใช้ npm โดยไม่ตรวจสอบแพ็กเกจอาจเปิดช่องให้มัลแวร์เข้ามา ⛔ องค์กรที่พัฒนา Web3/Blockchain ต้องเพิ่มมาตรการตรวจสอบโค้ดและแหล่งที่มา https://hackread.com/nk-hackers-npm-packages-ottercookie-malware/
    HACKREAD.COM
    NK Hackers Push 200 Malicious npm Packages with OtterCookie Malware
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷
    #รวมข่าวIT #20251202 #securityonline

    Android เจอช่องโหว่ร้ายแรง ต้องรีบอัปเดต
    Google ออก Android Security Bulletin เดือนธันวาคม 2025 ที่ทำให้หลายคนต้องรีบอัปเดตเครื่องทันที เพราะมีการยืนยันว่ามีการโจมตีจริงในโลกออนไลน์แล้ว โดยมีช่องโหว่สำคัญใน Android Framework ที่อาจทำให้เครื่องถูกสั่งให้หยุดทำงานจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษใด ๆ นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือยกระดับสิทธิ์ในเครื่องได้ โดยเฉพาะ CVE-2025-48631 ที่ถูกจัดว่าเป็น Critical DoS flaw ซึ่งสามารถทำให้เครื่องค้างหรือใช้งานไม่ได้ทันที รวมถึงยังมีปัญหาใน Kernel อย่าง PKVM และ IOMMU ที่ถ้าโดนเจาะก็อาจทะลุผ่านระบบป้องกันข้อมูลสำคัญได้ ผู้ใช้ Android จึงถูกแนะนำให้ตรวจสอบว่าเครื่องได้รับแพตช์ระดับ 2025-12-05 แล้ว เพื่อความปลอดภัยทั้งจากซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์
    https://securityonline.info/android-emergency-critical-dos-flaw-and-2-exploited-zero-days-in-framework-require-immediate-patch

    nopCommerce มีช่องโหว่ยึดระบบแอดมินได้
    แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง nopCommerce ถูกพบช่องโหว่ใหม่ CVE-2025-11699 ที่อันตรายมาก เพราะผู้โจมตีสามารถใช้ session cookie ที่หมดอายุแล้วกลับมาใช้งานอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ระบบในสิทธิ์แอดมินได้ เท่ากับว่าผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมระบบหลังบ้านได้เต็มที่ แม้ผู้ใช้จะออกจากระบบไปแล้วก็ตาม ช่องโหว่นี้ทำให้ข้อมูลลูกค้าและธุรกรรมเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงหรือแก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ดูแลระบบจึงควรรีบอัปเดตแพตช์และตรวจสอบการจัดการ session อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/nopcommerce-flaw-cve-2025-11699-allows-admin-takeover-by-reusing-session-cookies-after-logout

    มัลแวร์รุ่นใหม่ Arkanix หลบการเข้ารหัส Chrome ได้
    มีการค้นพบมัลแวร์สายขโมยข้อมูลรุ่นใหม่ชื่อ Arkanix ที่พัฒนาให้ฉลาดขึ้นกว่าเดิม โดยมันสามารถเลี่ยงการป้องกันของ Chrome ที่ใช้ App-Bound Encryption ได้ ด้วยเทคนิคการฉีดโค้ดเข้าไปใน process ของ C++ ทำให้สามารถดึงข้อมูลที่ควรถูกเข้ารหัสออกมาได้อย่างง่ายดาย จุดนี้ถือว่าอันตรายมากเพราะ Chrome เป็นเบราว์เซอร์ที่มีผู้ใช้มหาศาล และการหลบเลี่ยงระบบเข้ารหัสได้หมายถึงข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่านหรือ session อาจถูกขโมยไปโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนว่ามัลแวร์นี้เป็น “next-gen stealer” ที่อาจถูกใช้ในแคมเปญโจมตีครั้งใหญ่ในอนาคต
    https://securityonline.info/next-gen-stealer-arkanix-bypasses-chrome-app-bound-encryption-using-c-process-injection

    ช่องโหว่ Apache Struts ทำเซิร์ฟเวอร์ล่มด้วยไฟล์ชั่วคราว
    เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่จาก Apache Software Foundation เกี่ยวกับช่องโหว่ที่ชื่อว่า CVE-2025-64775 ซึ่งเกิดขึ้นจากการจัดการไฟล์ชั่วคราวที่ผิดพลาดในกระบวนการอัปโหลดไฟล์ของ Struts framework เมื่อผู้โจมตีส่งคำขอแบบ multipart จำนวนมาก ไฟล์ชั่วคราวที่ควรถูกลบกลับถูกทิ้งไว้ ทำให้พื้นที่ดิสก์เต็มไปเรื่อย ๆ จนระบบไม่สามารถทำงานต่อได้ กลายเป็นการโจมตีแบบ Denial of Service ถึงแม้จะไม่ใช่การรันโค้ดจากระยะไกล แต่ก็สามารถทำให้บริการสำคัญหยุดชะงักได้ง่ายมาก ทางออกคือผู้ใช้ต้องรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันที่ถูกแก้ไขแล้วคือ Struts 6.8.0 และ 7.1.1
    https://securityonline.info/cve-2025-64775-apache-struts-file-leak-vulnerability-threatens-disk-exhaustion

    APT36 หันเป้าโจมตี Linux ด้วยทางลัดเงียบ
    กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียง APT36 หรือ Transparent Tribe ซึ่งเคยโจมตีระบบ Windows มานาน ตอนนี้ได้พัฒนาเครื่องมือใหม่เพื่อเจาะระบบ Linux โดยเฉพาะ BOSS Linux ที่ใช้ในหน่วยงานรัฐบาลอินเดีย พวกเขาส่งอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ .desktop ปลอมให้ดูเหมือนเอกสารจริง แต่เมื่อเปิดขึ้นมา มัลแวร์จะถูกติดตั้งอย่างเงียบ ๆ พร้อมสร้างความคงอยู่ในระบบโดยไม่ต้องใช้สิทธิ์ root จุดเด่นคือเป็น Remote Administration Tool ที่ทำงานได้ทั้ง Windows และ Linux สามารถสั่งรันคำสั่ง ดูดข้อมูล และจับภาพหน้าจอได้ การขยายเป้าหมายไปยัง Linux ถือเป็นการยกระดับครั้งสำคัญของกลุ่มนี้
    https://securityonline.info/the-boss-breach-apt36-pivots-to-linux-espionage-with-silent-shortcuts

    Albiriox มัลแวร์ Android แบบบริการเช่า
    นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Albiriox ที่ถูกพัฒนาเป็น Malware-as-a-Service โดยกลุ่มผู้พูดภาษารัสเซีย เปิดให้เช่าใช้เดือนละราว 650–720 ดอลลาร์ จุดแข็งคือสามารถทำ On-Device Fraud ได้ หมายถึงการทำธุรกรรมหลอกลวงจากเครื่องของเหยื่อเองเพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจสอบของธนาคาร ฟีเจอร์เด่นคือ AcVNC ที่สามารถควบคุมหน้าจอแม้แอปธนาคารจะพยายามบล็อกการบันทึกหน้าจอ แคมเปญแรกเริ่มโจมตีผู้ใช้ในออสเตรียผ่านแอป Penny Market ปลอม แต่จริง ๆ แล้วมีรายชื่อเป้าหมายกว่า 400 แอปธนาคารและคริปโตทั่วโลก ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามบนมือถืออย่างชัดเจน
    https://securityonline.info/albiriox-the-russian-maas-android-trojan-redefining-mobile-fraud

    ศึกชิปขั้นสูง Apple ปะทะ NVIDIA
    ในโลกเซมิคอนดักเตอร์ตอนนี้ Apple และ NVIDIA กำลังแย่งชิงกำลังการผลิตขั้นสูงของ TSMC โดยเฉพาะกระบวนการ A16 และ A14 ที่ถือเป็นระดับ angstrom-class ซึ่งมีความสำคัญต่อการผลิตชิปประสิทธิภาพสูง ทั้งสองบริษัทต่างต้องการพื้นที่ผลิตที่จำกัดนี้เพื่อรองรับความต้องการด้าน AI ที่พุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกัน Apple ยังมองหาทางเลือกใหม่โดยอาจร่วมมือกับ Intel ในกระบวนการ 18AP สำหรับชิประดับเริ่มต้น เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มอำนาจต่อรองกับ TSMC การแข่งขันนี้สะท้อนให้เห็นว่าชิปขั้นสูงได้กลายเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดระหว่างยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี
    https://securityonline.info/semiconductor-showdown-apple-and-nvidia-battle-for-tsmcs-a16-capacity

    OpenAI เริ่มทดลองโฆษณาใน ChatGPT
    แม้ ChatGPT จะมีผู้ใช้มหาศาล แต่ OpenAI ก็ยังขาดทุนหนัก โดยคาดว่าจะสะสมการขาดทุนถึง 115 พันล้านดอลลาร์ก่อนจะเริ่มมีกำไร นักพัฒนาพบโค้ดที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาในแอป ChatGPT บน Android ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทกำลังทดลองโมเดลรายได้ใหม่ผ่านการแสดงโฆษณาในคำตอบ โดยเฉพาะโฆษณาแบบค้นหา (Search Ads) ที่ฝังลิงก์สปอนเซอร์ในผลลัพธ์ หากเปิดใช้งานจริงจะเป็นแหล่งรายได้มหาศาลเสริมจากค่าสมาชิกและ API การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความพยายามของ OpenAI ที่จะหาทางออกจากภาระขาดทุนมหาศาล
    https://securityonline.info/chatgpt-ads-spotted-monetization-push-underway-to-offset-115-billion-in-openai-losses

    BreachLock ครองแชมป์ PTaaS ต่อเนื่อง
    BreachLock ได้รับการจัดอันดับจากรายงาน GigaOm Radar ปี 2025 ให้เป็นผู้นำด้านบริการ Penetration Testing as a Service (PTaaS) ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม จุดเด่นของบริษัทคือการผสมผสานการทดสอบเจาะระบบแบบอัตโนมัติและการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ลูกค้าได้รับผลลัพธ์ที่รวดเร็วและแม่นยำ พร้อมทั้งสามารถปรับขนาดการทดสอบให้เหมาะสมกับองค์กรทุกระดับ การได้รับการยอมรับซ้ำ ๆ แสดงถึงความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
    https://securityonline.info/breachlock-named-a-leader-in-2025-gigaom-radar-report-for-penetration-testing-as-a-service-ptaas-for-third-consecutive-year

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Snapdragon และโมเด็ม 5G
    พบช่องโหว่ใหม่ CVE-2025-47372 ที่กระทบ Snapdragon 8 Gen 3 และโมเด็ม 5G โดยปัญหานี้เกิดขึ้นในกระบวนการบูต ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับสูงตั้งแต่เริ่มต้นระบบ ผลกระทบคืออุปกรณ์อาจถูกควบคุมหรือทำงานผิดพลาดตั้งแต่เปิดเครื่อง ถือเป็นภัยร้ายแรงเพราะเกี่ยวข้องกับชิปที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เครือข่าย การแก้ไขคือผู้ผลิตต้องรีบอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่ออุดช่องโหว่ก่อนที่จะถูกนำไปใช้โจมตีจริง
    https://securityonline.info/boot-process-compromised-critical-flaw-cve-2025-47372-hits-snapdragon-8-gen-3-5g-modems

    Kevin Lancaster เข้าร่วมบอร์ด usecure Kevin Lancaster
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาช่องทางธุรกิจ ได้เข้าร่วมบอร์ดของบริษัท usecure เพื่อช่วยเร่งการเติบโตในตลาดอเมริกาเหนือ Lancaster มีประสบการณ์ยาวนานในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรและการขยายธุรกิจด้านความปลอดภัยไซเบอร์ การเข้ามาของเขาถือเป็นการเสริมกำลังสำคัญให้ usecure สามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันในภูมิภาคนี้
    https://securityonline.info/kevin-lancaster-joins-the-usecure-board-to-accelerate-north-american-channel-growth

    ช่องโหว่ Windows EoP พร้อม PoC
    มีการเผยแพร่โค้ดทดสอบการโจมตี (PoC) สำหรับช่องโหว่ CVE-2025-60718 ที่เกี่ยวข้องกับ Windows Administrator Protection ซึ่งเป็นช่องโหว่ Elevation of Privilege ทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์ในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายเพราะสามารถใช้เป็นขั้นตอนหนึ่งในการเข้าควบคุมระบบทั้งหมดได้ การที่ PoC ถูกปล่อยออกมาแล้วทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันที
    https://securityonline.info/poc-exploit-releases-for-cve-2025-60718-windows-administrator-protection-elevation-of-privilege-vulnerability

    OpenVPN อุดช่องโหว่ร้ายแรง
    OpenVPN ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่สำคัญสองรายการ ได้แก่ Heap Over-Read ที่มีคะแนน CVSS 9.1 และช่องโหว่ HMAC Bypass ซึ่งสามารถทำให้เกิดการโจมตีแบบ DoS ได้ ช่องโหว่เหล่านี้หากถูกนำไปใช้จะทำให้การเชื่อมต่อ VPN ไม่ปลอดภัยและอาจถูกโจมตีจนระบบล่ม การอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้งานทุกคนเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น
    https://securityonline.info/critical-openvpn-flaws-fix-heap-over-read-cvss-9-1-and-hmac-bypass-allow-dos-attacks
    📌🔐🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔐📌 #รวมข่าวIT #20251202 #securityonline 🛡️ Android เจอช่องโหว่ร้ายแรง ต้องรีบอัปเดต Google ออก Android Security Bulletin เดือนธันวาคม 2025 ที่ทำให้หลายคนต้องรีบอัปเดตเครื่องทันที เพราะมีการยืนยันว่ามีการโจมตีจริงในโลกออนไลน์แล้ว โดยมีช่องโหว่สำคัญใน Android Framework ที่อาจทำให้เครื่องถูกสั่งให้หยุดทำงานจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษใด ๆ นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือยกระดับสิทธิ์ในเครื่องได้ โดยเฉพาะ CVE-2025-48631 ที่ถูกจัดว่าเป็น Critical DoS flaw ซึ่งสามารถทำให้เครื่องค้างหรือใช้งานไม่ได้ทันที รวมถึงยังมีปัญหาใน Kernel อย่าง PKVM และ IOMMU ที่ถ้าโดนเจาะก็อาจทะลุผ่านระบบป้องกันข้อมูลสำคัญได้ ผู้ใช้ Android จึงถูกแนะนำให้ตรวจสอบว่าเครื่องได้รับแพตช์ระดับ 2025-12-05 แล้ว เพื่อความปลอดภัยทั้งจากซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ 🔗 https://securityonline.info/android-emergency-critical-dos-flaw-and-2-exploited-zero-days-in-framework-require-immediate-patch ⚠️ nopCommerce มีช่องโหว่ยึดระบบแอดมินได้ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง nopCommerce ถูกพบช่องโหว่ใหม่ CVE-2025-11699 ที่อันตรายมาก เพราะผู้โจมตีสามารถใช้ session cookie ที่หมดอายุแล้วกลับมาใช้งานอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ระบบในสิทธิ์แอดมินได้ เท่ากับว่าผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมระบบหลังบ้านได้เต็มที่ แม้ผู้ใช้จะออกจากระบบไปแล้วก็ตาม ช่องโหว่นี้ทำให้ข้อมูลลูกค้าและธุรกรรมเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงหรือแก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ดูแลระบบจึงควรรีบอัปเดตแพตช์และตรวจสอบการจัดการ session อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/nopcommerce-flaw-cve-2025-11699-allows-admin-takeover-by-reusing-session-cookies-after-logout 🕵️‍♂️ มัลแวร์รุ่นใหม่ Arkanix หลบการเข้ารหัส Chrome ได้ มีการค้นพบมัลแวร์สายขโมยข้อมูลรุ่นใหม่ชื่อ Arkanix ที่พัฒนาให้ฉลาดขึ้นกว่าเดิม โดยมันสามารถเลี่ยงการป้องกันของ Chrome ที่ใช้ App-Bound Encryption ได้ ด้วยเทคนิคการฉีดโค้ดเข้าไปใน process ของ C++ ทำให้สามารถดึงข้อมูลที่ควรถูกเข้ารหัสออกมาได้อย่างง่ายดาย จุดนี้ถือว่าอันตรายมากเพราะ Chrome เป็นเบราว์เซอร์ที่มีผู้ใช้มหาศาล และการหลบเลี่ยงระบบเข้ารหัสได้หมายถึงข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่านหรือ session อาจถูกขโมยไปโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนว่ามัลแวร์นี้เป็น “next-gen stealer” ที่อาจถูกใช้ในแคมเปญโจมตีครั้งใหญ่ในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/next-gen-stealer-arkanix-bypasses-chrome-app-bound-encryption-using-c-process-injection 🖥️ ช่องโหว่ Apache Struts ทำเซิร์ฟเวอร์ล่มด้วยไฟล์ชั่วคราว เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่จาก Apache Software Foundation เกี่ยวกับช่องโหว่ที่ชื่อว่า CVE-2025-64775 ซึ่งเกิดขึ้นจากการจัดการไฟล์ชั่วคราวที่ผิดพลาดในกระบวนการอัปโหลดไฟล์ของ Struts framework เมื่อผู้โจมตีส่งคำขอแบบ multipart จำนวนมาก ไฟล์ชั่วคราวที่ควรถูกลบกลับถูกทิ้งไว้ ทำให้พื้นที่ดิสก์เต็มไปเรื่อย ๆ จนระบบไม่สามารถทำงานต่อได้ กลายเป็นการโจมตีแบบ Denial of Service ถึงแม้จะไม่ใช่การรันโค้ดจากระยะไกล แต่ก็สามารถทำให้บริการสำคัญหยุดชะงักได้ง่ายมาก ทางออกคือผู้ใช้ต้องรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันที่ถูกแก้ไขแล้วคือ Struts 6.8.0 และ 7.1.1 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-64775-apache-struts-file-leak-vulnerability-threatens-disk-exhaustion 🐧 APT36 หันเป้าโจมตี Linux ด้วยทางลัดเงียบ กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียง APT36 หรือ Transparent Tribe ซึ่งเคยโจมตีระบบ Windows มานาน ตอนนี้ได้พัฒนาเครื่องมือใหม่เพื่อเจาะระบบ Linux โดยเฉพาะ BOSS Linux ที่ใช้ในหน่วยงานรัฐบาลอินเดีย พวกเขาส่งอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ .desktop ปลอมให้ดูเหมือนเอกสารจริง แต่เมื่อเปิดขึ้นมา มัลแวร์จะถูกติดตั้งอย่างเงียบ ๆ พร้อมสร้างความคงอยู่ในระบบโดยไม่ต้องใช้สิทธิ์ root จุดเด่นคือเป็น Remote Administration Tool ที่ทำงานได้ทั้ง Windows และ Linux สามารถสั่งรันคำสั่ง ดูดข้อมูล และจับภาพหน้าจอได้ การขยายเป้าหมายไปยัง Linux ถือเป็นการยกระดับครั้งสำคัญของกลุ่มนี้ 🔗 https://securityonline.info/the-boss-breach-apt36-pivots-to-linux-espionage-with-silent-shortcuts 📱 Albiriox มัลแวร์ Android แบบบริการเช่า นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Albiriox ที่ถูกพัฒนาเป็น Malware-as-a-Service โดยกลุ่มผู้พูดภาษารัสเซีย เปิดให้เช่าใช้เดือนละราว 650–720 ดอลลาร์ จุดแข็งคือสามารถทำ On-Device Fraud ได้ หมายถึงการทำธุรกรรมหลอกลวงจากเครื่องของเหยื่อเองเพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจสอบของธนาคาร ฟีเจอร์เด่นคือ AcVNC ที่สามารถควบคุมหน้าจอแม้แอปธนาคารจะพยายามบล็อกการบันทึกหน้าจอ แคมเปญแรกเริ่มโจมตีผู้ใช้ในออสเตรียผ่านแอป Penny Market ปลอม แต่จริง ๆ แล้วมีรายชื่อเป้าหมายกว่า 400 แอปธนาคารและคริปโตทั่วโลก ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามบนมือถืออย่างชัดเจน 🔗 https://securityonline.info/albiriox-the-russian-maas-android-trojan-redefining-mobile-fraud ⚙️ ศึกชิปขั้นสูง Apple ปะทะ NVIDIA ในโลกเซมิคอนดักเตอร์ตอนนี้ Apple และ NVIDIA กำลังแย่งชิงกำลังการผลิตขั้นสูงของ TSMC โดยเฉพาะกระบวนการ A16 และ A14 ที่ถือเป็นระดับ angstrom-class ซึ่งมีความสำคัญต่อการผลิตชิปประสิทธิภาพสูง ทั้งสองบริษัทต่างต้องการพื้นที่ผลิตที่จำกัดนี้เพื่อรองรับความต้องการด้าน AI ที่พุ่งสูงขึ้น ขณะเดียวกัน Apple ยังมองหาทางเลือกใหม่โดยอาจร่วมมือกับ Intel ในกระบวนการ 18AP สำหรับชิประดับเริ่มต้น เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มอำนาจต่อรองกับ TSMC การแข่งขันนี้สะท้อนให้เห็นว่าชิปขั้นสูงได้กลายเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดระหว่างยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/semiconductor-showdown-apple-and-nvidia-battle-for-tsmcs-a16-capacity 💰 OpenAI เริ่มทดลองโฆษณาใน ChatGPT แม้ ChatGPT จะมีผู้ใช้มหาศาล แต่ OpenAI ก็ยังขาดทุนหนัก โดยคาดว่าจะสะสมการขาดทุนถึง 115 พันล้านดอลลาร์ก่อนจะเริ่มมีกำไร นักพัฒนาพบโค้ดที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาในแอป ChatGPT บน Android ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทกำลังทดลองโมเดลรายได้ใหม่ผ่านการแสดงโฆษณาในคำตอบ โดยเฉพาะโฆษณาแบบค้นหา (Search Ads) ที่ฝังลิงก์สปอนเซอร์ในผลลัพธ์ หากเปิดใช้งานจริงจะเป็นแหล่งรายได้มหาศาลเสริมจากค่าสมาชิกและ API การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความพยายามของ OpenAI ที่จะหาทางออกจากภาระขาดทุนมหาศาล 🔗 https://securityonline.info/chatgpt-ads-spotted-monetization-push-underway-to-offset-115-billion-in-openai-losses 🛡️ BreachLock ครองแชมป์ PTaaS ต่อเนื่อง BreachLock ได้รับการจัดอันดับจากรายงาน GigaOm Radar ปี 2025 ให้เป็นผู้นำด้านบริการ Penetration Testing as a Service (PTaaS) ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม จุดเด่นของบริษัทคือการผสมผสานการทดสอบเจาะระบบแบบอัตโนมัติและการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ลูกค้าได้รับผลลัพธ์ที่รวดเร็วและแม่นยำ พร้อมทั้งสามารถปรับขนาดการทดสอบให้เหมาะสมกับองค์กรทุกระดับ การได้รับการยอมรับซ้ำ ๆ แสดงถึงความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/breachlock-named-a-leader-in-2025-gigaom-radar-report-for-penetration-testing-as-a-service-ptaas-for-third-consecutive-year 📶 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Snapdragon และโมเด็ม 5G พบช่องโหว่ใหม่ CVE-2025-47372 ที่กระทบ Snapdragon 8 Gen 3 และโมเด็ม 5G โดยปัญหานี้เกิดขึ้นในกระบวนการบูต ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับสูงตั้งแต่เริ่มต้นระบบ ผลกระทบคืออุปกรณ์อาจถูกควบคุมหรือทำงานผิดพลาดตั้งแต่เปิดเครื่อง ถือเป็นภัยร้ายแรงเพราะเกี่ยวข้องกับชิปที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เครือข่าย การแก้ไขคือผู้ผลิตต้องรีบอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่ออุดช่องโหว่ก่อนที่จะถูกนำไปใช้โจมตีจริง 🔗 https://securityonline.info/boot-process-compromised-critical-flaw-cve-2025-47372-hits-snapdragon-8-gen-3-5g-modems 🤝 Kevin Lancaster เข้าร่วมบอร์ด usecure Kevin Lancaster ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาช่องทางธุรกิจ ได้เข้าร่วมบอร์ดของบริษัท usecure เพื่อช่วยเร่งการเติบโตในตลาดอเมริกาเหนือ Lancaster มีประสบการณ์ยาวนานในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรและการขยายธุรกิจด้านความปลอดภัยไซเบอร์ การเข้ามาของเขาถือเป็นการเสริมกำลังสำคัญให้ usecure สามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันในภูมิภาคนี้ 🔗 https://securityonline.info/kevin-lancaster-joins-the-usecure-board-to-accelerate-north-american-channel-growth 🪟 ช่องโหว่ Windows EoP พร้อม PoC มีการเผยแพร่โค้ดทดสอบการโจมตี (PoC) สำหรับช่องโหว่ CVE-2025-60718 ที่เกี่ยวข้องกับ Windows Administrator Protection ซึ่งเป็นช่องโหว่ Elevation of Privilege ทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์ในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายเพราะสามารถใช้เป็นขั้นตอนหนึ่งในการเข้าควบคุมระบบทั้งหมดได้ การที่ PoC ถูกปล่อยออกมาแล้วทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันที 🔗 https://securityonline.info/poc-exploit-releases-for-cve-2025-60718-windows-administrator-protection-elevation-of-privilege-vulnerability 🔐 OpenVPN อุดช่องโหว่ร้ายแรง OpenVPN ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่สำคัญสองรายการ ได้แก่ Heap Over-Read ที่มีคะแนน CVSS 9.1 และช่องโหว่ HMAC Bypass ซึ่งสามารถทำให้เกิดการโจมตีแบบ DoS ได้ ช่องโหว่เหล่านี้หากถูกนำไปใช้จะทำให้การเชื่อมต่อ VPN ไม่ปลอดภัยและอาจถูกโจมตีจนระบบล่ม การอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้งานทุกคนเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น 🔗 https://securityonline.info/critical-openvpn-flaws-fix-heap-over-read-cvss-9-1-and-hmac-bypass-allow-dos-attacks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • APT36 โจมตี BOSS Linux ด้วย “Silent Shortcuts”

    กลุ่ม APT36 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐ ได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากการโจมตี Windows มาสู่การเจาะระบบ Linux โดยเฉพาะ BOSS Linux ที่ใช้ในหน่วยงานรัฐบาลอินเดีย การโจมตีเริ่มต้นจาก อีเมลฟิชชิ่ง ที่แนบไฟล์ ZIP ซึ่งภายในมีไฟล์ลัด .desktop ปลอมแปลงเป็นเอกสาร เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะดาวน์โหลดมัลแวร์และติดตั้งโดยไม่ให้ผู้ใช้สงสัย

    มัลแวร์นี้ใช้วิธี แสดงเอกสาร PDF หลอก เพื่อเบี่ยงความสนใจ ขณะเดียวกันเบื้องหลังจะดาวน์โหลดไฟล์ ELF และสคริปต์ที่ช่วยให้มัลแวร์ฝังตัวในระบบผ่าน systemd service โดยไม่ต้องใช้สิทธิ์ root ทำให้สามารถอยู่ในเครื่องได้อย่างต่อเนื่อง

    สิ่งที่น่ากังวลคือ Payload หลักเป็น Python-based RAT (Remote Administration Tool) ที่สามารถทำงานได้ทั้งบน Linux และ Windows มันมีความสามารถในการ สั่งรันคำสั่ง, ขโมยไฟล์, และจับภาพหน้าจอ เพื่อสอดแนมกิจกรรมของเหยื่อแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีการใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ

    การโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงการพัฒนาความซับซ้อนของ APT36 ที่หันมาเจาะระบบปฏิบัติการท้องถิ่นของรัฐบาลอินเดียโดยตรง ถือเป็นการยกระดับการสอดแนมเชิงกลยุทธ์ และเป็นสัญญาณเตือนว่าภัยคุกคามไซเบอร์กำลังขยายขอบเขตไปยังแพลตฟอร์มที่เคยถูกมองว่าปลอดภัยกว่า

    สรุปสาระสำคัญ
    วิธีการโจมตี
    ใช้อีเมลฟิชชิ่งแนบไฟล์ ZIP ที่มีไฟล์ .desktop ปลอม
    เปิดไฟล์แล้วดาวน์โหลดมัลแวร์และแสดง PDF หลอก

    เทคนิคการฝังตัว
    ใช้ systemd service เพื่อรันมัลแวร์โดยไม่ต้องใช้ root
    ซ่อนตัวในโฟลเดอร์ผู้ใช้ เช่น ~/.swcbc

    ความสามารถของมัลแวร์
    เป็น Python-based RAT ที่ทำงานได้ทั้ง Linux และ Windows
    สามารถรันคำสั่ง, ขโมยไฟล์, และจับภาพหน้าจอ

    ความเสี่ยงและคำเตือน
    หน่วยงานรัฐบาลอินเดียเสี่ยงถูกสอดแนมข้อมูลสำคัญ
    การใช้ไฟล์ลัดปลอมเป็นเทคนิคใหม่ที่ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่ทันระวัง

    https://securityonline.info/the-boss-breach-apt36-pivots-to-linux-espionage-with-silent-shortcuts/
    🖥️ APT36 โจมตี BOSS Linux ด้วย “Silent Shortcuts” กลุ่ม APT36 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐ ได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากการโจมตี Windows มาสู่การเจาะระบบ Linux โดยเฉพาะ BOSS Linux ที่ใช้ในหน่วยงานรัฐบาลอินเดีย การโจมตีเริ่มต้นจาก อีเมลฟิชชิ่ง ที่แนบไฟล์ ZIP ซึ่งภายในมีไฟล์ลัด .desktop ปลอมแปลงเป็นเอกสาร เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะดาวน์โหลดมัลแวร์และติดตั้งโดยไม่ให้ผู้ใช้สงสัย มัลแวร์นี้ใช้วิธี แสดงเอกสาร PDF หลอก เพื่อเบี่ยงความสนใจ ขณะเดียวกันเบื้องหลังจะดาวน์โหลดไฟล์ ELF และสคริปต์ที่ช่วยให้มัลแวร์ฝังตัวในระบบผ่าน systemd service โดยไม่ต้องใช้สิทธิ์ root ทำให้สามารถอยู่ในเครื่องได้อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่น่ากังวลคือ Payload หลักเป็น Python-based RAT (Remote Administration Tool) ที่สามารถทำงานได้ทั้งบน Linux และ Windows มันมีความสามารถในการ สั่งรันคำสั่ง, ขโมยไฟล์, และจับภาพหน้าจอ เพื่อสอดแนมกิจกรรมของเหยื่อแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีการใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ การโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงการพัฒนาความซับซ้อนของ APT36 ที่หันมาเจาะระบบปฏิบัติการท้องถิ่นของรัฐบาลอินเดียโดยตรง ถือเป็นการยกระดับการสอดแนมเชิงกลยุทธ์ และเป็นสัญญาณเตือนว่าภัยคุกคามไซเบอร์กำลังขยายขอบเขตไปยังแพลตฟอร์มที่เคยถูกมองว่าปลอดภัยกว่า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ วิธีการโจมตี ➡️ ใช้อีเมลฟิชชิ่งแนบไฟล์ ZIP ที่มีไฟล์ .desktop ปลอม ➡️ เปิดไฟล์แล้วดาวน์โหลดมัลแวร์และแสดง PDF หลอก ✅ เทคนิคการฝังตัว ➡️ ใช้ systemd service เพื่อรันมัลแวร์โดยไม่ต้องใช้ root ➡️ ซ่อนตัวในโฟลเดอร์ผู้ใช้ เช่น ~/.swcbc ✅ ความสามารถของมัลแวร์ ➡️ เป็น Python-based RAT ที่ทำงานได้ทั้ง Linux และ Windows ➡️ สามารถรันคำสั่ง, ขโมยไฟล์, และจับภาพหน้าจอ ‼️ ความเสี่ยงและคำเตือน ⛔ หน่วยงานรัฐบาลอินเดียเสี่ยงถูกสอดแนมข้อมูลสำคัญ ⛔ การใช้ไฟล์ลัดปลอมเป็นเทคนิคใหม่ที่ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่ทันระวัง https://securityonline.info/the-boss-breach-apt36-pivots-to-linux-espionage-with-silent-shortcuts/
    SECURITYONLINE.INFO
    The BOSS Breach: APT36 Pivots to Linux Espionage with "Silent" Shortcuts
    Transparent Tribe (APT36) evolves with new Linux malware targeting Indian government BOSS systems via weaponized shortcut files.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีแห่งแสง: ศึกเทพ-มารที่กระทบมนุษย์

    โลกที่แสงและความมืดปะทะกัน

    ในยามที่มนุษย์คิดว่าตนเองก้าวเข้าสู่ยุคทองของเทคโนโลยี ความขัดแย้งอันเป็นนิรันดร์ระหว่าง "เทพแห่งแสง" และ "มารแห่งความมืด" กำลังถึงจุดวิกฤติ ผลพวงของสงครามศักดิ์สิทธิ์เริ่มกระทบโลกมนุษย์อย่างจับต้องได้

    ```mermaid
    graph TB
    A[สงครามเทพ-มาร<br>ขยายสู่โลกมนุษย์] --> B[มนุษย์เริ่ม<br>แสดงอาการผิดปกติ]
    B --> C[ผู้ที่สัมผัสแสงมาก<br>เกินไปกลายเป็นสุดโต่ง]
    B --> D[ผู้ที่อยู่ในความมืด<br>นานเกินสูญเสีย]
    C --> E[มนุษย์แสง: พัฒนาพลัง<br>แต่สูญเสียความเห็นอกเห็นใจ]
    D --> F[มนุษย์มืด: แข็งแกร่ง<br>แต่โหดร้าย]
    E --> G[สงครามกลางเมือง<br>ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน]
    F --> G
    ```

    เคสปริศนาที่ปรากฏ

    กรณีผู้หายตัวไปสามประเภท

    1. ผู้ศรัทธาสุดโต่ง - หายไปพร้อมกับแสงจ้าปริศนา
    2. ผู้สิ้นหวังเรื้อรัง - หายไปในความมืดมิด
    3. คนกลางทั่วไป - เริ่มแสดงพลังประหลาดโดยไม่รู้ตัว

    ลักษณะคดีที่น่าสงสัย

    ```python
    class StrangeCases:
    def __init__(self):
    self.light_abductions = {
    "สถานที่": "แหล่งเทคโนโลยีสูง, วัด, ห้องสมุด",
    "เวลา": "เที่ยงวันพอดี",
    "พยาน": "รายงานเห็นแสงสีขาวจ้า",
    "หลักฐาน": "เหลือแต่เสื้อผ้าไร้ร่องรอยการต่อสู้"
    }

    self.dark_abductions = {
    "สถานที่": "โรงงานร้าง, ซอยมืด, ท้องถนนยามดึก",
    "เวลา": "เที่ยงคืนตรง",
    "พยาน": "รู้สึกหนาวเหน็บและได้ยินเสียงกระซิบ",
    "หลักฐาน": "รอยเท้าที่หายไปกลางอากาศ"
    }

    self.awakenings = {
    "อาการ": "ควบคุมแสง/ความมืดได้โดยไม่รู้ตัว",
    "ผลกระทบ": "สร้างความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ",
    "จิตใต้สำนึก: "สับสนระหว่างความเป็นมนุษย์และพลังเหนือธรรมชาติ"
    }ล
    ```

    การค้นพบความจริงที่น่าตกใจ

    การสืบสวนของหนูดี

    หนูดีได้รับมอบหมายคดีจากหน่วยงานพิเศษ หลังพบว่า โอปปาติกะหลายคนเริ่มเลือกข้าง ในสงครามนี้โดยไม่รู้ตัว

    ธรรมบาลเทพ ปรากฏตัวพร้อมคำเตือน:
    "หนูดี... นี่ไม่ใช่สงครามที่เจ้าคิด
    นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจักรวาล
    และมนุษย์กำลังจะกลายเป็นเหยื่อและนักรบไปพร้อมกัน"

    สมดุลที่แตกสลาย

    ```mermaid
    graph LR
    A[สมดุลเดิม<br>เทพ-มาร-มนุษย์] --> B[มนุษย์พัฒนา<br>เทคโนโลยีและจิตวิญญาณ]
    B --> C[เทพแห่งแสง<br>ต้องการมนุษย์เป็นทหาร]
    B --> D[มารแห่งความมืด<br>ต้องการมนุษย์เป็นเชื้อเพลิง]
    C --> E[สมดุลพังทลาย<br>มนุษย์ตกอยู่กลางศึก]
    D --> E
    ```

    ความลับที่ถูกเปิดเผย

    ที่มาที่แท้จริงของมนุษย์

    ธรรมบาลเทพเปิดเผยความจริงอันน่าตกใจ:

    "มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้...
    พวกเจ้าเป็นผลงานชิ้นเอกที่เทพและมารร่วมกันสร้าง
    เพื่อพิสูจน์ว่าแสงหรือความมืดมีคุณค่ากว่ากัน"

    "และตอนนี้... เวลาสำหรับการตัดสินได้มาถึงแล้ว
    มนุษย์แต่ละคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด
    หรือจะพยายามรักษาสมดุลแบบที่เป็นอยู่"

    บทบาทของโอปปาติกะ

    หนูดีค้นพบว่า:

    · โอปปาติกะคือ มนุษย์รุ่นดัดแปลงพิเศษ
    · ถูกสร้างมาให้เป็น ตัวกลางระหว่างสามฝ่าย
    · แต่หลายคนเริ่ม เอียงข้าง เนื่องจากพลังที่ได้รับ

    ```python
    class OpapatikaRevelation:
    def __init__(self):
    self.true_origin = {
    "วัตถุประสงค์เดิม": "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเทพ-มาร-มนุษย์",
    "ความสามารถพิเศษ": "เข้าใจและสื่อสารกับทั้งสามฝ่ายได้",
    "พันธสัญญา": "ต้องรักษาความเป็นกลางเพื่อความสมดุล",
    "ภัยคุกคาม": "พลังที่เพิ่มขึ้นทำให้ยากต่อการควบคุมตนเอง"
    }

    self.current_crisis = {
    "ฝ่ายแสง": "โอปปาติกะบางคนถูกเทพแห่งแสงชักจูง",
    "ฝ่ายมืด": "โอปปาติกะบางคนถูกมารแห่งความมืดครอบงำ",
    "ฝ่ายกลาง": "เหลือน้อยลงทุกทีและกำลังถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย",
    "หนูดี": "ถูกทั้งสองฝ่ายจับตามองเพราะพลังบริสุทธิ์ที่ยังไม่เลือกข้าง"
    }
    ```

    การเผชิญหน้าครั้งใหม่

    การปรากฏตัวของเทพแห่งแสง

    สุริยเทพ ปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มหนูดี:
    "โอปปาติกะผู้ยิ่งใหญ่... มาร่วมมือกับเรา
    มนุษย์ควรก้าวสู่ความสว่างไสวอย่างสมบูรณ์
    เราจะลบล้างความมืดและความไม่สมบูรณ์ทั้งหมด
    สร้างโลกใหม่ที่ปราศจากความทุกข์ทรมาน"

    การปรากฏตัวของมารแห่งความมืด

    ราตรีมาร ปรากฏจากเงามืด:
    "อย่าเชื่อคำสัญญาโกหกของแสง...
    ในความมืดมีอิสระที่แท้จริง
    มนุษย์ควรปลดปล่อยตนเองจากพันธะกรรม
    ยอมรับธรรมชาติที่แท้จริงซึ่งไม่ใช่แสงสว่างเสมอไป"

    ทางเลือกที่สาม

    หนูดีเริ่มเข้าใจบทเรียนจากพ่อที่ลึกซึ้งขึ้น:
    "พ่อเคยบอกว่า... ความจริงมักไม่ใช่สีขาวหรือดำ
    แต่คือเฉดสีเทาที่ต้องเข้าใจด้วยหัวใจ"

    ยุทธศาสตร์ใหม่

    การค้นพบจุดอ่อนของสงคราม

    หนูดีวิเคราะห์ว่า:

    1. เทพแห่งแสง ต้องการศรัทธาและความเชื่ออย่างblind
    2. มารแห่งความมืด ต้องการความสิ้นหวังและความกลัว
    3. มนุษย์มีสิ่งที่ทั้งสองขาด - อิสระในการเลือก

    ยุทธวิธี "ความเป็นมนุษย์"

    หนูดีพัฒนายุทธศาสตร์ที่ไม่พึ่งพาพลังเหนือธรรมชาติเพียงอย่างเดียว:

    ```python
    class HumanStrategy:
    def __init__(self):
    self.weapons = {
    "การตั้งคำถาม": "ทำให้ทั้งเทพและมารอ่อนแอเพราะพวกเขาไม่คุ้นเคย",
    "อารมณ์ที่ซับซ้อน": "ความรักที่ทั้งแสงและความมืดเข้าใจไม่หมด",
    "ความคิดสร้างสรรค์": "สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีในแผนการของเทพหรือมาร",
    "ความไม่แน่นอน": "มนุษย์เปลี่ยนแปลงได้เสมอไม่ติดตรึงแบบพลังเหนือธรรมชาติ"
    }

    self.allies = [
    "โอปปาติกะที่ยังเป็นกลาง",
    "มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ยอมถูกควบคุม",
    "สิ่งมีชีวิตอื่นที่ได้รับผลกระทบ",
    "เทพ/มารบางส่วนที่เริ่มตั้งคำถาม"
    ]
    ```

    การปฏิบัติการพิเศษ

    ปฏิบัติการ "แสงเทียนในความมืด"

    หนูดีและทีมเริ่มปฏิบัติการเพื่อ:

    1. ช่วยเหลือมนุษย์ที่ถูกบังคับให้เลือกข้าง
    2. เปิดโปงแผนการของทั้งสองฝ่าย
    3. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์ที่ต้องการเป็นกลาง
    4. ค้นหาวิธียุติสงครามโดยไม่ทำลายสมดุล

    การสร้างพันธมิตรที่คาดไม่ถึง

    ในระหว่างปฏิบัติการ หนูดีพบว่า:

    · มีเทพบางองค์ ที่เห็นว่าการบังคับมนุษย์เป็นสิ่งผิด
    · มีมารบางตน ที่เชื่อในอิสระของการเลือกของมนุษย์
    · มนุษย์ธรรมดาหลายคน พร้อมต่อสู้เพื่อสิทธิในการกำหนดชะตาตนเอง

    จุดแตกหัก

    การพิพากษาครั้งใหญ่

    เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืดประกาศว่า:
    "ในคืนจันทรคราสที่จะมาถึง...
    มนุษย์ทุกคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด
    ผู้ที่ยังคงเป็นกลางจะถูกกำจัดทั้งสองฝ่าย"

    คำประกาศของหนูดี

    หนูดีปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองฝ่ายพร้อมคำประกาศ:

    "พวกท่านลืมไปหรือไม่ว่า...
    มนุษย์คือผลงานที่ท่านร่วมกันสร้าง
    การบังคับให้เราเลือกข้าง
    คือการปฏิเสธความเป็นพ่อแม่ของท่านเอง

    และเราขอประกาศว่า...
    มนุษย์จะเลือกทางที่สาม
    ทางของเราเอง

    เราจะไม่เป็นทาสของแสง
    และจะไม่เป็นเชื้อเพลิงของความมืด
    เราจะเป็น... มนุษย์อย่างสมบูรณ์"

    การต่อสู้ครั้งสำคัญ

    ศึกสามฝ่ายที่จุดสมดุล

    หนูดีนำทั้ง มนุษย์ โอปปาติกะ เทพและมารที่เป็นกลาง ต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิในการกำหนดชะตากรรม

    ```mermaid
    graph TB
    A[หนูดีและฝ่ายกลาง] --> B[ต่อสู้เพื่อสิทธิ<br>ในการกำหนดชะตากรรม]
    C[เทพแห่งแสง] --> D[ต้องการควบคุม<br>มนุษย์เพื่อ'ความสมบูรณ์แบบ']
    E[มารแห่งความมืด] --> F[ต้องการมนุษย์<br>เป็นแหล่งพลังงาน]
    D --> G[ศึกตัดสินที่<br>จุดสมดุลแห่งจักรวาล]
    F --> G
    B --> G
    ```

    พลังใหม่ที่กำเนิดขึ้น

    ในยามคับขัน หนูดีค้นพบว่า:
    "พลังที่แท้จริงของโอปปาติกะ...
    ไม่ใช่การควบคุมแสงหรือความมืด
    แต่คือการเข้าใจว่าทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
    และมนุษย์คือผู้ที่สามารถรวมทั้งสองเข้าด้วยกันได้"

    บทสรุปแห่งการเปลี่ยนแปลง

    โลกใหม่ที่เกิดจากทางเลือก

    หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน:

    1. เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืด ยอมรับสิทธิของมนุษย์
    2. สนธิสัญญาใหม่ ถูกเซ็น - มนุษย์มีสิทธิกำหนดวิถีตนเอง
    3. โอปปาติกะ กลายเป็นผู้รักษาสมดุลอย่างเป็นทางการ
    4. มนุษย์เรียนรู้ ที่จะใช้ทั้งแสงและความมืดอย่างชาญฉลาด

    พันธสัญญาสามฝ่าย

    ```python
    class NewCovenant:
    def __init__(self):
    self.agreements = {
    "เทพแห่งแสง": [
    "เคารพการเลือกของมนุษย์",
    "ให้ความรู้แต่ไม่บังคับ",
    "ยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์คือความงามอย่างหนึ่ง"
    ],
    "มารแห่งความมืด": [
    "ไม่ใช้มนุษย์เป็นทรัพยากร",
    "เคารพอิสระในการเลือก",
    "ยอมรับว่าความมืดไม่ใช่ทางออกเดียว"
    ],
    "มนุษย์": [
    "รับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง",
    "ไม่ใช้พลังในทางที่ทำลายสมดุล",
    "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกต่างๆ"
    ]
    }

    self.guardians = [
    "โอปปาติกะเป็นผู้ดูแลสนธิสัญญา",
    "หนูดีเป็นประธานคณะกรรมการสมดุล",
    "มนุษย์เทพและมนุษย์มารร่วมทำงานกัน"
    ]
    ```

    คำสอนใหม่ของหนูดี

    การเติบโตอีกขั้น

    หนูดีเรียนรู้ว่า:

    "การเป็นโอปปาติกะไม่ใช่การควบคุมพลังเหนือธรรมชาติ...
    แต่คือการเข้าใจว่าพลังทุกชนิดมีที่มาและจุดหมาย

    และการเป็นมนุษย์ที่แท้...
    คือการมีอิสระที่จะเลือก
    พร้อมกับความรับผิดชอบต่อการเลือกนั้น"

    คำคมสรุปคดี

    "ในสงครามระหว่างแสงและความมืด...
    มนุษย์ค้นพบว่าเรามีทั้งสองอย่างในตนเอง

    และทางออกไม่ใช่การเลือกข้าง...
    แต่คือการเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งคู่
    ในเวลาที่เหมาะสม

    เพราะมนุษย์ที่สมบูรณ์...
    คือผู้ที่เข้าใจว่าแสงส่องสว่างเมื่อจำเป็น
    และความมืดให้ความสงบเมื่อต้องการ

    และนี่คือบทเรียนที่เทพและมาร...
    ต้องเรียนรู้จากลูกหลานของพวกเขาเอง"

    ---

    บทส่งท้าย:
    สงครามแห่งแสงจบลง แต่การเดินทางของมนุษย์เพิ่งเริ่มต้น
    หนูดีและโอปปาติกะกลายเป็นผู้พิทักษ์สมดุลใหม่
    ในโลกที่มนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับพลังที่ได้รับมาอย่างรับผิดชอบ

    และบางที... นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่
    ที่เทพ มาร และมนุษย์ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน
    ไม่ใช่ผ่านการทำสงคราม
    แต่ผ่านการเข้าใจในความแตกต่าง
    O.P.K. 🔥 คดีแห่งแสง: ศึกเทพ-มารที่กระทบมนุษย์ 🌌 โลกที่แสงและความมืดปะทะกัน ในยามที่มนุษย์คิดว่าตนเองก้าวเข้าสู่ยุคทองของเทคโนโลยี ความขัดแย้งอันเป็นนิรันดร์ระหว่าง "เทพแห่งแสง" และ "มารแห่งความมืด" กำลังถึงจุดวิกฤติ ผลพวงของสงครามศักดิ์สิทธิ์เริ่มกระทบโลกมนุษย์อย่างจับต้องได้ ```mermaid graph TB A[สงครามเทพ-มาร<br>ขยายสู่โลกมนุษย์] --> B[มนุษย์เริ่ม<br>แสดงอาการผิดปกติ] B --> C[ผู้ที่สัมผัสแสงมาก<br>เกินไปกลายเป็นสุดโต่ง] B --> D[ผู้ที่อยู่ในความมืด<br>นานเกินสูญเสีย] C --> E[มนุษย์แสง: พัฒนาพลัง<br>แต่สูญเสียความเห็นอกเห็นใจ] D --> F[มนุษย์มืด: แข็งแกร่ง<br>แต่โหดร้าย] E --> G[สงครามกลางเมือง<br>ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน] F --> G ``` 🚨 เคสปริศนาที่ปรากฏ 👥 กรณีผู้หายตัวไปสามประเภท 1. ผู้ศรัทธาสุดโต่ง - หายไปพร้อมกับแสงจ้าปริศนา 2. ผู้สิ้นหวังเรื้อรัง - หายไปในความมืดมิด 3. คนกลางทั่วไป - เริ่มแสดงพลังประหลาดโดยไม่รู้ตัว 🔍 ลักษณะคดีที่น่าสงสัย ```python class StrangeCases: def __init__(self): self.light_abductions = { "สถานที่": "แหล่งเทคโนโลยีสูง, วัด, ห้องสมุด", "เวลา": "เที่ยงวันพอดี", "พยาน": "รายงานเห็นแสงสีขาวจ้า", "หลักฐาน": "เหลือแต่เสื้อผ้าไร้ร่องรอยการต่อสู้" } self.dark_abductions = { "สถานที่": "โรงงานร้าง, ซอยมืด, ท้องถนนยามดึก", "เวลา": "เที่ยงคืนตรง", "พยาน": "รู้สึกหนาวเหน็บและได้ยินเสียงกระซิบ", "หลักฐาน": "รอยเท้าที่หายไปกลางอากาศ" } self.awakenings = { "อาการ": "ควบคุมแสง/ความมืดได้โดยไม่รู้ตัว", "ผลกระทบ": "สร้างความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ", "จิตใต้สำนึก: "สับสนระหว่างความเป็นมนุษย์และพลังเหนือธรรมชาติ" }ล ``` 🌓 การค้นพบความจริงที่น่าตกใจ 🕵️ การสืบสวนของหนูดี หนูดีได้รับมอบหมายคดีจากหน่วยงานพิเศษ หลังพบว่า โอปปาติกะหลายคนเริ่มเลือกข้าง ในสงครามนี้โดยไม่รู้ตัว ธรรมบาลเทพ ปรากฏตัวพร้อมคำเตือน: "หนูดี... นี่ไม่ใช่สงครามที่เจ้าคิด นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจักรวาล และมนุษย์กำลังจะกลายเป็นเหยื่อและนักรบไปพร้อมกัน" ⚖️ สมดุลที่แตกสลาย ```mermaid graph LR A[สมดุลเดิม<br>เทพ-มาร-มนุษย์] --> B[มนุษย์พัฒนา<br>เทคโนโลยีและจิตวิญญาณ] B --> C[เทพแห่งแสง<br>ต้องการมนุษย์เป็นทหาร] B --> D[มารแห่งความมืด<br>ต้องการมนุษย์เป็นเชื้อเพลิง] C --> E[สมดุลพังทลาย<br>มนุษย์ตกอยู่กลางศึก] D --> E ``` 👁️ ความลับที่ถูกเปิดเผย 🧬 ที่มาที่แท้จริงของมนุษย์ ธรรมบาลเทพเปิดเผยความจริงอันน่าตกใจ: "มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้... พวกเจ้าเป็นผลงานชิ้นเอกที่เทพและมารร่วมกันสร้าง เพื่อพิสูจน์ว่าแสงหรือความมืดมีคุณค่ากว่ากัน" "และตอนนี้... เวลาสำหรับการตัดสินได้มาถึงแล้ว มนุษย์แต่ละคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด หรือจะพยายามรักษาสมดุลแบบที่เป็นอยู่" 💔 บทบาทของโอปปาติกะ หนูดีค้นพบว่า: · โอปปาติกะคือ มนุษย์รุ่นดัดแปลงพิเศษ · ถูกสร้างมาให้เป็น ตัวกลางระหว่างสามฝ่าย · แต่หลายคนเริ่ม เอียงข้าง เนื่องจากพลังที่ได้รับ ```python class OpapatikaRevelation: def __init__(self): self.true_origin = { "วัตถุประสงค์เดิม": "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเทพ-มาร-มนุษย์", "ความสามารถพิเศษ": "เข้าใจและสื่อสารกับทั้งสามฝ่ายได้", "พันธสัญญา": "ต้องรักษาความเป็นกลางเพื่อความสมดุล", "ภัยคุกคาม": "พลังที่เพิ่มขึ้นทำให้ยากต่อการควบคุมตนเอง" } self.current_crisis = { "ฝ่ายแสง": "โอปปาติกะบางคนถูกเทพแห่งแสงชักจูง", "ฝ่ายมืด": "โอปปาติกะบางคนถูกมารแห่งความมืดครอบงำ", "ฝ่ายกลาง": "เหลือน้อยลงทุกทีและกำลังถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย", "หนูดี": "ถูกทั้งสองฝ่ายจับตามองเพราะพลังบริสุทธิ์ที่ยังไม่เลือกข้าง" } ``` ⚡ การเผชิญหน้าครั้งใหม่ 🌟 การปรากฏตัวของเทพแห่งแสง สุริยเทพ ปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มหนูดี: "โอปปาติกะผู้ยิ่งใหญ่... มาร่วมมือกับเรา มนุษย์ควรก้าวสู่ความสว่างไสวอย่างสมบูรณ์ เราจะลบล้างความมืดและความไม่สมบูรณ์ทั้งหมด สร้างโลกใหม่ที่ปราศจากความทุกข์ทรมาน" 🌑 การปรากฏตัวของมารแห่งความมืด ราตรีมาร ปรากฏจากเงามืด: "อย่าเชื่อคำสัญญาโกหกของแสง... ในความมืดมีอิสระที่แท้จริง มนุษย์ควรปลดปล่อยตนเองจากพันธะกรรม ยอมรับธรรมชาติที่แท้จริงซึ่งไม่ใช่แสงสว่างเสมอไป" 🕊️ ทางเลือกที่สาม หนูดีเริ่มเข้าใจบทเรียนจากพ่อที่ลึกซึ้งขึ้น: "พ่อเคยบอกว่า... ความจริงมักไม่ใช่สีขาวหรือดำ แต่คือเฉดสีเทาที่ต้องเข้าใจด้วยหัวใจ" 🛡️ ยุทธศาสตร์ใหม่ 🔮 การค้นพบจุดอ่อนของสงคราม หนูดีวิเคราะห์ว่า: 1. เทพแห่งแสง ต้องการศรัทธาและความเชื่ออย่างblind 2. มารแห่งความมืด ต้องการความสิ้นหวังและความกลัว 3. มนุษย์มีสิ่งที่ทั้งสองขาด - อิสระในการเลือก 💡 ยุทธวิธี "ความเป็นมนุษย์" หนูดีพัฒนายุทธศาสตร์ที่ไม่พึ่งพาพลังเหนือธรรมชาติเพียงอย่างเดียว: ```python class HumanStrategy: def __init__(self): self.weapons = { "การตั้งคำถาม": "ทำให้ทั้งเทพและมารอ่อนแอเพราะพวกเขาไม่คุ้นเคย", "อารมณ์ที่ซับซ้อน": "ความรักที่ทั้งแสงและความมืดเข้าใจไม่หมด", "ความคิดสร้างสรรค์": "สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีในแผนการของเทพหรือมาร", "ความไม่แน่นอน": "มนุษย์เปลี่ยนแปลงได้เสมอไม่ติดตรึงแบบพลังเหนือธรรมชาติ" } self.allies = [ "โอปปาติกะที่ยังเป็นกลาง", "มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ยอมถูกควบคุม", "สิ่งมีชีวิตอื่นที่ได้รับผลกระทบ", "เทพ/มารบางส่วนที่เริ่มตั้งคำถาม" ] ``` 🌈 การปฏิบัติการพิเศษ 🎯 ปฏิบัติการ "แสงเทียนในความมืด" หนูดีและทีมเริ่มปฏิบัติการเพื่อ: 1. ช่วยเหลือมนุษย์ที่ถูกบังคับให้เลือกข้าง 2. เปิดโปงแผนการของทั้งสองฝ่าย 3. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์ที่ต้องการเป็นกลาง 4. ค้นหาวิธียุติสงครามโดยไม่ทำลายสมดุล 🤝 การสร้างพันธมิตรที่คาดไม่ถึง ในระหว่างปฏิบัติการ หนูดีพบว่า: · มีเทพบางองค์ ที่เห็นว่าการบังคับมนุษย์เป็นสิ่งผิด · มีมารบางตน ที่เชื่อในอิสระของการเลือกของมนุษย์ · มนุษย์ธรรมดาหลายคน พร้อมต่อสู้เพื่อสิทธิในการกำหนดชะตาตนเอง 💥 จุดแตกหัก ⚖️ การพิพากษาครั้งใหญ่ เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืดประกาศว่า: "ในคืนจันทรคราสที่จะมาถึง... มนุษย์ทุกคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด ผู้ที่ยังคงเป็นกลางจะถูกกำจัดทั้งสองฝ่าย" 🛡️ คำประกาศของหนูดี หนูดีปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองฝ่ายพร้อมคำประกาศ: "พวกท่านลืมไปหรือไม่ว่า... มนุษย์คือผลงานที่ท่านร่วมกันสร้าง การบังคับให้เราเลือกข้าง คือการปฏิเสธความเป็นพ่อแม่ของท่านเอง และเราขอประกาศว่า... มนุษย์จะเลือกทางที่สาม ทางของเราเอง เราจะไม่เป็นทาสของแสง และจะไม่เป็นเชื้อเพลิงของความมืด เราจะเป็น... มนุษย์อย่างสมบูรณ์" 🌟 การต่อสู้ครั้งสำคัญ 🔥 ศึกสามฝ่ายที่จุดสมดุล หนูดีนำทั้ง มนุษย์ โอปปาติกะ เทพและมารที่เป็นกลาง ต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิในการกำหนดชะตากรรม ```mermaid graph TB A[หนูดีและฝ่ายกลาง] --> B[ต่อสู้เพื่อสิทธิ<br>ในการกำหนดชะตากรรม] C[เทพแห่งแสง] --> D[ต้องการควบคุม<br>มนุษย์เพื่อ'ความสมบูรณ์แบบ'] E[มารแห่งความมืด] --> F[ต้องการมนุษย์<br>เป็นแหล่งพลังงาน] D --> G[ศึกตัดสินที่<br>จุดสมดุลแห่งจักรวาล] F --> G B --> G ``` ✨ พลังใหม่ที่กำเนิดขึ้น ในยามคับขัน หนูดีค้นพบว่า: "พลังที่แท้จริงของโอปปาติกะ... ไม่ใช่การควบคุมแสงหรือความมืด แต่คือการเข้าใจว่าทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน และมนุษย์คือผู้ที่สามารถรวมทั้งสองเข้าด้วยกันได้" 🕊️ บทสรุปแห่งการเปลี่ยนแปลง 🌍 โลกใหม่ที่เกิดจากทางเลือก หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน: 1. เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืด ยอมรับสิทธิของมนุษย์ 2. สนธิสัญญาใหม่ ถูกเซ็น - มนุษย์มีสิทธิกำหนดวิถีตนเอง 3. โอปปาติกะ กลายเป็นผู้รักษาสมดุลอย่างเป็นทางการ 4. มนุษย์เรียนรู้ ที่จะใช้ทั้งแสงและความมืดอย่างชาญฉลาด 📜 พันธสัญญาสามฝ่าย ```python class NewCovenant: def __init__(self): self.agreements = { "เทพแห่งแสง": [ "เคารพการเลือกของมนุษย์", "ให้ความรู้แต่ไม่บังคับ", "ยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์คือความงามอย่างหนึ่ง" ], "มารแห่งความมืด": [ "ไม่ใช้มนุษย์เป็นทรัพยากร", "เคารพอิสระในการเลือก", "ยอมรับว่าความมืดไม่ใช่ทางออกเดียว" ], "มนุษย์": [ "รับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง", "ไม่ใช้พลังในทางที่ทำลายสมดุล", "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกต่างๆ" ] } self.guardians = [ "โอปปาติกะเป็นผู้ดูแลสนธิสัญญา", "หนูดีเป็นประธานคณะกรรมการสมดุล", "มนุษย์เทพและมนุษย์มารร่วมทำงานกัน" ] ``` 💫 คำสอนใหม่ของหนูดี 🌱 การเติบโตอีกขั้น หนูดีเรียนรู้ว่า: "การเป็นโอปปาติกะไม่ใช่การควบคุมพลังเหนือธรรมชาติ... แต่คือการเข้าใจว่าพลังทุกชนิดมีที่มาและจุดหมาย และการเป็นมนุษย์ที่แท้... คือการมีอิสระที่จะเลือก พร้อมกับความรับผิดชอบต่อการเลือกนั้น" 🕯️ คำคมสรุปคดี "ในสงครามระหว่างแสงและความมืด... มนุษย์ค้นพบว่าเรามีทั้งสองอย่างในตนเอง และทางออกไม่ใช่การเลือกข้าง... แต่คือการเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งคู่ ในเวลาที่เหมาะสม เพราะมนุษย์ที่สมบูรณ์... คือผู้ที่เข้าใจว่าแสงส่องสว่างเมื่อจำเป็น และความมืดให้ความสงบเมื่อต้องการ และนี่คือบทเรียนที่เทพและมาร... ต้องเรียนรู้จากลูกหลานของพวกเขาเอง"✨ --- 📖 บทส่งท้าย: สงครามแห่งแสงจบลง แต่การเดินทางของมนุษย์เพิ่งเริ่มต้น หนูดีและโอปปาติกะกลายเป็นผู้พิทักษ์สมดุลใหม่ ในโลกที่มนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับพลังที่ได้รับมาอย่างรับผิดชอบ และบางที... นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ที่เทพ มาร และมนุษย์ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่ผ่านการทำสงคราม แต่ผ่านการเข้าใจในความแตกต่าง🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเลเซียกวาดล้างซาวนาชาย เอ็นจีโอโวยละเมิดเลือกปฎิบัติ

    การกวาดล้างสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ระบุว่าแฝงกิจกรรมทางเพศแบบเพศเดียวกันในมาเลเซีย เริ่มจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. กองบังคับการ 7 (D7) ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอั่งยี่ การพนันและอบายมุข ของตำรวจกัวลาลัมเปอร์ ร่วมกับกรมศาสนาแห่งดินแดนสหพันธ์ (JAWI) และศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) เข้าทลายคลับสุขภาพย่านโจวคิต (Chow Kit) หลังมีประชาชนร้องเรียน ก่อนสืบสวนและเฝ้าติดตามกว่า 2 สัปดาห์ รวบผู้ต้องสงสัยเป็นลูกค้า 201 ราย พนักงาน 7 ราย อายุระหว่าง 19-60 ปี พร้อมของกลางถุงยางอนามัยและสิ่งของอื่นๆ ที่เชื่อว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม

    อาคารมีทั้งหมด 2 ชั้น เปิดมานานกว่า 8-10 เดือน มีการโปรโมตสถานที่ผ่านโซเชียลมีเดีย และบอกเล่าแบบปากต่อปากจากลูกค้าประจำ ผู้เข้าใช้บริการต้องลงทะเบียน 10 ริงกิตเพื่อเปิดบัตรสมาชิก หลังจากนั้นเสียค่าบริการครั้งละ 35 ริงกิต ลูกค้ามีทั้งผู้ประกอบวิชาชีพ นักศึกษา นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เยอรมนี และจีน อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้ต้องหา 171 รายได้รับการปล่อยตัว เพราะศาลไปฎิเสธคำร้องขอส่งตัวผู้ต้องหา เนื่องจากยื่นคำร้องล่าช้า ส่วนชาวต่างชาติ 31 ราย ถูกควบคุมตัว

    ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. กองกำกับการ 7 ของสำนักงานตำรวจเขตเซเบอรังเปอไร (Seberang Perai) รัฐปีนัง ร่วมกับหน่วยปฎิบัติการด้านใบอนุญาตของสภาเขตเซเบอรังเปอไร บุกซาวนาในอาคาร 3 ชั้น ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม (Bukit Mertajam) หลังถูกร้องเรียนว่าถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย รวบผู้ดูแลสถานที่ 2 ราย ลูกค้า 11 ราย อายุระหว่าง 19 ถึง 66 ปี รวมถึงชาวต่างชาติ 2 คน ประกอบด้วยคนไทย 1 คน และชาวจีน 1 คน พร้อมตรวจยึดถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จากการสืบสวนพบว่าซาวนาแห่งนี้เปิดมานานกว่า 5 ปี แต่เพิ่งเริ่มดึงดูดลูกค้าเข้าร่วมทำกิจกรรมทางเพศเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา

    การบุกทลายสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ด้วยข้อหามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งผิดกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ตามหลักศาสนาอิสลาม กำลังเป็นที่วิจารณ์จากองค์กรพัฒนาเอกชน 2 แห่ง ตำหนิว่ามีสื่อมวลชนละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกจับกุม ส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิต และการดำรงชีวิตของคนที่เปราะบางอยู่แล้วในสังคม เนื่องจากการเลือกปฏิบัติ รวมถึงกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลมาเลเซีย ในการยับยั้งการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศ อีกทั้งบทบัญญัติตามกฎหมายดังกล่าวหลงเหลือจากศีลธรรมในยุคอาณานิคม ที่มุ่งเป้า ตีตรา และเป็นอันตรายต่อชุมชนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+)

    #Newskit
    มาเลเซียกวาดล้างซาวนาชาย เอ็นจีโอโวยละเมิดเลือกปฎิบัติ การกวาดล้างสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ระบุว่าแฝงกิจกรรมทางเพศแบบเพศเดียวกันในมาเลเซีย เริ่มจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. กองบังคับการ 7 (D7) ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอั่งยี่ การพนันและอบายมุข ของตำรวจกัวลาลัมเปอร์ ร่วมกับกรมศาสนาแห่งดินแดนสหพันธ์ (JAWI) และศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) เข้าทลายคลับสุขภาพย่านโจวคิต (Chow Kit) หลังมีประชาชนร้องเรียน ก่อนสืบสวนและเฝ้าติดตามกว่า 2 สัปดาห์ รวบผู้ต้องสงสัยเป็นลูกค้า 201 ราย พนักงาน 7 ราย อายุระหว่าง 19-60 ปี พร้อมของกลางถุงยางอนามัยและสิ่งของอื่นๆ ที่เชื่อว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม อาคารมีทั้งหมด 2 ชั้น เปิดมานานกว่า 8-10 เดือน มีการโปรโมตสถานที่ผ่านโซเชียลมีเดีย และบอกเล่าแบบปากต่อปากจากลูกค้าประจำ ผู้เข้าใช้บริการต้องลงทะเบียน 10 ริงกิตเพื่อเปิดบัตรสมาชิก หลังจากนั้นเสียค่าบริการครั้งละ 35 ริงกิต ลูกค้ามีทั้งผู้ประกอบวิชาชีพ นักศึกษา นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เยอรมนี และจีน อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้ต้องหา 171 รายได้รับการปล่อยตัว เพราะศาลไปฎิเสธคำร้องขอส่งตัวผู้ต้องหา เนื่องจากยื่นคำร้องล่าช้า ส่วนชาวต่างชาติ 31 ราย ถูกควบคุมตัว ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. กองกำกับการ 7 ของสำนักงานตำรวจเขตเซเบอรังเปอไร (Seberang Perai) รัฐปีนัง ร่วมกับหน่วยปฎิบัติการด้านใบอนุญาตของสภาเขตเซเบอรังเปอไร บุกซาวนาในอาคาร 3 ชั้น ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม (Bukit Mertajam) หลังถูกร้องเรียนว่าถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย รวบผู้ดูแลสถานที่ 2 ราย ลูกค้า 11 ราย อายุระหว่าง 19 ถึง 66 ปี รวมถึงชาวต่างชาติ 2 คน ประกอบด้วยคนไทย 1 คน และชาวจีน 1 คน พร้อมตรวจยึดถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จากการสืบสวนพบว่าซาวนาแห่งนี้เปิดมานานกว่า 5 ปี แต่เพิ่งเริ่มดึงดูดลูกค้าเข้าร่วมทำกิจกรรมทางเพศเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา การบุกทลายสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ด้วยข้อหามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งผิดกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ตามหลักศาสนาอิสลาม กำลังเป็นที่วิจารณ์จากองค์กรพัฒนาเอกชน 2 แห่ง ตำหนิว่ามีสื่อมวลชนละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกจับกุม ส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิต และการดำรงชีวิตของคนที่เปราะบางอยู่แล้วในสังคม เนื่องจากการเลือกปฏิบัติ รวมถึงกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลมาเลเซีย ในการยับยั้งการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศ อีกทั้งบทบัญญัติตามกฎหมายดังกล่าวหลงเหลือจากศีลธรรมในยุคอาณานิคม ที่มุ่งเป้า ตีตรา และเป็นอันตรายต่อชุมชนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศ: ไอเดียที่แย่ที่สุดของยุค AI

    บทความนี้เขียนโดยอดีตวิศวกร/นักวิทยาศาสตร์ NASA ที่มีปริญญาเอกด้านอิเล็กทรอนิกส์อวกาศ และเคยทำงานที่ Google มา 10 ปี รวมถึงส่วนของ Cloud ที่รับผิดชอบการติดตั้ง AI capacity ท่านได้ออกมาเตือนว่าแนวคิดการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศที่บริษัท AI หลายแห่งกำลังพิจารณาร่วมกับบริษัทดาวเทียม เป็นไอเดียที่แย่มากๆ และไม่สมเหตุสมผลเลย

    สาเหตุหลักมาจากข้อจำกัดพื้นฐานหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงาน การระบายความร้อน ความทนทานต่อรังสี และการสื่อสาร ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะ GPU และ TPU สำหรับ AI นั้นเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ทำงานได้ดีในอวกาศโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น แผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ที่สุดในอวกาศ (ของสถานีอวกาศนานาชาติ ISS) ที่มีขนาดครึ่งสนามฟุตบอลอเมริกัน สามารถจ่ายไฟได้เพียง 200kW ซึ่งเพียงพอสำหรับ GPU ประมาณ 200 ตัวเท่านั้น ในขณะที่ดาต้าเซ็นเตอร์ของ OpenAI ในนอร์เวย์วางแผนจะติดตั้ง GPU ถึง 100,000 ตัว

    นอกจากนี้ การระบายความร้อนในอวกาศเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง เพราะไม่มีอากาศให้ระบายความร้อนแบบ convection ได้ ต้องใช้ระบบ radiator panel ขนาดมหึมา ซึ่งระบบระบายความร้อนของ ISS ที่สามารถระบายความร้อนได้ 16kW (เพียงพอสำหรับ GPU 16 ตัว) ต้องใช้แผง radiator ขนาดถึง 42.5 ตารางเมตร ปัญหารังสีในอวกาศยังทำให้ชิปอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปเสียหายได้ง่าย โดย GPU และ TPU ที่ใช้ transistor ขนาดเล็กเป็นพิเศษนั้นเสี่ยงต่อความเสียหายจากรังสีมากที่สุด ชิปที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในอวกาศจริงๆ มีประสิทธิภาพเทียบเท่า PowerPC จากปี 2005 เท่านั้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อจำกัดด้านพลังงาน
    แผงโซลาร์เซลล์ขนาดเท่า ISS (2,500 ตร.ม.) ให้พลังงานเพียง 200kW หรือพอสำหรับ GPU 200 ตัว
    ต้องใช้ดาวเทียมขนาด ISS ถึง 500 ดวง เพื่อเทียบเท่าดาต้าเซ็นเตอร์ 100,000 GPU ของ OpenAI
    เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากกัมมันตรังสี (RTG) ให้พลังงานเพียง 50-150W ไม่พอสำหรับ GPU แม้แต่ตัวเดียว

    ปัญหาการระบายความร้อน
    ไม่มีอากาศในอวกาศ ทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนแบบ convection ได้
    ต้องใช้ระบบ radiator panel ขนาดใหญ่มาก - ระบบของ ISS ที่ระบายได้ 16kW ต้องใช้พื้นที่ 42.5 ตร.ม.
    สำหรับ GPU 200 ตัว (200kW) ต้องใช้แผง radiator ประมาณ 531 ตร.ม. หรือใหญ่กว่าแผงโซลาร์เซลล์ถึง 2.6 เท่า

    ความเสี่ยงจากรังสีอวกาศ
    GPU/TPU ใช้ transistor ขนาดเล็กมาก ทำให้เสี่ยงต่อ Single-Event Upset (SEU) และ latch-up สูงมาก
    รังสีสามารถทำให้บิตข้อมูลเปลี่ยนแปลง หรือทำให้ชิปเสียหายถาวรได้
    ชิปที่ออกแบบสำหรับอวกาศจริงๆ มีประสิทธิภาพเทียบเท่า PowerPC จาก 20 ปีก่อนเท่านั้น
    Total dose effects ทำให้ประสิทธิภาพชิปลดลงเรื่อยๆ ตลอดอายุการใช้งาน

    ข้อจำกัดด้านการสื่อสาร
    ดาวเทียมส่วนใหญ่สื่อสารผ่านคลื่นวิทยุได้ไม่เกิน 1Gbps
    เทียบกับ server rack บนโลกที่ใช้ interconnect 100Gbps ขึ้นไป ช้ากว่ามาก
    การใช้เลเซอร์สื่อสารต้องพึ่งพาสภาพอากาศที่ดี

    ข้อสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ
    ดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศขนาดเท่าดาวเทียม ISS จะเทียบเท่า server rack เพียง 3 ชุดบนโลกเท่านั้น
    ต้นทุนสูงมหาศาล ประสิทธิภาพต่ำ และยากต่อการดำเนินการอย่างยิ่ง
    เป็นไอเดียที่แย่มากในทางเศรษฐศาสตร์และเทคนิค

    https://taranis.ie/datacenters-in-space-are-a-terrible-horrible-no-good-idea/
    🚀 ดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศ: ไอเดียที่แย่ที่สุดของยุค AI บทความนี้เขียนโดยอดีตวิศวกร/นักวิทยาศาสตร์ NASA ที่มีปริญญาเอกด้านอิเล็กทรอนิกส์อวกาศ และเคยทำงานที่ Google มา 10 ปี รวมถึงส่วนของ Cloud ที่รับผิดชอบการติดตั้ง AI capacity ท่านได้ออกมาเตือนว่าแนวคิดการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศที่บริษัท AI หลายแห่งกำลังพิจารณาร่วมกับบริษัทดาวเทียม เป็นไอเดียที่แย่มากๆ และไม่สมเหตุสมผลเลย สาเหตุหลักมาจากข้อจำกัดพื้นฐานหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงาน การระบายความร้อน ความทนทานต่อรังสี และการสื่อสาร ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะ GPU และ TPU สำหรับ AI นั้นเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ทำงานได้ดีในอวกาศโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น แผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ที่สุดในอวกาศ (ของสถานีอวกาศนานาชาติ ISS) ที่มีขนาดครึ่งสนามฟุตบอลอเมริกัน สามารถจ่ายไฟได้เพียง 200kW ซึ่งเพียงพอสำหรับ GPU ประมาณ 200 ตัวเท่านั้น ในขณะที่ดาต้าเซ็นเตอร์ของ OpenAI ในนอร์เวย์วางแผนจะติดตั้ง GPU ถึง 100,000 ตัว นอกจากนี้ การระบายความร้อนในอวกาศเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง เพราะไม่มีอากาศให้ระบายความร้อนแบบ convection ได้ ต้องใช้ระบบ radiator panel ขนาดมหึมา ซึ่งระบบระบายความร้อนของ ISS ที่สามารถระบายความร้อนได้ 16kW (เพียงพอสำหรับ GPU 16 ตัว) ต้องใช้แผง radiator ขนาดถึง 42.5 ตารางเมตร ปัญหารังสีในอวกาศยังทำให้ชิปอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปเสียหายได้ง่าย โดย GPU และ TPU ที่ใช้ transistor ขนาดเล็กเป็นพิเศษนั้นเสี่ยงต่อความเสียหายจากรังสีมากที่สุด ชิปที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในอวกาศจริงๆ มีประสิทธิภาพเทียบเท่า PowerPC จากปี 2005 เท่านั้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อจำกัดด้านพลังงาน ➡️ แผงโซลาร์เซลล์ขนาดเท่า ISS (2,500 ตร.ม.) ให้พลังงานเพียง 200kW หรือพอสำหรับ GPU 200 ตัว ➡️ ต้องใช้ดาวเทียมขนาด ISS ถึง 500 ดวง เพื่อเทียบเท่าดาต้าเซ็นเตอร์ 100,000 GPU ของ OpenAI ➡️ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากกัมมันตรังสี (RTG) ให้พลังงานเพียง 50-150W ไม่พอสำหรับ GPU แม้แต่ตัวเดียว ✅ ปัญหาการระบายความร้อน ➡️ ไม่มีอากาศในอวกาศ ทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนแบบ convection ได้ ➡️ ต้องใช้ระบบ radiator panel ขนาดใหญ่มาก - ระบบของ ISS ที่ระบายได้ 16kW ต้องใช้พื้นที่ 42.5 ตร.ม. ➡️ สำหรับ GPU 200 ตัว (200kW) ต้องใช้แผง radiator ประมาณ 531 ตร.ม. หรือใหญ่กว่าแผงโซลาร์เซลล์ถึง 2.6 เท่า ‼️ ความเสี่ยงจากรังสีอวกาศ ⛔ GPU/TPU ใช้ transistor ขนาดเล็กมาก ทำให้เสี่ยงต่อ Single-Event Upset (SEU) และ latch-up สูงมาก ⛔ รังสีสามารถทำให้บิตข้อมูลเปลี่ยนแปลง หรือทำให้ชิปเสียหายถาวรได้ ⛔ ชิปที่ออกแบบสำหรับอวกาศจริงๆ มีประสิทธิภาพเทียบเท่า PowerPC จาก 20 ปีก่อนเท่านั้น ⛔ Total dose effects ทำให้ประสิทธิภาพชิปลดลงเรื่อยๆ ตลอดอายุการใช้งาน ‼️ ข้อจำกัดด้านการสื่อสาร ⛔ ดาวเทียมส่วนใหญ่สื่อสารผ่านคลื่นวิทยุได้ไม่เกิน 1Gbps ⛔ เทียบกับ server rack บนโลกที่ใช้ interconnect 100Gbps ขึ้นไป ช้ากว่ามาก ⛔ การใช้เลเซอร์สื่อสารต้องพึ่งพาสภาพอากาศที่ดี ✅ ข้อสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ ดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศขนาดเท่าดาวเทียม ISS จะเทียบเท่า server rack เพียง 3 ชุดบนโลกเท่านั้น ➡️ ต้นทุนสูงมหาศาล ประสิทธิภาพต่ำ และยากต่อการดำเนินการอย่างยิ่ง ➡️ เป็นไอเดียที่แย่มากในทางเศรษฐศาสตร์และเทคนิค https://taranis.ie/datacenters-in-space-are-a-terrible-horrible-no-good-idea/
    TARANIS.IE
    Datacenters in space are a terrible, horrible, no good idea.
    There is a rush for AI companies to team up with space launch/satellite companies to build datacenters in space. TL;DR: It's not going to work.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 20 (จบ)
    เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ
    แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้
    บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น
    เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น
    ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน
    ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก
    แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว
    ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง
    หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ
    ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
    ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง
    แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน
    แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย
    ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ
    และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก…
    ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu
    Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ
    สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน
    นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ
    ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน
    นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่
    หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา
    ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ
    ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great
    Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว….
    (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม)

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    31 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 20 (จบ) เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้ บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก… ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่ หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว…. (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม) สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 31 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251201 #TechRadar

    Dell ชี้การเปลี่ยนผ่านสู่ Windows 11 ยังช้า
    เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่องค์กรจำนวนมากยังคงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าและไม่รีบอัปเกรดไป Windows 11 เพราะเครื่องที่มีอยู่ยังทำงานได้ดี ส่งผลให้ยอดขาย PC ของ Dell คาดว่าจะทรงตัว แม้จะมีเครื่องกว่า 500 ล้านเครื่องที่ไม่สามารถรองรับ Windows 11 ได้ก็ตาม ขณะเดียวกัน Dell กลับเห็นการเติบโตในตลาดเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับงานด้าน AI ที่มียอดสั่งซื้อสูงถึง 12 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด สะท้อนว่าธุรกิจให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานมากกว่าการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการในตอนนี้
    https://www.techradar.com/pro/security/dell-says-businesses-still-arent-moving-to-windows-11-fast-enough-pc-maker-says-sales-will-be-flat-as-many-stick-with-windows-10

    เปลี่ยนมุมมองเพื่อสร้างนวัตกรรมด้าน Cybersecurity
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการสร้างนวัตกรรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่สำคัญที่ “วิธีคิด” องค์กรที่ประสบความสำเร็จคือองค์กรที่เรียนรู้ที่จะจัดการความเสี่ยง ไม่ใช่แค่หลีกเลี่ยงมัน การเปิดใจรับฟังและหาทางทำให้ไอเดียใหม่ ๆ ปลอดภัย จะช่วยสร้างความร่วมมือและความเชื่อมั่นภายในทีม ทำให้ความปลอดภัยกลายเป็นตัวช่วยในการแข่งขัน ไม่ใช่แค่กำแพงกีดกัน
    https://www.techradar.com/pro/mindset-change-is-key-to-nurturing-cybersecurity-innovation

    Kia EV4 รถไฟฟ้าที่ทำให้ Hatchback กลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การขับ Kia EV4 รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้แตกต่างจาก SUV ทั่วไป ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวและการขับขี่ที่สนุกสนาน แม้จะไม่แรงสุดขั้ว แต่ก็ให้ความสบายและความคล่องตัวที่เหนือกว่า Hatchback ทั่วไป จุดเด่นคือแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกสองขนาด พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 388 ไมล์ และระบบชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 29 นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ เช่น ผู้ช่วยเสียงที่ใช้ ChatGPT และระบบความบันเทิงในรถที่รองรับ Netflix และ Disney+ ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-electric-kia-ev4-and-it-finally-makes-hatchbacks-exciting-again-for-three-key-reasons

    5 แอปที่จะทำให้ภาพถ่ายมือถือของคุณดียิ่งขึ้น
    แม้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะมีกล้องที่ดีมาก แต่การใช้แอปเสริมสามารถยกระดับภาพถ่ายได้อีกขั้น บทความนี้แนะนำ 5 แอป ได้แก่ Lightroom ที่ครบเครื่องด้านการแก้ไข Snapseed ที่ใช้ง่ายและมีฟิลเตอร์หลากหลาย Halide Mark II สำหรับ iPhone ที่ให้ควบคุมการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ Open Camera สำหรับ Android ที่เพิ่มฟีเจอร์การถ่ายภาพ และ VSCO ที่มีพรีเซ็ตกว่า 200 แบบพร้อมชุมชนให้แชร์ผลงาน แอปเหล่านี้ช่วยให้ทั้งการถ่ายและการแต่งภาพสนุกและมีคุณภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/phones/want-to-take-better-phone-pictures-these-5-apps-will-vastly-improve-your-photos

    วิศวกรแห่งอนาคต: นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยคนและความยั่งยืน
    บทความนี้สะท้อนว่าคำว่า “นวัตกรรม” ในสายงานวิศวกรรมไม่ได้หมายถึงเทคโนโลยีใหม่เพียงอย่างเดียว แต่คือการผสมผสานคน ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างความก้าวหน้า วิศวกรยุคใหม่ใช้ข้อมูลและ AI เพื่อคาดการณ์ปัญหาก่อนเกิด ลดการเดินทางและการปล่อยคาร์บอน พร้อมทั้งผลักดันการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเน้นความหลากหลายและการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาในสายงาน เพื่อสร้างทีมที่มีมุมมองหลากหลายและพร้อมแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/engineers-for-the-future-championing-innovation-through-people-purpose-and-progress

    OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือที่แบตใหญ่ที่สุด
    ข่าวนี้พูดถึงมือถือรุ่นใหม่จาก OnePlus ที่คาดว่าจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่บริษัทเคยใส่ในสมาร์ทโฟน จุดเด่นคือการยืดอายุการใช้งานให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยยังคงรักษาดีไซน์และประสิทธิภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ OnePlus ทำให้แฟน ๆ รอติดตามการเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าจะสร้างความแตกต่างได้มากแค่ไหน
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-next-oneplus-phone-could-have-the-biggest-battery-the-company-has-ever-put-into-a-handset

    Missouri เริ่มบังคับใช้การยืนยันอายุออนไลน์
    รัฐ Missouri ของสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นวันแรกของการบังคับใช้กฎหมายการยืนยันอายุสำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์บางประเภท ทำให้ประชาชนจำนวนมากเริ่มค้นหา VPN เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดนี้ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความท้าทายระหว่างการคุ้มครองเยาวชนกับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ และยังทำให้ตลาด VPN ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทันที
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouris-search-for-vpns-lifts-off-as-the-first-day-of-age-verification-arrives
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251201 #TechRadar 🖥️ Dell ชี้การเปลี่ยนผ่านสู่ Windows 11 ยังช้า เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่องค์กรจำนวนมากยังคงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าและไม่รีบอัปเกรดไป Windows 11 เพราะเครื่องที่มีอยู่ยังทำงานได้ดี ส่งผลให้ยอดขาย PC ของ Dell คาดว่าจะทรงตัว แม้จะมีเครื่องกว่า 500 ล้านเครื่องที่ไม่สามารถรองรับ Windows 11 ได้ก็ตาม ขณะเดียวกัน Dell กลับเห็นการเติบโตในตลาดเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับงานด้าน AI ที่มียอดสั่งซื้อสูงถึง 12 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด สะท้อนว่าธุรกิจให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานมากกว่าการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการในตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/dell-says-businesses-still-arent-moving-to-windows-11-fast-enough-pc-maker-says-sales-will-be-flat-as-many-stick-with-windows-10 🔒 เปลี่ยนมุมมองเพื่อสร้างนวัตกรรมด้าน Cybersecurity บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการสร้างนวัตกรรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่สำคัญที่ “วิธีคิด” องค์กรที่ประสบความสำเร็จคือองค์กรที่เรียนรู้ที่จะจัดการความเสี่ยง ไม่ใช่แค่หลีกเลี่ยงมัน การเปิดใจรับฟังและหาทางทำให้ไอเดียใหม่ ๆ ปลอดภัย จะช่วยสร้างความร่วมมือและความเชื่อมั่นภายในทีม ทำให้ความปลอดภัยกลายเป็นตัวช่วยในการแข่งขัน ไม่ใช่แค่กำแพงกีดกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/mindset-change-is-key-to-nurturing-cybersecurity-innovation 🚗 Kia EV4 รถไฟฟ้าที่ทำให้ Hatchback กลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การขับ Kia EV4 รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้แตกต่างจาก SUV ทั่วไป ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวและการขับขี่ที่สนุกสนาน แม้จะไม่แรงสุดขั้ว แต่ก็ให้ความสบายและความคล่องตัวที่เหนือกว่า Hatchback ทั่วไป จุดเด่นคือแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกสองขนาด พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 388 ไมล์ และระบบชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 29 นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ เช่น ผู้ช่วยเสียงที่ใช้ ChatGPT และระบบความบันเทิงในรถที่รองรับ Netflix และ Disney+ ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่ออีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-electric-kia-ev4-and-it-finally-makes-hatchbacks-exciting-again-for-three-key-reasons 📸 5 แอปที่จะทำให้ภาพถ่ายมือถือของคุณดียิ่งขึ้น แม้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะมีกล้องที่ดีมาก แต่การใช้แอปเสริมสามารถยกระดับภาพถ่ายได้อีกขั้น บทความนี้แนะนำ 5 แอป ได้แก่ Lightroom ที่ครบเครื่องด้านการแก้ไข Snapseed ที่ใช้ง่ายและมีฟิลเตอร์หลากหลาย Halide Mark II สำหรับ iPhone ที่ให้ควบคุมการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ Open Camera สำหรับ Android ที่เพิ่มฟีเจอร์การถ่ายภาพ และ VSCO ที่มีพรีเซ็ตกว่า 200 แบบพร้อมชุมชนให้แชร์ผลงาน แอปเหล่านี้ช่วยให้ทั้งการถ่ายและการแต่งภาพสนุกและมีคุณภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/want-to-take-better-phone-pictures-these-5-apps-will-vastly-improve-your-photos ⚙️ วิศวกรแห่งอนาคต: นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยคนและความยั่งยืน บทความนี้สะท้อนว่าคำว่า “นวัตกรรม” ในสายงานวิศวกรรมไม่ได้หมายถึงเทคโนโลยีใหม่เพียงอย่างเดียว แต่คือการผสมผสานคน ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างความก้าวหน้า วิศวกรยุคใหม่ใช้ข้อมูลและ AI เพื่อคาดการณ์ปัญหาก่อนเกิด ลดการเดินทางและการปล่อยคาร์บอน พร้อมทั้งผลักดันการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเน้นความหลากหลายและการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาในสายงาน เพื่อสร้างทีมที่มีมุมมองหลากหลายและพร้อมแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/engineers-for-the-future-championing-innovation-through-people-purpose-and-progress 📱 OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือที่แบตใหญ่ที่สุด ข่าวนี้พูดถึงมือถือรุ่นใหม่จาก OnePlus ที่คาดว่าจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่บริษัทเคยใส่ในสมาร์ทโฟน จุดเด่นคือการยืดอายุการใช้งานให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยยังคงรักษาดีไซน์และประสิทธิภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ OnePlus ทำให้แฟน ๆ รอติดตามการเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าจะสร้างความแตกต่างได้มากแค่ไหน 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-next-oneplus-phone-could-have-the-biggest-battery-the-company-has-ever-put-into-a-handset 🌐 Missouri เริ่มบังคับใช้การยืนยันอายุออนไลน์ รัฐ Missouri ของสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นวันแรกของการบังคับใช้กฎหมายการยืนยันอายุสำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์บางประเภท ทำให้ประชาชนจำนวนมากเริ่มค้นหา VPN เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดนี้ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความท้าทายระหว่างการคุ้มครองเยาวชนกับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ และยังทำให้ตลาด VPN ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทันที 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouris-search-for-vpns-lifts-off-as-the-first-day-of-age-verification-arrives
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251201 #securityonline


    GeoServer พบช่องโหว่ร้ายแรง XXE (CVE-2025-58360)
    เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่สำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ GeoServer ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สด้านข้อมูลภูมิสารสนเทศ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟังก์ชัน Web Map Service (WMS) ที่เปิดให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ผลคือสามารถดึงไฟล์ลับจากเซิร์ฟเวอร์ ทำการ SSRF เพื่อเจาะระบบภายใน หรือแม้แต่ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ทันที ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่ ไม่เช่นนั้นระบบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลแผนที่อาจถูกเจาะได้ง่าย
    https://securityonline.info/high-severity-geoserver-flaw-cve-2025-58360-allows-unauthenticated-xxe-for-file-theft-and-ssrf

    TAG-150 ผู้ให้บริการ Malware-as-a-Service รายใหม่ ใช้ ClickFix หลอกเหยื่อ
    กลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์หน้าใหม่ชื่อ TAG-150 โผล่ขึ้นมาในปี 2025 และสร้างความปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คิดว่ากำลังทำขั้นตอนยืนยันหรืออัปเดตซอฟต์แวร์ แต่จริง ๆ แล้วคือการบังคับให้เหยื่อรันคำสั่ง PowerShell ที่เป็นมัลแวร์เอง หลังจากนั้นจะถูกติดตั้ง CastleLoader และ CastleRAT ซึ่งให้สิทธิ์ควบคุมเครื่องแบบเต็มรูปแบบ ทั้งการดักคีย์บอร์ด จับภาพหน้าจอ และเปิดเชลล์ระยะไกล ถือเป็นการโจมตีที่เน้นหลอกเหยื่อให้ “แฮ็กตัวเอง” โดยไม่รู้ตัว
    https://securityonline.info/new-maas-operator-tag-150-uses-clickfix-lure-and-custom-castleloader-to-compromise-469-us-devices

    แคมเปญ “Contagious Interview” ของเกาหลีเหนือ ปล่อยแพ็กเกจ npm กว่า 200 ตัว
    นักวิจัยพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าล่าผู้พัฒนาในสายบล็อกเชนและ Web3 พวกเขาใช้วิธีปลอมเป็นการสัมภาษณ์งาน โดยให้ผู้สมัครทำ “แบบทดสอบโค้ด” ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นแพ็กเกจ npm ที่ฝังมัลแวร์ OtterCookie รุ่นใหม่เข้าไป แพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่าหมื่นครั้ง และสามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น seed phrase ของกระเป๋าเงินคริปโต รหัสผ่าน และไฟล์ลับต่าง ๆ ได้ทันที ถือเป็นการโจมตีที่ใช้กระบวนการสมัครงานเป็นเครื่องมือในการเจาะระบบ
    https://securityonline.info/north-koreas-contagious-interview-floods-npm-with-200-new-packages-using-fake-crypto-jobs-to-deploy-ottercookie-spyware

    ShadowV2 Mirai Botnet ทดสอบโจมตี IoT ระหว่าง AWS ล่มทั่วโลก
    ในช่วงที่ AWS เกิดการล่มครั้งใหญ่เมื่อเดือนตุลาคม กลุ่มผู้โจมตีใช้โอกาสนี้ปล่อย ShadowV2 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของ Mirai botnet โดยมุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์ IoT เช่น เราเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายที่มีช่องโหว่ การโจมตีครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “การทดสอบ” มากกว่าการโจมตีเต็มรูปแบบ แต่ก็สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกได้แล้ว ShadowV2 ใช้เทคนิคเข้ารหัสเพื่อหลบการตรวจจับ และสามารถทำ DDoS ได้หลายรูปแบบ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่า IoT ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญในโลกไซเบอร์
    https://securityonline.info/shadowv2-mirai-botnet-launched-coordinated-iot-test-attack-during-global-aws-outage

    Bloody Wolf APT ขยายการโจมตีสู่เอเชียกลาง ใช้ NetSupport RAT
    กลุ่ม APT ที่ชื่อ Bloody Wolf ซึ่งเคยโจมตีในรัสเซียและคาซัคสถาน ตอนนี้ขยายไปยังคีร์กีซสถานและอุซเบกิสถาน พวกเขาใช้วิธีส่งอีเมล spear-phishing ที่ปลอมเป็นเอกสารทางราชการ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์จะถูกนำไปดาวน์โหลด JAR ที่ฝังโค้ดอันตราย ซึ่งสุดท้ายติดตั้ง NetSupport RAT ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ปกติใช้ในการช่วยเหลือด้านไอที แต่ถูกนำมาใช้ควบคุมเครื่องเหยื่อแบบลับ ๆ ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก การใช้เครื่องมือที่ถูกต้องตามกฎหมายมาทำการโจมตีเช่นนี้ เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นการใช้งานจริงหรือการแฮ็ก
    https://securityonline.info/bloody-wolf-apt-expands-to-central-asia-deploys-netsupport-rat-via-custom-java-droppers-and-geo-fencing

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache bRPC (CVE-2025-59789)
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ที่อันตรายมากใน Apache bRPC ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์ก RPC ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับระบบประสิทธิภาพสูง เช่น การค้นหา การจัดเก็บ และแมชชีนเลิร์นนิง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล JSON ที่มีโครงสร้างซ้อนลึกเกินไป ทำให้เกิดการใช้หน่วยความจำสแต็กจนล้นและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ง่าย ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูล JSON ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ระบบ crash โดยเฉพาะ องค์กรที่เปิดรับทราฟฟิกจากเครือข่ายภายนอกจึงเสี่ยงสูง ทางทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.15.0 โดยเพิ่มการจำกัดความลึกของการ recursion ที่ค่าเริ่มต้น 100 เพื่อป้องกันการโจมตี แต่ก็อาจทำให้บางคำขอที่ถูกต้องถูกปฏิเสธไปด้วย
    https://securityonline.info/cve-2025-59789-critical-flaw-in-apache-brpc-framework-exposes-high-performance-systems-to-crash-risks

    Apple เตรียมใช้ Intel Foundry ผลิตชิป M-Series บนเทคโนโลยี 18A ปี 2027
    มีรายงานว่า Apple ได้ทำข้อตกลงลับกับ Intel เพื่อให้ผลิตชิป M-series รุ่นเริ่มต้นบนกระบวนการผลิต 18A โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตจำนวนมากได้ในช่วงกลางปี 2027 นี่ถือเป็นการกลับมาของ Intel ในห่วงโซ่อุปทานของ Apple หลังจากที่ TSMC ครองบทบาทหลักมานาน ชิปที่ผลิตจะถูกใช้ใน MacBook Air และ iPad Pro ซึ่งมียอดขายรวมกว่า 20 ล้านเครื่องในปี 2025 การเคลื่อนไหวนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ Intel ในฐานะโรงงานผลิต แต่ยังไม่กระทบต่อรายได้ของ TSMC ในระยะสั้น
    https://securityonline.info/apple-eyes-intel-foundry-for-m-series-chips-on-18a-node-by-2027

    Windows 11 พบปัญหาไอคอนล็อกอินด้วยรหัสผ่านหายไปหลังอัปเดต
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนเจอปัญหาหลังติดตั้งอัปเดตเดือนสิงหาคม 2025 หรือเวอร์ชันหลังจากนั้น โดยไอคอนสำหรับเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านหายไปจากหน้าล็อกสกรีน ทำให้ดูเหมือนว่ามีเพียงการเข้าสู่ระบบด้วย PIN เท่านั้นที่ใช้ได้ แม้จริง ๆ แล้วฟังก์ชันยังอยู่ แต่ผู้ใช้ต้องคลิกตรงพื้นที่ว่างที่ควรมีไอคอน ซึ่งสร้างความสับสนและยุ่งยาก Microsoft ยืนยันว่ากำลังแก้ไขและคาดว่าจะปล่อยแพตช์แก้ในอัปเดตถัดไป
    https://securityonline.info/windows-11-bug-makes-lock-screen-password-icon-vanish-after-update

    กลยุทธ์ AI ของ Google Pixel เน้นประโยชน์จริง ไม่ใช่แค่คำโฆษณา
    Google กำลังผลักดัน Pixel ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้าน AI โดยเน้นการใช้งานที่จับต้องได้ เช่น ฟีเจอร์ “Auto Best Take” ที่ช่วยให้ทุกคนดูดีที่สุดในภาพถ่ายกลุ่ม Adrienne Lofton รองประธานฝ่ายการตลาดของ Pixel ชี้ว่าแม้ AI จะเป็นกระแส แต่ผู้ใช้ยังแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ทั้งที่เชื่อและที่สงสัย ดังนั้นกลยุทธ์ของ Google คือการทำให้ AI เป็นสิ่งที่ผู้ใช้เห็นคุณค่า ไม่ใช่แค่คำโฆษณา ทีมงานยังใช้ AI ภายในอย่าง Gemini Live และ Veo 3 เพื่อเร่งกระบวนการทำตลาดให้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 15 สัปดาห์
    https://securityonline.info/googles-pixel-ai-strategy-focusing-on-tangible-benefits-not-just-hype

    OpenAI ถูกท้าทายอย่างหนักจาก Gemini 3 ของ Google
    หลังจาก ChatGPT ครองตลาดมานาน ตอนนี้ OpenAI กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่เมื่อ Google เปิดตัว Gemini 3 ที่ทำคะแนนเหนือ GPT-5 ในหลายการทดสอบ และมีผู้ใช้งานพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 400 ล้านเป็น 650 ล้านรายต่อเดือน ความได้เปรียบของ Google คือการใช้ TPU ของตัวเองแทนการพึ่งพา NVIDIA ทำให้พัฒนาได้เร็วและต้นทุนต่ำลง ขณะที่ OpenAI ต้องลงทุนมหาศาลกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ สถานการณ์นี้ทำให้ตลาด AI กลับมาดุเดือดอีกครั้ง และอนาคตของ OpenAI ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
    https://securityonline.info/openai-under-siege-googles-gemini-3-surge-threatens-to-end-chatgpts-early-lead

    ฟีเจอร์ใหม่ Android Hotspot แชร์สัญญาณพร้อมกัน 2.4 GHz + 6 GHz
    Android กำลังเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้สามารถแชร์ฮอตสปอตได้พร้อมกันทั้งย่านความถี่ 2.4 GHz และ 6 GHz ซึ่งช่วยให้เชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าและใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน การอัปเกรดนี้ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีหลายอุปกรณ์หลากหลายรุ่นต้องเชื่อมต่อพร้อมกัน ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์ยุค Wi-Fi 6E
    https://securityonline.info/android-hotspot-upgrade-new-feature-allows-simultaneous-2-4-ghz-6-ghz-dual-band-sharing

    ปฏิบัติการ Hanoi Thief: ใช้ไฟล์ LNK/รูปภาพโจมตีด้วย LOTUSHARVEST Stealer
    แฮกเกอร์ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า “Pseudo-Polyglot” โดยใช้ไฟล์ LNK หรือรูปภาพที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่จริง ๆ แล้วซ่อนโค้ดอันตรายไว้เพื่อโหลดมัลแวร์ LOTUSHARVEST Stealer ผ่าน DLL Sideloading การโจมตีนี้ทำให้ผู้ใช้ที่เปิดไฟล์ดังกล่าวเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการหลอกลวงทางไซเบอร์
    https://securityonline.info/operation-hanoi-thief-hackers-use-pseudo-polyglot-lnk-image-to-deploy-lotusharvest-stealer-via-dll-sideloading

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Devolutions Server (CVE-2025-13757)
    มีการค้นพบช่องโหว่ SQL Injection ที่ร้ายแรงใน Devolutions Server ซึ่งทำให้ผู้โจมตีที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วสามารถดึงข้อมูลรหัสผ่านทั้งหมดออกมาได้ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะเปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลที่สำคัญที่สุดของระบบ การโจมตีลักษณะนี้สามารถทำให้ทั้งองค์กรเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและถูกบุกรุกอย่างหนัก ผู้ดูแลระบบจึงควรเร่งอัปเดตแพตช์แก้ไขทันที
    https://securityonline.info/critical-devolutions-server-flaw-cve-2025-13757-allows-authenticated-sql-injection-to-steal-all-passwords

    มัลแวร์ TangleCrypt Packer ซ่อน EDR Killer แต่พลาดจนแครชเอง
    นักวิจัยพบว่า TangleCrypt ซึ่งเป็นแพ็กเกอร์มัลแวร์รุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อซ่อนฟังก์ชัน EDR Killer ที่สามารถทำลายระบบตรวจจับภัยคุกคามได้ แต่เนื่องจากมีข้อผิดพลาดในการเขียนโค้ด ทำให้มัลแวร์นี้เกิดการแครชเองโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นภัยคุกคามที่น่ากังวล แต่ความผิดพลาดนี้ก็ทำให้การโจมตีไม่เสถียร และอาจเป็นจุดอ่อนที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถตรวจจับและป้องกันได้ง่ายขึ้น
    https://securityonline.info/new-tanglecrypt-packer-hides-edr-killer-but-coding-flaws-cause-ransomware-to-crash-unexpectedly

    กลยุทธ์ใหม่ของ Russian Tomiris APT ใช้ Telegram/Discord เป็นช่องทางสอดแนม
    กลุ่มแฮกเกอร์ Tomiris APT จากรัสเซียถูกพบว่าใช้วิธี “Polyglot” ในการแฝงตัว โดยเปลี่ยนแพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมอย่าง Telegram และ Discord ให้กลายเป็นช่องทางควบคุมการสอดแนมทางการทูต เทคนิคนี้ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะดูเหมือนการใช้งานปกติของผู้ใช้ทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์ควบคุมและเครื่องที่ถูกบุกรุก ถือเป็นการยกระดับการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/russian-tomiris-apt-adopts-polyglot-strategy-hijacking-telegram-discord-as-covert-c2-for-diplomatic-spies
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251201 #securityonline 🛡️ GeoServer พบช่องโหว่ร้ายแรง XXE (CVE-2025-58360) เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่สำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ GeoServer ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สด้านข้อมูลภูมิสารสนเทศ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟังก์ชัน Web Map Service (WMS) ที่เปิดให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ผลคือสามารถดึงไฟล์ลับจากเซิร์ฟเวอร์ ทำการ SSRF เพื่อเจาะระบบภายใน หรือแม้แต่ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ทันที ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่ ไม่เช่นนั้นระบบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลแผนที่อาจถูกเจาะได้ง่าย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-geoserver-flaw-cve-2025-58360-allows-unauthenticated-xxe-for-file-theft-and-ssrf 🕵️ TAG-150 ผู้ให้บริการ Malware-as-a-Service รายใหม่ ใช้ ClickFix หลอกเหยื่อ กลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์หน้าใหม่ชื่อ TAG-150 โผล่ขึ้นมาในปี 2025 และสร้างความปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คิดว่ากำลังทำขั้นตอนยืนยันหรืออัปเดตซอฟต์แวร์ แต่จริง ๆ แล้วคือการบังคับให้เหยื่อรันคำสั่ง PowerShell ที่เป็นมัลแวร์เอง หลังจากนั้นจะถูกติดตั้ง CastleLoader และ CastleRAT ซึ่งให้สิทธิ์ควบคุมเครื่องแบบเต็มรูปแบบ ทั้งการดักคีย์บอร์ด จับภาพหน้าจอ และเปิดเชลล์ระยะไกล ถือเป็นการโจมตีที่เน้นหลอกเหยื่อให้ “แฮ็กตัวเอง” โดยไม่รู้ตัว 🔗 https://securityonline.info/new-maas-operator-tag-150-uses-clickfix-lure-and-custom-castleloader-to-compromise-469-us-devices 💻 แคมเปญ “Contagious Interview” ของเกาหลีเหนือ ปล่อยแพ็กเกจ npm กว่า 200 ตัว นักวิจัยพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าล่าผู้พัฒนาในสายบล็อกเชนและ Web3 พวกเขาใช้วิธีปลอมเป็นการสัมภาษณ์งาน โดยให้ผู้สมัครทำ “แบบทดสอบโค้ด” ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นแพ็กเกจ npm ที่ฝังมัลแวร์ OtterCookie รุ่นใหม่เข้าไป แพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่าหมื่นครั้ง และสามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น seed phrase ของกระเป๋าเงินคริปโต รหัสผ่าน และไฟล์ลับต่าง ๆ ได้ทันที ถือเป็นการโจมตีที่ใช้กระบวนการสมัครงานเป็นเครื่องมือในการเจาะระบบ 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-contagious-interview-floods-npm-with-200-new-packages-using-fake-crypto-jobs-to-deploy-ottercookie-spyware 🌐 ShadowV2 Mirai Botnet ทดสอบโจมตี IoT ระหว่าง AWS ล่มทั่วโลก ในช่วงที่ AWS เกิดการล่มครั้งใหญ่เมื่อเดือนตุลาคม กลุ่มผู้โจมตีใช้โอกาสนี้ปล่อย ShadowV2 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของ Mirai botnet โดยมุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์ IoT เช่น เราเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายที่มีช่องโหว่ การโจมตีครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “การทดสอบ” มากกว่าการโจมตีเต็มรูปแบบ แต่ก็สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกได้แล้ว ShadowV2 ใช้เทคนิคเข้ารหัสเพื่อหลบการตรวจจับ และสามารถทำ DDoS ได้หลายรูปแบบ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่า IoT ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญในโลกไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/shadowv2-mirai-botnet-launched-coordinated-iot-test-attack-during-global-aws-outage 🐺 Bloody Wolf APT ขยายการโจมตีสู่เอเชียกลาง ใช้ NetSupport RAT กลุ่ม APT ที่ชื่อ Bloody Wolf ซึ่งเคยโจมตีในรัสเซียและคาซัคสถาน ตอนนี้ขยายไปยังคีร์กีซสถานและอุซเบกิสถาน พวกเขาใช้วิธีส่งอีเมล spear-phishing ที่ปลอมเป็นเอกสารทางราชการ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์จะถูกนำไปดาวน์โหลด JAR ที่ฝังโค้ดอันตราย ซึ่งสุดท้ายติดตั้ง NetSupport RAT ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ปกติใช้ในการช่วยเหลือด้านไอที แต่ถูกนำมาใช้ควบคุมเครื่องเหยื่อแบบลับ ๆ ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก การใช้เครื่องมือที่ถูกต้องตามกฎหมายมาทำการโจมตีเช่นนี้ เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นการใช้งานจริงหรือการแฮ็ก 🔗 https://securityonline.info/bloody-wolf-apt-expands-to-central-asia-deploys-netsupport-rat-via-custom-java-droppers-and-geo-fencing 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache bRPC (CVE-2025-59789) เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ที่อันตรายมากใน Apache bRPC ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์ก RPC ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับระบบประสิทธิภาพสูง เช่น การค้นหา การจัดเก็บ และแมชชีนเลิร์นนิง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล JSON ที่มีโครงสร้างซ้อนลึกเกินไป ทำให้เกิดการใช้หน่วยความจำสแต็กจนล้นและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ง่าย ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูล JSON ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ระบบ crash โดยเฉพาะ องค์กรที่เปิดรับทราฟฟิกจากเครือข่ายภายนอกจึงเสี่ยงสูง ทางทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.15.0 โดยเพิ่มการจำกัดความลึกของการ recursion ที่ค่าเริ่มต้น 100 เพื่อป้องกันการโจมตี แต่ก็อาจทำให้บางคำขอที่ถูกต้องถูกปฏิเสธไปด้วย 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-59789-critical-flaw-in-apache-brpc-framework-exposes-high-performance-systems-to-crash-risks 💻 Apple เตรียมใช้ Intel Foundry ผลิตชิป M-Series บนเทคโนโลยี 18A ปี 2027 มีรายงานว่า Apple ได้ทำข้อตกลงลับกับ Intel เพื่อให้ผลิตชิป M-series รุ่นเริ่มต้นบนกระบวนการผลิต 18A โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตจำนวนมากได้ในช่วงกลางปี 2027 นี่ถือเป็นการกลับมาของ Intel ในห่วงโซ่อุปทานของ Apple หลังจากที่ TSMC ครองบทบาทหลักมานาน ชิปที่ผลิตจะถูกใช้ใน MacBook Air และ iPad Pro ซึ่งมียอดขายรวมกว่า 20 ล้านเครื่องในปี 2025 การเคลื่อนไหวนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ Intel ในฐานะโรงงานผลิต แต่ยังไม่กระทบต่อรายได้ของ TSMC ในระยะสั้น 🔗 https://securityonline.info/apple-eyes-intel-foundry-for-m-series-chips-on-18a-node-by-2027 🖥️ Windows 11 พบปัญหาไอคอนล็อกอินด้วยรหัสผ่านหายไปหลังอัปเดต ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนเจอปัญหาหลังติดตั้งอัปเดตเดือนสิงหาคม 2025 หรือเวอร์ชันหลังจากนั้น โดยไอคอนสำหรับเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านหายไปจากหน้าล็อกสกรีน ทำให้ดูเหมือนว่ามีเพียงการเข้าสู่ระบบด้วย PIN เท่านั้นที่ใช้ได้ แม้จริง ๆ แล้วฟังก์ชันยังอยู่ แต่ผู้ใช้ต้องคลิกตรงพื้นที่ว่างที่ควรมีไอคอน ซึ่งสร้างความสับสนและยุ่งยาก Microsoft ยืนยันว่ากำลังแก้ไขและคาดว่าจะปล่อยแพตช์แก้ในอัปเดตถัดไป 🔗 https://securityonline.info/windows-11-bug-makes-lock-screen-password-icon-vanish-after-update 📱 กลยุทธ์ AI ของ Google Pixel เน้นประโยชน์จริง ไม่ใช่แค่คำโฆษณา Google กำลังผลักดัน Pixel ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้าน AI โดยเน้นการใช้งานที่จับต้องได้ เช่น ฟีเจอร์ “Auto Best Take” ที่ช่วยให้ทุกคนดูดีที่สุดในภาพถ่ายกลุ่ม Adrienne Lofton รองประธานฝ่ายการตลาดของ Pixel ชี้ว่าแม้ AI จะเป็นกระแส แต่ผู้ใช้ยังแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ทั้งที่เชื่อและที่สงสัย ดังนั้นกลยุทธ์ของ Google คือการทำให้ AI เป็นสิ่งที่ผู้ใช้เห็นคุณค่า ไม่ใช่แค่คำโฆษณา ทีมงานยังใช้ AI ภายในอย่าง Gemini Live และ Veo 3 เพื่อเร่งกระบวนการทำตลาดให้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 15 สัปดาห์ 🔗 https://securityonline.info/googles-pixel-ai-strategy-focusing-on-tangible-benefits-not-just-hype 🤖 OpenAI ถูกท้าทายอย่างหนักจาก Gemini 3 ของ Google หลังจาก ChatGPT ครองตลาดมานาน ตอนนี้ OpenAI กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่เมื่อ Google เปิดตัว Gemini 3 ที่ทำคะแนนเหนือ GPT-5 ในหลายการทดสอบ และมีผู้ใช้งานพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 400 ล้านเป็น 650 ล้านรายต่อเดือน ความได้เปรียบของ Google คือการใช้ TPU ของตัวเองแทนการพึ่งพา NVIDIA ทำให้พัฒนาได้เร็วและต้นทุนต่ำลง ขณะที่ OpenAI ต้องลงทุนมหาศาลกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ สถานการณ์นี้ทำให้ตลาด AI กลับมาดุเดือดอีกครั้ง และอนาคตของ OpenAI ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด 🔗 https://securityonline.info/openai-under-siege-googles-gemini-3-surge-threatens-to-end-chatgpts-early-lead 📶 ฟีเจอร์ใหม่ Android Hotspot แชร์สัญญาณพร้อมกัน 2.4 GHz + 6 GHz Android กำลังเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้สามารถแชร์ฮอตสปอตได้พร้อมกันทั้งย่านความถี่ 2.4 GHz และ 6 GHz ซึ่งช่วยให้เชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าและใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน การอัปเกรดนี้ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีหลายอุปกรณ์หลากหลายรุ่นต้องเชื่อมต่อพร้อมกัน ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์ยุค Wi-Fi 6E 🔗 https://securityonline.info/android-hotspot-upgrade-new-feature-allows-simultaneous-2-4-ghz-6-ghz-dual-band-sharing 🕵️‍♂️ ปฏิบัติการ Hanoi Thief: ใช้ไฟล์ LNK/รูปภาพโจมตีด้วย LOTUSHARVEST Stealer แฮกเกอร์ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า “Pseudo-Polyglot” โดยใช้ไฟล์ LNK หรือรูปภาพที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่จริง ๆ แล้วซ่อนโค้ดอันตรายไว้เพื่อโหลดมัลแวร์ LOTUSHARVEST Stealer ผ่าน DLL Sideloading การโจมตีนี้ทำให้ผู้ใช้ที่เปิดไฟล์ดังกล่าวเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการหลอกลวงทางไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/operation-hanoi-thief-hackers-use-pseudo-polyglot-lnk-image-to-deploy-lotusharvest-stealer-via-dll-sideloading 🔐 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Devolutions Server (CVE-2025-13757) มีการค้นพบช่องโหว่ SQL Injection ที่ร้ายแรงใน Devolutions Server ซึ่งทำให้ผู้โจมตีที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วสามารถดึงข้อมูลรหัสผ่านทั้งหมดออกมาได้ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะเปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลที่สำคัญที่สุดของระบบ การโจมตีลักษณะนี้สามารถทำให้ทั้งองค์กรเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและถูกบุกรุกอย่างหนัก ผู้ดูแลระบบจึงควรเร่งอัปเดตแพตช์แก้ไขทันที 🔗 https://securityonline.info/critical-devolutions-server-flaw-cve-2025-13757-allows-authenticated-sql-injection-to-steal-all-passwords 💣 มัลแวร์ TangleCrypt Packer ซ่อน EDR Killer แต่พลาดจนแครชเอง นักวิจัยพบว่า TangleCrypt ซึ่งเป็นแพ็กเกอร์มัลแวร์รุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อซ่อนฟังก์ชัน EDR Killer ที่สามารถทำลายระบบตรวจจับภัยคุกคามได้ แต่เนื่องจากมีข้อผิดพลาดในการเขียนโค้ด ทำให้มัลแวร์นี้เกิดการแครชเองโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นภัยคุกคามที่น่ากังวล แต่ความผิดพลาดนี้ก็ทำให้การโจมตีไม่เสถียร และอาจเป็นจุดอ่อนที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถตรวจจับและป้องกันได้ง่ายขึ้น 🔗 https://securityonline.info/new-tanglecrypt-packer-hides-edr-killer-but-coding-flaws-cause-ransomware-to-crash-unexpectedly 🌐 กลยุทธ์ใหม่ของ Russian Tomiris APT ใช้ Telegram/Discord เป็นช่องทางสอดแนม กลุ่มแฮกเกอร์ Tomiris APT จากรัสเซียถูกพบว่าใช้วิธี “Polyglot” ในการแฝงตัว โดยเปลี่ยนแพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมอย่าง Telegram และ Discord ให้กลายเป็นช่องทางควบคุมการสอดแนมทางการทูต เทคนิคนี้ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะดูเหมือนการใช้งานปกติของผู้ใช้ทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์ควบคุมและเครื่องที่ถูกบุกรุก ถือเป็นการยกระดับการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/russian-tomiris-apt-adopts-polyglot-strategy-hijacking-telegram-discord-as-covert-c2-for-diplomatic-spies
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Quttera เปิดตัว Evidence-as-Code API – พลิกโฉมการตรวจสอบความปลอดภัยและการทำ Compliance”

    Quttera ประกาศเปิดตัว Evidence-as-Code API ที่ช่วยให้องค์กรสามารถทำการตรวจสอบและเตรียมหลักฐานสำหรับการทำ SOC 2, PCI DSS v4.0, ISO 27001 และ GDPR ได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเวลาทำงานเอกสารหรือจับภาพหน้าจอเหมือนเดิมอีกต่อไป ระบบนี้สามารถแปลงผลการตรวจจับมัลแวร์เป็น structured JSON พร้อม metadata ที่เชื่อมโยงกับข้อกำหนดด้าน compliance ได้ทันที

    สิ่งที่โดดเด่นคือการทำงานแบบ Real-Time Evidence Streaming ที่ส่งข้อมูลการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ระบบ GRC (Governance, Risk, and Compliance) เช่น Drata หรือ Vanta ทำให้ทีมงานมีหลักฐานการตรวจสอบที่สดใหม่ตลอดเวลา และสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจริง ไม่ใช่เพียงรายงานแบบ snapshot ที่อาจล้าสมัย

    นอกจากนี้ Quttera ยังเปิดตัว Threat Encyclopedia ที่ใช้ AI ในการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคาม เช่น การจัดประเภทความเสี่ยง ผลกระทบทางธุรกิจ และแนวทางแก้ไขทีละขั้นตอน ปัจจุบันมีการบันทึกภัยคุกคามกว่า 80 ประเภท และจะขยายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามภัยคุกคามใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์

    การอัปเดตนี้ยังตอบโจทย์ข้อกำหนดใหม่ของ PCI DSS v4.0 ที่บังคับใช้ตั้งแต่มีนาคม 2025 โดยเฉพาะ Requirement 6.4.3 (การอนุญาตสคริปต์บนหน้าเพย์เมนต์) และ Requirement 11.6.1 (การตรวจสอบความสมบูรณ์ของไฟล์) ซึ่งต้องการระบบตรวจจับแบบอัตโนมัติและต่อเนื่อง ซึ่ง Quttera API สามารถให้หลักฐานที่มี timestamp ยืนยันได้ว่ามีการตรวจสอบตลอดเวลา

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว Evidence-as-Code API
    แปลงผลตรวจจับมัลแวร์เป็น JSON พร้อม metadata สำหรับ compliance
    ลดภาระการทำเอกสารและการเตรียมหลักฐานแบบ manual

    คุณสมบัติเด่น
    Real-Time Evidence Streaming ส่งข้อมูลตรวจสอบต่อเนื่อง
    Threat Encyclopedia ให้ข้อมูลเชิงลึกและแนวทางแก้ไข

    การรองรับ Compliance หลายมาตรฐาน
    SOC 2, PCI DSS v4.0, ISO 27001 และ GDPR
    เชื่อมต่อกับ GRC systems เช่น Drata และ Vanta

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    หากไม่ปรับใช้ระบบตรวจสอบอัตโนมัติ อาจไม่ผ่านข้อกำหนด PCI DSS v4.0
    การพึ่งพารายงานแบบ snapshot เสี่ยงต่อการใช้หลักฐานที่ล้าสมัย

    https://hackread.com/quttera-evidence-as-code-api-soc-pci-dss/
    🛡️ “Quttera เปิดตัว Evidence-as-Code API – พลิกโฉมการตรวจสอบความปลอดภัยและการทำ Compliance” Quttera ประกาศเปิดตัว Evidence-as-Code API ที่ช่วยให้องค์กรสามารถทำการตรวจสอบและเตรียมหลักฐานสำหรับการทำ SOC 2, PCI DSS v4.0, ISO 27001 และ GDPR ได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเวลาทำงานเอกสารหรือจับภาพหน้าจอเหมือนเดิมอีกต่อไป ระบบนี้สามารถแปลงผลการตรวจจับมัลแวร์เป็น structured JSON พร้อม metadata ที่เชื่อมโยงกับข้อกำหนดด้าน compliance ได้ทันที สิ่งที่โดดเด่นคือการทำงานแบบ Real-Time Evidence Streaming ที่ส่งข้อมูลการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ระบบ GRC (Governance, Risk, and Compliance) เช่น Drata หรือ Vanta ทำให้ทีมงานมีหลักฐานการตรวจสอบที่สดใหม่ตลอดเวลา และสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจริง ไม่ใช่เพียงรายงานแบบ snapshot ที่อาจล้าสมัย นอกจากนี้ Quttera ยังเปิดตัว Threat Encyclopedia ที่ใช้ AI ในการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคาม เช่น การจัดประเภทความเสี่ยง ผลกระทบทางธุรกิจ และแนวทางแก้ไขทีละขั้นตอน ปัจจุบันมีการบันทึกภัยคุกคามกว่า 80 ประเภท และจะขยายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามภัยคุกคามใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ การอัปเดตนี้ยังตอบโจทย์ข้อกำหนดใหม่ของ PCI DSS v4.0 ที่บังคับใช้ตั้งแต่มีนาคม 2025 โดยเฉพาะ Requirement 6.4.3 (การอนุญาตสคริปต์บนหน้าเพย์เมนต์) และ Requirement 11.6.1 (การตรวจสอบความสมบูรณ์ของไฟล์) ซึ่งต้องการระบบตรวจจับแบบอัตโนมัติและต่อเนื่อง ซึ่ง Quttera API สามารถให้หลักฐานที่มี timestamp ยืนยันได้ว่ามีการตรวจสอบตลอดเวลา 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว Evidence-as-Code API ➡️ แปลงผลตรวจจับมัลแวร์เป็น JSON พร้อม metadata สำหรับ compliance ➡️ ลดภาระการทำเอกสารและการเตรียมหลักฐานแบบ manual ✅ คุณสมบัติเด่น ➡️ Real-Time Evidence Streaming ส่งข้อมูลตรวจสอบต่อเนื่อง ➡️ Threat Encyclopedia ให้ข้อมูลเชิงลึกและแนวทางแก้ไข ✅ การรองรับ Compliance หลายมาตรฐาน ➡️ SOC 2, PCI DSS v4.0, ISO 27001 และ GDPR ➡️ เชื่อมต่อกับ GRC systems เช่น Drata และ Vanta ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ หากไม่ปรับใช้ระบบตรวจสอบอัตโนมัติ อาจไม่ผ่านข้อกำหนด PCI DSS v4.0 ⛔ การพึ่งพารายงานแบบ snapshot เสี่ยงต่อการใช้หลักฐานที่ล้าสมัย https://hackread.com/quttera-evidence-as-code-api-soc-pci-dss/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Google เปิดตัว Antigravity IDE – ก้าวใหม่ของการเขียนโค้ดด้วยทีม AI Agents”

    Google ได้เปิดตัว Antigravity IDE เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 ควบคู่กับโมเดล Gemini 3 โดยชูจุดเด่นว่าเป็นสภาพแวดล้อมการพัฒนา (IDE) ที่ออกแบบมาเพื่อให้ทีม AI agents ทำงานร่วมกันได้เหมือนทีมมนุษย์จริง ๆ นักพัฒนาสามารถปล่อยให้ AI วางแผน สร้างไฟล์ และทดสอบโค้ดได้โดยไม่ต้องสั่งทีละขั้นตอน ทำให้มนุษย์มีบทบาทใหม่คือ “สถาปนิกโซลูชัน” มากกว่าการลงมือเขียนโค้ดทุกบรรทัดเอง

    สิ่งที่ทำให้ Antigravity แตกต่างคือการใช้ multi-agent system ที่สามารถแบ่งงานย่อย เช่น การดีบัก การสร้าง UI หรือการจัดการ API ให้กับ AI แต่ละตัวที่ทำงานคู่ขนานกันได้ นอกจากนี้ยังมี โหมดการจัดการงานสองแบบ ได้แก่ Planning Mode สำหรับโครงการซับซ้อน และ Fast Mode สำหรับงานที่ต้องการความรวดเร็ว พร้อมระบบ Artifacts ที่บันทึกผลลัพธ์เป็นเอกสาร ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

    อย่างไรก็ตาม เสียงตอบรับจากนักพัฒนายังไม่แรงเท่าที่ Google คาดหวัง หลายคนชื่นชมความสามารถในการเข้าใจบริบทและการทำงานอัตโนมัติ แต่ก็มีข้อวิจารณ์ว่าเครื่องมือยัง “half-baked” หรือยังไม่สมบูรณ์ บางครั้งทำงานช้า มีบั๊ก และพบปัญหาในการจัดการภาพหรือการทำงานที่ซับซ้อนเกินไป ทำให้ผู้ใช้ต้องคอยปรับแก้เองอยู่บ่อยครั้ง

    นอกจากนี้ยังมีประเด็นด้าน ความปลอดภัย ที่นักวิจัยด้านไซเบอร์เตือนว่า Antigravity อาจเปิดช่องโหว่ให้ผู้ไม่หวังดีแทรกโค้ดอันตรายผ่านไฟล์การตั้งค่าได้ หากผู้ใช้ทำงานใน “trusted workspace” โดยไม่ระวัง อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือขโมยข้อมูล ซึ่งเป็นข้อกังวลสำคัญสำหรับการนำไปใช้ในองค์กรใหญ่ ๆ

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว Antigravity IDE
    เปิดตัวพร้อม Gemini 3 เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2025
    ใช้ทีม AI agents ทำงานคู่ขนานเหมือนทีมมนุษย์จริง

    คุณสมบัติเด่น
    Multi-agent system สำหรับแบ่งงานย่อย
    โหมด Planning และ Fast Mode จัดการงานได้ยืดหยุ่น
    ระบบ Artifacts บันทึกผลลัพธ์ตรวจสอบได้

    เสียงตอบรับจากผู้ใช้
    ชื่นชมความเข้าใจบริบทและการทำงานอัตโนมัติ
    แต่ยังถูกวิจารณ์ว่า “half-baked” มีบั๊กและทำงานช้า

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    นักวิจัยพบช่องโหว่ที่อาจเปิดทางให้มัลแวร์แทรกตัว
    การใช้ trusted workspace โดยไม่ระวังอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตี

    https://www.slashgear.com/2037355/google-antigravity-ai-coding-tool/
    📰 “Google เปิดตัว Antigravity IDE – ก้าวใหม่ของการเขียนโค้ดด้วยทีม AI Agents” Google ได้เปิดตัว Antigravity IDE เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 ควบคู่กับโมเดล Gemini 3 โดยชูจุดเด่นว่าเป็นสภาพแวดล้อมการพัฒนา (IDE) ที่ออกแบบมาเพื่อให้ทีม AI agents ทำงานร่วมกันได้เหมือนทีมมนุษย์จริง ๆ นักพัฒนาสามารถปล่อยให้ AI วางแผน สร้างไฟล์ และทดสอบโค้ดได้โดยไม่ต้องสั่งทีละขั้นตอน ทำให้มนุษย์มีบทบาทใหม่คือ “สถาปนิกโซลูชัน” มากกว่าการลงมือเขียนโค้ดทุกบรรทัดเอง สิ่งที่ทำให้ Antigravity แตกต่างคือการใช้ multi-agent system ที่สามารถแบ่งงานย่อย เช่น การดีบัก การสร้าง UI หรือการจัดการ API ให้กับ AI แต่ละตัวที่ทำงานคู่ขนานกันได้ นอกจากนี้ยังมี โหมดการจัดการงานสองแบบ ได้แก่ Planning Mode สำหรับโครงการซับซ้อน และ Fast Mode สำหรับงานที่ต้องการความรวดเร็ว พร้อมระบบ Artifacts ที่บันทึกผลลัพธ์เป็นเอกสาร ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตาม เสียงตอบรับจากนักพัฒนายังไม่แรงเท่าที่ Google คาดหวัง หลายคนชื่นชมความสามารถในการเข้าใจบริบทและการทำงานอัตโนมัติ แต่ก็มีข้อวิจารณ์ว่าเครื่องมือยัง “half-baked” หรือยังไม่สมบูรณ์ บางครั้งทำงานช้า มีบั๊ก และพบปัญหาในการจัดการภาพหรือการทำงานที่ซับซ้อนเกินไป ทำให้ผู้ใช้ต้องคอยปรับแก้เองอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังมีประเด็นด้าน ความปลอดภัย ที่นักวิจัยด้านไซเบอร์เตือนว่า Antigravity อาจเปิดช่องโหว่ให้ผู้ไม่หวังดีแทรกโค้ดอันตรายผ่านไฟล์การตั้งค่าได้ หากผู้ใช้ทำงานใน “trusted workspace” โดยไม่ระวัง อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือขโมยข้อมูล ซึ่งเป็นข้อกังวลสำคัญสำหรับการนำไปใช้ในองค์กรใหญ่ ๆ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว Antigravity IDE ➡️ เปิดตัวพร้อม Gemini 3 เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2025 ➡️ ใช้ทีม AI agents ทำงานคู่ขนานเหมือนทีมมนุษย์จริง ✅ คุณสมบัติเด่น ➡️ Multi-agent system สำหรับแบ่งงานย่อย ➡️ โหมด Planning และ Fast Mode จัดการงานได้ยืดหยุ่น ➡️ ระบบ Artifacts บันทึกผลลัพธ์ตรวจสอบได้ ✅ เสียงตอบรับจากผู้ใช้ ➡️ ชื่นชมความเข้าใจบริบทและการทำงานอัตโนมัติ ➡️ แต่ยังถูกวิจารณ์ว่า “half-baked” มีบั๊กและทำงานช้า ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ นักวิจัยพบช่องโหว่ที่อาจเปิดทางให้มัลแวร์แทรกตัว ⛔ การใช้ trusted workspace โดยไม่ระวังอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตี https://www.slashgear.com/2037355/google-antigravity-ai-coding-tool/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Google's Newest Tool Is A Big Leap Forward For AI Coding - SlashGear
    Google launched a new tool for developers to use multiple AI agents to accomplish different parts of coding simultaneously. We tested it. He's what we found.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • Operation Hanoi Thief: การโจมตีผ่านไฟล์เรซูเม่ปลอม

    แคมเปญไซเบอร์สอดแนมใหม่ที่ถูกเรียกว่า Operation Hanoi Thief กำลังแพร่กระจายไปยังภาคเทคโนโลยีและการสรรหาบุคลากรในเวียดนาม โดยใช้ อีเมลฟิชชิ่ง ที่แนบไฟล์ ZIP ซึ่งภายในมีเรซูเม่ปลอมของผู้สมัครงานชื่อ “Le Xuan Son” และไฟล์ LNK ที่ซ่อนคำสั่งอันตรายไว้ การโจมตีนี้ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2025 โดยทีม SEQRITE Labs และถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือผ่าน GitHub โปรไฟล์ปลอมที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2021

    เทคนิค Pseudo-Polyglot และการซ่อนโค้ด
    สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้โดดเด่นคือการใช้ ไฟล์ pseudo-polyglot ซึ่งสามารถทำงานได้หลายรูปแบบในไฟล์เดียว เช่น ภาพ PNG ที่ดูเหมือนเรซูเม่ แต่จริง ๆ แล้วซ่อนทั้ง PDF และสคริปต์ batch ไว้พร้อมกัน เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ LNK ระบบจะเรียกใช้ ftp.exe เพื่อดึงคำสั่งที่ซ่อนอยู่และถอดรหัสเป็น DLL อันตรายชื่อ MsCtfMonitor.dll ซึ่งเป็นตัวหลักของมัลแวร์ LOTUSHARVEST

    LOTUSHARVEST: ตัวขโมยข้อมูลที่แฝงตัว
    มัลแวร์ LOTUSHARVEST ใช้เทคนิค DLL sideloading โดยอาศัยโปรแกรมที่ถูกต้องอย่าง ctfmon.exe เพื่อโหลด DLL ปลอมเข้ามา เมื่อทำงานแล้ว มัลแวร์จะขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ 20 รายการล่าสุด และรหัสผ่านที่เก็บไว้ในเบราว์เซอร์ Chrome และ Edge ก่อนส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ผู้โจมตีควบคุม

    แนวโน้มการโจมตี DLL Sideloading และ Polyglot
    การใช้ DLL sideloading ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กำลังถูกใช้มากขึ้นในปี 2025 โดยกลุ่มแฮกเกอร์หลายกลุ่ม เช่น LockBit และ APT จากจีน เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ขณะเดียวกันเทคนิค polyglot file ก็ถูกใช้แพร่หลายในการซ่อนโค้ดในไฟล์รูปภาพหรือเอกสาร ทำให้การตรวจจับด้วยวิธีดั้งเดิมยากขึ้น องค์กรต่าง ๆ จึงต้องพัฒนาเครื่องมือที่ตรวจสอบทั้งพฤติกรรมและโครงสร้างไฟล์อย่างละเอียด

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รายละเอียดการโจมตี Operation Hanoi Thief
    ใช้ไฟล์ ZIP ที่มีเรซูเม่ปลอมและไฟล์ LNK
    ใช้เทคนิค pseudo-polyglot ซ่อนโค้ดในไฟล์ PNG
    โหลด DLL อันตราย LOTUSHARVEST ผ่าน DLL sideloading

    เป้าหมายและผลกระทบ
    มุ่งโจมตีภาคเทคโนโลยีและการสรรหาบุคลากรในเวียดนาม
    ขโมยข้อมูลรหัสผ่านและประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    ไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารหรือภาพ อาจซ่อนโค้ดอันตราย
    DLL sideloading สามารถทำให้มัลแวร์รันโดยไม่ถูกตรวจจับ
    การโจมตีลักษณะนี้อาจแพร่ไปยังองค์กรในภูมิภาคอื่น

    https://securityonline.info/operation-hanoi-thief-hackers-use-pseudo-polyglot-lnk-image-to-deploy-lotusharvest-stealer-via-dll-sideloading/
    🕵️‍♂️ Operation Hanoi Thief: การโจมตีผ่านไฟล์เรซูเม่ปลอม แคมเปญไซเบอร์สอดแนมใหม่ที่ถูกเรียกว่า Operation Hanoi Thief กำลังแพร่กระจายไปยังภาคเทคโนโลยีและการสรรหาบุคลากรในเวียดนาม โดยใช้ อีเมลฟิชชิ่ง ที่แนบไฟล์ ZIP ซึ่งภายในมีเรซูเม่ปลอมของผู้สมัครงานชื่อ “Le Xuan Son” และไฟล์ LNK ที่ซ่อนคำสั่งอันตรายไว้ การโจมตีนี้ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2025 โดยทีม SEQRITE Labs และถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือผ่าน GitHub โปรไฟล์ปลอมที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2021 💻 เทคนิค Pseudo-Polyglot และการซ่อนโค้ด สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้โดดเด่นคือการใช้ ไฟล์ pseudo-polyglot ซึ่งสามารถทำงานได้หลายรูปแบบในไฟล์เดียว เช่น ภาพ PNG ที่ดูเหมือนเรซูเม่ แต่จริง ๆ แล้วซ่อนทั้ง PDF และสคริปต์ batch ไว้พร้อมกัน เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ LNK ระบบจะเรียกใช้ ftp.exe เพื่อดึงคำสั่งที่ซ่อนอยู่และถอดรหัสเป็น DLL อันตรายชื่อ MsCtfMonitor.dll ซึ่งเป็นตัวหลักของมัลแวร์ LOTUSHARVEST 🔓 LOTUSHARVEST: ตัวขโมยข้อมูลที่แฝงตัว มัลแวร์ LOTUSHARVEST ใช้เทคนิค DLL sideloading โดยอาศัยโปรแกรมที่ถูกต้องอย่าง ctfmon.exe เพื่อโหลด DLL ปลอมเข้ามา เมื่อทำงานแล้ว มัลแวร์จะขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ 20 รายการล่าสุด และรหัสผ่านที่เก็บไว้ในเบราว์เซอร์ Chrome และ Edge ก่อนส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ผู้โจมตีควบคุม 🌐 แนวโน้มการโจมตี DLL Sideloading และ Polyglot การใช้ DLL sideloading ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กำลังถูกใช้มากขึ้นในปี 2025 โดยกลุ่มแฮกเกอร์หลายกลุ่ม เช่น LockBit และ APT จากจีน เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ขณะเดียวกันเทคนิค polyglot file ก็ถูกใช้แพร่หลายในการซ่อนโค้ดในไฟล์รูปภาพหรือเอกสาร ทำให้การตรวจจับด้วยวิธีดั้งเดิมยากขึ้น องค์กรต่าง ๆ จึงต้องพัฒนาเครื่องมือที่ตรวจสอบทั้งพฤติกรรมและโครงสร้างไฟล์อย่างละเอียด 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รายละเอียดการโจมตี Operation Hanoi Thief ➡️ ใช้ไฟล์ ZIP ที่มีเรซูเม่ปลอมและไฟล์ LNK ➡️ ใช้เทคนิค pseudo-polyglot ซ่อนโค้ดในไฟล์ PNG ➡️ โหลด DLL อันตราย LOTUSHARVEST ผ่าน DLL sideloading ✅ เป้าหมายและผลกระทบ ➡️ มุ่งโจมตีภาคเทคโนโลยีและการสรรหาบุคลากรในเวียดนาม ➡️ ขโมยข้อมูลรหัสผ่านและประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์ ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ ไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารหรือภาพ อาจซ่อนโค้ดอันตราย ⛔ DLL sideloading สามารถทำให้มัลแวร์รันโดยไม่ถูกตรวจจับ ⛔ การโจมตีลักษณะนี้อาจแพร่ไปยังองค์กรในภูมิภาคอื่น https://securityonline.info/operation-hanoi-thief-hackers-use-pseudo-polyglot-lnk-image-to-deploy-lotusharvest-stealer-via-dll-sideloading/
    SECURITYONLINE.INFO
    Operation Hanoi Thief: Hackers Use 'Pseudo-Polyglot' LNK/Image to Deploy LOTUSHARVEST Stealer via DLL Sideloading
    Operation Hanoi Thief targets Vietnam with a pseudo-polyglot LNK/image file that executes malicious code via ftp.exe. The attack deploys LOTUSHARVEST stealer via DLL sideloading to steal Chrome/Edge credentials.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 19

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 19
    นาย Hoover อดีตประธานาธิบดีอเมริกา คนที่แม้ตอนนั้นอกจะยังกลัดหนอง จากโดนบี้เสียเละ ในช่วงที่เป็นประธานาธิบดีสมัย Great Depression ของอเมริกา เขาเป็นประธานาธิบดีอเมริกันที่ถูกประชาชน ประท้วงรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมมีคนซ้ำเติม เขาคงไม่ลืม เขาจึงนั่ง (รับใบสั่ง) เป็นผู้บัญชาการเงาของ SCAP อยู่ที่อพาทเม้นต์ข้างบนโรงแรมหรู ในนิวยอร์ค โดยมีอดีตทูต Grew และ Harry F Kern ร่วมนั่งรับการบัญชา
    หลังจากฝ่ายบัญชาการปล่อยข่าวออกไป จนน่าจะได้ที่ และได้ที เจ้าหน้าที่ของทางวังก็เริ่มมาหารือกับ Grew ถึงทางออกของจักรพรรดิ ที่คงจะเสียหน้ามาก ถ้าจะต้องออกมาเป็นผู้พูด รับผิดในการสั่งทหารญี่ปุ่นเข้าทำสงครามโลก ผลของการปรึกษา เจรจากันหลายรอบ ระหว่างตัวแทนของวังกับฝั่งของ ฝ่ายบัญชาการ ในที่สุดจักรพรรดิ ก็ตกลงยอมที่จะไปพบ นายพลแมค ที่สำนักงานใหญ่ของ SCAP ปิดห้องเจรจากัน 2 คน มันเป็นเรื่องที่จักรพรรดิไม่เคยต้องทำ แต่จักรพรรดิยอมเดินทางไปพบนายพลแมค มีแค่ องคมนตรีติดไปด้วย เพื่อทำหน้าที่เป็นล่าม โดยสาบานตนว่าจะไม่เปิดเผยต่อ ไม่ว่ากับใครทั้งสิ้น ไม่มีใครรู้ว่าทั้ง 2 เจรจาอะไรบ้าง
    แล้วคำแถลงของจักรพรรดิ ที่ใช้เวลาร่างและแก้อยู่หลายสิบ รอบ ก็ออกวิทยุที่ญี่ปุ่น ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.1945 ไม่มีการพูดถึง การสั่งเข้าทำสงคราม ไม่มีคำขอโทษ แต่ให้คนฟังเข้าใจเอาเองว่า จักรพรรดิเสียใจสุดซึ้ง มันเป็นคำแถลงที่สุดยอดญี่ปุ่น แปลว่า เข้าใจยากครับ ผมพยายามอ่านอยู่หลายเที่ยว เป็นฉบับภาษาอังกฤษ ที่แปลมาจากภาษาญี่ปุ่นอีกที สงสัยภาษาอังกฤษผมอ่อนมาก ผมชักไม่แน่ใจว่า ตกลงจักรพรรดิเสียใจสุดซึ้งเรื่องอะไรกันแน่ (ท่านใดที่สนใจว่าจักรพรรดิพูดว่าอะไร กดดูในกูเกิล emperor speech ได้เลยครับ)
    หลังจากนั้นก็มาถึงคิวบรรดาหัวกะทิ นักธุรกิจนักการเงินใหญ่ ที่ SCAP สั่งดำเนินดคี เนื่องจากมีส่วนพัวพัน สนับสนุน รวมทั้งค้าขาย ทำกำไรจากการทำสงครามอันโหดร้ายของญี่ปุ่น บริษัทเหล่านี้จะมีสิทธิถูกพิจารณาลงโทษ ให้ปรับปรุงกิจการ เลิกการผูกขาด ลดขนาดบริษัท ไปจนถึง ต้องเลิกกิจการ
    Harry F Kern บรรณาธิการข่าวต่างประเทศของนิตยสาร Newsweek ซึ่งมีเสียงดังมากในสมัยนั้น เป็นหัวเรือใหญ่ ตั้งสำนักล้อบบี้รุ่นแรก American Council on Japan (ACJ) หรือบางทีเรียกกันว่า Japan Lobby ร่วมกับสื่อใหญ่อีกคน Compton Pakenham ประจำสำนักงานในโตเกียว และ James Lee Kauffman ทนายจากนิวยอร์ค ที่มาสอนหนังสือ อยู่ที่ มหาวิทยาลัยโตเกียว ในช่วงปี ค.ศ.1913 – 1919 และเป็นที่ปรึกษากฏหมาย ให้ธุรกิจใหญ่อเมริกันในโตเกียว เช่น บริษัท General Electric , Standard Oil, Westing House, Ford, Otis Elevator และ Dillion Reed ร่วมในขบวนการล้อบบี้ด้วย
    Kern เป็นสื่อ ที่จบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาด สนใจด้านการเมืองแถบเอเซียมานานแล้วเป็นเพื่อนสนิทกับพวก Harriman คู่หูของร้อกกี้ the great ในจีน ส่วน Pakenham เกิดและโตมาในญี่ปุ่น และเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าพ่อ ในญี่ปุ่นเกือบทุกคน
    Grew อดีตทูตอเมริกันประจำญี่ปุ่น รับหน้าที่เป็นประธานของสำนักล้อบบี้ AJC ร่วมกับ Wiiliam Castle เจ้าของไร่ใหญ่ในฮาวาย และเคยเป็นปลัดกระทรวงต่างประเทศสมัย Hoover เป็นประธานาธิบดี
    ปี ค.ศ.1947 Kuaffman ในฐานะตัวแทนของ Dillion Reed บริษัทการเงินในวอลสตรีท ที่มีความใกล้ชิดกับร้อกกี้มากกว่ามอร์แกน เดินทางมาโตเกียวเพื่อประเมินนโยบาย FEC-230 ของวอชิงตัน ที่ให้ตอนพันธ์ุพวกหัวกะทิ นักธุรกิจใหญ่ ที่เรียกว่า zaibatsu จากต้นใหญ่ เหลือเป็นบอนไซในกระถางน่าเอ็น ดู เมื่อเขากลับไปอเมริกา เขารีบส่งการบ้าน หลังจากนั้นนโยบาย FEC-230 ก็ถูกส่งไปให้ Newsweek โดย William Draper หุ้นส่วนใหญ่ ของ Dillion Reed ที่ขอลาชั่วคราวมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม
    Newsweek เขียนบทความ แบบด่าไม่เลี้ยงว่า การลงโทษธุรกิจญี่ปุ่น ตามนโยบายดังกล่าว จะทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นพังพินาศ จะทำให้ชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในภาคธุรกิจ ตกงานเป็นหมื่นๆคน มันเป็นการลงโทษนักธุรกิจญี่ปุ่น แต่สร้างความเสียหายให้แก่ชาวอเมริกันที่เสียภาษีอย่างแสนสาหัส เพราะจะต้องไปรับภาระนั้นแทนญี่ปุ่น
    มันเป็นช่วงที่ นายพลแมค กำลังเริ่มหาเสียงจะลงเลือกตั้ง มาโดนสื่อใหญ่ถล่มเละ แถมพวกลิพับลิกันก็ช่วยกันด่าซ้ำ เพราะทำให้พรรคเสียคะแนน ท่านนายพลแมค จึงรีบสั่งระงับการเอาบอนไซพันธ์ุ zaibatsu ลงกระถางไว้ชั่วคราวก่อน แต่มีคนใจร้อนขี้เกียจคอย
    คราวนี้นาย William Draper มาญี่ปุ่นเอง ในฐานะตัวแทนรัฐบาลอเมริกัน แถมพ่วงเอานายธนาคารใหญ่ อีกคน Percy Johnson มาด้วย Johnson เป็นประธาน Chemical Bank ในนิวยอร์ค ซึ่งเป็นคู่ค้ากับ Mitsui Bank ยักษ์ใหญ่มากของญี่ปุ่น พวกเขาสอบถามซักไซ้ผู้ที่เกี่ยว ข้องอย่างรวดเร็ว แล้วรีบกลับไปทำรายงาน Draper-Johnson สรุปว่า พวก zaibatsu ไม่สมควรที่จะรับโทษ ในการทำสงคราม แต่ควรให้พวกเขารีบมาฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่น จะได้ไม่เป็นภาระกับอเมรืกา ในการ(ควักกระเป๋า) ดูแลเลี้ยงดูญี่ปุ่น ด้วยภาษีของคนอเมริกัน เยี่ยมจริงๆ
    สรุปแบบนี้ วอชิงตันก็โกลาหล มีทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายเชียร์ ในที่สุด การเมืองอเมริกัน ที่ว่าเป็นประชาธิปไตย ก็ (ถูกสั่งให้) ตัดสินใจยกเลิกการตอนพันธ์ zaibatsu และบริษัทญี่ปุ่น ที่อยู่ในข่ายว่าจะต้องถูกตอนจำนวน 325 บริษัท ก็ลดลงเหลือเพียง 20 บริษัท ส่วนพวก zaibatsu ที่รอดมา เปลี่ยนชื่อใหม่ชั่วคราว พอให้ควันจาง ก็กลับไปใช้ชื่อเดิม
    ส่วนเรื่อง จักรพรรดิ ทหาร และนักการเมือง อเมริกา หลังจากขู่เข้ม จนราดเต็มกางเกงกันไปหมดแล้ว ก็สรุปว่า ให้ไประบุให้ชัดเจนว่า จักรพรรดิอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ต่อไปใครจะมากล่าวหาว่าจักรพรรดินำรบไม่ได้แล้วนะ และ ให้แน่ใจว่า ทหารเลิกบ้าเลือด ก็ยุบกองทัพ เหลือแค่เป็นกองกำลังป้องกันตัวเอง ทั้งหมดนี้ ให้กำหนดอยู่ในรัฐธรรมนูญใหม่ ที่นายพลแมคให้จัดร่างขึ้นมาใหม่
    พอถึงปี ค.ศ.1951 ทั้งสองแสนสองหมื่นคน ก็หลุดจากคุกหมด ยกเว้นพวกที่หลุดมาก่อนหน้านั้นแล้ว ก็พวกหัวกะทิไง ให้ออกมาก่อน เก็บไว้แต่หางกะทิ
    ในปี ค.ศ.1952 นายพลแมค ก็จัดให้มีการเลือกตั้งในญี่ปุ่น และนายโยชิดะ จากพรรค Liberal Democrat Party (LDP) ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนายพลแมค
    ส่วนความฝันของนายพลแมคเอง ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ในปี ค.ศ.1948 เขาหาเสียงโดยตรงไม่ได้ เพราะกำลังวุ่นเรื่อง SCAP อยู่ แต่เขาประกาศผ่านพวกรีพับลิกัน โดยเฉพาะกับ Hoover ที่กำกับเขามาตลอด ว่าเขาพร้อมแล้ว แต่ดูเหมือนท่านนายพลห้าดาวจะไม่ผ่านแม้แต่การเลือกตั้งตัวแทนภายในพรรครอบแรก แต่คงไม่ช้ำใจมาก ได้ของปลอบใจไปแยะ เรียงกันหลายหลักมาก
    ทั้งหมดนี่ น่าจะเป็นผลงานการทำงานหนักของ ACJ ใครจะว่าอย่างไรก็ตาม ภายหลังจักรพรรดิให้เหรียญตราสูงสุดกับ Kern และ Pakenham ทั้ง 2 ก็คนแล้วกัน
    ACJ เป็นหน่วยงานทำอะไรกันแน่ เห็นไม่ชัดเจนในช่วงนั้น เช่นเดียวกับ หน่วยงาน MRA แต่ต่อมาภายหลัง มีเอกสารเป็นหลักฐานว่า 2 หน่วยงานนี้ คือหน่วยงานหน้าฉากของ CIA และทำงานภายใต้ใบกำกับ เช่นเดียวกัน
    เรื่องของ ACJ นี้ เป็นตำนานของการใช้สื่อ และการล้อบบี้ที่บันลือโลกมาก เป็นตัวอย่างว่า ปากและปากกานั่น ใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกคน ก็ล้มรัฐบาล หรือ ครอบครองประเทศได้ โดยไม่ต้องใช้กำลังทหาร และแม้แต่ทหารใหญ่อย่าง นายพลแมค ที่มีหน้าที่ปกครองญี่ปุ่นในตอนนั้น ยังต้องรีบเปลี่ยนบท
    เฮ้ย ทำไมมันขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน พอแตกใบอ่อนดันกลายเป็นบ้องกัญ ชาอย่างนึ้ ทำเป็นฮึดฮัดโกรธจัดเรื่อง Pearl Habour ถึงขนาดต้องเอาคืน ด้วยการป้อนดอกเห็ดยักษ์ ให้พวกชอบปลาดิบกิน จนตายกันเป็นเบื่อ แล้วจบกันง่ายๆ อย่างนี้นะหรือ ที่บางประเทศ แค่ปฏิวัติบ่อยหน่อย ยังไม่ได้ถล่มกองเรือของใครเลย ทำไมด่าซ้ำด่าซาก ไม่ด่าเปล่า เสือกมีของแถมมาขู่อีก แบบนี้ ก็ยังจบเรื่องไม่ได้ แค่จบตอนครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    30 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 19 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 19 นาย Hoover อดีตประธานาธิบดีอเมริกา คนที่แม้ตอนนั้นอกจะยังกลัดหนอง จากโดนบี้เสียเละ ในช่วงที่เป็นประธานาธิบดีสมัย Great Depression ของอเมริกา เขาเป็นประธานาธิบดีอเมริกันที่ถูกประชาชน ประท้วงรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมมีคนซ้ำเติม เขาคงไม่ลืม เขาจึงนั่ง (รับใบสั่ง) เป็นผู้บัญชาการเงาของ SCAP อยู่ที่อพาทเม้นต์ข้างบนโรงแรมหรู ในนิวยอร์ค โดยมีอดีตทูต Grew และ Harry F Kern ร่วมนั่งรับการบัญชา หลังจากฝ่ายบัญชาการปล่อยข่าวออกไป จนน่าจะได้ที่ และได้ที เจ้าหน้าที่ของทางวังก็เริ่มมาหารือกับ Grew ถึงทางออกของจักรพรรดิ ที่คงจะเสียหน้ามาก ถ้าจะต้องออกมาเป็นผู้พูด รับผิดในการสั่งทหารญี่ปุ่นเข้าทำสงครามโลก ผลของการปรึกษา เจรจากันหลายรอบ ระหว่างตัวแทนของวังกับฝั่งของ ฝ่ายบัญชาการ ในที่สุดจักรพรรดิ ก็ตกลงยอมที่จะไปพบ นายพลแมค ที่สำนักงานใหญ่ของ SCAP ปิดห้องเจรจากัน 2 คน มันเป็นเรื่องที่จักรพรรดิไม่เคยต้องทำ แต่จักรพรรดิยอมเดินทางไปพบนายพลแมค มีแค่ องคมนตรีติดไปด้วย เพื่อทำหน้าที่เป็นล่าม โดยสาบานตนว่าจะไม่เปิดเผยต่อ ไม่ว่ากับใครทั้งสิ้น ไม่มีใครรู้ว่าทั้ง 2 เจรจาอะไรบ้าง แล้วคำแถลงของจักรพรรดิ ที่ใช้เวลาร่างและแก้อยู่หลายสิบ รอบ ก็ออกวิทยุที่ญี่ปุ่น ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.1945 ไม่มีการพูดถึง การสั่งเข้าทำสงคราม ไม่มีคำขอโทษ แต่ให้คนฟังเข้าใจเอาเองว่า จักรพรรดิเสียใจสุดซึ้ง มันเป็นคำแถลงที่สุดยอดญี่ปุ่น แปลว่า เข้าใจยากครับ ผมพยายามอ่านอยู่หลายเที่ยว เป็นฉบับภาษาอังกฤษ ที่แปลมาจากภาษาญี่ปุ่นอีกที สงสัยภาษาอังกฤษผมอ่อนมาก ผมชักไม่แน่ใจว่า ตกลงจักรพรรดิเสียใจสุดซึ้งเรื่องอะไรกันแน่ (ท่านใดที่สนใจว่าจักรพรรดิพูดว่าอะไร กดดูในกูเกิล emperor speech ได้เลยครับ) หลังจากนั้นก็มาถึงคิวบรรดาหัวกะทิ นักธุรกิจนักการเงินใหญ่ ที่ SCAP สั่งดำเนินดคี เนื่องจากมีส่วนพัวพัน สนับสนุน รวมทั้งค้าขาย ทำกำไรจากการทำสงครามอันโหดร้ายของญี่ปุ่น บริษัทเหล่านี้จะมีสิทธิถูกพิจารณาลงโทษ ให้ปรับปรุงกิจการ เลิกการผูกขาด ลดขนาดบริษัท ไปจนถึง ต้องเลิกกิจการ Harry F Kern บรรณาธิการข่าวต่างประเทศของนิตยสาร Newsweek ซึ่งมีเสียงดังมากในสมัยนั้น เป็นหัวเรือใหญ่ ตั้งสำนักล้อบบี้รุ่นแรก American Council on Japan (ACJ) หรือบางทีเรียกกันว่า Japan Lobby ร่วมกับสื่อใหญ่อีกคน Compton Pakenham ประจำสำนักงานในโตเกียว และ James Lee Kauffman ทนายจากนิวยอร์ค ที่มาสอนหนังสือ อยู่ที่ มหาวิทยาลัยโตเกียว ในช่วงปี ค.ศ.1913 – 1919 และเป็นที่ปรึกษากฏหมาย ให้ธุรกิจใหญ่อเมริกันในโตเกียว เช่น บริษัท General Electric , Standard Oil, Westing House, Ford, Otis Elevator และ Dillion Reed ร่วมในขบวนการล้อบบี้ด้วย Kern เป็นสื่อ ที่จบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาด สนใจด้านการเมืองแถบเอเซียมานานแล้วเป็นเพื่อนสนิทกับพวก Harriman คู่หูของร้อกกี้ the great ในจีน ส่วน Pakenham เกิดและโตมาในญี่ปุ่น และเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าพ่อ ในญี่ปุ่นเกือบทุกคน Grew อดีตทูตอเมริกันประจำญี่ปุ่น รับหน้าที่เป็นประธานของสำนักล้อบบี้ AJC ร่วมกับ Wiiliam Castle เจ้าของไร่ใหญ่ในฮาวาย และเคยเป็นปลัดกระทรวงต่างประเทศสมัย Hoover เป็นประธานาธิบดี ปี ค.ศ.1947 Kuaffman ในฐานะตัวแทนของ Dillion Reed บริษัทการเงินในวอลสตรีท ที่มีความใกล้ชิดกับร้อกกี้มากกว่ามอร์แกน เดินทางมาโตเกียวเพื่อประเมินนโยบาย FEC-230 ของวอชิงตัน ที่ให้ตอนพันธ์ุพวกหัวกะทิ นักธุรกิจใหญ่ ที่เรียกว่า zaibatsu จากต้นใหญ่ เหลือเป็นบอนไซในกระถางน่าเอ็น ดู เมื่อเขากลับไปอเมริกา เขารีบส่งการบ้าน หลังจากนั้นนโยบาย FEC-230 ก็ถูกส่งไปให้ Newsweek โดย William Draper หุ้นส่วนใหญ่ ของ Dillion Reed ที่ขอลาชั่วคราวมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม Newsweek เขียนบทความ แบบด่าไม่เลี้ยงว่า การลงโทษธุรกิจญี่ปุ่น ตามนโยบายดังกล่าว จะทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นพังพินาศ จะทำให้ชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในภาคธุรกิจ ตกงานเป็นหมื่นๆคน มันเป็นการลงโทษนักธุรกิจญี่ปุ่น แต่สร้างความเสียหายให้แก่ชาวอเมริกันที่เสียภาษีอย่างแสนสาหัส เพราะจะต้องไปรับภาระนั้นแทนญี่ปุ่น มันเป็นช่วงที่ นายพลแมค กำลังเริ่มหาเสียงจะลงเลือกตั้ง มาโดนสื่อใหญ่ถล่มเละ แถมพวกลิพับลิกันก็ช่วยกันด่าซ้ำ เพราะทำให้พรรคเสียคะแนน ท่านนายพลแมค จึงรีบสั่งระงับการเอาบอนไซพันธ์ุ zaibatsu ลงกระถางไว้ชั่วคราวก่อน แต่มีคนใจร้อนขี้เกียจคอย คราวนี้นาย William Draper มาญี่ปุ่นเอง ในฐานะตัวแทนรัฐบาลอเมริกัน แถมพ่วงเอานายธนาคารใหญ่ อีกคน Percy Johnson มาด้วย Johnson เป็นประธาน Chemical Bank ในนิวยอร์ค ซึ่งเป็นคู่ค้ากับ Mitsui Bank ยักษ์ใหญ่มากของญี่ปุ่น พวกเขาสอบถามซักไซ้ผู้ที่เกี่ยว ข้องอย่างรวดเร็ว แล้วรีบกลับไปทำรายงาน Draper-Johnson สรุปว่า พวก zaibatsu ไม่สมควรที่จะรับโทษ ในการทำสงคราม แต่ควรให้พวกเขารีบมาฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่น จะได้ไม่เป็นภาระกับอเมรืกา ในการ(ควักกระเป๋า) ดูแลเลี้ยงดูญี่ปุ่น ด้วยภาษีของคนอเมริกัน เยี่ยมจริงๆ สรุปแบบนี้ วอชิงตันก็โกลาหล มีทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายเชียร์ ในที่สุด การเมืองอเมริกัน ที่ว่าเป็นประชาธิปไตย ก็ (ถูกสั่งให้) ตัดสินใจยกเลิกการตอนพันธ์ zaibatsu และบริษัทญี่ปุ่น ที่อยู่ในข่ายว่าจะต้องถูกตอนจำนวน 325 บริษัท ก็ลดลงเหลือเพียง 20 บริษัท ส่วนพวก zaibatsu ที่รอดมา เปลี่ยนชื่อใหม่ชั่วคราว พอให้ควันจาง ก็กลับไปใช้ชื่อเดิม ส่วนเรื่อง จักรพรรดิ ทหาร และนักการเมือง อเมริกา หลังจากขู่เข้ม จนราดเต็มกางเกงกันไปหมดแล้ว ก็สรุปว่า ให้ไประบุให้ชัดเจนว่า จักรพรรดิอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ต่อไปใครจะมากล่าวหาว่าจักรพรรดินำรบไม่ได้แล้วนะ และ ให้แน่ใจว่า ทหารเลิกบ้าเลือด ก็ยุบกองทัพ เหลือแค่เป็นกองกำลังป้องกันตัวเอง ทั้งหมดนี้ ให้กำหนดอยู่ในรัฐธรรมนูญใหม่ ที่นายพลแมคให้จัดร่างขึ้นมาใหม่ พอถึงปี ค.ศ.1951 ทั้งสองแสนสองหมื่นคน ก็หลุดจากคุกหมด ยกเว้นพวกที่หลุดมาก่อนหน้านั้นแล้ว ก็พวกหัวกะทิไง ให้ออกมาก่อน เก็บไว้แต่หางกะทิ ในปี ค.ศ.1952 นายพลแมค ก็จัดให้มีการเลือกตั้งในญี่ปุ่น และนายโยชิดะ จากพรรค Liberal Democrat Party (LDP) ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนายพลแมค ส่วนความฝันของนายพลแมคเอง ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ในปี ค.ศ.1948 เขาหาเสียงโดยตรงไม่ได้ เพราะกำลังวุ่นเรื่อง SCAP อยู่ แต่เขาประกาศผ่านพวกรีพับลิกัน โดยเฉพาะกับ Hoover ที่กำกับเขามาตลอด ว่าเขาพร้อมแล้ว แต่ดูเหมือนท่านนายพลห้าดาวจะไม่ผ่านแม้แต่การเลือกตั้งตัวแทนภายในพรรครอบแรก แต่คงไม่ช้ำใจมาก ได้ของปลอบใจไปแยะ เรียงกันหลายหลักมาก ทั้งหมดนี่ น่าจะเป็นผลงานการทำงานหนักของ ACJ ใครจะว่าอย่างไรก็ตาม ภายหลังจักรพรรดิให้เหรียญตราสูงสุดกับ Kern และ Pakenham ทั้ง 2 ก็คนแล้วกัน ACJ เป็นหน่วยงานทำอะไรกันแน่ เห็นไม่ชัดเจนในช่วงนั้น เช่นเดียวกับ หน่วยงาน MRA แต่ต่อมาภายหลัง มีเอกสารเป็นหลักฐานว่า 2 หน่วยงานนี้ คือหน่วยงานหน้าฉากของ CIA และทำงานภายใต้ใบกำกับ เช่นเดียวกัน เรื่องของ ACJ นี้ เป็นตำนานของการใช้สื่อ และการล้อบบี้ที่บันลือโลกมาก เป็นตัวอย่างว่า ปากและปากกานั่น ใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกคน ก็ล้มรัฐบาล หรือ ครอบครองประเทศได้ โดยไม่ต้องใช้กำลังทหาร และแม้แต่ทหารใหญ่อย่าง นายพลแมค ที่มีหน้าที่ปกครองญี่ปุ่นในตอนนั้น ยังต้องรีบเปลี่ยนบท เฮ้ย ทำไมมันขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน พอแตกใบอ่อนดันกลายเป็นบ้องกัญ ชาอย่างนึ้ ทำเป็นฮึดฮัดโกรธจัดเรื่อง Pearl Habour ถึงขนาดต้องเอาคืน ด้วยการป้อนดอกเห็ดยักษ์ ให้พวกชอบปลาดิบกิน จนตายกันเป็นเบื่อ แล้วจบกันง่ายๆ อย่างนี้นะหรือ ที่บางประเทศ แค่ปฏิวัติบ่อยหน่อย ยังไม่ได้ถล่มกองเรือของใครเลย ทำไมด่าซ้ำด่าซาก ไม่ด่าเปล่า เสือกมีของแถมมาขู่อีก แบบนี้ ก็ยังจบเรื่องไม่ได้ แค่จบตอนครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 30 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251130 #TechRadar

    ChatGPT ครบรอบ 3 ปี เผยฟีเจอร์ยอดนิยมที่คนใช้จริง
    ChatGPT จาก OpenAI เดินทางมาถึงปีที่ 3 แล้ว และข้อมูลใหม่ที่ถูกเปิดเผยทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะสิ่งที่คนใช้มากที่สุดไม่ใช่การสร้างภาพใหม่ แต่กลับเป็นการ “อัปโหลดภาพ” เพื่อให้ AI ช่วยปรับปรุงหรือแก้ไข นอกจากนี้งานหลักที่คนใช้ในที่ทำงานคือการแก้ไขและวิจารณ์ข้อความ มากกว่าการเขียนใหม่ทั้งหมด ฟีเจอร์ยอดนิยมที่ถูกใช้ทั่วโลกยังรวมถึงการค้นหาข้อมูล การใช้โมเดลเหตุผล การวิเคราะห์ข้อมูล และการพูดเป็นข้อความ ซึ่งสะท้อนว่าผู้ใช้มอง ChatGPT เป็นเครื่องมือช่วยงานจริงจัง ไม่ใช่แค่ของเล่นทดลองอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-reveals-chatgpts-most-popular-features-and-the-top-one-might-surprise-you

    FBI เตือนภัย! แฮกเกอร์ใช้ AI หลอกขโมยเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์
    ปี 2025 กลายเป็นปีที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ AI สร้างแคมเปญหลอกลวงได้สมจริงยิ่งขึ้น FBI รายงานว่ามีการสูญเสียเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์จากการยึดบัญชีผู้ใช้ผ่านการหลอกให้เปิดเผยรหัสผ่านหรือ OTP เมื่อได้ข้อมูลแล้ว แฮกเกอร์สามารถรีเซ็ตรหัสและโอนเงินไปยังบัญชีที่ควบคุมเอง บ่อยครั้งเงินถูกเปลี่ยนเป็นคริปโตเพื่อปกปิดร่องรอย การโจมตีมักมาในรูปแบบอีเมล ปลอมเป็นธนาคาร หรือแม้แต่เว็บไซต์ช้อปปิ้งปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ จุดอันตรายคือผู้ใช้เองเป็นคนกดยืนยันธุรกรรม ทำให้การป้องกันยิ่งยากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/fbi-says-hackers-have-stolen-usd262-million-in-account-takeover-scams-in-2025-so-far-heres-how-you-can-stay-safe

    Meta จ่อดีลใหญ่กับ Google TPU สะเทือนตลาดชิป AI
    ความต้องการชิป AI พุ่งสูงจน Meta ต้องหันไปเจรจากับ Google เพื่อใช้ TPU ของ Google Cloud ในปี 2026 และอาจซื้อโดยตรงในปี 2027 ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนเกม เพราะ Google แต่เดิมใช้ TPU ภายในเท่านั้น ขณะที่ Meta เคยพึ่งพาหลายเจ้า รวมถึง Nvidia การเจรจานี้ทำให้มูลค่า Alphabet พุ่งขึ้นทันที และนักลงทุนเริ่มกังวลว่า Nvidia อาจเสียส่วนแบ่งตลาดมหาศาล ความตึงเครียดในซัพพลายเชนยังคงสูง เพราะความต้องการชิป AI เกินกำลังการผลิตทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/meta-and-google-could-be-about-to-sign-a-mega-ai-chip-deal-and-it-could-change-everything-in-the-tech-space

    IBM เปิดตัวระบบเก็บข้อมูลใหม่ รองรับสูงสุด 47 เพตะไบต์ต่อแร็ค
    IBM ขยายศักยภาพระบบ Storage Scale System 6000 ด้วย All-Flash Expansion Enclosures ที่ใช้ไดรฟ์ QLC ขนาด 122TB ทำให้รองรับข้อมูลได้ถึง 47PB ต่อแร็ค เหมาะกับงานที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาล เช่น AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานหลายงานพร้อมกันโดยไม่เกิดคอขวด และยังเชื่อมต่อกับ GPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดยังเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนและการอ่านให้สูงขึ้น เพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อนในระดับองค์กรใหญ่
    https://www.techradar.com/pro/talk-about-a-triple-threat-ibm-says-it-can-now-support-up-to-47pb-on-a-full-rack-so-load-it-up

    โน้ตบุ๊ก RAM 128GB และ 256GB ปี 2025 สำหรับงานโหดสุดๆ
    โน้ตบุ๊กที่มาพร้อม RAM 128GB หรือแม้แต่ 256GB ไม่ใช่ของสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่ถูกออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ต้องการพลังประมวลผลสูงสุด เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ หรือผู้ทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่ รายชื่อรุ่นที่มีให้เลือกในปี 2025 ครอบคลุมแบรนด์ดังอย่าง Dell, HP, Lenovo, MSI, Asus, Alienware และ Razer ราคามีตั้งแต่ประมาณ 1,599 ดอลลาร์ไปจนถึงกว่า 7,000 ดอลลาร์ รุ่นที่รองรับ 256GB ยังมีไม่มาก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของตลาดโน้ตบุ๊กที่กำลังผลักดันขีดจำกัดของการใช้งานพกพา
    https://www.techradar.com/pro/best-256gb-and-128gb-ram-laptops

    การกำกับดูแลโลกไซเบอร์-กายภาพ กลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับรัฐบาลท้องถิ่น
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการบริหารจัดการระบบไซเบอร์ที่เชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และการขนส่ง ไม่ใช่เรื่อง “nice to have” อีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น รัฐบาลท้องถิ่นต้องมีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการโจมตีไซเบอร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของประชาชน แนวคิดนี้กำลังถูกผลักดันให้เป็นมาตรฐานใหม่ในการบริหารเมืองอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ
    https://www.techradar.com/pro/cyber-physical-governance-isnt-a-nice-to-have-for-state-and-local-government-its-essential

    หูฟังที่ดีที่สุดสำหรับทุกงบประมาณ ผ่านการทดสอบจริง
    ทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทดสอบหูฟังหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนถึงระดับพรีเมียม เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมกับผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบครอบหู ไร้สาย หรือแบบอินเอียร์ จุดเด่นคือการทดสอบในสถานการณ์จริง ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าคุณภาพเสียง ความสบาย และความทนทานได้รับการตรวจสอบแล้ว รายการนี้ช่วยให้ผู้ใช้เลือกหูฟังที่ตรงกับความต้องการโดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเอง
    https://www.techradar.com/audio/headphones/the-best-headphones

    กล้องสำหรับมือใหม่ปี 2025 ตัวเลือกที่เหมาะที่สุด
    สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นถ่ายภาพ บทความนี้แนะนำกล้องที่ใช้งานง่าย ราคาสมเหตุสมผล และมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เรียนรู้ได้เร็ว ไม่ว่าจะเป็นกล้อง DSLR หรือ Mirrorless ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้เริ่มต้น จุดสำคัญคือการเลือกกล้องที่ไม่ซับซ้อนเกินไป แต่ยังมีคุณภาพภาพถ่ายที่ดีพอจะต่อยอดไปสู่การถ่ายภาพจริงจังในอนาคต
    https://www.techradar.com/cameras/the-best-camera-for-beginners

    รีวิว Panasonic HC-X1200 กล้องวิดีโอที่ซูมได้สุดประทับใจ
    Panasonic HC-X1200 ทำให้หลายคนทึ่งกับความสามารถในการซูมที่ทรงพลัง จนแทบจะทำให้กล้องวิดีโอแบบเต็มรูปแบบกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง คุณภาพภาพและระบบกันสั่นที่ดี ทำให้การถ่ายวิดีโอทั้งงานมืออาชีพและงานส่วนตัวมีความคมชัดและเสถียร จุดขายหลักคือการซูมที่เหนือกว่ากล้องทั่วไปในตลาด
    https://www.techradar.com/cameras/video-cameras/panasonic-hc-x1200-review

    ฟีเจอร์ AirDrop ใหม่บน Google Pixel 10 มีปัญหากับผู้ใช้บางราย
    Google Pixel 10 มาพร้อมฟีเจอร์ AirDrop ที่ตั้งใจให้แชร์ไฟล์ได้สะดวกขึ้น แต่ผู้ใช้บางรายพบว่าฟีเจอร์นี้ยังมีบั๊ก ทำให้การส่งไฟล์ไม่เสถียรหรือเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ปัญหานี้กำลังถูกพูดถึงในชุมชนผู้ใช้ และคาดว่า Google จะต้องออกอัปเดตแก้ไขในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ฟีเจอร์ทำงานได้สมบูรณ์ตามที่ตั้งใจ
    https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/the-new-airdrop-feature-on-the-google-pixel-10-is-proving-buggy-for-some-users

    ปัญหากวนใจใน iOS 26 และวิธีแก้
    อัปเดต iOS 26 ที่หลายคนรอคอย กลับมาพร้อมทั้งฟีเจอร์ใหม่และความเปลี่ยนแปลงที่บางอย่างทำให้ผู้ใช้หงุดหงิดไม่น้อย เช่น “Liquid Glass” ที่ทำให้หน้าจอดูโปร่งใสเกินไปจนอ่านยาก หลายคนเลือกปิดด้วยการตั้งค่า Reduce Transparency เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น อีกเรื่องคือการถ่ายภาพหน้าจอที่เปลี่ยนไปจากเดิม กลายเป็นเต็มจอพร้อมเครื่องมือแก้ไขทันที ซึ่งบางคนไม่ชอบ จึงไปตั้งค่าให้กลับมาเป็นแบบเดิมที่แค่โชว์ตัวอย่างเล็ก ๆ แล้วปัดทิ้งได้สะดวกกว่า Safari ก็ถูกปรับแถบเครื่องมือใหม่จนดูอึดอัดและต้องกดหลายขั้นตอนกว่าจะได้ฟังก์ชันที่เคยง่าย ๆ ผู้ใช้บางคนเลยเลือกปรับกลับให้เหมือนเดิม ส่วนการพิมพ์แบบ “slide-to-type” ที่บางครั้งเผลอไปลากนิ้วแล้วกลายเป็นคำไม่ตั้งใจ ก็สามารถปิดได้ในเมนู Keyboard และสุดท้ายคือการตั้งปลุกที่เคยบังคับ snooze 9 นาที ตอนนี้สามารถเลือกได้เองตั้งแต่ 1–15 นาที ทำให้ชีวิตยืดหยุ่นขึ้นมาก
    https://www.techradar.com/phones/the-5-most-frustrating-things-about-ios-26-and-how-I-fixed-them

    Cyber Resilience: ธุรกิจต้องปรับตัว
    โลกธุรกิจอังกฤษกำลังเผชิญภัยไซเบอร์ครั้งใหญ่ เหตุการณ์โจมตี Jaguar Land Rover ทำความเสียหายมหาศาลกว่า 1.9 พันล้านปอนด์ และยังมีกรณี Marks & Spencer กับ Co-Op ที่โดนโจมตีเช่นกัน รัฐบาลอังกฤษจึงเสนอแนวทางห้ามจ่ายค่าไถ่ ransomware สำหรับหน่วยงานรัฐและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เพื่อไม่ให้คนร้ายได้ผลประโยชน์ แต่ผลข้างเคียงคือเอกชนอาจกลายเป็นเป้าหมายหลักแทน สิ่งที่ธุรกิจต้องทำคือสร้าง “ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์” โดยเริ่มจากการพัฒนาทักษะบุคลากร เพราะรายงานล่าสุดชี้ว่ามีช่องว่างทักษะด้านนี้สูงมาก การฝึกอบรมต้องไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ต้องฝังอยู่ในงานประจำทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ฝ่ายการเงินจนถึงบริการลูกค้า เพื่อให้ทุกคนรู้จักรับมือภัย เช่น phishing ที่ยังเป็นช่องทางโจมตีหลัก และที่สำคัญคือบอร์ดบริหารต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เทียบเท่ากับผลประกอบการ เพราะภัยไซเบอร์วันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่คือความอยู่รอดของธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/cyber-resilience-is-a-business-imperative-skills-and-strategy-must-evolve

    Cybersecurity Burnout: เมื่อทีมงานหมดแรง
    งานด้านความปลอดภัยไซเบอร์เป็นงานที่ต้องวิ่งแข่งกับภัยคุกคามตลอดเวลา จนทำให้คนทำงานจำนวนมากเกิดภาวะ “burnout” หรือหมดแรง ล่าสุดมีตัวเลขว่ากว่า 76% ของผู้เชี่ยวชาญด้านนี้รู้สึกเหนื่อยล้า และ 69% บอกว่าหนักขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักคือการโจมตีที่ไม่หยุดพัก กฎระเบียบใหม่ ๆ ที่ต้องตามให้ทัน และการขาดบุคลากรที่เพียงพอ ผลกระทบไม่ใช่แค่สุขภาพจิต แต่ยังทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง เสี่ยงต่อการเกิดช่องโหว่และความเสียหายทางการเงิน บริษัทจึงต้องหาทางแก้ เช่น การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนพนักงาน การลงทุนในเครื่องมือที่ช่วยแบ่งเบาภาระ รวมถึงการใช้บริการภายนอกอย่าง Managed Detection and Response (MDR) ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าได้จริง และที่สำคัญคือการให้โอกาสเติบโตในสายงาน เพื่อให้คนทำงานรู้สึกว่ามีอนาคต ไม่ใช่แค่ทำงานไปวัน ๆ
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/tackling-cybersecurity-burnout-once-and-for-all
    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251130 #TechRadar 🧠 ChatGPT ครบรอบ 3 ปี เผยฟีเจอร์ยอดนิยมที่คนใช้จริง ChatGPT จาก OpenAI เดินทางมาถึงปีที่ 3 แล้ว และข้อมูลใหม่ที่ถูกเปิดเผยทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะสิ่งที่คนใช้มากที่สุดไม่ใช่การสร้างภาพใหม่ แต่กลับเป็นการ “อัปโหลดภาพ” เพื่อให้ AI ช่วยปรับปรุงหรือแก้ไข นอกจากนี้งานหลักที่คนใช้ในที่ทำงานคือการแก้ไขและวิจารณ์ข้อความ มากกว่าการเขียนใหม่ทั้งหมด ฟีเจอร์ยอดนิยมที่ถูกใช้ทั่วโลกยังรวมถึงการค้นหาข้อมูล การใช้โมเดลเหตุผล การวิเคราะห์ข้อมูล และการพูดเป็นข้อความ ซึ่งสะท้อนว่าผู้ใช้มอง ChatGPT เป็นเครื่องมือช่วยงานจริงจัง ไม่ใช่แค่ของเล่นทดลองอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-reveals-chatgpts-most-popular-features-and-the-top-one-might-surprise-you 🛡️ FBI เตือนภัย! แฮกเกอร์ใช้ AI หลอกขโมยเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์ ปี 2025 กลายเป็นปีที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ AI สร้างแคมเปญหลอกลวงได้สมจริงยิ่งขึ้น FBI รายงานว่ามีการสูญเสียเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์จากการยึดบัญชีผู้ใช้ผ่านการหลอกให้เปิดเผยรหัสผ่านหรือ OTP เมื่อได้ข้อมูลแล้ว แฮกเกอร์สามารถรีเซ็ตรหัสและโอนเงินไปยังบัญชีที่ควบคุมเอง บ่อยครั้งเงินถูกเปลี่ยนเป็นคริปโตเพื่อปกปิดร่องรอย การโจมตีมักมาในรูปแบบอีเมล ปลอมเป็นธนาคาร หรือแม้แต่เว็บไซต์ช้อปปิ้งปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ จุดอันตรายคือผู้ใช้เองเป็นคนกดยืนยันธุรกรรม ทำให้การป้องกันยิ่งยากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/fbi-says-hackers-have-stolen-usd262-million-in-account-takeover-scams-in-2025-so-far-heres-how-you-can-stay-safe 💻 Meta จ่อดีลใหญ่กับ Google TPU สะเทือนตลาดชิป AI ความต้องการชิป AI พุ่งสูงจน Meta ต้องหันไปเจรจากับ Google เพื่อใช้ TPU ของ Google Cloud ในปี 2026 และอาจซื้อโดยตรงในปี 2027 ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนเกม เพราะ Google แต่เดิมใช้ TPU ภายในเท่านั้น ขณะที่ Meta เคยพึ่งพาหลายเจ้า รวมถึง Nvidia การเจรจานี้ทำให้มูลค่า Alphabet พุ่งขึ้นทันที และนักลงทุนเริ่มกังวลว่า Nvidia อาจเสียส่วนแบ่งตลาดมหาศาล ความตึงเครียดในซัพพลายเชนยังคงสูง เพราะความต้องการชิป AI เกินกำลังการผลิตทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/meta-and-google-could-be-about-to-sign-a-mega-ai-chip-deal-and-it-could-change-everything-in-the-tech-space 💾 IBM เปิดตัวระบบเก็บข้อมูลใหม่ รองรับสูงสุด 47 เพตะไบต์ต่อแร็ค IBM ขยายศักยภาพระบบ Storage Scale System 6000 ด้วย All-Flash Expansion Enclosures ที่ใช้ไดรฟ์ QLC ขนาด 122TB ทำให้รองรับข้อมูลได้ถึง 47PB ต่อแร็ค เหมาะกับงานที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาล เช่น AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานหลายงานพร้อมกันโดยไม่เกิดคอขวด และยังเชื่อมต่อกับ GPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดยังเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนและการอ่านให้สูงขึ้น เพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อนในระดับองค์กรใหญ่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/talk-about-a-triple-threat-ibm-says-it-can-now-support-up-to-47pb-on-a-full-rack-so-load-it-up 💻 โน้ตบุ๊ก RAM 128GB และ 256GB ปี 2025 สำหรับงานโหดสุดๆ โน้ตบุ๊กที่มาพร้อม RAM 128GB หรือแม้แต่ 256GB ไม่ใช่ของสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่ถูกออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ต้องการพลังประมวลผลสูงสุด เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ หรือผู้ทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่ รายชื่อรุ่นที่มีให้เลือกในปี 2025 ครอบคลุมแบรนด์ดังอย่าง Dell, HP, Lenovo, MSI, Asus, Alienware และ Razer ราคามีตั้งแต่ประมาณ 1,599 ดอลลาร์ไปจนถึงกว่า 7,000 ดอลลาร์ รุ่นที่รองรับ 256GB ยังมีไม่มาก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของตลาดโน้ตบุ๊กที่กำลังผลักดันขีดจำกัดของการใช้งานพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/best-256gb-and-128gb-ram-laptops 🌐 การกำกับดูแลโลกไซเบอร์-กายภาพ กลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับรัฐบาลท้องถิ่น บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการบริหารจัดการระบบไซเบอร์ที่เชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และการขนส่ง ไม่ใช่เรื่อง “nice to have” อีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น รัฐบาลท้องถิ่นต้องมีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการโจมตีไซเบอร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของประชาชน แนวคิดนี้กำลังถูกผลักดันให้เป็นมาตรฐานใหม่ในการบริหารเมืองอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ 🔗 https://www.techradar.com/pro/cyber-physical-governance-isnt-a-nice-to-have-for-state-and-local-government-its-essential 🎧 หูฟังที่ดีที่สุดสำหรับทุกงบประมาณ ผ่านการทดสอบจริง ทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทดสอบหูฟังหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนถึงระดับพรีเมียม เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมกับผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบครอบหู ไร้สาย หรือแบบอินเอียร์ จุดเด่นคือการทดสอบในสถานการณ์จริง ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าคุณภาพเสียง ความสบาย และความทนทานได้รับการตรวจสอบแล้ว รายการนี้ช่วยให้ผู้ใช้เลือกหูฟังที่ตรงกับความต้องการโดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเอง 🔗 https://www.techradar.com/audio/headphones/the-best-headphones 📷 กล้องสำหรับมือใหม่ปี 2025 ตัวเลือกที่เหมาะที่สุด สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นถ่ายภาพ บทความนี้แนะนำกล้องที่ใช้งานง่าย ราคาสมเหตุสมผล และมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เรียนรู้ได้เร็ว ไม่ว่าจะเป็นกล้อง DSLR หรือ Mirrorless ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้เริ่มต้น จุดสำคัญคือการเลือกกล้องที่ไม่ซับซ้อนเกินไป แต่ยังมีคุณภาพภาพถ่ายที่ดีพอจะต่อยอดไปสู่การถ่ายภาพจริงจังในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/cameras/the-best-camera-for-beginners 🎥 รีวิว Panasonic HC-X1200 กล้องวิดีโอที่ซูมได้สุดประทับใจ Panasonic HC-X1200 ทำให้หลายคนทึ่งกับความสามารถในการซูมที่ทรงพลัง จนแทบจะทำให้กล้องวิดีโอแบบเต็มรูปแบบกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง คุณภาพภาพและระบบกันสั่นที่ดี ทำให้การถ่ายวิดีโอทั้งงานมืออาชีพและงานส่วนตัวมีความคมชัดและเสถียร จุดขายหลักคือการซูมที่เหนือกว่ากล้องทั่วไปในตลาด 🔗 https://www.techradar.com/cameras/video-cameras/panasonic-hc-x1200-review 📱 ฟีเจอร์ AirDrop ใหม่บน Google Pixel 10 มีปัญหากับผู้ใช้บางราย Google Pixel 10 มาพร้อมฟีเจอร์ AirDrop ที่ตั้งใจให้แชร์ไฟล์ได้สะดวกขึ้น แต่ผู้ใช้บางรายพบว่าฟีเจอร์นี้ยังมีบั๊ก ทำให้การส่งไฟล์ไม่เสถียรหรือเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ปัญหานี้กำลังถูกพูดถึงในชุมชนผู้ใช้ และคาดว่า Google จะต้องออกอัปเดตแก้ไขในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ฟีเจอร์ทำงานได้สมบูรณ์ตามที่ตั้งใจ 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/the-new-airdrop-feature-on-the-google-pixel-10-is-proving-buggy-for-some-users 📱 ปัญหากวนใจใน iOS 26 และวิธีแก้ อัปเดต iOS 26 ที่หลายคนรอคอย กลับมาพร้อมทั้งฟีเจอร์ใหม่และความเปลี่ยนแปลงที่บางอย่างทำให้ผู้ใช้หงุดหงิดไม่น้อย เช่น “Liquid Glass” ที่ทำให้หน้าจอดูโปร่งใสเกินไปจนอ่านยาก หลายคนเลือกปิดด้วยการตั้งค่า Reduce Transparency เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น อีกเรื่องคือการถ่ายภาพหน้าจอที่เปลี่ยนไปจากเดิม กลายเป็นเต็มจอพร้อมเครื่องมือแก้ไขทันที ซึ่งบางคนไม่ชอบ จึงไปตั้งค่าให้กลับมาเป็นแบบเดิมที่แค่โชว์ตัวอย่างเล็ก ๆ แล้วปัดทิ้งได้สะดวกกว่า Safari ก็ถูกปรับแถบเครื่องมือใหม่จนดูอึดอัดและต้องกดหลายขั้นตอนกว่าจะได้ฟังก์ชันที่เคยง่าย ๆ ผู้ใช้บางคนเลยเลือกปรับกลับให้เหมือนเดิม ส่วนการพิมพ์แบบ “slide-to-type” ที่บางครั้งเผลอไปลากนิ้วแล้วกลายเป็นคำไม่ตั้งใจ ก็สามารถปิดได้ในเมนู Keyboard และสุดท้ายคือการตั้งปลุกที่เคยบังคับ snooze 9 นาที ตอนนี้สามารถเลือกได้เองตั้งแต่ 1–15 นาที ทำให้ชีวิตยืดหยุ่นขึ้นมาก 🔗 https://www.techradar.com/phones/the-5-most-frustrating-things-about-ios-26-and-how-I-fixed-them 🛡️ Cyber Resilience: ธุรกิจต้องปรับตัว โลกธุรกิจอังกฤษกำลังเผชิญภัยไซเบอร์ครั้งใหญ่ เหตุการณ์โจมตี Jaguar Land Rover ทำความเสียหายมหาศาลกว่า 1.9 พันล้านปอนด์ และยังมีกรณี Marks & Spencer กับ Co-Op ที่โดนโจมตีเช่นกัน รัฐบาลอังกฤษจึงเสนอแนวทางห้ามจ่ายค่าไถ่ ransomware สำหรับหน่วยงานรัฐและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เพื่อไม่ให้คนร้ายได้ผลประโยชน์ แต่ผลข้างเคียงคือเอกชนอาจกลายเป็นเป้าหมายหลักแทน สิ่งที่ธุรกิจต้องทำคือสร้าง “ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์” โดยเริ่มจากการพัฒนาทักษะบุคลากร เพราะรายงานล่าสุดชี้ว่ามีช่องว่างทักษะด้านนี้สูงมาก การฝึกอบรมต้องไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ต้องฝังอยู่ในงานประจำทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ฝ่ายการเงินจนถึงบริการลูกค้า เพื่อให้ทุกคนรู้จักรับมือภัย เช่น phishing ที่ยังเป็นช่องทางโจมตีหลัก และที่สำคัญคือบอร์ดบริหารต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เทียบเท่ากับผลประกอบการ เพราะภัยไซเบอร์วันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่คือความอยู่รอดของธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/cyber-resilience-is-a-business-imperative-skills-and-strategy-must-evolve 😓 Cybersecurity Burnout: เมื่อทีมงานหมดแรง งานด้านความปลอดภัยไซเบอร์เป็นงานที่ต้องวิ่งแข่งกับภัยคุกคามตลอดเวลา จนทำให้คนทำงานจำนวนมากเกิดภาวะ “burnout” หรือหมดแรง ล่าสุดมีตัวเลขว่ากว่า 76% ของผู้เชี่ยวชาญด้านนี้รู้สึกเหนื่อยล้า และ 69% บอกว่าหนักขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักคือการโจมตีที่ไม่หยุดพัก กฎระเบียบใหม่ ๆ ที่ต้องตามให้ทัน และการขาดบุคลากรที่เพียงพอ ผลกระทบไม่ใช่แค่สุขภาพจิต แต่ยังทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง เสี่ยงต่อการเกิดช่องโหว่และความเสียหายทางการเงิน บริษัทจึงต้องหาทางแก้ เช่น การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนพนักงาน การลงทุนในเครื่องมือที่ช่วยแบ่งเบาภาระ รวมถึงการใช้บริการภายนอกอย่าง Managed Detection and Response (MDR) ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าได้จริง และที่สำคัญคือการให้โอกาสเติบโตในสายงาน เพื่อให้คนทำงานรู้สึกว่ามีอนาคต ไม่ใช่แค่ทำงานไปวัน ๆ ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/tackling-cybersecurity-burnout-once-and-for-all
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำนานเกม Pong จุดเริ่มต้นอุตสาหกรรมเกมมูลค่าแสนล้าน

    ปี 1972 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของวงการบันเทิง เมื่อ Atari เปิดตัว Pong เกมอาร์เคดแนวตีลูกปิงปองที่เรียบง่าย แต่กลับสร้างรายได้มหาศาลให้บริษัทจากเงินลงทุนเพียง 500 ดอลลาร์ จนกลายเป็นหนึ่งในเกมที่วางรากฐานให้ธุรกิจเกมเติบโตจนมีมูลค่ากว่า 300 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน.

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Pong ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกมเชิงพาณิชย์ตั้งแต่แรก แต่เป็นเพียง “การบ้าน” ที่ Nolan Bushnell มอบให้ Allan Alcorn วิศวกรของ Atari เพื่อฝึกฝีมือการออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เกมนี้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้วงจร TTL (Transistor-Transistor Logic) แบบฮาร์ดแวร์ล้วน ๆ โดยไม่มี CPU หรือซอฟต์แวร์ใด ๆ ซึ่งถือว่าเป็นความแปลกใหม่ในยุคนั้น.

    ความนิยมของ Pong ทำให้ Atari ขยายตลาดสู่ผู้บริโภคทั่วไป โดยออก Home Pong ในปี 1975 และต่อมาในปี 1977 ได้รวมเกมแนว Pong ไว้ในเครื่อง Atari 2600 ในชื่อ Video Olympics ซึ่งช่วยให้เกมนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมครอบครัว และยังถูกนำกลับมาในเครื่องเล่นรุ่นใหม่ ๆ รวมถึง Atari Gamestation Go.

    นอกจากนี้ Pong ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเกมแนวใหม่อย่าง Breakout และเกมตีลูกอื่น ๆ ที่พัฒนาต่อยอดจากแนวคิดเดิม ทำให้ Pong ไม่เพียงเป็นเกม แต่เป็น “จุดประกาย” ที่เปลี่ยนโลกบันเทิงไปตลอดกาล.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    จุดกำเนิด Pong
    เปิดตัวในปี 1972 โดย Atari
    สร้างรายได้มหาศาลจากเงินลงทุนเพียง 500 ดอลลาร์

    นวัตกรรมทางเทคนิค
    ใช้วงจร TTL โดยไม่มี CPU
    ระบบเสียง “บี๊บ” กลายเป็นเอกลักษณ์

    การขยายตลาด
    เปิดตัว Home Pong ปี 1975
    รวมอยู่ใน Atari 2600 ปี 1977

    อิทธิพลต่อวงการเกม
    จุดประกายให้เกิดเกม Breakout และแนวเกมตีลูกอื่น ๆ
    วางรากฐานอุตสาหกรรมเกมที่มีมูลค่ากว่า 300 พันล้านดอลลาร์

    ข้อถกเถียงด้านสิทธิบัตร
    มีการกล่าวว่า Pong ได้แรงบันดาลใจจาก Magnavox Odyssey
    เกิดคดีฟ้องร้องเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรในยุคนั้น

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/pong-debuted-on-this-day-in-1972-ataris-pioneering-cpu-less-video-arcade-games-creation-was-the-result-of-an-engineer-training-exercise
    🎮 ตำนานเกม Pong จุดเริ่มต้นอุตสาหกรรมเกมมูลค่าแสนล้าน ปี 1972 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของวงการบันเทิง เมื่อ Atari เปิดตัว Pong เกมอาร์เคดแนวตีลูกปิงปองที่เรียบง่าย แต่กลับสร้างรายได้มหาศาลให้บริษัทจากเงินลงทุนเพียง 500 ดอลลาร์ จนกลายเป็นหนึ่งในเกมที่วางรากฐานให้ธุรกิจเกมเติบโตจนมีมูลค่ากว่า 300 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน. สิ่งที่น่าสนใจคือ Pong ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกมเชิงพาณิชย์ตั้งแต่แรก แต่เป็นเพียง “การบ้าน” ที่ Nolan Bushnell มอบให้ Allan Alcorn วิศวกรของ Atari เพื่อฝึกฝีมือการออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เกมนี้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้วงจร TTL (Transistor-Transistor Logic) แบบฮาร์ดแวร์ล้วน ๆ โดยไม่มี CPU หรือซอฟต์แวร์ใด ๆ ซึ่งถือว่าเป็นความแปลกใหม่ในยุคนั้น. ความนิยมของ Pong ทำให้ Atari ขยายตลาดสู่ผู้บริโภคทั่วไป โดยออก Home Pong ในปี 1975 และต่อมาในปี 1977 ได้รวมเกมแนว Pong ไว้ในเครื่อง Atari 2600 ในชื่อ Video Olympics ซึ่งช่วยให้เกมนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมครอบครัว และยังถูกนำกลับมาในเครื่องเล่นรุ่นใหม่ ๆ รวมถึง Atari Gamestation Go. นอกจากนี้ Pong ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเกมแนวใหม่อย่าง Breakout และเกมตีลูกอื่น ๆ ที่พัฒนาต่อยอดจากแนวคิดเดิม ทำให้ Pong ไม่เพียงเป็นเกม แต่เป็น “จุดประกาย” ที่เปลี่ยนโลกบันเทิงไปตลอดกาล. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ จุดกำเนิด Pong ➡️ เปิดตัวในปี 1972 โดย Atari ➡️ สร้างรายได้มหาศาลจากเงินลงทุนเพียง 500 ดอลลาร์ ✅ นวัตกรรมทางเทคนิค ➡️ ใช้วงจร TTL โดยไม่มี CPU ➡️ ระบบเสียง “บี๊บ” กลายเป็นเอกลักษณ์ ✅ การขยายตลาด ➡️ เปิดตัว Home Pong ปี 1975 ➡️ รวมอยู่ใน Atari 2600 ปี 1977 ✅ อิทธิพลต่อวงการเกม ➡️ จุดประกายให้เกิดเกม Breakout และแนวเกมตีลูกอื่น ๆ ➡️ วางรากฐานอุตสาหกรรมเกมที่มีมูลค่ากว่า 300 พันล้านดอลลาร์ ‼️ ข้อถกเถียงด้านสิทธิบัตร ⛔ มีการกล่าวว่า Pong ได้แรงบันดาลใจจาก Magnavox Odyssey ⛔ เกิดคดีฟ้องร้องเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรในยุคนั้น https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/pong-debuted-on-this-day-in-1972-ataris-pioneering-cpu-less-video-arcade-games-creation-was-the-result-of-an-engineer-training-exercise
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Pong debuted on this day in 1972 — Atari's pioneering CPU-less video arcade game’s creation was the result of an engineer training exercise
    Basic blippy bat and ball game sparked an entertainment industry sector that would go on to eclipse Hollywood.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • สร้าง RAG แบบ Local ได้จริง: ประสบการณ์จาก Skald

    ทีมพัฒนา Skald ได้ทดลองสร้างระบบ RAG (Retrieval-Augmented Generation) แบบ self-hosted ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังบริการของบุคคลที่สาม โดยใช้เทคโนโลยี open-source ทั้งหมด เพื่อตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลแต่ยังต้องการใช้ประโยชน์จาก AI สมัยใหม่

    การทดสอบใช้เนื้อหาจากเว็บไซต์ PostHog ประมาณ 2,000 เอกสาร โดยเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง 3 รูปแบบ: Cloud APIs (Voyage + Claude), Hybrid (Voyage + GPT-OSS 20B), และ Fully Local (Sentence Transformers + GPT-OSS 20B) ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าระบบ local สามารถทำงานได้จริงและให้ผลลัพธ์ที่ดีในหลายกรณี

    สิ่งที่น่าสนใจคือการ deploy ระบบทั้งหมดใช้เวลาเพียง 8 นาที รวมถึง vector database, reranking, embedding service และ document parser โดยใช้ Postgres + pgvector, Sentence Transformers, และ Docling ตามลำดับ ทำให้เห็นว่าการสร้าง RAG แบบ local ไม่ได้ยากอย่างที่คิด

    ผลการทดสอบพบว่า Cloud setup ได้คะแนน 9.45/10, Hybrid setup ได้ 9.18/10, ส่วน Local setup แบบพื้นฐานได้ 7.10/10 และเมื่อใช้โมเดล multi-lingual ที่ดีกว่าสามารถยกระดับเป็น 8.63/10 ได้ โดยจุดอ่อนหลักคือการตอบคำถามที่ต้องรวบรวมข้อมูลจากหลายเอกสาร แต่สำหรับคำถามแบบ point query ระบบ local ทำงานได้ดีมาก

    สรุปสาระสำคัญ
    องค์ประกอบของ RAG และทางเลือก Open-Source
    Vector Database: Postgres + pgvector (แทน Pinecone, Weaviate)
    Embeddings: Sentence Transformers all-MiniLM-L6-v2 (แทน OpenAI, Voyage)
    LLM: GPT-OSS 20B ผ่าน llama.cpp (แทน GPT-4, Claude)
    Reranker: Sentence Transformers cross-encoder (แทน Cohere, Voyage)
    Document Parser: Docling ผ่าน docling-serve

    ผลการทดสอบประสิทธิภาพ
    Voyage + Claude (Cloud): คะแนนเฉลี่ย 9.45/10 - ผ่านทุกคำถาม
    Voyage + GPT-OSS 20B (Hybrid): คะแนนเฉลี่ย 9.18/10 - ผลลัพธ์ดีมาก
    Local + โมเดลพื้นฐาน: คะแนนเฉลี่ย 7.10/10 - ดีสำหรับ point queries
    Local + โมเดล multi-lingual: คะแนนเฉลี่ย 8.63/10 - ปรับปรุงได้มาก

    ข้อดีของ Local Setup
    Deploy ได้ภายใน 8 นาที รวมทุก component
    ไม่ต้องส่งข้อมูลออกนอกองค์กร - เหมาะกับข้อมูลที่ sensitive
    ใช้เทคโนโลยี open-source ทั้งหมด (MIT-licensed)
    รองรับการทำงานใน air-gapped infrastructure

    จุดแข็งของโมเดล Local
    ตอบคำถามแบบ point query (หาคำตอบจากที่เดียว) ได้ดีมาก
    โมเดลพื้นฐานทำงานเร็วและเหมาะกับภาษาอังกฤษ
    โมเดล multi-lingual (bge-m3) รองรับหลายภาษารวมถึงไทย
    แนวโน้มจะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโมเดล open-source พัฒนา

    ข้อจำกัดที่ควรระวัง
    โมเดลพื้นฐานมีปัญหากับคำถามที่คลุมเครือ (ambiguous questions)
    ยังไม่เก่งในการรวบรวมข้อมูลจากหลายเอกสาร (multi-document context)
    โมเดลพื้นฐานรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ - ต้องใช้โมเดล multi-lingual สำหรับภาษาอื่น
    pgvector อาจไม่เหมาะกับ dataset ขนาดใหญ่มากๆ - ต้องพิจารณา vector DB อื่น

    สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม
    ต้องรัน service หลายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการเรียก API
    ต้องมีความรู้ในการ deploy และ manage infrastructure
    อาจต้องปรับแต่ง topK values และเทคนิคอื่นๆ ตาม use case
    ต้องมี hardware เพียงพอ (ทดสอบใช้ g5.2xlarge EC2 สำหรับ LLM)

    https://blog.yakkomajuri.com/blog/local-rag
    🚀 สร้าง RAG แบบ Local ได้จริง: ประสบการณ์จาก Skald ทีมพัฒนา Skald ได้ทดลองสร้างระบบ RAG (Retrieval-Augmented Generation) แบบ self-hosted ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังบริการของบุคคลที่สาม โดยใช้เทคโนโลยี open-source ทั้งหมด เพื่อตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลแต่ยังต้องการใช้ประโยชน์จาก AI สมัยใหม่ การทดสอบใช้เนื้อหาจากเว็บไซต์ PostHog ประมาณ 2,000 เอกสาร โดยเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง 3 รูปแบบ: Cloud APIs (Voyage + Claude), Hybrid (Voyage + GPT-OSS 20B), และ Fully Local (Sentence Transformers + GPT-OSS 20B) ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าระบบ local สามารถทำงานได้จริงและให้ผลลัพธ์ที่ดีในหลายกรณี สิ่งที่น่าสนใจคือการ deploy ระบบทั้งหมดใช้เวลาเพียง 8 นาที รวมถึง vector database, reranking, embedding service และ document parser โดยใช้ Postgres + pgvector, Sentence Transformers, และ Docling ตามลำดับ ทำให้เห็นว่าการสร้าง RAG แบบ local ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ผลการทดสอบพบว่า Cloud setup ได้คะแนน 9.45/10, Hybrid setup ได้ 9.18/10, ส่วน Local setup แบบพื้นฐานได้ 7.10/10 และเมื่อใช้โมเดล multi-lingual ที่ดีกว่าสามารถยกระดับเป็น 8.63/10 ได้ โดยจุดอ่อนหลักคือการตอบคำถามที่ต้องรวบรวมข้อมูลจากหลายเอกสาร แต่สำหรับคำถามแบบ point query ระบบ local ทำงานได้ดีมาก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ องค์ประกอบของ RAG และทางเลือก Open-Source ➡️ Vector Database: Postgres + pgvector (แทน Pinecone, Weaviate) ➡️ Embeddings: Sentence Transformers all-MiniLM-L6-v2 (แทน OpenAI, Voyage) ➡️ LLM: GPT-OSS 20B ผ่าน llama.cpp (แทน GPT-4, Claude) ➡️ Reranker: Sentence Transformers cross-encoder (แทน Cohere, Voyage) ➡️ Document Parser: Docling ผ่าน docling-serve ✅ ผลการทดสอบประสิทธิภาพ ➡️ Voyage + Claude (Cloud): คะแนนเฉลี่ย 9.45/10 - ผ่านทุกคำถาม ➡️ Voyage + GPT-OSS 20B (Hybrid): คะแนนเฉลี่ย 9.18/10 - ผลลัพธ์ดีมาก ➡️ Local + โมเดลพื้นฐาน: คะแนนเฉลี่ย 7.10/10 - ดีสำหรับ point queries ➡️ Local + โมเดล multi-lingual: คะแนนเฉลี่ย 8.63/10 - ปรับปรุงได้มาก ✅ ข้อดีของ Local Setup ➡️ Deploy ได้ภายใน 8 นาที รวมทุก component ➡️ ไม่ต้องส่งข้อมูลออกนอกองค์กร - เหมาะกับข้อมูลที่ sensitive ➡️ ใช้เทคโนโลยี open-source ทั้งหมด (MIT-licensed) ➡️ รองรับการทำงานใน air-gapped infrastructure ✅ จุดแข็งของโมเดล Local ➡️ ตอบคำถามแบบ point query (หาคำตอบจากที่เดียว) ได้ดีมาก ➡️ โมเดลพื้นฐานทำงานเร็วและเหมาะกับภาษาอังกฤษ ➡️ โมเดล multi-lingual (bge-m3) รองรับหลายภาษารวมถึงไทย ➡️ แนวโน้มจะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโมเดล open-source พัฒนา ‼️ ข้อจำกัดที่ควรระวัง ⛔ โมเดลพื้นฐานมีปัญหากับคำถามที่คลุมเครือ (ambiguous questions) ⛔ ยังไม่เก่งในการรวบรวมข้อมูลจากหลายเอกสาร (multi-document context) ⛔ โมเดลพื้นฐานรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ - ต้องใช้โมเดล multi-lingual สำหรับภาษาอื่น ⛔ pgvector อาจไม่เหมาะกับ dataset ขนาดใหญ่มากๆ - ต้องพิจารณา vector DB อื่น ‼️ สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม ⛔ ต้องรัน service หลายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการเรียก API ⛔ ต้องมีความรู้ในการ deploy และ manage infrastructure ⛔ อาจต้องปรับแต่ง topK values และเทคนิคอื่นๆ ตาม use case ⛔ ต้องมี hardware เพียงพอ (ทดสอบใช้ g5.2xlarge EC2 สำหรับ LLM) https://blog.yakkomajuri.com/blog/local-rag
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชุดข้อมูล Hacker News Vector Search

    ClickHouse ที่แนะนำ Hacker News Vector Search Dataset ซึ่งเป็นชุดข้อมูลตัวอย่างที่ใช้สำหรับการทดลองการค้นหาแบบเวกเตอร์ (Vector Search) โดยมีข้อมูลโพสต์จาก Hacker News ที่สามารถนำไปใช้ฝึกฝนและทดสอบระบบค้นหาขั้นสูงได้

    ClickHouse จัดเตรียมชุดข้อมูลจาก Hacker News ที่มีโพสต์จำนวนมาก พร้อมข้อมูลประกอบ เช่น ชื่อเรื่อง, เนื้อหา, คะแนน, และเวลาโพสต์ ข้อมูลเหล่านี้ถูกแปลงเป็นเวกเตอร์เพื่อใช้ในการค้นหาเชิงความหมาย (Semantic Search) ทำให้สามารถค้นหาข้อมูลที่ “ใกล้เคียง” กันในเชิงความหมาย ไม่ใช่แค่ตรงกับคำค้น

    การใช้งานกับ ClickHouse
    ผู้ใช้สามารถโหลดชุดข้อมูลนี้เข้าสู่ ClickHouse ได้โดยตรงผ่านคำสั่ง SQL ที่มีให้ในเอกสาร ตัวอย่างเช่น การสร้างตารางที่รองรับเวกเตอร์ และการนำข้อมูลเข้าไปเพื่อทดสอบการค้นหาแบบ ANN (Approximate Nearest Neighbor) ซึ่งช่วยให้การค้นหามีประสิทธิภาพสูงแม้กับข้อมูลจำนวนมหาศาล

    ประโยชน์สำหรับนักพัฒนา
    ชุดข้อมูลนี้เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการทดลองการค้นหาเชิงความหมาย, การสร้างระบบแนะนำ (Recommendation System), หรือการทำงานกับ AI/ML ที่เกี่ยวข้องกับข้อความ โดยไม่ต้องสร้างชุดข้อมูลเองจากศูนย์

    ความสำคัญของ Vector Search
    Vector Search กำลังเป็นเทคโนโลยีสำคัญในยุค AI เพราะช่วยให้ระบบเข้าใจความหมายของข้อความได้ดีกว่าการค้นหาแบบดั้งเดิม เช่น การค้นหาคำว่า “AI assistant” อาจคืนผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับ “chatbot” หรือ “Copilot” แม้จะไม่ได้ใช้คำเดียวกัน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ชุดข้อมูล Hacker News Vector Search
    รวมโพสต์จาก Hacker News พร้อมข้อมูลประกอบ
    ถูกแปลงเป็นเวกเตอร์เพื่อใช้ค้นหาเชิงความหมาย

    การใช้งานกับ ClickHouse
    มีตัวอย่าง SQL สำหรับสร้างตารางและโหลดข้อมูล
    รองรับการค้นหาแบบ ANN เพื่อความเร็วและประสิทธิภาพ

    ประโยชน์สำหรับนักพัฒนา
    ใช้ทดลอง Semantic Search และ Recommendation System
    เหมาะสำหรับงาน AI/ML ที่เกี่ยวข้องกับข้อความ

    ความสำคัญของ Vector Search
    เข้าใจความหมายของข้อความได้ดีกว่าการค้นหาแบบดั้งเดิม
    ช่วยให้ผลลัพธ์ครอบคลุมและตรงกับความตั้งใจของผู้ใช้มากขึ้น

    คำเตือน/ข้อสังเกต
    ชุดข้อมูลเป็นตัวอย่าง อาจไม่ครอบคลุมทุกโพสต์จริงของ Hacker News
    การใช้งานกับข้อมูลจริงต้องพิจารณาด้านสิทธิ์และความเป็นส่วนตัว

    https://clickhouse.com/docs/getting-started/example-datasets/hackernews-vector-search-dataset
    📊 ชุดข้อมูล Hacker News Vector Search ClickHouse ที่แนะนำ Hacker News Vector Search Dataset ซึ่งเป็นชุดข้อมูลตัวอย่างที่ใช้สำหรับการทดลองการค้นหาแบบเวกเตอร์ (Vector Search) โดยมีข้อมูลโพสต์จาก Hacker News ที่สามารถนำไปใช้ฝึกฝนและทดสอบระบบค้นหาขั้นสูงได้ ClickHouse จัดเตรียมชุดข้อมูลจาก Hacker News ที่มีโพสต์จำนวนมาก พร้อมข้อมูลประกอบ เช่น ชื่อเรื่อง, เนื้อหา, คะแนน, และเวลาโพสต์ ข้อมูลเหล่านี้ถูกแปลงเป็นเวกเตอร์เพื่อใช้ในการค้นหาเชิงความหมาย (Semantic Search) ทำให้สามารถค้นหาข้อมูลที่ “ใกล้เคียง” กันในเชิงความหมาย ไม่ใช่แค่ตรงกับคำค้น ⚙️ การใช้งานกับ ClickHouse ผู้ใช้สามารถโหลดชุดข้อมูลนี้เข้าสู่ ClickHouse ได้โดยตรงผ่านคำสั่ง SQL ที่มีให้ในเอกสาร ตัวอย่างเช่น การสร้างตารางที่รองรับเวกเตอร์ และการนำข้อมูลเข้าไปเพื่อทดสอบการค้นหาแบบ ANN (Approximate Nearest Neighbor) ซึ่งช่วยให้การค้นหามีประสิทธิภาพสูงแม้กับข้อมูลจำนวนมหาศาล 🌐 ประโยชน์สำหรับนักพัฒนา ชุดข้อมูลนี้เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการทดลองการค้นหาเชิงความหมาย, การสร้างระบบแนะนำ (Recommendation System), หรือการทำงานกับ AI/ML ที่เกี่ยวข้องกับข้อความ โดยไม่ต้องสร้างชุดข้อมูลเองจากศูนย์ 🔍 ความสำคัญของ Vector Search Vector Search กำลังเป็นเทคโนโลยีสำคัญในยุค AI เพราะช่วยให้ระบบเข้าใจความหมายของข้อความได้ดีกว่าการค้นหาแบบดั้งเดิม เช่น การค้นหาคำว่า “AI assistant” อาจคืนผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับ “chatbot” หรือ “Copilot” แม้จะไม่ได้ใช้คำเดียวกัน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ชุดข้อมูล Hacker News Vector Search ➡️ รวมโพสต์จาก Hacker News พร้อมข้อมูลประกอบ ➡️ ถูกแปลงเป็นเวกเตอร์เพื่อใช้ค้นหาเชิงความหมาย ✅ การใช้งานกับ ClickHouse ➡️ มีตัวอย่าง SQL สำหรับสร้างตารางและโหลดข้อมูล ➡️ รองรับการค้นหาแบบ ANN เพื่อความเร็วและประสิทธิภาพ ✅ ประโยชน์สำหรับนักพัฒนา ➡️ ใช้ทดลอง Semantic Search และ Recommendation System ➡️ เหมาะสำหรับงาน AI/ML ที่เกี่ยวข้องกับข้อความ ✅ ความสำคัญของ Vector Search ➡️ เข้าใจความหมายของข้อความได้ดีกว่าการค้นหาแบบดั้งเดิม ➡️ ช่วยให้ผลลัพธ์ครอบคลุมและตรงกับความตั้งใจของผู้ใช้มากขึ้น ‼️ คำเตือน/ข้อสังเกต ⛔ ชุดข้อมูลเป็นตัวอย่าง อาจไม่ครอบคลุมทุกโพสต์จริงของ Hacker News ⛔ การใช้งานกับข้อมูลจริงต้องพิจารณาด้านสิทธิ์และความเป็นส่วนตัว https://clickhouse.com/docs/getting-started/example-datasets/hackernews-vector-search-dataset
    CLICKHOUSE.COM
    Hacker News vector search dataset | ClickHouse Docs
    Dataset containing 28+ million Hacker News postings & their vector embeddings
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts