• เนทันยาฮูมีคำสั่งคว่ำบาตรสำนักข่าว Haaretz หลังจากกล่าวหาอิสราเอลว่าเป็นระบอบที่กระทำการโหดร้ายต่อชาวปาเลสไตน์

    มติการคว่ำบาตรต่อสำนักข่าวดังกล่าวถูกเสนอเข้าในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอาทิตย์ในนาทีสุดท้าย และได้รับการรับรองจากเนทันยาฮูโดยทันที โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาทางกฎหมายตามปกติ

    รายละเอียดของมติการคว่ำบาตรจะมีคำสั่งไปยังทุกองค์กรที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลอิสราเอล ต้องยุติการติดต่อกับสำนักข่าว Haaretz โดยทันที และจะต้องถอนโฆษณาออกจากหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวด้วย

    เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเนทันยาฮูออกมาเปิดเผยว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดจาก "บทความจำนวนมากที่ต่อต้านต่อความชอบธรรมของอิสราเอลจากคำสั่งการของเนทันยาฮูในการกระทำที่กำลังปกป้องสิทธิในการป้องกันตนเองจากฮามาส นอกจากนี้ อามอส ช็อคเกน ผู้บริหารของ Haaretz ยังไปพูดในลอนดอนเพื่อสนับสนุนปาเลสไตน์ และยังเรียกร้องให้คว่ำบาตรอิสราเอลอีกด้วย" ทำให้ความอดทนของอิสราเอลสิ้นสุดลง

    สำนักข่าว Haaretz ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันทีเมื่อวันอาทิตย์ว่า "มติคว่ำบาตรดังกล่าว เป็นการฉวยโอกาสโดยไม่มีการตรวจสอบทางกฎหมายใดๆ ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในเส้นทางของเนทันยาฮูที่กำลังทำลายล้างประชาธิปไตยของอิสราเอล เนทันยาฮูกำลังพยายามปิดปากหนังสือพิมพ์อิสระที่มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้"

    ก่อนหน้านี้ เนทันยาฮูมีคำสั่งปิดสำนักข่าว อัล จาซีรา ไปแล้วจากข้อกล่าวหาที่คล้ายกัน

    ต่อมามีการออกกฎหมายุติการดำเนินกิจกรรมของ UNRWA ทำให้องค์กรนี้รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไม่มีกฎหมายรองรับการทำงานในพื้นที่ปกครองของอิสราเอลอีกต่อไป

    การกระทำของอิสราเอลในลักษณะนี้ไม่เคยถูกประณามจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือแม้แต่เยอรมัน แต่อย่างใด
    เนทันยาฮูมีคำสั่งคว่ำบาตรสำนักข่าว Haaretz หลังจากกล่าวหาอิสราเอลว่าเป็นระบอบที่กระทำการโหดร้ายต่อชาวปาเลสไตน์ มติการคว่ำบาตรต่อสำนักข่าวดังกล่าวถูกเสนอเข้าในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอาทิตย์ในนาทีสุดท้าย และได้รับการรับรองจากเนทันยาฮูโดยทันที โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาทางกฎหมายตามปกติ รายละเอียดของมติการคว่ำบาตรจะมีคำสั่งไปยังทุกองค์กรที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลอิสราเอล ต้องยุติการติดต่อกับสำนักข่าว Haaretz โดยทันที และจะต้องถอนโฆษณาออกจากหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเนทันยาฮูออกมาเปิดเผยว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดจาก "บทความจำนวนมากที่ต่อต้านต่อความชอบธรรมของอิสราเอลจากคำสั่งการของเนทันยาฮูในการกระทำที่กำลังปกป้องสิทธิในการป้องกันตนเองจากฮามาส นอกจากนี้ อามอส ช็อคเกน ผู้บริหารของ Haaretz ยังไปพูดในลอนดอนเพื่อสนับสนุนปาเลสไตน์ และยังเรียกร้องให้คว่ำบาตรอิสราเอลอีกด้วย" ทำให้ความอดทนของอิสราเอลสิ้นสุดลง สำนักข่าว Haaretz ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันทีเมื่อวันอาทิตย์ว่า "มติคว่ำบาตรดังกล่าว เป็นการฉวยโอกาสโดยไม่มีการตรวจสอบทางกฎหมายใดๆ ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในเส้นทางของเนทันยาฮูที่กำลังทำลายล้างประชาธิปไตยของอิสราเอล เนทันยาฮูกำลังพยายามปิดปากหนังสือพิมพ์อิสระที่มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้" ก่อนหน้านี้ เนทันยาฮูมีคำสั่งปิดสำนักข่าว อัล จาซีรา ไปแล้วจากข้อกล่าวหาที่คล้ายกัน ต่อมามีการออกกฎหมายุติการดำเนินกิจกรรมของ UNRWA ทำให้องค์กรนี้รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไม่มีกฎหมายรองรับการทำงานในพื้นที่ปกครองของอิสราเอลอีกต่อไป การกระทำของอิสราเอลในลักษณะนี้ไม่เคยถูกประณามจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือแม้แต่เยอรมัน แต่อย่างใด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธินัด 2 ธ.ค. ยื่นหนังสือถึงนายกฯ จี้ชี้แจงเอ็มโอยู 44
    .
    สนธิ ลิ้มทองกุล เตรียมยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล ให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณีเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา ปี 2544 ชี้เรื่องนี้เรื่องใหญ่ จ่อสูญเสียอธิปไตยเช่นเดียวกรณีปราสาทพระวิหาร ชี้มีพระบรมราชโองการ รัชกาลที่ 9 ยึดหลักกฎหมายทะเลสากล
    .
    วันนี้ (25 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ คุยทุกเรื่องกับสนธิ กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ระบุว่า ในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. 2567 เวลา 10.30 น. ตนและนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต จะไปยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้นายกฯ ชี้แจงกรณีเอ็มโอยู ไทย-กัมพูชา 2544 ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทางทะเล 12 ไมล์ทะเลโดยรอบเกาะกูด จ.ตราด หลังจากที่นายภูมิธรรม เวชยะชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อ้างว่าเกาะกูดยังเป็นของไทย และเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา ปี 2544 ไม่สามารถยกเลิกได้
    .
    โดยนายสนธิเห็นว่าการที่นายภูมิธรรมพูด แสดงว่าไม่เข้าใจว่าเอ็มโอยูเป็นข้อตกลงเบื้องต้น ไม่ใช่สนธิสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น เป็นสิทธิของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่หากไม่พอใจข้อตกลงก็สามารถถอนตัวได้ พร้อมกันนี้ ถ้าหากรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมั่นใจในข้อมูล ก็อยากจะเสนอให้นายภูมิธรรมมาออกรายการโทรทัศน์สาธารณะ ซึ่งฝั่งตนจะอธิบายและคัดค้านด้วยหลักฐานและข้อเท็จจริง นอกจากนี้ตนขอถามว่า การที่ผู้บัญชาการทหารเรือสั่งทหารเรือหยุดลาดตระเวนโดยรอบเกาะกูดเป็นคำสั่งของนายภูมิธรรมหรือไม่ ถ้าสั่งจริงก็เหมือนกับจะยกพื้นที่ให้กับกัมพูชาใช่หรือไม่
    .
    สำหรับที่มาที่ไปของเอ็มโอยู 2544 คนที่ลงนามเป็นคนแรกคือ นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นผู้รับรอง เคยมีความพยายามยกเลิกในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ไม่ทันนำเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา กระทั่งสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการนำเรื่องเอ็มโอยู 2544 ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในขณะนั้น การที่ยอมรับเอ็มโอยู 2544 เท่ากับเป็นการยอมรับกัมพูชาลากเส้นทางทะเลรุกล้ำเขตแดนฝั่งไทย ทั้งที่สมัยรัชกาลที่ 9 เคยมีพระบรมราชโองการและหลักฐานชัดเจนว่าถ้าจะมีการเจรจาให้ยึดกฎหมายทะเลสากลเป็นหลัก แต่ไม่มีใครพูดถึง
    .
    “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องของการสูญเสียอธิปไตยไป เราสูญเสียเขาพระวิหารให้เขมรแล้ว ยุคนั้นเขมรไปฟ้องศาลโลก เราเตือนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์แล้วว่าอย่าไป เพราะเราไม่ยอมรับศาลโลก แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์แสดงว่ายอมรับความเป็นสากล ผลปรากฎว่าเราแพ้ วันนี้เราใช้กฎหมายทะเลสากล เขมรก็ไม่ยอมรับตรงนี้ แต่กลับกันสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์กลับยอมรับศาลโลกได้ มันเป็นความขัดแย้งที่เลวร้ายมาก คนๆ หนึ่งจะตัดสินใจคนละแบบได้อย่างไร ถ้าเราจะเจรจากับเขมรด้วยหลักการเอ็มโอยู 2544 เราจะสูญเสียอธิปไตยอย่างแน่นอน ประชาชนรับได้หรือไม่ที่นายทักษิณพูดว่า ช่างมันเถอะ แบ่งผลประโยชน์กัน 50-50 คุณทักษิณพูดแต่เรื่องผลประโยชน์ แต่ไม่พูดเรื่องอธิปไตยของชาติ“ นายสนธิ กล่าว
    .
    นายสนธิ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ นายภูมิธรรม รวมทั้งนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ไม่พูดถึงพระบรมราชโองการของรัฐบาลที่ 9 ซึ่งประกาศออกมาในปี 2516 ว่ามีหลักการแบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด เพราะพระบรมราชโองการเมื่อประกาศออกมาแล้ว ถือว่าเป็นคำสั่งของจอมทัพ ของประมุขประเทศ คนอื่นจะไปทำเป็นอย่างอื่นย่อมทำไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว เป็นเรื่องใหญ่
    ........
    Sondhi X
    สนธินัด 2 ธ.ค. ยื่นหนังสือถึงนายกฯ จี้ชี้แจงเอ็มโอยู 44 . สนธิ ลิ้มทองกุล เตรียมยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล ให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณีเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา ปี 2544 ชี้เรื่องนี้เรื่องใหญ่ จ่อสูญเสียอธิปไตยเช่นเดียวกรณีปราสาทพระวิหาร ชี้มีพระบรมราชโองการ รัชกาลที่ 9 ยึดหลักกฎหมายทะเลสากล . วันนี้ (25 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ คุยทุกเรื่องกับสนธิ กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ระบุว่า ในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. 2567 เวลา 10.30 น. ตนและนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต จะไปยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้นายกฯ ชี้แจงกรณีเอ็มโอยู ไทย-กัมพูชา 2544 ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทางทะเล 12 ไมล์ทะเลโดยรอบเกาะกูด จ.ตราด หลังจากที่นายภูมิธรรม เวชยะชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อ้างว่าเกาะกูดยังเป็นของไทย และเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา ปี 2544 ไม่สามารถยกเลิกได้ . โดยนายสนธิเห็นว่าการที่นายภูมิธรรมพูด แสดงว่าไม่เข้าใจว่าเอ็มโอยูเป็นข้อตกลงเบื้องต้น ไม่ใช่สนธิสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น เป็นสิทธิของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่หากไม่พอใจข้อตกลงก็สามารถถอนตัวได้ พร้อมกันนี้ ถ้าหากรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมั่นใจในข้อมูล ก็อยากจะเสนอให้นายภูมิธรรมมาออกรายการโทรทัศน์สาธารณะ ซึ่งฝั่งตนจะอธิบายและคัดค้านด้วยหลักฐานและข้อเท็จจริง นอกจากนี้ตนขอถามว่า การที่ผู้บัญชาการทหารเรือสั่งทหารเรือหยุดลาดตระเวนโดยรอบเกาะกูดเป็นคำสั่งของนายภูมิธรรมหรือไม่ ถ้าสั่งจริงก็เหมือนกับจะยกพื้นที่ให้กับกัมพูชาใช่หรือไม่ . สำหรับที่มาที่ไปของเอ็มโอยู 2544 คนที่ลงนามเป็นคนแรกคือ นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นผู้รับรอง เคยมีความพยายามยกเลิกในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ไม่ทันนำเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา กระทั่งสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการนำเรื่องเอ็มโอยู 2544 ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในขณะนั้น การที่ยอมรับเอ็มโอยู 2544 เท่ากับเป็นการยอมรับกัมพูชาลากเส้นทางทะเลรุกล้ำเขตแดนฝั่งไทย ทั้งที่สมัยรัชกาลที่ 9 เคยมีพระบรมราชโองการและหลักฐานชัดเจนว่าถ้าจะมีการเจรจาให้ยึดกฎหมายทะเลสากลเป็นหลัก แต่ไม่มีใครพูดถึง . “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องของการสูญเสียอธิปไตยไป เราสูญเสียเขาพระวิหารให้เขมรแล้ว ยุคนั้นเขมรไปฟ้องศาลโลก เราเตือนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์แล้วว่าอย่าไป เพราะเราไม่ยอมรับศาลโลก แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์แสดงว่ายอมรับความเป็นสากล ผลปรากฎว่าเราแพ้ วันนี้เราใช้กฎหมายทะเลสากล เขมรก็ไม่ยอมรับตรงนี้ แต่กลับกันสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์กลับยอมรับศาลโลกได้ มันเป็นความขัดแย้งที่เลวร้ายมาก คนๆ หนึ่งจะตัดสินใจคนละแบบได้อย่างไร ถ้าเราจะเจรจากับเขมรด้วยหลักการเอ็มโอยู 2544 เราจะสูญเสียอธิปไตยอย่างแน่นอน ประชาชนรับได้หรือไม่ที่นายทักษิณพูดว่า ช่างมันเถอะ แบ่งผลประโยชน์กัน 50-50 คุณทักษิณพูดแต่เรื่องผลประโยชน์ แต่ไม่พูดเรื่องอธิปไตยของชาติ“ นายสนธิ กล่าว . นายสนธิ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ นายภูมิธรรม รวมทั้งนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ไม่พูดถึงพระบรมราชโองการของรัฐบาลที่ 9 ซึ่งประกาศออกมาในปี 2516 ว่ามีหลักการแบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด เพราะพระบรมราชโองการเมื่อประกาศออกมาแล้ว ถือว่าเป็นคำสั่งของจอมทัพ ของประมุขประเทศ คนอื่นจะไปทำเป็นอย่างอื่นย่อมทำไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว เป็นเรื่องใหญ่ ........ Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    11
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนังสือธรรมะแจกฟรี เปิดอ่านกันได้ตามอัธยาศัย ใครอยากแชร์ต่อก็ตามสบายhttps://heyzine.com/flip-book/4da70fe1d9.html#page/1
    หนังสือธรรมะแจกฟรี เปิดอ่านกันได้ตามอัธยาศัย ใครอยากแชร์ต่อก็ตามสบายhttps://heyzine.com/flip-book/4da70fe1d9.html#page/1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ตกใจกับข่าวนี้นะในยุคหนึ่ง ที่ใครหลายคน ต้องมีหนังสือของเค้า .. และในยุคปัจจุบันนี้ หลายเหตุการณ์ ทำให้ประหลาดใจผู้มีชื่อเสียงในอดีต และปัจจุบัน คนชนชั้น Elite กลายเป็นพวกหลอกลวง จะมีเหตุในอนาคตมั้ยกับเศรษฐกิจ หรือแค่ การสร้างภาพในตัวเองเป็นชนชั้น Elite เท่านั้นhttps://www.facebook.com/share/p/Qhi7SdYR7a7HmErv/?mibextid=WC7FNe
    #ตกใจกับข่าวนี้นะในยุคหนึ่ง ที่ใครหลายคน ต้องมีหนังสือของเค้า .. และในยุคปัจจุบันนี้ หลายเหตุการณ์ ทำให้ประหลาดใจผู้มีชื่อเสียงในอดีต และปัจจุบัน คนชนชั้น Elite กลายเป็นพวกหลอกลวง จะมีเหตุในอนาคตมั้ยกับเศรษฐกิจ หรือแค่ การสร้างภาพในตัวเองเป็นชนชั้น Elite เท่านั้นhttps://www.facebook.com/share/p/Qhi7SdYR7a7HmErv/?mibextid=WC7FNe
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจออะไรแย่ๆ ก็อยากให้คุณลองก้าวผ่านมัน
    มาด้วยตัวเองสักครั้งก่อน แล้วความรู้สึกของคุณ
    ที่มีต่อตัวคุณเองจะเปลี่ยนไป ว่าจริงๆ แล้ว
    'เราก็ทำได้นี่นา' :-)

    จากหนังสือ |หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย
    เจออะไรแย่ๆ ก็อยากให้คุณลองก้าวผ่านมัน มาด้วยตัวเองสักครั้งก่อน แล้วความรู้สึกของคุณ ที่มีต่อตัวคุณเองจะเปลี่ยนไป ว่าจริงๆ แล้ว 'เราก็ทำได้นี่นา' :-) จากหนังสือ |หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • การไม่คาดหวัง
    ไม่ได้แปลว่าจะไม่ผิดหวัง
    เพราะทุกคนต่างคาดหวังกัน
    อยู่ลึกๆ ไม่มากก็น้อย

    จากหนังสือ |หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย
    การไม่คาดหวัง ไม่ได้แปลว่าจะไม่ผิดหวัง เพราะทุกคนต่างคาดหวังกัน อยู่ลึกๆ ไม่มากก็น้อย จากหนังสือ |หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ต้องหาเหตุผล
    ให้กับความสุข
    ถ้ามันทำให้คุณยิ้มได้
    หรือรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย
    จงนับเป็นความสุขทั้งหมด
    แม้จะเล็กน้อยก็ตาม

    จากหนังสือ |หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย
    ไม่ต้องหาเหตุผล ให้กับความสุข ถ้ามันทำให้คุณยิ้มได้ หรือรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย จงนับเป็นความสุขทั้งหมด แม้จะเล็กน้อยก็ตาม จากหนังสือ |หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #หนังสือจิ๋ว วาฬน้อย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันเวลาผันเปลี่ยนเวียนหมุนผ่าน
    เมื่อเราย้อนกลับมาอ่านหนังสือเล่มเดิม
    ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างออกไป
    มีอะไรหลายอย่างเพิ่งจะเข้าใจ
    เมื่อได้เติบโตมา

    จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    วันเวลาผันเปลี่ยนเวียนหมุนผ่าน เมื่อเราย้อนกลับมาอ่านหนังสือเล่มเดิม ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างออกไป มีอะไรหลายอย่างเพิ่งจะเข้าใจ เมื่อได้เติบโตมา จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • เธอคือ ดอกทิวลิป
    เติบโตด้วยการกลืนกินความอ่อนแอ
    และผลิบานในเช้าวันใหม่

    จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    เธอคือ ดอกทิวลิป เติบโตด้วยการกลืนกินความอ่อนแอ และผลิบานในเช้าวันใหม่ จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตจะยากขึ้นเรื่อยๆ
    เราจะถูกทดลอบอย่างหนักขึ้นเรื่อยๆ
    เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า เราแข็งแกร่งมากกว่าที่เราเคยคิด
    เราเก่งมากกว่าที่เราเคยคิด
    เราอดทนได้มากว่าที่เราเคยคิด
    อย่ากล้วหนทางข้างหน้าว่าจะเป็นไปอย่างไร
    ไม่ต้องกังวลสิ่งที่ยังไม่เกิด
    แต่ขอให้เชื่อมั่นได้เสมอว่า
    ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะรับมือได้
    ถ้าหากฝันจะไร ขอให้เชื่อว่าสิ่งนั้นจะไม่ไกลเกินเอื้อม
    อดทนแล้วไปให้ถึงจุดนั้น อย่าลดความฝัน
    แต่ให้มุ่งมั่นและพยายามมากขึ้น
    ตัวเราในอนาคตคอยชื่นชมเรา
    ที่กำลังพยายามอยู่ตอนนี้เสมอนะ

    จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    ชีวิตจะยากขึ้นเรื่อยๆ เราจะถูกทดลอบอย่างหนักขึ้นเรื่อยๆ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า เราแข็งแกร่งมากกว่าที่เราเคยคิด เราเก่งมากกว่าที่เราเคยคิด เราอดทนได้มากว่าที่เราเคยคิด อย่ากล้วหนทางข้างหน้าว่าจะเป็นไปอย่างไร ไม่ต้องกังวลสิ่งที่ยังไม่เกิด แต่ขอให้เชื่อมั่นได้เสมอว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะรับมือได้ ถ้าหากฝันจะไร ขอให้เชื่อว่าสิ่งนั้นจะไม่ไกลเกินเอื้อม อดทนแล้วไปให้ถึงจุดนั้น อย่าลดความฝัน แต่ให้มุ่งมั่นและพยายามมากขึ้น ตัวเราในอนาคตคอยชื่นชมเรา ที่กำลังพยายามอยู่ตอนนี้เสมอนะ จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกคนกำลังพยายาม
    ในแบบของตัวเองเสมอ
    บางเรื่องอาจยากหน่อย
    อาจต้องใช้เวลา
    อาจต้องใช้ความพยายามมากมาย
    อาจต้องเหนื่อยและเจ็บปวด
    จนเกือบทนไม่ไหว
    แต่ไม่ว่ายังไงก็อยากให้จำไว้เสมอ
    "No pain no gain,no rain no flowers."

    จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    ทุกคนกำลังพยายาม ในแบบของตัวเองเสมอ บางเรื่องอาจยากหน่อย อาจต้องใช้เวลา อาจต้องใช้ความพยายามมากมาย อาจต้องเหนื่อยและเจ็บปวด จนเกือบทนไม่ไหว แต่ไม่ว่ายังไงก็อยากให้จำไว้เสมอ "No pain no gain,no rain no flowers." จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอบคุณ ที่ทำให้เราได้เติบโต
    ขอบคุณ ที่ได้รู้จัก
    ขอบคุณ ที่อนุญาตให้รัก
    และขอบคุณที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเราเช่นกัน

    จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    ขอบคุณ ที่ทำให้เราได้เติบโต ขอบคุณ ที่ได้รู้จัก ขอบคุณ ที่อนุญาตให้รัก และขอบคุณที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเราเช่นกัน จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • บางที่เราก็ต้องยอม
    ให้ตัวเองเจ็บปวดบ้างเพื่อที่จะโตขึ้น
    บางที่เราก็ต้องยอม
    ให้ตัวเองเสียใจบ้างเพื่อที่จะเรียนรู้
    ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา
    ไม่ว่าจะเรื่องร้ายหรือดี
    แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีส่วนสร้างเรา
    ให้เป็นเราทุกวันนี้ทั้งนั้น
    ขอให้ใช้ชีวิตให้ดี อ่อนโยนกับตัวเอง
    พยายามเท่าที่อยากจะพยายาม ฮึดเท่าที่ไหว
    อะไรที่หนักหัวใจ เรียนรู้แล้วก็โยนทิ้งไปบ้าง
    อย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเสียใจนานนักเลย

    จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    บางที่เราก็ต้องยอม ให้ตัวเองเจ็บปวดบ้างเพื่อที่จะโตขึ้น บางที่เราก็ต้องยอม ให้ตัวเองเสียใจบ้างเพื่อที่จะเรียนรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะเรื่องร้ายหรือดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีส่วนสร้างเรา ให้เป็นเราทุกวันนี้ทั้งนั้น ขอให้ใช้ชีวิตให้ดี อ่อนโยนกับตัวเอง พยายามเท่าที่อยากจะพยายาม ฮึดเท่าที่ไหว อะไรที่หนักหัวใจ เรียนรู้แล้วก็โยนทิ้งไปบ้าง อย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเสียใจนานนักเลย จากหนังสือ |กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #กาลครั้งหนึ่งถึงเธอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💬 สื่อเรียกผมว่าหัวหน้า ‘เครือข่ายปูตินในอิตาลี’ เพราะบอกความจริงเกี่ยวกับยูเครน – นักข่าวอิตาลี

    จอร์โจ เบียนคี ถูกพรากโอกาสที่จะพูดต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนและเรียกเขาว่าสายลับรัสเซีย เพราะพยายามแจ้งให้ชาวอิตาลีทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครน หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, นักข่าวบอกกับสปุตนิก

    นักข่าวรายงานเหตุการณ์ในยูเครนตั้งแต่ยูโรไมดานในปี ๒๐๑๔, และปรากฏตัวหลายครั้งในฐานะผู้เชี่ยวชาญในสื่อของอิตาลี หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, เขาเดินทางไปดอนบาสเกือบสองเดือน, ซึ่งเขาได้เห็นการปลดปล่อยมาริอูโปลและโวลโนวาคาด้วยตาตนเอง

    🗨️“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา, ฉันไม่สามารถจัดการประชุมในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยได้อีกต่อไป หนังสือพิมพ์ Corriere della Sera ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอิตาลี ได้พิมพ์ชื่อฉันบนหน้าแรก, โดยอ้างว่าฉันเป็นหัวหน้าเครือข่ายของปูตินในอิตาลี,” เขาเล่าให้ฟัง, พร้อมทั้งเสริมว่า คดีที่ฟ้องเขานั้นได้ถูกส่งไปยัง มาริโอ ดรากี หัวหน้ารัฐบาลอิตาลีในขณะนั้น

    บิอันคีเน้นย้ำว่า เขายังคงพูดความจริงต่อไป, โดยอธิบายว่าข้อตกลงมินสค์ถูกใช้เพื่อติดอาวุธให้ยูเครนอย่างลับๆ และแนวคิดนีโอนาซีก็ถูกสังเกตในประเทศนี้จริงๆ, เนื่องจากนักข่าวเองก็เห็นสัญลักษณ์และวรรณกรรมนีโอนาซีเมื่อเขาอยู่ที่เมืองมาริอูโปล

    🗨️อย่างไรก็ตาม, หนังสือพิมพ์ทั้งหมดที่พูดถึงเรื่องนี้มาหลายปีก็ “เปลี่ยนใจในชั่วข้ามคืน,” และเริ่มอ้างว่าไม่มีอุดมการณ์ดังกล่าวในยูเครน, นักข่าวเน้นย้ำ
    .
    💬 MEDIA CALLED ME HEAD OF ‘PUTIN'S NETWORK IN ITALY’ FOR TELLING THE TRUTH ABOUT UKRAINE – Italian journalist

    Giorgio Bianchi was deprived of the opportunity to speak publicly about the Ukraine conflict and called a Russian spy for trying to inform Italians about the real reasons for what is happening in Ukraine after the start of the special military operation, the journalist told Sputnik.

    The reporter has been covering events in Ukraine since the Euromaidan in 2014, and has appeared several times as an expert in the Italian media. After the start of the special military operation, he went to Donbass for almost two months, where he witnessed the liberation of Mariupol and Volnovakha firsthand.

    🗨️“From that moment on, I could no longer hold conferences in schools and universities. Italy's most popular newspaper Corriere della Sera printed me on the front page, claiming that I was the head of 'Putin's network in Italy,'” he shared, adding that the case against him was sent to Italy's then-head of government Mario Draghi.

    Bianchi emphasized that he continued to tell the truth, explaining that the Minsk agreements were subversively used to arm Ukraine and that neo-Nazi ideas were actually observed in the country, as the journalist himself saw neo-Nazi symbols and literature when he was in Mariupol.

    🗨️However, all the newspapers that had been talking about it for years suddenly “changed their minds overnight,” and began to claim there was no such ideology in Ukraine, the journalist stressed.
    .
    12:19 PM · Nov 23, 2024 · 5,380 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860191337099723243
    💬 สื่อเรียกผมว่าหัวหน้า ‘เครือข่ายปูตินในอิตาลี’ เพราะบอกความจริงเกี่ยวกับยูเครน – นักข่าวอิตาลี จอร์โจ เบียนคี ถูกพรากโอกาสที่จะพูดต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนและเรียกเขาว่าสายลับรัสเซีย เพราะพยายามแจ้งให้ชาวอิตาลีทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครน หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, นักข่าวบอกกับสปุตนิก นักข่าวรายงานเหตุการณ์ในยูเครนตั้งแต่ยูโรไมดานในปี ๒๐๑๔, และปรากฏตัวหลายครั้งในฐานะผู้เชี่ยวชาญในสื่อของอิตาลี หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, เขาเดินทางไปดอนบาสเกือบสองเดือน, ซึ่งเขาได้เห็นการปลดปล่อยมาริอูโปลและโวลโนวาคาด้วยตาตนเอง 🗨️“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา, ฉันไม่สามารถจัดการประชุมในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยได้อีกต่อไป หนังสือพิมพ์ Corriere della Sera ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอิตาลี ได้พิมพ์ชื่อฉันบนหน้าแรก, โดยอ้างว่าฉันเป็นหัวหน้าเครือข่ายของปูตินในอิตาลี,” เขาเล่าให้ฟัง, พร้อมทั้งเสริมว่า คดีที่ฟ้องเขานั้นได้ถูกส่งไปยัง มาริโอ ดรากี หัวหน้ารัฐบาลอิตาลีในขณะนั้น บิอันคีเน้นย้ำว่า เขายังคงพูดความจริงต่อไป, โดยอธิบายว่าข้อตกลงมินสค์ถูกใช้เพื่อติดอาวุธให้ยูเครนอย่างลับๆ และแนวคิดนีโอนาซีก็ถูกสังเกตในประเทศนี้จริงๆ, เนื่องจากนักข่าวเองก็เห็นสัญลักษณ์และวรรณกรรมนีโอนาซีเมื่อเขาอยู่ที่เมืองมาริอูโปล 🗨️อย่างไรก็ตาม, หนังสือพิมพ์ทั้งหมดที่พูดถึงเรื่องนี้มาหลายปีก็ “เปลี่ยนใจในชั่วข้ามคืน,” และเริ่มอ้างว่าไม่มีอุดมการณ์ดังกล่าวในยูเครน, นักข่าวเน้นย้ำ . 💬 MEDIA CALLED ME HEAD OF ‘PUTIN'S NETWORK IN ITALY’ FOR TELLING THE TRUTH ABOUT UKRAINE – Italian journalist Giorgio Bianchi was deprived of the opportunity to speak publicly about the Ukraine conflict and called a Russian spy for trying to inform Italians about the real reasons for what is happening in Ukraine after the start of the special military operation, the journalist told Sputnik. The reporter has been covering events in Ukraine since the Euromaidan in 2014, and has appeared several times as an expert in the Italian media. After the start of the special military operation, he went to Donbass for almost two months, where he witnessed the liberation of Mariupol and Volnovakha firsthand. 🗨️“From that moment on, I could no longer hold conferences in schools and universities. Italy's most popular newspaper Corriere della Sera printed me on the front page, claiming that I was the head of 'Putin's network in Italy,'” he shared, adding that the case against him was sent to Italy's then-head of government Mario Draghi. Bianchi emphasized that he continued to tell the truth, explaining that the Minsk agreements were subversively used to arm Ukraine and that neo-Nazi ideas were actually observed in the country, as the journalist himself saw neo-Nazi symbols and literature when he was in Mariupol. 🗨️However, all the newspapers that had been talking about it for years suddenly “changed their minds overnight,” and began to claim there was no such ideology in Ukraine, the journalist stressed. . 12:19 PM · Nov 23, 2024 · 5,380 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860191337099723243
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกี่ยวกับป้ายทะเบียน...วิธีคำนวณของผู้เขียน คือ เอาเฉพาะตัวเลขเท่านั้น...ตัวอักษรไม่มีการกำหนดค่าเป็นตัวเลขแต่อย่างใด...มาดูวิธีคิดกัน...ตัวอักษร กำหนดเป็นตัวเลขได้ตั้งแต่เมื่อใด ..ใครคิดทฤษฎีนี้ ..อ้างอิงจากหลักการใด .ตำราหรือหนังสือ บทความในอดีต ของผู้รู้แจ้งคนใด แล้ว ทุกชาติมีภาษาต่างกัน กำหนดอย่างไร แทนค่าอย่างไร...ด้วยหลักคิดเหล่านี้ ผู้เขียนไม่มีสิ่งสนับสนุนให้เชื่อแนวคิดนี้ได้เลย...แต่ตัวเลข 0-9 มันมาตรฐานทั้งโลก...แต่นี่คือนิสัยคนไทย..ใครบัญญัติขึ้นมาด้วยเหตุผลใด มีความรู้หรืออะไรแฝงอยู่ไหม...ไม่รู้อะไรสักอย่าง....แต่เชื่อ...และถ่ายทอดต่อ....บางคนการันตีตามไปด้วย....
    เกี่ยวกับป้ายทะเบียน...วิธีคำนวณของผู้เขียน คือ เอาเฉพาะตัวเลขเท่านั้น...ตัวอักษรไม่มีการกำหนดค่าเป็นตัวเลขแต่อย่างใด...มาดูวิธีคิดกัน...ตัวอักษร กำหนดเป็นตัวเลขได้ตั้งแต่เมื่อใด ..ใครคิดทฤษฎีนี้ ..อ้างอิงจากหลักการใด .ตำราหรือหนังสือ บทความในอดีต ของผู้รู้แจ้งคนใด แล้ว ทุกชาติมีภาษาต่างกัน กำหนดอย่างไร แทนค่าอย่างไร...ด้วยหลักคิดเหล่านี้ ผู้เขียนไม่มีสิ่งสนับสนุนให้เชื่อแนวคิดนี้ได้เลย...แต่ตัวเลข 0-9 มันมาตรฐานทั้งโลก...แต่นี่คือนิสัยคนไทย..ใครบัญญัติขึ้นมาด้วยเหตุผลใด มีความรู้หรืออะไรแฝงอยู่ไหม...ไม่รู้อะไรสักอย่าง....แต่เชื่อ...และถ่ายทอดต่อ....บางคนการันตีตามไปด้วย....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากกรณีที่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกรายการสนธิเล่าเรื่อง เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมของ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้เพื่อกู้เงินผ่านเอเย่นต์ จนได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์คนดัง ฉ้อโกงฯ เงิน ผ่านกลโกงการทำธุรกรรม ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อีกหลายราย จนอาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างนับหมื่นล้าน กระทั่งมีรายงานด้วยว่าขณะนี้ นายแพทย์บุญ วนาสิน น่าจะหลบหนีคดีไปยังต่างประเทศแล้ว.ความคืบหน้าเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง บก.น.1 ที่ 285/2567 ลงวันที่ 11 พ.ย.67 ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา จนสามารถนำมาสู่การออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน รวมถึงผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ และมีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้ 9 คน ได้แก่.1.นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น.2.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว นายแพทย์บุญ ซี่งเป็นผู้จัดการเรื่องการเงิน และการบัญชีสัญญากู้เงินทั้งหมด ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5646/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.3.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภา อาทิ การจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย เป็นผู้จ่ายเช็ค พร้อมทั้งติดต่อตัวแทนต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5647/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.4.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค เป็นผู้ถือหุ้น THG ซึ่งนำมาค้ำประกันในสัญญากู้ต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5648/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.5.น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ และ นางจารุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ และ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5649/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.6.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน และมอบหมายให้คนนำสัญญากู้ยืม ทำสัญญาค้ำประกัน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5650/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.7.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน ผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5651/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.8.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน หนังสือส่งมอบเช็ค สัญญาซื้อและขายหุ้นคืนและหนังสือชำระหนี้ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5652/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.9.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน และเป็นผู้นำสัญญามามอบให้ผู้เสียหาย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5653/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ.66 นายแพทย์บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ .1.โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ งบลงทุน 4,๐๐๐ ล้านบาท (ทันสมัยที่สุดในเอเชีย) 2.โครงการเวสเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ 5 ไร่เศษ งบลงทุนประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท (อาคารที่พักสูง 52 ชั้น รองรับผู้สูงวัย 400 ห้อง).3.โครงการสร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว จำนวน 3 แห่ง (ในเวียงจันทร์ 2 แห่ง, จำปาสัก 1 แห่ง) 4.โครงการเข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม โดยใช้งบลงทุน ประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท และ 5.โครงการสร้างเมดิคอล อินเทลลิเจน (Medical Intelligen) ซึ่งทำหน้าที่ด้านไอที ใช้งบประมาณ 1๐๐ ล้านบาท โดยหากมีการร่วมลงทุน ในปี 66 อ้างว่าจะได้กำไร 7๐๐ ล้านบาท และในปี 67 อ้างว่าจะได้กำไรเพิ่มขึ้นเป็น  1,000 ล้านบาท.จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์ หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นายแพทย์บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้นายแพทย์บุญ และครอบครัว.ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นายแพทย์บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้า ในชื่อนายแพทย์บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็น ผู้ค้ำประกันตามสัญญา.นอกจากนี้ นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน ทั้งสองคนยังเซ็นต์สลักหลังในเช็คทุกใบของนายแพทย์บุญ วนาสิน มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฎว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบพบว่า นายแพทย์บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย.67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี.ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.66 – ต.ค.67 มีกลุ่มผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 7,564,433,637 บาท (เจ็ดพันห้าร้อยหกสิบสี่ล้านสี่แสนสามหมื่นสามพันหกร้อยสามสิบเจ็ดบาท) โดยในทันทีที่ศาลอนุมติหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เอาไว้ได้แล้ว จำนวน 6 ราย  คือ.1.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี 2.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี 3.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี 4.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี 5.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี และ 6.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ยังเหลือที่ยังหลบหนีไปได้อีก 3 ราย คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ กับ นางจารุวรรณ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นควรอนุมัติให้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวนี้ไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ DSI เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ โดยจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป (จบ 3/3)......Sondhi X
    จากกรณีที่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกรายการสนธิเล่าเรื่อง เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมของ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้เพื่อกู้เงินผ่านเอเย่นต์ จนได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์คนดัง ฉ้อโกงฯ เงิน ผ่านกลโกงการทำธุรกรรม ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อีกหลายราย จนอาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างนับหมื่นล้าน กระทั่งมีรายงานด้วยว่าขณะนี้ นายแพทย์บุญ วนาสิน น่าจะหลบหนีคดีไปยังต่างประเทศแล้ว.ความคืบหน้าเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง บก.น.1 ที่ 285/2567 ลงวันที่ 11 พ.ย.67 ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา จนสามารถนำมาสู่การออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน รวมถึงผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ และมีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้ 9 คน ได้แก่.1.นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น.2.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว นายแพทย์บุญ ซี่งเป็นผู้จัดการเรื่องการเงิน และการบัญชีสัญญากู้เงินทั้งหมด ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5646/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.3.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภา อาทิ การจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย เป็นผู้จ่ายเช็ค พร้อมทั้งติดต่อตัวแทนต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5647/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.4.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค เป็นผู้ถือหุ้น THG ซึ่งนำมาค้ำประกันในสัญญากู้ต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5648/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.5.น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ และ นางจารุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ และ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5649/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.6.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน และมอบหมายให้คนนำสัญญากู้ยืม ทำสัญญาค้ำประกัน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5650/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.7.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน ผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5651/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.8.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน หนังสือส่งมอบเช็ค สัญญาซื้อและขายหุ้นคืนและหนังสือชำระหนี้ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5652/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.9.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน และเป็นผู้นำสัญญามามอบให้ผู้เสียหาย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5653/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ.66 นายแพทย์บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ .1.โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ งบลงทุน 4,๐๐๐ ล้านบาท (ทันสมัยที่สุดในเอเชีย) 2.โครงการเวสเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ 5 ไร่เศษ งบลงทุนประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท (อาคารที่พักสูง 52 ชั้น รองรับผู้สูงวัย 400 ห้อง).3.โครงการสร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว จำนวน 3 แห่ง (ในเวียงจันทร์ 2 แห่ง, จำปาสัก 1 แห่ง) 4.โครงการเข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม โดยใช้งบลงทุน ประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท และ 5.โครงการสร้างเมดิคอล อินเทลลิเจน (Medical Intelligen) ซึ่งทำหน้าที่ด้านไอที ใช้งบประมาณ 1๐๐ ล้านบาท โดยหากมีการร่วมลงทุน ในปี 66 อ้างว่าจะได้กำไร 7๐๐ ล้านบาท และในปี 67 อ้างว่าจะได้กำไรเพิ่มขึ้นเป็น  1,000 ล้านบาท.จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์ หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นายแพทย์บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้นายแพทย์บุญ และครอบครัว.ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นายแพทย์บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้า ในชื่อนายแพทย์บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็น ผู้ค้ำประกันตามสัญญา.นอกจากนี้ นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน ทั้งสองคนยังเซ็นต์สลักหลังในเช็คทุกใบของนายแพทย์บุญ วนาสิน มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฎว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบพบว่า นายแพทย์บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย.67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี.ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.66 – ต.ค.67 มีกลุ่มผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 7,564,433,637 บาท (เจ็ดพันห้าร้อยหกสิบสี่ล้านสี่แสนสามหมื่นสามพันหกร้อยสามสิบเจ็ดบาท) โดยในทันทีที่ศาลอนุมติหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เอาไว้ได้แล้ว จำนวน 6 ราย  คือ.1.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี 2.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี 3.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี 4.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี 5.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี และ 6.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ยังเหลือที่ยังหลบหนีไปได้อีก 3 ราย คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ กับ นางจารุวรรณ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นควรอนุมัติให้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวนี้ไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ DSI เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ โดยจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป (จบ 3/3)......Sondhi X
    Like
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 646 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพราะชีวิตสั้น
    เกินกว่าจะปล่อยให้เสียใจนาน
    เธอต้องเดินหน้าต่อ
    และยิ้มกว้างกว่าเดิม

    จากหนังสือ |beautiful duty หน้าที่ที่สวยงาม

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #beautifuldutyหน้าที่ที่สวยงาม
    เพราะชีวิตสั้น เกินกว่าจะปล่อยให้เสียใจนาน เธอต้องเดินหน้าต่อ และยิ้มกว้างกว่าเดิม จากหนังสือ |beautiful duty หน้าที่ที่สวยงาม #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #beautifuldutyหน้าที่ที่สวยงาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยิ่งโตขึ้นจึงเข้าใจว่าคนที่เราอยากอยู่ใกล้ คือคนที่...
    เป็นความมั่นคง ไม่ใช่ความหวือหวา
    เป็นความสบายใจ ไม่ใช่ความกังวล
    เป็นความสงบ ไม่ใช่ความตื่นเต้น
    เป็นคนที่พร้อมเข้าใจในวันที่เราสับสน
    เป็นคนที่อยู่ข้างๆตอนเราต้องการที่สุด
    แค่เป็นความเรียบง่ายที่ไว้ใจได้
    เราก็มีความสุขมากแล้ว

    จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    ยิ่งโตขึ้นจึงเข้าใจว่าคนที่เราอยากอยู่ใกล้ คือคนที่... เป็นความมั่นคง ไม่ใช่ความหวือหวา เป็นความสบายใจ ไม่ใช่ความกังวล เป็นความสงบ ไม่ใช่ความตื่นเต้น เป็นคนที่พร้อมเข้าใจในวันที่เราสับสน เป็นคนที่อยู่ข้างๆตอนเราต้องการที่สุด แค่เป็นความเรียบง่ายที่ไว้ใจได้ เราก็มีความสุขมากแล้ว จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาจไม่ต้องเร็วแบบใครๆ
    ช้าหน่อยก็ได้
    หากนั่นคือความเร็วที่เหมาะสม
    คือจังหวะและความสบายใจของเธอ
    ไม่ต้องรีบ
    ไม่ต้องกดดันตัวเองขนาดนั้นก็ได้

    จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    อาจไม่ต้องเร็วแบบใครๆ ช้าหน่อยก็ได้ หากนั่นคือความเร็วที่เหมาะสม คือจังหวะและความสบายใจของเธอ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องกดดันตัวเองขนาดนั้นก็ได้ จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเร่งฝืน
    การพยายามจนเกินสมดุล
    การรีบไปข้างหน้า
    โดยที่ยังไม่ถึงเวลาของมัน
    ทำให้หลายอย่างสั่นคลอน
    ไม่มั่นคง และอาจเสียสมดุล

    จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    การเร่งฝืน การพยายามจนเกินสมดุล การรีบไปข้างหน้า โดยที่ยังไม่ถึงเวลาของมัน ทำให้หลายอย่างสั่นคลอน ไม่มั่นคง และอาจเสียสมดุล จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกอย่างมีเวลาของมัน
    มีจั่งหวะที่เหมาะสมของมัน
    ทั้งการเติบโต และเบ่งบานของเธอ
    การได้พบใครบางคน
    และการเสียใครสักคนไป
    การไปถึงจุดหมาย
    และความสำเร็จเรื่องต่างๆในชีวิต

    จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    ทุกอย่างมีเวลาของมัน มีจั่งหวะที่เหมาะสมของมัน ทั้งการเติบโต และเบ่งบานของเธอ การได้พบใครบางคน และการเสียใครสักคนไป การไปถึงจุดหมาย และความสำเร็จเรื่องต่างๆในชีวิต จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • การใช้ชีวิตแบบมีความสุข
    และรู้คุณค่า
    การได้ดูแลใส่ใจคนรอบข้างไปด้วย
    โดยไม่ทิ้งใครไประหว่างทาง
    พร้อมๆกับการได้ทำตามความฝัน
    ในแบบของเรา
    เพราะความสุขของชีวิต
    และการมีสมดุลในชีวิต
    ก็นับว่าเป็นความสำเร็จได้เช่นกัน

    จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    การใช้ชีวิตแบบมีความสุข และรู้คุณค่า การได้ดูแลใส่ใจคนรอบข้างไปด้วย โดยไม่ทิ้งใครไประหว่างทาง พร้อมๆกับการได้ทำตามความฝัน ในแบบของเรา เพราะความสุขของชีวิต และการมีสมดุลในชีวิต ก็นับว่าเป็นความสำเร็จได้เช่นกัน จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่ากดดันตัวเอง
    ด้วยคำว่าสำเร็จขนาดนั้นเลย
    การมีเงินทองมากมาย
    หรือประสบความสำเร็จ
    ทางด้านการงาน
    การมีความมั่นคงในชีวิต
    อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทาง
    อย่างเดียวของเธอ

    จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    อย่ากดดันตัวเอง ด้วยคำว่าสำเร็จขนาดนั้นเลย การมีเงินทองมากมาย หรือประสบความสำเร็จ ทางด้านการงาน การมีความมั่นคงในชีวิต อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทาง อย่างเดียวของเธอ จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเปิดใจคุยกันบ่อยๆ
    แม้จะเป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็ตาม
    เป็นหนทางที่สำคัญ
    ในการทำความเข้าใจกัน
    ดีกว่าการเก็บเงียบไว้
    แล้วปล่อยผ่านไป
    เพียงเพราะคิดว่า
    "เดี๋ยวอะไรๆก็ดีขึ้นเอง"

    จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    การเปิดใจคุยกันบ่อยๆ แม้จะเป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็ตาม เป็นหนทางที่สำคัญ ในการทำความเข้าใจกัน ดีกว่าการเก็บเงียบไว้ แล้วปล่อยผ่านไป เพียงเพราะคิดว่า "เดี๋ยวอะไรๆก็ดีขึ้นเอง" จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา
    ล้วนส่งผลบางอย่างต่อตัวเรา
    เราทำได้แค่ยอมรับ เรียนรู้ และเติบโต
    ปล่อยให้มันผ่านไป
    เพราะเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้
    เรียนรู้ในจังหวะชีวิตของตัวเอง
    บอมรับว่าทั้งเรื่องดีและร้าย
    มีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกคน
    เข้าใจว่าทั้งเรื่องดีและร้าย
    จะไม่คงอยู่ตลอดไป

    จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา ล้วนส่งผลบางอย่างต่อตัวเรา เราทำได้แค่ยอมรับ เรียนรู้ และเติบโต ปล่อยให้มันผ่านไป เพราะเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ เรียนรู้ในจังหวะชีวิตของตัวเอง บอมรับว่าทั้งเรื่องดีและร้าย มีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกคน เข้าใจว่าทั้งเรื่องดีและร้าย จะไม่คงอยู่ตลอดไป จากหนังสือ |ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #ทุกคนมีจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts