• ความสุขในหัวใจนั้น
    ไม่จำเป็นต้องเกิดจาก
    การเอาชนะใครเลย
    มันเกิดจากการได้ทำ
    ในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ
    ในจังหวะของตัวเราเอง

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    ความสุขในหัวใจนั้น ไม่จำเป็นต้องเกิดจาก การเอาชนะใครเลย มันเกิดจากการได้ทำ ในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ในจังหวะของตัวเราเอง จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • คนเราจะฝันต้องฝันใหญ่
    แม้เป็นไปได้เพียงในจินตนาการ
    ก็สุขใจที่ได้ฝัน

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    คนเราจะฝันต้องฝันใหญ่ แม้เป็นไปได้เพียงในจินตนาการ ก็สุขใจที่ได้ฝัน จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • การกระทำดีต่อกันเล็กๆน้อยๆนั้น
    อาจสร้างความสุขครั้งสำคัญ
    ในชีวิตของคนบางคน
    ไปตลอดกาลเลย ก็เป็นได้

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    การกระทำดีต่อกันเล็กๆน้อยๆนั้น อาจสร้างความสุขครั้งสำคัญ ในชีวิตของคนบางคน ไปตลอดกาลเลย ก็เป็นได้ จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • ในชีวิตหนึ่ง
    เราอาจเจอกันเพียงแค่ครั้งเดียว
    และเมื่อเป็นเช่นนี้
    เราควรทำให้การเจอกันทุกครั้งนั้น
    ประทับใจต่อกันมากที่สุด
    ราวกับว่า เป็นการเจอกันครั้งสุดท้าย

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    ในชีวิตหนึ่ง เราอาจเจอกันเพียงแค่ครั้งเดียว และเมื่อเป็นเช่นนี้ เราควรทำให้การเจอกันทุกครั้งนั้น ประทับใจต่อกันมากที่สุด ราวกับว่า เป็นการเจอกันครั้งสุดท้าย จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • "การให้"
    คือความสุขขั้นสุดยอด
    ผู้ใดหยิบยื่นความสุขให้แก่คนอื่น
    ผู้นั้นจะได้รับความสุข
    และความอิ่มเอมในใจตื่นเอง
    -วอลท์ ดิสนีย์

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    "การให้" คือความสุขขั้นสุดยอด ผู้ใดหยิบยื่นความสุขให้แก่คนอื่น ผู้นั้นจะได้รับความสุข และความอิ่มเอมในใจตื่นเอง -วอลท์ ดิสนีย์ จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • เมื่อเห็นความสำเร็จของใครสักคน
    นอกจากสนใจว่า
    เขาต้องทำอะไรบ้างจึงเก่งแล้ว
    ยังควรต้องมองเห็นด้วยว่า
    เขาต้องยอมไม่ทำอะไรบ้าง

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    เมื่อเห็นความสำเร็จของใครสักคน นอกจากสนใจว่า เขาต้องทำอะไรบ้างจึงเก่งแล้ว ยังควรต้องมองเห็นด้วยว่า เขาต้องยอมไม่ทำอะไรบ้าง จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • การยอมไม่กระทำบางสิ่ง
    เป็นองค์ประกอบหนึ่ง
    ของความสำเร็จ...

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    การยอมไม่กระทำบางสิ่ง เป็นองค์ประกอบหนึ่ง ของความสำเร็จ... จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • คนที่จะประสบความสำเร็จ
    ในสิ่งที่ตัวเองทำ
    ย่อมต้องผ่านการดูแลบางสิ่ง
    และงดเว้นบางอย่าง
    เพื่อรักษาและภูมิฟักให้สิ่งสำคัญนั้น
    เหมาะแก่การทำงานที่รักที่สุด

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    คนที่จะประสบความสำเร็จ ในสิ่งที่ตัวเองทำ ย่อมต้องผ่านการดูแลบางสิ่ง และงดเว้นบางอย่าง เพื่อรักษาและภูมิฟักให้สิ่งสำคัญนั้น เหมาะแก่การทำงานที่รักที่สุด จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • คนเรามักเป็นแบบนี้...
    เมื่อชอบสิ่งไหนเราจะใส่ใจกับสิ่งนั้น
    และเมื่อใส่ใจกับสิ่งนั้น
    เราก็จะเห็นหนทางพัฒนา
    สิ่งที่ทำอยู่เอง
    โดยไม่ต้องมีใครมาบอกกล่าว

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    คนเรามักเป็นแบบนี้... เมื่อชอบสิ่งไหนเราจะใส่ใจกับสิ่งนั้น และเมื่อใส่ใจกับสิ่งนั้น เราก็จะเห็นหนทางพัฒนา สิ่งที่ทำอยู่เอง โดยไม่ต้องมีใครมาบอกกล่าว จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • ความฝันและแรงบันดาลใจ
    เป็นเพียงแรงกระตุ้น
    ให้เราอยากโบยบินออกจากกรง
    ทว่าความรู้ต่างหาก
    คือกุญแจเพื่อไขออกไป

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    ความฝันและแรงบันดาลใจ เป็นเพียงแรงกระตุ้น ให้เราอยากโบยบินออกจากกรง ทว่าความรู้ต่างหาก คือกุญแจเพื่อไขออกไป จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews
  • รัสเซียออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ที่ว่า มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กันแล้วระหว่างปูติน กับ ทรัมป์ โดยว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องผู้นำรัสเซียอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม ทั้งนี้แดนหมีขาวบอกว่านี่เป็นข่าวเท็จ ปูตินไม่มีแผนคุยกับทรัมป์ อีกทั้งบอกด้วยว่าไม่มีสัญญาณใดๆ แสดงว่า ฝ่ายตะวันตกพร้อมแล้วสำหรับการพูดจากัน
    .
    หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (10) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวงในหลายคนว่า ทรัมป์ ได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จากรีสอร์ตส่วนตัวของเขาที่มาร์-อะลา-โก รัฐฟลอริดาเมื่อวันพฤหัสฯ (7) หรือหนึ่งวันหลังสื่อใหญ่ทุกสำนักประกาศว่า ทรัมป์ชนะรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครต ในศึกชิงทำเนียบขาวที่จัดขึ้นเมื่อวันอังคาร (5)
    .
    วอชิงตันโพสต์ระบุว่า ทรัมป์เรียกร้องปูตินอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม และเตือนว่า อเมริกากองทหารขนาดใหญ่ประจำการอยู่ในยุโรป รวมทั้งยังแสดงความสนใจหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตยูเครนเร็วๆ นี้
    .
    นอกจากวอชิงตันโพสต์แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์ก็รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (10) ว่า ทรัมป์ได้พูดคุยกับปูตินจริงๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    ทว่า ในวันจันทร์ (11) ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินออกมาแถลงว่า ข่าวดังกล่าวเป็นการกุเรื่องขึ้น และยืนยันว่า ปูตินไม่มีแผนการเฉพาะเจาะจงในการพูดคุยกับทรัมป์ในขณะนี้
    .
    ขณะที่ สตีเฟน เฉิง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทรัมป์ ระบุในคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะไม่มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพูดคุยโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างทรัมป์กับผู้นำโลกคนอื่นๆ
    .
    ส่วนกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวว่า ไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าเรื่องการหารือระหว่างทรัมป์กับปูติน จึงไม่อาจยืนยันหรือปฏิเสธได้
    .
    อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ (10) ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี โดยที่โฆษกของชอลซ์แถลงว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันที่จะทำงานด้วยกันเพื่อหาทางนำสันติภาพกลับคืนสู่ยุโรป
    .
    เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ไม่มีการตระเตรียมใดๆ สำหรับที่ปูตินจะพูดจาหารือกับชอลซ์ และเขาเห็นว่าตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่าจุดยืนของยุโรปในเรื่องยูเครนมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
    .
    “เรามองเห็นความหงุดหงิดว้าวุ่นอย่างชัดเจน รวมทั้งมีความหวาดกลัวต่างๆ ในหมู่ชาวยุโรปเกี่ยวกับการเลือกตั้งมิสเตอร์ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ” เปสคอฟ บอก พร้อมกับย้ำว่า ปูตินได้พูดอีกครั้งในสัปดาห์ที่แล้วว่าเปิดกว้างสำหรับการพูดจากันทุกอย่าง ทว่าจนถึงเวลานี้ยังไม่ได้มีการตระเตรียมใดๆ รัสเซียยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ
    .
    เขากล่าวว่า จนถึงตอนนี้ “พวกผู้นำยุโรปยังคงกำลังพยายามที่จะบรรลุถึงการทำให้รัสเซียประสบความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์” แต่มอสโกจะ “ดำเนินปฏิบัติการพิเศษของเราต่อไปจนกว่าจะบรรลุจุดมุ่งหมายทั้งหมดของเรา”
    .
    ชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์มีแนวโน้มส่งผลต่อการสู้รบขัดแย้งในยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปี เนื่องจากว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ผู้นี้หาเสียงโดยยืนกรานมาตลอดว่า การสู้รบจะต้องยุติลงโดยเร็ว รวมทั้งแสดงความเคลือบแคลงกับการที่อเมริกาให้การสนับสนุนเคียฟมูลค่าเป็นหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์
    .
    ทางฝ่ายประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้หารือกับทรัมป์เมื่อวันพุธ (6 พ.ย.) โดยมีอีลอน มัสก์ ร่วมหารือด้วย มหาเศรษฐีที่ให้การสนับสนุนทรัมป์อย่างแข็งขันผู้นี้ เคยพูดระบุว่าเคียฟต้องยอมรับความเป็นจริงเรื่องจะต้องเสียดินแดนให้รัสเซีย
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา ให้สัมภาษณ์ซีบีเอสนิวส์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง ยืนยันว่า จะจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า เพื่อให้เคียฟมีสถานะที่เข้มแข็งที่สุดทั้งในสนามรบและการเจรจา ซึ่งจะรวมถึงการให้เงินสนับสนุนที่เหลืออยู่อีก 6,000 ล้านดอลลาร์
    .
    ซัลลิแวนเสริมว่า ไบเดนจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ดำเนินการให้รัฐสภาและคณะบริหารชุดต่อไปตระหนักว่า อเมริกาไม่อาจทิ้งยูเครนได้ เนื่องจากจะทำให้ยุโรปไร้เสถียรภาพมากขึ้น
    .
    ระหว่างหาเสียง ทรัมป์ประกาศว่า จะทำให้สงครามยูเครนยุติลงโดยเร็วก่อนที่ตนเองจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้บอกว่า จะทำอย่างไร
    .
    ทรัมป์และพันธมิตรต่างคัดค้านการที่อเมริกาให้เงินช่วยเหลือยูเครน และเปรยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการอัดฉีดเงินให้บริษัทอุตสาหกรรมการทหารที่ฉ้อฉลและสนับสนุนสงคราม รวมทั้งพวกสายเหยี่ยวด้านนโยบายการต่างประเทศ
    .
    นอกจากนั้น ยังคาดกันว่า การทำข้อตกลงกันให้ได้โดยเร็ว ย่อมหมายถึงเคียฟต้องยอมเสียดินแดนที่ถูกกองทัพรัสเซียเข้ายึดครองทางด้านใต้และตะวันออกของประเทศ
    .
    ไบรอัน แลนซา ที่ปรึกษาสำคัญคนหนึ่งของทรัมป์ให้สัมภาษณ์บีบีซีเมื่อวันเสาร์ (9 ) โดยยกตัวอย่างว่า ยูเครนต้องเลิกคิดว่าจะได้ไครเมียที่รัสเซียเข้าผนวกเมื่อปี 2014 คืน
    .
    ทว่า เคียฟยืนกรานว่า จะไม่ยอมยกดินแดนหรือยอมตามข้อเรียกร้องอื่นๆ ของรัสเซีย เนื่องจากจะทำให้ปูตินได้ใจและยั่วยุก้าวร้าวขึ้น ขณะที่รู้กันว่า พันธมิตรในยุโรปอย่างอังกฤษและฝรั่งเศสรู้สึกกังวลกับการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์
    .
    ช่วงหลายเดือนมานี้ทั้งมอสโกและเคียฟต่างพยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสถานะได้เปรียบในการเจรจาที่อาจเกิดขึ้นในท้ายที่สุด โดยยูเครนได้เข้ายึดพื้นที่บางส่วนในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย และกองกำลังมอสโกรุกคืบเร็วขึ้นในยูเครน
    .
    สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการโจมตีกันด้วยโดรนหนักที่สุด โดยเซเลนสกีเผยว่า รัสเซียส่งโดรน 145 ลำโจมตียูเครนเมื่อคืนวันเสาร์ และมอสโกระบุว่า สอยโดรนยูเครน 34 ลำที่มุ่งโจมตีมอสโกในวันอาทิตย์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108683
    ..............
    Sondhi X
    รัสเซียออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ที่ว่า มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กันแล้วระหว่างปูติน กับ ทรัมป์ โดยว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องผู้นำรัสเซียอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม ทั้งนี้แดนหมีขาวบอกว่านี่เป็นข่าวเท็จ ปูตินไม่มีแผนคุยกับทรัมป์ อีกทั้งบอกด้วยว่าไม่มีสัญญาณใดๆ แสดงว่า ฝ่ายตะวันตกพร้อมแล้วสำหรับการพูดจากัน . หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (10) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวงในหลายคนว่า ทรัมป์ ได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จากรีสอร์ตส่วนตัวของเขาที่มาร์-อะลา-โก รัฐฟลอริดาเมื่อวันพฤหัสฯ (7) หรือหนึ่งวันหลังสื่อใหญ่ทุกสำนักประกาศว่า ทรัมป์ชนะรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครต ในศึกชิงทำเนียบขาวที่จัดขึ้นเมื่อวันอังคาร (5) . วอชิงตันโพสต์ระบุว่า ทรัมป์เรียกร้องปูตินอย่าทำให้สงครามในยูเครนลุกลาม และเตือนว่า อเมริกากองทหารขนาดใหญ่ประจำการอยู่ในยุโรป รวมทั้งยังแสดงความสนใจหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตยูเครนเร็วๆ นี้ . นอกจากวอชิงตันโพสต์แล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์ก็รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (10) ว่า ทรัมป์ได้พูดคุยกับปูตินจริงๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา . ทว่า ในวันจันทร์ (11) ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินออกมาแถลงว่า ข่าวดังกล่าวเป็นการกุเรื่องขึ้น และยืนยันว่า ปูตินไม่มีแผนการเฉพาะเจาะจงในการพูดคุยกับทรัมป์ในขณะนี้ . ขณะที่ สตีเฟน เฉิง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทรัมป์ ระบุในคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะไม่มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพูดคุยโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวระหว่างทรัมป์กับผู้นำโลกคนอื่นๆ . ส่วนกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวว่า ไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าเรื่องการหารือระหว่างทรัมป์กับปูติน จึงไม่อาจยืนยันหรือปฏิเสธได้ . อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ (10) ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี โดยที่โฆษกของชอลซ์แถลงว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันที่จะทำงานด้วยกันเพื่อหาทางนำสันติภาพกลับคืนสู่ยุโรป . เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ไม่มีการตระเตรียมใดๆ สำหรับที่ปูตินจะพูดจาหารือกับชอลซ์ และเขาเห็นว่าตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่าจุดยืนของยุโรปในเรื่องยูเครนมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว . “เรามองเห็นความหงุดหงิดว้าวุ่นอย่างชัดเจน รวมทั้งมีความหวาดกลัวต่างๆ ในหมู่ชาวยุโรปเกี่ยวกับการเลือกตั้งมิสเตอร์ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ” เปสคอฟ บอก พร้อมกับย้ำว่า ปูตินได้พูดอีกครั้งในสัปดาห์ที่แล้วว่าเปิดกว้างสำหรับการพูดจากันทุกอย่าง ทว่าจนถึงเวลานี้ยังไม่ได้มีการตระเตรียมใดๆ รัสเซียยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ . เขากล่าวว่า จนถึงตอนนี้ “พวกผู้นำยุโรปยังคงกำลังพยายามที่จะบรรลุถึงการทำให้รัสเซียประสบความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์” แต่มอสโกจะ “ดำเนินปฏิบัติการพิเศษของเราต่อไปจนกว่าจะบรรลุจุดมุ่งหมายทั้งหมดของเรา” . ชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์มีแนวโน้มส่งผลต่อการสู้รบขัดแย้งในยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปี เนื่องจากว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ผู้นี้หาเสียงโดยยืนกรานมาตลอดว่า การสู้รบจะต้องยุติลงโดยเร็ว รวมทั้งแสดงความเคลือบแคลงกับการที่อเมริกาให้การสนับสนุนเคียฟมูลค่าเป็นหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์ . ทางฝ่ายประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้หารือกับทรัมป์เมื่อวันพุธ (6 พ.ย.) โดยมีอีลอน มัสก์ ร่วมหารือด้วย มหาเศรษฐีที่ให้การสนับสนุนทรัมป์อย่างแข็งขันผู้นี้ เคยพูดระบุว่าเคียฟต้องยอมรับความเป็นจริงเรื่องจะต้องเสียดินแดนให้รัสเซีย . ในอีกด้านหนึ่ง เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา ให้สัมภาษณ์ซีบีเอสนิวส์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง ยืนยันว่า จะจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า เพื่อให้เคียฟมีสถานะที่เข้มแข็งที่สุดทั้งในสนามรบและการเจรจา ซึ่งจะรวมถึงการให้เงินสนับสนุนที่เหลืออยู่อีก 6,000 ล้านดอลลาร์ . ซัลลิแวนเสริมว่า ไบเดนจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ดำเนินการให้รัฐสภาและคณะบริหารชุดต่อไปตระหนักว่า อเมริกาไม่อาจทิ้งยูเครนได้ เนื่องจากจะทำให้ยุโรปไร้เสถียรภาพมากขึ้น . ระหว่างหาเสียง ทรัมป์ประกาศว่า จะทำให้สงครามยูเครนยุติลงโดยเร็วก่อนที่ตนเองจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้บอกว่า จะทำอย่างไร . ทรัมป์และพันธมิตรต่างคัดค้านการที่อเมริกาให้เงินช่วยเหลือยูเครน และเปรยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการอัดฉีดเงินให้บริษัทอุตสาหกรรมการทหารที่ฉ้อฉลและสนับสนุนสงคราม รวมทั้งพวกสายเหยี่ยวด้านนโยบายการต่างประเทศ . นอกจากนั้น ยังคาดกันว่า การทำข้อตกลงกันให้ได้โดยเร็ว ย่อมหมายถึงเคียฟต้องยอมเสียดินแดนที่ถูกกองทัพรัสเซียเข้ายึดครองทางด้านใต้และตะวันออกของประเทศ . ไบรอัน แลนซา ที่ปรึกษาสำคัญคนหนึ่งของทรัมป์ให้สัมภาษณ์บีบีซีเมื่อวันเสาร์ (9 ) โดยยกตัวอย่างว่า ยูเครนต้องเลิกคิดว่าจะได้ไครเมียที่รัสเซียเข้าผนวกเมื่อปี 2014 คืน . ทว่า เคียฟยืนกรานว่า จะไม่ยอมยกดินแดนหรือยอมตามข้อเรียกร้องอื่นๆ ของรัสเซีย เนื่องจากจะทำให้ปูตินได้ใจและยั่วยุก้าวร้าวขึ้น ขณะที่รู้กันว่า พันธมิตรในยุโรปอย่างอังกฤษและฝรั่งเศสรู้สึกกังวลกับการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์ . ช่วงหลายเดือนมานี้ทั้งมอสโกและเคียฟต่างพยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองอยู่ในสถานะได้เปรียบในการเจรจาที่อาจเกิดขึ้นในท้ายที่สุด โดยยูเครนได้เข้ายึดพื้นที่บางส่วนในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย และกองกำลังมอสโกรุกคืบเร็วขึ้นในยูเครน . สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการโจมตีกันด้วยโดรนหนักที่สุด โดยเซเลนสกีเผยว่า รัสเซียส่งโดรน 145 ลำโจมตียูเครนเมื่อคืนวันเสาร์ และมอสโกระบุว่า สอยโดรนยูเครน 34 ลำที่มุ่งโจมตีมอสโกในวันอาทิตย์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108683 .............. Sondhi X
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 332 Views 0 Reviews
  • #จงอย่าคิดว่าคนอย่างเราไม่มีบุญ

    #แต่ว่าถ้าสมัยนี้บรรดาท่านพุทธบริษัทคนใดมีจิตใจมุ่งหวังพระนิพพานเป็นอารมณ์ #หากว่าท่านเป็นพระโสดาบันก็ดีหรือยังไม่เป็นพระโสดาบันก็ตาม #พยายามมีความเคารพพระพุทธเจ้า #พระธรรม #พระอริยสงฆ์ #ให้มั่นคงนึกถึงความตายไว้เป็นปกติ #ว่าชีวิตมันต้องตายแต่ว่าถ้าตายเมื่อไรขอไปนิพพานเมื่อนั้น #จิตใจรักพระนิพพานเป็นอารมณ์ ถึงแม้ศีลหรือกรรมบถ ๑๐ จะบกพร่องบ้างก็ตาม ถ้าจิตคิดอย่างนี้อยู่ ตายแล้วไม่ลงอบายภูมิแน่ ก็ไปสวรรค์ ถ้าไปสวรรค์แล้วภายในไม่ช้าถ้าไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทวดาหรือนางฟ้าชั้นดาวดึงส์นี่มีอายุ ๑๐๐๐ ปีทิพย์ จะมีอายุในดาวดึงส์ไม่ถึง ๓๐๐ปีทิพย์ #พระศรีอาริย์ฯก็จะตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ตอนนั้นขณะที่ท่านเป็นเทวดาเป็นนางฟ้า ได้ฟังเทศน์เพียงครั้งเดียวในชีวิตก็สามารถเป็นพระอรหันต์ได้

    นี่ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย จงอย่าคิดว่าคนอย่างเราไม่มีบุญ ถ้าไม่มีบุญจริงๆ ญาติโยมทั้งหลายมานั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ทนไม่ได้เพราะมันเมื่อย เหยียดแข้งเหยียดขาก็ไม่ออก นังก็แสนจะลำบาก อาศัยบุญบารมีเก่าของท่านดีมากจึงสามารถมาทนนั่งอย่างนี้ได้ และตั้งใจโดยเฉพาะว่าเราต้องการบุญกุศล โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้พูดเรื่องพระโสดาบันและนิพพาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง #สำหรับบุคคลใดยังต้องเกิดพระศรีอาริย์ฯท่านเคยบอกฝากไว้ #บอกว่าคนของผมอยู่ในระหว่างของท่านหลายแสนคน #คนที่เกิดทันสมัยท่านบำเพ็ญบารมีมาด้วยกันนะประมาณ๓แสนคน #ผมฝากด้วยขอให้ทุกคนรักษากรรมบถ ๑๐ให้ครบถ้วนทุกวัน

    ถ้าเป็นการบังเอิญครบถ้วนทุกวันไม่ได้ วันปกติบกพร่องบ้างก็ตาม แต่ว่าวันพระอย่าให้บกพร่อง วันพระต้องเต็ม อย่างนี้คนพวกนั้นจะเกิดทันสมัยผม และฟังเทศน์เพียงครั้งเดียว ถ้าอย่างอ่อนฟังเทศน์ครั้งแรกก็เป็นพระโสดาบัน ถ้ารักษากรรมบถ ๑๐ ได้ครบถ้วนตลอดวันทุกวัน ทั้งวันดีวันพระอย่างนี้ฟังเทศน์จบจะเป็นพระอรหันต์ทันที ก็รวมความว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายโดยทั่วหน้า ที่มานั่งวันนี้ตรงนี้ทุกคนก็เป็นคนมีบุญ บุญเก่าทำมาแล้วมากจึงสามารถมานั่งได้ ต่อไปก็ตั้งใจหวังโดยเฉพาะว่าเราต้องการพระนิพพาน

    เอาล่ะบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย เสียงก็ไปไม่ไหว ขอทุกท่านตั้งใจสมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน

    จากหนังสือธรรมปฏิบัติ ๓๘ หน้าที่๘๒~๘๓
    #จงอย่าคิดว่าคนอย่างเราไม่มีบุญ #แต่ว่าถ้าสมัยนี้บรรดาท่านพุทธบริษัทคนใดมีจิตใจมุ่งหวังพระนิพพานเป็นอารมณ์ #หากว่าท่านเป็นพระโสดาบันก็ดีหรือยังไม่เป็นพระโสดาบันก็ตาม #พยายามมีความเคารพพระพุทธเจ้า #พระธรรม #พระอริยสงฆ์ #ให้มั่นคงนึกถึงความตายไว้เป็นปกติ #ว่าชีวิตมันต้องตายแต่ว่าถ้าตายเมื่อไรขอไปนิพพานเมื่อนั้น #จิตใจรักพระนิพพานเป็นอารมณ์ ถึงแม้ศีลหรือกรรมบถ ๑๐ จะบกพร่องบ้างก็ตาม ถ้าจิตคิดอย่างนี้อยู่ ตายแล้วไม่ลงอบายภูมิแน่ ก็ไปสวรรค์ ถ้าไปสวรรค์แล้วภายในไม่ช้าถ้าไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทวดาหรือนางฟ้าชั้นดาวดึงส์นี่มีอายุ ๑๐๐๐ ปีทิพย์ จะมีอายุในดาวดึงส์ไม่ถึง ๓๐๐ปีทิพย์ #พระศรีอาริย์ฯก็จะตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ตอนนั้นขณะที่ท่านเป็นเทวดาเป็นนางฟ้า ได้ฟังเทศน์เพียงครั้งเดียวในชีวิตก็สามารถเป็นพระอรหันต์ได้ นี่ขอบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย จงอย่าคิดว่าคนอย่างเราไม่มีบุญ ถ้าไม่มีบุญจริงๆ ญาติโยมทั้งหลายมานั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ทนไม่ได้เพราะมันเมื่อย เหยียดแข้งเหยียดขาก็ไม่ออก นังก็แสนจะลำบาก อาศัยบุญบารมีเก่าของท่านดีมากจึงสามารถมาทนนั่งอย่างนี้ได้ และตั้งใจโดยเฉพาะว่าเราต้องการบุญกุศล โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้พูดเรื่องพระโสดาบันและนิพพาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง #สำหรับบุคคลใดยังต้องเกิดพระศรีอาริย์ฯท่านเคยบอกฝากไว้ #บอกว่าคนของผมอยู่ในระหว่างของท่านหลายแสนคน #คนที่เกิดทันสมัยท่านบำเพ็ญบารมีมาด้วยกันนะประมาณ๓แสนคน #ผมฝากด้วยขอให้ทุกคนรักษากรรมบถ ๑๐ให้ครบถ้วนทุกวัน ถ้าเป็นการบังเอิญครบถ้วนทุกวันไม่ได้ วันปกติบกพร่องบ้างก็ตาม แต่ว่าวันพระอย่าให้บกพร่อง วันพระต้องเต็ม อย่างนี้คนพวกนั้นจะเกิดทันสมัยผม และฟังเทศน์เพียงครั้งเดียว ถ้าอย่างอ่อนฟังเทศน์ครั้งแรกก็เป็นพระโสดาบัน ถ้ารักษากรรมบถ ๑๐ ได้ครบถ้วนตลอดวันทุกวัน ทั้งวันดีวันพระอย่างนี้ฟังเทศน์จบจะเป็นพระอรหันต์ทันที ก็รวมความว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายโดยทั่วหน้า ที่มานั่งวันนี้ตรงนี้ทุกคนก็เป็นคนมีบุญ บุญเก่าทำมาแล้วมากจึงสามารถมานั่งได้ ต่อไปก็ตั้งใจหวังโดยเฉพาะว่าเราต้องการพระนิพพาน เอาล่ะบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย เสียงก็ไปไม่ไหว ขอทุกท่านตั้งใจสมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน จากหนังสือธรรมปฏิบัติ ๓๘ หน้าที่๘๒~๘๓
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • เขาบอกว่า หากใครมีประเด็นก็ไปฟ้องศาล พื้นที่เขากระโดงมีพื้นที่กว่า 5 พันไร่ เท่าที่ทราบตระกูลชิดชอบมีอยู่ 300 ไร่ แล้วอีก 4,700 ไร่ จะผิดแค่ 300 ไร่ได้อย่างไร หากเป็นอย่างนั้นก็ไปพิสูจน์เอา ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่อำนาจในการเพิกถอนหรืออนุญาต อยากจะยุ่งก็ยุ่งไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ

    ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ายังมีรายละเอียดอีกเยอะที่หลายคนไม่รู้ ซึ่ง รฟท.หรือประชาชนเองต้องทำการพิสูจน์สิทธิให้ชัดเจน ตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ให้ลองคิดดูว่าในประเทศไทยมีพื้นที่ใดที่กันรางรถไฟออกไป 1 กิโลเมตร ตรงไหนบ้างที่ไม่ใช่ชุมทาง แต่เป็นสถานีใหญ่ๆ มีหรือไม่ หากมี มีที่ไหนบ้างช่วยตอบหน่อย แล้วทำไมต้องเป็นแค่พื้นที่ตรงนี้ รฟท.จะเอาที่ดินไปทำอะไร

    เขาบอกว่า โดยส่วนตัวได้ติดตามเรื่องนี้มาพอสมควร และมองว่าน่าจะมีแผนที่บางตอนที่หายไป ซึ่งแผนที่ที่นำมาแสดงตนดูแล้วมีคลาดเคลื่อนอยู่ประมาณ 500 เมตร ซึ่งมองว่าน่าจะมีความขัดแย้งกัน แต่ทั้งนี้เราได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ซึ่งได้มีการพิจารณาไปแล้วว่า กรมที่ดินยังไม่ได้เพิกถอนโฉนดพื้นที่เขากระโดง แต่ก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์การรถไฟฯ แต่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น เพราะการรถไฟฯ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะทำให้คณะกรรมการสามารถเพิกถอนได้ ครั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของการรถไฟฯ ที่จะไปฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป

    เมื่อถามว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ก็ระบุว่าพื้นที่เขากระโดงต้องเป็นของการรถไฟฯ เพราะถือว่าคำตัดสินของศาลฎีกาเป็นที่สิ้นสุด รมช.มหาดไทยตอบว่า ส่วนตัวมองว่าคำพิพากษาของศาลฎีกา หากอ่านดีๆ จะพบว่ามีฎีกาทับฎีกาอยู่เสมอ ในโอกาสที่จะมีหลักฐานใหม่เข้ามา เพื่อให้เกิดความรอบคอบและความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน

    เมื่อถามถึงข้อกังขาว่า หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบเป็นคนในกลุ่มเพื่อนเนวิน นายทรงศักดิ์กล่าวว่า คิดมากไป ทุกคนที่มาเป็นคณะกรรมการก็มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว หากการทำหน้าที่ทำอะไรผิดไปและมีคนติดใจ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย จะไปมองว่าคนนั้นคนนี้เป็นใครไม่ได้ เพราะการทำงานของแต่ละคนก็มีบรรทัดฐานตามกรอบอยู่แล้ว

    ซักว่า ในพื้นที่เขากระโดงปรากฏว่ามีการถือครองที่ดินจากคนในตระกูลชิดชอบอยู่กว่า 20 แปลง ได้มีการตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายทรงศักดิ์กล่าวว่า การได้มาของที่ดินเขากระโดงก็ได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดิน ได้สิทธิ์ตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการ จะจำกัดว่าตระกูลหนึ่ง จะไม่มีสิทธิ์ไปครอบครองที่ดินเลยก็คงไม่ได้ มีกฎหมายตรงไหนที่ห้ามตระกูลหนึ่งเข้าไปถือสิทธิที่ดินตามกฎหมาย มีหรือไม่ มันไม่มี เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กัน

    ขณะที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจง งานในส่วนของกรมที่ดินว่าทำอยู่ 3 ส่วน โดยส่วนแรกทำตามคำสั่งศาลปกครอง ส่วนที่สองทำตามข้อกฎหมาย ไม่มีส่วนใดใช้เรื่องดุลยพินิจ และส่วนที่สามทำไปตามข้อเท็จจริงที่มีพยานหลักฐานและกฎหมายที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นทุกอย่างสามารถตรวจสอบในเรื่องการดำเนินการได้

    เมื่อถามต่อว่า ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยอยู่ในพรรคภูมิใจไทย จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการฟอกขาว อธิบดีกรมที่ดินยืนยันว่า กระบวนการที่ดำเนินมาทำตั้งแต่ก่อนที่นายอนุทินจะเข้ามา การตั้งคณะกรรมการมีการตั้งก่อน และการหาเอกสารพยานหลักฐานในการดำเนินการก็ทำมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ตนจึงยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครอง ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

    อย่างไรก็ตาม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ หากเป็นที่ดินของ รฟท.แม้กระทั่งตารางวาก็จะเสียไปไม่ได้ จึงให้ รฟท.ไปเช็กดู ซึ่งได้รับรายงานว่าวันที่ 10 พ.ย.นี้ รฟท.ได้ยื่นขอต่อศาลปกครองกลาง แจ้งว่าอธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาไม่ครบถ้วน ขอให้ศาลปกครองพิจารณาหรือไต่สวนกำหนดวิธีการดำเนินการ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ในการร่วมกันชี้แนวเขตที่ดินของ รฟท. และให้พิจารณามีคำสั่งในประเด็นต่างๆ ต่อไป ซึ่งผู้ว่าฯ รฟท.ได้ทำหนังสือถึงกรมที่ดินเพื่อยื่นคัดค้านหนังสือของอธิบดีกรมที่ดิน ตามมาตรา 44 พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง ซึ่งในนั้นระบุว่าเราต้องยื่นภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย. และเราส่งไปเรียบร้อยแล้ววันที่ 11 พ.ย. รฟท.รู้กฎหมายอยู่ จะไปหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินกว่า 900 แปลง ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ยังมีเวลา ยืนยันว่าจะดูให้รอบคอบ

    ถามว่า เรื่องนี้เรื้อรังมานานจะเคลียร์ให้จบภายในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ รมว.คมนาคมตอบว่า เรื่องนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมาย มันไม่ช้าอยู่แล้ว

    ซักว่า จำเป็นต้องพูดคุยกับนายอนุทินหรือไม่ นายสุริยะชี้แจงว่า เป็นระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ เมื่อกรมที่ดินบอกว่าเป็นที่ของเขา ไม่ได้เป็นที่ของ รฟท. เพราะมีหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ รฟท.เชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอ ก็ได้ดำเนินการไป

    เมื่อถามว่า มีการมองว่าที่ดินหลายแปลงในเขากระโดงเป็นของตระกูลชิดชอบ นายสุริยะกล่าวว่า ไม่อยากให้เรื่องขยายเป็นประเด็นการเมือง อยากให้ว่าไปตามกระบวนการ หรือ รฟท.เห็นว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรเมื่ออธิบดีกรมที่ดินชี้มาแบบนี้ รฟท.เห็นว่าไม่ใช่ก็ต้องพยายามรักษาสิทธิ์ของ รฟท.ไว้

    "คิดว่าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าไปมองว่าใครอยู่พรรคไหนหรือมีความขัดแย้งกัน" รมว.คมนาคมกล่าว.

    ที่มา https://www.thaipost.net/one-newspaper/688793/

    #Thaitimes
    เขาบอกว่า หากใครมีประเด็นก็ไปฟ้องศาล พื้นที่เขากระโดงมีพื้นที่กว่า 5 พันไร่ เท่าที่ทราบตระกูลชิดชอบมีอยู่ 300 ไร่ แล้วอีก 4,700 ไร่ จะผิดแค่ 300 ไร่ได้อย่างไร หากเป็นอย่างนั้นก็ไปพิสูจน์เอา ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่อำนาจในการเพิกถอนหรืออนุญาต อยากจะยุ่งก็ยุ่งไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ายังมีรายละเอียดอีกเยอะที่หลายคนไม่รู้ ซึ่ง รฟท.หรือประชาชนเองต้องทำการพิสูจน์สิทธิให้ชัดเจน ตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ให้ลองคิดดูว่าในประเทศไทยมีพื้นที่ใดที่กันรางรถไฟออกไป 1 กิโลเมตร ตรงไหนบ้างที่ไม่ใช่ชุมทาง แต่เป็นสถานีใหญ่ๆ มีหรือไม่ หากมี มีที่ไหนบ้างช่วยตอบหน่อย แล้วทำไมต้องเป็นแค่พื้นที่ตรงนี้ รฟท.จะเอาที่ดินไปทำอะไร เขาบอกว่า โดยส่วนตัวได้ติดตามเรื่องนี้มาพอสมควร และมองว่าน่าจะมีแผนที่บางตอนที่หายไป ซึ่งแผนที่ที่นำมาแสดงตนดูแล้วมีคลาดเคลื่อนอยู่ประมาณ 500 เมตร ซึ่งมองว่าน่าจะมีความขัดแย้งกัน แต่ทั้งนี้เราได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ซึ่งได้มีการพิจารณาไปแล้วว่า กรมที่ดินยังไม่ได้เพิกถอนโฉนดพื้นที่เขากระโดง แต่ก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์การรถไฟฯ แต่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น เพราะการรถไฟฯ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะทำให้คณะกรรมการสามารถเพิกถอนได้ ครั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของการรถไฟฯ ที่จะไปฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป เมื่อถามว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ก็ระบุว่าพื้นที่เขากระโดงต้องเป็นของการรถไฟฯ เพราะถือว่าคำตัดสินของศาลฎีกาเป็นที่สิ้นสุด รมช.มหาดไทยตอบว่า ส่วนตัวมองว่าคำพิพากษาของศาลฎีกา หากอ่านดีๆ จะพบว่ามีฎีกาทับฎีกาอยู่เสมอ ในโอกาสที่จะมีหลักฐานใหม่เข้ามา เพื่อให้เกิดความรอบคอบและความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน เมื่อถามถึงข้อกังขาว่า หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบเป็นคนในกลุ่มเพื่อนเนวิน นายทรงศักดิ์กล่าวว่า คิดมากไป ทุกคนที่มาเป็นคณะกรรมการก็มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว หากการทำหน้าที่ทำอะไรผิดไปและมีคนติดใจ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย จะไปมองว่าคนนั้นคนนี้เป็นใครไม่ได้ เพราะการทำงานของแต่ละคนก็มีบรรทัดฐานตามกรอบอยู่แล้ว ซักว่า ในพื้นที่เขากระโดงปรากฏว่ามีการถือครองที่ดินจากคนในตระกูลชิดชอบอยู่กว่า 20 แปลง ได้มีการตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายทรงศักดิ์กล่าวว่า การได้มาของที่ดินเขากระโดงก็ได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดิน ได้สิทธิ์ตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการ จะจำกัดว่าตระกูลหนึ่ง จะไม่มีสิทธิ์ไปครอบครองที่ดินเลยก็คงไม่ได้ มีกฎหมายตรงไหนที่ห้ามตระกูลหนึ่งเข้าไปถือสิทธิที่ดินตามกฎหมาย มีหรือไม่ มันไม่มี เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กัน ขณะที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจง งานในส่วนของกรมที่ดินว่าทำอยู่ 3 ส่วน โดยส่วนแรกทำตามคำสั่งศาลปกครอง ส่วนที่สองทำตามข้อกฎหมาย ไม่มีส่วนใดใช้เรื่องดุลยพินิจ และส่วนที่สามทำไปตามข้อเท็จจริงที่มีพยานหลักฐานและกฎหมายที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นทุกอย่างสามารถตรวจสอบในเรื่องการดำเนินการได้ เมื่อถามต่อว่า ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยอยู่ในพรรคภูมิใจไทย จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการฟอกขาว อธิบดีกรมที่ดินยืนยันว่า กระบวนการที่ดำเนินมาทำตั้งแต่ก่อนที่นายอนุทินจะเข้ามา การตั้งคณะกรรมการมีการตั้งก่อน และการหาเอกสารพยานหลักฐานในการดำเนินการก็ทำมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ตนจึงยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครอง ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ หากเป็นที่ดินของ รฟท.แม้กระทั่งตารางวาก็จะเสียไปไม่ได้ จึงให้ รฟท.ไปเช็กดู ซึ่งได้รับรายงานว่าวันที่ 10 พ.ย.นี้ รฟท.ได้ยื่นขอต่อศาลปกครองกลาง แจ้งว่าอธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาไม่ครบถ้วน ขอให้ศาลปกครองพิจารณาหรือไต่สวนกำหนดวิธีการดำเนินการ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ในการร่วมกันชี้แนวเขตที่ดินของ รฟท. และให้พิจารณามีคำสั่งในประเด็นต่างๆ ต่อไป ซึ่งผู้ว่าฯ รฟท.ได้ทำหนังสือถึงกรมที่ดินเพื่อยื่นคัดค้านหนังสือของอธิบดีกรมที่ดิน ตามมาตรา 44 พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง ซึ่งในนั้นระบุว่าเราต้องยื่นภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย. และเราส่งไปเรียบร้อยแล้ววันที่ 11 พ.ย. รฟท.รู้กฎหมายอยู่ จะไปหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินกว่า 900 แปลง ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ยังมีเวลา ยืนยันว่าจะดูให้รอบคอบ ถามว่า เรื่องนี้เรื้อรังมานานจะเคลียร์ให้จบภายในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ รมว.คมนาคมตอบว่า เรื่องนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมาย มันไม่ช้าอยู่แล้ว ซักว่า จำเป็นต้องพูดคุยกับนายอนุทินหรือไม่ นายสุริยะชี้แจงว่า เป็นระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ เมื่อกรมที่ดินบอกว่าเป็นที่ของเขา ไม่ได้เป็นที่ของ รฟท. เพราะมีหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ รฟท.เชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอ ก็ได้ดำเนินการไป เมื่อถามว่า มีการมองว่าที่ดินหลายแปลงในเขากระโดงเป็นของตระกูลชิดชอบ นายสุริยะกล่าวว่า ไม่อยากให้เรื่องขยายเป็นประเด็นการเมือง อยากให้ว่าไปตามกระบวนการ หรือ รฟท.เห็นว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรเมื่ออธิบดีกรมที่ดินชี้มาแบบนี้ รฟท.เห็นว่าไม่ใช่ก็ต้องพยายามรักษาสิทธิ์ของ รฟท.ไว้ "คิดว่าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าไปมองว่าใครอยู่พรรคไหนหรือมีความขัดแย้งกัน" รมว.คมนาคมกล่าว. ที่มา https://www.thaipost.net/one-newspaper/688793/ #Thaitimes
    WWW.THAIPOST.NET
    มท.ปัดเอื้อที่ดินเขากระโดง ‘สุริยะ’ลั่นรฟท.ไม่ยอมแน่!
    "อนุทิน" ยัน “คดีเขากระโดง” ไม่มีแทรกแซง ไม่มีช่วยเพื่อน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • แผนการเล่นลับๆ ของบริษัทยาขนาดใหญ่: การเขียนบทความ ยาผีบอก ในวารสารทางการแพทย์ชั้นนำ เพื่อผลักดันยาอันตราย

    ถึงเวลาเผชิญหน้ากับความจริงแล้ว :- บริษัทยาขนาดใหญ่ ได้เข้ายึดครองระบบการแพทย์
    สิ่งที่คุณเคยเชื่อว่าคือวิทยาศาสตร์ สิ่งที่คุณเคยเชื่อว่าเป็น "ยา" เป็นเพียงภาพลวงตาที่สร้างขึ้น เพื่อให้คุณพึ่งพาผู้อื่น

    คำโกหก ยาผีบอก : บริษัทยาขนาดใหญ่ กำหนดชะตากรรมของคุณ

    บริษัทยาขนาดใหญ่ ไม่ได้แค่มีอิทธิพล ต่อวารสารทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังเขียนรายงานวิจัย ที่แพทย์ใช้ในการรักษาคุณอีกด้วย บทความที่ "ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ" เหล่านี้ เป็นเพียงบทความประชาสัมพันธ์ ที่โฆษณายาที่ทั้งไม่มีประสิทธิภาพ และมีอันตราย แพทย์กำลังจ่ายยาพิษเหล่านี้ โดยเชื่อว่ายาเหล่านี้ มีพื้นฐานมาจากวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง

    แต่ความจริงแล้ว ยาเหล่านี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยทีมประชาสัมพันธ์ ของบริษัทยาขนาดใหญ่ ด้วยข้อมูลปลอม และผลลัพธ์ที่ทำให้เข้าใจผิด ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้กำไรพุ่งสูงขึ้น

    แพทย์ชั้นนำ ได้รับเงิน เพื่อสนับสนุนการโกหก

    บริษัทยาขนาดใหญ่ จ้างบริษัทภายนอก เพื่อสร้างงานวิจัยปลอมๆ จากนั้นจึงจ่ายเงิน ให้แพทย์ที่มีชื่อเสียง เพื่อใส่ชื่อของพวกเขา ลงไปในงานวิจัยนั้น “ผู้เขียน” เหล่านี้ไม่เคยได้เห็นข้อมูลเลย พวกเขาเพียงแค่หาเงินจากคำโกหก ที่ทำให้ชื่อ และบัญชีธนาคารของพวกเขาเต็มล้น วารสารอย่าง The Lancet และ NEJM ได้กลายเป็นโฆษก ของบริษัทยาขนาดใหญ่ โดยแต่งเติมโฆษณา ให้ดูเหมือนวิทยาศาสตร์

    คุณคือหนูทดลอง 🐭

    แพทย์ทั่วโลก อ่านงานวิจัยที่เขียนโดยคนอื่นเหล่านี้ และหลงเชื่อคำโกหก ทำให้ผู้ป่วยหลายล้านคน กลายเป็นหนูทดลองของบริษัทยาขนาดใหญ่ ยาเม็ดที่แพทย์ของคุณสั่งนั้น ขึ้นอยู่กับงานวิจัยที่แต่งขึ้น ผลข้างเคียงหรืออะไรก็ตามที่ซ่อนอยู่ ประสิทธิผลหรืออะไรก็ตาม ที่เป็นของปลอม และคุณต้องจ่ายเงินเพื่อการหลอกลวงนี้ ด้วยกระเป๋าสตางค์และสุขภาพของคุณ

    การคิดค้นโรคเพื่อผลกำไร

    มันไม่ได้หยุดอยู่แค่ยา บริษัทยาขนาดใหญ่ กำลังสร้างโรค เพื่อขายยาให้ได้มากขึ้น จากอาการขาสั่น ไปจนถึงโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ อาการเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏขึ้นในทันใด แต่ถูกคิดค้นขึ้น เพื่อให้คุณกลายเป็นลูกค้าตลอดชีวิต ความรู้สึกปกติในปัจจุบัน กลายเป็น "ความผิดปกติ" ที่มีค่าใช้จ่าย และบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ก็หากำไรจากสิ่งนี้ เมื่อผู้คนเริ่มพึ่งพายามากขึ้น

    จุดสิ้นสุด : การควบคุมประชากร

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของกำไรเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการควบคุมประชากรอีกด้วย เมื่อรัฐบาลและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ อยู่ข้างพวกเขา เป้าหมายสูงสุดของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ คือประชากรที่เชื่อง และพึ่งพาผู้อื่น ยาที่เพิ่มมากขึ้น การยอมปฏิบัติตามมากขึ้น และการควบคุมที่มากขึ้น ด้วย =หนังสือเดินทางด้านสุขภาพดิจิทัล= และ "การบำบัด" โดยการตัดแต่งยีน พวกเขากำลังวางรากฐาน เพื่อออกแบบชีววิทยาของคุณ และกำหนดการเข้าถึงสังคมของคุณ

    การทุจริตของ FDA : ผู้ดูแลประตูถูกซื้อตัวไปแล้ว

    FDA ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องเรา กลับอยู่ในกระเป๋าของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ด้วยประตูที่หมุนเวียนไปมา ระหว่างหน่วยงานกำกับดูแล และผู้บริหารบริษัทเวชภัณฑ์ พวกเขาอนุมัติยาอันตราย และเพิกเฉยต่อผลที่ตามมา เมื่อถึงเวลาที่ยาถูกดึงออก กำไรของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ก็จะปลอดภัย ในขณะที่ผู้ป่วย ถูกทิ้งไว้เป็นความเสียหายทางอ้อม

    ความจริงขั้นสุดท้าย: หลุดพ้นจากการควบคุมของพวกเขา

    บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ไม่ได้ต้องการรักษาคุณ พวกเขาต้องการครอบครองคุณ ยาทุกตัว งานวิจัยทุกกรณี โฆษณาทุกรายการ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นลูกค้า ที่ต้องพึ่งพาตลอดชีวิต จงตื่นขึ้น มองทะลุการหลอกลวงของพวกเขา ควบคุมสุขภาพของคุณ และปฏิเสธ =โซ่ตรวน= ที่บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ กำลังพยายามพันธนาการคุณอยู่

    ถึงเวลาที่จะหลุดพ้น และกลับมามีชีวิตของคุณอีกครั้ง
    แผนการเล่นลับๆ ของบริษัทยาขนาดใหญ่: การเขียนบทความ ยาผีบอก ในวารสารทางการแพทย์ชั้นนำ เพื่อผลักดันยาอันตราย ถึงเวลาเผชิญหน้ากับความจริงแล้ว :- บริษัทยาขนาดใหญ่ ได้เข้ายึดครองระบบการแพทย์ สิ่งที่คุณเคยเชื่อว่าคือวิทยาศาสตร์ สิ่งที่คุณเคยเชื่อว่าเป็น "ยา" เป็นเพียงภาพลวงตาที่สร้างขึ้น เพื่อให้คุณพึ่งพาผู้อื่น คำโกหก ยาผีบอก : บริษัทยาขนาดใหญ่ กำหนดชะตากรรมของคุณ บริษัทยาขนาดใหญ่ ไม่ได้แค่มีอิทธิพล ต่อวารสารทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังเขียนรายงานวิจัย ที่แพทย์ใช้ในการรักษาคุณอีกด้วย บทความที่ "ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ" เหล่านี้ เป็นเพียงบทความประชาสัมพันธ์ ที่โฆษณายาที่ทั้งไม่มีประสิทธิภาพ และมีอันตราย แพทย์กำลังจ่ายยาพิษเหล่านี้ โดยเชื่อว่ายาเหล่านี้ มีพื้นฐานมาจากวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง แต่ความจริงแล้ว ยาเหล่านี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยทีมประชาสัมพันธ์ ของบริษัทยาขนาดใหญ่ ด้วยข้อมูลปลอม และผลลัพธ์ที่ทำให้เข้าใจผิด ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้กำไรพุ่งสูงขึ้น แพทย์ชั้นนำ ได้รับเงิน เพื่อสนับสนุนการโกหก บริษัทยาขนาดใหญ่ จ้างบริษัทภายนอก เพื่อสร้างงานวิจัยปลอมๆ จากนั้นจึงจ่ายเงิน ให้แพทย์ที่มีชื่อเสียง เพื่อใส่ชื่อของพวกเขา ลงไปในงานวิจัยนั้น “ผู้เขียน” เหล่านี้ไม่เคยได้เห็นข้อมูลเลย พวกเขาเพียงแค่หาเงินจากคำโกหก ที่ทำให้ชื่อ และบัญชีธนาคารของพวกเขาเต็มล้น วารสารอย่าง The Lancet และ NEJM ได้กลายเป็นโฆษก ของบริษัทยาขนาดใหญ่ โดยแต่งเติมโฆษณา ให้ดูเหมือนวิทยาศาสตร์ คุณคือหนูทดลอง 🐭 แพทย์ทั่วโลก อ่านงานวิจัยที่เขียนโดยคนอื่นเหล่านี้ และหลงเชื่อคำโกหก ทำให้ผู้ป่วยหลายล้านคน กลายเป็นหนูทดลองของบริษัทยาขนาดใหญ่ ยาเม็ดที่แพทย์ของคุณสั่งนั้น ขึ้นอยู่กับงานวิจัยที่แต่งขึ้น ผลข้างเคียงหรืออะไรก็ตามที่ซ่อนอยู่ ประสิทธิผลหรืออะไรก็ตาม ที่เป็นของปลอม และคุณต้องจ่ายเงินเพื่อการหลอกลวงนี้ ด้วยกระเป๋าสตางค์และสุขภาพของคุณ การคิดค้นโรคเพื่อผลกำไร มันไม่ได้หยุดอยู่แค่ยา บริษัทยาขนาดใหญ่ กำลังสร้างโรค เพื่อขายยาให้ได้มากขึ้น จากอาการขาสั่น ไปจนถึงโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ อาการเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏขึ้นในทันใด แต่ถูกคิดค้นขึ้น เพื่อให้คุณกลายเป็นลูกค้าตลอดชีวิต ความรู้สึกปกติในปัจจุบัน กลายเป็น "ความผิดปกติ" ที่มีค่าใช้จ่าย และบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ก็หากำไรจากสิ่งนี้ เมื่อผู้คนเริ่มพึ่งพายามากขึ้น จุดสิ้นสุด : การควบคุมประชากร นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของกำไรเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการควบคุมประชากรอีกด้วย เมื่อรัฐบาลและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ อยู่ข้างพวกเขา เป้าหมายสูงสุดของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ คือประชากรที่เชื่อง และพึ่งพาผู้อื่น ยาที่เพิ่มมากขึ้น การยอมปฏิบัติตามมากขึ้น และการควบคุมที่มากขึ้น ด้วย =หนังสือเดินทางด้านสุขภาพดิจิทัล= และ "การบำบัด" โดยการตัดแต่งยีน พวกเขากำลังวางรากฐาน เพื่อออกแบบชีววิทยาของคุณ และกำหนดการเข้าถึงสังคมของคุณ การทุจริตของ FDA : ผู้ดูแลประตูถูกซื้อตัวไปแล้ว FDA ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องเรา กลับอยู่ในกระเป๋าของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ด้วยประตูที่หมุนเวียนไปมา ระหว่างหน่วยงานกำกับดูแล และผู้บริหารบริษัทเวชภัณฑ์ พวกเขาอนุมัติยาอันตราย และเพิกเฉยต่อผลที่ตามมา เมื่อถึงเวลาที่ยาถูกดึงออก กำไรของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ก็จะปลอดภัย ในขณะที่ผู้ป่วย ถูกทิ้งไว้เป็นความเสียหายทางอ้อม ความจริงขั้นสุดท้าย: หลุดพ้นจากการควบคุมของพวกเขา บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ไม่ได้ต้องการรักษาคุณ พวกเขาต้องการครอบครองคุณ ยาทุกตัว งานวิจัยทุกกรณี โฆษณาทุกรายการ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นลูกค้า ที่ต้องพึ่งพาตลอดชีวิต จงตื่นขึ้น มองทะลุการหลอกลวงของพวกเขา ควบคุมสุขภาพของคุณ และปฏิเสธ =โซ่ตรวน= ที่บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ กำลังพยายามพันธนาการคุณอยู่ ถึงเวลาที่จะหลุดพ้น และกลับมามีชีวิตของคุณอีกครั้ง
    Like
    5
    0 Comments 5 Shares 161 Views 1 Reviews
  • ความรู้และความคิด
    นำมาซึ่งทัศนคติเกี่ยวกับโลกใบนี้
    ซึ่งส่งผลต่อการมองชีวิตของตัวเอง
    สังคมและมองเพื่อนร่วมสังคมคนอื่นๆ

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    ความรู้และความคิด นำมาซึ่งทัศนคติเกี่ยวกับโลกใบนี้ ซึ่งส่งผลต่อการมองชีวิตของตัวเอง สังคมและมองเพื่อนร่วมสังคมคนอื่นๆ จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 Reviews
  • การพุ่งทะยานออกจากกรง
    เพื่อพบกับอิสรภาพ
    อย่างที่ต้องการนั้น
    มิได้ต้องการเพียงแรงบันดาลใจ
    ความฝันอันสวยงาม
    หรือความกล้าหาญชาญชัยเท่านั้น
    มันยังต้องการความรู้และความคิดอีกด้วย

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    การพุ่งทะยานออกจากกรง เพื่อพบกับอิสรภาพ อย่างที่ต้องการนั้น มิได้ต้องการเพียงแรงบันดาลใจ ความฝันอันสวยงาม หรือความกล้าหาญชาญชัยเท่านั้น มันยังต้องการความรู้และความคิดอีกด้วย จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • สำหรับคนที่
    ไม่ชอบชีวิตที่เป็นอยู่
    เหตุใด?จึงไม่สามารถโบยบิน
    ออกจากสิ่งที่ตัวเอง
    เรียกว่า "กรง"ได้

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    สำหรับคนที่ ไม่ชอบชีวิตที่เป็นอยู่ เหตุใด?จึงไม่สามารถโบยบิน ออกจากสิ่งที่ตัวเอง เรียกว่า "กรง"ได้ จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • บางครั้งความสุข
    ก็อาจเป็นเพียงแค่
    การได้ทำในสิ่งที่เราเชื่อ
    และมีคนสนับสนุนสิ่งนั้น

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    บางครั้งความสุข ก็อาจเป็นเพียงแค่ การได้ทำในสิ่งที่เราเชื่อ และมีคนสนับสนุนสิ่งนั้น จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 Reviews
  • บางครั้ง
    คนเราต้องไปให้ไกลเกินข้อจำกัดของตัวเอง
    แล้วจึงจะเจอจุดสมดุล

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    บางครั้ง คนเราต้องไปให้ไกลเกินข้อจำกัดของตัวเอง แล้วจึงจะเจอจุดสมดุล จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • ความสุขในชีวิตคนเรา
    ไม่เคยเกิดขึ้นจากจำนวนหรือปริมาณที่มากมาย
    มันมักเกิดขึ้นจากคุณภาพในจำนวนน้อย

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    ความสุขในชีวิตคนเรา ไม่เคยเกิดขึ้นจากจำนวนหรือปริมาณที่มากมาย มันมักเกิดขึ้นจากคุณภาพในจำนวนน้อย จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • สิ่งที่รัก "ในปริมาณเกินพอดี"
    ก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่ดี ได้เช่นกัน

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    สิ่งที่รัก "ในปริมาณเกินพอดี" ก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่ดี ได้เช่นกัน จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews
  • เวลาว่าง
    คือความหรูหรา

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    เวลาว่าง คือความหรูหรา จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • หรือแท้ที่จริงแล้วเราออกเดินทางเพียงเพื่อจะได้เรียนรู้และเข้าใจว่า
    ไม่มีสวรรค์บนโลกใบนี้
    เราเลือกได้เพียงความจริงที่เหมาะกับเราที่สุด

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    หรือแท้ที่จริงแล้วเราออกเดินทางเพียงเพื่อจะได้เรียนรู้และเข้าใจว่า ไม่มีสวรรค์บนโลกใบนี้ เราเลือกได้เพียงความจริงที่เหมาะกับเราที่สุด จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • อนาคตเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
    และแน่นอนเราต่างเฝ้าฝันถึงโลกที่ยังไม่เคยเจอ
    เดาว่าคงมีลู่ทางให้เดินต่อไป
    ไม่แน่อาจเป็นทางที่เราถูกใจก็เป็นได้

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    อนาคตเต็มไปด้วยความวุ่นวาย และแน่นอนเราต่างเฝ้าฝันถึงโลกที่ยังไม่เคยเจอ เดาว่าคงมีลู่ทางให้เดินต่อไป ไม่แน่อาจเป็นทางที่เราถูกใจก็เป็นได้ จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • อัพเดทเรื่องหนังสือธรรมะที่พิมพ์แจกสักหน่อย
    .....
    ปกหนังสือที่ได้รับการโหวดมากที่สุดคืออันนี้
    จำนวนผู้เป็นเจ้าภาพจัดพิมพ์ร่วมกัน มีทั้งหมด 49 ท่านครับ
    ยอดเงินทั้งหมด 14,800 บาท
    พิมพ์หนังสือได้ทั้งหมด 200 เล่มนะครับ
    ....
    ต่อจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการออกแบบและจัดพิมพ์
    หนังสือเสร็จเมื่อไหร่จะส่งให้คณะเจ้าภาพทั้ง 49 ท่าน แต่ถ้าท่านไหนอยากฝาก lit nit นำไปแจกก็ยินดี หรือใครต้องการและกลัวหนังสือจะไม่พอ สามารถจองไว้ก่อนได้ที่ใต้โพสนี้เลยครับ
    อัพเดทเรื่องหนังสือธรรมะที่พิมพ์แจกสักหน่อย ..... ปกหนังสือที่ได้รับการโหวดมากที่สุดคืออันนี้ จำนวนผู้เป็นเจ้าภาพจัดพิมพ์ร่วมกัน มีทั้งหมด 49 ท่านครับ ยอดเงินทั้งหมด 14,800 บาท พิมพ์หนังสือได้ทั้งหมด 200 เล่มนะครับ .... ต่อจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการออกแบบและจัดพิมพ์ หนังสือเสร็จเมื่อไหร่จะส่งให้คณะเจ้าภาพทั้ง 49 ท่าน แต่ถ้าท่านไหนอยากฝาก lit nit นำไปแจกก็ยินดี หรือใครต้องการและกลัวหนังสือจะไม่พอ สามารถจองไว้ก่อนได้ที่ใต้โพสนี้เลยครับ
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
More Results