• ที่ประชุมคณะกรรมการมรรยาททนายความสั่งลงโทษรุนแรง ลบชื่อทนายความออกจากทะเบียนทนายความแล้ว 18 คดี ห้ามว่าความ 3 ปี 19 คดี ห้ามว่าความ 2 ปี 9 คดี ห้ามว่าความ 1 ปี 19 คดี ห้ามว่าความ 6 เดือน 8 คดี ภาคทัณฑ์และว่ากล่าวตักเตือน รวม 29 คดี

    วันนี้ (7 ม.ค.) สำนักงานคณะกรรมการมรรยาททนายความได้ประกาศ เรื่อง การพิจารณาคดีมรรยาททนายความ ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการมรรยาททนายความ ได้ประชุมพิจารณาคดีมรรยาททนายความ ตามพ.ร.บ.ทนายความ พ.ศ.2528 และข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความฯ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ธ.ค.2567 นั้นปรากฏผลการพิจารณาคดี จากทั้งหมด 362 คดี ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาลงโทษ โดยให้ลบชื่อทนายความ ออกจากทะเบียนทนายความ จำนวน 18 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความ มีกำหนด 3 ปี จำนวน 19 คดี , ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 2 ปี จำนวน 9 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 1 ปี จำนวน 19 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 6 เดือน จำนวน 8 คดี ,ภาคทัณฑ์ จำนวน 10 คดี และ งดโทษให้ โดยว่ากล่าวตักเตือน จำนวน 19 คดี

    อย่างไรก็ตามขั้นตอนหลังจากผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาททนายความแล้ว จะต้องส่งให้นายกสภาทนายความ เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมกรรมการสภาทนายความเพื่อพิจารณาอีกครั้งว่าจะเห็นชอบหรือไม่ จากนั้นจึงส่งไปให้ประธานคณะกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อแจ้งผลการพิจารณาลงโทษให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่ทนายความไปกระทำความผิดละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นการกระทำอันขัดต่อมรรยาททนายความ ถือเป็นคดีมรรยาททนายความที่คณะกรรมการมรรยาททนายความสามารถรับพิจารณาได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. ผู้เสียหายที่เป็นคู่กรณีกับทนายความคนดังกล่าว สามารถร้องเรียนสภาทนายความได้ 2. ทนายความด้วยกันร้องเรียนมาที่สภาทนายความ และ3. คณะกรรมการมรรยาททนายความเห็นว่ามีความผิดปรากฏขึ้นมา ก็สามารถยกนำเรื่องดังกล่าวมาสอบสวนและพิจารณาความผิดคดีมรรยาททนายความได้เอง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001823

    #MGROnline #คณะกรรมการมรรยาททนายความ
    ที่ประชุมคณะกรรมการมรรยาททนายความสั่งลงโทษรุนแรง ลบชื่อทนายความออกจากทะเบียนทนายความแล้ว 18 คดี ห้ามว่าความ 3 ปี 19 คดี ห้ามว่าความ 2 ปี 9 คดี ห้ามว่าความ 1 ปี 19 คดี ห้ามว่าความ 6 เดือน 8 คดี ภาคทัณฑ์และว่ากล่าวตักเตือน รวม 29 คดี • วันนี้ (7 ม.ค.) สำนักงานคณะกรรมการมรรยาททนายความได้ประกาศ เรื่อง การพิจารณาคดีมรรยาททนายความ ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการมรรยาททนายความ ได้ประชุมพิจารณาคดีมรรยาททนายความ ตามพ.ร.บ.ทนายความ พ.ศ.2528 และข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความฯ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ธ.ค.2567 นั้นปรากฏผลการพิจารณาคดี จากทั้งหมด 362 คดี ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาลงโทษ โดยให้ลบชื่อทนายความ ออกจากทะเบียนทนายความ จำนวน 18 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความ มีกำหนด 3 ปี จำนวน 19 คดี , ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 2 ปี จำนวน 9 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 1 ปี จำนวน 19 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 6 เดือน จำนวน 8 คดี ,ภาคทัณฑ์ จำนวน 10 คดี และ งดโทษให้ โดยว่ากล่าวตักเตือน จำนวน 19 คดี • อย่างไรก็ตามขั้นตอนหลังจากผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาททนายความแล้ว จะต้องส่งให้นายกสภาทนายความ เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมกรรมการสภาทนายความเพื่อพิจารณาอีกครั้งว่าจะเห็นชอบหรือไม่ จากนั้นจึงส่งไปให้ประธานคณะกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อแจ้งผลการพิจารณาลงโทษให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่ทนายความไปกระทำความผิดละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นการกระทำอันขัดต่อมรรยาททนายความ ถือเป็นคดีมรรยาททนายความที่คณะกรรมการมรรยาททนายความสามารถรับพิจารณาได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. ผู้เสียหายที่เป็นคู่กรณีกับทนายความคนดังกล่าว สามารถร้องเรียนสภาทนายความได้ 2. ทนายความด้วยกันร้องเรียนมาที่สภาทนายความ และ3. คณะกรรมการมรรยาททนายความเห็นว่ามีความผิดปรากฏขึ้นมา ก็สามารถยกนำเรื่องดังกล่าวมาสอบสวนและพิจารณาความผิดคดีมรรยาททนายความได้เอง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001823 • #MGROnline #คณะกรรมการมรรยาททนายความ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายเดชา เจ้าของฉายา ปากม๋าเป็นปกติธุระ
    ทนายเดชา ปกติก็โดนทัวร์ลงเป็นปกติธุระอยู่แล้ว จากจุดยืนเลือกข้างทนายตั้ม แต่สถานการณ์ล่าสุดกลับเลวร้ายกว่าเดิม ทัวร์ลงเพจทนายคลายทุกข์จนแทบลุกเป็นไฟ เมื่อวันพ่อ 5 ธันวาคม เพราะดันไปหาเรื่องเอง ไปโพสต์ล่อแหลมถึงพ่อ จนคนจํานวนมากไม่พอใจมองว่ามีเจตนาไม่ดีดูยังไงก็เหมือนแซะสถาบัน โดนกระหน่ําด่า จนทนายเดชาต้องลบโพสต์เจ้าปัญหาทิ้ง
    แล้วก็ไลฟ์สดด่าคนที่มาทัวร์ลงด้วยถ้อยคําหยาบคาย อย่างจัญไร ไอ้ควาย ทั้งสาปแช่งให้ตกนรกออกอาการสติแตกออกปากหยาบคายเช่นนี้ ตรงตามที่บิ๊กเต่า พลตํารวจตรีจรุญเกียรติ ปานแก้ว ตอบกลับทนายบางคน โดยนิยามให้เป็นอินฟลูปากหมา แค่คํานี้คําเดียวบิ๊กเต่า ก็สอบผ่านฉลุย เป็นอินฟลูตํารวจตามนโยบาย ผบ ตร ทันที
    ปฏิกิริยาตอบกลับแบบไม่เกรงใจบอกให้รู้ว่า ในสายตาบิ๊กเต่าคนอย่างทนายเดชาไม่มีราคาเอาเสียเลย คํานิยามจากบิ๊กเต่านับว่าเข้ากันเป๊ะกับสถานการณ์ล่าสุดของทนายเดชาที่ดันมาโพสต์แซะพ่อ จนสียศูนย์ ด่ากราดคนอย่างหยาบคาย
    การที่ทนายเดชาแกว่งปากใส่บิ๊กเต่าก่อน โดยเตือนให้ระวังติดคุกเพราะการแถลงข่าวบ่อยถือเป็นคําพูดที่ไม่เข้าท่าเพราะสื่อจะรู้อยู่แล้วตํารวจบิ๊กๆ ในสอบสวนกลางล้วนแต่ให้สัมภาษณ์อย่างระมัดระวังสุดขีดไม่เคยหลุดข้อมูลเชิงลึกให้เสียรูปคดี นักข่าวล่อหลอกถามเท่าไหร่ก็รู้ทันหมดไม่ว่าจะบิ๊กก้องพลตํารวจโท จิรภพ ภูริเดช บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม และก็ตัวบิ๊กเต่าเองล้วนแต่รู้วิธีการให้ข่าวว่าแค่ไหนคือพอดี
    คนละแนวกับทนายเดชาต่อให้รู้น้อยก็พูดเหมือนรู้มาก อย่างพูดว่าทนายตั้มจะใช้ทีมทนายของบิ๊กโจ๊กก็ถูกทางทีมทนายของบิ๊กโจ๊กปฏิเสธหน้าแหก เคยบอกว่าตํารวจสอบสวนกลางไม่ออกหมายจับเจ๊พัฒน์คดีตบทรัพย์ เจ๊พัฒน์จะได้ลอยกระทง แต่สุดท้ายตํารวจก็ออกหมายจับเจ๊พัฒน์ในวันลอยกระทง ช่างกล้าพูดว่าสื่อไม่สามารถเจาะข่าวทางลึกของตํารวจได้ทั้งที่สื่อสามารถขุดคุ้ยข้อมูลลึกของทนายตั้มแบบรายวันนําเสนอกันเป็นเดือนแล้ว
    ขณะที่ตํารวจ CIB กําลังเป็นขาขึ้นเป็นขวัญใจประชาชน คนที่กระแสตกสวนทางตํารวจก็มีแต่ทนายเดชานี่แหละยอดไลค์ทุกวันนี้ไม่ได้สัมพันธ์กับผู้ติดตามเป็นล้านๆคนเลยไหนยังเป็นทนายคนแรกที่ประชาชนไม่เกรงใจคอมเม้นแจก ค กันเป็นร้อยๆ กลายเป็นเจ้าพ่อควายไปเรียบร้อยแล้ว สะท้อนเครดิตความน่าเชื่อถือของทนายเดชาเองว่ากําลังดําดิ่งเจ้าตัวควรจะรู้ตัวได้แล้วไม่ใช่แค่เป็นแชมป์คอควายเท่านั้น
    ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสภาทนายความแห่งประเทศไทยระบุว่าทนายเดชามีคดีถูกร้องเรียนมรรยาททนายความจํานวนมาก ครองแชมป์การถูกร้องเรียนทิ้งห่างคนอื่นๆแบบไม่เห็นฝุ่นถือเป็นทนายเหนือทนายของจริง ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    ทนายเดชา เจ้าของฉายา ปากม๋าเป็นปกติธุระ ทนายเดชา ปกติก็โดนทัวร์ลงเป็นปกติธุระอยู่แล้ว จากจุดยืนเลือกข้างทนายตั้ม แต่สถานการณ์ล่าสุดกลับเลวร้ายกว่าเดิม ทัวร์ลงเพจทนายคลายทุกข์จนแทบลุกเป็นไฟ เมื่อวันพ่อ 5 ธันวาคม เพราะดันไปหาเรื่องเอง ไปโพสต์ล่อแหลมถึงพ่อ จนคนจํานวนมากไม่พอใจมองว่ามีเจตนาไม่ดีดูยังไงก็เหมือนแซะสถาบัน โดนกระหน่ําด่า จนทนายเดชาต้องลบโพสต์เจ้าปัญหาทิ้ง แล้วก็ไลฟ์สดด่าคนที่มาทัวร์ลงด้วยถ้อยคําหยาบคาย อย่างจัญไร ไอ้ควาย ทั้งสาปแช่งให้ตกนรกออกอาการสติแตกออกปากหยาบคายเช่นนี้ ตรงตามที่บิ๊กเต่า พลตํารวจตรีจรุญเกียรติ ปานแก้ว ตอบกลับทนายบางคน โดยนิยามให้เป็นอินฟลูปากหมา แค่คํานี้คําเดียวบิ๊กเต่า ก็สอบผ่านฉลุย เป็นอินฟลูตํารวจตามนโยบาย ผบ ตร ทันที ปฏิกิริยาตอบกลับแบบไม่เกรงใจบอกให้รู้ว่า ในสายตาบิ๊กเต่าคนอย่างทนายเดชาไม่มีราคาเอาเสียเลย คํานิยามจากบิ๊กเต่านับว่าเข้ากันเป๊ะกับสถานการณ์ล่าสุดของทนายเดชาที่ดันมาโพสต์แซะพ่อ จนสียศูนย์ ด่ากราดคนอย่างหยาบคาย การที่ทนายเดชาแกว่งปากใส่บิ๊กเต่าก่อน โดยเตือนให้ระวังติดคุกเพราะการแถลงข่าวบ่อยถือเป็นคําพูดที่ไม่เข้าท่าเพราะสื่อจะรู้อยู่แล้วตํารวจบิ๊กๆ ในสอบสวนกลางล้วนแต่ให้สัมภาษณ์อย่างระมัดระวังสุดขีดไม่เคยหลุดข้อมูลเชิงลึกให้เสียรูปคดี นักข่าวล่อหลอกถามเท่าไหร่ก็รู้ทันหมดไม่ว่าจะบิ๊กก้องพลตํารวจโท จิรภพ ภูริเดช บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม และก็ตัวบิ๊กเต่าเองล้วนแต่รู้วิธีการให้ข่าวว่าแค่ไหนคือพอดี คนละแนวกับทนายเดชาต่อให้รู้น้อยก็พูดเหมือนรู้มาก อย่างพูดว่าทนายตั้มจะใช้ทีมทนายของบิ๊กโจ๊กก็ถูกทางทีมทนายของบิ๊กโจ๊กปฏิเสธหน้าแหก เคยบอกว่าตํารวจสอบสวนกลางไม่ออกหมายจับเจ๊พัฒน์คดีตบทรัพย์ เจ๊พัฒน์จะได้ลอยกระทง แต่สุดท้ายตํารวจก็ออกหมายจับเจ๊พัฒน์ในวันลอยกระทง ช่างกล้าพูดว่าสื่อไม่สามารถเจาะข่าวทางลึกของตํารวจได้ทั้งที่สื่อสามารถขุดคุ้ยข้อมูลลึกของทนายตั้มแบบรายวันนําเสนอกันเป็นเดือนแล้ว ขณะที่ตํารวจ CIB กําลังเป็นขาขึ้นเป็นขวัญใจประชาชน คนที่กระแสตกสวนทางตํารวจก็มีแต่ทนายเดชานี่แหละยอดไลค์ทุกวันนี้ไม่ได้สัมพันธ์กับผู้ติดตามเป็นล้านๆคนเลยไหนยังเป็นทนายคนแรกที่ประชาชนไม่เกรงใจคอมเม้นแจก ค กันเป็นร้อยๆ กลายเป็นเจ้าพ่อควายไปเรียบร้อยแล้ว สะท้อนเครดิตความน่าเชื่อถือของทนายเดชาเองว่ากําลังดําดิ่งเจ้าตัวควรจะรู้ตัวได้แล้วไม่ใช่แค่เป็นแชมป์คอควายเท่านั้น ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสภาทนายความแห่งประเทศไทยระบุว่าทนายเดชามีคดีถูกร้องเรียนมรรยาททนายความจํานวนมาก ครองแชมป์การถูกร้องเรียนทิ้งห่างคนอื่นๆแบบไม่เห็นฝุ่นถือเป็นทนายเหนือทนายของจริง ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 598 มุมมอง 0 รีวิว
  • สายข่าวจากสภาทนายความฯ บอกว่า “เดชา” มีคดีถูกร้องเรียนมรรยาททนายความ จำนวนมากในระดับแชมป์ แหม่ ทนายเหนือทนายของจริง

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายเดชา #เดชาสติแตก #ชาวเน็ตกระหน่ำให้คอควาย
    สายข่าวจากสภาทนายความฯ บอกว่า “เดชา” มีคดีถูกร้องเรียนมรรยาททนายความ จำนวนมากในระดับแชมป์ แหม่ ทนายเหนือทนายของจริง #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายเดชา #เดชาสติแตก #ชาวเน็ตกระหน่ำให้คอควาย
    Haha
    Like
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1049 มุมมอง 50 0 รีวิว
  • ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 844 มุมมอง 0 รีวิว
  • "วิเชียร" นายกสภาทนายความ เผยขั้นตอนสอบมรรยาท "ทนายตั้ม-ทนายเดชา" เป็นอำนาจ ปธ.กรรมการมรรยาททนาย หากผู้กล่าวหามั่นใจข้อเท็จจริง พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112946

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "วิเชียร" นายกสภาทนายความ เผยขั้นตอนสอบมรรยาท "ทนายตั้ม-ทนายเดชา" เป็นอำนาจ ปธ.กรรมการมรรยาททนาย หากผู้กล่าวหามั่นใจข้อเท็จจริง พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112946 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    Wow
    42
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2080 มุมมอง 2 รีวิว
  • เสียงทนายบอสพอลจริงๆ หรือ? ทำไมทนายสายโจน ฉ้อโกงตบทรัพย์เต็มบ้านเต็มเมือง แถมยังมีทนายรัฐฉานอีก แต่ละตัวทำลายคนอื่น ทำลายเพื่อนร่วมอาชีพ สภาทนายความตื่นได้หรือยัง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    เสียงทนายบอสพอลจริงๆ หรือ? ทำไมทนายสายโจน ฉ้อโกงตบทรัพย์เต็มบ้านเต็มเมือง แถมยังมีทนายรัฐฉานอีก แต่ละตัวทำลายคนอื่น ทำลายเพื่อนร่วมอาชีพ สภาทนายความตื่นได้หรือยัง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ-ปานเทพ” ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาทนายความ.วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 13.00น. คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาทนายความ โดยมี นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความ.จากนั้นจึงเข้าหารือกับ นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลประมาณ 20 นาที.#คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ทนายตั้ม #สภาทนายความ #ทนายตั้มษิทรา #sondhitalk
    “สนธิ-ปานเทพ” ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาทนายความ.วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 13.00น. คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาทนายความ โดยมี นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความ.จากนั้นจึงเข้าหารือกับ นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลประมาณ 20 นาที.#คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ทนายตั้ม #สภาทนายความ #ทนายตั้มษิทรา #sondhitalk
    Like
    Love
    Yay
    12
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 725 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สนธิ"ยื่นหนังสือร้องเรียนสภาทนายความ พิจารณาสอบมรรยาท "ทนายษิทธา-ทนายเดชา" ยันจะดำเนินการอย่างสุดซอย ไม่เจรจาแน่นอนเมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (21 พ.ย.) ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพพัวพงษ์พันธ์ พร้อมทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนให้พิจารณาสอบมรรยาททนายความกับนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา กับ นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ กำกับดูแลงานมรรยาททนายความ จากนั้นจึงเข้าพบกับ นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากนั้นนายสนธิ ให้สัมภาษณ์ว่า ผมดีใจมากที่สื่อมวลชนและผมได้ช่วยกันนั้น ทำให้ความจริงปรากฎ และเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในสังคมไทย สิ่งที่ษิทธาทำกับน.ส.จตุพร หรือ เจ๊อ้อย ไม่ใช่การฉ้อโกงหรือฟอกเงินอย่างเดียว แต่เป็นกระบวนการของคนที่รู้กฎหมาย แล้วใช้ความรู้ทางกฎหมายเอารัดเอาเปรียบคนที่ไม่รู้กฎหมาย โดยเฉพาะน.ส.จตุพรที่มองว่าเป็นคนต่างจังหวัด ซึ่งน.ส.จตุพรไปอยู่เยอรมัน 20 ปี และบอกว่าเจอกับทนายษิทธาทางโซเชี่ยลเฟซบุ๊ก
    "สนธิ"ยื่นหนังสือร้องเรียนสภาทนายความ พิจารณาสอบมรรยาท "ทนายษิทธา-ทนายเดชา" ยันจะดำเนินการอย่างสุดซอย ไม่เจรจาแน่นอนเมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (21 พ.ย.) ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพพัวพงษ์พันธ์ พร้อมทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนให้พิจารณาสอบมรรยาททนายความกับนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา กับ นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ กำกับดูแลงานมรรยาททนายความ จากนั้นจึงเข้าพบกับ นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากนั้นนายสนธิ ให้สัมภาษณ์ว่า ผมดีใจมากที่สื่อมวลชนและผมได้ช่วยกันนั้น ทำให้ความจริงปรากฎ และเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในสังคมไทย สิ่งที่ษิทธาทำกับน.ส.จตุพร หรือ เจ๊อ้อย ไม่ใช่การฉ้อโกงหรือฟอกเงินอย่างเดียว แต่เป็นกระบวนการของคนที่รู้กฎหมาย แล้วใช้ความรู้ทางกฎหมายเอารัดเอาเปรียบคนที่ไม่รู้กฎหมาย โดยเฉพาะน.ส.จตุพรที่มองว่าเป็นคนต่างจังหวัด ซึ่งน.ส.จตุพรไปอยู่เยอรมัน 20 ปี และบอกว่าเจอกับทนายษิทธาทางโซเชี่ยลเฟซบุ๊ก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 760 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สนธิ" ยื่นหนังสือร้องเรียนสภาทนายความ พิจารณาสอบมรรยาท "ทนายษิทธา-ทนายเดชา" ยันจะดำเนินการอย่างสุดซอย ไม่เจรจาแน่นอน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112039

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "สนธิ" ยื่นหนังสือร้องเรียนสภาทนายความ พิจารณาสอบมรรยาท "ทนายษิทธา-ทนายเดชา" ยันจะดำเนินการอย่างสุดซอย ไม่เจรจาแน่นอน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112039 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    24
    2 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1657 มุมมอง 1 รีวิว
  • เปิดคนอื่นไม่ทั่ว ไม่เคยดูความซั่วของตัวเอง
    ก่อนจะข้ามรุ่นมาเล่นกับ สนธิ ลิ่มทองกุล ทนายเดชา จุ๊กกรู๊ ก็มีคู่ปรับระดับเดียวกันอยู่ก่อนแล้ว มีคดีคาโรงคาสานกันอยู่ในเวลานี้ ก็คือ อาจารย์อ๊อด แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซึ่งเป็นอินฟลูฯ โด่งดังคนหนึ่ง จากการจับเท็จ โกหกตอแหลของทนายจุกกู้ ศึกระหว่างอาจารย์อ๊อดและทนายเดชาเกิดขึ้นเมื่อปี 2565
    เมื่อทนายเดชารับเป็นทนายความให้นายสุธี หรือเสี่ยเปี๊ยก เสี่ยพันล้านเมืองเพชรฟ้องอาจารย์อ๊อดเรียกค่าเสียหาย150 ล้าน กล่าวหาว่าหลอกร่วมลงทุน แต่คดีนี้กลับไม่ได้สู้กันเฉพาะคดีความในศาล ทนายเดชาใช้อาวุธของตัวคือวาทกรรมไลฟ์สดแบบไม่ออกชื่อ กล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าโกงๆ
    แม้อาจารย์อ๊อดรู้สึกว่าเสียหายจากวาทกรรมเหล่านั้น แต่ก็ไม่สามารถฟ้องเอาผิดทนายเดชาได้ เพราะไม่สามารถพิสูจน์ในศาลได้ว่าเป็นตัวเองที่ถูกใส่ร้าย แต่อาจารย์อ๊อดปักหลักสู้ไม่ถอย จึงไปร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความของสภาทนายความแห่งประเทศไทย ทนายเดชาเลยฟ้องอาจารย์อ๊อด กล่าวหาว่าอาจารย์อ๊อดแจ้งความเท็จหลายคดีแต่คราวนี้อาจารย์อ๊อดเป็นฝ่ายชนะรวดหลายคดีถึงที่สุดเรียบร้อย อาจารย์อ๊อดเลยเอาคืนบ้างเป็นฝ่ายยื่นฟ้องทนายเดชาข้อหาฟ้องเท็จ คดียังอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาลและเพราะต้องตั้งรับสู้คดีกับทนายเดชาและเครือข่ายมาอย่างโชกโชน อาจารย์อ๊อดเลยมีความรู้ด้านกฎหมายงอกเงยขึ้นมา จากเดิมที่รู้แต่วิชาเคมีไหนไหนก็ไหนไหนอาจารย์อ๊อดเลยตั้งสํานักงานกฎหมายขึ้นมามีทนายความประจําสํานักงาน ของตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
    ถึงตอนนี้อาจารย์อ๊อดเคลียร์ใจกับเสี่ยเปี๊ยกร่ําไห้กอดกันถอนคดีไปเรียบร้อยแล้วแต่คู่กัดคนสําคัญกลับเป็นอดีตทนายความของเสี่ยเปี๊ยกแทน โดยอาจารย์อ๊อดประกาศชัด ต้องเอาทนายเดชาถึงติดคุกให้ได้ สิ่งหนึ่งที่ยังคาใจอาจารย์อ๊อด
    ก็คือ สภาทนายความที่ไม่เคยขานรับเรื่องร้องเรียนใดๆโดยในการร้องเรียนทนายเดชาต่อกรรมการมารยาททนายความ อาจารย์อ๊อดระบุว่าการประพฤติตนของทนายความรายนี้ฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีหรือเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความ จึงขอให้สภาทนายความเพิกถอนใบอนุญาตว่าความของทนายเดชาเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงต่อทนายความที่จะไม่รักษาข้อบังคับสภาทนายความ
    ขณะที่สภาทนายความที่รับร้องเรียนจากอาจารย์อ๊อดไปตั้งแต่ปีมะโว้จนบัดนี้ก็ยังแบะๆๆก็ไม่น่าแปลกใจที่สังคมจะตั้งคําถามอื้ออึงสภาทนายมีไว้ทําอะไร ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    เปิดคนอื่นไม่ทั่ว ไม่เคยดูความซั่วของตัวเอง ก่อนจะข้ามรุ่นมาเล่นกับ สนธิ ลิ่มทองกุล ทนายเดชา จุ๊กกรู๊ ก็มีคู่ปรับระดับเดียวกันอยู่ก่อนแล้ว มีคดีคาโรงคาสานกันอยู่ในเวลานี้ ก็คือ อาจารย์อ๊อด แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซึ่งเป็นอินฟลูฯ โด่งดังคนหนึ่ง จากการจับเท็จ โกหกตอแหลของทนายจุกกู้ ศึกระหว่างอาจารย์อ๊อดและทนายเดชาเกิดขึ้นเมื่อปี 2565 เมื่อทนายเดชารับเป็นทนายความให้นายสุธี หรือเสี่ยเปี๊ยก เสี่ยพันล้านเมืองเพชรฟ้องอาจารย์อ๊อดเรียกค่าเสียหาย150 ล้าน กล่าวหาว่าหลอกร่วมลงทุน แต่คดีนี้กลับไม่ได้สู้กันเฉพาะคดีความในศาล ทนายเดชาใช้อาวุธของตัวคือวาทกรรมไลฟ์สดแบบไม่ออกชื่อ กล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าโกงๆ แม้อาจารย์อ๊อดรู้สึกว่าเสียหายจากวาทกรรมเหล่านั้น แต่ก็ไม่สามารถฟ้องเอาผิดทนายเดชาได้ เพราะไม่สามารถพิสูจน์ในศาลได้ว่าเป็นตัวเองที่ถูกใส่ร้าย แต่อาจารย์อ๊อดปักหลักสู้ไม่ถอย จึงไปร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความของสภาทนายความแห่งประเทศไทย ทนายเดชาเลยฟ้องอาจารย์อ๊อด กล่าวหาว่าอาจารย์อ๊อดแจ้งความเท็จหลายคดีแต่คราวนี้อาจารย์อ๊อดเป็นฝ่ายชนะรวดหลายคดีถึงที่สุดเรียบร้อย อาจารย์อ๊อดเลยเอาคืนบ้างเป็นฝ่ายยื่นฟ้องทนายเดชาข้อหาฟ้องเท็จ คดียังอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาลและเพราะต้องตั้งรับสู้คดีกับทนายเดชาและเครือข่ายมาอย่างโชกโชน อาจารย์อ๊อดเลยมีความรู้ด้านกฎหมายงอกเงยขึ้นมา จากเดิมที่รู้แต่วิชาเคมีไหนไหนก็ไหนไหนอาจารย์อ๊อดเลยตั้งสํานักงานกฎหมายขึ้นมามีทนายความประจําสํานักงาน ของตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ถึงตอนนี้อาจารย์อ๊อดเคลียร์ใจกับเสี่ยเปี๊ยกร่ําไห้กอดกันถอนคดีไปเรียบร้อยแล้วแต่คู่กัดคนสําคัญกลับเป็นอดีตทนายความของเสี่ยเปี๊ยกแทน โดยอาจารย์อ๊อดประกาศชัด ต้องเอาทนายเดชาถึงติดคุกให้ได้ สิ่งหนึ่งที่ยังคาใจอาจารย์อ๊อด ก็คือ สภาทนายความที่ไม่เคยขานรับเรื่องร้องเรียนใดๆโดยในการร้องเรียนทนายเดชาต่อกรรมการมารยาททนายความ อาจารย์อ๊อดระบุว่าการประพฤติตนของทนายความรายนี้ฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีหรือเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความ จึงขอให้สภาทนายความเพิกถอนใบอนุญาตว่าความของทนายเดชาเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงต่อทนายความที่จะไม่รักษาข้อบังคับสภาทนายความ ขณะที่สภาทนายความที่รับร้องเรียนจากอาจารย์อ๊อดไปตั้งแต่ปีมะโว้จนบัดนี้ก็ยังแบะๆๆก็ไม่น่าแปลกใจที่สังคมจะตั้งคําถามอื้ออึงสภาทนายมีไว้ทําอะไร ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 642 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย
    .
    เมื่อวันจันทร์ที่ 4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่
    .
    นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้
    .
    อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน
    .
    แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม
    .
    จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย
    .
    ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย
    .
    ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ

    ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    https://www.facebook.com/share/p/18cR1aRJcH/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย . เมื่อวันจันทร์ที่ 4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่ . นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้ . อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน . แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม . จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย . ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย . ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ https://www.facebook.com/share/p/18cR1aRJcH/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 984 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย
    .
    เมื่อวันจันทร์ที่่4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ "ถกไม่เถียง" ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่
    .
    นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้
    .
    อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน
    .
    แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม
    .
    จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย
    .
    ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย
    .
    ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ
    "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย . เมื่อวันจันทร์ที่่4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ "ถกไม่เถียง" ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่ . นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้ . อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน . แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม . จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย . ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย . ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ
    Like
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1017 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ
    .
    ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว
    .
    อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่
    .
    ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก
    .
    เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด
    .
    71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1942qfmeuV/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ . ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว . อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่ . ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก . เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด . 71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1942qfmeuV/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 757 มุมมอง 0 รีวิว
  • ริเริ่มกองทุนเพื่อความยุติธรรมในมูลนิธิไชย้ง
    .
    ท่านผู้ชมครับ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกให้รับทราบ ใครก็ตามที่เคยโดนคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด หลอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าอยากให้ผมดำเนินเรื่องให้ ส่งเรื่องเข้ามาที่ inbox เพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ที่เฟซบุ๊ก หรืออีเมลมาก็ได้ที่sondhitalk @ gmail .com เมื่อผมรับเรื่องแล้วผมจะให้คนติดต่อกลับไปทันที เอาข้อมูลมา แล้วผมก็ต้องเจาะข้อมูลให้เต็มที่ ถ้ามีพื้นฐานแห่งคดีความได้ เดี๋ยวผมจะดำเนินคดีให้
    .
    ท่านผู้ชมครับ ต่อยอดสักนิดหนึ่ง ผมคิดว่าตอนนี้สังคมไทยกำลังต้องการฝ่ายกฎหมายที่ทำงานเป็นลักษณะองค์กรอิสระ ผมคิดว่าผมจะพยายามระดมเงินทุนเข้ามาตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม ในมูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล ของแม่ผม เงินกองทุนนี้มีเอาไว้ทำไม ? มีเอาไว้ ถ้าท่านเดือดร้อนเรื่องต่างๆ เหมือนอย่างที่คนเดือดร้อนกันอยู่นี้ เราจะจัดทนายของเรา ผมไม่ได้ต้องการแข่งกับสภาทนายความนะครับ แต่ทนายที่อยู่สังกัดเรา จะกินเงินเดือนของเรา แล้วก็ว่าความดำเนินคดีให้ในอัตราค่าจ้างที่สมเหตุสมผล และไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกมากจนเกินไป นอกเสียจากว่าคนเดือดร้อนบางคนไม่มีเงินไม่มีทอง เราก็ยกให้เป็นกรณีพิเศษ มันจะได้เลิกกันเสียทีพวกทนายที่ทำตัวเป็นอีแร้ง
    .
    ท่านผู้ชมครับ ถ้าเห็นด้วย บอกมา ผมมีพรรคพวกผู้หลักผู้ใหญ่เยอะแยะไปหมด ผมขอรับเงินบริจาคเขาได้ ตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม และจะรายงานเงินที่เข้ามาทุกครั้ง และใช้จ่ายออกไปแต่ละครั้งนั้น ค่าอะไรบ้าง อย่างโปร่งใส ท่านให้ผมมา เพื่อให้ผมจัดทำเรื่องนี้นะครับ ท่านไม่ได้ให้มาด้วยความเสน่หา ขอยืนยันก่อน อย่าลืมนะครับ
    ริเริ่มกองทุนเพื่อความยุติธรรมในมูลนิธิไชย้ง . ท่านผู้ชมครับ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกให้รับทราบ ใครก็ตามที่เคยโดนคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด หลอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าอยากให้ผมดำเนินเรื่องให้ ส่งเรื่องเข้ามาที่ inbox เพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ที่เฟซบุ๊ก หรืออีเมลมาก็ได้ที่sondhitalk @ gmail .com เมื่อผมรับเรื่องแล้วผมจะให้คนติดต่อกลับไปทันที เอาข้อมูลมา แล้วผมก็ต้องเจาะข้อมูลให้เต็มที่ ถ้ามีพื้นฐานแห่งคดีความได้ เดี๋ยวผมจะดำเนินคดีให้ . ท่านผู้ชมครับ ต่อยอดสักนิดหนึ่ง ผมคิดว่าตอนนี้สังคมไทยกำลังต้องการฝ่ายกฎหมายที่ทำงานเป็นลักษณะองค์กรอิสระ ผมคิดว่าผมจะพยายามระดมเงินทุนเข้ามาตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม ในมูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล ของแม่ผม เงินกองทุนนี้มีเอาไว้ทำไม ? มีเอาไว้ ถ้าท่านเดือดร้อนเรื่องต่างๆ เหมือนอย่างที่คนเดือดร้อนกันอยู่นี้ เราจะจัดทนายของเรา ผมไม่ได้ต้องการแข่งกับสภาทนายความนะครับ แต่ทนายที่อยู่สังกัดเรา จะกินเงินเดือนของเรา แล้วก็ว่าความดำเนินคดีให้ในอัตราค่าจ้างที่สมเหตุสมผล และไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกมากจนเกินไป นอกเสียจากว่าคนเดือดร้อนบางคนไม่มีเงินไม่มีทอง เราก็ยกให้เป็นกรณีพิเศษ มันจะได้เลิกกันเสียทีพวกทนายที่ทำตัวเป็นอีแร้ง . ท่านผู้ชมครับ ถ้าเห็นด้วย บอกมา ผมมีพรรคพวกผู้หลักผู้ใหญ่เยอะแยะไปหมด ผมขอรับเงินบริจาคเขาได้ ตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม และจะรายงานเงินที่เข้ามาทุกครั้ง และใช้จ่ายออกไปแต่ละครั้งนั้น ค่าอะไรบ้าง อย่างโปร่งใส ท่านให้ผมมา เพื่อให้ผมจัดทำเรื่องนี้นะครับ ท่านไม่ได้ให้มาด้วยความเสน่หา ขอยืนยันก่อน อย่าลืมนะครับ
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1358 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ
    .
    ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว
    .
    อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่
    .
    ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก
    .
    เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด
    .
    71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ
    ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ . ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว . อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่ . ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก . เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด . 71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 940 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : สนธิ ยั๊วะหนัก ท้าทายระบสภาทนายความ ร้องเรียนไป จะแอคชั่นอะไรบ้าง
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิลิ้มทองกุล #สนธิ #สภาทนายความ
    Newsstory : สนธิ ยั๊วะหนัก ท้าทายระบสภาทนายความ ร้องเรียนไป จะแอคชั่นอะไรบ้าง #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิลิ้มทองกุล #สนธิ #สภาทนายความ
    Like
    Love
    Yay
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1215 มุมมอง 636 0 รีวิว
  • เปิดสัมภาษณ์ "สนธิ" คุยกับ "คุณอ้อย" คู่กรณีทนายตั้มฟ้องคดีฉ้อโกง 71 ล้านบาท ลั่นสายไปแล้ว ไม่รับขอขมา ไม่มีทางหยุดคดี เตรียมเดินสุดซอย ร้องสภาทนายความถอดออกจากทนาย และร้องสรรพากรสอบเลี่ยงภาษี ปูดเบื้องหลังมีขบวนการฟอกเงิน เตือนไปทำอะไรใครไว้ เวรกรรมกำลังตามอยู่

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000104498

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เปิดสัมภาษณ์ "สนธิ" คุยกับ "คุณอ้อย" คู่กรณีทนายตั้มฟ้องคดีฉ้อโกง 71 ล้านบาท ลั่นสายไปแล้ว ไม่รับขอขมา ไม่มีทางหยุดคดี เตรียมเดินสุดซอย ร้องสภาทนายความถอดออกจากทนาย และร้องสรรพากรสอบเลี่ยงภาษี ปูดเบื้องหลังมีขบวนการฟอกเงิน เตือนไปทำอะไรใครไว้ เวรกรรมกำลังตามอยู่ อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000104498 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    29
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 3023 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกสภาทนายความเผย พร้อมเร่งสอบสวน "ทนาย ษ." ผิดมรรยาท หลัง "ทนายอั๋น บุรีรัมย์" ยื่นร้อง ย้ำทนายหิวแสงทำองค์กรเสียหาย มีโทษพักใบอนุญาตหรือลบชื่อจากทะเบียน แต่มีแค่ส่วนน้อยที่สร้างปัญหา

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000104420

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายกสภาทนายความเผย พร้อมเร่งสอบสวน "ทนาย ษ." ผิดมรรยาท หลัง "ทนายอั๋น บุรีรัมย์" ยื่นร้อง ย้ำทนายหิวแสงทำองค์กรเสียหาย มีโทษพักใบอนุญาตหรือลบชื่อจากทะเบียน แต่มีแค่ส่วนน้อยที่สร้างปัญหา อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000104420 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Wow
    19
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2936 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหตุผล..คือจิตวิญญาณของกฎหมาย

    นาย นิติกร อยู่คงแก้ว หรือไก่ เป็นพ่อทีมที่อยู่ในระดับ GRAND DEALER ซึ่งเป็นทีมงานทนายของ..บอสสวย

    เท่าที่อ่านแช็ต..เหตุผลมันดูแหม่งๆไม่เหมือนการบอกข้อกฎหมายให้เหยื่อ The Icon เข้าใจในข้อเท็จจริงของกฎหมาย #แต่มันดูเหมือนข่มขู่ผู้เสียหายซะมากกว่า

    สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ พวกท่านมีความคิดเห็นเยี่ยงไรกับการกระทำของทนายความตัวนี้ครับ.?

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน


    เหตุผล..คือจิตวิญญาณของกฎหมาย นาย นิติกร อยู่คงแก้ว หรือไก่ เป็นพ่อทีมที่อยู่ในระดับ GRAND DEALER ซึ่งเป็นทีมงานทนายของ..บอสสวย เท่าที่อ่านแช็ต..เหตุผลมันดูแหม่งๆไม่เหมือนการบอกข้อกฎหมายให้เหยื่อ The Icon เข้าใจในข้อเท็จจริงของกฎหมาย #แต่มันดูเหมือนข่มขู่ผู้เสียหายซะมากกว่า สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ พวกท่านมีความคิดเห็นเยี่ยงไรกับการกระทำของทนายความตัวนี้ครับ.? สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ ทนายอาสา สุดระอาทนายหิวแสงหิวยอดไลค์ ร้องสภาทนายความสอบโกง 71 ล้าน
    #7ดอกจิก
    ♣️ ทนายอาสา สุดระอาทนายหิวแสงหิวยอดไลค์ ร้องสภาทนายความสอบโกง 71 ล้าน #7ดอกจิก
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ถอดคำต่อคำเดชา ดีใจ ที่จะได้ฟ้-อ-งคนไทย
    จากเมื่อวานพบคลิปว่อนโซเชียล
    ท-นายชื่อดัง
    ได้อัดคลิปเผยแพร่ กรณีกามิน ตต.เกอร์ชาวเกาหลี
    ได้มอบอำนาจ ให้ตน ฟ้-อ-ง คนไทย
    โดยมีเนื้อหาที่ถอดคำตอบคำ ดังนี้
    -----------------------------------
    "นะครับ ดีครับ ด่-ากันเยอะๆนะครับ
    ผมขอเป็นตัวแทนทนายความแปดหมื่นคนทั่วประเทศนะครับ
    ที่ทำให้พวกเรามีงานทำครับ
    แล้วก็กราบขอบพระคุณที่ไปใ-ส่-ร้-า-ยกามินด้วยนะครับ
    ไปหาว่าเขาเนรคุณ ไม่นึกถึงบุญคุณหลบเลี่ยงภ-า-ษีอะไรต่างๆ
    "ก็กราบขอบพระคุณด้วย"
    ก็น่าจะมีค-ดีตามมาสักร้อยสองร้อยคดีนะครับ
    #ก็ทำให้พี่่น้องทนายความแปดหมื่นคนได้หายใจคล่องคอ
    #เพราะมีงานมีการทำกันนะครับ
    #ก็ขอเป็นตัวแทนพี่น้องทนายความ8หมื่นคน
    #ต้องขอบพระคุณพวกที่ "ป-า-ก-เ-สี-ย"
    # "ป-า-ก-ห-ม-า" ทั้งหลายนะครับ
    ก็ขอบพระคุณครับ ขอบพระคุณมากนะครับ
    ที่ไป "ด่-า-ท-อ-เ-ค้-า-เสียๆหายๆ
    นะครับ ดีครับ ด่-า-กั-นเยอะๆ 55555555
    ป-า-ก-ดีกันนักนะ ฮื่ม
    ---------------------------------------
    ซึ่ง ทางเพจคิงส์โพธิ์แดงเกิดข้อสงสัย
    ในคำของเดชา คำว่า "ท-น-า-ย-แปด หมื่นคน"
    ทีมงานจึงได้ทำการตรวจสอบ ท-น-า-ยความจำนวนที่เดชาได้อ้าง
    ที่แท้ คือทน-า-ยความทั่วประเทศ ในสภาท-น-า-ยความ
    ที่เดชาอ้างให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีงานทำ จึงมาร่วมกับตนในการฟ้องคนไทย
    เพื่อความอยู่รอด
    ซึ่งการอ้างดังกล่าว ได้สะเทือนความรู้สึก และมีสมาชิกสภาหลายราย
    ได้แสดงออกถึงความไม่พอใจในคำพูดดังกล่าว
    บางรายยืนยันว่า
    #ถึงอย่างไรก็จะไม่เป็นเครื่องมือให้ชาวต่างชาติมาฟ้-อ-ง-คนไทยอย่างแน่นอน
    ทางเพจคิงส์โพธิ์แดง ได้สอบถามความคิดเห็นจากคนไทยบางส่วนหลังจากเห็นคลิปดังกล่าว
    "โดยกล่าวว่า รู้สึกเสียใจ หากสภาท-น-า-ยความ เป็นเช่นที่ทนายเดชาได้กล่าวอ้างในคลิปนั้น ภาพลักษณ์องค์กรที่เคยเป็นที่พึ่งพาของประชาชน คงเสื่อมลงโดยยากที่จะแก้ไขกลับมา
    เป็นท-น-า-ย-แบบไหน ที่อยู่รอดได้ด้วยการเป็นตัวแทนของคนช่างชาติ มาฟ้-อง-คนไทยด้วยกัน"
    ซึ่ง หากสภาทนายความมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร
    ทางเพจคิงส์โพธิ์แดง จะมาสื่อสารให้แฟนเพจได้่ทราบกันอีกครั้ง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ถอดคำต่อคำเดชา ดีใจ ที่จะได้ฟ้-อ-งคนไทย จากเมื่อวานพบคลิปว่อนโซเชียล ท-นายชื่อดัง ได้อัดคลิปเผยแพร่ กรณีกามิน ตต.เกอร์ชาวเกาหลี ได้มอบอำนาจ ให้ตน ฟ้-อ-ง คนไทย โดยมีเนื้อหาที่ถอดคำตอบคำ ดังนี้ ----------------------------------- "นะครับ ดีครับ ด่-ากันเยอะๆนะครับ ผมขอเป็นตัวแทนทนายความแปดหมื่นคนทั่วประเทศนะครับ ที่ทำให้พวกเรามีงานทำครับ แล้วก็กราบขอบพระคุณที่ไปใ-ส่-ร้-า-ยกามินด้วยนะครับ ไปหาว่าเขาเนรคุณ ไม่นึกถึงบุญคุณหลบเลี่ยงภ-า-ษีอะไรต่างๆ "ก็กราบขอบพระคุณด้วย" ก็น่าจะมีค-ดีตามมาสักร้อยสองร้อยคดีนะครับ #ก็ทำให้พี่่น้องทนายความแปดหมื่นคนได้หายใจคล่องคอ #เพราะมีงานมีการทำกันนะครับ #ก็ขอเป็นตัวแทนพี่น้องทนายความ8หมื่นคน #ต้องขอบพระคุณพวกที่ "ป-า-ก-เ-สี-ย" # "ป-า-ก-ห-ม-า" ทั้งหลายนะครับ ก็ขอบพระคุณครับ ขอบพระคุณมากนะครับ ที่ไป "ด่-า-ท-อ-เ-ค้-า-เสียๆหายๆ นะครับ ดีครับ ด่-า-กั-นเยอะๆ 55555555 ป-า-ก-ดีกันนักนะ ฮื่ม --------------------------------------- ซึ่ง ทางเพจคิงส์โพธิ์แดงเกิดข้อสงสัย ในคำของเดชา คำว่า "ท-น-า-ย-แปด หมื่นคน" ทีมงานจึงได้ทำการตรวจสอบ ท-น-า-ยความจำนวนที่เดชาได้อ้าง ที่แท้ คือทน-า-ยความทั่วประเทศ ในสภาท-น-า-ยความ ที่เดชาอ้างให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีงานทำ จึงมาร่วมกับตนในการฟ้องคนไทย เพื่อความอยู่รอด ซึ่งการอ้างดังกล่าว ได้สะเทือนความรู้สึก และมีสมาชิกสภาหลายราย ได้แสดงออกถึงความไม่พอใจในคำพูดดังกล่าว บางรายยืนยันว่า #ถึงอย่างไรก็จะไม่เป็นเครื่องมือให้ชาวต่างชาติมาฟ้-อ-ง-คนไทยอย่างแน่นอน ทางเพจคิงส์โพธิ์แดง ได้สอบถามความคิดเห็นจากคนไทยบางส่วนหลังจากเห็นคลิปดังกล่าว "โดยกล่าวว่า รู้สึกเสียใจ หากสภาท-น-า-ยความ เป็นเช่นที่ทนายเดชาได้กล่าวอ้างในคลิปนั้น ภาพลักษณ์องค์กรที่เคยเป็นที่พึ่งพาของประชาชน คงเสื่อมลงโดยยากที่จะแก้ไขกลับมา เป็นท-น-า-ย-แบบไหน ที่อยู่รอดได้ด้วยการเป็นตัวแทนของคนช่างชาติ มาฟ้-อง-คนไทยด้วยกัน" ซึ่ง หากสภาทนายความมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ทางเพจคิงส์โพธิ์แดง จะมาสื่อสารให้แฟนเพจได้่ทราบกันอีกครั้ง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    Angry
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1542 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ฝากพี่เดทนายที่ดังที่สุดในประเทศณเวลานี้ครับ
    พี่เดคือทนายความที่ชนะมาทุกคดี
    ไม่เคยแพ้ แม้ซักครั้งเดียว
    คือที่สุดแห่งการว่าความ
    เก่งเหนือใครในสภาทนายความ
    ดังนั้น จึงฝากพี่เดช่วยดูคนนี้นิดนึงครับ
    มีการกล่าวหาแน๊กชาลี ให้ร้ายหลายกรรมหลายวาระมาก
    ส่วนค่าทนาย เก็บที่คุณ โจ มณฑานี
    เป็นลูกพี่ใหญ่ของนางครับ
    ด้วยความเคารพรักครับพี่เด
    #ทนายจุ๊กกรู
    #ทนายคนดัง
    #ทนายของแทร่
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ฝากพี่เดทนายที่ดังที่สุดในประเทศณเวลานี้ครับ พี่เดคือทนายความที่ชนะมาทุกคดี ไม่เคยแพ้ แม้ซักครั้งเดียว คือที่สุดแห่งการว่าความ เก่งเหนือใครในสภาทนายความ ดังนั้น จึงฝากพี่เดช่วยดูคนนี้นิดนึงครับ มีการกล่าวหาแน๊กชาลี ให้ร้ายหลายกรรมหลายวาระมาก ส่วนค่าทนาย เก็บที่คุณ โจ มณฑานี เป็นลูกพี่ใหญ่ของนางครับ ด้วยความเคารพรักครับพี่เด #ทนายจุ๊กกรู #ทนายคนดัง #ทนายของแทร่ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1710 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚖ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ประกาศตั้งแต่เดือนมิถุนายนรับดำเนินการผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีน
    🚩สามารถติดต่ออีเมลของท่านนายกสภาได้
    wichien@calelegal.com

    ฝ่ายช่วยเหลือ ทางกฎหมาย
    legalaid.lct@gmail.com

    เมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ และทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ในการดำเนินคดีทางการแพทย์ จำนวน 8 คน
    ร่วมรับฟังข้อร้องเรียนของคณะแพทย์ นำโดย นายแพทย์ อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง (แพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์) พร้อมด้วยกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ จำนวน 12 คน
    ซึ่งมีความประสงค์ให้สภาทนายความ ดำเนินคดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ เกี่ยวกับการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด- 19 จนเป็นเหตุให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต้องเสียชีวิต พิการ และเจ็บป่วยจำนวนมาก
    เพราะวัคซีนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศนั้น น่าจะเป็นสาเหตุให้คนที่ได้รับวัคซีนเสียชีวิต พิการ เจ็บป่วย จำนวนมาก เนื่องจากบริษัทผลิตวัคซีนดังกล่าว มีนัยสำคัญเพื่อทางการค้ามากกว่าการรักษาชีวิตของประชาชน
    ขณะนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากต้องการให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสภาทนายความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ดังนั้น ประชาชนที่รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19 สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความได้โดยการแจ้งหรือให้มาพบทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ดำเนินคดีทางการแพทย์ ณ ที่ทำการสภาทนายความ เลขที่ 249 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-522-7124 -28 ต่อ 135 หรือ อีเมล president@lawyerscouncil.or.th
    ⚖ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ประกาศตั้งแต่เดือนมิถุนายนรับดำเนินการผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีน 🚩สามารถติดต่ออีเมลของท่านนายกสภาได้ wichien@calelegal.com ฝ่ายช่วยเหลือ ทางกฎหมาย legalaid.lct@gmail.com เมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ และทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ในการดำเนินคดีทางการแพทย์ จำนวน 8 คน ร่วมรับฟังข้อร้องเรียนของคณะแพทย์ นำโดย นายแพทย์ อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง (แพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์) พร้อมด้วยกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ จำนวน 12 คน ซึ่งมีความประสงค์ให้สภาทนายความ ดำเนินคดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ เกี่ยวกับการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด- 19 จนเป็นเหตุให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต้องเสียชีวิต พิการ และเจ็บป่วยจำนวนมาก เพราะวัคซีนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศนั้น น่าจะเป็นสาเหตุให้คนที่ได้รับวัคซีนเสียชีวิต พิการ เจ็บป่วย จำนวนมาก เนื่องจากบริษัทผลิตวัคซีนดังกล่าว มีนัยสำคัญเพื่อทางการค้ามากกว่าการรักษาชีวิตของประชาชน ขณะนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากต้องการให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสภาทนายความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ดังนั้น ประชาชนที่รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19 สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความได้โดยการแจ้งหรือให้มาพบทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ดำเนินคดีทางการแพทย์ ณ ที่ทำการสภาทนายความ เลขที่ 249 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-522-7124 -28 ต่อ 135 หรือ อีเมล president@lawyerscouncil.or.th
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 575 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📢📢 ผู้บาดเจ็บญาติผู้เสียชีวิตผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนท่านใดตัดสินใจฟ้องร้องแน่นอน เข้ากลุ่มได้เลยนะครับ https://line.me/R/ti/g/UxgWe5fePI
    คดีตัวอย่างในต่างประเทศได้รับค่าชดเชยมากมายเกิดขึ้นแล้ว ท่านจะเป็นคดีตัวอย่างช่วยปลุกคนไทย
    #ร่วมด้วยช่วยกันแชร์ครับ

    ⚖ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ประกาศรับดำเนินการทางกฎหมายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีน
    🚩สามารถติดต่ออีเมลของท่านนายกสภาได้
    wichien@calelegal.com

    ฝ่ายช่วยเหลือ ทางกฎหมาย
    legalaid.lct@gmail.com

    ติดต่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความได้โดยการแจ้งหรือให้มาพบทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ดำเนินคดีทางการแพทย์ ณ ที่ทำการสภาทนายความ เลขที่ 249 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-522-7124 -28 ต่อ 135 หรือ อีเมล president@lawyerscouncil.or.th
    📢📢 ผู้บาดเจ็บญาติผู้เสียชีวิตผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนท่านใดตัดสินใจฟ้องร้องแน่นอน เข้ากลุ่มได้เลยนะครับ https://line.me/R/ti/g/UxgWe5fePI คดีตัวอย่างในต่างประเทศได้รับค่าชดเชยมากมายเกิดขึ้นแล้ว ท่านจะเป็นคดีตัวอย่างช่วยปลุกคนไทย #ร่วมด้วยช่วยกันแชร์ครับ ⚖ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ประกาศรับดำเนินการทางกฎหมายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีน 🚩สามารถติดต่ออีเมลของท่านนายกสภาได้ wichien@calelegal.com ฝ่ายช่วยเหลือ ทางกฎหมาย legalaid.lct@gmail.com ติดต่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความได้โดยการแจ้งหรือให้มาพบทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ดำเนินคดีทางการแพทย์ ณ ที่ทำการสภาทนายความ เลขที่ 249 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-522-7124 -28 ต่อ 135 หรือ อีเมล president@lawyerscouncil.or.th
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 533 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇹🇭62.วันที่ 23 ก.พ. 2567
    รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิเปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน
    https://fb.watch/qpJFWeLSO0/?
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172
    🇹🇭63.วันที่ 24 ก.พ.2567 CMUL Live สด อ.ทีน่า อ.เกรซ ครูหนึ่ง จาก สถาบัน CMUL สัมภาษณ์อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://fb.watch/qHUSo1JsoU/?
    🇹🇭64.วันที่ 29 ก.พ. 2567 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เปิด 7 ประเด็นสำคัญในผลกระทบจากวัคซีน อันตรายและอำมหิตกว่าที่คิด!!
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/934445731382461/?
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5093
    🇹🇭65.วันที่ 1 มี.ค. 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือที่แพทยสภาขอทวงถามการสอบสวนจรรยาบรรณปลัดกระทรวงสาธารณสุข
    ในกรณีให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอม
    โดยเสนอต่อนายกแพทยสภา พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ และเลขาธิการแพทยสภา พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ
    รับเรื่องร้องเรียนโดย นักกฎหมาย ๒คน นาย พชร ศรีพน,นาย เชิดธวัช ชัยปัน ซึ่งจะนำไปดำเนินการตามขั้นตอน
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5040
    🇹🇭66.วันที่ 3 มี.ค. 2567 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เผยข้อมูลผลชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343
    🇹🇭67.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึก ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy)
    เรียน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว,ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช,อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร
    https://www.facebook.com/share/p/KeWvtFzf97iegnXt/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5060
    🇹🇭68.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
    ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ
    เรื่อง ขอให้ดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดตามมาตรา ๑๔ (๑) (๒) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พุทธศักราช ๒๕๕๐
    สิ่งที่ส่งมาด้วย
    ๑. เมื่อศูนย์ต้านข่าวปลอมปล่อยข่าวปลอมซะเอง
    https://drive.google.com/file/d/1i9sbg-QYtz6FThsC6fF3I11cZAGEob4a/view?usp=drivesdk
    ๒. จดหมายเปิดผนึกถึงกรมควบคุมโรค
    https://drive.google.com/file/d/1XH99tQSkWEYfNzkndd2F641pTSyGZEVW/view?usp=drivesdk
    ภาพหน้าจอของลิงก์ https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=24829
    บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๕๖ น.
    ภาพหน้าจอของลิงก์ “ข่าวปลอม อย่าแชร์! อย. แพ้คดี หลังไฟเซอร์ถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน” บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๔๓ น.
    https://www.facebook.com/share/p/gRACNPyjcYW2L2cF/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5058
    🇹🇭69.วันที่ 4 มี.ค. 2567 คุยกับอ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    CDC Webinar Live Talk หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine
    https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html
    🇹🇭70.วันที่ 8 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการแพทยสภา นพ.อิทธิพร คณะเจริญ
    ขอข้อมูลข่าวสารผลพิจารณา, ความเห็นแย้งและคำสั่งที่เกี่ยวข้องในการลงมติของคณะกรรมการแพทยสภา
    กรณีร้องเรียนแพทยสภา ให้ตรวจสอบจรรยาบรรณทางการแพทย์กับปลัดกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารระดับสูง
    ที่รณรงค์ให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก แต่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอมฉีดวัคซีน
    แต่ทางมติแพทยสภาไม่สามารถรับคำร้องไว้พิจารณาได้
    https://www.facebook.com/share/p/P96Z7cAkerZWkSnr/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5140
    🇹🇭71.วันที่ 9 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ให้อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง เรียบร้อย (จนท.ขอไม่ให้ถ่ายภาพตอนยื่น) ลงวันที่ 9/3/67เรื่อง ขอให้ทบทวนยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง และทั่วไป
    เรียน ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5202
    🇹🇭72.วันที่ 11 มี.ค. 2567 นายสมัครสุนทรเวช ปรีชาชัยวัฒน์ ยื่นหนังสือ ขอให้ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ชี้แจงข้อคำถามต่อไปนี้กับสังคม
    เรียน ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย/นายกสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
    นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา
    สำเนาเรียน อุปนายกคนที่ ๑ นายยง ภู่วรวรรณ
    เลขาธิการ ศาสตราจารย์นายแพทย์วิฐารณ บุญสิทธิ
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5204
    https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=13&direction=a
    🇹🇭73.วันที่ 12 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมของบุคลากรในสังกัด
    ว่าการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบ จากวัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty)
    https://www.facebook.com/share/p/YW3rYQBZAr4cw6iE/?mibextid=xfxF2i
    เรียน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์
    https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=15&direction=
    🇹🇭74.วันที่ 14 มี.ค.2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดของท่าน ระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA
    เรื่อง ขอให้แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA ให้กับเด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไปในจังหวัดของท่าน
    เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย สำเนาเรียน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,ศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,นายอำเภอทุกอำเภอในประเทศไทย
    https://www.facebook.com/share/p/B56DSSQvcwuQR27C/?mibextid=A7sQZp
    ลิงค์เอกสารที่ส่งมาด้วย
    ๑. https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk
    ๒. https://drive.google.com/file/d/13c5JdUlMtDcgySLZcJza-B9-Ggz7O631/view?usp=drivesdk
    ๓. https://drive.google.com/file/d/1yRQbr1wo8rKGHuZ-aVcbkJ6HIAj7FFG8/view?usp=drivesdk
    ๔. https://drive.google.com/file/d/1ylQPQt7tqlMRxy9Vw7LDR37mFshpr8uQ/view?usp =drivesdk
    ๕. https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp =drivesdk
    ๖. https://drive.google.com/file/d/1IY7VTDFMvnHpdBwfjH4f-1CVTnSnomzq/view?usp =drivesdk
    🇹🇭75.วันที่ 17 มีนาคม 2567 ที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้เปิดเผยความจริงจากแท่ง มหัศจรรย์นวัตกรรมสูงสุดก่อให้เกิดความเจ็บป่วยและเสียชีวิต ตอบทุกประเด็นที่มีการโต้แย้งหรือบิดเบือนกลบเกลื่อนความจริงทั้งหมดก่อนหน้านี้ ในงาน ”ความจริงมีหนึ่งเดียว“
    และผู้คนที่ออกมาต่อต้านควรจะได้รับการเปิดเผยว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างใดกับธุรกิจข้ามชาติ ตั้งแต่การ ได้รับทุนจากต่างประเทศ (ข้อมูลมีชัดเจน)
    สร้างความจริงเป็นเท็จ โดย ทั้งๆที่ไวรัสเป็นสิ่งประดิษฐ์หลุดออกมา
    และปัจจุบัน ยังหาไวรัสที่ใกล้ตัวร้ายแรงที่เคยระบาด ทั้งโควิด อีโบลา นิปาห์
    มาถอดรหัสพันธุกรรม และเพื่อสร้างไวรัสใหม่ในห้องทดลอง ที่ร้ายแรงกว่าเก่า เพื่อทำ ผลิตภัณฑ์ป้องกันและรักษา ด้วยนวัตกรรมเลื้อยดุ ขายต่อไม่จบไม่สิ้น ต่อยอดไปเรื่อยๆ
    รวยบนซากศพ ชีวิตและน้ำตา
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=809100071258309&id=100064749694453
    🇹🇭76.วันที่ 20 มีนาคม 2567 กลุ่มฯทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่
    https://www.facebook.com/share/p/R8VqhhGLe7Vi2DoS/?mibextid=A7sQZp
    🇹🇭77.วันที่ 26 มีนาคม 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือถึงประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่ง
    ประเทศไทย ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ เรื่อง ขอให้ประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย
    ทบทวนการฉีดวัคซีน mRNA ในสตรีมีครรภ์
    https://www.facebook.com/share/p/WUvcdygvepHAxDrZ/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5358
    🇹🇭78.วันที่ 27 มีนาคม 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกสภาเภสัชกรรม รศ.(พิเศษ) เภสัชกร กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ ขอให้ควบคุมดูแลให้เภสัชกรปฎิบิติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเภสัชกรรม ในกรณีของวัคซีน mRNA
    https://www.facebook.com/share/p/VgRv8wCW9BMVt3Js/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5379
    🇹🇭79.วันที่ 17 เมษายน 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกแพทยสภา ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ขอให้นายกแพทยสภาดำเนินการสอบสวนจริยธรรม น.พ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
    https://www.facebook.com/share/p/aCwfr47a3tHBkbuk/?mibextid=A7sQZp
    ตามที่กรมควบคุมโรคโดย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้ออก “แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 (ไฟเซอร์ฝาสีส้มสูตรสำหรับเด็ก) สำหรับเด็กอายุ 5-11ปี” นั้น
    ( https://ddc.moph.go.th/vaccine-covid19/getFiles/11/1645689088942.pdf )
    ข้อบังคับแพทยสภา​ พ.ศ.2563
    https://www.tmc.or.th/download/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%202563.PDF
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5528
    🇹🇭80.วันที่ 25 เมษายน 2567 รายการ สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 พูดคุยกับ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรุดตัวไว?
    [https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x](https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x)
    🇹🇭81.วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพจัดเสวนาครั้งที่ 2 แฉความจริง*อันตรายจากวัคซีนCovid-19 ร้ายแรงกว่าที่คิด ณ หอศิลป์ฯ กทม. โดยมีวิทยากรรับเชิญ อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.สุภาพร มีลาภ นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา คลิปไลฟ์4 ชม.เต็มถูกแบนทุกช่องทางต้องตามไปเทเลแกรมครับ [https://t.me/goodthaidoctorclip/1399](https://t.me/goodthaidoctorclip/1399) [https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647](https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647) [https://t.me/ThaiPitaksithData/5579](https://t.me/ThaiPitaksithData/5579)
    🇹🇭82.วันที่ 4 พฤษภาคม 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ร่วมกันนำฎีกาและรายชื่อประชาชนผู้ร่วมลงนามจำนวนร่วม ๑,๕๐๐ คน ยื่นให้กับ ผู้แทนสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สถาบันดำรงราชานุภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพึ่งพระบารมี ในการจัดให้มีเวทีสาธารณะรับฟังความเดือนร้อนของพสกนิกรเกี่ยวกับปัญหาจากผลกระทบของวัคซีนโควิด ฎีกาที่กราบบังคมทูล
    [https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu](https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu)
    [https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg](https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg)
    🇹🇭83.วันที่ 6 พ.ค.2567 รายการปากซอย105 เปิดโปง ขบวนการโควิด 19 กับไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตรายจากพิษของวัคซีน สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โดย คุณวาสนพงศ์ วิชัยยะ ติดตามฟังได้ที่ FB,YT,TT 105smilethailand หรือ 105mhz
    https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g
    🇹🇭84.วันที่ 24 พ.ค.2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ร่วมประชุมสภาทนายความ ตอนบ่าย ไปทำเนียบรัฐบาล ยื่นค้านwho และไปรัฐสภาในโอกาสต่อไป
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7531694456949258&id=100003263348565
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7535672753182589&id=100002198164704
    https://mgronline.com/crime/photo-gallery/9670000044933?fbclid=IwY2xjawC_U5RleHRuA2FlbQIxMQABHUz8F-utRjLEufLzGYWsV7sN98bG0g78Psib91ZaadfaoEvffsoz1tLqKA_aem_ATUQHMX3GIFwGyexSg6SGw_xxNJIZvmoOoUKM88jenPe7LvAYyRUuR7L0Mg7zICDnwEBBAGT8ZeAOzm9kCIh9qd4
    🇹🇭85.วันที่ 30 พ.ค.2567 รายการสภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 สัมภาษณ์คุณอดิเทพ จาวลาห์ นักวิชาการอิสระ หัวข้อ “โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก!”
    เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก) https://youtu.be/Cvml6w6c5WI? si=UL81i3lAOVL9872W
    https://www.rookon.com/?p=1176 หมอดื้อแฉ https://mgronline.com/qol/detail/9670000045489 วันที่ 1 มิ.ย.2567 การประชุมสมัชชาอนามัยโลกได้สิ้นสุดลงแล้ว สรุปการเปลี่ยนแปลง IHR และ Pandemic Treaty https://www.rookon.com/?p=1180
    🇹🇭86.วันที่ 1 มิ.ย.2567 ประชาชนที่รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19สามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสภาทนายความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ดังนั้น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความได้โดยการแจ้งหรือให้มาพบทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ดำเนินคดีทางการแพทย์ ณ ที่ทำการสภาทนายความ เลขที่ 249 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-522-7124 -28 ต่อ 135 หรืออีเมล president@lawyerscouncil.or.th
    https://www.facebook.com/share/p/dtVBu5V6cvyC3kuc/?mibextid=WaXdOe
    🇹🇭87.วันที่ 4 มิ.ย. 2567 หลักฐาน เฟาซี ถูกสอบสวนที่รัฐสภา พูดว่า ต้องทำให้ประชาชนดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบากถ้าไม่ฉีดวัคซีน Making life difficult for unvaccinated ต้องจัดการประชาชนที่มีอุดมการณ์ขี้หมาออกไป Ideological bullshit
    https://youtu.be/b9MRAtY1zpM?si=Id3YmJDIxAW1P_RR
    🇹🇭88.วันที่ 5 มิ.ย. 2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธ์ ยื่นเรื่อง ที่รัฐสภา ขอให้สอบสวนกรณีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้บริษัทยาในการแก้ปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19
    ทั้งนี้จะมีการส่งเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสอบสวนร่วมกับกระทรวงยุติธรรม
    https://www.facebook.com/share/p/RpqysNHgAzmKqt35/?mibextid=A7sQZp
    🇹🇭89.วันที่ 5 มิ.ย.2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ พร้อมด้วย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์
    ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย
    ร่วมแถลงเรียกร้องให้สภาทนายความดำเนินคดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะเกี่ยวกับการอนุญาตผลิตยาในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนเป็นเหตุให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้รับผลกระทบเสียชีวิตพิการและเจ็บป่วยจำนวนมาก
    https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html
    🇹🇭90.วันที่ 19 มิ.ย.2567 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา และ นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่รัฐสภา ยื่นหนังสือที่ทางกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ผู้ป่วย และญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนป้องกันโควิด รวมทั้ง เครือข่ายพันธมิตร เช่น สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย,ตัวแทน สภาทนายความแห่งประเทศไทย ,ตัวแทน สมาคมแพทย์ทางร่วมนานาชาติ ,สมาคมแพทย์แผนไทย ส่งให้ทางรัฐมนตรีว่าการสธ. และขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทวัคซีน
    https://www.hfocus.org/content/2024/06/30839
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/466060772776252/?
    🇹🇭91.วันที่ 5 ก.ค.2567 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 สัมภาษณ์ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และคุณประสิทธิชัย หนูนวล หัวข้อ ฟังความเป็นจริงของสถานการณ์ กัญชา และ ระบบทรราชทางการแพทย์ (Medical Tyranny)
    https://www.youtube.com/live/kBdl3ud3RDE
    🇹🇭62.วันที่ 23 ก.พ. 2567 รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิเปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน https://fb.watch/qpJFWeLSO0/? https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172 🇹🇭63.วันที่ 24 ก.พ.2567 CMUL Live สด อ.ทีน่า อ.เกรซ ครูหนึ่ง จาก สถาบัน CMUL สัมภาษณ์อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://fb.watch/qHUSo1JsoU/? 🇹🇭64.วันที่ 29 ก.พ. 2567 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เปิด 7 ประเด็นสำคัญในผลกระทบจากวัคซีน อันตรายและอำมหิตกว่าที่คิด!! https://www.facebook.com/100044511276276/posts/934445731382461/? https://t.me/ThaiPitaksithData/5093 🇹🇭65.วันที่ 1 มี.ค. 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือที่แพทยสภาขอทวงถามการสอบสวนจรรยาบรรณปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในกรณีให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอม โดยเสนอต่อนายกแพทยสภา พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ และเลขาธิการแพทยสภา พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ รับเรื่องร้องเรียนโดย นักกฎหมาย ๒คน นาย พชร ศรีพน,นาย เชิดธวัช ชัยปัน ซึ่งจะนำไปดำเนินการตามขั้นตอน https://t.me/ThaiPitaksithData/5040 🇹🇭66.วันที่ 3 มี.ค. 2567 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เผยข้อมูลผลชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343 🇹🇭67.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึก ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy) เรียน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว,ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช,อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร https://www.facebook.com/share/p/KeWvtFzf97iegnXt/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5060 🇹🇭68.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ เรื่อง ขอให้ดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดตามมาตรา ๑๔ (๑) (๒) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พุทธศักราช ๒๕๕๐ สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. เมื่อศูนย์ต้านข่าวปลอมปล่อยข่าวปลอมซะเอง https://drive.google.com/file/d/1i9sbg-QYtz6FThsC6fF3I11cZAGEob4a/view?usp=drivesdk ๒. จดหมายเปิดผนึกถึงกรมควบคุมโรค https://drive.google.com/file/d/1XH99tQSkWEYfNzkndd2F641pTSyGZEVW/view?usp=drivesdk ภาพหน้าจอของลิงก์ https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=24829 บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๕๖ น. ภาพหน้าจอของลิงก์ “ข่าวปลอม อย่าแชร์! อย. แพ้คดี หลังไฟเซอร์ถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน” บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๔๓ น. https://www.facebook.com/share/p/gRACNPyjcYW2L2cF/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5058 🇹🇭69.วันที่ 4 มี.ค. 2567 คุยกับอ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง CDC Webinar Live Talk หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html 🇹🇭70.วันที่ 8 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการแพทยสภา นพ.อิทธิพร คณะเจริญ ขอข้อมูลข่าวสารผลพิจารณา, ความเห็นแย้งและคำสั่งที่เกี่ยวข้องในการลงมติของคณะกรรมการแพทยสภา กรณีร้องเรียนแพทยสภา ให้ตรวจสอบจรรยาบรรณทางการแพทย์กับปลัดกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารระดับสูง ที่รณรงค์ให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก แต่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอมฉีดวัคซีน แต่ทางมติแพทยสภาไม่สามารถรับคำร้องไว้พิจารณาได้ https://www.facebook.com/share/p/P96Z7cAkerZWkSnr/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5140 🇹🇭71.วันที่ 9 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ให้อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง เรียบร้อย (จนท.ขอไม่ให้ถ่ายภาพตอนยื่น) ลงวันที่ 9/3/67เรื่อง ขอให้ทบทวนยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง และทั่วไป เรียน ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง https://t.me/ThaiPitaksithData/5202 🇹🇭72.วันที่ 11 มี.ค. 2567 นายสมัครสุนทรเวช ปรีชาชัยวัฒน์ ยื่นหนังสือ ขอให้ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ชี้แจงข้อคำถามต่อไปนี้กับสังคม เรียน ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย/นายกสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา สำเนาเรียน อุปนายกคนที่ ๑ นายยง ภู่วรวรรณ เลขาธิการ ศาสตราจารย์นายแพทย์วิฐารณ บุญสิทธิ https://t.me/ThaiPitaksithData/5204 https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=13&direction=a 🇹🇭73.วันที่ 12 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมของบุคลากรในสังกัด ว่าการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบ จากวัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty) https://www.facebook.com/share/p/YW3rYQBZAr4cw6iE/?mibextid=xfxF2i เรียน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=15&direction= 🇹🇭74.วันที่ 14 มี.ค.2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดของท่าน ระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA เรื่อง ขอให้แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA ให้กับเด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไปในจังหวัดของท่าน เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย สำเนาเรียน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,ศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,นายอำเภอทุกอำเภอในประเทศไทย https://www.facebook.com/share/p/B56DSSQvcwuQR27C/?mibextid=A7sQZp ลิงค์เอกสารที่ส่งมาด้วย ๑. https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk ๒. https://drive.google.com/file/d/13c5JdUlMtDcgySLZcJza-B9-Ggz7O631/view?usp=drivesdk ๓. https://drive.google.com/file/d/1yRQbr1wo8rKGHuZ-aVcbkJ6HIAj7FFG8/view?usp=drivesdk ๔. https://drive.google.com/file/d/1ylQPQt7tqlMRxy9Vw7LDR37mFshpr8uQ/view?usp =drivesdk ๕. https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp =drivesdk ๖. https://drive.google.com/file/d/1IY7VTDFMvnHpdBwfjH4f-1CVTnSnomzq/view?usp =drivesdk 🇹🇭75.วันที่ 17 มีนาคม 2567 ที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้เปิดเผยความจริงจากแท่ง มหัศจรรย์นวัตกรรมสูงสุดก่อให้เกิดความเจ็บป่วยและเสียชีวิต ตอบทุกประเด็นที่มีการโต้แย้งหรือบิดเบือนกลบเกลื่อนความจริงทั้งหมดก่อนหน้านี้ ในงาน ”ความจริงมีหนึ่งเดียว“ และผู้คนที่ออกมาต่อต้านควรจะได้รับการเปิดเผยว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างใดกับธุรกิจข้ามชาติ ตั้งแต่การ ได้รับทุนจากต่างประเทศ (ข้อมูลมีชัดเจน) สร้างความจริงเป็นเท็จ โดย ทั้งๆที่ไวรัสเป็นสิ่งประดิษฐ์หลุดออกมา และปัจจุบัน ยังหาไวรัสที่ใกล้ตัวร้ายแรงที่เคยระบาด ทั้งโควิด อีโบลา นิปาห์ มาถอดรหัสพันธุกรรม และเพื่อสร้างไวรัสใหม่ในห้องทดลอง ที่ร้ายแรงกว่าเก่า เพื่อทำ ผลิตภัณฑ์ป้องกันและรักษา ด้วยนวัตกรรมเลื้อยดุ ขายต่อไม่จบไม่สิ้น ต่อยอดไปเรื่อยๆ รวยบนซากศพ ชีวิตและน้ำตา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=809100071258309&id=100064749694453 🇹🇭76.วันที่ 20 มีนาคม 2567 กลุ่มฯทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ https://www.facebook.com/share/p/R8VqhhGLe7Vi2DoS/?mibextid=A7sQZp 🇹🇭77.วันที่ 26 มีนาคม 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือถึงประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่ง ประเทศไทย ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ เรื่อง ขอให้ประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ทบทวนการฉีดวัคซีน mRNA ในสตรีมีครรภ์ https://www.facebook.com/share/p/WUvcdygvepHAxDrZ/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5358 🇹🇭78.วันที่ 27 มีนาคม 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกสภาเภสัชกรรม รศ.(พิเศษ) เภสัชกร กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ ขอให้ควบคุมดูแลให้เภสัชกรปฎิบิติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเภสัชกรรม ในกรณีของวัคซีน mRNA https://www.facebook.com/share/p/VgRv8wCW9BMVt3Js/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5379 🇹🇭79.วันที่ 17 เมษายน 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกแพทยสภา ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ขอให้นายกแพทยสภาดำเนินการสอบสวนจริยธรรม น.พ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://www.facebook.com/share/p/aCwfr47a3tHBkbuk/?mibextid=A7sQZp ตามที่กรมควบคุมโรคโดย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้ออก “แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 (ไฟเซอร์ฝาสีส้มสูตรสำหรับเด็ก) สำหรับเด็กอายุ 5-11ปี” นั้น ( https://ddc.moph.go.th/vaccine-covid19/getFiles/11/1645689088942.pdf ) ข้อบังคับแพทยสภา​ พ.ศ.2563 https://www.tmc.or.th/download/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%202563.PDF https://t.me/ThaiPitaksithData/5528 🇹🇭80.วันที่ 25 เมษายน 2567 รายการ สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 พูดคุยกับ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรุดตัวไว? [https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x](https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x) 🇹🇭81.วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพจัดเสวนาครั้งที่ 2 แฉความจริง*อันตรายจากวัคซีนCovid-19 ร้ายแรงกว่าที่คิด ณ หอศิลป์ฯ กทม. โดยมีวิทยากรรับเชิญ อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.สุภาพร มีลาภ นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา คลิปไลฟ์4 ชม.เต็มถูกแบนทุกช่องทางต้องตามไปเทเลแกรมครับ [https://t.me/goodthaidoctorclip/1399](https://t.me/goodthaidoctorclip/1399) [https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647](https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647) [https://t.me/ThaiPitaksithData/5579](https://t.me/ThaiPitaksithData/5579) 🇹🇭82.วันที่ 4 พฤษภาคม 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ร่วมกันนำฎีกาและรายชื่อประชาชนผู้ร่วมลงนามจำนวนร่วม ๑,๕๐๐ คน ยื่นให้กับ ผู้แทนสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สถาบันดำรงราชานุภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพึ่งพระบารมี ในการจัดให้มีเวทีสาธารณะรับฟังความเดือนร้อนของพสกนิกรเกี่ยวกับปัญหาจากผลกระทบของวัคซีนโควิด ฎีกาที่กราบบังคมทูล [https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu](https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu) [https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg](https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg) 🇹🇭83.วันที่ 6 พ.ค.2567 รายการปากซอย105 เปิดโปง ขบวนการโควิด 19 กับไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตรายจากพิษของวัคซีน สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โดย คุณวาสนพงศ์ วิชัยยะ ติดตามฟังได้ที่ FB,YT,TT 105smilethailand หรือ 105mhz https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g 🇹🇭84.วันที่ 24 พ.ค.2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ร่วมประชุมสภาทนายความ ตอนบ่าย ไปทำเนียบรัฐบาล ยื่นค้านwho และไปรัฐสภาในโอกาสต่อไป https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7531694456949258&id=100003263348565 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7535672753182589&id=100002198164704 https://mgronline.com/crime/photo-gallery/9670000044933?fbclid=IwY2xjawC_U5RleHRuA2FlbQIxMQABHUz8F-utRjLEufLzGYWsV7sN98bG0g78Psib91ZaadfaoEvffsoz1tLqKA_aem_ATUQHMX3GIFwGyexSg6SGw_xxNJIZvmoOoUKM88jenPe7LvAYyRUuR7L0Mg7zICDnwEBBAGT8ZeAOzm9kCIh9qd4 🇹🇭85.วันที่ 30 พ.ค.2567 รายการสภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 สัมภาษณ์คุณอดิเทพ จาวลาห์ นักวิชาการอิสระ หัวข้อ “โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก!” เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก) https://youtu.be/Cvml6w6c5WI? si=UL81i3lAOVL9872W https://www.rookon.com/?p=1176 หมอดื้อแฉ https://mgronline.com/qol/detail/9670000045489 วันที่ 1 มิ.ย.2567 การประชุมสมัชชาอนามัยโลกได้สิ้นสุดลงแล้ว สรุปการเปลี่ยนแปลง IHR และ Pandemic Treaty https://www.rookon.com/?p=1180 🇹🇭86.วันที่ 1 มิ.ย.2567 ประชาชนที่รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19สามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสภาทนายความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ดังนั้น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความได้โดยการแจ้งหรือให้มาพบทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ดำเนินคดีทางการแพทย์ ณ ที่ทำการสภาทนายความ เลขที่ 249 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-522-7124 -28 ต่อ 135 หรืออีเมล president@lawyerscouncil.or.th https://www.facebook.com/share/p/dtVBu5V6cvyC3kuc/?mibextid=WaXdOe 🇹🇭87.วันที่ 4 มิ.ย. 2567 หลักฐาน เฟาซี ถูกสอบสวนที่รัฐสภา พูดว่า ต้องทำให้ประชาชนดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบากถ้าไม่ฉีดวัคซีน Making life difficult for unvaccinated ต้องจัดการประชาชนที่มีอุดมการณ์ขี้หมาออกไป Ideological bullshit https://youtu.be/b9MRAtY1zpM?si=Id3YmJDIxAW1P_RR 🇹🇭88.วันที่ 5 มิ.ย. 2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธ์ ยื่นเรื่อง ที่รัฐสภา ขอให้สอบสวนกรณีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้บริษัทยาในการแก้ปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19 ทั้งนี้จะมีการส่งเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสอบสวนร่วมกับกระทรวงยุติธรรม https://www.facebook.com/share/p/RpqysNHgAzmKqt35/?mibextid=A7sQZp 🇹🇭89.วันที่ 5 มิ.ย.2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ พร้อมด้วย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ร่วมแถลงเรียกร้องให้สภาทนายความดำเนินคดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะเกี่ยวกับการอนุญาตผลิตยาในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนเป็นเหตุให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้รับผลกระทบเสียชีวิตพิการและเจ็บป่วยจำนวนมาก https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html 🇹🇭90.วันที่ 19 มิ.ย.2567 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา และ นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่รัฐสภา ยื่นหนังสือที่ทางกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ผู้ป่วย และญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนป้องกันโควิด รวมทั้ง เครือข่ายพันธมิตร เช่น สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย,ตัวแทน สภาทนายความแห่งประเทศไทย ,ตัวแทน สมาคมแพทย์ทางร่วมนานาชาติ ,สมาคมแพทย์แผนไทย ส่งให้ทางรัฐมนตรีว่าการสธ. และขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทวัคซีน https://www.hfocus.org/content/2024/06/30839 https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/466060772776252/? 🇹🇭91.วันที่ 5 ก.ค.2567 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 สัมภาษณ์ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และคุณประสิทธิชัย หนูนวล หัวข้อ ฟังความเป็นจริงของสถานการณ์ กัญชา และ ระบบทรราชทางการแพทย์ (Medical Tyranny) https://www.youtube.com/live/kBdl3ud3RDE
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4365 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts