• ร้านอาหาร(ลับ)แสนอร่อย ราคานักศึกษาใต้หอพัก ใน ม.เชียงใหม่

    บ้านฉัน ที่ ม.วิลล่าผาพิง ติดรั้ว ม.เชียงใหม่
    ไม่ค่อยได้ทำอาหาร และ ไม่ค่อยได้ไปไหน
    ส่วนมากนำปิ่นโตเข้าไปซื้ออาหาร กินเอง+รับรองแขก
    ใน ม.ช. สะอาด อร่อย และมีราคาถูก

    1. ร้านลุงพันธ์อาหารตามสั่ง ใต้หอ 6 ชาย เช้า-3ทุ่ม
    มีทุกอย่าง อาหารฝาหรั่ง และมังสวิรัติ(เจ) อร่อยทุกอย่าง
    เพราะลุงพันธ์ เคยเป็นเชฟใหญ่จากโรงแรมชื่อดัง
    ฉันกินทุกวันร้านนี้ แหละ เพราะ กินมังสวิรัติ..ตั้งแต่เกิด
    https://www.facebook.com/watch/?v=368479173823316
    ข้างๆมีร้านข้าวมันไก่ หอ6 ก็อร่อย เด็กมากินกันเยอะ

    2. ก๋วยเตี๋ยวต้มยำป้า-นภา หอชาย 3 มช. เชียงใหม่
    หอม อร่อย และ ให้เยอะ ใครมาบ้านได้กินกันทุกคน
    https://www.youtube.com/watch?v=kYTfNGOmQGw

    3. ร้านข้าวมันไก่สังคม ไก่ทอดสังคม..อร่อยที่สุด
    โรงอาหารคณะสังคมศาสตร์(หลังสหกรณ์ มช.)
    เด็ดที่ ข้าวมันไก่ ข้าวยำไก่แซ่บ

    4. ร้านซาลาเปา "ชิดบุรี" ซาลาเปาคัสตาร์ดไข่
    ส.ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลอย ลูกชิ้นปลาระเบิด
    ที่ โรงอาหาร BIO ด้านหลังภาควิชาชีววิทยา

    5. ร้านมาลาอาหารไทย ข้าวราดแกง+ขนมจีนน้ำเงี้ยว
    โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์

    6. ร้านข้าวแกง ที่ โรงอาหาร อมช. อร่อยทุกร้าน
    มีร้านขนมหวานสุโขทัย + ผลไม้สด
    อยู่ตรงข้ามหอ2หญิง+ตรงข้ามหอ3หญิง
    ที่นี่..เป็นศูนย์กลางของม.เชียงใหม่ เพราะมีทางเชื่อมไป
    อาคารเรียนรวม RB-3 และ RB-5 +ใกล้สถานีกลาง T1
    (เปิด ตี3-4โมงเย็น)

    7. โรงอาหาร หอ40ปี
    วันธรรมดา-2ทุ่ม, เสาร์-อาทิตย์ เปิดถึงบ่าย3
    ***ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่30
    -ร้านข้าวราดแกงฝายหิน ก๋วยเตี๋ยวคั่วหมู ราดซอสพริก 30
    ร้านจานเดียว(ตามสั่ง) ฉู่ฉี่ไข่ดาว40 ผัดไทย40 ราดหน้า35 ผัดมาม่า35 โกโก้ปั่น30

    8. หอแพทย์สวนดอก มีอาหารอิสลาม โรตี พาสต้า สปาเกตตี้

    9. หอหญิง 1 ฉู่ฉี่ไข่เจียว, ข้าวคลุกกระเพราหมู

    10. หอหญิง 2
    -ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูทรงเครื่อง เตี๋ยวหมูน้ำใส30 ต้มยำ30
    เตี๋ยวหมูน้ำตกต้มยำ30 ต้มยำน่องไก่35 เกี๊ยวน้ำ เย็นตาโฟ35
    เตี๋ยวไก่ตุ๋น มาม่าต้มยำ บะหมี่เก๊ยว เกาเหลาต้มยำ35
    -ร้านน้ำปั่นป้าไหม
    -ร้านป้านาย ไก่ทอดยอดหญ้า45, ไก่ทอดซ๊อสมายองเนส35 หมูกรอบคั่วเกลือ

    11. กาดฝายหิน มีสารพัดร้านอร่อย เช่น ร้านส้มตำ ผัดไทย หมูจุ่ม ร้านสเต๊ก ร้านน้ำปั่น

    12. CMU FOOD Center ติดแอร์(ค่อนข้างแพง)
    จันทร์-ศุกร์ ปิด2ทุ่ม เสาร์-อาทิตย์ ปิดบ่าย3
    มี ร้านดังๆจากในห้าง มาเปิดใน มช. เช่น Dairy Queen,
    ชาตรามือ, Good All Day Japanese Steak Buffet,
    ร้านชาบู, ซูชิ, กาแฟอินทนิล, 7-11 ข้าวแกงป้าดัวสวนดอก
    ร้านนู๊ดเดิ้ลออฟเดอะเดย์ ไก่อบเทอริยากิ ที่ร้านขาหมูบางรัก
    บะหมี่ต้มยำกระดูกอ่อนเพิ่มไข่, ***ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลอย68 ที่ร้าน ส.ก๋วยเตี๋ยว.
    ร้านไอติมกะโหล้ง ไอติมกะทิสดในลูกมะพร้าว35.-
    อร่อยทุกอย่างจุกๆ กับ ร้านทิพยาข้าวราดแกง(ป้าเอ๋มนุษย์)
    ร้านราเม็ง Mommy Bento ทงคัทสึราเม็ง50, มิโซ๊ะราเม็ง
    ข้าวหน้าเนื้อสไตล์ญี่ปุ่น85 ข้าวหน้าหมูสไตล์ญี่ปุ่น45
    ข้าวแกงกะหรี่ไข่ข้น89
    ข้าวมันไก่ทอดซ๊อสชีส45 ข้าวมันไก่ทอด-บาร์บีคิว/สไปซี่45
    มาม่าผัดหม่าล่า59 ข้าวไก่ทอดไข่ข้น50 ขนมจีนน้ำเงี้ยว25
    ร้านครัวแก้ว เชียงใหม่(อร่อยทุกอย่าง) คั่วไก่ เย็นตาโฟ ผัดไทย เตี๋ยวหมูตุ๋น สุกี้ ข้าวซอย
    -ร้านสลัด Mini Salad Bar มีทุกอย่างที่หลากหลาย

    13. ก๊วยจั๊บรินลองกอย (หลัง ม.ช.)เปิด 6โมงเช้า-สายๆ
    ชามใหญ่ หน้าตาดี กรอบหอม+อร่อยสุด 40 บาท


    - ผลไม้(สด) ร้านรถเข็น-ป้าแจ๋ว(11.00-17.00น.)
    เป็นรถเข็นอยู่ใต้ร่มไม้ Acc-BAR และ สาขา2 คณะสังคม
    มีผลไม้สด เช่น แตงโม สับปะรด มะม่วง ฝรั่ง มะกอก

    - กาแฟ(สด)สังคม (8.00-16.00น. จันทร์-เสาร์)
    ที่ คณะสังคมศาสตร์ มช.
    มีทุกอย่างเหมือนร้านดัง แก้วใหญ่ ราคาเพียง 35 บาท

    - ร้านนมเกษต่ร ที่คณะเกษตร-คณะวิจิตรศิลป์
    (8.00-18.00น.) มี นมสด นมช๊อคโกแล๊ต วานิลา
    สตรอเบอร์รี่ และ รสชาเขียว ชานมไข่มุก Ice-Float
    ส่วนมาก..พาหลานๆไปกินไอติม Soft Serve40บาท

    - ร้าน ป้าน้องน้ำส้ม (หอประชุม มช. 9.00-17.00น.)
    สัมคั้น40.-ฝรั่งมะนาว40.- ธัญญพืขมะนาว40.-
    น้ำฝรั่ง30.- บ๊วย เก๊กฮวย มะตูม กระเจี๊ยบ เสาวรส ตะไคร้
    ธัญญพืช

    -เฉาก๊วยหอแพทย์(สวนดอก)จันทร์-เสาร์ 13.00-18.30
    มี ขนมจีบด้วย

    บ้านหลังนี้ ตามปกติใช้รับรองเพื่อนๆชาวต่างชาติ และ ปล่อยให้เช่า โดย Airbnb
    เพื่อนๆที่มาเที่ยวเมืองไทย ฉันจะให้พักที่บ้านหลังนี้(ฟรี)
    อีกหลัง..ท่าแพ ซอย4 ปล่อยเช่าผ่าน Airbnb เช่นกัน
    เลี้ยงอาหารทุกมื้อ(ฟรี) กินกันอร่อย..ไม่อั้น
    ให้เด็กหิ้วปินโต..ไปซื้อมา




    ร้านอาหาร(ลับ)แสนอร่อย ราคานักศึกษาใต้หอพัก ใน ม.เชียงใหม่ บ้านฉัน ที่ ม.วิลล่าผาพิง ติดรั้ว ม.เชียงใหม่ ไม่ค่อยได้ทำอาหาร และ ไม่ค่อยได้ไปไหน ส่วนมากนำปิ่นโตเข้าไปซื้ออาหาร กินเอง+รับรองแขก ใน ม.ช. สะอาด อร่อย และมีราคาถูก 1. ร้านลุงพันธ์อาหารตามสั่ง ใต้หอ 6 ชาย เช้า-3ทุ่ม มีทุกอย่าง อาหารฝาหรั่ง และมังสวิรัติ(เจ) อร่อยทุกอย่าง เพราะลุงพันธ์ เคยเป็นเชฟใหญ่จากโรงแรมชื่อดัง ฉันกินทุกวันร้านนี้ แหละ เพราะ กินมังสวิรัติ..ตั้งแต่เกิด https://www.facebook.com/watch/?v=368479173823316 ข้างๆมีร้านข้าวมันไก่ หอ6 ก็อร่อย เด็กมากินกันเยอะ 2. ก๋วยเตี๋ยวต้มยำป้า-นภา หอชาย 3 มช. เชียงใหม่ หอม อร่อย และ ให้เยอะ ใครมาบ้านได้กินกันทุกคน https://www.youtube.com/watch?v=kYTfNGOmQGw 3. ร้านข้าวมันไก่สังคม ไก่ทอดสังคม..อร่อยที่สุด โรงอาหารคณะสังคมศาสตร์(หลังสหกรณ์ มช.) เด็ดที่ ข้าวมันไก่ ข้าวยำไก่แซ่บ 4. ร้านซาลาเปา "ชิดบุรี" ซาลาเปาคัสตาร์ดไข่ ส.ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลอย ลูกชิ้นปลาระเบิด ที่ โรงอาหาร BIO ด้านหลังภาควิชาชีววิทยา 5. ร้านมาลาอาหารไทย ข้าวราดแกง+ขนมจีนน้ำเงี้ยว โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์ 6. ร้านข้าวแกง ที่ โรงอาหาร อมช. อร่อยทุกร้าน มีร้านขนมหวานสุโขทัย + ผลไม้สด อยู่ตรงข้ามหอ2หญิง+ตรงข้ามหอ3หญิง ที่นี่..เป็นศูนย์กลางของม.เชียงใหม่ เพราะมีทางเชื่อมไป อาคารเรียนรวม RB-3 และ RB-5 +ใกล้สถานีกลาง T1 (เปิด ตี3-4โมงเย็น) 7. โรงอาหาร หอ40ปี วันธรรมดา-2ทุ่ม, เสาร์-อาทิตย์ เปิดถึงบ่าย3 ***ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่30 -ร้านข้าวราดแกงฝายหิน ก๋วยเตี๋ยวคั่วหมู ราดซอสพริก 30 ร้านจานเดียว(ตามสั่ง) ฉู่ฉี่ไข่ดาว40 ผัดไทย40 ราดหน้า35 ผัดมาม่า35 โกโก้ปั่น30 8. หอแพทย์สวนดอก มีอาหารอิสลาม โรตี พาสต้า สปาเกตตี้ 9. หอหญิง 1 ฉู่ฉี่ไข่เจียว, ข้าวคลุกกระเพราหมู 10. หอหญิง 2 -ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูทรงเครื่อง เตี๋ยวหมูน้ำใส30 ต้มยำ30 เตี๋ยวหมูน้ำตกต้มยำ30 ต้มยำน่องไก่35 เกี๊ยวน้ำ เย็นตาโฟ35 เตี๋ยวไก่ตุ๋น มาม่าต้มยำ บะหมี่เก๊ยว เกาเหลาต้มยำ35 -ร้านน้ำปั่นป้าไหม -ร้านป้านาย ไก่ทอดยอดหญ้า45, ไก่ทอดซ๊อสมายองเนส35 หมูกรอบคั่วเกลือ 11. กาดฝายหิน มีสารพัดร้านอร่อย เช่น ร้านส้มตำ ผัดไทย หมูจุ่ม ร้านสเต๊ก ร้านน้ำปั่น 12. CMU FOOD Center ติดแอร์(ค่อนข้างแพง) จันทร์-ศุกร์ ปิด2ทุ่ม เสาร์-อาทิตย์ ปิดบ่าย3 มี ร้านดังๆจากในห้าง มาเปิดใน มช. เช่น Dairy Queen, ชาตรามือ, Good All Day Japanese Steak Buffet, ร้านชาบู, ซูชิ, กาแฟอินทนิล, 7-11 ข้าวแกงป้าดัวสวนดอก ร้านนู๊ดเดิ้ลออฟเดอะเดย์ ไก่อบเทอริยากิ ที่ร้านขาหมูบางรัก บะหมี่ต้มยำกระดูกอ่อนเพิ่มไข่, ***ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลอย68 ที่ร้าน ส.ก๋วยเตี๋ยว. ร้านไอติมกะโหล้ง ไอติมกะทิสดในลูกมะพร้าว35.- อร่อยทุกอย่างจุกๆ กับ ร้านทิพยาข้าวราดแกง(ป้าเอ๋มนุษย์) ร้านราเม็ง Mommy Bento ทงคัทสึราเม็ง50, มิโซ๊ะราเม็ง ข้าวหน้าเนื้อสไตล์ญี่ปุ่น85 ข้าวหน้าหมูสไตล์ญี่ปุ่น45 ข้าวแกงกะหรี่ไข่ข้น89 ข้าวมันไก่ทอดซ๊อสชีส45 ข้าวมันไก่ทอด-บาร์บีคิว/สไปซี่45 มาม่าผัดหม่าล่า59 ข้าวไก่ทอดไข่ข้น50 ขนมจีนน้ำเงี้ยว25 ร้านครัวแก้ว เชียงใหม่(อร่อยทุกอย่าง) คั่วไก่ เย็นตาโฟ ผัดไทย เตี๋ยวหมูตุ๋น สุกี้ ข้าวซอย -ร้านสลัด Mini Salad Bar มีทุกอย่างที่หลากหลาย 13. ก๊วยจั๊บรินลองกอย (หลัง ม.ช.)เปิด 6โมงเช้า-สายๆ ชามใหญ่ หน้าตาดี กรอบหอม+อร่อยสุด 40 บาท - ผลไม้(สด) ร้านรถเข็น-ป้าแจ๋ว(11.00-17.00น.) เป็นรถเข็นอยู่ใต้ร่มไม้ Acc-BAR และ สาขา2 คณะสังคม มีผลไม้สด เช่น แตงโม สับปะรด มะม่วง ฝรั่ง มะกอก - กาแฟ(สด)สังคม (8.00-16.00น. จันทร์-เสาร์) ที่ คณะสังคมศาสตร์ มช. มีทุกอย่างเหมือนร้านดัง แก้วใหญ่ ราคาเพียง 35 บาท - ร้านนมเกษต่ร ที่คณะเกษตร-คณะวิจิตรศิลป์ (8.00-18.00น.) มี นมสด นมช๊อคโกแล๊ต วานิลา สตรอเบอร์รี่ และ รสชาเขียว ชานมไข่มุก Ice-Float ส่วนมาก..พาหลานๆไปกินไอติม Soft Serve40บาท - ร้าน ป้าน้องน้ำส้ม (หอประชุม มช. 9.00-17.00น.) สัมคั้น40.-ฝรั่งมะนาว40.- ธัญญพืขมะนาว40.- น้ำฝรั่ง30.- บ๊วย เก๊กฮวย มะตูม กระเจี๊ยบ เสาวรส ตะไคร้ ธัญญพืช -เฉาก๊วยหอแพทย์(สวนดอก)จันทร์-เสาร์ 13.00-18.30 มี ขนมจีบด้วย บ้านหลังนี้ ตามปกติใช้รับรองเพื่อนๆชาวต่างชาติ และ ปล่อยให้เช่า โดย Airbnb เพื่อนๆที่มาเที่ยวเมืองไทย ฉันจะให้พักที่บ้านหลังนี้(ฟรี) อีกหลัง..ท่าแพ ซอย4 ปล่อยเช่าผ่าน Airbnb เช่นกัน เลี้ยงอาหารทุกมื้อ(ฟรี) กินกันอร่อย..ไม่อั้น ให้เด็กหิ้วปินโต..ไปซื้อมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือเหตุผลที่ทำไมขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ORESHNIK ของรัสเซียจึงพร้อมสำหรับการผลิตจำนวนมาก

    การทดสอบการรบประจำการของระบบขีปนาวุธ Oreshnik ในวันพฤหัสบดีกับเป้าหมายทางทหารและอุตสาหกรรมของยูเครนในเมือง Dnepropetrovsk แสดงให้เห็นว่าระบบขีปนาวุธใหม่ของรัสเซียพร้อมสำหรับการนำไปปฏิบัติและการผลิตจำนวนมากแล้ว, และเหตุผลก็คืออาวุธขีปนาวุธของรัสเซียได้รับการออกแบบมาอย่างไรมาหลายทศวรรษ, Dmitry Kornev ผู้สังเกตการณ์ทางทหารที่มีประสบการณ์ของรัสเซียกล่าว

    ศักยภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมการทหารของรัสเซียในการผลิตอาวุธแบบ Oreshnik นั้น "สูงกว่าของชาติตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด," Kornev กล่าวกับ Sputnik, โดยชี้ไปที่ปรัชญาการออกแบบขีปนาวุธของรัสเซีย (และก่อนหน้านั้นก็คือสหภาพโซเวียต) ที่ย้อนกลับไปถึงการเผชิญหน้าในยุคสงครามเย็นระหว่าง RSD-10 Pioneer และ Pershing 2 โดยระบบของสหภาพโซเวียตได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่ามีการยับยั้งเชิงกลยุทธ์ในระดับทวีป, ซึ่งต่างจากเป้าหมายของสหรัฐฯ ในการโจมตีเป้าหมายของศัตรูให้เร็วที่สุดจากฐานที่มั่นในแนวหน้า

    💬“ระบบของเรามีศักยภาพในการโจมตีที่สูงกว่ามากในแง่ที่ว่ามันถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของเทคโนโลยีขีปนาวุธที่ถูกพิสูจน์แล้ว - ซึ่งมีแนวโน้มสูงสุดที่สถาบันวิศวกรรมความร้อนมอสโก, ซึ่งหมายความว่าการผลิตจำนวนมากและการใช้งานขีปนาวุธจำนวนมากอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่มั่นใจได้,” Kornev กล่าว

    💬“ในกรณีของตะวันตก, ระบบที่คล้ายคลึงกัน จะมีราคาค่อนข้างแพงในการสร้าง,” Kornev เน้นย้ำ

    ประธานาธิบดีปูตินยืนยันในการแถลงข่าวต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเมื่อวันศุกร์ว่า ได้ตัดสินใจแล้วเกี่ยวกับการผลิตจำนวนมากของ Oreshnik, และกองทัพได้รวบรวมคลังอาวุธขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่นี้ไว้, และ “จะดำเนินการทดสอบต่อไป, รวมถึงในสภาพการสู้รบ, ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และลักษณะของภัยคุกคามต่อความปลอดภัยที่รัสเซียเผชิญ”
    .
    HERE’S WHY RUSSIA’S ORESHNIK HYPERSONIC MISSILE IS READY FOR MASS PRODUCTION

    Thursday’s combat deployment testing of the Oreshnik missile system against a Ukrainian military-industrial target in Dnepropetrovsk speaks to the fact that the new Russian missile system is ready for deployment and mass production, and the reason comes down to the way Russia’s missile weaponry has been designed for many decades, says veteran Russian military observer Dmitry Kornev.

    The capabilities of Russia’s military-industrial complex when it comes to producing Oreshnik-style weaponry is “significantly higher than those of the West,” Kornev told Sputnik, pointing to the Russian (and before that Soviet) missile design philosophy going back to the Cold War-era standoff involving the RSD-10 Pioneer and the Pershing 2 – with the Soviet system designed to ensure strategic deterrence on the continental scale, vs. the US goal of delivering a strike against enemy targets as quickly as possible from a forward foothold.

    💬“Our system likely has a far greater strike potential in the sense that it was created on the basis of already proven ballistic missile technologies - most likely, at the Moscow Institute of Thermal Engineering, which means that mass production and rapid deployment of large quantities of the missiles is assured,” Kornev said.

    💬“In the case of the West, any similar system will be rather expensive to create,” Kornev emphasized.

    President Putin confirmed in a briefing with defense officials Friday that a decision on the Oreshnik’s mass production has been taken, and that the military has amassed a stockpile of the new ballistic hypersonic missiles, and “will continue these tests, including in combat conditions, depending on the situation and the nature of the security threats that are created for Russia.”
    .
    2:52 AM · Nov 23, 2024 · 2,723 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860048762300682281
    นี่คือเหตุผลที่ทำไมขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ORESHNIK ของรัสเซียจึงพร้อมสำหรับการผลิตจำนวนมาก การทดสอบการรบประจำการของระบบขีปนาวุธ Oreshnik ในวันพฤหัสบดีกับเป้าหมายทางทหารและอุตสาหกรรมของยูเครนในเมือง Dnepropetrovsk แสดงให้เห็นว่าระบบขีปนาวุธใหม่ของรัสเซียพร้อมสำหรับการนำไปปฏิบัติและการผลิตจำนวนมากแล้ว, และเหตุผลก็คืออาวุธขีปนาวุธของรัสเซียได้รับการออกแบบมาอย่างไรมาหลายทศวรรษ, Dmitry Kornev ผู้สังเกตการณ์ทางทหารที่มีประสบการณ์ของรัสเซียกล่าว ศักยภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมการทหารของรัสเซียในการผลิตอาวุธแบบ Oreshnik นั้น "สูงกว่าของชาติตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด," Kornev กล่าวกับ Sputnik, โดยชี้ไปที่ปรัชญาการออกแบบขีปนาวุธของรัสเซีย (และก่อนหน้านั้นก็คือสหภาพโซเวียต) ที่ย้อนกลับไปถึงการเผชิญหน้าในยุคสงครามเย็นระหว่าง RSD-10 Pioneer และ Pershing 2 โดยระบบของสหภาพโซเวียตได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่ามีการยับยั้งเชิงกลยุทธ์ในระดับทวีป, ซึ่งต่างจากเป้าหมายของสหรัฐฯ ในการโจมตีเป้าหมายของศัตรูให้เร็วที่สุดจากฐานที่มั่นในแนวหน้า 💬“ระบบของเรามีศักยภาพในการโจมตีที่สูงกว่ามากในแง่ที่ว่ามันถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของเทคโนโลยีขีปนาวุธที่ถูกพิสูจน์แล้ว - ซึ่งมีแนวโน้มสูงสุดที่สถาบันวิศวกรรมความร้อนมอสโก, ซึ่งหมายความว่าการผลิตจำนวนมากและการใช้งานขีปนาวุธจำนวนมากอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่มั่นใจได้,” Kornev กล่าว 💬“ในกรณีของตะวันตก, ระบบที่คล้ายคลึงกัน จะมีราคาค่อนข้างแพงในการสร้าง,” Kornev เน้นย้ำ ประธานาธิบดีปูตินยืนยันในการแถลงข่าวต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเมื่อวันศุกร์ว่า ได้ตัดสินใจแล้วเกี่ยวกับการผลิตจำนวนมากของ Oreshnik, และกองทัพได้รวบรวมคลังอาวุธขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่นี้ไว้, และ “จะดำเนินการทดสอบต่อไป, รวมถึงในสภาพการสู้รบ, ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และลักษณะของภัยคุกคามต่อความปลอดภัยที่รัสเซียเผชิญ” . HERE’S WHY RUSSIA’S ORESHNIK HYPERSONIC MISSILE IS READY FOR MASS PRODUCTION Thursday’s combat deployment testing of the Oreshnik missile system against a Ukrainian military-industrial target in Dnepropetrovsk speaks to the fact that the new Russian missile system is ready for deployment and mass production, and the reason comes down to the way Russia’s missile weaponry has been designed for many decades, says veteran Russian military observer Dmitry Kornev. The capabilities of Russia’s military-industrial complex when it comes to producing Oreshnik-style weaponry is “significantly higher than those of the West,” Kornev told Sputnik, pointing to the Russian (and before that Soviet) missile design philosophy going back to the Cold War-era standoff involving the RSD-10 Pioneer and the Pershing 2 – with the Soviet system designed to ensure strategic deterrence on the continental scale, vs. the US goal of delivering a strike against enemy targets as quickly as possible from a forward foothold. 💬“Our system likely has a far greater strike potential in the sense that it was created on the basis of already proven ballistic missile technologies - most likely, at the Moscow Institute of Thermal Engineering, which means that mass production and rapid deployment of large quantities of the missiles is assured,” Kornev said. 💬“In the case of the West, any similar system will be rather expensive to create,” Kornev emphasized. President Putin confirmed in a briefing with defense officials Friday that a decision on the Oreshnik’s mass production has been taken, and that the military has amassed a stockpile of the new ballistic hypersonic missiles, and “will continue these tests, including in combat conditions, depending on the situation and the nature of the security threats that are created for Russia.” . 2:52 AM · Nov 23, 2024 · 2,723 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860048762300682281
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพิ่งเสร็จงานที่ช่วงแรกผมคิดว่ามันยาก พอทำจริงๆมันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยแฮะ ไม่มีอะไรยากไปกว่าตัวเราจะทำเรื่องยากๆเล่นของยากๆไม่ได้ ผมเล่นของยากบ่อย เลยรู้สึกยิ่งเล่นยิ่งเพลินจริงๆ และเล่นของยากด้วยการปลูกผักปลอดสารพิษ แต่จะปลูกหลายชนิด ไม่ผูกขาดชนิดเดียว คือผมควรจะใช้ชีวิตให้สมราคาเกียรตินิยมอันดับ 1 ที่เป็นรองเหรียญทองเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้าพิธีรับปริญญา ส่วนเกียรตินิยมระดับเดียวกับผมที่ได้มากกว่าผมหรือน้อยกว่าผมหลายคนก็ไม่ค่อยจะมารับปริญญา ผมเหมือนเป็นรองเหรียญทองเท่านั้นแหละ แต่ผมจะพยายามใช้ชีวิตและสร้างเนื้อสร้างตัวให้สมราคากับที่ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 วิศวกรรมสารสนเทศก็แล้วกันนะครับ เป็นนายตัวเองก็ค่อยๆขยับไปทีละนิดๆดีกว่าไม่ขยับอะไรเลย ขยับ วางแผน ขยับ จนใกล้ถึง จุดหมายที่ผมคาดไว้ครับ
    เพิ่งเสร็จงานที่ช่วงแรกผมคิดว่ามันยาก พอทำจริงๆมันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยแฮะ ไม่มีอะไรยากไปกว่าตัวเราจะทำเรื่องยากๆเล่นของยากๆไม่ได้ ผมเล่นของยากบ่อย เลยรู้สึกยิ่งเล่นยิ่งเพลินจริงๆ และเล่นของยากด้วยการปลูกผักปลอดสารพิษ แต่จะปลูกหลายชนิด ไม่ผูกขาดชนิดเดียว คือผมควรจะใช้ชีวิตให้สมราคาเกียรตินิยมอันดับ 1 ที่เป็นรองเหรียญทองเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้าพิธีรับปริญญา ส่วนเกียรตินิยมระดับเดียวกับผมที่ได้มากกว่าผมหรือน้อยกว่าผมหลายคนก็ไม่ค่อยจะมารับปริญญา ผมเหมือนเป็นรองเหรียญทองเท่านั้นแหละ แต่ผมจะพยายามใช้ชีวิตและสร้างเนื้อสร้างตัวให้สมราคากับที่ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 วิศวกรรมสารสนเทศก็แล้วกันนะครับ เป็นนายตัวเองก็ค่อยๆขยับไปทีละนิดๆดีกว่าไม่ขยับอะไรเลย ขยับ วางแผน ขยับ จนใกล้ถึง จุดหมายที่ผมคาดไว้ครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • อเมริกาพ่าย “สงครามเทคโนโลยี” จีนแซงหน้า.ประโยคติดปากกับสโลแกนของนายทรัมป์ คือ "ทำอเมริกาให้กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง" หรือ Make America Great Again ผมไม่รู้ว่าลึกๆ นายทรัมป์ ให้ความหมายของคำนี้ว่าอย่างไร ทุกวันนี้แม้ว่าอเมริกายังถือว่าตัวเองยังคงเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก 28.7 ล้านล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยจีน ที่ 28.5 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ถ้าเราวัดขนาดเศรษฐกิจเทียบกับอำนาจการซื้อ คือขนาดเศรษฐกิจ กับอำนาจการซื้อ PPP (Purchasing Power Priority)ถ้าวัดกันตรงนี้ เศรษฐกิจจีนถือว่าแซงหน้าอเมริกาเรื่องอำนาจในการซื้อข้าวซื้อของ .แต่สิ่งสำคัญกว่าขนาดหรือตัวเลขเศรษฐกิจ คือ เศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะสิ่งที่เขาเรียกว่า "เทคโนโลยีที่มาชี้ขาด" (Critical Technology) มีคำเปรียบเปรยว่า รัฐใดสามารถผูกขาดเทคโนโลยีได้ รัฐนั้นสามารถปกครองโลกได้ จีนกลายเป็นศูนย์กลางการกำหนดทิศทางของศตวรรษที่ 21.เมื่อเดือนสิงหาคม หรือ2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ มีสถาบันนโยบายเชิงกลยุทธ์ออสเตรเลีย ที่เขาเรียกว่า Australian Politics Policy Institute ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากอเมริกา ได้เผยแพร่รายงานเรื่อง"เทคโนโลยีชี้ขาด"(Critical Technology Tracker)ว่า จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการวิจัยเทคโนโลยีที่สำคัญด้านการป้องกันประเทศ อวกาศ พลังงาน เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีเกิดใหม่ของโลกเกือบ 90% หรือมีมากถึง 57 หมวดหมู่ จาก 64 หมวดหมู่เทคโนโลยี แต่ยังเหลืออยู่ 7 สาขา ที่อเมริกายังเป็นผู้นำเช่น สาขาประมวลผลภาษาธรรมชาติ สาขาพันธุวิศวกรรม (Genetic Engineering) ,เวชศาสตร์นิวเคลียร์และรังสีบำบัด,วัคซีน ,ดาวเทียมขนาดเล็ก,Quantum Computing และนาฬิกาอะตอม.สื่อThe Economist รายงานและ Voice of America รายงานเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ ออกมายอมรับว่าจีนได้แซงหน้าสหรัฐฯ กลายเป็นผู้นำ เขาพบว่าอเมริกาตอนนี้กลายเป็นอันดับสองไปแล้ว ไม่ใช่อันดับหนึ่งด้านการวิจัยเทคโนโลยีชี้ขาดเรียบร้อยแล้ว .ข้อมูลที่ผมเล่าให้ฟังนี้ มันชี้ให้เราเห็นว่าช่วงเวลาสำคัญที่ระเบียบโลกกำลังเปลี่ยนแปลง โดยมีจีนเป็นศูนย์กลาง การกำหนดทิศทางของศตวรรษที่ 21 การเติบโตของจีนเป็นปรากฏการณ์อันซับซ้อนที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเป็นเรื่องราวของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ จีนกำลังผงาดขึ้นมาแทนที่สหรัฐอเมริกาในฐานะผู้นำเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ นี่คือบทเรียนที่สหรัฐฯ และประเทศทางตะวันตกต้องรีบทำความเข้าใจ.นี่ไม่ใช่แค่เกมหมากรุกทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นนามธรรม เพราะธุรกิจอเมริกาที่ควบคุมทุกอย่างในการแข่งขัน ตอนนี้ต้องมาเผชิญความจริงที่ยากขึ้นไปอีก เพราะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งทางจีน ซึ่งมีเทคโนโลยีสูงกว่าตัวเอง อเมริกาตอนนี้กลายเป็นอันดับสองไปแล้ว ไม่ใช่อันดับหนึ่ง.ทั้งนี้และทั้งนั้นอนาคตเศรษฐกิจโลกจะถูกกำหนดโดยความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือ หรือแข่งขัน หรือสงครามแห่งความขัดแย้ง ความแข็งแกร่งและนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมของจีนผลักดันให้จีนก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำยุคใหม่ที่มีอิทธิพลระดับโลก ท้าทายระเบียบโลกเก่าที่นำโดยสหรัฐฯ
    อเมริกาพ่าย “สงครามเทคโนโลยี” จีนแซงหน้า.ประโยคติดปากกับสโลแกนของนายทรัมป์ คือ "ทำอเมริกาให้กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง" หรือ Make America Great Again ผมไม่รู้ว่าลึกๆ นายทรัมป์ ให้ความหมายของคำนี้ว่าอย่างไร ทุกวันนี้แม้ว่าอเมริกายังถือว่าตัวเองยังคงเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก 28.7 ล้านล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยจีน ที่ 28.5 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ถ้าเราวัดขนาดเศรษฐกิจเทียบกับอำนาจการซื้อ คือขนาดเศรษฐกิจ กับอำนาจการซื้อ PPP (Purchasing Power Priority)ถ้าวัดกันตรงนี้ เศรษฐกิจจีนถือว่าแซงหน้าอเมริกาเรื่องอำนาจในการซื้อข้าวซื้อของ .แต่สิ่งสำคัญกว่าขนาดหรือตัวเลขเศรษฐกิจ คือ เศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะสิ่งที่เขาเรียกว่า "เทคโนโลยีที่มาชี้ขาด" (Critical Technology) มีคำเปรียบเปรยว่า รัฐใดสามารถผูกขาดเทคโนโลยีได้ รัฐนั้นสามารถปกครองโลกได้ จีนกลายเป็นศูนย์กลางการกำหนดทิศทางของศตวรรษที่ 21.เมื่อเดือนสิงหาคม หรือ2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ มีสถาบันนโยบายเชิงกลยุทธ์ออสเตรเลีย ที่เขาเรียกว่า Australian Politics Policy Institute ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากอเมริกา ได้เผยแพร่รายงานเรื่อง"เทคโนโลยีชี้ขาด"(Critical Technology Tracker)ว่า จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการวิจัยเทคโนโลยีที่สำคัญด้านการป้องกันประเทศ อวกาศ พลังงาน เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีเกิดใหม่ของโลกเกือบ 90% หรือมีมากถึง 57 หมวดหมู่ จาก 64 หมวดหมู่เทคโนโลยี แต่ยังเหลืออยู่ 7 สาขา ที่อเมริกายังเป็นผู้นำเช่น สาขาประมวลผลภาษาธรรมชาติ สาขาพันธุวิศวกรรม (Genetic Engineering) ,เวชศาสตร์นิวเคลียร์และรังสีบำบัด,วัคซีน ,ดาวเทียมขนาดเล็ก,Quantum Computing และนาฬิกาอะตอม.สื่อThe Economist รายงานและ Voice of America รายงานเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ ออกมายอมรับว่าจีนได้แซงหน้าสหรัฐฯ กลายเป็นผู้นำ เขาพบว่าอเมริกาตอนนี้กลายเป็นอันดับสองไปแล้ว ไม่ใช่อันดับหนึ่งด้านการวิจัยเทคโนโลยีชี้ขาดเรียบร้อยแล้ว .ข้อมูลที่ผมเล่าให้ฟังนี้ มันชี้ให้เราเห็นว่าช่วงเวลาสำคัญที่ระเบียบโลกกำลังเปลี่ยนแปลง โดยมีจีนเป็นศูนย์กลาง การกำหนดทิศทางของศตวรรษที่ 21 การเติบโตของจีนเป็นปรากฏการณ์อันซับซ้อนที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเป็นเรื่องราวของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ จีนกำลังผงาดขึ้นมาแทนที่สหรัฐอเมริกาในฐานะผู้นำเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ นี่คือบทเรียนที่สหรัฐฯ และประเทศทางตะวันตกต้องรีบทำความเข้าใจ.นี่ไม่ใช่แค่เกมหมากรุกทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นนามธรรม เพราะธุรกิจอเมริกาที่ควบคุมทุกอย่างในการแข่งขัน ตอนนี้ต้องมาเผชิญความจริงที่ยากขึ้นไปอีก เพราะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งทางจีน ซึ่งมีเทคโนโลยีสูงกว่าตัวเอง อเมริกาตอนนี้กลายเป็นอันดับสองไปแล้ว ไม่ใช่อันดับหนึ่ง.ทั้งนี้และทั้งนั้นอนาคตเศรษฐกิจโลกจะถูกกำหนดโดยความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือ หรือแข่งขัน หรือสงครามแห่งความขัดแย้ง ความแข็งแกร่งและนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมของจีนผลักดันให้จีนก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำยุคใหม่ที่มีอิทธิพลระดับโลก ท้าทายระเบียบโลกเก่าที่นำโดยสหรัฐฯ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความบ้าของอีลอน มัสก์ที่เขย่าอุตสาหกรรมEVในปี 2014 อีลอนได้ “เปิดเผย” ความลับของ Tesla ให้กับ BMW ทุกคนคิดว่าเขาบ้าแต่ “การกระทำอันเป็นการกุศล” นี้กลับกลายเป็นการดำเนินธุรกิจที่โหดและเฉียบแหลมที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจองค์กรขณะนั้นBMW พร้อมที่จะครองตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในยุโรป: BMW มีแบรนด์ที่ทรงพลัง มีวิศวกรรมรถยนต์ชั้นเลิศ และพวกเขามีกลยุทธ์การตลาดที่สมบูรณ์แบบแต่พวกเขาได้คาดเดาผิดๆ เกี่ยวกับ "ของขวัญ" ของอีลอน มัสก์ ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการเดิมพัน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐขณะที่ BMW กำลังลงนามสัญญาผลิตแบตเตอรี่...อีลอน มัสก์ประกาศเปิดตัวโรงงานกิกะแฟคทอรี่ ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้รับการออกแบบให้ผลิตแบตเตอรี่ได้มากกว่าที่ทั้งโลกผลิตได้ในปี 2013ในวันที่ 12 มิถุนายน 2014 อีลอนได้เผยแพร่โพสต์บล็อกที่มีหัวข้อว่า“สิทธิบัตรทั้งหมดของเราเป็นของคุณ”เขาประกาศว่า Tesla จะมอบสิทธิบัตรทั้งหมดของตนฟรีโลกแห่งยานยนต์คิดว่าเขาเสียสติไปแล้ว แต่ความบ้าคลั่งนี้มีความอัจฉริยะซ่อนอยู่:แต่นั่นยังไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่กล้าหาญที่สุดของเขา...นี่คือเหตุผลที่ BMW ไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน: ขณะนั้นปี2014  Tesla มีปัญหา 2 ประการ:• ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีขนาดเล็กเกินไป• ไม่มีใครสร้างสถานีชาร์จอีลอน มัสก์ตระหนักดีว่า เทสลาไม่สามารถชนะเพียงลำพังได้ พวกเขาจำเป็นต้องขยายตลาดทั้งหมดเขาจึงได้ทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน:อีลอน มัสก์ใช้ความใจบุญเป็นอาวุธ ด้วยการให้สิทธิบัตร Tesla เพื่อ• ส่งเสริมให้ผู้อื่นสร้างรถยนต์ไฟฟ้า• โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่ขยายเพิ่มขึ้น• ทำให้เทคโนโลยีของตนเป็นมาตรฐานขณะที่ BMW มุ่งเน้นไปที่การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา แต่อีลอน มัสก์เล่นเกมที่ใหญ่กว่านี้:Gigafactory ไม่ได้มีแค่แบตเตอรี่เท่านั้น มันเป็นเรื่องของขนาดในขณะที่คู่แข่งใช้สิทธิบัตรของ Tesla เพื่อไล่ตาม อีลอน มัสก์ได้สร้างอาณาจักรที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ถูกกว่าใครๆ อยู่แล้วสิทธิบัตรของ Tesla ทำให้คนอื่นๆ ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยี EVแต่หากไม่มีขนาดของ Tesla พวกเขาไม่สามารถแข่งขันในเรื่องต้นทุนได้BMW ได้เรียนรู้บทเรียนนี้ด้วยวิธีที่ยากลำบาก:• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ Tesla: 187 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ kWh• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ BMW: 280 เหรียญสหรัฐฯ/kWhช่องว่างก็ยิ่งกว้างขึ้น และ“ของขวัญ” จริงๆ แล้วเป็นกับดักภายในปี 2016 Tesla ผลิตแบตเตอรี่ได้ราคาถูกกว่าคู่แข่งถึง 60%การ "แจกฟรี" สิทธิบัตรมีดังต่อไปนี้:• ทำให้เทคโนโลยีของ Tesla กลายเป็นมาตรฐาน• ได้ให้คนอื่นมาตรวจสอบตลาด• ในขณะที่ Tesla สร้างข้อได้เปรียบด้านต้นทุนที่ไม่อาจเอาชนะได้ นี่คือความฉลาดทางยุทธศาสตร์แต่สิ่งที่ทุกคนพลาดไปก็คือ:นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการเอาชนะ BMW เท่านั้นอีลอนพิสูจน์บางอย่างที่มีค่ายิ่งกว่านั้น:ในยุคดิจิทัล ยิ่งให้ ยิ่งได้ ด้วยวิธีเปิด เอาชนะความลับ พวกเขาแบ่งปันอย่างมีกลยุทธ์เพื่อ:• สร้างระบบนิเวศ• กำหนดมาตรฐาน• สร้างเอฟเฟกต์เครือข่ายในขณะที่ยังรักษาข้อได้เปรียบการแข่งขันที่สำคัญทั้งในด้านขนาดและการดำเนินการนี่คือเหตุผลว่าทำไมการเข้าใจเทคโนโลยีเกิดใหม่จึงไม่เพียงพอ…นวัตกรรมที่แท้จริงมาจากการมองภาพรวม:เทคโนโลยีสามารถสร้างมูลค่าผ่านความร่วมมือ ไม่ใช่แค่การแข่งขันเพียงอย่างเดียวได้อย่างไรเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ความสำเร็จเกิดจาก:• ความเปิดกว้างเชิงกลยุทธ์ Openess • เทคโนโลยีเพื่อรองรับความก้าวหน้าของมนุษย์ไม่ใช่แค่ขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ…ดังนั้น“ความร่วมมือ” อยู่ใน DNA ของ Tesla และ อีลอน มัสก์  รวมถึงผู้ติดตามของอีลอน  ไม่ได้มาจาก “แนวคิดผลรวมเป็นศูนย์” ที่ทุกคนต้องสูญเสียแต่ผู้ชนะในปัจจุบันคือเปิดว้างไม่กั๊กเทคโนโลยี
    ความบ้าของอีลอน มัสก์ที่เขย่าอุตสาหกรรมEVในปี 2014 อีลอนได้ “เปิดเผย” ความลับของ Tesla ให้กับ BMW ทุกคนคิดว่าเขาบ้าแต่ “การกระทำอันเป็นการกุศล” นี้กลับกลายเป็นการดำเนินธุรกิจที่โหดและเฉียบแหลมที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจองค์กรขณะนั้นBMW พร้อมที่จะครองตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในยุโรป: BMW มีแบรนด์ที่ทรงพลัง มีวิศวกรรมรถยนต์ชั้นเลิศ และพวกเขามีกลยุทธ์การตลาดที่สมบูรณ์แบบแต่พวกเขาได้คาดเดาผิดๆ เกี่ยวกับ "ของขวัญ" ของอีลอน มัสก์ ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการเดิมพัน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐขณะที่ BMW กำลังลงนามสัญญาผลิตแบตเตอรี่...อีลอน มัสก์ประกาศเปิดตัวโรงงานกิกะแฟคทอรี่ ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้รับการออกแบบให้ผลิตแบตเตอรี่ได้มากกว่าที่ทั้งโลกผลิตได้ในปี 2013ในวันที่ 12 มิถุนายน 2014 อีลอนได้เผยแพร่โพสต์บล็อกที่มีหัวข้อว่า“สิทธิบัตรทั้งหมดของเราเป็นของคุณ”เขาประกาศว่า Tesla จะมอบสิทธิบัตรทั้งหมดของตนฟรีโลกแห่งยานยนต์คิดว่าเขาเสียสติไปแล้ว แต่ความบ้าคลั่งนี้มีความอัจฉริยะซ่อนอยู่:แต่นั่นยังไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่กล้าหาญที่สุดของเขา...นี่คือเหตุผลที่ BMW ไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน: ขณะนั้นปี2014  Tesla มีปัญหา 2 ประการ:• ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีขนาดเล็กเกินไป• ไม่มีใครสร้างสถานีชาร์จอีลอน มัสก์ตระหนักดีว่า เทสลาไม่สามารถชนะเพียงลำพังได้ พวกเขาจำเป็นต้องขยายตลาดทั้งหมดเขาจึงได้ทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน:อีลอน มัสก์ใช้ความใจบุญเป็นอาวุธ ด้วยการให้สิทธิบัตร Tesla เพื่อ• ส่งเสริมให้ผู้อื่นสร้างรถยนต์ไฟฟ้า• โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่ขยายเพิ่มขึ้น• ทำให้เทคโนโลยีของตนเป็นมาตรฐานขณะที่ BMW มุ่งเน้นไปที่การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา แต่อีลอน มัสก์เล่นเกมที่ใหญ่กว่านี้:Gigafactory ไม่ได้มีแค่แบตเตอรี่เท่านั้น มันเป็นเรื่องของขนาดในขณะที่คู่แข่งใช้สิทธิบัตรของ Tesla เพื่อไล่ตาม อีลอน มัสก์ได้สร้างอาณาจักรที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ถูกกว่าใครๆ อยู่แล้วสิทธิบัตรของ Tesla ทำให้คนอื่นๆ ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยี EVแต่หากไม่มีขนาดของ Tesla พวกเขาไม่สามารถแข่งขันในเรื่องต้นทุนได้BMW ได้เรียนรู้บทเรียนนี้ด้วยวิธีที่ยากลำบาก:• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ Tesla: 187 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ kWh• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ BMW: 280 เหรียญสหรัฐฯ/kWhช่องว่างก็ยิ่งกว้างขึ้น และ“ของขวัญ” จริงๆ แล้วเป็นกับดักภายในปี 2016 Tesla ผลิตแบตเตอรี่ได้ราคาถูกกว่าคู่แข่งถึง 60%การ "แจกฟรี" สิทธิบัตรมีดังต่อไปนี้:• ทำให้เทคโนโลยีของ Tesla กลายเป็นมาตรฐาน• ได้ให้คนอื่นมาตรวจสอบตลาด• ในขณะที่ Tesla สร้างข้อได้เปรียบด้านต้นทุนที่ไม่อาจเอาชนะได้ นี่คือความฉลาดทางยุทธศาสตร์แต่สิ่งที่ทุกคนพลาดไปก็คือ:นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการเอาชนะ BMW เท่านั้นอีลอนพิสูจน์บางอย่างที่มีค่ายิ่งกว่านั้น:ในยุคดิจิทัล ยิ่งให้ ยิ่งได้ ด้วยวิธีเปิด เอาชนะความลับ พวกเขาแบ่งปันอย่างมีกลยุทธ์เพื่อ:• สร้างระบบนิเวศ• กำหนดมาตรฐาน• สร้างเอฟเฟกต์เครือข่ายในขณะที่ยังรักษาข้อได้เปรียบการแข่งขันที่สำคัญทั้งในด้านขนาดและการดำเนินการนี่คือเหตุผลว่าทำไมการเข้าใจเทคโนโลยีเกิดใหม่จึงไม่เพียงพอ…นวัตกรรมที่แท้จริงมาจากการมองภาพรวม:เทคโนโลยีสามารถสร้างมูลค่าผ่านความร่วมมือ ไม่ใช่แค่การแข่งขันเพียงอย่างเดียวได้อย่างไรเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ความสำเร็จเกิดจาก:• ความเปิดกว้างเชิงกลยุทธ์ Openess • เทคโนโลยีเพื่อรองรับความก้าวหน้าของมนุษย์ไม่ใช่แค่ขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ…ดังนั้น“ความร่วมมือ” อยู่ใน DNA ของ Tesla และ อีลอน มัสก์  รวมถึงผู้ติดตามของอีลอน  ไม่ได้มาจาก “แนวคิดผลรวมเป็นศูนย์” ที่ทุกคนต้องสูญเสียแต่ผู้ชนะในปัจจุบันคือเปิดว้างไม่กั๊กเทคโนโลยี
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 พฤศจิกายน วันพระบิดาแห่งฝนหลวง////////////////////วันพระบิดาแห่งฝนหลวง ตรงกับวันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี 65 ปีแห่งการกำเนิดฝนหลวงพระราชทาน นับจากวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริที่จะคิดค้น วิจัย หาวิธีการทำฝนหลวงเพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของเกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยแล้ง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 เฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน ในฐานะทรงเป็น "พระบิดาแห่งฝนหลวง" และกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีเป็น "วันพระบิดาแห่งฝนหลวง" เพื่อร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้ และจารึกไว้เป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริโครงการฝนหลวงขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 ทรงศึกษาค้นคว้าและวิจัยทางเอกสาร ทั้งด้านวิชาการ อุตุนิยมวิทยา และการดัดแปรสภาพอากาศ โครงการพระราชดำริฝนหลวง เป็นโครงการที่ก่อกำเนิดจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของพสกนิกรในท้องถิ่นทุรกันดาร ซึ่งต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่ออุปโภคบริโภค และใช้ในการเกษตรกรรม อันเนื่องมาจากภาวะแห้งแล้งที่มีสาเหตุจากความผันแปร และคลาดเคลื่อนของฤดูกาลตามธรรมชาติ กล่าวคือ ฤดูฝนเริ่มต้นล่าช้าเกินไป หรือหมดเร็วกว่าปกติ หรือฝนทิ้งช่วงยาวในช่วงฤดูฝน จากพระราชกรณียกิจในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง นับแต่เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทำให้ทรงพบเห็นว่า ภาวะแห้งแล้งได้มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นตามลำดับ เพราะการตัดไม้ทำลายป่า เป็นสาเหตุให้สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรในทุกภาคของประเทศ ส่งผลถึงความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวมของชาติ คิดเป็นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี ทั้งนี้ ระหว่างทางที่เคยเสด็จพระราชดำเนิน ทั้งภาคพื้นดิน และทางอากาศยาน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงสังเกตเห็นว่า มีเมฆปริมาณมากปกคลุมท้องฟ้า แต่ไม่สามารถก่อรวมตัวกันจนเกิดเป็นฝนได้ เป็นเหตุให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงระยะยาวทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงฤดูฝน ทรงคิดคำนึงว่า น่าจะมีมาตรการทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยให้เมฆเหล่านั้นก่อรวมตัวกันจนเกิดเป็นฝนได้ ทรงเชื่อมั่นว่า ด้วยลักษณะของกาลอากาศ ภูมิอากาศ และภูมิประเทศของประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคเขตร้อน และอยู่ในอิทธิพลของฤดูมรสุมของทวีปเอเชีย โดยเฉพาะฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งเป็นฤดูฝน และเป็นฤดูเพาะปลูกประจำปีของประเทศไทย จะสามารถดัดแปรสภาพอากาศให้เกิดเป็นฝนตกได้ ดังนั้น ตั้งแต่พ.ศ. 2498 เป็นต้นมา พระองค์ทรงศึกษาค้นคว้า และวิจัยทางเอกสาร ทั้งด้านวิชาการอุตุนิยมวิทยา และการดัดแปรสภาพอากาศ จนทรงมั่นพระราชหฤทัย ก่อนพระราชทานแนวคิดนี้แก่ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล ผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยประดิษฐ์ทางด้านเกษตรวิศวกรรม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้น และในปีถัดมา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หาลู่ทางที่จะทำให้เกิดการทดลองปฏิบัติการบนท้องฟ้า กระทั่งในปี พ.ศ. 2512 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดตั้งหน่วยบินปราบศัตรูพืชกรมการข้าว เพื่อให้การสนับสนุนในการสนองพระราชประสงค์ โดยในปีเดียวกันนั้นเอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ทำการทดลองปฏิบัติการจริงในท้องฟ้าเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1-2 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่งตั้งให้ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล เป็นผู้อำนวยการโครงการและหัวหน้าคณะปฏิบัติการทดลองคนแรก และเลือกพื้นที่วนอุทยานเขาใหญ่เป็นพื้นที่ทดลองแห่งแรก ต่อมา ได้มีปฏิบัติการโดยทดลองหยอดก้อนน้ำแข็งแห้ง ขนาดไม่เกิน 1 ลูกบาศก์นิ้ว เข้าไปในยอดเมฆสูงไม่เกิน 10,000 ฟุต ที่ลอยกระจัดกระจายอยู่เหนือพื้นที่ทดลองในขณะนั้น ทำให้กลุ่มเมฆทดลองเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด จนเกิดการกลั่นรวมตัวกันหนาแน่น และก่อยอดสูงขึ้นเป็นเมฆฝนขนาดใหญ่ในเวลาอันรวดเร็วแล้ว และจากการติดตามผลโดยการสำรวจทางภาคพื้นดิน ก็ได้รับรายงานยืนยันจากราษฎรว่า เกิดฝนตกลงสู่พื้นที่บริเวณวนอุทยานเขาใหญ่ในที่สุด การทดลองดังกล่าวจึงเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่บ่งชี้ให้เห็นว่า การบังคับเมฆให้เกิดฝนเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และความสำเร็จดังกล่าวยังส่งผลให้มีการพัฒนา ปรับปรุง และต่อยอดโครงการฝนหลวงมาจนถึงปัจจุบัน
    14 พฤศจิกายน วันพระบิดาแห่งฝนหลวง////////////////////วันพระบิดาแห่งฝนหลวง ตรงกับวันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี 65 ปีแห่งการกำเนิดฝนหลวงพระราชทาน นับจากวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริที่จะคิดค้น วิจัย หาวิธีการทำฝนหลวงเพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของเกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยแล้ง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 เฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน ในฐานะทรงเป็น "พระบิดาแห่งฝนหลวง" และกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปีเป็น "วันพระบิดาแห่งฝนหลวง" เพื่อร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้ และจารึกไว้เป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริโครงการฝนหลวงขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 ทรงศึกษาค้นคว้าและวิจัยทางเอกสาร ทั้งด้านวิชาการ อุตุนิยมวิทยา และการดัดแปรสภาพอากาศ โครงการพระราชดำริฝนหลวง เป็นโครงการที่ก่อกำเนิดจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของพสกนิกรในท้องถิ่นทุรกันดาร ซึ่งต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่ออุปโภคบริโภค และใช้ในการเกษตรกรรม อันเนื่องมาจากภาวะแห้งแล้งที่มีสาเหตุจากความผันแปร และคลาดเคลื่อนของฤดูกาลตามธรรมชาติ กล่าวคือ ฤดูฝนเริ่มต้นล่าช้าเกินไป หรือหมดเร็วกว่าปกติ หรือฝนทิ้งช่วงยาวในช่วงฤดูฝน จากพระราชกรณียกิจในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง นับแต่เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทำให้ทรงพบเห็นว่า ภาวะแห้งแล้งได้มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นตามลำดับ เพราะการตัดไม้ทำลายป่า เป็นสาเหตุให้สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรในทุกภาคของประเทศ ส่งผลถึงความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวมของชาติ คิดเป็นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี ทั้งนี้ ระหว่างทางที่เคยเสด็จพระราชดำเนิน ทั้งภาคพื้นดิน และทางอากาศยาน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงสังเกตเห็นว่า มีเมฆปริมาณมากปกคลุมท้องฟ้า แต่ไม่สามารถก่อรวมตัวกันจนเกิดเป็นฝนได้ เป็นเหตุให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงระยะยาวทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงฤดูฝน ทรงคิดคำนึงว่า น่าจะมีมาตรการทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยให้เมฆเหล่านั้นก่อรวมตัวกันจนเกิดเป็นฝนได้ ทรงเชื่อมั่นว่า ด้วยลักษณะของกาลอากาศ ภูมิอากาศ และภูมิประเทศของประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคเขตร้อน และอยู่ในอิทธิพลของฤดูมรสุมของทวีปเอเชีย โดยเฉพาะฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งเป็นฤดูฝน และเป็นฤดูเพาะปลูกประจำปีของประเทศไทย จะสามารถดัดแปรสภาพอากาศให้เกิดเป็นฝนตกได้ ดังนั้น ตั้งแต่พ.ศ. 2498 เป็นต้นมา พระองค์ทรงศึกษาค้นคว้า และวิจัยทางเอกสาร ทั้งด้านวิชาการอุตุนิยมวิทยา และการดัดแปรสภาพอากาศ จนทรงมั่นพระราชหฤทัย ก่อนพระราชทานแนวคิดนี้แก่ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล ผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยประดิษฐ์ทางด้านเกษตรวิศวกรรม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้น และในปีถัดมา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หาลู่ทางที่จะทำให้เกิดการทดลองปฏิบัติการบนท้องฟ้า กระทั่งในปี พ.ศ. 2512 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดตั้งหน่วยบินปราบศัตรูพืชกรมการข้าว เพื่อให้การสนับสนุนในการสนองพระราชประสงค์ โดยในปีเดียวกันนั้นเอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ทำการทดลองปฏิบัติการจริงในท้องฟ้าเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1-2 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่งตั้งให้ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล เป็นผู้อำนวยการโครงการและหัวหน้าคณะปฏิบัติการทดลองคนแรก และเลือกพื้นที่วนอุทยานเขาใหญ่เป็นพื้นที่ทดลองแห่งแรก ต่อมา ได้มีปฏิบัติการโดยทดลองหยอดก้อนน้ำแข็งแห้ง ขนาดไม่เกิน 1 ลูกบาศก์นิ้ว เข้าไปในยอดเมฆสูงไม่เกิน 10,000 ฟุต ที่ลอยกระจัดกระจายอยู่เหนือพื้นที่ทดลองในขณะนั้น ทำให้กลุ่มเมฆทดลองเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด จนเกิดการกลั่นรวมตัวกันหนาแน่น และก่อยอดสูงขึ้นเป็นเมฆฝนขนาดใหญ่ในเวลาอันรวดเร็วแล้ว และจากการติดตามผลโดยการสำรวจทางภาคพื้นดิน ก็ได้รับรายงานยืนยันจากราษฎรว่า เกิดฝนตกลงสู่พื้นที่บริเวณวนอุทยานเขาใหญ่ในที่สุด การทดลองดังกล่าวจึงเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่บ่งชี้ให้เห็นว่า การบังคับเมฆให้เกิดฝนเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และความสำเร็จดังกล่าวยังส่งผลให้มีการพัฒนา ปรับปรุง และต่อยอดโครงการฝนหลวงมาจนถึงปัจจุบัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 517 มุมมอง 0 รีวิว
  • จบเกมแล้ว

    จีนแซงหน้าสหรัฐฯ ในด้านสิทธิบัตรสำคัญๆมากมาย เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ และหุ่นยนต์
    .
    สหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเป็นอันดับ ๑ 🤣ในด้านวิศวกรรมสังคมและแนวคิดซาตาน🤣
    .
    Game over.

    China has surpassed the US in patents a myriad of critical areas like information technology and robotics.
    .
    The US is however #1 in social engineering and satanic ideas.
    .
    11:37 PM · Nov 4, 2024 · 12.9K Views
    https://x.com/Kanthan2030/status/1853476766490272187
    จบเกมแล้ว จีนแซงหน้าสหรัฐฯ ในด้านสิทธิบัตรสำคัญๆมากมาย เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ และหุ่นยนต์ . สหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเป็นอันดับ ๑ 🤣ในด้านวิศวกรรมสังคมและแนวคิดซาตาน🤣 . Game over. China has surpassed the US in patents a myriad of critical areas like information technology and robotics. . The US is however #1 in social engineering and satanic ideas. . 11:37 PM · Nov 4, 2024 · 12.9K Views https://x.com/Kanthan2030/status/1853476766490272187
    Like
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • เยอรมนีสั่งปิดสถานกงสุลอิหร่านในประเทศ เพื่อตอบโต้อิหร่านจากการสั่งประหารชีวิต "จามชิด ชาร์มาฮ์ด" วิศวกรซอฟท์แวร์ สองสัญชาติ "อิหร่าน-เยอรมัน"

    อันนาเลนา แบร์บ็อค (Annalena Baerbock) รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมัน มีคำสั่งปิดสถานกงสุลอิหร่านทั้งหมดในเยอรมันทั้ง 3 แห่ง ประกอบไปด้วย แฟรงเฟิร์ต ฮัมบูร์ก และมิวนิค ทำให้อิหร่านเหลือที่ตั้งทางการทูตของตัวเองเพียงแห่งเดียวคือ สถานทูตอิหร่านประจำกรุงเบอร์ลิน

    คำสั่งปิดสถานกงศุลครั้งนี้ เพื่อตอบโต้อิหร่านจากการสั่งประหารชีวิต "จามชิด ชาร์มาฮ์ด" (Jamshid Sharmahd) วัย 69 ปี ในคดีก่อการร้าย หลังการไต่สวนโดยกระบวนการยุติธรรมของอิหร่านเสร็จสิ้นลง

    เยอรมัน สหรัฐฯ และกลุ่มสิทธิมนุษยชนออกมาประณามการตัดสินครั้งนี้ว่าเป็นสิ่งที่ “น่าละอาย” ของอิหร่าน

    ชาร์มาฮ์ด มี 2 สัญชาติคือ "อิหร่าน-เยอรมัน" เป็นพวกต่อต้านรัฐบาลอิหร่าน และอาศัยอยู่ในเมืองเกลนโดรา (Glendora) รัฐแคลิฟอร์เนีย เขาถูกจับกุมตัวในดูไบเมื่อปี 2020 และถูกพากลับมาดำเนินคดีในอิหร่าน

    ชาร์มาฮ์ดถูกรัฐบาลอิหร่านกล่าวหาว่า เป็นคนวางแผนโจมตีมัสยิดเมื่อปี 2008 ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 14 คน รวมผู้หญิง 5 คนและเด็ก 1 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 200 คน

    นอกจากนี้เขายังโดนกล่าวหาเพิ่มเติมอีกว่า แอบเปิดเผยข้อมูลความลับที่ตั้งมิสไซล์ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ในปี 2017

    อิหร่านออกมาโต้เยอรมัน หลังถูกประณามว่า “หนังสือเดินทางเยอรมันไม่ได้รับประกันว่าบุคคลใดๆ จะไม่ต้องได้รับการลงโทษ โดยเฉพาะพวกก่อการร้าย”
    เยอรมนีสั่งปิดสถานกงสุลอิหร่านในประเทศ เพื่อตอบโต้อิหร่านจากการสั่งประหารชีวิต "จามชิด ชาร์มาฮ์ด" วิศวกรซอฟท์แวร์ สองสัญชาติ "อิหร่าน-เยอรมัน" อันนาเลนา แบร์บ็อค (Annalena Baerbock) รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมัน มีคำสั่งปิดสถานกงสุลอิหร่านทั้งหมดในเยอรมันทั้ง 3 แห่ง ประกอบไปด้วย แฟรงเฟิร์ต ฮัมบูร์ก และมิวนิค ทำให้อิหร่านเหลือที่ตั้งทางการทูตของตัวเองเพียงแห่งเดียวคือ สถานทูตอิหร่านประจำกรุงเบอร์ลิน คำสั่งปิดสถานกงศุลครั้งนี้ เพื่อตอบโต้อิหร่านจากการสั่งประหารชีวิต "จามชิด ชาร์มาฮ์ด" (Jamshid Sharmahd) วัย 69 ปี ในคดีก่อการร้าย หลังการไต่สวนโดยกระบวนการยุติธรรมของอิหร่านเสร็จสิ้นลง เยอรมัน สหรัฐฯ และกลุ่มสิทธิมนุษยชนออกมาประณามการตัดสินครั้งนี้ว่าเป็นสิ่งที่ “น่าละอาย” ของอิหร่าน ชาร์มาฮ์ด มี 2 สัญชาติคือ "อิหร่าน-เยอรมัน" เป็นพวกต่อต้านรัฐบาลอิหร่าน และอาศัยอยู่ในเมืองเกลนโดรา (Glendora) รัฐแคลิฟอร์เนีย เขาถูกจับกุมตัวในดูไบเมื่อปี 2020 และถูกพากลับมาดำเนินคดีในอิหร่าน ชาร์มาฮ์ดถูกรัฐบาลอิหร่านกล่าวหาว่า เป็นคนวางแผนโจมตีมัสยิดเมื่อปี 2008 ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 14 คน รวมผู้หญิง 5 คนและเด็ก 1 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 200 คน นอกจากนี้เขายังโดนกล่าวหาเพิ่มเติมอีกว่า แอบเปิดเผยข้อมูลความลับที่ตั้งมิสไซล์ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ในปี 2017 อิหร่านออกมาโต้เยอรมัน หลังถูกประณามว่า “หนังสือเดินทางเยอรมันไม่ได้รับประกันว่าบุคคลใดๆ จะไม่ต้องได้รับการลงโทษ โดยเฉพาะพวกก่อการร้าย”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถาม chatGPT Search ให้สรุปเกี่ยวกับเราเอง นี่คือผลที่ได้ครับ

    วศิน ภิรมย์ เกิดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2523 สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ระดับปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในปี พ.ศ. 2545 และปริญญาโทวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2548 (MGR Online)

    ในด้านอาชีพ วศินเริ่มต้นด้วยการก่อตั้งบริษัท ไอยรา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ปัจจุบันคือ บริษัท อีเลิร์นนิ่ง กูรู จำกัด) ในปี พ.ศ. 2546 นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยมีความเชี่ยวชาญด้าน E-Learning และเทคโนโลยีมีเดีย (MGR Online)

    ในปี พ.ศ. 2556 วศินได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะผู้สมัครอิสระ หมายเลข 13 โดยมีนโยบายที่เน้นการพัฒนากรุงเทพฯ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม (MGR Online)

    ปัจจุบัน วศินดำรงตำแหน่งหัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์และระบบสารสนเทศ ที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และมีบทบาทในการจัดกิจกรรมบริการวิชาการสัญจร เช่น การอบรมการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์สมัยใหม่ให้กับโรงเรียนวัดปริยัติธรรม วัดธรรมมงคล (ปทุมธานีอินเทอร์เน็ตเทคโนโลยี)

    นอกจากนี้ วศินยังเคยปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ “ไปไหนไปกัน” เมื่ออายุ 27 ปี ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความสามารถของเขาในด้านต่างๆ (YouTube)

    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวศิน ภิรมย์ สามารถรับชมวิดีโอด้านล่างนี้:

    วศิน ภิรมย์ ออกรายการไปไหนไปกัน ตอนอายุ 27 ปี
    ถาม chatGPT Search ให้สรุปเกี่ยวกับเราเอง นี่คือผลที่ได้ครับ วศิน ภิรมย์ เกิดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2523 สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ระดับปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในปี พ.ศ. 2545 และปริญญาโทวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2548 (MGR Online) ในด้านอาชีพ วศินเริ่มต้นด้วยการก่อตั้งบริษัท ไอยรา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ปัจจุบันคือ บริษัท อีเลิร์นนิ่ง กูรู จำกัด) ในปี พ.ศ. 2546 นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยมีความเชี่ยวชาญด้าน E-Learning และเทคโนโลยีมีเดีย (MGR Online) ในปี พ.ศ. 2556 วศินได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะผู้สมัครอิสระ หมายเลข 13 โดยมีนโยบายที่เน้นการพัฒนากรุงเทพฯ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม (MGR Online) ปัจจุบัน วศินดำรงตำแหน่งหัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์และระบบสารสนเทศ ที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และมีบทบาทในการจัดกิจกรรมบริการวิชาการสัญจร เช่น การอบรมการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์สมัยใหม่ให้กับโรงเรียนวัดปริยัติธรรม วัดธรรมมงคล (ปทุมธานีอินเทอร์เน็ตเทคโนโลยี) นอกจากนี้ วศินยังเคยปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ “ไปไหนไปกัน” เมื่ออายุ 27 ปี ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความสามารถของเขาในด้านต่างๆ (YouTube) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวศิน ภิรมย์ สามารถรับชมวิดีโอด้านล่างนี้: วศิน ภิรมย์ ออกรายการไปไหนไปกัน ตอนอายุ 27 ปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ดร.นิว' แฉความลับกัมพูชาที่คนไทยควรรู้!

    31 ต.ค.2567 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ความลับกัมพูชาที่คนไทยทุกคนควรต้องรู้” ระบุว่า กัมพูชาเป็นเพียงประเทศเดียวในภูมิภาคแทบนี้ ที่ไม่ยอมเข้าร่วมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 หรือ United Nations Convention on the Law Of the Sea (UNCLOS) อ่านออกเสียงตัวอักษรย่อ UNCLOS ว่า "อันโคลซ" ซึ่งปัจจุบันนับได้ว่าเป็นอนุสัญญาสหประชาชาติสำคัญ เป็นที่ยอมรับในการแบ่งเขตแดนทางทะเลของแต่ละประเทศอันเป็นหลักสากล โปร่งใส และมีความเป็นธรรม สามารถช่วยแก้ไข ตลอดจนระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างประเทศได้อย่างสันติ

    เหตุผลประการสำคัญที่กัมพูชาไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS เป็นเพราะทางกัมพูชาทราบดีว่าจะเสียเปรียบในการเจรจาแบ่งเขตแดนทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน โดย ดร.วันนาริธ ชเฮียง นักวิชาการชื่อดังชาวกัมพูชาเป็นผู้ยอมรับเอง ยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชากลัวการเข้าร่วมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล UNCLOS จะทำให้กัมพูชาเสียเปรียบในการเจรจากำหนดเขตแดนทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังที่กัมพูชาพยายามอ้างสิทธิ์ตามเส้นเขตแดนที่ลากขึ้นในสมัยที่ยังเป็นรัฐอารักขาของประเทศฝรั่งเศส

    เมื่อทราบความจริงดังนี้ ประเทศไทยของเราจึงไม่ควรเจรจากับกัมพูชาเป็นอย่างยิ่งตราบใดที่กัมพูชายังไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS เพราะไทยจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสียเองหากยังคงยึดข้อพิพาทเดิมตามแนวทาง MOU 2544 ที่ล้าสมัยไปแล้ว ขนาดรัฐบาลกัมพูชายังไม่ยอมเสียเปรียบไทย ถ้ารัฐบาลไทยยอมเสียเปรียบกัมพูชา ยอมยกผลประโยชน์ของประเทศชาติและปวงชนชาวไทยมูลค่านับล้านล้านบาทให้กับกัมพูชา กล้าเสนอหน้าไปเจรจาโดยที่กัมพูชายังไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS จะเรียกว่า "โง่" หรือ "ขายชาติ" ดีครับ?

    ดังนั้น UNCLOS จึงเป็นหลักสำคัญในการเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชา ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนจะจบลงทันที เพราะเส้นเขตแดนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาภายใต้ UNCLOS เป็นสากลอยู่แล้ว สิ่งที่เหลือให้ไทยและกัมพูชายังต้องเจรจาตกลงกัน คือ หลุมน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่วางตัวอยู่ในแนวเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเลของทั้งสองประเทศ นอกจากไทยเราจะไม่เสียเกาะกูดเป็นแน่แล้ว ยังจะสามารถครองพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นข้อพิพาท รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติในท้องทะเล ทั้งน้ำมันดิบและก๊าชธรรมชาติส่วนใหญ่จะตกเป็นของไทย
    ขนาดนักวิชาการกัมพูชายังยืนยันชัดเจนว่ารัฐบาลกัมพูชาไม่เข้าร่วม UNCLOS เพราะกลัวเสียเปรียบ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนจึงควรตระหนักรู้เกี่ยวกับ UNCLOS เพื่อให้รัฐบาลไทยยื่นข้อเสนอให้กัมพูชาเข้าร่วม UNCLOS เสียก่อนเท่านั้น แล้วจึงค่อยเปิดการเจรจาที่เป็นธรรม!

    ที่มา https://www.thaipost.net/x-cite-news/682589/

    #Thaitimes
    'ดร.นิว' แฉความลับกัมพูชาที่คนไทยควรรู้! 31 ต.ค.2567 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ความลับกัมพูชาที่คนไทยทุกคนควรต้องรู้” ระบุว่า กัมพูชาเป็นเพียงประเทศเดียวในภูมิภาคแทบนี้ ที่ไม่ยอมเข้าร่วมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 หรือ United Nations Convention on the Law Of the Sea (UNCLOS) อ่านออกเสียงตัวอักษรย่อ UNCLOS ว่า "อันโคลซ" ซึ่งปัจจุบันนับได้ว่าเป็นอนุสัญญาสหประชาชาติสำคัญ เป็นที่ยอมรับในการแบ่งเขตแดนทางทะเลของแต่ละประเทศอันเป็นหลักสากล โปร่งใส และมีความเป็นธรรม สามารถช่วยแก้ไข ตลอดจนระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างประเทศได้อย่างสันติ เหตุผลประการสำคัญที่กัมพูชาไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS เป็นเพราะทางกัมพูชาทราบดีว่าจะเสียเปรียบในการเจรจาแบ่งเขตแดนทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน โดย ดร.วันนาริธ ชเฮียง นักวิชาการชื่อดังชาวกัมพูชาเป็นผู้ยอมรับเอง ยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชากลัวการเข้าร่วมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล UNCLOS จะทำให้กัมพูชาเสียเปรียบในการเจรจากำหนดเขตแดนทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังที่กัมพูชาพยายามอ้างสิทธิ์ตามเส้นเขตแดนที่ลากขึ้นในสมัยที่ยังเป็นรัฐอารักขาของประเทศฝรั่งเศส เมื่อทราบความจริงดังนี้ ประเทศไทยของเราจึงไม่ควรเจรจากับกัมพูชาเป็นอย่างยิ่งตราบใดที่กัมพูชายังไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS เพราะไทยจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสียเองหากยังคงยึดข้อพิพาทเดิมตามแนวทาง MOU 2544 ที่ล้าสมัยไปแล้ว ขนาดรัฐบาลกัมพูชายังไม่ยอมเสียเปรียบไทย ถ้ารัฐบาลไทยยอมเสียเปรียบกัมพูชา ยอมยกผลประโยชน์ของประเทศชาติและปวงชนชาวไทยมูลค่านับล้านล้านบาทให้กับกัมพูชา กล้าเสนอหน้าไปเจรจาโดยที่กัมพูชายังไม่ยอมเข้าร่วม UNCLOS จะเรียกว่า "โง่" หรือ "ขายชาติ" ดีครับ? ดังนั้น UNCLOS จึงเป็นหลักสำคัญในการเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชา ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนจะจบลงทันที เพราะเส้นเขตแดนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาภายใต้ UNCLOS เป็นสากลอยู่แล้ว สิ่งที่เหลือให้ไทยและกัมพูชายังต้องเจรจาตกลงกัน คือ หลุมน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่วางตัวอยู่ในแนวเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเลของทั้งสองประเทศ นอกจากไทยเราจะไม่เสียเกาะกูดเป็นแน่แล้ว ยังจะสามารถครองพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นข้อพิพาท รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติในท้องทะเล ทั้งน้ำมันดิบและก๊าชธรรมชาติส่วนใหญ่จะตกเป็นของไทย ขนาดนักวิชาการกัมพูชายังยืนยันชัดเจนว่ารัฐบาลกัมพูชาไม่เข้าร่วม UNCLOS เพราะกลัวเสียเปรียบ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนจึงควรตระหนักรู้เกี่ยวกับ UNCLOS เพื่อให้รัฐบาลไทยยื่นข้อเสนอให้กัมพูชาเข้าร่วม UNCLOS เสียก่อนเท่านั้น แล้วจึงค่อยเปิดการเจรจาที่เป็นธรรม! ที่มา https://www.thaipost.net/x-cite-news/682589/ #Thaitimes
    WWW.THAIPOST.NET
    'ดร.นิว' แฉความลับกัมพูชาที่คนไทยควรรู้!
    ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 566 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

    ////////////////////

    23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทยหลายด้าน และสิ่งที่โดดเด่นคือ การประกาศ เลิกทาส เป็นการหยุดวงจรการเป็นทาส เพราะเมื่อสมัยก่อนหากพ่อแม่เป็นทาส ลูกที่เกิดมาก็ต้องเป็นทาสต่อไปเรื่อยๆ ทางราชการจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปีเป็นหนึ่งในวันระลึกถึงความสำคัญของเหตุการณ์ในชาติ โดยเรียกว่า “วันปิยมหาราช”
    พระราชประวัติ
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 เป็นโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนางเจ้าฟ้ารำเพยภมราภิรมย์ (สมเด็จพระเทพศิรินทรา พระบรมราชินี)เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรลังกาศ ต่อมาเมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมขุนพินิตประชานาถ พระองค์ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ศึกษาวิชาต่างๆ เช่น ชีววิทยา วิชาดาบ วิศวกรรมศาสตร์ ภาษาอังกฤษและมานุษยวิทยา และเดินทางไปต่างประเทศและศึกษายุโรป และวิทยาศาสตร์การทหาร ในช่วงครองราชย์ 42 ปี พระองค์ทรงริเริ่มขบวนการปฏิรูปการพัฒนาตนเองและความเจริญรุ่งเรือง ทำให้การเมืองและการทหารของไทยเป็นตะวันตก และบรรลุความมั่งคั่ง ความก้าวหน้า สันติภาพและความพึงพอใจของประเทศ นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าการกระทำของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาเอกราชไว้ได้

    ประราชกรณียกิจสำคัญ

    การเลิกทาส : ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสที่แท้จริงขึ้น เรียกว่า “พระราชบัญญัติทาส ร.ศ.124” (พ.ศ.2448) เลิกเรื่องลูกทาส ในเรือนเบี้ยอย่างเด็ดขาด เด็กที่เกิดจากทาส ไม่เป็นทาสอีกต่อไป การซื้อขายทาสเป็นโทษทางอาญา ส่วนผู้ที่เป็นทาสอยู่แล้ว ให้นายเงินลดค่าตัวให้เดือนละ 4 บาท จนกว่าจะหมด

    การปฏิรูประเบียบบริหารราชการ : ได้ทรงปรับปรุงหน้าที่ของกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่แต่เดิมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยรวมกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายเวลานั้นเข้าเป็นกระทรวง กระทรวงหนึ่ง ๆ ก็มีหน้าที่อย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างพอเหมาะสม

    การศึกษา : ทรงโปรดให้จัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง แล้วมีหมายประกาศชักชวนพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการให้ส่งบุตรหลานเข้า เรียน โรงเรียนภาษาไทยนี้

    การคมนาคม ได้โปรดเกล้าฯ ให้ขยายถนนบำรุงเมือง ถนนที่ทรงสร้างใหม่ คือ ถนนเยาวราช ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนดินสอ ถนนบูรพา ถนนอุณากรรณ เป็นต้น

    การสุขาภิบาล ได้ทรงตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อดูแลจัดตั้งโรงพยาบาลขึ้นหลายแห่ง เช่น ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลบางรัก โรงพยาบาลโรคจิต และโรงเลี้ยงเด็ก

    การวรรณคดี ทรงเป็นนักประพันธ์ ซึ่งมีความชำนาญทั้งทางร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น ไกลบ้าน ลิลิตนิทราชาคริต เงาะป่า พระราชพิธีสิบสองเดือน เป็นต้น

    ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายฯ
    สำนักงาน นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
    ขอน้อมรำลึกถึง
    พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าและเพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่านที่ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง
    23 ตุลาคม วันปิยมหาราช น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 //////////////////// 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทยหลายด้าน และสิ่งที่โดดเด่นคือ การประกาศ เลิกทาส เป็นการหยุดวงจรการเป็นทาส เพราะเมื่อสมัยก่อนหากพ่อแม่เป็นทาส ลูกที่เกิดมาก็ต้องเป็นทาสต่อไปเรื่อยๆ ทางราชการจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปีเป็นหนึ่งในวันระลึกถึงความสำคัญของเหตุการณ์ในชาติ โดยเรียกว่า “วันปิยมหาราช” พระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 เป็นโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนางเจ้าฟ้ารำเพยภมราภิรมย์ (สมเด็จพระเทพศิรินทรา พระบรมราชินี)เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรลังกาศ ต่อมาเมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมขุนพินิตประชานาถ พระองค์ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ศึกษาวิชาต่างๆ เช่น ชีววิทยา วิชาดาบ วิศวกรรมศาสตร์ ภาษาอังกฤษและมานุษยวิทยา และเดินทางไปต่างประเทศและศึกษายุโรป และวิทยาศาสตร์การทหาร ในช่วงครองราชย์ 42 ปี พระองค์ทรงริเริ่มขบวนการปฏิรูปการพัฒนาตนเองและความเจริญรุ่งเรือง ทำให้การเมืองและการทหารของไทยเป็นตะวันตก และบรรลุความมั่งคั่ง ความก้าวหน้า สันติภาพและความพึงพอใจของประเทศ นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าการกระทำของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ ประราชกรณียกิจสำคัญ การเลิกทาส : ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสที่แท้จริงขึ้น เรียกว่า “พระราชบัญญัติทาส ร.ศ.124” (พ.ศ.2448) เลิกเรื่องลูกทาส ในเรือนเบี้ยอย่างเด็ดขาด เด็กที่เกิดจากทาส ไม่เป็นทาสอีกต่อไป การซื้อขายทาสเป็นโทษทางอาญา ส่วนผู้ที่เป็นทาสอยู่แล้ว ให้นายเงินลดค่าตัวให้เดือนละ 4 บาท จนกว่าจะหมด การปฏิรูประเบียบบริหารราชการ : ได้ทรงปรับปรุงหน้าที่ของกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่แต่เดิมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยรวมกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายเวลานั้นเข้าเป็นกระทรวง กระทรวงหนึ่ง ๆ ก็มีหน้าที่อย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างพอเหมาะสม การศึกษา : ทรงโปรดให้จัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง แล้วมีหมายประกาศชักชวนพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการให้ส่งบุตรหลานเข้า เรียน โรงเรียนภาษาไทยนี้ การคมนาคม ได้โปรดเกล้าฯ ให้ขยายถนนบำรุงเมือง ถนนที่ทรงสร้างใหม่ คือ ถนนเยาวราช ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนดินสอ ถนนบูรพา ถนนอุณากรรณ เป็นต้น การสุขาภิบาล ได้ทรงตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อดูแลจัดตั้งโรงพยาบาลขึ้นหลายแห่ง เช่น ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลบางรัก โรงพยาบาลโรคจิต และโรงเลี้ยงเด็ก การวรรณคดี ทรงเป็นนักประพันธ์ ซึ่งมีความชำนาญทั้งทางร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น ไกลบ้าน ลิลิตนิทราชาคริต เงาะป่า พระราชพิธีสิบสองเดือน เป็นต้น ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายฯ สำนักงาน นันท์นภัส วงศ์ใหญ่ ขอน้อมรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าและเพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่านที่ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้แรกๆนึกว่าจะไปได้ด้วยดีแล้สวย แต่เปล่าเลย กลับถูกโทรตามงานจนผมเสียความรู้สึก บางทีผมคงอยากจะแคนเซิลงานที่เหมือนไม่มีจุดหมาย มีแต่ทำให้ผมเสื่อมถอยทางจิตใจลง และทำให้ทุกๆวันของผมมันไม่ราบรื่นและไม่มีความสุข บวกกับปัญหาระหว่างคนรอบข้างที่ผมพยายามจะหลีกเลี่ยงแต่ก็หลีกไม่ได้เสียที ต้องทนถูกเขา Toxic ไปตลอดเพราะเขาไม่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของผม ผมไม่ได้ต้องการอยู่เฉยๆ แต่ผมไม่ชอบที่จะต้องมาทำงานในรายได้ที่น้อยเกินกว่าที่ผ่านการจบ ป.ตรี มา 4 ปี ใน วิศวกรรมสารสนเทศ สูญเปล่ามากเพราะมาโฟกัสกับต้องมาสอบงานแต่สุดท้ายก็ได้เป็นแค่ขี้ข้ารองมือรองตีน น่าเบื่อมาก และต่อให้กินอะไรอร่อยๆก็ไม่ได้ช่วยให้จิตใจดีขึ้นเลย และต่อให้มีเวลาว่างมาดูแต่อารมณ์ไม่เพลิดเพลินกับมันแล้ว เพราะปัญหาไม่รู้จักจบจักสิ้นเกิดขึ้นกับผมในช่วงที่ผมไม่ทันตั้งตัว บางทีผมอาจจะตั้งรับไม่ดีพอ ผมเลยต้องเจอชะตากรรมที่แย่ที่สุดในชีวิตแบบนี้ครับ
    วันนี้แรกๆนึกว่าจะไปได้ด้วยดีแล้สวย แต่เปล่าเลย กลับถูกโทรตามงานจนผมเสียความรู้สึก บางทีผมคงอยากจะแคนเซิลงานที่เหมือนไม่มีจุดหมาย มีแต่ทำให้ผมเสื่อมถอยทางจิตใจลง และทำให้ทุกๆวันของผมมันไม่ราบรื่นและไม่มีความสุข บวกกับปัญหาระหว่างคนรอบข้างที่ผมพยายามจะหลีกเลี่ยงแต่ก็หลีกไม่ได้เสียที ต้องทนถูกเขา Toxic ไปตลอดเพราะเขาไม่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของผม ผมไม่ได้ต้องการอยู่เฉยๆ แต่ผมไม่ชอบที่จะต้องมาทำงานในรายได้ที่น้อยเกินกว่าที่ผ่านการจบ ป.ตรี มา 4 ปี ใน วิศวกรรมสารสนเทศ สูญเปล่ามากเพราะมาโฟกัสกับต้องมาสอบงานแต่สุดท้ายก็ได้เป็นแค่ขี้ข้ารองมือรองตีน น่าเบื่อมาก และต่อให้กินอะไรอร่อยๆก็ไม่ได้ช่วยให้จิตใจดีขึ้นเลย และต่อให้มีเวลาว่างมาดูแต่อารมณ์ไม่เพลิดเพลินกับมันแล้ว เพราะปัญหาไม่รู้จักจบจักสิ้นเกิดขึ้นกับผมในช่วงที่ผมไม่ทันตั้งตัว บางทีผมอาจจะตั้งรับไม่ดีพอ ผมเลยต้องเจอชะตากรรมที่แย่ที่สุดในชีวิตแบบนี้ครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขื่อนบางลาง จ.ยะลา
    ตั้งอยู่ที่บ้านบางลาง ตำบลเขื่อนบางลาง เป็นโครงการไฟฟ้าพลังน้ำอเนกประสงค์แห่งแรกในภาคใต้ที่สร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี เป็นเขื่อนแบบหินทิ้งแกนดินเหนียว สูง 85 เมตร สันเขื่อนยาว 422 เมตร สามารถเก็บกักน้ำได้ 1,420 ล้านลูกบาศก์เมตร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนบางลาง เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2524 บริเวณเหนือเขื่อนมีจุดชมทิวทัศน์ ซึ่งมองเห็นทัศนียภาพของเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และทิวเขาโดยรอบได้สวยงาม

    ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการก่อสร้างเขื่อนบางลางเมื่อปี 2521 ได้ทรงมีพระราชดำริให้ กฟผ. พิจารณานำน้ำที่ล้นจากฝายลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลางมาใช้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก เพื่อเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำในท้องถิ่นที่เกิดประโยชน์เต็มที่

    กฟผ. ได้สนองพระราชดำริโดยก่อสร้างโรงไฟฟ้าใต้ภูเขาแห่งแรกของประเทศไทยที่หมู่ บ้านสันติ 1 ตำบลเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อปี 2524 ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 1.275 เมกะวัตต์ จำนวน 1 เครื่อง และท่อส่งน้ำ ยาว 1800 เมตร สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ในเดือนตุลาคม 2525 ให้พลังงานไฟฟ้าปีละประมาณ 6 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง

    โรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านสันติ มีการควบคุมการเดินเครื่องเป็นแบบระบบอัตโนมัติสามารถสั่งการและควบคุมการ เดินเครื่องได้โดยตรงจากโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง จึงเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเข้ามาช่วย ซึ่งดำเนินการโดยวิศวกรและช่างชาวไทยทั้งสิ้น
    นอกจากการผลิตไฟฟ้าแล้ว อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนบางลาง ยังมีประโยชน์ไว้สำหรับในพื้นที่เพาะปลูกของ จังหวัดยะลา และปัตตานีด้วย รวมถึงช่วยบรรเทาน้ำท่วมในบริเวณตอนล่างของลุ่มน้ำปัตตานีได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญในภาคใต้อีกด้วย

    ที่นี่มีวิวสวยงามอย่างมาก เพราะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ โดยเราสามารถล่องแพ หรือ นั่งเรือชมวิวของป่าฮาลาที่อยู่ใกล้เขื่อน และชมเกาะแก่งเหนือ เขื่อนบางลาง ได้แบบชิลๆ ได้สัมผัสธรรมชาติของป่าฮาลา ที่อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้แปลกๆน่าศึกษาอีกด้วย
    #เที่ยวยะลา
    #คิดถึงธรรมชาติ

    เขื่อนบางลาง จ.ยะลา ตั้งอยู่ที่บ้านบางลาง ตำบลเขื่อนบางลาง เป็นโครงการไฟฟ้าพลังน้ำอเนกประสงค์แห่งแรกในภาคใต้ที่สร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี เป็นเขื่อนแบบหินทิ้งแกนดินเหนียว สูง 85 เมตร สันเขื่อนยาว 422 เมตร สามารถเก็บกักน้ำได้ 1,420 ล้านลูกบาศก์เมตร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนบางลาง เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2524 บริเวณเหนือเขื่อนมีจุดชมทิวทัศน์ ซึ่งมองเห็นทัศนียภาพของเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และทิวเขาโดยรอบได้สวยงาม ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการก่อสร้างเขื่อนบางลางเมื่อปี 2521 ได้ทรงมีพระราชดำริให้ กฟผ. พิจารณานำน้ำที่ล้นจากฝายลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลางมาใช้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก เพื่อเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำในท้องถิ่นที่เกิดประโยชน์เต็มที่ กฟผ. ได้สนองพระราชดำริโดยก่อสร้างโรงไฟฟ้าใต้ภูเขาแห่งแรกของประเทศไทยที่หมู่ บ้านสันติ 1 ตำบลเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อปี 2524 ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 1.275 เมกะวัตต์ จำนวน 1 เครื่อง และท่อส่งน้ำ ยาว 1800 เมตร สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ในเดือนตุลาคม 2525 ให้พลังงานไฟฟ้าปีละประมาณ 6 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง โรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านสันติ มีการควบคุมการเดินเครื่องเป็นแบบระบบอัตโนมัติสามารถสั่งการและควบคุมการ เดินเครื่องได้โดยตรงจากโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง จึงเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเข้ามาช่วย ซึ่งดำเนินการโดยวิศวกรและช่างชาวไทยทั้งสิ้น นอกจากการผลิตไฟฟ้าแล้ว อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนบางลาง ยังมีประโยชน์ไว้สำหรับในพื้นที่เพาะปลูกของ จังหวัดยะลา และปัตตานีด้วย รวมถึงช่วยบรรเทาน้ำท่วมในบริเวณตอนล่างของลุ่มน้ำปัตตานีได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญในภาคใต้อีกด้วย ที่นี่มีวิวสวยงามอย่างมาก เพราะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ โดยเราสามารถล่องแพ หรือ นั่งเรือชมวิวของป่าฮาลาที่อยู่ใกล้เขื่อน และชมเกาะแก่งเหนือ เขื่อนบางลาง ได้แบบชิลๆ ได้สัมผัสธรรมชาติของป่าฮาลา ที่อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้แปลกๆน่าศึกษาอีกด้วย #เที่ยวยะลา #คิดถึงธรรมชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • รรท.ผบ.ตร.เยี่ยมอาการนักเรียน 3 คนที่รับบาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา พร้อมประชุมติดตามคดีที่ สภ.คูคต กำชับดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด เผยแจ้งข้อหาแล้ว 3 ราย วิศวกร-จนท.ขนส่ง-อู่ติดก๊าซ ส่อโดนด้วย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097065

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รรท.ผบ.ตร.เยี่ยมอาการนักเรียน 3 คนที่รับบาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา พร้อมประชุมติดตามคดีที่ สภ.คูคต กำชับดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด เผยแจ้งข้อหาแล้ว 3 ราย วิศวกร-จนท.ขนส่ง-อู่ติดก๊าซ ส่อโดนด้วย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097065 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    18
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 3074 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตส.ส.ปชป. พาสื่อทัวร์สภาฯ ชี้เป้า ฝ้าถล่ม น้ำส้วมทะลัก อึ้งห้องเกิดเหตุเพิ่งจัดเลี้ยงส่งขรก.เกษียณไปหมาดๆ เผยขรก.-วิศวกรฯ ส่งข้อมูลให้เพราะทนอึดอัดไม่ไหว เตรียมรวบรวมข้อมูลร้อง “ป.ป.ช.” สอบด่วน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000096984

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อดีตส.ส.ปชป. พาสื่อทัวร์สภาฯ ชี้เป้า ฝ้าถล่ม น้ำส้วมทะลัก อึ้งห้องเกิดเหตุเพิ่งจัดเลี้ยงส่งขรก.เกษียณไปหมาดๆ เผยขรก.-วิศวกรฯ ส่งข้อมูลให้เพราะทนอึดอัดไม่ไหว เตรียมรวบรวมข้อมูลร้อง “ป.ป.ช.” สอบด่วน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000096984 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Sad
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2738 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระเบิด "ทรอปิคาน่า" คาสิโนระดับตำนานของเวกัส

    โรงแรมทรอปปิคาน่า คาสิโนในตำนานของลาส เวกัส ถูกระเบิดแหลกเป็นจุลเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้ามืดของวันพุธที่ 9 ตุลาคม 2024 ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

    ถือเป็นการระเบิดคาสิโนครั้งล่าสุดในรอบเกือบสิบปีของลาส เวกัส

    โดยการระเบิดโรงแรมที่เก่าแก่เป็นอันดับสามของย่านสตริปแห่งนี้ เริ่มต้นด้วยการแสดงแปรภาพของโดรน 550 เครื่อง และไพโรโดรน อีก 150 เครื่อง เป็นตัวเลขนับถอยหลัง และป้ายชื่อโรงแรม เป็นการไว้อาลัยก่อนที่จะมีการกดระเบิดโดยวิศวกรของบริษัท คอนโทรลล์ ดีโมลิชั่น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการระเบิดทำลายอาคารขนาดใหญ่ และเป็นผู้รับผิดชอบการระเบิดทำลายอาคารโรงแรมและคาสิโนแทบทุกแห่งในลาส เวกัส นับจากปี 1995 เป็นต้นมา

    ทรอปิคาน่า ถือเป็นโรงแรมและคาสิโนระดับตำนานของลาส เวกัส เพราะเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1957 หรือ 67 ปีก่อนจะปิดกิจการเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา โดยพื้นที่ที่เคยเป็นโรงแรมทรอปิคาน่า จะถูกสร้างเป็นสนามเบสบอลมาตรฐานของทีมโอ๊คแลนด์ แอทเลติก (Oakland Athletics) ขนาด 33,000 ที่นั่ง ซึ่งใช้ทุนสร้างสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ ที่เชื่อว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2028.
    ระเบิด "ทรอปิคาน่า" คาสิโนระดับตำนานของเวกัส โรงแรมทรอปปิคาน่า คาสิโนในตำนานของลาส เวกัส ถูกระเบิดแหลกเป็นจุลเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้ามืดของวันพุธที่ 9 ตุลาคม 2024 ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ถือเป็นการระเบิดคาสิโนครั้งล่าสุดในรอบเกือบสิบปีของลาส เวกัส โดยการระเบิดโรงแรมที่เก่าแก่เป็นอันดับสามของย่านสตริปแห่งนี้ เริ่มต้นด้วยการแสดงแปรภาพของโดรน 550 เครื่อง และไพโรโดรน อีก 150 เครื่อง เป็นตัวเลขนับถอยหลัง และป้ายชื่อโรงแรม เป็นการไว้อาลัยก่อนที่จะมีการกดระเบิดโดยวิศวกรของบริษัท คอนโทรลล์ ดีโมลิชั่น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการระเบิดทำลายอาคารขนาดใหญ่ และเป็นผู้รับผิดชอบการระเบิดทำลายอาคารโรงแรมและคาสิโนแทบทุกแห่งในลาส เวกัส นับจากปี 1995 เป็นต้นมา ทรอปิคาน่า ถือเป็นโรงแรมและคาสิโนระดับตำนานของลาส เวกัส เพราะเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1957 หรือ 67 ปีก่อนจะปิดกิจการเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา โดยพื้นที่ที่เคยเป็นโรงแรมทรอปิคาน่า จะถูกสร้างเป็นสนามเบสบอลมาตรฐานของทีมโอ๊คแลนด์ แอทเลติก (Oakland Athletics) ขนาด 33,000 ที่นั่ง ซึ่งใช้ทุนสร้างสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ ที่เชื่อว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2028.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • อันตราย...ติดหลัง?

    ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียในกรณีเพลิงไหม้รถทัศนศึกษา ด้วยความคาราวะอย่างสุดหัวใจ

    ตั้งใจเขียนเรื่องนี้เอาไว้เตือนตัวเอง และคนที่ผ่านมาอ่าน

    ในฐานะ อดีต Columnist นิตยสาร Gas for Cars นิตยสารเกี่ยวกับแก๊สรถยนต์มาหลายปี ผ่านละลอกคลื่นขึ้น-ลงของแก๊สรถยนต์มานาน มีโอกาสได้ศึกษา สัมภาษณ์ พูดคุยกับเจ้าของแบรนด์ Gas รถยนต์, เจ้าของอู่ติดตั้งแก๊สรถยนต์, วิศวกรแก๊สรถยนต์ เลยไปถึงช่างติดตั้งแก๊สรถยนต์, ผู้ตรวจสภาพแก๊สรถยนต์ ยาวถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวกับแก๊สรถยนต์ และในฐานะของ คนขับรถติดแก๊ส ขอฟันธงว่า

    "แก๊สอันตราย" ... ต่อเมื่อคนใช้แก๊ส ไม่เคารพความปลอดภัย

    จากรายละเอียดรถบัสที่ปรากฎตามสื่อ
    - รถมีการใช้งาน คัสซี มาตั้้งแต่ปี 2513 (หรือใช้โครงรถมาแล้ว 54 ปี)
    - มีการติดตั้้งถังแก๊ส CNG (NGV) สูงถึง 11 ถัง จากการขออนุญาตไว้เพียง 6 ถัง
    - เกิดเหตุ เพลาล้อรถหัก ครูดกับพื้นถนน
    - ท่อแก๊สหลุด ทำให้แก๊สกระจายตัวในห้องโดยสาร
    - เกิดประกายไฟ

    การจดทะเบียนรถ ในเอกสารทะเบียนรถจะระบุ "เลขตัวถัง" ที่เป็นเลขที่ตีประทับไว้บนแชสซีของรถ ไม่ว่ารถบัสจะถูกดัดแปลงไปกี่ครั้ง หากยังใช้เลขตัวถังเดิม นั่นก็แปลว่า โครงรถ ใช้มาแล้วกว่า 50 ปี

    แก๊ส CNG(NGV) เป็นแก๊สที่มีแรงดันสูงมากๆ ทำให้ถังแก๊สต้องทำด้วยเหล็กหนา เพื่อให้สามารถรับแรงดันแก๊สได้ นั่นแปลว่า ถัง CNG(NGV) แต่ละใบ "หนักมาก!"

    โดยถังเหล็กขนาดความจุประมาณ 70 ลิตร จะมีน้ำหนักประมาณ 63 กิโลกรัม เมื่อรวมกับน้ำหนักก๊าซ NGV ที่บรรจุเต็มถังอีกประมาณ 15 กิโลกรัม จะมีน้ำหนักรวมประมาณ 78-80 กิโลกรัม ซึ่งถัง 70 ลิตร คือถังสำหรับรถยนต์ทั่วไป ไม่ใช่กับรถโดยสาร ถังแก๊สสำหรับรถโดยสาร รวมแก๊สแล้ว แต่ละใบจะหนักประมาณ 120 กิโลกรัม

    ถังแก๊ส 11 ใบ น้ำหนักรวมจึงทำให้รถแบกน้ำหนัก 880 - 1,320 กิโลกรัม หรือรถต้องรับน้ำหนัก 1 ตันเป็น Default ยังไม่รวมน้ำหนักเครื่องยนต์ อุปกรณ์เสริมต่างๆ บนรถ และ "ยังไม่รวมน้ำหนักผู้โดยสาร" ทั้งๆ ที่หากทำตามที่จดทะเบียนไว้ รถจะแบกน้ำหนักเพียง 480-720 กิโลกรัมเท่านั้น (เติมแก๊สเต็มยังหนักไม่เท่า น้ำหนักรวมถังเปล่าๆ 11 ใบบนรถเลย)

    เมื่อแบกน้ำหนักมากๆ เพลาล้ออายุ 50 ปี วิ่งทุกวันๆ จะทนไหวหรือ??

    ไม่ว่าท่อแก๊สจะหลุดก่อนเพลาครูดถนน หรือรถครูดถนนก่อนท่อแก๊สหลุด ถังที่ไม่ได้ติดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย วาล์วเซฟตี้ของถังแก๊สจึงไม่ถูกต่ออย่างถูกต้อง ทำให้แก๊ส CNG(NGV) ซึ่งมีคุณสมบัติเบากว่าอากาศ จึงลอยตัว เต็มเพดานรถ....และสะสมรวมตัวอยู่ที่หลังคารถ ภายในตัวรถ รวมกับผู้โดยสารในรถทุกๆ คน..ไม่มีทางระบายออก

    เมื่อเกิดประกายไฟ....

    หากเพียงเจ้าของรถทุกคันที่วิ่งอยู่บนท้องถนน ปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย วันนี้เราคงไม่ต้องเสียน้ำตา ไม่ว่าใคร จะเด็ก หรือผู้ใหญ่ ไม่มีใครสมควรเสียชีวิตด้วยเหตุอันเกิดจากความประมาณในความปลอดภัยทั้งสิ้น

    ผู้ร้ายตัวจริง จึงเป็นใครก็ตามที่ไม่เคยเห็นคุณค่าของความปลอดภัย
    หาใช่.. การใช้แก๊ส
    หาใช่.. การทัศนศึกษา
    อันตราย...ติดหลัง? ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียในกรณีเพลิงไหม้รถทัศนศึกษา ด้วยความคาราวะอย่างสุดหัวใจ ตั้งใจเขียนเรื่องนี้เอาไว้เตือนตัวเอง และคนที่ผ่านมาอ่าน ในฐานะ อดีต Columnist นิตยสาร Gas for Cars นิตยสารเกี่ยวกับแก๊สรถยนต์มาหลายปี ผ่านละลอกคลื่นขึ้น-ลงของแก๊สรถยนต์มานาน มีโอกาสได้ศึกษา สัมภาษณ์ พูดคุยกับเจ้าของแบรนด์ Gas รถยนต์, เจ้าของอู่ติดตั้งแก๊สรถยนต์, วิศวกรแก๊สรถยนต์ เลยไปถึงช่างติดตั้งแก๊สรถยนต์, ผู้ตรวจสภาพแก๊สรถยนต์ ยาวถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวกับแก๊สรถยนต์ และในฐานะของ คนขับรถติดแก๊ส ขอฟันธงว่า "แก๊สอันตราย" ... ต่อเมื่อคนใช้แก๊ส ไม่เคารพความปลอดภัย จากรายละเอียดรถบัสที่ปรากฎตามสื่อ - รถมีการใช้งาน คัสซี มาตั้้งแต่ปี 2513 (หรือใช้โครงรถมาแล้ว 54 ปี) - มีการติดตั้้งถังแก๊ส CNG (NGV) สูงถึง 11 ถัง จากการขออนุญาตไว้เพียง 6 ถัง - เกิดเหตุ เพลาล้อรถหัก ครูดกับพื้นถนน - ท่อแก๊สหลุด ทำให้แก๊สกระจายตัวในห้องโดยสาร - เกิดประกายไฟ การจดทะเบียนรถ ในเอกสารทะเบียนรถจะระบุ "เลขตัวถัง" ที่เป็นเลขที่ตีประทับไว้บนแชสซีของรถ ไม่ว่ารถบัสจะถูกดัดแปลงไปกี่ครั้ง หากยังใช้เลขตัวถังเดิม นั่นก็แปลว่า โครงรถ ใช้มาแล้วกว่า 50 ปี แก๊ส CNG(NGV) เป็นแก๊สที่มีแรงดันสูงมากๆ ทำให้ถังแก๊สต้องทำด้วยเหล็กหนา เพื่อให้สามารถรับแรงดันแก๊สได้ นั่นแปลว่า ถัง CNG(NGV) แต่ละใบ "หนักมาก!" โดยถังเหล็กขนาดความจุประมาณ 70 ลิตร จะมีน้ำหนักประมาณ 63 กิโลกรัม เมื่อรวมกับน้ำหนักก๊าซ NGV ที่บรรจุเต็มถังอีกประมาณ 15 กิโลกรัม จะมีน้ำหนักรวมประมาณ 78-80 กิโลกรัม ซึ่งถัง 70 ลิตร คือถังสำหรับรถยนต์ทั่วไป ไม่ใช่กับรถโดยสาร ถังแก๊สสำหรับรถโดยสาร รวมแก๊สแล้ว แต่ละใบจะหนักประมาณ 120 กิโลกรัม ถังแก๊ส 11 ใบ น้ำหนักรวมจึงทำให้รถแบกน้ำหนัก 880 - 1,320 กิโลกรัม หรือรถต้องรับน้ำหนัก 1 ตันเป็น Default ยังไม่รวมน้ำหนักเครื่องยนต์ อุปกรณ์เสริมต่างๆ บนรถ และ "ยังไม่รวมน้ำหนักผู้โดยสาร" ทั้งๆ ที่หากทำตามที่จดทะเบียนไว้ รถจะแบกน้ำหนักเพียง 480-720 กิโลกรัมเท่านั้น (เติมแก๊สเต็มยังหนักไม่เท่า น้ำหนักรวมถังเปล่าๆ 11 ใบบนรถเลย) เมื่อแบกน้ำหนักมากๆ เพลาล้ออายุ 50 ปี วิ่งทุกวันๆ จะทนไหวหรือ?? ไม่ว่าท่อแก๊สจะหลุดก่อนเพลาครูดถนน หรือรถครูดถนนก่อนท่อแก๊สหลุด ถังที่ไม่ได้ติดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย วาล์วเซฟตี้ของถังแก๊สจึงไม่ถูกต่ออย่างถูกต้อง ทำให้แก๊ส CNG(NGV) ซึ่งมีคุณสมบัติเบากว่าอากาศ จึงลอยตัว เต็มเพดานรถ....และสะสมรวมตัวอยู่ที่หลังคารถ ภายในตัวรถ รวมกับผู้โดยสารในรถทุกๆ คน..ไม่มีทางระบายออก เมื่อเกิดประกายไฟ.... หากเพียงเจ้าของรถทุกคันที่วิ่งอยู่บนท้องถนน ปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย วันนี้เราคงไม่ต้องเสียน้ำตา ไม่ว่าใคร จะเด็ก หรือผู้ใหญ่ ไม่มีใครสมควรเสียชีวิตด้วยเหตุอันเกิดจากความประมาณในความปลอดภัยทั้งสิ้น ผู้ร้ายตัวจริง จึงเป็นใครก็ตามที่ไม่เคยเห็นคุณค่าของความปลอดภัย หาใช่.. การใช้แก๊ส หาใช่.. การทัศนศึกษา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇮🇱 ⚔️ 🇱🇧 ภาพความพ่ายแพ้ของ IDF ทางตอนใต้ของเลบานอน
    .
    💀 🇮🇱 #ทหารอิสราเอล เสียชีวิต 8 ศพ ☠ เพียงแค่ 1 วัน ➡ ➡ หลังระบุในแถลงการณ์ว่า : ได้เริ่มการโจมตีกลุ่มฮิซบัลเลาะห์ในปฏิบัติการภาคพื้นดิน "ในวงจำกัด"😁
    .
    #IDF กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล ประกาศเมื่อ 3 ต.ค. ว่า : ทหารอิสราเอล 8 นาย เสียชีวิตในเลบานอนตอนใต้
    .
    เบื้องต้น กองทัพอิสราเอลได้ระบุชื่อทหารที่เสียชีวิต 1 นาย คือ
    • ร้อยเอกอีตัน อิทซัค โอสเตอร์ อายุ 22 ปี

    ต่อมา กองทัพได้เผยแพร่รายชื่อทหารที่เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 7 นาย
    • ร้อยเอกฮาเรล เอทิงเกอร์ อายุ 23 ปี ผู้บัญชาการในหน่วยคอมมานโดเอโกซ Egoz
    • ร้อยเอกอิไต อาเรียล จิอาต อายุ 23 ปี จากหน่วยวิศวกรรมการรบยาฮาลอม Yahalom
    • จ่าสิบเอก โนอาม บาร์ซิเลย์ อายุ 22 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz
    • จ่าสิบเอกออร์มันซูร์ อายุ 21 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz
    • จ่าสิบเอก นาซาร์ อิทกิน อายุ 21 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz
    • จ่าสิบเอก อัลม์เคน เทเรเฟ อายุ 21 ปี จากหน่วยลาดตระเวนกองพลน้อยโกลานี Golani
    • จ่าสิบเอก อิโด บรอยเออร์ อายุ 21 ปี จากกองพลน้อยโกลานี
    .
    👿 👻 หน่วยคอมมานโด Egoz ทั้งหมด ถูกสังหารระหว่างการยิงปะทะกับกลุ่ม Hezbollah ในหมู่บ้านทางตอนใต้ของเลบานอน
    • ทหารอีก 4 นาย และเจ้าหน้าที่อีก 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์เดียวกันนี้
    .
    ในเหตุการณ์ที่สาม
    • แพทย์ทหารจากกองพันที่ 51 ของกองพลน้อยโกลานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส
    .
    ตามรายงานของกองทัพ #IDF ทหารบางส่วนถูกสังหารด้วย ATGM ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงมา
    • ขณะที่บางนายถูกยิงด้วยปืนครก ระหว่างพยายามอพยพผู้ได้รับบาดเจ็บ
    .
    #Egoz : ชื่ออย่างเป็นทางการคือหน่วย 621 เป็นหน่วยรบพิเศษ คอมมานโดชั้นยอด ของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF)
    #บทบาท : เชี่ยวชาญในการต่อต้านการรบแบบกองโจร, การลาดตระเวนพิเศษ และการปฏิบัติภารกิจโดยตรง
    • มีความเชี่ยวชาญด้านการสู้รบในภูมิประเทศที่ซับซ้อน ภาคสนาม การอำพรางตัว
    .
    🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 นับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
    💀 ทหารอิสราเอล เสียชีวิต 716 นาย
    💀 รวมถึงทหาร 346 นาย ที่เสียชีวิตในการปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซา
    💀 ทหารที่เสียชีวิต 56 นาย จากอุบัติเหตุในการปฏิบัติการภายในฉนวนกาซา รวมถึงเหตุการณ์ยิงพวกเดียวกัน 33 ครั้ง
    💀 ทหาร ได้รับบาดเจ็บ 4,490 นาย

    https://www.timesofisrael.com/liveblog_entry/idf-announces-deaths-of-seven-soldiers-killed-during-fighting-in-southern-lebanon-today/

    https://www.haaretz.com/israel-news/2024-10-02/ty-article/israeli-soldier-killed-in-southern-lebanon-ground-offensive/00000192-4d76-d3f4-a3f3-fdfe60f90000
    .
    💥🚀 จากการโจมตี จากขีปนาวุธของอิหร่าน

    #ฐานทัพอากาศเนวาติม เป็นการยากที่จะประเมินความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่โรงเก็บเครื่องบินเสียหาย และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นโรงเก็บ F-35

    Noraseth Tuntasiri
    🇮🇱 ⚔️ 🇱🇧 ภาพความพ่ายแพ้ของ IDF ทางตอนใต้ของเลบานอน . 💀 🇮🇱 #ทหารอิสราเอล เสียชีวิต 8 ศพ ☠ เพียงแค่ 1 วัน ➡ ➡ หลังระบุในแถลงการณ์ว่า : ได้เริ่มการโจมตีกลุ่มฮิซบัลเลาะห์ในปฏิบัติการภาคพื้นดิน "ในวงจำกัด"😁 . #IDF กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล ประกาศเมื่อ 3 ต.ค. ว่า : ทหารอิสราเอล 8 นาย เสียชีวิตในเลบานอนตอนใต้ . เบื้องต้น กองทัพอิสราเอลได้ระบุชื่อทหารที่เสียชีวิต 1 นาย คือ • ร้อยเอกอีตัน อิทซัค โอสเตอร์ อายุ 22 ปี ต่อมา กองทัพได้เผยแพร่รายชื่อทหารที่เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 7 นาย • ร้อยเอกฮาเรล เอทิงเกอร์ อายุ 23 ปี ผู้บัญชาการในหน่วยคอมมานโดเอโกซ Egoz • ร้อยเอกอิไต อาเรียล จิอาต อายุ 23 ปี จากหน่วยวิศวกรรมการรบยาฮาลอม Yahalom • จ่าสิบเอก โนอาม บาร์ซิเลย์ อายุ 22 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz • จ่าสิบเอกออร์มันซูร์ อายุ 21 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz • จ่าสิบเอก นาซาร์ อิทกิน อายุ 21 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz • จ่าสิบเอก อัลม์เคน เทเรเฟ อายุ 21 ปี จากหน่วยลาดตระเวนกองพลน้อยโกลานี Golani • จ่าสิบเอก อิโด บรอยเออร์ อายุ 21 ปี จากกองพลน้อยโกลานี . 👿 👻 หน่วยคอมมานโด Egoz ทั้งหมด ถูกสังหารระหว่างการยิงปะทะกับกลุ่ม Hezbollah ในหมู่บ้านทางตอนใต้ของเลบานอน • ทหารอีก 4 นาย และเจ้าหน้าที่อีก 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์เดียวกันนี้ . ในเหตุการณ์ที่สาม • แพทย์ทหารจากกองพันที่ 51 ของกองพลน้อยโกลานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส . ตามรายงานของกองทัพ #IDF ทหารบางส่วนถูกสังหารด้วย ATGM ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงมา • ขณะที่บางนายถูกยิงด้วยปืนครก ระหว่างพยายามอพยพผู้ได้รับบาดเจ็บ . #Egoz : ชื่ออย่างเป็นทางการคือหน่วย 621 เป็นหน่วยรบพิเศษ คอมมานโดชั้นยอด ของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) • #บทบาท : เชี่ยวชาญในการต่อต้านการรบแบบกองโจร, การลาดตระเวนพิเศษ และการปฏิบัติภารกิจโดยตรง • มีความเชี่ยวชาญด้านการสู้รบในภูมิประเทศที่ซับซ้อน ภาคสนาม การอำพรางตัว . 🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 นับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 💀 ทหารอิสราเอล เสียชีวิต 716 นาย 💀 รวมถึงทหาร 346 นาย ที่เสียชีวิตในการปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซา 💀 ทหารที่เสียชีวิต 56 นาย จากอุบัติเหตุในการปฏิบัติการภายในฉนวนกาซา รวมถึงเหตุการณ์ยิงพวกเดียวกัน 33 ครั้ง 💀 ทหาร ได้รับบาดเจ็บ 4,490 นาย https://www.timesofisrael.com/liveblog_entry/idf-announces-deaths-of-seven-soldiers-killed-during-fighting-in-southern-lebanon-today/ https://www.haaretz.com/israel-news/2024-10-02/ty-article/israeli-soldier-killed-in-southern-lebanon-ground-offensive/00000192-4d76-d3f4-a3f3-fdfe60f90000 . 💥🚀 จากการโจมตี จากขีปนาวุธของอิหร่าน #ฐานทัพอากาศเนวาติม เป็นการยากที่จะประเมินความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่โรงเก็บเครื่องบินเสียหาย และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นโรงเก็บ F-35 Noraseth Tuntasiri
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚨🇮🇷 วิดีโอที่เพิ่งเผยแพร่แสดงให้เห็นการเตรียมขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่านสำหรับปฏิบัติการ True Promise-2 โดยวิศวกรของกองกำลังอวกาศ IRGC
    .
    🚨🇮🇷 Newly released footage shows the preparation of Iran's ballistic missiles for Operation True Promise-2 by the IRGC Aerospace Force engineers
    .
    3:24 AM · Oct 4, 2024 · 218K Views
    https://x.com/stairwayto3dom/status/1841937335245492257
    🚨🇮🇷 วิดีโอที่เพิ่งเผยแพร่แสดงให้เห็นการเตรียมขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่านสำหรับปฏิบัติการ True Promise-2 โดยวิศวกรของกองกำลังอวกาศ IRGC . 🚨🇮🇷 Newly released footage shows the preparation of Iran's ballistic missiles for Operation True Promise-2 by the IRGC Aerospace Force engineers . 3:24 AM · Oct 4, 2024 · 218K Views https://x.com/stairwayto3dom/status/1841937335245492257
    Like
    Wow
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 56 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.78: ไซบีเรีย

    ความในตอนที่แล้วได้เล่าไปถึงเรื่องท่อก๊าซไซบีเรียที่รัสเซียต่อท่อส่งมาขายให้จีน ผมก็เกิดสงสัยขึ้นว่า “ไซบีเรียนี่อยู่ตรงไหนกันแน่?”

    ในความคิดแรก ผมคิดแค่ว่าไซบีเรียคงเป็นจังหวัดหรือมณฑลหนึ่งในรัสเซีย แต่ปรากฏว่าไม่ใช่แฮะ ไซบีเรียนั้นคือแผ่นดินขนาดยักษ์ที่ถือเป็น 80% ของประเทศรัสเซียเลย

    ถ้าพูดเอาง่ายก็คือ รัสเซียนั้นเป็นประเทศที่ครอบคลุมสองทวีปคือยุโรปและเอเซีย ซึ่งแบ่งกันด้วยเทือกเขาอูราล ฝั่งซ้ายของเทือกเขาอูราลเป็นฝั่งยุโรปครับ เมืองใหญ่ๆเช่น มอสโคว หรือ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และที่ทำการรัฐบาลรัสเซียอยู่ฝั่งนี้

    ส่วนฝั่งขวาของอูราลเป็นฝั่งเอเซียครับ ซึ่งแผ่นดินรัสเซียทั้งหมดในฝั่งเอเซียนี่แหละครับที่เราเรียกว่า “ไซบีเรีย” กว้างใหญ่ไพศาลประมาณ 13 ล้านตร.กม.

    ไซบีเรียนั้นใหญ่กว่าประเทศไทยราวๆ 10 เท่าครับ
    .
    .
    .
    เมื่อเราย้อนเวลาไปประมาณ 150 ปีที่แล้ว ไซบีเรียนั้นเป็นพื้นที่หนาวเหน็บและทุรกันดารมาก รัฐบาลของพระเจ้าซาร์ไม่ค่อยได้ให้ความใส่ใจมากเท่าไรเพราะถือเป็นแผ่นดินไกลโพ้น

    ในเวลานั้นเมืองของรัสเซียที่อยู่ไกลสุดฝั่งตะวันออกมีอยู่สองเมืองชื่อว่า “วลาดิวอสสต็อก” กับ “คาบารอฟ” ซึ่งอยู่ติดกับดินแดนของจีนที่เรียกว่า “แมนจูเรีย” ครับ

    ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียในยุคนั้น ก็คือไม่ได้รักกันแต่ก็ไม่ได้เป็นศัตรูกันครับ อยู่เป็นเพื่อนบ้านกันไปยังงั้นแหละ ชาวไซบีเรียบางส่วนก็หน้าตาคล้ายคนจีน แถมบางกลุ่มยังคิดว่าตัวเองอยู่ในแผ่นดินของจักรพรรดิจีนอยู่เลย

    แต่เมื่อเข้าสู่ยุคล่าอาณานิคม อันมีทั้งอังกฤษ โปรตุเกส และสเปน เข้ามามีอิทธิพลในเอเซีย รัสเซียก็เลยเริ่มกังวลถึงความปลอดภัยของดินแดนตัวเองที่อยู่ใกล้ๆจีน คือ เมืองวลาดิวอสต็อก

    ในเวลานั้น เครื่องมือสำคัญอันหนึ่งที่ฝรั่งเขาใช้รุกรานแผ่นดินอื่นคือ “ทางรถไฟ” ครับ

    อเมริกาใช้การก่อสร้างรางรถไฟเพื่อขยายรุกคืบไปยึดครองอเมริกาฝั่งตะวันตก ชื่อว่า “ทางรถไฟสายทรานส์คอนติเนนทัล"

    อังกฤษก็ใช้วิธีเดียวกันในการรุกคืบแผ่นดินแคนาดาฝั่งตะวันตก คือ สร้างรางรถไฟชื่อว่า ”แคเนเดี้ยน แปซิฟิก เรลเวย์“

    รัสเซียเกรงว่าเมื่ออังกฤษยึดครองแคนาดาฝั่งตะวันตก (แถวๆแวนคูเวอร์) เสร็จแล้ว ก็จะเอาทหารนั่งเรือต่อมายังเอเซียและมาวุ่นวายกับดินแดนรัสเซียฝั่งเอเซียเข้า

    โครงการอภิมหาโปรเจคท์สร้างทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียจึงกำเนิดขึ้นในปี 1881

    เป้าหมายของรัสเซียคือ เพื่อให้กองทัพรัสเซียขนส่งทหารและยุทโธปกรณ์ไปยังเมืองวลาดิวอสต็อกให้ได้โดยเร็วเมื่อเกิดสงคราม

    ต้องขอเล่าก่อนว่า แต่ดั้งเดิมนั้นการเดินทางจากเมืองมอสโควไปยังตะวันออกของรัสเซีย ควีนคัทรินมหาราชินีแห่งรัสเซียได้เคยสร้างถนนยาวนับหมื่นกิโลเมตรไว้แล้ว แต่ก็ผุพังไปเพราะไม่มีการบำรุงรักษา

    ต่อมาคนรัสเซียจึงใช้การล่องเรือไปตามแม่น้ำ แต่ก็ทำได้จำกัดเพราะไซบีเรียนั้นหนาวเหน็บหฤโหดมาก แม่น้ำแข็งจนเป็นน้ำแข็งถึงปีละ 8 เดือน

    ในเบื้องแรกรัฐบาลรัสเซียก็เห็นพ้องต้องกันว่า ถึงเวลาที่ควรจะสร้างทางรถไฟทอดข้ามไซบีเรียกัน แต่ปรากฏว่ารัฐมนตรีคมนาคมกับรัฐมนตรีคลังทะเลาะกันอยู่เป็นปี เพราะต่างฝ่ายต่างอยากจะให้ทางรถไฟวิ่งผ่านในพื้นที่ของตัวเอง

    พระเจ้าซาร์ทนไม่ไหวจึงเขียนจดหมายไปสั่งรัฐบาลว่า “หยุดทะเลาะกันได้แล้ว เราต้องสร้างทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียเดี๋ยวนี้”

    การทะเลาะกันจึงยุติลงและเริ่มก่อสร้างโดยทันที
    .
    .
    .
    การก่อสร้างนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องผ่านภูมิประเทศที่กันดาร มีการเจาะภูเขา สร้างสะพานข้ามแม่น้ำหลายสาย ลงหุบเขา รวมถึงต้องสร้างโรงหลอมเหล็กตามไปเป็นระยะๆ

    แต่กระนั้นก็ยังหาเหล็กได้ไม่พอ จนต้องสั่งซื้อเพิ่มจากโปแลนด์ อังกฤษและอเมริกา

    ส่วนแรงงานนั้นก็หลากหลาย มีตั้งแต่แรงงานรับจ้างไปจนถึงนักโทษที่เกณฑ์มา

    ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียเส้นแรกนั้น มีบางส่วนที่ตัดผ่านแผ่นดินแมนจูเรียที่รัสเซียเช่าจากรัฐบาลจีน แต่เมื่อสร้างเสร็จปุ๊บ การณ์กลับกลายเป็นว่ามีคนจีนก่อหวอดประท้วง จนรัสเซียกับจีนต้องบาดหมางกัน

    และญี่ปุ่นเปิดฉากก่อสงครามกับรัสเซีย ซึ่งเรารู้จักกันในชื่อของ Russo-Japanese war จนกองทัพเรือรัสเซียฝั่งแปซิฟิกย่อยยับ

    รัสเซียจึงเห็นว่าการสร้างทางรถไฟบางส่วนในแผ่นดินจีนนั้นไม่ตอบโจทย์ความมั่นคง รัสเซียจึงทิ้งรางรถไฟทั้งหมดในแมนจูเรีย แล้วพัฒนาเปลี่ยนเส้นทางให้รางรถไฟทั้งหมดวิ่งในแผ่นดินรัสเซีย และขยายจากรางเดี่ยวเป็นรางคู่ด้วย

    ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียจึงสำเร็จได้ในปี 1916

    ชนรัสเซียนั้นเขาภูมิใจในทางรถไฟสายนี้มาก แต่ไม่ใช่ที่รางรถไฟนะครับ เพราะความมหัศจรรย์ที่แท้ของทรานส์ไซบีเรียคือ “สะพาน”

    วิศวกรรมการก่อสร้างสะพานตลอดเส้นทางทรานส์ไซบีเรียนั้นหลากหลายมาก สะพานบางแห่งสูงถึง 64 เมตร บางช่วงทอดข้ามแม่น้ำที่ยาวถึง 2.6 กิโลเมตร

    เรียกกันว่า “Amur Miracle"

    อ้อ....ลืมบอกไปว่า ทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียนั้นยาวถึง 9,500 กิโลเมตรครับ
    .
    .
    .
    เมื่อทรานส์ไซบีเรียสร้างเสร็จปุ๊บ รัฐบาลรัสเซียก็พยายามชักชวนให้คนไปอาศัยอยู่ที่ไซบีเรีย โดยแถมโปรโมชั่นให้เพียบเช่น กู้เงินได้ง่าย, งดเก็บภาษี 10 ปี, รักษาพยาบาลฟรี, ลูกหลานเรียนฟรี, มีเงินอุดหนุนมากมายจากรัฐ

    ผู้คนจึงทยอยหลั่งไหลไปไซบีเรีย ประชากรจึงเพิ่มจากหลักหมื่น ไปสู่หลักแสนและหลักล้านในที่สุด

    ทุกวันนี้ภูมิภาคไซบีเรียมีคนอาศัยอยู่ประมาณ 37 ล้านคน

    และกลายเป็นภูมิภาคสำคัญ เพราะมีทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอยู่ใต้แผ่นดินไซบีเรียมหาศาล

    …เอามาเล่าสู่กันฟังครับ…


    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.78: ไซบีเรีย ความในตอนที่แล้วได้เล่าไปถึงเรื่องท่อก๊าซไซบีเรียที่รัสเซียต่อท่อส่งมาขายให้จีน ผมก็เกิดสงสัยขึ้นว่า “ไซบีเรียนี่อยู่ตรงไหนกันแน่?” ในความคิดแรก ผมคิดแค่ว่าไซบีเรียคงเป็นจังหวัดหรือมณฑลหนึ่งในรัสเซีย แต่ปรากฏว่าไม่ใช่แฮะ ไซบีเรียนั้นคือแผ่นดินขนาดยักษ์ที่ถือเป็น 80% ของประเทศรัสเซียเลย ถ้าพูดเอาง่ายก็คือ รัสเซียนั้นเป็นประเทศที่ครอบคลุมสองทวีปคือยุโรปและเอเซีย ซึ่งแบ่งกันด้วยเทือกเขาอูราล ฝั่งซ้ายของเทือกเขาอูราลเป็นฝั่งยุโรปครับ เมืองใหญ่ๆเช่น มอสโคว หรือ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และที่ทำการรัฐบาลรัสเซียอยู่ฝั่งนี้ ส่วนฝั่งขวาของอูราลเป็นฝั่งเอเซียครับ ซึ่งแผ่นดินรัสเซียทั้งหมดในฝั่งเอเซียนี่แหละครับที่เราเรียกว่า “ไซบีเรีย” กว้างใหญ่ไพศาลประมาณ 13 ล้านตร.กม. ไซบีเรียนั้นใหญ่กว่าประเทศไทยราวๆ 10 เท่าครับ . . . เมื่อเราย้อนเวลาไปประมาณ 150 ปีที่แล้ว ไซบีเรียนั้นเป็นพื้นที่หนาวเหน็บและทุรกันดารมาก รัฐบาลของพระเจ้าซาร์ไม่ค่อยได้ให้ความใส่ใจมากเท่าไรเพราะถือเป็นแผ่นดินไกลโพ้น ในเวลานั้นเมืองของรัสเซียที่อยู่ไกลสุดฝั่งตะวันออกมีอยู่สองเมืองชื่อว่า “วลาดิวอสสต็อก” กับ “คาบารอฟ” ซึ่งอยู่ติดกับดินแดนของจีนที่เรียกว่า “แมนจูเรีย” ครับ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียในยุคนั้น ก็คือไม่ได้รักกันแต่ก็ไม่ได้เป็นศัตรูกันครับ อยู่เป็นเพื่อนบ้านกันไปยังงั้นแหละ ชาวไซบีเรียบางส่วนก็หน้าตาคล้ายคนจีน แถมบางกลุ่มยังคิดว่าตัวเองอยู่ในแผ่นดินของจักรพรรดิจีนอยู่เลย แต่เมื่อเข้าสู่ยุคล่าอาณานิคม อันมีทั้งอังกฤษ โปรตุเกส และสเปน เข้ามามีอิทธิพลในเอเซีย รัสเซียก็เลยเริ่มกังวลถึงความปลอดภัยของดินแดนตัวเองที่อยู่ใกล้ๆจีน คือ เมืองวลาดิวอสต็อก ในเวลานั้น เครื่องมือสำคัญอันหนึ่งที่ฝรั่งเขาใช้รุกรานแผ่นดินอื่นคือ “ทางรถไฟ” ครับ อเมริกาใช้การก่อสร้างรางรถไฟเพื่อขยายรุกคืบไปยึดครองอเมริกาฝั่งตะวันตก ชื่อว่า “ทางรถไฟสายทรานส์คอนติเนนทัล" อังกฤษก็ใช้วิธีเดียวกันในการรุกคืบแผ่นดินแคนาดาฝั่งตะวันตก คือ สร้างรางรถไฟชื่อว่า ”แคเนเดี้ยน แปซิฟิก เรลเวย์“ รัสเซียเกรงว่าเมื่ออังกฤษยึดครองแคนาดาฝั่งตะวันตก (แถวๆแวนคูเวอร์) เสร็จแล้ว ก็จะเอาทหารนั่งเรือต่อมายังเอเซียและมาวุ่นวายกับดินแดนรัสเซียฝั่งเอเซียเข้า โครงการอภิมหาโปรเจคท์สร้างทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียจึงกำเนิดขึ้นในปี 1881 เป้าหมายของรัสเซียคือ เพื่อให้กองทัพรัสเซียขนส่งทหารและยุทโธปกรณ์ไปยังเมืองวลาดิวอสต็อกให้ได้โดยเร็วเมื่อเกิดสงคราม ต้องขอเล่าก่อนว่า แต่ดั้งเดิมนั้นการเดินทางจากเมืองมอสโควไปยังตะวันออกของรัสเซีย ควีนคัทรินมหาราชินีแห่งรัสเซียได้เคยสร้างถนนยาวนับหมื่นกิโลเมตรไว้แล้ว แต่ก็ผุพังไปเพราะไม่มีการบำรุงรักษา ต่อมาคนรัสเซียจึงใช้การล่องเรือไปตามแม่น้ำ แต่ก็ทำได้จำกัดเพราะไซบีเรียนั้นหนาวเหน็บหฤโหดมาก แม่น้ำแข็งจนเป็นน้ำแข็งถึงปีละ 8 เดือน ในเบื้องแรกรัฐบาลรัสเซียก็เห็นพ้องต้องกันว่า ถึงเวลาที่ควรจะสร้างทางรถไฟทอดข้ามไซบีเรียกัน แต่ปรากฏว่ารัฐมนตรีคมนาคมกับรัฐมนตรีคลังทะเลาะกันอยู่เป็นปี เพราะต่างฝ่ายต่างอยากจะให้ทางรถไฟวิ่งผ่านในพื้นที่ของตัวเอง พระเจ้าซาร์ทนไม่ไหวจึงเขียนจดหมายไปสั่งรัฐบาลว่า “หยุดทะเลาะกันได้แล้ว เราต้องสร้างทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียเดี๋ยวนี้” การทะเลาะกันจึงยุติลงและเริ่มก่อสร้างโดยทันที . . . การก่อสร้างนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องผ่านภูมิประเทศที่กันดาร มีการเจาะภูเขา สร้างสะพานข้ามแม่น้ำหลายสาย ลงหุบเขา รวมถึงต้องสร้างโรงหลอมเหล็กตามไปเป็นระยะๆ แต่กระนั้นก็ยังหาเหล็กได้ไม่พอ จนต้องสั่งซื้อเพิ่มจากโปแลนด์ อังกฤษและอเมริกา ส่วนแรงงานนั้นก็หลากหลาย มีตั้งแต่แรงงานรับจ้างไปจนถึงนักโทษที่เกณฑ์มา ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียเส้นแรกนั้น มีบางส่วนที่ตัดผ่านแผ่นดินแมนจูเรียที่รัสเซียเช่าจากรัฐบาลจีน แต่เมื่อสร้างเสร็จปุ๊บ การณ์กลับกลายเป็นว่ามีคนจีนก่อหวอดประท้วง จนรัสเซียกับจีนต้องบาดหมางกัน และญี่ปุ่นเปิดฉากก่อสงครามกับรัสเซีย ซึ่งเรารู้จักกันในชื่อของ Russo-Japanese war จนกองทัพเรือรัสเซียฝั่งแปซิฟิกย่อยยับ รัสเซียจึงเห็นว่าการสร้างทางรถไฟบางส่วนในแผ่นดินจีนนั้นไม่ตอบโจทย์ความมั่นคง รัสเซียจึงทิ้งรางรถไฟทั้งหมดในแมนจูเรีย แล้วพัฒนาเปลี่ยนเส้นทางให้รางรถไฟทั้งหมดวิ่งในแผ่นดินรัสเซีย และขยายจากรางเดี่ยวเป็นรางคู่ด้วย ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียจึงสำเร็จได้ในปี 1916 ชนรัสเซียนั้นเขาภูมิใจในทางรถไฟสายนี้มาก แต่ไม่ใช่ที่รางรถไฟนะครับ เพราะความมหัศจรรย์ที่แท้ของทรานส์ไซบีเรียคือ “สะพาน” วิศวกรรมการก่อสร้างสะพานตลอดเส้นทางทรานส์ไซบีเรียนั้นหลากหลายมาก สะพานบางแห่งสูงถึง 64 เมตร บางช่วงทอดข้ามแม่น้ำที่ยาวถึง 2.6 กิโลเมตร เรียกกันว่า “Amur Miracle" อ้อ....ลืมบอกไปว่า ทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียนั้นยาวถึง 9,500 กิโลเมตรครับ . . . เมื่อทรานส์ไซบีเรียสร้างเสร็จปุ๊บ รัฐบาลรัสเซียก็พยายามชักชวนให้คนไปอาศัยอยู่ที่ไซบีเรีย โดยแถมโปรโมชั่นให้เพียบเช่น กู้เงินได้ง่าย, งดเก็บภาษี 10 ปี, รักษาพยาบาลฟรี, ลูกหลานเรียนฟรี, มีเงินอุดหนุนมากมายจากรัฐ ผู้คนจึงทยอยหลั่งไหลไปไซบีเรีย ประชากรจึงเพิ่มจากหลักหมื่น ไปสู่หลักแสนและหลักล้านในที่สุด ทุกวันนี้ภูมิภาคไซบีเรียมีคนอาศัยอยู่ประมาณ 37 ล้านคน และกลายเป็นภูมิภาคสำคัญ เพราะมีทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอยู่ใต้แผ่นดินไซบีเรียมหาศาล …เอามาเล่าสู่กันฟังครับ… นัทแนะ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • IF IT'S BOEING, I'M NOT GOING

    ในอดีต..บริษัทโบอิ้ง เน้นความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรม+ความปลอดภัย

    หลังจาก ปี1997 โบอิ้ง ได้ซื้อ บริษัท แม๊คโดนัลด์ ดักกลาส เพื่อ ขยายความยิ่งใหญ่ กลับกลายเป็น "หายนะ" ของวงการบินทั่วโลก เนื่องจาก วัฒนธรรมองค์กรของโบอิ้ง เปลี่ยนไปเป็น "แสวงหากำไรสูงที่สุด"

    การลดต้นทุนผลิต จึงเป้นสาเหตุของเครื่องบินโบอิ้งตก 2ลำผู้โดยสาร(ตายเรียบ) ล้อหลุด และล่าสุด..เมื่อต้นปีนี้ ประตูฉุกเฉินหลุด ล้อหน้าไม่กาง ไถลออกนอกรันเวย์

    ........................................
    กลับสหรัฐฯรอบนี้ จึงเน้นเลือกบินด้วยเครื่องที่ผลิตจาก AIRBUS รุ่น A321neo และ A350 เท่านั้น

    ปัจจุบัน ดิฉันจึงเป็นแฟนประจำของสายการบิน STARLUX Airlines ที่ใช้แต่เครื่อง Airbus ใหม่ๆ ราคาไม่แพง และ ต่อเครื่องที่ ที่ เถาหยวน..แปร๊บ เดียว

    อ้างอิง :
    1. วิบากกรรม Boeing l Valor Podcast
    https://www.youtube.com/watch?v=aKivL9rRwxo
    2. ระทึก! กลางเวหา ประตูเครื่องบินหลุดกลางอากาศ
    https://www.youtube.com/watch?v=nIig4y_5ZDY&t=97s
    3. เรื่องเล่า Boeing
    https://www.youtube.com/watch?v=69wciKAtzxI
    4. Boeing ฉาวไม่พัก แผงประตูหลุด ล้อระเบิด ตกวูบกลางอากาศ
    https://www.youtube.com/watch?v=WdZxnv1smd4
    5. ขาลงแบบดิ่งสุด! เรื่องอื้อฉาวของโบอิ้งยิ่งขุดยิ่งเจอเรื่องที่เลวร้ายที่สุด
    https://www.youtube.com/watch?v=xQkbXulhv5k
    6. วิกฤต “โบอิ้ง” กระทบชิ่ง “การบินไทย” : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    https://www.youtube.com/watch?v=DEnlVZdqD6Q
    7. ทำไม Boeing ฉาวซ้ำซาก ความผิดใคร | Executive Espresso
    https://www.youtube.com/watch?v=MjfU8yxjBks&t=180s
    8. โบอิ้งตกต่ำขาดทุน 18,000 ล้าน | พนักงานไม่กล้านั่ง เครื่องบินที่ตัวเองผลิต
    https://www.youtube.com/watch?v=iAZ5Y01j7c0&t=721s
    9. โบอิ้งสูญเสียตลาดจีน จีนเลือกซื้อแอร์บัส 300 ลำ
    https://www.youtube.com/watch?v=R0goHw-7LnU
    10. Boeing 787 Deramliner กาตาร์แอร์เวย์สตกหลุมอากาศ 28 พค. 67
    https://www.youtube.com/watch?v=_fZgoPcQNBM
    11. 777-300ER ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ SQ321 "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67
    https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU
    12. ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67
    https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU
    13. วิกฤตความเชื่อมั่น โหมกระหน่ำ Boeing ?
    https://www.youtube.com/watch?v=dfzeEFBHvzc
    14. ทำไมถึงมีคนตายเพราะเครื่องบิน Boeing บ่อย?! #ดาร์คไดอะรี I แค่อยากเล่า...◄1692►
    https://www.youtube.com/watch?v=e1ZXQTW7xEU
    IF IT'S BOEING, I'M NOT GOING ในอดีต..บริษัทโบอิ้ง เน้นความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรม+ความปลอดภัย หลังจาก ปี1997 โบอิ้ง ได้ซื้อ บริษัท แม๊คโดนัลด์ ดักกลาส เพื่อ ขยายความยิ่งใหญ่ กลับกลายเป็น "หายนะ" ของวงการบินทั่วโลก เนื่องจาก วัฒนธรรมองค์กรของโบอิ้ง เปลี่ยนไปเป็น "แสวงหากำไรสูงที่สุด" การลดต้นทุนผลิต จึงเป้นสาเหตุของเครื่องบินโบอิ้งตก 2ลำผู้โดยสาร(ตายเรียบ) ล้อหลุด และล่าสุด..เมื่อต้นปีนี้ ประตูฉุกเฉินหลุด ล้อหน้าไม่กาง ไถลออกนอกรันเวย์ ........................................ กลับสหรัฐฯรอบนี้ จึงเน้นเลือกบินด้วยเครื่องที่ผลิตจาก AIRBUS รุ่น A321neo และ A350 เท่านั้น ปัจจุบัน ดิฉันจึงเป็นแฟนประจำของสายการบิน STARLUX Airlines ที่ใช้แต่เครื่อง Airbus ใหม่ๆ ราคาไม่แพง และ ต่อเครื่องที่ ที่ เถาหยวน..แปร๊บ เดียว อ้างอิง : 1. วิบากกรรม Boeing l Valor Podcast https://www.youtube.com/watch?v=aKivL9rRwxo 2. ระทึก! กลางเวหา ประตูเครื่องบินหลุดกลางอากาศ https://www.youtube.com/watch?v=nIig4y_5ZDY&t=97s 3. เรื่องเล่า Boeing https://www.youtube.com/watch?v=69wciKAtzxI 4. Boeing ฉาวไม่พัก แผงประตูหลุด ล้อระเบิด ตกวูบกลางอากาศ https://www.youtube.com/watch?v=WdZxnv1smd4 5. ขาลงแบบดิ่งสุด! เรื่องอื้อฉาวของโบอิ้งยิ่งขุดยิ่งเจอเรื่องที่เลวร้ายที่สุด https://www.youtube.com/watch?v=xQkbXulhv5k 6. วิกฤต “โบอิ้ง” กระทบชิ่ง “การบินไทย” : คุยทุกเรื่องกับสนธิ https://www.youtube.com/watch?v=DEnlVZdqD6Q 7. ทำไม Boeing ฉาวซ้ำซาก ความผิดใคร | Executive Espresso https://www.youtube.com/watch?v=MjfU8yxjBks&t=180s 8. โบอิ้งตกต่ำขาดทุน 18,000 ล้าน | พนักงานไม่กล้านั่ง เครื่องบินที่ตัวเองผลิต https://www.youtube.com/watch?v=iAZ5Y01j7c0&t=721s 9. โบอิ้งสูญเสียตลาดจีน จีนเลือกซื้อแอร์บัส 300 ลำ https://www.youtube.com/watch?v=R0goHw-7LnU 10. Boeing 787 Deramliner กาตาร์แอร์เวย์สตกหลุมอากาศ 28 พค. 67 https://www.youtube.com/watch?v=_fZgoPcQNBM 11. 777-300ER ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ SQ321 "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67 https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU 12. ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67 https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU 13. วิกฤตความเชื่อมั่น โหมกระหน่ำ Boeing ? https://www.youtube.com/watch?v=dfzeEFBHvzc 14. ทำไมถึงมีคนตายเพราะเครื่องบิน Boeing บ่อย?! #ดาร์คไดอะรี I แค่อยากเล่า...◄1692► https://www.youtube.com/watch?v=e1ZXQTW7xEU
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 825 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://mgronline.com/politics/detail/9670000092959

    พระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง-พระราชินีทรงรับผู้สูญเสียเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ประกันพร้อมจ่าย 1 ล้านบาทต่อราย
    เผยแพร่: 2 ต.ค. 2567 13:43 ปรับปรุง: 2 ต.ค. 2567 13:43 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    เป็นพระมหากรุณาธิคุณ “ในหลวง-พระราชินี” ทรงห่วงใย ทรงสลดพระทัย รับผู้สูญเสีย เหตุการณ์รถบัสนักเรียนไฟไหม้ ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ มหาดไทยพร้อมเยียวยาสูงสุด สำนักงานประกันภัยมอบ 1 ล้านกว่าบาทต่อราย เห็นต่างยกเลิก “ทัศนศึกษา” ชี้ไม่ใช่มูลเหตุ แต่สาเหตุ คือ คุณภาพรถมาตรฐานของคนขับรถ และการจัดรูปขบวนในการเดินทาง ถามเห็นคาตา รถบัสทำไมมีถังแก๊สนับสิบ ชัดเจนอยู่แล้ว ว่ามีการละเมิด

    เมื่อเวลา 11.38 น. วันที่ 2 ต.ค.67 ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวถึงเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จนต้องประกาศภัยพิบัติ จะพิจารณาเงินเยียวยาอย่างไรว่ า เหตุการณ์นี้ เรื่องของการช่วยเหลือตามพ.ร.บ.อุบัติภัย มีอยู่ ว่าเราจะช่วยเรื่องการทำขวัญ โดยสำนักงานประกันภัย ได้รายงานเบื้องต้นว่า จะมีเงินที่ชดเชยความเสียหายเหล่านี้ อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านกว่าบาทต่อราย ตนถามย้ำไปว่าต้องไม่มีเงื่อนไขอะไรอีก เพราะเท่าไหร่ก็ไม่คุ้มกับการสูญเสีย แต่เราต้องเร่ง จ่ายเงินเยียวยานี้ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าเรื่องนี้มีความเสียหายมาก เป็นเรื่องที่มีระดับความรุนแรงอยู่ในระดับสูง ดังนั้นเกณฑ์การเยียวยาจะต้องหาทางที่จะเยียวยาในระดับสูงสุด

    เมื่อถามถึง งตัวเลขอายุการใช้งานรถบัสที่เกิดเหตุ ที่ระบุว่ามีอายุ 54 ปี นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของทางกระทรวงคมนาคม ส่วนของกระทรวงมหาดไทย ดูในเรื่องของการให้การดูแลครอบครัวการจัดงานให้สมเกียรติ ในการนี้ เราได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ตนได้รับการแจ้งล่วงหน้ามาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใย และทรงสลดพระทัย ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้แจ้งมาว่าพระองค์ท่านจะรับการจัดการเรื่องงานทั้งหมด ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จะมีการพระราชทานเพลิงให้กับผู้ที่สูญเสียชีวิตไป โดยกระทรวงมหาดไทย ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และตนได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ไปจัดการหน้างานให้สมเกียรติกับผู้วายชนม์ ซึ่งมีทั้งครู และนักเรียน

    เมื่อถามว่า ขณะนี้มี มีข้อถกเถียง เรื่องของการยกเลิกการทัศนศึกษา ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ที่พรรคภูมิใจไทย กำกับดูแลอยู่จะทำอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตนได้ยินคำนี้มาหลายครั้งแล้ว เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ซึ่งตนคิดว่าการไปทัศนศึกษา มันไม่ใช่มูลเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้ขึ้น สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้คือเรื่องมาตรฐานของคนขับรถ มาตรฐานการจัดรูปขบวนในการเดินทาง คุณภาพของรถ อย่างกรณีนี้ เราต้องไปดู เพราะตนเห็นกับตาทำไมรถบัส 1คัน ถังแก๊สเยอะขนาดนี้นับๆดูเป็น 10 ถัง ซึ่งตนก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยอยู่กรมขนส่ง ก็ต้องไปดูก่อนว่ากฎหมายเขากำหนดไว้อย่างไร มีถังแก๊ซตั้งแต่หน้ารถ กลางรถ ท้ายรถ ข้างรถ จะเดินทางอะไรกันกะจะแบบไม่ต้องพักผ่อนกันเลยหรือ

    “โดยมองจากสายตา ที่ผมเคยเป็นวิศวกรคุมงานมาก่อน มองว่าควรจะมีแผ่นเหล็ก ที่คอยกั้นไม่ให้ประกายไฟถึงตัว คือจะต้องเซฟตี้มากกว่านี้ เป็นพื้นที่นิรภัย ผมมั่นใจว่ามาตรฐานของกรมขนส่งทางบก ของเรามีอยู่แล้ว แต่เราไม่รู้ว่ารถคันนี้ผ่านการตรวจสภาพมาอย่างไร ตำรวจก็คงจะต้องทำหน้าที่การสืบขยายผล แต่ที่เห็นถามว่าปลอดภัยหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ปลอดภัยแน่นอน”นายอนุทิน กล่าว

    เมื่อถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง จะขับเคลื่อนเรื่องนี้แก้กฎหมายในสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นหน้าที่ของทุกคน เราต้องช่วยกันทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด กับลูก หลานของเราอย่างที่บอกการไปทัศนศึกษา เป็นสิ่งที่ดีไม่อย่างนั้นเด็กก็อยู่แต่ในห้องเรียน เห็นทุกอย่างจากรูป ไม่เห็นของจริง แต่การจัดรูปแบบทำอย่างไรให้ดีจริงๆ ก็มีกฎอยู่สามารถที่จะประสานขอรถตำรวจนำได้ รถทางหลวงนำได้ ต้องกำหนดเรื่องของความเร็วเรื่องของผู้ใหญ่ที่อยู่ในรถที่จะสามารถคอยให้การช่วยเหลือเด็กๆ และกำหนดจำนวนคนขับรถ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ก็คือรถ 1 คัน คน 1 คน ไม่มีอะไรเลย ไม่มีผู้ช่วยคนขับ ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่รู้จักรถเลย มีแต่ครูกับนักเรียน พอเกิดเหตุการณ์ คนขับก็วิ่งลงมาดูก่อน ไม่มีผู้ช่วยลงมาคอยปลดล็อคเปิดประตูฉุกเฉิน ถีบหน้าต่างเป็นช่องทางฉุกเฉินเลย มันชัดเจนอยู่แล้ว ว่ามีการละเมิด
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000092959 พระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง-พระราชินีทรงรับผู้สูญเสียเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ประกันพร้อมจ่าย 1 ล้านบาทต่อราย เผยแพร่: 2 ต.ค. 2567 13:43 ปรับปรุง: 2 ต.ค. 2567 13:43 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ เป็นพระมหากรุณาธิคุณ “ในหลวง-พระราชินี” ทรงห่วงใย ทรงสลดพระทัย รับผู้สูญเสีย เหตุการณ์รถบัสนักเรียนไฟไหม้ ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ มหาดไทยพร้อมเยียวยาสูงสุด สำนักงานประกันภัยมอบ 1 ล้านกว่าบาทต่อราย เห็นต่างยกเลิก “ทัศนศึกษา” ชี้ไม่ใช่มูลเหตุ แต่สาเหตุ คือ คุณภาพรถมาตรฐานของคนขับรถ และการจัดรูปขบวนในการเดินทาง ถามเห็นคาตา รถบัสทำไมมีถังแก๊สนับสิบ ชัดเจนอยู่แล้ว ว่ามีการละเมิด เมื่อเวลา 11.38 น. วันที่ 2 ต.ค.67 ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวถึงเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จนต้องประกาศภัยพิบัติ จะพิจารณาเงินเยียวยาอย่างไรว่ า เหตุการณ์นี้ เรื่องของการช่วยเหลือตามพ.ร.บ.อุบัติภัย มีอยู่ ว่าเราจะช่วยเรื่องการทำขวัญ โดยสำนักงานประกันภัย ได้รายงานเบื้องต้นว่า จะมีเงินที่ชดเชยความเสียหายเหล่านี้ อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านกว่าบาทต่อราย ตนถามย้ำไปว่าต้องไม่มีเงื่อนไขอะไรอีก เพราะเท่าไหร่ก็ไม่คุ้มกับการสูญเสีย แต่เราต้องเร่ง จ่ายเงินเยียวยานี้ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าเรื่องนี้มีความเสียหายมาก เป็นเรื่องที่มีระดับความรุนแรงอยู่ในระดับสูง ดังนั้นเกณฑ์การเยียวยาจะต้องหาทางที่จะเยียวยาในระดับสูงสุด เมื่อถามถึง งตัวเลขอายุการใช้งานรถบัสที่เกิดเหตุ ที่ระบุว่ามีอายุ 54 ปี นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของทางกระทรวงคมนาคม ส่วนของกระทรวงมหาดไทย ดูในเรื่องของการให้การดูแลครอบครัวการจัดงานให้สมเกียรติ ในการนี้ เราได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ตนได้รับการแจ้งล่วงหน้ามาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใย และทรงสลดพระทัย ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้แจ้งมาว่าพระองค์ท่านจะรับการจัดการเรื่องงานทั้งหมด ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จะมีการพระราชทานเพลิงให้กับผู้ที่สูญเสียชีวิตไป โดยกระทรวงมหาดไทย ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และตนได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ไปจัดการหน้างานให้สมเกียรติกับผู้วายชนม์ ซึ่งมีทั้งครู และนักเรียน เมื่อถามว่า ขณะนี้มี มีข้อถกเถียง เรื่องของการยกเลิกการทัศนศึกษา ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ที่พรรคภูมิใจไทย กำกับดูแลอยู่จะทำอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตนได้ยินคำนี้มาหลายครั้งแล้ว เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ซึ่งตนคิดว่าการไปทัศนศึกษา มันไม่ใช่มูลเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้ขึ้น สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้คือเรื่องมาตรฐานของคนขับรถ มาตรฐานการจัดรูปขบวนในการเดินทาง คุณภาพของรถ อย่างกรณีนี้ เราต้องไปดู เพราะตนเห็นกับตาทำไมรถบัส 1คัน ถังแก๊สเยอะขนาดนี้นับๆดูเป็น 10 ถัง ซึ่งตนก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยอยู่กรมขนส่ง ก็ต้องไปดูก่อนว่ากฎหมายเขากำหนดไว้อย่างไร มีถังแก๊ซตั้งแต่หน้ารถ กลางรถ ท้ายรถ ข้างรถ จะเดินทางอะไรกันกะจะแบบไม่ต้องพักผ่อนกันเลยหรือ “โดยมองจากสายตา ที่ผมเคยเป็นวิศวกรคุมงานมาก่อน มองว่าควรจะมีแผ่นเหล็ก ที่คอยกั้นไม่ให้ประกายไฟถึงตัว คือจะต้องเซฟตี้มากกว่านี้ เป็นพื้นที่นิรภัย ผมมั่นใจว่ามาตรฐานของกรมขนส่งทางบก ของเรามีอยู่แล้ว แต่เราไม่รู้ว่ารถคันนี้ผ่านการตรวจสภาพมาอย่างไร ตำรวจก็คงจะต้องทำหน้าที่การสืบขยายผล แต่ที่เห็นถามว่าปลอดภัยหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ปลอดภัยแน่นอน”นายอนุทิน กล่าว เมื่อถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง จะขับเคลื่อนเรื่องนี้แก้กฎหมายในสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นหน้าที่ของทุกคน เราต้องช่วยกันทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด กับลูก หลานของเราอย่างที่บอกการไปทัศนศึกษา เป็นสิ่งที่ดีไม่อย่างนั้นเด็กก็อยู่แต่ในห้องเรียน เห็นทุกอย่างจากรูป ไม่เห็นของจริง แต่การจัดรูปแบบทำอย่างไรให้ดีจริงๆ ก็มีกฎอยู่สามารถที่จะประสานขอรถตำรวจนำได้ รถทางหลวงนำได้ ต้องกำหนดเรื่องของความเร็วเรื่องของผู้ใหญ่ที่อยู่ในรถที่จะสามารถคอยให้การช่วยเหลือเด็กๆ และกำหนดจำนวนคนขับรถ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ก็คือรถ 1 คัน คน 1 คน ไม่มีอะไรเลย ไม่มีผู้ช่วยคนขับ ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่รู้จักรถเลย มีแต่ครูกับนักเรียน พอเกิดเหตุการณ์ คนขับก็วิ่งลงมาดูก่อน ไม่มีผู้ช่วยลงมาคอยปลดล็อคเปิดประตูฉุกเฉิน ถีบหน้าต่างเป็นช่องทางฉุกเฉินเลย มันชัดเจนอยู่แล้ว ว่ามีการละเมิด
    MGRONLINE.COM
    พระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง-พระราชินีทรงรับผู้สูญเสียเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ประกันพร้อมจ่าย 1 ล้านบาทต่อราย
    เป็นพระมหากรุณาธิคุณ “ในหลวง-พระราชินี” ทรงห่วงใย ทรงสลดพระทัย รับผู้สูญเสีย เหตุการณ์รถบัสนักเรียนไฟไหม้ ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ มหาดไทยพร้อมเยียวยาสูงสุด สำนักงานประกันภัยมอบ 1 ล้านกว่าบาทต่อราย เห็นต่างยกเลิก “ทัศนศึกษา” ชี้ไ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • พัชรี ว่องไววิทย์ - Pachäree Wõng 黄香山 อายุ 65 ปี
    สถานภาพ : แต่งงานแล้ว ลูก 3 หลาน 8 เหลน 2
    เชื้อชาติ : จีน(กวางตุ้ง) สัญชาติ : ไทย-อเมริกัน
    อาชีพ : วิศวกรเครื่องกล-ไฟฟ้า / อาจารย์มหาวิทยาลัย / นักธุรกิจ
    อาศัยอยู่ที่ : Sausalito / San Francisco แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐฯ
    นับถือพุทธศาสนา(สันติอโศก) ไม่กินเนื้อสัตว์ กินวันละมื้อเดียว ปฏิบัติธรรมสมาธิ-วิปัสสนา
    กีฬา : Ice Skating, Weight Trainning, Cycling, Shooting, Trekking, Swimming, Car Racing.
    เพลง : สากล จีน(กวางตุ้ง) เกือบทุกแนว ป๊อป ร๊อค แจ๊ส R&B
    หนังสือ : แนวปรัชญา-ศาสนา-การเมือง เทคโนโลยี สารคดี ท่องเที่ยว อาหาร(มังสวิรัติ) สุขภาพ
    พรรคการเมือง : VoteNO never NOVOTE
    พัชรี ว่องไววิทย์ - Pachäree Wõng 黄香山 อายุ 65 ปี สถานภาพ : แต่งงานแล้ว ลูก 3 หลาน 8 เหลน 2 เชื้อชาติ : จีน(กวางตุ้ง) สัญชาติ : ไทย-อเมริกัน อาชีพ : วิศวกรเครื่องกล-ไฟฟ้า / อาจารย์มหาวิทยาลัย / นักธุรกิจ อาศัยอยู่ที่ : Sausalito / San Francisco แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐฯ นับถือพุทธศาสนา(สันติอโศก) ไม่กินเนื้อสัตว์ กินวันละมื้อเดียว ปฏิบัติธรรมสมาธิ-วิปัสสนา กีฬา : Ice Skating, Weight Trainning, Cycling, Shooting, Trekking, Swimming, Car Racing. เพลง : สากล จีน(กวางตุ้ง) เกือบทุกแนว ป๊อป ร๊อค แจ๊ส R&B หนังสือ : แนวปรัชญา-ศาสนา-การเมือง เทคโนโลยี สารคดี ท่องเที่ยว อาหาร(มังสวิรัติ) สุขภาพ พรรคการเมือง : VoteNO never NOVOTE
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚨 ประชาชนหลายพันคนได้รับบาดเจ็บในเลบานอนจากการระเบิดของเพจเจอร์ที่จุดชนวนโดยอิสราเอล

    นี่คือการละเมิดห่วงโซ่อุปทานไปยังเลบานอนโดย Mossad และยังเป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่าบริษัทตะวันตกทั้งหมดร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองเพื่อจัดกิจกรรมที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้

    ทางออกเดียวสำหรับปัญหานี้คือให้อิหร่านย้อนวิศวกรรมเพจเจอร์
    .
    🚨 Thousands of people have been injured in Lebanon by pager explosions triggered by Israel.

    This is a breach in the supply chain to Lebanon by Mossad and further proof that all Western companies collaborate with intelligence agencies to organise mass casualty events like this.

    The only solution to this problem is for Iran to reverse-engineer the pagers.
    .
    12:47 AM · Sep 18, 2024 · 316.4K Views
    https://x.com/IranObserver0/status/1836099572281610432
    🚨 ประชาชนหลายพันคนได้รับบาดเจ็บในเลบานอนจากการระเบิดของเพจเจอร์ที่จุดชนวนโดยอิสราเอล นี่คือการละเมิดห่วงโซ่อุปทานไปยังเลบานอนโดย Mossad และยังเป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่าบริษัทตะวันตกทั้งหมดร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองเพื่อจัดกิจกรรมที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ ทางออกเดียวสำหรับปัญหานี้คือให้อิหร่านย้อนวิศวกรรมเพจเจอร์ . 🚨 Thousands of people have been injured in Lebanon by pager explosions triggered by Israel. This is a breach in the supply chain to Lebanon by Mossad and further proof that all Western companies collaborate with intelligence agencies to organise mass casualty events like this. The only solution to this problem is for Iran to reverse-engineer the pagers. . 12:47 AM · Sep 18, 2024 · 316.4K Views https://x.com/IranObserver0/status/1836099572281610432
    Like
    Wow
    2
    4 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1438 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร่วมเฟ้นหาตัวแทนชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี
    ​องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท แกมมาโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพด้านการออกแบบและเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ โดยหัวข้อการแข่งขัน คือ Earth Allies
    การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย มีทีมเข้าร่วมกว่า 270 ทีม หรือกว่า 1,500 คน พร้อมทั้งผู้ปกครองเข้าเชียร์บุตรหลานรวมจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,300 คนต่อวัน ทีมที่เข้าแข่งขันมาจากหลายจังหวัด ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี จำนวน 102 ทีม รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 80 ทีม และ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จำนวน 72 ทีม โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องเขียนโปรแกรมและออกแบบหุ่นยนต์ เพื่อทำภารกิจที่กำหนดในสนาม ผู้ชนะการแข่งขันฯ ลำดับที่ 1 – 3 ของแต่ละรุ่น จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขัน ฯ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี ในลำดับต่อไป
    สำหรับโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ (WRO 2024: World Robot Olympiad 2024) ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ฯ และเอกชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 กำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 13 - 15 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์ โคราช โดยได้รับเกียรติจาก คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี
    ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแข่งขันการเขียนโปรแกรม และ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงจุดประกายความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคตตามนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ในการพัฒนาวิทยาการ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยพัฒนา"
    คุณปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด กล่าวต้อนรับ ว่า "ในนาม ผู้บริหาร ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในวันนี้
    การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 15 กันยายน 2567 ในฐานะของผู้ร่วมจัดงาน และผู้ร่วมสนับสนุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีสนามแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งในปีนี้ทราบว่ามีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 254 ทีม รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน และขอต้อนรับน้องๆ เยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่าน และผู้ปกครอง อาจารย์ ที่ได้พาน้องๆ มาร่วมในการแข่งขันครั้งนี้
    สุดท้ายนี้ ในนาม ผู้บริหาร เดอะมอลล์โคราช ขอขอบพระคุณ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ท่านผู้มีเกียรติ สื่อมวลชนทุกท่าน ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมเปิดงานในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาง ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จะได้รับเกียรติในการจัดงาน ครั้งต่อๆ ไป"
    ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก
    นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
    ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ประจำประเทศไทย
    นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา
    นายธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา
    ดร.ยุทธกร ฤทธิ์ไธสง รองอธิการบดีฝ่ายบริหารการคลัง พัสดุและกายภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
    อาจารย์สรวิศ ต.ศิริวัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
    อ.ดร.ศิริ สาระเขตต์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรม มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล
    ผศ.ดร.จงกล ศรีธร หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
    คณะกรรมการดำเนินการจัดงาน ท่านผู้มีเกียรติ ผู้เข้าแข่งขัน และสื่อมวลชนทุกท่าน
    ร่วมเฟ้นหาตัวแทนชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี ​องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท แกมมาโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพด้านการออกแบบและเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ โดยหัวข้อการแข่งขัน คือ Earth Allies การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย มีทีมเข้าร่วมกว่า 270 ทีม หรือกว่า 1,500 คน พร้อมทั้งผู้ปกครองเข้าเชียร์บุตรหลานรวมจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,300 คนต่อวัน ทีมที่เข้าแข่งขันมาจากหลายจังหวัด ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี จำนวน 102 ทีม รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 80 ทีม และ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จำนวน 72 ทีม โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องเขียนโปรแกรมและออกแบบหุ่นยนต์ เพื่อทำภารกิจที่กำหนดในสนาม ผู้ชนะการแข่งขันฯ ลำดับที่ 1 – 3 ของแต่ละรุ่น จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขัน ฯ ระดับนานาชาติ ณ สาธารณรัฐตุรกี ในลำดับต่อไป สำหรับโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ (WRO 2024: World Robot Olympiad 2024) ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ฯ และเอกชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 กำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 13 - 15 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์ โคราช โดยได้รับเกียรติจาก คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแข่งขันการเขียนโปรแกรม และ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงจุดประกายความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคตตามนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ในการพัฒนาวิทยาการ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัยพัฒนา" คุณปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด กล่าวต้อนรับ ว่า "ในนาม ผู้บริหาร ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในวันนี้ การแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 15 กันยายน 2567 ในฐานะของผู้ร่วมจัดงาน และผู้ร่วมสนับสนุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีสนามแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งในปีนี้ทราบว่ามีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 254 ทีม รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน และขอต้อนรับน้องๆ เยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกท่าน และผู้ปกครอง อาจารย์ ที่ได้พาน้องๆ มาร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ สุดท้ายนี้ ในนาม ผู้บริหาร เดอะมอลล์โคราช ขอขอบพระคุณ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ ท่านผู้มีเกียรติ สื่อมวลชนทุกท่าน ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมเปิดงานในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาง ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จะได้รับเกียรติในการจัดงาน ครั้งต่อๆ ไป" ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดร.นวลวรรณ ชะอุ่ม ประธานโครงการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ประจำประเทศไทย นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา ดร.ยุทธกร ฤทธิ์ไธสง รองอธิการบดีฝ่ายบริหารการคลัง พัสดุและกายภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อาจารย์สรวิศ ต.ศิริวัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.ดร.ศิริ สาระเขตต์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรม มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล ผศ.ดร.จงกล ศรีธร หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี คณะกรรมการดำเนินการจัดงาน ท่านผู้มีเกียรติ ผู้เข้าแข่งขัน และสื่อมวลชนทุกท่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 569 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts