• "รุ่งอรุณแห่งคำสั่ง"

    เช้าตรู่สวนผึ้ง อรุณยังกรุ่นไอ เนินเขาเงียบสงบ กลับพลันกลายเป็นไฟ สองชายยืนโบกรถ ด้วยแววตาที่เยือกเย็น บทเริ่มต้นที่แฝงความเป็นชะตากรรม

    บนถนนสายเดิมที่คุ้นเคย รถบัสลัดเลี้ยว สู่เส้นทางที่คาดไม่ถึง เสียงปืนกระหน่ำ จุดชนวนความจริง ราชบุรี...กลายเป็นภาพจำอันเจ็บปวด

    * นี่คือคำสั่งจากพม่า "ก๊อด'ส อาร์มี่" เงาร้ายของความเชื่อ ศรัทธาและบาปหนา โรงพยาบาลศูนย์ กลายเป็นสมรภูมิ โลกหยุดหมุน เมื่อชีวิตต้องวางเดิมพัน

    แปดร้อยตัวประกันในห้องแคบ เสียงร้องไห้ที่สะท้อนก้องตึกอำนวยการ เด็กน้อย ผู้อาวุโส และคนไข้ที่หวังเยียวยา กลายเป็นหมากในเกมของอุดมการณ์

    อรินทะราดสองหก นเรศวรสองหกหนึ่ง ซุ่มเงียบในมุมมืด เจรจาที่อึมครึม เติมไฟในหัวใจ เสี้ยววินาที คำสั่งหนึ่งเดียวในยามเช้า “ปฏิบัติการเริ่ม…ทุกชีวิตต้องปลอดภัย!”

    ซ้ำ *

    เมื่อเสียงปืนไทยสะท้อนกลับ เสียงตะโกนดังก้องฟ้า สิบศพที่ล้มลง บางสิ่งยังหลงเหลือ คือศรัทธา หรือความหวาดกลัวในแสงไฟ? ความยุติธรรม ต้องใช้เลือดเป็นบทพิสูจน์

    รุ่งอรุณใหม่จะมาถึงอีกครั้ง แต่รอยแผลในใจ ยังไม่มีวันหาย ก๊อด'ส อาร์มี่ แฝดนรกล่มสลายดั่งเถ้าถ่าน ราชบุรี…จะจดจำ ในประวัติศาสตร์ชาติไทย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241347 ม.ค. 2568

    #ก๊อดอาร์มี่ #ราชบุรี2543 #เรื่องเล่าจากโรงพยาบาลศูนย์ #สงครามในเงาแสง #ตัวประกันและความหวัง
    "รุ่งอรุณแห่งคำสั่ง" เช้าตรู่สวนผึ้ง อรุณยังกรุ่นไอ เนินเขาเงียบสงบ กลับพลันกลายเป็นไฟ สองชายยืนโบกรถ ด้วยแววตาที่เยือกเย็น บทเริ่มต้นที่แฝงความเป็นชะตากรรม บนถนนสายเดิมที่คุ้นเคย รถบัสลัดเลี้ยว สู่เส้นทางที่คาดไม่ถึง เสียงปืนกระหน่ำ จุดชนวนความจริง ราชบุรี...กลายเป็นภาพจำอันเจ็บปวด * นี่คือคำสั่งจากพม่า "ก๊อด'ส อาร์มี่" เงาร้ายของความเชื่อ ศรัทธาและบาปหนา โรงพยาบาลศูนย์ กลายเป็นสมรภูมิ โลกหยุดหมุน เมื่อชีวิตต้องวางเดิมพัน แปดร้อยตัวประกันในห้องแคบ เสียงร้องไห้ที่สะท้อนก้องตึกอำนวยการ เด็กน้อย ผู้อาวุโส และคนไข้ที่หวังเยียวยา กลายเป็นหมากในเกมของอุดมการณ์ อรินทะราดสองหก นเรศวรสองหกหนึ่ง ซุ่มเงียบในมุมมืด เจรจาที่อึมครึม เติมไฟในหัวใจ เสี้ยววินาที คำสั่งหนึ่งเดียวในยามเช้า “ปฏิบัติการเริ่ม…ทุกชีวิตต้องปลอดภัย!” ซ้ำ * เมื่อเสียงปืนไทยสะท้อนกลับ เสียงตะโกนดังก้องฟ้า สิบศพที่ล้มลง บางสิ่งยังหลงเหลือ คือศรัทธา หรือความหวาดกลัวในแสงไฟ? ความยุติธรรม ต้องใช้เลือดเป็นบทพิสูจน์ รุ่งอรุณใหม่จะมาถึงอีกครั้ง แต่รอยแผลในใจ ยังไม่มีวันหาย ก๊อด'ส อาร์มี่ แฝดนรกล่มสลายดั่งเถ้าถ่าน ราชบุรี…จะจดจำ ในประวัติศาสตร์ชาติไทย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241347 ม.ค. 2568 #ก๊อดอาร์มี่ #ราชบุรี2543 #เรื่องเล่าจากโรงพยาบาลศูนย์ #สงครามในเงาแสง #ตัวประกันและความหวัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 153 0 รีวิว
  • 25 ปี “ก๊อด'ส อาร์มี่” บุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี บทเรียนแห่งความสูญเสีย และความเด็ดขาด

    เช้าตรู่แห่งความเปลี่ยนแปลง
    ย้อนไปเมื่อ 25 ปี ที่ผ่านมา ในเช้าวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 ถือเป็นวันที่ชาวราชบุรี และประเทศไทยทั้งประเทศ ไม่มีวันลืมได้ นายพินิจ ปองมณี คนขับรถบัสสาย 18 ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้พบกับเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ไปตลอดกาล เมื่อชายสองคนโบกรถ และกลายเป็นจุดเริ่มต้น ของปฏิบัติการก่อการร้าย ที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

    "ก๊อด'ส อาร์มี่" กองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง
    กองกำลัง "ก๊อด'ส อาร์มี่" เป็นกลุ่มติดอาวุธ ที่มีจุดกำเนิดจากชายแดนไทย-พม่า กลุ่มนี้นำโดยคู่แฝด “ลูเธอร์ ทู” และ “จอห์นนี่ ทู” ซึ่งได้รับการยกย่อง จากผู้ติดตามว่าเป็น “นักบุญ” และมีพลังเหนือธรรมชาติ แนวทางของกลุ่มคือ การต่อต้านรัฐบาลพม่า เพื่อเรียกร้องสิทธิปกครองตนเอง ของชาวกะเหรี่ยง

    ด้วยแรงกดดัน จากการโจมตีของกองทัพพม่า กลุ่มนี้หันมาใช้วิธีการรุนแรง เช่น การจับตัวประกัน และบุกยึดสถานที่สำคัญ โดยหวังให้ทั่วโลกสนใจ ประเด็นผู้อพยพชายแดน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนนั้น

    เหตุการณ์การยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี
    เมื่อชายฉกรรจ์ทั้ง 10 คน พร้อมอาวุธครบมือขึ้นรถบัส พวกเขาเริ่มดำเนินแผนการณ์ ด้วยการบุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี สถานที่ที่มีหมอ พยาบาล และผู้ป่วยที่ต้องการการดูแล ในขณะนั้น

    การดำเนินการของกลุ่มก่อการร้าย เป็นไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถควบคุมตัวบุคลากร และผู้ป่วยรวมกว่า 780 คน และตั้งฐานในบริเวณชั้น 2 ของโรงพยาบาล โดยมีเป้าหมายหลักคือ การบีบบังคับให้รัฐบาลไทย ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง ที่เกี่ยวข้องกับความช่วยเหลือผู้อพยพ

    ข้อเรียกร้องที่แฝงด้วยความสิ้นหวัง
    ข้อเรียกร้องของ "ก๊อด'ส อาร์มี่" ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสิ้นหวังของพวกเขา
    - ให้หยุดยิงปืนใหญ่ที่ชายแดน ซึ่งกระทบต่อชีวิตผู้อพยพ
    - เรียกร้องให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง
    - เปิดชายแดนไทย-พม่า เพื่อให้ผู้อพยพมีที่พักพิง
    - กดดันรัฐบาลพม่า ให้หยุดการสู้รบ
    - นำแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ ไปรักษากองกำลังกะเหรี่ยง ในชายแดน

    แม้ข้อเรียกร้องเหล่านี้ จะดูมีความหมายในแง่มนุษยธรรม แต่การกระทำของพวกเขา ได้ละเมิดอธิปไตยของไทย และสร้างความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของกลุ่ม อย่างร้ายแรง

    แผนปฏิบัติการช่วยเหลือ
    รัฐบาลไทยเผชิญกับ ทางเลือกที่ยากลำบาก ระหว่างการตอบสนอง ต่อข้อเรียกร้องของผู้ก่อเหตุ หรือการใช้กำลัง เพื่อยุติสถานการณ์ ในที่สุด พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ผู้บัญชาการกองทัพบก ในขณะนั้น ได้วางแผนปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช 26 และนเรศวร 261 เพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่และช่วยเหลือตัวประกัน

    ปฏิบัติการช่วงชิงเวลา
    ในคืนวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 หลังการเจรจาที่ไม่เป็นผลสำเร็จ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้ตัดสินใจบุกยึดพื้นที่ในช่วงเวลาที่ผู้ก่อเหตุเริ่มอ่อนล้า ด้วยการจู่โจมอย่างรวดเร็ว และรัดกุม โดยสามารถสังหารผู้ก่อเหตุทั้งหมด 10 คน และช่วยเหลือตัวประกันได้สำเร็จ โดยไม่มีการสูญเสียชีวิต ของพลเรือน

    บทเรียนที่ได้รับ ความสำคัญของการประสานงานหลายฝ่าย
    เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึง การประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระหว่างกองทัพ ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถลดความสูญเสีย ได้อย่างมาก

    จุดยืนของประเทศไทย
    การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ประเทศไทยจะไม่ยอมจำนน ต่อการก่อการร้าย และพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของตน

    ผลกระทบต่อกลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่
    การสูญเสียผู้นำสำคัญ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ส่งผลให้กลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ อ่อนแอลงอย่างมาก และในที่สุด ก็สลายตัวลงในปีถัดมา

    25 ปีผ่านไป บทเรียนสู่อนาคต
    เหตุการณ์ในวันนั้น ยังคงเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ ให้แก่หน่วยงานด้านความมั่นคง และคนไทยทุกคน การเผชิญหน้ากับความท้าทายเช่นนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือ ความเด็ดขาด และความเสียสละ จากทุกฝ่าย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241345 ม.ค. 2568

    #GodsArmy #ราชบุรี #เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ #บุกโรงพยาบาล #ข่าวด่วนราชบุรี #กองกำลังติดอาวุธ #ประเทศไทย
    25 ปี “ก๊อด'ส อาร์มี่” บุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี บทเรียนแห่งความสูญเสีย และความเด็ดขาด เช้าตรู่แห่งความเปลี่ยนแปลง ย้อนไปเมื่อ 25 ปี ที่ผ่านมา ในเช้าวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 ถือเป็นวันที่ชาวราชบุรี และประเทศไทยทั้งประเทศ ไม่มีวันลืมได้ นายพินิจ ปองมณี คนขับรถบัสสาย 18 ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้พบกับเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ไปตลอดกาล เมื่อชายสองคนโบกรถ และกลายเป็นจุดเริ่มต้น ของปฏิบัติการก่อการร้าย ที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย "ก๊อด'ส อาร์มี่" กองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง กองกำลัง "ก๊อด'ส อาร์มี่" เป็นกลุ่มติดอาวุธ ที่มีจุดกำเนิดจากชายแดนไทย-พม่า กลุ่มนี้นำโดยคู่แฝด “ลูเธอร์ ทู” และ “จอห์นนี่ ทู” ซึ่งได้รับการยกย่อง จากผู้ติดตามว่าเป็น “นักบุญ” และมีพลังเหนือธรรมชาติ แนวทางของกลุ่มคือ การต่อต้านรัฐบาลพม่า เพื่อเรียกร้องสิทธิปกครองตนเอง ของชาวกะเหรี่ยง ด้วยแรงกดดัน จากการโจมตีของกองทัพพม่า กลุ่มนี้หันมาใช้วิธีการรุนแรง เช่น การจับตัวประกัน และบุกยึดสถานที่สำคัญ โดยหวังให้ทั่วโลกสนใจ ประเด็นผู้อพยพชายแดน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนนั้น เหตุการณ์การยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี เมื่อชายฉกรรจ์ทั้ง 10 คน พร้อมอาวุธครบมือขึ้นรถบัส พวกเขาเริ่มดำเนินแผนการณ์ ด้วยการบุกยึดโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี สถานที่ที่มีหมอ พยาบาล และผู้ป่วยที่ต้องการการดูแล ในขณะนั้น การดำเนินการของกลุ่มก่อการร้าย เป็นไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถควบคุมตัวบุคลากร และผู้ป่วยรวมกว่า 780 คน และตั้งฐานในบริเวณชั้น 2 ของโรงพยาบาล โดยมีเป้าหมายหลักคือ การบีบบังคับให้รัฐบาลไทย ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง ที่เกี่ยวข้องกับความช่วยเหลือผู้อพยพ ข้อเรียกร้องที่แฝงด้วยความสิ้นหวัง ข้อเรียกร้องของ "ก๊อด'ส อาร์มี่" ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสิ้นหวังของพวกเขา - ให้หยุดยิงปืนใหญ่ที่ชายแดน ซึ่งกระทบต่อชีวิตผู้อพยพ - เรียกร้องให้รัฐบาลไทย ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง - เปิดชายแดนไทย-พม่า เพื่อให้ผู้อพยพมีที่พักพิง - กดดันรัฐบาลพม่า ให้หยุดการสู้รบ - นำแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ ไปรักษากองกำลังกะเหรี่ยง ในชายแดน แม้ข้อเรียกร้องเหล่านี้ จะดูมีความหมายในแง่มนุษยธรรม แต่การกระทำของพวกเขา ได้ละเมิดอธิปไตยของไทย และสร้างความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของกลุ่ม อย่างร้ายแรง แผนปฏิบัติการช่วยเหลือ รัฐบาลไทยเผชิญกับ ทางเลือกที่ยากลำบาก ระหว่างการตอบสนอง ต่อข้อเรียกร้องของผู้ก่อเหตุ หรือการใช้กำลัง เพื่อยุติสถานการณ์ ในที่สุด พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ผู้บัญชาการกองทัพบก ในขณะนั้น ได้วางแผนปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช 26 และนเรศวร 261 เพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่และช่วยเหลือตัวประกัน ปฏิบัติการช่วงชิงเวลา ในคืนวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2543 หลังการเจรจาที่ไม่เป็นผลสำเร็จ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้ตัดสินใจบุกยึดพื้นที่ในช่วงเวลาที่ผู้ก่อเหตุเริ่มอ่อนล้า ด้วยการจู่โจมอย่างรวดเร็ว และรัดกุม โดยสามารถสังหารผู้ก่อเหตุทั้งหมด 10 คน และช่วยเหลือตัวประกันได้สำเร็จ โดยไม่มีการสูญเสียชีวิต ของพลเรือน บทเรียนที่ได้รับ ความสำคัญของการประสานงานหลายฝ่าย เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึง การประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระหว่างกองทัพ ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถลดความสูญเสีย ได้อย่างมาก จุดยืนของประเทศไทย การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ประเทศไทยจะไม่ยอมจำนน ต่อการก่อการร้าย และพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของตน ผลกระทบต่อกลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ การสูญเสียผู้นำสำคัญ ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ส่งผลให้กลุ่มก๊อด'ส อาร์มี่ อ่อนแอลงอย่างมาก และในที่สุด ก็สลายตัวลงในปีถัดมา 25 ปีผ่านไป บทเรียนสู่อนาคต เหตุการณ์ในวันนั้น ยังคงเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ ให้แก่หน่วยงานด้านความมั่นคง และคนไทยทุกคน การเผชิญหน้ากับความท้าทายเช่นนี้ ต้องอาศัยความร่วมมือ ความเด็ดขาด และความเสียสละ จากทุกฝ่าย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241345 ม.ค. 2568 #GodsArmy #ราชบุรี #เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ #บุกโรงพยาบาล #ข่าวด่วนราชบุรี #กองกำลังติดอาวุธ #ประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,635
    วันศุกร์: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๘ (10 January 2025)

    โอนเงินทำบุญ 30 แห่ง เป็นเงิน 600 บาท
    01. รร.งำเมืองวิทยาคม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68)
    02. รร.ชุมชนบ้านดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่าน
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68)
    03. รร.บ้านโนนหอม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68)
    04. รร.บ้านป่ายางตะวันตก อ.สามเงา จ.ตาก
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68)
    05. รร.บ้านสมบูรณ์ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68)
    06. รร.วัดเขาราษฎร์บำรุง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 11 ม.ค.68)
    07. รร.วัดบ้านหมาก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 11 ม.ค.68)
    08. รร.บ้านชงโคสันติสุขวิทยาคาร อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 12 ม.ค.68)
    09. รร.ในเตาพิทยาคม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ม.ค.68)
    10. รร.บ้านไร่เหนือ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ม.ค.68)
    11. วัดเกาะหินตั้ง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย
    (สร้างอาคารปฏิบัติธรรม)
    12. วัดดอนชัย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
    (สร้างศาลาปฏิบัติธรรม)
    13. วัดดวงรัตนประทีป อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
    (สร้างศาลาปฏิบัติธรรม)
    14. วัดกลางบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
    (สร้างศาลาอเนกประสงค์)
    15. วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    (สร้างอาคารปริยัติธรรม)
    16. วัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (สร้างอาคารเรียนสามเณร)
    17. วัดอุทุมพร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
    (สร้างกุฏิสงฆ์)
    18. วัดกองเงินเวฬุวัน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
    (สร้างกุฏิสงฆ์)
    19. วัดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี
    (สร้างกุฏิสงฆ์)
    20. วัดป่าเทสรังสีแก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
    (สร้างห้องพักสงฆ์)
    21. วัดนาคปรก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
    (สร้างห้องน้ำ)
    22. วัดตระพังทองหลาง อ.เมือง จ.สุโขทัย
    (สร้างห้องน้ำ)
    23. วัดเขาช่องประดู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
    (สร้างห้องน้ำ)
    24. วัดวังประดู่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
    (สร้างห้องน้ำ)
    25. วัดเขาเจริญธรรม อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์
    (สร้างห้องน้ำ)
    26. วัดบ้านหนองลาน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
    (สร้างห้องน้ำกุฏิพระสงฆ์)
    27. วัดโคกพิกุลเรียง อ.เมือง จ.ราชบุรี
    (สร้างศาลาธรรมสังเวช)
    28. วัดย่านขาด อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
    (สร้างศาลาธรรมสังเวช)
    29. วัดพระธาตุวิสุทธิญาณ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
    (สร้างเมรุ)
    30. วัดตาสุด อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
    (สร้างหอฉัน)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 33 วัน (75 ปี)
    เพื่อหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ ภายในปี พ.ศ. ๕๐๐๐
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,635 วันศุกร์: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๘ (10 January 2025) โอนเงินทำบุญ 30 แห่ง เป็นเงิน 600 บาท 01. รร.งำเมืองวิทยาคม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68) 02. รร.ชุมชนบ้านดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่าน (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68) 03. รร.บ้านโนนหอม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68) 04. รร.บ้านป่ายางตะวันตก อ.สามเงา จ.ตาก (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68) 05. รร.บ้านสมบูรณ์ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68) 06. รร.วัดเขาราษฎร์บำรุง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 11 ม.ค.68) 07. รร.วัดบ้านหมาก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 11 ม.ค.68) 08. รร.บ้านชงโคสันติสุขวิทยาคาร อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 12 ม.ค.68) 09. รร.ในเตาพิทยาคม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ม.ค.68) 10. รร.บ้านไร่เหนือ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ม.ค.68) 11. วัดเกาะหินตั้ง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย (สร้างอาคารปฏิบัติธรรม) 12. วัดดอนชัย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (สร้างศาลาปฏิบัติธรรม) 13. วัดดวงรัตนประทีป อ.วังทอง จ.พิษณุโลก (สร้างศาลาปฏิบัติธรรม) 14. วัดกลางบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม (สร้างศาลาอเนกประสงค์) 15. วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา (สร้างอาคารปริยัติธรรม) 16. วัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา (สร้างอาคารเรียนสามเณร) 17. วัดอุทุมพร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ (สร้างกุฏิสงฆ์) 18. วัดกองเงินเวฬุวัน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี (สร้างกุฏิสงฆ์) 19. วัดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี (สร้างกุฏิสงฆ์) 20. วัดป่าเทสรังสีแก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี (สร้างห้องพักสงฆ์) 21. วัดนาคปรก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ (สร้างห้องน้ำ) 22. วัดตระพังทองหลาง อ.เมือง จ.สุโขทัย (สร้างห้องน้ำ) 23. วัดเขาช่องประดู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ (สร้างห้องน้ำ) 24. วัดวังประดู่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก (สร้างห้องน้ำ) 25. วัดเขาเจริญธรรม อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ (สร้างห้องน้ำ) 26. วัดบ้านหนองลาน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก (สร้างห้องน้ำกุฏิพระสงฆ์) 27. วัดโคกพิกุลเรียง อ.เมือง จ.ราชบุรี (สร้างศาลาธรรมสังเวช) 28. วัดย่านขาด อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก (สร้างศาลาธรรมสังเวช) 29. วัดพระธาตุวิสุทธิญาณ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ (สร้างเมรุ) 30. วัดตาสุด อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ (สร้างหอฉัน) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 33 วัน (75 ปี) เพื่อหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ ภายในปี พ.ศ. ๕๐๐๐
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • จัดทัพ ขรก.มหาดไทย ล็อตใหญ่ 33 เก้าอี้ ก่อนเลือกตั้ง อบจ.
    .
    น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (24 ธ.ค. 67) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง สังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 33 ราย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป ดังนี้
    .
    1. ให้นายชูชีพ พงษ์ไชย พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดแม่ฮ่องสอน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดตาก
    .
    2. ให้นายชยชัย แสงอินทร์ ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมการพัฒนาชุมชน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
    .
    3.ให้นายทศพล เผื่อนอุดม ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดเชียงใหม่ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
    .
    4. ให้นางรณิดา เหลืองฐิติกุล ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดอุดรธานี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูบสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
    .
    5. ให้นายศรัณย์ศักดิ์ ศรีเครือเนตร ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมการปกครอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
    .
    6. ให้นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดชัยภูมิ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
    .
    7. ให้นายสันติ รังษิรุจิ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดจันทบุรี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
    .
    8.ให้นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับต้น) จังหวัดศรีสะเกษ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
    .
    9. ให้นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดกาญจนบุรี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดกาญจนบุรี
    .
    10.ให้นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดชุมพร
    .
    11. ให้นายชานน วาสิกศิริ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดนครนายก ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครนายก
    .
    12. ให้นางสาวอโรชา นันทมนตรี ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดนครปฐม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครปฐม
    .
    13.ให้นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับต้น) จังหวัดนครพนม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครพนม
    .
    14. ให้นายสมชาย ลีหล้าน้อย ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดนครศรีธรรมราช ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครศรีธรรมราช
    .
    15. ให้นางสาวชุติพร เสชัง ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดนครสวรรค์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครสวรรค์
    .
    16.ให้นายปิยะ ปิจนำ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดบุรีรัมย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดบุรีรัมย์
    .
    17. ให้นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
    .
    18. ให้นายไพรัตน์ เพชรยวน ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดพังงา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพังงา
    .
    19. ให้นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดหนองคาย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพัทพัทลุง
    .
    20. ให้นางสาวธนียา นัยพินิจ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดพิจิตร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพิจิตร
    .
    21. ให้ร้อยตำรวจโท ภพชนก ชลานุเคราะห์ ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมการปกครอง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดเพชรบุรี
    .
    22.ให้นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมการปกครอง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดแพร่
    .
    23.ให้นายเอกวิทย์ มีเพียร ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดแม่ฮ่องสอน
    .
    24.ให้นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดยโสธร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดยโสธร
    .
    25. ให้นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดร้อยเอ็ด ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดร้อยเอ็ด
    .
    26. ให้นายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดระนอง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดระนอง
    .
    27. ให้นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดขลบุรี ดำรงต้าแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกศรอง ระดับสูป จังหวัดราชบุรี
    .
    28. ให้นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดมุกดาหาร ดำรงตำแหน่งผู้ว่ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดลำพูน
    .
    29. ให้นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดสุโขทัย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสุโขทัย
    .
    30.ให้นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    .
    31. ให้นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดหนองบัวลำภู ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดหนองบัวลำภู
    .
    32. ให้นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับต้น) จังหวัดอ่างทอง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดอ่างทอง
    .
    33. ให้นายณรงค์ เทพเสนา ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดอำนาจเจริญ ดำรงตำแหน่งน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดอำนาจเจริญ
    ..............
    Sondhi X
    จัดทัพ ขรก.มหาดไทย ล็อตใหญ่ 33 เก้าอี้ ก่อนเลือกตั้ง อบจ. . น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (24 ธ.ค. 67) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง สังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 33 ราย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป ดังนี้ . 1. ให้นายชูชีพ พงษ์ไชย พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดแม่ฮ่องสอน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดตาก . 2. ให้นายชยชัย แสงอินทร์ ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมการพัฒนาชุมชน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง . 3.ให้นายทศพล เผื่อนอุดม ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดเชียงใหม่ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง . 4. ให้นางรณิดา เหลืองฐิติกุล ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดอุดรธานี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูบสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง . 5. ให้นายศรัณย์ศักดิ์ ศรีเครือเนตร ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมการปกครอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง . 6. ให้นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดชัยภูมิ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง . 7. ให้นายสันติ รังษิรุจิ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดจันทบุรี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง . 8.ให้นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับต้น) จังหวัดศรีสะเกษ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง . 9. ให้นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดกาญจนบุรี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดกาญจนบุรี . 10.ให้นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดชุมพร . 11. ให้นายชานน วาสิกศิริ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดนครนายก ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครนายก . 12. ให้นางสาวอโรชา นันทมนตรี ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดนครปฐม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครปฐม . 13.ให้นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับต้น) จังหวัดนครพนม ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครพนม . 14. ให้นายสมชาย ลีหล้าน้อย ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดนครศรีธรรมราช ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครศรีธรรมราช . 15. ให้นางสาวชุติพร เสชัง ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดนครสวรรค์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครสวรรค์ . 16.ให้นายปิยะ ปิจนำ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดบุรีรัมย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดบุรีรัมย์ . 17. ให้นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ . 18. ให้นายไพรัตน์ เพชรยวน ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดพังงา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพังงา . 19. ให้นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดหนองคาย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพัทพัทลุง . 20. ให้นางสาวธนียา นัยพินิจ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดพิจิตร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพิจิตร . 21. ให้ร้อยตำรวจโท ภพชนก ชลานุเคราะห์ ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมการปกครอง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดเพชรบุรี . 22.ให้นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมการปกครอง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดแพร่ . 23.ให้นายเอกวิทย์ มีเพียร ตำแหน่งรองอธิบดี (นักบริหาร ระดับต้น) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดแม่ฮ่องสอน . 24.ให้นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดยโสธร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดยโสธร . 25. ให้นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดร้อยเอ็ด ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดร้อยเอ็ด . 26. ให้นายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดระนอง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดระนอง . 27. ให้นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดขลบุรี ดำรงต้าแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกศรอง ระดับสูป จังหวัดราชบุรี . 28. ให้นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดมุกดาหาร ดำรงตำแหน่งผู้ว่ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดลำพูน . 29. ให้นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดสุโขทัย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสุโขทัย . 30.ให้นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสุราษฎร์ธานี . 31. ให้นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดหนองบัวลำภู ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดหนองบัวลำภู . 32. ให้นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับต้น) จังหวัดอ่างทอง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดอ่างทอง . 33. ให้นายณรงค์ เทพเสนา ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับต้น) จังหวัดอำนาจเจริญ ดำรงตำแหน่งน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดอำนาจเจริญ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1122 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคร่วมฯ ลา ครม.จริง แจ้งไว้ก่อนแล้วไร้นัยยะ ไม่สน 'ทักษิณ' ตะเพิด
    .
    การสัมมนาโครงการเสริมศักยภาพ ส.ส.และบุคลากรทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ปรากฎว่าไฮไลท์สำคัญไปอยู่ที่การขึ้นพูดของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีเนื้อหาส่วนหนึ่งพาดพิงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเนื่องจากพบว่ามีรัฐมนตรีลาการประชุมคณะรัฐมนตรีถึง 7 คน ซึ่งแสดงออกถึงการไม่จริงใจ
    .
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า นายทักษิณไม่น่าจะหมายถึงพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากในวันดังกล่าวได้เข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการ และไม่ทราบว่ามีการเลื่อนการประชุมเป็นวันพุธที่ 11 ธันวาคม เนื่องจากปกติการประชุมคณะรัฐมนตรีจะประชุมทุกวันอังคาร โดยระหว่างพบแพทย์เพื่อทำการตรวจนั้น นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์เพื่อตามให้เข้าประชุม เนื่องจากมีการพิจารณากฎหมายสำคัญ หลังจากตรวจเสร็จ ก็รีบเข้าประชุม ครม.ทันที อีกทั้งรัฐมนตรีหลายคนของพรรคก็เข้าร่วมประชุมในวันนั้น เว้นแต่ผู้ที่ติดภารกิจราชการ จึงไม่อยากให้เชื่อมโยงมาถึงพรรคภูมิใจไทย
    .
    "พรรคภูมิใจไทย รับสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพราะนางสาวแพทองธาร คือ หัวหน้ารัฐบาล ท่านทักษิณ พูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก เพราะผมก็ไปร่วมประชุม" นายอนุทิน กล่าว
    .
    นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รวมทั้งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แจ้งลาประชุม ครม.ต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไว้ล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากติดภารกิจ
    .
    ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม มั่นใจว่า ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลยังคงราบรื่น แม้นายทักษิณ จะมีการพูดเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับส่วนตัวม่ทราบว่าการพูดของนายทักษิณเป็นการเตือนถึงพรรคร่วมรัฐฐาลหรือไม่ พราะท่านไม่ได้มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อท่านพูดมา เราก็รับฟังว่าเป็นอย่างไร ถือเป็นความเห็นของผู้มีอาวุโสทางการเมืองที่จะเห็นว่าวิธีการเช่นนี้มีความเหมาะสมหรือไม่ ก็วิพากษ์วิจารณ์มา เพราะท่านเป็นบุคคลที่ติดตามการเมือง
    ...............
    Sondhi X
    พรรคร่วมฯ ลา ครม.จริง แจ้งไว้ก่อนแล้วไร้นัยยะ ไม่สน 'ทักษิณ' ตะเพิด . การสัมมนาโครงการเสริมศักยภาพ ส.ส.และบุคลากรทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ปรากฎว่าไฮไลท์สำคัญไปอยู่ที่การขึ้นพูดของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีเนื้อหาส่วนหนึ่งพาดพิงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเนื่องจากพบว่ามีรัฐมนตรีลาการประชุมคณะรัฐมนตรีถึง 7 คน ซึ่งแสดงออกถึงการไม่จริงใจ . นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า นายทักษิณไม่น่าจะหมายถึงพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากในวันดังกล่าวได้เข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการ และไม่ทราบว่ามีการเลื่อนการประชุมเป็นวันพุธที่ 11 ธันวาคม เนื่องจากปกติการประชุมคณะรัฐมนตรีจะประชุมทุกวันอังคาร โดยระหว่างพบแพทย์เพื่อทำการตรวจนั้น นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์เพื่อตามให้เข้าประชุม เนื่องจากมีการพิจารณากฎหมายสำคัญ หลังจากตรวจเสร็จ ก็รีบเข้าประชุม ครม.ทันที อีกทั้งรัฐมนตรีหลายคนของพรรคก็เข้าร่วมประชุมในวันนั้น เว้นแต่ผู้ที่ติดภารกิจราชการ จึงไม่อยากให้เชื่อมโยงมาถึงพรรคภูมิใจไทย . "พรรคภูมิใจไทย รับสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพราะนางสาวแพทองธาร คือ หัวหน้ารัฐบาล ท่านทักษิณ พูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก เพราะผมก็ไปร่วมประชุม" นายอนุทิน กล่าว . นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รวมทั้งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แจ้งลาประชุม ครม.ต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไว้ล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากติดภารกิจ . ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม มั่นใจว่า ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลยังคงราบรื่น แม้นายทักษิณ จะมีการพูดเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับส่วนตัวม่ทราบว่าการพูดของนายทักษิณเป็นการเตือนถึงพรรคร่วมรัฐฐาลหรือไม่ พราะท่านไม่ได้มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อท่านพูดมา เราก็รับฟังว่าเป็นอย่างไร ถือเป็นความเห็นของผู้มีอาวุโสทางการเมืองที่จะเห็นว่าวิธีการเช่นนี้มีความเหมาะสมหรือไม่ ก็วิพากษ์วิจารณ์มา เพราะท่านเป็นบุคคลที่ติดตามการเมือง ............... Sondhi X
    Haha
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 917 มุมมอง 0 รีวิว
  • มติพลังประชารัฐ ขับ 20 สส.กลุ่มธรรมนัสพ้นพรรค ปัดแลกเปลี่ยนคดีภูนับดาว
    .
    ที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ มีมติขับ 20 สส. ก๊วน "ร.อ.​ธรรมนัส" พ้นพรรค ​อ้าง​อุดมการณ์ไม่ตรงกัน​ ยันไม่มีข้อแลกเปลี่ยนกับคดี "ภูนับดาว" โยงคนใกล้ชิด "​บิ๊กป้อม" ​เตรียมเสนอที่ประชุมร่วม​ กก.บห. และ สส. ลงมติพรุ่งนี้
    .
    วันนี้ (20 ธ.ค.) นายไพบูลย์​ นิติตะวัน​ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังประชุมพรรคว่า​ ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยตามที่ตนในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ กรณี สส. พรรค​พลังประชารัฐ 20 คน มีการกระทำอาจฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ และเสนอว่าการกระทำของสมาชิกพรรคทั้ง 20 คน มีเหตุจากแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐคนอื่น​ เกินกว่าจะแก้ไขทำความเข้าใจให้เป็นไปแนวทางเดียวกันได้
    .
    เหตุดังกล่าวเห็นว่า สส. ทั้ง 20 คนนั้น มีการกระทำลักษณะที่มีเหตุร้ายแรงอย่างอื่นตามข้อบังคับ 54 (4) ตนในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบและเลขาธิการพรรค จึงเสนอให้ที่ประชุมมีมติให้สมาชิกภาพของทั้ง 20 คนสิ้นสุดลง ตามข้อบังคับ 54 (5) และววรค 2 และขอให้ที่ประชุมมีมติให้มีการประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารของพรรคและ สส. ​พรรคพลังประชารัฐเพื่อพิจารณาลงมติ ตามข้อบังคับที่ 54 (5) และวรรค 2 ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธ.ค. เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา​ ซึ่งที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐวันนี้ เป็นการเห็นชอบชั้นที่ 1 แต่ในวันพรุ่งนี้จะต้องมีการลงมติโดยใช้เสียง 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมกัน ระหว่างคณะกรรมการบริหารและ สส. ​พรรคพลังประชารัฐ
    .
    เมื่อถามว่าเป็นการจากกันด้วยดีใช่หรือไม่ หรือมีการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขกับคดีของคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดิน ส.ป.ก. ไร่ภูนับดาว จ.สระบุรี นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรทั้งนั้น เป็นไปตามที่ตนแถลง โดยยืนยันว่าเป็นการจากกันด้วยดี เพราะแนวคิดอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราพยายามที่จะพูดคุยประสาน เพื่อที่จะให้มาในแนวทางเดียวกัน แต่คิดว่าเมื่อเป็นไปไม่ได้ก็ถือว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรงอื่น ซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายควรจะมีมติให้ สส. ทั้ง 20 คนพ้นจากการเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อถามย้ำว่าเป็นการจากกันด้วยดีใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ ย้ำว่า ขอให้ผู้สื่อข่าวฟังเอาเอง แต่ความรู้สึกตนนั้นทุกอย่างดำเนินการไปตามกระบวนการ เราพยายามพูดคุยกันแล้ว หากไม่มีอุดมการณ์ร่วมกัน ก็ไม่เป็นไร เมื่อไม่มี ก็ต่างฝ่ายต่างรักษาอุดมการณ์ของตัวเองไป ไม่มีปัญหาอะไร
    .
    นายไพบูลย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมการบริหารพรรควันนี้ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจากไม่สบาย แต่ก็เห็นด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นดำริที่ท่านเห็นชอบอยู่แล้ว ดังนั้นถือว่าเป็นมติของกรรมการบริหารพรรคไปแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ สส. ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 40 คน โดยต้องขอเสียงมติในที่ประชุม 3 ใน 4 ทั้งนี้จะเชิญ สส. ทั้ง 20 คน ที่ยังเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมด้วย เพื่อขอมติในที่ประชุมเพื่อขอมติให้ได้เสียง 3 ใน 4 โดยเราได้มีการแจ้งคนกลุ่มนี้ไปแล้ว และเขาเองก็จะมาร่วมประชุมด้วย
    .
    สำหรับ สส. พรรคพลังประชารัฐที่จะขับออกจากพรรค ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เขต 1 นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี เขต 3 นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา เขต 3 นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา เขต 4 นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี เขต 5 นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ เขต 9 นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี เขต 2 นายปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน เขต 1 นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1
    .
    นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ สส.กำแพงเพชร เขต 2 นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก เขต 3 นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี เขต 10 นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา เขต 2 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 เป็นต้น
    .............
    Sondhi X
    มติพลังประชารัฐ ขับ 20 สส.กลุ่มธรรมนัสพ้นพรรค ปัดแลกเปลี่ยนคดีภูนับดาว . ที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ มีมติขับ 20 สส. ก๊วน "ร.อ.​ธรรมนัส" พ้นพรรค ​อ้าง​อุดมการณ์ไม่ตรงกัน​ ยันไม่มีข้อแลกเปลี่ยนกับคดี "ภูนับดาว" โยงคนใกล้ชิด "​บิ๊กป้อม" ​เตรียมเสนอที่ประชุมร่วม​ กก.บห. และ สส. ลงมติพรุ่งนี้ . วันนี้ (20 ธ.ค.) นายไพบูลย์​ นิติตะวัน​ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังประชุมพรรคว่า​ ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยตามที่ตนในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ กรณี สส. พรรค​พลังประชารัฐ 20 คน มีการกระทำอาจฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ และเสนอว่าการกระทำของสมาชิกพรรคทั้ง 20 คน มีเหตุจากแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐคนอื่น​ เกินกว่าจะแก้ไขทำความเข้าใจให้เป็นไปแนวทางเดียวกันได้ . เหตุดังกล่าวเห็นว่า สส. ทั้ง 20 คนนั้น มีการกระทำลักษณะที่มีเหตุร้ายแรงอย่างอื่นตามข้อบังคับ 54 (4) ตนในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบและเลขาธิการพรรค จึงเสนอให้ที่ประชุมมีมติให้สมาชิกภาพของทั้ง 20 คนสิ้นสุดลง ตามข้อบังคับ 54 (5) และววรค 2 และขอให้ที่ประชุมมีมติให้มีการประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารของพรรคและ สส. ​พรรคพลังประชารัฐเพื่อพิจารณาลงมติ ตามข้อบังคับที่ 54 (5) และวรรค 2 ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธ.ค. เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา​ ซึ่งที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐวันนี้ เป็นการเห็นชอบชั้นที่ 1 แต่ในวันพรุ่งนี้จะต้องมีการลงมติโดยใช้เสียง 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วมกัน ระหว่างคณะกรรมการบริหารและ สส. ​พรรคพลังประชารัฐ . เมื่อถามว่าเป็นการจากกันด้วยดีใช่หรือไม่ หรือมีการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขกับคดีของคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดิน ส.ป.ก. ไร่ภูนับดาว จ.สระบุรี นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรทั้งนั้น เป็นไปตามที่ตนแถลง โดยยืนยันว่าเป็นการจากกันด้วยดี เพราะแนวคิดอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราพยายามที่จะพูดคุยประสาน เพื่อที่จะให้มาในแนวทางเดียวกัน แต่คิดว่าเมื่อเป็นไปไม่ได้ก็ถือว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรงอื่น ซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายควรจะมีมติให้ สส. ทั้ง 20 คนพ้นจากการเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อถามย้ำว่าเป็นการจากกันด้วยดีใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ ย้ำว่า ขอให้ผู้สื่อข่าวฟังเอาเอง แต่ความรู้สึกตนนั้นทุกอย่างดำเนินการไปตามกระบวนการ เราพยายามพูดคุยกันแล้ว หากไม่มีอุดมการณ์ร่วมกัน ก็ไม่เป็นไร เมื่อไม่มี ก็ต่างฝ่ายต่างรักษาอุดมการณ์ของตัวเองไป ไม่มีปัญหาอะไร . นายไพบูลย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมการบริหารพรรควันนี้ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจากไม่สบาย แต่ก็เห็นด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นดำริที่ท่านเห็นชอบอยู่แล้ว ดังนั้นถือว่าเป็นมติของกรรมการบริหารพรรคไปแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ สส. ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 40 คน โดยต้องขอเสียงมติในที่ประชุม 3 ใน 4 ทั้งนี้จะเชิญ สส. ทั้ง 20 คน ที่ยังเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมด้วย เพื่อขอมติในที่ประชุมเพื่อขอมติให้ได้เสียง 3 ใน 4 โดยเราได้มีการแจ้งคนกลุ่มนี้ไปแล้ว และเขาเองก็จะมาร่วมประชุมด้วย . สำหรับ สส. พรรคพลังประชารัฐที่จะขับออกจากพรรค ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เขต 1 นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี เขต 3 นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา เขต 3 นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา เขต 4 นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี เขต 5 นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ เขต 9 นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี เขต 2 นายปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน เขต 1 นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 . นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ สส.กำแพงเพชร เขต 2 นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก เขต 3 นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี เขต 10 นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา เขต 2 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 เป็นต้น ............. Sondhi X
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1162 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 997 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อธิบดีดีเอสไอ” นัดประชุมคืบหน้าคดีดิไอคอน ชี้แจง “สามารถ” อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม ยันคดีร่วมกัน-สมคบกันฟอกเงิน อัตราโทษเกิน 3 ปี ขอศาลออกหมายจับได้

    วันนี้ (28 พ.ย.) เวลา 09.30 น. ณ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกรณี นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช อดีตรองโฆษกพรรค พปชร. ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน “ดิไอคอน” ซึ่งเจ้าตัวอ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากไม่ออกหมายเรียก แต่ถูกออกหมายจับเลย ว่า คดีดังกล่าวนั้นมีอัตราโทษร้ายแรงเกิน 3 ปี พนักงานสอบสวนจึงสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับได้

    พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่ว่าอาจพบพยานหลักฐานเท็จ จัดทำโดยผู้มีความรู้ด้านกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหานั้น หากดีเอสไอพิสูจน์ได้ว่าเป็นการทำพยานหลักฐานเท็จ ก็มีความผิดทางอาญา แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าพยานเอกสารที่พบขณะเข้าค้นบ้านที่เกี่ยวข้องกับนายสามารถเป็นพยานเท็จหรือไม่ เพียงแต่น่าเชื่อว่า พยานเอกสารที่ตรวจพบน่าจะเป็นการทำเอกสารขึ้นมา

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ต.ยุทธนา จะมีการการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีฟอกเงินของนายสามารถ รวมทั้งคดี “ดิไอคอน” และจะมีให้สัมภาษณ์หลังประชุมอีกครั้ง

    #MGROnline #อธิบดีดีเอสไอ #สามารถ #ไม่ได้รับความเป็นธรรม #ฟอกเงิน
    “อธิบดีดีเอสไอ” นัดประชุมคืบหน้าคดีดิไอคอน ชี้แจง “สามารถ” อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม ยันคดีร่วมกัน-สมคบกันฟอกเงิน อัตราโทษเกิน 3 ปี ขอศาลออกหมายจับได้ • วันนี้ (28 พ.ย.) เวลา 09.30 น. ณ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกรณี นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช อดีตรองโฆษกพรรค พปชร. ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน “ดิไอคอน” ซึ่งเจ้าตัวอ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากไม่ออกหมายเรียก แต่ถูกออกหมายจับเลย ว่า คดีดังกล่าวนั้นมีอัตราโทษร้ายแรงเกิน 3 ปี พนักงานสอบสวนจึงสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับได้ • พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่ว่าอาจพบพยานหลักฐานเท็จ จัดทำโดยผู้มีความรู้ด้านกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหานั้น หากดีเอสไอพิสูจน์ได้ว่าเป็นการทำพยานหลักฐานเท็จ ก็มีความผิดทางอาญา แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าพยานเอกสารที่พบขณะเข้าค้นบ้านที่เกี่ยวข้องกับนายสามารถเป็นพยานเท็จหรือไม่ เพียงแต่น่าเชื่อว่า พยานเอกสารที่ตรวจพบน่าจะเป็นการทำเอกสารขึ้นมา • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ต.ยุทธนา จะมีการการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีฟอกเงินของนายสามารถ รวมทั้งคดี “ดิไอคอน” และจะมีให้สัมภาษณ์หลังประชุมอีกครั้ง • #MGROnline #อธิบดีดีเอสไอ #สามารถ #ไม่ได้รับความเป็นธรรม #ฟอกเงิน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระครูวิบูลภัทรกิจ อุดม โอภาโส ได้จัดงานทอดกฐิน ที่พักสงฆ์ห้วยหนึ่ง ประจำปี 2567 อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี
    https://youtu.be/XCOkL4DrcKg
    พระครูวิบูลภัทรกิจ อุดม โอภาโส ได้จัดงานทอดกฐิน ที่พักสงฆ์ห้วยหนึ่ง ประจำปี 2567 อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี https://youtu.be/XCOkL4DrcKg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระครูวิบูลภัทรกิจ อุดม โอภาโส ได้จัดงานทอดกฐิน ที่พักสงฆ์ห้วยหนึ่ง ประจำปี 2567 อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี
    https://youtu.be/XCOkL4DrcKg
    พระครูวิบูลภัทรกิจ อุดม โอภาโส ได้จัดงานทอดกฐิน ที่พักสงฆ์ห้วยหนึ่ง ประจำปี 2567 อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี https://youtu.be/XCOkL4DrcKg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระครูวิบูลภัทรกิจ อุดม โอภาโส ได้จัดงานทอดกฐิน ที่พักสงฆ์ห้วยหนึ่ง ประจำปี 2567 อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี
    https://www.pracharthai.com/news/?p=18546
    พระครูวิบูลภัทรกิจ อุดม โอภาโส ได้จัดงานทอดกฐิน ที่พักสงฆ์ห้วยหนึ่ง ประจำปี 2567 อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี https://www.pracharthai.com/news/?p=18546
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระครูวิบูลภัทรกิจ อุดม โอภาโส ได้จัดงานทอดกฐิน ที่พักสงฆ์ห้วยหนึ่ง ประจำปี 2567 อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี
    https://www.pracharthai.com/news/?p=18546
    พระครูวิบูลภัทรกิจ อุดม โอภาโส ได้จัดงานทอดกฐิน ที่พักสงฆ์ห้วยหนึ่ง ประจำปี 2567 อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี https://www.pracharthai.com/news/?p=18546
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามคำเรียกร้อง เสื้อยืด “คลั่งชาติ” 250 บาท ส่งฟรี! รายได้นำไปจัดซื้อวัสดุสร้างบ้านผู้ยากไร้ จังหวัดราชบุรี
    .
    สั่งซื้อได้ที่ Facebook วรงค์ เดชกิจวิกรม
    .
    เริ่มจัดส่งอาทิตย์หน้า
    ตามคำเรียกร้อง เสื้อยืด “คลั่งชาติ” 250 บาท ส่งฟรี! รายได้นำไปจัดซื้อวัสดุสร้างบ้านผู้ยากไร้ จังหวัดราชบุรี . สั่งซื้อได้ที่ Facebook วรงค์ เดชกิจวิกรม . เริ่มจัดส่งอาทิตย์หน้า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,574
    วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (10 November 2024)

    Photo Album Set 1/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    01. วัดโฆสิตาราม (หลวงพ่อกวย) อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    02. วัดถาวรวนาราม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    03. วัดน้อยแสงจันทร์ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    04. วัดบ้านฆ้องน้อย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    05. วัดบ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    06. วัดบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    07. วัดป่าม่วง อ.เมือง จ.ลำพูน
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    08. วัดป่าละมุดจันทร์ศิริ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    09. วัดป่าวดี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    10. วัดป่าหัวดอน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 94 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,574 วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (10 November 2024) Photo Album Set 1/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 01. วัดโฆสิตาราม (หลวงพ่อกวย) อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 02. วัดถาวรวนาราม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 03. วัดน้อยแสงจันทร์ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 04. วัดบ้านฆ้องน้อย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 05. วัดบ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 06. วัดบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 07. วัดป่าม่วง อ.เมือง จ.ลำพูน (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 08. วัดป่าละมุดจันทร์ศิริ อ.เมือง จ.พิษณุโลก (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 09. วัดป่าวดี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 10. วัดป่าหัวดอน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 94 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,574
    วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (10 November 2024)

    Photo Album Set 1/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    01. วัดโฆสิตาราม (หลวงพ่อกวย) อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    02. วัดถาวรวนาราม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    03. วัดน้อยแสงจันทร์ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    04. วัดบ้านฆ้องน้อย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    05. วัดบ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    06. วัดบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    07. วัดป่าม่วง อ.เมือง จ.ลำพูน
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    08. วัดป่าละมุดจันทร์ศิริ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    09. วัดป่าวดี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    10. วัดป่าหัวดอน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 94 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,574 วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (10 November 2024) Photo Album Set 1/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 01. วัดโฆสิตาราม (หลวงพ่อกวย) อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 02. วัดถาวรวนาราม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 03. วัดน้อยแสงจันทร์ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 04. วัดบ้านฆ้องน้อย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 05. วัดบ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 06. วัดบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 07. วัดป่าม่วง อ.เมือง จ.ลำพูน (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 08. วัดป่าละมุดจันทร์ศิริ อ.เมือง จ.พิษณุโลก (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 09. วัดป่าวดี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 10. วัดป่าหัวดอน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 94 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,574
    วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (10 November 2024)

    Photo Album Set 3/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    21. วัดมะขาม อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    22. วัดวังชะอม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    23. วัดศรีกระอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    24. วัดศรีพรเพ็ญมาตยาราม อ.แม่สอด จ.ตาก
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    25. วัดศรีศรัทธาราม อ.สามง่าม จ.พิจิตร
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    26. วัดสวายสอ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    27. วัดหนองนางาม อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    28. วัดหนองบัว อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    29. วัดหนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    30. วัดห้วยทรายทอง อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 94 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,574 วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (10 November 2024) Photo Album Set 3/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 21. วัดมะขาม อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 22. วัดวังชะอม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 23. วัดศรีกระอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 24. วัดศรีพรเพ็ญมาตยาราม อ.แม่สอด จ.ตาก (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 25. วัดศรีศรัทธาราม อ.สามง่าม จ.พิจิตร (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 26. วัดสวายสอ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 27. วัดหนองนางาม อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 28. วัดหนองบัว อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 29. วัดหนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 30. วัดห้วยทรายทอง อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 94 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 452 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,574
    วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (10 November 2024)

    Photo Album Set 3/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    21. วัดมะขาม อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    22. วัดวังชะอม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    23. วัดศรีกระอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    24. วัดศรีพรเพ็ญมาตยาราม อ.แม่สอด จ.ตาก
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    25. วัดศรีศรัทธาราม อ.สามง่าม จ.พิจิตร
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    26. วัดสวายสอ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    27. วัดหนองนางาม อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    28. วัดหนองบัว อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    29. วัดหนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    30. วัดห้วยทรายทอง อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 94 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,574 วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (10 November 2024) Photo Album Set 3/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 21. วัดมะขาม อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 22. วัดวังชะอม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 23. วัดศรีกระอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 24. วัดศรีพรเพ็ญมาตยาราม อ.แม่สอด จ.ตาก (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 25. วัดศรีศรัทธาราม อ.สามง่าม จ.พิจิตร (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 26. วัดสวายสอ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 27. วัดหนองนางาม อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 28. วัดหนองบัว อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 29. วัดหนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 30. วัดห้วยทรายทอง อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 94 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 428 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,572
    วันพระ: ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (8 November 2024)

    Photo Album Set 1/3
    ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    01. วัดบางกระเบา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    02. วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    03. วัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    04. วัดพระนารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    05. วัดพระมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    06. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรวิหาร อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    07. วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    08. วัดมหาวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    09. วัดยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    10. วัดรัษฎาธิษฐานราชวรวิหาร เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 96 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,572 วันพระ: ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (8 November 2024) Photo Album Set 1/3 ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 01. วัดบางกระเบา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 02. วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 03. วัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 04. วัดพระนารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 05. วัดพระมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง จ.ราชบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 06. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรวิหาร อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 07. วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม อ.เมือง จ.อุทัยธานี (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 08. วัดมหาวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 09. วัดยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 10. วัดรัษฎาธิษฐานราชวรวิหาร เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 96 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,572
    วันพระ: ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (8 November 2024)

    Photo Album Set 1/3
    ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    01. วัดบางกระเบา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    02. วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    03. วัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    04. วัดพระนารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    05. วัดพระมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    06. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรวิหาร อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    07. วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    08. วัดมหาวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    09. วัดยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    10. วัดรัษฎาธิษฐานราชวรวิหาร เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 96 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,572 วันพระ: ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (8 November 2024) Photo Album Set 1/3 ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 01. วัดบางกระเบา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 02. วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 03. วัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 04. วัดพระนารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 05. วัดพระมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง จ.ราชบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 06. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรวิหาร อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 07. วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม อ.เมือง จ.อุทัยธานี (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 08. วัดมหาวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 09. วัดยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 10. วัดรัษฎาธิษฐานราชวรวิหาร เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 96 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570
    วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024)

    Photo Album Set 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดภูมิขนุน อ.สังขะ จ.สุรินทร์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    02. วัดมงคลนิมิตร อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    03. วัดรังสิต อ.เมือง จ.ปทุมธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    04. วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    05. วัดไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    06. วัดลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    07. วัดลำป่าสักมูล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    08. วัดเลิศดุสิตาราม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    09. วัดวังกุ่ม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    10. วัดศรีนวรัฐ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570 วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024) Photo Album Set 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดภูมิขนุน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 02. วัดมงคลนิมิตร อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 03. วัดรังสิต อ.เมือง จ.ปทุมธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 04. วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 05. วัดไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 06. วัดลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 07. วัดลำป่าสักมูล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 08. วัดเลิศดุสิตาราม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 09. วัดวังกุ่ม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 10. วัดศรีนวรัฐ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570
    วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024)

    Photo Album Set 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดภูมิขนุน อ.สังขะ จ.สุรินทร์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    02. วัดมงคลนิมิตร อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    03. วัดรังสิต อ.เมือง จ.ปทุมธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    04. วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    05. วัดไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    06. วัดลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    07. วัดลำป่าสักมูล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    08. วัดเลิศดุสิตาราม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    09. วัดวังกุ่ม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    10. วัดศรีนวรัฐ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570 วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024) Photo Album Set 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดภูมิขนุน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 02. วัดมงคลนิมิตร อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 03. วัดรังสิต อ.เมือง จ.ปทุมธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 04. วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 05. วัดไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 06. วัดลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 07. วัดลำป่าสักมูล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 08. วัดเลิศดุสิตาราม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 09. วัดวังกุ่ม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 10. วัดศรีนวรัฐ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครูไหวนัดเล่น #ดนตรีไทย ... ครูไหว94 ครูไกร91..เยี่ยมค่ะ ยังเล่นดนตรีจำโนตกันได้หมดนิ ขอคาราวะค่ะ 2/11/24 นัดหน้า 14ธันวาคม บ้านผอ.ไกร เตรียมงาน2เมษา68 #ชมรมดนตรีไทยจังหวัดราชบุรี #โหมโรงจอมสุรางค์(ออกสะบัดสะบิ้ง)#โหมโรงเยี่ยมวิมาน #โหมโรงครอบจักรวาล #อาหนู #แขกมอญ #แขกมอญยาดเล้ #แขกมอญบางช้าง #สารถี #เขมรพวง #เขมรโพธิสัตย์ #ใบ้คลั่ง
    ครูไหวนัดเล่น #ดนตรีไทย ... ครูไหว94 ครูไกร91..เยี่ยมค่ะ ยังเล่นดนตรีจำโนตกันได้หมดนิ ขอคาราวะค่ะ 2/11/24 นัดหน้า 14ธันวาคม บ้านผอ.ไกร เตรียมงาน2เมษา68 #ชมรมดนตรีไทยจังหวัดราชบุรี #โหมโรงจอมสุรางค์(ออกสะบัดสะบิ้ง)#โหมโรงเยี่ยมวิมาน #โหมโรงครอบจักรวาล #อาหนู #แขกมอญ #แขกมอญยาดเล้ #แขกมอญบางช้าง #สารถี #เขมรพวง #เขมรโพธิสัตย์ #ใบ้คลั่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 577 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร่วมทอดกฐินสามัคคี สำนักสงฆ์ห้วยหนึ่ง ต.สวนผึ้ง ราชบุรี
    ร่วมทอดกฐินสามัคคี สำนักสงฆ์ห้วยหนึ่ง ต.สวนผึ้ง ราชบุรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นหน่วยพยาบาลระดับปฐมภูมิ ตั้งอยู่ที่ ม.2 ตำบลเตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เดิมคือสถานีอนามัยเตาปูน สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเตาปูน (รพ.สต.เตาปูน)สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต่อมาปีงบประมาณ 2565 ได้เปลี่ยนสังกัดขึ้งอยู่กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี
    เป็นหน่วยพยาบาลระดับปฐมภูมิ ตั้งอยู่ที่ ม.2 ตำบลเตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เดิมคือสถานีอนามัยเตาปูน สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเตาปูน (รพ.สต.เตาปูน)สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต่อมาปีงบประมาณ 2565 ได้เปลี่ยนสังกัดขึ้งอยู่กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นหน่วยพยาบาลระดับปฐมภูมิ ตั้งอยู่ที่ ม.2 ตำบลเตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เดิมคือสถานีอนามัยเตาปูน สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเตาปูน (รพ.สต.เตาปูน)สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต่อมาปีงบประมาณ 2565 ได้เปลี่ยนสังกัดขึ้งอยู่กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี
    เป็นหน่วยพยาบาลระดับปฐมภูมิ ตั้งอยู่ที่ ม.2 ตำบลเตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เดิมคือสถานีอนามัยเตาปูน สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเตาปูน (รพ.สต.เตาปูน)สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ต่อมาปีงบประมาณ 2565 ได้เปลี่ยนสังกัดขึ้งอยู่กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts