• หลังจากสื่อบางแห่งนำเสนอข่าวโดยพสดหัวข่าว ให้ทำการตรวจสอบโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้รับเหมาจีนที่รับงานก่อสร้างตึก สตง.

    ล่าสุดเพจ "โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา สัญญาที่ 3-5"

    ออกมาชี้แจงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และจะดำเนินคดีต่อสื่อที่สร้างความเข้าใจผิดต่อประชาชน

    .

    เรียนแจ้งทุกท่านเพื่อให้รับทราบและทำความเข้าใจตรงกัน!!

    ทางโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 3-5 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบริษัทฯ ที่รับเหมาก่อสร้างอาคาร สตง. ที่เกิดเหตุถล่มดังกล่าว และไม่ใช่บริษัทในเครือผู้รับเหมาก่อสร้างตัวอาคาร สตง. ไม่ว่าข่าวสารจะตีแผ่ไปในทิศทางไหน ทางโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 3-5 ขอยืนยันว่า "บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม และไม่ใช่บริษัทในเครืองดังกล่าว" สำหรับสื่อที่นำภาพถ่ายที่ภายในโครงการไปตีแผ่หรือเชื่อมโยงให้เกิดความเข้าใจผิด ทางโครงการฯ ขอแจ้งให้ท่านทราบว่า "ท่านจะต้องรับผิดชอบในส่วนที่ทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทและโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 3-5 เสียหาย" ตามประมวลกฎหมาย มาตรา ๓๒๘(๒) ฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท

    จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

    **หากพบเห็นผู้ใดตีแผ่ข้อมูลอันเป็นเท็จและทำให้บริษัทฯ หรือ โครงการฯ ได้รับความเสียงหายในทางที่ไม่ดี บริษัทฯ ขอดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด**

    https://www.facebook.com/share/p/193YEk94Bq/
    หลังจากสื่อบางแห่งนำเสนอข่าวโดยพสดหัวข่าว ให้ทำการตรวจสอบโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้รับเหมาจีนที่รับงานก่อสร้างตึก สตง. ล่าสุดเพจ "โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา สัญญาที่ 3-5" ออกมาชี้แจงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และจะดำเนินคดีต่อสื่อที่สร้างความเข้าใจผิดต่อประชาชน . เรียนแจ้งทุกท่านเพื่อให้รับทราบและทำความเข้าใจตรงกัน!! ทางโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 3-5 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบริษัทฯ ที่รับเหมาก่อสร้างอาคาร สตง. ที่เกิดเหตุถล่มดังกล่าว และไม่ใช่บริษัทในเครือผู้รับเหมาก่อสร้างตัวอาคาร สตง. ไม่ว่าข่าวสารจะตีแผ่ไปในทิศทางไหน ทางโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 3-5 ขอยืนยันว่า "บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม และไม่ใช่บริษัทในเครืองดังกล่าว" สำหรับสื่อที่นำภาพถ่ายที่ภายในโครงการไปตีแผ่หรือเชื่อมโยงให้เกิดความเข้าใจผิด ทางโครงการฯ ขอแจ้งให้ท่านทราบว่า "ท่านจะต้องรับผิดชอบในส่วนที่ทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทและโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง สัญญาที่ 3-5 เสียหาย" ตามประมวลกฎหมาย มาตรา ๓๒๘(๒) ฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน **หากพบเห็นผู้ใดตีแผ่ข้อมูลอันเป็นเท็จและทำให้บริษัทฯ หรือ โครงการฯ ได้รับความเสียงหายในทางที่ไม่ดี บริษัทฯ ขอดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด** https://www.facebook.com/share/p/193YEk94Bq/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหล็กจีนทำลายโลก
    ประเทศจีนจับได้เมือสายไปแล้ว เหล็กปลอมออกไปหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย
    ทำไมเกิดขึ้น? ใครเป็นคนรู้เห็นเป็นใจ?

    เดชา นฤนารท.
    29/3/68 11.20 น.

    ประเด็นตึกถล่ม จากบริษัทจีนที่ร่วมมือกับบริษัทอิตาเลียนไทย ยังดูเล็กไป

    ถ้าคนไทยตื่นรู้ความจริงว่า รัฐบาลจีนได้เข้าทะลายโรงงานผลิตเหล็กปลอมจำนวนมากหลายแห่งในประเทศจีน

    ทำให้รัฐบาลจีนสูญเสียรายได้ไปมากถึงกว่า 2.4ล้านล้านเหรียญ เพราะอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญในการก่อสร้างของจีนเสียหายไปหลายแห่ง และทำให้จีนเสื่อมเสียความเชื่อมั่นไปทั่วโลก จากการส่งออกเหล็กปลอม

    ในปีที่แล้ว สีจิ้นผิง ใช้ไม้แข็ง สั่งเจ้าหน้าที่ทุกมลฑล เข้ากรวดล้างโรงงานผลิตเหล็กเถื่อนกว่า500แห่ง จนราบคาบ กลายเป็นโรงงานร้าง และดำเนินคดีเจ้าของโรงงานด้วยการสั่งประหาร และจำคุกตลอดชีวิต

    คาดกันว่ายังมีเหล็กปลอมจากจีนกว่า 60 ล้านตัน หลุดออกไปยังประเทศต่างๆในอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้ใส่ใจและมีการคอรัปชั่นสูง เช่น ไทย เมียนมาร์ สปป.ลาว

    ตึกถล่มในไทย เป็นผลงานการก่อสร้างจากกลุ่มบริษัทเดียวกันที่คานเหล็กถล่มลงมาในการก่อสร้างที่ถนนพระราม2

    และยังมีคอนโดหรูอีกหลายแห่ง ที่ใช้บริการเหล็กปลอมจากจีน

    ปีที่แล้วก็เกิดคานเหล็กร่วงลงมาบ่อยมาก จากการก่อสร้างรถไฟภายใน กทม.เพราะเหล็กไม่ได้มาตรฐาน

    ผลจากการเกิดอาฟเตอร์ช็อคในเมียนมาร์ หลังเกิดแผ่นดินไหว ตึกอาคาร บ้านเรือน วัด แม้ไม่ได้สร้างให้สูง ก็พังถล่มลงมาจำนวนมาก

    ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปถึงประเทศจีน คนจีนหลายล้านคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า **นั่นมันต้องเกิดจากเหล็กปลอมที่ถูกส่งมาจากประเทศจีนแน่นอน**

    งานนี้บริษัทรับเหมาของบริษัทจีนกับอิตาเลียนไทย ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป เพราะเสียเครดิตไปหมดแล้ว

    ส่วนข้าราชการไทยกับนักการเมืองไทย ก็จะโบ้ยโทษกันไปมาเหมือนเคย และจะไม่มีใครมาสนใจเหล็กปลอมกว่า 60 ล้านตันของจีน ว่าแจกพรอตมันจะหล่นไปตรงใส่หัวของใคร

    ต่อด้วย เฟอร์นิเจอร์สวรรค์

    ตึก สนง.ของ สตช.ถล่ม แน่นอนว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย ก็จะตายตามไปด้วย.

    เปิดราคาคุรุภัณฑ์ อาคาร สตง
    เห็นแล้วจะเป็นลม
    ชมรม strong ต้านทุจริต

    เก้าอี้ตัวละ 97900 บาท
    https://www.facebook.com/share/1R4ShHo9WC/?mibextid=wwXIfr

    ผ้าพื้นละ 110,000 บาท

    https://www.facebook.com/share/15W1c8Xvki/?mibextid=wwXIfr

    พรมทอมือ nylon ผืนละ 165,000 บาท
    https://www.facebook.com/share/1AJhURAfQM/?mibextid=wwXIfr

    โต๊ะกลมทานอาหารตัวละ 90,000 บาท
    https://www.facebook.com/share/16LKvsMFhi/?mibextid=wwXIfr
    เหล็กจีนทำลายโลก ประเทศจีนจับได้เมือสายไปแล้ว เหล็กปลอมออกไปหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย ทำไมเกิดขึ้น? ใครเป็นคนรู้เห็นเป็นใจ? เดชา นฤนารท. 29/3/68 11.20 น. ประเด็นตึกถล่ม จากบริษัทจีนที่ร่วมมือกับบริษัทอิตาเลียนไทย ยังดูเล็กไป ถ้าคนไทยตื่นรู้ความจริงว่า รัฐบาลจีนได้เข้าทะลายโรงงานผลิตเหล็กปลอมจำนวนมากหลายแห่งในประเทศจีน ทำให้รัฐบาลจีนสูญเสียรายได้ไปมากถึงกว่า 2.4ล้านล้านเหรียญ เพราะอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญในการก่อสร้างของจีนเสียหายไปหลายแห่ง และทำให้จีนเสื่อมเสียความเชื่อมั่นไปทั่วโลก จากการส่งออกเหล็กปลอม ในปีที่แล้ว สีจิ้นผิง ใช้ไม้แข็ง สั่งเจ้าหน้าที่ทุกมลฑล เข้ากรวดล้างโรงงานผลิตเหล็กเถื่อนกว่า500แห่ง จนราบคาบ กลายเป็นโรงงานร้าง และดำเนินคดีเจ้าของโรงงานด้วยการสั่งประหาร และจำคุกตลอดชีวิต คาดกันว่ายังมีเหล็กปลอมจากจีนกว่า 60 ล้านตัน หลุดออกไปยังประเทศต่างๆในอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้ใส่ใจและมีการคอรัปชั่นสูง เช่น ไทย เมียนมาร์ สปป.ลาว ตึกถล่มในไทย เป็นผลงานการก่อสร้างจากกลุ่มบริษัทเดียวกันที่คานเหล็กถล่มลงมาในการก่อสร้างที่ถนนพระราม2 และยังมีคอนโดหรูอีกหลายแห่ง ที่ใช้บริการเหล็กปลอมจากจีน ปีที่แล้วก็เกิดคานเหล็กร่วงลงมาบ่อยมาก จากการก่อสร้างรถไฟภายใน กทม.เพราะเหล็กไม่ได้มาตรฐาน ผลจากการเกิดอาฟเตอร์ช็อคในเมียนมาร์ หลังเกิดแผ่นดินไหว ตึกอาคาร บ้านเรือน วัด แม้ไม่ได้สร้างให้สูง ก็พังถล่มลงมาจำนวนมาก ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปถึงประเทศจีน คนจีนหลายล้านคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า **นั่นมันต้องเกิดจากเหล็กปลอมที่ถูกส่งมาจากประเทศจีนแน่นอน** งานนี้บริษัทรับเหมาของบริษัทจีนกับอิตาเลียนไทย ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป เพราะเสียเครดิตไปหมดแล้ว ส่วนข้าราชการไทยกับนักการเมืองไทย ก็จะโบ้ยโทษกันไปมาเหมือนเคย และจะไม่มีใครมาสนใจเหล็กปลอมกว่า 60 ล้านตันของจีน ว่าแจกพรอตมันจะหล่นไปตรงใส่หัวของใคร ต่อด้วย เฟอร์นิเจอร์สวรรค์ ตึก สนง.ของ สตช.ถล่ม แน่นอนว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย ก็จะตายตามไปด้วย. เปิดราคาคุรุภัณฑ์ อาคาร สตง เห็นแล้วจะเป็นลม ชมรม strong ต้านทุจริต เก้าอี้ตัวละ 97900 บาท https://www.facebook.com/share/1R4ShHo9WC/?mibextid=wwXIfr ผ้าพื้นละ 110,000 บาท https://www.facebook.com/share/15W1c8Xvki/?mibextid=wwXIfr พรมทอมือ nylon ผืนละ 165,000 บาท https://www.facebook.com/share/1AJhURAfQM/?mibextid=wwXIfr โต๊ะกลมทานอาหารตัวละ 90,000 บาท https://www.facebook.com/share/16LKvsMFhi/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหล็กจีนทำลายโลก
    ประเทศจีนจับได้เมือสายไปแล้ว เหล็กปลอมออกไปหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย
    ทำไมเกิดขึ้น? ใครเป็นคนรู้เห็นเป็นใจ?

    เดชา นฤนารท.
    29/3/68 11.20 น.

    ประเด็นตึกถล่ม จากบริษัทจีนที่ร่วมมือกับบริษัทอิตาเลียนไทย ยังดูเล็กไป

    ถ้าคนไทยตื่นรู้ความจริงว่า รัฐบาลจีนได้เข้าทะลายโรงงานผลิตเหล็กปลอมจำนวนมากหลายแห่งในประเทศจีน

    ทำให้รัฐบาลจีนสูญเสียรายได้ไปมากถึงกว่า 2.4ล้านล้านเหรียญ เพราะอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญในการก่อสร้างของจีนเสียหายไปหลายแห่ง และทำให้จีนเสื่อมเสียความเชื่อมั่นไปทั่วโลก จากการส่งออกเหล็กปลอม

    ในปีที่แล้ว สีจิ้นผิง ใช้ไม้แข็ง สั่งเจ้าหน้าที่ทุกมลฑล เข้ากรวดล้างโรงงานผลิตเหล็กเถื่อนกว่า500แห่ง จนราบคาบ กลายเป็นโรงงานร้าง และดำเนินคดีเจ้าของโรงงานด้วยการสั่งประหาร และจำคุกตลอดชีวิต

    คาดกันว่ายังมีเหล็กปลอมจากจีนกว่า 60 ล้านตัน หลุดออกไปยังประเทศต่างๆในอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้ใส่ใจและมีการคอรัปชั่นสูง เช่น ไทย เมียนมาร์ สปป.ลาว

    ตึกถล่มในไทย เป็นผลงานการก่อสร้างจากกลุ่มบริษัทเดียวกันที่คานเหล็กถล่มลงมาในการก่อสร้างที่ถนนพระราม2

    และยังมีคอนโดหรูอีกหลายแห่ง ที่ใช้บริการเหล็กปลอมจากจีน

    ปีที่แล้วก็เกิดคานเหล็กร่วงลงมาบ่อยมาก จากการก่อสร้างรถไฟภายใน กทม.เพราะเหล็กไม่ได้มาตรฐาน

    ผลจากการเกิดอาฟเตอร์ช็อคในเมียนมาร์ หลังเกิดแผ่นดินไหว ตึกอาคาร บ้านเรือน วัด แม้ไม่ได้สร้างให้สูง ก็พังถล่มลงมาจำนวนมาก

    ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปถึงประเทศจีน คนจีนหลายล้านคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า **นั่นมันต้องเกิดจากเหล็กปลอมที่ถูกส่งมาจากประเทศจีนแน่นอน**

    งานนี้บริษัทรับเหมาของบริษัทจีนกับอิตาเลียนไทย ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป เพราะเสียเครดิตไปหมดแล้ว

    ส่วนข้าราชการไทยกับนักการเมืองไทย ก็จะโบ้ยโทษกันไปมาเหมือนเคย และจะไม่มีใครมาสนใจเหล็กปลอมกว่า 60 ล้านตันของจีน ว่าแจกพรอตมันจะหล่นไปตรงใส่หัวของใคร

    ต่อด้วย เฟอร์นิเจอร์สวรรค์

    ตึก สนง.ของ สตช.ถล่ม แน่นอนว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย ก็จะตายตามไปด้วย.

    เปิดราคาคุรุภัณฑ์ อาคาร สตง
    เห็นแล้วจะเป็นลม
    ชมรม strong ต้านทุจริต

    เก้าอี้ตัวละ 97900 บาท
    https://www.facebook.com/share/1R4ShHo9WC/?mibextid=wwXIfr

    ผ้าพื้นละ 110,000 บาท

    https://www.facebook.com/share/15W1c8Xvki/?mibextid=wwXIfr

    พรมทอมือ nylon ผืนละ 165,000 บาท
    https://www.facebook.com/share/1AJhURAfQM/?mibextid=wwXIfr

    โต๊ะกลมทานอาหารตัวละ 90,000 บาท
    https://www.facebook.com/share/16LKvsMFhi/?mibextid=wwXIfr
    เหล็กจีนทำลายโลก ประเทศจีนจับได้เมือสายไปแล้ว เหล็กปลอมออกไปหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย ทำไมเกิดขึ้น? ใครเป็นคนรู้เห็นเป็นใจ? เดชา นฤนารท. 29/3/68 11.20 น. ประเด็นตึกถล่ม จากบริษัทจีนที่ร่วมมือกับบริษัทอิตาเลียนไทย ยังดูเล็กไป ถ้าคนไทยตื่นรู้ความจริงว่า รัฐบาลจีนได้เข้าทะลายโรงงานผลิตเหล็กปลอมจำนวนมากหลายแห่งในประเทศจีน ทำให้รัฐบาลจีนสูญเสียรายได้ไปมากถึงกว่า 2.4ล้านล้านเหรียญ เพราะอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญในการก่อสร้างของจีนเสียหายไปหลายแห่ง และทำให้จีนเสื่อมเสียความเชื่อมั่นไปทั่วโลก จากการส่งออกเหล็กปลอม ในปีที่แล้ว สีจิ้นผิง ใช้ไม้แข็ง สั่งเจ้าหน้าที่ทุกมลฑล เข้ากรวดล้างโรงงานผลิตเหล็กเถื่อนกว่า500แห่ง จนราบคาบ กลายเป็นโรงงานร้าง และดำเนินคดีเจ้าของโรงงานด้วยการสั่งประหาร และจำคุกตลอดชีวิต คาดกันว่ายังมีเหล็กปลอมจากจีนกว่า 60 ล้านตัน หลุดออกไปยังประเทศต่างๆในอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้ใส่ใจและมีการคอรัปชั่นสูง เช่น ไทย เมียนมาร์ สปป.ลาว ตึกถล่มในไทย เป็นผลงานการก่อสร้างจากกลุ่มบริษัทเดียวกันที่คานเหล็กถล่มลงมาในการก่อสร้างที่ถนนพระราม2 และยังมีคอนโดหรูอีกหลายแห่ง ที่ใช้บริการเหล็กปลอมจากจีน ปีที่แล้วก็เกิดคานเหล็กร่วงลงมาบ่อยมาก จากการก่อสร้างรถไฟภายใน กทม.เพราะเหล็กไม่ได้มาตรฐาน ผลจากการเกิดอาฟเตอร์ช็อคในเมียนมาร์ หลังเกิดแผ่นดินไหว ตึกอาคาร บ้านเรือน วัด แม้ไม่ได้สร้างให้สูง ก็พังถล่มลงมาจำนวนมาก ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปถึงประเทศจีน คนจีนหลายล้านคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า **นั่นมันต้องเกิดจากเหล็กปลอมที่ถูกส่งมาจากประเทศจีนแน่นอน** งานนี้บริษัทรับเหมาของบริษัทจีนกับอิตาเลียนไทย ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป เพราะเสียเครดิตไปหมดแล้ว ส่วนข้าราชการไทยกับนักการเมืองไทย ก็จะโบ้ยโทษกันไปมาเหมือนเคย และจะไม่มีใครมาสนใจเหล็กปลอมกว่า 60 ล้านตันของจีน ว่าแจกพรอตมันจะหล่นไปตรงใส่หัวของใคร ต่อด้วย เฟอร์นิเจอร์สวรรค์ ตึก สนง.ของ สตช.ถล่ม แน่นอนว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย ก็จะตายตามไปด้วย. เปิดราคาคุรุภัณฑ์ อาคาร สตง เห็นแล้วจะเป็นลม ชมรม strong ต้านทุจริต เก้าอี้ตัวละ 97900 บาท https://www.facebook.com/share/1R4ShHo9WC/?mibextid=wwXIfr ผ้าพื้นละ 110,000 บาท https://www.facebook.com/share/15W1c8Xvki/?mibextid=wwXIfr พรมทอมือ nylon ผืนละ 165,000 บาท https://www.facebook.com/share/1AJhURAfQM/?mibextid=wwXIfr โต๊ะกลมทานอาหารตัวละ 90,000 บาท https://www.facebook.com/share/16LKvsMFhi/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สุริยะ”แจ้ง กทพ.เตรียมเปิดใช้ทางขึ้น-ลง ด่านดินแดง พรุ่งนี้เวลาตี 5 ด้านผู้รับเหมา-เจ้าของอาคาร เร่งประสาน กทม. เพื่อเคลียร์ชิ้นส่วนเครนที่เหลือ รื้อย้ายช่วงดึก ไม่ให้กระทบจราจร ยันโครงข่ายทางถนน “คมนาคม”ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวยังรองรับการเดินทางตามปกติ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030327
    “สุริยะ”แจ้ง กทพ.เตรียมเปิดใช้ทางขึ้น-ลง ด่านดินแดง พรุ่งนี้เวลาตี 5 ด้านผู้รับเหมา-เจ้าของอาคาร เร่งประสาน กทม. เพื่อเคลียร์ชิ้นส่วนเครนที่เหลือ รื้อย้ายช่วงดึก ไม่ให้กระทบจราจร ยันโครงข่ายทางถนน “คมนาคม”ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวยังรองรับการเดินทางตามปกติ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030327
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับ 4 ชาวจีนขนเอกสารสร้างตึก สตง.หลบหนี ฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ้างจะไปเคลมประกัน ซึ่งเอกสารที่ตรวจยึดมีทั้งเอกสารเกี่ยวกับงานก่อสร้าง วิศวกรรม และสัญญาผู้รับเหมา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030281
    จับ 4 ชาวจีนขนเอกสารสร้างตึก สตง.หลบหนี ฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ้างจะไปเคลมประกัน ซึ่งเอกสารที่ตรวจยึดมีทั้งเอกสารเกี่ยวกับงานก่อสร้าง วิศวกรรม และสัญญาผู้รับเหมา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030281
    Like
    Angry
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจตรวจยึดเอกสารโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการ สตง.แห่งใหม่ ย่านจตุจักร หลังกลุ่มรับเหมาชาวจีนขนข้ามกำแพง ออกจากสำนักงานชั่วคราว ผู้อำนวยการโครงการอ้างเอาไปที่อิตาเลี่ยนไทยฯ เพื่อเคลมประกันจากกรณีตึกถล่ม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000030286
    ตำรวจตรวจยึดเอกสารโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการ สตง.แห่งใหม่ ย่านจตุจักร หลังกลุ่มรับเหมาชาวจีนขนข้ามกำแพง ออกจากสำนักงานชั่วคราว ผู้อำนวยการโครงการอ้างเอาไปที่อิตาเลี่ยนไทยฯ เพื่อเคลมประกันจากกรณีตึกถล่ม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000030286
    Like
    Angry
    Love
    Haha
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 698 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหล็กจีนทำลายโลกประเด็นตึกถล่ม จากบริษัทจีนที่ร่วมมือกับบริษัทอิตาเลียนไทย ยังดูเล็กไป ถ้าคนไทยตื่นรู้ความจริงว่า รัฐบาลจีนได้เข้าทะลายโรงงานผลิตเหล็กปลอมจำนวนมากหลายแห่งในประเทศจีนทำให้รัฐบาลจีนสูญเสียรายได้ไปมากถึงกว่า 2.4ล้านล้านเหรียญ เพราะอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญในการก่อสร้างของจีนเสียหายไปหลายแห่ง และทำให้จีนเสื่อมเสียความเชื่อมั่นไปทั่วโลก จากการส่งออกเหล็กปลอมในปีที่แล้ว สีจิ้นผิง ใช้ไม้แข็ง สั่งเจ้าหน้าที่ทุกมลฑล เข้ากรวดล้างโรงงานผลิตเหล็กเถื่อนกว่า500แห่ง จนราบคาบ กลายเป็นโรงงานร้าง และดำเนินคดีเจ้าของโรงงานด้วยการสั่งประหาร และจำคุกตลอดชีวิตคาดกันว่ายังมีเหล็กปลอมจากจีนกว่า 60 ล้านตัน หลุดออกไปยังประเทศต่างๆในอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้ใส่ใจและมีการคอรัปชั่นสูง เช่น ไทย เมียนมาร์ สปป.ลาวตึกถล่มในไทย เป็นผลงานการก่อสร้างจากกลุ่มบริษัทเดียวกันที่คานเหล็กถล่มลงมาในการก่อสร้างที่ถนนพระราม2และยังมีคอนโดหรูอีกหลายแห่ง ที่ใช้บริการเหล็กปลอมจากจีนปีที่แล้วก็เกิดคานเหล็กร่วงลงมาบ่อยมาก จากการก่อสร้างรถไฟภายใน กทม.เพราะเหล็กไม่ได้มาตรฐานผลจากการเกิดอาฟเตอร์ช็อคในเมียนมาร์ หลังเกิดแผ่นดินไหว ตึกอาคาร บ้านเรือน วัด แม้ไม่ได้สร้างให้สูง ก็พังถล่มลงมาจำนวนมากข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปถึงประเทศจีน คนจีนหลายล้านคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า **นั่นมันต้องเกิดจากเหล็กปลอมที่ถูกส่งมาจากประเทศจีนแน่นอน**งานนี้บริษัทรับเหมาของบริษัทจีนกับอิตาเลียนไทย ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป เพราะเสียเครดิตไปหมดแล้วส่วนข้าราชการไทยกับนักการเมืองไทย ก็จะโบ้ยโทษกันไปมาเหมือนเคย และจะไม่มีใครมาสนใจเหล็กปลอมกว่า 60 ล้านตันของจีน ว่าแจกพรอตมันจะหล่นไปตรงใส่หัวของใครตึก สนง.ของ สตช.ถล่ม แน่นอนว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย ก็จะตายตามไปด้วย.เดชา นฤนารท.29/3/68 11.20 น.
    เหล็กจีนทำลายโลกประเด็นตึกถล่ม จากบริษัทจีนที่ร่วมมือกับบริษัทอิตาเลียนไทย ยังดูเล็กไป ถ้าคนไทยตื่นรู้ความจริงว่า รัฐบาลจีนได้เข้าทะลายโรงงานผลิตเหล็กปลอมจำนวนมากหลายแห่งในประเทศจีนทำให้รัฐบาลจีนสูญเสียรายได้ไปมากถึงกว่า 2.4ล้านล้านเหรียญ เพราะอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญในการก่อสร้างของจีนเสียหายไปหลายแห่ง และทำให้จีนเสื่อมเสียความเชื่อมั่นไปทั่วโลก จากการส่งออกเหล็กปลอมในปีที่แล้ว สีจิ้นผิง ใช้ไม้แข็ง สั่งเจ้าหน้าที่ทุกมลฑล เข้ากรวดล้างโรงงานผลิตเหล็กเถื่อนกว่า500แห่ง จนราบคาบ กลายเป็นโรงงานร้าง และดำเนินคดีเจ้าของโรงงานด้วยการสั่งประหาร และจำคุกตลอดชีวิตคาดกันว่ายังมีเหล็กปลอมจากจีนกว่า 60 ล้านตัน หลุดออกไปยังประเทศต่างๆในอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้ใส่ใจและมีการคอรัปชั่นสูง เช่น ไทย เมียนมาร์ สปป.ลาวตึกถล่มในไทย เป็นผลงานการก่อสร้างจากกลุ่มบริษัทเดียวกันที่คานเหล็กถล่มลงมาในการก่อสร้างที่ถนนพระราม2และยังมีคอนโดหรูอีกหลายแห่ง ที่ใช้บริการเหล็กปลอมจากจีนปีที่แล้วก็เกิดคานเหล็กร่วงลงมาบ่อยมาก จากการก่อสร้างรถไฟภายใน กทม.เพราะเหล็กไม่ได้มาตรฐานผลจากการเกิดอาฟเตอร์ช็อคในเมียนมาร์ หลังเกิดแผ่นดินไหว ตึกอาคาร บ้านเรือน วัด แม้ไม่ได้สร้างให้สูง ก็พังถล่มลงมาจำนวนมากข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปถึงประเทศจีน คนจีนหลายล้านคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า **นั่นมันต้องเกิดจากเหล็กปลอมที่ถูกส่งมาจากประเทศจีนแน่นอน**งานนี้บริษัทรับเหมาของบริษัทจีนกับอิตาเลียนไทย ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป เพราะเสียเครดิตไปหมดแล้วส่วนข้าราชการไทยกับนักการเมืองไทย ก็จะโบ้ยโทษกันไปมาเหมือนเคย และจะไม่มีใครมาสนใจเหล็กปลอมกว่า 60 ล้านตันของจีน ว่าแจกพรอตมันจะหล่นไปตรงใส่หัวของใครตึก สนง.ของ สตช.ถล่ม แน่นอนว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย ก็จะตายตามไปด้วย.เดชา นฤนารท.29/3/68 11.20 น.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • CEO ออริจิ้น ลุยเอง พาสำรวจโครงสร้างทางเชื่อมสะพานโครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ ย้ำ แข็งแรง ยันโครงสร้างไม่ได้เสียหายถึงขั้นวิบัติ

    นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ซึ่งเป็นสามัญวิศวกรด้วย นำทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมา เข้าตรวจสอบสะพานทางเชื่อมอาคารโครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ ที่เสียหายจากแผ่นดินไหวด้วยตนเอง

    เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า โครงสร้างอาคารแต่ละส่วนยังคงแข็งแรงและใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งเป็นไปตามการประเมินเบื้องต้นตามที่ได้แถลงการณ์ก่อนหน้า รวมทั้งสะพานทางเชื่อมอาคารที่ออกแบบให้สามารถเคลื่อนที่จากอาคารได้เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ว่าโครงสร้างไม่ได้เสียหายถึงขั้นวิบัติแต่อย่างใด มีเพียงความเสียหายด้านงานสถาปัตยกรรมที่จะรีบดำเนินการวางแผนซ่อมแซมโดยเร่งด่วน

    อย่างไรก็ตามออริจิ้นได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือลูกค้าไว้เพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกและเข้าช่วยเหลือลูกค้าทุกโครงการให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างเต็มกำลังทุกโครงการแล้ว และทีมวิศวกรตรวจสอบความปลอดภัยด้านโครงสร้างจะเข้าตรวจสอบครบทั้ง 87 โครงการภายในวันนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000030021

    #MGROnline #ORI #พาร์คออริจิ้นทองหล่อ #ออริจิ้น #ตึกถล่ม #คอนโดหรู
    CEO ออริจิ้น ลุยเอง พาสำรวจโครงสร้างทางเชื่อมสะพานโครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ ย้ำ แข็งแรง ยันโครงสร้างไม่ได้เสียหายถึงขั้นวิบัติ • นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ซึ่งเป็นสามัญวิศวกรด้วย นำทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมา เข้าตรวจสอบสะพานทางเชื่อมอาคารโครงการ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ ที่เสียหายจากแผ่นดินไหวด้วยตนเอง • เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า โครงสร้างอาคารแต่ละส่วนยังคงแข็งแรงและใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งเป็นไปตามการประเมินเบื้องต้นตามที่ได้แถลงการณ์ก่อนหน้า รวมทั้งสะพานทางเชื่อมอาคารที่ออกแบบให้สามารถเคลื่อนที่จากอาคารได้เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ว่าโครงสร้างไม่ได้เสียหายถึงขั้นวิบัติแต่อย่างใด มีเพียงความเสียหายด้านงานสถาปัตยกรรมที่จะรีบดำเนินการวางแผนซ่อมแซมโดยเร่งด่วน • อย่างไรก็ตามออริจิ้นได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือลูกค้าไว้เพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกและเข้าช่วยเหลือลูกค้าทุกโครงการให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างเต็มกำลังทุกโครงการแล้ว และทีมวิศวกรตรวจสอบความปลอดภัยด้านโครงสร้างจะเข้าตรวจสอบครบทั้ง 87 โครงการภายในวันนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000030021 • #MGROnline #ORI #พาร์คออริจิ้นทองหล่อ #ออริจิ้น #ตึกถล่ม #คอนโดหรู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เปิดโฉมผู้รับเหมา หลังตึก สตง.ถล่ม! เจาะลึกโครงสร้างหุ้น 'ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10' ไทย-จีน ถือหุ้นสัดส่วนสูงสุดตามกฎหมาย พบกรรมการคนไทยร่วมถือหุ้นหลายบริษัท ด้านงบก่อสร้างพุ่ง 40% ใน 7 ปี ย้อนเกล็ด แม้ใช้ 'ข้อตกลงคุณธรรม'" แต่ความโปร่งใสแท้จริงอยู่ที่ไหน

    ข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งร่วมก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ หรือ สตง. ที่ถล่มลงมาจากเหตุการณ์แผนดินไหววานนี้ ( 28 มีนาคม) โดยจดทะเบียนเมื่อ 10 ส.ค. 2561 ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั้งอาคารสำนักงาน ทางรถไฟ และรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยมี นายชวนหลิง จาง และ นายโสภณ มีชัย เป็นกรรมการ

    ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จากประเทศจีน ถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 49% ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงสุดที่กฎหมายไทยอนุญาตให้ต่างชาติถือ ส่วนผู้ถือหุ้นไทยได้แก่

    1.นายโสภณ มีชัย (กรรมการ) ถือหุ้น 40.80% หรือ 407,997 หุ้น
    2.นายประจวบ ศิริเขตร ถือหุ้นย 10.20% หรือ 102,000 หุ้น
    3.นายมานัส ศรีอนันท์ ถือหุ้นเพียง 3 หุ้น

    นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบ นายโสภณ และ นายประจวบ ยังถือหุ้นในบริษัทอื่นอีก 5-6 แห่งขณะที่นายมานัสลงทุนในบริษัทอื่นๆอีกกว่า 11 บริษัท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000029980

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    "เปิดโฉมผู้รับเหมา หลังตึก สตง.ถล่ม! เจาะลึกโครงสร้างหุ้น 'ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10' ไทย-จีน ถือหุ้นสัดส่วนสูงสุดตามกฎหมาย พบกรรมการคนไทยร่วมถือหุ้นหลายบริษัท ด้านงบก่อสร้างพุ่ง 40% ใน 7 ปี ย้อนเกล็ด แม้ใช้ 'ข้อตกลงคุณธรรม'" แต่ความโปร่งใสแท้จริงอยู่ที่ไหน • ข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งร่วมก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ หรือ สตง. ที่ถล่มลงมาจากเหตุการณ์แผนดินไหววานนี้ ( 28 มีนาคม) โดยจดทะเบียนเมื่อ 10 ส.ค. 2561 ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั้งอาคารสำนักงาน ทางรถไฟ และรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยมี นายชวนหลิง จาง และ นายโสภณ มีชัย เป็นกรรมการ • ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จากประเทศจีน ถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 49% ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงสุดที่กฎหมายไทยอนุญาตให้ต่างชาติถือ ส่วนผู้ถือหุ้นไทยได้แก่ • 1.นายโสภณ มีชัย (กรรมการ) ถือหุ้น 40.80% หรือ 407,997 หุ้น 2.นายประจวบ ศิริเขตร ถือหุ้นย 10.20% หรือ 102,000 หุ้น 3.นายมานัส ศรีอนันท์ ถือหุ้นเพียง 3 หุ้น • นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบ นายโสภณ และ นายประจวบ ยังถือหุ้นในบริษัทอื่นอีก 5-6 แห่งขณะที่นายมานัสลงทุนในบริษัทอื่นๆอีกกว่า 11 บริษัท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000029980 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุติค้นหา ตึกใหม่ สตง. ถล่ม! ยืนยันตาย 7 ศพ สูญหาย 47 คน เปิดเบื้องหลังบริษัทยักษ์ใหญ่จีน ชิมลางสร้างตึกสูงในไทย แห่งแรกในต่างแดน ที่จบไม่สวย

    📌 เหตุการณ์สั่นสะเทือนวงการก่อสร้างไทย-จีน ที่สะท้อนความเสี่ยงระดับชาติ

    🏗️ แผ่นดินไหวแรงสะเทือนถึงใจ ตึกใหม่ สตง. ถล่มกลางกรุง! ในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น... อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในย่านจตุจักร กรุงเทพฯ พังถล่มลงมาอย่างรุนแรง หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งแรงสั่นสะเทือนส่งผลมาถึงกรุงเทพฯ

    เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะเทือนชีวิตผู้คน มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 7 ศพ สูญหาย 47 คน และมีผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคาร 30 คน แต่ยังเป็น จุดจบของความหวังทางยุทธศาสตร์ ที่จะให้บริษัทจีนเข้ามาชิมลาง สร้างอาคารสูงพิเศษในไทย เป็นครั้งแรกในต่างแดน 🇹🇭🇨🇳

    📌 เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งมีศูนย์กลางลึกใต้ดินกว่า 90 กม. แม้จะห่างจากกรุงเทพฯ หลายร้อยกิโลเมตร แต่แรงสั่นสะเทือน สามารถรับรู้ได้ถึงกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 🌀

    จุดพังถล่มคือ อาคารสำนักงาน สตง. แห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเพิ่งสร้างโครงสร้างเสร็จไปได้เพียง 30% ของแผนงาน

    แม้อาคารจะยังไม่เปิดใช้งาน แต่ในขณะนั้นมีวิศวกร ช่างเทคนิค และคนงานกว่า 100 ชีวิต อยู่ภายใน เนื่องจากกำลังเร่งติดตั้งระบบภายใน เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และระบบอาคารอัจฉริยะต่างๆ

    ⛑️ ทันทีหลังจากเหตุการณ์ถล่ม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยหลายทีม ได้เข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วน พร้อมอุปกรณ์ค้นหา และกู้ภัยทันสมัย เช่น กล้องจับความร้อน, โดรน, เครื่องตรวจจับเสียง ฯลฯ

    📉 ภาพรวมความเสียหาย และภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิต
    🚨 สรุปสถานการณ์ ณ วันที่ 29 มีนาคม เวลา 05.00 น.
    - เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ นำออกมาได้แล้ว 5 ศพ
    - ผู้รอดชีวิต 9 คน บาดเจ็บหลากหลายระดับ
    - ผู้ติดใต้ซาก 30 คน มีสัญญาณชีพ 15 คน
    - ผู้สูญหาย 47 คน
    - ยืนยันตัวตนแล้ว 85 คน

    การค้นหาแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ A, B, C, D
    📍โซน A พบผู้มีสัญญาณชีพ 10 ราย
    📍โซน B พบผู้มีสัญญาณชีพ 2 ราย
    📍โซน D พบผู้มีสัญญาณชีพ 3 ราย

    การค้นหาต้องหยุดชั่วคราว เพื่อประเมินแผนใหม่ เนื่องจากโครงสร้างบางจุดยังไม่เสถียร เสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ค้นหาเองด้วย

    💬 “เรากำลังแข่งกับเวลา และแข่งกับซากปูนที่อาจถล่มซ้ำอีกทุกวินาที” หนึ่งในทีมกู้ภัยกล่าว

    🏢 โครงการก่อสร้างอาคาร สตง. เป้าหมายสู่อนาคตรัฐ อาคารสำนักงานแห่งใหม่นี้ ถูกวางเป้าหมายให้เป็น ศูนย์กลางการเงิน และการควบคุมงบประมาณของรัฐ โดยมีโครงสร้าง 30 ชั้น ความสูงรวม 137 เมตร รวมพื้นที่ก่อสร้างกว่า 96,000 ตารางเมตร

    👉 อาคารนี้ประกอบด้วย อาคารสำนักงานหลัก อาคารประชุม และอาคารจอดรถอัตโนมัติ

    โครงการเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2563 ด้วยงบประมาณ 2,136 ล้านบาท โดยผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี และควบคุมงานโดยกลุ่มวิศวกร PKW โดยมีการลงนาม Integrity Pact กับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อความโปร่งใสในการจัดจ้าง

    🏗️ "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10" บริษัทยักษ์จากจีนผู้หวังปักหมุดในไทย “China Railway No.10 Engineering Group” หรือ CRCC เป็นบริษัทลูกของกลุ่มรัฐวิสาหกิจจีน ที่มีชื่อเสียงด้านโครงสร้างพื้นฐาน

    โครงการ สตง. คือ โครงการอาคารสูงพิเศษแห่งแรกในต่างแดน ของบริษัทนี้ นำเทคโนโลยีล้ำสมัยจากจีนเข้ามาใช้เต็มที่ เช่น
    - ระบบ “แกนกลางรับแรง + พื้นไร้คาน”
    - เทคนิคแบบสไลด์คอนกรีต (Slip Form)
    - ระบบนั่งร้านปีนไต่อัตโนมัติ
    - ระบบติดตั้งไฟฟ้า แบบไม่ให้ท่อชนกันแม้แต่นิดเดียว

    👷 ทั้งหมดนี้แสดงถึงความพร้อมด้านวิศวกรรม และความหวังจะก้าวเข้าตลาดอาเซียนอย่างยิ่งใหญ่ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น กลับกลายเป็นวิกฤตแห่งความเชื่อมั่น...

    🔍 ความเสียหายเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ใช่แค่ตึกถล่ม แต่คือภาพลักษณ์ล่มสลาย ผลกระทบหลัก 3 ด้าน
    - ชีวิตคนงาน การสูญเสียชีวิต7 ศพ และผู้ติดอยู่ใต้ซากหลายสิบคน คือความสูญเสียที่ไม่มีเม็ดเงินใดทดแทนได้

    - ความเชื่อมั่นในบริษัทจีน โครงการนี้เคยเป็นความหวังว่าจะเป็น “โชว์เคสระดับอาเซียน” กลายเป็น “บทเรียนราคาแพง”

    - ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-จีน โครงการยุทธศาสตร์ไทย-จีนในอนาคตอาจถูกชะลอ ตรวจสอบมากขึ้น และถูกตั้งคำถามมากขึ้น

    🧑‍💼 การตอบสนองของหน่วยงานรัฐ เดินหน้าแก้ไข เร่งค้นหาความจริง
    – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่พร้อมทีมวิศวกรกว่า 100 คน เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารทั่วกรุงเทพฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

    – นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เร่งตรวจสอบคุณภาพโครงการ และประเมินความเสียหาย พร้อมยืนยัน จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส

    – นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กทม. รายงานสถานการณ์ค้นหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมแบ่งโซนและใช้เทคโนโลยี ช่วยระบุตำแหน่งผู้ติดใต้ซาก

    ✅ จุดจบที่ไม่ควรเกิด กับความหวังที่ดับไปกลางซากอาคาร โศกนาฏกรรมครั้งนี้ เป็นจุดเตือนที่สะเทือนใจว่า การลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ และความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่อาจวัดด้วยเทคโนโลยี หรือเงินทุนเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัย มาตรฐาน ความปลอดภัย และความโปร่งใสระดับสูงสุด

    หากสิ่งเหล่านี้ขาดหายไป... แม้จะเป็นโครงการที่ดูดีแค่ไหน ก็พร้อมจะพังถล่มลงมาในพริบตา 🕯️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291100 มี.ค. 2568

    🔖#ตึกสตงถล่ม #CRCCไทย #ไชน่าเรลเวย์10 #ข่าวด่วน #แผ่นดินไหว #อาคารสูงพิเศษ #ก่อสร้างไทยจีน #ข่าวโศกนาฏกรรม #ตึกถล่ม #ไทยจีน
    ยุติค้นหา ตึกใหม่ สตง. ถล่ม! ยืนยันตาย 7 ศพ สูญหาย 47 คน เปิดเบื้องหลังบริษัทยักษ์ใหญ่จีน ชิมลางสร้างตึกสูงในไทย แห่งแรกในต่างแดน ที่จบไม่สวย 📌 เหตุการณ์สั่นสะเทือนวงการก่อสร้างไทย-จีน ที่สะท้อนความเสี่ยงระดับชาติ 🏗️ แผ่นดินไหวแรงสะเทือนถึงใจ ตึกใหม่ สตง. ถล่มกลางกรุง! ในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น... อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในย่านจตุจักร กรุงเทพฯ พังถล่มลงมาอย่างรุนแรง หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งแรงสั่นสะเทือนส่งผลมาถึงกรุงเทพฯ เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะเทือนชีวิตผู้คน มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 7 ศพ สูญหาย 47 คน และมีผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคาร 30 คน แต่ยังเป็น จุดจบของความหวังทางยุทธศาสตร์ ที่จะให้บริษัทจีนเข้ามาชิมลาง สร้างอาคารสูงพิเศษในไทย เป็นครั้งแรกในต่างแดน 🇹🇭🇨🇳 📌 เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งมีศูนย์กลางลึกใต้ดินกว่า 90 กม. แม้จะห่างจากกรุงเทพฯ หลายร้อยกิโลเมตร แต่แรงสั่นสะเทือน สามารถรับรู้ได้ถึงกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 🌀 จุดพังถล่มคือ อาคารสำนักงาน สตง. แห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเพิ่งสร้างโครงสร้างเสร็จไปได้เพียง 30% ของแผนงาน แม้อาคารจะยังไม่เปิดใช้งาน แต่ในขณะนั้นมีวิศวกร ช่างเทคนิค และคนงานกว่า 100 ชีวิต อยู่ภายใน เนื่องจากกำลังเร่งติดตั้งระบบภายใน เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และระบบอาคารอัจฉริยะต่างๆ ⛑️ ทันทีหลังจากเหตุการณ์ถล่ม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยหลายทีม ได้เข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วน พร้อมอุปกรณ์ค้นหา และกู้ภัยทันสมัย เช่น กล้องจับความร้อน, โดรน, เครื่องตรวจจับเสียง ฯลฯ 📉 ภาพรวมความเสียหาย และภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิต 🚨 สรุปสถานการณ์ ณ วันที่ 29 มีนาคม เวลา 05.00 น. - เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ นำออกมาได้แล้ว 5 ศพ - ผู้รอดชีวิต 9 คน บาดเจ็บหลากหลายระดับ - ผู้ติดใต้ซาก 30 คน มีสัญญาณชีพ 15 คน - ผู้สูญหาย 47 คน - ยืนยันตัวตนแล้ว 85 คน การค้นหาแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ A, B, C, D 📍โซน A พบผู้มีสัญญาณชีพ 10 ราย 📍โซน B พบผู้มีสัญญาณชีพ 2 ราย 📍โซน D พบผู้มีสัญญาณชีพ 3 ราย การค้นหาต้องหยุดชั่วคราว เพื่อประเมินแผนใหม่ เนื่องจากโครงสร้างบางจุดยังไม่เสถียร เสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ค้นหาเองด้วย 💬 “เรากำลังแข่งกับเวลา และแข่งกับซากปูนที่อาจถล่มซ้ำอีกทุกวินาที” หนึ่งในทีมกู้ภัยกล่าว 🏢 โครงการก่อสร้างอาคาร สตง. เป้าหมายสู่อนาคตรัฐ อาคารสำนักงานแห่งใหม่นี้ ถูกวางเป้าหมายให้เป็น ศูนย์กลางการเงิน และการควบคุมงบประมาณของรัฐ โดยมีโครงสร้าง 30 ชั้น ความสูงรวม 137 เมตร รวมพื้นที่ก่อสร้างกว่า 96,000 ตารางเมตร 👉 อาคารนี้ประกอบด้วย อาคารสำนักงานหลัก อาคารประชุม และอาคารจอดรถอัตโนมัติ โครงการเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2563 ด้วยงบประมาณ 2,136 ล้านบาท โดยผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี และควบคุมงานโดยกลุ่มวิศวกร PKW โดยมีการลงนาม Integrity Pact กับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อความโปร่งใสในการจัดจ้าง 🏗️ "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10" บริษัทยักษ์จากจีนผู้หวังปักหมุดในไทย “China Railway No.10 Engineering Group” หรือ CRCC เป็นบริษัทลูกของกลุ่มรัฐวิสาหกิจจีน ที่มีชื่อเสียงด้านโครงสร้างพื้นฐาน โครงการ สตง. คือ โครงการอาคารสูงพิเศษแห่งแรกในต่างแดน ของบริษัทนี้ นำเทคโนโลยีล้ำสมัยจากจีนเข้ามาใช้เต็มที่ เช่น - ระบบ “แกนกลางรับแรง + พื้นไร้คาน” - เทคนิคแบบสไลด์คอนกรีต (Slip Form) - ระบบนั่งร้านปีนไต่อัตโนมัติ - ระบบติดตั้งไฟฟ้า แบบไม่ให้ท่อชนกันแม้แต่นิดเดียว 👷 ทั้งหมดนี้แสดงถึงความพร้อมด้านวิศวกรรม และความหวังจะก้าวเข้าตลาดอาเซียนอย่างยิ่งใหญ่ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น กลับกลายเป็นวิกฤตแห่งความเชื่อมั่น... 🔍 ความเสียหายเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ใช่แค่ตึกถล่ม แต่คือภาพลักษณ์ล่มสลาย ผลกระทบหลัก 3 ด้าน - ชีวิตคนงาน การสูญเสียชีวิต7 ศพ และผู้ติดอยู่ใต้ซากหลายสิบคน คือความสูญเสียที่ไม่มีเม็ดเงินใดทดแทนได้ - ความเชื่อมั่นในบริษัทจีน โครงการนี้เคยเป็นความหวังว่าจะเป็น “โชว์เคสระดับอาเซียน” กลายเป็น “บทเรียนราคาแพง” - ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-จีน โครงการยุทธศาสตร์ไทย-จีนในอนาคตอาจถูกชะลอ ตรวจสอบมากขึ้น และถูกตั้งคำถามมากขึ้น 🧑‍💼 การตอบสนองของหน่วยงานรัฐ เดินหน้าแก้ไข เร่งค้นหาความจริง – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่พร้อมทีมวิศวกรกว่า 100 คน เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารทั่วกรุงเทพฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว – นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เร่งตรวจสอบคุณภาพโครงการ และประเมินความเสียหาย พร้อมยืนยัน จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส – นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กทม. รายงานสถานการณ์ค้นหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมแบ่งโซนและใช้เทคโนโลยี ช่วยระบุตำแหน่งผู้ติดใต้ซาก ✅ จุดจบที่ไม่ควรเกิด กับความหวังที่ดับไปกลางซากอาคาร โศกนาฏกรรมครั้งนี้ เป็นจุดเตือนที่สะเทือนใจว่า การลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ และความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่อาจวัดด้วยเทคโนโลยี หรือเงินทุนเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัย มาตรฐาน ความปลอดภัย และความโปร่งใสระดับสูงสุด หากสิ่งเหล่านี้ขาดหายไป... แม้จะเป็นโครงการที่ดูดีแค่ไหน ก็พร้อมจะพังถล่มลงมาในพริบตา 🕯️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291100 มี.ค. 2568 🔖#ตึกสตงถล่ม #CRCCไทย #ไชน่าเรลเวย์10 #ข่าวด่วน #แผ่นดินไหว #อาคารสูงพิเศษ #ก่อสร้างไทยจีน #ข่าวโศกนาฏกรรม #ตึกถล่ม #ไทยจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดสัญญาก่อสร้าง "อาคาร สตง.แห่งใหม่ ย่านจตุจักร" สูง 30 ชั้น มูลค่า 2,136 ล้าน ก่อนถล่มจากฤทธิ์แผ่นดินไหว พบ บ.ร่วมค้า "ไอทีดี - ไชน่า เรลเวย์" ได้งาน มีบริษัทคุมงาน 3 บริษัท หลัง ครม.ชุดนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน เผยโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง

    วันนี้ (28 มี.ค.2568) มีรายงานจากสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เปิดเผยถึงกรณีพื้นที่อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ที่กำลังก่อสร้างถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการ สตง.(แห่งใหม่) ความสูง 30 ชั้น มูลค่างานก่อสร้าง 2,136 ล้านบาท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000029708

    #MGROnline #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา
    เปิดสัญญาก่อสร้าง "อาคาร สตง.แห่งใหม่ ย่านจตุจักร" สูง 30 ชั้น มูลค่า 2,136 ล้าน ก่อนถล่มจากฤทธิ์แผ่นดินไหว พบ บ.ร่วมค้า "ไอทีดี - ไชน่า เรลเวย์" ได้งาน มีบริษัทคุมงาน 3 บริษัท หลัง ครม.ชุดนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน เผยโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง • วันนี้ (28 มี.ค.2568) มีรายงานจากสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เปิดเผยถึงกรณีพื้นที่อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ที่กำลังก่อสร้างถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการ สตง.(แห่งใหม่) ความสูง 30 ชั้น มูลค่างานก่อสร้าง 2,136 ล้านบาท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000029708 • #MGROnline #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดสัญญาก่อสร้าง "อาคาร สตง.แห่งใหม่ ย่านจตุจักร" สูง 30 ชั้น มูลค่า 2,136 ล้าน ก่อนถล่มจากฤทธิ์แผ่นดินไหว พบ บ.ร่วมค้า "ไอทีดี - ไชน่า เรลเวย์" ได้งาน มีบริษัทคุมงาน 3 บริษัท หลัง ครม.ชุดนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน เผยโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029708
    เปิดสัญญาก่อสร้าง "อาคาร สตง.แห่งใหม่ ย่านจตุจักร" สูง 30 ชั้น มูลค่า 2,136 ล้าน ก่อนถล่มจากฤทธิ์แผ่นดินไหว พบ บ.ร่วมค้า "ไอทีดี - ไชน่า เรลเวย์" ได้งาน มีบริษัทคุมงาน 3 บริษัท หลัง ครม.ชุดนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน เผยโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029708
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 576 มุมมอง 0 รีวิว
  • ”สภาหมื่นล้าน“ เตรียมรีโนเวทครั้งใหญ่ เร่งเคาะผู้รับเหมาสร้างลานจอดรถเฟส 2 พร้อมปรับภูมิทัศน์ ขนร้านอาหารชั้น-ร้านสะดวกซื้อ บริการสส.-ขรก. ทุ่ม 150 ล้านปิดตำนานสระมรกต เปลี่ยนเป็นห้องสมุด-ห้องรับรอง-ห้องพักตามอัธยาศัย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000027139
    ”สภาหมื่นล้าน“ เตรียมรีโนเวทครั้งใหญ่ เร่งเคาะผู้รับเหมาสร้างลานจอดรถเฟส 2 พร้อมปรับภูมิทัศน์ ขนร้านอาหารชั้น-ร้านสะดวกซื้อ บริการสส.-ขรก. ทุ่ม 150 ล้านปิดตำนานสระมรกต เปลี่ยนเป็นห้องสมุด-ห้องรับรอง-ห้องพักตามอัธยาศัย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000027139
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 839 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : โครงการสมุดพก "สุริยะ" อวดประชาชน ข่มผู้รับเหมา แต่ไม่เคยทำจริง
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #สุริยะ
    Newsstory : โครงการสมุดพก "สุริยะ" อวดประชาชน ข่มผู้รับเหมา แต่ไม่เคยทำจริง #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #สุริยะ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 428 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • “สภาหมื่นล้าน” เตรียมรีโนเวทครั้งใหญ่ ทุ่มงบ 150 ล้าน เร่งเคาะผู้รับเหมาสร้างลานจอดรถเฟส 2
    https://www.thai-tai.tv/news/17770/
    “สภาหมื่นล้าน” เตรียมรีโนเวทครั้งใหญ่ ทุ่มงบ 150 ล้าน เร่งเคาะผู้รับเหมาสร้างลานจอดรถเฟส 2 https://www.thai-tai.tv/news/17770/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุนมาเลย์สนใจรถไฟทางคู่ ชุมพร-ปาดังเบซาร์

    ในช่วงที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพอาเซียนในปี 2025 และรัฐบาลอันวาร์ อิบราฮิม มีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ของประเทศไทย อาจจะได้เห็นข่าวความร่วมมือระหว่างมาเลเซียและไทยเป็นระยะ ล่าสุด พลเอกอาวุโส โมห์ด อาซูมิ โมฮัมเหม็ด (Mohd Azumi Mohamed) ประธานบริษัท ดายะ มาจู อินฟาสตรัคเจอร์ เอเชีย (Dhaya Maju Infrastructure Asia) หรือ DMIA บริษัทพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากประเทศมาเลเซีย ได้เข้าพบกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม และคณะ ที่กระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา

    โดยบริษัท DMIA ได้ให้ความสนใจเข้าร่วมการลงทุนในรูปแบบระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือ PPP (Public Private Partnership) โครงการรถไฟทางคู่ ชุมพร-ปาดังเบซาร์ เชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีความยินดีที่ DMIA ให้ความสนใจ และหวังว่าจะได้มีความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของทั้งสองประเทศร่วมกันในอนาคต ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเรื่องการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความรู้ในด้านการพัฒนาระบบขนส่งทางราง เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การปรับปรุงระบบรางข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืน รวมถึงความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างไทยและมาเลเซียอีกด้วย

    ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร และช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ระยะทาง 44 กิโลเมตร งานออกแบบแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติงานด้านโครงสร้างพื้นฐานและงานโยธา ส่วนช่วงหาดใหญ่-สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ระยะทาง 216 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำการศึกษาความเป็นไปได้

    สำหรับบริษัท DMIA ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2539 มีประสบการณ์งานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง อสังหาริมทรัพย์ การฟื้นฟูเมือง การก่อสร้างและปรับปรุงทางรถไฟ ทั้งในประเทศมาเลเซียและต่างประเทศ นับเฉพาะโครงการทางรถไฟ เป็นผู้รับเหมาหลักโครงการปรับปรุงรถไฟทางคู่ติดระบบไฟฟ้าบนหุบเขาแคลง (KVDT) ตั้งแต่ราวังถึงซาลักเซาต์ (Rawang-Salak South) และโครงการระยะที่ 2 (KVDT2) จากซาลักเซาต์ถึงเซเรมบัน (Salak South-Seremban) และจากเคแอลเซ็นทรัลถึงพอร์ตแคลง (KL Sentral-Port Klang) เป็นต้น

    #Newskit
    ทุนมาเลย์สนใจรถไฟทางคู่ ชุมพร-ปาดังเบซาร์ ในช่วงที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพอาเซียนในปี 2025 และรัฐบาลอันวาร์ อิบราฮิม มีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ของประเทศไทย อาจจะได้เห็นข่าวความร่วมมือระหว่างมาเลเซียและไทยเป็นระยะ ล่าสุด พลเอกอาวุโส โมห์ด อาซูมิ โมฮัมเหม็ด (Mohd Azumi Mohamed) ประธานบริษัท ดายะ มาจู อินฟาสตรัคเจอร์ เอเชีย (Dhaya Maju Infrastructure Asia) หรือ DMIA บริษัทพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากประเทศมาเลเซีย ได้เข้าพบกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม และคณะ ที่กระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยบริษัท DMIA ได้ให้ความสนใจเข้าร่วมการลงทุนในรูปแบบระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือ PPP (Public Private Partnership) โครงการรถไฟทางคู่ ชุมพร-ปาดังเบซาร์ เชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีความยินดีที่ DMIA ให้ความสนใจ และหวังว่าจะได้มีความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของทั้งสองประเทศร่วมกันในอนาคต ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเรื่องการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความรู้ในด้านการพัฒนาระบบขนส่งทางราง เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การปรับปรุงระบบรางข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืน รวมถึงความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างไทยและมาเลเซียอีกด้วย ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร และช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ระยะทาง 44 กิโลเมตร งานออกแบบแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติงานด้านโครงสร้างพื้นฐานและงานโยธา ส่วนช่วงหาดใหญ่-สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ระยะทาง 216 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำการศึกษาความเป็นไปได้ สำหรับบริษัท DMIA ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2539 มีประสบการณ์งานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง อสังหาริมทรัพย์ การฟื้นฟูเมือง การก่อสร้างและปรับปรุงทางรถไฟ ทั้งในประเทศมาเลเซียและต่างประเทศ นับเฉพาะโครงการทางรถไฟ เป็นผู้รับเหมาหลักโครงการปรับปรุงรถไฟทางคู่ติดระบบไฟฟ้าบนหุบเขาแคลง (KVDT) ตั้งแต่ราวังถึงซาลักเซาต์ (Rawang-Salak South) และโครงการระยะที่ 2 (KVDT2) จากซาลักเซาต์ถึงเซเรมบัน (Salak South-Seremban) และจากเคแอลเซ็นทรัลถึงพอร์ตแคลง (KL Sentral-Port Klang) เป็นต้น #Newskit
    Like
    Love
    5
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปอบอกเหนื่อยหาแตงโม เลยกลับบ้าน!? : [NEWS UPDATE]

    เปิ้ล นาคร ศิลาชัย นักแสดงและพิธีกร ให้ข้อมูลกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คดีแตงโม นิดา เสียชีวิต วันเกิดเหตุได้คุยกับคนบนเรือฟังเหตุผลหาแตงโมไม่เจอแต่ทำไมกลับบ้าน มองรอดยากเพราะไม่ใส่ชูชีพ แต่ยังหวังให้แตงโมรอด โดยได้ขับไปอู่เรือปทุมธานี เจอเรือที่แตงโมตกน้ำลอยอยู่ เห็น 3-4 คน เขาบอกคนขับขึ้นไปแล้วให้มาเฝ้าเรือ เราก็เอ๊ะหาแตงโมเจอแล้วเหรอ เขาถึงขึ้น ทำไมหาไม่เจอแล้วกลับบ้านกัน ได้โทรหาปอถาม ไม่ช่วยกันหาเหรอ เขาบอกว่า ช่วยกันหาจนเหนื่อยแล้วก็เลยกลับ เราก็อ้าว ไม่เจอแล้วกลับได้ไง คาใจทำไมถึงปัสสาวะท้ายเรือ ขนาดตัวเองให้ลูกขับเจ็ตสกียืนหันหลังปัสสาวะยังไม่กล้า สงสัยทำไมปวดปัสสาวะไม่บอกให้เรือจอดก่อนแล้วค่อยทำธุระ

    -ขึ้นบัญชีดำผู้รับเหมา

    -ญัตติ"บุคคลในครอบครัว"

    -เหยื่อแก๊งคอลร่ำไห้ร้องสภา

    -สุดทนน้ำมันปาล์มแพง
    ปอบอกเหนื่อยหาแตงโม เลยกลับบ้าน!? : [NEWS UPDATE] เปิ้ล นาคร ศิลาชัย นักแสดงและพิธีกร ให้ข้อมูลกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) คดีแตงโม นิดา เสียชีวิต วันเกิดเหตุได้คุยกับคนบนเรือฟังเหตุผลหาแตงโมไม่เจอแต่ทำไมกลับบ้าน มองรอดยากเพราะไม่ใส่ชูชีพ แต่ยังหวังให้แตงโมรอด โดยได้ขับไปอู่เรือปทุมธานี เจอเรือที่แตงโมตกน้ำลอยอยู่ เห็น 3-4 คน เขาบอกคนขับขึ้นไปแล้วให้มาเฝ้าเรือ เราก็เอ๊ะหาแตงโมเจอแล้วเหรอ เขาถึงขึ้น ทำไมหาไม่เจอแล้วกลับบ้านกัน ได้โทรหาปอถาม ไม่ช่วยกันหาเหรอ เขาบอกว่า ช่วยกันหาจนเหนื่อยแล้วก็เลยกลับ เราก็อ้าว ไม่เจอแล้วกลับได้ไง คาใจทำไมถึงปัสสาวะท้ายเรือ ขนาดตัวเองให้ลูกขับเจ็ตสกียืนหันหลังปัสสาวะยังไม่กล้า สงสัยทำไมปวดปัสสาวะไม่บอกให้เรือจอดก่อนแล้วค่อยทำธุระ -ขึ้นบัญชีดำผู้รับเหมา -ญัตติ"บุคคลในครอบครัว" -เหยื่อแก๊งคอลร่ำไห้ร้องสภา -สุดทนน้ำมันปาล์มแพง
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 835 มุมมอง 45 0 รีวิว
  • น้องสาวเจ้าของบ้านแมวส้มบอก
    "พี่กอล์ฟมาจัดสวนให้ที่บ้านหน่อย"
    (กอล์ฟในที่นี้หมายถึง lit nit)
    ....
    น้องบอก
    "พี่ หนูรับเหมาตกแต่งภายในมันมีเศษไม้เยอะ แปลงผักใช้ไม้พวกนี้ทำก็ได้ ผุเมื่อไหร่เดี๋ยวให้แฟนเปลี่ยนอันใหม่ มีแผ่นพื้นที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อีกนะ เอามาทำอะไรได้บ้าง ?"
    ....
    น้องบอกอีก
    "พี่ ขอต้นไม้ที่ทำอาหารแมวได้ด้วยนะ หนูมีแมวอ้วนหลายตัว"
    ....
    lit nit ก็เลยทำแปลงผักพร้อมระบบน้ำอัตโนมัติอย่างง่าย ส่วนพืชผักสวนครัวก็พริก กะเพรา ตะไคร้ มะกรูด มะนาว ฯลฯ แค่นี้ก็พอจะปรุงอาหารแมวได้แล้ว
    #ก็เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้เขาเลี้ยงแมวไว้เป็นอาหารในครัวเรือนนี่เอง ดีแล้ว นี่แหละที่เรียกว่าความมั่นคงทางอาหาร
    น้องสาวเจ้าของบ้านแมวส้มบอก "พี่กอล์ฟมาจัดสวนให้ที่บ้านหน่อย" (กอล์ฟในที่นี้หมายถึง lit nit) .... น้องบอก "พี่ หนูรับเหมาตกแต่งภายในมันมีเศษไม้เยอะ แปลงผักใช้ไม้พวกนี้ทำก็ได้ ผุเมื่อไหร่เดี๋ยวให้แฟนเปลี่ยนอันใหม่ มีแผ่นพื้นที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อีกนะ เอามาทำอะไรได้บ้าง ?" .... น้องบอกอีก "พี่ ขอต้นไม้ที่ทำอาหารแมวได้ด้วยนะ หนูมีแมวอ้วนหลายตัว" .... lit nit ก็เลยทำแปลงผักพร้อมระบบน้ำอัตโนมัติอย่างง่าย ส่วนพืชผักสวนครัวก็พริก กะเพรา ตะไคร้ มะกรูด มะนาว ฯลฯ แค่นี้ก็พอจะปรุงอาหารแมวได้แล้ว #ก็เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้เขาเลี้ยงแมวไว้เป็นอาหารในครัวเรือนนี่เอง ดีแล้ว นี่แหละที่เรียกว่าความมั่นคงทางอาหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลงัดยาแรง! ล้อมคอกเหตุคานถล่ม ฟัน 'อาญา-แพ่ง' ขึ้นบัญชีดำผู้รับเหมา มั่นใจมาตรการปลอดภัยดีขึ้นแน่
    https://www.thai-tai.tv/news/17686/
    รัฐบาลงัดยาแรง! ล้อมคอกเหตุคานถล่ม ฟัน 'อาญา-แพ่ง' ขึ้นบัญชีดำผู้รับเหมา มั่นใจมาตรการปลอดภัยดีขึ้นแน่ https://www.thai-tai.tv/news/17686/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ การทางพินาศ กับ กรมทางหลอน 5 ปี เกิดอุบัติเหตุ 11 ครั้ง ขึ้นบัญชีผู้รับเหมาแล้ว ขึ้นบัญชีข้าราชกากด้วย
    #7ดอกจิก
    #พระราม2
    ♣ การทางพินาศ กับ กรมทางหลอน 5 ปี เกิดอุบัติเหตุ 11 ครั้ง ขึ้นบัญชีผู้รับเหมาแล้ว ขึ้นบัญชีข้าราชกากด้วย #7ดอกจิก #พระราม2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทางด่วนสองชั้น หายนะคนกรุงฯ

    เหตุคานสะพานทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) ที่ก่อสร้างซ้อนทับอยู่บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ในโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 ทรุดตัวบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางดาวคะนอง แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย สูญหาย 2 ราย บาดเจ็บ 27 ราย โครงสร้างทางพิเศษเฉลิมมหานคร ขาออก อายุกว่า 40 ปี พังลง 1 ช่วงเสา ต้องปิดการจราจรอย่างน้อย 1 เดือน

    นับเป็นอีกโศกนาฎกรรมจากการก่อสร้างทางยกระดับขนาดใหญ่ หลังเหตุการณ์คานสะพานถล่ม โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ที่สร้างคร่อมทางหลักบนถนนพระรามที่ 2 จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 9 คน ต้องปิดการจราจรเพื่อเคลียร์พื้นที่ก่อสร้างนานเกือบครึ่งเดือน ผ่านไปเพียงไม่ถึง 4 เดือนกลับเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอย ท่ามกลางสังคมต่างถามหาความรับผิดชอบจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ถึงบัดนี้ผลการสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการก็ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะแต่อย่างใด

    ก่อนหน้านี้ นายสุริยะ และผู้บริหารการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีความพยายามผลักดันโครงการแก้ไขปัญหาจราจรบนทางพิเศษระยะที่ 1 ซึ่งจะมีการก่อสร้างโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 หรือ ดับเบิล เด็ค (Double Deck) ช่วงงามวงศ์วานถึงพระราม 9 ระยะทาง 17 กิโลเมตร โดยเจรจาให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน แลกกับการขยายระยะเวลาสัมปทานระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ที่เพิ่งขยายสัญญาจากกรณีพิพาทค่าโง่ทางด่วน จากเดิมหมดลงในปี 2563 ไปสิ้นสุดในปี 2578 แต่บอกไม่ได้ว่ากี่ปี กลายเป็นที่วิจารณ์ว่าเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนหรือไม่ แทนที่สัญญาสัมปทานหมดลงแล้วจะได้ใช้ทางด่วนในราคาถูกลง

    อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้น่าคิดว่า การทำทางด่วนดับเบิล เด็ค อาจไม่เหมาะสมในเวลานี้ หากมาตรฐานการก่อสร้างของผู้รับเหมาในปัจจุบันยังมีความหละหลวม ก่อให้เกิดโศกนาฎกรรม เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และสร้างปัญหากระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนนบ่อยครั้ง เกิดความสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ขณะที่ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม ยังคงแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วัวหายล้อมคอก มากกว่าหามาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด หากปล่อยให้การก่อสร้างดับเบิล เด็คเกิดขึ้นจริง เมื่อเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอยในครั้งนี้เกิดขึ้นอีก ความพินาศฉิบหายของผู้ใช้ทางพิเศษ ที่มีจำนวนกว่า 1.8 ล้านคันต่อวันจะบรรลัยยิ่งขึ้นแน่นอน

    #Newskit
    ทางด่วนสองชั้น หายนะคนกรุงฯ เหตุคานสะพานทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) ที่ก่อสร้างซ้อนทับอยู่บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ในโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 ทรุดตัวบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางดาวคะนอง แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย สูญหาย 2 ราย บาดเจ็บ 27 ราย โครงสร้างทางพิเศษเฉลิมมหานคร ขาออก อายุกว่า 40 ปี พังลง 1 ช่วงเสา ต้องปิดการจราจรอย่างน้อย 1 เดือน นับเป็นอีกโศกนาฎกรรมจากการก่อสร้างทางยกระดับขนาดใหญ่ หลังเหตุการณ์คานสะพานถล่ม โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ที่สร้างคร่อมทางหลักบนถนนพระรามที่ 2 จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 9 คน ต้องปิดการจราจรเพื่อเคลียร์พื้นที่ก่อสร้างนานเกือบครึ่งเดือน ผ่านไปเพียงไม่ถึง 4 เดือนกลับเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอย ท่ามกลางสังคมต่างถามหาความรับผิดชอบจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ถึงบัดนี้ผลการสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการก็ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ นายสุริยะ และผู้บริหารการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีความพยายามผลักดันโครงการแก้ไขปัญหาจราจรบนทางพิเศษระยะที่ 1 ซึ่งจะมีการก่อสร้างโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 หรือ ดับเบิล เด็ค (Double Deck) ช่วงงามวงศ์วานถึงพระราม 9 ระยะทาง 17 กิโลเมตร โดยเจรจาให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน แลกกับการขยายระยะเวลาสัมปทานระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ที่เพิ่งขยายสัญญาจากกรณีพิพาทค่าโง่ทางด่วน จากเดิมหมดลงในปี 2563 ไปสิ้นสุดในปี 2578 แต่บอกไม่ได้ว่ากี่ปี กลายเป็นที่วิจารณ์ว่าเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนหรือไม่ แทนที่สัญญาสัมปทานหมดลงแล้วจะได้ใช้ทางด่วนในราคาถูกลง อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้น่าคิดว่า การทำทางด่วนดับเบิล เด็ค อาจไม่เหมาะสมในเวลานี้ หากมาตรฐานการก่อสร้างของผู้รับเหมาในปัจจุบันยังมีความหละหลวม ก่อให้เกิดโศกนาฎกรรม เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และสร้างปัญหากระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนนบ่อยครั้ง เกิดความสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ขณะที่ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม ยังคงแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วัวหายล้อมคอก มากกว่าหามาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด หากปล่อยให้การก่อสร้างดับเบิล เด็คเกิดขึ้นจริง เมื่อเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอยในครั้งนี้เกิดขึ้นอีก ความพินาศฉิบหายของผู้ใช้ทางพิเศษ ที่มีจำนวนกว่า 1.8 ล้านคันต่อวันจะบรรลัยยิ่งขึ้นแน่นอน #Newskit
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 636 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ดร.สามารถ' ฟาด 'สุริยะ' ฉีก 'สมุดพกผู้รับเหมา' ทิ้งเถอะ อุบัติเหตุสะพานถล่มไม่หยุด
    https://www.thai-tai.tv/news/17650/
    'ดร.สามารถ' ฟาด 'สุริยะ' ฉีก 'สมุดพกผู้รับเหมา' ทิ้งเถอะ อุบัติเหตุสะพานถล่มไม่หยุด https://www.thai-tai.tv/news/17650/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สุริยะ” เสียใจเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัว เตรียมใช้บทลงโทษแบล็คลิส์กับผู้รับเหมา คาดเริ่มภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้
    https://www.thai-tai.tv/news/17649/
    “สุริยะ” เสียใจเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัว เตรียมใช้บทลงโทษแบล็คลิส์กับผู้รับเหมา คาดเริ่มภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ https://www.thai-tai.tv/news/17649/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุริยะ ตรวจพระราม2 คาดเทปูนมากไป-จ่อฟ้องผู้รับเหมา 15/03/68 #สุริยะ #คานถล่มพระราม 2 #ผู้รับเหมา #ถนนพระราม 2
    สุริยะ ตรวจพระราม2 คาดเทปูนมากไป-จ่อฟ้องผู้รับเหมา 15/03/68 #สุริยะ #คานถล่มพระราม 2 #ผู้รับเหมา #ถนนพระราม 2
    Angry
    Love
    Sad
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1595 มุมมอง 38 0 รีวิว
  • ทล.เร่งสอบ”คานปูน-โครงสร้างเหล็ก” พระราม 2 ถล่ม พบประเด็นตัวยึดคานและทรัสหลุด หาสาเหตุเกิดจากขั้นตอนการทำงานหรือตัววัสดุมีปัญหา คาดสรุปในสัปดาห์นี้ ยันรับเหมาใช้แรงงานต่างด้าวได้ในงานทั่วไป ส่วนงานเฉพาะทางบุคลากรต้องมีใบรับรองตามระเบียบ

    จากกรณีกรณีคานปูน (Segment) และโครงสร้างเหล็ก (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย -บ้านแพ้ว ตอน 1 พังถล่ม เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีต่อ บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด และบริษัท พีเอสซีไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ผู้รับเหมาในความผิด ฐานใช้แรงงานต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิ และความปลอดภัยอาชีวะอนามัยไปแล้วนั้น

    นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ในส่วนของกรมทางหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมการตรวจสอบในทุกมิติ ทั้งตัวโครงสร้างเหล็ก Launching Gantry และแผ่นปูน (ทรัส) เรื่องการบริหารจัดการระหว่างก่อสร้าง รวมทั้งหมด 5 ประเด็น

    ทั้งนี้ มีการตรวจสอบเรื่องวัสดุ พบมีประเด็นเรื่องตัวยึดระหว่างคานคอนกรีตและทรัส อาจมีปัญหา ซึ่งจะต้องมีการทดสอบวัสดุ เพื่อดูว่าสาเหตุที่ตัวยึดคานหลุดนั้น เกิดจากการทำงานหรือตัววัสดุมีปัญหา โดยจะสรุปผลการสอบสวนภายในสัปดาห์นี้ และจะรายงานกระทรวงคมนาคมรับทราบต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000023136

    #MGROnline #โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข82 #คานปูน #โครงสร้างเหล็ก #พระราม2
    ทล.เร่งสอบ”คานปูน-โครงสร้างเหล็ก” พระราม 2 ถล่ม พบประเด็นตัวยึดคานและทรัสหลุด หาสาเหตุเกิดจากขั้นตอนการทำงานหรือตัววัสดุมีปัญหา คาดสรุปในสัปดาห์นี้ ยันรับเหมาใช้แรงงานต่างด้าวได้ในงานทั่วไป ส่วนงานเฉพาะทางบุคลากรต้องมีใบรับรองตามระเบียบ • จากกรณีกรณีคานปูน (Segment) และโครงสร้างเหล็ก (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย -บ้านแพ้ว ตอน 1 พังถล่ม เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีต่อ บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด และบริษัท พีเอสซีไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ผู้รับเหมาในความผิด ฐานใช้แรงงานต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิ และความปลอดภัยอาชีวะอนามัยไปแล้วนั้น • นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ในส่วนของกรมทางหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมการตรวจสอบในทุกมิติ ทั้งตัวโครงสร้างเหล็ก Launching Gantry และแผ่นปูน (ทรัส) เรื่องการบริหารจัดการระหว่างก่อสร้าง รวมทั้งหมด 5 ประเด็น • ทั้งนี้ มีการตรวจสอบเรื่องวัสดุ พบมีประเด็นเรื่องตัวยึดระหว่างคานคอนกรีตและทรัส อาจมีปัญหา ซึ่งจะต้องมีการทดสอบวัสดุ เพื่อดูว่าสาเหตุที่ตัวยึดคานหลุดนั้น เกิดจากการทำงานหรือตัววัสดุมีปัญหา โดยจะสรุปผลการสอบสวนภายในสัปดาห์นี้ และจะรายงานกระทรวงคมนาคมรับทราบต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000023136 • #MGROnline #โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข82 #คานปูน #โครงสร้างเหล็ก #พระราม2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 521 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts