เรื่องเล่าจากโลกโซเชียล: เมื่อเสียงของคนส่วนน้อยทำให้โลกออนไลน์ดูแย่กว่าความเป็นจริง
ลองจินตนาการว่าเอเลี่ยนตัดสินใจทำลายมนุษย์โดยดูจากพฤติกรรมในโลกออนไลน์...เราคงไม่รอด แต่ความจริงคือ โลกออนไลน์ไม่ได้สะท้อนชีวิตจริงของคนส่วนใหญ่เลย
งานวิจัยจาก NYU และมหาวิทยาลัยอื่น ๆ พบว่า โซเชียลมีเดียทำหน้าที่เหมือน “กระจกหลอก” ที่ขยายเสียงสุดโต่งและกลบเสียงกลาง ๆ ที่มีเหตุผล โดยเฉพาะในเรื่องการเมืองและข่าวปลอม
ตัวอย่างเช่น:
- บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) มีผู้ใช้เพียง 10% ที่สร้างโพสต์การเมืองถึง 97%
- ข่าวปลอมส่วนใหญ่ (80%) มาจากผู้ใช้เพียง 0.1%
- กลุ่ม “Disinformation Dozen” บน Facebook คือ 12 คนที่สร้างข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิดเกือบทั้งหมด
แพลตฟอร์มเองก็มีส่วนร่วม เพราะอัลกอริธึมมักขยายโพสต์ที่กระตุ้นอารมณ์เพื่อเรียกยอด engagement ทำให้คนทั่วไปเห็นแต่เนื้อหาสุดโต่ง และเริ่มเชื่อว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
แต่มีข่าวดี! การทดลองพบว่า แค่เลิกติดตามบัญชีการเมืองสุดโต่ง ก็สามารถลดความรู้สึกเกลียดชังลงได้ถึง 23% และเกือบครึ่งของผู้ร่วมทดลองไม่กลับไปติดตามอีกเลย
โลกออนไลน์ไม่ได้สะท้อนพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่
เสียงสุดโต่งถูกขยายผ่านอัลกอริธึมและการโพสต์ซ้ำ
งานวิจัยจาก NYU พบว่าโซเชียลมีเดียเป็น “กระจกหลอก” ของสังคม
ขยายเสียงสุดโต่งและกลบเสียงที่มีเหตุผล
บนแพลตฟอร์ม X:
10% ของผู้ใช้สร้าง 97% ของโพสต์การเมือง
ข่าวปลอมส่วนใหญ่มาจากผู้ใช้เพียง 0.1%
เช่น “Disinformation Dozen” บน Facebook
การทดลองให้ผู้ใช้เลิกติดตามบัญชีสุดโต่งช่วยลดความเกลียดชัง
ลดความรู้สึกเป็นศัตรูทางการเมืองลง 23%
เกือบครึ่งไม่กลับไปติดตามอีก
ความเข้าใจผิดว่าโลกออนไลน์คือภาพจริงของสังคม
อาจทำให้เรามองโลกในแง่ร้ายเกินไป
อัลกอริธึมของแพลตฟอร์มมีบทบาทในการขยายโพสต์สุดโต่ง
ส่งเสริมพฤติกรรม “rage bait” เพื่อเรียกยอด engagement
การบริโภคเนื้อหาสุดโต่งบ่อย ๆ อาจทำให้เรารู้สึกแย่กับมนุษย์โดยรวม
ทั้งที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น
การไม่รู้เท่าทันกลไกของโซเชียลมีเดียอาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อของการบิดเบือน
โดยเฉพาะในเรื่องการเมืองและสุขภาพ
https://www.techspot.com/news/108676-why-small-group-online-users-makes-world-look.html
ลองจินตนาการว่าเอเลี่ยนตัดสินใจทำลายมนุษย์โดยดูจากพฤติกรรมในโลกออนไลน์...เราคงไม่รอด แต่ความจริงคือ โลกออนไลน์ไม่ได้สะท้อนชีวิตจริงของคนส่วนใหญ่เลย
งานวิจัยจาก NYU และมหาวิทยาลัยอื่น ๆ พบว่า โซเชียลมีเดียทำหน้าที่เหมือน “กระจกหลอก” ที่ขยายเสียงสุดโต่งและกลบเสียงกลาง ๆ ที่มีเหตุผล โดยเฉพาะในเรื่องการเมืองและข่าวปลอม
ตัวอย่างเช่น:
- บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) มีผู้ใช้เพียง 10% ที่สร้างโพสต์การเมืองถึง 97%
- ข่าวปลอมส่วนใหญ่ (80%) มาจากผู้ใช้เพียง 0.1%
- กลุ่ม “Disinformation Dozen” บน Facebook คือ 12 คนที่สร้างข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิดเกือบทั้งหมด
แพลตฟอร์มเองก็มีส่วนร่วม เพราะอัลกอริธึมมักขยายโพสต์ที่กระตุ้นอารมณ์เพื่อเรียกยอด engagement ทำให้คนทั่วไปเห็นแต่เนื้อหาสุดโต่ง และเริ่มเชื่อว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
แต่มีข่าวดี! การทดลองพบว่า แค่เลิกติดตามบัญชีการเมืองสุดโต่ง ก็สามารถลดความรู้สึกเกลียดชังลงได้ถึง 23% และเกือบครึ่งของผู้ร่วมทดลองไม่กลับไปติดตามอีกเลย
โลกออนไลน์ไม่ได้สะท้อนพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่
เสียงสุดโต่งถูกขยายผ่านอัลกอริธึมและการโพสต์ซ้ำ
งานวิจัยจาก NYU พบว่าโซเชียลมีเดียเป็น “กระจกหลอก” ของสังคม
ขยายเสียงสุดโต่งและกลบเสียงที่มีเหตุผล
บนแพลตฟอร์ม X:
10% ของผู้ใช้สร้าง 97% ของโพสต์การเมือง
ข่าวปลอมส่วนใหญ่มาจากผู้ใช้เพียง 0.1%
เช่น “Disinformation Dozen” บน Facebook
การทดลองให้ผู้ใช้เลิกติดตามบัญชีสุดโต่งช่วยลดความเกลียดชัง
ลดความรู้สึกเป็นศัตรูทางการเมืองลง 23%
เกือบครึ่งไม่กลับไปติดตามอีก
ความเข้าใจผิดว่าโลกออนไลน์คือภาพจริงของสังคม
อาจทำให้เรามองโลกในแง่ร้ายเกินไป
อัลกอริธึมของแพลตฟอร์มมีบทบาทในการขยายโพสต์สุดโต่ง
ส่งเสริมพฤติกรรม “rage bait” เพื่อเรียกยอด engagement
การบริโภคเนื้อหาสุดโต่งบ่อย ๆ อาจทำให้เรารู้สึกแย่กับมนุษย์โดยรวม
ทั้งที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น
การไม่รู้เท่าทันกลไกของโซเชียลมีเดียอาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อของการบิดเบือน
โดยเฉพาะในเรื่องการเมืองและสุขภาพ
https://www.techspot.com/news/108676-why-small-group-online-users-makes-world-look.html
🎙️ เรื่องเล่าจากโลกโซเชียล: เมื่อเสียงของคนส่วนน้อยทำให้โลกออนไลน์ดูแย่กว่าความเป็นจริง
ลองจินตนาการว่าเอเลี่ยนตัดสินใจทำลายมนุษย์โดยดูจากพฤติกรรมในโลกออนไลน์...เราคงไม่รอด 😅 แต่ความจริงคือ โลกออนไลน์ไม่ได้สะท้อนชีวิตจริงของคนส่วนใหญ่เลย
งานวิจัยจาก NYU และมหาวิทยาลัยอื่น ๆ พบว่า โซเชียลมีเดียทำหน้าที่เหมือน “กระจกหลอก” ที่ขยายเสียงสุดโต่งและกลบเสียงกลาง ๆ ที่มีเหตุผล โดยเฉพาะในเรื่องการเมืองและข่าวปลอม
ตัวอย่างเช่น:
- บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) มีผู้ใช้เพียง 10% ที่สร้างโพสต์การเมืองถึง 97%
- ข่าวปลอมส่วนใหญ่ (80%) มาจากผู้ใช้เพียง 0.1%
- กลุ่ม “Disinformation Dozen” บน Facebook คือ 12 คนที่สร้างข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิดเกือบทั้งหมด
แพลตฟอร์มเองก็มีส่วนร่วม เพราะอัลกอริธึมมักขยายโพสต์ที่กระตุ้นอารมณ์เพื่อเรียกยอด engagement ทำให้คนทั่วไปเห็นแต่เนื้อหาสุดโต่ง และเริ่มเชื่อว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
แต่มีข่าวดี! การทดลองพบว่า แค่เลิกติดตามบัญชีการเมืองสุดโต่ง ก็สามารถลดความรู้สึกเกลียดชังลงได้ถึง 23% และเกือบครึ่งของผู้ร่วมทดลองไม่กลับไปติดตามอีกเลย
✅ โลกออนไลน์ไม่ได้สะท้อนพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่
➡️ เสียงสุดโต่งถูกขยายผ่านอัลกอริธึมและการโพสต์ซ้ำ
✅ งานวิจัยจาก NYU พบว่าโซเชียลมีเดียเป็น “กระจกหลอก” ของสังคม
➡️ ขยายเสียงสุดโต่งและกลบเสียงที่มีเหตุผล
✅ บนแพลตฟอร์ม X:
➡️ 10% ของผู้ใช้สร้าง 97% ของโพสต์การเมือง
✅ ข่าวปลอมส่วนใหญ่มาจากผู้ใช้เพียง 0.1%
➡️ เช่น “Disinformation Dozen” บน Facebook
✅ การทดลองให้ผู้ใช้เลิกติดตามบัญชีสุดโต่งช่วยลดความเกลียดชัง
➡️ ลดความรู้สึกเป็นศัตรูทางการเมืองลง 23%
➡️ เกือบครึ่งไม่กลับไปติดตามอีก
‼️ ความเข้าใจผิดว่าโลกออนไลน์คือภาพจริงของสังคม
⛔ อาจทำให้เรามองโลกในแง่ร้ายเกินไป
‼️ อัลกอริธึมของแพลตฟอร์มมีบทบาทในการขยายโพสต์สุดโต่ง
⛔ ส่งเสริมพฤติกรรม “rage bait” เพื่อเรียกยอด engagement
‼️ การบริโภคเนื้อหาสุดโต่งบ่อย ๆ อาจทำให้เรารู้สึกแย่กับมนุษย์โดยรวม
⛔ ทั้งที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น
‼️ การไม่รู้เท่าทันกลไกของโซเชียลมีเดียอาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อของการบิดเบือน
⛔ โดยเฉพาะในเรื่องการเมืองและสุขภาพ
https://www.techspot.com/news/108676-why-small-group-online-users-makes-world-look.html
0 Comments
0 Shares
26 Views
0 Reviews