• น้ำที่ไม่ปลอดภัย – เมื่อไซเบอร์สงครามเริ่มจากก๊อกน้ำ

    ในเดือนสิงหาคม 2025 เกิดเหตุการณ์สองครั้งที่สะท้อนถึงภัยคุกคามไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในยุโรป ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซีย

    เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ เมื่อมีผู้เจาะระบบควบคุมและเปิดวาล์วปล่อยน้ำเป็นเวลาราว 4 ชั่วโมง แม้จะไม่มีความเสียหาย แต่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบจริงได้ โดยมีวิดีโอเผยแพร่บน Telegram ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Z-Pentest Alliance ที่มีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซีย

    เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในโปแลนด์ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี Krzysztof Gawkowski เปิดเผยว่ามีความพยายามโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ทันเวลา เขาเปรียบเทียบว่า “รัสเซียอาจไม่ส่งรถถัง แต่ส่งมัลแวร์แทน”

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้เป็น “การหยั่งเชิง” ที่อาจนำไปสู่การโจมตีขนาดใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะระบบน้ำที่มักขาดงบประมาณและบุคลากรด้านไซเบอร์

    แม้ผู้โจมตีจะดูเหมือนมือสมัครเล่น แต่การควบคุมระบบจริงได้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และการใช้ช่องโหว่ เช่น รหัสผ่านอ่อนแอ หรือ HMI ที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นจุดอ่อนที่พบได้ทั่วไป

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    เกิดเหตุโจมตีไซเบอร์ที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ โดยเปิดวาล์วปล่อยน้ำ 4 ชั่วโมง
    โปแลนด์สกัดการโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่ได้ทันเวลา
    กลุ่ม Z-Pentest Alliance ถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีในนอร์เวย์
    วิดีโอการโจมตีถูกเผยแพร่บน Telegram พร้อมเพลงรัสเซีย
    ผู้โจมตีใช้ HMI ที่เปิดผ่านอินเทอร์เน็ตและรหัสผ่านอ่อนแอ
    ไม่มีความเสียหายทางกายภาพ แต่มีการควบคุมระบบจริง
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเป็นการ “หยั่งเชิง” ก่อนการโจมตีใหญ่
    ระบบน้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญแต่ขาดการป้องกัน
    สหรัฐฯ และยุโรปควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือน
    โครงการ Cyber Peace Initiative และ DEF CON Franklin เสนอความช่วยเหลือฟรีแก่ระบบน้ำ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    โปแลนด์เผชิญการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียวันละ 300 ครั้ง
    ในปี 2024 รัสเซียเคยโจมตีระบบน้ำในเท็กซัสจนถังน้ำล้น
    ระบบน้ำในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบไซเบอร์เต็มรูปแบบ
    การโจมตีระบบ OT (Operational Technology) มักใช้กลุ่มแฮกเกอร์มือสมัครเล่นเป็นตัวแทน
    การโจมตีระบบน้ำสามารถสร้างความหวาดกลัวและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน
    การควบคุมวาล์วแบบเรียลไทม์แสดงถึงความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการที่ร้ายแรง

    https://www.csoonline.com/article/4042449/russia-linked-european-attacks-renew-concerns-over-water-cybersecurity.html
    🕵️‍♂️ น้ำที่ไม่ปลอดภัย – เมื่อไซเบอร์สงครามเริ่มจากก๊อกน้ำ ในเดือนสิงหาคม 2025 เกิดเหตุการณ์สองครั้งที่สะท้อนถึงภัยคุกคามไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในยุโรป ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซีย เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ เมื่อมีผู้เจาะระบบควบคุมและเปิดวาล์วปล่อยน้ำเป็นเวลาราว 4 ชั่วโมง แม้จะไม่มีความเสียหาย แต่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบจริงได้ โดยมีวิดีโอเผยแพร่บน Telegram ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Z-Pentest Alliance ที่มีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซีย เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในโปแลนด์ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี Krzysztof Gawkowski เปิดเผยว่ามีความพยายามโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ทันเวลา เขาเปรียบเทียบว่า “รัสเซียอาจไม่ส่งรถถัง แต่ส่งมัลแวร์แทน” ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้เป็น “การหยั่งเชิง” ที่อาจนำไปสู่การโจมตีขนาดใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะระบบน้ำที่มักขาดงบประมาณและบุคลากรด้านไซเบอร์ แม้ผู้โจมตีจะดูเหมือนมือสมัครเล่น แต่การควบคุมระบบจริงได้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และการใช้ช่องโหว่ เช่น รหัสผ่านอ่อนแอ หรือ HMI ที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นจุดอ่อนที่พบได้ทั่วไป 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ เกิดเหตุโจมตีไซเบอร์ที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ โดยเปิดวาล์วปล่อยน้ำ 4 ชั่วโมง ➡️ โปแลนด์สกัดการโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่ได้ทันเวลา ➡️ กลุ่ม Z-Pentest Alliance ถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีในนอร์เวย์ ➡️ วิดีโอการโจมตีถูกเผยแพร่บน Telegram พร้อมเพลงรัสเซีย ➡️ ผู้โจมตีใช้ HMI ที่เปิดผ่านอินเทอร์เน็ตและรหัสผ่านอ่อนแอ ➡️ ไม่มีความเสียหายทางกายภาพ แต่มีการควบคุมระบบจริง ➡️ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเป็นการ “หยั่งเชิง” ก่อนการโจมตีใหญ่ ➡️ ระบบน้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญแต่ขาดการป้องกัน ➡️ สหรัฐฯ และยุโรปควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือน ➡️ โครงการ Cyber Peace Initiative และ DEF CON Franklin เสนอความช่วยเหลือฟรีแก่ระบบน้ำ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ โปแลนด์เผชิญการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียวันละ 300 ครั้ง ➡️ ในปี 2024 รัสเซียเคยโจมตีระบบน้ำในเท็กซัสจนถังน้ำล้น ➡️ ระบบน้ำในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบไซเบอร์เต็มรูปแบบ ➡️ การโจมตีระบบ OT (Operational Technology) มักใช้กลุ่มแฮกเกอร์มือสมัครเล่นเป็นตัวแทน ➡️ การโจมตีระบบน้ำสามารถสร้างความหวาดกลัวและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน ➡️ การควบคุมวาล์วแบบเรียลไทม์แสดงถึงความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการที่ร้ายแรง https://www.csoonline.com/article/4042449/russia-linked-european-attacks-renew-concerns-over-water-cybersecurity.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Russia-linked European attacks renew concerns over water cybersecurity
    Suspected sabotage in Norway and a foiled cyberattack in Poland highlight the growing risk to under-protected water utilities, experts warn.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่าให้ฟังใหม่: Intel เปิดตัวแคมเปญ “USAI” — เมื่อชิปกลายเป็นเรื่องของความมั่นคงชาติ

    Intel กำลังผลักดันแคมเปญใหม่ชื่อว่า “USAI” (United States Artificial Intelligence) เพื่อแสดงจุดยืนว่าเป็นบริษัทเดียวที่ผลิตชิปขั้นสูงบนแผ่นดินอเมริกา โดยเน้นความรักชาติ ความมั่นคง และความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งในภาคพลเรือนและทหาร

    แคมเปญนี้เกิดขึ้นหลังจากซีอีโอคนใหม่ Lip-Bu Tan ถูกตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับบริษัทจีน ซึ่งสร้างความกังวลด้านความมั่นคง Intel จึงต้องแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อสหรัฐฯ โดยเฉพาะในยุคที่ TSMC และ Samsung ครองตลาดชิปขั้นสูง

    Intel ยังประกาศความร่วมมือกับ EdgeRunner AI เพื่อพัฒนา “AI agents” สำหรับกองทัพสหรัฐฯ โดยใช้ชิปที่ทำงานแบบ air-gapped (ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

    แม้จะมีความพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ แต่ Intel ยังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งการล้าหลังด้านเทคโนโลยี การสูญเสียบุคลากรสำคัญ และความไม่มั่นใจจากพนักงานภายในองค์กร

    Intel เปิดตัวแคมเปญ “USAI” เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสหรัฐฯ
    เน้นการผลิตชิปขั้นสูงบนแผ่นดินอเมริกา

    ซีอีโอ Lip-Bu Tan ถูกตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับบริษัทจีน
    พบกับประธานาธิบดี Trump เพื่อเคลียร์ข้อสงสัย

    Intel ร่วมมือกับ EdgeRunner AI พัฒนา AI agents สำหรับกองทัพ
    ใช้ชิปแบบ air-gapped เพื่อความปลอดภัย

    Intel ระบุว่าเป็นบริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ผลิตชิปขั้นสูงเอง
    ต่างจากบริษัทอื่นที่พึ่งพาโรงงานในต่างประเทศ

    แคมเปญ USAI มุ่งสร้างภาพลักษณ์ใหม่หลังถูก TSMC แซงหน้า
    หวังดึงความเชื่อมั่นจากรัฐบาลและตลาด

    https://wccftech.com/intel-unveils-usai-narrative-emphasizing-its-patriotic-mission/
    🇺🇸🔧 เล่าให้ฟังใหม่: Intel เปิดตัวแคมเปญ “USAI” — เมื่อชิปกลายเป็นเรื่องของความมั่นคงชาติ Intel กำลังผลักดันแคมเปญใหม่ชื่อว่า “USAI” (United States Artificial Intelligence) เพื่อแสดงจุดยืนว่าเป็นบริษัทเดียวที่ผลิตชิปขั้นสูงบนแผ่นดินอเมริกา โดยเน้นความรักชาติ ความมั่นคง และความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งในภาคพลเรือนและทหาร แคมเปญนี้เกิดขึ้นหลังจากซีอีโอคนใหม่ Lip-Bu Tan ถูกตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับบริษัทจีน ซึ่งสร้างความกังวลด้านความมั่นคง Intel จึงต้องแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อสหรัฐฯ โดยเฉพาะในยุคที่ TSMC และ Samsung ครองตลาดชิปขั้นสูง Intel ยังประกาศความร่วมมือกับ EdgeRunner AI เพื่อพัฒนา “AI agents” สำหรับกองทัพสหรัฐฯ โดยใช้ชิปที่ทำงานแบบ air-gapped (ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด แม้จะมีความพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ แต่ Intel ยังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งการล้าหลังด้านเทคโนโลยี การสูญเสียบุคลากรสำคัญ และความไม่มั่นใจจากพนักงานภายในองค์กร ✅ Intel เปิดตัวแคมเปญ “USAI” เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสหรัฐฯ ➡️ เน้นการผลิตชิปขั้นสูงบนแผ่นดินอเมริกา ✅ ซีอีโอ Lip-Bu Tan ถูกตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับบริษัทจีน ➡️ พบกับประธานาธิบดี Trump เพื่อเคลียร์ข้อสงสัย ✅ Intel ร่วมมือกับ EdgeRunner AI พัฒนา AI agents สำหรับกองทัพ ➡️ ใช้ชิปแบบ air-gapped เพื่อความปลอดภัย ✅ Intel ระบุว่าเป็นบริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ผลิตชิปขั้นสูงเอง ➡️ ต่างจากบริษัทอื่นที่พึ่งพาโรงงานในต่างประเทศ ✅ แคมเปญ USAI มุ่งสร้างภาพลักษณ์ใหม่หลังถูก TSMC แซงหน้า ➡️ หวังดึงความเชื่อมั่นจากรัฐบาลและตลาด https://wccftech.com/intel-unveils-usai-narrative-emphasizing-its-patriotic-mission/
    WCCFTECH.COM
    Intel Unveils ‘USAI’ Narrative, Emphasizing Its Patriotic Mission and Positioning Team Blue as America’s Sole Option for Advanced Chip Manufacturing
    Intel is now in the pursuit of showcasing its commitment to US manufacturing, especially after the recent political situation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาชญากรและคนอาชญากรรมเหล่านี้ ไม่เคยถูกกำจัดจริงๆเลย,เช่น ฮุนเซนคืออาชญากรสงครามและผู้เป็นหัวหน้าใหญ่อาชญากรรมระดับโลก แต่จีน อเมริกาก็ไม่มีความพยายามกำจัดทิ้ง ทั้งเข้าไปลงทุนสนับสนุนความเป็นอาชญากรและอาชญากรรมนี้อีก,ไม่มีมาตราการอะไรจริงใจ,เป็นแต่ปาหี่ แหกตาเท่านั้น,สรุปประเทศไหนจะเลวชั่วต่อคนในประเทศนั้นขนาดไหน แบบผู้ปกครองฮุนเซนจะชั่วเลวต่อประชาชนมันขนาดไหน แม้กระทั่งศพทหารมันตายยังไม่เก็บศพ ระเบิดวางในประเทศไทยดินแดนไทยก็กฎบ้าบอนั้นทำอะไรห่าเขมรฮุนเซนไม่ได้ ตำรวจสากลก็ทำอะไรไม่ได้ด้วย,คือโลกเรานี้มีปัญหาเพราะแบบนี้ล่ะ, โลกต้องปรับปรุงใหม่ทั้งหมดจริงๆ,ยิ่งกรณีเขมรนี้ นี้คือตัวอย่างที่ดีต่อสายตาคนทั้งโลกแน่นอน,ว่าคนด้านคนมึนคนหนาสุดๆมึนสุดๆเป็นแบบไหน,เขมรคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุดที่ไม่มีใครจะเอาชนะคนเขมรได้ในความมึนความหนาความด้านปฏิเสธความจริงทึกๆกรณี.




    https://youtube.com/watch?v=mopgQK7u4sI&si=AVz_JeU6i-lWDk6j
    อาชญากรและคนอาชญากรรมเหล่านี้ ไม่เคยถูกกำจัดจริงๆเลย,เช่น ฮุนเซนคืออาชญากรสงครามและผู้เป็นหัวหน้าใหญ่อาชญากรรมระดับโลก แต่จีน อเมริกาก็ไม่มีความพยายามกำจัดทิ้ง ทั้งเข้าไปลงทุนสนับสนุนความเป็นอาชญากรและอาชญากรรมนี้อีก,ไม่มีมาตราการอะไรจริงใจ,เป็นแต่ปาหี่ แหกตาเท่านั้น,สรุปประเทศไหนจะเลวชั่วต่อคนในประเทศนั้นขนาดไหน แบบผู้ปกครองฮุนเซนจะชั่วเลวต่อประชาชนมันขนาดไหน แม้กระทั่งศพทหารมันตายยังไม่เก็บศพ ระเบิดวางในประเทศไทยดินแดนไทยก็กฎบ้าบอนั้นทำอะไรห่าเขมรฮุนเซนไม่ได้ ตำรวจสากลก็ทำอะไรไม่ได้ด้วย,คือโลกเรานี้มีปัญหาเพราะแบบนี้ล่ะ, โลกต้องปรับปรุงใหม่ทั้งหมดจริงๆ,ยิ่งกรณีเขมรนี้ นี้คือตัวอย่างที่ดีต่อสายตาคนทั้งโลกแน่นอน,ว่าคนด้านคนมึนคนหนาสุดๆมึนสุดๆเป็นแบบไหน,เขมรคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุดที่ไม่มีใครจะเอาชนะคนเขมรได้ในความมึนความหนาความด้านปฏิเสธความจริงทึกๆกรณี. https://youtube.com/watch?v=mopgQK7u4sI&si=AVz_JeU6i-lWDk6j
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษก ทบ.โต้ “มาลี” ป้องแม่ทัพภาค 2 ย้ำไทยไม่มีความพยายามที่มีการยั่วยุหรือวางแผนใช้กำลังทางทหาร ต่อกรณีประสาทตาควาย อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000076203

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    โฆษก ทบ.โต้ “มาลี” ป้องแม่ทัพภาค 2 ย้ำไทยไม่มีความพยายามที่มีการยั่วยุหรือวางแผนใช้กำลังทางทหาร ต่อกรณีประสาทตาควาย อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000076203 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 531 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษก ทบ.โต้ “มาลี” ป้องแม่ทัพภาค 2 ย้ำไทยไม่มีความพยายามที่มีการยั่วยุหรือวางแผนใช้กำลังทางทหาร ต่อกรณีปราสาทตาควาย อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง

    วันนี้(11 ส.ค.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก(ทบ.)กล่าวถึง กรณี พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในเรื่องของปราสาทตาควาย ขอยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาค 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลังเพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา

    สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ เลยวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร

    แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสมของอนาคต พร้อมกล่าวว่าจะเตรียมการนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงกรอบ RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม

    ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ไช่ความพยายามที่มีการยั่วยุ และมีการวางแผน ใช้กำลังทางทหารต่อกรณีประสาทตาควาย อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000076203

    #MGROnline #มาลี #แม่ทัพภาค2 #ปราสาทตาควาย
    โฆษก ทบ.โต้ “มาลี” ป้องแม่ทัพภาค 2 ย้ำไทยไม่มีความพยายามที่มีการยั่วยุหรือวางแผนใช้กำลังทางทหาร ต่อกรณีปราสาทตาควาย อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง • วันนี้(11 ส.ค.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก(ทบ.)กล่าวถึง กรณี พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในเรื่องของปราสาทตาควาย ขอยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาค 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลังเพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา • สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ เลยวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร • แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสมของอนาคต พร้อมกล่าวว่าจะเตรียมการนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงกรอบ RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม • ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ไช่ความพยายามที่มีการยั่วยุ และมีการวางแผน ใช้กำลังทางทหารต่อกรณีประสาทตาควาย อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000076203 • #MGROnline #มาลี #แม่ทัพภาค2 #ปราสาทตาควาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากแดนมังกร: แผน “เมกะเมอร์เจอร์” ของจีนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่สะดุดกลางทาง

    จีนมีเป้าหมายใหญ่ในการรวมบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์และชิปให้กลายเป็น “แชมป์แห่งชาติ” ที่สามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ และยุโรปได้ โดยหวังว่าจะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งในประเทศเอง

    แต่แผนการนี้กลับสะดุดอย่างหนัก เพราะมีอุปสรรคหลายด้าน ทั้งการประเมินมูลค่าที่ไม่ลงตัว ความขัดแย้งทางการเมือง และช่องว่างทางเทคโนโลยีที่ยังห่างไกลจากคู่แข่งระดับโลก

    แม้จะมีความพยายามจากหน่วยงานรัฐอย่าง NDRC ที่พยายามรวมบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือผลิตชิปให้เป็นหนึ่งเดียว แต่การเจรจากลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างผู้ขายที่ไม่อยากขายต่ำกว่าราคาตลาด กับผู้ซื้อที่ไม่อยากจ่ายแพงเกินจริง

    ในขณะเดียวกัน บริษัทขนาดเล็กจำนวนมากในจีนก็ล้มละลายหรือถอนตัวจากตลาด IPO ทำให้รัฐบาลต้องหันมาเน้นการควบรวมกิจการแทนการลงทุนกระจาย เพื่อรวมทรัพยากรและบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพสูง

    ถึงแม้ภาพรวมจะดูไม่สดใส แต่ก็ยังมีข่าวดีบ้าง เช่น Naura Technology เข้าซื้อหุ้นใน Kingsemi เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี

    จีนพยายามรวมบริษัทผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ให้เป็นหนึ่งเดียว
    เพื่อแข่งกับ Applied Materials, KLA และ Lam Research จากสหรัฐฯ

    หน่วยงาน NDRC เป็นผู้ผลักดันแผนการรวมกิจการ
    หวังลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความเข้ากันได้ของเครื่องมือ

    Naura Technology เข้าซื้อหุ้น 9.49% ใน Kingsemi มูลค่า $235 ล้าน
    เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี

    มีการประกาศควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แล้ว 26 รายการในปี 2025
    รวมถึงการควบรวมระหว่าง Sugon และ Hygon

    รัฐบาลจีนต้องการสร้าง “แชมป์แห่งชาติ” ที่มีขนาดใหญ่และแข่งขันระดับโลกได้
    เพื่อดึงดูดเงินทุนและรวมบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-semiconductor-megamerger-strategy-reportedly-stalling-new-report-says-high-level-merger-plans-to-strengthen-domestic-chip-industry-face-multiple-headwinds
    🇨🇳🔧 เรื่องเล่าจากแดนมังกร: แผน “เมกะเมอร์เจอร์” ของจีนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่สะดุดกลางทาง จีนมีเป้าหมายใหญ่ในการรวมบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์และชิปให้กลายเป็น “แชมป์แห่งชาติ” ที่สามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ และยุโรปได้ โดยหวังว่าจะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งในประเทศเอง แต่แผนการนี้กลับสะดุดอย่างหนัก เพราะมีอุปสรรคหลายด้าน ทั้งการประเมินมูลค่าที่ไม่ลงตัว ความขัดแย้งทางการเมือง และช่องว่างทางเทคโนโลยีที่ยังห่างไกลจากคู่แข่งระดับโลก แม้จะมีความพยายามจากหน่วยงานรัฐอย่าง NDRC ที่พยายามรวมบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือผลิตชิปให้เป็นหนึ่งเดียว แต่การเจรจากลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างผู้ขายที่ไม่อยากขายต่ำกว่าราคาตลาด กับผู้ซื้อที่ไม่อยากจ่ายแพงเกินจริง ในขณะเดียวกัน บริษัทขนาดเล็กจำนวนมากในจีนก็ล้มละลายหรือถอนตัวจากตลาด IPO ทำให้รัฐบาลต้องหันมาเน้นการควบรวมกิจการแทนการลงทุนกระจาย เพื่อรวมทรัพยากรและบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพสูง ถึงแม้ภาพรวมจะดูไม่สดใส แต่ก็ยังมีข่าวดีบ้าง เช่น Naura Technology เข้าซื้อหุ้นใน Kingsemi เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี ✅ จีนพยายามรวมบริษัทผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ให้เป็นหนึ่งเดียว ➡️ เพื่อแข่งกับ Applied Materials, KLA และ Lam Research จากสหรัฐฯ ✅ หน่วยงาน NDRC เป็นผู้ผลักดันแผนการรวมกิจการ ➡️ หวังลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความเข้ากันได้ของเครื่องมือ ✅ Naura Technology เข้าซื้อหุ้น 9.49% ใน Kingsemi มูลค่า $235 ล้าน ➡️ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี ✅ มีการประกาศควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แล้ว 26 รายการในปี 2025 ➡️ รวมถึงการควบรวมระหว่าง Sugon และ Hygon ✅ รัฐบาลจีนต้องการสร้าง “แชมป์แห่งชาติ” ที่มีขนาดใหญ่และแข่งขันระดับโลกได้ ➡️ เพื่อดึงดูดเงินทุนและรวมบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-semiconductor-megamerger-strategy-reportedly-stalling-new-report-says-high-level-merger-plans-to-strengthen-domestic-chip-industry-face-multiple-headwinds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: วิศวกร AI ปฏิเสธเงินพันล้านจาก Meta เพื่อสร้างอนาคตในแบบที่ตัวเองเชื่อ

    Meta พยายามดึงตัวทีมงานจาก Thinking Machines Lab ซึ่งนำโดย Andrew Tulloch และ Mira Murati—สองบุคคลสำคัญที่เคยมีบทบาทใน Meta และ OpenAI โดยเสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนที่อาจรวมสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ในระยะหลายปี ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัส

    แต่ทั้ง Tulloch และ Murati รวมถึงทีมงานของพวกเขา ปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาต้องการสร้างเทคโนโลยีในแบบที่มีจริยธรรม ไม่ถูกครอบงำด้วยเป้าหมายทางโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น

    เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ในวงการ AI ที่นักพัฒนาเริ่มให้ความสำคัญกับ “เป้าหมายร่วม” และ “ความไว้วางใจในผู้นำ” มากกว่าการไล่ตามเงินก้อนโต ซึ่ง Meta แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล ก็ยังไม่สามารถดึงตัวนักวิจัยระดับสูงจากคู่แข่งได้มากนัก

    Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $1.5 พันล้านให้กับ Andrew Tulloch และทีม Thinking Machines
    ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัสในระยะหลายปี
    เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่สูงที่สุดในวงการ AI

    Mira Murati และทีมงานของเธอปฏิเสธข้อเสนอจาก Meta ทั้งหมด
    ไม่เพียงแต่ปฏิเสธการเข้าซื้อกิจการ แต่ยังปฏิเสธข้อเสนอส่วนตัว
    แสดงจุดยืนชัดเจนในการรักษาอุดมการณ์ขององค์กร

    Meta ไม่ปฏิเสธว่ามีความพยายามดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่ง
    แม้จะบอกว่าตัวเลขอาจถูกกล่าวเกินจริง
    แต่ยอมรับว่ามีการทาบทามนักวิจัยระดับสูงจริง

    แนวโน้มใหม่ในวงการ AI คือการเลือก “เป้าหมายร่วม” มากกว่า “ค่าตอบแทนสูงสุด”
    วิศวกรบางคนต้องการสร้างเทคโนโลยีที่มีจริยธรรม
    ไม่ต้องการให้ผลงานถูกใช้เพื่อโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น

    Meta สามารถดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่งได้เพียงจำนวนน้อย แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล
    การแข่งขันด้าน AI ไม่ได้วัดกันแค่เงิน
    ความเชื่อมั่นในผู้นำและเป้าหมายองค์กรกลายเป็นปัจจัยสำคัญ

    https://www.techspot.com/news/108917-ai-engineers-reject-meta-15-billion-offers-stay.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: วิศวกร AI ปฏิเสธเงินพันล้านจาก Meta เพื่อสร้างอนาคตในแบบที่ตัวเองเชื่อ Meta พยายามดึงตัวทีมงานจาก Thinking Machines Lab ซึ่งนำโดย Andrew Tulloch และ Mira Murati—สองบุคคลสำคัญที่เคยมีบทบาทใน Meta และ OpenAI โดยเสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนที่อาจรวมสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ในระยะหลายปี ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัส แต่ทั้ง Tulloch และ Murati รวมถึงทีมงานของพวกเขา ปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาต้องการสร้างเทคโนโลยีในแบบที่มีจริยธรรม ไม่ถูกครอบงำด้วยเป้าหมายทางโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ในวงการ AI ที่นักพัฒนาเริ่มให้ความสำคัญกับ “เป้าหมายร่วม” และ “ความไว้วางใจในผู้นำ” มากกว่าการไล่ตามเงินก้อนโต ซึ่ง Meta แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล ก็ยังไม่สามารถดึงตัวนักวิจัยระดับสูงจากคู่แข่งได้มากนัก ✅ Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $1.5 พันล้านให้กับ Andrew Tulloch และทีม Thinking Machines ➡️ ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัสในระยะหลายปี ➡️ เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่สูงที่สุดในวงการ AI ✅ Mira Murati และทีมงานของเธอปฏิเสธข้อเสนอจาก Meta ทั้งหมด ➡️ ไม่เพียงแต่ปฏิเสธการเข้าซื้อกิจการ แต่ยังปฏิเสธข้อเสนอส่วนตัว ➡️ แสดงจุดยืนชัดเจนในการรักษาอุดมการณ์ขององค์กร ✅ Meta ไม่ปฏิเสธว่ามีความพยายามดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่ง ➡️ แม้จะบอกว่าตัวเลขอาจถูกกล่าวเกินจริง ➡️ แต่ยอมรับว่ามีการทาบทามนักวิจัยระดับสูงจริง ✅ แนวโน้มใหม่ในวงการ AI คือการเลือก “เป้าหมายร่วม” มากกว่า “ค่าตอบแทนสูงสุด” ➡️ วิศวกรบางคนต้องการสร้างเทคโนโลยีที่มีจริยธรรม ➡️ ไม่ต้องการให้ผลงานถูกใช้เพื่อโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ✅ Meta สามารถดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่งได้เพียงจำนวนน้อย แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล ➡️ การแข่งขันด้าน AI ไม่ได้วัดกันแค่เงิน ➡️ ความเชื่อมั่นในผู้นำและเป้าหมายองค์กรกลายเป็นปัจจัยสำคัญ https://www.techspot.com/news/108917-ai-engineers-reject-meta-15-billion-offers-stay.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI engineers reject Meta's $1.5 billion offers to build on their own terms
    While not in the majority, many engineers are choosing to pass up unprecedented offers in favor of staying loyal to their mission, values, and the chance to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: ธีม WordPress “Alone” ถูกเจาะทะลุ—เปิดทางให้แฮกเกอร์ยึดเว็บแบบเงียบ ๆ

    ธีม Alone – Charity Multipurpose Non-profit ซึ่งถูกใช้ในเว็บไซต์องค์กรการกุศลกว่า 200 แห่งทั่วโลก ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-4394 ที่เปิดให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถอัปโหลดไฟล์ ZIP ที่มี backdoor PHP เพื่อรันคำสั่งจากระยะไกล และสร้างบัญชีผู้ดูแลระบบปลอมได้ทันที

    ช่องโหว่นี้มีอยู่ในทุกเวอร์ชันก่อน 7.8.5 ซึ่งเพิ่งได้รับการแก้ไขเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 แต่การโจมตีเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม ก่อนที่ช่องโหว่จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะเพียง 2 วัน โดย Wordfence รายงานว่ามีความพยายามโจมตีมากกว่า 120,000 ครั้งแล้วจากหลาย IP ทั่วโลก

    แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้เพื่อ:
    - สร้างบัญชีแอดมินปลอม
    - อัปโหลดมัลแวร์
    - เปลี่ยนเส้นทางผู้เยี่ยมชมไปยังเว็บฟิชชิ่ง
    - ใช้เว็บไซต์เป็นฐานปล่อยมัลแวร์อื่น

    ธีม Alone – Charity Multipurpose ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-4394
    คะแนนความรุนแรง 9.8/10
    เปิดทางให้แฮกเกอร์อัปโหลดไฟล์และรันคำสั่งจากระยะไกล

    ช่องโหว่นี้มีอยู่ในทุกเวอร์ชันก่อน 7.8.5
    เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 7.8.5 ขึ้นไป
    ผู้ใช้ควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี

    Wordfence รายงานว่ามีการโจมตีมากกว่า 120,000 ครั้งแล้ว
    เริ่มโจมตีตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2025
    ใช้ไฟล์ ZIP ที่มี backdoor เช่น wp-classic-editor.zip

    แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอมและควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ
    ใช้เว็บไซต์เป็นฐานปล่อยมัลแวร์หรือ redirect ไปยังเว็บอันตราย
    อาจส่งผลต่อชื่อเสียงและข้อมูลผู้ใช้งาน

    ธีมนี้ถูกใช้ในเว็บไซต์องค์กรการกุศลและ NGO กว่า 200 แห่งทั่วโลก
    มีฟีเจอร์ donation integration และรองรับ Elementor/WPBakery
    เป็นธีมเชิงพาณิชย์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มไม่แสวงหากำไร

    หากยังใช้เวอร์ชันก่อน 7.8.5 เว็บไซต์ของคุณเสี่ยงต่อการถูกยึดครองทันที
    ช่องโหว่เปิดให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน
    อาจถูกใช้เป็นฐานปล่อยมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลผู้ใช้

    การโจมตีเกิดขึ้นก่อนการเปิดเผยช่องโหว่ต่อสาธารณะ
    แสดงว่าแฮกเกอร์ติดตามการเปลี่ยนแปลงโค้ดอย่างใกล้ชิด
    อาจมีการโจมตีแบบ zero-day ในธีมอื่น ๆ อีก

    ผู้ดูแลเว็บไซต์อาจไม่รู้ว่าถูกเจาะ เพราะมัลแวร์ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน
    เช่น การสร้างผู้ใช้ชื่อ “officialwp” หรือการซ่อนไฟล์ใน mu-plugins
    ต้องตรวจสอบ log และผู้ใช้แอดมินอย่างละเอียด

    การใช้ธีมและปลั๊กอินจากแหล่งที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มความเสี่ยงอย่างมาก
    ธีมเชิงพาณิชย์ที่ไม่มีการอัปเดตสม่ำเสมออาจมีช่องโหว่
    ควรใช้ธีมที่ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย

    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-target-critical-wordpress-theme-flaw-thousands-of-sites-at-risk-from-potential-takeover-find-out-if-youre-affected
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: ธีม WordPress “Alone” ถูกเจาะทะลุ—เปิดทางให้แฮกเกอร์ยึดเว็บแบบเงียบ ๆ ธีม Alone – Charity Multipurpose Non-profit ซึ่งถูกใช้ในเว็บไซต์องค์กรการกุศลกว่า 200 แห่งทั่วโลก ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-4394 ที่เปิดให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถอัปโหลดไฟล์ ZIP ที่มี backdoor PHP เพื่อรันคำสั่งจากระยะไกล และสร้างบัญชีผู้ดูแลระบบปลอมได้ทันที ช่องโหว่นี้มีอยู่ในทุกเวอร์ชันก่อน 7.8.5 ซึ่งเพิ่งได้รับการแก้ไขเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 แต่การโจมตีเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม ก่อนที่ช่องโหว่จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะเพียง 2 วัน โดย Wordfence รายงานว่ามีความพยายามโจมตีมากกว่า 120,000 ครั้งแล้วจากหลาย IP ทั่วโลก แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้เพื่อ: - สร้างบัญชีแอดมินปลอม - อัปโหลดมัลแวร์ - เปลี่ยนเส้นทางผู้เยี่ยมชมไปยังเว็บฟิชชิ่ง - ใช้เว็บไซต์เป็นฐานปล่อยมัลแวร์อื่น ✅ ธีม Alone – Charity Multipurpose ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-4394 ➡️ คะแนนความรุนแรง 9.8/10 ➡️ เปิดทางให้แฮกเกอร์อัปโหลดไฟล์และรันคำสั่งจากระยะไกล ✅ ช่องโหว่นี้มีอยู่ในทุกเวอร์ชันก่อน 7.8.5 ➡️ เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 7.8.5 ขึ้นไป ➡️ ผู้ใช้ควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี ✅ Wordfence รายงานว่ามีการโจมตีมากกว่า 120,000 ครั้งแล้ว ➡️ เริ่มโจมตีตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2025 ➡️ ใช้ไฟล์ ZIP ที่มี backdoor เช่น wp-classic-editor.zip ✅ แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอมและควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ ➡️ ใช้เว็บไซต์เป็นฐานปล่อยมัลแวร์หรือ redirect ไปยังเว็บอันตราย ➡️ อาจส่งผลต่อชื่อเสียงและข้อมูลผู้ใช้งาน ✅ ธีมนี้ถูกใช้ในเว็บไซต์องค์กรการกุศลและ NGO กว่า 200 แห่งทั่วโลก ➡️ มีฟีเจอร์ donation integration และรองรับ Elementor/WPBakery ➡️ เป็นธีมเชิงพาณิชย์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มไม่แสวงหากำไร ‼️ หากยังใช้เวอร์ชันก่อน 7.8.5 เว็บไซต์ของคุณเสี่ยงต่อการถูกยึดครองทันที ⛔ ช่องโหว่เปิดให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน ⛔ อาจถูกใช้เป็นฐานปล่อยมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลผู้ใช้ ‼️ การโจมตีเกิดขึ้นก่อนการเปิดเผยช่องโหว่ต่อสาธารณะ ⛔ แสดงว่าแฮกเกอร์ติดตามการเปลี่ยนแปลงโค้ดอย่างใกล้ชิด ⛔ อาจมีการโจมตีแบบ zero-day ในธีมอื่น ๆ อีก ‼️ ผู้ดูแลเว็บไซต์อาจไม่รู้ว่าถูกเจาะ เพราะมัลแวร์ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ⛔ เช่น การสร้างผู้ใช้ชื่อ “officialwp” หรือการซ่อนไฟล์ใน mu-plugins ⛔ ต้องตรวจสอบ log และผู้ใช้แอดมินอย่างละเอียด ‼️ การใช้ธีมและปลั๊กอินจากแหล่งที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มความเสี่ยงอย่างมาก ⛔ ธีมเชิงพาณิชย์ที่ไม่มีการอัปเดตสม่ำเสมออาจมีช่องโหว่ ⛔ ควรใช้ธีมที่ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย https://www.techradar.com/pro/security/hackers-target-critical-wordpress-theme-flaw-thousands-of-sites-at-risk-from-potential-takeover-find-out-if-youre-affected
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพภาคที่ 2 รายงานฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พบการก่อกวนและการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในหลายพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้กลับตามสถานการณ์ ด้านการพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ โฆษก ทบ. เผยยังคงมีความพยายามดำเนินการ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000071439

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กองทัพภาคที่ 2 รายงานฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พบการก่อกวนและการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในหลายพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้กลับตามสถานการณ์ ด้านการพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ โฆษก ทบ. เผยยังคงมีความพยายามดำเนินการ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000071439 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 661 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาฬิกาปลุก
    ปี พศ 2568

    วันหนึ่งนานประมาณยี่สิบปีมาแล้ว ผมนั่งรถลงใต้ มันเป็นช่วงต้นหน้าฝนฟ้าครึ้ม
    อากาศกำลังสบาย ผมนั่งเหม่อ ๆ ดู 2 ข้างทางไปเรื่อย ๆ
    สัก 4 โมงเย็นรถก็ผ่านตรงช่วงเขาวัง เพชรบุรี ผมมองขึ้นไปที่พระราชวังบนยอดเขา
    เห็นแสงแดดกำลังส่องทะลุเมฆไปต้องพระราชวัง ทำให้พระราชวังงดงามเหลือเกิน
    ผมยกมือไหว้สักการะอย่างที่ทำทุกครั้งที่ผ่าน …
    ความรู้สึกของผมตอนนั้นบอกไม่ถูก เหมือนข้ามเวลา ข้ามมิติ
    ผมนึกในใจ นี่คงเหมือนเราเห็นสวรรค์กระมังนะ …ยังไม่เคยไป ได้แต่เดา

    แล้วรถก็แล่นผ่านทุ่งนากับต้นตาล ที่ยังพอมีให้เห็นชื่นใจ
    ดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงออกมามากขึ้น มันเป็นเวลาที่เขาเรียกว่าแดดสวย
    ผมมองทุ่งนาสีเขียวสดผืนใหญ่ กับทิวเขายาวอยู่ไกล ๆ
    เมฆที่ยอดเขาสะท้อนกับแสงอาทิตย์ สีสวยจัด มันสวยสงบและรู้สึกอบอุ่น
    เป็นภาพที่อยู่ในใจผมอย่างไม่มีวันจาง ทุกครั้งที่ผมนึกถึงวันนั้น
    ผมจะมีอาการตื้นตันบอกตัวเอง นี่ คือ … วาสนาของชาวสยาม…
    วาสนาที่บางทีเราลืมที่จะนึกถึงและรับรู้… เพราะถูกบดบังจากสิ่งลวงตา

    เราอยู่ในแผ่นดิน ที่เคยได้รับคำกล่าวขานว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีความอุดมสมบูรณ์
    มีศาสนา มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการศึกษา การอบรมเลี้ยงดู ศิลปะ วัฒนธรรมประเพณี
    ชีวิตความเป็นอยู่ที่สอดคล้องกับธรรมชาติของบ้านเรามาเป็นเวลานานแล้ว …

    แต่ปัจจุบันนี้ ดูเหมือนเราจะมองข้าม หรือไม่ใส่ใจจริง
    กับความโชคดีและวาสนาของเรานัก …เรามักจะหลงไหลได้ปลื้ม
    กับบรรดาสรรพสิ่งไม่ว่าเป็นรูปแบบใด ที่ “พวกตะวันตก” เขาเอามาฝังหัวลวงหลอกเราไว้
    แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนจะแกะลอกล้างสิ่งที่พวกเขาฝั่งเอาไว้ไม่ออก
    ไม่สะอาดหมดจดเสียที

    ผมตั้งข้อสังเกต ปนสงสัยมานานแล้วว่าเหตุการณ์ในบ้านเมืองเรา
    ที่เกิดขึ้นอย่างน้อยก็ตั้งแต่ช่วงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง น่าจะมีส่วนเกี่ยวโยง
    กับปัจจัยนอกบ้าน มากกว่าที่เราคิด
    ผมค่อย ๆ หาข้อมูลมาอ่านแก้ความสงสัยของตัวเองไปเรื่อย ๆ แต่มันไปไม่ได้
    ไกลอย่างที่ต้องการ เพราะเวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการทำงานเพื่อดำรงชีพ
    และก็ไปทำเรื่องอื่น ๆ ที่สุดท้ายแล้ว ก็เลยยังไม่ได้คำตอบมาแก้ข้อสงสัยที่ค้างอยู่นั้น

    หลายสิบปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ในบ้านเราเกิดขึ้นมากมาย มีความพยายามแก้ปัญหา
    แต่เหมือนแก้ไม่ถูกจุด เหมือนเรามองข้าม หรือเรามองปัญหาไม่แตก
    มันทำให้ผมย้อนกลับมาคิดถึงข้อสงสัย เกี่ยวกับปัจจัยนอกบ้านที่ยังคาใจผมอยู่

    และถ้ามันเป็นอย่างที่ผมสงสัยจริง…และถ้าเราไม่ตื่นมารู้เรื่องด้วยกัน
    อีกไม่นานหรอก ประเทศเราอาจจะตกเป็นเหยื่อ เป็นอาณานิคมในรูปแบบใหม่ต่อไป
    และวันนั้น สีของธงชาติเราไม่รู้จะยังอยู่ครบไหม
    สถาบันที่เรารักเคารพ วัดพระแก้ว เขาวัง ท้องนาสีเขียวและอีกหลาย ๆ อย่าง ฯลฯ
    ไม่รู้จะเหลืออยู่แค่ไหน แบบไหน…หรือมันจะกลายเป็นเหมือนหลายๆเมือง
    ที่เราเห็นในข่าว !?!

    คำถามเกิดขึ้นในหัวเต็มไปหมด

    ผมบอกตัวเองว่า มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าชาวสยามรับรู้ถึงวาสนาของตนเอง
    และทำความเข้าใจกับความเป็นไปทั้งนอกบ้านและในบ้านเมืองของเราให้มากขึ้น
    จะได้มีความหวงและห่วงใยบ้านเมืองของเรา…บ้านของเรานะครับ

    ผมนึกถึงวันที่ผมเห็นแดดทอแสงสวยบนเขาวัง กับท้องนาที่เขียวชอุ่มกับเมฆสีสวย

    แล้วผมก็ตัดสินใจเขียนนิทาน เกี่ยวกับการเมืองโลก ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยเขียนอะไร
    เป็นเรื่องเป็นราวมาก่อนเลย ผมเล่ามุมมองของผม แบบอ่านง่าย ๆ และนำมาลง
    ให้อ่านผ่านเพจนิทานเรื่องจริง ตำนานการลวงหลอกล่อฯ ทางเฟสบุ๊ก
    ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2556 …
    ผมเขียนไปและอ่านข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆทุกวันๆละประมาณ 10 ชั่วโมง
    มาตลอด เว้นแต่ช่วงเวลาที่สุขภาพของผมไม่อำนวย จนถึงตอนนี้ (พศ 2568)
    ผมมีเอกสารและหนังสือที่ใช้เขียนนิทาน ถึง 4 ตู้ใหญ่ 5 ตู้เล็ก กับอีก 20 กล่อง

    เมื่อผมเริ่มเขียนนิทาน ผมมีความเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย ว่าการล่าเหยื่อ
    ล่าอาณานิคมยังมีอยู่ เพียงแต่มีการพรางตัวเปลี่ยนรูปแบบการล่าไปตามยุคสมัย
    มันไม่ใช่เป็นเพียงข้อสังเกตหรือข้อสงสัยอีกแล้ว …สำหรับผมมันเป็นข้อเท็จจริง…
    บ้านเมืองเราตกเป็นเหยื่อของต่างชาติ มานานเต็มทีแล้ว!!

    และมาถึงวันนี้ ผมเชื่อว่าโลกเรากำลังจะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่
    ในอีกไม่นานนัก และการเปลี่ยนแปลงนั้น อาจจะมาเร็วจนเราตั้งตัวตั้งสติไม่ทัน

    บ้านเรามีการเตรียมการอะไรไหม ผมตอบไม่ได้ ผมไม่ได้เป็นผู้บริหารประเทศ
    สิ่งที่ผมพอทำได้ในฐานะประชาชน และกำลังทำอยู่ คือ เล่านิทาน
    เพื่อให้ทำหน้าที่เหมือนเป็นนาฬิกาปลุก ให้เพื่อนร่วมชาติตื่นขึ้นมาสนใจ
    เหตุการณ์นอกบ้าน ที่อาจกระทบกับบ้านเมืองเรา และเกิดความรู้สึกห่วงใย
    หวงแหนบ้านเมืองของเราบ้าง พร้อมกับเตรียมการเตรียมตัวรับมือ
    กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก…
    ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ว่าอาจจะหนักหนาสาหัสยิ่งนัก !!!

    นิทานแต่ละเรื่อง แม้จะเขียนเรื่องต่างประเทศ แต่ผมได้พยายามเขียนระหว่างบรรทัด
    ให้ข้อคิดเกี่ยวกับบ้านเมืองของเราไปด้วย ผมพยายามร้อยเรียงนิทาน
    โดยเริ่มจากเรื่องในบ้านเรา เล่ามาเรื่อย ๆ ถึง การล่าการตกเป็นเหยื่อ
    การต่อสู้ดิ้นรนของเหยื่อ และวิธีการของนักล่าในการงับเหยื่อในรูปแบบต่างๆ
    เพื่อไม่ให้เหยื่อมีโอกาสหลุดออกจากปากของมัน และตัวละครสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

    มาถึงปัจจุบันนี้ (เดือน เมษายน พศ 2568)
    ผมไม่แน่ใจว่าผมจะมีกำลังเขียนนิทานลงในเพจไปได้อีกหรือไม่
    หรือเขียนได้อีกนานเท่าไหร่ เนื่องจากสภาพสังขารของผมเอง
    และปัจจัยอื่น ที่มันเกินการควบคุมของผม …

    ผมคาดว่านิทานเรื่องจริงฯ ที่ผมเขียนมานั้น น่าจะเป็นที่สนใจสำหรับผู้ที่ติดตาม
    การเมืองโลก และเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการรักษาชาติบ้านเมือง รักษาแผ่นดิน
    และสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา…
    และยังทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุกที่ไม่ล้าสมัยเกินไป
    ผมจึงเอานิทานเรื่องจริงฯ เล่มที่ 1 ถึง 9 (หน้าปกสีส้ม)ที่เคยได้ตีพิมพ์มาครั้งหนึ่ง
    เมื่อเดือนตุลาคม พศ 2559 และเล่มที่ 10 (หน้าปกสีส้ม) เมื่อเดือนมีนาคม พศ 2560
    รวมทั้งนิทานที่เขียนและลงโพสต์ไปแล้วทั้งหมด จนถึงเรื่องสุดท้าย (ปี พศ 2567)
    (หน้าปกสีน้ำเงิน) แต่ยังไม่ได้มีโอกาสตีพิมพ์เป็นเล่ม มาจัดให้อยู่ในรูปเว็บไซต์
    อย่างเป็นระบบ เพื่อผู้ที่มีความสนใจ จะได้เข้าถึงอย่างสะดวกขึ้น…

    ขอบคุณครับ
    จากคนเล่านิทาน
    20 เมษายน 2568
    นาฬิกาปลุก ปี พศ 2568 วันหนึ่งนานประมาณยี่สิบปีมาแล้ว ผมนั่งรถลงใต้ มันเป็นช่วงต้นหน้าฝนฟ้าครึ้ม อากาศกำลังสบาย ผมนั่งเหม่อ ๆ ดู 2 ข้างทางไปเรื่อย ๆ สัก 4 โมงเย็นรถก็ผ่านตรงช่วงเขาวัง เพชรบุรี ผมมองขึ้นไปที่พระราชวังบนยอดเขา เห็นแสงแดดกำลังส่องทะลุเมฆไปต้องพระราชวัง ทำให้พระราชวังงดงามเหลือเกิน ผมยกมือไหว้สักการะอย่างที่ทำทุกครั้งที่ผ่าน … ความรู้สึกของผมตอนนั้นบอกไม่ถูก เหมือนข้ามเวลา ข้ามมิติ ผมนึกในใจ นี่คงเหมือนเราเห็นสวรรค์กระมังนะ …ยังไม่เคยไป ได้แต่เดา แล้วรถก็แล่นผ่านทุ่งนากับต้นตาล ที่ยังพอมีให้เห็นชื่นใจ ดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงออกมามากขึ้น มันเป็นเวลาที่เขาเรียกว่าแดดสวย ผมมองทุ่งนาสีเขียวสดผืนใหญ่ กับทิวเขายาวอยู่ไกล ๆ เมฆที่ยอดเขาสะท้อนกับแสงอาทิตย์ สีสวยจัด มันสวยสงบและรู้สึกอบอุ่น เป็นภาพที่อยู่ในใจผมอย่างไม่มีวันจาง ทุกครั้งที่ผมนึกถึงวันนั้น ผมจะมีอาการตื้นตันบอกตัวเอง นี่ คือ … วาสนาของชาวสยาม… วาสนาที่บางทีเราลืมที่จะนึกถึงและรับรู้… เพราะถูกบดบังจากสิ่งลวงตา เราอยู่ในแผ่นดิน ที่เคยได้รับคำกล่าวขานว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีความอุดมสมบูรณ์ มีศาสนา มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการศึกษา การอบรมเลี้ยงดู ศิลปะ วัฒนธรรมประเพณี ชีวิตความเป็นอยู่ที่สอดคล้องกับธรรมชาติของบ้านเรามาเป็นเวลานานแล้ว … แต่ปัจจุบันนี้ ดูเหมือนเราจะมองข้าม หรือไม่ใส่ใจจริง กับความโชคดีและวาสนาของเรานัก …เรามักจะหลงไหลได้ปลื้ม กับบรรดาสรรพสิ่งไม่ว่าเป็นรูปแบบใด ที่ “พวกตะวันตก” เขาเอามาฝังหัวลวงหลอกเราไว้ แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนจะแกะลอกล้างสิ่งที่พวกเขาฝั่งเอาไว้ไม่ออก ไม่สะอาดหมดจดเสียที ผมตั้งข้อสังเกต ปนสงสัยมานานแล้วว่าเหตุการณ์ในบ้านเมืองเรา ที่เกิดขึ้นอย่างน้อยก็ตั้งแต่ช่วงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง น่าจะมีส่วนเกี่ยวโยง กับปัจจัยนอกบ้าน มากกว่าที่เราคิด ผมค่อย ๆ หาข้อมูลมาอ่านแก้ความสงสัยของตัวเองไปเรื่อย ๆ แต่มันไปไม่ได้ ไกลอย่างที่ต้องการ เพราะเวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการทำงานเพื่อดำรงชีพ และก็ไปทำเรื่องอื่น ๆ ที่สุดท้ายแล้ว ก็เลยยังไม่ได้คำตอบมาแก้ข้อสงสัยที่ค้างอยู่นั้น หลายสิบปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ในบ้านเราเกิดขึ้นมากมาย มีความพยายามแก้ปัญหา แต่เหมือนแก้ไม่ถูกจุด เหมือนเรามองข้าม หรือเรามองปัญหาไม่แตก มันทำให้ผมย้อนกลับมาคิดถึงข้อสงสัย เกี่ยวกับปัจจัยนอกบ้านที่ยังคาใจผมอยู่ และถ้ามันเป็นอย่างที่ผมสงสัยจริง…และถ้าเราไม่ตื่นมารู้เรื่องด้วยกัน อีกไม่นานหรอก ประเทศเราอาจจะตกเป็นเหยื่อ เป็นอาณานิคมในรูปแบบใหม่ต่อไป และวันนั้น สีของธงชาติเราไม่รู้จะยังอยู่ครบไหม สถาบันที่เรารักเคารพ วัดพระแก้ว เขาวัง ท้องนาสีเขียวและอีกหลาย ๆ อย่าง ฯลฯ ไม่รู้จะเหลืออยู่แค่ไหน แบบไหน…หรือมันจะกลายเป็นเหมือนหลายๆเมือง ที่เราเห็นในข่าว !?! คำถามเกิดขึ้นในหัวเต็มไปหมด ผมบอกตัวเองว่า มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าชาวสยามรับรู้ถึงวาสนาของตนเอง และทำความเข้าใจกับความเป็นไปทั้งนอกบ้านและในบ้านเมืองของเราให้มากขึ้น จะได้มีความหวงและห่วงใยบ้านเมืองของเรา…บ้านของเรานะครับ ผมนึกถึงวันที่ผมเห็นแดดทอแสงสวยบนเขาวัง กับท้องนาที่เขียวชอุ่มกับเมฆสีสวย แล้วผมก็ตัดสินใจเขียนนิทาน เกี่ยวกับการเมืองโลก ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยเขียนอะไร เป็นเรื่องเป็นราวมาก่อนเลย ผมเล่ามุมมองของผม แบบอ่านง่าย ๆ และนำมาลง ให้อ่านผ่านเพจนิทานเรื่องจริง ตำนานการลวงหลอกล่อฯ ทางเฟสบุ๊ก ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2556 … ผมเขียนไปและอ่านข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆทุกวันๆละประมาณ 10 ชั่วโมง มาตลอด เว้นแต่ช่วงเวลาที่สุขภาพของผมไม่อำนวย จนถึงตอนนี้ (พศ 2568) ผมมีเอกสารและหนังสือที่ใช้เขียนนิทาน ถึง 4 ตู้ใหญ่ 5 ตู้เล็ก กับอีก 20 กล่อง เมื่อผมเริ่มเขียนนิทาน ผมมีความเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย ว่าการล่าเหยื่อ ล่าอาณานิคมยังมีอยู่ เพียงแต่มีการพรางตัวเปลี่ยนรูปแบบการล่าไปตามยุคสมัย มันไม่ใช่เป็นเพียงข้อสังเกตหรือข้อสงสัยอีกแล้ว …สำหรับผมมันเป็นข้อเท็จจริง… บ้านเมืองเราตกเป็นเหยื่อของต่างชาติ มานานเต็มทีแล้ว!! และมาถึงวันนี้ ผมเชื่อว่าโลกเรากำลังจะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ ในอีกไม่นานนัก และการเปลี่ยนแปลงนั้น อาจจะมาเร็วจนเราตั้งตัวตั้งสติไม่ทัน บ้านเรามีการเตรียมการอะไรไหม ผมตอบไม่ได้ ผมไม่ได้เป็นผู้บริหารประเทศ สิ่งที่ผมพอทำได้ในฐานะประชาชน และกำลังทำอยู่ คือ เล่านิทาน เพื่อให้ทำหน้าที่เหมือนเป็นนาฬิกาปลุก ให้เพื่อนร่วมชาติตื่นขึ้นมาสนใจ เหตุการณ์นอกบ้าน ที่อาจกระทบกับบ้านเมืองเรา และเกิดความรู้สึกห่วงใย หวงแหนบ้านเมืองของเราบ้าง พร้อมกับเตรียมการเตรียมตัวรับมือ กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก… ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ว่าอาจจะหนักหนาสาหัสยิ่งนัก !!! นิทานแต่ละเรื่อง แม้จะเขียนเรื่องต่างประเทศ แต่ผมได้พยายามเขียนระหว่างบรรทัด ให้ข้อคิดเกี่ยวกับบ้านเมืองของเราไปด้วย ผมพยายามร้อยเรียงนิทาน โดยเริ่มจากเรื่องในบ้านเรา เล่ามาเรื่อย ๆ ถึง การล่าการตกเป็นเหยื่อ การต่อสู้ดิ้นรนของเหยื่อ และวิธีการของนักล่าในการงับเหยื่อในรูปแบบต่างๆ เพื่อไม่ให้เหยื่อมีโอกาสหลุดออกจากปากของมัน และตัวละครสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาถึงปัจจุบันนี้ (เดือน เมษายน พศ 2568) ผมไม่แน่ใจว่าผมจะมีกำลังเขียนนิทานลงในเพจไปได้อีกหรือไม่ หรือเขียนได้อีกนานเท่าไหร่ เนื่องจากสภาพสังขารของผมเอง และปัจจัยอื่น ที่มันเกินการควบคุมของผม … ผมคาดว่านิทานเรื่องจริงฯ ที่ผมเขียนมานั้น น่าจะเป็นที่สนใจสำหรับผู้ที่ติดตาม การเมืองโลก และเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการรักษาชาติบ้านเมือง รักษาแผ่นดิน และสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา… และยังทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุกที่ไม่ล้าสมัยเกินไป ผมจึงเอานิทานเรื่องจริงฯ เล่มที่ 1 ถึง 9 (หน้าปกสีส้ม)ที่เคยได้ตีพิมพ์มาครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนตุลาคม พศ 2559 และเล่มที่ 10 (หน้าปกสีส้ม) เมื่อเดือนมีนาคม พศ 2560 รวมทั้งนิทานที่เขียนและลงโพสต์ไปแล้วทั้งหมด จนถึงเรื่องสุดท้าย (ปี พศ 2567) (หน้าปกสีน้ำเงิน) แต่ยังไม่ได้มีโอกาสตีพิมพ์เป็นเล่ม มาจัดให้อยู่ในรูปเว็บไซต์ อย่างเป็นระบบ เพื่อผู้ที่มีความสนใจ จะได้เข้าถึงอย่างสะดวกขึ้น… ขอบคุณครับ จากคนเล่านิทาน 20 เมษายน 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันอาทิตย์(27ก.ค.) เชื่อว่าทั้งไทยและกัมพูชา ต่างต้องการคลี่คลายความเห็นต่าง หลังได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำของทั้ง 2 ชาติ ซึ่งระหว่างนั้นเขาขู่ว่าจะไม่ปิดดีลข้อตกลงการค้ากับทั้ง 2 ประเทศ จนกว่าจะหยุดสู้รบ

    "ผมพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 และผมคิดว่าพวกเขาต้องการคลี่คลายความขัดแย้งแล้วในตอนนี้" ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าว ในช่วงต้นของการพบปะหารือทางการค้ากับ อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ในวันอาทิตย์(27ก.ค.)

    ทรัมป์ ยังเชื่อด้วยว่าพวกเจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชา มีกำหนดพบปะกันเร็วๆ นี้

    ก่อนหน้านี้ไทยและกัมพูชา ในวันอาทิตย์(27ก.ค.) ส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ชาติ พร้อมเจรจายุติข้อพิพาทนองเลือดด้านชายแดน ตามหลังมีความพยายามเป็นคนกลางโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เวลานี้การสู้รบที่เข้าสู่วันที่ 4 สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 34 รายและประชาชนต้องโยกย้ายถิ่นฐานกว่า 168,000 คน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000071049

    #MGROnline #ไทยกัมพูชา
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันอาทิตย์(27ก.ค.) เชื่อว่าทั้งไทยและกัมพูชา ต่างต้องการคลี่คลายความเห็นต่าง หลังได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำของทั้ง 2 ชาติ ซึ่งระหว่างนั้นเขาขู่ว่าจะไม่ปิดดีลข้อตกลงการค้ากับทั้ง 2 ประเทศ จนกว่าจะหยุดสู้รบ • "ผมพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 และผมคิดว่าพวกเขาต้องการคลี่คลายความขัดแย้งแล้วในตอนนี้" ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าว ในช่วงต้นของการพบปะหารือทางการค้ากับ อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ในวันอาทิตย์(27ก.ค.) • ทรัมป์ ยังเชื่อด้วยว่าพวกเจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชา มีกำหนดพบปะกันเร็วๆ นี้ • ก่อนหน้านี้ไทยและกัมพูชา ในวันอาทิตย์(27ก.ค.) ส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ชาติ พร้อมเจรจายุติข้อพิพาทนองเลือดด้านชายแดน ตามหลังมีความพยายามเป็นคนกลางโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เวลานี้การสู้รบที่เข้าสู่วันที่ 4 สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 34 รายและประชาชนต้องโยกย้ายถิ่นฐานกว่า 168,000 คน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000071049 • #MGROnline #ไทยกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “งานไอที” กลายเป็นช่องทางส่งเงินให้โครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

    ลองจินตนาการว่าคุณเป็นบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ที่จ้างพนักงานไอทีทำงานจากระยะไกล โดยเชื่อว่าเขาเป็นพลเมืองอเมริกัน แต่จริงๆ แล้ว เขาคือเจ้าหน้าที่จากเกาหลีเหนือที่ใช้ตัวตนปลอม และเงินเดือนที่คุณจ่ายไปนั้นถูกส่งตรงไปยังรัฐบาลเปียงยางเพื่อใช้ในโครงการอาวุธนิวเคลียร์!

    นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในคดีของ Christina Marie Chapman หญิงวัย 50 ปีจากรัฐแอริโซนา ที่ถูกตัดสินจำคุก 8.5 ปีในเดือนกรกฎาคม 2025 จากการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ไอทีของเกาหลีเหนือให้ได้งานในบริษัทสหรัฐฯ กว่า 309 แห่ง รวมถึงบริษัทระดับ Fortune 500 โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า “ฟาร์มแล็ปท็อป” เพื่อหลอกให้บริษัทเชื่อว่าพนักงานเหล่านั้นทำงานจากในประเทศ

    Christina Chapman ถูกตัดสินจำคุก 102 เดือน ฐานช่วยเหลือขบวนการหลอกลวงงานไอทีให้เกาหลีเหนือ
    รับโทษจำคุก 8.5 ปี พร้อมถูกควบคุมหลังพ้นโทษอีก 3 ปี
    ต้องยึดทรัพย์ $284,555.92 และจ่ายค่าปรับ $176,850

    ขบวนการนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า $17.1 ล้าน
    ใช้ตัวตนปลอมของชาวอเมริกัน 68 คน
    ส่งข้อมูลเท็จไปยังหน่วยงานรัฐกว่า 100 ครั้ง

    Chapman ดำเนินการ “ฟาร์มแล็ปท็อป” ที่บ้านของเธอ
    รับเครื่องจากบริษัทสหรัฐฯ แล้วให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าระบบจากต่างประเทศ
    ส่งแล็ปท็อป 49 เครื่องไปยังเมืองชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ

    บริษัทที่ถูกหลอกรวมถึงเครือข่ายโทรทัศน์รายใหญ่, บริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley, ผู้ผลิตรถยนต์และอากาศยาน
    มีความพยายามเข้าถึงหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ 2 แห่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้
    บางบริษัทถูกขบวนการนี้ “เลือกเป้าหมาย” โดยเฉพาะ

    รายได้จากงานไอทีถูกส่งกลับไปยังเกาหลีเหนือผ่านการฟอกเงิน
    Chapman รับเงินเดือนแทน, ปลอมลายเซ็น, ฝากเช็ค และโอนเงินไปต่างประเทศ
    รายได้ถูกแจ้งเท็จต่อ IRS และ Social Security

    FBI และ IRS เป็นผู้สืบสวนหลักในคดีนี้
    ยึดแล็ปท็อปกว่า 90 เครื่องจากบ้านของ Chapman
    ถือเป็นหนึ่งในคดีใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงงานไอทีของเกาหลีเหนือ

    รัฐบาลสหรัฐฯ ออกคำแนะนำใหม่สำหรับบริษัทในการตรวจสอบพนักงานระยะไกล
    ตรวจสอบเอกสารตัวตน, ประวัติการศึกษาและการทำงาน
    ใช้วิดีโอสัมภาษณ์แบบเปิดกล้องและตรวจสอบภาพพื้นหลัง

    บริษัทที่ไม่ตรวจสอบพนักงานระยะไกลอย่างเข้มงวดเสี่ยงต่อการถูกแทรกซึม
    อาจถูกขโมยข้อมูล, ติดมัลแวร์ หรือถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน
    การใช้บริษัทจัดหางานภายนอกเพิ่มความเสี่ยง

    การใช้ตัวตนปลอมสร้างภาระให้กับพลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกขโมยข้อมูล
    เกิดภาระภาษีเท็จและข้อมูลผิดพลาดในระบบราชการ
    สร้างความเสียหายทางจิตใจและการเงินแก่ผู้ถูกแอบอ้าง

    รายได้จากงานไอทีถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ
    เป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหประชาชาติ
    ส่งผลต่อความมั่นคงระดับโลก

    การใช้ AI และเทคโนโลยีใหม่เพิ่มความซับซ้อนในการปลอมตัว
    มีการใช้ AI เปลี่ยนภาพเอกสาร, ปรับเสียง และสร้างวิดีโอปลอม
    ทำให้การตรวจสอบตัวตนยากขึ้นสำหรับบริษัททั่วไป

    https://hackread.com/arizona-woman-jailed-help-north-korea-it-job-scam/
    🧑‍💻 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “งานไอที” กลายเป็นช่องทางส่งเงินให้โครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ลองจินตนาการว่าคุณเป็นบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ที่จ้างพนักงานไอทีทำงานจากระยะไกล โดยเชื่อว่าเขาเป็นพลเมืองอเมริกัน แต่จริงๆ แล้ว เขาคือเจ้าหน้าที่จากเกาหลีเหนือที่ใช้ตัวตนปลอม และเงินเดือนที่คุณจ่ายไปนั้นถูกส่งตรงไปยังรัฐบาลเปียงยางเพื่อใช้ในโครงการอาวุธนิวเคลียร์! นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในคดีของ Christina Marie Chapman หญิงวัย 50 ปีจากรัฐแอริโซนา ที่ถูกตัดสินจำคุก 8.5 ปีในเดือนกรกฎาคม 2025 จากการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ไอทีของเกาหลีเหนือให้ได้งานในบริษัทสหรัฐฯ กว่า 309 แห่ง รวมถึงบริษัทระดับ Fortune 500 โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า “ฟาร์มแล็ปท็อป” เพื่อหลอกให้บริษัทเชื่อว่าพนักงานเหล่านั้นทำงานจากในประเทศ ✅ Christina Chapman ถูกตัดสินจำคุก 102 เดือน ฐานช่วยเหลือขบวนการหลอกลวงงานไอทีให้เกาหลีเหนือ ➡️ รับโทษจำคุก 8.5 ปี พร้อมถูกควบคุมหลังพ้นโทษอีก 3 ปี ➡️ ต้องยึดทรัพย์ $284,555.92 และจ่ายค่าปรับ $176,850 ✅ ขบวนการนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า $17.1 ล้าน ➡️ ใช้ตัวตนปลอมของชาวอเมริกัน 68 คน ➡️ ส่งข้อมูลเท็จไปยังหน่วยงานรัฐกว่า 100 ครั้ง ✅ Chapman ดำเนินการ “ฟาร์มแล็ปท็อป” ที่บ้านของเธอ ➡️ รับเครื่องจากบริษัทสหรัฐฯ แล้วให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าระบบจากต่างประเทศ ➡️ ส่งแล็ปท็อป 49 เครื่องไปยังเมืองชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ ✅ บริษัทที่ถูกหลอกรวมถึงเครือข่ายโทรทัศน์รายใหญ่, บริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley, ผู้ผลิตรถยนต์และอากาศยาน ➡️ มีความพยายามเข้าถึงหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ 2 แห่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ ➡️ บางบริษัทถูกขบวนการนี้ “เลือกเป้าหมาย” โดยเฉพาะ ✅ รายได้จากงานไอทีถูกส่งกลับไปยังเกาหลีเหนือผ่านการฟอกเงิน ➡️ Chapman รับเงินเดือนแทน, ปลอมลายเซ็น, ฝากเช็ค และโอนเงินไปต่างประเทศ ➡️ รายได้ถูกแจ้งเท็จต่อ IRS และ Social Security ✅ FBI และ IRS เป็นผู้สืบสวนหลักในคดีนี้ ➡️ ยึดแล็ปท็อปกว่า 90 เครื่องจากบ้านของ Chapman ➡️ ถือเป็นหนึ่งในคดีใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงงานไอทีของเกาหลีเหนือ ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ ออกคำแนะนำใหม่สำหรับบริษัทในการตรวจสอบพนักงานระยะไกล ➡️ ตรวจสอบเอกสารตัวตน, ประวัติการศึกษาและการทำงาน ➡️ ใช้วิดีโอสัมภาษณ์แบบเปิดกล้องและตรวจสอบภาพพื้นหลัง ‼️ บริษัทที่ไม่ตรวจสอบพนักงานระยะไกลอย่างเข้มงวดเสี่ยงต่อการถูกแทรกซึม ⛔ อาจถูกขโมยข้อมูล, ติดมัลแวร์ หรือถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน ⛔ การใช้บริษัทจัดหางานภายนอกเพิ่มความเสี่ยง ‼️ การใช้ตัวตนปลอมสร้างภาระให้กับพลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกขโมยข้อมูล ⛔ เกิดภาระภาษีเท็จและข้อมูลผิดพลาดในระบบราชการ ⛔ สร้างความเสียหายทางจิตใจและการเงินแก่ผู้ถูกแอบอ้าง ‼️ รายได้จากงานไอทีถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ ⛔ เป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหประชาชาติ ⛔ ส่งผลต่อความมั่นคงระดับโลก ‼️ การใช้ AI และเทคโนโลยีใหม่เพิ่มความซับซ้อนในการปลอมตัว ⛔ มีการใช้ AI เปลี่ยนภาพเอกสาร, ปรับเสียง และสร้างวิดีโอปลอม ⛔ ทำให้การตรวจสอบตัวตนยากขึ้นสำหรับบริษัททั่วไป https://hackread.com/arizona-woman-jailed-help-north-korea-it-job-scam/
    HACKREAD.COM
    Arizona Woman Jailed for Helping North Korea in $17M IT Job Scam
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้
    .
    สถานการณ์การสู้รบ กลยุทธ์ฝ่ายตรงข้ามยังคงพยายามใช้กำลังทหารราบเข้าประชิดกำลังฝ่ายเราเพื่อพยายามเข้าโจมตีหลักในพื้นที่ ช่องบก, ซำแต, ภูมะเขือ, ช่องตาเฒ่า, ประสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย โดยมีการยิงด้วยอาวุธยิงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ, พื้นที่ช่องบก มีความพยายามที่จะยึดเนิน 469, พื้นที่ช่องอานม้า ปรับกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ การปะทะเบาบางลง, พื้นที่ซำแต ยังคงมีการโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ด้วยรถถัง และปืนใหญ่, พื้นที่สัตตะโสม ฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายอย่างหนัก, พื้นที่เขาพระวิหาร มีการปะทะอย่างต่อเนื่องบริเวณวัดพระแก้ว, พื้นที่ภูมะเขือ มีการดำเนินกลยุทธ์เพื่อยึดพื้นที่สำคัญให้เกิดความได้เปรียบอีกฝ่าย, พื้นที่เนิน 350 ถูกทำลายด้วยอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายเรา, พื้นที่ปราสาท ตาควาย (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ถูกอาวุธยิงสนับสนุนจากฝ่ายเราไม่สามารถดำเนินการเข้าตีต่อฝ่ายเราได้, พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ฝ่ายเราสามารถสกัดกั้นการเข้าฝ่ายตรงข้ามถอยกลับไป สถานะปัจจุบันฝ่ายตรงข้าม : เสียชีวิตที่พื้นที่ภูผีประมาณ 100 นาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070400

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้ . สถานการณ์การสู้รบ กลยุทธ์ฝ่ายตรงข้ามยังคงพยายามใช้กำลังทหารราบเข้าประชิดกำลังฝ่ายเราเพื่อพยายามเข้าโจมตีหลักในพื้นที่ ช่องบก, ซำแต, ภูมะเขือ, ช่องตาเฒ่า, ประสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย โดยมีการยิงด้วยอาวุธยิงสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ, พื้นที่ช่องบก มีความพยายามที่จะยึดเนิน 469, พื้นที่ช่องอานม้า ปรับกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ การปะทะเบาบางลง, พื้นที่ซำแต ยังคงมีการโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ด้วยรถถัง และปืนใหญ่, พื้นที่สัตตะโสม ฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายอย่างหนัก, พื้นที่เขาพระวิหาร มีการปะทะอย่างต่อเนื่องบริเวณวัดพระแก้ว, พื้นที่ภูมะเขือ มีการดำเนินกลยุทธ์เพื่อยึดพื้นที่สำคัญให้เกิดความได้เปรียบอีกฝ่าย, พื้นที่เนิน 350 ถูกทำลายด้วยอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายเรา, พื้นที่ปราสาท ตาควาย (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ถูกอาวุธยิงสนับสนุนจากฝ่ายเราไม่สามารถดำเนินการเข้าตีต่อฝ่ายเราได้, พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ฝ่ายเราสามารถสกัดกั้นการเข้าฝ่ายตรงข้ามถอยกลับไป สถานะปัจจุบันฝ่ายตรงข้าม : เสียชีวิตที่พื้นที่ภูผีประมาณ 100 นาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070400 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 696 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจลานีผู้ปกครองซีเรียออกแถลงการณ์วันนี้ระบุว่า สไวดายังคงเป็นดินแดนของซีเรีย แม้จะมีความพยายามแยกตัวเองออกไปจากการยุยงของอิสราเอล แต่จะอนุญาตให้มีการปกครองในเขตพื้นที่จากผู้นำชาวดรูซ

    "เราได้ตัดสินใจมอบหมายให้กลุ่มท้องถิ่นและผู้นำศาสนาดรูซบางส่วนรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยในสไวดา การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความร้ายแรงของสถานการณ์และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเอกภาพแห่งชาติของเรา เรามุ่งมั่นที่จะหลีกเลี่ยงการลากประเทศเข้าสู่สงครามครั้งใหม่ที่อาจทำลายเส้นทางการฟื้นฟูหลังสงครามของซีเรีย และแบกรับความยากลำบากทางการเมืองและเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากระบอบการปกครองเดิม"

    "We have decided to assign some local factions and Druze religious leaders the responsibility for maintaining security in Sweida. This decision stems from our deep understanding of the gravity of the situation and the risk it poses to our national unity. We aim to avoid dragging the country into a new wide-scale war that could derail Syria from its path of post-war recovery and burden it with additional political and economic hardship left behind by the former regime."
    โจลานีผู้ปกครองซีเรียออกแถลงการณ์วันนี้ระบุว่า สไวดายังคงเป็นดินแดนของซีเรีย แม้จะมีความพยายามแยกตัวเองออกไปจากการยุยงของอิสราเอล แต่จะอนุญาตให้มีการปกครองในเขตพื้นที่จากผู้นำชาวดรูซ "เราได้ตัดสินใจมอบหมายให้กลุ่มท้องถิ่นและผู้นำศาสนาดรูซบางส่วนรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยในสไวดา การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความร้ายแรงของสถานการณ์และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเอกภาพแห่งชาติของเรา เรามุ่งมั่นที่จะหลีกเลี่ยงการลากประเทศเข้าสู่สงครามครั้งใหม่ที่อาจทำลายเส้นทางการฟื้นฟูหลังสงครามของซีเรีย และแบกรับความยากลำบากทางการเมืองและเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากระบอบการปกครองเดิม" "We have decided to assign some local factions and Druze religious leaders the responsibility for maintaining security in Sweida. This decision stems from our deep understanding of the gravity of the situation and the risk it poses to our national unity. We aim to avoid dragging the country into a new wide-scale war that could derail Syria from its path of post-war recovery and burden it with additional political and economic hardship left behind by the former regime."
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมิน IO ยุยงปลุกปั่น ทหารสัมพันธ์แน่นแฟ้น : [NEWS UPDATE]

    พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก(ทบ.) เผยกรณีพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) อยากให้ลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี เพื่อสัมผัสพื้นที่จริง 2 ส่วน คือ 1.ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ และ 2.ความพร้อมทางทหารและฝ่ายปกครอง ยังไม่ได้รับรายงานกรณีมีปากเสียงในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ผู้ปฏิบัติงานทั้งไทยและกัมพูชาในพื้นที่ ส่วนใหญ่รู้จักกัน ปัญหากระทบกระทั่งกันนิดหน่อย ไม่ได้มีความพยายามตั้งใจให้เกิดความรุนแรงจนน่ากังวล ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวหาว่า ไทยรุกรานพื้นที่กัมพูชา เรามีจุดยืนในการนำเสนอข้อมูล ต้องไม่ขยายความขัดแย้ง ต้องสื่อสารข้อเท็จจริง ส่วนผู้รับสารก็ต้องใช้วิจารณญาณ

    -คลิปอีกด้านสมยอม/ขืนใจ

    -ถอนจริงหรือรอเสียง สส.

    -คาดโทษโก่งราคาที่พัก

    -ไทยยังมีหวังลดภาษี
    เมิน IO ยุยงปลุกปั่น ทหารสัมพันธ์แน่นแฟ้น : [NEWS UPDATE] พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก(ทบ.) เผยกรณีพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) อยากให้ลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี เพื่อสัมผัสพื้นที่จริง 2 ส่วน คือ 1.ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ และ 2.ความพร้อมทางทหารและฝ่ายปกครอง ยังไม่ได้รับรายงานกรณีมีปากเสียงในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ผู้ปฏิบัติงานทั้งไทยและกัมพูชาในพื้นที่ ส่วนใหญ่รู้จักกัน ปัญหากระทบกระทั่งกันนิดหน่อย ไม่ได้มีความพยายามตั้งใจให้เกิดความรุนแรงจนน่ากังวล ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวหาว่า ไทยรุกรานพื้นที่กัมพูชา เรามีจุดยืนในการนำเสนอข้อมูล ต้องไม่ขยายความขัดแย้ง ต้องสื่อสารข้อเท็จจริง ส่วนผู้รับสารก็ต้องใช้วิจารณญาณ -คลิปอีกด้านสมยอม/ขืนใจ -ถอนจริงหรือรอเสียง สส. -คาดโทษโก่งราคาที่พัก -ไทยยังมีหวังลดภาษี
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 670 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศว่าไม่มีความจำเป็นต้องเจรจากับอิหร่านเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอีกต่อไป เพราะถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว!!

    ทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐจะพบกับอิหร่านอีกครั้งในสัปดาห์หน้า แต่เขาไม่คิดว่าจำเป็นต้องมีการเจรจาเพิ่มเติมหรือข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐและอิหร่านอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ "ถูกทำลาย" เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการโจมตีของกองทัพอากาศสหรัฐฯ และจะไม่มีความพยายามในการสร้างอาวุธนิวเคลียร์จากอิหร่านอีก
    ทรัมป์ประกาศว่าไม่มีความจำเป็นต้องเจรจากับอิหร่านเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอีกต่อไป เพราะถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว!! ทรัมป์ประกาศว่าสหรัฐจะพบกับอิหร่านอีกครั้งในสัปดาห์หน้า แต่เขาไม่คิดว่าจำเป็นต้องมีการเจรจาเพิ่มเติมหรือข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐและอิหร่านอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ "ถูกทำลาย" เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการโจมตีของกองทัพอากาศสหรัฐฯ และจะไม่มีความพยายามในการสร้างอาวุธนิวเคลียร์จากอิหร่านอีก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • ช่วงนี้อิสราเอลกำลังเผชิญการโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือปฏิบัติการไซเบอร์ หนึ่งในแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามคือ... แฮ็กกล้องวงจรปิดตามบ้านของประชาชน โดยเฉพาะกล้องที่ใช้รหัสผ่านเดิมจากโรงงาน หรือรหัสง่าย ๆ เดาง่าย เช่น “123456”

    สิ่งที่แฮกเกอร์ทำคือ เจาะกล้องเพื่อ ดูว่า “มิสไซล์ที่ยิงไปตกตรงไหน”, มีการเคลื่อนไหวของรถทหารหรือไม่ หรือแม้แต่ตรวจสอบจุดยุทธศาสตร์ที่ถูก blackout ข้อมูลในสื่อ กระทรวงไซเบอร์ของอิสราเอลยอมรับว่า มีความพยายามเจาะระบบกล้องเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่วันหลังการยิงขีปนาวุธ

    ย้อนไปปี 2022 เคยมีการเตือนแล้วว่า “กล้องกว่า 66,000 ตัวในอิสราเอลยังใช้รหัสผ่านเริ่มต้น” — และหลายหมู่บ้านที่ถูกบุกในปีถัดมาก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร จนกลายเป็นปัญหาข้อมูลรั่ววงกว้าง

    รัฐบาลจึงขอให้ประชาชน ปิดกล้องที่ไม่จำเป็น, เปลี่ยนรหัสผ่าน, เปิด two-factor authentication และถ้าเป็นไปได้... อย่าติดตั้งกล้องที่ “สตรีมออนไลน์” ได้เอง เพราะอาจกลายเป็นหน้าต่างเปิดให้ศัตรูมองย้อนกลับมา

    กรณีนี้ไม่ได้เกิดแค่ในอิสราเอล — ในยูเครน เคยมีการแบนกล้องวงจรปิด เพราะพบว่ารัสเซียใช้วิดีโอแบบ live มา “ปรับทิศการโจมตีอากาศ” แบบทันทีได้เช่นกัน

    รัฐบาลอิสราเอลเตือนประชาชนให้ “ปิดกล้องวงจรปิดที่ไม่จำเป็น” หรืออย่างน้อยให้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่  
    • ลดความเสี่ยงที่กลุ่มอิหร่านเจาะเข้าไปดู live feed เพื่อเก็บข้อมูล

    พบว่าแฮกเกอร์จากอิหร่านพยายามแฮกกล้องเพื่อดูผลกระทบของมิสไซล์ และการเคลื่อนไหวทางทหาร  
    • เป็นการเจาะระบบในช่วงสื่อถูกจำกัดการเผยข้อมูล

    เคยมีการเตือนเมื่อปี 2022 ว่ามีกล้อง 66,000 ตัวใช้รหัสผ่านจากโรงงาน (default password)  
    • ส่วนใหญ่ไม่ถูกเปลี่ยนแม้มีคำเตือน

    รัฐบาลสามารถปิดการทำงานของกล้องภาครัฐและส่วนบุคคลในพื้นที่อ่อนไหว เช่น พรมแดน หรือโครงสร้างสำคัญแล้ว
    • ใช้กฎหมายพิเศษในช่วงภัยพิบัติ

    กรณีคล้ายกันเคยเกิดในยูเครน — เมื่อรัสเซียใช้วิดีโอจากกล้องสาธารณะเพื่อเจาะพิกัดเป้าหมาย

    ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เลือกกล้องที่มีระบบความปลอดภัยดี รองรับการตั้งค่ารหัส, การเข้ารหัส และปิดการสตรีมออนไลน์ได้

    https://www.techspot.com/news/108401-israel-urges-citizens-turn-off-home-cameras-iran.html
    ช่วงนี้อิสราเอลกำลังเผชิญการโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือปฏิบัติการไซเบอร์ หนึ่งในแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามคือ... แฮ็กกล้องวงจรปิดตามบ้านของประชาชน โดยเฉพาะกล้องที่ใช้รหัสผ่านเดิมจากโรงงาน หรือรหัสง่าย ๆ เดาง่าย เช่น “123456” สิ่งที่แฮกเกอร์ทำคือ เจาะกล้องเพื่อ ดูว่า “มิสไซล์ที่ยิงไปตกตรงไหน”, มีการเคลื่อนไหวของรถทหารหรือไม่ หรือแม้แต่ตรวจสอบจุดยุทธศาสตร์ที่ถูก blackout ข้อมูลในสื่อ กระทรวงไซเบอร์ของอิสราเอลยอมรับว่า มีความพยายามเจาะระบบกล้องเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่วันหลังการยิงขีปนาวุธ ย้อนไปปี 2022 เคยมีการเตือนแล้วว่า “กล้องกว่า 66,000 ตัวในอิสราเอลยังใช้รหัสผ่านเริ่มต้น” — และหลายหมู่บ้านที่ถูกบุกในปีถัดมาก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร จนกลายเป็นปัญหาข้อมูลรั่ววงกว้าง รัฐบาลจึงขอให้ประชาชน ปิดกล้องที่ไม่จำเป็น, เปลี่ยนรหัสผ่าน, เปิด two-factor authentication และถ้าเป็นไปได้... อย่าติดตั้งกล้องที่ “สตรีมออนไลน์” ได้เอง เพราะอาจกลายเป็นหน้าต่างเปิดให้ศัตรูมองย้อนกลับมา กรณีนี้ไม่ได้เกิดแค่ในอิสราเอล — ในยูเครน เคยมีการแบนกล้องวงจรปิด เพราะพบว่ารัสเซียใช้วิดีโอแบบ live มา “ปรับทิศการโจมตีอากาศ” แบบทันทีได้เช่นกัน ✅ รัฐบาลอิสราเอลเตือนประชาชนให้ “ปิดกล้องวงจรปิดที่ไม่จำเป็น” หรืออย่างน้อยให้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่   • ลดความเสี่ยงที่กลุ่มอิหร่านเจาะเข้าไปดู live feed เพื่อเก็บข้อมูล ✅ พบว่าแฮกเกอร์จากอิหร่านพยายามแฮกกล้องเพื่อดูผลกระทบของมิสไซล์ และการเคลื่อนไหวทางทหาร   • เป็นการเจาะระบบในช่วงสื่อถูกจำกัดการเผยข้อมูล ✅ เคยมีการเตือนเมื่อปี 2022 ว่ามีกล้อง 66,000 ตัวใช้รหัสผ่านจากโรงงาน (default password)   • ส่วนใหญ่ไม่ถูกเปลี่ยนแม้มีคำเตือน ✅ รัฐบาลสามารถปิดการทำงานของกล้องภาครัฐและส่วนบุคคลในพื้นที่อ่อนไหว เช่น พรมแดน หรือโครงสร้างสำคัญแล้ว • ใช้กฎหมายพิเศษในช่วงภัยพิบัติ ✅ กรณีคล้ายกันเคยเกิดในยูเครน — เมื่อรัสเซียใช้วิดีโอจากกล้องสาธารณะเพื่อเจาะพิกัดเป้าหมาย ✅ ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เลือกกล้องที่มีระบบความปลอดภัยดี รองรับการตั้งค่ารหัส, การเข้ารหัส และปิดการสตรีมออนไลน์ได้ https://www.techspot.com/news/108401-israel-urges-citizens-turn-off-home-cameras-iran.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Israel urges citizens to turn off home cameras as Iran hacks surveillance systems
    In the aftermath of recent Iranian missile strikes on Tel Aviv, concerns about the vulnerability of internet-connected cameras have intensified. "We know that in the past two...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าตอนนี้เราเริ่มบ่นว่า “เซิร์ฟเวอร์มันร้อน” อีกไม่กี่ปีข้างหน้า—อาจต้องเรียกวิศวกรนิวเคลียร์มาช่วยออกแบบห้องเซิร์ฟเวอร์กันเลยทีเดียว

    เพราะรายงานจาก KAIST (สถาบันวิจัยของเกาหลีใต้) ชี้ว่า TDP (Thermal Design Power) ของชิป AI ในอนาคตอาจพุ่งไปถึง 15,360W ภายในปี 2032 ซึ่งสูงกว่าชิป H100 ของ NVIDIA ปัจจุบัน (700–800W) ถึง 20 เท่า

    ตอนนี้ NVIDIA Blackwell ใช้พลังงาน 1,400W แล้ว Rubin Ultra ที่จะมาในปี 2027 จะพุ่งไป 3,600W และ Feynman ในปี 2029 จะทะลุ 6,000W ได้เลย โดยทั้งหมดนี้ยัง “ใช้แค่น้ำหล่อเย็น (liquid cooling)” ได้อยู่

    แต่หลังจากปี 2030 เป็นต้นไป จะเริ่มใช้เทคโนโลยี Immersion Cooling (จุ่มชิปในของเหลวพิเศษ) และเมื่อถึงปี 2032… ต้องฝังระบบทำความเย็นลงไปในชิปเลย (Embedded Cooling)

    และไม่ใช่แค่ตัวประมวลผลที่กินไฟครับ—โมดูลหน่วยความจำ HBM ก็จะใช้ไฟกว่า 2,000W ด้วย นั่นแปลว่าชิป AI 1 ตัวอาจใช้ไฟมากกว่บ้าน 2 หลังรวมกัน!

    TDP ของชิป AI เพิ่มจากร้อย → พัน → หมื่นวัตต์ในทศวรรษเดียว  
    • Blackwell Ultra (2025): 1,400W  
    • Rubin Ultra (2027): 3,600W  
    • Feynman Ultra (2029): 6,000W  
    • Post-Feynman Ultra (2032): 15,360W

    แนวโน้มเทคโนโลยีหล่อเย็น AI ตามระดับความร้อน  
    • เริ่มจาก liquid cooling → immersion cooling → embedded cooling  
    • KAIST เสนอแนวคิดฝัง "ท่อน้ำหล่อเย็น" และ “ฟลูอิด TSV” ลงในชิป

    การเพิ่มจำนวน chiplet และ HBM stack เป็นสาเหตุหลักของพลังงานมหาศาล  
    • HBM6 stack หนึ่งใช้ไฟถึง 120W และอาจมีมากถึง 16 stack ต่อชิป  
    • ระบบต้องติดเซ็นเซอร์ความร้อนแบบเรียลไทม์

    แนวคิดอนาคต: GPU ซ้อนชั้นสองด้าน + ท่อนำความร้อนฝังใน interposer  
    • เพิ่มพลังโดยไม่เพิ่มพื้นที่ชิป  
    • เน้นดึงความร้อนออกจาก “core” ก่อน แล้วค่อยระบายออกนอกตัวระบบ

    พลังงานระดับนี้อาจต้องใช้ระบบจ่ายไฟระดับ “โรงไฟฟ้าขนาดย่อม”  
    • หนึ่ง GPU rack อาจกินไฟ 50kW+ → ส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานของ data center ทั่วโลก

    ความท้าทายเรื่อง “คาร์บอนฟุตพรินต์” และสิ่งแวดล้อมจะหนักขึ้น  
    • แม้จะมีความพยายามใช้ cooling แบบปิดระบบ แต่การผลิตและใช้ชิปเหล่านี้ยังสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล

    Immersion cooling ยังเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทาง – ไม่แพร่หลายเท่าที่ควร  
    • ต้องใช้ของเหลวเฉพาะ แพง และต้องมีระบบควบคุมพิเศษ  
    • อาจไม่เหมาะกับองค์กรทั่วไป

    ยังไม่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมด้าน embedded cooling ที่ชัดเจน  
    • หากใช้ต่างแนวทางกัน อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/future-ai-processors-said-to-consume-up-to-15-360w-massive-power-draw-will-demand-exotic-immersion-and-embedded-cooling-tech
    ถ้าตอนนี้เราเริ่มบ่นว่า “เซิร์ฟเวอร์มันร้อน” อีกไม่กี่ปีข้างหน้า—อาจต้องเรียกวิศวกรนิวเคลียร์มาช่วยออกแบบห้องเซิร์ฟเวอร์กันเลยทีเดียว 🤯 เพราะรายงานจาก KAIST (สถาบันวิจัยของเกาหลีใต้) ชี้ว่า TDP (Thermal Design Power) ของชิป AI ในอนาคตอาจพุ่งไปถึง 15,360W ภายในปี 2032 ซึ่งสูงกว่าชิป H100 ของ NVIDIA ปัจจุบัน (700–800W) ถึง 20 เท่า ตอนนี้ NVIDIA Blackwell ใช้พลังงาน 1,400W แล้ว Rubin Ultra ที่จะมาในปี 2027 จะพุ่งไป 3,600W และ Feynman ในปี 2029 จะทะลุ 6,000W ได้เลย โดยทั้งหมดนี้ยัง “ใช้แค่น้ำหล่อเย็น (liquid cooling)” ได้อยู่ แต่หลังจากปี 2030 เป็นต้นไป จะเริ่มใช้เทคโนโลยี Immersion Cooling (จุ่มชิปในของเหลวพิเศษ) และเมื่อถึงปี 2032… ต้องฝังระบบทำความเย็นลงไปในชิปเลย (Embedded Cooling) และไม่ใช่แค่ตัวประมวลผลที่กินไฟครับ—โมดูลหน่วยความจำ HBM ก็จะใช้ไฟกว่า 2,000W ด้วย นั่นแปลว่าชิป AI 1 ตัวอาจใช้ไฟมากกว่บ้าน 2 หลังรวมกัน! ✅ TDP ของชิป AI เพิ่มจากร้อย → พัน → หมื่นวัตต์ในทศวรรษเดียว   • Blackwell Ultra (2025): 1,400W   • Rubin Ultra (2027): 3,600W   • Feynman Ultra (2029): 6,000W   • Post-Feynman Ultra (2032): 15,360W ✅ แนวโน้มเทคโนโลยีหล่อเย็น AI ตามระดับความร้อน   • เริ่มจาก liquid cooling → immersion cooling → embedded cooling   • KAIST เสนอแนวคิดฝัง "ท่อน้ำหล่อเย็น" และ “ฟลูอิด TSV” ลงในชิป ✅ การเพิ่มจำนวน chiplet และ HBM stack เป็นสาเหตุหลักของพลังงานมหาศาล   • HBM6 stack หนึ่งใช้ไฟถึง 120W และอาจมีมากถึง 16 stack ต่อชิป   • ระบบต้องติดเซ็นเซอร์ความร้อนแบบเรียลไทม์ ✅ แนวคิดอนาคต: GPU ซ้อนชั้นสองด้าน + ท่อนำความร้อนฝังใน interposer   • เพิ่มพลังโดยไม่เพิ่มพื้นที่ชิป   • เน้นดึงความร้อนออกจาก “core” ก่อน แล้วค่อยระบายออกนอกตัวระบบ ‼️ พลังงานระดับนี้อาจต้องใช้ระบบจ่ายไฟระดับ “โรงไฟฟ้าขนาดย่อม”   • หนึ่ง GPU rack อาจกินไฟ 50kW+ → ส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานของ data center ทั่วโลก ‼️ ความท้าทายเรื่อง “คาร์บอนฟุตพรินต์” และสิ่งแวดล้อมจะหนักขึ้น   • แม้จะมีความพยายามใช้ cooling แบบปิดระบบ แต่การผลิตและใช้ชิปเหล่านี้ยังสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล ‼️ Immersion cooling ยังเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทาง – ไม่แพร่หลายเท่าที่ควร   • ต้องใช้ของเหลวเฉพาะ แพง และต้องมีระบบควบคุมพิเศษ   • อาจไม่เหมาะกับองค์กรทั่วไป ‼️ ยังไม่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมด้าน embedded cooling ที่ชัดเจน   • หากใช้ต่างแนวทางกัน อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/future-ai-processors-said-to-consume-up-to-15-360w-massive-power-draw-will-demand-exotic-immersion-and-embedded-cooling-tech
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เป็นเรื่องที่ใส่รายละเอียดทางประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ถังไว้มากพอสมควร แต่ Storyฯ รู้สึกสะดุดตาอย่างมากกับลักษณะการเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมของตัวละครเอกคนหนึ่งคือ หลี่ปี้

    ความ ‘เอ๊ะ’ คือว่า ทำไมเขาถึงเสียบปิ่นของมงกฎครอบมวยผมในแนวตรง คือจากหลังมาหน้า (ดูรูปกลางสี่เหลี่ยม) ในขณะที่ตัวละครอื่นเสียบปิ่นในแนวขวางจากขวาไปซ้ายเหมือนกับที่เราเห็นในละครจีนโบราณเรื่องอื่นๆ (ดูเปรียบเทียบตัวละครจากเรื่องเดียวกันในรูปวงกลม)

    ไปทำการบ้านมาค่ะ เลยพบว่ามีคนเขียนชมละครเรื่องนี้ว่ามีความพยายามทำให้ใกล้เคียงประวัติศาสตร์จริงมากในเรื่องการแต่งกาย ซึ่งสาเหตุที่หลี่ปี้เสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมในแนวตรงนั้น เป็นเพราะว่าเขาเป็นนักพรต

    แต่มันแตกต่างจากเรื่องอื่นที่เราเห็นนักพรตปักปิ่นในแนวขวาง Storyฯ เลยเอารูปวาดโบราณมาเปรียบเทียบให้ดู (ดูภาพเปรียบเทียบในรูปสี่เหลี่ยมที่แปะมา) ก็จะเห็นว่านักพรตในลัทธิเต๋าในช่วงยุคสมัยรัชวงศ์ถังนั้นปักปิ่นในแนวตรงจริงๆ โดยวิธีเสียบปิ่นคือจากข้างหลังมาข้างหน้า หรือที่เรียกว่า ‘จื๋ออู่จ๊าน’ (子午簪)

    ดูภาพจากละครจะเห็นว่ามงกฎครอบผมของหลี่ปี้มีสองแบบ มันคือแบบลายดอกพุดตานที่มีกลีบใหญ่ชูเด่น และแบบลายดอกบัว เดิมเรียกแยกสองแบบอย่างนี้ ต่อมาการเวลาผ่านไปถูกเรียกรวมเป็นลายดอกบัว มีเฉพาะนักพรตที่มีระดับสูงจึงจะใช้ได้

    จากข้อมูลที่หาได้ ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น นักพรตเต๋ามีเจ็ดระดับ สูงสุดคือระดับเจ็ด มีระเบียบกำหนดเรื่องการแต่งกายไว้อย่างเคร่งครัด แตกต่างกันไปทั้งเนื้อผ้าสีผ้าของชุดและมงกุฎครอบผมตามแต่ละระดับ ตัวอย่างเช่น นักพรตระดับที่ห้า มงกฎครอบผมสีน้ำตาลเข้มรูปทรงดอกบัวกลีบสองชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเหลือง ฯลฯ นักพรตระดับที่หก มงกฎครอบผมรูปทรงดอกบัวกลีบสามชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเขียวฟ้ากระจ่าง ผ้าพาดบ่าสีม่วง ฯลฯ

    ในเนื้อเรื่องของละคร <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> Storyฯ ไม่เห็นมีข้อมูลว่าหลี่ปี้เป็นนักพรตระดับใด Storyฯ เองก็ไม่แน่ใจว่ารายละเอียดการแต่งกายในละครถูกต้องหรือไม่ มีบางเพจเขียนว่าปิ่นของหลี่ปี้สั้นไป แต่ที่ดูจะถูกต้องแน่นอนคือวิธีการเสียบปิ่นของหลี่ปี้

    แล้วที่เราเห็นในละครเรื่องอื่นที่นักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวางล่ะ?

    จากข้อมูลที่ Storyฯ หาเจอ วิธีเสียบปิ่นตามแนวตรงข้างต้นเป็นไปจนสมัยราชวงศ์ซ่ง แต่จากสมัยราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง มีนักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวาง แต่มีจุดสังเกตคือจะต้องเป็นการเสียบจากซ้ายไปขวา ไม่ใช่ขวาไปซ้ายแบบคนทั่วไป และแบบแนวตรงก็ยังคงมีใช้อยู่ ซึ่งที่มาคือแนวคิดที่ว่า แนวตรงคือการแบ่งแยกหยินหยาง แนวขวางจากซ้ายคือการเกิดไปสู่ขวาคือความตาย

    แต่คนธรรมดาทั่วไปจะปักปิ่นจากขวาไปซ้ายเป็นส่วนใหญ่เพราะหลายคนถนัดขวา มีเพจหนึ่งที่อ่านเจอเขียนว่า หากคนธรรมดาปักปิ่นจากซ้ายไปขวาแสดงว่าอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ แต่ข้อมูลนี้ Storyฯ ไม่ได้ไปค้นหาต่อว่าใช่หรือไม่

    ต่อมามงกฎทรงดอกบัวถูกนำมาใช้สำหรับสตรีสูงศักดิ์ในวังด้วย แต่ความแตกต่างอยู่ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นมงกุฎ เป็นทองคำลวดลายวิจิตรและมีการประดับหินและพลอยให้ดูอลังการ และไม่มีปิ่นปักกลางไว้ยึดผมเหมือนมงกุฎครอบมวยผมนักพรต

    ท่านใดที่ชอบละครเรื่องนี้ ลองดูลิ้งค์ที่แปะมาบางลิ้งค์ด้านล่างจะเห็นการเปรียบเทียบว่ามีการอิงประวัติศาสตร์จริงอย่างไร (อ่านไม่ออกก็ดูรูปได้) อย่างเช่นการวาดคิ้วสมัยราชวงศ์ถังแบบต่างๆ ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเมื่อหลายเดือนก่อน ก็มีปรากฎให้เห็นในบรรดาชาวบ้านที่แต่งตัวกันออกมาเที่ยวเทศกาลในเรื่องนี้ด้วย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจากในละครและจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/72817310
    https://new.qq.com/omn/20190716/20190716A0SOED00.html?pc
    https://www.behance.net/gallery/84983593/The-Longest-Day-In-Changan-Posters
    http://www.xinhuanet.com/ent/2019-07/02/c_1124697419.htm

    #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #หลี่ปี้ #ปิ่นปักผมจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    เรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เป็นเรื่องที่ใส่รายละเอียดทางประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ถังไว้มากพอสมควร แต่ Storyฯ รู้สึกสะดุดตาอย่างมากกับลักษณะการเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมของตัวละครเอกคนหนึ่งคือ หลี่ปี้ ความ ‘เอ๊ะ’ คือว่า ทำไมเขาถึงเสียบปิ่นของมงกฎครอบมวยผมในแนวตรง คือจากหลังมาหน้า (ดูรูปกลางสี่เหลี่ยม) ในขณะที่ตัวละครอื่นเสียบปิ่นในแนวขวางจากขวาไปซ้ายเหมือนกับที่เราเห็นในละครจีนโบราณเรื่องอื่นๆ (ดูเปรียบเทียบตัวละครจากเรื่องเดียวกันในรูปวงกลม) ไปทำการบ้านมาค่ะ เลยพบว่ามีคนเขียนชมละครเรื่องนี้ว่ามีความพยายามทำให้ใกล้เคียงประวัติศาสตร์จริงมากในเรื่องการแต่งกาย ซึ่งสาเหตุที่หลี่ปี้เสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมในแนวตรงนั้น เป็นเพราะว่าเขาเป็นนักพรต แต่มันแตกต่างจากเรื่องอื่นที่เราเห็นนักพรตปักปิ่นในแนวขวาง Storyฯ เลยเอารูปวาดโบราณมาเปรียบเทียบให้ดู (ดูภาพเปรียบเทียบในรูปสี่เหลี่ยมที่แปะมา) ก็จะเห็นว่านักพรตในลัทธิเต๋าในช่วงยุคสมัยรัชวงศ์ถังนั้นปักปิ่นในแนวตรงจริงๆ โดยวิธีเสียบปิ่นคือจากข้างหลังมาข้างหน้า หรือที่เรียกว่า ‘จื๋ออู่จ๊าน’ (子午簪) ดูภาพจากละครจะเห็นว่ามงกฎครอบผมของหลี่ปี้มีสองแบบ มันคือแบบลายดอกพุดตานที่มีกลีบใหญ่ชูเด่น และแบบลายดอกบัว เดิมเรียกแยกสองแบบอย่างนี้ ต่อมาการเวลาผ่านไปถูกเรียกรวมเป็นลายดอกบัว มีเฉพาะนักพรตที่มีระดับสูงจึงจะใช้ได้ จากข้อมูลที่หาได้ ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น นักพรตเต๋ามีเจ็ดระดับ สูงสุดคือระดับเจ็ด มีระเบียบกำหนดเรื่องการแต่งกายไว้อย่างเคร่งครัด แตกต่างกันไปทั้งเนื้อผ้าสีผ้าของชุดและมงกุฎครอบผมตามแต่ละระดับ ตัวอย่างเช่น นักพรตระดับที่ห้า มงกฎครอบผมสีน้ำตาลเข้มรูปทรงดอกบัวกลีบสองชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเหลือง ฯลฯ นักพรตระดับที่หก มงกฎครอบผมรูปทรงดอกบัวกลีบสามชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเขียวฟ้ากระจ่าง ผ้าพาดบ่าสีม่วง ฯลฯ ในเนื้อเรื่องของละคร <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> Storyฯ ไม่เห็นมีข้อมูลว่าหลี่ปี้เป็นนักพรตระดับใด Storyฯ เองก็ไม่แน่ใจว่ารายละเอียดการแต่งกายในละครถูกต้องหรือไม่ มีบางเพจเขียนว่าปิ่นของหลี่ปี้สั้นไป แต่ที่ดูจะถูกต้องแน่นอนคือวิธีการเสียบปิ่นของหลี่ปี้ แล้วที่เราเห็นในละครเรื่องอื่นที่นักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวางล่ะ? จากข้อมูลที่ Storyฯ หาเจอ วิธีเสียบปิ่นตามแนวตรงข้างต้นเป็นไปจนสมัยราชวงศ์ซ่ง แต่จากสมัยราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง มีนักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวาง แต่มีจุดสังเกตคือจะต้องเป็นการเสียบจากซ้ายไปขวา ไม่ใช่ขวาไปซ้ายแบบคนทั่วไป และแบบแนวตรงก็ยังคงมีใช้อยู่ ซึ่งที่มาคือแนวคิดที่ว่า แนวตรงคือการแบ่งแยกหยินหยาง แนวขวางจากซ้ายคือการเกิดไปสู่ขวาคือความตาย แต่คนธรรมดาทั่วไปจะปักปิ่นจากขวาไปซ้ายเป็นส่วนใหญ่เพราะหลายคนถนัดขวา มีเพจหนึ่งที่อ่านเจอเขียนว่า หากคนธรรมดาปักปิ่นจากซ้ายไปขวาแสดงว่าอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ แต่ข้อมูลนี้ Storyฯ ไม่ได้ไปค้นหาต่อว่าใช่หรือไม่ ต่อมามงกฎทรงดอกบัวถูกนำมาใช้สำหรับสตรีสูงศักดิ์ในวังด้วย แต่ความแตกต่างอยู่ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นมงกุฎ เป็นทองคำลวดลายวิจิตรและมีการประดับหินและพลอยให้ดูอลังการ และไม่มีปิ่นปักกลางไว้ยึดผมเหมือนมงกุฎครอบมวยผมนักพรต ท่านใดที่ชอบละครเรื่องนี้ ลองดูลิ้งค์ที่แปะมาบางลิ้งค์ด้านล่างจะเห็นการเปรียบเทียบว่ามีการอิงประวัติศาสตร์จริงอย่างไร (อ่านไม่ออกก็ดูรูปได้) อย่างเช่นการวาดคิ้วสมัยราชวงศ์ถังแบบต่างๆ ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเมื่อหลายเดือนก่อน ก็มีปรากฎให้เห็นในบรรดาชาวบ้านที่แต่งตัวกันออกมาเที่ยวเทศกาลในเรื่องนี้ด้วย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจากในละครและจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/72817310 https://new.qq.com/omn/20190716/20190716A0SOED00.html?pc https://www.behance.net/gallery/84983593/The-Longest-Day-In-Changan-Posters http://www.xinhuanet.com/ent/2019-07/02/c_1124697419.htm #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #หลี่ปี้ #ปิ่นปักผมจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 570 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือ: เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล
    สมาร์ทโฟนที่ถูกลักลอบนำออกจาก เกาหลีเหนือ เผยให้เห็นถึง ระบบเฝ้าระวังที่เข้มงวด ซึ่งรัฐบาลใช้ในการควบคุมประชาชน โดยโทรศัพท์เหล่านี้ จับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงได้

    แม้สมาร์ทโฟนเหล่านี้จะมีรูปลักษณ์คล้ายกับ Huawei หรือ Honor แต่ซอฟต์แวร์ภายในถูก ปรับแต่งโดยรัฐบาล เพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ

    หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าตกใจคือ ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ที่เปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับ อุดมการณ์ของรัฐ เช่น
    - คำว่า "Oppa" ซึ่งเป็นคำเรียกพี่ชายหรือแฟนในเกาหลีใต้ ถูกเปลี่ยนเป็น "Comrade"
    - คำว่า "South Korea" ถูกแทนที่ด้วย "Puppet State" ตามภาษาทางการของรัฐบาล

    นอกจากนี้ โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก และถูกตรวจสอบโดย หน่วยงานพิเศษที่คอยค้นหาสื่อจากต่างประเทศ

    ข้อมูลจากข่าว
    - สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือจับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้เข้าถึงไม่ได้
    - ซอฟต์แวร์ถูกปรับแต่งโดยรัฐบาลเพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ
    - ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติเปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับอุดมการณ์ของรัฐ
    - โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก
    - หน่วยงานพิเศษตรวจสอบโทรศัพท์เพื่อค้นหาสื่อจากต่างประเทศ

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ประชาชนในเกาหลีเหนือไม่มีอิสระในการใช้เทคโนโลยี และถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด
    - การใช้คำผิดอาจนำไปสู่การสอบสวนหรือบทลงโทษจากรัฐบาล
    - การลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศมีความเสี่ยงสูง
    - ต้องติดตามว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือจะเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังมากขึ้นในอนาคตหรือไม่

    เทคโนโลยีที่ควรเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อโลกกลับกลายเป็น เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล ซึ่งทำให้ประชาชน ไม่มีอิสระในการสื่อสารและรับข้อมูลจากภายนอก อย่างไรก็ตาม ยังมีความพยายามในการลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศ

    https://www.techspot.com/news/108156-north-korean-smartphone-secretly-takes-screenshot-every-5.html
    📱 สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือ: เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล สมาร์ทโฟนที่ถูกลักลอบนำออกจาก เกาหลีเหนือ เผยให้เห็นถึง ระบบเฝ้าระวังที่เข้มงวด ซึ่งรัฐบาลใช้ในการควบคุมประชาชน โดยโทรศัพท์เหล่านี้ จับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงได้ แม้สมาร์ทโฟนเหล่านี้จะมีรูปลักษณ์คล้ายกับ Huawei หรือ Honor แต่ซอฟต์แวร์ภายในถูก ปรับแต่งโดยรัฐบาล เพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าตกใจคือ ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ที่เปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับ อุดมการณ์ของรัฐ เช่น - คำว่า "Oppa" ซึ่งเป็นคำเรียกพี่ชายหรือแฟนในเกาหลีใต้ ถูกเปลี่ยนเป็น "Comrade" - คำว่า "South Korea" ถูกแทนที่ด้วย "Puppet State" ตามภาษาทางการของรัฐบาล นอกจากนี้ โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก และถูกตรวจสอบโดย หน่วยงานพิเศษที่คอยค้นหาสื่อจากต่างประเทศ ✅ ข้อมูลจากข่าว - สมาร์ทโฟนในเกาหลีเหนือจับภาพหน้าจอทุก 5 นาที และบันทึกข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้เข้าถึงไม่ได้ - ซอฟต์แวร์ถูกปรับแต่งโดยรัฐบาลเพื่อจำกัดการใช้งานและเพิ่มการตรวจสอบ - ระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติเปลี่ยนคำบางคำให้สอดคล้องกับอุดมการณ์ของรัฐ - โทรศัพท์ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลก - หน่วยงานพิเศษตรวจสอบโทรศัพท์เพื่อค้นหาสื่อจากต่างประเทศ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ประชาชนในเกาหลีเหนือไม่มีอิสระในการใช้เทคโนโลยี และถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด - การใช้คำผิดอาจนำไปสู่การสอบสวนหรือบทลงโทษจากรัฐบาล - การลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศมีความเสี่ยงสูง - ต้องติดตามว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือจะเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังมากขึ้นในอนาคตหรือไม่ เทคโนโลยีที่ควรเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อโลกกลับกลายเป็น เครื่องมือเฝ้าระวังของรัฐบาล ซึ่งทำให้ประชาชน ไม่มีอิสระในการสื่อสารและรับข้อมูลจากภายนอก อย่างไรก็ตาม ยังมีความพยายามในการลักลอบนำสื่อจากต่างประเทศเข้าไปในประเทศ https://www.techspot.com/news/108156-north-korean-smartphone-secretly-takes-screenshot-every-5.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    In North Korea, your phone secretly takes screenshots every 5 minutes for government surveillance
    The phone was featured in a BBC video, which showed it powering on with an animated North Korean flag waving across the screen. While the report did...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีความพยายามลอบสังหารปูติน ด้วยการโจมตีเฮลิคอปเตอร์ขณะประธานาธิบดีเดินทางตรวจเยี่ยมภูมิภาคเคิร์สก์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา!!

    นี่อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เคียฟถูกโจมตีอย่างหนักในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา

    ยูริ แดชกิน (Yuri Dashkin) ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศในเขตเคิร์สก์ ยืนยันว่ายูเครนพยายามโจมตีเฮลิคอปเตอร์ของปูตินขณะบินเหนือเมืองเคิร์สก์ "ในช่วงระหว่างวันที่ 20 ถึง 22 พฤษภาคม โดรนประเภทเครื่องบินของศัตรูเพิ่มระดับความรุนแรงในการโจมตีอย่างมาก และมีโดรน 46 ลำถูกยิงตก"

    “เฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีกลายเป็นศูนย์กลางในการโจมตีของศัตรู ขณะที่เราดำเนินการต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศเพื่อรับประกันความปลอดภัยขั้นสูงสุดของการบินของเฮลิคอปเตอร์ประธานาธิบดีในอากาศอย่างเต็มที่” แดชกินกล่าว พร้อมเสริมว่าภารกิจได้สำเร็จลุล่วง “การโจมตีโดยโดรนของศัตรูได้รับการตอบโต้ เป้าหมายในน่านฟ้าทั้งหมดถูกทำลาย”
    มีความพยายามลอบสังหารปูติน ด้วยการโจมตีเฮลิคอปเตอร์ขณะประธานาธิบดีเดินทางตรวจเยี่ยมภูมิภาคเคิร์สก์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา!! นี่อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เคียฟถูกโจมตีอย่างหนักในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยูริ แดชกิน (Yuri Dashkin) ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศในเขตเคิร์สก์ ยืนยันว่ายูเครนพยายามโจมตีเฮลิคอปเตอร์ของปูตินขณะบินเหนือเมืองเคิร์สก์ "ในช่วงระหว่างวันที่ 20 ถึง 22 พฤษภาคม โดรนประเภทเครื่องบินของศัตรูเพิ่มระดับความรุนแรงในการโจมตีอย่างมาก และมีโดรน 46 ลำถูกยิงตก" “เฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีกลายเป็นศูนย์กลางในการโจมตีของศัตรู ขณะที่เราดำเนินการต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศเพื่อรับประกันความปลอดภัยขั้นสูงสุดของการบินของเฮลิคอปเตอร์ประธานาธิบดีในอากาศอย่างเต็มที่” แดชกินกล่าว พร้อมเสริมว่าภารกิจได้สำเร็จลุล่วง “การโจมตีโดยโดรนของศัตรูได้รับการตอบโต้ เป้าหมายในน่านฟ้าทั้งหมดถูกทำลาย”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 32 0 รีวิว
  • ทีมกฎหมายของจอร์จ ซิมิออนได้เริ่มติดต่อกับผู้ก่อตั้ง Telegram "พาเวล ดูรอฟ" เพื่อโน้มน้าวให้การเป็นพยานต่อศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียเกี่ยวกับการแทรกแซงของฝรั่งเศสในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียรอบที่สอง ที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงไป

    มีรายงานเพิ่มเติมว่า จอร์จ ซิมิออน กำลังย้อนรอยคำสั่งของศาลเมื่อปลายปี 2024 ที่ยกเลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยอ้างว่ามีความพยายามจากรัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง ซึ่งจนถึงขณะนี้ศาลยังไม่เคยแสดงหลักฐานที่ชัดเจน
    ทีมกฎหมายของจอร์จ ซิมิออนได้เริ่มติดต่อกับผู้ก่อตั้ง Telegram "พาเวล ดูรอฟ" เพื่อโน้มน้าวให้การเป็นพยานต่อศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียเกี่ยวกับการแทรกแซงของฝรั่งเศสในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียรอบที่สอง ที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงไป มีรายงานเพิ่มเติมว่า จอร์จ ซิมิออน กำลังย้อนรอยคำสั่งของศาลเมื่อปลายปี 2024 ที่ยกเลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยอ้างว่ามีความพยายามจากรัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง ซึ่งจนถึงขณะนี้ศาลยังไม่เคยแสดงหลักฐานที่ชัดเจน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nicusor Dan นักการเมืองสายตะวันตก ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียรอบที่สอง


    Dan มีคะแนนตามหลัง George Simion ตลอดการหาเสียง แต่สามารถพลิกกลับมาชนะได้ โดยเขาชนะ George Simion ไปเพียง 780,000 คะแนน ซึ่งเป็นคู่แข่งสายอนุรักษ์นิยมที่ได้รับชัยชนะรอบแรกอย่างท่วมท้น


    เป็นที่รู้กันดีว่า Nicusor Dan มียุโรปสนับสนุนเต็มกำลัง นโยบายของเขาทุกอย่างทำเพื่อยุโรป


    ก่อนการเลือกตั้ง มีข่าวลือหนาหูว่ามีความพยายามที่จะให้ Dan ชนะการเลือกตั้งให้ได้ แม้แต่ Pavel Durov ผู้ก่อตั้งเทเลแกรมบอกว่า ยังโพสต์ข้อความว่า เขาปฎิเสธการร้องขอจากรัฐบาลตะวันตกให้ปิดกั้น George Simion ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโรมาเนียซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยุโรป

    หลายฝ่ายเชื่อว่าหาก George Simion ชนะการเลือกตั้ง จะมีความพยายามยกเลิกผลการเลือกตั้งทันที เหมือนอย่างที่เคยทำกับจอร์เจสคูมาแล้วเมื่อปลายปี 2024 แต่พอผลออกมาว่า Nicusor Dan ชนะการเลือกตั้ง คงไม่มีการดำเนินอะไรต่อไป แม้จะพบสัญญาณการแทรกแซงมากมายจากภายนอก

    เมื่อปลายปี 2024 คาลิน จอร์เจสคู ผู้สมัครสายอนุรักษ์นิยม ชนะการเลือกตั้งรอบแรกอย่างถล่มทลาย แต่ศาลตัดสินยกเลิกผลการเลือกตั้ง โดยกล่าวหาว่า "พบสัญญาณการแทรกแซงจากรัสเซีย" จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรมมาแสดง
    Nicusor Dan นักการเมืองสายตะวันตก ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียรอบที่สอง Dan มีคะแนนตามหลัง George Simion ตลอดการหาเสียง แต่สามารถพลิกกลับมาชนะได้ โดยเขาชนะ George Simion ไปเพียง 780,000 คะแนน ซึ่งเป็นคู่แข่งสายอนุรักษ์นิยมที่ได้รับชัยชนะรอบแรกอย่างท่วมท้น เป็นที่รู้กันดีว่า Nicusor Dan มียุโรปสนับสนุนเต็มกำลัง นโยบายของเขาทุกอย่างทำเพื่อยุโรป ก่อนการเลือกตั้ง มีข่าวลือหนาหูว่ามีความพยายามที่จะให้ Dan ชนะการเลือกตั้งให้ได้ แม้แต่ Pavel Durov ผู้ก่อตั้งเทเลแกรมบอกว่า ยังโพสต์ข้อความว่า เขาปฎิเสธการร้องขอจากรัฐบาลตะวันตกให้ปิดกั้น George Simion ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโรมาเนียซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยุโรป หลายฝ่ายเชื่อว่าหาก George Simion ชนะการเลือกตั้ง จะมีความพยายามยกเลิกผลการเลือกตั้งทันที เหมือนอย่างที่เคยทำกับจอร์เจสคูมาแล้วเมื่อปลายปี 2024 แต่พอผลออกมาว่า Nicusor Dan ชนะการเลือกตั้ง คงไม่มีการดำเนินอะไรต่อไป แม้จะพบสัญญาณการแทรกแซงมากมายจากภายนอก เมื่อปลายปี 2024 คาลิน จอร์เจสคู ผู้สมัครสายอนุรักษ์นิยม ชนะการเลือกตั้งรอบแรกอย่างถล่มทลาย แต่ศาลตัดสินยกเลิกผลการเลือกตั้ง โดยกล่าวหาว่า "พบสัญญาณการแทรกแซงจากรัสเซีย" จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรมมาแสดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมไม่ทราบว่าผู้นำชีอะห์ท่านนี้ ท่านซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี เป็นใคร มีความเป็นมาอย่างไร (อ่านบทความจากลิงก์ข้างล่าง) แต่ผมพูดบ่อยๆ ว่า ปัญหาผู้ก่อการร้าย จชต. โยงใยโดยกลไกจารชนตะวันตกที่ฝังตัวมานาน ในเวลาเดียวกับที่มีความพยายามมาโดยตลอดที่จะชักจูงชี้นำให้เชื่อโดยป้ายสีไปที่ชาติมุสลิมในอาหรับ โดยเฉพาะอิหร่าน
    .
    ขอบอกอีกครั้งว่า ไม่ใช่แค่ในบ้านเรา การป้ายสีแบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดกระแส Islamophobia ทั่วไปในโลก และกองโจรก่อการร้ายมุสลิมที่เป็นที่หวาดกลัวเช่น อัลเคด้า ตอลีบัน ไอสิส ในที่สุดถูกเปิดโปงว่าถูกสร้างขึ้น ได้รับการสนับสนุนเงินทุน ได้รับการฝึกฝนและติดอาวุธโดยรัฐบาลสหรัฐ
    .
    เบื้องลึกความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆ ในโลก หลายต่อหลายครั้ง เกิดขึ้นจากแผนร้ายในการแทรกแซงทางการเมืองของตะวันตก โดยมีอำนาจการเมืองและทุนท้องถิ่นให้ความร่วมมือ เช่น การแยกดินแดนของติมอร์.. ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนทั้งฝ่ายเรียกร้องและฝ่ายต่อต้าน เมื่อการเคลื่อนไหวสุกงอมได้ที่ก็มีการสนับสนุนอาวุธเพื่อยกระดับความรุนแรงจากแค่การด่าทอและผลักกันไปมา จุดแตกหักมาถึงเมื่อนักศึกษาสาวแกนนำคนหนึ่งของฝ่ายเรียกร้องถูกข่มขืนฆ่า ความรุนแรงก็ระเบิดปะทุจนหยุดไม่อยู่ หลังการแยกดินแดนสำเร็จ สัมปะทานน้ำมันในติมอร์ตกอยู่ในมือตะวันตกทันที
    .
    กรณีของไทยก็ไม่ต่างกัน ทรัพยากรในภาคใต้และศักยภาพในภูมิภาคนั้นกำลังเป็นที่หมายปอง ลำพังแค่ความคิดในการตัดคลองหรือเซาท์เทิร์นซีบอร์ดอะไรทำนองนี้เพียงความคิดเดียว ก็บีบให้ทั้งคาบสมุทรมาเลย์ต้องดิ้นเร่าเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า โดยเฉพาะเพื่อนบ้านตัวแสบอย่างมาเลเซียที่ผมบอกว่าไว้ใจไม่ได้และคอยลอบแทงเราข้างหลังตลอดเวลา.. ณ เวลานี้หากคุณไปเยือนมาเลเซียเพื่อเห็นด้วยตา คุณก็จะรู้ถึงความเสื่อมถอยของมาเลเซียทั้งบ้านเมืองและชีวิตผู้คนที่ไม่ได้ก้าวหน้าไปเท่าไหร่อย่างที่ควรเป็นในหลายปีมานี้ และยิ่งกว่านั้นโดยลึกๆ แล้วผู้บริหารประเทศมาเลเซียมีอคติมาโดยตลอด เห็นว่าไทยคือตัวการที่ดึงเอาความมั่งคั่งของภูมิภาคไป ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง แม้แต่เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่อยู่ติดจมูกของพวกเขาอย่างสิงคโปร์ พวกเขาก็ไม่อาจพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเทียบเคียงได้ เวลาที่มีข่าวประโคมอะไรก็ตามที่ด้อยค่าเราและมักเอาเราไปเปรียบเทียบกับมาเลเซีย จะพิสูจน์ให้เห็นง่ายๆ โดยการไปเยือนเมืองหลวงของเขาและลองใช้ชีวิตสักหนึ่งสัปดาห์
    .
    ผมมีสายสัมพันธ์กับคนมุสลิมเยอะ ทั้งเพื่อนฝูงและญาติ อย่างที่เคยเล่า คุณย่าผมเป็นมุสลิมอยุธยา มีความสัมพันธ์ฉันท์ญาติกับครอบครัวพี่ซัน มาโนช พุฒตาล พี่สาวแท้ๆ ของผมก็แต่งเข้าบ้านอิสลาม ผมมีช่วงเวลาหนึ่งนานนับปีที่แวะเวียนไปที่มัสยิดแห่งหนึ่งเพื่อสงบใจ ไปพูดคุยกับผู้คน ไปฟังเสียงสวดของน้องคนหนึ่งที่สวดพระคัมภีร์ได้ไพเราะจับใจเหลือเกิน.. คุณจะต้องเข้าใจว่า ความไพเราะของดนตรีและท่วงทำนองแบบตะวันตกนั้นเต็มไปด้วยสุ้มเสียงที่ชวนให้ลุ่มหลง ด้วยทำนองชวนเคลิบเคลิ้ม ด้วยเสียงประสานอันกลมกลืน ด้วยจังหวะอันสนุกสนานรื่นเริง.. แต่ทำนองในการสวดของมุสลิมนั้นต่างกันออกไป อิสลามปฏิเสธดนตรีที่เล้าโลมให้รู้สึกลุ่มหลงและท่วงทำนองเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เป็นบาป... แล้วทำไมกันเมื่อเราฟังการสวดของอิสลามแล้วเราจึงรู้สึกไพเราะได้? ทั้งที่ถ้อยคำไม่ใช่ข้อความประโลมโลก แต่เป็นวลีอันศักดิ์สิทธิ์จากพระคัมภีร์ นี่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คำตอบคือ สิ่งที่สัมผัสใจเราได้นั้นเป็นเพราะถ้อยคำเหล่านั้นเปล่งออกมาจากใจอันอ่อนโยน มาจากจิตวิญญาณอันสงบและศรัทธาอย่างแก่กล้า ผู้ฟังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกจริงแท้นั้นจึงประทับใจเหลือประมาณ
    .
    เสียงเช่นนี้จะไม่มีวันเปล่งออกมาจากฆาตกรที่ฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง ฆ่าคนแก่ที่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน ผมยืนยัน
    .
    https://www.facebook.com/thongdaw.thongaram.9/posts/1712738992940472
    ผมไม่ทราบว่าผู้นำชีอะห์ท่านนี้ ท่านซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี เป็นใคร มีความเป็นมาอย่างไร (อ่านบทความจากลิงก์ข้างล่าง) แต่ผมพูดบ่อยๆ ว่า ปัญหาผู้ก่อการร้าย จชต. โยงใยโดยกลไกจารชนตะวันตกที่ฝังตัวมานาน ในเวลาเดียวกับที่มีความพยายามมาโดยตลอดที่จะชักจูงชี้นำให้เชื่อโดยป้ายสีไปที่ชาติมุสลิมในอาหรับ โดยเฉพาะอิหร่าน . ขอบอกอีกครั้งว่า ไม่ใช่แค่ในบ้านเรา การป้ายสีแบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดกระแส Islamophobia ทั่วไปในโลก และกองโจรก่อการร้ายมุสลิมที่เป็นที่หวาดกลัวเช่น อัลเคด้า ตอลีบัน ไอสิส ในที่สุดถูกเปิดโปงว่าถูกสร้างขึ้น ได้รับการสนับสนุนเงินทุน ได้รับการฝึกฝนและติดอาวุธโดยรัฐบาลสหรัฐ . เบื้องลึกความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆ ในโลก หลายต่อหลายครั้ง เกิดขึ้นจากแผนร้ายในการแทรกแซงทางการเมืองของตะวันตก โดยมีอำนาจการเมืองและทุนท้องถิ่นให้ความร่วมมือ เช่น การแยกดินแดนของติมอร์.. ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนทั้งฝ่ายเรียกร้องและฝ่ายต่อต้าน เมื่อการเคลื่อนไหวสุกงอมได้ที่ก็มีการสนับสนุนอาวุธเพื่อยกระดับความรุนแรงจากแค่การด่าทอและผลักกันไปมา จุดแตกหักมาถึงเมื่อนักศึกษาสาวแกนนำคนหนึ่งของฝ่ายเรียกร้องถูกข่มขืนฆ่า ความรุนแรงก็ระเบิดปะทุจนหยุดไม่อยู่ หลังการแยกดินแดนสำเร็จ สัมปะทานน้ำมันในติมอร์ตกอยู่ในมือตะวันตกทันที . กรณีของไทยก็ไม่ต่างกัน ทรัพยากรในภาคใต้และศักยภาพในภูมิภาคนั้นกำลังเป็นที่หมายปอง ลำพังแค่ความคิดในการตัดคลองหรือเซาท์เทิร์นซีบอร์ดอะไรทำนองนี้เพียงความคิดเดียว ก็บีบให้ทั้งคาบสมุทรมาเลย์ต้องดิ้นเร่าเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า โดยเฉพาะเพื่อนบ้านตัวแสบอย่างมาเลเซียที่ผมบอกว่าไว้ใจไม่ได้และคอยลอบแทงเราข้างหลังตลอดเวลา.. ณ เวลานี้หากคุณไปเยือนมาเลเซียเพื่อเห็นด้วยตา คุณก็จะรู้ถึงความเสื่อมถอยของมาเลเซียทั้งบ้านเมืองและชีวิตผู้คนที่ไม่ได้ก้าวหน้าไปเท่าไหร่อย่างที่ควรเป็นในหลายปีมานี้ และยิ่งกว่านั้นโดยลึกๆ แล้วผู้บริหารประเทศมาเลเซียมีอคติมาโดยตลอด เห็นว่าไทยคือตัวการที่ดึงเอาความมั่งคั่งของภูมิภาคไป ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง แม้แต่เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่อยู่ติดจมูกของพวกเขาอย่างสิงคโปร์ พวกเขาก็ไม่อาจพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเทียบเคียงได้ เวลาที่มีข่าวประโคมอะไรก็ตามที่ด้อยค่าเราและมักเอาเราไปเปรียบเทียบกับมาเลเซีย จะพิสูจน์ให้เห็นง่ายๆ โดยการไปเยือนเมืองหลวงของเขาและลองใช้ชีวิตสักหนึ่งสัปดาห์ . ผมมีสายสัมพันธ์กับคนมุสลิมเยอะ ทั้งเพื่อนฝูงและญาติ อย่างที่เคยเล่า คุณย่าผมเป็นมุสลิมอยุธยา มีความสัมพันธ์ฉันท์ญาติกับครอบครัวพี่ซัน มาโนช พุฒตาล พี่สาวแท้ๆ ของผมก็แต่งเข้าบ้านอิสลาม ผมมีช่วงเวลาหนึ่งนานนับปีที่แวะเวียนไปที่มัสยิดแห่งหนึ่งเพื่อสงบใจ ไปพูดคุยกับผู้คน ไปฟังเสียงสวดของน้องคนหนึ่งที่สวดพระคัมภีร์ได้ไพเราะจับใจเหลือเกิน.. คุณจะต้องเข้าใจว่า ความไพเราะของดนตรีและท่วงทำนองแบบตะวันตกนั้นเต็มไปด้วยสุ้มเสียงที่ชวนให้ลุ่มหลง ด้วยทำนองชวนเคลิบเคลิ้ม ด้วยเสียงประสานอันกลมกลืน ด้วยจังหวะอันสนุกสนานรื่นเริง.. แต่ทำนองในการสวดของมุสลิมนั้นต่างกันออกไป อิสลามปฏิเสธดนตรีที่เล้าโลมให้รู้สึกลุ่มหลงและท่วงทำนองเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เป็นบาป... แล้วทำไมกันเมื่อเราฟังการสวดของอิสลามแล้วเราจึงรู้สึกไพเราะได้? ทั้งที่ถ้อยคำไม่ใช่ข้อความประโลมโลก แต่เป็นวลีอันศักดิ์สิทธิ์จากพระคัมภีร์ นี่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คำตอบคือ สิ่งที่สัมผัสใจเราได้นั้นเป็นเพราะถ้อยคำเหล่านั้นเปล่งออกมาจากใจอันอ่อนโยน มาจากจิตวิญญาณอันสงบและศรัทธาอย่างแก่กล้า ผู้ฟังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกจริงแท้นั้นจึงประทับใจเหลือประมาณ . เสียงเช่นนี้จะไม่มีวันเปล่งออกมาจากฆาตกรที่ฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง ฆ่าคนแก่ที่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน ผมยืนยัน . https://www.facebook.com/thongdaw.thongaram.9/posts/1712738992940472
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 656 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ เตรียมติดตามตำแหน่งของ GPU และ CPU เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าไปยังจีน

    รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเสนอร่างกฎหมายใหม่เพื่อ ป้องกันการลักลอบนำเข้าชิปขั้นสูงไปยังประเทศคู่แข่ง โดยจะใช้ ระบบตรวจสอบตำแหน่งของฮาร์ดแวร์ เช่น GPU และ CPU เพื่อให้แน่ใจว่า ชิปที่ถูกควบคุมการส่งออกจะไม่ถูกนำไปใช้ในประเทศที่ไม่ได้รับอนุญาต

    ร่างกฎหมายนี้เสนอให้เพิ่มระบบตรวจสอบตำแหน่งของชิปที่ถูกควบคุมการส่งออก
    - ภายใน 6 เดือนหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้

    ผู้ส่งออกต้องรายงานไปยัง Bureau of Industry and Security (BIS) หากพบว่าชิปถูกนำไปใช้ผิดสถานที่
    - รวมถึง กรณีที่มีความพยายามดัดแปลงหรือเปลี่ยนเส้นทางการส่งออก

    กระทรวงกลาโหมจะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อศึกษามาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม
    - อาจมีการกำหนดข้อบังคับใหม่สำหรับ ชิปขั้นสูงในอนาคต

    รัฐบาลจะประเมินมาตรการรักษาความปลอดภัยของชิปทุกปีเป็นเวลา 3 ปี
    - เพื่อตรวจสอบว่า มีเทคโนโลยีใหม่ที่ควรนำมาใช้หรือไม่

    มีการเสนอให้ปรับปรุงกฎการส่งออกเพื่อให้การจัดส่งไปยังประเทศพันธมิตรมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
    - ลดความยุ่งยากในการส่งออกไปยัง ยุโรปและประเทศพันธมิตรอื่น ๆ

    https://www.neowin.net/news/us-wants-to-track-location-of-your-graphics-cards-and-cpus-to-prevent-china-smugglings/
    สหรัฐฯ เตรียมติดตามตำแหน่งของ GPU และ CPU เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าไปยังจีน รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเสนอร่างกฎหมายใหม่เพื่อ ป้องกันการลักลอบนำเข้าชิปขั้นสูงไปยังประเทศคู่แข่ง โดยจะใช้ ระบบตรวจสอบตำแหน่งของฮาร์ดแวร์ เช่น GPU และ CPU เพื่อให้แน่ใจว่า ชิปที่ถูกควบคุมการส่งออกจะไม่ถูกนำไปใช้ในประเทศที่ไม่ได้รับอนุญาต ✅ ร่างกฎหมายนี้เสนอให้เพิ่มระบบตรวจสอบตำแหน่งของชิปที่ถูกควบคุมการส่งออก - ภายใน 6 เดือนหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ ✅ ผู้ส่งออกต้องรายงานไปยัง Bureau of Industry and Security (BIS) หากพบว่าชิปถูกนำไปใช้ผิดสถานที่ - รวมถึง กรณีที่มีความพยายามดัดแปลงหรือเปลี่ยนเส้นทางการส่งออก ✅ กระทรวงกลาโหมจะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อศึกษามาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม - อาจมีการกำหนดข้อบังคับใหม่สำหรับ ชิปขั้นสูงในอนาคต ✅ รัฐบาลจะประเมินมาตรการรักษาความปลอดภัยของชิปทุกปีเป็นเวลา 3 ปี - เพื่อตรวจสอบว่า มีเทคโนโลยีใหม่ที่ควรนำมาใช้หรือไม่ ✅ มีการเสนอให้ปรับปรุงกฎการส่งออกเพื่อให้การจัดส่งไปยังประเทศพันธมิตรมีความยืดหยุ่นมากขึ้น - ลดความยุ่งยากในการส่งออกไปยัง ยุโรปและประเทศพันธมิตรอื่น ๆ https://www.neowin.net/news/us-wants-to-track-location-of-your-graphics-cards-and-cpus-to-prevent-china-smugglings/
    WWW.NEOWIN.NET
    US wants to track location of your graphics cards and CPUs to prevent China smugglings
    The US government wishes to track graphics cards, processors, and NPUs, as it wants to prevent incidents of smuggling to China and other rival countries.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts