• NATO จะจัดการประชุมฉุกเฉินกับยูเครนที่สำนักงานใหญ่ของ NATO ในกรุงบรัสเซลส์ ในวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน เพื่อหารือเกี่ยวกับการโจมตีของมอสโก และการตอบโต้กลับอย่างเหมาะสม
    NATO จะจัดการประชุมฉุกเฉินกับยูเครนที่สำนักงานใหญ่ของ NATO ในกรุงบรัสเซลส์ ในวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน เพื่อหารือเกี่ยวกับการโจมตีของมอสโก และการตอบโต้กลับอย่างเหมาะสม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • แถลงการณ์ของประธานาธิบดีปูติน แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
    ปูตินยืนยันการโจมตีโรงงานผลิตอาวุธขนาดใหญ่ในเมือง Dnepropetrovsk ในยูเครนด้วยขีปนาวุธพิสัยกลางที่มีความสามารถทำลายล้างในระดับนิวเคลียร์ โดยระบุว่านี่ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่นใหม่ Oreshnik (“Hazel”) ที่ทันสมัยซึ่งติดหัวรบที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ โดยอ้างถึงการยกเลิกสนธิสัญญา INF ของรัฐบาลทรัมป์ในปี 2019 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จำกัดการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยกลางชนิดนี้โดยเฉพาะ

    ปูตินยังกล่าวอีกว่าการทดสอบยิงดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ และอังกฤษที่โจมตีรัสเซีย โดยกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของการขยายตัวของสงคราม และบีบบังคับให้มอสโกต้องใช้มาตรการตอบโต้รุนแรงขึ้น

    ขีปนาวุธพิสัยกลาง Oreshnik มีความเร็วสูงสุดที่ 10 Mach ซึ่งมีความเร็วกว่า 3 กม. ต่อวินาที และระบบป้องกันขีปนาวุธของศัตรูที่มีอยู่ในขณะนี้ไม่สามารถสกัดกั้นได้ โดยประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวเสริมว่าจะมีการเตือนพลเรือนล่วงหน้าก่อนที่กองกำลังรัสเซียจะใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล
    .
    ลิ้งค์คำแถลงการณ์ฉบับเต็ม
    http://en.kremlin.ru/events/president/news/75614
    แถลงการณ์ของประธานาธิบดีปูติน แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ปูตินยืนยันการโจมตีโรงงานผลิตอาวุธขนาดใหญ่ในเมือง Dnepropetrovsk ในยูเครนด้วยขีปนาวุธพิสัยกลางที่มีความสามารถทำลายล้างในระดับนิวเคลียร์ โดยระบุว่านี่ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่นใหม่ Oreshnik (“Hazel”) ที่ทันสมัยซึ่งติดหัวรบที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ โดยอ้างถึงการยกเลิกสนธิสัญญา INF ของรัฐบาลทรัมป์ในปี 2019 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จำกัดการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยกลางชนิดนี้โดยเฉพาะ ปูตินยังกล่าวอีกว่าการทดสอบยิงดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ และอังกฤษที่โจมตีรัสเซีย โดยกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของการขยายตัวของสงคราม และบีบบังคับให้มอสโกต้องใช้มาตรการตอบโต้รุนแรงขึ้น ขีปนาวุธพิสัยกลาง Oreshnik มีความเร็วสูงสุดที่ 10 Mach ซึ่งมีความเร็วกว่า 3 กม. ต่อวินาที และระบบป้องกันขีปนาวุธของศัตรูที่มีอยู่ในขณะนี้ไม่สามารถสกัดกั้นได้ โดยประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวเสริมว่าจะมีการเตือนพลเรือนล่วงหน้าก่อนที่กองกำลังรัสเซียจะใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล . ลิ้งค์คำแถลงการณ์ฉบับเต็ม http://en.kremlin.ru/events/president/news/75614
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺🇰🇵 ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียมอบสัตว์กว่า ๗๐ ตัวจากสวนสัตว์มอสโกว์ให้กับเกาหลีเหนือ, รวมถึงสิงโตแอฟริกันและหมีสีน้ำตาล

    “นี่คือของขวัญที่ วลาดิมีร์ ปูติน มอบให้กับชาวเกาหลี”
    .
    🇷🇺🇰🇵 Russian President Putin gifts over 70 animals from the Moscow Zoo to North Korea, including an African lion and brown bears.

    "This is Vladimir Putin's gift to Korean people."
    .
    1:04 PM · Nov 21, 2024 · 256.9K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1859477939424796871
    🇷🇺🇰🇵 ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียมอบสัตว์กว่า ๗๐ ตัวจากสวนสัตว์มอสโกว์ให้กับเกาหลีเหนือ, รวมถึงสิงโตแอฟริกันและหมีสีน้ำตาล “นี่คือของขวัญที่ วลาดิมีร์ ปูติน มอบให้กับชาวเกาหลี” . 🇷🇺🇰🇵 Russian President Putin gifts over 70 animals from the Moscow Zoo to North Korea, including an African lion and brown bears. "This is Vladimir Putin's gift to Korean people." . 1:04 PM · Nov 21, 2024 · 256.9K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1859477939424796871
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 853 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯที่อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกา โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆภายในรัสเซีย คือ "ความผิดพลาดครั้งใหญ่" ที่อาจลากโลกเข้าสู่ขอบเหวแห่ง "สงครามใหญ่" จากความเห็นของประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี
    .
    การที่สหรัฐฯไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลทรงอานุภาพ ATACMS โจมตีรัสเซีย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งใหญ่ของอเมริกา มันโหมกระพือปฏิกิริยาเดือดดาลมาจากมอสโก ซึ่งเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ได้ขยายขอบเขตกรอบการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในความเคลื่อนไหวที่เป็นส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนไปยังเคียฟและตะวันตก
    .
    "ก้าวย่างนี้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ใช่แค่ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม แต่มันจะนำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้หนักหน่วงขึ้นจากรัสเซีย และบางทีมันอาจนำพาภูมิภาคและโลกใบนี้ เข้าสู่สงครามใหญ่ครั้งใหม่" ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว บนเที่ยวบินที่กำลังบินกลับจากไปร่วมประชุมซัมมิตจี20 ในรีโอเดอจาเนโร
    .
    "การตัดสินใจของสหรัฐฯ อาจตีความได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวเติมเชื้อไฟสงคราม เพื่อรับประกันว่ามันจะไม่มีวันยุติและแม้กระทั่งลุกลามหนักหน่วงขึ้น" เขากล่าว ชี้ถึงกฤษฎีกาฉบับหนึ่งที่ลงนามโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ที่อนุญาตให้มอสโกปลดปล่อยการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีที่ถูกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ แม้กระทั่งหากมันเป็นเพียงแค่การโจมตีด้วยอาวุธทั่วไป
    .
    "ความผิดพลาดเล็กน้อยเป็นพื้นฐานของความผิดพลาดครั้งใหญ่ มันจะเหมือนกับการโยนดินปืนเข้าใส่เปลวไฟ ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ทุกคนจงระมัดระวัง" เขากล่าว
    .
    ตุรกี ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งยูเครนและรัสเซีย ได้จัดหาโดรนมอบแก่เคียฟ แต่ขณะเดียวกันก็ปลีกตัวเองออกจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโก
    .
    ความเคลื่อนไหวของปูติน ในการปรับเปลี่ยนนโยบายทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย เรียกเสียงประณามอย่างทันควันจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ว่าไร้ความรับผิดชอบ ขณะที่ แอร์โดอัน แนะนำว่านาโต ควรพินิจพิเคราะห์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซีย
    .
    "พวกเจ้าหน้าที่นาโตควรจับตามองและทบทวนพิจารณาก้าวย่างนี้ของรัสเซีย" เขาบอกระหว่างแถลงข่าวในเมืองริโอเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) "ในแนวทางเดียวกัน ในฐานะประเทศหนึ่งๆของนาโต เราควรใช้ก้าวย่างต่างๆเช่นกันในการปกป้องตัวเราเอง ยูเครนคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา รัสเซียคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา เราจำเป็นต้องสงวนไว้ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเรากับพวกเขาเช่นกัน" เขากล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
    .
    ประธานาธิบดีรัสเซียใช้วาทกรรมนิวเคลียร์มาตลอดความขัดแย้ง แต่เริ่มก้าวร้าวยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ในนั้นรวมถึงการถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามทดสอบนิวเคลียร์ฉบับหนึ่ง และข้อตกลงลดอาวุธฉบับสำคัญฉบับหนึ่งที่ทำร่วมกับสหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111857
    ..............
    Sondhi X
    ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯที่อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกา โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆภายในรัสเซีย คือ "ความผิดพลาดครั้งใหญ่" ที่อาจลากโลกเข้าสู่ขอบเหวแห่ง "สงครามใหญ่" จากความเห็นของประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี . การที่สหรัฐฯไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลทรงอานุภาพ ATACMS โจมตีรัสเซีย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งใหญ่ของอเมริกา มันโหมกระพือปฏิกิริยาเดือดดาลมาจากมอสโก ซึ่งเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ได้ขยายขอบเขตกรอบการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในความเคลื่อนไหวที่เป็นส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนไปยังเคียฟและตะวันตก . "ก้าวย่างนี้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ใช่แค่ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม แต่มันจะนำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้หนักหน่วงขึ้นจากรัสเซีย และบางทีมันอาจนำพาภูมิภาคและโลกใบนี้ เข้าสู่สงครามใหญ่ครั้งใหม่" ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว บนเที่ยวบินที่กำลังบินกลับจากไปร่วมประชุมซัมมิตจี20 ในรีโอเดอจาเนโร . "การตัดสินใจของสหรัฐฯ อาจตีความได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวเติมเชื้อไฟสงคราม เพื่อรับประกันว่ามันจะไม่มีวันยุติและแม้กระทั่งลุกลามหนักหน่วงขึ้น" เขากล่าว ชี้ถึงกฤษฎีกาฉบับหนึ่งที่ลงนามโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ที่อนุญาตให้มอสโกปลดปล่อยการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีที่ถูกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ แม้กระทั่งหากมันเป็นเพียงแค่การโจมตีด้วยอาวุธทั่วไป . "ความผิดพลาดเล็กน้อยเป็นพื้นฐานของความผิดพลาดครั้งใหญ่ มันจะเหมือนกับการโยนดินปืนเข้าใส่เปลวไฟ ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ทุกคนจงระมัดระวัง" เขากล่าว . ตุรกี ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งยูเครนและรัสเซีย ได้จัดหาโดรนมอบแก่เคียฟ แต่ขณะเดียวกันก็ปลีกตัวเองออกจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโก . ความเคลื่อนไหวของปูติน ในการปรับเปลี่ยนนโยบายทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย เรียกเสียงประณามอย่างทันควันจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ว่าไร้ความรับผิดชอบ ขณะที่ แอร์โดอัน แนะนำว่านาโต ควรพินิจพิเคราะห์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซีย . "พวกเจ้าหน้าที่นาโตควรจับตามองและทบทวนพิจารณาก้าวย่างนี้ของรัสเซีย" เขาบอกระหว่างแถลงข่าวในเมืองริโอเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) "ในแนวทางเดียวกัน ในฐานะประเทศหนึ่งๆของนาโต เราควรใช้ก้าวย่างต่างๆเช่นกันในการปกป้องตัวเราเอง ยูเครนคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา รัสเซียคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา เราจำเป็นต้องสงวนไว้ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเรากับพวกเขาเช่นกัน" เขากล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ . ประธานาธิบดีรัสเซียใช้วาทกรรมนิวเคลียร์มาตลอดความขัดแย้ง แต่เริ่มก้าวร้าวยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ในนั้นรวมถึงการถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามทดสอบนิวเคลียร์ฉบับหนึ่ง และข้อตกลงลดอาวุธฉบับสำคัญฉบับหนึ่งที่ทำร่วมกับสหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111857 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 639 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนยิงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่จัดหาให้โดยสหราชอาณาจักร เข้าใส่รัสเซียเป็นครั้งแรก ตามรายงานของสื่อมวลชนสหราชอาณาจักร หลังได้รับไฟเขียวจากลอนดอน
    .
    หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตะวันตกที่ไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าขีปนาวธหลายลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายทางทหารของรัสเซียอย่างน้อย 1 เป้าหมาย พร้อมรายงานต่อว่าแหล่งข่าวยืนยัน ปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลสตอร์ม ชาโดว์ เป็นครั้งแรก
    .
    ส่วนหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน รายงานว่าสหราชอาณจักรให้ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธในรัสเซีย ตอบโต้ความเคลื่อนไหวของมอสโก ที่ประจำการทหารเกาหลีเหนือตามแนวชายแดน
    .
    เหล่าบล็อกเกอร์ทหารรัสเซียฝักใฝ่เครมลิน เขียนว่าขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ นับสิบลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายหนึ่งในแคว้นคูร์สก์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งถูกกองกำลังเคียฟยึดครองบางส่วน
    .
    ขณะที่สื่อมวลชนยูเครนโพสต์ภาพคลิปวิดีโอภาพถ่ายทางอากาศจากโดรน เป็นภาพการระเบิดป็นชุดๆ ณ จุดๆ หนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็นคฤหาสถ์หลังหนึ่งในพื้นที่ห่างไกล ที่พวกชาวบ้านเรียกว่าเขต "มารีโน" พร้อมระบุว่าการโจมตีน่าจะเล็งเป้าเล่นงานศูนย์บัญชาการทหารที่อยู่ใต้ดิน
    .
    ทั้งมอสโก และเคียฟ ต่างยังไม่ออกมายืนยันอย่างเป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธ หรือการใช้สตอร์ม ชาโดว์
    .
    รายงานข่าวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ วอชิงตันเปิดเผยว่าพวกเขาอนญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขา ATACMS โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ภายในรัสเซีย ตามคำร้องขอที่มีมาอย่างยาวนานของเคียฟ
    .
    ในวันอังคาร (19 พ.ย.) รัสเซียระบุว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกใช้เล่นงานที่ตั้งทางทหารแห่งหนึ่งของพวกเขาในแคว้นบรีอันสค์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน
    .
    ทั้งนี้ รายงานข่าวเกี่ยวกับการโจมตีล่าสุด มีขึ้นในขณะที่มอสโกกำลังหาทางแก้แค้นยูเครน สำหรับการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ เข้าใส่ดินแดนของรัสเซียเป็นครั้งแรก และคำกล่าวหาจากเครมลิน ที่ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กำลังหาทางลากยาวสงคราม
    .
    รัสเซียยกระดับการโจมตีนองเลือดด้วยขีปนาวุธในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เล็งเป้าเล่นงานพื้นที่ที่อยู่อาศัยต่างๆ และเครือข่ายพลังงานของยูเครน กระตุ้นให้ระบบเตือนภัยทางอากาศทั่วประเทศดังระงมในทุกวัน
    .
    สหรัฐฯ เปิดเผยในตอนเช้าวันพุธ (20 พ.ย.) ว่ากำลังปิดสถานทูตในกรุงเคียฟ หลังได้รับข้อมูลอย่างเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ จากนั้นแคนาดา กรีซ ฮังการี อิตาลี และสเปนก็ทำตาม
    .
    อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ทางสถานทูตสหรัฐฯ เผยว่าจะกลับมาเปิดให้บริการในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) ภายใต้ปฏิบัติการที่เปลี่ยนไปเป็นการชั่วคราว สืบเนื่องจากคำเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ
    .
    เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังระงมทั่วกรุงเคียฟในวันพุธ (20 พ.ย.) และเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเศษซากของโดรนโจมตีที่ถูกยิงสกัด ได้ก่อความเสียหายเล็กน้อย
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวปราศรัยในช่วงค่ำ เตือนว่าข้อความแห่งความตื่นตระหนกที่โพสต์ซ้ำๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ รังแต่จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจแก่รัสเซีย
    .
    คำเตือนนี้มีขึ้นในขณะที่ความกังวลกำลังแผ่ลามในกรุงเคียฟ ท่ามกลางสงครามที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 3 ปี เนื่องจากชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังนำมาซึ่งความไม่แน่นอนรอบใหม่ เกี่ยวกับแรงสนับสนุนของวอชิงตันที่จะมอบแก่เคียฟในอนาคต
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ วิพากษ์วิจารณ์แรงสนับสนุนที่สหรัฐฯ มอบให้แก่เคียฟ และอ้างว่าเขาจะเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมง ความเห็นที่กระพือความกังวลในเคียฟและยุโรป เกี่ยวกับศักยภาพของยูเครนในการยืนหยัดรับมือการโจมตีของรัสเซีย โดยปราศจากแรงสนับสนุนของอเมริกา
    .
    ในวันพุธ (20 พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน ลากยาวสงคราม ด้วยการยกระดับป้อนอาวุธแก่ยูเครน ในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของการดำรงตำแหน่ง "ถ้าคุณมองดูทิศทางของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง พวกเขามุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในการเดินหน้าสงครามในยูเครน และทำทุกอย่างเท่าที่พวกเขาทำได้ เพื่อให้เป็นเช่นนั้น" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลินกล่าว
    .
    ความคิดเห็นของ เปสคอฟ เป็นการตอบโต้สหรัฐฯ ที่บอกว่าพวกเขาจะจัดหาทุ่นระเบิดต่อต้านกำลังพลแก่ยูเครนเร็วๆ นี้ การตัดสินใจดังกล่าวกระตุ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรการกุศลต่างๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงระยะยาวที่จะเกิดกับพลเมือง แต่ เซเลนสกี เน้นว่าทุ่นระเบิดมีความสำคัญยิ่งที่จะหยุดการจู่โจมของรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111854
    ..............
    Sondhi X
    ยูเครนยิงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่จัดหาให้โดยสหราชอาณาจักร เข้าใส่รัสเซียเป็นครั้งแรก ตามรายงานของสื่อมวลชนสหราชอาณาจักร หลังได้รับไฟเขียวจากลอนดอน . หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตะวันตกที่ไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าขีปนาวธหลายลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายทางทหารของรัสเซียอย่างน้อย 1 เป้าหมาย พร้อมรายงานต่อว่าแหล่งข่าวยืนยัน ปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลสตอร์ม ชาโดว์ เป็นครั้งแรก . ส่วนหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน รายงานว่าสหราชอาณจักรให้ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธในรัสเซีย ตอบโต้ความเคลื่อนไหวของมอสโก ที่ประจำการทหารเกาหลีเหนือตามแนวชายแดน . เหล่าบล็อกเกอร์ทหารรัสเซียฝักใฝ่เครมลิน เขียนว่าขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ นับสิบลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายหนึ่งในแคว้นคูร์สก์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งถูกกองกำลังเคียฟยึดครองบางส่วน . ขณะที่สื่อมวลชนยูเครนโพสต์ภาพคลิปวิดีโอภาพถ่ายทางอากาศจากโดรน เป็นภาพการระเบิดป็นชุดๆ ณ จุดๆ หนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็นคฤหาสถ์หลังหนึ่งในพื้นที่ห่างไกล ที่พวกชาวบ้านเรียกว่าเขต "มารีโน" พร้อมระบุว่าการโจมตีน่าจะเล็งเป้าเล่นงานศูนย์บัญชาการทหารที่อยู่ใต้ดิน . ทั้งมอสโก และเคียฟ ต่างยังไม่ออกมายืนยันอย่างเป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธ หรือการใช้สตอร์ม ชาโดว์ . รายงานข่าวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ วอชิงตันเปิดเผยว่าพวกเขาอนญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขา ATACMS โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ภายในรัสเซีย ตามคำร้องขอที่มีมาอย่างยาวนานของเคียฟ . ในวันอังคาร (19 พ.ย.) รัสเซียระบุว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกใช้เล่นงานที่ตั้งทางทหารแห่งหนึ่งของพวกเขาในแคว้นบรีอันสค์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน . ทั้งนี้ รายงานข่าวเกี่ยวกับการโจมตีล่าสุด มีขึ้นในขณะที่มอสโกกำลังหาทางแก้แค้นยูเครน สำหรับการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ เข้าใส่ดินแดนของรัสเซียเป็นครั้งแรก และคำกล่าวหาจากเครมลิน ที่ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กำลังหาทางลากยาวสงคราม . รัสเซียยกระดับการโจมตีนองเลือดด้วยขีปนาวุธในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เล็งเป้าเล่นงานพื้นที่ที่อยู่อาศัยต่างๆ และเครือข่ายพลังงานของยูเครน กระตุ้นให้ระบบเตือนภัยทางอากาศทั่วประเทศดังระงมในทุกวัน . สหรัฐฯ เปิดเผยในตอนเช้าวันพุธ (20 พ.ย.) ว่ากำลังปิดสถานทูตในกรุงเคียฟ หลังได้รับข้อมูลอย่างเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ จากนั้นแคนาดา กรีซ ฮังการี อิตาลี และสเปนก็ทำตาม . อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ทางสถานทูตสหรัฐฯ เผยว่าจะกลับมาเปิดให้บริการในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) ภายใต้ปฏิบัติการที่เปลี่ยนไปเป็นการชั่วคราว สืบเนื่องจากคำเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ . เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังระงมทั่วกรุงเคียฟในวันพุธ (20 พ.ย.) และเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเศษซากของโดรนโจมตีที่ถูกยิงสกัด ได้ก่อความเสียหายเล็กน้อย . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวปราศรัยในช่วงค่ำ เตือนว่าข้อความแห่งความตื่นตระหนกที่โพสต์ซ้ำๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ รังแต่จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจแก่รัสเซีย . คำเตือนนี้มีขึ้นในขณะที่ความกังวลกำลังแผ่ลามในกรุงเคียฟ ท่ามกลางสงครามที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 3 ปี เนื่องจากชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังนำมาซึ่งความไม่แน่นอนรอบใหม่ เกี่ยวกับแรงสนับสนุนของวอชิงตันที่จะมอบแก่เคียฟในอนาคต . ว่าที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ วิพากษ์วิจารณ์แรงสนับสนุนที่สหรัฐฯ มอบให้แก่เคียฟ และอ้างว่าเขาจะเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมง ความเห็นที่กระพือความกังวลในเคียฟและยุโรป เกี่ยวกับศักยภาพของยูเครนในการยืนหยัดรับมือการโจมตีของรัสเซีย โดยปราศจากแรงสนับสนุนของอเมริกา . ในวันพุธ (20 พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน ลากยาวสงคราม ด้วยการยกระดับป้อนอาวุธแก่ยูเครน ในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของการดำรงตำแหน่ง "ถ้าคุณมองดูทิศทางของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง พวกเขามุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในการเดินหน้าสงครามในยูเครน และทำทุกอย่างเท่าที่พวกเขาทำได้ เพื่อให้เป็นเช่นนั้น" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลินกล่าว . ความคิดเห็นของ เปสคอฟ เป็นการตอบโต้สหรัฐฯ ที่บอกว่าพวกเขาจะจัดหาทุ่นระเบิดต่อต้านกำลังพลแก่ยูเครนเร็วๆ นี้ การตัดสินใจดังกล่าวกระตุ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรการกุศลต่างๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงระยะยาวที่จะเกิดกับพลเมือง แต่ เซเลนสกี เน้นว่าทุ่นระเบิดมีความสำคัญยิ่งที่จะหยุดการจู่โจมของรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111854 .............. Sondhi X
    Angry
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 652 มุมมอง 0 รีวิว
  • มอสโกกร้าวเอาคืนยูเครน รวมถึงนาโตที่จัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้เคียฟโจมตีดินแดนรัสเซีย พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาอเมริกาต้องการยื้อสงครามด้วยการเร่งส่งอาวุธให้ยูเครนก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ขณะที่ในวันพุธ (20 พ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งปิดสถานทูตในเคียฟและเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนเตรียมพร้อมหาที่หลบภัยรวมถึงเสบียงและของใช้จำเป็นโดยด่วน หลังได้รับข้อมูลว่า อาจมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่
    .
    กองทัพยูเครนแถลงว่า ได้โจมตีคลังอาวุธของรัสเซียห่างจากชายแดนราว 110 กม. เมื่อเช้าวันอังคาร (19) ซึ่งทำให้เกิดระเบิดตามมา แต่ไม่ได้ระบุว่า ใช้อาวุธชนิดใด กระนั้น แหล่งข่าวในรัฐบาลยูเครนและเจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งยืนยันว่า อาวุธที่ใช้โจมตีคือ อะแทคซิมส์ (ATACMS ย่อมาจาก MGM-140 Army Tactical Missile System ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีกองทัพบกแบบ เอ็มจีเอ็ม-140) ซึ่งเป็นขีปนาวุธยุทธวิธีที่ยิงได้ไกลประมาณ 300 กิโลเมตร ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่งอนุมัติให้ยูเครนใช้ในการโจมตีดินแดนรัสเซียได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    ด้านรัสเซียระบุว่า ยิงขีปนาวุธอะแทคซิมส์จำนวน 5 จาก 6 ลูกตก ในพื้นที่ทางทหารในแคว้นบรีแยนสก์ของตน และซากจรวดทำให้เกิดไฟไหม้แต่ดับได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่มีผู้เสียชีวิตและไม่มีความเสียหายใดๆ
    .
    การโจมตีคราวนี้เกิดขึ้นขณะสงครามยูเครนดำเนินมาครบ 1,000 วัน โดยที่ยูเครนเสียดินแดนประมาณ 1 ใน 5 ให้รัสเซีย และท่ามกลางความสงสัยเกี่ยวกับความช่วยเหลือของตะวันตกที่จะให้แก่ยูเครนในอนาคต หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้นปีหน้า
    .
    เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (18) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามกฤษฎีกาแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์
    .
    นอกจากนั้น การรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่าแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย
    .
    เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวระหว่างร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มจี20 ที่บราซิลเมื่อวันอังคาร (19) ว่า การโจมตีของยูเครนด้วยจรวดอะแทคซิมส์ของอเมริกา เป็นเครื่องฟ้องว่า ตะวันตกต้องการให้ความขัดแย้งลุกลาม และถือเป็นเฟสใหม่ของสงครามที่ฝ่ายตะวันตกกระทำต่อรัสเซีย
    .
    ขณะที่ เซียร์เก นาริชกิน ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันพุธ (20) ว่า รัสเซียจะแก้แค้นชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่จัดหาขีปนาวุธให้ยูเครนใช้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย และสำทับว่า การแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ของปูตินหมายความว่า ศัตรูไม่มีทางเอาชนะรัสเซียในสนามรบได้
    .
    วันเดียวกันนั้น ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกมาแถลงกล่าวหาอเมริกาพยายามทำทุกทางเพื่อยื้อสงครามในยูเครน ซึ่งรวมถึงการรีบเร่งจัดส่งอาวุธให้เคียฟก่อนที่ทรัมป์จะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว โดยที่ผ่านมา ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของอเมริกาผู้นี้วิจารณ์การสนับสนุนยูเครนของคณะบริหารไบเดน และประกาศว่า จะผลักดันให้มีข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเข้ารับตำแหน่ง
    .
    นอกจากนั้น เมื่อคืนวันอังคาร เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งเปิดเผยว่า เร็วๆ นี้อเมริกาจะจัดส่งกับระเบิดสังหารบุคคลไปให้ยูเครน โดยขอให้เคียฟใช้อาวุธนี้เฉพาะในบริเวณที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยและในดินแดนของตนเองเพื่อลดความเสี่ยงต่อพลเรือน
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันพุธกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำสั่งปิดสถานเอกอัครราชทูตอเมริกันในกรุงเคียฟ โดยกล่าวว่าเนื่องจากได้รับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ พร้อมเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนให้เตรียมพร้อมหาที่หลบภัยโดยด่วน รวมทั้งสำรองน้ำ อาหาร และสิ่งจำเป็นอื่นๆ เช่น ยา เผื่อไว้สำหรับกรณีที่ระบบไฟฟ้าและน้ำประปายูเครนเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย
    .
    ทางด้าน อันดริว โควาเลนโก ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการเผยแพร่ข้อมูลเท็จของสภาความมั่นคงแห่งยูเครน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประกาศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า รัสเซียพร้อมโจมตีทางอากาศเพิ่มขึ้น และสำทับว่า รัสเซียตุนขีปนาวุธสำหรับโจมตียูเครนมานานหลายเดือน ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธเคเอช-101 และคาลิบร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111834
    ..............
    Sondhi X
    มอสโกกร้าวเอาคืนยูเครน รวมถึงนาโตที่จัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้เคียฟโจมตีดินแดนรัสเซีย พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาอเมริกาต้องการยื้อสงครามด้วยการเร่งส่งอาวุธให้ยูเครนก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ขณะที่ในวันพุธ (20 พ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งปิดสถานทูตในเคียฟและเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนเตรียมพร้อมหาที่หลบภัยรวมถึงเสบียงและของใช้จำเป็นโดยด่วน หลังได้รับข้อมูลว่า อาจมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ . กองทัพยูเครนแถลงว่า ได้โจมตีคลังอาวุธของรัสเซียห่างจากชายแดนราว 110 กม. เมื่อเช้าวันอังคาร (19) ซึ่งทำให้เกิดระเบิดตามมา แต่ไม่ได้ระบุว่า ใช้อาวุธชนิดใด กระนั้น แหล่งข่าวในรัฐบาลยูเครนและเจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งยืนยันว่า อาวุธที่ใช้โจมตีคือ อะแทคซิมส์ (ATACMS ย่อมาจาก MGM-140 Army Tactical Missile System ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีกองทัพบกแบบ เอ็มจีเอ็ม-140) ซึ่งเป็นขีปนาวุธยุทธวิธีที่ยิงได้ไกลประมาณ 300 กิโลเมตร ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่งอนุมัติให้ยูเครนใช้ในการโจมตีดินแดนรัสเซียได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา . ด้านรัสเซียระบุว่า ยิงขีปนาวุธอะแทคซิมส์จำนวน 5 จาก 6 ลูกตก ในพื้นที่ทางทหารในแคว้นบรีแยนสก์ของตน และซากจรวดทำให้เกิดไฟไหม้แต่ดับได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่มีผู้เสียชีวิตและไม่มีความเสียหายใดๆ . การโจมตีคราวนี้เกิดขึ้นขณะสงครามยูเครนดำเนินมาครบ 1,000 วัน โดยที่ยูเครนเสียดินแดนประมาณ 1 ใน 5 ให้รัสเซีย และท่ามกลางความสงสัยเกี่ยวกับความช่วยเหลือของตะวันตกที่จะให้แก่ยูเครนในอนาคต หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้นปีหน้า . เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (18) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามกฤษฎีกาแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์ . นอกจากนั้น การรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่าแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย . เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวระหว่างร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มจี20 ที่บราซิลเมื่อวันอังคาร (19) ว่า การโจมตีของยูเครนด้วยจรวดอะแทคซิมส์ของอเมริกา เป็นเครื่องฟ้องว่า ตะวันตกต้องการให้ความขัดแย้งลุกลาม และถือเป็นเฟสใหม่ของสงครามที่ฝ่ายตะวันตกกระทำต่อรัสเซีย . ขณะที่ เซียร์เก นาริชกิน ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันพุธ (20) ว่า รัสเซียจะแก้แค้นชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่จัดหาขีปนาวุธให้ยูเครนใช้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย และสำทับว่า การแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ของปูตินหมายความว่า ศัตรูไม่มีทางเอาชนะรัสเซียในสนามรบได้ . วันเดียวกันนั้น ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกมาแถลงกล่าวหาอเมริกาพยายามทำทุกทางเพื่อยื้อสงครามในยูเครน ซึ่งรวมถึงการรีบเร่งจัดส่งอาวุธให้เคียฟก่อนที่ทรัมป์จะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว โดยที่ผ่านมา ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของอเมริกาผู้นี้วิจารณ์การสนับสนุนยูเครนของคณะบริหารไบเดน และประกาศว่า จะผลักดันให้มีข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเข้ารับตำแหน่ง . นอกจากนั้น เมื่อคืนวันอังคาร เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งเปิดเผยว่า เร็วๆ นี้อเมริกาจะจัดส่งกับระเบิดสังหารบุคคลไปให้ยูเครน โดยขอให้เคียฟใช้อาวุธนี้เฉพาะในบริเวณที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยและในดินแดนของตนเองเพื่อลดความเสี่ยงต่อพลเรือน . ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันพุธกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำสั่งปิดสถานเอกอัครราชทูตอเมริกันในกรุงเคียฟ โดยกล่าวว่าเนื่องจากได้รับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ พร้อมเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนให้เตรียมพร้อมหาที่หลบภัยโดยด่วน รวมทั้งสำรองน้ำ อาหาร และสิ่งจำเป็นอื่นๆ เช่น ยา เผื่อไว้สำหรับกรณีที่ระบบไฟฟ้าและน้ำประปายูเครนเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย . ทางด้าน อันดริว โควาเลนโก ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการเผยแพร่ข้อมูลเท็จของสภาความมั่นคงแห่งยูเครน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประกาศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า รัสเซียพร้อมโจมตีทางอากาศเพิ่มขึ้น และสำทับว่า รัสเซียตุนขีปนาวุธสำหรับโจมตียูเครนมานานหลายเดือน ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธเคเอช-101 และคาลิบร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111834 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 666 มุมมอง 0 รีวิว
  • มอสโกว์จะเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ต่อไป และจะไม่อนุญาตให้สหรัฐฯปิดปากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เนื่องจากวอชิงตันพยายามสนับสนุนปฏิบัติการของอิสราเอลในฉนวนกาซา, วาซิลี เนเบนเซีย, ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าว:
    .
    Moscow will continue to call for an end to violence against Palestinians and will not allow the US to muzzle the UN Security Council as Washington seeks to support Israel's operation in Gaza, said Vasily Nebenzya, Russia's envoy to the UN:
    https://tass.com/politics/1875401
    .
    2:41 AM · Nov 21, 2024 · 2,861 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1859321148787585040
    มอสโกว์จะเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ต่อไป และจะไม่อนุญาตให้สหรัฐฯปิดปากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เนื่องจากวอชิงตันพยายามสนับสนุนปฏิบัติการของอิสราเอลในฉนวนกาซา, วาซิลี เนเบนเซีย, ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าว: . Moscow will continue to call for an end to violence against Palestinians and will not allow the US to muzzle the UN Security Council as Washington seeks to support Israel's operation in Gaza, said Vasily Nebenzya, Russia's envoy to the UN: https://tass.com/politics/1875401 . 2:41 AM · Nov 21, 2024 · 2,861 Views https://x.com/tassagency_en/status/1859321148787585040
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • มอสโกว์แก้ไขหลักคำสอนเรื่องนิวเคลียร์ของตน หลังสหรัฐฯอนุมัติการโจมตีระยะไกลภายในรัสเซีย; รัสเซียท้าทายอำนาจครอบงำของชาติตะวันตกในกลุ่ม G20; และอิสราเอล, เลบานอนกำลังมุ่งสู่การหยุดยิง:
    .
    Moscow revises its nuclear doctrine following the US approval of long-range attacks inside Russia; Russia challenges Western hegemony within the G20; and Israel, Lebanon move toward a ceasefire:
    https://tass.com/pressreview/1875031
    .
    5:37 PM · Nov 20, 2024 · 1,908 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1859184404511314165
    มอสโกว์แก้ไขหลักคำสอนเรื่องนิวเคลียร์ของตน หลังสหรัฐฯอนุมัติการโจมตีระยะไกลภายในรัสเซีย; รัสเซียท้าทายอำนาจครอบงำของชาติตะวันตกในกลุ่ม G20; และอิสราเอล, เลบานอนกำลังมุ่งสู่การหยุดยิง: . Moscow revises its nuclear doctrine following the US approval of long-range attacks inside Russia; Russia challenges Western hegemony within the G20; and Israel, Lebanon move toward a ceasefire: https://tass.com/pressreview/1875031 . 5:37 PM · Nov 20, 2024 · 1,908 Views https://x.com/tassagency_en/status/1859184404511314165
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูตินลงนาม ประกาศหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ ซึ่งขยายเงื่อนไขที่รัสเซียจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ให้กว้างขวางกว่าเดิม โดยครอบคลุมกรณีแดนหมีขาวถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธซึ่งมีมหาอำนาจนิวเคลียร์ให้การสนับสนุนด้วย ถือว่าเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการที่อเมริกาอนุญาตเคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ขณะเดียวกัน เซเลนสกี้ประกาศในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันครบรอบมอสโกเปิดฉากรุกรานครบ 1,000 วัน โวลั่นยูเครนจะไม่ยอมจำนน
    .
    ยูเครนเริ่มต้นวันอังคาร (19 ) วันครบรอบ 1,000 วันที่ถูกรัสเซียรุกรานด้วยข่าวการโจมตีของมอสโกในเมืองซูมี ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อคืนวันจันทร์ (18 พ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน รวมถึงเด็ก
    .
    เคียฟระบุว่า ตลอดคืนวันจันทร์ รัสเซียได้ส่งโดรน 87 ลำโจมตีทั่วยูเครน แต่ถูกยิงตก 51 ลำ นอกจากนั้นในวันจันทร์รัสเซียยังยิงขีปนาวุธโจมตีโอเดสซา เมืองท่าสำคัญทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งได้รับการประกาศรับรองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บ 55 คน
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากอาคารที่พักอาศัยในเมืองซูมี ที่ถูกโจมตี และเรียกร้องพันธมิตรบีบให้เครมลินทำข้อตกลงสันติภาพ
    .
    กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงในทิศทางเดียวกันด้วยการเรียกร้องบรรดาพันธมิตรเร่งให้การสนับสนุนทางทหารเพื่อยุติสงครามนี้ลงไปอย่าง “ยั่งยืน” และย้ำว่า เคียฟจะไม่ยอมจำนนต่อผู้รุกราน แต่กองทัพรัสเซียต้องถูกลงโทษที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    ทว่า ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียงเครมลิน ประกาศกร้าวเหมือนกันว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียต่อเคียฟจะต้องดำเนินต่อไปจนเสร็จสมบูรณ์
    .
    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามประกาศใช้กฤษฎีกาซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์
    .
    นอกจากนั้นการรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่า แนวร่วมหรือกลุ่มพันะมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย
    .
    เครมลินระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีความจำเป็นเพื่อทำให้หลักนิยมนิวเคลียร์ของรัสเซียสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้ มอสโกมุ่งที่จะเตือนตะวันตกและยูเครนอย่างชัดเจน หลังจากมีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ ที่อเมริกาจัดหาให้เข้าโจมตีเป้าหมายทางทหารภายในรัสเซีย
    .
    ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป ที่กำลังจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอียูปรับแนวทางให้สอดคล้องกับวอชิงตันในการอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลๆที่ยุโรปจัดส่งให้ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    เปสคอฟวิจารณ์ว่า คณะบริหารของไบเดนที่กำลังจะหมดวาระต้องการยั่วยุให้ความขัดแย้งในยูเครนบานปลายขยายตัวออกไป และกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังออกแถลงการณ์ย้ำว่า การที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีดินแดนรัสเซีย จะถือว่าอเมริกาและรัฐบริวารเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย
    .
    เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบ มีรายงานว่ากองทหารยูเครนในทุกแนวรบขณะนี้อยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่ถูกโจมตีอย่างหนักอย่าง คูเปียนสก์ และโปครอฟสก์ ซึ่งต่างอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนทั้งคู่ นอกจากนั้น กองกำลังยูเครนยังประสบความเพลี่ยงพล้ำในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ที่พวกเขายกำลังบุกเข้าไปเมื่อหลายเดือนก่อน โดยที่มีรายงานระบุด้วยว่า มอสโกกำลังระดมทหารราว 50,000 นายเพื่อขับไล่ทหารยูเครนออกจากแคว้นดังกล่าว
    .
    ในวันอังคาร ยูเครนกล่าวหากองกำลังรัสเซียใช้สารเคมีต้องห้าม และเรียกร้องพันธมิตรตอบสนองต่อรายงานขององค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) ที่ระบุว่า พบแก๊สควบคุมจลาจลที่ถูกแบนในตัวอย่างดินบริเวณแนวรบในยูเครน
    .
    กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า การที่รัสเซียใช้สารเคมีต้องห้ามในสนามรบตอกย้ำว่า รัสเซียเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111416
    ..............
    Sondhi X
    ปูตินลงนาม ประกาศหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ ซึ่งขยายเงื่อนไขที่รัสเซียจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ให้กว้างขวางกว่าเดิม โดยครอบคลุมกรณีแดนหมีขาวถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธซึ่งมีมหาอำนาจนิวเคลียร์ให้การสนับสนุนด้วย ถือว่าเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการที่อเมริกาอนุญาตเคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ขณะเดียวกัน เซเลนสกี้ประกาศในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันครบรอบมอสโกเปิดฉากรุกรานครบ 1,000 วัน โวลั่นยูเครนจะไม่ยอมจำนน . ยูเครนเริ่มต้นวันอังคาร (19 ) วันครบรอบ 1,000 วันที่ถูกรัสเซียรุกรานด้วยข่าวการโจมตีของมอสโกในเมืองซูมี ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อคืนวันจันทร์ (18 พ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน รวมถึงเด็ก . เคียฟระบุว่า ตลอดคืนวันจันทร์ รัสเซียได้ส่งโดรน 87 ลำโจมตีทั่วยูเครน แต่ถูกยิงตก 51 ลำ นอกจากนั้นในวันจันทร์รัสเซียยังยิงขีปนาวุธโจมตีโอเดสซา เมืองท่าสำคัญทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งได้รับการประกาศรับรองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บ 55 คน . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากอาคารที่พักอาศัยในเมืองซูมี ที่ถูกโจมตี และเรียกร้องพันธมิตรบีบให้เครมลินทำข้อตกลงสันติภาพ . กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงในทิศทางเดียวกันด้วยการเรียกร้องบรรดาพันธมิตรเร่งให้การสนับสนุนทางทหารเพื่อยุติสงครามนี้ลงไปอย่าง “ยั่งยืน” และย้ำว่า เคียฟจะไม่ยอมจำนนต่อผู้รุกราน แต่กองทัพรัสเซียต้องถูกลงโทษที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ . ทว่า ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียงเครมลิน ประกาศกร้าวเหมือนกันว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียต่อเคียฟจะต้องดำเนินต่อไปจนเสร็จสมบูรณ์ . ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามประกาศใช้กฤษฎีกาซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์ . นอกจากนั้นการรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่า แนวร่วมหรือกลุ่มพันะมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย . เครมลินระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีความจำเป็นเพื่อทำให้หลักนิยมนิวเคลียร์ของรัสเซียสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน . ความเคลื่อนไหวนี้ มอสโกมุ่งที่จะเตือนตะวันตกและยูเครนอย่างชัดเจน หลังจากมีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ ที่อเมริกาจัดหาให้เข้าโจมตีเป้าหมายทางทหารภายในรัสเซีย . ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป ที่กำลังจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอียูปรับแนวทางให้สอดคล้องกับวอชิงตันในการอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลๆที่ยุโรปจัดส่งให้ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . เปสคอฟวิจารณ์ว่า คณะบริหารของไบเดนที่กำลังจะหมดวาระต้องการยั่วยุให้ความขัดแย้งในยูเครนบานปลายขยายตัวออกไป และกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังออกแถลงการณ์ย้ำว่า การที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีดินแดนรัสเซีย จะถือว่าอเมริกาและรัฐบริวารเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย . เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบ มีรายงานว่ากองทหารยูเครนในทุกแนวรบขณะนี้อยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่ถูกโจมตีอย่างหนักอย่าง คูเปียนสก์ และโปครอฟสก์ ซึ่งต่างอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนทั้งคู่ นอกจากนั้น กองกำลังยูเครนยังประสบความเพลี่ยงพล้ำในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ที่พวกเขายกำลังบุกเข้าไปเมื่อหลายเดือนก่อน โดยที่มีรายงานระบุด้วยว่า มอสโกกำลังระดมทหารราว 50,000 นายเพื่อขับไล่ทหารยูเครนออกจากแคว้นดังกล่าว . ในวันอังคาร ยูเครนกล่าวหากองกำลังรัสเซียใช้สารเคมีต้องห้าม และเรียกร้องพันธมิตรตอบสนองต่อรายงานขององค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) ที่ระบุว่า พบแก๊สควบคุมจลาจลที่ถูกแบนในตัวอย่างดินบริเวณแนวรบในยูเครน . กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า การที่รัสเซียใช้สารเคมีต้องห้ามในสนามรบตอกย้ำว่า รัสเซียเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111416 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 660 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇸☢️ วูซิช: รัสเซียไม่ขู่

    วลาดิมีร์ ปูติน จะไม่ลังเลที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์หากจำเป็น, ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ วูซิช แห่งเซอร์เบีย กล่าว

    “หากความปลอดภัยของมอสโกว์ถูกคุกคาม, หากปูตินเห็นว่าไม่มีทางออกอื่น, เขาจะไม่ลังเลแม้แต่นาทีเดียว,” เขากล่าว
    .
    🇷🇸☢️ VUCIC: RUSSIA DOES NOT BLUFF

    Vladimir Putin will not hesitate using nuclear weapon if necessary, Serbian President Aleksandar Vucic says.

    "If the security of Moscow is threatened, if Putin sees that there is no other way out, he will not hesitate for a minute," he said.
    .
    5:23 AM · Nov 20, 2024 · 5,941 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1858999442642260140
    🇷🇸☢️ วูซิช: รัสเซียไม่ขู่ วลาดิมีร์ ปูติน จะไม่ลังเลที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์หากจำเป็น, ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ วูซิช แห่งเซอร์เบีย กล่าว “หากความปลอดภัยของมอสโกว์ถูกคุกคาม, หากปูตินเห็นว่าไม่มีทางออกอื่น, เขาจะไม่ลังเลแม้แต่นาทีเดียว,” เขากล่าว . 🇷🇸☢️ VUCIC: RUSSIA DOES NOT BLUFF Vladimir Putin will not hesitate using nuclear weapon if necessary, Serbian President Aleksandar Vucic says. "If the security of Moscow is threatened, if Putin sees that there is no other way out, he will not hesitate for a minute," he said. . 5:23 AM · Nov 20, 2024 · 5,941 Views https://x.com/SputnikInt/status/1858999442642260140
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • มอสโกว์ส่งสัญญาณไปยังตะวันตกว่า พร้อมเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์แล้ว หลังจากยูเครนได้รับอนุญาตให้โจมตีดินแดนรัสเซียด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐ - CNBC

    กำลังพัฒนา..

    Douglas Macgregor
    .
    BREAKING: Moscow signals to the West that it's ready for a nuclear confrontation after Ukraine was given permission to attack Russian territory with U.S. long-range missiles. -CNBC

    Developing..
    .
    10:50 PM · Nov 19, 2024 · 410.3K Views
    https://x.com/DougAMacgregor/status/1858900574487409082
    มอสโกว์ส่งสัญญาณไปยังตะวันตกว่า พร้อมเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์แล้ว หลังจากยูเครนได้รับอนุญาตให้โจมตีดินแดนรัสเซียด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐ - CNBC กำลังพัฒนา.. Douglas Macgregor . BREAKING: Moscow signals to the West that it's ready for a nuclear confrontation after Ukraine was given permission to attack Russian territory with U.S. long-range missiles. -CNBC Developing.. . 10:50 PM · Nov 19, 2024 · 410.3K Views https://x.com/DougAMacgregor/status/1858900574487409082
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! กองทัพรัสเซีย เริ่มดำเนินการติดตั้งโครงสร้างศูนย์พักพิงสำหรับสงครามนิวเคลียร์แบบโมดูล KUB-M ที่มีลักษณะคล้ายตู้คอนเทนเนอร์ โครงสร้างดังกล่าวสามารถรองรับพลเรือนได้มากกว่า 50 คน ที่บริเวณชานกรุงมอสโก
    .
    สำหรับโครงสร้างศูนย์พักพิงสำหรับสงครามนิวเคลียร์แบบโมดูล KUB-M ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันพลเมืองจากภัยคุกคามต่างๆ รวมถึงสงครามรังสี ชีวะ เคมี จากการระเบิดนิวเคลียร์และการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี รวมถึงสงครามชีวภาพ
    .
    นอกจากนี้ สำนักงานข่าว RT News รายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังสั่งเร่งผลิตโครงสร้างศูนย์พักพิงสำหรับสงครามนิวเคลียร์แบบโมดูล KUB-M เป็นจำนวนมาก เพื่อรับมือกับสงครามใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
    .
    “การผลิตแบบต่อเนื่องของโครงสร้างป้องกันโมดูลนวัตกรรม "KUB-M" ได้เริ่มขึ้นในสหพันธรัฐรัสเซีย เหตุการณ์นี้เป็นผลมาจากการวิจัยและความพยายามหลายปีของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซีย ในด้านการปกป้องประชาชนจากสถานการณ์ฉุกเฉิน” กระทรวงฯ กล่าว.

    .
    https://www.facebook.com/groups/194174770388504/permalink/371771209295525/
    ด่วน! กองทัพรัสเซีย เริ่มดำเนินการติดตั้งโครงสร้างศูนย์พักพิงสำหรับสงครามนิวเคลียร์แบบโมดูล KUB-M ที่มีลักษณะคล้ายตู้คอนเทนเนอร์ โครงสร้างดังกล่าวสามารถรองรับพลเรือนได้มากกว่า 50 คน ที่บริเวณชานกรุงมอสโก . สำหรับโครงสร้างศูนย์พักพิงสำหรับสงครามนิวเคลียร์แบบโมดูล KUB-M ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันพลเมืองจากภัยคุกคามต่างๆ รวมถึงสงครามรังสี ชีวะ เคมี จากการระเบิดนิวเคลียร์และการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี รวมถึงสงครามชีวภาพ . นอกจากนี้ สำนักงานข่าว RT News รายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังสั่งเร่งผลิตโครงสร้างศูนย์พักพิงสำหรับสงครามนิวเคลียร์แบบโมดูล KUB-M เป็นจำนวนมาก เพื่อรับมือกับสงครามใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น . “การผลิตแบบต่อเนื่องของโครงสร้างป้องกันโมดูลนวัตกรรม "KUB-M" ได้เริ่มขึ้นในสหพันธรัฐรัสเซีย เหตุการณ์นี้เป็นผลมาจากการวิจัยและความพยายามหลายปีของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซีย ในด้านการปกป้องประชาชนจากสถานการณ์ฉุกเฉิน” กระทรวงฯ กล่าว. . https://www.facebook.com/groups/194174770388504/permalink/371771209295525/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาด่าทอ "พวกงี่เง่ากระหายสงคราม" หลังมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่ง ให้ไฟเขียวยูเครน ใช้อาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งหาเสียงเคียงข้างผู้เป็นพ่อ ระหว่างศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 และกำลังช่วยพ่อเลือกตัวเลือกคณะรัฐมนตรี โพสต์แสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดบนสื่อสังคมออนไลน์
    .
    "ดูเหมือนอุตสาหกรรมทางทหารต้องการทำให้แน่ใจว่า พวกเขากำลังจะได้สงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่พ่อของผมจะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิต" เขาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) "ตั้งใจกันจริงกับเงินล้านล้านดอลลาร์ ชีวิตบัดซบ!! พวกงี่เง่า!"
    .
    ก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดน เคยกำหนดข้อจำกัดการใช้ขีปนาวุธ ATACMS โดยยูเครน อ้างความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะถูกรัสเซียแก้แค้น อย่างไรก็ตามล่าสุดสำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ทำเนียบขาวกลับลำนโยบายดังกล่าวแล้ว แม้ทั้งทำเนียบขาวและเพนตากอน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
    .
    รายงานเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความพยายามสุดท้ายในการเพิ่มแสนยานุภาพแก่กองทัพยูเครน ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    ระหว่างการหาเสียงเลือกั้ง ทรัมป์ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องมอบความช่วยเหลือแบบไม่มีเงื่อนไขแก่เคียฟ และประกาศคลี่คลายความขัดแย้งด้วยหนทางด้านการทูต ทั้งนี้การที่ทรัมป์ใกล้กลับสู่ทำเนียบขาวทุกขณะ ได้ก่อความกังวลแก่ทั้งพรรคเดโมแครต พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนและอียู ที่วิตกว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯจะทอดทิ้งยูเครน
    .
    มอสโกเน้นย้ำมาตลอดว่าการที่ตะวันตกไฟเขียวยูเครนใช้อาวุธของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย จะเป็นการส่งสัญญาณของการเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงของนาโตในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า "รัสเซียจะตัดสินใจอย่างเหมาะสมในการตอบโต้ภัยคุกคามดังกล่าว"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111070
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาด่าทอ "พวกงี่เง่ากระหายสงคราม" หลังมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่ง ให้ไฟเขียวยูเครน ใช้อาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งหาเสียงเคียงข้างผู้เป็นพ่อ ระหว่างศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 และกำลังช่วยพ่อเลือกตัวเลือกคณะรัฐมนตรี โพสต์แสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดบนสื่อสังคมออนไลน์ . "ดูเหมือนอุตสาหกรรมทางทหารต้องการทำให้แน่ใจว่า พวกเขากำลังจะได้สงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่พ่อของผมจะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิต" เขาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) "ตั้งใจกันจริงกับเงินล้านล้านดอลลาร์ ชีวิตบัดซบ!! พวกงี่เง่า!" . ก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดน เคยกำหนดข้อจำกัดการใช้ขีปนาวุธ ATACMS โดยยูเครน อ้างความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะถูกรัสเซียแก้แค้น อย่างไรก็ตามล่าสุดสำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ทำเนียบขาวกลับลำนโยบายดังกล่าวแล้ว แม้ทั้งทำเนียบขาวและเพนตากอน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ . รายงานเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความพยายามสุดท้ายในการเพิ่มแสนยานุภาพแก่กองทัพยูเครน ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . ระหว่างการหาเสียงเลือกั้ง ทรัมป์ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องมอบความช่วยเหลือแบบไม่มีเงื่อนไขแก่เคียฟ และประกาศคลี่คลายความขัดแย้งด้วยหนทางด้านการทูต ทั้งนี้การที่ทรัมป์ใกล้กลับสู่ทำเนียบขาวทุกขณะ ได้ก่อความกังวลแก่ทั้งพรรคเดโมแครต พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนและอียู ที่วิตกว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯจะทอดทิ้งยูเครน . มอสโกเน้นย้ำมาตลอดว่าการที่ตะวันตกไฟเขียวยูเครนใช้อาวุธของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย จะเป็นการส่งสัญญาณของการเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงของนาโตในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า "รัสเซียจะตัดสินใจอย่างเหมาะสมในการตอบโต้ภัยคุกคามดังกล่าว" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111070 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 556 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะบริหารไบเดนกลับลำ 360 องศา ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกาโจมตีในดินแดนรัสเซีย ไม่สนคำขู่จากมอสโกว่า การตัดสินใจนี้อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง ขณะที่แหล่งข่าวเผยเคียฟเตรียมสนองบัญชาวอชิงตันด้วยการโจมตีรัสเซียในเร็ววัน
    .
    การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการอนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี (ATACMS) โจมตีในดินแดนรัสเซียถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนก่อนการถ่ายโอนอำนาจให้โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า
    .
    นิวยอร์ก ไทมส์และวอชิงตัน โพสต์ที่เป็นสื่อสองแห่งแรกที่รายงานข่าวนี้ระบุว่า การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายในการตอบโต้การที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียทำสงครามกับยูเครน
    .
    ก่อนหน้านี้อเมริกากังวลว่า จะเกิดความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซียที่เป็นหนึ่งในมหาอำนาจนิวเคลียร์ รวมถึงความเสี่ยงที่คลังอาวุธของตนเองจะร่อยหรอลง
    .
    ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่า สื่อหลายสำนักรายงานว่า ยูเครนได้รับอนุญาตให้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสม แต่การโจมตีไม่ได้กระทำด้วยคำพูด และสำทับว่า ยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้ ทางด้านทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ
    .
    สำนักข่าวทาสส์รายงานว่า วลาดิมีร์ จาบารอฟ รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของวุฒิสภารัสเซีย เตือนว่า การตัดสินใจล่าสุดของวอชิงตันอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง
    .
    ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า การโจมตีด้วย ATACMS ที่มีระยะการโจมตี 300 กม.ในดินแดนรัสเซียหมายความว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เข้าสู่สงครามกับรัสเซีย อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คลังแสงยูเครนมีขีปนาวุธ ATACMS อยู่มากน้อยเพียงใด
    .
    ขณะเดียวกัน แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนยังสงสัยว่า การอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีเข้าไปในรัสเซียจะพลิกสถานการณ์ของสงครามในยูเครนได้ แต่การตัดสินใจนี้อาจช่วยให้เคียฟมีสถานะการต่อรองที่ดีขึ้นหากมีการเจรจาหยุดยิง
    .
    นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์จะยกเลิกการตัดสินใจนี้ของไบเดนหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเขาวิจารณ์ระดับความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารที่อเมริกาให้ยูเครนมาตลอด อีกทั้งประกาศว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงโดยเร็ว แต่ไม่ได้อธิบายว่า จะทำอย่างไร
    .
    ก่อนหน้านี้ สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้ไบเดนผ่อนคลายกฎจำกัดการใช้อาวุธของยูเครนที่อเมริกาจัดหาให้ และนับจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของไบเดนพากันย้ำว่า จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำให้แน่ใจว่า ยูเครนสามารถต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซียด้วยสถานะที่สามารถต่อรองได้
    .
    แม้โฆษกของทรัมป์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ทว่า หนึ่งในที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศที่ใกล้ชิดที่สุดของว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ วิจารณ์การตัดสินใจของไบเดนว่า เป็นการปลุกปั่นให้สงครามระอุขึ้นก่อนพ้นตำแหน่ง
    .
    นอกจากนั้น ไมค์ วอลซ์ ที่ทรัมป์เลือกให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เคยโจมตีว่า การอัดฉีดเงินเป็นพันล้านดอลลาร์ให้ยูเครน ณ เวลานี้ถือเป็นความวิกลจริต และสำทับว่า ความขัดแย้งในยูเครนถึงทางตัน
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจล่าสุดของไบเดนว่า อุตสาหกรรมการทหารน่าจะอยากได้รับการรับรองว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะระเบิดขึ้นก่อนที่พ่อของตนคือทรัมป์จะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิตผู้คน
    .
    อเล็กซ์ พลิตซาส นักวิชาการอาคันตุกะของแอตแลนติก เคาน์ซิล ชี้ว่า การยกเลิกการจำกัดการใช้อาวุธอาจช่วยให้ยูเครนรบกับรัสเซียได้คล่องขึ้น แต่อาจเป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป
    .
    อย่างไรก็ตาม การกลับลำนโยบายของอเมริกาครั้งนี้อาจทำให้ยุโรปทบทวนจุดยืนของตนเองเกี่ยวกับขีปนาวุธพิสัยไกล
    .
    ปัจจุบัน ฝรั่งเศสและอังกฤษจัดหาขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ และสกัลป์ แต่ยังไม่อนุญาตให้ยูเครนใช้โจมตีในดินแดนรัสเซีย หากอเมริกายังไม่อนุญาตให้ใช้ ATACMS
    .
    ระหว่างการหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ ได้หารือเกี่ยวกับวิธีการทำให้ยูเครนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ขณะที่มาครงกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ปูตินไม่ต้องการสันติภาพ แต่ต้องการขยายการสู้รบรุนแรงขึ้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111060
    ..............
    Sondhi X
    คณะบริหารไบเดนกลับลำ 360 องศา ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกาโจมตีในดินแดนรัสเซีย ไม่สนคำขู่จากมอสโกว่า การตัดสินใจนี้อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง ขณะที่แหล่งข่าวเผยเคียฟเตรียมสนองบัญชาวอชิงตันด้วยการโจมตีรัสเซียในเร็ววัน . การตัดสินใจของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการอนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี (ATACMS) โจมตีในดินแดนรัสเซียถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนก่อนการถ่ายโอนอำนาจให้โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า . นิวยอร์ก ไทมส์และวอชิงตัน โพสต์ที่เป็นสื่อสองแห่งแรกที่รายงานข่าวนี้ระบุว่า การตัดสินใจนี้มีเป้าหมายในการตอบโต้การที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียทำสงครามกับยูเครน . ก่อนหน้านี้อเมริกากังวลว่า จะเกิดความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซียที่เป็นหนึ่งในมหาอำนาจนิวเคลียร์ รวมถึงความเสี่ยงที่คลังอาวุธของตนเองจะร่อยหรอลง . ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่า สื่อหลายสำนักรายงานว่า ยูเครนได้รับอนุญาตให้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสม แต่การโจมตีไม่ได้กระทำด้วยคำพูด และสำทับว่า ยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้ ทางด้านทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ . สำนักข่าวทาสส์รายงานว่า วลาดิมีร์ จาบารอฟ รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของวุฒิสภารัสเซีย เตือนว่า การตัดสินใจล่าสุดของวอชิงตันอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง . ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า การโจมตีด้วย ATACMS ที่มีระยะการโจมตี 300 กม.ในดินแดนรัสเซียหมายความว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เข้าสู่สงครามกับรัสเซีย อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คลังแสงยูเครนมีขีปนาวุธ ATACMS อยู่มากน้อยเพียงใด . ขณะเดียวกัน แม้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนยังสงสัยว่า การอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีเข้าไปในรัสเซียจะพลิกสถานการณ์ของสงครามในยูเครนได้ แต่การตัดสินใจนี้อาจช่วยให้เคียฟมีสถานะการต่อรองที่ดีขึ้นหากมีการเจรจาหยุดยิง . นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์จะยกเลิกการตัดสินใจนี้ของไบเดนหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเขาวิจารณ์ระดับความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารที่อเมริกาให้ยูเครนมาตลอด อีกทั้งประกาศว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงโดยเร็ว แต่ไม่ได้อธิบายว่า จะทำอย่างไร . ก่อนหน้านี้ สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้ไบเดนผ่อนคลายกฎจำกัดการใช้อาวุธของยูเครนที่อเมริกาจัดหาให้ และนับจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของไบเดนพากันย้ำว่า จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำให้แน่ใจว่า ยูเครนสามารถต่อสู้อย่างมีประสิทธิภาพหรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซียด้วยสถานะที่สามารถต่อรองได้ . แม้โฆษกของทรัมป์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ทว่า หนึ่งในที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศที่ใกล้ชิดที่สุดของว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ วิจารณ์การตัดสินใจของไบเดนว่า เป็นการปลุกปั่นให้สงครามระอุขึ้นก่อนพ้นตำแหน่ง . นอกจากนั้น ไมค์ วอลซ์ ที่ทรัมป์เลือกให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เคยโจมตีว่า การอัดฉีดเงินเป็นพันล้านดอลลาร์ให้ยูเครน ณ เวลานี้ถือเป็นความวิกลจริต และสำทับว่า ความขัดแย้งในยูเครนถึงทางตัน . โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจล่าสุดของไบเดนว่า อุตสาหกรรมการทหารน่าจะอยากได้รับการรับรองว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะระเบิดขึ้นก่อนที่พ่อของตนคือทรัมป์จะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิตผู้คน . อเล็กซ์ พลิตซาส นักวิชาการอาคันตุกะของแอตแลนติก เคาน์ซิล ชี้ว่า การยกเลิกการจำกัดการใช้อาวุธอาจช่วยให้ยูเครนรบกับรัสเซียได้คล่องขึ้น แต่อาจเป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป . อย่างไรก็ตาม การกลับลำนโยบายของอเมริกาครั้งนี้อาจทำให้ยุโรปทบทวนจุดยืนของตนเองเกี่ยวกับขีปนาวุธพิสัยไกล . ปัจจุบัน ฝรั่งเศสและอังกฤษจัดหาขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ และสกัลป์ แต่ยังไม่อนุญาตให้ยูเครนใช้โจมตีในดินแดนรัสเซีย หากอเมริกายังไม่อนุญาตให้ใช้ ATACMS . ระหว่างการหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ ได้หารือเกี่ยวกับวิธีการทำให้ยูเครนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ขณะที่มาครงกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ปูตินไม่ต้องการสันติภาพ แต่ต้องการขยายการสู้รบรุนแรงขึ้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111060 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 699 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีจากพรรคกรีน ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของชอลซ์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ประกาศว่าหากเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี เขาจะอนุมัติการส่งมอบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลทอรัส(Taurus)ให้กับยูเครน

    ขีปนาวุธดังกล่าวมีพิสัยทำการไกลถึงมอสโก กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในวงการเมืองเยอรมนี ซึ่งชอลซ์ปฏิเสธคำขอของยูเครนมาโดยตลอด
    โรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีจากพรรคกรีน ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของชอลซ์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ประกาศว่าหากเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี เขาจะอนุมัติการส่งมอบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลทอรัส(Taurus)ให้กับยูเครน ขีปนาวุธดังกล่าวมีพิสัยทำการไกลถึงมอสโก กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในวงการเมืองเยอรมนี ซึ่งชอลซ์ปฏิเสธคำขอของยูเครนมาโดยตลอด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • การตัดสินใจของวอชิงตันที่ไฟเขียวให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย คือการทำให้ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามและอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 จากคำเตือนของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของมอสโก
    .
    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ เปิดเผยก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) ว่าวอชิงตันได้กลับลำนโยบายครั้งสำคัญเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย ด้วยการ อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    "การตัดสินใจของตะวันตก เกี่ยวกับระดับสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายดังกล่าว อาจจบลงด้วยการที่ความเป็นรัฐของยูเครนกลายสภาพเป็นเศษซากหักพังโดยสิ้นเชิงในยามเช้า" อันเดร คลิสชาส สมาชิกอาวุโสของสภาสหพันธรัฐหรือสภาบนของรัสเซีย ระบุผ่านเทเลแกรม
    .
    ส่วน วลาดิมีร์ ซาบารอฟ รองประธานคนที่ 1 ของคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาบนรัสเซีย บอกว่ามอสโกจะตอบโต้ในทันที "มันเป็นก้าวย่างที่ใหญ่มากๆในการมุ่งหน้าสู่การเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3" ซาบารอฟ ให้สัมภาษณ์กับทาสส์นิวส์
    .
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวในเดือนกันยายน ว่าตะวันตกจะเท่ากับสู้รบกับรัสเซียโดยตรง หากว่าอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ตะวันตกจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวที่เขาบอกว่าจะเปลี่ยนแปลงลักษณะและขอบเขตความขัดแย้ง
    .
    รัสเซียจะถูกบีบให้ดำเนินการในสิ่งที่ปูตินเรียกว่า "การตัดสินใจต่างๆอย่างเหมาะสม" บนพื้นฐานของภัยคุกคามใหม่นี้
    .
    ลีโอนิด สลัตสกี ประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาดูมา สภาล่างของรัสเซีย กล่าวว่าการที่สหรัฐฯอนุญาตให้ยูเครนโจมตีรัสเซียด้วยขีปนาวุธยุทธวิธี ATACMS ของอมเริกา จะนำมาซึ่งการตอบโต้อย่างหนักหน่วงที่สุด จากการเปิดเผยของสื่อมวลชนรัสเซียหลายสำนัก
    .
    "การโจมตีด้วยขีปนาวุธของสหรัฐฯลึกเข้าสู่ภูมิภาคต่างๆของรัสเซีย จะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเสี่ยงนำมาซึ่งผลสนองที่รุนแรงหนักหน่วงกว่าหลายเท่า" สลัตสกีกล่าวกับทาสส์นิวส์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110699
    ..............
    Sondhi X
    การตัดสินใจของวอชิงตันที่ไฟเขียวให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย คือการทำให้ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามและอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 จากคำเตือนของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของมอสโก . เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ เปิดเผยก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) ว่าวอชิงตันได้กลับลำนโยบายครั้งสำคัญเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย ด้วยการ อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . "การตัดสินใจของตะวันตก เกี่ยวกับระดับสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายดังกล่าว อาจจบลงด้วยการที่ความเป็นรัฐของยูเครนกลายสภาพเป็นเศษซากหักพังโดยสิ้นเชิงในยามเช้า" อันเดร คลิสชาส สมาชิกอาวุโสของสภาสหพันธรัฐหรือสภาบนของรัสเซีย ระบุผ่านเทเลแกรม . ส่วน วลาดิมีร์ ซาบารอฟ รองประธานคนที่ 1 ของคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาบนรัสเซีย บอกว่ามอสโกจะตอบโต้ในทันที "มันเป็นก้าวย่างที่ใหญ่มากๆในการมุ่งหน้าสู่การเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3" ซาบารอฟ ให้สัมภาษณ์กับทาสส์นิวส์ . ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวในเดือนกันยายน ว่าตะวันตกจะเท่ากับสู้รบกับรัสเซียโดยตรง หากว่าอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ตะวันตกจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวที่เขาบอกว่าจะเปลี่ยนแปลงลักษณะและขอบเขตความขัดแย้ง . รัสเซียจะถูกบีบให้ดำเนินการในสิ่งที่ปูตินเรียกว่า "การตัดสินใจต่างๆอย่างเหมาะสม" บนพื้นฐานของภัยคุกคามใหม่นี้ . ลีโอนิด สลัตสกี ประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาดูมา สภาล่างของรัสเซีย กล่าวว่าการที่สหรัฐฯอนุญาตให้ยูเครนโจมตีรัสเซียด้วยขีปนาวุธยุทธวิธี ATACMS ของอมเริกา จะนำมาซึ่งการตอบโต้อย่างหนักหน่วงที่สุด จากการเปิดเผยของสื่อมวลชนรัสเซียหลายสำนัก . "การโจมตีด้วยขีปนาวุธของสหรัฐฯลึกเข้าสู่ภูมิภาคต่างๆของรัสเซีย จะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเสี่ยงนำมาซึ่งผลสนองที่รุนแรงหนักหน่วงกว่าหลายเท่า" สลัตสกีกล่าวกับทาสส์นิวส์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110699 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 587 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียแล้ว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อเมริกา 2 คน และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ ในการกลับลำทางนโยบายครั้งสำคัญของวอชิงตัน เกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย
    .
    แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ยูเครนมีแผนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลลงมือโจมตีเป็นครั้งแรกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวไม่เผยแพร่รายละเอียดใดๆ สืบเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของปฏิบัติการ
    .
    ความเคลื่อนไหวมีขึ้น 2 เดือน ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม และมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ส่งเสียงเรียกร้องมานานหลายเดือน ให้อนุญาตกองทัพเคียฟใช้อาวุธสหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของรัสเซีย ที่อยู่ห่างไกลจากชายแดน
    .
    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นการตอบโต้กรณีที่รัสเซียประจำการทหารเกาหลีเหนือในภาคพื้น เพื่อสนับสนุนกองกำลังของตนเอง การประจำการที่ก่อความกังวลแก่วอชิงตันและเคียฟ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่าขีปนาวุธจะ "พูดแทนตัวมันเอง" หลังมีรายงานข่าวว่าวอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีดินแดนลึกของรัสเซียด้วยขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ "วันนี้ สื่อมวลชนมากมายระบุว่าเราได้รับอนุญาตให้ดำเนินการอย่างเหมาะสม แต่การโจมตีไม่ใช่คำพูด สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ต้องแถลง ขีปนาวุธจะพูดแทนตัวมันเอง"
    .
    รัสเซียเคยเตือนว่าพวกเขาจะมองการผ่อนปรนข้อจำกัดยูเครนในการใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ เป็นการขยายวงสงครามครั้งใหญ่
    .
    แหล่งข่าวระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีดินแดนลึกครั้งแรกของยูเครน จะดำเนินการด้วยขีปนาวุธ ATACMS ซึ่งมีพิสัยทำการสูงสุด 306 กิโลเมตร
    .
    ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางส่วนแสดงความเคลือบแคลงสงสัยว่าการอนุญาตให้โจมตีพิสัยไกลจะเปลี่ยนแปลงวิถีสงครามในภาพรวมหรือไม่ แต่พวกเขาเชื่อว่าการตัดสินใจนี้อาจช่วยให้ยูเครนได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากเวลานี้กองกำลังยูเครนกำลังรุกคืบได้เรื่อยๆ นอกจากนี้ มันยังเป็นไปได้ที่จะช่วยให้ เคียฟ อยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการเจรจา หากว่าการเจรจาหยุดยิงกับรัสเซียเกิดขึ้นจริง
    .
    อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทรัมป์ จะกลับลำการตัดสินใจของไบเดนหรือไม่ หลังจากเข้ารับตำแหน่ง แต่ที่ผ่านมา ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์มาช้านานต่อขอบเขตความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารของสหรัฐฯ ที่มอบแก่ยูเครน และประกาศจบสงครามอย่างรวดเร็ว โดยปราศจากคำอธิบายใดๆ
    .
    โฆษกของทรัมป์ ยังไม่ตอบคำถามหลังสื่อมวลชนติดต่อสอบถามความคิดเห็น แต่ ริชาร์ด เกรเนลล์ หนึ่งในที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศ ที่ใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งของทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าว โดยบอกว่า "มันเป็นการทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายก่อนที่เขาจะออกจากตำแหน่ง"
    .
    นับตั้งแต่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในวันที่ 5 พฤศจิกายน พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของไบเดน พูดซ้ำๆ ว่าพวกเขาจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ในการรับประกันว่ายูเครนสามารถสู้รบได้อย่างมีประสิทธิภาพในปีหน้า หรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย จากสถานะที่เข้มแข็ง
    .
    สหรัฐฯ เชื่อว่าทหารเกาหลีเหนือมากกว่า 10,000 นาย ถูกส่งเข้าไปยังภาคตะวันออกของรัสเซีย และส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายไปยังแคว้นคูร์กส์ และเริ่มต้นเข้าพัวพันในปฏิบัติการสู้รบแล้ว
    .
    รัสเซีย กำลังรุกคืบในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 แม้มีความสูญเสียอย่างหนัก และยูเครนเผยว่าพวกเขาได้ปะทะกับทหารเกาหลีเหนือบางส่วนที่ประจำการในแคว้นคูร์สก์
    .
    ท่ามกลางภาวะขาดแคลนกำลังพล กองกำลังยูเครนสูญเสียดินแดนบางส่วนที่พวกเขายึดครองได้ในเดือนสิงหาคม ในปฏิบัติการจู่โจมแคว้นคูร์สก์ ที่เซเลนสกี เคยกล่าวอ้างว่าเป็นหมากเบี้ยในการต่อรอง
    .
    "การปลดข้อจำกัดอย่างเฉพาะเจาะจง จะเปิดทางให้ยูเครนหยุดสู้รบ ในสภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อย เหลือถูกมัดมือไพล่หลังเพียงหนึ่งข้าง" อเล็ก พลิตาส เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากองค์กรวิจัย "สภาแอตแลนติก" กล่าว "อย่างไรด็ตามมันก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ผมเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะชี้ว่าการตัดสินใจนี้มาช้าเกินไป เพียงแค่ ATACMS, HIMARS, ยานรบหุ้มเกราะแบรดลีย์, รถถังเอบรามส์ และเครื่องบินเอฟ-19 พวกเขาต้องการมันเร็วกว่านี้มาก"
    .
    แม้มีเสียงเรียกร้องของเซเลนสกี แต่ที่ผ่านมาทำเนียบขาวลังเลที่จะอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้โจมตีเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลสถานการณ์ลุกลามบานปลาย
    .
    พันธมิตรอื่นๆ ของเคียฟ ได้ป้อนอาวุธให้เช่นกัน แต่ก็จำกัดวิธีการและกรอบเวลาในการใช้โจมตีภายในรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลว่าการโจมตีลักษณะดังกล่าวอาจกระตุ้นการแก้แค้นของมอสโก ที่ลากบรรดาชาติสมาชิกนาโตเข้าร่วมวงสงครามหรือไม่ก็โหมกระพือความขัดแย้งนิวเคลียร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110696
    ..............
    Sondhi X
    รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียแล้ว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อเมริกา 2 คน และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ ในการกลับลำทางนโยบายครั้งสำคัญของวอชิงตัน เกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย . แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ยูเครนมีแผนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลลงมือโจมตีเป็นครั้งแรกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวไม่เผยแพร่รายละเอียดใดๆ สืบเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของปฏิบัติการ . ความเคลื่อนไหวมีขึ้น 2 เดือน ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม และมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ส่งเสียงเรียกร้องมานานหลายเดือน ให้อนุญาตกองทัพเคียฟใช้อาวุธสหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของรัสเซีย ที่อยู่ห่างไกลจากชายแดน . การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นการตอบโต้กรณีที่รัสเซียประจำการทหารเกาหลีเหนือในภาคพื้น เพื่อสนับสนุนกองกำลังของตนเอง การประจำการที่ก่อความกังวลแก่วอชิงตันและเคียฟ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการตัดสินใจ . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกในวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ว่าขีปนาวุธจะ "พูดแทนตัวมันเอง" หลังมีรายงานข่าวว่าวอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีดินแดนลึกของรัสเซียด้วยขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐฯ "วันนี้ สื่อมวลชนมากมายระบุว่าเราได้รับอนุญาตให้ดำเนินการอย่างเหมาะสม แต่การโจมตีไม่ใช่คำพูด สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ต้องแถลง ขีปนาวุธจะพูดแทนตัวมันเอง" . รัสเซียเคยเตือนว่าพวกเขาจะมองการผ่อนปรนข้อจำกัดยูเครนในการใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ เป็นการขยายวงสงครามครั้งใหญ่ . แหล่งข่าวระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีดินแดนลึกครั้งแรกของยูเครน จะดำเนินการด้วยขีปนาวุธ ATACMS ซึ่งมีพิสัยทำการสูงสุด 306 กิโลเมตร . ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางส่วนแสดงความเคลือบแคลงสงสัยว่าการอนุญาตให้โจมตีพิสัยไกลจะเปลี่ยนแปลงวิถีสงครามในภาพรวมหรือไม่ แต่พวกเขาเชื่อว่าการตัดสินใจนี้อาจช่วยให้ยูเครนได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากเวลานี้กองกำลังยูเครนกำลังรุกคืบได้เรื่อยๆ นอกจากนี้ มันยังเป็นไปได้ที่จะช่วยให้ เคียฟ อยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการเจรจา หากว่าการเจรจาหยุดยิงกับรัสเซียเกิดขึ้นจริง . อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทรัมป์ จะกลับลำการตัดสินใจของไบเดนหรือไม่ หลังจากเข้ารับตำแหน่ง แต่ที่ผ่านมา ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์มาช้านานต่อขอบเขตความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารของสหรัฐฯ ที่มอบแก่ยูเครน และประกาศจบสงครามอย่างรวดเร็ว โดยปราศจากคำอธิบายใดๆ . โฆษกของทรัมป์ ยังไม่ตอบคำถามหลังสื่อมวลชนติดต่อสอบถามความคิดเห็น แต่ ริชาร์ด เกรเนลล์ หนึ่งในที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศ ที่ใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งของทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าว โดยบอกว่า "มันเป็นการทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายก่อนที่เขาจะออกจากตำแหน่ง" . นับตั้งแต่ทรัมป์ได้รับชัยชนะในวันที่ 5 พฤศจิกายน พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของไบเดน พูดซ้ำๆ ว่าพวกเขาจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ในการรับประกันว่ายูเครนสามารถสู้รบได้อย่างมีประสิทธิภาพในปีหน้า หรือเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย จากสถานะที่เข้มแข็ง . สหรัฐฯ เชื่อว่าทหารเกาหลีเหนือมากกว่า 10,000 นาย ถูกส่งเข้าไปยังภาคตะวันออกของรัสเซีย และส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายไปยังแคว้นคูร์กส์ และเริ่มต้นเข้าพัวพันในปฏิบัติการสู้รบแล้ว . รัสเซีย กำลังรุกคืบในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 แม้มีความสูญเสียอย่างหนัก และยูเครนเผยว่าพวกเขาได้ปะทะกับทหารเกาหลีเหนือบางส่วนที่ประจำการในแคว้นคูร์สก์ . ท่ามกลางภาวะขาดแคลนกำลังพล กองกำลังยูเครนสูญเสียดินแดนบางส่วนที่พวกเขายึดครองได้ในเดือนสิงหาคม ในปฏิบัติการจู่โจมแคว้นคูร์สก์ ที่เซเลนสกี เคยกล่าวอ้างว่าเป็นหมากเบี้ยในการต่อรอง . "การปลดข้อจำกัดอย่างเฉพาะเจาะจง จะเปิดทางให้ยูเครนหยุดสู้รบ ในสภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อย เหลือถูกมัดมือไพล่หลังเพียงหนึ่งข้าง" อเล็ก พลิตาส เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากองค์กรวิจัย "สภาแอตแลนติก" กล่าว "อย่างไรด็ตามมันก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ผมเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะชี้ว่าการตัดสินใจนี้มาช้าเกินไป เพียงแค่ ATACMS, HIMARS, ยานรบหุ้มเกราะแบรดลีย์, รถถังเอบรามส์ และเครื่องบินเอฟ-19 พวกเขาต้องการมันเร็วกว่านี้มาก" . แม้มีเสียงเรียกร้องของเซเลนสกี แต่ที่ผ่านมาทำเนียบขาวลังเลที่จะอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้โจมตีเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลสถานการณ์ลุกลามบานปลาย . พันธมิตรอื่นๆ ของเคียฟ ได้ป้อนอาวุธให้เช่นกัน แต่ก็จำกัดวิธีการและกรอบเวลาในการใช้โจมตีภายในรัสเซีย สืบเนื่องจากความกังวลว่าการโจมตีลักษณะดังกล่าวอาจกระตุ้นการแก้แค้นของมอสโก ที่ลากบรรดาชาติสมาชิกนาโตเข้าร่วมวงสงครามหรือไม่ก็โหมกระพือความขัดแย้งนิวเคลียร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000110696 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 653 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวว่า เขาไม่ทราบว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งใจจะคลี่คลายวิกฤตในยูเครนอย่างไร, แต่มอสโกว์ตั้งตารอที่จะดูว่าเขาจะคิดอย่างไร:
    .
    Russian Foreign Minister Sergey Lavrov has said that he has no idea how US President-elect Donald Trump intends to settle the crisis in Ukraine, but Moscow looks forward to seeing what he comes up with:
    https://tass.com/politics/1873241
    .
    2:08 AM · Nov 16, 2024 · 2,216 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1857500920244003110
    รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวว่า เขาไม่ทราบว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งใจจะคลี่คลายวิกฤตในยูเครนอย่างไร, แต่มอสโกว์ตั้งตารอที่จะดูว่าเขาจะคิดอย่างไร: . Russian Foreign Minister Sergey Lavrov has said that he has no idea how US President-elect Donald Trump intends to settle the crisis in Ukraine, but Moscow looks forward to seeing what he comes up with: https://tass.com/politics/1873241 . 2:08 AM · Nov 16, 2024 · 2,216 Views https://x.com/tassagency_en/status/1857500920244003110
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาชนหลายร้อยคนเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงหน้ารัฐสภาอับคาเซีย เพื่อต่อต้านแผนการให้สัตยาบันข้อตกลงกับมอสโก ซึ่งจะอนุญาตให้บริษัทของรัสเซียดำเนินโครงการลงทุนในประเทศได้, ผู้สื่อข่าวของ TASS รายงาน:
    .
    Several hundred people are taking part in a protest rally in front of the Abkhazian parliament against the planned ratification of an agreement with Moscow which would allow Russian companies to implement investment projects in the country, a TASS correspondent reports:
    https://tass.com/world/1872869
    .
    7:49 PM · Nov 15, 2024 · 1,965 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1857405600230969782
    ประชาชนหลายร้อยคนเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงหน้ารัฐสภาอับคาเซีย เพื่อต่อต้านแผนการให้สัตยาบันข้อตกลงกับมอสโก ซึ่งจะอนุญาตให้บริษัทของรัสเซียดำเนินโครงการลงทุนในประเทศได้, ผู้สื่อข่าวของ TASS รายงาน: . Several hundred people are taking part in a protest rally in front of the Abkhazian parliament against the planned ratification of an agreement with Moscow which would allow Russian companies to implement investment projects in the country, a TASS correspondent reports: https://tass.com/world/1872869 . 7:49 PM · Nov 15, 2024 · 1,965 Views https://x.com/tassagency_en/status/1857405600230969782
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนอาจเร่งพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ภายในไม่กี่เดือน หากสหรัฐฯภายใต้การบริหารงานของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนความช่วยเหลือทางทหาร ตามที่กล่าวอ้าง จากความเห็นของสถาบันวิจัยแห่งหนึ่ง
    .
    สถาบันวิจัย Centre for Army, Conversion and Disarmament Studies (CACDS) เตือนว่ายูเครนอาจสร้างระเบิดนิวเคลียร์ ที่มีศักยภาพทำลายล้างที่ไม่อาจพรรณาได้ จัดการรัสเซีย โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่เคยใช้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ลูกที่ถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ปี 1945 ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2
    .
    ทางสถาบันวิจัยแห่งนี้ ระบุว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน อาจหันหน้าสู่ "ทางเลือกด้านนิวเคลียร์" หาก ทรัมป์ ปฏิเสธมอบเงินทุนที่จำเป็นในการเดินหน้าป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย พร้อมกล่าวอ้างในเอกสารที่ตระเตรียมให้กับกระทรวงกลาโหมยูเครน ว่าเคียฟมีเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ในขั้นพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว
    .
    รายงานของ CACDS สถาบันวิจัยทรงอิทธิพลของยูเครน ระบุว่าเคียฟมีศักยภาพในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ระดับพื้นฐานจากพลูโตเนียม โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่สหรัฐฯเคยใช้กับระเบิด Fat man ซึ่งถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิในปี
    .
    ทั้งนี้ Fat man ระเบิดพลูโตเนียม ถูกหย่อนลงสู่เมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ในวันที่ 9 สิงหาคม 1945 ก่อหายนะทำลายล้างที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ โดยนอกเหนือจากระเบิดในนางาซากิแล้ว ระเบิดนิวเคลียร์อีกลูกที่ถูกหย่อนลงเมืองฮิโรชิมา ช่วยทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ปิดฉากลง
    .
    โอเลกซี ยิซาค หนึ่งในผู้เขียนรายงาน ระบุว่าระเบิดนิวเคลียร์แบบเดียวกับที่ใช้ถล่มนางาซากิ "เพียงพอที่จะสามารถทำลายฐานทัพอากาศ ศูนย์รวมทางทหาร ที่ตั้งทางอุตสาหกรรมและที่ตั้งทางโลจิสติกส์ ทั่วทั้งรัสเซีย"
    .
    ก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่เคยพากันปฏิเสธว่า เคียฟไม่ได้กำลังพิจารณาติดอาวุธนิวเคลียร์
    .
    เอกสารนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ท่ามกลางรายงานข่าวว่าทหารเกาหลีเหนือกำลังเข้ารับการฝึกฝนในรัสเซีย ในความเป็นไปได้ว่าจะเข้าช่วยเหลือรัสเซียสู้รบกับยูเครน ในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เตรียมส่งทหาร 50,000 นาย เข้าทวงคืนแคว้นคูร์สก์จากการรุกรานของยูเครน
    .
    เกาหลีเหนือกับรัสเซียกระชับความสัมพันธ์กันมากขึ้นนับตั้งแต่มอสโกยกทัพบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีทหารมากที่สุดในโลก ที่ 1.2 ล้านนาย แต่เกือบทุกคนขาดประสบการณ์ในการสู้รบจริง
    .
    ด้านยูเครนยกทัพบุกรุกเข้าไปในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคม สร้างเซอร์ไพรส์ให้คนทั้งโลก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของรัสเซียไปจากสมรภูมิทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งฝ่ายยูเครนกำลังเสียเปรียบอย่างหนัก แต่พวกเขาทำไม่สำเร็จ และตอนนี้ปฏิบัติการในแคว้นคูสค์ของยูเครนก็หยุดชะงัก หลังยึดพื้นที่ขนาดเล็กได้ก่อนหน้านี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109525
    ..............
    Sondhi X
    ยูเครนอาจเร่งพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ภายในไม่กี่เดือน หากสหรัฐฯภายใต้การบริหารงานของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนความช่วยเหลือทางทหาร ตามที่กล่าวอ้าง จากความเห็นของสถาบันวิจัยแห่งหนึ่ง . สถาบันวิจัย Centre for Army, Conversion and Disarmament Studies (CACDS) เตือนว่ายูเครนอาจสร้างระเบิดนิวเคลียร์ ที่มีศักยภาพทำลายล้างที่ไม่อาจพรรณาได้ จัดการรัสเซีย โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่เคยใช้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ลูกที่ถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ปี 1945 ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 . ทางสถาบันวิจัยแห่งนี้ ระบุว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน อาจหันหน้าสู่ "ทางเลือกด้านนิวเคลียร์" หาก ทรัมป์ ปฏิเสธมอบเงินทุนที่จำเป็นในการเดินหน้าป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย พร้อมกล่าวอ้างในเอกสารที่ตระเตรียมให้กับกระทรวงกลาโหมยูเครน ว่าเคียฟมีเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ในขั้นพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว . รายงานของ CACDS สถาบันวิจัยทรงอิทธิพลของยูเครน ระบุว่าเคียฟมีศักยภาพในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ระดับพื้นฐานจากพลูโตเนียม โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่สหรัฐฯเคยใช้กับระเบิด Fat man ซึ่งถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิในปี . ทั้งนี้ Fat man ระเบิดพลูโตเนียม ถูกหย่อนลงสู่เมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ในวันที่ 9 สิงหาคม 1945 ก่อหายนะทำลายล้างที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ โดยนอกเหนือจากระเบิดในนางาซากิแล้ว ระเบิดนิวเคลียร์อีกลูกที่ถูกหย่อนลงเมืองฮิโรชิมา ช่วยทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ปิดฉากลง . โอเลกซี ยิซาค หนึ่งในผู้เขียนรายงาน ระบุว่าระเบิดนิวเคลียร์แบบเดียวกับที่ใช้ถล่มนางาซากิ "เพียงพอที่จะสามารถทำลายฐานทัพอากาศ ศูนย์รวมทางทหาร ที่ตั้งทางอุตสาหกรรมและที่ตั้งทางโลจิสติกส์ ทั่วทั้งรัสเซีย" . ก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่เคยพากันปฏิเสธว่า เคียฟไม่ได้กำลังพิจารณาติดอาวุธนิวเคลียร์ . เอกสารนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ท่ามกลางรายงานข่าวว่าทหารเกาหลีเหนือกำลังเข้ารับการฝึกฝนในรัสเซีย ในความเป็นไปได้ว่าจะเข้าช่วยเหลือรัสเซียสู้รบกับยูเครน ในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เตรียมส่งทหาร 50,000 นาย เข้าทวงคืนแคว้นคูร์สก์จากการรุกรานของยูเครน . เกาหลีเหนือกับรัสเซียกระชับความสัมพันธ์กันมากขึ้นนับตั้งแต่มอสโกยกทัพบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีทหารมากที่สุดในโลก ที่ 1.2 ล้านนาย แต่เกือบทุกคนขาดประสบการณ์ในการสู้รบจริง . ด้านยูเครนยกทัพบุกรุกเข้าไปในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคม สร้างเซอร์ไพรส์ให้คนทั้งโลก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของรัสเซียไปจากสมรภูมิทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งฝ่ายยูเครนกำลังเสียเปรียบอย่างหนัก แต่พวกเขาทำไม่สำเร็จ และตอนนี้ปฏิบัติการในแคว้นคูสค์ของยูเครนก็หยุดชะงัก หลังยึดพื้นที่ขนาดเล็กได้ก่อนหน้านี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109525 .............. Sondhi X
    Like
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 928 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ ทำการเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ทางเหนือของโปแลนด์ ความเคลื่อนไหวที่ทางวอร์ซอหาทางสร้างความอุ่นใจแก่พลเมืองว่านาโตการันตีความปลอดภัยของพวกเขา ท่ามกลางความหวั่นวิตก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
    .
    ฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ทศวรรษ 2000 และวอร์ซอระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่าความเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างโปแลนด์กับวอชิงตันยังคงเหนียวแน่น ไม่ว่าใครจะอยู่ในทำเนียบขาวก็ตาม
    .
    "มันใช้เวลาพักใหญ่ แต่โครงการก่อสร้างนี้พิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ" ราโดสลอว์ ซิคอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ กล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    ประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ของโปแลนด์ ผู้นำหัวอนุรักษนิยมซึ่งเน้นย้ำความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับทรัมป์ เข้าร่วมในพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ด้วย ในขณะที่วังเครมลินเรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามควบคุมรัสเซีย ด้วยการเคลื่อนย้ายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอเมริกาเข้ามาใกล้ชายแดนของพวกเขา
    .
    ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คัดค้านแผนการต่างๆ สำหรับฐานขีปนาวุธแห่งนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 2000 ครั้งที่ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช เป็นประธานาธิบดี
    .
    โฆษกรายนี้บอกว่า ปูติน เคยเน้นย้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ว่าสหรัฐฯ กำลังโกหก ที่อ้างว่ามันมีจุดประสงค์เพื่อสกัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะยิงขีปนาวุธเข้ามา "มันเป็นการยืนยันว่าประธานาธิบดีพูดถูก พวกเขายังคงเดินหน้าแผนการนี้ นี่คือโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำสมัยของอเมริกาบนดินแดนยุโรป ที่หันหน้าเข้าหาเขตแดนของเรา" เปสคอฟกล่าว "มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความพยายามควบคุมแสนยานุภาพทางทหารของเรา และแน่นอนว่ามันจะนำมาซึ่้งการใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อรับประกันความเท่าเทียม"
    .
    อย่างไรก็ตาม เปสคอฟ ไม่ได้ระบุว่ารัสเซียจะใช้มาตรการใดในการตอบโต้
    .
    การเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในโปแลนด์ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ที่มีต่อนาโตในอดีต ได้ก่อความไม่สบายใจแก่รัฐสมาชิกบางส่วน โดยเขาเคยประกาศกร้าวว่าอเมริกาภายใต้การบริหารงานของเขา จะไม่ปกป้องประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช้จ่ายในด้านกลาโหมอย่างเพียงพอ
    .
    กระนั้นก็ตาม โปแลนด์ บอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ
    .
    ฐานทัพของสหรัฐฯ ในเมืองเรดซิโคโว เป็นส่วนหนึ่งของโล่ป้องกันขีปนาวุธอย่างครอบคลุมของนาโต ที่ได้รับสมญานามว่า "Aegis Ashore" ซึ่งพันธมิตรทหารแห่งนี้อวดอ้างว่าสามารถสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปจนถึงพิสัยปานกลางที่พุ่งเข้ามาได้
    .
    มอสโกเคยตราหน้าฐานทัพแห่งนี้ว่าเป็นภัยคุกคาม ย้อนกลับไปในปี 2007 ตั้งแต่ช่วงที่มันยังอยู่ในขั้นของการวางแผน อย่างไรก็ตาม นาโตอ้างว่าโล่ดังกล่าวมีไว้เพื่อจุดประสงค์ป้องกันตนเองแต่เพียงอย่างเดียว
    .
    แหล่งข่าวด้านการทหารบอกกับรอยเตอร์ว่า ด้วยการติดตั้งระบบนี้ในโปแลนด์ เวลานี้นาโตไม่ใช่แค่สามารถใช้มันสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากตะวันออกกลางเท่านั้น แต่มันยังมีระบบเรดาร์ที่จำเป็นที่้สามารถเปลี่ยนทิศทางเข้าสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากรัสเซียด้วยเช่นกัน
    .
    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ระบุในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่าจำเป็นต้องขยายขอบเขตโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้เพิ่มเติม ซึ่งทางวอร์ซอจะมีการพูดคุยหารือกับนาโตและสหรัฐฯ อีกครั้ง
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานว่า มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดี ดูดา และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ในกรุงวอร์ซอ หลังจากพิธีเปิดฐานทัพในวันพุธ (13 พ.ย.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109494
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ ทำการเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ทางเหนือของโปแลนด์ ความเคลื่อนไหวที่ทางวอร์ซอหาทางสร้างความอุ่นใจแก่พลเมืองว่านาโตการันตีความปลอดภัยของพวกเขา ท่ามกลางความหวั่นวิตก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา . ฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ทศวรรษ 2000 และวอร์ซอระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่าความเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างโปแลนด์กับวอชิงตันยังคงเหนียวแน่น ไม่ว่าใครจะอยู่ในทำเนียบขาวก็ตาม . "มันใช้เวลาพักใหญ่ แต่โครงการก่อสร้างนี้พิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ" ราโดสลอว์ ซิคอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ กล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . ประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ของโปแลนด์ ผู้นำหัวอนุรักษนิยมซึ่งเน้นย้ำความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับทรัมป์ เข้าร่วมในพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ด้วย ในขณะที่วังเครมลินเรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามควบคุมรัสเซีย ด้วยการเคลื่อนย้ายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอเมริกาเข้ามาใกล้ชายแดนของพวกเขา . ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คัดค้านแผนการต่างๆ สำหรับฐานขีปนาวุธแห่งนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 2000 ครั้งที่ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช เป็นประธานาธิบดี . โฆษกรายนี้บอกว่า ปูติน เคยเน้นย้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ว่าสหรัฐฯ กำลังโกหก ที่อ้างว่ามันมีจุดประสงค์เพื่อสกัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะยิงขีปนาวุธเข้ามา "มันเป็นการยืนยันว่าประธานาธิบดีพูดถูก พวกเขายังคงเดินหน้าแผนการนี้ นี่คือโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำสมัยของอเมริกาบนดินแดนยุโรป ที่หันหน้าเข้าหาเขตแดนของเรา" เปสคอฟกล่าว "มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความพยายามควบคุมแสนยานุภาพทางทหารของเรา และแน่นอนว่ามันจะนำมาซึ่้งการใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อรับประกันความเท่าเทียม" . อย่างไรก็ตาม เปสคอฟ ไม่ได้ระบุว่ารัสเซียจะใช้มาตรการใดในการตอบโต้ . การเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในโปแลนด์ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ที่มีต่อนาโตในอดีต ได้ก่อความไม่สบายใจแก่รัฐสมาชิกบางส่วน โดยเขาเคยประกาศกร้าวว่าอเมริกาภายใต้การบริหารงานของเขา จะไม่ปกป้องประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช้จ่ายในด้านกลาโหมอย่างเพียงพอ . กระนั้นก็ตาม โปแลนด์ บอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ . ฐานทัพของสหรัฐฯ ในเมืองเรดซิโคโว เป็นส่วนหนึ่งของโล่ป้องกันขีปนาวุธอย่างครอบคลุมของนาโต ที่ได้รับสมญานามว่า "Aegis Ashore" ซึ่งพันธมิตรทหารแห่งนี้อวดอ้างว่าสามารถสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปจนถึงพิสัยปานกลางที่พุ่งเข้ามาได้ . มอสโกเคยตราหน้าฐานทัพแห่งนี้ว่าเป็นภัยคุกคาม ย้อนกลับไปในปี 2007 ตั้งแต่ช่วงที่มันยังอยู่ในขั้นของการวางแผน อย่างไรก็ตาม นาโตอ้างว่าโล่ดังกล่าวมีไว้เพื่อจุดประสงค์ป้องกันตนเองแต่เพียงอย่างเดียว . แหล่งข่าวด้านการทหารบอกกับรอยเตอร์ว่า ด้วยการติดตั้งระบบนี้ในโปแลนด์ เวลานี้นาโตไม่ใช่แค่สามารถใช้มันสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากตะวันออกกลางเท่านั้น แต่มันยังมีระบบเรดาร์ที่จำเป็นที่้สามารถเปลี่ยนทิศทางเข้าสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากรัสเซียด้วยเช่นกัน . รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ระบุในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่าจำเป็นต้องขยายขอบเขตโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้เพิ่มเติม ซึ่งทางวอร์ซอจะมีการพูดคุยหารือกับนาโตและสหรัฐฯ อีกครั้ง . ทั้งนี้ มีรายงานว่า มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดี ดูดา และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ในกรุงวอร์ซอ หลังจากพิธีเปิดฐานทัพในวันพุธ (13 พ.ย.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109494 .............. Sondhi X
    Like
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1013 มุมมอง 0 รีวิว
  • บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจำเป็นต้องตระหนักว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "จริงจังอย่างมาก" เกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งยูเครน จากความเห็นของ อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีโปแลนด์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่มีข่าวว่า ทรัมป์ จะแต่งตั้งทูตพิเศษสำหรับเป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน หลังจากเขาเคยประกาศระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟภายใน 24 ชั่วโมง ที่กลับเข้าสู่อำนาจ
    .
    ประธานาธิบดีโปแลนด์ ทำนายเหมือนกับหลายคน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ หลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับว่าที่ผู้นำสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(11พ.ย.) ทั้งนี้ สตับบ์ ชี้แนะว่าบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายของเคียฟ ควรอำนวยความสะดวกแก่การเจรจา ก่อน ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    "ผมคิดว่า เราในยุโรปและทั่วทั้งโลก จำเป็นต้องเข้าใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีความจริงจังอย่างมากเกี่ยวกับการได้ข้อตกลงสันติภาพ โดยไม่ชักช้าเกินไป" เขากล่าวในวันอังคาร(12พ.ย.) รอบนอกการประชุมภาวะโลกร้อนในอาเซอร์ไบจาน "ตัวผมเองเคยบอกว่า มันมีประตูแห่งโอกาสของการเจรจานี้ ในระหว่างศึกเลือกตั้งและวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง"
    .
    ที่ผ่านมา สตับบ์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ส่งเสียงสนับสนุนเหตุผลของยูเครนอย่างแข็งขัน และเมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่า ทรัมป์ จะได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับยูเครน ทาง สตับบ์ เน้นย้ำว่าในความคิดเห็นของเขา ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับยูเครน คือยูเครนได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องนี้ รัสเซีย เรียกมันว่าเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง
    .
    ทรัมป์ กล่าวอ้างระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเขาจะยุติความขัดแย้งภายใน 24 ชั่วโมง หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเลือกเขากลับเข้าสู่อำนาจ ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการ แต่สื่อมวลชนบ่งชี้ว่าบางที ทรัมป์อาจถาโถมแรงกดดันใส่ทั้งมอสโกและเคียฟ เพื่อบีบให้ยอมประนีประนอม
    .
    ความเห็นของผู้นำโปแลนด์ มีขึ้นในขณะที่สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานในวันพุธ(13พ.ย.) ว่า ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งทูตพิเศษที่จะรับหน้าที่เป็นผู้นำการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเผยว่าเขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอนาคตอันใกล้
    .
    "คุณกำลังได้เห็นทูตพิเศษระดับอาวุโสมากๆ บางคนที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก ผู้ซึ่งจะได้รับมอบหมายให้หนทางออกหนึ่งๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ปัญหาอย่างสันติ" แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมระบุว่า "คุณกำลังจะได้เห็นสิ่งนี้ ในอนาคตอันใกล้"
    .
    ราว 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาคว้าชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์เปิดเผยรายชื่อบุคคลต่างๆเป็นชุดๆ ที่เขามีความตั้งใจเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษา ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขาเปิดเผยว่าจะแต่งตั้ง สตีเฟน วิตคอฟฟ์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลาง โดยบอกว่า วิตคอฟฟ์ จะส่งเสียงเรียกร้องแบบไม่หยุดสำหรับร้องหาสันติภาพในภูมิภาค
    .
    ทรัมป์ พูดคุยกับ เซเลนสกี ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และบอกกับเอ็นบีซีนิวส์ ว่าเขาอยากพูดคุยกับปูตินในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ปูติน แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(7พ.ย.) และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาพร้อมหารือกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
    .
    อย่างไรก็ตามวังเครมลินปฏิเสธซ้ำๆเกี่ยวกับคำพูดอวดอ้างว่า ทรัมป์ จะสามารถยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างง่ายดาย แม้ ปูติน ชี้ว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ในเรื่องนี้ "อย่างน้อยๆ ก็คู่ควรได้รับความสนใจ"
    .
    ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์ จะผลักดันทางออกใดในความขัดแย้งนี้ ระหว่างการหาเสียง ว่าที่รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ บ่งชี้ว่าอาจมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงและจัดตั้งเขตปลอดทหารหนึ่งๆตามแนวหน้าในปัจจุบัน พร้อมกับไม่ไฟเขียวให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต
    .
    รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าบรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ สนับสนุนแนวคิดบางส่วนของแผนนี้ และสนับสนุนให้ว่าที่ประธานาธิบดีนำเสนอมันกับทั้งเซเลนสกีและปูติน
    .
    มอสโก ยืนกรานว่าทางออกใดๆ จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการที่ยูเครนยุติปฏิบัติการทางทหารและยอมรับ "ความเป็นจริงด้านดินแดน" ที่ว่าพวกเขาไม่มีวันทวงคืนแคว้นต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียได้อีกแล้ว ในนั้นประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์, แคว้นลูฮันสก์, แคว้นเคียร์ซอนและแคว้นซาโปริซเซีย รวมไปถึงแคว้นไครเมีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109496
    ..............
    Sondhi X
    บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจำเป็นต้องตระหนักว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "จริงจังอย่างมาก" เกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งยูเครน จากความเห็นของ อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีโปแลนด์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก . ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่มีข่าวว่า ทรัมป์ จะแต่งตั้งทูตพิเศษสำหรับเป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน หลังจากเขาเคยประกาศระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟภายใน 24 ชั่วโมง ที่กลับเข้าสู่อำนาจ . ประธานาธิบดีโปแลนด์ ทำนายเหมือนกับหลายคน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ หลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับว่าที่ผู้นำสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(11พ.ย.) ทั้งนี้ สตับบ์ ชี้แนะว่าบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายของเคียฟ ควรอำนวยความสะดวกแก่การเจรจา ก่อน ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . "ผมคิดว่า เราในยุโรปและทั่วทั้งโลก จำเป็นต้องเข้าใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีความจริงจังอย่างมากเกี่ยวกับการได้ข้อตกลงสันติภาพ โดยไม่ชักช้าเกินไป" เขากล่าวในวันอังคาร(12พ.ย.) รอบนอกการประชุมภาวะโลกร้อนในอาเซอร์ไบจาน "ตัวผมเองเคยบอกว่า มันมีประตูแห่งโอกาสของการเจรจานี้ ในระหว่างศึกเลือกตั้งและวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง" . ที่ผ่านมา สตับบ์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ส่งเสียงสนับสนุนเหตุผลของยูเครนอย่างแข็งขัน และเมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่า ทรัมป์ จะได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับยูเครน ทาง สตับบ์ เน้นย้ำว่าในความคิดเห็นของเขา ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับยูเครน คือยูเครนได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องนี้ รัสเซีย เรียกมันว่าเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง . ทรัมป์ กล่าวอ้างระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเขาจะยุติความขัดแย้งภายใน 24 ชั่วโมง หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเลือกเขากลับเข้าสู่อำนาจ ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการ แต่สื่อมวลชนบ่งชี้ว่าบางที ทรัมป์อาจถาโถมแรงกดดันใส่ทั้งมอสโกและเคียฟ เพื่อบีบให้ยอมประนีประนอม . ความเห็นของผู้นำโปแลนด์ มีขึ้นในขณะที่สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานในวันพุธ(13พ.ย.) ว่า ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งทูตพิเศษที่จะรับหน้าที่เป็นผู้นำการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเผยว่าเขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอนาคตอันใกล้ . "คุณกำลังได้เห็นทูตพิเศษระดับอาวุโสมากๆ บางคนที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก ผู้ซึ่งจะได้รับมอบหมายให้หนทางออกหนึ่งๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ปัญหาอย่างสันติ" แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมระบุว่า "คุณกำลังจะได้เห็นสิ่งนี้ ในอนาคตอันใกล้" . ราว 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาคว้าชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์เปิดเผยรายชื่อบุคคลต่างๆเป็นชุดๆ ที่เขามีความตั้งใจเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษา ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขาเปิดเผยว่าจะแต่งตั้ง สตีเฟน วิตคอฟฟ์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลาง โดยบอกว่า วิตคอฟฟ์ จะส่งเสียงเรียกร้องแบบไม่หยุดสำหรับร้องหาสันติภาพในภูมิภาค . ทรัมป์ พูดคุยกับ เซเลนสกี ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และบอกกับเอ็นบีซีนิวส์ ว่าเขาอยากพูดคุยกับปูตินในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ปูติน แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(7พ.ย.) และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาพร้อมหารือกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ . อย่างไรก็ตามวังเครมลินปฏิเสธซ้ำๆเกี่ยวกับคำพูดอวดอ้างว่า ทรัมป์ จะสามารถยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างง่ายดาย แม้ ปูติน ชี้ว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ในเรื่องนี้ "อย่างน้อยๆ ก็คู่ควรได้รับความสนใจ" . ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์ จะผลักดันทางออกใดในความขัดแย้งนี้ ระหว่างการหาเสียง ว่าที่รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ บ่งชี้ว่าอาจมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงและจัดตั้งเขตปลอดทหารหนึ่งๆตามแนวหน้าในปัจจุบัน พร้อมกับไม่ไฟเขียวให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต . รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าบรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ สนับสนุนแนวคิดบางส่วนของแผนนี้ และสนับสนุนให้ว่าที่ประธานาธิบดีนำเสนอมันกับทั้งเซเลนสกีและปูติน . มอสโก ยืนกรานว่าทางออกใดๆ จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการที่ยูเครนยุติปฏิบัติการทางทหารและยอมรับ "ความเป็นจริงด้านดินแดน" ที่ว่าพวกเขาไม่มีวันทวงคืนแคว้นต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียได้อีกแล้ว ในนั้นประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์, แคว้นลูฮันสก์, แคว้นเคียร์ซอนและแคว้นซาโปริซเซีย รวมไปถึงแคว้นไครเมีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109496 .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 977 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหราชอาณาจักรไม่อาจปล่อยให้ยูเครนประสบความพ่ายแพ้ ในสงครามที่กำลังสู้รบกับรัสเซีย จากเสียงกระทุ้งของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมแนะว่าลอนดอนอาจจำเป็นต้องทำถึงขั้น ส่งทหารเข้าไปช่วยเหลือหากเคียฟกำลังตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ
    .
    อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรรายนี้ กล่าวอ้างว่าความสำเร็จของรัสเซียในยูเครน จะจุดชนวนวิกฤตด้านความมั่นคงสำหรับสหรัฐฯและเหล่าพันธมิตร ในหลายๆแนวหน้า "มันอาจจะเป็นรัฐต่างๆในแถบบอลติก อาจจะเป็นจอร์เจีย คุณจะได้เห็นผลกระทบของความพ่ายแพ้ของยูเครนในสมรภูมิแปซิฟิก คุณจะได้เห็นมันในทะเลจีนใต้" จอห์นสันระบุ โดยไม่ได้พูดอย่างเจาะจงว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภูมิภาคเหล่านั้น
    .
    เขายังให้คำจำกัดความความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินที่มอบแก่เคียฟ ว่าเป็น "การลงทุนสมเหตุสมผล" และเป็นหนทางที่ดีในการใช้จ่ายเงินของประชาชน โดยอ้างว่าสหราชอาณาจักรมีความตั้งใจใช้เงินมากขึ้น "สืบเนื่องจากความมั่นคงร่วมของเรา จะลดระดับลงอย่างมาก จากการคืนชีพของรัสเซียที่กำลังคุกคามทุกภาคส่วนของยุโรปในทุกรูปแบบ"
    .
    จอห์นสัน ยังชี้ถึงแนวโน้มความเสี่ยงที่เกิดจากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะลดมอบความช่วยเหลือแก่เคียฟ พร้อมอ้างว่ามีบางคนในแวดวงใกล้ชิดกับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มองประเด็นนี้อย่างผิดๆ
    .
    "มีเสียงกระซิบต่างๆนานามากมายดึงก้องอยู่ในหูจองทรัมป์ และในแถวหน้าของพรรครีพับลิกัน จำนวนมากในนั้น พวกเขาเลือกเส้นทางผิดๆเกี่ยวกับยูเครน" เขากล่าว
    .
    ถ้าสหรัฐฯลดความช่วยเหลือที่มอบแก่ยูเครน และเคียฟเริ่มพ่ายแพ้ ลอนดอนอาจถูกบีบให้ต้องประจำการทหารในภูมิภาค จอห์สันกล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า "จากนั้นเราจะจำเป็นต้องส่งทหารสหรชอาณาจักรเข้าช่วยปกป้องยูเครน"
    .
    รัสเซียกล่าวซ้ำๆว่าไม่มีแผนโจมตีนาโตหรือรัฐสมาชิกใดๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในขณะเดียวกัน มอสโกก็เตือนหลายครั้ง ว่าการมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ กำลังผลักให้นาโตเสี่ยงมากขึ้นที่จะปะทะกันโดยตรงกับรัสเซีย โดยเฉพาะหากนาโตไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ทางมอสโกก็ถือว่ามันเป็นการโจมตีโดยตรงโดยประเทศต่างๆที่จัดหาอาวุธดังกล่าวมอบแก่เคียฟ
    .
    ก่อนหน้านี้ ปูติน ออกคำสั่งให้แก้ไขหลักการนิวเคลียร์ของประเทศ ซึ่งกำหนดว่าการโจมตีใดๆจากรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ภายใต้การสนับสนุนของมหาอำนาจนิวเคลียร์หนึ่งๆ จะถือว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่รัสเซียจะตอบโต้ทางนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับอาวุธอื่นๆ
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานว่าสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส อาจผลักดันให้สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น ด้วยการพยายามโน้มน้าวให้วอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ด้วยอาวุธของตะวันตก ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์
    .
    ตัวของ จอห์นสันเอง เคยถูกกล่าวหาบงการปั่นป่วนการเจรจาสันติภาพระหว่างมอสโกและเคียฟย้อนกลับไปในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 การเจรจาในอิสตันบูลก่อร่างข้อเสนอหนึ่งที่คณะตัวแทนเจรจาของทั้งรัสเซียและยูเครนเห็นพ้องต้องกันในช่วงเวลาดังกล่าว
    .
    เดวิด อารัคฮาเมีย หัวหน้าตัวแทนเจรจาของยูเครน ยอมรับในเวลาต่อมา ว่าเคียฟถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว หลังจาก จอห์นสัน เรียกร้องให้ยูเครนเดินหน้าสู้รัสเซียต่อไป ระหว่างการเดินทางเยือนเมืองหลวงของยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109078
    ..............
    Sondhi X
    สหราชอาณาจักรไม่อาจปล่อยให้ยูเครนประสบความพ่ายแพ้ ในสงครามที่กำลังสู้รบกับรัสเซีย จากเสียงกระทุ้งของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมแนะว่าลอนดอนอาจจำเป็นต้องทำถึงขั้น ส่งทหารเข้าไปช่วยเหลือหากเคียฟกำลังตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ . อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรรายนี้ กล่าวอ้างว่าความสำเร็จของรัสเซียในยูเครน จะจุดชนวนวิกฤตด้านความมั่นคงสำหรับสหรัฐฯและเหล่าพันธมิตร ในหลายๆแนวหน้า "มันอาจจะเป็นรัฐต่างๆในแถบบอลติก อาจจะเป็นจอร์เจีย คุณจะได้เห็นผลกระทบของความพ่ายแพ้ของยูเครนในสมรภูมิแปซิฟิก คุณจะได้เห็นมันในทะเลจีนใต้" จอห์นสันระบุ โดยไม่ได้พูดอย่างเจาะจงว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภูมิภาคเหล่านั้น . เขายังให้คำจำกัดความความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินที่มอบแก่เคียฟ ว่าเป็น "การลงทุนสมเหตุสมผล" และเป็นหนทางที่ดีในการใช้จ่ายเงินของประชาชน โดยอ้างว่าสหราชอาณาจักรมีความตั้งใจใช้เงินมากขึ้น "สืบเนื่องจากความมั่นคงร่วมของเรา จะลดระดับลงอย่างมาก จากการคืนชีพของรัสเซียที่กำลังคุกคามทุกภาคส่วนของยุโรปในทุกรูปแบบ" . จอห์นสัน ยังชี้ถึงแนวโน้มความเสี่ยงที่เกิดจากความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะลดมอบความช่วยเหลือแก่เคียฟ พร้อมอ้างว่ามีบางคนในแวดวงใกล้ชิดกับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มองประเด็นนี้อย่างผิดๆ . "มีเสียงกระซิบต่างๆนานามากมายดึงก้องอยู่ในหูจองทรัมป์ และในแถวหน้าของพรรครีพับลิกัน จำนวนมากในนั้น พวกเขาเลือกเส้นทางผิดๆเกี่ยวกับยูเครน" เขากล่าว . ถ้าสหรัฐฯลดความช่วยเหลือที่มอบแก่ยูเครน และเคียฟเริ่มพ่ายแพ้ ลอนดอนอาจถูกบีบให้ต้องประจำการทหารในภูมิภาค จอห์สันกล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า "จากนั้นเราจะจำเป็นต้องส่งทหารสหรชอาณาจักรเข้าช่วยปกป้องยูเครน" . รัสเซียกล่าวซ้ำๆว่าไม่มีแผนโจมตีนาโตหรือรัฐสมาชิกใดๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในขณะเดียวกัน มอสโกก็เตือนหลายครั้ง ว่าการมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ กำลังผลักให้นาโตเสี่ยงมากขึ้นที่จะปะทะกันโดยตรงกับรัสเซีย โดยเฉพาะหากนาโตไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ทางมอสโกก็ถือว่ามันเป็นการโจมตีโดยตรงโดยประเทศต่างๆที่จัดหาอาวุธดังกล่าวมอบแก่เคียฟ . ก่อนหน้านี้ ปูติน ออกคำสั่งให้แก้ไขหลักการนิวเคลียร์ของประเทศ ซึ่งกำหนดว่าการโจมตีใดๆจากรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ภายใต้การสนับสนุนของมหาอำนาจนิวเคลียร์หนึ่งๆ จะถือว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่รัสเซียจะตอบโต้ทางนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับอาวุธอื่นๆ . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานว่าสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส อาจผลักดันให้สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น ด้วยการพยายามโน้มน้าวให้วอชิงตันไฟเขียวให้เคียฟโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ด้วยอาวุธของตะวันตก ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ . ตัวของ จอห์นสันเอง เคยถูกกล่าวหาบงการปั่นป่วนการเจรจาสันติภาพระหว่างมอสโกและเคียฟย้อนกลับไปในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 การเจรจาในอิสตันบูลก่อร่างข้อเสนอหนึ่งที่คณะตัวแทนเจรจาของทั้งรัสเซียและยูเครนเห็นพ้องต้องกันในช่วงเวลาดังกล่าว . เดวิด อารัคฮาเมีย หัวหน้าตัวแทนเจรจาของยูเครน ยอมรับในเวลาต่อมา ว่าเคียฟถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว หลังจาก จอห์นสัน เรียกร้องให้ยูเครนเดินหน้าสู้รัสเซียต่อไป ระหว่างการเดินทางเยือนเมืองหลวงของยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109078 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    18
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1019 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนนำเสนอเครื่องบินขับไล่ล่องหนใหม่ล่าสุด ต่อสายตาของสาธารณชนเป็นครั้งแรก ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่จีนเร่งยกระดับความทันสมัยของกองทัพ ในการแข่งขันกับวอชิงตัน สำหรับความเหนือกว่าบนท้องฟ้า ท่ามกลางความตึงเครียดที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆในภูมิภาค
    .
    เครื่องบินล่องหน J-35A ประจำการภาคพื้น ถูกเปิดตัว ณ พิธีเปิดงานนิทรรศการอวกาศและการบินระหว่างประเทศ (China International Aviation & Aerospace Exhibition) ในเมืองจูไห่ ทางภาคใต้ของจีน ผ่านการบินสาธิตทางอากาศเป็นเวลา 5 นาที
    .
    นอกจากนี้แล้วภายในงานดังกล่าว ยังมีการจัดแสดงเครื่องบินล่องหน J-35 เวอร์ชันประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบินเช่นกัน ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐ ขณะที่นิทรรศการทางอากาศที่จัดขึ้น 2 ปีครั้ง ถือเป็นการรวมตัวของอากาศยานกองทัพครั้งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งในเอเชีย
    .
    แม้รายละเอียดเกี่ยวกับสมรรถนะของ J-35 จะมีอย่างจำกัด แต่พวกนักวิเคราะห์บอกว่าการเปิดตัวครั้งนี้ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของจีน ในความพยายามยกระดับกองทัพให้มีความทันสมัยและท้าทายความเป็นเต้ยของสหรัฐฯในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวๆไต้หวัน ซึ่งทางปักกิ่งกล่าวอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน
    .
    คาร์ล ชูสเตอร์ นักวิเคราะห์ทางทหารและอดีตผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ แห่งศูนย์ข่าวกรองร่วมของกองบัญชาการแปซิฟิกแห่งกองทัพสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า "งานแอร์โชว์ในปีนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อส่งสารว่า กองทัพจีนทัดเทียมกับสหรัฐฯและทั่วทั้งตะวันตก กองกำลังสหรัฐฯเคยเปรมปรีดิ์ ในความเหนือกว่าทางอากาศในทุกๆความขัดแย้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เวลานี้แสนนายุภาพทางอากาศที่กำลังเติบโตขึ้นของจีน กำลังท้าทายความได้เปรียบดั้งเดิมของตะวันตก"
    .
    ด้วยการเปิดตัว J-35 ทำให้จีน ก้าวขึ้นมาทัดเทียมกับสหรัฐฯ เป็นเพียง 2 ประเทศ ที่สามารรถผลิตเครื่องบินขับไล่ล่องหนได้มากกว่า 1 ซีรีย์ นอกจากนี้แล้วพวกเขายังเป็นประเทศเดียวที่กำลังเดินหน้าผลิตทั้ง 2 ซีรีย์ เนื่องจากสหรัฐฯระงับการผลิต F-22 แรปเตอร์ไปแล้ว
    .
    "จีนไล่กวดเข้ามาในแง่ของขอบเขตยุทโธปกรณ์ที่พวกเขามี อย่างน้อยๆก็ที่นำออกมาแสดง" เจมส์ ชาร์ ผู้ช่วยศาสตรจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านกองทัพจีน ณ สถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ เอส ราชารัตนัม แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางของสิงคโปร์กล่าว "แต่ในแง่การไล่ตามอเมริกา พวกนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าพวกเขายังคงล้าหลังอยู่ราวๆ 10 ถึง 15 ปี" เช่นเดียวกับแง่มุมอื่นๆเกียวกับการประจำการทางทหาร อย่างเช่นการฝึกฝนและความพร้อมด้านปฏิบัติการ
    .
    J-35 ถูกพัฒนามานานกว่า 1 ทศวรรษโดยเฉินหยาง แอร์คราฟท์ คอร์ปอเรชัน หน่วยธุรกิจของอาเวียชัน อินดัสตรี คอร์ปอเรชีน ออฟ ไชนา บริษัทที่มีรัฐเป็นเจ้าของ และมันจะถูกส่งเข้าประจำการในกองทัพปักกิ่ง ร่วมกับเครื่องบินล่องหน J-2 มุ่งเน้นจากอากาศสู่อากาศ ที่เข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 2017
    .
    ชูสเตอร์ คาดหมายว่าเครื่องบิน J-35 ล็อตแรก ที่จะเข้าร่วมในการฝึกซ้อมด้านปฏิบัติการของกองทัพอากาศจีน ในเดือนมีนาคม 2026
    .
    หนี่ เล่อเซวียง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจากมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และกฎหมายเซี่ยงไฮ้ ระบุว่าด้วยศักยภาพยิงจากอากาศสู่ภาคพื้นและโจมตีทางอากาศสู่อากาศ รวมถึงความสามารถในการเทคออฟขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินซีรีย์ต่างๆของ J-35 ถูกออกแบบมาให้ทัดเทียมกับเครื่องบินล่องหน F-35 ซีรีย์ต่างๆของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ ปักกิ่ง ยังไม่แถลงเกี่ยวกับเวอร์ชันที่สามารถเทคออฟและลงจอดในแนวดิ่ง บางอย่างที่ F-35B สามารถทำได้
    .
    ปีเตอร์ เลย์ตัน จากสถาบันวิจัยรอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิส เน้นว่า J-35 กำลังเข้าประจำการตามหลัง F-35 ของสหรัฐฯเกือบ 10 ปี และมีขึ้นหลังจากวอชิงตันเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับเครื่องบินล่องหนรุ่นใหม่ไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขามองว่าด้วยความสามารถในการผลิตที่เหนือกว่าของจีน จึงหมายความว่า F-35 อาจสร้างได้ง่ายกว่าและมีราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับสหรัฐฯที่ใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง ทำให้ J-35 มีความได้เปรียบในแง่ของการส่งออกไปยังตลาดต่างๆ
    .
    เครื่องบินที่นำมาจัดแสดงภายในนิทรรศการอวกาศและการบินระหว่างประเทศในปีนี้ ยังรวมไปถึงซูคอย ซู-27 ของรัสเซีย บ่งชี้ถึงสัญญาณความสัมพันธ์ที่ครอบคลุมมากขึ้นและแน่นแฟ้นมากขึ้นระหว่างปักกิ่งกับมอสโก จากความเห็นของ คอลลิน โก๊ะ นักวิจัยอีกคนของสถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ เอส ราชารัตนัม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109079
    ..............
    Sondhi X
    จีนนำเสนอเครื่องบินขับไล่ล่องหนใหม่ล่าสุด ต่อสายตาของสาธารณชนเป็นครั้งแรก ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่จีนเร่งยกระดับความทันสมัยของกองทัพ ในการแข่งขันกับวอชิงตัน สำหรับความเหนือกว่าบนท้องฟ้า ท่ามกลางความตึงเครียดที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆในภูมิภาค . เครื่องบินล่องหน J-35A ประจำการภาคพื้น ถูกเปิดตัว ณ พิธีเปิดงานนิทรรศการอวกาศและการบินระหว่างประเทศ (China International Aviation & Aerospace Exhibition) ในเมืองจูไห่ ทางภาคใต้ของจีน ผ่านการบินสาธิตทางอากาศเป็นเวลา 5 นาที . นอกจากนี้แล้วภายในงานดังกล่าว ยังมีการจัดแสดงเครื่องบินล่องหน J-35 เวอร์ชันประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบินเช่นกัน ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐ ขณะที่นิทรรศการทางอากาศที่จัดขึ้น 2 ปีครั้ง ถือเป็นการรวมตัวของอากาศยานกองทัพครั้งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งในเอเชีย . แม้รายละเอียดเกี่ยวกับสมรรถนะของ J-35 จะมีอย่างจำกัด แต่พวกนักวิเคราะห์บอกว่าการเปิดตัวครั้งนี้ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของจีน ในความพยายามยกระดับกองทัพให้มีความทันสมัยและท้าทายความเป็นเต้ยของสหรัฐฯในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวๆไต้หวัน ซึ่งทางปักกิ่งกล่าวอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน . คาร์ล ชูสเตอร์ นักวิเคราะห์ทางทหารและอดีตผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ แห่งศูนย์ข่าวกรองร่วมของกองบัญชาการแปซิฟิกแห่งกองทัพสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า "งานแอร์โชว์ในปีนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อส่งสารว่า กองทัพจีนทัดเทียมกับสหรัฐฯและทั่วทั้งตะวันตก กองกำลังสหรัฐฯเคยเปรมปรีดิ์ ในความเหนือกว่าทางอากาศในทุกๆความขัดแย้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เวลานี้แสนนายุภาพทางอากาศที่กำลังเติบโตขึ้นของจีน กำลังท้าทายความได้เปรียบดั้งเดิมของตะวันตก" . ด้วยการเปิดตัว J-35 ทำให้จีน ก้าวขึ้นมาทัดเทียมกับสหรัฐฯ เป็นเพียง 2 ประเทศ ที่สามารรถผลิตเครื่องบินขับไล่ล่องหนได้มากกว่า 1 ซีรีย์ นอกจากนี้แล้วพวกเขายังเป็นประเทศเดียวที่กำลังเดินหน้าผลิตทั้ง 2 ซีรีย์ เนื่องจากสหรัฐฯระงับการผลิต F-22 แรปเตอร์ไปแล้ว . "จีนไล่กวดเข้ามาในแง่ของขอบเขตยุทโธปกรณ์ที่พวกเขามี อย่างน้อยๆก็ที่นำออกมาแสดง" เจมส์ ชาร์ ผู้ช่วยศาสตรจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านกองทัพจีน ณ สถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ เอส ราชารัตนัม แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางของสิงคโปร์กล่าว "แต่ในแง่การไล่ตามอเมริกา พวกนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าพวกเขายังคงล้าหลังอยู่ราวๆ 10 ถึง 15 ปี" เช่นเดียวกับแง่มุมอื่นๆเกียวกับการประจำการทางทหาร อย่างเช่นการฝึกฝนและความพร้อมด้านปฏิบัติการ . J-35 ถูกพัฒนามานานกว่า 1 ทศวรรษโดยเฉินหยาง แอร์คราฟท์ คอร์ปอเรชัน หน่วยธุรกิจของอาเวียชัน อินดัสตรี คอร์ปอเรชีน ออฟ ไชนา บริษัทที่มีรัฐเป็นเจ้าของ และมันจะถูกส่งเข้าประจำการในกองทัพปักกิ่ง ร่วมกับเครื่องบินล่องหน J-2 มุ่งเน้นจากอากาศสู่อากาศ ที่เข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 2017 . ชูสเตอร์ คาดหมายว่าเครื่องบิน J-35 ล็อตแรก ที่จะเข้าร่วมในการฝึกซ้อมด้านปฏิบัติการของกองทัพอากาศจีน ในเดือนมีนาคม 2026 . หนี่ เล่อเซวียง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจากมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และกฎหมายเซี่ยงไฮ้ ระบุว่าด้วยศักยภาพยิงจากอากาศสู่ภาคพื้นและโจมตีทางอากาศสู่อากาศ รวมถึงความสามารถในการเทคออฟขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินซีรีย์ต่างๆของ J-35 ถูกออกแบบมาให้ทัดเทียมกับเครื่องบินล่องหน F-35 ซีรีย์ต่างๆของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ ปักกิ่ง ยังไม่แถลงเกี่ยวกับเวอร์ชันที่สามารถเทคออฟและลงจอดในแนวดิ่ง บางอย่างที่ F-35B สามารถทำได้ . ปีเตอร์ เลย์ตัน จากสถาบันวิจัยรอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิส เน้นว่า J-35 กำลังเข้าประจำการตามหลัง F-35 ของสหรัฐฯเกือบ 10 ปี และมีขึ้นหลังจากวอชิงตันเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับเครื่องบินล่องหนรุ่นใหม่ไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขามองว่าด้วยความสามารถในการผลิตที่เหนือกว่าของจีน จึงหมายความว่า F-35 อาจสร้างได้ง่ายกว่าและมีราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับสหรัฐฯที่ใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง ทำให้ J-35 มีความได้เปรียบในแง่ของการส่งออกไปยังตลาดต่างๆ . เครื่องบินที่นำมาจัดแสดงภายในนิทรรศการอวกาศและการบินระหว่างประเทศในปีนี้ ยังรวมไปถึงซูคอย ซู-27 ของรัสเซีย บ่งชี้ถึงสัญญาณความสัมพันธ์ที่ครอบคลุมมากขึ้นและแน่นแฟ้นมากขึ้นระหว่างปักกิ่งกับมอสโก จากความเห็นของ คอลลิน โก๊ะ นักวิจัยอีกคนของสถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ เอส ราชารัตนัม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109079 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    20
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1103 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯกำลังพิจารณาจัดการเลือกตั้งในยูเครนในปีหน้า สำหรับเป็นหนทางที่ชอบธรรมในการหาคนมาแทนรัฐบาลของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จากคำกล่าวของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย (SVR)
    .
    เซเลนสกี ยังคงอยู่ในอำนาจในยูเครน แม้สมัยการดำรงตำแหน่งของเขาหมดวาระลงไปอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาประกาศเลื่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยอ้างกฎอัยการศึกที่เขาประกาศบังคับใช้ในปี 2022
    .
    หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเชื่อว่า เซเลนสกี ใช้สิทธิ์ที่เลยเถิดเกินไป และอาจจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภายูเครน เพื่อเขี่ยเขาพ้นจากอำนาจในปี 2025 แม้ยังอยู่ระหว่างการทำศึกสงครามก็ตาม
    .
    ข้อมูลตามคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่ารัสเซียตัดสินใจเริ่มทำงานในขั้นต้นแล้ว โดยมีเป้าหมายสร้างสภาพแวดล้อมต่างๆสำหรับเปิดแคมเปญรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในยูเครน
    .
    ในขั้นแรกของแผนดังกล่าว จะได้เห็นบรรดาเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐฯ ใช้โครงสร้างประชาสังคมยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ผลักดันให้มีการเดินหน้าริเริ่มจัดการเลือกตั้ง
    .
    ถ้อยแถลงระบุต่อว่า หลังจากได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในวงกว้างแล้ว บรรดาแคนดิเดทที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะถูกเลือกภายใต้การประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วบรรดาผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งนั้น จะเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากเอ็นจีโอทั้งหลาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับวอชิงตัน
    .
    หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย อ้างด้วยว่าสหรัฐฯได้เริ่มพูดคุยหารือกันในเบื้องต้นกันไปแล้ว สำหรับการจัดตั้งพรรคการเมืองฝักใฝ่อเมริกาพรรคใหม่ในยูเครน นอกเหนือจากบรรดานักเคลื่อนไหวยูเครนที่กินเงินเดือนของพวกเขา
    .
    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯคาดหวังว่าพรรคการเมืองพรรคนี้ จะสามารถผงาดก้าวเข้าสู่รัฐสภา และช่วยทำให้ประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของยูเครนในอนาคต ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของอเมริกาต่อไป จากคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย
    .
    ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย บ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวาทกรรม "ไม่มีอะไรเกี่ยวกับยูเครน หากปราศจากยูเครน" ที่พวกเจ้าหน้าที่อเมริกามักพูดซ้ำๆตลอดความขัดแย้ง เป็นเพียงแต่คำพูดที่ว่างเปล่า และในความเป็นจริงคือ ชะตากรรมของประเทศนี้และบรรดาผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขา จะยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในวอชิงตัน
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกีขยายกรอบเวลากฎอัยการศึกออกไปอีก และประกาศระดมพลในยูเครนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ถือเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งที่ 13 แล้ว นับตั้งแต่ความขัดแย้งกับรัสเซีย ลุกลามบานปลายในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญาหลายต่อหลายครั้งระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะจบความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างรวดเร็ว ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเซเลนสกี จะไร้ซึ่งอำนาจในการขัดขืนใดๆ หากว่า ทรัมป์ ต้องการให้ผู้นำยูเครนรายนี้ หยุดการสู้รบและเสาะหาสันติภาพกับรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108689
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯกำลังพิจารณาจัดการเลือกตั้งในยูเครนในปีหน้า สำหรับเป็นหนทางที่ชอบธรรมในการหาคนมาแทนรัฐบาลของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จากคำกล่าวของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย (SVR) . เซเลนสกี ยังคงอยู่ในอำนาจในยูเครน แม้สมัยการดำรงตำแหน่งของเขาหมดวาระลงไปอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาประกาศเลื่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยอ้างกฎอัยการศึกที่เขาประกาศบังคับใช้ในปี 2022 . หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเชื่อว่า เซเลนสกี ใช้สิทธิ์ที่เลยเถิดเกินไป และอาจจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภายูเครน เพื่อเขี่ยเขาพ้นจากอำนาจในปี 2025 แม้ยังอยู่ระหว่างการทำศึกสงครามก็ตาม . ข้อมูลตามคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่ารัสเซียตัดสินใจเริ่มทำงานในขั้นต้นแล้ว โดยมีเป้าหมายสร้างสภาพแวดล้อมต่างๆสำหรับเปิดแคมเปญรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในยูเครน . ในขั้นแรกของแผนดังกล่าว จะได้เห็นบรรดาเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐฯ ใช้โครงสร้างประชาสังคมยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ผลักดันให้มีการเดินหน้าริเริ่มจัดการเลือกตั้ง . ถ้อยแถลงระบุต่อว่า หลังจากได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในวงกว้างแล้ว บรรดาแคนดิเดทที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะถูกเลือกภายใต้การประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วบรรดาผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งนั้น จะเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากเอ็นจีโอทั้งหลาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับวอชิงตัน . หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย อ้างด้วยว่าสหรัฐฯได้เริ่มพูดคุยหารือกันในเบื้องต้นกันไปแล้ว สำหรับการจัดตั้งพรรคการเมืองฝักใฝ่อเมริกาพรรคใหม่ในยูเครน นอกเหนือจากบรรดานักเคลื่อนไหวยูเครนที่กินเงินเดือนของพวกเขา . กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯคาดหวังว่าพรรคการเมืองพรรคนี้ จะสามารถผงาดก้าวเข้าสู่รัฐสภา และช่วยทำให้ประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของยูเครนในอนาคต ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของอเมริกาต่อไป จากคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย . ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย บ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวาทกรรม "ไม่มีอะไรเกี่ยวกับยูเครน หากปราศจากยูเครน" ที่พวกเจ้าหน้าที่อเมริกามักพูดซ้ำๆตลอดความขัดแย้ง เป็นเพียงแต่คำพูดที่ว่างเปล่า และในความเป็นจริงคือ ชะตากรรมของประเทศนี้และบรรดาผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขา จะยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในวอชิงตัน . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกีขยายกรอบเวลากฎอัยการศึกออกไปอีก และประกาศระดมพลในยูเครนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ถือเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งที่ 13 แล้ว นับตั้งแต่ความขัดแย้งกับรัสเซีย ลุกลามบานปลายในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญาหลายต่อหลายครั้งระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะจบความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างรวดเร็ว ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเซเลนสกี จะไร้ซึ่งอำนาจในการขัดขืนใดๆ หากว่า ทรัมป์ ต้องการให้ผู้นำยูเครนรายนี้ หยุดการสู้รบและเสาะหาสันติภาพกับรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108689 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 880 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts