• ทัพรัสเซียบุกได้อย่างรวดเร็วในแนวรบทางภาคตะวันออกยูเครน โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลชี้ว่าพวกเขาสามารถเข้ายึดพื้นที่ภายในรอบ 24 ชั่วโมงได้มากกว่าที่ทำได้ในช่วงใดๆ ใน 1 ปี ความเคลื่อนไหวเช่นนี้มีขึ้นก่อนหน้าการประชุมซัมมิตระหว่าง ทรัมป์ กับ ปูติน ที่รัฐอะแลสกา ซึ่งทำให้เซเลนสกี้พ้อว่า ประมุขทำเนียบขาวส่งเทียบเชิญประมุขเครมลินหารือบนแผ่นดินอเมริกาเช่นนี้ เท่ากับเป็นชัยชนะส่วนตัวของประธานาธิบดีแดนหมีขาว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000077037

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    ทัพรัสเซียบุกได้อย่างรวดเร็วในแนวรบทางภาคตะวันออกยูเครน โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลชี้ว่าพวกเขาสามารถเข้ายึดพื้นที่ภายในรอบ 24 ชั่วโมงได้มากกว่าที่ทำได้ในช่วงใดๆ ใน 1 ปี ความเคลื่อนไหวเช่นนี้มีขึ้นก่อนหน้าการประชุมซัมมิตระหว่าง ทรัมป์ กับ ปูติน ที่รัฐอะแลสกา ซึ่งทำให้เซเลนสกี้พ้อว่า ประมุขทำเนียบขาวส่งเทียบเชิญประมุขเครมลินหารือบนแผ่นดินอเมริกาเช่นนี้ เท่ากับเป็นชัยชนะส่วนตัวของประธานาธิบดีแดนหมีขาว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000077037 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • "พรรคโอกาสใหม่" บุกภาคตะวันออก! เลือกตัวแทนจังหวัด...ชูแนวคิดให้ประชาชนกำหนดนโยบายโดยตรง
    https://www.thai-tai.tv/news/20857/
    .
    #พรรคโอกาสใหม่ #การเมืองไทย #เลือกตั้ง #วีระชัยนาคมาศ #ภาคตะวันออก #ไทยไท
    "พรรคโอกาสใหม่" บุกภาคตะวันออก! เลือกตัวแทนจังหวัด...ชูแนวคิดให้ประชาชนกำหนดนโยบายโดยตรง https://www.thai-tai.tv/news/20857/ . #พรรคโอกาสใหม่ #การเมืองไทย #เลือกตั้ง #วีระชัยนาคมาศ #ภาคตะวันออก #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุว่า กองกำลังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนกำลังต่อสู้กับพวก "ทหารรับจ้าง" ต่างชาติจากหลายประเทศ รวมถึงจีน ปากีสถาน และบางส่วนของแอฟริกา พร้อมยืนยันว่าเคียฟจะมีมาตรการตอบโต้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000073967

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุว่า กองกำลังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนกำลังต่อสู้กับพวก "ทหารรับจ้าง" ต่างชาติจากหลายประเทศ รวมถึงจีน ปากีสถาน และบางส่วนของแอฟริกา พร้อมยืนยันว่าเคียฟจะมีมาตรการตอบโต้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000073967 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 958 Views 0 Reviews
  • ..คลิปนี้เสมือนเป็นตัวแทนแทนรัฐบาลชุดอดีตนายฯไม่ซื่อสัตย์คนแรกและนายกฯพักงานที่พูดว่า ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามเรา อังเคิลอยากได้อะไรเดียวจัดให้ คงจะจัดให้เขมรยิงระเบิดมากรุงเทพฯเร็วๆนี้ด้วยล่ะ,ข่าวขนPHL03มายิงปลิ้วเต็มโซเชียลแล้ว,ระยะ130กม.เด็กๆ,ขยายอีกอาจ150-190กม.ตามชนิดระเบิดกระสุน,ตกลูกเดียวก็เหี้ยแล้ว,คุณวีระพูดชัดเจนว่า รัฐบาลชุดนี้สมคบคิดสมยอมในผลประโยชน์ร่วมกับฮุนเซนชัดเจนจนพูดว่าไส้ศึกและขายชาติทรยศชาติ ฮุนเซนมันยังพูดว่าถ้าอยู่ในเขมรมันคนที่ทำพฤติกรรมแบบนี้มันเรียกว่ากบฎต่อประเทศเขมรมันแล้ว,ทหารไทยเราสมควรจัดการรัฐบาลที่กบฎขายชาติทรยศชาติดั่งฮุนเซนมันว่าเถอะ,ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยด้วย.
    ..ยิ่งตอนนี้มันกะจะยิงphl03ถึงเมืองหลวงกทม.เราอีกก็ประกาศกฎอัยการศึกทั้งภาคกลางทั้วภาคตะวันออกทั้งภาคอีสานเลย,หรือทั้งประเทศให้จบคราวเดียวเลย,ยึดอำนาจรัฐบาลกบฎขายชาติอย่างที่ฮุนเซนมันเปรียบเทียบให้ดู.

    ..อีนีัไปทางเขมรหมดแล้วจริงๆ



    https://youtube.com/watch?v=wtWteYRoNg8&si=UhpHgY4y0WQrCLk6
    ..คลิปนี้เสมือนเป็นตัวแทนแทนรัฐบาลชุดอดีตนายฯไม่ซื่อสัตย์คนแรกและนายกฯพักงานที่พูดว่า ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามเรา อังเคิลอยากได้อะไรเดียวจัดให้ คงจะจัดให้เขมรยิงระเบิดมากรุงเทพฯเร็วๆนี้ด้วยล่ะ,ข่าวขนPHL03มายิงปลิ้วเต็มโซเชียลแล้ว,ระยะ130กม.เด็กๆ,ขยายอีกอาจ150-190กม.ตามชนิดระเบิดกระสุน,ตกลูกเดียวก็เหี้ยแล้ว,คุณวีระพูดชัดเจนว่า รัฐบาลชุดนี้สมคบคิดสมยอมในผลประโยชน์ร่วมกับฮุนเซนชัดเจนจนพูดว่าไส้ศึกและขายชาติทรยศชาติ ฮุนเซนมันยังพูดว่าถ้าอยู่ในเขมรมันคนที่ทำพฤติกรรมแบบนี้มันเรียกว่ากบฎต่อประเทศเขมรมันแล้ว,ทหารไทยเราสมควรจัดการรัฐบาลที่กบฎขายชาติทรยศชาติดั่งฮุนเซนมันว่าเถอะ,ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยด้วย. ..ยิ่งตอนนี้มันกะจะยิงphl03ถึงเมืองหลวงกทม.เราอีกก็ประกาศกฎอัยการศึกทั้งภาคกลางทั้วภาคตะวันออกทั้งภาคอีสานเลย,หรือทั้งประเทศให้จบคราวเดียวเลย,ยึดอำนาจรัฐบาลกบฎขายชาติอย่างที่ฮุนเซนมันเปรียบเทียบให้ดู. ..อีนีัไปทางเขมรหมดแล้วจริงๆ https://youtube.com/watch?v=wtWteYRoNg8&si=UhpHgY4y0WQrCLk6
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • เขมรเหิมรุกตราด เจอตราดพิฆาตไพรี 1 – 30 นาทีไทยยึดคืน 3 ฐาน [26/7/68]

    #เขมรเหิมรุกตราด
    #ตราดพิฆาตไพรี1
    #ยึดคืน3ฐาน
    #ตอบโต้ภายใน30นาที
    #ไทยยึดกลับสำเร็จ
    #ชัยชนะของไทย
    #ข่าวชายแดนตราด
    #แนวหน้าภาคตะวันออก
    #ThaiDefenseSuccess
    #กัมพูชายิงก่อน
    #柬埔寨先开火 (จีน)
    #カンボジアが先に発砲 (ญี่ปุ่น)
    #캄보디아가먼저발포 (เกาหลี)
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #CambodiaOpenedFire
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    เขมรเหิมรุกตราด เจอตราดพิฆาตไพรี 1 – 30 นาทีไทยยึดคืน 3 ฐาน [26/7/68] #เขมรเหิมรุกตราด #ตราดพิฆาตไพรี1 #ยึดคืน3ฐาน #ตอบโต้ภายใน30นาที #ไทยยึดกลับสำเร็จ #ชัยชนะของไทย #ข่าวชายแดนตราด #แนวหน้าภาคตะวันออก #ThaiDefenseSuccess #กัมพูชายิงก่อน #柬埔寨先开火 (จีน) #カンボジアが先に発砲 (ญี่ปุ่น) #캄보디아가먼저발포 (เกาหลี) #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #thaitimes #news1 #shorts
    Like
    Love
    3
    1 Comments 0 Shares 234 Views 0 0 Reviews
  • ..ทหารเขมรทำผิดร้ายแรงจริงๆ,ประขาชนเขมรสมยอมสนับสนุนการกระทำของทหารเขมรด้วย,ประชาชนเขมรที่อ้างตนเองว่าคือผู้บริสุทธิ์ ไม่มีใครเลยออกมาว่ากล่าวรัฐบาลตนเองที่ทำผิดวิถีข้อตกลงสันติร่วมกัน ลาดตะเวนคือลาดตะเวน มิใช่ฝังกับระเบิดแบบนี้ถือว่า,ยุติสัมพันธ์ทันทีได้แล้ว,ปิดด่านทั้งหมดตลอดพรมแดนเป็นถาวรทันที,ปิดถาวรทุกๆด่านทันที,ตัดไฟฟ้า ทำลายเสาไฟฟ้าทุกๆต้นที่เชื่อมต่อไปเขมร,เรียกฑูตไทยเราทั้งหมดทันที,ผลัดกันฑูตเขมรกลับไปด้วย,ตลอดคนเขมรในไทยที่อ้างตนว่าคือผู้บริสุทธิ์ทั้งหมดด้วย,กลับไปจัดการฮุนเซนเองหรือตั้งสมาคมต่อต้านฮุนเซนอย่างเป็นทางการไป,แต่ไม่ใช่ในประเทศไทย,อาจย้ายไปก่อการที่ลาวโน้นแทน,เพื่อยึดอำนาจการปกครองคืนจากฮุนเซนเอง,ภาค2ชัดเจนแล้วว่าเขมรต้องจัดการเด็ดขาด,แต่ภาค1ยังสมยอมเขมรอยู่ดูการอนุญาตเปิดด่านให้เขมรเข้าออกไทยได้,,ทหารไทยต้องใช้กฎอัยการศึกในมือให้เด็ดขาด,ถ้ารัฐบาลกากอีกก็ประกาศกฎอัยการศึกทั้งภาคเลยคือทั้งหมดของภาคกลางและภาคตะวันออก,โดยภาคกลางพิเศษเข้มข้นในกรุงเทพและปริมลฑลทั้งหมด,รัฐบาลจะถูกควบคุมทันทีในนัยยะสำคัญนั้น.ทหารไทยเราต้องไม่สูญเสียการสละเปล่าประโยชน์.
    ..เคยนึกเล่นๆตอนทหาคเขมรมันถมคลองคูมันนั้นล่ะ มันอาจฝังระเบิดไว้ด้วยก็ได้ทั้งในคูและรอบๆคูที่มันขุด,เรามีไส้ศึกจริงๆ,ทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามเรา คำนี้มันขายชาติทั้งชุดรัฐบาลแล้ว,เป็นอื่นไม่ได้เลย,รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคือปัญหา โดยเฉพาะกฎการเลือกตั้งสส.สว.และนายกฯที่ไม่เลือกโดยตรงจากประชาชน มันผิดวิสัยปกติพื้นฐานของการเลือกผู้นำในระบบประชาธิปไตย,ทหารไทยเราสามารถฉีกและเขียนใหม่ได้,และต้องเป็นทหารที่รักประชาชนจริงๆรักสถาบันจริงๆด้วย,รักชาตินั้นเอง,ทหารสมัยกปปส.ยึดอำนาจถือว่าเสียของที่สุด,กลุ่มอนุรักษ์นิยมเหี้ยบัดสบด้วยทำเสียของเช่นกันหากกำกับทหารจริงถ้ามิใช่ฝ่ายมืด,เรา..ประชาชนนิยมและนิยมกษัตริย์ด้วย,บ้านต้องมีพ่อมีแม่เป็นประธาน ,ไม่เอาประธานาธิบดี และเผด็จการใดๆ,เรา..เอาสถาบันกษัตริย์เราปกติ เพราะนี้คือคู่บุญคู่บ้านคู่เมืองเรามาตลอด กษัตริย์ทุกๆพระองค์พยายามบริหารปกครองบ้านเมืองด้วยธรรมดีมาตลอด,คุณนั้นมีจริงอยู่ พระคุณคู่พระคุณบรรพบุรุษเราทั้งหลายมีจริงอยู่ เราชนรุ่นหลังมิอาจลืมพระคุณท่านที่เสียสละพลีชีพเพื่อขนรุ่นหลังแบบเราๆคนไทยทั้งประเทศได้,
    ..เขมรทำเกินกว่าเหตุแล้ว,มุกบริบทเล่นเกินกว่าเหตุด้วย,แม้จะในใจลึกๆขอให้ไทยยึดประเทศเขมรให้ด้วยจะได้หลุดพ้นหนี้ล้นพ้นตัวจากจีนก็อย่าทำถึงขนาดนี้,ไทยจะยึดทั้งประเทศเขมรให้แน่นอน,จะพื้นที่ให้ลาวปกครอง ให้พื้นที่ให้เวียดนามมาปกครองเขมรด้วย,ไทยคนยึดเขมรจะแบ่งให้ลาวให้เวียดนามและคนเขมรทั้งหมดให้ลาวให้เวียดนามจัดการแน่นอน,จีนจะไม่สามารถถามหาได้อีก หลุดพ้นทันทีของจริง,ส่วนไทยจะเอาที่ๆเคยเป็นของไทยคืนมาสมัยก่อนฝรั่งเศสยึดครองไปแค่นั้น,ไม่เอาคนเขมรด้วย,มาอยู่บนแผ่นดินนั่นๆที่ได้คืนมา,เขมรต้องคืนสู่สามัญเหมือนยุคที่ยังไม่มีชาติเขมรนั้นเอง,อาเชียนเอเชียจะไม่มีชื่อเขมรบนแผ่นที่โลกนั้นเอง.
    ..เขมรทำผิดต่อประเทศไทยจริงๆ.ไม่สมควรให้อภัยใดๆอีก.,ขนาดถอนกำลังทหารยังฝังระเบิดไว้, มันถอยต้องฝังระเบิดไว้แน่ๆ และแล้วก็จริงตามนั้นจริงๆเพราะด้วยสันดานนิสัยมันคนนำและสถุนใต้บัญชามันต้องเล่นไม่ซื่อแน่นอน.,ชาติไม่ซื่อแบบนี้สมควรถูกเขมรแดงฆ่าล้างเผ่าพันธ์จริงๆ,เป็นพิษเป็นภัยแก่คนชาติอื่นไปทั่ว,ก่ออาชญากรรมก็ทั่วโลก,เดอะแก็งคอลเซ็นเตอร์คือของจริง,ค้ามนุษย์ ฟอกตังฟอกเงิน ค้ายาค้าของเถื่อนมืดๆสาระพัดมีแน่นอน,เผลอๆแรปทีเลี่ยนตัวพ่อด้วยใส่ชุดที่ชื่อว่าฮุนเซน,จึงปั่นป่วนไปทั่วโลกเพราะโคตรแรปทีเลี่ยนโลกลูกพี่มันให้ท้าย,ย้ายมาสร้างฐานปฏิบัติการเป็นฮับชั่วเลวในเขมรลูกน้องมันนั้นเองก็ว่า,สัญลักษณ์แข่งกีฬาที่มันเปลี่ยนโลโก้เราเป็นสัญลักษณ์มารซานตานมีเขาควายเขาวัวจึงชัดเจนมาก,เขมรคือฮับฝ่ายมืดแทนพม่าไปแล้วนั้นเอง,จีนฝ่ายมืดก็ให้การสนับสนุนสิ่งชั่วเลวเต็มเขมรด้วยเช่นกัน.,เช่นนั้นสาระพัดตึกชั่วเลวจะสร้างในเขมรไม่ได้,ทหารไทยเราต้องจัดการรัฐบาลสมุนเขาควายเขาวัวฝ่ายมืดพวกนี้ด้วยทันทีเช่นกัน,จากนั้นเราจะสามารถตัดตอนตัดแข้งตัดขามันได้ตลอดต่อเนื่องเลย,รัฐบาลที่ว่าทหารไทยคืแฝ่ายตรงข้ามเรา มันขัดขวางตลอดจึงยากจะจัดการเด็ดขาดฝ่ายมืดภายในเราจริงๆได้ก่อน,เมื่อเราควบคุมจัดการภายในได้ ฝ่ายนอกแบบเขมรถือว่าแก้ปัญหาใดๆต่อไปไม่ยากอะไรเลยแม้deep stateโลกสากลจะย้ายฮับมาเขมรก็รักษาฮับชั่วเลวมันนี้ไม่ได้อีกต่อไป,มีแต่ถูกฝ่ายดีฝ่ายแสงเข้าทำลายพร้อมกันให้สิ้นซากโดยง่าย.
    ..เขมรคือฮับอาชญากรรมโลก ภัยคุกคามชาวโลกขนาดใหญ่ยักษ์ชัดเจน การกำจัดเขมรของชาติทั่วโลกจึงสมควรมาก.

    https://youtube.com/watch?v=8S0SqxGSCK0&feature=shared
    ..ทหารเขมรทำผิดร้ายแรงจริงๆ,ประขาชนเขมรสมยอมสนับสนุนการกระทำของทหารเขมรด้วย,ประชาชนเขมรที่อ้างตนเองว่าคือผู้บริสุทธิ์ ไม่มีใครเลยออกมาว่ากล่าวรัฐบาลตนเองที่ทำผิดวิถีข้อตกลงสันติร่วมกัน ลาดตะเวนคือลาดตะเวน มิใช่ฝังกับระเบิดแบบนี้ถือว่า,ยุติสัมพันธ์ทันทีได้แล้ว,ปิดด่านทั้งหมดตลอดพรมแดนเป็นถาวรทันที,ปิดถาวรทุกๆด่านทันที,ตัดไฟฟ้า ทำลายเสาไฟฟ้าทุกๆต้นที่เชื่อมต่อไปเขมร,เรียกฑูตไทยเราทั้งหมดทันที,ผลัดกันฑูตเขมรกลับไปด้วย,ตลอดคนเขมรในไทยที่อ้างตนว่าคือผู้บริสุทธิ์ทั้งหมดด้วย,กลับไปจัดการฮุนเซนเองหรือตั้งสมาคมต่อต้านฮุนเซนอย่างเป็นทางการไป,แต่ไม่ใช่ในประเทศไทย,อาจย้ายไปก่อการที่ลาวโน้นแทน,เพื่อยึดอำนาจการปกครองคืนจากฮุนเซนเอง,ภาค2ชัดเจนแล้วว่าเขมรต้องจัดการเด็ดขาด,แต่ภาค1ยังสมยอมเขมรอยู่ดูการอนุญาตเปิดด่านให้เขมรเข้าออกไทยได้,,ทหารไทยต้องใช้กฎอัยการศึกในมือให้เด็ดขาด,ถ้ารัฐบาลกากอีกก็ประกาศกฎอัยการศึกทั้งภาคเลยคือทั้งหมดของภาคกลางและภาคตะวันออก,โดยภาคกลางพิเศษเข้มข้นในกรุงเทพและปริมลฑลทั้งหมด,รัฐบาลจะถูกควบคุมทันทีในนัยยะสำคัญนั้น.ทหารไทยเราต้องไม่สูญเสียการสละเปล่าประโยชน์. ..เคยนึกเล่นๆตอนทหาคเขมรมันถมคลองคูมันนั้นล่ะ มันอาจฝังระเบิดไว้ด้วยก็ได้ทั้งในคูและรอบๆคูที่มันขุด,เรามีไส้ศึกจริงๆ,ทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามเรา คำนี้มันขายชาติทั้งชุดรัฐบาลแล้ว,เป็นอื่นไม่ได้เลย,รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคือปัญหา โดยเฉพาะกฎการเลือกตั้งสส.สว.และนายกฯที่ไม่เลือกโดยตรงจากประชาชน มันผิดวิสัยปกติพื้นฐานของการเลือกผู้นำในระบบประชาธิปไตย,ทหารไทยเราสามารถฉีกและเขียนใหม่ได้,และต้องเป็นทหารที่รักประชาชนจริงๆรักสถาบันจริงๆด้วย,รักชาตินั้นเอง,ทหารสมัยกปปส.ยึดอำนาจถือว่าเสียของที่สุด,กลุ่มอนุรักษ์นิยมเหี้ยบัดสบด้วยทำเสียของเช่นกันหากกำกับทหารจริงถ้ามิใช่ฝ่ายมืด,เรา..ประชาชนนิยมและนิยมกษัตริย์ด้วย,บ้านต้องมีพ่อมีแม่เป็นประธาน ,ไม่เอาประธานาธิบดี และเผด็จการใดๆ,เรา..เอาสถาบันกษัตริย์เราปกติ เพราะนี้คือคู่บุญคู่บ้านคู่เมืองเรามาตลอด กษัตริย์ทุกๆพระองค์พยายามบริหารปกครองบ้านเมืองด้วยธรรมดีมาตลอด,คุณนั้นมีจริงอยู่ พระคุณคู่พระคุณบรรพบุรุษเราทั้งหลายมีจริงอยู่ เราชนรุ่นหลังมิอาจลืมพระคุณท่านที่เสียสละพลีชีพเพื่อขนรุ่นหลังแบบเราๆคนไทยทั้งประเทศได้, ..เขมรทำเกินกว่าเหตุแล้ว,มุกบริบทเล่นเกินกว่าเหตุด้วย,แม้จะในใจลึกๆขอให้ไทยยึดประเทศเขมรให้ด้วยจะได้หลุดพ้นหนี้ล้นพ้นตัวจากจีนก็อย่าทำถึงขนาดนี้,ไทยจะยึดทั้งประเทศเขมรให้แน่นอน,จะพื้นที่ให้ลาวปกครอง ให้พื้นที่ให้เวียดนามมาปกครองเขมรด้วย,ไทยคนยึดเขมรจะแบ่งให้ลาวให้เวียดนามและคนเขมรทั้งหมดให้ลาวให้เวียดนามจัดการแน่นอน,จีนจะไม่สามารถถามหาได้อีก หลุดพ้นทันทีของจริง,ส่วนไทยจะเอาที่ๆเคยเป็นของไทยคืนมาสมัยก่อนฝรั่งเศสยึดครองไปแค่นั้น,ไม่เอาคนเขมรด้วย,มาอยู่บนแผ่นดินนั่นๆที่ได้คืนมา,เขมรต้องคืนสู่สามัญเหมือนยุคที่ยังไม่มีชาติเขมรนั้นเอง,อาเชียนเอเชียจะไม่มีชื่อเขมรบนแผ่นที่โลกนั้นเอง. ..เขมรทำผิดต่อประเทศไทยจริงๆ.ไม่สมควรให้อภัยใดๆอีก.,ขนาดถอนกำลังทหารยังฝังระเบิดไว้, มันถอยต้องฝังระเบิดไว้แน่ๆ และแล้วก็จริงตามนั้นจริงๆเพราะด้วยสันดานนิสัยมันคนนำและสถุนใต้บัญชามันต้องเล่นไม่ซื่อแน่นอน.,ชาติไม่ซื่อแบบนี้สมควรถูกเขมรแดงฆ่าล้างเผ่าพันธ์จริงๆ,เป็นพิษเป็นภัยแก่คนชาติอื่นไปทั่ว,ก่ออาชญากรรมก็ทั่วโลก,เดอะแก็งคอลเซ็นเตอร์คือของจริง,ค้ามนุษย์ ฟอกตังฟอกเงิน ค้ายาค้าของเถื่อนมืดๆสาระพัดมีแน่นอน,เผลอๆแรปทีเลี่ยนตัวพ่อด้วยใส่ชุดที่ชื่อว่าฮุนเซน,จึงปั่นป่วนไปทั่วโลกเพราะโคตรแรปทีเลี่ยนโลกลูกพี่มันให้ท้าย,ย้ายมาสร้างฐานปฏิบัติการเป็นฮับชั่วเลวในเขมรลูกน้องมันนั้นเองก็ว่า,สัญลักษณ์แข่งกีฬาที่มันเปลี่ยนโลโก้เราเป็นสัญลักษณ์มารซานตานมีเขาควายเขาวัวจึงชัดเจนมาก,เขมรคือฮับฝ่ายมืดแทนพม่าไปแล้วนั้นเอง,จีนฝ่ายมืดก็ให้การสนับสนุนสิ่งชั่วเลวเต็มเขมรด้วยเช่นกัน.,เช่นนั้นสาระพัดตึกชั่วเลวจะสร้างในเขมรไม่ได้,ทหารไทยเราต้องจัดการรัฐบาลสมุนเขาควายเขาวัวฝ่ายมืดพวกนี้ด้วยทันทีเช่นกัน,จากนั้นเราจะสามารถตัดตอนตัดแข้งตัดขามันได้ตลอดต่อเนื่องเลย,รัฐบาลที่ว่าทหารไทยคืแฝ่ายตรงข้ามเรา มันขัดขวางตลอดจึงยากจะจัดการเด็ดขาดฝ่ายมืดภายในเราจริงๆได้ก่อน,เมื่อเราควบคุมจัดการภายในได้ ฝ่ายนอกแบบเขมรถือว่าแก้ปัญหาใดๆต่อไปไม่ยากอะไรเลยแม้deep stateโลกสากลจะย้ายฮับมาเขมรก็รักษาฮับชั่วเลวมันนี้ไม่ได้อีกต่อไป,มีแต่ถูกฝ่ายดีฝ่ายแสงเข้าทำลายพร้อมกันให้สิ้นซากโดยง่าย. ..เขมรคือฮับอาชญากรรมโลก ภัยคุกคามชาวโลกขนาดใหญ่ยักษ์ชัดเจน การกำจัดเขมรของชาติทั่วโลกจึงสมควรมาก. https://youtube.com/watch?v=8S0SqxGSCK0&feature=shared
    0 Comments 0 Shares 330 Views 0 Reviews
  • ฝนฟ้าคะนองทั่วไทย 35 จว.อ่วม ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.เจอฝน 70%
    ////////////////



    พยากรณ์อากาศ ฝนฟ้าคะนองทั่วไทย 35 จว.อ่วม ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.เจอฝน 70%
    ฝนฟ้าคะนองทั่วไทย 35 จว.อ่วม ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.เจอฝน 70%

    พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
    สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
    อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “วิภา”แล้ว และคาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 19-22 ก.ค. 68 ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
    ภาคเหนือ

    มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก และกำแพงเพชร
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
    อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ
    นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
    อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ
    นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
    อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
    ภาคกลาง

    มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สระบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
    อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก

    มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
    อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

    มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
    อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

    มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
    ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    กรุงเทพและปริมณฑล

    มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
    อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.




    #ฝนตกหนัก, #น้ำท่วม, #น้ำป่า, #พยากรณ์อากาศ
    ข่าวสืบสวน
    #LinFeilong
    #NanthapatWongyai #Inside
    #หลินเฟยหล林飛龍
    ฝนฟ้าคะนองทั่วไทย 35 จว.อ่วม ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.เจอฝน 70% //////////////// พยากรณ์อากาศ ฝนฟ้าคะนองทั่วไทย 35 จว.อ่วม ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.เจอฝน 70% ฝนฟ้าคะนองทั่วไทย 35 จว.อ่วม ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กทม.เจอฝน 70% พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “วิภา”แล้ว และคาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 19-22 ก.ค. 68 ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก และกำแพงเพชร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สระบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. #ฝนตกหนัก, #น้ำท่วม, #น้ำป่า, #พยากรณ์อากาศ ข่าวสืบสวน #LinFeilong #NanthapatWongyai #Inside #หลินเฟยหล林飛龍
    0 Comments 0 Shares 421 Views 0 Reviews
  • เด็กเต้นแข่งเรือโบราณ ปาคู จาลูร์ ซอฟต์พาวเวอร์อินโดนีเซีย

    กลายเป็นที่ถูกพูดถึงสนั่นโลกโซเชียลฯ และกลายเป็นมีมไปทั่วโลก สำหรับไวรัลสุดน่ารักจากเทศกาลแข่งเรือโบราณ “ปาคู จาลูร์” (Pacu Jalur) บนหมู่เกาะรีเยา (Riau) ทางภาคตะวันออกของเกาะสุมาตรา จรดช่องแคบมะละกา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเด็กชายรายหนึ่งนามว่า เรย์ยาน อาร์กัน ดิกา (Rayyan Arkan Dikha) หรือ ดิกา (Dikha) วัย 11 ขวบ กลายเป็นจุดสนใจจากลีลาการเต้นบนหัวเรือระหว่างแข่งขัน ในตำแหน่งที่เรียกว่า ตูกัง ตาริ (Tukang Tari) ชุดสีดำเรียบหรู และแว่นกันแดด เปรียบกับแดนเซอร์ ทำหน้าที่ปลุกพลังให้กับฝีพาย ซึ่งเขาทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แถมเพลงที่นำมาประกอบในครั้งนี้ก็เป็นเพลงฮิปฮอป “Young Black & Rich” ของศิลปินชาวอเมริกัน เมลลี ไมค์ (Melly Mike)

    ท่าเต้นของดิกาแพร่กระจายไวอย่างรวดเร็วใน TikTok และ IG พร้อมเกิดกระแสที่เรียกว่า ออรา ฟาร์มมิ่ง (Aura Farming) หรือการเต้นเลียนแบบเพื่อเรียกความสนใจ โดยมีคนดังและสโมสรกีฬาร่วมเทรนด์ เช่น สโมสรฟุตบอลปารีส แซงต์ แชร์กแมง (PSG) ที่โพสต์วิดีโอเลียนแบบพร้อมข้อความว่า “กลิ่นอายได้แผ่ไปถึงปารีสแล้ว” ส่วนเอซี มิลาน เขียนแคปชันสุดฮาว่า “Aura Farming แม่นยำ 1899%” แถมยังมี ทราวิส เคลซ์ นักอเมริกันฟุตบอล แฟนหนุ่มของเทย์เลอร์ สวิฟต์ รวมถึงนักเตะไทย “เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์” ก็เข้าร่วมกระแสนี้ด้วย

    ล่าสุด เมลลี ไมค์ ประกาศว่าจะเดินทางมาร่วมงานเทศกาลปาคู จาลูร์ ในปีนี้ด้วยตนเอง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 ส.ค. 2568 ขณะที่เด็กชายดิกาได้รับแต่งตั้งเป็นทูตวัฒนธรรมจังหวัดรีเยา และได้รับเชิญให้เดินทางพร้อมครอบครัวไปยังกรุงจาการ์ตา เพื่อเข้าพบรัฐมนตรีด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย รวมถึงออกรายการโทรทัศน์ และได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ในฐานะที่ทำให้มรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซียเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

    เทศกาลปาคู จาลูร์ ถือเป็นหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญของอินโดนีเซีย จัดขึ้นที่ริมแม่น้ำอินดรากิรี (Indragiri River) โดยมีการแข่งขันพายเรือจาลูร์ ที่สร้างจากไม้ทั้งท่อน ไม่มีข้อต่อ พร้อมการตกแต่งที่วิจิตรงดงาม ไฮไลต์ของเทศกาลคือการมีนักเต้นแสดงอยู่บนหัวเรือ สร้างสีสันและความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชม มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษชาวควนซิงในศตวรรษที่ 22 ต่อมาถูกพัฒนาให้เป็นกิจกรรมประเพณี เคยใช้เฉลิมฉลองวันสำคัญทางศาสนา และในสมัยอาณานิคมเนเธอร์แลนด์ก็เคยจัดเพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดของราชินีด้วย ปัจจุบันจัดต่อเนื่องทุกปี และดึงดูดผู้เข้าชมได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปี

    #Newskit
    เด็กเต้นแข่งเรือโบราณ ปาคู จาลูร์ ซอฟต์พาวเวอร์อินโดนีเซีย กลายเป็นที่ถูกพูดถึงสนั่นโลกโซเชียลฯ และกลายเป็นมีมไปทั่วโลก สำหรับไวรัลสุดน่ารักจากเทศกาลแข่งเรือโบราณ “ปาคู จาลูร์” (Pacu Jalur) บนหมู่เกาะรีเยา (Riau) ทางภาคตะวันออกของเกาะสุมาตรา จรดช่องแคบมะละกา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเด็กชายรายหนึ่งนามว่า เรย์ยาน อาร์กัน ดิกา (Rayyan Arkan Dikha) หรือ ดิกา (Dikha) วัย 11 ขวบ กลายเป็นจุดสนใจจากลีลาการเต้นบนหัวเรือระหว่างแข่งขัน ในตำแหน่งที่เรียกว่า ตูกัง ตาริ (Tukang Tari) ชุดสีดำเรียบหรู และแว่นกันแดด เปรียบกับแดนเซอร์ ทำหน้าที่ปลุกพลังให้กับฝีพาย ซึ่งเขาทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แถมเพลงที่นำมาประกอบในครั้งนี้ก็เป็นเพลงฮิปฮอป “Young Black & Rich” ของศิลปินชาวอเมริกัน เมลลี ไมค์ (Melly Mike) ท่าเต้นของดิกาแพร่กระจายไวอย่างรวดเร็วใน TikTok และ IG พร้อมเกิดกระแสที่เรียกว่า ออรา ฟาร์มมิ่ง (Aura Farming) หรือการเต้นเลียนแบบเพื่อเรียกความสนใจ โดยมีคนดังและสโมสรกีฬาร่วมเทรนด์ เช่น สโมสรฟุตบอลปารีส แซงต์ แชร์กแมง (PSG) ที่โพสต์วิดีโอเลียนแบบพร้อมข้อความว่า “กลิ่นอายได้แผ่ไปถึงปารีสแล้ว” ส่วนเอซี มิลาน เขียนแคปชันสุดฮาว่า “Aura Farming แม่นยำ 1899%” แถมยังมี ทราวิส เคลซ์ นักอเมริกันฟุตบอล แฟนหนุ่มของเทย์เลอร์ สวิฟต์ รวมถึงนักเตะไทย “เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์” ก็เข้าร่วมกระแสนี้ด้วย ล่าสุด เมลลี ไมค์ ประกาศว่าจะเดินทางมาร่วมงานเทศกาลปาคู จาลูร์ ในปีนี้ด้วยตนเอง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 ส.ค. 2568 ขณะที่เด็กชายดิกาได้รับแต่งตั้งเป็นทูตวัฒนธรรมจังหวัดรีเยา และได้รับเชิญให้เดินทางพร้อมครอบครัวไปยังกรุงจาการ์ตา เพื่อเข้าพบรัฐมนตรีด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย รวมถึงออกรายการโทรทัศน์ และได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ในฐานะที่ทำให้มรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซียเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เทศกาลปาคู จาลูร์ ถือเป็นหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญของอินโดนีเซีย จัดขึ้นที่ริมแม่น้ำอินดรากิรี (Indragiri River) โดยมีการแข่งขันพายเรือจาลูร์ ที่สร้างจากไม้ทั้งท่อน ไม่มีข้อต่อ พร้อมการตกแต่งที่วิจิตรงดงาม ไฮไลต์ของเทศกาลคือการมีนักเต้นแสดงอยู่บนหัวเรือ สร้างสีสันและความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชม มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษชาวควนซิงในศตวรรษที่ 22 ต่อมาถูกพัฒนาให้เป็นกิจกรรมประเพณี เคยใช้เฉลิมฉลองวันสำคัญทางศาสนา และในสมัยอาณานิคมเนเธอร์แลนด์ก็เคยจัดเพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดของราชินีด้วย ปัจจุบันจัดต่อเนื่องทุกปี และดึงดูดผู้เข้าชมได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปี #Newskit
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 579 Views 0 Reviews
  • "อยากเป็นพี่ใหญ่ แต่ไม่เคยคิดปกป้องน้องๆ"

    ภาพวิดีโอแสดงถึงแสนยานุภาพทางอากาศของกองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคาดว่าทรงพลังที่สุดในโลกอาหรับ

    แม้ว่าอิสราเอลรัฐที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งป็นผู้นำในการครองอำนาจทางอากาศในภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่กองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย (RSAF) ในปัจจุบันเป็นกองทัพอากาศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในตะวันออกกลาง และแข็งแกร่งที่สุดในโลกอาหรับอย่างไม่ต้องสงสัย

    ด้วยเครื่องบินกว่า 900 ลำ ซาอุดีอาระเบียจัดได้ว่ามีทัพฝูงบินที่ทันสมัยและพร้อมรบที่สุด:

    เครื่องบินขับไล่โจมตีอเนกประสงค์ F-15SA/S จำนวน 152 ลำ

    เครื่องบินยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน จำนวน 72 ลำ

    เครื่องบินขับไล่ F-15C/D อีเกิลส์ มากกว่า 59 ลำ

    เครื่องบิน Tornado IDS จำนวน 81 ลำ

    เครื่องบินเติมน้ำมัน AWACS, SIGINT และ MRTT ขั้นสูง

    เครื่องบิน Apache Guardian มากกว่า 47 ลำ และฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ที่แข็งแกร่ง

    เกือบทั้งหมด ล้วนได้รับการสนับสนุนอย่างดีในด้านการป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ

    บางทีนี่อาจเป็นเพียง "ของสะสม" ของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเท่านั้นเอง
    "อยากเป็นพี่ใหญ่ แต่ไม่เคยคิดปกป้องน้องๆ" ภาพวิดีโอแสดงถึงแสนยานุภาพทางอากาศของกองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคาดว่าทรงพลังที่สุดในโลกอาหรับ แม้ว่าอิสราเอลรัฐที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งป็นผู้นำในการครองอำนาจทางอากาศในภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่กองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย (RSAF) ในปัจจุบันเป็นกองทัพอากาศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในตะวันออกกลาง และแข็งแกร่งที่สุดในโลกอาหรับอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยเครื่องบินกว่า 900 ลำ ซาอุดีอาระเบียจัดได้ว่ามีทัพฝูงบินที่ทันสมัยและพร้อมรบที่สุด: 🔹เครื่องบินขับไล่โจมตีอเนกประสงค์ F-15SA/S จำนวน 152 ลำ 🔹เครื่องบินยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน จำนวน 72 ลำ 🔹เครื่องบินขับไล่ F-15C/D อีเกิลส์ มากกว่า 59 ลำ 🔹เครื่องบิน Tornado IDS จำนวน 81 ลำ เครื่องบินเติมน้ำมัน AWACS, SIGINT และ MRTT ขั้นสูง 🔹เครื่องบิน Apache Guardian มากกว่า 47 ลำ และฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ที่แข็งแกร่ง เกือบทั้งหมด ล้วนได้รับการสนับสนุนอย่างดีในด้านการป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ บางทีนี่อาจเป็นเพียง "ของสะสม" ของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเท่านั้นเอง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 401 Views 0 0 Reviews
  • แรงงานกัมพูชาทยอยเก็บข้าวของเดินกลับประเทศผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี หลังสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก คาดคึกคักอีกครั้งช่วงสิ้นปีหรือหากสถานการณ์คลี่คลาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065450

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แรงงานกัมพูชาทยอยเก็บข้าวของเดินกลับประเทศผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี หลังสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก คาดคึกคักอีกครั้งช่วงสิ้นปีหรือหากสถานการณ์คลี่คลาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065450 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 716 Views 0 Reviews
  • สกู๊ตเปิดเส้นทางใหม่ สิงคโปร์-โกตาบารู

    สกู๊ต (Scoot) สายการบินราคาประหยัดในเครือสิงคโปร์แอร์ไลน์ เตรียมกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางสิงคโปร์-โกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ด้วยเครื่องบิน Embraer E190-E2 สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน ทุกวันศุกร์และวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป ได้แก่ ขาไป เที่ยวบินที่ TR460 ออกจากสิงคโปร์ 20.40 น. ถึงโกตาบารู 21.55 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 15 นาที และขากลับ TR461 ออกจากโกตาบารู 22.30 น. ถึงสิงคโปร์ 23.55 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 25 นาที

    โกตาบารู เมืองหลวงของรัฐกลันตัน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย มีท่าอากาศยานสุลต่านอิสมาอิล เปตรา (KBR) ห่างจากด่านเป็งกาลันกูโบ ตรงข้าม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 37 กิโลเมตร และด่านรันเตาปันจัน ตรงข้าม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส 50 กิโลเมตร เปิดใช้อาคารผู้โดยสารหลังใหม่เมื่อ 1 พ.ค. 2567 มีเที่ยวบินให้บริการวันละกว่า 30 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 1.5 ล้านคนต่อปี กำลังขยายอาคารผู้โดยสารและรันเวย์เพื่อรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 4 ล้านคนต่อปี

    ก่อนหน้านี้สกู๊ตเคยเปิดเส้นทางสิงคโปร์-โกตาบารู เมื่อปี 2562 ด้วยความถี่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ แต่ได้ยกเลิกไป การเปิดเส้นทางบินใหม่ดังกล่าว จะทำให้สกู๊ตมีเที่ยวบินรวมกัน 115 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยัง 12 เมืองในมาเลเซีย

    นอกจากนี้ สกู๊ตเตรียมเปิดเส้นทางสิงคโปร์-ดานัง และสิงคโปร์-ญาจาง ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานชางงีมีเครือข่ายเส้นทางบินครอบคลุมกว่า 170 เมือง อีกทั้งสกู๊ตมีแผนเปิดเส้นทางใหม่ไปยังเมดาน ลาบวน ประเทศอินโดนีเซีย และโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางไปยังคลาร์ก ดาเวา มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย หาดใหญ่ ประเทศไทย และเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย เพื่อรองรับความต้องการเดินทางทางอากาศที่เพิ่มมากขึ้น

    สำหรับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ปัจจุบันมีท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีเที่ยวบินไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยสายการบินสกู๊ตเป็นประจำทุกวัน 1 เที่ยวบิน และมีไฟล์ตดึกทุกวันจันทร์ ศุกร์ และอาทิตย์ อีก 1 เที่ยวบิน จึงเป็นไปได้ว่าสกู๊ตต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวไปยังเมืองโกตาบารู ชมสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม และหมู่เกาะเปอร์เฮนเทียน (Pulau Perhentian) แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและดำน้ำยอดนิยมในรัฐตรังกานูมากกว่า ซึ่งจากสนามบินโกตาบารู เดินทางด้วยรถยนต์ไปอีก 60 กิโลเมตร จะถึงท่าเรือกัวลาบูซุต (Kuala Besut) แล้วต่อด้วยเรือเฟอร์รี่เพื่อไปยังเกาะดังกล่าว

    #Newskit
    สกู๊ตเปิดเส้นทางใหม่ สิงคโปร์-โกตาบารู สกู๊ต (Scoot) สายการบินราคาประหยัดในเครือสิงคโปร์แอร์ไลน์ เตรียมกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางสิงคโปร์-โกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ด้วยเครื่องบิน Embraer E190-E2 สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน ทุกวันศุกร์และวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป ได้แก่ ขาไป เที่ยวบินที่ TR460 ออกจากสิงคโปร์ 20.40 น. ถึงโกตาบารู 21.55 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 15 นาที และขากลับ TR461 ออกจากโกตาบารู 22.30 น. ถึงสิงคโปร์ 23.55 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 25 นาที โกตาบารู เมืองหลวงของรัฐกลันตัน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย มีท่าอากาศยานสุลต่านอิสมาอิล เปตรา (KBR) ห่างจากด่านเป็งกาลันกูโบ ตรงข้าม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 37 กิโลเมตร และด่านรันเตาปันจัน ตรงข้าม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส 50 กิโลเมตร เปิดใช้อาคารผู้โดยสารหลังใหม่เมื่อ 1 พ.ค. 2567 มีเที่ยวบินให้บริการวันละกว่า 30 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 1.5 ล้านคนต่อปี กำลังขยายอาคารผู้โดยสารและรันเวย์เพื่อรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 4 ล้านคนต่อปี ก่อนหน้านี้สกู๊ตเคยเปิดเส้นทางสิงคโปร์-โกตาบารู เมื่อปี 2562 ด้วยความถี่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ แต่ได้ยกเลิกไป การเปิดเส้นทางบินใหม่ดังกล่าว จะทำให้สกู๊ตมีเที่ยวบินรวมกัน 115 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยัง 12 เมืองในมาเลเซีย นอกจากนี้ สกู๊ตเตรียมเปิดเส้นทางสิงคโปร์-ดานัง และสิงคโปร์-ญาจาง ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานชางงีมีเครือข่ายเส้นทางบินครอบคลุมกว่า 170 เมือง อีกทั้งสกู๊ตมีแผนเปิดเส้นทางใหม่ไปยังเมดาน ลาบวน ประเทศอินโดนีเซีย และโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางไปยังคลาร์ก ดาเวา มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย หาดใหญ่ ประเทศไทย และเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย เพื่อรองรับความต้องการเดินทางทางอากาศที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ปัจจุบันมีท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีเที่ยวบินไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยสายการบินสกู๊ตเป็นประจำทุกวัน 1 เที่ยวบิน และมีไฟล์ตดึกทุกวันจันทร์ ศุกร์ และอาทิตย์ อีก 1 เที่ยวบิน จึงเป็นไปได้ว่าสกู๊ตต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวไปยังเมืองโกตาบารู ชมสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม และหมู่เกาะเปอร์เฮนเทียน (Pulau Perhentian) แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและดำน้ำยอดนิยมในรัฐตรังกานูมากกว่า ซึ่งจากสนามบินโกตาบารู เดินทางด้วยรถยนต์ไปอีก 60 กิโลเมตร จะถึงท่าเรือกัวลาบูซุต (Kuala Besut) แล้วต่อด้วยเรือเฟอร์รี่เพื่อไปยังเกาะดังกล่าว #Newskit
    0 Comments 0 Shares 532 Views 0 Reviews
  • เกาะกูด (Koh Kood) เป็นเกาะสวยงามในจังหวัดตราด ทางภาคตะวันออกของไทย ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ชายหาดขาวสะอาด และน้ำทะเลใสสีมรกต! **นี่คือสถานที่ท่าสนใจและกิจกรรมแนะนำในบริเวณเกาะกูด:**

    1. **ชายหาดสวยงาม:**
    * **หาดตาดใหญ่ (Tad Mai Beach):** หาดหลักที่ยาวและสวยที่สุดของเกาะ มีทรายขาวละเอียด น้ำใส บรรยากาศสงบ ร้านอาหารและที่พักตั้งเรียงราย (แต่ไม่หนาแน่นเหมือนเกาะอื่น) เหมาะสำหรับว่ายน้ำและพักผ่อน
    * **หาดคลองเจ้า (Klong Chao Beach):** เป็นส่วนหนึ่งของอ่าวคลองเจ้า มีทรายขาวนุ่ม น้ำใสเงียบสงบ เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทระดับหรูหลายแห่ง และเป็นจุดเริ่มต้นไปน้ำตกคลองเจ้า
    * **หาดบางเบ้า (Bang Bao Beach):** ชายหาดโค้งรูปครึ่งวงกลม น้ำตื้นใสสีฟ้าเขียวสวยมาก เหมาะสำหรับเล่นน้ำและพักผ่อน บรรยากาศโรแมนติก โดยเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตก
    * **หาดหมาก (Mak Beach):** หาดยาวเงียบสงบ ทรายขาวละเอียด น้ำใสสวย อยู่ทางตะวันออกของเกาะ บรรยากาศเป็นส่วนตัวมากกว่า
    * **หาดเต่า (Tao Beach):** หาดเล็กสวยรูปทรงโค้งมน ทรายขาวละเอียด น้ำใสมาก เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

    2. **น้ำตกธรรมชาติ:**
    * **น้ำตกคลองเจ้า (Klong Chao Waterfall):** น้ำตกชื่อดังและสวยที่สุดของเกาะกูด มีถึง 3 ชั้น ชั้นบนสุดสูงประมาณ 15 เมตร สามารถลงเล่นน้ำในแอ่งน้ำกว้างได้ (โดยเฉพาะชั้นล่าง) เดินเท้าเข้าจากหาดคลองเจ้าไม่ไกลมาก หรือล่องเรือคายัคเข้าไปก็ได้
    * **น้ำตกคลองจิต (Klong Jig Waterfall):** น้ำตกขนาดกลางที่สวยงาม มีแอ่งน้ำให้เล่นได้ บรรยากาศร่มรื่น เดินเท้าเข้าไปจากถนนหลัก
    * **น้ำตกค้างคาว (Khao Yai Waterfall):** เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความสูงหลายชั้น บางช่วงต้องปีนป่ายเล็กน้อย เหมาะสำหรับคนชอบผจญภัยเบาๆ

    3. **จุดชมวิวและสถานที่สำคัญ:**
    * **จุดชมวิวอ่าวตานิด (Ao Tanit Viewpoint):** จุดชมวิวมุมสูงที่สวยงามมาก เห็นอ่าวตานิดและทะเลสีฟ้าเข้มสลับฟ้าใส มองเห็นเกาะช้างไกลๆ บางวันเห็นได้ชัดเจน
    * **จุดชมวิวเรือรบหลวงประแส (HTMS Prasae Viewpoint):** จุดชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์ทะเลกว้างและเกาะน้อยใหญ่ รวมถึงเห็นซากเรือรบหลวงประแสที่จมอยู่ใต้น้ำ (ต้องดำน้ำดู)
    * **วัดคลองมาด (Wat Khlong Mad):** วัดเพียงแห่งเดียวบนเกาะกูด สถาปัตยกรรมเรียบง่าย สะท้อนวิถีชีวิตชาวบ้าน สงบร่มเย็น
    * **ประภาคารเกาะกูด (Koh Kood Lighthouse):** ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของเกาะ เป็นจุดชมวิวทะเลและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง

    4. **เกาะบริวารและจุดดำน้ำ:**
    * **เกาะกระดาด (Koh Kradat):** เกาะเล็กๆ ใกล้เกาะกูด มีหาดทรายขาวยาว น้ำตื้นใสมาก เหมาะสำหรับเล่นน้ำและพักผ่อน (มักรวมอยู่ในทริป Island Hopping)
    * **เกาะไม้ซี้ (Koh Mai Si):** เกาะหินขนาดเล็กที่มีหาดทรายสวยงาม เป็นจุดดำน้ำตื้นดูปะการังน้ำตื้นและฝูงปลา
    * **เกาะรัง (Koh Rang):** เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง มีแนวปะการังสมบูรณ์สวยงามหลายจุด (เช่น Hin Rap, Hin Sam Sao, Hin Kuak Ma) **เป็นจุดดำน้ำลึก (Scuba Diving) และดำน้ำตื้น (Snorkeling) ที่ดีที่สุดรอบเกาะกูด** มักเห็นเต่าทะเล ปลาสวยงามหลากสี
    * **กองหินริเชลิว (Hin Richelieu Rock):** แหล่งดำน้ำระดับโลกที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะกูดมากนัก (ใช้เวลาเรือเร็วประมาณ 1 ชม.) ขึ้นชื่อเรื่องการพบปลามอร์เรย์ยักษ์ ปลาการ์ตูนหลากชนิด และความหลากหลายทางชีวภาพ (เหมาะสำหรับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์)

    5. **กิจกรรมน่าสนใจ:**
    * **ล่องเรือคายัค (Kayaking):** ล่องไปตามคลองชลเจ้า (คลองน้ำเค็ม) ที่มีป่าชายเลนสวยงาม เงียบสงบ เห็นระบบนิเวศชายฝั่ง หรือพายไปตามชายหาดต่างๆ
    * **ทริปตกปลา (Fishing Trip):** ออกไปตกปลาทะเลน้ำลึกรอบๆ เกาะกูด
    * **ปั่นจักรยาน/ขับรถ ATV:** สำรวจธรรมชาติและวิถีชีวิตท้องถิ่นภายในเกาะ ซึ่งมีถนนลาดยางบางส่วนและถนนลูกรัง
    * **นวดสปา:** ผ่อนคลายด้วยการนวดแผนไทยหรือสปาในบรรยากาศรีสอร์ทริมทะเล
    * **ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน:** ดูสวนยางพารา สวนผลไม้ (เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน) หรือชุมชนประมงเล็กๆ

    **คำแนะนำเพิ่มเติม:**

    * **การเดินทาง:** ไปเกาะกูดค่อนข้างใช้เวลา ต้องนั่งเรือจากท่าเรือแหลมงอบ (ตราด) ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง (แล้วแต่ประเภทเรือ) หรือนั่งเครื่องบินเล็กจากสนามบินอู่ตะเภา (พัทยา) หรือบางแสน มาลงที่เกาะกูดโดยตรง
    * **สภาพเกาะ:** เกาะกูดยังคงความเป็นธรรมชาติสูง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและภูเขา ถนนบางสายยังเป็นลูกรัง การสัญจรหลักบนเกาะคือรถสองแถวรับจ้าง (Taxi Truck) หรือมอเตอร์ไซค์เช่า
    * **บรรยากาศ:** ค่อนข้างสงบ เงียบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ไม่เหมาะสำหรับคนที่หาความบันเทิงเริงรมย์แบบเกาะพีพีหรือภูเก็ต
    * **ช่วงเวลา:** ฤดูท่องเที่ยวคือช่วง **พฤศจิกายน - เมษายน** (อากาศดี ทะเลสวย น้ำตกมีน้ำ) ควรหลีกเลี่ยงฤดูมรสุม (พฤษภาคม - ตุลาคม) เพราะลมแรง มีฝนตกหนัก และบางที่พัก/เรืออาจปิดให้บริการ

    เกาะกูดคือสวรรค์ของคนรักธรรมชาติและความสงบ หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนให้ไกลจากความวุ่นวาย ชายหาดสวยๆ น้ำทะเลใสๆ และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เกาะกูดคือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม!
    เกาะกูด (Koh Kood) เป็นเกาะสวยงามในจังหวัดตราด ทางภาคตะวันออกของไทย ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ชายหาดขาวสะอาด และน้ำทะเลใสสีมรกต! **นี่คือสถานที่ท่าสนใจและกิจกรรมแนะนำในบริเวณเกาะกูด:** 1. **ชายหาดสวยงาม:** * **หาดตาดใหญ่ (Tad Mai Beach):** หาดหลักที่ยาวและสวยที่สุดของเกาะ มีทรายขาวละเอียด น้ำใส บรรยากาศสงบ ร้านอาหารและที่พักตั้งเรียงราย (แต่ไม่หนาแน่นเหมือนเกาะอื่น) เหมาะสำหรับว่ายน้ำและพักผ่อน * **หาดคลองเจ้า (Klong Chao Beach):** เป็นส่วนหนึ่งของอ่าวคลองเจ้า มีทรายขาวนุ่ม น้ำใสเงียบสงบ เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทระดับหรูหลายแห่ง และเป็นจุดเริ่มต้นไปน้ำตกคลองเจ้า * **หาดบางเบ้า (Bang Bao Beach):** ชายหาดโค้งรูปครึ่งวงกลม น้ำตื้นใสสีฟ้าเขียวสวยมาก เหมาะสำหรับเล่นน้ำและพักผ่อน บรรยากาศโรแมนติก โดยเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตก * **หาดหมาก (Mak Beach):** หาดยาวเงียบสงบ ทรายขาวละเอียด น้ำใสสวย อยู่ทางตะวันออกของเกาะ บรรยากาศเป็นส่วนตัวมากกว่า * **หาดเต่า (Tao Beach):** หาดเล็กสวยรูปทรงโค้งมน ทรายขาวละเอียด น้ำใสมาก เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง 2. **น้ำตกธรรมชาติ:** * **น้ำตกคลองเจ้า (Klong Chao Waterfall):** น้ำตกชื่อดังและสวยที่สุดของเกาะกูด มีถึง 3 ชั้น ชั้นบนสุดสูงประมาณ 15 เมตร สามารถลงเล่นน้ำในแอ่งน้ำกว้างได้ (โดยเฉพาะชั้นล่าง) เดินเท้าเข้าจากหาดคลองเจ้าไม่ไกลมาก หรือล่องเรือคายัคเข้าไปก็ได้ * **น้ำตกคลองจิต (Klong Jig Waterfall):** น้ำตกขนาดกลางที่สวยงาม มีแอ่งน้ำให้เล่นได้ บรรยากาศร่มรื่น เดินเท้าเข้าไปจากถนนหลัก * **น้ำตกค้างคาว (Khao Yai Waterfall):** เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความสูงหลายชั้น บางช่วงต้องปีนป่ายเล็กน้อย เหมาะสำหรับคนชอบผจญภัยเบาๆ 3. **จุดชมวิวและสถานที่สำคัญ:** * **จุดชมวิวอ่าวตานิด (Ao Tanit Viewpoint):** จุดชมวิวมุมสูงที่สวยงามมาก เห็นอ่าวตานิดและทะเลสีฟ้าเข้มสลับฟ้าใส มองเห็นเกาะช้างไกลๆ บางวันเห็นได้ชัดเจน * **จุดชมวิวเรือรบหลวงประแส (HTMS Prasae Viewpoint):** จุดชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์ทะเลกว้างและเกาะน้อยใหญ่ รวมถึงเห็นซากเรือรบหลวงประแสที่จมอยู่ใต้น้ำ (ต้องดำน้ำดู) * **วัดคลองมาด (Wat Khlong Mad):** วัดเพียงแห่งเดียวบนเกาะกูด สถาปัตยกรรมเรียบง่าย สะท้อนวิถีชีวิตชาวบ้าน สงบร่มเย็น * **ประภาคารเกาะกูด (Koh Kood Lighthouse):** ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของเกาะ เป็นจุดชมวิวทะเลและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง 4. **เกาะบริวารและจุดดำน้ำ:** * **เกาะกระดาด (Koh Kradat):** เกาะเล็กๆ ใกล้เกาะกูด มีหาดทรายขาวยาว น้ำตื้นใสมาก เหมาะสำหรับเล่นน้ำและพักผ่อน (มักรวมอยู่ในทริป Island Hopping) * **เกาะไม้ซี้ (Koh Mai Si):** เกาะหินขนาดเล็กที่มีหาดทรายสวยงาม เป็นจุดดำน้ำตื้นดูปะการังน้ำตื้นและฝูงปลา * **เกาะรัง (Koh Rang):** เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง มีแนวปะการังสมบูรณ์สวยงามหลายจุด (เช่น Hin Rap, Hin Sam Sao, Hin Kuak Ma) **เป็นจุดดำน้ำลึก (Scuba Diving) และดำน้ำตื้น (Snorkeling) ที่ดีที่สุดรอบเกาะกูด** มักเห็นเต่าทะเล ปลาสวยงามหลากสี * **กองหินริเชลิว (Hin Richelieu Rock):** แหล่งดำน้ำระดับโลกที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะกูดมากนัก (ใช้เวลาเรือเร็วประมาณ 1 ชม.) ขึ้นชื่อเรื่องการพบปลามอร์เรย์ยักษ์ ปลาการ์ตูนหลากชนิด และความหลากหลายทางชีวภาพ (เหมาะสำหรับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์) 5. **กิจกรรมน่าสนใจ:** * **ล่องเรือคายัค (Kayaking):** ล่องไปตามคลองชลเจ้า (คลองน้ำเค็ม) ที่มีป่าชายเลนสวยงาม เงียบสงบ เห็นระบบนิเวศชายฝั่ง หรือพายไปตามชายหาดต่างๆ * **ทริปตกปลา (Fishing Trip):** ออกไปตกปลาทะเลน้ำลึกรอบๆ เกาะกูด * **ปั่นจักรยาน/ขับรถ ATV:** สำรวจธรรมชาติและวิถีชีวิตท้องถิ่นภายในเกาะ ซึ่งมีถนนลาดยางบางส่วนและถนนลูกรัง * **นวดสปา:** ผ่อนคลายด้วยการนวดแผนไทยหรือสปาในบรรยากาศรีสอร์ทริมทะเล * **ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน:** ดูสวนยางพารา สวนผลไม้ (เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน) หรือชุมชนประมงเล็กๆ **คำแนะนำเพิ่มเติม:** * **การเดินทาง:** ไปเกาะกูดค่อนข้างใช้เวลา ต้องนั่งเรือจากท่าเรือแหลมงอบ (ตราด) ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง (แล้วแต่ประเภทเรือ) หรือนั่งเครื่องบินเล็กจากสนามบินอู่ตะเภา (พัทยา) หรือบางแสน มาลงที่เกาะกูดโดยตรง * **สภาพเกาะ:** เกาะกูดยังคงความเป็นธรรมชาติสูง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและภูเขา ถนนบางสายยังเป็นลูกรัง การสัญจรหลักบนเกาะคือรถสองแถวรับจ้าง (Taxi Truck) หรือมอเตอร์ไซค์เช่า * **บรรยากาศ:** ค่อนข้างสงบ เงียบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ไม่เหมาะสำหรับคนที่หาความบันเทิงเริงรมย์แบบเกาะพีพีหรือภูเก็ต * **ช่วงเวลา:** ฤดูท่องเที่ยวคือช่วง **พฤศจิกายน - เมษายน** (อากาศดี ทะเลสวย น้ำตกมีน้ำ) ควรหลีกเลี่ยงฤดูมรสุม (พฤษภาคม - ตุลาคม) เพราะลมแรง มีฝนตกหนัก และบางที่พัก/เรืออาจปิดให้บริการ เกาะกูดคือสวรรค์ของคนรักธรรมชาติและความสงบ หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนให้ไกลจากความวุ่นวาย ชายหาดสวยๆ น้ำทะเลใสๆ และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เกาะกูดคือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม!
    0 Comments 0 Shares 575 Views 0 Reviews
  • ยังมีสมาชิกบางท่าน เพิกเฉยต่อบทบาทของ CIA ที่มีต่อประเทศไทย
    อยู่ นี่คือการสรุปย่อๆเท่าที่หามาได้ ในอนาคตจะพูดเรื่องความสำคัญของไทยในสายตา CIA

    การเคลื่อนไหวของ CIA ในประเทศไทย เป็นเรื่องที่มีทั้งข้อมูลที่เปิดเผยและข้อมูลที่เป็นความลับมาก ซึ่งบางส่วนถูกเปิดโปงผ่านเอกสารประวัติศาสตร์ หรือแหล่งข่าวอย่าง Wikileaks, บันทึกของนักข่าวสายความมั่นคง และงานวิชาการ



    สรุป “การเคลื่อนไหวของ CIA ในไทย” แบ่งเป็น 3 ยุคหลัก



    1. ยุคสงครามเย็น (1950s–1980s): ฐานข่าวกรอง-ฐานทัพลับ

    จุดประสงค์หลัก: ต่อต้านคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    ไทย = พันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาค
    • CIA ใช้ไทยเป็น “ฐานปฏิบัติการลับ (covert ops base)” เพื่อ:
    • สนับสนุนฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ใน ลาว–เวียดนาม–กัมพูชา
    • ส่งกำลังทางอากาศ ลำเลียงข่าวกรอง และฝึกกองกำลังลับ

    ตัวอย่างที่เป็นที่รู้กัน:
    • ฐานทัพ อุดรธานี (เรียกในบางวงว่า “Udon CIA base”) ใช้เป็นที่ตั้งของ Air America สายการบินลับของ CIA
    • การฝึก “กองกำลังเงา” ในลาว-เขมร โดยมีเจ้าหน้าที่ CIA ประจำที่ไทย
    • ปฏิบัติการ Operation Cold Chop / Operation Hardnose: ส่งสายลับเข้าไปในจีนตอนใต้จากชายแดนไทย-พม่า



    2. ยุคหลังสงครามเย็น – 9/11 (1990s–2000s): ข่าวกรองและต่อต้านก่อการร้าย

    จุดประสงค์หลัก: ปราบก่อการร้าย-เครือข่ายอิสลามหัวรุนแรง
    • หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐฯ เริ่มจับตาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะแหล่งกบดานของกลุ่มหัวรุนแรง
    • CIA ร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด เช่น:
    • แลกเปลี่ยนข่าวกรองกับตำรวจไทยและหน่วยข่าวทหาร
    • ติดตามเครือข่ายอัลกออิดะห์ในเอเชีย
    • ปฏิบัติการลับเพื่อจับกุมหรือสอบสวนผู้ต้องสงสัย

    กรณีที่ถูกเปิดเผย:
    • ปี 2002–2003: CIA ใช้สถานที่ลับในไทยเป็น “black site” (คุกลับนอกอเมริกา) เพื่อสอบสวนผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย เช่น อับู ซูไบดะห์ (Abu Zubaydah)
    • สถานที่นี้เชื่อกันว่าอยู่ทางภาคตะวันออกของไทย
    • ถูกเปิดเผยในรายงานวุฒิสภาสหรัฐฯ ปี 2014 ว่าใช้ “enhanced interrogation techniques” (การทรมาน)
    • CIA มีบทบาทร่วมในการล่าและส่งตัวผู้ต้องสงสัยจากไทยไปยังประเทศที่สาม (extraordinary rendition)



    3. ยุคใหม่ (2010s–ปัจจุบัน): แข่งอิทธิพลจีน-ไซเบอร์-การเมือง

    จุดประสงค์หลัก:
    1. จับตาจีนในไทย (BRI, 5G, การทหาร, ดิจิทัล)
    2. สกัดรัสเซียในเอเชีย
    3. ติดตามการเคลื่อนไหวทางการเมือง–กลุ่มเคลื่อนไหว
    4. ร่วมมือด้านไซเบอร์/ต่อต้านการแทรกแซง

    รูปแบบที่ปรากฏ:
    • การติดต่อกับนักการเมือง-นักเคลื่อนไหว ที่สนับสนุนเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน (เช่น NGO, นักศึกษาบางกลุ่ม)
    • ติดตามการลงทุนของจีน ในโครงการอย่างรถไฟความเร็วสูง, EEC, ท่าเรือน้ำลึก
    • ใช้ สถานทูตและหน่วยงานต่างประเทศ (USAID, IRI, NED) เป็นช่องทางซัพพอร์ตทางอ้อม
    • ปี 2020s: สื่อรายงานว่ารัสเซียและจีนพยายามตั้ง “สถานีดักฟัง” และ CIA พยายามห้ามไทยอนุญาต



    มุมที่คนไทยหลายคนอาจไม่รู้:
    • CIA ไม่จำเป็นต้อง “ลงมือ” เองทุกครั้ง แต่ใช้ Soft Power + ปฏิบัติการผ่านหน่วยงานในพื้นที่
    • ความร่วมมือข่าวกรองไทย–สหรัฐฯ เข้มแข็งต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับ สันติบาล, หน่วยข่าวทหาร, ปอท.
    • CIA ในไทยมักมี “เจ้าหน้าที่ภายใต้สถานทูต” (official cover) ซึ่งไม่ได้แสดงตัวเป็น CIA โดยตรง



    สรุปภาพรวม:

    CIA เคยมีและอาจยังคงมีบทบาทในไทย
    โดยเป้าหมายเปลี่ยนไปตามยุคสมัย:
    ยุคคอมมิวนิสต์ → ต่อต้านพรรคแดงในอินโดจีน
    ยุคหลัง 9/11 → ก่อการร้าย-จับผู้ต้องสงสัย
    ยุคปัจจุบัน → แข่งกับจีน-รัสเซีย, ไซเบอร์, การเมืองภายในไทย
    ยังมีสมาชิกบางท่าน เพิกเฉยต่อบทบาทของ CIA ที่มีต่อประเทศไทย อยู่ นี่คือการสรุปย่อๆเท่าที่หามาได้ ในอนาคตจะพูดเรื่องความสำคัญของไทยในสายตา CIA การเคลื่อนไหวของ CIA ในประเทศไทย เป็นเรื่องที่มีทั้งข้อมูลที่เปิดเผยและข้อมูลที่เป็นความลับมาก ซึ่งบางส่วนถูกเปิดโปงผ่านเอกสารประวัติศาสตร์ หรือแหล่งข่าวอย่าง Wikileaks, บันทึกของนักข่าวสายความมั่นคง และงานวิชาการ ⸻ 🔍 สรุป “การเคลื่อนไหวของ CIA ในไทย” แบ่งเป็น 3 ยุคหลัก ⸻ 🇺🇸 1. ยุคสงครามเย็น (1950s–1980s): ฐานข่าวกรอง-ฐานทัพลับ จุดประสงค์หลัก: ต่อต้านคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • 🇹🇭 ไทย = พันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาค • CIA ใช้ไทยเป็น “ฐานปฏิบัติการลับ (covert ops base)” เพื่อ: • สนับสนุนฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ใน ลาว–เวียดนาม–กัมพูชา • ส่งกำลังทางอากาศ ลำเลียงข่าวกรอง และฝึกกองกำลังลับ 💥 ตัวอย่างที่เป็นที่รู้กัน: • ฐานทัพ อุดรธานี (เรียกในบางวงว่า “Udon CIA base”) ใช้เป็นที่ตั้งของ Air America สายการบินลับของ CIA • การฝึก “กองกำลังเงา” ในลาว-เขมร โดยมีเจ้าหน้าที่ CIA ประจำที่ไทย • ปฏิบัติการ Operation Cold Chop / Operation Hardnose: ส่งสายลับเข้าไปในจีนตอนใต้จากชายแดนไทย-พม่า ⸻ 🕵️‍♂️ 2. ยุคหลังสงครามเย็น – 9/11 (1990s–2000s): ข่าวกรองและต่อต้านก่อการร้าย จุดประสงค์หลัก: ปราบก่อการร้าย-เครือข่ายอิสลามหัวรุนแรง • หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐฯ เริ่มจับตาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะแหล่งกบดานของกลุ่มหัวรุนแรง • CIA ร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด เช่น: • แลกเปลี่ยนข่าวกรองกับตำรวจไทยและหน่วยข่าวทหาร • ติดตามเครือข่ายอัลกออิดะห์ในเอเชีย • ปฏิบัติการลับเพื่อจับกุมหรือสอบสวนผู้ต้องสงสัย 💣 กรณีที่ถูกเปิดเผย: • ปี 2002–2003: CIA ใช้สถานที่ลับในไทยเป็น “black site” (คุกลับนอกอเมริกา) เพื่อสอบสวนผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย เช่น อับู ซูไบดะห์ (Abu Zubaydah) • สถานที่นี้เชื่อกันว่าอยู่ทางภาคตะวันออกของไทย • ถูกเปิดเผยในรายงานวุฒิสภาสหรัฐฯ ปี 2014 ว่าใช้ “enhanced interrogation techniques” (การทรมาน) • CIA มีบทบาทร่วมในการล่าและส่งตัวผู้ต้องสงสัยจากไทยไปยังประเทศที่สาม (extraordinary rendition) ⸻ 🌐 3. ยุคใหม่ (2010s–ปัจจุบัน): แข่งอิทธิพลจีน-ไซเบอร์-การเมือง จุดประสงค์หลัก: 1. จับตาจีนในไทย (BRI, 5G, การทหาร, ดิจิทัล) 2. สกัดรัสเซียในเอเชีย 3. ติดตามการเคลื่อนไหวทางการเมือง–กลุ่มเคลื่อนไหว 4. ร่วมมือด้านไซเบอร์/ต่อต้านการแทรกแซง รูปแบบที่ปรากฏ: • การติดต่อกับนักการเมือง-นักเคลื่อนไหว ที่สนับสนุนเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน (เช่น NGO, นักศึกษาบางกลุ่ม) • ติดตามการลงทุนของจีน ในโครงการอย่างรถไฟความเร็วสูง, EEC, ท่าเรือน้ำลึก • ใช้ สถานทูตและหน่วยงานต่างประเทศ (USAID, IRI, NED) เป็นช่องทางซัพพอร์ตทางอ้อม • ปี 2020s: สื่อรายงานว่ารัสเซียและจีนพยายามตั้ง “สถานีดักฟัง” และ CIA พยายามห้ามไทยอนุญาต ⸻ 🧭 มุมที่คนไทยหลายคนอาจไม่รู้: • CIA ไม่จำเป็นต้อง “ลงมือ” เองทุกครั้ง แต่ใช้ Soft Power + ปฏิบัติการผ่านหน่วยงานในพื้นที่ • ความร่วมมือข่าวกรองไทย–สหรัฐฯ เข้มแข็งต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับ สันติบาล, หน่วยข่าวทหาร, ปอท. • CIA ในไทยมักมี “เจ้าหน้าที่ภายใต้สถานทูต” (official cover) ซึ่งไม่ได้แสดงตัวเป็น CIA โดยตรง ⸻ ✅ สรุปภาพรวม: CIA เคยมีและอาจยังคงมีบทบาทในไทย โดยเป้าหมายเปลี่ยนไปตามยุคสมัย: 🔸 ยุคคอมมิวนิสต์ → ต่อต้านพรรคแดงในอินโดจีน 🔸 ยุคหลัง 9/11 → ก่อการร้าย-จับผู้ต้องสงสัย 🔸 ยุคปัจจุบัน → แข่งกับจีน-รัสเซีย, ไซเบอร์, การเมืองภายในไทย
    0 Comments 0 Shares 546 Views 0 Reviews
  • สมเด็จพระพันปีหลวง พร้อมด้วยในหลวง ร.10 ขณะดำรงพระยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมศูนย์สภากาชาดเขาล้านอีกครั้ง และทั้งสองพระองค์ยังทรงเสด็จไปอีกหลายครั้งเพื่อติดตามงานของศูนย์สภากาดชาดไทยแห่งนี้ด้วยทรงห่วงใย

    ในช่วงสงครามชิงอำนาจในเขมรติดต่อกันหลายปี ได้มีชาวเขมรอพยพเข้ามาในเขตประเทศไทยไม่ขาดสาย ขณะเดียวกันที่ลาวก็ไม่สงบเช่นกัน เกิดสงครามในประเทศระหว่างขบวนการปเทดลาวกับรัฐบาลฝ่ายขวาในการสนับสนุนจาก ซีไอเอ.ของอเมริกา ชายแดนของประเทศไทยที่ติดต่อกับประเทศลาวและเขมรจึงมีคนหนีตายเข้ามาตลอดชายแดนตั้งแต่ภาคเหนือ อีสาน จนสุดภาคตะวันออก แม้จะมีการวางกับระเบิด ทุ่นระเบิดนับแสนลูกตามแนวชายแดนด้านเขมรเพื่อมิให้ชาวเขมรหนีออกนอกประเทศ แต่ก็ไม่อาจขัดขวางคนหนีตายได้ ทุกวันนี้ก็ยังต้องเก็บกู้กันอยู่

    รัฐบาลเขมรเฮง สัมรินยังเรียกร้องมายังรัฐบาลไทยให้ปิดชายแดนไม่ให้คนเขมรหนีเข้ามา แต่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งไปเยี่ยมเขมรอพยพที่บ้านคลองหว้า ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศได้ตอบนักข่าวว่า เราเป็นประเทศเอกราช ใครจะสั่งมาไม่ได้ เมื่อนักข่าวถามว่าเขาขู่จะตอบโต้ พล.อ.เกรียงศักดิ์ตอบว่า การเมืองนั้นจะพูดอะไรก็ได้ เราก็โต้ได้เหมือนกัน อย่างเวียดนามเรียกทูตเราไปต่อว่าและอ่านแถลงการณ์โจมตีเรา เราก็เรียกทูตเขามายื่นประท้วงไปเหมือนกัน ส่วนที่เฮง สัมรินกล่าวเตือนมาว่า ไทยอย่าคิดเล่นกับไฟ นายกฯเกรียงศักดิ์ก็บอกว่า “ผมก็บอกเขาว่า ไฟอย่าคิดเล่นกับน้ำก็แล้วกัน”
    สภาพค่ายอพยพที่อรัญประเทศก็ไม่ต่างกับที่เขาล้าน จังหวัดตราด คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอุจจาระและปัสสาวะทั่วไปหมด เนื่องจากผู้อพยพปล่อยทั้งทุกข์หนักทุกข์เบาไล่เลือกที่ เจ้าหน้าที่ของศูนย์ได้รายงานนายกรัฐมนตรีว่า ได้สร้างส้วมให้แล้ว แต่ชาวเขมรไม่ยอมเข้า ถนัดแต่ “ไปทุ่ง” เรี่ยราดตามใจตัวเอง เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด นายกรัฐมนตรีจึงสั่งให้ประกาศบังคับทุกคนให้ใช้ส้วมและทิ้งขยะให้เป็นที่ เพื่อสุขภาพของผู้อยู่เอง ถ้าจะใช้วิธีไปทุ่งก็ขอให้ขุดหลุมกลบ และสั่งให้แจกเสียมประจำไว้ทุกครอบครัว ทั้งยังให้รับเด็กที่ไม่มีพ่อแม่เข้ามาดูแลที่กรุงเทพฯด้วย

    ตลอดชายแดนไทยตอนนั้นจึงเกลื่อนไปด้วยค่ายอพยพ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่แถวบ้านโนนหมากมุ่น บ้านหนองจาน บ้านโนนสูง บ้านอ่างศิลา ฯลฯ จากข้อมูลของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และองค์กรบรรเทาทุกข์อื่น การหนีภัยสงครามของชาวกัมพูชาตั้งแต่ปี ๒๕๑๘-๒๕๒๗ มีค่ายผู้อพยพหลักและค่ายย่อยไม่น้อยกว่า ๖๐ แห่งตลอดแนวชายแดนที่ติดกับกัมพูชา ค่ายที่ถูกกล่าวถึงมากสุดคือ เขาอีด่าง ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งแบกรับเขมรอพยพไว้กว่า ๒ แสนคน เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลสนามที่องค์การระหว่างประเทศรวมทั้งกาชาดสากลให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วย และต้องดูแลกันนานร่วม ๑๐ ปี ก่อนจะมีประเทศที่ ๓ ช่วยรับไปต่อหรือส่งกลับไปประเทศของตัวเมื่อเหตุการณ์สงบ

    สมเด็จพระพันปีหลวง พร้อมด้วยในหลวง ร.10 ขณะดำรงพระยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมศูนย์สภากาชาดเขาล้านอีกครั้ง และทั้งสองพระองค์ยังทรงเสด็จไปอีกหลายครั้งเพื่อติดตามงานของศูนย์สภากาดชาดไทยแห่งนี้ด้วยทรงห่วงใย ในช่วงสงครามชิงอำนาจในเขมรติดต่อกันหลายปี ได้มีชาวเขมรอพยพเข้ามาในเขตประเทศไทยไม่ขาดสาย ขณะเดียวกันที่ลาวก็ไม่สงบเช่นกัน เกิดสงครามในประเทศระหว่างขบวนการปเทดลาวกับรัฐบาลฝ่ายขวาในการสนับสนุนจาก ซีไอเอ.ของอเมริกา ชายแดนของประเทศไทยที่ติดต่อกับประเทศลาวและเขมรจึงมีคนหนีตายเข้ามาตลอดชายแดนตั้งแต่ภาคเหนือ อีสาน จนสุดภาคตะวันออก แม้จะมีการวางกับระเบิด ทุ่นระเบิดนับแสนลูกตามแนวชายแดนด้านเขมรเพื่อมิให้ชาวเขมรหนีออกนอกประเทศ แต่ก็ไม่อาจขัดขวางคนหนีตายได้ ทุกวันนี้ก็ยังต้องเก็บกู้กันอยู่ รัฐบาลเขมรเฮง สัมรินยังเรียกร้องมายังรัฐบาลไทยให้ปิดชายแดนไม่ให้คนเขมรหนีเข้ามา แต่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งไปเยี่ยมเขมรอพยพที่บ้านคลองหว้า ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศได้ตอบนักข่าวว่า เราเป็นประเทศเอกราช ใครจะสั่งมาไม่ได้ เมื่อนักข่าวถามว่าเขาขู่จะตอบโต้ พล.อ.เกรียงศักดิ์ตอบว่า การเมืองนั้นจะพูดอะไรก็ได้ เราก็โต้ได้เหมือนกัน อย่างเวียดนามเรียกทูตเราไปต่อว่าและอ่านแถลงการณ์โจมตีเรา เราก็เรียกทูตเขามายื่นประท้วงไปเหมือนกัน ส่วนที่เฮง สัมรินกล่าวเตือนมาว่า ไทยอย่าคิดเล่นกับไฟ นายกฯเกรียงศักดิ์ก็บอกว่า “ผมก็บอกเขาว่า ไฟอย่าคิดเล่นกับน้ำก็แล้วกัน” สภาพค่ายอพยพที่อรัญประเทศก็ไม่ต่างกับที่เขาล้าน จังหวัดตราด คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอุจจาระและปัสสาวะทั่วไปหมด เนื่องจากผู้อพยพปล่อยทั้งทุกข์หนักทุกข์เบาไล่เลือกที่ เจ้าหน้าที่ของศูนย์ได้รายงานนายกรัฐมนตรีว่า ได้สร้างส้วมให้แล้ว แต่ชาวเขมรไม่ยอมเข้า ถนัดแต่ “ไปทุ่ง” เรี่ยราดตามใจตัวเอง เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด นายกรัฐมนตรีจึงสั่งให้ประกาศบังคับทุกคนให้ใช้ส้วมและทิ้งขยะให้เป็นที่ เพื่อสุขภาพของผู้อยู่เอง ถ้าจะใช้วิธีไปทุ่งก็ขอให้ขุดหลุมกลบ และสั่งให้แจกเสียมประจำไว้ทุกครอบครัว ทั้งยังให้รับเด็กที่ไม่มีพ่อแม่เข้ามาดูแลที่กรุงเทพฯด้วย ตลอดชายแดนไทยตอนนั้นจึงเกลื่อนไปด้วยค่ายอพยพ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่แถวบ้านโนนหมากมุ่น บ้านหนองจาน บ้านโนนสูง บ้านอ่างศิลา ฯลฯ จากข้อมูลของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และองค์กรบรรเทาทุกข์อื่น การหนีภัยสงครามของชาวกัมพูชาตั้งแต่ปี ๒๕๑๘-๒๕๒๗ มีค่ายผู้อพยพหลักและค่ายย่อยไม่น้อยกว่า ๖๐ แห่งตลอดแนวชายแดนที่ติดกับกัมพูชา ค่ายที่ถูกกล่าวถึงมากสุดคือ เขาอีด่าง ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งแบกรับเขมรอพยพไว้กว่า ๒ แสนคน เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลสนามที่องค์การระหว่างประเทศรวมทั้งกาชาดสากลให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วย และต้องดูแลกันนานร่วม ๑๐ ปี ก่อนจะมีประเทศที่ ๓ ช่วยรับไปต่อหรือส่งกลับไปประเทศของตัวเมื่อเหตุการณ์สงบ
    0 Comments 0 Shares 511 Views 0 Reviews
  • ..ปฏิวัติยึดอำนาจเลย,มีแต่พวกเหี้ยคนไม่ดีเท่านั้นล่ะที่หวาดกลัวโดยเฉพาะนักการเมืองเลวและอีลิทdeep stateข้ามชาติและสมุนรับใช้แทรกแซงแทรกซึมบนแผ่นดินไทยเราหวาดกลัวทหารพระราชาหวาดกลัวทหารของประชาชนกระทำการ,การยึดอำนาจครัังนี้นำโดยฝ่ายแสงทหารฝ่ายแสงเรามิใช่ฝ่ายมืดแบบในอดีตที่ผ่านๆมาล้วนเสียของหมด,ทหารยึดอำนาจยุคนี้แน่นอนร่วมกับมวลมหาประชาชนร่วมกับขับเคลื่อนประเทศไทยเรา,ต่างปกป้องกันและกันจากฝ่ายไม่ดีมุ่งทำร้ายทำลายประเทศไทยเราและคนไทยเราแน่นอน,การพลิกชาติหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหม่คงเริ่มต้นจริงจังเสียที,เรามันยุคน้ำหมากแล้ว,คงทำการณ์นี้ครั้งสุดท้ายในชีวิตฝากไว้ให้รุ่นลูกหลานต่อไปที่สำนึกดีปกป้องบ้านเมืองนี้สืบต่อไป,จึงต้องกวาดล้างทำความสะอาดทั้งหมดให้สิ้นซาก ไปอย่างสงบสุขสำหรับรุ่นน้ำหมากเราว่าทำถึงที่สุดแล้ว,อาจสงบสุขไปสัก50-100ปีก็พอดีเราเกิดใหม่ก็ได้มาต่อยอดพัฒนาจิตวิญญาณกันอีกพะนะ555,แน่นอนพ้นเราเชื่อว่ามีแต่อัจฉริยะถิอกำเนิดเกิดเป็นคนไทยเต็มแผ่นดินไทยรุ่งโรจน์แบบไม่หยุดยั้งได้ด้วยสนามพลังโลกพลังงานจักรวาลไหลมารวมที่ไทยเราก็ว่า,จึงอุดมสมบูรณ์ไปหมดอัพเรเวลขึ้นอีกหลายขั้นก็ว่า.,แค่เราเอามันให้จบรุ่นสุดท้ายแห่งเราก็พอ.,ร่วมกันสามัคคีกันเราคนไทยจบมันได้สบายแน่นอน.,คนไทยเท่านั้นจะสร้างชาติไทยได้อย่างเต็มภาคเต็มภูมิใจของไทยเรา,ไม่มีคนชาติอื่นชาติไหนจะใส่ใจเกิน100%ยิ่งกว่าคนไทยเราสร้างชาติไทยเองได้,จะคนอีสานคนเหนือคนกลางคนใต้คนภาคตะวันตกคนภาคตะวันออกเราล้วนคืนคนไทยร่วมกันทั้งสิ้น,เรา..คนไทยรักผืนแผ่นดินไทยไม่แพ้กันแน่นอน.

    ..คนชั่วคนเลวคนทรยศคนเนรคุณแผ่นดินไทยต้องไม่มีที่ยืนสำหรับมันบนแผ่นดินนี้.

    https://youtu.be/6idVGmB7Jok?si=oaATi9QCX90ZdFhT
    ..ปฏิวัติยึดอำนาจเลย,มีแต่พวกเหี้ยคนไม่ดีเท่านั้นล่ะที่หวาดกลัวโดยเฉพาะนักการเมืองเลวและอีลิทdeep stateข้ามชาติและสมุนรับใช้แทรกแซงแทรกซึมบนแผ่นดินไทยเราหวาดกลัวทหารพระราชาหวาดกลัวทหารของประชาชนกระทำการ,การยึดอำนาจครัังนี้นำโดยฝ่ายแสงทหารฝ่ายแสงเรามิใช่ฝ่ายมืดแบบในอดีตที่ผ่านๆมาล้วนเสียของหมด,ทหารยึดอำนาจยุคนี้แน่นอนร่วมกับมวลมหาประชาชนร่วมกับขับเคลื่อนประเทศไทยเรา,ต่างปกป้องกันและกันจากฝ่ายไม่ดีมุ่งทำร้ายทำลายประเทศไทยเราและคนไทยเราแน่นอน,การพลิกชาติหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหม่คงเริ่มต้นจริงจังเสียที,เรามันยุคน้ำหมากแล้ว,คงทำการณ์นี้ครั้งสุดท้ายในชีวิตฝากไว้ให้รุ่นลูกหลานต่อไปที่สำนึกดีปกป้องบ้านเมืองนี้สืบต่อไป,จึงต้องกวาดล้างทำความสะอาดทั้งหมดให้สิ้นซาก ไปอย่างสงบสุขสำหรับรุ่นน้ำหมากเราว่าทำถึงที่สุดแล้ว,อาจสงบสุขไปสัก50-100ปีก็พอดีเราเกิดใหม่ก็ได้มาต่อยอดพัฒนาจิตวิญญาณกันอีกพะนะ555,แน่นอนพ้นเราเชื่อว่ามีแต่อัจฉริยะถิอกำเนิดเกิดเป็นคนไทยเต็มแผ่นดินไทยรุ่งโรจน์แบบไม่หยุดยั้งได้ด้วยสนามพลังโลกพลังงานจักรวาลไหลมารวมที่ไทยเราก็ว่า,จึงอุดมสมบูรณ์ไปหมดอัพเรเวลขึ้นอีกหลายขั้นก็ว่า.,แค่เราเอามันให้จบรุ่นสุดท้ายแห่งเราก็พอ.,ร่วมกันสามัคคีกันเราคนไทยจบมันได้สบายแน่นอน.,คนไทยเท่านั้นจะสร้างชาติไทยได้อย่างเต็มภาคเต็มภูมิใจของไทยเรา,ไม่มีคนชาติอื่นชาติไหนจะใส่ใจเกิน100%ยิ่งกว่าคนไทยเราสร้างชาติไทยเองได้,จะคนอีสานคนเหนือคนกลางคนใต้คนภาคตะวันตกคนภาคตะวันออกเราล้วนคืนคนไทยร่วมกันทั้งสิ้น,เรา..คนไทยรักผืนแผ่นดินไทยไม่แพ้กันแน่นอน. ..คนชั่วคนเลวคนทรยศคนเนรคุณแผ่นดินไทยต้องไม่มีที่ยืนสำหรับมันบนแผ่นดินนี้. https://youtu.be/6idVGmB7Jok?si=oaATi9QCX90ZdFhT
    0 Comments 0 Shares 263 Views 0 Reviews
  • ททท.จัดกิจกรรมเวิร์กช็อป ดันโคราช เตรียมความพร้อมไปสู่ระดับนานาชาติ เข้าใจท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 3 มรดกโลก สู่ตลาดการท่องเที่ยว

    วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่เคนซิงตัน อิงลิซ การ์เด้น รีสอร์ท เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

    นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. เป็นประธาน เปิดกิจกรรมพัฒนาสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน จังหวัดนครราชสีมา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

    ร่วมกับ นางสาวศรัญญา ศรีคิรินทร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว นางศาลินา จูนฑะพุทธิ ผอ.กองวางแผนสินค้าการท่องเที่ยว นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผอ.ททท. สำนักงานนครราชสีมา และนางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่

    สำหรับกิจกรรมพัฒนาสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวกว่า 60 ราย ในจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปพัฒนาการสร้างสรรค์เส้นทาง ท่องเที่ยวยั่งยืน 3 มรดกโลก ในหัวข้อ การสร้างสรรค์เส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน 3 มรดกโลก สู่ตลาดการท่องเที่ยว
    ททท.จัดกิจกรรมเวิร์กช็อป ดันโคราช เตรียมความพร้อมไปสู่ระดับนานาชาติ เข้าใจท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 3 มรดกโลก สู่ตลาดการท่องเที่ยว วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่เคนซิงตัน อิงลิซ การ์เด้น รีสอร์ท เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. เป็นประธาน เปิดกิจกรรมพัฒนาสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน จังหวัดนครราชสีมา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ นางสาวศรัญญา ศรีคิรินทร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว นางศาลินา จูนฑะพุทธิ ผอ.กองวางแผนสินค้าการท่องเที่ยว นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผอ.ททท. สำนักงานนครราชสีมา และนางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ สำหรับกิจกรรมพัฒนาสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวกว่า 60 ราย ในจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปพัฒนาการสร้างสรรค์เส้นทาง ท่องเที่ยวยั่งยืน 3 มรดกโลก ในหัวข้อ การสร้างสรรค์เส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน 3 มรดกโลก สู่ตลาดการท่องเที่ยว
    0 Comments 0 Shares 307 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลเพิ่งโจมตีคลังเชื้อเพลิงของสนามบินนานาชาติมัชฮัด (Mashhad International Airport) ในเมืองมัชฮัด ประเทศอิหร่าน

    เมืองมัชฮัดตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสุดของอิหร่าน ใกล้กับเติร์กเมนิสถาน ห่างจากอิสราเอลไป 2,250 กม.
    อิสราเอลเพิ่งโจมตีคลังเชื้อเพลิงของสนามบินนานาชาติมัชฮัด (Mashhad International Airport) ในเมืองมัชฮัด ประเทศอิหร่าน เมืองมัชฮัดตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสุดของอิหร่าน ใกล้กับเติร์กเมนิสถาน ห่างจากอิสราเอลไป 2,250 กม.
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • ..จริงหรือไม่จริง ไม่รู้,พรุ่งนี้วันทำการปกติต้องประกาศชัดเจนอย่างเป็นทางการแน่ๆ,ถ้าเป็น1:200,000จริง,ทหารไทยต้องยึดอำนาจแล้วมีคำสั่งยกเลิกmou43,44ทั้งหมดในคราวเดียวกันเลย,ประชุมอะไรคุยกับมันพวกมึนๆนี้ไม่ได้อีกแล้ว,ปลิ้นปล้อนตลบแตลงแบบพวกกิ้งก่าชัดเจนมาก.
    ..ทหารไทยต้องประกาศกฎอัยการศึกครอบคลุมภาคกลางและกรุงเทพฯบวกรอบๆกทม.หรือปริมลฑลทันที,ตลอดอีสานใต้ทั้งหมดและภาคตะวันออกทั้งหมดด้วย,ปิดด่านสิ้นเชิงทันทีตัดน้ำตัดเสบียงตัดไฟฟ้าคว่ำบาตรเขมรอย่างเป็นทางการเลย,รบแบบไม่ต้องใช้อาวุธรบก็ได้,รบด้วยตังรบด้วยเศรษฐกิจปากท้องคนเขมรเอง,สุดท้ายประชาชนเขมรจะล้มจะยึดอำนาจฮุนเซนเอง,ทหารเขมรหรือฝ่ายไม่พอใจไม่ชอบฮุนเซนภายในประเทศเขมรเองก็พร้อมยึดอำนาจฮุนเซนหรือสร้างโกลาหลครั้งใหญ่หลายพันทางแก้ฮุนเซนแน่นอน,ยิ่งสงครามกองโจรภายในพนมเปตเปตๆนี้เองฝ่ายค้านฝ่ายทหารอีก2-3ฝ่ายที่อยากเหยียบฮุนเซนอยู่แล้วคงร่วมมือกันแน่นอน.ยิ่งประชาชนคลื่นใต้น้ำมวลประชาชนเขมรเองลุกต่อต้านจัดการครอบครัวฮุนเซนจะขนาดไหน,โดรนพลีชีพที่ฝ่ายค้านเขมรมีหรือฝั่งทหารเขมรที่ต้องการจัดการฮุนเซนอยู่แล้วพร้อมปฏิบัติการแน่นอน,ตอนกลางคืนระเบิดในวังฮุนเซนจะเกิดอะไรขึ้น.,เขมรจัดการเขมรเองนั้นเองคงเห็นเร็วๆนี้.ฮุนเซนยุคเสื่อมอำนาจบารมีแล้ว,มีแต่กรรมเพียวๆตามมาถึงแล้วเพราะประตูกรรมเปิดทั่วโลกแล้ว,ทั้งพลังงานดีๆบวกๆเข้ามาตรึมอีก,สนามแม่เหล็กดีๆเข้าทำลายสิ่งชั่วเลวบนโลกนี้แล้ว.

    https://youtube.com/shorts/51r0eOZH2P0?si=svwCTh3xDQN8Vj9x
    ..จริงหรือไม่จริง ไม่รู้,พรุ่งนี้วันทำการปกติต้องประกาศชัดเจนอย่างเป็นทางการแน่ๆ,ถ้าเป็น1:200,000จริง,ทหารไทยต้องยึดอำนาจแล้วมีคำสั่งยกเลิกmou43,44ทั้งหมดในคราวเดียวกันเลย,ประชุมอะไรคุยกับมันพวกมึนๆนี้ไม่ได้อีกแล้ว,ปลิ้นปล้อนตลบแตลงแบบพวกกิ้งก่าชัดเจนมาก. ..ทหารไทยต้องประกาศกฎอัยการศึกครอบคลุมภาคกลางและกรุงเทพฯบวกรอบๆกทม.หรือปริมลฑลทันที,ตลอดอีสานใต้ทั้งหมดและภาคตะวันออกทั้งหมดด้วย,ปิดด่านสิ้นเชิงทันทีตัดน้ำตัดเสบียงตัดไฟฟ้าคว่ำบาตรเขมรอย่างเป็นทางการเลย,รบแบบไม่ต้องใช้อาวุธรบก็ได้,รบด้วยตังรบด้วยเศรษฐกิจปากท้องคนเขมรเอง,สุดท้ายประชาชนเขมรจะล้มจะยึดอำนาจฮุนเซนเอง,ทหารเขมรหรือฝ่ายไม่พอใจไม่ชอบฮุนเซนภายในประเทศเขมรเองก็พร้อมยึดอำนาจฮุนเซนหรือสร้างโกลาหลครั้งใหญ่หลายพันทางแก้ฮุนเซนแน่นอน,ยิ่งสงครามกองโจรภายในพนมเปตเปตๆนี้เองฝ่ายค้านฝ่ายทหารอีก2-3ฝ่ายที่อยากเหยียบฮุนเซนอยู่แล้วคงร่วมมือกันแน่นอน.ยิ่งประชาชนคลื่นใต้น้ำมวลประชาชนเขมรเองลุกต่อต้านจัดการครอบครัวฮุนเซนจะขนาดไหน,โดรนพลีชีพที่ฝ่ายค้านเขมรมีหรือฝั่งทหารเขมรที่ต้องการจัดการฮุนเซนอยู่แล้วพร้อมปฏิบัติการแน่นอน,ตอนกลางคืนระเบิดในวังฮุนเซนจะเกิดอะไรขึ้น.,เขมรจัดการเขมรเองนั้นเองคงเห็นเร็วๆนี้.ฮุนเซนยุคเสื่อมอำนาจบารมีแล้ว,มีแต่กรรมเพียวๆตามมาถึงแล้วเพราะประตูกรรมเปิดทั่วโลกแล้ว,ทั้งพลังงานดีๆบวกๆเข้ามาตรึมอีก,สนามแม่เหล็กดีๆเข้าทำลายสิ่งชั่วเลวบนโลกนี้แล้ว. https://youtube.com/shorts/51r0eOZH2P0?si=svwCTh3xDQN8Vj9x
    0 Comments 0 Shares 264 Views 0 Reviews
  • ..555,จริงๆทหารพระราชาเราต้องขยายพื้นที่เขตอัยการศึกจริงจังด้วยตรงบริเวณภาคตะวันออกทั้งหมดและกรุงเทพฯพร้อมปริมลฑลทั้งหลายเพราะอะไร,เพราะว่าสามารถสั่งการทางทหารรวดเร็วทันทีสั่งตรงเพื่อรักษาความมั่นคงทางอธิปไตยทางศูนย์บัญชาตรงของทหารตนเองได้อย่างมีเอกสารหลักฐานค้ำยันการปฏิบัติทั้งหมดไง,เพราะแรงงานต่างด้าวต่างชาติทั้งหมดตรงพื้นที่บริเวณความเสี่ยงสร้างโกลาหลปั่นป่วนในไทยเราทั้งหมดนี้จะอาศัยอำนาจกฎอัยการศึกทหารรักษาความสงบสุขได้จริงในขีวิตและทรัพย์สินประชาชนตรงบริเวณพื้นที่เสี่ยงครอบคลุมเป็นวงกว้างจุดเสี่ยงภัยที่มีต่างด้าวกระจายอยู่เป็นจำนวนมากได้ทั้งหมดตลอดกิจการโรงงานบริษัทใดที่ต้องสงสัยในอธิปไตยความมั่นคงของไทยเราทั้งหมดทหารสามารถตรวจค้นจับกุมผู้เกี่ยวข้องสงสัยทั้งหมดสืบพิสูจน์ทราบความจริงในทันทีได้ไร้ความผิดละเมิดใดๆแก่ผู้ใดทั้งที่คือมรึงจะกิจการใหญ่ขนาดไหน เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศสอะไร,ทหารเข้าไปควบคุมถึงโรงงานคนต่างด้าวที่แอบซ่อนอยู่ตรวจสอบความจริงให้กระจ่างชัดเจนได้ทั้งหมดตลอดสามารถอนุญาตสื่อไทยเราแบบเปิดเผยทำข่าวร่วมเปิดโปงความจริงใดๆได้อีกเพราะเป็นอำนาจเต็มของทหารทั้งหมด บริษัทกิจการจะเอากฎหมายอื่นใดห้ามทหารเข้าไปตรวจค้นหาความจริงเพิ่มเติมใดๆไม่ได้อีกนั้นเองหรือมามุกเล่นงานทหารเราย้อนหลังไม่ได้นั้นเอง,ข้าศึกศัตรูมาในสไตล์พนักงานโรงงานได้ในพื้นที่ทั้งหมดที่ว่า,ปกป้องกรุงเทพฯปริมลฑลได้สะดวกต่อการปฏิบัติงานทั้งหมดนั้นเอง,ภาคตะวันออกทั้งภาคก็แรงงานสาระพัดต่างชาติต่างด้าวเยอะมาก,เถื่อนๆตรึมอีก,กวาดล้างในคราวเดียวก็ได้,แตกกำลังทหารเป็นหน่วยเหยี่ยววานรปฏิบัติการเร็วสามารถเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่เลวข้าราชการชั่วเจ้าสัวระยำเจ้าของกิจการต่างชาตินอกลู่บัดสบได้หมด,สาระพัดสินค้าเถื่อนสินค้าเลวสินค้าขยะสารพิษหรือสินค้ากระทำผิดใดๆในพื้นที่หรือเดอะแก๊งเหี้ยใดๆในพื้นที่สามารถจับปรับทัศนคติและติดคุกได้ทั้งหมดนั้นเอง.

    รัฐบาลนี้ขาดคุณสมบัติปกป้องอธิปไตยและบริหารประเทศแล้ว,ถ้าเทียบสมัยเสียกรุงอยุธยาก็พร้อมจะหนีทั้งคณะ การบ้านการปกครองดูแลเมืองดูแลประชาชนไม่อยู่ในสายตาความใส่ใจแล้ว,พังก็พัง พินาศก็พินาศ เสียเมืองเสียกรุงก็เสียไปชั่งแมร่งมันประมาณนั้น.,กูต้องรอดก่อนมันว่า,ปกครองปาหี่แหกตาหลอกๆไปวันๆ,เรามิอาจพึ่งพาอะไรนั้นเอง,นั่งทับเพื่อมิให้คมดาบคมหอกของใดๆหันมาหาตระกูลตนพวกตนโดยง่ายแค่นั้น,พอมีอำนาจสั่งการหยุดคดีตนมิให้เล่นงานตนเองและพวกตนเองสะดวกแค่นั้น,
    ..ทหารพระราชาเราสามารถประกาศกฎอัยการศึกตามที่ว่าเพิ่มเติมได้คือภาคกลางเฉพาะเจาะจงพิเศษคือกรุงเทพฯและปริมลฑลรอบทั้งหมดไม่เกิน200กมและไม่เกิน100กม.แบบคุ้มเข้มพิเศษ.บวกและภาคตะวันออกทั้งหมดตลอดอีสานใต้ตลอดแนวพรมแดนอีกครั้งบวกลบห่างจากพรมแดนไม่เกิน100กม.,คือเขตกฎอัยการศึกทัังหมดและพิเศษไม่เกิน50กม.ห่างจากพรมแดนทั้งหมดแบบคุ้มเข้ม.นี้คือภัยคุกคามอธิปไตยแดนดินประเทศไทยเราจริง,ทำเล่นๆที่ไหน,บวกกำจัดภายคุกคามแอบแฝงในหลายมิติบนดินแดนพื้นที่ความเสี่ยงภายในเราด้วยในตัว,นี้ยังมิใช่ยึดอำนาจนะแค่พื้นๆสถานะเรเวลที่1.
    ..ต้องเปลี่ยนผู้นำและรัฐบาลเป็นชุดใหม่จริงๆนะ.,งานหินมากมายรออยู่,แล้วปล่อยรัฐบาลกากๆไม่มีเหี้ยอะไรในสมองนำพาประเทศ,อย่าเก็บไว้ดีกว่า.
    ..
    ..https://youtu.be/szHQcFtvtkE?si=bNN_9XYVqoO4Im0q
    ..555,จริงๆทหารพระราชาเราต้องขยายพื้นที่เขตอัยการศึกจริงจังด้วยตรงบริเวณภาคตะวันออกทั้งหมดและกรุงเทพฯพร้อมปริมลฑลทั้งหลายเพราะอะไร,เพราะว่าสามารถสั่งการทางทหารรวดเร็วทันทีสั่งตรงเพื่อรักษาความมั่นคงทางอธิปไตยทางศูนย์บัญชาตรงของทหารตนเองได้อย่างมีเอกสารหลักฐานค้ำยันการปฏิบัติทั้งหมดไง,เพราะแรงงานต่างด้าวต่างชาติทั้งหมดตรงพื้นที่บริเวณความเสี่ยงสร้างโกลาหลปั่นป่วนในไทยเราทั้งหมดนี้จะอาศัยอำนาจกฎอัยการศึกทหารรักษาความสงบสุขได้จริงในขีวิตและทรัพย์สินประชาชนตรงบริเวณพื้นที่เสี่ยงครอบคลุมเป็นวงกว้างจุดเสี่ยงภัยที่มีต่างด้าวกระจายอยู่เป็นจำนวนมากได้ทั้งหมดตลอดกิจการโรงงานบริษัทใดที่ต้องสงสัยในอธิปไตยความมั่นคงของไทยเราทั้งหมดทหารสามารถตรวจค้นจับกุมผู้เกี่ยวข้องสงสัยทั้งหมดสืบพิสูจน์ทราบความจริงในทันทีได้ไร้ความผิดละเมิดใดๆแก่ผู้ใดทั้งที่คือมรึงจะกิจการใหญ่ขนาดไหน เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศสอะไร,ทหารเข้าไปควบคุมถึงโรงงานคนต่างด้าวที่แอบซ่อนอยู่ตรวจสอบความจริงให้กระจ่างชัดเจนได้ทั้งหมดตลอดสามารถอนุญาตสื่อไทยเราแบบเปิดเผยทำข่าวร่วมเปิดโปงความจริงใดๆได้อีกเพราะเป็นอำนาจเต็มของทหารทั้งหมด บริษัทกิจการจะเอากฎหมายอื่นใดห้ามทหารเข้าไปตรวจค้นหาความจริงเพิ่มเติมใดๆไม่ได้อีกนั้นเองหรือมามุกเล่นงานทหารเราย้อนหลังไม่ได้นั้นเอง,ข้าศึกศัตรูมาในสไตล์พนักงานโรงงานได้ในพื้นที่ทั้งหมดที่ว่า,ปกป้องกรุงเทพฯปริมลฑลได้สะดวกต่อการปฏิบัติงานทั้งหมดนั้นเอง,ภาคตะวันออกทั้งภาคก็แรงงานสาระพัดต่างชาติต่างด้าวเยอะมาก,เถื่อนๆตรึมอีก,กวาดล้างในคราวเดียวก็ได้,แตกกำลังทหารเป็นหน่วยเหยี่ยววานรปฏิบัติการเร็วสามารถเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่เลวข้าราชการชั่วเจ้าสัวระยำเจ้าของกิจการต่างชาตินอกลู่บัดสบได้หมด,สาระพัดสินค้าเถื่อนสินค้าเลวสินค้าขยะสารพิษหรือสินค้ากระทำผิดใดๆในพื้นที่หรือเดอะแก๊งเหี้ยใดๆในพื้นที่สามารถจับปรับทัศนคติและติดคุกได้ทั้งหมดนั้นเอง. รัฐบาลนี้ขาดคุณสมบัติปกป้องอธิปไตยและบริหารประเทศแล้ว,ถ้าเทียบสมัยเสียกรุงอยุธยาก็พร้อมจะหนีทั้งคณะ การบ้านการปกครองดูแลเมืองดูแลประชาชนไม่อยู่ในสายตาความใส่ใจแล้ว,พังก็พัง พินาศก็พินาศ เสียเมืองเสียกรุงก็เสียไปชั่งแมร่งมันประมาณนั้น.,กูต้องรอดก่อนมันว่า,ปกครองปาหี่แหกตาหลอกๆไปวันๆ,เรามิอาจพึ่งพาอะไรนั้นเอง,นั่งทับเพื่อมิให้คมดาบคมหอกของใดๆหันมาหาตระกูลตนพวกตนโดยง่ายแค่นั้น,พอมีอำนาจสั่งการหยุดคดีตนมิให้เล่นงานตนเองและพวกตนเองสะดวกแค่นั้น, ..ทหารพระราชาเราสามารถประกาศกฎอัยการศึกตามที่ว่าเพิ่มเติมได้คือภาคกลางเฉพาะเจาะจงพิเศษคือกรุงเทพฯและปริมลฑลรอบทั้งหมดไม่เกิน200กมและไม่เกิน100กม.แบบคุ้มเข้มพิเศษ.บวกและภาคตะวันออกทั้งหมดตลอดอีสานใต้ตลอดแนวพรมแดนอีกครั้งบวกลบห่างจากพรมแดนไม่เกิน100กม.,คือเขตกฎอัยการศึกทัังหมดและพิเศษไม่เกิน50กม.ห่างจากพรมแดนทั้งหมดแบบคุ้มเข้ม.นี้คือภัยคุกคามอธิปไตยแดนดินประเทศไทยเราจริง,ทำเล่นๆที่ไหน,บวกกำจัดภายคุกคามแอบแฝงในหลายมิติบนดินแดนพื้นที่ความเสี่ยงภายในเราด้วยในตัว,นี้ยังมิใช่ยึดอำนาจนะแค่พื้นๆสถานะเรเวลที่1. ..ต้องเปลี่ยนผู้นำและรัฐบาลเป็นชุดใหม่จริงๆนะ.,งานหินมากมายรออยู่,แล้วปล่อยรัฐบาลกากๆไม่มีเหี้ยอะไรในสมองนำพาประเทศ,อย่าเก็บไว้ดีกว่า. .. ..https://youtu.be/szHQcFtvtkE?si=bNN_9XYVqoO4Im0q
    0 Comments 0 Shares 426 Views 0 Reviews
  • "สถานการณ์ตะวันออกกลางขณะนี้"

    สหรัฐกำลัง "สร้างข้ออ้าง" เพื่อหาทางทำลายอิหร่าน เช่นเดียวกับที่ จอร์จ บุช เคยทำกับอิรักมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยอ้างว่าอิรักมีอาวุธเคมี!!!

    "อิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ เราจะไม่อนุญาตให้มีมัน" ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน

    ทอม คอตตอน วุฒิสมาชิกของสหรัฐ และอดีตทหารผ่านศึกกในสงครามอิรัก ระบุว่า "พีท เฮกเซธ" รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าอิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และอเมริกาต้องหยุดยั้งการกระทำดังกล่าว

    อิสราเอลแจ้งต่อสหรัฐ พร้อมแล้วสำหรับปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน

    สหรัฐแจ้งเตือนฐานทัพของพวกเขาทั่วโลกให้เตรียมพร้อมรับมือขั้นสูงสุด

    สหรัฐอเมริกามีคำสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูตในหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้งสมาชิกครอบครัวและบุคลากรที่ไม่จำเป็น

    อิหร่านประกาศพร้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐทันทีทั่วทั้งตะวันออกกลาง รวมทั้งอิสราเอล หากมีการดเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

    รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าo ประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธที่มีหัวรบขนาด 2 ตัน



    "สถานการณ์ตะวันออกกลางขณะนี้" สหรัฐกำลัง "สร้างข้ออ้าง" เพื่อหาทางทำลายอิหร่าน เช่นเดียวกับที่ จอร์จ บุช เคยทำกับอิรักมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยอ้างว่าอิรักมีอาวุธเคมี!!! 👉"อิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ เราจะไม่อนุญาตให้มีมัน" ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน 👉ทอม คอตตอน วุฒิสมาชิกของสหรัฐ และอดีตทหารผ่านศึกกในสงครามอิรัก ระบุว่า "พีท เฮกเซธ" รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าอิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และอเมริกาต้องหยุดยั้งการกระทำดังกล่าว 👉อิสราเอลแจ้งต่อสหรัฐ พร้อมแล้วสำหรับปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน 👉สหรัฐแจ้งเตือนฐานทัพของพวกเขาทั่วโลกให้เตรียมพร้อมรับมือขั้นสูงสุด 👉สหรัฐอเมริกามีคำสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูตในหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้งสมาชิกครอบครัวและบุคลากรที่ไม่จำเป็น 👉อิหร่านประกาศพร้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐทันทีทั่วทั้งตะวันออกกลาง รวมทั้งอิสราเอล หากมีการดเปิดฉากโจมตีอิหร่าน 👉รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าo ประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธที่มีหัวรบขนาด 2 ตัน
    0 Comments 0 Shares 327 Views 0 Reviews
  • วันนี้ (29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวสื่อมวลชน ในประเด็นการก่อสร้างอคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น ณ ห้องประชุม ท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

    นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “เป็นประตูสู่ภาคอีสาน” เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สังคม คมนาคม และการศึกษาของภาคอีสาน มีการเจริญ เติบโตสูงรองจากกรุงเทพมหานคร สำหรับด้านการแพทย์และสาธารณสุข ต้องได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับ หน่วยบริการให้เป็น Excellence Center ศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์ในภูมิภาค เพื่อให้สอดคล้อง กับการขยายตัวของจังหวัดนครราชสีมาในทุกมิติ ซึ่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นโรงพยาบาลศูนย์ เพียงแห่งเดียวของจังหวัดนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเขตสุขภาพที่ 9 ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ดูแลสุขภาพประชาชนประมาณ 6.7 ล้านคน เป็นโรงพยาบาลที่พึ่ง ของคนอีสาน และยังเป็นสถาบันผลิตแพทย์ แหล่งฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขทุกวิชาชีพ นายแพทย์ธนสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "อาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา" จะเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด

    ด้านโรคมะเร็ง ต้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน ด้านทารกแรกเกิด และด้านการรับบริจาคและเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ และศูนย์ ความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดระดับด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น หุ่นยนต์ผ่าตัด, ศูนย์ผ่าตัดแบบแผลเล็ก, ศูนย์ผ่าตัดสมอง, ศูนย์ผ่าตัดตา, ศูนย์กระดูกและข้อ เป็นต้น พื้นที่ใช้สอยกว่า 1 แสนตารางเมตร วงเงินก่อสร้าง 3,550,156,700 บาท ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 563,500,000 บาท ช่วยแก้ปัญหาและลดความเหลื่อมล้ำของ การเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดแออัด ลดการส่งต่อผู้ป่วย ลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางไปยัง โรงเรียนแพทย์อื่นๆ เพิ่มความรวดเร็วในการเข้าถึงบริการ ลดอัตราการเสียชีวิต ยังเป็นการพัฒนาให้ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาให้เป็นสถาบันวิจัยทางการแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สําหรับแพทย์ และ บุคลากรสหวิชาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดีและได้ประโยชน์โดยตรงอย่างสูงสุด
    วันนี้ (29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวสื่อมวลชน ในประเด็นการก่อสร้างอคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น ณ ห้องประชุม ท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “เป็นประตูสู่ภาคอีสาน” เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สังคม คมนาคม และการศึกษาของภาคอีสาน มีการเจริญ เติบโตสูงรองจากกรุงเทพมหานคร สำหรับด้านการแพทย์และสาธารณสุข ต้องได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับ หน่วยบริการให้เป็น Excellence Center ศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์ในภูมิภาค เพื่อให้สอดคล้อง กับการขยายตัวของจังหวัดนครราชสีมาในทุกมิติ ซึ่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นโรงพยาบาลศูนย์ เพียงแห่งเดียวของจังหวัดนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเขตสุขภาพที่ 9 ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ดูแลสุขภาพประชาชนประมาณ 6.7 ล้านคน เป็นโรงพยาบาลที่พึ่ง ของคนอีสาน และยังเป็นสถาบันผลิตแพทย์ แหล่งฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขทุกวิชาชีพ นายแพทย์ธนสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "อาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา" จะเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด ด้านโรคมะเร็ง ต้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน ด้านทารกแรกเกิด และด้านการรับบริจาคและเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ และศูนย์ ความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดระดับด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น หุ่นยนต์ผ่าตัด, ศูนย์ผ่าตัดแบบแผลเล็ก, ศูนย์ผ่าตัดสมอง, ศูนย์ผ่าตัดตา, ศูนย์กระดูกและข้อ เป็นต้น พื้นที่ใช้สอยกว่า 1 แสนตารางเมตร วงเงินก่อสร้าง 3,550,156,700 บาท ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 563,500,000 บาท ช่วยแก้ปัญหาและลดความเหลื่อมล้ำของ การเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดแออัด ลดการส่งต่อผู้ป่วย ลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางไปยัง โรงเรียนแพทย์อื่นๆ เพิ่มความรวดเร็วในการเข้าถึงบริการ ลดอัตราการเสียชีวิต ยังเป็นการพัฒนาให้ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาให้เป็นสถาบันวิจัยทางการแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สําหรับแพทย์ และ บุคลากรสหวิชาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดีและได้ประโยชน์โดยตรงอย่างสูงสุด
    0 Comments 0 Shares 610 Views 0 Reviews
  • มทร.อีสาน จัดประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE
    .
    วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแคนา 1 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา มทร.อีสาน จัดการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวต้อนรับ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานการประชุมฯ, นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) พร้อมคณะ, นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน พร้อมคณะ, นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด พร้อมคณะ, คุณธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายบุญส่ง สุทธิโตคร ผู้อำนวยการสำนักช่าง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา, ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, คุณไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, คุณอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด, นายจำนงค์ แสงเงิน หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 2, คุณบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, คุณขจร ศิวรังสรรค์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมระบบราง, คุณวัฒนา สมานจิตร อุปนายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย, ดร.สุรวุฒิ เชิดชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด
    .
    โดยในการประชุมครั้งนี้ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชิต คำภาหล้า คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง ได้ร่วมกัน นำเสนอจุดประสงค์ของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และนำเสนอศูนย์ความร่วมมือทางวิชาการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE และทางด้าน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) โดย นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) ได้นำเสนอจุดเด่นทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ระบบขนส่ง DRT และรถไฟฟ้ารางเบา รวมถึงแนวคิดความร่วมมือด้านการบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของขบวนรถไฟ จากนั้น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ได้กล่าวถึง ภาพรวมของสถาบัน NIRT จุดแข็งของหลักสูตร และแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยระบบรางจีน–ไทย (NIRT สาขาต่างประเทศ) โดย นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน ทั้งนี้ นอกจากจะร่วมประชุมหารือด้านความร่วมมือระหว่างกันแล้วยังได้มี การการหารือการเตรียมความพร้อมรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (International Horticultural Expo) และ แผนรถไฟฟ้ารางเบาในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดย นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด ยังได้นำเสนอ เรื่อง การวางแผนผลักดันจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นจังหวัดหลักด้านอุตสาหกรรมระบบราง โดยอาศัยโอกาสความร่วมมือจากทั้ง 4 ฝ่าย และการดำเนินโครงการระบบ DRT สำหรับมหกรรมพืชสวนโลกอีกด้วย
    .
    นอกจากนี้ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ให้เกียรติเป็นประธานมอบป้ายสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE แก่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC), สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT), บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด
    .
    ภายหลังการประชุม นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ในนามของจังหวัดนครราชสีมา รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ภายใต้การนำของ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้จัดการประชุมปรึกษาหารือในวันนี้ ซึ่งเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ก่อให้เกิดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในระดับประเทศและนานาชาติ ทั้งยังได้ริเริ่มสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา พันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งทางราง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม และพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง จนได้ร่วมมือกันในการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในด้านระบบคมนาคมขนส่ง การมีสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบรางในพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของจังหวัดและภูมิภาค ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”
    .
    ด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เปิดเผยว่า "สำหรับการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการ และพิธีส่งมอบป้ายการจัดตั้ง สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ในวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ต้องขอขอบคุณจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ให้ความสำคัญกับ มทร.อีสาน เสมอมา ในความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และภาควิจัย ทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านระบบรางให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล"
    .
    "ทั้งนี้ การที่ มทร.อีสาน ได้พันธมิตรในการร่วมพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV เช่น บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจร ด้านการขนส่งทางราง เช่น บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. หรือ CRRC เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางราง และเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์รถไฟของจีน และสถาบันที่ผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีและการจัดการระบบราง เช่น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนในของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและมีระดับการพัฒนาระบบรถไฟสูงที่สุดในประเทศจีน ดังนั้น การจัดตั้ง “สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE” แห่งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติต่อไป" รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวเพิ่มเติม
    มทร.อีสาน จัดประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE . วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแคนา 1 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา มทร.อีสาน จัดการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวต้อนรับ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานการประชุมฯ, นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) พร้อมคณะ, นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน พร้อมคณะ, นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด พร้อมคณะ, คุณธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายบุญส่ง สุทธิโตคร ผู้อำนวยการสำนักช่าง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา, ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, คุณไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, คุณอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด, นายจำนงค์ แสงเงิน หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 2, คุณบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, คุณขจร ศิวรังสรรค์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมระบบราง, คุณวัฒนา สมานจิตร อุปนายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย, ดร.สุรวุฒิ เชิดชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด . โดยในการประชุมครั้งนี้ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชิต คำภาหล้า คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง ได้ร่วมกัน นำเสนอจุดประสงค์ของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และนำเสนอศูนย์ความร่วมมือทางวิชาการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE และทางด้าน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) โดย นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) ได้นำเสนอจุดเด่นทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ระบบขนส่ง DRT และรถไฟฟ้ารางเบา รวมถึงแนวคิดความร่วมมือด้านการบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของขบวนรถไฟ จากนั้น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ได้กล่าวถึง ภาพรวมของสถาบัน NIRT จุดแข็งของหลักสูตร และแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยระบบรางจีน–ไทย (NIRT สาขาต่างประเทศ) โดย นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน ทั้งนี้ นอกจากจะร่วมประชุมหารือด้านความร่วมมือระหว่างกันแล้วยังได้มี การการหารือการเตรียมความพร้อมรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (International Horticultural Expo) และ แผนรถไฟฟ้ารางเบาในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดย นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด ยังได้นำเสนอ เรื่อง การวางแผนผลักดันจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นจังหวัดหลักด้านอุตสาหกรรมระบบราง โดยอาศัยโอกาสความร่วมมือจากทั้ง 4 ฝ่าย และการดำเนินโครงการระบบ DRT สำหรับมหกรรมพืชสวนโลกอีกด้วย . นอกจากนี้ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ให้เกียรติเป็นประธานมอบป้ายสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE แก่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC), สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT), บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด . ภายหลังการประชุม นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ในนามของจังหวัดนครราชสีมา รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ภายใต้การนำของ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้จัดการประชุมปรึกษาหารือในวันนี้ ซึ่งเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ก่อให้เกิดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในระดับประเทศและนานาชาติ ทั้งยังได้ริเริ่มสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา พันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งทางราง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม และพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง จนได้ร่วมมือกันในการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในด้านระบบคมนาคมขนส่ง การมีสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบรางในพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของจังหวัดและภูมิภาค ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” . ด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เปิดเผยว่า "สำหรับการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการ และพิธีส่งมอบป้ายการจัดตั้ง สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ในวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ต้องขอขอบคุณจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ให้ความสำคัญกับ มทร.อีสาน เสมอมา ในความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และภาควิจัย ทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านระบบรางให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล" . "ทั้งนี้ การที่ มทร.อีสาน ได้พันธมิตรในการร่วมพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV เช่น บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจร ด้านการขนส่งทางราง เช่น บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. หรือ CRRC เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางราง และเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์รถไฟของจีน และสถาบันที่ผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีและการจัดการระบบราง เช่น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนในของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและมีระดับการพัฒนาระบบรถไฟสูงที่สุดในประเทศจีน ดังนั้น การจัดตั้ง “สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE” แห่งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติต่อไป" รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวเพิ่มเติม
    0 Comments 0 Shares 716 Views 0 Reviews
  • Thaipublica’s Pick: กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือติดธงชาติไทยลักลอบขนยาบ้าและโคเคน มูลค่า 426 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือลักลอบขนยาบ้าและโคเคนเกือบ 2 ตันมูลค่า 425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราในสัปดาห์นี้ พร้อมจับกุมชาวไทย 1 รายและชาวเมียนมา 4 รายที่พบอยู่บนเรือ กองทัพเรือระบุเมื่อวันศุกร์ (16 พฤษภาคม 2568).เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเรือลำดังกล่าวหลังจากปิดไฟและเร่งความเร็วเพื่อพยายามหลบหนีออกจากน่านน้ำอินโดนีเซียในภูมิภาคตันจุง บาไล การิมัน (Tanjung Balai Karimun) ของ หมู่เกาะรีเยา (Riau Island) กองทัพเรือระบุ.เจ้าหน้าที่ยึดกระสอบสีเหลืองและสีขาวได้เกือบ 100 กระสอบ ภายในบรรจุโคเคนประมาณ 1.2 ตัน และยาบ้า 705 กิโลกรัม มูลค่า 7 ล้านล้านรูเปียะฮ์ (425.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โฆษกกองทัพเรือ ไอ มาดิ วิระ ฮาดี อาร์ซันตา วาร์ธานา(I Made Wira Hady Arsanta Wardhana) กล่าวในแถลงการณ์.อินโดนีเซียมีกฎหมายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และการค้ายาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต.กองทัพเรือระบุว่า เรือลำดังกล่าวซึ่งติดธงชาติไทย ถูกนำไปยังฐานทัพเรือในตันจุง บาไล การิมุน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของลูกเรือ นอกจากสัญชาติของพวกเขา.เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนต่อไปว่ายาเสพติดเหล่านี้มาจากไหน และเรือกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ซึ่งใช้ชื่อเพียงว่านายฟาวซี กล่าวในการแถลงข่าว.การจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประเทศ.สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) ระบุในรายงานปี 2567 ว่า เมื่อปี 2566 มีการจับกุมยาบ้าได้มากถึง 190 ตัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มอาชญากรใช้ประโยชน์จากการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอในการลักลอบขนยาเสพติด โดยส่วนใหญ่ผ่านอ่าวไทย.สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมาที่ติดกับบางส่วนของไทยและลาว มีประวัติศาสตร์ในด้านการผลิตยาเสพติดมายาวนาน โดยส่วนใหญ่ใช้โดยกลุ่มอาชญากรในเอเชียที่จำหน่ายยาเสพติดไปไกลถึงญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์.ในปี 2565 พบโคเคน 179 กิโลกรัม (395 ปอนด์) ในน่านน้ำใกล้ท่าเรือเมอระก์บนเกาะชวา ซึ่งถือเป็นการยึดโคเคนครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศในเวลานั้น UNODC ระบุในรายงานโคเคนระดับโลกประจำปี 2566.(1 เหรียญสหรัฐ = 16,435.0000 รูเปียะฮ์).เรื่อง : https://www.yahoo.com/news/indonesia-seizes-ship-carrying-methamphetamine-094840017.html.#เรือติดธงชาติไทยขนยาเสพติด #อินโดนีเซีย ที่มา : Thaipublicahttps://www.facebook.com/share/p/1C6nV7Umiv/?mibextid=wwXIfr
    Thaipublica’s Pick: กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือติดธงชาติไทยลักลอบขนยาบ้าและโคเคน มูลค่า 426 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.กองทัพเรืออินโดนีเซีย ยึดเรือลักลอบขนยาบ้าและโคเคนเกือบ 2 ตันมูลค่า 425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราในสัปดาห์นี้ พร้อมจับกุมชาวไทย 1 รายและชาวเมียนมา 4 รายที่พบอยู่บนเรือ กองทัพเรือระบุเมื่อวันศุกร์ (16 พฤษภาคม 2568).เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเรือลำดังกล่าวหลังจากปิดไฟและเร่งความเร็วเพื่อพยายามหลบหนีออกจากน่านน้ำอินโดนีเซียในภูมิภาคตันจุง บาไล การิมัน (Tanjung Balai Karimun) ของ หมู่เกาะรีเยา (Riau Island) กองทัพเรือระบุ.เจ้าหน้าที่ยึดกระสอบสีเหลืองและสีขาวได้เกือบ 100 กระสอบ ภายในบรรจุโคเคนประมาณ 1.2 ตัน และยาบ้า 705 กิโลกรัม มูลค่า 7 ล้านล้านรูเปียะฮ์ (425.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โฆษกกองทัพเรือ ไอ มาดิ วิระ ฮาดี อาร์ซันตา วาร์ธานา(I Made Wira Hady Arsanta Wardhana) กล่าวในแถลงการณ์.อินโดนีเซียมีกฎหมายปราบปรามยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และการค้ายาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต.กองทัพเรือระบุว่า เรือลำดังกล่าวซึ่งติดธงชาติไทย ถูกนำไปยังฐานทัพเรือในตันจุง บาไล การิมุน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของลูกเรือ นอกจากสัญชาติของพวกเขา.เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนต่อไปว่ายาเสพติดเหล่านี้มาจากไหน และเรือกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ซึ่งใช้ชื่อเพียงว่านายฟาวซี กล่าวในการแถลงข่าว.การจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประเทศ.สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) ระบุในรายงานปี 2567 ว่า เมื่อปี 2566 มีการจับกุมยาบ้าได้มากถึง 190 ตัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มอาชญากรใช้ประโยชน์จากการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอในการลักลอบขนยาเสพติด โดยส่วนใหญ่ผ่านอ่าวไทย.สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมาที่ติดกับบางส่วนของไทยและลาว มีประวัติศาสตร์ในด้านการผลิตยาเสพติดมายาวนาน โดยส่วนใหญ่ใช้โดยกลุ่มอาชญากรในเอเชียที่จำหน่ายยาเสพติดไปไกลถึงญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์.ในปี 2565 พบโคเคน 179 กิโลกรัม (395 ปอนด์) ในน่านน้ำใกล้ท่าเรือเมอระก์บนเกาะชวา ซึ่งถือเป็นการยึดโคเคนครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศในเวลานั้น UNODC ระบุในรายงานโคเคนระดับโลกประจำปี 2566.(1 เหรียญสหรัฐ = 16,435.0000 รูเปียะฮ์).เรื่อง : https://www.yahoo.com/news/indonesia-seizes-ship-carrying-methamphetamine-094840017.html.#เรือติดธงชาติไทยขนยาเสพติด #อินโดนีเซีย ที่มา : Thaipublicahttps://www.facebook.com/share/p/1C6nV7Umiv/?mibextid=wwXIfr
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 705 Views 0 Reviews
  • ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย

    เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง

    ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต

    ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก

    The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต

    1. การวิเคราะห์สถานการณ์
    บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้:

    สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ

    ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม.
    ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล

    ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต.

    อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ

    กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง:

    กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ.

    กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย.

    กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน.

    กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล.

    แนวโน้มในอนาคต:
    การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา.

    ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่.

    ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว.

    ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ.

    ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว

    รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม

    ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia.

    การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook

    การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง

    แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024.
    ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์

    ท่าทีของไทย
    ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ:

    การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC.

    ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center

    การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction.

    มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News.

    นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น.

    การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera.

    ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network.

    ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure.

    ข้อสรุป
    สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ


    การอ้างอิง:
    Laotian Civil War - Wikipedia
    Insurgency in Laos - Wikipedia
    Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations
    Assessment for Hmong in Laos | Refworld
    Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica
    From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters
    Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR
    Laos country profile - BBC News
    Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations
    Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post
    Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic
    Laos | AP News






    ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต 1. การวิเคราะห์สถานการณ์ บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้: สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม. ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต. อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง: กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ. กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย. กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน. กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล. แนวโน้มในอนาคต: การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา. ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่. ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว. ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia. การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024. ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์ ท่าทีของไทย ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ: การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC. ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction. มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News. นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น. การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network. ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure. ข้อสรุป สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ การอ้างอิง: Laotian Civil War - Wikipedia Insurgency in Laos - Wikipedia Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations Assessment for Hmong in Laos | Refworld Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR Laos country profile - BBC News Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic Laos | AP News
    0 Comments 0 Shares 1405 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง ปี2538
    เหรียญหลวงปู่คร่ำ เนื้อทองแดงรมดำ วัดวังหว้า จ.ระยอง ปี2538 //หลวงปู่คร่ำ หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความนิยม...เป็นที่ศรัทธาของมหาชนทั่วฟ้าเมืองไทย // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณจะป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง แคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงค์คงกระพันชาตรี ไล่ภูตผี ป้องกันเสนียดจัญไร เมตตามหานิยม ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง >>

    ** หลวงปู่คร่ำเกจิดังเมืองระยอง เกจิคณาจารย์แห่งภาคตะวันออก เป็นอีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวเกินร้อยปี เป็นพระเกจิที่เชี่ยวชาญวิทยาคม ได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วทุกภาคของประเทศ มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องวัตถุมงคล ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยมสูง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง ปี2538 เหรียญหลวงปู่คร่ำ เนื้อทองแดงรมดำ วัดวังหว้า จ.ระยอง ปี2538 //หลวงปู่คร่ำ หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความนิยม...เป็นที่ศรัทธาของมหาชนทั่วฟ้าเมืองไทย // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณจะป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง แคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงค์คงกระพันชาตรี ไล่ภูตผี ป้องกันเสนียดจัญไร เมตตามหานิยม ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง >> ** หลวงปู่คร่ำเกจิดังเมืองระยอง เกจิคณาจารย์แห่งภาคตะวันออก เป็นอีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวเกินร้อยปี เป็นพระเกจิที่เชี่ยวชาญวิทยาคม ได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วทุกภาคของประเทศ มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องวัตถุมงคล ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยมสูง >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 233 Views 0 Reviews
More Results