• รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต วิเคราะห์งบประมาณ 2569: เครื่องมือพยุงอำนาจ หรือแผนพัฒนาชาติ?

    ร่างงบประมาณ 3.78 ล้านล้านของรัฐบาลแพทองธาร กำลังถูกตั้งคำถามว่าเพื่อประชาชนหรือเพื่อฐานเสียงทางการเมือง?

    การจัดทำร่าง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งมีวงเงินกว่า 3.78 ล้านล้านบาท กำลังกลายเป็นประเด็นร้อน ไม่ใช่แค่เพราะเม็ดเงินมหาศาล แต่เพราะมันสะท้อนว่า รัฐบาลบริหาร “อำนาจ” และ “ความคาดหวังของประชาชน” อย่างไร

    เมื่อมองผ่านมุม เศรษฐศาสตร์การเมือง—ซึ่งวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรภายใต้แรงจูงใจทางอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง—คำถามใหญ่คือ งบนี้ออกแบบเพื่อ “พัฒนาชาติ” หรือแค่ “พยุงอำนาจ”?

    1. จากดิจิทัลวอลเล็ต สู่ท้องถิ่น: กลยุทธ์รักษาฐานเสียง?

    รัฐบาลโยกงบกว่า 157,000 ล้านบาท จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมเปิดให้ยื่นขอใช้งบในเวลาเพียง 3 วัน

    นี่อาจไม่ใช่การกระจายงบอย่างมีแผน แต่คือการ “ป้อนงบ” ให้กับเครือข่ายการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงสำคัญ

    2. กู้เงิน 8.6 แสนล้าน: ลงทุนเพื่ออนาคต หรือซื้อเวลา?

    การกู้เงินขาดดุลสูงสุดในรอบ 30 ปี สะท้อนแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ แต่อีกด้านก็มีคำถามว่า เม็ดเงินเหล่านี้จะถูกใช้ “อย่างยั่งยืน” หรือไม่?

    การไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า นี่คือการใช้เงินเพื่อ “ผลทางการเมืองในระยะสั้น” มากกว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจจริงจัง

    3. รัฐบาลผสม กับการจัดงบแบบแบ่งเค้ก

    การที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม ทำให้การจัดสรรงบประมาณกลายเป็นเวทีต่อรองอำนาจ
    การจัดสรรงบจำนวนมากไปยังพื้นที่ฐานเสียง และการบริหารงบกลางแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ชี้ว่าการเมืองภายในรัฐบาลส่งผลต่อการใช้งบมากกว่าความจำเป็นของประเทศ

    4. งบปี 2569 ไม่ตอบโจทย์โลกใหม่?

    แม้รัฐบาลจะพูดถึง “Soft Power” และ การผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่งบปี 2569 กลับไม่มีทิศทางชัดเจนในเรื่อง การลงทุนด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการพัฒนาทักษะแรงงาน

    ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ไทยกลับยังเดินตามโมเดล “ทุ่มงบก่อสร้าง” ที่เห็นผลง่าย แต่มักไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว โดยเฉพาะการพัฒนาปัญญาและเพิ่มทักษะแก่ประชาชน

    5. เหลื่อมล้ำยังอยู่ งบไม่ถึงชายขอบ

    การจัดงบยังคง “กระจุกตัวในเมืองใหญ่” ขณะที่งบพัฒนาจังหวัดเล็ก ๆ หรือจังหวัดชายแดนถูกลดลง งบด้านความมั่นคงกลับเพิ่มขึ้น

    ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดการบริหารที่เน้นการ “ควบคุม” มากกว่าการ “พัฒนา” ซึ่งอาจยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำฝังรากลึกลงไปอีก

    บทสรุป: เมื่อ “งบประมาณ” กลายเป็นสนามอำนาจ

    งบประมาณปี 2569 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวเลข แต่คือกระจกสะท้อนว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจเพื่อใคร และอย่างไร การกระจายงบแบบไม่ทั่วถึง การกู้เงินมหาศาลโดยไร้ทิศทางระยะยาว และการเมืองแบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก ล้วนชี้ว่ารัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับ “เสถียรภาพทางการเมือง” มากกว่าการ “พัฒนาที่ยั่งยืน”

    หากอำนาจรัฐยังใช้งบประมาณเป็นเชือกผูกโยงฐานเสียง มากกว่าการเปิดทางให้โอกาสไหลถึงประชาชนทั้งแผ่นดิน

    ความมั่งคั่งก็จะกระจุกอยู่ในหมู่ชนชั้นนำและนักการเมืองเจ้าถิ่น ขณะที่คนส่วนใหญ่จะยังจมปลักอยู่ในทะเลแห่งความเหลื่อมล้ำ—ไร้ฝั่งฝัน ไร้เส้นทางรอด”
    รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต วิเคราะห์งบประมาณ 2569: เครื่องมือพยุงอำนาจ หรือแผนพัฒนาชาติ? ร่างงบประมาณ 3.78 ล้านล้านของรัฐบาลแพทองธาร กำลังถูกตั้งคำถามว่าเพื่อประชาชนหรือเพื่อฐานเสียงทางการเมือง? การจัดทำร่าง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งมีวงเงินกว่า 3.78 ล้านล้านบาท กำลังกลายเป็นประเด็นร้อน ไม่ใช่แค่เพราะเม็ดเงินมหาศาล แต่เพราะมันสะท้อนว่า รัฐบาลบริหาร “อำนาจ” และ “ความคาดหวังของประชาชน” อย่างไร เมื่อมองผ่านมุม เศรษฐศาสตร์การเมือง—ซึ่งวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรภายใต้แรงจูงใจทางอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง—คำถามใหญ่คือ งบนี้ออกแบบเพื่อ “พัฒนาชาติ” หรือแค่ “พยุงอำนาจ”? 1. จากดิจิทัลวอลเล็ต สู่ท้องถิ่น: กลยุทธ์รักษาฐานเสียง? รัฐบาลโยกงบกว่า 157,000 ล้านบาท จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมเปิดให้ยื่นขอใช้งบในเวลาเพียง 3 วัน นี่อาจไม่ใช่การกระจายงบอย่างมีแผน แต่คือการ “ป้อนงบ” ให้กับเครือข่ายการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงสำคัญ 2. กู้เงิน 8.6 แสนล้าน: ลงทุนเพื่ออนาคต หรือซื้อเวลา? การกู้เงินขาดดุลสูงสุดในรอบ 30 ปี สะท้อนแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ แต่อีกด้านก็มีคำถามว่า เม็ดเงินเหล่านี้จะถูกใช้ “อย่างยั่งยืน” หรือไม่? การไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า นี่คือการใช้เงินเพื่อ “ผลทางการเมืองในระยะสั้น” มากกว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจจริงจัง 3. รัฐบาลผสม กับการจัดงบแบบแบ่งเค้ก การที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม ทำให้การจัดสรรงบประมาณกลายเป็นเวทีต่อรองอำนาจ การจัดสรรงบจำนวนมากไปยังพื้นที่ฐานเสียง และการบริหารงบกลางแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ชี้ว่าการเมืองภายในรัฐบาลส่งผลต่อการใช้งบมากกว่าความจำเป็นของประเทศ 4. งบปี 2569 ไม่ตอบโจทย์โลกใหม่? แม้รัฐบาลจะพูดถึง “Soft Power” และ การผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่งบปี 2569 กลับไม่มีทิศทางชัดเจนในเรื่อง การลงทุนด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการพัฒนาทักษะแรงงาน ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ไทยกลับยังเดินตามโมเดล “ทุ่มงบก่อสร้าง” ที่เห็นผลง่าย แต่มักไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว โดยเฉพาะการพัฒนาปัญญาและเพิ่มทักษะแก่ประชาชน 5. เหลื่อมล้ำยังอยู่ งบไม่ถึงชายขอบ การจัดงบยังคง “กระจุกตัวในเมืองใหญ่” ขณะที่งบพัฒนาจังหวัดเล็ก ๆ หรือจังหวัดชายแดนถูกลดลง งบด้านความมั่นคงกลับเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดการบริหารที่เน้นการ “ควบคุม” มากกว่าการ “พัฒนา” ซึ่งอาจยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำฝังรากลึกลงไปอีก บทสรุป: เมื่อ “งบประมาณ” กลายเป็นสนามอำนาจ งบประมาณปี 2569 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวเลข แต่คือกระจกสะท้อนว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจเพื่อใคร และอย่างไร การกระจายงบแบบไม่ทั่วถึง การกู้เงินมหาศาลโดยไร้ทิศทางระยะยาว และการเมืองแบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก ล้วนชี้ว่ารัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับ “เสถียรภาพทางการเมือง” มากกว่าการ “พัฒนาที่ยั่งยืน” หากอำนาจรัฐยังใช้งบประมาณเป็นเชือกผูกโยงฐานเสียง มากกว่าการเปิดทางให้โอกาสไหลถึงประชาชนทั้งแผ่นดิน ความมั่งคั่งก็จะกระจุกอยู่ในหมู่ชนชั้นนำและนักการเมืองเจ้าถิ่น ขณะที่คนส่วนใหญ่จะยังจมปลักอยู่ในทะเลแห่งความเหลื่อมล้ำ—ไร้ฝั่งฝัน ไร้เส้นทางรอด”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี และกรณีที่ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความเตรียมบรรจุวาระการประชุม JBC นำประเด็นเรื่องปราสาทตาเหมือนธม ปราสาทตาเหมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบ(สามเหลี่ยมมรกต-บริเวณช่องบก) เข้าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) ลำดับแรกต้องถอยห่างจากจุดปะทะ ให้ JBC ดูเรื่องปักปันเขตแดนตามกฎหมายและข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง เพราะในการพูดคุยกับกัมพูชาก็เห็นตรงกัน จึงต้องรักษากติกาข้อตกลง ก่อนใช้กลไกอื่น

    -กัมพูชารุกล้ำแดนไทย
    -ต่อสายตรงเบรกปิดด่าน
    -ปลุกใจ"กองอาทมาต"
    -ขู่ไทยต้องไปศาลโลก
    พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี และกรณีที่ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความเตรียมบรรจุวาระการประชุม JBC นำประเด็นเรื่องปราสาทตาเหมือนธม ปราสาทตาเหมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบ(สามเหลี่ยมมรกต-บริเวณช่องบก) เข้าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) ลำดับแรกต้องถอยห่างจากจุดปะทะ ให้ JBC ดูเรื่องปักปันเขตแดนตามกฎหมายและข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง เพราะในการพูดคุยกับกัมพูชาก็เห็นตรงกัน จึงต้องรักษากติกาข้อตกลง ก่อนใช้กลไกอื่น -กัมพูชารุกล้ำแดนไทย -ต่อสายตรงเบรกปิดด่าน -ปลุกใจ"กองอาทมาต" -ขู่ไทยต้องไปศาลโลก
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • โฆษก ทบ.ชี้ “ฮุน มาเนต” นำเรื่องขึ้นศาลโลกคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ซึ่งต้องหาทางอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน โดยต้องถอยจากจุดปะทะแล้วให้ JBC มาปักปันเขตแดน ตามเอ็มโอยูที่ต้องไม่ดัดแปลงสภาพพื้นที่ ชี้ ภาพถ่ายฮุนเซนใกล้ศาลาตรีมุข ไม่ใช่จุดปะทะที่เป็นป่า ไม่มีหลักฐานทหารกัมพูชาเคยมาอยู่ และเพิ่งขุดคูเรดขึ้นมาไม่นาน

    วันนี้ (2 มิ.ย.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ภายหลัง นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศว่า เตรียมให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee - JBC) ไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้นกลางเดือน มิ.ย.เสนอนำกรณีสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) และปราสาทอีก 3 แห่งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ว่า ยังเป็นคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ปัจจุบันคือการทำอย่างไรที่จะอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ที่ยังไม่ชี้ชัดว่าควรเป็นพื้นที่ของใคร

    ในขั้นตอนแรก ทั้ง 2 ฝ่าย จึงถอยห่างจากจุดปะทะ และให้คณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC มาดูในเป็นเรื่องปักปันเขตแดน หรือกฎหมาย ข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะข้อตกลงที่ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ไปพูดคุยกับ ผบ.ทบ.กัมพูชา มีเห็นตรงกัน 3 ประเด็น คือ การถอยกำลังออกจากพื้นที่จุดปะทะ และใช้กลไก JBC มาร่วมแก้ปัญหาเรื่องเขตแดน เรื่องสนธิสัญญา และข้อปฏิบัติตามเอ็มโอยู จะระมัดระวังดูแลกำลังพลพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051619

    #MGROnline #ฮุนมาเนต #ศาลโลก #พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน #ทหารกัมพูชา
    โฆษก ทบ.ชี้ “ฮุน มาเนต” นำเรื่องขึ้นศาลโลกคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ซึ่งต้องหาทางอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน โดยต้องถอยจากจุดปะทะแล้วให้ JBC มาปักปันเขตแดน ตามเอ็มโอยูที่ต้องไม่ดัดแปลงสภาพพื้นที่ ชี้ ภาพถ่ายฮุนเซนใกล้ศาลาตรีมุข ไม่ใช่จุดปะทะที่เป็นป่า ไม่มีหลักฐานทหารกัมพูชาเคยมาอยู่ และเพิ่งขุดคูเรดขึ้นมาไม่นาน • วันนี้ (2 มิ.ย.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ภายหลัง นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศว่า เตรียมให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee - JBC) ไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้นกลางเดือน มิ.ย.เสนอนำกรณีสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) และปราสาทอีก 3 แห่งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ว่า ยังเป็นคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ปัจจุบันคือการทำอย่างไรที่จะอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ที่ยังไม่ชี้ชัดว่าควรเป็นพื้นที่ของใคร • ในขั้นตอนแรก ทั้ง 2 ฝ่าย จึงถอยห่างจากจุดปะทะ และให้คณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC มาดูในเป็นเรื่องปักปันเขตแดน หรือกฎหมาย ข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะข้อตกลงที่ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ไปพูดคุยกับ ผบ.ทบ.กัมพูชา มีเห็นตรงกัน 3 ประเด็น คือ การถอยกำลังออกจากพื้นที่จุดปะทะ และใช้กลไก JBC มาร่วมแก้ปัญหาเรื่องเขตแดน เรื่องสนธิสัญญา และข้อปฏิบัติตามเอ็มโอยู จะระมัดระวังดูแลกำลังพลพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051619 • #MGROnline #ฮุนมาเนต #ศาลโลก #พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน #ทหารกัมพูชา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • "นายกฯ-ภูมิธรรม" เบรกกองทัพปิดด่าน หลังผู้นำกัมพูชาต่อสายร้องขอ อ้างกระทบการค้าชายแดน ซ้ำเติมวิกฤติเศรษฐกิจประเทศ ขณะที่ทหารแจ้งรุกล้ำเข้าพื้นที่ไม่สบายใจ อยากปิดด่านเพื่อกดดันกัมพูชา หากนิ่งเฉยเท่ากับยอมรับ

    วันนี้( 2 มิ.ย.)มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลขอให้กองทัพใช้ความอดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังพบว่ากัมพูชาเพิ่มกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าพื้นที่ช่องบก เป็นจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์และล้ำเข้ามาฝ่ายไทยพร้อมหันกระบอกปืนใหญ่เข้าหาฝ่ายไทย

    โดยทางกองทัพ ได้แจ้งไปยังรัฐบาล จุดที่ทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ฝ่ายไทย ทำให้เกิดความไม่สบาย จึงขอประกาศปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว เพื่อกดดันและตอบโต้ทางฝ่ายกัมพูชา หากนิ่งเฉย เท่ากับเป็นการยอมรับ แต่ทางรัฐบาลได้ขอให้กองทัพอย่าพึ่งดำเนินการใดๆ กังวลว่าจะกระทบการค้าขายตามแนวชายแดน และซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศไทย อีกทั้งขณะนี้กำลังจะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee – JBC)ไทย-กัมพูชา

    ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ก่อนหน้านี้ภายหลังมีกระแสข่าวไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกฯและ รมว.กลาโหมกัมพูชา โทรหานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ร้องขออย่าให้ไทยปิดด่าน นอกจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้ให้นายภูมิธรรมมาพูดคุยกับกองทัพด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000051635

    #MGROnline #กองทัพ #ไทย #กัมพูชา #เบรกกองทัพปิดด่าน
    "นายกฯ-ภูมิธรรม" เบรกกองทัพปิดด่าน หลังผู้นำกัมพูชาต่อสายร้องขอ อ้างกระทบการค้าชายแดน ซ้ำเติมวิกฤติเศรษฐกิจประเทศ ขณะที่ทหารแจ้งรุกล้ำเข้าพื้นที่ไม่สบายใจ อยากปิดด่านเพื่อกดดันกัมพูชา หากนิ่งเฉยเท่ากับยอมรับ • วันนี้( 2 มิ.ย.)มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลขอให้กองทัพใช้ความอดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังพบว่ากัมพูชาเพิ่มกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าพื้นที่ช่องบก เป็นจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์และล้ำเข้ามาฝ่ายไทยพร้อมหันกระบอกปืนใหญ่เข้าหาฝ่ายไทย • โดยทางกองทัพ ได้แจ้งไปยังรัฐบาล จุดที่ทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ฝ่ายไทย ทำให้เกิดความไม่สบาย จึงขอประกาศปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว เพื่อกดดันและตอบโต้ทางฝ่ายกัมพูชา หากนิ่งเฉย เท่ากับเป็นการยอมรับ แต่ทางรัฐบาลได้ขอให้กองทัพอย่าพึ่งดำเนินการใดๆ กังวลว่าจะกระทบการค้าขายตามแนวชายแดน และซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศไทย อีกทั้งขณะนี้กำลังจะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee – JBC)ไทย-กัมพูชา • ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ก่อนหน้านี้ภายหลังมีกระแสข่าวไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกฯและ รมว.กลาโหมกัมพูชา โทรหานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ร้องขออย่าให้ไทยปิดด่าน นอกจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้ให้นายภูมิธรรมมาพูดคุยกับกองทัพด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000051635 • #MGROnline #กองทัพ #ไทย #กัมพูชา #เบรกกองทัพปิดด่าน
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมรเล่นใหญ่! ฝ่ายค้านกัมพูชา กดดันฮุน มาเนต ฟ้องศาลโลก ลามเกาะกูด-พื้นที่ทางทะเล
    https://www.thai-tai.tv/news/19128/
    เขมรเล่นใหญ่! ฝ่ายค้านกัมพูชา กดดันฮุน มาเนต ฟ้องศาลโลก ลามเกาะกูด-พื้นที่ทางทะเล https://www.thai-tai.tv/news/19128/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'โอกาสใหม่' เปิดดีล 'เสี่ยเฮ้ง' รสทช.ส่อแพแตก จับตาใครอยู่ใครไป
    .
    เวลานี้ชื่อของพรรคโอกาสใหม่เริ่มติดอยู่พื้นที่ของสื่อสารมวลชนมากขึ้น ภายหลังมีความเคลื่อนไหวออกมาว่านายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และส.ส.บัญชีรายชื่อ อาจตัดสินใจอำลาพรรครวมไทยสร้างชาติมาร่วมงานกับพรรคโอกาสใหม่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051540

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    'โอกาสใหม่' เปิดดีล 'เสี่ยเฮ้ง' รสทช.ส่อแพแตก จับตาใครอยู่ใครไป . เวลานี้ชื่อของพรรคโอกาสใหม่เริ่มติดอยู่พื้นที่ของสื่อสารมวลชนมากขึ้น ภายหลังมีความเคลื่อนไหวออกมาว่านายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และส.ส.บัญชีรายชื่อ อาจตัดสินใจอำลาพรรครวมไทยสร้างชาติมาร่วมงานกับพรรคโอกาสใหม่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051540 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💾 Seagate เตรียมเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ 150TB ด้วยเทคโนโลยี HAMR

    Seagate ได้เผยแผนพัฒนา ฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 150TB โดยใช้ เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ซึ่งจะช่วยให้สามารถเพิ่มความจุของไดรฟ์ได้อย่างมหาศาล

    Seagate กำลังดำเนินการผ่าน แพลตฟอร์ม Mozaic ซึ่งปัจจุบันสามารถผลิต แผ่นบันทึกข้อมูล (platters) ขนาด 4TB และมีแผนจะเพิ่มเป็น 10TB ต่อแผ่นภายในปี 2028

    เป้าหมายสูงสุดคือ แผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 15TB ซึ่งจะช่วยให้สามารถสร้าง ฮาร์ดไดรฟ์ 150TB ได้โดยใช้ 10 platters อย่างไรก็ตาม Seagate ระบุว่า ต้องใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่านี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Seagate วางแผนพัฒนา HDD ขนาด 150TB โดยใช้เทคโนโลยี HAMR
    - แพลตฟอร์ม Mozaic ปัจจุบันสามารถผลิตแผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 4TB
    - เป้าหมายคือการเพิ่มขนาดแผ่นบันทึกข้อมูลเป็น 10TB ภายในปี 2028
    - แผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 15TB จะช่วยให้สามารถสร้าง HDD 150TB ได้
    - Seagate คาดว่า HDD 150TB จะพร้อมใช้งานภายในปี 2035

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีแผนพัฒนา แต่ HDD 150TB ยังต้องใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่านี้
    - HAMR ยังต้องผ่านการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานได้ในระดับอุตสาหกรรม
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะพัฒนาเทคโนโลยีที่แข่งขันกับ HAMR หรือไม่
    - การผลิต HDD ที่มีความจุสูงอาจต้องใช้ต้นทุนที่สูงขึ้นในช่วงแรก

    หาก Seagate สามารถพัฒนา HDD 150TB ได้สำเร็จ อาจช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นโดยใช้พื้นที่น้อยลง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะสามารถทำได้ตามแผนหรือไม่

    https://www.techradar.com/pro/seagate-ceo-hints-at-150tb-hard-drives-thanks-to-novel-15tb-platters-but-that-wont-happen-for-another-decade
    💾 Seagate เตรียมเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ 150TB ด้วยเทคโนโลยี HAMR Seagate ได้เผยแผนพัฒนา ฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 150TB โดยใช้ เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ซึ่งจะช่วยให้สามารถเพิ่มความจุของไดรฟ์ได้อย่างมหาศาล Seagate กำลังดำเนินการผ่าน แพลตฟอร์ม Mozaic ซึ่งปัจจุบันสามารถผลิต แผ่นบันทึกข้อมูล (platters) ขนาด 4TB และมีแผนจะเพิ่มเป็น 10TB ต่อแผ่นภายในปี 2028 เป้าหมายสูงสุดคือ แผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 15TB ซึ่งจะช่วยให้สามารถสร้าง ฮาร์ดไดรฟ์ 150TB ได้โดยใช้ 10 platters อย่างไรก็ตาม Seagate ระบุว่า ต้องใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่านี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ✅ ข้อมูลจากข่าว - Seagate วางแผนพัฒนา HDD ขนาด 150TB โดยใช้เทคโนโลยี HAMR - แพลตฟอร์ม Mozaic ปัจจุบันสามารถผลิตแผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 4TB - เป้าหมายคือการเพิ่มขนาดแผ่นบันทึกข้อมูลเป็น 10TB ภายในปี 2028 - แผ่นบันทึกข้อมูลขนาด 15TB จะช่วยให้สามารถสร้าง HDD 150TB ได้ - Seagate คาดว่า HDD 150TB จะพร้อมใช้งานภายในปี 2035 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีแผนพัฒนา แต่ HDD 150TB ยังต้องใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่านี้ - HAMR ยังต้องผ่านการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานได้ในระดับอุตสาหกรรม - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะพัฒนาเทคโนโลยีที่แข่งขันกับ HAMR หรือไม่ - การผลิต HDD ที่มีความจุสูงอาจต้องใช้ต้นทุนที่สูงขึ้นในช่วงแรก หาก Seagate สามารถพัฒนา HDD 150TB ได้สำเร็จ อาจช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นโดยใช้พื้นที่น้อยลง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะสามารถทำได้ตามแผนหรือไม่ https://www.techradar.com/pro/seagate-ceo-hints-at-150tb-hard-drives-thanks-to-novel-15tb-platters-but-that-wont-happen-for-another-decade
    WWW.TECHRADAR.COM
    This Seagate tech could change data storage forever—but we have to wait ten more years
    HAMR technology remains Seagate’s crown jewel for scaling drive capacity
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧠 Nord Quantique: ควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่อาจพลิกโฉมศูนย์ข้อมูล

    Nord Quantique บริษัทสตาร์ทอัพด้านควอนตัมคอมพิวติ้ง ประกาศแผนพัฒนา ควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่มีมากกว่า 1,000 qubits ภายในปี 2031 ซึ่งอาจทำให้ระบบ High-Performance Computing (HPC) แบบดั้งเดิมล้าสมัย

    Nord Quantique ใช้ multimode encoding ผ่าน Tesseract code ซึ่งช่วยให้ แต่ละ cavity สามารถแทนค่ามากกว่าหนึ่งโหมดควอนตัม ทำให้มี การแก้ไขข้อผิดพลาดที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดของระบบ

    นอกจากนี้ เครื่องของ Nord Quantique ใช้พื้นที่เพียง 20 ตารางเมตร ซึ่งเล็กกว่าระบบควอนตัมทั่วไปที่ต้องใช้พื้นที่ 1,000–20,000 ตารางเมตร

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Nord Quantique ตั้งเป้าพัฒนาเครื่องควอนตัมที่มีมากกว่า 1,000 qubits ภายในปี 2031
    - ใช้ multimode encoding ผ่าน Tesseract code เพื่อเพิ่มความทนทานของข้อมูล
    - เครื่องใช้พื้นที่เพียง 20 ตารางเมตร ซึ่งเล็กกว่าระบบควอนตัมทั่วไป
    - สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มจำนวน qubits
    - ระบบสามารถถอดรหัส RSA-830 ได้ภายใน 1 ชั่วโมง โดยใช้พลังงานเพียง 120 kWh

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีการแก้ไขข้อผิดพลาดที่ดีขึ้น แต่ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมในสภาพแวดล้อมจริง
    - การใช้ post-selection ในการแก้ไขข้อผิดพลาดอาจทำให้ต้องทิ้งข้อมูล 12.6% ต่อรอบ
    - ต้องมีการตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันว่าระบบสามารถทำงานได้ตามที่อ้าง
    - การเปลี่ยนจาก HPC ไปสู่ควอนตัมคอมพิวติ้งอาจต้องใช้เวลาหลายปี

    หาก Nord Quantique สามารถพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้สำเร็จ อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลสามารถลดการใช้พลังงานลง 99% และ เปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานของ HPC ไปสู่ยุคควอนตัม อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสามารถของระบบ

    https://www.techradar.com/pro/quantum-computing-startup-wants-to-launch-a-1000-qubit-machine-by-2031-that-could-make-the-traditional-hpc-market-obsolete
    🧠 Nord Quantique: ควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่อาจพลิกโฉมศูนย์ข้อมูล Nord Quantique บริษัทสตาร์ทอัพด้านควอนตัมคอมพิวติ้ง ประกาศแผนพัฒนา ควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่มีมากกว่า 1,000 qubits ภายในปี 2031 ซึ่งอาจทำให้ระบบ High-Performance Computing (HPC) แบบดั้งเดิมล้าสมัย Nord Quantique ใช้ multimode encoding ผ่าน Tesseract code ซึ่งช่วยให้ แต่ละ cavity สามารถแทนค่ามากกว่าหนึ่งโหมดควอนตัม ทำให้มี การแก้ไขข้อผิดพลาดที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดของระบบ นอกจากนี้ เครื่องของ Nord Quantique ใช้พื้นที่เพียง 20 ตารางเมตร ซึ่งเล็กกว่าระบบควอนตัมทั่วไปที่ต้องใช้พื้นที่ 1,000–20,000 ตารางเมตร ✅ ข้อมูลจากข่าว - Nord Quantique ตั้งเป้าพัฒนาเครื่องควอนตัมที่มีมากกว่า 1,000 qubits ภายในปี 2031 - ใช้ multimode encoding ผ่าน Tesseract code เพื่อเพิ่มความทนทานของข้อมูล - เครื่องใช้พื้นที่เพียง 20 ตารางเมตร ซึ่งเล็กกว่าระบบควอนตัมทั่วไป - สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มจำนวน qubits - ระบบสามารถถอดรหัส RSA-830 ได้ภายใน 1 ชั่วโมง โดยใช้พลังงานเพียง 120 kWh ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีการแก้ไขข้อผิดพลาดที่ดีขึ้น แต่ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมในสภาพแวดล้อมจริง - การใช้ post-selection ในการแก้ไขข้อผิดพลาดอาจทำให้ต้องทิ้งข้อมูล 12.6% ต่อรอบ - ต้องมีการตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันว่าระบบสามารถทำงานได้ตามที่อ้าง - การเปลี่ยนจาก HPC ไปสู่ควอนตัมคอมพิวติ้งอาจต้องใช้เวลาหลายปี หาก Nord Quantique สามารถพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้สำเร็จ อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลสามารถลดการใช้พลังงานลง 99% และ เปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานของ HPC ไปสู่ยุคควอนตัม อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสามารถของระบบ https://www.techradar.com/pro/quantum-computing-startup-wants-to-launch-a-1000-qubit-machine-by-2031-that-could-make-the-traditional-hpc-market-obsolete
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🏆 เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแห่งอนาคต: 360TB Silica Storage
    เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ด้วย 5D optical storage media จาก Sphotonix ซึ่งสามารถบันทึกข้อมูลได้ถึง 360TB บนแผ่นแก้วขนาด 5 นิ้ว และมีอายุการใช้งานที่อาจยาวนานถึง พันล้านปี

    Sphotonix ใช้ FemtoEtch ซึ่งเป็นเทคโนโลยี เลเซอร์นาโน ในการสร้างโครงสร้าง 5D บนแผ่นแก้ว ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างหนาแน่นและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง

    เทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากหลังจากถูกนำไปใช้ใน Mission Impossible: The Final Reckoning ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ออกฉายในปี 2025

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Sphotonix เปิดตัว 5D optical storage media ที่สามารถบันทึกข้อมูลได้ถึง 360TB บนแผ่นแก้วขนาด 5 นิ้ว
    - ใช้เทคโนโลยี FemtoEtch ซึ่งเป็นเลเซอร์นาโนเพื่อสร้างโครงสร้าง 5D
    - สามารถเก็บข้อมูลได้นานถึงพันล้านปี และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
    - ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์ Mission Impossible: The Final Reckoning
    - เทคโนโลยีนี้อาจเป็นทางเลือกใหม่แทน LTO tape และ HDD สำหรับการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีความจุสูง แต่ยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานในระดับอุตสาหกรรม
    - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการคลาวด์และศูนย์ข้อมูลจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริงเมื่อใด
    - การผลิตแผ่นแก้วที่มีความแม่นยำสูงอาจมีต้นทุนสูงในช่วงแรก
    - ต้องมีการพัฒนาโซลูชันการอ่านข้อมูลที่สามารถรองรับความหนาแน่นของข้อมูลระดับนี้

    เทคโนโลยี 5D optical storage อาจเป็นก้าวสำคัญในการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว โดยเฉพาะในยุคที่ AI และ Big Data ต้องการพื้นที่จัดเก็บมหาศาล อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่

    https://www.techradar.com/pro/mission-impossible-the-final-reckoning-gets-surprise-guest-appearance-a-revolutionary-360tb-silica-storage-media
    🏆 เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแห่งอนาคต: 360TB Silica Storage เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ด้วย 5D optical storage media จาก Sphotonix ซึ่งสามารถบันทึกข้อมูลได้ถึง 360TB บนแผ่นแก้วขนาด 5 นิ้ว และมีอายุการใช้งานที่อาจยาวนานถึง พันล้านปี Sphotonix ใช้ FemtoEtch ซึ่งเป็นเทคโนโลยี เลเซอร์นาโน ในการสร้างโครงสร้าง 5D บนแผ่นแก้ว ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างหนาแน่นและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากหลังจากถูกนำไปใช้ใน Mission Impossible: The Final Reckoning ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ออกฉายในปี 2025 ✅ ข้อมูลจากข่าว - Sphotonix เปิดตัว 5D optical storage media ที่สามารถบันทึกข้อมูลได้ถึง 360TB บนแผ่นแก้วขนาด 5 นิ้ว - ใช้เทคโนโลยี FemtoEtch ซึ่งเป็นเลเซอร์นาโนเพื่อสร้างโครงสร้าง 5D - สามารถเก็บข้อมูลได้นานถึงพันล้านปี และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง - ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์ Mission Impossible: The Final Reckoning - เทคโนโลยีนี้อาจเป็นทางเลือกใหม่แทน LTO tape และ HDD สำหรับการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีความจุสูง แต่ยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานในระดับอุตสาหกรรม - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการคลาวด์และศูนย์ข้อมูลจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริงเมื่อใด - การผลิตแผ่นแก้วที่มีความแม่นยำสูงอาจมีต้นทุนสูงในช่วงแรก - ต้องมีการพัฒนาโซลูชันการอ่านข้อมูลที่สามารถรองรับความหนาแน่นของข้อมูลระดับนี้ เทคโนโลยี 5D optical storage อาจเป็นก้าวสำคัญในการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว โดยเฉพาะในยุคที่ AI และ Big Data ต้องการพื้นที่จัดเก็บมหาศาล อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่ https://www.techradar.com/pro/mission-impossible-the-final-reckoning-gets-surprise-guest-appearance-a-revolutionary-360tb-silica-storage-media
    WWW.TECHRADAR.COM
    ‘Mission: Impossible – The Final Reckoning’ gets surprise guest appearance: a revolutionary 360TB silica storage media
    DOGE didn’t say what the new media was only to referring to them as “modern digital records”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 บันทึกความเร็วใหม่ของอินเทอร์เน็ต: 1.02 เพตะบิตต่อวินาที
    นักวิจัยจาก สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติญี่ปุ่น (NICT) ร่วมกับ Sumitomo Electric Industries ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่าน สายไฟเบอร์ออปติก ด้วยความเร็ว 1.02 เพตะบิตต่อวินาที ซึ่งมากพอที่จะดาวน์โหลด ภาพยนตร์ทั้งหมดบน Netflix ได้ถึง 30 รอบ

    สายไฟเบอร์ออปติกที่ใช้ในงานวิจัยนี้มี 19 คอร์ ซึ่งแต่ละคอร์ทำหน้าที่เป็นช่องทางส่งข้อมูลแยกกัน เปรียบเสมือน ทางหลวง 19 เลน ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกับสายไฟเบอร์แบบดั้งเดิม

    เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานได้บน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างภายในเพื่อ ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - NICT และ Sumitomo Electric Industries สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่านไฟเบอร์ออปติก
    - ความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 1.02 เพตะบิตต่อวินาที
    - ใช้สายไฟเบอร์แบบ 19 คอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม
    - เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานบน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล
    - ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับไฟเบอร์รุ่นก่อนหน้า

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีความเร็วสูง แต่ยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีการขยายสัญญาณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - การนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรมต้องมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้รองรับการผลิตจำนวนมาก
    - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริงเมื่อใด
    - การขยายเครือข่ายระดับเพตะบิตอาจต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่ในบางพื้นที่

    เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับเพตะบิตกลายเป็นความจริง และอาจนำไปสู่ การพัฒนาเครือข่ายที่สามารถรองรับข้อมูลระดับศูนย์ข้อมูลทั้งแห่งได้ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง

    https://www.techspot.com/news/108133-ultra-fast-fiber-sets-global-speed-record-102.html
    🚀 บันทึกความเร็วใหม่ของอินเทอร์เน็ต: 1.02 เพตะบิตต่อวินาที นักวิจัยจาก สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติญี่ปุ่น (NICT) ร่วมกับ Sumitomo Electric Industries ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่าน สายไฟเบอร์ออปติก ด้วยความเร็ว 1.02 เพตะบิตต่อวินาที ซึ่งมากพอที่จะดาวน์โหลด ภาพยนตร์ทั้งหมดบน Netflix ได้ถึง 30 รอบ สายไฟเบอร์ออปติกที่ใช้ในงานวิจัยนี้มี 19 คอร์ ซึ่งแต่ละคอร์ทำหน้าที่เป็นช่องทางส่งข้อมูลแยกกัน เปรียบเสมือน ทางหลวง 19 เลน ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกับสายไฟเบอร์แบบดั้งเดิม เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานได้บน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างภายในเพื่อ ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ✅ ข้อมูลจากข่าว - NICT และ Sumitomo Electric Industries สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่านไฟเบอร์ออปติก - ความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 1.02 เพตะบิตต่อวินาที - ใช้สายไฟเบอร์แบบ 19 คอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม - เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานบน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล - ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับไฟเบอร์รุ่นก่อนหน้า ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีความเร็วสูง แต่ยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีการขยายสัญญาณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น - การนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรมต้องมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้รองรับการผลิตจำนวนมาก - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริงเมื่อใด - การขยายเครือข่ายระดับเพตะบิตอาจต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่ในบางพื้นที่ เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับเพตะบิตกลายเป็นความจริง และอาจนำไปสู่ การพัฒนาเครือข่ายที่สามารถรองรับข้อมูลระดับศูนย์ข้อมูลทั้งแห่งได้ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง https://www.techspot.com/news/108133-ultra-fast-fiber-sets-global-speed-record-102.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Ultra-fast fiber sets global speed record: 1.02 petabits per second over continental distance
    At the heart of this breakthrough – driven by Japan's National Institute of Information and Communications Technology (NICT) and Sumitomo Electric Industries – is a 19-core optical...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌍 โลกที่เต็มไปด้วยคน “ครึ่งดี ครึ่งร้าย”

    ในโลกนี้...
    แม้แต่โจร หรือผู้ก่อการร้าย
    ยังมีมุมดีๆ ให้กับลูกเมีย พวกพ้อง
    ไม่มีใครร้ายล้วน — ไม่มีใครดีล้วน
    เราเองก็เช่นกัน
    ---

    แต่ถ้ามองโลกด้วยใจระแวง
    เราจะค่อยๆ เชื่อว่า

    "ถ้าไม่เป็นเสือ ก็ต้องเป็นเหยื่อ"

    แล้วพอใครขย้ำเรา
    เราก็จะอยากขย้ำเขาคืน
    หรือเผลอขย้ำใครต่อไปอีก…
    ---

    👣 ทางของผู้รู้กรรม

    ต่อให้คุณทำดีได้เท่าพระพุทธเจ้า
    ก็ยังต้องเจอ “พระเทวทัต” และ “นางจิญจมาณวิกา”
    เพราะแม้แต่พระองค์ยังต้องใช้กรรมเก่า
    ที่เคยทำมาในภพชาตินับไม่ถ้วน

    อย่าคิดว่าการทำดีวันนี้
    จะกันภัยได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
    แต่จงรู้ว่า...

    ความดีวันนี้ กำลังสะสม “เขตปลอดภัย” ของตนในวันข้างหน้า
    ---

    🔒 จงเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” ของโลก

    เมื่อรู้ว่าโลกไม่ปลอดภัย
    อย่าไปรอให้คนอื่นหยุดร้าย
    แต่จงเริ่มจาก “เราหยุดร้าย” ให้ได้ก่อน

    รักษาศีล เพื่อไม่เป็นภัยกับใคร

    ให้ทาน เพื่อคลายทุกข์ให้ผู้อื่น

    ปล่อยวาง เพื่อไม่จองเวรต่อกัน
    ---

    🕯️ เมื่อทำดีเป็นนิจ
    ใจจะเห็นความดีในตัวเอง
    มากกว่าจับผิดความเลวของคนอื่น

    คุณจะรู้จักระวังภัย
    โดยไม่เผลอเป็นภัย
    นี่แหละ...คนที่เริ่ม “เป็นแสงสว่าง” ให้โลก
    🌍 โลกที่เต็มไปด้วยคน “ครึ่งดี ครึ่งร้าย” ในโลกนี้... แม้แต่โจร หรือผู้ก่อการร้าย ยังมีมุมดีๆ ให้กับลูกเมีย พวกพ้อง ไม่มีใครร้ายล้วน — ไม่มีใครดีล้วน เราเองก็เช่นกัน --- แต่ถ้ามองโลกด้วยใจระแวง เราจะค่อยๆ เชื่อว่า "ถ้าไม่เป็นเสือ ก็ต้องเป็นเหยื่อ" แล้วพอใครขย้ำเรา เราก็จะอยากขย้ำเขาคืน หรือเผลอขย้ำใครต่อไปอีก… --- 👣 ทางของผู้รู้กรรม ต่อให้คุณทำดีได้เท่าพระพุทธเจ้า ก็ยังต้องเจอ “พระเทวทัต” และ “นางจิญจมาณวิกา” เพราะแม้แต่พระองค์ยังต้องใช้กรรมเก่า ที่เคยทำมาในภพชาตินับไม่ถ้วน อย่าคิดว่าการทำดีวันนี้ จะกันภัยได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จงรู้ว่า... ความดีวันนี้ กำลังสะสม “เขตปลอดภัย” ของตนในวันข้างหน้า --- 🔒 จงเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” ของโลก เมื่อรู้ว่าโลกไม่ปลอดภัย อย่าไปรอให้คนอื่นหยุดร้าย แต่จงเริ่มจาก “เราหยุดร้าย” ให้ได้ก่อน รักษาศีล เพื่อไม่เป็นภัยกับใคร ให้ทาน เพื่อคลายทุกข์ให้ผู้อื่น ปล่อยวาง เพื่อไม่จองเวรต่อกัน --- 🕯️ เมื่อทำดีเป็นนิจ ใจจะเห็นความดีในตัวเอง มากกว่าจับผิดความเลวของคนอื่น คุณจะรู้จักระวังภัย โดยไม่เผลอเป็นภัย นี่แหละ...คนที่เริ่ม “เป็นแสงสว่าง” ให้โลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกกองทัพบกโต้โพสต์ ‘ฮุน เซน’ อ้างศาลาตรีมุขเป็นพื้นที่กัมพูชา ชี้เป็นแค่การกล่าวอ้าง ไม่มีผลเขตแดนจริง มองเป็นเรื่องปกติฝ่ายกัมพูชาอ้างสิทธิ์บางพื้นที่ชายแดน เหตุแต่ละฝ่ายยึดหลักฐานอ้างอิงต่างกัน ย้ำใช้กลไก JBC ระบุเขตแดนตามกฎกติกา-ข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดร่วมกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051408

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    โฆษกกองทัพบกโต้โพสต์ ‘ฮุน เซน’ อ้างศาลาตรีมุขเป็นพื้นที่กัมพูชา ชี้เป็นแค่การกล่าวอ้าง ไม่มีผลเขตแดนจริง มองเป็นเรื่องปกติฝ่ายกัมพูชาอ้างสิทธิ์บางพื้นที่ชายแดน เหตุแต่ละฝ่ายยึดหลักฐานอ้างอิงต่างกัน ย้ำใช้กลไก JBC ระบุเขตแดนตามกฎกติกา-ข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดร่วมกัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051408 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 1 รีวิว
  • ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบเทอร์โมบาริก ของรัสเซีย โจมตีจุดควบคุมและปล่อยโดรนของยูเรน ในพื้นที่ฐานทัพอากาศชูฮุยฟ์ (Chuhuiv Air Base) ภูมิภาคคาร์คิฟ

    การโจมตีครั้งนี้สามารถทำลายเครื่องยิงโดรน 6 เครื่อง รถสนับสนุน 6 คัน และโดรนมากกว่า 30 ลำ
    ขีปนาวุธ Iskander-M ติดหัวรบเทอร์โมบาริก ของรัสเซีย โจมตีจุดควบคุมและปล่อยโดรนของยูเรน ในพื้นที่ฐานทัพอากาศชูฮุยฟ์ (Chuhuiv Air Base) ภูมิภาคคาร์คิฟ การโจมตีครั้งนี้สามารถทำลายเครื่องยิงโดรน 6 เครื่อง รถสนับสนุน 6 คัน และโดรนมากกว่า 30 ลำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซ้อมเสมือนจริง! "ผบ.กกล.บูรพา“ ตรวจความพร้อมรองรับทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมาย รับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051372

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes

    ซ้อมเสมือนจริง! "ผบ.กกล.บูรพา“ ตรวจความพร้อมรองรับทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมาย รับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051372 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘วีระ’ เผยข้อมูลยัน พื้นที่ ‘ช่องบก’ เป็นของไทยแน่นอน
    https://www.thai-tai.tv/news/19104/
    ‘วีระ’ เผยข้อมูลยัน พื้นที่ ‘ช่องบก’ เป็นของไทยแน่นอน https://www.thai-tai.tv/news/19104/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🦋Butterfly bracelet🦋 สร้อยข้อมือเงินแท้ จี้ผีเสื้อ เส้นคู่ ใส่สบาย เป็นมิตรกับผิวค่า🔸 พร้อมส่งงับ🛒

    ✔️ ราคาเส้นละ 350 บาท 🚗 ส่งฟรี

    ขนาด : ความยาว 15+4 cm (โดยประมาณ)

    🔶วัสดุเป็นเงินแท้ 92.5 %

    สั่งซื้อสินค้าหรือสอบถาม
    Line : @373quzdi หรือ Inbox
    หรือ Shop ผ่าน Shopee >>https://shopee.co.th/chana.ni

    🎯มีบริการเก็บเงินปลายทาง ค่าส่ง 45 บาท (ยกเว้น พื้นที่ห่างไกล/พื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษงดบริการเก็บเงินปลายทางชั่วคราว)

    #เครื่องประดับ #ราคาสุดคุ้ม #เกรดพรีเมี่ยม #สร้อยคอ #สร้อยเงินแท้925 #สร้อยข้อมือ #แหวนคู่ #แหวนเงินแท้ #แหวนแฟชั่น
    🦋Butterfly bracelet🦋 สร้อยข้อมือเงินแท้ จี้ผีเสื้อ เส้นคู่ ใส่สบาย เป็นมิตรกับผิวค่า🔸 พร้อมส่งงับ🛒 ✔️ ราคาเส้นละ 350 บาท 🚗 ส่งฟรี ขนาด : ความยาว 15+4 cm (โดยประมาณ) 🔶วัสดุเป็นเงินแท้ 92.5 % สั่งซื้อสินค้าหรือสอบถาม Line : @373quzdi หรือ Inbox หรือ Shop ผ่าน Shopee >>https://shopee.co.th/chana.ni 🎯มีบริการเก็บเงินปลายทาง ค่าส่ง 45 บาท (ยกเว้น พื้นที่ห่างไกล/พื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษงดบริการเก็บเงินปลายทางชั่วคราว) #เครื่องประดับ #ราคาสุดคุ้ม #เกรดพรีเมี่ยม #สร้อยคอ #สร้อยเงินแท้925 #สร้อยข้อมือ #แหวนคู่ #แหวนเงินแท้ #แหวนแฟชั่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวจีน อิหร่าน เคนยา โคลอมเบีย กานา อียิปต์ และบังคลาเทศ เป็นหนึ่งในกองกำลังของกองกำลังผสมที่ 102 ของรัสเซีย ที่ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยพื้นที่ต่างๆในทิศทางโทเรตสค์ (Toretsk)
    ชาวจีน อิหร่าน เคนยา โคลอมเบีย กานา อียิปต์ และบังคลาเทศ เป็นหนึ่งในกองกำลังของกองกำลังผสมที่ 102 ของรัสเซีย ที่ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยพื้นที่ต่างๆในทิศทางโทเรตสค์ (Toretsk)
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษก ทบ. แจงปิดด่านไทย-กัมพูชาเป็นส่วนหนึ่งของแผนเพื่อความมั่นคง-ความปลอดภัยของประชาชน หากสถานการณ์เสี่ยงสูง เช่น อาจมียิงปืนใหญ่ระยะไกล ให้หน่วยงานระดับพื้นที่พิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน โดยภาพรวมสถานการณ์ยังเรียบร้อย มีเพียงบางจุดที่เป็นปัญหาบ้างแต่ยังไม่น่ากังวล

    วันนี้(31 พ.ค.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงภายหลังมีกระแสข่าวไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนวหลังจากมีการปลุกระดมต่อต้านสินค้าไทยว่า การปิดด่านเป็นส่วนหนึ่งของแผนสำหรับใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคงและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด

    ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน

    สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวมส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051129

    #MGROnline #โฆษกกองทัพบก
    โฆษก ทบ. แจงปิดด่านไทย-กัมพูชาเป็นส่วนหนึ่งของแผนเพื่อความมั่นคง-ความปลอดภัยของประชาชน หากสถานการณ์เสี่ยงสูง เช่น อาจมียิงปืนใหญ่ระยะไกล ให้หน่วยงานระดับพื้นที่พิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน โดยภาพรวมสถานการณ์ยังเรียบร้อย มีเพียงบางจุดที่เป็นปัญหาบ้างแต่ยังไม่น่ากังวล • วันนี้(31 พ.ค.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงภายหลังมีกระแสข่าวไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนวหลังจากมีการปลุกระดมต่อต้านสินค้าไทยว่า การปิดด่านเป็นส่วนหนึ่งของแผนสำหรับใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคงและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด • ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน • สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวมส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051129 • #MGROnline #โฆษกกองทัพบก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพว้าใต้ที่มีพื้นที่ติดกับภาคเหนือของไทย นำทหารใหม่ 2,000 นาย เดินสวนสนามแสดงแสนยานุภาพ ในวันเดียวกับที่ทักษิณ ชินวัตร ประกาศกร้าว ขู่จะจัดการว้าแดงด้วยตัวเอง

    วานนี้ (30 พ.ค.) เพจ Wa News Land ที่เป็นกระบอกเสียงของกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา ได้เผยแพร่ภาพพิธีสวนสนามและปฏิญานตนของทหารใหม่ สังกัดเขตทหาร 171 หรือกองทัพว้าใต้ ซึ่งเพิ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปพูดในงานปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ"ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน" ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)

    โดยเนื้อหาในการปาฐกถาวันนั้น นายทักษิณได้กล่าวว่าพื้นที่ของกองทัพว้าในรัฐฉาน ถูกใช้เป็นแหล่งผลิตยาเสพติดหลักที่ส่งเข้ามาขายในประเทศไทย พร้อมขู่ว่าจะเข้าไปจัดการกับกองทัพว้าด้วยตนเอง เพราะถือว่าเป็นศัตรู

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000051097

    #MGROnline #กองทัพว้าใต้

    กองทัพว้าใต้ที่มีพื้นที่ติดกับภาคเหนือของไทย นำทหารใหม่ 2,000 นาย เดินสวนสนามแสดงแสนยานุภาพ ในวันเดียวกับที่ทักษิณ ชินวัตร ประกาศกร้าว ขู่จะจัดการว้าแดงด้วยตัวเอง • วานนี้ (30 พ.ค.) เพจ Wa News Land ที่เป็นกระบอกเสียงของกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา ได้เผยแพร่ภาพพิธีสวนสนามและปฏิญานตนของทหารใหม่ สังกัดเขตทหาร 171 หรือกองทัพว้าใต้ ซึ่งเพิ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปพูดในงานปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ"ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน" ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) • โดยเนื้อหาในการปาฐกถาวันนั้น นายทักษิณได้กล่าวว่าพื้นที่ของกองทัพว้าในรัฐฉาน ถูกใช้เป็นแหล่งผลิตยาเสพติดหลักที่ส่งเข้ามาขายในประเทศไทย พร้อมขู่ว่าจะเข้าไปจัดการกับกองทัพว้าด้วยตนเอง เพราะถือว่าเป็นศัตรู • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000051097 • #MGROnline #กองทัพว้าใต้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง
    ----------------------------
    สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า
    นี่เป็นคำพยากรณ์...
    .
    อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น
    .
    แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น..
    .
    ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน.
    .
    เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
    และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง
    .
    คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง.
    .
    วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า
    .
    สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง..
    .
    ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ
    .
    ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป"..
    .
    งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ.
    .
    กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย.
    .
    ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้..
    .
    แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง
    .
    แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง.
    .
    นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป!
    .
    หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง
    .
    ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค.
    .
    นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต
    นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร?
    .
    ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น..
    .
    หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้.
    .
    แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา
    .
    พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย
    มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
    จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด
    .
    ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา -
    .
    อัพเดทข้อมูลในปี 2566
    --------------------------
    - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ
    - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่
    - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก
    --------------------------
    บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง ---------------------------- สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า นี่เป็นคำพยากรณ์... . อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น . แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น.. . ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน. . เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง . คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง. . วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า . สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง.. . ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ . ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป".. . งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ. . กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย. . ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้.. . แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง . แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง. . นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป! . หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง . ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค. . นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร? . ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น.. . หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้. . แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา . พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด . ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - . อัพเดทข้อมูลในปี 2566 -------------------------- - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่ - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก --------------------------
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • Storyฯ ดูละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ไม่จบ แต่ได้อ่านนิยายและรู้สึกเตะตากับสิ่งที่เรียกว่า “เฉาเป้า” (朝报)
    ความมีอยู่ว่า
    ... สามวันให้หลัง จางเฉิงเจ้ายื่นหนังสือเฉาเป้าให้ข้าพเจ้า พลางเอ่ยอย่างดีใจว่า “องค์ฮ่องเต้ (กวนเจีย) ทรงมีบรมราชานุญาติให้หวางก่งเฉินกลับอิ๋งโจวแล้ว”
    หนังสือเฉาเป้าเป็นหนังสือข่าวที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วน มีการจดบันทึกพระราชโองการล่าสุดขององค์ฮ่องเต้ รวมถึงข่าวสำคัญในพระราชวัง การปรับเปลี่ยนแต่งตั้งโยกย้ายขุนนาง ข่าวสถานการณ์ศึก เป็นต้น หลังจากมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแล้ว จิ้งโจ้วย่วนจึงจัดคัดลอกขึ้นเพื่อประกาศต่อสาธารณะชน โดยส่งมอบให้ข้าราชสำนักหน่วยงานต่างๆ ไว้อ่าน...
    - จากเรื่อง <จองจำเดียวดายในนคร> ผู้แต่ง หมี่หลานเลดี้ (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า)
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    เพื่อนเพจแฟนละครจีนโบราณต้องคุ้นเคยกับประกาศติดบอร์ดให้ชาวบ้านอ่าน เมื่อได้มาอ่านนิยายเรื่องนี้ Storyฯ จึงรู้ว่า จริงๆ แล้วจีนโบราณมีสิ่งที่คล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน ซึ่งก็คือ ‘เฉาเป้า’ นี้เอง

    คำว่า ‘เฉา’ ในที่นี่หมายถึงราชสำนักดังนั้น ‘เฉาเป้า’ จึงเป็นเอกสารที่สรุปย่อข่าวสารจากราชสำนัก โดยมีสาระสำคัญคือพระราชกรณียกิจของฮ่องเต้ ข่าวราชทูต และข่าวอื่นๆ ดังที่กล่าวถึงในบทความจากนิยายข้างต้น หน้าตาคล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบันคือเป็นกระดาษหนึ่งหรือสองแผ่นพับทบเอา

    เรื่อง <วังเดียวดาย> นี้เป็นเรื่องราวในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง Storyฯ จึงเกิดความเอ๊ะว่า เฉาเป้ามีมาตั้งแต่เมื่อใด?

    ‘เฉาเป้า’ แรกปรากฏในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 202 ก่อนคริตสกาลจนถึงค.ศ. 220) เรียกว่า ‘ตี่เป้า’ (邸报) หรือ ‘ตี่เช้า’ (邸抄) เริ่มแรกเขียนบนไม้ไผ่ ต่อมาเมื่อมีการคิดค้นกระดาษแล้วก็เปลี่ยนมาเขียนบนกระดาษ

    จากนั้นมาก็มีใช้กันต่อเนื่องมาตลอดยุคสมัยราชวงศ์ถัง ซ่ง หยวน หมิงและชิง โดยวัตถุประสงค์และเนื้อหาสาระยังคล้ายคลึงเดิม การจัดทำเฉาเป้าสิ้นสุดลงเมื่อปีค.ศ. 1912 เมื่อฮ่องเต้องค์สุดท้ายของจีนทรงสละราชสมบัติ

    ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น การจัดทำตี่เป้าเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน ‘จิ้งโจ้วกวน’ (进奏官) ซึ่งข่าวสารจากแต่ละพื้นที่จะส่งมายังขุนนางตัวแทนพื้นที่ที่ประจำอยู่ในเมืองหลวงก่อนส่งต่อให้จิ้งโจ้วกวนเป็นผู้รวมรวมและเรียบเรียงก่อนจะคัดลอกขึ้นเป็นหลายฉบับด้วยมือ แต่ระบบการจัดทำแบบนี้ต้องผ่านตัวแทนของแต่ละพื้นที่ในเมืองหลวง ทำให้เกิดความไม่สมบูรณ์ของข่าวเมื่อผ่านตัวกลางที่อาจเพิกเฉยต่อข้อมูลที่ได้รับ

    ดังนั้นในรัชสมัยของฮ่องเต้ไท่จง (ฮ่องเต้องค์ที่สองของราชวงศ์ซ่ง) จึงมีการก่อตั้งหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วนขึ้นโดยสังกัด ‘เหมินเซี่ยเสิ่ง’ (หรือ ‘แผนกใต้ประตู’ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบราชการ ตรวจราชโองการและคำสั่งราชการ ถวายความเห็นต่อฮ่องเต้) มีคนในสังกัดตรง จึงรวบรวมข่าวจากทุกพื้นที่โดยตรง ส่วนปริมาณเนื้อหาก็เพิ่มขึ้นโดยรวมถึงบทความถวายฮ่องเต้ที่น่าสนใจ ประกาศชื่นชมหรือตกรางวัลขุนนาง ฯลฯ เดิมเป็นหนังสือประกาศรายเดือน ต่อมาจึงจัดทำเป็นรายวัน

    จิ้งโจ้วย่วนนี้มีหน้าที่รวมรวม ตรวจทานและอนุมัติบทความก่อนที่จะเผยแพร่ ซึ่งก็คือการเซ็นเซอร์โดยรัฐบาลกลางนั่นเอง อะไรบ้างที่โดนเซ็นเซอร์? มีรายละเอียดข้อพิพาทระหว่างรัฐและข่าวสารการศึกที่ลับ ข่าวเกี่ยวกับอาเพศหรือภัยพิบัติในแผ่นดิน ข่าวเกี่ยวกับวังหลังหรือเรื่องส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ และข่าวเกี่ยวกับฎีกาที่ยังไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติ

    ในสมัยซ่งนี้เริ่มมีการใช้ปั๊มพิมพ์แทนการคัดมือและเกิดสิ่งพิมพ์อีกแบบที่ฮ็อตสุดๆ ออกมาวางขาย มีชื่อเรียกว่า ‘เสี่ยวเป้า’ ซึ่งตีพิมพ์เรื่องซุบซิบที่ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์และรัฐบาลกวาดล้างไม่หมด ว่ากันว่าเรื่องบางเรื่องเพิ่งมีมติในที่ประชุมท้องพระโรง ยังไม่ได้รายงานในเฉาเป้า แต่เสี่ยวเป้าก็รายงานจนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว

    ต่อมาเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์หมิงจึงใช้ระบบการจัดพิมพ์เฉาเป้าแบบฝรั่ง และเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์ชิงก็มีการจัดทำเอกสารข่าวของทางการขึ้นเพิ่มอีกหนึ่งฉบับซึ่งมีข้อมูลมากขึ้น เรียกว่า ‘จิงเป้า’ (京报)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.chinadaily.com.cn/a/202005/12/WS5eba135da310a8b241155126_4.html
    https://new.qq.com/omn/20190726/20190726A0A62F00.html
    http://history.sina.com.cn/bk/gds/2014-08-17/182397940.shtml
    http://www.xinhuanet.com/zgjx/2010-10/08/c_13546664.htm
    https://new.qq.com/omn/20201215/20201215A005FX00.html

    #วังเดียวดาย #เฉาเป้า #ตี่เป้า #เสี่ยวเป้า #จิงเป้า #หนังสือพิมพ์จีนโบราณ #จิ้งโจ้วย่วน #จิ้งโจ้วกวน #ราชวงศ์ถัง #ราชวงศ์ซ่ง
    Storyฯ ดูละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ไม่จบ แต่ได้อ่านนิยายและรู้สึกเตะตากับสิ่งที่เรียกว่า “เฉาเป้า” (朝报) ความมีอยู่ว่า ... สามวันให้หลัง จางเฉิงเจ้ายื่นหนังสือเฉาเป้าให้ข้าพเจ้า พลางเอ่ยอย่างดีใจว่า “องค์ฮ่องเต้ (กวนเจีย) ทรงมีบรมราชานุญาติให้หวางก่งเฉินกลับอิ๋งโจวแล้ว” หนังสือเฉาเป้าเป็นหนังสือข่าวที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วน มีการจดบันทึกพระราชโองการล่าสุดขององค์ฮ่องเต้ รวมถึงข่าวสำคัญในพระราชวัง การปรับเปลี่ยนแต่งตั้งโยกย้ายขุนนาง ข่าวสถานการณ์ศึก เป็นต้น หลังจากมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแล้ว จิ้งโจ้วย่วนจึงจัดคัดลอกขึ้นเพื่อประกาศต่อสาธารณะชน โดยส่งมอบให้ข้าราชสำนักหน่วยงานต่างๆ ไว้อ่าน... - จากเรื่อง <จองจำเดียวดายในนคร> ผู้แต่ง หมี่หลานเลดี้ (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) (หมายเหตุ ละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) เพื่อนเพจแฟนละครจีนโบราณต้องคุ้นเคยกับประกาศติดบอร์ดให้ชาวบ้านอ่าน เมื่อได้มาอ่านนิยายเรื่องนี้ Storyฯ จึงรู้ว่า จริงๆ แล้วจีนโบราณมีสิ่งที่คล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน ซึ่งก็คือ ‘เฉาเป้า’ นี้เอง คำว่า ‘เฉา’ ในที่นี่หมายถึงราชสำนักดังนั้น ‘เฉาเป้า’ จึงเป็นเอกสารที่สรุปย่อข่าวสารจากราชสำนัก โดยมีสาระสำคัญคือพระราชกรณียกิจของฮ่องเต้ ข่าวราชทูต และข่าวอื่นๆ ดังที่กล่าวถึงในบทความจากนิยายข้างต้น หน้าตาคล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบันคือเป็นกระดาษหนึ่งหรือสองแผ่นพับทบเอา เรื่อง <วังเดียวดาย> นี้เป็นเรื่องราวในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง Storyฯ จึงเกิดความเอ๊ะว่า เฉาเป้ามีมาตั้งแต่เมื่อใด? ‘เฉาเป้า’ แรกปรากฏในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 202 ก่อนคริตสกาลจนถึงค.ศ. 220) เรียกว่า ‘ตี่เป้า’ (邸报) หรือ ‘ตี่เช้า’ (邸抄) เริ่มแรกเขียนบนไม้ไผ่ ต่อมาเมื่อมีการคิดค้นกระดาษแล้วก็เปลี่ยนมาเขียนบนกระดาษ จากนั้นมาก็มีใช้กันต่อเนื่องมาตลอดยุคสมัยราชวงศ์ถัง ซ่ง หยวน หมิงและชิง โดยวัตถุประสงค์และเนื้อหาสาระยังคล้ายคลึงเดิม การจัดทำเฉาเป้าสิ้นสุดลงเมื่อปีค.ศ. 1912 เมื่อฮ่องเต้องค์สุดท้ายของจีนทรงสละราชสมบัติ ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น การจัดทำตี่เป้าเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน ‘จิ้งโจ้วกวน’ (进奏官) ซึ่งข่าวสารจากแต่ละพื้นที่จะส่งมายังขุนนางตัวแทนพื้นที่ที่ประจำอยู่ในเมืองหลวงก่อนส่งต่อให้จิ้งโจ้วกวนเป็นผู้รวมรวมและเรียบเรียงก่อนจะคัดลอกขึ้นเป็นหลายฉบับด้วยมือ แต่ระบบการจัดทำแบบนี้ต้องผ่านตัวแทนของแต่ละพื้นที่ในเมืองหลวง ทำให้เกิดความไม่สมบูรณ์ของข่าวเมื่อผ่านตัวกลางที่อาจเพิกเฉยต่อข้อมูลที่ได้รับ ดังนั้นในรัชสมัยของฮ่องเต้ไท่จง (ฮ่องเต้องค์ที่สองของราชวงศ์ซ่ง) จึงมีการก่อตั้งหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วนขึ้นโดยสังกัด ‘เหมินเซี่ยเสิ่ง’ (หรือ ‘แผนกใต้ประตู’ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบราชการ ตรวจราชโองการและคำสั่งราชการ ถวายความเห็นต่อฮ่องเต้) มีคนในสังกัดตรง จึงรวบรวมข่าวจากทุกพื้นที่โดยตรง ส่วนปริมาณเนื้อหาก็เพิ่มขึ้นโดยรวมถึงบทความถวายฮ่องเต้ที่น่าสนใจ ประกาศชื่นชมหรือตกรางวัลขุนนาง ฯลฯ เดิมเป็นหนังสือประกาศรายเดือน ต่อมาจึงจัดทำเป็นรายวัน จิ้งโจ้วย่วนนี้มีหน้าที่รวมรวม ตรวจทานและอนุมัติบทความก่อนที่จะเผยแพร่ ซึ่งก็คือการเซ็นเซอร์โดยรัฐบาลกลางนั่นเอง อะไรบ้างที่โดนเซ็นเซอร์? มีรายละเอียดข้อพิพาทระหว่างรัฐและข่าวสารการศึกที่ลับ ข่าวเกี่ยวกับอาเพศหรือภัยพิบัติในแผ่นดิน ข่าวเกี่ยวกับวังหลังหรือเรื่องส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ และข่าวเกี่ยวกับฎีกาที่ยังไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติ ในสมัยซ่งนี้เริ่มมีการใช้ปั๊มพิมพ์แทนการคัดมือและเกิดสิ่งพิมพ์อีกแบบที่ฮ็อตสุดๆ ออกมาวางขาย มีชื่อเรียกว่า ‘เสี่ยวเป้า’ ซึ่งตีพิมพ์เรื่องซุบซิบที่ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์และรัฐบาลกวาดล้างไม่หมด ว่ากันว่าเรื่องบางเรื่องเพิ่งมีมติในที่ประชุมท้องพระโรง ยังไม่ได้รายงานในเฉาเป้า แต่เสี่ยวเป้าก็รายงานจนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ต่อมาเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์หมิงจึงใช้ระบบการจัดพิมพ์เฉาเป้าแบบฝรั่ง และเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์ชิงก็มีการจัดทำเอกสารข่าวของทางการขึ้นเพิ่มอีกหนึ่งฉบับซึ่งมีข้อมูลมากขึ้น เรียกว่า ‘จิงเป้า’ (京报) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.chinadaily.com.cn/a/202005/12/WS5eba135da310a8b241155126_4.html https://new.qq.com/omn/20190726/20190726A0A62F00.html http://history.sina.com.cn/bk/gds/2014-08-17/182397940.shtml http://www.xinhuanet.com/zgjx/2010-10/08/c_13546664.htm https://new.qq.com/omn/20201215/20201215A005FX00.html #วังเดียวดาย #เฉาเป้า #ตี่เป้า #เสี่ยวเป้า #จิงเป้า #หนังสือพิมพ์จีนโบราณ #จิ้งโจ้วย่วน #จิ้งโจ้วกวน #ราชวงศ์ถัง #ราชวงศ์ซ่ง
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบกออกแถลงการณ์ผลหารือระหว่าง ผบ.ทบ.ไทยและ ผบ.ทบ.กัมพูชา ย้ำยึดแนวทางเจรจา บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี บรรลุข้อตกลงทั้งสองฝ่ายถอนกำลังออกจากจุดที่ปะทะ และคงกำลังอยู่ในที่ตั้งเดิม รอผลการประชุม JBC ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายจะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด ผบ.ทบ.กัมพูชารับปากหากผู้ใต้บังคับบัญชาฝ่าฝืนพร้อมย้ายออกจากพื้นที่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000050849

    #MGROnline #ทหารไทย #ทหารกัมพูชา #ช่องบก
    กองทัพบกออกแถลงการณ์ผลหารือระหว่าง ผบ.ทบ.ไทยและ ผบ.ทบ.กัมพูชา ย้ำยึดแนวทางเจรจา บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี บรรลุข้อตกลงทั้งสองฝ่ายถอนกำลังออกจากจุดที่ปะทะ และคงกำลังอยู่ในที่ตั้งเดิม รอผลการประชุม JBC ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายจะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด ผบ.ทบ.กัมพูชารับปากหากผู้ใต้บังคับบัญชาฝ่าฝืนพร้อมย้ายออกจากพื้นที่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000050849 • #MGROnline #ทหารไทย #ทหารกัมพูชา #ช่องบก
    Haha
    Angry
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบกออกแถลงการณ์ผลหารือระหว่าง ผบ.ทบ.ไทยและ ผบ.ทบ.กัมพูชา ย้ำยึดแนวทางเจรจา บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี บรรลุข้อตกลงทั้งสองฝ่ายถอนกำลังออกจากจุดที่ปะทะ และคงกำลังอยู่ในที่ตั้งเดิม รอผลการประชุม JBC ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายจะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด ผบ.ทบ.กัมพูชารับปากหากผู้ใต้บังคับบัญชาฝ่าฝืนพร้อมย้ายออกจากพื้นที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050849

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กองทัพบกออกแถลงการณ์ผลหารือระหว่าง ผบ.ทบ.ไทยและ ผบ.ทบ.กัมพูชา ย้ำยึดแนวทางเจรจา บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี บรรลุข้อตกลงทั้งสองฝ่ายถอนกำลังออกจากจุดที่ปะทะ และคงกำลังอยู่ในที่ตั้งเดิม รอผลการประชุม JBC ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายจะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด ผบ.ทบ.กัมพูชารับปากหากผู้ใต้บังคับบัญชาฝ่าฝืนพร้อมย้ายออกจากพื้นที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050849 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 570 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราชจัดแถลงข่าวความพร้อมการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 “โคราชเกมส์”
    .
    นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าวเตรียมความพร้อมการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 “โคราชเกมส์” ร่วมกับ นายมงคล วิมลรัตน์ อธิบดีกรมพลศึกษา, นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายแพทย์ชยพล สุขโต รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, พ.ต.อ. อดิศร สุวรรณรักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา,
    นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาจังหวัดนครราชสีมา, ผู้บริหารห้างทั้ง 3 ห้าง แขกผู้มีเกียรติ, และบรรดานักกีฬาจังหวัดทั่วประเทศ
    .
    นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า "ตามที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับเกียรติจากกรมพลศึกษาให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาและ นันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 ซึ่งได้กำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 17 - 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ต้องขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมพลศึกษาที่ได้ไว้วางในให้จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ครับ ทราบว่านักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้มากที่สุดที่เคยทำการแข่งขันมาในทุกๆ ปี จำนวนกว่า 6,500 คน ยังไม่รวมผู้ติดตาม คณะกรรมการดำเนินการ และ คณะกรรมการตัดสินจากต่างจังหวัด กระผมคิดว่าจะมีผู้มาเยือนในจังหวัดไม่ต่ำกว่าหมื่นคน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้คิดหารือประชุมร่วมกันเพื่อเตรียมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ ครับ คําขวัญ ของจังหวัดนครราชสีมา “เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน” จังหวัดนครราชสีมา เมืองประตูสู่อีสานดินแดนอารยธรรมขอมโบราณแห่งอีสานใต้ และจังหวัด นครราชสีมา ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมือง 3 มงกุฎของยูเนสโก ประกอบด้วย
    1. มรดกโลกป่าดงพญาเย็น เขาใหญ่
    2. พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช
    3. โคราชจีโอพาร์ค พื้นที่ลุ่มน้ำลำตาคลอง ซึ่งมีภูมิประเทศเขาเควสตา (เขารูปอีโต้) และฟอสซิล 3 ยุค
    และล่าสุด จังหวัดนครราชสีมา ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก “มหกรรมพืชสวนโลก” หรือ KORAT Expo 2029”
    .
    "จังหวัดนครราชสีมา ยังมีความโดดเด่นในด้านกีฬา ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาในหลาย รายการหลายรูปแบบตามบริบทของชนิดกีฬา ซึ่งการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ทราบว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นเจ้าภาพ (เป็นเจ้าภาพครั้งที่ 7 เมื่อปี 2557) จากประสบการณ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้เล็งเห็นถึงการที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุในครั้งนี้ ที่เข้ามาทำการแข่งขัน ซึ่งเป็นกลุ่มอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จึงได้คิดดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาที่แข่งขันฯ ในร่ม ให้จัดการแข่งขันขึ้นบนห้างชั้นนํา 3 ห้าง นั้นก็คือ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช / ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช และศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช ซึ่ง 3 ห้างนี้ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์จัดการแข่งขันกีฬาในระดับใหญ่ๆมาแล้วทั้งสิ้น อีกทั้งให้ความ อนุเคราะห์ร่วมมือกับงานของจังหวัดนครราชสีมา ด้วยดีเสมอมาตลอด จึงอยากให้ทุกท่านได้สัมผัสกับบรรยาการการ แข่งขันในห้าง และในฮอลล์ ของห้างทั้ง 3 ห้าง ที่มีความพร้อมทั้งห้องน้ำ อาหารการกิน ของฝากของที่ระลึก มีสินค้า มากมายให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกชม สำหรับสนามที่ทำการแข่งขันกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬา 80 พรรษาฯ สนามกีฬากอล์ฟเสือปาคร์ ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ สนามกีฬาไดร์กอล์ฟ บชร.๒ ค่ายสุรนารี และสนามกีฬากลาง ค่ายสุรนารี ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ประชุมหารือเตรียมพร้อมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้เป็นอย่างดี ซึ่งท่านท่องเที่ยวและกีฬาจะชี้แจงในรายละเอียดต่อไป และช่วงภาคบ่ายที่จะประชุมผู้ประสานงานทุกจังหวัด นอกจากนี้ การจัดการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ ทางจังหวัดนครราชสีมา ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนนึงจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ในพิธีเปิดปิด และการแข่งขันฯ รวมถึงความพร้อมด้านการแพทย์และพยาบาล ความปลอดภัยและการจราจร และแผนการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา ได้รับความร่วมมือการมีส่วนร่วมทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกับทางจังหวัดนครราชสีมา ในการจัดการแข่งขันฯ ครั้งนี้"
    .
    "จังหวัดนครราชสีมา พร้อมแล้วที่จะจัดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17ประจำปี 2568 “โคราชเกมส์” ระหว่างวันที่ 17 – 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญ ชวนทุกท่านที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา มาร่วมชม รวมเชียร์ และให้กำลังใจนักกีฬาผู้สูงอายุจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ แล้วพบกันครับ"
    .
    นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า "ตามที่จังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา เป็นฝ่ายเลขานุการดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 17 - 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นรายการแข่งขันในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยจะทำการแข่งขันฯ ทั้งสิ้น 11 ชนิดกีฬา ได้แก่ 1) กรีฑา 2) กีฬากอล์ฟ 3) กีฬาเปตอง 4) กีฬาวู้ดบอล 5) กีฬาหมากรุกไทย 6) กีฬาตะกร้อวงเตะทน/กีฬาเซปักตะกร้อ 7) กีฬาแบดมินตัน 8) กีฬาลีลาศ 9) กีฬาเกทบอล 10) การประกวดแอโรบิกมวยไทย และ 11) การประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ โดยได้กำหนดสนามแข่งขันฯ 7 แห่ง ดังนี้
    1. ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช แข่งขันกีฬาตะกร้อวงเตะทน/กีฬาเซปักตะกร้อ
    2. ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช แข่งขันกีฬาแบดมินตัน กีฬาหมากรุกไทย และกีฬาลีลาศ
    3. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช แข่งขันฯ ประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ และประกวดแอโรบิกมวยไทย
    4. สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา แข่งขันกีฬากรีฑา และกีฬาเปตอง
    5. สนามกีฬากอล์ฟเสือปาร์ค (ค่ายสุรธรรมพิทักษ์) แข่งขันกีฬากอล์ฟ
    6. สนามกีฬากลางค่ายสุรนารี แข่งขันกีฬาเกทบอล
    7. สนามกีฬาไดร์กอล์ฟ บชร.๒ (ค่ายสุรนารี) แข่งขันกีฬาวู้ดบอล"
    .
    "ซึ่งสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกับกรมพลศึกษา และเจ้าของสถานที่ และบุคลากรฝ่ายเทคนิคการแข่งขันฯ ไม่ว่าจะเป็นสมาคม ชมรมกีฬา คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ ต่างๆ และเจ้าหน้าที่พลศึกษา ได้ประชุมหารือและตรวจความพร้อมสถานที่ในการจัดทำสนามแข่งขันฯเพื่อรองรับทัพ นักกีฬาที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันฯ เพื่อให้เกิดความพร้อมและมาตรฐานทั้งสนามและการจัดการแข่งขันฯ"
    .
    "สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ได้ตั้งกองประสานงานส่วนกลางอยู่ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลโคราช ชั้น 1 เพื่อประสานงานข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในการแข่งขันฯ รวมไปถึงให้บริการข้อมูลในการจัดการ แข่งขันฯ สถานที่ท่องเที่ยว และตั้งศูนย์ประสานงานนักท่องเที่ยว ไว้บริการ รวมไปถึงประสานงานกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันฯ ในครั้งนี้"
    โคราชจัดแถลงข่าวความพร้อมการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 “โคราชเกมส์” . นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าวเตรียมความพร้อมการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 “โคราชเกมส์” ร่วมกับ นายมงคล วิมลรัตน์ อธิบดีกรมพลศึกษา, นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายแพทย์ชยพล สุขโต รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, พ.ต.อ. อดิศร สุวรรณรักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาจังหวัดนครราชสีมา, ผู้บริหารห้างทั้ง 3 ห้าง แขกผู้มีเกียรติ, และบรรดานักกีฬาจังหวัดทั่วประเทศ . นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า "ตามที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับเกียรติจากกรมพลศึกษาให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาและ นันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 ซึ่งได้กำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 17 - 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ต้องขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมพลศึกษาที่ได้ไว้วางในให้จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ครับ ทราบว่านักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้มากที่สุดที่เคยทำการแข่งขันมาในทุกๆ ปี จำนวนกว่า 6,500 คน ยังไม่รวมผู้ติดตาม คณะกรรมการดำเนินการ และ คณะกรรมการตัดสินจากต่างจังหวัด กระผมคิดว่าจะมีผู้มาเยือนในจังหวัดไม่ต่ำกว่าหมื่นคน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้คิดหารือประชุมร่วมกันเพื่อเตรียมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ ครับ คําขวัญ ของจังหวัดนครราชสีมา “เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน” จังหวัดนครราชสีมา เมืองประตูสู่อีสานดินแดนอารยธรรมขอมโบราณแห่งอีสานใต้ และจังหวัด นครราชสีมา ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมือง 3 มงกุฎของยูเนสโก ประกอบด้วย 1. มรดกโลกป่าดงพญาเย็น เขาใหญ่ 2. พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช 3. โคราชจีโอพาร์ค พื้นที่ลุ่มน้ำลำตาคลอง ซึ่งมีภูมิประเทศเขาเควสตา (เขารูปอีโต้) และฟอสซิล 3 ยุค และล่าสุด จังหวัดนครราชสีมา ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก “มหกรรมพืชสวนโลก” หรือ KORAT Expo 2029” . "จังหวัดนครราชสีมา ยังมีความโดดเด่นในด้านกีฬา ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาในหลาย รายการหลายรูปแบบตามบริบทของชนิดกีฬา ซึ่งการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ทราบว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นเจ้าภาพ (เป็นเจ้าภาพครั้งที่ 7 เมื่อปี 2557) จากประสบการณ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้เล็งเห็นถึงการที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุในครั้งนี้ ที่เข้ามาทำการแข่งขัน ซึ่งเป็นกลุ่มอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จึงได้คิดดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาที่แข่งขันฯ ในร่ม ให้จัดการแข่งขันขึ้นบนห้างชั้นนํา 3 ห้าง นั้นก็คือ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช / ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช และศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช ซึ่ง 3 ห้างนี้ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์จัดการแข่งขันกีฬาในระดับใหญ่ๆมาแล้วทั้งสิ้น อีกทั้งให้ความ อนุเคราะห์ร่วมมือกับงานของจังหวัดนครราชสีมา ด้วยดีเสมอมาตลอด จึงอยากให้ทุกท่านได้สัมผัสกับบรรยาการการ แข่งขันในห้าง และในฮอลล์ ของห้างทั้ง 3 ห้าง ที่มีความพร้อมทั้งห้องน้ำ อาหารการกิน ของฝากของที่ระลึก มีสินค้า มากมายให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกชม สำหรับสนามที่ทำการแข่งขันกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬา 80 พรรษาฯ สนามกีฬากอล์ฟเสือปาคร์ ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ สนามกีฬาไดร์กอล์ฟ บชร.๒ ค่ายสุรนารี และสนามกีฬากลาง ค่ายสุรนารี ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ประชุมหารือเตรียมพร้อมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้เป็นอย่างดี ซึ่งท่านท่องเที่ยวและกีฬาจะชี้แจงในรายละเอียดต่อไป และช่วงภาคบ่ายที่จะประชุมผู้ประสานงานทุกจังหวัด นอกจากนี้ การจัดการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ ทางจังหวัดนครราชสีมา ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนนึงจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ในพิธีเปิดปิด และการแข่งขันฯ รวมถึงความพร้อมด้านการแพทย์และพยาบาล ความปลอดภัยและการจราจร และแผนการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา ได้รับความร่วมมือการมีส่วนร่วมทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกับทางจังหวัดนครราชสีมา ในการจัดการแข่งขันฯ ครั้งนี้" . "จังหวัดนครราชสีมา พร้อมแล้วที่จะจัดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17ประจำปี 2568 “โคราชเกมส์” ระหว่างวันที่ 17 – 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญ ชวนทุกท่านที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา มาร่วมชม รวมเชียร์ และให้กำลังใจนักกีฬาผู้สูงอายุจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ แล้วพบกันครับ" . นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า "ตามที่จังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา เป็นฝ่ายเลขานุการดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 17 - 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นรายการแข่งขันในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยจะทำการแข่งขันฯ ทั้งสิ้น 11 ชนิดกีฬา ได้แก่ 1) กรีฑา 2) กีฬากอล์ฟ 3) กีฬาเปตอง 4) กีฬาวู้ดบอล 5) กีฬาหมากรุกไทย 6) กีฬาตะกร้อวงเตะทน/กีฬาเซปักตะกร้อ 7) กีฬาแบดมินตัน 8) กีฬาลีลาศ 9) กีฬาเกทบอล 10) การประกวดแอโรบิกมวยไทย และ 11) การประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ โดยได้กำหนดสนามแข่งขันฯ 7 แห่ง ดังนี้ 1. ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช แข่งขันกีฬาตะกร้อวงเตะทน/กีฬาเซปักตะกร้อ 2. ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช แข่งขันกีฬาแบดมินตัน กีฬาหมากรุกไทย และกีฬาลีลาศ 3. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช แข่งขันฯ ประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ และประกวดแอโรบิกมวยไทย 4. สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา แข่งขันกีฬากรีฑา และกีฬาเปตอง 5. สนามกีฬากอล์ฟเสือปาร์ค (ค่ายสุรธรรมพิทักษ์) แข่งขันกีฬากอล์ฟ 6. สนามกีฬากลางค่ายสุรนารี แข่งขันกีฬาเกทบอล 7. สนามกีฬาไดร์กอล์ฟ บชร.๒ (ค่ายสุรนารี) แข่งขันกีฬาวู้ดบอล" . "ซึ่งสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกับกรมพลศึกษา และเจ้าของสถานที่ และบุคลากรฝ่ายเทคนิคการแข่งขันฯ ไม่ว่าจะเป็นสมาคม ชมรมกีฬา คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ ต่างๆ และเจ้าหน้าที่พลศึกษา ได้ประชุมหารือและตรวจความพร้อมสถานที่ในการจัดทำสนามแข่งขันฯเพื่อรองรับทัพ นักกีฬาที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันฯ เพื่อให้เกิดความพร้อมและมาตรฐานทั้งสนามและการจัดการแข่งขันฯ" . "สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ได้ตั้งกองประสานงานส่วนกลางอยู่ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลโคราช ชั้น 1 เพื่อประสานงานข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในการแข่งขันฯ รวมไปถึงให้บริการข้อมูลในการจัดการ แข่งขันฯ สถานที่ท่องเที่ยว และตั้งศูนย์ประสานงานนักท่องเที่ยว ไว้บริการ รวมไปถึงประสานงานกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันฯ ในครั้งนี้"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราชจัดแถลงข่าวความพร้อมการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๑๗ ประจำปี ๒๕๖๘ “โคราชเกมส์”

    นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าวเตรียมความพร้อมการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 “โคราชเกมส์” ร่วมกับ นายมงคล วิมลรัตน์ อธิบดีกรมพลศึกษา, นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายแพทย์ชยพล สุขโต รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, พ.ต.อ. อดิศร สุวรรณรักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา,
    นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาจังหวัดนครราชสีมา, นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา, ผู้บริหารห้างทั้ง 3 ห้าง แขกผู้มีเกียรติ, และบรรดานักกีฬาจังหวัดทั่วประเทศ
    .
    นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า "ตามที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับเกียรติจากกรมพลศึกษาให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาและ นันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 ซึ่งได้กำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 17 - 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ต้องขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมพลศึกษาที่ได้ไว้วางในให้จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ครับ ทราบว่านักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้มากที่สุดที่เคยทำการแข่งขันมาในทุกๆ ปี จำนวนกว่า 6,500 คน ยังไม่รวมผู้ติดตาม คณะกรรมการดำเนินการ และ คณะกรรมการตัดสินจากต่างจังหวัด กระผมคิดว่าจะมีผู้มาเยือนในจังหวัดไม่ต่ำกว่าหมื่นคน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้คิดหารือประชุมร่วมกันเพื่อเตรียมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ ครับ คําขวัญ ของจังหวัดนครราชสีมา “เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน” จังหวัดนครราชสีมา เมืองประตูสู่อีสานดินแดนอารยธรรมขอมโบราณแห่งอีสานใต้ และจังหวัด นครราชสีมา ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมือง 3 มงกุฎของยูเนสโก ประกอบด้วย
    1. มรดกโลกป่าดงพญาเย็น เขาใหญ่
    2. พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช
    3. โคราชจีโอพาร์ค พื้นที่ลุ่มน้ำลำตาคลอง ซึ่งมีภูมิประเทศเขาเควสตา (เขารูปอีโต้) และฟอสซิล 3 ยุค
    และล่าสุด จังหวัดนครราชสีมา ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก “มหกรรมพืชสวนโลก” หรือ KORAT Expo 2029”
    .
    "จังหวัดนครราชสีมา ยังมีความโดดเด่นในด้านกีฬา ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาในหลาย รายการหลายรูปแบบตามบริบทของชนิดกีฬา ซึ่งการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ทราบว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นเจ้าภาพ (เป็นเจ้าภาพครั้งที่ 7 เมื่อปี 2557) จากประสบการณ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้เล็งเห็นถึงการที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุในครั้งนี้ ที่เข้ามาทำการแข่งขัน ซึ่งเป็นกลุ่มอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จึงได้คิดดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาที่แข่งขันฯ ในร่ม ให้จัดการแข่งขันขึ้นบนห้างชั้นนํา 3 ห้าง นั้นก็คือ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช / ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช และศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช ซึ่ง 3 ห้างนี้ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์จัดการแข่งขันกีฬาในระดับใหญ่ๆมาแล้วทั้งสิ้น อีกทั้งให้ความ อนุเคราะห์ร่วมมือกับงานของจังหวัดนครราชสีมา ด้วยดีเสมอมาตลอด จึงอยากให้ทุกท่านได้สัมผัสกับบรรยาการการ แข่งขันในห้าง และในฮอลล์ ของห้างทั้ง 3 ห้าง ที่มีความพร้อมทั้งห้องน้ำ อาหารการกิน ของฝากของที่ระลึก มีสินค้า มากมายให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกชม สำหรับสนามที่ทำการแข่งขันกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬา 80 พรรษาฯ สนามกีฬากอล์ฟเสือปาคร์ ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ สนามกีฬาไดร์กอล์ฟ บชร.๒ ค่ายสุรนารี และสนามกีฬากลาง ค่ายสุรนารี ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ประชุมหารือเตรียมพร้อมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้เป็นอย่างดี ซึ่งท่านท่องเที่ยวและกีฬาจะชี้แจงในรายละเอียดต่อไป และช่วงภาคบ่ายที่จะประชุมผู้ประสานงานทุกจังหวัด นอกจากนี้ การจัดการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ ทางจังหวัดนครราชสีมา ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนนึงจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ในพิธีเปิดปิด และการแข่งขันฯ รวมถึงความพร้อมด้านการแพทย์และพยาบาล ความปลอดภัยและการจราจร และแผนการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา ได้รับความร่วมมือการมีส่วนร่วมทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกับทางจังหวัดนครราชสีมา ในการจัดการแข่งขันฯ ครั้งนี้"
    .
    "จังหวัดนครราชสีมา พร้อมแล้วที่จะจัดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17ประจำปี 2568 “โคราชเกมส์” ระหว่างวันที่ 17 – 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญ ชวนทุกท่านที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา มาร่วมชม รวมเชียร์ และให้กำลังใจนักกีฬาผู้สูงอายุจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ แล้วพบกันครับ"
    .
    นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า "ตามที่จังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา เป็นฝ่ายเลขานุการดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 17 - 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นรายการแข่งขันในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยจะทำการแข่งขันฯ ทั้งสิ้น 11 ชนิดกีฬา ได้แก่ 1) กรีฑา 2) กีฬากอล์ฟ 3) กีฬาเปตอง 4) กีฬาวู้ดบอล 5) กีฬาหมากรุกไทย 6) กีฬาตะกร้อวงเตะทน/กีฬาเซปักตะกร้อ 7) กีฬาแบดมินตัน 8) กีฬาลีลาศ 9) กีฬาเกทบอล 10) การประกวดแอโรบิกมวยไทย และ 11) การประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ โดยได้กำหนดสนามแข่งขันฯ 7 แห่ง ดังนี้
    1. ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช แข่งขันกีฬาตะกร้อวงเตะทน/กีฬาเซปักตะกร้อ
    2. ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช แข่งขันกีฬาแบดมินตัน กีฬาหมากรุกไทย และกีฬาลีลาศ
    3. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช แข่งขันฯ ประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ และประกวดแอโรบิกมวยไทย
    4. สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา แข่งขันกีฬากรีฑา และกีฬาเปตอง
    5. สนามกีฬากอล์ฟเสือปาร์ค (ค่ายสุรธรรมพิทักษ์) แข่งขันกีฬากอล์ฟ
    6. สนามกีฬากลางค่ายสุรนารี แข่งขันกีฬาเกทบอล
    7. สนามกีฬาไดร์กอล์ฟ บชร.๒ (ค่ายสุรนารี) แข่งขันกีฬาวู้ดบอล"
    .
    "ซึ่งสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกับกรมพลศึกษา และเจ้าของสถานที่ และบุคลากรฝ่ายเทคนิคการแข่งขันฯ ไม่ว่าจะเป็นสมาคม ชมรมกีฬา คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ ต่างๆ และเจ้าหน้าที่พลศึกษา ได้ประชุมหารือและตรวจความพร้อมสถานที่ในการจัดทำสนามแข่งขันฯเพื่อรองรับทัพ นักกีฬาที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันฯ เพื่อให้เกิดความพร้อมและมาตรฐานทั้งสนามและการจัดการแข่งขันฯ"
    .
    "สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ได้ตั้งกองประสานงานส่วนกลางอยู่ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลโคราช ชั้น 1 เพื่อประสานงานข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในการแข่งขันฯ รวมไปถึงให้บริการข้อมูลในการจัดการ แข่งขันฯ สถานที่ท่องเที่ยว และตั้งศูนย์ประสานงานนักท่องเที่ยว ไว้บริการ รวมไปถึงประสานงานกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันฯ ในครั้งนี้"
    โคราชจัดแถลงข่าวความพร้อมการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๑๗ ประจำปี ๒๕๖๘ “โคราชเกมส์” นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าวเตรียมความพร้อมการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 “โคราชเกมส์” ร่วมกับ นายมงคล วิมลรัตน์ อธิบดีกรมพลศึกษา, นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายแพทย์ชยพล สุขโต รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, พ.ต.อ. อดิศร สุวรรณรักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาจังหวัดนครราชสีมา, นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา, ผู้บริหารห้างทั้ง 3 ห้าง แขกผู้มีเกียรติ, และบรรดานักกีฬาจังหวัดทั่วประเทศ . นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า "ตามที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับเกียรติจากกรมพลศึกษาให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาและ นันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 ซึ่งได้กำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 17 - 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ต้องขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมพลศึกษาที่ได้ไว้วางในให้จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ครับ ทราบว่านักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้มากที่สุดที่เคยทำการแข่งขันมาในทุกๆ ปี จำนวนกว่า 6,500 คน ยังไม่รวมผู้ติดตาม คณะกรรมการดำเนินการ และ คณะกรรมการตัดสินจากต่างจังหวัด กระผมคิดว่าจะมีผู้มาเยือนในจังหวัดไม่ต่ำกว่าหมื่นคน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้คิดหารือประชุมร่วมกันเพื่อเตรียมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ ครับ คําขวัญ ของจังหวัดนครราชสีมา “เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน” จังหวัดนครราชสีมา เมืองประตูสู่อีสานดินแดนอารยธรรมขอมโบราณแห่งอีสานใต้ และจังหวัด นครราชสีมา ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมือง 3 มงกุฎของยูเนสโก ประกอบด้วย 1. มรดกโลกป่าดงพญาเย็น เขาใหญ่ 2. พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช 3. โคราชจีโอพาร์ค พื้นที่ลุ่มน้ำลำตาคลอง ซึ่งมีภูมิประเทศเขาเควสตา (เขารูปอีโต้) และฟอสซิล 3 ยุค และล่าสุด จังหวัดนครราชสีมา ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก “มหกรรมพืชสวนโลก” หรือ KORAT Expo 2029” . "จังหวัดนครราชสีมา ยังมีความโดดเด่นในด้านกีฬา ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาในหลาย รายการหลายรูปแบบตามบริบทของชนิดกีฬา ซึ่งการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ทราบว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นเจ้าภาพ (เป็นเจ้าภาพครั้งที่ 7 เมื่อปี 2557) จากประสบการณ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้เล็งเห็นถึงการที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุในครั้งนี้ ที่เข้ามาทำการแข่งขัน ซึ่งเป็นกลุ่มอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จึงได้คิดดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาที่แข่งขันฯ ในร่ม ให้จัดการแข่งขันขึ้นบนห้างชั้นนํา 3 ห้าง นั้นก็คือ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช / ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช และศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช ซึ่ง 3 ห้างนี้ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์จัดการแข่งขันกีฬาในระดับใหญ่ๆมาแล้วทั้งสิ้น อีกทั้งให้ความ อนุเคราะห์ร่วมมือกับงานของจังหวัดนครราชสีมา ด้วยดีเสมอมาตลอด จึงอยากให้ทุกท่านได้สัมผัสกับบรรยาการการ แข่งขันในห้าง และในฮอลล์ ของห้างทั้ง 3 ห้าง ที่มีความพร้อมทั้งห้องน้ำ อาหารการกิน ของฝากของที่ระลึก มีสินค้า มากมายให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกชม สำหรับสนามที่ทำการแข่งขันกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬา 80 พรรษาฯ สนามกีฬากอล์ฟเสือปาคร์ ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ สนามกีฬาไดร์กอล์ฟ บชร.๒ ค่ายสุรนารี และสนามกีฬากลาง ค่ายสุรนารี ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ประชุมหารือเตรียมพร้อมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้เป็นอย่างดี ซึ่งท่านท่องเที่ยวและกีฬาจะชี้แจงในรายละเอียดต่อไป และช่วงภาคบ่ายที่จะประชุมผู้ประสานงานทุกจังหวัด นอกจากนี้ การจัดการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ ทางจังหวัดนครราชสีมา ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนนึงจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ในพิธีเปิดปิด และการแข่งขันฯ รวมถึงความพร้อมด้านการแพทย์และพยาบาล ความปลอดภัยและการจราจร และแผนการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา ได้รับความร่วมมือการมีส่วนร่วมทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกับทางจังหวัดนครราชสีมา ในการจัดการแข่งขันฯ ครั้งนี้" . "จังหวัดนครราชสีมา พร้อมแล้วที่จะจัดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17ประจำปี 2568 “โคราชเกมส์” ระหว่างวันที่ 17 – 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญ ชวนทุกท่านที่จะเดินทางมาจากต่างจังหวัด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา มาร่วมชม รวมเชียร์ และให้กำลังใจนักกีฬาผู้สูงอายุจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ แล้วพบกันครับ" . นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า "ตามที่จังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา เป็นฝ่ายเลขานุการดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 17 - 21 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นรายการแข่งขันในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยจะทำการแข่งขันฯ ทั้งสิ้น 11 ชนิดกีฬา ได้แก่ 1) กรีฑา 2) กีฬากอล์ฟ 3) กีฬาเปตอง 4) กีฬาวู้ดบอล 5) กีฬาหมากรุกไทย 6) กีฬาตะกร้อวงเตะทน/กีฬาเซปักตะกร้อ 7) กีฬาแบดมินตัน 8) กีฬาลีลาศ 9) กีฬาเกทบอล 10) การประกวดแอโรบิกมวยไทย และ 11) การประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ โดยได้กำหนดสนามแข่งขันฯ 7 แห่ง ดังนี้ 1. ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช แข่งขันกีฬาตะกร้อวงเตะทน/กีฬาเซปักตะกร้อ 2. ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช แข่งขันกีฬาแบดมินตัน กีฬาหมากรุกไทย และกีฬาลีลาศ 3. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช แข่งขันฯ ประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ และประกวดแอโรบิกมวยไทย 4. สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา แข่งขันกีฬากรีฑา และกีฬาเปตอง 5. สนามกีฬากอล์ฟเสือปาร์ค (ค่ายสุรธรรมพิทักษ์) แข่งขันกีฬากอล์ฟ 6. สนามกีฬากลางค่ายสุรนารี แข่งขันกีฬาเกทบอล 7. สนามกีฬาไดร์กอล์ฟ บชร.๒ (ค่ายสุรนารี) แข่งขันกีฬาวู้ดบอล" . "ซึ่งสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกับกรมพลศึกษา และเจ้าของสถานที่ และบุคลากรฝ่ายเทคนิคการแข่งขันฯ ไม่ว่าจะเป็นสมาคม ชมรมกีฬา คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ ต่างๆ และเจ้าหน้าที่พลศึกษา ได้ประชุมหารือและตรวจความพร้อมสถานที่ในการจัดทำสนามแข่งขันฯเพื่อรองรับทัพ นักกีฬาที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันฯ เพื่อให้เกิดความพร้อมและมาตรฐานทั้งสนามและการจัดการแข่งขันฯ" . "สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ได้ตั้งกองประสานงานส่วนกลางอยู่ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลโคราช ชั้น 1 เพื่อประสานงานข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในการแข่งขันฯ รวมไปถึงให้บริการข้อมูลในการจัดการ แข่งขันฯ สถานที่ท่องเที่ยว และตั้งศูนย์ประสานงานนักท่องเที่ยว ไว้บริการ รวมไปถึงประสานงานกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันฯ ในครั้งนี้"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts