• "การเมืองโรมาเนียเพิ่มระดับความวุ่ยวายขึ้นไปอีก!!"

    ศาลอุทธรณ์ในเมืองโปลเยสตี มีคำตัดสินยกเลิก คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งโรมาเนียในการยกเลิกการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว!!!

    ผู้พิพากษาอเล็กซานดรู วาสิเล (Alexandru Vasile) แห่งศาลอุทธรณ์เมืองโปลเยสตี มีคำสั่งสั่งระงับการบังคับใช้คำตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งศาลอุทธรณ์ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

    ในคำประกาศของศาลอุทธรณ์ระบุว่า “ระงับการบังคับใช้คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีขั้นสุดท้าย โดยการยอมรับการยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำตัดสินดังกล่าวจากศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024”

    จากประกาศของศาลอุทธรณ์ ทำให้เกิดกระแสการพูดถึงอย่างมากมายในโซเชียลของโรมาเนีย ถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ "คาลิน จอร์เจสคู" กลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สองต่อไป

    ศาลอุทธรณ์ให้เวลา 5 วัน ในการยื่นเรื่องคัดค้านคำตัดสินนี้

    ทางด้านสื่อของโรมาเนีย รายงานว่า เหตุผลของคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการยกเลิกการเลือกตั้ง หลังจากได้ให้การรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนนั้นแล้ว

    นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถพิสูจหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาผู้สมัครที่ได้รับชัยชนะ จนนำไปสู่การตัดสินระงับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเอกสารหลักฐานต่างๆในการอ้างอิงเพื่อระงับการเลือกตั้ง จะต้องได้รับการพิจารณาโดยฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่โดยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความคลางแคลงใจในกระบวนการพิจรณาดังกล่าว

    จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ออกมา การเมืองโรมาเนียจะไปในทิศทางใด และ Calin Georgescu ซึ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก จะได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกหรือไม่
    "การเมืองโรมาเนียเพิ่มระดับความวุ่ยวายขึ้นไปอีก!!" ศาลอุทธรณ์ในเมืองโปลเยสตี มีคำตัดสินยกเลิก คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งโรมาเนียในการยกเลิกการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว!!! ผู้พิพากษาอเล็กซานดรู วาสิเล (Alexandru Vasile) แห่งศาลอุทธรณ์เมืองโปลเยสตี มีคำสั่งสั่งระงับการบังคับใช้คำตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งศาลอุทธรณ์ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ในคำประกาศของศาลอุทธรณ์ระบุว่า “ระงับการบังคับใช้คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีขั้นสุดท้าย โดยการยอมรับการยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำตัดสินดังกล่าวจากศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024” จากประกาศของศาลอุทธรณ์ ทำให้เกิดกระแสการพูดถึงอย่างมากมายในโซเชียลของโรมาเนีย ถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ "คาลิน จอร์เจสคู" กลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สองต่อไป ศาลอุทธรณ์ให้เวลา 5 วัน ในการยื่นเรื่องคัดค้านคำตัดสินนี้ ทางด้านสื่อของโรมาเนีย รายงานว่า เหตุผลของคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการยกเลิกการเลือกตั้ง หลังจากได้ให้การรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนนั้นแล้ว นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถพิสูจหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาผู้สมัครที่ได้รับชัยชนะ จนนำไปสู่การตัดสินระงับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเอกสารหลักฐานต่างๆในการอ้างอิงเพื่อระงับการเลือกตั้ง จะต้องได้รับการพิจารณาโดยฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่โดยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความคลางแคลงใจในกระบวนการพิจรณาดังกล่าว จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ออกมา การเมืองโรมาเนียจะไปในทิศทางใด และ Calin Georgescu ซึ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก จะได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกหรือไม่
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • 78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅

    เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า?

    เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥

    เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก

    "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ"

    “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี

    😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5”

    ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน

    แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨

    ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป

    สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน

    🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️

    “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ”

    🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน

    เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ

    “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ”

    🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง

    จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน”

    สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา

    📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก...

    ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌

    แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล”

    😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร

    “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้

    เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ

    🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร

    🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ

    🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่...

    เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า”

    คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓

    ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ?

    ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง?

    ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว?

    🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ
    แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี

    เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568

    📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅 เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า? เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥 เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ" “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี 😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5” ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨 ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน 🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️ “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ” 🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ” 🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน” สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา 📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก... ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌ แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล” 😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้ เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ 🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร 🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ 🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่... เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า” คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ? ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง? ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว? 🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568 📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างจีนและปากีสถานในการสร้างระบบเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตที่คล้ายกับ Great Firewall ของจีน โดยโครงการนี้เริ่มต้นมานานเกือบหนึ่งปี และมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มระดับการเซ็นเซอร์และการเฝ้าระวังในปากีสถาน ระบบนี้สามารถบล็อกเว็บไซต์ต่างประเทศส่วนใหญ่ และยังมีความสามารถในการบล็อก VPN ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ชาวปากีสถานใช้เพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ถูกบล็อก เช่น X (Twitter)

    แม้ว่ารัฐบาลปากีสถานจะอ้างว่าระบบนี้จะถูกใช้เพื่อปกป้องจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงกลยุทธ์ แต่ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าระบบนี้อาจถูกใช้เพื่อควบคุมการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต

    ✅ ความร่วมมือระหว่างจีนและปากีสถาน
    - จีนช่วยปากีสถานสร้างระบบเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตที่คล้ายกับ Great Firewall
    - โครงการนี้เริ่มต้นมานานเกือบหนึ่งปี

    ✅ ความสามารถของระบบ
    - สามารถบล็อกเว็บไซต์ต่างประเทศส่วนใหญ่
    - มีความสามารถในการบล็อก VPN

    ✅ เป้าหมายของโครงการ
    - รัฐบาลปากีสถานอ้างว่าระบบนี้จะถูกใช้เพื่อปกป้องจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงกลยุทธ์

    ✅ ผลกระทบต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปากีสถาน
    - ชาวปากีสถานไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น X (Twitter) ได้โดยไม่ใช้ VPN

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/china-is-helping-pakistan-build-a-great-firewall-like-internet-censorship-system-heres-what-you-need-to-know
    ข่าวนี้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างจีนและปากีสถานในการสร้างระบบเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตที่คล้ายกับ Great Firewall ของจีน โดยโครงการนี้เริ่มต้นมานานเกือบหนึ่งปี และมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มระดับการเซ็นเซอร์และการเฝ้าระวังในปากีสถาน ระบบนี้สามารถบล็อกเว็บไซต์ต่างประเทศส่วนใหญ่ และยังมีความสามารถในการบล็อก VPN ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ชาวปากีสถานใช้เพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ถูกบล็อก เช่น X (Twitter) แม้ว่ารัฐบาลปากีสถานจะอ้างว่าระบบนี้จะถูกใช้เพื่อปกป้องจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงกลยุทธ์ แต่ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าระบบนี้อาจถูกใช้เพื่อควบคุมการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต ✅ ความร่วมมือระหว่างจีนและปากีสถาน - จีนช่วยปากีสถานสร้างระบบเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตที่คล้ายกับ Great Firewall - โครงการนี้เริ่มต้นมานานเกือบหนึ่งปี ✅ ความสามารถของระบบ - สามารถบล็อกเว็บไซต์ต่างประเทศส่วนใหญ่ - มีความสามารถในการบล็อก VPN ✅ เป้าหมายของโครงการ - รัฐบาลปากีสถานอ้างว่าระบบนี้จะถูกใช้เพื่อปกป้องจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงกลยุทธ์ ✅ ผลกระทบต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปากีสถาน - ชาวปากีสถานไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น X (Twitter) ได้โดยไม่ใช้ VPN https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/china-is-helping-pakistan-build-a-great-firewall-like-internet-censorship-system-heres-what-you-need-to-know
    WWW.TECHRADAR.COM
    China is helping Pakistan build a Great Firewall-like internet censorship system – here's what you need to know
    Huawei is among several Chinese companies involved in the almost one-year-long project
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • ด่วน!
    มีรายงานกองกำลังอินเดียและปากีสถานปะทะกันในหุบเขาลีปา (Leepa valley) รัฐแคชเมียร์ ยังไม่ชัดเจนว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน

    หลายฝ่ายคาดหวังว่าการปะทะกันครั้งนี้คงไม่ลุกลามใหญ่โตจนกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค

    ระลึกไว้เสมอว่า "ทั้งสองประเทศเป็นมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์"

    ด่วน! มีรายงานกองกำลังอินเดียและปากีสถานปะทะกันในหุบเขาลีปา (Leepa valley) รัฐแคชเมียร์ ยังไม่ชัดเจนว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน หลายฝ่ายคาดหวังว่าการปะทะกันครั้งนี้คงไม่ลุกลามใหญ่โตจนกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค ระลึกไว้เสมอว่า "ทั้งสองประเทศเป็นมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์"
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • ..ฝ่ายมืดต้องครอบครองก็ว่า,อเมริกาใช้มุกฆ่าซัดดัมก็เพื่อปล้นสิ่งนี้คือตัวหลัก และชาติอื่นๆด้วยหากพวกมันพบเจอหรือรู้ว่ามี.

    ..มีประตูมิติอยู่มากมายทั่วโลก อารยธรรมโบราณไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์และไม่จำเป็นต้องทำลายธรรมชาติเพื่อเปิดทางให้กับถนน พวกเขามักใช้ยานพาหนะแม่เหล็กไฟฟ้าและประตูมิติในการเดินทางระหว่างเมือง เมืองใหญ่ทุกเมืองมีประตูมิติ นี่คือสาเหตุที่นักโบราณคดีและประวัติศาสตร์ไม่ทราบว่าเมืองโบราณเหล่านี้สร้างขึ้นบนยอดเขาได้อย่างไร เนื่องจากไม่พบถนน มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ไม่อาจขนขึ้นภูเขาได้แม้แต่ตามมาตรฐานในปัจจุบัน โดยใช้เครนและเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากมีน้ำหนักมากและภูเขามีความลาดชันมาก ประตูมิติถูกพบทั่วโลกและส่วนใหญ่ถูกทำลายเนื่องจากปรสิตไม่ทราบวิธีเปิดใช้งานประตูมิติ ประตูมิติหลายแห่งยังพบในตะวันออกกลาง ในภูมิภาคอิรัก อัฟกานิสถาน ซีเรีย ลิเบีย และอียิปต์ 🍿🐸🇺🇸
    ..ฝ่ายมืดต้องครอบครองก็ว่า,อเมริกาใช้มุกฆ่าซัดดัมก็เพื่อปล้นสิ่งนี้คือตัวหลัก และชาติอื่นๆด้วยหากพวกมันพบเจอหรือรู้ว่ามี. ..มีประตูมิติอยู่มากมายทั่วโลก อารยธรรมโบราณไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์และไม่จำเป็นต้องทำลายธรรมชาติเพื่อเปิดทางให้กับถนน พวกเขามักใช้ยานพาหนะแม่เหล็กไฟฟ้าและประตูมิติในการเดินทางระหว่างเมือง เมืองใหญ่ทุกเมืองมีประตูมิติ นี่คือสาเหตุที่นักโบราณคดีและประวัติศาสตร์ไม่ทราบว่าเมืองโบราณเหล่านี้สร้างขึ้นบนยอดเขาได้อย่างไร เนื่องจากไม่พบถนน มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ไม่อาจขนขึ้นภูเขาได้แม้แต่ตามมาตรฐานในปัจจุบัน โดยใช้เครนและเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากมีน้ำหนักมากและภูเขามีความลาดชันมาก ประตูมิติถูกพบทั่วโลกและส่วนใหญ่ถูกทำลายเนื่องจากปรสิตไม่ทราบวิธีเปิดใช้งานประตูมิติ ประตูมิติหลายแห่งยังพบในตะวันออกกลาง ในภูมิภาคอิรัก อัฟกานิสถาน ซีเรีย ลิเบีย และอียิปต์ 🍿🐸🇺🇸
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • บ้างก็ว่าพวกโคลน
    ..บ้างก็ว่าพวกดูดเลือดคือกินดื่มเลือดมนุษย์โดยเฉพาะอะดริโนโครมจากเด็กๆ,ในอเมริกาและทั่วโลกโดยเฉพาะสวนสนุกไอ้เม้าส์ๆนั้นล่ะ เด็กหายตรึมเพื่อลักพาตัวไปทำอะดริโนโครม ฝ่ายแสงจึงฆ่าทิ้งเหล่าดาราวูดๆในอเมริกาตรึมและไล่ล่าสังหารพวกนี้ทั่วโลก,ดาราไทยแดกอะดริโนโครมตรึมเช่นกัน ไม่แก่ไม่เฒ่าก็ว่า ขาดแดกแก่ชราเหี่ยวทันที.
    ..และหรือพวกเดินทางข้ามเวลามา.,นักท่องเวลาก็ได้ในสายสาขาภาระกิจหน้างานมันๆที่รับอาสามา,ปั่นป่วนโลกในจังหวะเวลาต่างๆ.,มันมีเทคโนโลยีล้ำกว่าเรามานานแล้วก็ว่า.
    บ้างก็ว่าพวกโคลน ..บ้างก็ว่าพวกดูดเลือดคือกินดื่มเลือดมนุษย์โดยเฉพาะอะดริโนโครมจากเด็กๆ,ในอเมริกาและทั่วโลกโดยเฉพาะสวนสนุกไอ้เม้าส์ๆนั้นล่ะ เด็กหายตรึมเพื่อลักพาตัวไปทำอะดริโนโครม ฝ่ายแสงจึงฆ่าทิ้งเหล่าดาราวูดๆในอเมริกาตรึมและไล่ล่าสังหารพวกนี้ทั่วโลก,ดาราไทยแดกอะดริโนโครมตรึมเช่นกัน ไม่แก่ไม่เฒ่าก็ว่า ขาดแดกแก่ชราเหี่ยวทันที. ..และหรือพวกเดินทางข้ามเวลามา.,นักท่องเวลาก็ได้ในสายสาขาภาระกิจหน้างานมันๆที่รับอาสามา,ปั่นป่วนโลกในจังหวะเวลาต่างๆ.,มันมีเทคโนโลยีล้ำกว่าเรามานานแล้วก็ว่า.
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 0 Reviews
  • ..นักการเมืองและข้าราชการ&เจ้าสัวในไทยมีตรึมล่ะ ,ใครมีรูปสมุนขี้ข้าฝ่ายมืด ร่วมกันโพสต์แจ้งบอกกันได้,สัญลักษณ์พวกเดอะแก๊งลัทธิตาเดียวซาตานต่างๆ.,หรือdeep stateข้ามชาติ.
    ..นักการเมืองและข้าราชการ&เจ้าสัวในไทยมีตรึมล่ะ ,ใครมีรูปสมุนขี้ข้าฝ่ายมืด ร่วมกันโพสต์แจ้งบอกกันได้,สัญลักษณ์พวกเดอะแก๊งลัทธิตาเดียวซาตานต่างๆ.,หรือdeep stateข้ามชาติ.
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • ..สัญลักษณ์ทำมือลักษณะนี้คล้ายรูปหัวใจ ปลายมือชี้ลง สไตล์พวกฝ่ายแสงฝ่ายดีที่มิใช่ฝ่ายมืด,ฟ้าเราช่วงสีจิ้นผิงมาเยือนล่าสุดก็ทำสัญลักษณ์ลักษณะนี้ระหว่างพูดคุยสนทนากันออกสื่อทั่วไทย.จึงมั่นใจได้ว่าประเทศไทยเราคือชุมชนคนฝ่ายแสงเป็นส่วนใหญ่.
    ..นี้คือวิถีภาวะผู้นำผิวโลกเพื่อปลดปล่อยชาวโลกจากฝ่ายมืดยึดครองมาอย่างยาวนาน,ถ้ามโนไม่ผิดไปจากนี้นะ,และทั้งหมดคือค่าจริง555
    ..สัญลักษณ์ทำมือลักษณะนี้คล้ายรูปหัวใจ ปลายมือชี้ลง สไตล์พวกฝ่ายแสงฝ่ายดีที่มิใช่ฝ่ายมืด,ฟ้าเราช่วงสีจิ้นผิงมาเยือนล่าสุดก็ทำสัญลักษณ์ลักษณะนี้ระหว่างพูดคุยสนทนากันออกสื่อทั่วไทย.จึงมั่นใจได้ว่าประเทศไทยเราคือชุมชนคนฝ่ายแสงเป็นส่วนใหญ่. ..นี้คือวิถีภาวะผู้นำผิวโลกเพื่อปลดปล่อยชาวโลกจากฝ่ายมืดยึดครองมาอย่างยาวนาน,ถ้ามโนไม่ผิดไปจากนี้นะ,และทั้งหมดคือค่าจริง555
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานที่มีอาวุธนิวเคลียร์ท้ังคู่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังเหตุก่อการร้ายในแค้วนแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย


    👉 ปากีสถานประกาศ 'เขตห้ามบิน' (NO-FLY ZONE) บริเวณที่เรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดียจอดลอยลำอยู่ นอกจากนี้ยังเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก

    ทางด้านอินเดียทะยอยออกมาตรการตอบโต้ปากีสถานดังต่อไปนี้:
    👉ระงับการดำเนินการตามสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960)
    👉ยกเลิกวีซ่าทั้งหมดของชาวปากีสถาน ส่งผลให้พลเมืองปากีสถานต้องออกจากอินเดียภายใน 48 ชั่วโมง
    👉ที่ปรึกษาฝ่ายกลาโหม ทหาร กองทัพเรือ และอากาศของสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานถูกสั่งให้ออกจากประเทศ
    👉สั่งปิดสถานทูตปากีสถาน
    👉สั่งปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border)
    👉นายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย ประกาศจะตามล่าและล้างแค้นการกระทำครั้งนี้ให้ถึงที่สุด

    สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานที่มีอาวุธนิวเคลียร์ท้ังคู่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังเหตุก่อการร้ายในแค้วนแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย 👉 ปากีสถานประกาศ 'เขตห้ามบิน' (NO-FLY ZONE) บริเวณที่เรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดียจอดลอยลำอยู่ นอกจากนี้ยังเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ทางด้านอินเดียทะยอยออกมาตรการตอบโต้ปากีสถานดังต่อไปนี้: 👉ระงับการดำเนินการตามสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960) 👉ยกเลิกวีซ่าทั้งหมดของชาวปากีสถาน ส่งผลให้พลเมืองปากีสถานต้องออกจากอินเดียภายใน 48 ชั่วโมง 👉ที่ปรึกษาฝ่ายกลาโหม ทหาร กองทัพเรือ และอากาศของสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานถูกสั่งให้ออกจากประเทศ 👉สั่งปิดสถานทูตปากีสถาน 👉สั่งปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border) 👉นายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย ประกาศจะตามล่าและล้างแค้นการกระทำครั้งนี้ให้ถึงที่สุด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • สตง.แถลงการณ์ยืนยันทำตามขั้นตอน !?! “สตง. ชี้แจงการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ ทำตามขั้นตอนกม.และระเบียบราชการ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ออกเอกสารชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารสัญญา (กรณีการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ (Core Lift) บางจุด และการแก้ไขสัญญา) หลังมีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ (Core Lift) ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของอาคารและอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้อาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 สตง. ชี้แจงว่า ในการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ สตง. ได้ทำสัญญาว่าจ้างผู้รับจ้างออกแบบ คือ กิจการร่วมค้า บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด และ ผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด) มีผู้รับจ้างควบคุมงาน คือ กิจการร่วมค้า PKW บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ จำกัด ซึ่งกรณีการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์บางจุดเกิดขึ้นในช่วงการบริหารสัญญาระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยผู้รับจ้างก่อสร้างพบว่าแบบงานโครงสร้างขัดกับแบบงานสถาปัตยกรรมภายใน กล่าวคือ ขนาดของผนังปล่องลิฟต์บริเวณทางเดินเมื่อรวมกับวัสดุตกแต่งตามแบบ ทำให้ทางเดินมีความกว้างไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 สตง. จึงทำตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ดังนี้ 1.ผู้รับจ้างก่อสร้างมีหน้าที่โดยตรงตามสัญญาที่ต้องดำเนินการก่อสร้างให้ถูกต้องตามข้อกำหนดและเงื่อนไขสัญญารวมทั้งเอกสารแนบท้ายสัญญา (แบบรูปและรายการละเอียด ฯลฯ) โดยผู้รับจ้างก่อสร้างรับรองว่า ได้ตรวจสอบและทำความเข้าใจแบบรูปและรายการละเอียด ซึ่งในกรณีดังกล่าวผู้รับจ้างก่อสร้างพบว่าแบบงานโครงสร้างขัดกับงานสถาปัตยกรรมภายใน จึงได้สอบถาม/ขอความเห็นไปยังผู้รับจ้างควบคุมงาน 2.ผู้รับจ้างควบคุมงานในฐานะตัวแทนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีหนังสือ (Request For Information: RFI) เพื่อสอบถาม/ขอความเห็นไปยังผู้รับจ้างออกแบบ ซึ่งทั้งผู้รับจ้างออกแบบและผู้รับจ้าง ควบคุมงานเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมตามสัญญาจ้าง 3.ผู้รับจ้างออกแบบให้ความเห็นตามหนังสือ (RFI) โดยกำหนดรายละเอียดการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ จากความหนา 0.30 เมตร เป็น 0.25 เมตร บริเวณด้านทางเดินและเพิ่มปริมาณเหล็กเสริมให้มั่นคงแข็งแรงตามหลักการทางวิศวกรรม พร้อมจัดทำรายการคำนวณและลงนามรับรอง เพื่อให้ความกว้างช่องทางเดินถูกต้องตามกฎหมายกำหนด (กฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522) และสอดคล้องกับรูปแบบงานสถาปัตยกรรมภายใน แล้วส่งกลับมายังผู้รับจ้างควบคุมงาน 4.ผู้รับจ้างควบคุมงานแจ้งรายละเอียดการปรับแก้ของผู้รับจ้างออกแบบเพื่อให้ผู้รับจ้างก่อสร้างดำเนินการจัดทำแบบขยายสำหรับการก่อสร้างตามความเห็นของผู้รับจ้างออกแบบ โดยผู้รับจ้างควบคุมงานได้ตรวจสอบความถูกต้องและส่งให้ผู้รับจ้างออกแบบพิจารณาและรับรองความถูกต้องของแบบที่จัดทำแล้วส่งกลับมายังผู้รับจ้างควบคุมงาน ทั้งนี้ ผู้รับจ้างควบคุมงานโดยวุฒิวิศวกรได้ตรวจสอบและลงนามรับรองอีกครั้ง ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 165 วรรคสอง ซึ่งผู้รับจ้างก่อสร้างได้เสนอราคารายการงานที่เปลี่ยนแปลงโดยมีราคาลดลงเป็นจำนวนเงิน 515,195.36 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และเสนอขอแก้ไขวงเงินในสัญญาจ้างตามจำนวนเงินดังกล่าว โดยผู้รับจ้างควบคุมงานตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องตามที่ผู้รับจ้างก่อสร้างเสนอ และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา 5.ผู้รับจ้างควบคุมงานรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดข้างต้นเสนอมายังคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้างเพื่อพิจารณาให้ความเห็น 6.คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้างเสนอความเห็นต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในฐานะผู้ว่าจ้างเพื่อพิจารณาอนุมัติการแก้ไขสัญญา ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 97 และมาตรา 100 ประกอบระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 165 7.ผู้ว่า สตง. เสนอคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการโดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพัน ตามระเบียบ สตง. ว่าด้วยการงบประมาณ พ.ศ. 2564 ข้อ 20 (1) 8.คู่สัญญาลงนามการแก้ไขสัญญาจ้างก่อสร้าง โดยนำแบบรูปและรายการละเอียดที่แก้ไขเพื่อเป็นเอกสารอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
    สตง.แถลงการณ์ยืนยันทำตามขั้นตอน !?! “สตง. ชี้แจงการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ ทำตามขั้นตอนกม.และระเบียบราชการ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ออกเอกสารชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารสัญญา (กรณีการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ (Core Lift) บางจุด และการแก้ไขสัญญา) หลังมีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ (Core Lift) ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของอาคารและอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้อาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 สตง. ชี้แจงว่า ในการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ สตง. ได้ทำสัญญาว่าจ้างผู้รับจ้างออกแบบ คือ กิจการร่วมค้า บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด และ ผู้รับจ้างก่อสร้าง คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด) มีผู้รับจ้างควบคุมงาน คือ กิจการร่วมค้า PKW บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ จำกัด ซึ่งกรณีการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์บางจุดเกิดขึ้นในช่วงการบริหารสัญญาระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยผู้รับจ้างก่อสร้างพบว่าแบบงานโครงสร้างขัดกับแบบงานสถาปัตยกรรมภายใน กล่าวคือ ขนาดของผนังปล่องลิฟต์บริเวณทางเดินเมื่อรวมกับวัสดุตกแต่งตามแบบ ทำให้ทางเดินมีความกว้างไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 สตง. จึงทำตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ดังนี้ 1.ผู้รับจ้างก่อสร้างมีหน้าที่โดยตรงตามสัญญาที่ต้องดำเนินการก่อสร้างให้ถูกต้องตามข้อกำหนดและเงื่อนไขสัญญารวมทั้งเอกสารแนบท้ายสัญญา (แบบรูปและรายการละเอียด ฯลฯ) โดยผู้รับจ้างก่อสร้างรับรองว่า ได้ตรวจสอบและทำความเข้าใจแบบรูปและรายการละเอียด ซึ่งในกรณีดังกล่าวผู้รับจ้างก่อสร้างพบว่าแบบงานโครงสร้างขัดกับงานสถาปัตยกรรมภายใน จึงได้สอบถาม/ขอความเห็นไปยังผู้รับจ้างควบคุมงาน 2.ผู้รับจ้างควบคุมงานในฐานะตัวแทนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีหนังสือ (Request For Information: RFI) เพื่อสอบถาม/ขอความเห็นไปยังผู้รับจ้างออกแบบ ซึ่งทั้งผู้รับจ้างออกแบบและผู้รับจ้าง ควบคุมงานเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมตามสัญญาจ้าง 3.ผู้รับจ้างออกแบบให้ความเห็นตามหนังสือ (RFI) โดยกำหนดรายละเอียดการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์ จากความหนา 0.30 เมตร เป็น 0.25 เมตร บริเวณด้านทางเดินและเพิ่มปริมาณเหล็กเสริมให้มั่นคงแข็งแรงตามหลักการทางวิศวกรรม พร้อมจัดทำรายการคำนวณและลงนามรับรอง เพื่อให้ความกว้างช่องทางเดินถูกต้องตามกฎหมายกำหนด (กฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522) และสอดคล้องกับรูปแบบงานสถาปัตยกรรมภายใน แล้วส่งกลับมายังผู้รับจ้างควบคุมงาน 4.ผู้รับจ้างควบคุมงานแจ้งรายละเอียดการปรับแก้ของผู้รับจ้างออกแบบเพื่อให้ผู้รับจ้างก่อสร้างดำเนินการจัดทำแบบขยายสำหรับการก่อสร้างตามความเห็นของผู้รับจ้างออกแบบ โดยผู้รับจ้างควบคุมงานได้ตรวจสอบความถูกต้องและส่งให้ผู้รับจ้างออกแบบพิจารณาและรับรองความถูกต้องของแบบที่จัดทำแล้วส่งกลับมายังผู้รับจ้างควบคุมงาน ทั้งนี้ ผู้รับจ้างควบคุมงานโดยวุฒิวิศวกรได้ตรวจสอบและลงนามรับรองอีกครั้ง ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 165 วรรคสอง ซึ่งผู้รับจ้างก่อสร้างได้เสนอราคารายการงานที่เปลี่ยนแปลงโดยมีราคาลดลงเป็นจำนวนเงิน 515,195.36 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และเสนอขอแก้ไขวงเงินในสัญญาจ้างตามจำนวนเงินดังกล่าว โดยผู้รับจ้างควบคุมงานตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องตามที่ผู้รับจ้างก่อสร้างเสนอ และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา 5.ผู้รับจ้างควบคุมงานรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดข้างต้นเสนอมายังคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้างเพื่อพิจารณาให้ความเห็น 6.คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้างเสนอความเห็นต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินในฐานะผู้ว่าจ้างเพื่อพิจารณาอนุมัติการแก้ไขสัญญา ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 97 และมาตรา 100 ประกอบระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 165 7.ผู้ว่า สตง. เสนอคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของรายการโดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพัน ตามระเบียบ สตง. ว่าด้วยการงบประมาณ พ.ศ. 2564 ข้อ 20 (1) 8.คู่สัญญาลงนามการแก้ไขสัญญาจ้างก่อสร้าง โดยนำแบบรูปและรายการละเอียดที่แก้ไขเพื่อเป็นเอกสารอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
    Sad
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • รอไม่ได้! : [News story]

    รอไม่ได้! ขี่จยย.ฝ่าไม้กั้นทางรถไฟ ผัวรอด เมียซ้อนท้ายชนไม้กันกระแทกหน้าเจ็บ
    รอไม่ได้! : [News story] รอไม่ได้! ขี่จยย.ฝ่าไม้กั้นทางรถไฟ ผัวรอด เมียซ้อนท้ายชนไม้กันกระแทกหน้าเจ็บ
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 1 Shares 439 Views 16 0 Reviews
  • 63 ปี "ครูรวม วงศ์พันธ์" จากลูกชาวนา สู่เป้าประหารชีวิต “คอมมิวนิสต์” คนแรกของไทย 🔥

    ย้อนไปสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ยังคงสะเทือนใจคนรุ่นหลัง “ครูรวม วงศ์พันธ์” ครูผู้ใฝ่รู้ ผู้กลายเป็นนักโทษคอมมิวนิสต์คนแรกที่ถูกยิงเป้า ประหารชีวิตตามคำสั่งมาตรา 17 ของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

    🟦 จากลูกชาวนาแห่งสุพรรณบุรี สู่ผู้ต้องหาคดีคอมมิวนิสต์คนแรกของไทย ที่ถูกประหารชีวิต เรื่องราวสะท้อนยุคสมัย ที่อุดมการณ์นำมาสู่ชะตากรรม อันน่าเศร้า

    🔶 ช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย ในยุคสงครามเย็น มีบุคคลหนึ่งที่ชื่อ “รวม วงศ์พันธ์” ถูกจารึกไว้ว่าเป็น “ผู้กระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์” คนแรกที่ถูกประหารชีวิต ตามกฎหมายมาตรา 17 ของธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรปี พ.ศ. 2502 ✍️

    จะพาย้อนกลับไป 63 ปี ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาทั้งชีวิตของครูรวม เบื้องหลังคำสั่งประหาร และบริบทของการเมืองไทยยุคนั้น 🕯️

    🟤 จากลูกชาวนา...สู่ครูใหญ่โรงเรียนจีน 👨‍🏫 “รวม วงศ์พันธ์” เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2465 ที่บ้านมะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรชายของนายอยู่ และนางไร มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เติบโตในครอบครัวชาวนาธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความใฝ่เรียน 📚

    เรียนหนังสือจากโรงเรียนวัดเล็กๆ ใกล้บ้าน ต่อมาได้เข้าเรียนโรงเรียนชื่อดังในกรุงเทพฯ อย่างสวนกุหลาบวิทยาลัย และพาณิชยการพระนคร ก่อนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในยุคนั้น ถือเป็นแหล่งเพาะบ่มความคิดเสรี ของนักศึกษาไทย 🇹🇭

    ความรักในการเรียน รักในการสอน ครูรวมเริ่มต้นอาชีพครูในโรงเรียนจีน “กวงกงสวย” ก่อนก้าวขึ้นเป็นครูใหญ่ฝ่ายไทย เป็นที่เคารพรักของนักเรียน และครูร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้แต่งงานกับ "ครูประดิษฐ์ สุทธิจิตร์" คู่ชีวิตผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ในชีวิตอุดมการณ์ 💞

    🟥 สถานการณ์โลกกับภัยคอมมิวนิสต์ 🌍 ช่วงปี 2460–2500 โลกกำลังเผชิญกับ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อรัสเซียกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ จีนถูกยึดครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ นำโดย "เหมา เจ๋อตง" และในหลายประเทศอุดมการณ์นี้แผ่ขยายเข้าสู่ สังคมชนบทและแรงงาน 🛠️

    ความกลัวในสายตารัฐ ประเทศไทยในยุคนั้น อยู่ภายใต้ความตื่นกลัวต่อภัย “แดง” หรือภัยคอมมิวนิสต์จากต่างประเทศ รัฐบาลในหลายยุค รวมถึงยุคของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" จึงเลือกใช้มาตรการเด็ดขาด เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ⛔

    🟩 แม้รัฐจะมีกฎหมายควบคุมแนวคิดคอมมิวนิสต์ มาตั้งแต่ปี 2476 แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการแพร่กระจายได้ โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นแรงงาน ชาวนา และครู ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าถึง ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยตรง 👩‍🌾

    ครูรวมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เชื่อ ในอุดมการณ์ความเท่าเทียม และใช้วิธีการพูดคุย แบ่งปันความรู้กับชาวบ้านในชนบท รวมถึงสร้าง “ไร่รวม” ที่กาญจนบุรี เพื่อเป็นโรงเรียนการเมืองอย่างลับๆ 🏕️

    🟦 การจับกุม คำพิพากษา และคำสั่งประหาร ⚖️ ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลจับกุมครูรวม จากการสืบสวน และคำให้การของพยานร่วมกลุ่ม กล่าวหาว่า เป็นผู้นำเครือข่ายคอมมิวนิสต์ ลอบรับคำสั่งจากต่างชาติ และพยายามล้มล้างสถาบันชาติ

    จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจตาม “มาตรา 17” สั่งให้ประหารชีวิตทันที โดยไม่ต้องขึ้นศาล ⛓️

    🕕 ค่ำวันอังคารที่ 24 เมษายน 2505 เวลา 18.00 น. ที่เรือนจำกลางบางขวาง ครูรวมถูกยิงเป้าจนเสียชีวิต นับเป็นครั้งแรก ที่มีการประหารผู้ต้องหาคอมมิวนิสต์ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭⚰️

    🟨 วิเคราะห์คดีครูรวม ในบริบทสังคมไทย “ฮีโร่” หรือ “กบฏ”? กรณีของครูรวม สะท้อนถึงยุคสมัยที่ “ความเชื่อ” อาจถูกตีความว่าเป็น “ภัย” การกระทำของครูรวมในสายตารัฐ เป็นอันตรายต่อความมั่นคง แต่ในสายตาของชาวบ้าน และนักศึกษาในยุคต่อมา คือผู้จุดประกายความคิด เพื่อเสรีภาพ 🕊️

    🟪 มรดกแห่งความทรงจำ กว่า 33 ปีหลังการประหาร ศพของครูรวมเพิ่งถูกพบ ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม โดยไร้ป้ายบอกชื่อ เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายคำถาม ที่สะท้อนว่า... เรื่องราวนี้ อาจไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร ❗

    แม้จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ชื่อของ “ครูรวม วงศ์พันธ์” ยังคงเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นใหม่ ที่เชื่อในอุดมการณ์ เสรีภาพ และความเสมอภาค

    🧭 ครูรวมไม่ใช่แค่ครูธรรมดา แต่เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอย่างแน่วแน่ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต

    ✊ แม้ถูกประหารในฐานะ “คอมมิวนิสต์” แต่ยังคงเป็น “ครูของประชาชน” ในความทรงจำของผู้คนมากมาย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241115 เม.ย. 2568

    🔖 #ครูรวมวงศ์พันธ์ #คอมมิวนิสต์ไทย #คดีประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์การเมืองไทย #มาตรา17 #ยุคสงครามเย็น #การศึกษากับอุดมการณ์ #ครูไทยในอดีต #ประหารชีวิต #วีรบุรุษประชาชน
    63 ปี "ครูรวม วงศ์พันธ์" จากลูกชาวนา สู่เป้าประหารชีวิต “คอมมิวนิสต์” คนแรกของไทย 🔥 ย้อนไปสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ยังคงสะเทือนใจคนรุ่นหลัง “ครูรวม วงศ์พันธ์” ครูผู้ใฝ่รู้ ผู้กลายเป็นนักโทษคอมมิวนิสต์คนแรกที่ถูกยิงเป้า ประหารชีวิตตามคำสั่งมาตรา 17 ของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ 🟦 จากลูกชาวนาแห่งสุพรรณบุรี สู่ผู้ต้องหาคดีคอมมิวนิสต์คนแรกของไทย ที่ถูกประหารชีวิต เรื่องราวสะท้อนยุคสมัย ที่อุดมการณ์นำมาสู่ชะตากรรม อันน่าเศร้า 🔶 ช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย ในยุคสงครามเย็น มีบุคคลหนึ่งที่ชื่อ “รวม วงศ์พันธ์” ถูกจารึกไว้ว่าเป็น “ผู้กระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์” คนแรกที่ถูกประหารชีวิต ตามกฎหมายมาตรา 17 ของธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรปี พ.ศ. 2502 ✍️ จะพาย้อนกลับไป 63 ปี ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาทั้งชีวิตของครูรวม เบื้องหลังคำสั่งประหาร และบริบทของการเมืองไทยยุคนั้น 🕯️ 🟤 จากลูกชาวนา...สู่ครูใหญ่โรงเรียนจีน 👨‍🏫 “รวม วงศ์พันธ์” เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2465 ที่บ้านมะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรชายของนายอยู่ และนางไร มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เติบโตในครอบครัวชาวนาธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความใฝ่เรียน 📚 เรียนหนังสือจากโรงเรียนวัดเล็กๆ ใกล้บ้าน ต่อมาได้เข้าเรียนโรงเรียนชื่อดังในกรุงเทพฯ อย่างสวนกุหลาบวิทยาลัย และพาณิชยการพระนคร ก่อนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในยุคนั้น ถือเป็นแหล่งเพาะบ่มความคิดเสรี ของนักศึกษาไทย 🇹🇭 ความรักในการเรียน รักในการสอน ครูรวมเริ่มต้นอาชีพครูในโรงเรียนจีน “กวงกงสวย” ก่อนก้าวขึ้นเป็นครูใหญ่ฝ่ายไทย เป็นที่เคารพรักของนักเรียน และครูร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้แต่งงานกับ "ครูประดิษฐ์ สุทธิจิตร์" คู่ชีวิตผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ในชีวิตอุดมการณ์ 💞 🟥 สถานการณ์โลกกับภัยคอมมิวนิสต์ 🌍 ช่วงปี 2460–2500 โลกกำลังเผชิญกับ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อรัสเซียกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ จีนถูกยึดครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ นำโดย "เหมา เจ๋อตง" และในหลายประเทศอุดมการณ์นี้แผ่ขยายเข้าสู่ สังคมชนบทและแรงงาน 🛠️ ความกลัวในสายตารัฐ ประเทศไทยในยุคนั้น อยู่ภายใต้ความตื่นกลัวต่อภัย “แดง” หรือภัยคอมมิวนิสต์จากต่างประเทศ รัฐบาลในหลายยุค รวมถึงยุคของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" จึงเลือกใช้มาตรการเด็ดขาด เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ⛔ 🟩 แม้รัฐจะมีกฎหมายควบคุมแนวคิดคอมมิวนิสต์ มาตั้งแต่ปี 2476 แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการแพร่กระจายได้ โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นแรงงาน ชาวนา และครู ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าถึง ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยตรง 👩‍🌾 ครูรวมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เชื่อ ในอุดมการณ์ความเท่าเทียม และใช้วิธีการพูดคุย แบ่งปันความรู้กับชาวบ้านในชนบท รวมถึงสร้าง “ไร่รวม” ที่กาญจนบุรี เพื่อเป็นโรงเรียนการเมืองอย่างลับๆ 🏕️ 🟦 การจับกุม คำพิพากษา และคำสั่งประหาร ⚖️ ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลจับกุมครูรวม จากการสืบสวน และคำให้การของพยานร่วมกลุ่ม กล่าวหาว่า เป็นผู้นำเครือข่ายคอมมิวนิสต์ ลอบรับคำสั่งจากต่างชาติ และพยายามล้มล้างสถาบันชาติ จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจตาม “มาตรา 17” สั่งให้ประหารชีวิตทันที โดยไม่ต้องขึ้นศาล ⛓️ 🕕 ค่ำวันอังคารที่ 24 เมษายน 2505 เวลา 18.00 น. ที่เรือนจำกลางบางขวาง ครูรวมถูกยิงเป้าจนเสียชีวิต นับเป็นครั้งแรก ที่มีการประหารผู้ต้องหาคอมมิวนิสต์ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭⚰️ 🟨 วิเคราะห์คดีครูรวม ในบริบทสังคมไทย “ฮีโร่” หรือ “กบฏ”? กรณีของครูรวม สะท้อนถึงยุคสมัยที่ “ความเชื่อ” อาจถูกตีความว่าเป็น “ภัย” การกระทำของครูรวมในสายตารัฐ เป็นอันตรายต่อความมั่นคง แต่ในสายตาของชาวบ้าน และนักศึกษาในยุคต่อมา คือผู้จุดประกายความคิด เพื่อเสรีภาพ 🕊️ 🟪 มรดกแห่งความทรงจำ กว่า 33 ปีหลังการประหาร ศพของครูรวมเพิ่งถูกพบ ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม โดยไร้ป้ายบอกชื่อ เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายคำถาม ที่สะท้อนว่า... เรื่องราวนี้ อาจไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร ❗ แม้จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ชื่อของ “ครูรวม วงศ์พันธ์” ยังคงเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นใหม่ ที่เชื่อในอุดมการณ์ เสรีภาพ และความเสมอภาค 🧭 ครูรวมไม่ใช่แค่ครูธรรมดา แต่เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอย่างแน่วแน่ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ✊ แม้ถูกประหารในฐานะ “คอมมิวนิสต์” แต่ยังคงเป็น “ครูของประชาชน” ในความทรงจำของผู้คนมากมาย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241115 เม.ย. 2568 🔖 #ครูรวมวงศ์พันธ์ #คอมมิวนิสต์ไทย #คดีประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์การเมืองไทย #มาตรา17 #ยุคสงครามเย็น #การศึกษากับอุดมการณ์ #ครูไทยในอดีต #ประหารชีวิต #วีรบุรุษประชาชน
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • ประณามโจรใต้ยิงเณร แก้ไขปัญหาไม่ถูกทาง วางมาตรการล้อมคอก
    .
    การก่อเหตุยิงสามเณรขณะเดินทางไปบิณฑบาตในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นเหตุให้มรณภาพ ตามที่ปรากฏเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถกระบะของ ร.ต.ท.วัฒนา ชูมาปาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย ขณะไปรับพระและสามเณร จำนวน 6 รูปจากวัดเกาะอภินิหารหรือวัดกุหร่า เพื่อไปบิณฑบาตในเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 22 เม.ย.2568 เป็นเหตุให้สามเณรพงษ์กร อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของ ร.ต.ท.วัฒนา มรณภาพระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่สามเณรรูปอื่นได้รับบาดเจ็บ ถือว่าสร้างความสะเทือนใจพอสมควร ทำให้หลายฝ่ายออกมาประณามกับเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่หน่วยงานภาครัฐเตรียมออกมาตราการล้อมคอก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000038322

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประณามโจรใต้ยิงเณร แก้ไขปัญหาไม่ถูกทาง วางมาตรการล้อมคอก . การก่อเหตุยิงสามเณรขณะเดินทางไปบิณฑบาตในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นเหตุให้มรณภาพ ตามที่ปรากฏเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถกระบะของ ร.ต.ท.วัฒนา ชูมาปาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย ขณะไปรับพระและสามเณร จำนวน 6 รูปจากวัดเกาะอภินิหารหรือวัดกุหร่า เพื่อไปบิณฑบาตในเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 22 เม.ย.2568 เป็นเหตุให้สามเณรพงษ์กร อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของ ร.ต.ท.วัฒนา มรณภาพระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่สามเณรรูปอื่นได้รับบาดเจ็บ ถือว่าสร้างความสะเทือนใจพอสมควร ทำให้หลายฝ่ายออกมาประณามกับเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่หน่วยงานภาครัฐเตรียมออกมาตราการล้อมคอก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000038322 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    7
    0 Comments 0 Shares 722 Views 0 Reviews
  • ปมร้อนข่าวลึก : มองซากตึก สตง. ดูอาคารรัฐสภา สภาพไม่ต่างกัน
    .
    เหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มระหว่างการก่อสร้าง ทำให้ประชาชนตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างและการใช้งบประมาณของรัฐ แม้ สตง. จะเป็นหน่วยงานตรวจสอบการเงินก็ตาม โดยมีทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติร่วมตรวจสอบ ขณะเดียวกัน อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก ก็ถูกวิจารณ์ถึงการบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038314

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปมร้อนข่าวลึก : มองซากตึก สตง. ดูอาคารรัฐสภา สภาพไม่ต่างกัน . เหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มระหว่างการก่อสร้าง ทำให้ประชาชนตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างและการใช้งบประมาณของรัฐ แม้ สตง. จะเป็นหน่วยงานตรวจสอบการเงินก็ตาม โดยมีทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติร่วมตรวจสอบ ขณะเดียวกัน อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก ก็ถูกวิจารณ์ถึงการบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038314 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    5
    0 Comments 1 Shares 477 Views 0 Reviews
  • 2/
    วิดีโอจากฝ่ายยูเครน เผยให้เห็นภาพความเสียหายในเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน
    2/ วิดีโอจากฝ่ายยูเครน เผยให้เห็นภาพความเสียหายในเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 104 Views 25 0 Reviews
  • 1/
    วิดีโอจากฝ่ายยูเครน เผยให้เห็นภาพความเสียหายในเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน
    1/ วิดีโอจากฝ่ายยูเครน เผยให้เห็นภาพความเสียหายในเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 103 Views 12 0 Reviews
  • “ส่วนเกินของความเครียด” ซึ่งเป็นตัวถ่วงสำคัญที่ทำให้ปัญหาเล็กกลายเป็นภูเขา และทำให้ชีวิตหมุนวนในทุกข์โดยไม่จำเป็น

    ---

    1. จุดเริ่มของทุกข์คือ “เครียดก่อนคิด”

    > “ยังไม่ทันแก้ปัญหา แต่ใจด่วนตกอยู่ในความเครียด นี่คือทุกข์ส่วนเกินที่ไม่มีประโยชน์”

    ธรรมะประโยคนี้พาเรารู้ว่า

    เครียดไม่ใช่สิ่งผิดเสมอไป

    แต่ เครียดก่อนคิด = เครียดฟรี และสร้าง “ภาพหลอน” ให้ปัญหาดูหนักกว่าความเป็นจริง

    > ธรรมะสำคัญ:
    “คิดหนึ่ง แต่เครียดเก้า” = ใช้พลังงานจิตไปกับความฟุ้งซ่านแทนการแก้ไข

    ---

    2. ส่วนเกินอยู่ที่ไหน? เริ่มหาจากกายก่อนใจ

    > “ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หัวคิ้ว คือจุดสังเกต ‘กายสะท้อนใจ’ อย่างชัดเจน”

    หลักเจริญสติ:

    สังเกตอาการทางกาย เช่น ขมวดคิ้ว กำมือ เกร็งเท้า

    คือร่องรอยของ อารมณ์ที่ยังไม่รู้ตัว

    > การ “รู้” แล้ว “คลาย” คือการ ตัดตอนพลังลบทางกายและใจ
    เหมือนปลดเบรกมือออกก่อนจะออกรถ

    ---

    3. ฝึกเฝ้าสังเกต = ฝึกใจให้กลับสู่ความสงบ

    วิธีปฏิบัติที่แนะนำ:

    1. สังเกตจุดเครียดประจำกาย เช่น หัวคิ้ว – ฝ่ามือ – ไหล่

    2. รู้ทันและคลายทันที – ไม่ดึงยาว

    3. ดูผลกระทบ ว่าเมื่อคลายกาย ใจเบาขึ้นไหม

    4. ดูต่อว่าใจเบาเพราะหนีปัญหา หรือพร้อมเผชิญด้วยสติ

    > นี่คือสติที่ “ละเอียด” และ “ใช้งานจริง” ได้ในทุกวัน

    ---

    4. ผลลัพธ์: เย็นก่อน จึงเห็นก่อน และจึงแก้ได้จริง

    เมื่อเย็น → จิตไม่ถูกผลักด้วยโทสะ

    เมื่อไม่รีบโกรธ → ใจยังกล้าเผชิญโดยไม่สั่นไหว

    เมื่อใจยังสงบแม้อยู่ในความวุ่นวาย → ชีวิตจะค่อยๆ เป็นระเบียบจากภายใน

    > ธรรมะสั้น:
    “จิตที่สงบในปัญหา = จิตที่ปลอดภัยจากการหลงทาง”

    ---

    5. สรุปใจกลางธรรมะในบทความนี้

    ทุกข์ส่วนเกินมาจาก “ความคิดปนเครียดก่อนมีสติ”

    “กาย” คือกระจกสะท้อนความฟุ้งซ่านที่ไวที่สุด

    การฝึกคลายกาย คือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูใจ

    ความสงบไม่ใช่สิ่งไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่ “ลืมใช้มานาน”

    ความเย็นคือภาวะพื้นฐานเดิมแท้ของจิตที่ยังไม่ถูกครอบด้วยกิเลส

    ---

    คำคมธรรมะจากบทความ (พร้อมใช้ในโพสต์หรือหนังสือ)

    “เครียดก่อนคิด คือทุกข์ที่เกิดโดยไม่จำเป็น”

    “ขมวดคิ้วแน่นเท่าไร ใจก็มัวเท่านั้น”

    “ปล่อยส่วนเกิน คือคืนพื้นที่ใจให้ปัญญาได้ทำงาน”

    “เมื่อคลายกาย ใจจึงพร้อมจะกล้าเผชิญ”

    “ความเย็นเคยอยู่ในใจคุณ เพียงแต่ไม่ได้ใช้มานาน”
    “ส่วนเกินของความเครียด” ซึ่งเป็นตัวถ่วงสำคัญที่ทำให้ปัญหาเล็กกลายเป็นภูเขา และทำให้ชีวิตหมุนวนในทุกข์โดยไม่จำเป็น --- 1. จุดเริ่มของทุกข์คือ “เครียดก่อนคิด” > “ยังไม่ทันแก้ปัญหา แต่ใจด่วนตกอยู่ในความเครียด นี่คือทุกข์ส่วนเกินที่ไม่มีประโยชน์” ธรรมะประโยคนี้พาเรารู้ว่า เครียดไม่ใช่สิ่งผิดเสมอไป แต่ เครียดก่อนคิด = เครียดฟรี และสร้าง “ภาพหลอน” ให้ปัญหาดูหนักกว่าความเป็นจริง > ธรรมะสำคัญ: “คิดหนึ่ง แต่เครียดเก้า” = ใช้พลังงานจิตไปกับความฟุ้งซ่านแทนการแก้ไข --- 2. ส่วนเกินอยู่ที่ไหน? เริ่มหาจากกายก่อนใจ > “ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หัวคิ้ว คือจุดสังเกต ‘กายสะท้อนใจ’ อย่างชัดเจน” หลักเจริญสติ: สังเกตอาการทางกาย เช่น ขมวดคิ้ว กำมือ เกร็งเท้า คือร่องรอยของ อารมณ์ที่ยังไม่รู้ตัว > การ “รู้” แล้ว “คลาย” คือการ ตัดตอนพลังลบทางกายและใจ เหมือนปลดเบรกมือออกก่อนจะออกรถ --- 3. ฝึกเฝ้าสังเกต = ฝึกใจให้กลับสู่ความสงบ วิธีปฏิบัติที่แนะนำ: 1. สังเกตจุดเครียดประจำกาย เช่น หัวคิ้ว – ฝ่ามือ – ไหล่ 2. รู้ทันและคลายทันที – ไม่ดึงยาว 3. ดูผลกระทบ ว่าเมื่อคลายกาย ใจเบาขึ้นไหม 4. ดูต่อว่าใจเบาเพราะหนีปัญหา หรือพร้อมเผชิญด้วยสติ > นี่คือสติที่ “ละเอียด” และ “ใช้งานจริง” ได้ในทุกวัน --- 4. ผลลัพธ์: เย็นก่อน จึงเห็นก่อน และจึงแก้ได้จริง เมื่อเย็น → จิตไม่ถูกผลักด้วยโทสะ เมื่อไม่รีบโกรธ → ใจยังกล้าเผชิญโดยไม่สั่นไหว เมื่อใจยังสงบแม้อยู่ในความวุ่นวาย → ชีวิตจะค่อยๆ เป็นระเบียบจากภายใน > ธรรมะสั้น: “จิตที่สงบในปัญหา = จิตที่ปลอดภัยจากการหลงทาง” --- 5. สรุปใจกลางธรรมะในบทความนี้ ทุกข์ส่วนเกินมาจาก “ความคิดปนเครียดก่อนมีสติ” “กาย” คือกระจกสะท้อนความฟุ้งซ่านที่ไวที่สุด การฝึกคลายกาย คือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูใจ ความสงบไม่ใช่สิ่งไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่ “ลืมใช้มานาน” ความเย็นคือภาวะพื้นฐานเดิมแท้ของจิตที่ยังไม่ถูกครอบด้วยกิเลส --- คำคมธรรมะจากบทความ (พร้อมใช้ในโพสต์หรือหนังสือ) “เครียดก่อนคิด คือทุกข์ที่เกิดโดยไม่จำเป็น” “ขมวดคิ้วแน่นเท่าไร ใจก็มัวเท่านั้น” “ปล่อยส่วนเกิน คือคืนพื้นที่ใจให้ปัญญาได้ทำงาน” “เมื่อคลายกาย ใจจึงพร้อมจะกล้าเผชิญ” “ความเย็นเคยอยู่ในใจคุณ เพียงแต่ไม่ได้ใช้มานาน”
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวยอมรับว่าการบรรลุสันติภาพในข้อตกลง จะไม่มีทางเกิดขึ้น:


    “เราจำเป็นต้องเข้าใจว่าฝ่ายต่างๆ เหล่านี้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันหรือไม่ เพราะหากพวกเขาอยู่ห่างกันมาก ราวกับว่าอยู่ในพื้นที่ที่แตกต่างกัน เราอาจต้องยอมรับว่าช่องว่างนั้นกว้างมากจนไม่สามารถบรรลุสันติภาพได้”

    ทางด้านสำนักข่าววอชิงตันโพสต์รายงานว่า ทำเนียบขาวไม่พอใจมากที่เซเลนสกีปฏิเสธยอมรับไครเมียว่าเป็นของรัสเซีย ทำให้ตัวแทนสหรัฐถอนตัวออกจากการเจรจาที่ลอนดอนเพื่อประท้วงเรื่องดังกล่าว ด้านมาร์โก รูบิโอยืนยันว่าสหรัฐได้ยกเลิกการเข้าร่วมเจรจาไปแล้ว

    คำกล่าวของรูบิโอมีขึ้นในช่วงเวลาที่การประชุมระหว่างแลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และซิบิกา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหมของทั้งสองประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรปปฏิเสธที่จะยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซีย และปฏิเสธการยอมรับไครเมียเป็นของรัสเซีย
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวยอมรับว่าการบรรลุสันติภาพในข้อตกลง จะไม่มีทางเกิดขึ้น: “เราจำเป็นต้องเข้าใจว่าฝ่ายต่างๆ เหล่านี้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันหรือไม่ เพราะหากพวกเขาอยู่ห่างกันมาก ราวกับว่าอยู่ในพื้นที่ที่แตกต่างกัน เราอาจต้องยอมรับว่าช่องว่างนั้นกว้างมากจนไม่สามารถบรรลุสันติภาพได้” ทางด้านสำนักข่าววอชิงตันโพสต์รายงานว่า ทำเนียบขาวไม่พอใจมากที่เซเลนสกีปฏิเสธยอมรับไครเมียว่าเป็นของรัสเซีย ทำให้ตัวแทนสหรัฐถอนตัวออกจากการเจรจาที่ลอนดอนเพื่อประท้วงเรื่องดังกล่าว ด้านมาร์โก รูบิโอยืนยันว่าสหรัฐได้ยกเลิกการเข้าร่วมเจรจาไปแล้ว คำกล่าวของรูบิโอมีขึ้นในช่วงเวลาที่การประชุมระหว่างแลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และซิบิกา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหมของทั้งสองประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรปปฏิเสธที่จะยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซีย และปฏิเสธการยอมรับไครเมียเป็นของรัสเซีย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • ปูมหลัง “ดร.นิด” ที่แท้แค่แม่ค้าขายน้ำ ก่อนผันตัวเป็นเลขาฯ หลังร่วมเรียนหลักสูตรดังรุ่นเดียวกับ “บิ๊กโจ๊ก”
    .
    นอกจากนี้ เมื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการประกอบอาชีพที่ ดร.นิด เคยทำปรากฏพบว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เคยประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อประกอบกิจการภายในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ให้ นางขนิษฐา เลิศบรรเจิดวงศ์ เปิดร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม บริเวณ MU Garden ซึ่งเท่ากับว่าสถานะของ ดรนิด เป็นเพียงอดีตนักศึกษาที่เคยสำเร็จการศึกษา และเป็นแม่ค้าอาหารและน้ำดื่มในมหาวิทยาลัยมหิดล เท่านั้นไม่มีสิทธิ์จัดการเรียน การสอน นิสิตนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยมหิดล หรือสถาบันอื่นๆ แต่ประการใด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038197

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปูมหลัง “ดร.นิด” ที่แท้แค่แม่ค้าขายน้ำ ก่อนผันตัวเป็นเลขาฯ หลังร่วมเรียนหลักสูตรดังรุ่นเดียวกับ “บิ๊กโจ๊ก” . นอกจากนี้ เมื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการประกอบอาชีพที่ ดร.นิด เคยทำปรากฏพบว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เคยประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อประกอบกิจการภายในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ให้ นางขนิษฐา เลิศบรรเจิดวงศ์ เปิดร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม บริเวณ MU Garden ซึ่งเท่ากับว่าสถานะของ ดรนิด เป็นเพียงอดีตนักศึกษาที่เคยสำเร็จการศึกษา และเป็นแม่ค้าอาหารและน้ำดื่มในมหาวิทยาลัยมหิดล เท่านั้นไม่มีสิทธิ์จัดการเรียน การสอน นิสิตนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยมหิดล หรือสถาบันอื่นๆ แต่ประการใด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038197 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    0 Comments 0 Shares 499 Views 0 Reviews
  • ..เขายืนยันตามนั้นอย่างกล้ามากเก่งมากจริงๆ.
    ..ผลบาดเจ็บจากจึกๆที่ผ่านมาทั้งวูบทั้งตุยมากมาย อักเสบเรื้อรังก็มากโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ทหาร ตำรวจที่ดีๆของพวกเรา.นอนเฝ้าบ้านลาป่วยตรึมกระจายเต็มประเทศ,เอดส์ที่มาพร้อมกับเข็มที่จึกๆยุคโควิดที่เริ่มออกฤทธิ์แสดงเดชให้เห็นแล้วกว่าแสนกว่าล้านรายแน่นอนหรืออนาคตครบตามจำนวนเป้าที่ฉีดๆไปคือกว่า60ล้านคน,การทำลายเด็กและเยาวชนคนเผ่านั้นๆคือไทยมันอาจสำเร็จเร็วๆนี้,แล้วเอาพม่า เขมร ลาว เจ๊กแกวมอญมาลายูแขกมายึดครองกลืนกินออกลูกออกหลานมันๆบนแผ่นดินไทยบวกได้สัญชาติไทยยึดประเทศไทยแบบไม่ต้องใช้ปืนดาบสักอัน ใช้เวลาพอ แผน20ปียุทธศาสตร์ยึดประเทศไทยก็ว่า,คนพวกนี้เกิดครบอายุเลือกตั้งมันก็เลือกพม่าเขมรลาวแกวเจ๊กแขกมาลายูขึ้นปกครองแบ่งประเทศไทยโดยง่ายล่ะ,แต่เราตัดตอนสบายๆคือนับตั้งแต่ปี2559พ้นร.9เรามา.ใครเกิดหลังปี2559คือ2560 ห้ามคนต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดแม้เกิดในประเทศไทยก็ไม่สามารถได้สัญชาติไทยทุกๆกรณี,ตัดตอนปัญหาจากการโยกย้ายคนของอีลิทdeep stateค้าแรงงานค้ามนุษย์ค้าทาสรับใช้เสรีได้ทันที.ใครที่ได้สัญชาติไทยแล้วไม่กลับใจรักชาติไทยตนตามที่ต้องการสัญชาติไทยจากเคยเป็นคนต่างชาติต่างบ้านต่างเมืองต่างด้าวเมื่อทรยศแผ่นดิน สิทธินั้นยึดคืนทันทีและขับออกจากราชอาณาจักรไทยทันที.
    ..เขายืนยันตามนั้นอย่างกล้ามากเก่งมากจริงๆ. ..ผลบาดเจ็บจากจึกๆที่ผ่านมาทั้งวูบทั้งตุยมากมาย อักเสบเรื้อรังก็มากโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ทหาร ตำรวจที่ดีๆของพวกเรา.นอนเฝ้าบ้านลาป่วยตรึมกระจายเต็มประเทศ,เอดส์ที่มาพร้อมกับเข็มที่จึกๆยุคโควิดที่เริ่มออกฤทธิ์แสดงเดชให้เห็นแล้วกว่าแสนกว่าล้านรายแน่นอนหรืออนาคตครบตามจำนวนเป้าที่ฉีดๆไปคือกว่า60ล้านคน,การทำลายเด็กและเยาวชนคนเผ่านั้นๆคือไทยมันอาจสำเร็จเร็วๆนี้,แล้วเอาพม่า เขมร ลาว เจ๊กแกวมอญมาลายูแขกมายึดครองกลืนกินออกลูกออกหลานมันๆบนแผ่นดินไทยบวกได้สัญชาติไทยยึดประเทศไทยแบบไม่ต้องใช้ปืนดาบสักอัน ใช้เวลาพอ แผน20ปียุทธศาสตร์ยึดประเทศไทยก็ว่า,คนพวกนี้เกิดครบอายุเลือกตั้งมันก็เลือกพม่าเขมรลาวแกวเจ๊กแขกมาลายูขึ้นปกครองแบ่งประเทศไทยโดยง่ายล่ะ,แต่เราตัดตอนสบายๆคือนับตั้งแต่ปี2559พ้นร.9เรามา.ใครเกิดหลังปี2559คือ2560 ห้ามคนต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดแม้เกิดในประเทศไทยก็ไม่สามารถได้สัญชาติไทยทุกๆกรณี,ตัดตอนปัญหาจากการโยกย้ายคนของอีลิทdeep stateค้าแรงงานค้ามนุษย์ค้าทาสรับใช้เสรีได้ทันที.ใครที่ได้สัญชาติไทยแล้วไม่กลับใจรักชาติไทยตนตามที่ต้องการสัญชาติไทยจากเคยเป็นคนต่างชาติต่างบ้านต่างเมืองต่างด้าวเมื่อทรยศแผ่นดิน สิทธินั้นยึดคืนทันทีและขับออกจากราชอาณาจักรไทยทันที.
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลุยเดินสายซับน้ำตา บรรเทาทุกข์ - เยียวยาผู้ประสบภัยอัคคีภัย ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และ มอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวต่อเนื่อง
    .
    วันนี้ (วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ.2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีม แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่ซอยโรงธูป อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี รวมจำนวน 49 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค รวมจำนวน 17 ชุด รวมงบประมาณการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยทั้งสิ้น 214,000 บาท โดยมี นายนรสิงห์ อรุณบรรเจิดกุล ปลัดเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองบ้านโป่ง พร้อมด้วย คณะมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี และ คณะอาสาสมัครเฉพาะกิจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ เทศบาลบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี หลังจากนั้น นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยัง สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว จำนวน 7 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 140,000 บาท
    .
    รวมงบประมาณการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยทั้งสองเหตุเป็นเงินทั้งสิ้น 354,000 บาท (สามแสนห้าหมื่นสี่พันบาทถ้วน) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอแสดงความเสียใจและอาลัยอย่างสุดซึ้ง และขอส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวทุกท่านมา ณ ที่นี้
    .
    เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ดำเนินการเชิงรุกอย่างบูรณาการร่วมกันทั้งด้านงานบรรเทาสาธารณภัย และงานสังคมสงเคราะห์ ดังเช่น เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ได้จัดส่งทีมสาธารณภัย ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการมอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลที่ทำการอพยพและเปิดรับบริจาคสิ่งของ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บ ทั้งชาวไทยและเมียนมา รวมมูลค่าการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวจนถึงปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท โดยปัจจุบันมูลนิธิฯ ยังคงติดตามและเข้ามอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติผู้ประสบเหตุดังกล่าวต่อไป
    .
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญตลอดไป ท่านสามารถติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    กว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลุยเดินสายซับน้ำตา บรรเทาทุกข์ - เยียวยาผู้ประสบภัยอัคคีภัย ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และ มอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวต่อเนื่อง . วันนี้ (วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ.2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีม แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่ซอยโรงธูป อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี รวมจำนวน 49 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค รวมจำนวน 17 ชุด รวมงบประมาณการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยทั้งสิ้น 214,000 บาท โดยมี นายนรสิงห์ อรุณบรรเจิดกุล ปลัดเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองบ้านโป่ง พร้อมด้วย คณะมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี และ คณะอาสาสมัครเฉพาะกิจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ เทศบาลบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี หลังจากนั้น นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยัง สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว จำนวน 7 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 140,000 บาท . รวมงบประมาณการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยทั้งสองเหตุเป็นเงินทั้งสิ้น 354,000 บาท (สามแสนห้าหมื่นสี่พันบาทถ้วน) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอแสดงความเสียใจและอาลัยอย่างสุดซึ้ง และขอส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวทุกท่านมา ณ ที่นี้ . เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ดำเนินการเชิงรุกอย่างบูรณาการร่วมกันทั้งด้านงานบรรเทาสาธารณภัย และงานสังคมสงเคราะห์ ดังเช่น เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ได้จัดส่งทีมสาธารณภัย ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการมอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลที่ทำการอพยพและเปิดรับบริจาคสิ่งของ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บ ทั้งชาวไทยและเมียนมา รวมมูลค่าการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวจนถึงปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท โดยปัจจุบันมูลนิธิฯ ยังคงติดตามและเข้ามอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติผู้ประสบเหตุดังกล่าวต่อไป . มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ส่งผลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญตลอดไป ท่านสามารถติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . กว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • 9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” 🐉 มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี”

    📅 เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน

    แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา

    🧠 จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี 🇹🇭

    👦 ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥)

    👨‍👩‍👧‍👦 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์

    แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น

    🏗️ บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด
    ⚗️ บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
    🧪 บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์

    จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์ 💪

    🏛️ ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย! 🗳️

    🏆 จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 🚆

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🏢

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 🌾

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 💰

    บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น

    👑 สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 📌 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

    🎯 ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

    แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน

    💸 รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล 📈 จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก

    ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 🏗️

    ธุรกิจเคมีภัณฑ์ 📦

    อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด 🏢

    ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู ⌚🚗

    แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์

    🌸 มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า

    “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง”

    🧱 ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง

    สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที

    📌 บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ

    “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้

    “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ

    นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้

    📜 มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 🐉

    จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์

    จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย 🇹🇭

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568

    🔖 #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” 🐉 มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี” 📅 เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา 🧠 จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี 🇹🇭 👦 ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥) 👨‍👩‍👧‍👦 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์ แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น 🏗️ บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด ⚗️ บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 🧪 บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์ จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์ 💪 🏛️ ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย! 🗳️ 🏆 จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 🚆 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🏢 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 🌾 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 💰 บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น 👑 สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 📌 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🎯 ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน 💸 รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล 📈 จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 🏗️ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ 📦 อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด 🏢 ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู ⌚🚗 แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ 🌸 มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง” 🧱 ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที 📌 บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้ “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้ 📜 มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 🐉 จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์ จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย 🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568 🔖 #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • บริษัทเทคโนโลยีจีนหลายแห่งกำลังพิจารณาเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ แม้จะมีความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้น IPO มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านดอลลาร์ การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินอยู่ โดยมีการกำหนดภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นจากทั้งสองฝ่าย

    ✅ บริษัทจีนกำลังพิจารณาเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐฯ
    - บริษัทที่พิจารณาเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ได้แก่ Walnut Coding, Shenzhen Cloudsky Technologies, Zaihui และ Zhonghe Group
    - Walnut Coding มีลูกค้าจ่ายเงินกว่า 7.2 ล้านราย และอาจระดมทุนได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์

    ✅ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินอยู่
    - สหรัฐฯ กำหนดภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นสำหรับสินค้าจีน และจีนตอบโต้ด้วยภาษี 125% สำหรับสินค้าสหรัฐฯ
    - การเจรจาระหว่างสองประเทศยังคงมีความไม่แน่นอน

    ✅ การตัดสินใจของบริษัทจีนขึ้นอยู่กับสถานการณ์สงครามการค้า
    - หากสถานการณ์สงครามการค้าแย่ลง บริษัทอาจยกเลิกแผนการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ

    ✅ การเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ อาจช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
    - การเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐฯ อาจช่วยให้บริษัทจีนเข้าถึงแหล่งเงินทุนและขยายธุรกิจในระดับโลก

    https://www.techradar.com/pro/chinese-tech-companies-want-to-enter-the-us-market-despite-trade-and-tariff-war
    บริษัทเทคโนโลยีจีนหลายแห่งกำลังพิจารณาเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ แม้จะมีความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้น IPO มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านดอลลาร์ การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินอยู่ โดยมีการกำหนดภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นจากทั้งสองฝ่าย ✅ บริษัทจีนกำลังพิจารณาเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐฯ - บริษัทที่พิจารณาเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ได้แก่ Walnut Coding, Shenzhen Cloudsky Technologies, Zaihui และ Zhonghe Group - Walnut Coding มีลูกค้าจ่ายเงินกว่า 7.2 ล้านราย และอาจระดมทุนได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์ ✅ สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงดำเนินอยู่ - สหรัฐฯ กำหนดภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นสำหรับสินค้าจีน และจีนตอบโต้ด้วยภาษี 125% สำหรับสินค้าสหรัฐฯ - การเจรจาระหว่างสองประเทศยังคงมีความไม่แน่นอน ✅ การตัดสินใจของบริษัทจีนขึ้นอยู่กับสถานการณ์สงครามการค้า - หากสถานการณ์สงครามการค้าแย่ลง บริษัทอาจยกเลิกแผนการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ✅ การเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ อาจช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ - การเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐฯ อาจช่วยให้บริษัทจีนเข้าถึงแหล่งเงินทุนและขยายธุรกิจในระดับโลก https://www.techradar.com/pro/chinese-tech-companies-want-to-enter-the-us-market-despite-trade-and-tariff-war
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการเดินทางขององค์กรต่างๆ ในการนำแนวคิด Zero Trust มาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในระบบ โดย Zero Trust เป็นแนวคิดที่ไม่ไว้วางใจบุคคลหรืออุปกรณ์ใดๆ ทั้งภายในและภายนอกเครือข่ายขององค์กร และต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง

    ✅ องค์กรทั่วโลกกว่า 63% ได้นำกลยุทธ์ Zero Trust มาใช้บางส่วน
    - จากการสำรวจของ Gartner ในปี 2024 พบว่า 58% ขององค์กรเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น
    - มีเพียงไม่ถึง 50% ของสภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมด้วย Zero Trust

    ✅ Zero Trust ต้องการการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านวัฒนธรรมและเทคโนโลยี
    - การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการนำเทคโนโลยี เช่น Multi-Factor Authentication (MFA) และ Privileged Access Management (PAM) มาใช้
    - ต้องมีการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

    ✅ การนำ Zero Trust มาใช้ต้องการการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
    - การเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายในองค์กร เช่น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้นำธุรกิจ
    - การสร้างความเข้าใจและการฝึกอบรมเป็นสิ่งสำคัญ

    ✅ Zero Trust ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความปลอดภัยได้อย่างละเอียด
    - เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงตามระดับความสำคัญของข้อมูล
    - ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์

    https://www.csoonline.com/article/3965399/security-leaders-shed-light-on-their-zero-trust-journeys.html
    บทความนี้กล่าวถึงการเดินทางขององค์กรต่างๆ ในการนำแนวคิด Zero Trust มาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในระบบ โดย Zero Trust เป็นแนวคิดที่ไม่ไว้วางใจบุคคลหรืออุปกรณ์ใดๆ ทั้งภายในและภายนอกเครือข่ายขององค์กร และต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ✅ องค์กรทั่วโลกกว่า 63% ได้นำกลยุทธ์ Zero Trust มาใช้บางส่วน - จากการสำรวจของ Gartner ในปี 2024 พบว่า 58% ขององค์กรเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น - มีเพียงไม่ถึง 50% ของสภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมด้วย Zero Trust ✅ Zero Trust ต้องการการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านวัฒนธรรมและเทคโนโลยี - การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการนำเทคโนโลยี เช่น Multi-Factor Authentication (MFA) และ Privileged Access Management (PAM) มาใช้ - ต้องมีการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ✅ การนำ Zero Trust มาใช้ต้องการการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง - การเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายในองค์กร เช่น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้นำธุรกิจ - การสร้างความเข้าใจและการฝึกอบรมเป็นสิ่งสำคัญ ✅ Zero Trust ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความปลอดภัยได้อย่างละเอียด - เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงตามระดับความสำคัญของข้อมูล - ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ https://www.csoonline.com/article/3965399/security-leaders-shed-light-on-their-zero-trust-journeys.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Security leaders shed light on their zero trust journeys
    Most CISOs recognize the improved security posture zero trust will bring. But cultural and technological changes make for an arduous path that takes business savvy and technical acumen to navigate.
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • มีรายงานความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพในยูเครน:

    รายละเอียดข้อตกลงเริ่มหลุดมาถึงมือสื่อเพิ่มมากขึ้น หลังการเจรจาที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสโดยมีพันธมิตรยุโรปเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเมื่อสัปดาห์ก่อน รวมทั้งที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซียเมื่อต้นเดือน และหากครั้งนี้ล้มเหลว สหรัฐอาถอนตัวจากการมีส่วนร่วมในการเจรจา ตามที่ รูบิโอ รัฐมนตรีต่างสหรัฐกล่าวเมื่อวันก่อน

    สหรัฐต้องการให้ยูเครนยอมรับไครเมียเป็นดินแดนของรัสเซีย และยอมรับว่ารัสเซียควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยึดครองมาตั้งแต่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในปี 2022 อ้างอิงตามแหล่งข่าวที่ทราบผลการเจรจาดังกล่าว

    นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมคือ:
    👉สิ่งที่รัสเซียจะได้รับ:
    - การรับรองทางกฎหมายของสหรัฐฯ ว่าไครเมียเป็นของรัสเซีย
    - การยอมรับภูมิภาคโดเนตสค์ ลูฮันสค์ เคอร์ซอน และซาโปริซเซีย ในส่วนที่รัสเซียปลดปล่อยไปแล้ว ดินแดนส่วนที่เหลือที่รัสเซียยังไม่ได้ปลดปล่อย อาจต้องอยู่ในการครอบครองของยูเครนต่อไป
    - คำมั่นสัญญาว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมนาโต แต่การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอาจยังคงเป็นไปได้
    - การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหลังปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่หลังจากรัสเซียเข้ายึดครองไครเมีย

    👉สิ่งที่ยูเครนจะได้รับ:
    - “การรับประกันความปลอดภัยที่มั่นคง” แม้ว่าขณะนี้ยังมีความสับสน และยังไม่ลงตัวท้ังหมด แต่เบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนที่พันธมิตรของยุโรปให้การรับประกันแล้ว และพยายามโน้มน้าวให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม
    - รัสเซียต้องคืนพื้นที่ในภูมิภาคคาร์คิฟที่ยึดไว้ตอนนี้ (มีไม่มากเท่าไหร่)
    - มีสิทธิเหนือน่านน้ำนีเปอร์ (Dnipro) อย่างเต็มที่ เพื่อใช้ในการเดินเรือออกสู่ทะเลดำ (Black Sea)
    - ความช่วยเหลือเพื่อการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ระบบเศรษฐกิจของยูเครน แต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องแหล่งที่มาของเงินทุน

    👉สิ่งที่สหรัฐจะได้รับ: (เรียกเก็บค่าดำเนินการ 😂)
    - โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (ZNPP) จะอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครน แต่สหรัฐจะเป็นฝ่ายบริหารจัดการแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะมีหน้าที่ให้บริการระบบไฟฟ้าแก่ทั้งสองฝ่าย รายได้จากการดำเนินงาน จะเข้ากองทุนส่วนกลางที่สหรัฐและยูเครนร่วมกันจัดตั้ง
    - ข้อตกลงด้านแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนคาดว่าจะลงนามในวันพฤหัสบดี
    - ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านพลังงานและอุตสาหกรรม
    มีรายงานความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพในยูเครน: รายละเอียดข้อตกลงเริ่มหลุดมาถึงมือสื่อเพิ่มมากขึ้น หลังการเจรจาที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสโดยมีพันธมิตรยุโรปเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเมื่อสัปดาห์ก่อน รวมทั้งที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซียเมื่อต้นเดือน และหากครั้งนี้ล้มเหลว สหรัฐอาถอนตัวจากการมีส่วนร่วมในการเจรจา ตามที่ รูบิโอ รัฐมนตรีต่างสหรัฐกล่าวเมื่อวันก่อน สหรัฐต้องการให้ยูเครนยอมรับไครเมียเป็นดินแดนของรัสเซีย และยอมรับว่ารัสเซียควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยึดครองมาตั้งแต่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในปี 2022 อ้างอิงตามแหล่งข่าวที่ทราบผลการเจรจาดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมคือ: 👉สิ่งที่รัสเซียจะได้รับ: - การรับรองทางกฎหมายของสหรัฐฯ ว่าไครเมียเป็นของรัสเซีย - การยอมรับภูมิภาคโดเนตสค์ ลูฮันสค์ เคอร์ซอน และซาโปริซเซีย ในส่วนที่รัสเซียปลดปล่อยไปแล้ว ดินแดนส่วนที่เหลือที่รัสเซียยังไม่ได้ปลดปล่อย อาจต้องอยู่ในการครอบครองของยูเครนต่อไป - คำมั่นสัญญาว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมนาโต แต่การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอาจยังคงเป็นไปได้ - การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหลังปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่หลังจากรัสเซียเข้ายึดครองไครเมีย 👉สิ่งที่ยูเครนจะได้รับ: - “การรับประกันความปลอดภัยที่มั่นคง” แม้ว่าขณะนี้ยังมีความสับสน และยังไม่ลงตัวท้ังหมด แต่เบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนที่พันธมิตรของยุโรปให้การรับประกันแล้ว และพยายามโน้มน้าวให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม - รัสเซียต้องคืนพื้นที่ในภูมิภาคคาร์คิฟที่ยึดไว้ตอนนี้ (มีไม่มากเท่าไหร่) - มีสิทธิเหนือน่านน้ำนีเปอร์ (Dnipro) อย่างเต็มที่ เพื่อใช้ในการเดินเรือออกสู่ทะเลดำ (Black Sea) - ความช่วยเหลือเพื่อการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ระบบเศรษฐกิจของยูเครน แต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องแหล่งที่มาของเงินทุน 👉สิ่งที่สหรัฐจะได้รับ: (เรียกเก็บค่าดำเนินการ 😂) - โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (ZNPP) จะอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครน แต่สหรัฐจะเป็นฝ่ายบริหารจัดการแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะมีหน้าที่ให้บริการระบบไฟฟ้าแก่ทั้งสองฝ่าย รายได้จากการดำเนินงาน จะเข้ากองทุนส่วนกลางที่สหรัฐและยูเครนร่วมกันจัดตั้ง - ข้อตกลงด้านแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนคาดว่าจะลงนามในวันพฤหัสบดี - ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านพลังงานและอุตสาหกรรม
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 184 Views 0 Reviews
More Results