• หากทุกคนบนโลกเกิดมาพร้อมกับต้นไม้ที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่ต้องดูแลตลอดชีวิต สิ่งที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้มีหลายด้าน ทั้งในแง่บวกและแง่ที่ต้องแก้ไข:

    ### **ผลกระทบเชิงบวก:**
    1. **สิ่งแวดล้อมดีขึ้นอย่างรวดเร็ว**
    - ประชากรโลก 8 พันล้านคน = ต้นไม้เพิ่มขึ้น 8 พันล้านต้น (หรือมากกว่านั้นหากคนปลูกเพิ่ม)
    - ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะโลกร้อน ปรับสมดุลระบบนิเวศ

    2. **การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ**
    - คนจะตระหนักถึงการพึ่งพาต้นไม้มากขึ้น เช่น รู้จักวงจรชีวิตพืช ผลกระทบจากการตัดไม้ทำลาย
    - อาจเกิดวัฒนธรรมใหม่ที่เคารพธรรมชาติ เช่น การจัดพิธีกรรมเมื่อต้นไม้ของตนตาย

    3. **เศรษฐกิจใหม่ที่เกิดจาก "ตลาดต้นไม้ส่วนตัว"**
    - ต้นไม้กลายเป็นสินทรัพย์ซื้อขาย/มรดกได้ (เช่น ต้นโอ๊กอายุ 100 ปีอาจมีมูลค่าสูง)
    - เกิดอาชีพใหม่ เช่น "ที่ปรึกษาดูแลต้นไม้ส่วนตัว" "นักออกแบบสวนส่วนบุคคล"

    4. **นวัตกรรมเพื่อการดูแลต้นไม้**
    - เทคโนโลยีติดตามสุขภาพต้นไม้ (เซ็นเซอร์วัดดิน แอป提醒การรดน้ำ)
    - การพัฒนาพันธุ์ต้นไม้ที่ทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆ

    ### **ความท้าทายและปัญหาที่อาจเกิด:**
    1. **ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากร**
    - คนในเมืองอาจไม่มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ → เกิดตลาดเช่าพื้นที่ปลูก
    - ต้นไม้หายากบางชนิดอาจกลายเป็นสัญลักษณ์สถานะทางสังคม

    2. **ข้อขัดแย้งทางกฎหมาย**
    - หากต้นไม้ของใครโตเกินไปและสร้างความเสียหายให้เพื่อนบ้าน (เช่น รากชอนไช)
    - กรณีต้นไม้ตายก่อนเจ้าของ: จะมีบทลงโทษหรือไม่?

    3. **ผลกระทบต่อระบบนิเวศเดิม**
    - หากทุกคนปลูกต้นไม้ชนิดเดียวกัน (เช่น ไม้เศรษฐกิจ) อาจลดความหลากหลายทางชีวภาพ
    - สปีชีส์พันธุ์รุกรานอาจแพร่กระจายหากไม่ควบคุม

    4. **ความเครียดจากการดูแล**
    - บางคนอาจรู้สึกว่าต้นไม้เป็น "ภาระ" ตลอดชีวิต
    - อาจเกิดอาชญากรรมเกี่ยวกับต้นไม้ (เช่น ขโมยต้นไม้เก่าแก่ ลอบทำลายต้นไม้ของศัตรู)

    ### **แนวโน้มทางสังคมที่อาจตามมา:**
    - **การเมืองสีเขียวเข้มข้นขึ้น:** พรรคการเมืองอาจเสนอนโยบายเช่น "เงินอุดหนุนดูแลต้นไม้"
    - **ศิลปะ/วัฒนธรรมที่สะท้อนความเป็นเจ้าของต้นไม้:** เช่น นวนิยายเกี่ยวกับชีวิตคู่ขนานของคนและต้นไม้
    - **ความเชื่อใหม่:** อาจมีศาสนาที่นับถือต้นไม้เป็นตัวแทนจิตวิญญาณ

    ### **ข้อสรุป:**
    โลกจะเปลี่ยนไปในทางที่ "เขียว" ขึ้นอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องเผชิญกับความซับซ้อนใหม่ๆ เกี่ยวกับสิทธิ์ในทรัพย์สิน ระบบนิเวศ และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ที่น่าสนใจคือ มนุษย์อาจพัฒนาความเป็นเจ้าของที่ลึกซึ้งต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ มากกว่าเดิม ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของจิตสำนึกทางสิ่งแวดล้อมที่แท้จริง
    หากทุกคนบนโลกเกิดมาพร้อมกับต้นไม้ที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่ต้องดูแลตลอดชีวิต สิ่งที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้มีหลายด้าน ทั้งในแง่บวกและแง่ที่ต้องแก้ไข: ### **ผลกระทบเชิงบวก:** 1. **สิ่งแวดล้อมดีขึ้นอย่างรวดเร็ว** - ประชากรโลก 8 พันล้านคน = ต้นไม้เพิ่มขึ้น 8 พันล้านต้น (หรือมากกว่านั้นหากคนปลูกเพิ่ม) - ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะโลกร้อน ปรับสมดุลระบบนิเวศ 2. **การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ** - คนจะตระหนักถึงการพึ่งพาต้นไม้มากขึ้น เช่น รู้จักวงจรชีวิตพืช ผลกระทบจากการตัดไม้ทำลาย - อาจเกิดวัฒนธรรมใหม่ที่เคารพธรรมชาติ เช่น การจัดพิธีกรรมเมื่อต้นไม้ของตนตาย 3. **เศรษฐกิจใหม่ที่เกิดจาก "ตลาดต้นไม้ส่วนตัว"** - ต้นไม้กลายเป็นสินทรัพย์ซื้อขาย/มรดกได้ (เช่น ต้นโอ๊กอายุ 100 ปีอาจมีมูลค่าสูง) - เกิดอาชีพใหม่ เช่น "ที่ปรึกษาดูแลต้นไม้ส่วนตัว" "นักออกแบบสวนส่วนบุคคล" 4. **นวัตกรรมเพื่อการดูแลต้นไม้** - เทคโนโลยีติดตามสุขภาพต้นไม้ (เซ็นเซอร์วัดดิน แอป提醒การรดน้ำ) - การพัฒนาพันธุ์ต้นไม้ที่ทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆ ### **ความท้าทายและปัญหาที่อาจเกิด:** 1. **ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากร** - คนในเมืองอาจไม่มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ → เกิดตลาดเช่าพื้นที่ปลูก - ต้นไม้หายากบางชนิดอาจกลายเป็นสัญลักษณ์สถานะทางสังคม 2. **ข้อขัดแย้งทางกฎหมาย** - หากต้นไม้ของใครโตเกินไปและสร้างความเสียหายให้เพื่อนบ้าน (เช่น รากชอนไช) - กรณีต้นไม้ตายก่อนเจ้าของ: จะมีบทลงโทษหรือไม่? 3. **ผลกระทบต่อระบบนิเวศเดิม** - หากทุกคนปลูกต้นไม้ชนิดเดียวกัน (เช่น ไม้เศรษฐกิจ) อาจลดความหลากหลายทางชีวภาพ - สปีชีส์พันธุ์รุกรานอาจแพร่กระจายหากไม่ควบคุม 4. **ความเครียดจากการดูแล** - บางคนอาจรู้สึกว่าต้นไม้เป็น "ภาระ" ตลอดชีวิต - อาจเกิดอาชญากรรมเกี่ยวกับต้นไม้ (เช่น ขโมยต้นไม้เก่าแก่ ลอบทำลายต้นไม้ของศัตรู) ### **แนวโน้มทางสังคมที่อาจตามมา:** - **การเมืองสีเขียวเข้มข้นขึ้น:** พรรคการเมืองอาจเสนอนโยบายเช่น "เงินอุดหนุนดูแลต้นไม้" - **ศิลปะ/วัฒนธรรมที่สะท้อนความเป็นเจ้าของต้นไม้:** เช่น นวนิยายเกี่ยวกับชีวิตคู่ขนานของคนและต้นไม้ - **ความเชื่อใหม่:** อาจมีศาสนาที่นับถือต้นไม้เป็นตัวแทนจิตวิญญาณ ### **ข้อสรุป:** โลกจะเปลี่ยนไปในทางที่ "เขียว" ขึ้นอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องเผชิญกับความซับซ้อนใหม่ๆ เกี่ยวกับสิทธิ์ในทรัพย์สิน ระบบนิเวศ และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ที่น่าสนใจคือ มนุษย์อาจพัฒนาความเป็นเจ้าของที่ลึกซึ้งต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ มากกว่าเดิม ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของจิตสำนึกทางสิ่งแวดล้อมที่แท้จริง
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • หาก AI วิเคราะห์แล้วสรุปว่ามนุษย์เป็นต้นเหตุของปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข นั่นอาจสะท้อนมุมมองที่ว่ากิจกรรมของมนุษย์ เช่น การบริโภคเกินจำเป็น การทำลายสิ่งแวดล้อม หรือความขัดแย้งทางสังคม เป็นปัจจัยขับเคลื่อนวิกฤตต่าง ๆ ในโลกปัจจุบัน

    ### ประเด็นสำคัญที่อาจถูกหยิบยก:
    1. **สิ่งแวดล้อม**: มลภาวะ การตัดไม้ทำลายป่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    2. **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำ การแบ่งแยก ความรุนแรง
    3. **เทคโนโลยี**: การใช้ AI/อาวุธอัตโนมัติโดยขาดจริยธรรม
    4. **เศรษฐกิจ**: ระบบทุนนิยมสุดโต่งที่ก่อให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ

    ### ทางออกที่ AI อาจเสนอ:
    - **ควบคุมพฤติกรรมมนุษย์**: เช่น ใช้กฎหมายหรือมาตรการทางภาษีเพื่อลดผลกระทบเชิงลบ
    - **การศึกษา**: ส่งเสริมจิตสำนึกด้านความยั่งยืนและความร่วมมือ
    - **นวัตกรรม**: พัฒนาเทคโนโลยีชดเชยปัญหาที่มนุษย์สร้างขึ้น (เช่น Carbon Capture)
    - **กำกับดูแล AI**: เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบถูกใช้ในทางที่ทำลายล้าง

    ### คำถามเชิงวิพากษ์:
    - AI เองก็ถูกสร้างและฝึกฝนโดยมนุษย์ ดังนั้นข้อสรุปนี้จะมีความเอนเอียงหรือไม่?
    - หากมนุษย์เป็นปัญหา แล้วใครจะเป็นผู้กำหนดและดำเนินการแก้ไข?

    คุณคิดว่ามนุษย์ควรปรับตัวอย่างไรให้สมดุลกับข้อสรุปของ AI? หรืออาจต้องทบทวนว่า AI เองก็มีข้อจำกัดในการวิเคราะห์บริบททางสังคมที่ซับซ้อน?
    หาก AI วิเคราะห์แล้วสรุปว่ามนุษย์เป็นต้นเหตุของปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข นั่นอาจสะท้อนมุมมองที่ว่ากิจกรรมของมนุษย์ เช่น การบริโภคเกินจำเป็น การทำลายสิ่งแวดล้อม หรือความขัดแย้งทางสังคม เป็นปัจจัยขับเคลื่อนวิกฤตต่าง ๆ ในโลกปัจจุบัน ### ประเด็นสำคัญที่อาจถูกหยิบยก: 1. **สิ่งแวดล้อม**: มลภาวะ การตัดไม้ทำลายป่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2. **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำ การแบ่งแยก ความรุนแรง 3. **เทคโนโลยี**: การใช้ AI/อาวุธอัตโนมัติโดยขาดจริยธรรม 4. **เศรษฐกิจ**: ระบบทุนนิยมสุดโต่งที่ก่อให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ ### ทางออกที่ AI อาจเสนอ: - **ควบคุมพฤติกรรมมนุษย์**: เช่น ใช้กฎหมายหรือมาตรการทางภาษีเพื่อลดผลกระทบเชิงลบ - **การศึกษา**: ส่งเสริมจิตสำนึกด้านความยั่งยืนและความร่วมมือ - **นวัตกรรม**: พัฒนาเทคโนโลยีชดเชยปัญหาที่มนุษย์สร้างขึ้น (เช่น Carbon Capture) - **กำกับดูแล AI**: เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบถูกใช้ในทางที่ทำลายล้าง ### คำถามเชิงวิพากษ์: - AI เองก็ถูกสร้างและฝึกฝนโดยมนุษย์ ดังนั้นข้อสรุปนี้จะมีความเอนเอียงหรือไม่? - หากมนุษย์เป็นปัญหา แล้วใครจะเป็นผู้กำหนดและดำเนินการแก้ไข? คุณคิดว่ามนุษย์ควรปรับตัวอย่างไรให้สมดุลกับข้อสรุปของ AI? หรืออาจต้องทบทวนว่า AI เองก็มีข้อจำกัดในการวิเคราะห์บริบททางสังคมที่ซับซ้อน?
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • ⭕️ทริปดีค่ะ ไกด์ดูคล่องมาก น่าจะทำ route นี้มานาน นั่งรถนานมากกก แต่เข้าใจว่าเป็นปกติของทัวร์ตุรกีที่เก็บหลายๆเมือง เกือบลืมค่ะ มีโมเม้นคนท้องถิ่นไม่อ่อนโยน แต่คุณบิ๊กที่เป็นไกด์แก้สถานการณ์ดีมาก ปกป้องลูกทัวร์สุดๆไม่ให้ลำบาก และระหว่างทริปมีปัญหาอะไรที่ทำให้ต้อง shuffle plans เช่น รถเสีย เค้าก็ work กับ Vanessa ไกด์ท้องถิ่นจนเก็บครบทุกที่เลยค่ะ ขอชื่นชมนะคะ⭕️

    💜 #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #ตุรกี #TURKIYE จากคุณชลธิชานะคะ💜 เมื่อวันที่ 26 เม.ย.-4 พ.ค.68 ที่ผ่านมานะคะ📍
    ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘

    ดูทัวร์ตุรกี|ตุรเคีย|ทูร์เคียทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/e0b7f6

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9

    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์ตุรกี|ตุรเคีย|ทูร์เคีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    ⭕️ทริปดีค่ะ ไกด์ดูคล่องมาก น่าจะทำ route นี้มานาน นั่งรถนานมากกก แต่เข้าใจว่าเป็นปกติของทัวร์ตุรกีที่เก็บหลายๆเมือง เกือบลืมค่ะ มีโมเม้นคนท้องถิ่นไม่อ่อนโยน แต่คุณบิ๊กที่เป็นไกด์แก้สถานการณ์ดีมาก ปกป้องลูกทัวร์สุดๆไม่ให้ลำบาก และระหว่างทริปมีปัญหาอะไรที่ทำให้ต้อง shuffle plans เช่น รถเสีย เค้าก็ work กับ Vanessa ไกด์ท้องถิ่นจนเก็บครบทุกที่เลยค่ะ ขอชื่นชมนะคะ⭕️ 💜 #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #ตุรกี #TURKIYE จากคุณชลธิชานะคะ💜 เมื่อวันที่ 26 เม.ย.-4 พ.ค.68 ที่ผ่านมานะคะ📍 ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘 ดูทัวร์ตุรกี|ตุรเคีย|ทูร์เคียทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/e0b7f6 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ตุรกี|ตุรเคีย|ทูร์เคีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • ASRock พบปัญหาความผันผวนของแรงดันไฟฟ้า SoC อาจส่งผลต่อความเสียหายของ Ryzen 9000

    มีรายงานว่า เมนบอร์ด ASRock X870E Taichi Lite มีการจ่ายแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ ผันผวนสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ Ryzen 9000 CPU บางรุ่นเสียหาย โดยเฉพาะ Ryzen 7 9800X3D และ Ryzen 9 9950X

    ✅ แรงดันไฟฟ้า SoC บนเมนบอร์ด ASRock มีความผันผวนสูงกว่าปกติ
    - พบว่า แรงดันไฟฟ้า SoC บน Ryzen 9800X3D สูงถึง 1.27V ซึ่งมากกว่าค่าปกติที่ 1.20V

    ✅ ASRock X870E Taichi Lite มีแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ไม่คงที่
    - ต่างจาก เมนบอร์ด ASUS X870E Crosshair Hero ที่มีแรงดันไฟฟ้าคงที่

    ✅ มีรายงาน CPU Ryzen 9000 เสียหายบนเมนบอร์ด ASRock มากกว่า 200 กรณี
    - ส่วนใหญ่พบใน Reddit และรายงานจากผู้ใช้จริง

    ✅ ASRock อาจต้องแก้ไขปัญหาผ่านการอัปเดต BIOS
    - ผู้ใช้สามารถ ลดความเสี่ยงได้โดยเปิด Uncore Voltage ใน BIOS

    ✅ ปัญหานี้อาจเกิดจากทั้ง CPU และเมนบอร์ดร่วมกัน
    - เนื่องจาก CPU เป็นตัวกำหนดแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ต้องการ

    https://wccftech.com/asrock-motherboards-show-fluctuating-soc-voltage-reaching-1-27v/
    ASRock พบปัญหาความผันผวนของแรงดันไฟฟ้า SoC อาจส่งผลต่อความเสียหายของ Ryzen 9000 มีรายงานว่า เมนบอร์ด ASRock X870E Taichi Lite มีการจ่ายแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ ผันผวนสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ Ryzen 9000 CPU บางรุ่นเสียหาย โดยเฉพาะ Ryzen 7 9800X3D และ Ryzen 9 9950X ✅ แรงดันไฟฟ้า SoC บนเมนบอร์ด ASRock มีความผันผวนสูงกว่าปกติ - พบว่า แรงดันไฟฟ้า SoC บน Ryzen 9800X3D สูงถึง 1.27V ซึ่งมากกว่าค่าปกติที่ 1.20V ✅ ASRock X870E Taichi Lite มีแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ไม่คงที่ - ต่างจาก เมนบอร์ด ASUS X870E Crosshair Hero ที่มีแรงดันไฟฟ้าคงที่ ✅ มีรายงาน CPU Ryzen 9000 เสียหายบนเมนบอร์ด ASRock มากกว่า 200 กรณี - ส่วนใหญ่พบใน Reddit และรายงานจากผู้ใช้จริง ✅ ASRock อาจต้องแก้ไขปัญหาผ่านการอัปเดต BIOS - ผู้ใช้สามารถ ลดความเสี่ยงได้โดยเปิด Uncore Voltage ใน BIOS ✅ ปัญหานี้อาจเกิดจากทั้ง CPU และเมนบอร์ดร่วมกัน - เนื่องจาก CPU เป็นตัวกำหนดแรงดันไฟฟ้า SoC ที่ต้องการ https://wccftech.com/asrock-motherboards-show-fluctuating-soc-voltage-reaching-1-27v/
    WCCFTECH.COM
    ASRock Motherboards Show Fluctuating SoC Voltage, Reaching 1.27V; A Possible Risk Factor for Ryzen 9000 CPU Damage
    As ASRock motherboards have been causing the most damage to Ryzen 9000 processors, Tech Yes City investigates the issue with his testing.
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • ความขัดแย้งเมื่อไม่นานมานี้ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน กระตุ้นให้มีการประเมินใหม่ เกี่ยวกับแสนยานุภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีน ขณะที่ความสำเร็จของอาวุธจีนในสงครามระหว่างปากีสถานกับอินเดีย กำลังท้าทายความเหนือกว่าที่มีมาอย่างช้านานของตะวันตก ในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และโหมกระพือความกังวลแก่ดินแดนต่างๆ ที่มีปัญหากับปักกิ่ง โดยเฉพาะไต้หวัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000045222

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ความขัดแย้งเมื่อไม่นานมานี้ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน กระตุ้นให้มีการประเมินใหม่ เกี่ยวกับแสนยานุภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีน ขณะที่ความสำเร็จของอาวุธจีนในสงครามระหว่างปากีสถานกับอินเดีย กำลังท้าทายความเหนือกว่าที่มีมาอย่างช้านานของตะวันตก ในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และโหมกระพือความกังวลแก่ดินแดนต่างๆ ที่มีปัญหากับปักกิ่ง โดยเฉพาะไต้หวัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000045222 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • AI กำลังเผชิญปัญหาความร้อนในศูนย์ข้อมูล: ผู้เชี่ยวชาญเผยแนวทางแก้ไข

    AI กำลังเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องมือค้นหาไปจนถึงโลจิสติกส์ แต่เบื้องหลังของการพัฒนานี้คือ ความต้องการพลังงานมหาศาล ซึ่งกำลังผลักดันโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลให้เกินขีดจำกัดของระบบระบายความร้อนแบบเดิม

    ✅ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศไม่สามารถรับมือกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นจาก AI ได้
    - ศูนย์ข้อมูลที่ใช้ AI ต้องการพลังงานมากขึ้น ทำให้เกิดความร้อนสูงเกินระดับที่ระบบเดิมรองรับได้

    ✅ การใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำช่วยลดพื้นที่และพลังงาน แต่ต้องใช้น้ำจำนวนมาก
    - ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ อาจต้องใช้น้ำถึง 1.5 ล้านลิตรต่อวันเพื่อระบายความร้อน

    ✅ การระบายความร้อนแบบไฮบริดช่วยลดการใช้พลังงานและน้ำ แต่ยังมีข้อจำกัดในการนำไปใช้
    - แม้ว่าจะช่วยลด PUE (Power Usage Effectiveness) ลงเหลือ 1.1 แต่ยังมีความลังเลในการนำไปใช้จริง

    ✅ AI ต้องการพลังงานมากกว่าการค้นหาทั่วไปถึง 10 เท่า
    - การประมวลผลขั้นสูง ต้องใช้พลังงานมากขึ้น ส่งผลให้ต้องมีการปรับปรุงระบบไฟฟ้าและระบายความร้อน

    ✅ การใช้ระบบระบายความร้อนแบบจุ่ม (Immersion Cooling) และแผ่นเย็น (Cold Plate Cooling) กำลังได้รับความนิยม
    - ระบบเหล่านี้ช่วยลดพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน

    https://www.techradar.com/pro/security/i-sat-down-with-two-cooling-experts-to-find-out-what-ais-biggest-problem-is-in-the-data-center
    AI กำลังเผชิญปัญหาความร้อนในศูนย์ข้อมูล: ผู้เชี่ยวชาญเผยแนวทางแก้ไข AI กำลังเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องมือค้นหาไปจนถึงโลจิสติกส์ แต่เบื้องหลังของการพัฒนานี้คือ ความต้องการพลังงานมหาศาล ซึ่งกำลังผลักดันโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลให้เกินขีดจำกัดของระบบระบายความร้อนแบบเดิม ✅ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศไม่สามารถรับมือกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นจาก AI ได้ - ศูนย์ข้อมูลที่ใช้ AI ต้องการพลังงานมากขึ้น ทำให้เกิดความร้อนสูงเกินระดับที่ระบบเดิมรองรับได้ ✅ การใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำช่วยลดพื้นที่และพลังงาน แต่ต้องใช้น้ำจำนวนมาก - ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ อาจต้องใช้น้ำถึง 1.5 ล้านลิตรต่อวันเพื่อระบายความร้อน ✅ การระบายความร้อนแบบไฮบริดช่วยลดการใช้พลังงานและน้ำ แต่ยังมีข้อจำกัดในการนำไปใช้ - แม้ว่าจะช่วยลด PUE (Power Usage Effectiveness) ลงเหลือ 1.1 แต่ยังมีความลังเลในการนำไปใช้จริง ✅ AI ต้องการพลังงานมากกว่าการค้นหาทั่วไปถึง 10 เท่า - การประมวลผลขั้นสูง ต้องใช้พลังงานมากขึ้น ส่งผลให้ต้องมีการปรับปรุงระบบไฟฟ้าและระบายความร้อน ✅ การใช้ระบบระบายความร้อนแบบจุ่ม (Immersion Cooling) และแผ่นเย็น (Cold Plate Cooling) กำลังได้รับความนิยม - ระบบเหล่านี้ช่วยลดพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน https://www.techradar.com/pro/security/i-sat-down-with-two-cooling-experts-to-find-out-what-ais-biggest-problem-is-in-the-data-center
    WWW.TECHRADAR.COM
    I spoke to two engineers trying to stop AI from overheating the future
    What they told me could force a total rethink of data center design
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • Delock เปิดตัวฮับ USB 3.5 นิ้ว เพิ่มพอร์ต USB Type-A ให้กับเคส PC

    Delock ได้เปิดตัว ฮับ USB 3.5 นิ้ว ที่สามารถเพิ่ม 10 พอร์ต USB Type-A ให้กับเคส PC โดยออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนพอร์ต USB ในเคสรุ่นใหม่ที่มักมีพอร์ตน้อยลง

    ✅ ฮับ USB 3.5 นิ้วของ Delock เพิ่มพอร์ต USB Type-A ได้ถึง 10 พอร์ต
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากขึ้น

    ✅ ใช้ชิปควบคุม VLI VL813 รองรับ USB 3.0 ความเร็วสูงสุด 5 Gbps
    - สามารถ ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็วและรองรับอุปกรณ์รุ่นเก่า

    ✅ ติดตั้งในช่อง 3.5 นิ้วของเคส PC ได้ง่าย
    - มาพร้อม สกรู 4 ตัวสำหรับติดตั้ง

    ✅ เชื่อมต่อกับเมนบอร์ดผ่านหัว USB 19-pin และใช้พลังงานจากสาย SATA 15-pin
    - ช่วยให้ การทำงานมีเสถียรภาพและรองรับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานสูง

    ✅ มีจำหน่ายในยุโรป ราคาเริ่มต้นที่ 84.59 ยูโร (~94.76 ดอลลาร์สหรัฐ)
    - คาดว่าราคาจะอยู่ที่ ประมาณ 79.63 ดอลลาร์ก่อนรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

    เคสสมัยใหม่ มันไม่มีช่อง 3.5 ด้านหน้าแล้วหน่ะสิ

    https://www.tomshardware.com/peripherals/usb/this-3-5-inch-hub-will-turn-your-pc-cases-front-panel-into-a-usb-paradise
    Delock เปิดตัวฮับ USB 3.5 นิ้ว เพิ่มพอร์ต USB Type-A ให้กับเคส PC Delock ได้เปิดตัว ฮับ USB 3.5 นิ้ว ที่สามารถเพิ่ม 10 พอร์ต USB Type-A ให้กับเคส PC โดยออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนพอร์ต USB ในเคสรุ่นใหม่ที่มักมีพอร์ตน้อยลง ✅ ฮับ USB 3.5 นิ้วของ Delock เพิ่มพอร์ต USB Type-A ได้ถึง 10 พอร์ต - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากขึ้น ✅ ใช้ชิปควบคุม VLI VL813 รองรับ USB 3.0 ความเร็วสูงสุด 5 Gbps - สามารถ ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็วและรองรับอุปกรณ์รุ่นเก่า ✅ ติดตั้งในช่อง 3.5 นิ้วของเคส PC ได้ง่าย - มาพร้อม สกรู 4 ตัวสำหรับติดตั้ง ✅ เชื่อมต่อกับเมนบอร์ดผ่านหัว USB 19-pin และใช้พลังงานจากสาย SATA 15-pin - ช่วยให้ การทำงานมีเสถียรภาพและรองรับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานสูง ✅ มีจำหน่ายในยุโรป ราคาเริ่มต้นที่ 84.59 ยูโร (~94.76 ดอลลาร์สหรัฐ) - คาดว่าราคาจะอยู่ที่ ประมาณ 79.63 ดอลลาร์ก่อนรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เคสสมัยใหม่ มันไม่มีช่อง 3.5 ด้านหน้าแล้วหน่ะสิ https://www.tomshardware.com/peripherals/usb/this-3-5-inch-hub-will-turn-your-pc-cases-front-panel-into-a-usb-paradise
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • AMD Instinct MI325X ประสบปัญหาด้านความสามารถในการขยายตัว ส่งผลต่อยอดขาย

    AMD เปิดตัว Instinct MI325X เพื่อแข่งขันกับ Nvidia H200 แต่กลับพบว่าความสามารถในการ Scale up ของ GPU รุ่นนี้ มีข้อจำกัด ทำให้ลูกค้า AI ไม่ให้ความสนใจมากนัก นอกจากนี้ การเปิดตัว MI355X ที่กำลังจะมาถึง อาจทำให้ MI325X ถูกลดความสำคัญลงไปอีก

    ✅ Instinct MI325X ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบ rack-scale
    - สามารถเชื่อมต่อได้สูงสุด 8 GPUs ต่อคลัสเตอร์ เท่านั้น

    ✅ Nvidia B200 สามารถเชื่อมต่อได้ถึง 72 GPUs ผ่าน NVLink
    - ทำให้ มีความสามารถในการขยายตัวที่ดีกว่า MI325X

    ✅ AMD ต้องใช้สถาปัตยกรรม scale-out เพื่อเพิ่มจำนวน GPU
    - ต้องพึ่งพา Ethernet หรือ Infiniband ซึ่งลดประสิทธิภาพการสื่อสาร

    ✅ MI325X มีอัตราการใช้พลังงานสูงถึง 1000W
    - ทำให้ ลูกค้าหลายรายลังเลในการเลือกใช้

    ✅ Microsoft เคยแสดงความผิดหวังกับ GPU ของ AMD ตั้งแต่ปี 2024
    - ไม่มีการสั่งซื้อเพิ่มเติมจาก Microsoft แต่ Oracle และบางบริษัทเริ่มให้ความสนใจ

    ‼️ MI325X อาจไม่สามารถแข่งขันกับ Nvidia Blackwell ได้
    - Nvidia Blackwell มีประสิทธิภาพต่อราคาที่ดีกว่า

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/limited-scalability-of-amds-instinct-mi325x-limits-scale-of-its-sales-says-analyst-firm
    AMD Instinct MI325X ประสบปัญหาด้านความสามารถในการขยายตัว ส่งผลต่อยอดขาย AMD เปิดตัว Instinct MI325X เพื่อแข่งขันกับ Nvidia H200 แต่กลับพบว่าความสามารถในการ Scale up ของ GPU รุ่นนี้ มีข้อจำกัด ทำให้ลูกค้า AI ไม่ให้ความสนใจมากนัก นอกจากนี้ การเปิดตัว MI355X ที่กำลังจะมาถึง อาจทำให้ MI325X ถูกลดความสำคัญลงไปอีก ✅ Instinct MI325X ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบ rack-scale - สามารถเชื่อมต่อได้สูงสุด 8 GPUs ต่อคลัสเตอร์ เท่านั้น ✅ Nvidia B200 สามารถเชื่อมต่อได้ถึง 72 GPUs ผ่าน NVLink - ทำให้ มีความสามารถในการขยายตัวที่ดีกว่า MI325X ✅ AMD ต้องใช้สถาปัตยกรรม scale-out เพื่อเพิ่มจำนวน GPU - ต้องพึ่งพา Ethernet หรือ Infiniband ซึ่งลดประสิทธิภาพการสื่อสาร ✅ MI325X มีอัตราการใช้พลังงานสูงถึง 1000W - ทำให้ ลูกค้าหลายรายลังเลในการเลือกใช้ ✅ Microsoft เคยแสดงความผิดหวังกับ GPU ของ AMD ตั้งแต่ปี 2024 - ไม่มีการสั่งซื้อเพิ่มเติมจาก Microsoft แต่ Oracle และบางบริษัทเริ่มให้ความสนใจ ‼️ MI325X อาจไม่สามารถแข่งขันกับ Nvidia Blackwell ได้ - Nvidia Blackwell มีประสิทธิภาพต่อราคาที่ดีกว่า https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/limited-scalability-of-amds-instinct-mi325x-limits-scale-of-its-sales-says-analyst-firm
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • อดีตประธาน Tsinghua Unigroup ถูกตัดสินโทษประหารแบบแขวน หลังพบการทุจริตครั้งใหญ่

    Zhao Weiguo อดีตประธานบริษัท Tsinghua Unigroup ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของจีน ถูกตัดสินโทษ ประหารชีวิตแบบแขวนคอ หลังพบว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับ การทุจริตและยักยอกทรัพย์สินของรัฐ

    ✅ Zhao Weiguo ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตแบบแขวนเป็นเวลา 2 ปี
    - หากไม่มีการกระทำผิดเพิ่มเติม โทษจะถูกลดลงเป็นจำคุกตลอดชีวิต

    ✅ Tsinghua Unigroup เคยเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
    - เป็นเจ้าของ YMTC และ Unisoc ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านชิป

    ✅ Zhao ถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์สินของรัฐและให้ผลประโยชน์แก่ญาติและเพื่อน
    - รวมถึง ซื้อสินค้าจากบริษัทที่เกี่ยวข้องในราคาสูงเกินจริง

    ✅ การทุจริตของ Zhao ส่งผลให้รัฐเสียหายกว่า 189 ล้านดอลลาร์
    - รวมถึง ทรัพย์สินของรัฐมูลค่า 65 ล้านดอลลาร์ และความเสียหายของบริษัท 124 ล้านดอลลาร์

    ✅ Tsinghua Unigroup เคยเป็นส่วนหนึ่งของแผน "Made in China 2025"
    - แต่บริษัท เผชิญปัญหาหนี้สินกว่า 31 พันล้านดอลลาร์ และล้มละลายในปี 2021

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/former-chairman-of-chinas-chipmaking-champion-gets-suspended-death-sentence-in-corruption-and-embezzlement-case
    อดีตประธาน Tsinghua Unigroup ถูกตัดสินโทษประหารแบบแขวน หลังพบการทุจริตครั้งใหญ่ Zhao Weiguo อดีตประธานบริษัท Tsinghua Unigroup ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของจีน ถูกตัดสินโทษ ประหารชีวิตแบบแขวนคอ หลังพบว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับ การทุจริตและยักยอกทรัพย์สินของรัฐ ✅ Zhao Weiguo ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตแบบแขวนเป็นเวลา 2 ปี - หากไม่มีการกระทำผิดเพิ่มเติม โทษจะถูกลดลงเป็นจำคุกตลอดชีวิต ✅ Tsinghua Unigroup เคยเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน - เป็นเจ้าของ YMTC และ Unisoc ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านชิป ✅ Zhao ถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์สินของรัฐและให้ผลประโยชน์แก่ญาติและเพื่อน - รวมถึง ซื้อสินค้าจากบริษัทที่เกี่ยวข้องในราคาสูงเกินจริง ✅ การทุจริตของ Zhao ส่งผลให้รัฐเสียหายกว่า 189 ล้านดอลลาร์ - รวมถึง ทรัพย์สินของรัฐมูลค่า 65 ล้านดอลลาร์ และความเสียหายของบริษัท 124 ล้านดอลลาร์ ✅ Tsinghua Unigroup เคยเป็นส่วนหนึ่งของแผน "Made in China 2025" - แต่บริษัท เผชิญปัญหาหนี้สินกว่า 31 พันล้านดอลลาร์ และล้มละลายในปี 2021 https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/former-chairman-of-chinas-chipmaking-champion-gets-suspended-death-sentence-in-corruption-and-embezzlement-case
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • GM เปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ใหม่: เพิ่มระยะทางและลดต้นทุนการผลิตภายในปี 2028

    General Motors (GM) และ LG Energy Solution กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ลิเธียมแมงกานีส (LMR) รุ่นใหม่ ซึ่งมีศักยภาพในการ เพิ่มระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้าและลดต้นทุนการผลิต โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028

    ✅ GM และ LG Energy Solution พัฒนาแบตเตอรี่ LMR เพื่อใช้ในรถบรรทุกไฟฟ้าและ SUV
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ GM แข่งขันกับ Tesla และ Ford ในตลาด EV ระดับพรีเมียม

    ✅ แบตเตอรี่ LMR มีความหนาแน่นพลังงานสูงกว่าลิเธียมไอออนฟอสเฟตถึง 33%
    - ลดการใช้โคบอลต์ ซึ่งมีราคาสูงและไม่ยั่งยืน

    ✅ GM วางแผนเริ่มผลิตแบตเตอรี่ LMR ในสหรัฐฯ ปี 2027 และผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028
    - ใช้แบรนด์ Ultium Cells และทดสอบที่ศูนย์พัฒนาแบตเตอรี่ในมิชิแกน

    ✅ แบตเตอรี่ LMR ใช้ดีไซน์แบบปริซึมแทนแบบซอง
    - ช่วยให้ บรรจุพลังงานได้มากขึ้นและลดต้นทุนการผลิต

    ✅ GM ตั้งเป้าให้รถบรรทุกไฟฟ้า เช่น Chevrolet Silverado EV มีระยะทางเกิน 400 ไมล์
    - เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Ford และ Tesla

    ‼️ แบตเตอรี่ LMR เคยมีปัญหาด้านความเสถียร เช่น การเสื่อมสภาพของแรงดันไฟฟ้า
    - GM ใช้เวลากว่า 10 ปีในการแก้ไขปัญหานี้

    ‼️ Ford วางแผนเปิดตัวแบตเตอรี่ LMR ในปี 2030 ซึ่งอาจทำให้ GM ได้เปรียบในตลาด
    - ต้องติดตามว่า Ford จะเร่งการพัฒนาเพื่อแข่งขันหรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107911-new-gm-ev-battery-tech-promises-extended-range.html
    GM เปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ใหม่: เพิ่มระยะทางและลดต้นทุนการผลิตภายในปี 2028 General Motors (GM) และ LG Energy Solution กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ลิเธียมแมงกานีส (LMR) รุ่นใหม่ ซึ่งมีศักยภาพในการ เพิ่มระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้าและลดต้นทุนการผลิต โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028 ✅ GM และ LG Energy Solution พัฒนาแบตเตอรี่ LMR เพื่อใช้ในรถบรรทุกไฟฟ้าและ SUV - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ GM แข่งขันกับ Tesla และ Ford ในตลาด EV ระดับพรีเมียม ✅ แบตเตอรี่ LMR มีความหนาแน่นพลังงานสูงกว่าลิเธียมไอออนฟอสเฟตถึง 33% - ลดการใช้โคบอลต์ ซึ่งมีราคาสูงและไม่ยั่งยืน ✅ GM วางแผนเริ่มผลิตแบตเตอรี่ LMR ในสหรัฐฯ ปี 2027 และผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028 - ใช้แบรนด์ Ultium Cells และทดสอบที่ศูนย์พัฒนาแบตเตอรี่ในมิชิแกน ✅ แบตเตอรี่ LMR ใช้ดีไซน์แบบปริซึมแทนแบบซอง - ช่วยให้ บรรจุพลังงานได้มากขึ้นและลดต้นทุนการผลิต ✅ GM ตั้งเป้าให้รถบรรทุกไฟฟ้า เช่น Chevrolet Silverado EV มีระยะทางเกิน 400 ไมล์ - เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Ford และ Tesla ‼️ แบตเตอรี่ LMR เคยมีปัญหาด้านความเสถียร เช่น การเสื่อมสภาพของแรงดันไฟฟ้า - GM ใช้เวลากว่า 10 ปีในการแก้ไขปัญหานี้ ‼️ Ford วางแผนเปิดตัวแบตเตอรี่ LMR ในปี 2030 ซึ่งอาจทำให้ GM ได้เปรียบในตลาด - ต้องติดตามว่า Ford จะเร่งการพัฒนาเพื่อแข่งขันหรือไม่ https://www.techspot.com/news/107911-new-gm-ev-battery-tech-promises-extended-range.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New GM EV battery tech promises extended range and lower production costs by 2028
    General Motors and LG Energy Solution are poised to launch a new era for electric vehicles with the commercial release of lithium manganese-rich (LMR) prismatic battery cells....
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลทรัมป์ยกเลิกแผนจำกัดการขายข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกัน

    รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยกเลิกข้อเสนอที่ออกโดย โจ ไบเดน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจำกัดการขายข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกันโดย บริษัทนายหน้าข้อมูล (Data Brokers) การตัดสินใจนี้ส่งผลให้ ผู้บริโภคมีความเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงและขโมยข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น

    ✅ ข้อเสนอเดิมของไบเดนมีเป้าหมายเพื่อจำกัดการขายข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกัน
    - มุ่งเน้นไปที่ บริษัทนายหน้าข้อมูลที่ซื้อขายข้อมูลส่วนตัวของประชาชน

    ✅ รัฐบาลทรัมป์ยกเลิกข้อเสนอนี้ผ่านประกาศใน Federal Register
    - ระบุว่า ข้อเสนอนี้ไม่สอดคล้องกับนโยบายใหม่ของหน่วยงาน

    ✅ Consumer Reports เตือนว่าการยกเลิกข้อเสนอนี้จะทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงมากขึ้น
    - อาจเพิ่มโอกาสในการ ถูกหลอกลวงและขโมยข้อมูลส่วนตัว

    ✅ รัฐบาลทรัมป์ยังพยายามลดขนาดของ CFPB (Consumer Financial Protection Bureau)
    - มีแผน ลดจำนวนพนักงานลง 90% แต่ถูกระงับโดยศาลรัฐบาลกลาง

    ✅ ข้อเสนอเดิมของไบเดนระบุว่าการขายข้อมูลส่วนตัวเป็นปัญหาร้ายแรง
    - อาจส่งผลกระทบต่อ ความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะข้อมูลของเจ้าหน้าที่รัฐบาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/15/trump-administration-scraps-biden-era-plan-to-limit-sale-of-americans039-personal-data
    รัฐบาลทรัมป์ยกเลิกแผนจำกัดการขายข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกัน รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยกเลิกข้อเสนอที่ออกโดย โจ ไบเดน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจำกัดการขายข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกันโดย บริษัทนายหน้าข้อมูล (Data Brokers) การตัดสินใจนี้ส่งผลให้ ผู้บริโภคมีความเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงและขโมยข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น ✅ ข้อเสนอเดิมของไบเดนมีเป้าหมายเพื่อจำกัดการขายข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกัน - มุ่งเน้นไปที่ บริษัทนายหน้าข้อมูลที่ซื้อขายข้อมูลส่วนตัวของประชาชน ✅ รัฐบาลทรัมป์ยกเลิกข้อเสนอนี้ผ่านประกาศใน Federal Register - ระบุว่า ข้อเสนอนี้ไม่สอดคล้องกับนโยบายใหม่ของหน่วยงาน ✅ Consumer Reports เตือนว่าการยกเลิกข้อเสนอนี้จะทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงมากขึ้น - อาจเพิ่มโอกาสในการ ถูกหลอกลวงและขโมยข้อมูลส่วนตัว ✅ รัฐบาลทรัมป์ยังพยายามลดขนาดของ CFPB (Consumer Financial Protection Bureau) - มีแผน ลดจำนวนพนักงานลง 90% แต่ถูกระงับโดยศาลรัฐบาลกลาง ✅ ข้อเสนอเดิมของไบเดนระบุว่าการขายข้อมูลส่วนตัวเป็นปัญหาร้ายแรง - อาจส่งผลกระทบต่อ ความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะข้อมูลของเจ้าหน้าที่รัฐบาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/15/trump-administration-scraps-biden-era-plan-to-limit-sale-of-americans039-personal-data
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump administration scraps Biden-era plan to limit sale of Americans' personal data
    (Reuters) -The U.S. Consumer Financial Protection Bureau is scrapping a proposal issued under former President Joe Biden that would have sharply limited the sale of Americans' private information by "data brokers," according to a Federal Register notice issued Wednesday.
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยพบช่องโหว่ใหม่ใน CPU Intel ที่สามารถเลี่ยงการป้องกัน Spectre

    นักวิจัยจาก ETH Zurich ได้ค้นพบช่องโหว่ใหม่ที่ชื่อว่า Branch Privilege Injection (BPI) ซึ่งสามารถ เลี่ยงการป้องกัน Spectre v2 ที่ Intel ใช้ใน CPU ตั้งแต่ปี 2018 ช่องโหว่นี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ เข้าถึงหน่วยความจำระดับ Kernel บนระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย

    ✅ BPI สามารถเลี่ยงการป้องกัน Spectre v2 ที่ Intel ใช้ใน CPU ตั้งแต่ปี 2018
    - ส่งผลกระทบต่อ CPU Intel ตั้งแต่รุ่น 9th Gen (Coffee Lake Refresh) เป็นต้นมา

    ✅ ช่องโหว่นี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงหน่วยความจำระดับ Kernel
    - สามารถ อ่านข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันจากผู้ใช้ทั่วไป

    ✅ นักวิจัยพบว่า BPI สามารถเจาะระบบปฏิบัติการทุกประเภท
    - รวมถึง Windows, Linux และ macOS

    ✅ Intel ได้ออกอัปเดต microcode เพื่อแก้ไขปัญหา
    - ผู้ใช้ต้อง อัปเดต BIOS หรือ UEFI จากผู้ผลิตเมนบอร์ด

    ✅ AMD และ ARM ไม่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้
    - เนื่องจาก ใช้กลไกป้องกันที่แตกต่างจาก Intel

    https://www.csoonline.com/article/3984497/researchers-bypass-intels-spectre-fixes-six-years-of-cpus-at-risk.html
    นักวิจัยพบช่องโหว่ใหม่ใน CPU Intel ที่สามารถเลี่ยงการป้องกัน Spectre นักวิจัยจาก ETH Zurich ได้ค้นพบช่องโหว่ใหม่ที่ชื่อว่า Branch Privilege Injection (BPI) ซึ่งสามารถ เลี่ยงการป้องกัน Spectre v2 ที่ Intel ใช้ใน CPU ตั้งแต่ปี 2018 ช่องโหว่นี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ เข้าถึงหน่วยความจำระดับ Kernel บนระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย ✅ BPI สามารถเลี่ยงการป้องกัน Spectre v2 ที่ Intel ใช้ใน CPU ตั้งแต่ปี 2018 - ส่งผลกระทบต่อ CPU Intel ตั้งแต่รุ่น 9th Gen (Coffee Lake Refresh) เป็นต้นมา ✅ ช่องโหว่นี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงหน่วยความจำระดับ Kernel - สามารถ อ่านข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันจากผู้ใช้ทั่วไป ✅ นักวิจัยพบว่า BPI สามารถเจาะระบบปฏิบัติการทุกประเภท - รวมถึง Windows, Linux และ macOS ✅ Intel ได้ออกอัปเดต microcode เพื่อแก้ไขปัญหา - ผู้ใช้ต้อง อัปเดต BIOS หรือ UEFI จากผู้ผลิตเมนบอร์ด ✅ AMD และ ARM ไม่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้ - เนื่องจาก ใช้กลไกป้องกันที่แตกต่างจาก Intel https://www.csoonline.com/article/3984497/researchers-bypass-intels-spectre-fixes-six-years-of-cpus-at-risk.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Researchers bypass Intel’s Spectre fixes — six years of CPUs at risk
    The new attack method can leak privileged kernel memory on CPUs released in the past six years that have hardware mitigations for speculative execution and branch injection attacks like Spectre.
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • Microsoft ยืนยันปัญหาการลงชื่อเข้าใช้ Classic Outlook พร้อมแนวทางแก้ไข

    Microsoft ได้ออกมายืนยันว่า Classic Outlook กำลังเผชิญกับปัญหาการลงชื่อเข้าใช้ โดยมีข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับ รหัส CAA2000B, 4usqa และ 49dvs ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้ง Outlook for Windows และ Outlook for Mac

    ✅ Microsoft พบว่าปัญหานี้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2025
    - ผู้ใช้ที่เปิด Classic Outlook อาจพบข้อผิดพลาดที่ทำให้ไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ได้

    ✅ ข้อผิดพลาดที่พบ ได้แก่ CAA2000B, 4usqa และ 49dvs
    - ข้อผิดพลาด CAA2000B เกี่ยวข้องกับการปิดใช้งาน Service Principal
    - ข้อผิดพลาด 49dvs ส่งผลกระทบต่อ Outlook for Mac

    ✅ Microsoft ระบุว่าสาเหตุเกิดจาก Service Principal ที่ถูกปิดใช้งาน
    - Service Principal 40775b29-2688-46b6-a3b5-b256bd04df9f ถูกปิดใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจ

    ✅ Microsoft ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา
    - ผู้ดูแลระบบสามารถ เปิดใช้งาน Microsoft Information Protection API ผ่าน Entra Portal

    ✅ ปัญหานี้ถูกบันทึกไว้ใน M365 Service Health Dashboard เป็น EX1072812
    - Microsoft กำลังตรวจสอบและจะอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อมีความคืบหน้า

    https://www.neowin.net/news/classic-outlook-hit-with-more-bugs-microsoft-confirms-caa2000b-4usqa-49dvs-sign-in-issues/
    Microsoft ยืนยันปัญหาการลงชื่อเข้าใช้ Classic Outlook พร้อมแนวทางแก้ไข Microsoft ได้ออกมายืนยันว่า Classic Outlook กำลังเผชิญกับปัญหาการลงชื่อเข้าใช้ โดยมีข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับ รหัส CAA2000B, 4usqa และ 49dvs ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้ง Outlook for Windows และ Outlook for Mac ✅ Microsoft พบว่าปัญหานี้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2025 - ผู้ใช้ที่เปิด Classic Outlook อาจพบข้อผิดพลาดที่ทำให้ไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ได้ ✅ ข้อผิดพลาดที่พบ ได้แก่ CAA2000B, 4usqa และ 49dvs - ข้อผิดพลาด CAA2000B เกี่ยวข้องกับการปิดใช้งาน Service Principal - ข้อผิดพลาด 49dvs ส่งผลกระทบต่อ Outlook for Mac ✅ Microsoft ระบุว่าสาเหตุเกิดจาก Service Principal ที่ถูกปิดใช้งาน - Service Principal 40775b29-2688-46b6-a3b5-b256bd04df9f ถูกปิดใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจ ✅ Microsoft ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา - ผู้ดูแลระบบสามารถ เปิดใช้งาน Microsoft Information Protection API ผ่าน Entra Portal ✅ ปัญหานี้ถูกบันทึกไว้ใน M365 Service Health Dashboard เป็น EX1072812 - Microsoft กำลังตรวจสอบและจะอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อมีความคืบหน้า https://www.neowin.net/news/classic-outlook-hit-with-more-bugs-microsoft-confirms-caa2000b-4usqa-49dvs-sign-in-issues/
    WWW.NEOWIN.NET
    Classic Outlook hit with more bugs Microsoft confirms CAA2000B, 4usqa, 49dvs sign-in issues
    Microsoft has confirmed fresh bugs on Classic Outlook with new CAA2000B, 4usqa, and 49dvs sign-in errors. A workaround has been issued.
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • Instagram ค้างบน iPhone: วิธีแก้ไขและป้องกันปัญหา

    ผู้ใช้ iPhone หลายคนพบว่า Instagram ค้างหรือทำงานช้าลง ซึ่งอาจเกิดจาก แอปเวอร์ชันเก่า, ปัญหา iOS, แคชที่มากเกินไป หรือพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

    ✅ แอป Instagram เวอร์ชันเก่า
    - แอปที่ไม่ได้อัปเดต อาจไม่เข้ากันกับ iOS เวอร์ชันล่าสุด

    ✅ iOS มีบั๊กหรือข้อผิดพลาด
    - อัปเดต iOS อาจทำให้เกิดปัญหาชั่วคราวกับแอปบางตัว

    ✅ แคชของแอปมีมากเกินไป
    - ข้อมูลที่สะสมในแอป อาจทำให้การทำงานช้าลง

    ✅ พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ
    - หาก iPhone มีพื้นที่เหลือน้อย อาจส่งผลต่อการทำงานของแอป

    ✅ แอปอื่นรบกวนการทำงานของ Instagram
    - แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจทำให้ Instagram ค้าง

    ✅ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    - สัญญาณ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร อาจทำให้แอปโหลดช้า

    https://computercity.com/internet/social-media/instagram-freezing-iphone
    Instagram ค้างบน iPhone: วิธีแก้ไขและป้องกันปัญหา ผู้ใช้ iPhone หลายคนพบว่า Instagram ค้างหรือทำงานช้าลง ซึ่งอาจเกิดจาก แอปเวอร์ชันเก่า, ปัญหา iOS, แคชที่มากเกินไป หรือพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ✅ แอป Instagram เวอร์ชันเก่า - แอปที่ไม่ได้อัปเดต อาจไม่เข้ากันกับ iOS เวอร์ชันล่าสุด ✅ iOS มีบั๊กหรือข้อผิดพลาด - อัปเดต iOS อาจทำให้เกิดปัญหาชั่วคราวกับแอปบางตัว ✅ แคชของแอปมีมากเกินไป - ข้อมูลที่สะสมในแอป อาจทำให้การทำงานช้าลง ✅ พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ - หาก iPhone มีพื้นที่เหลือน้อย อาจส่งผลต่อการทำงานของแอป ✅ แอปอื่นรบกวนการทำงานของ Instagram - แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจทำให้ Instagram ค้าง ✅ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต - สัญญาณ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร อาจทำให้แอปโหลดช้า https://computercity.com/internet/social-media/instagram-freezing-iphone
    COMPUTERCITY.COM
    Instagram Freezing On iPhone: Troubleshooting and Solutions
    Instagram freezing on your iPhone can be really frustrating. Not only does it interrupt your social media experience, but it can also make your phone lag. The
    0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • ผมไม่ทราบว่าผู้นำชีอะห์ท่านนี้ ท่านซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี เป็นใคร มีความเป็นมาอย่างไร (อ่านบทความจากลิงก์ข้างล่าง) แต่ผมพูดบ่อยๆ ว่า ปัญหาผู้ก่อการร้าย จชต. โยงใยโดยกลไกจารชนตะวันตกที่ฝังตัวมานาน ในเวลาเดียวกับที่มีความพยายามมาโดยตลอดที่จะชักจูงชี้นำให้เชื่อโดยป้ายสีไปที่ชาติมุสลิมในอาหรับ โดยเฉพาะอิหร่าน
    .
    ขอบอกอีกครั้งว่า ไม่ใช่แค่ในบ้านเรา การป้ายสีแบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดกระแส Islamophobia ทั่วไปในโลก และกองโจรก่อการร้ายมุสลิมที่เป็นที่หวาดกลัวเช่น อัลเคด้า ตอลีบัน ไอสิส ในที่สุดถูกเปิดโปงว่าถูกสร้างขึ้น ได้รับการสนับสนุนเงินทุน ได้รับการฝึกฝนและติดอาวุธโดยรัฐบาลสหรัฐ
    .
    เบื้องลึกความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆ ในโลก หลายต่อหลายครั้ง เกิดขึ้นจากแผนร้ายในการแทรกแซงทางการเมืองของตะวันตก โดยมีอำนาจการเมืองและทุนท้องถิ่นให้ความร่วมมือ เช่น การแยกดินแดนของติมอร์.. ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนทั้งฝ่ายเรียกร้องและฝ่ายต่อต้าน เมื่อการเคลื่อนไหวสุกงอมได้ที่ก็มีการสนับสนุนอาวุธเพื่อยกระดับความรุนแรงจากแค่การด่าทอและผลักกันไปมา จุดแตกหักมาถึงเมื่อนักศึกษาสาวแกนนำคนหนึ่งของฝ่ายเรียกร้องถูกข่มขืนฆ่า ความรุนแรงก็ระเบิดปะทุจนหยุดไม่อยู่ หลังการแยกดินแดนสำเร็จ สัมปะทานน้ำมันในติมอร์ตกอยู่ในมือตะวันตกทันที
    .
    กรณีของไทยก็ไม่ต่างกัน ทรัพยากรในภาคใต้และศักยภาพในภูมิภาคนั้นกำลังเป็นที่หมายปอง ลำพังแค่ความคิดในการตัดคลองหรือเซาท์เทิร์นซีบอร์ดอะไรทำนองนี้เพียงความคิดเดียว ก็บีบให้ทั้งคาบสมุทรมาเลย์ต้องดิ้นเร่าเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า โดยเฉพาะเพื่อนบ้านตัวแสบอย่างมาเลเซียที่ผมบอกว่าไว้ใจไม่ได้และคอยลอบแทงเราข้างหลังตลอดเวลา.. ณ เวลานี้หากคุณไปเยือนมาเลเซียเพื่อเห็นด้วยตา คุณก็จะรู้ถึงความเสื่อมถอยของมาเลเซียทั้งบ้านเมืองและชีวิตผู้คนที่ไม่ได้ก้าวหน้าไปเท่าไหร่อย่างที่ควรเป็นในหลายปีมานี้ และยิ่งกว่านั้นโดยลึกๆ แล้วผู้บริหารประเทศมาเลเซียมีอคติมาโดยตลอด เห็นว่าไทยคือตัวการที่ดึงเอาความมั่งคั่งของภูมิภาคไป ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง แม้แต่เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่อยู่ติดจมูกของพวกเขาอย่างสิงคโปร์ พวกเขาก็ไม่อาจพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเทียบเคียงได้ เวลาที่มีข่าวประโคมอะไรก็ตามที่ด้อยค่าเราและมักเอาเราไปเปรียบเทียบกับมาเลเซีย จะพิสูจน์ให้เห็นง่ายๆ โดยการไปเยือนเมืองหลวงของเขาและลองใช้ชีวิตสักหนึ่งสัปดาห์
    .
    ผมมีสายสัมพันธ์กับคนมุสลิมเยอะ ทั้งเพื่อนฝูงและญาติ อย่างที่เคยเล่า คุณย่าผมเป็นมุสลิมอยุธยา มีความสัมพันธ์ฉันท์ญาติกับครอบครัวพี่ซัน มาโนช พุฒตาล พี่สาวแท้ๆ ของผมก็แต่งเข้าบ้านอิสลาม ผมมีช่วงเวลาหนึ่งนานนับปีที่แวะเวียนไปที่มัสยิดแห่งหนึ่งเพื่อสงบใจ ไปพูดคุยกับผู้คน ไปฟังเสียงสวดของน้องคนหนึ่งที่สวดพระคัมภีร์ได้ไพเราะจับใจเหลือเกิน.. คุณจะต้องเข้าใจว่า ความไพเราะของดนตรีและท่วงทำนองแบบตะวันตกนั้นเต็มไปด้วยสุ้มเสียงที่ชวนให้ลุ่มหลง ด้วยทำนองชวนเคลิบเคลิ้ม ด้วยเสียงประสานอันกลมกลืน ด้วยจังหวะอันสนุกสนานรื่นเริง.. แต่ทำนองในการสวดของมุสลิมนั้นต่างกันออกไป อิสลามปฏิเสธดนตรีที่เล้าโลมให้รู้สึกลุ่มหลงและท่วงทำนองเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เป็นบาป... แล้วทำไมกันเมื่อเราฟังการสวดของอิสลามแล้วเราจึงรู้สึกไพเราะได้? ทั้งที่ถ้อยคำไม่ใช่ข้อความประโลมโลก แต่เป็นวลีอันศักดิ์สิทธิ์จากพระคัมภีร์ นี่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คำตอบคือ สิ่งที่สัมผัสใจเราได้นั้นเป็นเพราะถ้อยคำเหล่านั้นเปล่งออกมาจากใจอันอ่อนโยน มาจากจิตวิญญาณอันสงบและศรัทธาอย่างแก่กล้า ผู้ฟังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกจริงแท้นั้นจึงประทับใจเหลือประมาณ
    .
    เสียงเช่นนี้จะไม่มีวันเปล่งออกมาจากฆาตกรที่ฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง ฆ่าคนแก่ที่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน ผมยืนยัน
    .
    https://www.facebook.com/thongdaw.thongaram.9/posts/1712738992940472
    ผมไม่ทราบว่าผู้นำชีอะห์ท่านนี้ ท่านซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี เป็นใคร มีความเป็นมาอย่างไร (อ่านบทความจากลิงก์ข้างล่าง) แต่ผมพูดบ่อยๆ ว่า ปัญหาผู้ก่อการร้าย จชต. โยงใยโดยกลไกจารชนตะวันตกที่ฝังตัวมานาน ในเวลาเดียวกับที่มีความพยายามมาโดยตลอดที่จะชักจูงชี้นำให้เชื่อโดยป้ายสีไปที่ชาติมุสลิมในอาหรับ โดยเฉพาะอิหร่าน . ขอบอกอีกครั้งว่า ไม่ใช่แค่ในบ้านเรา การป้ายสีแบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดกระแส Islamophobia ทั่วไปในโลก และกองโจรก่อการร้ายมุสลิมที่เป็นที่หวาดกลัวเช่น อัลเคด้า ตอลีบัน ไอสิส ในที่สุดถูกเปิดโปงว่าถูกสร้างขึ้น ได้รับการสนับสนุนเงินทุน ได้รับการฝึกฝนและติดอาวุธโดยรัฐบาลสหรัฐ . เบื้องลึกความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆ ในโลก หลายต่อหลายครั้ง เกิดขึ้นจากแผนร้ายในการแทรกแซงทางการเมืองของตะวันตก โดยมีอำนาจการเมืองและทุนท้องถิ่นให้ความร่วมมือ เช่น การแยกดินแดนของติมอร์.. ตะวันตกสนับสนุนเงินทุนทั้งฝ่ายเรียกร้องและฝ่ายต่อต้าน เมื่อการเคลื่อนไหวสุกงอมได้ที่ก็มีการสนับสนุนอาวุธเพื่อยกระดับความรุนแรงจากแค่การด่าทอและผลักกันไปมา จุดแตกหักมาถึงเมื่อนักศึกษาสาวแกนนำคนหนึ่งของฝ่ายเรียกร้องถูกข่มขืนฆ่า ความรุนแรงก็ระเบิดปะทุจนหยุดไม่อยู่ หลังการแยกดินแดนสำเร็จ สัมปะทานน้ำมันในติมอร์ตกอยู่ในมือตะวันตกทันที . กรณีของไทยก็ไม่ต่างกัน ทรัพยากรในภาคใต้และศักยภาพในภูมิภาคนั้นกำลังเป็นที่หมายปอง ลำพังแค่ความคิดในการตัดคลองหรือเซาท์เทิร์นซีบอร์ดอะไรทำนองนี้เพียงความคิดเดียว ก็บีบให้ทั้งคาบสมุทรมาเลย์ต้องดิ้นเร่าเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า โดยเฉพาะเพื่อนบ้านตัวแสบอย่างมาเลเซียที่ผมบอกว่าไว้ใจไม่ได้และคอยลอบแทงเราข้างหลังตลอดเวลา.. ณ เวลานี้หากคุณไปเยือนมาเลเซียเพื่อเห็นด้วยตา คุณก็จะรู้ถึงความเสื่อมถอยของมาเลเซียทั้งบ้านเมืองและชีวิตผู้คนที่ไม่ได้ก้าวหน้าไปเท่าไหร่อย่างที่ควรเป็นในหลายปีมานี้ และยิ่งกว่านั้นโดยลึกๆ แล้วผู้บริหารประเทศมาเลเซียมีอคติมาโดยตลอด เห็นว่าไทยคือตัวการที่ดึงเอาความมั่งคั่งของภูมิภาคไป ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง แม้แต่เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่อยู่ติดจมูกของพวกเขาอย่างสิงคโปร์ พวกเขาก็ไม่อาจพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าขึ้นเทียบเคียงได้ เวลาที่มีข่าวประโคมอะไรก็ตามที่ด้อยค่าเราและมักเอาเราไปเปรียบเทียบกับมาเลเซีย จะพิสูจน์ให้เห็นง่ายๆ โดยการไปเยือนเมืองหลวงของเขาและลองใช้ชีวิตสักหนึ่งสัปดาห์ . ผมมีสายสัมพันธ์กับคนมุสลิมเยอะ ทั้งเพื่อนฝูงและญาติ อย่างที่เคยเล่า คุณย่าผมเป็นมุสลิมอยุธยา มีความสัมพันธ์ฉันท์ญาติกับครอบครัวพี่ซัน มาโนช พุฒตาล พี่สาวแท้ๆ ของผมก็แต่งเข้าบ้านอิสลาม ผมมีช่วงเวลาหนึ่งนานนับปีที่แวะเวียนไปที่มัสยิดแห่งหนึ่งเพื่อสงบใจ ไปพูดคุยกับผู้คน ไปฟังเสียงสวดของน้องคนหนึ่งที่สวดพระคัมภีร์ได้ไพเราะจับใจเหลือเกิน.. คุณจะต้องเข้าใจว่า ความไพเราะของดนตรีและท่วงทำนองแบบตะวันตกนั้นเต็มไปด้วยสุ้มเสียงที่ชวนให้ลุ่มหลง ด้วยทำนองชวนเคลิบเคลิ้ม ด้วยเสียงประสานอันกลมกลืน ด้วยจังหวะอันสนุกสนานรื่นเริง.. แต่ทำนองในการสวดของมุสลิมนั้นต่างกันออกไป อิสลามปฏิเสธดนตรีที่เล้าโลมให้รู้สึกลุ่มหลงและท่วงทำนองเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เป็นบาป... แล้วทำไมกันเมื่อเราฟังการสวดของอิสลามแล้วเราจึงรู้สึกไพเราะได้? ทั้งที่ถ้อยคำไม่ใช่ข้อความประโลมโลก แต่เป็นวลีอันศักดิ์สิทธิ์จากพระคัมภีร์ นี่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คำตอบคือ สิ่งที่สัมผัสใจเราได้นั้นเป็นเพราะถ้อยคำเหล่านั้นเปล่งออกมาจากใจอันอ่อนโยน มาจากจิตวิญญาณอันสงบและศรัทธาอย่างแก่กล้า ผู้ฟังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกจริงแท้นั้นจึงประทับใจเหลือประมาณ . เสียงเช่นนี้จะไม่มีวันเปล่งออกมาจากฆาตกรที่ฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง ฆ่าคนแก่ที่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน ผมยืนยัน . https://www.facebook.com/thongdaw.thongaram.9/posts/1712738992940472
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • ✅ วัคซีนฝีดาษลิง จำเป็นแค่ไหน?
    ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767
    ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/
    ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง”
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615
    ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://thaitimes.co/posts/14521
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1050540056439694/?
    ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674
    ✍️เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653
    ✍️ ดร. เชอร์รี เทนเพนนี : https://drtenpenny.com ใช้เวลามากกว่า 24 ปีและใช้เวลามากกว่า 40,000 ชั่วโมงในการค้นคว้า บันทึก และเปิดเผยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ท่านเป็นวิทยากรประจำในการประชุมระดับชาติและระดับนานาชาติ และเป็นแขกประจำในรายการวิทยุ พอดแคสต์ และรายการทีวี โดยแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับการวิจัยอย่างสูงของท่านว่าเหตุใดเราจึงควรปฏิเสธวัคซีน สัมภาษณ์โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.rookon.com/?p=1173
    ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903
    ✍️ “หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470
    ✍️24เม.ย.2568เริ่มกระหน่ำคนไทยอีกรอบด้วยวซ.ฝีดาษลิง เริ่มที่ด่านหน้าก่อน
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/684107170971610/?
    รวบรวมโดย
    ทีมแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅ วัคซีนฝีดาษลิง จำเป็นแค่ไหน? ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435 ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767 ✍️ทำไมถึงต้องตาสว่างในการสงบโรคระบาด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://www.facebook.com/share/p/26txVFqWEAtpzaA8/ ✍️“อ.ปานเทพ” เผยตำรับยาแก้ “ฝีดาษ” ในศิลาจารึก แนะวิจัยสมุนไพรไทยต่อยอดไว้สู้ “ฝีดาษลิง” https://mgronline.com/qol/detail/9670000082615 ✍️ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงดีหรือไม่ ในยุคไวรัสฝีมือมนุษย์? / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://thaitimes.co/posts/14521 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1050540056439694/? ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674 ✍️เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653 ✍️ ดร. เชอร์รี เทนเพนนี : https://drtenpenny.com ใช้เวลามากกว่า 24 ปีและใช้เวลามากกว่า 40,000 ชั่วโมงในการค้นคว้า บันทึก และเปิดเผยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ท่านเป็นวิทยากรประจำในการประชุมระดับชาติและระดับนานาชาติ และเป็นแขกประจำในรายการวิทยุ พอดแคสต์ และรายการทีวี โดยแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับการวิจัยอย่างสูงของท่านว่าเหตุใดเราจึงควรปฏิเสธวัคซีน สัมภาษณ์โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.rookon.com/?p=1173 ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903 ✍️ “หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้วัคซีนเยอะเกิน จะเร่งให้ฉีดถามกันก่อนดีไหม? https://mgronline.com/qol/detail/9670000081470 ✍️24เม.ย.2568เริ่มกระหน่ำคนไทยอีกรอบด้วยวซ.ฝีดาษลิง เริ่มที่ด่านหน้าก่อน https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/684107170971610/? รวบรวมโดย ทีมแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • ประธานสภาฯ ปัดตอบปมศาล รธน.สั่ง รมว.ยธ. หยุดปฎิบัติหน้าที่ โยนเป็นเรื่องฝ่ายบริหาร บอกยังไม่ได้เจอได้คุยกันเลย ย้ำทุกอย่างต้องโปร่งใส เมินตอบมีปัญหา สว.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000045021

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประธานสภาฯ ปัดตอบปมศาล รธน.สั่ง รมว.ยธ. หยุดปฎิบัติหน้าที่ โยนเป็นเรื่องฝ่ายบริหาร บอกยังไม่ได้เจอได้คุยกันเลย ย้ำทุกอย่างต้องโปร่งใส เมินตอบมีปัญหา สว. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000045021 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 281 Views 0 Reviews
  • ยุทธศาสตร์โลก (Global Strategy) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการดำเนินการในระดับโลกเพื่อตอบสนองความท้าทายและโอกาสในบริบทระหว่างประเทศ ซึ่งอาจครอบคลุมหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี

    ### **ประเด็นสำคัญในยุทธศาสตร์โลกปัจจุบัน**
    1. **การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ**
    - **สหรัฐอเมริกา vs จีน**: การแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี (เช่น สงครามชิป) และอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์
    - **บทบาทของรัสเซีย**: สงครามยูเครนและผลกระทบต่อความมั่นคงพลังงานและอาหารโลก
    - **EU และกลุ่มประเทศอื่นๆ**: แสวงหาความเป็นเอกภาพหรือความเป็นกลางในความขัดแย้ง

    2. **เศรษฐกิจและการค้าโลก**
    - **ห่วงโซ่อุปทานใหม่**: การลดการพึ่งพาจีน (Friend-shoring, Reshoring)
    - **การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI**
    - **ความตกลงการค้าใหม่**: เช่น CPTPP, RCEP

    3. **ความมั่นคงและความขัดแย้ง**
    - **สงครามในตะวันออกกลาง** (อิสราเอล-ปาเลสไตน์, ความตึงเครียดกับอิหร่าน)
    - **ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน**
    - **การขยายตัวของ NATO และความสัมพันธ์กับรัสเซีย**

    4. **สิ่งแวดล้อมและพลังงาน**
    - **การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด** (Net Zero, Renewable Energy)
    - **ผลกระทบจาก Climate Change** และนโยบายลดคาร์บอน
    - **ความมั่นคงด้านพลังงาน** (การพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลางและรัสเซีย)

    5. **เทคโนโลยีและไซเบอร์**
    - **การแข่งขันด้าน AI, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, อวกาศ**
    - **สงครามไซเบอร์และความปลอดภัยข้อมูล**
    - **กฎระเบียบเทคโนโลยีระหว่างประเทศ** (เช่น GDPR, การควบคุม AI)

    6. **การทูตและองค์กรระหว่างประเทศ**
    - **บทบาทของ UN, WTO, IMF** ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเศรษฐกิจ
    - **กลุ่มประเทศ BRICS+** ที่ขยายตัวเพื่อท้าทายระบบโลกเดิม
    - **Soft Power และการทูตวัฒนธรรม**

    ### **ยุทธศาสตร์ของประเทศต่างๆ**
    - **สหรัฐอเมริกา**: มุ่งรักษา hegemony ผ่านการเสริมกำลัง NATO, สนับสนุนไต้หวัน, และลงทุนในเทคโนโลยี
    - **จีน**: Belt and Road Initiative (BRI), การขยายอิทธิพลใน Global South
    - **ยุโรป**: ลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย, ส่งเสริม Green Deal
    - **รัสเซีย**: หาพันธมิตรใหม่ (จีน, อิหร่าน) หลังถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตก
    - **กลุ่ม Global South (อินเดีย, บราซิล, แอฟริกาใต้)**: แสวงหาความเป็นกลางหรือประโยชน์จากหลายฝ่าย

    ### **แนวโน้มในอนาคต**
    - **โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World)** แทนระบบที่นำโดยสหรัฐเพียงอย่างเดียว
    - **ความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและเทคโนโลยี**
    - **ความเสี่ยงจากความขัดแย้งใหม่ๆ** (เช่น AI Warfare, การแย่งชิงทรัพยากร)

    ยุทธศาสตร์โลกในยุคนี้จึงต้องคำนึงถึง **ความร่วมมือระหว่างประเทศ** แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับ **การแข่งขันและการเผชิญหน้า** ในหลายด้านด้วย
    ยุทธศาสตร์โลก (Global Strategy) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการดำเนินการในระดับโลกเพื่อตอบสนองความท้าทายและโอกาสในบริบทระหว่างประเทศ ซึ่งอาจครอบคลุมหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ### **ประเด็นสำคัญในยุทธศาสตร์โลกปัจจุบัน** 1. **การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ** - **สหรัฐอเมริกา vs จีน**: การแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี (เช่น สงครามชิป) และอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ - **บทบาทของรัสเซีย**: สงครามยูเครนและผลกระทบต่อความมั่นคงพลังงานและอาหารโลก - **EU และกลุ่มประเทศอื่นๆ**: แสวงหาความเป็นเอกภาพหรือความเป็นกลางในความขัดแย้ง 2. **เศรษฐกิจและการค้าโลก** - **ห่วงโซ่อุปทานใหม่**: การลดการพึ่งพาจีน (Friend-shoring, Reshoring) - **การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI** - **ความตกลงการค้าใหม่**: เช่น CPTPP, RCEP 3. **ความมั่นคงและความขัดแย้ง** - **สงครามในตะวันออกกลาง** (อิสราเอล-ปาเลสไตน์, ความตึงเครียดกับอิหร่าน) - **ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน** - **การขยายตัวของ NATO และความสัมพันธ์กับรัสเซีย** 4. **สิ่งแวดล้อมและพลังงาน** - **การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด** (Net Zero, Renewable Energy) - **ผลกระทบจาก Climate Change** และนโยบายลดคาร์บอน - **ความมั่นคงด้านพลังงาน** (การพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลางและรัสเซีย) 5. **เทคโนโลยีและไซเบอร์** - **การแข่งขันด้าน AI, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, อวกาศ** - **สงครามไซเบอร์และความปลอดภัยข้อมูล** - **กฎระเบียบเทคโนโลยีระหว่างประเทศ** (เช่น GDPR, การควบคุม AI) 6. **การทูตและองค์กรระหว่างประเทศ** - **บทบาทของ UN, WTO, IMF** ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเศรษฐกิจ - **กลุ่มประเทศ BRICS+** ที่ขยายตัวเพื่อท้าทายระบบโลกเดิม - **Soft Power และการทูตวัฒนธรรม** ### **ยุทธศาสตร์ของประเทศต่างๆ** - **สหรัฐอเมริกา**: มุ่งรักษา hegemony ผ่านการเสริมกำลัง NATO, สนับสนุนไต้หวัน, และลงทุนในเทคโนโลยี - **จีน**: Belt and Road Initiative (BRI), การขยายอิทธิพลใน Global South - **ยุโรป**: ลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย, ส่งเสริม Green Deal - **รัสเซีย**: หาพันธมิตรใหม่ (จีน, อิหร่าน) หลังถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตก - **กลุ่ม Global South (อินเดีย, บราซิล, แอฟริกาใต้)**: แสวงหาความเป็นกลางหรือประโยชน์จากหลายฝ่าย ### **แนวโน้มในอนาคต** - **โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World)** แทนระบบที่นำโดยสหรัฐเพียงอย่างเดียว - **ความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและเทคโนโลยี** - **ความเสี่ยงจากความขัดแย้งใหม่ๆ** (เช่น AI Warfare, การแย่งชิงทรัพยากร) ยุทธศาสตร์โลกในยุคนี้จึงต้องคำนึงถึง **ความร่วมมือระหว่างประเทศ** แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับ **การแข่งขันและการเผชิญหน้า** ในหลายด้านด้วย
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี
    .
    นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร . วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี . นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาดูงานและจัดสัมมนา ระหว่างวันพุธที่ 14 ถึงวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา
    .
    คณะกรรมาธิการศึกษาดูงานเรื่อง "การจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ของจังหวัดนครราชสีมา โดยประชุมกับส่วนราชการของจังหวัดนคราชสีมา ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดชั้น 4 ในประเด็น ดังนี้
    1) ประชุม เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณของ จังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มจังหวัด”
    2) ประชุม เรื่อง “ศึกษาและติดตามการบริหาร งบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาและ ท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา”
    3) ประชุม เรื่อง “การบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหา ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา”
    4) ประชุม เรื่อง “โครงการก่อสร้างศูนย์การประชุม นานาชาติและการแสดงสินค้าขนาดใหญ่”
    5) ประชุม เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณ โครงการมหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา ๒๕๗๒ "
    6) เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณโครงการรถไฟ ความเร็วสูงไทย - จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร -นครราชสีมา"
    คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาดูงานและจัดสัมมนา ระหว่างวันพุธที่ 14 ถึงวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2568 ณ จังหวัดนครราชสีมา . คณะกรรมาธิการศึกษาดูงานเรื่อง "การจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ของจังหวัดนครราชสีมา โดยประชุมกับส่วนราชการของจังหวัดนคราชสีมา ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดชั้น 4 ในประเด็น ดังนี้ 1) ประชุม เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณของ จังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มจังหวัด” 2) ประชุม เรื่อง “ศึกษาและติดตามการบริหาร งบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาและ ท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา” 3) ประชุม เรื่อง “การบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหา ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา” 4) ประชุม เรื่อง “โครงการก่อสร้างศูนย์การประชุม นานาชาติและการแสดงสินค้าขนาดใหญ่” 5) ประชุม เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณ โครงการมหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา ๒๕๗๒ " 6) เรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณโครงการรถไฟ ความเร็วสูงไทย - จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร -นครราชสีมา"
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • 'ธีระชัย' ชำแหละแผนชวนเชื่อรายย่อยลงทุนจีโทเคน ส่อสร้างปัญหาให้ ปชช.รับความเสี่ยง
    https://www.thai-tai.tv/news/18653/
    'ธีระชัย' ชำแหละแผนชวนเชื่อรายย่อยลงทุนจีโทเคน ส่อสร้างปัญหาให้ ปชช.รับความเสี่ยง https://www.thai-tai.tv/news/18653/
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • ธุรกิจเริ่มมองหา CMS ที่ง่ายกว่า WordPress หลังพบปัญหาการใช้งาน

    ผลสำรวจจาก Liquid Web พบว่า เกือบ 90% ของธุรกิจที่เปลี่ยนจาก WordPress ไปใช้ CMS อื่นพึงพอใจกับการเปลี่ยนแปลง โดยแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ธุรกิจเลือกใช้แทน ได้แก่ Shopify (42%), Wix (38%) และ Squarespace (6%)

    ✅ 7 ใน 8 ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่เสียใจที่ตัดสินใจเปลี่ยน
    - ธุรกิจพบว่า การเปลี่ยนแปลงช่วยลดปัญหาด้านปลั๊กอินและการบำรุงรักษา

    ✅ เกือบ 70% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่พบว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ งบประมาณของธุรกิจมากนัก

    ✅ 78% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นพบว่าปัญหาด้านปลั๊กอินลดลง
    - ปัญหาการอัปเดตและความเข้ากันได้ของปลั๊กอิน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

    ✅ 77% ของธุรกิจสามารถย้ายเนื้อหาไปยัง CMS ใหม่ได้โดยไม่มีปัญหาสำคัญ
    - การเปลี่ยนแปลง ราบรื่นกว่าที่คาดการณ์ไว้

    ✅ 72% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่คิดจะกลับไปใช้ WordPress อีก
    - ธุรกิจพบว่า CMS ใหม่มีความง่ายต่อการจัดการมากกว่า

    https://www.techradar.com/pro/nearly-90-percent-of-businesses-that-switched-from-wordpress-are-content-with-their-new-cms-survey-finds
    ธุรกิจเริ่มมองหา CMS ที่ง่ายกว่า WordPress หลังพบปัญหาการใช้งาน ผลสำรวจจาก Liquid Web พบว่า เกือบ 90% ของธุรกิจที่เปลี่ยนจาก WordPress ไปใช้ CMS อื่นพึงพอใจกับการเปลี่ยนแปลง โดยแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ธุรกิจเลือกใช้แทน ได้แก่ Shopify (42%), Wix (38%) และ Squarespace (6%) ✅ 7 ใน 8 ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่เสียใจที่ตัดสินใจเปลี่ยน - ธุรกิจพบว่า การเปลี่ยนแปลงช่วยลดปัญหาด้านปลั๊กอินและการบำรุงรักษา ✅ เกือบ 70% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่พบว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น - การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ งบประมาณของธุรกิจมากนัก ✅ 78% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นพบว่าปัญหาด้านปลั๊กอินลดลง - ปัญหาการอัปเดตและความเข้ากันได้ของปลั๊กอิน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ✅ 77% ของธุรกิจสามารถย้ายเนื้อหาไปยัง CMS ใหม่ได้โดยไม่มีปัญหาสำคัญ - การเปลี่ยนแปลง ราบรื่นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ✅ 72% ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปใช้ CMS อื่นไม่คิดจะกลับไปใช้ WordPress อีก - ธุรกิจพบว่า CMS ใหม่มีความง่ายต่อการจัดการมากกว่า https://www.techradar.com/pro/nearly-90-percent-of-businesses-that-switched-from-wordpress-are-content-with-their-new-cms-survey-finds
    WWW.TECHRADAR.COM
    Shopify and Wix winning over former WordPress users, new survey finds
    Shopify, Wix and Squarespace are the most popular alternatives
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • 14 พฤษภาคม 2568 -อดีตรัฐมนตรีคลัง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล วิเคราะห์เรื่องสำคัญในประเด็น“ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token“[เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวิธีการกู้เงินโดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token: G-Token) ตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548อนุมัติให้กระทรวงการคลังออกโทเคนดิจิทัลโดยวงเงินกู้ตามกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณด้วยวิธีการเสนอขายให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยตรงผ่านผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำและการออกโทเคนดิจิทัล นายทะเบียน หรือผู้รับฝากโทเคนดิจิทัล เป็นต้นให้กระทรวงการคลังกำหนดหลักเกณฑ์การชำระระดอกเบี้ยและการใช้เงินตามโทเคนดิจิทัล โดยให้กระทรวงการคลังหรือนิติบุคคลอื่นใดที่กระทรวงการคลังมอบหมาย โอนเงินให้แก่ผู้ถือโทเคน ดิจิทัลหรือผู้รับตามที่นายทะเบียนกำหนด ให้การโอนโทเคนดิจิทัลดำเนินการตามวิธีการที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นใดที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้โอนได้เปิดบัญชีเก็บรักษาโทเคนดิจิทัลของตนไว้โดยให้มีผลสมบูรณ์เมื่อผู้โอนนั้นได้บันทึกการรับโอนโทเคนดิจิทัลเข้าไปในบัญชีของผู้รับโอนแล้ว เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการพัฒนากลไกการบริหารหนี้สาธารณะให้มีประสิทธิภาพและภาครัฐสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายมากขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการออมของภาคประชาชน อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีคุณภาพ มั่นคง ปลอดภัย ครอบคลุมเพียงพอ และเข้าถึงได้ทั้งในด้านพื้นที่และราคา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นชอบ/ไม่ขัดข้อง สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า หาก กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ ซึ่งไม่เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แล้ว ก็สามารถดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 โดย G-Token มีการกำหนดสิทธิให้ผู้ถือมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ กค. กำหนด จึงมีลักษณะเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือ กิจการใด ๆ หรือกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการหรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง และเข้าข่ายเป็นโทเคนดิจิทัล ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561]**ถามว่า ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token?+เรื่อง การนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลการนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลให้สำเร็จนั้น มีเรื่องที่ต้องดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานก่อนหลายอย่าง (ดูรูป) กล่าวคือ (1) ต้องช่วยให้ประชากรเข้าถึงระบบอินเทอร์เนตอย่างกว้างขวาง (2) ต้องให้ความรู้ทั้งในระบบโรงเรียนและในกลุ่มประชาคม (3) ต้องพัฒนาธุรกิจการเงินแบบดิจิทัลให้กว้างขวางมากขึ้น (4) ต้องกระตุ้นคนรุ่นหนุ่มสาวให้ลองทำธุรกิจขนาดย่อมด้านดิจิทัลให้มากขึ้น และ (5) รัฐต้องให้บริการทางออนไลน์มากขึ้นรวมทั้งใช้บล็อกเชนในการบริหารราชการให้โปร่งใส หน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล คือพัฒนาให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ รวมไปถึงความแน่นอนด้านกฎหมายที่จะตีความกรณีเกิดข้อพิพาทเกี่ยวข้องกับโทเคน และการนำโทเคนไปใช้เป็นหลักประกันส่วนการดำเนินการให้โทเคนเกิดขึ้นในหลักทรัพย์ต่างๆ (tokenization) อย่างหลากหลาย เพื่อนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนเสียก่อน ทั้ง stable coin สกุลบาท ทั้ง smart contract ทั้งระบบเคลียริ่งที่ปลอดภัย โดยภายหลังจากมีโครงสร้างพื้นฐานแน่นหนาแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับรัฐบาลเองไม่ควรมีหน้าที่ไปออกโทเคนของตนเอง ดังเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ยังไม่มีประเทศใดที่ระบบการเงินล้ำหน้า ที่รัฐบาลเป็นผู้ออกโทเคนของตนเองในการกู้หนี้สาธารณะ+เรื่อง การทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยซื้อพันธบัตรได้สะดวกวิธีการในการเปิดให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนั้นมีอยู่แล้วในปัจจุบัน ด้วยกลไกผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงต้องชี้แจงให้ชัดเจนก่อนว่า G-Token จะเพิ่มความสะดวกอย่างใดแก่ผู้ลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องการขายคืน ซึ่งราคาในกองทุนรวมจะเป็นไปตามกติกาโดยมี ก.ล.ต. กำกับดูแล แต่กรณี G-Token ผู้ลงทุนจะต้องไปขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งราคาอาจจะผันผวนไปแต่ละชั่วโมงตามแรงเก็งกำไรได้แทนที่จะเป็นการชักจูงให้ผู้ลงทุนรายย่อย ลงทุนเพื่อออมเงินอย่างปลอดภัย ระวังจะกลับกลายเป็นเวทีเก็งกำไร ระวังจะกลายเป็นกาสิโนโทเคนดิจิทัล+เรื่อง ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ถึงแม้มาตรา 10 วรรคหนึ่งเปิดช่อง ให้กู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นวิธีการอื่นใดก็ได้ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ข้อความก่อนหน้าซึ่งบัญญัติว่า “การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้” นั้น คำว่า “วิธีการอื่นใด” น่าจะอยู่ในความหมายเดียวกับสัญญาหรือตราสารหนี้ ดังที่รายงานคณะรัฐมนตรีไว้ว่า “ปัจจุบัน การกู้เงินตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือหุ้นกู้”การที่ กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ เพื่อไม่เป็นให้เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 นั้น ผมเห็นว่าขัดกับเจตนารมย์ของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลซึ่งตามนิยามในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 กำหนดเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการได้มาซึ่งสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง นั้น คำว่า token แปลว่า สัญลักษณ์ ดังเช่น non-fungible token (NFT) หมายถึงสัญลักษณ์ที่ไม่สามารถแทนกันได้ ตัวอย่างที่ใช้กรณีงานศิลปะ ดังนั้น G-Token จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนสัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง ตัว G-Token เองจึงไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลังผมจึงเห็นว่า ในเมื่อเป็นเพียงสัญลักษณ์แทน แต่ไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง จึงไม่เข้าข่ายนิยามใดในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และจะนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาททางกฎหมายเกิดขึ้นได้ในภายหลัง+เรื่อง การปฏิบัติตามกฏหมายเงินตรายังมีจำเป็นจะต้องมีเงื่อนไขบังคับ เพื่อไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่น เพราะจะเข้าข่ายเป็นเงินตราอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนกระทรวงการคลังต้องชี้แจงก่อนว่า จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่นได้อย่างไร+เรื่อง การประหยัดค่าใช้จ่ายนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่าการออก G-Token จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ จากเดิมที่ออกพันธบัตรมีค่าธรรมเนียมดำเนินการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 0.03% ของกรอบวงเงินจำหน่ายนั้น กระทรวงการคลังจะต้องแจกแจงก่อนว่า G-Token จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายจริงเท่าไหร่ ทั้งด้านกระทรวงการคลัง ซึ่งต้องรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน ว่าต่ำกว่า ธปท. อย่างไร และทั้งด้านประชาชนผู้ลงทุนที่จะซื้อและขายคืน จะสูงหรือต่ำกว่ากลไกกองทุนรวมอย่างใดทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าเงินที่กระทรวงการคลังจ่ายแก่ ธปท. นั้นไม่รั่วไหลไปไหน เพราะ ธปท. เป็นองค์กรของรัฐ **กล่าวโดยสรุป ระบบการขายพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของรัฐบาลที่มีอยู่แล้วขณะนี้โดยผ่านกลไก ธปท. นั้น ใช้งานได้ดีไม่เคยมีปัญหา ดังนั้น การที่กระทรวงการคลังจะเพิ่มแนวการกู้หนี้สาธารณะโดยใช้โทเคนดิจิทัลนั้น จะต้องชั่งน้ำหนักแสดงแก่ประชาชนก่อนว่า ผลได้คุ้มกับผลเสียหรือไม่ส่วนความหวังที่จะนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น ควรนำเสนอต่อประชาชนก่อนว่า รัฐบาลมีแผนการพัฒนาองค์รวมด้านนี้เป็นอย่างไร ไม่ใช่เดินหน้าเพียงเสี้ยวเดียวในเรื่องของการจัดทำโทเคนของรัฐบาล ซึ่งจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีรัฐบาลอื่นใดในโลกที่ดำเนินการวันที่ 14 พฤษภาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    14 พฤษภาคม 2568 -อดีตรัฐมนตรีคลัง ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล วิเคราะห์เรื่องสำคัญในประเด็น“ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token“[เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวิธีการกู้เงินโดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token: G-Token) ตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548อนุมัติให้กระทรวงการคลังออกโทเคนดิจิทัลโดยวงเงินกู้ตามกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณด้วยวิธีการเสนอขายให้แก่ผู้มีสิทธิซื้อโดยตรงผ่านผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำและการออกโทเคนดิจิทัล นายทะเบียน หรือผู้รับฝากโทเคนดิจิทัล เป็นต้นให้กระทรวงการคลังกำหนดหลักเกณฑ์การชำระระดอกเบี้ยและการใช้เงินตามโทเคนดิจิทัล โดยให้กระทรวงการคลังหรือนิติบุคคลอื่นใดที่กระทรวงการคลังมอบหมาย โอนเงินให้แก่ผู้ถือโทเคน ดิจิทัลหรือผู้รับตามที่นายทะเบียนกำหนด ให้การโอนโทเคนดิจิทัลดำเนินการตามวิธีการที่ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือนิติบุคคลอื่นใดที่สามารถรับคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้โอนได้เปิดบัญชีเก็บรักษาโทเคนดิจิทัลของตนไว้โดยให้มีผลสมบูรณ์เมื่อผู้โอนนั้นได้บันทึกการรับโอนโทเคนดิจิทัลเข้าไปในบัญชีของผู้รับโอนแล้ว เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการพัฒนากลไกการบริหารหนี้สาธารณะให้มีประสิทธิภาพและภาครัฐสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่หลากหลายมากขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการออมของภาคประชาชน อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีคุณภาพ มั่นคง ปลอดภัย ครอบคลุมเพียงพอ และเข้าถึงได้ทั้งในด้านพื้นที่และราคา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นชอบ/ไม่ขัดข้อง สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า หาก กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ ซึ่งไม่เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แล้ว ก็สามารถดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 โดย G-Token มีการกำหนดสิทธิให้ผู้ถือมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ กค. กำหนด จึงมีลักษณะเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือ กิจการใด ๆ หรือกำหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการหรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง และเข้าข่ายเป็นโทเคนดิจิทัล ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561]**ถามว่า ประเทศชาติได้อะไรจาก G-token?+เรื่อง การนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลการนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลให้สำเร็จนั้น มีเรื่องที่ต้องดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานก่อนหลายอย่าง (ดูรูป) กล่าวคือ (1) ต้องช่วยให้ประชากรเข้าถึงระบบอินเทอร์เนตอย่างกว้างขวาง (2) ต้องให้ความรู้ทั้งในระบบโรงเรียนและในกลุ่มประชาคม (3) ต้องพัฒนาธุรกิจการเงินแบบดิจิทัลให้กว้างขวางมากขึ้น (4) ต้องกระตุ้นคนรุ่นหนุ่มสาวให้ลองทำธุรกิจขนาดย่อมด้านดิจิทัลให้มากขึ้น และ (5) รัฐต้องให้บริการทางออนไลน์มากขึ้นรวมทั้งใช้บล็อกเชนในการบริหารราชการให้โปร่งใส หน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล คือพัฒนาให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ รวมไปถึงความแน่นอนด้านกฎหมายที่จะตีความกรณีเกิดข้อพิพาทเกี่ยวข้องกับโทเคน และการนำโทเคนไปใช้เป็นหลักประกันส่วนการดำเนินการให้โทเคนเกิดขึ้นในหลักทรัพย์ต่างๆ (tokenization) อย่างหลากหลาย เพื่อนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนเสียก่อน ทั้ง stable coin สกุลบาท ทั้ง smart contract ทั้งระบบเคลียริ่งที่ปลอดภัย โดยภายหลังจากมีโครงสร้างพื้นฐานแน่นหนาแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ สำหรับรัฐบาลเองไม่ควรมีหน้าที่ไปออกโทเคนของตนเอง ดังเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ยังไม่มีประเทศใดที่ระบบการเงินล้ำหน้า ที่รัฐบาลเป็นผู้ออกโทเคนของตนเองในการกู้หนี้สาธารณะ+เรื่อง การทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยซื้อพันธบัตรได้สะดวกวิธีการในการเปิดให้ผู้ลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนั้นมีอยู่แล้วในปัจจุบัน ด้วยกลไกผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงต้องชี้แจงให้ชัดเจนก่อนว่า G-Token จะเพิ่มความสะดวกอย่างใดแก่ผู้ลงทุน โดยเฉพาะในเรื่องการขายคืน ซึ่งราคาในกองทุนรวมจะเป็นไปตามกติกาโดยมี ก.ล.ต. กำกับดูแล แต่กรณี G-Token ผู้ลงทุนจะต้องไปขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งราคาอาจจะผันผวนไปแต่ละชั่วโมงตามแรงเก็งกำไรได้แทนที่จะเป็นการชักจูงให้ผู้ลงทุนรายย่อย ลงทุนเพื่อออมเงินอย่างปลอดภัย ระวังจะกลับกลายเป็นเวทีเก็งกำไร ระวังจะกลายเป็นกาสิโนโทเคนดิจิทัล+เรื่อง ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ถึงแม้มาตรา 10 วรรคหนึ่งเปิดช่อง ให้กู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นวิธีการอื่นใดก็ได้ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ข้อความก่อนหน้าซึ่งบัญญัติว่า “การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้” นั้น คำว่า “วิธีการอื่นใด” น่าจะอยู่ในความหมายเดียวกับสัญญาหรือตราสารหนี้ ดังที่รายงานคณะรัฐมนตรีไว้ว่า “ปัจจุบัน การกู้เงินตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ตั๋วเงินคลัง หรือหุ้นกู้”การที่ กค. พิจารณาได้ว่าการกู้เงินโดยวิธีการออก G-Token ไม่ใช่การออกตราสารหนี้ เพื่อไม่เป็นให้เป็น “หลักทรัพย์” ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 นั้น ผมเห็นว่าขัดกับเจตนารมย์ของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548ทั้งนี้ โทเคนดิจิทัลซึ่งตามนิยามในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 กำหนดเป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือในการได้มาซึ่งสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง นั้น คำว่า token แปลว่า สัญลักษณ์ ดังเช่น non-fungible token (NFT) หมายถึงสัญลักษณ์ที่ไม่สามารถแทนกันได้ ตัวอย่างที่ใช้กรณีงานศิลปะ ดังนั้น G-Token จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนสัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง ตัว G-Token เองจึงไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลังผมจึงเห็นว่า ในเมื่อเป็นเพียงสัญลักษณ์แทน แต่ไม่ใช่สัญญาหรือตราสารหนี้ที่ผูกพันกระทรวงการคลัง จึงไม่เข้าข่ายนิยามใดในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และจะนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาททางกฎหมายเกิดขึ้นได้ในภายหลัง+เรื่อง การปฏิบัติตามกฏหมายเงินตรายังมีจำเป็นจะต้องมีเงื่อนไขบังคับ เพื่อไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่น เพราะจะเข้าข่ายเป็นเงินตราอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนกระทรวงการคลังต้องชี้แจงก่อนว่า จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ถือ G-Token นำไปใช้เพื่อชำระหนี้ตามกฎหมายแก่บุคคลอื่นได้อย่างไร+เรื่อง การประหยัดค่าใช้จ่ายนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่าการออก G-Token จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ จากเดิมที่ออกพันธบัตรมีค่าธรรมเนียมดำเนินการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 0.03% ของกรอบวงเงินจำหน่ายนั้น กระทรวงการคลังจะต้องแจกแจงก่อนว่า G-Token จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายจริงเท่าไหร่ ทั้งด้านกระทรวงการคลัง ซึ่งต้องรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน ว่าต่ำกว่า ธปท. อย่างไร และทั้งด้านประชาชนผู้ลงทุนที่จะซื้อและขายคืน จะสูงหรือต่ำกว่ากลไกกองทุนรวมอย่างใดทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าเงินที่กระทรวงการคลังจ่ายแก่ ธปท. นั้นไม่รั่วไหลไปไหน เพราะ ธปท. เป็นองค์กรของรัฐ **กล่าวโดยสรุป ระบบการขายพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของรัฐบาลที่มีอยู่แล้วขณะนี้โดยผ่านกลไก ธปท. นั้น ใช้งานได้ดีไม่เคยมีปัญหา ดังนั้น การที่กระทรวงการคลังจะเพิ่มแนวการกู้หนี้สาธารณะโดยใช้โทเคนดิจิทัลนั้น จะต้องชั่งน้ำหนักแสดงแก่ประชาชนก่อนว่า ผลได้คุ้มกับผลเสียหรือไม่ส่วนความหวังที่จะนำไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลนั้น ควรนำเสนอต่อประชาชนก่อนว่า รัฐบาลมีแผนการพัฒนาองค์รวมด้านนี้เป็นอย่างไร ไม่ใช่เดินหน้าเพียงเสี้ยวเดียวในเรื่องของการจัดทำโทเคนของรัฐบาล ซึ่งจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีรัฐบาลอื่นใดในโลกที่ดำเนินการวันที่ 14 พฤษภาคม 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    0 Comments 0 Shares 169 Views 0 Reviews
  • Windows 11 อัปเดต Patch Tuesday พฤษภาคม 2025: ปรับปรุงความปลอดภัยและ AI

    Microsoft ได้ปล่อย Patch Tuesday อัปเดตสำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2, 23H2 และ 22H2 โดยมีการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รวมถึง การอัปเดต AI Components เพื่อปรับปรุงการทำงานของระบบ

    ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058411
    - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 26100.4061

    ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 และ 22H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058405
    - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 22631.5335 และ 22621.5335 ตามลำดับ

    ✅ แก้ไขปัญหาเสียงไมโครโฟนที่อาจถูกปิดเสียงโดยไม่ตั้งใจ
    - ปรับปรุง ระบบเสียงให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

    ✅ แก้ไขปัญหาแอป Eye Controller ที่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้
    - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมด้วยดวงตาสามารถใช้งานได้ตามปกติ

    ✅ อัปเดต AI Components เช่น Image Search, Content Extraction และ Semantic Analysis
    - ปรับปรุง การทำงานของ AI เพื่อให้การค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ อัปเดต Servicing Stack เพื่อให้การติดตั้ง Windows Update มีความเสถียร
    - ผ่าน KB5058523 สำหรับ 24H2 และ KB5058528 สำหรับ 23H2 และ 22H2

    ✅ ไม่มีรายงานปัญหาหลังการอัปเดตในขณะนี้
    - Microsoft ระบุว่า ยังไม่พบข้อผิดพลาดที่เกิดจากอัปเดตนี้

    https://www.neowin.net/news/windows-11-kb5058411-kb5058405-may-2025-patch-tuesday-out/
    Windows 11 อัปเดต Patch Tuesday พฤษภาคม 2025: ปรับปรุงความปลอดภัยและ AI Microsoft ได้ปล่อย Patch Tuesday อัปเดตสำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2, 23H2 และ 22H2 โดยมีการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รวมถึง การอัปเดต AI Components เพื่อปรับปรุงการทำงานของระบบ ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058411 - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 26100.4061 ✅ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 และ 22H2 ได้รับอัปเดตผ่าน KB5058405 - หลังอัปเดต Build Version จะเป็น 22631.5335 และ 22621.5335 ตามลำดับ ✅ แก้ไขปัญหาเสียงไมโครโฟนที่อาจถูกปิดเสียงโดยไม่ตั้งใจ - ปรับปรุง ระบบเสียงให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ✅ แก้ไขปัญหาแอป Eye Controller ที่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมด้วยดวงตาสามารถใช้งานได้ตามปกติ ✅ อัปเดต AI Components เช่น Image Search, Content Extraction และ Semantic Analysis - ปรับปรุง การทำงานของ AI เพื่อให้การค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ อัปเดต Servicing Stack เพื่อให้การติดตั้ง Windows Update มีความเสถียร - ผ่าน KB5058523 สำหรับ 24H2 และ KB5058528 สำหรับ 23H2 และ 22H2 ✅ ไม่มีรายงานปัญหาหลังการอัปเดตในขณะนี้ - Microsoft ระบุว่า ยังไม่พบข้อผิดพลาดที่เกิดจากอัปเดตนี้ https://www.neowin.net/news/windows-11-kb5058411-kb5058405-may-2025-patch-tuesday-out/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows 11 (KB5058411, KB5058405) May 2025 Patch Tuesday out
    Microsoft has released Patch Tuesday updates for Windows 11 (KB5058411, KB5058405) for May 2025. Here's what's included.
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์

    หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป

    ✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด
    - กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager
    - ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage

    ✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร
    - ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt
    - หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search

    ✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป
    - ไปที่ Services.msc และปิด SysMain

    ✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป
    - ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่

    ✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    - ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives

    ✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ
    - ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น

    ✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย
    - ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth

    ✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan
    - ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance

    ✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive
    - ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น

    ✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง
    - ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions

    https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
    วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์ หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป ✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด - กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager - ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage ✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร - ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt - หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search ✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป - ไปที่ Services.msc และปิด SysMain ✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป - ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่ ✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด - ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives ✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ - ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น ✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย - ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth ✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan - ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance ✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive - ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น ✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง - ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
    COMPUTERCITY.COM
    How To Fix 100% Disk Usage on Windows 11: Step-by-Step Guide
    If your Windows 11 PC is slow, unresponsive, or constantly lagging, and Task Manager shows “100% Disk Usage,” you're not alone. This frustrating issue affects
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
More Results