• https://www.youtube.com/watch?v=3JxhVsjcrpg
    บทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ
    มาทดสอบความรู้ของเราและพัฒนาทักษะไปด้วยกันเถอะ! คุณพร้อมไหม? มาเริ่มกันเลย!

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #โรงแรม

    The conversations from the clip :

    Anna: Good evening! We have a reservation for tonight.
    Receptionist: Good evening! Welcome. Could I have your names, please?
    Mark: Sure. My name is Mark, and this is Anna.
    Receptionist: Thank you. Let me check... Ah, I see your reservation here for a standard double room for two nights.
    Anna: Yes, that's correct.
    Receptionist: May I see your ID or passport for registration?
    Mark: Of course. Here are both of our passports.
    Receptionist: Thank you very much. How would you like to pay – by credit card or cash?
    Anna: We’ll pay by credit card, please.
    Receptionist: All right. Just one moment... Here’s your keycard for Room 310.
    Mark: Thank you! By the way, is breakfast included?
    Receptionist: Yes, it is. Breakfast is served from 7 AM to 10 AM in the dining area.
    Anna: Wonderful. Does the hotel have Wi-Fi, and is it free?
    Receptionist: Yes, Wi-Fi is complimentary. The network name and password are printed on the keycard holder.
    Mark: Perfect. And does the hotel have a pool?
    Receptionist: Yes, our pool is on the rooftop, and it’s open from 8 AM to 8 PM.
    Mark: Great! One last question: Is there a late check-out option?
    Receptionist: Yes, you can check out as late as 2 PM for an additional fee.
    Anna: Perfect. Thanks for all the help!
    Receptionist: My pleasure! Enjoy your stay.

    นักท่องเที่ยว 1 (แอนนา): สวัสดีค่ะ! เรามีการจองสำหรับคืนนี้ค่ะ
    พนักงานต้อนรับ: สวัสดีครับ! ยินดีต้อนรับครับ ขอทราบชื่อของคุณด้วยครับ
    นักท่องเที่ยว 2 (มาร์ค): ได้เลยครับ ผมชื่อมาร์ค และนี่คือแอนนาครับ
    พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ ให้ผมตรวจสอบก่อนนะครับ... อ๋อ ผมเจอการจองของคุณแล้วครับ เป็นห้องพักแบบดับเบิลมาตรฐานสำหรับสองคืน
    แอนนา: ใช่ค่ะ ถูกต้องเลย
    พนักงานต้อนรับ: ขอเอกสารบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตสำหรับลงทะเบียนด้วยครับ
    มาร์ค: ได้เลยครับ นี่คือพาสปอร์ตของเราสองคนครับ
    พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ คุณต้องการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสดครับ
    แอนนา: เราจะชำระด้วยบัตรเครดิตค่ะ
    พนักงานต้อนรับ: ได้เลยครับ สักครู่นะครับ... นี่ครับ กุญแจห้องของคุณ ห้อง 310
    มาร์ค: ขอบคุณครับ! เอ่อ ขอถามหน่อยครับ อาหารเช้ารวมอยู่ในที่พักไหมครับ
    พนักงานต้อนรับ: รวมครับ อาหารเช้าจะเสิร์ฟตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 10 โมงเช้าที่บริเวณห้องอาหารครับ
    แอนนา: เยี่ยมเลยค่ะ โรงแรมมี Wi-Fi ให้บริการไหมคะ และฟรีหรือเปล่า?
    พนักงานต้อนรับ: มีครับ Wi-Fi ให้บริการฟรี ชื่อเครือข่ายและรหัสผ่านจะพิมพ์อยู่ที่ซองใส่คีย์การ์ดครับ
    มาร์ค: สมบูรณ์แบบเลยครับ แล้วโรงแรมมีสระว่ายน้ำไหมครับ
    พนักงานต้อนรับ: มีครับ สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่มครับ
    มาร์ค: เยี่ยมมากครับ! อีกคำถามหนึ่ง มีบริการเช็กเอาต์ล่าช้าไหมครับ?
    พนักงานต้อนรับ: มีครับ คุณสามารถเช็กเอาต์ได้ถึงบ่ายสอง โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
    แอนนา: เยี่ยมไปเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ
    พนักงานต้อนรับ: ยินดีอย่างยิ่งครับ ขอให้คุณมีความสุขกับการเข้าพักนะครับ

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Reservation (เรซ-เซอร์-เว-ชั่น) n. แปลว่า การจอง
    Receptionist (รี-เซพ-ชั่น-นิสท์) n. แปลว่า พนักงานต้อนรับ
    Standard (สแตน-เดิร์ด) adj. แปลว่า มาตรฐาน
    Double room (ดับ-เบิล รูม) n. แปลว่า ห้องพักสำหรับสองคน
    ID (ไอ-ดี) n. แปลว่า บัตรประจำตัว
    Passport (พาส-พอร์ท) n. แปลว่า หนังสือเดินทาง
    Registration (เรจ-จิส-เทร-ชั่น) n. แปลว่า การลงทะเบียน
    Complimentary (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี) adj. แปลว่า ไม่มีค่าใช้จ่าย
    Keycard (คีย์-การ์ด) n. แปลว่า บัตรกุญแจ
    Dining area (ได-นิ่ง แอ-เรีย) n. แปลว่า พื้นที่รับประทานอาหาร
    Rooftop (รูฟ-ท็อป) n. แปลว่า ดาดฟ้า
    Included (อิน-คลูด-เด็ด) adj. แปลว่า รวมอยู่ด้วย
    Fee (ฟี) n. แปลว่า ค่าธรรมเนียม
    Check-out (เช็ค-เอาท์) v. แปลว่า เช็กเอาต์/ออกจากโรงแรม
    Complimentary Wi-Fi (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี ไว-ไฟ) n. แปลว่า ไวไฟฟรี
    https://www.youtube.com/watch?v=3JxhVsjcrpg บทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ มาทดสอบความรู้ของเราและพัฒนาทักษะไปด้วยกันเถอะ! คุณพร้อมไหม? มาเริ่มกันเลย! #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #โรงแรม The conversations from the clip : Anna: Good evening! We have a reservation for tonight. Receptionist: Good evening! Welcome. Could I have your names, please? Mark: Sure. My name is Mark, and this is Anna. Receptionist: Thank you. Let me check... Ah, I see your reservation here for a standard double room for two nights. Anna: Yes, that's correct. Receptionist: May I see your ID or passport for registration? Mark: Of course. Here are both of our passports. Receptionist: Thank you very much. How would you like to pay – by credit card or cash? Anna: We’ll pay by credit card, please. Receptionist: All right. Just one moment... Here’s your keycard for Room 310. Mark: Thank you! By the way, is breakfast included? Receptionist: Yes, it is. Breakfast is served from 7 AM to 10 AM in the dining area. Anna: Wonderful. Does the hotel have Wi-Fi, and is it free? Receptionist: Yes, Wi-Fi is complimentary. The network name and password are printed on the keycard holder. Mark: Perfect. And does the hotel have a pool? Receptionist: Yes, our pool is on the rooftop, and it’s open from 8 AM to 8 PM. Mark: Great! One last question: Is there a late check-out option? Receptionist: Yes, you can check out as late as 2 PM for an additional fee. Anna: Perfect. Thanks for all the help! Receptionist: My pleasure! Enjoy your stay. นักท่องเที่ยว 1 (แอนนา): สวัสดีค่ะ! เรามีการจองสำหรับคืนนี้ค่ะ พนักงานต้อนรับ: สวัสดีครับ! ยินดีต้อนรับครับ ขอทราบชื่อของคุณด้วยครับ นักท่องเที่ยว 2 (มาร์ค): ได้เลยครับ ผมชื่อมาร์ค และนี่คือแอนนาครับ พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ ให้ผมตรวจสอบก่อนนะครับ... อ๋อ ผมเจอการจองของคุณแล้วครับ เป็นห้องพักแบบดับเบิลมาตรฐานสำหรับสองคืน แอนนา: ใช่ค่ะ ถูกต้องเลย พนักงานต้อนรับ: ขอเอกสารบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตสำหรับลงทะเบียนด้วยครับ มาร์ค: ได้เลยครับ นี่คือพาสปอร์ตของเราสองคนครับ พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ คุณต้องการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสดครับ แอนนา: เราจะชำระด้วยบัตรเครดิตค่ะ พนักงานต้อนรับ: ได้เลยครับ สักครู่นะครับ... นี่ครับ กุญแจห้องของคุณ ห้อง 310 มาร์ค: ขอบคุณครับ! เอ่อ ขอถามหน่อยครับ อาหารเช้ารวมอยู่ในที่พักไหมครับ พนักงานต้อนรับ: รวมครับ อาหารเช้าจะเสิร์ฟตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 10 โมงเช้าที่บริเวณห้องอาหารครับ แอนนา: เยี่ยมเลยค่ะ โรงแรมมี Wi-Fi ให้บริการไหมคะ และฟรีหรือเปล่า? พนักงานต้อนรับ: มีครับ Wi-Fi ให้บริการฟรี ชื่อเครือข่ายและรหัสผ่านจะพิมพ์อยู่ที่ซองใส่คีย์การ์ดครับ มาร์ค: สมบูรณ์แบบเลยครับ แล้วโรงแรมมีสระว่ายน้ำไหมครับ พนักงานต้อนรับ: มีครับ สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่มครับ มาร์ค: เยี่ยมมากครับ! อีกคำถามหนึ่ง มีบริการเช็กเอาต์ล่าช้าไหมครับ? พนักงานต้อนรับ: มีครับ คุณสามารถเช็กเอาต์ได้ถึงบ่ายสอง โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ แอนนา: เยี่ยมไปเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ พนักงานต้อนรับ: ยินดีอย่างยิ่งครับ ขอให้คุณมีความสุขกับการเข้าพักนะครับ Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Reservation (เรซ-เซอร์-เว-ชั่น) n. แปลว่า การจอง Receptionist (รี-เซพ-ชั่น-นิสท์) n. แปลว่า พนักงานต้อนรับ Standard (สแตน-เดิร์ด) adj. แปลว่า มาตรฐาน Double room (ดับ-เบิล รูม) n. แปลว่า ห้องพักสำหรับสองคน ID (ไอ-ดี) n. แปลว่า บัตรประจำตัว Passport (พาส-พอร์ท) n. แปลว่า หนังสือเดินทาง Registration (เรจ-จิส-เทร-ชั่น) n. แปลว่า การลงทะเบียน Complimentary (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี) adj. แปลว่า ไม่มีค่าใช้จ่าย Keycard (คีย์-การ์ด) n. แปลว่า บัตรกุญแจ Dining area (ได-นิ่ง แอ-เรีย) n. แปลว่า พื้นที่รับประทานอาหาร Rooftop (รูฟ-ท็อป) n. แปลว่า ดาดฟ้า Included (อิน-คลูด-เด็ด) adj. แปลว่า รวมอยู่ด้วย Fee (ฟี) n. แปลว่า ค่าธรรมเนียม Check-out (เช็ค-เอาท์) v. แปลว่า เช็กเอาต์/ออกจากโรงแรม Complimentary Wi-Fi (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี ไว-ไฟ) n. แปลว่า ไวไฟฟรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว

  • 6เอกสารหาย
    ทำใหม่ได้โดยไม่ต้องแจ้งความ
    .
    #เอกสารสำคัญหาย #สำเนาทะเบียนบ้าน #บัตรประชาชน #ป้ายทะเบียนรถ #ใบอนุญาตขับขี่ #บัตรประกันสังคม
    6เอกสารหาย ทำใหม่ได้โดยไม่ต้องแจ้งความ . #เอกสารสำคัญหาย #สำเนาทะเบียนบ้าน #บัตรประชาชน #ป้ายทะเบียนรถ #ใบอนุญาตขับขี่ #บัตรประกันสังคม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • 01-11-67/01 : หมี CNN / "หมีตะมุตะมิ มุ้งมิ้ง จรรโลงโลก" ตอนที่ 43 ชื่อตอน "FIGHT TILL THE LAST BLOOD" นี่มันศึกบางระจันชัดๆ ฮามาส เฮซบอเลาะห์ ฮูตี ต่างทำหน้าที่ยามเฝ้าแผ่นดินสุดตัว ขนกันมาเพี๊ยบ ดาหน้าถล่มอียิวทุกสัดส่วนภูมิภาค ตั้งแต่ที่ราบสูงโกลาน เทลอาวีฟ ไฮฟา เยรูซาเล็ม เตรียมเปิดทางให้ทัพใหญ่ ซีเรีย อิรัก ยกพลขึ้นบก ประสานเพ่น้องปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงค์ หลังตอนเหนือแตกยับ เอาไม่อยู่แล้ว ถอยร่นลงมาเรื่อยๆ ดูทรงแล้ว เป็นไปตามคาด ไล่บีบพื้นที่ให้เหี้ยยิวเข้ามากระจุกกันในตอนกลางของแผ่นดิน แล้วค่อยทำการ "แซนวิส" ลงแขกอย่างเมามันส์ ตราบใดที่เหี้ยยิวยังไม่สามารถขยายพื้นที่รบเพิ่มขึ้นได้ นั่นคือถอยอย่างเดียว ตอนนี้ "กำลังพล" แทบไม่มีเหลือ ทหารนาโต้ ทหารรับจ้าง ตายห่าเกลื่อน อย่าถามไอ้อีคนไทยขายชาติที่ไปรับจ้างช่วยอียิวรบ มันตายห่าไปนานแล้ว สาแก่ใจกองแช่ง แผ่นดินเกิดมรึงเองเสือกไม่ปกป้อง แต่ เสือกเสนอหน้าจะไปปกป้องเหี้ยที่คิดล้างบางประเทศไทยแทน มีเหรอมันจะไม่รู้ ว่าอียิวนี่แหละ ที่คิดกลืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่ พศ.2475 แล้ว แผนล้มวัง ล้มเจ้า แยกดินแดน ก่อการร้าย มาจากมันทั้งนั้น ผ่านขี้ข้าอย่างเหี้ย CIA ผ่านกองทุนเงินตอแหลก่อการร้ายโลก NED เลือกตั้งอเมริกา ก็ไม่ได้เปลี่ยนเหี้ยอาไยดอกน่ะ เจ้ามือยังตัวเดิม อีทรัมปป์แค่สีสัน แต่หากแตกแผ่นดินสำเร็จ อีทรัมปป์เนี่ยแหละ จะตั้งตัวเองเป็น KING แห่งรัฐใหม่ยิว อเมริกันควาย เป็นได้แค่ขี้ข้ายิว อินเดียนแดงจะทวงแผ่นดินคืน ลุกเป็นไฟแน่ ยามบ้านเมืองแตกสลาย ไอ้อีตัวไหนก็กลายร่างเป็นหมาได้หมด! มรึงคิดจริงๆ เหรอว่า กะอีแค่ "เลือกตั้ง" มันจะสามารถกู้แผ่นดินสาปแช่งนี้ได้ ตอแหลทั้งนั้น ใครจะไปใครจะมา ก็อยู่ใต้ตรีนยิวทั้งสิ้น อีทรัมปป์อ่านขาด แยกไปเลย ของใคร ของมัน จะแตกได้ต้องทำยังไง? CIVIL WAR ต้องมาก่อนเท่านั้น ไม่แปลก แต่ละรัฐเตรียมอาวุธ ขุมกำลังไว้พร้อม ที่ไม่เพิ่ม ไม่ส่งอาวุธให้ยูเครน อียิว เท่าที่ควรจะเป็น เหตุก็มาจากนี่แหละ สะสมอาวุธเตรียมแยกแผ่นดินไงล่ะ? อีลา อีช้าง มันจ้องตาเป็นมันอยู่แล้ว ใครมันจะไปอุ้มรัฐยากจนไหว อียิวมันเลือกเฉพาะรัฐทำเงินเท่านั้น แล้วไอ้ที่เหลือ ก็ปล่อยให้มันเข่นฆ่ากันเองต่อไป จะยังไงก็ตามที อลาสก้าต้องกลับบ้าน ฮาวายต้องเปลี่ยนมือ เท็กซัสถูกแยกชิ้นส่วน นี่คือชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ศึกตะวันออกกลางมาถึงมหากาพย์ตอนสุดท้ายแล้ว "อิหร่านพร้อมเช็คบิล" เพื่อเปิดทางให้โลกอาหรับเข้ายึดพื้นที่ตามมติสหประชาชาติ อีเหี้ยมะกันถอย เพราะรู้ดีว่า หลังบ้านตัวเองไม่พร้อม สอดคล้องอีทรัมปป์มาแน่ ภายในแตกยับ ตีกันเละเทะ ยังจะมีเวลาไปห่วงไอ้ยิวขาลงอีกเหรอ? เพราะอียิวมันสมยอมเตรียมย้ายบ้านนานแล้ว ที่ผ่านมาแค่จัดฉากละครหลอกควาย? เป้าหมายคือทำลายทิ้งทุกอย่าง ไม่ให้มีเหลือ? สงครามครูเสดไม่มีภาคต่อแล้ว จบในมืออาหรับ เปอร์เซีย ผู้ชนะตัวจริง! จากนี้ ชาวตะวันออกกลางจะบุกยุโรป ขยายชาติเผ่าพันธุ์จนกลืนดินแดนโรแมนติคโลกไปในที่สุด ยุโรปกลายเป็นอดีต ชะตากรรมของชนชาติที่ล่าอาณานิคม มีอันเป็นไปหมด ตามกรรมที่มรึงก่อมาตลอดหลายศตวรรษ ผีซ้ำด้ามพลอย อีไต้หวันเจอพายุใหญ่ถล่ม สเปนน้ำท่วมเมือง ภัยพิบัติธรรมชาติมาเต็ม เดี๋ยวแม่งหาเรื่องว่าเป็นฝีมือจีน รัสเซีย อีก HAARP มีแต่มรึงนั่นแหละที่ใช้ ดีออก? เพราะจีน รัสเซีย เค้าใช้เทคโนโลยีอีกตัว เนียนกว่าเยอะ "คลื่นสนามแม่เหล็ก" น้องๆ CERN ชั้นความลับอยู่ที่สถานีอวกาศนอกโลก มรึงบินตามไปสืบสิ ดีออก? ดาวเทียมนี่แหละ ทำอะไรได้มากกว่าที่มรึงคิด ซ่อนอาวุธไว้เพี๊ยบ? S-500 ในมือรัสเซีย มีไว้เพื่อ ทำลายดาวเทียมทุกดวงของเหี้ยนั่นเอง ยิงครั้งเดียว 10 เป้าหมายหายวับ ไร้ดาวเทียม เหี้ยก็ตาบอด ไฟไม่มา รถไม่วิ่ง คอมไม่เดิน เน็ตไม่มี นี่มันโลกาวินาศชัดๆ 10 ชาติหมายุโรป เตรียมสั่งขึ้นภาษีรถ EV จีน จีนสวนกลับหนัก ชักเงินออก ถอนลงทุน 10 ชาติหมาทันที แล้วมรึงมาดูกันว่า ทิชชู่ขาด มันเป็นยังไง? จีนถอนลงทุน อเมริกา ยุโรป มรึงคือจบทันที G7 แทบไม่เหลือเหี้ยอะไรต่อรองอีกแล้ว ไม่มีอำนาจ ไม่มีกำลังในมือ หลังชาติอาเซียนดาหน้าเข้า BRICS ท่าทีอีปินส์ เริ่มเปลี่ยน รู้ชะตากรรม เผ่าพันธุ์กูได้เป็นทาสรองตรีนเหี้ยยิวไปจนชั่วลูกชั่วหลานแน่ หากยังไม่ติดปลดแอกก่อน อีปินส์คือชาติขายแรงงานส่งออกทั่วโลก ไม่มีพื้นฐานเศรษฐกิจหลักของตัวเอง เหตุผลคือแข่งกับใครไม่ได้ เพราะฝ่ายการเมืองทำหน้าที่รับใช้ตะวันตกมากกว่าปากท้องประชาชน ต่างคนต่างอยู่ ปชช.พึ่งพารัฐไม่ได้จริง ดิ้นรนกันเอง มันน่าสงสารกว่าใครเยอะ? เพราะโง่กว่า ไม่เรียนรู้ จึงได้แต่เป็นผู้ตาม อีกไม่นานอาจตามหลังอีขะแมร์ เพราะยืนผิดฝั่ง สิ่งแรกที่อีปินส์ต้องทำคือ "เปลี่ยนเอาดูเตอร์เต้กลับมาก่อน" ไปกราบตรีนสีจิ้นผิงถึงปักกิ่ง เรื่องถึงจะจบ ไม่งั้น บอกตรง จีนกลืนมรึงแน่? ดีกว่าปล่อยให้มาเป็นหอกข้างแคร่ในอาเซียน ตีงูต้องเอาให้หลังหักตายคาที่ จับไปดองเหล้าแดร๊ก อย่าปล่อยให้กลับมาแว้งกัดได้อีก? เป็นอันแน่ชัด ไทย อิเหนา เหงียน ลาว ขะแมร์ มาเลย์ พม่า บรูไน(หลังเหตุการณ์ยิวไล่ฆ่าชาวปาเลสไตน์ ท่าทีเปลี่ยน ชาติมุสลิมลงขันลงแขกยิว) เลือกขั้วใหม่ แล้วยังจะเหลืออาเซียนกี่ชาติกันล่ะ? ติมอร์ไม่ต้องถาม ตามลูกเดียว ชัดพอมั้ย? อาเซียนของใคร? ศึกเอเซียใต้เกิดยาก เพราะจีนเค้าคุมเกมส์ไว้หมดเกลี้ยงแล้ว แม้แต่ชาติในหมู่เกาะแปซิฟิค ลงทุนกับจีนหมดเกลี้ยง ที่มาเรือรบจีนเข้าออก สบายตรีน อีตงเฟิงขยายพื้นที่ไกลไปถึงเกาะออสเตรเลียแล้ว อีจิงโจ้ถึงได้หมาอยู่ทุกวันนี้ เพราะสั่งใครไม่ได้อีกแล้ว!

    ปล.ขอไว้อาลัยให้เหี้ยเสนียดจัญไร 18 มงกุฎแป๊บ! หลังลุงสนิธิ ประกาศลั่น "เดินสุดซอย เอาถึงปากขุมนรก" ตายห่าไปเลยมรึง ถูกกาหัวหมา ไม่มีรอด! กราบตรีนสำนึกผิดก็สายไปเสียแล้ว เดินหน้าตามกฎหมายอย่างเดียว โดนเพี๊ยบ มีผู้เสียหายอีกเยอะดาหน้าเข้าร่วมวง ไม่ได้ผุดได้เกิดกันล่ะมรึง? เยี่ยว 71 แก้ว กลายเป็นเรื่องกระจอกไปเลย? ช่วงนี้ ศาลงานหนัก! ทั้งเรื่องโกงชาติ โกงแผ่นดิน ขบวนการต้มตุ๋น พรรคจัญไร แยกดินแดน ก่อการร้าย มาครบ กลไกศาลท่านมีพร้อมสรรพ ทุกอย่างเตรียมการรอไว้นานแล้ว เรียงตามลำดับคิวน่ะจ๊ะ อย่าเร่ง เดี๋ยวปั๊ด! ยังไงก็ไม่พ้นคุก โดนกันถ้วนหน้า ยินดีกับไอ้อีไฮโซ ดารา ทั้งหลายที่หาแดร๊กบนความฉิบหายชาวบ้าน ได้ฉลองปีใหม่ในคุกตาราง ผิดถูก ว่ากันอีกยาว แต่มรึงได้แดร๊กข้าวแดงไปก่อนน่ะ ศรีธนญชัย 2024 เดินเกมส์รัดกุม รอใบเสร็จทุกบิล เชิญเหี้ยให้เต็มที่ ทุกกรรม ทุกวาระ ต่างเวลา คิดหมด ไม่มีเล็ดลอด วิธีเดียวที่จะล้างบางสิ่งสกปรกโสมมออกไปจากแผ่นดินนี้ได้จริง คือให้เหี้ยทุกไอ้อีโดนอาญาแผ่นดินซะ ไม่มีจำกัดเวลา เผ่นออกหมดทุกไอ้อี ไม่ต้องมีใครตาย ไม่เปลืองงบไล่ล่า ออกไปให้หมด แล้วไปตายห่านอกแผ่นดิน นี่คือทางรอดเดียวที่เปิดเอาไว้ให้ บัตรประชาชนเซ็นต์โดนใคร แผ่นดินของใคร ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ใครดูแล ทั้งหมดมีผู้ดูแลอยู่แล้ว มรึงไม่ต้องกังวล บ้านเมืองนี้ ไม่ใช่ใครอยากจะทำเหี้ยอะไรก็ได้ แค่เค้าปล่อยให้มรึงออกลายมาจนหมด ไม่ต้องอีแอบอีกต่อไป ใครเป็นใคร รู้ชัดในพศ.นี้ เป้าหมายมีรอไว้แล้ว เก็บไปทีละเรื่อง ด้านพรรคขายชาติ ไม่นานก็ตีกันเอง แย่งกันเอง กัดกันเอง สาวไส้ออกมาหมดเกลี้ยง อสรพิษรองับเหยื่อเสมอ การเมืองมันไปต่อไม่ได้แล้ว ผู้คนต้องการสิ่งใหม่ ปชต.ตอแหลหายศักดิ์สิทธิ์ไปเยอะ เพราะไอ้พวกคลั่งนอนคุกกันหมด คดีความที่หมดอายุ ไม่ใช่สาระ ประเด็นใหม่เปิดได้เสมอ พร้อมหลักฐานชัดใหม่ คนละเรื่อง บทลงโทษหนักกว่า ตากใบยังไม่จบ แค่รอคิวเชือดเท่านั้นเอง สคริปต์เค้ามี ไปตามลำดับคิวเหี้ย ไล่ไปทีละตัว ปีหน้า ยังต้องล้างบางกันอีกเยอะ แดร๊กไก่โสมบำรุงไว้ให้ดีดี ไม่มีใครรู้ ปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แบบฟ้าผ่า! รอดูหลังไทยเข้า BRICS จะมีอะไรเปลี่ยนตามกระแสโลกอีกเยอะ สงครามแตกหักต้องมี ล้มตายต้องมา ไทยเราวางตัวไว้ดีแล้ว จีน รัสเซีย ดูแลอยู่ ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น? เหี้ย C ในไทยเริ่มถูกล่า ส่งกลับไปก็เยอะ ตำหนวดไทยรู้ทุกอย่าง ฉลาดเป็นกรด แต่เลือกจะมองไม่เห็นเอง ล้างบางตำหนวดไทยคือ 1 ในแผนปฎิบัติการณ์เช่นกัน ไม่รอดดอก! ส่วนสื่อ สถาบันการศึกษา วงการแพทย์ กรมคุก จะถูกสังคายนาใหม่หมด ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเยอะ แค่เปลี่ยนหัว ชีวิตเปลี่ยนทันที หัวแรง หางจะกระดิกตามเอง ระบบข้าราชการจะถูก RE-SET ใหม่หมด AI จะเข้ามาช่วย ผลงานตามหน้าจอ เบี้ยพิเศษตามความขยัน แม้แต่ในกองทัพ จะไม่เหลือทหารแตงโมอีก ปลดระวางไปเรื่อยๆ ทีละคน เพราะ 3 เหล่าทัพ กลายเป็นหนึ่งเดียวหมดแล้ว ONE FOR ALL & ALL FOR 1 หลังเลือกตั้งปาหี่อเมริกา ความวุ่นวายจะตามมาหลังปีใหม่ คดีความอีทรัมปป์ อีเอ๋อ จะถูกพลิกกลับ อยู่ที่ใครได้เป็นเจ้ามือ ศาลอเมริกาไม่มีอยู่จริง มีแค่ใบสั่งการเมือง ใครขึ้นก็สั่งได้ สุดท้ายทุกรัฐในอเมริกา จะไม่ยอมรับคำสั่งศาลรัฐบาลกลางอีกต่อไป ตั้งตนเป็นเอกราช มาตามสคริปต์อียิวเหี้ยไซออนนิสต์เป๊ะเด๊ะ อเมริกันควายจะตายห่านับล้าน ไล่ฆ่ากันเอง แผ่นดินเดือดดาล ลุกเป็นไฟ เหมือนตอนอินเดียนแดงบุกนั่นแหละ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต! ตลาดหุ้นที่วินาศ แหล่งฟอกเงินจะฉิบหายหนัก โจรเต็มเมือง ยาเกลื่อนหัวมุมถนน เอาให้สุดซอยกันไปเลย นีโอนาซีใหม่ แห่กันมาอยู่เพี๊ยบ เหี้ยมันเก่งแต่ไล่ฆ่ากันเอง อีลอนดอน สภาพก็ไม่แตกต่าง อีวิสกี้ อีไอร์เหนือ แยกชัวร์ จับตาดู ใครแบ็คอัพ? EU ก็ต้องแตก เพราะฝั่งตะวันออกกลับบ้านเก่ากันหมด ตะวันตกเจ๊งยับ เผ่นหนีออกนอกหมด แห่กันเข้ามาอาเซียน แล้วจะไม่ให้อาเซียนโตได้อย่างไร?

    หมี CNN(หลังคืนฮาโลวีนแตก เป็นไงล่ะ อีผีสาวฉาหลบเป็นแถบ หมดแรง)
    01 พฤศจิกายน 67
    11.59 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    01-11-67/01 : หมี CNN / "หมีตะมุตะมิ มุ้งมิ้ง จรรโลงโลก" ตอนที่ 43 ชื่อตอน "FIGHT TILL THE LAST BLOOD" นี่มันศึกบางระจันชัดๆ ฮามาส เฮซบอเลาะห์ ฮูตี ต่างทำหน้าที่ยามเฝ้าแผ่นดินสุดตัว ขนกันมาเพี๊ยบ ดาหน้าถล่มอียิวทุกสัดส่วนภูมิภาค ตั้งแต่ที่ราบสูงโกลาน เทลอาวีฟ ไฮฟา เยรูซาเล็ม เตรียมเปิดทางให้ทัพใหญ่ ซีเรีย อิรัก ยกพลขึ้นบก ประสานเพ่น้องปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงค์ หลังตอนเหนือแตกยับ เอาไม่อยู่แล้ว ถอยร่นลงมาเรื่อยๆ ดูทรงแล้ว เป็นไปตามคาด ไล่บีบพื้นที่ให้เหี้ยยิวเข้ามากระจุกกันในตอนกลางของแผ่นดิน แล้วค่อยทำการ "แซนวิส" ลงแขกอย่างเมามันส์ ตราบใดที่เหี้ยยิวยังไม่สามารถขยายพื้นที่รบเพิ่มขึ้นได้ นั่นคือถอยอย่างเดียว ตอนนี้ "กำลังพล" แทบไม่มีเหลือ ทหารนาโต้ ทหารรับจ้าง ตายห่าเกลื่อน อย่าถามไอ้อีคนไทยขายชาติที่ไปรับจ้างช่วยอียิวรบ มันตายห่าไปนานแล้ว สาแก่ใจกองแช่ง แผ่นดินเกิดมรึงเองเสือกไม่ปกป้อง แต่ เสือกเสนอหน้าจะไปปกป้องเหี้ยที่คิดล้างบางประเทศไทยแทน มีเหรอมันจะไม่รู้ ว่าอียิวนี่แหละ ที่คิดกลืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่ พศ.2475 แล้ว แผนล้มวัง ล้มเจ้า แยกดินแดน ก่อการร้าย มาจากมันทั้งนั้น ผ่านขี้ข้าอย่างเหี้ย CIA ผ่านกองทุนเงินตอแหลก่อการร้ายโลก NED เลือกตั้งอเมริกา ก็ไม่ได้เปลี่ยนเหี้ยอาไยดอกน่ะ เจ้ามือยังตัวเดิม อีทรัมปป์แค่สีสัน แต่หากแตกแผ่นดินสำเร็จ อีทรัมปป์เนี่ยแหละ จะตั้งตัวเองเป็น KING แห่งรัฐใหม่ยิว อเมริกันควาย เป็นได้แค่ขี้ข้ายิว อินเดียนแดงจะทวงแผ่นดินคืน ลุกเป็นไฟแน่ ยามบ้านเมืองแตกสลาย ไอ้อีตัวไหนก็กลายร่างเป็นหมาได้หมด! มรึงคิดจริงๆ เหรอว่า กะอีแค่ "เลือกตั้ง" มันจะสามารถกู้แผ่นดินสาปแช่งนี้ได้ ตอแหลทั้งนั้น ใครจะไปใครจะมา ก็อยู่ใต้ตรีนยิวทั้งสิ้น อีทรัมปป์อ่านขาด แยกไปเลย ของใคร ของมัน จะแตกได้ต้องทำยังไง? CIVIL WAR ต้องมาก่อนเท่านั้น ไม่แปลก แต่ละรัฐเตรียมอาวุธ ขุมกำลังไว้พร้อม ที่ไม่เพิ่ม ไม่ส่งอาวุธให้ยูเครน อียิว เท่าที่ควรจะเป็น เหตุก็มาจากนี่แหละ สะสมอาวุธเตรียมแยกแผ่นดินไงล่ะ? อีลา อีช้าง มันจ้องตาเป็นมันอยู่แล้ว ใครมันจะไปอุ้มรัฐยากจนไหว อียิวมันเลือกเฉพาะรัฐทำเงินเท่านั้น แล้วไอ้ที่เหลือ ก็ปล่อยให้มันเข่นฆ่ากันเองต่อไป จะยังไงก็ตามที อลาสก้าต้องกลับบ้าน ฮาวายต้องเปลี่ยนมือ เท็กซัสถูกแยกชิ้นส่วน นี่คือชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ศึกตะวันออกกลางมาถึงมหากาพย์ตอนสุดท้ายแล้ว "อิหร่านพร้อมเช็คบิล" เพื่อเปิดทางให้โลกอาหรับเข้ายึดพื้นที่ตามมติสหประชาชาติ อีเหี้ยมะกันถอย เพราะรู้ดีว่า หลังบ้านตัวเองไม่พร้อม สอดคล้องอีทรัมปป์มาแน่ ภายในแตกยับ ตีกันเละเทะ ยังจะมีเวลาไปห่วงไอ้ยิวขาลงอีกเหรอ? เพราะอียิวมันสมยอมเตรียมย้ายบ้านนานแล้ว ที่ผ่านมาแค่จัดฉากละครหลอกควาย? เป้าหมายคือทำลายทิ้งทุกอย่าง ไม่ให้มีเหลือ? สงครามครูเสดไม่มีภาคต่อแล้ว จบในมืออาหรับ เปอร์เซีย ผู้ชนะตัวจริง! จากนี้ ชาวตะวันออกกลางจะบุกยุโรป ขยายชาติเผ่าพันธุ์จนกลืนดินแดนโรแมนติคโลกไปในที่สุด ยุโรปกลายเป็นอดีต ชะตากรรมของชนชาติที่ล่าอาณานิคม มีอันเป็นไปหมด ตามกรรมที่มรึงก่อมาตลอดหลายศตวรรษ ผีซ้ำด้ามพลอย อีไต้หวันเจอพายุใหญ่ถล่ม สเปนน้ำท่วมเมือง ภัยพิบัติธรรมชาติมาเต็ม เดี๋ยวแม่งหาเรื่องว่าเป็นฝีมือจีน รัสเซีย อีก HAARP มีแต่มรึงนั่นแหละที่ใช้ ดีออก? เพราะจีน รัสเซีย เค้าใช้เทคโนโลยีอีกตัว เนียนกว่าเยอะ "คลื่นสนามแม่เหล็ก" น้องๆ CERN ชั้นความลับอยู่ที่สถานีอวกาศนอกโลก มรึงบินตามไปสืบสิ ดีออก? ดาวเทียมนี่แหละ ทำอะไรได้มากกว่าที่มรึงคิด ซ่อนอาวุธไว้เพี๊ยบ? S-500 ในมือรัสเซีย มีไว้เพื่อ ทำลายดาวเทียมทุกดวงของเหี้ยนั่นเอง ยิงครั้งเดียว 10 เป้าหมายหายวับ ไร้ดาวเทียม เหี้ยก็ตาบอด ไฟไม่มา รถไม่วิ่ง คอมไม่เดิน เน็ตไม่มี นี่มันโลกาวินาศชัดๆ 10 ชาติหมายุโรป เตรียมสั่งขึ้นภาษีรถ EV จีน จีนสวนกลับหนัก ชักเงินออก ถอนลงทุน 10 ชาติหมาทันที แล้วมรึงมาดูกันว่า ทิชชู่ขาด มันเป็นยังไง? จีนถอนลงทุน อเมริกา ยุโรป มรึงคือจบทันที G7 แทบไม่เหลือเหี้ยอะไรต่อรองอีกแล้ว ไม่มีอำนาจ ไม่มีกำลังในมือ หลังชาติอาเซียนดาหน้าเข้า BRICS ท่าทีอีปินส์ เริ่มเปลี่ยน รู้ชะตากรรม เผ่าพันธุ์กูได้เป็นทาสรองตรีนเหี้ยยิวไปจนชั่วลูกชั่วหลานแน่ หากยังไม่ติดปลดแอกก่อน อีปินส์คือชาติขายแรงงานส่งออกทั่วโลก ไม่มีพื้นฐานเศรษฐกิจหลักของตัวเอง เหตุผลคือแข่งกับใครไม่ได้ เพราะฝ่ายการเมืองทำหน้าที่รับใช้ตะวันตกมากกว่าปากท้องประชาชน ต่างคนต่างอยู่ ปชช.พึ่งพารัฐไม่ได้จริง ดิ้นรนกันเอง มันน่าสงสารกว่าใครเยอะ? เพราะโง่กว่า ไม่เรียนรู้ จึงได้แต่เป็นผู้ตาม อีกไม่นานอาจตามหลังอีขะแมร์ เพราะยืนผิดฝั่ง สิ่งแรกที่อีปินส์ต้องทำคือ "เปลี่ยนเอาดูเตอร์เต้กลับมาก่อน" ไปกราบตรีนสีจิ้นผิงถึงปักกิ่ง เรื่องถึงจะจบ ไม่งั้น บอกตรง จีนกลืนมรึงแน่? ดีกว่าปล่อยให้มาเป็นหอกข้างแคร่ในอาเซียน ตีงูต้องเอาให้หลังหักตายคาที่ จับไปดองเหล้าแดร๊ก อย่าปล่อยให้กลับมาแว้งกัดได้อีก? เป็นอันแน่ชัด ไทย อิเหนา เหงียน ลาว ขะแมร์ มาเลย์ พม่า บรูไน(หลังเหตุการณ์ยิวไล่ฆ่าชาวปาเลสไตน์ ท่าทีเปลี่ยน ชาติมุสลิมลงขันลงแขกยิว) เลือกขั้วใหม่ แล้วยังจะเหลืออาเซียนกี่ชาติกันล่ะ? ติมอร์ไม่ต้องถาม ตามลูกเดียว ชัดพอมั้ย? อาเซียนของใคร? ศึกเอเซียใต้เกิดยาก เพราะจีนเค้าคุมเกมส์ไว้หมดเกลี้ยงแล้ว แม้แต่ชาติในหมู่เกาะแปซิฟิค ลงทุนกับจีนหมดเกลี้ยง ที่มาเรือรบจีนเข้าออก สบายตรีน อีตงเฟิงขยายพื้นที่ไกลไปถึงเกาะออสเตรเลียแล้ว อีจิงโจ้ถึงได้หมาอยู่ทุกวันนี้ เพราะสั่งใครไม่ได้อีกแล้ว! ปล.ขอไว้อาลัยให้เหี้ยเสนียดจัญไร 18 มงกุฎแป๊บ! หลังลุงสนิธิ ประกาศลั่น "เดินสุดซอย เอาถึงปากขุมนรก" ตายห่าไปเลยมรึง ถูกกาหัวหมา ไม่มีรอด! กราบตรีนสำนึกผิดก็สายไปเสียแล้ว เดินหน้าตามกฎหมายอย่างเดียว โดนเพี๊ยบ มีผู้เสียหายอีกเยอะดาหน้าเข้าร่วมวง ไม่ได้ผุดได้เกิดกันล่ะมรึง? เยี่ยว 71 แก้ว กลายเป็นเรื่องกระจอกไปเลย? ช่วงนี้ ศาลงานหนัก! ทั้งเรื่องโกงชาติ โกงแผ่นดิน ขบวนการต้มตุ๋น พรรคจัญไร แยกดินแดน ก่อการร้าย มาครบ กลไกศาลท่านมีพร้อมสรรพ ทุกอย่างเตรียมการรอไว้นานแล้ว เรียงตามลำดับคิวน่ะจ๊ะ อย่าเร่ง เดี๋ยวปั๊ด! ยังไงก็ไม่พ้นคุก โดนกันถ้วนหน้า ยินดีกับไอ้อีไฮโซ ดารา ทั้งหลายที่หาแดร๊กบนความฉิบหายชาวบ้าน ได้ฉลองปีใหม่ในคุกตาราง ผิดถูก ว่ากันอีกยาว แต่มรึงได้แดร๊กข้าวแดงไปก่อนน่ะ ศรีธนญชัย 2024 เดินเกมส์รัดกุม รอใบเสร็จทุกบิล เชิญเหี้ยให้เต็มที่ ทุกกรรม ทุกวาระ ต่างเวลา คิดหมด ไม่มีเล็ดลอด วิธีเดียวที่จะล้างบางสิ่งสกปรกโสมมออกไปจากแผ่นดินนี้ได้จริง คือให้เหี้ยทุกไอ้อีโดนอาญาแผ่นดินซะ ไม่มีจำกัดเวลา เผ่นออกหมดทุกไอ้อี ไม่ต้องมีใครตาย ไม่เปลืองงบไล่ล่า ออกไปให้หมด แล้วไปตายห่านอกแผ่นดิน นี่คือทางรอดเดียวที่เปิดเอาไว้ให้ บัตรประชาชนเซ็นต์โดนใคร แผ่นดินของใคร ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ใครดูแล ทั้งหมดมีผู้ดูแลอยู่แล้ว มรึงไม่ต้องกังวล บ้านเมืองนี้ ไม่ใช่ใครอยากจะทำเหี้ยอะไรก็ได้ แค่เค้าปล่อยให้มรึงออกลายมาจนหมด ไม่ต้องอีแอบอีกต่อไป ใครเป็นใคร รู้ชัดในพศ.นี้ เป้าหมายมีรอไว้แล้ว เก็บไปทีละเรื่อง ด้านพรรคขายชาติ ไม่นานก็ตีกันเอง แย่งกันเอง กัดกันเอง สาวไส้ออกมาหมดเกลี้ยง อสรพิษรองับเหยื่อเสมอ การเมืองมันไปต่อไม่ได้แล้ว ผู้คนต้องการสิ่งใหม่ ปชต.ตอแหลหายศักดิ์สิทธิ์ไปเยอะ เพราะไอ้พวกคลั่งนอนคุกกันหมด คดีความที่หมดอายุ ไม่ใช่สาระ ประเด็นใหม่เปิดได้เสมอ พร้อมหลักฐานชัดใหม่ คนละเรื่อง บทลงโทษหนักกว่า ตากใบยังไม่จบ แค่รอคิวเชือดเท่านั้นเอง สคริปต์เค้ามี ไปตามลำดับคิวเหี้ย ไล่ไปทีละตัว ปีหน้า ยังต้องล้างบางกันอีกเยอะ แดร๊กไก่โสมบำรุงไว้ให้ดีดี ไม่มีใครรู้ ปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แบบฟ้าผ่า! รอดูหลังไทยเข้า BRICS จะมีอะไรเปลี่ยนตามกระแสโลกอีกเยอะ สงครามแตกหักต้องมี ล้มตายต้องมา ไทยเราวางตัวไว้ดีแล้ว จีน รัสเซีย ดูแลอยู่ ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น? เหี้ย C ในไทยเริ่มถูกล่า ส่งกลับไปก็เยอะ ตำหนวดไทยรู้ทุกอย่าง ฉลาดเป็นกรด แต่เลือกจะมองไม่เห็นเอง ล้างบางตำหนวดไทยคือ 1 ในแผนปฎิบัติการณ์เช่นกัน ไม่รอดดอก! ส่วนสื่อ สถาบันการศึกษา วงการแพทย์ กรมคุก จะถูกสังคายนาใหม่หมด ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเยอะ แค่เปลี่ยนหัว ชีวิตเปลี่ยนทันที หัวแรง หางจะกระดิกตามเอง ระบบข้าราชการจะถูก RE-SET ใหม่หมด AI จะเข้ามาช่วย ผลงานตามหน้าจอ เบี้ยพิเศษตามความขยัน แม้แต่ในกองทัพ จะไม่เหลือทหารแตงโมอีก ปลดระวางไปเรื่อยๆ ทีละคน เพราะ 3 เหล่าทัพ กลายเป็นหนึ่งเดียวหมดแล้ว ONE FOR ALL & ALL FOR 1 หลังเลือกตั้งปาหี่อเมริกา ความวุ่นวายจะตามมาหลังปีใหม่ คดีความอีทรัมปป์ อีเอ๋อ จะถูกพลิกกลับ อยู่ที่ใครได้เป็นเจ้ามือ ศาลอเมริกาไม่มีอยู่จริง มีแค่ใบสั่งการเมือง ใครขึ้นก็สั่งได้ สุดท้ายทุกรัฐในอเมริกา จะไม่ยอมรับคำสั่งศาลรัฐบาลกลางอีกต่อไป ตั้งตนเป็นเอกราช มาตามสคริปต์อียิวเหี้ยไซออนนิสต์เป๊ะเด๊ะ อเมริกันควายจะตายห่านับล้าน ไล่ฆ่ากันเอง แผ่นดินเดือดดาล ลุกเป็นไฟ เหมือนตอนอินเดียนแดงบุกนั่นแหละ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต! ตลาดหุ้นที่วินาศ แหล่งฟอกเงินจะฉิบหายหนัก โจรเต็มเมือง ยาเกลื่อนหัวมุมถนน เอาให้สุดซอยกันไปเลย นีโอนาซีใหม่ แห่กันมาอยู่เพี๊ยบ เหี้ยมันเก่งแต่ไล่ฆ่ากันเอง อีลอนดอน สภาพก็ไม่แตกต่าง อีวิสกี้ อีไอร์เหนือ แยกชัวร์ จับตาดู ใครแบ็คอัพ? EU ก็ต้องแตก เพราะฝั่งตะวันออกกลับบ้านเก่ากันหมด ตะวันตกเจ๊งยับ เผ่นหนีออกนอกหมด แห่กันเข้ามาอาเซียน แล้วจะไม่ให้อาเซียนโตได้อย่างไร? หมี CNN(หลังคืนฮาโลวีนแตก เป็นไงล่ะ อีผีสาวฉาหลบเป็นแถบ หมดแรง) 01 พฤศจิกายน 67 11.59 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • UPDATE: เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ เดินทางผ่าน 6 สนามบินใช้ระบบ Biometric สแกนหน้าเช็กอิน คาดประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น
    .
    วันนี้ (29 ตุลาคม) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า AOT นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร โดยพัฒนาและทดสอบระบบให้มีความพร้อมในการใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
    .
    รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
    .
    ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ผู้โดยสารภายในประเทศสามารถใช้งานได้ก่อน และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล
    .
    สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่
    .
    1. เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE) โดยระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบ
    .
    2. เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS) โดยหลังจากเช็กอินเสร็จแล้วให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก Enrollment จากนั้นสแกน Barcode จากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบเช่นเดียวกัน
    .
    ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ถือว่าผู้โดยสารให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ดังนั้นเมื่อผู้โดยสารจะโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป ทั้งนี้ เป็นการยินยอมให้ใช้ข้อมูล Biometric สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
    .
    ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT มั่นใจว่าระบบ Biometric มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ จะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยในแต่ละจุดบริการ ทำให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอที่จะเดินเล่น เลือกซื้อสินค้าปลอดอากรและของฝาก รับประทานอาหาร หรือพักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา AOT มีการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ที่สนับสนุนการให้บริการทั้งหมด 5 ระบบ
    .
    ได้แก่ 1. เครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสารซึ่งใช้งานโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน) 2. เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ) 3. เครื่อง CUBD เครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ 4. ระบบ PVS (Passenger Validation System) สำหรับตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร และ 5. ระบบ SBG (Self-Boarding Gate) หรือระบบประตูทางออกขึ้นเครื่อง
    .
    โดยทั้ง 5 ระบบดังกล่าวติดตั้งเพื่อรองรับระบบ Biometric ไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อระบบทั้งหมด 6 ระบบมีการใช้งานและเชื่อมต่อกันอย่างครอบคลุม จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายอย่างสมบูรณ์
    .
    ดร.กีรติ กล่าวว่า ในส่วนของปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 - กันยายน 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73%
    .
    โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสาร 60 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24.04% และมีเที่ยวบิน 346,680 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.88% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสาร 29.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.25% และมีเที่ยวบิน 197,250 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 11.47% ด้านท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 8.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.14% และมีเที่ยวบิน 57,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.68% สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสาร 1.9 ล้านคน ลดลง 1.96% และมีเที่ยวบิน 12,260 เที่ยวบิน ลดลง 3.37%
    .
    ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสาร 16.40 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.94% และมีเที่ยวบิน 98,710 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19.97% และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีผู้โดยสาร 3.03 ล้านคน ลดลง 5.14% และมีเที่ยวบิน 19,730 เที่ยวบิน ลดลง 5.84% ทั้งนี้ มีผู้โดยสารแยกตามสัญชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย และญี่ปุ่น
    .
    ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลการจัดสรรตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 (W2024/2025) ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา (W2023/2024) 22.1% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 222,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33.1% เที่ยวบินภายในประเทศ 147,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.5% ทั้งนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้น 23% และเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, สิงคโปร์ และฮ่องกง
    .
    สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - กันยายน 2568) AOT คาดว่าจะผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 คน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02%
    .
    โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 64.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.40% และมีเที่ยวบินประมาณ 376,820 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.69% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารประมาณ 33.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.91% และมีเที่ยวบินประมาณ 223,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 13.00%
    .
    #สนามบิน
    #TheStandardNews
    UPDATE: เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ เดินทางผ่าน 6 สนามบินใช้ระบบ Biometric สแกนหน้าเช็กอิน คาดประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น . วันนี้ (29 ตุลาคม) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า AOT นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร โดยพัฒนาและทดสอบระบบให้มีความพร้อมในการใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น . รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) . ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ผู้โดยสารภายในประเทศสามารถใช้งานได้ก่อน และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล . สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่ . 1. เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE) โดยระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบ . 2. เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS) โดยหลังจากเช็กอินเสร็จแล้วให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก Enrollment จากนั้นสแกน Barcode จากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบเช่นเดียวกัน . ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ถือว่าผู้โดยสารให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ดังนั้นเมื่อผู้โดยสารจะโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป ทั้งนี้ เป็นการยินยอมให้ใช้ข้อมูล Biometric สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น . ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT มั่นใจว่าระบบ Biometric มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ จะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยในแต่ละจุดบริการ ทำให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอที่จะเดินเล่น เลือกซื้อสินค้าปลอดอากรและของฝาก รับประทานอาหาร หรือพักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา AOT มีการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ที่สนับสนุนการให้บริการทั้งหมด 5 ระบบ . ได้แก่ 1. เครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสารซึ่งใช้งานโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน) 2. เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ) 3. เครื่อง CUBD เครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ 4. ระบบ PVS (Passenger Validation System) สำหรับตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร และ 5. ระบบ SBG (Self-Boarding Gate) หรือระบบประตูทางออกขึ้นเครื่อง . โดยทั้ง 5 ระบบดังกล่าวติดตั้งเพื่อรองรับระบบ Biometric ไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อระบบทั้งหมด 6 ระบบมีการใช้งานและเชื่อมต่อกันอย่างครอบคลุม จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายอย่างสมบูรณ์ . ดร.กีรติ กล่าวว่า ในส่วนของปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 - กันยายน 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73% . โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสาร 60 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24.04% และมีเที่ยวบิน 346,680 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.88% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสาร 29.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.25% และมีเที่ยวบิน 197,250 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 11.47% ด้านท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 8.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.14% และมีเที่ยวบิน 57,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.68% สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสาร 1.9 ล้านคน ลดลง 1.96% และมีเที่ยวบิน 12,260 เที่ยวบิน ลดลง 3.37% . ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสาร 16.40 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.94% และมีเที่ยวบิน 98,710 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19.97% และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีผู้โดยสาร 3.03 ล้านคน ลดลง 5.14% และมีเที่ยวบิน 19,730 เที่ยวบิน ลดลง 5.84% ทั้งนี้ มีผู้โดยสารแยกตามสัญชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย และญี่ปุ่น . ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลการจัดสรรตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 (W2024/2025) ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา (W2023/2024) 22.1% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 222,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33.1% เที่ยวบินภายในประเทศ 147,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.5% ทั้งนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้น 23% และเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, สิงคโปร์ และฮ่องกง . สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - กันยายน 2568) AOT คาดว่าจะผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 คน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02% . โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 64.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.40% และมีเที่ยวบินประมาณ 376,820 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.69% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารประมาณ 33.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.91% และมีเที่ยวบินประมาณ 223,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 13.00% . #สนามบิน #TheStandardNews
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพจเฟซบุ๊ก "พระลาน" เผยแพร่ตำแหน่งที่ตั้งจุดอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ในการเฝ้ารับเสด็จฯ เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 งานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม ทางขบวนพยุหยาตราทางชลมารค วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567

    1. แนวริมน้ำ ธนาคารแห่งประเทศไทย
    2. ใต้สะพานพระราม ๘ (ศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทย)
    3. ใต้สะพานพระราม ๘ (ฝั่งธนบุรี)
    4. ทางเดินริมน้ำ สวนสันติชัยปราการ
    5. ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
    6. ลาน 60 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
    7. สวนสุขภาพฯ รพ.ศิริราช
    8. ลานปรีดีพนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
    9. อัฒจันทร์ อุทยานสถานพิมุข รพ.ศิริราช
    10. ท่าช้าง
    11. วัดระฆังโฆสิตาราม
    12. ท่าเตียน
    13. ท่าเรือวัดโพธิ์
    14. วัดอรุณราชวราราม

    - จุดติดตั้งจอแอลอีดี พร้อมเครื่องขยายเสียง เพื่อให้ประชาชนรับชมในการเฝ้ารับเสด็จฯ
    1. วัดอรุณ
    2. วัดระฆัง
    3. ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า
    4. ลาน 60 ปี ธรรมศาสตร์
    5. สวนสันติชัยปราการ จำนวน 2 จอ
    6. ราชนาวีสโมสร
    7. อุทยานพิมุขสถาน
    8. ลานพลับพลาสยามินทราศิริราชานุสรณีย์ จำนวน 2 จอ
    9. ลานทัศนาภิรมย์ หอประชมกองทัพเรือ จำนวน 2 จอ
    10. ลานปรีดี พนมยงค์ ม.ธรรมศาสตร์
    11. ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งบางพลัด จำนวน 2 จอ 12. ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย
    13. สวนนคราภิรมย์
    14. ลานคนเมือง

    - ข้อแนะนำของประชาชน ในการเดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จ และชมขบวนพยุหยาตราชลมารค
    1. พกบัตรประชาชน บัตรแสดงตน หนังสือเดินทาง เพื่อความสะดวก
    2. เขียนชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ปกครองติดไว้กับตัวเด็ก
    3. พกยาประจำตัวมาด้วย
    4. เตรียมน้ำดื่ม ร่ม/หมวก
    5.สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ชุดจิตอาสา

    ที่มา เพจเฟซบุ๊ก“พระลาน”

    #Thaitimes
    เพจเฟซบุ๊ก "พระลาน" เผยแพร่ตำแหน่งที่ตั้งจุดอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ในการเฝ้ารับเสด็จฯ เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 งานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม ทางขบวนพยุหยาตราทางชลมารค วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567 1. แนวริมน้ำ ธนาคารแห่งประเทศไทย 2. ใต้สะพานพระราม ๘ (ศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทย) 3. ใต้สะพานพระราม ๘ (ฝั่งธนบุรี) 4. ทางเดินริมน้ำ สวนสันติชัยปราการ 5. ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า 6. ลาน 60 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 7. สวนสุขภาพฯ รพ.ศิริราช 8. ลานปรีดีพนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 9. อัฒจันทร์ อุทยานสถานพิมุข รพ.ศิริราช 10. ท่าช้าง 11. วัดระฆังโฆสิตาราม 12. ท่าเตียน 13. ท่าเรือวัดโพธิ์ 14. วัดอรุณราชวราราม - จุดติดตั้งจอแอลอีดี พร้อมเครื่องขยายเสียง เพื่อให้ประชาชนรับชมในการเฝ้ารับเสด็จฯ 1. วัดอรุณ 2. วัดระฆัง 3. ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า 4. ลาน 60 ปี ธรรมศาสตร์ 5. สวนสันติชัยปราการ จำนวน 2 จอ 6. ราชนาวีสโมสร 7. อุทยานพิมุขสถาน 8. ลานพลับพลาสยามินทราศิริราชานุสรณีย์ จำนวน 2 จอ 9. ลานทัศนาภิรมย์ หอประชมกองทัพเรือ จำนวน 2 จอ 10. ลานปรีดี พนมยงค์ ม.ธรรมศาสตร์ 11. ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งบางพลัด จำนวน 2 จอ 12. ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย 13. สวนนคราภิรมย์ 14. ลานคนเมือง - ข้อแนะนำของประชาชน ในการเดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จ และชมขบวนพยุหยาตราชลมารค 1. พกบัตรประชาชน บัตรแสดงตน หนังสือเดินทาง เพื่อความสะดวก 2. เขียนชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ปกครองติดไว้กับตัวเด็ก 3. พกยาประจำตัวมาด้วย 4. เตรียมน้ำดื่ม ร่ม/หมวก 5.สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ชุดจิตอาสา ที่มา เพจเฟซบุ๊ก“พระลาน” #Thaitimes
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 790 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่วนตัวอย่าเอาแอปเป๋าตังมายุ่งเกี่ยวอีกเลย,ยุบ&ปิดไปเถอะแอปเป๋าตัง,รัฐบาลใหม่แล้วก็เอาแอปใหม่เลย,บัตรคนจนก็ใช้บัตรประชาชนกันแล้ว,หยุดเปิดทางตังดิจิดัลเถอะ,แอปการพนันแอปเล่นหวย สมควรไปสร้างแอปใหม่เลย,อย่ามายุ่งกับแอปนีัหรือแอปใดๆเลย ทำแบบกองฉลากพลัสไม่เป็น&ไม่มีปัญญาหรือไง เกาะการตลาดว่ามีมวลชนมาใช้แอปนี้มาก กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหาง่ายหรือไง,ใครคนไหนอยากเล่นหวยเองก็ไปสมัครแอปพนันของรัฐบาลเองสิ,มิใช่ยัดเยี่ยนให้ใส่แอปเป๋าตังแบบนี้ บางคนเขาไม่อยากมีลิ้งค์มีไอคอนมีเมนูนี้เลย เคยถามประชาชนมั้ย,โน้นสมควรที่กองฉลากรัฐใช้งบหวยเองไปสร้างแอปทางตรงเองดีกว่า,ใครอยากซื้อก็โหลดแอปหวยรัฐเอง เสือกยัดเยี่ยนมอบทางเลือกเสียตังมัวเมาประชาชนเองเลย,หวยบนดินจากใต้ดินอีก,โทนี่ทำเสือกผิด แล้วอะไรคือมาตราฐาน ไพ่ถึงเที่ยงคืน บ่อนคาสิโนพร้อมเปิดอีก มันชาติเหี้ยอะไรว่ะ.เมื่อเคยชินสิ่งชั่วระดับต้น ก็อ้างว่ามาเพิ่มสิ่งชั่วอีกระดับเถอะ,เหมือนต้มกบในหม้อนั้นล่ะ,สุดท้ายแผ่นดินไทยเองนี้ล่ะพัง,สถาบันกษัตริย์เสียหาย ทำลายสถาบันกษัตริย์เราทางอ้อมด้วย,ว่าประเทศไทยโคตรสถาบันกษัตริย์เบอร์หนึ่งของโลกแต่สุดยอดแห่งฮับศูนย์รวมอบายมุขโลกเลยก็ว่า,เมืองพุทธ เสือกอบายมุขเต็มเมือง เขาจะทำลายสถาบันกษัตริย์ทางอ้อมและสถาบันพุทธศาสนาอีกเสือกยังยืนโง่แบบถูกปล้นบ่อน้ำมันเต็มประเทศถูกปล้นบ่อทองคำไทยเต็มแผ่นดินอีก,โคตรบรมมะโง่ของจริง.ในผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจของแผ่นดินไทยเรา,ก็สมควรสิ้นชาติล่ะเพราะปกครองโง่ๆแบบนี้เอง.คนไทยโคตรเซียนฉลาด&เก่งและดีมีคุณธรรมเสือกไม่สนับสนุนให้มีอำนาจ,ชั่วจริงๆ.
    ส่วนตัวอย่าเอาแอปเป๋าตังมายุ่งเกี่ยวอีกเลย,ยุบ&ปิดไปเถอะแอปเป๋าตัง,รัฐบาลใหม่แล้วก็เอาแอปใหม่เลย,บัตรคนจนก็ใช้บัตรประชาชนกันแล้ว,หยุดเปิดทางตังดิจิดัลเถอะ,แอปการพนันแอปเล่นหวย สมควรไปสร้างแอปใหม่เลย,อย่ามายุ่งกับแอปนีัหรือแอปใดๆเลย ทำแบบกองฉลากพลัสไม่เป็น&ไม่มีปัญญาหรือไง เกาะการตลาดว่ามีมวลชนมาใช้แอปนี้มาก กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหาง่ายหรือไง,ใครคนไหนอยากเล่นหวยเองก็ไปสมัครแอปพนันของรัฐบาลเองสิ,มิใช่ยัดเยี่ยนให้ใส่แอปเป๋าตังแบบนี้ บางคนเขาไม่อยากมีลิ้งค์มีไอคอนมีเมนูนี้เลย เคยถามประชาชนมั้ย,โน้นสมควรที่กองฉลากรัฐใช้งบหวยเองไปสร้างแอปทางตรงเองดีกว่า,ใครอยากซื้อก็โหลดแอปหวยรัฐเอง เสือกยัดเยี่ยนมอบทางเลือกเสียตังมัวเมาประชาชนเองเลย,หวยบนดินจากใต้ดินอีก,โทนี่ทำเสือกผิด แล้วอะไรคือมาตราฐาน ไพ่ถึงเที่ยงคืน บ่อนคาสิโนพร้อมเปิดอีก มันชาติเหี้ยอะไรว่ะ.เมื่อเคยชินสิ่งชั่วระดับต้น ก็อ้างว่ามาเพิ่มสิ่งชั่วอีกระดับเถอะ,เหมือนต้มกบในหม้อนั้นล่ะ,สุดท้ายแผ่นดินไทยเองนี้ล่ะพัง,สถาบันกษัตริย์เสียหาย ทำลายสถาบันกษัตริย์เราทางอ้อมด้วย,ว่าประเทศไทยโคตรสถาบันกษัตริย์เบอร์หนึ่งของโลกแต่สุดยอดแห่งฮับศูนย์รวมอบายมุขโลกเลยก็ว่า,เมืองพุทธ เสือกอบายมุขเต็มเมือง เขาจะทำลายสถาบันกษัตริย์ทางอ้อมและสถาบันพุทธศาสนาอีกเสือกยังยืนโง่แบบถูกปล้นบ่อน้ำมันเต็มประเทศถูกปล้นบ่อทองคำไทยเต็มแผ่นดินอีก,โคตรบรมมะโง่ของจริง.ในผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจของแผ่นดินไทยเรา,ก็สมควรสิ้นชาติล่ะเพราะปกครองโง่ๆแบบนี้เอง.คนไทยโคตรเซียนฉลาด&เก่งและดีมีคุณธรรมเสือกไม่สนับสนุนให้มีอำนาจ,ชั่วจริงๆ.
    สลาก N3 เดาใจเธอยากกว่าถูกหวย

    17 ต.ค. 2567 เป็นวันแรกที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทดลองจำหน่ายสลากตัวเลข 3 หลัก หรือสลาก N3 ราคาใบละ 20 บาท ผ่านจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 ที่เข้าร่วมโครงการ 647 แห่งทั่วประเทศ ผู้ซื้อต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ของธนาคารกรุงไทย เพื่อใช้สแกนซื้อสลากฯ และชำระเงินผ่านทาง G-Wallet ที่เคยใช้สำหรับโครงการของรัฐ รวมไปถึงการซื้อสลากดิจิทัล

    ความแตกต่างระหว่างสลาก N3 กับสลากแบบ 2 ตัวและ 3 ตัว สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตรก็คือ สลากแบบ 2 ตัวและ 3 ตัว เป็นสลากแบบเขียน เคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาว่าเป็นสลากกินรวบ ผิดกฎหมาย เพราะไม่มีการบริหารความเสี่ยง ขาดทุน 7 งวดกว่า 1,600 ล้านบาท รายได้กว่า 80% พบว่าใช้เงินไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เงินนับแสนล้านบาทไม่ได้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน แต่คณะรัฐมนตรีกลับนำเงินไปใช้โดยไม่มีสิทธิ

    การออกสลาก N3 ครั้งนี้จึงมีการออกแบบอย่างรัดกุม แบ่งเป็นเงินรางวัล 60% เงินส่งเป็นรายได้แผ่นดิน 23% และค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน 17% ซึ่งเงินรางวัลจะถูกแบ่งรางวัลสามตัวตรง 30% รางวัลสามสลับหลัก 30% รางวัลสองตรง 39% และรางวัลพิเศษ 1% ผ่าน 3 หลักแรกจากเลขที่เลือก 9 หลักที่เหลือจากลำดับการซื้อสลากฯ ในระบบ หากตัวเลขนั้นมีสัดส่วนยอดขายมากเกินไป ระบบจะล็อกปิดการขายชั่วคราว

    เมื่อถูกรางวัลระบบจะแจ้งเตือนในแอปฯ เป๋าตัง กดรับเงินรางวัลได้ทันที หักค่าอากรแสตมป์ทุก 200 บาทหรือเศษของ 200 บาทเท่ากับ 1 บาท หากเลือกโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ไม่เสียค่าธรรมเนียม

    Newskit ทดลองซื้อสลาก N3 ที่แผงค้าสี่แยกคอกวัว ถนนตะนาว กทม. พบว่าทางร้านจะนำโทรศัพท์มือถือของผู้ค้าที่ติดตั้งแอปฯ ของสำนักงานสลากฯ ยื่นให้ลูกค้ากดตัวเลขที่ต้องการ กดเลือกสลาก ตรวจสอบรายการสลาก แล้วกดสร้าง QR ซื้อ-ขายสลาก โดยมีเวลาทำรายการภายใน 10 นาที จากนั้นนำมือถือของลูกค้าเปิดแอปพลิเคชันเป๋าตัง เข้าเมนู "สลากตัวเลข 3 หลัก" กด "สแกนซื้อสลาก" ชำระเงินผ่าน G-Wallet ให้เรียบร้อย สามารถดูสลากที่ซื้อได้ที่เมนู "สลากของฉัน"

    สำหรับวันแรกที่จำหน่ายมีเสียงวิจารณ์ว่าหาซื้อยาก ต้องไปซื้อที่ร้านขายสลาก 80 ที่เข้าร่วมโครงการ แตกต่างจากสลากดิจิทัลผ่านแอปฯ เป๋าตัง อยู่ที่ไหนก็ซื้อได้ อีกทั้งพิกัดที่ระบุในแอปฯ ไม่ตรงกัน พอไปตามพิกัดแล้วไม่มีร้าน ซึ่งสำนักงานสลากฯ จะทดลองจำหน่ายเป็นเวลา 6 เดือนเพื่อศึกษาข้อมูลการจำหน่ายและผลกระทบต่างๆ ก่อนจำหน่ายเต็มรูปแบบในเดือน เม.ย. 2568

    #Newskit #GLO #สลากN3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23/10/67

    มิจฉาชีพมาแบบใหม่อีกแล้ว

    มีเลขบปชช. (บัตรประชาชน)ของเรา โทรไปอายัดบช. กับแบงค์ แล้วโทรกลับมาหาเรา ลองฟังดูนะคะ
    แผนหลายชั้น อันตรายมาก
    23/10/67 มิจฉาชีพมาแบบใหม่อีกแล้ว มีเลขบปชช. (บัตรประชาชน)ของเรา โทรไปอายัดบช. กับแบงค์ แล้วโทรกลับมาหาเรา ลองฟังดูนะคะ แผนหลายชั้น อันตรายมาก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 42 0 รีวิว
  • ตำนาน โทรศัพท์ประจำที่ โดย offsing ("ล้อเลียน อ.เผ่าทอง ทองเจือ")
    ใช้ครั้งแรกจำไม่ได้ (รุ่นเป็นรุ่นเหมือนโทรศัพท์มือถือแบบปุ่มกดเลย) เปลี่ยน เพราะคู่สายทองแดง เขาหมดวาระ
    ปัญหาคือ ตัดระบบเก่าไม่บอกล่วงหน้าเป็น อาทิตย์
    (ลูกค้าเก่าร้านเรา) ก็โทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย
    มารู้ต้องจะใช้งาน ยกหูสัญญาณ เงียบกริบ ต้องแจ้งเสีย!!!

    ถึงได้รู้ว่าระบบสายทองแดง เขาเลิกแล้ว
    ต่อมาภาพที่เห็นเลย คือใช้ๆไป อยู่ เบอร์หาย ต้องแจ้งเสียในวันที่ 1/07/2021
    จึงทำให้รู้ว่าตอนที่เขามาติดครั้งแรก ไม่ได้จด

    จากใกล้จะเข้าปีใหม่ (22) ช่วงเดือน ธ.ค. 2021 มี พนง. โทรมาแนะนำ โปรส่งเสริมการขาย
    ปกติเสียเดือน ละ 100 บาท + ค่าโทร (แต่ช่วงนี้ มันเป็นช่วงที่ สอนคนในบ้านให้ ไปใช้งานมือถือ)
    เบอร์ที่ให้ลูกค้า หรือเวลาโทรหาลูกค้าก็จะเป็นมือถือ แทน (ยกเว้น ญาติผู้ใหญ่ เขายังติดใช้งาน โทรศัพท์ประจำที่อยู่ เราต้องยังใช้งาน"ทีแรกกะสอนใช้มือถือ เพื่อจะยกเลิกโทรศัพท์ประจำ จะได้ลดค่าโทรศัพท์ เดือนละ 100 บาทได้")

    พนง.จึงโทรแนะนำ โปรส่งเสริมการขาย มาตลอด
    จนเบื่อ เอาก็เอา จาก เดือนละ 100 บาท เป็น 150 บาท
    แต่ 50 บาท ที่ + มาได้โทรในเบอร์เครือข่ายเดียวกัน (ฟรี)
    มือถือ จากนาทีละ 3 บาท ลดเหลือ 1.5 บาท ใช้ได้ 50 บาท ส่วนเกินคิดค่าบริการปกติ
    ยอมทนใช้ไปเกือบ 6 เดือน เพราะคำ พนง. "คุณยังไม่เคยลองใช้เลย จะรู้ได้ไง"
    สรุปคือ มีแค่ 2 เดือนที่ใช้ งาน เกินโปร 50 บาท
    4 เดือนที่เหลือ ใช้ไม่ถึงโปร เริ่มมีส่วนต่าง (จึงเข้าไป จะขอยกเลิกโปร)

    เกิดปัญหาอีก คือต้องยกเลิกก่อนรอบบิลใหม่ 1-3 วันทำการ เพื่อจะได้เสียเดือนถัดไปแค่ เดือนเดียว
    ผมก็เลยพูด กับ พนง. ว่า "ผมขอเซ็นเอกสารไว้ก่อน พอถึง กำหนดนั้น พี่ช่วยทำเรื่องต่อให้ผมได้ไหม"
    พนง. ตอบมาว่า "ได้"
    เราก็เดือนถัดไป ยังต้อง เสีย 150 บาท จึงต้องรอเดือนถัดไป ซึ่ง ตามคาด เดือนต่อมาก็ยังเสีย เท่าเดิม เอ๊ะ ทำไม ไม่ 100 บาท จึงโทรสอบถามว่าผมเคยแจ้งยกเลิกทำไม ไม่ยกเลิก ปรากฎว่า เอกสารที่เคยเซ็นไว้ไม่มีนะ
    ทำให้ ต้องรีบโล่ไปขอแจ้งยกเลิก "คราวนี้ไม่รอรอบบิลแล้ว เดียวเสียค่าโง่อีก"
    พนง. ถ้าทำแบบนี้ พี่จะเสีย เดือนถัดไปเต็มเดือน + เดือนถัดไปบวกวันไปถึงวันที่ผมเซ็นยกเลิก (เศษเดือนอีก) สรุป คือ โง่อีกรอบ แต่อยากเจ็บให้จบ

    ต่อมาปลายปี (22) มีโปรส่งเสริมการขายอีก เป็นโปร 129 บาท (แต่จะบอกว่า ผมจะเปลี่ยนผ่านมาใช้มือถือได้แล้ว)
    พนง. โทรมา แต่ใช้มุกเดิม
    ผมก็เลยตอบไปว่า "พี่ดู ให้ผมแล้วใช่ไหม ว่าโปรนี้คุ้มสำหรับผม ไม่ใช่ เอาแค่ยอดที่ผมใช้เกินเดือน 2 เดือนมาวัด"
    พนง. "ใช่ เราตรวจสอบแล้ว ถึงได้เสนอมาให้พิจารณา"
    แต่ผมยังไม่ทำ

    จนอีก 2-3 ต่อมา มี พนง.จากส่วนกลางมา กับ พนง. ในพื้นที่ เลย มาเยี่ยม ชวนคุย(จนเราโง่อีก) แต่จบการเซ็นโปร พร้อม ให้ เรา ถ่ายลงโชเชียล ให้เราถือเครื่อง (ดังรูป แล้ว ยกนิ้วโป้งให้)
    ปล.มันคือแผน ที่จะเอาหน้า ของ พนง. จากส่วนกลางว่า เราแก้ปัญหาที่ลูกค้า ที่ พนง.ในพื้นที่ ขายโปรไม่ได้ยอด เลย เกทับ พนง.ในพื้นที่ว่า ถ้าไม่มีเขาคุณจะได้ปิด ดีล แถม โปรโมท ทางอ้อมทางโชเชียลอีก ว่าเขาไม่มีปัญหากับลูกค้า

    จึงเป็นที่มาว่า ผมต้องขอยกเลิก แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่โปร แต่ยกเลิก บริการคุณไปเลย (ว่าจะรู้ว่าโดนหลอกหาประโยชน์)
    คือ วันที่จะปลดแอด วันที่ 10 ก.ย. ปี 67 (2024) ผมโทรตอน ผมเลิกงานแล้ว
    โทรไปสอบถามว่าถ้าจะยกเลิก ต้องใช้อะไรบ้าง
    พนง. ตอบ ใช้บัตรประชาชนใบเดียว
    ถามต่อว่าไปทำตอนี้ได้เลยไหม
    พนง. ตอบ เดวตรวจสอบก่อน คือถ้าทำตอนนี้ มันกลางรอบบิล เป็นวันที่ 10 ได้ไหม
    มันเลย แล้ว งั้นวันที่ 10 เดือนหน้าเดวผมเข้าไป

    วันที่ 10 เดือนต่อมา
    ก็เข้าไปแจ้ง (ที่ทำการ)
    พนง. ก็บอก คุณต้องเอา เครื่องในรูป (โพสไว้) มาคืนด้วยไม่งั้นแจ้งยกเลิกไม่ได้
    !!! นึกในใจ
    ............................... เวรแท้ (ต้องโทรให้ญาติ เอามาให้อีก)
    สรุป เสร็จ ก็ต้องเสียค่าบริการ เดือนถัดไป+ ถึงวันที่ 10 ของเดือนต่อไปอีก

    ปล. โง่ซ้ำ โง่ซาก (ประเทศแห่งการ อะลุ่มอล่วย) โดนตลอด
    ทิ้งท้าย ให้เห็น การพัฒนา เทคโนโลยี
    แต่คนในหน่วยงาน เทคโนโลยี จะปรับเปลี่ยนตามกระแส เพื่อบริการลูกค้า
    แต่ในความเป็นจริง คือคิดเสมอว่า อย่างไรแล้ว ลูกค้าก็ต้องใช้บริการขอเรา
    จึงเป็นที่มาว่า ไม่ต้องสนใจลูกค้า (เพราะหมูในอวย)
    ตำนาน โทรศัพท์ประจำที่ โดย offsing ("ล้อเลียน อ.เผ่าทอง ทองเจือ") ใช้ครั้งแรกจำไม่ได้ (รุ่นเป็นรุ่นเหมือนโทรศัพท์มือถือแบบปุ่มกดเลย) เปลี่ยน เพราะคู่สายทองแดง เขาหมดวาระ ปัญหาคือ ตัดระบบเก่าไม่บอกล่วงหน้าเป็น อาทิตย์ (ลูกค้าเก่าร้านเรา) ก็โทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย มารู้ต้องจะใช้งาน ยกหูสัญญาณ เงียบกริบ ต้องแจ้งเสีย!!! ถึงได้รู้ว่าระบบสายทองแดง เขาเลิกแล้ว ต่อมาภาพที่เห็นเลย คือใช้ๆไป อยู่ เบอร์หาย ต้องแจ้งเสียในวันที่ 1/07/2021 จึงทำให้รู้ว่าตอนที่เขามาติดครั้งแรก ไม่ได้จด จากใกล้จะเข้าปีใหม่ (22) ช่วงเดือน ธ.ค. 2021 มี พนง. โทรมาแนะนำ โปรส่งเสริมการขาย ปกติเสียเดือน ละ 100 บาท + ค่าโทร (แต่ช่วงนี้ มันเป็นช่วงที่ สอนคนในบ้านให้ ไปใช้งานมือถือ) เบอร์ที่ให้ลูกค้า หรือเวลาโทรหาลูกค้าก็จะเป็นมือถือ แทน (ยกเว้น ญาติผู้ใหญ่ เขายังติดใช้งาน โทรศัพท์ประจำที่อยู่ เราต้องยังใช้งาน"ทีแรกกะสอนใช้มือถือ เพื่อจะยกเลิกโทรศัพท์ประจำ จะได้ลดค่าโทรศัพท์ เดือนละ 100 บาทได้") พนง.จึงโทรแนะนำ โปรส่งเสริมการขาย มาตลอด จนเบื่อ เอาก็เอา จาก เดือนละ 100 บาท เป็น 150 บาท แต่ 50 บาท ที่ + มาได้โทรในเบอร์เครือข่ายเดียวกัน (ฟรี) มือถือ จากนาทีละ 3 บาท ลดเหลือ 1.5 บาท ใช้ได้ 50 บาท ส่วนเกินคิดค่าบริการปกติ ยอมทนใช้ไปเกือบ 6 เดือน เพราะคำ พนง. "คุณยังไม่เคยลองใช้เลย จะรู้ได้ไง" สรุปคือ มีแค่ 2 เดือนที่ใช้ งาน เกินโปร 50 บาท 4 เดือนที่เหลือ ใช้ไม่ถึงโปร เริ่มมีส่วนต่าง (จึงเข้าไป จะขอยกเลิกโปร) เกิดปัญหาอีก คือต้องยกเลิกก่อนรอบบิลใหม่ 1-3 วันทำการ เพื่อจะได้เสียเดือนถัดไปแค่ เดือนเดียว ผมก็เลยพูด กับ พนง. ว่า "ผมขอเซ็นเอกสารไว้ก่อน พอถึง กำหนดนั้น พี่ช่วยทำเรื่องต่อให้ผมได้ไหม" พนง. ตอบมาว่า "ได้" เราก็เดือนถัดไป ยังต้อง เสีย 150 บาท จึงต้องรอเดือนถัดไป ซึ่ง ตามคาด เดือนต่อมาก็ยังเสีย เท่าเดิม เอ๊ะ ทำไม ไม่ 100 บาท จึงโทรสอบถามว่าผมเคยแจ้งยกเลิกทำไม ไม่ยกเลิก ปรากฎว่า เอกสารที่เคยเซ็นไว้ไม่มีนะ ทำให้ ต้องรีบโล่ไปขอแจ้งยกเลิก "คราวนี้ไม่รอรอบบิลแล้ว เดียวเสียค่าโง่อีก" พนง. ถ้าทำแบบนี้ พี่จะเสีย เดือนถัดไปเต็มเดือน + เดือนถัดไปบวกวันไปถึงวันที่ผมเซ็นยกเลิก (เศษเดือนอีก) สรุป คือ โง่อีกรอบ แต่อยากเจ็บให้จบ ต่อมาปลายปี (22) มีโปรส่งเสริมการขายอีก เป็นโปร 129 บาท (แต่จะบอกว่า ผมจะเปลี่ยนผ่านมาใช้มือถือได้แล้ว) พนง. โทรมา แต่ใช้มุกเดิม ผมก็เลยตอบไปว่า "พี่ดู ให้ผมแล้วใช่ไหม ว่าโปรนี้คุ้มสำหรับผม ไม่ใช่ เอาแค่ยอดที่ผมใช้เกินเดือน 2 เดือนมาวัด" พนง. "ใช่ เราตรวจสอบแล้ว ถึงได้เสนอมาให้พิจารณา" แต่ผมยังไม่ทำ จนอีก 2-3 ต่อมา มี พนง.จากส่วนกลางมา กับ พนง. ในพื้นที่ เลย มาเยี่ยม ชวนคุย(จนเราโง่อีก) แต่จบการเซ็นโปร พร้อม ให้ เรา ถ่ายลงโชเชียล ให้เราถือเครื่อง (ดังรูป แล้ว ยกนิ้วโป้งให้) ปล.มันคือแผน ที่จะเอาหน้า ของ พนง. จากส่วนกลางว่า เราแก้ปัญหาที่ลูกค้า ที่ พนง.ในพื้นที่ ขายโปรไม่ได้ยอด เลย เกทับ พนง.ในพื้นที่ว่า ถ้าไม่มีเขาคุณจะได้ปิด ดีล แถม โปรโมท ทางอ้อมทางโชเชียลอีก ว่าเขาไม่มีปัญหากับลูกค้า จึงเป็นที่มาว่า ผมต้องขอยกเลิก แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่โปร แต่ยกเลิก บริการคุณไปเลย (ว่าจะรู้ว่าโดนหลอกหาประโยชน์) คือ วันที่จะปลดแอด วันที่ 10 ก.ย. ปี 67 (2024) ผมโทรตอน ผมเลิกงานแล้ว โทรไปสอบถามว่าถ้าจะยกเลิก ต้องใช้อะไรบ้าง พนง. ตอบ ใช้บัตรประชาชนใบเดียว ถามต่อว่าไปทำตอนี้ได้เลยไหม พนง. ตอบ เดวตรวจสอบก่อน คือถ้าทำตอนนี้ มันกลางรอบบิล เป็นวันที่ 10 ได้ไหม มันเลย แล้ว งั้นวันที่ 10 เดือนหน้าเดวผมเข้าไป วันที่ 10 เดือนต่อมา ก็เข้าไปแจ้ง (ที่ทำการ) พนง. ก็บอก คุณต้องเอา เครื่องในรูป (โพสไว้) มาคืนด้วยไม่งั้นแจ้งยกเลิกไม่ได้ !!! นึกในใจ ............................... เวรแท้ (ต้องโทรให้ญาติ เอามาให้อีก) สรุป เสร็จ ก็ต้องเสียค่าบริการ เดือนถัดไป+ ถึงวันที่ 10 ของเดือนต่อไปอีก ปล. โง่ซ้ำ โง่ซาก (ประเทศแห่งการ อะลุ่มอล่วย) โดนตลอด ทิ้งท้าย ให้เห็น การพัฒนา เทคโนโลยี แต่คนในหน่วยงาน เทคโนโลยี จะปรับเปลี่ยนตามกระแส เพื่อบริการลูกค้า แต่ในความเป็นจริง คือคิดเสมอว่า อย่างไรแล้ว ลูกค้าก็ต้องใช้บริการขอเรา จึงเป็นที่มาว่า ไม่ต้องสนใจลูกค้า (เพราะหมูในอวย)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว

    เส้นทางดอยหลวง - ดอยหนอก
    ขุนเขาแห่งศรัทธา 🍀⛰️

    📣เปิดให้จองแล้วว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
    ขั้นตอนการจองสิทธิ์ 📌
    1.เปิดให้จองทางโทรศัพท์ เบอร์
    06-3018-7000 ช่องทางเดียวเท่านั้น ในเวลา 09.00 – 16.00 น.
    2.เปิดให้ขึ้น สัปดาห์ละ 3 รอบ คือ รอบที่ 1 ศุกร์ - เสาร์ รอบที่ 2 เสาร์ – อาทิตย์ และรอบที่ 3 อาทิตย์ - จันทร์ โดยจำกัดนักท่องเที่ยวรอบละไม่เกิน 6 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน
    3.นักท่องเที่ยวที่โทรมาจองวันขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอกเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งรูปบัตรประจำตัวบัตรประชาชนพร้อมทั้งหลักฐานการโอนเงินมัดจำ มาที่ไลน์ ID: @977pyffs ภายในวันที่โทรจอง
    เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจอง พร้อมทั้งรับการยืนยันการเดินทางก่อนเดินทาง 2 วัน จากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีการส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชน หลักฐานการโอนเงินมัดจำ และไม่ได้ยืนยันการเดินทาง ทางอุทยานฯจะถือว่าท่านไม่ประสงค์จะเดินป่าศึกษาธรรมชาติดอยหลวง-ดอยหนอก และขอตัดสิทธิ์ในการเดินทางโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่คืนค่ามัดจำ
    4.นักท่องเที่ยวที่จะมาเป็นกลุ่ม/คณะ จำกัดกลุ่มละไม่เกิน 10 คน โดยให้ผู้จองรวบรวมรูปบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิกในกลุ่มให้ครบและส่งไลน์มาในครั้งเดียว เพื่อความสะดวกในการเตรียมเอกสารของเจ้าหน้าที่ (สามารถจองได้ 1 กลุ่ม/คณะ ต่อ 1 ท่าน เท่านั้น)
    5.ในวันเดินทางขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอก ให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนพร้อมทั้งแสดงบัตรประชาชนตัวจริง
    ณ สวนสุขภาพบ้านสันเวียงใหม่ ต.บ้านสาง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 6.00 – 6.30 น.
    6.นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จอง วันเวลา ล่วงหน้า ทางอุทยานแห่งชาติดอยหลวงไม่อนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมเดินป่าเส้นทางดอยหลวง-ดอยหนอก (ต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนจะถึงรอบที่ต้องการจอง)

    รายละเอียด และข้อมูลการจองต่างๆ 👉🏼 https://drive.google.com/drive/folders/1yJO2tNwIOS4VzgcKtmvmOTWys-N1Q1dN?usp=drive_link

    แล้วมาสัมผัสอากาศหนาว กับสายลมเย็นๆด้วยกันนะคะ 🫶🏼🍃🧗🏻‍♀️🏕️

    ☆ข้อมูลจาก
    อุทยานแห่งชาติดอยหลวง doi-luang national park
    เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/@doiluang.dnp/?mibextid=ZbWKwL
    □□□□□□□□□□□
    #อุทยานแห่งชาติดอยหลวง #เดินป่า #ดอยหลวงดอยหนอก #ดอยหนอกพะเยา
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว เส้นทางดอยหลวง - ดอยหนอก ขุนเขาแห่งศรัทธา 🍀⛰️ 📣เปิดให้จองแล้วว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขั้นตอนการจองสิทธิ์ 📌 1.เปิดให้จองทางโทรศัพท์ เบอร์ 06-3018-7000 ช่องทางเดียวเท่านั้น ในเวลา 09.00 – 16.00 น. 2.เปิดให้ขึ้น สัปดาห์ละ 3 รอบ คือ รอบที่ 1 ศุกร์ - เสาร์ รอบที่ 2 เสาร์ – อาทิตย์ และรอบที่ 3 อาทิตย์ - จันทร์ โดยจำกัดนักท่องเที่ยวรอบละไม่เกิน 6 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน 3.นักท่องเที่ยวที่โทรมาจองวันขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอกเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งรูปบัตรประจำตัวบัตรประชาชนพร้อมทั้งหลักฐานการโอนเงินมัดจำ มาที่ไลน์ ID: @977pyffs ภายในวันที่โทรจอง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจอง พร้อมทั้งรับการยืนยันการเดินทางก่อนเดินทาง 2 วัน จากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีการส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชน หลักฐานการโอนเงินมัดจำ และไม่ได้ยืนยันการเดินทาง ทางอุทยานฯจะถือว่าท่านไม่ประสงค์จะเดินป่าศึกษาธรรมชาติดอยหลวง-ดอยหนอก และขอตัดสิทธิ์ในการเดินทางโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่คืนค่ามัดจำ 4.นักท่องเที่ยวที่จะมาเป็นกลุ่ม/คณะ จำกัดกลุ่มละไม่เกิน 10 คน โดยให้ผู้จองรวบรวมรูปบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิกในกลุ่มให้ครบและส่งไลน์มาในครั้งเดียว เพื่อความสะดวกในการเตรียมเอกสารของเจ้าหน้าที่ (สามารถจองได้ 1 กลุ่ม/คณะ ต่อ 1 ท่าน เท่านั้น) 5.ในวันเดินทางขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอก ให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนพร้อมทั้งแสดงบัตรประชาชนตัวจริง ณ สวนสุขภาพบ้านสันเวียงใหม่ ต.บ้านสาง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 6.00 – 6.30 น. 6.นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จอง วันเวลา ล่วงหน้า ทางอุทยานแห่งชาติดอยหลวงไม่อนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมเดินป่าเส้นทางดอยหลวง-ดอยหนอก (ต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนจะถึงรอบที่ต้องการจอง) รายละเอียด และข้อมูลการจองต่างๆ 👉🏼 https://drive.google.com/drive/folders/1yJO2tNwIOS4VzgcKtmvmOTWys-N1Q1dN?usp=drive_link แล้วมาสัมผัสอากาศหนาว กับสายลมเย็นๆด้วยกันนะคะ 🫶🏼🍃🧗🏻‍♀️🏕️ ☆ข้อมูลจาก อุทยานแห่งชาติดอยหลวง doi-luang national park เพจ 》》 https://www.facebook.com/@doiluang.dnp/?mibextid=ZbWKwL □□□□□□□□□□□ #อุทยานแห่งชาติดอยหลวง #เดินป่า #ดอยหลวงดอยหนอก #ดอยหนอกพะเยา #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตือนคนเกษียณระวังหมดตัวจากข้อมูลกรมบัญชีกลาง 23,089 รายชื่อหลุดรั่ว
    .
    ข้าราชการเกษียณอายุ ระวังตัวให้ดีๆ เพราะว่าข้อมูลกรมบัญชีกลางหลุดออกไปเยอะเลย โดนแฮก หรือโดนคนภายในเอาไปขายให้กับพวกคอลเซ็นเตอร์
    .
    เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา วันที่ 5 สิงหาคม 2567 ตำรวจสอบสวนภูธรภาค 2 มี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 หรือที่เขาเรียกว่า ผู้การสืบภาค 2 ขนลูกน้องไปทำลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง แห่งหนึ่งที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี พอบุกเข้าไปในบ้านก็ได้จับผู้ต้องหาเป็นผู้ชายไทยได้ 4 คน ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ 10 เครื่อง พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก
    .
    ไฮไลต์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ตำรวจสืบภาค 2 จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนสีเทาแล้ว ประเด็นสำคัญคือหลักฐานที่ตำรวจชุดจับกุมเข้าตรวจพบ มันเป็นไฟล์ข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนกว่า 23,089 รายชื่อ ที่เป็นชื่อของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้วทั้งหมด บันทึกอยู่ในคอมพิวเตอร์ของกลางทุกเครื่อง
    .
    ในแต่ละรายชื่อประกอบด้วย ชื่อจริง นามสกุลจริง ที่อยู่อาศัย เลขบัตรประชาชน 13 หลัก ข้อมูลธนาคาร เลขบัญชีที่ผูกกับบัญชีเงินเดือน หรือบัญชีรับเงินบำเหน็จบำนาญ ข้อที่สำคัญคือ ข้อมูลสถานพยาบาล สิทธิการรักษาพยาบาลต่างๆ ของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้ว มันหลุดไปได้อย่างไรคุณแพทริเซีย อธิบดีกรมบัญชีกลางครับ ตอบผมหน่อย
    .
    ทีมงานผมไปสืบ วิเคราะห์เจาะลึกมาแล้ว ว่าเมื่อช่วงกลางปี 2565 หรือสองปีมาแล้ว กรมบัญชีกลางจ้าง Outsource หรือคนนอกมาปรับปรุงระบบระบบฐานข้อมูลต่างๆ ท่านผู้ชมฟังแล้วอึ้งไหม ที่น่าตกใจคือกรมบัญชีกลางจ้างบริษัทไอที จ้างโปรแกรมเมอร์ที่ไหนเข้ามาปรับปรุงหรือพัฒนาระบบข้อมูลพื้นฐาน ที่กำกับดูแลการเงินภาครัฐที่ต้องถือว่ามีความสำคัญมาก และควรเป็นความลับสุดยอดระดับ Restricted Confidential หรือ Highly Confidential คือเป็นข้อมูลที่ลับมาก
    .
    สำหรับเรื่องข้อมูลข้าราชการเกษียณจำนวน 23,000 กว่ารายชื่อจากกรมบัญชีกลาง หลุดรอดไปถึงแก๊งจีนเทาครั้งนี้ ผมขออนุญาตขยายความได้ไหม ประเด็นความเสียหายนี้สันนิษฐานเกิดได้หลายกรณี คือ (1) เกลือเป็นหนอน เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่ดูแลในส่วนนี้ นำข้อมูลไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (2) เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่รู้เห็นเป็นใจกับคนนอก ที่เข้ามาดูแลพัฒนาระบบ เปิดทางให้ข้อมูลรั่วไหลไปสู่บรรดามิจฉาชีพ (3) เลินเล่อ (4) ระบบโดนแฮก
    .
    ที่ผมพูดแบบนี้เพราะมันสันนิษฐานได้ทุกมิติ เพราะวันนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้ แต่คุณแพทริเซีย มงคลวนิช ท่านอธิบดีกรมบัญชีกลางต้องเข้าใจนะครับว่า ข้าราชการรุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นแม่ ที่เกษียณอายุ ต้องตกเป็นเหยื่อทั้งหมดจากความหละหลวมของกรมบัญชีกลางนั้น คุณแพทริเซียจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะคนเหล่านี้ต้องมาทนทุกข์กับปัญหาที่เขาไม่ได้ก่อ บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว เงินที่สะสมจากการทำงานมาชั่วชีวิตต้องสูญหายไปเป็นหลักแสนบ้าง หลักล้านบ้าง บางคนต้องเก็บเรื่องเงียบไว้คนเดียว เพราะว่าอายชาวบ้าน หรือกลัวถูกลูกหลานตำหนิ ด่าทอ ปัญหาทั้งหมดนี้ต้นเหตุมาจากกรมบัญชีกลาง ใช่หรือเปล่า
    .
    ฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ ถ้าจะให้ปัญหาพวกนี้น้อยลง หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ มีหน้าที่ดูแลข้อมูลส่วนบุคคล ถ้ามีการกระทำความผิดต้องมีทั้งโทษอาญาและโทษทางแพ่ง ไล่ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาไปจนถึงเจ้าหน้าที่ ต้องรับโทษทางอาญา หน่วยงานรับผิดชอบเรื่องแพ่ง ชดใช้เยียวยาความเสียหายของเหยื่อ ต้องรับผิดชอบที่ทำข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล นี่คือการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ส่วนกลางทาง และปลายทางนั้น เป็นหน้าที่ตำรวจเขาทำกันอยู่แล้ว คือกวาดล้างและจับกุม
    .
    คุณแพทริเซียครับ ผมอยากจะฝากไว้ด้วยว่า ผมจะจับตาดูเรื่องนี้อยู่ และจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปตามสายลมอย่างแน่นอน
    เตือนคนเกษียณระวังหมดตัวจากข้อมูลกรมบัญชีกลาง 23,089 รายชื่อหลุดรั่ว . ข้าราชการเกษียณอายุ ระวังตัวให้ดีๆ เพราะว่าข้อมูลกรมบัญชีกลางหลุดออกไปเยอะเลย โดนแฮก หรือโดนคนภายในเอาไปขายให้กับพวกคอลเซ็นเตอร์ . เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา วันที่ 5 สิงหาคม 2567 ตำรวจสอบสวนภูธรภาค 2 มี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 หรือที่เขาเรียกว่า ผู้การสืบภาค 2 ขนลูกน้องไปทำลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง แห่งหนึ่งที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี พอบุกเข้าไปในบ้านก็ได้จับผู้ต้องหาเป็นผู้ชายไทยได้ 4 คน ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ 10 เครื่อง พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก . ไฮไลต์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ตำรวจสืบภาค 2 จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนสีเทาแล้ว ประเด็นสำคัญคือหลักฐานที่ตำรวจชุดจับกุมเข้าตรวจพบ มันเป็นไฟล์ข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนกว่า 23,089 รายชื่อ ที่เป็นชื่อของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้วทั้งหมด บันทึกอยู่ในคอมพิวเตอร์ของกลางทุกเครื่อง . ในแต่ละรายชื่อประกอบด้วย ชื่อจริง นามสกุลจริง ที่อยู่อาศัย เลขบัตรประชาชน 13 หลัก ข้อมูลธนาคาร เลขบัญชีที่ผูกกับบัญชีเงินเดือน หรือบัญชีรับเงินบำเหน็จบำนาญ ข้อที่สำคัญคือ ข้อมูลสถานพยาบาล สิทธิการรักษาพยาบาลต่างๆ ของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้ว มันหลุดไปได้อย่างไรคุณแพทริเซีย อธิบดีกรมบัญชีกลางครับ ตอบผมหน่อย . ทีมงานผมไปสืบ วิเคราะห์เจาะลึกมาแล้ว ว่าเมื่อช่วงกลางปี 2565 หรือสองปีมาแล้ว กรมบัญชีกลางจ้าง Outsource หรือคนนอกมาปรับปรุงระบบระบบฐานข้อมูลต่างๆ ท่านผู้ชมฟังแล้วอึ้งไหม ที่น่าตกใจคือกรมบัญชีกลางจ้างบริษัทไอที จ้างโปรแกรมเมอร์ที่ไหนเข้ามาปรับปรุงหรือพัฒนาระบบข้อมูลพื้นฐาน ที่กำกับดูแลการเงินภาครัฐที่ต้องถือว่ามีความสำคัญมาก และควรเป็นความลับสุดยอดระดับ Restricted Confidential หรือ Highly Confidential คือเป็นข้อมูลที่ลับมาก . สำหรับเรื่องข้อมูลข้าราชการเกษียณจำนวน 23,000 กว่ารายชื่อจากกรมบัญชีกลาง หลุดรอดไปถึงแก๊งจีนเทาครั้งนี้ ผมขออนุญาตขยายความได้ไหม ประเด็นความเสียหายนี้สันนิษฐานเกิดได้หลายกรณี คือ (1) เกลือเป็นหนอน เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่ดูแลในส่วนนี้ นำข้อมูลไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (2) เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่รู้เห็นเป็นใจกับคนนอก ที่เข้ามาดูแลพัฒนาระบบ เปิดทางให้ข้อมูลรั่วไหลไปสู่บรรดามิจฉาชีพ (3) เลินเล่อ (4) ระบบโดนแฮก . ที่ผมพูดแบบนี้เพราะมันสันนิษฐานได้ทุกมิติ เพราะวันนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้ แต่คุณแพทริเซีย มงคลวนิช ท่านอธิบดีกรมบัญชีกลางต้องเข้าใจนะครับว่า ข้าราชการรุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นแม่ ที่เกษียณอายุ ต้องตกเป็นเหยื่อทั้งหมดจากความหละหลวมของกรมบัญชีกลางนั้น คุณแพทริเซียจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะคนเหล่านี้ต้องมาทนทุกข์กับปัญหาที่เขาไม่ได้ก่อ บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว เงินที่สะสมจากการทำงานมาชั่วชีวิตต้องสูญหายไปเป็นหลักแสนบ้าง หลักล้านบ้าง บางคนต้องเก็บเรื่องเงียบไว้คนเดียว เพราะว่าอายชาวบ้าน หรือกลัวถูกลูกหลานตำหนิ ด่าทอ ปัญหาทั้งหมดนี้ต้นเหตุมาจากกรมบัญชีกลาง ใช่หรือเปล่า . ฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ ถ้าจะให้ปัญหาพวกนี้น้อยลง หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ มีหน้าที่ดูแลข้อมูลส่วนบุคคล ถ้ามีการกระทำความผิดต้องมีทั้งโทษอาญาและโทษทางแพ่ง ไล่ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาไปจนถึงเจ้าหน้าที่ ต้องรับโทษทางอาญา หน่วยงานรับผิดชอบเรื่องแพ่ง ชดใช้เยียวยาความเสียหายของเหยื่อ ต้องรับผิดชอบที่ทำข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล นี่คือการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ส่วนกลางทาง และปลายทางนั้น เป็นหน้าที่ตำรวจเขาทำกันอยู่แล้ว คือกวาดล้างและจับกุม . คุณแพทริเซียครับ ผมอยากจะฝากไว้ด้วยว่า ผมจะจับตาดูเรื่องนี้อยู่ และจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปตามสายลมอย่างแน่นอน
    Like
    Love
    Sad
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 780 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥จากกรณีที่มีพนักงานเอาต์ซอส ของการไฟฟ้า
    ไปตัดกระแสไฟ ของบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียง
    ซึ่งต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้ท่านนั้นเสียชีวิต
    ที่ นครพนม

    🚩เรื่องนี้ได้ทราบไปถึงการไฟฟ้า และไม่ได้นิ่งนอนใจ
    และได้แจ้งประชาสัมพันธ์ ให้ทุกบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียง
    ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และต้องใช้ไฟฟ้า
    เช่น เครื่องช่วยหายใจต่างๆ

    🚩ให้เจ้าของบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียงให้ไปลงทะเบียน
    ยื่นขอใช้สิทธิ์กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ในพื้นที่
    ที่ท่านอาศัยอยู่ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ
    การไฟฟ้านครหลวง เป็นต้น

    หลักฐานการยื่นขอใช้สิทธิ์ ได้แก่

    1. หลักฐานแสดงสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น บิลล์ค่าไฟ
    2. ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน
    3. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ใช้ไฟฟ้า
    4. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ป่วย
    5. กรณีที่ให้ผู้อื่นดำเนินการแทน ต้องมีหลักฐาน
    แสดงการมอบอำนาจ ของผู้มอบอำนาจ และ
    ผู้รับมอบอำนาจ

    หมายเหตุ: ในกรณีที่ท่านดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างถูกต้องแล้ว
    และมีคนมาตัดไฟโดยพละการ จนส่งผลให้ผู้ป่วยติดเตียง
    เกิดการเสียชีวิตจากการตัดไฟดังกล่าว
    สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้

    ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    🔥🔥จากกรณีที่มีพนักงานเอาต์ซอส ของการไฟฟ้า ไปตัดกระแสไฟ ของบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้ท่านนั้นเสียชีวิต ที่ นครพนม 🚩เรื่องนี้ได้ทราบไปถึงการไฟฟ้า และไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้แจ้งประชาสัมพันธ์ ให้ทุกบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และต้องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องช่วยหายใจต่างๆ 🚩ให้เจ้าของบ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียงให้ไปลงทะเบียน ยื่นขอใช้สิทธิ์กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ในพื้นที่ ที่ท่านอาศัยอยู่ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ การไฟฟ้านครหลวง เป็นต้น หลักฐานการยื่นขอใช้สิทธิ์ ได้แก่ 1. หลักฐานแสดงสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น บิลล์ค่าไฟ 2. ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน 3. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ใช้ไฟฟ้า 4. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ป่วย 5. กรณีที่ให้ผู้อื่นดำเนินการแทน ต้องมีหลักฐาน แสดงการมอบอำนาจ ของผู้มอบอำนาจ และ ผู้รับมอบอำนาจ หมายเหตุ: ในกรณีที่ท่านดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างถูกต้องแล้ว และมีคนมาตัดไฟโดยพละการ จนส่งผลให้ผู้ป่วยติดเตียง เกิดการเสียชีวิตจากการตัดไฟดังกล่าว สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    Like
    3
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 745 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดตำนาน 20 ปี บัตรสมาร์ทเพิร์ส

    ในขณะที่คนไทยกำลังตื่นเต้น ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 480 สาขา สแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร ผ่านบริการมายพร้อมคิวอาร์ (MyPromptQR) เฉพาะบางธนาคาร แต่อีกด้านหนึ่ง บัตรเซเว่นการ์ด (7-Card) ซึ่งเป็นบัตรสมาร์ทเพิร์สรุ่นสุดท้าย จะยกเลิกให้บริการ โดยปิดระบบเติมเงินในวันที่ 1 ม.ค. 2568 และสมาชิกสามารถใช้เงินภายในบัตรได้ถึง 31 ม.ค. 2568

    หลังจากนั้นจะไม่สามารถใช้งานบัตรได้ สมาชิกต้องลงทะเบียนขอรับเงินคืน และนำบัตร 7-Card ที่ทำลายแล้วพร้อมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาสมุดบัญชีส่งทางไปรษณีย์ หากไม่ดำเนินการในอีก 120 วันจะหักแต้ม และหักค่ารักษาบัญชีจนหมด

    บัตรสมาร์ทเพิร์ส เริ่มให้บริการเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2548 โดยใช้ชื่อว่า "บัตรเชื่อมรัก" ของเคาน์เตอร์เซอร์วิส ใช้สำหรับส่งและรับเงินระหว่างกันที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่เข้าร่วมโครงการ 1,000 สาขา ตลอด 24 ชั่วโมง คิดค่าบริการครั้งละ 20 บาท

    กระทั่งวันที่ 15 ธ.ค. 2548 จึงได้เริ่มให้บริการบัตรสมาร์ทเพิร์ส นำร่องร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,500 สาขา ก่อนทยอยเปิดครบทุกสาขาในปี 2549 โดยบัตรจำหน่ายราคาใบละ 250 บาท เติมเงินขั้นต่ำ 50 บาท สูงสุด 10,000 บาท ผ่านไปปีแรก ในปี 2549 มีผู้ถือบัตรมากถึง 1.1 ล้านใบ และร้านค้ารับบัตร 7,000 แห่ง

    นอกจากนี้ ยังมีบัตรโคแบรนด์ที่ออกร่วมกับภาคเอกชน ร้านค้า สถานศึกษา มากกว่า 100 องค์กร และยังมีบัตรที่ออกร่วมกับธนาคาร เช่น บัตรเอทีเอ็มซีไอเอ็มบีไทย สมาร์ทพอยต์ ร่วมกับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บัตรเค-เดบิต เซเว่นพอยต์ ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย แต่เป็นไปในลักษณะแยกกันคนละกระเป๋าเงิน ได้แก่ กระเป๋าเงินสมาร์ทเพิร์ส กับบัญชีธนาคาร

    กระทั่งเปิดตัวบัตรสมาชิก All Member ไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2562 จังหวะนั้นเอง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ก็เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จํากัด จากผู้ถือหุ้นอื่นทุกราย เพื่อย้ายฐานสมาชิกบัตร 7-Card ไปเป็น ALL Member

    อิทธิพลของดิจิทัลดิสรัปชัน โดยเฉพาะโมบายเพย์เมนต์ อีกทั้งร้านค้าต่างทยอยยกเลิกรับบัตรสมาร์ทเพิร์ส เหลือร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่ยังรับบัตรอยู่ ขณะนั้นมีฐานสมาชิกบัตรที่ยังไม่หมดอายุกว่า 3 ล้านใบ และมีบัตรที่ใช้งานต่อเนื่อง 1.5 ล้านใบต่อเดือน

    แต่ระหว่างนั้นเซเว่นอีเลฟเว่นหันมาทำการตลาดกับทรูมันนี่วอลเล็ต ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney และ 7-App แทน กระทั่งวันสุดท้ายของบัตรใบนี้ก็มาถึง

    นับเป็นการปิดตำนานบัตรที่ใช้จ่ายแทนเงินสดในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นอย่างถาวร หลังจากให้บริการมานาน 20 ปี

    #Newskit #SmartPurse #7Card
    ปิดตำนาน 20 ปี บัตรสมาร์ทเพิร์ส ในขณะที่คนไทยกำลังตื่นเต้น ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 480 สาขา สแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร ผ่านบริการมายพร้อมคิวอาร์ (MyPromptQR) เฉพาะบางธนาคาร แต่อีกด้านหนึ่ง บัตรเซเว่นการ์ด (7-Card) ซึ่งเป็นบัตรสมาร์ทเพิร์สรุ่นสุดท้าย จะยกเลิกให้บริการ โดยปิดระบบเติมเงินในวันที่ 1 ม.ค. 2568 และสมาชิกสามารถใช้เงินภายในบัตรได้ถึง 31 ม.ค. 2568 หลังจากนั้นจะไม่สามารถใช้งานบัตรได้ สมาชิกต้องลงทะเบียนขอรับเงินคืน และนำบัตร 7-Card ที่ทำลายแล้วพร้อมสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาสมุดบัญชีส่งทางไปรษณีย์ หากไม่ดำเนินการในอีก 120 วันจะหักแต้ม และหักค่ารักษาบัญชีจนหมด บัตรสมาร์ทเพิร์ส เริ่มให้บริการเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2548 โดยใช้ชื่อว่า "บัตรเชื่อมรัก" ของเคาน์เตอร์เซอร์วิส ใช้สำหรับส่งและรับเงินระหว่างกันที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่เข้าร่วมโครงการ 1,000 สาขา ตลอด 24 ชั่วโมง คิดค่าบริการครั้งละ 20 บาท กระทั่งวันที่ 15 ธ.ค. 2548 จึงได้เริ่มให้บริการบัตรสมาร์ทเพิร์ส นำร่องร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,500 สาขา ก่อนทยอยเปิดครบทุกสาขาในปี 2549 โดยบัตรจำหน่ายราคาใบละ 250 บาท เติมเงินขั้นต่ำ 50 บาท สูงสุด 10,000 บาท ผ่านไปปีแรก ในปี 2549 มีผู้ถือบัตรมากถึง 1.1 ล้านใบ และร้านค้ารับบัตร 7,000 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีบัตรโคแบรนด์ที่ออกร่วมกับภาคเอกชน ร้านค้า สถานศึกษา มากกว่า 100 องค์กร และยังมีบัตรที่ออกร่วมกับธนาคาร เช่น บัตรเอทีเอ็มซีไอเอ็มบีไทย สมาร์ทพอยต์ ร่วมกับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บัตรเค-เดบิต เซเว่นพอยต์ ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย แต่เป็นไปในลักษณะแยกกันคนละกระเป๋าเงิน ได้แก่ กระเป๋าเงินสมาร์ทเพิร์ส กับบัญชีธนาคาร กระทั่งเปิดตัวบัตรสมาชิก All Member ไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2562 จังหวะนั้นเอง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ก็เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จํากัด จากผู้ถือหุ้นอื่นทุกราย เพื่อย้ายฐานสมาชิกบัตร 7-Card ไปเป็น ALL Member อิทธิพลของดิจิทัลดิสรัปชัน โดยเฉพาะโมบายเพย์เมนต์ อีกทั้งร้านค้าต่างทยอยยกเลิกรับบัตรสมาร์ทเพิร์ส เหลือร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่ยังรับบัตรอยู่ ขณะนั้นมีฐานสมาชิกบัตรที่ยังไม่หมดอายุกว่า 3 ล้านใบ และมีบัตรที่ใช้งานต่อเนื่อง 1.5 ล้านใบต่อเดือน แต่ระหว่างนั้นเซเว่นอีเลฟเว่นหันมาทำการตลาดกับทรูมันนี่วอลเล็ต ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney และ 7-App แทน กระทั่งวันสุดท้ายของบัตรใบนี้ก็มาถึง นับเป็นการปิดตำนานบัตรที่ใช้จ่ายแทนเงินสดในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นอย่างถาวร หลังจากให้บริการมานาน 20 ปี #Newskit #SmartPurse #7Card
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 697 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เดอะลู๊ค บ่อนลอยฟ้า

    เราท่านอาจเคยเห็นโฆษณาเว็บพนันที่บอกว่า“เป็นเว็บตรง API จากต่างประเทศ ใช้ระบบฝากถอนออโต้”

    แปะ Banner เว็บพนันโฆษณาชวนเชื่อล่อผีพนันกันมีให้เห็นทุกแพล็ตฟอร์มออนไลน์ แล้วเคยสงสัยกันไหมว่าการฝากถอนออโต้มันทำกันได้ด้วยเหรอ.?

    ก็การฝากถอนเงินใดๆกับสถาบันการเงิน มันต้องทำโดยสุจริตทุกการฝาก-ถอน จะถูก Record จัดเก็บไว้นานนับ 10 ปี

    เจ้าหน้าที่รัฐสามารถขอบัญชีมาตรวจสอบได้ และเส้นเงินมันไม่เคยโกหก เว้นเสียแต่ว่าพนักงานธนาคารจะทุจริต

    แล้วทำไมคนทำเว็บพนันถึงมีระบบฝากถอนเงินได้ตลอดเวลา เหมือนสถาบันการเงินยังไงยังงั้นเลย.?

    โพสต์นี้จะเขียนถึงระบบฝากถอนออโต้ของ #เดอะลู๊ค ตัวตึงบ่อนลอยฟ้า ที่จัดจำหน่ายระบบฝากถอนออโตให้คนทำเว็บพนันมานานมากแล้ว

    (ล่าสุดแหล่งข่าวเรายืนยันข้อมูลว่าคดีของ เดอะลู๊ค และคดีของป้ายแพง อัยการจะสั่งไม่ฟ้องทั้ง 2 คดี จับตาดูจะสั่ง เร็วๆนี้)
    ---------

    ระบบฝากถอนโต้..หลักการทำงานโดยปกติแล้วในการฝาก จะใช้ในการเปรียบเทียบ ยอดฝากจากธนาคาร

    สมมุติว่าลูกค้าฝากมา 100 บาท ระบบของเว็บพนันก็จะเช็คยอด 100 บาทนี้

    ถ้าหากชื่อ - นามสกุล และ เลขบัญชีตรงกับ ชื่อ - นามสกุล และ เลขบัญชี ที่มีในระบบ ก็จะให้เติมเครดิตให้ลูกค้าคนนี้ไป

    การถอนก็ใช้หลักการ โอนเงินผ่านระบบหลังบ้าน โดยที่ไม่ต้องมีคนมานั่งโอนเงินใน App มือถือ

    ระบบถอนนี้จะใช้อยู่ 2 วิธีคือ ..
    1. ให้แอดมินโอนเงินผ่าน app ธนาคาร
    2. ยืนยันจากระบบหลังบ้าน แล้วระบบก็จะโอนเงินให้เอง

    แล้วจะเช็คยอดเงินในธนาคารกันอย่างไร.?

    พวกนี้จะมีวิธีการ เช็ค ผ่าน sms alert จากธนาคาร หรือ หน้าเว็บ และ app ธนาคาร หากเช็คผ่าน sms alert

    พวกนี้จะมีการสร้าง app ขึ้นมาตัวหนึ่ง เพื่อมาเก็บ notification ในมือถือ แล้วส่งต่อไปที่เซิร์ฟเวอร์

    แล้วนำข้อความนั้นไป เปรียบเทียบในระบบ เพื่อจะเติมเครดิตให้ลูกค้า โดยการเช็คผ่าน sms alert

    ทางธนาคารจะมีการส่ง จำนวนยอด และ เลขบัญชี 4 ตัวท้าย หรือ 6 ตัวท้าย แล้วก็ ชื่อ - นามสกุล มานั้นเอง

    app จะส่งต่อข้อความเข้าเซิร์ฟเวอร์ ที่เว็บพนันสร้างขึ้นมา
    👉 https://play.google.com/store/apps/details?id=com.exp.ff http://dd88bet.com/app_sms.apk

    หากเช็คผ่านหน้าเว็บ เช่น scbeasy หรือ kbiz พวกนี้จะสร้างบอทมาตัวหนึ่งเพื่อจะให้บอทตัวนี้ไปเช็คยอดเงินในหน้าเว็บธนาคารต่างๆ

    โดยจะตั้งเวลาในการเข้าไปเช็ค เช่น ทุกๆ 5 นาที เพื่อไม่ให้ธนาคารจับได้ โดยปกติแล้วหากเราเข้าหน้าเว็บถี่เกินไป

    ธนาคารจะมีการป้องกันโดยใช้ reCAPTCHA (เครื่องมือตรวจจับว่าผู้ใช้เป็นมนุษย์จริงๆไหม)แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก

    เพราะเว็บพนันมันจะใช้วิธีการ bypass captcha เพื่อเข้าใช้ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ แล้วบอทก็จะเข้าเช็คว่ามียอดใหม่มาไหม

    ถ้ามียอดใหม่เข้ามาก็ให้ดึงยอดนั้นมาเปรียบเทียบในระบบหลังบ้าน

    ในการเปรียบเทียบในหน้าเว็บ ธนาคารจะมีเวลา จำนวนเงิน และ ชื่อ - นามสกุล ให้

    โดยที่เขาจะเอาเวลา จำนวนเงิน เลขบัญชี และ ชื่อ - นามสกุลนี้ เป็นการเช็คยอดต่างๆ

    หากสมมุติว่าลูกค้าฝาก 100 บาทยอดแรกเลย บอทก็จะเอายอดนี้ไปเช็คในระบบหลังบ้านว่ามียอดนี้ไหม

    ถ้าไม่มีก็ให้ดึงยอดนี้มา แล้วถ้ามียอดที่ 2 มาก็เอามาเช็คอีกรอบว่า ยอดนี้ ( เวลา จำนวนเงิน เลขบัญชี และ ชื่อ - นามสกุล ) นี้ มีในระบบไหม

    ถ้าไม่มีก็ดึงมาเติมได้เลย แต่ถ้าสมมุติว่ามี ก็จะข้ามไปดึงยอดอื่น แค่นั้นเอง

    หากผ่าน app ธนาคาร โดยปกติแล้ว เวลาเราเปิดบัญชีใหม่ขึ้นมา แล้วหากเราต้องการเข้าใช้งาน app ธนาคารในมือถือ

    ในการเชื่อมทางธนาคารจะให้กรอก บัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตร และ รหัสบัตร ATM

    แล้วก็รอรับ otp จากเบอร์ที่เราเอาไปเชื่อมกับบัญชีไว้ได้เลย ใช่ไหม.?

    แต่..พวกเว็บพนันมันล้ำกว่านั้น มันจะมีการแกะ app หรือแฮก

    โดยหลักแล้วก็ต้อง root เครื่องมือถือ แล้ว bypass เพื่อเอาเส้น api ใน app มาทำเป็น web application

    เพื่อที่พวกมันจะไม่ต้องทำธุรกรรมต่างๆผ่าน app มือถือ แต่ไปทำผ่านเว็บแทน ทุกอย่างที่ทำผ่านหน้าเว็บก็จะเหมือนใน app มือถือหมด

    ในการเชื่อมก็ต้องกรอก เลขประชาชน ปีเกิด หมายเลขบัตร และ รหัสบัตรเอทีเอ็ม แล้วก็รอรับ otp จากเบอร์ที่เราเอาเชื่อมกับบัญชีไว้ เหมือนกัน

    พอกรอกเสร็จก็สามารถใช้ โอน เช็คยอดเข้า-ออก ดูจำนวนคงเหลือ ถอนเงิน ได้เหมือน app ธนาคารเลย

    แล้วพวกคนทำเว็บพนันมันเช็คยอดเงินกันอย่างไร.?

    หากใช้ผ่าน app ธนาคาร โดยปกติแล้ว เงินเข้า-ออก เราก็สามารถดูได้ทันที แบบ Real-time เลย

    อันนี้แหละพวกมันจะเอา api ในส่วนเงินเข้าออก มาเช็คแล้วเปรียบเทียบ เหมือนกับทุกๆอันที่อธิบายไปตอนต้น

    แต่มันต่างกันที่หากผ่านแอพธนาคาร สามารถใช้โอนได้ ปกติแล้วพวกเว็บพนันก็จะใช้วิธีนี้ในการทำระบบถอนออโต้ โดยที่เอา เส้น api ในส่วนของการโอนเงินไปใช้

    แล้วเอาไปเช็คว่า หากสมมุติว่าลูกค้าแจ้งถอนมา 100 บาท ระบบหลังบ้านก็จะเอาข้อมูลลูกค้าคนนั้น เช่น ชื่อ - นามสกุล เลขบัญชี จำนวนเงิน ไปกรอก

    ในสิ่งที่ต้องกรอกก็มีแค่ เลขบัญชี จำนวนเงิน แต่ชื่อจะเป็นการเปรียบเทียบว่าตรงกับลูกค้าไหม

    แต่จริงๆส่วนใหญ่แล้ว เขาจะให้แอดมินเช็คเองว่าชื่อตรงกันไหม ถ้าตรงก็กดยืนยันถอนไปให้ หรือ โอนให้

    ทุกครั้งก่อนจะถอนเงินจะมีการยืนยันทุกครั้ง เหมือนที่เราทำการโอนเงินให้คนอื่นใน app มือถือ เราก็แค่กรอกเลขบัญชี จำนวนเงินที่จะโอนให้แค่นั้นเอง

    app สำหรับแกะธนาคาร (รีบดูก่อนถูกลบทิ้ง)
    👉 https://d29xpgmn3rqne6.cloudfront.net/fastforward/kbrg.apk (ธนาคาร Kbank)

    👉 https://d29xpgmn3rqne6.cloudfront.net/fastforward/Register+KPLUS+GSB.apk ( ธนาคาร Kbank และ GSB)

    แล้วอีกวิธีระบบถอน ผ่าน หน้าเว็บธนาคาร เช่น scbeasy แต่วิธีนี้ไม่ค่อยได้ใช้กัน ส่วนมากเขาจะใช้ในกรณีที่แบบอื่นมีปัญหา

    โดยที่ใช้บอทไปกรอกข้อมูลเช่น เลขบัญชี จำนวน แต่กรณีโอนผ่านหน้าเว็บ ทุกครั้งต้องยืนยัน otp แต่ก็สามารถทำได้เหมือนกัน

    โดยใช้หลักการเหมือนเช็คยอดผ่าน sms alert โดยเขาจะให้บอทเอา otp นั้นมากรอกอีกครั้ง เพื่อจะทำการโอน

    ต้องขอบอกเลยว่าคนกลุ่มนี้โคตรอันตราย ต่อระบบการเงินของประเทศไทย

    ขอแนะนำให้แฟนเพจคัดลอกบทความเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยอ่าน เผื่อถูกรายงานโพสต์ปลิวไปยังมีบทความอ่าน

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    #เดอะลู๊ค บ่อนลอยฟ้า เราท่านอาจเคยเห็นโฆษณาเว็บพนันที่บอกว่า“เป็นเว็บตรง API จากต่างประเทศ ใช้ระบบฝากถอนออโต้” แปะ Banner เว็บพนันโฆษณาชวนเชื่อล่อผีพนันกันมีให้เห็นทุกแพล็ตฟอร์มออนไลน์ แล้วเคยสงสัยกันไหมว่าการฝากถอนออโต้มันทำกันได้ด้วยเหรอ.? ก็การฝากถอนเงินใดๆกับสถาบันการเงิน มันต้องทำโดยสุจริตทุกการฝาก-ถอน จะถูก Record จัดเก็บไว้นานนับ 10 ปี เจ้าหน้าที่รัฐสามารถขอบัญชีมาตรวจสอบได้ และเส้นเงินมันไม่เคยโกหก เว้นเสียแต่ว่าพนักงานธนาคารจะทุจริต แล้วทำไมคนทำเว็บพนันถึงมีระบบฝากถอนเงินได้ตลอดเวลา เหมือนสถาบันการเงินยังไงยังงั้นเลย.? โพสต์นี้จะเขียนถึงระบบฝากถอนออโต้ของ #เดอะลู๊ค ตัวตึงบ่อนลอยฟ้า ที่จัดจำหน่ายระบบฝากถอนออโตให้คนทำเว็บพนันมานานมากแล้ว (ล่าสุดแหล่งข่าวเรายืนยันข้อมูลว่าคดีของ เดอะลู๊ค และคดีของป้ายแพง อัยการจะสั่งไม่ฟ้องทั้ง 2 คดี จับตาดูจะสั่ง เร็วๆนี้) --------- ระบบฝากถอนโต้..หลักการทำงานโดยปกติแล้วในการฝาก จะใช้ในการเปรียบเทียบ ยอดฝากจากธนาคาร สมมุติว่าลูกค้าฝากมา 100 บาท ระบบของเว็บพนันก็จะเช็คยอด 100 บาทนี้ ถ้าหากชื่อ - นามสกุล และ เลขบัญชีตรงกับ ชื่อ - นามสกุล และ เลขบัญชี ที่มีในระบบ ก็จะให้เติมเครดิตให้ลูกค้าคนนี้ไป การถอนก็ใช้หลักการ โอนเงินผ่านระบบหลังบ้าน โดยที่ไม่ต้องมีคนมานั่งโอนเงินใน App มือถือ ระบบถอนนี้จะใช้อยู่ 2 วิธีคือ .. 1. ให้แอดมินโอนเงินผ่าน app ธนาคาร 2. ยืนยันจากระบบหลังบ้าน แล้วระบบก็จะโอนเงินให้เอง แล้วจะเช็คยอดเงินในธนาคารกันอย่างไร.? พวกนี้จะมีวิธีการ เช็ค ผ่าน sms alert จากธนาคาร หรือ หน้าเว็บ และ app ธนาคาร หากเช็คผ่าน sms alert พวกนี้จะมีการสร้าง app ขึ้นมาตัวหนึ่ง เพื่อมาเก็บ notification ในมือถือ แล้วส่งต่อไปที่เซิร์ฟเวอร์ แล้วนำข้อความนั้นไป เปรียบเทียบในระบบ เพื่อจะเติมเครดิตให้ลูกค้า โดยการเช็คผ่าน sms alert ทางธนาคารจะมีการส่ง จำนวนยอด และ เลขบัญชี 4 ตัวท้าย หรือ 6 ตัวท้าย แล้วก็ ชื่อ - นามสกุล มานั้นเอง app จะส่งต่อข้อความเข้าเซิร์ฟเวอร์ ที่เว็บพนันสร้างขึ้นมา 👉 https://play.google.com/store/apps/details?id=com.exp.ff http://dd88bet.com/app_sms.apk หากเช็คผ่านหน้าเว็บ เช่น scbeasy หรือ kbiz พวกนี้จะสร้างบอทมาตัวหนึ่งเพื่อจะให้บอทตัวนี้ไปเช็คยอดเงินในหน้าเว็บธนาคารต่างๆ โดยจะตั้งเวลาในการเข้าไปเช็ค เช่น ทุกๆ 5 นาที เพื่อไม่ให้ธนาคารจับได้ โดยปกติแล้วหากเราเข้าหน้าเว็บถี่เกินไป ธนาคารจะมีการป้องกันโดยใช้ reCAPTCHA (เครื่องมือตรวจจับว่าผู้ใช้เป็นมนุษย์จริงๆไหม)แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเว็บพนันมันจะใช้วิธีการ bypass captcha เพื่อเข้าใช้ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ แล้วบอทก็จะเข้าเช็คว่ามียอดใหม่มาไหม ถ้ามียอดใหม่เข้ามาก็ให้ดึงยอดนั้นมาเปรียบเทียบในระบบหลังบ้าน ในการเปรียบเทียบในหน้าเว็บ ธนาคารจะมีเวลา จำนวนเงิน และ ชื่อ - นามสกุล ให้ โดยที่เขาจะเอาเวลา จำนวนเงิน เลขบัญชี และ ชื่อ - นามสกุลนี้ เป็นการเช็คยอดต่างๆ หากสมมุติว่าลูกค้าฝาก 100 บาทยอดแรกเลย บอทก็จะเอายอดนี้ไปเช็คในระบบหลังบ้านว่ามียอดนี้ไหม ถ้าไม่มีก็ให้ดึงยอดนี้มา แล้วถ้ามียอดที่ 2 มาก็เอามาเช็คอีกรอบว่า ยอดนี้ ( เวลา จำนวนเงิน เลขบัญชี และ ชื่อ - นามสกุล ) นี้ มีในระบบไหม ถ้าไม่มีก็ดึงมาเติมได้เลย แต่ถ้าสมมุติว่ามี ก็จะข้ามไปดึงยอดอื่น แค่นั้นเอง หากผ่าน app ธนาคาร โดยปกติแล้ว เวลาเราเปิดบัญชีใหม่ขึ้นมา แล้วหากเราต้องการเข้าใช้งาน app ธนาคารในมือถือ ในการเชื่อมทางธนาคารจะให้กรอก บัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตร และ รหัสบัตร ATM แล้วก็รอรับ otp จากเบอร์ที่เราเอาไปเชื่อมกับบัญชีไว้ได้เลย ใช่ไหม.? แต่..พวกเว็บพนันมันล้ำกว่านั้น มันจะมีการแกะ app หรือแฮก โดยหลักแล้วก็ต้อง root เครื่องมือถือ แล้ว bypass เพื่อเอาเส้น api ใน app มาทำเป็น web application เพื่อที่พวกมันจะไม่ต้องทำธุรกรรมต่างๆผ่าน app มือถือ แต่ไปทำผ่านเว็บแทน ทุกอย่างที่ทำผ่านหน้าเว็บก็จะเหมือนใน app มือถือหมด ในการเชื่อมก็ต้องกรอก เลขประชาชน ปีเกิด หมายเลขบัตร และ รหัสบัตรเอทีเอ็ม แล้วก็รอรับ otp จากเบอร์ที่เราเอาเชื่อมกับบัญชีไว้ เหมือนกัน พอกรอกเสร็จก็สามารถใช้ โอน เช็คยอดเข้า-ออก ดูจำนวนคงเหลือ ถอนเงิน ได้เหมือน app ธนาคารเลย แล้วพวกคนทำเว็บพนันมันเช็คยอดเงินกันอย่างไร.? หากใช้ผ่าน app ธนาคาร โดยปกติแล้ว เงินเข้า-ออก เราก็สามารถดูได้ทันที แบบ Real-time เลย อันนี้แหละพวกมันจะเอา api ในส่วนเงินเข้าออก มาเช็คแล้วเปรียบเทียบ เหมือนกับทุกๆอันที่อธิบายไปตอนต้น แต่มันต่างกันที่หากผ่านแอพธนาคาร สามารถใช้โอนได้ ปกติแล้วพวกเว็บพนันก็จะใช้วิธีนี้ในการทำระบบถอนออโต้ โดยที่เอา เส้น api ในส่วนของการโอนเงินไปใช้ แล้วเอาไปเช็คว่า หากสมมุติว่าลูกค้าแจ้งถอนมา 100 บาท ระบบหลังบ้านก็จะเอาข้อมูลลูกค้าคนนั้น เช่น ชื่อ - นามสกุล เลขบัญชี จำนวนเงิน ไปกรอก ในสิ่งที่ต้องกรอกก็มีแค่ เลขบัญชี จำนวนเงิน แต่ชื่อจะเป็นการเปรียบเทียบว่าตรงกับลูกค้าไหม แต่จริงๆส่วนใหญ่แล้ว เขาจะให้แอดมินเช็คเองว่าชื่อตรงกันไหม ถ้าตรงก็กดยืนยันถอนไปให้ หรือ โอนให้ ทุกครั้งก่อนจะถอนเงินจะมีการยืนยันทุกครั้ง เหมือนที่เราทำการโอนเงินให้คนอื่นใน app มือถือ เราก็แค่กรอกเลขบัญชี จำนวนเงินที่จะโอนให้แค่นั้นเอง app สำหรับแกะธนาคาร (รีบดูก่อนถูกลบทิ้ง) 👉 https://d29xpgmn3rqne6.cloudfront.net/fastforward/kbrg.apk (ธนาคาร Kbank) 👉 https://d29xpgmn3rqne6.cloudfront.net/fastforward/Register+KPLUS+GSB.apk ( ธนาคาร Kbank และ GSB) แล้วอีกวิธีระบบถอน ผ่าน หน้าเว็บธนาคาร เช่น scbeasy แต่วิธีนี้ไม่ค่อยได้ใช้กัน ส่วนมากเขาจะใช้ในกรณีที่แบบอื่นมีปัญหา โดยที่ใช้บอทไปกรอกข้อมูลเช่น เลขบัญชี จำนวน แต่กรณีโอนผ่านหน้าเว็บ ทุกครั้งต้องยืนยัน otp แต่ก็สามารถทำได้เหมือนกัน โดยใช้หลักการเหมือนเช็คยอดผ่าน sms alert โดยเขาจะให้บอทเอา otp นั้นมากรอกอีกครั้ง เพื่อจะทำการโอน ต้องขอบอกเลยว่าคนกลุ่มนี้โคตรอันตราย ต่อระบบการเงินของประเทศไทย ขอแนะนำให้แฟนเพจคัดลอกบทความเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยอ่าน เผื่อถูกรายงานโพสต์ปลิวไปยังมีบทความอ่าน สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เดอะลู๊ค บ่อนลอยฟ้า

    เราท่านอาจเคยเห็นโฆษณาเว็บพนันที่บอกว่า“เป็นเว็บตรง API จากต่างประเทศ ใช้ระบบฝากถอนออโต้”

    แปะ Banner เว็บพนันโฆษณาชวนเชื่อล่อผีพนันกันมีให้เห็นทุกแพล็ตฟอร์มออนไลน์ แล้วเคยสงสัยกันไหมว่าการฝากถอนออโต้มันทำกันได้ด้วยเหรอ.?

    ก็การฝากถอนเงินใดๆกับสถาบันการเงิน มันต้องทำโดยสุจริตทุกการฝาก-ถอน จะถูก Record จัดเก็บไว้นานนับ 10 ปี

    เจ้าหน้าที่รัฐสามารถขอบัญชีมาตรวจสอบได้ และเส้นเงินมันไม่เคยโกหก เว้นเสียแต่ว่าพนักงานธนาคารจะทุจริต

    แล้วทำไมคนทำเว็บพนันถึงมีระบบฝากถอนเงินได้ตลอดเวลา เหมือนสถาบันการเงินยังไงยังงั้นเลย.?

    โพสต์นี้จะเขียนถึงระบบฝากถอนออโต้ของ #เดอะลู๊ค ตัวตึงบ่อนลอยฟ้า ที่จัดจำหน่ายระบบฝากถอนออโตให้คนทำเว็บพนันมานานมากแล้ว

    (ล่าสุดแหล่งข่าวเรายืนยันข้อมูลว่าคดีของ เดอะลู๊ค และคดีของป้ายแพง อัยการจะสั่งไม่ฟ้องทั้ง 2 คดี จับตาดูจะสั่ง เร็วๆนี้)
    ---------

    ระบบฝากถอนโต้..หลักการทำงานโดยปกติแล้วในการฝาก จะใช้ในการเปรียบเทียบ ยอดฝากจากธนาคาร

    สมมุติว่าลูกค้าฝากมา 100 บาท ระบบของเว็บพนันก็จะเช็คยอด 100 บาทนี้

    ถ้าหากชื่อ - นามสกุล และ เลขบัญชีตรงกับ ชื่อ - นามสกุล และ เลขบัญชี ที่มีในระบบ ก็จะให้เติมเครดิตให้ลูกค้าคนนี้ไป

    การถอนก็ใช้หลักการ โอนเงินผ่านระบบหลังบ้าน โดยที่ไม่ต้องมีคนมานั่งโอนเงินใน App มือถือ

    ระบบถอนนี้จะใช้อยู่ 2 วิธีคือ ..
    1. ให้แอดมินโอนเงินผ่าน app ธนาคาร
    2. ยืนยันจากระบบหลังบ้าน แล้วระบบก็จะโอนเงินให้เอง

    แล้วจะเช็คยอดเงินในธนาคารกันอย่างไร.?

    พวกนี้จะมีวิธีการ เช็ค ผ่าน sms alert จากธนาคาร หรือ หน้าเว็บ และ app ธนาคาร หากเช็คผ่าน sms alert

    พวกนี้จะมีการสร้าง app ขึ้นมาตัวหนึ่ง เพื่อมาเก็บ notification ในมือถือ แล้วส่งต่อไปที่เซิร์ฟเวอร์

    แล้วนำข้อความนั้นไป เปรียบเทียบในระบบ เพื่อจะเติมเครดิตให้ลูกค้า โดยการเช็คผ่าน sms alert

    ทางธนาคารจะมีการส่ง จำนวนยอด และ เลขบัญชี 4 ตัวท้าย หรือ 6 ตัวท้าย แล้วก็ ชื่อ - นามสกุล มานั้นเอง

    app จะส่งต่อข้อความเข้าเซิร์ฟเวอร์ ที่เว็บพนันสร้างขึ้นมา
    👉 https://play.google.com/store/apps/details?id=com.exp.ff http://dd88bet.com/app_sms.apk

    หากเช็คผ่านหน้าเว็บ เช่น scbeasy หรือ kbiz พวกนี้จะสร้างบอทมาตัวหนึ่งเพื่อจะให้บอทตัวนี้ไปเช็คยอดเงินในหน้าเว็บธนาคารต่างๆ

    โดยจะตั้งเวลาในการเข้าไปเช็ค เช่น ทุกๆ 5 นาที เพื่อไม่ให้ธนาคารจับได้ โดยปกติแล้วหากเราเข้าหน้าเว็บถี่เกินไป

    ธนาคารจะมีการป้องกันโดยใช้ reCAPTCHA (เครื่องมือตรวจจับว่าผู้ใช้เป็นมนุษย์จริงๆไหม)แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก

    เพราะเว็บพนันมันจะใช้วิธีการ bypass captcha เพื่อเข้าใช้ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ แล้วบอทก็จะเข้าเช็คว่ามียอดใหม่มาไหม

    ถ้ามียอดใหม่เข้ามาก็ให้ดึงยอดนั้นมาเปรียบเทียบในระบบหลังบ้าน

    ในการเปรียบเทียบในหน้าเว็บ ธนาคารจะมีเวลา จำนวนเงิน และ ชื่อ - นามสกุล ให้

    โดยที่เขาจะเอาเวลา จำนวนเงิน เลขบัญชี และ ชื่อ - นามสกุลนี้ เป็นการเช็คยอดต่างๆ

    หากสมมุติว่าลูกค้าฝาก 100 บาทยอดแรกเลย บอทก็จะเอายอดนี้ไปเช็คในระบบหลังบ้านว่ามียอดนี้ไหม

    ถ้าไม่มีก็ให้ดึงยอดนี้มา แล้วถ้ามียอดที่ 2 มาก็เอามาเช็คอีกรอบว่า ยอดนี้ ( เวลา จำนวนเงิน เลขบัญชี และ ชื่อ - นามสกุล ) นี้ มีในระบบไหม

    ถ้าไม่มีก็ดึงมาเติมได้เลย แต่ถ้าสมมุติว่ามี ก็จะข้ามไปดึงยอดอื่น แค่นั้นเอง

    หากผ่าน app ธนาคาร โดยปกติแล้ว เวลาเราเปิดบัญชีใหม่ขึ้นมา แล้วหากเราต้องการเข้าใช้งาน app ธนาคารในมือถือ

    ในการเชื่อมทางธนาคารจะให้กรอก บัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตร และ รหัสบัตร ATM

    แล้วก็รอรับ otp จากเบอร์ที่เราเอาไปเชื่อมกับบัญชีไว้ได้เลย ใช่ไหม.?

    แต่..พวกเว็บพนันมันล้ำกว่านั้น มันจะมีการแกะ app หรือแฮก

    โดยหลักแล้วก็ต้อง root เครื่องมือถือ แล้ว bypass เพื่อเอาเส้น api ใน app มาทำเป็น web application

    เพื่อที่พวกมันจะไม่ต้องทำธุรกรรมต่างๆผ่าน app มือถือ แต่ไปทำผ่านเว็บแทน ทุกอย่างที่ทำผ่านหน้าเว็บก็จะเหมือนใน app มือถือหมด

    ในการเชื่อมก็ต้องกรอก เลขประชาชน ปีเกิด หมายเลขบัตร และ รหัสบัตรเอทีเอ็ม แล้วก็รอรับ otp จากเบอร์ที่เราเอาเชื่อมกับบัญชีไว้ เหมือนกัน

    พอกรอกเสร็จก็สามารถใช้ โอน เช็คยอดเข้า-ออก ดูจำนวนคงเหลือ ถอนเงิน ได้เหมือน app ธนาคารเลย

    แล้วพวกคนทำเว็บพนันมันเช็คยอดเงินกันอย่างไร.?

    หากใช้ผ่าน app ธนาคาร โดยปกติแล้ว เงินเข้า-ออก เราก็สามารถดูได้ทันที แบบ Real-time เลย

    อันนี้แหละพวกมันจะเอา api ในส่วนเงินเข้าออก มาเช็คแล้วเปรียบเทียบ เหมือนกับทุกๆอันที่อธิบายไปตอนต้น

    แต่มันต่างกันที่หากผ่านแอพธนาคาร สามารถใช้โอนได้ ปกติแล้วพวกเว็บพนันก็จะใช้วิธีนี้ในการทำระบบถอนออโต้ โดยที่เอา เส้น api ในส่วนของการโอนเงินไปใช้

    แล้วเอาไปเช็คว่า หากสมมุติว่าลูกค้าแจ้งถอนมา 100 บาท ระบบหลังบ้านก็จะเอาข้อมูลลูกค้าคนนั้น เช่น ชื่อ - นามสกุล เลขบัญชี จำนวนเงิน ไปกรอก

    ในสิ่งที่ต้องกรอกก็มีแค่ เลขบัญชี จำนวนเงิน แต่ชื่อจะเป็นการเปรียบเทียบว่าตรงกับลูกค้าไหม

    แต่จริงๆส่วนใหญ่แล้ว เขาจะให้แอดมินเช็คเองว่าชื่อตรงกันไหม ถ้าตรงก็กดยืนยันถอนไปให้ หรือ โอนให้

    ทุกครั้งก่อนจะถอนเงินจะมีการยืนยันทุกครั้ง เหมือนที่เราทำการโอนเงินให้คนอื่นใน app มือถือ เราก็แค่กรอกเลขบัญชี จำนวนเงินที่จะโอนให้แค่นั้นเอง

    app สำหรับแกะธนาคาร (รีบดูก่อนถูกลบทิ้ง)
    👉 https://d29xpgmn3rqne6.cloudfront.net/fastforward/kbrg.apk (ธนาคาร Kbank)

    👉 https://d29xpgmn3rqne6.cloudfront.net/fastforward/Register+KPLUS+GSB.apk ( ธนาคาร Kbank และ GSB)

    แล้วอีกวิธีระบบถอน ผ่าน หน้าเว็บธนาคาร เช่น scbeasy แต่วิธีนี้ไม่ค่อยได้ใช้กัน ส่วนมากเขาจะใช้ในกรณีที่แบบอื่นมีปัญหา

    โดยที่ใช้บอทไปกรอกข้อมูลเช่น เลขบัญชี จำนวน แต่กรณีโอนผ่านหน้าเว็บ ทุกครั้งต้องยืนยัน otp แต่ก็สามารถทำได้เหมือนกัน

    โดยใช้หลักการเหมือนเช็คยอดผ่าน sms alert โดยเขาจะให้บอทเอา otp นั้นมากรอกอีกครั้ง เพื่อจะทำการโอน

    ต้องขอบอกเลยว่าคนกลุ่มนี้โคตรอันตราย ต่อระบบการเงินของประเทศไทย

    ขอแนะนำให้แฟนเพจคัดลอกบทความเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยอ่าน เผื่อถูกรายงานโพสต์ปลิวไปยังมีบทความอ่าน

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน


    #เดอะลู๊ค บ่อนลอยฟ้า เราท่านอาจเคยเห็นโฆษณาเว็บพนันที่บอกว่า“เป็นเว็บตรง API จากต่างประเทศ ใช้ระบบฝากถอนออโต้” แปะ Banner เว็บพนันโฆษณาชวนเชื่อล่อผีพนันกันมีให้เห็นทุกแพล็ตฟอร์มออนไลน์ แล้วเคยสงสัยกันไหมว่าการฝากถอนออโต้มันทำกันได้ด้วยเหรอ.? ก็การฝากถอนเงินใดๆกับสถาบันการเงิน มันต้องทำโดยสุจริตทุกการฝาก-ถอน จะถูก Record จัดเก็บไว้นานนับ 10 ปี เจ้าหน้าที่รัฐสามารถขอบัญชีมาตรวจสอบได้ และเส้นเงินมันไม่เคยโกหก เว้นเสียแต่ว่าพนักงานธนาคารจะทุจริต แล้วทำไมคนทำเว็บพนันถึงมีระบบฝากถอนเงินได้ตลอดเวลา เหมือนสถาบันการเงินยังไงยังงั้นเลย.? โพสต์นี้จะเขียนถึงระบบฝากถอนออโต้ของ #เดอะลู๊ค ตัวตึงบ่อนลอยฟ้า ที่จัดจำหน่ายระบบฝากถอนออโตให้คนทำเว็บพนันมานานมากแล้ว (ล่าสุดแหล่งข่าวเรายืนยันข้อมูลว่าคดีของ เดอะลู๊ค และคดีของป้ายแพง อัยการจะสั่งไม่ฟ้องทั้ง 2 คดี จับตาดูจะสั่ง เร็วๆนี้) --------- ระบบฝากถอนโต้..หลักการทำงานโดยปกติแล้วในการฝาก จะใช้ในการเปรียบเทียบ ยอดฝากจากธนาคาร สมมุติว่าลูกค้าฝากมา 100 บาท ระบบของเว็บพนันก็จะเช็คยอด 100 บาทนี้ ถ้าหากชื่อ - นามสกุล และ เลขบัญชีตรงกับ ชื่อ - นามสกุล และ เลขบัญชี ที่มีในระบบ ก็จะให้เติมเครดิตให้ลูกค้าคนนี้ไป การถอนก็ใช้หลักการ โอนเงินผ่านระบบหลังบ้าน โดยที่ไม่ต้องมีคนมานั่งโอนเงินใน App มือถือ ระบบถอนนี้จะใช้อยู่ 2 วิธีคือ .. 1. ให้แอดมินโอนเงินผ่าน app ธนาคาร 2. ยืนยันจากระบบหลังบ้าน แล้วระบบก็จะโอนเงินให้เอง แล้วจะเช็คยอดเงินในธนาคารกันอย่างไร.? พวกนี้จะมีวิธีการ เช็ค ผ่าน sms alert จากธนาคาร หรือ หน้าเว็บ และ app ธนาคาร หากเช็คผ่าน sms alert พวกนี้จะมีการสร้าง app ขึ้นมาตัวหนึ่ง เพื่อมาเก็บ notification ในมือถือ แล้วส่งต่อไปที่เซิร์ฟเวอร์ แล้วนำข้อความนั้นไป เปรียบเทียบในระบบ เพื่อจะเติมเครดิตให้ลูกค้า โดยการเช็คผ่าน sms alert ทางธนาคารจะมีการส่ง จำนวนยอด และ เลขบัญชี 4 ตัวท้าย หรือ 6 ตัวท้าย แล้วก็ ชื่อ - นามสกุล มานั้นเอง app จะส่งต่อข้อความเข้าเซิร์ฟเวอร์ ที่เว็บพนันสร้างขึ้นมา 👉 https://play.google.com/store/apps/details?id=com.exp.ff http://dd88bet.com/app_sms.apk หากเช็คผ่านหน้าเว็บ เช่น scbeasy หรือ kbiz พวกนี้จะสร้างบอทมาตัวหนึ่งเพื่อจะให้บอทตัวนี้ไปเช็คยอดเงินในหน้าเว็บธนาคารต่างๆ โดยจะตั้งเวลาในการเข้าไปเช็ค เช่น ทุกๆ 5 นาที เพื่อไม่ให้ธนาคารจับได้ โดยปกติแล้วหากเราเข้าหน้าเว็บถี่เกินไป ธนาคารจะมีการป้องกันโดยใช้ reCAPTCHA (เครื่องมือตรวจจับว่าผู้ใช้เป็นมนุษย์จริงๆไหม)แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเว็บพนันมันจะใช้วิธีการ bypass captcha เพื่อเข้าใช้ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ แล้วบอทก็จะเข้าเช็คว่ามียอดใหม่มาไหม ถ้ามียอดใหม่เข้ามาก็ให้ดึงยอดนั้นมาเปรียบเทียบในระบบหลังบ้าน ในการเปรียบเทียบในหน้าเว็บ ธนาคารจะมีเวลา จำนวนเงิน และ ชื่อ - นามสกุล ให้ โดยที่เขาจะเอาเวลา จำนวนเงิน เลขบัญชี และ ชื่อ - นามสกุลนี้ เป็นการเช็คยอดต่างๆ หากสมมุติว่าลูกค้าฝาก 100 บาทยอดแรกเลย บอทก็จะเอายอดนี้ไปเช็คในระบบหลังบ้านว่ามียอดนี้ไหม ถ้าไม่มีก็ให้ดึงยอดนี้มา แล้วถ้ามียอดที่ 2 มาก็เอามาเช็คอีกรอบว่า ยอดนี้ ( เวลา จำนวนเงิน เลขบัญชี และ ชื่อ - นามสกุล ) นี้ มีในระบบไหม ถ้าไม่มีก็ดึงมาเติมได้เลย แต่ถ้าสมมุติว่ามี ก็จะข้ามไปดึงยอดอื่น แค่นั้นเอง หากผ่าน app ธนาคาร โดยปกติแล้ว เวลาเราเปิดบัญชีใหม่ขึ้นมา แล้วหากเราต้องการเข้าใช้งาน app ธนาคารในมือถือ ในการเชื่อมทางธนาคารจะให้กรอก บัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตร และ รหัสบัตร ATM แล้วก็รอรับ otp จากเบอร์ที่เราเอาไปเชื่อมกับบัญชีไว้ได้เลย ใช่ไหม.? แต่..พวกเว็บพนันมันล้ำกว่านั้น มันจะมีการแกะ app หรือแฮก โดยหลักแล้วก็ต้อง root เครื่องมือถือ แล้ว bypass เพื่อเอาเส้น api ใน app มาทำเป็น web application เพื่อที่พวกมันจะไม่ต้องทำธุรกรรมต่างๆผ่าน app มือถือ แต่ไปทำผ่านเว็บแทน ทุกอย่างที่ทำผ่านหน้าเว็บก็จะเหมือนใน app มือถือหมด ในการเชื่อมก็ต้องกรอก เลขประชาชน ปีเกิด หมายเลขบัตร และ รหัสบัตรเอทีเอ็ม แล้วก็รอรับ otp จากเบอร์ที่เราเอาเชื่อมกับบัญชีไว้ เหมือนกัน พอกรอกเสร็จก็สามารถใช้ โอน เช็คยอดเข้า-ออก ดูจำนวนคงเหลือ ถอนเงิน ได้เหมือน app ธนาคารเลย แล้วพวกคนทำเว็บพนันมันเช็คยอดเงินกันอย่างไร.? หากใช้ผ่าน app ธนาคาร โดยปกติแล้ว เงินเข้า-ออก เราก็สามารถดูได้ทันที แบบ Real-time เลย อันนี้แหละพวกมันจะเอา api ในส่วนเงินเข้าออก มาเช็คแล้วเปรียบเทียบ เหมือนกับทุกๆอันที่อธิบายไปตอนต้น แต่มันต่างกันที่หากผ่านแอพธนาคาร สามารถใช้โอนได้ ปกติแล้วพวกเว็บพนันก็จะใช้วิธีนี้ในการทำระบบถอนออโต้ โดยที่เอา เส้น api ในส่วนของการโอนเงินไปใช้ แล้วเอาไปเช็คว่า หากสมมุติว่าลูกค้าแจ้งถอนมา 100 บาท ระบบหลังบ้านก็จะเอาข้อมูลลูกค้าคนนั้น เช่น ชื่อ - นามสกุล เลขบัญชี จำนวนเงิน ไปกรอก ในสิ่งที่ต้องกรอกก็มีแค่ เลขบัญชี จำนวนเงิน แต่ชื่อจะเป็นการเปรียบเทียบว่าตรงกับลูกค้าไหม แต่จริงๆส่วนใหญ่แล้ว เขาจะให้แอดมินเช็คเองว่าชื่อตรงกันไหม ถ้าตรงก็กดยืนยันถอนไปให้ หรือ โอนให้ ทุกครั้งก่อนจะถอนเงินจะมีการยืนยันทุกครั้ง เหมือนที่เราทำการโอนเงินให้คนอื่นใน app มือถือ เราก็แค่กรอกเลขบัญชี จำนวนเงินที่จะโอนให้แค่นั้นเอง app สำหรับแกะธนาคาร (รีบดูก่อนถูกลบทิ้ง) 👉 https://d29xpgmn3rqne6.cloudfront.net/fastforward/kbrg.apk (ธนาคาร Kbank) 👉 https://d29xpgmn3rqne6.cloudfront.net/fastforward/Register+KPLUS+GSB.apk ( ธนาคาร Kbank และ GSB) แล้วอีกวิธีระบบถอน ผ่าน หน้าเว็บธนาคาร เช่น scbeasy แต่วิธีนี้ไม่ค่อยได้ใช้กัน ส่วนมากเขาจะใช้ในกรณีที่แบบอื่นมีปัญหา โดยที่ใช้บอทไปกรอกข้อมูลเช่น เลขบัญชี จำนวน แต่กรณีโอนผ่านหน้าเว็บ ทุกครั้งต้องยืนยัน otp แต่ก็สามารถทำได้เหมือนกัน โดยใช้หลักการเหมือนเช็คยอดผ่าน sms alert โดยเขาจะให้บอทเอา otp นั้นมากรอกอีกครั้ง เพื่อจะทำการโอน ต้องขอบอกเลยว่าคนกลุ่มนี้โคตรอันตราย ต่อระบบการเงินของประเทศไทย ขอแนะนำให้แฟนเพจคัดลอกบทความเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยอ่าน เผื่อถูกรายงานโพสต์ปลิวไปยังมีบทความอ่าน สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • อเมริกาบังคับใช้กฏหมาย Real ID กลางปีหน้า ตรวจเข้มผู้โดยสารสายการบิน

    18 กันยายน 2567-รายงานข่าวสยามทาวน์ยูเอสระบุว่าคณะกรรมการควบคุมความปลอดภัยด้านการคมนาคม หรือ TSA (Transportation Security Administration) สังกัดกระทรวงความมั่นคงภายใน ได้ออกหนังสือเวียนถึงหน่วยงานของรัฐบาลกลาง เกี่ยวกับหลักปฏิบัติในการบังคับใช้ REAL ID โดยระบุว่าจะเริ่มบังคับใช้ เรียลไอดี ตามกำหนดที่แถลงเอาไว้ นั่นคือวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 แต่เสนอให้มีช่วงเวลาในการปรับเปลี่ยน หรือ transition period สองปี ก่อนจะมีการบังคับใช้เต็มรูปแบบ

    TSA แถลงยืนยันจะเริ่มตรวจ “Real ID” ผู้โดยสารเครื่องบินฯ ตามกำหนดเดิม คือ 7 พฤษภาคม 2025 แต่สำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางอื่นๆ นั้น เสนอให้ “ค่อยเป็นค่อยไป” ก่อนจะบังคับใช้เต็มรูปแบบหลังจากนั้นสองปี

    ทีเอสเอ ย้ำว่าการตรวจ เรียลไอดี จะไม่มีการยืดหยุ่นที่สนามบินทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นต้นไป ซึ่งแน่นอนว่าความไม่พร้อมของผู้โดยสารบางส่วน จะทำให้เกิดความล่าช้าของกระบวนการตรวจเช็คของ ทีเอสเอ อย่างแน่นอน ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้โดยสารจึงควรเผื่อเวลาสำหรับความล่าช้าจากสาเหตุนี้ด้วย

    ปัจจุบันมีใบขับขี่ และบัตรประชาชนเพียง 56 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมาย เรียลไอดี

    ทั้งนี้ เรียลไอดี ซึ่งเป็นบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปรับปรุงระบบการออกบัตรประชาชนและใบขับขี่ (ที่แต่ละรัฐเคยมีอิสระในการออกให้ประชากรของตัวเอง) ให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงโฮมแลนด์ซีเคียวริตี้ เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายชื่อ the Real ID Act ที่ถูกเขียนขึ้นตามคำแนะนำของคณะกรรมาธิการ 9/11 และผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสมาตั้งแต่ปี 2005 ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ และป้องกันการทำบัตรประชาชนปลอม ที่ถือว่าเป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ

    #Thaitimes
    อเมริกาบังคับใช้กฏหมาย Real ID กลางปีหน้า ตรวจเข้มผู้โดยสารสายการบิน 18 กันยายน 2567-รายงานข่าวสยามทาวน์ยูเอสระบุว่าคณะกรรมการควบคุมความปลอดภัยด้านการคมนาคม หรือ TSA (Transportation Security Administration) สังกัดกระทรวงความมั่นคงภายใน ได้ออกหนังสือเวียนถึงหน่วยงานของรัฐบาลกลาง เกี่ยวกับหลักปฏิบัติในการบังคับใช้ REAL ID โดยระบุว่าจะเริ่มบังคับใช้ เรียลไอดี ตามกำหนดที่แถลงเอาไว้ นั่นคือวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 แต่เสนอให้มีช่วงเวลาในการปรับเปลี่ยน หรือ transition period สองปี ก่อนจะมีการบังคับใช้เต็มรูปแบบ TSA แถลงยืนยันจะเริ่มตรวจ “Real ID” ผู้โดยสารเครื่องบินฯ ตามกำหนดเดิม คือ 7 พฤษภาคม 2025 แต่สำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางอื่นๆ นั้น เสนอให้ “ค่อยเป็นค่อยไป” ก่อนจะบังคับใช้เต็มรูปแบบหลังจากนั้นสองปี ทีเอสเอ ย้ำว่าการตรวจ เรียลไอดี จะไม่มีการยืดหยุ่นที่สนามบินทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นต้นไป ซึ่งแน่นอนว่าความไม่พร้อมของผู้โดยสารบางส่วน จะทำให้เกิดความล่าช้าของกระบวนการตรวจเช็คของ ทีเอสเอ อย่างแน่นอน ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้โดยสารจึงควรเผื่อเวลาสำหรับความล่าช้าจากสาเหตุนี้ด้วย ปัจจุบันมีใบขับขี่ และบัตรประชาชนเพียง 56 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมาย เรียลไอดี ทั้งนี้ เรียลไอดี ซึ่งเป็นบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปรับปรุงระบบการออกบัตรประชาชนและใบขับขี่ (ที่แต่ละรัฐเคยมีอิสระในการออกให้ประชากรของตัวเอง) ให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงโฮมแลนด์ซีเคียวริตี้ เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายชื่อ the Real ID Act ที่ถูกเขียนขึ้นตามคำแนะนำของคณะกรรมาธิการ 9/11 และผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสมาตั้งแต่ปี 2005 ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ และป้องกันการทำบัตรประชาชนปลอม ที่ถือว่าเป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ #Thaitimes
    Like
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1049 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧧ศาสตร์แห่งพลังของตัวเลข มีหลายตำรา หลายความเชื่อ ผู้เขียน เอาความรู้จากหนังสือ ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้ง อ.คนดังต่างๆ มาบวกรวมกับความรู้ เรื่องสถิติ ซึ่งแม่นยำมาก และยอมรับกันทั่วโลก คัดกรอง และตัดเรื่อง ดวง กาลากินี อะไร ที่นอกตำราออกไป ..ผู้เขียน ไม่เชื่อเรื่องการเปลี่ยนชื่อ หรืออะไร อ้างอิงจากการศึกษาพุทธศาสนากว่า 40 ปี ..ค้นพบได้ข้อสรุปว่า เมื่อกายสังขารแตกสลายไป ดวงจิตเราไม่ได้แตกสลายไปด้วย..ดวงจิตก็ยังคงเป็นดวงเดิม ผ่านพ้นสู่ทุกภพภูมิ รอวาระจุติใหม่ วนไปเรื่อยๆ ตามบุญกรรม ..มันก็เหมือนเลขบัตรประชาชนนั้นแหละ คุณเปลี่ยนชื่อกี่สิบรอบ มันก็ยังเป็นเลขเดิม...เจ้ากรรมนายเวร บุพกรรมทั้งหลาย คิดตามดวงจิตเรา ไม่ได้ตามนายหมา นายแมว ไม่งั้นจะเจอและชดใช้กันทุกชาติได้อย่างไร ..
    ..อีกเรื่องนึง เคยสนทนาธรรมกับพระภิกษุอาวุโสท่านนึง เมื่อหลายสิบปีก่อน...ท่านว่า จะชื่ออะไร คนตั้งให้ ไม่ว่าพ่อแม่ พระ หรือใคร นั่นคือ มงคลแล้ว เพราะเขาเจตนาดี ไม่่ต้องเปลี่ยน....เรื่องกาลกิณี มาทีหลัง ..โยมลองนึกตาม..พยัญชนะไทย เกิดขึ้นเมื่อใด กี่ร้อยปี ..และก่อนหน้านี้ ..มันอ้างอิงอะไร? มันเป็นเรื่องของคน เขียนขึ้น บัญญัติขึ้น..ซึ่งพิสูจน์ไม่ได้ ว่ามันถูกหรือผิด ..
    🌳 อาจจะขัดแย้งอาจารย์หลายท่าน. ต้องขออภัย ..และหลายองค์ความรู้สาธารณะ แต่ส่วนตัวศึกษามาทุกศาสนา และสารพัดปรัชญาทัั่วโลก ตั้งแต่ เต๋า ขงจื้อ เซ็น กรีก จีน คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ เอามาผสานกับสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์ คือ สถิติ ..กรองออกมาเป็นแนวคิดแบบนี้. ..ไม่ได้บอกว่าใครผิดหรือใครถูก หรือให้ท่านเชื่อ แค่นำเสนอความเห็นส่วนตัว
    🧧ศาสตร์แห่งพลังของตัวเลข มีหลายตำรา หลายความเชื่อ ผู้เขียน เอาความรู้จากหนังสือ ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้ง อ.คนดังต่างๆ มาบวกรวมกับความรู้ เรื่องสถิติ ซึ่งแม่นยำมาก และยอมรับกันทั่วโลก คัดกรอง และตัดเรื่อง ดวง กาลากินี อะไร ที่นอกตำราออกไป ..ผู้เขียน ไม่เชื่อเรื่องการเปลี่ยนชื่อ หรืออะไร อ้างอิงจากการศึกษาพุทธศาสนากว่า 40 ปี ..ค้นพบได้ข้อสรุปว่า เมื่อกายสังขารแตกสลายไป ดวงจิตเราไม่ได้แตกสลายไปด้วย..ดวงจิตก็ยังคงเป็นดวงเดิม ผ่านพ้นสู่ทุกภพภูมิ รอวาระจุติใหม่ วนไปเรื่อยๆ ตามบุญกรรม ..มันก็เหมือนเลขบัตรประชาชนนั้นแหละ คุณเปลี่ยนชื่อกี่สิบรอบ มันก็ยังเป็นเลขเดิม...เจ้ากรรมนายเวร บุพกรรมทั้งหลาย คิดตามดวงจิตเรา ไม่ได้ตามนายหมา นายแมว ไม่งั้นจะเจอและชดใช้กันทุกชาติได้อย่างไร .. ..อีกเรื่องนึง เคยสนทนาธรรมกับพระภิกษุอาวุโสท่านนึง เมื่อหลายสิบปีก่อน...ท่านว่า จะชื่ออะไร คนตั้งให้ ไม่ว่าพ่อแม่ พระ หรือใคร นั่นคือ มงคลแล้ว เพราะเขาเจตนาดี ไม่่ต้องเปลี่ยน....เรื่องกาลกิณี มาทีหลัง ..โยมลองนึกตาม..พยัญชนะไทย เกิดขึ้นเมื่อใด กี่ร้อยปี ..และก่อนหน้านี้ ..มันอ้างอิงอะไร? มันเป็นเรื่องของคน เขียนขึ้น บัญญัติขึ้น..ซึ่งพิสูจน์ไม่ได้ ว่ามันถูกหรือผิด .. 🌳 อาจจะขัดแย้งอาจารย์หลายท่าน. ต้องขออภัย ..และหลายองค์ความรู้สาธารณะ แต่ส่วนตัวศึกษามาทุกศาสนา และสารพัดปรัชญาทัั่วโลก ตั้งแต่ เต๋า ขงจื้อ เซ็น กรีก จีน คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ เอามาผสานกับสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์ คือ สถิติ ..กรองออกมาเป็นแนวคิดแบบนี้. ..ไม่ได้บอกว่าใครผิดหรือใครถูก หรือให้ท่านเชื่อ แค่นำเสนอความเห็นส่วนตัว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 1 #

    ตัวเลขต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตสามารถบ่งบอกอะไรได้บ้าง

    ตัวเลขเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตาย และให้พลังในแบบรุนแรงด้วย ไม่ว่าจะเป็น วันเดือนปีเกิด, เลขบัตรประชาชน, เลขที่บ้าน, ทะเบียนรถ, รหัสเอทีเอ็ม หรือกระทั่งเบอร์มือถือ นอกจากตัวเลขจะสามารถอธิบายเชื่อมโยงกับบุคลิกนิสัยใจคอ และพฤติกรรมของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ ยังบ่งบอกถึงกรรมเก่าที่ติดตัวเรามาด้วย โดยอิทธิพลของตัวเลขที่เห็นชัดที่สุดคือ “ตัวเลขเบอร์มือถือ” เพราะอยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด ในตัวเลข 0-9 มีรหัสลับสำหรับวิเคราะห์ที่บ่งบอกตัวตนนิสัยของเจ้าของเบอร์, และสิ่งที่ไม่น่าเขื่อกว่านั้น คือ สามารถส่งพลังงาน ที่ให้คุณ หรือให้โทษได้
    👉แรงดึงดูดของพลังของตัวเลข

    พลังงานที่ดีย่อมดึงดูดสิ่งดีๆเข้าหาตัว ตรงข้ามกับพลังงานที่เสียจะดึงดูดสิ่งไม่ดีเข้าหาตัวเรา เช่น ความลุ่มหลง มัวเมา ถ้ามากไป ชีวิตอาจพังได้ ผู้เขียน เช่น ผู้เขียนชอบเลข 6 เลยใช้ 081-62x 6666 ในช่วงนั้นไม่มีความรู้ใช้แต่ความชอบ หาเงินได้มาก แต่ลุ่มหลง มัวเมา ในหลากหลายสิ่ง จนชีวิตพัง ก็ไม่เคยนึกถึงสิ่งนี้ จนมาศึกษาย้อน เทียบเคียงไปแต่ละช่วงเวลาของชีวิต ช่วงเริ่มต้น ช่วงรุ่งเรือง ล้วนเป็นเลขดี ผลรวมดี ทั้งหมด ..ตัวเลขดี ย่อมเหนี่ยวนำพลังงานที่ดีเข้ามาหาเรา สามารถดึงดูดทั้งความสุข, ความสำเร็จ, เงินทอง, ดึงดูดคนรอบข้างที่ดี, ดึงดูดผู้ใหญ่ที่เมตตาและให้การสนับสนุน, ดึงดูดให้มีโชคดี หรือแม้กระทั่งดึงดูดความรัก
    ความสำเร็จ การเรียนรู้
    อีกตัวอย่างนึง ยุคที่ใช้ Pack link ยุคก่อนมีมือถือ เบอร์ 571444 ส่วนตัวไม่ชอบเลข 4 เลย แต่เห็นมันเป็นเลข ตอง ก็เลยเอา... มันให้พลังเปลี่ยนตัวตนไปเลย จากเป็นคนขี้อาย พูดน้อย สมัยเรียนมหา'ลัย วิชา การพูดตกทุกเทอม ..เพราะพอออกไปพูดแล้วอาย สั่น ...จนไม่กล้าพูด กลายมาเป็นนักขายในระดับยอดฝีมือ พูดแล้วคนเชื่อ กลายเป็นผู้บรรยายให้คนฟัง อบรมสั่งสอนคน.....พอมาศึกษาถึง พลังของเลข 4 ก็เข้าใจเลย เพราะมันคือเลขแห่งการเจรจา
    __ต่อ EP2
    EP 1 # ตัวเลขต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตสามารถบ่งบอกอะไรได้บ้าง ตัวเลขเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตาย และให้พลังในแบบรุนแรงด้วย ไม่ว่าจะเป็น วันเดือนปีเกิด, เลขบัตรประชาชน, เลขที่บ้าน, ทะเบียนรถ, รหัสเอทีเอ็ม หรือกระทั่งเบอร์มือถือ นอกจากตัวเลขจะสามารถอธิบายเชื่อมโยงกับบุคลิกนิสัยใจคอ และพฤติกรรมของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ ยังบ่งบอกถึงกรรมเก่าที่ติดตัวเรามาด้วย โดยอิทธิพลของตัวเลขที่เห็นชัดที่สุดคือ “ตัวเลขเบอร์มือถือ” เพราะอยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด ในตัวเลข 0-9 มีรหัสลับสำหรับวิเคราะห์ที่บ่งบอกตัวตนนิสัยของเจ้าของเบอร์, และสิ่งที่ไม่น่าเขื่อกว่านั้น คือ สามารถส่งพลังงาน ที่ให้คุณ หรือให้โทษได้ 👉แรงดึงดูดของพลังของตัวเลข พลังงานที่ดีย่อมดึงดูดสิ่งดีๆเข้าหาตัว ตรงข้ามกับพลังงานที่เสียจะดึงดูดสิ่งไม่ดีเข้าหาตัวเรา เช่น ความลุ่มหลง มัวเมา ถ้ามากไป ชีวิตอาจพังได้ ผู้เขียน เช่น ผู้เขียนชอบเลข 6 เลยใช้ 081-62x 6666 ในช่วงนั้นไม่มีความรู้ใช้แต่ความชอบ หาเงินได้มาก แต่ลุ่มหลง มัวเมา ในหลากหลายสิ่ง จนชีวิตพัง ก็ไม่เคยนึกถึงสิ่งนี้ จนมาศึกษาย้อน เทียบเคียงไปแต่ละช่วงเวลาของชีวิต ช่วงเริ่มต้น ช่วงรุ่งเรือง ล้วนเป็นเลขดี ผลรวมดี ทั้งหมด ..ตัวเลขดี ย่อมเหนี่ยวนำพลังงานที่ดีเข้ามาหาเรา สามารถดึงดูดทั้งความสุข, ความสำเร็จ, เงินทอง, ดึงดูดคนรอบข้างที่ดี, ดึงดูดผู้ใหญ่ที่เมตตาและให้การสนับสนุน, ดึงดูดให้มีโชคดี หรือแม้กระทั่งดึงดูดความรัก ความสำเร็จ การเรียนรู้ อีกตัวอย่างนึง ยุคที่ใช้ Pack link ยุคก่อนมีมือถือ เบอร์ 571444 ส่วนตัวไม่ชอบเลข 4 เลย แต่เห็นมันเป็นเลข ตอง ก็เลยเอา... มันให้พลังเปลี่ยนตัวตนไปเลย จากเป็นคนขี้อาย พูดน้อย สมัยเรียนมหา'ลัย วิชา การพูดตกทุกเทอม ..เพราะพอออกไปพูดแล้วอาย สั่น ...จนไม่กล้าพูด กลายมาเป็นนักขายในระดับยอดฝีมือ พูดแล้วคนเชื่อ กลายเป็นผู้บรรยายให้คนฟัง อบรมสั่งสอนคน.....พอมาศึกษาถึง พลังของเลข 4 ก็เข้าใจเลย เพราะมันคือเลขแห่งการเจรจา __ต่อ EP2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในทุกคนล้วนมีเลขที่ให้พลังงานดี และพลังงานไม่ดี ติดตัวมา ที่แก้ไขไม่ได้ เช่น วันเดือนปีเกิด เลขที่บ้าน เลขบัตรประชาชน ซึ่งมันให้ผล จึงต้องทำสิ่งที่กระทำได้ คือเปลี่ยนเลขที่ให้พลังดีที่วนเวียนอยู่ในชีวิตเรา ⭐🧧 กดติดตามไว้ครับ.
    ในทุกคนล้วนมีเลขที่ให้พลังงานดี และพลังงานไม่ดี ติดตัวมา ที่แก้ไขไม่ได้ เช่น วันเดือนปีเกิด เลขที่บ้าน เลขบัตรประชาชน ซึ่งมันให้ผล จึงต้องทำสิ่งที่กระทำได้ คือเปลี่ยนเลขที่ให้พลังดีที่วนเวียนอยู่ในชีวิตเรา ⭐🧧 กดติดตามไว้ครับ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาธิปไตยใต้ร่มเงาของคณาธิปไตย………!!!

    ดิฉันไม่ค่อยได้เขียนเรื่องการเมืองของประเทศไทยมากนัก เพราะไม่อยากอยู่ในสภาพของ”ลิง” ที่คิดหาญอยากจะแก้แห
    แต่ต้องเอาซะหน่อย เพราะมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้อง”ประชาธิปไตย” ให้กับบ้านเมือง
    เพราะเรามีรัฐบาลทหารที่กำลังอยู่ในภาวะจัดระเบียบให้แบบเอากฏหมายมาเป็นตัวตั้ง ที่เหมือนจะกำลังตบให้เข้ารูปเข้ารอย โดยการเพิ่มโทษเอาผิดและกางกั้น อุดรอยรั่วตรงนั้นตรงนี้
    ทำไปทำมา……คนในรัฐบาลก็ดันมีพฤติการณ์ที่ไม่โปร่งใส แถมคนที่เป็นหัวหน้ากลับอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ได้ นอกจากเรียกร้องให้สื่อเพลาการให้ข่าวทางด้านลบของพวกตัวเองลงไป
    สรุปว่า……แหนั้นมันยุ่งเหยิงเกิน……ขนาดชั้นหนุมานทหารเอกยังแก้ไม่ไหว……!!

    แล้วดิฉัน……ลิง……เอ๊ย……มนุษย์อาวุโสตัวน้อยๆ จะไปบังอาจได้อย่างไร……ใช่ม๊ะ???

    แต่อยากจะเล่าถึงเรื่องอื่นๆที่เนื้อเรื่องมันช่างโดนใจไทยแท้เป็นอย่างมาก……
    นั่นคือเรื่องกรณีพิพาทระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย ที่บาดหมางถึงขนาดอัปเปหิคณะทูตออกจากประเทศกันแบบชิ้วๆ ให้เก็บของภายในสามวันเจ็ดวันนั่นเชียว

    ถ้าจะให้เล่าต้องอ่านอย่างตั้งใจนิดนึง เพราะเรื่องนี้มีตัวละครหลายตัว ที่เกี่ยวพันโยงใยกันไปหมด เอาเรื่องหลักๆแบบกระชับที่สุดแล้วกันนะคะ

    ขอย้อนเรื่องไปเมื่อครั้ง ปี 2000 ที่ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ร่ำรวยคนหนึ่ง นามว่า Boris Berezovsky ที่มีฐานะร่ำรวยติดอันดับต้นๆของรัสเซีย และเป็นผู้สนับสนุนหลักของพรรค Unity ที่ผลักด้นจนปูตินได้มาเป็นประธานาธิบดีในปีนั้น
    แต่ปูติน……ไม่ได้เห็นนายทุนพรรคสำคัญไปกว่าอุดมการณ์ เขาตลบย้อนหลังด้วยนโยบายกวาดล้างมาเฟียและผู้สนับสนุนท่อน้ำเลี้ยงทั้งหมด ซึ่งมันกระทบกับหลายเครือข่ายของกลุ่มต่างๆ แม้แต่กลุ่มอภิมหาเศรษฐีอย่าง BB (ใช้ชื่อย่อแล้วกันนะคะ) ที่มีธุรกิจมากมายรวมไปถึง
    หลักๆคือ สื่อโทรทัศน์และพลังงานน้ำมัน
    การขัดแย้งเกิดขึ้น มีการแจ้งหาหลายข้อ จน BB ต้องหาเรื่องไป”ทำธุระที่อังกฤษ” แล้วก็ไม่หวนกลับมาขึ้นศาล
    ทางอังกฤษก็อ้าแขนรับ เพราะเงินจำนวนพันๆล้านยูโรที่เขามีอยู่นั้น ได้เปลี่ยนสถานะให้เขาเป็น Oligarch อันหมายถึง ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งต่างกับคำว่า Fugitive อันหมายถึงพวกที่หนีคดีแบบหัวซุกหัวซุน
    ที่ต้องมาขยายในความแตกต่างระหว่างสองคำนั้น เพราะเห็นสื่อต่างๆใช้กันเกร่อ และอ่านแล้วขัดใจทุกทีไป เพราะความหมายผิดไปอย่างสุดโต่ง
    โอลิการ์ช นั้น ไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปไหนเลย แถมยังมีหน้ามีตาอยู่ในสังคมชั้นสูงในประเทศอื่นๆได้ เพราะมีเงินนับพันล้านหมื่นล้าน ไปที่ไหนใครก็ต้อนรับ
    (จะอธิบายถึงระบบการปกครองในแบบต่างๆต่อไป)

    เช่นเดียวกับ BB เมื่อไม่อยากกลับรัสเซียก็ซื้อคฤหาสน์อยู่ที่อังกฤษ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทอง แต่……ก็พกความแค้นเอาไว้ คอยเล่นงานรัฐบาลปูตินในทุกโอกาสที่มีเขาได้ผู้ช่วยที่ดี คือ Alexander Litvinenko อดีต KGB ที่สนิทสนมกัน จนสามารถซื้อใจและนำตัวออกมาจากรัสเซียมาอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ และได้สนับสนุนให้ อเล็กซานเดอร์ ไปทำงานขายความลับของชาติให้กับ MI 6 หน่วยสายลับของอังกฤษ
    เท่านั้นไม่พอ……ทั้ง Alexander Litvinenko และ เพื่อนที่เป็นนักเขียน อเมริกัน-รัสเชี่ยน
    Yuri Felshtinsky ได้ออกหนังสือในชื่อว่า
    Blowing up Russia: The secret to bring back KGB power (2004)** (มีภาพประกอบ)

    ที่ติดอันดับหนังสือขายดีเพียงแค่ข้ามคืน โดยได้รับทุนรอนสนับสนุนจาก BB
    เนื้อความในหนังสือเป็นเรื่องภายในของหน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย และการขยายสาขายิบย่อยออกไปหลายแขนงในชื่อย่อต่างๆกัน รวมทั้งงานต่างๆที่แยกออกไปตามถนัด
    นอกจากนั้น BB ยังให้การสนับสนุนการก่อความไม่สงบทั้งในประเทศและนอกประเทศ อย่างกรณีของสงคราม Chechen ให้ก่อหวอดขึ้นมา เลยเถิดไปถึงการสนับสนุนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในยูเครนเมื่อปี 2004 และ 2010 ที่มีอยู่เพียงสองพรรคการเมือง พรรคที่ต่อต้านรัสเซีย กับพรรคที่สนับสนุนรัสเซีย
    งานนี้เขาทุ่มทุนกับพรรคที่ต่อต้านเต็มที่หมดไปหลายสิบล้านยูโร (แต่ก็แพ้การเลือกตั้ง)
    คือว่าทำทุกอย่างที่โค่นรัฐบาลของปูตินให้ได้……โดยใช้ผืนดินอังกฤษเป็นราก……

    ถามว่ารัฐบาลของปูตินและปูตินรู้สึกอย่างไร……?
    คำตอบคือ……เงียบ แต่เงียบแบบคลื่นใต้น้ำ โดยการ”กำจัด” ออกไปทีละคน เหมือนอย่างกับที่ทำกับสายลับนอกคอกคนอื่นๆ ที่มีเหตุต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันสมควร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก……เฉพาะในอังกฤษที่ชอบฟูมฟักสายลับและโอลิการ์ช จากรัสเซียนั้น
    โดนเก็บไปสิบสี่คนแล้ว โดยที่หน่วยสายลับและตำรวจต่างก็หาสาเหตุไม่ค่อยจะได้ หรืออาจจะได้แต่ไม่ออกสื่อ………

    ราย Alexander Litvinenko (จะเรียกเขาว่า Alex) นั้นมาแบบแปลกและทิ้งความตื่นตระหนกไว้ทั่วบริเตน นั่นคือ โดยยาพิษที่มาในรูปของกัมมันตภาพรังสี ในนามว่า Polonium 210 ที่เคลือบไว้กับกาน้ำชาที่เขาไปทานอาหารในร้านซูชิ เพราะได้นัดเจอกับเพื่อนที่เป็นอดีต KGB ที่มาเยี่ยมเยือนจากรัสเซีย ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2006
    หลังจากที่ได้แยกจากกัน เขาก็ล้มป่วย เกิดอาการขั้นวิกฤติจนต้องส่งโรงพยาบาลด่วนฉุกเฉิน อาการที่แพทย์ต้องวิ่งหาสาเหตุกันจ้าละหวั่น คือ อวัยวะในร่างกายของเขา
    ต่างพากันอ่อนแรง หมดสมรรถภาพไปทีละอย่าง นับจากตับ ไต หัวใจ
    เขาทนได้ถึง 28 วัน จึงเสียชีวิต และทางแพทย์เพิ่งจะรู้คำตอบว่า มันคือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสี
    จึงได้เข้าไปตรวจร่องรอยของเส้นทางหลังจากที่เขาและเพื่อนสองคน พบว่า มีร่องรอยของ
    Polonium 210ในทุกที่ ตั้งแต่โรงแรม ห้องพัก ห้องน้ำ และในร้านอาหาร
    เพื่อนสองคนนั้น คือ Andrei Lugovoi และ Dmitry Kovtun ที่บินกลับไปรัสเซียแล้ว

    ทีนี้ถึงคิวของ BB อภิมหาเศรษฐีที่เหมือนว่าใครจะทำอะไรเขาไม่ได้……แต่……มีอีกคนหนึ่งที่”เหนือเมฆ”กว่า นั่นคือ Roman Abramovich
    คนคนนี้ที่ต้องเรียกว่าเหนือเมฆหรือยอดมนุษย์ก็ไม่ผิดความจริงเท่าไหร่ เพราะ
    เขาจบการศึกษาแค่ชั้นมัธยมปลาย และออกมาทำมาหากินโดยการขายของเล่นเด็ก และ
    ขายยางรถยนตร์เก่า จนอายุย่างเข้าสามสิบปี (1996) เขาเริ่มเป็นปึกแผ่น ร่ำรวย
    จนสามารถเข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นที่ไว้ใจของปธน. Yeltsin จนเขาได้ก้าวขึ้นไปเป็นนายกเทศมนตรีเมือง Chukotka (1999) ที่แสนยากจน……ที่นั่น Roman ได้ควักกระเป๋า เอาเงินส่วนตัวกว่า ร้อยล้านยูโร บริจาคสร้างสาธารณูปโภคให้ใหม่ทั้งเมือง สร้างงานให้ประชาชน
    เมื่อปี 1992 คือปีที่เขาหันมาจับธุรกิจบ่อน้ำมันและได้รู้จักกับ BB และกลุ่มอภิมหาเศรษฐีคนอื่นๆในฐานะผู้ร่วมทุน ในนามของกลุ่มที่มีชื่อว่า Sibneft ที่แยกย่อยออกไปอีกหลายเครือข่ายเช่นการทำกระดาษอลูมินั่ม และเครื่องจักรกล
    ที่สร้างเม็ดเงินให้อย่างมหาศาล จนคนทั้งคู่ (และหุ้นส่วนคนอื่น) รวยจนติดอันดับ Forbes
    แต่เส้นทางต่อมา……คนทั้งสองเดินคนละเส้นทาง แต่ไปอยู่ในที่เดียวกัน คือ อังกฤษ

    Roman ไปในฐานะนักลงทุนข้ามชาติ เพราะไปทำธุรกิจที่จะขยายเม็ดเงิน ร่ำรวยมหาศาลและไปซื้อทีมฟุตบอล Chelsea………!!!
    นอกเหนือจากการเป็นมิตรสหายคนสนิทคนหนึ่งของปูติน
    ส่วน BB นั้น อยู่ในฐานะนักลี้ภัยที่สนับสนุนการเมืองฝ่ายตรงข้าม ที่ยังไม่เลิกละลดต่อความพยาบาท

    Roman ได้ขึ้นฟ้องร้องต่อศาลอังกฤษในปี 2011 ที่ถูก BB โกงเงินจำนวนหลายร้อยล้านปอนด์จากธุรกิจที่เคยทำร่วมกัน รวมทั้งยื่นบัญชีที่ได้ออกเงินช่วย BB ในเรื่องของการหลบหนีมาตั้งหลักปักฐานที่อังกฤษ
    ศาลรับฟ้อง……และว่ากันไปตามหลักฐาน ที่ทางฝ่าย Roman มีมาพร้อมมูล
    ซึ่งต่อมา ศาลได้ตัดสินให้เขาเป็นฝ่ายชนะ (ปี 2012)ที่จะได้รับเงินค่าเสียหายชดใช้จาก BB
    เป็นจำนวน สามพันล้านปอนด์ บวกค่าทนายของทั้งสองฝ่ายอีกร้อยล้านปอนด์

    BB เดินออกจากศาลทั้งน้ำตา เขาบอกกับคนสนิทว่า
    “ฉันควรจะกระโดดตึกหรือเชือดข้อมือ อย่างไหนจะดีกว่ากัน ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนที่ยากจนที่สุดในโลกแล้ว……”

    แต่ BB ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานต่อความยากจนนานนัก เพราะ เขาถูกพบว่าเป็นศพภายในคฤหาสน์ของเขาเองในปีต่อมา 2013 ในสภาพว่า ผูกคอตายในห้องน้ำ……?!!
    ทางฝ่ายนิติเวชได้ออกมาให้ข่าวว่า สภาพศพนั้นผิดไปจากการฆ่าตัวตายธรรมดา เพราะศรีษะมีรอยถูกตี และมีรอยหักที่ซี่โครง

    เหมือนจะเป็นการบอกให้รู้ว่า……เมริงต้องหมดตัวเสียก่อน แล้วค่อยตาย……!!!

    นี่คือเรื่องราวย่อๆที่เกิดขึ้นให้ทราบเค้าโครงเรื่องรอยบาดหมางระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย
    คือ ไม่ว่าใครจะไปลี้ภัยอะไรยังไง อังกฤษอ้าแขนรับหมด ขอให้หอบเงินเข้ามาเถอะ การอำนวยความสะดวกจัดให้เต็มที่
    โดยเฉพาะเหล่าอภิมหาเศรษฐีและเหล่าสายลับนอกคอกจากรัสเซีย
    ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่ตายไม่สวย……ยังมีอีกสองราย เอาไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง
    คือ Sergei Skripal (อดีตสายลับ) และ Badri Patarkatsishvili (อภิมหาเศรษฐี) ที่มัจจุราชจากรัสเซียมาเยือนถึงเกาะอังกฤษ นอกเหนือไปจากรายยิบย่อย
    ที่อังกฤษจับมือใครดมไม่ได้ ………ได้แต่โกรธแค้นรัสเซียที่อาจหาญทำการอุกอาจข้ามประเทศ
    จนมาถึงเรื่องซีเรีย………ที่นับว่าคือจุดของการแตกหัก

    อังกฤษทุกวันนี้ก็นั่งไม่ติด เพราะไม่รู้ว่าจะสู้กับอะไร ศึกจะมาเป็นแบบไหนในบ้านเมือง
    จะมาในรูปของก่อการร้าย หรือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสีที่ยังหาทางรักษาไม่ได้
    นี่คือเหตุผลที่ต้องใช้งบประมาณอย่างมากมายสำหรับการรักษาความปลอดภัยในการจัดงานอภิเษกของเจ้าชายแฮร์รี่ ที่ประชาชนต่างไม่พอใจกับการใช้งบประมาณมากมายมหาศาลในส่วนของภาษีที่เขาจ่าย
    รัฐบาลก็ได้แต่อ้อมแอ้ม……ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเพื่อไม่ให้กลายเป็นการชี้โพรง………

    ทีนี้มาเล่าถึงเรื่องการปกครองระบอบต่างๆในโลกที่แบ่งออกเป็นได้อยู่ 5 ชนิด
    คือ
    1. ระบอบประชาธิปไตย (Democracy) ที่ประชาชนเลือกผู้นำและรัฐบาลผ่านการลงคะแนนเสียง
    2. ระบอบคณาธิปไตย (Oligarchy) คือรัฐบาลที่มาโดยกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลัง
    3. ระบอบเผด็จการ (Autocracy) คือ รัฐบาลที่มีผู้นำคนเดียวที่เป็นผู้ชี้ชะตาประเทศและประชาชน อย่าง ซาอุ
    4. ระบอบกษัตริย์ (Monarchy) คือมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่างประเทศไทย คือ constitutional monarchy หมายถึง ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
    5. ระบอบคอมมิวนิสต์ (Communism) คือ ทุกอย่างเป็นของรัฐบาล ประชาชนทุกคนจะมีส่วนแบ่งเท่าๆกันภายใต้การจัดสรรที่เสมอภาค

    ประเทศไทยของเราลักหลั่นมากในเรื่องนี้ เพราะ คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราอยู่ในระบอบไหนกันแน่ เพราะนอกจากคอมมิวนิสต์กับเผด็จการแล้ว เราเป็นหมด………
    ประชาธิปไตย……มีมั่ง ไม่มีมั่ง คอยลุ้นเอา สนุกดี
    คณาธิปไตย………แน่นอน มีตลอด ตราบใดที่กลุ่มเจ้าสัวยังขยายกิจการอย่างไม่หยุดยั้ง
    แม้แต่รถกับข้าวก็ไม่เหลือให้ชนชั้นล่างได้เข้ามามีโอกาส
    ระบอบกษัตริย์ หรือ ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญนั้น คือหัวใจที่หล่อเลี้ยงประเทศให้
    เต้นไปตามจังหวะอยู่ในทุกวันนี้

    ประชาชนจะต้องรู้ให้เท่าทันว่า ประเทศของเราอยู่ก้ำกึ่งในสามระบอบนี้ จะได้ทำตัวให้ถูก
    รู้จักการถ่วงดุลย์ รู้จักว่าอย่าให้มันโน้มเอียงไปทางลบ
    อย่ามัวแต่เรียกร้องประชาธิปไตย รอเลือกตั้งจนตัวสั่น เพราะ อย่างไรเสียเราก็สลัดไม่หลุดไปจากกลุ่มคณาธิปไตยที่ไล่แจกนาฬิกาแพงๆให้กับคนในรัฐบาลอย่างที่เห็นๆอยู่

    เคยคุยกับคนอังกฤษ(แก่ๆ) เรื่องพระราชวงค์ของเขา ว่า……ไม่ค่อยเห็นคนออกมาแสดงความไม่พอใจ หรือเรียกร้องจนทำให้พระราชินีต้องเสื่อมเสียพระเกียรติยศ……
    เขาตอบว่า เพราะพระราชวงค์ทรงเป็นเลือดนักสู้……เป็นผู้นำที่เคียงคู่มากับพวกเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามไหนๆ กษัตริย์อังกฤษไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว………

    นี่คือผลพวงจากการศึกษาจริงๆค่ะ คนอังกฤษทุกคนรู้เรื่องประวัติศาสตร์บ้านเมืองของตัวเองเป็นอย่างดี จึงมีความรักชาติที่ฝังลึกสลักแน่นในสายเลือด
    แต่เราก็เขยิบขึ้นมาแล้ว เราก้าวมาเกือบถูกทางแล้ว เพราะออเจ้าได้ทำให้เด็กไทยทั้งประเทศตื่นตัวในการรักชาติ เทิดทูนพระมหากษัตริย์ในอดีต……บูชาความเป็นไทย
    ถึงขนาดทิ้งบัตรประชาชนเก่าๆ จัดแจงแต่งชุดไทยไปถ่ายใบใหม่
    ประกาศให้โลกรู้ว่า……
    เรารุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนะ…ออเจ้าฝรั่งฟรังคีทั้งหลาย !!!

    แหม………จะว่าไปนะ……อีผิน เอ๊ย……ดิฉันก็นึกทึ่งตัวเองอยู่ไม่น้อย ที่เขียนเรื่องรัสเซีย เรื่องอังกฤษอยู่ดีดี๊………มาจบลงด้วยเรื่องของออเจ้าอย่างหน้าตาเฉย
    อย่างนี้ชิมิคะ……ที่เขาเรียกว่า”โหนกระแส” น่ะ………555555?!!!

    Wiwanda W. Vichit
    ประชาธิปไตยใต้ร่มเงาของคณาธิปไตย………!!! ดิฉันไม่ค่อยได้เขียนเรื่องการเมืองของประเทศไทยมากนัก เพราะไม่อยากอยู่ในสภาพของ”ลิง” ที่คิดหาญอยากจะแก้แห แต่ต้องเอาซะหน่อย เพราะมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้อง”ประชาธิปไตย” ให้กับบ้านเมือง เพราะเรามีรัฐบาลทหารที่กำลังอยู่ในภาวะจัดระเบียบให้แบบเอากฏหมายมาเป็นตัวตั้ง ที่เหมือนจะกำลังตบให้เข้ารูปเข้ารอย โดยการเพิ่มโทษเอาผิดและกางกั้น อุดรอยรั่วตรงนั้นตรงนี้ ทำไปทำมา……คนในรัฐบาลก็ดันมีพฤติการณ์ที่ไม่โปร่งใส แถมคนที่เป็นหัวหน้ากลับอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ได้ นอกจากเรียกร้องให้สื่อเพลาการให้ข่าวทางด้านลบของพวกตัวเองลงไป สรุปว่า……แหนั้นมันยุ่งเหยิงเกิน……ขนาดชั้นหนุมานทหารเอกยังแก้ไม่ไหว……!! แล้วดิฉัน……ลิง……เอ๊ย……มนุษย์อาวุโสตัวน้อยๆ จะไปบังอาจได้อย่างไร……ใช่ม๊ะ??? แต่อยากจะเล่าถึงเรื่องอื่นๆที่เนื้อเรื่องมันช่างโดนใจไทยแท้เป็นอย่างมาก…… นั่นคือเรื่องกรณีพิพาทระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย ที่บาดหมางถึงขนาดอัปเปหิคณะทูตออกจากประเทศกันแบบชิ้วๆ ให้เก็บของภายในสามวันเจ็ดวันนั่นเชียว ถ้าจะให้เล่าต้องอ่านอย่างตั้งใจนิดนึง เพราะเรื่องนี้มีตัวละครหลายตัว ที่เกี่ยวพันโยงใยกันไปหมด เอาเรื่องหลักๆแบบกระชับที่สุดแล้วกันนะคะ ขอย้อนเรื่องไปเมื่อครั้ง ปี 2000 ที่ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ร่ำรวยคนหนึ่ง นามว่า Boris Berezovsky ที่มีฐานะร่ำรวยติดอันดับต้นๆของรัสเซีย และเป็นผู้สนับสนุนหลักของพรรค Unity ที่ผลักด้นจนปูตินได้มาเป็นประธานาธิบดีในปีนั้น แต่ปูติน……ไม่ได้เห็นนายทุนพรรคสำคัญไปกว่าอุดมการณ์ เขาตลบย้อนหลังด้วยนโยบายกวาดล้างมาเฟียและผู้สนับสนุนท่อน้ำเลี้ยงทั้งหมด ซึ่งมันกระทบกับหลายเครือข่ายของกลุ่มต่างๆ แม้แต่กลุ่มอภิมหาเศรษฐีอย่าง BB (ใช้ชื่อย่อแล้วกันนะคะ) ที่มีธุรกิจมากมายรวมไปถึง หลักๆคือ สื่อโทรทัศน์และพลังงานน้ำมัน การขัดแย้งเกิดขึ้น มีการแจ้งหาหลายข้อ จน BB ต้องหาเรื่องไป”ทำธุระที่อังกฤษ” แล้วก็ไม่หวนกลับมาขึ้นศาล ทางอังกฤษก็อ้าแขนรับ เพราะเงินจำนวนพันๆล้านยูโรที่เขามีอยู่นั้น ได้เปลี่ยนสถานะให้เขาเป็น Oligarch อันหมายถึง ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งต่างกับคำว่า Fugitive อันหมายถึงพวกที่หนีคดีแบบหัวซุกหัวซุน ที่ต้องมาขยายในความแตกต่างระหว่างสองคำนั้น เพราะเห็นสื่อต่างๆใช้กันเกร่อ และอ่านแล้วขัดใจทุกทีไป เพราะความหมายผิดไปอย่างสุดโต่ง โอลิการ์ช นั้น ไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปไหนเลย แถมยังมีหน้ามีตาอยู่ในสังคมชั้นสูงในประเทศอื่นๆได้ เพราะมีเงินนับพันล้านหมื่นล้าน ไปที่ไหนใครก็ต้อนรับ (จะอธิบายถึงระบบการปกครองในแบบต่างๆต่อไป) เช่นเดียวกับ BB เมื่อไม่อยากกลับรัสเซียก็ซื้อคฤหาสน์อยู่ที่อังกฤษ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทอง แต่……ก็พกความแค้นเอาไว้ คอยเล่นงานรัฐบาลปูตินในทุกโอกาสที่มีเขาได้ผู้ช่วยที่ดี คือ Alexander Litvinenko อดีต KGB ที่สนิทสนมกัน จนสามารถซื้อใจและนำตัวออกมาจากรัสเซียมาอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ และได้สนับสนุนให้ อเล็กซานเดอร์ ไปทำงานขายความลับของชาติให้กับ MI 6 หน่วยสายลับของอังกฤษ เท่านั้นไม่พอ……ทั้ง Alexander Litvinenko และ เพื่อนที่เป็นนักเขียน อเมริกัน-รัสเชี่ยน Yuri Felshtinsky ได้ออกหนังสือในชื่อว่า Blowing up Russia: The secret to bring back KGB power (2004)** (มีภาพประกอบ) ที่ติดอันดับหนังสือขายดีเพียงแค่ข้ามคืน โดยได้รับทุนรอนสนับสนุนจาก BB เนื้อความในหนังสือเป็นเรื่องภายในของหน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย และการขยายสาขายิบย่อยออกไปหลายแขนงในชื่อย่อต่างๆกัน รวมทั้งงานต่างๆที่แยกออกไปตามถนัด นอกจากนั้น BB ยังให้การสนับสนุนการก่อความไม่สงบทั้งในประเทศและนอกประเทศ อย่างกรณีของสงคราม Chechen ให้ก่อหวอดขึ้นมา เลยเถิดไปถึงการสนับสนุนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในยูเครนเมื่อปี 2004 และ 2010 ที่มีอยู่เพียงสองพรรคการเมือง พรรคที่ต่อต้านรัสเซีย กับพรรคที่สนับสนุนรัสเซีย งานนี้เขาทุ่มทุนกับพรรคที่ต่อต้านเต็มที่หมดไปหลายสิบล้านยูโร (แต่ก็แพ้การเลือกตั้ง) คือว่าทำทุกอย่างที่โค่นรัฐบาลของปูตินให้ได้……โดยใช้ผืนดินอังกฤษเป็นราก…… ถามว่ารัฐบาลของปูตินและปูตินรู้สึกอย่างไร……? คำตอบคือ……เงียบ แต่เงียบแบบคลื่นใต้น้ำ โดยการ”กำจัด” ออกไปทีละคน เหมือนอย่างกับที่ทำกับสายลับนอกคอกคนอื่นๆ ที่มีเหตุต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันสมควร ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก……เฉพาะในอังกฤษที่ชอบฟูมฟักสายลับและโอลิการ์ช จากรัสเซียนั้น โดนเก็บไปสิบสี่คนแล้ว โดยที่หน่วยสายลับและตำรวจต่างก็หาสาเหตุไม่ค่อยจะได้ หรืออาจจะได้แต่ไม่ออกสื่อ……… ราย Alexander Litvinenko (จะเรียกเขาว่า Alex) นั้นมาแบบแปลกและทิ้งความตื่นตระหนกไว้ทั่วบริเตน นั่นคือ โดยยาพิษที่มาในรูปของกัมมันตภาพรังสี ในนามว่า Polonium 210 ที่เคลือบไว้กับกาน้ำชาที่เขาไปทานอาหารในร้านซูชิ เพราะได้นัดเจอกับเพื่อนที่เป็นอดีต KGB ที่มาเยี่ยมเยือนจากรัสเซีย ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2006 หลังจากที่ได้แยกจากกัน เขาก็ล้มป่วย เกิดอาการขั้นวิกฤติจนต้องส่งโรงพยาบาลด่วนฉุกเฉิน อาการที่แพทย์ต้องวิ่งหาสาเหตุกันจ้าละหวั่น คือ อวัยวะในร่างกายของเขา ต่างพากันอ่อนแรง หมดสมรรถภาพไปทีละอย่าง นับจากตับ ไต หัวใจ เขาทนได้ถึง 28 วัน จึงเสียชีวิต และทางแพทย์เพิ่งจะรู้คำตอบว่า มันคือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสี จึงได้เข้าไปตรวจร่องรอยของเส้นทางหลังจากที่เขาและเพื่อนสองคน พบว่า มีร่องรอยของ Polonium 210ในทุกที่ ตั้งแต่โรงแรม ห้องพัก ห้องน้ำ และในร้านอาหาร เพื่อนสองคนนั้น คือ Andrei Lugovoi และ Dmitry Kovtun ที่บินกลับไปรัสเซียแล้ว ทีนี้ถึงคิวของ BB อภิมหาเศรษฐีที่เหมือนว่าใครจะทำอะไรเขาไม่ได้……แต่……มีอีกคนหนึ่งที่”เหนือเมฆ”กว่า นั่นคือ Roman Abramovich คนคนนี้ที่ต้องเรียกว่าเหนือเมฆหรือยอดมนุษย์ก็ไม่ผิดความจริงเท่าไหร่ เพราะ เขาจบการศึกษาแค่ชั้นมัธยมปลาย และออกมาทำมาหากินโดยการขายของเล่นเด็ก และ ขายยางรถยนตร์เก่า จนอายุย่างเข้าสามสิบปี (1996) เขาเริ่มเป็นปึกแผ่น ร่ำรวย จนสามารถเข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นที่ไว้ใจของปธน. Yeltsin จนเขาได้ก้าวขึ้นไปเป็นนายกเทศมนตรีเมือง Chukotka (1999) ที่แสนยากจน……ที่นั่น Roman ได้ควักกระเป๋า เอาเงินส่วนตัวกว่า ร้อยล้านยูโร บริจาคสร้างสาธารณูปโภคให้ใหม่ทั้งเมือง สร้างงานให้ประชาชน เมื่อปี 1992 คือปีที่เขาหันมาจับธุรกิจบ่อน้ำมันและได้รู้จักกับ BB และกลุ่มอภิมหาเศรษฐีคนอื่นๆในฐานะผู้ร่วมทุน ในนามของกลุ่มที่มีชื่อว่า Sibneft ที่แยกย่อยออกไปอีกหลายเครือข่ายเช่นการทำกระดาษอลูมินั่ม และเครื่องจักรกล ที่สร้างเม็ดเงินให้อย่างมหาศาล จนคนทั้งคู่ (และหุ้นส่วนคนอื่น) รวยจนติดอันดับ Forbes แต่เส้นทางต่อมา……คนทั้งสองเดินคนละเส้นทาง แต่ไปอยู่ในที่เดียวกัน คือ อังกฤษ Roman ไปในฐานะนักลงทุนข้ามชาติ เพราะไปทำธุรกิจที่จะขยายเม็ดเงิน ร่ำรวยมหาศาลและไปซื้อทีมฟุตบอล Chelsea………!!! นอกเหนือจากการเป็นมิตรสหายคนสนิทคนหนึ่งของปูติน ส่วน BB นั้น อยู่ในฐานะนักลี้ภัยที่สนับสนุนการเมืองฝ่ายตรงข้าม ที่ยังไม่เลิกละลดต่อความพยาบาท Roman ได้ขึ้นฟ้องร้องต่อศาลอังกฤษในปี 2011 ที่ถูก BB โกงเงินจำนวนหลายร้อยล้านปอนด์จากธุรกิจที่เคยทำร่วมกัน รวมทั้งยื่นบัญชีที่ได้ออกเงินช่วย BB ในเรื่องของการหลบหนีมาตั้งหลักปักฐานที่อังกฤษ ศาลรับฟ้อง……และว่ากันไปตามหลักฐาน ที่ทางฝ่าย Roman มีมาพร้อมมูล ซึ่งต่อมา ศาลได้ตัดสินให้เขาเป็นฝ่ายชนะ (ปี 2012)ที่จะได้รับเงินค่าเสียหายชดใช้จาก BB เป็นจำนวน สามพันล้านปอนด์ บวกค่าทนายของทั้งสองฝ่ายอีกร้อยล้านปอนด์ BB เดินออกจากศาลทั้งน้ำตา เขาบอกกับคนสนิทว่า “ฉันควรจะกระโดดตึกหรือเชือดข้อมือ อย่างไหนจะดีกว่ากัน ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนที่ยากจนที่สุดในโลกแล้ว……” แต่ BB ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานต่อความยากจนนานนัก เพราะ เขาถูกพบว่าเป็นศพภายในคฤหาสน์ของเขาเองในปีต่อมา 2013 ในสภาพว่า ผูกคอตายในห้องน้ำ……?!! ทางฝ่ายนิติเวชได้ออกมาให้ข่าวว่า สภาพศพนั้นผิดไปจากการฆ่าตัวตายธรรมดา เพราะศรีษะมีรอยถูกตี และมีรอยหักที่ซี่โครง เหมือนจะเป็นการบอกให้รู้ว่า……เมริงต้องหมดตัวเสียก่อน แล้วค่อยตาย……!!! นี่คือเรื่องราวย่อๆที่เกิดขึ้นให้ทราบเค้าโครงเรื่องรอยบาดหมางระหว่างอังกฤษกับรัสเซีย คือ ไม่ว่าใครจะไปลี้ภัยอะไรยังไง อังกฤษอ้าแขนรับหมด ขอให้หอบเงินเข้ามาเถอะ การอำนวยความสะดวกจัดให้เต็มที่ โดยเฉพาะเหล่าอภิมหาเศรษฐีและเหล่าสายลับนอกคอกจากรัสเซีย ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่ตายไม่สวย……ยังมีอีกสองราย เอาไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง คือ Sergei Skripal (อดีตสายลับ) และ Badri Patarkatsishvili (อภิมหาเศรษฐี) ที่มัจจุราชจากรัสเซียมาเยือนถึงเกาะอังกฤษ นอกเหนือไปจากรายยิบย่อย ที่อังกฤษจับมือใครดมไม่ได้ ………ได้แต่โกรธแค้นรัสเซียที่อาจหาญทำการอุกอาจข้ามประเทศ จนมาถึงเรื่องซีเรีย………ที่นับว่าคือจุดของการแตกหัก อังกฤษทุกวันนี้ก็นั่งไม่ติด เพราะไม่รู้ว่าจะสู้กับอะไร ศึกจะมาเป็นแบบไหนในบ้านเมือง จะมาในรูปของก่อการร้าย หรือ ยาพิษกัมมันตภาพรังสีที่ยังหาทางรักษาไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่ต้องใช้งบประมาณอย่างมากมายสำหรับการรักษาความปลอดภัยในการจัดงานอภิเษกของเจ้าชายแฮร์รี่ ที่ประชาชนต่างไม่พอใจกับการใช้งบประมาณมากมายมหาศาลในส่วนของภาษีที่เขาจ่าย รัฐบาลก็ได้แต่อ้อมแอ้ม……ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเพื่อไม่ให้กลายเป็นการชี้โพรง……… ทีนี้มาเล่าถึงเรื่องการปกครองระบอบต่างๆในโลกที่แบ่งออกเป็นได้อยู่ 5 ชนิด คือ 1. ระบอบประชาธิปไตย (Democracy) ที่ประชาชนเลือกผู้นำและรัฐบาลผ่านการลงคะแนนเสียง 2. ระบอบคณาธิปไตย (Oligarchy) คือรัฐบาลที่มาโดยกลุ่มนายทุนอยู่เบื้องหลัง 3. ระบอบเผด็จการ (Autocracy) คือ รัฐบาลที่มีผู้นำคนเดียวที่เป็นผู้ชี้ชะตาประเทศและประชาชน อย่าง ซาอุ 4. ระบอบกษัตริย์ (Monarchy) คือมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อย่างประเทศไทย คือ constitutional monarchy หมายถึง ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ 5. ระบอบคอมมิวนิสต์ (Communism) คือ ทุกอย่างเป็นของรัฐบาล ประชาชนทุกคนจะมีส่วนแบ่งเท่าๆกันภายใต้การจัดสรรที่เสมอภาค ประเทศไทยของเราลักหลั่นมากในเรื่องนี้ เพราะ คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราอยู่ในระบอบไหนกันแน่ เพราะนอกจากคอมมิวนิสต์กับเผด็จการแล้ว เราเป็นหมด……… ประชาธิปไตย……มีมั่ง ไม่มีมั่ง คอยลุ้นเอา สนุกดี คณาธิปไตย………แน่นอน มีตลอด ตราบใดที่กลุ่มเจ้าสัวยังขยายกิจการอย่างไม่หยุดยั้ง แม้แต่รถกับข้าวก็ไม่เหลือให้ชนชั้นล่างได้เข้ามามีโอกาส ระบอบกษัตริย์ หรือ ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญนั้น คือหัวใจที่หล่อเลี้ยงประเทศให้ เต้นไปตามจังหวะอยู่ในทุกวันนี้ ประชาชนจะต้องรู้ให้เท่าทันว่า ประเทศของเราอยู่ก้ำกึ่งในสามระบอบนี้ จะได้ทำตัวให้ถูก รู้จักการถ่วงดุลย์ รู้จักว่าอย่าให้มันโน้มเอียงไปทางลบ อย่ามัวแต่เรียกร้องประชาธิปไตย รอเลือกตั้งจนตัวสั่น เพราะ อย่างไรเสียเราก็สลัดไม่หลุดไปจากกลุ่มคณาธิปไตยที่ไล่แจกนาฬิกาแพงๆให้กับคนในรัฐบาลอย่างที่เห็นๆอยู่ เคยคุยกับคนอังกฤษ(แก่ๆ) เรื่องพระราชวงค์ของเขา ว่า……ไม่ค่อยเห็นคนออกมาแสดงความไม่พอใจ หรือเรียกร้องจนทำให้พระราชินีต้องเสื่อมเสียพระเกียรติยศ…… เขาตอบว่า เพราะพระราชวงค์ทรงเป็นเลือดนักสู้……เป็นผู้นำที่เคียงคู่มากับพวกเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามไหนๆ กษัตริย์อังกฤษไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว……… นี่คือผลพวงจากการศึกษาจริงๆค่ะ คนอังกฤษทุกคนรู้เรื่องประวัติศาสตร์บ้านเมืองของตัวเองเป็นอย่างดี จึงมีความรักชาติที่ฝังลึกสลักแน่นในสายเลือด แต่เราก็เขยิบขึ้นมาแล้ว เราก้าวมาเกือบถูกทางแล้ว เพราะออเจ้าได้ทำให้เด็กไทยทั้งประเทศตื่นตัวในการรักชาติ เทิดทูนพระมหากษัตริย์ในอดีต……บูชาความเป็นไทย ถึงขนาดทิ้งบัตรประชาชนเก่าๆ จัดแจงแต่งชุดไทยไปถ่ายใบใหม่ ประกาศให้โลกรู้ว่า…… เรารุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนะ…ออเจ้าฝรั่งฟรังคีทั้งหลาย !!! แหม………จะว่าไปนะ……อีผิน เอ๊ย……ดิฉันก็นึกทึ่งตัวเองอยู่ไม่น้อย ที่เขียนเรื่องรัสเซีย เรื่องอังกฤษอยู่ดีดี๊………มาจบลงด้วยเรื่องของออเจ้าอย่างหน้าตาเฉย อย่างนี้ชิมิคะ……ที่เขาเรียกว่า”โหนกระแส” น่ะ………555555?!!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 807 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มาสายมูค่ะ เช็ค4ตัวท้ายเลขบัตรประชาชนกันค่ะ😆
    Cr. IG "howtomute"
    วันนี้มาสายมูค่ะ เช็ค4ตัวท้ายเลขบัตรประชาชนกันค่ะ😆 Cr. IG "howtomute"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบื้องหลังธนาคารไทย ใช้'CFR'สกัดบัญชีม้า

    นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ธนาคารทุกแห่งใช้ระบบ CFR หรือ Central Fraud Registry ซึ่งเป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางการเงินของภาคธนาคาร เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและอายัดบัญชีของผู้ต้องสงสัย พัฒนาโดย บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด (ITMX) ระบบนี้จะให้ธนาคารที่เป็นสมาชิกของ ITMX นำส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย ที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง หรือธนาคารตรวจพบรายการต้องสงสัย เพื่อดำเนินการกับบัญชีต้องสงสัยได้ครอบคลุมและรวดเร็วขึ้น เป็นมาตรฐานเดียวกัน

    เมื่อมีผู้เสียหายแจ้งความ หรือธนาคารตรวจจับได้ว่ามีบัญชีต้องสงสัย จากเดิมระงับเฉพาะธนาคารที่เกี่ยวข้องในเส้นทางเงิน เปลี่ยนเป็น "ระงับทุกธนาคาร" ภายใต้ชื่อบัญชีและหมายเลขบัตรประชาชนเดียวกัน โดยจะเห็นผลเมื่อคนที่เคย "ขายบัญชีม้า" ให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรม เมื่อเข้าสู่ระบบ Mobile Banking จะขึ้นข้อความว่า "บัญชีของคุณถูกระงับ" หรือข้อความในลักษณะใกล้เคียง โดยไม่สามารถทำธุรกรรมโอนเงินหรือถอนเงินออกมาได้

    ธนาคารจะระงับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทุกบัญชี ทุกธนาคาร เพื่อให้เจ้าของบัญชีมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น และจะต้องให้ความร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center) หรือ AOC 1441 ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมาย เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนความเกี่ยวข้องทางคดี แต่ถ้าเป็นบัญชีที่ธนาคารตรวจพบพฤติกรรมต้องสงสัย แต่ยังไม่มีการแจ้งความ จะดำเนินการตามความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียวกัน

    นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคธนาคารได้ดำเนินมาตรการดังกล่าวไปแล้วกว่า 15,000 รายชื่อ ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากการยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตนเป็นบัญชีม้า ทั้งบัญชีเดิมหรือกำลังจะเปิดเพิ่มเติมใหม่ว่า มีโทษอาญาตามกฎหมาย รวมทั้งผลจากมาตรการที่เข้มงวด เช่น การพิจารณาระงับการใช้งานบัญชีทั้งหมดทันที รวมถึงจะพิจารณาไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ ซึ่งจะกระทบการใช้บริการทางการเงินของบุคคลดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    อนึ่ง การเปิดหรือขายให้คนอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตร หรือ e-Wallet เป็นบัญชีม้า ให้เช่าหรือให้ยืมใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์เพื่อนำไปใช้ในทางทุจริตและการทำผิดกฎหมาย ต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    #Newskit #CFR #บัญชีม้า
    เบื้องหลังธนาคารไทย ใช้'CFR'สกัดบัญชีม้า นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ธนาคารทุกแห่งใช้ระบบ CFR หรือ Central Fraud Registry ซึ่งเป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางการเงินของภาคธนาคาร เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและอายัดบัญชีของผู้ต้องสงสัย พัฒนาโดย บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด (ITMX) ระบบนี้จะให้ธนาคารที่เป็นสมาชิกของ ITMX นำส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย ที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง หรือธนาคารตรวจพบรายการต้องสงสัย เพื่อดำเนินการกับบัญชีต้องสงสัยได้ครอบคลุมและรวดเร็วขึ้น เป็นมาตรฐานเดียวกัน เมื่อมีผู้เสียหายแจ้งความ หรือธนาคารตรวจจับได้ว่ามีบัญชีต้องสงสัย จากเดิมระงับเฉพาะธนาคารที่เกี่ยวข้องในเส้นทางเงิน เปลี่ยนเป็น "ระงับทุกธนาคาร" ภายใต้ชื่อบัญชีและหมายเลขบัตรประชาชนเดียวกัน โดยจะเห็นผลเมื่อคนที่เคย "ขายบัญชีม้า" ให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรม เมื่อเข้าสู่ระบบ Mobile Banking จะขึ้นข้อความว่า "บัญชีของคุณถูกระงับ" หรือข้อความในลักษณะใกล้เคียง โดยไม่สามารถทำธุรกรรมโอนเงินหรือถอนเงินออกมาได้ ธนาคารจะระงับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทุกบัญชี ทุกธนาคาร เพื่อให้เจ้าของบัญชีมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น และจะต้องให้ความร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center) หรือ AOC 1441 ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมาย เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนความเกี่ยวข้องทางคดี แต่ถ้าเป็นบัญชีที่ธนาคารตรวจพบพฤติกรรมต้องสงสัย แต่ยังไม่มีการแจ้งความ จะดำเนินการตามความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียวกัน นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคธนาคารได้ดำเนินมาตรการดังกล่าวไปแล้วกว่า 15,000 รายชื่อ ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากการยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตนเป็นบัญชีม้า ทั้งบัญชีเดิมหรือกำลังจะเปิดเพิ่มเติมใหม่ว่า มีโทษอาญาตามกฎหมาย รวมทั้งผลจากมาตรการที่เข้มงวด เช่น การพิจารณาระงับการใช้งานบัญชีทั้งหมดทันที รวมถึงจะพิจารณาไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ ซึ่งจะกระทบการใช้บริการทางการเงินของบุคคลดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อนึ่ง การเปิดหรือขายให้คนอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตร หรือ e-Wallet เป็นบัญชีม้า ให้เช่าหรือให้ยืมใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์เพื่อนำไปใช้ในทางทุจริตและการทำผิดกฎหมาย ต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ #Newskit #CFR #บัญชีม้า
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 823 มุมมอง 0 รีวิว
  • อมรบตอบคำถามผ่านหลักสูตรทั้ง7หลักสูตร ได้คิวอาร์รับรองผลการผ่านอบรมและตอบบททดสอบเรียบร้อยครับ ชั่วโมงเศษๆ ห้ามลักไก่มีคำถามทดสอบกลางหลักสูตรอบรมแต่ละครั้งด้วย สนุกดีครับ ไม่ยากขอแค่มีเวลา,สมาธิ,สติ ในการรับฟังและ ตอบคำถามทดสอบเก็บคะแนน
    - บัตรประชาชนของผู้ต่อใบขับขี่

    - ใบขับขี่เดิม

    - ใบรับรองแพทย์

    - ผลการอบรมใบขับขี่ออนไลน์.
    #Test operating system
    อมรบตอบคำถามผ่านหลักสูตรทั้ง7หลักสูตร ได้คิวอาร์รับรองผลการผ่านอบรมและตอบบททดสอบเรียบร้อยครับ ชั่วโมงเศษๆ ห้ามลักไก่มีคำถามทดสอบกลางหลักสูตรอบรมแต่ละครั้งด้วย สนุกดีครับ ไม่ยากขอแค่มีเวลา,สมาธิ,สติ ในการรับฟังและ ตอบคำถามทดสอบเก็บคะแนน - บัตรประชาชนของผู้ต่อใบขับขี่ - ใบขับขี่เดิม - ใบรับรองแพทย์ - ผลการอบรมใบขับขี่ออนไลน์. #Test operating system
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ พรรคประชาชน บังคับผู้สมัครสมาชิก กรอกเลขหลังบัตรประชาชน ไม่ต่างอะไรกับปล้นข้อมูลประชาชน เพราะสามารถนำไป 1.ยื่นเสนอแก้ไข 112 และกฎหมายอื่นๆ ได้ 2.ยื่นถอดถอน ร้องเรียน สส. สว.ได้ 3.ขายข้อมูลประชาชนให้มิจฉาชีพได้ 4.ใช้ทำธุรกรรมตามกฎหมายได้
    #7ดอกจิก
    ♣ พรรคประชาชน บังคับผู้สมัครสมาชิก กรอกเลขหลังบัตรประชาชน ไม่ต่างอะไรกับปล้นข้อมูลประชาชน เพราะสามารถนำไป 1.ยื่นเสนอแก้ไข 112 และกฎหมายอื่นๆ ได้ 2.ยื่นถอดถอน ร้องเรียน สส. สว.ได้ 3.ขายข้อมูลประชาชนให้มิจฉาชีพได้ 4.ใช้ทำธุรกรรมตามกฎหมายได้ #7ดอกจิก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว