• ลมหวน ตอนที่ 3

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลมหวน”
    ตอน 3 (จบ)
    ลมหวนอียิปต์รัสเซีย นี่ มันมีเรื่องเหลือเชื่อแยะจริง
    ไม่รู้จำกันได้ไหมครับ เมื่อปี ค.ศ.2010 รัสเซีย จ้างฝรั่งเศสต่อเรือรบ Mistral 2 ลำ
    Mistral ซึ่งเป็นเรือรบแบบทันสมัยมาก เป็นระบบ amphibious สะเทินน้ำสะเทินบก ท๊อปคลาส มีอุปกรณ์ ระบบ อาวุธติดตั้งชั้นเยี่ยมยอดทั้งนั้น บรรจุกำลังพลได้ ถึง 900 กองร้อย รวมทั้งรถถัง และเฮลิคอปเตอร์ 16-25 ลำ เรือแต่ละลำ ยังสามารถรองรับคนได้อีกถึง 25,000 คน คุณพี่ปูตินจะเอาไปทำอะไรครับ เรือขนาดใหญ่อย่างนี้
    เมื่ออเมริกา อียู นาโต้ รู้ข่าวนี้ ก็ช่วยกันรุมด่าฝรั่งเศสให้ล้มเลิกการรับจ้างต่อเรือ มันเหมือนสร้างกระบองให้ยักษ์ เข้าใจไหม แต่ฝรั่งเศสกำลังถังแตก การต่อเรือให้รัสเซีย จะเป็นการหางานให้กับช่างต่อเรือ ฝรั่งเศส 2,500 คน ซึ่งระยะหลัง ไม่มีใครใจถึงจ้างต่อเรือรบ มีแต่ตัดงบ อู่ต่อเรือรบของฝรั่งเศส และยุโรป จึงใกล้จะล้มละลาย หรือทิ้งร้างเสียด้วยซ้ำ ถ้าเป็นอย่างนั้น เมื่อไหร่ที่ฝรั่งเศสต้องการจะต่อเรือรบของตัวเอง จะไปเอาช่างต่อเรือมาจากไหน คิดแบบนี้ ฝรั่งเศสจึงเมินคำด่าของพรรคพวก
    หลังจากการต่อรองอย่างยืดยาว ในที่สุด ฝรั่งเศสตกลงคิดราคา 2 ลำ รวมแล้วประมาณ 1.7 พันล้านเหรียญ กำหนดส่งมอบเรือลำแรก ในปี ค.ศ.2014 เรือสร้างเสร็จตามกำหนด ในเดือนกันยายน 2014 แต่ฝรั่งเศสส่งมอบเรือให้รัสเชียไม่ได้ เพราะอเมริกา อียู ดันเสนอให้สหประชาชาติ ลงมติคว่ำบาตรห้ามค้าขายกับรัสเซียจากกรณียูเครน เรือรบก็เลยค้างส่ง ค่าจ้างก็เลยค้างรับ เหงื่อหัวล้านลุงโอลองแตกพลั่ก
    รัสเซียบอก ถ้าไม่ส่งมอบเรือรบ นอกจากจะไม่จ่ายเงินค่าจ้างที่เหลือแล้ว ตามสัญญา ฝรั่งเศสก็ต้องจ่ายค่าปรับให้รัสเซีย ประมาณ 1.53 พันล้านเหรียญ ลุงโอลอง ร้อง อ๊วกแน่กู ค่าจ้างก็ได้ไม่ครบ ค่าปรับก็ต้องจ่าย งบประมาณกูตูดขาดแน่ ฝรั่งเศสจึงบินไปบินมา เจรจากับคุณพี่ปูตินที่มอสโคว์ ตั้งแต่กลางปี 2014 สื่อเดาว่านี่จะเป็นคู่รักใหม่ คุณพี่ปูตินจะหอมกรุ่นไปหน่อยไหม เปล่าหรอกครับ ฝรั่งเศสลูกหนี้ ไปขอต่อรองรัสเซียเจ้าหนี้ ทั้งขอผ่อนเวลา และราคาค่าปรับ สื่อตะวันตกลงข่าวแบบนี้ให้อ่านกันไหม ไม่ลงหรอกน่า เพราะเสียหน้าฝรั่งเศสหมด
    อเมริการู้ข่าว บอกอย่างนี้ นาโต้ควรรับซื้อเรือรบ 2 ลำนี้ไว้ใช้เอง อย่าให้หลุดมือไปถึงรัสเซียเป็นอันขาด ดีแต่สั่ง แล้วเงินล่ะใครจ่าย มีทั้งค่าซื้อ ค่าปรับ สมาชิกนาโต้ บางคนบอกเรื่องอะไร เราต้องควักกระเป๋าจนๆของเรา ไปให้ฝรั่งเศสรวย แล้วเรื่องนาโต้ซื้อเรือแทน ก็เลยเงียบหายไป
    แต่ฝรั่งเศส เป็นคนคิดสร้างคลองสุเอซให้อียิปต์รวย และได้เป็นเจ้าของจุดยุทธศาสตร์สำคัญ แต่ภายหลัง อียิปต์เสียรู้ สันดานขี้โกงของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ต้องขายหุ้นคลองสุเอซให้กับอังกฤษ จนนายพลนัสเซอร์ มายึดคลองสุเอซกลับมาเป็นของประเทศอียิปต์อีกที และเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้อเมริกาและอังกฤษ เกลียดนัสเซอร์เข้ากระดูกดำที่รู้ทัน และตามประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งเขียน นัสเซอร์ก็กลายเป็นไอ้ตัวร้ายในสายตาของตะวันตก แต่ระหว่างอียิปต์กับฝรั่งเศส ยังนับว่า มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
    ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา (ค.ศ.2015) อย่างเงียบๆ ระหว่างที่โลกกำลังตื่นเต้นเรื่องคุณพี่ปูตินนำทัพเข้าไปในซีเรีย อียิปต์ก็ลงนามกับฝรั่งเศส ตกลงซื้อเรือรบ Mistral เจ้าปัญหาทั้ง 2 ลำ มาจากฝรั่งเศส และหลังจากนั้นเดือนกว่า การตกลงเรื่องจำนวนค่าชดเชย ระยะเวลาการจ่าย ระหว่างฝรั่งเศสกับรัสเซีย ก็สรุปกันได้ ลุงโอลอง เช็ดเหงื่อหัวล้าน โล่งอก ท่ามกลางความงุนงงในความรวดเร็วของการทำดีลรายการนี้ คุณพี่ปูตินแกแบ่งภาคเข้าฉากได้เก่งนะ
    จริงๆ ฝรั่งเศสปวดหัวกับเรื่องรบ 2 ลำนี้มาก Vladivostok กับ Sevastopol ได้ถูกออกแบบให้มีระบบการติดต่อ ระบบการยิงจรวด และฐานขึ้นลงของเครื่องเฮลิคอปเตอร์ ตามสเปคและระบบ ที่จะให้เข้ากับระบบอื่นๆของรัสเซียได้ ใครที่จะซื้อเรือรบ 2 ลำนี้ ก็ต้องมีระบบที่เข้า หรือรองรับได้ นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ก็ขนมาดูแลการต่อเรืออย่างใกล้ชิด ทั้งในการก่อสร้าง และการติดตั้งระบบ ทำความรู้จักระบบนี้อย่างดี เพื่อสร้างความชำนาญในการใช้ และบำรุงรักษาต่อไป และน่าจะถึงขนาดสร้างเองได้ ไม่ต้องจ้างใครอีก…
    แล้วแบบนี้ รัสเซียจะอยากให้ใครได้เรือรบ 2 ลำ นี้ไป ใครได้ไป ก็เท่ากับรู้ระบบของรัสเซียหมด ขณะเดียวกัน คนซื้อก็คงเสียวไส้ เพราะกลัวรัสเซียที่รู้ระบบ จะสามารถเจาะเข้ามาสกัดการใช้งานของระบบเรือได้หมด จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า จะขายเรือรบเจ้าปัญหานี้ได้ ฝรั่งเศสอาจต้องรื้อระบบทั้งหลายนี้ออก และนั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายอีกมหึมา และราคาเรือก็ตก ค่าปรับก็ต้องจ่ายเต็ม วุ้ย คิดทางไหน ก็มีแต่ปวดหัวล้านทั้งนั้น
    รัสเซียไม่อยากให้ใครได้เรือรบ 2 ลำนี้ไป ไม่แปลกนะ เพราะรัสเซียลงทุนให้สร้างเอง เพื่อเข้ากับระบบของรัสเซีย แต่ดันมีคนที่ไม่อยากให้รัสเซีย ได้เรือรบ ที่มีระบบชั้นเยี่ยมนี่ไปด้วยเหมือนกัน คงเอากันออกนะครับว่า เป็นใคร
    ไอ้ที่ส่งมอบเรือรบไม่ได้ มาจากไหนล่ะ การแซงชั่นเริ่มจากใครล่ะ ใครเริ่มเรื่องที่ยูเครน (ของจริง) มันโยงกันหมด กลับไปหานิทานเรื่องก่อนๆมาอ่านหน่อยนะครับ เล่าซ้ำไม่ไหว
    แต่อียิปต์ บอกเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหาสำหรับเรา เพราะเราใช้ระบบความมั่นคงหลายอย่าง ที่คล้ายกับของรัสเซียอยู่แล้ว เอาละ สมมุติว่าเป็นเรื่องจริง แล้วอียิปต์จะเอาเงินมาจากไหนมาซื้อ รวยนักหรือ ตอนแรกมีข่าวลือว่า อียิปต์อาจจะกู้เงินจากซาอุดิอารเบีย โดยซาอุจะใช้เองลำนึง อีกลำให้อียิปต์ใช้ เอาไว้ช่วยป้องกันคลองสุเอซ ที่ก็มีความหมายกับซาอุไม่น้อยเหมือนกัน ก็เป็นเส้นทางส่งน้ำมันของเสี่ยปั๊มใหญ่ออกทะเลแดง ขึ้นเหนือผ่านสุเอซไปให้ยุโรป แต่ข่าวลือนี้ ตัดทิ้งไปได้เลย น่าจะเป็นข่าวปล่อยดูทีท่า ถ้าซาอุให้อียิปต์กู้เพื่อไปซื้อเรือรบนี้ และหรือซาอุจะใช้เรือรบนี้เอง ผมว่าน่าจะมีใครกลับไปเลี้ยงอูฐอย่างเดิมดีกว่า
    เขาว่าคนกลาง ที่จัดการให้การเจรจาซื้อขายรายนี้เกิดขึ้น คือ บริษัท Sistemy Upravleniya ซึ่งผู้ถือหุ้น คือ รัฐบาลรัสเซีย !
    นอกจากนี้ มีข่าวว่า เนื่องจากรัสเซีย ได้สร้างเฮลิคอปเตอร์รุ่นพิเศษ Ka-52k ที่จะใช้กับเรือ 2 ลำนี้ไว้แล้ว ดูเหมือนอียิปต์ก็เลยเตรียมสั่งซื้อ คอปเตอร์รุ่นพิเศษนี้ด้วย
    พอนึกออกไหมครับว่า ในที่สุดแล้ว ใครจะเป็นเจ้าของเรือรบ 2 ลำนี้กันแน่….
    รายการนี้ มันเป็นรายการพิเศษจริงๆ น่าจะเป็นอย่างที่เขาเรียกว่า ได้ด้วยกันหมด ฝรั่งเศสก็ขายเรือได้ ตูดไม่ขาด ไม่เสียหน้า ไม่เสียเงิน แต่เป็นหนี้บุญคุณบางคน ส่วนอียิปต์ก็ได้เพื่อน ได้อาวุธ และรัสเซีย ก็(น่า) จะได้ใช้เรือที่ตัวเองสั่งต่อ โดยมีระบบพิเศษ เข้ากับระบบอื่นๆของตัวเอง รวมทั้งได้เพื่อน และได้บุญคุณ
    ที่สำคัญ รัสเซีย ได้สร้างเครือข่ายสำคัญเพิ่มขึ้น ในบริเวณที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ จุดรัดคอ 3 จุด choke points ในบริเวณตะวันออกกลาง
    จุดสำคัญแรก ที่อ่าวโอมาน น่าจะอยู่มือแล้ว ภายใต้การดูแลของอิหร่าน โดยมีโอมานที่อยู่อีกฟาก ทิ้งชาวอ่าวโหนสิบล้อเกาะท้ายอิหร่านไปเรียบร้อย
    จุดบน ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รัสเซียคุมด้านบน จากฐานทัพของตัวที่ริมฝั่งของซีเรียแล้ว ตอนนี้ ถ้าจับมือกับอียิปต์ จะคุมคลองสุเอซได้อีกด้วย เรื่องนี้มีความสำคัญมาก
    เหลือจุดสุดท้ายคือ ที่เยเมน ที่ตอนนี้เสี่ยปั๊มใหญ่และพรรคพวก กำลังระดมพรรคพวกไปชิง เพราะถ้าเสียเยเมน กลุ่มอ่าวอาจหัวทิ่มทรายตายทั้งเป็นและตายทั้งก๊วน ขึ้นบนก็ลำบาก ลงล่างก็เหนื่อย แล้วจะส่งออกน้ำมันทางไหนคร้าบ
    แบบนี้ รายการสกัดลมหวน จึงรุนแรงเหลือเกิน แต่เรื่องของอียิปต์ รัสเซียจะมีเพียงเท่านี้หรือ….
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 พ.ย. 2558
    ลมหวน ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลมหวน” ตอน 3 (จบ) ลมหวนอียิปต์รัสเซีย นี่ มันมีเรื่องเหลือเชื่อแยะจริง ไม่รู้จำกันได้ไหมครับ เมื่อปี ค.ศ.2010 รัสเซีย จ้างฝรั่งเศสต่อเรือรบ Mistral 2 ลำ Mistral ซึ่งเป็นเรือรบแบบทันสมัยมาก เป็นระบบ amphibious สะเทินน้ำสะเทินบก ท๊อปคลาส มีอุปกรณ์ ระบบ อาวุธติดตั้งชั้นเยี่ยมยอดทั้งนั้น บรรจุกำลังพลได้ ถึง 900 กองร้อย รวมทั้งรถถัง และเฮลิคอปเตอร์ 16-25 ลำ เรือแต่ละลำ ยังสามารถรองรับคนได้อีกถึง 25,000 คน คุณพี่ปูตินจะเอาไปทำอะไรครับ เรือขนาดใหญ่อย่างนี้ เมื่ออเมริกา อียู นาโต้ รู้ข่าวนี้ ก็ช่วยกันรุมด่าฝรั่งเศสให้ล้มเลิกการรับจ้างต่อเรือ มันเหมือนสร้างกระบองให้ยักษ์ เข้าใจไหม แต่ฝรั่งเศสกำลังถังแตก การต่อเรือให้รัสเซีย จะเป็นการหางานให้กับช่างต่อเรือ ฝรั่งเศส 2,500 คน ซึ่งระยะหลัง ไม่มีใครใจถึงจ้างต่อเรือรบ มีแต่ตัดงบ อู่ต่อเรือรบของฝรั่งเศส และยุโรป จึงใกล้จะล้มละลาย หรือทิ้งร้างเสียด้วยซ้ำ ถ้าเป็นอย่างนั้น เมื่อไหร่ที่ฝรั่งเศสต้องการจะต่อเรือรบของตัวเอง จะไปเอาช่างต่อเรือมาจากไหน คิดแบบนี้ ฝรั่งเศสจึงเมินคำด่าของพรรคพวก หลังจากการต่อรองอย่างยืดยาว ในที่สุด ฝรั่งเศสตกลงคิดราคา 2 ลำ รวมแล้วประมาณ 1.7 พันล้านเหรียญ กำหนดส่งมอบเรือลำแรก ในปี ค.ศ.2014 เรือสร้างเสร็จตามกำหนด ในเดือนกันยายน 2014 แต่ฝรั่งเศสส่งมอบเรือให้รัสเชียไม่ได้ เพราะอเมริกา อียู ดันเสนอให้สหประชาชาติ ลงมติคว่ำบาตรห้ามค้าขายกับรัสเซียจากกรณียูเครน เรือรบก็เลยค้างส่ง ค่าจ้างก็เลยค้างรับ เหงื่อหัวล้านลุงโอลองแตกพลั่ก รัสเซียบอก ถ้าไม่ส่งมอบเรือรบ นอกจากจะไม่จ่ายเงินค่าจ้างที่เหลือแล้ว ตามสัญญา ฝรั่งเศสก็ต้องจ่ายค่าปรับให้รัสเซีย ประมาณ 1.53 พันล้านเหรียญ ลุงโอลอง ร้อง อ๊วกแน่กู ค่าจ้างก็ได้ไม่ครบ ค่าปรับก็ต้องจ่าย งบประมาณกูตูดขาดแน่ ฝรั่งเศสจึงบินไปบินมา เจรจากับคุณพี่ปูตินที่มอสโคว์ ตั้งแต่กลางปี 2014 สื่อเดาว่านี่จะเป็นคู่รักใหม่ คุณพี่ปูตินจะหอมกรุ่นไปหน่อยไหม เปล่าหรอกครับ ฝรั่งเศสลูกหนี้ ไปขอต่อรองรัสเซียเจ้าหนี้ ทั้งขอผ่อนเวลา และราคาค่าปรับ สื่อตะวันตกลงข่าวแบบนี้ให้อ่านกันไหม ไม่ลงหรอกน่า เพราะเสียหน้าฝรั่งเศสหมด อเมริการู้ข่าว บอกอย่างนี้ นาโต้ควรรับซื้อเรือรบ 2 ลำนี้ไว้ใช้เอง อย่าให้หลุดมือไปถึงรัสเซียเป็นอันขาด ดีแต่สั่ง แล้วเงินล่ะใครจ่าย มีทั้งค่าซื้อ ค่าปรับ สมาชิกนาโต้ บางคนบอกเรื่องอะไร เราต้องควักกระเป๋าจนๆของเรา ไปให้ฝรั่งเศสรวย แล้วเรื่องนาโต้ซื้อเรือแทน ก็เลยเงียบหายไป แต่ฝรั่งเศส เป็นคนคิดสร้างคลองสุเอซให้อียิปต์รวย และได้เป็นเจ้าของจุดยุทธศาสตร์สำคัญ แต่ภายหลัง อียิปต์เสียรู้ สันดานขี้โกงของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ต้องขายหุ้นคลองสุเอซให้กับอังกฤษ จนนายพลนัสเซอร์ มายึดคลองสุเอซกลับมาเป็นของประเทศอียิปต์อีกที และเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้อเมริกาและอังกฤษ เกลียดนัสเซอร์เข้ากระดูกดำที่รู้ทัน และตามประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งเขียน นัสเซอร์ก็กลายเป็นไอ้ตัวร้ายในสายตาของตะวันตก แต่ระหว่างอียิปต์กับฝรั่งเศส ยังนับว่า มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา (ค.ศ.2015) อย่างเงียบๆ ระหว่างที่โลกกำลังตื่นเต้นเรื่องคุณพี่ปูตินนำทัพเข้าไปในซีเรีย อียิปต์ก็ลงนามกับฝรั่งเศส ตกลงซื้อเรือรบ Mistral เจ้าปัญหาทั้ง 2 ลำ มาจากฝรั่งเศส และหลังจากนั้นเดือนกว่า การตกลงเรื่องจำนวนค่าชดเชย ระยะเวลาการจ่าย ระหว่างฝรั่งเศสกับรัสเซีย ก็สรุปกันได้ ลุงโอลอง เช็ดเหงื่อหัวล้าน โล่งอก ท่ามกลางความงุนงงในความรวดเร็วของการทำดีลรายการนี้ คุณพี่ปูตินแกแบ่งภาคเข้าฉากได้เก่งนะ จริงๆ ฝรั่งเศสปวดหัวกับเรื่องรบ 2 ลำนี้มาก Vladivostok กับ Sevastopol ได้ถูกออกแบบให้มีระบบการติดต่อ ระบบการยิงจรวด และฐานขึ้นลงของเครื่องเฮลิคอปเตอร์ ตามสเปคและระบบ ที่จะให้เข้ากับระบบอื่นๆของรัสเซียได้ ใครที่จะซื้อเรือรบ 2 ลำนี้ ก็ต้องมีระบบที่เข้า หรือรองรับได้ นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ก็ขนมาดูแลการต่อเรืออย่างใกล้ชิด ทั้งในการก่อสร้าง และการติดตั้งระบบ ทำความรู้จักระบบนี้อย่างดี เพื่อสร้างความชำนาญในการใช้ และบำรุงรักษาต่อไป และน่าจะถึงขนาดสร้างเองได้ ไม่ต้องจ้างใครอีก… แล้วแบบนี้ รัสเซียจะอยากให้ใครได้เรือรบ 2 ลำ นี้ไป ใครได้ไป ก็เท่ากับรู้ระบบของรัสเซียหมด ขณะเดียวกัน คนซื้อก็คงเสียวไส้ เพราะกลัวรัสเซียที่รู้ระบบ จะสามารถเจาะเข้ามาสกัดการใช้งานของระบบเรือได้หมด จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า จะขายเรือรบเจ้าปัญหานี้ได้ ฝรั่งเศสอาจต้องรื้อระบบทั้งหลายนี้ออก และนั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายอีกมหึมา และราคาเรือก็ตก ค่าปรับก็ต้องจ่ายเต็ม วุ้ย คิดทางไหน ก็มีแต่ปวดหัวล้านทั้งนั้น รัสเซียไม่อยากให้ใครได้เรือรบ 2 ลำนี้ไป ไม่แปลกนะ เพราะรัสเซียลงทุนให้สร้างเอง เพื่อเข้ากับระบบของรัสเซีย แต่ดันมีคนที่ไม่อยากให้รัสเซีย ได้เรือรบ ที่มีระบบชั้นเยี่ยมนี่ไปด้วยเหมือนกัน คงเอากันออกนะครับว่า เป็นใคร ไอ้ที่ส่งมอบเรือรบไม่ได้ มาจากไหนล่ะ การแซงชั่นเริ่มจากใครล่ะ ใครเริ่มเรื่องที่ยูเครน (ของจริง) มันโยงกันหมด กลับไปหานิทานเรื่องก่อนๆมาอ่านหน่อยนะครับ เล่าซ้ำไม่ไหว แต่อียิปต์ บอกเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหาสำหรับเรา เพราะเราใช้ระบบความมั่นคงหลายอย่าง ที่คล้ายกับของรัสเซียอยู่แล้ว เอาละ สมมุติว่าเป็นเรื่องจริง แล้วอียิปต์จะเอาเงินมาจากไหนมาซื้อ รวยนักหรือ ตอนแรกมีข่าวลือว่า อียิปต์อาจจะกู้เงินจากซาอุดิอารเบีย โดยซาอุจะใช้เองลำนึง อีกลำให้อียิปต์ใช้ เอาไว้ช่วยป้องกันคลองสุเอซ ที่ก็มีความหมายกับซาอุไม่น้อยเหมือนกัน ก็เป็นเส้นทางส่งน้ำมันของเสี่ยปั๊มใหญ่ออกทะเลแดง ขึ้นเหนือผ่านสุเอซไปให้ยุโรป แต่ข่าวลือนี้ ตัดทิ้งไปได้เลย น่าจะเป็นข่าวปล่อยดูทีท่า ถ้าซาอุให้อียิปต์กู้เพื่อไปซื้อเรือรบนี้ และหรือซาอุจะใช้เรือรบนี้เอง ผมว่าน่าจะมีใครกลับไปเลี้ยงอูฐอย่างเดิมดีกว่า เขาว่าคนกลาง ที่จัดการให้การเจรจาซื้อขายรายนี้เกิดขึ้น คือ บริษัท Sistemy Upravleniya ซึ่งผู้ถือหุ้น คือ รัฐบาลรัสเซีย ! นอกจากนี้ มีข่าวว่า เนื่องจากรัสเซีย ได้สร้างเฮลิคอปเตอร์รุ่นพิเศษ Ka-52k ที่จะใช้กับเรือ 2 ลำนี้ไว้แล้ว ดูเหมือนอียิปต์ก็เลยเตรียมสั่งซื้อ คอปเตอร์รุ่นพิเศษนี้ด้วย พอนึกออกไหมครับว่า ในที่สุดแล้ว ใครจะเป็นเจ้าของเรือรบ 2 ลำนี้กันแน่…. รายการนี้ มันเป็นรายการพิเศษจริงๆ น่าจะเป็นอย่างที่เขาเรียกว่า ได้ด้วยกันหมด ฝรั่งเศสก็ขายเรือได้ ตูดไม่ขาด ไม่เสียหน้า ไม่เสียเงิน แต่เป็นหนี้บุญคุณบางคน ส่วนอียิปต์ก็ได้เพื่อน ได้อาวุธ และรัสเซีย ก็(น่า) จะได้ใช้เรือที่ตัวเองสั่งต่อ โดยมีระบบพิเศษ เข้ากับระบบอื่นๆของตัวเอง รวมทั้งได้เพื่อน และได้บุญคุณ ที่สำคัญ รัสเซีย ได้สร้างเครือข่ายสำคัญเพิ่มขึ้น ในบริเวณที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ จุดรัดคอ 3 จุด choke points ในบริเวณตะวันออกกลาง จุดสำคัญแรก ที่อ่าวโอมาน น่าจะอยู่มือแล้ว ภายใต้การดูแลของอิหร่าน โดยมีโอมานที่อยู่อีกฟาก ทิ้งชาวอ่าวโหนสิบล้อเกาะท้ายอิหร่านไปเรียบร้อย จุดบน ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รัสเซียคุมด้านบน จากฐานทัพของตัวที่ริมฝั่งของซีเรียแล้ว ตอนนี้ ถ้าจับมือกับอียิปต์ จะคุมคลองสุเอซได้อีกด้วย เรื่องนี้มีความสำคัญมาก เหลือจุดสุดท้ายคือ ที่เยเมน ที่ตอนนี้เสี่ยปั๊มใหญ่และพรรคพวก กำลังระดมพรรคพวกไปชิง เพราะถ้าเสียเยเมน กลุ่มอ่าวอาจหัวทิ่มทรายตายทั้งเป็นและตายทั้งก๊วน ขึ้นบนก็ลำบาก ลงล่างก็เหนื่อย แล้วจะส่งออกน้ำมันทางไหนคร้าบ แบบนี้ รายการสกัดลมหวน จึงรุนแรงเหลือเกิน แต่เรื่องของอียิปต์ รัสเซียจะมีเพียงเท่านี้หรือ…. สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • QuantWare เปิดตัว VIO‑40K: โปรเซสเซอร์ควอนตัม 10,000 คิวบิตที่พลิกเกมอุตสาหกรรม

    QuantWare สตาร์ทอัพจากเนเธอร์แลนด์สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการควอนตัมคอมพิวติ้งด้วยการเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ VIO‑40K ซึ่งสามารถบรรจุคิวบิตได้ถึง 10,000 คิวบิตบนชิปเดียว มากกว่าชิปของ Google และ IBM ในปัจจุบันกว่า 100 เท่า ความก้าวหน้านี้เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแนวคิดการออกแบบจากระบบสายสัญญาณแบบ 2D ไปสู่ โครงสร้าง 3D พร้อมการเดินสายแบบแนวตั้ง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาคอขวดด้านการเชื่อมต่อที่เป็นอุปสรรคใหญ่ของวงการมานานหลายปี

    หัวใจของสถาปัตยกรรมนี้คือการใช้ chiplets—โมดูลชิปขนาดเล็กที่นำมาต่อกันเป็นระบบใหญ่—ทำให้ QuantWare สามารถสร้าง QPU ที่รองรับ 40,000 I/O lines ได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดชิปอย่างไร้ขีดจำกัด แนวทางนี้คล้ายกับการแก้ปัญหาความแออัดของเมือง: แทนที่จะขยายออกด้านข้าง ก็สร้างตึกสูงขึ้นแทน เป็นการพลิกวิธีคิดที่ช่วยให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถสเกลได้จริงในระดับอุตสาหกรรม

    สิ่งที่ทำให้ QuantWare น่าสนใจยิ่งขึ้นคือกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่างจากยักษ์ใหญ่ในวงการ Google และ IBM ที่สร้างทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เองทั้งหมด QuantWare เลือกเดินเส้นทางแบบ “Intel ของวงการควอนตัม” โดยเน้นขายชิปให้ผู้ผลิตรายอื่น และผลักดันแนวคิด Quantum Open Architecture เพื่อให้ฮาร์ดแวร์ของตนเชื่อมต่อกับ ecosystem ที่มีอยู่แล้ว เช่น Nvidia NVQLink และ CUDA‑Q ซึ่งอาจเปิดประตูสู่ระบบไฮบริดที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์คลาสสิกสามารถส่งงานบางส่วนให้ QPU ทำได้อย่างไร้รอยต่อ

    แม้จะเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ แต่คำถามสำคัญยังคงอยู่: “ชิปที่ใหญ่ขึ้นคือชิปที่ดีกว่าหรือไม่?” ในขณะที่ Google และ IBM มุ่งเน้นการแก้ปัญหา error correction และ fault tolerance QuantWare เลือกใช้แนวทาง brute‑force scaling ซึ่งอาจได้ผลในระยะสั้น แต่ต้องพิสูจน์ความเสถียรในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การประกาศว่าจะเริ่มขายชิปให้ลูกค้าในปี 2028 ทำให้วงการจับตามองว่า QuantWare จะสามารถรักษาความได้เปรียบนี้ไว้ได้หรือไม่ เมื่อเทียบกับ Big Tech ที่มีทรัพยากรมหาศาล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฮไลต์จากสถาปัตยกรรม VIO‑40K
    รองรับ 10,000 คิวบิต มากกว่า Google/IBM ประมาณ 100 เท่า
    ใช้ 3D vertical wiring แทน 2D เพื่อลดคอขวดด้านการเชื่อมต่อ
    ใช้ chiplets เพื่อสร้างระบบขนาดใหญ่แบบโมดูลาร์
    รองรับ 40,000 I/O lines ซึ่งเป็นระดับอุตสาหกรรม

    กลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่าง
    ตั้งเป้าเป็น “Intel ของควอนตัม” โดยขายชิปแทนสร้างระบบเอง
    ผลักดัน Quantum Open Architecture เพื่อให้ ecosystem เปิดกว้าง
    ทำงานร่วมกับ Nvidia NVQLink และ CUDA‑Q ได้โดยตรง

    บริบทจากวงการควอนตัมคอมพิวติ้ง
    Google และ IBM เน้น error correction มากกว่า brute‑force scaling
    การสเกลคิวบิตเป็นปัญหาใหญ่ของวงการมานาน
    การใช้ chiplets อาจเป็นแนวทางใหม่ของการสร้าง QPU ขนาดใหญ่

    ประเด็นที่ต้องจับตา
    จำนวนคิวบิตมากขึ้นไม่ได้แปลว่าประสิทธิภาพดีขึ้นเสมอไป
    ความเสถียรและ error rate ยังต้องพิสูจน์ในงานจริง
    Big Tech อาจไล่ทันหรือแซงได้ด้วยทรัพยากรที่เหนือกว่า

    https://www.slashgear.com/2053448/quantware-quantum-computer-processor-10000-qubit/
    ⚛️ QuantWare เปิดตัว VIO‑40K: โปรเซสเซอร์ควอนตัม 10,000 คิวบิตที่พลิกเกมอุตสาหกรรม QuantWare สตาร์ทอัพจากเนเธอร์แลนด์สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการควอนตัมคอมพิวติ้งด้วยการเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ VIO‑40K ซึ่งสามารถบรรจุคิวบิตได้ถึง 10,000 คิวบิตบนชิปเดียว มากกว่าชิปของ Google และ IBM ในปัจจุบันกว่า 100 เท่า ความก้าวหน้านี้เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแนวคิดการออกแบบจากระบบสายสัญญาณแบบ 2D ไปสู่ โครงสร้าง 3D พร้อมการเดินสายแบบแนวตั้ง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาคอขวดด้านการเชื่อมต่อที่เป็นอุปสรรคใหญ่ของวงการมานานหลายปี หัวใจของสถาปัตยกรรมนี้คือการใช้ chiplets—โมดูลชิปขนาดเล็กที่นำมาต่อกันเป็นระบบใหญ่—ทำให้ QuantWare สามารถสร้าง QPU ที่รองรับ 40,000 I/O lines ได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดชิปอย่างไร้ขีดจำกัด แนวทางนี้คล้ายกับการแก้ปัญหาความแออัดของเมือง: แทนที่จะขยายออกด้านข้าง ก็สร้างตึกสูงขึ้นแทน เป็นการพลิกวิธีคิดที่ช่วยให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถสเกลได้จริงในระดับอุตสาหกรรม สิ่งที่ทำให้ QuantWare น่าสนใจยิ่งขึ้นคือกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่างจากยักษ์ใหญ่ในวงการ Google และ IBM ที่สร้างทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เองทั้งหมด QuantWare เลือกเดินเส้นทางแบบ “Intel ของวงการควอนตัม” โดยเน้นขายชิปให้ผู้ผลิตรายอื่น และผลักดันแนวคิด Quantum Open Architecture เพื่อให้ฮาร์ดแวร์ของตนเชื่อมต่อกับ ecosystem ที่มีอยู่แล้ว เช่น Nvidia NVQLink และ CUDA‑Q ซึ่งอาจเปิดประตูสู่ระบบไฮบริดที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์คลาสสิกสามารถส่งงานบางส่วนให้ QPU ทำได้อย่างไร้รอยต่อ แม้จะเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ แต่คำถามสำคัญยังคงอยู่: “ชิปที่ใหญ่ขึ้นคือชิปที่ดีกว่าหรือไม่?” ในขณะที่ Google และ IBM มุ่งเน้นการแก้ปัญหา error correction และ fault tolerance QuantWare เลือกใช้แนวทาง brute‑force scaling ซึ่งอาจได้ผลในระยะสั้น แต่ต้องพิสูจน์ความเสถียรในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การประกาศว่าจะเริ่มขายชิปให้ลูกค้าในปี 2028 ทำให้วงการจับตามองว่า QuantWare จะสามารถรักษาความได้เปรียบนี้ไว้ได้หรือไม่ เมื่อเทียบกับ Big Tech ที่มีทรัพยากรมหาศาล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฮไลต์จากสถาปัตยกรรม VIO‑40K ➡️ รองรับ 10,000 คิวบิต มากกว่า Google/IBM ประมาณ 100 เท่า ➡️ ใช้ 3D vertical wiring แทน 2D เพื่อลดคอขวดด้านการเชื่อมต่อ ➡️ ใช้ chiplets เพื่อสร้างระบบขนาดใหญ่แบบโมดูลาร์ ➡️ รองรับ 40,000 I/O lines ซึ่งเป็นระดับอุตสาหกรรม ✅ กลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่าง ➡️ ตั้งเป้าเป็น “Intel ของควอนตัม” โดยขายชิปแทนสร้างระบบเอง ➡️ ผลักดัน Quantum Open Architecture เพื่อให้ ecosystem เปิดกว้าง ➡️ ทำงานร่วมกับ Nvidia NVQLink และ CUDA‑Q ได้โดยตรง ✅ บริบทจากวงการควอนตัมคอมพิวติ้ง ➡️ Google และ IBM เน้น error correction มากกว่า brute‑force scaling ➡️ การสเกลคิวบิตเป็นปัญหาใหญ่ของวงการมานาน ➡️ การใช้ chiplets อาจเป็นแนวทางใหม่ของการสร้าง QPU ขนาดใหญ่ ‼️ ประเด็นที่ต้องจับตา ⛔ จำนวนคิวบิตมากขึ้นไม่ได้แปลว่าประสิทธิภาพดีขึ้นเสมอไป ⛔ ความเสถียรและ error rate ยังต้องพิสูจน์ในงานจริง ⛔ Big Tech อาจไล่ทันหรือแซงได้ด้วยทรัพยากรที่เหนือกว่า https://www.slashgear.com/2053448/quantware-quantum-computer-processor-10000-qubit/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Company Unveils New Quantum Processor 100x Denser Than Any Other - SlashGear
    There has been a break through in the quantum industry with a company unveiling a new processor that is 100x denser than any other.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 เทคโนโลยีสุดล้ำที่มนุษย์ส่งขึ้นสู่อวกาศ: จากยานสำรวจถึงวัตถุทางวัฒนธรรม

    การเดินทางของมนุษยชาติกับอวกาศเป็นเรื่องราวที่ยาวนานกว่าพันปี ตั้งแต่ยุคที่มนุษย์มองดวงดาวด้วยความสงสัย จนถึงวันที่เราส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ และสร้างสถานีอวกาศที่โคจรรอบโลกอย่าง ISS สิ่งที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีที่เราส่งขึ้นไปนอกโลกไม่ได้มีแค่ยานสำรวจหรือดาวเทียมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัตถุทางวัฒนธรรม สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ และแม้แต่ของเล่นที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ด้วย

    ในบรรดาเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุด ได้แก่ ยานอวกาศที่พาเราข้ามขีดจำกัดของแรงโน้มถ่วง ดาวเทียมที่กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของโลกยุคดิจิทัล กล้องโทรทรรศน์อวกาศอย่าง Hubble และ James Webb ที่เปิดหน้าต่างใหม่สู่จักรวาล รวมถึงภารกิจสำรวจดาวอังคารที่ต้องฝ่าความล้มเหลวมากมายก่อนจะประสบความสำเร็จในยุคของ Curiosity และ Perseverance

    นอกจากเทคโนโลยีหลักแล้ว ยังมีวัตถุที่สะท้อนวัฒนธรรมมนุษย์ เช่น Tesla Roadster ที่ SpaceX ส่งขึ้นไปพร้อม Starman, ฟิกเกอร์ LEGO ที่ร่วมเดินทางไปกับยาน Juno, ชิ้นส่วนเครื่องบินลำแรกของ Wright Brothers ที่ไปถึงดวงจันทร์ และ Golden Record ที่บรรจุเสียงและภาพของมนุษยชาติไว้เพื่อทักทายสิ่งมีชีวิตนอกโลกหากมีวันได้พบกัน

    สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าอวกาศไม่ใช่เพียงสนามทดลองทางวิทยาศาสตร์ แต่เป็นพื้นที่ที่มนุษย์ใช้บอกเล่าเรื่องราว ความฝัน ความกลัว และความหวังของเราในฐานะเผ่าพันธุ์หนึ่งในจักรวาล การส่งเทคโนโลยีและวัตถุเหล่านี้ขึ้นไปจึงเป็นทั้งการสำรวจภายนอก และการสะท้อนตัวตนภายในของมนุษย์เองด้วย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทคโนโลยีสำคัญที่ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ
    ยานอวกาศและจรวดที่พาเราข้ามขีดจำกัดของแรงโน้มถ่วง
    ดาวเทียมกว่า 13,700 ดวงที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของโลกยุคดิจิทัล
    กล้องโทรทรรศน์ Hubble และ James Webb ที่เปิดมุมมองใหม่ของจักรวาล
    Mars Rovers ที่ฝ่าความล้มเหลวหลายครั้งก่อนประสบความสำเร็จ

    วัตถุทางวัฒนธรรมที่ร่วมเดินทางไปกับมนุษย์
    Tesla Roadster พร้อม Starman และผลงานของ Asimov
    ฟิกเกอร์ LEGO บนภารกิจ Juno
    ชิ้นส่วนเครื่องบินของ Wright Brothers ที่ไปถึงดวงจันทร์
    Golden Record ที่บันทึกเสียง ภาพ และดนตรีของมนุษยชาติ

    ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของการส่งสิ่งเหล่านี้ขึ้นสู่อวกาศ
    แสดงให้เห็นความอยากรู้อยากเห็นและความกล้าของมนุษย์
    เป็นการบันทึกวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของมนุษย์ในระดับจักรวาล
    สะท้อนความร่วมมือระดับโลก เช่น ISS ที่สร้างโดยหลายประเทศ

    ประเด็นที่ต้องระวังหรือพิจารณา
    ปริมาณขยะอวกาศที่เพิ่มขึ้นจากวัตถุที่ถูกส่งขึ้นไป
    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของภารกิจที่ต้องเผชิญสภาพแวดล้อมรุนแรง
    ความท้าทายด้านต้นทุนและทรัพยากรในการสำรวจอวกาศ

    https://www.slashgear.com/2053418/coolest-tech-sent-to-space/
    🚀 14 เทคโนโลยีสุดล้ำที่มนุษย์ส่งขึ้นสู่อวกาศ: จากยานสำรวจถึงวัตถุทางวัฒนธรรม การเดินทางของมนุษยชาติกับอวกาศเป็นเรื่องราวที่ยาวนานกว่าพันปี ตั้งแต่ยุคที่มนุษย์มองดวงดาวด้วยความสงสัย จนถึงวันที่เราส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ และสร้างสถานีอวกาศที่โคจรรอบโลกอย่าง ISS สิ่งที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีที่เราส่งขึ้นไปนอกโลกไม่ได้มีแค่ยานสำรวจหรือดาวเทียมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัตถุทางวัฒนธรรม สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ และแม้แต่ของเล่นที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ด้วย ในบรรดาเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุด ได้แก่ ยานอวกาศที่พาเราข้ามขีดจำกัดของแรงโน้มถ่วง ดาวเทียมที่กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของโลกยุคดิจิทัล กล้องโทรทรรศน์อวกาศอย่าง Hubble และ James Webb ที่เปิดหน้าต่างใหม่สู่จักรวาล รวมถึงภารกิจสำรวจดาวอังคารที่ต้องฝ่าความล้มเหลวมากมายก่อนจะประสบความสำเร็จในยุคของ Curiosity และ Perseverance นอกจากเทคโนโลยีหลักแล้ว ยังมีวัตถุที่สะท้อนวัฒนธรรมมนุษย์ เช่น Tesla Roadster ที่ SpaceX ส่งขึ้นไปพร้อม Starman, ฟิกเกอร์ LEGO ที่ร่วมเดินทางไปกับยาน Juno, ชิ้นส่วนเครื่องบินลำแรกของ Wright Brothers ที่ไปถึงดวงจันทร์ และ Golden Record ที่บรรจุเสียงและภาพของมนุษยชาติไว้เพื่อทักทายสิ่งมีชีวิตนอกโลกหากมีวันได้พบกัน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าอวกาศไม่ใช่เพียงสนามทดลองทางวิทยาศาสตร์ แต่เป็นพื้นที่ที่มนุษย์ใช้บอกเล่าเรื่องราว ความฝัน ความกลัว และความหวังของเราในฐานะเผ่าพันธุ์หนึ่งในจักรวาล การส่งเทคโนโลยีและวัตถุเหล่านี้ขึ้นไปจึงเป็นทั้งการสำรวจภายนอก และการสะท้อนตัวตนภายในของมนุษย์เองด้วย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทคโนโลยีสำคัญที่ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ ➡️ ยานอวกาศและจรวดที่พาเราข้ามขีดจำกัดของแรงโน้มถ่วง ➡️ ดาวเทียมกว่า 13,700 ดวงที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของโลกยุคดิจิทัล ➡️ กล้องโทรทรรศน์ Hubble และ James Webb ที่เปิดมุมมองใหม่ของจักรวาล ➡️ Mars Rovers ที่ฝ่าความล้มเหลวหลายครั้งก่อนประสบความสำเร็จ ✅ วัตถุทางวัฒนธรรมที่ร่วมเดินทางไปกับมนุษย์ ➡️ Tesla Roadster พร้อม Starman และผลงานของ Asimov ➡️ ฟิกเกอร์ LEGO บนภารกิจ Juno ➡️ ชิ้นส่วนเครื่องบินของ Wright Brothers ที่ไปถึงดวงจันทร์ ➡️ Golden Record ที่บันทึกเสียง ภาพ และดนตรีของมนุษยชาติ ✅ ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของการส่งสิ่งเหล่านี้ขึ้นสู่อวกาศ ➡️ แสดงให้เห็นความอยากรู้อยากเห็นและความกล้าของมนุษย์ ➡️ เป็นการบันทึกวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของมนุษย์ในระดับจักรวาล ➡️ สะท้อนความร่วมมือระดับโลก เช่น ISS ที่สร้างโดยหลายประเทศ ‼️ ประเด็นที่ต้องระวังหรือพิจารณา ⛔ ปริมาณขยะอวกาศที่เพิ่มขึ้นจากวัตถุที่ถูกส่งขึ้นไป ⛔ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของภารกิจที่ต้องเผชิญสภาพแวดล้อมรุนแรง ⛔ ความท้าทายด้านต้นทุนและทรัพยากรในการสำรวจอวกาศ https://www.slashgear.com/2053418/coolest-tech-sent-to-space/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    14 Of The Coolest Pieces Of Tech We've Sent To Space - SlashGear
    Humanity has sent into space everything from lightsabers and Tesla Roadsters to golden records and entire digital genetic records of famous scientists.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI ใช้พลังงานและน้ำมากกว่า Bitcoin Mining

    รายงานจาก Alex de Vries-Gao นักวิจัยจาก VU Amsterdam Institute for Environmental Studies ระบุว่า ความต้องการพลังงานของ AI อาจสูงถึง 23 กิกะวัตต์ในปี 2025 ซึ่งมากกว่าการใช้พลังงานของ Bitcoin mining ทั้งปี 2024 นอกจากนี้ยังคาดว่า AI จะใช้น้ำระหว่าง 312.5 ถึง 764.6 พันล้านลิตร สำหรับการระบายความร้อนในศูนย์ข้อมูล เทียบเท่ากับปริมาณน้ำดื่มบรรจุขวดที่คนทั้งโลกบริโภคในหนึ่งปี

    แม้ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นการประมาณ แต่ก็สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของศูนย์ข้อมูล AI ที่ต้องใช้พลังงานและน้ำจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเมื่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ไม่เปิดเผยข้อมูลการใช้ทรัพยากรจริงในรายงานความยั่งยืน ทำให้การประเมินต้องอาศัยการคาดการณ์จากข้อมูลการลงทุนและการติดตั้งฮาร์ดแวร์

    ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมยังรวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงมาก โดยคาดว่า AI อาจสร้างคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 56 ล้านตันต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศสิงคโปร์ทั้งประเทศในปี 2022 นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากไม่ได้รวมผลกระทบจากห่วงโซ่อุปทาน เช่น การขุดแร่ การผลิตชิป และการกำจัดอุปกรณ์

    นักการเมืองในสหรัฐฯ เริ่มแสดงความกังวลต่อการใช้ทรัพยากรของ AI โดยมีการเรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและน้ำอย่างละเอียด รวมถึงข้อเสนอให้ชะลอการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การใช้พลังงานของ AI
    คาดว่าจะสูงถึง 23GW ในปี 2025 มากกว่า Bitcoin mining ปี 2024

    การใช้น้ำเพื่อระบายความร้อน
    อยู่ระหว่าง 312.5–764.6 พันล้านลิตร เทียบเท่าน้ำดื่มบรรจุขวดที่คนทั้งโลกบริโภค

    การปล่อยก๊าซเรือนกระจก
    เฉลี่ย 56 ล้านตันต่อปี ใกล้เคียงกับการปล่อยของประเทศสิงคโปร์ในปี 2022

    ความโปร่งใสของบริษัทเทคโนโลยี
    ยังไม่เปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและน้ำในรายงานความยั่งยืน

    คำเตือนด้านสิ่งแวดล้อม
    ตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากไม่ได้รวมผลกระทบจากห่วงโซ่อุปทาน
    การขยายศูนย์ข้อมูล AI อาจกระทบต่อทรัพยากรน้ำและพลังงานของประชาชนในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-surpasses-2024-bitcoin-mining-in-energy-usage-uses-more-h20-than-the-bottles-of-water-people-drink-globally-study-claims-says-ai-demand-could-hit-23gw-and-up-to-764-billion-liters-of-water-in-2025
    ⚡ AI ใช้พลังงานและน้ำมากกว่า Bitcoin Mining รายงานจาก Alex de Vries-Gao นักวิจัยจาก VU Amsterdam Institute for Environmental Studies ระบุว่า ความต้องการพลังงานของ AI อาจสูงถึง 23 กิกะวัตต์ในปี 2025 ซึ่งมากกว่าการใช้พลังงานของ Bitcoin mining ทั้งปี 2024 นอกจากนี้ยังคาดว่า AI จะใช้น้ำระหว่าง 312.5 ถึง 764.6 พันล้านลิตร สำหรับการระบายความร้อนในศูนย์ข้อมูล เทียบเท่ากับปริมาณน้ำดื่มบรรจุขวดที่คนทั้งโลกบริโภคในหนึ่งปี แม้ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นการประมาณ แต่ก็สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของศูนย์ข้อมูล AI ที่ต้องใช้พลังงานและน้ำจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเมื่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ไม่เปิดเผยข้อมูลการใช้ทรัพยากรจริงในรายงานความยั่งยืน ทำให้การประเมินต้องอาศัยการคาดการณ์จากข้อมูลการลงทุนและการติดตั้งฮาร์ดแวร์ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมยังรวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงมาก โดยคาดว่า AI อาจสร้างคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 56 ล้านตันต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศสิงคโปร์ทั้งประเทศในปี 2022 นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากไม่ได้รวมผลกระทบจากห่วงโซ่อุปทาน เช่น การขุดแร่ การผลิตชิป และการกำจัดอุปกรณ์ นักการเมืองในสหรัฐฯ เริ่มแสดงความกังวลต่อการใช้ทรัพยากรของ AI โดยมีการเรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและน้ำอย่างละเอียด รวมถึงข้อเสนอให้ชะลอการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การใช้พลังงานของ AI ➡️ คาดว่าจะสูงถึง 23GW ในปี 2025 มากกว่า Bitcoin mining ปี 2024 ✅ การใช้น้ำเพื่อระบายความร้อน ➡️ อยู่ระหว่าง 312.5–764.6 พันล้านลิตร เทียบเท่าน้ำดื่มบรรจุขวดที่คนทั้งโลกบริโภค ✅ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ➡️ เฉลี่ย 56 ล้านตันต่อปี ใกล้เคียงกับการปล่อยของประเทศสิงคโปร์ในปี 2022 ✅ ความโปร่งใสของบริษัทเทคโนโลยี ➡️ ยังไม่เปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและน้ำในรายงานความยั่งยืน ‼️ คำเตือนด้านสิ่งแวดล้อม ⛔ ตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากไม่ได้รวมผลกระทบจากห่วงโซ่อุปทาน ⛔ การขยายศูนย์ข้อมูล AI อาจกระทบต่อทรัพยากรน้ำและพลังงานของประชาชนในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-surpasses-2024-bitcoin-mining-in-energy-usage-uses-more-h20-than-the-bottles-of-water-people-drink-globally-study-claims-says-ai-demand-could-hit-23gw-and-up-to-764-billion-liters-of-water-in-2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • Armbian Imager – เครื่องมือแฟลช OS สำหรับ SBC กว่า 300 รุ่น

    ผู้ใช้ Raspberry Pi คุ้นเคยกับ Raspberry Pi Imager ที่ช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวก แต่สำหรับผู้ใช้บอร์ด SBC อื่น ๆ เช่น ArmSom AIM7 ตอนนี้มีทางเลือกใหม่คือ Armbian Imager ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีม Armbian เพื่อให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน โดยรองรับบอร์ดกว่า 300 รุ่นจาก 70+ ผู้ผลิต.

    Armbian Imager ทำงานแบบครบวงจร ตั้งแต่เลือกบอร์ด เลือกประเภท image (desktop, server, minimal) ไปจนถึงดาวน์โหลดและแฟลชลง SD card พร้อมตรวจสอบความถูกต้องด้วย SHA256 checksum เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับ custom images ในหลายรูปแบบ เช่น .img, .img.xz, .img.gz, .img.bz2, และ .img.zst.

    สิ่งที่โดดเด่นคือ Armbian Imager ถูกสร้างด้วย Tauri และ Rust แทนที่จะใช้ Electron ทำให้ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเพียง ~15 MB ซึ่งเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับแอป Electron ที่มักมีขนาด 150–200 MB เนื่องจากต้องบรรจุ Chromium มาด้วย ฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์มก็ถูกใส่มา เช่น UDisks2 + pkexec บน Linux, UAC prompt บน Windows และ Touch ID บน macOS.

    แม้ยังอยู่ในช่วง Public Preview และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก GitHub แล้วทดลองใช้งานได้ทันที จุดนี้สะท้อนว่า Armbian กำลังทดสอบตลาดก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ และเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ SBC ที่ไม่ใช่ Raspberry Pi มีเครื่องมือแฟลช OS ที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น.

    สรุปสาระสำคัญ
    Armbian Imager เปิดตัวสำหรับ SBC
    รองรับกว่า 300 บอร์ดจาก 70+ ผู้ผลิต
    เลือก image ได้ทั้ง desktop, server, minimal

    ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความสะดวก
    ตรวจสอบไฟล์ด้วย SHA256 checksum
    รองรับ custom image หลายรูปแบบ

    เทคโนโลยีเบาและทันสมัย
    ใช้ Tauri + Rust ทำให้ไฟล์ติดตั้งเพียง ~15 MB
    มีฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์ม เช่น UAC, Touch ID

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ยังอยู่ในช่วง Public Preview อาจมีบั๊กหรือปัญหาการใช้งาน
    ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและติดตามอัปเดตจากทีม Armbian

    https://itsfoss.com/news/armbian-imager-quietly-debuts/
    🛠️ Armbian Imager – เครื่องมือแฟลช OS สำหรับ SBC กว่า 300 รุ่น ผู้ใช้ Raspberry Pi คุ้นเคยกับ Raspberry Pi Imager ที่ช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวก แต่สำหรับผู้ใช้บอร์ด SBC อื่น ๆ เช่น ArmSom AIM7 ตอนนี้มีทางเลือกใหม่คือ Armbian Imager ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีม Armbian เพื่อให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน โดยรองรับบอร์ดกว่า 300 รุ่นจาก 70+ ผู้ผลิต. Armbian Imager ทำงานแบบครบวงจร ตั้งแต่เลือกบอร์ด เลือกประเภท image (desktop, server, minimal) ไปจนถึงดาวน์โหลดและแฟลชลง SD card พร้อมตรวจสอบความถูกต้องด้วย SHA256 checksum เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับ custom images ในหลายรูปแบบ เช่น .img, .img.xz, .img.gz, .img.bz2, และ .img.zst. สิ่งที่โดดเด่นคือ Armbian Imager ถูกสร้างด้วย Tauri และ Rust แทนที่จะใช้ Electron ทำให้ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเพียง ~15 MB ซึ่งเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับแอป Electron ที่มักมีขนาด 150–200 MB เนื่องจากต้องบรรจุ Chromium มาด้วย ฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์มก็ถูกใส่มา เช่น UDisks2 + pkexec บน Linux, UAC prompt บน Windows และ Touch ID บน macOS. แม้ยังอยู่ในช่วง Public Preview และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก GitHub แล้วทดลองใช้งานได้ทันที จุดนี้สะท้อนว่า Armbian กำลังทดสอบตลาดก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ และเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ SBC ที่ไม่ใช่ Raspberry Pi มีเครื่องมือแฟลช OS ที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Armbian Imager เปิดตัวสำหรับ SBC ➡️ รองรับกว่า 300 บอร์ดจาก 70+ ผู้ผลิต ➡️ เลือก image ได้ทั้ง desktop, server, minimal ✅ ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความสะดวก ➡️ ตรวจสอบไฟล์ด้วย SHA256 checksum ➡️ รองรับ custom image หลายรูปแบบ ✅ เทคโนโลยีเบาและทันสมัย ➡️ ใช้ Tauri + Rust ทำให้ไฟล์ติดตั้งเพียง ~15 MB ➡️ มีฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์ม เช่น UAC, Touch ID ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ยังอยู่ในช่วง Public Preview อาจมีบั๊กหรือปัญหาการใช้งาน ⛔ ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและติดตามอัปเดตจากทีม Armbian https://itsfoss.com/news/armbian-imager-quietly-debuts/
    ITSFOSS.COM
    The Upcoming Armbian Imager Tool is a Godsend for Non-Raspberry Pi SBC Owners
    Official Armbian utility supports over 300 boards with smart image filtering and verified writes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา
    เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2555 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสก 3 วาระ.. พระเกจิสายใต้นั่งปรกร่วมพิธีคับคั่ง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านนิรันตรา แคล้วคลาดจากอันตรายทุกชนิด เมตตามหานิยม เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง คงกระพันชาตรี ป้องกันภัย สารพัดศัตรู และให้ความเป็นสิริมงคล มหาลาภ ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น **

    ** เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2555 ปลุกเสกพิธีใหญ่

    วาระที่ 1 วันอังคารที่ 25 กย. 2555 พุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดเมีองยะลา เกจิสายใต้นั่งปรกร่วมพิธีคับคั่งอาทิ พ่อท่านฉิ้น พ่อท่านเขียว พ่อท่านพรหม พ่อท่านแสง พ่อท่านพล พ่อท่านหวาน พ่อท่านจ่างเป็นต้นรวม 24 รูป

    วาระที่ 2 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราขกุมารีเสด็จพระราชดำเนินทรงยกฉัตรพระมหาธาตุเจดีย์และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดเมืองยะลา พระอารามหลวง จ. ยะลา วันที่ 26 ก.ย. พ.ศ. 2555 เวลา 14.45 น. ประธานฝ่ายฆราวาส สมเด็จวัดพิชัยญาติ ประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีเจริญชัยคาถาพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่สหธรรมิกหลวงพ่อวัดเมืองยะลาจากทั่วประเทศ เจริญพระพุทธมนต์

    วาระที่ 3 พ่อท่านฉิ้นปลุกเสกเดี่ยวก่อนและหลังพิธีอีกทุกวันประมาณ 15 รอบ 15 วัน ในพิธีนี้เกิดปรากฎการณ์ศักดิ์สิทธิ์น่าอัศจรรย์เกิดฝนตกหนักมากแต่พอก่อนจะเริ่มพิธีฝนก็หยุดทันทีนอกจากนั้นในระหว่างพิธีเกิดลมพัดหวนเฉพาะบริเวณประรำพิธีของพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่และเหล่าเกจิจากทั่วประเทศเท่านั้นจนข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์ประดับฃุ้มกระเจิงหลายหมื่นบาทแต่ประรำพิธีของสมเด็จพระเทพฯฃื่งอยู่ติดกันกลับมิได้เป็นอะไรเลยมิได้แตะต้องประรำของท่านแต่อย่างใด **

    ** พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2555 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสก 3 วาระ.. พระเกจิสายใต้นั่งปรกร่วมพิธีคับคั่ง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านนิรันตรา แคล้วคลาดจากอันตรายทุกชนิด เมตตามหานิยม เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง คงกระพันชาตรี ป้องกันภัย สารพัดศัตรู และให้ความเป็นสิริมงคล มหาลาภ ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ** ** เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าเลื่อน พุทธชยันตี 2600 ปี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2555 ปลุกเสกพิธีใหญ่ วาระที่ 1 วันอังคารที่ 25 กย. 2555 พุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดเมีองยะลา เกจิสายใต้นั่งปรกร่วมพิธีคับคั่งอาทิ พ่อท่านฉิ้น พ่อท่านเขียว พ่อท่านพรหม พ่อท่านแสง พ่อท่านพล พ่อท่านหวาน พ่อท่านจ่างเป็นต้นรวม 24 รูป วาระที่ 2 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราขกุมารีเสด็จพระราชดำเนินทรงยกฉัตรพระมหาธาตุเจดีย์และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดเมืองยะลา พระอารามหลวง จ. ยะลา วันที่ 26 ก.ย. พ.ศ. 2555 เวลา 14.45 น. ประธานฝ่ายฆราวาส สมเด็จวัดพิชัยญาติ ประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีเจริญชัยคาถาพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่สหธรรมิกหลวงพ่อวัดเมืองยะลาจากทั่วประเทศ เจริญพระพุทธมนต์ วาระที่ 3 พ่อท่านฉิ้นปลุกเสกเดี่ยวก่อนและหลังพิธีอีกทุกวันประมาณ 15 รอบ 15 วัน ในพิธีนี้เกิดปรากฎการณ์ศักดิ์สิทธิ์น่าอัศจรรย์เกิดฝนตกหนักมากแต่พอก่อนจะเริ่มพิธีฝนก็หยุดทันทีนอกจากนั้นในระหว่างพิธีเกิดลมพัดหวนเฉพาะบริเวณประรำพิธีของพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่และเหล่าเกจิจากทั่วประเทศเท่านั้นจนข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์ประดับฃุ้มกระเจิงหลายหมื่นบาทแต่ประรำพิธีของสมเด็จพระเทพฯฃื่งอยู่ติดกันกลับมิได้เป็นอะไรเลยมิได้แตะต้องประรำของท่านแต่อย่างใด ** ** พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Arctic เปิดตัว MX-7 – Thermal Paste รุ่นใหม่ เย็นกว่าเดิม 3%”

    Arctic เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาด Thermal Paste โดยรุ่น MX-6 เคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในซิลิโคนระบายความร้อนที่ดีที่สุดในตลาด ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว MX-7 ที่มาพร้อมสูตรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความร้อนและความทนทานในการใช้งาน

    จากการทดสอบภายในของ Arctic โดยใช้ CPU Intel Core Ultra 9 285K ที่ทำงานที่ 4.5GHz และกินไฟกว่า 284W ในอุณหภูมิห้อง 25°C พบว่า MX-7 สามารถทำงานได้เย็นกว่า MX-6 ประมาณ 3% และเย็นกว่า MX-4 ถึง 6% ซึ่งถือเป็นการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญในตลาดที่แข่งขันสูง

    MX-7 มีคุณสมบัติเด่นคือ ความหนืดต่ำกว่า MX-6 ถึง 22% ทำให้กระจายตัวได้ง่ายขึ้น และมีความหนาแน่นมากกว่าเดิม 12% เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการใช้งานระยะยาว Arctic ยังแนะนำให้ผู้ใช้ทาซิลิโคนในรูปแบบ “cross pattern” แล้วปล่อยให้แรงกดจากฮีตซิงค์ช่วยกระจายเนื้อซิลิโคนเอง ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

    นอกจากนี้ MX-7 ยังถูกออกแบบให้ ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าและไม่เป็นตัวเก็บประจุ ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งานแม้ในระบบ Direct-Die Cooling ที่ซิลิโคนสัมผัสโดยตรงกับชิป โดยมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 6–10 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับขนาดบรรจุ และยังมีแพ็กเกจที่รวม MX-Cleaner wipes สำหรับทำความสะอาดซิลิโคนเก่าอีกด้วย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Arctic เปิดตัว MX-7 Thermal Paste รุ่นใหม่
    เย็นกว่า MX-6 ประมาณ 3% และเย็นกว่า MX-4 ถึง 6%

    คุณสมบัติเด่นของ MX-7
    ความหนืดต่ำลง 22% และความหนาแน่นสูงขึ้น 12%
    ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าและไม่เป็นตัวเก็บประจุ

    วิธีการใช้งานที่แนะนำ
    ทาแบบ cross pattern แล้วปล่อยให้แรงกดจากฮีตซิงค์ช่วยกระจาย

    ราคาจำหน่าย
    อยู่ระหว่าง 6–10 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับขนาดบรรจุ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากทาซิลิโคนผิดวิธี อาจทำให้การกระจายความร้อนไม่มีประสิทธิภาพ
    ควรซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้เพื่อหลีกเลี่ยงสินค้าลอกเลียนแบบ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-paste/arctic-launches-its-best-thermal-paste-yet-for-chips-of-all-types-claims-new-mx-7-formulation-runs-3-percent-cooler-than-its-predecessor
    📰 “Arctic เปิดตัว MX-7 – Thermal Paste รุ่นใหม่ เย็นกว่าเดิม 3%” Arctic เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาด Thermal Paste โดยรุ่น MX-6 เคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในซิลิโคนระบายความร้อนที่ดีที่สุดในตลาด ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว MX-7 ที่มาพร้อมสูตรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความร้อนและความทนทานในการใช้งาน จากการทดสอบภายในของ Arctic โดยใช้ CPU Intel Core Ultra 9 285K ที่ทำงานที่ 4.5GHz และกินไฟกว่า 284W ในอุณหภูมิห้อง 25°C พบว่า MX-7 สามารถทำงานได้เย็นกว่า MX-6 ประมาณ 3% และเย็นกว่า MX-4 ถึง 6% ซึ่งถือเป็นการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญในตลาดที่แข่งขันสูง MX-7 มีคุณสมบัติเด่นคือ ความหนืดต่ำกว่า MX-6 ถึง 22% ทำให้กระจายตัวได้ง่ายขึ้น และมีความหนาแน่นมากกว่าเดิม 12% เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการใช้งานระยะยาว Arctic ยังแนะนำให้ผู้ใช้ทาซิลิโคนในรูปแบบ “cross pattern” แล้วปล่อยให้แรงกดจากฮีตซิงค์ช่วยกระจายเนื้อซิลิโคนเอง ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นอกจากนี้ MX-7 ยังถูกออกแบบให้ ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าและไม่เป็นตัวเก็บประจุ ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งานแม้ในระบบ Direct-Die Cooling ที่ซิลิโคนสัมผัสโดยตรงกับชิป โดยมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 6–10 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับขนาดบรรจุ และยังมีแพ็กเกจที่รวม MX-Cleaner wipes สำหรับทำความสะอาดซิลิโคนเก่าอีกด้วย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Arctic เปิดตัว MX-7 Thermal Paste รุ่นใหม่ ➡️ เย็นกว่า MX-6 ประมาณ 3% และเย็นกว่า MX-4 ถึง 6% ✅ คุณสมบัติเด่นของ MX-7 ➡️ ความหนืดต่ำลง 22% และความหนาแน่นสูงขึ้น 12% ➡️ ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าและไม่เป็นตัวเก็บประจุ ✅ วิธีการใช้งานที่แนะนำ ➡️ ทาแบบ cross pattern แล้วปล่อยให้แรงกดจากฮีตซิงค์ช่วยกระจาย ✅ ราคาจำหน่าย ➡️ อยู่ระหว่าง 6–10 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับขนาดบรรจุ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากทาซิลิโคนผิดวิธี อาจทำให้การกระจายความร้อนไม่มีประสิทธิภาพ ⛔ ควรซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้เพื่อหลีกเลี่ยงสินค้าลอกเลียนแบบ https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-paste/arctic-launches-its-best-thermal-paste-yet-for-chips-of-all-types-claims-new-mx-7-formulation-runs-3-percent-cooler-than-its-predecessor
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷
    #รวมข่าวIT #20251216 #TechRadar

    LG เปิดตัวทีวี Micro RGB evo ที่ CES 2026
    LG กำลังสร้างความฮือฮาในงาน CES 2026 ด้วยการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Micro RGB evo ซึ่งเปลี่ยนหลอดไฟ LED แบบเดิมไปเป็นหลอดไฟสีแดง เขียว และน้ำเงินขนาดจิ๋ว เพื่อควบคุมแสงและสีได้ละเอียดขึ้น ผลลัพธ์คือภาพที่สว่างสดใสและสีสันจัดเต็มใกล้เคียง OLED แต่ยังคงความสว่างสูงของ LCD จุดเด่นคือการครอบคลุมสีครบทั้ง BT.2020, DCI-P3 และ Adobe RGB พร้อมระบบประมวลผล α11 AI Gen 3 ที่ช่วยอัปสเกลภาพให้คมชัดขึ้น ถือเป็นการพยายามปิดช่องว่างระหว่าง LCD และ OLED ที่น่าสนใจมากสำหรับคนรักภาพคมชัดและสีสดใส
    https://www.techradar.com/televisions/lg-reveals-micro-rgb-evo-tv-with-bold-claims-of-perfect-color

    Netflix เลิกใช้ Google Cast แต่ Apple TV บน Android นำกลับมาอีกครั้ง
    Netflix เคยยกเลิกฟีเจอร์ Google Cast ที่ให้ผู้ใช้ส่งภาพจากมือถือขึ้นจอทีวี แต่ล่าสุด Apple TV บน Android กลับนำฟีเจอร์นี้กลับมา ทำให้ผู้ใช้สามารถสตรีมคอนเทนต์จากมือถือไปยังทีวีได้อีกครั้ง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งที่ยังคงดุเดือด และการที่ Apple พยายามทำให้บริการของตนเข้าถึงผู้ใช้ Android ได้สะดวกขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/apple-tv-plus/netflix-dropped-google-cast-now-apple-tv-for-android-just-brought-it-back

    NAS พกพาใส่ SSD 4 ตัว พร้อมพลัง Intel N150
    มีการเปิดตัวอุปกรณ์ NAS ขนาดเล็กที่ดูเหมือนวิทยุทรานซิสเตอร์เก่า แต่ภายในบรรจุ SSD ได้ถึง 4 ตัว ใช้พลังจาก Intel N150 และมีพอร์ต LAN 2.5Gb สองช่อง รวมถึง RAM 12GB จุดขายคือความสามารถในการพกพาและเก็บข้อมูลได้มาก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกินความคาดหมาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลที่คล่องตัวและมีสไตล์ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/is-that-your-grandads-transistor-radio-no-its-a-4-ssd-nas-with-two-2-5gb-lan-ports-12gb-ram-and-a-cracking-name-the-orange-colored-youyeetoo-nestdisk

    นักพัฒนาสร้างกล่องสำรองข้อมูล iPhone แบบออฟไลน์
    นักพัฒนารายหนึ่งได้สร้างอุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ที่ไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ แต่ใช้การเชื่อมต่อผ่าน USB และเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเก็บไว้ในเครื่องโดยตรง ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายค่าบริการ iCloud หรือกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ แม้จะยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงความต้องการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/want-to-back-up-your-iphone-securely-without-paying-the-apple-tax-theres-a-hack-for-that-but-it-isnt-for-everyone-yet

    วิกฤติ RAM อาจกระทบหนักต่อโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง
    ตลาดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติ RAM ที่อาจทำให้เครื่องเล่นเกมประสิทธิภาพสูงมีราคาสูงขึ้นและหายากขึ้น เหตุผลมาจากความต้องการหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทั้งจาก AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กเกมมิ่งต้องปรับตัวและอาจทำให้ผู้เล่นเกมต้องจ่ายแพงกว่าเดิมเพื่อได้เครื่องที่แรงพอ
    https://www.techradar.com/computing/memory/the-ram-crisis-will-be-a-disaster-for-gaming-laptops-heres-why

    Slop: คำแห่งปีที่สะท้อนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยขยะดิจิทัล
    ปีนี้ Merriam-Webster เลือกคำว่า “Slop” เป็น Word of the Year 2025 เพื่ออธิบายเนื้อหาดิจิทัลคุณภาพต่ำที่ถูกผลิตขึ้นอย่างมหาศาลด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นบทความ ภาพ วิดีโอ หรือพอดแคสต์ หลายอย่างดูเหมือนจะสร้างได้ง่ายแต่กลับทำให้โลกออนไลน์เต็มไปด้วยสิ่งที่คนเรียกว่า “AI slop” จนยากจะแยกออกว่าอะไรคือผลงานมนุษย์จริงๆ และอะไรคือสิ่งที่เครื่องจักรสร้างขึ้นมา เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของเครื่องมือ AI ถูกส่งถึงมือผู้ใช้เร็วเกินไปโดยที่ยังไม่ทันคิดถึงผลกระทบ ทำให้เราต้องเผชิญกับทะเลข้อมูลที่ปะปนทั้งคุณภาพและขยะไปพร้อมกัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/we-filled-the-internet-with-garbage-and-now-slop-is-the-word-of-the-year-nice-going-ai

    Super X: แท็บเล็ตลูกผสมที่แรงระดับเดสก์ท็อป
    OneXPlayer เปิดตัว Super X อุปกรณ์ลูกผสมที่รวมแท็บเล็ตกับพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อป หน้าจอใหญ่ถึง 14 นิ้ว มาพร้อมซีพียู 16 คอร์ GPU ระดับ 5060-class และ RAM สูงสุด 128GB จุดเด่นคือการออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้เครื่องเล็กแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เหมาะกับคนที่อยากได้ความแรงแบบ PC แต่ยังพกพาได้สะดวก แม้ราคาคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 2000 ดอลลาร์ แต่ถือเป็นการยกระดับแท็บเล็ตให้ก้าวไปอีกขั้น
    https://www.techradar.com/pro/a-water-cooled-amd-ai-14-inch-tablet-with-16-cpu-cores-a-5060-class-gpu-and-128gb-ram-is-exactly-what-i-need-for-christmas-i-dont-think-it-will-cost-less-than-usd2000-though

    SSD จิ๋วแต่แรง: Samsung เปิดตัว PCIe Gen5 รุ่นใหม่
    Samsung เผยโฉม SSD รุ่น PM9E1 ที่มาในขนาดเล็กเพียง 22 x 42 มม. แต่รองรับมาตรฐาน PCIe Gen5 ทำให้ได้ความเร็วสูงและความจุที่จริงจัง แม้จะมาแบบเงียบๆ แต่ถือเป็นการขยายตลาดสู่กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กแต่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพ เหมาะกับโน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์พกพาที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุดในพื้นที่จำกัด
    https://www.techradar.com/pro/samsungs-surprising-stealth-superfast-ssd-surfaces-silently-pm9e1-turns-out-to-be-a-mini-9100-pro-measuring-just-22-x-42mm-with-pcie-gen5-capabilities

    DoomScroll: เว็บไซต์ใหม่รวมแผนที่ Doom แบบไม่รู้จบ
    แฟนเกม Doom ได้เฮ เมื่อมีเว็บไซต์ใหม่ชื่อ DoomScroll ที่รวบรวมแผนที่เกม Doom ไว้ให้เลือกเล่นได้ไม่รู้จบผ่านเบราว์เซอร์ ผู้เล่นสามารถเข้าไปเลือกแผนที่ที่ชอบแล้วเล่นได้ทันที ถือเป็นการเปิดคลังเกมคลาสสิกให้เข้าถึงง่ายขึ้น และยังทำให้ชุมชนผู้เล่นสามารถแชร์ผลงานกันได้สะดวกขึ้นด้วย
    https://www.techradar.com/gaming/pc-gaming/new-doomscroll-website-is-an-endless-library-of-doom-maps-you-can-pick-from-and-play-in-your-browser

    หน่วยความจำแห่งอนาคต: Kioxia พัฒนา 3D DRAM
    Kioxia ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยี 3D DRAM โดยใช้ stacked oxide-semiconductors ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความหนาแน่นของหน่วยความจำ แม้จะยังไม่พร้อมสู่ตลาดผู้บริโภคในทันที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมหน่วยความจำในทศวรรษหน้า ทำให้คาดหวังได้ว่าอนาคตเราจะได้เห็น RAM ที่เร็วขึ้นและราคาถูกลง
    https://www.techradar.com/pro/crying-over-expensive-ram-kioxia-may-have-cracked-the-3d-ram-puzzle-paving-the-way-for-cheaper-faster-memory-but-it-probably-wont-reach-the-market-till-the-next-decade

    Apple อุดช่องโหว่ Zero-Day สุดอันตราย
    Apple ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงใน WebKit ที่ถูกใช้โจมตีแบบเจาะจงบุคคลระดับสูง โดยช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ ทีม Google TAG และ Apple ร่วมกันค้นพบและแก้ไข ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก การอัปเดตครอบคลุมทั้ง iOS, iPadOS, macOS, watchOS, tvOS, visionOS และ Safari ผู้ใช้ทั่วไปแม้จะไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่ก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตเพื่อความปลอดภัยทันที
    https://www.techradar.com/pro/security/apple-says-it-fixed-zero-day-flaws-used-for-sophisticated-attacks

    CEO Windscribe วิจารณ์การแบน VPN สำหรับเด็ก
    Windscribe ผู้ให้บริการ VPN ออกมาแสดงความเห็นว่าการห้ามเด็กใช้ VPN เป็น “วิธีแก้ที่แย่ที่สุด” เพราะ VPN ไม่ใช่เครื่องมืออันตราย แต่กลับเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย การแบนอาจทำให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และยังไม่แก้ปัญหาที่แท้จริงของการใช้งานออนไลน์
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/banning-vpns-for-kids-is-the-dumbest-possible-fix-windscribe-ceo

    กล้องวงจรปิดแบตเตอรี่ไร้ขีดจำกัด
    มีการเปิดตัวกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ที่ชูจุดขายเรื่อง “แบตเตอรี่ไม่จำกัด” สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อย ๆ ราคาก็ไม่สูงอย่างที่คิด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น กล้องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยต่อเนื่องโดยไม่ต้องยุ่งยากกับการบำรุงรักษาแบตเตอรี่
    https://www.techradar.com/home/smart-home/this-home-security-cam-monitors-your-property-24-7-with-unlimited-battery-life-and-it-costs-less-than-you-might-expect

    Garmin เผลอหลุดข้อมูล Vivosmart 6
    Garmin มีข่าวหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทแทร็กเกอร์รุ่นใหม่ Vivosmart 6 ที่คาดว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดสำคัญเหนือรุ่นก่อน แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม แต่คาดว่าจะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำขึ้น การหลุดครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ติดตามอุปกรณ์สวมใส่ของ Garmin อยู่แล้ว
    https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-trackers/garmin-just-leaked-its-vivosmart-6-tracker-and-it-might-come-with-one-major-upgrade-over-its-predecessor

    แอป Freedom Chat ทำข้อมูลผู้ใช้หลุด
    มีรายงานว่าแอปแชทชื่อ Freedom Chat เผยข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งหมายเลขโทรศัพท์และรายละเอียดอื่น ๆ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แอปนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดมาตรการป้องกันที่รัดกุม และอาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือการละเมิดข้อมูล
    https://www.techradar.com/pro/security/messaging-app-freedom-chat-exposes-user-phone-numbers-and-more-heres-what-we-know

    Google เปิดฟีเจอร์แปลสดผ่านหูฟัง
    Google กำลังยกระดับการสื่อสารข้ามภาษาให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ “Live Translation” ที่สามารถใช้งานได้กับหูฟังทุกยี่ห้อ ไม่จำกัดเฉพาะ Pixel Buds อีกต่อไป โดยเริ่มทดสอบในสหรัฐฯ เม็กซิโก และอินเดีย ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแค่แปลคำต่อคำ แต่ยังรักษาน้ำเสียง จังหวะ และอารมณ์ของผู้พูด ทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ Google ยังปรับปรุงระบบ Gemini ให้เข้าใจสำนวนและภาษาพูด เช่น “stealing my thunder” ที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องมือช่วยเรียนภาษา เช่น การให้คำแนะนำด้านการออกเสียง และระบบติดตามความก้าวหน้า ฟีเจอร์นี้รองรับกว่า 70 ภาษา และมีแผนจะขยายไปยัง iOS ในปี 2026
    https://www.techradar.com/computing/software/google-smashes-language-barriers-with-live-translation-for-any-earbuds-on-android-heres-how-it-works

    อีเมลไม่ใช่จุดอ่อน แต่การตั้งค่าคลาวด์ต่างหาก
    หลายครั้งที่เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล อีเมลมักถูกมองว่าเป็นตัวการ แต่จริง ๆ แล้วปัญหามาจากการตั้งค่าคลาวด์ที่ผิดพลาดมากกว่า กว่า 99% ของความล้มเหลวด้านความปลอดภัยเกิดจากผู้ใช้เอง เช่น คลิกลิงก์ฟิชชิ่ง ใช้รหัสผ่านซ้ำ หรือจัดการข้อมูลผิดพลาด การโทษอีเมลจึงเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากต้นเหตุที่แท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการป้องกันควรเริ่มจากการเข้ารหัสข้อมูล การเสริมความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ และการฝึกอบรมผู้ใช้ให้รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ เมื่อผู้ใช้มีความรู้และระบบถูกเข้ารหัสอย่างดี อีเมลก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/your-email-app-isnt-the-weak-link-but-your-cloud-configuration-probably-is

    Microsoft ขยายโครงการ Bug Bounty
    Microsoft ประกาศปรับโครงการ Bug Bounty ครั้งใหญ่ เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถส่งรายงานช่องโหว่ได้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์และบริการ แม้บางโปรแกรมจะไม่มีการตั้งค่ารางวัลอย่างเป็นทางการก็ตาม แนวทางใหม่นี้เรียกว่า “In Scope by Default” ซึ่งหมายความว่าหากช่องโหว่มีผลกระทบต่อบริการออนไลน์ของ Microsoft ก็จะได้รับเงินรางวัลตามระดับความรุนแรง โดยปีที่ผ่านมา Microsoft จ่ายเงินรางวัลไปกว่า 17 ล้านดอลลาร์ มากกว่า Google ที่จ่ายราว 11.8 ล้านดอลลาร์ การขยายนี้ครอบคลุมทั้งโค้ดของ Microsoft โค้ดจากบุคคลที่สาม และโอเพ่นซอร์ส ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบความปลอดภัยในวงกว้างยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-will-expand-bug-bounties-even-on-programs-without-official-payouts

    Oracle ทุ่มมหาศาลกับดีลศูนย์ข้อมูล
    Oracle กำลังเดินเกมครั้งใหญ่ในโลกคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าได้ทำสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูลและคลาวด์รวมมูลค่าถึง 248 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทยอยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2026 ไปจนถึง 2028 และกินเวลายาวนานถึง 15–19 ปี การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าใหญ่ ๆ อย่าง Meta, Nvidia และ OpenAI ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 300 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ Oracle ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าและลงทุนเพิ่มหนี้อีกหลายหมื่นล้าน แม้จะเป็นภาระ แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทกำลังเดิมพันอนาคตไว้กับการเติบโตของตลาด AI และคลาวด์อย่างเต็มที่
    https://www.techradar.com/pro/oracle-reportedly-signs-major-huge-cloud-data-center-deals-in-the-last-quarter-nearly-usd250-billion-in-new-commitments-revealed

    ChatGPT 5.2 vs Gemini 3
    มีการทดสอบเปรียบเทียบสองแชตบอทที่โด่งดังที่สุดในโลกตอนนี้ คือ ChatGPT 5.2 และ Gemini 3 ผู้เขียนลองใช้งานจริงเพื่อดูว่าใครตอบโจทย์ได้ดีกว่า ผลลัพธ์ออกมาน่าสนใจเพราะแต่ละตัวมีจุดแข็งต่างกัน ChatGPT 5.2 โดดเด่นเรื่องการให้คำตอบที่ละเอียดและมีความคิดเชิงลึก ส่วน Gemini 3 เน้นความเร็วและความกระชับในการสื่อสาร การแข่งขันนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังร้อนแรง และผู้ใช้ก็มีทางเลือกมากขึ้นตามสไตล์ที่ต้องการ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-5-2-vs-gemini-3-i-tried-the-worlds-most-popular-chatbots-to-see-which-is-best-and-the-result-might-surprise-you

    โลกเสมือนที่มีหัวใจมนุษย์
    เรื่องราวของ Victoria Fard ศิลปินที่ใช้พลังของคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon สร้างโลกเสมือนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความเป็นมนุษย์ เธอไม่ได้มองเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ แต่ใช้มันเพื่อถ่ายทอดความทรงจำ ความรู้สึก และเรื่องราวที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ผลงานของเธอจึงไม่ใช่แค่ภาพสวย ๆ แต่เป็นการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนสามารถสัมผัสความเป็นมนุษย์ผ่านโลกดิจิทัลได้อย่างลึกซึ้ง
    https://www.techradar.com/tech/memories-in-pixel-how-victoria-fard-uses-a-pc-powered-by-snapdragon-to-build-worlds-that-are-deeply-human

    ซีอีโอยังเดินหน้าลงทุน AI แม้ผลลัพธ์ไม่ชัด
    แม้หลายบริษัทจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการลงทุนใน AI แต่ซีอีโอจำนวนมากก็ยังคงเดินหน้าทุ่มงบต่อไป เหตุผลคือพวกเขามองว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และหากหยุดลงทุนอาจเสียโอกาสในอนาคต ถึงแม้จะมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน แต่การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าการลงทุนใน AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันระยะยาว
    https://www.techradar.com/pro/ceos-seem-determined-to-keep-spending-on-ai-despite-mixed-success

    ศาลรัสเซียสั่งอายัดทรัพย์ Google ในฝรั่งเศส
    มีข่าวใหญ่จากยุโรป เมื่อศาลรัสเซียมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ Google ในฝรั่งเศสมูลค่ากว่า 129 ล้านดอลลาร์ สาเหตุเกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางกฎหมายและการดำเนินธุรกิจที่ซับซ้อนในหลายประเทศ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญในระดับโลก ทั้งจากกฎระเบียบและความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-court-ruling-could-see-usd129-million-freeze-on-some-of-googles-french-assets

    Microsoft เจอศึกใหญ่เรื่อง Cloud Licensing ในสหราชอาณาจักร
    เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Microsoft ถูกกล่าวหาว่ากำหนดเงื่อนไขการใช้งาน Windows Server บน Cloud ของคู่แข่งอย่าง AWS และ Google Cloud ให้ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูง จนทำให้หลายองค์กรในสหราชอาณาจักรเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก คดีนี้ถูกยื่นต่อศาล Competition Appeal Tribunal โดยมีองค์กรกว่า 59,000 แห่งเข้าร่วมเป็นกลุ่มฟ้องร้อง หาก Microsoft ถูกตัดสินว่าผิดจริง อาจต้องจ่ายค่าชดเชยสูงถึง 2 พันล้านปอนด์ ขณะที่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นเพียงการกล่าวหาเกินจริงจากกลุ่มทนายและผู้สนับสนุน แต่แรงกดดันก็ยังคงมีต่อเนื่อง เพราะ Google เองก็เคยร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ EU มาก่อนแล้ว
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-is-back-in-court-in-the-uk-over-unfair-cloud-licensing-claims

    UGreen เปิดตัว eGPU Dock ท้าชน Razer ในตลาด eGPU ที่กำลังร้อนแรง
    UGreen ได้เปิดตัว Linkstation eGPU Dock ที่มาพร้อมพลังงานในตัวถึง 850W และพอร์ตเชื่อมต่อใหม่อย่าง Oculink และ USB4 จุดเด่นคือราคาประมาณ 325 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับ Razer Core X V2 แต่เหนือกว่าตรงที่มี PSU ในตัวและรองรับการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 370 มม. อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ของ UGreen ยังเปิดโล่งมากกว่า Razer ที่มีโครงสร้างปิด ทำให้บางคนกังวลเรื่องความปลอดภัยของการ์ดจอ ถึงอย่างนั้น นี่ก็ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ที่น่าจับตามองของ UGreen ที่เดิมทำอุปกรณ์เสริมอย่าง Dock และ Charger
    https://www.techradar.com/computing/gpu/its-a-great-time-to-buy-an-egpu-and-ugreens-new-razer-rival-has-two-major-tricks-up-its-sleeve

    วิกฤติ RAM อาจทำให้สมาร์ทโฟนถอยหลังในปี 2026
    นักวิเคราะห์เตือนว่าความต้องการ RAM ที่สูงขึ้นจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ราคาพุ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องลดสเปกลง แทนที่จะเพิ่ม RAM เป็น 16GB ในรุ่นเรือธงใหม่ อาจยังคงอยู่ที่ 12GB หรือบางรุ่นอาจลดลงเหลือ 8GB สำหรับรุ่นกลาง และ 4GB สำหรับรุ่นล่าง ทั้งนี้แม้จะเป็นการคาดการณ์ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะตลาด AI กำลังดูดซับทรัพยากรไปอย่างมหาศาล ซึ่งอาจย้อนแย้งกับการพัฒนา AI บนมือถือที่ต้องใช้ RAM มากเช่นกัน
    https://www.techradar.com/phones/the-ram-crisis-will-see-smartphone-specs-go-backwards-in-2026-experts-warn-heres-why

    Apple ควรทำ Smart Ring เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากของ Smartwatch
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าแม้ Apple Watch จะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม แต่ก็สร้างความลำบากใจเพราะเขาเป็นคนรักนาฬิกากลไกและไม่อยากละทิ้งการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม จนต้องใส่นาฬิกาสองเรือนบนข้อมือเดียวกัน ซึ่งทั้งไม่สะดวกและน่าขัน เขาจึงเสนอว่า Apple ควรทำ Smart Ring ที่สามารถติดตามสุขภาพได้เหมือน Apple Watch แต่เล็กกะทัดรัดและไม่รบกวนการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม หาก Apple ทำจริงก็อาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่พลิกเกมในปี 2026
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/apple-needs-to-make-a-smart-ring-to-save-me-from-this-ridiculous-situation

    รีวิวซอฟต์แวร์ Idea Spectrum Realtime Landscaping Pro 2025
    นี่คือโปรแกรมออกแบบภูมิทัศน์ที่ให้คุณสร้างสวนเสมือนจริงได้จากคอมพิวเตอร์ Windows จุดเด่นคืออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีคลังพืชกว่า 6,000 ชนิด และวัตถุสามมิติหลากหลาย ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงรถยนต์ พร้อมระบบแอนิเมชันที่ทำให้งานออกแบบดูมีชีวิตชีวา โปรแกรมยังมี Wizard ที่ช่วยให้การสร้างบ้าน สระน้ำ หรือสวนทำได้รวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดว่าใช้ได้เฉพาะ Windows และอาจหน่วงเมื่อโปรเจ็กต์ซับซ้อน แต่ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ
    https://www.techradar.com/pro/software-services/idea-spectrum-realtime-landscaping-pro-review

    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251216 #TechRadar 🖥️ LG เปิดตัวทีวี Micro RGB evo ที่ CES 2026 LG กำลังสร้างความฮือฮาในงาน CES 2026 ด้วยการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Micro RGB evo ซึ่งเปลี่ยนหลอดไฟ LED แบบเดิมไปเป็นหลอดไฟสีแดง เขียว และน้ำเงินขนาดจิ๋ว เพื่อควบคุมแสงและสีได้ละเอียดขึ้น ผลลัพธ์คือภาพที่สว่างสดใสและสีสันจัดเต็มใกล้เคียง OLED แต่ยังคงความสว่างสูงของ LCD จุดเด่นคือการครอบคลุมสีครบทั้ง BT.2020, DCI-P3 และ Adobe RGB พร้อมระบบประมวลผล α11 AI Gen 3 ที่ช่วยอัปสเกลภาพให้คมชัดขึ้น ถือเป็นการพยายามปิดช่องว่างระหว่าง LCD และ OLED ที่น่าสนใจมากสำหรับคนรักภาพคมชัดและสีสดใส 🔗 https://www.techradar.com/televisions/lg-reveals-micro-rgb-evo-tv-with-bold-claims-of-perfect-color 📺 Netflix เลิกใช้ Google Cast แต่ Apple TV บน Android นำกลับมาอีกครั้ง Netflix เคยยกเลิกฟีเจอร์ Google Cast ที่ให้ผู้ใช้ส่งภาพจากมือถือขึ้นจอทีวี แต่ล่าสุด Apple TV บน Android กลับนำฟีเจอร์นี้กลับมา ทำให้ผู้ใช้สามารถสตรีมคอนเทนต์จากมือถือไปยังทีวีได้อีกครั้ง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งที่ยังคงดุเดือด และการที่ Apple พยายามทำให้บริการของตนเข้าถึงผู้ใช้ Android ได้สะดวกขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/apple-tv-plus/netflix-dropped-google-cast-now-apple-tv-for-android-just-brought-it-back 💾 NAS พกพาใส่ SSD 4 ตัว พร้อมพลัง Intel N150 มีการเปิดตัวอุปกรณ์ NAS ขนาดเล็กที่ดูเหมือนวิทยุทรานซิสเตอร์เก่า แต่ภายในบรรจุ SSD ได้ถึง 4 ตัว ใช้พลังจาก Intel N150 และมีพอร์ต LAN 2.5Gb สองช่อง รวมถึง RAM 12GB จุดขายคือความสามารถในการพกพาและเก็บข้อมูลได้มาก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกินความคาดหมาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลที่คล่องตัวและมีสไตล์ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-that-your-grandads-transistor-radio-no-its-a-4-ssd-nas-with-two-2-5gb-lan-ports-12gb-ram-and-a-cracking-name-the-orange-colored-youyeetoo-nestdisk 🔐 นักพัฒนาสร้างกล่องสำรองข้อมูล iPhone แบบออฟไลน์ นักพัฒนารายหนึ่งได้สร้างอุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ที่ไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ แต่ใช้การเชื่อมต่อผ่าน USB และเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเก็บไว้ในเครื่องโดยตรง ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายค่าบริการ iCloud หรือกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ แม้จะยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงความต้องการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/want-to-back-up-your-iphone-securely-without-paying-the-apple-tax-theres-a-hack-for-that-but-it-isnt-for-everyone-yet 🎮 วิกฤติ RAM อาจกระทบหนักต่อโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง ตลาดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติ RAM ที่อาจทำให้เครื่องเล่นเกมประสิทธิภาพสูงมีราคาสูงขึ้นและหายากขึ้น เหตุผลมาจากความต้องการหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทั้งจาก AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กเกมมิ่งต้องปรับตัวและอาจทำให้ผู้เล่นเกมต้องจ่ายแพงกว่าเดิมเพื่อได้เครื่องที่แรงพอ 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/the-ram-crisis-will-be-a-disaster-for-gaming-laptops-heres-why 🗑️ Slop: คำแห่งปีที่สะท้อนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยขยะดิจิทัล ปีนี้ Merriam-Webster เลือกคำว่า “Slop” เป็น Word of the Year 2025 เพื่ออธิบายเนื้อหาดิจิทัลคุณภาพต่ำที่ถูกผลิตขึ้นอย่างมหาศาลด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นบทความ ภาพ วิดีโอ หรือพอดแคสต์ หลายอย่างดูเหมือนจะสร้างได้ง่ายแต่กลับทำให้โลกออนไลน์เต็มไปด้วยสิ่งที่คนเรียกว่า “AI slop” จนยากจะแยกออกว่าอะไรคือผลงานมนุษย์จริงๆ และอะไรคือสิ่งที่เครื่องจักรสร้างขึ้นมา เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของเครื่องมือ AI ถูกส่งถึงมือผู้ใช้เร็วเกินไปโดยที่ยังไม่ทันคิดถึงผลกระทบ ทำให้เราต้องเผชิญกับทะเลข้อมูลที่ปะปนทั้งคุณภาพและขยะไปพร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/we-filled-the-internet-with-garbage-and-now-slop-is-the-word-of-the-year-nice-going-ai 💻 Super X: แท็บเล็ตลูกผสมที่แรงระดับเดสก์ท็อป OneXPlayer เปิดตัว Super X อุปกรณ์ลูกผสมที่รวมแท็บเล็ตกับพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อป หน้าจอใหญ่ถึง 14 นิ้ว มาพร้อมซีพียู 16 คอร์ GPU ระดับ 5060-class และ RAM สูงสุด 128GB จุดเด่นคือการออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้เครื่องเล็กแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เหมาะกับคนที่อยากได้ความแรงแบบ PC แต่ยังพกพาได้สะดวก แม้ราคาคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 2000 ดอลลาร์ แต่ถือเป็นการยกระดับแท็บเล็ตให้ก้าวไปอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/a-water-cooled-amd-ai-14-inch-tablet-with-16-cpu-cores-a-5060-class-gpu-and-128gb-ram-is-exactly-what-i-need-for-christmas-i-dont-think-it-will-cost-less-than-usd2000-though 💾 SSD จิ๋วแต่แรง: Samsung เปิดตัว PCIe Gen5 รุ่นใหม่ Samsung เผยโฉม SSD รุ่น PM9E1 ที่มาในขนาดเล็กเพียง 22 x 42 มม. แต่รองรับมาตรฐาน PCIe Gen5 ทำให้ได้ความเร็วสูงและความจุที่จริงจัง แม้จะมาแบบเงียบๆ แต่ถือเป็นการขยายตลาดสู่กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กแต่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพ เหมาะกับโน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์พกพาที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุดในพื้นที่จำกัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/samsungs-surprising-stealth-superfast-ssd-surfaces-silently-pm9e1-turns-out-to-be-a-mini-9100-pro-measuring-just-22-x-42mm-with-pcie-gen5-capabilities 🎮 DoomScroll: เว็บไซต์ใหม่รวมแผนที่ Doom แบบไม่รู้จบ แฟนเกม Doom ได้เฮ เมื่อมีเว็บไซต์ใหม่ชื่อ DoomScroll ที่รวบรวมแผนที่เกม Doom ไว้ให้เลือกเล่นได้ไม่รู้จบผ่านเบราว์เซอร์ ผู้เล่นสามารถเข้าไปเลือกแผนที่ที่ชอบแล้วเล่นได้ทันที ถือเป็นการเปิดคลังเกมคลาสสิกให้เข้าถึงง่ายขึ้น และยังทำให้ชุมชนผู้เล่นสามารถแชร์ผลงานกันได้สะดวกขึ้นด้วย 🔗 https://www.techradar.com/gaming/pc-gaming/new-doomscroll-website-is-an-endless-library-of-doom-maps-you-can-pick-from-and-play-in-your-browser 🧠 หน่วยความจำแห่งอนาคต: Kioxia พัฒนา 3D DRAM Kioxia ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยี 3D DRAM โดยใช้ stacked oxide-semiconductors ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความหนาแน่นของหน่วยความจำ แม้จะยังไม่พร้อมสู่ตลาดผู้บริโภคในทันที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมหน่วยความจำในทศวรรษหน้า ทำให้คาดหวังได้ว่าอนาคตเราจะได้เห็น RAM ที่เร็วขึ้นและราคาถูกลง 🔗 https://www.techradar.com/pro/crying-over-expensive-ram-kioxia-may-have-cracked-the-3d-ram-puzzle-paving-the-way-for-cheaper-faster-memory-but-it-probably-wont-reach-the-market-till-the-next-decade 🛡️ Apple อุดช่องโหว่ Zero-Day สุดอันตราย Apple ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงใน WebKit ที่ถูกใช้โจมตีแบบเจาะจงบุคคลระดับสูง โดยช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ ทีม Google TAG และ Apple ร่วมกันค้นพบและแก้ไข ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก การอัปเดตครอบคลุมทั้ง iOS, iPadOS, macOS, watchOS, tvOS, visionOS และ Safari ผู้ใช้ทั่วไปแม้จะไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่ก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตเพื่อความปลอดภัยทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/apple-says-it-fixed-zero-day-flaws-used-for-sophisticated-attacks 🌐 CEO Windscribe วิจารณ์การแบน VPN สำหรับเด็ก Windscribe ผู้ให้บริการ VPN ออกมาแสดงความเห็นว่าการห้ามเด็กใช้ VPN เป็น “วิธีแก้ที่แย่ที่สุด” เพราะ VPN ไม่ใช่เครื่องมืออันตราย แต่กลับเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย การแบนอาจทำให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และยังไม่แก้ปัญหาที่แท้จริงของการใช้งานออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/banning-vpns-for-kids-is-the-dumbest-possible-fix-windscribe-ceo 📷 กล้องวงจรปิดแบตเตอรี่ไร้ขีดจำกัด มีการเปิดตัวกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ที่ชูจุดขายเรื่อง “แบตเตอรี่ไม่จำกัด” สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อย ๆ ราคาก็ไม่สูงอย่างที่คิด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น กล้องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยต่อเนื่องโดยไม่ต้องยุ่งยากกับการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/this-home-security-cam-monitors-your-property-24-7-with-unlimited-battery-life-and-it-costs-less-than-you-might-expect ⌚ Garmin เผลอหลุดข้อมูล Vivosmart 6 Garmin มีข่าวหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทแทร็กเกอร์รุ่นใหม่ Vivosmart 6 ที่คาดว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดสำคัญเหนือรุ่นก่อน แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม แต่คาดว่าจะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำขึ้น การหลุดครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ติดตามอุปกรณ์สวมใส่ของ Garmin อยู่แล้ว 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-trackers/garmin-just-leaked-its-vivosmart-6-tracker-and-it-might-come-with-one-major-upgrade-over-its-predecessor 🔒 แอป Freedom Chat ทำข้อมูลผู้ใช้หลุด มีรายงานว่าแอปแชทชื่อ Freedom Chat เผยข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งหมายเลขโทรศัพท์และรายละเอียดอื่น ๆ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แอปนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดมาตรการป้องกันที่รัดกุม และอาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือการละเมิดข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/messaging-app-freedom-chat-exposes-user-phone-numbers-and-more-heres-what-we-know 🎧 Google เปิดฟีเจอร์แปลสดผ่านหูฟัง Google กำลังยกระดับการสื่อสารข้ามภาษาให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ “Live Translation” ที่สามารถใช้งานได้กับหูฟังทุกยี่ห้อ ไม่จำกัดเฉพาะ Pixel Buds อีกต่อไป โดยเริ่มทดสอบในสหรัฐฯ เม็กซิโก และอินเดีย ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแค่แปลคำต่อคำ แต่ยังรักษาน้ำเสียง จังหวะ และอารมณ์ของผู้พูด ทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ Google ยังปรับปรุงระบบ Gemini ให้เข้าใจสำนวนและภาษาพูด เช่น “stealing my thunder” ที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องมือช่วยเรียนภาษา เช่น การให้คำแนะนำด้านการออกเสียง และระบบติดตามความก้าวหน้า ฟีเจอร์นี้รองรับกว่า 70 ภาษา และมีแผนจะขยายไปยัง iOS ในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/google-smashes-language-barriers-with-live-translation-for-any-earbuds-on-android-heres-how-it-works 📧 อีเมลไม่ใช่จุดอ่อน แต่การตั้งค่าคลาวด์ต่างหาก หลายครั้งที่เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล อีเมลมักถูกมองว่าเป็นตัวการ แต่จริง ๆ แล้วปัญหามาจากการตั้งค่าคลาวด์ที่ผิดพลาดมากกว่า กว่า 99% ของความล้มเหลวด้านความปลอดภัยเกิดจากผู้ใช้เอง เช่น คลิกลิงก์ฟิชชิ่ง ใช้รหัสผ่านซ้ำ หรือจัดการข้อมูลผิดพลาด การโทษอีเมลจึงเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากต้นเหตุที่แท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการป้องกันควรเริ่มจากการเข้ารหัสข้อมูล การเสริมความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ และการฝึกอบรมผู้ใช้ให้รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ เมื่อผู้ใช้มีความรู้และระบบถูกเข้ารหัสอย่างดี อีเมลก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/your-email-app-isnt-the-weak-link-but-your-cloud-configuration-probably-is 🛡️ Microsoft ขยายโครงการ Bug Bounty Microsoft ประกาศปรับโครงการ Bug Bounty ครั้งใหญ่ เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถส่งรายงานช่องโหว่ได้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์และบริการ แม้บางโปรแกรมจะไม่มีการตั้งค่ารางวัลอย่างเป็นทางการก็ตาม แนวทางใหม่นี้เรียกว่า “In Scope by Default” ซึ่งหมายความว่าหากช่องโหว่มีผลกระทบต่อบริการออนไลน์ของ Microsoft ก็จะได้รับเงินรางวัลตามระดับความรุนแรง โดยปีที่ผ่านมา Microsoft จ่ายเงินรางวัลไปกว่า 17 ล้านดอลลาร์ มากกว่า Google ที่จ่ายราว 11.8 ล้านดอลลาร์ การขยายนี้ครอบคลุมทั้งโค้ดของ Microsoft โค้ดจากบุคคลที่สาม และโอเพ่นซอร์ส ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบความปลอดภัยในวงกว้างยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-will-expand-bug-bounties-even-on-programs-without-official-payouts 🏢 Oracle ทุ่มมหาศาลกับดีลศูนย์ข้อมูล Oracle กำลังเดินเกมครั้งใหญ่ในโลกคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าได้ทำสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูลและคลาวด์รวมมูลค่าถึง 248 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทยอยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2026 ไปจนถึง 2028 และกินเวลายาวนานถึง 15–19 ปี การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าใหญ่ ๆ อย่าง Meta, Nvidia และ OpenAI ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 300 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ Oracle ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าและลงทุนเพิ่มหนี้อีกหลายหมื่นล้าน แม้จะเป็นภาระ แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทกำลังเดิมพันอนาคตไว้กับการเติบโตของตลาด AI และคลาวด์อย่างเต็มที่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/oracle-reportedly-signs-major-huge-cloud-data-center-deals-in-the-last-quarter-nearly-usd250-billion-in-new-commitments-revealed 🤖 ChatGPT 5.2 vs Gemini 3 มีการทดสอบเปรียบเทียบสองแชตบอทที่โด่งดังที่สุดในโลกตอนนี้ คือ ChatGPT 5.2 และ Gemini 3 ผู้เขียนลองใช้งานจริงเพื่อดูว่าใครตอบโจทย์ได้ดีกว่า ผลลัพธ์ออกมาน่าสนใจเพราะแต่ละตัวมีจุดแข็งต่างกัน ChatGPT 5.2 โดดเด่นเรื่องการให้คำตอบที่ละเอียดและมีความคิดเชิงลึก ส่วน Gemini 3 เน้นความเร็วและความกระชับในการสื่อสาร การแข่งขันนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังร้อนแรง และผู้ใช้ก็มีทางเลือกมากขึ้นตามสไตล์ที่ต้องการ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-5-2-vs-gemini-3-i-tried-the-worlds-most-popular-chatbots-to-see-which-is-best-and-the-result-might-surprise-you 🎨 โลกเสมือนที่มีหัวใจมนุษย์ เรื่องราวของ Victoria Fard ศิลปินที่ใช้พลังของคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon สร้างโลกเสมือนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความเป็นมนุษย์ เธอไม่ได้มองเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ แต่ใช้มันเพื่อถ่ายทอดความทรงจำ ความรู้สึก และเรื่องราวที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ผลงานของเธอจึงไม่ใช่แค่ภาพสวย ๆ แต่เป็นการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนสามารถสัมผัสความเป็นมนุษย์ผ่านโลกดิจิทัลได้อย่างลึกซึ้ง 🔗 https://www.techradar.com/tech/memories-in-pixel-how-victoria-fard-uses-a-pc-powered-by-snapdragon-to-build-worlds-that-are-deeply-human 💼 ซีอีโอยังเดินหน้าลงทุน AI แม้ผลลัพธ์ไม่ชัด แม้หลายบริษัทจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการลงทุนใน AI แต่ซีอีโอจำนวนมากก็ยังคงเดินหน้าทุ่มงบต่อไป เหตุผลคือพวกเขามองว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และหากหยุดลงทุนอาจเสียโอกาสในอนาคต ถึงแม้จะมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน แต่การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าการลงทุนใน AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/pro/ceos-seem-determined-to-keep-spending-on-ai-despite-mixed-success ⚖️ ศาลรัสเซียสั่งอายัดทรัพย์ Google ในฝรั่งเศส มีข่าวใหญ่จากยุโรป เมื่อศาลรัสเซียมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ Google ในฝรั่งเศสมูลค่ากว่า 129 ล้านดอลลาร์ สาเหตุเกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางกฎหมายและการดำเนินธุรกิจที่ซับซ้อนในหลายประเทศ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญในระดับโลก ทั้งจากกฎระเบียบและความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-court-ruling-could-see-usd129-million-freeze-on-some-of-googles-french-assets 📰 Microsoft เจอศึกใหญ่เรื่อง Cloud Licensing ในสหราชอาณาจักร เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Microsoft ถูกกล่าวหาว่ากำหนดเงื่อนไขการใช้งาน Windows Server บน Cloud ของคู่แข่งอย่าง AWS และ Google Cloud ให้ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูง จนทำให้หลายองค์กรในสหราชอาณาจักรเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก คดีนี้ถูกยื่นต่อศาล Competition Appeal Tribunal โดยมีองค์กรกว่า 59,000 แห่งเข้าร่วมเป็นกลุ่มฟ้องร้อง หาก Microsoft ถูกตัดสินว่าผิดจริง อาจต้องจ่ายค่าชดเชยสูงถึง 2 พันล้านปอนด์ ขณะที่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นเพียงการกล่าวหาเกินจริงจากกลุ่มทนายและผู้สนับสนุน แต่แรงกดดันก็ยังคงมีต่อเนื่อง เพราะ Google เองก็เคยร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ EU มาก่อนแล้ว 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-is-back-in-court-in-the-uk-over-unfair-cloud-licensing-claims 🎮 UGreen เปิดตัว eGPU Dock ท้าชน Razer ในตลาด eGPU ที่กำลังร้อนแรง UGreen ได้เปิดตัว Linkstation eGPU Dock ที่มาพร้อมพลังงานในตัวถึง 850W และพอร์ตเชื่อมต่อใหม่อย่าง Oculink และ USB4 จุดเด่นคือราคาประมาณ 325 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับ Razer Core X V2 แต่เหนือกว่าตรงที่มี PSU ในตัวและรองรับการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 370 มม. อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ของ UGreen ยังเปิดโล่งมากกว่า Razer ที่มีโครงสร้างปิด ทำให้บางคนกังวลเรื่องความปลอดภัยของการ์ดจอ ถึงอย่างนั้น นี่ก็ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ที่น่าจับตามองของ UGreen ที่เดิมทำอุปกรณ์เสริมอย่าง Dock และ Charger 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/its-a-great-time-to-buy-an-egpu-and-ugreens-new-razer-rival-has-two-major-tricks-up-its-sleeve 📱 วิกฤติ RAM อาจทำให้สมาร์ทโฟนถอยหลังในปี 2026 นักวิเคราะห์เตือนว่าความต้องการ RAM ที่สูงขึ้นจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ราคาพุ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องลดสเปกลง แทนที่จะเพิ่ม RAM เป็น 16GB ในรุ่นเรือธงใหม่ อาจยังคงอยู่ที่ 12GB หรือบางรุ่นอาจลดลงเหลือ 8GB สำหรับรุ่นกลาง และ 4GB สำหรับรุ่นล่าง ทั้งนี้แม้จะเป็นการคาดการณ์ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะตลาด AI กำลังดูดซับทรัพยากรไปอย่างมหาศาล ซึ่งอาจย้อนแย้งกับการพัฒนา AI บนมือถือที่ต้องใช้ RAM มากเช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/phones/the-ram-crisis-will-see-smartphone-specs-go-backwards-in-2026-experts-warn-heres-why 💍 Apple ควรทำ Smart Ring เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากของ Smartwatch ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าแม้ Apple Watch จะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม แต่ก็สร้างความลำบากใจเพราะเขาเป็นคนรักนาฬิกากลไกและไม่อยากละทิ้งการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม จนต้องใส่นาฬิกาสองเรือนบนข้อมือเดียวกัน ซึ่งทั้งไม่สะดวกและน่าขัน เขาจึงเสนอว่า Apple ควรทำ Smart Ring ที่สามารถติดตามสุขภาพได้เหมือน Apple Watch แต่เล็กกะทัดรัดและไม่รบกวนการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม หาก Apple ทำจริงก็อาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่พลิกเกมในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/apple-needs-to-make-a-smart-ring-to-save-me-from-this-ridiculous-situation 🌳 รีวิวซอฟต์แวร์ Idea Spectrum Realtime Landscaping Pro 2025 นี่คือโปรแกรมออกแบบภูมิทัศน์ที่ให้คุณสร้างสวนเสมือนจริงได้จากคอมพิวเตอร์ Windows จุดเด่นคืออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีคลังพืชกว่า 6,000 ชนิด และวัตถุสามมิติหลากหลาย ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงรถยนต์ พร้อมระบบแอนิเมชันที่ทำให้งานออกแบบดูมีชีวิตชีวา โปรแกรมยังมี Wizard ที่ช่วยให้การสร้างบ้าน สระน้ำ หรือสวนทำได้รวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดว่าใช้ได้เฉพาะ Windows และอาจหน่วงเมื่อโปรเจ็กต์ซับซ้อน แต่ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/idea-spectrum-realtime-landscaping-pro-review
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 883 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรั่วไหลครั้งใหญ่ของฐานข้อมูล MongoDB

    นักวิจัยด้านความปลอดภัย Bob Diachenko ร่วมกับทีมจาก nexos.ai ได้ค้นพบฐานข้อมูล MongoDB ที่ไม่ได้รับการป้องกันเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2025 ฐานข้อมูลนี้มีขนาดมหึมา 16TB และบรรจุข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด ซึ่งรวมถึงชื่อ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ประวัติการทำงาน การศึกษา และลิงก์ไปยังโปรไฟล์ LinkedIn ของผู้ใช้จำนวนมหาศาล

    แม้เจ้าของฐานข้อมูลจะรีบปิดการเข้าถึงภายในสองวันหลังถูกแจ้งเตือน แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครได้เข้าถึงข้อมูลไปแล้วบ้าง ข้อมูลที่รั่วไหลถูกแบ่งออกเป็น 9 คอลเลกชัน เช่น “profiles”, “people” และ “unique_profiles” โดยเฉพาะคอลเลกชัน “unique_profiles” ที่มีมากกว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ

    ความเสี่ยงและผลกระทบ
    นักวิจัย Cybernews ระบุว่าข้อมูลที่รั่วไหลนี้มีโครงสร้างชัดเจนและละเอียดมาก จึงเป็น ขุมทองสำหรับอาชญากรไซเบอร์ เพราะสามารถนำไปใช้สร้างฐานข้อมูลค้นหาเพื่อทำการโจมตีแบบเจาะจง เช่น ฟิชชิ่ง (Phishing) หรือ CEO Fraud ที่เลียนแบบผู้บริหารเพื่อหลอกให้พนักงานโอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ

    นอกจากนี้ยังพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจถูกเก็บมาจากการ Scraping หรือการดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง รวมถึงการรั่วไหลก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2021 ทำให้ยากต่อการระบุเจ้าของที่แท้จริงของฐานข้อมูล แต่มีหลักฐานบางอย่างชี้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับบริษัทด้าน Lead Generation ที่ทำธุรกิจหาลูกค้าให้กับองค์กรต่างๆ

    วิธีป้องกันสำหรับผู้ใช้
    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้ ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน พร้อมเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่ออุดช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตี การรั่วไหลครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่เราฝากไว้กับแพลตฟอร์มออนไลน์อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ทุกเมื่อ

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบฐานข้อมูลรั่วไหล
    ขนาด 16TB มีข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด
    รวมชื่อ อีเมล เบอร์โทร ประวัติการทำงาน และ LinkedIn

    รายละเอียดคอลเลกชันข้อมูล
    “profiles” กว่า 1.1 พันล้านเรคคอร์ด
    “unique_profiles” กว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ

    ความเสี่ยงจากการรั่วไหล
    อาชญากรสามารถใช้ข้อมูลทำฟิชชิ่งและ CEO Fraud
    ข้อมูลอาจถูก Scraping จากหลายแหล่ง ทำให้ระบุเจ้าของยาก

    คำแนะนำด้านความปลอดภัย
    ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน
    เปิดใช้งาน 2FA และอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ

    https://hackread.com/mongodb-database-expose-lead-gen-records/
    🔐 การรั่วไหลครั้งใหญ่ของฐานข้อมูล MongoDB นักวิจัยด้านความปลอดภัย Bob Diachenko ร่วมกับทีมจาก nexos.ai ได้ค้นพบฐานข้อมูล MongoDB ที่ไม่ได้รับการป้องกันเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2025 ฐานข้อมูลนี้มีขนาดมหึมา 16TB และบรรจุข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด ซึ่งรวมถึงชื่อ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ประวัติการทำงาน การศึกษา และลิงก์ไปยังโปรไฟล์ LinkedIn ของผู้ใช้จำนวนมหาศาล แม้เจ้าของฐานข้อมูลจะรีบปิดการเข้าถึงภายในสองวันหลังถูกแจ้งเตือน แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครได้เข้าถึงข้อมูลไปแล้วบ้าง ข้อมูลที่รั่วไหลถูกแบ่งออกเป็น 9 คอลเลกชัน เช่น “profiles”, “people” และ “unique_profiles” โดยเฉพาะคอลเลกชัน “unique_profiles” ที่มีมากกว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ ⚠️ ความเสี่ยงและผลกระทบ นักวิจัย Cybernews ระบุว่าข้อมูลที่รั่วไหลนี้มีโครงสร้างชัดเจนและละเอียดมาก จึงเป็น ขุมทองสำหรับอาชญากรไซเบอร์ เพราะสามารถนำไปใช้สร้างฐานข้อมูลค้นหาเพื่อทำการโจมตีแบบเจาะจง เช่น ฟิชชิ่ง (Phishing) หรือ CEO Fraud ที่เลียนแบบผู้บริหารเพื่อหลอกให้พนักงานโอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ นอกจากนี้ยังพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจถูกเก็บมาจากการ Scraping หรือการดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง รวมถึงการรั่วไหลก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2021 ทำให้ยากต่อการระบุเจ้าของที่แท้จริงของฐานข้อมูล แต่มีหลักฐานบางอย่างชี้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับบริษัทด้าน Lead Generation ที่ทำธุรกิจหาลูกค้าให้กับองค์กรต่างๆ 🛡️ วิธีป้องกันสำหรับผู้ใช้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้ ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน พร้อมเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่ออุดช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตี การรั่วไหลครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่เราฝากไว้กับแพลตฟอร์มออนไลน์อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ทุกเมื่อ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบฐานข้อมูลรั่วไหล ➡️ ขนาด 16TB มีข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด ➡️ รวมชื่อ อีเมล เบอร์โทร ประวัติการทำงาน และ LinkedIn ✅ รายละเอียดคอลเลกชันข้อมูล ➡️ “profiles” กว่า 1.1 พันล้านเรคคอร์ด ➡️ “unique_profiles” กว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ ‼️ ความเสี่ยงจากการรั่วไหล ⛔ อาชญากรสามารถใช้ข้อมูลทำฟิชชิ่งและ CEO Fraud ⛔ ข้อมูลอาจถูก Scraping จากหลายแหล่ง ทำให้ระบุเจ้าของยาก ‼️ คำแนะนำด้านความปลอดภัย ⛔ ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน ⛔ เปิดใช้งาน 2FA และอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ https://hackread.com/mongodb-database-expose-lead-gen-records/
    HACKREAD.COM
    16TB of MongoDB Database Exposes 4.3 Billion Lead Gen Records
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหาร ร.17 พัน 2 ยึดอาวุธสัญชาติจีนอีกจำนวนมาก ที่ทหารกัมพูชาทิ้งไว้บนเนิน 500 ช่องอานม้า ทั้งเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพา กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120790

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทหาร ร.17 พัน 2 ยึดอาวุธสัญชาติจีนอีกจำนวนมาก ที่ทหารกัมพูชาทิ้งไว้บนเนิน 500 ช่องอานม้า ทั้งเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพา กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120790 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารกองทัพบกไทยยังคงพบหลักฐานด้านยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง หลังปฏิบัติการยึดคืน “เนิน 500” พื้นที่ช่องอานม้าได้สำเร็จ ล่าสุดตรวจยึดอาวุธสัญชาติจีนจำนวนมาก ซึ่งทหารกัมพูชาทิ้งไว้ขณะถอนกำลัง
    .
    เมื่อเวลา 22.44 น. วันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและข้อมูลว่า ทหาร ร.17 พัน 2 ตรวจพบอาวุธหลายรายการบนเนิน 500 อาทิ กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิงขนาด 82 มม. (82mm Type 65 projected-grenade) ซึ่งใช้งานร่ว.มกับเครื่องยิงลูกระเบิดไร้แรงสะท้อนแบบ Type 65 หรือ Type 65-1 ของจีน รวมถึงกระสุนชนิดต่างๆ
    .
    นอกจากนี้ ยังพบเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพาไม่นำวิถี รุ่น Norinco PF-89 หรือ Type 89 ขนาด 80 มม. ซึ่งเป็นอาวุธสำหรับทหารราบ น้ำหนักเบา ใช้งานแบบนัดเดียวทิ้ง ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายยานเกราะ บังเกอร์ และที่มั่นทางทหาร โดยมีทั้งรุ่นหัวรบเจาะเกราะและหัวรบแรงดันสูงสำหรับการรบในพื้นที่ปิด
    .
    การตรวจพบอาวุธดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะยุทโธปกรณ์ที่ฝ่ายกัมพูชานำมาใช้ในพื้นที่ปะทะ และกลายเป็นหลักฐานสำคัญภายหลังฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120774
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน500 #อาวุธจีน #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    ทหารกองทัพบกไทยยังคงพบหลักฐานด้านยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง หลังปฏิบัติการยึดคืน “เนิน 500” พื้นที่ช่องอานม้าได้สำเร็จ ล่าสุดตรวจยึดอาวุธสัญชาติจีนจำนวนมาก ซึ่งทหารกัมพูชาทิ้งไว้ขณะถอนกำลัง . เมื่อเวลา 22.44 น. วันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและข้อมูลว่า ทหาร ร.17 พัน 2 ตรวจพบอาวุธหลายรายการบนเนิน 500 อาทิ กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิงขนาด 82 มม. (82mm Type 65 projected-grenade) ซึ่งใช้งานร่ว.มกับเครื่องยิงลูกระเบิดไร้แรงสะท้อนแบบ Type 65 หรือ Type 65-1 ของจีน รวมถึงกระสุนชนิดต่างๆ . นอกจากนี้ ยังพบเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพาไม่นำวิถี รุ่น Norinco PF-89 หรือ Type 89 ขนาด 80 มม. ซึ่งเป็นอาวุธสำหรับทหารราบ น้ำหนักเบา ใช้งานแบบนัดเดียวทิ้ง ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายยานเกราะ บังเกอร์ และที่มั่นทางทหาร โดยมีทั้งรุ่นหัวรบเจาะเกราะและหัวรบแรงดันสูงสำหรับการรบในพื้นที่ปิด . การตรวจพบอาวุธดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะยุทโธปกรณ์ที่ฝ่ายกัมพูชานำมาใช้ในพื้นที่ปะทะ และกลายเป็นหลักฐานสำคัญภายหลังฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120774 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน500 #อาวุธจีน #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • รูปหล่อหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2511
    รูปหล่อหลวงพ่อทวด #พิมพ์หน้าแก่ ก้นอุดกริ่ง โค๊ตนะ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี​ ปี​2511 // พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิม​ วัดช้างให้​ ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย อยู่ยงคงกระพัน เสริมลาภทรัพย์ให้เพิ่มพูน เจรจาธุรกิจก็จะสำเร็จ ป้องกันคุณไสย มีอำนาจ บารมี **

    ** #ประวัติการสร้าง ระบุว่าเป็นรูปหล่อหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ ปี 2511 สร้างขึ้นที่วัดช้างให้โดยคุณสุเทพ สิงหเสม คนพัทลุง สร้างขึ้นพร้อมกับวัตถุมงคลอื่นๆอีกหลายอย่าง พระกริ่งหลวงพ่อทวดรุ่นนี้มีเนื้อโลหะสีแดงคล้ายๆกับหลวงพ่อทวดเนื้อโลหะครึ่งซีกแบบหลังเตารีด ชุบทองจำนวนหนึ่ง ชุบเงินจำนวนหนึ่งกับเนื้อทองแดงไม่ได้ชุบอะไรเลยอีกจำนวนหนึ่งเป็นพระพิมพ์เดียวกันและขนาดเดียวกันทุกอย่างแต่ทำให้สีขององค์พระแตกต่างกันเป็น3อย่างดังกล่าวแล้วขนาดขององค์พระรุ่นนี้ฐานกว้างประมาณ1ซม.ส่วนสูงขององค์พระประมาณ1.8ซม.เป็นรูปหลวงพ่อทวดท่านนั่งลอยองค์อยู่บนแท่นฐานเขียงที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า"วัดช้างให้" บรรจุเม็ดกริ่งเข้าไปภายในเย่ามีเสียงดังขลุกๆรูที่บรรจุเม็ดกริ่งใต้ฐานใช้โลหะย้ำปิดและตอกโค๊ตเป็นตัวอักษรขอมไว้ลึกลงไปในเนื้อพระ **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2511 รูปหล่อหลวงพ่อทวด #พิมพ์หน้าแก่ ก้นอุดกริ่ง โค๊ตนะ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี​ ปี​2511 // พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิม​ วัดช้างให้​ ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย อยู่ยงคงกระพัน เสริมลาภทรัพย์ให้เพิ่มพูน เจรจาธุรกิจก็จะสำเร็จ ป้องกันคุณไสย มีอำนาจ บารมี ** ** #ประวัติการสร้าง ระบุว่าเป็นรูปหล่อหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ ปี 2511 สร้างขึ้นที่วัดช้างให้โดยคุณสุเทพ สิงหเสม คนพัทลุง สร้างขึ้นพร้อมกับวัตถุมงคลอื่นๆอีกหลายอย่าง พระกริ่งหลวงพ่อทวดรุ่นนี้มีเนื้อโลหะสีแดงคล้ายๆกับหลวงพ่อทวดเนื้อโลหะครึ่งซีกแบบหลังเตารีด ชุบทองจำนวนหนึ่ง ชุบเงินจำนวนหนึ่งกับเนื้อทองแดงไม่ได้ชุบอะไรเลยอีกจำนวนหนึ่งเป็นพระพิมพ์เดียวกันและขนาดเดียวกันทุกอย่างแต่ทำให้สีขององค์พระแตกต่างกันเป็น3อย่างดังกล่าวแล้วขนาดขององค์พระรุ่นนี้ฐานกว้างประมาณ1ซม.ส่วนสูงขององค์พระประมาณ1.8ซม.เป็นรูปหลวงพ่อทวดท่านนั่งลอยองค์อยู่บนแท่นฐานเขียงที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า"วัดช้างให้" บรรจุเม็ดกริ่งเข้าไปภายในเย่ามีเสียงดังขลุกๆรูที่บรรจุเม็ดกริ่งใต้ฐานใช้โลหะย้ำปิดและตอกโค๊ตเป็นตัวอักษรขอมไว้ลึกลงไปในเนื้อพระ ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251215 #securityonline

    NANOREMOTE: มัลแวร์ใหม่ที่ซ่อนตัวผ่าน Google Drive
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบของ Elastic Security Labs ที่เจอม้าโทรจันตัวใหม่ชื่อว่า NANOREMOTE ซึ่งทำงานบน Windows และใช้ Google Drive API เป็นช่องทางสื่อสารลับกับผู้โจมตี ทำให้การขโมยข้อมูลและสั่งงานแฝงตัวไปกับทราฟฟิกปกติได้อย่างแนบเนียน จุดเด่นคือมันสามารถใช้ OAuth 2.0 token เพื่อสร้างช่องทางลับในการส่งข้อมูล โดยมีตัวโหลดชื่อ WMLOADER ที่ปลอมตัวเป็นโปรแกรมของ Bitdefender แต่จริง ๆ แล้วเป็นตัวนำมัลแวร์เข้าสู่ระบบ จากนั้นจะถอดรหัสไฟล์ที่ซ่อนอยู่และปล่อยตัว NANOREMOTE ทำงานในหน่วยความจำโดยตรง นักวิจัยยังพบหลักฐานว่ามีการใช้โค้ดและคีย์เข้ารหัสเดียวกันกับมัลแวร์ตระกูล FINALDRAFT ซึ่งบ่งชี้ว่ามีรากฐานการพัฒนาร่วมกัน
    https://securityonline.info/new-nanoremote-backdoor-uses-google-drive-api-for-covert-c2-and-links-to-finaldraft-espionage-group

    SHADOW-VOID-042: แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็น Trend Micro
    กลุ่มผู้โจมตีที่ถูกเรียกว่า SHADOW-VOID-042 ใช้ชื่อเสียงของ Trend Micro มาหลอกเหยื่อ โดยส่งอีเมลฟิชชิ่งที่ดูเหมือนเป็นประกาศเตือนด้านความปลอดภัย เหยื่อที่เชื่อจะถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบสไตล์ของ Trend Micro และถูกติดตั้ง payload แบบเจาะจงเป้าหมาย การโจมตีนี้ไม่ใช่การสุ่ม แต่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละเหยื่อ และมีการใช้ทั้งเทคนิคเก่าและใหม่ เช่น exploit ช่องโหว่ Chrome ปี 2018 รวมถึงการใช้ zero-day ที่ใหม่กว่าสำหรับเป้าหมายสำคัญ นักวิจัยเชื่อว่ากลุ่มนี้อาจเชื่อมโยงกับ Void Rabisu ซึ่งมีประวัติทำงานใกล้ชิดกับผลประโยชน์รัสเซีย
    https://securityonline.info/shadow-void-042-impersonates-trend-micro-in-phishing-campaign-to-breach-critical-infrastructure

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Plesk (CVE-2025-66430)
    แพลตฟอร์ม Plesk ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการโฮสต์เว็บไซต์ ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น root ได้ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟีเจอร์ Password-Protected Directories ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ฉีดข้อมูลเข้าไปใน Apache configuration ได้โดยตรง ผลคือสามารถสั่งรันคำสั่งใด ๆ ในระดับสูงสุดบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกยึดครองทั้งระบบ Plesk ได้ออก micro-update เร่งด่วนเพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที
    https://securityonline.info/critical-plesk-flaw-cve-2025-66430-risks-full-server-takeover-via-lpe-and-apache-config-injection

    Ashen Lepus: กลุ่ม APT ที่เชื่อมโยงกับ Hamas เปิดตัว AshTag Malware
    ในขณะที่สงครามกาซายังคงดำเนินอยู่ กลุ่มแฮกเกอร์ Ashen Lepus หรือ WIRTE ที่เชื่อมโยงกับ Hamas ยังคงทำงานด้านไซเบอร์สอดแนมอย่างต่อเนื่อง และได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ชื่อว่า AshTag ซึ่งเป็นชุดมัลแวร์แบบโมดูลาร์ที่ซ่อนตัวเก่งมาก ใช้ไฟล์ PDF หลอกเหยื่อให้เปิดเอกสารทางการทูตปลอม แล้วโหลด DLL อันตรายเข้ามา จากนั้น payload จะถูกดึงจาก HTML ที่ซ่อนอยู่และทำงานในหน่วยความจำโดยไม่แตะดิสก์ ทำให้ตรวจจับได้ยาก กลุ่มนี้ยังขยายเป้าหมายไปยังประเทศอาหรับอื่น ๆ เช่น โอมานและโมร็อกโก โดยมุ่งเน้นข้อมูลทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    https://securityonline.info/hamas-affiliated-apt-ashen-lepus-unveils-ashtag-malware-suite-for-wider-cyber-espionage

    ช่องโหว่ RasMan บน Windows ที่ยังไม่ได้แพตช์
    นักวิจัยจาก 0patch พบช่องโหว่ใหม่ในบริการ Remote Access Connection Manager (RasMan) ของ Windows ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้ Microsoft จะเพิ่งแพตช์ช่องโหว่อื่นที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่พบว่ามีบั๊กที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำให้บริการ RasMan crash ได้ และใช้ช่องทางนี้เพื่อยึดสิทธิ์ Local System ได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ linked list ที่ผิดพลาด ทำให้เกิด NULL pointer และ crash ทันที 0patch ได้ออก micropatch ชั่วคราวเพื่อแก้ไข แต่ Microsoft ยังต้องออกแพตช์อย่างเป็นทางการในอนาคต
    https://securityonline.info/unpatched-windows-rasman-flaw-allows-unprivileged-crash-enabling-local-system-privilege-escalation-exploit

    ImageMagick พบช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงเปิดเผยข้อมูลหน่วยความจำ
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใน ImageMagick ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลภาพ ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นจากการจัดการไฟล์รูปแบบ PSX TIM ที่มาจากยุคเครื่อง PlayStation รุ่นแรก แต่กลับสร้างความเสี่ยงในระบบ 32-bit ปัจจุบัน เนื่องจากการคำนวณขนาดภาพโดยไม่ตรวจสอบการ overflow ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างไฟล์ที่บิดเบือนค่าและนำไปสู่การอ่านข้อมูลหน่วยความจำที่ไม่ควรเข้าถึงได้ ข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์สำคัญต่าง ๆ ทีมพัฒนาได้แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 7.1.2-10 และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/imagemagick-flaw-risks-arbitrary-memory-disclosure-via-psx-tim-file-integer-overflow-on-32-bit-systems

    GOLD SALEM ใช้เครื่องมือ Velociraptor เป็นตัวช่วยโจมตี ransomware กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ GOLD SALEM ถูกพบว่ามีการนำเครื่องมือด้านดิจิทัลฟอเรนสิกอย่าง Velociraptor ซึ่งปกติใช้สำหรับการตรวจสอบและตอบสนองเหตุการณ์ มาใช้เป็นเครื่องมือเตรียมการโจมตี ransomware โดยพวกเขาใช้วิธีดาวน์โหลดตัวติดตั้งจากโดเมนที่ควบคุมเอง และนำไปใช้สร้างช่องทางควบคุมระบบ รวมถึงการเจาะช่องโหว่ใน SharePoint ที่เรียกว่า ToolShell เพื่อเข้าถึงระบบองค์กร เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่แค่การเงิน แต่ยังรวมถึงองค์กรในด้านโทรคมนาคม พลังงานนิวเคลียร์ และอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งมีนัยยะด้านการสอดแนมด้วย
    https://securityonline.info/gold-salem-abuses-velociraptor-dfir-tool-as-ransomware-precursor-following-sharepoint-toolshell-exploitation

    Apache StreamPark พบการใช้ key แบบ hard-coded และโหมดเข้ารหัสที่ล้าสมัย
    แพลตฟอร์ม Apache StreamPark ซึ่งใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชันสตรีมมิ่ง ถูกพบว่ามีการใช้คีย์เข้ารหัสที่ถูกฝังตายตัวในซอฟต์แวร์ และยังใช้โหมด AES ECB ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงโทเคนและถอดรหัสข้อมูลได้ง่าย ช่องโหว่นี้กระทบตั้งแต่เวอร์ชัน 2.0.0 ถึง 2.1.7 และอาจส่งผลต่อระบบคลาวด์ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ ผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    https://securityonline.info/apache-streampark-flaw-risks-data-decryption-token-forgery-via-hard-coded-key-and-aes-ecb-mode

    Storm-0249 ใช้ DLL sideloading แฝงตัวในกระบวนการ EDR เพื่อเปิดทาง ransomware
    กลุ่ม Storm-0249 ซึ่งเป็น initial access broker ได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากการส่งฟิชชิ่งทั่วไปมาเป็นการโจมตีแบบเจาะจง โดยใช้ DLL sideloading กับโปรเซสของ SentinelOne ที่เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัย ทำให้ดูเหมือนเป็นการทำงานปกติของระบบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นการเปิดทางให้มัลแวร์เข้ามาได้ พวกเขายังใช้เทคนิค “living off the land” เช่นการใช้ curl.exe และ PowerShell เพื่อรันโค้ดโดยไม่ทิ้งร่องรอยในดิสก์ เป้าหมายคือการขายสิทธิ์เข้าถึงให้กับกลุ่ม ransomware อย่าง LockBit และ ALPHV
    https://securityonline.info/storm-0249-abuses-edr-process-via-dll-sideloading-to-cloak-ransomware-access

    VS Code Marketplace ถูกโจมตี supply chain ผ่าน 19 extensions ปลอม
    นักวิจัยพบว่ามีการปล่อยส่วนขยาย VS Code ที่แฝงมัลแวร์จำนวน 19 ตัว โดยใช้เทคนิค typosquatting และ steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ dependency ภายใน node_modules รวมถึงการปลอมไฟล์ภาพ banner.png ที่จริงเป็น archive บรรจุ binary อันตราย เมื่อส่วนขยายถูกใช้งาน มัลแวร์จะถูกโหลดขึ้นมาและใช้เครื่องมือของ Windows อย่าง cmstp.exe เพื่อรันโค้ดโดยเลี่ยงการตรวจจับ หนึ่งใน payload เป็น Rust trojan ที่ซับซ้อนและยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ที่นักพัฒนาต้องระวัง
    https://securityonline.info/vs-code-supply-chain-attack-19-extensions-used-typosquatting-steganography-to-deploy-rust-trojan



    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251215 #securityonline 🖥️ NANOREMOTE: มัลแวร์ใหม่ที่ซ่อนตัวผ่าน Google Drive เรื่องนี้เป็นการค้นพบของ Elastic Security Labs ที่เจอม้าโทรจันตัวใหม่ชื่อว่า NANOREMOTE ซึ่งทำงานบน Windows และใช้ Google Drive API เป็นช่องทางสื่อสารลับกับผู้โจมตี ทำให้การขโมยข้อมูลและสั่งงานแฝงตัวไปกับทราฟฟิกปกติได้อย่างแนบเนียน จุดเด่นคือมันสามารถใช้ OAuth 2.0 token เพื่อสร้างช่องทางลับในการส่งข้อมูล โดยมีตัวโหลดชื่อ WMLOADER ที่ปลอมตัวเป็นโปรแกรมของ Bitdefender แต่จริง ๆ แล้วเป็นตัวนำมัลแวร์เข้าสู่ระบบ จากนั้นจะถอดรหัสไฟล์ที่ซ่อนอยู่และปล่อยตัว NANOREMOTE ทำงานในหน่วยความจำโดยตรง นักวิจัยยังพบหลักฐานว่ามีการใช้โค้ดและคีย์เข้ารหัสเดียวกันกับมัลแวร์ตระกูล FINALDRAFT ซึ่งบ่งชี้ว่ามีรากฐานการพัฒนาร่วมกัน 🔗 https://securityonline.info/new-nanoremote-backdoor-uses-google-drive-api-for-covert-c2-and-links-to-finaldraft-espionage-group 📧 SHADOW-VOID-042: แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็น Trend Micro กลุ่มผู้โจมตีที่ถูกเรียกว่า SHADOW-VOID-042 ใช้ชื่อเสียงของ Trend Micro มาหลอกเหยื่อ โดยส่งอีเมลฟิชชิ่งที่ดูเหมือนเป็นประกาศเตือนด้านความปลอดภัย เหยื่อที่เชื่อจะถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบสไตล์ของ Trend Micro และถูกติดตั้ง payload แบบเจาะจงเป้าหมาย การโจมตีนี้ไม่ใช่การสุ่ม แต่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละเหยื่อ และมีการใช้ทั้งเทคนิคเก่าและใหม่ เช่น exploit ช่องโหว่ Chrome ปี 2018 รวมถึงการใช้ zero-day ที่ใหม่กว่าสำหรับเป้าหมายสำคัญ นักวิจัยเชื่อว่ากลุ่มนี้อาจเชื่อมโยงกับ Void Rabisu ซึ่งมีประวัติทำงานใกล้ชิดกับผลประโยชน์รัสเซีย 🔗 https://securityonline.info/shadow-void-042-impersonates-trend-micro-in-phishing-campaign-to-breach-critical-infrastructure ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Plesk (CVE-2025-66430) แพลตฟอร์ม Plesk ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการโฮสต์เว็บไซต์ ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น root ได้ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟีเจอร์ Password-Protected Directories ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ฉีดข้อมูลเข้าไปใน Apache configuration ได้โดยตรง ผลคือสามารถสั่งรันคำสั่งใด ๆ ในระดับสูงสุดบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกยึดครองทั้งระบบ Plesk ได้ออก micro-update เร่งด่วนเพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/critical-plesk-flaw-cve-2025-66430-risks-full-server-takeover-via-lpe-and-apache-config-injection 🌐 Ashen Lepus: กลุ่ม APT ที่เชื่อมโยงกับ Hamas เปิดตัว AshTag Malware ในขณะที่สงครามกาซายังคงดำเนินอยู่ กลุ่มแฮกเกอร์ Ashen Lepus หรือ WIRTE ที่เชื่อมโยงกับ Hamas ยังคงทำงานด้านไซเบอร์สอดแนมอย่างต่อเนื่อง และได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ชื่อว่า AshTag ซึ่งเป็นชุดมัลแวร์แบบโมดูลาร์ที่ซ่อนตัวเก่งมาก ใช้ไฟล์ PDF หลอกเหยื่อให้เปิดเอกสารทางการทูตปลอม แล้วโหลด DLL อันตรายเข้ามา จากนั้น payload จะถูกดึงจาก HTML ที่ซ่อนอยู่และทำงานในหน่วยความจำโดยไม่แตะดิสก์ ทำให้ตรวจจับได้ยาก กลุ่มนี้ยังขยายเป้าหมายไปยังประเทศอาหรับอื่น ๆ เช่น โอมานและโมร็อกโก โดยมุ่งเน้นข้อมูลทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 🔗 https://securityonline.info/hamas-affiliated-apt-ashen-lepus-unveils-ashtag-malware-suite-for-wider-cyber-espionage 🛠️ ช่องโหว่ RasMan บน Windows ที่ยังไม่ได้แพตช์ นักวิจัยจาก 0patch พบช่องโหว่ใหม่ในบริการ Remote Access Connection Manager (RasMan) ของ Windows ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้ Microsoft จะเพิ่งแพตช์ช่องโหว่อื่นที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่พบว่ามีบั๊กที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำให้บริการ RasMan crash ได้ และใช้ช่องทางนี้เพื่อยึดสิทธิ์ Local System ได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ linked list ที่ผิดพลาด ทำให้เกิด NULL pointer และ crash ทันที 0patch ได้ออก micropatch ชั่วคราวเพื่อแก้ไข แต่ Microsoft ยังต้องออกแพตช์อย่างเป็นทางการในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/unpatched-windows-rasman-flaw-allows-unprivileged-crash-enabling-local-system-privilege-escalation-exploit 🖼️ ImageMagick พบช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงเปิดเผยข้อมูลหน่วยความจำ เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใน ImageMagick ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลภาพ ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นจากการจัดการไฟล์รูปแบบ PSX TIM ที่มาจากยุคเครื่อง PlayStation รุ่นแรก แต่กลับสร้างความเสี่ยงในระบบ 32-bit ปัจจุบัน เนื่องจากการคำนวณขนาดภาพโดยไม่ตรวจสอบการ overflow ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างไฟล์ที่บิดเบือนค่าและนำไปสู่การอ่านข้อมูลหน่วยความจำที่ไม่ควรเข้าถึงได้ ข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์สำคัญต่าง ๆ ทีมพัฒนาได้แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 7.1.2-10 และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/imagemagick-flaw-risks-arbitrary-memory-disclosure-via-psx-tim-file-integer-overflow-on-32-bit-systems 🕵️ GOLD SALEM ใช้เครื่องมือ Velociraptor เป็นตัวช่วยโจมตี ransomware กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ GOLD SALEM ถูกพบว่ามีการนำเครื่องมือด้านดิจิทัลฟอเรนสิกอย่าง Velociraptor ซึ่งปกติใช้สำหรับการตรวจสอบและตอบสนองเหตุการณ์ มาใช้เป็นเครื่องมือเตรียมการโจมตี ransomware โดยพวกเขาใช้วิธีดาวน์โหลดตัวติดตั้งจากโดเมนที่ควบคุมเอง และนำไปใช้สร้างช่องทางควบคุมระบบ รวมถึงการเจาะช่องโหว่ใน SharePoint ที่เรียกว่า ToolShell เพื่อเข้าถึงระบบองค์กร เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่แค่การเงิน แต่ยังรวมถึงองค์กรในด้านโทรคมนาคม พลังงานนิวเคลียร์ และอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งมีนัยยะด้านการสอดแนมด้วย 🔗 https://securityonline.info/gold-salem-abuses-velociraptor-dfir-tool-as-ransomware-precursor-following-sharepoint-toolshell-exploitation 🔐 Apache StreamPark พบการใช้ key แบบ hard-coded และโหมดเข้ารหัสที่ล้าสมัย แพลตฟอร์ม Apache StreamPark ซึ่งใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชันสตรีมมิ่ง ถูกพบว่ามีการใช้คีย์เข้ารหัสที่ถูกฝังตายตัวในซอฟต์แวร์ และยังใช้โหมด AES ECB ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงโทเคนและถอดรหัสข้อมูลได้ง่าย ช่องโหว่นี้กระทบตั้งแต่เวอร์ชัน 2.0.0 ถึง 2.1.7 และอาจส่งผลต่อระบบคลาวด์ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ ผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยง 🔗 https://securityonline.info/apache-streampark-flaw-risks-data-decryption-token-forgery-via-hard-coded-key-and-aes-ecb-mode ⚔️ Storm-0249 ใช้ DLL sideloading แฝงตัวในกระบวนการ EDR เพื่อเปิดทาง ransomware กลุ่ม Storm-0249 ซึ่งเป็น initial access broker ได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากการส่งฟิชชิ่งทั่วไปมาเป็นการโจมตีแบบเจาะจง โดยใช้ DLL sideloading กับโปรเซสของ SentinelOne ที่เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัย ทำให้ดูเหมือนเป็นการทำงานปกติของระบบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นการเปิดทางให้มัลแวร์เข้ามาได้ พวกเขายังใช้เทคนิค “living off the land” เช่นการใช้ curl.exe และ PowerShell เพื่อรันโค้ดโดยไม่ทิ้งร่องรอยในดิสก์ เป้าหมายคือการขายสิทธิ์เข้าถึงให้กับกลุ่ม ransomware อย่าง LockBit และ ALPHV 🔗 https://securityonline.info/storm-0249-abuses-edr-process-via-dll-sideloading-to-cloak-ransomware-access 💻 VS Code Marketplace ถูกโจมตี supply chain ผ่าน 19 extensions ปลอม นักวิจัยพบว่ามีการปล่อยส่วนขยาย VS Code ที่แฝงมัลแวร์จำนวน 19 ตัว โดยใช้เทคนิค typosquatting และ steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ dependency ภายใน node_modules รวมถึงการปลอมไฟล์ภาพ banner.png ที่จริงเป็น archive บรรจุ binary อันตราย เมื่อส่วนขยายถูกใช้งาน มัลแวร์จะถูกโหลดขึ้นมาและใช้เครื่องมือของ Windows อย่าง cmstp.exe เพื่อรันโค้ดโดยเลี่ยงการตรวจจับ หนึ่งใน payload เป็น Rust trojan ที่ซับซ้อนและยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ที่นักพัฒนาต้องระวัง 🔗 https://securityonline.info/vs-code-supply-chain-attack-19-extensions-used-typosquatting-steganography-to-deploy-rust-trojan
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 535 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar

    นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่”
    เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้
    https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears

    “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time
    ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why

    สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN
    ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children

    อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน
    รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data

    หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน
    งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที
    https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions

    Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่
    สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform

    กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง
    กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware

    วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ
    ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี
    https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time

    รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด
    รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech

    Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11
    ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store

    Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย
    เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
    https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia

    Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย
    แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที
    https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams

    EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware
    สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน
    https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition

    Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่
    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm

    พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools

    iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ
    Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย
    https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone

    AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต
    บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it

    YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย
    Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น
    https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades

    Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด
    Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง
    https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia

    แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้
    มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data

    AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก
    AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp

    Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว
    Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง
    https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition

    อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์
    ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ
    https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud

    สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI
    รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ
    https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china

    ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด
    OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is

    AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน
    รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย
    https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims

    ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง”
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar 📰 นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่” เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears 👥 “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why 🔒 สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children 🇮🇳 อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data ⚠️ หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions 🛡️ Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่ สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform 💻 กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware 💾 วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time 🌐 รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech 🎨 Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11 ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store 📰 Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia 🤖 Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams ⚖️ EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition 💵 Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm 🛡️ พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools 📱 iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย 🔗 https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone 🤖 AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it 📺 YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades 💻 Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia 🛡️ แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้ มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data 🖥️ AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp 💻 Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition ⚖️ อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์ ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud 🌐 สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china 🤖 ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is 🧑‍💻 AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims 🤖 ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง” OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1168 มุมมอง 0 รีวิว
  • RAM Outlet ในญี่ปุ่นขายแพงกว่าของใหม่

    รายงานระบุว่าในญี่ปุ่นมีการขาย Crucial Pro DDR5-5600 C46 64GB (2x32GB) ที่ถูกจัดอยู่ในหมวด “Outlet” แต่กลับมีราคาสูงถึง 602 ดอลลาร์ (รวมภาษี) ทั้งที่ในสหรัฐฯ ราคาขายเพียง 507 ดอลลาร์ Outlet RAM มักหมายถึงสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ชำรุดหรือเป็นสินค้าคืน แต่ในตลาดที่ขาดแคลนหน่วยความจำ ร้านค้ากลับใช้โอกาสนี้ตั้งราคาสูงเท่าของใหม่

    สาเหตุจากการขาดแคลนหน่วยความจำ
    การขาดแคลน RAM เกิดจากความต้องการมหาศาลในยุค AI ที่ทำให้ผู้ผลิตหันไปผลิตหน่วยความจำสำหรับเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลมากกว่าตลาดผู้บริโภค ส่งผลให้สินค้าทั่วไปหายากขึ้น ราคาจึงพุ่งสูง แม้แต่สินค้าที่ควรจะถูกลงอย่าง “Outlet” ก็กลับถูกตั้งราคาสูงขึ้นแทน

    ราคาพุ่งขึ้นหลายเท่าในเวลาไม่กี่เดือน
    ก่อนเกิดวิกฤติ Crucial 64GB DDR5 เคยมีราคาเพียง 134 ดอลลาร์ แต่ปัจจุบันราคาพุ่งขึ้นกว่า 3.7 เท่า และในตลาดมือสองอย่าง eBay มีการตั้งราคาสูงถึง 1,067 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าราคาปกติถึงสองเท่า สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยี
    การขาย RAM แบบ “Outlet” ในราคาสูงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดฮาร์ดแวร์ ที่ผู้ค้าปลีกใช้วิกฤติเป็นโอกาสในการทำกำไรสูงสุด ขณะเดียวกันการที่ Micron ประกาศถอนตัวจากตลาดผู้บริโภคก็ยิ่งทำให้สินค้าของ Crucial กลายเป็นของหายากและมีมูลค่าเชิงสะสม

    สรุปสาระสำคัญ
    Crucial DDR5-5600 64GB Outlet ในญี่ปุ่น
    ราคาสูงถึง 602 ดอลลาร์ เทียบกับ 507 ดอลลาร์ในสหรัฐฯ

    สินค้า Outlet มักเป็นของคืนหรือบรรจุภัณฑ์ชำรุด
    แต่กลับถูกตั้งราคาสูงเท่าของใหม่

    ราคาพุ่งขึ้นกว่า 3.7 เท่าในไม่กี่เดือน
    จาก 134 ดอลลาร์เป็นกว่า 500 ดอลลาร์

    ตลาดมือสองอย่าง eBay
    มีการตั้งราคาสูงถึง 1,067 ดอลลาร์

    ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    Outlet RAM ไม่ได้ถูกลง แต่กลับแพงขึ้น

    การถอนตัวของ Micron จากตลาดผู้บริโภค
    ทำให้ Crucial กลายเป็นสินค้าที่หายากและถูกเก็งกำไร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/outlet-ram-sold-in-japan-as-new-with-huge-markups-scuffed-packaging-crucial-ddr5-5600-64gb-kit-commands-usd600-overseas-as-ai-shortage-bites
    💻 RAM Outlet ในญี่ปุ่นขายแพงกว่าของใหม่ รายงานระบุว่าในญี่ปุ่นมีการขาย Crucial Pro DDR5-5600 C46 64GB (2x32GB) ที่ถูกจัดอยู่ในหมวด “Outlet” แต่กลับมีราคาสูงถึง 602 ดอลลาร์ (รวมภาษี) ทั้งที่ในสหรัฐฯ ราคาขายเพียง 507 ดอลลาร์ Outlet RAM มักหมายถึงสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ชำรุดหรือเป็นสินค้าคืน แต่ในตลาดที่ขาดแคลนหน่วยความจำ ร้านค้ากลับใช้โอกาสนี้ตั้งราคาสูงเท่าของใหม่ 🏭 สาเหตุจากการขาดแคลนหน่วยความจำ การขาดแคลน RAM เกิดจากความต้องการมหาศาลในยุค AI ที่ทำให้ผู้ผลิตหันไปผลิตหน่วยความจำสำหรับเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลมากกว่าตลาดผู้บริโภค ส่งผลให้สินค้าทั่วไปหายากขึ้น ราคาจึงพุ่งสูง แม้แต่สินค้าที่ควรจะถูกลงอย่าง “Outlet” ก็กลับถูกตั้งราคาสูงขึ้นแทน 📉 ราคาพุ่งขึ้นหลายเท่าในเวลาไม่กี่เดือน ก่อนเกิดวิกฤติ Crucial 64GB DDR5 เคยมีราคาเพียง 134 ดอลลาร์ แต่ปัจจุบันราคาพุ่งขึ้นกว่า 3.7 เท่า และในตลาดมือสองอย่าง eBay มีการตั้งราคาสูงถึง 1,067 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าราคาปกติถึงสองเท่า สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยี การขาย RAM แบบ “Outlet” ในราคาสูงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดฮาร์ดแวร์ ที่ผู้ค้าปลีกใช้วิกฤติเป็นโอกาสในการทำกำไรสูงสุด ขณะเดียวกันการที่ Micron ประกาศถอนตัวจากตลาดผู้บริโภคก็ยิ่งทำให้สินค้าของ Crucial กลายเป็นของหายากและมีมูลค่าเชิงสะสม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Crucial DDR5-5600 64GB Outlet ในญี่ปุ่น ➡️ ราคาสูงถึง 602 ดอลลาร์ เทียบกับ 507 ดอลลาร์ในสหรัฐฯ ✅ สินค้า Outlet มักเป็นของคืนหรือบรรจุภัณฑ์ชำรุด ➡️ แต่กลับถูกตั้งราคาสูงเท่าของใหม่ ✅ ราคาพุ่งขึ้นกว่า 3.7 เท่าในไม่กี่เดือน ➡️ จาก 134 ดอลลาร์เป็นกว่า 500 ดอลลาร์ ✅ ตลาดมือสองอย่าง eBay ➡️ มีการตั้งราคาสูงถึง 1,067 ดอลลาร์ ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ⛔ Outlet RAM ไม่ได้ถูกลง แต่กลับแพงขึ้น ‼️ การถอนตัวของ Micron จากตลาดผู้บริโภค ⛔ ทำให้ Crucial กลายเป็นสินค้าที่หายากและถูกเก็งกำไร https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/outlet-ram-sold-in-japan-as-new-with-huge-markups-scuffed-packaging-crucial-ddr5-5600-64gb-kit-commands-usd600-overseas-as-ai-shortage-bites
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกดดันเนเธอร์แลนด์ให้แก้ปัญหาความขัดแย้ง Nexperia

    รัฐบาลจีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์เร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับบริษัท Nexperia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของดัตช์ที่ถูกควบคุมโดย Wingtech Technology ของจีน หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทำให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญ

    การแทรกแซงของรัฐและผลกระทบ
    ในเดือนกันยายน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็นเพื่อวาง Nexperia ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ พร้อมระงับสิทธิ์การโหวตของผู้บริหารที่มาจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระแทน จีนตอบโต้ด้วยการหยุดการส่งออกชิ้นส่วนที่บรรจุในจีนกลับไปยุโรป ส่งผลให้การผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรปสะดุดทันที

    ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    กว่า 70% ของเวเฟอร์ที่ผลิตในยุโรปโดย Nexperia ต้องถูกส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ เมื่อจีนหยุดส่งออก ทำให้เกิดการค้างสต็อกและใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้รับชำระจำนวนมาก ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการควบคุมบริษัทได้อย่างถาวร

    บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้าน ภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเร่งลงทุนเพื่อสร้างโรงงานใหม่ในประเทศตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานที่เสี่ยงต่อการเมือง

    สรุปสาระสำคัญ
    จีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์แก้ปัญหา Nexperia
    หลังการแทรกแซงของรัฐทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุด

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็น
    ระงับสิทธิ์ผู้บริหารจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระ

    จีนตอบโต้ด้วยการหยุดส่งออกชิ้นส่วน
    กระทบการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป

    ปัจจุบันผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน
    แต่ยังไม่แก้ปัญหาการควบคุมบริษัทได้ถาวร

    ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    70% ของเวเฟอร์ยุโรปต้องส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ

    ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์
    อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-presses-netherlands-to-resolve-nexperia-dispute-as-supply-concerns-grow
    🇨🇳 จีนกดดันเนเธอร์แลนด์ให้แก้ปัญหาความขัดแย้ง Nexperia รัฐบาลจีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์เร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับบริษัท Nexperia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของดัตช์ที่ถูกควบคุมโดย Wingtech Technology ของจีน หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทำให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญ 🏛️ การแทรกแซงของรัฐและผลกระทบ ในเดือนกันยายน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็นเพื่อวาง Nexperia ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ พร้อมระงับสิทธิ์การโหวตของผู้บริหารที่มาจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระแทน จีนตอบโต้ด้วยการหยุดการส่งออกชิ้นส่วนที่บรรจุในจีนกลับไปยุโรป ส่งผลให้การผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรปสะดุดทันที ⚡ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก กว่า 70% ของเวเฟอร์ที่ผลิตในยุโรปโดย Nexperia ต้องถูกส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ เมื่อจีนหยุดส่งออก ทำให้เกิดการค้างสต็อกและใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้รับชำระจำนวนมาก ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการควบคุมบริษัทได้อย่างถาวร 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้าน ภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเร่งลงทุนเพื่อสร้างโรงงานใหม่ในประเทศตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานที่เสี่ยงต่อการเมือง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ จีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์แก้ปัญหา Nexperia ➡️ หลังการแทรกแซงของรัฐทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุด ✅ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็น ➡️ ระงับสิทธิ์ผู้บริหารจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระ ✅ จีนตอบโต้ด้วยการหยุดส่งออกชิ้นส่วน ➡️ กระทบการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป ✅ ปัจจุบันผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน ➡️ แต่ยังไม่แก้ปัญหาการควบคุมบริษัทได้ถาวร ‼️ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ⛔ 70% ของเวเฟอร์ยุโรปต้องส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ ‼️ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-presses-netherlands-to-resolve-nexperia-dispute-as-supply-concerns-grow
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Chinese government wades into Dutch chipmaker dispute — presses Netherlands to resolve Nexperia saga as supply concerns grow
    Beijing urges the Dutch government to allow talks with Wingtech after state intervention disrupted chip flows.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบส่วนขยาย VS Code อันตราย แฝงโทรจันในไฟล์ PNG ปลอม

    รายงานจาก Hackread เปิดเผยว่า นักวิจัยจาก ReversingLabs ตรวจพบแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อน โดยมีการปล่อยส่วนขยาย (extensions) อันตรายบน Visual Studio Code Marketplace รวมทั้งหมด 19 ตัว ซึ่งแฝงโทรจันไว้ภายใน โดยใช้เทคนิคการปลอมไฟล์ PNG เพื่อหลอกผู้ใช้และนักพัฒนา

    วิธีการโจมตี
    ผู้โจมตีใช้เทคนิค Dependency Trick โดยแก้ไขแพ็กเกจยอดนิยมอย่าง path-is-absolute (มีการดาวน์โหลดกว่า 9 พันล้านครั้งตั้งแต่ปี 2021) ก่อนจะบันเดิลเข้าไปในส่วนขยายปลอม
    เมื่อ VS Code เริ่มทำงาน โค้ดที่ถูกฝังจะถูกเรียกใช้ทันที และถอดรหัส JavaScript dropper ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ชื่อ lock
    ขั้นตอนสุดท้ายคือการใช้ไฟล์ banner.png ซึ่งดูเหมือนภาพธรรมดา แต่จริง ๆ เป็น archive ที่บรรจุไฟล์ไบนารีอันตราย 2 ตัว โดย dropper จะใช้เครื่องมือ Windows cmstp.exe เพื่อรันไฟล์เหล่านี้

    ผลกระทบ
    โทรจันที่ถูกปล่อยสามารถทำงานได้ทันทีเมื่อเปิด VS Code และอาจให้สิทธิ์ผู้โจมตีเข้าถึงระบบ
    ส่วนขยายบางตัวใช้แพ็กเกจอื่น เช่น @actions/io โดยแยกไฟล์อันตรายออกเป็น .ts และ .map แทนการใช้ PNG
    จำนวนการตรวจพบส่วนขยายอันตรายในปี 2025 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 27 ตัวในปี 2024 เป็น 105 ตัวในปี 2025

    การตอบสนอง
    ส่วนขยายที่ถูกพบทั้งหมดถูกแจ้งไปยัง Microsoft แล้ว
    นักวิจัยเตือนให้นักพัฒนาตรวจสอบส่วนขยายก่อนติดตั้ง โดยเฉพาะส่วนขยายที่มีจำนวนดาวน์โหลดน้อยหรือรีวิวไม่มาก
    แนะนำให้ใช้ trusted sources และตรวจสอบ dependencies อย่างละเอียด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทคนิคการโจมตี
    ปลอมแพ็กเกจ path-is-absolute และฝังโค้ดอันตราย
    ใช้ไฟล์ PNG ปลอม (banner.png) บรรจุโทรจัน

    ผลกระทบ
    โทรจันรันทันทีเมื่อเปิด VS Code
    จำนวนส่วนขยายอันตรายเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าในปี 2025

    การตอบสนอง
    Microsoft ได้รับรายงานและลบส่วนขยายอันตราย
    นักพัฒนาควรตรวจสอบรีวิวและจำนวนดาวน์โหลดก่อนติดตั้ง

    คำเตือนสำหรับนักพัฒนา
    การติดตั้งส่วนขยายที่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยงต่อการติดมัลแวร์
    ควรตรวจสอบ dependencies และหลีกเลี่ยงการใช้แพ็กเกจที่ไม่เป็นที่รู้จัก

    https://hackread.com/malicious-vs-code-extensions-trojan-fake-png-files/
    🛡️ พบส่วนขยาย VS Code อันตราย แฝงโทรจันในไฟล์ PNG ปลอม รายงานจาก Hackread เปิดเผยว่า นักวิจัยจาก ReversingLabs ตรวจพบแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อน โดยมีการปล่อยส่วนขยาย (extensions) อันตรายบน Visual Studio Code Marketplace รวมทั้งหมด 19 ตัว ซึ่งแฝงโทรจันไว้ภายใน โดยใช้เทคนิคการปลอมไฟล์ PNG เพื่อหลอกผู้ใช้และนักพัฒนา 🎯 วิธีการโจมตี 💠 ผู้โจมตีใช้เทคนิค Dependency Trick โดยแก้ไขแพ็กเกจยอดนิยมอย่าง path-is-absolute (มีการดาวน์โหลดกว่า 9 พันล้านครั้งตั้งแต่ปี 2021) ก่อนจะบันเดิลเข้าไปในส่วนขยายปลอม 💠 เมื่อ VS Code เริ่มทำงาน โค้ดที่ถูกฝังจะถูกเรียกใช้ทันที และถอดรหัส JavaScript dropper ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ชื่อ lock 💠 ขั้นตอนสุดท้ายคือการใช้ไฟล์ banner.png ซึ่งดูเหมือนภาพธรรมดา แต่จริง ๆ เป็น archive ที่บรรจุไฟล์ไบนารีอันตราย 2 ตัว โดย dropper จะใช้เครื่องมือ Windows cmstp.exe เพื่อรันไฟล์เหล่านี้ ⚠️ ผลกระทบ 💠 โทรจันที่ถูกปล่อยสามารถทำงานได้ทันทีเมื่อเปิด VS Code และอาจให้สิทธิ์ผู้โจมตีเข้าถึงระบบ 💠 ส่วนขยายบางตัวใช้แพ็กเกจอื่น เช่น @actions/io โดยแยกไฟล์อันตรายออกเป็น .ts และ .map แทนการใช้ PNG 💠 จำนวนการตรวจพบส่วนขยายอันตรายในปี 2025 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 27 ตัวในปี 2024 เป็น 105 ตัวในปี 2025 🛡️ การตอบสนอง 💠 ส่วนขยายที่ถูกพบทั้งหมดถูกแจ้งไปยัง Microsoft แล้ว 💠 นักวิจัยเตือนให้นักพัฒนาตรวจสอบส่วนขยายก่อนติดตั้ง โดยเฉพาะส่วนขยายที่มีจำนวนดาวน์โหลดน้อยหรือรีวิวไม่มาก 💠 แนะนำให้ใช้ trusted sources และตรวจสอบ dependencies อย่างละเอียด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทคนิคการโจมตี ➡️ ปลอมแพ็กเกจ path-is-absolute และฝังโค้ดอันตราย ➡️ ใช้ไฟล์ PNG ปลอม (banner.png) บรรจุโทรจัน ✅ ผลกระทบ ➡️ โทรจันรันทันทีเมื่อเปิด VS Code ➡️ จำนวนส่วนขยายอันตรายเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าในปี 2025 ✅ การตอบสนอง ➡️ Microsoft ได้รับรายงานและลบส่วนขยายอันตราย ➡️ นักพัฒนาควรตรวจสอบรีวิวและจำนวนดาวน์โหลดก่อนติดตั้ง ‼️ คำเตือนสำหรับนักพัฒนา ⛔ การติดตั้งส่วนขยายที่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยงต่อการติดมัลแวร์ ⛔ ควรตรวจสอบ dependencies และหลีกเลี่ยงการใช้แพ็กเกจที่ไม่เป็นที่รู้จัก https://hackread.com/malicious-vs-code-extensions-trojan-fake-png-files/
    HACKREAD.COM
    Malicious Visual Studio Code Extensions Hide Trojan in Fake PNG Files
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขายการ์ดจอ Asus GeForce RTX 5090 32GB OC GDDR7 Tuff Gaming ใหม่เอี่ยม (ไม่เคยแกะกล่อง/ใช้งาน) สินค้าแท้ 100% คุณภาพสูง อยู่ในกล่องและบรรจุภัณฑ์เดิมจากโรงงาน ปิดผนึกอย่างดี!!!!

    สิ่งที่อยู่ในกล่อง:

    • การ์ดจอ ASUS TUF Gaming GeForce RTX 5090 32GB GDDR7 OC Edition จำนวน 1 ใบ

    • อุปกรณ์เสริมที่ปิดผนึกจากโรงงาน

    • ใบรับประกันจากผู้ผลิต Asus

    • คู่มือการใช้งาน Asus

    สำเนาใบรับประกัน 3 ปีจาก Asus

    ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา การสั่งซื้อ และการจัดส่งได้

    สุขสันต์วันคริสต์มาสล่วงหน้า!
    ขายการ์ดจอ Asus GeForce RTX 5090 32GB OC GDDR7 Tuff Gaming ใหม่เอี่ยม (ไม่เคยแกะกล่อง/ใช้งาน) สินค้าแท้ 100% คุณภาพสูง อยู่ในกล่องและบรรจุภัณฑ์เดิมจากโรงงาน ปิดผนึกอย่างดี!!!! สิ่งที่อยู่ในกล่อง: • การ์ดจอ ASUS TUF Gaming GeForce RTX 5090 32GB GDDR7 OC Edition จำนวน 1 ใบ • อุปกรณ์เสริมที่ปิดผนึกจากโรงงาน • ใบรับประกันจากผู้ผลิต Asus • คู่มือการใช้งาน Asus สำเนาใบรับประกัน 3 ปีจาก Asus ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา การสั่งซื้อ และการจัดส่งได้ สุขสันต์วันคริสต์มาสล่วงหน้า!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จิ๋วแต่ทรงพลัง

    Tiiny AI เปิดตัวเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กมากจนสามารถถือได้ด้วยมือเดียว แต่ภายในบรรจุฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังพอจะรองรับโมเดล AI ขนาดมหึมา จุดเด่นคือการออกแบบที่เน้น local-first computing ทำให้สามารถประมวลผลโมเดลได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก

    สเปกและความสามารถ
    เครื่องนี้ใช้สถาปัตยกรรมที่รองรับการประมวลผลโมเดล AI ขนาด 120B parameters พร้อมระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับเซิร์ฟเวอร์ AI ระดับศูนย์ข้อมูล โดยยังคงรักษาความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ทั่วไป

    ความหมายต่อวงการ AI
    การมาของ Tiiny AI Supercomputer สะท้อนถึงแนวโน้มการทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่บริษัทใหญ่หรือศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมา แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไป, นักวิจัยอิสระ และสตาร์ทอัพสามารถทดลองโมเดลขนาดใหญ่ได้ด้วยเครื่องที่ตั้งบนโต๊ะทำงาน

    ผลกระทบในอนาคต
    หากเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาและผลิตในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง อาจเปลี่ยนโฉมการใช้งาน AI ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะจะทำให้การฝึกและรันโมเดลขนาดใหญ่ไม่ต้องพึ่งพา cloud computing เพียงอย่างเดียว แต่สามารถทำได้ในระดับ local ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความเป็นส่วนตัว

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Tiiny AI Supercomputer
    ขนาดเล็กที่สุดในโลก
    รองรับโมเดล AI ขนาด 120B parameters

    จุดเด่นด้านเทคโนโลยี
    ออกแบบเพื่อ local-first computing
    ประสิทธิภาพใกล้เคียงเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูล

    ความหมายต่อวงการ AI
    ทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
    เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไปและสตาร์ทอัพ

    ผลกระทบในอนาคต
    ลดการพึ่งพา cloud computing
    เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดค่าใช้จ่าย

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ยังไม่ชัดเจนเรื่องราคาและการวางจำหน่ายจริง
    อาจมีข้อจำกัดด้านการระบายความร้อนและการขยายระบบ
    ต้องพิสูจน์ความเสถียรในการใช้งานระยะยาว

    https://wccftech.com/meet-the-worlds-smallest-supercomputer-a-machine-bold-enough-to-run-120b-ai-models/
    🖥️ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จิ๋วแต่ทรงพลัง Tiiny AI เปิดตัวเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กมากจนสามารถถือได้ด้วยมือเดียว แต่ภายในบรรจุฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังพอจะรองรับโมเดล AI ขนาดมหึมา จุดเด่นคือการออกแบบที่เน้น local-first computing ทำให้สามารถประมวลผลโมเดลได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ⚡ สเปกและความสามารถ เครื่องนี้ใช้สถาปัตยกรรมที่รองรับการประมวลผลโมเดล AI ขนาด 120B parameters พร้อมระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับเซิร์ฟเวอร์ AI ระดับศูนย์ข้อมูล โดยยังคงรักษาความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ทั่วไป 🌍 ความหมายต่อวงการ AI การมาของ Tiiny AI Supercomputer สะท้อนถึงแนวโน้มการทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่บริษัทใหญ่หรือศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมา แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไป, นักวิจัยอิสระ และสตาร์ทอัพสามารถทดลองโมเดลขนาดใหญ่ได้ด้วยเครื่องที่ตั้งบนโต๊ะทำงาน 🔍 ผลกระทบในอนาคต หากเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาและผลิตในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง อาจเปลี่ยนโฉมการใช้งาน AI ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะจะทำให้การฝึกและรันโมเดลขนาดใหญ่ไม่ต้องพึ่งพา cloud computing เพียงอย่างเดียว แต่สามารถทำได้ในระดับ local ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความเป็นส่วนตัว 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Tiiny AI Supercomputer ➡️ ขนาดเล็กที่สุดในโลก ➡️ รองรับโมเดล AI ขนาด 120B parameters ✅ จุดเด่นด้านเทคโนโลยี ➡️ ออกแบบเพื่อ local-first computing ➡️ ประสิทธิภาพใกล้เคียงเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูล ✅ ความหมายต่อวงการ AI ➡️ ทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ➡️ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไปและสตาร์ทอัพ ✅ ผลกระทบในอนาคต ➡️ ลดการพึ่งพา cloud computing ➡️ เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดค่าใช้จ่าย ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ยังไม่ชัดเจนเรื่องราคาและการวางจำหน่ายจริง ⛔ อาจมีข้อจำกัดด้านการระบายความร้อนและการขยายระบบ ⛔ ต้องพิสูจน์ความเสถียรในการใช้งานระยะยาว https://wccftech.com/meet-the-worlds-smallest-supercomputer-a-machine-bold-enough-to-run-120b-ai-models/
    WCCFTECH.COM
    Meet the World’s Smallest ‘Supercomputer’ from Tiiny AI; A Machine Bold Enough to Run 120B AI Models Right in the Palm of Your Hand
    Compact AI devices have become mainstream, but Tiiny AI has broken the barriers by introducing the world's smallest AI supercomputer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเริ่มจัดทำ “บัญชีรายชื่อผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ AI ที่รัฐบาลอนุมัติ”

    รัฐบาลจีนได้เพิ่มหมวดหมู่ใหม่ใน “Information Technology Innovation List (Xinchuang)” โดยรวมถึงโปรเซสเซอร์ AI ที่ผลิตในประเทศ รายชื่อแรกประกอบด้วย Cambricon และ Huawei ซึ่งจะถูกแนะนำให้หน่วยงานรัฐ, บริษัทของรัฐ และสถาบันสาธารณะเลือกใช้เป็นหลัก

    เป้าหมายของนโยบาย
    การจัดทำรายชื่อนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการแทนที่ชิป AI ที่ออกแบบโดยสหรัฐ เช่น Nvidia และ AMD ด้วยทางเลือกที่ผลิตในประเทศ เพื่อสร้าง ecosystem ที่จีนควบคุมเองได้ และลดความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรหรือข้อจำกัดการส่งออก

    ความท้าทายในการเปลี่ยนผ่าน
    แม้ Cambricon และ Huawei จะมีชิป AI ของตัวเอง แต่หลายงานในภาครัฐและเอกชนยังคงพึ่งพา CUDA ของ Nvidia อย่างหนัก ทำให้การย้ายไปใช้สถาปัตยกรรมใหม่ไม่ง่าย นอกจากนี้ โรงงานผลิตชิปของจีน เช่น SMIC ยังมีข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตและไม่สามารถแข่งขันกับ TSMC ได้เต็มที่

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    นโยบายนี้จะส่งผลให้บริษัทจีนต้องเร่งพัฒนา ecosystem ของตัวเอง ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ขณะเดียวกันบริษัทเอกชนอย่าง Alibaba และ Tencent อาจยังเลือกใช้ Nvidia ผ่านบริการคลาวด์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน แต่ในระยะยาว จีนตั้งใจจะสร้างความพึ่งพาตนเองให้ได้

    สรุปเป็นหัวข้อ
    รายชื่อผู้ผลิตที่อนุมัติ
    Cambricon และ Huawei ติดในบัญชี Xinchuang
    Nvidia และ AMD ไม่ถูกบรรจุ

    เป้าหมายของนโยบาย
    ลดการพึ่งพาชิปต่างชาติ
    สร้าง ecosystem AI ที่จีนควบคุมเองได้

    ความท้าทาย
    งานจำนวนมากยังพึ่งพา CUDA ของ Nvidia
    SMIC มีกำลังผลิตจำกัด ไม่เทียบเท่า TSMC

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    Alibaba และ Tencent อาจยังใช้ Nvidia ผ่านคลาวด์
    จีนเร่งพัฒนา ecosystem ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในประเทศ

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    การเปลี่ยนผ่านอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรในระบบ
    ความเสี่ยงจากการขาดกำลังผลิตชิปขั้นสูง
    อาจกระทบต่อความสามารถแข่งขันของบริษัทจีนในระยะสั้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-starts-list-of-government-approved-ai-hardware-suppliers-cambricon-and-huawei-are-in-nvidia-is-not
    🇨🇳 จีนเริ่มจัดทำ “บัญชีรายชื่อผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ AI ที่รัฐบาลอนุมัติ” รัฐบาลจีนได้เพิ่มหมวดหมู่ใหม่ใน “Information Technology Innovation List (Xinchuang)” โดยรวมถึงโปรเซสเซอร์ AI ที่ผลิตในประเทศ รายชื่อแรกประกอบด้วย Cambricon และ Huawei ซึ่งจะถูกแนะนำให้หน่วยงานรัฐ, บริษัทของรัฐ และสถาบันสาธารณะเลือกใช้เป็นหลัก ⚡ เป้าหมายของนโยบาย การจัดทำรายชื่อนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการแทนที่ชิป AI ที่ออกแบบโดยสหรัฐ เช่น Nvidia และ AMD ด้วยทางเลือกที่ผลิตในประเทศ เพื่อสร้าง ecosystem ที่จีนควบคุมเองได้ และลดความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรหรือข้อจำกัดการส่งออก 🖥️ ความท้าทายในการเปลี่ยนผ่าน แม้ Cambricon และ Huawei จะมีชิป AI ของตัวเอง แต่หลายงานในภาครัฐและเอกชนยังคงพึ่งพา CUDA ของ Nvidia อย่างหนัก ทำให้การย้ายไปใช้สถาปัตยกรรมใหม่ไม่ง่าย นอกจากนี้ โรงงานผลิตชิปของจีน เช่น SMIC ยังมีข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตและไม่สามารถแข่งขันกับ TSMC ได้เต็มที่ 🔍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม นโยบายนี้จะส่งผลให้บริษัทจีนต้องเร่งพัฒนา ecosystem ของตัวเอง ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ขณะเดียวกันบริษัทเอกชนอย่าง Alibaba และ Tencent อาจยังเลือกใช้ Nvidia ผ่านบริการคลาวด์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน แต่ในระยะยาว จีนตั้งใจจะสร้างความพึ่งพาตนเองให้ได้ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ รายชื่อผู้ผลิตที่อนุมัติ ➡️ Cambricon และ Huawei ติดในบัญชี Xinchuang ➡️ Nvidia และ AMD ไม่ถูกบรรจุ ✅ เป้าหมายของนโยบาย ➡️ ลดการพึ่งพาชิปต่างชาติ ➡️ สร้าง ecosystem AI ที่จีนควบคุมเองได้ ✅ ความท้าทาย ➡️ งานจำนวนมากยังพึ่งพา CUDA ของ Nvidia ➡️ SMIC มีกำลังผลิตจำกัด ไม่เทียบเท่า TSMC ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ Alibaba และ Tencent อาจยังใช้ Nvidia ผ่านคลาวด์ ➡️ จีนเร่งพัฒนา ecosystem ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในประเทศ ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ การเปลี่ยนผ่านอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรในระบบ ⛔ ความเสี่ยงจากการขาดกำลังผลิตชิปขั้นสูง ⛔ อาจกระทบต่อความสามารถแข่งขันของบริษัทจีนในระยะสั้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-starts-list-of-government-approved-ai-hardware-suppliers-cambricon-and-huawei-are-in-nvidia-is-not
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Canonical จับมือ AMD นำ ROCm มาสู่ Ubuntu อย่างเป็นทางการ”

    ความร่วมมือครั้งสำคัญ
    Canonical ประกาศความร่วมมือกับ AMD เพื่อนำ ROCm (Radeon Open Compute) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการเร่งความเร็วด้วย GPU มาเป็นส่วนหนึ่งของ Ubuntu โดยจะเริ่มต้นใน Ubuntu 26.04 LTS และจะมีให้ใช้งานต่อเนื่องในทุกเวอร์ชันหลังจากนั้น การรวม ROCm เข้ากับระบบปฏิบัติการโดยตรงจะช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้งและใช้งานได้ง่ายขึ้นมาก.

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา
    การที่ ROCm ถูกบรรจุใน Ubuntu ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งได้ด้วยคำสั่งง่าย ๆ เช่น sudo apt install rocm หรือถูกดึงมาเป็น dependency โดยอัตโนมัติเมื่อใช้โปรเจกต์ที่ต้องการ GPU acceleration เช่น Ollama เวอร์ชัน AMD สิ่งนี้ช่วยลดความซับซ้อนในการตั้งค่าและทำให้การพัฒนา AI, HPC และงานด้าน Machine Learning บน Ubuntu มีความสะดวกและเสถียรมากขึ้น.

    ความปลอดภัยและการบำรุงรักษา
    Canonical ตั้งทีมวิศวกรเฉพาะเพื่อดูแลแพ็กเกจ ROCm ทั้งการจัดทำ, การบำรุงรักษาระยะยาว และการส่ง upstream ไปยัง Debian เพื่อให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สได้ประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ ROCm LTS จะได้รับการสนับสนุนด้าน Security Patch และ Performance Fixes ผ่านระบบอัปเดตปกติของ Ubuntu และหากใช้ Ubuntu Pro จะได้รับการสนับสนุนยาวนานถึง 15 ปี.

    ความหมายต่อระบบนิเวศ
    การรวม ROCm เข้ากับ Ubuntu ไม่เพียงช่วยผู้ใช้ทั่วไป แต่ยังเป็นการเปิดทางให้ Data Center, Workstation, Laptop, WSL และ Edge Computing สามารถใช้ GPU ของ AMD ได้อย่างราบรื่น ถือเป็นการยกระดับการแข่งขันในตลาด AI ที่ก่อนหน้านี้ NVIDIA ครองความได้เปรียบด้านซอฟต์แวร์.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ความร่วมมือ Canonical + AMD
    ROCm จะถูกบรรจุใน Ubuntu ตั้งแต่เวอร์ชัน 26.04 LTS
    มีให้ใช้งานต่อเนื่องในทุกเวอร์ชันหลังจากนั้น

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา
    ติดตั้งง่ายด้วย sudo apt install rocm
    ใช้งานสะดวกสำหรับ AI, HPC และ Machine Learning

    ความปลอดภัยและการบำรุงรักษา
    Canonical ตั้งทีมเฉพาะดูแลแพ็กเกจ ROCm
    Security Patch และ Performance Fixes ผ่านระบบอัปเดต
    Ubuntu Pro สนับสนุนยาวนานถึง 15 ปี

    ความหมายต่อระบบนิเวศ AI
    รองรับ Data Center, Workstation, Laptop, WSL และ Edge Computing
    เพิ่มการแข่งขันกับ NVIDIA ในตลาด AI

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากไม่อัปเดต ROCm อาจพลาด Security Patch สำคัญ
    การใช้ฮาร์ดแวร์ AMD รุ่นเก่าอาจไม่รองรับ ROCm เต็มรูปแบบ
    การพัฒนา AI ที่พึ่งพา ROCm ต้องตรวจสอบ Compatibility กับแพ็กเกจอื่น ๆ

    https://itsfoss.com/news/ubuntu-rocm-support/
    🖥️ “Canonical จับมือ AMD นำ ROCm มาสู่ Ubuntu อย่างเป็นทางการ” 🔧 ความร่วมมือครั้งสำคัญ Canonical ประกาศความร่วมมือกับ AMD เพื่อนำ ROCm (Radeon Open Compute) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการเร่งความเร็วด้วย GPU มาเป็นส่วนหนึ่งของ Ubuntu โดยจะเริ่มต้นใน Ubuntu 26.04 LTS และจะมีให้ใช้งานต่อเนื่องในทุกเวอร์ชันหลังจากนั้น การรวม ROCm เข้ากับระบบปฏิบัติการโดยตรงจะช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้งและใช้งานได้ง่ายขึ้นมาก. 🚀 ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา การที่ ROCm ถูกบรรจุใน Ubuntu ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งได้ด้วยคำสั่งง่าย ๆ เช่น sudo apt install rocm หรือถูกดึงมาเป็น dependency โดยอัตโนมัติเมื่อใช้โปรเจกต์ที่ต้องการ GPU acceleration เช่น Ollama เวอร์ชัน AMD สิ่งนี้ช่วยลดความซับซ้อนในการตั้งค่าและทำให้การพัฒนา AI, HPC และงานด้าน Machine Learning บน Ubuntu มีความสะดวกและเสถียรมากขึ้น. 🔒 ความปลอดภัยและการบำรุงรักษา Canonical ตั้งทีมวิศวกรเฉพาะเพื่อดูแลแพ็กเกจ ROCm ทั้งการจัดทำ, การบำรุงรักษาระยะยาว และการส่ง upstream ไปยัง Debian เพื่อให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สได้ประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ ROCm LTS จะได้รับการสนับสนุนด้าน Security Patch และ Performance Fixes ผ่านระบบอัปเดตปกติของ Ubuntu และหากใช้ Ubuntu Pro จะได้รับการสนับสนุนยาวนานถึง 15 ปี. 🌍 ความหมายต่อระบบนิเวศ การรวม ROCm เข้ากับ Ubuntu ไม่เพียงช่วยผู้ใช้ทั่วไป แต่ยังเป็นการเปิดทางให้ Data Center, Workstation, Laptop, WSL และ Edge Computing สามารถใช้ GPU ของ AMD ได้อย่างราบรื่น ถือเป็นการยกระดับการแข่งขันในตลาด AI ที่ก่อนหน้านี้ NVIDIA ครองความได้เปรียบด้านซอฟต์แวร์. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ความร่วมมือ Canonical + AMD ➡️ ROCm จะถูกบรรจุใน Ubuntu ตั้งแต่เวอร์ชัน 26.04 LTS ➡️ มีให้ใช้งานต่อเนื่องในทุกเวอร์ชันหลังจากนั้น ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา ➡️ ติดตั้งง่ายด้วย sudo apt install rocm ➡️ ใช้งานสะดวกสำหรับ AI, HPC และ Machine Learning ✅ ความปลอดภัยและการบำรุงรักษา ➡️ Canonical ตั้งทีมเฉพาะดูแลแพ็กเกจ ROCm ➡️ Security Patch และ Performance Fixes ผ่านระบบอัปเดต ➡️ Ubuntu Pro สนับสนุนยาวนานถึง 15 ปี ✅ ความหมายต่อระบบนิเวศ AI ➡️ รองรับ Data Center, Workstation, Laptop, WSL และ Edge Computing ➡️ เพิ่มการแข่งขันกับ NVIDIA ในตลาด AI ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากไม่อัปเดต ROCm อาจพลาด Security Patch สำคัญ ⛔ การใช้ฮาร์ดแวร์ AMD รุ่นเก่าอาจไม่รองรับ ROCm เต็มรูปแบบ ⛔ การพัฒนา AI ที่พึ่งพา ROCm ต้องตรวจสอบ Compatibility กับแพ็กเกจอื่น ๆ https://itsfoss.com/news/ubuntu-rocm-support/
    ITSFOSS.COM
    Ubuntu Will Soon Make AMD GPUs Much Easier to Use for AI Workloads
    Canonical teams up with AMD to package ROCm directly in Ubuntu.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อุตสาหกรรมชิปเข้าสู่ Giga Cycle"

    ข่าวนี้เล่าถึงการที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเข้าสู่สิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “Giga Cycle” ซึ่งเกิดจากการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ความต้องการชิปทุกประเภท—ตั้งแต่ CPU, GPU, หน่วยความจำ ไปจนถึงการบรรจุขั้นสูง—พุ่งขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน

    รายงานจาก Creative Strategies ระบุว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 จากเดิมที่มีรายได้ราว 650 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 . ปัจจัยหลักคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่กว่าทุกการขยายตัวในอดีต . ทั้ง AMD, Nvidia และ Broadcom ต่างยืนยันว่าตลาดนี้คือโอกาสมหาศาล โดย AMD คาดว่าตลาดฮาร์ดแวร์ AI จะมีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 .

    การเติบโตของ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์
    AI Accelerators ที่มีมูลค่าไม่ถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถูกคาดว่าจะโตถึง 300–350 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029–2030 . ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ก็จะพุ่งจาก 140 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 850 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . สิ่งนี้ทำให้การพัฒนา ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผนงานของ Hyperscaler รายใหญ่ เช่น Broadcom ที่คาดว่าธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษ .

    หน่วยความจำและการบรรจุ: คอขวดสำคัญ
    ตลาดหน่วยความจำ โดยเฉพาะ HBM (High Bandwidth Memory) กำลังกลายเป็นคอขวดหลัก . รายได้จาก HBM ถูกคาดว่าจะโตจาก 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการบรรจุขั้นสูงอย่าง CoWoS ก็กำลังถูกขยายกำลังการผลิตกว่า 60% ระหว่างปี 2025–2026 เพื่อรองรับความต้องการ .

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    สิ่งที่ทำให้ Giga Cycle แตกต่างจากรอบการเติบโตในอดีตคือ ทุกเซ็กเมนต์ของตลาดกำลังขยายตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Compute, Memory, Networking หรือ Storage . นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ไม่ใช่แค่ “รอบบูม” แต่เป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลก .

    สรุปสาระสำคัญ
    ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกโตแรง
    คาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029

    AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI
    โตจาก 140 พันล้าน → 850 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030

    ASIC และ Custom Silicon
    Broadcom คาดธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์

    HBM และการบรรจุขั้นสูง
    HBM โตจาก 16 พันล้าน → 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030
    CoWoS ขยายกำลังผลิตกว่า 60% ภายในปี 2026

    คำเตือนด้านคอขวดการผลิต
    หน่วยความจำและการบรรจุอาจไม่ทันต่อความต้องการ AI

    คำเตือนด้านความเสี่ยงตลาด
    หากการลงทุน AI ชะลอตัว อาจกระทบต่อการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/semiconductor-industry-enters-giga-cycle-as-ai-infrastructure-spending-reshapes-demand
    🌐 "อุตสาหกรรมชิปเข้าสู่ Giga Cycle" ข่าวนี้เล่าถึงการที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเข้าสู่สิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “Giga Cycle” ซึ่งเกิดจากการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ความต้องการชิปทุกประเภท—ตั้งแต่ CPU, GPU, หน่วยความจำ ไปจนถึงการบรรจุขั้นสูง—พุ่งขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน รายงานจาก Creative Strategies ระบุว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 จากเดิมที่มีรายได้ราว 650 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 . ปัจจัยหลักคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่กว่าทุกการขยายตัวในอดีต . ทั้ง AMD, Nvidia และ Broadcom ต่างยืนยันว่าตลาดนี้คือโอกาสมหาศาล โดย AMD คาดว่าตลาดฮาร์ดแวร์ AI จะมีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 . ⚡ การเติบโตของ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI Accelerators ที่มีมูลค่าไม่ถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถูกคาดว่าจะโตถึง 300–350 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029–2030 . ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ก็จะพุ่งจาก 140 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 850 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . สิ่งนี้ทำให้การพัฒนา ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผนงานของ Hyperscaler รายใหญ่ เช่น Broadcom ที่คาดว่าธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษ . 🧠 หน่วยความจำและการบรรจุ: คอขวดสำคัญ ตลาดหน่วยความจำ โดยเฉพาะ HBM (High Bandwidth Memory) กำลังกลายเป็นคอขวดหลัก . รายได้จาก HBM ถูกคาดว่าจะโตจาก 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการบรรจุขั้นสูงอย่าง CoWoS ก็กำลังถูกขยายกำลังการผลิตกว่า 60% ระหว่างปี 2025–2026 เพื่อรองรับความต้องการ . 🌍 มุมมองเชิงกลยุทธ์ สิ่งที่ทำให้ Giga Cycle แตกต่างจากรอบการเติบโตในอดีตคือ ทุกเซ็กเมนต์ของตลาดกำลังขยายตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Compute, Memory, Networking หรือ Storage . นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ไม่ใช่แค่ “รอบบูม” แต่เป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลก . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกโตแรง ➡️ คาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 ✅ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI ➡️ โตจาก 140 พันล้าน → 850 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ✅ ASIC และ Custom Silicon ➡️ Broadcom คาดธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ ✅ HBM และการบรรจุขั้นสูง ➡️ HBM โตจาก 16 พันล้าน → 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 ➡️ CoWoS ขยายกำลังผลิตกว่า 60% ภายในปี 2026 ‼️ คำเตือนด้านคอขวดการผลิต ⛔ หน่วยความจำและการบรรจุอาจไม่ทันต่อความต้องการ AI ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยงตลาด ⛔ หากการลงทุน AI ชะลอตัว อาจกระทบต่อการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/semiconductor-industry-enters-giga-cycle-as-ai-infrastructure-spending-reshapes-demand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Intel จับมือ Tata Group ผลักดันอินเดียสู่ศูนย์กลางชิปโลก"

    Intel ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MoU) กับ Tata Group หนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดของอินเดีย เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลิตชิป รวมถึงการบรรจุ (packaging) สำหรับตลาดท้องถิ่น . ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมการพัฒนา AI PC ทั้งในตลาดผู้บริโภคและองค์กร โดยตั้งเป้าให้อินเดียติดอันดับ Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030.

    การลงทุนครั้งใหญ่: "โรงงานมูลค่า 14 พันล้านดอลลาร์"
    Tata Group กำลังสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่งในอินเดีย มูลค่ารวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ ได้แก่ โรงงานผลิตชิปในรัฐคุชราต และโรงงาน OSAT (Outsourced Semiconductor Assembly and Test) ในรัฐอัสสัม. การลงทุนนี้ถือเป็นโครงการใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอินเดียจนถึงปัจจุบัน .

    ผลักดัน India Semiconductor Mission (ISM)
    ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อโครงการ India Semiconductor Mission (ISM) ที่รัฐบาลอินเดียเปิดตัวตั้งแต่ปี 2021 ด้วยงบประมาณกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการทดสอบชิป . โครงการนี้ยังดึงดูดผู้เล่นระดับโลก เช่น Micron, Foxconn และ Clas-SiC Wafer Fab เข้ามาร่วมลงทุน.

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    Intel มองว่าอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยความต้องการ PC และ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง . การจับมือกับ Tata ไม่เพียงช่วยขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการสร้างฐานการผลิตที่มั่นคงในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาประเทศอื่นและเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน.

    สรุปสาระสำคัญ
    Intel จับมือ Tata Group
    ลงนาม MoU เพื่อผลิตและบรรจุชิปในอินเดีย

    การลงทุนครั้งใหญ่
    โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง มูลค่า ~14 พันล้านดอลลาร์

    พัฒนา AI PC
    ตั้งเป้าให้อินเดียติด Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030

    สนับสนุน India Semiconductor Mission
    โครงการรัฐบาลมูลค่า ~10 พันล้านดอลลาร์ ดึงดูดผู้เล่นระดับโลก

    คำเตือนด้านห่วงโซ่อุปทาน
    หากโครงการล่าช้า อินเดียอาจเสียโอกาสแข่งขันกับจีนและไต้หวัน

    คำเตือนด้านความเสี่ยงการลงทุน
    โรงงานใหม่ต้องใช้เวลาและเทคโนโลยีสูง อาจเจออุปสรรคด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-boosts-indias-chip-push-with-new-tata-group-strategic-partnership-includes-manufacturing-and-packaging-of-intel-products-for-local-markets
    🤝 "Intel จับมือ Tata Group ผลักดันอินเดียสู่ศูนย์กลางชิปโลก" Intel ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MoU) กับ Tata Group หนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดของอินเดีย เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลิตชิป รวมถึงการบรรจุ (packaging) สำหรับตลาดท้องถิ่น . ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมการพัฒนา AI PC ทั้งในตลาดผู้บริโภคและองค์กร โดยตั้งเป้าให้อินเดียติดอันดับ Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030. 🏭 การลงทุนครั้งใหญ่: "โรงงานมูลค่า 14 พันล้านดอลลาร์" Tata Group กำลังสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่งในอินเดีย มูลค่ารวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ ได้แก่ โรงงานผลิตชิปในรัฐคุชราต และโรงงาน OSAT (Outsourced Semiconductor Assembly and Test) ในรัฐอัสสัม. การลงทุนนี้ถือเป็นโครงการใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอินเดียจนถึงปัจจุบัน . ⚡ ผลักดัน India Semiconductor Mission (ISM) ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อโครงการ India Semiconductor Mission (ISM) ที่รัฐบาลอินเดียเปิดตัวตั้งแต่ปี 2021 ด้วยงบประมาณกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการทดสอบชิป . โครงการนี้ยังดึงดูดผู้เล่นระดับโลก เช่น Micron, Foxconn และ Clas-SiC Wafer Fab เข้ามาร่วมลงทุน. 🌍 มุมมองเชิงกลยุทธ์ Intel มองว่าอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยความต้องการ PC และ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง . การจับมือกับ Tata ไม่เพียงช่วยขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการสร้างฐานการผลิตที่มั่นคงในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาประเทศอื่นและเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Intel จับมือ Tata Group ➡️ ลงนาม MoU เพื่อผลิตและบรรจุชิปในอินเดีย ✅ การลงทุนครั้งใหญ่ ➡️ โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง มูลค่า ~14 พันล้านดอลลาร์ ✅ พัฒนา AI PC ➡️ ตั้งเป้าให้อินเดียติด Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030 ✅ สนับสนุน India Semiconductor Mission ➡️ โครงการรัฐบาลมูลค่า ~10 พันล้านดอลลาร์ ดึงดูดผู้เล่นระดับโลก ‼️ คำเตือนด้านห่วงโซ่อุปทาน ⛔ หากโครงการล่าช้า อินเดียอาจเสียโอกาสแข่งขันกับจีนและไต้หวัน ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยงการลงทุน ⛔ โรงงานใหม่ต้องใช้เวลาและเทคโนโลยีสูง อาจเจออุปสรรคด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-boosts-indias-chip-push-with-new-tata-group-strategic-partnership-includes-manufacturing-and-packaging-of-intel-products-for-local-markets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว
  • Portable Commodore 64: ความรักในประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์

    นักออกแบบอุตสาหกรรม Kevin Noki ได้สร้างต้นแบบ Commodore 64 Laptop ที่ไม่เคยมีอยู่จริงในยุค 1980 โดยผสมผสานแรงบันดาลใจจาก Commodore 64 bread-bin และ Apple Lisa Portable พร้อมใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Raspberry Pi 5 และ VICE emulator เพื่อให้เครื่องทำงานได้จริง ถือเป็น “ประวัติศาสตร์ทางเลือก” ที่น่าทึ่งสำหรับแฟนคอมพิวเตอร์คลาสสิก

    ขั้นตอนการสร้าง
    ใช้ 3D design software ออกแบบตัวเครื่อง และพิมพ์ชิ้นส่วนกว่า 30 ชิ้นด้วย Bambu Lab P2S รวมเวลาพิมพ์กว่า 38 ชั่วโมง
    ตัวเครื่องถูกประกอบด้วย superglue และ metal pins ก่อนจะขัด, พ่นสี และตกแต่งด้วยโทนสี beige แบบดั้งเดิมของ C64
    คีย์บอร์ดถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด: พิมพ์ keycaps ด้วยหัวฉีด 0.2mm, ใช้ waterslide transfers สำหรับตัวอักษร และเคลือบด้วย acrylic lacquer เพื่อความทนทาน
    แผงวงจรคีย์บอร์ดผลิตโดย PCBWay พร้อมบัดกรีไดโอดกว่า 60 ตัว และใช้ Raspberry Pi Pico รันเฟิร์มแวร์ QMK เพื่อเชื่อมต่อกับ Pi 5

    ฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์
    ใช้ Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator แต่ยังรองรับการเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์จริง เช่น 1541 floppy drive และ Datasette cassette ผ่านอะแดปเตอร์ที่สร้างเอง
    จอภาพขนาด 10 นิ้ว อัตราส่วน 4:3 พร้อม bezel หนาแบบยุค 80 และปรับความสว่าง/เสียงด้วยปุ่มหมุนด้านข้าง
    ระบบพลังงานใช้ UPS ราคาประมาณ 10 ดอลลาร์ พร้อมแบตเตอรี่ 18650 ที่เข้าถึงได้ผ่าน trapdoor ใต้เครื่อง
    น้ำหนักรวมประมาณ 4 กิโลกรัม (8 ปอนด์) และบูตเข้าสู่หน้าจอ BASIC ได้ภายใน 11 วินาที

    ประสบการณ์ใช้งาน
    สามารถโหลดเกมดั้งเดิมจาก floppy และ cassette ได้ เช่น Pac-Man
    รองรับ Competition Pro 9-pin joysticks โดยใช้ Python script แปลงสัญญาณ joystick เป็น key presses
    สำหรับการพกพา ผู้สร้างเลือกใช้ SD card ที่บรรจุเกมและแอปพลิเคชัน เพื่อความสะดวกมากกว่าอุปกรณ์จริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การออกแบบและการสร้าง
    ใช้ 3D printing กว่า 30 ชิ้นและคีย์บอร์ด custom
    ผสมผสานดีไซน์ Commodore 64 และ Apple Lisa Portable

    ฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์
    Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator พร้อมรองรับ floppy และ cassette
    จอ 10 นิ้ว 4:3, ระบบพลังงาน UPS + 18650

    ประสบการณ์ใช้งาน
    โหลดเกมดั้งเดิมได้จริง เช่น Pac-Man
    รองรับ joystick ผ่าน Python script

    คำเตือนและข้อจำกัด
    น้ำหนักเครื่องประมาณ 4 กิโลกรัม อาจไม่สะดวกต่อการพกพา
    แบตเตอรี่ยังไม่ถูกทดสอบเรื่องอายุการใช้งานแบบ untethered

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/this-scratch-built-period-correct-design-portable-commodore-64-is-a-love-letter-to-an-alternate-commodore-history-nokis-cleverly-designed-homage-to-the-era-merges-commodore-apple-and-raspberry-pi
    💻 Portable Commodore 64: ความรักในประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ นักออกแบบอุตสาหกรรม Kevin Noki ได้สร้างต้นแบบ Commodore 64 Laptop ที่ไม่เคยมีอยู่จริงในยุค 1980 โดยผสมผสานแรงบันดาลใจจาก Commodore 64 bread-bin และ Apple Lisa Portable พร้อมใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Raspberry Pi 5 และ VICE emulator เพื่อให้เครื่องทำงานได้จริง ถือเป็น “ประวัติศาสตร์ทางเลือก” ที่น่าทึ่งสำหรับแฟนคอมพิวเตอร์คลาสสิก 🛠️ ขั้นตอนการสร้าง 💠 ใช้ 3D design software ออกแบบตัวเครื่อง และพิมพ์ชิ้นส่วนกว่า 30 ชิ้นด้วย Bambu Lab P2S รวมเวลาพิมพ์กว่า 38 ชั่วโมง 💠 ตัวเครื่องถูกประกอบด้วย superglue และ metal pins ก่อนจะขัด, พ่นสี และตกแต่งด้วยโทนสี beige แบบดั้งเดิมของ C64 💠 คีย์บอร์ดถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด: พิมพ์ keycaps ด้วยหัวฉีด 0.2mm, ใช้ waterslide transfers สำหรับตัวอักษร และเคลือบด้วย acrylic lacquer เพื่อความทนทาน 💠 แผงวงจรคีย์บอร์ดผลิตโดย PCBWay พร้อมบัดกรีไดโอดกว่า 60 ตัว และใช้ Raspberry Pi Pico รันเฟิร์มแวร์ QMK เพื่อเชื่อมต่อกับ Pi 5 ⚡ ฟีเจอร์และฮาร์ดแวร์ 💠 ใช้ Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator แต่ยังรองรับการเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์จริง เช่น 1541 floppy drive และ Datasette cassette ผ่านอะแดปเตอร์ที่สร้างเอง 💠 จอภาพขนาด 10 นิ้ว อัตราส่วน 4:3 พร้อม bezel หนาแบบยุค 80 และปรับความสว่าง/เสียงด้วยปุ่มหมุนด้านข้าง 💠 ระบบพลังงานใช้ UPS ราคาประมาณ 10 ดอลลาร์ พร้อมแบตเตอรี่ 18650 ที่เข้าถึงได้ผ่าน trapdoor ใต้เครื่อง 💠 น้ำหนักรวมประมาณ 4 กิโลกรัม (8 ปอนด์) และบูตเข้าสู่หน้าจอ BASIC ได้ภายใน 11 วินาที 🎮 ประสบการณ์ใช้งาน 💠 สามารถโหลดเกมดั้งเดิมจาก floppy และ cassette ได้ เช่น Pac-Man 💠 รองรับ Competition Pro 9-pin joysticks โดยใช้ Python script แปลงสัญญาณ joystick เป็น key presses 💠 สำหรับการพกพา ผู้สร้างเลือกใช้ SD card ที่บรรจุเกมและแอปพลิเคชัน เพื่อความสะดวกมากกว่าอุปกรณ์จริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การออกแบบและการสร้าง ➡️ ใช้ 3D printing กว่า 30 ชิ้นและคีย์บอร์ด custom ➡️ ผสมผสานดีไซน์ Commodore 64 และ Apple Lisa Portable ✅ ฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์ ➡️ Raspberry Pi 5 รัน VICE emulator พร้อมรองรับ floppy และ cassette ➡️ จอ 10 นิ้ว 4:3, ระบบพลังงาน UPS + 18650 ✅ ประสบการณ์ใช้งาน ➡️ โหลดเกมดั้งเดิมได้จริง เช่น Pac-Man ➡️ รองรับ joystick ผ่าน Python script ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ น้ำหนักเครื่องประมาณ 4 กิโลกรัม อาจไม่สะดวกต่อการพกพา ⛔ แบตเตอรี่ยังไม่ถูกทดสอบเรื่องอายุการใช้งานแบบ untethered https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/this-scratch-built-period-correct-design-portable-commodore-64-is-a-love-letter-to-an-alternate-commodore-history-nokis-cleverly-designed-homage-to-the-era-merges-commodore-apple-and-raspberry-pi
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • Robinhood บุกอินโดนีเซียด้วยการซื้อกิจการโบรกเกอร์และผู้ให้บริการคริปโต

    Robinhood Markets ประกาศเข้าซื้อกิจการ Buana Capital Sekuritas (บริษัทโบรกเกอร์ในอินโดนีเซีย) และ Pedagang Aset Kripto (ผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาต) เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่หนึ่งในตลาดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    อินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่มีการยอมรับคริปโตสูงมาก โดยมีนักลงทุนในตลาดทุนกว่า 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโตมากกว่า 17 ล้านคน ทำให้ Robinhood มองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในการเติบโตและสอดคล้องกับพันธกิจ “Democratize Finance for All”

    การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยให้ Robinhood สามารถ ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงผลิตภัณฑ์คริปโตได้รวดเร็วขึ้น โดยมี Pieter Tanuri เจ้าของใหญ่ของทั้งสองบริษัทในอินโดนีเซีย เข้ามาร่วมเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ให้กับ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะปิดการซื้อขายในครึ่งแรกของปี 2026

    ดีลนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Robinhood กำลังเติบโตอย่างมาก โดยปี 2025 หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 268% และเพิ่งถูกบรรจุเข้าสู่ดัชนี S&P 500 รวมถึงการขยายไปสู่ตลาดใหม่อย่าง prediction markets อีกด้วย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Robinhood เข้าซื้อกิจการในอินโดนีเซีย
    Buana Capital Sekuritas และ Pedagang Aset Kripto

    ศักยภาพตลาดอินโดนีเซีย
    นักลงทุนตลาดทุน 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโต 17 ล้านคน

    กลยุทธ์การขยายธุรกิจ
    การซื้อกิจการช่วยให้ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและเข้าถึงคริปโตได้เร็วขึ้น

    ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์
    Pieter Tanuri จะร่วมเป็นที่ปรึกษาให้ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น

    การเติบโตของ Robinhood
    หุ้นเพิ่มขึ้น 268% ในปี 2025 และเข้าดัชนี S&P 500

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขันและกฎระเบียบ
    ตลาดอินโดนีเซียมีผู้เล่นคริปโตจำนวนมาก และกฎระเบียบอาจเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/robinhood-to-enter-indonesia-with-brokerage-crypto-trader-acquisition
    💹 Robinhood บุกอินโดนีเซียด้วยการซื้อกิจการโบรกเกอร์และผู้ให้บริการคริปโต Robinhood Markets ประกาศเข้าซื้อกิจการ Buana Capital Sekuritas (บริษัทโบรกเกอร์ในอินโดนีเซีย) และ Pedagang Aset Kripto (ผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาต) เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่หนึ่งในตลาดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่มีการยอมรับคริปโตสูงมาก โดยมีนักลงทุนในตลาดทุนกว่า 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโตมากกว่า 17 ล้านคน ทำให้ Robinhood มองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในการเติบโตและสอดคล้องกับพันธกิจ “Democratize Finance for All” การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยให้ Robinhood สามารถ ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงผลิตภัณฑ์คริปโตได้รวดเร็วขึ้น โดยมี Pieter Tanuri เจ้าของใหญ่ของทั้งสองบริษัทในอินโดนีเซีย เข้ามาร่วมเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ให้กับ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะปิดการซื้อขายในครึ่งแรกของปี 2026 ดีลนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Robinhood กำลังเติบโตอย่างมาก โดยปี 2025 หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 268% และเพิ่งถูกบรรจุเข้าสู่ดัชนี S&P 500 รวมถึงการขยายไปสู่ตลาดใหม่อย่าง prediction markets อีกด้วย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Robinhood เข้าซื้อกิจการในอินโดนีเซีย ➡️ Buana Capital Sekuritas และ Pedagang Aset Kripto ✅ ศักยภาพตลาดอินโดนีเซีย ➡️ นักลงทุนตลาดทุน 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโต 17 ล้านคน ✅ กลยุทธ์การขยายธุรกิจ ➡️ การซื้อกิจการช่วยให้ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและเข้าถึงคริปโตได้เร็วขึ้น ✅ ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ ➡️ Pieter Tanuri จะร่วมเป็นที่ปรึกษาให้ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น ✅ การเติบโตของ Robinhood ➡️ หุ้นเพิ่มขึ้น 268% ในปี 2025 และเข้าดัชนี S&P 500 ‼️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขันและกฎระเบียบ ⛔ ตลาดอินโดนีเซียมีผู้เล่นคริปโตจำนวนมาก และกฎระเบียบอาจเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/robinhood-to-enter-indonesia-with-brokerage-crypto-trader-acquisition
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Robinhood to enter Indonesia with brokerage, crypto trader acquisition
    Dec 7 (Reuters) - Robinhood Markets will acquire Indonesian brokerage firm Buana Capital Sekuritas and licensed digital asset trader Pedagang Aset Kripto, marking the retail trading platform's entry into one of Southeast Asia's major crypto hubs, the company said in a blog post on Sunday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 361 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts