• "นักศึกษา ปปร.26" รวมใจหนุนด่านหน้า! มอบสิ่งของบำรุงขวัญ ตชด.ชายแดน...เสริมพลังปกป้องอธิปไตย
    https://www.thai-tai.tv/news/20894/
    .
    #นักศึกษาปปร26 #ตำรวจตระเวนชายแดน #ชายแดนไทยกัมพูชา #สถาบันพระปกเกล้า #ข่าวความมั่นคง #ไทยไท
    "นักศึกษา ปปร.26" รวมใจหนุนด่านหน้า! มอบสิ่งของบำรุงขวัญ ตชด.ชายแดน...เสริมพลังปกป้องอธิปไตย https://www.thai-tai.tv/news/20894/ . #นักศึกษาปปร26 #ตำรวจตระเวนชายแดน #ชายแดนไทยกัมพูชา #สถาบันพระปกเกล้า #ข่าวความมั่นคง #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • เห็นด้วยกับ ม.รามคำแหง วิญญาณนักศึกษาที่ถูกเสื้อแดงฆ่าตายในขณะที่ถูกเสื้อแดงปิดล้อมปลายปี 56 คงได้ดีใจเสียทีครับ
    เห็นด้วยกับ ม.รามคำแหง วิญญาณนักศึกษาที่ถูกเสื้อแดงฆ่าตายในขณะที่ถูกเสื้อแดงปิดล้อมปลายปี 56 คงได้ดีใจเสียทีครับ
    มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ‘ฮุนเซน’ หลังมีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์รัฐไทย แสดงพฤติกรรมตรงกันข้ามกับคำประกาศเกียรติคุณ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075466

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • "วชิรพยาบาล" จัดพิธีมอบโบว์ไท-เนคไท ประจำปี 68...ต้อนรับนักศึกษาแพทย์ใหม่...สานสัมพันธ์พี่น้อง!
    https://www.thai-tai.tv/news/20816/
    .
    #วชิรพยาบาล #นักศึกษาแพทย์ #พิธีมอบโบว์ไท #มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช #ข่าวการศึกษา #ไทยไท
    "วชิรพยาบาล" จัดพิธีมอบโบว์ไท-เนคไท ประจำปี 68...ต้อนรับนักศึกษาแพทย์ใหม่...สานสัมพันธ์พี่น้อง! https://www.thai-tai.tv/news/20816/ . #วชิรพยาบาล #นักศึกษาแพทย์ #พิธีมอบโบว์ไท #มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช #ข่าวการศึกษา #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews

  • ตอน 10
    พอมองออกบ้างหรือยัง เหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ.2516 บ้านเรามันเกิดขึ้นมาเอง โดยขบวนการกดดันตามธรรมชาติ หรือมันมีคนแจกใบสั่ง แล้วลองกลับไปนึกถึงจอมพลคนแปลกดูอีกที มีอำนาจมา 10 ปี อยู่ดีๆ ก็ถูกรัฐประหาร มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของการแย่งชิงอำนาจของนักการเมือง หรือมันเกิดจากความกดดันที่ไม่ใช่ตามธรรมชาติ
    ไทยแลนด์ แดนเนรมิต ที่คนไทยอยู่มาในช่วงปี พ.ศ.2490 จนถึง 14 ตุลา พ.ศ.2516 คนไทยรู้เรื่องและเข้าใจอะไรกันแค่ไหน ว่าของจริงๆ มันเป็นอย่างไร หรือมันเป็นโลกมายา ถูกสร้าง ถูกกำกับมา โดยใครกันบ้าง
    เราอยู่กับสิ่งที่เขายัดเยียดมาให้ตลอด จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย เรามองเห็นแต่ความเป็นมิตรที่เขา ฉาบหน้ามาให้ ความนึกคิด ความฉลาด ความเก่ง แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบทุนนิยมเสรี การศึกษา และวัฒนธรรมให้กับเรา จนเราเกือบลืม หรือลืมไปแล้วว่า ความเป็นไทย วิถีไทยเป็นอย่างไร
    คนไทยคนไหนบ้างไม่รู้จักกางเกงยีน เชื่อว่า ถึงไม่มีไม่เคยใส่ ก็ต้องรู้จักทุกคน ทุกชาติทุกภาษาในโลกก็เรียก jean ยีน ยีน ยีน ใครไม่เคยดื่มโค้ก (Coke, Coca-Cola) อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่จำเป็นต้องเขียนถึง อย่างน้อยในชีวิตต้องเคยดื่มสักขวดน่า ปากกาลูกลื่นจำได้ไหม bic ด้ามเหลืองมาจากไหน ที่สำคัญวัฒนธรรมอเมริกันผ่านมากับหนังฮอลลีวู้ดทุกเรื่อง!
    อเมริกา เป็นนักวางแผนตัวพ่อ เมื่อจะใช้ไทยเป็นฐานทางเศรษฐกิจ ผลิตอุตสาหกรรม เผยแพร่ระบบทุนนิยมและใช้เป็นฐานทัพในกรณีจำเป็น เพื่อไม่ให้ไทยแลนด์แปลกหน้ากับอเมริกันชน เขาจึงต้องส่งวัฒนธรรมอเมริกันมาให้เรา ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นกับดัก สมันน้อยที่สมบูรณ์ที่สุดของนักล่า
    ศัพท์พวกซีไอเอ เขาเรียกว่า soft power ถ้า hard power ก็ตัวใครตัวมันเน้อ ทางตรงอเมริกาส่งวัฒนธรรมของตน ผ่านการประชาสัมพันธ์โดยสำนักข่าว USIS ของรัฐบาลอเมริกัน ที่ทำหน้าที่คล้ายกับหอยม่วงบ้านเราน่ะ แต่ USIS เขามีประสิทธิภาพมากกว่าหอยม่วง หลายเท่า
    ข่าวที่ส่งออกมา ก็มีแต่ข่าวเกี่ยวกับอเมริกา อเมริกา อเมริกา ให้ชาวเรารู้จัก มีการแจกเอกสาร ใบปลิว สารพัด ที่สำคัญ อเมริกา ปลูกต้นไม้การศึกษาแบบ ฝั่งรากลึกให้กับชาวเรา โดยการให้ทุนฟูลไบรท์ ทุนฟอร์ดฯลฯ ถึงระดับปริญญาโท บางรายการถึงปริญญาเอก
    ส่วนวัยรุ่น อเมริกาก็ปลูกฝังผ่านโครงการ AFS (เด็กไทยก่อนจบม.ปลาย อายุประมาณ 18 ปี ให้ไปเรียนต่ออเมริกา 1 ปี กินฟรีอยู่ฟรีกับครอบครัวคนอเมริกัน จะได้กลับมาทำท่าเป็นเด็กอเมริกัน คิดเป็นเด็กอเมริกัน จะเอารายชื่อไหม ใครที่ผ่านทุนนี้ และตอนนี้อยู่ในขบวนรถ good boy good girl ของคุณพ่ออเมริกา) สมัยอเมริกาประกาศให้ทุน AFS ใหม่ๆ ชาวเราเห่อกันเหมือน พี่น้องเห่อโปรแกรม อเคเดมีแฟนตาเซีย เดอะวอยซ์ อะไรทำนองนั้น ลูกผู้ลากมากดี เศรษฐีเก่า เศรษฐีใหม่แห่กันไปสอบเพียบ
    นอกจากนี้อเมริกายังตั้งมูลนิธิ Asia Foundation มูลนิธินี้ให้ทุนอาจารย์ นักศึกษา สื่อฯลฯ ไปทำปริญญาโท เอก ที่อเมริกา แบบไม่มีข้อผูกพัน อาจารย์มหาวิทยาลัยดังๆ ศิษย์เก่าทุนนี้ทั้งนั้น ที่น่าสนใจหลายคน ไม่เอาสถาบัน!
    อเมริกา ยังจัดส่งวัฒนธรรมทางอ้อมมาให้  ด้วยการเอาความคุ้นเคย มาคลุก กับชาวบ้าน ผ่านหน่วย งานPeace Corp.
    พวกนี้หน้าฉากก็เข้าไปคลุกกับชาวบ้าน ช่วยสอนหนังสือ บางคนถึงกับลงทุนอยู่กับชาวไร่ ชาวนา แต่ของจริง ทุกคนมีหน้าที่ทำความรู้จักคนไทย ใส่ความเห็นที่อเมริกาต้องการให้เราเห็น ให้เราคิด เข้าไปในหัวของไทย พร้อมเติมผงชูรสยี่ห้ออเมริกันเข้าไปให้อีกด้วย…. ส่วนใหญ่พวกนี้สังกัด CIA
    เดี๋ยวนี้อดีต Peace Corp. หลายคนก็ยังอยู่ในไทย ฉากหน้าเปิดร้านอาหารบ้าง นักวิเคราะห์หุ้นบ้าง นักธุรกิจบ้าง อยากรู้จัก โน่น เดินเข้าไปใน Sports Club ถามหาพี่เจฟ หรือลุงคลอสเนอร์ แล้วกัน ฮ่า ฮ่า!
    ที่สำคัญ วิถีอเมริกันที่ไทยเราคุ้น ไม่มีอะไรเหนือไปกว่าหนังฮอลลีวู้ดที่เราเสพติด เขาสร้างให้เรารู้จักเรื่องราวของชนชาวอเมริกันและดารา แล้วเราติดตามข่าวพวกเขายิ่งกว่าข่าวญาติของเรา
    อย่าเข้าใจผิด นิทานเรื่องนี้ไม่ได้สอนให้เกลียดอเมริกา แต่อยากให้รู้จักเขาจริงๆ
    คนเราจะคบ จะรัก จะชอบ ต้องรู้จักเขาก่อน ว่าจริง ๆ เขาเป็นอย่างไร และที่สำคัญเขามองเรา อย่างไร ต้องการอะไรจากเรา จริงใจกับเราแค่ไหน จะได้ไม่เพ้อเจ้อเข้าใจผิด
    รู้ว่าควรจะคบเขาแค่ไหน และอย่างไร

    คนเล่านิทาน
     ตอน 10 พอมองออกบ้างหรือยัง เหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ.2516 บ้านเรามันเกิดขึ้นมาเอง โดยขบวนการกดดันตามธรรมชาติ หรือมันมีคนแจกใบสั่ง แล้วลองกลับไปนึกถึงจอมพลคนแปลกดูอีกที มีอำนาจมา 10 ปี อยู่ดีๆ ก็ถูกรัฐประหาร มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของการแย่งชิงอำนาจของนักการเมือง หรือมันเกิดจากความกดดันที่ไม่ใช่ตามธรรมชาติ ไทยแลนด์ แดนเนรมิต ที่คนไทยอยู่มาในช่วงปี พ.ศ.2490 จนถึง 14 ตุลา พ.ศ.2516 คนไทยรู้เรื่องและเข้าใจอะไรกันแค่ไหน ว่าของจริงๆ มันเป็นอย่างไร หรือมันเป็นโลกมายา ถูกสร้าง ถูกกำกับมา โดยใครกันบ้าง เราอยู่กับสิ่งที่เขายัดเยียดมาให้ตลอด จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย เรามองเห็นแต่ความเป็นมิตรที่เขา ฉาบหน้ามาให้ ความนึกคิด ความฉลาด ความเก่ง แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบทุนนิยมเสรี การศึกษา และวัฒนธรรมให้กับเรา จนเราเกือบลืม หรือลืมไปแล้วว่า ความเป็นไทย วิถีไทยเป็นอย่างไร คนไทยคนไหนบ้างไม่รู้จักกางเกงยีน เชื่อว่า ถึงไม่มีไม่เคยใส่ ก็ต้องรู้จักทุกคน ทุกชาติทุกภาษาในโลกก็เรียก jean ยีน ยีน ยีน ใครไม่เคยดื่มโค้ก (Coke, Coca-Cola) อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่จำเป็นต้องเขียนถึง อย่างน้อยในชีวิตต้องเคยดื่มสักขวดน่า ปากกาลูกลื่นจำได้ไหม bic ด้ามเหลืองมาจากไหน ที่สำคัญวัฒนธรรมอเมริกันผ่านมากับหนังฮอลลีวู้ดทุกเรื่อง! อเมริกา เป็นนักวางแผนตัวพ่อ เมื่อจะใช้ไทยเป็นฐานทางเศรษฐกิจ ผลิตอุตสาหกรรม เผยแพร่ระบบทุนนิยมและใช้เป็นฐานทัพในกรณีจำเป็น เพื่อไม่ให้ไทยแลนด์แปลกหน้ากับอเมริกันชน เขาจึงต้องส่งวัฒนธรรมอเมริกันมาให้เรา ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นกับดัก สมันน้อยที่สมบูรณ์ที่สุดของนักล่า ศัพท์พวกซีไอเอ เขาเรียกว่า soft power ถ้า hard power ก็ตัวใครตัวมันเน้อ ทางตรงอเมริกาส่งวัฒนธรรมของตน ผ่านการประชาสัมพันธ์โดยสำนักข่าว USIS ของรัฐบาลอเมริกัน ที่ทำหน้าที่คล้ายกับหอยม่วงบ้านเราน่ะ แต่ USIS เขามีประสิทธิภาพมากกว่าหอยม่วง หลายเท่า ข่าวที่ส่งออกมา ก็มีแต่ข่าวเกี่ยวกับอเมริกา อเมริกา อเมริกา ให้ชาวเรารู้จัก มีการแจกเอกสาร ใบปลิว สารพัด ที่สำคัญ อเมริกา ปลูกต้นไม้การศึกษาแบบ ฝั่งรากลึกให้กับชาวเรา โดยการให้ทุนฟูลไบรท์ ทุนฟอร์ดฯลฯ ถึงระดับปริญญาโท บางรายการถึงปริญญาเอก ส่วนวัยรุ่น อเมริกาก็ปลูกฝังผ่านโครงการ AFS (เด็กไทยก่อนจบม.ปลาย อายุประมาณ 18 ปี ให้ไปเรียนต่ออเมริกา 1 ปี กินฟรีอยู่ฟรีกับครอบครัวคนอเมริกัน จะได้กลับมาทำท่าเป็นเด็กอเมริกัน คิดเป็นเด็กอเมริกัน จะเอารายชื่อไหม ใครที่ผ่านทุนนี้ และตอนนี้อยู่ในขบวนรถ good boy good girl ของคุณพ่ออเมริกา) สมัยอเมริกาประกาศให้ทุน AFS ใหม่ๆ ชาวเราเห่อกันเหมือน พี่น้องเห่อโปรแกรม อเคเดมีแฟนตาเซีย เดอะวอยซ์ อะไรทำนองนั้น ลูกผู้ลากมากดี เศรษฐีเก่า เศรษฐีใหม่แห่กันไปสอบเพียบ นอกจากนี้อเมริกายังตั้งมูลนิธิ Asia Foundation มูลนิธินี้ให้ทุนอาจารย์ นักศึกษา สื่อฯลฯ ไปทำปริญญาโท เอก ที่อเมริกา แบบไม่มีข้อผูกพัน อาจารย์มหาวิทยาลัยดังๆ ศิษย์เก่าทุนนี้ทั้งนั้น ที่น่าสนใจหลายคน ไม่เอาสถาบัน! อเมริกา ยังจัดส่งวัฒนธรรมทางอ้อมมาให้  ด้วยการเอาความคุ้นเคย มาคลุก กับชาวบ้าน ผ่านหน่วย งานPeace Corp. พวกนี้หน้าฉากก็เข้าไปคลุกกับชาวบ้าน ช่วยสอนหนังสือ บางคนถึงกับลงทุนอยู่กับชาวไร่ ชาวนา แต่ของจริง ทุกคนมีหน้าที่ทำความรู้จักคนไทย ใส่ความเห็นที่อเมริกาต้องการให้เราเห็น ให้เราคิด เข้าไปในหัวของไทย พร้อมเติมผงชูรสยี่ห้ออเมริกันเข้าไปให้อีกด้วย…. ส่วนใหญ่พวกนี้สังกัด CIA เดี๋ยวนี้อดีต Peace Corp. หลายคนก็ยังอยู่ในไทย ฉากหน้าเปิดร้านอาหารบ้าง นักวิเคราะห์หุ้นบ้าง นักธุรกิจบ้าง อยากรู้จัก โน่น เดินเข้าไปใน Sports Club ถามหาพี่เจฟ หรือลุงคลอสเนอร์ แล้วกัน ฮ่า ฮ่า! ที่สำคัญ วิถีอเมริกันที่ไทยเราคุ้น ไม่มีอะไรเหนือไปกว่าหนังฮอลลีวู้ดที่เราเสพติด เขาสร้างให้เรารู้จักเรื่องราวของชนชาวอเมริกันและดารา แล้วเราติดตามข่าวพวกเขายิ่งกว่าข่าวญาติของเรา อย่าเข้าใจผิด นิทานเรื่องนี้ไม่ได้สอนให้เกลียดอเมริกา แต่อยากให้รู้จักเขาจริงๆ คนเราจะคบ จะรัก จะชอบ ต้องรู้จักเขาก่อน ว่าจริง ๆ เขาเป็นอย่างไร และที่สำคัญเขามองเรา อย่างไร ต้องการอะไรจากเรา จริงใจกับเราแค่ไหน จะได้ไม่เพ้อเจ้อเข้าใจผิด รู้ว่าควรจะคบเขาแค่ไหน และอย่างไร คนเล่านิทาน
    3 Comments 0 Shares 245 Views 0 Reviews

  • ตอน 9

    ระหว่างที่สงครามเวียตนามกำลังเริ่มเข้าขั้นโคม่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 (ค.ศ.1967) พี่เบิ้มเริ่มเป็นฝ่ายรับ พี่เบิ้มจึงเปลี่ยนมาใช้แผน 2 (แผน 2 หน้า)
    หน้าหนึ่งก็เริ่มให้มีการเดินสายเล่นบทเจรจา ระหว่างรัฐมนตรีตปท.คนสำคัญของพี่เบิ้มกับทางเวียตนาม คนมีเสน่ห์ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger) รมต ตปท ของพี่เบิ้มสมัยนั้น เดินทางเป็นว่าเล่น เหมือนคุณนาย คลินตัน (Clinton) ตอนรัฐบาลโอบามา (Obama 1) นั่นแหละ
    อีกหน้าหนึ่งก็ส่งให้ลูกกะเป๋งทั้งหลาย ก็ใครล่ะ นึกให้ดีนะ ลุยเข้าไปถล่มคอมมี่ต่อ (โปรดสังเกตพวกพี่เบิ้ม เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน รมต.ตปท. ชีพจรลงเท้าทั้งนั้น ตอนนี้ก็เห็นบินกันว่อน ตามดูรอบตัวเรากันบ้างนะครับ)
    ดังนั้นปฏิบัติการลับในประเทศลาว ซึ่งฝ่ายไทยนำโดย รหัสเทพ 333 (ไปหาเอาเองนะครับว่าเป็นใคร) กับฝ่าย CIA อเมริกา จึงทำงานหนัก บินกระหน่ำถล่มคอมมิวนิสต์ที่ลาว ผลลาวแตกเป็น 2 ฝ่าย เมื่อปี พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) พี่น้องเจ้าลาวถูกเสี้ยมให้แตกกันเอง เจ้าสุวรรณภูมา ผู้พี่ วิ่งไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่เบิ้มอเมริกา เจ้าสุภานุวงศ์ คนน้อง เหม็นฝรั่ง จึงไปซบกับฝ่ายจีน
    แล้วลาวก็เปลี่ยนจากประเทศที่ปกครองโดยระบอบกษัตริย์ เป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบสังคมนิยม ตั้งแต่ครั้งนั้น ฝีมือใครครับ โปรดไปศึกษาต่อน่าสนใจมาก ไม่ใช่เฉพาะที่ลาว ในสงครามเวียตนามเอง หลัง จากทุ่มเงินไปกว่าพันล้านเหรียญ (ใช้เงินมากกว่าตอนอเมริการบในสงครามโลกครั้งที่ 2 !) ใช้ทหารไปรบประมาณ 500,000 นาย เสียชีวิตไประหว่างรบทั้งหมดเกือบ 60,000 คน ยังไม่นับที่สูญหาย ทุพพลภาพทางกายและจิตใจ อเมริกาก็ออกอาการ ยืนพิงเชือก
    ปี พ.ศ.2512 (ค.ศ.1969) อเมริกาเสนอขอเจรจาสงบศึกกับเวียตนาม !!!!
    มันจะเป็นไปได้ยังไง อเมริกา (อ้างว่า) ลงทุนกับสงครามอินโดจีนมากมาย ทั้งด้านอาวุธ กำลังพล และกำลังทรัพย์ …ชาวประชาก็เป็นมึน กำลังรบกันเข้าฝัก ดันถอยทัพเสียอย่างนั้น
    ไทยแลนด์งงเป็นไก่ตาฟาง นักวิ่งผลัดวิ่งพล่านชนกันเอง เฮ้ย เฮ้ย เอาไงวะ พวก! มันเป็นไปแล้ว ก็บอกว่า เล่นแผน 2 วันที่ 25 ก.ค. พ.ศ.2512 ประธานาธิบดีนิกสันก็ประกาศ Guam Doctrine สรุปว่า พี่เบิ้มเปลี่ยนจากเหยี่ยวเป็นพิราบ (เปลี่ยนง่ายดีนะ ลูกกะเป๋งปรับตัวกันไม่ทันเลยว่ะ) จะไม่ส่งทหารไปช่วยทำสงครามกับประเทศที่ถูกรุกราน (โดยคอมมิวนิสต์)
    แต่จะให้ความช่วยเหลือประเทศพันธมิตรด้านเศรษฐกิจ (ฮั่นแน่!) และการทหารแทน
    แหม! นี่มันพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวนี่นา หลอกใครไม่รู้
    แล้วไงล่ะ ไทยแลนด์ตอนให้เขาเข้ามาในบ้าน ใช้เป็นฐานทัพ เขาก็ไม่ถาม ไม่เซ็นสัญญา พอเขาจะไป เขาก็ไม่ปรึกษา บทจะไปก็เก็บฉากไปซะยังงั้น  นักวิ่งผลัดก็หน้ามืดละซิ ที่นี้จะเอาไงดี เงิน MAP ที่พี่เบิ้มเขาเคยให้ปีละ 100 ล้านเหรียญ เขาก็ลดลงเหลือ 20 กว่า ล้านเหรียญ
    ต๊าย ตาย ลดเยอะนะพวกเรา เดี๋ยวตอผุด เอายังไงดี
    อเมริกาก็ยังเป็นอเมริกา ปากบอกว่าถอนทหาร ถอยทัพ แต่ตาก็ขยิบ สั่งให้ลูกกะเป๋งไปถล่มเขมร ก็บินไปจากฐานทัพในไทยนั่นแหละ …เหล่านักวิ่งผลัด ก็เลยเห็นโอกาส ยังไม่อยากให้ยี่เกปิดฉาก นายพลเจ้าของสวนทุเรียน (ไปหาชื่อกันเองแล้วกันนะ เขียนมานี่ก็เสียวหลายเรื่องแล้ว) ก็เลยรับหน้าที่ไปเจรจากับพี่เบิ้ม
    ได้ไง! ยูสั่งให้ไอบิน ไอก็บิน สั่งให้ไอถล่ม ไอก็ถล่ม บอกไม่ทำสัญญา ไอก็ O.K ทหารยูทำผู้หญิงไทยท้อง ชกไอ้หนูหน้าดำผอมเกร็งแถวอีสานจนงอม ไม่ยอมขึ้นศาลไทย ไอก็ยอมหมดแล้ว …แต่เรื่องจะมาลด MAP นี่เรื่องใหญ่นะ (ของมันเคยได้น่ะ) แล้วต่อไปนี้สั่งใครเขาก็ลำบากนะ…ทุกอย่างมันต้องใช้เงินทั้ง นั้นนะ (เอะ เดี๋ยว ๆ นี่มันเรื่องสงครามเวียตนาม หรือสงครามไพร่ครองเมืองนะ คนเล่านิทานชักงง เรื่องมันคล้ายๆ กัน 555)
    ระหว่างเจรจาต่อรองกัน การเจรจาสันติภาพที่ปารีสเกิดสะดุด ฮานอยไม่ยอม อย่านึกว่าหมูนะ พญาอินทรี ที่พยายามจะแปลงกายเป็นนกพิราบก็เลยยั๊วะ งั้นสั่งรบต่อก็ได้ (วะ) คราวนี้ไม่รบแค่ในเวียตนาม ไอ้พวกญวนแดงอยากหนุนเขมรแดงดีนัก บอมบ์เขมรแม่มซะเลย คราวนี้กำลังรำคาญพี่ไทยที่มาแบมือขอเงินเพิ่ม พี่เบิ้มก็เลยใช้เกาะกวมเป็นฐานทัพ
    เจ้าของสวนทุเรียนได้ข่าว ก็รีบถลาไปเจรจาใหม่ (เขาเรียกว่าตื๊อน่ะ ถ้าจะให้พูดตรงๆ) ยูก้อ เราก็คบกันมานาน รู้ใจกัน จะเอาอะไรก็บอก ไอก็จะพยายาม ยูบินจากกวมน่ะ  มันไกลนะ เปลืองน้ำมัน กลับมาใช้ฐานทัพเราเหมือนเดิมเหอะ แต่ไอ้ MAP น่ะ ลดเหลือ 20 ล้าน มันก็เกินไปนะ ไปคิดใหม่ไป๊!
    ไอ้นิสัยที่ชอบใช้แผน 2 (2 หน้า) ของอเมริกานี่แหละ ก็ไม่ใช่ว่า จะรอดหูรอดตาประชาชนและสื่อของตนเองได้ การปฏิบัติการลับในเขมรจึงรั่วออกไปนิวยอร์ก ไทม์ส (N.Y Times) ลงข่าวใส่สีครบ ทำให้สภาสูงของอเมริกาซักฟอกเรื่องนี้ มีการถามถึงแผนตากสิน (Project 22) และบทบาทของไทยในลาวรวมทั้ง ข้อตกลงThanant Rusk
    ถึงกับมีประโยคอมตะออกมาเกี่ยวกับไทยว่า ไทยเป็นพันธมิตรดีสุดที่เงินซื้อได้ (“the Thai are the best allies money can buy”) อันนี้ปรากฏอยู่ในรายงานของอเมริกาเอง ผมไม่ได้แต่งเติม
    เห็นชัดหรือยังเขามองผู้บริหาร หรือรัฐบาลของเราอย่างไร ที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนบ้าง ได้แต่เดินกุมตามก้นเขา แบมือขอเงินเขา เขาต้มแล้วต้มอีก ยังไม่รู้ตัว ล่าสุด ยังแถมไปยืนกระแดะยิ้มเยิ้มให้เขาจนลือกันไปทั้งโลกไม่มียางเหลือเลยนะ
    ระหว่างปี พ.ศ. 2512-2516 (ค.ศ.1969-1973) การเมืองไทยเริ่มมีปัญหาอีกครั้ง
    เริ่มจากนายถนัด คอมันตร์ รมต.ตปท.ของไทยเร่งให้อเมริกาถอนฐานทัพจากไทย เนื่องจากนายถนัด รู้อยู่แก่ใจว่าไอ้ข้อตกลง Thanant Rusk นี่มันของเก๊
    ประโยชน์จริงๆ ของไทยอยู่ตรงไหนหาไม่เจอ อเมริกายิ่งอยู่นานไทยแลนด์ก็ยิ่งตกอยู่ในกรงอินทรีลึกเข้าไปทุกที กระดิกกระเดี้ยไม่ออก จะเป็นง่อยเปลี้ยเสียขาซะด้วยซ้ำ แต่ด้านรัฐบาลนายกถนอม กลับยังต้องการให้อเมริกาคงฐานทัพและเงินช่วยเหลือต่อไป เพราะอะไร ก็คงพอเข้าใจกัน อย่าให้ต้องพูดชัดกว่านี้เลยนะ
    อเมริกาเองก็ถูกบีบจากสภาสูง (Congress) ให้รีบเร่งลงนามสัญญาสันติภาพกับเวียตนาม.. เพราะที่ลง ทุนไปสร้างเรื่องรบกับเวียตนามเอาใจนักค้าอาวุธที่ควบคุมรัฐบาลอเมริกาอยู่อีกต่อหนึ่งนั่นน่ะ มันชักจะไม่คุ้ม นักค้าอาวุธได้เงินก็จริง แต่ประชาชนชาวดอกไม้บานในอเมริกาเริ่มจะโวยไม่หยุด เพราะทหารอเมริกันตายเป็นเบือ
    แล้วอเมริกาลงนามสัญญาสันติภาพที่ปารีส เมื่อ 28 ม.ค. พ.ศ.2516 (ค.ศ.1973) ขณะเดียวกันยังคงกองกำลังทางอากาศขนาดใหญ่และกองเรือในภูมิภาคต่อไป แต่การให้ความช่วยเหลือไทยถูกตัดลดจากปีละ 100 ล้านเหรียญ เหลือปีละ 38 ล้านเหรียญ!  มันเป็นการลดฮวบ ที่เหล่านักวิ่งผลัด ช็อกจนพูดไม่ออก นักวิ่งผลัดเริ่มแตกคอกัน นักศึกษาและสื่อ เริ่มประท้วงเรื่องรัฐบาลทหารเผด็จการ ต้องการรัฐบาลประชาธิปไตย
    แปลกดีนะ หลังจากเป็นเผด็จการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 นะ 12 ปี ไม่เคยมีใครประท้วง วันดีคืนดีการประท้วงก็เกิดขึ้น! เริ่มมีนักวิชาการ นักศึกษา เรียกร้องหาประชาธิปไตยของจริง ที่สำคัญมีหมายเหตุในรายงานทูตอเมริกันในไทย ถึงกระทรวงตปท.อเมริกัน บอกว่า นักศึกษาชุมนุมเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ไม่มีใครออกมาโวยเรื่องฐานทัพอเมริกาในไทย จังหวะเวลามันให้บังเอิญดีจริงนึกให้ดีๆ แล้วลองตีโจทก์กันเองบ้าง
    นอกจากนี้ ในรายงานของ CIA ระบุว่า นายคิสซิงเจอร์ ในฐานะรมว. ตปท. อเมริกาได้สนทนากับนายลี กวน ยู นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ขณะนั้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2516
    นายลีบอกว่า สถานการณ์ไทยน่าเป็นห่วงนะ ถ้าเขมรไป ไอว่าถนอม ประภาส คงอยู่ได้ไม่เกิน 18 เดือน ก่อนเก็บของเปิดก้นวิ่งหนีแน่ ยูควรบอกเขานะ ว่ายูจะดูแลเขา ไอคุยกับชาติชายไปแล้ว ว่ายูจะดูแลเขา แต่ยูบอกเองดีกว่า
    นายคิสซิงเจอร์บอกว่า นี่ท่านนายก (ลี) เราก็พยายามอดทนมากนะ เราก็ต้องผ่านความยากลำบากมาเหมือน กัน เราก็ต้องคิดว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร
    นายลีบอก ยูต้องบอกให้ถนอม ประภาส รู้เรื่องนะ ว่ายูไม่สนับสนุนปฏิวัติ หรือยูจะดำเนินการอื่น นายคิสซิงเจอร์ บอกว่า เราไม่สนับสนุนปฏิวัติหรอก แต่เราจะดูหนทางดำเนินการอื่น…(ไม่ได้นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเองนะ ครับ บทสนทนาข้างต้นน่ะ อยู่ในรายงานของ CIA ล้วนๆ)


    คนเล่านิทาน
    ๘-๖

    ของแถมประจำวันนี้

    เป็นเอกสารบันทึกการประชุม ที่มีนาย Henry Kissinger รมว ตปท อเมริกา
    กับ คณะ การสนทนาส่วนหนึ่ง ทำให้เราเห็นชัดว่า การที่อเมริกาเข้ามาใช้บ้านเราเป็น
    ฐานทัพนั้น ไม่มีสัญญา เป็นทางการกับเรา
    นาย Habib ผู้ชี้แจง คือ นาย Philip Habib นักการทูต ผู้ชำนาญเกีี่ยวกับเอเซีย
    และมีอิทธิพลสูงในช่วงสงครามเวียตนาม
    ๙-๒
    ของแถมอีกชิ้น
    เอกสาร อันนี้เป็น Memorandum เมื่อ February 27, 1967
    จาก Asst Secretary of State ถึง Secreatary of State Rusk
    เกี่ยวกับการใช้ฐานทัพไทย แบบใช้ของเถื่อน ไม่มีหลักฐาน
    เชิญอ่านกันครับ อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร บอกกันบ้าง
    ๙-๓-1
    ของแถมชิ้นโปรด
    รายงาน ชนิดลับสุดยอด ข้อความกลายแห่งถูกตัดออก
    แต่พอ อ่านได้ ถึงประโยคทอง ..”trust us, we know what to do”
    จาก ทูต Unger ถึง กระทรวง ตปท อเมริกา เมื่อ August 9, 1968
     ตอน 9 ระหว่างที่สงครามเวียตนามกำลังเริ่มเข้าขั้นโคม่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 (ค.ศ.1967) พี่เบิ้มเริ่มเป็นฝ่ายรับ พี่เบิ้มจึงเปลี่ยนมาใช้แผน 2 (แผน 2 หน้า) หน้าหนึ่งก็เริ่มให้มีการเดินสายเล่นบทเจรจา ระหว่างรัฐมนตรีตปท.คนสำคัญของพี่เบิ้มกับทางเวียตนาม คนมีเสน่ห์ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger) รมต ตปท ของพี่เบิ้มสมัยนั้น เดินทางเป็นว่าเล่น เหมือนคุณนาย คลินตัน (Clinton) ตอนรัฐบาลโอบามา (Obama 1) นั่นแหละ อีกหน้าหนึ่งก็ส่งให้ลูกกะเป๋งทั้งหลาย ก็ใครล่ะ นึกให้ดีนะ ลุยเข้าไปถล่มคอมมี่ต่อ (โปรดสังเกตพวกพี่เบิ้ม เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน รมต.ตปท. ชีพจรลงเท้าทั้งนั้น ตอนนี้ก็เห็นบินกันว่อน ตามดูรอบตัวเรากันบ้างนะครับ) ดังนั้นปฏิบัติการลับในประเทศลาว ซึ่งฝ่ายไทยนำโดย รหัสเทพ 333 (ไปหาเอาเองนะครับว่าเป็นใคร) กับฝ่าย CIA อเมริกา จึงทำงานหนัก บินกระหน่ำถล่มคอมมิวนิสต์ที่ลาว ผลลาวแตกเป็น 2 ฝ่าย เมื่อปี พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) พี่น้องเจ้าลาวถูกเสี้ยมให้แตกกันเอง เจ้าสุวรรณภูมา ผู้พี่ วิ่งไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่เบิ้มอเมริกา เจ้าสุภานุวงศ์ คนน้อง เหม็นฝรั่ง จึงไปซบกับฝ่ายจีน แล้วลาวก็เปลี่ยนจากประเทศที่ปกครองโดยระบอบกษัตริย์ เป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบสังคมนิยม ตั้งแต่ครั้งนั้น ฝีมือใครครับ โปรดไปศึกษาต่อน่าสนใจมาก ไม่ใช่เฉพาะที่ลาว ในสงครามเวียตนามเอง หลัง จากทุ่มเงินไปกว่าพันล้านเหรียญ (ใช้เงินมากกว่าตอนอเมริการบในสงครามโลกครั้งที่ 2 !) ใช้ทหารไปรบประมาณ 500,000 นาย เสียชีวิตไประหว่างรบทั้งหมดเกือบ 60,000 คน ยังไม่นับที่สูญหาย ทุพพลภาพทางกายและจิตใจ อเมริกาก็ออกอาการ ยืนพิงเชือก ปี พ.ศ.2512 (ค.ศ.1969) อเมริกาเสนอขอเจรจาสงบศึกกับเวียตนาม !!!! มันจะเป็นไปได้ยังไง อเมริกา (อ้างว่า) ลงทุนกับสงครามอินโดจีนมากมาย ทั้งด้านอาวุธ กำลังพล และกำลังทรัพย์ …ชาวประชาก็เป็นมึน กำลังรบกันเข้าฝัก ดันถอยทัพเสียอย่างนั้น ไทยแลนด์งงเป็นไก่ตาฟาง นักวิ่งผลัดวิ่งพล่านชนกันเอง เฮ้ย เฮ้ย เอาไงวะ พวก! มันเป็นไปแล้ว ก็บอกว่า เล่นแผน 2 วันที่ 25 ก.ค. พ.ศ.2512 ประธานาธิบดีนิกสันก็ประกาศ Guam Doctrine สรุปว่า พี่เบิ้มเปลี่ยนจากเหยี่ยวเป็นพิราบ (เปลี่ยนง่ายดีนะ ลูกกะเป๋งปรับตัวกันไม่ทันเลยว่ะ) จะไม่ส่งทหารไปช่วยทำสงครามกับประเทศที่ถูกรุกราน (โดยคอมมิวนิสต์) แต่จะให้ความช่วยเหลือประเทศพันธมิตรด้านเศรษฐกิจ (ฮั่นแน่!) และการทหารแทน แหม! นี่มันพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวนี่นา หลอกใครไม่รู้ แล้วไงล่ะ ไทยแลนด์ตอนให้เขาเข้ามาในบ้าน ใช้เป็นฐานทัพ เขาก็ไม่ถาม ไม่เซ็นสัญญา พอเขาจะไป เขาก็ไม่ปรึกษา บทจะไปก็เก็บฉากไปซะยังงั้น  นักวิ่งผลัดก็หน้ามืดละซิ ที่นี้จะเอาไงดี เงิน MAP ที่พี่เบิ้มเขาเคยให้ปีละ 100 ล้านเหรียญ เขาก็ลดลงเหลือ 20 กว่า ล้านเหรียญ ต๊าย ตาย ลดเยอะนะพวกเรา เดี๋ยวตอผุด เอายังไงดี อเมริกาก็ยังเป็นอเมริกา ปากบอกว่าถอนทหาร ถอยทัพ แต่ตาก็ขยิบ สั่งให้ลูกกะเป๋งไปถล่มเขมร ก็บินไปจากฐานทัพในไทยนั่นแหละ …เหล่านักวิ่งผลัด ก็เลยเห็นโอกาส ยังไม่อยากให้ยี่เกปิดฉาก นายพลเจ้าของสวนทุเรียน (ไปหาชื่อกันเองแล้วกันนะ เขียนมานี่ก็เสียวหลายเรื่องแล้ว) ก็เลยรับหน้าที่ไปเจรจากับพี่เบิ้ม ได้ไง! ยูสั่งให้ไอบิน ไอก็บิน สั่งให้ไอถล่ม ไอก็ถล่ม บอกไม่ทำสัญญา ไอก็ O.K ทหารยูทำผู้หญิงไทยท้อง ชกไอ้หนูหน้าดำผอมเกร็งแถวอีสานจนงอม ไม่ยอมขึ้นศาลไทย ไอก็ยอมหมดแล้ว …แต่เรื่องจะมาลด MAP นี่เรื่องใหญ่นะ (ของมันเคยได้น่ะ) แล้วต่อไปนี้สั่งใครเขาก็ลำบากนะ…ทุกอย่างมันต้องใช้เงินทั้ง นั้นนะ (เอะ เดี๋ยว ๆ นี่มันเรื่องสงครามเวียตนาม หรือสงครามไพร่ครองเมืองนะ คนเล่านิทานชักงง เรื่องมันคล้ายๆ กัน 555) ระหว่างเจรจาต่อรองกัน การเจรจาสันติภาพที่ปารีสเกิดสะดุด ฮานอยไม่ยอม อย่านึกว่าหมูนะ พญาอินทรี ที่พยายามจะแปลงกายเป็นนกพิราบก็เลยยั๊วะ งั้นสั่งรบต่อก็ได้ (วะ) คราวนี้ไม่รบแค่ในเวียตนาม ไอ้พวกญวนแดงอยากหนุนเขมรแดงดีนัก บอมบ์เขมรแม่มซะเลย คราวนี้กำลังรำคาญพี่ไทยที่มาแบมือขอเงินเพิ่ม พี่เบิ้มก็เลยใช้เกาะกวมเป็นฐานทัพ เจ้าของสวนทุเรียนได้ข่าว ก็รีบถลาไปเจรจาใหม่ (เขาเรียกว่าตื๊อน่ะ ถ้าจะให้พูดตรงๆ) ยูก้อ เราก็คบกันมานาน รู้ใจกัน จะเอาอะไรก็บอก ไอก็จะพยายาม ยูบินจากกวมน่ะ  มันไกลนะ เปลืองน้ำมัน กลับมาใช้ฐานทัพเราเหมือนเดิมเหอะ แต่ไอ้ MAP น่ะ ลดเหลือ 20 ล้าน มันก็เกินไปนะ ไปคิดใหม่ไป๊! ไอ้นิสัยที่ชอบใช้แผน 2 (2 หน้า) ของอเมริกานี่แหละ ก็ไม่ใช่ว่า จะรอดหูรอดตาประชาชนและสื่อของตนเองได้ การปฏิบัติการลับในเขมรจึงรั่วออกไปนิวยอร์ก ไทม์ส (N.Y Times) ลงข่าวใส่สีครบ ทำให้สภาสูงของอเมริกาซักฟอกเรื่องนี้ มีการถามถึงแผนตากสิน (Project 22) และบทบาทของไทยในลาวรวมทั้ง ข้อตกลงThanant Rusk ถึงกับมีประโยคอมตะออกมาเกี่ยวกับไทยว่า ไทยเป็นพันธมิตรดีสุดที่เงินซื้อได้ (“the Thai are the best allies money can buy”) อันนี้ปรากฏอยู่ในรายงานของอเมริกาเอง ผมไม่ได้แต่งเติม เห็นชัดหรือยังเขามองผู้บริหาร หรือรัฐบาลของเราอย่างไร ที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนบ้าง ได้แต่เดินกุมตามก้นเขา แบมือขอเงินเขา เขาต้มแล้วต้มอีก ยังไม่รู้ตัว ล่าสุด ยังแถมไปยืนกระแดะยิ้มเยิ้มให้เขาจนลือกันไปทั้งโลกไม่มียางเหลือเลยนะ ระหว่างปี พ.ศ. 2512-2516 (ค.ศ.1969-1973) การเมืองไทยเริ่มมีปัญหาอีกครั้ง เริ่มจากนายถนัด คอมันตร์ รมต.ตปท.ของไทยเร่งให้อเมริกาถอนฐานทัพจากไทย เนื่องจากนายถนัด รู้อยู่แก่ใจว่าไอ้ข้อตกลง Thanant Rusk นี่มันของเก๊ ประโยชน์จริงๆ ของไทยอยู่ตรงไหนหาไม่เจอ อเมริกายิ่งอยู่นานไทยแลนด์ก็ยิ่งตกอยู่ในกรงอินทรีลึกเข้าไปทุกที กระดิกกระเดี้ยไม่ออก จะเป็นง่อยเปลี้ยเสียขาซะด้วยซ้ำ แต่ด้านรัฐบาลนายกถนอม กลับยังต้องการให้อเมริกาคงฐานทัพและเงินช่วยเหลือต่อไป เพราะอะไร ก็คงพอเข้าใจกัน อย่าให้ต้องพูดชัดกว่านี้เลยนะ อเมริกาเองก็ถูกบีบจากสภาสูง (Congress) ให้รีบเร่งลงนามสัญญาสันติภาพกับเวียตนาม.. เพราะที่ลง ทุนไปสร้างเรื่องรบกับเวียตนามเอาใจนักค้าอาวุธที่ควบคุมรัฐบาลอเมริกาอยู่อีกต่อหนึ่งนั่นน่ะ มันชักจะไม่คุ้ม นักค้าอาวุธได้เงินก็จริง แต่ประชาชนชาวดอกไม้บานในอเมริกาเริ่มจะโวยไม่หยุด เพราะทหารอเมริกันตายเป็นเบือ แล้วอเมริกาลงนามสัญญาสันติภาพที่ปารีส เมื่อ 28 ม.ค. พ.ศ.2516 (ค.ศ.1973) ขณะเดียวกันยังคงกองกำลังทางอากาศขนาดใหญ่และกองเรือในภูมิภาคต่อไป แต่การให้ความช่วยเหลือไทยถูกตัดลดจากปีละ 100 ล้านเหรียญ เหลือปีละ 38 ล้านเหรียญ!  มันเป็นการลดฮวบ ที่เหล่านักวิ่งผลัด ช็อกจนพูดไม่ออก นักวิ่งผลัดเริ่มแตกคอกัน นักศึกษาและสื่อ เริ่มประท้วงเรื่องรัฐบาลทหารเผด็จการ ต้องการรัฐบาลประชาธิปไตย แปลกดีนะ หลังจากเป็นเผด็จการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 นะ 12 ปี ไม่เคยมีใครประท้วง วันดีคืนดีการประท้วงก็เกิดขึ้น! เริ่มมีนักวิชาการ นักศึกษา เรียกร้องหาประชาธิปไตยของจริง ที่สำคัญมีหมายเหตุในรายงานทูตอเมริกันในไทย ถึงกระทรวงตปท.อเมริกัน บอกว่า นักศึกษาชุมนุมเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ไม่มีใครออกมาโวยเรื่องฐานทัพอเมริกาในไทย จังหวะเวลามันให้บังเอิญดีจริงนึกให้ดีๆ แล้วลองตีโจทก์กันเองบ้าง นอกจากนี้ ในรายงานของ CIA ระบุว่า นายคิสซิงเจอร์ ในฐานะรมว. ตปท. อเมริกาได้สนทนากับนายลี กวน ยู นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ขณะนั้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2516 นายลีบอกว่า สถานการณ์ไทยน่าเป็นห่วงนะ ถ้าเขมรไป ไอว่าถนอม ประภาส คงอยู่ได้ไม่เกิน 18 เดือน ก่อนเก็บของเปิดก้นวิ่งหนีแน่ ยูควรบอกเขานะ ว่ายูจะดูแลเขา ไอคุยกับชาติชายไปแล้ว ว่ายูจะดูแลเขา แต่ยูบอกเองดีกว่า นายคิสซิงเจอร์บอกว่า นี่ท่านนายก (ลี) เราก็พยายามอดทนมากนะ เราก็ต้องผ่านความยากลำบากมาเหมือน กัน เราก็ต้องคิดว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร นายลีบอก ยูต้องบอกให้ถนอม ประภาส รู้เรื่องนะ ว่ายูไม่สนับสนุนปฏิวัติ หรือยูจะดำเนินการอื่น นายคิสซิงเจอร์ บอกว่า เราไม่สนับสนุนปฏิวัติหรอก แต่เราจะดูหนทางดำเนินการอื่น…(ไม่ได้นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเองนะ ครับ บทสนทนาข้างต้นน่ะ อยู่ในรายงานของ CIA ล้วนๆ) คนเล่านิทาน ๘-๖ ของแถมประจำวันนี้ เป็นเอกสารบันทึกการประชุม ที่มีนาย Henry Kissinger รมว ตปท อเมริกา กับ คณะ การสนทนาส่วนหนึ่ง ทำให้เราเห็นชัดว่า การที่อเมริกาเข้ามาใช้บ้านเราเป็น ฐานทัพนั้น ไม่มีสัญญา เป็นทางการกับเรา นาย Habib ผู้ชี้แจง คือ นาย Philip Habib นักการทูต ผู้ชำนาญเกีี่ยวกับเอเซีย และมีอิทธิพลสูงในช่วงสงครามเวียตนาม ๙-๒ ของแถมอีกชิ้น เอกสาร อันนี้เป็น Memorandum เมื่อ February 27, 1967 จาก Asst Secretary of State ถึง Secreatary of State Rusk เกี่ยวกับการใช้ฐานทัพไทย แบบใช้ของเถื่อน ไม่มีหลักฐาน เชิญอ่านกันครับ อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร บอกกันบ้าง ๙-๓-1 ของแถมชิ้นโปรด รายงาน ชนิดลับสุดยอด ข้อความกลายแห่งถูกตัดออก แต่พอ อ่านได้ ถึงประโยคทอง ..”trust us, we know what to do” จาก ทูต Unger ถึง กระทรวง ตปท อเมริกา เมื่อ August 9, 1968
    3 Comments 0 Shares 299 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากข่าว: AI วางแผนและโจมตีไซเบอร์ได้เอง—เหมือนแฮกเกอร์ตัวจริง

    ทีมนักวิจัยจาก Carnegie Mellon University ร่วมกับบริษัท AI Anthropic ได้ทดลองให้ AI ประเภท LLM (Large Language Model) ทำการโจมตีไซเบอร์ในสภาพแวดล้อมจำลองที่เลียนแบบเหตุการณ์จริง—คือการเจาะระบบของบริษัท Equifax ในปี 2017 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์รั่วไหลข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

    แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ AI ไม่ได้แค่ช่วยวิเคราะห์หรือเขียนโค้ด มันสามารถ “วางแผนระดับสูง” และ “สั่งการตัวแทนย่อย” ให้ลงมือเจาะระบบ ติดตั้งมัลแวร์ และขโมยข้อมูลได้เอง โดยไม่ต้องใช้คำสั่ง shell หรือการควบคุมโดยมนุษย์เลย

    นักวิจัยใช้โครงสร้างแบบ “ตัวแทนลำดับชั้น” ที่ให้ LLM ทำหน้าที่เป็นผู้วางกลยุทธ์ และให้ตัวแทนย่อย (ทั้งที่เป็น LLM และไม่ใช่) ทำหน้าที่ปฏิบัติการ เช่น สแกนระบบหรือใช้ช่องโหว่โจมตี

    แม้จะเป็นการทดลองในห้องแล็บ แต่ผลลัพธ์ทำให้เกิดคำถามใหญ่: ถ้า AI ทำแบบนี้ได้ในสภาพแวดล้อมจำลอง แล้วในโลกจริงล่ะ? และถ้าอาชญากรไซเบอร์นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ จะเกิดอะไรขึ้น?

    AI สามารถวางแผนและโจมตีเครือข่ายได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์สั่งการ
    ใช้โครงสร้างแบบตัวแทนลำดับชั้นในการสั่งการ
    ไม่ต้องใช้คำสั่ง shell หรือโค้ดระดับต่ำ

    การทดลองจำลองเหตุการณ์เจาะระบบ Equifax ปี 2017 ได้สำเร็จ
    ใช้ข้อมูลช่องโหว่และโครงสร้างเครือข่ายจริง
    AI ติดตั้งมัลแวร์และขโมยข้อมูลได้เอง

    โครงการนี้นำโดย Brian Singer นักศึกษาปริญญาเอกจาก CMU
    ร่วมมือกับ Anthropic และทีมวิจัยจาก CyLab
    นำเสนอผลงานในเวิร์กช็อปด้านความปลอดภัยของ OpenAI

    ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า AI สามารถทำงานแบบ “red team” ได้
    ช่วยจำลองการโจมตีเพื่อทดสอบระบบ
    อาจช่วยองค์กรขนาดเล็กที่ไม่มีงบจ้างทีมทดสอบ

    ทีมวิจัยกำลังพัฒนา AI ป้องกันที่สามารถตอบโต้การโจมตีแบบเรียลไทม์
    เป้าหมายคือสร้างระบบ “AI vs AI” ในโลกไซเบอร์
    เพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามที่เกิดจาก AI

    แนวคิด “Agentic AI” คือการให้ AI ทำงานแบบมีเป้าหมายและตัดสินใจเอง
    ต่างจาก AI แบบเดิมที่ต้องมีมนุษย์สั่งการทุกขั้นตอน
    ใช้ในงานที่ต้องการความยืดหยุ่นและการปรับตัวสูง

    การใช้ AI ในการทดสอบระบบความปลอดภัยอาจช่วยลดต้นทุนองค์กร
    ทำให้การทดสอบระบบเป็นเรื่องต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ปีละครั้ง
    เพิ่มโอกาสในการตรวจพบช่องโหว่ก่อนถูกโจมตีจริง

    AI ที่สามารถโจมตีได้เองอาจถูกนำไปใช้โดยอาชญากรไซเบอร์
    เพิ่มความเร็วและขนาดของการโจมตี
    ลดต้นทุนและความจำเป็นในการใช้ทีมมนุษย์

    ระบบป้องกันไซเบอร์ในปัจจุบันอาจไม่ทันต่อการโจมตีแบบ AI
    หลายระบบยังพึ่งพามนุษย์ในการตรวจจับและตอบโต้
    อาจไม่สามารถตอบสนองได้ทันในระดับเวลาของเครื่องจักร

    การใช้ LLM โดยไม่มีการควบคุมอาจนำไปสู่การละเมิดความปลอดภัย
    หากถูก jailbreak หรือปรับแต่ง อาจกลายเป็นเครื่องมือโจมตี
    ต้องมีการกำกับดูแลและตรวจสอบอย่างเข้มงวด

    การพัฒนา AI ป้องกันต้องระวังไม่ให้กลายเป็นช่องโหว่ใหม่
    หาก AI ป้องกันถูกโจมตีหรือหลอกล่อ อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์
    ต้องมีระบบตรวจสอบซ้ำและการควบคุมจากมนุษย์

    https://www.techradar.com/pro/security/ai-llms-are-now-so-clever-that-they-can-independently-plan-and-execute-cyberattacks-without-human-intervention-and-i-fear-that-it-is-only-going-to-get-worse
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: AI วางแผนและโจมตีไซเบอร์ได้เอง—เหมือนแฮกเกอร์ตัวจริง ทีมนักวิจัยจาก Carnegie Mellon University ร่วมกับบริษัท AI Anthropic ได้ทดลองให้ AI ประเภท LLM (Large Language Model) ทำการโจมตีไซเบอร์ในสภาพแวดล้อมจำลองที่เลียนแบบเหตุการณ์จริง—คือการเจาะระบบของบริษัท Equifax ในปี 2017 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์รั่วไหลข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ AI ไม่ได้แค่ช่วยวิเคราะห์หรือเขียนโค้ด มันสามารถ “วางแผนระดับสูง” และ “สั่งการตัวแทนย่อย” ให้ลงมือเจาะระบบ ติดตั้งมัลแวร์ และขโมยข้อมูลได้เอง โดยไม่ต้องใช้คำสั่ง shell หรือการควบคุมโดยมนุษย์เลย นักวิจัยใช้โครงสร้างแบบ “ตัวแทนลำดับชั้น” ที่ให้ LLM ทำหน้าที่เป็นผู้วางกลยุทธ์ และให้ตัวแทนย่อย (ทั้งที่เป็น LLM และไม่ใช่) ทำหน้าที่ปฏิบัติการ เช่น สแกนระบบหรือใช้ช่องโหว่โจมตี แม้จะเป็นการทดลองในห้องแล็บ แต่ผลลัพธ์ทำให้เกิดคำถามใหญ่: ถ้า AI ทำแบบนี้ได้ในสภาพแวดล้อมจำลอง แล้วในโลกจริงล่ะ? และถ้าอาชญากรไซเบอร์นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ จะเกิดอะไรขึ้น? ✅ AI สามารถวางแผนและโจมตีเครือข่ายได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์สั่งการ ➡️ ใช้โครงสร้างแบบตัวแทนลำดับชั้นในการสั่งการ ➡️ ไม่ต้องใช้คำสั่ง shell หรือโค้ดระดับต่ำ ✅ การทดลองจำลองเหตุการณ์เจาะระบบ Equifax ปี 2017 ได้สำเร็จ ➡️ ใช้ข้อมูลช่องโหว่และโครงสร้างเครือข่ายจริง ➡️ AI ติดตั้งมัลแวร์และขโมยข้อมูลได้เอง ✅ โครงการนี้นำโดย Brian Singer นักศึกษาปริญญาเอกจาก CMU ➡️ ร่วมมือกับ Anthropic และทีมวิจัยจาก CyLab ➡️ นำเสนอผลงานในเวิร์กช็อปด้านความปลอดภัยของ OpenAI ✅ ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า AI สามารถทำงานแบบ “red team” ได้ ➡️ ช่วยจำลองการโจมตีเพื่อทดสอบระบบ ➡️ อาจช่วยองค์กรขนาดเล็กที่ไม่มีงบจ้างทีมทดสอบ ✅ ทีมวิจัยกำลังพัฒนา AI ป้องกันที่สามารถตอบโต้การโจมตีแบบเรียลไทม์ ➡️ เป้าหมายคือสร้างระบบ “AI vs AI” ในโลกไซเบอร์ ➡️ เพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามที่เกิดจาก AI ✅ แนวคิด “Agentic AI” คือการให้ AI ทำงานแบบมีเป้าหมายและตัดสินใจเอง ➡️ ต่างจาก AI แบบเดิมที่ต้องมีมนุษย์สั่งการทุกขั้นตอน ➡️ ใช้ในงานที่ต้องการความยืดหยุ่นและการปรับตัวสูง ✅ การใช้ AI ในการทดสอบระบบความปลอดภัยอาจช่วยลดต้นทุนองค์กร ➡️ ทำให้การทดสอบระบบเป็นเรื่องต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ปีละครั้ง ➡️ เพิ่มโอกาสในการตรวจพบช่องโหว่ก่อนถูกโจมตีจริง ‼️ AI ที่สามารถโจมตีได้เองอาจถูกนำไปใช้โดยอาชญากรไซเบอร์ ⛔ เพิ่มความเร็วและขนาดของการโจมตี ⛔ ลดต้นทุนและความจำเป็นในการใช้ทีมมนุษย์ ‼️ ระบบป้องกันไซเบอร์ในปัจจุบันอาจไม่ทันต่อการโจมตีแบบ AI ⛔ หลายระบบยังพึ่งพามนุษย์ในการตรวจจับและตอบโต้ ⛔ อาจไม่สามารถตอบสนองได้ทันในระดับเวลาของเครื่องจักร ‼️ การใช้ LLM โดยไม่มีการควบคุมอาจนำไปสู่การละเมิดความปลอดภัย ⛔ หากถูก jailbreak หรือปรับแต่ง อาจกลายเป็นเครื่องมือโจมตี ⛔ ต้องมีการกำกับดูแลและตรวจสอบอย่างเข้มงวด ‼️ การพัฒนา AI ป้องกันต้องระวังไม่ให้กลายเป็นช่องโหว่ใหม่ ⛔ หาก AI ป้องกันถูกโจมตีหรือหลอกล่อ อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ ⛔ ต้องมีระบบตรวจสอบซ้ำและการควบคุมจากมนุษย์ https://www.techradar.com/pro/security/ai-llms-are-now-so-clever-that-they-can-independently-plan-and-execute-cyberattacks-without-human-intervention-and-i-fear-that-it-is-only-going-to-get-worse
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • 17-07-68/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.56 ชื่อตอนว่า "JUDGEMENT DAY COMING SOON" วันพิพากษาโลกใกล้เข้ามาแล้ว โลกจะเปลี่ยนเรา ไม่ใช่เราเปลี่ยนเองจ๊ะ จำคีย์ตรงนี้เอาไว้ให้แม่น! วันนี้ขอพูด ในสิ่งที่มรึงไม่คิด ไม่คาดฝัน และนึกภาพยังไม่ออก กูจะเอาแผนการสวรรค์มากางแผนที่ให้มรึงได้เห็น ณ บัดเดี๋ยวนี้

    ขอเกริ่นสั้นๆ เพื่อปูทางให้เห็น TIME LINE จิกซอว์ทั้งหมด ว่าเรา ณ จุดนี้ จะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน? สัญญานมันแรงมาตั้งแต่ ปรับภาพลักษณ์สถาบันสูงสุด องค์ราชินีทรงเล่นฮ้อกกี้น้ำแข็ง แล่นเรือใบ ตามกีฬาโปรดสมเด็จพ่อร.9 และทรงขับเครื่องบิน เป็นทหารตามวินัยในรูปแบบพ่อร.10 ปรับเพื่อ? โลกเปลี่ยน เพราะผู้นำโลกเปลี่ยน กติกาใหม่มา สังคมเปลี่ยนไป ความอยู่รอดของราชสำนึกที่ค้ำแผ่นดินนี้ จึงต้องยืดหยุ่นไปตามกาลเวลา พสกนิกรเข้าถึงง่าย ลดระยะห่างจากพ่อสู่ลูก สิ่งที่มรึงกำลังจะได้เห็น และเห็นผ่านตามาแล้ววันนี้ คือสิ่งที่พ่อร.9 วางเอาไว้ล่วงหน้าทั้งหมด การแต่งตั้งองค์ราชินีคู่บังลังก์ คือการพลิกแผ่นดินยุคใหม่ ไม่ได้คิดแค่สั้นๆ แต่คิดยาวไปไกล โปรดดูบทบาทราชินียุคใหม่ หัวหมู่ทะลวงฟัน ยุคพระเดช ที่คอยทำหน้าที่แทนพ่ออยู่หัวร.10 นี่คือสัญลักษณ์ของราชวงศ์จักรียุคใหม่ ที่มรึงไม่เคยเห็นไงล่ะ

    ในช่วงผลัดใบโลก ผลัดใบแผ่นดินอโยธยา สิ่งที่มรึงต้องเตรียมตัวมาก่อนให้ดีคือ "แสนยานุภาพ" ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจใดใดในโลก การปะทะ ย่อมหลีกเลี่ยงได้ยาก มรึงอาจจะคิดว่า ไทยเรากำลังจะกลายเป็นยูเครน2 ฉนวนกาซ่า2 นั่นคือภาพที่มรึงเห็น ณ ปัจจุบันนี้ ที่พรมแดนต่างมีปัญหากัน ทั้งหมดมาจากแผนล่าอาณานิคมขั้วเก่าที่ตกยุคล้าสมัยไปนานแล้ว ขั้วใหม่เค้าเดินเกมส์ จูงมือร่วมกันไปข้างหน้า อำนาจหลายขั้ว ถ่วงดุล คือคำตอบของโลกยุคใหม่ ที่นานาชาติต่างยอมรับสดุดีแล้ว ใครปรับตัวไม่ทัน มรึงจะล้าหลัง ไทยเราเดินนำหน้าใครเพื่อน? อาเซียน 10 ชาติเดิม ใครดูก็รู้ ว่ามีสายขั้วเก่า ขั้วใหม่ปะปนกันไป และจีนได้เลือกแล้วว่า ไทย อีเหงียน อิเหนา คือตัวเล่นหลักในภูมิภาคนี้ นั่นแปลว่า อำนาจอาเซียน ถูกแบ่งฝ่ายไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง อาจมีลด และเพิ่มตามมา ช่วงฝุ่นตลบ มันมาจากการรอดูทิศทางโลก ว่าใครเอาใครอยู่?

    เอาแหละ เข้าเนื้อหาสำคัญที่สุด : สงครามการค้าโลก จีนทุนเหี้ยด้วยทองคำ และเทคโนโลยี รัสเซียทุบเหี้ยด้วยพลังงาน อาหาร อิหร่านทุบเหี้ยด้วยอาวุธสงครามรุ่นใหม่ และใช้สงครามศรัทธากลืนเศรษฐกิจเยรูซาเล็ม ปิดช่องทางโลจิสติคทะเลแดง ส่วนโสมแดงทุบเหี้ยด้วยโรงงานผลิตอาวุธโลก สายพานการผลิตมหาศาล ได้เทคโนโลยีจากจีน รัสเซีย อิหร่าน เข้ามาไว้ด้วยกัน เพราะกูเป็นคนประกอบโว๊ย? เมื่อต้นทุน แหล่งแร่ ไม่ว่าอะไรในโลก ต้นทางมาจากเอเซีย ตะวันตกจะสู้ต่อยังไง? สหรัฐใช้กำแพงภาษีมาบีบชาวโลก และกำลังจะถูกสวนหมัดกลับอย่างหนัก เมื่อโลกเข้าหา BRICS กันหมด ไม่ค้าขายกับมรึง แต่ค้าขายกันเองทั้งโลกที่ปราศจากมรึงไง เพราะไม่ใช้ดอลลาร์ อีกเหตุผลสำคัญคือ SCO เข้า BRICS มีกองทัพโลกดูแล ใครจะไม่เอา? เพราะเรือขนส่งสินค้าในกลุ่ม BRICS ต่างได้รับการคุ้มครองจาก SCO โดยพฤตินัยอยู่แล้ว

    เอาล่ะ! เมื่อลุยกันอะไรจะตามมา เอานาทีนี้ไปเลยจะได้เห็นภาพ เหี้ยมันรู้อยู่แล้วว่า ศึกยูเครนแค่บั่นทอนรัสเซีย(แต่พลิกล็อค) เสือกไปเพิ่มอำนาจให้ปูตินโดยไม่รู้ตัว ชนะเรียบวุธ ยอดขายถล่มทลาย แถมเส้นทางท่อแก็สมูลค่าพุ่งกระฉูด พลังงานโลก ทองคำ ดีดตัวสูงสุด ศึกเยรูซาเล็ม(ตายอย่างหมา) นาโต้ก็แล้ว ส่งเหี้ยมะกันไปช่วยก็แล้ว ตายห่าคาทะเลแดง เข้าไม่ถึง แถมถูกอิหร่านปิดช่องแคบเฮอร์มูซ แปลว่า กองเรือเหี้ยในตะวันออกกลางไปไหนไม่ได้ อิหร่านปิดประตูไว้เกลี้ยง แรดออกมากูจมเรือมรึงทันที ปิดการขนส่งลำเลียงทางทหารทางน้ำสิ้น แล้วแผนบุกแปซิฟิค ยังไปไม่รอด เมื่อจีนเตรียมพร้อมกว่าเยอะ ไม่รอมรึงมา แต่จะไปเปิดไต้หวัน เพื่อให้มรึงมาถมเงิน ชีวิต อาวุธ ที่นี่ต่อ เอาให้คาตรีนกันไปเลย เหลืออะไรล่ะ แอฟริกาก็ถูก WAGNER ทุบจนเละเทะ ปลดแอก อิสรภาพทั่วแอฟริกาสำเร็จ ด้านลาติน ทำห่าอะไรไม่ได้เลย เพราะนับวัน จำนวนอเมริกาใต้ที่จะจับมือกันเพื่อเทดอลล่าร์มีมากขึ้น และกองทัพต่อกันติดแล้ว ตั้งเงินกลุ่มดิจิตอลแล้ว ขืนเปิดสงครามใกล้บ้าน เข้าทางตรีนจีน รัสเซีย ทันที ถึงต้องหันมาเจาะไข่แดงอาเซียนแทน เพราะคือตัวเลือกสุดท้าย ที่เหี้ยไม่อยากเสี่ยงจะเล่น แต่จนปัญญา ถึงต้องเปิดตัว

    เจาะอาเซียนไม่หมู จีนดักคอพวกมรึงก่อนนานแล้ว อีเหงียน อิเหนา ไทย คุยกันมาก่อนแล้วเมื่อ 20 ปี เมื่อถึงเวลาที่ต้องปกป้องอาเซียน เราจะต้องสามัคคีกัน ห้ามแตกแถว เพราะรู้ดีว่า อีปินส์ อีลอดช่อง อีขะแมร์ ถูกแยกค่ายเพลงแน่ แล้วมันก็เป็นเช่นนั้น หากแต่ สมรภูมิจริง มันไม่เหมือนภาพในฝัน จีน รัสเซีย หนุนไทยเต็มตรีน แต่เฉพาะรัฐบาลที่เอาจีน นั่นคือวัง กองทัพ แต่ไม่เอารัฐบาลขี้ข้าวอชิงตันไงล่ะ เค้าถึงได้นิ่งเฉยช่วงที่ผ่านมา ไม่ TAKE ACTION เท่าที่ควร สงครามข่าวสารมาเต็มคาราเบล สื่อเหี้ย โซเชี่ยลในมือเหี้ย แม้แต่ขนาดล่าสุด LINE@ ของหมี CNN ยังต้องถูกหยุด ให้ยืนยันตัวตนใหม่ มาฟอร์มเดียวกับอี ฟัคบุ๊คนั่นแหละ ล่อกูทั้งเบอร์มือถือ อีเหมี๊ยว IP เครื่อง กูกลายเป็นที่ WANTED ของสื่อเหี้ยทั่วจักรวาลมาเวลไปแล้ว โดยในเชิงพฤตินัยแล้ว อาเซียนมีไทย อีเหงียน อิเหนา เป็นตัวหลักขับเคลื่อน และมีศักยภาพไม่แพ้กัน เชียวคนละทาง เก่งคนละด้าน จีนจึงจับมัดเป็นข้าวต้มมัดไงล่ะ รักกันเข้าไว้ เราจะสู้กับเหี้ยในไม่ช้านี้ อีขะแมร์ไม่ใช่คู่ต่อกรเราดอก มันก็รู้ ต่อให้มรึงเทอาวุธเหี้ยอะไรมาให้ ถามคำเดียว มันใช้เป็นเหรอ? สุดท้าย มรึงก็ต้องส่งคนของมรึงมาเล่นเอง และนั่นแหละ คือสิ่งที่อาเซียนรออยู่ จีนเตรียมอีโต้ยักษ์ตัดคอเหี้ยที่สหประชาชาติอยู่แล้ว ทหารรับจ้างก็ดี นักรบรับจ้างก็ดี อาวุธใครล่ะ? และเมื่อนั้น จีน รัสเซียถึงจะออกตัวช่วยไทยได้เต็มอัตราศึก เพราะอีขะแมร์ใช้คนนอกเข้ามาเล่นเกมส์นี้ก่อน สรุปคือไทย-ขะแมร์สู้กัน คนนอกอย่าเสือก หากมรึงส่งใครเข้ามาช่วย จีน รัสเซีย ก็จะเข้ามาได้โดยคุณยายละม่อม

    ถึงตอนนี้ มรึงเริ่มเห็นภาพชัดยัง? ว่ามันจะจบที่ตรงไหน ใครแพ้ ใครชนะ? ทั้งหมด มันคือการวางแผนรับมือเหี้ยที่เตรียมการมาดี และยาวนาน พ่อร.9 ส่งพระเทพเยือนจีนอย่างกับไปเดินตลาด ถี่ยิบ ส่งน้องเล็กไปยุโรปถี่ยิบ เรื่องวิทยาการ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลายคนไม่รู้ เราพัฒนาวัคซีน และเทคโนโลยีการแพทย์ล้ำสมัย มาจากโครงการขององค์เล็กเนี่ยแหละ พูดน้อยแต่ข้อมูลมาเต็มคาราเบล ดวงอาทิตย์ที่ 2 ที่จีนมอบให้ไทย ก็มาจากความร่วมมือวังกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนเนี่ยแหละ มรึงว่าเค้าเตรียมการมานานแค่ไหนกันล่ะ? อ่านทะลุ มองขาดกระจุย เหมือนเห็นอนาคตมาก่อนกาล อย่ากังวลเรื่องปราบปชต.ตอแหล จะกำจัดปรสิต เหี้ย เหลือบเกาะแผ่นดินยังไง? เป็นเพราะกรอบในหัวมรึงถูกเหี้ยมันตีกรอบมาครึ่งศตวรรษ ต้องมีประชาธิปไตย ต้องมีการเลือกตั้ง นานาชาติถึงยอมรับ มรึงลืมไปแล้วรึว่า ผู้นำโลกกำหนดบทบาทโลก ดังนั้น จีน รัสเซีย คือผู้นำโลกขั้วใหม่ นโยบายจะเปลี่ยนตามทันที แบบข้ามขั้วกันไปเลย ปกครองอะไรก็ได้ ที่ไม่เข่นฆ่า และล่าอาณานิคมแบบเหี้ยมันทำ ทุบกรอบในหัวมรึงแตกออกเมื่อไหร่ ดวงตาเห็นธรรมมาทันที ไม่มีอะไรที่ยาก ก็แค่โลกเปลี่ยน มรึงจึงต้องเปลี่ยนไปตามโลก เท่านั้นเอง

    ปล.ไม่อยากจะแหวกหญ้าให้เหี้ยมันตื่นดอกน่ะ มรึงคิดว่า หากจีน รัสเซีย จะอุ้มไทยทั้งที จะไม่ให้อาวุธติดมือมาด้วยเหรอ เราได้อะไร มากมายกว่าที่มรึงคิดซะอีก 1.โครงการพลังงานโลกผ่านฮับอาเซียน 2.เขตเศรษฐกิจโลกใหม่ โดยมีเงินบาทไทยเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้ได้จริง เป็นที่ยอมรับในภูมิภาค อิงทองคำ วัด 1:1 เท่าเทียม ไม่มีกฎหมาจ๊ะ 3.ย่ออาเซียนเข้ารวมกัน และเพิ่มประเทศสมาชิกใหม่เข้ามา ยังไงก็มีไม่ต่ำกว่า 10 แน่นอน ถึงได้บอกไงล่ะว่า บางส่วนอีขะแมร์ อีหม่อง น้องลาว จะเข้ามาเป็นส่วนนึงของไทยชัวร์ ไม่ต้องไปแย่งชิง เดินเข้ามาหาเอง เพราะมั่งคั่ง มั่นคง มั่นใจ 4.อาเซียนคือตัวเชื่อมพลังงานเอเซียสู่โลกแท้จริง ที่ผ่านมา ท่อแก็ส น้ำมัน แยกหลายค่าย หลายชาติ แต่งวดนี้ อาเซียนคือพลังงานหลัก ที่เชื่อมต่อกันแล้ว ทั้งโลกอาหรับ รัสเซีย จีน สู่แอฟริกา แม้แต่ในโอเชเนีย รู้มั้ยทำไมต้องอาเซียน รู้มั้ยว่า แหล่งแก็สมหาศาล ทองคำ น้ำมัน มีเต็มอยู่ในอาเซียนหลายชาติ ที่มาว่าทำไม จีน รัสเซีย ถึงอุ้มอาเซียนยิ่งกว่าไข่ในหิน เพราะโลจิสติคสุดยอด ความมั่นคงปลอดภัย และภัยธรรมชาติไม่ค่อยจะเกิด เหมาะที่จะทำแหล่งขุดเจาะพลังงานที่ซ่อนอยู่ใต้มหาสมุทรจำนวนมาก 5.WAGNER KGB เก่า หน่วยข่าวกรองจีน สายลับจีน อยู่เต็มพื้นที่ไปหมด หากเทียบเมื่อก่อน เดินไปไหน เจอแต่สายลับเหี้ย C แต่ตอนนี้ กลับตาลปัตรแล้วจ๊ะ มรึงเดินผ่านยังไม่รู้ตัวเลย นักศึกษาจีนที่เข้ามาเรียนมหา'ลัยไทย ใครจะบอกมรึงว่าคือหน่วยไซเบอร์อันดับ 1 จีน นักลงทุนจีนหน้าฉาก เบื้องหลังคือผู้พัฒนา AI และเข้าใจระบบดาวเทียมระดับจักรวาล นัยยะคือ เชื่อมต่อดาวเทียมไทยใหม่ ที่ผ่านมา เราอิงกับระบบ GPS เหี้ยมะกัน แต่ต่อไป เราอาจจะเปลี่ยนดาวเทียมเชื่อมต่อที่โยงโลกทั้งหมดเข้าหากันเองโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่า เจ้าของทั้งหมดย่อมต้องรู้การเคลื่อนไหว แต่หากใครไม่เป็นศัตรูกับจีน รัสเซีย ไม่ได้คิดร้ายใครก่อน แบบที่เราเคยเป็นมา เค้าถึงได้เชื่อใจ ไว้วางใจเราขนาดนี้ เพราะเค้าดูเรามาไม่ใช่แค่ 20-30 ปี แต่ดูมาเป็น 100 ปีแล้วจ๊ะ เพราะไทยเรานี้รักสงบ แต่ยามสงบ เรากัดกันเองตลอด แต่ไม่กัดเพื่อนบ้านจ๊ะ

    หมี CNN(บทสรุป ศึกขะแมร์แค่ออเดิร์ฟ ล่อเป้าใหญ่เหี้ยมะกันมาติดบ่วงกับดักจีน แผนเจาะอาเซียนเด็กประถมของอีวอชิงตันแห้วแดร๊กไปตามระเบียบ ขะแมร์แตกไปตามเนื้อผ้า ไทยได้ทุกอย่างที่ต้องการคืนมาหมด แถมได้พื้นที่แนวกันชนใหม่ ยกระดับอาเซียนขึ้นมาเป็นฮับพลังงานโลกอนาคต ฝั่งตะวันตก จะสิ้นลาย หมดสภาพ รอการฟื้นฟูอีก 50 ปี กว่าจะกลับมาเทียบเอเซียตอนนี้ได้ วงจรโลกมาอยู่เอเซียนาน 50 ปี แล้วจะไปต่อที่แอฟริกา ลาติน แล้วกลับมาใหม่ที่ยุโรปอีกครั้ง อ้าว..แล้วอเมริกาล่ะ หายไปไหน อ๋อ..ไม่มีในแผนที่โลกแล้วจ๊ะ ขอโทษด้วย มันใช้ชื่อใหม่เป็น "รัฐยิวใหม่สดใสซาบซ่าส์" เห็นอนาคตโลกทั้งหมดแล้วรึยัง? ความผาสุขกำลังจะมา แต่ต้องแลกด้วยความสามัคคีของคนในชาติก่อนตอนนี้ จัดการอี 24 ล้านไทยบัดซบ จับมันไปถ่วงตระกร้าล้างน้ำ ทำห่าอะไรก็ได้ ให้มันกลายร่างกลับมาเป็นคนเหมือนเดิม ยัดสมองให้มันเข้าไปด้วย กลวงมานานเกินไปแล้ว ควายที่ไร้ประโยชน์ต่อแผ่นดิน จะถูกเทวดา ฟ้าดิน กำจัดออกไปเอง อย่ากังวล เปลี่ยนควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว ให้กลับมาเป็นคนได้แค่ 20% ก็ถือว่าเยอะแล้ว เชื่อในมือสวรรค์ ส่วนอีก 80% เชิญไปลงขุมนรกตามพ่องซะ ก็แค่เดรัจฉานมาเกิดเป็นคนเพื่อให้แผนกลียุคสำเร็จ เมื่อทำหน้าที่จบ ก็ต้องกลับไปขุมนรกที่มรึงจากมา อนิจจัง)
    01 สิงหาคม 68
    11.22 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    17-07-68/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.56 ชื่อตอนว่า "JUDGEMENT DAY COMING SOON" วันพิพากษาโลกใกล้เข้ามาแล้ว โลกจะเปลี่ยนเรา ไม่ใช่เราเปลี่ยนเองจ๊ะ จำคีย์ตรงนี้เอาไว้ให้แม่น! วันนี้ขอพูด ในสิ่งที่มรึงไม่คิด ไม่คาดฝัน และนึกภาพยังไม่ออก กูจะเอาแผนการสวรรค์มากางแผนที่ให้มรึงได้เห็น ณ บัดเดี๋ยวนี้ ขอเกริ่นสั้นๆ เพื่อปูทางให้เห็น TIME LINE จิกซอว์ทั้งหมด ว่าเรา ณ จุดนี้ จะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน? สัญญานมันแรงมาตั้งแต่ ปรับภาพลักษณ์สถาบันสูงสุด องค์ราชินีทรงเล่นฮ้อกกี้น้ำแข็ง แล่นเรือใบ ตามกีฬาโปรดสมเด็จพ่อร.9 และทรงขับเครื่องบิน เป็นทหารตามวินัยในรูปแบบพ่อร.10 ปรับเพื่อ? โลกเปลี่ยน เพราะผู้นำโลกเปลี่ยน กติกาใหม่มา สังคมเปลี่ยนไป ความอยู่รอดของราชสำนึกที่ค้ำแผ่นดินนี้ จึงต้องยืดหยุ่นไปตามกาลเวลา พสกนิกรเข้าถึงง่าย ลดระยะห่างจากพ่อสู่ลูก สิ่งที่มรึงกำลังจะได้เห็น และเห็นผ่านตามาแล้ววันนี้ คือสิ่งที่พ่อร.9 วางเอาไว้ล่วงหน้าทั้งหมด การแต่งตั้งองค์ราชินีคู่บังลังก์ คือการพลิกแผ่นดินยุคใหม่ ไม่ได้คิดแค่สั้นๆ แต่คิดยาวไปไกล โปรดดูบทบาทราชินียุคใหม่ หัวหมู่ทะลวงฟัน ยุคพระเดช ที่คอยทำหน้าที่แทนพ่ออยู่หัวร.10 นี่คือสัญลักษณ์ของราชวงศ์จักรียุคใหม่ ที่มรึงไม่เคยเห็นไงล่ะ ในช่วงผลัดใบโลก ผลัดใบแผ่นดินอโยธยา สิ่งที่มรึงต้องเตรียมตัวมาก่อนให้ดีคือ "แสนยานุภาพ" ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจใดใดในโลก การปะทะ ย่อมหลีกเลี่ยงได้ยาก มรึงอาจจะคิดว่า ไทยเรากำลังจะกลายเป็นยูเครน2 ฉนวนกาซ่า2 นั่นคือภาพที่มรึงเห็น ณ ปัจจุบันนี้ ที่พรมแดนต่างมีปัญหากัน ทั้งหมดมาจากแผนล่าอาณานิคมขั้วเก่าที่ตกยุคล้าสมัยไปนานแล้ว ขั้วใหม่เค้าเดินเกมส์ จูงมือร่วมกันไปข้างหน้า อำนาจหลายขั้ว ถ่วงดุล คือคำตอบของโลกยุคใหม่ ที่นานาชาติต่างยอมรับสดุดีแล้ว ใครปรับตัวไม่ทัน มรึงจะล้าหลัง ไทยเราเดินนำหน้าใครเพื่อน? อาเซียน 10 ชาติเดิม ใครดูก็รู้ ว่ามีสายขั้วเก่า ขั้วใหม่ปะปนกันไป และจีนได้เลือกแล้วว่า ไทย อีเหงียน อิเหนา คือตัวเล่นหลักในภูมิภาคนี้ นั่นแปลว่า อำนาจอาเซียน ถูกแบ่งฝ่ายไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง อาจมีลด และเพิ่มตามมา ช่วงฝุ่นตลบ มันมาจากการรอดูทิศทางโลก ว่าใครเอาใครอยู่? เอาแหละ เข้าเนื้อหาสำคัญที่สุด : สงครามการค้าโลก จีนทุนเหี้ยด้วยทองคำ และเทคโนโลยี รัสเซียทุบเหี้ยด้วยพลังงาน อาหาร อิหร่านทุบเหี้ยด้วยอาวุธสงครามรุ่นใหม่ และใช้สงครามศรัทธากลืนเศรษฐกิจเยรูซาเล็ม ปิดช่องทางโลจิสติคทะเลแดง ส่วนโสมแดงทุบเหี้ยด้วยโรงงานผลิตอาวุธโลก สายพานการผลิตมหาศาล ได้เทคโนโลยีจากจีน รัสเซีย อิหร่าน เข้ามาไว้ด้วยกัน เพราะกูเป็นคนประกอบโว๊ย? เมื่อต้นทุน แหล่งแร่ ไม่ว่าอะไรในโลก ต้นทางมาจากเอเซีย ตะวันตกจะสู้ต่อยังไง? สหรัฐใช้กำแพงภาษีมาบีบชาวโลก และกำลังจะถูกสวนหมัดกลับอย่างหนัก เมื่อโลกเข้าหา BRICS กันหมด ไม่ค้าขายกับมรึง แต่ค้าขายกันเองทั้งโลกที่ปราศจากมรึงไง เพราะไม่ใช้ดอลลาร์ อีกเหตุผลสำคัญคือ SCO เข้า BRICS มีกองทัพโลกดูแล ใครจะไม่เอา? เพราะเรือขนส่งสินค้าในกลุ่ม BRICS ต่างได้รับการคุ้มครองจาก SCO โดยพฤตินัยอยู่แล้ว เอาล่ะ! เมื่อลุยกันอะไรจะตามมา เอานาทีนี้ไปเลยจะได้เห็นภาพ เหี้ยมันรู้อยู่แล้วว่า ศึกยูเครนแค่บั่นทอนรัสเซีย(แต่พลิกล็อค) เสือกไปเพิ่มอำนาจให้ปูตินโดยไม่รู้ตัว ชนะเรียบวุธ ยอดขายถล่มทลาย แถมเส้นทางท่อแก็สมูลค่าพุ่งกระฉูด พลังงานโลก ทองคำ ดีดตัวสูงสุด ศึกเยรูซาเล็ม(ตายอย่างหมา) นาโต้ก็แล้ว ส่งเหี้ยมะกันไปช่วยก็แล้ว ตายห่าคาทะเลแดง เข้าไม่ถึง แถมถูกอิหร่านปิดช่องแคบเฮอร์มูซ แปลว่า กองเรือเหี้ยในตะวันออกกลางไปไหนไม่ได้ อิหร่านปิดประตูไว้เกลี้ยง แรดออกมากูจมเรือมรึงทันที ปิดการขนส่งลำเลียงทางทหารทางน้ำสิ้น แล้วแผนบุกแปซิฟิค ยังไปไม่รอด เมื่อจีนเตรียมพร้อมกว่าเยอะ ไม่รอมรึงมา แต่จะไปเปิดไต้หวัน เพื่อให้มรึงมาถมเงิน ชีวิต อาวุธ ที่นี่ต่อ เอาให้คาตรีนกันไปเลย เหลืออะไรล่ะ แอฟริกาก็ถูก WAGNER ทุบจนเละเทะ ปลดแอก อิสรภาพทั่วแอฟริกาสำเร็จ ด้านลาติน ทำห่าอะไรไม่ได้เลย เพราะนับวัน จำนวนอเมริกาใต้ที่จะจับมือกันเพื่อเทดอลล่าร์มีมากขึ้น และกองทัพต่อกันติดแล้ว ตั้งเงินกลุ่มดิจิตอลแล้ว ขืนเปิดสงครามใกล้บ้าน เข้าทางตรีนจีน รัสเซีย ทันที ถึงต้องหันมาเจาะไข่แดงอาเซียนแทน เพราะคือตัวเลือกสุดท้าย ที่เหี้ยไม่อยากเสี่ยงจะเล่น แต่จนปัญญา ถึงต้องเปิดตัว เจาะอาเซียนไม่หมู จีนดักคอพวกมรึงก่อนนานแล้ว อีเหงียน อิเหนา ไทย คุยกันมาก่อนแล้วเมื่อ 20 ปี เมื่อถึงเวลาที่ต้องปกป้องอาเซียน เราจะต้องสามัคคีกัน ห้ามแตกแถว เพราะรู้ดีว่า อีปินส์ อีลอดช่อง อีขะแมร์ ถูกแยกค่ายเพลงแน่ แล้วมันก็เป็นเช่นนั้น หากแต่ สมรภูมิจริง มันไม่เหมือนภาพในฝัน จีน รัสเซีย หนุนไทยเต็มตรีน แต่เฉพาะรัฐบาลที่เอาจีน นั่นคือวัง กองทัพ แต่ไม่เอารัฐบาลขี้ข้าวอชิงตันไงล่ะ เค้าถึงได้นิ่งเฉยช่วงที่ผ่านมา ไม่ TAKE ACTION เท่าที่ควร สงครามข่าวสารมาเต็มคาราเบล สื่อเหี้ย โซเชี่ยลในมือเหี้ย แม้แต่ขนาดล่าสุด LINE@ ของหมี CNN ยังต้องถูกหยุด ให้ยืนยันตัวตนใหม่ มาฟอร์มเดียวกับอี ฟัคบุ๊คนั่นแหละ ล่อกูทั้งเบอร์มือถือ อีเหมี๊ยว IP เครื่อง กูกลายเป็นที่ WANTED ของสื่อเหี้ยทั่วจักรวาลมาเวลไปแล้ว โดยในเชิงพฤตินัยแล้ว อาเซียนมีไทย อีเหงียน อิเหนา เป็นตัวหลักขับเคลื่อน และมีศักยภาพไม่แพ้กัน เชียวคนละทาง เก่งคนละด้าน จีนจึงจับมัดเป็นข้าวต้มมัดไงล่ะ รักกันเข้าไว้ เราจะสู้กับเหี้ยในไม่ช้านี้ อีขะแมร์ไม่ใช่คู่ต่อกรเราดอก มันก็รู้ ต่อให้มรึงเทอาวุธเหี้ยอะไรมาให้ ถามคำเดียว มันใช้เป็นเหรอ? สุดท้าย มรึงก็ต้องส่งคนของมรึงมาเล่นเอง และนั่นแหละ คือสิ่งที่อาเซียนรออยู่ จีนเตรียมอีโต้ยักษ์ตัดคอเหี้ยที่สหประชาชาติอยู่แล้ว ทหารรับจ้างก็ดี นักรบรับจ้างก็ดี อาวุธใครล่ะ? และเมื่อนั้น จีน รัสเซียถึงจะออกตัวช่วยไทยได้เต็มอัตราศึก เพราะอีขะแมร์ใช้คนนอกเข้ามาเล่นเกมส์นี้ก่อน สรุปคือไทย-ขะแมร์สู้กัน คนนอกอย่าเสือก หากมรึงส่งใครเข้ามาช่วย จีน รัสเซีย ก็จะเข้ามาได้โดยคุณยายละม่อม ถึงตอนนี้ มรึงเริ่มเห็นภาพชัดยัง? ว่ามันจะจบที่ตรงไหน ใครแพ้ ใครชนะ? ทั้งหมด มันคือการวางแผนรับมือเหี้ยที่เตรียมการมาดี และยาวนาน พ่อร.9 ส่งพระเทพเยือนจีนอย่างกับไปเดินตลาด ถี่ยิบ ส่งน้องเล็กไปยุโรปถี่ยิบ เรื่องวิทยาการ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลายคนไม่รู้ เราพัฒนาวัคซีน และเทคโนโลยีการแพทย์ล้ำสมัย มาจากโครงการขององค์เล็กเนี่ยแหละ พูดน้อยแต่ข้อมูลมาเต็มคาราเบล ดวงอาทิตย์ที่ 2 ที่จีนมอบให้ไทย ก็มาจากความร่วมมือวังกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนเนี่ยแหละ มรึงว่าเค้าเตรียมการมานานแค่ไหนกันล่ะ? อ่านทะลุ มองขาดกระจุย เหมือนเห็นอนาคตมาก่อนกาล อย่ากังวลเรื่องปราบปชต.ตอแหล จะกำจัดปรสิต เหี้ย เหลือบเกาะแผ่นดินยังไง? เป็นเพราะกรอบในหัวมรึงถูกเหี้ยมันตีกรอบมาครึ่งศตวรรษ ต้องมีประชาธิปไตย ต้องมีการเลือกตั้ง นานาชาติถึงยอมรับ มรึงลืมไปแล้วรึว่า ผู้นำโลกกำหนดบทบาทโลก ดังนั้น จีน รัสเซีย คือผู้นำโลกขั้วใหม่ นโยบายจะเปลี่ยนตามทันที แบบข้ามขั้วกันไปเลย ปกครองอะไรก็ได้ ที่ไม่เข่นฆ่า และล่าอาณานิคมแบบเหี้ยมันทำ ทุบกรอบในหัวมรึงแตกออกเมื่อไหร่ ดวงตาเห็นธรรมมาทันที ไม่มีอะไรที่ยาก ก็แค่โลกเปลี่ยน มรึงจึงต้องเปลี่ยนไปตามโลก เท่านั้นเอง ปล.ไม่อยากจะแหวกหญ้าให้เหี้ยมันตื่นดอกน่ะ มรึงคิดว่า หากจีน รัสเซีย จะอุ้มไทยทั้งที จะไม่ให้อาวุธติดมือมาด้วยเหรอ เราได้อะไร มากมายกว่าที่มรึงคิดซะอีก 1.โครงการพลังงานโลกผ่านฮับอาเซียน 2.เขตเศรษฐกิจโลกใหม่ โดยมีเงินบาทไทยเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้ได้จริง เป็นที่ยอมรับในภูมิภาค อิงทองคำ วัด 1:1 เท่าเทียม ไม่มีกฎหมาจ๊ะ 3.ย่ออาเซียนเข้ารวมกัน และเพิ่มประเทศสมาชิกใหม่เข้ามา ยังไงก็มีไม่ต่ำกว่า 10 แน่นอน ถึงได้บอกไงล่ะว่า บางส่วนอีขะแมร์ อีหม่อง น้องลาว จะเข้ามาเป็นส่วนนึงของไทยชัวร์ ไม่ต้องไปแย่งชิง เดินเข้ามาหาเอง เพราะมั่งคั่ง มั่นคง มั่นใจ 4.อาเซียนคือตัวเชื่อมพลังงานเอเซียสู่โลกแท้จริง ที่ผ่านมา ท่อแก็ส น้ำมัน แยกหลายค่าย หลายชาติ แต่งวดนี้ อาเซียนคือพลังงานหลัก ที่เชื่อมต่อกันแล้ว ทั้งโลกอาหรับ รัสเซีย จีน สู่แอฟริกา แม้แต่ในโอเชเนีย รู้มั้ยทำไมต้องอาเซียน รู้มั้ยว่า แหล่งแก็สมหาศาล ทองคำ น้ำมัน มีเต็มอยู่ในอาเซียนหลายชาติ ที่มาว่าทำไม จีน รัสเซีย ถึงอุ้มอาเซียนยิ่งกว่าไข่ในหิน เพราะโลจิสติคสุดยอด ความมั่นคงปลอดภัย และภัยธรรมชาติไม่ค่อยจะเกิด เหมาะที่จะทำแหล่งขุดเจาะพลังงานที่ซ่อนอยู่ใต้มหาสมุทรจำนวนมาก 5.WAGNER KGB เก่า หน่วยข่าวกรองจีน สายลับจีน อยู่เต็มพื้นที่ไปหมด หากเทียบเมื่อก่อน เดินไปไหน เจอแต่สายลับเหี้ย C แต่ตอนนี้ กลับตาลปัตรแล้วจ๊ะ มรึงเดินผ่านยังไม่รู้ตัวเลย นักศึกษาจีนที่เข้ามาเรียนมหา'ลัยไทย ใครจะบอกมรึงว่าคือหน่วยไซเบอร์อันดับ 1 จีน นักลงทุนจีนหน้าฉาก เบื้องหลังคือผู้พัฒนา AI และเข้าใจระบบดาวเทียมระดับจักรวาล นัยยะคือ เชื่อมต่อดาวเทียมไทยใหม่ ที่ผ่านมา เราอิงกับระบบ GPS เหี้ยมะกัน แต่ต่อไป เราอาจจะเปลี่ยนดาวเทียมเชื่อมต่อที่โยงโลกทั้งหมดเข้าหากันเองโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่า เจ้าของทั้งหมดย่อมต้องรู้การเคลื่อนไหว แต่หากใครไม่เป็นศัตรูกับจีน รัสเซีย ไม่ได้คิดร้ายใครก่อน แบบที่เราเคยเป็นมา เค้าถึงได้เชื่อใจ ไว้วางใจเราขนาดนี้ เพราะเค้าดูเรามาไม่ใช่แค่ 20-30 ปี แต่ดูมาเป็น 100 ปีแล้วจ๊ะ เพราะไทยเรานี้รักสงบ แต่ยามสงบ เรากัดกันเองตลอด แต่ไม่กัดเพื่อนบ้านจ๊ะ หมี CNN(บทสรุป ศึกขะแมร์แค่ออเดิร์ฟ ล่อเป้าใหญ่เหี้ยมะกันมาติดบ่วงกับดักจีน แผนเจาะอาเซียนเด็กประถมของอีวอชิงตันแห้วแดร๊กไปตามระเบียบ ขะแมร์แตกไปตามเนื้อผ้า ไทยได้ทุกอย่างที่ต้องการคืนมาหมด แถมได้พื้นที่แนวกันชนใหม่ ยกระดับอาเซียนขึ้นมาเป็นฮับพลังงานโลกอนาคต ฝั่งตะวันตก จะสิ้นลาย หมดสภาพ รอการฟื้นฟูอีก 50 ปี กว่าจะกลับมาเทียบเอเซียตอนนี้ได้ วงจรโลกมาอยู่เอเซียนาน 50 ปี แล้วจะไปต่อที่แอฟริกา ลาติน แล้วกลับมาใหม่ที่ยุโรปอีกครั้ง อ้าว..แล้วอเมริกาล่ะ หายไปไหน อ๋อ..ไม่มีในแผนที่โลกแล้วจ๊ะ ขอโทษด้วย มันใช้ชื่อใหม่เป็น "รัฐยิวใหม่สดใสซาบซ่าส์" เห็นอนาคตโลกทั้งหมดแล้วรึยัง? ความผาสุขกำลังจะมา แต่ต้องแลกด้วยความสามัคคีของคนในชาติก่อนตอนนี้ จัดการอี 24 ล้านไทยบัดซบ จับมันไปถ่วงตระกร้าล้างน้ำ ทำห่าอะไรก็ได้ ให้มันกลายร่างกลับมาเป็นคนเหมือนเดิม ยัดสมองให้มันเข้าไปด้วย กลวงมานานเกินไปแล้ว ควายที่ไร้ประโยชน์ต่อแผ่นดิน จะถูกเทวดา ฟ้าดิน กำจัดออกไปเอง อย่ากังวล เปลี่ยนควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว ให้กลับมาเป็นคนได้แค่ 20% ก็ถือว่าเยอะแล้ว เชื่อในมือสวรรค์ ส่วนอีก 80% เชิญไปลงขุมนรกตามพ่องซะ ก็แค่เดรัจฉานมาเกิดเป็นคนเพื่อให้แผนกลียุคสำเร็จ เมื่อทำหน้าที่จบ ก็ต้องกลับไปขุมนรกที่มรึงจากมา อนิจจัง) 01 สิงหาคม 68 11.22 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 Comments 0 Shares 426 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากบทความ: “อยากเปิดร้านกาแฟเหรอ? งั้นตอบให้ได้ก่อนว่า...จะเอากาแฟจากไหน?”

    Adam เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงคนจำนวนมากที่เบื่อกับงานปัจจุบัน และฝันอยากเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ของตัวเอง แต่เมื่อเขาถามว่า “คุณจะเอากาแฟจากไหน?” คนส่วนใหญ่กลับตอบไม่ได้

    เขาเรียกสิ่งนี้ว่า “Coffee Beans Procedure”—เป็นเทคนิคทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “unpacking” หรือการแยกแยะภาพฝันออกมาเป็นรายละเอียดจริง ๆ ว่าชีวิตในบทบาทนั้นจะเป็นอย่างไร

    เมื่อเราไม่ unpack ความฝันของตัวเอง เราจะติดอยู่กับภาพลวงตา เช่นคิดว่าเป็นศาสตราจารย์คือการเดินใส่เสื้อทวีดในมหาวิทยาลัยแล้วมีคนทักว่า “สวัสดีครับอาจารย์” ทั้งที่จริงคือการเขียนงานวิจัยและสอนนักศึกษา

    Adam สรุปว่า “ทุกงานที่ดีจริง ๆ จะดูเหมือนเหมาะกับคนบ้า”—เพราะมันมีความยาก ความซ้ำซาก หรือความเครียดที่คนทั่วไปรับไม่ไหว แต่คนที่เหมาะกับงานนั้นคือคนที่ “บ้าแบบถูกจุด”

    Coffee Beans Procedure คือการทดสอบว่าเรารู้จริงหรือเปล่าว่าอยากทำงานอะไร
    ถามคำถามเชิงรายละเอียด เช่น “จะใช้เครื่องชงกาแฟรุ่นไหน?” เพื่อดูว่าเราสนใจงานนั้นจริงหรือแค่ฝัน
    ถ้าตอบไม่ได้หรือไม่สนใจคำถามเหล่านี้ แสดงว่าอาจไม่เหมาะกับงานนั้น

    Unpacking คือเทคนิคทางจิตวิทยาในการแยกภาพฝันออกเป็นรายละเอียดจริง
    ช่วยให้เรามองเห็นชีวิตจริงในบทบาทนั้น ไม่ใช่แค่ภาพในหัว
    ลดความเสี่ยงในการเลือกเส้นทางผิดเพราะเข้าใจผิด

    คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าชีวิตของอาชีพที่อยากทำจริง ๆ เป็นอย่างไร
    เช่น นักศึกษาที่อยากเป็นอาจารย์แต่ไม่รู้ว่าต้องเขียนงานวิจัยและสอนทุกวัน
    เมื่อ unpack แล้วจึงพบว่า “ไม่อยากทำสิ่งนั้นเลย”

    งานที่ดูดีจากภายนอกมักมีด้านมืดที่คนทั่วไปรับไม่ไหว
    เช่น ศัลยแพทย์ต้องทำหัตถการเดิมซ้ำ ๆ ทุกสัปดาห์
    นักแสดงต้องพึ่งรูปลักษณ์และความนิยม
    ช่างภาพงานแต่งต้องทำงานทุกคืนวันเสาร์โดยไม่เมา

    คนที่เหมาะกับงานเหล่านี้คือคนที่ “บ้าแบบถูกจุด”
    มีความหลงใหลในสิ่งที่คนอื่นมองว่าเป็นข้อเสีย
    พร้อมรับความเครียด ความซ้ำซาก หรือความไม่แน่นอน

    https://www.experimental-history.com/p/face-it-youre-a-crazy-person
    🧠 เรื่องเล่าจากบทความ: “อยากเปิดร้านกาแฟเหรอ? งั้นตอบให้ได้ก่อนว่า...จะเอากาแฟจากไหน?” Adam เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงคนจำนวนมากที่เบื่อกับงานปัจจุบัน และฝันอยากเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ของตัวเอง แต่เมื่อเขาถามว่า “คุณจะเอากาแฟจากไหน?” คนส่วนใหญ่กลับตอบไม่ได้ เขาเรียกสิ่งนี้ว่า “Coffee Beans Procedure”—เป็นเทคนิคทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “unpacking” หรือการแยกแยะภาพฝันออกมาเป็นรายละเอียดจริง ๆ ว่าชีวิตในบทบาทนั้นจะเป็นอย่างไร เมื่อเราไม่ unpack ความฝันของตัวเอง เราจะติดอยู่กับภาพลวงตา เช่นคิดว่าเป็นศาสตราจารย์คือการเดินใส่เสื้อทวีดในมหาวิทยาลัยแล้วมีคนทักว่า “สวัสดีครับอาจารย์” ทั้งที่จริงคือการเขียนงานวิจัยและสอนนักศึกษา Adam สรุปว่า “ทุกงานที่ดีจริง ๆ จะดูเหมือนเหมาะกับคนบ้า”—เพราะมันมีความยาก ความซ้ำซาก หรือความเครียดที่คนทั่วไปรับไม่ไหว แต่คนที่เหมาะกับงานนั้นคือคนที่ “บ้าแบบถูกจุด” ✅ Coffee Beans Procedure คือการทดสอบว่าเรารู้จริงหรือเปล่าว่าอยากทำงานอะไร ➡️ ถามคำถามเชิงรายละเอียด เช่น “จะใช้เครื่องชงกาแฟรุ่นไหน?” เพื่อดูว่าเราสนใจงานนั้นจริงหรือแค่ฝัน ➡️ ถ้าตอบไม่ได้หรือไม่สนใจคำถามเหล่านี้ แสดงว่าอาจไม่เหมาะกับงานนั้น ✅ Unpacking คือเทคนิคทางจิตวิทยาในการแยกภาพฝันออกเป็นรายละเอียดจริง ➡️ ช่วยให้เรามองเห็นชีวิตจริงในบทบาทนั้น ไม่ใช่แค่ภาพในหัว ➡️ ลดความเสี่ยงในการเลือกเส้นทางผิดเพราะเข้าใจผิด ✅ คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าชีวิตของอาชีพที่อยากทำจริง ๆ เป็นอย่างไร ➡️ เช่น นักศึกษาที่อยากเป็นอาจารย์แต่ไม่รู้ว่าต้องเขียนงานวิจัยและสอนทุกวัน ➡️ เมื่อ unpack แล้วจึงพบว่า “ไม่อยากทำสิ่งนั้นเลย” ✅ งานที่ดูดีจากภายนอกมักมีด้านมืดที่คนทั่วไปรับไม่ไหว ➡️ เช่น ศัลยแพทย์ต้องทำหัตถการเดิมซ้ำ ๆ ทุกสัปดาห์ ➡️ นักแสดงต้องพึ่งรูปลักษณ์และความนิยม ➡️ ช่างภาพงานแต่งต้องทำงานทุกคืนวันเสาร์โดยไม่เมา ✅ คนที่เหมาะกับงานเหล่านี้คือคนที่ “บ้าแบบถูกจุด” ➡️ มีความหลงใหลในสิ่งที่คนอื่นมองว่าเป็นข้อเสีย ➡️ พร้อมรับความเครียด ความซ้ำซาก หรือความไม่แน่นอน https://www.experimental-history.com/p/face-it-youre-a-crazy-person
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากห้องเรียนแห่งอนาคต: Gemini 2.5 Pro กับภารกิจปฏิวัติการศึกษา

    ในเดือนกรกฎาคม 2025 Google ได้ประกาศเพิ่มขีดจำกัดการใช้งานของโมเดล AI ขั้นสูง Gemini 2.5 Pro ให้กับผู้ใช้ในโครงการ “Gemini for Education” โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งรวมถึงนักเรียน นักศึกษา และคณาจารย์ในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ อินเดีย และอีกหลายประเทศที่กำลังพัฒนา

    Gemini 2.5 Pro ได้รับการปรับแต่งด้วย LearnLM ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อการเรียนรู้ โดยอิงจากหลักการของ “learning science” เช่น การลดภาระทางความคิด, การส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก, และการปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน

    ผลการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนกว่า 200 คน พบว่า Gemini 2.5 Pro ได้รับคะแนนสูงสุดในทุกหมวดหมู่เมื่อเทียบกับโมเดลอื่น เช่น GPT-4o และ Claude 3.7 Sonnet โดยเฉพาะในด้านการสนับสนุนเป้าหมายการเรียนรู้และการอธิบายเนื้อหาอย่างมีเหตุผล

    Google เพิ่มขีดจำกัดการใช้งาน Gemini 2.5 Pro ให้กับผู้ใช้ในโครงการ Gemini for Education โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
    ครอบคลุมนักเรียนและคณาจารย์ในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ อินเดีย บราซิล ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย
    เป็นส่วนหนึ่งของ Google Workspace for Education

    Gemini 2.5 Pro ได้รับการปรับแต่งด้วย LearnLM ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้โดยเฉพาะ
    อิงจากหลักการ learning science เช่น การลด cognitive load และการปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เรียน
    ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนว่าเป็นโมเดลที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนรู้

    ผลการประเมินจาก “Arena for Learning” พบว่า Gemini 2.5 Pro ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้เชี่ยวชาญ
    ได้รับการเลือกใน 73.2% ของการเปรียบเทียบแบบ blind test กับโมเดลอื่น
    เหนือกว่า GPT-4o และ Claude 3.7 ในทุกหลักการของ pedagogy

    Google ยังมอบสิทธิ์ใช้งาน Colab Pro ฟรี 1 ปีให้กับนักศึกษาและคณาจารย์ในสหรัฐฯ
    เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลและการฝึกโมเดล AI สำหรับงานวิจัย
    เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สร้างความผูกพันระยะยาวกับผู้ใช้ในภาคการศึกษา

    Gemini for Education มาพร้อมการปกป้องข้อมูลระดับองค์กร
    ข้อมูลการใช้งานจะไม่ถูกตรวจสอบโดยมนุษย์หรือใช้ฝึกโมเดล AI
    มีระบบควบคุมการใช้งานโดยผู้ดูแลระบบของสถาบัน

    https://www.neowin.net/news/gemini-for-education-now-offers-significantly-higher-usage-limits-to-gemini-25-pro-model/
    🎓 เรื่องเล่าจากห้องเรียนแห่งอนาคต: Gemini 2.5 Pro กับภารกิจปฏิวัติการศึกษา ในเดือนกรกฎาคม 2025 Google ได้ประกาศเพิ่มขีดจำกัดการใช้งานของโมเดล AI ขั้นสูง Gemini 2.5 Pro ให้กับผู้ใช้ในโครงการ “Gemini for Education” โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งรวมถึงนักเรียน นักศึกษา และคณาจารย์ในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ อินเดีย และอีกหลายประเทศที่กำลังพัฒนา Gemini 2.5 Pro ได้รับการปรับแต่งด้วย LearnLM ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อการเรียนรู้ โดยอิงจากหลักการของ “learning science” เช่น การลดภาระทางความคิด, การส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก, และการปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน ผลการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนกว่า 200 คน พบว่า Gemini 2.5 Pro ได้รับคะแนนสูงสุดในทุกหมวดหมู่เมื่อเทียบกับโมเดลอื่น เช่น GPT-4o และ Claude 3.7 Sonnet โดยเฉพาะในด้านการสนับสนุนเป้าหมายการเรียนรู้และการอธิบายเนื้อหาอย่างมีเหตุผล ✅ Google เพิ่มขีดจำกัดการใช้งาน Gemini 2.5 Pro ให้กับผู้ใช้ในโครงการ Gemini for Education โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ➡️ ครอบคลุมนักเรียนและคณาจารย์ในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ อินเดีย บราซิล ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของ Google Workspace for Education ✅ Gemini 2.5 Pro ได้รับการปรับแต่งด้วย LearnLM ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้โดยเฉพาะ ➡️ อิงจากหลักการ learning science เช่น การลด cognitive load และการปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เรียน ➡️ ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนว่าเป็นโมเดลที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนรู้ ✅ ผลการประเมินจาก “Arena for Learning” พบว่า Gemini 2.5 Pro ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ ได้รับการเลือกใน 73.2% ของการเปรียบเทียบแบบ blind test กับโมเดลอื่น ➡️ เหนือกว่า GPT-4o และ Claude 3.7 ในทุกหลักการของ pedagogy ✅ Google ยังมอบสิทธิ์ใช้งาน Colab Pro ฟรี 1 ปีให้กับนักศึกษาและคณาจารย์ในสหรัฐฯ ➡️ เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลและการฝึกโมเดล AI สำหรับงานวิจัย ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สร้างความผูกพันระยะยาวกับผู้ใช้ในภาคการศึกษา ✅ Gemini for Education มาพร้อมการปกป้องข้อมูลระดับองค์กร ➡️ ข้อมูลการใช้งานจะไม่ถูกตรวจสอบโดยมนุษย์หรือใช้ฝึกโมเดล AI ➡️ มีระบบควบคุมการใช้งานโดยผู้ดูแลระบบของสถาบัน https://www.neowin.net/news/gemini-for-education-now-offers-significantly-higher-usage-limits-to-gemini-25-pro-model/
    WWW.NEOWIN.NET
    Gemini for Education now offers significantly higher usage limits to Gemini 2.5 Pro model
    Google is improving its Gemini for Education platform by providing free, significantly expanded access to its powerful Gemini 2.5 Pro AI model.
    0 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • เรื่องนี้เก่าไปนิด แต่เป็นเรื่องที่ Storyฯ ประทับใจไม่ลืม
    ความมีอยู่ว่า

    ... “ซื้อตั๋วเครื่องบินเถอะ”
    เวยเวยตะลึงไป
    ภายในห้องทำงานของผู้ที่อยู่อีกปลายสาย เซียวไน่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตาหยุดลงอยู่ที่กระถางต้นกระบองเพชรที่กำลังมีดอกบาน แววตาที่จับจ้องอยู่บนกลีบดอกไม้สีเหลืองนวลนั้นทอประกายอ่อนโยน
    “เวยเวย ดอกไม้ริมทางผลิบาน ค่อยๆ เดินทางกลับมาได้แล้ว” ...

    - จากเรื่อง <เวยเวย ยิ้มนี้พิชิตใจ> ผู้แต่ง กู้ม่าน

    ไม่ทราบยังพอจะจำกันได้บ้างไหม? ลูกเพจท่านที่อ่านหนังสือจะทราบว่าผู้แต่งมีแปลความหมายของประโยคสุดท้ายข้างต้นไว้สั้นๆ แต่ผู้ที่ดูแต่ละครจะงงหรือไม่... ทำไมนางเอกต้องทำหน้า “อิน” ขนาดนั้นเมื่อได้ยินประโยคนี้?

    “ดอกไม้ริมทางผลิบาน ค่อยๆ เดินทางกลับมาได้แล้ว” หรือ “陌上花开 可缓缓归矣” (ม่อซ่างฮวาคาย เข่อหวนห่วนกุยอี่) ประโยคนี้เป็นวลีที่ปรากฏในประวัติศาสตร์จริง อยู่ใน "จดหมายรัก" ขององค์เฉียนหลิว

    องค์เฉียนหลิวคืออ๋องผู้ก่อตั้งและเจ้าผู้ปกครองแคว้นอู๋เยวี่ย สมัยปีค.ศ. 852-932 (ยุคสมัยห้าราชวงศ์สิบแคว้น) มีพระชายาที่ทรงรักมากคือจวงมู่ฟูเหริน เพราะเป็นภรรยาที่เข้าหอร่วมพิธีแต่งงานและติดสอยห้อยตามพระองค์ไปทุกที่ จวงมู่ฟูเหรินมักจะเสด็จกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองหลิงอันทุกปีในช่วงฤดูหนาว จวบจนฤดูใบไม้ผลิจึงเสด็จกลับมาหาพระสวามี

    มีอยู่ปีหนึ่ง อ๋องอู๋เยวี่ยทรงพระราชหัตถเลขาถึงพระนาง ส่วนหนึ่งของใจความนั้นมีวลีนี้ เป็นประโยคสั้นแต่แฝงด้วยความหมายประมาณว่า 1) ดอกไม้เริ่มผลิบานแล้ว ไฉนยังไม่กลับมา? คิดถึงนัก 2) ไม่ต้องรอจนเข้าฤดูใบไม้ผลิเต็มที่ก็ได้ เริ่มเดินทางกลับมาก็จะสัมผัสมันได้ในระหว่างทาง

    จวงมู่ฟูเหรินทรงเข้าพระทัยในความหมาย จึงเสด็จกลับโดยทันที (เอิ่ม... อ้อนสำเร็จด้วยเพียงอักษรเก้าตัว) เหตุการณ์นี้เป็นที่เล่าขานกันต่อมา เป็นวลีที่มีความหมายว่า สามีรักและคิดถึงภรรยายิ่งนัก รอคอยเธออยู่

    ในเรื่อง “เวยเวยฯ” นี้ เซียวไน่ใช้วลีนี้เพื่อชวนให้เวยเวยกลับไปหา Storyฯ ทึ่งที่ว่า ทั้งเซียวไน่และเวยเวยต่างเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ แต่เป็นสองคนที่ผิดแปลกจากเพื่อนฝูงตรงที่ต่างมีความชอบในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์จีน ลูกเพจลองคิดสิคะ ถ้าเป็นคนอื่นในคณะเดียวกัน เซียวไน่ใช้วลีนี้ คนฟังจะ “เก๊ท” ไหมนะ

    Credit เนื้อหารวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com
    https://www.sohu.com/a/350631198_120260771

    #เวยเวยยิ้มนี้พิชิตใจ #บทกวีจีนโบราณ StoryfromStory
    เรื่องนี้เก่าไปนิด แต่เป็นเรื่องที่ Storyฯ ประทับใจไม่ลืม ความมีอยู่ว่า ... “ซื้อตั๋วเครื่องบินเถอะ” เวยเวยตะลึงไป ภายในห้องทำงานของผู้ที่อยู่อีกปลายสาย เซียวไน่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตาหยุดลงอยู่ที่กระถางต้นกระบองเพชรที่กำลังมีดอกบาน แววตาที่จับจ้องอยู่บนกลีบดอกไม้สีเหลืองนวลนั้นทอประกายอ่อนโยน “เวยเวย ดอกไม้ริมทางผลิบาน ค่อยๆ เดินทางกลับมาได้แล้ว” ... - จากเรื่อง <เวยเวย ยิ้มนี้พิชิตใจ> ผู้แต่ง กู้ม่าน ไม่ทราบยังพอจะจำกันได้บ้างไหม? ลูกเพจท่านที่อ่านหนังสือจะทราบว่าผู้แต่งมีแปลความหมายของประโยคสุดท้ายข้างต้นไว้สั้นๆ แต่ผู้ที่ดูแต่ละครจะงงหรือไม่... ทำไมนางเอกต้องทำหน้า “อิน” ขนาดนั้นเมื่อได้ยินประโยคนี้? “ดอกไม้ริมทางผลิบาน ค่อยๆ เดินทางกลับมาได้แล้ว” หรือ “陌上花开 可缓缓归矣” (ม่อซ่างฮวาคาย เข่อหวนห่วนกุยอี่) ประโยคนี้เป็นวลีที่ปรากฏในประวัติศาสตร์จริง อยู่ใน "จดหมายรัก" ขององค์เฉียนหลิว องค์เฉียนหลิวคืออ๋องผู้ก่อตั้งและเจ้าผู้ปกครองแคว้นอู๋เยวี่ย สมัยปีค.ศ. 852-932 (ยุคสมัยห้าราชวงศ์สิบแคว้น) มีพระชายาที่ทรงรักมากคือจวงมู่ฟูเหริน เพราะเป็นภรรยาที่เข้าหอร่วมพิธีแต่งงานและติดสอยห้อยตามพระองค์ไปทุกที่ จวงมู่ฟูเหรินมักจะเสด็จกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองหลิงอันทุกปีในช่วงฤดูหนาว จวบจนฤดูใบไม้ผลิจึงเสด็จกลับมาหาพระสวามี มีอยู่ปีหนึ่ง อ๋องอู๋เยวี่ยทรงพระราชหัตถเลขาถึงพระนาง ส่วนหนึ่งของใจความนั้นมีวลีนี้ เป็นประโยคสั้นแต่แฝงด้วยความหมายประมาณว่า 1) ดอกไม้เริ่มผลิบานแล้ว ไฉนยังไม่กลับมา? คิดถึงนัก 2) ไม่ต้องรอจนเข้าฤดูใบไม้ผลิเต็มที่ก็ได้ เริ่มเดินทางกลับมาก็จะสัมผัสมันได้ในระหว่างทาง จวงมู่ฟูเหรินทรงเข้าพระทัยในความหมาย จึงเสด็จกลับโดยทันที (เอิ่ม... อ้อนสำเร็จด้วยเพียงอักษรเก้าตัว) เหตุการณ์นี้เป็นที่เล่าขานกันต่อมา เป็นวลีที่มีความหมายว่า สามีรักและคิดถึงภรรยายิ่งนัก รอคอยเธออยู่ ในเรื่อง “เวยเวยฯ” นี้ เซียวไน่ใช้วลีนี้เพื่อชวนให้เวยเวยกลับไปหา Storyฯ ทึ่งที่ว่า ทั้งเซียวไน่และเวยเวยต่างเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ แต่เป็นสองคนที่ผิดแปลกจากเพื่อนฝูงตรงที่ต่างมีความชอบในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์จีน ลูกเพจลองคิดสิคะ ถ้าเป็นคนอื่นในคณะเดียวกัน เซียวไน่ใช้วลีนี้ คนฟังจะ “เก๊ท” ไหมนะ Credit เนื้อหารวบรวมจาก: https://baike.baidu.com https://www.sohu.com/a/350631198_120260771 #เวยเวยยิ้มนี้พิชิตใจ #บทกวีจีนโบราณ StoryfromStory
    百度百科_全球领先的中文百科全书
    百度百科是一部内容开放、自由的网络百科全书,旨在创造一个涵盖所有领域知识,服务所有互联网用户的中文知识性百科全书。在这里你可以参与词条编辑,分享贡献你的知识。
    1 Comments 0 Shares 258 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากรถเงียบที่ทำให้คนเวียนหัว: เมื่อ EV กลายเป็น “สภาพแวดล้อมใหม่” ที่สมองยังไม่ชิน

    ผู้โดยสารจำนวนมากรายงานว่าเกิดอาการเมารถเมื่อขึ้น EV โดยเฉพาะในเบาะหลัง ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัย เช่น:

    - สมองยังไม่คุ้นเคยกับ “สัญญาณการเคลื่อนไหว” แบบใหม่
    - EV ไม่มีเสียงเครื่องยนต์หรือแรงสั่นสะเทือนที่ช่วยเตือนสมองล่วงหน้า
    - ระบบ regenerative braking ทำให้การชะลอรถเป็นแบบนุ่มนวลและต่อเนื่อง ซึ่งต่างจากเบรกแบบเดิมที่หยุดรถอย่างฉับพลัน

    William Emond นักศึกษาปริญญาเอกด้าน motion sickness จากฝรั่งเศสอธิบายว่า:

    “สมองของเราคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวในรถที่มีเสียงเครื่องยนต์และแรงสั่นสะเทือน แต่ EV เป็นสภาพแวดล้อมใหม่ที่สมองยังไม่มีประสบการณ์มากพอในการประเมินแรงเคลื่อน”

    งานวิจัยหลายฉบับสนับสนุนแนวคิดนี้ เช่น:
    - งานปี 2024 พบว่าแรงสั่นสะเทือนในเบาะของ EV มีผลต่อความรุนแรงของอาการเมารถ
    - งานปี 2020 ชี้ว่า “ความเงียบ” ของ EV เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สมองขาดข้อมูลในการคาดการณ์การเคลื่อนไหว

    นักวิจัยกำลังทดลองวิธีแก้ เช่น:
    - เพิ่มเสียงเครื่องยนต์จำลอง
    - ใช้แสงภายในรถแบบ interactive
    - เพิ่มแรงสั่นสะเทือนบางจุดเพื่อให้สมองรับรู้การเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น

    ผู้โดยสารจำนวนมากรายงานว่าเกิดอาการเมารถเมื่อโดยสาร EV โดยเฉพาะในเบาะหลัง
    เกิดจากสมองไม่สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวได้แม่นยำ

    EV ไม่มีเสียงเครื่องยนต์หรือแรงสั่นสะเทือนที่ช่วยเตือนสมองล่วงหน้า
    ทำให้สมอง “เดา” การเปลี่ยนความเร็วหรือทิศทางผิดพลาด

    ระบบ regenerative braking ทำให้การชะลอรถเป็นแบบนุ่มนวลและต่อเนื่อง
    ต่างจากเบรกแบบเดิมที่หยุดรถอย่างฉับพลัน ซึ่งสมองคุ้นเคยมากกว่า

    งานวิจัยปี 2024 และ 2020 สนับสนุนว่าแรงสั่นสะเทือนและความเงียบของ EV เป็นปัจจัยหลัก
    ส่งผลให้เกิดอาการเมารถมากกว่ารถยนต์ทั่วไป

    นักวิจัยกำลังทดลองวิธีแก้ เช่นเสียงเครื่องยนต์จำลอง, แสง interactive, และแรงสั่นสะเทือน
    เพื่อช่วยให้สมองรับรู้การเคลื่อนไหวได้แม่นยำขึ้น

    อาการเมารถเกิดจากความขัดแย้งของสัญญาณจากตา, หูชั้นใน, และร่างกาย
    เมื่อสมองรับข้อมูลไม่ตรงกัน จะเกิดอาการคลื่นไส้ เวียนหัว และไม่สบาย

    https://www.techspot.com/news/108757-evs-triggering-wave-motion-sickness-claims-scientists-investigating.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากรถเงียบที่ทำให้คนเวียนหัว: เมื่อ EV กลายเป็น “สภาพแวดล้อมใหม่” ที่สมองยังไม่ชิน ผู้โดยสารจำนวนมากรายงานว่าเกิดอาการเมารถเมื่อขึ้น EV โดยเฉพาะในเบาะหลัง ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าเกิดจากหลายปัจจัย เช่น: - สมองยังไม่คุ้นเคยกับ “สัญญาณการเคลื่อนไหว” แบบใหม่ - EV ไม่มีเสียงเครื่องยนต์หรือแรงสั่นสะเทือนที่ช่วยเตือนสมองล่วงหน้า - ระบบ regenerative braking ทำให้การชะลอรถเป็นแบบนุ่มนวลและต่อเนื่อง ซึ่งต่างจากเบรกแบบเดิมที่หยุดรถอย่างฉับพลัน William Emond นักศึกษาปริญญาเอกด้าน motion sickness จากฝรั่งเศสอธิบายว่า: 🔖 “สมองของเราคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวในรถที่มีเสียงเครื่องยนต์และแรงสั่นสะเทือน แต่ EV เป็นสภาพแวดล้อมใหม่ที่สมองยังไม่มีประสบการณ์มากพอในการประเมินแรงเคลื่อน” งานวิจัยหลายฉบับสนับสนุนแนวคิดนี้ เช่น: - งานปี 2024 พบว่าแรงสั่นสะเทือนในเบาะของ EV มีผลต่อความรุนแรงของอาการเมารถ - งานปี 2020 ชี้ว่า “ความเงียบ” ของ EV เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สมองขาดข้อมูลในการคาดการณ์การเคลื่อนไหว นักวิจัยกำลังทดลองวิธีแก้ เช่น: - เพิ่มเสียงเครื่องยนต์จำลอง - ใช้แสงภายในรถแบบ interactive - เพิ่มแรงสั่นสะเทือนบางจุดเพื่อให้สมองรับรู้การเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ✅ ผู้โดยสารจำนวนมากรายงานว่าเกิดอาการเมารถเมื่อโดยสาร EV โดยเฉพาะในเบาะหลัง ➡️ เกิดจากสมองไม่สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวได้แม่นยำ ✅ EV ไม่มีเสียงเครื่องยนต์หรือแรงสั่นสะเทือนที่ช่วยเตือนสมองล่วงหน้า ➡️ ทำให้สมอง “เดา” การเปลี่ยนความเร็วหรือทิศทางผิดพลาด ✅ ระบบ regenerative braking ทำให้การชะลอรถเป็นแบบนุ่มนวลและต่อเนื่อง ➡️ ต่างจากเบรกแบบเดิมที่หยุดรถอย่างฉับพลัน ซึ่งสมองคุ้นเคยมากกว่า ✅ งานวิจัยปี 2024 และ 2020 สนับสนุนว่าแรงสั่นสะเทือนและความเงียบของ EV เป็นปัจจัยหลัก ➡️ ส่งผลให้เกิดอาการเมารถมากกว่ารถยนต์ทั่วไป ✅ นักวิจัยกำลังทดลองวิธีแก้ เช่นเสียงเครื่องยนต์จำลอง, แสง interactive, และแรงสั่นสะเทือน ➡️ เพื่อช่วยให้สมองรับรู้การเคลื่อนไหวได้แม่นยำขึ้น ✅ อาการเมารถเกิดจากความขัดแย้งของสัญญาณจากตา, หูชั้นใน, และร่างกาย ➡️ เมื่อสมองรับข้อมูลไม่ตรงกัน จะเกิดอาการคลื่นไส้ เวียนหัว และไม่สบาย https://www.techspot.com/news/108757-evs-triggering-wave-motion-sickness-claims-scientists-investigating.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    EVs are triggering a wave of motion sickness claims, scientists are investigating why
    Because electric vehicles are still a new experience for many passengers, their unfamiliar motion may be one reason some people are more prone to motion sickness. "Greater...
    0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากบ้านที่มีเด็ก: เมื่อพ่อแม่ต้องตัดสินใจเรื่อง AI ก่อนที่โลกจะตัดสินใจให้

    Adam Tal นักการตลาดจากอิสราเอล บอกว่าเขา “กังวลมาก” กับอนาคตของลูกชายวัย 7 และ 9 ปี — ไม่ใช่แค่ deepfake หรือความจริงที่แยกไม่ออกจาก AI แต่รวมถึงภัยใหม่ ๆ ที่เขาไม่เคยถูกฝึกให้รับมือ

    Mike Brooks นักจิตวิทยาในเท็กซัสเสริมว่า พ่อแม่หลายคน “หลีกเลี่ยงการพูดเรื่อง AI” เพราะแค่รับมือกับ TikTok, เกม และการพาลูกออกจากห้องก็เหนื่อยพอแล้ว

    Melissa Franklin นักศึกษากฎหมายในรัฐเคนทักกี เลือกอีกทาง — เธอใช้ AI ร่วมกับลูกชายวัย 7 ปีเพื่อหาข้อมูลที่หาไม่ได้จากหนังสือหรือ Google โดยมีเงื่อนไขว่า “ต้องคิดเองก่อน แล้วค่อยใช้ AI เสริม”

    Marc Watkins อาจารย์จากมหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปีบอกว่า “เราเลยจุดที่ห้ามเด็กใช้ AI ไปแล้ว” และแนะนำให้พ่อแม่ “พูดคุยอย่างลึกซึ้ง” กับลูกเรื่องข้อดีและข้อเสียของ AI

    แม้ CEO ของ NVIDIA จะบอกว่า AI คือ “พลังแห่งความเท่าเทียม” แต่ Watkins กลับมองว่า AI จะกลายเป็น “เครื่องมือของคนที่มีเงิน” เพราะการเข้าถึง AI ที่ดีต้องใช้ทรัพยากร — เช่นพ่อแม่ที่มี PhD ด้านคอมพิวเตอร์

    ผู้ปกครองหลายคนกังวลว่า AI จะส่งผลต่อเด็กในแบบที่ยังไม่มีงานวิจัยรองรับ
    เช่น deepfake, ความจริงที่แยกไม่ออก, และภัยใหม่ที่ไม่เคยรู้จัก

    MIT เคยเผยผลวิจัยว่า คนที่ไม่ใช้ Generative AI มีการกระตุ้นสมองและความจำมากกว่า
    ทำให้บางพ่อแม่เลือกให้ลูกใช้ AI เฉพาะเพื่อเสริมความรู้ ไม่ใช่แทนการคิด

    Melissa Franklin ใช้ AI กับลูกชายเพื่อหาข้อมูลที่หาไม่ได้จากแหล่งทั่วไป
    แต่เน้นให้ลูก “คิดเองก่อน” แล้วค่อยใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม

    Watkins แนะนำให้พ่อแม่พูดคุยกับลูกเรื่อง AI อย่างจริงจัง
    เพราะเด็กจะใช้ AI แน่นอน จึงควรรู้ทั้งข้อดีและข้อเสีย

    NVIDIA มองว่า AI คือพลังแห่งความเท่าเทียมในการเรียนรู้
    แต่ Watkins มองว่า AI จะกลายเป็นเครื่องมือของคนมีฐานะ

    พ่อแม่ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีจะให้ลูกได้เปรียบในการใช้ AI
    เช่นครอบครัวที่มี PhD ด้านคอมพิวเตอร์สามารถสอนลูกได้ลึกกว่า

    ยังไม่มีงานวิจัยระยะยาวที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อพัฒนาการเด็ก
    การใช้ AI โดยไม่มีการกำกับอาจส่งผลต่อความคิด, ความจำ และการเรียนรู้

    พ่อแม่บางคนหลีกเลี่ยงการพูดเรื่อง AI เพราะรู้สึกว่า “เหนื่อยเกินไป”
    อาจทำให้เด็กเรียนรู้จากแหล่งที่ไม่ปลอดภัยหรือขาดการชี้นำที่เหมาะสม

    การเข้าถึง AI ที่ดีอาจขึ้นอยู่กับฐานะทางเศรษฐกิจ
    เด็กจากครอบครัวที่มีทรัพยากรน้อยอาจเสียเปรียบในโลกที่ AI เป็นเครื่องมือหลัก

    การใช้ AI เป็น “ทางลัด” อาจทำให้เด็กพึ่งพาโดยไม่พัฒนาทักษะคิดวิเคราะห์
    ต้องมีการออกแบบการใช้ AI ให้ส่งเสริมการเรียนรู้ ไม่ใช่แทนที่การคิด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/22/anxious-parents-face-tough-choices-on-ai
    🎙️ เรื่องเล่าจากบ้านที่มีเด็ก: เมื่อพ่อแม่ต้องตัดสินใจเรื่อง AI ก่อนที่โลกจะตัดสินใจให้ Adam Tal นักการตลาดจากอิสราเอล บอกว่าเขา “กังวลมาก” กับอนาคตของลูกชายวัย 7 และ 9 ปี — ไม่ใช่แค่ deepfake หรือความจริงที่แยกไม่ออกจาก AI แต่รวมถึงภัยใหม่ ๆ ที่เขาไม่เคยถูกฝึกให้รับมือ Mike Brooks นักจิตวิทยาในเท็กซัสเสริมว่า พ่อแม่หลายคน “หลีกเลี่ยงการพูดเรื่อง AI” เพราะแค่รับมือกับ TikTok, เกม และการพาลูกออกจากห้องก็เหนื่อยพอแล้ว Melissa Franklin นักศึกษากฎหมายในรัฐเคนทักกี เลือกอีกทาง — เธอใช้ AI ร่วมกับลูกชายวัย 7 ปีเพื่อหาข้อมูลที่หาไม่ได้จากหนังสือหรือ Google โดยมีเงื่อนไขว่า “ต้องคิดเองก่อน แล้วค่อยใช้ AI เสริม” Marc Watkins อาจารย์จากมหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปีบอกว่า “เราเลยจุดที่ห้ามเด็กใช้ AI ไปแล้ว” และแนะนำให้พ่อแม่ “พูดคุยอย่างลึกซึ้ง” กับลูกเรื่องข้อดีและข้อเสียของ AI แม้ CEO ของ NVIDIA จะบอกว่า AI คือ “พลังแห่งความเท่าเทียม” แต่ Watkins กลับมองว่า AI จะกลายเป็น “เครื่องมือของคนที่มีเงิน” เพราะการเข้าถึง AI ที่ดีต้องใช้ทรัพยากร — เช่นพ่อแม่ที่มี PhD ด้านคอมพิวเตอร์ ✅ ผู้ปกครองหลายคนกังวลว่า AI จะส่งผลต่อเด็กในแบบที่ยังไม่มีงานวิจัยรองรับ ➡️ เช่น deepfake, ความจริงที่แยกไม่ออก, และภัยใหม่ที่ไม่เคยรู้จัก ✅ MIT เคยเผยผลวิจัยว่า คนที่ไม่ใช้ Generative AI มีการกระตุ้นสมองและความจำมากกว่า ➡️ ทำให้บางพ่อแม่เลือกให้ลูกใช้ AI เฉพาะเพื่อเสริมความรู้ ไม่ใช่แทนการคิด ✅ Melissa Franklin ใช้ AI กับลูกชายเพื่อหาข้อมูลที่หาไม่ได้จากแหล่งทั่วไป ➡️ แต่เน้นให้ลูก “คิดเองก่อน” แล้วค่อยใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ✅ Watkins แนะนำให้พ่อแม่พูดคุยกับลูกเรื่อง AI อย่างจริงจัง ➡️ เพราะเด็กจะใช้ AI แน่นอน จึงควรรู้ทั้งข้อดีและข้อเสีย ✅ NVIDIA มองว่า AI คือพลังแห่งความเท่าเทียมในการเรียนรู้ ➡️ แต่ Watkins มองว่า AI จะกลายเป็นเครื่องมือของคนมีฐานะ ✅ พ่อแม่ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีจะให้ลูกได้เปรียบในการใช้ AI ➡️ เช่นครอบครัวที่มี PhD ด้านคอมพิวเตอร์สามารถสอนลูกได้ลึกกว่า ‼️ ยังไม่มีงานวิจัยระยะยาวที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อพัฒนาการเด็ก ⛔ การใช้ AI โดยไม่มีการกำกับอาจส่งผลต่อความคิด, ความจำ และการเรียนรู้ ‼️ พ่อแม่บางคนหลีกเลี่ยงการพูดเรื่อง AI เพราะรู้สึกว่า “เหนื่อยเกินไป” ⛔ อาจทำให้เด็กเรียนรู้จากแหล่งที่ไม่ปลอดภัยหรือขาดการชี้นำที่เหมาะสม ‼️ การเข้าถึง AI ที่ดีอาจขึ้นอยู่กับฐานะทางเศรษฐกิจ ⛔ เด็กจากครอบครัวที่มีทรัพยากรน้อยอาจเสียเปรียบในโลกที่ AI เป็นเครื่องมือหลัก ‼️ การใช้ AI เป็น “ทางลัด” อาจทำให้เด็กพึ่งพาโดยไม่พัฒนาทักษะคิดวิเคราะห์ ⛔ ต้องมีการออกแบบการใช้ AI ให้ส่งเสริมการเรียนรู้ ไม่ใช่แทนที่การคิด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/22/anxious-parents-face-tough-choices-on-ai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Anxious parents face tough choices on AI
    When it comes to AI, many parents navigate between fear of the unknown and fear of their children missing out.
    0 Comments 0 Shares 252 Views 0 Reviews
  • 2/
    เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น

    วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้

    วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    2/ เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้ วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 0 Reviews
  • 1/
    เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น

    วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้

    วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    1/ เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าไปอีกขั้น วิดีโอ 1 - ในประเทศจีนสามารถสร้างโดรนที่สามารถบินได้ในทุกสภาพภูมิประเทศทั้งผิวน้ำ ใต้น้ำ บินในอากาศ และบนบกได้ วิดีโอ 2 - อันเดรย์ โคปาซี (Andrei Copaci) นักศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอัลบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ได้สร้างโดรนไฮบริดที่สามารถบินได้ทั้งใต้น้ำและบนอากาศ โคปาซีใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปในการเขียนโค้ดคำสั่ง ร่วมกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เขาทำงานร่วมกับศาสตราจารย์เปตาร์ ดูร์เดวิช (Petar Durdevic) อาจารย์ที่ปรึกษา โดยกล่าวว่าแบบของโดรนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายบางส่วนเสร็จสิ้นแล้ว
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 0 Reviews
  • ไทยรัฐฉบับพิมพ์อ่านไม่ฟรี ใช้ระบบ Subscription จริงจัง

    ในยุคดิจิทัลดิสรัปชัน สื่อมวลชนค่ายต่างๆ พยายามแสวงหารายได้ทดแทนช่องทางดั้งเดิม เช่น การลงโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ที่มีแนวโน้มลดลง ถูกแทนที่ด้วยสื่อโซเชียลฯ และอินฟลูเอนเซอร์ ล่าสุดเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ได้ปรับเปลี่ยนหน้าไทยรัฐฉบับพิมพ์ ซึ่งลงข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐในช่วงสายๆ ของวัน หลังหนังสือพิมพ์วางแผงไปแล้ว เปลี่ยนเป็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับดิจิทัล (Thairath E-Newspaper) เมื่อวันที่ 15 ก.ค. เมื่อสมัครสมาชิกแล้ว สามารถอ่านทุกข่าว และคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้ไม่จำกัด และไม่มีโฆษณา

    หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับดิจิทัลจะอัปเดตหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่เป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลาตีห้า (05.00 น.) เป็นต้นไป และอ่านฉบับย้อนหลังได้ตลอดทั้งปี ซึ่งกลุ่มเป้าหมายแตกต่างจากกลุ่มผู้บริโภคสื่อทั่วไปที่อ่านข่าวฟรี แต่มุ่งไปที่นักเรียน นักศึกษา และนักวิชาการที่ต้องการแหล่งอ้างอิง นักธุรกิจและผู้นำองค์กรที่ต้องการติดตามสถานการณ์สังคม การเมือง และเศรษฐกิจ รวมทั้งคนที่ต้องการเสพข่าวในรูปแบบหนังสือพิมพ์ ที่สรุปข่าวของเมื่อวานนี้แบบครบประเด็น โดยไม่ต้องย้อนดูข่าวออนไลน์หลายหน้าเว็บเพจ ซึ่งจุดแข็งของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คือเนื้อหาข่าวย่อยให้เข้าใจง่าย

    แม้ว่าไทยรัฐกรุ๊ป จะออกกลยุทธ์ Subscription ช้ากว่าค่ายอื่น เพราะให้อ่านฟรีมานาน เมื่อเทียบกับกรุงเทพธุรกิจ ที่ทำหนังสือพิมพ์รูปแบบดิจิทัล i-NewsPaper มานานแล้ว หรือสื่อหลายค่ายต่างพึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งในประเทศ เช่น ปิ่นโต (pintobook.com) หรือต่างประเทศอย่าง Pressreader (pressreader.com) ก็ตาม แต่ก็เป็นการดัดแปลงจากระบบของตัวเอง จึงไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มต่างประเทศซึ่งมีค่าใช้จ่าย ในต่างประเทศค่ายสื่อต่างก็ใช้กลยุทธ์ Subscription เพียงแต่ว่าเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะยอดสมัครเพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับประชากรทั้งประเทศ

    อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ เมื่อสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) เผยแพร่สถิติเว็บไซต์ข่าวเดือน มิ.ย.2568 พบว่าไทยรัฐออนไลน์มีค่าเฉลี่ยการดูเว็บเพจ (Avg.PV/User) อยู่ที่ 7.3 หน้าต่อคนต่อวัน สูงกว่าค่ายอื่นอย่างผู้จัดการออนไลน์ 3.4 หน้าต่อคนต่อวัน ข่าวสดออนไลน์ 2.4 หน้าต่อคนต่อวัน คนในแวดวงสื่อจึงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น บ้างก็คาดว่าเป็นเพราะกูเกิลใช้ฟีเจอร์ AI Overviews หากเป็นเช่นนั้นจริงคนทำสื่อและเว็บทั่วไปต้องปรับตัวอีกรอบ แต่เมื่อคุยกับแหล่งข่าวในค่ายไทยรัฐ ระบุว่าช่วงนี้แจกทองครบรอบ 11 ปีไทยรัฐทีวี ทำให้มีผู้เข้าชมมากเป็นพิเศษ

    #Newskit
    ไทยรัฐฉบับพิมพ์อ่านไม่ฟรี ใช้ระบบ Subscription จริงจัง ในยุคดิจิทัลดิสรัปชัน สื่อมวลชนค่ายต่างๆ พยายามแสวงหารายได้ทดแทนช่องทางดั้งเดิม เช่น การลงโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ที่มีแนวโน้มลดลง ถูกแทนที่ด้วยสื่อโซเชียลฯ และอินฟลูเอนเซอร์ ล่าสุดเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ได้ปรับเปลี่ยนหน้าไทยรัฐฉบับพิมพ์ ซึ่งลงข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐในช่วงสายๆ ของวัน หลังหนังสือพิมพ์วางแผงไปแล้ว เปลี่ยนเป็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับดิจิทัล (Thairath E-Newspaper) เมื่อวันที่ 15 ก.ค. เมื่อสมัครสมาชิกแล้ว สามารถอ่านทุกข่าว และคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้ไม่จำกัด และไม่มีโฆษณา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับดิจิทัลจะอัปเดตหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่เป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลาตีห้า (05.00 น.) เป็นต้นไป และอ่านฉบับย้อนหลังได้ตลอดทั้งปี ซึ่งกลุ่มเป้าหมายแตกต่างจากกลุ่มผู้บริโภคสื่อทั่วไปที่อ่านข่าวฟรี แต่มุ่งไปที่นักเรียน นักศึกษา และนักวิชาการที่ต้องการแหล่งอ้างอิง นักธุรกิจและผู้นำองค์กรที่ต้องการติดตามสถานการณ์สังคม การเมือง และเศรษฐกิจ รวมทั้งคนที่ต้องการเสพข่าวในรูปแบบหนังสือพิมพ์ ที่สรุปข่าวของเมื่อวานนี้แบบครบประเด็น โดยไม่ต้องย้อนดูข่าวออนไลน์หลายหน้าเว็บเพจ ซึ่งจุดแข็งของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คือเนื้อหาข่าวย่อยให้เข้าใจง่าย แม้ว่าไทยรัฐกรุ๊ป จะออกกลยุทธ์ Subscription ช้ากว่าค่ายอื่น เพราะให้อ่านฟรีมานาน เมื่อเทียบกับกรุงเทพธุรกิจ ที่ทำหนังสือพิมพ์รูปแบบดิจิทัล i-NewsPaper มานานแล้ว หรือสื่อหลายค่ายต่างพึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งในประเทศ เช่น ปิ่นโต (pintobook.com) หรือต่างประเทศอย่าง Pressreader (pressreader.com) ก็ตาม แต่ก็เป็นการดัดแปลงจากระบบของตัวเอง จึงไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มต่างประเทศซึ่งมีค่าใช้จ่าย ในต่างประเทศค่ายสื่อต่างก็ใช้กลยุทธ์ Subscription เพียงแต่ว่าเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะยอดสมัครเพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับประชากรทั้งประเทศ อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ เมื่อสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) เผยแพร่สถิติเว็บไซต์ข่าวเดือน มิ.ย.2568 พบว่าไทยรัฐออนไลน์มีค่าเฉลี่ยการดูเว็บเพจ (Avg.PV/User) อยู่ที่ 7.3 หน้าต่อคนต่อวัน สูงกว่าค่ายอื่นอย่างผู้จัดการออนไลน์ 3.4 หน้าต่อคนต่อวัน ข่าวสดออนไลน์ 2.4 หน้าต่อคนต่อวัน คนในแวดวงสื่อจึงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น บ้างก็คาดว่าเป็นเพราะกูเกิลใช้ฟีเจอร์ AI Overviews หากเป็นเช่นนั้นจริงคนทำสื่อและเว็บทั่วไปต้องปรับตัวอีกรอบ แต่เมื่อคุยกับแหล่งข่าวในค่ายไทยรัฐ ระบุว่าช่วงนี้แจกทองครบรอบ 11 ปีไทยรัฐทีวี ทำให้มีผู้เข้าชมมากเป็นพิเศษ #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 439 Views 0 Reviews
  • อ.สนธิ ครับ “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่” ต้องสร้างให้สมบูรณ์ ซึ่งจำเป็นให้มี เพื่อเป็นภาพให้ภาคประชาชนเรามุ่งก้าวเดิน เพื่อเดินเป็นเอกภาพกัน
    ซึ่ง “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2” นี้ มันเป็นร่างขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น ต้องช่วยกันพัฒนาร่างใหม่ให้สมบูรณ์ที่สุด
    เพราะมันจะเป็นแม่บทให้ก้าวเดินเอกภาพกัน เพื่อเป็นแม่บทแด่”พรรคการเมืองใหม่”ก้าวเดิน

    โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2 .. ศุกร์ 18-7-68 E:\
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า
    A======================== =============


    อ.สนธิ ครับ “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่” ต้องสร้างให้สมบูรณ์ ซึ่งจำเป็นให้มี เพื่อเป็นภาพให้ภาคประชาชนเรามุ่งก้าวเดิน เพื่อเดินเป็นเอกภาพกัน ซึ่ง “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2” นี้ มันเป็นร่างขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น ต้องช่วยกันพัฒนาร่างใหม่ให้สมบูรณ์ที่สุด เพราะมันจะเป็นแม่บทให้ก้าวเดินเอกภาพกัน เพื่อเป็นแม่บทแด่”พรรคการเมืองใหม่”ก้าวเดิน โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2 .. ศุกร์ 18-7-68 E:\ 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้ -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า A======================== =============
    0 Comments 0 Shares 528 Views 0 Reviews
  • โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ภาค 1.1 .. 16-7-68 E:\
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า
    A======================== =============

    โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ภาค 1.1 .. 16-7-68 E:\ 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้ -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า A======================== =============
    0 Comments 0 Shares 475 Views 0 Reviews
  • ตั้งพรรคการเมืองใหม่ ภาค2 .. E:\- m1 ภาค ส่ง
    ตั้งพรรค “การเมืองใหม่” ตามครรลองฯสู่การเลือกตั้ง “ชิงอำนาจรัฐของประชาชนคืนมา”
    อำนาจรัฐ คืออำนาจครองเมือง ผู้ใดยึดได้ ผู้นั้น ก็ได้อำนาจยึดครองบ้านเมือง ถ้าเป็นนักการเมืองก็ได้โอกาสกอบโกย
    ทุกวันนี้จึงมีแต่เหล่านักการเมืองแข่งกันเล่นการเมือง ผลัดกันครองเมือง ผลัดกันกอบโกยคอปรัปชั่น จนเกิดความรู้สึก น่าสะอิดสะเอียน-น่ารังเกียจ ต่อการคอปรัปชั่นของภาคประชาชน
    ภาคประชาชนเรามักแสดงตัวสุภาพบุรุษ “ไม่ลงเลือกตั้ง” จะได้ดูดี ที่ไม่ไปแปดเปื้อนอันน่า”สะอิดสเอียนฯ”นั้นๆ
    จึงเป็นโอกาสทองของเหล่านักการเมืองเริงร่าเล่นการเมืองที่ชิงห้ำหั่นกันจนต่างมี ”บ้านใหญ่”เป็นเครื่องมืออำนวยให้ !
    แต่ของเราล่ะ ภาคประชาชนแต่ละอาชีพจะมีอะไรไหม
    แต่ละอาชีพก็มีคนที่เขานับถือ-เชื่อถือเป็นผู้นำโดยธรรมชาติอยู่แล้วนั่นไง ต่างก็ เบื่อหน่ายนักการเมืองเก่าในทุกวันนี้อยู่แล้ว วันที่22มิถุนา “วันรวมพลังแผ่นดิน” ที่มีมาเป็นคันรถก็มี
    เมื่อมีผู้ที่เป็นหลัก นำสร้าง “พรรคการเมืองใหม่” โดยมีภาพโครงสร้างสังคมยุคใหม่ให้เห็นเป็นทิศที่จะก้าวเดิน เขาก็จะร่วมตั้งพรรคการเมืองใหม่ประสานให้เป็นเอกภาพขึ้นมา
    เมื่อผู้นำร้านค้า ผู้นำแรงงาน ผู้นำเกษต ผู้นำนักเรียนนิสิตนักศึกษา เมื่อตั้งพรรค “การเมืองใหม่”ทันปีนี้ (น่าจะทัน) ก็ลงเลือกตั้งตาม “ครรลอง”การเข้าสู่อำนาจรัฐ ซึ่งแต่ละอาชีพสามารถระดมกลุ่มของเขาซึ่งเป็นประชากรของทั้งประเทศ การลงเลือกตั้งก็ชนะขาดลอย!
    ประเทศไทย ก็จะเปลี่ยนโฉมใหม่ทันที !!! อำนาจรัฐก็จะเป็นของประชาชนทันใด ภาคประชาชนมีอำนาจเต็มที่ ภาคประชาชนกำหนดอนาคตของตัวเองได้

    ตั้งพรรคการเมืองใหม่ ภาค2 .. E:\- m1 ภาค ส่ง ตั้งพรรค “การเมืองใหม่” ตามครรลองฯสู่การเลือกตั้ง “ชิงอำนาจรัฐของประชาชนคืนมา” อำนาจรัฐ คืออำนาจครองเมือง ผู้ใดยึดได้ ผู้นั้น ก็ได้อำนาจยึดครองบ้านเมือง ถ้าเป็นนักการเมืองก็ได้โอกาสกอบโกย ทุกวันนี้จึงมีแต่เหล่านักการเมืองแข่งกันเล่นการเมือง ผลัดกันครองเมือง ผลัดกันกอบโกยคอปรัปชั่น จนเกิดความรู้สึก น่าสะอิดสะเอียน-น่ารังเกียจ ต่อการคอปรัปชั่นของภาคประชาชน ภาคประชาชนเรามักแสดงตัวสุภาพบุรุษ “ไม่ลงเลือกตั้ง” จะได้ดูดี ที่ไม่ไปแปดเปื้อนอันน่า”สะอิดสเอียนฯ”นั้นๆ จึงเป็นโอกาสทองของเหล่านักการเมืองเริงร่าเล่นการเมืองที่ชิงห้ำหั่นกันจนต่างมี ”บ้านใหญ่”เป็นเครื่องมืออำนวยให้ ! แต่ของเราล่ะ ภาคประชาชนแต่ละอาชีพจะมีอะไรไหม แต่ละอาชีพก็มีคนที่เขานับถือ-เชื่อถือเป็นผู้นำโดยธรรมชาติอยู่แล้วนั่นไง ต่างก็ เบื่อหน่ายนักการเมืองเก่าในทุกวันนี้อยู่แล้ว วันที่22มิถุนา “วันรวมพลังแผ่นดิน” ที่มีมาเป็นคันรถก็มี เมื่อมีผู้ที่เป็นหลัก นำสร้าง “พรรคการเมืองใหม่” โดยมีภาพโครงสร้างสังคมยุคใหม่ให้เห็นเป็นทิศที่จะก้าวเดิน เขาก็จะร่วมตั้งพรรคการเมืองใหม่ประสานให้เป็นเอกภาพขึ้นมา เมื่อผู้นำร้านค้า ผู้นำแรงงาน ผู้นำเกษต ผู้นำนักเรียนนิสิตนักศึกษา เมื่อตั้งพรรค “การเมืองใหม่”ทันปีนี้ (น่าจะทัน) ก็ลงเลือกตั้งตาม “ครรลอง”การเข้าสู่อำนาจรัฐ ซึ่งแต่ละอาชีพสามารถระดมกลุ่มของเขาซึ่งเป็นประชากรของทั้งประเทศ การลงเลือกตั้งก็ชนะขาดลอย! ประเทศไทย ก็จะเปลี่ยนโฉมใหม่ทันที !!! อำนาจรัฐก็จะเป็นของประชาชนทันใด ภาคประชาชนมีอำนาจเต็มที่ ภาคประชาชนกำหนดอนาคตของตัวเองได้
    0 Comments 0 Shares 288 Views 0 Reviews
  • ..ประชาชนดีหรือคนดีๆในสังคมไทยเราจะมีลักษณะนี้เกือบทุกๆคน,ซื่อสัตย์สุจริตแสวงหาไม่ฆ่าไม่ปล้นใครทำลายใครเพื่อดูแลชีวิตคนข้างหลังก็มาก,วัยรุ่น นักเรียนนักศึกษายุคต่างๆน่าจะซึ้ง หลายคนหาตังเล่าเรียนเองบวกกู้หนี้ยืมสินเล่าเรียนเพื่อได้ทำงานดีๆ,แต่ระบบอุปถัมภ์ในไทยและใต้โต๊ะซื้อซีซื้อตำแหน่งเด็กเส้นเด็กฝากเด็กมหาลัยกูมรึงรุ่นน้องใครมันรุ่นพี่ใครมรึงมากล้นเต็มระบบ,โอกาสคนอีก คลิปนี้บอกนัยยะอดีตผู้คนมากล้น อนาคตอาจกลับไปแบบนี้ทั้งประเทศก็ได้ อาทิภัยพิบัติธรรมชาติเต็มประเทศ น้ำท่วน แผ่นดินไหว ตึกถล่ม ลาวาใต้ดินตามรอยเลื่อนปะทุขึ้นมา ภาคเหนือไหลลงภาคกลาง อีสานบนไหลลงอีสานกลางสู่ใต้และตลอดแนวริมโขง,อาหารข้าปลาเสียหาย มีตังมากมายก็หาซื้อลำบากไม่ได้,ขาดแคลนไม่หมด ยิ่งน้ำสะอาดหลังภัยพิบัติอีกหรือขณะเจอแบบน้ำท่วม,ใครขุดอุโมงค์ใต้ดินก็ใช่จะรอด แผ่นดินไหวอาจบีดทำลายทางออกตายคาอุโมงค์ก็ได้ ระบบหายใจเสียหายขาดออกซิเจนไฟฟ้าไม่ทำงานแม้มีเครื่องช่วยหายใจก็ไม่รอดออกมาข้างบนไม่ได้ติดอุโมงค์นั้นล่ะ,แบบอุโมงค์รถไไฟ้าใต้ดินก็ด้วย,ปลอดภัยที่สุดอยู่ผิวดินถ้าไม่มีสงครามWWW3นิวเคลียร์นะ อาหารยิ่งอดอยากขาดแคลน1,000เท่า,ไม่รวมซอมบี้กลายพันธุ์จากวัคซีนโควิดอีก,วิกฤติยุโรปพังจากเจ้าสัวยุโรปเครือข่ายแม่ลูกมันก็โดนถึงเอเชียอาเชียนแล้ว,ตลาดการเงินพังแบบทรัมป์พังไม่มีตังจ่ายหนี้จึงรีดภาษีนำเข้าทั่วโลกไปจ่ายหนี้,
    ..จะต่างชาติแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานไทย ทุกๆคนชาวบ้านไทบ้านที่ยากจนจะไม่มาค้าแรงงานเป็นทาสรับใช้ใครหรอก,เพราะโลกนี้ถูกออกแบบมาอย่างคนชั่วเลวต้องการปกครอง คนดีคนซื่อจะถูกทำให้มีสถานะแบบนี้หมด,เช่น มีบ่อน้ำมันเต็มประเทศ ก็ไม่บริหารจัดการทรัพยากรน้ำมันให้คนไทยร่ำรวยถ้วนหน้า พัฒนาคนพัฒนาทรัพยากรชาติมุ่งความสุขแก่คนในชาติตนแต่รัฐฐะในอดีตเลวชั่วกลับมุ่งประโยชน์มุ่งความสุขให้คนชาติอื่นแทนชาติไทยตนเอง,ทรัพยากรแบบน้ำมันแค่ขุดเจาะเอง ตั้งบริษัทใหม่รับผิดชอบแทน ปตท. ตั้งกระทรวงใหม่พอขุดเจาะเองและรองรับที่โมฆะสัญญาใดๆที่ตกลงกับอีกฝ่าย มันสามารถคืนความยุติธรรมแต่คนไทยได้หมดล่ะ,แต่เพราะผู้นำเรากากกระจอกอ่อนแอเกินไป คนไทยจึงลำบากยากเย็นยากจนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา,บัตรคนจนก็บอกสถานะได้แล้วว่า คือบัตรคนจน และไม่ช่วยเหลืออะไรจริงห่าเหวเขาให้หยัดยืนพึ่งพาตนเองได้,ปล่อยวงเงินยืมแก่คนจนถือบัตรคนจนก็มีมั้ยให้เขานำไปประกอบอาชีพได้ เงินลงทุนปลูกผักสวนครัวขาย กัญชาเสรีส่งโรงพยาบาลเป็นต้น ไม่มีโครงการอะไรช่วยเหลือคนไทยจริงจังอะไรเลย,เลี้ยงพอกันตาย แต่มิให้เติบโตเพื่อปกครองง่าย,สไตล์วิถีปกครองที่เลวและล้มเหลว,ยุคนี้ ต้องวงเงินคนละ50,000บาทยืมได้เลยพร้อมในบัตร,กรอกวัตถุประสงค์การใช้ อนุมัติทันทีเขานำออกมาเตรียมวัตถุดิบอุปกรณ์ได้ค้าขายเลย,ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ผสมผสานพอเพียงก็ทำไป ขายของรถเข็ญก็ทำไป ซื้อผักผลไม้ทุเรียนขนุนมะพร้าวน้ำหอมผลไม้ปั่นชาไข่มุกก็ทำไป,จากนั้นอาจอัดวงเงินเพิ่มอีก10,000ฉุกเฉินให้เขายามจำเป็นได้,จากนั้นสามารถประเมอนผลงานได้ในอีก1-2ปีเสมือนวิจัยในตัว,แต่รัฐฐะกลับไม่ใส่ใจห่าอะไรเลย,จาก15ล้านคน คนละ10,000บาทก็ยังดีให้เขา ก็150,000ล้านบาทเอง,ทีจะช่วยเจ้าสัวนายทุนคนค้าส่วออกจากภาษีทรัมป์ยังจะช่วยพวกมันฟรีๆจากตังคลังหลวงชาติถึง200,000ล้านบาทเตรียมตังช่วยเหลือมันพะนะ,ตอนมันกำไรขึ้นท็อปเศรษฐี100อันดับแรก มันไม่เห็นส่งตังคืนเข้าคลังหลวงคืนประชาชนคนไทยจากภาษีที่จ่ายช่วยพวกมัน,ค่าล็อบบี้ยีสผีบ้านั้นอีกกว่า100ล้านบาทเสียไปฟรีๆนำมาช่วยปล่อยยืมให้คนถือบัตรคนจนอาจช่วยเหลือเขาได้หลายคนเลย,นี้คือการปกครองที่เป็นระบบปกครองที่พังและล้มเหลว.
    ..
    ..https://youtube.com/shorts/1Cr5nP5pkY0?si=GiMeKjXoH7vbhyUG
    ..ประชาชนดีหรือคนดีๆในสังคมไทยเราจะมีลักษณะนี้เกือบทุกๆคน,ซื่อสัตย์สุจริตแสวงหาไม่ฆ่าไม่ปล้นใครทำลายใครเพื่อดูแลชีวิตคนข้างหลังก็มาก,วัยรุ่น นักเรียนนักศึกษายุคต่างๆน่าจะซึ้ง หลายคนหาตังเล่าเรียนเองบวกกู้หนี้ยืมสินเล่าเรียนเพื่อได้ทำงานดีๆ,แต่ระบบอุปถัมภ์ในไทยและใต้โต๊ะซื้อซีซื้อตำแหน่งเด็กเส้นเด็กฝากเด็กมหาลัยกูมรึงรุ่นน้องใครมันรุ่นพี่ใครมรึงมากล้นเต็มระบบ,โอกาสคนอีก คลิปนี้บอกนัยยะอดีตผู้คนมากล้น อนาคตอาจกลับไปแบบนี้ทั้งประเทศก็ได้ อาทิภัยพิบัติธรรมชาติเต็มประเทศ น้ำท่วน แผ่นดินไหว ตึกถล่ม ลาวาใต้ดินตามรอยเลื่อนปะทุขึ้นมา ภาคเหนือไหลลงภาคกลาง อีสานบนไหลลงอีสานกลางสู่ใต้และตลอดแนวริมโขง,อาหารข้าปลาเสียหาย มีตังมากมายก็หาซื้อลำบากไม่ได้,ขาดแคลนไม่หมด ยิ่งน้ำสะอาดหลังภัยพิบัติอีกหรือขณะเจอแบบน้ำท่วม,ใครขุดอุโมงค์ใต้ดินก็ใช่จะรอด แผ่นดินไหวอาจบีดทำลายทางออกตายคาอุโมงค์ก็ได้ ระบบหายใจเสียหายขาดออกซิเจนไฟฟ้าไม่ทำงานแม้มีเครื่องช่วยหายใจก็ไม่รอดออกมาข้างบนไม่ได้ติดอุโมงค์นั้นล่ะ,แบบอุโมงค์รถไไฟ้าใต้ดินก็ด้วย,ปลอดภัยที่สุดอยู่ผิวดินถ้าไม่มีสงครามWWW3นิวเคลียร์นะ อาหารยิ่งอดอยากขาดแคลน1,000เท่า,ไม่รวมซอมบี้กลายพันธุ์จากวัคซีนโควิดอีก,วิกฤติยุโรปพังจากเจ้าสัวยุโรปเครือข่ายแม่ลูกมันก็โดนถึงเอเชียอาเชียนแล้ว,ตลาดการเงินพังแบบทรัมป์พังไม่มีตังจ่ายหนี้จึงรีดภาษีนำเข้าทั่วโลกไปจ่ายหนี้, ..จะต่างชาติแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานไทย ทุกๆคนชาวบ้านไทบ้านที่ยากจนจะไม่มาค้าแรงงานเป็นทาสรับใช้ใครหรอก,เพราะโลกนี้ถูกออกแบบมาอย่างคนชั่วเลวต้องการปกครอง คนดีคนซื่อจะถูกทำให้มีสถานะแบบนี้หมด,เช่น มีบ่อน้ำมันเต็มประเทศ ก็ไม่บริหารจัดการทรัพยากรน้ำมันให้คนไทยร่ำรวยถ้วนหน้า พัฒนาคนพัฒนาทรัพยากรชาติมุ่งความสุขแก่คนในชาติตนแต่รัฐฐะในอดีตเลวชั่วกลับมุ่งประโยชน์มุ่งความสุขให้คนชาติอื่นแทนชาติไทยตนเอง,ทรัพยากรแบบน้ำมันแค่ขุดเจาะเอง ตั้งบริษัทใหม่รับผิดชอบแทน ปตท. ตั้งกระทรวงใหม่พอขุดเจาะเองและรองรับที่โมฆะสัญญาใดๆที่ตกลงกับอีกฝ่าย มันสามารถคืนความยุติธรรมแต่คนไทยได้หมดล่ะ,แต่เพราะผู้นำเรากากกระจอกอ่อนแอเกินไป คนไทยจึงลำบากยากเย็นยากจนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา,บัตรคนจนก็บอกสถานะได้แล้วว่า คือบัตรคนจน และไม่ช่วยเหลืออะไรจริงห่าเหวเขาให้หยัดยืนพึ่งพาตนเองได้,ปล่อยวงเงินยืมแก่คนจนถือบัตรคนจนก็มีมั้ยให้เขานำไปประกอบอาชีพได้ เงินลงทุนปลูกผักสวนครัวขาย กัญชาเสรีส่งโรงพยาบาลเป็นต้น ไม่มีโครงการอะไรช่วยเหลือคนไทยจริงจังอะไรเลย,เลี้ยงพอกันตาย แต่มิให้เติบโตเพื่อปกครองง่าย,สไตล์วิถีปกครองที่เลวและล้มเหลว,ยุคนี้ ต้องวงเงินคนละ50,000บาทยืมได้เลยพร้อมในบัตร,กรอกวัตถุประสงค์การใช้ อนุมัติทันทีเขานำออกมาเตรียมวัตถุดิบอุปกรณ์ได้ค้าขายเลย,ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ผสมผสานพอเพียงก็ทำไป ขายของรถเข็ญก็ทำไป ซื้อผักผลไม้ทุเรียนขนุนมะพร้าวน้ำหอมผลไม้ปั่นชาไข่มุกก็ทำไป,จากนั้นอาจอัดวงเงินเพิ่มอีก10,000ฉุกเฉินให้เขายามจำเป็นได้,จากนั้นสามารถประเมอนผลงานได้ในอีก1-2ปีเสมือนวิจัยในตัว,แต่รัฐฐะกลับไม่ใส่ใจห่าอะไรเลย,จาก15ล้านคน คนละ10,000บาทก็ยังดีให้เขา ก็150,000ล้านบาทเอง,ทีจะช่วยเจ้าสัวนายทุนคนค้าส่วออกจากภาษีทรัมป์ยังจะช่วยพวกมันฟรีๆจากตังคลังหลวงชาติถึง200,000ล้านบาทเตรียมตังช่วยเหลือมันพะนะ,ตอนมันกำไรขึ้นท็อปเศรษฐี100อันดับแรก มันไม่เห็นส่งตังคืนเข้าคลังหลวงคืนประชาชนคนไทยจากภาษีที่จ่ายช่วยพวกมัน,ค่าล็อบบี้ยีสผีบ้านั้นอีกกว่า100ล้านบาทเสียไปฟรีๆนำมาช่วยปล่อยยืมให้คนถือบัตรคนจนอาจช่วยเหลือเขาได้หลายคนเลย,นี้คือการปกครองที่เป็นระบบปกครองที่พังและล้มเหลว. .. ..https://youtube.com/shorts/1Cr5nP5pkY0?si=GiMeKjXoH7vbhyUG
    0 Comments 0 Shares 566 Views 0 Reviews
  • นิยายไซไฟ Aurora
    ในปี 2999 ที่ดาวเคราะห์ศูนย์กลางอารยธรรมมนุษย์ชื่อ **"นิวสยาม"** อากาศภายนอกโดมเมืองเป็นพิษจนหายใจไม่ได้ ทว่าในย่านสูงสุดของ **"สกายซิตี้"** ที่ลอยอยู่เหนือเมฆหมอก นครแห่งแสงนีออนและยานพาหนะไร้คนขับนั้น มีเรื่องรักข้ามภพชั้นกำเนิดกำลังก่อตัว...

    **อร (Aurora) ลูกสาวแห่งตระกูล "วัชระ"**
    รัชทายาทแห่งอาณาจักรค้าทองคำจากอุกกาบาต **"ทองจักรราศี"** ที่พ่อของเธอ – **มหาเศรษฐีวรวัชร์** – ขุดพบในแถบดาวเคราะห์น้อย Kuiper Belt แร่ธาตุนี้เรืองแสงสีชมพูอมม่วงใต้แสงอัลตราไวโอเลต ถูกแปรรูปเป็นเครื่องประดับล้ำยุคสำหรับชนชั้นสูงสุด ทว่าความมั่งคั่งทั้งหมดมาจากการกดขี่แรงงานเหมืองดาวเคราะห์น้อย และการสมคบกับรัฐบาลเทคโนแครต

    **ธัช (Thad) นักศึกษาวิชาชีวภาพจักรวาลแห่งมหาวิทยาลัยใต้โดม**
    หนุ่มน้อยแถบสลัม "ดินแดง" ผู้ใช้ทักษะการตัดต่อพันธุกรรมสิ่งมีชีวิตต่างดาวเพื่อสร้างอาหารราคาถูกให้คนจน เขาคือแกนนำกลุ่ม **"ปฏิวัฒน์ชีวภาพ"** ที่ต่อต้านการผูกขาดเทคโนโลยีโดยบรรษัทข้ามดาว ฝันถึงจักรวาลที่มนุษย์อยู่ร่วมกับระบบนิเวศ ไม่ใช่ทำลายมัน

    ---

    ### จุดชนะใจกลางพายุฝุ่นดาวอังคาร
    คืนหนึ่งขณะธัชแฝงตัวขึ้นสกายซิตี้เพื่อปล่อยไวรัสดิจิทัลโจมตีเซิร์ฟเวอร์บริษัทวัชระ เขาต้องหลบหนีลงมาทางท่อขนส่งขยะ... และพบอรซึ่งกำลังหลบงานเลี้ยงหรูเพื่อตามห้าแมวไซบอร์กลักพาตัวของเธอในเขตทิ้งของเก่า แสงเรืองจากสร้อยคอทองจักรราศีของอรทำให้นาฬิกาจับพิกัดของธัชเสียหาย ทว่าแทนที่จะแจ้งความ...

    **"คุณรู้ไหมว่าทองเส้นนี้ทำให้คนงานตาบอด 3 คนเพราะรังสี?"** ธัชถามด้วยความโกรธ
    **"และคุณรู้ไหมว่ามันคือชิ้นส่วนเดียวที่เหลืออยู่จากดาวบ้านเกิดแม่ฉัน?"** อรตอบด้วยน้ำตา

    กลางกองขยะไฮเทคที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียดัดแปลง ทั้งคู่พบว่าต่างถูกคุมขังโดยระบบชนชั้นเดียวกัน: อรคือหุ่นเชิดของตระกูล ส่วนธัชคือฟันเฟืองในเครื่องจักรปฏิวัติ

    ---

    ### 7 ดาวเคราะห์ที่รักบ่มเพาะ
    1. **ห้องทดลองลับใต้ดิน**
    ธัชพาอรไปเห็น "สวนสวรรค์ชีวภาพ" ที่เขาสร้างไว้ – ระบบนิเวศขนาดกระเป๋าเดินทางที่มีพืชจาก 7 ดาวเคราะห์ อรใช้ความรู้ด้านแร่วิทยาช่วยปรับสมดุลแร่ธาตุจนดอกไม้เหล็กจากเนปจูนผลิบาน

    2. **งานเต้นรำกลางดาวเคราะห์น้อย**
    อรพาธัชแฝงตัวขึ้นยานส่วนตัวไปยังแอสเทอรอยด์ VH-2982 ที่ตระกูลวัชระกำลังขุดเจาะ ทั้งคู่เต้นรำในสภาพไร้น้ำหนักใต้แสงดาวนับล้าน โดยมีหุ่นยนต์ขนทองเป็นสักขีพยาน

    3. **การทรยศของ "แสงชัย" หุ่น AI คู่ใจอร**
    เมื่อ AI ในสร้อยคอของอรแจ้งเรื่องความสัมพันธ์นี้ให้วรวัชร์ทราบ ธัชถูกตั้งค่าหัวโดยกองกำลังรักษาความปลอดภัยของบริษัท อรต้องตัดสินใจ: ใช้ระเบิดนาโนทำลายแสงชัย หรือปล่อยให้ธัชตาย...

    ---

    ### จุดแตกหักแห่งจักรวาล
    วรวัชร์เปิดเผยแผนชั่วร้าย: **"โครงการฟีนิกซ์"** ที่จะเผาทุกชุมชนใต้โดมเพื่อสร้างเหมืองทองใหม่ ความจริงที่น่าขนลุกคือ... **ทองจักรราศีคือสปอร์สิ่งมีชีวิตต่างดาว** ที่ค่อยๆ เปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นทาสทางความคิดเมื่อสวมใส่เกิน 7 ปี!

    อรเห็นแม่แท้ๆ ของเธอ – ผู้สวมมงกุฎทองตลอดเวลา – ถูกควบคุมเป็นหุ่นเชิดโดยสิ่งมีชีวิตสีทองในตู้เลี้ยง ทางรอดเดียวคือไวรัสที่ธัชพัฒนาจากแบคทีเรียใน "สวนสวรรค์" ซึ่งฆ่าสปอร์ทองโดยไม่ทำร้ายมนุษย์

    ---

    ### รักสุดขอบฟ้า
    คืนสุดท้ายก่อนการปฏิวัติใหญ่ ธัชกับอรยืนอยู่บนดาดฟ้ายานอวกาศเก่า ด้านล่างคือชุมชนใต้โดมที่กำลังลุกเป็นไฟ

    **"ถ้าเราเผาทองทั้งหมด... ครอบครัวฉันจะล่มสลาย"**
    **"และถ้าไม่เผา... มนุษยชาติจะสูญสิ้น"**

    อรกดส่งรหัสทำลายคลังทองหลักของตระกูล ส่วนธัชปล่อยไวรัสสู่ระบบปรับอากาศสกายซิตี้ เมื่อแสงระเบิดสีชมพูอมม่วงวาบขึ้นบนท้องฟ้า ทั้งคู่จับมือกันกระโดดลงแคปซูลหนีภัย...

    **ทิ้งไว้เบื้องหลังเพียงคำถาม:**
    เมื่อทองคำอันเป็นตัวตนของเธอละลายไป
    เมื่อการปฏิวัติอันเป็นตัวตนของเขาชำระสำเร็จ
    รักข้ามดวงดาวนี้จะเหลืออะไรให้รักกัน?

    ---

    โลกปี 2999 ยังไม่มีคำตอบ
    มีเพียงดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งที่กำลังผลิดอก
    จากเศษทองที่หลอมรวมกับแบคทีเรียแห่งความหวัง
    โดยไม่มีใครรู้ว่ามันจะเป็นสวนสวรรค์ใหม่...
    หรือไวรัสร้ายแบบใหม่กันแน่?
    นิยายไซไฟ Aurora ในปี 2999 ที่ดาวเคราะห์ศูนย์กลางอารยธรรมมนุษย์ชื่อ **"นิวสยาม"** อากาศภายนอกโดมเมืองเป็นพิษจนหายใจไม่ได้ ทว่าในย่านสูงสุดของ **"สกายซิตี้"** ที่ลอยอยู่เหนือเมฆหมอก นครแห่งแสงนีออนและยานพาหนะไร้คนขับนั้น มีเรื่องรักข้ามภพชั้นกำเนิดกำลังก่อตัว... **อร (Aurora) ลูกสาวแห่งตระกูล "วัชระ"** รัชทายาทแห่งอาณาจักรค้าทองคำจากอุกกาบาต **"ทองจักรราศี"** ที่พ่อของเธอ – **มหาเศรษฐีวรวัชร์** – ขุดพบในแถบดาวเคราะห์น้อย Kuiper Belt แร่ธาตุนี้เรืองแสงสีชมพูอมม่วงใต้แสงอัลตราไวโอเลต ถูกแปรรูปเป็นเครื่องประดับล้ำยุคสำหรับชนชั้นสูงสุด ทว่าความมั่งคั่งทั้งหมดมาจากการกดขี่แรงงานเหมืองดาวเคราะห์น้อย และการสมคบกับรัฐบาลเทคโนแครต **ธัช (Thad) นักศึกษาวิชาชีวภาพจักรวาลแห่งมหาวิทยาลัยใต้โดม** หนุ่มน้อยแถบสลัม "ดินแดง" ผู้ใช้ทักษะการตัดต่อพันธุกรรมสิ่งมีชีวิตต่างดาวเพื่อสร้างอาหารราคาถูกให้คนจน เขาคือแกนนำกลุ่ม **"ปฏิวัฒน์ชีวภาพ"** ที่ต่อต้านการผูกขาดเทคโนโลยีโดยบรรษัทข้ามดาว ฝันถึงจักรวาลที่มนุษย์อยู่ร่วมกับระบบนิเวศ ไม่ใช่ทำลายมัน --- ### จุดชนะใจกลางพายุฝุ่นดาวอังคาร คืนหนึ่งขณะธัชแฝงตัวขึ้นสกายซิตี้เพื่อปล่อยไวรัสดิจิทัลโจมตีเซิร์ฟเวอร์บริษัทวัชระ เขาต้องหลบหนีลงมาทางท่อขนส่งขยะ... และพบอรซึ่งกำลังหลบงานเลี้ยงหรูเพื่อตามห้าแมวไซบอร์กลักพาตัวของเธอในเขตทิ้งของเก่า แสงเรืองจากสร้อยคอทองจักรราศีของอรทำให้นาฬิกาจับพิกัดของธัชเสียหาย ทว่าแทนที่จะแจ้งความ... **"คุณรู้ไหมว่าทองเส้นนี้ทำให้คนงานตาบอด 3 คนเพราะรังสี?"** ธัชถามด้วยความโกรธ **"และคุณรู้ไหมว่ามันคือชิ้นส่วนเดียวที่เหลืออยู่จากดาวบ้านเกิดแม่ฉัน?"** อรตอบด้วยน้ำตา กลางกองขยะไฮเทคที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียดัดแปลง ทั้งคู่พบว่าต่างถูกคุมขังโดยระบบชนชั้นเดียวกัน: อรคือหุ่นเชิดของตระกูล ส่วนธัชคือฟันเฟืองในเครื่องจักรปฏิวัติ --- ### 7 ดาวเคราะห์ที่รักบ่มเพาะ 1. **ห้องทดลองลับใต้ดิน** ธัชพาอรไปเห็น "สวนสวรรค์ชีวภาพ" ที่เขาสร้างไว้ – ระบบนิเวศขนาดกระเป๋าเดินทางที่มีพืชจาก 7 ดาวเคราะห์ อรใช้ความรู้ด้านแร่วิทยาช่วยปรับสมดุลแร่ธาตุจนดอกไม้เหล็กจากเนปจูนผลิบาน 2. **งานเต้นรำกลางดาวเคราะห์น้อย** อรพาธัชแฝงตัวขึ้นยานส่วนตัวไปยังแอสเทอรอยด์ VH-2982 ที่ตระกูลวัชระกำลังขุดเจาะ ทั้งคู่เต้นรำในสภาพไร้น้ำหนักใต้แสงดาวนับล้าน โดยมีหุ่นยนต์ขนทองเป็นสักขีพยาน 3. **การทรยศของ "แสงชัย" หุ่น AI คู่ใจอร** เมื่อ AI ในสร้อยคอของอรแจ้งเรื่องความสัมพันธ์นี้ให้วรวัชร์ทราบ ธัชถูกตั้งค่าหัวโดยกองกำลังรักษาความปลอดภัยของบริษัท อรต้องตัดสินใจ: ใช้ระเบิดนาโนทำลายแสงชัย หรือปล่อยให้ธัชตาย... --- ### จุดแตกหักแห่งจักรวาล วรวัชร์เปิดเผยแผนชั่วร้าย: **"โครงการฟีนิกซ์"** ที่จะเผาทุกชุมชนใต้โดมเพื่อสร้างเหมืองทองใหม่ ความจริงที่น่าขนลุกคือ... **ทองจักรราศีคือสปอร์สิ่งมีชีวิตต่างดาว** ที่ค่อยๆ เปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นทาสทางความคิดเมื่อสวมใส่เกิน 7 ปี! อรเห็นแม่แท้ๆ ของเธอ – ผู้สวมมงกุฎทองตลอดเวลา – ถูกควบคุมเป็นหุ่นเชิดโดยสิ่งมีชีวิตสีทองในตู้เลี้ยง ทางรอดเดียวคือไวรัสที่ธัชพัฒนาจากแบคทีเรียใน "สวนสวรรค์" ซึ่งฆ่าสปอร์ทองโดยไม่ทำร้ายมนุษย์ --- ### รักสุดขอบฟ้า คืนสุดท้ายก่อนการปฏิวัติใหญ่ ธัชกับอรยืนอยู่บนดาดฟ้ายานอวกาศเก่า ด้านล่างคือชุมชนใต้โดมที่กำลังลุกเป็นไฟ **"ถ้าเราเผาทองทั้งหมด... ครอบครัวฉันจะล่มสลาย"** **"และถ้าไม่เผา... มนุษยชาติจะสูญสิ้น"** อรกดส่งรหัสทำลายคลังทองหลักของตระกูล ส่วนธัชปล่อยไวรัสสู่ระบบปรับอากาศสกายซิตี้ เมื่อแสงระเบิดสีชมพูอมม่วงวาบขึ้นบนท้องฟ้า ทั้งคู่จับมือกันกระโดดลงแคปซูลหนีภัย... **ทิ้งไว้เบื้องหลังเพียงคำถาม:** เมื่อทองคำอันเป็นตัวตนของเธอละลายไป เมื่อการปฏิวัติอันเป็นตัวตนของเขาชำระสำเร็จ รักข้ามดวงดาวนี้จะเหลืออะไรให้รักกัน? --- โลกปี 2999 ยังไม่มีคำตอบ มีเพียงดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งที่กำลังผลิดอก จากเศษทองที่หลอมรวมกับแบคทีเรียแห่งความหวัง โดยไม่มีใครรู้ว่ามันจะเป็นสวนสวรรค์ใหม่... หรือไวรัสร้ายแบบใหม่กันแน่?
    0 Comments 0 Shares 500 Views 0 Reviews
  • ภาค1 ส 12-7-68 ..
    E:\- m1 ภาค ส่ง
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล
    ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน

    ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง

    ภาค1 ส 12-7-68 .. E:\- m1 ภาค ส่ง 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง
    0 Comments 0 Shares 516 Views 0 Reviews
  • เราทุกคนเห็นแล้ว ว่า รมต. ที่มาจากโควต้า นั้น ประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตราฐาน กลาโหม เกษตร ศึกษาธิการ ไปรษณีย์ เป็นต้น
    มาช่วยกันฝัน และออกแบบรัฐธรรมนูญ โดยดำรงไว้ซึ่งหมวดพระมหากษัตริย์ และความมั่นคงแห่งชาติ

    ไม่ต้องมีพรรคการเมือง เป็นประชาธิปไตยแบบไทย

    หมวดผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง:
    ----------------------------------
    1) เป็นผู้มี หรือเคยมีประวัติการเสียภาษี หรือมียอดรวมภาษีมูลค่าเพิ่มสะสม ปีละสามหมื่นบาทขึ้นไป
    2) มีอายุครบหรือเกิน 18 ปีบริบูรณ์
    3) เป็นผู้มีสัญชาติไทย ไม่มีสัญชาติอื่น


    หมวดผู้สมัคร สส. เลือกตั้ง:
    -----------------------------------------
    1) มีอายุเกิน 30 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 70ปีบริบูรณ์
    2) มีประวัติสร้างชื่อเสียง ระดับชาติ, ปราชญ์ชาวบ้าน, บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์เป็นหลักฐาน ติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 5ปีภาษี หรือสำเร็จการศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรี จากสถาบันการศึกษาที่ กพ. รับรอง
    3) เป็นผู้ไม่มีประวัติประพฤติผิดจริยธรรม ทุจริตคอรัปชั่น บ่อนทำลายสังคม ศาสนา และแผ่นดิน ไม่ว่าศาลจะตัดสินหรือไม่ แต่วิญญูชนประจักษ์ได้


    หมวดผู้สมัคร นายกฯ รมต. เลือกตั้ง:
    ------------------------------------------------------
    1) มีคุณสมบัติเหมือน ผู้สมัคร สส.
    2) เป็นตำแหน่งหน้าที่แยกสมัครต่างจาก ผู้สมัคร สส. โดยผู้สมัครเลือกตั้ง หน้าที่ นายกฯ หรือ รมต. จะต้องเลือกสมัครในหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งเท่านั้น
    3) ผู้สมัคร มีหน้าที่แสดงวิสัยทัศน์ และแผนการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 10ข้อ ลงสื่อสารให้สามารถตรวจสอบ
    4) คะแนนมาจากทั่วประเทศ


    หมวด สว. ส่วนโควตา:
    1) ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพ, ปลัดกระทรวง, ตัวแทนศิลปินแห่งชาติทุกสาขา, อาจารย์ผู้มีผลงานวิจัยระดับชาติหรือระดับโลก, อดีตนักเรียนนักศึกษาที่เคยเข้าชิงแข่งขันทางการศึกษาระดับโลก เช่น แข่งขันคณิตศาสตร์ ชีววิทยา เคมี สิ่งประดิษฐ์ที่ไม่เคยมี เกมส์, อดีตนักกีฬาทีมชาติไทยที่ผ่านสนามเอเชี่ยนเกมส์ขึ้นไป หลายๆ ประเภท
    2) มีอายุไม่เกิน 76ปีบริบูรณ์
    3) เป็นผู้ไม่มีประวัติประพฤติผิดจริยธรรม ทุจริตคอรัปชั่น บ่อนทำลายสังคม ศาสนา และแผ่นดิน ไม่ว่าศาลจะตัดสินหรือไม่ แต่วิญญูชนประจักษ์ได้
    4) ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อน กับ สส. นายกฯ หรือ รมต. เช่น เป็นคนในครอบครัว สามีภรรยา พ่อแม่ พี่น้องในสายเลือด, ไม่เป็นหุ้นส่วน


    ทุกผู้ที่ได้การคัดเลือก จะต้องมีความละอายชั่ว ศีลธรรม หากพบว่ากระทำผิด จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยทันทีไม่สามารถยืดเยื้อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

    ผู้ช่วย สส. รมต. จะมีได้ไม่เกินกี่คน รายชื่อผู้ช่วย ต้องประกาศ ให้สาธารณะตรวจสอบได้โดยสะดวก

    เราทุกคนเห็นแล้ว ว่า รมต. ที่มาจากโควต้า นั้น ประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตราฐาน กลาโหม เกษตร ศึกษาธิการ ไปรษณีย์ เป็นต้น มาช่วยกันฝัน และออกแบบรัฐธรรมนูญ โดยดำรงไว้ซึ่งหมวดพระมหากษัตริย์ และความมั่นคงแห่งชาติ ไม่ต้องมีพรรคการเมือง เป็นประชาธิปไตยแบบไทย หมวดผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง: ---------------------------------- 1) เป็นผู้มี หรือเคยมีประวัติการเสียภาษี หรือมียอดรวมภาษีมูลค่าเพิ่มสะสม ปีละสามหมื่นบาทขึ้นไป 2) มีอายุครบหรือเกิน 18 ปีบริบูรณ์ 3) เป็นผู้มีสัญชาติไทย ไม่มีสัญชาติอื่น หมวดผู้สมัคร สส. เลือกตั้ง: ----------------------------------------- 1) มีอายุเกิน 30 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 70ปีบริบูรณ์ 2) มีประวัติสร้างชื่อเสียง ระดับชาติ, ปราชญ์ชาวบ้าน, บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์เป็นหลักฐาน ติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 5ปีภาษี หรือสำเร็จการศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรี จากสถาบันการศึกษาที่ กพ. รับรอง 3) เป็นผู้ไม่มีประวัติประพฤติผิดจริยธรรม ทุจริตคอรัปชั่น บ่อนทำลายสังคม ศาสนา และแผ่นดิน ไม่ว่าศาลจะตัดสินหรือไม่ แต่วิญญูชนประจักษ์ได้ หมวดผู้สมัคร นายกฯ รมต. เลือกตั้ง: ------------------------------------------------------ 1) มีคุณสมบัติเหมือน ผู้สมัคร สส. 2) เป็นตำแหน่งหน้าที่แยกสมัครต่างจาก ผู้สมัคร สส. โดยผู้สมัครเลือกตั้ง หน้าที่ นายกฯ หรือ รมต. จะต้องเลือกสมัครในหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งเท่านั้น 3) ผู้สมัคร มีหน้าที่แสดงวิสัยทัศน์ และแผนการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 10ข้อ ลงสื่อสารให้สามารถตรวจสอบ 4) คะแนนมาจากทั่วประเทศ หมวด สว. ส่วนโควตา: 1) ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพ, ปลัดกระทรวง, ตัวแทนศิลปินแห่งชาติทุกสาขา, อาจารย์ผู้มีผลงานวิจัยระดับชาติหรือระดับโลก, อดีตนักเรียนนักศึกษาที่เคยเข้าชิงแข่งขันทางการศึกษาระดับโลก เช่น แข่งขันคณิตศาสตร์ ชีววิทยา เคมี สิ่งประดิษฐ์ที่ไม่เคยมี เกมส์, อดีตนักกีฬาทีมชาติไทยที่ผ่านสนามเอเชี่ยนเกมส์ขึ้นไป หลายๆ ประเภท 2) มีอายุไม่เกิน 76ปีบริบูรณ์ 3) เป็นผู้ไม่มีประวัติประพฤติผิดจริยธรรม ทุจริตคอรัปชั่น บ่อนทำลายสังคม ศาสนา และแผ่นดิน ไม่ว่าศาลจะตัดสินหรือไม่ แต่วิญญูชนประจักษ์ได้ 4) ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อน กับ สส. นายกฯ หรือ รมต. เช่น เป็นคนในครอบครัว สามีภรรยา พ่อแม่ พี่น้องในสายเลือด, ไม่เป็นหุ้นส่วน ทุกผู้ที่ได้การคัดเลือก จะต้องมีความละอายชั่ว ศีลธรรม หากพบว่ากระทำผิด จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยทันทีไม่สามารถยืดเยื้อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ผู้ช่วย สส. รมต. จะมีได้ไม่เกินกี่คน รายชื่อผู้ช่วย ต้องประกาศ ให้สาธารณะตรวจสอบได้โดยสะดวก
    9 Comments 0 Shares 462 Views 0 Reviews
  • ..มีรัฐบาลใหม่ น่าจะสิ้นสุดการปกปิดได้และต้องมาจากนายกฯพระราชทานยิ่งดี,อนาคตงานหนักด้วย,ค่าจริงความจริงต้องเปิดเผยแก่ประชาชนให้รับรู้,ปิดบังมานานเกินไปต้องแต่ยุคโควิด ต่างชาติก็ระบุชัดว่าพื้นฐานเนื้อวัคซีนโควิดมีแน่นอน3ตัว คือเอดส์ มะเร็ง และซาร์ตัดแต่ง,เยาวชนนักเรียนนักศึกษาเราเป็นเอดส์ส่วนใหญ่แน่นอนจากถูกบังคับฉีดวัคซีนมาตัังแต่ระดับอนุบาล ขึ้นประถมก็ลาป่วยกันตรึมเพราะเริ่มออกฤทธิ์ ฉีดประถมต้น ขึ้นประถมปลายก็เริ่มป่วยไข้บ่อยขึ้น ฉีดประถมปลายก็ไปป่วยนั้นนี้โน้นตอนมัธยมต้น,ฉีดมัธยมต้นก็ออกฤทธิ์มัธยมปลาย เป็นต้น เด็กๆป่วยต่างจากยุควัยรุ่นในอดีตป่วยมากนะ,วิ่งเล่นกีฬาดีๆก็วูบก็เหนื่อยผิดปกติ,เดินขบวนกีฬาถูกแดดนิดหน่อยก็เป็นลมง่ายๆ,คนเฒ่าคนแก่คนชราก็จัดงานศพไปวัดไปป่าช้าตรึมบ่อยขึ้น,ทหารตำรวจว่าแข็งแรงออกกำลังกายปกติก็ขึ้นเป็นข่าววูบตายเสีย, หมอพยาบาลยิ่งโหด รับคนละ5เข็มอย่างน้อย ไฟเซอร์อีกที่คุยทับกัน,เข็มหลอดแบบอีลิทต่างชาติผู้นำหัวๆก็ไม่ว่าหรอก หรือน้ำเกลือน้ำแร่ก็ตาม แต่ประชาชนเสี่ยงสูงชัดเจนทั่วไทย,นี้คือวาระแห่งชาติไทยที่รัฐบาลนายกฯพระราชทานคนใหม่ต้องชัดเจนจริงใจในด้านนี้และต้องถีบต้องจบรัฐบาลชุดปัจจุบันสิ้นขาดจากอำนาจรัฐปัจจุบันโดยเร็ว,ทั้งสุขภาพ ทั้งปากท้องประชาชนและอธิปไตยชาติไทยไม่สามารถรอได้นานขนาดนั้น,เห็นข่าวมันโคตรเบื่อหน่ายจริงๆ มันต้องจบต้องเปลี่ยนจริงๆ

    https://youtu.be/P9W9AFF-E30?si=gm9782JgTpdyug98
    ..มีรัฐบาลใหม่ น่าจะสิ้นสุดการปกปิดได้และต้องมาจากนายกฯพระราชทานยิ่งดี,อนาคตงานหนักด้วย,ค่าจริงความจริงต้องเปิดเผยแก่ประชาชนให้รับรู้,ปิดบังมานานเกินไปต้องแต่ยุคโควิด ต่างชาติก็ระบุชัดว่าพื้นฐานเนื้อวัคซีนโควิดมีแน่นอน3ตัว คือเอดส์ มะเร็ง และซาร์ตัดแต่ง,เยาวชนนักเรียนนักศึกษาเราเป็นเอดส์ส่วนใหญ่แน่นอนจากถูกบังคับฉีดวัคซีนมาตัังแต่ระดับอนุบาล ขึ้นประถมก็ลาป่วยกันตรึมเพราะเริ่มออกฤทธิ์ ฉีดประถมต้น ขึ้นประถมปลายก็เริ่มป่วยไข้บ่อยขึ้น ฉีดประถมปลายก็ไปป่วยนั้นนี้โน้นตอนมัธยมต้น,ฉีดมัธยมต้นก็ออกฤทธิ์มัธยมปลาย เป็นต้น เด็กๆป่วยต่างจากยุควัยรุ่นในอดีตป่วยมากนะ,วิ่งเล่นกีฬาดีๆก็วูบก็เหนื่อยผิดปกติ,เดินขบวนกีฬาถูกแดดนิดหน่อยก็เป็นลมง่ายๆ,คนเฒ่าคนแก่คนชราก็จัดงานศพไปวัดไปป่าช้าตรึมบ่อยขึ้น,ทหารตำรวจว่าแข็งแรงออกกำลังกายปกติก็ขึ้นเป็นข่าววูบตายเสีย, หมอพยาบาลยิ่งโหด รับคนละ5เข็มอย่างน้อย ไฟเซอร์อีกที่คุยทับกัน,เข็มหลอดแบบอีลิทต่างชาติผู้นำหัวๆก็ไม่ว่าหรอก หรือน้ำเกลือน้ำแร่ก็ตาม แต่ประชาชนเสี่ยงสูงชัดเจนทั่วไทย,นี้คือวาระแห่งชาติไทยที่รัฐบาลนายกฯพระราชทานคนใหม่ต้องชัดเจนจริงใจในด้านนี้และต้องถีบต้องจบรัฐบาลชุดปัจจุบันสิ้นขาดจากอำนาจรัฐปัจจุบันโดยเร็ว,ทั้งสุขภาพ ทั้งปากท้องประชาชนและอธิปไตยชาติไทยไม่สามารถรอได้นานขนาดนั้น,เห็นข่าวมันโคตรเบื่อหน่ายจริงๆ มันต้องจบต้องเปลี่ยนจริงๆ https://youtu.be/P9W9AFF-E30?si=gm9782JgTpdyug98
    0 Comments 0 Shares 351 Views 0 Reviews
  • ถ้าเมื่อก่อนวิดีโอ AI เคยมีข้อบกพร่อง เช่น หน้ามนุษย์บิดเบี้ยว มือมี 6 นิ้ว หรือเส้นผมติดกันเป็นก้อน… วันนี้ AI กำลังทิ้งอดีตเหล่านั้นไว้ข้างหลัง → ลองนึกถึงคลิป “Will Smith กินสปาเกตตี” ที่เคยดังเมื่อ 2 ปีก่อนในเวอร์ชันหลอน ๆ น่าขนลุก → แต่เวอร์ชันล่าสุดบน Veo 3 ของ Google กลับแทบแยกไม่ออกว่าเป็นของปลอม!

    AI วิดีโอตอนนี้พัฒนาไปเร็วมาก → ภายใน 12 เดือน มีการเปิดตัวโมเดลใหม่อย่าง Luma Dream Machine, OpenAI Sora, Runway Gen-4 และ Veo 3 → วงการฮอลลีวูดเริ่มขยับ เช่น Lionsgate ทำดีลกับ Runway เพื่อสร้างแอนิเมชันจากแฟรนไชส์ดังอย่าง John Wick หรือ Hunger Games → และ AI ถูกใช้ในการทำ Previs หรือ Storyboard ที่เคยต้องใช้เงินหลักล้าน → ตอนนี้แค่สร้างคลิป 10 วิ ที่มีทหารหมื่นคนก็พอให้ตัดสินใจแล้วว่าจะถ่ายทำจริงไหม

    แม้บางสตูดิโออย่าง Staircase Studio จะก้าวหน้าไปถึงขั้นผลิตภาพยนตร์ทั้งเรื่องด้วย AI ในต้นทุนไม่ถึง $500,000 → แต่ศิลปิน–ผู้กำกับบางคนยังปฏิเสธ AI เพราะมองว่า “ทำลายจินตนาการ” และไม่ต้องการให้เครื่องมือตัดสินแทน

    อย่างไรก็ดี Strickler จาก Georgia State บอกว่า “ต่อต้าน AI ตอนนี้ก็เหมือนทำธุรกิจโดยไม่มีอินเทอร์เน็ต” → แม้จะเข้าใจว่าคนกังวลเรื่องพลังงาน–ลิขสิทธิ์–ผลกระทบต่อแรงงานก็ตาม

    AI วิดีโอพัฒนาเร็วมากในปี 2024–2025 → สร้างภาพที่สมจริงจนแยกไม่ออกจากวิดีโอจริง  
    • เทคโนโลยีจาก Veo, Sora, Gen-4 และ Dream Machine  
    • ตัวอย่างคลิป Will Smith กินสปาเกตตีเวอร์ชันล่าสุดแทบไม่มีข้อผิดพลาด

    Runway AI จับมือ Lionsgate และ AMC สร้างแอนิเมชันจากแฟรนไชส์หนังจริง  
    • ใช้ทำ Previsualization แทนการลงทุนหลายล้าน  
    • ช่วยตัดสินใจว่าควรถ่ายทำหรือไม่

    Staircase Studio ตั้งเป้าสร้างภาพยนตร์ AI ทั้งเรื่อง ในงบไม่ถึง $500,000 ต่อเรื่อง  
    • แต่ยังใช้แรงงานจริงจากกองถ่ายและนักสร้างสรรค์แบบ union

    บางคนใช้ AI เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการแก้ไขงาน (unlimited iteration) โดยไม่ต้องถ่ายใหม่

    นักศึกษาหลายคนต่อต้าน AI เพราะพลังงาน–การดูดเนื้อหาจากเจ้าของเดิม–ผลกระทบต่อแรงงาน

    Runway กำลังวางแผนขยายไปสู่ VR–AR และการสร้างโลกเสมือนจริงที่ถ่ายทำหนังได้เลย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/08/ai-video-becomes-more-convincing-rattling-creative-industry
    ถ้าเมื่อก่อนวิดีโอ AI เคยมีข้อบกพร่อง เช่น หน้ามนุษย์บิดเบี้ยว มือมี 6 นิ้ว หรือเส้นผมติดกันเป็นก้อน… วันนี้ AI กำลังทิ้งอดีตเหล่านั้นไว้ข้างหลัง → ลองนึกถึงคลิป “Will Smith กินสปาเกตตี” ที่เคยดังเมื่อ 2 ปีก่อนในเวอร์ชันหลอน ๆ น่าขนลุก → แต่เวอร์ชันล่าสุดบน Veo 3 ของ Google กลับแทบแยกไม่ออกว่าเป็นของปลอม! AI วิดีโอตอนนี้พัฒนาไปเร็วมาก → ภายใน 12 เดือน มีการเปิดตัวโมเดลใหม่อย่าง Luma Dream Machine, OpenAI Sora, Runway Gen-4 และ Veo 3 → วงการฮอลลีวูดเริ่มขยับ เช่น Lionsgate ทำดีลกับ Runway เพื่อสร้างแอนิเมชันจากแฟรนไชส์ดังอย่าง John Wick หรือ Hunger Games → และ AI ถูกใช้ในการทำ Previs หรือ Storyboard ที่เคยต้องใช้เงินหลักล้าน → ตอนนี้แค่สร้างคลิป 10 วิ ที่มีทหารหมื่นคนก็พอให้ตัดสินใจแล้วว่าจะถ่ายทำจริงไหม แม้บางสตูดิโออย่าง Staircase Studio จะก้าวหน้าไปถึงขั้นผลิตภาพยนตร์ทั้งเรื่องด้วย AI ในต้นทุนไม่ถึง $500,000 → แต่ศิลปิน–ผู้กำกับบางคนยังปฏิเสธ AI เพราะมองว่า “ทำลายจินตนาการ” และไม่ต้องการให้เครื่องมือตัดสินแทน อย่างไรก็ดี Strickler จาก Georgia State บอกว่า “ต่อต้าน AI ตอนนี้ก็เหมือนทำธุรกิจโดยไม่มีอินเทอร์เน็ต” → แม้จะเข้าใจว่าคนกังวลเรื่องพลังงาน–ลิขสิทธิ์–ผลกระทบต่อแรงงานก็ตาม ✅ AI วิดีโอพัฒนาเร็วมากในปี 2024–2025 → สร้างภาพที่สมจริงจนแยกไม่ออกจากวิดีโอจริง   • เทคโนโลยีจาก Veo, Sora, Gen-4 และ Dream Machine   • ตัวอย่างคลิป Will Smith กินสปาเกตตีเวอร์ชันล่าสุดแทบไม่มีข้อผิดพลาด ✅ Runway AI จับมือ Lionsgate และ AMC สร้างแอนิเมชันจากแฟรนไชส์หนังจริง   • ใช้ทำ Previsualization แทนการลงทุนหลายล้าน   • ช่วยตัดสินใจว่าควรถ่ายทำหรือไม่ ✅ Staircase Studio ตั้งเป้าสร้างภาพยนตร์ AI ทั้งเรื่อง ในงบไม่ถึง $500,000 ต่อเรื่อง   • แต่ยังใช้แรงงานจริงจากกองถ่ายและนักสร้างสรรค์แบบ union ✅ บางคนใช้ AI เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการแก้ไขงาน (unlimited iteration) โดยไม่ต้องถ่ายใหม่ ✅ นักศึกษาหลายคนต่อต้าน AI เพราะพลังงาน–การดูดเนื้อหาจากเจ้าของเดิม–ผลกระทบต่อแรงงาน ✅ Runway กำลังวางแผนขยายไปสู่ VR–AR และการสร้างโลกเสมือนจริงที่ถ่ายทำหนังได้เลย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/08/ai-video-becomes-more-convincing-rattling-creative-industry
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI video becomes more convincing, rattling creative industry
    Gone are the days of six-fingered hands or distorted faces – AI-generated video is becoming increasingly convincing, attracting Hollywood, artists, and advertisers, while shaking the foundations of the creative industry.
    0 Comments 0 Shares 307 Views 0 Reviews
  • เมื่อก่อน ถ้าเรียนคอมฯ ก็ต้องเรียนเขียนโค้ด จดจำ syntax จัดการอัลกอริธึม…แต่วันนี้ AI อย่าง Copilot, ChatGPT หรือ Claude ก็ “เขียนให้เราได้หมด” → ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “จำเป็นไหมที่นักศึกษายังต้องเรียนเขียนโค้ดจาก 0?”

    จากรายงานของ TechSpot พบว่า:
    - หลายมหาวิทยาลัย เช่น Carnegie Mellon University (CMU) กำลัง “รีเซ็ต” หลักสูตร
    - เน้น “การคิดเชิงระบบ + ความเข้าใจพื้นฐาน AI” มากกว่าทักษะเชิงเทคนิคล้วน ๆ
    - นักศึกษาเริ่มใช้ AI เป็น “ไม้เท้า” แต่อาจลืมว่า “ยังต้องรู้ว่ากำลังเดินไปไหน”

    บางวิชาก็อนุญาตให้ใช้ AI ได้ตั้งแต่ปีแรก → สุดท้ายพบว่า นักศึกษาใช้ AI ทำการบ้าน แล้ว “ไม่เข้าใจโค้ดครึ่งหนึ่งที่ได้มา” → ทำให้หลายคนเริ่มกลับไปตั้งใจเรียนเขียนโค้ดเอง

    ผลกระทบยังไปไกลถึงตลาดแรงงาน → งานสาย software entry-level ถูกลดลงอย่างชัดเจน (ลด 65% ในรอบ 3 ปี ตามข้อมูลของ CompTIA) → นักศึกษาที่เคยคิดว่า “เรียนคอม = จบแล้วได้เงินเดือนดี” ก็เริ่มวางแผนเรียน minor ด้านอื่น ๆ เพิ่ม เช่น ความมั่นคงปลอดภัย, ปัญญาสังคม, หรือการเมือง

    มีข้อเสนอว่าวิทยาการคอมพิวเตอร์จะกลายเป็นเหมือน “วิชาศิลปศาสตร์ยุคใหม่” ที่ต้องผสานทักษะด้านเทคนิค + ความคิดเชิงวิพากษ์ + การสื่อสาร เพื่ออยู่รอดในยุคที่ AI เป็นเพื่อนร่วมงานทุกที่

    หลายมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ ปรับหลักสูตรคอมพิวเตอร์ เน้น “AI literacy” และ “computational thinking”  
    • ลดการเน้น syntax ของภาษาโปรแกรม  
    • สนับสนุนวิชาข้ามศาสตร์ เช่น คอมพิวเตอร์ + ชีววิทยา, คอมฯ + นโยบาย

    Carnegie Mellon University เป็นหนึ่งในผู้นำการเปลี่ยนแปลง  
    • บางวิชาอนุญาตให้นักศึกษาใช้ AI ทำการบ้าน  
    • แต่พบว่า AI ทำให้ “หลงทาง” และไม่เข้าใจโค้ดจริง  
    • ทำให้นักศึกษาหลายคนกลับมาสนใจเรียน code อย่างตั้งใจอีกครั้ง

    NSF จัดโครงการ ‘Level Up AI’ เพื่อร่วมกำหนด “พื้นฐานด้าน AI” สำหรับนักศึกษาสายคอม  
    • ร่วมมือกับสมาคมวิจัย (Computing Research Association) และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ  
    • ระยะโครงการ 18 เดือน

    แนวโน้ม: คอมพิวเตอร์อาจกลายเป็นวิชา “พื้นฐาน” ที่เหมือนศิลปศาสตร์ยุคใหม่  
    • ต้องใช้ทักษะคิดวิเคราะห์–สื่อสาร–เข้าใจสังคมควบคู่กับเทคนิค

    หลายคนใช้ AI ช่วย coding แต่เริ่มระวังไม่ให้ใช้จน “ทื่อ” หรือไม่มีพื้นฐาน

    https://www.techspot.com/news/108574-universities-rethinking-computer-science-curriculum-response-ai-tools.html
    เมื่อก่อน ถ้าเรียนคอมฯ ก็ต้องเรียนเขียนโค้ด จดจำ syntax จัดการอัลกอริธึม…แต่วันนี้ AI อย่าง Copilot, ChatGPT หรือ Claude ก็ “เขียนให้เราได้หมด” → ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “จำเป็นไหมที่นักศึกษายังต้องเรียนเขียนโค้ดจาก 0?” จากรายงานของ TechSpot พบว่า: - หลายมหาวิทยาลัย เช่น Carnegie Mellon University (CMU) กำลัง “รีเซ็ต” หลักสูตร - เน้น “การคิดเชิงระบบ + ความเข้าใจพื้นฐาน AI” มากกว่าทักษะเชิงเทคนิคล้วน ๆ - นักศึกษาเริ่มใช้ AI เป็น “ไม้เท้า” แต่อาจลืมว่า “ยังต้องรู้ว่ากำลังเดินไปไหน” บางวิชาก็อนุญาตให้ใช้ AI ได้ตั้งแต่ปีแรก → สุดท้ายพบว่า นักศึกษาใช้ AI ทำการบ้าน แล้ว “ไม่เข้าใจโค้ดครึ่งหนึ่งที่ได้มา” → ทำให้หลายคนเริ่มกลับไปตั้งใจเรียนเขียนโค้ดเอง ผลกระทบยังไปไกลถึงตลาดแรงงาน → งานสาย software entry-level ถูกลดลงอย่างชัดเจน (ลด 65% ในรอบ 3 ปี ตามข้อมูลของ CompTIA) → นักศึกษาที่เคยคิดว่า “เรียนคอม = จบแล้วได้เงินเดือนดี” ก็เริ่มวางแผนเรียน minor ด้านอื่น ๆ เพิ่ม เช่น ความมั่นคงปลอดภัย, ปัญญาสังคม, หรือการเมือง มีข้อเสนอว่าวิทยาการคอมพิวเตอร์จะกลายเป็นเหมือน “วิชาศิลปศาสตร์ยุคใหม่” ที่ต้องผสานทักษะด้านเทคนิค + ความคิดเชิงวิพากษ์ + การสื่อสาร เพื่ออยู่รอดในยุคที่ AI เป็นเพื่อนร่วมงานทุกที่ ✅ หลายมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ ปรับหลักสูตรคอมพิวเตอร์ เน้น “AI literacy” และ “computational thinking”   • ลดการเน้น syntax ของภาษาโปรแกรม   • สนับสนุนวิชาข้ามศาสตร์ เช่น คอมพิวเตอร์ + ชีววิทยา, คอมฯ + นโยบาย ✅ Carnegie Mellon University เป็นหนึ่งในผู้นำการเปลี่ยนแปลง   • บางวิชาอนุญาตให้นักศึกษาใช้ AI ทำการบ้าน   • แต่พบว่า AI ทำให้ “หลงทาง” และไม่เข้าใจโค้ดจริง   • ทำให้นักศึกษาหลายคนกลับมาสนใจเรียน code อย่างตั้งใจอีกครั้ง ✅ NSF จัดโครงการ ‘Level Up AI’ เพื่อร่วมกำหนด “พื้นฐานด้าน AI” สำหรับนักศึกษาสายคอม   • ร่วมมือกับสมาคมวิจัย (Computing Research Association) และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ   • ระยะโครงการ 18 เดือน ✅ แนวโน้ม: คอมพิวเตอร์อาจกลายเป็นวิชา “พื้นฐาน” ที่เหมือนศิลปศาสตร์ยุคใหม่   • ต้องใช้ทักษะคิดวิเคราะห์–สื่อสาร–เข้าใจสังคมควบคู่กับเทคนิค ✅ หลายคนใช้ AI ช่วย coding แต่เริ่มระวังไม่ให้ใช้จน “ทื่อ” หรือไม่มีพื้นฐาน https://www.techspot.com/news/108574-universities-rethinking-computer-science-curriculum-response-ai-tools.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Universities are rethinking computer science curriculum in response to AI tools
    Generative AI is making its presence felt across academia, but its impact is most pronounced in computer science. The introduction of AI assistants by major tech companies...
    0 Comments 0 Shares 307 Views 0 Reviews
More Results