• #ศรีวัฒนธรรม จะพาไปร่วมกิจกรรมสานกระเป๋า ด้วยซองกาแฟ กับกลุ่มฝึกอาชีพชุมชนช่างนาค-สะพานยาว เขตคลองสาน
    การสานกระเป๋าจากซองกาแฟ เป็นการรีไซเคิลวัสดุเหลือใช้ เป็นการประหยัดเงิน และเป็นงานฝีมือที่สวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบงานประดิษฐ์ และรักษ์โลก
    อุปกรณ์
    ซองกาแฟสำเร็จรูปเปล่า
    กรรไกร
    เข็มเย็บผ้า
    ด้าย
    ผ้าสำหรับทำซับใน
    ซิป
    ไม้บรรทัด
    ดินสอ
    วิธีทำ
    เตรียมซองกาแฟ ล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง ตัดก้นและปากซองออก
    พับซองกาแฟตามแนวยาว กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร
    สอดหัวท้ายซองกาแฟเข้าด้วยกัน เย็บแม็กให้ติดกัน
    เริ่มสานซองกาแฟด้วยลายฟันปลา สานจากฐานขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้ขนาดตามต้องการ
    ตัดผ้าสำหรับทำซับในกระเป๋าให้มีขนาดเล็กกว่าใบกระเป๋า เย็บติดกับใบกระเป๋า
    เย็บซิปติดกับปากกระเป๋า
    เทคนิค
    เลือกซองกาแฟที่มีสีสันสวยงาม เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
    สามารถสานลายอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น ลายตาราง ลายขัด
    เพิ่มสายสะพายกระเป๋า โดยใช้เชือก หนัง หรือวัสดุอื่นๆ
    #อาสาพาสุข #สยามโสภา #ผู้สูงอายุ #ชุมชน #ฝึกอาชีพ #สานกระเป๋า #ตระกร้า #ซองกาแฟ #ชุมชนช่างนาค #เขตคลองสาน #thaitimes #thaitimesชุมชน
    #ศรีวัฒนธรรม จะพาไปร่วมกิจกรรมสานกระเป๋า ด้วยซองกาแฟ กับกลุ่มฝึกอาชีพชุมชนช่างนาค-สะพานยาว เขตคลองสาน การสานกระเป๋าจากซองกาแฟ เป็นการรีไซเคิลวัสดุเหลือใช้ เป็นการประหยัดเงิน และเป็นงานฝีมือที่สวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบงานประดิษฐ์ และรักษ์โลก อุปกรณ์ ซองกาแฟสำเร็จรูปเปล่า กรรไกร เข็มเย็บผ้า ด้าย ผ้าสำหรับทำซับใน ซิป ไม้บรรทัด ดินสอ วิธีทำ เตรียมซองกาแฟ ล้างให้สะอาด ตากให้แห้ง ตัดก้นและปากซองออก พับซองกาแฟตามแนวยาว กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร สอดหัวท้ายซองกาแฟเข้าด้วยกัน เย็บแม็กให้ติดกัน เริ่มสานซองกาแฟด้วยลายฟันปลา สานจากฐานขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้ขนาดตามต้องการ ตัดผ้าสำหรับทำซับในกระเป๋าให้มีขนาดเล็กกว่าใบกระเป๋า เย็บติดกับใบกระเป๋า เย็บซิปติดกับปากกระเป๋า เทคนิค เลือกซองกาแฟที่มีสีสันสวยงาม เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ สามารถสานลายอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น ลายตาราง ลายขัด เพิ่มสายสะพายกระเป๋า โดยใช้เชือก หนัง หรือวัสดุอื่นๆ #อาสาพาสุข #สยามโสภา #ผู้สูงอายุ #ชุมชน #ฝึกอาชีพ #สานกระเป๋า #ตระกร้า #ซองกาแฟ #ชุมชนช่างนาค #เขตคลองสาน #thaitimes #thaitimesชุมชน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 285 0 รีวิว
  • ตอนทำงานร้านซูชิ ในตลาด
    แถวรังสิตคลอง 4
    มีพม่า ลาว เขมร เยอะมาก
    (แต่พม่าเยอะสุด
    ที่รู้เพราะชาติอื่นมันคงไม่นุ่ง
    โสร่งเดินตอนค่ำๆ
    ช่วงก่อนเราปิดร้าน)

    ใกล้ๆ กันก็จะมีตึกที่ติดป้าย
    รับต่อ รับทำใบอนุญาตทำงาน
    เส้นนั้นมีตำรวจตระเวนบ่อย
    จับคนต่างด้าวอยู่เรื่อย
    แต่ก็ยังมีมาอยู่เรื่อย

    ก็น่าสงสัยว่า หรือมันมาจับ
    แต่พอเป็นพิธี หรือ
    มันมีบางคนที่จ่ายหนักพอ
    จะออกบัตรจริงมาได้
    หลังจากหนีมาทำงาน

    เพราะงั้น ถึงจะมาคอนเฟิร์มว่า
    "ลูกค้า ลูกจ้าง มีบัตรจริง"
    ก็ขออนุญาตไม่เชื่อละกัน
    เพราะเคยเจอชุมชนพวกนี้มาจริงๆ
    และมันมีพิรุธมากเหลือเกิน



    #แบน #พม่า #ต่างด้าว
    #ต่อต้าน #พรรคประชาชนพม่า
    ตอนทำงานร้านซูชิ ในตลาด แถวรังสิตคลอง 4 มีพม่า ลาว เขมร เยอะมาก (แต่พม่าเยอะสุด ที่รู้เพราะชาติอื่นมันคงไม่นุ่ง โสร่งเดินตอนค่ำๆ ช่วงก่อนเราปิดร้าน) ใกล้ๆ กันก็จะมีตึกที่ติดป้าย รับต่อ รับทำใบอนุญาตทำงาน เส้นนั้นมีตำรวจตระเวนบ่อย จับคนต่างด้าวอยู่เรื่อย แต่ก็ยังมีมาอยู่เรื่อย ก็น่าสงสัยว่า หรือมันมาจับ แต่พอเป็นพิธี หรือ มันมีบางคนที่จ่ายหนักพอ จะออกบัตรจริงมาได้ หลังจากหนีมาทำงาน เพราะงั้น ถึงจะมาคอนเฟิร์มว่า "ลูกค้า ลูกจ้าง มีบัตรจริง" ก็ขออนุญาตไม่เชื่อละกัน เพราะเคยเจอชุมชนพวกนี้มาจริงๆ และมันมีพิรุธมากเหลือเกิน 🤔🤔🤔🤔🤔🤔 #แบน #พม่า #ต่างด้าว #ต่อต้าน #พรรคประชาชนพม่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผยรายชื่อ 10 จว.ที่ได้รับงบในการบริหารจัดการน้ำมากที่สุด โดยอุบลฯ มาเป็นอันดับหนึ่ง พบ ปีงบประมาณ 2568 มีโครงการน้ำ 3 พันกว่าโครงการ รวมวงเงิน 1.1 แสนล้าน “หาญณรงค์ เยาวเลิศ” ชี้ โครงการใหญ่ ใช้งบสูง ไม่ได้แปลว่าจะแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งได้ แต่ขึ้นกับการบริหารจัดการ แนะ บริหารแบบองค์รวม ดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ระบุ ต้องประกาศ “เส้นทางน้ำหลาก” ในผังเมือง ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างทับเส้นทางน้ำ ต้องทำอุโมงค์ให้น้ำลอด
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000088129

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เผยรายชื่อ 10 จว.ที่ได้รับงบในการบริหารจัดการน้ำมากที่สุด โดยอุบลฯ มาเป็นอันดับหนึ่ง พบ ปีงบประมาณ 2568 มีโครงการน้ำ 3 พันกว่าโครงการ รวมวงเงิน 1.1 แสนล้าน “หาญณรงค์ เยาวเลิศ” ชี้ โครงการใหญ่ ใช้งบสูง ไม่ได้แปลว่าจะแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งได้ แต่ขึ้นกับการบริหารจัดการ แนะ บริหารแบบองค์รวม ดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ระบุ ต้องประกาศ “เส้นทางน้ำหลาก” ในผังเมือง ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างทับเส้นทางน้ำ ต้องทำอุโมงค์ให้น้ำลอด อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000088129 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Love
    Wow
    45
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1886 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ความเชื่อ#
    #การรับรู้#
    #ความคิด#
    🪷🪷
    _ความเชื่อ (ย่อ)
    ลอยน้ำมาจากทางเหนือ กับพระพี่น้อง บางตำนานว่า 3 บางตำนานว่า 5 ถูกอัญเชิญขึ้น ณ วัดโสธรในปัจจุบัน
    _ การรับรู้ ผู้มิมิตรท่านนึง กล่าวว่า หล่อขึ้นที่เชียงใหม่ (จำตรงตรงนี้ไว้) และเมื่อเกิดสงคราม เข้าประชิดเมือง จึงผูกแพลอยน้ำไป เพื่อรอดจากการเผาทำลาย และมาขึ้นที่วัดโสธรในปัจจุบัน
    _ ความคิด จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ชุมชนนี้เกิดขึ้นเพราะเป็นย่านการค้าขาย ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นปากอ่าวติดทะเล เมื่อมีชุมชน ก็มีศาสนสถาน (เป็นทุกอารยะธรรม) ในที่นี้ก็คือ วัด และศิลปะในองค์พระ คือ ศิลปะอยุธยาตอนปลาย และถูกแกะขึ้นจากหินทราย แบบหลายชิ้นมาประกอบกัน (ไม่ใช่การหล่อโลหะ) และยังพบพระพุทธรูปศิลปะแบบนี้ อีกหลายวัด ในบริเวณใกล้เคียงกันนี้ ....จากข้อมูลประกอบ จึงมีข้อสรุปที่ว่า ไม่ได้มาจากที่อื่น คงสร้างและอยู่ที่นี่มาตั้งแต่แรก
    ท่านผู้อ่านจะเชื่อแบบใด แล้วแต่ท่านเลย เพราะเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล.
    #ความเชื่อ# #การรับรู้# #ความคิด# 🪷🪷 _ความเชื่อ (ย่อ) ลอยน้ำมาจากทางเหนือ กับพระพี่น้อง บางตำนานว่า 3 บางตำนานว่า 5 ถูกอัญเชิญขึ้น ณ วัดโสธรในปัจจุบัน _ การรับรู้ ผู้มิมิตรท่านนึง กล่าวว่า หล่อขึ้นที่เชียงใหม่ (จำตรงตรงนี้ไว้) และเมื่อเกิดสงคราม เข้าประชิดเมือง จึงผูกแพลอยน้ำไป เพื่อรอดจากการเผาทำลาย และมาขึ้นที่วัดโสธรในปัจจุบัน _ ความคิด จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ชุมชนนี้เกิดขึ้นเพราะเป็นย่านการค้าขาย ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นปากอ่าวติดทะเล เมื่อมีชุมชน ก็มีศาสนสถาน (เป็นทุกอารยะธรรม) ในที่นี้ก็คือ วัด และศิลปะในองค์พระ คือ ศิลปะอยุธยาตอนปลาย และถูกแกะขึ้นจากหินทราย แบบหลายชิ้นมาประกอบกัน (ไม่ใช่การหล่อโลหะ) และยังพบพระพุทธรูปศิลปะแบบนี้ อีกหลายวัด ในบริเวณใกล้เคียงกันนี้ ....จากข้อมูลประกอบ จึงมีข้อสรุปที่ว่า ไม่ได้มาจากที่อื่น คงสร้างและอยู่ที่นี่มาตั้งแต่แรก 🙂😊🙏 ท่านผู้อ่านจะเชื่อแบบใด แล้วแต่ท่านเลย เพราะเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนละ 300 บาท คุณก็ได้ประสบการณ์ เดินป่า ขึ้นเขา เล่นน้ำตก แบบนี้!!!
    》1 ปี มีแค่ช่วงฤดูฝนเท่านั้น《
    ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
    ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด
    ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร
    ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่
    》》
    ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม
    ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ
    ●●●●●●●●●●●●
    ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ
    คนละ 600 บาท
    (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท)
    วันละ 24 คน เท่านั้น!!
    》เช็ควันว่าง เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532
    ไอดีไลน์ : 0899332762p
    ●●●●●●●●●●●●
    น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก
    ■■■■■■
    ☆ชมวีดีโอช่วงออกเดินทางถึงคลอง3
    》》
    https://youtu.be/OB-pj853V78?si=GvgJ2tgO99Ap5kbN

    ☆ชมวีดีโอช่วงคลอง 3 ไปน้ำตกชั้น 5
    》》
    https://youtu.be/EredihI1aU4?si=cqdoUpKu2TBYJpFC

    ☆ชมวีดีโอช่วงน้ำตกชั้น5ไป 7 และ ขาลง
    》》
    https://youtu.be/JaDDJV5sD1o?si=Wp-f9O13sj71XX3v
    ■■■■■■■■■■
    #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก #thaitimes #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #thaitimesเที่ยวไทย
    คนละ 300 บาท คุณก็ได้ประสบการณ์ เดินป่า ขึ้นเขา เล่นน้ำตก แบบนี้!!! 》1 ปี มีแค่ช่วงฤดูฝนเท่านั้น《 ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ 》》 ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg 《《 ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ ●●●●●●●●●●●● ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ คนละ 600 บาท (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท) วันละ 24 คน เท่านั้น!! 》เช็ควันว่าง 📞เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532 ไอดีไลน์ : 0899332762p ●●●●●●●●●●●● น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก ■■■■■■ ☆ชมวีดีโอช่วงออกเดินทางถึงคลอง3 》》 https://youtu.be/OB-pj853V78?si=GvgJ2tgO99Ap5kbN ☆ชมวีดีโอช่วงคลอง 3 ไปน้ำตกชั้น 5 》》 https://youtu.be/EredihI1aU4?si=cqdoUpKu2TBYJpFC ☆ชมวีดีโอช่วงน้ำตกชั้น5ไป 7 และ ขาลง 》》 https://youtu.be/JaDDJV5sD1o?si=Wp-f9O13sj71XX3v ■■■■■■■■■■ #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก #thaitimes #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #thaitimesเที่ยวไทย
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1328 มุมมอง 327 0 รีวิว
  • 19-09-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.40 ชื่อตอนว่า "FCUKING DAMN GOOD KILL(THEM ALL)" ดาหน้าตายห่ารายวัน แข่งทำยอดทะลุเป้า มรึงจะแข่งกันไปโอลิมปิคเหรอ? ระเบิดเพจเจอร์ แผนกิ๊กก๊อก! "สิ้นคิด" ที่เดรัจฉานมันจนตรอก ตั้งใจยั่วโมโหอิหร่าน เลบานอนโดยเฮซบอเลาะห์บอก "เดี๋ยวมรึงได้ตายห่าเป็นหมู่คณะแน่" แค่เพจเจอร์ ประปราย เจอพลีชีพไดนาไมค์อีกรอบ คราวนี้ เอาศูนย์การเยรูซาเล็มแม่งซะเลย! ชัดเจนแล้วว่า "อียิวสู้ตายถวายหัว แล้วจะได้ตายห่าสมใจนึกวังบูรพา" อย่าคิดว่าเหี้ยมะกันอยู่ไกลแล้วจะรอด มรึงรอดูระเบิดโผล่กลางเมืองให้ดีดี ทุกรัฐในอเมริกามีชุมชนมุสลิมหมดเกลี้ยง จะรัฐไหน ต้องไปเสี่ยงทายเอาเอง? เมื่อเกมส์มันเปลี่ยนจากสู้ซึ่งหน้าไม่ได้ เพราะแพ้ยับ หันมาก่อการร้ายแทน ซึ่งเหี้ย C มันก็ทำประจำอยู่แล้ว เหี้ยมา เหี้ยกลับไม่มีโกง ทหารยิวตายห่าวันละ 1000 ยังไม่หนำใจมรึงอีกเหรอ? อยากได้วันละ 10000 ก็ไม่บอก? จะรีบชิงไปตายห่ากันไปถึงไหน? มรึงดูสิ่งที่เหี้ยมันทำ ใช้เพจเจอร์ ไม่สามารถบรรลุเป้าใหญ่ได้ เพจเจอร์ระเบิดไป 2800 เครื่อง ตายห่าแค่ 9 มันจะได้อะไร สู้ทหารไม่ได้ เก่งแต่ไล่ฆ่าประชาชน นี่คือ "อียิว" เป้าหมายคือ "ท้าชนอิหร่าน เลบานอน" ไอ้ที่มรึงโดนทุกวันเนี่ย ตายห่าในสมรภูมิรบยังไม่พอ จะลากความตายให้เข้าสู่ชุมชนเมือง หวังลากประชากรควายยิวให้เข้าสู่สงครามเต็มตัว ให้เห็นด้วยกับสงคราม ทั้งๆ ที่มรึงเป็นคนเริ่มก่อสงครามเอง นี่แหละ สูตรสำเร็จความใคร่อีเหี้ยตอแหลจัญไรโลก ไม่มีไอ้อีหน้าไหน ระยำสลัดหมาได้เท่า "อียิว" อีกแล้ว เรื่องเหี้ยๆ มันเอาหมด! สโนว์เดนแฉยับ แผนใช้ระเบิดเพจเจอร์ มีมานานแล้ว เหี้ย C คือตัวการ สั่งการระเบิดโดยผ่านแบตเตอรี่ ส่งสัญญานรบกวน SOFTWARE ในเครื่องให้ร้อนจัดกระทันหัน ฆ่าได้ไม่กี่คน? แต่สิ่งที่จะตามมาคือ "โลกอาหรับ มุสลิม จะไม่หันไปใช้อุปกรณ์สื่อสารของตะวันตกอีกตลอดไป" ใครเจ๊งล่ะ? แผนใช้ครั้งเดียว ฉิบหายทั้งอุตสาหกรรม มันไม่ใช่โง่ดอก แต่มันต้องการล่มสลายทั้งโลก ทำลายทุกอย่าง เศรษฐกิจ การค้า การคลัง การเงิน ตลาดหุ้น โลจิสติค เอาให้เจ๊งกันหมดทั้งโลก เพื่อเป้าหมายเดียว "มาฆ่ากันเหอะ" กูไม่ยอมตายเดี่ยวอยู่แล้ว ข้ามวิกแป๊บ : ยามเมื่อแสงสาดส่อง สิ่งโสมมก็อยู่ไม่ได้ หลังอสส.สั่งฟ้อง 8 เจ้าหน้าที่ขนย้ายผู้ชุมนุมหน้าสภ.ตากใบ ปกติอีอัยกวย ไม่ทำห่าอะไรดอก วันวันจ้องจะหาแดร๊ก แต่งานนี้ใบสั่ง เดินเช็คบิลของเก่าให้ราบคาบ คดีตากใบ ที่วิญญานเหล่าวีรชนรอคอยการพิพากษาจากสวรรค์ ดอกนี้ มันจะส่งไปถึงคำสั่งฆ่า วิสามัญโดยตั้งใจไว้ก่อนแล้ว ใครเป็นนายกฯ ยุคนั้นกันล่ะ? ทำไมเค้าจะสาวไส้ไม่ถึง หลักฐานคามือมานานแล้ว แค่รอเวลาเช็คบิล ยามขาลง หมาไม่แล ทุกอย่างจะถูกเรียกคืนทั้งหมด อีเหลี่ยมเหี้ยมันไม่ได้กลัวคุกดอก เพราะมันไม่คิดจะอยู่ชัวร์ เผ่นแน่นอน ไม่จ่ายก็ต้องเผ่น ไปคนเดียวก็ไม่ได้ ลูกหลานเป็นตัวประกัน ต้องเอาไปทั้งโคตรเดรัจฉานตระกูล เพื่อไม่ให้เอามาต่อรองได้ แล้วค่อยไปตายห่านอกแผ่นดินไทย คดีตากใบ ใครก็ไม่รู้ สั่งให้รื้อ สั่งให้เคลียร์ทุกอย่างชัดเจน ใครเอี่ยวไม่เอี่ยว ใครมีส่วนฆ่าคนใต้หัวใจรักชาติ มรึงไม่รอด ใครไม่ทำ ใครละเว้นปฎิบัติหน้าที่ สั่งเชือดทันที ที่มาอีอัยกวยถึงได้ดิ้นพล่านช่วงนี้ เปิดคดี รื้อคดีกันเป็นว่าเล่น คนที่คุณคิดว่าไม่น่าจะใช่ คือคนบีบเกมส์อัยกวยเอง "ทหารสั่ง" โดยเฉพาะทหารที่เพิ่งจะตกงานมาหมาดๆ อุ๊ปส์! วันนี้อารมณ์ดี จะเผยแผนสวรรค์ให้รู้ 1 ข้อ หลายคนนึกไม่ออก มองไม่ทะลุ ว่าจะจัดการนักการเมืองชั่วในแผ่นดินนี้ยังไง ทหารเค้าเดินหมากล้ำลึกกว่านั้นเยอะ มรึงมองว่ายาก แต่ทหารมองว่าง่ายนิดเดียว แค่โดนคดีติดตัว แค่ยึดทรัพย์ทั้งหมด มรึงคิดว่ามันจะอยู่ให้โง่เหรอ? เผ่นกันออกนอกหมดทั้งคอก พร้อมเงินบาปเท่าที่เก็บได้นั่นแหละ เสธ.แดง ถูกมอบหมายให้มากวาดล้างบางไอ้อีหนักแผ่นดิน และอีจัญไรขายชาติ อีเหลี่ยมชั่วทั้งตระกูล มือไม่ถึงทำไม่ได้ ใจไม่เด็ดเดี่ยว ทำไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทรัพย์สินนักการเมืองที่โกงมา ที่ซื้อไว้ในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่ดิน ใบตราสารหนี้ หุ้น สังหาริมทรัพย์ ทั้งหมด รัฐยึดคืนได้โดยถูกกฎหมาย หลักศาลไคฟงมอบตราประทับให้เบ็ดเสร็จ งานนี้ ศาล กองทัพ วัง เค้าคุมเกมส์เบ็ดเสร็จนานแล้ว มรึงคิดว่าการที่อีเหลี่ยมชั่วกลับมาได้ ลุงตู่ไปกวักมือเรียกเข้ามาเพื่ออะไรกันล่ะ? เป้าหมายคือยึดทรัพย์สินคืนแผ่นดิน นี่คือคีย์ของเรื่องราวทั้งหมด แหล่งฟอกเงินของนักการเมืองทั้งหมด มีเหรอ ทหารไม่รู้? เค้าจ้องกันมาหลายปีแล้ว อะไรที่เหี้ยมันหวงที่สุด นั่นคือ "ทรัพย์สิน" ไงล่ะ เด็ดหัวใจเหี้ยออกมา เดี๋ยวมันเผ่นไปเอง ไม่ต้องไล่? มรึงรู้มั้ยว่า ทำไมทหารถึงจ้องตรงนี้ เพราะเปิดโพยดู ไอ้สัส ทรัพย์สินนักการเมืองในไทย มีรวมกันมากกว่า 5 แสนล้านบาท เงินเอามาจากไหนกันล่ะ? ล้างบางประเทศ คือยึดทรัพย์ ไล่นักการเมืองเหี้ยออกไป กำจัดสายป่านขบวนการขายชาติ แยกดินแดน ทั้งหมด อยู่ในแผนนานแล้ว! แค่รอโอกาสที่ใช่ จังหวะที่เหมาะสม ก็เวลานี้แหละ! ดูกันต่อไป อสรพิษโผล่ชัวร์ เหี้ยหางโผล่หมดแล้ว เผยไต๋หมดสิ้น เกมส์นี้ มือต้องถึง ใจต้องหนักแน่น ไม่พูดเยอะ "ฆ่าอย่างเดียว"

    ปล.สัญญานชัด เหี้ยเข้าสู่วิกฤตแล้ว เล่นทุกดอก เอาทุกเม็ด ไม่สนวิธีการ เพราะภาพสวยงามที่โลกจดจำ มันไม่มีเหลืออีกต่อไปแล้ว ขั้วใหม่เดินหมากชั้นสูง จะฆ่าอเมริกา ต้องล่ออียิว เพราะขี้ข้ายังไงก็ต้องช่วยนายใหญ่ พากันลงเหวดิ่งนรกทั้งหมู่คณะ ขั้วใหม่ ฆ่าอย่างเลือดเย็น ทำลายทุกอย่างที่อียิวสร้างเอาไว้ อาณาจักรมรึงล่มสลายชัวร์ ไปสร้างรัฐยิวใหม่ต่อน่ะ เดี๋ยวค่อยตามไปถล่มภายหลัง อีก 100 ปี แก้แค้นก็ยังไม่สาย? ล่าสุด อียิวขาดแคลนทุกอย่าง แม้แต่นายพล แม้แต่อังกฤษ อเมริกา นายพลระดับสั่งการก็ขาดแคลนหนัก เพราะไปติดอยู่ที่สวนสัตว์มอสโคว์ซะเยอะ เมื่อเดินเกมส์สงครามเต็มรูปแบบไม่ได้ ยิวก็ใช้วิธีที่มันถนัดคือก่อการร้ายไงล่ะ? ซึ่งมาทรงนี้ เข้าทางตรีน 3 ฮอ ทันที เหี้ยแค่ไหน ก็แค่ขี้ตรีน "ฮามาส ฮูตี เฮซบอเลาะห์" เพราะกูฆ่ามาเยอะแล้ว ตายห่าเป็นหมื่น โปรดดูวิธีการต่อสู้ รัสเซียใช้ทหารรับจ้าง WAGNER ภายใต้กองทัพ Z จัดการทหารนาโต้ ทหารรับจ้างเหี้ยมะกัน ด้านตะวันออกกลาง อิหร่านส่งเยเมนศิษย์หนองปลาไหล เลบานอนส่งเฮซบอเลาะห์ศิษย์ฉมวกขาว ปาเลสไตน์ส่งฮามาสศิษย์หนองปลาดู่ เข้าประกวด เหี้ยขี้ตรีนไอซิส ทหารอิสราเอล ทหารนาโต้ ตายห่าเกลื่อน ไม่ต้องนับศพ เพราะระเหยไปในอากาศ ครั้นพอจะหันมาล่อแปซิฟิค เจอทั้งจีน รัสเซีย อิหร่าน ร่วมซ้อมรบ 5 ทวีป มรึงยังต้องให้แปลต่อมุย? เหี้ยมันกระจอกกว่าที่มรึงคิด ทุกอย่างที่มันทำ ทำได้แต่เรื่องปาหี่ ฆ่าได้แต่พลเรือน เก่งแต่เด็ก สตรี คนชรา คนพิการ คนท้อง หมายังอายแทน! อียิวมันจนตรอกขั้นสูงสุดแล้ว สันดานโผล่ เหี้ยสุดกระดาน ไอ้ที่ออกมาประท้วงขับไล่อีแพะเนรคุณทันยา มันแค่สตรอรี่เอาตัวรอด? พวกมรึงต่างรู้เห็นการล้มตายของชาวปาเลสไตน์ต่อหน้าต่อตาทุกวัน พอความตายมาเยือนถึงหน้าประตูบ้าน เสือกจะล้างตัวเป็นคนดีขึ้นมาซะงั้น ไอ้สายพันธุ์ชาติชั่ว เลวระยำสลัดหมา อัปรีย์จัญไร ชิงหมามาเกิด? แม้แต่องค์กรเหี้ยสากลโลกยังอยู่ไม่ได้ มติอะไร เค้าก็ไม่สนแล้ว โลกเดินตามปูติน สีจิ้นผิงกันหมด แหกตาดูหน่อยน่ะ? อีเบียร์กระอักเลือด สั่งปิดพรมแดนเพื่อนบ้านแล้ว หนีปัญหาผู้อพยพเข้าเมือง ตั้งแต่ยุคอีป้าแมร์เคิล นั่นคือเปิดศึกเข้าบ้านไงล่ะ ม้าไม้เมืองทรอย เข้ามาอยู่แล้วทำอะไรจ๊ะ? ก่อการร้ายไงจ๊ะ? ใครจ่ายจ๊ะ? ก็เหี้ยยิวไงจ๊ะ? บั่นทองความมั่นคงอีเบียร์เหรอจ๊ะ? ใช่ไงจ๊ะอีโง่! แล้วมรึงยังเสือกจะไปรับใช้อียิวอีกเหรอจ๊ะ? ใช่สิจ๊ะ เพราะผู้นำกูเป็นขี้ข้าใต้ตรีนยิวไงล่ะจ๊ะ? ประเทศมรึงก็จบแล้วสิจ๊ะ? จะไปเหลือเหรอจ๊ะ? ไปกันหมดทั้งยุโรปล่ะจ๊ะ? เพราะฉายา "อีโง่ยุโรป" ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยไงล่ะจ๊ะ? จับตาดูเกมส์ฆ่าล้างโคตรอียิว คนตายแค่ 9 คน หรือจะเป็นสิบก็ช่าง ระเบิดเพจเจอร์มันเก่าไปแล้ว งวดนี้ มรึงต้องได้แดร๊ก "มินิคุ๊กกี้รสปลาหมึกย่าง" เท่านั้น เฮซบอเลาะห์ล็อคเป้า 3 เมืองใหญ่ เยรูซาเล็ม ไฮฟา เทลอาวีฟ ระเบิดพลีชีพต้องมา ไฮเปอร์โซนิคต้องแรง มรึงฆ่าพลเรือนกูเท่าไหร่ เดี๋ยวกูจัดหนักให้ 10 เท่า เสี้ยนจัดซะขนาดนี้ ไม่ต้องถึงมือลวกเพ่กูดอก แค่กูก็กระทืบมรึงตายคาตรีนได้สบาย สหบาทามาเต็ม เยเมน เลบานอน ซีเรีย อิรัก อิหร่าน ปาเลสไตน์ แม้แต่บางประเทศในแอฟริกาก็ประกาศท้ารบอียิวแล้ว มันส์ล่ะมรึง หากไม่มีรัสเซีย จีน เข้าร่วม มันก็แค่สงครามในภูมิภาค ยังไม่ใช่ WWIII อย่างที่อียิวต้องการ แก้เกมส์กันทันตาเห็น เพราะตอนนี้ ตะวันออกกลาง ไม่เหลือเป้าหมายให้ถล่มแล้ว พังราบคาบไปหมดเกลี้ยง ชุดใหญ่รัสเซีย จีน เค้าไปรวมตัวกันในแปซิฟิค เอเซียใต้หมดแล้ว เหี้ยดิ้นไม่หลุด ขั้วใหม่มีขุมกำลังมากกว่า และได้พันธมิตรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งรบนานวัน BRICS ยิ่งโตจนห้ามไม่อยู่ สกัดไม่ได้! ด้านสงครามเศรษฐกิจ จีนเดินหน้าทุบอุตสาหกรรมตะวันตก และอีขี้ข้าทั้งหลาย เดินหน้าแผนเส้นทางสายไหม ตบหน้าอีแขกภาระตะ ไหนมรึงคิดจะวัดรอยตรีนกูไง? ตามมาเลยเพื่อน เดี๋ยวได้เห็น เส้นสายสายไหม กับเส้นทางโรตี ใครจะไปถึงฝั่งฝันก่อนกัน? แค่มรึงจับมือเหี้ยยิว ชีวิตก็เปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว รอวัน BRICS ถีบออกอย่างเดียว อย่าซ่าส์ หากไม่แน่จริง อย่าคิดว่าแน่ หากยังต้องพึ่งพารัสเซีย จีน อยู่ บทเรียนไม่จำ

    ปล.2 COME ON.. คนระดับนี้ เป็นถึงเสธ.ทหาร ทหารราชองครักษ์ มีเหรอจะไม่รู้กฎระเบียบ วินัยมาเต็ม รู้ดีทุกอย่าง เคร่งครัดเสมอ แล้วทำไมถูกลงโทษ "ก็นายสั่งไงจ๊ะ" ทหารกล้าผู้เสียสละ ยอมเป็นแพะได้เสมอ เพื่อหมากที่วางไว้จะได้สมจริง รู้เท่านี้พอ.. ไอ้สัส!

    หมี CNN(ฆ่ากันทำไม? ได้อะไร? อะไรน่ะ อียิวมันเสี้ยนจัดขอมาเหรอ? แล้วไม่บอก จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้เลย อยากตายเป็นหมู่คณะก็ไม่บอก NATO EU มันไปไม่รอดแล้ว หนาวนี้มาแล้ว มรึงเตรียมโดนศึกหนัก ทั้งในและนอก ปล่อยให้มันฆ่ากันเองก่อน แล้วค่อยปูพรมเข้าไปยึดโดยคุณยายละม่อม ไม่ต้องเสียกระสุนซักนัด ยุโรปตีกันเละเทะ สภาพอย่างงี้ ยังจะรบ)
    19 กย. 67
    10.40 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    19-09-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.40 ชื่อตอนว่า "FCUKING DAMN GOOD KILL(THEM ALL)" ดาหน้าตายห่ารายวัน แข่งทำยอดทะลุเป้า มรึงจะแข่งกันไปโอลิมปิคเหรอ? ระเบิดเพจเจอร์ แผนกิ๊กก๊อก! "สิ้นคิด" ที่เดรัจฉานมันจนตรอก ตั้งใจยั่วโมโหอิหร่าน เลบานอนโดยเฮซบอเลาะห์บอก "เดี๋ยวมรึงได้ตายห่าเป็นหมู่คณะแน่" แค่เพจเจอร์ ประปราย เจอพลีชีพไดนาไมค์อีกรอบ คราวนี้ เอาศูนย์การเยรูซาเล็มแม่งซะเลย! ชัดเจนแล้วว่า "อียิวสู้ตายถวายหัว แล้วจะได้ตายห่าสมใจนึกวังบูรพา" อย่าคิดว่าเหี้ยมะกันอยู่ไกลแล้วจะรอด มรึงรอดูระเบิดโผล่กลางเมืองให้ดีดี ทุกรัฐในอเมริกามีชุมชนมุสลิมหมดเกลี้ยง จะรัฐไหน ต้องไปเสี่ยงทายเอาเอง? เมื่อเกมส์มันเปลี่ยนจากสู้ซึ่งหน้าไม่ได้ เพราะแพ้ยับ หันมาก่อการร้ายแทน ซึ่งเหี้ย C มันก็ทำประจำอยู่แล้ว เหี้ยมา เหี้ยกลับไม่มีโกง ทหารยิวตายห่าวันละ 1000 ยังไม่หนำใจมรึงอีกเหรอ? อยากได้วันละ 10000 ก็ไม่บอก? จะรีบชิงไปตายห่ากันไปถึงไหน? มรึงดูสิ่งที่เหี้ยมันทำ ใช้เพจเจอร์ ไม่สามารถบรรลุเป้าใหญ่ได้ เพจเจอร์ระเบิดไป 2800 เครื่อง ตายห่าแค่ 9 มันจะได้อะไร สู้ทหารไม่ได้ เก่งแต่ไล่ฆ่าประชาชน นี่คือ "อียิว" เป้าหมายคือ "ท้าชนอิหร่าน เลบานอน" ไอ้ที่มรึงโดนทุกวันเนี่ย ตายห่าในสมรภูมิรบยังไม่พอ จะลากความตายให้เข้าสู่ชุมชนเมือง หวังลากประชากรควายยิวให้เข้าสู่สงครามเต็มตัว ให้เห็นด้วยกับสงคราม ทั้งๆ ที่มรึงเป็นคนเริ่มก่อสงครามเอง นี่แหละ สูตรสำเร็จความใคร่อีเหี้ยตอแหลจัญไรโลก ไม่มีไอ้อีหน้าไหน ระยำสลัดหมาได้เท่า "อียิว" อีกแล้ว เรื่องเหี้ยๆ มันเอาหมด! สโนว์เดนแฉยับ แผนใช้ระเบิดเพจเจอร์ มีมานานแล้ว เหี้ย C คือตัวการ สั่งการระเบิดโดยผ่านแบตเตอรี่ ส่งสัญญานรบกวน SOFTWARE ในเครื่องให้ร้อนจัดกระทันหัน ฆ่าได้ไม่กี่คน? แต่สิ่งที่จะตามมาคือ "โลกอาหรับ มุสลิม จะไม่หันไปใช้อุปกรณ์สื่อสารของตะวันตกอีกตลอดไป" ใครเจ๊งล่ะ? แผนใช้ครั้งเดียว ฉิบหายทั้งอุตสาหกรรม มันไม่ใช่โง่ดอก แต่มันต้องการล่มสลายทั้งโลก ทำลายทุกอย่าง เศรษฐกิจ การค้า การคลัง การเงิน ตลาดหุ้น โลจิสติค เอาให้เจ๊งกันหมดทั้งโลก เพื่อเป้าหมายเดียว "มาฆ่ากันเหอะ" กูไม่ยอมตายเดี่ยวอยู่แล้ว ข้ามวิกแป๊บ : ยามเมื่อแสงสาดส่อง สิ่งโสมมก็อยู่ไม่ได้ หลังอสส.สั่งฟ้อง 8 เจ้าหน้าที่ขนย้ายผู้ชุมนุมหน้าสภ.ตากใบ ปกติอีอัยกวย ไม่ทำห่าอะไรดอก วันวันจ้องจะหาแดร๊ก แต่งานนี้ใบสั่ง เดินเช็คบิลของเก่าให้ราบคาบ คดีตากใบ ที่วิญญานเหล่าวีรชนรอคอยการพิพากษาจากสวรรค์ ดอกนี้ มันจะส่งไปถึงคำสั่งฆ่า วิสามัญโดยตั้งใจไว้ก่อนแล้ว ใครเป็นนายกฯ ยุคนั้นกันล่ะ? ทำไมเค้าจะสาวไส้ไม่ถึง หลักฐานคามือมานานแล้ว แค่รอเวลาเช็คบิล ยามขาลง หมาไม่แล ทุกอย่างจะถูกเรียกคืนทั้งหมด อีเหลี่ยมเหี้ยมันไม่ได้กลัวคุกดอก เพราะมันไม่คิดจะอยู่ชัวร์ เผ่นแน่นอน ไม่จ่ายก็ต้องเผ่น ไปคนเดียวก็ไม่ได้ ลูกหลานเป็นตัวประกัน ต้องเอาไปทั้งโคตรเดรัจฉานตระกูล เพื่อไม่ให้เอามาต่อรองได้ แล้วค่อยไปตายห่านอกแผ่นดินไทย คดีตากใบ ใครก็ไม่รู้ สั่งให้รื้อ สั่งให้เคลียร์ทุกอย่างชัดเจน ใครเอี่ยวไม่เอี่ยว ใครมีส่วนฆ่าคนใต้หัวใจรักชาติ มรึงไม่รอด ใครไม่ทำ ใครละเว้นปฎิบัติหน้าที่ สั่งเชือดทันที ที่มาอีอัยกวยถึงได้ดิ้นพล่านช่วงนี้ เปิดคดี รื้อคดีกันเป็นว่าเล่น คนที่คุณคิดว่าไม่น่าจะใช่ คือคนบีบเกมส์อัยกวยเอง "ทหารสั่ง" โดยเฉพาะทหารที่เพิ่งจะตกงานมาหมาดๆ อุ๊ปส์! วันนี้อารมณ์ดี จะเผยแผนสวรรค์ให้รู้ 1 ข้อ หลายคนนึกไม่ออก มองไม่ทะลุ ว่าจะจัดการนักการเมืองชั่วในแผ่นดินนี้ยังไง ทหารเค้าเดินหมากล้ำลึกกว่านั้นเยอะ มรึงมองว่ายาก แต่ทหารมองว่าง่ายนิดเดียว แค่โดนคดีติดตัว แค่ยึดทรัพย์ทั้งหมด มรึงคิดว่ามันจะอยู่ให้โง่เหรอ? เผ่นกันออกนอกหมดทั้งคอก พร้อมเงินบาปเท่าที่เก็บได้นั่นแหละ เสธ.แดง ถูกมอบหมายให้มากวาดล้างบางไอ้อีหนักแผ่นดิน และอีจัญไรขายชาติ อีเหลี่ยมชั่วทั้งตระกูล มือไม่ถึงทำไม่ได้ ใจไม่เด็ดเดี่ยว ทำไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทรัพย์สินนักการเมืองที่โกงมา ที่ซื้อไว้ในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่ดิน ใบตราสารหนี้ หุ้น สังหาริมทรัพย์ ทั้งหมด รัฐยึดคืนได้โดยถูกกฎหมาย หลักศาลไคฟงมอบตราประทับให้เบ็ดเสร็จ งานนี้ ศาล กองทัพ วัง เค้าคุมเกมส์เบ็ดเสร็จนานแล้ว มรึงคิดว่าการที่อีเหลี่ยมชั่วกลับมาได้ ลุงตู่ไปกวักมือเรียกเข้ามาเพื่ออะไรกันล่ะ? เป้าหมายคือยึดทรัพย์สินคืนแผ่นดิน นี่คือคีย์ของเรื่องราวทั้งหมด แหล่งฟอกเงินของนักการเมืองทั้งหมด มีเหรอ ทหารไม่รู้? เค้าจ้องกันมาหลายปีแล้ว อะไรที่เหี้ยมันหวงที่สุด นั่นคือ "ทรัพย์สิน" ไงล่ะ เด็ดหัวใจเหี้ยออกมา เดี๋ยวมันเผ่นไปเอง ไม่ต้องไล่? มรึงรู้มั้ยว่า ทำไมทหารถึงจ้องตรงนี้ เพราะเปิดโพยดู ไอ้สัส ทรัพย์สินนักการเมืองในไทย มีรวมกันมากกว่า 5 แสนล้านบาท เงินเอามาจากไหนกันล่ะ? ล้างบางประเทศ คือยึดทรัพย์ ไล่นักการเมืองเหี้ยออกไป กำจัดสายป่านขบวนการขายชาติ แยกดินแดน ทั้งหมด อยู่ในแผนนานแล้ว! แค่รอโอกาสที่ใช่ จังหวะที่เหมาะสม ก็เวลานี้แหละ! ดูกันต่อไป อสรพิษโผล่ชัวร์ เหี้ยหางโผล่หมดแล้ว เผยไต๋หมดสิ้น เกมส์นี้ มือต้องถึง ใจต้องหนักแน่น ไม่พูดเยอะ "ฆ่าอย่างเดียว" ปล.สัญญานชัด เหี้ยเข้าสู่วิกฤตแล้ว เล่นทุกดอก เอาทุกเม็ด ไม่สนวิธีการ เพราะภาพสวยงามที่โลกจดจำ มันไม่มีเหลืออีกต่อไปแล้ว ขั้วใหม่เดินหมากชั้นสูง จะฆ่าอเมริกา ต้องล่ออียิว เพราะขี้ข้ายังไงก็ต้องช่วยนายใหญ่ พากันลงเหวดิ่งนรกทั้งหมู่คณะ ขั้วใหม่ ฆ่าอย่างเลือดเย็น ทำลายทุกอย่างที่อียิวสร้างเอาไว้ อาณาจักรมรึงล่มสลายชัวร์ ไปสร้างรัฐยิวใหม่ต่อน่ะ เดี๋ยวค่อยตามไปถล่มภายหลัง อีก 100 ปี แก้แค้นก็ยังไม่สาย? ล่าสุด อียิวขาดแคลนทุกอย่าง แม้แต่นายพล แม้แต่อังกฤษ อเมริกา นายพลระดับสั่งการก็ขาดแคลนหนัก เพราะไปติดอยู่ที่สวนสัตว์มอสโคว์ซะเยอะ เมื่อเดินเกมส์สงครามเต็มรูปแบบไม่ได้ ยิวก็ใช้วิธีที่มันถนัดคือก่อการร้ายไงล่ะ? ซึ่งมาทรงนี้ เข้าทางตรีน 3 ฮอ ทันที เหี้ยแค่ไหน ก็แค่ขี้ตรีน "ฮามาส ฮูตี เฮซบอเลาะห์" เพราะกูฆ่ามาเยอะแล้ว ตายห่าเป็นหมื่น โปรดดูวิธีการต่อสู้ รัสเซียใช้ทหารรับจ้าง WAGNER ภายใต้กองทัพ Z จัดการทหารนาโต้ ทหารรับจ้างเหี้ยมะกัน ด้านตะวันออกกลาง อิหร่านส่งเยเมนศิษย์หนองปลาไหล เลบานอนส่งเฮซบอเลาะห์ศิษย์ฉมวกขาว ปาเลสไตน์ส่งฮามาสศิษย์หนองปลาดู่ เข้าประกวด เหี้ยขี้ตรีนไอซิส ทหารอิสราเอล ทหารนาโต้ ตายห่าเกลื่อน ไม่ต้องนับศพ เพราะระเหยไปในอากาศ ครั้นพอจะหันมาล่อแปซิฟิค เจอทั้งจีน รัสเซีย อิหร่าน ร่วมซ้อมรบ 5 ทวีป มรึงยังต้องให้แปลต่อมุย? เหี้ยมันกระจอกกว่าที่มรึงคิด ทุกอย่างที่มันทำ ทำได้แต่เรื่องปาหี่ ฆ่าได้แต่พลเรือน เก่งแต่เด็ก สตรี คนชรา คนพิการ คนท้อง หมายังอายแทน! อียิวมันจนตรอกขั้นสูงสุดแล้ว สันดานโผล่ เหี้ยสุดกระดาน ไอ้ที่ออกมาประท้วงขับไล่อีแพะเนรคุณทันยา มันแค่สตรอรี่เอาตัวรอด? พวกมรึงต่างรู้เห็นการล้มตายของชาวปาเลสไตน์ต่อหน้าต่อตาทุกวัน พอความตายมาเยือนถึงหน้าประตูบ้าน เสือกจะล้างตัวเป็นคนดีขึ้นมาซะงั้น ไอ้สายพันธุ์ชาติชั่ว เลวระยำสลัดหมา อัปรีย์จัญไร ชิงหมามาเกิด? แม้แต่องค์กรเหี้ยสากลโลกยังอยู่ไม่ได้ มติอะไร เค้าก็ไม่สนแล้ว โลกเดินตามปูติน สีจิ้นผิงกันหมด แหกตาดูหน่อยน่ะ? อีเบียร์กระอักเลือด สั่งปิดพรมแดนเพื่อนบ้านแล้ว หนีปัญหาผู้อพยพเข้าเมือง ตั้งแต่ยุคอีป้าแมร์เคิล นั่นคือเปิดศึกเข้าบ้านไงล่ะ ม้าไม้เมืองทรอย เข้ามาอยู่แล้วทำอะไรจ๊ะ? ก่อการร้ายไงจ๊ะ? ใครจ่ายจ๊ะ? ก็เหี้ยยิวไงจ๊ะ? บั่นทองความมั่นคงอีเบียร์เหรอจ๊ะ? ใช่ไงจ๊ะอีโง่! แล้วมรึงยังเสือกจะไปรับใช้อียิวอีกเหรอจ๊ะ? ใช่สิจ๊ะ เพราะผู้นำกูเป็นขี้ข้าใต้ตรีนยิวไงล่ะจ๊ะ? ประเทศมรึงก็จบแล้วสิจ๊ะ? จะไปเหลือเหรอจ๊ะ? ไปกันหมดทั้งยุโรปล่ะจ๊ะ? เพราะฉายา "อีโง่ยุโรป" ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยไงล่ะจ๊ะ? จับตาดูเกมส์ฆ่าล้างโคตรอียิว คนตายแค่ 9 คน หรือจะเป็นสิบก็ช่าง ระเบิดเพจเจอร์มันเก่าไปแล้ว งวดนี้ มรึงต้องได้แดร๊ก "มินิคุ๊กกี้รสปลาหมึกย่าง" เท่านั้น เฮซบอเลาะห์ล็อคเป้า 3 เมืองใหญ่ เยรูซาเล็ม ไฮฟา เทลอาวีฟ ระเบิดพลีชีพต้องมา ไฮเปอร์โซนิคต้องแรง มรึงฆ่าพลเรือนกูเท่าไหร่ เดี๋ยวกูจัดหนักให้ 10 เท่า เสี้ยนจัดซะขนาดนี้ ไม่ต้องถึงมือลวกเพ่กูดอก แค่กูก็กระทืบมรึงตายคาตรีนได้สบาย สหบาทามาเต็ม เยเมน เลบานอน ซีเรีย อิรัก อิหร่าน ปาเลสไตน์ แม้แต่บางประเทศในแอฟริกาก็ประกาศท้ารบอียิวแล้ว มันส์ล่ะมรึง หากไม่มีรัสเซีย จีน เข้าร่วม มันก็แค่สงครามในภูมิภาค ยังไม่ใช่ WWIII อย่างที่อียิวต้องการ แก้เกมส์กันทันตาเห็น เพราะตอนนี้ ตะวันออกกลาง ไม่เหลือเป้าหมายให้ถล่มแล้ว พังราบคาบไปหมดเกลี้ยง ชุดใหญ่รัสเซีย จีน เค้าไปรวมตัวกันในแปซิฟิค เอเซียใต้หมดแล้ว เหี้ยดิ้นไม่หลุด ขั้วใหม่มีขุมกำลังมากกว่า และได้พันธมิตรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งรบนานวัน BRICS ยิ่งโตจนห้ามไม่อยู่ สกัดไม่ได้! ด้านสงครามเศรษฐกิจ จีนเดินหน้าทุบอุตสาหกรรมตะวันตก และอีขี้ข้าทั้งหลาย เดินหน้าแผนเส้นทางสายไหม ตบหน้าอีแขกภาระตะ ไหนมรึงคิดจะวัดรอยตรีนกูไง? ตามมาเลยเพื่อน เดี๋ยวได้เห็น เส้นสายสายไหม กับเส้นทางโรตี ใครจะไปถึงฝั่งฝันก่อนกัน? แค่มรึงจับมือเหี้ยยิว ชีวิตก็เปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว รอวัน BRICS ถีบออกอย่างเดียว อย่าซ่าส์ หากไม่แน่จริง อย่าคิดว่าแน่ หากยังต้องพึ่งพารัสเซีย จีน อยู่ บทเรียนไม่จำ ปล.2 COME ON.. คนระดับนี้ เป็นถึงเสธ.ทหาร ทหารราชองครักษ์ มีเหรอจะไม่รู้กฎระเบียบ วินัยมาเต็ม รู้ดีทุกอย่าง เคร่งครัดเสมอ แล้วทำไมถูกลงโทษ "ก็นายสั่งไงจ๊ะ" ทหารกล้าผู้เสียสละ ยอมเป็นแพะได้เสมอ เพื่อหมากที่วางไว้จะได้สมจริง รู้เท่านี้พอ.. ไอ้สัส! หมี CNN(ฆ่ากันทำไม? ได้อะไร? อะไรน่ะ อียิวมันเสี้ยนจัดขอมาเหรอ? แล้วไม่บอก จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้เลย อยากตายเป็นหมู่คณะก็ไม่บอก NATO EU มันไปไม่รอดแล้ว หนาวนี้มาแล้ว มรึงเตรียมโดนศึกหนัก ทั้งในและนอก ปล่อยให้มันฆ่ากันเองก่อน แล้วค่อยปูพรมเข้าไปยึดโดยคุณยายละม่อม ไม่ต้องเสียกระสุนซักนัด ยุโรปตีกันเละเทะ สภาพอย่างงี้ ยังจะรบ) 19 กย. 67 10.40 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัล ได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยStony Brookอันดับหนึ่งของนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำ

    19 กันยายน2567-รายงานข่าว SMCP ระบุว่า Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและเจ้าของรางวัล Fujihara Awardในปี 2012 ล่าสุดได้ลาออกจากมหาวิทยาลัย Stony Brook( SBU)ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยรัอัดฐอัน 1 ของนิวยอร์ก เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัย Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน

    Fukaya เคยเป็นสมาชิกถาวรของ Simons Centre for Geometry and Physics ที่ Stony Brook เป็นที่รู้จักจากผลงานด้านเรขาคณิตซิมเพล็กติกและ เรขาคณิตรีมันเนียน ผลงานพื้นฐานมากมายของเขาต่อคณิตศาสตร์รวมถึงการค้นพบหมวดหมู่ฟูกายะตามชื่อของเขา

    ล่าสุดศาสตราจารย์Fukaya ได้ไปบรรยายครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยจีน Tsinghua เมื่อวันที่ 11 กันยายน ตามข้อมูลจาก Yau Mathematical Sciences Centre ของมหาวิทยาลัย

    หลักสูตรเปิดเกี่ยวกับเรขาคณิตซิมเพล็กติกของเขา ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับพื้นที่ที่วัตถุ เช่น ดาวเคราะห์และอนุภาคเคลื่อนที่และโต้ตอบกัน ดึงดูดนักศึกษาและครูจำนวนมาก โดยศูนย์ดังกล่าวได้รายงานเรื่องนี้ในบัญชี WeChat อย่างเป็นทางการ

    ในวิดีโอที่ศูนย์Yau Mathematical Science แชร์เผยแพร่ ฟูกายะกล่าวว่านักเรียนจีนทำให้เขานึกถึงนักเรียนญี่ปุ่นสมัยยังเด็ก ที่มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างมากในการเรียนคณิตศาสตร์

    เขาแสดงความหวังว่าเมื่อมีนักวิจัยที่เกิดในจีนกลับมาสอนที่นั่นมากขึ้น ชุมชนนักคณิตศาสตร์ที่มีทักษะสูงและได้รับการศึกษาในประเทศก็จะเติบโตต่อไป

    ทั้งนี้นโยบายและวิสัยทัศน์ของจีนที่ ตั้งเป้าดึงดูดคนเก่งด้าน STEM (Science-Technology-Engineering-Mathematic) ให้มากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการพึ่งพาตนเองด้านวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสู่ความเป็นเลิศ

    ที่มา https://www.scmp.com/news/china/science/article/3279101/respected-mathematician-kenji-fukaya-leaves-us-teach-chinas-tsinghua-university

    #Thaitimes
    Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัล ได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยStony Brookอันดับหนึ่งของนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำ 19 กันยายน2567-รายงานข่าว SMCP ระบุว่า Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและเจ้าของรางวัล Fujihara Awardในปี 2012 ล่าสุดได้ลาออกจากมหาวิทยาลัย Stony Brook( SBU)ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยรัอัดฐอัน 1 ของนิวยอร์ก เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัย Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน Fukaya เคยเป็นสมาชิกถาวรของ Simons Centre for Geometry and Physics ที่ Stony Brook เป็นที่รู้จักจากผลงานด้านเรขาคณิตซิมเพล็กติกและ เรขาคณิตรีมันเนียน ผลงานพื้นฐานมากมายของเขาต่อคณิตศาสตร์รวมถึงการค้นพบหมวดหมู่ฟูกายะตามชื่อของเขา ล่าสุดศาสตราจารย์Fukaya ได้ไปบรรยายครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยจีน Tsinghua เมื่อวันที่ 11 กันยายน ตามข้อมูลจาก Yau Mathematical Sciences Centre ของมหาวิทยาลัย หลักสูตรเปิดเกี่ยวกับเรขาคณิตซิมเพล็กติกของเขา ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับพื้นที่ที่วัตถุ เช่น ดาวเคราะห์และอนุภาคเคลื่อนที่และโต้ตอบกัน ดึงดูดนักศึกษาและครูจำนวนมาก โดยศูนย์ดังกล่าวได้รายงานเรื่องนี้ในบัญชี WeChat อย่างเป็นทางการ ในวิดีโอที่ศูนย์Yau Mathematical Science แชร์เผยแพร่ ฟูกายะกล่าวว่านักเรียนจีนทำให้เขานึกถึงนักเรียนญี่ปุ่นสมัยยังเด็ก ที่มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างมากในการเรียนคณิตศาสตร์ เขาแสดงความหวังว่าเมื่อมีนักวิจัยที่เกิดในจีนกลับมาสอนที่นั่นมากขึ้น ชุมชนนักคณิตศาสตร์ที่มีทักษะสูงและได้รับการศึกษาในประเทศก็จะเติบโตต่อไป ทั้งนี้นโยบายและวิสัยทัศน์ของจีนที่ ตั้งเป้าดึงดูดคนเก่งด้าน STEM (Science-Technology-Engineering-Mathematic) ให้มากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการพึ่งพาตนเองด้านวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสู่ความเป็นเลิศ ที่มา https://www.scmp.com/news/china/science/article/3279101/respected-mathematician-kenji-fukaya-leaves-us-teach-chinas-tsinghua-university #Thaitimes
    WWW.SCMP.COM
    Respected mathematician Kenji Fukaya leaves US for China’s Tsinghua University
    In a video, Fukaya said Chinese students reminded him of Japanese students’ strong focus and dedication to studying mathematics.
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1243 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่แหละอเมริกา! Angel Reese นักบาสหญิงผิวสีดาวเด่นของสหรัฐประกาศทิ้งอเมริกาอย่างถาวรเพราะ“ ที่นี่ไม่มีความเคารพให้เกียรติตัวเธอ(“No Respect Here”)

    19 กันยายน 2567 -รายงานข่าวสื่อออนไลน์ระบุว่าแองเจิล รีส หนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในวงการบาสเกตบอลหญิง ได้ประกาศการตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวร ประเทศประชาธิปไตย ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลกกีฬา รีสซึ่งครองความยิ่งใหญ่ทั้งในสนามและนอกสนามจนทำให้แฟนๆ ต่างชื่นชอบเธอ ได้อ้างถึงสาเหตุหลักที่ทำให้เธอออกจากทีมเนื่องจากขาดความเคารพและชื่นชมในความสามารถและความพยายามของเธอ

    ประวัติ แองเจิล รีสเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2002 เป็นนักบาสเก็ตบอลมืออาชีพชาวอเมริกันของทีม Chicago Skyในสมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ (WNBA) มีชื่อเล่นว่า " Bayou-Barbie " และ " Chi-Barbie "

    เส้นทางสู่การเป็นดาราของรีสนั้นน่าทึ่งมาก ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เธอครองความสำเร็จในสนามบาสเกตบอลระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไปจนถึงผลงานอันโดดเด่นของเธอที่มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ เธอได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่าเธอมีความสามารถที่โดดเด่น การผสมผสานระหว่างขนาด ทักษะ และความแข็งแกร่งของเธอทำให้เธอเป็นกำลังสำคัญที่ต้องจับตามองในสนาม และเธอก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นบาสเกตบอลหญิงระดับวิทยาลัยที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลาอันรวดเร็ว

    การเปลี่ยนแปลงของรีสสู่ระดับมืออาชีพนั้นราบรื่นมาก เธอถูกดราฟต์เข้าสู่ สมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ WNBA และสร้างผลงานในทันที โดยแสดงความสามารถของเธอและได้รับคำชื่นชมจากแฟนๆ และนักวิเคราะห์ แม้จะประสบความสำเร็จในสนาม แต่รีสก็มักจะพูดถึงความท้าทายที่เธอต้องเผชิญนอกสนามอยู่เสมอ รวมถึงการไม่ได้รับการยอมรับและความเคารพที่เธอรู้สึกว่าเธอสมควรได้รับ

    ในขณะที่แองเจิล รีสเตรียมตัวเริ่มต้นบทต่อไปในชีวิตและอาชีพการงาน เธอทิ้งมรดกแห่งความเป็นเลิศและความยืดหยุ่นเอาไว้ การตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาของเธอเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่นักกีฬาทุกคนรู้สึกได้รับการเคารพและมีคุณค่า รีสยังไม่ได้ประกาศว่าเธอวางแผนที่จะดำเนินอาชีพต่อไปที่ใด แต่ไม่มีข้อสงสัยว่าเธอจะยังคงประสบความสำเร็จต่อไปไม่ว่าจะไปที่ใด

    การตัดสินใจของแองเจิล รีสที่จะออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวรเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในโลกกีฬา ซึ่งเน้นย้ำถึงความท้าทายที่นักกีฬา โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสีต้องเผชิญในการได้รับความเคารพและการยอมรับที่สมควรได้รับ การจากไปของเธอเป็นการสูญเสียสำหรับชุมชนบาสเก็ตบอล แต่ยังเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย ในขณะที่รีสก้าวไปข้างหน้าในอาชีพการงานของเธอ เรื่องราวของเธอจะยังคงเป็นแรงบันดาลใจและท้าทายผู้ที่ยังอยู่ในสหรัฐอเมริกาต่อไป เป็นการเตือนใจว่าความสามารถและความทุ่มเทสมควรได้รับการเคารพและการชื่นชม และการทำงานเพื่อสร้างวัฒนธรรมกีฬาที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันมากขึ้นยังคงดำเนินต่อไป

    #Thaitimes
    นี่แหละอเมริกา! Angel Reese นักบาสหญิงผิวสีดาวเด่นของสหรัฐประกาศทิ้งอเมริกาอย่างถาวรเพราะ“ ที่นี่ไม่มีความเคารพให้เกียรติตัวเธอ(“No Respect Here”) 19 กันยายน 2567 -รายงานข่าวสื่อออนไลน์ระบุว่าแองเจิล รีส หนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในวงการบาสเกตบอลหญิง ได้ประกาศการตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวร ประเทศประชาธิปไตย ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลกกีฬา รีสซึ่งครองความยิ่งใหญ่ทั้งในสนามและนอกสนามจนทำให้แฟนๆ ต่างชื่นชอบเธอ ได้อ้างถึงสาเหตุหลักที่ทำให้เธอออกจากทีมเนื่องจากขาดความเคารพและชื่นชมในความสามารถและความพยายามของเธอ ประวัติ แองเจิล รีสเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2002 เป็นนักบาสเก็ตบอลมืออาชีพชาวอเมริกันของทีม Chicago Skyในสมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ (WNBA) มีชื่อเล่นว่า " Bayou-Barbie " และ " Chi-Barbie " เส้นทางสู่การเป็นดาราของรีสนั้นน่าทึ่งมาก ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เธอครองความสำเร็จในสนามบาสเกตบอลระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไปจนถึงผลงานอันโดดเด่นของเธอที่มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ เธอได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่าเธอมีความสามารถที่โดดเด่น การผสมผสานระหว่างขนาด ทักษะ และความแข็งแกร่งของเธอทำให้เธอเป็นกำลังสำคัญที่ต้องจับตามองในสนาม และเธอก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นบาสเกตบอลหญิงระดับวิทยาลัยที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลาอันรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของรีสสู่ระดับมืออาชีพนั้นราบรื่นมาก เธอถูกดราฟต์เข้าสู่ สมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ WNBA และสร้างผลงานในทันที โดยแสดงความสามารถของเธอและได้รับคำชื่นชมจากแฟนๆ และนักวิเคราะห์ แม้จะประสบความสำเร็จในสนาม แต่รีสก็มักจะพูดถึงความท้าทายที่เธอต้องเผชิญนอกสนามอยู่เสมอ รวมถึงการไม่ได้รับการยอมรับและความเคารพที่เธอรู้สึกว่าเธอสมควรได้รับ ในขณะที่แองเจิล รีสเตรียมตัวเริ่มต้นบทต่อไปในชีวิตและอาชีพการงาน เธอทิ้งมรดกแห่งความเป็นเลิศและความยืดหยุ่นเอาไว้ การตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาของเธอเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่นักกีฬาทุกคนรู้สึกได้รับการเคารพและมีคุณค่า รีสยังไม่ได้ประกาศว่าเธอวางแผนที่จะดำเนินอาชีพต่อไปที่ใด แต่ไม่มีข้อสงสัยว่าเธอจะยังคงประสบความสำเร็จต่อไปไม่ว่าจะไปที่ใด การตัดสินใจของแองเจิล รีสที่จะออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวรเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในโลกกีฬา ซึ่งเน้นย้ำถึงความท้าทายที่นักกีฬา โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสีต้องเผชิญในการได้รับความเคารพและการยอมรับที่สมควรได้รับ การจากไปของเธอเป็นการสูญเสียสำหรับชุมชนบาสเก็ตบอล แต่ยังเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย ในขณะที่รีสก้าวไปข้างหน้าในอาชีพการงานของเธอ เรื่องราวของเธอจะยังคงเป็นแรงบันดาลใจและท้าทายผู้ที่ยังอยู่ในสหรัฐอเมริกาต่อไป เป็นการเตือนใจว่าความสามารถและความทุ่มเทสมควรได้รับการเคารพและการชื่นชม และการทำงานเพื่อสร้างวัฒนธรรมกีฬาที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันมากขึ้นยังคงดำเนินต่อไป #Thaitimes
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1221 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nawa Living Condo : นวลิฟวิ่งคอนโด นวมินทร์75

    คอนโดติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (อนาคต) ใกล้ MRT สายสีส้ม และ BTS สายสีเหลือง เชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้หลายสาย ใกล้ทางด่วนเกษตร-นวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพ

    บนอีกหนึ่งทำเลคุณภาพ จำนวน 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชน แหล่งของกินของใช้อุดมสมบูรณ์ แวดล้อมด้วยโรงเรียน โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้าครบครันเดินทางสะดวก ติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (อนาคต) ใกล้ MRT สายสีส้ม และ BTS สายสีเหลือง

    **สิ่งอำนวยความสะดวก**

    - โถงต้อนรับ
    - ห้องจดหมาย
    - ที่จอดรถระบบ Bluetooth Access
    - ห้องอ่านหนังสือ
    - ห้องออกกำลังกาย
    - เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
    - ลิฟต์โดยสาร
    - Access Control Card
    - CCTV

    **สถานที่ใกล้เคียง**

    - เดอะมอลล์ บางกะปิ
    - แมคโคร บางกะปิ
    - โลตัส บางกะปิ
    - ตลาดอินทรารักษ์
    - NIDA
    - สถานีตำรวจโยธินพัฒนา
    - 7-Eleven
    - รร.โสมาภา
    - รร.พระมารดานิจจานุเคราะห์
    - รร.อินเตอร์คิดส์ เสรีไทย
    - รพ.สิรินาถ บึงกุ่ม
    - รพ.นวเวช
    - รพ.เวชธานี
    - ท็อปส์มาร์เก็ต นวมินทร์
    - ฟู้ดแลนด์ นวมินทร์
    - มาร์เก็ตเพลส นวมินทร์
    - รพ.เวชธานี

    -------------------------------------------
    สนใจสอบถามข้อมูลที่
    โทร.081-822-6553
    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน

    Nawa Living Condo : นวลิฟวิ่งคอนโด นวมินทร์75 คอนโดติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (อนาคต) ใกล้ MRT สายสีส้ม และ BTS สายสีเหลือง เชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้หลายสาย ใกล้ทางด่วนเกษตร-นวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพ บนอีกหนึ่งทำเลคุณภาพ จำนวน 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชน แหล่งของกินของใช้อุดมสมบูรณ์ แวดล้อมด้วยโรงเรียน โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้าครบครันเดินทางสะดวก ติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (อนาคต) ใกล้ MRT สายสีส้ม และ BTS สายสีเหลือง **สิ่งอำนวยความสะดวก** - โถงต้อนรับ - ห้องจดหมาย - ที่จอดรถระบบ Bluetooth Access - ห้องอ่านหนังสือ - ห้องออกกำลังกาย - เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. - ลิฟต์โดยสาร - Access Control Card - CCTV **สถานที่ใกล้เคียง** - เดอะมอลล์ บางกะปิ - แมคโคร บางกะปิ - โลตัส บางกะปิ - ตลาดอินทรารักษ์ - NIDA - สถานีตำรวจโยธินพัฒนา - 7-Eleven - รร.โสมาภา - รร.พระมารดานิจจานุเคราะห์ - รร.อินเตอร์คิดส์ เสรีไทย - รพ.สิรินาถ บึงกุ่ม - รพ.นวเวช - รพ.เวชธานี - ท็อปส์มาร์เก็ต นวมินทร์ - ฟู้ดแลนด์ นวมินทร์ - มาร์เก็ตเพลส นวมินทร์ - รพ.เวชธานี ------------------------------------------- สนใจสอบถามข้อมูลที่ โทร.081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขายที่ดินแบ่งขายแก่งคอยสระบุรี ฮวงจุ้ยดีเยี่ยม ที่ดินท้องมังกร
    ขายที่ดินแบ่งขายแก่งคอยสระบุรี ฮวงจุ้ยดีเยี่ยม ที่ดินท้องมังกร

    ที่ดินแบ่งขาย ติดแม่น้ำป่าสัก แก่งคอย ใจกลางเมืองแก่งคอย
    ถนนสุดบรรทัด ใกล้ห้างโลตัสแก่งคอย ที่ดินท้องมังกร ตามหลัก
    ฮวงจุ้ย การเดินทางสะดวก ใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี แก่งคอย จ.สระบุรี

    **ราคาแปลง 100 ตรว. : 1,600,000 บาท

    **รายละเอียด**
    -ที่ดินแบ่งขายเริ่มต้นที่ 100 ตรว.
    -ราคาเริ่มต้น (ผังสีแดง/ผังสีเขียว) ตรว.ละ 16,000 บาท /ตรว.
    -ราคาเริ่มต้น (ผังสีฟ้า) ตรว.ละ 25,000 บาท /ตรว.

    *ที่ดินแบ่งเป็น 3 โซน
    (1) ที่ดินโซน - สีแดง : ราคา 16,000 บาท / ตรว.
    (2) ที่ดินโซน-สีเขียว : ราคา 16,000 บาท / ตรว.
    (3) ที่ดินโซน-สีฟ้า (ติดแม่น้ำ) : ราคา 25,000 บาท / ตรว.

    **จุดเด่นภายในโครงการ**
    -ที่ดินถมแล้ว
    -ถนนสาธารณะภายในโครงการ กว้าง 10 เมตร
    -มีลานกิจกรรม และทางเดินลงสูุ่แม่น้ำป่าสัก ให้ลูกบ้าน
    ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
    -โครงการตั้งอยู่ถนนสุดบรรทัด ใจกลางเมืองแก่งคอย
    -อนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น
    -อยู่ใกล้ชุมชน ร้านค้า ห้างสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
    -เหมาะเป็นบ้านพักตากอากาศ
    -ที่ดินศักยภาพสูง ราคาถูก เหมาะกับการลงทุน
    -ที่ดินสามารถซื้อสด หรือทำสินเชื่อธนาคาร ยื่นกู้ที่ดินเปล่าได้ถึง 80% จากราคาขาย

    **เงื่อนไขการจองที่ดิน
    -ซื้อสด
    -ชำระโดยสินเชื่อธนาคาร
    -ยื่นขอสินเชื่อ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง
    -ผ่อนชำระกับทางบริษัท เริ่มผ่อนต่อกับโครงการได้ 120 งวดแบบโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าและจดจำนองกับบริษัท ดอกเบี้ย 8.5%ต่อปี แบบลดต้นลดดอก

    **สถานที่ใกล้เคียง**
    -ห้างโลตัส แก่งคอย และโรบินสัน แก่งคอย
    -โรงเรียนแก่งคอยวิทยา
    -ตลาดสด
    -ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน
    -ใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี แก่งคอย
    ทางด่วนพิเศษ บางปะอิน-โคราช , และทางด่วน
    โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี

    **สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม :
    โทร : 081-822-6553

    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด "ฟรี" ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน

    #ขายที่ดิน #ที่ดินแก่งคอย
    ขายที่ดินแบ่งขายแก่งคอยสระบุรี ฮวงจุ้ยดีเยี่ยม ที่ดินท้องมังกร ขายที่ดินแบ่งขายแก่งคอยสระบุรี ฮวงจุ้ยดีเยี่ยม ที่ดินท้องมังกร ที่ดินแบ่งขาย ติดแม่น้ำป่าสัก แก่งคอย ใจกลางเมืองแก่งคอย ถนนสุดบรรทัด ใกล้ห้างโลตัสแก่งคอย ที่ดินท้องมังกร ตามหลัก ฮวงจุ้ย การเดินทางสะดวก ใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี แก่งคอย จ.สระบุรี **ราคาแปลง 100 ตรว. : 1,600,000 บาท **รายละเอียด** -ที่ดินแบ่งขายเริ่มต้นที่ 100 ตรว. -ราคาเริ่มต้น (ผังสีแดง/ผังสีเขียว) ตรว.ละ 16,000 บาท /ตรว. -ราคาเริ่มต้น (ผังสีฟ้า) ตรว.ละ 25,000 บาท /ตรว. *ที่ดินแบ่งเป็น 3 โซน (1) ที่ดินโซน - สีแดง : ราคา 16,000 บาท / ตรว. (2) ที่ดินโซน-สีเขียว : ราคา 16,000 บาท / ตรว. (3) ที่ดินโซน-สีฟ้า (ติดแม่น้ำ) : ราคา 25,000 บาท / ตรว. **จุดเด่นภายในโครงการ** -ที่ดินถมแล้ว -ถนนสาธารณะภายในโครงการ กว้าง 10 เมตร -มีลานกิจกรรม และทางเดินลงสูุ่แม่น้ำป่าสัก ให้ลูกบ้าน ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน -โครงการตั้งอยู่ถนนสุดบรรทัด ใจกลางเมืองแก่งคอย -อนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น -อยู่ใกล้ชุมชน ร้านค้า ห้างสะดวกสบายในการใช้ชีวิต -เหมาะเป็นบ้านพักตากอากาศ -ที่ดินศักยภาพสูง ราคาถูก เหมาะกับการลงทุน -ที่ดินสามารถซื้อสด หรือทำสินเชื่อธนาคาร ยื่นกู้ที่ดินเปล่าได้ถึง 80% จากราคาขาย **เงื่อนไขการจองที่ดิน -ซื้อสด -ชำระโดยสินเชื่อธนาคาร -ยื่นขอสินเชื่อ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง -ผ่อนชำระกับทางบริษัท เริ่มผ่อนต่อกับโครงการได้ 120 งวดแบบโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าและจดจำนองกับบริษัท ดอกเบี้ย 8.5%ต่อปี แบบลดต้นลดดอก **สถานที่ใกล้เคียง** -ห้างโลตัส แก่งคอย และโรบินสัน แก่งคอย -โรงเรียนแก่งคอยวิทยา -ตลาดสด -ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน -ใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี แก่งคอย ทางด่วนพิเศษ บางปะอิน-โคราช , และทางด่วน โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี **สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : โทร : 081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด "ฟรี" ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน #ขายที่ดิน #ที่ดินแก่งคอย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่ดินแปลงสวยแบ่งขาย วิวแม่น้ำป่าสัก ที่ดินเปล่าราคาถูก ที่ทำเลดี โครงการแก่งคอย ริเวอร์ไซด์ จ.สระบุรี
    ที่ดินแบ่งขาย (ซื้อสด/ผ่อนธนาคาร)
    ที่ดินศักยภาพสูง กู้ Bank ได้ 80%

    ขายที่ดินแก่งคอยสระบุรี
    - เริ่มต้น 100 ตร.ว ขึ้นไป
    - ผังสีเขียว ราคา ตร.ว ละ 16,000 บาท
    - ผังสีแดง ราคา ตร.ว ละ 16,000 บาท
    - ผังสีฟ้า ราคา ตร.ว ละ 25,000 บาท
    - ขายที่ดินเปล่า ผ่อนตรงบริษัทได้
    - ไม่มีเครดิตก็กู้ได้ / ผ่อนตรง / จำนองกับบริษัท โอนโฉนดให้เลย

    จุดเด่นที่น่าสนใจ
    - โครงการตั้งอยู่ถนนสุดบรรทัด ใจกลางเมืองแก่งคอย
    - อนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น
    - อยู่ใกล้ชุมชน ร้านค้า ห้างสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
    - เหมาะเป็นบ้านพักตากอากาศ

    สถานที่ใกล้เคียง
    - ห้างโลตัส แก่งคอย
    - โรงเรียนแก่งคอยวิทยา
    - ตลาดสด
    - ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน
    - สถานีรถไฟ

    #ขายที่ดินสระบุรี #ขายที่ดิน
    ที่ดินแปลงสวยแบ่งขาย วิวแม่น้ำป่าสัก ที่ดินเปล่าราคาถูก ที่ทำเลดี โครงการแก่งคอย ริเวอร์ไซด์ จ.สระบุรี ที่ดินแบ่งขาย (ซื้อสด/ผ่อนธนาคาร) ที่ดินศักยภาพสูง กู้ Bank ได้ 80% ขายที่ดินแก่งคอยสระบุรี - เริ่มต้น 100 ตร.ว ขึ้นไป - ผังสีเขียว ราคา ตร.ว ละ 16,000 บาท - ผังสีแดง ราคา ตร.ว ละ 16,000 บาท - ผังสีฟ้า ราคา ตร.ว ละ 25,000 บาท - ขายที่ดินเปล่า ผ่อนตรงบริษัทได้ - ไม่มีเครดิตก็กู้ได้ / ผ่อนตรง / จำนองกับบริษัท โอนโฉนดให้เลย จุดเด่นที่น่าสนใจ - โครงการตั้งอยู่ถนนสุดบรรทัด ใจกลางเมืองแก่งคอย - อนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น - อยู่ใกล้ชุมชน ร้านค้า ห้างสะดวกสบายในการใช้ชีวิต - เหมาะเป็นบ้านพักตากอากาศ สถานที่ใกล้เคียง - ห้างโลตัส แก่งคอย - โรงเรียนแก่งคอยวิทยา - ตลาดสด - ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน - สถานีรถไฟ #ขายที่ดินสระบุรี #ขายที่ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 43 0 รีวิว

  • เขื่อนแห่งแรกในประเทศไทย

    มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ชอบและอยากแนะนำให้มีคนรู้จักมากขึ้น เนื่องจากผู้เขียนไม่ใช่นักเขียนที่ชื่อคุ้นหูผู้อ่านนิยายทั่วไปที่เป็นแนวมีพระเอกนางเอกนัก คงจะมีคนได้อ่านผลงานเขียนชิ้นนี้ไม่มาก ซึ่งน่าเสียดายอย่างยิ่ง

    เล่มที่พูดถึงนี้มีชื่อว่า "คนเหนือน้ำ" เป็นนวนิยายเขียนโดย คุณเฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ซึ่งเป็นคนจังหวัดตาก และรับราชการมาทั้งชีวิต ครั้งหนึ่งได้เคยเป็นนายอำเภอสามเงา จ.ตาก ได้สัมผัสสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประชาชนคนพื้นถิ่น รับรู้เรื่องราว ปัญหา การดำเนินชีวิตของชาวชุมชนที่นั่น จึงได้เก็บข้อมูลนำมาเขียนเป็นนิยายเรื่องนี้

    ซึ่งบอกเล่าเกี่ยวกับตำนานประวัติของพระนางจามเทวี ผูกโยงกับหลักคิดทางพระพุทธศาสนา และการใช้ชีวิตอย่างสมถะของชาวเหนือเขื่อน รุ่นปู่ย่าตายาย กับแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย คือเขื่อนภูมิพล จากข้อมูลที่ผู้เขียนศึกษาเพิ่มเติม และประสบการณ์ในชีวิตทำงาน คำบอกเล่าของผู้คนในพื้นที่ ตำนานเรื่องเล่า ประวัติศาตร์เมืองตาก ได้ถูกผสมผสานอย่างกลมกลืน แล้วผนวกรวมเป็นเรื่องราวแนวจินตนิยาย ที่แฝงหลักคิดการดำเนินชีวิตอันล้ำค่าน่าสนใจ

    ภาษาที่ใช้เป็นภาษาง่าย ๆ แต่มีความสละสลวย อ่านแล้วมองเห็นภาพตามชัดเจน โดยเฉพาะบรรยากาศที่งดงาม หากลูกอีสาน คือ นวนิยายที่แสดงถึงภาพชีวิตของคนภาคอีสานได้อย่างดีที่สุดเรื่องหนึ่งแล้ว ผมอยากจะกล่าวว่า "คนเหนือน้ำ" ก็สมควรเป็นตัวแทนของนวนิยายที่แสดงถึงภาพชีวิตของคนในเขตภาคตะวันตกติดเทือกเขาถนนธงชัยได้อย่างเต็มภาคภูมิ

    หนังสือ หนาถึง 412 หน้า จำนวน 36 บท
    พิมพ์ครั้งแรกปี พ.ศ. 2563 เดือน มกราคม
    จัดจำหน่ายโดย บ.เคล็ดไทย

    🔹️🔹️ในราคา 200 บาท 🔹️🔹️

    พิมพ์ขาวดำตลอดเล่ม ซึ่งถือว่าราคาไม่แพงเลยสำหรับหนังสือที่มีความหนาของจำนวนหน้าขนาดนี้ ที่สำคัญอักษรตัวใหญ่อ่านง่าย สำหรับผู้ที่เริ่มมีอายุและปัญหาทางสายตา

    มีภาพประกอบบ้างในบางบท พอช่วยเสริมจินตนาการ

    อ่านแล้วเชื่อว่าทุกคนจะรักเมืองตากมากยิ่งกว่าเก่า

    ป.ล. หนังสือ อาจหายากหน่อย หากสนใจสามารถสั่งเข้ามาได้ครับ มีเหลืออยู่ไม่มาก ทุกเล่มเป็นมือหนึ่งสภาพใหม่จากโรงพิมพ์

    จัดส่งฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย รายได้เข้าบัญชีมูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน แจ้งมาได้ทางข้อความหรือใต้โพสต์นี้ครับ

    #thaitimes
    #แนะนำหนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #นิยาย
    #เล่าเรื่องเมืองตาก
    #เขื่อนภูมิพล
    #พระนางจามเทวี
    #คนเหนือน้ำ
    เขื่อนแห่งแรกในประเทศไทย มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ชอบและอยากแนะนำให้มีคนรู้จักมากขึ้น เนื่องจากผู้เขียนไม่ใช่นักเขียนที่ชื่อคุ้นหูผู้อ่านนิยายทั่วไปที่เป็นแนวมีพระเอกนางเอกนัก คงจะมีคนได้อ่านผลงานเขียนชิ้นนี้ไม่มาก ซึ่งน่าเสียดายอย่างยิ่ง เล่มที่พูดถึงนี้มีชื่อว่า "คนเหนือน้ำ" เป็นนวนิยายเขียนโดย คุณเฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ซึ่งเป็นคนจังหวัดตาก และรับราชการมาทั้งชีวิต ครั้งหนึ่งได้เคยเป็นนายอำเภอสามเงา จ.ตาก ได้สัมผัสสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประชาชนคนพื้นถิ่น รับรู้เรื่องราว ปัญหา การดำเนินชีวิตของชาวชุมชนที่นั่น จึงได้เก็บข้อมูลนำมาเขียนเป็นนิยายเรื่องนี้ ซึ่งบอกเล่าเกี่ยวกับตำนานประวัติของพระนางจามเทวี ผูกโยงกับหลักคิดทางพระพุทธศาสนา และการใช้ชีวิตอย่างสมถะของชาวเหนือเขื่อน รุ่นปู่ย่าตายาย กับแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย คือเขื่อนภูมิพล จากข้อมูลที่ผู้เขียนศึกษาเพิ่มเติม และประสบการณ์ในชีวิตทำงาน คำบอกเล่าของผู้คนในพื้นที่ ตำนานเรื่องเล่า ประวัติศาตร์เมืองตาก ได้ถูกผสมผสานอย่างกลมกลืน แล้วผนวกรวมเป็นเรื่องราวแนวจินตนิยาย ที่แฝงหลักคิดการดำเนินชีวิตอันล้ำค่าน่าสนใจ ภาษาที่ใช้เป็นภาษาง่าย ๆ แต่มีความสละสลวย อ่านแล้วมองเห็นภาพตามชัดเจน โดยเฉพาะบรรยากาศที่งดงาม หากลูกอีสาน คือ นวนิยายที่แสดงถึงภาพชีวิตของคนภาคอีสานได้อย่างดีที่สุดเรื่องหนึ่งแล้ว ผมอยากจะกล่าวว่า "คนเหนือน้ำ" ก็สมควรเป็นตัวแทนของนวนิยายที่แสดงถึงภาพชีวิตของคนในเขตภาคตะวันตกติดเทือกเขาถนนธงชัยได้อย่างเต็มภาคภูมิ หนังสือ หนาถึง 412 หน้า จำนวน 36 บท พิมพ์ครั้งแรกปี พ.ศ. 2563 เดือน มกราคม จัดจำหน่ายโดย บ.เคล็ดไทย 🔹️🔹️ในราคา 200 บาท 🔹️🔹️ พิมพ์ขาวดำตลอดเล่ม ซึ่งถือว่าราคาไม่แพงเลยสำหรับหนังสือที่มีความหนาของจำนวนหน้าขนาดนี้ ที่สำคัญอักษรตัวใหญ่อ่านง่าย สำหรับผู้ที่เริ่มมีอายุและปัญหาทางสายตา มีภาพประกอบบ้างในบางบท พอช่วยเสริมจินตนาการ อ่านแล้วเชื่อว่าทุกคนจะรักเมืองตากมากยิ่งกว่าเก่า ป.ล. หนังสือ อาจหายากหน่อย หากสนใจสามารถสั่งเข้ามาได้ครับ มีเหลืออยู่ไม่มาก ทุกเล่มเป็นมือหนึ่งสภาพใหม่จากโรงพิมพ์ จัดส่งฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย รายได้เข้าบัญชีมูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน แจ้งมาได้ทางข้อความหรือใต้โพสต์นี้ครับ #thaitimes #แนะนำหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #นิยาย #เล่าเรื่องเมืองตาก #เขื่อนภูมิพล #พระนางจามเทวี #คนเหนือน้ำ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1177 มุมมอง 0 รีวิว
  • 》》น้ำตกโกรกอีดกชั้น2《《
    ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
    ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด
    ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร
    ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่
    》》
    ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม
    ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ
    คนละ 600 บาท
    (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท)
    วันละ 24 คน เท่านั้น!!
    》เช็ควันว่าง เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532
    ไอดีไลน์ : 0899332762p
    ●●●●●●●●●●●●
    น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก

    #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    》》น้ำตกโกรกอีดกชั้น2《《 ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ 》》 ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg 《《 ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ ●●●●●●●●●●●●●●●●●● ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ คนละ 600 บาท (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท) วันละ 24 คน เท่านั้น!! 》เช็ควันว่าง 📞เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532 ไอดีไลน์ : 0899332762p ●●●●●●●●●●●● น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1072 มุมมอง 315 0 รีวิว
  • ข้อมูลจาก
    》》สวท. แม่สะเรียง《《

    ■นักศึกษาน้ำใจงาม
    ♡น้อง ๆ จากวิทยาลัย
    ล้านนา
    》》ร่วมแรงร่วมใจทำกิจกรรมฟื้นฟูหลังน้าท่วม
    》》ณ ชุมชนรั้วเหล็ก จังหวัดเชียงราย

    #นักศึกษา #คนไทยน้ำใจงาเชียงราย #ช่วยน้ำท่วม #เชียงราย #ฟื้นฟู #น้ำท่วม67 #กรมประชาสัมพันธ์ #สวทแม่สะเรียง
    ข้อมูลจาก 》》สวท. แม่สะเรียง《《 ■นักศึกษาน้ำใจงาม ♡น้อง ๆ จากวิทยาลัย ล้านนา 》》ร่วมแรงร่วมใจทำกิจกรรมฟื้นฟูหลังน้าท่วม 》》ณ ชุมชนรั้วเหล็ก จังหวัดเชียงราย #นักศึกษา #คนไทยน้ำใจงาเชียงราย #ช่วยน้ำท่วม #เชียงราย #ฟื้นฟู #น้ำท่วม67 #กรมประชาสัมพันธ์ #สวทแม่สะเรียง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 53 0 รีวิว
  • เส้นทางศึกษารรรมชาติกิ่วแม่ปาน
    》》เปิดให้เดิน 1 พฤศจิกายนนี้《《

    ♡รีวิว กิ่วแม่ปาน จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยรถสาธารณะ
    》》
    ☆ค่ารถตู้ ไป+กลับ = 250×2 =500 บาท
    ☆เวลาไป 7:00 น.
    ☆เวลากลับ 15:00 น.
    ■จองก่อนล่วงหน้า■
    ☆ค่าไกด์ชุมชน พาเดิน 200 บาท
    ■ระยะทาง 3.2 กม. ใช้เวลา 3 ช.ม.
    》》ทริปนี้ 700 บาท 《《
    จะไม่มาได้งัย?
    》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《
    ◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
    ☆รถตู้ดอยอินทนนท์
    084-222-3478
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ■■■■■■■■■■■■
    ชมวีดีโอของทริป
    》》
    https://youtu.be/5mOQKbv3HRc?si=3iAcH_P7-YFxQJJ7
    《《
    #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #เที่ยวเชียงใหม่10วัน10คืน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #RusticRiverBoutique #thaitimesmanowjourney #thaitimesjourney #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน
    เส้นทางศึกษารรรมชาติกิ่วแม่ปาน 》》เปิดให้เดิน 1 พฤศจิกายนนี้《《 ♡รีวิว กิ่วแม่ปาน จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยรถสาธารณะ 》》 ☆ค่ารถตู้ ไป+กลับ = 250×2 =500 บาท ☆เวลาไป 7:00 น. ☆เวลากลับ 15:00 น. ■จองก่อนล่วงหน้า■ ☆ค่าไกด์ชุมชน พาเดิน 200 บาท ■ระยะทาง 3.2 กม. ใช้เวลา 3 ช.ม. 》》ทริปนี้ 700 บาท 《《 จะไม่มาได้งัย? 》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《 ◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇ ☆รถตู้ดอยอินทนนท์ 084-222-3478 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg 《《 ■■■■■■■■■■■■ ชมวีดีโอของทริป 》》 https://youtu.be/5mOQKbv3HRc?si=3iAcH_P7-YFxQJJ7 《《 #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #เที่ยวเชียงใหม่10วัน10คืน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #RusticRiverBoutique #thaitimesmanowjourney #thaitimesjourney #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 973 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีวิว พิชิตน้ำตกโกรกอีดก สระบุรี
    ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
    ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด
    ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร
    ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่
    》》
    ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม
    ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ
    คนละ 600 บาท
    (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท)
    วันละ 24 คน เท่านั้น!!
    》เช็ควันว่าง เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532
    ไอดีไลน์ : 0899332762p
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก
    ■■■■■■■■■■■
    ♡ชมวีดีโอฉลับเต็ม
    》Ep.1
    https://youtu.be/OB-pj853V78?si=rTWVhVPm9jhJagXS
    》Ep.2
    https://youtu.be/EredihI1aU4?si=kvGAvQdR8OJbYXK0
    》Ep.3
    https://youtu.be/JaDDJV5sD1o?si=DBkghkVrLVzdZjYp
    ■■■■■■■■■■■■■
    #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก #thaitimes #thaitimesjourney #thaitimesmanowjourney #thaitimesเที่ยวไทย
    รีวิว พิชิตน้ำตกโกรกอีดก สระบุรี ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ 》》 ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg 《《 ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ ●●●●●●●●●●●●●●●●●● ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ คนละ 600 บาท (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท) วันละ 24 คน เท่านั้น!! 》เช็ควันว่าง 📞เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532 ไอดีไลน์ : 0899332762p ●●●●●●●●●●●●●●●●●● น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก ■■■■■■■■■■■ ♡ชมวีดีโอฉลับเต็ม 》Ep.1 https://youtu.be/OB-pj853V78?si=rTWVhVPm9jhJagXS 》Ep.2 https://youtu.be/EredihI1aU4?si=kvGAvQdR8OJbYXK0 》Ep.3 https://youtu.be/JaDDJV5sD1o?si=DBkghkVrLVzdZjYp ■■■■■■■■■■■■■ #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก #thaitimes #thaitimesjourney #thaitimesmanowjourney #thaitimesเที่ยวไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 926 มุมมอง 272 0 รีวิว
  • คนละ 300 บาท คุณก็ได้ประสบการณ์ เดินป่า ขึ้นเขา เล่นน้ำตก แบบนี้!!!
    》1 ปี มีแค่ช่วงฤดูฝนเท่านั้น《
    ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
    ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด
    ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร
    ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่
    》》
    ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม
    ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ
    ●●●●●●●●●●●●
    ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ
    คนละ 600 บาท
    (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท)
    วันละ 24 คน เท่านั้น!!
    》เช็ควันว่าง เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532
    ไอดีไลน์ : 0899332762p
    ●●●●●●●●●●●●
    น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก

    #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก
    คนละ 300 บาท คุณก็ได้ประสบการณ์ เดินป่า ขึ้นเขา เล่นน้ำตก แบบนี้!!! 》1 ปี มีแค่ช่วงฤดูฝนเท่านั้น《 ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ 》》 ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg 《《 ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ ●●●●●●●●●●●● ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ คนละ 600 บาท (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท) วันละ 24 คน เท่านั้น!! 》เช็ควันว่าง 📞เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532 ไอดีไลน์ : 0899332762p ●●●●●●●●●●●● น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก
    Like
    Love
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • คนละ 300 บาท คุณก็ได้ประสบการณ์ เดินป่า ขึ้นเขา เล่นน้ำตก แบบนี้!!!
    》1 ปี มีแค่ช่วงฤดูฝนเท่านั้น《
    ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
    ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด
    ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร
    ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่
    》》
    ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม
    ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ
    ●●●●●●●●●●●●
    ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ
    คนละ 600 บาท
    (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท)
    วันละ 24 คน เท่านั้น!!
    》เช็ควันว่าง เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532
    ไอดีไลน์ : 0899332762p
    ●●●●●●●●●●●●
    น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก

    #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก
    คนละ 300 บาท คุณก็ได้ประสบการณ์ เดินป่า ขึ้นเขา เล่นน้ำตก แบบนี้!!! 》1 ปี มีแค่ช่วงฤดูฝนเท่านั้น《 ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ 》》 ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg 《《 ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ ●●●●●●●●●●●● ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ คนละ 600 บาท (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท) วันละ 24 คน เท่านั้น!! 》เช็ควันว่าง 📞เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532 ไอดีไลน์ : 0899332762p ●●●●●●●●●●●● น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเป็นคนธรรมดา คนเล็กๆที่ไม่ใหญ่โตนี้แหละ ง่ายที่สุดแล้วต่อการที่จะบำเพ็ญคุณงามความดีหรือประโยชน์ใด ทั้งต่อตนและสาธารณชนคนอื่น ถ้าเรามีความรู้ ความสามารถในเรื่องใด และมีใจที่คิดและต้องการจะทำเพื่อคนทุกคนจริง ไม่จำเป็นต้องรอให้มีคนจำนวนมากมาชื่นชม เชิดชูยกขึ้นไว้ในตำแหน่งอันเขาอุปโลกน์จึงจะค่อยทำได้ ขอเพียงแค่ลงมือปฏิบัติตั้งแต่เดี๋ยวนี้ อย่างเดียวเท่านั้นที่พึงระวังคือ

    ให้แน่ใจว่าการกระทำที่เราเชื่อว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อสาธารณะนั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งซึ่งตรงกันข้าม ไม่ใช่การหลอกตนเองและหลอกคนอื่น

    ดูอย่างคนบ้าปลูกต้นไม้นั่นไง มีหลายคนที่ทำทั้งที่ไม่มีใครรู้ใครเห็น และไม่ได้ต้องการให้ใครรู้เห็นด้วย เขาทำด้วยสำนึกในใจตนว่าควรทำ และไม่สร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่ชุมชนสังคมประเทศ จวบไปถึงโลกใบนี้อย่างแน่นอน

    หากสิ่งที่ทำดีจริง สักวันจะมีคนเห็นและเพิ่มจำนวนคนสานต่อไปเองอย่างยั่งยืน แต่ถ้าสิ่งที่ทำนั้นดีไม่จริง ย่อมอยู่ได้ชั่วคราวไม่ยาวนาน เพราะไม่มีคนช่วยรักษา สืบต่อคุณความดีนั้น ที่สุดจะค่อยๆเลือนลางจางหายไปในห้วงเวลา

    #ข้อคิด
    #thaitimes
    #ความดี
    #จิตสาธารณะ
    #ชวนคิด
    #บันทึก
    การเป็นคนธรรมดา คนเล็กๆที่ไม่ใหญ่โตนี้แหละ ง่ายที่สุดแล้วต่อการที่จะบำเพ็ญคุณงามความดีหรือประโยชน์ใด ทั้งต่อตนและสาธารณชนคนอื่น ถ้าเรามีความรู้ ความสามารถในเรื่องใด และมีใจที่คิดและต้องการจะทำเพื่อคนทุกคนจริง ไม่จำเป็นต้องรอให้มีคนจำนวนมากมาชื่นชม เชิดชูยกขึ้นไว้ในตำแหน่งอันเขาอุปโลกน์จึงจะค่อยทำได้ ขอเพียงแค่ลงมือปฏิบัติตั้งแต่เดี๋ยวนี้ อย่างเดียวเท่านั้นที่พึงระวังคือ ให้แน่ใจว่าการกระทำที่เราเชื่อว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อสาธารณะนั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งซึ่งตรงกันข้าม ไม่ใช่การหลอกตนเองและหลอกคนอื่น ดูอย่างคนบ้าปลูกต้นไม้นั่นไง มีหลายคนที่ทำทั้งที่ไม่มีใครรู้ใครเห็น และไม่ได้ต้องการให้ใครรู้เห็นด้วย เขาทำด้วยสำนึกในใจตนว่าควรทำ และไม่สร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่ชุมชนสังคมประเทศ จวบไปถึงโลกใบนี้อย่างแน่นอน หากสิ่งที่ทำดีจริง สักวันจะมีคนเห็นและเพิ่มจำนวนคนสานต่อไปเองอย่างยั่งยืน แต่ถ้าสิ่งที่ทำนั้นดีไม่จริง ย่อมอยู่ได้ชั่วคราวไม่ยาวนาน เพราะไม่มีคนช่วยรักษา สืบต่อคุณความดีนั้น ที่สุดจะค่อยๆเลือนลางจางหายไปในห้วงเวลา #ข้อคิด #thaitimes #ความดี #จิตสาธารณะ #ชวนคิด #บันทึก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 538 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,520
    วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๗ (17 September 2024)

    Photo Album 1/2
    ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 แห่ง เป็นเงิน 400 บาท
    01. รร.วัดวุ้งสุทธาวาส อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 17 ก.ย.67)
    02. รร.ทุ่งโพวิทยา อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 ก.ย.67)
    03. รร.อนุบาลหล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 ก.ย.67)
    04. รร.เบญจมราชานุสรณ์ อ.เมือง จ.นนทบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67)
    05. รร.บ้านดอนใจดี อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67)
    06. รร.อนุบาลหนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    07. รร.วัดแหลมหว้า อ.เมือง จ.ชัยนาท
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    08. รร.วัดหนองโรง อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    09. รร.ชุมชนบ้านหัววัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    10. รร.กุดน้ำใสพิทยาคม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 28 ก.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๘ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,520 วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๗ (17 September 2024) Photo Album 1/2 ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 แห่ง เป็นเงิน 400 บาท 01. รร.วัดวุ้งสุทธาวาส อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 17 ก.ย.67) 02. รร.ทุ่งโพวิทยา อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 ก.ย.67) 03. รร.อนุบาลหล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 ก.ย.67) 04. รร.เบญจมราชานุสรณ์ อ.เมือง จ.นนทบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67) 05. รร.บ้านดอนใจดี อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67) 06. รร.อนุบาลหนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 07. รร.วัดแหลมหว้า อ.เมือง จ.ชัยนาท (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 08. รร.วัดหนองโรง อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 09. รร.ชุมชนบ้านหัววัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 10. รร.กุดน้ำใสพิทยาคม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 28 ก.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๘ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,520
    วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๗ (17 September 2024)

    Photo Album 1/2
    ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 แห่ง เป็นเงิน 400 บาท
    01. รร.วัดวุ้งสุทธาวาส อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 17 ก.ย.67)
    02. รร.ทุ่งโพวิทยา อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 ก.ย.67)
    03. รร.อนุบาลหล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 ก.ย.67)
    04. รร.เบญจมราชานุสรณ์ อ.เมือง จ.นนทบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67)
    05. รร.บ้านดอนใจดี อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67)
    06. รร.อนุบาลหนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    07. รร.วัดแหลมหว้า อ.เมือง จ.ชัยนาท
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    08. รร.วัดหนองโรง อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    09. รร.ชุมชนบ้านหัววัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67)
    10. รร.กุดน้ำใสพิทยาคม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 28 ก.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๘ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,520 วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๗ (17 September 2024) Photo Album 1/2 ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 แห่ง เป็นเงิน 400 บาท 01. รร.วัดวุ้งสุทธาวาส อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 17 ก.ย.67) 02. รร.ทุ่งโพวิทยา อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 ก.ย.67) 03. รร.อนุบาลหล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 20 ก.ย.67) 04. รร.เบญจมราชานุสรณ์ อ.เมือง จ.นนทบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67) 05. รร.บ้านดอนใจดี อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67) 06. รร.อนุบาลหนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 07. รร.วัดแหลมหว้า อ.เมือง จ.ชัยนาท (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 08. รร.วัดหนองโรง อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 09. รร.ชุมชนบ้านหัววัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 27 ก.ย.67) 10. รร.กุดน้ำใสพิทยาคม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 28 ก.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๘ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อันตราย” เอามากๆ กับความคิด ความริเริ่ม ของคุณพ่ออเมริกาและพวกพรมเช็ดเท้าแห่งโลกตะวันตก ที่กำลังจะอนุมัติ อนุญาต ให้ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างยูเครน นำเอาขีปนาวุธพิสัยไกลที่ได้รับการสนับสนุน ประเภท “Storm Shadows” หรือ “ATACMS” อะไรทำนองนั้น โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของหมีขาวรัสเซีย อันเป็นสิ่งที่ผู้นำรัสเซียอย่างประธานาธิบดี “ปูติน” ท่านได้แปลความ อธิบายขยายความ ไว้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน ว่าย่อมหมายถึง “การกระทำให้ NATO คือคู่สงครามโดยตรงกับรัสเซีย” และได้เตือนเอาไว้นิ่มๆ ประมาณว่า “ถ้าหากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง...เมื่อคำนึงถึงการเปลี่ยนไปของลักษณะความขัดแย้ง เราก็คงต้องตัดสินใจอย่างเหมาะสมต่อภัยคุกคามที่เราจะต้องเผชิญหน้า!!!”

    คือถึงจะเป็นอะไรที่นิ่มๆ...แต่ก็อย่าลืมไปว่าหมีขาวรัสเซียที่ออกจะดุแสนดุนั้น ก็คือ “ชาตินิวเคลียร์” อันดับต้นๆ ของโลก หรืออันดับหนึ่งของโลกเอาเลยก็ว่าได้ ดังนั้น...การที่รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา “นายAntony Blinken” และรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ “นายDavid Lammy” ที่เกี่ยวก้อยไปเยือนประเทศยูเครนกันถึงที่เมื่อไม่กี่วันนี้ จะออกมาพูดด้วยน้ำเสียง หางเสียงเดียวกัน ถึงความเป็นไปได้ที่จะอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ฝ่ายตะวันตกมอบให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย รวมทั้งประธานาธิบดีอเมริกา อย่าง “โจ เอ๋อ” หรือ “โจ ซึมเซา” ที่เหลือเวลาดำรงตำแหน่งแค่อีกไม่กี่เดือนจะออกมาแสดงท่าทีกำๆ กวมๆ ว่ากำลังเร่งพิจารณาเรื่องราวดังกล่าวอย่างเต็มที่ มันจึงแทบไม่ต่างอะไรไปจาก “เด็ก” ที่ชอบเล่นไม้ขีดไฟ ที่กำลังจุดไม้ขีดก้านแล้ว-ก้านเล่า อยู่หน้าโรงงานดินระเบิดซึ่งถูกชโลมไว้ด้วยน้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน ชนิดอะไรต่อมิอะไรอาจลุกพึ่บๆ พั่บๆ ขึ้นมาได้ง่ายๆ...

    เพราะแม้แต่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” และผู้ร่วมก่อตั้งชุมชนข่าวกรอง “VIPS” (Veteran Intelligence Professionals for Sanity) อย่าง “นายRay McGovern” ที่เป็นชาวอเมริกันด้วยกันเอง ยังต้องออกมาให้ความคิด-ความเห็นกับสำนักข่าว “Sputnik” ไปเมื่อสองวันก่อนนั่นแหละว่า... “พวกเขา(อเมริกา)ต้องการที่จะยั่วยุปูติน ให้ต้องลงมือกระทำบางสิ่งบางอย่างที่ร้ายแรงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งอเมริกาในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เพราะพวกเขาสูญเสียอย่างมากในการบุกแคว้น Kursk ของรัสเซีย” หรือพยายายาม “ยั่วยวนกวนส้นตีน” แบบเดียวกับอิสราเอลยั่วอิหร่านในแนวรบตะวันออกกลาง หรือไต้หวัน ฟิลิปปินส์ยั่วจีนในแนวรบทะเลจีนใต้ เพื่อที่จะก่อให้เกิดฉากสถานการณ์ที่ “เครื่องจักรสังหาร” อย่างกองทัพอเมริกันเกิดความชอบธรรมในการใช้กำลังทหาร หรือความชอบธรรมที่จะนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งอเมริกา...นั่นเอง...

    โดยที่การยั่วยวนกวนส้นตีนของอเมริกาและพันธมิตรตะวันตกต่อรัสเซียช่วงหลังๆ นี้...ต้องเรียกว่าน่าหวาดเสียว น่าขนลุกขนพองยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ชนิดที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” ถึงกับต้องปรารภ รำพึง ถึงขั้นว่า... “สิ่งที่ผมกลัวก็คือ พวกเขาอาจไปไกลถึงขั้นคิดให้ยูเครนใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับกระเป๋า หรือนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี (mini nuke) สู้กับรัสเซียเอาเลยก็ไม่แน่!!!” และ “มันเป็นเรื่องค่อนข้างยากที่จะรู้ว่าไบเดน ที่ปรึกษาความมั่นคง Sullivan และคณะผู้บริหารรัฐบาลอเมริกันชุดนี้คิดอย่างไร? เพื่อนสนิทของผมบางคนที่เป็นนักวิเคราะห์ด้วยกันถึงกับต้องสรุปว่าพวกเขา...บ้าไปแล้ว (insane) ดังนั้นมันเลยเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าจริงว่าคงยากเอามากๆ ที่จะทำนายได้ว่าพวกเขาคิดทำอะไรต่อไป ถ้าหากเขาทั้งหลาย...บ้าไปแล้ว!!!” ซึ่งก็คงไม่ใช่แต่เฉพาะอดีตนักวิเคราะห์ “CIA” อย่าง “นายRay McGovern” รายเดียวเท่านั้น อดีตเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำโซเวียตรัสเซียอย่าง “นายJack Matlock” เอง ก็ยังต้องออกมาตอกย้ำไว้ด้วยว่าความพยายามของรัฐบาลอเมริกันในอันที่จะอาศัย “สงครามที่ไม่มีความชัดเจน” สู้กับรัสเซียโดยอาศัยยูเครนเป็นตัวแทนนั้น เป็นสิ่งที่ “อันตราย”

    เอามากๆ...หรือกระทั่งอดีตผู้คิดจะสมัครลงแข่ง ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันคราวนี้ อย่าง “Robert F. Kennedy Jr.” ยังอดไม่ได้ที่จะต้องออกมาเตือนไว้ล่วงหน้าว่า... “นโยบายเผชิญหน้าขั้นสูงสุดของไบเดนเพื่อยัดเยียดความปราชัยอันน่าอับอายให้กับรัสเซียและเพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครองของปูตินนั้น...คือสูตรสำเร็จสำหรับหายนะทางนิวเคลียร์” เอาเลยถึงขั้นนั้นหรือรัฐบาลคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ที่กำลังเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งแค่อีกไม่กี่เดือนนี่แหละ อาจกำลังฉุดกระชากลากถูบรรดาชาวอเมริกันทั้งประเทศรวมทั้งชาวโลกทั้งหลาย เข้าสู่ “สงครามนิวเคลียร์” เอาเลยก็เป็นได้ ด้วยเหตุเพราะรัสเซียนั้นไม่ใช่ประเทศอื่นๆโดยทั่วไป แต่ถือเป็น “ชาตินิวเคลียร์” แถมยังกำอาวุธมหาประลัยชนิดนี้ไว้ในมือไม่รู้จะกี่พันต่อกี่พันลูก โดยผู้ที่อาจต้อง “ซวย” เป็นอันดับแรก ก็ดังที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” “นายRay McGovern” ได้วาดจินตนาการไว้ล่วงหน้านั่นแหละว่า... “ถ้าหากรัสเซียต้องการจะบอกกับชาวยุโรปว่า ถ้าพวกคุณคิดจะใช้นิวเคลียร์ทางยุทธวิธีกับเราก็อย่าลืมว่าเราก็มีอาวุธนิวเคลียร์เหมือนกัน แล้วที่ไหนล่ะ...ที่รัสเซียจะงัดคำเตือนเหล่านี้ออกมาแสดงให้เห็น นั่นก็น่าจะเป็น...ยุโรปนั่นเอง!!!”...

    อย่างไรก็ตาม...สิ่งที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” รายนี้ ยังพยายาม “มองโลกในแง่ดี” เอาไว้มั่ง นั่นก็คือ... “ผมคิดว่าปูตินยังฉลาดพอ ที่จะรอให้เห็นกันชัดๆ ซะก่อนว่า ใคร??? ที่จะชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้นำอเมริกา เพียงแต่ในช่วงระหว่างนั้นแม้แต่ผมก็ยังต้องกลั้นหายใจกับสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่” อันน่าจะเป็นไปเช่นเดียวกับพันธมิตรของจีนและรัสเซียอย่างอิหร่าน เป็นต้น ที่ต้องพยายามก้าวย่างอย่างระมัดระวังในการ “แก้แค้น-เอาคืน” ต่อการยั่วยวนกวนส้นตีนของอิสราเอล เพื่อไม่ให้ต้องก้าวไปสู่ “กับดัก”

    ของพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์ของคุณพ่ออเมริกาเอาง่ายๆ ต้องกลั้นใจ สะกดใจ หันไปเล่น “หมากล้อม” ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เกิดเงื่อนไข-เหตุปัจจัย อันจะทำให้พวก “อีลิทโลก” ผู้ซึ่งเพียรพยายามพิทักษ์ ปกป้อง “ระเบียบโลกแบบเดิมๆ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้ตัวเองมั่งคั่ง ร่ำรวย อย่างชนิดอภิมหาศาล สามารถดำรงคงอยู่ได้อีกต่อไป ที่พยายามทั้งผลัก ทั้งดัน ให้บรรดารัฐบาลแห่งโลกตะวันตกทั้งหลาย “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า” ขึ้นมาให้จงได้!!!

    และอาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้หมีขาวที่ได้ชื่อว่าดุแสนดุอย่างรัสเซีย เลยต้องหันไปส่งสัญญาณด้วยปฏิบัติการ “ซ้อมรบ” ทางเรือครั้งใหญ่ ที่เรียกๆ กันว่า “Ocean-2024” ตั้งแต่เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (10 ก.ย.) ด้วยการขนเอาเรือรบไม่ต่ำกว่า 400 ลำ เครื่องบินรบอีก 120 ลำ ทวยทหารอีกถึง 90,000 นาย ออกมาเบ่งกล้ามอวดโชว์กำลังในน่านน้ำแทบทุกน่านน้ำไม่ว่าในมหาสมุทรแปซิฟิก อาร์กติก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทะเลแคสเปียน ไปจนแถบทะเลบอลติกโดยมีคุณพี่จีนเข้าร่วมด้วยหรือร่วมส่งสัญญาณไปถึงประเทศญี่ปุ่น-ยุ่นปี่ ที่กำลังคิดเอาขีปนาวุธพิสัยกลางของคุณพ่ออเมริกามาติดตั้งไว้ในประเทศตัวเองในอีกไม่นาน-ไม่ช้านับจากนี้...

    แต่ส่วนจะทำให้อเมริกาและพันธมิตรพรมเช็ดเท้าแห่งโลกตะวันตก...พอที่จะ “หายบ้า” หรือพอที่จะได้ “สติ” ขึ้นมาได้มั่งหรือไม่? อย่างไร? อันนั้น...คงต้องคอยสวดมนต์และภาวนากันไปตามสภาพ ไม่ก็ต้องหันไป “กลั้นหายใจ” แบบเดียวกับที่ “นายRay McGovern” ได้ว่าเอาไว้นั่นแหละ คือถ้าหากอีก 2 เดือนข้างหน้า “ทรัมป์บ้า” สามารถดิ้นรนกลับมาเป็นผู้นำอเมริกาได้ดังเดิม มันก็อาจเบาๆ ลงไปได้บ้างสำหรับ “แนวรบ” บางด้าน เช่นแนวรบยุโรปตะวันออก เป็นต้น แต่ถ้าหากคุณน้อง “กมลา” เธอสามารถนอนมาโดยไม่ต้องมีพระสวดนำหน้า แบบที่บรรดา “โพล” หลายๆ สำนักพยายามเชียร์แล้ว เชียร์อีก แม้จะก่อให้เกิดความซี๊ดๆ ซ๊าดๆ ต่อบรรดา “ติ่งอเมริกา” เพียงใดก็เถอะ แต่...ก็อาจนำมาซึ่ง “สงครามกลางเมืองครั้งใหม่” ของอเมริกา หรือนำมาซึ่ง “ความล่มสลาย” ลงไปเองเอาเลยก็เป็นได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปงัดอาวุธมหาประลัยใดๆ ออกมาใช้ให้ต้องมากเรื่อง-มากความ หรือให้บรรดา “พลโลก” อย่างเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย ต้องพลอยเดือดร้อน หรือพลอย “ซวย” ไปด้วยอย่างมิอาจช่วยอะไรได้เลย...

    https://mgronline.com/daily/detail/9670000086180

    #Thaitimes
    “อันตราย” เอามากๆ กับความคิด ความริเริ่ม ของคุณพ่ออเมริกาและพวกพรมเช็ดเท้าแห่งโลกตะวันตก ที่กำลังจะอนุมัติ อนุญาต ให้ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างยูเครน นำเอาขีปนาวุธพิสัยไกลที่ได้รับการสนับสนุน ประเภท “Storm Shadows” หรือ “ATACMS” อะไรทำนองนั้น โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของหมีขาวรัสเซีย อันเป็นสิ่งที่ผู้นำรัสเซียอย่างประธานาธิบดี “ปูติน” ท่านได้แปลความ อธิบายขยายความ ไว้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน ว่าย่อมหมายถึง “การกระทำให้ NATO คือคู่สงครามโดยตรงกับรัสเซีย” และได้เตือนเอาไว้นิ่มๆ ประมาณว่า “ถ้าหากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง...เมื่อคำนึงถึงการเปลี่ยนไปของลักษณะความขัดแย้ง เราก็คงต้องตัดสินใจอย่างเหมาะสมต่อภัยคุกคามที่เราจะต้องเผชิญหน้า!!!” คือถึงจะเป็นอะไรที่นิ่มๆ...แต่ก็อย่าลืมไปว่าหมีขาวรัสเซียที่ออกจะดุแสนดุนั้น ก็คือ “ชาตินิวเคลียร์” อันดับต้นๆ ของโลก หรืออันดับหนึ่งของโลกเอาเลยก็ว่าได้ ดังนั้น...การที่รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา “นายAntony Blinken” และรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ “นายDavid Lammy” ที่เกี่ยวก้อยไปเยือนประเทศยูเครนกันถึงที่เมื่อไม่กี่วันนี้ จะออกมาพูดด้วยน้ำเสียง หางเสียงเดียวกัน ถึงความเป็นไปได้ที่จะอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ฝ่ายตะวันตกมอบให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย รวมทั้งประธานาธิบดีอเมริกา อย่าง “โจ เอ๋อ” หรือ “โจ ซึมเซา” ที่เหลือเวลาดำรงตำแหน่งแค่อีกไม่กี่เดือนจะออกมาแสดงท่าทีกำๆ กวมๆ ว่ากำลังเร่งพิจารณาเรื่องราวดังกล่าวอย่างเต็มที่ มันจึงแทบไม่ต่างอะไรไปจาก “เด็ก” ที่ชอบเล่นไม้ขีดไฟ ที่กำลังจุดไม้ขีดก้านแล้ว-ก้านเล่า อยู่หน้าโรงงานดินระเบิดซึ่งถูกชโลมไว้ด้วยน้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน ชนิดอะไรต่อมิอะไรอาจลุกพึ่บๆ พั่บๆ ขึ้นมาได้ง่ายๆ... เพราะแม้แต่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” และผู้ร่วมก่อตั้งชุมชนข่าวกรอง “VIPS” (Veteran Intelligence Professionals for Sanity) อย่าง “นายRay McGovern” ที่เป็นชาวอเมริกันด้วยกันเอง ยังต้องออกมาให้ความคิด-ความเห็นกับสำนักข่าว “Sputnik” ไปเมื่อสองวันก่อนนั่นแหละว่า... “พวกเขา(อเมริกา)ต้องการที่จะยั่วยุปูติน ให้ต้องลงมือกระทำบางสิ่งบางอย่างที่ร้ายแรงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งอเมริกาในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เพราะพวกเขาสูญเสียอย่างมากในการบุกแคว้น Kursk ของรัสเซีย” หรือพยายายาม “ยั่วยวนกวนส้นตีน” แบบเดียวกับอิสราเอลยั่วอิหร่านในแนวรบตะวันออกกลาง หรือไต้หวัน ฟิลิปปินส์ยั่วจีนในแนวรบทะเลจีนใต้ เพื่อที่จะก่อให้เกิดฉากสถานการณ์ที่ “เครื่องจักรสังหาร” อย่างกองทัพอเมริกันเกิดความชอบธรรมในการใช้กำลังทหาร หรือความชอบธรรมที่จะนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งอเมริกา...นั่นเอง... โดยที่การยั่วยวนกวนส้นตีนของอเมริกาและพันธมิตรตะวันตกต่อรัสเซียช่วงหลังๆ นี้...ต้องเรียกว่าน่าหวาดเสียว น่าขนลุกขนพองยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ชนิดที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” ถึงกับต้องปรารภ รำพึง ถึงขั้นว่า... “สิ่งที่ผมกลัวก็คือ พวกเขาอาจไปไกลถึงขั้นคิดให้ยูเครนใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับกระเป๋า หรือนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี (mini nuke) สู้กับรัสเซียเอาเลยก็ไม่แน่!!!” และ “มันเป็นเรื่องค่อนข้างยากที่จะรู้ว่าไบเดน ที่ปรึกษาความมั่นคง Sullivan และคณะผู้บริหารรัฐบาลอเมริกันชุดนี้คิดอย่างไร? เพื่อนสนิทของผมบางคนที่เป็นนักวิเคราะห์ด้วยกันถึงกับต้องสรุปว่าพวกเขา...บ้าไปแล้ว (insane) ดังนั้นมันเลยเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าจริงว่าคงยากเอามากๆ ที่จะทำนายได้ว่าพวกเขาคิดทำอะไรต่อไป ถ้าหากเขาทั้งหลาย...บ้าไปแล้ว!!!” ซึ่งก็คงไม่ใช่แต่เฉพาะอดีตนักวิเคราะห์ “CIA” อย่าง “นายRay McGovern” รายเดียวเท่านั้น อดีตเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำโซเวียตรัสเซียอย่าง “นายJack Matlock” เอง ก็ยังต้องออกมาตอกย้ำไว้ด้วยว่าความพยายามของรัฐบาลอเมริกันในอันที่จะอาศัย “สงครามที่ไม่มีความชัดเจน” สู้กับรัสเซียโดยอาศัยยูเครนเป็นตัวแทนนั้น เป็นสิ่งที่ “อันตราย” เอามากๆ...หรือกระทั่งอดีตผู้คิดจะสมัครลงแข่ง ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันคราวนี้ อย่าง “Robert F. Kennedy Jr.” ยังอดไม่ได้ที่จะต้องออกมาเตือนไว้ล่วงหน้าว่า... “นโยบายเผชิญหน้าขั้นสูงสุดของไบเดนเพื่อยัดเยียดความปราชัยอันน่าอับอายให้กับรัสเซียและเพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครองของปูตินนั้น...คือสูตรสำเร็จสำหรับหายนะทางนิวเคลียร์” เอาเลยถึงขั้นนั้นหรือรัฐบาลคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ที่กำลังเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งแค่อีกไม่กี่เดือนนี่แหละ อาจกำลังฉุดกระชากลากถูบรรดาชาวอเมริกันทั้งประเทศรวมทั้งชาวโลกทั้งหลาย เข้าสู่ “สงครามนิวเคลียร์” เอาเลยก็เป็นได้ ด้วยเหตุเพราะรัสเซียนั้นไม่ใช่ประเทศอื่นๆโดยทั่วไป แต่ถือเป็น “ชาตินิวเคลียร์” แถมยังกำอาวุธมหาประลัยชนิดนี้ไว้ในมือไม่รู้จะกี่พันต่อกี่พันลูก โดยผู้ที่อาจต้อง “ซวย” เป็นอันดับแรก ก็ดังที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” “นายRay McGovern” ได้วาดจินตนาการไว้ล่วงหน้านั่นแหละว่า... “ถ้าหากรัสเซียต้องการจะบอกกับชาวยุโรปว่า ถ้าพวกคุณคิดจะใช้นิวเคลียร์ทางยุทธวิธีกับเราก็อย่าลืมว่าเราก็มีอาวุธนิวเคลียร์เหมือนกัน แล้วที่ไหนล่ะ...ที่รัสเซียจะงัดคำเตือนเหล่านี้ออกมาแสดงให้เห็น นั่นก็น่าจะเป็น...ยุโรปนั่นเอง!!!”... อย่างไรก็ตาม...สิ่งที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” รายนี้ ยังพยายาม “มองโลกในแง่ดี” เอาไว้มั่ง นั่นก็คือ... “ผมคิดว่าปูตินยังฉลาดพอ ที่จะรอให้เห็นกันชัดๆ ซะก่อนว่า ใคร??? ที่จะชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้นำอเมริกา เพียงแต่ในช่วงระหว่างนั้นแม้แต่ผมก็ยังต้องกลั้นหายใจกับสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่” อันน่าจะเป็นไปเช่นเดียวกับพันธมิตรของจีนและรัสเซียอย่างอิหร่าน เป็นต้น ที่ต้องพยายามก้าวย่างอย่างระมัดระวังในการ “แก้แค้น-เอาคืน” ต่อการยั่วยวนกวนส้นตีนของอิสราเอล เพื่อไม่ให้ต้องก้าวไปสู่ “กับดัก” ของพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์ของคุณพ่ออเมริกาเอาง่ายๆ ต้องกลั้นใจ สะกดใจ หันไปเล่น “หมากล้อม” ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เกิดเงื่อนไข-เหตุปัจจัย อันจะทำให้พวก “อีลิทโลก” ผู้ซึ่งเพียรพยายามพิทักษ์ ปกป้อง “ระเบียบโลกแบบเดิมๆ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้ตัวเองมั่งคั่ง ร่ำรวย อย่างชนิดอภิมหาศาล สามารถดำรงคงอยู่ได้อีกต่อไป ที่พยายามทั้งผลัก ทั้งดัน ให้บรรดารัฐบาลแห่งโลกตะวันตกทั้งหลาย “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า” ขึ้นมาให้จงได้!!! และอาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้หมีขาวที่ได้ชื่อว่าดุแสนดุอย่างรัสเซีย เลยต้องหันไปส่งสัญญาณด้วยปฏิบัติการ “ซ้อมรบ” ทางเรือครั้งใหญ่ ที่เรียกๆ กันว่า “Ocean-2024” ตั้งแต่เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (10 ก.ย.) ด้วยการขนเอาเรือรบไม่ต่ำกว่า 400 ลำ เครื่องบินรบอีก 120 ลำ ทวยทหารอีกถึง 90,000 นาย ออกมาเบ่งกล้ามอวดโชว์กำลังในน่านน้ำแทบทุกน่านน้ำไม่ว่าในมหาสมุทรแปซิฟิก อาร์กติก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทะเลแคสเปียน ไปจนแถบทะเลบอลติกโดยมีคุณพี่จีนเข้าร่วมด้วยหรือร่วมส่งสัญญาณไปถึงประเทศญี่ปุ่น-ยุ่นปี่ ที่กำลังคิดเอาขีปนาวุธพิสัยกลางของคุณพ่ออเมริกามาติดตั้งไว้ในประเทศตัวเองในอีกไม่นาน-ไม่ช้านับจากนี้... แต่ส่วนจะทำให้อเมริกาและพันธมิตรพรมเช็ดเท้าแห่งโลกตะวันตก...พอที่จะ “หายบ้า” หรือพอที่จะได้ “สติ” ขึ้นมาได้มั่งหรือไม่? อย่างไร? อันนั้น...คงต้องคอยสวดมนต์และภาวนากันไปตามสภาพ ไม่ก็ต้องหันไป “กลั้นหายใจ” แบบเดียวกับที่ “นายRay McGovern” ได้ว่าเอาไว้นั่นแหละ คือถ้าหากอีก 2 เดือนข้างหน้า “ทรัมป์บ้า” สามารถดิ้นรนกลับมาเป็นผู้นำอเมริกาได้ดังเดิม มันก็อาจเบาๆ ลงไปได้บ้างสำหรับ “แนวรบ” บางด้าน เช่นแนวรบยุโรปตะวันออก เป็นต้น แต่ถ้าหากคุณน้อง “กมลา” เธอสามารถนอนมาโดยไม่ต้องมีพระสวดนำหน้า แบบที่บรรดา “โพล” หลายๆ สำนักพยายามเชียร์แล้ว เชียร์อีก แม้จะก่อให้เกิดความซี๊ดๆ ซ๊าดๆ ต่อบรรดา “ติ่งอเมริกา” เพียงใดก็เถอะ แต่...ก็อาจนำมาซึ่ง “สงครามกลางเมืองครั้งใหม่” ของอเมริกา หรือนำมาซึ่ง “ความล่มสลาย” ลงไปเองเอาเลยก็เป็นได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปงัดอาวุธมหาประลัยใดๆ ออกมาใช้ให้ต้องมากเรื่อง-มากความ หรือให้บรรดา “พลโลก” อย่างเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย ต้องพลอยเดือดร้อน หรือพลอย “ซวย” ไปด้วยอย่างมิอาจช่วยอะไรได้เลย... https://mgronline.com/daily/detail/9670000086180 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    “สงครามโลก” ก่อนหรือหลัง “เลือกตั้งอเมริกา”???
    ถึงแม้การเลือกตั้งอเมริกาจะเหลืออีกประมาณเดือนกว่าๆ ใกล้ๆ 2 เดือน...แต่ก็คงไม่น่าถึงกับต้องไปให้ความสำคัญกับการ “ดีเบต” หรือการโต้กันไป-โต้กันมา ระหว่าง 2 ผู้สมัคร คู่ชิง อย่าง “ทรัมป์บ้า” หรือคุณน้อง “กมลา”
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 689 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,518
    วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๗ (15 September 2024)

    โอนเงินทำบุญ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท
    01. วัดสมณโกฎฐาราม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (หล่อพระประธานศาลา 15 ก.ย.67)
    02. รร.บ้านมะม่วงเจ็ดต้น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 15 ก.ย.67)
    03. รร.บ้านหนองหลัก อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67)
    04. วัดสุวรรณคีรีวิหาร อ.เมือง จ.ระนอง
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67)
    05. รร.ชุมชนวัดกลางวังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67)
    06. รร.วัดบ้านซุ้ง อ.เส้าไห้ จ.สระบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67)
    07. รร.บ้านแหลมไผ่ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67)
    08. รร.วัดนายาว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67)
    09. รร.วัดบางจิก อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67)
    10. รร.ขนงพระใต้ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 24 ก.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๐ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,518 วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๗ (15 September 2024) โอนเงินทำบุญ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท 01. วัดสมณโกฎฐาราม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา (หล่อพระประธานศาลา 15 ก.ย.67) 02. รร.บ้านมะม่วงเจ็ดต้น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 15 ก.ย.67) 03. รร.บ้านหนองหลัก อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67) 04. วัดสุวรรณคีรีวิหาร อ.เมือง จ.ระนอง (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67) 05. รร.ชุมชนวัดกลางวังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67) 06. รร.วัดบ้านซุ้ง อ.เส้าไห้ จ.สระบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67) 07. รร.บ้านแหลมไผ่ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67) 08. รร.วัดนายาว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67) 09. รร.วัดบางจิก อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67) 10. รร.ขนงพระใต้ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (ทอดผ้าป่าสามัคคี 24 ก.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๐ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,518
    วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๗ (15 September 2024)

    โอนเงินทำบุญ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท
    01. วัดสมณโกฎฐาราม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (หล่อพระประธานศาลา 15 ก.ย.67)
    02. รร.บ้านมะม่วงเจ็ดต้น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 15 ก.ย.67)
    03. รร.บ้านหนองหลัก อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67)
    04. วัดสุวรรณคีรีวิหาร อ.เมือง จ.ระนอง
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67)
    05. รร.ชุมชนวัดกลางวังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67)
    06. รร.วัดบ้านซุ้ง อ.เส้าไห้ จ.สระบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67)
    07. รร.บ้านแหลมไผ่ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67)
    08. รร.วัดนายาว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67)
    09. รร.วัดบางจิก อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67)
    10. รร.ขนงพระใต้ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 24 ก.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๐ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,518 วันอาทิตย์: ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๗ (15 September 2024) โอนเงินทำบุญ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท 01. วัดสมณโกฎฐาราม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา (หล่อพระประธานศาลา 15 ก.ย.67) 02. รร.บ้านมะม่วงเจ็ดต้น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 15 ก.ย.67) 03. รร.บ้านหนองหลัก อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67) 04. วัดสุวรรณคีรีวิหาร อ.เมือง จ.ระนอง (ทอดผ้าป่าสามัคคี 21 ก.ย.67) 05. รร.ชุมชนวัดกลางวังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67) 06. รร.วัดบ้านซุ้ง อ.เส้าไห้ จ.สระบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67) 07. รร.บ้านแหลมไผ่ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67) 08. รร.วัดนายาว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67) 09. รร.วัดบางจิก อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 22 ก.ย.67) 10. รร.ขนงพระใต้ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (ทอดผ้าป่าสามัคคี 24 ก.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๐ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่วมแล้วไปไหน? จับตาอีสาน 7 จังหวัดริมโขง

    อิทธิพลของพายุยางิ ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ฝนตกทั้งวันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มวลน้ำจากประเทศเมียนมา ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก เข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลแม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา ตามมาด้วยแม่น้ำกก เข้าท่วมเขตเทศบาลนครเชียงราย ข้อมูลสะสม ณ วันที่ 12 ก.ย. จังหวัดเชียงรายได้รับความเสียหายรวม 6 อำเภอ 25 ตำบล 125 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (22 ชุมชน) ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ 2 แห่ง ร้านค้าและสถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎรได้รับผลกระทบ 51,353 ครัวเรือน เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย

    ปลายทางของมวลน้ำทั้งสองสายอยู่ที่อำเภอเชียงแสน โดยแม่น้ำรวกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สามเหลี่ยมทองคำ ส่วนแม่น้ำกกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สบกก (ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน) แต่การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากแม่น้ำโขงมีระดับน้ำที่สูงขึ้น และเข้าท่วมเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีมวลน้ำสาขาจาก สปป.ลาว ไหลลงสู่แม่น้ำโขง โดยเฉพาะแม่น้ำทาจากแขวงหลวงน้ำทา ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว รวมทั้งแขวงหลวงพระบาง แขวงอุดมไซ และแขวงไชยบุรี ยังประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย

    สิ่งที่น่าเป็นห่วงนับจากนี้ คือ 7 จังหวัดภาคอีสานที่อยู่ริมแม่น้ำโขง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ อ.เชียงคาน จ.เลย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.00-3.60 เมตร คาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50-1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. อ.เมือง จ.หนองคาย และ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.50-3.90 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 1.50-2.50 เมตรในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00-2.60 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.50-1.30 เมตร

    ด้านเทศบาลเมืองหนองคาย ยกระดับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมเป็นธงสีแดง (มากกว่า 12 เมตร) สภาวะน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ให้อาศัยอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อสั่งการ โดยระดับน้ำยังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างช้าๆ ล่าสุดเมื่อเวลา 00.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.) ระดับน้ำที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 12.82 เมตร สูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยของตลิ่งถึง 62 เซนติเมตร

    (ระบบติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง https://monitoring.tnmc-is.org)

    #Newskit #น้ำท่วม #แม่น้ำโขง
    ท่วมแล้วไปไหน? จับตาอีสาน 7 จังหวัดริมโขง อิทธิพลของพายุยางิ ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ฝนตกทั้งวันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มวลน้ำจากประเทศเมียนมา ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก เข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลแม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา ตามมาด้วยแม่น้ำกก เข้าท่วมเขตเทศบาลนครเชียงราย ข้อมูลสะสม ณ วันที่ 12 ก.ย. จังหวัดเชียงรายได้รับความเสียหายรวม 6 อำเภอ 25 ตำบล 125 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (22 ชุมชน) ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ 2 แห่ง ร้านค้าและสถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎรได้รับผลกระทบ 51,353 ครัวเรือน เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ปลายทางของมวลน้ำทั้งสองสายอยู่ที่อำเภอเชียงแสน โดยแม่น้ำรวกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สามเหลี่ยมทองคำ ส่วนแม่น้ำกกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สบกก (ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน) แต่การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากแม่น้ำโขงมีระดับน้ำที่สูงขึ้น และเข้าท่วมเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีมวลน้ำสาขาจาก สปป.ลาว ไหลลงสู่แม่น้ำโขง โดยเฉพาะแม่น้ำทาจากแขวงหลวงน้ำทา ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว รวมทั้งแขวงหลวงพระบาง แขวงอุดมไซ และแขวงไชยบุรี ยังประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย สิ่งที่น่าเป็นห่วงนับจากนี้ คือ 7 จังหวัดภาคอีสานที่อยู่ริมแม่น้ำโขง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ อ.เชียงคาน จ.เลย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.00-3.60 เมตร คาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50-1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. อ.เมือง จ.หนองคาย และ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.50-3.90 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 1.50-2.50 เมตรในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00-2.60 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.50-1.30 เมตร ด้านเทศบาลเมืองหนองคาย ยกระดับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมเป็นธงสีแดง (มากกว่า 12 เมตร) สภาวะน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ให้อาศัยอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อสั่งการ โดยระดับน้ำยังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างช้าๆ ล่าสุดเมื่อเวลา 00.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.) ระดับน้ำที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 12.82 เมตร สูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยของตลิ่งถึง 62 เซนติเมตร (ระบบติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง https://monitoring.tnmc-is.org) #Newskit #น้ำท่วม #แม่น้ำโขง
    Like
    Sad
    7
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา
    .
    วันที่ 11 ก.ย. 67 เวลา 10.00 น.
    นายศุภรัศมิ์ ตัณฑเศรณีวัฒน์ ประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ สมัยที่หนึ่งประจำปี 2567 ครั้งที่ 1 ตามที่ เทศบาลนครนครราชสีมาได้ประกาศใช้เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เทศบาลนครนครราชสีมามีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากมีรายรับบางประเภทเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายรับเกินยอดรวมทั้งสิ้นของประมาณการรายรับ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 จำนวน 124,551,000 บาท โดยแบ่งเป็น รายได้จัดเก็บเอง จำนวน 35,839,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 28.77 และรายได้ที่รัฐบาลอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 88,712,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 71.23 จึงมีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นเงินทั้งสิ้น 124,551,000 บาท โดยงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนี้จะถูกนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นในหลายด้าน เพื่อยกระดับการเป็นมหานครที่น่าอยู่ในระดับสากลด้วยพลังสังคม เพื่อความสุขของประชาชนอย่างยั่งยืน ที่มีประสิทธิภาพและ
    ยั่งยืน ดังนี้
    1. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ: การเป็นเมืองอัจฉริยะ ( Smart city) ด้วยการพัฒนาระบบศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อบริหารจัดการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบ
    เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน และติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน
    2. ด้านการศึกษา: ก่อสร้างและปรับปรุงอาคารเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาล รวมถึงการสนับสนุนเทคโนโลยีการศึกษาด้วยการจัดหาคอมพิวเตอร์ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน
    3. ด้านการพัฒนาชุมชน: ก่อสร้างและปรับปรุงศาลาประชาคมให้เป็นศูนย์กลางกิจกรรมของชุมชน และการจัดหาเครื่องออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยของประชาชน
    4. ด้านการบริหารจัดการขยะมูลฝอย: จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษก ชั้น 5 เทศบาลนครนครราชสีมา

    #เทศบาลนครนครราชสีมา
    #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา
    #Appkoratcity #สายด่วน1132
    ไลน์OAเทศบาลฯแอดเลย 👉🏻 https://lin.ee/tEoZH6e
    #ประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา📝 . 🗓️วันที่ 11 ก.ย. 67 เวลา 10.00 น. นายศุภรัศมิ์ ตัณฑเศรณีวัฒน์ ประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ สมัยที่หนึ่งประจำปี 2567 ครั้งที่ 1 ตามที่ เทศบาลนครนครราชสีมาได้ประกาศใช้เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เทศบาลนครนครราชสีมามีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากมีรายรับบางประเภทเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายรับเกินยอดรวมทั้งสิ้นของประมาณการรายรับ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 จำนวน 124,551,000 บาท โดยแบ่งเป็น รายได้จัดเก็บเอง จำนวน 35,839,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 28.77 และรายได้ที่รัฐบาลอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 88,712,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 71.23 จึงมีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นเงินทั้งสิ้น 124,551,000 บาท โดยงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนี้จะถูกนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นในหลายด้าน เพื่อยกระดับการเป็นมหานครที่น่าอยู่ในระดับสากลด้วยพลังสังคม เพื่อความสุขของประชาชนอย่างยั่งยืน ที่มีประสิทธิภาพและ ยั่งยืน ดังนี้ 1. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ: การเป็นเมืองอัจฉริยะ ( Smart city) ด้วยการพัฒนาระบบศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อบริหารจัดการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน และติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน 2. ด้านการศึกษา: ก่อสร้างและปรับปรุงอาคารเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาล รวมถึงการสนับสนุนเทคโนโลยีการศึกษาด้วยการจัดหาคอมพิวเตอร์ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน 3. ด้านการพัฒนาชุมชน: ก่อสร้างและปรับปรุงศาลาประชาคมให้เป็นศูนย์กลางกิจกรรมของชุมชน และการจัดหาเครื่องออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยของประชาชน 4. ด้านการบริหารจัดการขยะมูลฝอย: จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษก ชั้น 5 เทศบาลนครนครราชสีมา #เทศบาลนครนครราชสีมา #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา #Appkoratcity #สายด่วน1132 📲 ไลน์OAเทศบาลฯแอดเลย 👉🏻 https://lin.ee/tEoZH6e
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีครับ มาสร้างชุมชน ความจริงกันเถอะ

    สวัสดีครับ มาสร้างชุมชน ความจริงกันเถอะ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนุ่มทัณฑสถานสิงคโปร์ ที่หลงรักมวยไทย

    เมื่อวันก่อน เฟซบุ๊ก Singapore Prison Service ขององค์กรทัณฑสถานสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทยของสิงคโปร์ (Ministry of Home Affairs หรือ MHA) ได้เผยแพร่วีดีโอคลิปรายการที่ชื่อว่า Captain of lives, Outside of work สัมภาษณ์พันตำรวจตรี อาหมัด เนาฟัล (ASP Ahmad Naufal) เจ้าหน้าที่กองฟื้นฟูความร่วมมือชุมชนและการกลับคืนสู่สังคม ที่อีกด้านหนึ่งของชีวิตเป็นผู้ที่หลงรักมวยไทย

    อาหมัดเล่าว่า ทำงานที่นี่มาเป็นเวลา 6 ปีแล้ว โดยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับชุมชนพันธมิตร ช่วยเหลือด้านการวางแผนและพัฒนากลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างการสนับสนุนด้านระบบความสัมพันธ์ สำหรับผู้ต้องขัง อดีตผู้กระทำความผิด และครอบครัวของพวกเขา แต่ละวันเกี่ยวข้องกับการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนพันธมิตร ทำอย่างไรที่จะทำให้อดีตผู้กระทำความผิด มีส่วนร่วมกับกิจกรรมเพื่อสังคม และเสริมสร้างอัตลักษณ์ทางสังคมของพวกเขา

    แต่นอกเวลางาน อาหมัดใช้เวลาจำนวนมากไปกับการเข้ายิมเพื่อฝึกซ้อมมวยไทย

    เขากล่าวว่า เมื่อ 7 ปีก่อนไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ กับกลุ่มเพื่อนเมื่อปี 2560 สิ่งสำคัญที่ได้ทำในประเทศไทย คือการเยี่ยมชมเวทีมวยราชดำเนิน ทำให้ได้จุดประกายบางอย่างในตัวขึ้นมา เมื่อกลับมายังสิงคโปร์ก็เริ่มฝึกมวยไทย ผ่านมาแล้ว 7 ปี ก็ยังคงฝึกซ้อมมวยไทย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

    "มวยไทยช่วยให้ผมคลายเครียด คลายความกดดันอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากวันทำงานอันยาวนาน ดังนั้นไม่มีอะไรดีไปกว่าการเตะและต่อยกระสอบทรายอีกแล้ว มันเป็นทางออกที่ดีจริงๆ สำหรับการคลายเครียด"

    อาหมัดฝึกซ้อมมวยไทยกับยิมท้องถิ่นในศูนย์การค้าคิเนกซ์ (Kinex) สนิทกับผู้ฝึกสอนจากประเทศไทยที่ชื่อว่า "ครูตุ๊ก" เป็นพิเศษ ซึ่งได้เรียนรู้จากเขาทุกครั้งที่ทำการฝึกเข้าเป้า เขาจะลงมือลงแรงกับตนเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับผู้เข้ารับการฝึกคนอื่นๆ จำไม่ได้ว่าเคยมีช่วงเวลาไหนที่ไม่หมดแรง เมื่อต้องฝึกซ้อมร่วมกับเขา ดังนั้นพวกเราจึงเติบโตขึ้นอย่างใกล้ชิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา และรู้สึกยินดีที่ได้พบกับเขาดังครูฝึกของตน

    "ผมคิดว่า สิ่งสำคัญประการหนึ่งในการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ คือไม่เพียงแต่คุณจะสามารถรักษาความฟิตได้เท่านั้น แต่ยังทำให้จิตใจเฉียบแหลมขึ้น และมีสมาธิในการทำงานที่ดีขึ้นด้วย"

    #Newskit #SingaporePrisonService #CaptainOfLives
    หนุ่มทัณฑสถานสิงคโปร์ ที่หลงรักมวยไทย เมื่อวันก่อน เฟซบุ๊ก Singapore Prison Service ขององค์กรทัณฑสถานสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทยของสิงคโปร์ (Ministry of Home Affairs หรือ MHA) ได้เผยแพร่วีดีโอคลิปรายการที่ชื่อว่า Captain of lives, Outside of work สัมภาษณ์พันตำรวจตรี อาหมัด เนาฟัล (ASP Ahmad Naufal) เจ้าหน้าที่กองฟื้นฟูความร่วมมือชุมชนและการกลับคืนสู่สังคม ที่อีกด้านหนึ่งของชีวิตเป็นผู้ที่หลงรักมวยไทย อาหมัดเล่าว่า ทำงานที่นี่มาเป็นเวลา 6 ปีแล้ว โดยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับชุมชนพันธมิตร ช่วยเหลือด้านการวางแผนและพัฒนากลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างการสนับสนุนด้านระบบความสัมพันธ์ สำหรับผู้ต้องขัง อดีตผู้กระทำความผิด และครอบครัวของพวกเขา แต่ละวันเกี่ยวข้องกับการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนพันธมิตร ทำอย่างไรที่จะทำให้อดีตผู้กระทำความผิด มีส่วนร่วมกับกิจกรรมเพื่อสังคม และเสริมสร้างอัตลักษณ์ทางสังคมของพวกเขา แต่นอกเวลางาน อาหมัดใช้เวลาจำนวนมากไปกับการเข้ายิมเพื่อฝึกซ้อมมวยไทย เขากล่าวว่า เมื่อ 7 ปีก่อนไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ กับกลุ่มเพื่อนเมื่อปี 2560 สิ่งสำคัญที่ได้ทำในประเทศไทย คือการเยี่ยมชมเวทีมวยราชดำเนิน ทำให้ได้จุดประกายบางอย่างในตัวขึ้นมา เมื่อกลับมายังสิงคโปร์ก็เริ่มฝึกมวยไทย ผ่านมาแล้ว 7 ปี ก็ยังคงฝึกซ้อมมวยไทย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ "มวยไทยช่วยให้ผมคลายเครียด คลายความกดดันอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากวันทำงานอันยาวนาน ดังนั้นไม่มีอะไรดีไปกว่าการเตะและต่อยกระสอบทรายอีกแล้ว มันเป็นทางออกที่ดีจริงๆ สำหรับการคลายเครียด" อาหมัดฝึกซ้อมมวยไทยกับยิมท้องถิ่นในศูนย์การค้าคิเนกซ์ (Kinex) สนิทกับผู้ฝึกสอนจากประเทศไทยที่ชื่อว่า "ครูตุ๊ก" เป็นพิเศษ ซึ่งได้เรียนรู้จากเขาทุกครั้งที่ทำการฝึกเข้าเป้า เขาจะลงมือลงแรงกับตนเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับผู้เข้ารับการฝึกคนอื่นๆ จำไม่ได้ว่าเคยมีช่วงเวลาไหนที่ไม่หมดแรง เมื่อต้องฝึกซ้อมร่วมกับเขา ดังนั้นพวกเราจึงเติบโตขึ้นอย่างใกล้ชิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา และรู้สึกยินดีที่ได้พบกับเขาดังครูฝึกของตน "ผมคิดว่า สิ่งสำคัญประการหนึ่งในการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ คือไม่เพียงแต่คุณจะสามารถรักษาความฟิตได้เท่านั้น แต่ยังทำให้จิตใจเฉียบแหลมขึ้น และมีสมาธิในการทำงานที่ดีขึ้นด้วย" #Newskit #SingaporePrisonService #CaptainOfLives
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดงบกว่า 4 ล้านบาท เร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด และช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จังหวัด พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันเพื่อประเมินการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
    .
    ระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วยนางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน สุโขทัย และแพร่ รวม 5 จังหวัด เครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 8,500 ชุด นอกจากนี้ยังได้ มอบเงินสงเคราะห์ค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 9 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณการช่วยเหลือทั้งสิ้น 4,005,000 บาท (สี่ล้านห้าพันบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายมูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี
    .
    นอกจากนี้ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ แผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา คัดกรองเบาหวาน ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย แพร่ และน่าน โดยมีประชาชนเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก
    .
    เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ ฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์
    .
    ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการภารกิจในพื้นที่ และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป
    .
    ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดงบกว่า 4 ล้านบาท เร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด และช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จังหวัด พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันเพื่อประเมินการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด . ระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วยนางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน สุโขทัย และแพร่ รวม 5 จังหวัด เครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 8,500 ชุด นอกจากนี้ยังได้ มอบเงินสงเคราะห์ค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 9 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณการช่วยเหลือทั้งสิ้น 4,005,000 บาท (สี่ล้านห้าพันบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายมูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี . นอกจากนี้ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ แผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา คัดกรองเบาหวาน ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย แพร่ และน่าน โดยมีประชาชนเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก . เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ ฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ . ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการภารกิจในพื้นที่ และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป . ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีวิวแพลตฟอร์มชุมชนชาวพุทธเครือข่ายสังคมออนไลน์ ชาวพุทธ
    thenirvanalive.com ( เว็บบอร์ดพระนิพพาน) แพลตฟอร์มชุมชนชาวพุทธและคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนาพัฒนาโดยชาวพุทธไทย เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่
    สามารถค้นหาธรรมะที่ถูกปิดกั้นได้และ สามารถเข้ามา แบ่งปันบทความตั้งกระทู้ธรรมะได้อย่างอิสระ ทางเว็บฯ
    มีห้องและพื้นที่ให้ท่านเข้ามาแบ่งปันนธรรมะและะความรู้
    ได้อย่างอิสระ โดยไม่ถูกการปิดกั้นการมองเห็นเหมือนแพลตฟอร์มอื่น

    - ท่านที่ชอบการอ่านเข้ามาอ่านบทความธรรมะดีๆๆ มากมายได้แล้ววันนี้

    - ท่านที่ชอบลงบทความธรรมะให้ปัญญาคนสามารถตั้งกระทู้ได้แล้ววันนี้

    - ท่านที่ชอบการ บูชาพระเครื่องหรือวัตถุมงคลอื่นๆ สามารถเข้ามาหาบูชากันได้แล้ววันนี้

    - แพลตฟอร์มที่ลงบทความธรรมะและะความรู้อื่นโดย
    ไม่โดนปิดกั้น

    ท่านสามารถค้นหาเว็บบอร์ดพระนิพพานได้ใน Google
    พิมพ์คำว่า เว็บบอร์ดพระนิพพาน เลย รีบสมัครสมาชิกเลย

    https://www.thenirvanalive.com/เว็บบอร์ดพระนิพพาน/
    รีวิวแพลตฟอร์มชุมชนชาวพุทธเครือข่ายสังคมออนไลน์ ชาวพุทธ thenirvanalive.com ( เว็บบอร์ดพระนิพพาน) แพลตฟอร์มชุมชนชาวพุทธและคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนาพัฒนาโดยชาวพุทธไทย เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ สามารถค้นหาธรรมะที่ถูกปิดกั้นได้และ สามารถเข้ามา แบ่งปันบทความตั้งกระทู้ธรรมะได้อย่างอิสระ ทางเว็บฯ มีห้องและพื้นที่ให้ท่านเข้ามาแบ่งปันนธรรมะและะความรู้ ได้อย่างอิสระ โดยไม่ถูกการปิดกั้นการมองเห็นเหมือนแพลตฟอร์มอื่น - ท่านที่ชอบการอ่านเข้ามาอ่านบทความธรรมะดีๆๆ มากมายได้แล้ววันนี้ - ท่านที่ชอบลงบทความธรรมะให้ปัญญาคนสามารถตั้งกระทู้ได้แล้ววันนี้ - ท่านที่ชอบการ บูชาพระเครื่องหรือวัตถุมงคลอื่นๆ สามารถเข้ามาหาบูชากันได้แล้ววันนี้ - แพลตฟอร์มที่ลงบทความธรรมะและะความรู้อื่นโดย ไม่โดนปิดกั้น ท่านสามารถค้นหาเว็บบอร์ดพระนิพพานได้ใน Google พิมพ์คำว่า เว็บบอร์ดพระนิพพาน เลย รีบสมัครสมาชิกเลย https://www.thenirvanalive.com/เว็บบอร์ดพระนิพพาน/
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีวิวแพลตฟอร์มชุมชนชาวพุทธเครือข่ายสังคมออนไลน์ ชาวพุทธ
    thenirvanalive.com ( เว็บบอร์ดพระนิพพาน) แพลตฟอร์มชุมชนชาวพุทธและคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนาพัฒนาโดยชาวพุทธไทย เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่
    สามารถค้นหาธรรมะที่ถูกปิดกั้นได้และ สามารถเข้ามา แบ่งปันบทความตั้งกระทู้ธรรมะได้อย่างอิสระ ทางเว็บฯ
    มีห้องและพื้นที่ให้ท่านเข้ามาแบ่งปันนธรรมะและะความรู้
    ได้อย่างอิสระ โดยไม่ถูกการปิดกั้นการมองเห็นเหมือนแพลตฟอร์มอื่น

    - ท่านที่ชอบการอ่านเข้ามาอ่านบทความธรรมะดีๆๆ มากมายได้แล้ววันนี้

    - ท่านที่ชอบลงบทความธรรมะให้ปัญญาคนสามารถตั้งกระทู้ได้แล้ววันนี้

    - ท่านที่ชอบการ บูชาพระเครื่องหรือวัตถุมงคลอื่นๆ สามารถเข้ามาหาบูชากันได้แล้ววันนี้

    - แพลตฟอร์มที่ลงบทความธรรมะและะความรู้อื่นโดย
    ไม่โดนปิดกั้น

    ท่านสามารถค้นหาเว็บบอร์ดพระนิพพานได้ใน Google
    พิมพ์คำว่า เว็บบอร์ดพระนิพพาน เลย รีบสมัครสมาชิกเลย

    https://www.thenirvanalive.com/เว็บบอร์ดพระนิพพาน/
    รีวิวแพลตฟอร์มชุมชนชาวพุทธเครือข่ายสังคมออนไลน์ ชาวพุทธ thenirvanalive.com ( เว็บบอร์ดพระนิพพาน) แพลตฟอร์มชุมชนชาวพุทธและคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนาพัฒนาโดยชาวพุทธไทย เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ สามารถค้นหาธรรมะที่ถูกปิดกั้นได้และ สามารถเข้ามา แบ่งปันบทความตั้งกระทู้ธรรมะได้อย่างอิสระ ทางเว็บฯ มีห้องและพื้นที่ให้ท่านเข้ามาแบ่งปันนธรรมะและะความรู้ ได้อย่างอิสระ โดยไม่ถูกการปิดกั้นการมองเห็นเหมือนแพลตฟอร์มอื่น - ท่านที่ชอบการอ่านเข้ามาอ่านบทความธรรมะดีๆๆ มากมายได้แล้ววันนี้ - ท่านที่ชอบลงบทความธรรมะให้ปัญญาคนสามารถตั้งกระทู้ได้แล้ววันนี้ - ท่านที่ชอบการ บูชาพระเครื่องหรือวัตถุมงคลอื่นๆ สามารถเข้ามาหาบูชากันได้แล้ววันนี้ - แพลตฟอร์มที่ลงบทความธรรมะและะความรู้อื่นโดย ไม่โดนปิดกั้น ท่านสามารถค้นหาเว็บบอร์ดพระนิพพานได้ใน Google พิมพ์คำว่า เว็บบอร์ดพระนิพพาน เลย รีบสมัครสมาชิกเลย https://www.thenirvanalive.com/เว็บบอร์ดพระนิพพาน/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัปเกรดเทศบาลนครบุรีรัมย์ ดึงอาณาจักรปราสาทสายฟ้า

    การประกาศเปลี่ยนแปลงฐานะเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ ของกระทรวงมหาดไทย ที่ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ตีพิมพ์ลงในราชกิจจานุเบกษา ฉบับวันที่ 6 ก.ย. 2567 และมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2567 ถือว่าเป็นไปตามแผนการยกอาณาจักร "ปราสาทสายฟ้า" ในพื้นที่ตำบลอิสาณ ได้แก่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามช้างอารีนา โรงแรมบริคบอกซ์โฮเทลบุรีรัมย์ โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และโรงโม่หินศิลาชัย ไปรวมกับตัวเมืองบุรีรัมย์

    เดิมเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2479 มีพื้นที่เพียง 6 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 2.2 หมื่นคนจาก 18 ชุมชน แต่ได้นำเทศบาลตำบลอิสาณ พื้นที่ 36 ตารางกิโลเมตร ประชากร 2.2 หมื่นคนจาก 18 หมู่บ้าน และอีก 4 หมู่บ้านในตำบลเสม็ด ประชากรราว 5.5 พันคน มารวมกับเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อให้มีประชากรรวมกันเกิน 50,000 คน ตามหลักเกณฑ์พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496

    ตำบลอิสาณ ที่โอบล้อมรอบเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ หรือตำบลในเมือง นอกจากเป็นที่ตั้งของบริษัทในเครือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดแล้ว ยังมีห้างบิ๊กซี แม็คโคร โฮมโปร และทวีกิจ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ส่วน 4 หมู่บ้านของตำบลเสม็ด มีวนอุทยานเขากระโดง ศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ สนามกีฬาบุรีรัมย์ซิตี้สเตเดียม โรงเรียนภัทรบพิตร แขวงทางหลวงบุรีรัมย์ มณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ และแคมป์บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขากระโดง

    ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา นายวิกรม สมจิตต์อารี อดีตนายกเทศมนตรีปี 2547-2551 และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้นายเนวินเลิกเล่นการเมืองมาตั้งแต่ปี 2555 หันมาเอาดีกับธุรกิจกีฬา แต่ก็มีบริวารโลดแล่นบนสนามการเมืองในนามพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายอนุทินเป็นหัวหน้าพรรค

    การแถลงนโยบายของนายวิกรม มีทั้งหมด 5 ด้าน ได้แก่ 1. ปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหาร และการบริการประชาชน 2. ปรับปรุงตลาดสด และตลาดไนท์บาซาร์ 3. เพิ่มต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง 4. จัดตั้งและพัฒนาเขตเศรษฐกิจในเมือง และ 5. เตรียมพร้อมกับการยกฐานะเป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ นับจากนี้เมืองบุรีรัมย์อาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ในฐานะองค์กรปกครองท้องถิ่นขนาดใหญ่ขึ้น มีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น และได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มขึ้น

    #Newskit #บุรีรัมย์ #เทศบาลนครบุรีรัมย์
    อัปเกรดเทศบาลนครบุรีรัมย์ ดึงอาณาจักรปราสาทสายฟ้า การประกาศเปลี่ยนแปลงฐานะเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ ของกระทรวงมหาดไทย ที่ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ตีพิมพ์ลงในราชกิจจานุเบกษา ฉบับวันที่ 6 ก.ย. 2567 และมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2567 ถือว่าเป็นไปตามแผนการยกอาณาจักร "ปราสาทสายฟ้า" ในพื้นที่ตำบลอิสาณ ได้แก่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามช้างอารีนา โรงแรมบริคบอกซ์โฮเทลบุรีรัมย์ โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และโรงโม่หินศิลาชัย ไปรวมกับตัวเมืองบุรีรัมย์ เดิมเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2479 มีพื้นที่เพียง 6 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 2.2 หมื่นคนจาก 18 ชุมชน แต่ได้นำเทศบาลตำบลอิสาณ พื้นที่ 36 ตารางกิโลเมตร ประชากร 2.2 หมื่นคนจาก 18 หมู่บ้าน และอีก 4 หมู่บ้านในตำบลเสม็ด ประชากรราว 5.5 พันคน มารวมกับเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อให้มีประชากรรวมกันเกิน 50,000 คน ตามหลักเกณฑ์พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ตำบลอิสาณ ที่โอบล้อมรอบเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ หรือตำบลในเมือง นอกจากเป็นที่ตั้งของบริษัทในเครือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดแล้ว ยังมีห้างบิ๊กซี แม็คโคร โฮมโปร และทวีกิจ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ส่วน 4 หมู่บ้านของตำบลเสม็ด มีวนอุทยานเขากระโดง ศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ สนามกีฬาบุรีรัมย์ซิตี้สเตเดียม โรงเรียนภัทรบพิตร แขวงทางหลวงบุรีรัมย์ มณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ และแคมป์บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขากระโดง ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา นายวิกรม สมจิตต์อารี อดีตนายกเทศมนตรีปี 2547-2551 และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้นายเนวินเลิกเล่นการเมืองมาตั้งแต่ปี 2555 หันมาเอาดีกับธุรกิจกีฬา แต่ก็มีบริวารโลดแล่นบนสนามการเมืองในนามพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายอนุทินเป็นหัวหน้าพรรค การแถลงนโยบายของนายวิกรม มีทั้งหมด 5 ด้าน ได้แก่ 1. ปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหาร และการบริการประชาชน 2. ปรับปรุงตลาดสด และตลาดไนท์บาซาร์ 3. เพิ่มต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง 4. จัดตั้งและพัฒนาเขตเศรษฐกิจในเมือง และ 5. เตรียมพร้อมกับการยกฐานะเป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ นับจากนี้เมืองบุรีรัมย์อาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ในฐานะองค์กรปกครองท้องถิ่นขนาดใหญ่ขึ้น มีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น และได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มขึ้น #Newskit #บุรีรัมย์ #เทศบาลนครบุรีรัมย์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • สกายวอร์ค กาญจนบุรี แลนมาร์คเมืองกาญจนบุรี
    เป็นจุดที่แม่น้ำแควน้อยกับแควใหญ่มาบรรจบกัน
    ไหลรวมลงไปเป็นแม่น้ำแม่กลอง
    จะมองเห็นชุมชนริมน้ำ มีบริการล่องแพ กิจกรรมสันทนาการบนแพ
    ยามเย็นเป็นจุดรอชมพระอาทิตย์ตกได้
    ค่าบริการ 60 บาท

    ปล.รูปผ่านการปรับสีช่วยมา
    สกายวอร์ค กาญจนบุรี แลนมาร์คเมืองกาญจนบุรี เป็นจุดที่แม่น้ำแควน้อยกับแควใหญ่มาบรรจบกัน ไหลรวมลงไปเป็นแม่น้ำแม่กลอง จะมองเห็นชุมชนริมน้ำ มีบริการล่องแพ กิจกรรมสันทนาการบนแพ ยามเย็นเป็นจุดรอชมพระอาทิตย์ตกได้ ค่าบริการ 60 บาท ปล.รูปผ่านการปรับสีช่วยมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,510
    วันเสาร์: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
    วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๗ (7 September 2024)

    โอนเงินทำบุญ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท
    01. วัดเทพลีลา อ.บางกะปิ กรุงเทพฯ
    (งานปฏิบัติธรรม 7-8 ก.ย.67)
    02. วัดวรนาถบรรพต อ.เมือง จ.นครสวรรค์
    (หล่อพระปางประทานพร 12 ก.ย.67)
    03. วัดสุชน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
    (ถวายผ้าไตรจีวร 23 ก.ย.67)
    04. รร.มงคลธรรมวัฒน์วิทยา อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 7 ก.ย.67)
    05. รร.บัวลาย อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 7 ก.ย.67)
    06. รร.อนุบาลวัดพิชัยสงคราม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 8 ก.ย.67)
    07. รร.วัดรุ้ง (วิบูลย์วิทยาคาร) อ.เมือง จ.อ่างทอง
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 8 ก.ย.67)
    08. วัดวชิรธรรมาวาส เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 9 ก.ย.67)
    09. รร.ชุมชนวัดกะทูนเหนือ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ก.ย.67)
    10. รร.วัดบ้านโพธิ์ตะวันตก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ก.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๘ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,510 วันเสาร์: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๗ (7 September 2024) โอนเงินทำบุญ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท 01. วัดเทพลีลา อ.บางกะปิ กรุงเทพฯ (งานปฏิบัติธรรม 7-8 ก.ย.67) 02. วัดวรนาถบรรพต อ.เมือง จ.นครสวรรค์ (หล่อพระปางประทานพร 12 ก.ย.67) 03. วัดสุชน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช (ถวายผ้าไตรจีวร 23 ก.ย.67) 04. รร.มงคลธรรมวัฒน์วิทยา อ.เมือง จ.อุบลราชธานี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 7 ก.ย.67) 05. รร.บัวลาย อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา (ทอดผ้าป่าสามัคคี 7 ก.ย.67) 06. รร.อนุบาลวัดพิชัยสงคราม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 8 ก.ย.67) 07. รร.วัดรุ้ง (วิบูลย์วิทยาคาร) อ.เมือง จ.อ่างทอง (ทอดผ้าป่าสามัคคี 8 ก.ย.67) 08. วัดวชิรธรรมาวาส เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 9 ก.ย.67) 09. รร.ชุมชนวัดกะทูนเหนือ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ก.ย.67) 10. รร.วัดบ้านโพธิ์ตะวันตก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ก.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๕๘ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.75: มอร์มอน

    เมื่อเช้านี้ระหว่างที่ผมรถติดอยู่แถวๆบ้าน สายตาก็เหลือบไปเห็นฝรั่งวัยหนุ่ม 2 คน ท่าทางดี แต่งตัวเรียบร้อยนั่งอยู่บนรถสองแถวครับ

    จากประสบการณ์นั้น มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าพ่อหนุ่มสองคนนี้เป็นพวกเผยแพร่ศาสนาคริสต์ และผมคิดว่าเป็นนิกายมอร์มอน (Mormon) เพราะการแต่งตัวสไตล์เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ผูกไท สะพายกระเป๋าดำและมีป้ายชื่อสีดำอันใหญ่ๆนี่ ดูยังไงก็มอร์มอน

    และน่าจะเป็นชาวอเมริกัน เพราะพวกมอร์มอนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นอเมริกัน เพราะนิกายมอร์มอนนั้นกำเนิดในอเมริกาครับ

    ตอนสมัยที่ผมได้ไปเรียนอยู่ที่อเมริกาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมเคยเจอวัยรุ่นมอร์มอนมาเคาะประตูบ้านและชวนไปเข้าลัทธิกับเขา ได้ฟังเขาเล่าเรื่องของมอร์มอนแล้วก็สนุกดี

    วันนี้ก็ผมจึงไปค้นคว้าหาเรื่องของพวกมอร์มอนมาเล่าสู่กันฟังสนุกๆครับ
    .
    .
    .
    นิกายมอร์มอนนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่อเมริกาเพิ่งจะประกาศอิสรภาพแยกตัวจากอังกฤษใหม่ๆครับ นั่นก็คือ ช่วงประมาณ ค.ศ.1800 โน่น

    ความน่าสนใจของนิกายนี้ ก็คือ ผู้ที่เป็นศาสดาหรือผู้นำสารของพระเจ้านั้นเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นชาวนิวยอร์คชื่อ “โจเซฟ สมิธ” ซึ่งโจเซฟผู้นี้เขาไม่ได้มีการศึกษาอะไร แต่เป็นเด็กที่รักการค้นหาขุดหาสมบัติในสวนหลังบ้าน

    อันนี้เราก็ต้องเข้าใจบริบทในยุคนั้นด้วยนิดนึงครับ เพราะอเมริกานั้นเป็นดินแดนโลกใหม่ ดังนั้นความเชื่อเรื่องการขุดหาสมบัติลึกลับของโจรสลัดหรือขุมทรัพย์โบราณก็ยังแพร่หลายครับ

    วันหนึ่งระหว่างที่เด็กชายโจเซฟวัย 15 ขวบนี้กำลังหาโน่นนี่อยู่ในป่าหลังบ้าน ก็ให้บังเอิญได้ไปพบกับร่างมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์สองร่างกำลังลอยอยู่ และบอกกับโจเซฟว่า ร่างหนึ่งคือพระเจ้าและอีกร่างคือพระเยซูบุตรของพระเจ้า

    พระเจ้าบอกกับโจเซฟว่า บรรดานิกายศาสนาคริสต์และศาสนาทั้งหลายที่มีอยู่บนโลกนี้นั้นล้วนแต่เสื่อมโทรมทั้งสิ้น และพระเจ้าได้บอกให้โจเซฟเตรียมตัวที่จะสร้างดินแดนที่วันหนึ่งพระเยซูจะกลับมาพิพากษาคนบาป

    โจเซฟเจอดังนี้แล้ว ก็กลับบ้านมาแต่ก็ไม่ได้คิดจะบอกอะไรใคร ได้แต่เก็บไว้เป็นความลับส่วนตัว

    เวลาผ่านไปอีกสามปี เมื่อโจเซฟอายุได้ 18 ปี ก็ได้มีเทวดาองค์หนึ่งมาปรากฏตัวขึ้นในห้องของโจเซฟ เทวดาบอกกับโจเซฟว่าให้เดินไปที่เนินเขาใกล้ๆบ้านแล้วจะได้พบกับแผ่นทองคำจารึกข้อความสำคัญที่อยากจะให้โจเซฟเอามาเผยแพร่ต่อมนุษย์โลก

    แน่นอนว่าโจเซฟก็ทำตามนั้น และเขาก็ได้พบกับแผ่นทองคำปึกใหญ่ๆจริงๆ บนแผ่นทองคำนั้นจารึกด้วยภาษาฮีบรูโบราณซึ่งโจเซฟอ่านไม่ออก แต่เขาก็เอากลับมาเก็บไว้ที่บ้าน แล้วก็เล่าเรื่องให้พ่อแม่พี่น้องและภรรยาฟัง

    ซึ่งทุกคนก็เชื่อเขาสนิทใจโดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด

    แต่ทั้งนี้โจเซฟก็ไม่ได้ให้ใครได้เห็นแผ่นจารึกทองคำนี้เลยนะครับ และเมื่อโจเซฟคิดจะแปลข้อความจากแผ่นทองคำนี้เป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะใช้วิธีขึงผ้าม่านหนาๆใหญ่ๆกั้นระหว่างตัวเขากับคนจดบันทึก (ซึ่งบางทีก็เป็นภรรยาเขาหรือไม่ก็น้องชาย)

    แล้วโจเซฟก็จะใช้เครื่องมือวิเศษที่สามารถมองข้อความบนแผ่นทองคำให้ออกมาเป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะอ่านให้คนจดบันทึกไปเรื่อยๆ ทำอย่างนี้อยู่ราวๆสามเดือน ก็ได้หนังสือขนาดความยาว 800 กว่าหน้า

    เรียกว่า “เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน - The Book of Mormon"

    เมื่อโจเซฟตรวจทานหนังสือเล่มนี้เสร็จแล้ว เขาก็จัดการส่งคืนแผ่นทองคำต้นฉบับนี้ให้เทวดาองค์เดิมไป เป็นอันว่าไม่เคยมีใครได้เห็นแผ่นทองคำนี้นอกจากโจเซฟเอง
    .
    .
    .
    ความน่าสนใจก็คือ โจเซฟนั้นเป็นคนที่ไม่ได้รับการศึกษาอะไร แต่สามารถแต่งหนังสือขึ้นความยาว 800 กว่าหน้านี้ได้ก็ถือว่าเก่ง แม้ว่าภายหลังจะมีผู้พบว่า เนื้อหาในหลายๆส่วนนั้นลอกจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมาแบบ copy and paste ก็ตามที

    ถ้าเราสังเกตดีๆ โจเซฟเขาไม่ได้ตั้งชื่อหนังสือเขาว่า ”มอร์มอนไบเบิ้ล“ แต่เรียกว่า ”เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน“ นะครับ เพราะเขาคิดว่าลัทธิของเขาคือลัทธิใหม่ ไม่ได้เกี่ยวกับไบเบิ้ล

    และในเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนนี้ โจเซฟเขาเขียนเล่าไว้ว่า เมื่อราวๆ 600 ปีก่อนสมัยพระเยซูนั้น มีชาวยิวกลุ่มหนึ่งได้หลบหนีออกจากกรุงเยรูซาเล็ม เดินข้ามทะเลทรายและขึ้นเรือรอนแรมมาจนกระทั่งถึงอเมริกา

    ชาวยิวกลุ่มนี้ได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในแผ่นดินอเมริกาและเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เป็นบรรพบุรุษชาวชนพื้นเมืองอเมริกัน (Native American)

    แน่นอนว่าเมื่อเทคโนโลยีทันสมัยขึ้น การตรวจดีเอ็นเอของชนพื้นเมืองอเมริกันก็พบว่าไม่ได้มีเชื้อสายยิวเลยแม้แต่น้อย

    นอกนั้นในบุ๊คออฟมอร์มอนยังบอกอีกว่า หลังจากที่พระเยซูถูกตรึงกางเขนตายไปนั้น พระองค์ยังได้มาปรากฏตัวอยู่ที่อเมริกาด้วย

    แต่เอาเถิดครับ....ไม่ว่าเรื่องราวจะพิสดารเพียงใด เมื่อโจเซฟประกาศลัทธิใหม่ออกไป ประกอบกับว่าเขาเป็นคนมีวาทศิลป์ดี โน้มน้าวคนได้เก่ง ก็ปรากฏว่ามีผู้เชื่อถือลัทธิมอร์มอนของโจเซฟอยู่หลายพันคน

    และอีกครั้งที่ผมอยากจะขอให้ท่านผู้อ่านนึกภาพว่า นี่คือเหตุการณ์เมื่อ 200 ปีก่อน ที่คนอเมริกันคือชาวยุโรปที่อพยพมาค้นหาโลกใหม่ การที่พวกเขาจะเริ่มต้นกับลัทธิความเชื่อใหม่บนแผ่นดินใหม่ที่ต่างไปจากความเชื่อเดิมที่พวกเขาละทิ้งมา ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
    .
    .
    .
    พ่อหนุ่มโจเซฟในวัย 26 ปีได้ประกาศกับสาวกของตัวเองว่า พระเจ้าได้ขอให้โจเซฟและชาวมอร์มอนสร้างแผ่นดินใหม่ที่เรียกว่า “ไซออน - Zion" เพื่อรอรับการกลับมาของพระเยซู

    ซึ่งการจะทำดั่งนี้ได้ ชาวมอร์มอนทั้งหลายจะต้องเดินทางอพยพไปสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา

    ว่าแล้วโจเซฟกับชาวมอร์มอนหลายพันคนก็ออกเดินทางจากนิวยอร์คไปยังรัฐโอไฮโอแล้วก็เริ่มสร้างเมือง แต่สร้างได้สักพักก็โดนชาวเมืองที่เขาอาศัยอยู่เดิมเขาขับไล่ด้วยความที่เป็นพวกลัทธิประหลาด

    โจเซฟและพวกก็อพยพอีกรอบ คราวนี้เดินทางกันต่อมาที่เมืองแจ็คสันวิลล์ รัฐมิสซูรี ทีนี้โจเซฟได้ประกาศว่า ”ที่นี่แหละที่เราจะสร้างเมืองไซออนของเราขึ้นมา เพราะที่นี่อยู่ใกล้กับสวนสวรรค์อีเดนของพระเจ้า“

    จำนวนชาวมอร์มอนเริ่มขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังขยันก่อสร้างกันเสียอีก เพราะโจเซฟเขาได้ออกแบบผังเมืองเป็นรูปกริด (Grid) บล็อคๆสี่เหลี่ยมเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม

    ชาวมิสซูรีเดิมเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าบ้านเรือนของตัวเองจะโดนพวกมอร์มอนยึดเรียบ ก็เลยขับไล่พวกมอร์มอน แล้วก็เกิดการรบพุ่งกันจริงจังขึ้นจนกระทั่งผู้ว่าการรัฐมิสซูรีต้องประกาศสงครามกันดุเดือด

    พวกมอร์มอนก็จึงต้องย้ายอีก..... คราวนี้ไปอยู่ที่รัฐอิลลินอยส์ ใกล้ๆกับเมืองชิคาโก ทีนี่แหละครับที่โจเซฟชะตาขาด เพราะเมื่อตัวเองเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นก็กำเริบถึงขนาดลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี และเริ่มใช้กำลังทหารของตัวเองไปทำลายโรงพิมพ์ที่ตีพิมพ์บทความต่อต้านพวกมอร์มอน

    ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์จึงจับตัวโจเซฟและน้องชายมาขังตัวไว้ ปรากฏว่าโดนฝูงชนบุกเข้าไปถึงห้องขัง ยิงโจเซฟตายขณะที่พยายามกระโดดหนีออกจากชั้นสอง

    โจเซฟ สมิธตายในวัยเพียง 34 ปี มีสาวกเป็นชาวมอร์มอนอยู่นับหมื่นคน
    .
    .
    .
    บรรดาชาวมอร์มอนทั้งหลายก็อพยพอีกรอบ คราวนี้ระหกระเหินมุ่งหน้าไปฝั่งตะวันตกเรื่อยๆจนกระทั่งไปถึงดินแดนหุบเขาอันกว้างใหญ่ที่ครอบคลุมรัฐยูท่าห์ รัฐอริโซน่า รัฐโคโลราโด และรัฐแคลิฟอร์เนีย

    เพียงแต่สมัยนั้นยังไม่มีชื่อรัฐเช่นนี้ เพราะดินแดนที่ผมเขียนไปข้างต้นนั้นยังคงเป็นของเม็กซิโกเขา และมีชนพื้นเมืองอเมริกันอาศัยกันอยู่

    พวกมอร์มอนมาถึงปุ๊บ ก็เร่งรีบสร้างเมืองกันทันทีเพราะเขาเชื่อกันว่าใกล้จะถึงวันที่พระเยซูจะมาถึงเต็มแก่

    ทั้งนี้เราก็ต้องยกย่องในความสามารถในทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมของพวกมอร์มอน ที่เขาสามารถสร้างเมือง โบสถ์ โรงเรียน โรงเหล็ก เหมืองและระบบระบายน้ำขึ้นมาได้จากดินแดนอันว่างเปล่า

    เมืองของพวกมอร์มอนขยายตัวกันอย่างรวดเร็ว และรูปแบบของเมืองก็ยังคงเป็นแบบกริด (Grid) หรือบล็อคสี่เหลี่ยมๆเป็นระเบียบตามแบบที่โจเซฟ สมิธออกแบบไว้

    พวกมอร์มอนเรียกเมืองของเขาว่า “เดเซเร็ท - Deseret" อันเป็นภาษาโบราณแปลว่า ”รังผึ้ง“ ครับ อันสื่อความหมายถึงความร่วมมือร่วมใจกันชุมชนที่ทำงานร่วมกัน

    ที่เมืองเดเซเร็ทนี้ พวกมอร์มอนเขาเริ่มออกสกุลเงิน ธนบัตร เริ่มออกกฎหมายของตัวเอง มีภาษาเขียนของตัวเอง

    ทีนี้รัฐบาลกลางสหรัฐเริ่มชักจะเหล่สายตามาที่พวกมอร์มอนอีกรอบ เพราะชักจะเริ่มทำทีท่าคล้ายๆจะแยกเป็นประเทศต่างหาก ไม่ขึ้นกับสหรัฐอเมริกาอีกแล้ว

    รัฐบาลก็เลยเรียกผู้นำของมอร์มอนในเวลานั้น คือ นายบริกแฮม ยัง (Brigham Young) ไปคุยด้วยว่าจะเอายังไงกันแน่ นายยังเขาบอกว่า เขาจะยังอยู่กับอเมริกานี่แหละ แต่เขาขอดินแดนทั้งหมดตั้งขึ้นเป็นรัฐใหม่เรียกว่า ”รัฐเดเซเร็ท“

    รัฐบาลอเมริกาไปนั่งดูแล้ว ก็คิดว่าให้ไม่ได้ เพราะดินแดนที่นายยังขอมานั้นกว้างใหญ่ขนาดครอบคลุมถึง 6 รัฐในปัจจุบัน ก็เลยบอกนายยังไปว่าให้ได้แค่พื้นที่เท่ากับรัฐยูท่าในปัจจุบันเท่านั้นแหละ

    จะเอาไม่เอาก็บอกมา

    ซึ่งนายยังก็ยอมตามนั้น รัฐบาลก็เลยตั้งให้นายยังเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกไป

    ทุกวันนี้ถ้าเพื่อนๆคนไหนได้ไปเที่ยวที่เมืองซอลท์เลกซิตี้ รัฐยูท่า ก็จะเห็นระบบการออกแบบบ้านเมืองตามสไตล์ของพวกมอร์มอนครับ เป็นกริดและมีระเบียบเรียบร้อย

    แต่ช้าก่อน....เวรกรรมของพวกมอร์มอนยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะยังมีพฤติกรรมหลายๆอย่างของมอร์มอนที่ชนอเมริกันส่วนใหญ่รับไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ “การแต่งงานมีหลายเมีย - Polygamy” เพราะชนอเมริกันนั้นมองว่าการมีเมียหลายๆคนนั้น เป็นหนึ่งในรูปแบบของการใช้แรงงานทาสแบบกลายๆ

    ทีนี้ตามกฎของมอร์มอนในเวลานั้น การแต่งงานมีเมียหลายคนนั้นคือส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวไปสู่สรวงสวรรค์ อย่างนายโจเซฟ สมิธนั้นก็มีเมียมากถึง 40 คน ส่วนนายบริกแฮม ยังนั้นมีเมียเยอะถึง 50 กว่าคน

    แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วกฎหมายของพวกมอร์มอนก็ถูกลบทิ้งไปหมดสิ้น ทิ้งไว้แต่ความเชื่อในลัทธิมอร์มอนที่ยังคงเข้มแข็งอยู่

    ที่รัฐยูท่านั้นยังเป็นหนึ่งในรัฐที่ความเป็นมอร์มอนเข้มแข็ง วิทยาลัยสอนศาสนามอร์มอนก็ยังคงมีอยู่ โบสถ์มอร์มอนก็ยังมี

    ทุกวันนี้ที่รัฐนิวยอร์ค ก็ยังคงมีการจัดพิธีเฉลิมฉลองและการแสดงตรงเนินเขา “คูโมรา - Cumorah" ที่โจเซฟ สมิธได้ไปพบกับแผ่นจารึกทองคำอันเป็นกำเนิดของหนังสือเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนกันอยู่เลย
    .
    .
    .
    ผมเองก็เคยได้หนังสือมอร์มอนนี้มาเหมือนกัน แต่เสียดายว่าทิ้งไว้ที่อเมริกา ไม่ได้เอากลับมาเมืองไทยด้วย

    อ้อ.... เกร็ดเล็กๆที่อยากแถมไว้ก็คือ ที่อนุสาวรีย์ “วอชิงตัน มอนิวเม้นท์” ที่เป็นรูปแท่งหินสูงใหญ่ ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซีน่ะครับ

    ตรงฐานของอนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นจากก้อนอิฐใหญ่ๆที่นำมาจากทุกรัฐทั่วสหรัฐอเมริกา อิฐแต่ละก้อนก็จะมีสลักสัญลักษณ์และชื่อรัฐของเขาเอาไว้

    มีอยู่รัฐหนึ่งที่ไม่ยอมใช้ชื่อรัฐตัวเอง แน่นอนว่าคือ ”รัฐยูท่า“ เพราะเขาใช้ชื่อว่า “เดเซเร็ท - Deseret" แบบดั้งเดิมและสลักเป็นรูปรังผึ้งขนาดใหญ่ และมีดวงตาของพระเจ้ามองลงมายังรังผึ้งของเขาด้วย

    อันเป็นการแสดงออกว่า ”เราคือมอร์มอนนะจ๊ะ“

    .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ เขียนยาวเหยียดไปหน่อยต้องขออภัย.....

    ใครสนใจเรื่องนี้ลองเข้าไปชมตามยูทูบวิดีโอข้างล่างนี้ได้เลยครับ

    https://youtu.be/hUW7j9GmXjI?si=3Mbhr_4mIJ15AoIA
    https://youtu.be/aTMsfOcHiJg?si=700kX_fdK2uUdJPS
    https://youtu.be/vJzRAiqg4zg?si=QhybEsnWh3GXeAgX

    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.75: มอร์มอน เมื่อเช้านี้ระหว่างที่ผมรถติดอยู่แถวๆบ้าน สายตาก็เหลือบไปเห็นฝรั่งวัยหนุ่ม 2 คน ท่าทางดี แต่งตัวเรียบร้อยนั่งอยู่บนรถสองแถวครับ จากประสบการณ์นั้น มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าพ่อหนุ่มสองคนนี้เป็นพวกเผยแพร่ศาสนาคริสต์ และผมคิดว่าเป็นนิกายมอร์มอน (Mormon) เพราะการแต่งตัวสไตล์เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ผูกไท สะพายกระเป๋าดำและมีป้ายชื่อสีดำอันใหญ่ๆนี่ ดูยังไงก็มอร์มอน และน่าจะเป็นชาวอเมริกัน เพราะพวกมอร์มอนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นอเมริกัน เพราะนิกายมอร์มอนนั้นกำเนิดในอเมริกาครับ ตอนสมัยที่ผมได้ไปเรียนอยู่ที่อเมริกาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมเคยเจอวัยรุ่นมอร์มอนมาเคาะประตูบ้านและชวนไปเข้าลัทธิกับเขา ได้ฟังเขาเล่าเรื่องของมอร์มอนแล้วก็สนุกดี วันนี้ก็ผมจึงไปค้นคว้าหาเรื่องของพวกมอร์มอนมาเล่าสู่กันฟังสนุกๆครับ . . . นิกายมอร์มอนนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่อเมริกาเพิ่งจะประกาศอิสรภาพแยกตัวจากอังกฤษใหม่ๆครับ นั่นก็คือ ช่วงประมาณ ค.ศ.1800 โน่น ความน่าสนใจของนิกายนี้ ก็คือ ผู้ที่เป็นศาสดาหรือผู้นำสารของพระเจ้านั้นเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นชาวนิวยอร์คชื่อ “โจเซฟ สมิธ” ซึ่งโจเซฟผู้นี้เขาไม่ได้มีการศึกษาอะไร แต่เป็นเด็กที่รักการค้นหาขุดหาสมบัติในสวนหลังบ้าน อันนี้เราก็ต้องเข้าใจบริบทในยุคนั้นด้วยนิดนึงครับ เพราะอเมริกานั้นเป็นดินแดนโลกใหม่ ดังนั้นความเชื่อเรื่องการขุดหาสมบัติลึกลับของโจรสลัดหรือขุมทรัพย์โบราณก็ยังแพร่หลายครับ วันหนึ่งระหว่างที่เด็กชายโจเซฟวัย 15 ขวบนี้กำลังหาโน่นนี่อยู่ในป่าหลังบ้าน ก็ให้บังเอิญได้ไปพบกับร่างมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์สองร่างกำลังลอยอยู่ และบอกกับโจเซฟว่า ร่างหนึ่งคือพระเจ้าและอีกร่างคือพระเยซูบุตรของพระเจ้า พระเจ้าบอกกับโจเซฟว่า บรรดานิกายศาสนาคริสต์และศาสนาทั้งหลายที่มีอยู่บนโลกนี้นั้นล้วนแต่เสื่อมโทรมทั้งสิ้น และพระเจ้าได้บอกให้โจเซฟเตรียมตัวที่จะสร้างดินแดนที่วันหนึ่งพระเยซูจะกลับมาพิพากษาคนบาป โจเซฟเจอดังนี้แล้ว ก็กลับบ้านมาแต่ก็ไม่ได้คิดจะบอกอะไรใคร ได้แต่เก็บไว้เป็นความลับส่วนตัว เวลาผ่านไปอีกสามปี เมื่อโจเซฟอายุได้ 18 ปี ก็ได้มีเทวดาองค์หนึ่งมาปรากฏตัวขึ้นในห้องของโจเซฟ เทวดาบอกกับโจเซฟว่าให้เดินไปที่เนินเขาใกล้ๆบ้านแล้วจะได้พบกับแผ่นทองคำจารึกข้อความสำคัญที่อยากจะให้โจเซฟเอามาเผยแพร่ต่อมนุษย์โลก แน่นอนว่าโจเซฟก็ทำตามนั้น และเขาก็ได้พบกับแผ่นทองคำปึกใหญ่ๆจริงๆ บนแผ่นทองคำนั้นจารึกด้วยภาษาฮีบรูโบราณซึ่งโจเซฟอ่านไม่ออก แต่เขาก็เอากลับมาเก็บไว้ที่บ้าน แล้วก็เล่าเรื่องให้พ่อแม่พี่น้องและภรรยาฟัง ซึ่งทุกคนก็เชื่อเขาสนิทใจโดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้โจเซฟก็ไม่ได้ให้ใครได้เห็นแผ่นจารึกทองคำนี้เลยนะครับ และเมื่อโจเซฟคิดจะแปลข้อความจากแผ่นทองคำนี้เป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะใช้วิธีขึงผ้าม่านหนาๆใหญ่ๆกั้นระหว่างตัวเขากับคนจดบันทึก (ซึ่งบางทีก็เป็นภรรยาเขาหรือไม่ก็น้องชาย) แล้วโจเซฟก็จะใช้เครื่องมือวิเศษที่สามารถมองข้อความบนแผ่นทองคำให้ออกมาเป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะอ่านให้คนจดบันทึกไปเรื่อยๆ ทำอย่างนี้อยู่ราวๆสามเดือน ก็ได้หนังสือขนาดความยาว 800 กว่าหน้า เรียกว่า “เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน - The Book of Mormon" เมื่อโจเซฟตรวจทานหนังสือเล่มนี้เสร็จแล้ว เขาก็จัดการส่งคืนแผ่นทองคำต้นฉบับนี้ให้เทวดาองค์เดิมไป เป็นอันว่าไม่เคยมีใครได้เห็นแผ่นทองคำนี้นอกจากโจเซฟเอง . . . ความน่าสนใจก็คือ โจเซฟนั้นเป็นคนที่ไม่ได้รับการศึกษาอะไร แต่สามารถแต่งหนังสือขึ้นความยาว 800 กว่าหน้านี้ได้ก็ถือว่าเก่ง แม้ว่าภายหลังจะมีผู้พบว่า เนื้อหาในหลายๆส่วนนั้นลอกจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมาแบบ copy and paste ก็ตามที ถ้าเราสังเกตดีๆ โจเซฟเขาไม่ได้ตั้งชื่อหนังสือเขาว่า ”มอร์มอนไบเบิ้ล“ แต่เรียกว่า ”เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน“ นะครับ เพราะเขาคิดว่าลัทธิของเขาคือลัทธิใหม่ ไม่ได้เกี่ยวกับไบเบิ้ล และในเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนนี้ โจเซฟเขาเขียนเล่าไว้ว่า เมื่อราวๆ 600 ปีก่อนสมัยพระเยซูนั้น มีชาวยิวกลุ่มหนึ่งได้หลบหนีออกจากกรุงเยรูซาเล็ม เดินข้ามทะเลทรายและขึ้นเรือรอนแรมมาจนกระทั่งถึงอเมริกา ชาวยิวกลุ่มนี้ได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในแผ่นดินอเมริกาและเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เป็นบรรพบุรุษชาวชนพื้นเมืองอเมริกัน (Native American) แน่นอนว่าเมื่อเทคโนโลยีทันสมัยขึ้น การตรวจดีเอ็นเอของชนพื้นเมืองอเมริกันก็พบว่าไม่ได้มีเชื้อสายยิวเลยแม้แต่น้อย นอกนั้นในบุ๊คออฟมอร์มอนยังบอกอีกว่า หลังจากที่พระเยซูถูกตรึงกางเขนตายไปนั้น พระองค์ยังได้มาปรากฏตัวอยู่ที่อเมริกาด้วย แต่เอาเถิดครับ....ไม่ว่าเรื่องราวจะพิสดารเพียงใด เมื่อโจเซฟประกาศลัทธิใหม่ออกไป ประกอบกับว่าเขาเป็นคนมีวาทศิลป์ดี โน้มน้าวคนได้เก่ง ก็ปรากฏว่ามีผู้เชื่อถือลัทธิมอร์มอนของโจเซฟอยู่หลายพันคน และอีกครั้งที่ผมอยากจะขอให้ท่านผู้อ่านนึกภาพว่า นี่คือเหตุการณ์เมื่อ 200 ปีก่อน ที่คนอเมริกันคือชาวยุโรปที่อพยพมาค้นหาโลกใหม่ การที่พวกเขาจะเริ่มต้นกับลัทธิความเชื่อใหม่บนแผ่นดินใหม่ที่ต่างไปจากความเชื่อเดิมที่พวกเขาละทิ้งมา ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร . . . พ่อหนุ่มโจเซฟในวัย 26 ปีได้ประกาศกับสาวกของตัวเองว่า พระเจ้าได้ขอให้โจเซฟและชาวมอร์มอนสร้างแผ่นดินใหม่ที่เรียกว่า “ไซออน - Zion" เพื่อรอรับการกลับมาของพระเยซู ซึ่งการจะทำดั่งนี้ได้ ชาวมอร์มอนทั้งหลายจะต้องเดินทางอพยพไปสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา ว่าแล้วโจเซฟกับชาวมอร์มอนหลายพันคนก็ออกเดินทางจากนิวยอร์คไปยังรัฐโอไฮโอแล้วก็เริ่มสร้างเมือง แต่สร้างได้สักพักก็โดนชาวเมืองที่เขาอาศัยอยู่เดิมเขาขับไล่ด้วยความที่เป็นพวกลัทธิประหลาด โจเซฟและพวกก็อพยพอีกรอบ คราวนี้เดินทางกันต่อมาที่เมืองแจ็คสันวิลล์ รัฐมิสซูรี ทีนี้โจเซฟได้ประกาศว่า ”ที่นี่แหละที่เราจะสร้างเมืองไซออนของเราขึ้นมา เพราะที่นี่อยู่ใกล้กับสวนสวรรค์อีเดนของพระเจ้า“ จำนวนชาวมอร์มอนเริ่มขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังขยันก่อสร้างกันเสียอีก เพราะโจเซฟเขาได้ออกแบบผังเมืองเป็นรูปกริด (Grid) บล็อคๆสี่เหลี่ยมเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ชาวมิสซูรีเดิมเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าบ้านเรือนของตัวเองจะโดนพวกมอร์มอนยึดเรียบ ก็เลยขับไล่พวกมอร์มอน แล้วก็เกิดการรบพุ่งกันจริงจังขึ้นจนกระทั่งผู้ว่าการรัฐมิสซูรีต้องประกาศสงครามกันดุเดือด พวกมอร์มอนก็จึงต้องย้ายอีก..... คราวนี้ไปอยู่ที่รัฐอิลลินอยส์ ใกล้ๆกับเมืองชิคาโก ทีนี่แหละครับที่โจเซฟชะตาขาด เพราะเมื่อตัวเองเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นก็กำเริบถึงขนาดลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี และเริ่มใช้กำลังทหารของตัวเองไปทำลายโรงพิมพ์ที่ตีพิมพ์บทความต่อต้านพวกมอร์มอน ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์จึงจับตัวโจเซฟและน้องชายมาขังตัวไว้ ปรากฏว่าโดนฝูงชนบุกเข้าไปถึงห้องขัง ยิงโจเซฟตายขณะที่พยายามกระโดดหนีออกจากชั้นสอง โจเซฟ สมิธตายในวัยเพียง 34 ปี มีสาวกเป็นชาวมอร์มอนอยู่นับหมื่นคน . . . บรรดาชาวมอร์มอนทั้งหลายก็อพยพอีกรอบ คราวนี้ระหกระเหินมุ่งหน้าไปฝั่งตะวันตกเรื่อยๆจนกระทั่งไปถึงดินแดนหุบเขาอันกว้างใหญ่ที่ครอบคลุมรัฐยูท่าห์ รัฐอริโซน่า รัฐโคโลราโด และรัฐแคลิฟอร์เนีย เพียงแต่สมัยนั้นยังไม่มีชื่อรัฐเช่นนี้ เพราะดินแดนที่ผมเขียนไปข้างต้นนั้นยังคงเป็นของเม็กซิโกเขา และมีชนพื้นเมืองอเมริกันอาศัยกันอยู่ พวกมอร์มอนมาถึงปุ๊บ ก็เร่งรีบสร้างเมืองกันทันทีเพราะเขาเชื่อกันว่าใกล้จะถึงวันที่พระเยซูจะมาถึงเต็มแก่ ทั้งนี้เราก็ต้องยกย่องในความสามารถในทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมของพวกมอร์มอน ที่เขาสามารถสร้างเมือง โบสถ์ โรงเรียน โรงเหล็ก เหมืองและระบบระบายน้ำขึ้นมาได้จากดินแดนอันว่างเปล่า เมืองของพวกมอร์มอนขยายตัวกันอย่างรวดเร็ว และรูปแบบของเมืองก็ยังคงเป็นแบบกริด (Grid) หรือบล็อคสี่เหลี่ยมๆเป็นระเบียบตามแบบที่โจเซฟ สมิธออกแบบไว้ พวกมอร์มอนเรียกเมืองของเขาว่า “เดเซเร็ท - Deseret" อันเป็นภาษาโบราณแปลว่า ”รังผึ้ง“ ครับ อันสื่อความหมายถึงความร่วมมือร่วมใจกันชุมชนที่ทำงานร่วมกัน ที่เมืองเดเซเร็ทนี้ พวกมอร์มอนเขาเริ่มออกสกุลเงิน ธนบัตร เริ่มออกกฎหมายของตัวเอง มีภาษาเขียนของตัวเอง ทีนี้รัฐบาลกลางสหรัฐเริ่มชักจะเหล่สายตามาที่พวกมอร์มอนอีกรอบ เพราะชักจะเริ่มทำทีท่าคล้ายๆจะแยกเป็นประเทศต่างหาก ไม่ขึ้นกับสหรัฐอเมริกาอีกแล้ว รัฐบาลก็เลยเรียกผู้นำของมอร์มอนในเวลานั้น คือ นายบริกแฮม ยัง (Brigham Young) ไปคุยด้วยว่าจะเอายังไงกันแน่ นายยังเขาบอกว่า เขาจะยังอยู่กับอเมริกานี่แหละ แต่เขาขอดินแดนทั้งหมดตั้งขึ้นเป็นรัฐใหม่เรียกว่า ”รัฐเดเซเร็ท“ รัฐบาลอเมริกาไปนั่งดูแล้ว ก็คิดว่าให้ไม่ได้ เพราะดินแดนที่นายยังขอมานั้นกว้างใหญ่ขนาดครอบคลุมถึง 6 รัฐในปัจจุบัน ก็เลยบอกนายยังไปว่าให้ได้แค่พื้นที่เท่ากับรัฐยูท่าในปัจจุบันเท่านั้นแหละ จะเอาไม่เอาก็บอกมา ซึ่งนายยังก็ยอมตามนั้น รัฐบาลก็เลยตั้งให้นายยังเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกไป ทุกวันนี้ถ้าเพื่อนๆคนไหนได้ไปเที่ยวที่เมืองซอลท์เลกซิตี้ รัฐยูท่า ก็จะเห็นระบบการออกแบบบ้านเมืองตามสไตล์ของพวกมอร์มอนครับ เป็นกริดและมีระเบียบเรียบร้อย แต่ช้าก่อน....เวรกรรมของพวกมอร์มอนยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะยังมีพฤติกรรมหลายๆอย่างของมอร์มอนที่ชนอเมริกันส่วนใหญ่รับไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ “การแต่งงานมีหลายเมีย - Polygamy” เพราะชนอเมริกันนั้นมองว่าการมีเมียหลายๆคนนั้น เป็นหนึ่งในรูปแบบของการใช้แรงงานทาสแบบกลายๆ ทีนี้ตามกฎของมอร์มอนในเวลานั้น การแต่งงานมีเมียหลายคนนั้นคือส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวไปสู่สรวงสวรรค์ อย่างนายโจเซฟ สมิธนั้นก็มีเมียมากถึง 40 คน ส่วนนายบริกแฮม ยังนั้นมีเมียเยอะถึง 50 กว่าคน แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วกฎหมายของพวกมอร์มอนก็ถูกลบทิ้งไปหมดสิ้น ทิ้งไว้แต่ความเชื่อในลัทธิมอร์มอนที่ยังคงเข้มแข็งอยู่ ที่รัฐยูท่านั้นยังเป็นหนึ่งในรัฐที่ความเป็นมอร์มอนเข้มแข็ง วิทยาลัยสอนศาสนามอร์มอนก็ยังคงมีอยู่ โบสถ์มอร์มอนก็ยังมี ทุกวันนี้ที่รัฐนิวยอร์ค ก็ยังคงมีการจัดพิธีเฉลิมฉลองและการแสดงตรงเนินเขา “คูโมรา - Cumorah" ที่โจเซฟ สมิธได้ไปพบกับแผ่นจารึกทองคำอันเป็นกำเนิดของหนังสือเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนกันอยู่เลย . . . ผมเองก็เคยได้หนังสือมอร์มอนนี้มาเหมือนกัน แต่เสียดายว่าทิ้งไว้ที่อเมริกา ไม่ได้เอากลับมาเมืองไทยด้วย อ้อ.... เกร็ดเล็กๆที่อยากแถมไว้ก็คือ ที่อนุสาวรีย์ “วอชิงตัน มอนิวเม้นท์” ที่เป็นรูปแท่งหินสูงใหญ่ ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซีน่ะครับ ตรงฐานของอนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นจากก้อนอิฐใหญ่ๆที่นำมาจากทุกรัฐทั่วสหรัฐอเมริกา อิฐแต่ละก้อนก็จะมีสลักสัญลักษณ์และชื่อรัฐของเขาเอาไว้ มีอยู่รัฐหนึ่งที่ไม่ยอมใช้ชื่อรัฐตัวเอง แน่นอนว่าคือ ”รัฐยูท่า“ เพราะเขาใช้ชื่อว่า “เดเซเร็ท - Deseret" แบบดั้งเดิมและสลักเป็นรูปรังผึ้งขนาดใหญ่ และมีดวงตาของพระเจ้ามองลงมายังรังผึ้งของเขาด้วย อันเป็นการแสดงออกว่า ”เราคือมอร์มอนนะจ๊ะ“ .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ เขียนยาวเหยียดไปหน่อยต้องขออภัย..... ใครสนใจเรื่องนี้ลองเข้าไปชมตามยูทูบวิดีโอข้างล่างนี้ได้เลยครับ https://youtu.be/hUW7j9GmXjI?si=3Mbhr_4mIJ15AoIA https://youtu.be/aTMsfOcHiJg?si=700kX_fdK2uUdJPS https://youtu.be/vJzRAiqg4zg?si=QhybEsnWh3GXeAgX นัทแนะ
    6 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1437 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดปมที่มาความ คั่งของเจี๊ยบ
    เราจะเคยได้ยินวลีที่ว่า ไม่ได้มาแก้ไข แต่มาแก้ แ-ค้-น
    ที่เจี๊ยบใช้ตั้งแต่สมัยมาเป็นหัวโจกตัวแรกๆของพรรคอนาคตใหม่
    สามกีบก็ไม่รู้แหดรู้ตี๋เลยว่าอินี่หมายถึงอะไร
    แต่ก็เฮลั่น ลั่น หารู้ไม่ถูกอิเจี๊ยบอมเกียร์ใช้เป็นเครื่องมือ
    ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 20 ปีที่แล้ว
    ตอนนั้นเจี๊ยบก็ยังไม่เหี่ยวแบบนี้นะ
    แต่ก็จะสั้นๆแบบนี้ เวลาเดินกับใครต้องซอยเท้าถี่กว่าคนอื่นนิดนึง
    เจี๊ยบกว่าจะมีผรัวคนปัจจุบัน ผ่านมาหลายสนาม
    เจี๊ยบมีความรักกับชายผู้คิดมิดีต่อสถาบันอย่างสุดโต่ง
    ทั้งคลิป ทั้งปราศรัย ให้ความเท็จกระจายไปทั่ว
    โดยในเวลานั้น โทนี่ เป็นเจ้าของคลื่นวิทยุชุมชนทั่วประเทศ
    ปลุก ระ ดม ให้คนในชาติมุ่งร้ายต่อสถาบัน
    แต่ด้วยกรรมที่ก่อ ทำให้สุดท้าย หายตัวไป
    นอนคุยกับรากมะม่วงแบบไม่สมัครใจ จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้
    ว่าไปอยู่ใต้ต้นมะม่วงต้นไหน นี่แหละคือที่มา
    ของบรรทัดที่สองที่พิมพ์ไปแล้ว
    และที่เจี๊ยบไม่ยอมไปเพื่อไทย แต่กลับมาซุกก้าวไกล
    เพราะเพื่อไทย ยังสู้ไปกราบไปอยู่ ณ เวลานั้น
    รวมถึงโทนี่ ทิ้งสหายกลางทาง ไม่เหลียวแล
    จากที่เคยอัดฉีดให้สุรชัยเดือนละ 27 ล.บ.
    เรื่องการหายตัวไปของสุรชัย แซ่ด่าน
    ดังนั้น ในเวลานี้ที่ทั้งธนาธร หรือวิโรจน์
    ได้กลับลำมาอวยอิ๊งและโทนี่
    แต่เจี๊ยบอวยไม่ลง จึงพ่นคำต่างๆมาโพส
    เจี๊ยบก็ยังเหมือนเดิม โทษทหาร โทษสถาบัน โทษเพื่อไทย
    แต่ไม่เคยโทษตัวเอง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เปิดปมที่มาความ คั่งของเจี๊ยบ เราจะเคยได้ยินวลีที่ว่า ไม่ได้มาแก้ไข แต่มาแก้ แ-ค้-น ที่เจี๊ยบใช้ตั้งแต่สมัยมาเป็นหัวโจกตัวแรกๆของพรรคอนาคตใหม่ สามกีบก็ไม่รู้แหดรู้ตี๋เลยว่าอินี่หมายถึงอะไร แต่ก็เฮลั่น ลั่น หารู้ไม่ถูกอิเจี๊ยบอมเกียร์ใช้เป็นเครื่องมือ ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเจี๊ยบก็ยังไม่เหี่ยวแบบนี้นะ แต่ก็จะสั้นๆแบบนี้ เวลาเดินกับใครต้องซอยเท้าถี่กว่าคนอื่นนิดนึง เจี๊ยบกว่าจะมีผรัวคนปัจจุบัน ผ่านมาหลายสนาม เจี๊ยบมีความรักกับชายผู้คิดมิดีต่อสถาบันอย่างสุดโต่ง ทั้งคลิป ทั้งปราศรัย ให้ความเท็จกระจายไปทั่ว โดยในเวลานั้น โทนี่ เป็นเจ้าของคลื่นวิทยุชุมชนทั่วประเทศ ปลุก ระ ดม ให้คนในชาติมุ่งร้ายต่อสถาบัน แต่ด้วยกรรมที่ก่อ ทำให้สุดท้าย หายตัวไป นอนคุยกับรากมะม่วงแบบไม่สมัครใจ จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ ว่าไปอยู่ใต้ต้นมะม่วงต้นไหน นี่แหละคือที่มา ของบรรทัดที่สองที่พิมพ์ไปแล้ว และที่เจี๊ยบไม่ยอมไปเพื่อไทย แต่กลับมาซุกก้าวไกล เพราะเพื่อไทย ยังสู้ไปกราบไปอยู่ ณ เวลานั้น รวมถึงโทนี่ ทิ้งสหายกลางทาง ไม่เหลียวแล จากที่เคยอัดฉีดให้สุรชัยเดือนละ 27 ล.บ. เรื่องการหายตัวไปของสุรชัย แซ่ด่าน ดังนั้น ในเวลานี้ที่ทั้งธนาธร หรือวิโรจน์ ได้กลับลำมาอวยอิ๊งและโทนี่ แต่เจี๊ยบอวยไม่ลง จึงพ่นคำต่างๆมาโพส เจี๊ยบก็ยังเหมือนเดิม โทษทหาร โทษสถาบัน โทษเพื่อไทย แต่ไม่เคยโทษตัวเอง #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 558 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'หมู่บ้านคีรีวงแหล่งโอโซน เมืองนครศรีธรรมราช'
    ที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในเรื่องของบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงามเปรียบได้กับแหล่งท่องเที่ยวอันโด่งดังของประเทศเกาหลีใต้อย่าง ซอรัคซานอุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยลำธารและภูเขาเขียวขจีเช่นเดียวกับสถานที่แห่งนี้ที่รายล้อมไปด้วยความงดงามที่เป็นดั่งมนต์สะกดให้พวกเราหลงใหลไปกับความเงียบของเสียงธรรมชาติที่ฟังแล้วเพลิดเพลินไปได้อย่างผ่อนคลายเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติและอยากมาสูดอากาศโอโซนให้เต็มปอดก็ต้องมาที่นี่เลย

    ชุมชนบ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ในตำบลกำโลน อำเภอลานสกา เป็นชุมชนที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา หนึ่งในนั้นคือเขาหลวง ซึ่งเป็นภูเขาสูงที่สุดในภาคใต้ เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ มีคลองท่าดีเป็นคลองสายหลักที่ไหลผ่านหมู่บ้าน บ้านคีรีวงมีวิถีชีวิตแบบชาวสวน อยู่กับธรรมชาติ อาชีพหลักคือการทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประจำปี พ.ศ. 2541 รางวัลชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประเภทเมืองและชุมชน เนื่องจากบ้านคีรีวงมีกลุ่มส่งเสริมอาชีพหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มผ้ามัดย้อม กลุ่มทำสบู่จากเปลือกมังคุด กลุ่มทุเรียนกวน กลุ่มมังคุดกวน กลุ่มทำเครื่องประดับลูกปัดโบราณ และได้พัฒนาการบริการนักท่องเที่ยว จัดนำเที่ยวเดินป่าสู่ยอดเขาหลวง มีลูกหาบ โฮมสเตย์ และศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านคีรีวง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของบ้านคีรีวงได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูกาลผลไม้ เดือนกรกฎาคม-กันยายน

    นอกจากนี้ ตามที่พักต่าง ๆ ในหมู่บ้านคีรีวง ส่วนมากมีจักรยานไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวและผู้เข้าพัก เพื่อปั่นเที่ยวชมบรรยากาศและทัศนียภาพรอบหมู่บ้าน ในหมู่บ้านคีรีวงมีจุดเล่นน้ำหลักอยู่ในบริเวณ “หนานหินท่านาหา” ซึ่งบริเวณนั้นมีสะพานแขวนข้ามลำธารเป็นเอกลักษณ์เด่น ทั้งมีร้านอาหารให้บริการอยู่หลายร้าน จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเมื่อเดินทางมาถึงบ้านคีรีวง คือ “สะพานบ้านคีรีวง คลองท่าดี” ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีต ตั้งอยู่ในบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน เป็นจุดที่มองเห็นลำธารที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านโดยมีทิวเขาน้อยใหญ่เป็นฉากหลังสวยงาม

    หยุดยาวปีใหม่นี้ เพื่อนอยากชาจแบตร่างกาย สูดโอโซนบริสุทธิ์ให้เต็มปอด แนะนนำ หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราชเลยย
    รับรอง กลับมาฟิตกว่าเดิมแน่นอน

    #เทพชวนเที่ยว
    #หมู่บ้านคีรีวง
    #นครศรีธรรมราช

    'หมู่บ้านคีรีวงแหล่งโอโซน เมืองนครศรีธรรมราช' ที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในเรื่องของบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงามเปรียบได้กับแหล่งท่องเที่ยวอันโด่งดังของประเทศเกาหลีใต้อย่าง ซอรัคซานอุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยลำธารและภูเขาเขียวขจีเช่นเดียวกับสถานที่แห่งนี้ที่รายล้อมไปด้วยความงดงามที่เป็นดั่งมนต์สะกดให้พวกเราหลงใหลไปกับความเงียบของเสียงธรรมชาติที่ฟังแล้วเพลิดเพลินไปได้อย่างผ่อนคลายเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติและอยากมาสูดอากาศโอโซนให้เต็มปอดก็ต้องมาที่นี่เลย ชุมชนบ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ในตำบลกำโลน อำเภอลานสกา เป็นชุมชนที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา หนึ่งในนั้นคือเขาหลวง ซึ่งเป็นภูเขาสูงที่สุดในภาคใต้ เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ มีคลองท่าดีเป็นคลองสายหลักที่ไหลผ่านหมู่บ้าน บ้านคีรีวงมีวิถีชีวิตแบบชาวสวน อยู่กับธรรมชาติ อาชีพหลักคือการทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประจำปี พ.ศ. 2541 รางวัลชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประเภทเมืองและชุมชน เนื่องจากบ้านคีรีวงมีกลุ่มส่งเสริมอาชีพหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มผ้ามัดย้อม กลุ่มทำสบู่จากเปลือกมังคุด กลุ่มทุเรียนกวน กลุ่มมังคุดกวน กลุ่มทำเครื่องประดับลูกปัดโบราณ และได้พัฒนาการบริการนักท่องเที่ยว จัดนำเที่ยวเดินป่าสู่ยอดเขาหลวง มีลูกหาบ โฮมสเตย์ และศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านคีรีวง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของบ้านคีรีวงได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูกาลผลไม้ เดือนกรกฎาคม-กันยายน นอกจากนี้ ตามที่พักต่าง ๆ ในหมู่บ้านคีรีวง ส่วนมากมีจักรยานไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวและผู้เข้าพัก เพื่อปั่นเที่ยวชมบรรยากาศและทัศนียภาพรอบหมู่บ้าน ในหมู่บ้านคีรีวงมีจุดเล่นน้ำหลักอยู่ในบริเวณ “หนานหินท่านาหา” ซึ่งบริเวณนั้นมีสะพานแขวนข้ามลำธารเป็นเอกลักษณ์เด่น ทั้งมีร้านอาหารให้บริการอยู่หลายร้าน จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเมื่อเดินทางมาถึงบ้านคีรีวง คือ “สะพานบ้านคีรีวง คลองท่าดี” ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีต ตั้งอยู่ในบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน เป็นจุดที่มองเห็นลำธารที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านโดยมีทิวเขาน้อยใหญ่เป็นฉากหลังสวยงาม 🤩 หยุดยาวปีใหม่นี้ เพื่อนอยากชาจแบตร่างกาย สูดโอโซนบริสุทธิ์ให้เต็มปอด แนะนนำ หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราชเลยย รับรอง กลับมาฟิตกว่าเดิมแน่นอน 😍 #เทพชวนเที่ยว #หมู่บ้านคีรีวง #นครศรีธรรมราช
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยาฆ่าพยาธิ ฤทธิ์ ต้านไวรัส และ ร่วมต้านมะเร็ง และร่วมรักษาพาร์กินสัน

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    ยาที่ได้รับการรับรองในเรื่องความปลอดภัยและหมดสิทธิบัตร ราคาถูกเข้าถึงได้ทั่ว โดยที่ ปรากฏว่ามีสรรพคุณนอกเหนือจากที่เคยรู้กันและนำมาใช้ในบริบทที่ต่างออกไป เป็นสิ่งที่ควรให้ความสนใจ ในการเป็น repurpose drug

    และอีกทั้งยาพื้นบ้านสมุนไพรไทยและยาแผนตะวันออกรวมทั้งวิธีควบการรักษาอื่นๆควรต้องเปิดใจและ ศึกษาอย่างจริงจังและในที่สุดสามารถร่วมใช้ด้วยกันกับยาแผนปัจจุบันตะวันตก

    ตัวอย่างเช่นยาฆ่าพยาธิ ยา ไอเวอร์เมคตินตัวนี้ Satoshi ōmura และ William C. Campbell ได้รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาและอายุรกรรม ในปี 2015 ในการคันพบ ว่าเป็นยาที่มีประสิทธิภาพมากในการรักษา โรคพยาธิต่างๆและช่วยชีวิตคนในทวีปแอฟริกาได้มากมาย ในช่วงระยะเวลาต่อมามีการศึกษา ฤทธิ์และกลไกของยาตัวนี้ จนกระทั่งได้พบว่ายาตัวนี้มีสรรพคุณในการยับยั้งการติดเชื้อรวมกระทั่งถึงการรักษาการติดเชื้อไวรัสโดยเฉพาะที่เป็น กลุ่ม RNA อาทิเช่นไวรัสโควิด จนกระทั่งมีการนำมาใช้ใน หลายทวีป ในประเทศอินเดีย แอฟริกา แม้กระทั่ง ในญี่ปุ่น อังกฤษและสหรัฐอเมริกา

    แต่อย่างไรก็ตามได้ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงและมีการเซ็นเซอร์รวมทั้งมีการเพิกถอนใบประกอบอาชีพของแพทย์ และองค์กรกลางของสหรัฐ FDA ได้กล่าวดูถูกถากถาง แต่ในที่สุดแพ้คดีต่อศาลสูงสุดของสหรัฐ ให้ลบการประนาม ข้อความในสื่อทั้งหมด ที่ให้ร้ายยาฆ่าพยาธิดังกล่าว และแพทย์ชนะคดี

    เย็นวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2024 คดีในศาลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยศาลได้ตัดสินให้ FDA ของสหรัฐอเมริกาซึ่งนำโดย Robert Califf ซึ่งเป็นแพทย์โรคหัวใจ ถอดถอนคำกล่าวอ้างที่เป็นเท็จและทำให้เกิดความเข้าใจผิดทั้งหมดเกี่ยวกับยา ivermectin ยานี้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ตามมาตรฐานชุมชนในการดูแลรักษาโรคโควิด-19 โดยมีประวัติความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมและหลักฐานคุณประโยชน์ในการศึกษาไม่น้อยกว่า 101 รายการ

    ในช่วงปี 2021 สิ่งที่เรียกว่า"สงครามกับยาไอเวอร์เมกติน" FDA ของสหรัฐอเมริกาได้โพสต์ทวีตอันเป็นเท็จและทำให้เข้าใจผิด และการส่งข้อความสาธารณะเพื่อห้ามปรามแพทย์ เภสัชกร และผู้ป่วยจากการใช้ยา และ ส่งผลให้แพทย์ที่สั่งใช้ถูกสั่งให้ยุติ การทำงาน ถอดถอนใบอนุญาติ และนำมาสู่การฟ้องร้องซึ่ง FDA แพ้ในที่สุด

    ช่วงเวลาก่อนโควิด ระยะที่มีการระบาด และหลังจากที่การระบาดสงบลงมีความสนใจในกลไกของยาฆ่าพยาธิตัวนี้ที่สามารถออกฤทธิ์ต่อมะเร็งหลายชนิดได้ ทั้งในด้านการระงับการเจริญเติบโต การแพร่กระจาย และยับยั้งการสร้างเส้นเลือดที่มาเลี้ยงก้อนมะเร็งต่างๆ ทั้งนี้ยังรวมถึงผ่อนเบา สถานการณ์ดื้อยาของมะเร็งชนิดต่างๆต่อการรักษาและยาเคมีบำบัด และมีการใช้ผสมควบรวมกันทั้งนี้เพื่อควบคุมมะเร็งได้ดีขึ้น

    กลไกสำคัญที่มีการศึกษาไปแล้วนั้น คือความสามารถที่จะทำให้มะเร็งตายโดยกระบวนการ ที่เรียกว่า programmed cell death autophagy และ pyroptosis โดยผ่านเส้นทางของ PAK1 kinase และอื่นๆ

    จุดประสงค์ของการศึกษายานี้กับมะเร็งเพื่อช่วยให้เป็นยาประกอบกับยาเคมีบำบัดเพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    ยกตัวอย่างบทความบางส่วนที่ศึกษายาตัวนี้กับมะเร็ง ชนิดต่างๆเช่น
    มะเร็งเต้านมโดยเฉพาะในกลุ่มที่เรียกว่า triple negative โดยทีไม่มี estrogen, progesterone receptor และ human epidermal growth factor receptors 2 (HER2) และเป็นมะเร็งที่เติบโตและลุกลามเร็วที่สุด โดยที่ไอเวอร์เมคตินทำหน้าที่เป็นตัวควบคุม ในระดับเหนือพันธุกรรม (epigenetic regulator) และยังทำให้มะเร็งชนิดนี้กลับมาตอบสนองกับยาปกติ tamoxifen
    การศึกษาหลายรายงานยังพบว่าไอเวอร์เมคติน ช่วยทำให้เซลล์มะเร็งตายได้ดีขึ้นโดยการปรับสภาวะแวดล้อมของเซลล์มะเร็ง(tumor microenvironment )จากการปล่อย high mobility group box-1 protein (HMGB1) ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางระบบเซลล์ภูมิคุ้มกันที่ทำให้เกิดการอักเสบและการตายของเซลล์มะเร็ง

    ในส่วนมะเร็งกระเพาะอาหารพบว่าไอเวอเมคติน สามารถ ยับยั้งการ เติบโตของเซลล์ผ่าน Yes-associated protein 1 (YAP1) และกระบวนการนี้ยังใช้อธิบายผลต่อมะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี

    และยายังช่วยมะเร็งที่ดื้อ gemcitabine ซึ่งเป็นยาเคมีบำบัดสำหรับรักษา มะเร็งลำไส้ใหญ่ทำให้เกิดเซลล์ตายในกระบวนการapoptosis จากการขัดขวาง Wnt/beta catenin pathway

    นอกจากนั้นยังมีผลช่วยในกรณีของมะเร็งของไต (renal cell carcinoma) โดยไม่กระทบต่อเซลล์ปกติทั้งนี้โดยการขัดขวางหน้าที่ของmitochondria

    ยายังมีส่วนช่วยมะเร็งต่อมลูกหมากโดยที่เพิ่มการออกฤทธิ์ของ ยาต้าน ฮอร์โมนแอนโดเจน enzalutamide และปรับเซลล์มะเร็งที่ดื้อ ยาdocetaxel ให้กลับมาตอบสนองใหม่

    มะเร็งของเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย ยาช่วยฆ่ามะเร็ง ในขนาดยาที่ไม่สูง และไม่กระทบเซลล์ปกติ ทั้งนี้โดยการเหนียวนำให้เกิดอนุมูลอิสระ และมีผลส่งเสริมการออกฤทธิ์ของยา cytarabine และ daunorubicin
    นอกจากนั้นยังมีผลกับมะเร็งชนิดไม่เฉียบพลัน chronic myeloid leukemia และช่วยการทำงานของยา dasatinib ให้ดีขึ้น

    มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรังไข่ ยามีส่วนช่วยในการทำให้ยาเคมีบำบัดออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นเช่นเดียวกัน
    เนื้องอกสมอง ยามีส่วนช่วยรักษา glioblastoma ผ่านกลไกที่ทำให้เซลล์ตายและยับยั้งการสร้างเส้นเลือดมาเลี้ยงก้อนเนื้องอกและการกระจายของเซลล์มะเร็ง
    อย่างไรก็ตามยาไอเวเมคติน ไม่สามารถผ่านผนังกั้นหลอดเลือดกับสมองได้ดี ดังนั้น อาจเป็นข้อจำกัดในการใช้ยานี้กับเนื้องอกในสมองยกเว้นแต่ว่าต้องสามารถเปิดให้มีรูหรือช่องว่างของผนังกั้นนี้ได้อย่างพอเพียงโดยที่ไม่เกิดขึ้นอย่างถาวร

    มะเร็งในช่วงโพรงจมูกทางด้านหลัง มะเร็งปอด และ มะเร็งร้ายแรงของผิวหนัง melanoma ยาดังกล่าวนี้สามารถช่วยการรักษาที่เป็นมาตรฐานให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

    ลิงค์ที่แนบแสดงถึงการรายงานประสิทธิภาพและกลไกของยา ต่อเนื้องอกมะเร็งแบบต่างๆ เช่น
    วารสาร Nature 2021https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5
    วารสารNature 2022https://www.nature.com/articles/s41419-022-05182-0
    และวารสารอื่นๆhttps://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1043661820315152https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7505114/https://www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2021.717529/fullhttps://journals.sagepub.com/doi/full/10.1177/09603271221143693https://www.mdpi.com/2079-9721/11/1/49https://www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2022.934746/fullhttps://ar.iiarjournals.org/content/39/9/4837
    การศึกษาในสัตว์ทดลองที่ปรับแต่งเป็นมะเร็งที่ไม่มีตัวรับใดๆทั้งสิ้น และเมื่อได้รับ Ivermectin ทำให้ตัวมะเร็งนั้นแสดงตัวให้เห็นและยาฆ่ามะเร็ง immune check point inhibitor แสดงฤทธิ์ได้เต็มที่
    Ivermectin converts cold tumors hot and synergizes with immune checkpoint blockade for treatment of breast cancer
    https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5

    https://www.frontiersin.org/journals/molecular-neuroscience/articles/10.3389/fnmol.2023.1138798/full

    ในอีกบริบทหนึ่งปรากฏว่ายังสามารถช่วยให้การรักษา พาร์กินสัน มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้นในห้อง ปฏิบัติการ อีกดังรายงานในปี 2024 และเนื่องจากความปลอดภัยแม้ว่าจะใช้ในขณะสูงเป็นเวลาหลายเดือนยังมีทางเป็นไปได้ในการรักษาเยียวยาในมนุษย์

    https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0166432820305039?fr=RR-2&ref=pdf_download&rr=

    IVM is increasing striatal dopamine release through enhanced cholinergic activity on dopamine terminals.

    https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC11025261/

    เหล่านี้เป็นตัวอย่างของยาที่มีสรรพคุณมากหลาย นอกเหนือจากที่ค้นพบตั้งแต่ต้น กลายเป็น ที่เราเรียกว่า repurpose drug

    และน่าจะสะท้อนให้เห็นถึงสภาวการณ์ของสมุนไพรไทย และรวม กันชงและกัญชา ที่ครอบครัวของผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่ารักษาไม่ได้และให้ประคับประคองอย่างเดียวได้นำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดทรมานนอนไม่ได้กินไม่ไหว แต่สามารถมีชีวิตอย่างเกือบปกติและใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวโดยทุกคนค่อยๆยอมรับ และในที่สุด แม้ผู้ป่วยจะจากไป แต่ไม่ได้ทนทุกข์ทรมาน

    ทั้งนี้ผู้ป่วยเหล่านี้ต่างได้รับยาแก้ปวดมอร์ฟีนทั้งชนิดกิน ฉีด แต่ไม่สามารถบรรเทาอาการได้ ในขณะเดียวกันมีผู้ป่วยมะเร็งเป็นจำนวนมากที่ได้รับการวินิจฉัยยืนยันชนิดของมะเร็งรวมกระทั่งถึงระยะลุกลามขั้นสุดท้าย
    เมื่อได้ยากันชงกัญชา โดยการให้ที่ถูกต้องและเหมาะสม กลับมีชีวิตยืนยาวได้มากกว่าปกติตามที่คาดคะเนจากการรักษาแบบมาตรฐาน

    ควรหรือไม่ที่จะเริ่มพิจารณาอย่างจริงจังที่จะนำสมุนไพรต่างๆ รวมทั้งการแพทย์แผนตะวันออกเช่นแพทย์แผนจีน เข้ามาศึกษาและยกระดับความเข้าใจรวมทั้งสามารถระบุปฏิกิริยา รวมทั้งข้อห้ามใช้เมื่อใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบัน ตัวไหนบ้างเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วยและเป็นการประหยัดและทำให้ประชาชนคนป่วยเข้าถึงได้อย่างเต็มที่
    ยาฆ่าพยาธิ ฤทธิ์ ต้านไวรัส และ ร่วมต้านมะเร็ง และร่วมรักษาพาร์กินสัน ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ยาที่ได้รับการรับรองในเรื่องความปลอดภัยและหมดสิทธิบัตร ราคาถูกเข้าถึงได้ทั่ว โดยที่ ปรากฏว่ามีสรรพคุณนอกเหนือจากที่เคยรู้กันและนำมาใช้ในบริบทที่ต่างออกไป เป็นสิ่งที่ควรให้ความสนใจ ในการเป็น repurpose drug และอีกทั้งยาพื้นบ้านสมุนไพรไทยและยาแผนตะวันออกรวมทั้งวิธีควบการรักษาอื่นๆควรต้องเปิดใจและ ศึกษาอย่างจริงจังและในที่สุดสามารถร่วมใช้ด้วยกันกับยาแผนปัจจุบันตะวันตก ตัวอย่างเช่นยาฆ่าพยาธิ ยา ไอเวอร์เมคตินตัวนี้ Satoshi ōmura และ William C. Campbell ได้รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาและอายุรกรรม ในปี 2015 ในการคันพบ ว่าเป็นยาที่มีประสิทธิภาพมากในการรักษา โรคพยาธิต่างๆและช่วยชีวิตคนในทวีปแอฟริกาได้มากมาย ในช่วงระยะเวลาต่อมามีการศึกษา ฤทธิ์และกลไกของยาตัวนี้ จนกระทั่งได้พบว่ายาตัวนี้มีสรรพคุณในการยับยั้งการติดเชื้อรวมกระทั่งถึงการรักษาการติดเชื้อไวรัสโดยเฉพาะที่เป็น กลุ่ม RNA อาทิเช่นไวรัสโควิด จนกระทั่งมีการนำมาใช้ใน หลายทวีป ในประเทศอินเดีย แอฟริกา แม้กระทั่ง ในญี่ปุ่น อังกฤษและสหรัฐอเมริกา แต่อย่างไรก็ตามได้ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงและมีการเซ็นเซอร์รวมทั้งมีการเพิกถอนใบประกอบอาชีพของแพทย์ และองค์กรกลางของสหรัฐ FDA ได้กล่าวดูถูกถากถาง แต่ในที่สุดแพ้คดีต่อศาลสูงสุดของสหรัฐ ให้ลบการประนาม ข้อความในสื่อทั้งหมด ที่ให้ร้ายยาฆ่าพยาธิดังกล่าว และแพทย์ชนะคดี เย็นวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2024 คดีในศาลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยศาลได้ตัดสินให้ FDA ของสหรัฐอเมริกาซึ่งนำโดย Robert Califf ซึ่งเป็นแพทย์โรคหัวใจ ถอดถอนคำกล่าวอ้างที่เป็นเท็จและทำให้เกิดความเข้าใจผิดทั้งหมดเกี่ยวกับยา ivermectin ยานี้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ตามมาตรฐานชุมชนในการดูแลรักษาโรคโควิด-19 โดยมีประวัติความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมและหลักฐานคุณประโยชน์ในการศึกษาไม่น้อยกว่า 101 รายการ ในช่วงปี 2021 สิ่งที่เรียกว่า"สงครามกับยาไอเวอร์เมกติน" FDA ของสหรัฐอเมริกาได้โพสต์ทวีตอันเป็นเท็จและทำให้เข้าใจผิด และการส่งข้อความสาธารณะเพื่อห้ามปรามแพทย์ เภสัชกร และผู้ป่วยจากการใช้ยา และ ส่งผลให้แพทย์ที่สั่งใช้ถูกสั่งให้ยุติ การทำงาน ถอดถอนใบอนุญาติ และนำมาสู่การฟ้องร้องซึ่ง FDA แพ้ในที่สุด ช่วงเวลาก่อนโควิด ระยะที่มีการระบาด และหลังจากที่การระบาดสงบลงมีความสนใจในกลไกของยาฆ่าพยาธิตัวนี้ที่สามารถออกฤทธิ์ต่อมะเร็งหลายชนิดได้ ทั้งในด้านการระงับการเจริญเติบโต การแพร่กระจาย และยับยั้งการสร้างเส้นเลือดที่มาเลี้ยงก้อนมะเร็งต่างๆ ทั้งนี้ยังรวมถึงผ่อนเบา สถานการณ์ดื้อยาของมะเร็งชนิดต่างๆต่อการรักษาและยาเคมีบำบัด และมีการใช้ผสมควบรวมกันทั้งนี้เพื่อควบคุมมะเร็งได้ดีขึ้น กลไกสำคัญที่มีการศึกษาไปแล้วนั้น คือความสามารถที่จะทำให้มะเร็งตายโดยกระบวนการ ที่เรียกว่า programmed cell death autophagy และ pyroptosis โดยผ่านเส้นทางของ PAK1 kinase และอื่นๆ จุดประสงค์ของการศึกษายานี้กับมะเร็งเพื่อช่วยให้เป็นยาประกอบกับยาเคมีบำบัดเพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างบทความบางส่วนที่ศึกษายาตัวนี้กับมะเร็ง ชนิดต่างๆเช่น มะเร็งเต้านมโดยเฉพาะในกลุ่มที่เรียกว่า triple negative โดยทีไม่มี estrogen, progesterone receptor และ human epidermal growth factor receptors 2 (HER2) และเป็นมะเร็งที่เติบโตและลุกลามเร็วที่สุด โดยที่ไอเวอร์เมคตินทำหน้าที่เป็นตัวควบคุม ในระดับเหนือพันธุกรรม (epigenetic regulator) และยังทำให้มะเร็งชนิดนี้กลับมาตอบสนองกับยาปกติ tamoxifen การศึกษาหลายรายงานยังพบว่าไอเวอร์เมคติน ช่วยทำให้เซลล์มะเร็งตายได้ดีขึ้นโดยการปรับสภาวะแวดล้อมของเซลล์มะเร็ง(tumor microenvironment )จากการปล่อย high mobility group box-1 protein (HMGB1) ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางระบบเซลล์ภูมิคุ้มกันที่ทำให้เกิดการอักเสบและการตายของเซลล์มะเร็ง ในส่วนมะเร็งกระเพาะอาหารพบว่าไอเวอเมคติน สามารถ ยับยั้งการ เติบโตของเซลล์ผ่าน Yes-associated protein 1 (YAP1) และกระบวนการนี้ยังใช้อธิบายผลต่อมะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี และยายังช่วยมะเร็งที่ดื้อ gemcitabine ซึ่งเป็นยาเคมีบำบัดสำหรับรักษา มะเร็งลำไส้ใหญ่ทำให้เกิดเซลล์ตายในกระบวนการapoptosis จากการขัดขวาง Wnt/beta catenin pathway นอกจากนั้นยังมีผลช่วยในกรณีของมะเร็งของไต (renal cell carcinoma) โดยไม่กระทบต่อเซลล์ปกติทั้งนี้โดยการขัดขวางหน้าที่ของmitochondria ยายังมีส่วนช่วยมะเร็งต่อมลูกหมากโดยที่เพิ่มการออกฤทธิ์ของ ยาต้าน ฮอร์โมนแอนโดเจน enzalutamide และปรับเซลล์มะเร็งที่ดื้อ ยาdocetaxel ให้กลับมาตอบสนองใหม่ มะเร็งของเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย ยาช่วยฆ่ามะเร็ง ในขนาดยาที่ไม่สูง และไม่กระทบเซลล์ปกติ ทั้งนี้โดยการเหนียวนำให้เกิดอนุมูลอิสระ และมีผลส่งเสริมการออกฤทธิ์ของยา cytarabine และ daunorubicin นอกจากนั้นยังมีผลกับมะเร็งชนิดไม่เฉียบพลัน chronic myeloid leukemia และช่วยการทำงานของยา dasatinib ให้ดีขึ้น มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรังไข่ ยามีส่วนช่วยในการทำให้ยาเคมีบำบัดออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นเช่นเดียวกัน เนื้องอกสมอง ยามีส่วนช่วยรักษา glioblastoma ผ่านกลไกที่ทำให้เซลล์ตายและยับยั้งการสร้างเส้นเลือดมาเลี้ยงก้อนเนื้องอกและการกระจายของเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตามยาไอเวเมคติน ไม่สามารถผ่านผนังกั้นหลอดเลือดกับสมองได้ดี ดังนั้น อาจเป็นข้อจำกัดในการใช้ยานี้กับเนื้องอกในสมองยกเว้นแต่ว่าต้องสามารถเปิดให้มีรูหรือช่องว่างของผนังกั้นนี้ได้อย่างพอเพียงโดยที่ไม่เกิดขึ้นอย่างถาวร มะเร็งในช่วงโพรงจมูกทางด้านหลัง มะเร็งปอด และ มะเร็งร้ายแรงของผิวหนัง melanoma ยาดังกล่าวนี้สามารถช่วยการรักษาที่เป็นมาตรฐานให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ลิงค์ที่แนบแสดงถึงการรายงานประสิทธิภาพและกลไกของยา ต่อเนื้องอกมะเร็งแบบต่างๆ เช่น วารสาร Nature 2021https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5 วารสารNature 2022https://www.nature.com/articles/s41419-022-05182-0 และวารสารอื่นๆhttps://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1043661820315152https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7505114/https://www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2021.717529/fullhttps://journals.sagepub.com/doi/full/10.1177/09603271221143693https://www.mdpi.com/2079-9721/11/1/49https://www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2022.934746/fullhttps://ar.iiarjournals.org/content/39/9/4837 การศึกษาในสัตว์ทดลองที่ปรับแต่งเป็นมะเร็งที่ไม่มีตัวรับใดๆทั้งสิ้น และเมื่อได้รับ Ivermectin ทำให้ตัวมะเร็งนั้นแสดงตัวให้เห็นและยาฆ่ามะเร็ง immune check point inhibitor แสดงฤทธิ์ได้เต็มที่ Ivermectin converts cold tumors hot and synergizes with immune checkpoint blockade for treatment of breast cancer https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5 https://www.frontiersin.org/journals/molecular-neuroscience/articles/10.3389/fnmol.2023.1138798/full ในอีกบริบทหนึ่งปรากฏว่ายังสามารถช่วยให้การรักษา พาร์กินสัน มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้นในห้อง ปฏิบัติการ อีกดังรายงานในปี 2024 และเนื่องจากความปลอดภัยแม้ว่าจะใช้ในขณะสูงเป็นเวลาหลายเดือนยังมีทางเป็นไปได้ในการรักษาเยียวยาในมนุษย์ https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0166432820305039?fr=RR-2&ref=pdf_download&rr= IVM is increasing striatal dopamine release through enhanced cholinergic activity on dopamine terminals. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC11025261/ เหล่านี้เป็นตัวอย่างของยาที่มีสรรพคุณมากหลาย นอกเหนือจากที่ค้นพบตั้งแต่ต้น กลายเป็น ที่เราเรียกว่า repurpose drug และน่าจะสะท้อนให้เห็นถึงสภาวการณ์ของสมุนไพรไทย และรวม กันชงและกัญชา ที่ครอบครัวของผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่ารักษาไม่ได้และให้ประคับประคองอย่างเดียวได้นำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดทรมานนอนไม่ได้กินไม่ไหว แต่สามารถมีชีวิตอย่างเกือบปกติและใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวโดยทุกคนค่อยๆยอมรับ และในที่สุด แม้ผู้ป่วยจะจากไป แต่ไม่ได้ทนทุกข์ทรมาน ทั้งนี้ผู้ป่วยเหล่านี้ต่างได้รับยาแก้ปวดมอร์ฟีนทั้งชนิดกิน ฉีด แต่ไม่สามารถบรรเทาอาการได้ ในขณะเดียวกันมีผู้ป่วยมะเร็งเป็นจำนวนมากที่ได้รับการวินิจฉัยยืนยันชนิดของมะเร็งรวมกระทั่งถึงระยะลุกลามขั้นสุดท้าย เมื่อได้ยากันชงกัญชา โดยการให้ที่ถูกต้องและเหมาะสม กลับมีชีวิตยืนยาวได้มากกว่าปกติตามที่คาดคะเนจากการรักษาแบบมาตรฐาน ควรหรือไม่ที่จะเริ่มพิจารณาอย่างจริงจังที่จะนำสมุนไพรต่างๆ รวมทั้งการแพทย์แผนตะวันออกเช่นแพทย์แผนจีน เข้ามาศึกษาและยกระดับความเข้าใจรวมทั้งสามารถระบุปฏิกิริยา รวมทั้งข้อห้ามใช้เมื่อใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบัน ตัวไหนบ้างเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วยและเป็นการประหยัดและทำให้ประชาชนคนป่วยเข้าถึงได้อย่างเต็มที่
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 621 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมร่มของญี่ปุ่นส่วนมากเป็นร่มใส่โปร่งแสง

    ฤดูฝนในญี่ปุ่นมาพร้อมกับช่วงซากุระบานในเดือนมีนาคมถึงเมษายน และเข้าสู่ช่วงพายุฝนในเดือนพฤษภาคม ฤดูมรสุมในเดือนมิถุนายน และไต้ฝุ่นในเดือนกรกฎาคมและตุลาคม ในช่วงเวลาเหล่านี้เองที่จะมีทั้ง ฝนโปรย ฝนปรอย ๆ และ ฝนตกหนัก ไปจนถึงฝนที่ตกมาเป็นช่วง ๆ ในระหว่างวัน

    จึงไม่แปลกเลยที่คนญี่ปุ่นจะพกร่ม แต่สิ่งที่แปลกสำหรับคนต่างชาติอย่างเรา ๆ ไม่ใช่การพกร่ม หากแต่เป็นร่มที่โปร่งใส ที่กันแดดก็ไม่ได้ และไม่ได้ทำขึ้นเพื่อเป็นแฟชั่นแต่อย่างใด แต่การทำร่มใส่นี้ มีที่มา

    ร่มใสที่ว่านี้ เริ่มผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1958 และความนิยมในการใช้ร่มใสนี้ก็เพิ่มขึ้นในช่วงการจัดโอลิมปิกในปีค.ศ. 1964

    ร่มชนิดนี้ในตอนแรกเป็นร่มที่ทำด้วยมือ มีวางขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปที่เรียกว่า コンビニエンスストア คนบินิเอนซุสโตอะ (ก็ คอนวีเนียนสโตร์ นี่ล่ะ) เรียกสั้น ๆ ว่า คนบินิ ถามว่าร้านแบบนี้สะดวกแค่ไหน ก็สะดวกชนิดที่ว่ามีร้านประเภทนี้อยู่ทุก 200 เมตร (เป็นคำเปรียบเปรยว่ามีเยอะมากทั่วไป)

    สาเหตุที่ร่มของญี่ปุ่นเป็นร่มใส ก็เพื่อประโยชน์ในการใช้งานล้วน ๆ นั่นคือ

    เพื่อไม่ให้ร่ม บังทัศนียภาพผู้อื่น (อึ้งกับความคิดเพื่อสาธารณะประโยชน์ของเขาไหมล่ะ)

    เพราะหากเวลาที่คนจำนวนมากถือร่มในชุมชน โอกาสที่จะมองไม่เห็นทางข้างหน้าและชนกันย่อมเกิดขึ้นได้มาก หากเป็นร่มทึบ ร่มชนิดนี้เรียกว่า คาซะ มาจากคำว่า วาคาซะ (ที่เป็นร่มกระดาษแบบร่มบ่อสร้างบ้านเรา ปัจจุบันเรามักเห็นการใช่ร่มกระดาษเวลาที่เขาสวมชุดประจำชาติกัน)

    สิ่งที่ทำให้ร่ม คาซะ เป็นที่นิยม ไม่ใช่แฟชั่น แต่เป็น ราคา และ ความสบายใจในการพกพา นั่นคือ นอกจากมันจะมีราคาถูก คันล่ะราว ๆ 300-500 เยน หรือราวๆ 60 - 100 บาทเศษ ๆ ดังนั้น ถ้าพกพาไปแล้วหลงลืมทำหาย ก็จะไม่เสียดายมากนักนั่นเอง

    Vee Chirasreshtha
    ทำไมร่มของญี่ปุ่นส่วนมากเป็นร่มใส่โปร่งแสง ฤดูฝนในญี่ปุ่นมาพร้อมกับช่วงซากุระบานในเดือนมีนาคมถึงเมษายน และเข้าสู่ช่วงพายุฝนในเดือนพฤษภาคม ฤดูมรสุมในเดือนมิถุนายน และไต้ฝุ่นในเดือนกรกฎาคมและตุลาคม ในช่วงเวลาเหล่านี้เองที่จะมีทั้ง ฝนโปรย ฝนปรอย ๆ และ ฝนตกหนัก ไปจนถึงฝนที่ตกมาเป็นช่วง ๆ ในระหว่างวัน จึงไม่แปลกเลยที่คนญี่ปุ่นจะพกร่ม แต่สิ่งที่แปลกสำหรับคนต่างชาติอย่างเรา ๆ ไม่ใช่การพกร่ม หากแต่เป็นร่มที่โปร่งใส ที่กันแดดก็ไม่ได้ และไม่ได้ทำขึ้นเพื่อเป็นแฟชั่นแต่อย่างใด แต่การทำร่มใส่นี้ มีที่มา ร่มใสที่ว่านี้ เริ่มผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1958 และความนิยมในการใช้ร่มใสนี้ก็เพิ่มขึ้นในช่วงการจัดโอลิมปิกในปีค.ศ. 1964 ร่มชนิดนี้ในตอนแรกเป็นร่มที่ทำด้วยมือ มีวางขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปที่เรียกว่า コンビニエンスストア คนบินิเอนซุสโตอะ (ก็ คอนวีเนียนสโตร์ นี่ล่ะ) เรียกสั้น ๆ ว่า คนบินิ ถามว่าร้านแบบนี้สะดวกแค่ไหน ก็สะดวกชนิดที่ว่ามีร้านประเภทนี้อยู่ทุก 200 เมตร (เป็นคำเปรียบเปรยว่ามีเยอะมากทั่วไป) สาเหตุที่ร่มของญี่ปุ่นเป็นร่มใส ก็เพื่อประโยชน์ในการใช้งานล้วน ๆ นั่นคือ เพื่อไม่ให้ร่ม บังทัศนียภาพผู้อื่น (อึ้งกับความคิดเพื่อสาธารณะประโยชน์ของเขาไหมล่ะ) เพราะหากเวลาที่คนจำนวนมากถือร่มในชุมชน โอกาสที่จะมองไม่เห็นทางข้างหน้าและชนกันย่อมเกิดขึ้นได้มาก หากเป็นร่มทึบ ร่มชนิดนี้เรียกว่า คาซะ มาจากคำว่า วาคาซะ (ที่เป็นร่มกระดาษแบบร่มบ่อสร้างบ้านเรา ปัจจุบันเรามักเห็นการใช่ร่มกระดาษเวลาที่เขาสวมชุดประจำชาติกัน) สิ่งที่ทำให้ร่ม คาซะ เป็นที่นิยม ไม่ใช่แฟชั่น แต่เป็น ราคา และ ความสบายใจในการพกพา นั่นคือ นอกจากมันจะมีราคาถูก คันล่ะราว ๆ 300-500 เยน หรือราวๆ 60 - 100 บาทเศษ ๆ ดังนั้น ถ้าพกพาไปแล้วหลงลืมทำหาย ก็จะไม่เสียดายมากนักนั่นเอง Vee Chirasreshtha
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • โพสนี้ขอดราม่านิด ๆ เพราะความไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้ควรหรือไม่ ?
    ....
    บ่ายนี้ lit nit พาอาไปเที่ยววัดแห่งหนึ่ง วัดแห่งนี้กำลังสร้างโบสถ์ ซึ่งก็เสร็จมาได้มากโขอยู่ และผู้คนก็เริ่มหลั่งไหลมาเที่ยว ชุมชนแถวนั้นได้ขายของมีรายได้ แต่ lit nit กลับหมองเศร้าในใจ
    ....
    อุโบสถแห่งนี้( หรือที่เราเรียกว่าโบสถ์) สร้างได้สวยงามมาก ๆ ตั้งแต่พื้นจรดหลังคา นั่นคือเหตุทำให้ผู้คนแห่มาเที่ยวกันมากมาย มากมายเสียจน lit nit เห็นว่านี่มันไม่ใช่เขตสังฆกรรมของสงฆ์แล้วล่ะ มันกลายเป็นแลนด์มาร์กไปเสียแล้ว
    ....
    คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว
    - เราไม่มีวิธีอื่นที่จะดึงผู้คนเข้ามาวัดหรือเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาแล้วหรือ ?
    - ถ้าวัดจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม เราจะเว้นโบสถ์ไว้สักที่หนึ่งไม่ได้หรือ ให้โบสถ์ยังคงเป็นที่ ๆ รักษาความเป็นพุทธ เป็นพื้นที่ที่พระสงฆ์ใช้ในการทำหน้าที่ที่พึงกระทำ ให้เป็นที่ที่ชาวพุทธได้ศึกษาประวัติ คำสอน และศึกษาความเป็นศาสนาพุทธ
    - เดี๋ยวนี้วัดส่วนใหญ่เริ่มชูการท่องเที่ยวมากกว่าการปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาทางใจให้กับมนุษย์โลกแล้วใช่ไหม
    ....
    มีคำถามอีกมากมายที่ทำให้เอะใจว่าสรุปสิ่งนี้
    ควรหรือไม่ควร คิดมากใจก็เศร้าหมอง หน้าตาก็เลยหม่น ๆ ไม่สดชื่น กลับมาถึงบ้าน lit nit ก็เลยสอยมะพร้าวมาล้างหน้า เพราะโบราณว่า
    #น้ำมะพร้าวล้างหน้าแล้วจะจำอะไรไม่ได้555
    โพสนี้ขอดราม่านิด ๆ เพราะความไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้ควรหรือไม่ ? .... บ่ายนี้ lit nit พาอาไปเที่ยววัดแห่งหนึ่ง วัดแห่งนี้กำลังสร้างโบสถ์ ซึ่งก็เสร็จมาได้มากโขอยู่ และผู้คนก็เริ่มหลั่งไหลมาเที่ยว ชุมชนแถวนั้นได้ขายของมีรายได้ แต่ lit nit กลับหมองเศร้าในใจ .... อุโบสถแห่งนี้( หรือที่เราเรียกว่าโบสถ์) สร้างได้สวยงามมาก ๆ ตั้งแต่พื้นจรดหลังคา นั่นคือเหตุทำให้ผู้คนแห่มาเที่ยวกันมากมาย มากมายเสียจน lit nit เห็นว่านี่มันไม่ใช่เขตสังฆกรรมของสงฆ์แล้วล่ะ มันกลายเป็นแลนด์มาร์กไปเสียแล้ว .... คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว - เราไม่มีวิธีอื่นที่จะดึงผู้คนเข้ามาวัดหรือเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาแล้วหรือ ? - ถ้าวัดจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม เราจะเว้นโบสถ์ไว้สักที่หนึ่งไม่ได้หรือ ให้โบสถ์ยังคงเป็นที่ ๆ รักษาความเป็นพุทธ เป็นพื้นที่ที่พระสงฆ์ใช้ในการทำหน้าที่ที่พึงกระทำ ให้เป็นที่ที่ชาวพุทธได้ศึกษาประวัติ คำสอน และศึกษาความเป็นศาสนาพุทธ - เดี๋ยวนี้วัดส่วนใหญ่เริ่มชูการท่องเที่ยวมากกว่าการปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาทางใจให้กับมนุษย์โลกแล้วใช่ไหม .... มีคำถามอีกมากมายที่ทำให้เอะใจว่าสรุปสิ่งนี้ ควรหรือไม่ควร คิดมากใจก็เศร้าหมอง หน้าตาก็เลยหม่น ๆ ไม่สดชื่น กลับมาถึงบ้าน lit nit ก็เลยสอยมะพร้าวมาล้างหน้า เพราะโบราณว่า #น้ำมะพร้าวล้างหน้าแล้วจะจำอะไรไม่ได้555
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • 28 สิงหาคม 2567- รายงานข่าวจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจากภาพดาวเทียม Radarsat-2 ของวันที่ 27 สิงหาคม 2567 เวลา 18.22 น. พบน้ำท่วมขังในพื้นที่บางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่จังหวัด #นครพนม 93,543 ไร่ #สกลนคร 50,035 ไร่ #อุดรธานี 39,495 ไร่ #บึงกาฬ 37,003 ไร่ #หนองคาย 35,481 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าว 158,575 ไร่ (ข้อมูลพื้นที่ปลูกข้าวจากดาวเทียม ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2567)โดยพื้นที่ที่พบส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่การเกษตร พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำสายหลักและสายรอง รวมถึงชุมชนที่อยู่อาศัยและเส้นทางคมนาคมบางส่วน
    ..
    หมายเหตุ : การประเมินพื้นที่น้ำท่วมขังได้จาก การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมโดยประมาณ ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบสภาพพื้นที่จริง
    ..
    สถานการณ์ดังกล่าว GISTDA ได้ส่งข้อมูลภาพจากดาวเทียมดังกล่าวให้กับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนในการบริหารจัดการตามภารกิจ ทั้งด้านการวางแผน และการติดตาม เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป
    ..
    สำหรับการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง GISTDA ได้วางแผนและปรับแผนรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อวิเคราะห์ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยท่านสามารถตรวจสอบพื้นที่อื่น ๆ พร้อมรายงานสรุปพื้นที่น้ำท่วมแต่ละจังหวัด เพิ่มเติมได้ที่ https://disaster.gistda.or.th

    ที่มา : GISTDA

    #Thaitimes
    28 สิงหาคม 2567- รายงานข่าวจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจากภาพดาวเทียม Radarsat-2 ของวันที่ 27 สิงหาคม 2567 เวลา 18.22 น. พบน้ำท่วมขังในพื้นที่บางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่จังหวัด #นครพนม 93,543 ไร่ #สกลนคร 50,035 ไร่ #อุดรธานี 39,495 ไร่ #บึงกาฬ 37,003 ไร่ #หนองคาย 35,481 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าว 158,575 ไร่ (ข้อมูลพื้นที่ปลูกข้าวจากดาวเทียม ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2567)โดยพื้นที่ที่พบส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่การเกษตร พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำสายหลักและสายรอง รวมถึงชุมชนที่อยู่อาศัยและเส้นทางคมนาคมบางส่วน .. หมายเหตุ : การประเมินพื้นที่น้ำท่วมขังได้จาก การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมโดยประมาณ ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบสภาพพื้นที่จริง .. สถานการณ์ดังกล่าว GISTDA ได้ส่งข้อมูลภาพจากดาวเทียมดังกล่าวให้กับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนในการบริหารจัดการตามภารกิจ ทั้งด้านการวางแผน และการติดตาม เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป .. สำหรับการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง GISTDA ได้วางแผนและปรับแผนรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อวิเคราะห์ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยท่านสามารถตรวจสอบพื้นที่อื่น ๆ พร้อมรายงานสรุปพื้นที่น้ำท่วมแต่ละจังหวัด เพิ่มเติมได้ที่ https://disaster.gistda.or.th ที่มา : GISTDA #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 632 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” อีกหนึ่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของไทย

    อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ตั้งอยู่ในเขตตำบลศรีสัชนาลัย ตำบลสารจิตร ตำบลหนองอ้อ และตำบลท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ตัวเมืองโบราณศรีสัชนาลัย อยู่ในเขตหมู่บ้านพระปรางค์ ตำบลศรีสัชนาลัย โดยอยู่ไม่สุภาพงจากกรุงเทพมหานครไปทางทิศเหนือ ประมาณ 550 กิโลเมตร เมืองโบราณศรีสัชนาลัยมีสภาพภูมิประเทศที่ตั้งของเมืองเป็นที่ราบเชิงเขาพระศรี และ เขาใหญ่ ทางด้านทิศตะวันตก และมี ลำน้ำยมอยู่ทางด้านทิศตะวันออก กรมศิลปากรได้กำหนดเขตที่ดินโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ประมาณ 28,217 ไร่

    ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
    เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ตั้งของเมืองศรีสัชนาลัย มีความเหมาะสมต่อการตั้งถิ่นฐาน คือมีทั้งที่ราบลุ่มริมแม่น้ำยมและที่ลาด เชิงเขาพระศรี และเขาใหญ่ ทำให้มีทั้งความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่และสิ่งป้องกันทางธรรมชาติที่ใช้ในการป้องกันข้าศึกศัตรู ได้อย่างดีด้วย จากหลักฐานที่สำรวจพบ พวกขวานหินขัด (เครื่องมือ เครื่องใช้ ของคนสมัยโบราณ) ที่พบที่ตำบลท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย รวมทั้งจาก หลักฐานการขุดค้นทางโบราณคดีที่วัดชมชื่น แสดงว่ามีชุมชน เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 (พ.ศ.800) เป็นต้นมาเป็นชุมชนร่วมสมัย ทวารวดีในภาคกลางถัด ขึ้นมาเป็นหลักฐานของวัฒนธรรมร่วมสมัยลพบุรี (พุทธศตวรรษที่ 18, พ.ศ. 1700) ปรากฏหลักฐานที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง ในระยะนั้นเมืองศรีสัชนาลัยมีชื่อว่าเมืองเชลียง ตามหลักฐานที่ปรากฏ ในศิลาจารึก ตำนานและพงศาวดารที่ยืนยันว่ามีเมืองโบราณ 2 เมือง อยู่ในลุ่มน้ำยมก่อนแล้ว คือ เมืองสุโขทัย และเมืองเชลียง ต่อมาได้มีการก่อสร้างเมืองศรีสัชนาลัยขึ้นทางด้านทิศเหนือของเมืองเชลียงไม่สุภาพงออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร เมืองศรีสัชนาลัย มีความสำคัญควบคู่กันมากับเมือง สุโขทัย โดยจากหลักฐานได้กล่าวถึงพ่อขุนศรีนาวนำถม ว่าเป็นกษัตริย์ครอง 2 นคร คือ เสวยราชย์ ทั้งเมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัย (ก่อน พ.ศ. 1781) ต่อมาจนถึงพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรสุโขทัย (พ.ศ.1781 - 1822) ทรงโปรดให้พ่อขุนบาลเมือง ไปครองเมืองศรีสัชนาลัย ส่วนพ่อขุนรามคำแหง พระยาลิไทก็เคยครองเมืองศรีสัชนาลัย ก่อนขึ้นเสวยราชย์เป็นกษัตริย์ปกครอง อาณาจักรสุโขทัย เมืองศรีสัชนาลัยมีฐานะเป็นเมืองลูกหลวงของสุโขทัย ต่อมาจนแม้กระทั่งสุโขทัยตกอยู่ภายใต้อำนาจของกรุงศรีอยุธยา และได้ เปลี่ยนชื่อเรียกว่า เมืองสวรรคโลก เมืองศรีสัชนาลัยหรือเมืองสวรรคโลกในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เป็นเมืองสำคัญที่ผลิตภาชนะเครื่องเคลือบสังคโลกให้แก่ กรุงศรีอยุธยา ในสมัยต่อมาเมื่อมีการจัดระบบการปกครองปรับปรุงเรื่องเชื้อสายราชวงศ์ให้เข้าอยู่ในระบบราชการเรียบร้อยแล้ว กรุงศรี อยุธยา ได้เป็นผู้แต่งตั้งเจ้าเมืองเข้ามา ปกครองเมืองสวรรคโลกมีฐานะเป็นหัวเมืองชั้นนอกระดับเมืองโท หลังเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่า ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 เมืองศรีสัชนาลัยหรือ สวรรคโลกถูก ทิ้งร้าง ต่อมาเมืองสวรรคโลกได้จัดตั้ง ขึ้นใหม่ ที่บ้านท่าชัยอยู่ด้านทิศใต้ของเมืองเดิม และในสมัยรัตนโกสินทร์ได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านวังไม้ขอน ซึ่งคือที่ตั้งของอำเภอ สวรรคโลกในปัจจุบัน ส่วนชื่อเมืองศรีสัชนาลัยถูกนำไปตั้งเป็นชื่อของอำเภอศรีสัชนาลัย ซึ่งได้รวมเอาเขตพื้นที่เมืองศรีสัชนาลัย โบราณไว้ด้วย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรใน พ.ศ.2534 เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น นับเป็นตัวแทนของศิลปกรรมไทยยุคแรกและเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2533

    โบราณสถานที่สำคัญ
    เมืองโบราณศรีสัชนาลัย มีขอบเขตของผังเมืองที่ก่อสร้างทับซ้อนอยู่บนบริเวณ เมืองเชลียงเดิม กล่าวคือ แนวกำแพงเมืองเชลียง เดิม ทำเป็นคันดินยาวขนานไปตามลำน้ำยมโดยเริ่มจาก บริเวณวัดมหาธาตุเชลียงขนานลำน้ำยมเลยผ่านเขาพนมเพลิงออกไป ซึ่งยังคงปรากฎหลักฐานคันดินให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างเมืองศรีสัชนาลัยขึ้น จึงได้พิจารณาเลือกบริเวณที่มีสภาพ ภูมิประเทศเป็นที่ราบเชิงเขา กำหนดขอบเขต การก่อสร้างกำแพงเมืองจากศิลาแลง ลักษณะผังเมืองเป็น รูปหลายเหลี่ยมไม่สม่ำเสมอตามทิศทางของแม่น้ำยม ในช่วงนี้ ลักษณะของกำแพงเมืองศรีสัชนาลัยมี หลายแนวเพราะคงมีการผสมผสานเอาแนวกำแพงคันดินในสมัยที่เป็นเมืองเชลียงเข้ามา ใช้ประโยชน์ด้วย โบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย มีทั้งภายในและภายนอกกำแพงเมือง ซึ่งรวมทั้งหมดมีไม่น้อย กว่า 215 แห่งโบราณสถานที่สำคัญมีดังนี้
    -โบราณสถานภายในกำแพงเมือง สำรวจพบแล้วมีทั้งสิ้น 28 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดนางพญา วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่ วัดสวนแก้ว เป็นต้น
    -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศเหนือ สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 35 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดกุฎีราย เตาทุเรียงบ้านป่ายาง เตา ทุเรียงบ้านเกาะน้อย ซึ่งเป็น แหล่งผลิต ภาชนะดินเผา “เครื่องสังคโลก” ที่สำคัญของเมืองศรีสัชนาลัย
    -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออก สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 10 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดสวนสัก วัดป่าแก้ว เป็นต้น
    -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศใต้ สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 24 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดชมชื่น วัดเจ้าจันทร์ และวัดโคกสิงคาราม เป็นต้น
    -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันตก สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 19 แห่ง ที่สำคัญ คือ วัดพญาดำ วัดราหู วัดสระประทุม วัดพรหมสี่หน้า วัดยายตา เป็นต้น
    -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองบนภูเขา สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 15 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดเขาใหญ่บน วัดเจดีย์เจ็ดยอด วัดเจดีย์รอบ และวัดเขาใหญ่ล่าง เป็นต้น อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ร่วมกันกับ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ในปี พ.ศ. 2534 เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฎแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น นับเป็นตัวแทนของศิลปกรรมไทย ยุคแรก และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศ

    บทความหน้า เพจเทพชวนเที่ยว จะพาไปเที่ยวที่ไหน กดติดตาม กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้แอดมินด้วยนะครับ
    “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” อีกหนึ่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของไทย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ตั้งอยู่ในเขตตำบลศรีสัชนาลัย ตำบลสารจิตร ตำบลหนองอ้อ และตำบลท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ตัวเมืองโบราณศรีสัชนาลัย อยู่ในเขตหมู่บ้านพระปรางค์ ตำบลศรีสัชนาลัย โดยอยู่ไม่สุภาพงจากกรุงเทพมหานครไปทางทิศเหนือ ประมาณ 550 กิโลเมตร เมืองโบราณศรีสัชนาลัยมีสภาพภูมิประเทศที่ตั้งของเมืองเป็นที่ราบเชิงเขาพระศรี และ เขาใหญ่ ทางด้านทิศตะวันตก และมี ลำน้ำยมอยู่ทางด้านทิศตะวันออก กรมศิลปากรได้กำหนดเขตที่ดินโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ประมาณ 28,217 ไร่ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์😍 เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ตั้งของเมืองศรีสัชนาลัย มีความเหมาะสมต่อการตั้งถิ่นฐาน คือมีทั้งที่ราบลุ่มริมแม่น้ำยมและที่ลาด เชิงเขาพระศรี และเขาใหญ่ ทำให้มีทั้งความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่และสิ่งป้องกันทางธรรมชาติที่ใช้ในการป้องกันข้าศึกศัตรู ได้อย่างดีด้วย จากหลักฐานที่สำรวจพบ พวกขวานหินขัด (เครื่องมือ เครื่องใช้ ของคนสมัยโบราณ) ที่พบที่ตำบลท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย รวมทั้งจาก หลักฐานการขุดค้นทางโบราณคดีที่วัดชมชื่น แสดงว่ามีชุมชน เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 (พ.ศ.800) เป็นต้นมาเป็นชุมชนร่วมสมัย ทวารวดีในภาคกลางถัด ขึ้นมาเป็นหลักฐานของวัฒนธรรมร่วมสมัยลพบุรี (พุทธศตวรรษที่ 18, พ.ศ. 1700) ปรากฏหลักฐานที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง ในระยะนั้นเมืองศรีสัชนาลัยมีชื่อว่าเมืองเชลียง ตามหลักฐานที่ปรากฏ ในศิลาจารึก ตำนานและพงศาวดารที่ยืนยันว่ามีเมืองโบราณ 2 เมือง อยู่ในลุ่มน้ำยมก่อนแล้ว คือ เมืองสุโขทัย และเมืองเชลียง ต่อมาได้มีการก่อสร้างเมืองศรีสัชนาลัยขึ้นทางด้านทิศเหนือของเมืองเชลียงไม่สุภาพงออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร เมืองศรีสัชนาลัย มีความสำคัญควบคู่กันมากับเมือง สุโขทัย โดยจากหลักฐานได้กล่าวถึงพ่อขุนศรีนาวนำถม ว่าเป็นกษัตริย์ครอง 2 นคร คือ เสวยราชย์ ทั้งเมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัย (ก่อน พ.ศ. 1781) ต่อมาจนถึงพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรสุโขทัย (พ.ศ.1781 - 1822) ทรงโปรดให้พ่อขุนบาลเมือง ไปครองเมืองศรีสัชนาลัย ส่วนพ่อขุนรามคำแหง พระยาลิไทก็เคยครองเมืองศรีสัชนาลัย ก่อนขึ้นเสวยราชย์เป็นกษัตริย์ปกครอง อาณาจักรสุโขทัย เมืองศรีสัชนาลัยมีฐานะเป็นเมืองลูกหลวงของสุโขทัย ต่อมาจนแม้กระทั่งสุโขทัยตกอยู่ภายใต้อำนาจของกรุงศรีอยุธยา และได้ เปลี่ยนชื่อเรียกว่า เมืองสวรรคโลก เมืองศรีสัชนาลัยหรือเมืองสวรรคโลกในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เป็นเมืองสำคัญที่ผลิตภาชนะเครื่องเคลือบสังคโลกให้แก่ กรุงศรีอยุธยา ในสมัยต่อมาเมื่อมีการจัดระบบการปกครองปรับปรุงเรื่องเชื้อสายราชวงศ์ให้เข้าอยู่ในระบบราชการเรียบร้อยแล้ว กรุงศรี อยุธยา ได้เป็นผู้แต่งตั้งเจ้าเมืองเข้ามา ปกครองเมืองสวรรคโลกมีฐานะเป็นหัวเมืองชั้นนอกระดับเมืองโท หลังเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่า ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 เมืองศรีสัชนาลัยหรือ สวรรคโลกถูก ทิ้งร้าง ต่อมาเมืองสวรรคโลกได้จัดตั้ง ขึ้นใหม่ ที่บ้านท่าชัยอยู่ด้านทิศใต้ของเมืองเดิม และในสมัยรัตนโกสินทร์ได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านวังไม้ขอน ซึ่งคือที่ตั้งของอำเภอ สวรรคโลกในปัจจุบัน ส่วนชื่อเมืองศรีสัชนาลัยถูกนำไปตั้งเป็นชื่อของอำเภอศรีสัชนาลัย ซึ่งได้รวมเอาเขตพื้นที่เมืองศรีสัชนาลัย โบราณไว้ด้วย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรใน พ.ศ.2534 เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น นับเป็นตัวแทนของศิลปกรรมไทยยุคแรกและเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2533 โบราณสถานที่สำคัญ😇 เมืองโบราณศรีสัชนาลัย มีขอบเขตของผังเมืองที่ก่อสร้างทับซ้อนอยู่บนบริเวณ เมืองเชลียงเดิม กล่าวคือ แนวกำแพงเมืองเชลียง เดิม ทำเป็นคันดินยาวขนานไปตามลำน้ำยมโดยเริ่มจาก บริเวณวัดมหาธาตุเชลียงขนานลำน้ำยมเลยผ่านเขาพนมเพลิงออกไป ซึ่งยังคงปรากฎหลักฐานคันดินให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างเมืองศรีสัชนาลัยขึ้น จึงได้พิจารณาเลือกบริเวณที่มีสภาพ ภูมิประเทศเป็นที่ราบเชิงเขา กำหนดขอบเขต การก่อสร้างกำแพงเมืองจากศิลาแลง ลักษณะผังเมืองเป็น รูปหลายเหลี่ยมไม่สม่ำเสมอตามทิศทางของแม่น้ำยม ในช่วงนี้ ลักษณะของกำแพงเมืองศรีสัชนาลัยมี หลายแนวเพราะคงมีการผสมผสานเอาแนวกำแพงคันดินในสมัยที่เป็นเมืองเชลียงเข้ามา ใช้ประโยชน์ด้วย โบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย มีทั้งภายในและภายนอกกำแพงเมือง ซึ่งรวมทั้งหมดมีไม่น้อย กว่า 215 แห่งโบราณสถานที่สำคัญมีดังนี้ -โบราณสถานภายในกำแพงเมือง สำรวจพบแล้วมีทั้งสิ้น 28 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดนางพญา วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่ วัดสวนแก้ว เป็นต้น -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศเหนือ สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 35 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดกุฎีราย เตาทุเรียงบ้านป่ายาง เตา ทุเรียงบ้านเกาะน้อย ซึ่งเป็น แหล่งผลิต ภาชนะดินเผา “เครื่องสังคโลก” ที่สำคัญของเมืองศรีสัชนาลัย -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออก สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 10 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดสวนสัก วัดป่าแก้ว เป็นต้น -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศใต้ สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 24 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดชมชื่น วัดเจ้าจันทร์ และวัดโคกสิงคาราม เป็นต้น -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันตก สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 19 แห่ง ที่สำคัญ คือ วัดพญาดำ วัดราหู วัดสระประทุม วัดพรหมสี่หน้า วัดยายตา เป็นต้น -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองบนภูเขา สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 15 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดเขาใหญ่บน วัดเจดีย์เจ็ดยอด วัดเจดีย์รอบ และวัดเขาใหญ่ล่าง เป็นต้น อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ร่วมกันกับ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ในปี พ.ศ. 2534 เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฎแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น นับเป็นตัวแทนของศิลปกรรมไทย ยุคแรก และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศ บทความหน้า เพจเทพชวนเที่ยว จะพาไปเที่ยวที่ไหน กดติดตาม กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้แอดมินด้วยนะครับ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซีอีโอ “เทเลแกรม” ถูกรวบตัวในฝรั่งเศส รัสเซียประณามแดนน้ำหอม “เผด็จการ”
    .
    พาเวล ดูรอฟ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแอปพลิเคชันรับส่งข้อความ “เทเลแกรม” ถูกจับกุมที่สนามบินบูร์เกต์นอกปารีสเมื่อค่ำวันเสาร์ (24 ส.ค.) สื่อฝรั่งเศสระบุสาเหตุอาจมาจากการที่แอปนี้ไม่มีผู้ตรวจสอบเนื้อหาซึ่งเปิดช่องให้เกิดกิจกรรมอาชญากรรมโดยไม่ถูกขัดขวาง ด้านนักการเมืองรัสเซียโจมตีรัฐบาลแดนน้ำหอมทำตัวเป็นเผด็จการ ขณะที่เหล่าบล็อกเกอร์เรียกร้องชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูตฝรั่งเศสทั่วโลกในช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ (25 ส.ค.)

    เทเลแกรมที่มีอิทธิพลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัสเซีย ยูเครน และสาธารณรัฐที่เคยเป็นสมาชิกสหภาพโซเวียต เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชั้นนำรองจากเฟซบุ๊ก ยูทูบ วอตส์แอป อินสตาแกรม ติ๊กต็อก และวีแชต โดยปัจจุบันมีผู้ใช้ 900 ล้านรายและมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้ใช้เป็น 1,000 ล้านรายในปีหน้า

    เทเลแกรมที่ตั้งอยู่ในดูไบ ก่อตั้งโดยดูรอฟ เศรษฐีพันล้านสัญชาติรัสเซีย ดูรอฟเดินทางออกจากรัสเซียในปี 2014 หลังจากไม่ยอมปฏิบัติตามคำขอของรัฐบาลให้ปิดชุมชนของฝ่ายค้านบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย วีเค ที่เขาขายกิจการในเวลาต่อมา

    สื่อของฝรั่งเศส ทีเอฟ1 รายงานว่า ดูรอฟเดินทางออกนอกประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว และถูกฝรั่งเศสออกหมายจับซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนเบื้องต้นของตำรวจ

    ทีเอฟ1 และบีเอฟเอ็มรายงานว่า การสอบสวนมุ่งประเด็นที่เทเลแกรมไม่มีผู้ตรวจสอบเนื้อหา ซึ่งตำรวจมองว่า สถานการณ์นี้เปิดช่องให้เกิดกิจกรรมอาชญากรรมบนแอปโดยไม่ถูกขัดขวาง ...
    .
    คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://mgronline.com/around/detail/9670000078599

    ซีอีโอ “เทเลแกรม” ถูกรวบตัวในฝรั่งเศส รัสเซียประณามแดนน้ำหอม “เผด็จการ” . พาเวล ดูรอฟ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแอปพลิเคชันรับส่งข้อความ “เทเลแกรม” ถูกจับกุมที่สนามบินบูร์เกต์นอกปารีสเมื่อค่ำวันเสาร์ (24 ส.ค.) สื่อฝรั่งเศสระบุสาเหตุอาจมาจากการที่แอปนี้ไม่มีผู้ตรวจสอบเนื้อหาซึ่งเปิดช่องให้เกิดกิจกรรมอาชญากรรมโดยไม่ถูกขัดขวาง ด้านนักการเมืองรัสเซียโจมตีรัฐบาลแดนน้ำหอมทำตัวเป็นเผด็จการ ขณะที่เหล่าบล็อกเกอร์เรียกร้องชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูตฝรั่งเศสทั่วโลกในช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ (25 ส.ค.) เทเลแกรมที่มีอิทธิพลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัสเซีย ยูเครน และสาธารณรัฐที่เคยเป็นสมาชิกสหภาพโซเวียต เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชั้นนำรองจากเฟซบุ๊ก ยูทูบ วอตส์แอป อินสตาแกรม ติ๊กต็อก และวีแชต โดยปัจจุบันมีผู้ใช้ 900 ล้านรายและมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้ใช้เป็น 1,000 ล้านรายในปีหน้า เทเลแกรมที่ตั้งอยู่ในดูไบ ก่อตั้งโดยดูรอฟ เศรษฐีพันล้านสัญชาติรัสเซีย ดูรอฟเดินทางออกจากรัสเซียในปี 2014 หลังจากไม่ยอมปฏิบัติตามคำขอของรัฐบาลให้ปิดชุมชนของฝ่ายค้านบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย วีเค ที่เขาขายกิจการในเวลาต่อมา สื่อของฝรั่งเศส ทีเอฟ1 รายงานว่า ดูรอฟเดินทางออกนอกประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว และถูกฝรั่งเศสออกหมายจับซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนเบื้องต้นของตำรวจ ทีเอฟ1 และบีเอฟเอ็มรายงานว่า การสอบสวนมุ่งประเด็นที่เทเลแกรมไม่มีผู้ตรวจสอบเนื้อหา ซึ่งตำรวจมองว่า สถานการณ์นี้เปิดช่องให้เกิดกิจกรรมอาชญากรรมบนแอปโดยไม่ถูกขัดขวาง ... . คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://mgronline.com/around/detail/9670000078599
    MGRONLINE.COM
    ซีอีโอ “เทเลแกรม” ถูกรวบตัวในฝรั่งเศส รัสเซียประณามแดนน้ำหอม “เผด็จการ”
    รอยเตอร์ - พาเวล ดูรอฟ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแอปพลิเคชันรับส่งข้อความ “เทเลแกรม” ถูกจับกุมที่สนามบินบูร์เกต์นอกปารีสเมื่อค่ำวันเสาร์ (24 ส.ค.) สื่อฝรั่งเศสระบุสาเหตุอาจมาจากการที่แอปนี้ไม่มีผู้ตรวจสอบเนื้อหาซึ่งเปิดช่องให้เกิดกิจก
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลุมยุบกัวลาลัมเปอร์ นักท่องเที่ยวอินเดียร่วง

    โศกนาฎกรรมที่สร้างความตกใจให้แก่ผู้พบเห็น เมื่อเกิดอุบัติเหตุหลุมยุบบริเวณถนนมัสยิดอินเดีย (Jalan Masjid India) เป็นเหตุทำให้นางวิชัยลักษณี (Vijayalakshmi) นักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดียวัย 48 ปี ตกลงไปในหลุมดังกล่าว ซึ่งมีความลึกประมาณ 8 เมตร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.44 น. ตามเวลาบนกล้องวงจรปิด ของวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา

    ทีมปฎิบัติการค้นหาและกู้ภัย (SAR) เข้าค้นหานักท่องเที่ยวชาวอินเดีย โดยเปิดท่อระบายน้ำรอบพื้นที่รวม 6 แห่ง เข้าไปค้นหาครั้งละ 2-3 คน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที รวมทั้งโรงบำบัดน้ำเสียบริษัทอินดะห์ วอเตอร์ คอนซอร์เตียม (Indah Water Konsortium หรือ IWK) ย่านปันตาย ดาลัม ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องรับมือกับกระแสน้ำเชี่ยวในท่อระบายน้ำ และมีแก๊สที่อาจเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปกว่า 3 วัน กลับไม่พบเบาะแสใดๆ

    สำนักข่าวเบอร์นามา รายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยันว่าปฎิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายจะยังคงดำเนินต่อไป พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) ให้ไปพบกับครอบครัวของผู้สูญหายแล้ว

    ด้านนายฟาดิลลาห์ ยูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุว่า เกิดจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์และโครงสร้างของดิน โดยเมื่อชั้นหินปูนขัดขวางการไหลของน้ำใต้ดิน ส่งผลให้ดินไม่มั่นคงและเกิดหลุมยุบ บางครั้งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าหลุมยุบจะเกิดขึ้นเมื่อใดและที่ใด

    เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีหินปูนและสภาพธรณีวิทยาเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ด้วยความรู้และเทคโนโลยีที่ถูกต้องจะทำให้เหตุการณ์เช่นนี้ลดน้อยลงและดำเนินมาตรการป้องกันเพื่อปกป้องชุมชนและบรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้

    ขณะที่นายเจฟฟรีย์ เชียง ชุง ลุยน์ ประธานสถาบันวิศวกรแห่งมาเลเซีย (IEM) เรียกร้องให้มีการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียด เพราะจากการสังเกตผ่าน Google Maps พบว่าตำแหน่งหลุมยุบอยู่ห่างจากแม่น้ำแคลงประมาณ 24 เมตร และจากภาพที่สื่อมวลชนนำเสนอ พบว่าหลุมยุบอาจเกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน แม้ว่าจะยังไม่ระบุสาเหตุที่แน่ชัดก็ตาม

    จากรายงานหัวข้อ "Karstic Features of Kuala Lumpur Limestone" [1] ที่กล่าวถึงลักษณะของหินปูนของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเขียนโดย นายตัน ไซมอน เสี่ยว เมง จากสถาบันวิศวกรแห่งมาเลเซีย ระบุว่า ชั้นหินปูนในกรุงกัวลาลัมเปอร์มีลักษณะไม่แน่นอน พบในบริเวณเหมืองแร่ดีบุก แต่หลังเหมืองปิดตัวลง พื้นที่เหมืองแร่ถูกปกคลุมไปด้วยเศษซากตั้งแต่โคลนถึงทราย

    โดยคาดว่าหินปูนมีความหนาประมาณ 1,850 เมตร ทับอยู่บนหินชนวนกราไฟต์ที่เรียกว่า ฮอร์ธอร์นเดน ชีสต์ (Hawthornden Schist) ส่วนบนสุดของลำดับชั้นคือชั้นหินเคนนี่ ฮิลล์ (Kenny Hill) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ รวมถึงพื้นที่ย่าน KLCC (Kuala Lumpur City Centre) และบูกิตบินตัง (Bukit Bintang)

    ในตอนหนึ่งของรายงานระบุว่า หินปูนเกิดจากกระบวนการละลายทางเคมี ซึ่งเป็นกระบวนการที่ยาวนาน ประกอบด้วยหลุม แอ่งชัน และช่องทางสารละลาย ส่งผลให้ชั้นหินปูนมีรูปร่างไม่แน่นอน เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากในการก่อสร้างฐานราก ซึ่งการเกิดหลุมยุบมาจากการเคลื่อนตัวของชั้นหินปูน เนื่องจากการซึมของน้ำใต้ดิน ระดับน้ำใต้ดินที่ลดลง การรับน้ำหนักเพิ่ม การสั่นสะเทือน การเจาะรูหรือเสาเข็มบนช่องว่างของหินปูนโดยตรง ซึ่งหินปูนที่ปกคลุมด้วยดินบางจะเสี่ยงต่อการเกิดหลุมยุบมากกว่า

    อีกด้านหนึ่ง การก่อสร้างรถไฟใต้ดินสายสุไหงบูเลาะห์-กาจัง (Sungai Buloh-Kajang) [2] บางช่วงเป็นเส้นทางใต้ดิน ยาว 9.5 กิโลเมตร มี 7 สถานีใต้ดิน หนึ่งในนั้นคือสถานีตุน ราซัค เอ็กซ์เชนจ์ (TRX) ซึ่งมีความลึกเทียบเท่าตึก 13 ชั้น พบว่ามีหินปูนในชั้นหินปูนกัวลาลัมเปอร์ บริเวณอยู่ทางทิศตะวันออกของย่านบูกิตบินตังมีลักษณะไม่แน่นอน หากไม่ค้นพบก่อนอาจเกิดอันตราย

    จึงต้องพัฒนาเครื่องเจาะอุโมงค์ (TBM) แบบพิเศษที่เรียกว่า แวริเอเบิล เดนซิตี้ (Variable Density) ที่พัฒนาระหว่างบริษัทเฮอร์เร็นคเน็ช เอจี (Herrenknecht AG) ผู้ผลิตเครื่องเจาะอุโมงค์จากเยอรมนี และบริษัทร่วมทุน เอ็มเอ็มซี กามูดา (MMC Gamuda) สามารถปรับความหนาแน่นและความหนืดของสารละลายได้ ป้องกันไม่ให้ไหลเข้าไปในโพรงหรือรอยแยกไปสู่พื้นผิว

    เหตุการณ์หลุมยุบกะทันหันใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ครั้งนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการป้องกันภัยพิบัติ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเมืองใหญ่ชั้นนำของอาเซียน ที่มีประชากรกว่า 8.8 ล้านคน อุดมไปด้วยความเจริญทางเศรษฐกิจ อาคารสูง และโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าที่เพียบพร้อม นอกจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเมื่อฝนตกหนักมากกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไป

    ที่มา : [1] https://nrmt.wordpress.com/wp-content/uploads/2011/04/kl-limestone-paper.pdf

    [2] https://thehub.mmc.com.my/2017Q3/page54.html

    #Newskit #KualaLumpur #JalanMasjidIndia
    หลุมยุบกัวลาลัมเปอร์ นักท่องเที่ยวอินเดียร่วง โศกนาฎกรรมที่สร้างความตกใจให้แก่ผู้พบเห็น เมื่อเกิดอุบัติเหตุหลุมยุบบริเวณถนนมัสยิดอินเดีย (Jalan Masjid India) เป็นเหตุทำให้นางวิชัยลักษณี (Vijayalakshmi) นักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดียวัย 48 ปี ตกลงไปในหลุมดังกล่าว ซึ่งมีความลึกประมาณ 8 เมตร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.44 น. ตามเวลาบนกล้องวงจรปิด ของวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ทีมปฎิบัติการค้นหาและกู้ภัย (SAR) เข้าค้นหานักท่องเที่ยวชาวอินเดีย โดยเปิดท่อระบายน้ำรอบพื้นที่รวม 6 แห่ง เข้าไปค้นหาครั้งละ 2-3 คน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที รวมทั้งโรงบำบัดน้ำเสียบริษัทอินดะห์ วอเตอร์ คอนซอร์เตียม (Indah Water Konsortium หรือ IWK) ย่านปันตาย ดาลัม ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องรับมือกับกระแสน้ำเชี่ยวในท่อระบายน้ำ และมีแก๊สที่อาจเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปกว่า 3 วัน กลับไม่พบเบาะแสใดๆ สำนักข่าวเบอร์นามา รายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยันว่าปฎิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายจะยังคงดำเนินต่อไป พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) ให้ไปพบกับครอบครัวของผู้สูญหายแล้ว ด้านนายฟาดิลลาห์ ยูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุว่า เกิดจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์และโครงสร้างของดิน โดยเมื่อชั้นหินปูนขัดขวางการไหลของน้ำใต้ดิน ส่งผลให้ดินไม่มั่นคงและเกิดหลุมยุบ บางครั้งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าหลุมยุบจะเกิดขึ้นเมื่อใดและที่ใด เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีหินปูนและสภาพธรณีวิทยาเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ด้วยความรู้และเทคโนโลยีที่ถูกต้องจะทำให้เหตุการณ์เช่นนี้ลดน้อยลงและดำเนินมาตรการป้องกันเพื่อปกป้องชุมชนและบรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ ขณะที่นายเจฟฟรีย์ เชียง ชุง ลุยน์ ประธานสถาบันวิศวกรแห่งมาเลเซีย (IEM) เรียกร้องให้มีการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียด เพราะจากการสังเกตผ่าน Google Maps พบว่าตำแหน่งหลุมยุบอยู่ห่างจากแม่น้ำแคลงประมาณ 24 เมตร และจากภาพที่สื่อมวลชนนำเสนอ พบว่าหลุมยุบอาจเกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน แม้ว่าจะยังไม่ระบุสาเหตุที่แน่ชัดก็ตาม จากรายงานหัวข้อ "Karstic Features of Kuala Lumpur Limestone" [1] ที่กล่าวถึงลักษณะของหินปูนของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเขียนโดย นายตัน ไซมอน เสี่ยว เมง จากสถาบันวิศวกรแห่งมาเลเซีย ระบุว่า ชั้นหินปูนในกรุงกัวลาลัมเปอร์มีลักษณะไม่แน่นอน พบในบริเวณเหมืองแร่ดีบุก แต่หลังเหมืองปิดตัวลง พื้นที่เหมืองแร่ถูกปกคลุมไปด้วยเศษซากตั้งแต่โคลนถึงทราย โดยคาดว่าหินปูนมีความหนาประมาณ 1,850 เมตร ทับอยู่บนหินชนวนกราไฟต์ที่เรียกว่า ฮอร์ธอร์นเดน ชีสต์ (Hawthornden Schist) ส่วนบนสุดของลำดับชั้นคือชั้นหินเคนนี่ ฮิลล์ (Kenny Hill) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ รวมถึงพื้นที่ย่าน KLCC (Kuala Lumpur City Centre) และบูกิตบินตัง (Bukit Bintang) ในตอนหนึ่งของรายงานระบุว่า หินปูนเกิดจากกระบวนการละลายทางเคมี ซึ่งเป็นกระบวนการที่ยาวนาน ประกอบด้วยหลุม แอ่งชัน และช่องทางสารละลาย ส่งผลให้ชั้นหินปูนมีรูปร่างไม่แน่นอน เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากในการก่อสร้างฐานราก ซึ่งการเกิดหลุมยุบมาจากการเคลื่อนตัวของชั้นหินปูน เนื่องจากการซึมของน้ำใต้ดิน ระดับน้ำใต้ดินที่ลดลง การรับน้ำหนักเพิ่ม การสั่นสะเทือน การเจาะรูหรือเสาเข็มบนช่องว่างของหินปูนโดยตรง ซึ่งหินปูนที่ปกคลุมด้วยดินบางจะเสี่ยงต่อการเกิดหลุมยุบมากกว่า อีกด้านหนึ่ง การก่อสร้างรถไฟใต้ดินสายสุไหงบูเลาะห์-กาจัง (Sungai Buloh-Kajang) [2] บางช่วงเป็นเส้นทางใต้ดิน ยาว 9.5 กิโลเมตร มี 7 สถานีใต้ดิน หนึ่งในนั้นคือสถานีตุน ราซัค เอ็กซ์เชนจ์ (TRX) ซึ่งมีความลึกเทียบเท่าตึก 13 ชั้น พบว่ามีหินปูนในชั้นหินปูนกัวลาลัมเปอร์ บริเวณอยู่ทางทิศตะวันออกของย่านบูกิตบินตังมีลักษณะไม่แน่นอน หากไม่ค้นพบก่อนอาจเกิดอันตราย จึงต้องพัฒนาเครื่องเจาะอุโมงค์ (TBM) แบบพิเศษที่เรียกว่า แวริเอเบิล เดนซิตี้ (Variable Density) ที่พัฒนาระหว่างบริษัทเฮอร์เร็นคเน็ช เอจี (Herrenknecht AG) ผู้ผลิตเครื่องเจาะอุโมงค์จากเยอรมนี และบริษัทร่วมทุน เอ็มเอ็มซี กามูดา (MMC Gamuda) สามารถปรับความหนาแน่นและความหนืดของสารละลายได้ ป้องกันไม่ให้ไหลเข้าไปในโพรงหรือรอยแยกไปสู่พื้นผิว เหตุการณ์หลุมยุบกะทันหันใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ครั้งนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการป้องกันภัยพิบัติ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเมืองใหญ่ชั้นนำของอาเซียน ที่มีประชากรกว่า 8.8 ล้านคน อุดมไปด้วยความเจริญทางเศรษฐกิจ อาคารสูง และโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าที่เพียบพร้อม นอกจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเมื่อฝนตกหนักมากกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไป ที่มา : [1] https://nrmt.wordpress.com/wp-content/uploads/2011/04/kl-limestone-paper.pdf [2] https://thehub.mmc.com.my/2017Q3/page54.html #Newskit #KualaLumpur #JalanMasjidIndia
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 569 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram ถูกตำรวจฝรั่งเศสจับกุมทันที อ้างหมายจับที่ออกโดย OFMIN หน่วยงานต่อต้านความรุนแรงต่อผู้เยาว์ของฝรั่งเศส หลังจาก Pavel Durov เพิ่งเดินทางมาถึงสนามบิน Le Bourget ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และขณะนี้ต้องเผชิญโทษจำคุก 20 ปี

    25 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า นาย พาเวล ดูรอฟ Pavel Durov ซีอีโอวัย 39 ปีของ Telegram แอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยมระดับโลก ถูกตำรวจฝรั่งเศสจับกุมตัวที่สนามบิน Le Bourget ทางตอนเหนือของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถูกจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. (เวลาท้องถิ่น) หลังเดินทางมาถึงด้วยเครื่องบินส่วนตัว สร้างความตกตะลึงให้กับวงการโซเชียลมีเดียทั่วโลก

    ทางการฝรั่งเศสระบุว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามหมายจับที่ออกโดย OFMIN หน่วยงานต่อต้านความรุนแรงต่อผู้เยาว์ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ประสานงานในการสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับข้อหาร้ายแรงหลายประการ เช่น การฉ้อโกง การค้ายาเสพติด การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ อาชญากรรมองค์กร และการสนับสนุนการก่อการร้าย โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่ Pavel Durov ‘ไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อป้องกันการใช้ Telegram ในทางที่ผิดกฎหมายมา

    แต่กระแสข่าวอีกด้านระบุสาเหตุเพราะว่า บรรดาแฮกเกอร์ต่อต้านอิสราเอลที่ขโมยข้อมูลสำคัญของประเทศอิสราเอลจำนวนหลายกิกะไบต์ได้เผยแพร่ข้อมูลลับดังกล่าวบน TELEGRAM และTelegram ปฏิเสธคำขอของอิสราเอลในการเซ็นเซอร์ข้อมูลดังกล่าว

    Telegram เป็นแอปพลิเคชันส่งข้อความที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก โดยเฉพาะในรัสเซีย Telegram ที่เข้ารหัสซึ่งมีผู้ใช้เกือบหนึ่งพันล้านคนมีอิทธิพลอย่างมากในรัสเซีย ยูเครน และสาธารณรัฐในอดีตสหภาพโซเวียต โดยจัดอยู่ในอันดับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักหนึ่งรองจาก Facebook, YouTube, WhatsApp, Instagram, TikTok และ WeChat

    ดูรอฟซึ่งเกิดในรัสเซียก่อตั้ง Telegram ร่วมกับพี่ชายของเขาในปี 2013 เขาออกจากรัสเซียในปี 2014 หลังจากปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลในการปิดชุมชนฝ่ายค้านบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย VKontakte ของเขาซึ่งเขาขายไป

    หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนในปี 2022 Telegram ก็กลายเป็นแหล่งหลักของเนื้อหาที่ไม่ได้ผ่านการกรอง – และบางครั้งมีเนื้อหาที่รุนแรงและทำให้เข้าใจผิด – จากทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับสงครามและการเมืองที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง

    รัสเซียเริ่มบล็อก Telegram ในปี 2018 หลังจากที่แอปปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการให้หน่วยงานความมั่นคงของรัฐเข้าถึงข้อความที่เข้ารหัสของผู้ใช้
    การกระทำดังกล่าวขัดขวางบริการของบุคคลที่สามจำนวนมาก แต่มีผลเพียงเล็กน้อยต่อความพร้อมใช้งานของ Telegram ในประเทศ อย่างไรก็ตาม คำสั่งห้ามดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในมอสโกวและการวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรนอกภาครัฐ

    แพลตฟอร์มนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์บางคนเรียกว่า “สนามรบเสมือนจริง” สำหรับสงคราม ซึ่งใช้โดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนและเจ้าหน้าที่ของเขา รวมถึงรัฐบาลรัสเซียเป็นอย่างมาก Telegram ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้หลบเลี่ยงการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ได้กลายเป็นสถานที่ไม่กี่แห่งที่ชาวรัสเซียสามารถเข้าถึงข่าวสารอิสระเกี่ยวกับสงครามได้ หลังจากที่เครมลินเพิ่มมาตรการควบคุมสื่ออิสระหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครน

    “ผมขอเป็นอิสระดีกว่าต้องรับคำสั่งจากใครก็ตาม” ดูรอฟบอกกับทักเกอร์ คาร์ลสัน นักข่าวชาวอเมริกันในเดือนเมษายนเกี่ยวกับการออกจากรัสเซียของเขาและการค้นหาบ้านให้กับบริษัทของเขา ซึ่งรวมถึงช่วงเวลาในเบอร์ลิน ลอนดอน สิงคโปร์ และซานฟรานซิสโก

    พาเวล ดูรอฟ Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram เมื่อปี 2013 จัดเป็นมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3 แสนล้านบาท) ปัจจุบันอาศัยอยู่ในดูไบและถือสัญชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และฝรั่งเศส เขาเคยสร้างชื่อเสียงจากการก่อตั้งเครือข่ายสังคมออนไลน์ VKontakte ในรัสเซียเมื่อปี 2006 ก่อนที่จะหนีออกจากประเทศและขายหุ้นทั้งหมด หลังถูกกดดันจากรัฐบาลให้ปิดกั้นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลบนแพลตฟอร์ม

    กรณีจับกุมดูรอฟ สถานทูตรัสเซียในฝรั่งเศสได้ดำเนินการ ‘ทันที’ เพื่อขอคำชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ แม้ว่าตัวแทนของดูรอฟจะไม่ได้ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือตามรายงานของสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย ขณะที่คาดว่าดูรอฟจะถูกนำตัวขึ้นศาลในวันที่25 สิงหาคม

    Telegram ไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นของสื่อในทันที ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสและตำรวจไม่มีการแถลงและแสดงความคิดเห็นใดๆ

    เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับวงการเทคโนโลยีและผู้ใช้งาน Telegram ทั่วโลก โดยหลายฝ่ายจับตามองว่าการจับกุมครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่างไร และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายการกำกับดูแลเนื้อหาบนแพลตฟอร์มหรือไม่

    #Thaitimes
    Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram ถูกตำรวจฝรั่งเศสจับกุมทันที อ้างหมายจับที่ออกโดย OFMIN หน่วยงานต่อต้านความรุนแรงต่อผู้เยาว์ของฝรั่งเศส หลังจาก Pavel Durov เพิ่งเดินทางมาถึงสนามบิน Le Bourget ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และขณะนี้ต้องเผชิญโทษจำคุก 20 ปี 25 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า นาย พาเวล ดูรอฟ Pavel Durov ซีอีโอวัย 39 ปีของ Telegram แอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยมระดับโลก ถูกตำรวจฝรั่งเศสจับกุมตัวที่สนามบิน Le Bourget ทางตอนเหนือของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถูกจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. (เวลาท้องถิ่น) หลังเดินทางมาถึงด้วยเครื่องบินส่วนตัว สร้างความตกตะลึงให้กับวงการโซเชียลมีเดียทั่วโลก ทางการฝรั่งเศสระบุว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามหมายจับที่ออกโดย OFMIN หน่วยงานต่อต้านความรุนแรงต่อผู้เยาว์ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ประสานงานในการสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับข้อหาร้ายแรงหลายประการ เช่น การฉ้อโกง การค้ายาเสพติด การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ อาชญากรรมองค์กร และการสนับสนุนการก่อการร้าย โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่ Pavel Durov ‘ไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อป้องกันการใช้ Telegram ในทางที่ผิดกฎหมายมา แต่กระแสข่าวอีกด้านระบุสาเหตุเพราะว่า บรรดาแฮกเกอร์ต่อต้านอิสราเอลที่ขโมยข้อมูลสำคัญของประเทศอิสราเอลจำนวนหลายกิกะไบต์ได้เผยแพร่ข้อมูลลับดังกล่าวบน TELEGRAM และTelegram ปฏิเสธคำขอของอิสราเอลในการเซ็นเซอร์ข้อมูลดังกล่าว Telegram เป็นแอปพลิเคชันส่งข้อความที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก โดยเฉพาะในรัสเซีย Telegram ที่เข้ารหัสซึ่งมีผู้ใช้เกือบหนึ่งพันล้านคนมีอิทธิพลอย่างมากในรัสเซีย ยูเครน และสาธารณรัฐในอดีตสหภาพโซเวียต โดยจัดอยู่ในอันดับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักหนึ่งรองจาก Facebook, YouTube, WhatsApp, Instagram, TikTok และ WeChat ดูรอฟซึ่งเกิดในรัสเซียก่อตั้ง Telegram ร่วมกับพี่ชายของเขาในปี 2013 เขาออกจากรัสเซียในปี 2014 หลังจากปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลในการปิดชุมชนฝ่ายค้านบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย VKontakte ของเขาซึ่งเขาขายไป หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนในปี 2022 Telegram ก็กลายเป็นแหล่งหลักของเนื้อหาที่ไม่ได้ผ่านการกรอง – และบางครั้งมีเนื้อหาที่รุนแรงและทำให้เข้าใจผิด – จากทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับสงครามและการเมืองที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง รัสเซียเริ่มบล็อก Telegram ในปี 2018 หลังจากที่แอปปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการให้หน่วยงานความมั่นคงของรัฐเข้าถึงข้อความที่เข้ารหัสของผู้ใช้ การกระทำดังกล่าวขัดขวางบริการของบุคคลที่สามจำนวนมาก แต่มีผลเพียงเล็กน้อยต่อความพร้อมใช้งานของ Telegram ในประเทศ อย่างไรก็ตาม คำสั่งห้ามดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในมอสโกวและการวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรนอกภาครัฐ แพลตฟอร์มนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์บางคนเรียกว่า “สนามรบเสมือนจริง” สำหรับสงคราม ซึ่งใช้โดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนและเจ้าหน้าที่ของเขา รวมถึงรัฐบาลรัสเซียเป็นอย่างมาก Telegram ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้หลบเลี่ยงการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ได้กลายเป็นสถานที่ไม่กี่แห่งที่ชาวรัสเซียสามารถเข้าถึงข่าวสารอิสระเกี่ยวกับสงครามได้ หลังจากที่เครมลินเพิ่มมาตรการควบคุมสื่ออิสระหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครน “ผมขอเป็นอิสระดีกว่าต้องรับคำสั่งจากใครก็ตาม” ดูรอฟบอกกับทักเกอร์ คาร์ลสัน นักข่าวชาวอเมริกันในเดือนเมษายนเกี่ยวกับการออกจากรัสเซียของเขาและการค้นหาบ้านให้กับบริษัทของเขา ซึ่งรวมถึงช่วงเวลาในเบอร์ลิน ลอนดอน สิงคโปร์ และซานฟรานซิสโก พาเวล ดูรอฟ Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram เมื่อปี 2013 จัดเป็นมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3 แสนล้านบาท) ปัจจุบันอาศัยอยู่ในดูไบและถือสัญชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และฝรั่งเศส เขาเคยสร้างชื่อเสียงจากการก่อตั้งเครือข่ายสังคมออนไลน์ VKontakte ในรัสเซียเมื่อปี 2006 ก่อนที่จะหนีออกจากประเทศและขายหุ้นทั้งหมด หลังถูกกดดันจากรัฐบาลให้ปิดกั้นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลบนแพลตฟอร์ม กรณีจับกุมดูรอฟ สถานทูตรัสเซียในฝรั่งเศสได้ดำเนินการ ‘ทันที’ เพื่อขอคำชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ แม้ว่าตัวแทนของดูรอฟจะไม่ได้ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือตามรายงานของสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย ขณะที่คาดว่าดูรอฟจะถูกนำตัวขึ้นศาลในวันที่25 สิงหาคม Telegram ไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นของสื่อในทันที ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสและตำรวจไม่มีการแถลงและแสดงความคิดเห็นใดๆ เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับวงการเทคโนโลยีและผู้ใช้งาน Telegram ทั่วโลก โดยหลายฝ่ายจับตามองว่าการจับกุมครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่างไร และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายการกำกับดูแลเนื้อหาบนแพลตฟอร์มหรือไม่ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 555 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานชิม ช็อป แชะ สินค้าชุมชน อาหาร ณ บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม ถึงวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2567
    งานชิม ช็อป แชะ สินค้าชุมชน อาหาร ณ บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม ถึงวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2567
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัวเคยค้าม้าเคยขี่
    เค้ารู้จักกันดีในฐานะนายจ้างกับลูกจ้าง
    สมัยก่อนโทนี่ไปเป็นคนต่างด้าว
    กลุ่มสุรชัย แซ่ด่าน เจี๊ยบอมรัตน์ ดาตอบิโด
    ใช้วิทยุชุมชน หยาบมาก ให้ร้ายสถาบัน
    ท้าทาย สุดท้ายยังไงรู้มั๊ย
    สุรชัย ต-า-ย ห่า ยังหา ศ-พ ไม่เจอ
    ส่วนดา ตอปิโด เป็นมูเร็งที่ไหน
    ที่ปาก เพราะปากสกปรก
    ส่วนอิเจี๊ยบ สานต่ออุดมกาณ์
    แต่สมาชิกในกลุ่มแย่งกันไปเฝ้ารากมะม่วงก่อนเวลาอันควร
    เหลือขาสั้นๆอยู่ตัวนึง ไปตีสนิทธนาธร
    รู้มั๊ยชื่ออะไร ชื่อเจี๊ยบอมเกียร์ เตรี้ยหมาตื่น ขอรับ
    คิงส์โพธิ์แดง รายงาน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    วัวเคยค้าม้าเคยขี่ เค้ารู้จักกันดีในฐานะนายจ้างกับลูกจ้าง สมัยก่อนโทนี่ไปเป็นคนต่างด้าว กลุ่มสุรชัย แซ่ด่าน เจี๊ยบอมรัตน์ ดาตอบิโด ใช้วิทยุชุมชน หยาบมาก ให้ร้ายสถาบัน ท้าทาย สุดท้ายยังไงรู้มั๊ย สุรชัย ต-า-ย ห่า ยังหา ศ-พ ไม่เจอ ส่วนดา ตอปิโด เป็นมูเร็งที่ไหน ที่ปาก เพราะปากสกปรก ส่วนอิเจี๊ยบ สานต่ออุดมกาณ์ แต่สมาชิกในกลุ่มแย่งกันไปเฝ้ารากมะม่วงก่อนเวลาอันควร เหลือขาสั้นๆอยู่ตัวนึง ไปตีสนิทธนาธร รู้มั๊ยชื่ออะไร ชื่อเจี๊ยบอมเกียร์ เตรี้ยหมาตื่น ขอรับ คิงส์โพธิ์แดง รายงาน #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ lit nit ไปคุยกับโรงเรียนมา 2 แห่ง
    เรื่องการบูรณาการจัดการขยะในโรงเรียน
    ....
    ท่านผอ.และคณะครูทั้ง 2 โรงเรียนสนใจที่จะร่วมกับแนวทางจัดการขยะพลาสติกร่วมกับแบรนด์สินค้าของ lit nit ขั้นตอนต่อไปก็ทำ MOU ระหว่างกัน
    ....
    ขอเล่าเล่น ๆ ให้ท่านเข้าใจว่า lit nit วางแผน 3 ปีร่วมกับโรงเรียนในการส่งเสริมการจัดการขยะในโรงเรียน
    -ปี 1 ส่งเสริมการคัดแยกขยะพลาสติกและส่งขยะพลาสติกเช่น หลอด ฝาขวด ถุงพลาสติก และฟิวเจอร์บอร์ดให้ lit nit นำไปแรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
    -ปี 2 ให้ความรู้และฝึกแปรรูปขยะพลาสติกให้กับโรงเรียน
    -ปี 3 ส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์จากขยะที่โรงเรียนเป็นผู้ทำ และขยายผลสู่ชุมชน
    ....
    วางแผนไว้เพื่อเป็นทิศทางในการเดินทางและเป็นตัวชี้วัดหนึ่งของแผนธุรกิจของ lit nit
    #วันนี้เล่าแค่นี้ก่อน เดี๋ยวว่าง ๆ จะมาเล่าในมุมที่ lit nit ไปเจรจากับร้านค้าและเอกชนบางแห่งที่สนใจเรื่องนี้เหมือนกัน
    วันนี้ lit nit ไปคุยกับโรงเรียนมา 2 แห่ง เรื่องการบูรณาการจัดการขยะในโรงเรียน .... ท่านผอ.และคณะครูทั้ง 2 โรงเรียนสนใจที่จะร่วมกับแนวทางจัดการขยะพลาสติกร่วมกับแบรนด์สินค้าของ lit nit ขั้นตอนต่อไปก็ทำ MOU ระหว่างกัน .... ขอเล่าเล่น ๆ ให้ท่านเข้าใจว่า lit nit วางแผน 3 ปีร่วมกับโรงเรียนในการส่งเสริมการจัดการขยะในโรงเรียน -ปี 1 ส่งเสริมการคัดแยกขยะพลาสติกและส่งขยะพลาสติกเช่น หลอด ฝาขวด ถุงพลาสติก และฟิวเจอร์บอร์ดให้ lit nit นำไปแรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ -ปี 2 ให้ความรู้และฝึกแปรรูปขยะพลาสติกให้กับโรงเรียน -ปี 3 ส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์จากขยะที่โรงเรียนเป็นผู้ทำ และขยายผลสู่ชุมชน .... วางแผนไว้เพื่อเป็นทิศทางในการเดินทางและเป็นตัวชี้วัดหนึ่งของแผนธุรกิจของ lit nit #วันนี้เล่าแค่นี้ก่อน เดี๋ยวว่าง ๆ จะมาเล่าในมุมที่ lit nit ไปเจรจากับร้านค้าและเอกชนบางแห่งที่สนใจเรื่องนี้เหมือนกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญพสกนิกรชาวนนทบุรี เฝ้าฯ รับเสด็จ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน มหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567 ในวันศุกร์ ที่ 23 สิงหาคม 2567 เวลา 17.00 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

    "กองทุนแม่ของแผ่นดิน" มีจุดเริ่มต้นจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ผ่านเลขาธิการ ป.ป.ส. (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2546 เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของราษฎรอาสา ที่ร่วมป้องกันยาเสพติดของหมู่บ้านชุมชน สำนักงาน ป.ป.ส. จึงน้อมเกล้าฯ จัดสรรงบประมาณขึ้นร่วมสมทบกับพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์โดยตั้งชื่อว่า "กองทุนแม่ของแผ่นดิน"

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินีสุทิดา
    Cr. FB : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี
    ขอเชิญพสกนิกรชาวนนทบุรี เฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน มหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567 ในวันศุกร์ ที่ 23 สิงหาคม 2567 เวลา 17.00 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี "กองทุนแม่ของแผ่นดิน" มีจุดเริ่มต้นจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ผ่านเลขาธิการ ป.ป.ส. (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2546 เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของราษฎรอาสา ที่ร่วมป้องกันยาเสพติดของหมู่บ้านชุมชน สำนักงาน ป.ป.ส. จึงน้อมเกล้าฯ จัดสรรงบประมาณขึ้นร่วมสมทบกับพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์โดยตั้งชื่อว่า "กองทุนแม่ของแผ่นดิน" #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินีสุทิดา Cr. FB : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว