• 🚢 เทียบท่าที่ Valletta Cruise Port สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งมอลตา! 🇲🇹

    🌟 Valletta Cruise Port จุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยือน! เมืองหลวงแห่งมอลตา เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม และประวัติศาสตร์อันเก่าแก่

    ✅ มหาวิหารเซนต์จอห์น (St. John’s Co-Cathedral) :
    โบสถ์ที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมในมอลตา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดยอัศวินแห่งเซนต์จอห์น ออกแบบในสไตล์บาโรก และภายในตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของศิลปะบาโรกในยุโรป

    ✅ สวนอัปเปอร์ บาร์รัคคา (Upper Barrakka Gardens) :
    สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดในเมืองวัลเลตตา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อนของอัศวินแห่งเซนต์จอห์น

    ✅ พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grandmaster’s Palace) :
    พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์สร้างขึ้นในปี 1571 เพื่อเป็นที่พำนักของ Grand Master แห่งอัศวินเซนต์จอห์น ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานประธานาธิบดีและรัฐสภามอลตา

    ✅ พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ (National Museum of Archaeology) :
    พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงโบราณวัตถุที่สำคัญจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ของมอลตา รวมถึงเครื่องมือหิน รูปปั้นขนาดเล็ก และแท่นบูชาจากวัดโบราณ ซึ่งสะท้อนถึงอดีตและวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยโบราณที่เคยอาศัยอยู่บนเกาะนี้

    📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696

    #VallettaCruisePort #Malta #StJohnCoCathedral #UpperBarrakkaGardens #GrandmastersPalace #NationalMuseumofArchaeology #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🚢 เทียบท่าที่ Valletta Cruise Port สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งมอลตา! 🇲🇹 🌟 Valletta Cruise Port จุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยือน! เมืองหลวงแห่งมอลตา เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม และประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ ✅ มหาวิหารเซนต์จอห์น (St. John’s Co-Cathedral) : โบสถ์ที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมในมอลตา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดยอัศวินแห่งเซนต์จอห์น ออกแบบในสไตล์บาโรก และภายในตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของศิลปะบาโรกในยุโรป ✅ สวนอัปเปอร์ บาร์รัคคา (Upper Barrakka Gardens) : สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดในเมืองวัลเลตตา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อนของอัศวินแห่งเซนต์จอห์น ✅ พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grandmaster’s Palace) : พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์สร้างขึ้นในปี 1571 เพื่อเป็นที่พำนักของ Grand Master แห่งอัศวินเซนต์จอห์น ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานประธานาธิบดีและรัฐสภามอลตา ✅ พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ (National Museum of Archaeology) : พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงโบราณวัตถุที่สำคัญจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ของมอลตา รวมถึงเครื่องมือหิน รูปปั้นขนาดเล็ก และแท่นบูชาจากวัดโบราณ ซึ่งสะท้อนถึงอดีตและวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยโบราณที่เคยอาศัยอยู่บนเกาะนี้ 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #VallettaCruisePort #Malta #StJohnCoCathedral #UpperBarrakkaGardens #GrandmastersPalace #NationalMuseumofArchaeology #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • #จัดแสดง# ..เป็นคึำที่หลายคนชอบใช้...และหลายคน..ตีเจตนาไม่ถูก..ว่า จะโชว์ หรือ จะขาย.....บางครั้งถามไป ก็มีคำตอบกลับมาทั้ง 2 แบบ...ดังนั้น เจตนาจะโพสเพื่ออะไร...ระบุไปเลย...คนอ่านเขาจะได้เข้าใจ..ที่อ้างว่าต้องใช้คำนี้เพราะเลี่ยงคำต้องห้ามระบบเฟส เป็นความเขื่อที่ผิด.
    #จัดแสดง# ..เป็นคึำที่หลายคนชอบใช้...และหลายคน..ตีเจตนาไม่ถูก..ว่า จะโชว์ หรือ จะขาย.....บางครั้งถามไป ก็มีคำตอบกลับมาทั้ง 2 แบบ...ดังนั้น เจตนาจะโพสเพื่ออะไร...ระบุไปเลย...คนอ่านเขาจะได้เข้าใจ..ที่อ้างว่าต้องใช้คำนี้เพราะเลี่ยงคำต้องห้ามระบบเฟส เป็นความเขื่อที่ผิด.
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568
    ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568

    ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568
    .
    รัฐบาล เตรียมพร้อมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุ เท่ากับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ในวันที่ 14 มกราคม 2568 ประกอบด้วย 7 กิจกรรม ได้แก่
    .
    1. พิธีสืบพระชะตาหลวง ณ สวนสราญรมย์ และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ระหว่างวันที่ 13 – 20 ม.ค.68
    2. บูรณปฏิสังขรณ์ วัดสังกัสรัตนคีรี จ.อุทัยธานี
    3. จัดแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในวันที่ 14 ม.ค.68
    4. จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติฯ
    5. จัดพิธีทางศาสนา และ กิจกรรมถวายพระราชกุศล ณ ศาสนสถานที่เกี่ยวเนื่องกับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
    6. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และ เจริญจิตตภาวนา ถวายพระราชกุศล
    7. จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
    .
    14 มกราคม 2568 เป็นโอกาสมหามงคลสมัยพิเศษ เนื่องจากเป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุได้ 26,469 วัน เป็น สมมงคล (สะ–มะ-มง-คน) เท่ากับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีสำคัญ ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ http://www.phralan.in.th/
    ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568 ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568 ชวนคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “พระราชพิธีสมมงคล” 14 มกราคม 2568 . รัฐบาล เตรียมพร้อมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุ เท่ากับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ในวันที่ 14 มกราคม 2568 ประกอบด้วย 7 กิจกรรม ได้แก่ . 1. พิธีสืบพระชะตาหลวง ณ สวนสราญรมย์ และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ระหว่างวันที่ 13 – 20 ม.ค.68 2. บูรณปฏิสังขรณ์ วัดสังกัสรัตนคีรี จ.อุทัยธานี 3. จัดแสดงโขนเรื่อง รามเกียรติ์ ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในวันที่ 14 ม.ค.68 4. จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติฯ 5. จัดพิธีทางศาสนา และ กิจกรรมถวายพระราชกุศล ณ ศาสนสถานที่เกี่ยวเนื่องกับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช 6. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และ เจริญจิตตภาวนา ถวายพระราชกุศล 7. จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร . 14 มกราคม 2568 เป็นโอกาสมหามงคลสมัยพิเศษ เนื่องจากเป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุได้ 26,469 วัน เป็น สมมงคล (สะ–มะ-มง-คน) เท่ากับ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีสำคัญ ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ http://www.phralan.in.th/
    0 Comments 0 Shares 294 Views 0 Reviews
  • สวนเปรมประชาวนารักษ์ ปอดแห่งใหม่ด้วยน้ำพระทัยในหลวง

    เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่ง จากท่าเทียบเรือบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ไปยังท่าเทียบเรือสวนเปรมประชาวนารักษ์ เพื่อทรงเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติเปรมประชาวนารักษ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ พื้นที่ถนนกำแพงเพชร 6 แนวขนานคลองเปรมประชากร เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

    โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปลูกประดู่ป่า ที่เพาะเมล็ดจากต้นประดู่ป่าที่ทรงปลูกต้นที่ 100 ล้าน ในโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ 1 ล้านไร่ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปลูกต้นพิกุล ต่อจากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติชลวิถีธีรพัฒน์ หมายถึง การพัฒนาสายน้ำของผู้เป็นปราชญ์แห่งแผ่นดิน จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริตามพระบรมราโชบาย ประกอบด้วย ชลวัฏวิถี ชลธีร์ราชทรรศน์ และ ชลวิวัฒน์เพื่อประชา

    สำหรับสวนเปรมประชาวนารักษ์ สร้างขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หน่วยราชการในพระองค์ หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ตามพระบรมราโชบายด้านการพัฒนาสายน้ำ คูคลอง สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยร่วมกันพัฒนาคลองเปรมประชากรที่เผชิญปัญหาน้ำเน่าเสีย ขยะล้นคลอง และมีพื้นที่รกร้างให้มีสภาพที่ดีขึ้น โดยฟื้นฟูระบบน้ำ ขุดลอกคลอง และเพิ่มพื้นที่สีเขียว

    พร้อมกับปรับปรุงภูมิทัศน์บนพื้นที่ถนนกำแพงเพชร 6 แนวขนานคลองเปรมประชากร จำนวน 10 ไร่ เดิมเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า จัดสร้างเป็นสวนสาธารณะ พร้อมลานกิจกรรม เส้นทางจักรยาน ท่าเรือ และพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อสวนเปรมประชาวนารักษ์ หมายถึง สวนที่นำความสุขและความเบิกบานใจมาสู่ประชาชน โดยได้รับการดูแลรักษาด้วยความรัก

    ภายในสวนประกอบด้วยพื้นที่สวนสาธารณะ อาคารนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติชลวิถีธีรพัฒน์ นิทรรศการกลางแจ้งสายธารพระบารมีจักรีวงศ์ และท่าเรือ โดยมีต้นไทรขนาดใหญ่อยู่กลางพื้นที่สวน ประกอบกับแนวคิดการออกแบบสัญลักษณ์เลข ๑๐ ไทย ในรูปทรงหยดน้ำแห่งพระมหากรุณาธิคุณ นอกจากนี้ ในสวนยังมีพรรณไม้ดั้งเดิมของกรุงเทพมหานคร พรรณไม้พื้นถิ่น และต้นไม้นานาพันธุ์ปลูกเสริมสภาพสิ่งแวดล้อมของสวนสาธารณะให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

    สำหรับการเดินทางมายังสวนเปรมประชาวนารักษ์ สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ลงสถานีทุ่งสองห้อง ทางออก 1

    #Newskit
    สวนเปรมประชาวนารักษ์ ปอดแห่งใหม่ด้วยน้ำพระทัยในหลวง เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่ง จากท่าเทียบเรือบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ไปยังท่าเทียบเรือสวนเปรมประชาวนารักษ์ เพื่อทรงเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติเปรมประชาวนารักษ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ พื้นที่ถนนกำแพงเพชร 6 แนวขนานคลองเปรมประชากร เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปลูกประดู่ป่า ที่เพาะเมล็ดจากต้นประดู่ป่าที่ทรงปลูกต้นที่ 100 ล้าน ในโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ 1 ล้านไร่ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปลูกต้นพิกุล ต่อจากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติชลวิถีธีรพัฒน์ หมายถึง การพัฒนาสายน้ำของผู้เป็นปราชญ์แห่งแผ่นดิน จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริตามพระบรมราโชบาย ประกอบด้วย ชลวัฏวิถี ชลธีร์ราชทรรศน์ และ ชลวิวัฒน์เพื่อประชา สำหรับสวนเปรมประชาวนารักษ์ สร้างขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หน่วยราชการในพระองค์ หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ตามพระบรมราโชบายด้านการพัฒนาสายน้ำ คูคลอง สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยร่วมกันพัฒนาคลองเปรมประชากรที่เผชิญปัญหาน้ำเน่าเสีย ขยะล้นคลอง และมีพื้นที่รกร้างให้มีสภาพที่ดีขึ้น โดยฟื้นฟูระบบน้ำ ขุดลอกคลอง และเพิ่มพื้นที่สีเขียว พร้อมกับปรับปรุงภูมิทัศน์บนพื้นที่ถนนกำแพงเพชร 6 แนวขนานคลองเปรมประชากร จำนวน 10 ไร่ เดิมเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า จัดสร้างเป็นสวนสาธารณะ พร้อมลานกิจกรรม เส้นทางจักรยาน ท่าเรือ และพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อสวนเปรมประชาวนารักษ์ หมายถึง สวนที่นำความสุขและความเบิกบานใจมาสู่ประชาชน โดยได้รับการดูแลรักษาด้วยความรัก ภายในสวนประกอบด้วยพื้นที่สวนสาธารณะ อาคารนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติชลวิถีธีรพัฒน์ นิทรรศการกลางแจ้งสายธารพระบารมีจักรีวงศ์ และท่าเรือ โดยมีต้นไทรขนาดใหญ่อยู่กลางพื้นที่สวน ประกอบกับแนวคิดการออกแบบสัญลักษณ์เลข ๑๐ ไทย ในรูปทรงหยดน้ำแห่งพระมหากรุณาธิคุณ นอกจากนี้ ในสวนยังมีพรรณไม้ดั้งเดิมของกรุงเทพมหานคร พรรณไม้พื้นถิ่น และต้นไม้นานาพันธุ์ปลูกเสริมสภาพสิ่งแวดล้อมของสวนสาธารณะให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น สำหรับการเดินทางมายังสวนเปรมประชาวนารักษ์ สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ลงสถานีทุ่งสองห้อง ทางออก 1 #Newskit
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 632 Views 0 Reviews
  • จับกระแสคอนเสิร์ต เคานต์ดาวน์ 2025

    คืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 หลายสถานที่ได้เปิดเผยศิลปินที่จะมาสร้างความสุขก่อนเข้าสู่ศักราชใหม่ ปีนี้ยังคงประชันกันระหว่างไอคอนสยาม ที่คว้าศิลปินระดับโลก ลิซ่า ลลิสา มโนบาล มาโชว์พิเศษริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ประกาศเป็นไทม์สแควร์ออฟเอเชีย

    เมื่อดูรายชื่อศิลปินคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2567 พบว่ามีศิลปินปรากฎทั้งเวทีไอคอนสยามและเซ็นทรัลเวิลด์ ได้แก่ นนท์ ธนนท์ จำเริญ, Jeff Satur หรือวรกมล ชาเตอร์, เกิร์ลกรุ๊ปสาว 4EVE, พีพี-บิวกิ้น แต่บางคนเลือกแสดงเวทีเดียว เช่น เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร เวทีไอคอนสยาม หรือเซ็นทรัลเวิลด์ก็มี ซี-นุนิว, ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต

    สำหรับศิลปินที่รับงานคืนส่งท้ายปีเก่ามากที่สุด 3 งาน ได้แก่ ยัวร์บอยทีเจ (URBOYTJ) จิรายุทธ ผโลประการ มีทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ เมกาบางนา และร้าน ROUTE 66 RCA, อิ๊งค์ วรันธร เปานิล มีทั้งวันแบงค็อก เมกาบางนา และเอ็มควอเทียร์ หรือวงโนวันเอลส์ (No One Else) มีทั้งเดอะมอลล์ท่าพระ เอ็มควอเทียร์ และร้านมอนติคาโล เลียบด่วนฯ

    นอกนั้นยังคงรับ 1-2 งาน เช่น ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป PIXXIE เริ่มต้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ ต่อด้วย 23.00 น. ที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต หรือจะเป็น ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ เริ่มต้น 19.00 น. ที่สยามพารากอน ต่อด้วย 23.00 น. ที่ซีคอนสแควร์ และวงทรีแมนดาวน์ เริ่มต้น 20.20 น. ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ต่อด้วย 23.00 น. ที่เมกาบางนา เป็นต้น

    แต่ก็มีศิลปินบางคนเลือกแสดงเฉพาะสถานบันเทิง เช่น แว่นใหญ่ หรือโอฬาร ชูใจ ที่ย่านสุขุมวิท และวง ZEAL ระบุว่าผับบาร์แห่งหนึ่งใน กทม.

    ต่างจังหวัด เช่น งานเคานต์ดาวน์ จ.พะเยา มีทั้ง หญิงลี ศรีจุมพล, วงวัชราวลี และวง Jetseter หรือจะเป็น กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี และบอย อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี ไปที่เซ็นทรัล เชียงใหม่, เจ เจตริน วรรธนะสิน และเจ้านาย-เจ้าขุน ไปห้างบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์, โจอี้บอย อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต ไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

    ส่วนศิลปินลูกทุ่ง จ๊ะ นงผณี มหาดไทย ปีนี้รับสองงาน ได้แก่ 19.00 น. ตลาดต้นไทร แบริ่ง กทม. ต่อด้วยเซ็นทรัล อยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ด้าน ลำไย ไหทองคำ หรือสุพรรณษา เวชกามา ปีนี้มีเฉพาะที่หอโหวดร้อยเอ็ด และศิลปินหนุ่ม เบิ้ล ปทุมราช หรืออาทิตย์ สมน้อย ขอกลับไปเคานต์ดาวน์ที่บ้านเกิด อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ

    ส่วนวงหมอลำอีสานนครศิลป์ นกน้อย อุไรพร จัดแสดงที่วัดทักษิณชลธาน อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และหมอลำประถมบันเทิงศิลป์ จัดแสดงที่บ้านหนองบัว อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ

    #Newskit
    จับกระแสคอนเสิร์ต เคานต์ดาวน์ 2025 คืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 หลายสถานที่ได้เปิดเผยศิลปินที่จะมาสร้างความสุขก่อนเข้าสู่ศักราชใหม่ ปีนี้ยังคงประชันกันระหว่างไอคอนสยาม ที่คว้าศิลปินระดับโลก ลิซ่า ลลิสา มโนบาล มาโชว์พิเศษริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ประกาศเป็นไทม์สแควร์ออฟเอเชีย เมื่อดูรายชื่อศิลปินคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2567 พบว่ามีศิลปินปรากฎทั้งเวทีไอคอนสยามและเซ็นทรัลเวิลด์ ได้แก่ นนท์ ธนนท์ จำเริญ, Jeff Satur หรือวรกมล ชาเตอร์, เกิร์ลกรุ๊ปสาว 4EVE, พีพี-บิวกิ้น แต่บางคนเลือกแสดงเวทีเดียว เช่น เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร เวทีไอคอนสยาม หรือเซ็นทรัลเวิลด์ก็มี ซี-นุนิว, ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต สำหรับศิลปินที่รับงานคืนส่งท้ายปีเก่ามากที่สุด 3 งาน ได้แก่ ยัวร์บอยทีเจ (URBOYTJ) จิรายุทธ ผโลประการ มีทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ เมกาบางนา และร้าน ROUTE 66 RCA, อิ๊งค์ วรันธร เปานิล มีทั้งวันแบงค็อก เมกาบางนา และเอ็มควอเทียร์ หรือวงโนวันเอลส์ (No One Else) มีทั้งเดอะมอลล์ท่าพระ เอ็มควอเทียร์ และร้านมอนติคาโล เลียบด่วนฯ นอกนั้นยังคงรับ 1-2 งาน เช่น ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป PIXXIE เริ่มต้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ ต่อด้วย 23.00 น. ที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต หรือจะเป็น ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ เริ่มต้น 19.00 น. ที่สยามพารากอน ต่อด้วย 23.00 น. ที่ซีคอนสแควร์ และวงทรีแมนดาวน์ เริ่มต้น 20.20 น. ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ต่อด้วย 23.00 น. ที่เมกาบางนา เป็นต้น แต่ก็มีศิลปินบางคนเลือกแสดงเฉพาะสถานบันเทิง เช่น แว่นใหญ่ หรือโอฬาร ชูใจ ที่ย่านสุขุมวิท และวง ZEAL ระบุว่าผับบาร์แห่งหนึ่งใน กทม. ต่างจังหวัด เช่น งานเคานต์ดาวน์ จ.พะเยา มีทั้ง หญิงลี ศรีจุมพล, วงวัชราวลี และวง Jetseter หรือจะเป็น กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี และบอย อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี ไปที่เซ็นทรัล เชียงใหม่, เจ เจตริน วรรธนะสิน และเจ้านาย-เจ้าขุน ไปห้างบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์, โจอี้บอย อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต ไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ส่วนศิลปินลูกทุ่ง จ๊ะ นงผณี มหาดไทย ปีนี้รับสองงาน ได้แก่ 19.00 น. ตลาดต้นไทร แบริ่ง กทม. ต่อด้วยเซ็นทรัล อยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ด้าน ลำไย ไหทองคำ หรือสุพรรณษา เวชกามา ปีนี้มีเฉพาะที่หอโหวดร้อยเอ็ด และศิลปินหนุ่ม เบิ้ล ปทุมราช หรืออาทิตย์ สมน้อย ขอกลับไปเคานต์ดาวน์ที่บ้านเกิด อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ส่วนวงหมอลำอีสานนครศิลป์ นกน้อย อุไรพร จัดแสดงที่วัดทักษิณชลธาน อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และหมอลำประถมบันเทิงศิลป์ จัดแสดงที่บ้านหนองบัว อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 984 Views 0 Reviews
  • ศึกชิงเคานต์ดาวน์ 2025 เทศกาลความสุขรอบกรุงฯ

    เทศกาลเคานต์ดาวน์ปีใหม่ 2025 ในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 มีหลายสถานที่ประกาศความพร้อมจัดงานนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ ในกรุงเทพมหานคร งาน Amazing Thailand Countdown 2025 จัดขึ้นที่สวนนาคราภิรมย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดแสดงแสง สี เสียง และสื่อประสมบนพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม

    จุดใหญ่ที่สุดก็คือลานริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม กับการแสดงพลุรักษ์โลกที่ยาวถึง 1,400 เมตร ยาวที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้แนวคิด “Celebrating the Everlasting Legacy of Siam เฉลิมฉลองมรดกไทยอันรุ่งโรจน์นิรันดร์” ไฮไลต์คือการแสดงจาก ลิซ่า ลลิษา มโนบาล นอกนั้นเป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง 3 วัน 29 ถึง 31 ธ.ค. 2567 อาทิ เว่ยเจ๋อหมิง (30 ธ.ค.), เป็ก ผลิตโชค, นนท์ ธนนท์, PROXIE, 4EVE, BUS because of you I shine แต่ยังไม่ประกาศไลน์อัพออกมาว่าใครมาวันไหนบ้าง

    ด้านเซ็นทรัลเวิลด์ ที่พรีเซนต์ว่าเป็นไทม์สแควร์ออฟเอเชีย ประกาศไลน์อัพศิลปินคืนวันส่งท้ายปี อาทิ บิวกิ้น-พีพี, Jaylerr, Ice Paris, ซี-นุนิว, PROXIE, PiXXiE, 4EVE, นนท์ ธนนท์, URBOYTJ, BUS because of you I shine, Three Man Down และ Tattoo Colour และเผยโฉม โอปอล สุชาตา Miss Universe Thailand 2024 รองอันดับ 3 Miss Universe ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 แต่พบว่ามีหลายศิลปินที่จะได้เจอทั้งไอคอนสยามและเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าวันเดียวกันหรือคนละวัน

    ส่วนศูนย์การค้าอื่นๆ อาทิ สยามพารากอน มีศิลปินที่คอนเฟิร์มแล้วคือ PALMY เอ็มควอเทียร์ที่คอนเฟิร์มแล้วมี Bowkylion, No One Else และ Ink Waruntorn โครงการวัน แบงค็อก มี The Toys, Ling & Orm, Jeff Satur, Ink Waruntorn, Bowkylion, Daou & Offroad, และ BUS โครงการเอเชียทีค มี BIG ASS, COCKTAIL, GETSUNOVA พร้อมการแสดงพิเศษจากศิลปิน OneN’Only จากญี่ปุ่น Calypso และ Siam Fantasy และการแสดงพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยาในธีม “Chao Phraya Jump Up!

    ออกไปยังชานเมือง ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ มี FOOL STEP, SILLY FOOLS, TILLY BIRDS, และ PALMY เมกาบางนา มี THREE MAN DOWN, POTATO, URBOY TJ, INK - WARUNTORN, JOEY - PHUWASIT, วง ATLAS และ D GERRARD ถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยต์ 23 และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เวลา 21.00 น. YOUR MOOD, 22.00 น. LYKN, 23.00 น. PIXXIE และ 23.50 น. BUS because of you I shine

    ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์เกต จ.นนทบุรี พบกับ โอ๊ต ปราโมทย์, เซ็นทรัล ศาลายา จ.นครปฐม พบกับ EBOLA และเซ็นทรัล มหาชัย จ.สมุทรสาคร พบกับ The Richman Toy

    #Newskit
    ศึกชิงเคานต์ดาวน์ 2025 เทศกาลความสุขรอบกรุงฯ เทศกาลเคานต์ดาวน์ปีใหม่ 2025 ในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 มีหลายสถานที่ประกาศความพร้อมจัดงานนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ ในกรุงเทพมหานคร งาน Amazing Thailand Countdown 2025 จัดขึ้นที่สวนนาคราภิรมย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดแสดงแสง สี เสียง และสื่อประสมบนพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม จุดใหญ่ที่สุดก็คือลานริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม กับการแสดงพลุรักษ์โลกที่ยาวถึง 1,400 เมตร ยาวที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้แนวคิด “Celebrating the Everlasting Legacy of Siam เฉลิมฉลองมรดกไทยอันรุ่งโรจน์นิรันดร์” ไฮไลต์คือการแสดงจาก ลิซ่า ลลิษา มโนบาล นอกนั้นเป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง 3 วัน 29 ถึง 31 ธ.ค. 2567 อาทิ เว่ยเจ๋อหมิง (30 ธ.ค.), เป็ก ผลิตโชค, นนท์ ธนนท์, PROXIE, 4EVE, BUS because of you I shine แต่ยังไม่ประกาศไลน์อัพออกมาว่าใครมาวันไหนบ้าง ด้านเซ็นทรัลเวิลด์ ที่พรีเซนต์ว่าเป็นไทม์สแควร์ออฟเอเชีย ประกาศไลน์อัพศิลปินคืนวันส่งท้ายปี อาทิ บิวกิ้น-พีพี, Jaylerr, Ice Paris, ซี-นุนิว, PROXIE, PiXXiE, 4EVE, นนท์ ธนนท์, URBOYTJ, BUS because of you I shine, Three Man Down และ Tattoo Colour และเผยโฉม โอปอล สุชาตา Miss Universe Thailand 2024 รองอันดับ 3 Miss Universe ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 แต่พบว่ามีหลายศิลปินที่จะได้เจอทั้งไอคอนสยามและเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าวันเดียวกันหรือคนละวัน ส่วนศูนย์การค้าอื่นๆ อาทิ สยามพารากอน มีศิลปินที่คอนเฟิร์มแล้วคือ PALMY เอ็มควอเทียร์ที่คอนเฟิร์มแล้วมี Bowkylion, No One Else และ Ink Waruntorn โครงการวัน แบงค็อก มี The Toys, Ling & Orm, Jeff Satur, Ink Waruntorn, Bowkylion, Daou & Offroad, และ BUS โครงการเอเชียทีค มี BIG ASS, COCKTAIL, GETSUNOVA พร้อมการแสดงพิเศษจากศิลปิน OneN’Only จากญี่ปุ่น Calypso และ Siam Fantasy และการแสดงพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยาในธีม “Chao Phraya Jump Up! ออกไปยังชานเมือง ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ มี FOOL STEP, SILLY FOOLS, TILLY BIRDS, และ PALMY เมกาบางนา มี THREE MAN DOWN, POTATO, URBOY TJ, INK - WARUNTORN, JOEY - PHUWASIT, วง ATLAS และ D GERRARD ถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยต์ 23 และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เวลา 21.00 น. YOUR MOOD, 22.00 น. LYKN, 23.00 น. PIXXIE และ 23.50 น. BUS because of you I shine ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์เกต จ.นนทบุรี พบกับ โอ๊ต ปราโมทย์, เซ็นทรัล ศาลายา จ.นครปฐม พบกับ EBOLA และเซ็นทรัล มหาชัย จ.สมุทรสาคร พบกับ The Richman Toy #Newskit
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 788 Views 0 Reviews
  • ตู้รถไฟกงเปียญ (Compiègne Wagon)วันนี้ (11 พฤศจิกายน) เมื่อ 106ปีที่แล้วคือ ค.ศ.1918 ผู้แทนฝ่ายเยอรมนีและฝ่ายสัมพันธมิตรได้ร่วมลงนามเจรจาสงบศึกบนตู้รถไฟ ณ ป่ากงเปียญ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ความเป็นมาของตู้รถไฟ:ตู้รถไฟขบวนนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1914 ที่แซงต์-เดอนี เพื่อใช้เป็นรถตู้ทานอาหารหมายเลข. 2491D ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มันได้ถูกใช้เพื่อเป็นหนึ่งในขบวนรถไฟนอนหรูของบริษัท Compagnie Internationale des Wagons-Lits หรือที่รู้จักกันในนาม “The Orient Express” การสงบศึกวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1918:ในเดือนตุลาคม, ค.ศ.1918 ตู้รถไฟได้ถูกใช้เพื่อเป็นพาหนะของผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพสัมพันธมิตร จอมพลแฟร์ดินานด์ ฟ็องคซ์และผู้แทนฝ่ายสัมพันธมิตรในการเจรจาสงบศึกกับฝ่ายเยอรมนี ณ ป่ากงเปียญ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ตู้รถไฟยังคงถูกใช้อยู่โดย The Orient Express ก่อนจะถูกบริจาคเพื่อนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Musée de l’Armée ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1919 ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1927 ตู้รถไฟได้ถูกนำไปจัดแสดงอยู่ในอาคาร ณ Clairière de l’Armistice สถานที่ที่มันเคยถูกใช้ลงนามสงบศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1การสงบศึกวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.1940:หลังการรุกรานฝรั่งเศสของกองทัพเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของจอมพลฟิลิป เปแตงได้ขอเจรจาสงบศึกกับฝ่ายนาซีซึ่งนำโดยอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ณ ป่ากงเปียญ สถานที่เดิมซึ่งสร้างความอัปยศให้กับอดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 ทุกนาย โดยเฉพาะกับอดีตสิบโทอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ฮิตเลอร์ได้จงใจเลือกใช้สถานที่แห่งนี้ในการเจรจาสงบศึกกับฝรั่งเศสเพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับบาดแผลในอดีตของเยอรมนี ภายหลังจากการเจรจาสงบศึก ฮิตเลอร์ได้สั่งให้นำตู้รถไฟขบวนนี้ไปจัดแสดงโชว์ที่กรุงเบอร์ลิน ถูกทำลาย:ในปี ค.ศ.1944 ได้มีการย้ายตู้รถไฟไปยังเธอริงเงิน, ตอนกลางของเยอรมนี ในเมืองคราวินเคล (Crawinkel) ใกล้กับระบบเครือข่ายอุโมงค์ขนาดใหญ่ มันได้ถูกทำลายลงในเดือนมีนาคม ค.ศ.1945 โดยฝีมือพวกเอสเอส แต่ทหารเอสเอสผ่านศึกได้ยืนยันว่าตู้รถไฟได้ถูกทำลายโดยการทิ้งระเบิดทางอากาศตั้งแต่ปี ค.ศ.1944 ในเธอริงเงินแล้วแบบจำลองใหม่:ในปี ค.ศ.1950 ได้มีการหาตู้รถไฟที่มีลักษณะใกล้เคียงจากบริษัท The Orient Express ที่ถูกผลิตในช่วงปี ค.ศ.1913-1914 เพื่อนำมาจัดแสดงใหม่ที่อนุสรณ์ Clairière de l’Armistice ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1950 ปัจจุบันยังคงจัดแสดงอยู่ ณ อนุสรณ์แห่งการลงนามสงบศึกแห่งนี้อยู่
    ตู้รถไฟกงเปียญ (Compiègne Wagon)วันนี้ (11 พฤศจิกายน) เมื่อ 106ปีที่แล้วคือ ค.ศ.1918 ผู้แทนฝ่ายเยอรมนีและฝ่ายสัมพันธมิตรได้ร่วมลงนามเจรจาสงบศึกบนตู้รถไฟ ณ ป่ากงเปียญ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ความเป็นมาของตู้รถไฟ:ตู้รถไฟขบวนนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1914 ที่แซงต์-เดอนี เพื่อใช้เป็นรถตู้ทานอาหารหมายเลข. 2491D ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มันได้ถูกใช้เพื่อเป็นหนึ่งในขบวนรถไฟนอนหรูของบริษัท Compagnie Internationale des Wagons-Lits หรือที่รู้จักกันในนาม “The Orient Express” การสงบศึกวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1918:ในเดือนตุลาคม, ค.ศ.1918 ตู้รถไฟได้ถูกใช้เพื่อเป็นพาหนะของผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพสัมพันธมิตร จอมพลแฟร์ดินานด์ ฟ็องคซ์และผู้แทนฝ่ายสัมพันธมิตรในการเจรจาสงบศึกกับฝ่ายเยอรมนี ณ ป่ากงเปียญ หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ตู้รถไฟยังคงถูกใช้อยู่โดย The Orient Express ก่อนจะถูกบริจาคเพื่อนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Musée de l’Armée ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1919 ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1927 ตู้รถไฟได้ถูกนำไปจัดแสดงอยู่ในอาคาร ณ Clairière de l’Armistice สถานที่ที่มันเคยถูกใช้ลงนามสงบศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1การสงบศึกวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.1940:หลังการรุกรานฝรั่งเศสของกองทัพเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของจอมพลฟิลิป เปแตงได้ขอเจรจาสงบศึกกับฝ่ายนาซีซึ่งนำโดยอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ณ ป่ากงเปียญ สถานที่เดิมซึ่งสร้างความอัปยศให้กับอดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 ทุกนาย โดยเฉพาะกับอดีตสิบโทอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ฮิตเลอร์ได้จงใจเลือกใช้สถานที่แห่งนี้ในการเจรจาสงบศึกกับฝรั่งเศสเพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับบาดแผลในอดีตของเยอรมนี ภายหลังจากการเจรจาสงบศึก ฮิตเลอร์ได้สั่งให้นำตู้รถไฟขบวนนี้ไปจัดแสดงโชว์ที่กรุงเบอร์ลิน ถูกทำลาย:ในปี ค.ศ.1944 ได้มีการย้ายตู้รถไฟไปยังเธอริงเงิน, ตอนกลางของเยอรมนี ในเมืองคราวินเคล (Crawinkel) ใกล้กับระบบเครือข่ายอุโมงค์ขนาดใหญ่ มันได้ถูกทำลายลงในเดือนมีนาคม ค.ศ.1945 โดยฝีมือพวกเอสเอส แต่ทหารเอสเอสผ่านศึกได้ยืนยันว่าตู้รถไฟได้ถูกทำลายโดยการทิ้งระเบิดทางอากาศตั้งแต่ปี ค.ศ.1944 ในเธอริงเงินแล้วแบบจำลองใหม่:ในปี ค.ศ.1950 ได้มีการหาตู้รถไฟที่มีลักษณะใกล้เคียงจากบริษัท The Orient Express ที่ถูกผลิตในช่วงปี ค.ศ.1913-1914 เพื่อนำมาจัดแสดงใหม่ที่อนุสรณ์ Clairière de l’Armistice ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1950 ปัจจุบันยังคงจัดแสดงอยู่ ณ อนุสรณ์แห่งการลงนามสงบศึกแห่งนี้อยู่
    0 Comments 0 Shares 446 Views 0 Reviews
  • "ครุฑ" ประดับกุญแจเมืองทองคำที่เห็นนี้ นายกเทศมนตรีเมืองไวท์เพลนส์ สหรัฐอเมริกา ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๔ และปัจจุบันจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เชิงสะพานผ่านฟ้า
    "ครุฑ" ประดับกุญแจเมืองทองคำที่เห็นนี้ นายกเทศมนตรีเมืองไวท์เพลนส์ สหรัฐอเมริกา ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๔ และปัจจุบันจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เชิงสะพานผ่านฟ้า
    Like
    2
    0 Comments 1 Shares 618 Views 0 Reviews
  • ย้อนไป ตอนปฏิวัติทางการเมืองของจีน..นายพล หยวนซื่อไข่ สู้ไม่ได้ ...ก็ระเห็ดไปอยู่เกาะไต้หวัน...และจุดเริ่มจากวันนั้น..ก็มีไต้หวันในวันนี้....แต่สิ่งสำคัญคือ โบราณวัตถุล้ำค่าของจีน...ที่ตกทอดมาหาลายราชวงศ์ ...ถูกนำไปด้วย...จำนวนมหาศาล....!!
    ...พิพิธภัณฑ์ที่ไต้หวัน..ก็คัดบางส่วน ออกมาจัดแสดงเรื่อยๆ ....และยังมีอีกมากมาย ที่สาธารณะชนยังไม่ได้พบเห็น.



    ย้อนไป ตอนปฏิวัติทางการเมืองของจีน..นายพล หยวนซื่อไข่ สู้ไม่ได้ ...ก็ระเห็ดไปอยู่เกาะไต้หวัน...และจุดเริ่มจากวันนั้น..ก็มีไต้หวันในวันนี้....แต่สิ่งสำคัญคือ โบราณวัตถุล้ำค่าของจีน...ที่ตกทอดมาหาลายราชวงศ์ ...ถูกนำไปด้วย...จำนวนมหาศาล....!! ...พิพิธภัณฑ์ที่ไต้หวัน..ก็คัดบางส่วน ออกมาจัดแสดงเรื่อยๆ ....และยังมีอีกมากมาย ที่สาธารณะชนยังไม่ได้พบเห็น.
    1 Comments 0 Shares 283 Views 0 Reviews
  • จีนนำเสนอเครื่องบินขับไล่ล่องหนใหม่ล่าสุด ต่อสายตาของสาธารณชนเป็นครั้งแรก ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่จีนเร่งยกระดับความทันสมัยของกองทัพ ในการแข่งขันกับวอชิงตัน สำหรับความเหนือกว่าบนท้องฟ้า ท่ามกลางความตึงเครียดที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆในภูมิภาค
    .
    เครื่องบินล่องหน J-35A ประจำการภาคพื้น ถูกเปิดตัว ณ พิธีเปิดงานนิทรรศการอวกาศและการบินระหว่างประเทศ (China International Aviation & Aerospace Exhibition) ในเมืองจูไห่ ทางภาคใต้ของจีน ผ่านการบินสาธิตทางอากาศเป็นเวลา 5 นาที
    .
    นอกจากนี้แล้วภายในงานดังกล่าว ยังมีการจัดแสดงเครื่องบินล่องหน J-35 เวอร์ชันประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบินเช่นกัน ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐ ขณะที่นิทรรศการทางอากาศที่จัดขึ้น 2 ปีครั้ง ถือเป็นการรวมตัวของอากาศยานกองทัพครั้งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งในเอเชีย
    .
    แม้รายละเอียดเกี่ยวกับสมรรถนะของ J-35 จะมีอย่างจำกัด แต่พวกนักวิเคราะห์บอกว่าการเปิดตัวครั้งนี้ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของจีน ในความพยายามยกระดับกองทัพให้มีความทันสมัยและท้าทายความเป็นเต้ยของสหรัฐฯในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวๆไต้หวัน ซึ่งทางปักกิ่งกล่าวอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน
    .
    คาร์ล ชูสเตอร์ นักวิเคราะห์ทางทหารและอดีตผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ แห่งศูนย์ข่าวกรองร่วมของกองบัญชาการแปซิฟิกแห่งกองทัพสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า "งานแอร์โชว์ในปีนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อส่งสารว่า กองทัพจีนทัดเทียมกับสหรัฐฯและทั่วทั้งตะวันตก กองกำลังสหรัฐฯเคยเปรมปรีดิ์ ในความเหนือกว่าทางอากาศในทุกๆความขัดแย้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เวลานี้แสนนายุภาพทางอากาศที่กำลังเติบโตขึ้นของจีน กำลังท้าทายความได้เปรียบดั้งเดิมของตะวันตก"
    .
    ด้วยการเปิดตัว J-35 ทำให้จีน ก้าวขึ้นมาทัดเทียมกับสหรัฐฯ เป็นเพียง 2 ประเทศ ที่สามารรถผลิตเครื่องบินขับไล่ล่องหนได้มากกว่า 1 ซีรีย์ นอกจากนี้แล้วพวกเขายังเป็นประเทศเดียวที่กำลังเดินหน้าผลิตทั้ง 2 ซีรีย์ เนื่องจากสหรัฐฯระงับการผลิต F-22 แรปเตอร์ไปแล้ว
    .
    "จีนไล่กวดเข้ามาในแง่ของขอบเขตยุทโธปกรณ์ที่พวกเขามี อย่างน้อยๆก็ที่นำออกมาแสดง" เจมส์ ชาร์ ผู้ช่วยศาสตรจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านกองทัพจีน ณ สถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ เอส ราชารัตนัม แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางของสิงคโปร์กล่าว "แต่ในแง่การไล่ตามอเมริกา พวกนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าพวกเขายังคงล้าหลังอยู่ราวๆ 10 ถึง 15 ปี" เช่นเดียวกับแง่มุมอื่นๆเกียวกับการประจำการทางทหาร อย่างเช่นการฝึกฝนและความพร้อมด้านปฏิบัติการ
    .
    J-35 ถูกพัฒนามานานกว่า 1 ทศวรรษโดยเฉินหยาง แอร์คราฟท์ คอร์ปอเรชัน หน่วยธุรกิจของอาเวียชัน อินดัสตรี คอร์ปอเรชีน ออฟ ไชนา บริษัทที่มีรัฐเป็นเจ้าของ และมันจะถูกส่งเข้าประจำการในกองทัพปักกิ่ง ร่วมกับเครื่องบินล่องหน J-2 มุ่งเน้นจากอากาศสู่อากาศ ที่เข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 2017
    .
    ชูสเตอร์ คาดหมายว่าเครื่องบิน J-35 ล็อตแรก ที่จะเข้าร่วมในการฝึกซ้อมด้านปฏิบัติการของกองทัพอากาศจีน ในเดือนมีนาคม 2026
    .
    หนี่ เล่อเซวียง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจากมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และกฎหมายเซี่ยงไฮ้ ระบุว่าด้วยศักยภาพยิงจากอากาศสู่ภาคพื้นและโจมตีทางอากาศสู่อากาศ รวมถึงความสามารถในการเทคออฟขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินซีรีย์ต่างๆของ J-35 ถูกออกแบบมาให้ทัดเทียมกับเครื่องบินล่องหน F-35 ซีรีย์ต่างๆของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ ปักกิ่ง ยังไม่แถลงเกี่ยวกับเวอร์ชันที่สามารถเทคออฟและลงจอดในแนวดิ่ง บางอย่างที่ F-35B สามารถทำได้
    .
    ปีเตอร์ เลย์ตัน จากสถาบันวิจัยรอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิส เน้นว่า J-35 กำลังเข้าประจำการตามหลัง F-35 ของสหรัฐฯเกือบ 10 ปี และมีขึ้นหลังจากวอชิงตันเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับเครื่องบินล่องหนรุ่นใหม่ไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขามองว่าด้วยความสามารถในการผลิตที่เหนือกว่าของจีน จึงหมายความว่า F-35 อาจสร้างได้ง่ายกว่าและมีราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับสหรัฐฯที่ใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง ทำให้ J-35 มีความได้เปรียบในแง่ของการส่งออกไปยังตลาดต่างๆ
    .
    เครื่องบินที่นำมาจัดแสดงภายในนิทรรศการอวกาศและการบินระหว่างประเทศในปีนี้ ยังรวมไปถึงซูคอย ซู-27 ของรัสเซีย บ่งชี้ถึงสัญญาณความสัมพันธ์ที่ครอบคลุมมากขึ้นและแน่นแฟ้นมากขึ้นระหว่างปักกิ่งกับมอสโก จากความเห็นของ คอลลิน โก๊ะ นักวิจัยอีกคนของสถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ เอส ราชารัตนัม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109079
    ..............
    Sondhi X
    จีนนำเสนอเครื่องบินขับไล่ล่องหนใหม่ล่าสุด ต่อสายตาของสาธารณชนเป็นครั้งแรก ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่จีนเร่งยกระดับความทันสมัยของกองทัพ ในการแข่งขันกับวอชิงตัน สำหรับความเหนือกว่าบนท้องฟ้า ท่ามกลางความตึงเครียดที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆในภูมิภาค . เครื่องบินล่องหน J-35A ประจำการภาคพื้น ถูกเปิดตัว ณ พิธีเปิดงานนิทรรศการอวกาศและการบินระหว่างประเทศ (China International Aviation & Aerospace Exhibition) ในเมืองจูไห่ ทางภาคใต้ของจีน ผ่านการบินสาธิตทางอากาศเป็นเวลา 5 นาที . นอกจากนี้แล้วภายในงานดังกล่าว ยังมีการจัดแสดงเครื่องบินล่องหน J-35 เวอร์ชันประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบินเช่นกัน ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐ ขณะที่นิทรรศการทางอากาศที่จัดขึ้น 2 ปีครั้ง ถือเป็นการรวมตัวของอากาศยานกองทัพครั้งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งในเอเชีย . แม้รายละเอียดเกี่ยวกับสมรรถนะของ J-35 จะมีอย่างจำกัด แต่พวกนักวิเคราะห์บอกว่าการเปิดตัวครั้งนี้ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของจีน ในความพยายามยกระดับกองทัพให้มีความทันสมัยและท้าทายความเป็นเต้ยของสหรัฐฯในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวๆไต้หวัน ซึ่งทางปักกิ่งกล่าวอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน . คาร์ล ชูสเตอร์ นักวิเคราะห์ทางทหารและอดีตผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ แห่งศูนย์ข่าวกรองร่วมของกองบัญชาการแปซิฟิกแห่งกองทัพสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า "งานแอร์โชว์ในปีนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อส่งสารว่า กองทัพจีนทัดเทียมกับสหรัฐฯและทั่วทั้งตะวันตก กองกำลังสหรัฐฯเคยเปรมปรีดิ์ ในความเหนือกว่าทางอากาศในทุกๆความขัดแย้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เวลานี้แสนนายุภาพทางอากาศที่กำลังเติบโตขึ้นของจีน กำลังท้าทายความได้เปรียบดั้งเดิมของตะวันตก" . ด้วยการเปิดตัว J-35 ทำให้จีน ก้าวขึ้นมาทัดเทียมกับสหรัฐฯ เป็นเพียง 2 ประเทศ ที่สามารรถผลิตเครื่องบินขับไล่ล่องหนได้มากกว่า 1 ซีรีย์ นอกจากนี้แล้วพวกเขายังเป็นประเทศเดียวที่กำลังเดินหน้าผลิตทั้ง 2 ซีรีย์ เนื่องจากสหรัฐฯระงับการผลิต F-22 แรปเตอร์ไปแล้ว . "จีนไล่กวดเข้ามาในแง่ของขอบเขตยุทโธปกรณ์ที่พวกเขามี อย่างน้อยๆก็ที่นำออกมาแสดง" เจมส์ ชาร์ ผู้ช่วยศาสตรจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านกองทัพจีน ณ สถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ เอส ราชารัตนัม แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางของสิงคโปร์กล่าว "แต่ในแง่การไล่ตามอเมริกา พวกนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าพวกเขายังคงล้าหลังอยู่ราวๆ 10 ถึง 15 ปี" เช่นเดียวกับแง่มุมอื่นๆเกียวกับการประจำการทางทหาร อย่างเช่นการฝึกฝนและความพร้อมด้านปฏิบัติการ . J-35 ถูกพัฒนามานานกว่า 1 ทศวรรษโดยเฉินหยาง แอร์คราฟท์ คอร์ปอเรชัน หน่วยธุรกิจของอาเวียชัน อินดัสตรี คอร์ปอเรชีน ออฟ ไชนา บริษัทที่มีรัฐเป็นเจ้าของ และมันจะถูกส่งเข้าประจำการในกองทัพปักกิ่ง ร่วมกับเครื่องบินล่องหน J-2 มุ่งเน้นจากอากาศสู่อากาศ ที่เข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 2017 . ชูสเตอร์ คาดหมายว่าเครื่องบิน J-35 ล็อตแรก ที่จะเข้าร่วมในการฝึกซ้อมด้านปฏิบัติการของกองทัพอากาศจีน ในเดือนมีนาคม 2026 . หนี่ เล่อเซวียง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจากมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และกฎหมายเซี่ยงไฮ้ ระบุว่าด้วยศักยภาพยิงจากอากาศสู่ภาคพื้นและโจมตีทางอากาศสู่อากาศ รวมถึงความสามารถในการเทคออฟขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินซีรีย์ต่างๆของ J-35 ถูกออกแบบมาให้ทัดเทียมกับเครื่องบินล่องหน F-35 ซีรีย์ต่างๆของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ ปักกิ่ง ยังไม่แถลงเกี่ยวกับเวอร์ชันที่สามารถเทคออฟและลงจอดในแนวดิ่ง บางอย่างที่ F-35B สามารถทำได้ . ปีเตอร์ เลย์ตัน จากสถาบันวิจัยรอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิส เน้นว่า J-35 กำลังเข้าประจำการตามหลัง F-35 ของสหรัฐฯเกือบ 10 ปี และมีขึ้นหลังจากวอชิงตันเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับเครื่องบินล่องหนรุ่นใหม่ไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขามองว่าด้วยความสามารถในการผลิตที่เหนือกว่าของจีน จึงหมายความว่า F-35 อาจสร้างได้ง่ายกว่าและมีราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับสหรัฐฯที่ใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง ทำให้ J-35 มีความได้เปรียบในแง่ของการส่งออกไปยังตลาดต่างๆ . เครื่องบินที่นำมาจัดแสดงภายในนิทรรศการอวกาศและการบินระหว่างประเทศในปีนี้ ยังรวมไปถึงซูคอย ซู-27 ของรัสเซีย บ่งชี้ถึงสัญญาณความสัมพันธ์ที่ครอบคลุมมากขึ้นและแน่นแฟ้นมากขึ้นระหว่างปักกิ่งกับมอสโก จากความเห็นของ คอลลิน โก๊ะ นักวิจัยอีกคนของสถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ เอส ราชารัตนัม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109079 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    20
    0 Comments 0 Shares 1489 Views 0 Reviews


  • 🎇 Phu Quoc Cruise Port! ท่าเรือบนเกาะเวียดนาม ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่หลากหลายบนเกาะฟูก๊วก หรือที่รู้จักกันว่า ไข่มุกแห่งเวียดนาม ชายหาดและธรรมชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 🎠✨

    สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้ท่าเรือ!
    ✔️ แกรนด์เวิลด์ฟูก๊วก (Grand World Phu Quoc) :⚓️🛳️
    ศูนย์รวมความบันเทิงและการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 6,000 กว่าไร่ ภายในมีทั้งที่เที่ยว ที่ช้อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์ รวมถึงรีสอร์ทสุดหรู ออกแบบและสร้างอาคารต่างๆ ด้วยการจำลองเมืองท่องเที่ยวชื่อดังจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่

    ✔️ สวนสนุกวินวันเดอร์ (VinWonders Phu Quoc) : 🎢
    สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนา Vinpearl ซึ่งเป็นเครือรีสอร์ตและสถานที่ท่องเที่ยวระดับหรูในเวียดนาม

    ✔️ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำวินเพิร์ล ซีเชลล์ (Vinpearl Sea Shell Aquarium) : 🐳
    พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกวัยสามารถเพลิดเพลินกับการชมสัตว์น้ำหลากหลายชนิด

    ✔️ สวนสัตว์วินเพิร์ลซาฟารี ฟูก๊วก (Vinpearl Safari Phu Quoc) : 🐨
    สวนสัตว์เปิดที่ให้คุณได้สัมผัสกับสัตว์ป่าในบรรยากาศที่ใกล้ชิด สถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่รักสัตว์ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ ผ่านการจัดแสดงและกิจกรรมที่หลากหลาย


    ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620

    ☎️: 0 2116 9696 (Auto)
    #PhuQuocCruisePort #PhuQuoc #Vietnam #cruisedomain #port #GrandWorld #VinWonders #VinpearlSeaShellAquarium #VinpearlSafariPhuQuoc
    🎇 Phu Quoc Cruise Port! ท่าเรือบนเกาะเวียดนาม ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่หลากหลายบนเกาะฟูก๊วก หรือที่รู้จักกันว่า ไข่มุกแห่งเวียดนาม ชายหาดและธรรมชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 🎠✨ สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้ท่าเรือ! ✔️ แกรนด์เวิลด์ฟูก๊วก (Grand World Phu Quoc) :⚓️🛳️ ศูนย์รวมความบันเทิงและการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 6,000 กว่าไร่ ภายในมีทั้งที่เที่ยว ที่ช้อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์ รวมถึงรีสอร์ทสุดหรู ออกแบบและสร้างอาคารต่างๆ ด้วยการจำลองเมืองท่องเที่ยวชื่อดังจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่ ✔️ สวนสนุกวินวันเดอร์ (VinWonders Phu Quoc) : 🎢 สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนา Vinpearl ซึ่งเป็นเครือรีสอร์ตและสถานที่ท่องเที่ยวระดับหรูในเวียดนาม ✔️ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำวินเพิร์ล ซีเชลล์ (Vinpearl Sea Shell Aquarium) : 🐳 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกวัยสามารถเพลิดเพลินกับการชมสัตว์น้ำหลากหลายชนิด ✔️ สวนสัตว์วินเพิร์ลซาฟารี ฟูก๊วก (Vinpearl Safari Phu Quoc) : 🐨 สวนสัตว์เปิดที่ให้คุณได้สัมผัสกับสัตว์ป่าในบรรยากาศที่ใกล้ชิด สถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่รักสัตว์ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ ผ่านการจัดแสดงและกิจกรรมที่หลากหลาย ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #PhuQuocCruisePort #PhuQuoc #Vietnam #cruisedomain #port #GrandWorld #VinWonders #VinpearlSeaShellAquarium #VinpearlSafariPhuQuoc
    Wow
    1
    0 Comments 0 Shares 931 Views 0 Reviews
  • Netanyahu ประกาศปลดรัฐมนตรีกลาโหมท่ามกลางความขัดแย้งรุนแรง

    Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศปลด Yoav Gallant พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม โดยระบุว่าขาดความเชื่อมั่นในการจัดการสงครามที่กาซาและเลบานอน พร้อมแต่งตั้ง Israel Katz ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน เหตุการณ์นี้นำไปสู่การประท้วงทั่วประเทศ ความขัดแย้งระหว่าง Netanyahu และ Gallant เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเด็นทิศทางการทำสงคราม ขณะที่ Gallant สนับสนุนการเจรจาปล่อยตัวประกันและยุติการโจมตีกาซา แต่ Netanyahu ยืนยันจะทำลายกองกำลัง Hamas ให้สิ้นซาก

    ด้าน Itamar Ben-Gvir รัฐมนตรีความมั่นคงฝ่ายขวาจัดแสดงความยินดีกับการปลด Gallant ขณะที่กลุ่มครอบครัวตัวประกันประณามว่าเป็นการบ่อนทำลายข้อตกลงปล่อยตัวประกัน การปลด Gallant ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเขาเสนอให้ทบทวนเป้าหมายสงคราม และอนุมัติเกณฑ์ทหารชายชาวยิวออร์โธดอกซ์ 7,000 นาย
    Netanyahu ประกาศปลดรัฐมนตรีกลาโหมท่ามกลางความขัดแย้งรุนแรง Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศปลด Yoav Gallant พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม โดยระบุว่าขาดความเชื่อมั่นในการจัดการสงครามที่กาซาและเลบานอน พร้อมแต่งตั้ง Israel Katz ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน เหตุการณ์นี้นำไปสู่การประท้วงทั่วประเทศ ความขัดแย้งระหว่าง Netanyahu และ Gallant เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเด็นทิศทางการทำสงคราม ขณะที่ Gallant สนับสนุนการเจรจาปล่อยตัวประกันและยุติการโจมตีกาซา แต่ Netanyahu ยืนยันจะทำลายกองกำลัง Hamas ให้สิ้นซาก ด้าน Itamar Ben-Gvir รัฐมนตรีความมั่นคงฝ่ายขวาจัดแสดงความยินดีกับการปลด Gallant ขณะที่กลุ่มครอบครัวตัวประกันประณามว่าเป็นการบ่อนทำลายข้อตกลงปล่อยตัวประกัน การปลด Gallant ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเขาเสนอให้ทบทวนเป้าหมายสงคราม และอนุมัติเกณฑ์ทหารชายชาวยิวออร์โธดอกซ์ 7,000 นาย
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • นิทรรศการ: นิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติจีนครั้งที่ 15 ( Zhuhai Airshow2024 )
    ระยะเวลาจัดงาน : 12-17 พฤศจิกายน 2024
    สถานที่จัดนิทรรศการ: ศูนย์นิทรรศการการบินนานาชาติจูไห่ ประเทศจีน

    สำหรับงานนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติของจีน หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า China Airshow หรือ Zhuhai Airshow ก่อตั้งขึ้นในปี 1996 เป็นงานนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติที่ครอบคลุมซึ่งจัดขึ้นที่เมืองจูไห่ ประเทศจีน ทุกๆ สองปี โดยได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลประชาชนส่วนกลาง

    ปีนี้ไฮไลท์งานแสดงนิทรรศการการบิน จีนจะเปิดตัวครั้งแรก เครื่องบินขับไล่สเตลท์ J-35A ใหม่ของจีน และ รัสเซียส่งเครื่องบินรบ Su-57 ร่วมงาน China Airshow ครั้งที่ 15เป็นครั้งแรก เครื่องบินรบรุ่นนี้ เครมลิน ขนานนามว่า เป็น "เครื่องบินขับไล่ล่องหน เจเนอเรชั่นที่ 5" ที่ล้ำหน้าและล้ำสมัยที่สุดในยุคปัจจุบัน

    ลักษณะเด่นหลักคือการจัดแสดง บริษัท AVIC (Aviation Industry Corporation of China) จะจัดแสดง H135 ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มการตรวจสอบแบบไร้คนขับสำหรับระบบพลังงานการบินแบบไฮบริด บริษัท Beijing Jing Hang Power Science & Technology จะจัดแสดงเครื่องบิน Pilatus PC-12 ในขณะที่บริษัท Huayi Xiangfei Aviation Technology (Beijing) จะจัดแสดงเครื่องบิน Latou-24 การจัดแสดงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มการบินที่มีคนขับในงานนี้

    บริษัท Wuhan Tianhe Beidou Aviation Technology Co., Ltd. จะร่วมจัดแสดงเครื่องบิน NF Explorer ในขณะที่บริษัท Baiyan Intelligent Technology Co., Ltd. จะจัดแสดงเครื่องบิน Falcon-1800DH นอกจากนี้ บริษัท Chongqing General Aviation Industry Group ซึ่งเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญอีกรายหนึ่ง จะจัดแสดงเครื่องบินขนส่งสินค้าไร้คนขับรุ่น W5000 จาก Air White Whale ควบคู่ไปกับโดรนพลังงานไฮบริดสำหรับการบิน โดยเน้นที่เทคโนโลยีที่ใช้ระบบไฮบริด บริษัท Xi'an Shaanxi Aviation Science and Technology Co., Ltd. จะแนะนำรุ่น T580 นอกจากนี้ บริษัท Zongshen Aviation Power จะมาจัดแสดงเครื่องบินรุ่น CA22 และ BAI-D1

    นอกจากนี้ นิทรรศการดังกล่าวยังจัดแสดงยานบินไร้คนขับ (UAV) หลายรุ่น โดยบริษัทต่างๆ จะจัดแสดงระบบต่างๆ มากมาย บริษัท Sichuan Xinwan Tianyu Innovation จะจัดแสดงยานบินไร้คนขับรุ่น MN-218 และ LXH-200 ในบรรดานิทรรศการที่น่าสนใจ ได้แก่ Twintailed Scorpion D ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์คู่และสี่เครื่องยนต์ ยานบินไร้คนขับรุ่นอื่นๆ เช่น Featherless Arrow และยานบินไร้คนขับโลจิสติกส์เครื่องยนต์คู่ขนาดใหญ่รุ่น Tendgen จะแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของการบินไร้คนขับ

    บริษัท Rosoboronexport (JSC) ของรัสเซียและ Russian Helicopters เป็นตัวแทนบริษัทต่างชาติในการเข้าร่วมงาน โดยบริษัทเหล่านี้จะนำเครื่องบินรบ เช่น เครื่องบินรบสเตลท์ Su-57/Su-57E, Su-35 และ Su-30 มาด้วย บริษัท Russian Helicopters จะจัดแสดงเฮลิคอปเตอร์ Ka-32 ในขณะที่เครื่องบินรุ่นอื่นๆ เช่น เครื่องบินขนส่ง Il-76 จะช่วยส่งเสริมให้งานนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

    กองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชน (PLAAF) จะจัดแสดงเครื่องบินหลากหลายรุ่น เช่น เฮลิคอปเตอร์หลายบทบาท Z-8 เฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10 และเฮลิคอปเตอร์ทางทะเล Z-20F พร้อมด้วยเครื่องบินขับไล่ เช่น เครื่องบินโจมตีหลายบทบาท J-16 เครื่องบิน J-10C ที่ได้รับการอัพเกรด เครื่องบินขับไล่บนเรือบรรทุกเครื่องบิน J-15T เครื่องบินขับไล่ล่องหน J-20 Mighty Dragon และ J-35A นอกจากนี้ยังมีเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น เครื่องบินขนส่ง Y-20, Y-20A และ Y-8 พร้อมด้วยเครื่องบินแจ้งเตือนล่วงหน้า KJ-500 นอกจากนี้ ยังมีเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ H-6K เครื่องบิน Guizhou WZ-7 Soaring Dragon และโดรน Chengdu Wing Loong-10 (WZ-10) MALE ที่จะมาเสริมทัพการจัดแสดงของกองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชน

    นอกจากเครื่องบินทหารแล้ว ภาคการบินของจีนยังจะมีเครื่องบินพลเรือนและเครื่องบินพาณิชย์อีกหลายรุ่นเข้าร่วมด้วย บริษัท COMAC (Commercial Aircraft Corporation of China) จะนำเสนอเครื่องบินหลายรุ่น รวมถึงเครื่องบินขนส่งสินค้า ARJ21 ที่ได้รับการดัดแปลงจาก COMAC และเครื่องบินเจ็ตสำหรับบริการทางการแพทย์ ARJ21 นอกจากนี้ ยังมีเครื่องบินพาณิชย์รุ่นอื่นๆ เช่น C919, P600X และ P600U ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมั่นคงของจีนในอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์

    นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวแพลตฟอร์มการบินใหม่ๆ อื่นๆ ในงานนิทรรศการด้วย ได้แก่ เครื่องบินสะเทินน้ำสะเทินบกขนาดใหญ่ AG600 และเครื่องบินขนส่ง H400 โมเดลใหม่เหล่านี้บ่งชี้ถึงการพัฒนาทั้งในภาคพลเรือนและทหาร โดยนำเสนอแพลตฟอร์มที่ตอบสนองความต้องการด้านการปฏิบัติการที่หลากหลาย

    โดยรวมแล้ว Zhuhai Airshow ประจำปี 2024 จะเป็นงานสำคัญที่จัดแสดงความก้าวหน้าล่าสุดด้านการบินของจีนมากมาย โดยจะเน้นที่ความสามารถที่เติบโตขึ้นของทั้งกองทัพปลดแอกประชาชนและอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ โดยเน้นที่เครื่องบินใหม่ ระบบไร้คนขับ และเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย การเปิดตัวเครื่องบินรบสเตลท์ J-35 ที่อาจเกิดขึ้นควบคู่ไปกับการเปิดตัวอื่นๆ เช่น เครื่องบินขนส่งและโดรนรุ่นปรับปรุงใหม่ จะช่วยให้เข้าใจถึงการบินทางทหารของจีนที่กำลังพัฒนา

    https://youtu.be/z52eiKrtj0k?si=OosMNq1zAP5r2Gou

    #Thaitimes
    นิทรรศการ: นิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติจีนครั้งที่ 15 ( Zhuhai Airshow2024 ) ระยะเวลาจัดงาน : 12-17 พฤศจิกายน 2024 สถานที่จัดนิทรรศการ: ศูนย์นิทรรศการการบินนานาชาติจูไห่ ประเทศจีน สำหรับงานนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติของจีน หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า China Airshow หรือ Zhuhai Airshow ก่อตั้งขึ้นในปี 1996 เป็นงานนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติที่ครอบคลุมซึ่งจัดขึ้นที่เมืองจูไห่ ประเทศจีน ทุกๆ สองปี โดยได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลประชาชนส่วนกลาง ปีนี้ไฮไลท์งานแสดงนิทรรศการการบิน จีนจะเปิดตัวครั้งแรก เครื่องบินขับไล่สเตลท์ J-35A ใหม่ของจีน และ รัสเซียส่งเครื่องบินรบ Su-57 ร่วมงาน China Airshow ครั้งที่ 15เป็นครั้งแรก เครื่องบินรบรุ่นนี้ เครมลิน ขนานนามว่า เป็น "เครื่องบินขับไล่ล่องหน เจเนอเรชั่นที่ 5" ที่ล้ำหน้าและล้ำสมัยที่สุดในยุคปัจจุบัน ลักษณะเด่นหลักคือการจัดแสดง บริษัท AVIC (Aviation Industry Corporation of China) จะจัดแสดง H135 ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มการตรวจสอบแบบไร้คนขับสำหรับระบบพลังงานการบินแบบไฮบริด บริษัท Beijing Jing Hang Power Science & Technology จะจัดแสดงเครื่องบิน Pilatus PC-12 ในขณะที่บริษัท Huayi Xiangfei Aviation Technology (Beijing) จะจัดแสดงเครื่องบิน Latou-24 การจัดแสดงเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มการบินที่มีคนขับในงานนี้ บริษัท Wuhan Tianhe Beidou Aviation Technology Co., Ltd. จะร่วมจัดแสดงเครื่องบิน NF Explorer ในขณะที่บริษัท Baiyan Intelligent Technology Co., Ltd. จะจัดแสดงเครื่องบิน Falcon-1800DH นอกจากนี้ บริษัท Chongqing General Aviation Industry Group ซึ่งเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญอีกรายหนึ่ง จะจัดแสดงเครื่องบินขนส่งสินค้าไร้คนขับรุ่น W5000 จาก Air White Whale ควบคู่ไปกับโดรนพลังงานไฮบริดสำหรับการบิน โดยเน้นที่เทคโนโลยีที่ใช้ระบบไฮบริด บริษัท Xi'an Shaanxi Aviation Science and Technology Co., Ltd. จะแนะนำรุ่น T580 นอกจากนี้ บริษัท Zongshen Aviation Power จะมาจัดแสดงเครื่องบินรุ่น CA22 และ BAI-D1 นอกจากนี้ นิทรรศการดังกล่าวยังจัดแสดงยานบินไร้คนขับ (UAV) หลายรุ่น โดยบริษัทต่างๆ จะจัดแสดงระบบต่างๆ มากมาย บริษัท Sichuan Xinwan Tianyu Innovation จะจัดแสดงยานบินไร้คนขับรุ่น MN-218 และ LXH-200 ในบรรดานิทรรศการที่น่าสนใจ ได้แก่ Twintailed Scorpion D ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์คู่และสี่เครื่องยนต์ ยานบินไร้คนขับรุ่นอื่นๆ เช่น Featherless Arrow และยานบินไร้คนขับโลจิสติกส์เครื่องยนต์คู่ขนาดใหญ่รุ่น Tendgen จะแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของการบินไร้คนขับ บริษัท Rosoboronexport (JSC) ของรัสเซียและ Russian Helicopters เป็นตัวแทนบริษัทต่างชาติในการเข้าร่วมงาน โดยบริษัทเหล่านี้จะนำเครื่องบินรบ เช่น เครื่องบินรบสเตลท์ Su-57/Su-57E, Su-35 และ Su-30 มาด้วย บริษัท Russian Helicopters จะจัดแสดงเฮลิคอปเตอร์ Ka-32 ในขณะที่เครื่องบินรุ่นอื่นๆ เช่น เครื่องบินขนส่ง Il-76 จะช่วยส่งเสริมให้งานนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก กองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชน (PLAAF) จะจัดแสดงเครื่องบินหลากหลายรุ่น เช่น เฮลิคอปเตอร์หลายบทบาท Z-8 เฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10 และเฮลิคอปเตอร์ทางทะเล Z-20F พร้อมด้วยเครื่องบินขับไล่ เช่น เครื่องบินโจมตีหลายบทบาท J-16 เครื่องบิน J-10C ที่ได้รับการอัพเกรด เครื่องบินขับไล่บนเรือบรรทุกเครื่องบิน J-15T เครื่องบินขับไล่ล่องหน J-20 Mighty Dragon และ J-35A นอกจากนี้ยังมีเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น เครื่องบินขนส่ง Y-20, Y-20A และ Y-8 พร้อมด้วยเครื่องบินแจ้งเตือนล่วงหน้า KJ-500 นอกจากนี้ ยังมีเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ H-6K เครื่องบิน Guizhou WZ-7 Soaring Dragon และโดรน Chengdu Wing Loong-10 (WZ-10) MALE ที่จะมาเสริมทัพการจัดแสดงของกองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชน นอกจากเครื่องบินทหารแล้ว ภาคการบินของจีนยังจะมีเครื่องบินพลเรือนและเครื่องบินพาณิชย์อีกหลายรุ่นเข้าร่วมด้วย บริษัท COMAC (Commercial Aircraft Corporation of China) จะนำเสนอเครื่องบินหลายรุ่น รวมถึงเครื่องบินขนส่งสินค้า ARJ21 ที่ได้รับการดัดแปลงจาก COMAC และเครื่องบินเจ็ตสำหรับบริการทางการแพทย์ ARJ21 นอกจากนี้ ยังมีเครื่องบินพาณิชย์รุ่นอื่นๆ เช่น C919, P600X และ P600U ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมั่นคงของจีนในอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวแพลตฟอร์มการบินใหม่ๆ อื่นๆ ในงานนิทรรศการด้วย ได้แก่ เครื่องบินสะเทินน้ำสะเทินบกขนาดใหญ่ AG600 และเครื่องบินขนส่ง H400 โมเดลใหม่เหล่านี้บ่งชี้ถึงการพัฒนาทั้งในภาคพลเรือนและทหาร โดยนำเสนอแพลตฟอร์มที่ตอบสนองความต้องการด้านการปฏิบัติการที่หลากหลาย โดยรวมแล้ว Zhuhai Airshow ประจำปี 2024 จะเป็นงานสำคัญที่จัดแสดงความก้าวหน้าล่าสุดด้านการบินของจีนมากมาย โดยจะเน้นที่ความสามารถที่เติบโตขึ้นของทั้งกองทัพปลดแอกประชาชนและอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ โดยเน้นที่เครื่องบินใหม่ ระบบไร้คนขับ และเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย การเปิดตัวเครื่องบินรบสเตลท์ J-35 ที่อาจเกิดขึ้นควบคู่ไปกับการเปิดตัวอื่นๆ เช่น เครื่องบินขนส่งและโดรนรุ่นปรับปรุงใหม่ จะช่วยให้เข้าใจถึงการบินทางทหารของจีนที่กำลังพัฒนา https://youtu.be/z52eiKrtj0k?si=OosMNq1zAP5r2Gou #Thaitimes
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 750 Views 0 Reviews
  • ต้นคริสต์มาสเกลือ อัญมณีแห่งอ่าวไทย จัดแสดงที่ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลมหาชัย จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่วันนี้ ถึง 5 มกราคม 2568 #เซ็นทรัลมหาชัย #CentralMahachai
    ต้นคริสต์มาสเกลือ อัญมณีแห่งอ่าวไทย จัดแสดงที่ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลมหาชัย จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่วันนี้ ถึง 5 มกราคม 2568 #เซ็นทรัลมหาชัย #CentralMahachai
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 416 Views 22 0 Reviews
  • "อัจฉริยะ !"

    สำหรับตัวผมแล้ว ถ้าพูดถึงนักเขียนญี่ปุ่นที่เป็นปรมาจารย์ด้านการเล่าเรื่อง และการบรรยายที่สร้างบรรยากาศที่หลอน ๆ สั่นประสาท ความดำมืดและวิปริตของจิตใจของตัวฆาตกรร้าย รวมถึงความรู้สึกเย็บวาบ ขนลุกซู่เมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ ที่มีความโดดเด่นแล้ว ชื่อที่นึกถึงเป็นอันดับแรกเลยคือ เอโดะงะวะ รัมโปะ ตามมาด้วย โยโคมิโซะ เซชิ

    #ลายนิ้วมือปีศาจ คืออีกหนึ่งผลงานที่ยืนยันข้อความข้างต้น

    สนพ.เจคลาส
    ผู้เขียน เอโดะงาวะ รัมโปะ
    ผู้แปล ทินภาส พาหะนิชย์
    พิมพ์ เม.ย.2561
    230 บาท 226 หน้า

    เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมไม่คาดฝันขึ้น โดยเหยื่อรายแรกเป็นผู้ช่วยงานของนักสืบเอกชนผู้มีชื่อเสียงนามว่า ดร.มุนะกะตะ ซึ่งมีความสามารถและเชี่ยวชาญทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ชื่อเสียงควบคู่มากับยอดนักสืบเอกอะเกะชิ โคะโงะโร เรื่องราวจึงไม่ธรรมดา แต่เป็นคดีที่มีความยอกย้อนซ่อนเงื่อน และคนร้ายมีวิธีการที่น่ากลัวกว่าฆาตกรทั่วไปอย่างเทียบไม่ได้

    เนื่องจาก นักสืบอะเกะชิที่เป็นเพื่อนและรู้จักกับสารวัตรนะกะมุระแห่งกรมตำรวจนครบาลโตเกียวไม่ว่าง ติดภารกิจที่ต่างแดน จึงเป็นหน้าที่ของ ดร.มุนะกะตะ ที่ต้องออกโรง ทั้งเพื่อล้างอายตนเองที่ไม่สามารถช่วยลูกน้องได้ และเพื่อชื่อเสียงในฐานะนักสืบของตนไม่ให้มัวหมอง เขาจึงเริ่มตามสืบหาตัวคนร้าย ที่ส่งข้อความมาถึง เศรษฐีนักธุรกิจผู้หนึ่งที่มีกิจการค้าของตนเองนาม คะวะเตะ โชตะโร ระบุชัดว่ามีเป้าหมายเพื่อต้องการฆ่าล้างแค้นคนในครอบครัวของเขาทั้งหมด 3 ชีวิต คือตัวคะวะเตะ และลูกสาวอีกสองคนที่เติบโตเป็นสาวสวยแล้ว โดยเขาก็นึกไม่ออกว่าได้สร้างความโกรธแค้นให้เกิดแก่ใครจนถึงขั้นจ้องจะทำลายล้างตระกูลให้ไม่เหลือสักคนเดียว

    แม้นว่า ดร.มุนะกะตะ จะได้หลักฐานสำคัญที่พบจากซองเอกสารที่ผู้ช่วยชายพยายามจะส่งให้ถึงมือเขา ก่อนจะถูกวางยาพิษเสียชีวิต เป็นรอยนิ้วมือที่คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ที่กำลังวางแผนฆ่าครอบครัวคะวะเตะ เป็นรอยนิ้วประหลาดน่าขนลุกที่มีลักษณะคล้ายก้นหอย3วง จึงพยายามตามสืบจากเบาะแสดังกล่าว โดยมอบหมายให้ผู้ช่วยชายอีกคนไปดำเนินการ ไม่นานต่อมาลูกสาวทั้งสองของผู้ว่าจ้างกลับพบชะตากรรมดำมืด กลายเป็นเหยื่อถูกฆ่าตายไปทีละคนอย่างน่าพิศวง ทั้งที่มีตำรวจจำนวนมาก และนักสืบคอยเฝ้ายามรักษาความปลอดภัยให้อย่างรัดกุมแน่นหนา

    นี่..ไม่น่าเป็นไปได้ ฆาตกรทำอย่างไร จึงสามารถราวกับภูติผีปีศาจ แถมยังหยามน้ำหน้านักสืบด้วยการทิ้งรอยนิ้วมือที่มีก้นหอย3วงเอาไว้ในหลายวาระ ดร.มุนะกะตะเหมือนถูกคนร้ายนำหน้าหนึ่งก้าวเสมอ สถานการณ์เลวร้ายลง คะวะตะเองนั้นทั้งเศร้าเสียใจและตื่นกลัวอย่างมาก ความแค้นใดในอดีต ที่ฝังแน่นในจิตใจของฆาตกร จนถึงขั้นวางแผนเพื่อจะกำจัดตระกูลของเขาให้สิ้นซาก หลังฆ่าเหยื่อแล้วยังจัดแสดงศพเพื่อหวังให้สาธารณะพบเห็นเป็นการประจานอย่างอำมหิต แต่ในที่สุดฆาตกรก็ไม่อาจรอดพ้นฝีมือในการสืบสวนและแกะรอยของดร.มุนะกะตะ จนสามารถปิดคดีลงได้ แม้จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกถึง 3 รายก็ตาม

    แต่เรื่องราวกลับไม่จบลงง่ายดายเพียงนั้น หลังจากนักสืบอะเกะชิเสร็จจากภารกิจกลับมา และได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดจากคำบอกเล่าของสารวัตรนะกะมุระ เขาจึงเริ่มดำเนินการสืบสวนในแบบฉบับของตนอย่างลับ ๆ และได้ข้อสรุปที่มีมุมมองต่อคดีนี้แตกต่างไปจากของตำรวจและ ดร.มุนะกะตะโดยสิ้นเชิง อาเกะชิเชื่อว่าคดียังไม่จบ คนร้ายตัวจริงยังลอยนวล แล้วที่แท้ได้เกิดอะไรขึ้นกับเหยื่อทั้งหมดที่สูญเสียไปกันแน่ ตกลงความจริงคือ..ใครกันที่สืบสวนผิดพลาดระหว่าง ดร.มุนะกะตะ กับอาเกะชิ

    นี่คืออีกหนึ่งสุดยอดของความร้ายกาจ กับความจงเกลียดจงชังเข้าขั้นหมกมุ่น และอาฆาตพยาบาทรุนแรงที่สุดคดีหนึ่งเท่าที่ผมเคยได้อ่านมา

    🖋หลังอ่านจบ

    โคตรน่าทึ่ง...คงต้องใช้คำนี้ ไม่นึกว่าผู้เขียนจะบรรจงสร้างโครงเรื่องที่ดูเหมือนเป็นการฆ่าล้างแค้นที่พบได้ในนิยายแนวสืบสวนฆาตกรรมทั่วไป ให้มีความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ และชั้นเชิงลูกเล่นเทคนิกแพรวพรายได้ขนาดนี้ ดูเหมือนคนร้ายแทบจะไม่ได้ใช้หรืออาศัยความรู้เฉพาะทางพิเศษใดในวิธีการลงมือฆ่าเหยื่อ เพียงอาศัยเรื่องที่ดูธรรมดาสามัญที่สุด มาสร้างขึ้นเป็นกำดักทางจิตใจ หลอกทั้งตัวละครนักสืบในเรื่องและหลอกคนอ่านได้อย่างแนบเนียน แม้นจะมีวางจุดสังเกตที่ชวนให้คิดด้วยความน่าฉงนตามรายทางเป็นระยะ ซึ่งหากใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนดี ๆ อาจพอจะเริ่มจับจุดและสังเกตเห็นบางอย่าง แต่ถ้าอ่านแบบขี้เกียจคิดให้วุ่นวาย แค่ตามเรื่องราวไปเรื่อย ๆ พอถึงช่วงเฉลยจะส่งผลให้ชวนอัศจรรย์ใจเพิ่มขึ้น ในส่วนของการดำเนินเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นจนตลอดทางถึงตอนจบ ไม่มีความน่าเบื่อปรากฏให้เห็น มีแต่สร้างความรู้สึกอยากรู้ ชวนลุ้น เอาใจช่วยให้เหยื่อรอดพ้น และนักสืบจับคนร้ายได้โดยไว ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะสยิวไปกับบรรยากาศแห่งความไม่น่าไว้ใจ ปริศนาที่ราวกับลูกเล่นหรือมายากลของปีศาจฆาตกร ความโรคจิตขั้นรุนแรงชวนสะอิดสะเอียนที่เลือดเย็น ปนเปกับความรู้สึกอกสั่นขวัญบิน เมื่อนึกถึงแผนการอันชั่วร้ายที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนานหลายสิบปี ตอนนี้ดีที่ไม่ยาวมาก เรียกว่าเนื้อหากำลังเหมาะ

    เอโดะงาวะมีความสามารถในการสร้างปมตัวร้ายที่น่าเศร้าระคนน่ารังเกียจ ไปจนถึงขั้นน่าเกลียดได้อย่างถึงแก่น ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุเห็นถึงสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในของบุคคลธรรมดา ที่ภายนอกดูไม่เหมือนจะเป็นคนร้ายได้เลยนำมาใช้เป็นวัตถุดิบชั้นดี แต่ทั้งอย่างนั้นชีวิตเบื้องหลังที่ถูกแต่งแต้มขึ้นก็ช่างสมจริง จนทำให้รู้สึกสงสารในชะตากรรมรันทดของผู้ก่ออาชญากรรมด้วยเช่นกัน เมื่อบวกกับสไตล์ที่เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ในการเล่าเรื่องเสมือนประหนึ่งตัวเองกำลังนั่งชวนคุยกับคนอ่านในวงล้อมรอบกองไฟยามดึกสงัด และรู้จักการหยอดถ้อยคำบางช่วงตอนที่ยิ่งสร้างอารมณ์ให้คนที่กำลังติดตามเรื่องเล่าของเขาอย่างจดจ่อ เกิดความตื่นเต้นตึงเตรียดไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นความน่าหลงใหลอันชวนให้ไม่อยากลุกไปไหนหรือทำอิริยาบถใดอื่น นอกจากฟังสิ่งที่เขาเล่าต่อจนจบเรื่อง ใจที่เขม็งเกลียวจนแน่นจึงคลายออกและปลอดโปร่งในที่สุด เรื่องนี้ก็เป็นเช่นที่ว่ามานี้ แม้นถูกเขียนมานานกว่า 80 ปี แต่อ่านในยุคปัจจุบันยังคงได้อรรถรส สาระความบันเทิงไม่ด้อยกว่าเรื่องที่แต่งโดยนักเขียนรุ่นใหม่ยุคหลังเลย

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    และอะเกะชิเองก็สมกับความเป็นยอดนักสืบเอกโดยแท้ บุคลิกที่ดูน่าเกรงขามในยามที่ต้องแสดงออกถึงอำนาจให้คนอื่นเห็น แต่ก็ขี้เล่น หัวเราะง่ายยิ้มง่าย ช่วยทำให้ผู้ฟังผ่อนคลาย อีกทั้งวาทศิลป์ในการเลือกใช้คำพูดให้เข้ากับสถานการณ์ก็ยอดเยี่ยม ประกอบกับไหวพริบความช่างสังเกตในการแยกแยะและประมวลผลข้อมูล เห็นถึงจุดอื่นที่คนทั้งหลายไม่ทันเห็นหรือมองข้ามไป ล้วนเป็นคุณสมบัติและภาพลักษณ์ที่น่าจดจำ แม้นจะปรากฏตัวมาในช่วงท้ายใกล้จบ แต่มีบทบาทสำคัญยิ่งที่ส่งผลต่อการพลิกโฉมของคดีนี้ที่สุด

    สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านงานของรัมโปะมาก่อนเลย เริ่มต้นด้วย "ลายนิ้วมือปีศาจ" ก็ไม่เลวครับ

    ป.ล. พบความผิดพลาดในการพิมพ์หนึ่งจุด

    #thaitimes
    #เอโดะงาวะรัมโปะ
    #ฆาตกรรม
    #สืบสวน
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #หนังสือน่าอ่าน
    #ล้างแค้น
    #นักสืบ
    #รีวิวหนังสือ
    #วิจารณ์หนังสือ
    "อัจฉริยะ !" สำหรับตัวผมแล้ว ถ้าพูดถึงนักเขียนญี่ปุ่นที่เป็นปรมาจารย์ด้านการเล่าเรื่อง และการบรรยายที่สร้างบรรยากาศที่หลอน ๆ สั่นประสาท ความดำมืดและวิปริตของจิตใจของตัวฆาตกรร้าย รวมถึงความรู้สึกเย็บวาบ ขนลุกซู่เมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ ที่มีความโดดเด่นแล้ว ชื่อที่นึกถึงเป็นอันดับแรกเลยคือ เอโดะงะวะ รัมโปะ ตามมาด้วย โยโคมิโซะ เซชิ #ลายนิ้วมือปีศาจ คืออีกหนึ่งผลงานที่ยืนยันข้อความข้างต้น สนพ.เจคลาส ผู้เขียน เอโดะงาวะ รัมโปะ ผู้แปล ทินภาส พาหะนิชย์ พิมพ์ เม.ย.2561 230 บาท 226 หน้า เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมไม่คาดฝันขึ้น โดยเหยื่อรายแรกเป็นผู้ช่วยงานของนักสืบเอกชนผู้มีชื่อเสียงนามว่า ดร.มุนะกะตะ ซึ่งมีความสามารถและเชี่ยวชาญทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ชื่อเสียงควบคู่มากับยอดนักสืบเอกอะเกะชิ โคะโงะโร เรื่องราวจึงไม่ธรรมดา แต่เป็นคดีที่มีความยอกย้อนซ่อนเงื่อน และคนร้ายมีวิธีการที่น่ากลัวกว่าฆาตกรทั่วไปอย่างเทียบไม่ได้ เนื่องจาก นักสืบอะเกะชิที่เป็นเพื่อนและรู้จักกับสารวัตรนะกะมุระแห่งกรมตำรวจนครบาลโตเกียวไม่ว่าง ติดภารกิจที่ต่างแดน จึงเป็นหน้าที่ของ ดร.มุนะกะตะ ที่ต้องออกโรง ทั้งเพื่อล้างอายตนเองที่ไม่สามารถช่วยลูกน้องได้ และเพื่อชื่อเสียงในฐานะนักสืบของตนไม่ให้มัวหมอง เขาจึงเริ่มตามสืบหาตัวคนร้าย ที่ส่งข้อความมาถึง เศรษฐีนักธุรกิจผู้หนึ่งที่มีกิจการค้าของตนเองนาม คะวะเตะ โชตะโร ระบุชัดว่ามีเป้าหมายเพื่อต้องการฆ่าล้างแค้นคนในครอบครัวของเขาทั้งหมด 3 ชีวิต คือตัวคะวะเตะ และลูกสาวอีกสองคนที่เติบโตเป็นสาวสวยแล้ว โดยเขาก็นึกไม่ออกว่าได้สร้างความโกรธแค้นให้เกิดแก่ใครจนถึงขั้นจ้องจะทำลายล้างตระกูลให้ไม่เหลือสักคนเดียว แม้นว่า ดร.มุนะกะตะ จะได้หลักฐานสำคัญที่พบจากซองเอกสารที่ผู้ช่วยชายพยายามจะส่งให้ถึงมือเขา ก่อนจะถูกวางยาพิษเสียชีวิต เป็นรอยนิ้วมือที่คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ที่กำลังวางแผนฆ่าครอบครัวคะวะเตะ เป็นรอยนิ้วประหลาดน่าขนลุกที่มีลักษณะคล้ายก้นหอย3วง จึงพยายามตามสืบจากเบาะแสดังกล่าว โดยมอบหมายให้ผู้ช่วยชายอีกคนไปดำเนินการ ไม่นานต่อมาลูกสาวทั้งสองของผู้ว่าจ้างกลับพบชะตากรรมดำมืด กลายเป็นเหยื่อถูกฆ่าตายไปทีละคนอย่างน่าพิศวง ทั้งที่มีตำรวจจำนวนมาก และนักสืบคอยเฝ้ายามรักษาความปลอดภัยให้อย่างรัดกุมแน่นหนา นี่..ไม่น่าเป็นไปได้ ฆาตกรทำอย่างไร จึงสามารถราวกับภูติผีปีศาจ แถมยังหยามน้ำหน้านักสืบด้วยการทิ้งรอยนิ้วมือที่มีก้นหอย3วงเอาไว้ในหลายวาระ ดร.มุนะกะตะเหมือนถูกคนร้ายนำหน้าหนึ่งก้าวเสมอ สถานการณ์เลวร้ายลง คะวะตะเองนั้นทั้งเศร้าเสียใจและตื่นกลัวอย่างมาก ความแค้นใดในอดีต ที่ฝังแน่นในจิตใจของฆาตกร จนถึงขั้นวางแผนเพื่อจะกำจัดตระกูลของเขาให้สิ้นซาก หลังฆ่าเหยื่อแล้วยังจัดแสดงศพเพื่อหวังให้สาธารณะพบเห็นเป็นการประจานอย่างอำมหิต แต่ในที่สุดฆาตกรก็ไม่อาจรอดพ้นฝีมือในการสืบสวนและแกะรอยของดร.มุนะกะตะ จนสามารถปิดคดีลงได้ แม้จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกถึง 3 รายก็ตาม แต่เรื่องราวกลับไม่จบลงง่ายดายเพียงนั้น หลังจากนักสืบอะเกะชิเสร็จจากภารกิจกลับมา และได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดจากคำบอกเล่าของสารวัตรนะกะมุระ เขาจึงเริ่มดำเนินการสืบสวนในแบบฉบับของตนอย่างลับ ๆ และได้ข้อสรุปที่มีมุมมองต่อคดีนี้แตกต่างไปจากของตำรวจและ ดร.มุนะกะตะโดยสิ้นเชิง อาเกะชิเชื่อว่าคดียังไม่จบ คนร้ายตัวจริงยังลอยนวล แล้วที่แท้ได้เกิดอะไรขึ้นกับเหยื่อทั้งหมดที่สูญเสียไปกันแน่ ตกลงความจริงคือ..ใครกันที่สืบสวนผิดพลาดระหว่าง ดร.มุนะกะตะ กับอาเกะชิ นี่คืออีกหนึ่งสุดยอดของความร้ายกาจ กับความจงเกลียดจงชังเข้าขั้นหมกมุ่น และอาฆาตพยาบาทรุนแรงที่สุดคดีหนึ่งเท่าที่ผมเคยได้อ่านมา 🖋หลังอ่านจบ โคตรน่าทึ่ง...คงต้องใช้คำนี้ ไม่นึกว่าผู้เขียนจะบรรจงสร้างโครงเรื่องที่ดูเหมือนเป็นการฆ่าล้างแค้นที่พบได้ในนิยายแนวสืบสวนฆาตกรรมทั่วไป ให้มีความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ และชั้นเชิงลูกเล่นเทคนิกแพรวพรายได้ขนาดนี้ ดูเหมือนคนร้ายแทบจะไม่ได้ใช้หรืออาศัยความรู้เฉพาะทางพิเศษใดในวิธีการลงมือฆ่าเหยื่อ เพียงอาศัยเรื่องที่ดูธรรมดาสามัญที่สุด มาสร้างขึ้นเป็นกำดักทางจิตใจ หลอกทั้งตัวละครนักสืบในเรื่องและหลอกคนอ่านได้อย่างแนบเนียน แม้นจะมีวางจุดสังเกตที่ชวนให้คิดด้วยความน่าฉงนตามรายทางเป็นระยะ ซึ่งหากใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนดี ๆ อาจพอจะเริ่มจับจุดและสังเกตเห็นบางอย่าง แต่ถ้าอ่านแบบขี้เกียจคิดให้วุ่นวาย แค่ตามเรื่องราวไปเรื่อย ๆ พอถึงช่วงเฉลยจะส่งผลให้ชวนอัศจรรย์ใจเพิ่มขึ้น ในส่วนของการดำเนินเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นจนตลอดทางถึงตอนจบ ไม่มีความน่าเบื่อปรากฏให้เห็น มีแต่สร้างความรู้สึกอยากรู้ ชวนลุ้น เอาใจช่วยให้เหยื่อรอดพ้น และนักสืบจับคนร้ายได้โดยไว ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะสยิวไปกับบรรยากาศแห่งความไม่น่าไว้ใจ ปริศนาที่ราวกับลูกเล่นหรือมายากลของปีศาจฆาตกร ความโรคจิตขั้นรุนแรงชวนสะอิดสะเอียนที่เลือดเย็น ปนเปกับความรู้สึกอกสั่นขวัญบิน เมื่อนึกถึงแผนการอันชั่วร้ายที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนานหลายสิบปี ตอนนี้ดีที่ไม่ยาวมาก เรียกว่าเนื้อหากำลังเหมาะ เอโดะงาวะมีความสามารถในการสร้างปมตัวร้ายที่น่าเศร้าระคนน่ารังเกียจ ไปจนถึงขั้นน่าเกลียดได้อย่างถึงแก่น ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุเห็นถึงสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในของบุคคลธรรมดา ที่ภายนอกดูไม่เหมือนจะเป็นคนร้ายได้เลยนำมาใช้เป็นวัตถุดิบชั้นดี แต่ทั้งอย่างนั้นชีวิตเบื้องหลังที่ถูกแต่งแต้มขึ้นก็ช่างสมจริง จนทำให้รู้สึกสงสารในชะตากรรมรันทดของผู้ก่ออาชญากรรมด้วยเช่นกัน เมื่อบวกกับสไตล์ที่เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ในการเล่าเรื่องเสมือนประหนึ่งตัวเองกำลังนั่งชวนคุยกับคนอ่านในวงล้อมรอบกองไฟยามดึกสงัด และรู้จักการหยอดถ้อยคำบางช่วงตอนที่ยิ่งสร้างอารมณ์ให้คนที่กำลังติดตามเรื่องเล่าของเขาอย่างจดจ่อ เกิดความตื่นเต้นตึงเตรียดไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นความน่าหลงใหลอันชวนให้ไม่อยากลุกไปไหนหรือทำอิริยาบถใดอื่น นอกจากฟังสิ่งที่เขาเล่าต่อจนจบเรื่อง ใจที่เขม็งเกลียวจนแน่นจึงคลายออกและปลอดโปร่งในที่สุด เรื่องนี้ก็เป็นเช่นที่ว่ามานี้ แม้นถูกเขียนมานานกว่า 80 ปี แต่อ่านในยุคปัจจุบันยังคงได้อรรถรส สาระความบันเทิงไม่ด้อยกว่าเรื่องที่แต่งโดยนักเขียนรุ่นใหม่ยุคหลังเลย . . . . . . . . . . . และอะเกะชิเองก็สมกับความเป็นยอดนักสืบเอกโดยแท้ บุคลิกที่ดูน่าเกรงขามในยามที่ต้องแสดงออกถึงอำนาจให้คนอื่นเห็น แต่ก็ขี้เล่น หัวเราะง่ายยิ้มง่าย ช่วยทำให้ผู้ฟังผ่อนคลาย อีกทั้งวาทศิลป์ในการเลือกใช้คำพูดให้เข้ากับสถานการณ์ก็ยอดเยี่ยม ประกอบกับไหวพริบความช่างสังเกตในการแยกแยะและประมวลผลข้อมูล เห็นถึงจุดอื่นที่คนทั้งหลายไม่ทันเห็นหรือมองข้ามไป ล้วนเป็นคุณสมบัติและภาพลักษณ์ที่น่าจดจำ แม้นจะปรากฏตัวมาในช่วงท้ายใกล้จบ แต่มีบทบาทสำคัญยิ่งที่ส่งผลต่อการพลิกโฉมของคดีนี้ที่สุด สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านงานของรัมโปะมาก่อนเลย เริ่มต้นด้วย "ลายนิ้วมือปีศาจ" ก็ไม่เลวครับ ป.ล. พบความผิดพลาดในการพิมพ์หนึ่งจุด #thaitimes #เอโดะงาวะรัมโปะ #ฆาตกรรม #สืบสวน #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #หนังสือน่าอ่าน #ล้างแค้น #นักสืบ #รีวิวหนังสือ #วิจารณ์หนังสือ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 998 Views 0 Reviews
  • 23/ 10/67

    # วันนี้มีบทความข้อคิดดีๆ มาฝากทุกท่านครับ

    #ภาพวาด ปีกัสโซ่
    #ชื่อภาพ "โจร"

    #จิตกรหนุ่มคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียง เขาได้พักอาศัยอยู่ในห้องเก่าๆ แคบๆ แห่งหนึ่ง เขาอาศัยการวาดภาพในการหล่อเลี้ยงชีวิต

    #อยู่มาวันหนึ่ง เศรษฐีคนหนึ่งเดินผ่านมาและเห็นฝีมือการวาดภาพของจิตกร เขารู้สึกพอใจและชอบเป็นอย่างยิ่ง เศรษฐีจึงว่าจ้างให้เขาวาดภาพเหมือนของตัวเองหนึ่งภาพ ตกลงสนทนาราคากันไว้ที่ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ

    #เมื่อผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ภาพวาดของเศรษฐีก็สำเร็จเรียบร้อย เศรษฐีกลับมารับภาพตามเวลาที่กำหนดไว้ แต่ครั้งนี้ เศรษฐีเกิดจิตคิดที่ไม่ดี บอกกับจิตกรหนุ่มว่า “เธอไม่ได้+เป็นจิตกรที่มีชื่อเสียง ฉันให้ราคาตามที่ตกลงกันไว้ไม่ได้หรอก!” เศรษฐีนึกกระหยิ่มในใจ “ภาพนี้ก็เป็นภาพของฉัน หากฉันไม่ซื้อ ใครจะโง่ยอมซื้อวะ? ในเมื่อไม่มีคนซื้อ ฉันจำเป็นต้องจ่ายในราคาที่แพงไปทำไม?” “ฉันให้ราคาภาพนี้แค่ ๓,๐๐๐ เหรียญ จะเอาหรือไม่เอา?”

    #จิตกรหนุ่มตกตะลึง เหมือนโดนไฟฟ้าช็อตเป็นรอบที่สอง เพราะเขาไม่เคยเจอลูกค้าประเภทนี้มาก่อน จึงรู้สึกสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาอ้อนวอนเศรษฐีอยู่เป็นเวลานานสองนาน เพื่อให้เศรษฐียอมจ่ายให้ตามราคาที่ตกลงกันไว้ เขาบอกกับเศรษฐีว่า "คนเราต้องถือสัจจะเป็นที่ตั้ง"!

    “อย่ามาโยกโย้ ฉันให้นายแค่ ๓,๐๐๐ พันเหรียญเท่านั้น!” เศรษฐีคิดว่าตนถือไพ่เหนือกว่า จึงได้ตะคอกกลับไปอีกว่า
    “ฉันบอกนายเป็นครั้งสุดท้าย ๓,๐๐๐ เหรียญ จะขายหรือไม่ขาย?”

    #จิตกรหนุ่มรู้ว่าอ้อนวอนไปก็เปล่าประโยชน์ ประกอบกับความรู้สึกไม่พอใจกับการถูกข่มเหง เขาจึงพูดกับเศรษฐีด้วยเสียงอันดังว่า “ไม่"! ผมไม่ขายรูปแผ่นนี้แล้ว และผมจะไม่ยอมรับความอัปยศที่คุณพยายามเสือกใสมาให้ผมเป็นอันขาด วันนี้คุณเป็นคนผิดสัจจะ วันข้างหน้าผมจะทำให้คุณต้องซื้อภาพนี้ในราคาที่สูงกว่านี้อีก ๒๐๐ เท่า”

    “ตลกล่ะ ๒๐๐ เท่า ก็เท่ากับหกแสนเหรียญเชียวนะ ฉันจะโง่ซื้อภาพของตัวเองในราคาหกแสนเหรียญได้ยังไง?”
    “งั้นผมก็จะรอคุณเป็นคนมาง้อขอซื้อภาพของคุณเองก็แล้วกัน!” พูดเสร็จ ชายหนุ่มก็ถือภาพนั้นเดินกลับเข้าบ้านไป ไม่สนใจชายเศรษฐีแม้แต่น้อย

    #เหตุการณ์ที่จิตกรหนุ่ม ได้เผชิญกับความอัปยศที่เศรษฐียัดเหยียดมาให้ วันรุ่งขึ้น เขาย้ายไปอยู่เมืองอื่นด้วยความสะเทือนใจ

    #เขาตัดสินใจเข้าเรียนศิลปะอย่างเป็นทางการ และเอาจริงเอาจังกับการวาดภาพอย่างเอาเป็นเอาตาย ฟ้าย่อมไม่ทำให้ผู้ทุ่มเทผิดหวัง ผ่านไป ๑๐ กว่าปี เขากลายเป็นจิตกรที่มีชื่อเสียง ในกลุ่มจิตกรที่ติดอันดับมีชื่อของเขาเป็นหนึ่งในนั้น

    #ส่วนเศรษฐีคนนั้นล่ะ? หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นผ่านไปได้ ๒ วัน เขาก็ได้ลืมเรื่องราวนั้นไปและไม่เคยจำมาใส่ใจอีกเลย

    #อยู่มาวันหนึ่ง สหายของเศรษฐีหลายคนต่างพากันมาเยี่ยมเขาที่บ้านโดยไม่ได้นัดหมาย “เกลอเอ๋ย มันเป็นสิ่งประหลาดมาก หลายวันนี้พวกเราได้ไปเยี่ยมชมนิทรรศการการภาพวาดของจิตกรผู้มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่ง แต่มีอยู่ภาพหนึ่งที่มีราคาแพงมาก และไม่ยอมให้มีการต่อรองราคาใดๆ ทั้งสิ้น แต่ภาพวาดนั้น เหมือนเกลอยังกะแกะ เกลอรู้ไหมภาพนั่นมีราคาเท่าไหร่? หกแสนเชียวนะภาพนั้นนะ! แต่ที่น่าขันก็คือ #ภาพนั้นมี่ชื่อว่า “โจร”

    #เศรษฐีเหมือนถูกไม้หน้าสามตีกลางแสกหน้า ภาพเหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วผุดขึ้นมาเหมือนม้วนหนังที่ทำการฉายใหม่อีกครั้ง

    #สิ่งที่เพื่อนของเขาเล่ามา ทำความเสียหายให้เขาเป็นอย่างยิ่ง เขารีบเดินทางไปที่จัดแสดงนิทรรศการภาพวาดแห่งนั้นในทันที พร้อมกับเข้าไปทำการขอโทษจิตกรหนุ่มผู้นั้นด้วยตัวของเขาเอง แถมยังยอมซื้อภาพนั้นกลับบ้านในราคาหกแสนเหรียญโดยไม่ขาดไม่เกินไปแม้แต่สตางค์เดียว

    #เพราะอุดมการณ์ ที่ไม่ยอมแพ้ในครานั้น ทำให้ชายเศรษฐียอมกลับมาก้มหัวให้ในวันนี้ จิตกรหนุ่มผู้นี้มีชื่อว่า "ปิกัสโซ่"

    #ไม่มีใคร สามารถทำร้ายคุณหรือยัดเหยียดความอัปยศอดสูมาให้คุณได้ นอกเสียจากตัวคุณเอง!


    #เครดิต : นุสนธิ์บุคส์
    #ขอบคุณเจ้าของบทความและภาพประกอบ
    23/ 10/67 # วันนี้มีบทความข้อคิดดีๆ มาฝากทุกท่านครับ #ภาพวาด ปีกัสโซ่ #ชื่อภาพ "โจร" #จิตกรหนุ่มคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียง เขาได้พักอาศัยอยู่ในห้องเก่าๆ แคบๆ แห่งหนึ่ง เขาอาศัยการวาดภาพในการหล่อเลี้ยงชีวิต #อยู่มาวันหนึ่ง เศรษฐีคนหนึ่งเดินผ่านมาและเห็นฝีมือการวาดภาพของจิตกร เขารู้สึกพอใจและชอบเป็นอย่างยิ่ง เศรษฐีจึงว่าจ้างให้เขาวาดภาพเหมือนของตัวเองหนึ่งภาพ ตกลงสนทนาราคากันไว้ที่ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ #เมื่อผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ภาพวาดของเศรษฐีก็สำเร็จเรียบร้อย เศรษฐีกลับมารับภาพตามเวลาที่กำหนดไว้ แต่ครั้งนี้ เศรษฐีเกิดจิตคิดที่ไม่ดี บอกกับจิตกรหนุ่มว่า “เธอไม่ได้+เป็นจิตกรที่มีชื่อเสียง ฉันให้ราคาตามที่ตกลงกันไว้ไม่ได้หรอก!” เศรษฐีนึกกระหยิ่มในใจ “ภาพนี้ก็เป็นภาพของฉัน หากฉันไม่ซื้อ ใครจะโง่ยอมซื้อวะ? ในเมื่อไม่มีคนซื้อ ฉันจำเป็นต้องจ่ายในราคาที่แพงไปทำไม?” “ฉันให้ราคาภาพนี้แค่ ๓,๐๐๐ เหรียญ จะเอาหรือไม่เอา?” #จิตกรหนุ่มตกตะลึง เหมือนโดนไฟฟ้าช็อตเป็นรอบที่สอง เพราะเขาไม่เคยเจอลูกค้าประเภทนี้มาก่อน จึงรู้สึกสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาอ้อนวอนเศรษฐีอยู่เป็นเวลานานสองนาน เพื่อให้เศรษฐียอมจ่ายให้ตามราคาที่ตกลงกันไว้ เขาบอกกับเศรษฐีว่า "คนเราต้องถือสัจจะเป็นที่ตั้ง"! “อย่ามาโยกโย้ ฉันให้นายแค่ ๓,๐๐๐ พันเหรียญเท่านั้น!” เศรษฐีคิดว่าตนถือไพ่เหนือกว่า จึงได้ตะคอกกลับไปอีกว่า “ฉันบอกนายเป็นครั้งสุดท้าย ๓,๐๐๐ เหรียญ จะขายหรือไม่ขาย?” #จิตกรหนุ่มรู้ว่าอ้อนวอนไปก็เปล่าประโยชน์ ประกอบกับความรู้สึกไม่พอใจกับการถูกข่มเหง เขาจึงพูดกับเศรษฐีด้วยเสียงอันดังว่า “ไม่"! ผมไม่ขายรูปแผ่นนี้แล้ว และผมจะไม่ยอมรับความอัปยศที่คุณพยายามเสือกใสมาให้ผมเป็นอันขาด วันนี้คุณเป็นคนผิดสัจจะ วันข้างหน้าผมจะทำให้คุณต้องซื้อภาพนี้ในราคาที่สูงกว่านี้อีก ๒๐๐ เท่า” “ตลกล่ะ ๒๐๐ เท่า ก็เท่ากับหกแสนเหรียญเชียวนะ ฉันจะโง่ซื้อภาพของตัวเองในราคาหกแสนเหรียญได้ยังไง?” “งั้นผมก็จะรอคุณเป็นคนมาง้อขอซื้อภาพของคุณเองก็แล้วกัน!” พูดเสร็จ ชายหนุ่มก็ถือภาพนั้นเดินกลับเข้าบ้านไป ไม่สนใจชายเศรษฐีแม้แต่น้อย #เหตุการณ์ที่จิตกรหนุ่ม ได้เผชิญกับความอัปยศที่เศรษฐียัดเหยียดมาให้ วันรุ่งขึ้น เขาย้ายไปอยู่เมืองอื่นด้วยความสะเทือนใจ #เขาตัดสินใจเข้าเรียนศิลปะอย่างเป็นทางการ และเอาจริงเอาจังกับการวาดภาพอย่างเอาเป็นเอาตาย ฟ้าย่อมไม่ทำให้ผู้ทุ่มเทผิดหวัง ผ่านไป ๑๐ กว่าปี เขากลายเป็นจิตกรที่มีชื่อเสียง ในกลุ่มจิตกรที่ติดอันดับมีชื่อของเขาเป็นหนึ่งในนั้น #ส่วนเศรษฐีคนนั้นล่ะ? หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นผ่านไปได้ ๒ วัน เขาก็ได้ลืมเรื่องราวนั้นไปและไม่เคยจำมาใส่ใจอีกเลย #อยู่มาวันหนึ่ง สหายของเศรษฐีหลายคนต่างพากันมาเยี่ยมเขาที่บ้านโดยไม่ได้นัดหมาย “เกลอเอ๋ย มันเป็นสิ่งประหลาดมาก หลายวันนี้พวกเราได้ไปเยี่ยมชมนิทรรศการการภาพวาดของจิตกรผู้มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่ง แต่มีอยู่ภาพหนึ่งที่มีราคาแพงมาก และไม่ยอมให้มีการต่อรองราคาใดๆ ทั้งสิ้น แต่ภาพวาดนั้น เหมือนเกลอยังกะแกะ เกลอรู้ไหมภาพนั่นมีราคาเท่าไหร่? หกแสนเชียวนะภาพนั้นนะ! แต่ที่น่าขันก็คือ #ภาพนั้นมี่ชื่อว่า “โจร” #เศรษฐีเหมือนถูกไม้หน้าสามตีกลางแสกหน้า ภาพเหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วผุดขึ้นมาเหมือนม้วนหนังที่ทำการฉายใหม่อีกครั้ง #สิ่งที่เพื่อนของเขาเล่ามา ทำความเสียหายให้เขาเป็นอย่างยิ่ง เขารีบเดินทางไปที่จัดแสดงนิทรรศการภาพวาดแห่งนั้นในทันที พร้อมกับเข้าไปทำการขอโทษจิตกรหนุ่มผู้นั้นด้วยตัวของเขาเอง แถมยังยอมซื้อภาพนั้นกลับบ้านในราคาหกแสนเหรียญโดยไม่ขาดไม่เกินไปแม้แต่สตางค์เดียว #เพราะอุดมการณ์ ที่ไม่ยอมแพ้ในครานั้น ทำให้ชายเศรษฐียอมกลับมาก้มหัวให้ในวันนี้ จิตกรหนุ่มผู้นี้มีชื่อว่า "ปิกัสโซ่" #ไม่มีใคร สามารถทำร้ายคุณหรือยัดเหยียดความอัปยศอดสูมาให้คุณได้ นอกเสียจากตัวคุณเอง! #เครดิต : นุสนธิ์บุคส์ #ขอบคุณเจ้าของบทความและภาพประกอบ
    0 Comments 0 Shares 788 Views 0 Reviews
  • ⇨ ภาพนี้ ... กำลังจะทำให้ประเทศไทยได้หลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงถึงการใช้ธงช้างเผือกเป็นธงชาติสยามที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมาจัดแสดงที่ประเทศไทยอย่างถาวรครับ

    ⇨ เพราะล่าสุด หลังจากพยายามติดต่อและพูดคุยกับเจ้าของงานสะสมแผนที่โลกและผังธงโลกคนสำคัญ ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสและอยู่ที่ปารีส ... ซึ่งเขาได้เห็นภาพนี้ที่ผมส่งไปให้ดู และเขาได้รับรู้ถึงความทุ่มเทและความตั้งใจของผมที่จะเผยแพร่ประวัติศาสตร์ชาติว่าด้วยเรื่องประวัติธงชาติไทยตลอดมา

    ⇨ อย่างน้อยในขณะนี้ เจ้าของผังธงโลกโบราณเขาก็เปิดใจและพร้อมคุยกันในรายละเอียดเรื่องที่จะจบกันที่เท่าไหร่ และทำอย่างไรถึงจะนำงานพิมพ์ธงช้างเผือกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งพิมพ์ในปี พ.ศ. 2380 ตรงกับรัชกาลที่ 3 นี้ ... ได้มาอยู่ที่ประเทศไทย! ...

    ⇨ ร่วมแรงส่งใจเพื่อความสำเร็จและความสมบูรณ์ของหลักฐานประวัติศาสตร์ชาติไทยกันครับ

    โดย พฦฒิพล ประชุมผล
    ขอบคุณเจ้าของเครดิต🙏

    #สาระดีbypank
    ⇨ ภาพนี้ ... กำลังจะทำให้ประเทศไทยได้หลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงถึงการใช้ธงช้างเผือกเป็นธงชาติสยามที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมาจัดแสดงที่ประเทศไทยอย่างถาวรครับ ⇨ เพราะล่าสุด หลังจากพยายามติดต่อและพูดคุยกับเจ้าของงานสะสมแผนที่โลกและผังธงโลกคนสำคัญ ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสและอยู่ที่ปารีส ... ซึ่งเขาได้เห็นภาพนี้ที่ผมส่งไปให้ดู และเขาได้รับรู้ถึงความทุ่มเทและความตั้งใจของผมที่จะเผยแพร่ประวัติศาสตร์ชาติว่าด้วยเรื่องประวัติธงชาติไทยตลอดมา ⇨ อย่างน้อยในขณะนี้ เจ้าของผังธงโลกโบราณเขาก็เปิดใจและพร้อมคุยกันในรายละเอียดเรื่องที่จะจบกันที่เท่าไหร่ และทำอย่างไรถึงจะนำงานพิมพ์ธงช้างเผือกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งพิมพ์ในปี พ.ศ. 2380 ตรงกับรัชกาลที่ 3 นี้ ... ได้มาอยู่ที่ประเทศไทย! ... ⇨ ร่วมแรงส่งใจเพื่อความสำเร็จและความสมบูรณ์ของหลักฐานประวัติศาสตร์ชาติไทยกันครับ โดย พฦฒิพล ประชุมผล ขอบคุณเจ้าของเครดิต🙏 #สาระดีbypank
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เนื่องในโอกาสครบรอบ 37 ปี ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
    โดยมี คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธี
    ทั้งนี้ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ดำเนินการจัดตั้งเมื่อ วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น และเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2530 ปัจจุบันให้เป็นหน่วยงานในสังกัดสถาบันวัฒนธรรมศึกษา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ภายในศูนย์ฯ ประกอบด้วยอาคารต่าง ๆ เช่น หอประชุมใหญ่และเล็ก โรงละคร ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการภาษา และห้องโสตทัศนูปกรณ์ เป็นต้น ส่วน "หอไทยนิทัศน์" ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคารนิทรรศการและการศึกษา นอกจากนี้ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยยังสามารถรองรับการจัดแสดงนิทรรศการ และการแสดงต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต ละครเวที รวมไปถึงเป็นสถานที่รองรับการจัดประชุมสัมมนาทั้งระดับชาติ และนานาชาติอีกด้วย

    #กรมส่งเสริมวัฒนธรรม #ครบรอบ #ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย #ศรีวัฒนธรรม #สยามโสภา #thaitimes #วัฒนธรรม
    พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เนื่องในโอกาสครบรอบ 37 ปี ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมี คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธี ทั้งนี้ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ดำเนินการจัดตั้งเมื่อ วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น และเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2530 ปัจจุบันให้เป็นหน่วยงานในสังกัดสถาบันวัฒนธรรมศึกษา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ภายในศูนย์ฯ ประกอบด้วยอาคารต่าง ๆ เช่น หอประชุมใหญ่และเล็ก โรงละคร ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการภาษา และห้องโสตทัศนูปกรณ์ เป็นต้น ส่วน "หอไทยนิทัศน์" ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคารนิทรรศการและการศึกษา นอกจากนี้ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยยังสามารถรองรับการจัดแสดงนิทรรศการ และการแสดงต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต ละครเวที รวมไปถึงเป็นสถานที่รองรับการจัดประชุมสัมมนาทั้งระดับชาติ และนานาชาติอีกด้วย #กรมส่งเสริมวัฒนธรรม #ครบรอบ #ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย #ศรีวัฒนธรรม #สยามโสภา #thaitimes #วัฒนธรรม
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 594 Views 68 0 Reviews
  • วันนี้ไปศูนย์สิริกิติ์ ไปดูงาน SX Sustainability Expo ที่ปกติเน้นไปเดินกินข้าวที่ชั้นล่าง 😆

    แต่ปีนี้มีส่วนจัดแสดงบอร์ดโครงการ The Ten ของ วปอ. 66 เลยไปเดินดูงานด้านบนก่อน แล้วไปเจอ ส่วนจัดแสดงของโรงเรียนมีชัยพัฒนา (Meechai Bamboo School) ซึ่งมีเด็กนักเรียนยืนอยู่ 4-5 คน กับบอร์ดภาพเกี่ยวกับการเษตร และ ชุมชน

    ผมถามเด็กๆว่า ที่ร.ร.ทำอะไรกัน เพราะใจสงสัยว่าทำไมถึงมีร.ร.นี้แห่งเดียวที่มาออกงาน แถมชื่อก็แปลกๆ เกี่ยวอะไรกับไม้ไผ่

    น้อง ๆ เล่าว่า ร.ร.ของเขาตั้งอยู่ที่จ.บุรีรัมย์เป็นโรงเรียนประจำของเอกชน มีสอนทำเกษตร กับ มีกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน นอกจากสอนวิชาทั่วไป

    ผมก็คิดว่า อ๋อ คงเป็นร.ร.เอกชนนานาชาติ เหมือนในกรุงเทพฯกระมัง เลยถามต่อว่าค่าเทอมเท่าไหร่?

    เด็กๆตอบว่าเรียนฟรีค่ะ! ผมก็งง ว่าทำไมถึงเรียนฟรี?

    น้องบอกว่า ร.ร.นี้ เปิดมา 15 ปีแล้ว ทั้งร.ร.สร้างด้วยไม้ไผ่ นักเรียนทุกคนต้องจ่ายค่าเทอมเป็นการทำดีให้กับชุมชน รวมถึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียนตามความรับผิดชอบของตัวเอง มีนักเรียน ม.1-ม.6 ระดับชั้นละ 20 กว่าคน มีครู 10 กว่าคน โดยให้นักเรียนกินนอนที่ร.ร. ไม่ให้กลับบ้านจนกว่าจะปิดเทอม และห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์

    ผมก็ถามว่า แล้วอยู่กันยังไง ไม่เหงาเหรอ?

    น้องตอบกลับว่า หนูมีหนังสือต่างๆให้อ่านเยอะแยะ และ แต่ละวันมีกิจกรรมให้ทำมากมาย และที่ร.ร.ก็กำหนดให้นักเรียนร่วมกันจัดการบริหารดูแลร.ร.กันเอง โดยมีคุณครูช่วยให้คำแนะนำ เรียกว่าทั้งฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายตรวจรับ และฝ่ายต่าง ๆ ของร.ร.ถูกดูแลโดยนักเรียนเอง มีแค่งานครัวที่มีแม่ครัวเป็นคนปรุงอาหารให้กิน

    น้อง ๆ เขาคิดว่า ชีวิตของเขามีกิจกรรมอื่นให้ทำมากกว่าจะมานั่งเล่นโทรศัพท์เลยไม่ติดเกม ติดซีรี่ส์แบบเด็กวัยเดียวกัน

    ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา พี่ ๆ ที่จบไปมักจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ทุกคน และมักจะติดตั้งแต่รอบ Portfolio และส่วนใหญ่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ทั้งด้านเกษตร หรือด้านบริหารก็มี เพราะนักเรียนจะมีทั้งเด็กในจังหวัดบุรีรัมย์ และ ใกล้เคียง แต่ก็มีบางคนที่มาจาก เวียดนาม หรือ เป็นเด็กชาติพันธุ์จากกาญจนบุรี / แม่ฮ่องสอน

    ฟังน้อง ๆ เล่าแล้วผมถึงกับอึ้งกับแนวคิดของ ผ.อ. ซึ่งก็คือ อ.มีชัย วีระไวทยะ แถมยังอยากเขกหัวตัวเองว่า ไม่รู้จักโรงเรียนนี้ได้ยังไง แต่ก็ได้คำตอบว่า ทำไม ผู้จัดงานถึงได้เลือกโรงเรียนนี้มาจัดนิทรรศการในงานนี้

    งานนี้น่าจะจัดถึงวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. หากมีเวลาอยากชวนให้ไปดูงานนี้ แล้วไปฟังน้อง ๆ เล่าถึงโรงเรียนของเขากันนะครับ ❤️
    วันนี้ไปศูนย์สิริกิติ์ ไปดูงาน SX Sustainability Expo ที่ปกติเน้นไปเดินกินข้าวที่ชั้นล่าง 😆 แต่ปีนี้มีส่วนจัดแสดงบอร์ดโครงการ The Ten ของ วปอ. 66 เลยไปเดินดูงานด้านบนก่อน แล้วไปเจอ ส่วนจัดแสดงของโรงเรียนมีชัยพัฒนา (Meechai Bamboo School) ซึ่งมีเด็กนักเรียนยืนอยู่ 4-5 คน กับบอร์ดภาพเกี่ยวกับการเษตร และ ชุมชน ผมถามเด็กๆว่า ที่ร.ร.ทำอะไรกัน เพราะใจสงสัยว่าทำไมถึงมีร.ร.นี้แห่งเดียวที่มาออกงาน แถมชื่อก็แปลกๆ เกี่ยวอะไรกับไม้ไผ่ น้อง ๆ เล่าว่า ร.ร.ของเขาตั้งอยู่ที่จ.บุรีรัมย์เป็นโรงเรียนประจำของเอกชน มีสอนทำเกษตร กับ มีกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน นอกจากสอนวิชาทั่วไป ผมก็คิดว่า อ๋อ คงเป็นร.ร.เอกชนนานาชาติ เหมือนในกรุงเทพฯกระมัง เลยถามต่อว่าค่าเทอมเท่าไหร่? เด็กๆตอบว่าเรียนฟรีค่ะ! ผมก็งง ว่าทำไมถึงเรียนฟรี? น้องบอกว่า ร.ร.นี้ เปิดมา 15 ปีแล้ว ทั้งร.ร.สร้างด้วยไม้ไผ่ นักเรียนทุกคนต้องจ่ายค่าเทอมเป็นการทำดีให้กับชุมชน รวมถึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียนตามความรับผิดชอบของตัวเอง มีนักเรียน ม.1-ม.6 ระดับชั้นละ 20 กว่าคน มีครู 10 กว่าคน โดยให้นักเรียนกินนอนที่ร.ร. ไม่ให้กลับบ้านจนกว่าจะปิดเทอม และห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์ ผมก็ถามว่า แล้วอยู่กันยังไง ไม่เหงาเหรอ? น้องตอบกลับว่า หนูมีหนังสือต่างๆให้อ่านเยอะแยะ และ แต่ละวันมีกิจกรรมให้ทำมากมาย และที่ร.ร.ก็กำหนดให้นักเรียนร่วมกันจัดการบริหารดูแลร.ร.กันเอง โดยมีคุณครูช่วยให้คำแนะนำ เรียกว่าทั้งฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายตรวจรับ และฝ่ายต่าง ๆ ของร.ร.ถูกดูแลโดยนักเรียนเอง มีแค่งานครัวที่มีแม่ครัวเป็นคนปรุงอาหารให้กิน น้อง ๆ เขาคิดว่า ชีวิตของเขามีกิจกรรมอื่นให้ทำมากกว่าจะมานั่งเล่นโทรศัพท์เลยไม่ติดเกม ติดซีรี่ส์แบบเด็กวัยเดียวกัน ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา พี่ ๆ ที่จบไปมักจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ทุกคน และมักจะติดตั้งแต่รอบ Portfolio และส่วนใหญ่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ทั้งด้านเกษตร หรือด้านบริหารก็มี เพราะนักเรียนจะมีทั้งเด็กในจังหวัดบุรีรัมย์ และ ใกล้เคียง แต่ก็มีบางคนที่มาจาก เวียดนาม หรือ เป็นเด็กชาติพันธุ์จากกาญจนบุรี / แม่ฮ่องสอน ฟังน้อง ๆ เล่าแล้วผมถึงกับอึ้งกับแนวคิดของ ผ.อ. ซึ่งก็คือ อ.มีชัย วีระไวทยะ แถมยังอยากเขกหัวตัวเองว่า ไม่รู้จักโรงเรียนนี้ได้ยังไง แต่ก็ได้คำตอบว่า ทำไม ผู้จัดงานถึงได้เลือกโรงเรียนนี้มาจัดนิทรรศการในงานนี้ งานนี้น่าจะจัดถึงวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. หากมีเวลาอยากชวนให้ไปดูงานนี้ แล้วไปฟังน้อง ๆ เล่าถึงโรงเรียนของเขากันนะครับ ❤️
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 349 Views 0 Reviews