• #คืบหน้า กรณี เหตุเพลิงไหม้รถบัสโดยสารนักเรียน บนถนนวิภาวดีรังสิต ตรงข้ามพหลโยธิน 72 หลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตจำนวน 10 ราย อยู่บนรถ

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/UdGo5UcRHajfy95p/?mibextid=oFDknk
    #คืบหน้า กรณี เหตุเพลิงไหม้รถบัสโดยสารนักเรียน บนถนนวิภาวดีรังสิต ตรงข้ามพหลโยธิน 72 หลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตจำนวน 10 ราย อยู่บนรถ ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/UdGo5UcRHajfy95p/?mibextid=oFDknk
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอติดตามความคืบหน้าของกรณีนี้อยู่ครับ
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สนธิ ลิ้มทองกุล แอดมินกิจกรรมของเพจ Sondhitalk
    รอติดตามความคืบหน้าของกรณีนี้อยู่ครับ [Parnthep] [Sonti] [pagesondhitalk]
    Like
    Love
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 450 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔹️แพ็กคู่ซีรีส์ชุด พิกัดต่อไปใครเป็นศพ❗

    คำเตือน เนื้อหายาวมากถึงมากที่สุด

    1 #พิกัดต่อไปใครเป็นศพ #masqueradehotel

    อ่านจนจบในวันเดียว หนาถึง 547 หน้า ดีที่ขนาดไม่เทอะทะแม้หนาแต่ไม่หนัก ตอนตัดสินใจเลือกยืมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยชมที่สร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน พออ่านไปได้ไม่กี่หน้าเริ่มรู้สึกฉากช่างคุ้นเคย เนื้อเรื่องเหมือนเคยรู้มาก่อน ทบทวนความทรงจำตนเองจึงค่อยจำได้ว่าคือเรื่องเดียวกับหนังที่ดูจบแล้วชอบมากนั่นเอง แต่ห้วงเวลาที่ชมนั้นไม่เคยทราบว่าสร้างจากนิยายเล่มนี้ ดูเพราะชอบนักแสดงหลักทั้งสองคนเลยคือ ทาคูยะ และมาซามิ และก็ไม่ผิดหวังทั้งคู่แสดงในบทบาทที่ได้รับได้ดีมาก พระนางมีการขัดแย้งในความเห็นอย่างที่เรียกว่าคู่กัด แต่ก็ห่วงใยช่วยเหลือกันมีความน่ารักปนน่าหมั่นไส้ โรงแรมที่ใช้เป็นฉากก็หรูหราโอ่โถงงดงามน่าใช้บริการอย่างมากครับ

    📚วกกลับมาเข้าเรื่องในหนังสือ

    สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 425 บาท
    ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน
    อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล

    เนื้อหาในเล่มกล่าวถึงชีวิตของพนักงานโรงแรมคอร์เทเชียโตเกียวสุดหรูที่มีนามว่า ยามางิชิ นาโอมิ ซึ่งเป็นตัวเอกที่ดำเนินเรื่องหลักของนิยายเล่มนี้ ที่ฉากแรกปรากฏก็เปิดตัวอย่างสง่างามสมกับความเป็นพนักงานต้อนรับมืออาชีพยิ่ง เพราะมีลูกค้าชายประเภทที่จงใจก่อปัญหาเพื่อหวังจะได้เข้าพักในห้องราคาสูงกว่าที่ตนได้เลือกจองไว้ จนพนักงานยกกระเป๋าที่เข็นของไปให้ ต้องโทร.ลงมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งเธอสามารถบริหารจัดการให้ผ่านพ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าลงได้อย่างสวยงาม

    จากนั้นเรื่องจึงนำพาผู้อ่านเข้าสู่ประเด็นของที่มาอันกลายเป็นชื่อเรื่องคือ ทางผู้จัดการใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลพนักงานในโรงแรมทั้งหมด ได้รับการติดต่อขอความร่วมมือจากกรมตำรวจนครบาลโตเกียว ในการสืบสวนคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ ที่มีแนวโน้มเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโดยคนร้ายรายเดียวกัน

    🏨

    รายละเอียดของคดีคือ มีการพบศพผู้ตาย 3 ราย ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 6-7 วันนับจากศพแรก ทราบชื่อผู้ตายทั้งสาม เป็นชาย2หญิง1 สาเหตุเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยการตีจากด้านหลังบ้าง รัดคอบ้าง ทุกรายพบตัวเลขปริศนา2ชุดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อหรือไม่อย่างไร แต่ตำรวจมั่นใจว่าคนร้ายหมายตาที่จะก่อเหตุในครั้งต่อไป โดยเล็งเป้าหมายคือโรงแรมที่นาโอมิทำงานอยู่ ปัญหาใหญ่คือไม่ทราบว่าใครที่คนร้ายหมายจะฆ่า ทำไมถึงเลือกที่นี่ และคนร้ายคือใคร ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้ ฝ่ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้คุยตกลงกันกับผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมแล้ว ดังนั้นจึงเรียกตัว หัวหน้าจากหลายฝ่ายให้มาร่วมประชุม ไม่ว่าฝ่ายห้องพัก ฝ่ายเข็นสัมภาระลูกค้าไปส่งห้อง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และในการนี้นาโอมิยังถูกระบุให้เข้าร่วมประชุมแม้จะเป็นแค่เพียง พนักงานระดับปฏิบัติการณ์ฝ่ายต้อนรับเท่านั้น

    🏨

    เหตุผลเพราะหัวหน้างานไว้วางใจ เชื่อมั่นในคุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอจะสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับตำรวจ ที่จะปลอมเข้ามาเป็นพนักงานเพื่อเฝ้าสังเกตบุคคลที่มาใช้บริการโรงแรม ซึ่งแผนกต้อนรับเองนาโอมิถูกเลือกให้จับคู่กับรองสารวัตรนิตตะ ส่วนแผนกอื่นก็มีตำรวจปลอมตัวเข้าไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็มีตำรวจส่วนหนึ่งที่ถูกสั่งการให้ปะปนเข้ามาเป็นคนใช้บริการหรือจับตาความเคลื่อนไหวบริเวณโถงรับแขก ห้องอาหาร และอื่นๆ

    🏨

    นั่นคือจุดเริ่มแห่งความหรรษา เพราะนิตตะไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธีการ แต่จำใจต้องเชื่อฟังนาโอมิที่อายุน้อยกว่า ตั้งแต่เรื่องชุดพนักงาน ท่าทีการพูดจา บุคลิกภายนอกที่ต้องถูกปรับให้กลายจากความเป็นตำรวจมาเป็นพนักงานต้อนรับให้สมจริงมากที่สุด ทั้งคู่จึงมีการกระทบกระทั่งทางความคิดที่ไม่ตรงกัน จนมีการโต้เถียงบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความบันเทิงประการหนึ่ง ด้วยคู่นี้มีความน่ารัก น่าลุ้น ที่จะกลายมาเป็นคู่ใจในอนาคตได้

    🏨

    ระหว่างนั้น นาโอมิมีข้อสงสัยมากมายหลายประการ เธอมักถามนิตตะที่ทราบรายละเอียดของคดีมากกว่าที่พนักงานโรงแรมทราบ แต่นิตตะไม่บอกเล่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นความลับของทางราชการไม่อาจให้คนนอกทราบได้

    งานบริการของนาโอมิยังคงต้องดำเนินต่อไป เกิดปัญหาจากความต้องการของลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาพักเป็นระยะ ซึ่งเธอและนิตตะต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านพ้น ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับในตัวตนและงานของอีกฝ่ายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อแรกพบหน้า ลูกค้าบางคนดูไม่น่าไว้ใจและมีท่าทางแปลกจนนิตตะจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยสัญชาตญาณของนักสืบ

    🏨

    ขณะที่มีตำรวจวัยเลยกลางคนไปแล้ว ซึ่งเป็นตำรวจในท้องที่เกิดเหตุคนหนึ่งที่รู้จักกับนิตตะ และได้รับการมอบหมายให้เป็นคู่หูสืบคดีก่อนที่นิตตะจะต้องปลอมตัวมาเป็นพนักงานต้อนรับนั้น มีน้ำใจที่อยากจะช่วยเหลือ จึงมักอาสาช่วยสืบเรื่องราวต่าง ๆ จากด้านนอก ตามที่นิตตะมีความสงสัยด้วยอีกทางหนึ่ง

    ในที่สุดนิตตะก็ทนรบเร้าจากนาโอมิไม่ไหว อีกทั้งเริ่มมีความไว้ใจเธอมากขึ้น จนยอมเล่าให้ทราบถึงปริศนาของชุดตัวเลขที่ปรากฏทุกครั้งในสถานที่พบศพอันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตำรวจตัดสินใจปะปนเข้ามาในโรงแรม ทำให้เธอเริ่มเกิดความตื่นตัวและทึ่งในความสามารถของเขา รวมถึงมีความกังวลถึงเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้จนส่งผลต่อสุขภาพและงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ

    🏨

    อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตัวคนร้ายคือคนที่คิดไม่ถึง ซึ่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าจะวางแผนการณ์ได้อย่างแยบยลขนาดนั้น แต่แรงจูงใจในการก่อคดียังรู้สึกว่ามีน้ำหนักน้อยไปสักหน่อย คงเพราะความที่คนร้ายเป็นคนประเภทมีจิตรุนแรงในพื้นนิสัย ทำให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยนิตตะและนาโอมิในตอนที่เนื้อเรื่องเปิดเผยให้คนอ่านทราบแล้วว่าเป็นใคร ทั้งสองจะปลอดภัยหรือไม่ จะจับตัวคนร้ายได้ไหม ใครจะถูกฆ่าเป็นรายถัดไปหรือเปล่า ต้องตามอ่านต่อในพิกัดต่อไปใครเป็นศพครับ

    🖋วิจารณ์หลังจบเรื่อง

    เป็นการเล่าในมุมมองบุคคลที่สามคือมุมมองพระเจ้า ฉากหลักตลอดทั้งเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงแรม ตัวละครที่มีการเอ่ยชื่อและมีบทบาทสำคัญไม่เยอะจนเกินไป จึงทำให้คนอ่านจดจำและรู้สึกใกล้ชิดกับตัวเอก ไปจนตัวรองที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ ได้ไม่ยาก ความจริงในส่วนของคดีที่เกิดในเล่มนี้นั้น พูดตามจริงแล้วไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร รูปแบบการฆ่าก็ธรรมดาเกินกว่าจะดูน่ากลัวหรือลึกลับ เพียงแต่มีจุดเด่นตรงชุดตัวเลขปริศนาว่าหมายถึงอะไร และชวนน่าสงสัยเล็กน้อยว่าคนร้ายจะฆ่าคนไปทำไม เพราะดูเหมือนตำรวจมีข้อมูลน้อยมาก จนการสืบสวนแทบไม่เดินหน้าไปไหนเลย

    🏨

    เป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่คงจะต้องการให้โทนของเรื่องออกมาในลักษณะนี้ คือไม่เน้นที่การสืบสวนคลี่คลายปมเป็นพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องผูกเรื่องราวของคดีที่เกิดขึ้นให้มีความอลังการ จนดึงดูดความสนใจกระหายใคร่รู้ และกระตุ้มต่อมนักสืบของคนอ่านจนพุ่งสูงด้วยความเข้มข้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ แต่กลับเลือกที่จะให้ดูเป็นคดีทั่วไป ไม่มีความโชกเลือดหรือบ้าคลั่งของฆาตกรเป็นที่ปรากฏออกมาในบรรยากาศ ซึ่งในแง่นี้ถือว่านักอ่านหลายคนอาจถูกภาพปกของหนังสือหลอกเอาได้ เพราะโทนสีดำแดง กับเลือดเปรอะกระจายบนแผนที่ อีกทั้งชื่อเรื่องชวนค้นหาว่าคงจะดำเนินไปในแนวทางน่าตื่นเต้นกับการตามสืบอะไรทำนองนั้น ซึ่งใครที่คาดหวังมากก็อาจผิดหวังเมื่อพบว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ตนคาดว่าจะได้พบเจอ

    🏨

    แต่นี่ไม่มีปัญหากับผม ส่วนตัวชอบมาก แทบไม่ได้สนใจในคดีด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นคนร้าย ใครเป็นเป้าหมายที่กำลังจะถูกฆ่า และทำไมต้องฆ่า คืออ่านไปได้เรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน ชอบในความที่เนื้อหาเจาะลึกถึงวงการคนโรงแรม ทำให้เราได้รู้ข้อมูลหลายอย่าง สิ่งที่พนักงานต้องแบกรับและพบเจอที่เป็นเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยได้คำนึงถึงและไม่เคยมองในมุมของคนทำงานเหล่านั้น จึงเป็นความบันเทิงที่สามารถได้รู้เรื่องราวอินไซด์โดยผ่านการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของนาโอมิ กับประเด็นต่าง ๆ ที่เข้ามามากมาย คล้ายกำลังได้ติดตามดูซีรีส์ชีวิตการทำงานในอาชีพด้านการบริหารโรงแรมดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง ซึ่งอดีตเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เคยได้รับชมมาบ้างทั้งของญี่ปุ่นและเกาหลี

    🏨

    จุดเด่นในการดำเนินเรื่องคือเราจะได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของสองตัวละครหลัก ในระหว่างร่วมกันแก้ไขปัญหา แม้มีความขัดแย้งจากความเห็นมุมมองที่ต่างสถานะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดีเสียอีกทำให้ต่างฝ่ายได้เรียนรู้เพิ่ม เป็นประสบการณ์ใหม่และเปิดมุมมองอีกด้านที่ตนไม่เคยใส่ใจ จนเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจ และเชื่อใจกันโดยไม่รู้ตัว แม้นภายนอกเหมือนไม่ชอบหน้ากันก็ตาม ที่สำคัญคือแม้เรื่องแนวทางการสืบหาตัวคนร้ายเหมือนไม่คืบหน้าไปไหน แต่เมื่อนาโอมิแก้ปัญหาลูกค้าไปทีละเรื่องต่อเนื่องไป ทำให้นิตตะเองสะดุดคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกี่ยวโยงไปถึงคดีได้อย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งคำพูดของนาโอมิเองช่วงสนทนากับนิตตะ ไปจุดประกายให้เขาพลันนึกอะไรได้ขึ้นมาอย่างกะทันหันก็มี รวมถึงคู่หูนายตำรวจท้องที่ผู้มีอายุมากกว่าเขา ก็ยังมีส่วนช่วยอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ทำให้เห็นถึงพลังของความช่วยเหลือกันและกันของความเป็นเพื่อน แม้เพิ่งทำความรู้จักกันชั่วระยะเวลาไม่นาน นี่จึงไม่ใช่นิยายสืบสวนที่เน้นความเก่งฉกาจของนักสืบที่รับผิดชอบคดีแบบฉายเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความเชื่อใจระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นที่มีของตนคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอ

    หากพิจารณาให้ดี จะได้เห็นถึงความสำคัญของบุคคลแวดล้อมที่ดูราวกับไม่มีส่วนสำคัญ แต่แท้จริงถ้าไม่ได้ความคิดเห็นหรือความช่วยเหลือของเขา พระเอกของเราก็ยังคงไม่อาจฉุกใจได้คิด จนนำไปสู่การรู้ตัวคนร้ายในช่วงท้ายของเรื่อง

    บทสรุปก่อนจบ มีแนวโน้มให้คนอ่านได้ลุ้นว่านิตตะกับนาโอมิ จะมีความเป็นไปได้ในการเป็นคู่รักหรือไม่ แต่ที่มั่นใจคือน่าจะมีเล่มต่อให้ได้ติดตามกันอย่างแน่นอน.

    .........................................

    2. #พิกัดต่อไปใครเป็นศพตอนลางร้ายใต้หน้ากาก #masqueradeeve

    เล่มที่สองของซีรีส์ ที่ยังคงความสนุกได้ไม่แพ้เล่มแรก แต่ความหนาน้อยลงเหลือ 352 หน้า

    สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 345 บาท
    ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน
    อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล

    เนื้อหาย่อของเล่มนี้

    ถึงจะออกมาเป็นเล่มที่สองของชุด แต่เหตุการณ์เป็นเรื่องก่อนหน้าคดีในเล่มแรก คือย้อนไปเล่าสมัยที่นาโอมิเพิ่งจะเข้าทำงานใน คอร์เทเชียโตเกียวได้แค่สี่ปี และย้ายแผนกมาอยู่ฝ่ายต้อนรับไม่นาน ยังเห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องที่ไม่คล่องตัว ยังไม่มีความเชื่อมั่นในประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญดังภาพที่ปรากฏในเล่มก่อนหน้า ทว่าก็ยังคงบุคลิกที่มุ่งมั่นในการให้บริการ และมีหัวใจในการคิดถึงและเอาใจใส่ต่อลูกค้าทุกคนอย่างซื่อสัตย์

    🏨

    เริ่มต้นมา นาโอมิก็ได้แสดงความสามารถที่ทำให้เห็นถึงความมีไหวพริบปฏิภาณ และช่างสังเกต อันเป็นคุณสมบัติที่ควรต้องมีในคนที่ทำอาชีพเช่นเธอ โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนาโอมิจดจำได้ว่าเป็นอดีตแฟนที่เคยคบหากันชั่วเวลาหนึ่งสมัยที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย แต่มีเหตุให้ต้องเลิกราแยกย้ายกันไปคนละเส้นทาง เขามากับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักกีฬาเบสบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมาก โดยทำหน้าที่เป็นผจก.ส่วนตัวนักกีฬาชาย แล้วได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในขณะที่ทั้งสองมาพักอยู่ในโรงแรม จนเป็นเหตุให้แฟนเก่าคนนี้โทร.ตามตัวนาโอมิจากหน้าฟรอนต์ให้มาช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเธอไม่เต็มใจนักแต่ต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออก แล้วสวมหัวใจพนักงานฝ่ายต้อนรับที่ต้องช่วยเหลือบริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายเธอก็สามารถจัดการกับปัญหาให้จบลงด้วยดี

    🏨

    ทางด้านนิตตะนั้น เพิ่งเริ่มต้นอาชีพด้วยการเข้าเป็นน้องใหม่ในสังกัดกรมตำรวจหลังกลับมาจากต่างประเทศไม่นาน โดยมีรุ่นพี่โมโตมิยะ(ปรากฏตัวในเล่มแรกด้วย โดยเป็นหนึ่งที่ปลอมตัวเข้าไปในโรงแรม) ที่เป็นคู่หูและพี่เลี้ยง ซึ่งคดีแรกที่เขาต้องคลี่คลายคือ คดีฆาตกรรมวันไวต์เดย์ โดยตำรวจได้รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าสามีของตนออกไปวิ่งออกกำลังตอนกลางดึกแต่ยังไม่กลับถึงบ้านตามเวลา สุดท้ายมีการพบว่าสามีของเธอกลายเป็นศพอยู่ในสวน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกแทงที่ท้องและหลัง มีอะไรหลายอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลที่ตำรวจได้สืบทราบมา ที่รบกวนใจของนิตตะ เขาได้แสดงความสามารถออกมาเป็นที่ปรากฏจนรุ่นพี่ออกจะไม่พอใจและหมั่นไส้อยู่บ้าง ด้วยสิ่งที่นิตตะคาดคะเนและวิเคราะห์ทำให้ตำรวจสามารถพบตัวของผู้ก่อเหตุได้ในเวลาไม่นาน แต่คดีนี้มีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่าสิ่งที่ตำรวจรู้

    🏨

    ตัดมาที่การปฏิบัติงานของนาโอมิ ในเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายหลายคน มาจองห้องพักและมีพฤติการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าแปลกพิกล ต่อมาทราบว่าที่แท้คนกลุ่มนี้หวังที่จะมาเฝ้ารอเพื่อจะได้พบเจอกับนักเขียนนิยายที่โด่งดังนามว่า ทาจิบานะ ซากุระซึ่งเขียนแนวประโลมโลก และจะเข้ามาพักที่โรงแรมเพื่อเขียนงานใหม่ เนื่องจากเหล่าสาวกที่ชื่นชอบงานเขียนของซากุระ ไปเห็นรูปที่ถูกระบุว่าเป็นนักเขียนหญิงคนดังในโซเชียลมีเดีย พอเห็นว่าเป็นสาวสวยจึงหาวิธีที่จะได้พบเจอตัวจริงให้ได้ จึงเป็นหน้าที่ของนาโอมิ ที่จะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวรวมถึงความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ความยุ่งยากจึงเกิดขึ้น

    🏨

    ตอนสุดท้าย นาโอมิได้รับการขอจากผู้จัดการให้ช่วยไปสอนงานให้กับพนักงานแผนกต้อนรับที่สาขาโอซาก้า ซึ่งเพิ่งเปิดโรงแรมได้ไม่นาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่เกินครึ่งปี ในขณะที่นิตตะมีคดีใหม่ที่ต้องรับผิดชอบกับรุ่นพี่โมโตมิยะ คือการตายของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องทางสิทยาศาสตร์ โดยพบศพในห้องทำงาน คดีนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นบุคคลคนหนึ่ง แต่ทว่าเขากลับมีหลักฐานยืนยันที่อยู่ชัดเจนในช่วงเวลาที่คาดว่าเหยื่อถูกฆ่าตาย ซึ่งเจ้าตัวเข้าใจว่าตนเองรอดพ้นแน่แต่แท้จริงเบื้องหลังยังมีอะไรที่ไม่เป็นดังที่คิด ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่า

    ในกรณีทีมสืบสวนเอง ผู้ใหญ่ได้สั่งการลงมาให้นิตตะจับคู่กันกับตำรวจหญิงวัยละอ่อน ที่เป็นตำรวจท้องที่มีนามว่า ริสะ ที่ถูกย้ายมาจากแผนกความปลอดภัยชุมชน ให้มาร่วมในทีมเป็นครั้งแรก นิตตะไม่พอใจนักแต่จำใจต้องทำตาม แม้จะดูเหมือนเป็นตำรวจหญิงที่อ่อนต่อโลก พูดเป็นต่อยหอย และขาดไหวพริบม แต่ริสะก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นใส่ใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่เธอได้รับคำสั่งจากนิตตะให้ไปสืบเช็กข้อมูลจากโรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้า เพื่อยืนยันคำพูดจากปากของชายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ทำให้ริสะได้พบกับนาโอมิ อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาถึงผลลัพธ์ในภายหลัง

    🖋วิเคราะห์หลังอ่านจบ

    เล่มนี้เล่าเรื่องโดยแยกเนื้อหาระหว่างการแก้ปัญหาในโรงแรมของนาโอมิ กับการไขคดีของนิตตะออกจากกันชัดเจนเป็นตอนที่จบในตัว เริ่มจากตอนของนาโอมิก่อน จากนั้นสลับไปเล่าฝั่งนิตตะ แต่ในตอนสุดท้ายจะผนวกสองฝั่งให้เชื่อมถึงกันในคดีที่มีผู้เกี่ยวข้องได้ไปเข้าพักที่โรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้าซึ่งนาโอมิกำลังอยู่ในช่วงที่สอนงานให้พนักงานที่นั่น

    ทั้งคู่ไม่ได้พบกันเลย เพราะการพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นในเล่มแรก แต่ผู้เขียนมีความสามารถในการผูกโยงเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นคนทั้งสองอย่างใกล้ชิด และได้เห็นบุคลิกกับอุปนิสัยส่วนตัวของนาโอมิกับนิตตะมากขึ้น

    นิตตะในเล่มนี้ มีโอกาสได้แสดงฝีมือในการคิดวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์กับข้อมูลที่ใช้หาตัวคนร้าย ได้เด่นชัดกว่าเล่มแรก สมกับที่เป็นระดับหัวกะทิที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่เราก็จะได้เห็นถึงข้อเสียใหญ่ของเขาที่ไม่น่ารักเช่นกัน คือเป็นคนมั่นใจในความฉลาดของตนมากจนเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะความคิดที่เห็นว่าผู้หญิงเป็นตัวถ่วง สู้ผู้ชายไม่ได้ ดังที่นิตตะแสดงออกทางสีหน้าท่าทางและคำพูดต่อเด็กใหม่อย่างริสะ ที่เหมือนเป็นได้แค่ลูกไล่ไร้ประโยชน์ ซึ่งต่างจากนาโอมิ ที่แม้จะมองออกว่าริสะเป็นตำรวจที่ความสามารถไม่ถึงขั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญ กลับมองเห็นถึงมุมที่เป็นความอดทน ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดของตำรวจหญิงในการพยายามค้นหาความจริงให้ได้ ความมุ่งมั่นของริสะจึงเอาชนะใจของนาโอมิ จนยอมช่วยเหลือด้วยการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนให้ริสะทราบ

    ในส่วนของการคลี่คลายคดี ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนจนเกินไป แต่เล่มนี้จะเน้นไปที่คดีที่น่าจะเป็นที่มาของชื่อตอน (ลางร้ายใต้หน้ากาก) ถึงสองคดีด้วยกันครับ ถ้าได้อ่านแล้วจะเข้าใจ และน่าจะเห็นตรงกันว่าภายใต้หน้ากากที่ภายนอกดูไม่ได้รู้เลยว่าจะกลายเป็นคนร้ายได้ สุดท้ายก็แอบซ่อนความบิดเบี้ยวของใจที่โดนกิเลสเข้าครอบงำได้อย่างน่ากลัว

    ตัวละครในเรื่อง สำหรับเล่มนี้ รู้สึกว่าริสะที่แม้จะมีบทบาทเพียงแค่ช่วงคดีสุดท้ายนั้น เป็นตัวละครที่เขียนมาได้น่าสนใจมาก โผล่มาทีไรก็ทำให้คนอ่านอย่างผมอดขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปต่อในเล่มอื่น ๆ ของชุดนี้หรือไม่ ส่วนนาโอมินั้นยังคงเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เช่นเดิม เทียบกับนิตตะแล้วส่วนตัวมีความรู้สึกชอบนาโอมิมากกว่า

    นอกจากนี้ยังชอบตอนจบของเรื่อง ที่มีการโยงถึงเหตุการณ์ที่เป็นต้นตอนำไปสู่ความอาฆาตแค้นของฆาตกรในคดีที่เกิดขึ้นในเล่มแรก สรุปว่าอ่านจบเล่มสองแล้วก็จะไปต่อเหตุการณ์ของเล่มแรกพอดี

    ใครเริ่มอ่านจากเล่มนี้ก่อน สามารถอ่านเล่มแรกต่อเนื่องได้เลย

    📌คำเตือน : สำหรับคนที่ชอบการสืบคดีแบบเข้มข้น มีวิธีการฆ่าที่ค่อนข้างแปลกพิสดารหรือโหดสยอง และมีกลวิธีในการอำพรางซ่อนเร้นที่ไม่ธรรมดา ซีรีส์ชุดนี้อาจไม่ตอบโจทย์ แล้วเลยพาลจะไม่ชอบหรือหมดสนุกได้ง่าย แต่ถ้าชอบแนวได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพของตัวเอกควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการไขคดีที่ไม่โลดโผน ชุดนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณได้ไม่ยากครับ

    ป.ล. มีปกใหม่ออกมาที่คิดว่าทำได้ดีตรงกับแนวเรื่องและชื่อตอนมากกว่าปกฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกด้วย เพราะปกของเล่มสองนี้ดูเหมือนน่าจะโหดมาก แต่เนื้อในไม่ใช่อย่างที่คิด

    ใครอ่านตั้งแต่ต้นมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ได้ขอได้รับความขอบคุณจากผมด้วยครับ

    #thaitimes
    #หนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #นิยายสืบสวน
    #สืบสวน
    #คดีฆาตกรรม
    #งานโรงแรม
    #พนักงานต้อนรับ
    #ตำรวจ
    #นักสืบ
    #ลูกค้า
    #งานบริการ
    #อาชีพ
    #ฮิงาชิโนะเคโงะ
    🔹️แพ็กคู่ซีรีส์ชุด พิกัดต่อไปใครเป็นศพ❗ คำเตือน เนื้อหายาวมากถึงมากที่สุด 1 #พิกัดต่อไปใครเป็นศพ #masqueradehotel อ่านจนจบในวันเดียว หนาถึง 547 หน้า ดีที่ขนาดไม่เทอะทะแม้หนาแต่ไม่หนัก ตอนตัดสินใจเลือกยืมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยชมที่สร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน พออ่านไปได้ไม่กี่หน้าเริ่มรู้สึกฉากช่างคุ้นเคย เนื้อเรื่องเหมือนเคยรู้มาก่อน ทบทวนความทรงจำตนเองจึงค่อยจำได้ว่าคือเรื่องเดียวกับหนังที่ดูจบแล้วชอบมากนั่นเอง แต่ห้วงเวลาที่ชมนั้นไม่เคยทราบว่าสร้างจากนิยายเล่มนี้ ดูเพราะชอบนักแสดงหลักทั้งสองคนเลยคือ ทาคูยะ และมาซามิ และก็ไม่ผิดหวังทั้งคู่แสดงในบทบาทที่ได้รับได้ดีมาก พระนางมีการขัดแย้งในความเห็นอย่างที่เรียกว่าคู่กัด แต่ก็ห่วงใยช่วยเหลือกันมีความน่ารักปนน่าหมั่นไส้ โรงแรมที่ใช้เป็นฉากก็หรูหราโอ่โถงงดงามน่าใช้บริการอย่างมากครับ 📚วกกลับมาเข้าเรื่องในหนังสือ สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 425 บาท ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล เนื้อหาในเล่มกล่าวถึงชีวิตของพนักงานโรงแรมคอร์เทเชียโตเกียวสุดหรูที่มีนามว่า ยามางิชิ นาโอมิ ซึ่งเป็นตัวเอกที่ดำเนินเรื่องหลักของนิยายเล่มนี้ ที่ฉากแรกปรากฏก็เปิดตัวอย่างสง่างามสมกับความเป็นพนักงานต้อนรับมืออาชีพยิ่ง เพราะมีลูกค้าชายประเภทที่จงใจก่อปัญหาเพื่อหวังจะได้เข้าพักในห้องราคาสูงกว่าที่ตนได้เลือกจองไว้ จนพนักงานยกกระเป๋าที่เข็นของไปให้ ต้องโทร.ลงมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งเธอสามารถบริหารจัดการให้ผ่านพ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าลงได้อย่างสวยงาม จากนั้นเรื่องจึงนำพาผู้อ่านเข้าสู่ประเด็นของที่มาอันกลายเป็นชื่อเรื่องคือ ทางผู้จัดการใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลพนักงานในโรงแรมทั้งหมด ได้รับการติดต่อขอความร่วมมือจากกรมตำรวจนครบาลโตเกียว ในการสืบสวนคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ ที่มีแนวโน้มเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโดยคนร้ายรายเดียวกัน 🏨 รายละเอียดของคดีคือ มีการพบศพผู้ตาย 3 ราย ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 6-7 วันนับจากศพแรก ทราบชื่อผู้ตายทั้งสาม เป็นชาย2หญิง1 สาเหตุเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยการตีจากด้านหลังบ้าง รัดคอบ้าง ทุกรายพบตัวเลขปริศนา2ชุดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อหรือไม่อย่างไร แต่ตำรวจมั่นใจว่าคนร้ายหมายตาที่จะก่อเหตุในครั้งต่อไป โดยเล็งเป้าหมายคือโรงแรมที่นาโอมิทำงานอยู่ ปัญหาใหญ่คือไม่ทราบว่าใครที่คนร้ายหมายจะฆ่า ทำไมถึงเลือกที่นี่ และคนร้ายคือใคร ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้ ฝ่ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้คุยตกลงกันกับผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมแล้ว ดังนั้นจึงเรียกตัว หัวหน้าจากหลายฝ่ายให้มาร่วมประชุม ไม่ว่าฝ่ายห้องพัก ฝ่ายเข็นสัมภาระลูกค้าไปส่งห้อง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และในการนี้นาโอมิยังถูกระบุให้เข้าร่วมประชุมแม้จะเป็นแค่เพียง พนักงานระดับปฏิบัติการณ์ฝ่ายต้อนรับเท่านั้น 🏨 เหตุผลเพราะหัวหน้างานไว้วางใจ เชื่อมั่นในคุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอจะสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับตำรวจ ที่จะปลอมเข้ามาเป็นพนักงานเพื่อเฝ้าสังเกตบุคคลที่มาใช้บริการโรงแรม ซึ่งแผนกต้อนรับเองนาโอมิถูกเลือกให้จับคู่กับรองสารวัตรนิตตะ ส่วนแผนกอื่นก็มีตำรวจปลอมตัวเข้าไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็มีตำรวจส่วนหนึ่งที่ถูกสั่งการให้ปะปนเข้ามาเป็นคนใช้บริการหรือจับตาความเคลื่อนไหวบริเวณโถงรับแขก ห้องอาหาร และอื่นๆ 🏨 นั่นคือจุดเริ่มแห่งความหรรษา เพราะนิตตะไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธีการ แต่จำใจต้องเชื่อฟังนาโอมิที่อายุน้อยกว่า ตั้งแต่เรื่องชุดพนักงาน ท่าทีการพูดจา บุคลิกภายนอกที่ต้องถูกปรับให้กลายจากความเป็นตำรวจมาเป็นพนักงานต้อนรับให้สมจริงมากที่สุด ทั้งคู่จึงมีการกระทบกระทั่งทางความคิดที่ไม่ตรงกัน จนมีการโต้เถียงบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความบันเทิงประการหนึ่ง ด้วยคู่นี้มีความน่ารัก น่าลุ้น ที่จะกลายมาเป็นคู่ใจในอนาคตได้ 🏨 ระหว่างนั้น นาโอมิมีข้อสงสัยมากมายหลายประการ เธอมักถามนิตตะที่ทราบรายละเอียดของคดีมากกว่าที่พนักงานโรงแรมทราบ แต่นิตตะไม่บอกเล่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นความลับของทางราชการไม่อาจให้คนนอกทราบได้ งานบริการของนาโอมิยังคงต้องดำเนินต่อไป เกิดปัญหาจากความต้องการของลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาพักเป็นระยะ ซึ่งเธอและนิตตะต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านพ้น ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับในตัวตนและงานของอีกฝ่ายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อแรกพบหน้า ลูกค้าบางคนดูไม่น่าไว้ใจและมีท่าทางแปลกจนนิตตะจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยสัญชาตญาณของนักสืบ 🏨 ขณะที่มีตำรวจวัยเลยกลางคนไปแล้ว ซึ่งเป็นตำรวจในท้องที่เกิดเหตุคนหนึ่งที่รู้จักกับนิตตะ และได้รับการมอบหมายให้เป็นคู่หูสืบคดีก่อนที่นิตตะจะต้องปลอมตัวมาเป็นพนักงานต้อนรับนั้น มีน้ำใจที่อยากจะช่วยเหลือ จึงมักอาสาช่วยสืบเรื่องราวต่าง ๆ จากด้านนอก ตามที่นิตตะมีความสงสัยด้วยอีกทางหนึ่ง ในที่สุดนิตตะก็ทนรบเร้าจากนาโอมิไม่ไหว อีกทั้งเริ่มมีความไว้ใจเธอมากขึ้น จนยอมเล่าให้ทราบถึงปริศนาของชุดตัวเลขที่ปรากฏทุกครั้งในสถานที่พบศพอันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตำรวจตัดสินใจปะปนเข้ามาในโรงแรม ทำให้เธอเริ่มเกิดความตื่นตัวและทึ่งในความสามารถของเขา รวมถึงมีความกังวลถึงเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้จนส่งผลต่อสุขภาพและงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ 🏨 อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตัวคนร้ายคือคนที่คิดไม่ถึง ซึ่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าจะวางแผนการณ์ได้อย่างแยบยลขนาดนั้น แต่แรงจูงใจในการก่อคดียังรู้สึกว่ามีน้ำหนักน้อยไปสักหน่อย คงเพราะความที่คนร้ายเป็นคนประเภทมีจิตรุนแรงในพื้นนิสัย ทำให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยนิตตะและนาโอมิในตอนที่เนื้อเรื่องเปิดเผยให้คนอ่านทราบแล้วว่าเป็นใคร ทั้งสองจะปลอดภัยหรือไม่ จะจับตัวคนร้ายได้ไหม ใครจะถูกฆ่าเป็นรายถัดไปหรือเปล่า ต้องตามอ่านต่อในพิกัดต่อไปใครเป็นศพครับ 🖋วิจารณ์หลังจบเรื่อง เป็นการเล่าในมุมมองบุคคลที่สามคือมุมมองพระเจ้า ฉากหลักตลอดทั้งเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงแรม ตัวละครที่มีการเอ่ยชื่อและมีบทบาทสำคัญไม่เยอะจนเกินไป จึงทำให้คนอ่านจดจำและรู้สึกใกล้ชิดกับตัวเอก ไปจนตัวรองที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ ได้ไม่ยาก ความจริงในส่วนของคดีที่เกิดในเล่มนี้นั้น พูดตามจริงแล้วไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร รูปแบบการฆ่าก็ธรรมดาเกินกว่าจะดูน่ากลัวหรือลึกลับ เพียงแต่มีจุดเด่นตรงชุดตัวเลขปริศนาว่าหมายถึงอะไร และชวนน่าสงสัยเล็กน้อยว่าคนร้ายจะฆ่าคนไปทำไม เพราะดูเหมือนตำรวจมีข้อมูลน้อยมาก จนการสืบสวนแทบไม่เดินหน้าไปไหนเลย 🏨 เป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่คงจะต้องการให้โทนของเรื่องออกมาในลักษณะนี้ คือไม่เน้นที่การสืบสวนคลี่คลายปมเป็นพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องผูกเรื่องราวของคดีที่เกิดขึ้นให้มีความอลังการ จนดึงดูดความสนใจกระหายใคร่รู้ และกระตุ้มต่อมนักสืบของคนอ่านจนพุ่งสูงด้วยความเข้มข้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ แต่กลับเลือกที่จะให้ดูเป็นคดีทั่วไป ไม่มีความโชกเลือดหรือบ้าคลั่งของฆาตกรเป็นที่ปรากฏออกมาในบรรยากาศ ซึ่งในแง่นี้ถือว่านักอ่านหลายคนอาจถูกภาพปกของหนังสือหลอกเอาได้ เพราะโทนสีดำแดง กับเลือดเปรอะกระจายบนแผนที่ อีกทั้งชื่อเรื่องชวนค้นหาว่าคงจะดำเนินไปในแนวทางน่าตื่นเต้นกับการตามสืบอะไรทำนองนั้น ซึ่งใครที่คาดหวังมากก็อาจผิดหวังเมื่อพบว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ตนคาดว่าจะได้พบเจอ 🏨 แต่นี่ไม่มีปัญหากับผม ส่วนตัวชอบมาก แทบไม่ได้สนใจในคดีด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นคนร้าย ใครเป็นเป้าหมายที่กำลังจะถูกฆ่า และทำไมต้องฆ่า คืออ่านไปได้เรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน ชอบในความที่เนื้อหาเจาะลึกถึงวงการคนโรงแรม ทำให้เราได้รู้ข้อมูลหลายอย่าง สิ่งที่พนักงานต้องแบกรับและพบเจอที่เป็นเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยได้คำนึงถึงและไม่เคยมองในมุมของคนทำงานเหล่านั้น จึงเป็นความบันเทิงที่สามารถได้รู้เรื่องราวอินไซด์โดยผ่านการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของนาโอมิ กับประเด็นต่าง ๆ ที่เข้ามามากมาย คล้ายกำลังได้ติดตามดูซีรีส์ชีวิตการทำงานในอาชีพด้านการบริหารโรงแรมดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง ซึ่งอดีตเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เคยได้รับชมมาบ้างทั้งของญี่ปุ่นและเกาหลี 🏨 จุดเด่นในการดำเนินเรื่องคือเราจะได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของสองตัวละครหลัก ในระหว่างร่วมกันแก้ไขปัญหา แม้มีความขัดแย้งจากความเห็นมุมมองที่ต่างสถานะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดีเสียอีกทำให้ต่างฝ่ายได้เรียนรู้เพิ่ม เป็นประสบการณ์ใหม่และเปิดมุมมองอีกด้านที่ตนไม่เคยใส่ใจ จนเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจ และเชื่อใจกันโดยไม่รู้ตัว แม้นภายนอกเหมือนไม่ชอบหน้ากันก็ตาม ที่สำคัญคือแม้เรื่องแนวทางการสืบหาตัวคนร้ายเหมือนไม่คืบหน้าไปไหน แต่เมื่อนาโอมิแก้ปัญหาลูกค้าไปทีละเรื่องต่อเนื่องไป ทำให้นิตตะเองสะดุดคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกี่ยวโยงไปถึงคดีได้อย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งคำพูดของนาโอมิเองช่วงสนทนากับนิตตะ ไปจุดประกายให้เขาพลันนึกอะไรได้ขึ้นมาอย่างกะทันหันก็มี รวมถึงคู่หูนายตำรวจท้องที่ผู้มีอายุมากกว่าเขา ก็ยังมีส่วนช่วยอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ทำให้เห็นถึงพลังของความช่วยเหลือกันและกันของความเป็นเพื่อน แม้เพิ่งทำความรู้จักกันชั่วระยะเวลาไม่นาน นี่จึงไม่ใช่นิยายสืบสวนที่เน้นความเก่งฉกาจของนักสืบที่รับผิดชอบคดีแบบฉายเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความเชื่อใจระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นที่มีของตนคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอ หากพิจารณาให้ดี จะได้เห็นถึงความสำคัญของบุคคลแวดล้อมที่ดูราวกับไม่มีส่วนสำคัญ แต่แท้จริงถ้าไม่ได้ความคิดเห็นหรือความช่วยเหลือของเขา พระเอกของเราก็ยังคงไม่อาจฉุกใจได้คิด จนนำไปสู่การรู้ตัวคนร้ายในช่วงท้ายของเรื่อง บทสรุปก่อนจบ มีแนวโน้มให้คนอ่านได้ลุ้นว่านิตตะกับนาโอมิ จะมีความเป็นไปได้ในการเป็นคู่รักหรือไม่ แต่ที่มั่นใจคือน่าจะมีเล่มต่อให้ได้ติดตามกันอย่างแน่นอน. ......................................... 2. #พิกัดต่อไปใครเป็นศพตอนลางร้ายใต้หน้ากาก #masqueradeeve เล่มที่สองของซีรีส์ ที่ยังคงความสนุกได้ไม่แพ้เล่มแรก แต่ความหนาน้อยลงเหลือ 352 หน้า สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 345 บาท ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล เนื้อหาย่อของเล่มนี้ ถึงจะออกมาเป็นเล่มที่สองของชุด แต่เหตุการณ์เป็นเรื่องก่อนหน้าคดีในเล่มแรก คือย้อนไปเล่าสมัยที่นาโอมิเพิ่งจะเข้าทำงานใน คอร์เทเชียโตเกียวได้แค่สี่ปี และย้ายแผนกมาอยู่ฝ่ายต้อนรับไม่นาน ยังเห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องที่ไม่คล่องตัว ยังไม่มีความเชื่อมั่นในประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญดังภาพที่ปรากฏในเล่มก่อนหน้า ทว่าก็ยังคงบุคลิกที่มุ่งมั่นในการให้บริการ และมีหัวใจในการคิดถึงและเอาใจใส่ต่อลูกค้าทุกคนอย่างซื่อสัตย์ 🏨 เริ่มต้นมา นาโอมิก็ได้แสดงความสามารถที่ทำให้เห็นถึงความมีไหวพริบปฏิภาณ และช่างสังเกต อันเป็นคุณสมบัติที่ควรต้องมีในคนที่ทำอาชีพเช่นเธอ โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนาโอมิจดจำได้ว่าเป็นอดีตแฟนที่เคยคบหากันชั่วเวลาหนึ่งสมัยที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย แต่มีเหตุให้ต้องเลิกราแยกย้ายกันไปคนละเส้นทาง เขามากับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักกีฬาเบสบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมาก โดยทำหน้าที่เป็นผจก.ส่วนตัวนักกีฬาชาย แล้วได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในขณะที่ทั้งสองมาพักอยู่ในโรงแรม จนเป็นเหตุให้แฟนเก่าคนนี้โทร.ตามตัวนาโอมิจากหน้าฟรอนต์ให้มาช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเธอไม่เต็มใจนักแต่ต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออก แล้วสวมหัวใจพนักงานฝ่ายต้อนรับที่ต้องช่วยเหลือบริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายเธอก็สามารถจัดการกับปัญหาให้จบลงด้วยดี 🏨 ทางด้านนิตตะนั้น เพิ่งเริ่มต้นอาชีพด้วยการเข้าเป็นน้องใหม่ในสังกัดกรมตำรวจหลังกลับมาจากต่างประเทศไม่นาน โดยมีรุ่นพี่โมโตมิยะ(ปรากฏตัวในเล่มแรกด้วย โดยเป็นหนึ่งที่ปลอมตัวเข้าไปในโรงแรม) ที่เป็นคู่หูและพี่เลี้ยง ซึ่งคดีแรกที่เขาต้องคลี่คลายคือ คดีฆาตกรรมวันไวต์เดย์ โดยตำรวจได้รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าสามีของตนออกไปวิ่งออกกำลังตอนกลางดึกแต่ยังไม่กลับถึงบ้านตามเวลา สุดท้ายมีการพบว่าสามีของเธอกลายเป็นศพอยู่ในสวน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกแทงที่ท้องและหลัง มีอะไรหลายอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลที่ตำรวจได้สืบทราบมา ที่รบกวนใจของนิตตะ เขาได้แสดงความสามารถออกมาเป็นที่ปรากฏจนรุ่นพี่ออกจะไม่พอใจและหมั่นไส้อยู่บ้าง ด้วยสิ่งที่นิตตะคาดคะเนและวิเคราะห์ทำให้ตำรวจสามารถพบตัวของผู้ก่อเหตุได้ในเวลาไม่นาน แต่คดีนี้มีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่าสิ่งที่ตำรวจรู้ 🏨 ตัดมาที่การปฏิบัติงานของนาโอมิ ในเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายหลายคน มาจองห้องพักและมีพฤติการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าแปลกพิกล ต่อมาทราบว่าที่แท้คนกลุ่มนี้หวังที่จะมาเฝ้ารอเพื่อจะได้พบเจอกับนักเขียนนิยายที่โด่งดังนามว่า ทาจิบานะ ซากุระซึ่งเขียนแนวประโลมโลก และจะเข้ามาพักที่โรงแรมเพื่อเขียนงานใหม่ เนื่องจากเหล่าสาวกที่ชื่นชอบงานเขียนของซากุระ ไปเห็นรูปที่ถูกระบุว่าเป็นนักเขียนหญิงคนดังในโซเชียลมีเดีย พอเห็นว่าเป็นสาวสวยจึงหาวิธีที่จะได้พบเจอตัวจริงให้ได้ จึงเป็นหน้าที่ของนาโอมิ ที่จะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวรวมถึงความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ความยุ่งยากจึงเกิดขึ้น 🏨 ตอนสุดท้าย นาโอมิได้รับการขอจากผู้จัดการให้ช่วยไปสอนงานให้กับพนักงานแผนกต้อนรับที่สาขาโอซาก้า ซึ่งเพิ่งเปิดโรงแรมได้ไม่นาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่เกินครึ่งปี ในขณะที่นิตตะมีคดีใหม่ที่ต้องรับผิดชอบกับรุ่นพี่โมโตมิยะ คือการตายของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องทางสิทยาศาสตร์ โดยพบศพในห้องทำงาน คดีนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นบุคคลคนหนึ่ง แต่ทว่าเขากลับมีหลักฐานยืนยันที่อยู่ชัดเจนในช่วงเวลาที่คาดว่าเหยื่อถูกฆ่าตาย ซึ่งเจ้าตัวเข้าใจว่าตนเองรอดพ้นแน่แต่แท้จริงเบื้องหลังยังมีอะไรที่ไม่เป็นดังที่คิด ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่า ในกรณีทีมสืบสวนเอง ผู้ใหญ่ได้สั่งการลงมาให้นิตตะจับคู่กันกับตำรวจหญิงวัยละอ่อน ที่เป็นตำรวจท้องที่มีนามว่า ริสะ ที่ถูกย้ายมาจากแผนกความปลอดภัยชุมชน ให้มาร่วมในทีมเป็นครั้งแรก นิตตะไม่พอใจนักแต่จำใจต้องทำตาม แม้จะดูเหมือนเป็นตำรวจหญิงที่อ่อนต่อโลก พูดเป็นต่อยหอย และขาดไหวพริบม แต่ริสะก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นใส่ใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่เธอได้รับคำสั่งจากนิตตะให้ไปสืบเช็กข้อมูลจากโรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้า เพื่อยืนยันคำพูดจากปากของชายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ทำให้ริสะได้พบกับนาโอมิ อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาถึงผลลัพธ์ในภายหลัง 🖋วิเคราะห์หลังอ่านจบ เล่มนี้เล่าเรื่องโดยแยกเนื้อหาระหว่างการแก้ปัญหาในโรงแรมของนาโอมิ กับการไขคดีของนิตตะออกจากกันชัดเจนเป็นตอนที่จบในตัว เริ่มจากตอนของนาโอมิก่อน จากนั้นสลับไปเล่าฝั่งนิตตะ แต่ในตอนสุดท้ายจะผนวกสองฝั่งให้เชื่อมถึงกันในคดีที่มีผู้เกี่ยวข้องได้ไปเข้าพักที่โรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้าซึ่งนาโอมิกำลังอยู่ในช่วงที่สอนงานให้พนักงานที่นั่น ทั้งคู่ไม่ได้พบกันเลย เพราะการพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นในเล่มแรก แต่ผู้เขียนมีความสามารถในการผูกโยงเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นคนทั้งสองอย่างใกล้ชิด และได้เห็นบุคลิกกับอุปนิสัยส่วนตัวของนาโอมิกับนิตตะมากขึ้น นิตตะในเล่มนี้ มีโอกาสได้แสดงฝีมือในการคิดวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์กับข้อมูลที่ใช้หาตัวคนร้าย ได้เด่นชัดกว่าเล่มแรก สมกับที่เป็นระดับหัวกะทิที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่เราก็จะได้เห็นถึงข้อเสียใหญ่ของเขาที่ไม่น่ารักเช่นกัน คือเป็นคนมั่นใจในความฉลาดของตนมากจนเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะความคิดที่เห็นว่าผู้หญิงเป็นตัวถ่วง สู้ผู้ชายไม่ได้ ดังที่นิตตะแสดงออกทางสีหน้าท่าทางและคำพูดต่อเด็กใหม่อย่างริสะ ที่เหมือนเป็นได้แค่ลูกไล่ไร้ประโยชน์ ซึ่งต่างจากนาโอมิ ที่แม้จะมองออกว่าริสะเป็นตำรวจที่ความสามารถไม่ถึงขั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญ กลับมองเห็นถึงมุมที่เป็นความอดทน ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดของตำรวจหญิงในการพยายามค้นหาความจริงให้ได้ ความมุ่งมั่นของริสะจึงเอาชนะใจของนาโอมิ จนยอมช่วยเหลือด้วยการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนให้ริสะทราบ ในส่วนของการคลี่คลายคดี ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนจนเกินไป แต่เล่มนี้จะเน้นไปที่คดีที่น่าจะเป็นที่มาของชื่อตอน (ลางร้ายใต้หน้ากาก) ถึงสองคดีด้วยกันครับ ถ้าได้อ่านแล้วจะเข้าใจ และน่าจะเห็นตรงกันว่าภายใต้หน้ากากที่ภายนอกดูไม่ได้รู้เลยว่าจะกลายเป็นคนร้ายได้ สุดท้ายก็แอบซ่อนความบิดเบี้ยวของใจที่โดนกิเลสเข้าครอบงำได้อย่างน่ากลัว ตัวละครในเรื่อง สำหรับเล่มนี้ รู้สึกว่าริสะที่แม้จะมีบทบาทเพียงแค่ช่วงคดีสุดท้ายนั้น เป็นตัวละครที่เขียนมาได้น่าสนใจมาก โผล่มาทีไรก็ทำให้คนอ่านอย่างผมอดขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปต่อในเล่มอื่น ๆ ของชุดนี้หรือไม่ ส่วนนาโอมินั้นยังคงเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เช่นเดิม เทียบกับนิตตะแล้วส่วนตัวมีความรู้สึกชอบนาโอมิมากกว่า นอกจากนี้ยังชอบตอนจบของเรื่อง ที่มีการโยงถึงเหตุการณ์ที่เป็นต้นตอนำไปสู่ความอาฆาตแค้นของฆาตกรในคดีที่เกิดขึ้นในเล่มแรก สรุปว่าอ่านจบเล่มสองแล้วก็จะไปต่อเหตุการณ์ของเล่มแรกพอดี ใครเริ่มอ่านจากเล่มนี้ก่อน สามารถอ่านเล่มแรกต่อเนื่องได้เลย 📌คำเตือน : สำหรับคนที่ชอบการสืบคดีแบบเข้มข้น มีวิธีการฆ่าที่ค่อนข้างแปลกพิสดารหรือโหดสยอง และมีกลวิธีในการอำพรางซ่อนเร้นที่ไม่ธรรมดา ซีรีส์ชุดนี้อาจไม่ตอบโจทย์ แล้วเลยพาลจะไม่ชอบหรือหมดสนุกได้ง่าย แต่ถ้าชอบแนวได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพของตัวเอกควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการไขคดีที่ไม่โลดโผน ชุดนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณได้ไม่ยากครับ ป.ล. มีปกใหม่ออกมาที่คิดว่าทำได้ดีตรงกับแนวเรื่องและชื่อตอนมากกว่าปกฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกด้วย เพราะปกของเล่มสองนี้ดูเหมือนน่าจะโหดมาก แต่เนื้อในไม่ใช่อย่างที่คิด ใครอ่านตั้งแต่ต้นมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ได้ขอได้รับความขอบคุณจากผมด้วยครับ #thaitimes #หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #นิยายสืบสวน #สืบสวน #คดีฆาตกรรม #งานโรงแรม #พนักงานต้อนรับ #ตำรวจ #นักสืบ #ลูกค้า #งานบริการ #อาชีพ #ฮิงาชิโนะเคโงะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 934 มุมมอง 0 รีวิว
  • TIPCO ขาดทุนหนัก เลิกผลิตสัปปะรดกระป๋องตั้งแต่25 กันยายนนี้

    25 กันยายน 2567 -รายงานข่าวแบรนด์น้ำผลไม้ชื่อดัง TIPCO ประกาศหยุดผลิตสับปะรดกระป๋อง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก โดย พล.อ.อ.พงศธร บัวทรัพย์ ประธานกรรมการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567

    โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้หยุดการดำเนินงานในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสับปะรดกระป๋องของ บริษัท ทิปโก้ ไพน์แอปเปิ้ล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแห่งหนึ่งของบริษัท นับตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 มีสาเหตุหลักเนื่องจากผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง และสภาวะความผันผวนของปริมาณและราคาของวัตถุดิบสำคัญคือผลสับปะรดสด มาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทของบริษัทย่อย ยังไม่ได้มีมติเลิกบริษัท ชำระบัญชีแต่อย่างใด บริษัทย่อยกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาแผนการจัดการสื่อสาร และแจ้งให้คู่ค้า เจ้าหนี้ ลูกจ้าง พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ ให้ทราบถึงเรื่องดังกล่าว และดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้เป็นธรรมและสอดคล้องกับกฎหมาย

    อนึ่ง การหยุดการดำเนินงานในธุรกิจดังกล่าวเป็นการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจภายในของบริษัท ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทที่ดำเนินการอยู่ โดยธุรกิจนี้คิดเป็นประมาณ 22% ของรายได้รวม หากมีความคืบหน้าจากการดำเนินการดังกล่าวบริษัทจะทำการแจ้งให้ทราบต่อไป

    #Thaitimes
    TIPCO ขาดทุนหนัก เลิกผลิตสัปปะรดกระป๋องตั้งแต่25 กันยายนนี้ 25 กันยายน 2567 -รายงานข่าวแบรนด์น้ำผลไม้ชื่อดัง TIPCO ประกาศหยุดผลิตสับปะรดกระป๋อง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก โดย พล.อ.อ.พงศธร บัวทรัพย์ ประธานกรรมการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้หยุดการดำเนินงานในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสับปะรดกระป๋องของ บริษัท ทิปโก้ ไพน์แอปเปิ้ล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแห่งหนึ่งของบริษัท นับตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 มีสาเหตุหลักเนื่องจากผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง และสภาวะความผันผวนของปริมาณและราคาของวัตถุดิบสำคัญคือผลสับปะรดสด มาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทของบริษัทย่อย ยังไม่ได้มีมติเลิกบริษัท ชำระบัญชีแต่อย่างใด บริษัทย่อยกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาแผนการจัดการสื่อสาร และแจ้งให้คู่ค้า เจ้าหนี้ ลูกจ้าง พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ ให้ทราบถึงเรื่องดังกล่าว และดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวให้เป็นธรรมและสอดคล้องกับกฎหมาย อนึ่ง การหยุดการดำเนินงานในธุรกิจดังกล่าวเป็นการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจภายในของบริษัท ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทที่ดำเนินการอยู่ โดยธุรกิจนี้คิดเป็นประมาณ 22% ของรายได้รวม หากมีความคืบหน้าจากการดำเนินการดังกล่าวบริษัทจะทำการแจ้งให้ทราบต่อไป #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 764 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺 ⚔️ 🇺🇦 จุดจบใกล้เข้ามาแล้วหรือไม่?
    • นี่คือสิ่งที่กองทัพรัสเซียประสบความสำเร็จในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา😁
    • กองทัพมอสโกกำลังสร้างผลกำไรใน 3 แนวรบสำคัญ ขณะที่เคียฟพยายามหาทางตอบโต้อย่างสิ้นหวัง😆
    .
    #แนวรบความขัดแย้ง ในยูเครนได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม เมื่อพิจารณาจากเวลา 7 สัปดาห์ที่ผ่านไป ตอนนี้สามารถสรุปผลเบื้องต้นได้บางส่วน ในพื้นที่สำคัญของแนวรบตั้งแต่เหนือจรดใต้
    .
    🔺🔺 แนวรบเคิร์สก์
    เมื่อ 6 ส.ค. กองทัพยูเครนได้เปิดฉากบุกโจมตีแคว้นเคิร์สก์ เมื่อมองเผินๆ ก็ดูเหมือนการโจมตีข้ามพรมแดนอีกครั้ง ซึ่งคล้ายกับหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าก็เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติการนี้มีความสำคัญมากกว่า

    ◉ ในครั้งนี้ AFU ได้รุกคืบ และตั้งเป้าที่จะทำซ้ำความสำเร็จที่เคยทำในแคว้นคาร์คิฟ ในฤดูใบไม้ร่วงปี 65 อย่างชัดเจน
    #กลยุทธ์ คือการฝ่าแนวรบที่ค่อนข้างอ่อนแอ (เมื่อเทียบกับดอนบาสและซาปอริซเซีย) ยึดพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว และบังคับให้กองทัพรัสเซียล่าถอยโดยไม่สู้รบ

    ◉ แม้ว่าในช่วงแรกจะมีกำลังพลเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีก็หยุดชะงักในไม่ช้า **ความสำเร็จสูงสุดของกองทัพยูเครนคือการยึดเมืองต.ซูดจา Sudzha** ซึ่งมีประชากรประมาณ 5,000 คน กองทัพยูเครนยังยึดครองพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่แต่มีประชากรเบาบางประมาณ 1,200 - 1,300 ตร.กม.ได้
    • โดยพื้นฐานแล้ว ประโยชน์เดียวที่เคียฟได้รับจากปฏิบัติการนี้คือการขยายแนวหน้าออกไปอีกประมาณ 130 กม.

    ◉ ตลอดเดือน ก.ย. AFU พยายามขยายพื้นที่ควบคุมไปทางตะวันตกสู่ อ.กลุชคอฟสกี้ ซึ่งสามารถตั้งแนวป้องกันที่แข็งแกร่งริมแม่น้ำ Seim ได้
    • กองทัพรัสเซีย ได้เข้าขัดขวางและเปิดฉากโจมตีตอบโต้ ซึ่งไม่อนุญาตให้กองกำลังยูเครนขนอุปกรณ์ทางทหารหนักเข้ามา หรือสร้างโครงสร้างป้องกัน
    .
    ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺
    ◙ วันที่ 10 กันยายน ได้ยินข่าวการโต้กลับของรัสเซียเป็นครั้งแรก โดยอาศัยจุดอ่อนในกองทัพยูเครน .... กองทัพมอสโกว์ได้รุกคืบอย่างรวดเร็วและตัดฐานที่มั่นบางแห่งของยูเครนออกจากเส้นทางส่งกำลังบำรุงได้สำเร็จ
    • ในเวลา 2 วัน กองทัพรัสเซียสามารถปลดปล่อยหมู่บ้าน 10 แห่งและรุกคืบได้ 15 กิโลเมตร ตามแนวรบยาว 25 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าคืบหน้าไปมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานของความขัดแย้งนี้
    • ในวันต่อมา กองกำลังรัสเซียยังคงรุกคืบไปทางตะวันออก มุ่งหน้าสู่ ม.ลิวบิมอฟกา และทางหลวง Sudzha-Korenevo

    📍 อันที่จริงการปฏิบัติการนี้ค่อนข้างผิดปกติในบริบทของการสงครามตามตำแหน่ง .... เนื่องจากปฏิบัติการนี้ได้ใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การข้ามแม่น้ำอย่างลับๆ เพื่อรวบรวมกำลังพล, การโจมตีด้วยขบวนยานเกราะแบบดั้งเดิม และหน่วยพลร่มในเมืองต่างๆ ที่ถูกศัตรูยึดครอง

    ◙ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน กองทัพ AFU ได้เปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนหลายครั้งเพื่อเข้าใกล้แนวหลังของกองทัพรัสเซียที่กำลังรุกคืบ แม้ว่าสถานการณ์จะไม่แน่นอน แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
    .
    🔺🔺 พื้นที่โปโครฟส์
    การรุกคืบของรัสเซียอย่างช้าๆ ในทิศทางโปครอฟส์ เริ่มขึ้นในฤดูหนาวปี 2566 โดยเป็นการสานต่อปฏิบัติการอัฟดิฟกา

    ◉ แกนหลักของการรุกคืบครั้งนี้คือเส้นทางรถไฟสายหลัก ช่วงเวลาสำคัญมาถึงในเดือน เม.ษ. 67 เมื่อยึดหมู่บ้านเล็กๆ โอเชเรติโนได้ หลังจากความก้าวหน้าครั้งนี้ กองทัพรัสเซียก็เดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
    .
    📍 #เรื่องน่าสนใจ : ตั้งแต่เม.ษ. ถึง ก.ย. กองทัพรัสเซียได้รุกคืบไป 25 กม. ในแนวรบที่มีความยาวเท่ากัน (เปรียบเทียบกับแนวรบเคิร์สก์)

    ◉ เมื่อเริ่มปฏิบัติการเคิร์สก์ของยูเครน ความก้าวหน้าของกองทัพรัสเซียในแนวรบโปครอฟส์ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    • กองทัพภาค "กลาง" ของรัสเซีย ซึ่งปฏิบัติการในพื้นที่นี้ กำลังได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดในขณะนี้ นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกโจมตีเมื่อ ก.พ. 65
    • การโจมตีจะเริ่มต้นด้วยการยิงปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศโดยใช้ระเบิดนำวิถี ก่อนที่หน่วยจู่โจมจะรุกคืบโดยส่วนใหญ่ด้วยการเดินเท้าเพื่อแทรกซึมเข้าไปในป้อมปราการของยูเครน

    ◉ การป้องกันของยูเครนที่อ่อนแอลงได้ “แตกร้าว” ในบางพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ในช่วงปลายเดือน ส.ค. กองทัพรัสเซียสามารถยึดเมือง ต.โนโวโรดิฟกา (ประชากรก่อนเกิดสงคราม 15,000 คน) ได้เกือบจะโดยไม่ต้องสู้รบ
    • ในขณะที่ในสถานการณ์อื่นๆ เมืองนี้สามารถทำหน้าที่เป็นฐานที่มั่นในการป้องกันได้นานหลายเดือน
    .
    ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺
    ◙ หลังจากภัยพิบัติที่ Novohrodivka กองกำลังยูเครนได้ถูกส่งไปประจำการใหม่ในทิศทางโปครอฟส์ ซึ่งทำให้การรุกคืบของรัสเซียช้าลง แม้ว่าจะยังคงเร็วเกินกว่าที่เห็นในช่วงเดือนมิ.ย.และก.ค.ก็ตาม

    ◙ ปัจจุบันการสู้รบกำลังเกิดขึ้นในเขตชานเมืองของเขตเมือง อ.โปครอฟส์ - ต.เซลิโดฟ Selydove ซึ่งมีประชากรประมาณ 200,000 คน
    • นี่คือเขตเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ใน Donbass รองจาก อ.ครามาทอร์ส Kramatorsk - ต.สโลเวียนส์ Sloviansk ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของ AFU
    • เมื่อค่ำวันที่ 17 ก.ย. มีรายงานว่าเมือง Ukrainsk (ปชก. 10,000 คน) ถูก RF ยึดครอง

    ◙ เป้าหมายในทันทีของรัสเซียคือการยึดเมืองเซลิโดฟ ซึ่งต่างจากเมืองฮโรดิฟกา Hrodivka หรือ Grodivka ที่ไม่สามารถยึดได้ในทันที
    • กองทัพรัสเซียกำลังพยายามปิดล้อมเซลิโดฟ โดยเข้าใกล้ผ่านเมืองกอร์เนียก Gorniak ในขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนกำลังดำเนินการโจมตีตอบโต้ตลอดแนวรบ แต่จนถึงขณะนี้ยังประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย
    .
    📌📌 โดยทั่วไป หากกองกำลังรัสเซียยึดโปครอฟส์ได้ก่อนฤดูหนาว นั่นจะถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ และเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความท้าทายครั้งใหญ่ที่กองทัพยูเครนต้องเผชิญ
    .
    🔺🔺 มารินก้า Marinka อ.โปครอฟส์ และ วูห์เลดาร์ Vuhledar อ.โวลโนวาคา
    ความสำเร็จล่าสุดในพื้นที่โปครอฟส์ ที่อยู่ใกล้เคียงได้"เขย่า"แนวรบที่นี่ด้วยเช่นกัน ในเวลาเพียง 1 เดือน หน่วยทหารของรัสเซียได้ก้าวหน้ามากกว่าในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา

    ◉ ทางตอนใต้ บริเวณจุดตัดระหว่างแนวรบโดเนตส์และซาปอริซเซีย คือเมืองเหมืองแร่วูห์เลดาร์ ซึ่งเคยเป็นที่อาศัยของผู้คนราว 15,000 คนก่อนเกิดสงคราม
    • เมืองนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง และเป็นฐานที่มั่นที่ยากจะเข้าถึงได้ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2565 และรอดพ้นจากความพยายามโจมตีหลายครั้ง
    • อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กองบัญชาการยูเครนถอนกองพลที่พร้อมรบที่สุดออกจากพื้นที่นี้ สถานการณ์ในส่วนนี้ของแนวรบก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

    #ข้อมูลที่น่าสนใจ : ฐานที่มั่นสำคัญรอบๆ Vuhledar ตั้งอยู่ในโครงเหล็กของเหมืองถ่านหิน โครงสร้างคอนกรีตขนาดใหญ่เหล่านี้มีความสูงกว่า 100 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ทุ่งหญ้าโดยรอบ ให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม
    .
    ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺
    ◙ พื้นที่ขนาดใหญ่ระหว่างเมือง ต.ครัสโนโฮริฟกา Krasnohorivka และแนวสันดอน Pokrovsk กำลังจะถูก RF ยึดครอง
    • รายงานระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว AFU ได้ถอนทัพออกจากฐานที่มั่นในพื้นที่นี้โดยไม่สู้รบ เนื่องจากอาจเกิดการปิดล้อมโจมตี

    ◙ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา RF ได้ปิดล้อมเมืองวูห์เลดาร์บางส่วน และยึดครองหมู่บ้านหลายแห่งทางเหนือ และตะวันตกของเมือง
    • หาก RF ตัดเส้นทางไปยัง ม.โบไฮอาฟเลนกา Bohoyavlenka เมืองวูห์เลดาร์ก็จะถูกปิดล้อม

    Noraseth Tuntasiri
    🇷🇺 ⚔️ 🇺🇦 จุดจบใกล้เข้ามาแล้วหรือไม่? • นี่คือสิ่งที่กองทัพรัสเซียประสบความสำเร็จในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา😁 • กองทัพมอสโกกำลังสร้างผลกำไรใน 3 แนวรบสำคัญ ขณะที่เคียฟพยายามหาทางตอบโต้อย่างสิ้นหวัง😆 . #แนวรบความขัดแย้ง ในยูเครนได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม เมื่อพิจารณาจากเวลา 7 สัปดาห์ที่ผ่านไป ตอนนี้สามารถสรุปผลเบื้องต้นได้บางส่วน ในพื้นที่สำคัญของแนวรบตั้งแต่เหนือจรดใต้ . 🔺🔺 แนวรบเคิร์สก์ เมื่อ 6 ส.ค. กองทัพยูเครนได้เปิดฉากบุกโจมตีแคว้นเคิร์สก์ เมื่อมองเผินๆ ก็ดูเหมือนการโจมตีข้ามพรมแดนอีกครั้ง ซึ่งคล้ายกับหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าก็เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติการนี้มีความสำคัญมากกว่า ◉ ในครั้งนี้ AFU ได้รุกคืบ และตั้งเป้าที่จะทำซ้ำความสำเร็จที่เคยทำในแคว้นคาร์คิฟ ในฤดูใบไม้ร่วงปี 65 อย่างชัดเจน • #กลยุทธ์ คือการฝ่าแนวรบที่ค่อนข้างอ่อนแอ (เมื่อเทียบกับดอนบาสและซาปอริซเซีย) ยึดพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว และบังคับให้กองทัพรัสเซียล่าถอยโดยไม่สู้รบ ◉ แม้ว่าในช่วงแรกจะมีกำลังพลเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีก็หยุดชะงักในไม่ช้า **ความสำเร็จสูงสุดของกองทัพยูเครนคือการยึดเมืองต.ซูดจา Sudzha** ซึ่งมีประชากรประมาณ 5,000 คน กองทัพยูเครนยังยึดครองพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่แต่มีประชากรเบาบางประมาณ 1,200 - 1,300 ตร.กม.ได้ • โดยพื้นฐานแล้ว ประโยชน์เดียวที่เคียฟได้รับจากปฏิบัติการนี้คือการขยายแนวหน้าออกไปอีกประมาณ 130 กม. ◉ ตลอดเดือน ก.ย. AFU พยายามขยายพื้นที่ควบคุมไปทางตะวันตกสู่ อ.กลุชคอฟสกี้ ซึ่งสามารถตั้งแนวป้องกันที่แข็งแกร่งริมแม่น้ำ Seim ได้ • กองทัพรัสเซีย ได้เข้าขัดขวางและเปิดฉากโจมตีตอบโต้ ซึ่งไม่อนุญาตให้กองกำลังยูเครนขนอุปกรณ์ทางทหารหนักเข้ามา หรือสร้างโครงสร้างป้องกัน . ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺ ◙ วันที่ 10 กันยายน ได้ยินข่าวการโต้กลับของรัสเซียเป็นครั้งแรก โดยอาศัยจุดอ่อนในกองทัพยูเครน .... กองทัพมอสโกว์ได้รุกคืบอย่างรวดเร็วและตัดฐานที่มั่นบางแห่งของยูเครนออกจากเส้นทางส่งกำลังบำรุงได้สำเร็จ • ในเวลา 2 วัน กองทัพรัสเซียสามารถปลดปล่อยหมู่บ้าน 10 แห่งและรุกคืบได้ 15 กิโลเมตร ตามแนวรบยาว 25 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าคืบหน้าไปมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานของความขัดแย้งนี้ • ในวันต่อมา กองกำลังรัสเซียยังคงรุกคืบไปทางตะวันออก มุ่งหน้าสู่ ม.ลิวบิมอฟกา และทางหลวง Sudzha-Korenevo 📍 อันที่จริงการปฏิบัติการนี้ค่อนข้างผิดปกติในบริบทของการสงครามตามตำแหน่ง .... เนื่องจากปฏิบัติการนี้ได้ใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การข้ามแม่น้ำอย่างลับๆ เพื่อรวบรวมกำลังพล, การโจมตีด้วยขบวนยานเกราะแบบดั้งเดิม และหน่วยพลร่มในเมืองต่างๆ ที่ถูกศัตรูยึดครอง ◙ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน กองทัพ AFU ได้เปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนหลายครั้งเพื่อเข้าใกล้แนวหลังของกองทัพรัสเซียที่กำลังรุกคืบ แม้ว่าสถานการณ์จะไม่แน่นอน แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ . 🔺🔺 พื้นที่โปโครฟส์ การรุกคืบของรัสเซียอย่างช้าๆ ในทิศทางโปครอฟส์ เริ่มขึ้นในฤดูหนาวปี 2566 โดยเป็นการสานต่อปฏิบัติการอัฟดิฟกา ◉ แกนหลักของการรุกคืบครั้งนี้คือเส้นทางรถไฟสายหลัก ช่วงเวลาสำคัญมาถึงในเดือน เม.ษ. 67 เมื่อยึดหมู่บ้านเล็กๆ โอเชเรติโนได้ หลังจากความก้าวหน้าครั้งนี้ กองทัพรัสเซียก็เดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง . 📍 #เรื่องน่าสนใจ : ตั้งแต่เม.ษ. ถึง ก.ย. กองทัพรัสเซียได้รุกคืบไป 25 กม. ในแนวรบที่มีความยาวเท่ากัน (เปรียบเทียบกับแนวรบเคิร์สก์) ◉ เมื่อเริ่มปฏิบัติการเคิร์สก์ของยูเครน ความก้าวหน้าของกองทัพรัสเซียในแนวรบโปครอฟส์ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด • กองทัพภาค "กลาง" ของรัสเซีย ซึ่งปฏิบัติการในพื้นที่นี้ กำลังได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดในขณะนี้ นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกโจมตีเมื่อ ก.พ. 65 • การโจมตีจะเริ่มต้นด้วยการยิงปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศโดยใช้ระเบิดนำวิถี ก่อนที่หน่วยจู่โจมจะรุกคืบโดยส่วนใหญ่ด้วยการเดินเท้าเพื่อแทรกซึมเข้าไปในป้อมปราการของยูเครน ◉ การป้องกันของยูเครนที่อ่อนแอลงได้ “แตกร้าว” ในบางพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ในช่วงปลายเดือน ส.ค. กองทัพรัสเซียสามารถยึดเมือง ต.โนโวโรดิฟกา (ประชากรก่อนเกิดสงคราม 15,000 คน) ได้เกือบจะโดยไม่ต้องสู้รบ • ในขณะที่ในสถานการณ์อื่นๆ เมืองนี้สามารถทำหน้าที่เป็นฐานที่มั่นในการป้องกันได้นานหลายเดือน . ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺ ◙ หลังจากภัยพิบัติที่ Novohrodivka กองกำลังยูเครนได้ถูกส่งไปประจำการใหม่ในทิศทางโปครอฟส์ ซึ่งทำให้การรุกคืบของรัสเซียช้าลง แม้ว่าจะยังคงเร็วเกินกว่าที่เห็นในช่วงเดือนมิ.ย.และก.ค.ก็ตาม ◙ ปัจจุบันการสู้รบกำลังเกิดขึ้นในเขตชานเมืองของเขตเมือง อ.โปครอฟส์ - ต.เซลิโดฟ Selydove ซึ่งมีประชากรประมาณ 200,000 คน • นี่คือเขตเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ใน Donbass รองจาก อ.ครามาทอร์ส Kramatorsk - ต.สโลเวียนส์ Sloviansk ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของ AFU • เมื่อค่ำวันที่ 17 ก.ย. มีรายงานว่าเมือง Ukrainsk (ปชก. 10,000 คน) ถูก RF ยึดครอง ◙ เป้าหมายในทันทีของรัสเซียคือการยึดเมืองเซลิโดฟ ซึ่งต่างจากเมืองฮโรดิฟกา Hrodivka หรือ Grodivka ที่ไม่สามารถยึดได้ในทันที • กองทัพรัสเซียกำลังพยายามปิดล้อมเซลิโดฟ โดยเข้าใกล้ผ่านเมืองกอร์เนียก Gorniak ในขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนกำลังดำเนินการโจมตีตอบโต้ตลอดแนวรบ แต่จนถึงขณะนี้ยังประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย . 📌📌 โดยทั่วไป หากกองกำลังรัสเซียยึดโปครอฟส์ได้ก่อนฤดูหนาว นั่นจะถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ และเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความท้าทายครั้งใหญ่ที่กองทัพยูเครนต้องเผชิญ . 🔺🔺 มารินก้า Marinka อ.โปครอฟส์ และ วูห์เลดาร์ Vuhledar อ.โวลโนวาคา ความสำเร็จล่าสุดในพื้นที่โปครอฟส์ ที่อยู่ใกล้เคียงได้"เขย่า"แนวรบที่นี่ด้วยเช่นกัน ในเวลาเพียง 1 เดือน หน่วยทหารของรัสเซียได้ก้าวหน้ามากกว่าในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ◉ ทางตอนใต้ บริเวณจุดตัดระหว่างแนวรบโดเนตส์และซาปอริซเซีย คือเมืองเหมืองแร่วูห์เลดาร์ ซึ่งเคยเป็นที่อาศัยของผู้คนราว 15,000 คนก่อนเกิดสงคราม • เมืองนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง และเป็นฐานที่มั่นที่ยากจะเข้าถึงได้ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2565 และรอดพ้นจากความพยายามโจมตีหลายครั้ง • อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กองบัญชาการยูเครนถอนกองพลที่พร้อมรบที่สุดออกจากพื้นที่นี้ สถานการณ์ในส่วนนี้ของแนวรบก็เปลี่ยนไปเช่นกัน #ข้อมูลที่น่าสนใจ : ฐานที่มั่นสำคัญรอบๆ Vuhledar ตั้งอยู่ในโครงเหล็กของเหมืองถ่านหิน โครงสร้างคอนกรีตขนาดใหญ่เหล่านี้มีความสูงกว่า 100 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ทุ่งหญ้าโดยรอบ ให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม . ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺ ◙ พื้นที่ขนาดใหญ่ระหว่างเมือง ต.ครัสโนโฮริฟกา Krasnohorivka และแนวสันดอน Pokrovsk กำลังจะถูก RF ยึดครอง • รายงานระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว AFU ได้ถอนทัพออกจากฐานที่มั่นในพื้นที่นี้โดยไม่สู้รบ เนื่องจากอาจเกิดการปิดล้อมโจมตี ◙ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา RF ได้ปิดล้อมเมืองวูห์เลดาร์บางส่วน และยึดครองหมู่บ้านหลายแห่งทางเหนือ และตะวันตกของเมือง • หาก RF ตัดเส้นทางไปยัง ม.โบไฮอาฟเลนกา Bohoyavlenka เมืองวูห์เลดาร์ก็จะถูกปิดล้อม Noraseth Tuntasiri
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความคืบหน้าคดี 112 ของอีไอซ์ ล่าสุด เรื่องถึงมือศาลอุทธรณ์แล้ว เมื่อวันพุธที่ 18 กันยายน เตรียมโดดเชือดเร็วๆ นี้
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ความคืบหน้าคดี 112 ของอีไอซ์ ล่าสุด เรื่องถึงมือศาลอุทธรณ์แล้ว เมื่อวันพุธที่ 18 กันยายน เตรียมโดดเชือดเร็วๆ นี้ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1585 มุมมอง 0 รีวิว
  • ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาคอยหน้าวิก……แต่งองค์ทรงเครื่องพี่ปูเสร็จแล้วค่าาาา…………เชิด…!!!!!!

    ตอนแปด…………มารไม่มี……บารมีไม่เกิด……!!!

    ท่านนายกฯหนุ่ม Kiriyenko ได้พาปูตินไปที่ สำนักงานใหญ่ FSB ที่ตั้งอยู่บนถนน Lubyanka, Moscow ในวันที่ 27 กรกฎาคม 1998 เพื่อไปทำความรู้จักกับ
    Nikolai Kovalyov ผู้อำนวยการคนเก่าที่เพิ่งรู้ตัวว่าถูกปลดออกจากตำแหน่งก็เพราะทีวีออกข่าว ท่านนายกฯได้กล่าวสั้นๆว่า “เปลี่ยนสถานะการณ์……ก็ต้องเปลี่ยนคน……”
    นิโคไล……รับสภาพการเปลี่ยนนั้นได้ดี เขาพาปูตินไปที่ห้องทำงานและได้มอบเอกสารลับทั้งหมดให้ และย้ำว่า เอกสารพวกนี้เป็นยิ่งกว่าอาวุธ……

    การปรับตำแหน่งใหม่แบบก้าวกระโดดนี้ เป็นเรื่องใหญ่มาก
    ทุกคนพุ่งความสนใจไปยัง วลาดิเมียร์ ปูติน ……ใครๆก็อยากรู้ว่า เขาเป็นใคร……มาได้อย่างไร?
    สองวันต่อมา ปูตินจึงได้อนุญาตให้หนังสือพิมพ์ Kommersant เข้ามาทำการสัมภาษณ์ เพื่อที่จะบอกวัตถุประสงค์หลักในการทำงาน
    เขาให้การสัมภาษณ์ว่า……เขามุ่งไปที่การทำงานที่มีประสิทธิภาพที่เขาหวังว่าจะได้รับจากผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน และองค์กรนี้จะไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง หรือ พวกสุดโต่งทุกสายพันธุ์ และจะระวังเข้มในเรื่องการแทรกแซงของสายลับต่างชาติ
    เมื่อถูกถามเรื่องใช้อินเตอร์เน็ต (สอดแนมประชาชน)
    คำตอบคือ ไม่ถึงขนาดนั้น……แต่ต้องเข้าใจด้วยว่า การใช้อินเทอร์เน็ตมันก็คือความมั่นคงของชาติอีกโสดหนึ่ง……

    การมาของปูตินได้สร้างความหวั่นไหวไปทั้งองค์กร โดยเฉพาะพวกกลุ่มสายลับเก่าสมัยยุค KGB โอนมาเป็น FSB ที่มองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เพราะมาจากถิ่นอื่น (เลนินกราด) ยังอายุน้อย และเป็นแค่ “พันโท”
    (โดยปรกติต้องเป็นนายพล) สุดท้าย คือ สถานภาพของปูตินในยามนั้น
    เขาคือนายทหารนอกประจำการ

    ทั้งหมดนี้……ทำให้เกิดความท้าทายและลองดี รวมทั้งคอยดูว่าจะไปรอดหรือไม่……!!!

    วันที่ 1 สิงหาคม หลังจากที่เยลซินกลับมาจากการพักร้อน เขาเรียกให้ปูตินเข้าพบเพื่อถามไถ่ความคืบหน้า และได้เสนอหลักการว่า ควรจะต้องทำงานอย่างตรงไปตรงมา อย่าใช้ระบบการเมืองในการปกครอง
    เยลซินอยากให้ปูตินกลับเข้าไปรับราชการใหม่ โดยเสนอยศพลตรีให้……
    แต่ปูตินปฏิเสธ เพราะเขาคิดถึงอดีตในวันที่เขาลาออก เป็นวันเดียวกับวันนี้ คือ 1 สิงหาคม (1991) มันไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องแบกยศเอาไว้
    เขาจึงบอกว่า
    “ผมอยากเป็นประชาชนธรรมดาดีกว่า ไม่ต้องมีพรรคมีพวก ไม่ต้องเห็นแก่หน้าใคร ในการที่จะควบคุมองค์กรขนาดนี้ หัวโขนไม่ใช่สิ่งจำเป็น”
    สรุปว่า……ปูตินคือผู้อำนายการคนแรกและคนสุดท้ายของ FSB ที่เป็นคนธรรมดา……!!!

    งานแรก……เขาจัดห้องที่ทำงานในห้องอื่นที่ไม่ใช่ห้องเดิมตามตำแหน่ง
    แต่เขาได้จัดห้องนั้นให้เป็นพิพิธภัณฑ์ เพราะมันเป็นห้องที่เคยเป็นที่ทำงานของ Lavrenty Beria (จอมเชือดในยุคสตาลิน)
    ต่อมา คือ การตัดงบ จาก สายลับหกพันนาย เหลือ สี่พันนาย
    แผนกไหน……ไม่มีผลงาน ยุบ……

    วันที่ 20 สิงหาคม เขาได้ทำงานยังไม่ถึงเดือน นักข่าวจากเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก นาย Anatoly Levin ผันตัวมาเป็นบรรณาธิการและเจ้าของได้เปิดตัวหนังสือพิมพ์ใหม่ ในชื่อว่า Legal Petersburg Today
    ตัวนายเลวินเอง……ไม่มีเงินทองอะไรที่จะมาเป็นทุนรอน แต่เขามีผู้สนับสนุนรายใหญ่ คือ Boris Berezovsky ที่เป็นมหาเศรษฐีที่คอยจับจ้องเกาะติดผู้มีอำนาจเพื่อผลประโยชน์ เขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะใช้เป็นอาวุธ (ทั้ง soft และ direct power)
    เขาใช้เลวิน เพื่อที่จะเป็นกระบอกเสียงในการดิสเครดิตทุกคนที่ขวางเส้นทางเขา หรือ เพื่อที่จะใช้ให้มาสยบในอำนาจของเขา

    เลวินเล่นข่าวใหญ่ประเดิมทันที พาดหัวว่า “ วลาดิเมียร์ ปูติน คนเหนือกฏหมาย สู่ FSB” ในเนื้อข่าว คือการโจมตีที่ อนาโตลีที่ได้หลบหนีออกไปนอกประเทศได้ เพราะการช่วยเหลือของ ปูติน ที่ปัจจุบันได้ดิบได้ดีมาเป็นผู้อำนวยการ FSB
    หลังจากนั้นก็มีข่าวออกมาว่า มีลูกน้องของปูตินได้เข้าไปพบปะเจรจากับบก.ฝ่ายข่าว ซึ่งได้บอกไปว่า เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาของคนหนังสือพิมพ์ ไม่กี่วัน คนก็ลืม…!!

    แต่เผอิญว่า.……มันไม่เงียบ เพราะ ค่ำวันหนึ่ง เลวินกลับไปที่อพาร์ตเมนต์
    เขาแวะไปเปิดตู้จดหมาย ทันใดนั้น มีชายสองคนพุ่งตัวมาจากทางด้านหลัง กระหน่ำตีเขาด้วยท่อนเหล็ก และปล่อยให้นอนจมกองเลือดอยู่ที่หน้าอพาร์ตเมนต์……
    เขาถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล และเสียชีวิตในสองวันต่อมา

    เหตุอุบัติแบบนี้……ในเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก มีเกิดขึ้นรายวัน เพราะเป็นดงมาเฟีย แต่เรื่องมันไม่เงียบ……เพราะเลวินเป็นนักข่าว สมาคมนักข่าวจึงถือเป็นเรื่องใหญ่ในการคุกคามเสรีภาพสื่อ
    ชื่อของ ปูติน และ บอริส เกี่ยวกับเรื่องฆาตกรรมนี้บนหน้าหนึ่งอยู่หลายวัน
    (นี่เป็นแค่ปฐมฤกษ์………จะมีตามอีกเรื่อยๆ…)
    เพียงแต่……ไม่มีใครสามารถหาเส้นสายที่จะโยงไปถึงปูตินว่ามีส่วนเกี่ยวข้องได้

    สามวันหลังจากที่เลวินได้จากโลกนี้ไป สภาพเศรษฐกิจของรัสเซียล้มครืนลงจริงๆ หลังจากที่จวนเจียนไหวคลอนมาเรื่อยๆ จนสุดที่จะยื้อ
    ในวันที่ 21 สิงหาคม สภามีมติขอให้เยลซินลาออก…
    แต่เยลซิน…ยังวางเฉย เขาปลดนายกฯหนุ่ม คิริเยงโก ออกจากตำแหน่งในสองวันต่อมา หวังที่จะทอนกระแส..
    แล้วเยลซินคิดที่จะเอาอดีตนายกรัฐมนตรี Viktor Chernomydrin มาเป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพ
    แต่ข่าวว่าจะมีการปฏิวัตเริ่มหนาหู ฝ่ายโปรคอมมิวนิสต์ที่ช่วยกันกระจาย สร้างข่าวลวงรายวันและใช้โอกาสนี้ กล่าวโทษยิว พร้อมส่งคำอาฆาต
    มีข่าวว่าฝ่ายความมั่นคงทั้งหมดได้มีการเตรียมพร้อม ในการรับมือ
    ประชาชนเริ่มแตกตื่น หวาดกลัว

    วันที่ 1 กันยายน ปูติน พร้อมหน่วยFSB ที่ยืนเรียงรายอยู่เป็นฉากหลังประกาศออกทีวีว่า
    “ไม่มีการเตรียมพร้อมอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างปรกติ แต่ใครก็ตามที่ทำตัวเป็นพิษเป็นภัยกับความมั่นคงและฝ่าฝืนกฎหมาย ผมไม่รับรองในความปลอดภัย……”

    วันที่ 11 กันยายน สภามีมติที่จะให้นาย Yevgeny Primakov อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศมานั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
    พรีมาคอฟ คืออดีตนักข่าวที่ทำงานในตะวันออกกลางมานานถึงสิบสี่ปี และได้ทำงานให้กับ KGB ในสายต่างประเทศ ทั้งที่ตะวันออกกลางและอเมริกา หลังจากที่โซเวียตได้สลายตัวลงในปี 1991
    เขาได้มารับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ
    การที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เขาคิดที่จะรื้อฟื้นโครงสร้างยุทธการสามเหลี่ยม……คือ รัสเซีย จีน อินเดีย เพื่อที่จะถ่วงดุลย์อำนาจกับสหรัฐอเมริกา
    ทฤษฎีนี้……เขาได้เขียนไว้นานแล้ว ในชื่อว่า Primakov doctrine…!!
    แต่การที่จะทำงานได้สำเร็จ เขาจะต้องมีแรงสนับสนุนจาก FSB
    (เพราะนี่คือ……สงครามเย็น)
    หากแต่……เขายังไม่แน่ใจกับปูตินและทีมที่มาจาก เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก
    ว่าเขาจะพึ่งพาทำงานด้วยได้มากน้อยแค่ไหน……

    ส่วนปูติน……ต้องเจอกับศึกหนักอีกครั้ง ในวันที่ 17 พฤศจิกายน
    มีกลุ่มชายกลุ่มหนึ่ง จำนวนหกคน สี่คนใส่หน้ากากดำใส่แว่น ส่วนอีกสองคน เปิดหน้าตาชัดเจน คือ Aleksandr Litvitnenko และ Mikhaïl Trepashkin ทั้งหมดทั้งที่ปิดหน้าและไม่ปิด คือ เจ้าหน้าที่ในหน่วย FSB
    ที่ได้เปิดการจัดรายการพบปะนักข่าว……เพื่อที่จะแฉ ชี้ความผิดในองค์กร
    ที่ทำงานว่ามีการคอร์รัปชั่น มีขบวนการสร้างความแตกแยก มีการทำอาชญากรรม มีการเกี่ยวข้องกับกลุ่มมาเฟีย…
    แต่เรื่องนี้……ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปูตินโดยตรง เพราะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นก่อนที่เขามารับตำแหน่ง
    ที่เกี่ยวข้องเต็มๆ คือ อเล็กซานเดอร์ ได้เป็นตัวแทนที่นำเสนอว่า เขาได้พยายามหาทางเจรจากับปูตินแล้ว แต่ไม่สามารถพบได้
    ส่งเอกสารไปกี่ชุด……ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ไม่เคยสนใจ และไม่ช่วยแก้ไขปัญหา……

    สองอาทิตย์ต่อมา ปูตินได้เรียกอเล็กซานเดอร์ไปพบที่ห้องทำงาน
    ที่เขาไปพบพร้อมเอกสารปึกโต เข้าไปพบว่า ปูตินนั่งอยู่คนเดียวในห้องทำงาน ไม่มีผู้ช่วยอยู่ด้วยเหมือนเช่นเคย
    ปูตินลุกขึ้นมาจับมือทักทาย คุยด้วย ปรกติ
    แต่อเล็กซานเดอร์ไปเล่าให้ภรรยาฟังว่า………ผมเห็นแววตาเขาชัดเจนเลย ว่า เขาเกลียดผม……!!

    วันที่ 19 พฤศจิกายน ปูตินออกรายการในโทรทัศน์ เพื่อแถลงในการข้อพิสูจน์หาความเป็นจริงจากเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน
    ว่า ไม่พบหลักฐานที่สามารถบ่งบอกได้ชัดเจน ทุกอย่างเป็นเพียงปากคำ
    พล็อตเรื่องออกแนวนิยายเด็ก การกระทำก็เป็นเด็ก เพราะเรียกประชุมนักข่าว ใส่หน้ากาก แต่บอกชื่อเสียงเรียงนาม………(สาบานว่าเป็นสายลับ……)
    ที่ขำๆ คือ ตบท้าย…ปูตินเล่าว่า อดีตภรรยาของหนึ่งในสี่คนที่ใส่หน้ากาก หลังจากวันพบปะกับนักข่าวในวันนั้น โทรมาหาปูติน บอกว่า
    “ท่านคะ ช่วยทวงค่าเลี้ยงดูจากไอ้นั่นให้หน่อย ไม่ได้จ่ายมาหลายเดือนแล้ว……”
    ปูติน…เลยบอกว่า “ตรงนี้ต่างหาก……ที่ผิดกฎหมายเต็มๆ”

    เยลซินเรียกปูตินเข้าพบ……เพื่อถามถึงเรื่องนี้
    ปูตินเลยเปิดอกพูด…บอกว่า ถ้าคนในองค์กรจะทำความผิด มันก็เป็นอีหรอบเดียวกันกับกลุ่มคนในรัฐบาลเท่าที่เห็นอยู่ในวันนี้ แต่……สิ่งที่อเล็กซานเดอร์และพวกทำลงไป (ที่จัดแถลงข่าว) นั่นถือเป็นความผิดที่ร้ายแรงต่อสัตยาบันของหน่วยงาน เพราะ หน้าที่ของหน่วยงานคือต้องรักษาความลับขององค์กร ถ้ามีปัญหา……ก็ต้องแก้ไขในองค์กร
    ไม่ใช่ไปเที่ยวป่าวประกาศ……

    ปูตินรู้ตัวดีว่า จะหาคนรักหรือพวกพ้องคนยาก เพราะเขาได้วางระบบเข้ม ตั้งแต่เรื่องการลดเจ้าหน้าที่ การใส่ร้ายป้ายสี การขัดขาขัดแข้ง
    และที่ร้ายคือ……ข่าวจาก เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ที่ส่งมาว่า
    Galina Starovoitova นักเคลื่อนไหวสาวเพื่อสิทธิของชนกลุ่มน้อย ได้ถูกสังหารไปเมื่อไม่กี่วันนี้
    หล่อนมีส่วนเกี่ยวข้องกับปูติน ก็คือเรื่องที่ขานรับกับเลวินในกรณีที่กล่าวหาว่า ปูตินได้ทำผิดกฏหมายในเรื่องช่วยเหลืออนาโตลีให้หนีคดีออกไปยังฝรั่งเศส
    ที่พลอยทำให้ปูติน……อยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัยไปด้วย

    วันที่ 15 ธันวาคม ที่ปูตินได้พบกับเยลซินอีกครั้ง ที่จะหารือกันเรื่องของการฆาตกรรมนี้ ……และเรื่องกระแสการต่อต้านบอริส และเรื่องงานของปูตินที่หลายคนไม่พอใจเพราะต้องตกงาน……
    ปูตินจึงสรุปให้เยลซินฟังว่า……ข่าวลือทั้งหลายนั้น มาจากวงในของท่านทั้งหมด มันมาทุกรูปแบบ แบบโยนหินถามทางบ้าง หรือโยนลงบนหัวชาวบ้านบ้าง เพราะไม่มีใครรักษากฎระเบียบ การควบคุมก็หย่อนยาน
    และที่ออกข่าวลวงๆกันทุกวันนี้ ก็เพราะทุกคนกลัว กลัวที่จะต้องถูกตรวจสอบ และกระผมจะเรียนท่านให้ทราบตรงนี้เลย ว่า เมื่อไหร่ที่ท่านลงจากตำแหน่ง……ผมก็ขอลาออก…!!!

    แต่……ก่อนที่ท่านจะจากไป และก่อนที่ปูตินจะลาออก……ก็ต้องแสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์กันก่อน
    ในช่วงนั้นรัฐบาลของเยลซินกำลังโดนไล่บี้ในเรื่องทุจริต สินบน ที่ทีมอัยการนำโดย Yuri Skuratov เป็นหัวหน้าทีมในการสอบสวน เพราะเยลซินจะหมดวาระในปีรุ่งขึ้น คือ ปี 2000
    นั่นหมายถึงทุกคนจะต้องโดนคดีกันระนาวเพราะในช่วงที่เศรษฐกิจเสื่อมถอยนั้น รัฐบาลของเยลซินได้ทำทุกอย่างที่จะผันเงิน แม้แต่เงินของ IMF ก็ใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์
    รวมทั้งหน่วยงาน FSB ทั้งระบบด้วย
    ถึงแม้อาจจะไม่เกี่ยวกับปูตินเท่าไหร่ในฐานะที่มาทีหลัง
    แต่……เรื่องนี้เกี่ยวกับหน่วยงานภาษีของอิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์ และ คาริบเบียนด้วย……
    เดือนมกราคม 1999 วันหนึ่งก่อนที่ท่านอัยการยูริจะนำเอกสารทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการศาล
    คืนนั้น……สถานีโทรทัศน์แห่งชาติได้ออกรายการ “สามคนบนเตียง” ที่มีความยาวร่วมชั่วโมงสู่สายตาของประชาชน ที่มีทั้งหนุ่มสาว เด็กเล็ก คนชรา……
    เป็นกิจกรรมบนเตียงของชายหนึ่ง หญิงสอง แม้ว่าจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ (ขาว-ดำ) แต่พอเห็นได้ว่า ฝ่ายชายคือ ท่านอัยการยูริ
    และมีเสียงสนทนาด้วย……หนึ่งในสองสาว ถามว่า “คุณชื่ออะไร?”
    ฝ่ายชายตอบว่า…”ยูรา” (เป็นชื่อเล่นของ ยูริ)

    วันต่อมา เยลซินจึงเรียกยูริขึ้นพบ ถามถึงเรื่องกิจกรรมสามคนผัวเมีย……ผลคือ ท่านอัยการต้องเซ็นใบลาออกตรงนั้นเลย……
    เรื่องการที่จะเอาผิดเยลซินก็จบลงแค่นั้น…

    ทั้งหมดคือฝีมือของหน่วยงาน “Kompromat” ในสังกัดของ FSB ของปูตินที่มีหน้าที่ในการ blackmail โดยเฉพาะ…!!

    Wiwanda W. Vichit
    ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาคอยหน้าวิก……แต่งองค์ทรงเครื่องพี่ปูเสร็จแล้วค่าาาา…………เชิด…!!!!!! ตอนแปด…………มารไม่มี……บารมีไม่เกิด……!!! ท่านนายกฯหนุ่ม Kiriyenko ได้พาปูตินไปที่ สำนักงานใหญ่ FSB ที่ตั้งอยู่บนถนน Lubyanka, Moscow ในวันที่ 27 กรกฎาคม 1998 เพื่อไปทำความรู้จักกับ Nikolai Kovalyov ผู้อำนวยการคนเก่าที่เพิ่งรู้ตัวว่าถูกปลดออกจากตำแหน่งก็เพราะทีวีออกข่าว ท่านนายกฯได้กล่าวสั้นๆว่า “เปลี่ยนสถานะการณ์……ก็ต้องเปลี่ยนคน……” นิโคไล……รับสภาพการเปลี่ยนนั้นได้ดี เขาพาปูตินไปที่ห้องทำงานและได้มอบเอกสารลับทั้งหมดให้ และย้ำว่า เอกสารพวกนี้เป็นยิ่งกว่าอาวุธ…… การปรับตำแหน่งใหม่แบบก้าวกระโดดนี้ เป็นเรื่องใหญ่มาก ทุกคนพุ่งความสนใจไปยัง วลาดิเมียร์ ปูติน ……ใครๆก็อยากรู้ว่า เขาเป็นใคร……มาได้อย่างไร? สองวันต่อมา ปูตินจึงได้อนุญาตให้หนังสือพิมพ์ Kommersant เข้ามาทำการสัมภาษณ์ เพื่อที่จะบอกวัตถุประสงค์หลักในการทำงาน เขาให้การสัมภาษณ์ว่า……เขามุ่งไปที่การทำงานที่มีประสิทธิภาพที่เขาหวังว่าจะได้รับจากผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน และองค์กรนี้จะไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง หรือ พวกสุดโต่งทุกสายพันธุ์ และจะระวังเข้มในเรื่องการแทรกแซงของสายลับต่างชาติ เมื่อถูกถามเรื่องใช้อินเตอร์เน็ต (สอดแนมประชาชน) คำตอบคือ ไม่ถึงขนาดนั้น……แต่ต้องเข้าใจด้วยว่า การใช้อินเทอร์เน็ตมันก็คือความมั่นคงของชาติอีกโสดหนึ่ง…… การมาของปูตินได้สร้างความหวั่นไหวไปทั้งองค์กร โดยเฉพาะพวกกลุ่มสายลับเก่าสมัยยุค KGB โอนมาเป็น FSB ที่มองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เพราะมาจากถิ่นอื่น (เลนินกราด) ยังอายุน้อย และเป็นแค่ “พันโท” (โดยปรกติต้องเป็นนายพล) สุดท้าย คือ สถานภาพของปูตินในยามนั้น เขาคือนายทหารนอกประจำการ ทั้งหมดนี้……ทำให้เกิดความท้าทายและลองดี รวมทั้งคอยดูว่าจะไปรอดหรือไม่……!!! วันที่ 1 สิงหาคม หลังจากที่เยลซินกลับมาจากการพักร้อน เขาเรียกให้ปูตินเข้าพบเพื่อถามไถ่ความคืบหน้า และได้เสนอหลักการว่า ควรจะต้องทำงานอย่างตรงไปตรงมา อย่าใช้ระบบการเมืองในการปกครอง เยลซินอยากให้ปูตินกลับเข้าไปรับราชการใหม่ โดยเสนอยศพลตรีให้…… แต่ปูตินปฏิเสธ เพราะเขาคิดถึงอดีตในวันที่เขาลาออก เป็นวันเดียวกับวันนี้ คือ 1 สิงหาคม (1991) มันไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องแบกยศเอาไว้ เขาจึงบอกว่า “ผมอยากเป็นประชาชนธรรมดาดีกว่า ไม่ต้องมีพรรคมีพวก ไม่ต้องเห็นแก่หน้าใคร ในการที่จะควบคุมองค์กรขนาดนี้ หัวโขนไม่ใช่สิ่งจำเป็น” สรุปว่า……ปูตินคือผู้อำนายการคนแรกและคนสุดท้ายของ FSB ที่เป็นคนธรรมดา……!!! งานแรก……เขาจัดห้องที่ทำงานในห้องอื่นที่ไม่ใช่ห้องเดิมตามตำแหน่ง แต่เขาได้จัดห้องนั้นให้เป็นพิพิธภัณฑ์ เพราะมันเป็นห้องที่เคยเป็นที่ทำงานของ Lavrenty Beria (จอมเชือดในยุคสตาลิน) ต่อมา คือ การตัดงบ จาก สายลับหกพันนาย เหลือ สี่พันนาย แผนกไหน……ไม่มีผลงาน ยุบ…… วันที่ 20 สิงหาคม เขาได้ทำงานยังไม่ถึงเดือน นักข่าวจากเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก นาย Anatoly Levin ผันตัวมาเป็นบรรณาธิการและเจ้าของได้เปิดตัวหนังสือพิมพ์ใหม่ ในชื่อว่า Legal Petersburg Today ตัวนายเลวินเอง……ไม่มีเงินทองอะไรที่จะมาเป็นทุนรอน แต่เขามีผู้สนับสนุนรายใหญ่ คือ Boris Berezovsky ที่เป็นมหาเศรษฐีที่คอยจับจ้องเกาะติดผู้มีอำนาจเพื่อผลประโยชน์ เขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะใช้เป็นอาวุธ (ทั้ง soft และ direct power) เขาใช้เลวิน เพื่อที่จะเป็นกระบอกเสียงในการดิสเครดิตทุกคนที่ขวางเส้นทางเขา หรือ เพื่อที่จะใช้ให้มาสยบในอำนาจของเขา เลวินเล่นข่าวใหญ่ประเดิมทันที พาดหัวว่า “ วลาดิเมียร์ ปูติน คนเหนือกฏหมาย สู่ FSB” ในเนื้อข่าว คือการโจมตีที่ อนาโตลีที่ได้หลบหนีออกไปนอกประเทศได้ เพราะการช่วยเหลือของ ปูติน ที่ปัจจุบันได้ดิบได้ดีมาเป็นผู้อำนวยการ FSB หลังจากนั้นก็มีข่าวออกมาว่า มีลูกน้องของปูตินได้เข้าไปพบปะเจรจากับบก.ฝ่ายข่าว ซึ่งได้บอกไปว่า เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาของคนหนังสือพิมพ์ ไม่กี่วัน คนก็ลืม…!! แต่เผอิญว่า.……มันไม่เงียบ เพราะ ค่ำวันหนึ่ง เลวินกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ เขาแวะไปเปิดตู้จดหมาย ทันใดนั้น มีชายสองคนพุ่งตัวมาจากทางด้านหลัง กระหน่ำตีเขาด้วยท่อนเหล็ก และปล่อยให้นอนจมกองเลือดอยู่ที่หน้าอพาร์ตเมนต์…… เขาถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล และเสียชีวิตในสองวันต่อมา เหตุอุบัติแบบนี้……ในเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก มีเกิดขึ้นรายวัน เพราะเป็นดงมาเฟีย แต่เรื่องมันไม่เงียบ……เพราะเลวินเป็นนักข่าว สมาคมนักข่าวจึงถือเป็นเรื่องใหญ่ในการคุกคามเสรีภาพสื่อ ชื่อของ ปูติน และ บอริส เกี่ยวกับเรื่องฆาตกรรมนี้บนหน้าหนึ่งอยู่หลายวัน (นี่เป็นแค่ปฐมฤกษ์………จะมีตามอีกเรื่อยๆ…) เพียงแต่……ไม่มีใครสามารถหาเส้นสายที่จะโยงไปถึงปูตินว่ามีส่วนเกี่ยวข้องได้ สามวันหลังจากที่เลวินได้จากโลกนี้ไป สภาพเศรษฐกิจของรัสเซียล้มครืนลงจริงๆ หลังจากที่จวนเจียนไหวคลอนมาเรื่อยๆ จนสุดที่จะยื้อ ในวันที่ 21 สิงหาคม สภามีมติขอให้เยลซินลาออก… แต่เยลซิน…ยังวางเฉย เขาปลดนายกฯหนุ่ม คิริเยงโก ออกจากตำแหน่งในสองวันต่อมา หวังที่จะทอนกระแส.. แล้วเยลซินคิดที่จะเอาอดีตนายกรัฐมนตรี Viktor Chernomydrin มาเป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพ แต่ข่าวว่าจะมีการปฏิวัตเริ่มหนาหู ฝ่ายโปรคอมมิวนิสต์ที่ช่วยกันกระจาย สร้างข่าวลวงรายวันและใช้โอกาสนี้ กล่าวโทษยิว พร้อมส่งคำอาฆาต มีข่าวว่าฝ่ายความมั่นคงทั้งหมดได้มีการเตรียมพร้อม ในการรับมือ ประชาชนเริ่มแตกตื่น หวาดกลัว วันที่ 1 กันยายน ปูติน พร้อมหน่วยFSB ที่ยืนเรียงรายอยู่เป็นฉากหลังประกาศออกทีวีว่า “ไม่มีการเตรียมพร้อมอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างปรกติ แต่ใครก็ตามที่ทำตัวเป็นพิษเป็นภัยกับความมั่นคงและฝ่าฝืนกฎหมาย ผมไม่รับรองในความปลอดภัย……” วันที่ 11 กันยายน สภามีมติที่จะให้นาย Yevgeny Primakov อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศมานั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรีมาคอฟ คืออดีตนักข่าวที่ทำงานในตะวันออกกลางมานานถึงสิบสี่ปี และได้ทำงานให้กับ KGB ในสายต่างประเทศ ทั้งที่ตะวันออกกลางและอเมริกา หลังจากที่โซเวียตได้สลายตัวลงในปี 1991 เขาได้มารับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ การที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เขาคิดที่จะรื้อฟื้นโครงสร้างยุทธการสามเหลี่ยม……คือ รัสเซีย จีน อินเดีย เพื่อที่จะถ่วงดุลย์อำนาจกับสหรัฐอเมริกา ทฤษฎีนี้……เขาได้เขียนไว้นานแล้ว ในชื่อว่า Primakov doctrine…!! แต่การที่จะทำงานได้สำเร็จ เขาจะต้องมีแรงสนับสนุนจาก FSB (เพราะนี่คือ……สงครามเย็น) หากแต่……เขายังไม่แน่ใจกับปูตินและทีมที่มาจาก เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ว่าเขาจะพึ่งพาทำงานด้วยได้มากน้อยแค่ไหน…… ส่วนปูติน……ต้องเจอกับศึกหนักอีกครั้ง ในวันที่ 17 พฤศจิกายน มีกลุ่มชายกลุ่มหนึ่ง จำนวนหกคน สี่คนใส่หน้ากากดำใส่แว่น ส่วนอีกสองคน เปิดหน้าตาชัดเจน คือ Aleksandr Litvitnenko และ Mikhaïl Trepashkin ทั้งหมดทั้งที่ปิดหน้าและไม่ปิด คือ เจ้าหน้าที่ในหน่วย FSB ที่ได้เปิดการจัดรายการพบปะนักข่าว……เพื่อที่จะแฉ ชี้ความผิดในองค์กร ที่ทำงานว่ามีการคอร์รัปชั่น มีขบวนการสร้างความแตกแยก มีการทำอาชญากรรม มีการเกี่ยวข้องกับกลุ่มมาเฟีย… แต่เรื่องนี้……ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปูตินโดยตรง เพราะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นก่อนที่เขามารับตำแหน่ง ที่เกี่ยวข้องเต็มๆ คือ อเล็กซานเดอร์ ได้เป็นตัวแทนที่นำเสนอว่า เขาได้พยายามหาทางเจรจากับปูตินแล้ว แต่ไม่สามารถพบได้ ส่งเอกสารไปกี่ชุด……ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ไม่เคยสนใจ และไม่ช่วยแก้ไขปัญหา…… สองอาทิตย์ต่อมา ปูตินได้เรียกอเล็กซานเดอร์ไปพบที่ห้องทำงาน ที่เขาไปพบพร้อมเอกสารปึกโต เข้าไปพบว่า ปูตินนั่งอยู่คนเดียวในห้องทำงาน ไม่มีผู้ช่วยอยู่ด้วยเหมือนเช่นเคย ปูตินลุกขึ้นมาจับมือทักทาย คุยด้วย ปรกติ แต่อเล็กซานเดอร์ไปเล่าให้ภรรยาฟังว่า………ผมเห็นแววตาเขาชัดเจนเลย ว่า เขาเกลียดผม……!! วันที่ 19 พฤศจิกายน ปูตินออกรายการในโทรทัศน์ เพื่อแถลงในการข้อพิสูจน์หาความเป็นจริงจากเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ว่า ไม่พบหลักฐานที่สามารถบ่งบอกได้ชัดเจน ทุกอย่างเป็นเพียงปากคำ พล็อตเรื่องออกแนวนิยายเด็ก การกระทำก็เป็นเด็ก เพราะเรียกประชุมนักข่าว ใส่หน้ากาก แต่บอกชื่อเสียงเรียงนาม………(สาบานว่าเป็นสายลับ……) ที่ขำๆ คือ ตบท้าย…ปูตินเล่าว่า อดีตภรรยาของหนึ่งในสี่คนที่ใส่หน้ากาก หลังจากวันพบปะกับนักข่าวในวันนั้น โทรมาหาปูติน บอกว่า “ท่านคะ ช่วยทวงค่าเลี้ยงดูจากไอ้นั่นให้หน่อย ไม่ได้จ่ายมาหลายเดือนแล้ว……” ปูติน…เลยบอกว่า “ตรงนี้ต่างหาก……ที่ผิดกฎหมายเต็มๆ” เยลซินเรียกปูตินเข้าพบ……เพื่อถามถึงเรื่องนี้ ปูตินเลยเปิดอกพูด…บอกว่า ถ้าคนในองค์กรจะทำความผิด มันก็เป็นอีหรอบเดียวกันกับกลุ่มคนในรัฐบาลเท่าที่เห็นอยู่ในวันนี้ แต่……สิ่งที่อเล็กซานเดอร์และพวกทำลงไป (ที่จัดแถลงข่าว) นั่นถือเป็นความผิดที่ร้ายแรงต่อสัตยาบันของหน่วยงาน เพราะ หน้าที่ของหน่วยงานคือต้องรักษาความลับขององค์กร ถ้ามีปัญหา……ก็ต้องแก้ไขในองค์กร ไม่ใช่ไปเที่ยวป่าวประกาศ…… ปูตินรู้ตัวดีว่า จะหาคนรักหรือพวกพ้องคนยาก เพราะเขาได้วางระบบเข้ม ตั้งแต่เรื่องการลดเจ้าหน้าที่ การใส่ร้ายป้ายสี การขัดขาขัดแข้ง และที่ร้ายคือ……ข่าวจาก เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ที่ส่งมาว่า Galina Starovoitova นักเคลื่อนไหวสาวเพื่อสิทธิของชนกลุ่มน้อย ได้ถูกสังหารไปเมื่อไม่กี่วันนี้ หล่อนมีส่วนเกี่ยวข้องกับปูติน ก็คือเรื่องที่ขานรับกับเลวินในกรณีที่กล่าวหาว่า ปูตินได้ทำผิดกฏหมายในเรื่องช่วยเหลืออนาโตลีให้หนีคดีออกไปยังฝรั่งเศส ที่พลอยทำให้ปูติน……อยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัยไปด้วย วันที่ 15 ธันวาคม ที่ปูตินได้พบกับเยลซินอีกครั้ง ที่จะหารือกันเรื่องของการฆาตกรรมนี้ ……และเรื่องกระแสการต่อต้านบอริส และเรื่องงานของปูตินที่หลายคนไม่พอใจเพราะต้องตกงาน…… ปูตินจึงสรุปให้เยลซินฟังว่า……ข่าวลือทั้งหลายนั้น มาจากวงในของท่านทั้งหมด มันมาทุกรูปแบบ แบบโยนหินถามทางบ้าง หรือโยนลงบนหัวชาวบ้านบ้าง เพราะไม่มีใครรักษากฎระเบียบ การควบคุมก็หย่อนยาน และที่ออกข่าวลวงๆกันทุกวันนี้ ก็เพราะทุกคนกลัว กลัวที่จะต้องถูกตรวจสอบ และกระผมจะเรียนท่านให้ทราบตรงนี้เลย ว่า เมื่อไหร่ที่ท่านลงจากตำแหน่ง……ผมก็ขอลาออก…!!! แต่……ก่อนที่ท่านจะจากไป และก่อนที่ปูตินจะลาออก……ก็ต้องแสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์กันก่อน ในช่วงนั้นรัฐบาลของเยลซินกำลังโดนไล่บี้ในเรื่องทุจริต สินบน ที่ทีมอัยการนำโดย Yuri Skuratov เป็นหัวหน้าทีมในการสอบสวน เพราะเยลซินจะหมดวาระในปีรุ่งขึ้น คือ ปี 2000 นั่นหมายถึงทุกคนจะต้องโดนคดีกันระนาวเพราะในช่วงที่เศรษฐกิจเสื่อมถอยนั้น รัฐบาลของเยลซินได้ทำทุกอย่างที่จะผันเงิน แม้แต่เงินของ IMF ก็ใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ รวมทั้งหน่วยงาน FSB ทั้งระบบด้วย ถึงแม้อาจจะไม่เกี่ยวกับปูตินเท่าไหร่ในฐานะที่มาทีหลัง แต่……เรื่องนี้เกี่ยวกับหน่วยงานภาษีของอิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์ และ คาริบเบียนด้วย…… เดือนมกราคม 1999 วันหนึ่งก่อนที่ท่านอัยการยูริจะนำเอกสารทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการศาล คืนนั้น……สถานีโทรทัศน์แห่งชาติได้ออกรายการ “สามคนบนเตียง” ที่มีความยาวร่วมชั่วโมงสู่สายตาของประชาชน ที่มีทั้งหนุ่มสาว เด็กเล็ก คนชรา…… เป็นกิจกรรมบนเตียงของชายหนึ่ง หญิงสอง แม้ว่าจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ (ขาว-ดำ) แต่พอเห็นได้ว่า ฝ่ายชายคือ ท่านอัยการยูริ และมีเสียงสนทนาด้วย……หนึ่งในสองสาว ถามว่า “คุณชื่ออะไร?” ฝ่ายชายตอบว่า…”ยูรา” (เป็นชื่อเล่นของ ยูริ) วันต่อมา เยลซินจึงเรียกยูริขึ้นพบ ถามถึงเรื่องกิจกรรมสามคนผัวเมีย……ผลคือ ท่านอัยการต้องเซ็นใบลาออกตรงนั้นเลย…… เรื่องการที่จะเอาผิดเยลซินก็จบลงแค่นั้น… ทั้งหมดคือฝีมือของหน่วยงาน “Kompromat” ในสังกัดของ FSB ของปูตินที่มีหน้าที่ในการ blackmail โดยเฉพาะ…!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 670 มุมมอง 0 รีวิว

  • “กราฟีนออกไซด์ในสมอง” : https://www.materialstoday.com/.../graphene-oxide-on-the...
    “ความเป็นพิษของกราฟีนทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ” (การอักเสบของหัวใจ) : https://www.sciencedirect.com/.../pii/S2352940718302853
    “ZEN Graphene Solutions ประกาศสิทธิแต่เพียงผู้เดียวทั่วโลกในการจำหน่ายเทคโนโลยีการทดสอบแอนติเจน COVID-19 ที่ใช้น้ำลายอย่างรวดเร็ว” : https://www.zengraphene.com/zen-graphene-solutions... -เทคโนโลยีการทดสอบแอนติเจนจากน้ำลายที่ใช้เชื้อโควิด-19/
    “Health Canada ออกคำแนะนำสำหรับมาสก์หน้าที่มีกราฟีน” : https://www.ctvnews.ca/.../health-canada-issues-advisory...
    สิทธิบัตร: “ท่อนาโนคาร์บอนไลโอฟิไลซ์/ตัวกรองบุหรี่แบบดัดแปลงกราฟีนออกไซด์…” – https://www.sciencedirect.com/.../abs/pii/S1385894715007937
    สิทธิบัตร: “เครื่องกรองควันบุหรี่จากกราฟีน…” – https://patents.google.com/patent/WO2017187453A1/en
    “วัคซีนไฟเซอร์ 'ประกอบด้วยกราฟีนออกไซด์ 99% หลังการวิเคราะห์ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน” : https://stateofthenation.co/?p=71587
    “กราฟีนออกไซด์ในบรรจุภัณฑ์อาหาร” – https://www.go-graphene.com/.../graphene-oxide-in-food...
    “ความเป็นพิษของอนุภาคนาโนในตระกูลกราฟีน: การทบทวนแหล่งกำเนิดและกลไกทั่วไป” : https://particleandfibretoxicology.biomedcentral.com/... ( สำเนาในเครื่อง )
    “คุณลักษณะความถี่วิทยุของกราฟีนออกไซด์” – https://www.researchgate.net/.../234845171_Radio...
    “โปรตีน 'Magneto' ที่ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรมควบคุมสมองและพฤติกรรมจากระยะไกล” – https://www.theguardian.com/.../magneto-remotely-controls...
    “แผ่นนาโนกราฟีนที่พบในน้ำฝน” – https://zerogeoengineering.com/.../graphene-nanosheets.../
    “รายงานโรงพยาบาล Barbastro” – https://nobulart.com/.../09/Hospital-de-Barbastro-Huesca.pdf ( สำเนาท้องถิ่น ) ( อังกฤษ )
    “ประสิทธิภาพทางชีวภาพของกราฟีนออกไซด์ทั้งภายในและภายนอกร่างกายและผลกระทบของสารลดแรงตึงผิวที่มีต่อความเข้ากันได้ทางชีวภาพของกราฟีนออกไซด์” – https://www.sciencedirect.com/.../abs/pii/S1001074212602526
    “การกำจัดสารกำจัดวัชพืช 2,4-D, ไกลโฟเสต, ไตรฟลูราลิน และบิวทาคลอร์ออกจากน้ำโดยเยื่อโพลีซัลโฟนที่ผสมด้วยแกรฟีนออกไซด์/TiO2 นาโนคอมโพสิต: การศึกษาการกรองและการดูดซับเป็นชุด” – https://www.ncbi.nlm.nih.gov /pmc/articles/PMC6582012/
    “นาโนเทคโนโลยี: เครื่องมือใหม่สำหรับชีววิทยาและการแพทย์” – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3841729/
    “กราฟีนออกไซด์สัมผัสเลือด: ปฏิสัมพันธ์ในร่างกายของวัสดุ 2 มิติชีวภาพที่มีโคโรนา” – https://pubs.rsc.org/.../articlehtml/2019/nh/c8nh00318a
    “ความเป็นพิษของอนุภาคนาโนกราฟีนออกไซด์ปริมาณต่ำในแบบจำลอง Caenorhabditis elegans ในร่างกาย” – https://aaqr.org/articles/aaqr-20-09-oa-0559
    “วัคซีนรีคอมบิแนนท์นาโนไวรัสโคโรนาที่ใช้กราฟีนออกไซด์เป็นพาหะ” – https://patents.google.com/patent/CN112220919A/th
    “วิธีที่ INBRAIN Neuroelectronics พัฒนาประสาทเทียมที่ใช้กราฟีน” – https://www.medicaldevice-network.com/.../inbrain.../
    “วัคซีน COVID-19 ของสหรัฐฯ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าผลดี จากข้อมูลการทดลองทางคลินิกที่สำคัญซึ่งวิเคราะห์โดยใช้จุดสิ้นสุดทางวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสม ล้วนก่อให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรง” – https://www.scivisionpub.com/pdfs/us-covid19-vaccines- พิสูจน์แล้วว่าก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีตามผลการทดลองทางคลินิกข้อมูลวิเคราะห์โดยใช้วิทยาศาสตร์ที่เหมาะสม 1811.pdf
    “Moderna กล่าวว่าวัคซีน COVID ที่ส่งไปยังญี่ปุ่นมีอนุภาคเหล็กกล้าไร้สนิม” – https://japantoday.com/.../moderna-says-tainted-covid...
    “ HCG ที่พบในวัคซีนบาดทะยักของ WHO ในเคนยาทำให้เกิดความกังวลในประเทศกำลังพัฒนา ” – https://www.scirp.org/journal/paperinformation.aspx...
    “วัคซีนบาดทะยักอาจผสมยาต้านการเจริญพันธุ์” – https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/12346214/
    “วัคซีนต่อต้านการเจริญพันธุ์” – https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/2665354/
    “อุทยานเทคโนโลยีชีวภาพ: จีนสู่อนาคตหน้า” (2554) – https://www.asiabiotech.com/15/1503/0034_0039.pdf
    “กรณีหายากของกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเชื่อมโยงกับวัคซีน Pfizer, Moderna Covid-19 หรือไม่” – https://www.forbes.com/.../are-rare-cases-of-myocarditis.../
    “Trypanosoma Cruzi Experimental Infections และ COVID-19:ที่คล้ายกันกับโรคหลอดเลือดหัวใจ?” – https://biomedgrid.com/pdf/AJBSR.MS.ID.001832.pdf
    “เราได้ยินมาว่าการรักษาไม่ได้ช่วยอะไร แล้วทำไมเราต้องรักษาด้วยล่ะ? มุมมองวิธีการแบบผสมผสานเกี่ยวกับความรู้เรื่องโรค Chagas ทัศนคติ การป้องกัน และพฤติกรรมการรักษาในชาโคโบลิเวีย” – https://journals.plos.org/plosntds/article?id=10.1371/journal.pntd.0008752
    “ผลของยา ivermectin ต่อเชื้อ Trypanosoma brucei ในหนูทดลองที่ติดเชื้อ” – https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/23135008/
    “ [DARPA] DEFUSE PROJECT Documents” – https://drasticresearch.org/.../the-defuse-project.../
    “ภาวะลิ่มเลือดอุดตันและภาวะเกล็ดเลือดต่ำหลังการฉีดวัคซีน ChAdOx1 nCoV-19” – https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2104882
    “กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เกิดขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใช้ mRNA” – https://jamanetwork.com/.../jamacardi.../fullarticle/2781600
    “รายงานผู้ป่วยในสหรัฐฯ ของการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำในสมองด้วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำหลังการฉีดวัคซีน Ad26.COV2.S” – https://jamanetwork.com/journals/jama/fullarticle/2779731
    “ฉันขอเตือนผู้ที่เป็นโรค vaxxed ให้หลีกเลี่ยงการสแกน MRI โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสองสามสัปดาห์แรก เนื่องจากบางคนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดขึ้น กรณีที่ร้ายแรงที่สุดส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ไม่มีใครรายงานไปยัง VAERS” – https://twitter.com/DRAFZALNIAZ2/status/1440775597123248135
    “พบกราฟีนออกไซด์ในขวดวัคซีน Vaxigrip Tetra” – https://www.orwell.city/.../graphene-oxide-found-in...
    “การตรวจสอบควบคุมคุณภาพวัคซีนแบบใหม่: การปนเปื้อนไมโครและนาโน” – https://medcraveonline.com/IJVV/new-quality-control-investigations-on-vaccines-micro–and-nanocontamination.html
    “อนุภาคโลหะในวัคซีนหลายชนิด แต่ไม่ต้องกังวล เข้าแถวและถ่ายภาพของคุณเหมือนหุ่นยนต์ตัวน้อยที่มีความสุข” เรียงแถวและถ่ายภาพของคุณ/
    “การตรวจพบกราฟีนในวัคซีน COVID19” – https://www.researchgate.net/.../355979001_DETECTION_OF...
    “100% ของการเสียชีวิตจากวัคซีนโควิด-19 เกิดจากการผลิตเพียง 5% ตามข้อมูลของรัฐบาลอย่างเป็นทางการ” – https://theexpose.uk/2021/10/31/100-percent-of-covid-19- วัคซีน-สาเหตุ-ตาย-เพียง 5 เปอร์เซ็นต์-ของ-แบทช์-ผลิต
    “เอ่อ นั่นไม่ใช่ทฤษฎีสมคบคิด – 5% ของล็อตการผลิตวัคซีนทำให้วัคซีนเสียชีวิต 100%” – https://vulms.org/uh-thats-not-a-conspiracy-theory-5-of... -จำนวนมาก-สาเหตุ-100-ของ-วัคซีน-ตาย/
    “รอยประทับของภูมิคุ้มกัน ความกว้างของการรับรู้ตัวแปร และการตอบสนองของศูนย์กลางเชื้อโรคในการติดเชื้อ SARS-CoV-2 และการฉีดวัคซีนของมนุษย์” – https://www.cell.com/cell/fulltext/S0092-8674(22)00076-9
    “UK Lab พบกราฟีนในวัคซีน C19” – https://www.notonthebeeb.co.uk/.../uk-lab-finds-graphene...
    “ความคืบหน้าล่าสุดของกราฟีนออกไซด์ในฐานะผู้ให้บริการวัคซีนที่มีศักยภาพและยาเสริม” – https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32531395/
    “รอยประทับของภูมิคุ้มกัน ความกว้างของการจดจำตัวแปร และการตอบสนองของศูนย์กลางเชื้อโรคในการติดเชื้อ SARS-CoV-2 และการฉีดวัคซีนของมนุษย์” – https://www.cell.com/cell/fulltext/S0092-8674(22)00076-9
    “กราฟีนออกไซด์ในสมอง” : https://www.materialstoday.com/.../graphene-oxide-on-the... “ความเป็นพิษของกราฟีนทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ” (การอักเสบของหัวใจ) : https://www.sciencedirect.com/.../pii/S2352940718302853 “ZEN Graphene Solutions ประกาศสิทธิแต่เพียงผู้เดียวทั่วโลกในการจำหน่ายเทคโนโลยีการทดสอบแอนติเจน COVID-19 ที่ใช้น้ำลายอย่างรวดเร็ว” : https://www.zengraphene.com/zen-graphene-solutions... -เทคโนโลยีการทดสอบแอนติเจนจากน้ำลายที่ใช้เชื้อโควิด-19/ “Health Canada ออกคำแนะนำสำหรับมาสก์หน้าที่มีกราฟีน” : https://www.ctvnews.ca/.../health-canada-issues-advisory... สิทธิบัตร: “ท่อนาโนคาร์บอนไลโอฟิไลซ์/ตัวกรองบุหรี่แบบดัดแปลงกราฟีนออกไซด์…” – https://www.sciencedirect.com/.../abs/pii/S1385894715007937 สิทธิบัตร: “เครื่องกรองควันบุหรี่จากกราฟีน…” – https://patents.google.com/patent/WO2017187453A1/en “วัคซีนไฟเซอร์ 'ประกอบด้วยกราฟีนออกไซด์ 99% หลังการวิเคราะห์ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน” : https://stateofthenation.co/?p=71587 “กราฟีนออกไซด์ในบรรจุภัณฑ์อาหาร” – https://www.go-graphene.com/.../graphene-oxide-in-food... “ความเป็นพิษของอนุภาคนาโนในตระกูลกราฟีน: การทบทวนแหล่งกำเนิดและกลไกทั่วไป” : https://particleandfibretoxicology.biomedcentral.com/... ( สำเนาในเครื่อง ) “คุณลักษณะความถี่วิทยุของกราฟีนออกไซด์” – https://www.researchgate.net/.../234845171_Radio... “โปรตีน 'Magneto' ที่ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรมควบคุมสมองและพฤติกรรมจากระยะไกล” – https://www.theguardian.com/.../magneto-remotely-controls... “แผ่นนาโนกราฟีนที่พบในน้ำฝน” – https://zerogeoengineering.com/.../graphene-nanosheets.../ “รายงานโรงพยาบาล Barbastro” – https://nobulart.com/.../09/Hospital-de-Barbastro-Huesca.pdf ( สำเนาท้องถิ่น ) ( อังกฤษ ) “ประสิทธิภาพทางชีวภาพของกราฟีนออกไซด์ทั้งภายในและภายนอกร่างกายและผลกระทบของสารลดแรงตึงผิวที่มีต่อความเข้ากันได้ทางชีวภาพของกราฟีนออกไซด์” – https://www.sciencedirect.com/.../abs/pii/S1001074212602526 “การกำจัดสารกำจัดวัชพืช 2,4-D, ไกลโฟเสต, ไตรฟลูราลิน และบิวทาคลอร์ออกจากน้ำโดยเยื่อโพลีซัลโฟนที่ผสมด้วยแกรฟีนออกไซด์/TiO2 นาโนคอมโพสิต: การศึกษาการกรองและการดูดซับเป็นชุด” – https://www.ncbi.nlm.nih.gov /pmc/articles/PMC6582012/ “นาโนเทคโนโลยี: เครื่องมือใหม่สำหรับชีววิทยาและการแพทย์” – https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3841729/ “กราฟีนออกไซด์สัมผัสเลือด: ปฏิสัมพันธ์ในร่างกายของวัสดุ 2 มิติชีวภาพที่มีโคโรนา” – https://pubs.rsc.org/.../articlehtml/2019/nh/c8nh00318a “ความเป็นพิษของอนุภาคนาโนกราฟีนออกไซด์ปริมาณต่ำในแบบจำลอง Caenorhabditis elegans ในร่างกาย” – https://aaqr.org/articles/aaqr-20-09-oa-0559 “วัคซีนรีคอมบิแนนท์นาโนไวรัสโคโรนาที่ใช้กราฟีนออกไซด์เป็นพาหะ” – https://patents.google.com/patent/CN112220919A/th “วิธีที่ INBRAIN Neuroelectronics พัฒนาประสาทเทียมที่ใช้กราฟีน” – https://www.medicaldevice-network.com/.../inbrain.../ “วัคซีน COVID-19 ของสหรัฐฯ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าผลดี จากข้อมูลการทดลองทางคลินิกที่สำคัญซึ่งวิเคราะห์โดยใช้จุดสิ้นสุดทางวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสม ล้วนก่อให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรง” – https://www.scivisionpub.com/pdfs/us-covid19-vaccines- พิสูจน์แล้วว่าก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีตามผลการทดลองทางคลินิกข้อมูลวิเคราะห์โดยใช้วิทยาศาสตร์ที่เหมาะสม 1811.pdf “Moderna กล่าวว่าวัคซีน COVID ที่ส่งไปยังญี่ปุ่นมีอนุภาคเหล็กกล้าไร้สนิม” – https://japantoday.com/.../moderna-says-tainted-covid... “ HCG ที่พบในวัคซีนบาดทะยักของ WHO ในเคนยาทำให้เกิดความกังวลในประเทศกำลังพัฒนา ” – https://www.scirp.org/journal/paperinformation.aspx... “วัคซีนบาดทะยักอาจผสมยาต้านการเจริญพันธุ์” – https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/12346214/ “วัคซีนต่อต้านการเจริญพันธุ์” – https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/2665354/ “อุทยานเทคโนโลยีชีวภาพ: จีนสู่อนาคตหน้า” (2554) – https://www.asiabiotech.com/15/1503/0034_0039.pdf “กรณีหายากของกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเชื่อมโยงกับวัคซีน Pfizer, Moderna Covid-19 หรือไม่” – https://www.forbes.com/.../are-rare-cases-of-myocarditis.../ “Trypanosoma Cruzi Experimental Infections และ COVID-19:ที่คล้ายกันกับโรคหลอดเลือดหัวใจ?” – https://biomedgrid.com/pdf/AJBSR.MS.ID.001832.pdf “เราได้ยินมาว่าการรักษาไม่ได้ช่วยอะไร แล้วทำไมเราต้องรักษาด้วยล่ะ? มุมมองวิธีการแบบผสมผสานเกี่ยวกับความรู้เรื่องโรค Chagas ทัศนคติ การป้องกัน และพฤติกรรมการรักษาในชาโคโบลิเวีย” – https://journals.plos.org/plosntds/article?id=10.1371/journal.pntd.0008752 “ผลของยา ivermectin ต่อเชื้อ Trypanosoma brucei ในหนูทดลองที่ติดเชื้อ” – https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/23135008/ “ [DARPA] DEFUSE PROJECT Documents” – https://drasticresearch.org/.../the-defuse-project.../ “ภาวะลิ่มเลือดอุดตันและภาวะเกล็ดเลือดต่ำหลังการฉีดวัคซีน ChAdOx1 nCoV-19” – https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2104882 “กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เกิดขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใช้ mRNA” – https://jamanetwork.com/.../jamacardi.../fullarticle/2781600 “รายงานผู้ป่วยในสหรัฐฯ ของการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำในสมองด้วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำหลังการฉีดวัคซีน Ad26.COV2.S” – https://jamanetwork.com/journals/jama/fullarticle/2779731 “ฉันขอเตือนผู้ที่เป็นโรค vaxxed ให้หลีกเลี่ยงการสแกน MRI โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสองสามสัปดาห์แรก เนื่องจากบางคนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดขึ้น กรณีที่ร้ายแรงที่สุดส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ไม่มีใครรายงานไปยัง VAERS” – https://twitter.com/DRAFZALNIAZ2/status/1440775597123248135 “พบกราฟีนออกไซด์ในขวดวัคซีน Vaxigrip Tetra” – https://www.orwell.city/.../graphene-oxide-found-in... “การตรวจสอบควบคุมคุณภาพวัคซีนแบบใหม่: การปนเปื้อนไมโครและนาโน” – https://medcraveonline.com/IJVV/new-quality-control-investigations-on-vaccines-micro–and-nanocontamination.html “อนุภาคโลหะในวัคซีนหลายชนิด แต่ไม่ต้องกังวล เข้าแถวและถ่ายภาพของคุณเหมือนหุ่นยนต์ตัวน้อยที่มีความสุข” เรียงแถวและถ่ายภาพของคุณ/ “การตรวจพบกราฟีนในวัคซีน COVID19” – https://www.researchgate.net/.../355979001_DETECTION_OF... “100% ของการเสียชีวิตจากวัคซีนโควิด-19 เกิดจากการผลิตเพียง 5% ตามข้อมูลของรัฐบาลอย่างเป็นทางการ” – https://theexpose.uk/2021/10/31/100-percent-of-covid-19- วัคซีน-สาเหตุ-ตาย-เพียง 5 เปอร์เซ็นต์-ของ-แบทช์-ผลิต “เอ่อ นั่นไม่ใช่ทฤษฎีสมคบคิด – 5% ของล็อตการผลิตวัคซีนทำให้วัคซีนเสียชีวิต 100%” – https://vulms.org/uh-thats-not-a-conspiracy-theory-5-of... -จำนวนมาก-สาเหตุ-100-ของ-วัคซีน-ตาย/ “รอยประทับของภูมิคุ้มกัน ความกว้างของการรับรู้ตัวแปร และการตอบสนองของศูนย์กลางเชื้อโรคในการติดเชื้อ SARS-CoV-2 และการฉีดวัคซีนของมนุษย์” – https://www.cell.com/cell/fulltext/S0092-8674(22)00076-9 “UK Lab พบกราฟีนในวัคซีน C19” – https://www.notonthebeeb.co.uk/.../uk-lab-finds-graphene... “ความคืบหน้าล่าสุดของกราฟีนออกไซด์ในฐานะผู้ให้บริการวัคซีนที่มีศักยภาพและยาเสริม” – https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32531395/ “รอยประทับของภูมิคุ้มกัน ความกว้างของการจดจำตัวแปร และการตอบสนองของศูนย์กลางเชื้อโรคในการติดเชื้อ SARS-CoV-2 และการฉีดวัคซีนของมนุษย์” – https://www.cell.com/cell/fulltext/S0092-8674(22)00076-9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 805 มุมมอง 0 รีวิว
  • แน่หรือ?พระราม 2 สุริยะบอกเสร็จ มิ.ย.68

    สามโครงการ สองหน่วยงาน ที่ทำถนนพระรามที่ 2 ประตูสู่ภาคใต้ เกิดการจราจรติดขัดเวลานี้ คือ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โครงการก่อสร้างทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว รวมระยะทางประมาณ 46 กิโลเมตร เรียกเสียงบ่นแก่ผู้มช้รถใช้ถนน สมญานามถนนเจ็ดชั่วโคตร

    มาคราวนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ระบุว่า ภายใน 11 เดือนข้างหน้า ทั้งสามโครงการจะต้องแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในเดือน มิ.ย. 2568 พร้อมสั่งการให้ทั้งสองหน่วยงานติดตามงานอย่างใกล้ชิด และรายงานความคืบหน้าทุกเดือน ซึ่งจากรายงานในช่วงที่ผ่านมา พบว่าทุกอย่างมีความพร้อมทั้งหมด รวมทั้งก่อนหน้านี้ทั้งสองหน่วยงานได้ไปดูกระบวนการตั้งแต่การหล่อคานที่โรงงานว่าทำได้กี่ตัว แล้วเสร็จทันไหม ดังนั้น อีก 11 เดือนที่เหลือ เชื่อว่าจะแล้วเสร็จได้ทันทั้งหมด

    สำหรับภาพรวมการก่อสร้าง พบว่าโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกฯ ตะวันตก คืบหน้า 80.92% โดยสะพานทศมราชัน หรือสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2567 ส่วนโครงการก่อสร้างทางยกระดับฯ ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย คืบหน้าเฉลี่ย 95.42% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 2567 โดยจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการชั่วคราว ระหว่างด่านพันท้ายนรสิงห์ ถึงด่านมหาชัย ระยะทาง 4 กิโลเมตร ภายในปลายปีนี้

    ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว แบ่งออกเป็น 10 ตอน คืบหน้าเฉลี่ย 57.50% โดยพบว่าคืบหน้ามากที่สุดตอนที่ 9 คืบหน้า 82.885% น้อยที่สุดตอนที่ 7 คืบหน้า 35.851% แต่ระยะเวลาแล้วเสร็จส่วนใหญ่ มิ.ย. 2568

    ถนนพระรามที่ 2 ประสบปัญหาการจราจรติดขัด เกี่ยวพันมาแล้ว 3 รัฐบาล นับตั้งแต่ปี 2561 ที่มีโครงการปรับปรุงถนนพระรามที่ 2 ช่วงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย กระทั่งมีการก่อสร้างทางยกระดับพระรามที่ 2 รวม 3 โครงการ และโครงการทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างบนถนนสายนี้ยังไม่หมดไป เพราะยังมีโครงการขยายถนนออกเป็น 14 ช่องจราจร ช่วงแยกบ้านแพ้วถึงนาโคก ระยะทาง 14.5 กิโลเมตร อยู่ระหว่างจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบ

    #Newskit #พระราม2 #Motorway82
    แน่หรือ?พระราม 2 สุริยะบอกเสร็จ มิ.ย.68 สามโครงการ สองหน่วยงาน ที่ทำถนนพระรามที่ 2 ประตูสู่ภาคใต้ เกิดการจราจรติดขัดเวลานี้ คือ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โครงการก่อสร้างทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว รวมระยะทางประมาณ 46 กิโลเมตร เรียกเสียงบ่นแก่ผู้มช้รถใช้ถนน สมญานามถนนเจ็ดชั่วโคตร มาคราวนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ระบุว่า ภายใน 11 เดือนข้างหน้า ทั้งสามโครงการจะต้องแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในเดือน มิ.ย. 2568 พร้อมสั่งการให้ทั้งสองหน่วยงานติดตามงานอย่างใกล้ชิด และรายงานความคืบหน้าทุกเดือน ซึ่งจากรายงานในช่วงที่ผ่านมา พบว่าทุกอย่างมีความพร้อมทั้งหมด รวมทั้งก่อนหน้านี้ทั้งสองหน่วยงานได้ไปดูกระบวนการตั้งแต่การหล่อคานที่โรงงานว่าทำได้กี่ตัว แล้วเสร็จทันไหม ดังนั้น อีก 11 เดือนที่เหลือ เชื่อว่าจะแล้วเสร็จได้ทันทั้งหมด สำหรับภาพรวมการก่อสร้าง พบว่าโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกฯ ตะวันตก คืบหน้า 80.92% โดยสะพานทศมราชัน หรือสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2567 ส่วนโครงการก่อสร้างทางยกระดับฯ ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย คืบหน้าเฉลี่ย 95.42% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 2567 โดยจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการชั่วคราว ระหว่างด่านพันท้ายนรสิงห์ ถึงด่านมหาชัย ระยะทาง 4 กิโลเมตร ภายในปลายปีนี้ ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว แบ่งออกเป็น 10 ตอน คืบหน้าเฉลี่ย 57.50% โดยพบว่าคืบหน้ามากที่สุดตอนที่ 9 คืบหน้า 82.885% น้อยที่สุดตอนที่ 7 คืบหน้า 35.851% แต่ระยะเวลาแล้วเสร็จส่วนใหญ่ มิ.ย. 2568 ถนนพระรามที่ 2 ประสบปัญหาการจราจรติดขัด เกี่ยวพันมาแล้ว 3 รัฐบาล นับตั้งแต่ปี 2561 ที่มีโครงการปรับปรุงถนนพระรามที่ 2 ช่วงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย กระทั่งมีการก่อสร้างทางยกระดับพระรามที่ 2 รวม 3 โครงการ และโครงการทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างบนถนนสายนี้ยังไม่หมดไป เพราะยังมีโครงการขยายถนนออกเป็น 14 ช่องจราจร ช่วงแยกบ้านแพ้วถึงนาโคก ระยะทาง 14.5 กิโลเมตร อยู่ระหว่างจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบ #Newskit #พระราม2 #Motorway82
    Like
    Haha
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 619 มุมมอง 0 รีวิว
  • BRT สายแรกในลาว คาดแล้วเสร็จ ธ.ค.นี้

    เมื่อวันก่อนสื่อออนไลน์ในประเทศลาว เผยแพร่ภาพความคืบหน้าการก่อสร้างที่นั่งรอรถเมล์ (Bus Shelter) เขตโพนสะอาด เมืองไชยเชษฐา นครหลวงเวียงจันทน์ ตามโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที (Bus Rapid Transit หรือ BRT) ภายใต้ชื่อโครงการขนส่งแบบยั่งยืนในตัวเมือง (Vientiane Sustainable Urban Transport Project หรือ VSUTP) ซึ่งมึความคืบหน้าไปมาก

    กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ดำเนินโครงการทั้งหมด 5 สัญญา ได้แก่ ก่อสร้างช่องจราจรรถเมล์ด่วน และสถานี BRT ช่วงสวนเจ้าฟ้างุ้ม ถึงประตูชัย และช่วงประตูชัย ถึงมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว พร้อมก่อสร้างที่นั่งรอรถเมล์ (Bus Shelter)

    นอกจากนี้ ยังก่อสร้างอู่รถเมล์ ศูนย์ซ่อมบำรุง และศูนย์ควบคุมการเดินรถเมล์ BRT วางสายใยแก้ว (Fiber Optic) ก่อสร้างทางร่วม ปรับปรุงทัศนียภาพ และก่อสร้างและติดตั้งไฟสัญญาณจราจร จำนวน 41 จุด ครอบคลุม 5 ตัวเมือง เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อเดือน มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา โดยมีแผนจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 2567

    สำหรับรูปแบบการให้บริการรถเมล์ด่วนพิเศษ BRT นครหลวงเวียงจันทน์ มีทั้งหมด 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง A สถานีขนส่งสายเหนือ-สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ศูนย์การค้าไอเต็ก มอลล์, เส้นทาง B ธาตุทอง-สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ท่าง่อน และเส้นทาง D สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ดงโดก (มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว)

    ใช้รถโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าความยาว 12 เมตร ขนาด 40 ที่นั่ง มีที่นั่งพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้พิการ รองรับรถเข็นวีลแชร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00-22.00 น. คิดค่าโดยสารเป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้นใจกลางเมือง 3,500 กีบ ระยะยาวไปยังชานเมือง 8,000 กีบ ชำระเงินผ่านบัตรสมาร์ทการ์ด ที่สถานีหลัก BRT และร้านสะดวกซื้อที่ร่วมโครงการ

    โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) และองค์กรอื่นๆ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ADB คาดการณ์ว่าประชาชนจะหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และรองรับนักท่องเที่ยว สามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

    #Newskit #VientianeBRT #VSUTP
    BRT สายแรกในลาว คาดแล้วเสร็จ ธ.ค.นี้ เมื่อวันก่อนสื่อออนไลน์ในประเทศลาว เผยแพร่ภาพความคืบหน้าการก่อสร้างที่นั่งรอรถเมล์ (Bus Shelter) เขตโพนสะอาด เมืองไชยเชษฐา นครหลวงเวียงจันทน์ ตามโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที (Bus Rapid Transit หรือ BRT) ภายใต้ชื่อโครงการขนส่งแบบยั่งยืนในตัวเมือง (Vientiane Sustainable Urban Transport Project หรือ VSUTP) ซึ่งมึความคืบหน้าไปมาก กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ดำเนินโครงการทั้งหมด 5 สัญญา ได้แก่ ก่อสร้างช่องจราจรรถเมล์ด่วน และสถานี BRT ช่วงสวนเจ้าฟ้างุ้ม ถึงประตูชัย และช่วงประตูชัย ถึงมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว พร้อมก่อสร้างที่นั่งรอรถเมล์ (Bus Shelter) นอกจากนี้ ยังก่อสร้างอู่รถเมล์ ศูนย์ซ่อมบำรุง และศูนย์ควบคุมการเดินรถเมล์ BRT วางสายใยแก้ว (Fiber Optic) ก่อสร้างทางร่วม ปรับปรุงทัศนียภาพ และก่อสร้างและติดตั้งไฟสัญญาณจราจร จำนวน 41 จุด ครอบคลุม 5 ตัวเมือง เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อเดือน มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา โดยมีแผนจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 2567 สำหรับรูปแบบการให้บริการรถเมล์ด่วนพิเศษ BRT นครหลวงเวียงจันทน์ มีทั้งหมด 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง A สถานีขนส่งสายเหนือ-สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ศูนย์การค้าไอเต็ก มอลล์, เส้นทาง B ธาตุทอง-สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ท่าง่อน และเส้นทาง D สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ดงโดก (มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว) ใช้รถโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าความยาว 12 เมตร ขนาด 40 ที่นั่ง มีที่นั่งพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้พิการ รองรับรถเข็นวีลแชร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00-22.00 น. คิดค่าโดยสารเป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้นใจกลางเมือง 3,500 กีบ ระยะยาวไปยังชานเมือง 8,000 กีบ ชำระเงินผ่านบัตรสมาร์ทการ์ด ที่สถานีหลัก BRT และร้านสะดวกซื้อที่ร่วมโครงการ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) และองค์กรอื่นๆ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ADB คาดการณ์ว่าประชาชนจะหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และรองรับนักท่องเที่ยว สามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น #Newskit #VientianeBRT #VSUTP
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 725 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 4
    ปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ.2011 Feltman ซึ่งเป็นทั้งนายและเพื่อน Stevens เดินทางมา Benghazi เพื่อมาฟังความคืบหน้า ในการนัดพบครั้งหลังสุดในวันที่ 20 สิงหาคม กับแกนนำระดับสูงของฝ่ายกบฎ ซึ่งเป็นระดับรัฐมนตรี ฝ่ายอเมริกันอยากรู้ให้แน่ใจว่าฝ่ายกบฏจะบุก Tripoli เมื่อไหร่
    เมื่อทั้ง 2 คนเดินเข้าไปที่โรงแรม El Fadeel Hotel ซึ่งรัฐมนตรีนั่งคอยอยู่ในห้องประชุม Stevens กระซิบบอก Feltman ว่า เรายังมีเวลา เราไปนั่งสังเกตการณ์สักพักกันดีกว่า Stevens ชอบไปซุ่มสังเกตการณ์ตามร้านกาแฟ หรือตลาด ในสำนักงานหรือห้องรับแขก เขาต้องการได้ข้อมูล บางที่เป็นข้อมูลทั่วไป บางที่เป็นข้อมูลเฉพาะ เขาบอกว่าเราจะไม่ได้ข้อมูลนั้นจากการถามตรงๆหรอก เราจะได้จากการฟังมากกว่าการถาม แล้วเขาจะใช้วิธีหยุดฟังเวลาคุย หยุดเพื่อสร้างโอกาส ให้อีกฝ่ายพูดเติม
    รัฐมนตรีที่พวกอเมริกันจะไปคุยด้วยนี้ เป็นรัฐมนตรีที่ Qaddafi ตัดสินประหารชีวิตหลังจาก ที่เจ้าตัวหนีมาแล้ว รัฐมนตรีทักทายกับอเมริกันอย่างเป็นมิตร ชาถูกนำมาเสริฟ การสนทนาเริ่มขึ้น รัฐมนตรีเล่าถึงการที่เตรียมบุก Tripoli ซึ่งขณะนั้นการรบกำลังรุกไปที่ Soug-al-Jumaa เมืองที่อยู่ติด ๆ กับ Barghazi ส่วนเมืองอื่นๆจะลุกฮือพร้อมนำอาวุธที่ลอบนำเข้าไปไว้ในเมืองแล้ว และถึงตอนนั้นชาวเมือง Tripoli ก็จะประกาศว่าพวกเขาได้ทำการปฏิวัติแล้ว และกองกำลังคณะปฏิวัติก็จะรุกคืบไปทางตะวันออกต่อไป
    รัฐมนตรีอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติการอย่างชัดเจน แต่ Felthman ยังสงสัยว่า ไอ้ทีพูดมาทั้งหมดจะเชื่อถือได้ขนาดไหน
    “แล้วทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่” Stevens ถาม
    “จวนแล้วละ” รัฐมนตรีตอบ
    Stevens จิบชา แล้วถามต่อว่า เออ ! จวนแล้วของคุณนี่หมายความว่าอย่างไรนะ
    “ในไม่ช้านี้ละ”
    “เราได้ยินมาแยะแล้ว” Stevens พูดนุ่มๆ และเงียบ มันไม่ใช่ความเงียบแบบที่ทำให้อึดอัด แต่ดูเป็นการพักคิดมากกว่า Stevens เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการทำให้ความเงียบกลายเป็นการเชื้อเชิญ
    รัฐมนตรีพูดต่อว่า “มันจะเริ่มคืนนี้แล้วละ”
    นี่เป็นข้อมูลที่น่าตื่นเต้น สมมุติว่าเป็นเรื่องจริง จังหวะเวลา การออกแบบ การจับอาวุธลุกขึ้นมาต่อสู้ในเมืองหลวงของประเทศที่ปกครองโดยเผด็จการมากว่า 40 ปี ! ทั้ง Stevens และ Felthman ต่างรีบส่งรหัสลับรายงานไปทางวอซิงตัน แต่มันก็ต้องระมัดระวังอย่างมาก ใครจะรู้ว่าจะเชื่อใครได้ขนาดไหนในระหว่างการทำสงคราม ?
    ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินหลังกำแพง Château Christophe ความมืดค่อยๆเข้ามาครอบคลุมเถาองุ่นต้นฝรั่งและเรือนรับรอง หลังจากมืดสนิท Felthman ได้ยินเสียงของปืนไรเฟิลดังก้อง เสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องเหมือนการเฉลิมฉลอง
    การต่อสู้ที่ Tripoli ได้เริ่มขึ้นแล้วพร้อมกับเสียงสวดที่กำลังเริ่มเช่นกัน และเมืองที่ตื่นขึ้นมาเมืองแรกคือ Souq al-Jamaa
    คนเล่านิทาน
    7 มิย. 57
    นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 4 ปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ.2011 Feltman ซึ่งเป็นทั้งนายและเพื่อน Stevens เดินทางมา Benghazi เพื่อมาฟังความคืบหน้า ในการนัดพบครั้งหลังสุดในวันที่ 20 สิงหาคม กับแกนนำระดับสูงของฝ่ายกบฎ ซึ่งเป็นระดับรัฐมนตรี ฝ่ายอเมริกันอยากรู้ให้แน่ใจว่าฝ่ายกบฏจะบุก Tripoli เมื่อไหร่ เมื่อทั้ง 2 คนเดินเข้าไปที่โรงแรม El Fadeel Hotel ซึ่งรัฐมนตรีนั่งคอยอยู่ในห้องประชุม Stevens กระซิบบอก Feltman ว่า เรายังมีเวลา เราไปนั่งสังเกตการณ์สักพักกันดีกว่า Stevens ชอบไปซุ่มสังเกตการณ์ตามร้านกาแฟ หรือตลาด ในสำนักงานหรือห้องรับแขก เขาต้องการได้ข้อมูล บางที่เป็นข้อมูลทั่วไป บางที่เป็นข้อมูลเฉพาะ เขาบอกว่าเราจะไม่ได้ข้อมูลนั้นจากการถามตรงๆหรอก เราจะได้จากการฟังมากกว่าการถาม แล้วเขาจะใช้วิธีหยุดฟังเวลาคุย หยุดเพื่อสร้างโอกาส ให้อีกฝ่ายพูดเติม รัฐมนตรีที่พวกอเมริกันจะไปคุยด้วยนี้ เป็นรัฐมนตรีที่ Qaddafi ตัดสินประหารชีวิตหลังจาก ที่เจ้าตัวหนีมาแล้ว รัฐมนตรีทักทายกับอเมริกันอย่างเป็นมิตร ชาถูกนำมาเสริฟ การสนทนาเริ่มขึ้น รัฐมนตรีเล่าถึงการที่เตรียมบุก Tripoli ซึ่งขณะนั้นการรบกำลังรุกไปที่ Soug-al-Jumaa เมืองที่อยู่ติด ๆ กับ Barghazi ส่วนเมืองอื่นๆจะลุกฮือพร้อมนำอาวุธที่ลอบนำเข้าไปไว้ในเมืองแล้ว และถึงตอนนั้นชาวเมือง Tripoli ก็จะประกาศว่าพวกเขาได้ทำการปฏิวัติแล้ว และกองกำลังคณะปฏิวัติก็จะรุกคืบไปทางตะวันออกต่อไป รัฐมนตรีอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติการอย่างชัดเจน แต่ Felthman ยังสงสัยว่า ไอ้ทีพูดมาทั้งหมดจะเชื่อถือได้ขนาดไหน “แล้วทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่” Stevens ถาม “จวนแล้วละ” รัฐมนตรีตอบ Stevens จิบชา แล้วถามต่อว่า เออ ! จวนแล้วของคุณนี่หมายความว่าอย่างไรนะ “ในไม่ช้านี้ละ” “เราได้ยินมาแยะแล้ว” Stevens พูดนุ่มๆ และเงียบ มันไม่ใช่ความเงียบแบบที่ทำให้อึดอัด แต่ดูเป็นการพักคิดมากกว่า Stevens เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการทำให้ความเงียบกลายเป็นการเชื้อเชิญ รัฐมนตรีพูดต่อว่า “มันจะเริ่มคืนนี้แล้วละ” นี่เป็นข้อมูลที่น่าตื่นเต้น สมมุติว่าเป็นเรื่องจริง จังหวะเวลา การออกแบบ การจับอาวุธลุกขึ้นมาต่อสู้ในเมืองหลวงของประเทศที่ปกครองโดยเผด็จการมากว่า 40 ปี ! ทั้ง Stevens และ Felthman ต่างรีบส่งรหัสลับรายงานไปทางวอซิงตัน แต่มันก็ต้องระมัดระวังอย่างมาก ใครจะรู้ว่าจะเชื่อใครได้ขนาดไหนในระหว่างการทำสงคราม ? ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินหลังกำแพง Château Christophe ความมืดค่อยๆเข้ามาครอบคลุมเถาองุ่นต้นฝรั่งและเรือนรับรอง หลังจากมืดสนิท Felthman ได้ยินเสียงของปืนไรเฟิลดังก้อง เสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องเหมือนการเฉลิมฉลอง การต่อสู้ที่ Tripoli ได้เริ่มขึ้นแล้วพร้อมกับเสียงสวดที่กำลังเริ่มเช่นกัน และเมืองที่ตื่นขึ้นมาเมืองแรกคือ Souq al-Jamaa คนเล่านิทาน 7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คิงส์โพธิ์แดงรู้จริงเพราะมีสาย
    อันนี้เป็นความจริง และในก้าวไกล
    บอกเลย มีหนอนที่คอยรายงาน
    ความคืบหน้าของตัวตึงๆอย่างใกล้ชิด
    สำหรับเรื่องที่เท้งเต้ง ออกมาแก้ตัว
    อ้างว่าที่ไม่ช่วยผปสภ แม้แต่นิดเดียว
    ว่าเป็นอุดมการณ์ไม่อยากมีบุญคุณนั้น
    ไม่ใช่อาราย
    เท้งมันรีบไป ให้นักข่าวสัมภาษณ์
    แล้วลืมซื้อของไป ก็เลย เลยตามเลย
    รีบไปหาแสงจนลืมว่าชาวบ้านกำลังเดือดร้อน
    ก็อย่างที่เห็น ไปๆ ถามๆ ถ่ายรูป กลับ
    ก็เลยต้องหาทางลงแบบงงใจ
    เลยเถิดก็เลยต้องแถต่อให้สุด เลยหยุดไม่ได้
    เออดี มีทั้ง สส.ลักแกง วนพวงหรีด แล้วก็ไม่ต้องช่วยเหลือประชาชน
    ครบเลย พรรคส้มเน่า
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงรู้จริงเพราะมีสาย อันนี้เป็นความจริง และในก้าวไกล บอกเลย มีหนอนที่คอยรายงาน ความคืบหน้าของตัวตึงๆอย่างใกล้ชิด สำหรับเรื่องที่เท้งเต้ง ออกมาแก้ตัว อ้างว่าที่ไม่ช่วยผปสภ แม้แต่นิดเดียว ว่าเป็นอุดมการณ์ไม่อยากมีบุญคุณนั้น ไม่ใช่อาราย เท้งมันรีบไป ให้นักข่าวสัมภาษณ์ แล้วลืมซื้อของไป ก็เลย เลยตามเลย รีบไปหาแสงจนลืมว่าชาวบ้านกำลังเดือดร้อน ก็อย่างที่เห็น ไปๆ ถามๆ ถ่ายรูป กลับ ก็เลยต้องหาทางลงแบบงงใจ เลยเถิดก็เลยต้องแถต่อให้สุด เลยหยุดไม่ได้ เออดี มีทั้ง สส.ลักแกง วนพวงหรีด แล้วก็ไม่ต้องช่วยเหลือประชาชน ครบเลย พรรคส้มเน่า #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวปลอมมาเลเซีย มีถ้ำใหญ่ในกัวลาลัมเปอร์

    การค้นหาร่างของนางวิชัยลักษณี (Vijayalakshmi) นักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดียวัย 48 ปี ประสบอุบัติเหตุตกลงไปในหลุมที่ยุบตัวลงมา บริเวณถนนมัสยิดอินเดีย (Jalan Masjid India) กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ดำเนินการต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ หลังจากประสบเหตุเมื่อเวลา 08.44 น. ของเช้าวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา

    สำนักข่าวเบอร์นามา ของมาเลเซียรายงานว่า ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ (26 ส.ค.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงของบริษัท อินดะห์ วอเตอร์ คอนซอร์เตียม (IWK) ล้างเศษหินที่ห่างจากท่อระบายน้ำหน้าหอพักยากิน (Wisma Yakin) ประมาณ 4 เมตร เพื่อให้ทีมปฎิบัติการค้นหาและกู้ภัย (SAR) ตรวจสอบว่ามีวัสดุแปลกปลอมติดอยู่บนเศษหินหรือไม่ นอกจากนี้ บริษัท IWK ยังได้ล้างท่อระบายน้ำทั้งหมดตามแนวท่อระบายน้ำ และตรวจสอบโรงบำบัดน้ำเสียที่ย่านพันตายดาลัม แต่ไม่พบเบาะแสใดๆ

    ด้านศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DBKL) ได้ร่วมมือกับนักธรณีวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อประเมินสถานการณ์และลดความเสี่ยงต่อการเกิดหลุมยุบอีก

    นางซาลิฮา มุสตาฟา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ของเขตปกครองกลางมาเลเซีย กล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายไมมูนาห์ โมฮัมหมัด ชารีฟ นายกเทศมนตรีกรุงกัวลาลัมเปอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อระบุแนวทางดำเนินการและยุทธศาสตร์ระยะยาวในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

    โดยอาจเป็นไปได้ที่จะทบทวนนโยบายการวางผังเมืองในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์หลุมยุบอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งฝ่ายดินแดนสหพันธ์และกรุงกัวลาลัมเปอร์จะเสริมขั้นตอนปฎิบัติงาน โดยต้องส่งผลการศึกษาด้านธรณีเทคนิคจากวิศวกรในระหว่างยื่นขออนุมัติการวางผังเมือง

    พร้อมกันนี้ ยังได้ประสานงานกับนายบีเอ็น เรดดี้ ข้าหลวงใหญ่อินเดียประจำมาเลเซีย รายงานความคืบหน้าปฎิบัติการค้นหาและกู้ภัยนักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดียอย่างต่อเนื่อง โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้ เหตุการณ์ล่าสุดเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้พิจารณาและปรับปรุงวิธีการเฝ้าระวังและตอยสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

    ด้านกรมตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย ได้ขยายวีซ่าให้กับสมาชิกในครอบครัวของนางวิชัยลักษณี 4 คน พร้อมกันนี้ ยังมีตัวแทนของนายอาห์หมัด ซาฮิด ฮามิดิ รองนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับสมาชิกในครอบครัวดังกล่าวที่จุดเกิดเหตุ พร้อมมอบความช่วยเหลือและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ผลจากเหตุการณ์หลุมยุบที่เกิดขึ้น บนโซเชียลมีเดียมีการแชร์บทความที่อ้างว่ามาจาก ดร.ซาราห์ จามาล จากภาควิชาธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยมาลายา (UM) อ้างว่ามี “ถ้ำร้างขนาดใหญ่” อยู่ใต้กรุงกัวลาลัมเปอร์ ทำให้ภาควิชาธรณีวิทยาของมหาวิทยาลัยมาลายา ปฎิเสธรายงานดังกล่าว โดยระบุว่าไม่มีนักธรณีวิทยาคนดังกล่าวทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัย

    รศ.ดร.เมียร์ ฮาคิฟ อามีร์ ฮัสซัน หัวหน้าภาควิชาธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยมาลายา ยืนยันว่าไม่มีนักธรณีวิทยาชื่อซาราห์ จามาล คนใดที่ขึ้นทะเบียนกับคณะกรรมการธรณีวิทยามาเลเซีย เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้อิงตามข้อเท็จจริงและเป็นเท็จ ภาควิชากำลังใช้ความระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์หลุมยุบที่ถนนมัสยิดอินเดีย เนื่องจากการค้นหาผู้สูญหายและการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินต่อไป

    #Newskit #KualaLumpur #JalanMasjidIndia
    ข่าวปลอมมาเลเซีย มีถ้ำใหญ่ในกัวลาลัมเปอร์ การค้นหาร่างของนางวิชัยลักษณี (Vijayalakshmi) นักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดียวัย 48 ปี ประสบอุบัติเหตุตกลงไปในหลุมที่ยุบตัวลงมา บริเวณถนนมัสยิดอินเดีย (Jalan Masjid India) กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ดำเนินการต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ หลังจากประสบเหตุเมื่อเวลา 08.44 น. ของเช้าวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าวเบอร์นามา ของมาเลเซียรายงานว่า ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ (26 ส.ค.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงของบริษัท อินดะห์ วอเตอร์ คอนซอร์เตียม (IWK) ล้างเศษหินที่ห่างจากท่อระบายน้ำหน้าหอพักยากิน (Wisma Yakin) ประมาณ 4 เมตร เพื่อให้ทีมปฎิบัติการค้นหาและกู้ภัย (SAR) ตรวจสอบว่ามีวัสดุแปลกปลอมติดอยู่บนเศษหินหรือไม่ นอกจากนี้ บริษัท IWK ยังได้ล้างท่อระบายน้ำทั้งหมดตามแนวท่อระบายน้ำ และตรวจสอบโรงบำบัดน้ำเสียที่ย่านพันตายดาลัม แต่ไม่พบเบาะแสใดๆ ด้านศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DBKL) ได้ร่วมมือกับนักธรณีวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อประเมินสถานการณ์และลดความเสี่ยงต่อการเกิดหลุมยุบอีก นางซาลิฮา มุสตาฟา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ของเขตปกครองกลางมาเลเซีย กล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายไมมูนาห์ โมฮัมหมัด ชารีฟ นายกเทศมนตรีกรุงกัวลาลัมเปอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อระบุแนวทางดำเนินการและยุทธศาสตร์ระยะยาวในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยอาจเป็นไปได้ที่จะทบทวนนโยบายการวางผังเมืองในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์หลุมยุบอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งฝ่ายดินแดนสหพันธ์และกรุงกัวลาลัมเปอร์จะเสริมขั้นตอนปฎิบัติงาน โดยต้องส่งผลการศึกษาด้านธรณีเทคนิคจากวิศวกรในระหว่างยื่นขออนุมัติการวางผังเมือง พร้อมกันนี้ ยังได้ประสานงานกับนายบีเอ็น เรดดี้ ข้าหลวงใหญ่อินเดียประจำมาเลเซีย รายงานความคืบหน้าปฎิบัติการค้นหาและกู้ภัยนักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดียอย่างต่อเนื่อง โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้ เหตุการณ์ล่าสุดเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้พิจารณาและปรับปรุงวิธีการเฝ้าระวังและตอยสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ด้านกรมตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย ได้ขยายวีซ่าให้กับสมาชิกในครอบครัวของนางวิชัยลักษณี 4 คน พร้อมกันนี้ ยังมีตัวแทนของนายอาห์หมัด ซาฮิด ฮามิดิ รองนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับสมาชิกในครอบครัวดังกล่าวที่จุดเกิดเหตุ พร้อมมอบความช่วยเหลือและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลจากเหตุการณ์หลุมยุบที่เกิดขึ้น บนโซเชียลมีเดียมีการแชร์บทความที่อ้างว่ามาจาก ดร.ซาราห์ จามาล จากภาควิชาธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยมาลายา (UM) อ้างว่ามี “ถ้ำร้างขนาดใหญ่” อยู่ใต้กรุงกัวลาลัมเปอร์ ทำให้ภาควิชาธรณีวิทยาของมหาวิทยาลัยมาลายา ปฎิเสธรายงานดังกล่าว โดยระบุว่าไม่มีนักธรณีวิทยาคนดังกล่าวทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัย รศ.ดร.เมียร์ ฮาคิฟ อามีร์ ฮัสซัน หัวหน้าภาควิชาธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยมาลายา ยืนยันว่าไม่มีนักธรณีวิทยาชื่อซาราห์ จามาล คนใดที่ขึ้นทะเบียนกับคณะกรรมการธรณีวิทยามาเลเซีย เนื้อหาของบทความนี้ไม่ได้อิงตามข้อเท็จจริงและเป็นเท็จ ภาควิชากำลังใช้ความระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์หลุมยุบที่ถนนมัสยิดอินเดีย เนื่องจากการค้นหาผู้สูญหายและการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินต่อไป #Newskit #KualaLumpur #JalanMasjidIndia
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 768 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นัดประชุม 15 ส.ค.นี้ จ่อเรียก "บิ๊กโจ๊ก" กับพวกรับทราบข้อกล่าวหา คาดภายในเดือนส.ค.นี้ เผยคืบหน้าแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000074269

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    คณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นัดประชุม 15 ส.ค.นี้ จ่อเรียก "บิ๊กโจ๊ก" กับพวกรับทราบข้อกล่าวหา คาดภายในเดือนส.ค.นี้ เผยคืบหน้าแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000074269 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1463 มุมมอง 0 รีวิว
  • ’อนันต์ อัศวโภคิน’นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์‘แลนด์แอนด์เฮ้าส์ป่วยหนัก ยังส่งอัยการฟ้องคดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นไม่ได้ อัยการคดีพิเศษสั่งพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง

    3 สิงหาคม 2567-รายงานผู้จัดการออนไลน์ระบุว่า ความคืบหน้าคดีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้อง นายอนันต์ อัศวโภคิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ 4 หมื่นล้าน ผู้ต้องหาฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุได้มีการสมคบกัน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ตามความเห็นแย้งของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

    ในคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน จากการขายที่ดินต่อให้กับ นายอนันต์ อัศวโภคิน ที่มีการออกเอกสารข่าวชี้ขาดสั่งฟ้อง เมื่อวันที่ 29 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา

    สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 โดยพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบดำเนินคดี ได้นัดหมาย นายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ต้องหา มาพบพนักงานอัยการ เพื่อส่งฟ้องศาลในวันที่ 2 เม.ย.2567 แต่ นายอนันต์ ไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานอัยการ ขอเลื่อนการส่งตัวออกไปก่อน โดยอ้างเหตุผลอาการเจ็บป่วย พร้อมแสดงใบรองรับแพทย์ยืนยัน

    พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 ได้ให้เลื่อนการส่งตัวฟ้องดังกล่าว เป็นวันที่ 24 พ.ค.2567 เเละเลื่อนอีกครั้ง 24 มิ.ย. 2567 โดยให้เหตุผลทางการเจ็บป่วยเช่นเดิม

    เหตุจากการตรวจสอบ พบว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีฟอกเงินทางอาญา ได้ตรวจสอบอาการเจ็บป่วยของนายอนันต์ โดยเรียกแพทย์หญิง ผู้ทำการรักษาให้ถ้อยคำชี้แจงเกี่ยวกับการรักษาอาการเจ็บป่วย พบว่า มีภาวะไตวายระยะสุดท้าย ได้รับการเปลี่ยนแปลงไตที่ประเทศออสเตรเลีย พบความเสียหายของไตจนทำงานไม่ได้ เรียกว่าภาวะสลัดไต ส่งผลให้ต้องกลับมาฟอกเลือดล้างไตอีกครั้ง เมื่อไตเสียหายขั้นสุดท้ายกลายเป็นไตวายระยะสุดท้ายอย่างถาวร ต้องฟอกเลือดใหม่สามครั้งต่อหนึ่งสัปดาห์ต่อไปตลอดชีวิตจนกว่าจะปลูกถ่ายไตครั้งที่สองอีกครั้ง

    ขณะนี้ยังไม่สามารถเปลี่ยนไตใหม่ได้ เนื่องจากร่างกายมีภาวะแทรกซ้อนที่อวัยวะสำคัญ คือ ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เลือดออกในสมอง และไม่มีภาวะภูมิคุ้มกันสภาพ ร่างกายไม่ควรที่จะเคลื่อนย้ายออกจากสถานที่ปลอดเชื้อ ในขณะที่ยังมีอาการป่วยเช่นนี้ เนื่องจากทำให้ติดเชื้อ และเสียชีวิตได้ จึงไม่ควรนำตัวนายอนันต์ ไปจากการดูแลรักษาของแพทย์เฉพาะทาง และร่างกายของผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย พร้อมที่จะรักษาชีวิตผู้ป่วยได้ จนกว่าผ่าตัดปลูกถ่ายเปลี่ยนไตใหม่จะเรียบร้อย และไม่เกิดภาวะสลัดไตอีก ยังถือว่าเป็นผู้ป่วยวิกฤติมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ตลอดเวลา หากอยู่ในสถานที่ไม่เหมาะสมแก่การดูแลรักษาดังกล่าว

    โดยเเพทย์หญิงคนดังกล่าวได้ให้การไว้ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2567 ก่อนส่งเรื่องมายังอัยการคดีพิเศษ 4 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาในเรื่องการนัดตัวส่งฟ้อง
    ทั้งนี้มีรายงานว่า เเนวทางของพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนนั้น ให้พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบ ว่า นายอนันต์ อัศวโภคิน มีอาการเจ็บป่วยจริงหรือไม่เเละให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำแพทย์เพิ่มเติม ว่า หากมีกรณีที่จะต้องยื่นฟ้อง นายอนันต์ ต่อศาลอาญา การนำตัวมาฟ้องต่อศาล จะกระทบหรือ เสี่ยงต่ออาการป่วยในระดับใด เพราะเหตุใด เเละแพทย์มีคำแนะนำอย่างไร

    ที่มา : https://mgronline.com/crime/detail/9670000070517

    #Thaitimes
    ’อนันต์ อัศวโภคิน’นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์‘แลนด์แอนด์เฮ้าส์ป่วยหนัก ยังส่งอัยการฟ้องคดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นไม่ได้ อัยการคดีพิเศษสั่งพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง 3 สิงหาคม 2567-รายงานผู้จัดการออนไลน์ระบุว่า ความคืบหน้าคดีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้อง นายอนันต์ อัศวโภคิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ 4 หมื่นล้าน ผู้ต้องหาฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุได้มีการสมคบกัน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ตามความเห็นแย้งของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน จากการขายที่ดินต่อให้กับ นายอนันต์ อัศวโภคิน ที่มีการออกเอกสารข่าวชี้ขาดสั่งฟ้อง เมื่อวันที่ 29 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 โดยพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบดำเนินคดี ได้นัดหมาย นายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ต้องหา มาพบพนักงานอัยการ เพื่อส่งฟ้องศาลในวันที่ 2 เม.ย.2567 แต่ นายอนันต์ ไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานอัยการ ขอเลื่อนการส่งตัวออกไปก่อน โดยอ้างเหตุผลอาการเจ็บป่วย พร้อมแสดงใบรองรับแพทย์ยืนยัน พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 ได้ให้เลื่อนการส่งตัวฟ้องดังกล่าว เป็นวันที่ 24 พ.ค.2567 เเละเลื่อนอีกครั้ง 24 มิ.ย. 2567 โดยให้เหตุผลทางการเจ็บป่วยเช่นเดิม เหตุจากการตรวจสอบ พบว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีฟอกเงินทางอาญา ได้ตรวจสอบอาการเจ็บป่วยของนายอนันต์ โดยเรียกแพทย์หญิง ผู้ทำการรักษาให้ถ้อยคำชี้แจงเกี่ยวกับการรักษาอาการเจ็บป่วย พบว่า มีภาวะไตวายระยะสุดท้าย ได้รับการเปลี่ยนแปลงไตที่ประเทศออสเตรเลีย พบความเสียหายของไตจนทำงานไม่ได้ เรียกว่าภาวะสลัดไต ส่งผลให้ต้องกลับมาฟอกเลือดล้างไตอีกครั้ง เมื่อไตเสียหายขั้นสุดท้ายกลายเป็นไตวายระยะสุดท้ายอย่างถาวร ต้องฟอกเลือดใหม่สามครั้งต่อหนึ่งสัปดาห์ต่อไปตลอดชีวิตจนกว่าจะปลูกถ่ายไตครั้งที่สองอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่สามารถเปลี่ยนไตใหม่ได้ เนื่องจากร่างกายมีภาวะแทรกซ้อนที่อวัยวะสำคัญ คือ ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เลือดออกในสมอง และไม่มีภาวะภูมิคุ้มกันสภาพ ร่างกายไม่ควรที่จะเคลื่อนย้ายออกจากสถานที่ปลอดเชื้อ ในขณะที่ยังมีอาการป่วยเช่นนี้ เนื่องจากทำให้ติดเชื้อ และเสียชีวิตได้ จึงไม่ควรนำตัวนายอนันต์ ไปจากการดูแลรักษาของแพทย์เฉพาะทาง และร่างกายของผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย พร้อมที่จะรักษาชีวิตผู้ป่วยได้ จนกว่าผ่าตัดปลูกถ่ายเปลี่ยนไตใหม่จะเรียบร้อย และไม่เกิดภาวะสลัดไตอีก ยังถือว่าเป็นผู้ป่วยวิกฤติมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ตลอดเวลา หากอยู่ในสถานที่ไม่เหมาะสมแก่การดูแลรักษาดังกล่าว โดยเเพทย์หญิงคนดังกล่าวได้ให้การไว้ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2567 ก่อนส่งเรื่องมายังอัยการคดีพิเศษ 4 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาในเรื่องการนัดตัวส่งฟ้อง ทั้งนี้มีรายงานว่า เเนวทางของพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนนั้น ให้พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบ ว่า นายอนันต์ อัศวโภคิน มีอาการเจ็บป่วยจริงหรือไม่เเละให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำแพทย์เพิ่มเติม ว่า หากมีกรณีที่จะต้องยื่นฟ้อง นายอนันต์ ต่อศาลอาญา การนำตัวมาฟ้องต่อศาล จะกระทบหรือ เสี่ยงต่ออาการป่วยในระดับใด เพราะเหตุใด เเละแพทย์มีคำแนะนำอย่างไร ที่มา : https://mgronline.com/crime/detail/9670000070517 #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 557 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇹🇭91.วันที่ 16 ก.ค.2567 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและระบบประสาท ในฐานะที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา เข้ายื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมต.สธ.เพื่อยื่นข้อเสนอกรณีถอด “ฟ้าทะลายโจร” ออกจากแนวทางรักษา ทั้งที่มีประสิทธิภาพ พร้อมนำข้อมูลตีแผ่ต่อสาธารณะ ถึงสาเหตุถอดสมุนไพรไทยดังกล่าว ทั้งที่ช่วงโควิดเป็นสมุนไพรรักษาที่ดี ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมาก
    https://www.hfocus.org/content/2024/07/31098?
    https://www.hfocus.org/content/2024/07/31097
    https://youtu.be/rjUdN1cFr7I?si=p8Pl1398CpXUjpJQ
    🇹🇭92.วันที่ 23 ก.ค.2567 แหล่งข่าวจากคณะรัฐมนตรี เรื่องกัญชา สรุป คณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรีให้นำเรื่องกัญชา กัญชงตราเป็นพระราชบัญญัติ ทุกพรรค ทุกกลุ่มสามารถเสนอร่างของตัวเองต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป แปลว่าไม่ใช่นำกัญชา กัญชงเข้าสู่บัญชียาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด แต่ให้มีกฎหมายเฉพาะสำหรับใช้ประโยชน์และควบคุมกัญชา กัญชง
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1017634479730252/?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000062202
    🇹🇭93.วันที่ 2 ส.ค.2567 “อ.ปานเทพ” เผย “ฟ้าทะลายโจร” กลับมาอยู่ในขั้นตอนการรักษาโควิดแล้ว หลังกระทรวงสาธารณสุขให้ยกเลิกแนวเวชปฏิบัติฯ ฉบับวันที่ 5 มิ.ย.67 และให้ใช้แนวเวชปฏิบัติฯ ฉบับวันที่ 18 เม.ย.66 ตามเดิม นับตั้งแต่เช้าวันที่ 3 ส.ค.ผู้ป่วยทุกคนสามารถทวงสิทธิของตัวเองในการรับยาฟ้าทะลายโจรได้
    https://www.hfocus.org/content/2024/07/31153?
    https://www.hfocus.org/content/2024/08/31270
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000070325
    🇹🇭94.วันที่ 24 ก.ค.2567 กลุ่มฯ ได้ยื่นจดหมายถึงท่านประธานองคมนตรีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์
    https://www.facebook.com/share/p/HawbeAHGmgvfdQBt/?mibextid=A7sQZp เรื่อง ขอทราบความคืบหน้าเรื่องการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกา อ้างถึง ๑.ฎีกาถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ๒.หนังสือที่ มท. ๐๒๐๕.๓/๑๐๑๔๘ ลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗
    จดหมายถวายฎีกา ๔พ.ค.๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1yVM_MSIgAhtePcM8TRI1Ci3X1AJdyE2j/view?usp=drivesdk
    เอกสารทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงาน https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1815963646285209642
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1816353451342979103
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1815963833749377048
    🇹🇭95.วันที่ 9 สิงหาคม 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือติดตามความคืบหน้าเพื่อเร่งดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทไฟเซอร์ และเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA)
    เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฯพณฯ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะประธานคณะกรรมการยา ตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ เลขาธิการอาหารและยา นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช และกรรมการยา ตามตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ ทุกท่าน
    https://www.facebook.com/share/p/ERpyn1XfdD9BdtNV/?mibextid=A7sQZp
    รวมจดหมายเปิดผนึกและหนังสือต่างๆที่ทางกลุ่มฯได้ยื่นให้กับหน่วยงานภาครัฐ
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrn🇹🇭96.วันที่ 15 สิงหาคม 2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือถึง เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่อง สำนักงานอาหารและยา จงใจให้ข้อมูลเท็จต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน❗โดยเฉพาะ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นายไพศาล ดั่นคุ้ม ได้กระทำความผิดใช้อำนาจโดยมิชอบ อันเป็นความผิดทางอาญา และยังจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อปกปิดความผิดของตนเอง อันเป็นการชี้ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามิได้มีความสำนึกในการกระทำผิดดังกล่าวซ้ำร้ายยังกระทำความผิดซ้ำซ้อนเพื่อปกปิดความผิดของตนด้วย การใช้อำนาจโดยมิชอบนี้มีผลให้การพิจารณาอนุญาตยาดังกล่าวมิได้เป็นไปตามข้อกำหนดที่บัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัติยา อันอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบมากมายต่อประชาชนผู้บริโภค ทั้งนี้ขณะนี้ได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตยา โดยเฉพาะบริษัทไฟเซอร์โดยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในหลายประเทศทั่วโลก
    ด้วยเหตุนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินจำต้อง เสนอเรื่องดังกล่าวพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง และให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๓๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ ต่อไป
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/507554471960215/?
    ไฟล์จดหมายฉบับนี้
    https://drive.google.com/file/d/1EZfSguSfbiz2wXzPZefhL5fJQrr6boxN/view?usp=drivesdk
    ไฟล์ข้อมูลสนง.อาหารและยาทำผิด
    https://drive.google.com/file/d/15qYw-tywnTcvd-U9g0bO3M2IJLSs8KCg/view?usp=drivesdk
    🇹🇭97. วันที่ 21 สิงหาคม 2567 ส่งจดหมาย
    เรียน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำเนาเรียน ผู้ตรวจการแผ่นดิน, เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (ในฐานะกรรมการการยาตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐) ,อัยการสูงสุดล, เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
    เรื่อง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจงใจให้ข้อมูลเท็จต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
    https://drive.google.com/file/d/1ITQDYYc3BtMcG7Kc38nbUpFNvKDkDkbN/view?usp=drive_link
    🇹🇭98. วันที่ 23 ส.ค.2567 วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 001/2567
    เรื่อง เตือนคนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนกต่อการระบาดของเชื้อฝีดาษลิง ขอให้ตระหนักในการป้องกันและระวังตัว เตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน มั่นใจประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน
    https://www.facebook.com/share/p/gJQ3PSnTv256ftMC/?mibextid=xfxF2i
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027?fbclid=IwY2xjawFH9YhleHRuA2FlbQIxMQABHV0h0Pndyns1_EHYrSgSqbQxI3mGJoQaF6MfUInKnbKFaZ3Tv_WaP6Pxkg_aem_3KHXFkqMQZ8OmkamXTCXUw
    🇹🇭99. วันที่ 5 กันยายน 2567 กลุ่มฯได้ส่งส่งจดหมาย เรียนท่านนายกแพทยสภา นางสมศรี เผ่าสวัสดิ์ และ เลขาแพทยสภา นายอิทธิพร คณะเจริญ ขอให้ติดตามความคืบหน้าการสอบสวนจริยธรรมของ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ กรณีให้ข้อมูลเท็จในใบยินยอมวัคซีนโควิด
    https://drive.google.com/file/d/1SuEiz81T-JcQqQA578-Moy0_vVLHupaf/view?usp=drivesdk
    🇹🇭100.วันที่ 18 กันยายน 2567
    ✍️หัวข้อ วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกาย & ใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ คุณปูสัมภาษณ์หมอ อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW
    ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674
    ✍️คอรัปชั่นในวงการแพทย์หรือไม่? / อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/scS2cbEX9nQ?si=RP5gqQranGVPyXkY
    ✍️กราฟีนออกไซด์ / อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/Lq3EFdNxKvE?si=Jy-Io5EwXedrB5RY
    ✍️เปิดข้อมูลความจริง ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตราย จากพิษของวัคซีน | ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=skv5OJVtk7-b5HWW
    🇹🇭101.วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ
    https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk
    ✍️ อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​
    https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/
    แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc
    ✍️การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv
    รวมหลักฐานการลดประชากรโลก
    https://www.rookon.com/?p=936
    🇹🇭102.วันที่ 23 ก.ย. 2567 ส่งจดหมาย ❗คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที”
    เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข
    สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk
    ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY
    https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/WBMQJxa?utm_source=lineshare
    ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway
    https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk

    🇹🇭🇹🇭🇹🇭
    คนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    🇹🇭91.วันที่ 16 ก.ค.2567 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและระบบประสาท ในฐานะที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา เข้ายื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมต.สธ.เพื่อยื่นข้อเสนอกรณีถอด “ฟ้าทะลายโจร” ออกจากแนวทางรักษา ทั้งที่มีประสิทธิภาพ พร้อมนำข้อมูลตีแผ่ต่อสาธารณะ ถึงสาเหตุถอดสมุนไพรไทยดังกล่าว ทั้งที่ช่วงโควิดเป็นสมุนไพรรักษาที่ดี ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมาก https://www.hfocus.org/content/2024/07/31098? https://www.hfocus.org/content/2024/07/31097 https://youtu.be/rjUdN1cFr7I?si=p8Pl1398CpXUjpJQ 🇹🇭92.วันที่ 23 ก.ค.2567 แหล่งข่าวจากคณะรัฐมนตรี เรื่องกัญชา สรุป คณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรีให้นำเรื่องกัญชา กัญชงตราเป็นพระราชบัญญัติ ทุกพรรค ทุกกลุ่มสามารถเสนอร่างของตัวเองต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป แปลว่าไม่ใช่นำกัญชา กัญชงเข้าสู่บัญชียาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด แต่ให้มีกฎหมายเฉพาะสำหรับใช้ประโยชน์และควบคุมกัญชา กัญชง https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1017634479730252/? https://mgronline.com/qol/detail/9670000062202 🇹🇭93.วันที่ 2 ส.ค.2567 “อ.ปานเทพ” เผย “ฟ้าทะลายโจร” กลับมาอยู่ในขั้นตอนการรักษาโควิดแล้ว หลังกระทรวงสาธารณสุขให้ยกเลิกแนวเวชปฏิบัติฯ ฉบับวันที่ 5 มิ.ย.67 และให้ใช้แนวเวชปฏิบัติฯ ฉบับวันที่ 18 เม.ย.66 ตามเดิม นับตั้งแต่เช้าวันที่ 3 ส.ค.ผู้ป่วยทุกคนสามารถทวงสิทธิของตัวเองในการรับยาฟ้าทะลายโจรได้ https://www.hfocus.org/content/2024/07/31153? https://www.hfocus.org/content/2024/08/31270 https://mgronline.com/qol/detail/9670000070325 🇹🇭94.วันที่ 24 ก.ค.2567 กลุ่มฯ ได้ยื่นจดหมายถึงท่านประธานองคมนตรีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ https://www.facebook.com/share/p/HawbeAHGmgvfdQBt/?mibextid=A7sQZp เรื่อง ขอทราบความคืบหน้าเรื่องการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกา อ้างถึง ๑.ฎีกาถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ๒.หนังสือที่ มท. ๐๒๐๕.๓/๑๐๑๔๘ ลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ จดหมายถวายฎีกา ๔พ.ค.๖๗ https://drive.google.com/file/d/1yVM_MSIgAhtePcM8TRI1Ci3X1AJdyE2j/view?usp=drivesdk เอกสารทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงาน https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna https://x.com/Thaipithaksith/status/1815963646285209642 https://x.com/Thaipithaksith/status/1816353451342979103 https://x.com/Thaipithaksith/status/1815963833749377048 🇹🇭95.วันที่ 9 สิงหาคม 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือติดตามความคืบหน้าเพื่อเร่งดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทไฟเซอร์ และเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฯพณฯ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะประธานคณะกรรมการยา ตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ เลขาธิการอาหารและยา นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช และกรรมการยา ตามตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ ทุกท่าน https://www.facebook.com/share/p/ERpyn1XfdD9BdtNV/?mibextid=A7sQZp รวมจดหมายเปิดผนึกและหนังสือต่างๆที่ทางกลุ่มฯได้ยื่นให้กับหน่วยงานภาครัฐ https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrn🇹🇭96.วันที่ 15 สิงหาคม 2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือถึง เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่อง สำนักงานอาหารและยา จงใจให้ข้อมูลเท็จต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน❗โดยเฉพาะ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นายไพศาล ดั่นคุ้ม ได้กระทำความผิดใช้อำนาจโดยมิชอบ อันเป็นความผิดทางอาญา และยังจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อปกปิดความผิดของตนเอง อันเป็นการชี้ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามิได้มีความสำนึกในการกระทำผิดดังกล่าวซ้ำร้ายยังกระทำความผิดซ้ำซ้อนเพื่อปกปิดความผิดของตนด้วย การใช้อำนาจโดยมิชอบนี้มีผลให้การพิจารณาอนุญาตยาดังกล่าวมิได้เป็นไปตามข้อกำหนดที่บัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัติยา อันอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบมากมายต่อประชาชนผู้บริโภค ทั้งนี้ขณะนี้ได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตยา โดยเฉพาะบริษัทไฟเซอร์โดยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในหลายประเทศทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินจำต้อง เสนอเรื่องดังกล่าวพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง และให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๓๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ ต่อไป https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/507554471960215/? ไฟล์จดหมายฉบับนี้ https://drive.google.com/file/d/1EZfSguSfbiz2wXzPZefhL5fJQrr6boxN/view?usp=drivesdk ไฟล์ข้อมูลสนง.อาหารและยาทำผิด https://drive.google.com/file/d/15qYw-tywnTcvd-U9g0bO3M2IJLSs8KCg/view?usp=drivesdk 🇹🇭97. วันที่ 21 สิงหาคม 2567 ส่งจดหมาย เรียน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำเนาเรียน ผู้ตรวจการแผ่นดิน, เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (ในฐานะกรรมการการยาตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐) ,อัยการสูงสุดล, เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจงใจให้ข้อมูลเท็จต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน https://drive.google.com/file/d/1ITQDYYc3BtMcG7Kc38nbUpFNvKDkDkbN/view?usp=drive_link 🇹🇭98. วันที่ 23 ส.ค.2567 วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 001/2567 เรื่อง เตือนคนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนกต่อการระบาดของเชื้อฝีดาษลิง ขอให้ตระหนักในการป้องกันและระวังตัว เตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน มั่นใจประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน https://www.facebook.com/share/p/gJQ3PSnTv256ftMC/?mibextid=xfxF2i https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027?fbclid=IwY2xjawFH9YhleHRuA2FlbQIxMQABHV0h0Pndyns1_EHYrSgSqbQxI3mGJoQaF6MfUInKnbKFaZ3Tv_WaP6Pxkg_aem_3KHXFkqMQZ8OmkamXTCXUw 🇹🇭99. วันที่ 5 กันยายน 2567 กลุ่มฯได้ส่งส่งจดหมาย เรียนท่านนายกแพทยสภา นางสมศรี เผ่าสวัสดิ์ และ เลขาแพทยสภา นายอิทธิพร คณะเจริญ ขอให้ติดตามความคืบหน้าการสอบสวนจริยธรรมของ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ กรณีให้ข้อมูลเท็จในใบยินยอมวัคซีนโควิด https://drive.google.com/file/d/1SuEiz81T-JcQqQA578-Moy0_vVLHupaf/view?usp=drivesdk 🇹🇭100.วันที่ 18 กันยายน 2567 ✍️หัวข้อ วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกาย & ใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ คุณปูสัมภาษณ์หมอ อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW ✍️“อ.ปานเทพ” ชี้ถึงเวลารื้อฟื้นศึกษาวิจัยตำรับยาสมัย ร.5 รับมือฝีดาษลิง https://mgronline.com/qol/detail/9670000085674 ✍️คอรัปชั่นในวงการแพทย์หรือไม่? / อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/scS2cbEX9nQ?si=RP5gqQranGVPyXkY ✍️กราฟีนออกไซด์ / อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/Lq3EFdNxKvE?si=Jy-Io5EwXedrB5RY ✍️เปิดข้อมูลความจริง ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตราย จากพิษของวัคซีน | ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=skv5OJVtk7-b5HWW 🇹🇭101.วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk ✍️ อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​ https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc ✍️การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv รวมหลักฐานการลดประชากรโลก https://www.rookon.com/?p=936 🇹🇭102.วันที่ 23 ก.ย. 2567 ส่งจดหมาย ❗คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” เรียน ปลัดกระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สำเนาเรียน สื่อมวลชน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/WBMQJxa?utm_source=lineshare ✍️ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก DrJudd Chontavat ในหัวข้อ"กลไกหนึ่งที่ spike protein ทำให้เกิดมะเร็งคือผ่าน JAK/STAT3 pathway https://www.facebook.com/share/p/Vd5xtCAziFnArPse/?mibextid=oFDknk 🇹🇭🇹🇭🇹🇭 คนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1553 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ทนายไพศาลแถลงด่วน
    ธ.ใหญ่เอาบัญชีลูกค้าเกรดเอตีเนียนประกบ บ.เกรดC ที่ตัวเองถือหุ้น พอNPL บ.ลูกค้าเกรดเอติดปูโล
    ช่วงเย็นวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19.00 น.โดยประมาณ
    ทนายชื่อดัง ได้เชิญสื่อมวลชนแถลงข่าวสำคัญระดับประเทศ
    โดยเรียกร้องให้แบงค์ชาติตรวจสอบธนาคารใหญ่ ที่เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ
    ..จากที่มีประชาชนเข้าร้องเรียน ว่าธนาคารใหญ่ได้นำเอกสารของลูกค้าเกรดเอ ทำเอกสารเท็จมอบอำนาจประกบกับบริษัทเครดิตเกรดซี โดยพบว่าบริษัทเกรดซีเหล่านั้น ล้วนมีธ.ใหญ่เป็นผู้ถือหุ้น โดยปล่อยกู้จำนวนหลักร้อยหลักพันล้าน โดยที่บริษัทเกรดเอไม่ทราบข้อมูลใดๆ
    ..ฉากสุดท้าย บริษัทเกรดซีที่ธ.ใหญ่ถือหุ้นไม่ชำระหนี้ จึงเป็น SE (หนี้ค้างชำระ) หรือ NPL (หนี้เสีย) หรือ จากการที่ในระบบธนาคารมีการเรียกเก็บเงินจากบัญชีลูกค้าเกรดเอในบัญชีที่จำนวนเงินไม่เพียงพอต่อการเรียกเก็บในธุรกรรมอำพรางดังกล่าว ก็ส่งผลกระทบให้ลูกค้าธ.ที่เป็นเกรดเอที่ถูกแอบอ้างได้รับผลกระทบติดเครดิตปูโล ซึ่งลูกค้าเกรดเอที่ถูก ธ.ใหญ่กระทำการล้วนมีทรัยพ์สินหลักร้อยล้านพันล้าน ก็ยังได้รับความเสียหายจากการกระทำของธนาคารโดยมิชอบ
    ..โดยทนายไพศาล พูดเสี่ยงสั่นเคลือว่า ตนส่งจดหมายเชิญสื่อ ตอนแรกก็ยังไม่มั่นใจว่า จะมีสื่อใดที่มีความกล้าที่จะถ่ายทอดความจริง แต่วันนี้มีนักข่าวหลายช่องที่กล้ามารับฟังการแถลง
    ..เนื่องจากธนาคารดังกล่าว เป็นผู้สนับสนุนทั้งทางตรง และทางอ้อมกับธุรกิจที่ซัพพอตสื่อ จึงถือว่ามีอิทธิพลกับสื่ออย่างยิ่ง
    และขอขอบคุณสื่อที่ได้เข้ามารับรู้เรื่องสำคัญในวันนี้ พร้อมย้ำว่ามีผู้เสียหายจำนวนหลายรายที่ถึงกับนั่งร้องไห้กับเครดิตที่เสียไป สำหรับตนมองว่าขนาดคนรวย ระดับร้อยล้านพันล้าน ธ.ยักษ์ใหญ่ยังกล้าที่จะกระทำการโดยมิชอบ แล้วประชาชนที่เป็นลูกค้าตัวเล็กๆ จะพ้นจากพฤติกรรมอำพรางดังกล่าวได้อย่างไร และจะรอดูว่า สื่อที่มาทำข่าววันนี้นั้น จะมีช่องใดกล้านำเสนอเรื่องนี้ ซึ่งเพจคิงส์โพธิ์แดงก็จะเกาะติดความคืบหน้าของเรื่องนี้เช่นกัน เพราะเป็นผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม และทนายไพศาล ยังประเมินจากข้อมูลที่มีว่า ธนาคารนี้ น่าจะเป็นขบวนการ "ฟ อ ก เ งิ น" เรียกร้องให้แบ็งค์ชาติสอบสวนเป็นการด่วน
    #คิงส์โพธิ์แดง รายงาน
    #ทนายไพศาลแถลงด่วน ธ.ใหญ่เอาบัญชีลูกค้าเกรดเอตีเนียนประกบ บ.เกรดC ที่ตัวเองถือหุ้น พอNPL บ.ลูกค้าเกรดเอติดปูโล ช่วงเย็นวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19.00 น.โดยประมาณ ทนายชื่อดัง ได้เชิญสื่อมวลชนแถลงข่าวสำคัญระดับประเทศ โดยเรียกร้องให้แบงค์ชาติตรวจสอบธนาคารใหญ่ ที่เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ ..จากที่มีประชาชนเข้าร้องเรียน ว่าธนาคารใหญ่ได้นำเอกสารของลูกค้าเกรดเอ ทำเอกสารเท็จมอบอำนาจประกบกับบริษัทเครดิตเกรดซี โดยพบว่าบริษัทเกรดซีเหล่านั้น ล้วนมีธ.ใหญ่เป็นผู้ถือหุ้น โดยปล่อยกู้จำนวนหลักร้อยหลักพันล้าน โดยที่บริษัทเกรดเอไม่ทราบข้อมูลใดๆ ..ฉากสุดท้าย บริษัทเกรดซีที่ธ.ใหญ่ถือหุ้นไม่ชำระหนี้ จึงเป็น SE (หนี้ค้างชำระ) หรือ NPL (หนี้เสีย) หรือ จากการที่ในระบบธนาคารมีการเรียกเก็บเงินจากบัญชีลูกค้าเกรดเอในบัญชีที่จำนวนเงินไม่เพียงพอต่อการเรียกเก็บในธุรกรรมอำพรางดังกล่าว ก็ส่งผลกระทบให้ลูกค้าธ.ที่เป็นเกรดเอที่ถูกแอบอ้างได้รับผลกระทบติดเครดิตปูโล ซึ่งลูกค้าเกรดเอที่ถูก ธ.ใหญ่กระทำการล้วนมีทรัยพ์สินหลักร้อยล้านพันล้าน ก็ยังได้รับความเสียหายจากการกระทำของธนาคารโดยมิชอบ ..โดยทนายไพศาล พูดเสี่ยงสั่นเคลือว่า ตนส่งจดหมายเชิญสื่อ ตอนแรกก็ยังไม่มั่นใจว่า จะมีสื่อใดที่มีความกล้าที่จะถ่ายทอดความจริง แต่วันนี้มีนักข่าวหลายช่องที่กล้ามารับฟังการแถลง ..เนื่องจากธนาคารดังกล่าว เป็นผู้สนับสนุนทั้งทางตรง และทางอ้อมกับธุรกิจที่ซัพพอตสื่อ จึงถือว่ามีอิทธิพลกับสื่ออย่างยิ่ง และขอขอบคุณสื่อที่ได้เข้ามารับรู้เรื่องสำคัญในวันนี้ พร้อมย้ำว่ามีผู้เสียหายจำนวนหลายรายที่ถึงกับนั่งร้องไห้กับเครดิตที่เสียไป สำหรับตนมองว่าขนาดคนรวย ระดับร้อยล้านพันล้าน ธ.ยักษ์ใหญ่ยังกล้าที่จะกระทำการโดยมิชอบ แล้วประชาชนที่เป็นลูกค้าตัวเล็กๆ จะพ้นจากพฤติกรรมอำพรางดังกล่าวได้อย่างไร และจะรอดูว่า สื่อที่มาทำข่าววันนี้นั้น จะมีช่องใดกล้านำเสนอเรื่องนี้ ซึ่งเพจคิงส์โพธิ์แดงก็จะเกาะติดความคืบหน้าของเรื่องนี้เช่นกัน เพราะเป็นผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม และทนายไพศาล ยังประเมินจากข้อมูลที่มีว่า ธนาคารนี้ น่าจะเป็นขบวนการ "ฟ อ ก เ งิ น" เรียกร้องให้แบ็งค์ชาติสอบสวนเป็นการด่วน #คิงส์โพธิ์แดง รายงาน
    Yay
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 รีวิว