Meta ปลดพนักงาน AI กว่า 600 คน! ปรับโครงสร้างใหม่หลัง Llama ไม่ปังเท่าคู่แข่ง
Meta ประกาศปลดพนักงานในแผนก AI กว่า 600 คนในเดือนตุลาคม 2025 โดยเน้นตัดทีมเก่าที่พัฒนาโมเดล Llama และรวมศูนย์การพัฒนาไว้ที่ Meta Superintelligence Labs หลังผลตอบรับจากนักพัฒนาไม่ดีเท่าที่คาด
กลางปี 2025 Meta เคยทุ่มเงินระดับ $100–300 ล้านต่อคนเพื่อดึงนักวิจัย AI ชั้นนำเข้าสู่บริษัท และมีรายงานว่าเสนอแพ็กเกจมูลค่ากว่า $1 พันล้านให้กับนักวิจัยคนหนึ่ง แต่ในเดือนตุลาคมกลับมีการปลดพนักงานกว่า 600 คนจากแผนก AI โดยเฉพาะทีม FAIR ที่เคยพัฒนาโมเดล Llama
การปลดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta เปิดตัว Llama รุ่นล่าสุดที่ไม่สามารถสร้างกระแสในชุมชนนักพัฒนาได้เท่ากับ GPT ของ OpenAI, Gemini ของ Google หรือ Claude ของ Anthropic
Meta จึงตัดสินใจรวมทีม AI ไว้ที่ Meta Superintelligence Labs (MSL) ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ที่เกิดจากการซื้อกิจการ ScaleAI โดยเน้นการพัฒนาโมเดลพื้นฐานและฟีเจอร์ AI ที่ใช้งานได้จริง
แม้จะปลดพนักงานจำนวนมาก แต่ Meta ยืนยันว่าจะยังคงลงทุนใน AI และเปิดรับนักวิจัยระดับสูงต่อไป โดย Alexandr Wang หัวหน้าเจ้าหน้าที่ AI ระบุว่า “การลดทีมจะช่วยให้สมาชิกที่เหลือสร้างผลกระทบได้มากขึ้น”
รายละเอียดการปลดพนักงาน
ปลดพนักงาน AI กว่า 600 คนในเดือนตุลาคม 2025
เน้นตัดทีมเก่า เช่น FAIR ที่พัฒนา Llama
ย้ายการพัฒนาไปที่ Meta Superintelligence Labs (MSL)
เหตุผลเบื้องหลัง
Llama ไม่ได้รับความนิยมในชุมชนนักพัฒนา
เทียบไม่ได้กับ GPT, Gemini, Claude และ Deepseek
Zuckerberg ไม่พอใจกับความคืบหน้าของทีม AI เดิม
ท่าทีของ Meta
ยืนยันว่าจะยังลงทุนใน AI ต่อไป
เปิดรับนักวิจัยระดับสูงเพิ่ม
ทีม TBD Lab ที่รวมดาว AI ยังอยู่ครบ
ผลกระทบที่เกิดขึ้น
นักวิจัยชื่อดังบางคนถูกปลด แต่ได้รับข้อเสนอจากบริษัทอื่นทันที
Meta ยุติโครงการ fact-checking และปลดทีม risk group ด้วย
ความเสี่ยงจากการพึ่งพาโมเดลที่ไม่ติดตลาด
หากโมเดลไม่ถูกนำไปใช้จริง อาจสูญเงินลงทุนมหาศาล
การปลดทีมเก่าอาจทำให้สูญเสียความรู้เชิงลึกที่สะสมมา
ความท้าทายของ Meta ในตลาด AI
คู่แข่งมีผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้จริงแล้ว
Meta ยังไม่สามารถสร้างโมเดลที่ใช้งานนอกแพลตฟอร์มตัวเองได้
https://www.slashgear.com/2012781/meta-october-2025-ai-layoffs/
Meta ประกาศปลดพนักงานในแผนก AI กว่า 600 คนในเดือนตุลาคม 2025 โดยเน้นตัดทีมเก่าที่พัฒนาโมเดล Llama และรวมศูนย์การพัฒนาไว้ที่ Meta Superintelligence Labs หลังผลตอบรับจากนักพัฒนาไม่ดีเท่าที่คาด
กลางปี 2025 Meta เคยทุ่มเงินระดับ $100–300 ล้านต่อคนเพื่อดึงนักวิจัย AI ชั้นนำเข้าสู่บริษัท และมีรายงานว่าเสนอแพ็กเกจมูลค่ากว่า $1 พันล้านให้กับนักวิจัยคนหนึ่ง แต่ในเดือนตุลาคมกลับมีการปลดพนักงานกว่า 600 คนจากแผนก AI โดยเฉพาะทีม FAIR ที่เคยพัฒนาโมเดล Llama
การปลดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta เปิดตัว Llama รุ่นล่าสุดที่ไม่สามารถสร้างกระแสในชุมชนนักพัฒนาได้เท่ากับ GPT ของ OpenAI, Gemini ของ Google หรือ Claude ของ Anthropic
Meta จึงตัดสินใจรวมทีม AI ไว้ที่ Meta Superintelligence Labs (MSL) ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ที่เกิดจากการซื้อกิจการ ScaleAI โดยเน้นการพัฒนาโมเดลพื้นฐานและฟีเจอร์ AI ที่ใช้งานได้จริง
แม้จะปลดพนักงานจำนวนมาก แต่ Meta ยืนยันว่าจะยังคงลงทุนใน AI และเปิดรับนักวิจัยระดับสูงต่อไป โดย Alexandr Wang หัวหน้าเจ้าหน้าที่ AI ระบุว่า “การลดทีมจะช่วยให้สมาชิกที่เหลือสร้างผลกระทบได้มากขึ้น”
รายละเอียดการปลดพนักงาน
ปลดพนักงาน AI กว่า 600 คนในเดือนตุลาคม 2025
เน้นตัดทีมเก่า เช่น FAIR ที่พัฒนา Llama
ย้ายการพัฒนาไปที่ Meta Superintelligence Labs (MSL)
เหตุผลเบื้องหลัง
Llama ไม่ได้รับความนิยมในชุมชนนักพัฒนา
เทียบไม่ได้กับ GPT, Gemini, Claude และ Deepseek
Zuckerberg ไม่พอใจกับความคืบหน้าของทีม AI เดิม
ท่าทีของ Meta
ยืนยันว่าจะยังลงทุนใน AI ต่อไป
เปิดรับนักวิจัยระดับสูงเพิ่ม
ทีม TBD Lab ที่รวมดาว AI ยังอยู่ครบ
ผลกระทบที่เกิดขึ้น
นักวิจัยชื่อดังบางคนถูกปลด แต่ได้รับข้อเสนอจากบริษัทอื่นทันที
Meta ยุติโครงการ fact-checking และปลดทีม risk group ด้วย
ความเสี่ยงจากการพึ่งพาโมเดลที่ไม่ติดตลาด
หากโมเดลไม่ถูกนำไปใช้จริง อาจสูญเงินลงทุนมหาศาล
การปลดทีมเก่าอาจทำให้สูญเสียความรู้เชิงลึกที่สะสมมา
ความท้าทายของ Meta ในตลาด AI
คู่แข่งมีผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้จริงแล้ว
Meta ยังไม่สามารถสร้างโมเดลที่ใช้งานนอกแพลตฟอร์มตัวเองได้
https://www.slashgear.com/2012781/meta-october-2025-ai-layoffs/
📉🤖 Meta ปลดพนักงาน AI กว่า 600 คน! ปรับโครงสร้างใหม่หลัง Llama ไม่ปังเท่าคู่แข่ง
Meta ประกาศปลดพนักงานในแผนก AI กว่า 600 คนในเดือนตุลาคม 2025 โดยเน้นตัดทีมเก่าที่พัฒนาโมเดล Llama และรวมศูนย์การพัฒนาไว้ที่ Meta Superintelligence Labs หลังผลตอบรับจากนักพัฒนาไม่ดีเท่าที่คาด
กลางปี 2025 Meta เคยทุ่มเงินระดับ $100–300 ล้านต่อคนเพื่อดึงนักวิจัย AI ชั้นนำเข้าสู่บริษัท และมีรายงานว่าเสนอแพ็กเกจมูลค่ากว่า $1 พันล้านให้กับนักวิจัยคนหนึ่ง แต่ในเดือนตุลาคมกลับมีการปลดพนักงานกว่า 600 คนจากแผนก AI โดยเฉพาะทีม FAIR ที่เคยพัฒนาโมเดล Llama
การปลดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta เปิดตัว Llama รุ่นล่าสุดที่ไม่สามารถสร้างกระแสในชุมชนนักพัฒนาได้เท่ากับ GPT ของ OpenAI, Gemini ของ Google หรือ Claude ของ Anthropic
Meta จึงตัดสินใจรวมทีม AI ไว้ที่ Meta Superintelligence Labs (MSL) ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ที่เกิดจากการซื้อกิจการ ScaleAI โดยเน้นการพัฒนาโมเดลพื้นฐานและฟีเจอร์ AI ที่ใช้งานได้จริง
แม้จะปลดพนักงานจำนวนมาก แต่ Meta ยืนยันว่าจะยังคงลงทุนใน AI และเปิดรับนักวิจัยระดับสูงต่อไป โดย Alexandr Wang หัวหน้าเจ้าหน้าที่ AI ระบุว่า “การลดทีมจะช่วยให้สมาชิกที่เหลือสร้างผลกระทบได้มากขึ้น”
✅ รายละเอียดการปลดพนักงาน
➡️ ปลดพนักงาน AI กว่า 600 คนในเดือนตุลาคม 2025
➡️ เน้นตัดทีมเก่า เช่น FAIR ที่พัฒนา Llama
➡️ ย้ายการพัฒนาไปที่ Meta Superintelligence Labs (MSL)
✅ เหตุผลเบื้องหลัง
➡️ Llama ไม่ได้รับความนิยมในชุมชนนักพัฒนา
➡️ เทียบไม่ได้กับ GPT, Gemini, Claude และ Deepseek
➡️ Zuckerberg ไม่พอใจกับความคืบหน้าของทีม AI เดิม
✅ ท่าทีของ Meta
➡️ ยืนยันว่าจะยังลงทุนใน AI ต่อไป
➡️ เปิดรับนักวิจัยระดับสูงเพิ่ม
➡️ ทีม TBD Lab ที่รวมดาว AI ยังอยู่ครบ
✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้น
➡️ นักวิจัยชื่อดังบางคนถูกปลด แต่ได้รับข้อเสนอจากบริษัทอื่นทันที
➡️ Meta ยุติโครงการ fact-checking และปลดทีม risk group ด้วย
‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาโมเดลที่ไม่ติดตลาด
⛔ หากโมเดลไม่ถูกนำไปใช้จริง อาจสูญเงินลงทุนมหาศาล
⛔ การปลดทีมเก่าอาจทำให้สูญเสียความรู้เชิงลึกที่สะสมมา
‼️ ความท้าทายของ Meta ในตลาด AI
⛔ คู่แข่งมีผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้จริงแล้ว
⛔ Meta ยังไม่สามารถสร้างโมเดลที่ใช้งานนอกแพลตฟอร์มตัวเองได้
https://www.slashgear.com/2012781/meta-october-2025-ai-layoffs/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
34 มุมมอง
0 รีวิว