• เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 1
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 1”
    การแบ่งเค้กตะวันออกกลาง ระหว่างประเทศผู้ชนะสงคราม ดูเหมือนจะยังไม่ลงตัว เดือนเมษายน ค.ศ. 1920 รัฐมนตรีต่างประเทศที่ชนะสงคราม แอบจัดประชุมกันอีกที่ San Remo ประเทศอิตาลี โดยไม่มีผู้แทนของอเมริกาได้รับเชิญให้เข้าประชุมด้วย !

ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ หัวเรือใหญ่บอก อเมริกามาที่หลัง ไม่เกี่ยวกับเรื่องการแบ่งเค้กที่ได้มาจากการทะลายออตโตมานนี่นา เขามาเกี่ยวตรงไหน เราเป็นคนคิดริเริ่มนะ (เอะ ! พูดแบบนี้ เดี๋ยวสวยแน่ อเมริกาเพิ่งเขี้ยวงอกก็จริง แต่เป็นเขี้ยวเล็กและแหลมคม อย่าได้ประมาทเชียว) การประชุมที่ San Remo จึงเป็นการกำหนดและการกำกับ โดย นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Lloyd George และประธานาธิบดีฝรั่งเศส Alexander Millerand ซึ่งไว้ใจกันเองมาก ถึงขนาดเดินประกบกันทุกฝีก้าว เข้าใจว่าใครไปเข้าห้องน้ำ อีกคนคงต้องตามไปด้วย
    เพื่อเป็นการปิดปากฝรั่งเศส อังกฤษตัดใจประกาศอย่างเป็นทางการ ต่อหน้าที่ประชุม เรา อังกฤษ ยินดียกหุ้นในบริษัทที่ได้สัมปทานน้ำมันในเมโสโปเตเมีย ให้แก่ฝรั่งเศส มิตรรักร่วมรบ เอาไปเลย 25% ของบริษัท เป็นของขวัญจากเรา แต่เมโสโปเตเมีย ต้องอยู่ในความดูแลของเราอังกฤษ ตกลงตามนี้นะ
    มันเป็นหุ้น 25% ของ Turkish Petroleum Gesellshaft ที่ Deutsche Bank ตั้งขึ้นภายหลังที่ออตโตมานให้ สิทธิ 20 กิโลเมตร 2 ข้างทางรถไฟ (Right of way) ของเส้นทาง Berlin Bagdad ส่วนอีก 75% แน่นอน ชาวเกาะบอก ต้องเป็นของเรา โดยมอบให้ Anglo Persian Oil ที่ไปหลอกต้มมาจาก นาย D’Arcy ผู้น่าสมเพชนั่นแหละ เป็นผู้รับโอนไป
    นี่มันทั้งขยี้เขา แล้วยังขโมยของในบ้านเขาต่ออีกด้วย สันดานแบบนี้ เป็นคนก็คบไม่ได้เลย
    San Remo Agreement เป็นฝีมือวางแผนของคน ที่ได้ชื่อต่อมาว่า เป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย ในสมัยนั้น เขาคือ Sir Henry Deterding
    นาย Deterding เป็นชาวดัชท์ เขาเป็นอีกคนหนึ่ง นอกเหนือจากกัปตัน Fisher ที่เห็นคุณค่า และอานุภาพของน้ำมัน ว่าจะเป็นทรัพยากรที่จะเป็นอาวุธสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงโลกนี้ !
    นาย Deterding ทำงานให้รัฐบาลดัชท์ ในบริษัท Dutch East Indies ที่เกาะสุมาตรา ซึ่งเป็นอาณานิคมของดัชท์ขณะนั้น สุมาตราก็มีน้ำมันตะเกียง นาย Deterding จึงตั้งบริษัทผลิตน้ำมันตะเกียง จากน้ำมันอินโดนีเซีย ชื่อบริษัท Royal Dutch Oil Company
    เมื่อธุรกิจนำมันของเขาก้าวหน้า มากขึ้น ค.ศ. 1897 นาย Deterding ตัดสินใจควบบริษัท Royal Dutch Oil Company เข้ากับบริษัท Shell Transport & Trading Company ของนาย Marcus Samuel (ซึ่งต่อมาได้เป็น Lord Bearsted) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการเรือขนส่งสินค้า และเป็นผู้ริเริ่มสร้างแท้งค์บรรจุน้ำมัน การควบรวมบริษัทนี้ ทำให้เกิดเป็นบริษัท Royal Dutch Shell Company ยักษ์ใหญ่ในวงการน้ำมันของอังกฤษ และทำให้อังกฤษผงาดขึ้นมาเป็นผู้ค้าน้ำมันระดับโลก และในที่สุด เป็นคู่แข่งแบบเผ็ดร้อนกับ Standard Oil Group ของตระกูล Rockefeller ในอเมริกา
    ความสำเร็จของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ในกิจการน้ำมัน มาจากการวางแผนและสนับสนุนเกินร้อยของรัฐบาลอังกฤษ ภายใต้แผนการใช้ตัวแทน ให้เข้าไปดำเนินการฝังตัวตามที่ต่าง ๆ เพื่อหาข่าวกรอง และปฎิบัติการลับไปเกือบทุกแห่งในโลก นาย Deterding เองนั้น ภายหลังก็มีข่าวหลุดมาว่า แท้จริงแล้ว เขาสังกัดอยู่ในหน่วยราชการลับของอังกฤษตั้งแต่ต้น ถูกส่งให้ไปทำงานตั้งแต่ที่เกาะสุมาตรา ไม่งั้นมันจะไปควบรวม บริษัทใหญ่อย่างนั้นได้ ง่าย ๆ อย่างไร
    ค.ศ. 1912 ก่อนเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษมีส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันโลก เพียง 12 % หลังสงครามโลก ภายหลังจากการล่าเหยื่อ หลอกเหยื่อ ขยี้เหยื่อ จนเหลือแต่ซากแล้ว ค.ศ. 1925 อังกฤษกลายเป็นขาใหญ่ในวงการน้ำมันโลก ที่กำลังจะมาแรง
    ปฎิบัติการ San Remo นาย Deterding ทำงานร่วมกับ Sir John Cadman ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลอังกฤษ เข้าไปดูแล Anglo Persian Oil Company ทั้ง 2 คน เดินสายนอกรอบ ทั้งหว่าน ทั้งล้อมฝรั่งเศส ให้ฝรั่งเศสรับ 25% ของหุ้นใน Turkish Petroleum ไป แทนการเอาเมือง Mosul ฝรั่งเศส เหมือนเด็กได้อมยิ้มไป 1 กล่องในวันเดียว ดีใจเกือบตาย แทนที่จะได้ทั้งกล่องทุกวันไปตลอดชีวิต
    และด้วยอมยิ้ม 1 กล่อง ฝรั่งเศสใจป้ำ ตกลงว่าถ้าขุดน้ำมันเจอจริง และจะต้องวางท่อส่งน้ำมัน ผ่านมาทางซีเรีย ซึ่งฝรั่งเศสได้สิทธิปกครอง ฝรั่งเศสบอกเรายินดีนะ และภาษีอะไรที่ต้องมีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฝรั่งเศสยกเว้นให้หมด เป็นการตอบแทน เอ้อ ! เซ่อได้สมใจ เคี้ยวนุ่มอร่อยนาน
    อังกฤษมองไกล ต่อไปนี้ ตะวันออกกลาง เค้กทั้งก้อน ไม่ใช่แค่ชิ้นเดียว ต้องไม่พ้นมือเรา
    San Remo Agreement ยังใส่เงื่อนไขไว้ในสัญญาด้วยอีกว่า ต่างชาติอื่นนอกเหนือไปจากนี้ ไม่มีสิทธิมาขุดเจาะ เสาะหาน้ำมันในอาณาบริเวณเมโส โปเตเมีย เขียนแบบนี้ แปลว่า อเมริกาอย่ามาแหยม ! ไม่เชิญเขามาร่วมประชุม ก็หน้าด้านมากพอ แต่นี่ถึงขนาดตัดขาด จากการงานกินเค้ก ในอนาคตด้วยนี่ มันชักส่ออาการตระกรามมากไป
    นอกจากกันอเมริกาออกไปแล้ว San Remo Agreement ยังระบุด้วยว่า ในเรื่องน้ำมันที่โรมาเนีย และที่รัสเซีย ฝรั่งเศสจะต้องให้ความร่วมมือกับอังกฤษ ตามที่อังกฤษจูงอีกด้วย ข้อตกลงแบบนี้เหมือนการปฏิวัติเงียบ เกี่ยวกับน้ำมันในเมโสโปเตเมีย โดยชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ฯ เลยทีเดียว
    เมื่อกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา รู้เรื่องการวางไม้ขวางของอังกฤษ จึงทำหนังสือประท้วงการตัดสิทธิของ American Standard Oil ออกไปจากสัมปทานในเมโสโปเตเมีย รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ขณะนั้น Lord Curzon ทำหนังสือลงวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1921 แจ้งไปยังทูตอังกฤษที่ประจำอยู่ในวอชิตัน ให้ไปแจ้งต่ออเมริกาว่า อังกฤษเสียใจจริง ๆ ที่ไม่สามารถจะจัดการให้บริษัทน้ำมันอเมริกัน ได้รับสัมปทานในตะวันออกกลางได้
    เด็ดขาดจริงลูกพี่ ! เขียนได้เด็ด ! แต่จะขาดกันแค่ไหน เห็นจะต้องดูกันต่อไป นั่นมันเรื่อง 100 ปีมาแล้ว
    San Remo Agreement น่าจะเป็นหัวเชื้อ ในการทำสงครามชิงน้ำมัน ในตะวันออกกลางระหว่างอังกฤษกับอเมริกา ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยเหยื่อที่เป็นเจ้าของน้ำมันตัวจริง ในตะวันออกกลางคงยังกำลังงง ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรกับพวกตน และดินแดนของพวกตน และไม่รู้ว่าบัดนี้ยังจะเข้าใจกันมากน้อยแค่ไหน ! ?
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
11 ก.ย. 57
    เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 1” การแบ่งเค้กตะวันออกกลาง ระหว่างประเทศผู้ชนะสงคราม ดูเหมือนจะยังไม่ลงตัว เดือนเมษายน ค.ศ. 1920 รัฐมนตรีต่างประเทศที่ชนะสงคราม แอบจัดประชุมกันอีกที่ San Remo ประเทศอิตาลี โดยไม่มีผู้แทนของอเมริกาได้รับเชิญให้เข้าประชุมด้วย !

ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ หัวเรือใหญ่บอก อเมริกามาที่หลัง ไม่เกี่ยวกับเรื่องการแบ่งเค้กที่ได้มาจากการทะลายออตโตมานนี่นา เขามาเกี่ยวตรงไหน เราเป็นคนคิดริเริ่มนะ (เอะ ! พูดแบบนี้ เดี๋ยวสวยแน่ อเมริกาเพิ่งเขี้ยวงอกก็จริง แต่เป็นเขี้ยวเล็กและแหลมคม อย่าได้ประมาทเชียว) การประชุมที่ San Remo จึงเป็นการกำหนดและการกำกับ โดย นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Lloyd George และประธานาธิบดีฝรั่งเศส Alexander Millerand ซึ่งไว้ใจกันเองมาก ถึงขนาดเดินประกบกันทุกฝีก้าว เข้าใจว่าใครไปเข้าห้องน้ำ อีกคนคงต้องตามไปด้วย เพื่อเป็นการปิดปากฝรั่งเศส อังกฤษตัดใจประกาศอย่างเป็นทางการ ต่อหน้าที่ประชุม เรา อังกฤษ ยินดียกหุ้นในบริษัทที่ได้สัมปทานน้ำมันในเมโสโปเตเมีย ให้แก่ฝรั่งเศส มิตรรักร่วมรบ เอาไปเลย 25% ของบริษัท เป็นของขวัญจากเรา แต่เมโสโปเตเมีย ต้องอยู่ในความดูแลของเราอังกฤษ ตกลงตามนี้นะ มันเป็นหุ้น 25% ของ Turkish Petroleum Gesellshaft ที่ Deutsche Bank ตั้งขึ้นภายหลังที่ออตโตมานให้ สิทธิ 20 กิโลเมตร 2 ข้างทางรถไฟ (Right of way) ของเส้นทาง Berlin Bagdad ส่วนอีก 75% แน่นอน ชาวเกาะบอก ต้องเป็นของเรา โดยมอบให้ Anglo Persian Oil ที่ไปหลอกต้มมาจาก นาย D’Arcy ผู้น่าสมเพชนั่นแหละ เป็นผู้รับโอนไป นี่มันทั้งขยี้เขา แล้วยังขโมยของในบ้านเขาต่ออีกด้วย สันดานแบบนี้ เป็นคนก็คบไม่ได้เลย San Remo Agreement เป็นฝีมือวางแผนของคน ที่ได้ชื่อต่อมาว่า เป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย ในสมัยนั้น เขาคือ Sir Henry Deterding นาย Deterding เป็นชาวดัชท์ เขาเป็นอีกคนหนึ่ง นอกเหนือจากกัปตัน Fisher ที่เห็นคุณค่า และอานุภาพของน้ำมัน ว่าจะเป็นทรัพยากรที่จะเป็นอาวุธสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงโลกนี้ ! นาย Deterding ทำงานให้รัฐบาลดัชท์ ในบริษัท Dutch East Indies ที่เกาะสุมาตรา ซึ่งเป็นอาณานิคมของดัชท์ขณะนั้น สุมาตราก็มีน้ำมันตะเกียง นาย Deterding จึงตั้งบริษัทผลิตน้ำมันตะเกียง จากน้ำมันอินโดนีเซีย ชื่อบริษัท Royal Dutch Oil Company เมื่อธุรกิจนำมันของเขาก้าวหน้า มากขึ้น ค.ศ. 1897 นาย Deterding ตัดสินใจควบบริษัท Royal Dutch Oil Company เข้ากับบริษัท Shell Transport & Trading Company ของนาย Marcus Samuel (ซึ่งต่อมาได้เป็น Lord Bearsted) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการเรือขนส่งสินค้า และเป็นผู้ริเริ่มสร้างแท้งค์บรรจุน้ำมัน การควบรวมบริษัทนี้ ทำให้เกิดเป็นบริษัท Royal Dutch Shell Company ยักษ์ใหญ่ในวงการน้ำมันของอังกฤษ และทำให้อังกฤษผงาดขึ้นมาเป็นผู้ค้าน้ำมันระดับโลก และในที่สุด เป็นคู่แข่งแบบเผ็ดร้อนกับ Standard Oil Group ของตระกูล Rockefeller ในอเมริกา ความสำเร็จของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ในกิจการน้ำมัน มาจากการวางแผนและสนับสนุนเกินร้อยของรัฐบาลอังกฤษ ภายใต้แผนการใช้ตัวแทน ให้เข้าไปดำเนินการฝังตัวตามที่ต่าง ๆ เพื่อหาข่าวกรอง และปฎิบัติการลับไปเกือบทุกแห่งในโลก นาย Deterding เองนั้น ภายหลังก็มีข่าวหลุดมาว่า แท้จริงแล้ว เขาสังกัดอยู่ในหน่วยราชการลับของอังกฤษตั้งแต่ต้น ถูกส่งให้ไปทำงานตั้งแต่ที่เกาะสุมาตรา ไม่งั้นมันจะไปควบรวม บริษัทใหญ่อย่างนั้นได้ ง่าย ๆ อย่างไร ค.ศ. 1912 ก่อนเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษมีส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันโลก เพียง 12 % หลังสงครามโลก ภายหลังจากการล่าเหยื่อ หลอกเหยื่อ ขยี้เหยื่อ จนเหลือแต่ซากแล้ว ค.ศ. 1925 อังกฤษกลายเป็นขาใหญ่ในวงการน้ำมันโลก ที่กำลังจะมาแรง ปฎิบัติการ San Remo นาย Deterding ทำงานร่วมกับ Sir John Cadman ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลอังกฤษ เข้าไปดูแล Anglo Persian Oil Company ทั้ง 2 คน เดินสายนอกรอบ ทั้งหว่าน ทั้งล้อมฝรั่งเศส ให้ฝรั่งเศสรับ 25% ของหุ้นใน Turkish Petroleum ไป แทนการเอาเมือง Mosul ฝรั่งเศส เหมือนเด็กได้อมยิ้มไป 1 กล่องในวันเดียว ดีใจเกือบตาย แทนที่จะได้ทั้งกล่องทุกวันไปตลอดชีวิต และด้วยอมยิ้ม 1 กล่อง ฝรั่งเศสใจป้ำ ตกลงว่าถ้าขุดน้ำมันเจอจริง และจะต้องวางท่อส่งน้ำมัน ผ่านมาทางซีเรีย ซึ่งฝรั่งเศสได้สิทธิปกครอง ฝรั่งเศสบอกเรายินดีนะ และภาษีอะไรที่ต้องมีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฝรั่งเศสยกเว้นให้หมด เป็นการตอบแทน เอ้อ ! เซ่อได้สมใจ เคี้ยวนุ่มอร่อยนาน อังกฤษมองไกล ต่อไปนี้ ตะวันออกกลาง เค้กทั้งก้อน ไม่ใช่แค่ชิ้นเดียว ต้องไม่พ้นมือเรา San Remo Agreement ยังใส่เงื่อนไขไว้ในสัญญาด้วยอีกว่า ต่างชาติอื่นนอกเหนือไปจากนี้ ไม่มีสิทธิมาขุดเจาะ เสาะหาน้ำมันในอาณาบริเวณเมโส โปเตเมีย เขียนแบบนี้ แปลว่า อเมริกาอย่ามาแหยม ! ไม่เชิญเขามาร่วมประชุม ก็หน้าด้านมากพอ แต่นี่ถึงขนาดตัดขาด จากการงานกินเค้ก ในอนาคตด้วยนี่ มันชักส่ออาการตระกรามมากไป นอกจากกันอเมริกาออกไปแล้ว San Remo Agreement ยังระบุด้วยว่า ในเรื่องน้ำมันที่โรมาเนีย และที่รัสเซีย ฝรั่งเศสจะต้องให้ความร่วมมือกับอังกฤษ ตามที่อังกฤษจูงอีกด้วย ข้อตกลงแบบนี้เหมือนการปฏิวัติเงียบ เกี่ยวกับน้ำมันในเมโสโปเตเมีย โดยชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ฯ เลยทีเดียว เมื่อกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา รู้เรื่องการวางไม้ขวางของอังกฤษ จึงทำหนังสือประท้วงการตัดสิทธิของ American Standard Oil ออกไปจากสัมปทานในเมโสโปเตเมีย รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ขณะนั้น Lord Curzon ทำหนังสือลงวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1921 แจ้งไปยังทูตอังกฤษที่ประจำอยู่ในวอชิตัน ให้ไปแจ้งต่ออเมริกาว่า อังกฤษเสียใจจริง ๆ ที่ไม่สามารถจะจัดการให้บริษัทน้ำมันอเมริกัน ได้รับสัมปทานในตะวันออกกลางได้ เด็ดขาดจริงลูกพี่ ! เขียนได้เด็ด ! แต่จะขาดกันแค่ไหน เห็นจะต้องดูกันต่อไป นั่นมันเรื่อง 100 ปีมาแล้ว San Remo Agreement น่าจะเป็นหัวเชื้อ ในการทำสงครามชิงน้ำมัน ในตะวันออกกลางระหว่างอังกฤษกับอเมริกา ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยเหยื่อที่เป็นเจ้าของน้ำมันตัวจริง ในตะวันออกกลางคงยังกำลังงง ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรกับพวกตน และดินแดนของพวกตน และไม่รู้ว่าบัดนี้ยังจะเข้าใจกันมากน้อยแค่ไหน ! ? สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
11 ก.ย. 57
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อขอมหลังสมเด็จพุทธโคดม วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี
    เหรียญลงยาเคลือบหลวงพ่อขอมหลังสมเด็จพุทธโคดม วัดไผ่โรงวัว อำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี // พระดีพิธีขลัง !! //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านเมตตา มหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง คงกระพันชาตรี และโชคลาภ ประสบความสำเร็จในด้านการค้าและการเงิน >>

    ** หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว พระนักพัฒนารูปสำคัญ แห่งวัดไผ่โรงวัว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พระพุทธโคดม เป็นพระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๒ ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง ๑๗ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระเกตุมาลา เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๒ >>

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อขอมหลังสมเด็จพุทธโคดม วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี เหรียญลงยาเคลือบหลวงพ่อขอมหลังสมเด็จพุทธโคดม วัดไผ่โรงวัว อำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี // พระดีพิธีขลัง !! //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านเมตตา มหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง คงกระพันชาตรี และโชคลาภ ประสบความสำเร็จในด้านการค้าและการเงิน >> ** หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว พระนักพัฒนารูปสำคัญ แห่งวัดไผ่โรงวัว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พระพุทธโคดม เป็นพระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๒ ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง ๑๗ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระเกตุมาลา เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๒ >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • “SpaceX เตรียมปล่อยดาวเทียม Starlink กลุ่มใหม่ — พร้อมทดสอบ Starship ครั้งที่ 5 เพื่อภารกิจสู่ดวงจันทร์และดาวอังคาร”

    หลังจากเพิ่งปล่อยดาวเทียม Starlink ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน SpaceX ก็ไม่รอช้า เตรียมภารกิจใหม่ในวันที่ 3 ตุลาคม 2025 โดยจะปล่อยจรวด Falcon 9 จากฐานยิง SLC-4E ที่ Vandenberg Space Force Base รัฐแคลิฟอร์เนีย เวลา 6:00 น. PDT (13:00 UTC) ภารกิจนี้มีชื่อว่า Starlink Group 11-39 ซึ่งจะนำดาวเทียม Starlink V2 Mini จำนวน 28 ดวงเข้าสู่วงโคจรระดับต่ำที่ความสูงประมาณ 595 กิโลเมตร

    แม้จะเป็นภารกิจลำดับที่ 39 ของกลุ่มนี้ แต่จริง ๆ แล้วนี่คือการปล่อยครั้งที่ 15 สำหรับวงโคจรเฉพาะนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมประสิทธิภาพและขยายพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต Starlink ที่ปัจจุบันมีดาวเทียมทำงานอยู่แล้วกว่า 8,460 ดวงทั่วโลก

    หลังจากปล่อยดาวเทียมแล้ว บูสเตอร์ขั้นแรกของ Falcon 9 จะพยายามลงจอดบนเรือโดรน “Of Course I Still Love You” ที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งอาจทำให้เกิดเสียงโซนิคบูมในพื้นที่ Santa Barbara, San Luis Obispo และ Ventura

    นอกจากภารกิจ Starlink แล้ว SpaceX ยังเตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งที่ 5 ในวันที่ 13 ตุลาคม 2025 จากฐาน Starbase ในรัฐเท็กซัส โดยจรวด Starship ถือเป็นจรวดที่ทรงพลังที่สุดในโลก และเป็นหัวใจของแผนการพามนุษย์กลับไปดวงจันทร์และเดินทางสู่ดาวอังคารในอนาคต

    การทดสอบครั้งก่อนในเดือนสิงหาคมประสบความสำเร็จ ขณะที่การทดสอบในเดือนมิถุนายนจบลงด้วยการระเบิด แต่ Elon Musk ยืนยันว่าจะเร่งรอบการทดสอบให้เร็วขึ้น หลังได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

    ผู้สนใจสามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ผ่านเว็บไซต์ SpaceX, แอป X TV หรือบัญชี @SpaceX บนแพลตฟอร์ม X โดยการถ่ายทอดจะเริ่มประมาณ 5 นาทีก่อนปล่อยจรวด และสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Satellite Tracker, SkySafari หรือ Stellarium เพื่อติดตามตำแหน่งของดาวเทียม Starlink ได้แบบเรียลไทม์

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    SpaceX เตรียมปล่อยจรวด Falcon 9 ภารกิจ Starlink Group 11-39 วันที่ 3 ตุลาคม 2025
    ปล่อยจากฐาน SLC-4E ที่ Vandenberg Space Force Base เวลา 6:00 น. PDT
    บรรทุกดาวเทียม Starlink V2 Mini จำนวน 28 ดวง เข้าสู่วงโคจรต่ำที่ 595 กม.
    เป็นการปล่อยครั้งที่ 15 สำหรับวงโคจรเฉพาะนี้ แม้จะเป็นภารกิจลำดับที่ 39
    ปัจจุบันมีดาวเทียม Starlink ทำงานอยู่แล้วกว่า 8,460 ดวง
    บูสเตอร์ขั้นแรกจะลงจอดบนเรือโดรน “Of Course I Still Love You” ในมหาสมุทรแปซิฟิก
    อาจเกิดเสียงโซนิคบูมในพื้นที่ Santa Barbara, San Luis Obispo และ Ventura
    SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งที่ 5 วันที่ 13 ตุลาคม 2025 ที่ Starbase, Texas
    Starship เป็นจรวดที่ทรงพลังที่สุดในโลก ใช้สำหรับภารกิจดวงจันทร์และดาวอังคาร
    การถ่ายทอดสดสามารถดูได้ผ่านเว็บไซต์ SpaceX, แอป X TV และบัญชี @SpaceX

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Starlink V2 Mini มีขนาดเล็กลงแต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น รองรับการเชื่อมต่อในพื้นที่ห่างไกล
    เรือโดรน “Of Course I Still Love You” เป็นหนึ่งในระบบลงจอดอัตโนมัติของ SpaceX
    Starship มีความสูงกว่า 120 เมตร และสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากกว่า 100 ตัน
    การทดสอบ Starship เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนภารกิจ Artemis ของ NASA
    การติดตามดาวเทียม Starlink สามารถทำได้ผ่านแอปมือถือและเว็บไซต์เฉพาะทาง

    https://www.slashgear.com/1984666/how-to-see-when-and-where-next-spacex-launch-is/
    🚀 “SpaceX เตรียมปล่อยดาวเทียม Starlink กลุ่มใหม่ — พร้อมทดสอบ Starship ครั้งที่ 5 เพื่อภารกิจสู่ดวงจันทร์และดาวอังคาร” หลังจากเพิ่งปล่อยดาวเทียม Starlink ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน SpaceX ก็ไม่รอช้า เตรียมภารกิจใหม่ในวันที่ 3 ตุลาคม 2025 โดยจะปล่อยจรวด Falcon 9 จากฐานยิง SLC-4E ที่ Vandenberg Space Force Base รัฐแคลิฟอร์เนีย เวลา 6:00 น. PDT (13:00 UTC) ภารกิจนี้มีชื่อว่า Starlink Group 11-39 ซึ่งจะนำดาวเทียม Starlink V2 Mini จำนวน 28 ดวงเข้าสู่วงโคจรระดับต่ำที่ความสูงประมาณ 595 กิโลเมตร แม้จะเป็นภารกิจลำดับที่ 39 ของกลุ่มนี้ แต่จริง ๆ แล้วนี่คือการปล่อยครั้งที่ 15 สำหรับวงโคจรเฉพาะนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมประสิทธิภาพและขยายพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต Starlink ที่ปัจจุบันมีดาวเทียมทำงานอยู่แล้วกว่า 8,460 ดวงทั่วโลก หลังจากปล่อยดาวเทียมแล้ว บูสเตอร์ขั้นแรกของ Falcon 9 จะพยายามลงจอดบนเรือโดรน “Of Course I Still Love You” ที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งอาจทำให้เกิดเสียงโซนิคบูมในพื้นที่ Santa Barbara, San Luis Obispo และ Ventura นอกจากภารกิจ Starlink แล้ว SpaceX ยังเตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งที่ 5 ในวันที่ 13 ตุลาคม 2025 จากฐาน Starbase ในรัฐเท็กซัส โดยจรวด Starship ถือเป็นจรวดที่ทรงพลังที่สุดในโลก และเป็นหัวใจของแผนการพามนุษย์กลับไปดวงจันทร์และเดินทางสู่ดาวอังคารในอนาคต การทดสอบครั้งก่อนในเดือนสิงหาคมประสบความสำเร็จ ขณะที่การทดสอบในเดือนมิถุนายนจบลงด้วยการระเบิด แต่ Elon Musk ยืนยันว่าจะเร่งรอบการทดสอบให้เร็วขึ้น หลังได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ผู้สนใจสามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ผ่านเว็บไซต์ SpaceX, แอป X TV หรือบัญชี @SpaceX บนแพลตฟอร์ม X โดยการถ่ายทอดจะเริ่มประมาณ 5 นาทีก่อนปล่อยจรวด และสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Satellite Tracker, SkySafari หรือ Stellarium เพื่อติดตามตำแหน่งของดาวเทียม Starlink ได้แบบเรียลไทม์ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ SpaceX เตรียมปล่อยจรวด Falcon 9 ภารกิจ Starlink Group 11-39 วันที่ 3 ตุลาคม 2025 ➡️ ปล่อยจากฐาน SLC-4E ที่ Vandenberg Space Force Base เวลา 6:00 น. PDT ➡️ บรรทุกดาวเทียม Starlink V2 Mini จำนวน 28 ดวง เข้าสู่วงโคจรต่ำที่ 595 กม. ➡️ เป็นการปล่อยครั้งที่ 15 สำหรับวงโคจรเฉพาะนี้ แม้จะเป็นภารกิจลำดับที่ 39 ➡️ ปัจจุบันมีดาวเทียม Starlink ทำงานอยู่แล้วกว่า 8,460 ดวง ➡️ บูสเตอร์ขั้นแรกจะลงจอดบนเรือโดรน “Of Course I Still Love You” ในมหาสมุทรแปซิฟิก ➡️ อาจเกิดเสียงโซนิคบูมในพื้นที่ Santa Barbara, San Luis Obispo และ Ventura ➡️ SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งที่ 5 วันที่ 13 ตุลาคม 2025 ที่ Starbase, Texas ➡️ Starship เป็นจรวดที่ทรงพลังที่สุดในโลก ใช้สำหรับภารกิจดวงจันทร์และดาวอังคาร ➡️ การถ่ายทอดสดสามารถดูได้ผ่านเว็บไซต์ SpaceX, แอป X TV และบัญชี @SpaceX ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Starlink V2 Mini มีขนาดเล็กลงแต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น รองรับการเชื่อมต่อในพื้นที่ห่างไกล ➡️ เรือโดรน “Of Course I Still Love You” เป็นหนึ่งในระบบลงจอดอัตโนมัติของ SpaceX ➡️ Starship มีความสูงกว่า 120 เมตร และสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากกว่า 100 ตัน ➡️ การทดสอบ Starship เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนภารกิจ Artemis ของ NASA ➡️ การติดตามดาวเทียม Starlink สามารถทำได้ผ่านแอปมือถือและเว็บไซต์เฉพาะทาง https://www.slashgear.com/1984666/how-to-see-when-and-where-next-spacex-launch-is/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Interested In Seeing The Next SpaceX Launch? Here's What We Know About When And Where It Is - SlashGear
    SpaceX’s next Falcon 9 launch is scheduled for Oct. 3, 2025, from Vandenberg SFB in California, carrying 28 Starlink V2 Mini satellites.
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระสีวลี พระอุปคุต พระสังกัจจายณ์ วัดแสนคันธา จ.เชียงใหม่ ปี2556
    เหรียญพระสีวลี พระอุปคุต พระสังกัจจายณ์ (หลังตอก2โค็ด) วัดแสนคันธา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ปี2556 // พระดีพิธีใหญ่ 3 พระอรหันต์แห่งโชคลาภ ได้แก่ พระสีวลี (ผู้ให้มหาโชคลาภ) พระสังกัจจายน์ (ผู้ให้ความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวย และปัญญา) และ พระอุปคุต (ผู้ให้ความสำเร็จ ขจัดอุปสรรค) // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณเน้น มหาโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ ความสุข และความสำเร็จ ผู้บูชาจะพบความร่ำรวย ความสุข และมีปัญญาธรรม อุปสรรคขัดข้องจะมลายหายไป เสริมความเป็นสิริมงคลและโชคลาภ >>

    ** เหรียญไตรภาคีมหาลาโภ คือ การสร้างเหรียญที่รวมรูป พระสีวลี พระสังกัจจายน์ และพระอุปคุต ซึ่งเป็นพระอรหันต์ 3 องค์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เลิศด้านโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ และความสำเร็จ เชื่อว่าการบูชาเหรียญนี้จะช่วยให้เกิดโชคลาภ อุปสรรคต่างๆ มลายหายไป และพบแต่ความสุขความเจริญในชีวิต

    - พระอรหันต์สิวลี
    ผู้ใดได้บูชาหรือมีติดบ้าน สถานที่ประกอบการค้าที่ทำงาน จะบังเกิดมหาโชคลาภ

    - พระอรหันต์สังกัจจายน์
    ผู้ใดได้บูชาหรือมีติดบ้านสถานที่ประกอบการค้าที่ทำงาน จะพบแต่ความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวยทั้งชีวิตมีแต่รอยยิ้ม ความสุขและมีปัญญาธรรมในชีวิตทุกคน

    - พระอรหันต์อุปคุต
    ผู้ใดได้บูชาหรือมีติดบ้าน สถานที่ประกอบการค้า ที่ทำงาน จะพบแต่ความสำเร็จ อุปสรรคความขัดข้อง ความไม่มีต่างๆ จะมลายหายไป

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญพระสีวลี พระอุปคุต พระสังกัจจายณ์ วัดแสนคันธา จ.เชียงใหม่ ปี2556 เหรียญพระสีวลี พระอุปคุต พระสังกัจจายณ์ (หลังตอก2โค็ด) วัดแสนคันธา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ปี2556 // พระดีพิธีใหญ่ 3 พระอรหันต์แห่งโชคลาภ ได้แก่ พระสีวลี (ผู้ให้มหาโชคลาภ) พระสังกัจจายน์ (ผู้ให้ความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวย และปัญญา) และ พระอุปคุต (ผู้ให้ความสำเร็จ ขจัดอุปสรรค) // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณเน้น มหาโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ ความสุข และความสำเร็จ ผู้บูชาจะพบความร่ำรวย ความสุข และมีปัญญาธรรม อุปสรรคขัดข้องจะมลายหายไป เสริมความเป็นสิริมงคลและโชคลาภ >> ** เหรียญไตรภาคีมหาลาโภ คือ การสร้างเหรียญที่รวมรูป พระสีวลี พระสังกัจจายน์ และพระอุปคุต ซึ่งเป็นพระอรหันต์ 3 องค์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เลิศด้านโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ และความสำเร็จ เชื่อว่าการบูชาเหรียญนี้จะช่วยให้เกิดโชคลาภ อุปสรรคต่างๆ มลายหายไป และพบแต่ความสุขความเจริญในชีวิต - พระอรหันต์สิวลี ผู้ใดได้บูชาหรือมีติดบ้าน สถานที่ประกอบการค้าที่ทำงาน จะบังเกิดมหาโชคลาภ - พระอรหันต์สังกัจจายน์ ผู้ใดได้บูชาหรือมีติดบ้านสถานที่ประกอบการค้าที่ทำงาน จะพบแต่ความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวยทั้งชีวิตมีแต่รอยยิ้ม ความสุขและมีปัญญาธรรมในชีวิตทุกคน - พระอรหันต์อุปคุต ผู้ใดได้บูชาหรือมีติดบ้าน สถานที่ประกอบการค้า ที่ทำงาน จะพบแต่ความสำเร็จ อุปสรรคความขัดข้อง ความไม่มีต่างๆ จะมลายหายไป ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • “Micron เปิดตัว HBM4 แรงทะลุ 2.8TB/s — พร้อมแผน HBM4E แบบปรับแต่งได้สำหรับ Nvidia และ AMD”

    Micron ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในตลาดหน่วยความจำความเร็วสูง (HBM) ด้วยการเปิดตัว HBM4 ที่มีแบนด์วิดธ์สูงถึง 2.8TB/s และความเร็วต่อพินเกิน 11Gbps ซึ่งสูงกว่ามาตรฐาน JEDEC ที่กำหนดไว้ที่ 2TB/s และ 8Gbps อย่างชัดเจน โดยเริ่มส่งมอบตัวอย่างให้ลูกค้าแล้ว และเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานจริงในแพลตฟอร์ม AI ระดับองค์กร

    HBM4 รุ่นใหม่ของ Micron ใช้เทคโนโลยี 1-gamma DRAM, ฐาน CMOS ที่พัฒนาเอง และการบรรจุชิปแบบใหม่ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างโดดเด่น นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัว HBM4E ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่มีการเสนอ “base logic die” แบบปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้า เช่น Nvidia และ AMD เพื่อให้สามารถออกแบบ accelerator ที่มี latency ต่ำและการจัดการข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น

    Micron ร่วมมือกับ TSMC ในการผลิต base die สำหรับ HBM4E โดยคาดว่าจะสามารถสร้างความแตกต่างในตลาดได้อย่างชัดเจน และเพิ่ม margin ให้กับผลิตภัณฑ์แบบปรับแต่งได้มากกว่ารุ่นมาตรฐาน

    ในไตรมาสล่าสุด Micron รายงานรายได้จาก HBM สูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นอัตรารายได้ต่อปีที่ 8 พันล้านดอลลาร์ และตั้งเป้าจะครองส่วนแบ่งในตลาด HBM ที่มีมูลค่ารวมกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Micron เปิดตัว HBM4 ที่มีแบนด์วิดธ์สูงถึง 2.8TB/s และความเร็วต่อพินเกิน 11Gbps
    สูงกว่ามาตรฐาน JEDEC ที่กำหนดไว้ที่ 2TB/s และ 8Gbps
    ใช้เทคโนโลยี 1-gamma DRAM, ฐาน CMOS ที่พัฒนาเอง และการบรรจุชิปแบบใหม่
    เริ่มส่งมอบตัวอย่าง HBM4 ให้ลูกค้าแล้ว
    เตรียมเปิดตัว HBM4E ที่สามารถปรับแต่ง base logic die ได้ตามความต้องการ
    พัฒนา HBM4E ร่วมกับ TSMC เพื่อรองรับการใช้งานใน accelerator ของ Nvidia และ AMD
    HBM4E แบบปรับแต่งจะมี margin สูงกว่ารุ่นมาตรฐาน
    Micron รายงานรายได้จาก HBM สูงถึง $2B ในไตรมาสล่าสุด
    ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งในตลาด HBM มูลค่า $100B

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    HBM (High Bandwidth Memory) เป็นหน่วยความจำแบบ stacked ที่ใช้ในงาน AI และ GPU ระดับสูง
    JEDEC เป็นองค์กรที่กำหนดมาตรฐานด้านหน่วยความจำในอุตสาหกรรม
    การปรับแต่ง base die ช่วยให้ accelerator มี latency ต่ำและ routing ที่แม่นยำ
    TSMC เป็นผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก และเป็นพันธมิตรสำคัญของ Micron
    Nvidia และ AMD ต้องการหน่วยความจำที่เร็วขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของ compute die

    https://www.techradar.com/pro/micron-takes-the-hbm-lead-with-fastest-ever-hbm4-memory-with-a-2-8tb-s-bandwidth-putting-it-ahead-of-samsung-and-sk-hynix
    🚀 “Micron เปิดตัว HBM4 แรงทะลุ 2.8TB/s — พร้อมแผน HBM4E แบบปรับแต่งได้สำหรับ Nvidia และ AMD” Micron ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในตลาดหน่วยความจำความเร็วสูง (HBM) ด้วยการเปิดตัว HBM4 ที่มีแบนด์วิดธ์สูงถึง 2.8TB/s และความเร็วต่อพินเกิน 11Gbps ซึ่งสูงกว่ามาตรฐาน JEDEC ที่กำหนดไว้ที่ 2TB/s และ 8Gbps อย่างชัดเจน โดยเริ่มส่งมอบตัวอย่างให้ลูกค้าแล้ว และเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานจริงในแพลตฟอร์ม AI ระดับองค์กร HBM4 รุ่นใหม่ของ Micron ใช้เทคโนโลยี 1-gamma DRAM, ฐาน CMOS ที่พัฒนาเอง และการบรรจุชิปแบบใหม่ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างโดดเด่น นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัว HBM4E ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่มีการเสนอ “base logic die” แบบปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้า เช่น Nvidia และ AMD เพื่อให้สามารถออกแบบ accelerator ที่มี latency ต่ำและการจัดการข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น Micron ร่วมมือกับ TSMC ในการผลิต base die สำหรับ HBM4E โดยคาดว่าจะสามารถสร้างความแตกต่างในตลาดได้อย่างชัดเจน และเพิ่ม margin ให้กับผลิตภัณฑ์แบบปรับแต่งได้มากกว่ารุ่นมาตรฐาน ในไตรมาสล่าสุด Micron รายงานรายได้จาก HBM สูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นอัตรารายได้ต่อปีที่ 8 พันล้านดอลลาร์ และตั้งเป้าจะครองส่วนแบ่งในตลาด HBM ที่มีมูลค่ารวมกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Micron เปิดตัว HBM4 ที่มีแบนด์วิดธ์สูงถึง 2.8TB/s และความเร็วต่อพินเกิน 11Gbps ➡️ สูงกว่ามาตรฐาน JEDEC ที่กำหนดไว้ที่ 2TB/s และ 8Gbps ➡️ ใช้เทคโนโลยี 1-gamma DRAM, ฐาน CMOS ที่พัฒนาเอง และการบรรจุชิปแบบใหม่ ➡️ เริ่มส่งมอบตัวอย่าง HBM4 ให้ลูกค้าแล้ว ➡️ เตรียมเปิดตัว HBM4E ที่สามารถปรับแต่ง base logic die ได้ตามความต้องการ ➡️ พัฒนา HBM4E ร่วมกับ TSMC เพื่อรองรับการใช้งานใน accelerator ของ Nvidia และ AMD ➡️ HBM4E แบบปรับแต่งจะมี margin สูงกว่ารุ่นมาตรฐาน ➡️ Micron รายงานรายได้จาก HBM สูงถึง $2B ในไตรมาสล่าสุด ➡️ ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งในตลาด HBM มูลค่า $100B ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ HBM (High Bandwidth Memory) เป็นหน่วยความจำแบบ stacked ที่ใช้ในงาน AI และ GPU ระดับสูง ➡️ JEDEC เป็นองค์กรที่กำหนดมาตรฐานด้านหน่วยความจำในอุตสาหกรรม ➡️ การปรับแต่ง base die ช่วยให้ accelerator มี latency ต่ำและ routing ที่แม่นยำ ➡️ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก และเป็นพันธมิตรสำคัญของ Micron ➡️ Nvidia และ AMD ต้องการหน่วยความจำที่เร็วขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของ compute die https://www.techradar.com/pro/micron-takes-the-hbm-lead-with-fastest-ever-hbm4-memory-with-a-2-8tb-s-bandwidth-putting-it-ahead-of-samsung-and-sk-hynix
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • “Harvard–MIT สร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่รันต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง — แก้ปัญหา atom loss ด้วยเลเซอร์ล้ำยุค พร้อมเปิดทางสู่ระบบที่รัน ‘ตลอดกาล’ ภายใน 3 ปี”

    ในโลกของควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่เคยถูกจำกัดด้วยเวลาใช้งานเพียงไม่กี่วินาที ทีมวิจัยจาก Harvard และ MIT ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ — ควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่สามารถรันต่อเนื่องได้มากกว่า 2 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรีสตาร์ทหรือโหลดข้อมูลใหม่ ถือเป็นการเพิ่มระยะเวลาการทำงานมากกว่า 55,000% เมื่อเทียบกับระบบเดิมที่รันได้เพียงไม่กี่มิลลิวินาที

    หัวใจของความสำเร็จนี้คือการแก้ปัญหา “atom loss” ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ล่มเร็ว โดยทีมวิจัยได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่ใช้เลเซอร์ควบคุมอะตอม ได้แก่ “optical lattice conveyor belts” และ “optical tweezers” เพื่อเติมอะตอมใหม่เข้าไปในระบบอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำลายข้อมูลเดิมที่เก็บไว้ใน qubit

    ระบบใหม่นี้สามารถเติมอะตอมได้ถึง 300,000 ตัวต่อวินาที และรองรับ qubit ได้มากถึง 3,000 ตัว ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่ควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่สามารถรันได้ “ตลอดกาล” โดยนักวิจัยคาดว่าจะสามารถสร้างระบบที่รันได้ไม่จำกัดภายใน 3 ปีข้างหน้า จากเดิมที่เคยประเมินว่าอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี

    แม้จะยังไม่พร้อมสำหรับการใช้งานในบ้านหรือสำนักงานทั่วไป แต่เทคโนโลยีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์ การเงิน การแพทย์ และการเข้ารหัสข้อมูลอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเมื่อระบบสามารถรักษาข้อมูลควอนตัมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สูญเสียความแม่นยำ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Harvard และ MIT สร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่รันต่อเนื่องได้มากกว่า 2 ชั่วโมง
    ใช้เทคนิค optical lattice conveyor belts และ optical tweezers เพื่อเติมอะตอมใหม่
    ระบบรองรับ qubit ได้มากถึง 3,000 ตัว และเติมอะตอมได้ 300,000 ตัวต่อวินาที
    แก้ปัญหา atom loss ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการล่มของระบบควอนตัม
    นักวิจัยคาดว่าจะสร้างระบบที่รันได้ “ตลอดกาล” ภายใน 3 ปี
    ระบบนี้ใช้ neutral atoms ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีเสถียรภาพสูง
    การทดลองนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Nature และได้รับการยอมรับในวงการ
    ทีมวิจัยร่วมมือกับ QuEra Computing ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพจาก Harvard–MIT

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Qubit คือหน่วยข้อมูลในควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่สามารถอยู่ในสถานะ 0 และ 1 พร้อมกัน
    Quantum entanglement ทำให้การเพิ่ม qubit ส่งผลต่อพลังการประมวลผลแบบทวีคูณ
    Optical tweezers คือเลเซอร์ที่ใช้จับและจัดเรียงอะตอมในตำแหน่งที่แม่นยำ
    Optical lattice คือคลื่นแสงที่สร้างโครงสร้างคล้ายตะแกรงเพื่อวางอะตอม
    ควอนตัมคอมพิวเตอร์มีศักยภาพในการแก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำได้ เช่น การจำลองโมเลกุลหรือการเข้ารหัสระดับสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/quantum-computing/harvard-researchers-hail-quantum-computing-breakthrough-with-machine-that-can-run-for-two-hours-atomic-loss-quashed-by-experimental-design-systems-that-can-run-forever-just-3-years-away
    🧠⚛️ “Harvard–MIT สร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่รันต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง — แก้ปัญหา atom loss ด้วยเลเซอร์ล้ำยุค พร้อมเปิดทางสู่ระบบที่รัน ‘ตลอดกาล’ ภายใน 3 ปี” ในโลกของควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่เคยถูกจำกัดด้วยเวลาใช้งานเพียงไม่กี่วินาที ทีมวิจัยจาก Harvard และ MIT ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ — ควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่สามารถรันต่อเนื่องได้มากกว่า 2 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรีสตาร์ทหรือโหลดข้อมูลใหม่ ถือเป็นการเพิ่มระยะเวลาการทำงานมากกว่า 55,000% เมื่อเทียบกับระบบเดิมที่รันได้เพียงไม่กี่มิลลิวินาที หัวใจของความสำเร็จนี้คือการแก้ปัญหา “atom loss” ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ล่มเร็ว โดยทีมวิจัยได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่ใช้เลเซอร์ควบคุมอะตอม ได้แก่ “optical lattice conveyor belts” และ “optical tweezers” เพื่อเติมอะตอมใหม่เข้าไปในระบบอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำลายข้อมูลเดิมที่เก็บไว้ใน qubit ระบบใหม่นี้สามารถเติมอะตอมได้ถึง 300,000 ตัวต่อวินาที และรองรับ qubit ได้มากถึง 3,000 ตัว ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่ควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่สามารถรันได้ “ตลอดกาล” โดยนักวิจัยคาดว่าจะสามารถสร้างระบบที่รันได้ไม่จำกัดภายใน 3 ปีข้างหน้า จากเดิมที่เคยประเมินว่าอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี แม้จะยังไม่พร้อมสำหรับการใช้งานในบ้านหรือสำนักงานทั่วไป แต่เทคโนโลยีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์ การเงิน การแพทย์ และการเข้ารหัสข้อมูลอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเมื่อระบบสามารถรักษาข้อมูลควอนตัมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สูญเสียความแม่นยำ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Harvard และ MIT สร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่รันต่อเนื่องได้มากกว่า 2 ชั่วโมง ➡️ ใช้เทคนิค optical lattice conveyor belts และ optical tweezers เพื่อเติมอะตอมใหม่ ➡️ ระบบรองรับ qubit ได้มากถึง 3,000 ตัว และเติมอะตอมได้ 300,000 ตัวต่อวินาที ➡️ แก้ปัญหา atom loss ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการล่มของระบบควอนตัม ➡️ นักวิจัยคาดว่าจะสร้างระบบที่รันได้ “ตลอดกาล” ภายใน 3 ปี ➡️ ระบบนี้ใช้ neutral atoms ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีเสถียรภาพสูง ➡️ การทดลองนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Nature และได้รับการยอมรับในวงการ ➡️ ทีมวิจัยร่วมมือกับ QuEra Computing ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพจาก Harvard–MIT ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Qubit คือหน่วยข้อมูลในควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่สามารถอยู่ในสถานะ 0 และ 1 พร้อมกัน ➡️ Quantum entanglement ทำให้การเพิ่ม qubit ส่งผลต่อพลังการประมวลผลแบบทวีคูณ ➡️ Optical tweezers คือเลเซอร์ที่ใช้จับและจัดเรียงอะตอมในตำแหน่งที่แม่นยำ ➡️ Optical lattice คือคลื่นแสงที่สร้างโครงสร้างคล้ายตะแกรงเพื่อวางอะตอม ➡️ ควอนตัมคอมพิวเตอร์มีศักยภาพในการแก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำได้ เช่น การจำลองโมเลกุลหรือการเข้ารหัสระดับสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/quantum-computing/harvard-researchers-hail-quantum-computing-breakthrough-with-machine-that-can-run-for-two-hours-atomic-loss-quashed-by-experimental-design-systems-that-can-run-forever-just-3-years-away
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • “Alphawave Semi ผนึกกำลัง TSMC เปิดตัว UCIe 3D IP — ปลดล็อกขีดจำกัดการเชื่อมต่อชิปในยุค AI”

    Alphawave Semi บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อความเร็วสูง ประกาศความสำเร็จในการ tape-out ชิป UCIe 3D IP รุ่นใหม่บนแพลตฟอร์ม 3DFabric ของ TSMC โดยใช้เทคโนโลยี SoIC-X ซึ่งเป็นการบรรจุชิปแบบ 3D ขั้นสูงที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างชิปมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด

    ชิปใหม่นี้รองรับการเชื่อมต่อแบบ face-to-face (F2F) และให้ประสิทธิภาพด้านพลังงานดีขึ้นถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับการเชื่อมต่อแบบ 2.5D เดิม พร้อมเพิ่มความหนาแน่นของสัญญาณได้ถึง 5 เท่า ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์โดยตรงต่อความต้องการของระบบ AI และ HPC ที่ต้องการแบนด์วิดธ์สูงและการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ

    ในยุคที่ Moore’s Law เริ่มไม่สามารถรองรับความซับซ้อนของโมเดล AI ได้อีกต่อไป การออกแบบชิปแบบเดิมที่สื่อสารกันผ่านขอบของแพ็กเกจเริ่มกลายเป็นข้อจำกัด Alphawave จึงเลือกแนวทางใหม่ด้วยการออกแบบชิปแบบ disaggregated architecture โดยใช้การวางชิปหลายตัวในแนวนอน หรือซ้อนกันในแนวตั้ง เพื่อเพิ่มแบนด์วิดธ์และลดการใช้พลังงาน

    ชิป UCIe-3D รุ่นใหม่นี้ใช้ bottom die ขนาด 5nm ที่รองรับ TSVs (Through-Silicon Vias) เพื่อส่งพลังงานและกราวด์ไปยัง top die ขนาด 3nm ซึ่งช่วยให้การจัดการพลังงานภายในชิปมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ Alphawave ยังมีชุดเครื่องมือ 3DIO ที่ช่วยให้การออกแบบและตรวจสอบชิปแบบ 3D เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

    ความร่วมมือครั้งนี้ยังรวมถึง Siemens ซึ่งนำแพลตฟอร์ม Calibre เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์พารามิเตอร์ไฟฟ้าและความร้อนในระยะเริ่มต้น เพื่อให้ระบบมีความเสถียรและเชื่อถือได้มากขึ้น

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Alphawave Semi ประสบความสำเร็จในการ tape-out ชิป UCIe 3D IP บนแพลตฟอร์ม TSMC 3DFabric
    ใช้เทคโนโลยี SoIC-X สำหรับการบรรจุชิปแบบ 3D ขั้นสูง
    รองรับการเชื่อมต่อแบบ face-to-face (F2F)
    ประสิทธิภาพด้านพลังงานดีขึ้น 10 เท่า และความหนาแน่นของสัญญาณเพิ่มขึ้น 5 เท่า
    ใช้ bottom die ขนาด 5nm และ top die ขนาด 3nm โดยเชื่อมผ่าน TSVs
    ช่วยแก้ปัญหาคอขวดด้านแบนด์วิดธ์และพลังงานในระบบ AI และ HPC
    Siemens ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มการออกแบบและตรวจสอบร่วมกับ Alphawave
    ชุดเครื่องมือ 3DIO ช่วยให้การออกแบบและตรวจสอบชิปแบบ 3D มีประสิทธิภาพ
    การออกแบบแบบ disaggregated architecture เป็นแนวทางใหม่แทน SoC แบบเดิม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    UCIe (Universal Chiplet Interconnect Express) เป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการเชื่อมต่อชิปแบบ chiplet
    SoIC-X ของ TSMC เป็นเทคโนโลยีการบรรจุชิปแบบ 3D ที่ใช้ในระดับองค์กรและ hyperscaler
    TSVs ช่วยให้การส่งพลังงานและข้อมูลระหว่างชิปมีความเร็วและประสิทธิภาพสูง
    การออกแบบแบบ chiplet ช่วยให้สามารถอัปเกรดเฉพาะส่วนของชิปได้โดยไม่ต้องสร้างใหม่ทั้งหมด
    Siemens Calibre เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้วิเคราะห์ความถูกต้องของวงจรในระดับนาโนเมตร

    https://www.techpowerup.com/341533/alphawave-semi-delivers-cutting-edge-ucie-chiplet-ip-on-tsmc-3dfabric-platform
    🔗 “Alphawave Semi ผนึกกำลัง TSMC เปิดตัว UCIe 3D IP — ปลดล็อกขีดจำกัดการเชื่อมต่อชิปในยุค AI” Alphawave Semi บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อความเร็วสูง ประกาศความสำเร็จในการ tape-out ชิป UCIe 3D IP รุ่นใหม่บนแพลตฟอร์ม 3DFabric ของ TSMC โดยใช้เทคโนโลยี SoIC-X ซึ่งเป็นการบรรจุชิปแบบ 3D ขั้นสูงที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างชิปมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ชิปใหม่นี้รองรับการเชื่อมต่อแบบ face-to-face (F2F) และให้ประสิทธิภาพด้านพลังงานดีขึ้นถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับการเชื่อมต่อแบบ 2.5D เดิม พร้อมเพิ่มความหนาแน่นของสัญญาณได้ถึง 5 เท่า ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์โดยตรงต่อความต้องการของระบบ AI และ HPC ที่ต้องการแบนด์วิดธ์สูงและการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ในยุคที่ Moore’s Law เริ่มไม่สามารถรองรับความซับซ้อนของโมเดล AI ได้อีกต่อไป การออกแบบชิปแบบเดิมที่สื่อสารกันผ่านขอบของแพ็กเกจเริ่มกลายเป็นข้อจำกัด Alphawave จึงเลือกแนวทางใหม่ด้วยการออกแบบชิปแบบ disaggregated architecture โดยใช้การวางชิปหลายตัวในแนวนอน หรือซ้อนกันในแนวตั้ง เพื่อเพิ่มแบนด์วิดธ์และลดการใช้พลังงาน ชิป UCIe-3D รุ่นใหม่นี้ใช้ bottom die ขนาด 5nm ที่รองรับ TSVs (Through-Silicon Vias) เพื่อส่งพลังงานและกราวด์ไปยัง top die ขนาด 3nm ซึ่งช่วยให้การจัดการพลังงานภายในชิปมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ Alphawave ยังมีชุดเครื่องมือ 3DIO ที่ช่วยให้การออกแบบและตรวจสอบชิปแบบ 3D เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ความร่วมมือครั้งนี้ยังรวมถึง Siemens ซึ่งนำแพลตฟอร์ม Calibre เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์พารามิเตอร์ไฟฟ้าและความร้อนในระยะเริ่มต้น เพื่อให้ระบบมีความเสถียรและเชื่อถือได้มากขึ้น ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Alphawave Semi ประสบความสำเร็จในการ tape-out ชิป UCIe 3D IP บนแพลตฟอร์ม TSMC 3DFabric ➡️ ใช้เทคโนโลยี SoIC-X สำหรับการบรรจุชิปแบบ 3D ขั้นสูง ➡️ รองรับการเชื่อมต่อแบบ face-to-face (F2F) ➡️ ประสิทธิภาพด้านพลังงานดีขึ้น 10 เท่า และความหนาแน่นของสัญญาณเพิ่มขึ้น 5 เท่า ➡️ ใช้ bottom die ขนาด 5nm และ top die ขนาด 3nm โดยเชื่อมผ่าน TSVs ➡️ ช่วยแก้ปัญหาคอขวดด้านแบนด์วิดธ์และพลังงานในระบบ AI และ HPC ➡️ Siemens ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มการออกแบบและตรวจสอบร่วมกับ Alphawave ➡️ ชุดเครื่องมือ 3DIO ช่วยให้การออกแบบและตรวจสอบชิปแบบ 3D มีประสิทธิภาพ ➡️ การออกแบบแบบ disaggregated architecture เป็นแนวทางใหม่แทน SoC แบบเดิม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ UCIe (Universal Chiplet Interconnect Express) เป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการเชื่อมต่อชิปแบบ chiplet ➡️ SoIC-X ของ TSMC เป็นเทคโนโลยีการบรรจุชิปแบบ 3D ที่ใช้ในระดับองค์กรและ hyperscaler ➡️ TSVs ช่วยให้การส่งพลังงานและข้อมูลระหว่างชิปมีความเร็วและประสิทธิภาพสูง ➡️ การออกแบบแบบ chiplet ช่วยให้สามารถอัปเกรดเฉพาะส่วนของชิปได้โดยไม่ต้องสร้างใหม่ทั้งหมด ➡️ Siemens Calibre เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้วิเคราะห์ความถูกต้องของวงจรในระดับนาโนเมตร https://www.techpowerup.com/341533/alphawave-semi-delivers-cutting-edge-ucie-chiplet-ip-on-tsmc-3dfabric-platform
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Alphawave Semi Delivers Cutting-Edge UCIe Chiplet IP on TSMC 3DFabric Platform
    Alphawave Semi (LSE: AWE), a global leader in high-speed connectivity and compute silicon for the world's technology infrastructure, has announced the successful tape-out of its cutting edge UCIe 3D IP on the advanced TSMC SoIC (SoIC-X) technology in the 3DFabric platform. This achievement builds on...
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • “Apple พับแผน Vision Pro รุ่นประหยัด — หันไปเร่งพัฒนาแว่นตา AI แข่ง Meta”

    Apple ตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางครั้งใหญ่ในตลาดอุปกรณ์สวมใส่ โดยประกาศยุติการพัฒนา Vision Pro รุ่นใหม่ที่มีรหัสภายในว่า N100 ซึ่งเดิมทีวางแผนเปิดตัวในปี 2027 เพื่อเป็นรุ่นที่เบาและราคาถูกลงจาก Vision Pro รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2024 ด้วยราคา 3,499 ดอลลาร์สหรัฐ แต่กลับไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดได้เท่าที่คาด เนื่องจากขาดเนื้อหาหลักและต้องเผชิญกับการแข่งขันจากอุปกรณ์ราคาถูกกว่า เช่น Meta Quest

    Apple จึงหันมาโฟกัสที่การพัฒนา “แว่นตาอัจฉริยะ” ซึ่งมีแนวโน้มจะกลายเป็นอุปกรณ์สวมใส่ยุคใหม่ที่มาแทนสมาร์ตโฟน โดยมีแผนพัฒนาอย่างน้อย 2 รุ่น ได้แก่:

    รุ่นแรก N50: ไม่มีหน้าจอในตัว ต้องเชื่อมต่อกับ iPhone เพื่อใช้งาน โดยอาจเปิดตัวในปีหน้า และวางจำหน่ายจริงในปี 2027

    รุ่นที่สอง: มีหน้าจอในตัว คล้ายกับ Meta Ray-Ban Display โดยเดิมทีวางแผนเปิดตัวในปี 2028 แต่ Apple กำลังเร่งพัฒนาให้เร็วขึ้น

    แว่นตาอัจฉริยะของ Apple จะเน้นการควบคุมด้วยเสียงและระบบปัญญาประดิษฐ์ โดยใช้ Siri เวอร์ชันใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงให้ฉลาดขึ้น และอาจเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026

    การเปลี่ยนแผนครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากตลาดและความสำเร็จของ Meta ที่เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่พร้อมหน้าจอและฟีเจอร์ AI เช่น การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ การควบคุมด้วย EMG ผ่านสายรัดข้อมือ และการบันทึกวิดีโอระดับ 3K

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Apple ยุติการพัฒนา Vision Pro รุ่น N100 ที่เดิมวางแผนเปิดตัวในปี 2027
    หันไปเร่งพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะ 2 รุ่น ได้แก่ N50 (ไม่มีหน้าจอ) และรุ่นมีหน้าจอ
    N50 จะเชื่อมต่อกับ iPhone และอาจเปิดตัวในปีหน้า
    รุ่นมีหน้าจอเดิมทีวางแผนเปิดตัวในปี 2028 แต่กำลังเร่งให้เร็วขึ้น
    แว่นตาใหม่จะใช้ Siri เวอร์ชันใหม่ที่เน้นการควบคุมด้วยเสียงและ AI
    Apple ยังไม่ยืนยันรายละเอียดอย่างเป็นทางการ แต่มีการเปลี่ยนแผนภายในแล้ว
    Vision Pro รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2024 ด้วยราคา 3,499 ดอลลาร์ แต่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า
    Meta เปิดตัว Ray-Ban Display และ Oakley Vanguard พร้อมฟีเจอร์ AI และหน้าจอในตัว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/02/apple-halts-vision-pro-overhaul-to-focus-on-ai-glasses-bloomberg-news-reports
    🕶️ “Apple พับแผน Vision Pro รุ่นประหยัด — หันไปเร่งพัฒนาแว่นตา AI แข่ง Meta” Apple ตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางครั้งใหญ่ในตลาดอุปกรณ์สวมใส่ โดยประกาศยุติการพัฒนา Vision Pro รุ่นใหม่ที่มีรหัสภายในว่า N100 ซึ่งเดิมทีวางแผนเปิดตัวในปี 2027 เพื่อเป็นรุ่นที่เบาและราคาถูกลงจาก Vision Pro รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2024 ด้วยราคา 3,499 ดอลลาร์สหรัฐ แต่กลับไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดได้เท่าที่คาด เนื่องจากขาดเนื้อหาหลักและต้องเผชิญกับการแข่งขันจากอุปกรณ์ราคาถูกกว่า เช่น Meta Quest Apple จึงหันมาโฟกัสที่การพัฒนา “แว่นตาอัจฉริยะ” ซึ่งมีแนวโน้มจะกลายเป็นอุปกรณ์สวมใส่ยุคใหม่ที่มาแทนสมาร์ตโฟน โดยมีแผนพัฒนาอย่างน้อย 2 รุ่น ได้แก่: 👓 รุ่นแรก N50: ไม่มีหน้าจอในตัว ต้องเชื่อมต่อกับ iPhone เพื่อใช้งาน โดยอาจเปิดตัวในปีหน้า และวางจำหน่ายจริงในปี 2027 👓 รุ่นที่สอง: มีหน้าจอในตัว คล้ายกับ Meta Ray-Ban Display โดยเดิมทีวางแผนเปิดตัวในปี 2028 แต่ Apple กำลังเร่งพัฒนาให้เร็วขึ้น แว่นตาอัจฉริยะของ Apple จะเน้นการควบคุมด้วยเสียงและระบบปัญญาประดิษฐ์ โดยใช้ Siri เวอร์ชันใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงให้ฉลาดขึ้น และอาจเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 การเปลี่ยนแผนครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากตลาดและความสำเร็จของ Meta ที่เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่พร้อมหน้าจอและฟีเจอร์ AI เช่น การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ การควบคุมด้วย EMG ผ่านสายรัดข้อมือ และการบันทึกวิดีโอระดับ 3K ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Apple ยุติการพัฒนา Vision Pro รุ่น N100 ที่เดิมวางแผนเปิดตัวในปี 2027 ➡️ หันไปเร่งพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะ 2 รุ่น ได้แก่ N50 (ไม่มีหน้าจอ) และรุ่นมีหน้าจอ ➡️ N50 จะเชื่อมต่อกับ iPhone และอาจเปิดตัวในปีหน้า ➡️ รุ่นมีหน้าจอเดิมทีวางแผนเปิดตัวในปี 2028 แต่กำลังเร่งให้เร็วขึ้น ➡️ แว่นตาใหม่จะใช้ Siri เวอร์ชันใหม่ที่เน้นการควบคุมด้วยเสียงและ AI ➡️ Apple ยังไม่ยืนยันรายละเอียดอย่างเป็นทางการ แต่มีการเปลี่ยนแผนภายในแล้ว ➡️ Vision Pro รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2024 ด้วยราคา 3,499 ดอลลาร์ แต่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า ➡️ Meta เปิดตัว Ray-Ban Display และ Oakley Vanguard พร้อมฟีเจอร์ AI และหน้าจอในตัว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/02/apple-halts-vision-pro-overhaul-to-focus-on-ai-glasses-bloomberg-news-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Apple halts Vision Pro overhaul to focus on AI glasses, Bloomberg News reports
    (Reuters) -Apple has halted a planned overhaul of its Vision Pro mixed-reality headset to shift resources to smart glasses that would rival products from Meta Platforms, Bloomberg News reported on Wednesday, citing people familiar with the matter.
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • เหรียญหล่อพระราหูอมจันทร์
    เหรียญหล่อพระราหูอมจันทร์ เนื้อทองเหลือง // พระเก่า พ.ศ.ลึก !! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเด่นเรื่อง เมตตา มหานิยม แคล้วคลาด โชคลาภ ป้องกันเสนียตจัญไร คุณไสย และภูตผีปีศาจได้ เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสาย ช่วยปัดเป่าเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี จะเกิดความสำเร็จในหน้าที่การงาน เจริญก้าวหน้า >>

    ** พระราหู เป็นหนึ่งในเทวดาแห่งดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ตามคติความเชื่อในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และถูกนำเข้ามาผสมผสานในวัฒนธรรมไทยมาช้านาน ในพระเวทอินเดีย พระราหูถือเป็น เทพบาปเคราะห์ ที่เกี่ยวข้องกับความมืด ความลุ่มหลง และการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหล่อพระราหูอมจันทร์ เหรียญหล่อพระราหูอมจันทร์ เนื้อทองเหลือง // พระเก่า พ.ศ.ลึก !! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเด่นเรื่อง เมตตา มหานิยม แคล้วคลาด โชคลาภ ป้องกันเสนียตจัญไร คุณไสย และภูตผีปีศาจได้ เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสาย ช่วยปัดเป่าเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี จะเกิดความสำเร็จในหน้าที่การงาน เจริญก้าวหน้า >> ** พระราหู เป็นหนึ่งในเทวดาแห่งดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ตามคติความเชื่อในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และถูกนำเข้ามาผสมผสานในวัฒนธรรมไทยมาช้านาน ในพระเวทอินเดีย พระราหูถือเป็น เทพบาปเคราะห์ ที่เกี่ยวข้องกับความมืด ความลุ่มหลง และการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • “Bitcoin Queen ถูกตัดสินคดีฉ้อโกง — ยึดคริปโตมูลค่า $7.3 พันล้าน กลายเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในโลก”

    หลังจากหลบหนีมานานกว่า 5 ปี Zhimin Qian หรือที่รู้จักในชื่อ “Yadi Zhang” ถูกศาล Southwark Crown Court ในสหราชอาณาจักรตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน โดยเธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในประเทศจีนระหว่างปี 2014–2017 และนำเงินที่ได้ไปแปลงเป็น Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ

    ตำรวจนครบาลลอนดอน (Met Police) เปิดเผยว่าได้ยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญจาก Qian ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเป็นหนึ่งในคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร

    หลังจากหลบหนีออกจากจีนด้วยเอกสารปลอมในปี 2018 Qian เข้าสหราชอาณาจักรและพยายามฟอกเงินผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้ช่วยคือ Jian Wen อดีตพนักงานร้านอาหารที่ต่อมาใช้ชีวิตหรูหราในบ้านเช่าหลายล้านปอนด์ และซื้ออสังหาริมทรัพย์ในดูไบมูลค่ากว่า £500,000

    Wen ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี 8 เดือนเมื่อปีที่แล้ว และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สินมูลค่ากว่า £3.1 ล้านภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นจะถูกเพิ่มโทษอีก 7 ปี

    คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนกว่า 7 ปี โดยมีการร่วมมือระหว่างตำรวจอังกฤษ หน่วยงานอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) และเจ้าหน้าที่จีนในเมืองเทียนจินและปักกิ่ง เพื่อรวบรวมหลักฐานจากหลายประเทศ และตรวจสอบเอกสารนับพันฉบับ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Zhimin Qian ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงินในสหราชอาณาจักร
    เธอหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017
    ตำรวจยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญ มูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้าน
    ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในโลก และคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดใน UK
    Qian เข้าสหราชอาณาจักรในปี 2018 ด้วยเอกสารปลอม และพยายามฟอกเงินผ่านอสังหาริมทรัพย์
    Jian Wen ผู้ช่วยของ Qian ถูกจำคุก 6 ปี 8 เดือน และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สิน £3.1 ล้าน
    การสืบสวนใช้เวลานานกว่า 7 ปี และมีความร่วมมือระหว่าง UK และจีน
    คดีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นความสำเร็จของทีมอาชญากรรมเศรษฐกิจของ Met Police

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Bitcoin มีราคาผันผวนสูง ทำให้มูลค่าการยึดเปลี่ยนแปลงตามเวลา
    คดีนี้เปรียบเทียบกับ “Cryptoqueen” Dr. Ruja Ignatova ผู้หลอกลงทุนใน OneCoin
    การฟอกเงินผ่านคริปโตมักใช้วิธีซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์หรูหรา
    การยึดคริปโตต้องใช้เทคนิคพิเศษในการเข้าถึง wallet และตรวจสอบ blockchain
    หลายประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุมการฟอกเงินผ่านคริปโตอย่างเข้มงวด

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การฟอกเงินผ่านคริปโตยังเป็นช่องโหว่ที่ตรวจสอบได้ยากในหลายประเทศ
    การหลบหนีข้ามประเทศด้วยเอกสารปลอมยังคงเป็นปัญหาในระบบตรวจคนเข้าเมือง
    การซื้อสินทรัพย์หรูโดยไม่มีแหล่งเงินชัดเจนอาจเป็นสัญญาณของการฟอกเงิน
    การยึดคริปโตต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศและการพิสูจน์แหล่งที่มาอย่างละเอียด
    หากไม่มีการควบคุมที่ดี การฟอกเงินผ่านคริปโตอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/usd7-3-billion-worth-of-cryptocurrency-recovered-from-newly-convicted-bitcoin-queen-funds-from-fraudster-thought-to-be-the-largest-seizure-to-date
    💰 “Bitcoin Queen ถูกตัดสินคดีฉ้อโกง — ยึดคริปโตมูลค่า $7.3 พันล้าน กลายเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในโลก” หลังจากหลบหนีมานานกว่า 5 ปี Zhimin Qian หรือที่รู้จักในชื่อ “Yadi Zhang” ถูกศาล Southwark Crown Court ในสหราชอาณาจักรตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน โดยเธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในประเทศจีนระหว่างปี 2014–2017 และนำเงินที่ได้ไปแปลงเป็น Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ตำรวจนครบาลลอนดอน (Met Police) เปิดเผยว่าได้ยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญจาก Qian ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเป็นหนึ่งในคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร หลังจากหลบหนีออกจากจีนด้วยเอกสารปลอมในปี 2018 Qian เข้าสหราชอาณาจักรและพยายามฟอกเงินผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้ช่วยคือ Jian Wen อดีตพนักงานร้านอาหารที่ต่อมาใช้ชีวิตหรูหราในบ้านเช่าหลายล้านปอนด์ และซื้ออสังหาริมทรัพย์ในดูไบมูลค่ากว่า £500,000 Wen ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี 8 เดือนเมื่อปีที่แล้ว และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สินมูลค่ากว่า £3.1 ล้านภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นจะถูกเพิ่มโทษอีก 7 ปี คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนกว่า 7 ปี โดยมีการร่วมมือระหว่างตำรวจอังกฤษ หน่วยงานอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) และเจ้าหน้าที่จีนในเมืองเทียนจินและปักกิ่ง เพื่อรวบรวมหลักฐานจากหลายประเทศ และตรวจสอบเอกสารนับพันฉบับ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Zhimin Qian ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงินในสหราชอาณาจักร ➡️ เธอหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017 ➡️ ตำรวจยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญ มูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้าน ➡️ ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในโลก และคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดใน UK ➡️ Qian เข้าสหราชอาณาจักรในปี 2018 ด้วยเอกสารปลอม และพยายามฟอกเงินผ่านอสังหาริมทรัพย์ ➡️ Jian Wen ผู้ช่วยของ Qian ถูกจำคุก 6 ปี 8 เดือน และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สิน £3.1 ล้าน ➡️ การสืบสวนใช้เวลานานกว่า 7 ปี และมีความร่วมมือระหว่าง UK และจีน ➡️ คดีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นความสำเร็จของทีมอาชญากรรมเศรษฐกิจของ Met Police ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Bitcoin มีราคาผันผวนสูง ทำให้มูลค่าการยึดเปลี่ยนแปลงตามเวลา ➡️ คดีนี้เปรียบเทียบกับ “Cryptoqueen” Dr. Ruja Ignatova ผู้หลอกลงทุนใน OneCoin ➡️ การฟอกเงินผ่านคริปโตมักใช้วิธีซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์หรูหรา ➡️ การยึดคริปโตต้องใช้เทคนิคพิเศษในการเข้าถึง wallet และตรวจสอบ blockchain ➡️ หลายประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุมการฟอกเงินผ่านคริปโตอย่างเข้มงวด ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การฟอกเงินผ่านคริปโตยังเป็นช่องโหว่ที่ตรวจสอบได้ยากในหลายประเทศ ⛔ การหลบหนีข้ามประเทศด้วยเอกสารปลอมยังคงเป็นปัญหาในระบบตรวจคนเข้าเมือง ⛔ การซื้อสินทรัพย์หรูโดยไม่มีแหล่งเงินชัดเจนอาจเป็นสัญญาณของการฟอกเงิน ⛔ การยึดคริปโตต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศและการพิสูจน์แหล่งที่มาอย่างละเอียด ⛔ หากไม่มีการควบคุมที่ดี การฟอกเงินผ่านคริปโตอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/usd7-3-billion-worth-of-cryptocurrency-recovered-from-newly-convicted-bitcoin-queen-funds-from-fraudster-thought-to-be-the-largest-seizure-to-date
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • BIG Story | 54 ปีแห่งความหลัง สุรพล สมบัติเจริญ

    กว่าครึ่งศตวรรษแห่งการสูญเสีย “สุรพล สมบัติเจริญ” ราชาเพลงลูกทุ่ง ผู้เป็นทั้งนักร้อง นักดนตรี และครูเพลงผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค เหตุใดเขาจึงถูกยิงเสียชีวิตอย่างอุกอาจกลางงานแสดงต่อหน้าแฟนเพลงนับพัน? การจากไปของสุรพลเกี่ยวข้องอะไรกับบทเพลงดัง “สิบหกปีแห่งความหลัง” และ “สาวสวนแตง” หรือไม่? ติดตามปฐมบท ความสำเร็จ และวาระสุดท้ายของตำนานลูกทุ่งผู้เป็นที่รักของคนทั้งประเทศ

    รับชมสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: 54 ปีแห่งความหลัง สุรพล สมบัติเจริญ ได้ที่ Thaitimes App

    #BigStory #สุรพลสมบัติเจริญ #ราชาเพลงลูกทุ่ง #สิบหกปีแห่งความหลัง #สาวสวนแตง #คดีสะเทือนวงการเพลง #ThaiTimes
    BIG Story | 54 ปีแห่งความหลัง สุรพล สมบัติเจริญ กว่าครึ่งศตวรรษแห่งการสูญเสีย “สุรพล สมบัติเจริญ” ราชาเพลงลูกทุ่ง ผู้เป็นทั้งนักร้อง นักดนตรี และครูเพลงผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค เหตุใดเขาจึงถูกยิงเสียชีวิตอย่างอุกอาจกลางงานแสดงต่อหน้าแฟนเพลงนับพัน? การจากไปของสุรพลเกี่ยวข้องอะไรกับบทเพลงดัง “สิบหกปีแห่งความหลัง” และ “สาวสวนแตง” หรือไม่? ติดตามปฐมบท ความสำเร็จ และวาระสุดท้ายของตำนานลูกทุ่งผู้เป็นที่รักของคนทั้งประเทศ 📲 รับชมสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: 54 ปีแห่งความหลัง สุรพล สมบัติเจริญ ได้ที่ Thaitimes App #BigStory #สุรพลสมบัติเจริญ #ราชาเพลงลูกทุ่ง #สิบหกปีแห่งความหลัง #สาวสวนแตง #คดีสะเทือนวงการเพลง #ThaiTimes
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 0 Reviews
  • “Meta เปิดตัว Vibes — ปฏิวัติการสร้างวิดีโอสั้นด้วย AI ที่คุณไม่ต้องถ่ายเองอีกต่อไป”

    Meta เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Meta AI และเว็บไซต์ meta.ai ชื่อว่า “Vibes” ซึ่งเป็นฟีดวิดีโอสั้นที่สร้างด้วย AI ทั้งหมด โดยผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความ (prompt), รีมิกซ์วิดีโอที่มีอยู่, เพิ่มภาพ เสียง และปรับสไตล์ได้ตามใจ ก่อนแชร์ไปยัง Instagram Reels หรือ Facebook Stories ได้ทันที

    Vibes ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ที่ไม่มีทักษะด้านการตัดต่อหรือการถ่ายทำสามารถสร้างวิดีโอที่ดูดีได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องปรากฏตัวในคลิปเองเลย จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือสร้างภาพ AI, สติกเกอร์, และโมเดลวิดีโอของ Meta ไว้ในที่เดียว ทำให้การสร้างคอนเทนต์กลายเป็นเรื่องสนุกและเข้าถึงได้

    ฟีด Vibes จะเรียนรู้จากพฤติกรรมของผู้ใช้และปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมเปิดให้รีมิกซ์วิดีโอจากผู้ใช้คนอื่นได้ทันทีผ่านปุ่ม “Remix” บน Instagram หรือในแอป Meta AI โดย Meta ยังร่วมมือกับศิลปินและนักสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาโมเดลให้มีคุณภาพสูงขึ้นในอนาคต

    แม้จะเป็นการเปิดโอกาสให้คนทั่วไปเข้าถึงการสร้างวิดีโอด้วย AI ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลว่าอาจทำให้แพลตฟอร์มเต็มไปด้วย “AI slop” หรือวิดีโอที่ดูแปลก ไม่สมจริง และขาดคุณภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อความนิยมของ Reels และ Stories ในระยะยาว

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Meta เปิดตัว Vibes ฟีดวิดีโอสั้นที่สร้างด้วย AI ทั้งหมดในแอป Meta AI และเว็บไซต์ meta.ai
    ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความ รีมิกซ์วิดีโอที่มีอยู่ และปรับแต่งภาพ เสียง สไตล์ได้
    วิดีโอสามารถแชร์ไปยัง Instagram Reels และ Facebook Stories ได้โดยตรง
    Vibes รวมเครื่องมือสร้างภาพ AI, สติกเกอร์ และโมเดลวิดีโอไว้ในที่เดียว
    ฟีดจะปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้โดยอิงจากพฤติกรรมการใช้งาน
    ผู้ใช้สามารถรีมิกซ์วิดีโอจาก Instagram ได้ผ่านปุ่ม “Remix” ที่เชื่อมกับแอป Meta AI
    Meta ร่วมมือกับศิลปินและนักสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาโมเดลให้มีคุณภาพสูงขึ้น
    Vibes เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อผลักดัน AI ไปสู่ทุกผลิตภัณฑ์ของ Meta

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การสร้างวิดีโอด้วย AI ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการผลิตคอนเทนต์
    ผู้ใช้ที่ขาดอุปกรณ์หรือความมั่นใจสามารถสร้างวิดีโอได้โดยไม่ต้องถ่ายเอง
    การใช้ prompt ในการสร้างวิดีโอเปิดโอกาสให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แบบใหม่
    Meta เคยทดลองฟีเจอร์ AI chatbot persona แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่า Vibes
    การรวม Vibes เข้ากับ Instagram และ Facebook อาจเปลี่ยนวิธีการสร้างคอนเทนต์ในอนาคต

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/meta-launches-vibes-a-new-way-of-creating-and-remixing-ai-videos
    🎬 “Meta เปิดตัว Vibes — ปฏิวัติการสร้างวิดีโอสั้นด้วย AI ที่คุณไม่ต้องถ่ายเองอีกต่อไป” Meta เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Meta AI และเว็บไซต์ meta.ai ชื่อว่า “Vibes” ซึ่งเป็นฟีดวิดีโอสั้นที่สร้างด้วย AI ทั้งหมด โดยผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความ (prompt), รีมิกซ์วิดีโอที่มีอยู่, เพิ่มภาพ เสียง และปรับสไตล์ได้ตามใจ ก่อนแชร์ไปยัง Instagram Reels หรือ Facebook Stories ได้ทันที Vibes ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ที่ไม่มีทักษะด้านการตัดต่อหรือการถ่ายทำสามารถสร้างวิดีโอที่ดูดีได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องปรากฏตัวในคลิปเองเลย จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือสร้างภาพ AI, สติกเกอร์, และโมเดลวิดีโอของ Meta ไว้ในที่เดียว ทำให้การสร้างคอนเทนต์กลายเป็นเรื่องสนุกและเข้าถึงได้ ฟีด Vibes จะเรียนรู้จากพฤติกรรมของผู้ใช้และปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมเปิดให้รีมิกซ์วิดีโอจากผู้ใช้คนอื่นได้ทันทีผ่านปุ่ม “Remix” บน Instagram หรือในแอป Meta AI โดย Meta ยังร่วมมือกับศิลปินและนักสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาโมเดลให้มีคุณภาพสูงขึ้นในอนาคต แม้จะเป็นการเปิดโอกาสให้คนทั่วไปเข้าถึงการสร้างวิดีโอด้วย AI ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลว่าอาจทำให้แพลตฟอร์มเต็มไปด้วย “AI slop” หรือวิดีโอที่ดูแปลก ไม่สมจริง และขาดคุณภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อความนิยมของ Reels และ Stories ในระยะยาว ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Meta เปิดตัว Vibes ฟีดวิดีโอสั้นที่สร้างด้วย AI ทั้งหมดในแอป Meta AI และเว็บไซต์ meta.ai ➡️ ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความ รีมิกซ์วิดีโอที่มีอยู่ และปรับแต่งภาพ เสียง สไตล์ได้ ➡️ วิดีโอสามารถแชร์ไปยัง Instagram Reels และ Facebook Stories ได้โดยตรง ➡️ Vibes รวมเครื่องมือสร้างภาพ AI, สติกเกอร์ และโมเดลวิดีโอไว้ในที่เดียว ➡️ ฟีดจะปรับเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้โดยอิงจากพฤติกรรมการใช้งาน ➡️ ผู้ใช้สามารถรีมิกซ์วิดีโอจาก Instagram ได้ผ่านปุ่ม “Remix” ที่เชื่อมกับแอป Meta AI ➡️ Meta ร่วมมือกับศิลปินและนักสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาโมเดลให้มีคุณภาพสูงขึ้น ➡️ Vibes เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อผลักดัน AI ไปสู่ทุกผลิตภัณฑ์ของ Meta ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การสร้างวิดีโอด้วย AI ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการผลิตคอนเทนต์ ➡️ ผู้ใช้ที่ขาดอุปกรณ์หรือความมั่นใจสามารถสร้างวิดีโอได้โดยไม่ต้องถ่ายเอง ➡️ การใช้ prompt ในการสร้างวิดีโอเปิดโอกาสให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แบบใหม่ ➡️ Meta เคยทดลองฟีเจอร์ AI chatbot persona แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่า Vibes ➡️ การรวม Vibes เข้ากับ Instagram และ Facebook อาจเปลี่ยนวิธีการสร้างคอนเทนต์ในอนาคต https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/meta-launches-vibes-a-new-way-of-creating-and-remixing-ai-videos
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • “ปาฏิหาริย์แห่งการปลูกถ่าย: ชายอเมริกันมีชีวิตอยู่ครบ 6 เดือนหลังรับไตจากหมูดัดแปลงพันธุกรรม — จุดเปลี่ยนของการแพทย์ข้ามสายพันธุ์”

    Tim Andrews ชายวัย 67 ปีจากสหรัฐฯ กลายเป็นบุคคลแรกในโลกที่มีชีวิตอยู่ครบ 6 เดือนหลังได้รับการปลูกถ่ายไตจากหมูที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในวงการแพทย์ด้าน xenotransplantation — การปลูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์สู่มนุษย์

    ก่อนหน้านี้ Andrews ป่วยเป็นโรคไตระยะสุดท้ายและต้องฟอกไตมานานกว่า 2 ปี โดยมีโอกาสรอรับไตจากมนุษย์นานถึง 7 ปี เนื่องจากกรุ๊ปเลือดหายาก การปลูกถ่ายไตจากหมูจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายภายใต้ระบบ “Compassionate Use” ซึ่งอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติในกรณีฉุกเฉิน

    ไตที่ใช้ปลูกถ่ายมาจากหมูที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมถึง 3 ขั้นตอน ได้แก่:

    ลบแอนติเจน 3 ชนิดที่ทำให้ร่างกายมนุษย์ต่อต้านอวัยวะ
    เพิ่มยีนมนุษย์ 7 ตัวเพื่อลดการอักเสบและภาวะแทรกซ้อน
    ปิดการทำงานของไวรัสในจีโนมของหมู

    หลังการผ่าตัด Andrews ไม่ต้องฟอกไตอีกเลย และไม่มีอาการปฏิเสธอวัยวะหรือภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เสี่ยงที่สุดในผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ หากเขาอยู่รอดครบ 12 เดือน จะถือเป็นความสำเร็จระยะยาวที่น่าทึ่ง

    ก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยที่มีอวัยวะจากหมูอยู่ได้นานที่สุดคือ Towana Looney ซึ่งอยู่ได้ 4 เดือน 9 วัน ก่อนที่ร่างกายจะเริ่มต่อต้านอวัยวะและต้องนำออก

    ความสำเร็จของ Andrews ทำให้องค์กรด้านชีวเวชศาสตร์ เช่น eGenesis และ United Therapeutics ได้รับอนุมัติให้เริ่มทดลองปลูกถ่ายไตหมูในมนุษย์มากขึ้น โดยมีแผนทดลองกับผู้ป่วยกว่า 80 คนในสหรัฐฯ ภายในปีนี้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Tim Andrews มีชีวิตอยู่ครบ 6 เดือนหลังรับไตจากหมูดัดแปลงพันธุกรรม
    ถือเป็นสถิติใหม่ของการปลูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์สู่มนุษย์ (xenotransplantation)
    ไตหมูผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม 3 ขั้นตอนเพื่อป้องกันการปฏิเสธอวัยวะ
    Andrews ไม่ต้องฟอกไตอีกเลยหลังการปลูกถ่าย
    การปลูกถ่ายเกิดขึ้นภายใต้ระบบ Compassionate Use สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีทางเลือก
    บริษัท eGenesis และ United Therapeutics ได้รับอนุมัติให้ทดลองปลูกถ่ายกับผู้ป่วยเพิ่ม
    หากอยู่รอดครบ 12 เดือน จะถือเป็นความสำเร็จระยะยาวของเทคโนโลยีนี้
    การทดลองนี้อาจนำไปสู่การปลูกถ่ายอวัยวะอื่นจากหมู เช่น หัวใจและปอด
    การใช้ CRISPR ช่วยให้สามารถดัดแปลงพันธุกรรมหมูได้หลายจุดพร้อมกัน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ในสหรัฐฯ มีผู้รอปลูกถ่ายไตมากกว่า 89,000 คน
    การปลูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์ช่วยลดภาระการรออวัยวะจากมนุษย์
    หมูเป็นสัตว์ที่มีขนาดอวัยวะใกล้เคียงกับมนุษย์ และสามารถดัดแปลงพันธุกรรมได้ง่าย
    การปิดไวรัสในจีโนมหมูช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อข้ามสายพันธุ์
    การปลูกถ่ายแบบ xenotransplantation เคยถูกทดลองตั้งแต่ศตวรรษที่ 17

    https://www.nature.com/articles/d41586-025-02851-w
    🧬 “ปาฏิหาริย์แห่งการปลูกถ่าย: ชายอเมริกันมีชีวิตอยู่ครบ 6 เดือนหลังรับไตจากหมูดัดแปลงพันธุกรรม — จุดเปลี่ยนของการแพทย์ข้ามสายพันธุ์” Tim Andrews ชายวัย 67 ปีจากสหรัฐฯ กลายเป็นบุคคลแรกในโลกที่มีชีวิตอยู่ครบ 6 เดือนหลังได้รับการปลูกถ่ายไตจากหมูที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในวงการแพทย์ด้าน xenotransplantation — การปลูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์สู่มนุษย์ ก่อนหน้านี้ Andrews ป่วยเป็นโรคไตระยะสุดท้ายและต้องฟอกไตมานานกว่า 2 ปี โดยมีโอกาสรอรับไตจากมนุษย์นานถึง 7 ปี เนื่องจากกรุ๊ปเลือดหายาก การปลูกถ่ายไตจากหมูจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายภายใต้ระบบ “Compassionate Use” ซึ่งอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติในกรณีฉุกเฉิน ไตที่ใช้ปลูกถ่ายมาจากหมูที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมถึง 3 ขั้นตอน ได้แก่: 🗝️ ลบแอนติเจน 3 ชนิดที่ทำให้ร่างกายมนุษย์ต่อต้านอวัยวะ 🗝️ เพิ่มยีนมนุษย์ 7 ตัวเพื่อลดการอักเสบและภาวะแทรกซ้อน 🗝️ ปิดการทำงานของไวรัสในจีโนมของหมู หลังการผ่าตัด Andrews ไม่ต้องฟอกไตอีกเลย และไม่มีอาการปฏิเสธอวัยวะหรือภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เสี่ยงที่สุดในผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ หากเขาอยู่รอดครบ 12 เดือน จะถือเป็นความสำเร็จระยะยาวที่น่าทึ่ง ก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยที่มีอวัยวะจากหมูอยู่ได้นานที่สุดคือ Towana Looney ซึ่งอยู่ได้ 4 เดือน 9 วัน ก่อนที่ร่างกายจะเริ่มต่อต้านอวัยวะและต้องนำออก ความสำเร็จของ Andrews ทำให้องค์กรด้านชีวเวชศาสตร์ เช่น eGenesis และ United Therapeutics ได้รับอนุมัติให้เริ่มทดลองปลูกถ่ายไตหมูในมนุษย์มากขึ้น โดยมีแผนทดลองกับผู้ป่วยกว่า 80 คนในสหรัฐฯ ภายในปีนี้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Tim Andrews มีชีวิตอยู่ครบ 6 เดือนหลังรับไตจากหมูดัดแปลงพันธุกรรม ➡️ ถือเป็นสถิติใหม่ของการปลูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์สู่มนุษย์ (xenotransplantation) ➡️ ไตหมูผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม 3 ขั้นตอนเพื่อป้องกันการปฏิเสธอวัยวะ ➡️ Andrews ไม่ต้องฟอกไตอีกเลยหลังการปลูกถ่าย ➡️ การปลูกถ่ายเกิดขึ้นภายใต้ระบบ Compassionate Use สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีทางเลือก ➡️ บริษัท eGenesis และ United Therapeutics ได้รับอนุมัติให้ทดลองปลูกถ่ายกับผู้ป่วยเพิ่ม ➡️ หากอยู่รอดครบ 12 เดือน จะถือเป็นความสำเร็จระยะยาวของเทคโนโลยีนี้ ➡️ การทดลองนี้อาจนำไปสู่การปลูกถ่ายอวัยวะอื่นจากหมู เช่น หัวใจและปอด ➡️ การใช้ CRISPR ช่วยให้สามารถดัดแปลงพันธุกรรมหมูได้หลายจุดพร้อมกัน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ในสหรัฐฯ มีผู้รอปลูกถ่ายไตมากกว่า 89,000 คน ➡️ การปลูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์ช่วยลดภาระการรออวัยวะจากมนุษย์ ➡️ หมูเป็นสัตว์ที่มีขนาดอวัยวะใกล้เคียงกับมนุษย์ และสามารถดัดแปลงพันธุกรรมได้ง่าย ➡️ การปิดไวรัสในจีโนมหมูช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อข้ามสายพันธุ์ ➡️ การปลูกถ่ายแบบ xenotransplantation เคยถูกทดลองตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 https://www.nature.com/articles/d41586-025-02851-w
    WWW.NATURE.COM
    ‘Amazing feat’: US man still alive six months after pig kidney transplant
    The first six months after an organ transplant are the riskiest for recipients.
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • บทเพลงแห่งความขัดแย้งที่กลายเป็นอมตะ: เรื่องราวเบื้องหลังเพลง 'I Can't Tell You Why' โดย Eagles

    ในช่วงปลายยุค 70 วงดนตรีร็อกชื่อดังอย่าง Eagles ได้ก้าวสู่จุดสูงสุดของความสำเร็จระดับโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนจากอัลบั้มยอดเยี่ยม Hotel California (1976) อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้กลับนำมาซึ่งแรงกดดันมหาศาลและความขัดแย้งที่ร้าวลึกภายในวง โดยเฉพาะระหว่างแกนนำอย่าง Don Henley และ Glenn Frey

    ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดนี้ การบันทึกเสียงอัลบั้มถัดมา The Long Run (1979) จึงเป็นกระบวนการที่ยาวนานและยากลำบาก ทีมงานของค่ายเพลงถึงกับเรียกมันว่า “The Long One” หรือ “สิ่งที่ยาวนาน” ซึ่ง Don Henley เองก็ยอมรับในภายหลังว่าอัลบั้มนี้โดยรวมแล้ว “ไม่ใช่แผ่นเสียงที่ดีนัก” เพราะสมาชิกวงต่าง “หมดไฟ” และ “ตึงเครียด” จนเกินไป

    แต่ท่ามกลางความวุ่นวายดังกล่าว บทเพลงบัลลาดสุดคลาสสิกอย่าง “I Can't Tell You Why” ได้ถือกำเนิดขึ้นและกลายเป็นข้อยกเว้นที่โดดเด่น เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่วงสามารถบันทึกเสร็จสมบูรณ์สำหรับอัลบั้มนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันสั้นที่ Eagles สามารถกลับมาร่วมงานกันได้อย่างสร้างสรรค์ ก่อนที่ความขัดแย้งภายในจะกลับมาอีกครั้งและนำไปสู่การยุบวงในที่สุด เพลงนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเพลงฮิต แต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสามารถอันน่าทึ่งของวงในการสร้างสรรค์งานศิลปะที่สวยงามและลงตัวจากสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะพังทลาย

    เรื่องราวเริ่มขึ้นพร้อมกับการเข้ามาของ Timothy B. Schmit มือเบสคนใหม่ที่แทน Randy Meisner ในปี 1977 Schmit ได้นำไอเดียเพลงจากประสบการณ์ส่วนตัวมาเสนอ และร่วมแต่งกับ Frey และ Henley ภายในไม่กี่คืนที่ทำงานกันยันเช้า

    เรื่องราวของเพลงนี้เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการเข้ามาของ Timothy B. Schmit มือเบสคนใหม่ผู้มากประสบการณ์จากวง Poco ที่เข้ามาแทน Randy Meisner ซึ่งลาออกไปในปี 1977 Schmit เข้ามาในฐานะคนวงนอก ผู้ที่ตั้งใจ “ทำทุกอย่างเพื่อรักษาสันติภาพ” และช่วยให้สถานการณ์ภายในวงดีขึ้น เขาได้นำไอเดียตั้งต้นของเพลงที่เขาบอกว่า “อิงจากประสบการณ์ส่วนตัว” มาเสนอต่อ Frey และ Henley เพื่อเป็นเพลงเดี่ยวเพลงแรกของเขาใน Eagles ทั้งสามคนได้ร่วมกันแต่งเพลงนี้อย่างรวดเร็วในช่วง “ไม่กี่คืนที่ทำงานกันยันเช้า” จนได้ผลงานที่สมบูรณ์ Don Henley และ Glenn Frey ต้องการนำเสนอ Timothy B. Schmit ด้วยเสียงที่แตกต่างจากดนตรีคันทรี่ร็อกที่เขาเคยทำ โดย Frey ที่มี “รากฐานลึกซึ้งในดนตรีโซล” ได้แนะนำ Schmit อย่างชัดเจนว่า “คุณสามารถร้องเพลงแบบ Smokey Robinson ได้” และให้เปลี่ยนมาทำ “เพลงแนว R&B” แทน ขณะที่ Henley ก็กล่าวเสริมว่าเพลงนี้มีสไตล์แบบ “Al Green ชัดๆ”

    ในด้านองค์ประกอบทางดนตรี Frey ยังมีบทบาทสำคัญในการเรียบเรียง โดย Timothy B. Schmit ถึงกับเรียกเขาว่า "The Lone Arranger" (ผู้เรียบเรียงเพียงหนึ่งเดียว) เนื่องจากความสามารถในการจัดการพาร์ทดนตรีต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะท่อนโซโล่กีตาร์ที่ไพเราะและโดดเด่นในเพลงนี้ที่ Frey เป็นผู้บรรเลงเอง นอกจากนี้ Joe Walsh ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศของเพลงด้วยการเล่นคีย์บอร์ดทั้งหมด ทั้ง Hammond organ, Fender Rhodes electric piano และ ARP String Synthesizer ทั้งหมดนี้ได้หลอมรวมกันเป็นงานบัลลาดที่แตกต่างจากเพลงร็อกและคันทรี่-ร็อกที่แข็งกร้าวของวง 7 และได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงที่ “มีจิตวิญญาณมากที่สุด” ของ Eagles

    เนื้อเพลงของ “I Can't Tell You Why” สะท้อนถึงความรู้สึกที่สับสนและเจ็บปวดในความสัมพันธ์ได้อย่างลึกซึ้ง มันเล่าเรื่องราวของคนที่ต้องการจะเดินจากไปแต่กลับถูกดึงดูดให้กลับมาเสมอ และไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แม้จะอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวของ Schmit แต่เขาก็ยืนยันว่ามันถ่ายทอด “แก่นสากลของความรัก, ความไม่แน่นอน และการสื่อสารที่ล้มเหลว” ได้อย่างครอบคลุม ด้านเสียงร้องนำโดย Timothy B. Schmit ซึ่งถูกบรรยายว่าเป็นเสียง “ใสกังวาน” และ “เสียงสูงแบบเจ็บปวด” ได้เพิ่มมิติที่ลึกซึ้งและคุณภาพที่น่าจดจำให้กับเพลง เพลงนี้ถือเป็นเพลงแรกที่ Eagles ให้ Schmit ร้องนำอย่างเต็มตัว ซึ่งทำให้เขาได้สร้างเอกลักษณ์ทางเสียงของตนเองได้อย่างชัดเจนและเป็นที่จดจำในฐานะนักร้องนำอีกคนหนึ่งของวง

    หลังจากที่ถูกปล่อยออกมาในฐานะซิงเกิลที่สามในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1980 เพลง “I Can't Tell You Why” ก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยขึ้นไปถึงอันดับ 8 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ในเดือนเมษายน 1980 และขึ้นไปถึงอันดับ 3 บนชาร์ต Adult Contemporary ความสำเร็จนี้ทำให้เป็นเพลงท็อป 10 เพลงที่สามติดต่อกันจากอัลบั้ม The Long Run และที่สำคัญที่สุด มันยังกลายเป็นเพลงท็อป 10 เพลงสุดท้ายของ Eagles บนชาร์ต Billboard Hot 100 ก่อนที่พวกเขาจะประกาศยุบวงในเวลาต่อมา แม้จะไม่ได้เป็นเพลงที่ทำยอดขายสูงสุดเท่ากับเพลงยอดนิยมอื่นๆ แต่ “I Can't Tell You Why” ได้กลายเป็นเพลงโปรดของแฟนๆ และเป็น “ช่วงเวลาไฮไลต์” สำหรับ Timothy B. Schmit ในการแสดงสด เพลงนี้อยู่ในอันดับที่ 9 ของเพลงที่ถูกเล่นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวง นอกจากนี้ เพลงยังได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ โดย

    Billboard จัดให้เพลงนี้อยู่ในอันดับ 6 ของผลงาน Eagles ที่ดีที่สุด (2017) และ Rolling Stone ให้อันดับ 11 (2019)

    ความสำคัญของเพลงนี้ยังคงดำเนินต่อไปผ่านเพลงคัฟเวอร์จำนวนมากที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางดนตรี ตัวอย่างที่โดดเด่น ได้แก่

    วง R&B อย่าง Brownstone ที่นำเพลงนี้มาทำใหม่ในรูปแบบอาร์แอนด์บีร่วมสมัยในปี 1995 ซึ่งเวอร์ชันของพวกเขาขึ้นถึงอันดับ 54 บน Billboard Hot 100 และอันดับ 22 บนชาร์ต Hot R&B ศิลปินเพลงคันทรี่

    ศิลปินเพลงคันทรี่ Vince Gill ก็เคยนำเพลงนี้ไปคัฟเวอร์ในปี 1993 โดยมี Timothy B. Schmit มาร่วมร้องประสานให้ด้วย ซึ่งเวอร์ชันนี้สามารถไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 42 บนชาร์ต Hot Country Songs

    นอกจากนี้ ศิลปินแจ๊สอย่าง Diana Krall ก็ได้นำเพลงนี้ไปตีความใหม่ในแนวแจ๊สอันนุ่มนวลสำหรับอัลบั้ม Wallflower ของเธอในปี 2015 ซึ่งเวอร์ชันนี้ขึ้นไปถึงอันดับ 10 บนชาร์ต Billboard Smooth Jazz การที่เพลงสามารถถูกนำไปคัฟเวอร์ในหลากหลายแนวเพลง แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเนื้อหาและโครงสร้างทางดนตรีของเพลงต้นฉบับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “I Can't Tell You Why” ยังคงเป็นเพลงที่โดดเด่นและมีอิทธิพลเหนือกาลเวลา

    “I Can't Tell You Why” จึงเป็นตัวอย่างที่หาได้ยากของบทเพลงที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งอย่างรุนแรงแต่กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสมานฉันท์และการสร้างสรรค์อันยอดเยี่ยม เพลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นเพลงฮิตที่ประสบความสำเร็จทางพาณิชย์เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเพลงที่เชื่อมโยง Eagles เข้ากับยุคใหม่ ด้วยการแนะนำสมาชิกใหม่และสำรวจแนวเพลงที่ไม่เคยทำมาก่อน และในขณะเดียวกัน ก็เป็นเพลงท็อป 10 เพลงสุดท้ายของวงในยุคนั้น ท้ายที่สุด “I Can't Tell You Why” ยังคงเป็นหนึ่งในบัลลาดที่สำคัญและได้รับความนิยมสูงสุดของ Eagles เพราะเรื่องราวที่ซับซ้อนและย้อนแย้งที่อยู่เบื้องหลังการกำเนิดของมัน เพลงนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด Eagles ก็ยังสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ไร้กาลเวลาซึ่งยังคงดึงดูดและสะท้อนความรู้สึกของผู้ฟังมาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/Odcn6qk94bs
    🎶 บทเพลงแห่งความขัดแย้งที่กลายเป็นอมตะ: เรื่องราวเบื้องหลังเพลง 'I Can't Tell You Why' โดย Eagles ✨ ในช่วงปลายยุค 70 วงดนตรีร็อกชื่อดังอย่าง Eagles ได้ก้าวสู่จุดสูงสุดของความสำเร็จระดับโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนจากอัลบั้มยอดเยี่ยม Hotel California (1976) อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้กลับนำมาซึ่งแรงกดดันมหาศาลและความขัดแย้งที่ร้าวลึกภายในวง โดยเฉพาะระหว่างแกนนำอย่าง Don Henley และ Glenn Frey 💿 ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดนี้ การบันทึกเสียงอัลบั้มถัดมา The Long Run (1979) จึงเป็นกระบวนการที่ยาวนานและยากลำบาก ทีมงานของค่ายเพลงถึงกับเรียกมันว่า “The Long One” หรือ “สิ่งที่ยาวนาน” ซึ่ง Don Henley เองก็ยอมรับในภายหลังว่าอัลบั้มนี้โดยรวมแล้ว “ไม่ใช่แผ่นเสียงที่ดีนัก” เพราะสมาชิกวงต่าง “หมดไฟ” และ “ตึงเครียด” จนเกินไป ❤️ แต่ท่ามกลางความวุ่นวายดังกล่าว บทเพลงบัลลาดสุดคลาสสิกอย่าง “I Can't Tell You Why” ได้ถือกำเนิดขึ้นและกลายเป็นข้อยกเว้นที่โดดเด่น เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่วงสามารถบันทึกเสร็จสมบูรณ์สำหรับอัลบั้มนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันสั้นที่ Eagles สามารถกลับมาร่วมงานกันได้อย่างสร้างสรรค์ ก่อนที่ความขัดแย้งภายในจะกลับมาอีกครั้งและนำไปสู่การยุบวงในที่สุด เพลงนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเพลงฮิต แต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสามารถอันน่าทึ่งของวงในการสร้างสรรค์งานศิลปะที่สวยงามและลงตัวจากสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะพังทลาย 👤 เรื่องราวเริ่มขึ้นพร้อมกับการเข้ามาของ Timothy B. Schmit มือเบสคนใหม่ที่แทน Randy Meisner ในปี 1977 Schmit ได้นำไอเดียเพลงจากประสบการณ์ส่วนตัวมาเสนอ และร่วมแต่งกับ Frey และ Henley ภายในไม่กี่คืนที่ทำงานกันยันเช้า 🎤 เรื่องราวของเพลงนี้เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการเข้ามาของ Timothy B. Schmit มือเบสคนใหม่ผู้มากประสบการณ์จากวง Poco ที่เข้ามาแทน Randy Meisner ซึ่งลาออกไปในปี 1977 Schmit เข้ามาในฐานะคนวงนอก ผู้ที่ตั้งใจ “ทำทุกอย่างเพื่อรักษาสันติภาพ” และช่วยให้สถานการณ์ภายในวงดีขึ้น เขาได้นำไอเดียตั้งต้นของเพลงที่เขาบอกว่า “อิงจากประสบการณ์ส่วนตัว” มาเสนอต่อ Frey และ Henley เพื่อเป็นเพลงเดี่ยวเพลงแรกของเขาใน Eagles ทั้งสามคนได้ร่วมกันแต่งเพลงนี้อย่างรวดเร็วในช่วง “ไม่กี่คืนที่ทำงานกันยันเช้า” จนได้ผลงานที่สมบูรณ์ Don Henley และ Glenn Frey ต้องการนำเสนอ Timothy B. Schmit ด้วยเสียงที่แตกต่างจากดนตรีคันทรี่ร็อกที่เขาเคยทำ โดย Frey ที่มี “รากฐานลึกซึ้งในดนตรีโซล” ได้แนะนำ Schmit อย่างชัดเจนว่า “คุณสามารถร้องเพลงแบบ Smokey Robinson ได้” และให้เปลี่ยนมาทำ “เพลงแนว R&B” แทน ขณะที่ Henley ก็กล่าวเสริมว่าเพลงนี้มีสไตล์แบบ “Al Green ชัดๆ” 🎸 ในด้านองค์ประกอบทางดนตรี Frey ยังมีบทบาทสำคัญในการเรียบเรียง โดย Timothy B. Schmit ถึงกับเรียกเขาว่า "The Lone Arranger" (ผู้เรียบเรียงเพียงหนึ่งเดียว) เนื่องจากความสามารถในการจัดการพาร์ทดนตรีต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะท่อนโซโล่กีตาร์ที่ไพเราะและโดดเด่นในเพลงนี้ที่ Frey เป็นผู้บรรเลงเอง นอกจากนี้ Joe Walsh ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศของเพลงด้วยการเล่นคีย์บอร์ดทั้งหมด ทั้ง Hammond organ, Fender Rhodes electric piano และ ARP String Synthesizer ทั้งหมดนี้ได้หลอมรวมกันเป็นงานบัลลาดที่แตกต่างจากเพลงร็อกและคันทรี่-ร็อกที่แข็งกร้าวของวง 7 และได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงที่ “มีจิตวิญญาณมากที่สุด” ของ Eagles 💔 เนื้อเพลงของ “I Can't Tell You Why” สะท้อนถึงความรู้สึกที่สับสนและเจ็บปวดในความสัมพันธ์ได้อย่างลึกซึ้ง มันเล่าเรื่องราวของคนที่ต้องการจะเดินจากไปแต่กลับถูกดึงดูดให้กลับมาเสมอ และไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แม้จะอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวของ Schmit แต่เขาก็ยืนยันว่ามันถ่ายทอด “แก่นสากลของความรัก, ความไม่แน่นอน และการสื่อสารที่ล้มเหลว” ได้อย่างครอบคลุม ด้านเสียงร้องนำโดย Timothy B. Schmit ซึ่งถูกบรรยายว่าเป็นเสียง “ใสกังวาน” และ “เสียงสูงแบบเจ็บปวด” ได้เพิ่มมิติที่ลึกซึ้งและคุณภาพที่น่าจดจำให้กับเพลง เพลงนี้ถือเป็นเพลงแรกที่ Eagles ให้ Schmit ร้องนำอย่างเต็มตัว ซึ่งทำให้เขาได้สร้างเอกลักษณ์ทางเสียงของตนเองได้อย่างชัดเจนและเป็นที่จดจำในฐานะนักร้องนำอีกคนหนึ่งของวง 📀 หลังจากที่ถูกปล่อยออกมาในฐานะซิงเกิลที่สามในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1980 เพลง “I Can't Tell You Why” ก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยขึ้นไปถึงอันดับ 8 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ในเดือนเมษายน 1980 และขึ้นไปถึงอันดับ 3 บนชาร์ต Adult Contemporary ความสำเร็จนี้ทำให้เป็นเพลงท็อป 10 เพลงที่สามติดต่อกันจากอัลบั้ม The Long Run และที่สำคัญที่สุด มันยังกลายเป็นเพลงท็อป 10 เพลงสุดท้ายของ Eagles บนชาร์ต Billboard Hot 100 ก่อนที่พวกเขาจะประกาศยุบวงในเวลาต่อมา แม้จะไม่ได้เป็นเพลงที่ทำยอดขายสูงสุดเท่ากับเพลงยอดนิยมอื่นๆ แต่ “I Can't Tell You Why” ได้กลายเป็นเพลงโปรดของแฟนๆ และเป็น “ช่วงเวลาไฮไลต์” สำหรับ Timothy B. Schmit ในการแสดงสด เพลงนี้อยู่ในอันดับที่ 9 ของเพลงที่ถูกเล่นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวง นอกจากนี้ เพลงยังได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ โดย 🏆 Billboard จัดให้เพลงนี้อยู่ในอันดับ 6 ของผลงาน Eagles ที่ดีที่สุด (2017) และ Rolling Stone ให้อันดับ 11 (2019) 🎵 ความสำคัญของเพลงนี้ยังคงดำเนินต่อไปผ่านเพลงคัฟเวอร์จำนวนมากที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางดนตรี ตัวอย่างที่โดดเด่น ได้แก่ 🎤 วง R&B อย่าง Brownstone ที่นำเพลงนี้มาทำใหม่ในรูปแบบอาร์แอนด์บีร่วมสมัยในปี 1995 ซึ่งเวอร์ชันของพวกเขาขึ้นถึงอันดับ 54 บน Billboard Hot 100 และอันดับ 22 บนชาร์ต Hot R&B ศิลปินเพลงคันทรี่ 🎧 🎤 ศิลปินเพลงคันทรี่ Vince Gill ก็เคยนำเพลงนี้ไปคัฟเวอร์ในปี 1993 โดยมี Timothy B. Schmit มาร่วมร้องประสานให้ด้วย ซึ่งเวอร์ชันนี้สามารถไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 42 บนชาร์ต Hot Country Songs 🤠 🎤 นอกจากนี้ ศิลปินแจ๊สอย่าง Diana Krall ก็ได้นำเพลงนี้ไปตีความใหม่ในแนวแจ๊สอันนุ่มนวลสำหรับอัลบั้ม Wallflower ของเธอในปี 2015 ซึ่งเวอร์ชันนี้ขึ้นไปถึงอันดับ 10 บนชาร์ต Billboard Smooth Jazz การที่เพลงสามารถถูกนำไปคัฟเวอร์ในหลากหลายแนวเพลง แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเนื้อหาและโครงสร้างทางดนตรีของเพลงต้นฉบับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “I Can't Tell You Why” ยังคงเป็นเพลงที่โดดเด่นและมีอิทธิพลเหนือกาลเวลา 🎹 ⌛ 🌟 “I Can't Tell You Why” จึงเป็นตัวอย่างที่หาได้ยากของบทเพลงที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งอย่างรุนแรงแต่กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสมานฉันท์และการสร้างสรรค์อันยอดเยี่ยม เพลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นเพลงฮิตที่ประสบความสำเร็จทางพาณิชย์เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเพลงที่เชื่อมโยง Eagles เข้ากับยุคใหม่ ด้วยการแนะนำสมาชิกใหม่และสำรวจแนวเพลงที่ไม่เคยทำมาก่อน และในขณะเดียวกัน ก็เป็นเพลงท็อป 10 เพลงสุดท้ายของวงในยุคนั้น ท้ายที่สุด “I Can't Tell You Why” ยังคงเป็นหนึ่งในบัลลาดที่สำคัญและได้รับความนิยมสูงสุดของ Eagles เพราะเรื่องราวที่ซับซ้อนและย้อนแย้งที่อยู่เบื้องหลังการกำเนิดของมัน เพลงนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด Eagles ก็ยังสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ไร้กาลเวลาซึ่งยังคงดึงดูดและสะท้อนความรู้สึกของผู้ฟังมาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ 🌈 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/Odcn6qk94bs
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • เปิดคำกล่าวถ้อยแถลงของ รมต.ต่างประเทศไทยฉบับเต็ม!
    .
    รมต.ต่างประเทศไทย 'ฟาด' เขมรเล่นบทเหยื่อ-บิดเบือนข้อเท็จจริงกลางเวที UN ลั่น! เหยื่อแท้จริงคือทหารไทย-พลเรือนผู้บริสุทธิ์ถูกจรวดเขมรโจมตี! ยืนหยัดปกป้องอธิปไตย - ผู้นำ-ทูตทั่วโลกปรบมือกึกก้อง!!!
    .
    เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 ว่า
    .
    ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และคณะผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ
    .
    - . ก่อนอื่น ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีกับท่านประธาน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 80
    .
    -. แม้ว่าข้าพเจ้าจะเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่รัฐบาลของข้าพเจ้าได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการที่ข้าพเจ้ามาอยู่ที่นี่ในวันนี้ เพราะเราเชื่อว่าช่วงเวลานี้มีความสำคัญ วาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาตินี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหประชาชาติกำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญ
    .
    -. ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นด้วยการย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของประเทศไทยต่อพหุภาคี
    .
    -. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกยังคงต้องการสหประชาชาติ และสหประชาชาติต้องการเราทุกคน แต่เพื่อให้สหประชาชาติบรรลุวัตถุประสงค์ เราต้องพัฒนาไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป
    .
    -. ประเทศไทยก็กำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญเช่นกัน เผชิญกับความท้าทายเร่งด่วนภายในประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง แต่วิสัยทัศน์ของเราขยายออกไปนอกพรมแดน สู่โลกกว้าง เพราะเราเช่นเดียวกับทุกประเทศ ปรารถนาโลกที่สงบสุข ยุติธรรม และเปิดกว้าง
    .
    -. ด้วยจิตวิญญาณนี้เอง ประเทศไทยจึงพร้อมที่จะมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการจัดตั้งสหประชาชาติให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง นั่นคือการสร้างสันติภาพ การพัฒนา และสิทธิมนุษยชนให้กับทุกคน

    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. หัวข้อการอภิปรายทั่วไปในปีนี้ คือ “Better Together” ซึ่งเตือนใจเราว่าสหประชาชาติจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเราร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว
    .
    -. ประการแรก เราต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวในฐานะประชาคมเดียวกัน
    .
    -. แปดสิบปีที่แล้ว ประชาคมชาติของเราได้นำกฎบัตรสหประชาชาติมาใช้ด้วยความหวังที่จะเกิดสันติภาพ แต่ปัจจุบัน เรากลับเผชิญกับโลกที่แตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากลัทธิกีดกันทางการค้า ความแตกแยก ความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไม่เคยละเว้นแม้แต่ประเทศชาติ
    .
    -. สงครามในยูเครน ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ปีที่สามแล้ว ยังคงนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานและการทำลายล้างอย่างใหญ่หลวง ในทำนองเดียวกัน ความทุกข์ทรมานอันน่าสยดสยองในฉนวนกาซา ซึ่งพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กๆ กำลังเผชิญชะตากรรมอันหนักอึ้ง ล้วนเป็นภาระหนักอึ้งต่อจิตสำนึกส่วนรวมของเรา เป็นเครื่องเตือนใจอย่างชัดเจนว่าเมื่อสันติภาพถูกทำลาย ความเสียหายของมนุษย์ไม่เพียงแต่ตกอยู่กับประเทศชาติเท่านั้น แต่ยังตกอยู่กับประชาชนทั่วไปที่ชีวิตต้องแตกสลายอีกด้วย
    .
    -. ในฐานะประชาคมเดียวกัน ทุกประเทศต่างมีหน้าที่ร่วมกันในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของโลก
    .
    -. และความรับผิดชอบนี้ต้องครอบคลุมทุกฝ่าย พหุภาคีจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อผู้หญิงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นในการรักษาสันติภาพ การป้องกันความขัดแย้ง หรือการตอบสนองด้านมนุษยธรรม เสียงและความเป็นผู้นำของพวกเขาจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนของเราและทำให้สันติภาพยั่งยืนยิ่งขึ้น ดิฉันมั่นใจว่าการเลือกตั้งท่านประธานาธิบดีให้เป็นผู้นำสมัชชาครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกคนผลักดันวาระสตรีของสหประชาชาติด้วยความมุ่งมั่นที่มากขึ้น
    .
    -. ประเทศไทยตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของเรา กองกำลังรักษาสันติภาพของเรายังคงปฏิบัติหน้าที่ทั่วโลก ช่วยฟื้นฟูชีวิตที่แตกแยกจากความขัดแย้ง
    .
    -. ในประเทศ เราได้กวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล นี่ไม่ใช่แค่พันธกรณีตามสนธิสัญญาเท่านั้น แต่เป็นการคืนผืนดินที่ปลอดภัยให้ชุมชนที่พวกเขาสามารถอยู่อาศัยและเพาะปลูกได้ มันคือการปฏิบัติหน้าที่ของเราต่อประชาชน
    .
    -. การปกป้องประชาชนในประเทศเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจ เรายังต้องรับมือกับความท้าทายข้ามชาติ เช่น การอพยพย้ายถิ่นฐานที่เกิดจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ ซึ่งเป็นบททดสอบร่วมกันที่ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง
    .
    -. นี่คือภารกิจที่แท้จริงของประเทศไทย เป็นเวลากว่าทศวรรษที่เราได้ให้ที่พักพิงแก่ผู้พลัดถิ่นจากเมียนมา วันนี้ เรากำลังมอบโอกาสให้พวกเขาได้ทำงานนอกที่พักพิงชั่วคราวมากขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและมีส่วนร่วมในสังคม ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายแห่งความมุ่งมั่นของเราในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม
    .
    -. ในทำนองเดียวกัน ประเทศไทยกำลังเร่งความพยายามในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการหลอกลวงทางออนไลน์ เนื่องจากผลกระทบเหล่านี้แผ่ขยายไปอย่างกว้างขวาง อาชญากรรมไร้พรมแดนต้องอาศัยความร่วมมือไร้พรมแดน
    .
    -. วิสัยทัศน์ของประชาคมหนึ่งเดียวต้องเริ่มต้นจากใกล้บ้าน ภูมิภาคต่างๆ คือรากฐานของประชาคมโลก ในภูมิภาคของเรา สันติภาพและเสถียรภาพยังเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามสร้างประชาคมอาเซียน
    .
    -. กระนั้น แม้แต่ในเพื่อนบ้านของเราเอง สถานการณ์ในเมียนมาร์ยังคงเป็นข้อกังวลอย่างยิ่ง ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดน และเรายังคงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเดินหน้าสู่การเจรจาและกระบวนการสันติภาพที่ยั่งยืน นี่คือรากฐานของสันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมาร์
    .
    -. และแม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุด ข้อพิพาทก็อาจเกิดขึ้นได้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชาไม่น่าพึงปรารถนาและไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของเราเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด เราไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียนเดียวกัน
    .
    -. เช้าวันนี้ ผมตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปและในเชิงบวก เพื่อสะท้อนถึงความหวังสำหรับอนาคต แต่ผมต้องเขียนคำปราศรัยใหม่ เนื่องจากคำพูดที่น่าเสียใจที่สุดของเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผม ที่น่าตกใจคือกัมพูชายังคงแสดงตนเป็นเหยื่ออยู่ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กัมพูชาได้นำเสนอข้อเท็จจริงในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นเพียงการบิดเบือนความจริง
    .
    -. เรารู้ว่าใครคือเหยื่อที่แท้จริง พวกเขาคือทหารไทยที่สูญเสียขาจากทุ่นระเบิด เด็กๆ ที่โรงเรียนถูกยิงถล่ม และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังซื้อของในวันนั้นที่ร้านขายของชำที่ถูกโจมตีจากจรวดของกัมพูชา
    .
    -. เมื่อวานนี้ ผมได้พบกับเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาที่ห้องประชุมสหประชาชาติ เราได้พูดคุยเกี่ยวกับสันติภาพ การพูดคุย ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และความเชื่อมั่น ซึ่งต่อมาได้มีการเน้นย้ำเรื่องนี้ในการปรึกษาหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่าง 4 ฝ่ายที่จัดโดยสหรัฐอเมริกา เราซาบซึ้งในความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสันติภาพ
    .
    -. แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาพูดในวันนี้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พูดในการประชุมเมื่อวานนี้ มันเผยให้เห็นเจตนาที่แท้จริงของกัมพูชา ข้อกล่าวหาเหล่านี้เกินจริงจนทำให้ความจริงดูตลกขบขัน
    .
    -. ตั้งแต่แรกเริ่ม กัมพูชาได้ริเริ่มความขัดแย้งโดยมีเจตนาที่จะขยายข้อพิพาทเรื่องพรมแดนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และขยายขอบเขตไปสู่ระดับนานาชาติดังเช่นที่เกิดขึ้นอีกครั้งในเช้าวันนี้
    .
    - หมู่บ้านที่เพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้อยู่ในดินแดนไทย จบประโยค ความจริงแล้ว หมู่บ้านเหล่านี้มีอยู่จริงเพราะประเทศไทยได้ตัดสินใจด้านมนุษยธรรมที่จะเปิดพรมแดนในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนที่หลบหนีสงครามกลางเมืองในประเทศของตนเข้ามาหลบภัยในประเทศไทย เราตัดสินใจเช่นนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจและหลักการด้านมนุษยธรรม ในฐานะนักการทูตรุ่นเยาว์ ผมเองก็เคยประสบเหตุการณ์นี้มาเช่นกัน
    .
    -. แม้ว่าสงครามกลางเมืองจะสิ้นสุดลงและศูนย์พักพิงจะถูกปิดลง แต่หมู่บ้านชาวกัมพูชาได้ขยายพื้นที่ออกไปตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแม้จะมีการประท้วงจากประเทศไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กัมพูชากลับเพิกเฉยต่อคำขอเหล่านั้นในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกนี้
    .
    -. และเมื่อสันติภาพกลับคืนสู่กัมพูชาหลังข้อตกลงสันติภาพปารีส พ.ศ. 2534 เราอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างและฟื้นฟูประเทศกัมพูชาเพื่อรักษาสันติภาพ เราสร้างบ้าน ถนน และโรงพยาบาล เพราะสันติภาพในกัมพูชาเป็นผลประโยชน์ของประเทศไทย นี่คือสิ่งที่เพื่อนบ้านควรทำเพื่อกันและกัน
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. การหยุดยิงยังคงเปราะบาง เราต้องทำให้มันได้ผล ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการกระทำที่จริงใจจากทั้งสองฝ่าย
    .
    -. น่าเสียดายที่การยั่วยุอย่างต่อเนื่องของกัมพูชา รวมถึงการระดมพลพลเรือนเข้าสู่ดินแดนไทยและการยิงปืนเข้าใส่ฝ่ายเราเมื่อเร็วๆ นี้ ได้บั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน ข้าพเจ้ากำลังอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ที่กองทัพกัมพูชายิงใส่กองทัพไทยที่ประจำการตามแนวชายแดน เหตุการณ์ล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ กองทัพไทยยังคงตรวจจับโดรนสอดแนมของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยบุกรุกเข้ามาในดินแดนไทยเป็นประจำทุกวัน การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมสมัยพิเศษที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย และได้ยืนยันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทวิภาคี
    .
    -. และขอให้เชื่อมั่นว่าประเทศไทยยืนหยัดและจะยืนหยัดเพื่อสันติภาพเสมอมา และจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกอย่างสันติต่อปัญหาปัจจุบันกับกัมพูชา ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะยืนหยัดและแน่วแน่ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของเราเสมอ เราขอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับเราในการแก้ไขความแตกต่างผ่านการเจรจาอย่างสันติและกลไกที่มีอยู่
    .
    -. วันนี้ ประเทศของเราทั้งสองกำลังเผชิญกับทางเลือกที่ชัดเจน ในฐานะเพื่อนบ้านและมิตรสหาย เราต้องถามกัมพูชาว่าพวกเขาต้องการเลือกเส้นทางใด ระหว่างเส้นทางแห่งการเผชิญหน้าอย่างต่อเนื่อง หรือเส้นทางแห่งสันติภาพและความร่วมมือ
    .
    -. ประเทศไทยเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ เพราะเราเชื่อว่าประชาชนของทั้งสองประเทศสมควรได้รับสิ่งเดียวกันนี้ แต่เราตั้งคำถามอย่างแท้จริงว่า กัมพูชามีเจตนาที่จะร่วมมือกับเราในการแสวงหาสันติภาพหรือไม่
    .
    -. สำหรับประเทศไทย การเจรจา ความไว้วางใจ และความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นหนทางสู่อนาคต เราจะยังคงยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ในการมีส่วนร่วมกับพันธมิตรทั้งในอาเซียนและประเทศอื่นๆ รวมถึงมหาอำนาจ เพื่อแสวงหาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างยั่งยืน
    .
    -. การกล่าวถึงประชาคมหนึ่งเดียว ท่านประธานาธิบดี คือการยืนยันว่าเราผูกพันตามหลักการร่วมกันที่ว่าทุกคนเกิดมามีอิสระและเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีและสิทธิ
    .
    -. ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2568-2570 และประธานคณะกรรมการชุดที่สามของสมัชชาใหญ่ ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสำหรับทุกคน
    .
    -. สำหรับเรา ไม่ใช่แค่การมีที่นั่งในที่ประชุมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้ง ผู้พิการ และผู้ที่มักถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
    .
    -. การส่งเสริมสิทธิสตรีและเด็กหญิงก็เป็นศูนย์กลางของความพยายามนี้เช่นกัน การมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมและการปราศจากความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติไม่ได้เป็นเพียงสิทธิมนุษยชน แต่เป็นรากฐานของสังคมที่ยุติธรรมและยืดหยุ่น
    .
    -. สุขภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอีกประการหนึ่งที่ไม่อาจกล่าวเกินจริงได้ การสร้างหลักประกันการเข้าถึงการรักษาพยาบาลไม่ได้เป็นเพียงการช่วยชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้โอกาสทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและความมั่นคง
    .
    -. นี่คือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนสิทธิในการมีสุขภาพที่ดี ทั้งที่บ้านและทั่วโลก หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านของเราให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และทุกชุมชนจะได้รับเครื่องมือในการเติบโต
    .
    -. ประเทศไทยยังมีส่วนร่วมในความพยายามระดับโลกเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและการเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาด รวมถึงผ่านข้อตกลงการระบาดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก เราไม่รู้ว่าโรคระบาดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด และมีเพียงการทำงานร่วมกันเท่านั้นที่ทำให้เราพร้อมและรับมือกับสถานการณ์ได้
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. สันติภาพและสิทธิมนุษยชนไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากปราศจากการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่ในปัจจุบัน การพัฒนากำลังถูกคุกคามจากลัทธิกีดกันทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางการค้าอาจส่งผลดีในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วกลับส่งผลเสียต่อเราทุกคน และสร้างความแตกแยกเมื่อเราต้องการความสามัคคีมากที่สุด
    .
    -. ประเทศไทยเชื่อว่าความเจริญรุ่งเรืองที่แท้จริงไม่ได้สร้างขึ้นบนกำแพงภาษีศุลกากร แต่สร้างบนสะพานแห่งความไว้วางใจ
    .
    -. เส้นทางข้างหน้าของเราเปิดกว้างและการค้าที่เป็นธรรม โดยมีรากฐานมาจากการพัฒนาที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางและครอบคลุม แต่การพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงการเติบโตเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับคุณค่าและความสมดุลระหว่างความก้าวหน้าและการอนุรักษ์
    .
    -. นี่คือเหตุผลที่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของประเทศไทย ซึ่งสร้างขึ้นบนความสมดุล ความยืดหยุ่น และความพอประมาณ ได้นำทางเส้นทางการพัฒนาของเรา ปรัชญานี้เตือนใจเราว่าความก้าวหน้าที่แท้จริงต้องเสริมพลังประชาชนควบคู่ไปกับการปกป้องโลก
    .
    -. เหลือเวลาอีกเพียงห้าปีในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เราต้องเสริมสร้างความร่วมมือในทุกระดับ และเผชิญหน้ากับความเหลื่อมล้ำและช่องว่างทางการเงินที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่ออนาคตร่วมกันของเรา
    .
    -. ในขณะเดียวกัน เราต้องไม่ลืมว่าโลกคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญในยุคสมัยของเรา กำลังขยายช่องว่างระหว่างผู้มีอันจะกินและผู้ไม่มี หากปราศจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เราจะล้มเหลวทั้งต่อประชาชนและโลกของเรา
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. ในวาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาติ ภารกิจของเรานั้นเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง นั่นคือ การรวมตัวกันภายใต้คำอุทิศตนเพียงหนึ่งเดียว
    .
    - เราทุกคนผูกพันกันด้วยอุดมการณ์ บรรทัดฐาน และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ แต่โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การต่ออายุคำอุทิศตนของเราต่อลัทธิพหุภาคีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป
    .
    -. แต่ความจริงก็คือ ประวัติศาสตร์ของสหประชาชาติเต็มไปด้วยคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แต่ไม่รักษาไว้ คำมั่นสัญญาที่ไม่ได้รับการปฏิบัติแต่ละครั้งจะบั่นทอนความน่าเชื่อถือและทำลายความไว้วางใจทั่วโลก หากสหประชาชาติจะยังคงเป็นศูนย์กลางของลัทธิพหุภาคี เราไม่สามารถปล่อยให้วัฏจักรนี้ซ้ำรอยได้
    .
    -. นั่นคือเหตุผลที่ข้อตกลงเพื่ออนาคต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อปีที่แล้ว จะต้องกลายเป็นพิมพ์เขียวสำหรับการดำเนินการ เพื่อสร้างความก้าวหน้าที่มีความหมาย การดำเนินการระดับชาติของเราจะต้องสอดคล้องกับคำมั่นสัญญาร่วมกันของเรา
    .
    -. แต่เพื่อให้สหประชาชาติสามารถดำเนินงานตามภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีทรัพยากรที่จำเป็น เราต้องแน่ใจว่าสหประชาชาติมีวิธีการที่จะบรรลุจุดหมายตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้สหประชาชาติยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อสันติภาพและการพัฒนา
    .
    ท่านประธาน ครับ
    .
    -. ในขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะสร้างใหม่ ฟื้นฟู และปฏิรูปสหประชาชาติ เราจำเป็นต้องยึดถือวิสัยทัศน์ One Future
    .
    -. เพื่อให้สหประชาชาตินำทางเราไปสู่อนาคต การปฏิรูปที่ครอบคลุม รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคง จึงเป็นสิ่งจำเป็น สหประชาชาติต้องมีตัวแทนมากขึ้น โปร่งใส รับผิดชอบ และเหมาะสมกับอนาคต ปฏิบัติสอดคล้องกัน เข้าถึงประชาชน และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง
    .
    -. นั่นคือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนโครงการริเริ่ม UN80 อย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่การปิดช่องว่างทางการเงิน แต่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะทำให้สหประชาชาติเชื่อมต่อกับประชาชนที่ตนรับใช้อีกครั้ง
    .
    -. แต่เมื่อเราเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสหประชาชาติ เราต้องตระหนักถึงข้อจำกัดของมัน สหประชาชาติไม่สามารถทำทุกอย่างได้ และลัทธิพหุภาคีก็ยิ่งใหญ่กว่าสหประชาชาติเพียงลำพัง สหประชาชาติจะเจริญรุ่งเรืองได้เมื่อมีรากฐานมาจากลัทธิภูมิภาคนิยมที่เข้มแข็ง สถาบันระดับภูมิภาคเป็นผู้ตอบสนองต่อวิกฤตการณ์เป็นลำดับแรก เป็นผู้สร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างพันธกรณีระดับโลกกับความเป็นจริงในระดับท้องถิ่น
    .
    -. สำหรับประเทศไทย อาเซียนคือบ้านและศูนย์กลางของเรา การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ ครั้งที่ 15 ที่จะถึงนี้ จะแสดงให้เห็นว่าหลักการร่วมกันกลายเป็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร ประเทศไทยมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันความร่วมมือนี้ เพื่อให้เสียงของภูมิภาคได้รับการรับฟังอย่างเต็มที่ในการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาระดับโลก
    .
    -. การสร้างประชาคมโลกที่เข้มแข็งนั้นต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของคนรุ่นเรา นั่นคือเหตุผลที่เราต้องยอมรับพลังของเยาวชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของแผนปฏิบัติการระดับโลกเพื่อเยาวชน ประเทศไทยขอยืนยันความมุ่งมั่นในการลงทุนและเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชน และมอบโอกาสที่แท้จริงในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
    .
    -. ด้วยแนวคิดนี้ ประเทศไทยภูมิใจที่ได้ตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมคณะผู้แทนระดับชาติของเราในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อให้พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการกำหนดอนาคตที่พวกเขาวาดฝันไว้
    .
    -. เพราะท้ายที่สุดแล้ว อนาคตเป็นของพวกเขา จึงควรเป็นผู้สร้างโดยพวกเขาเอง
    .
    ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และท่านผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ
    .
    -. ในวาระครบรอบ 80 ปี สหประชาชาติต้องดำรงไว้ซึ่งชื่อเสียงอันดีงาม นั่นคือ ชาติที่ยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียว เรามารวมตัวกันที่นี่ไม่เพียงเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังเพื่อมองไปข้างหน้าถึงสิ่งที่เราสามารถบรรลุร่วมกันได้มากกว่านี้อีกด้วย
    .
    -. บทเรียนจากแปดสิบปีนี้ชัดเจน: เราจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเรายืนหยัดเป็นประชาคมเดียว ผูกพันด้วยความทุ่มเทหนึ่งเดียว และร่วมแรงร่วมใจกันสร้างอนาคตอันเป็นหนึ่งเดียวสำหรับทุกคน นี่คือความหมายที่แท้จริงของ Better Together as One
    .
    -. ประเทศไทยให้คำมั่นที่จะทำหน้าที่ของเรา แต่ยิ่งไปกว่านั้น เราท้าทายตัวเราเองและมิตรสหายทุกท่านในวันนี้ ให้เปลี่ยนคำพูดให้เป็นการกระทำ นั่นคือวิธีที่เราจะทำให้แปดสิบปีข้างหน้าดีกว่าที่ผ่านมา
    .
    - ขอบคุณมาก ๆ ครับ
    เปิดคำกล่าวถ้อยแถลงของ รมต.ต่างประเทศไทยฉบับเต็ม! . รมต.ต่างประเทศไทย 'ฟาด' เขมรเล่นบทเหยื่อ-บิดเบือนข้อเท็จจริงกลางเวที UN ลั่น! เหยื่อแท้จริงคือทหารไทย-พลเรือนผู้บริสุทธิ์ถูกจรวดเขมรโจมตี! ยืนหยัดปกป้องอธิปไตย - ผู้นำ-ทูตทั่วโลกปรบมือกึกก้อง!!! . เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 ว่า . ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และคณะผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ . - . ก่อนอื่น ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีกับท่านประธาน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 80 . -. แม้ว่าข้าพเจ้าจะเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่รัฐบาลของข้าพเจ้าได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการที่ข้าพเจ้ามาอยู่ที่นี่ในวันนี้ เพราะเราเชื่อว่าช่วงเวลานี้มีความสำคัญ วาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาตินี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหประชาชาติกำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญ . -. ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นด้วยการย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของประเทศไทยต่อพหุภาคี . -. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกยังคงต้องการสหประชาชาติ และสหประชาชาติต้องการเราทุกคน แต่เพื่อให้สหประชาชาติบรรลุวัตถุประสงค์ เราต้องพัฒนาไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป . -. ประเทศไทยก็กำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญเช่นกัน เผชิญกับความท้าทายเร่งด่วนภายในประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง แต่วิสัยทัศน์ของเราขยายออกไปนอกพรมแดน สู่โลกกว้าง เพราะเราเช่นเดียวกับทุกประเทศ ปรารถนาโลกที่สงบสุข ยุติธรรม และเปิดกว้าง . -. ด้วยจิตวิญญาณนี้เอง ประเทศไทยจึงพร้อมที่จะมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการจัดตั้งสหประชาชาติให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง นั่นคือการสร้างสันติภาพ การพัฒนา และสิทธิมนุษยชนให้กับทุกคน ท่านประธาน ครับ . -. หัวข้อการอภิปรายทั่วไปในปีนี้ คือ “Better Together” ซึ่งเตือนใจเราว่าสหประชาชาติจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเราร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว . -. ประการแรก เราต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวในฐานะประชาคมเดียวกัน . -. แปดสิบปีที่แล้ว ประชาคมชาติของเราได้นำกฎบัตรสหประชาชาติมาใช้ด้วยความหวังที่จะเกิดสันติภาพ แต่ปัจจุบัน เรากลับเผชิญกับโลกที่แตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากลัทธิกีดกันทางการค้า ความแตกแยก ความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไม่เคยละเว้นแม้แต่ประเทศชาติ . -. สงครามในยูเครน ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ปีที่สามแล้ว ยังคงนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานและการทำลายล้างอย่างใหญ่หลวง ในทำนองเดียวกัน ความทุกข์ทรมานอันน่าสยดสยองในฉนวนกาซา ซึ่งพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กๆ กำลังเผชิญชะตากรรมอันหนักอึ้ง ล้วนเป็นภาระหนักอึ้งต่อจิตสำนึกส่วนรวมของเรา เป็นเครื่องเตือนใจอย่างชัดเจนว่าเมื่อสันติภาพถูกทำลาย ความเสียหายของมนุษย์ไม่เพียงแต่ตกอยู่กับประเทศชาติเท่านั้น แต่ยังตกอยู่กับประชาชนทั่วไปที่ชีวิตต้องแตกสลายอีกด้วย . -. ในฐานะประชาคมเดียวกัน ทุกประเทศต่างมีหน้าที่ร่วมกันในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของโลก . -. และความรับผิดชอบนี้ต้องครอบคลุมทุกฝ่าย พหุภาคีจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อผู้หญิงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นในการรักษาสันติภาพ การป้องกันความขัดแย้ง หรือการตอบสนองด้านมนุษยธรรม เสียงและความเป็นผู้นำของพวกเขาจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนของเราและทำให้สันติภาพยั่งยืนยิ่งขึ้น ดิฉันมั่นใจว่าการเลือกตั้งท่านประธานาธิบดีให้เป็นผู้นำสมัชชาครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกคนผลักดันวาระสตรีของสหประชาชาติด้วยความมุ่งมั่นที่มากขึ้น . -. ประเทศไทยตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของเรา กองกำลังรักษาสันติภาพของเรายังคงปฏิบัติหน้าที่ทั่วโลก ช่วยฟื้นฟูชีวิตที่แตกแยกจากความขัดแย้ง . -. ในประเทศ เราได้กวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล นี่ไม่ใช่แค่พันธกรณีตามสนธิสัญญาเท่านั้น แต่เป็นการคืนผืนดินที่ปลอดภัยให้ชุมชนที่พวกเขาสามารถอยู่อาศัยและเพาะปลูกได้ มันคือการปฏิบัติหน้าที่ของเราต่อประชาชน . -. การปกป้องประชาชนในประเทศเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจ เรายังต้องรับมือกับความท้าทายข้ามชาติ เช่น การอพยพย้ายถิ่นฐานที่เกิดจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ ซึ่งเป็นบททดสอบร่วมกันที่ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง . -. นี่คือภารกิจที่แท้จริงของประเทศไทย เป็นเวลากว่าทศวรรษที่เราได้ให้ที่พักพิงแก่ผู้พลัดถิ่นจากเมียนมา วันนี้ เรากำลังมอบโอกาสให้พวกเขาได้ทำงานนอกที่พักพิงชั่วคราวมากขึ้น เพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและมีส่วนร่วมในสังคม ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายแห่งความมุ่งมั่นของเราในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม . -. ในทำนองเดียวกัน ประเทศไทยกำลังเร่งความพยายามในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการหลอกลวงทางออนไลน์ เนื่องจากผลกระทบเหล่านี้แผ่ขยายไปอย่างกว้างขวาง อาชญากรรมไร้พรมแดนต้องอาศัยความร่วมมือไร้พรมแดน . -. วิสัยทัศน์ของประชาคมหนึ่งเดียวต้องเริ่มต้นจากใกล้บ้าน ภูมิภาคต่างๆ คือรากฐานของประชาคมโลก ในภูมิภาคของเรา สันติภาพและเสถียรภาพยังเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามสร้างประชาคมอาเซียน . -. กระนั้น แม้แต่ในเพื่อนบ้านของเราเอง สถานการณ์ในเมียนมาร์ยังคงเป็นข้อกังวลอย่างยิ่ง ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดน และเรายังคงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเดินหน้าสู่การเจรจาและกระบวนการสันติภาพที่ยั่งยืน นี่คือรากฐานของสันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมาร์ . -. และแม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุด ข้อพิพาทก็อาจเกิดขึ้นได้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชาไม่น่าพึงปรารถนาและไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของเราเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด เราไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียนเดียวกัน . -. เช้าวันนี้ ผมตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปและในเชิงบวก เพื่อสะท้อนถึงความหวังสำหรับอนาคต แต่ผมต้องเขียนคำปราศรัยใหม่ เนื่องจากคำพูดที่น่าเสียใจที่สุดของเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผม ที่น่าตกใจคือกัมพูชายังคงแสดงตนเป็นเหยื่ออยู่ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กัมพูชาได้นำเสนอข้อเท็จจริงในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นเพียงการบิดเบือนความจริง . -. เรารู้ว่าใครคือเหยื่อที่แท้จริง พวกเขาคือทหารไทยที่สูญเสียขาจากทุ่นระเบิด เด็กๆ ที่โรงเรียนถูกยิงถล่ม และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังซื้อของในวันนั้นที่ร้านขายของชำที่ถูกโจมตีจากจรวดของกัมพูชา . -. เมื่อวานนี้ ผมได้พบกับเพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาที่ห้องประชุมสหประชาชาติ เราได้พูดคุยเกี่ยวกับสันติภาพ การพูดคุย ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และความเชื่อมั่น ซึ่งต่อมาได้มีการเน้นย้ำเรื่องนี้ในการปรึกษาหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่าง 4 ฝ่ายที่จัดโดยสหรัฐอเมริกา เราซาบซึ้งในความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสันติภาพ . -. แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาพูดในวันนี้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พูดในการประชุมเมื่อวานนี้ มันเผยให้เห็นเจตนาที่แท้จริงของกัมพูชา ข้อกล่าวหาเหล่านี้เกินจริงจนทำให้ความจริงดูตลกขบขัน . -. ตั้งแต่แรกเริ่ม กัมพูชาได้ริเริ่มความขัดแย้งโดยมีเจตนาที่จะขยายข้อพิพาทเรื่องพรมแดนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และขยายขอบเขตไปสู่ระดับนานาชาติดังเช่นที่เกิดขึ้นอีกครั้งในเช้าวันนี้ . - หมู่บ้านที่เพื่อนร่วมงานชาวกัมพูชาของผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้อยู่ในดินแดนไทย จบประโยค ความจริงแล้ว หมู่บ้านเหล่านี้มีอยู่จริงเพราะประเทศไทยได้ตัดสินใจด้านมนุษยธรรมที่จะเปิดพรมแดนในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนที่หลบหนีสงครามกลางเมืองในประเทศของตนเข้ามาหลบภัยในประเทศไทย เราตัดสินใจเช่นนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจและหลักการด้านมนุษยธรรม ในฐานะนักการทูตรุ่นเยาว์ ผมเองก็เคยประสบเหตุการณ์นี้มาเช่นกัน . -. แม้ว่าสงครามกลางเมืองจะสิ้นสุดลงและศูนย์พักพิงจะถูกปิดลง แต่หมู่บ้านชาวกัมพูชาได้ขยายพื้นที่ออกไปตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแม้จะมีการประท้วงจากประเทศไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กัมพูชากลับเพิกเฉยต่อคำขอเหล่านั้นในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกนี้ . -. และเมื่อสันติภาพกลับคืนสู่กัมพูชาหลังข้อตกลงสันติภาพปารีส พ.ศ. 2534 เราอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างและฟื้นฟูประเทศกัมพูชาเพื่อรักษาสันติภาพ เราสร้างบ้าน ถนน และโรงพยาบาล เพราะสันติภาพในกัมพูชาเป็นผลประโยชน์ของประเทศไทย นี่คือสิ่งที่เพื่อนบ้านควรทำเพื่อกันและกัน . ท่านประธาน ครับ . -. การหยุดยิงยังคงเปราะบาง เราต้องทำให้มันได้ผล ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการกระทำที่จริงใจจากทั้งสองฝ่าย . -. น่าเสียดายที่การยั่วยุอย่างต่อเนื่องของกัมพูชา รวมถึงการระดมพลพลเรือนเข้าสู่ดินแดนไทยและการยิงปืนเข้าใส่ฝ่ายเราเมื่อเร็วๆ นี้ ได้บั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน ข้าพเจ้ากำลังอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ที่กองทัพกัมพูชายิงใส่กองทัพไทยที่ประจำการตามแนวชายแดน เหตุการณ์ล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ กองทัพไทยยังคงตรวจจับโดรนสอดแนมของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยบุกรุกเข้ามาในดินแดนไทยเป็นประจำทุกวัน การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมสมัยพิเศษที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย และได้ยืนยันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทวิภาคี . -. และขอให้เชื่อมั่นว่าประเทศไทยยืนหยัดและจะยืนหยัดเพื่อสันติภาพเสมอมา และจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกอย่างสันติต่อปัญหาปัจจุบันกับกัมพูชา ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะยืนหยัดและแน่วแน่ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของเราเสมอ เราขอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับเราในการแก้ไขความแตกต่างผ่านการเจรจาอย่างสันติและกลไกที่มีอยู่ . -. วันนี้ ประเทศของเราทั้งสองกำลังเผชิญกับทางเลือกที่ชัดเจน ในฐานะเพื่อนบ้านและมิตรสหาย เราต้องถามกัมพูชาว่าพวกเขาต้องการเลือกเส้นทางใด ระหว่างเส้นทางแห่งการเผชิญหน้าอย่างต่อเนื่อง หรือเส้นทางแห่งสันติภาพและความร่วมมือ . -. ประเทศไทยเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ เพราะเราเชื่อว่าประชาชนของทั้งสองประเทศสมควรได้รับสิ่งเดียวกันนี้ แต่เราตั้งคำถามอย่างแท้จริงว่า กัมพูชามีเจตนาที่จะร่วมมือกับเราในการแสวงหาสันติภาพหรือไม่ . -. สำหรับประเทศไทย การเจรจา ความไว้วางใจ และความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นหนทางสู่อนาคต เราจะยังคงยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ในการมีส่วนร่วมกับพันธมิตรทั้งในอาเซียนและประเทศอื่นๆ รวมถึงมหาอำนาจ เพื่อแสวงหาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างยั่งยืน . -. การกล่าวถึงประชาคมหนึ่งเดียว ท่านประธานาธิบดี คือการยืนยันว่าเราผูกพันตามหลักการร่วมกันที่ว่าทุกคนเกิดมามีอิสระและเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีและสิทธิ . -. ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2568-2570 และประธานคณะกรรมการชุดที่สามของสมัชชาใหญ่ ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสำหรับทุกคน . -. สำหรับเรา ไม่ใช่แค่การมีที่นั่งในที่ประชุมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้ง ผู้พิการ และผู้ที่มักถูกทิ้งไว้ข้างหลัง . -. การส่งเสริมสิทธิสตรีและเด็กหญิงก็เป็นศูนย์กลางของความพยายามนี้เช่นกัน การมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมและการปราศจากความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติไม่ได้เป็นเพียงสิทธิมนุษยชน แต่เป็นรากฐานของสังคมที่ยุติธรรมและยืดหยุ่น . -. สุขภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอีกประการหนึ่งที่ไม่อาจกล่าวเกินจริงได้ การสร้างหลักประกันการเข้าถึงการรักษาพยาบาลไม่ได้เป็นเพียงการช่วยชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้โอกาสทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและความมั่นคง . -. นี่คือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนสิทธิในการมีสุขภาพที่ดี ทั้งที่บ้านและทั่วโลก หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านของเราให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และทุกชุมชนจะได้รับเครื่องมือในการเติบโต . -. ประเทศไทยยังมีส่วนร่วมในความพยายามระดับโลกเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและการเตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาด รวมถึงผ่านข้อตกลงการระบาดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก เราไม่รู้ว่าโรคระบาดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด และมีเพียงการทำงานร่วมกันเท่านั้นที่ทำให้เราพร้อมและรับมือกับสถานการณ์ได้ . ท่านประธาน ครับ . -. สันติภาพและสิทธิมนุษยชนไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากปราศจากการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่ในปัจจุบัน การพัฒนากำลังถูกคุกคามจากลัทธิกีดกันทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางการค้าอาจส่งผลดีในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วกลับส่งผลเสียต่อเราทุกคน และสร้างความแตกแยกเมื่อเราต้องการความสามัคคีมากที่สุด . -. ประเทศไทยเชื่อว่าความเจริญรุ่งเรืองที่แท้จริงไม่ได้สร้างขึ้นบนกำแพงภาษีศุลกากร แต่สร้างบนสะพานแห่งความไว้วางใจ . -. เส้นทางข้างหน้าของเราเปิดกว้างและการค้าที่เป็นธรรม โดยมีรากฐานมาจากการพัฒนาที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางและครอบคลุม แต่การพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงการเติบโตเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับคุณค่าและความสมดุลระหว่างความก้าวหน้าและการอนุรักษ์ . -. นี่คือเหตุผลที่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของประเทศไทย ซึ่งสร้างขึ้นบนความสมดุล ความยืดหยุ่น และความพอประมาณ ได้นำทางเส้นทางการพัฒนาของเรา ปรัชญานี้เตือนใจเราว่าความก้าวหน้าที่แท้จริงต้องเสริมพลังประชาชนควบคู่ไปกับการปกป้องโลก . -. เหลือเวลาอีกเพียงห้าปีในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เราต้องเสริมสร้างความร่วมมือในทุกระดับ และเผชิญหน้ากับความเหลื่อมล้ำและช่องว่างทางการเงินที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่ออนาคตร่วมกันของเรา . -. ในขณะเดียวกัน เราต้องไม่ลืมว่าโลกคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญในยุคสมัยของเรา กำลังขยายช่องว่างระหว่างผู้มีอันจะกินและผู้ไม่มี หากปราศจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เราจะล้มเหลวทั้งต่อประชาชนและโลกของเรา . ท่านประธาน ครับ . -. ในวาระครบรอบ 80 ปีของสหประชาชาติ ภารกิจของเรานั้นเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง นั่นคือ การรวมตัวกันภายใต้คำอุทิศตนเพียงหนึ่งเดียว . - เราทุกคนผูกพันกันด้วยอุดมการณ์ บรรทัดฐาน และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ แต่โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การต่ออายุคำอุทิศตนของเราต่อลัทธิพหุภาคีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป . -. แต่ความจริงก็คือ ประวัติศาสตร์ของสหประชาชาติเต็มไปด้วยคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แต่ไม่รักษาไว้ คำมั่นสัญญาที่ไม่ได้รับการปฏิบัติแต่ละครั้งจะบั่นทอนความน่าเชื่อถือและทำลายความไว้วางใจทั่วโลก หากสหประชาชาติจะยังคงเป็นศูนย์กลางของลัทธิพหุภาคี เราไม่สามารถปล่อยให้วัฏจักรนี้ซ้ำรอยได้ . -. นั่นคือเหตุผลที่ข้อตกลงเพื่ออนาคต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อปีที่แล้ว จะต้องกลายเป็นพิมพ์เขียวสำหรับการดำเนินการ เพื่อสร้างความก้าวหน้าที่มีความหมาย การดำเนินการระดับชาติของเราจะต้องสอดคล้องกับคำมั่นสัญญาร่วมกันของเรา . -. แต่เพื่อให้สหประชาชาติสามารถดำเนินงานตามภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีทรัพยากรที่จำเป็น เราต้องแน่ใจว่าสหประชาชาติมีวิธีการที่จะบรรลุจุดหมายตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้สหประชาชาติยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อสันติภาพและการพัฒนา . ท่านประธาน ครับ . -. ในขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะสร้างใหม่ ฟื้นฟู และปฏิรูปสหประชาชาติ เราจำเป็นต้องยึดถือวิสัยทัศน์ One Future . -. เพื่อให้สหประชาชาตินำทางเราไปสู่อนาคต การปฏิรูปที่ครอบคลุม รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคง จึงเป็นสิ่งจำเป็น สหประชาชาติต้องมีตัวแทนมากขึ้น โปร่งใส รับผิดชอบ และเหมาะสมกับอนาคต ปฏิบัติสอดคล้องกัน เข้าถึงประชาชน และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง . -. นั่นคือเหตุผลที่ประเทศไทยสนับสนุนโครงการริเริ่ม UN80 อย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่การปิดช่องว่างทางการเงิน แต่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะทำให้สหประชาชาติเชื่อมต่อกับประชาชนที่ตนรับใช้อีกครั้ง . -. แต่เมื่อเราเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสหประชาชาติ เราต้องตระหนักถึงข้อจำกัดของมัน สหประชาชาติไม่สามารถทำทุกอย่างได้ และลัทธิพหุภาคีก็ยิ่งใหญ่กว่าสหประชาชาติเพียงลำพัง สหประชาชาติจะเจริญรุ่งเรืองได้เมื่อมีรากฐานมาจากลัทธิภูมิภาคนิยมที่เข้มแข็ง สถาบันระดับภูมิภาคเป็นผู้ตอบสนองต่อวิกฤตการณ์เป็นลำดับแรก เป็นผู้สร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างพันธกรณีระดับโลกกับความเป็นจริงในระดับท้องถิ่น . -. สำหรับประเทศไทย อาเซียนคือบ้านและศูนย์กลางของเรา การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ ครั้งที่ 15 ที่จะถึงนี้ จะแสดงให้เห็นว่าหลักการร่วมกันกลายเป็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมได้อย่างไร ประเทศไทยมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันความร่วมมือนี้ เพื่อให้เสียงของภูมิภาคได้รับการรับฟังอย่างเต็มที่ในการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาระดับโลก . -. การสร้างประชาคมโลกที่เข้มแข็งนั้นต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของคนรุ่นเรา นั่นคือเหตุผลที่เราต้องยอมรับพลังของเยาวชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของแผนปฏิบัติการระดับโลกเพื่อเยาวชน ประเทศไทยขอยืนยันความมุ่งมั่นในการลงทุนและเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชน และมอบโอกาสที่แท้จริงในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง . -. ด้วยแนวคิดนี้ ประเทศไทยภูมิใจที่ได้ตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมคณะผู้แทนระดับชาติของเราในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อให้พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการกำหนดอนาคตที่พวกเขาวาดฝันไว้ . -. เพราะท้ายที่สุดแล้ว อนาคตเป็นของพวกเขา จึงควรเป็นผู้สร้างโดยพวกเขาเอง . ท่านประธาน ท่านผู้ทรงเกียรติ และท่านผู้แทนผู้ทรงเกียรติ ครับ . -. ในวาระครบรอบ 80 ปี สหประชาชาติต้องดำรงไว้ซึ่งชื่อเสียงอันดีงาม นั่นคือ ชาติที่ยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียว เรามารวมตัวกันที่นี่ไม่เพียงเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังเพื่อมองไปข้างหน้าถึงสิ่งที่เราสามารถบรรลุร่วมกันได้มากกว่านี้อีกด้วย . -. บทเรียนจากแปดสิบปีนี้ชัดเจน: เราจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเรายืนหยัดเป็นประชาคมเดียว ผูกพันด้วยความทุ่มเทหนึ่งเดียว และร่วมแรงร่วมใจกันสร้างอนาคตอันเป็นหนึ่งเดียวสำหรับทุกคน นี่คือความหมายที่แท้จริงของ Better Together as One . -. ประเทศไทยให้คำมั่นที่จะทำหน้าที่ของเรา แต่ยิ่งไปกว่านั้น เราท้าทายตัวเราเองและมิตรสหายทุกท่านในวันนี้ ให้เปลี่ยนคำพูดให้เป็นการกระทำ นั่นคือวิธีที่เราจะทำให้แปดสิบปีข้างหน้าดีกว่าที่ผ่านมา . - ขอบคุณมาก ๆ ครับ
    0 Comments 0 Shares 342 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ท.ร.2531
    เหรียญหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ท.ร.2531 //พระดีพิธีใหญ่ เหรียญดีมีประสบการณ์สูง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ ด้านนิรันตราย แคล้วคลาด โชคลาภ ค้าขาย เมตตา ความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด เป็นสิริมงคล ช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตราย ป้องกันสิ่งอัปมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล พบเจอแต่ความโชคดี >>

    ** เหรียญหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ท.ร.2531 จัดสร้างโดยหน่วยปฎิบัติการลุ่มน้ำโขงที่มีความเคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่คำพัน โดยเพื่อเป็นเครื่องรางยึดเหนี่ยวจิตใจและเพื่อฉลองอายุหลวงปู่ 6 รอบ 72 ปี เป็นเหรียญดีประสบการณ์ที่ผู้ใช้แล้วบอกต่อเรื่องแคล้วคลาดดีนักแล >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ท.ร.2531 เหรียญหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ท.ร.2531 //พระดีพิธีใหญ่ เหรียญดีมีประสบการณ์สูง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ ด้านนิรันตราย แคล้วคลาด โชคลาภ ค้าขาย เมตตา ความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด เป็นสิริมงคล ช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตราย ป้องกันสิ่งอัปมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล พบเจอแต่ความโชคดี >> ** เหรียญหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ท.ร.2531 จัดสร้างโดยหน่วยปฎิบัติการลุ่มน้ำโขงที่มีความเคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่คำพัน โดยเพื่อเป็นเครื่องรางยึดเหนี่ยวจิตใจและเพื่อฉลองอายุหลวงปู่ 6 รอบ 72 ปี เป็นเหรียญดีประสบการณ์ที่ผู้ใช้แล้วบอกต่อเรื่องแคล้วคลาดดีนักแล >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews
  • “AI ไม่แทนที่นักรังสีวิทยา — แม้จะวิเคราะห์ภาพได้แม่นยำ แต่ยังขาดความเข้าใจและบริบทในโลกจริง”

    ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังแทรกซึมเข้าสู่ทุกวงการ หนึ่งในสาขาที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ “รังสีวิทยา” เพราะเป็นงานที่ดูเหมือนจะเหมาะกับการแทนที่มนุษย์ที่สุด — มีภาพดิจิทัลชัดเจน มีเกณฑ์วัดผล และเป็นงานที่ทำซ้ำได้ง่าย

    โมเดลอย่าง CheXNet, Annalise.ai, Lunit, Aidoc และ Qure.ai สามารถวิเคราะห์ภาพเอ็กซ์เรย์และ CT ได้แม่นยำกว่าคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลายกรณี และมีมากกว่า 700 โมเดลที่ได้รับการรับรองจาก FDA แล้ว บางระบบสามารถจัดลำดับเคสเร่งด่วน สร้างรายงานเบื้องต้น หรือแม้แต่ทำงานโดยไม่ต้องมีแพทย์อ่านภาพเลย เช่น IDx-DR

    แต่ในทางปฏิบัติ ความต้องการนักรังสีวิทยากลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี 2025 มีการเปิดรับแพทย์เฉพาะทางรังสีวิทยาในสหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเงินเดือนเฉลี่ยพุ่งถึง $520,000 ต่อปี

    เหตุผลหลักมี 3 ข้อ:

    1️⃣ โมเดล AI ทำงานได้ดีใน “การทดสอบ” แต่ไม่สามารถรักษาความแม่นยำใน “โรงพยาบาลจริง” ได้ เพราะข้อมูลที่ใช้ฝึกมักมาจากแหล่งเดียว และไม่ครอบคลุมความหลากหลายของผู้ป่วย

    2️⃣กฎหมายและบริษัทประกันยังไม่อนุญาตให้ใช้ AI แบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เพราะความเสี่ยงสูงหากเกิดข้อผิดพลาด

    3️⃣งานของนักรังสีวิทยาไม่ได้มีแค่การวินิจฉัยภาพ แต่ยังรวมถึงการสื่อสารกับทีมแพทย์ การปรับแผนการตรวจ การสอน และการดูแลผู้ป่วย

    แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กลับทำให้ปริมาณงานเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับเมื่อโรงพยาบาลเปลี่ยนจากฟิล์มเป็นระบบดิจิทัลในปี 2000 ซึ่งทำให้การอ่านภาพเร็วขึ้น แต่จำนวนการตรวจกลับเพิ่มขึ้นถึง 60% เพราะต้นทุนด้านเวลาลดลง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    AI อย่าง CheXNet, Lunit, Aidoc, Qure.ai สามารถวิเคราะห์ภาพได้แม่นยำกว่ามนุษย์ในบางกรณี
    มีมากกว่า 700 โมเดลที่ได้รับการรับรองจาก FDA สำหรับงานรังสีวิทยา
    IDx-DR เป็นหนึ่งในไม่กี่ระบบที่สามารถทำงานโดยไม่ต้องมีแพทย์อ่านภาพ
    ปี 2025 มีการเปิดรับแพทย์รังสีวิทยาในสหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์
    เงินเดือนเฉลี่ยของนักรังสีวิทยาอยู่ที่ $520,000 ต่อปี
    โมเดล AI ทำงานได้ดีใน benchmark แต่ลดลงเมื่อใช้ในโรงพยาบาลจริง
    งานของนักรังสีวิทยามีมากกว่าการวินิจฉัย เช่น การสื่อสารกับทีมแพทย์และการสอน
    การเปลี่ยนจากฟิล์มเป็นดิจิทัลในปี 2000 ทำให้จำนวนการตรวจเพิ่มขึ้นอย่างมาก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    โมเดล AI มักฝึกจากข้อมูลที่มีโครงสร้างดี เช่น ภาพที่ชัดเจนและมีการยืนยันผล
    ข้อมูลจากเด็ก ผู้หญิง และกลุ่มชาติพันธุ์น้อยมักมีน้อยในชุดฝึก ทำให้เกิด bias
    การใช้ AI ในโรงพยาบาลต้องมีการ revalidate แม้จะผ่านการรับรองมาแล้ว
    บริษัทประกันมักไม่ครอบคลุมความเสียหายจากการวินิจฉัยโดย AI อัตโนมัติ
    ปัจจุบันมีเพียง 19% ของโรงพยาบาลที่ใช้ AI แล้วรายงานว่า “ประสบความสำเร็จสูง”

    https://www.worksinprogress.news/p/why-ai-isnt-replacing-radiologists
    🧠 “AI ไม่แทนที่นักรังสีวิทยา — แม้จะวิเคราะห์ภาพได้แม่นยำ แต่ยังขาดความเข้าใจและบริบทในโลกจริง” ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังแทรกซึมเข้าสู่ทุกวงการ หนึ่งในสาขาที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ “รังสีวิทยา” เพราะเป็นงานที่ดูเหมือนจะเหมาะกับการแทนที่มนุษย์ที่สุด — มีภาพดิจิทัลชัดเจน มีเกณฑ์วัดผล และเป็นงานที่ทำซ้ำได้ง่าย โมเดลอย่าง CheXNet, Annalise.ai, Lunit, Aidoc และ Qure.ai สามารถวิเคราะห์ภาพเอ็กซ์เรย์และ CT ได้แม่นยำกว่าคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลายกรณี และมีมากกว่า 700 โมเดลที่ได้รับการรับรองจาก FDA แล้ว บางระบบสามารถจัดลำดับเคสเร่งด่วน สร้างรายงานเบื้องต้น หรือแม้แต่ทำงานโดยไม่ต้องมีแพทย์อ่านภาพเลย เช่น IDx-DR แต่ในทางปฏิบัติ ความต้องการนักรังสีวิทยากลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี 2025 มีการเปิดรับแพทย์เฉพาะทางรังสีวิทยาในสหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเงินเดือนเฉลี่ยพุ่งถึง $520,000 ต่อปี เหตุผลหลักมี 3 ข้อ: 1️⃣ โมเดล AI ทำงานได้ดีใน “การทดสอบ” แต่ไม่สามารถรักษาความแม่นยำใน “โรงพยาบาลจริง” ได้ เพราะข้อมูลที่ใช้ฝึกมักมาจากแหล่งเดียว และไม่ครอบคลุมความหลากหลายของผู้ป่วย 2️⃣กฎหมายและบริษัทประกันยังไม่อนุญาตให้ใช้ AI แบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เพราะความเสี่ยงสูงหากเกิดข้อผิดพลาด 3️⃣งานของนักรังสีวิทยาไม่ได้มีแค่การวินิจฉัยภาพ แต่ยังรวมถึงการสื่อสารกับทีมแพทย์ การปรับแผนการตรวจ การสอน และการดูแลผู้ป่วย แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กลับทำให้ปริมาณงานเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับเมื่อโรงพยาบาลเปลี่ยนจากฟิล์มเป็นระบบดิจิทัลในปี 2000 ซึ่งทำให้การอ่านภาพเร็วขึ้น แต่จำนวนการตรวจกลับเพิ่มขึ้นถึง 60% เพราะต้นทุนด้านเวลาลดลง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ AI อย่าง CheXNet, Lunit, Aidoc, Qure.ai สามารถวิเคราะห์ภาพได้แม่นยำกว่ามนุษย์ในบางกรณี ➡️ มีมากกว่า 700 โมเดลที่ได้รับการรับรองจาก FDA สำหรับงานรังสีวิทยา ➡️ IDx-DR เป็นหนึ่งในไม่กี่ระบบที่สามารถทำงานโดยไม่ต้องมีแพทย์อ่านภาพ ➡️ ปี 2025 มีการเปิดรับแพทย์รังสีวิทยาในสหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ➡️ เงินเดือนเฉลี่ยของนักรังสีวิทยาอยู่ที่ $520,000 ต่อปี ➡️ โมเดล AI ทำงานได้ดีใน benchmark แต่ลดลงเมื่อใช้ในโรงพยาบาลจริง ➡️ งานของนักรังสีวิทยามีมากกว่าการวินิจฉัย เช่น การสื่อสารกับทีมแพทย์และการสอน ➡️ การเปลี่ยนจากฟิล์มเป็นดิจิทัลในปี 2000 ทำให้จำนวนการตรวจเพิ่มขึ้นอย่างมาก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ โมเดล AI มักฝึกจากข้อมูลที่มีโครงสร้างดี เช่น ภาพที่ชัดเจนและมีการยืนยันผล ➡️ ข้อมูลจากเด็ก ผู้หญิง และกลุ่มชาติพันธุ์น้อยมักมีน้อยในชุดฝึก ทำให้เกิด bias ➡️ การใช้ AI ในโรงพยาบาลต้องมีการ revalidate แม้จะผ่านการรับรองมาแล้ว ➡️ บริษัทประกันมักไม่ครอบคลุมความเสียหายจากการวินิจฉัยโดย AI อัตโนมัติ ➡️ ปัจจุบันมีเพียง 19% ของโรงพยาบาลที่ใช้ AI แล้วรายงานว่า “ประสบความสำเร็จสูง” https://www.worksinprogress.news/p/why-ai-isnt-replacing-radiologists
    WWW.WORKSINPROGRESS.NEWS
    AI isn't replacing radiologists
    Radiology combines digital images, clear benchmarks, and repeatable tasks. But demand for human radiologists is ay an all-time high.
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • หลวงปู่ทวดหลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ปั้มซ้ำ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2505
    หลวงปู่ทวดหลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ปั้มซ้ำ (หน้าใหญ่ ปีกกว้างหลังเตารีด นิยมสุด!!) (พระเลี่ยมทองแท้) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2505 //พระดีพิธีใหญ่ นิยมสุด ** ปัจจุบันพระหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ พิมพ์หลังเตารีด เป็นที่นิยมเสาะหาของผู้นิยมพระเครื่อง สนนราคาถึง7หลักขึ้นไปครับ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ ด้านนิรันตราย แคล้วคลาด โชคลาภ ค้าขาย เมตตา สุขภาพ ความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด เป็นสิริมงคล ช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตราย เชื่อกันว่าผู้ที่บูชาหลวงปู่ทวดนั้นจะรอดจากอุบัติเหตุอย่างปาฏิหาริย์ ป้องกันสิ่งอัปมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล พบเจอแต่ความโชคดี >>

    ** พระดีพิธีใหญ่ พิธีปลุกเสกจัดขึ้นเป็นพิธีใหญ่มากในยุคนั้น โดยก่อนปลุกเสกมีงานฉลองถึง 3 วัน คือวันที่ 17-18-19 พฤษภาคม พ.ศ.2505 หลังจากปลุกเสกเสร็จเรียบร้อย มีผู้ศรัทธาไปรอรับพระกันอย่างมืดฟ้ามัวดิน จนต้องแจกพระกันทางหน้าต่าง พระรุ่นยอดนิยมรุ่นหนึ่งของพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ พิธีเดียวกันกับพระหลวงปู่ทวดหลังเตารีดใหญ่ที่มีราคาเช่าหาบูชาหลักหลายแสนจนถึงหลักล้าน ถ้าชอบในเรื่องของพุทธคุณคงไม่แตกต่างกัน...พระหลวงปู่ทวดนั้นมีพุทธคุณสุดยอดในเรื่องนิรันตรายก่อเกิดแก่ผู้มีไว้ได้บูชาต่างกล่าวกันว่ามีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเป็นเลิศ >>

    ** พระสภาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ (พระสถาพสวยแชม์หายากกมากแล้วครับ) (พระเลี่ยมทองแท้) พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    หลวงปู่ทวดหลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ปั้มซ้ำ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2505 หลวงปู่ทวดหลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ปั้มซ้ำ (หน้าใหญ่ ปีกกว้างหลังเตารีด นิยมสุด!!) (พระเลี่ยมทองแท้) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2505 //พระดีพิธีใหญ่ นิยมสุด ** ปัจจุบันพระหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ พิมพ์หลังเตารีด เป็นที่นิยมเสาะหาของผู้นิยมพระเครื่อง สนนราคาถึง7หลักขึ้นไปครับ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ ด้านนิรันตราย แคล้วคลาด โชคลาภ ค้าขาย เมตตา สุขภาพ ความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด เป็นสิริมงคล ช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตราย เชื่อกันว่าผู้ที่บูชาหลวงปู่ทวดนั้นจะรอดจากอุบัติเหตุอย่างปาฏิหาริย์ ป้องกันสิ่งอัปมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล พบเจอแต่ความโชคดี >> ** พระดีพิธีใหญ่ พิธีปลุกเสกจัดขึ้นเป็นพิธีใหญ่มากในยุคนั้น โดยก่อนปลุกเสกมีงานฉลองถึง 3 วัน คือวันที่ 17-18-19 พฤษภาคม พ.ศ.2505 หลังจากปลุกเสกเสร็จเรียบร้อย มีผู้ศรัทธาไปรอรับพระกันอย่างมืดฟ้ามัวดิน จนต้องแจกพระกันทางหน้าต่าง พระรุ่นยอดนิยมรุ่นหนึ่งของพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ พิธีเดียวกันกับพระหลวงปู่ทวดหลังเตารีดใหญ่ที่มีราคาเช่าหาบูชาหลักหลายแสนจนถึงหลักล้าน ถ้าชอบในเรื่องของพุทธคุณคงไม่แตกต่างกัน...พระหลวงปู่ทวดนั้นมีพุทธคุณสุดยอดในเรื่องนิรันตรายก่อเกิดแก่ผู้มีไว้ได้บูชาต่างกล่าวกันว่ามีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเป็นเลิศ >> ** พระสภาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ (พระสถาพสวยแชม์หายากกมากแล้วครับ) (พระเลี่ยมทองแท้) พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา
    เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อโสธรหลังยันต์ห้า เนื้อทองเหลือกะไหล่เงินลงยาเขียว วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา // พระเก่า พศ.ลึก น่าใช้ครับ //พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** เหรียญมีขนาดขนาดเล็ก เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ .. รุ่นนี้มีประสบกาณ์มากครับ เหมาะสำหรับคนพิเศษ >>

    ** พุทธคุณด้านความเมตตา ด้านการเงินและการค้าขาย เชื่อกันว่าหลวงพ่อโสธรจะช่วยเสริมให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และความแคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตราย ช่วยเสริมการงาน การเลื่อนยศเลื่อนชั้น และความสำเร็จในทุกด้าน >>

    ** หลวงพ่อโสธร หรือ หลวงพ่อพระพุทธโสธร เป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา หลวงพ่อโสธร เปรียบเสมือนต้นโพธิ์ไทรอันใหญ่ ที่ให้สิ่งมีชีวิตหรือสรรพสัตว์ทั้งหลายได้พำนักอาศัย เป็นเหมือนร่มใหญ่ที่คอยกางเพื่อป้องกันภัยอันตราย และความเดือดร้อนให้สรรพสัตว์ได้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข และอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของ หลวงพ่อโสธร >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อโสธรหลังยันต์ห้า เนื้อทองเหลือกะไหล่เงินลงยาเขียว วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา // พระเก่า พศ.ลึก น่าใช้ครับ //พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** เหรียญมีขนาดขนาดเล็ก เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ .. รุ่นนี้มีประสบกาณ์มากครับ เหมาะสำหรับคนพิเศษ >> ** พุทธคุณด้านความเมตตา ด้านการเงินและการค้าขาย เชื่อกันว่าหลวงพ่อโสธรจะช่วยเสริมให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และความแคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตราย ช่วยเสริมการงาน การเลื่อนยศเลื่อนชั้น และความสำเร็จในทุกด้าน >> ** หลวงพ่อโสธร หรือ หลวงพ่อพระพุทธโสธร เป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา หลวงพ่อโสธร เปรียบเสมือนต้นโพธิ์ไทรอันใหญ่ ที่ให้สิ่งมีชีวิตหรือสรรพสัตว์ทั้งหลายได้พำนักอาศัย เป็นเหมือนร่มใหญ่ที่คอยกางเพื่อป้องกันภัยอันตราย และความเดือดร้อนให้สรรพสัตว์ได้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข และอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของ หลวงพ่อโสธร >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • “AI กู้คืนเงินหลวงอังกฤษ 480 ล้านปอนด์ — Fraud Risk Assessment Accelerator กลายเป็นอาวุธใหม่ปราบโกงระดับโลก”

    รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ชื่อว่า “Fraud Risk Assessment Accelerator” ซึ่งสามารถช่วยกู้คืนเงินที่สูญเสียจากการทุจริตได้มากถึง 480 ล้านปอนด์ภายในเวลาเพียง 12 เดือน (เมษายน 2024 – เมษายน 2025) ถือเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ

    ระบบนี้ถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับการโกงในโครงการ Bounce Back Loan ที่เกิดขึ้นช่วงโควิด ซึ่งมีการอนุมัติเงินกู้สูงสุดถึง 50,000 ปอนด์ต่อบริษัทโดยไม่มีการตรวจสอบที่เข้มงวด ทำให้เกิดการโกงอย่างแพร่หลาย เช่น การสร้างบริษัทปลอม หรือการขอเงินกู้หลายครั้งโดยไม่สิทธิ์

    AI ตัวนี้ไม่เพียงแต่ช่วยตรวจสอบย้อนหลัง แต่ยังสามารถวิเคราะห์นโยบายใหม่ล่วงหน้าเพื่อหาช่องโหว่ก่อนที่ผู้ไม่หวังดีจะใช้ประโยชน์ได้ ถือเป็นการ “fraud-proof” นโยบายตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบ ซึ่งช่วยป้องกันการสูญเสียในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    หลังจากประสบความสำเร็จในอังกฤษ รัฐบาลเตรียมขยายการใช้งานไปยังประเทศพันธมิตร เช่น สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในงานประชุมต่อต้านการทุจริตระดับนานาชาติที่จัดร่วมกับกลุ่ม Five Eyes

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้ AI ในการตรวจสอบสิทธิ์สวัสดิการ โดยระบุว่าอาจเกิดความลำเอียงและผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรม เช่น การเลือกปฏิบัติต่อผู้มีอายุ ความพิการ หรือเชื้อชาติ ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องรับมืออย่างรอบคอบในการขยายระบบนี้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    รัฐบาลอังกฤษใช้ AI Fraud Risk Assessment Accelerator กู้คืนเงินได้ 480 ล้านปอนด์ใน 12 เดือน
    186 ล้านปอนด์ในจำนวนนี้เกี่ยวข้องกับการโกงโครงการ Bounce Back Loan ช่วงโควิด
    ระบบสามารถวิเคราะห์นโยบายใหม่เพื่อหาช่องโหว่ก่อนถูกโกง
    ป้องกันบริษัทนับแสนที่พยายามยุบตัวเพื่อหลบเลี่ยงการคืนเงินกู้
    รัฐบาลเตรียมขยายการใช้งานไปยังสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
    เงินที่กู้คืนจะนำไปใช้ในบริการสาธารณะ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และตำรวจ
    มีการประกาศผลในงานประชุมต่อต้านการทุจริตร่วมกับกลุ่ม Five Eyes
    ระบบนี้พัฒนาโดยนักวิจัยของรัฐบาลอังกฤษเอง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Bounce Back Loan เป็นโครงการช่วยเหลือธุรกิจช่วงโควิดที่ถูกวิจารณ์เรื่องการตรวจสอบไม่เข้มงวด
    การใช้ AI ในการวิเคราะห์นโยบายล่วงหน้าเป็นแนวทางใหม่ที่หลายประเทศเริ่มนำมาใช้
    Five Eyes เป็นพันธมิตรข่าวกรองระหว่างอังกฤษ สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
    การใช้ AI ในภาครัฐเริ่มแพร่หลาย เช่น การตรวจสอบภาษี การจัดสรรสวัสดิการ และการวิเคราะห์ความเสี่ยง
    การกู้คืนเงินจากการโกงช่วยลดภาระงบประมาณและเพิ่มความเชื่อมั่นในระบบราชการ

    https://www.techradar.com/pro/security/uk-government-says-a-new-ai-tool-helped-it-recover-almost-gbp500-million-in-fraud-losses-and-now-its-going-global
    💰 “AI กู้คืนเงินหลวงอังกฤษ 480 ล้านปอนด์ — Fraud Risk Assessment Accelerator กลายเป็นอาวุธใหม่ปราบโกงระดับโลก” รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ชื่อว่า “Fraud Risk Assessment Accelerator” ซึ่งสามารถช่วยกู้คืนเงินที่สูญเสียจากการทุจริตได้มากถึง 480 ล้านปอนด์ภายในเวลาเพียง 12 เดือน (เมษายน 2024 – เมษายน 2025) ถือเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ระบบนี้ถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับการโกงในโครงการ Bounce Back Loan ที่เกิดขึ้นช่วงโควิด ซึ่งมีการอนุมัติเงินกู้สูงสุดถึง 50,000 ปอนด์ต่อบริษัทโดยไม่มีการตรวจสอบที่เข้มงวด ทำให้เกิดการโกงอย่างแพร่หลาย เช่น การสร้างบริษัทปลอม หรือการขอเงินกู้หลายครั้งโดยไม่สิทธิ์ AI ตัวนี้ไม่เพียงแต่ช่วยตรวจสอบย้อนหลัง แต่ยังสามารถวิเคราะห์นโยบายใหม่ล่วงหน้าเพื่อหาช่องโหว่ก่อนที่ผู้ไม่หวังดีจะใช้ประโยชน์ได้ ถือเป็นการ “fraud-proof” นโยบายตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบ ซึ่งช่วยป้องกันการสูญเสียในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากประสบความสำเร็จในอังกฤษ รัฐบาลเตรียมขยายการใช้งานไปยังประเทศพันธมิตร เช่น สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในงานประชุมต่อต้านการทุจริตระดับนานาชาติที่จัดร่วมกับกลุ่ม Five Eyes อย่างไรก็ตาม กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้ AI ในการตรวจสอบสิทธิ์สวัสดิการ โดยระบุว่าอาจเกิดความลำเอียงและผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรม เช่น การเลือกปฏิบัติต่อผู้มีอายุ ความพิการ หรือเชื้อชาติ ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องรับมืออย่างรอบคอบในการขยายระบบนี้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ รัฐบาลอังกฤษใช้ AI Fraud Risk Assessment Accelerator กู้คืนเงินได้ 480 ล้านปอนด์ใน 12 เดือน ➡️ 186 ล้านปอนด์ในจำนวนนี้เกี่ยวข้องกับการโกงโครงการ Bounce Back Loan ช่วงโควิด ➡️ ระบบสามารถวิเคราะห์นโยบายใหม่เพื่อหาช่องโหว่ก่อนถูกโกง ➡️ ป้องกันบริษัทนับแสนที่พยายามยุบตัวเพื่อหลบเลี่ยงการคืนเงินกู้ ➡️ รัฐบาลเตรียมขยายการใช้งานไปยังสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ➡️ เงินที่กู้คืนจะนำไปใช้ในบริการสาธารณะ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และตำรวจ ➡️ มีการประกาศผลในงานประชุมต่อต้านการทุจริตร่วมกับกลุ่ม Five Eyes ➡️ ระบบนี้พัฒนาโดยนักวิจัยของรัฐบาลอังกฤษเอง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Bounce Back Loan เป็นโครงการช่วยเหลือธุรกิจช่วงโควิดที่ถูกวิจารณ์เรื่องการตรวจสอบไม่เข้มงวด ➡️ การใช้ AI ในการวิเคราะห์นโยบายล่วงหน้าเป็นแนวทางใหม่ที่หลายประเทศเริ่มนำมาใช้ ➡️ Five Eyes เป็นพันธมิตรข่าวกรองระหว่างอังกฤษ สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ➡️ การใช้ AI ในภาครัฐเริ่มแพร่หลาย เช่น การตรวจสอบภาษี การจัดสรรสวัสดิการ และการวิเคราะห์ความเสี่ยง ➡️ การกู้คืนเงินจากการโกงช่วยลดภาระงบประมาณและเพิ่มความเชื่อมั่นในระบบราชการ https://www.techradar.com/pro/security/uk-government-says-a-new-ai-tool-helped-it-recover-almost-gbp500-million-in-fraud-losses-and-now-its-going-global
    WWW.TECHRADAR.COM
    UK’s fraud detection AI to be licensed abroad after recovering £480m in lost revenue
    The Fraud Risk Assessment Accelerator is now set to be licensed abroad
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 Reviews
  • “IonQ ทำลายสถิติวงการควอนตัมด้วย #AQ 64 — คำนวณได้เทียบเท่า 1 พันล้าน GPU ในพื้นที่เท่าโต๊ะทำงาน”

    IonQ บริษัทผู้นำด้านควอนตัมคอมพิวติ้ง ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการพัฒนาเครื่องควอนตัมรุ่นใหม่ “IonQ Tempo” ซึ่งสามารถทำคะแนน Algorithmic Qubit (#AQ) ได้ถึงระดับ 64 — เป็นครั้งแรกในโลกที่มีระบบควอนตัมแตะระดับนี้ได้สำเร็จ และเร็วกว่ากำหนดถึง 3 เดือน

    คะแนน #AQ คือมาตรวัดความสามารถของระบบควอนตัมในการรันอัลกอริธึมที่ซับซ้อน โดยไม่สูญเสียความแม่นยำ ยิ่ง #AQ สูงเท่าไร พื้นที่การคำนวณที่ระบบสามารถเข้าถึงได้ก็ยิ่งขยายตัวแบบทวีคูณ เช่น #AQ 64 เท่ากับการพิจารณาความเป็นไปได้ได้มากกว่า 18 ควินทิลเลียน หรือ 2^64 ซึ่งมากกว่า #AQ 36 ถึง 268 ล้านเท่า

    IonQ Tempo ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นที่ 5 ของบริษัท ใช้เทคโนโลยี trapped-ion ที่ควบคุมอะตอมด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้สามารถควบคุม qubit ได้อย่างแม่นยำและลดข้อผิดพลาดได้มากกว่าระบบ superconducting ที่คู่แข่งใช้อยู่

    ความสามารถของ Tempo ทำให้สามารถประมวลผลงานที่เคยต้องใช้ GPU กว่า 1 พันล้านตัวได้ในเครื่องเดียว โดยใช้พลังงานน้อยกว่ามาก และกินพื้นที่เพียงเล็กน้อย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การค้นคว้ายา, การจำลองวิศวกรรม, การวิเคราะห์ความผิดปกติทางการเงิน และการจัดการโครงข่ายพลังงาน

    นอกจาก #AQ แล้ว IonQ ยังเตรียมรายงานค่าต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น logical qubits, error rate และ benchmark ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพชัดเจนว่าระบบของ IonQ สามารถสร้างคุณค่าเชิงพาณิชย์ได้จริง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    IonQ ทำคะแนน #AQ ได้ถึง 64 เป็นครั้งแรกในโลก
    ใช้เครื่องควอนตัมรุ่นใหม่ชื่อ IonQ Tempo ซึ่งเป็นรุ่นที่ 5 ของบริษัท
    #AQ 64 เท่ากับพื้นที่การคำนวณมากกว่า 18 ควินทิลเลียน หรือ 2^64
    มากกว่า #AQ 36 ถึง 268 ล้านเท่า ซึ่งเคยทำได้ในต้นปี 2024
    Tempo ใช้เทคโนโลยี trapped-ion ที่ควบคุม qubit ได้แม่นยำ
    สามารถประมวลผลงานที่เคยต้องใช้ GPU กว่า 1 พันล้านตัว
    เหมาะกับงานด้านพลังงาน, ยา, วิศวกรรม, การเงิน และ AI
    เตรียมรายงาน logical qubits, error rate และ benchmark เชิงอุตสาหกรรม
    IonQ Aria และ Forte เคย outperform IBM ได้ถึง 182% ในบางอัลกอริธึม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    #AQ เป็นการวัด “คุณภาพ” ของ qubit ไม่ใช่แค่จำนวน
    Trapped-ion มีความเสถียรสูงและลดข้อผิดพลาดได้ดีกว่า superconducting qubit
    Quantum computing กำลังกลายเป็นเครื่องมือหลักในงาน AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
    IonQ มีแผนพัฒนา #AQ 256 ภายในปี 2027 ซึ่งจะเพิ่มความสามารถอีกหลายล้านเท่า
    บริษัทมีพันธมิตรกับ Amazon, Microsoft และหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ

    https://www.techpowerup.com/341357/ionq-achieves-record-breaking-quantum-performance-milestone-of-aq-64
    🧮 “IonQ ทำลายสถิติวงการควอนตัมด้วย #AQ 64 — คำนวณได้เทียบเท่า 1 พันล้าน GPU ในพื้นที่เท่าโต๊ะทำงาน” IonQ บริษัทผู้นำด้านควอนตัมคอมพิวติ้ง ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการพัฒนาเครื่องควอนตัมรุ่นใหม่ “IonQ Tempo” ซึ่งสามารถทำคะแนน Algorithmic Qubit (#AQ) ได้ถึงระดับ 64 — เป็นครั้งแรกในโลกที่มีระบบควอนตัมแตะระดับนี้ได้สำเร็จ และเร็วกว่ากำหนดถึง 3 เดือน คะแนน #AQ คือมาตรวัดความสามารถของระบบควอนตัมในการรันอัลกอริธึมที่ซับซ้อน โดยไม่สูญเสียความแม่นยำ ยิ่ง #AQ สูงเท่าไร พื้นที่การคำนวณที่ระบบสามารถเข้าถึงได้ก็ยิ่งขยายตัวแบบทวีคูณ เช่น #AQ 64 เท่ากับการพิจารณาความเป็นไปได้ได้มากกว่า 18 ควินทิลเลียน หรือ 2^64 ซึ่งมากกว่า #AQ 36 ถึง 268 ล้านเท่า IonQ Tempo ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นที่ 5 ของบริษัท ใช้เทคโนโลยี trapped-ion ที่ควบคุมอะตอมด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้สามารถควบคุม qubit ได้อย่างแม่นยำและลดข้อผิดพลาดได้มากกว่าระบบ superconducting ที่คู่แข่งใช้อยู่ ความสามารถของ Tempo ทำให้สามารถประมวลผลงานที่เคยต้องใช้ GPU กว่า 1 พันล้านตัวได้ในเครื่องเดียว โดยใช้พลังงานน้อยกว่ามาก และกินพื้นที่เพียงเล็กน้อย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การค้นคว้ายา, การจำลองวิศวกรรม, การวิเคราะห์ความผิดปกติทางการเงิน และการจัดการโครงข่ายพลังงาน นอกจาก #AQ แล้ว IonQ ยังเตรียมรายงานค่าต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น logical qubits, error rate และ benchmark ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพชัดเจนว่าระบบของ IonQ สามารถสร้างคุณค่าเชิงพาณิชย์ได้จริง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ IonQ ทำคะแนน #AQ ได้ถึง 64 เป็นครั้งแรกในโลก ➡️ ใช้เครื่องควอนตัมรุ่นใหม่ชื่อ IonQ Tempo ซึ่งเป็นรุ่นที่ 5 ของบริษัท ➡️ #AQ 64 เท่ากับพื้นที่การคำนวณมากกว่า 18 ควินทิลเลียน หรือ 2^64 ➡️ มากกว่า #AQ 36 ถึง 268 ล้านเท่า ซึ่งเคยทำได้ในต้นปี 2024 ➡️ Tempo ใช้เทคโนโลยี trapped-ion ที่ควบคุม qubit ได้แม่นยำ ➡️ สามารถประมวลผลงานที่เคยต้องใช้ GPU กว่า 1 พันล้านตัว ➡️ เหมาะกับงานด้านพลังงาน, ยา, วิศวกรรม, การเงิน และ AI ➡️ เตรียมรายงาน logical qubits, error rate และ benchmark เชิงอุตสาหกรรม ➡️ IonQ Aria และ Forte เคย outperform IBM ได้ถึง 182% ในบางอัลกอริธึม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ #AQ เป็นการวัด “คุณภาพ” ของ qubit ไม่ใช่แค่จำนวน ➡️ Trapped-ion มีความเสถียรสูงและลดข้อผิดพลาดได้ดีกว่า superconducting qubit ➡️ Quantum computing กำลังกลายเป็นเครื่องมือหลักในงาน AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ➡️ IonQ มีแผนพัฒนา #AQ 256 ภายในปี 2027 ซึ่งจะเพิ่มความสามารถอีกหลายล้านเท่า ➡️ บริษัทมีพันธมิตรกับ Amazon, Microsoft และหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ https://www.techpowerup.com/341357/ionq-achieves-record-breaking-quantum-performance-milestone-of-aq-64
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    IonQ Achieves Record Breaking Quantum Performance Milestone of #AQ 64
    IonQ, the leader in the quantum computing and networking industries, today announced it has achieved a record algorithmic qubit score of #AQ 64. This milestone was achieved on an IonQ Tempo system, three months ahead of schedule, establishing IonQ as the only company to reach #AQ 64 setting a new st...
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • ~เปิดลับ การบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัติร์ย์ ตั้งแต่ปี2550เป็นต้นมา
    ==================

    ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์
    อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    =================================

    นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา การบ่อนทำลายสถาบันสูงสุด…เกิดขึ้นมากผิดปกติ …มีการเปิดเผย… ไม่เกรงกลัว…โดย กลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์…ไม่เพียงเคลื่อนไหวในประเทศเท่านั้น

    …แต่ยังไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ …โดยเฉพาะในสหรัฐ

    ~ ด้วยการป้อนชุดข้อมูล…ที่ดูเหมือนจริง…แต่เป็นความเท็จ …ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของนักล็อบบี้…จากสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียง…และบริษัทประชาสัมพันธ์ …ที่ถูกใครบางคนจ้างไว้ 3 บริษัท บริษัทละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 30.3 ล้านบาท)

    ~ เพื่อไปล็อบบี้…สมาชิกรัฐสภา…และรัฐบาลอเมริกัน…เพื่อผลทางการเมืองของตน… อย่างไรก็ดี …ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น… คือ เกิดกระแสต่อต้านสถาบันกษัตริย์ในหมู่นักการเมืองอเมริกันมากขึ้น…อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

    ~ ฝ่ายที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทยในสหรัฐ…ทวีความเข้มแข็งมากขึ้น… มีการสร้างเว็บไซต์ในรูปแบบหลากหลาย …เขียนบทความภาษาต่างๆ… ซึ่งส่วนใหญ่มาจากข้อเขียนของคนอเมริกัน 2 คน คนหนึ่ง…คือ

    - เจ.เค. แห่งคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ (Council on Foreign Relations) อันทรงอิทธิพลในสหรัฐ ที่ เจ.เค. ได้เขียนบทความ…โจมตีสถาบันกษัตริย์ และยกย่องเชิดชูฝ่ายตรงข้ามสถาบันกษัตริย์ว่า เป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" สลับกันมาหลายปีแล้ว

    - อีกคนหนึ่ง คือ เอ.เอ็ม.เอ็ม. ที่ยอมรับว่า… ได้รับการว่าจ้าง…ให้มาทำงานด้านนี้ และ…เป็นคนที่นำเอาคดีของ โจ กอร์ดอน และ อำพล ตั้งนพกุล หรือ “อากง” มาเขียนโจมตี ม.112 …เพื่อให้พาดพิงไปถึงพระมหากษัตริย์ไทย ในรัชกาลที่ 9

    ~ในความเป็นจริง… คนพวกนี้…ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย… แต่ได้รับข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ชาวไทย…สายสาธารณรัฐ…ที่คนไทยรู้จักดี

    ~ ในกลางปี 2556 …นักล็อบบี้พวกนี้…วางแผนผลักดันให้มีการอภิปรายเชิงวิชาการ…ในที่ประชุมประจำปี…ของสมาคมเอเชียศึกษา (Association of Asian Studies)… ซึ่งมีคนไทย…ที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์…มีอิทธิพลอยู่

    ~ การอภิปรายดังกล่าว…มีเป้าหมาย…มุ่งโจมตีสถาบันกษัตริย์ไทย…ในรัชกาลที่ 9 เป็นการเฉพาะ …รวมทั้ง…มีแผนตีพิมพ์หนังสืออีกเล่มหนึ่ง…โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐ ……ที่ผู้เขียนอ้างหลักฐาน…จากห้องสมุดมหาวิทยาลัย
    ……รัฐสภาของสหรัฐ ……ที่ดูเผินๆ แล้วน่าเชื่อถือ …หรือเลือกเฉพาะส่วนที่สนับสนุนความคิดของตน…… เพื่อหาทางทำลายความเชื่อถือพระมหากษัตริย์ไทยในรัชกาลที่ 9

    ~ ก่อนหน้านี้…เมื่อปี 2554 …ในวาระครบ 7 รอบ 84 พรรษา…ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 …นักล็อบบี้อเมริกัน…ได้ส่งชุดข้อมูล…ที่ปั้นแต่งขึ้น…จนทำให้สมาชิกสภาสหรัฐหลงเชื่อ

    ~ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ…พยายามหลีกเลี่ยง…ไม่ส่งหนังสือถวายพระพร…ตามที่เคยปฏิบัติมา …จนสภาสูง…ต้องส่งหนังสือถวายพระพรแทน ……สะท้อนให้เห็นว่า…… นักล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน……ทำงานให้กับนายจ้างคนไทยที่ไม่ชอบสถาบันกษัตริย์อย่างได้ผล ……ทำให้รัฐสภาชุดก่อนเข้าใจผิด …และต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทย… ตกทอดมาถึงสภาใหม่ชุดที่ 113 ในปัจจุบัน

    ~ ไม่เพียงแต่เท่านั้น …สถาบันบางแห่งของสหรัฐ …เช่น กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National Endowment for Democracy) ยังจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐ……คิดเป็นเงินไทยกว่า 1,500 ล้านบาท และ…อีกโครงการเป็นเงิน 200-300 ล้านบาท ……ให้กับกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ …ตามที่กลุ่มพวกนี้ร้องขอมา

    ~ โดยอ้างว่า…เพื่อนำไปใช้ในการให้ความรู้ประชาชนในการพัฒนาประชาธิไตย แต่…กลับนำไปสร้างสื่อและเว็บไซต์ ปลุกระดม โฆษณาชวนเชื่อให้คนไทยบางกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะ เป็นสถาบันที่มีสิทธิเหนือประชาชน

    ~ นักล็อบบี้เหล่านี้…ได้สร้างข้อมูลขึ้นมาชุดหนึ่ง…หรือหลายชุด ……และไปเคลื่อนไหวชักจูง… ชี้นำ… โน้มน้าว…ให้สมาชิกรัฐสภา และสถาบันอื่นของสหรัฐ เชื่อในวาทะกรรมที่ว่า

    ~ สถาบันสูงสุดของไทย หรือ สถาบันกษัตริย์นั้น…เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ……สถาบันกษัตริย์ไทย…ทำลายสิทธิมนุษยชน …อ้างว่า…ปัญหาของเมืองไทย……ไม่ใช่เรื่องการเมือง…… แต่เป็นปัญหาการสืบราชสมบัติ ……ที่กษัตริย์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาน……เพื่อจะเสนอให้ใครบางคนเป็น “ทางออก” ของชาติ (จากการเลือกตั้ง เพื่อเป็นประมุขของรัฐ หรือ เป็นประธานาธิบดี นั่นเอง)

    ~ พวกนี้…พยายามป้อนข้อมูล…ให้รัฐสภาอเมริกันเชื่อว่า “สถาบันไม่สู้แล้ว” เพราะ…ถ้าสถาบันไม่สู้ …สหรัฐก็ไม่มีทางเป็นอื่น…นอกจากจะยืนข้างฝ่ายประชาธิปไตย…ที่อยู่ตรงข้ามกับสถาบันกษัตริย์… และเป็นการส่งสัญญานไปยังประเทศ…ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น รวมทั้งจีน…ที่สนับสนุนสถาบันสูงสุด ตลอดมา …หากสหรัฐ…และประเทศเหล่านี้…สรุปว่า ฝ่ายสถาบันกษัตริย์แพ้แน่ …สหรัฐและประเทศเหล่านี้…ซึ่งคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศเขาเป็นสำคัญ…ก็ต้องเข้าข้างฝ่ายชนะ ที่ถือเป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย"

    ~ อย่างไรก็ดี …ฝ่ายสถาบันกษัตริย์…ส่งสัญญาน…มาหลายครั้งแล้วว่า “ยังสู้” และ “ไม่ยอมแพ้” โดยเฉพาะ…ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555 ที่ประชาชนชาวไทย…ได้ไปชุมนุมที่ลานพระบรมรูปฯ อย่างมืดฟ้ามัวดิน…เพื่อเข้าเฝ้าถวายพระพร …สะท้อนให้เห็นว่า …ประชาชนพร้อมที่จะสู้เคียงข้าง แม้จะปรากฏ “แรงเฉื่อย” ในสถาบันทหาร และ รัฐบาลในยุคนั้นก็ตาม จึงมีแต่ประชาชนเท่านั้น…ที่จะเป็นกำแพงป้องกันสถาบันสูงสุดของประเทศ……ให้พ้นจากการคุกคามจากฝ่ายบ่อนทำลายในและนอกประเทศได้

    ~ รัฐบาลชุดก่อน…เคยให้ทุนมหาวิทยาลัยดังในอเมริกา …อาทิ คอร์แนล วิสคอนซิน เพนซิลเวเนีย ยูซีแอลเอ. จอห์น ฮอพกินส์ วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อสร้าง “ศูนย์ไทยศึกษา” และ “เพื่อนประเทศไทย” เพื่อให้เข้าใจสถาบันกษัตริย์ของไทย แต่…ปรากฏว่า ……ศูนย์เหล่านี้……กลายเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่การต่อต้านสถาบันสูงสุดไปหมด ……และอาจขยายเครือข่ายกว้างขวางมากขึ้น…… ไปยังออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปอีกด้วย

    ~ ไทยถูกคุกคาม…ด้วยสงครามยุคใหม่ …ทั้งสงครามอสมมาตร (Asymmetric Warfare) เช่น การก่อความรุนแรงช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 และ…สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงครามทุน และ สงครามไซเบอร์ …สงครามทั้งสามนี้…มีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐ …แต่มีสนามรบอยู่ทั่วโลก

    ~ ในไทย สหรัฐต้องการใช้สนามบินอู่ตะเภา…เป็น Global Transpark ตอบสนองยุทธศาสตร์ของสหรัฐ ในภูมิภาคนี้ …มีข่าวว่า สหรัฐได้ส่งทหารรับจ้าง ที่เป็นทหารผ่านศึกแบบแรมโบ้ …ที่เรียกว่า “แบล็ควอเตอร์” ประมาณ 5-6 ชุดมาประจำอยู่ในไทย …โดยแต่ละคนได้รับค่าจ้างปีละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ …เบี้ยเลี้ยงต่างหาก …เพื่อใช้ในการปฏิบัติการลับ (Covert Action) ตามนโยบายของสหรัฐ …ซึ่งอเมริกาถนัดในเรื่องพวกนี้มาก …และประสบความสำเร็จในละตินอเมริกามาแล้ว

    ~ อันตรายที่เกิดขึ้น…ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนั้น……เป็นเรื่องจริง…และหนักหนา ……ชาติและสถาบัน……กำลังเสี่ยงอันตรายอย่างคาดไม่ถึง ……สิ่งที่เห็นทั้งในไทยและในต่างประเทศ…เป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” ที่โผล่เหนือน้ำเพียง 1 ส่วน แต่อีก 9 ส่วนอยู่ใต้น้ำ

    ~ บทความนี้……ไม่ต้องการให้คนไทย…ไปต่อต้านสหรัฐ …เพียงแต่ขอให้เพื่อนคนไทย…อย่าปล่อยให้คนมาทำร้ายประเทศชาติ…และราชบัลลังก์เท่านั้น …ปัญหาของประเทศไทย…ต้องแก้ด้วยคนไทยเป็นหลัก …เราต้องช่วยกันเป็นปราการด่านสุดท้าย……ในการปกป้องชาติและราชบัลลังก์ ……ให้ต่างชาติได้ตระหนักว่า ……สถาบันสูงสุดยังสู้ ……และคนไทยพร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสถาบันสำคัญยิ่งของชาติ
    ขอบคุณเจ้าของภาพบทความและคนโพสครับ

    ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์
    อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    ~เปิดลับ การบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัติร์ย์ ตั้งแต่ปี2550เป็นต้นมา ================== ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ================================= นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา การบ่อนทำลายสถาบันสูงสุด…เกิดขึ้นมากผิดปกติ …มีการเปิดเผย… ไม่เกรงกลัว…โดย กลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์…ไม่เพียงเคลื่อนไหวในประเทศเท่านั้น …แต่ยังไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ …โดยเฉพาะในสหรัฐ ~ ด้วยการป้อนชุดข้อมูล…ที่ดูเหมือนจริง…แต่เป็นความเท็จ …ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของนักล็อบบี้…จากสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียง…และบริษัทประชาสัมพันธ์ …ที่ถูกใครบางคนจ้างไว้ 3 บริษัท บริษัทละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 30.3 ล้านบาท) ~ เพื่อไปล็อบบี้…สมาชิกรัฐสภา…และรัฐบาลอเมริกัน…เพื่อผลทางการเมืองของตน… อย่างไรก็ดี …ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น… คือ เกิดกระแสต่อต้านสถาบันกษัตริย์ในหมู่นักการเมืองอเมริกันมากขึ้น…อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ~ ฝ่ายที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทยในสหรัฐ…ทวีความเข้มแข็งมากขึ้น… มีการสร้างเว็บไซต์ในรูปแบบหลากหลาย …เขียนบทความภาษาต่างๆ… ซึ่งส่วนใหญ่มาจากข้อเขียนของคนอเมริกัน 2 คน คนหนึ่ง…คือ - เจ.เค. แห่งคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ (Council on Foreign Relations) อันทรงอิทธิพลในสหรัฐ ที่ เจ.เค. ได้เขียนบทความ…โจมตีสถาบันกษัตริย์ และยกย่องเชิดชูฝ่ายตรงข้ามสถาบันกษัตริย์ว่า เป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" สลับกันมาหลายปีแล้ว - อีกคนหนึ่ง คือ เอ.เอ็ม.เอ็ม. ที่ยอมรับว่า… ได้รับการว่าจ้าง…ให้มาทำงานด้านนี้ และ…เป็นคนที่นำเอาคดีของ โจ กอร์ดอน และ อำพล ตั้งนพกุล หรือ “อากง” มาเขียนโจมตี ม.112 …เพื่อให้พาดพิงไปถึงพระมหากษัตริย์ไทย ในรัชกาลที่ 9 ~ในความเป็นจริง… คนพวกนี้…ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย… แต่ได้รับข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ชาวไทย…สายสาธารณรัฐ…ที่คนไทยรู้จักดี ~ ในกลางปี 2556 …นักล็อบบี้พวกนี้…วางแผนผลักดันให้มีการอภิปรายเชิงวิชาการ…ในที่ประชุมประจำปี…ของสมาคมเอเชียศึกษา (Association of Asian Studies)… ซึ่งมีคนไทย…ที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์…มีอิทธิพลอยู่ ~ การอภิปรายดังกล่าว…มีเป้าหมาย…มุ่งโจมตีสถาบันกษัตริย์ไทย…ในรัชกาลที่ 9 เป็นการเฉพาะ …รวมทั้ง…มีแผนตีพิมพ์หนังสืออีกเล่มหนึ่ง…โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐ ……ที่ผู้เขียนอ้างหลักฐาน…จากห้องสมุดมหาวิทยาลัย ……รัฐสภาของสหรัฐ ……ที่ดูเผินๆ แล้วน่าเชื่อถือ …หรือเลือกเฉพาะส่วนที่สนับสนุนความคิดของตน…… เพื่อหาทางทำลายความเชื่อถือพระมหากษัตริย์ไทยในรัชกาลที่ 9 ~ ก่อนหน้านี้…เมื่อปี 2554 …ในวาระครบ 7 รอบ 84 พรรษา…ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 …นักล็อบบี้อเมริกัน…ได้ส่งชุดข้อมูล…ที่ปั้นแต่งขึ้น…จนทำให้สมาชิกสภาสหรัฐหลงเชื่อ ~ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ…พยายามหลีกเลี่ยง…ไม่ส่งหนังสือถวายพระพร…ตามที่เคยปฏิบัติมา …จนสภาสูง…ต้องส่งหนังสือถวายพระพรแทน ……สะท้อนให้เห็นว่า…… นักล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน……ทำงานให้กับนายจ้างคนไทยที่ไม่ชอบสถาบันกษัตริย์อย่างได้ผล ……ทำให้รัฐสภาชุดก่อนเข้าใจผิด …และต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทย… ตกทอดมาถึงสภาใหม่ชุดที่ 113 ในปัจจุบัน ~ ไม่เพียงแต่เท่านั้น …สถาบันบางแห่งของสหรัฐ …เช่น กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National Endowment for Democracy) ยังจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐ……คิดเป็นเงินไทยกว่า 1,500 ล้านบาท และ…อีกโครงการเป็นเงิน 200-300 ล้านบาท ……ให้กับกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ …ตามที่กลุ่มพวกนี้ร้องขอมา ~ โดยอ้างว่า…เพื่อนำไปใช้ในการให้ความรู้ประชาชนในการพัฒนาประชาธิไตย แต่…กลับนำไปสร้างสื่อและเว็บไซต์ ปลุกระดม โฆษณาชวนเชื่อให้คนไทยบางกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะ เป็นสถาบันที่มีสิทธิเหนือประชาชน ~ นักล็อบบี้เหล่านี้…ได้สร้างข้อมูลขึ้นมาชุดหนึ่ง…หรือหลายชุด ……และไปเคลื่อนไหวชักจูง… ชี้นำ… โน้มน้าว…ให้สมาชิกรัฐสภา และสถาบันอื่นของสหรัฐ เชื่อในวาทะกรรมที่ว่า ~ สถาบันสูงสุดของไทย หรือ สถาบันกษัตริย์นั้น…เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ……สถาบันกษัตริย์ไทย…ทำลายสิทธิมนุษยชน …อ้างว่า…ปัญหาของเมืองไทย……ไม่ใช่เรื่องการเมือง…… แต่เป็นปัญหาการสืบราชสมบัติ ……ที่กษัตริย์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาน……เพื่อจะเสนอให้ใครบางคนเป็น “ทางออก” ของชาติ (จากการเลือกตั้ง เพื่อเป็นประมุขของรัฐ หรือ เป็นประธานาธิบดี นั่นเอง) ~ พวกนี้…พยายามป้อนข้อมูล…ให้รัฐสภาอเมริกันเชื่อว่า “สถาบันไม่สู้แล้ว” เพราะ…ถ้าสถาบันไม่สู้ …สหรัฐก็ไม่มีทางเป็นอื่น…นอกจากจะยืนข้างฝ่ายประชาธิปไตย…ที่อยู่ตรงข้ามกับสถาบันกษัตริย์… และเป็นการส่งสัญญานไปยังประเทศ…ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น รวมทั้งจีน…ที่สนับสนุนสถาบันสูงสุด ตลอดมา …หากสหรัฐ…และประเทศเหล่านี้…สรุปว่า ฝ่ายสถาบันกษัตริย์แพ้แน่ …สหรัฐและประเทศเหล่านี้…ซึ่งคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศเขาเป็นสำคัญ…ก็ต้องเข้าข้างฝ่ายชนะ ที่ถือเป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" ~ อย่างไรก็ดี …ฝ่ายสถาบันกษัตริย์…ส่งสัญญาน…มาหลายครั้งแล้วว่า “ยังสู้” และ “ไม่ยอมแพ้” โดยเฉพาะ…ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555 ที่ประชาชนชาวไทย…ได้ไปชุมนุมที่ลานพระบรมรูปฯ อย่างมืดฟ้ามัวดิน…เพื่อเข้าเฝ้าถวายพระพร …สะท้อนให้เห็นว่า …ประชาชนพร้อมที่จะสู้เคียงข้าง แม้จะปรากฏ “แรงเฉื่อย” ในสถาบันทหาร และ รัฐบาลในยุคนั้นก็ตาม จึงมีแต่ประชาชนเท่านั้น…ที่จะเป็นกำแพงป้องกันสถาบันสูงสุดของประเทศ……ให้พ้นจากการคุกคามจากฝ่ายบ่อนทำลายในและนอกประเทศได้ ~ รัฐบาลชุดก่อน…เคยให้ทุนมหาวิทยาลัยดังในอเมริกา …อาทิ คอร์แนล วิสคอนซิน เพนซิลเวเนีย ยูซีแอลเอ. จอห์น ฮอพกินส์ วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อสร้าง “ศูนย์ไทยศึกษา” และ “เพื่อนประเทศไทย” เพื่อให้เข้าใจสถาบันกษัตริย์ของไทย แต่…ปรากฏว่า ……ศูนย์เหล่านี้……กลายเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่การต่อต้านสถาบันสูงสุดไปหมด ……และอาจขยายเครือข่ายกว้างขวางมากขึ้น…… ไปยังออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปอีกด้วย ~ ไทยถูกคุกคาม…ด้วยสงครามยุคใหม่ …ทั้งสงครามอสมมาตร (Asymmetric Warfare) เช่น การก่อความรุนแรงช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 และ…สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงครามทุน และ สงครามไซเบอร์ …สงครามทั้งสามนี้…มีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐ …แต่มีสนามรบอยู่ทั่วโลก ~ ในไทย สหรัฐต้องการใช้สนามบินอู่ตะเภา…เป็น Global Transpark ตอบสนองยุทธศาสตร์ของสหรัฐ ในภูมิภาคนี้ …มีข่าวว่า สหรัฐได้ส่งทหารรับจ้าง ที่เป็นทหารผ่านศึกแบบแรมโบ้ …ที่เรียกว่า “แบล็ควอเตอร์” ประมาณ 5-6 ชุดมาประจำอยู่ในไทย …โดยแต่ละคนได้รับค่าจ้างปีละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ …เบี้ยเลี้ยงต่างหาก …เพื่อใช้ในการปฏิบัติการลับ (Covert Action) ตามนโยบายของสหรัฐ …ซึ่งอเมริกาถนัดในเรื่องพวกนี้มาก …และประสบความสำเร็จในละตินอเมริกามาแล้ว ~ อันตรายที่เกิดขึ้น…ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนั้น……เป็นเรื่องจริง…และหนักหนา ……ชาติและสถาบัน……กำลังเสี่ยงอันตรายอย่างคาดไม่ถึง ……สิ่งที่เห็นทั้งในไทยและในต่างประเทศ…เป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” ที่โผล่เหนือน้ำเพียง 1 ส่วน แต่อีก 9 ส่วนอยู่ใต้น้ำ ~ บทความนี้……ไม่ต้องการให้คนไทย…ไปต่อต้านสหรัฐ …เพียงแต่ขอให้เพื่อนคนไทย…อย่าปล่อยให้คนมาทำร้ายประเทศชาติ…และราชบัลลังก์เท่านั้น …ปัญหาของประเทศไทย…ต้องแก้ด้วยคนไทยเป็นหลัก …เราต้องช่วยกันเป็นปราการด่านสุดท้าย……ในการปกป้องชาติและราชบัลลังก์ ……ให้ต่างชาติได้ตระหนักว่า ……สถาบันสูงสุดยังสู้ ……และคนไทยพร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสถาบันสำคัญยิ่งของชาติ ขอบคุณเจ้าของภาพบทความและคนโพสครับ ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    0 Comments 0 Shares 295 Views 0 Reviews
  • “เมื่อมือใหม่อ่าน Tutorial จากนักพัฒนา — ความจริงที่นักเขียนโค้ดควรรู้ก่อนสอนคนอื่น”

    บล็อกโพสต์จาก Annie Mueller ได้เปิดเผยมุมมองที่น่าสนใจและจริงใจจากผู้ใช้ที่ไม่ใช่นักพัฒนา แต่พยายามทำตาม tutorial ที่นักพัฒนาเขียนไว้ โดยเนื้อหานี้ไม่ได้เน้นเทคนิค แต่สะท้อนถึงช่องว่างระหว่าง “คนเขียน” กับ “คนอ่าน” ที่มักถูกมองข้าม

    Annie เล่าประสบการณ์การอ่าน tutorial ที่เต็มไปด้วยศัพท์เฉพาะ เช่น “Hoobijag”, “jabbernocks”, “Snarfus”, “chronostatiomatrix” ซึ่งแม้จะเป็นการล้อเลียน แต่สะท้อนความรู้สึกของมือใหม่ที่ต้องเผชิญกับคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ และขั้นตอนที่ดูเหมือนง่ายสำหรับนักพัฒนา แต่กลับใช้เวลาเป็นชั่วโมงสำหรับผู้เริ่มต้น

    เธอพยายามทำตามขั้นตอนที่ดูเหมือนจะ “ตรงไปตรงมา” เช่น การเปิด terminal แล้วพิมพ์คำสั่งที่ดูเหมือนหลุดมาจากโลกไซไฟ และการตามหาไฟล์ในโฟลเดอร์ที่ชื่อว่า “library/library/library/liiiiiibrarrrary” ซึ่งเป็นการเสียดสีถึงความซับซ้อนของโครงสร้างไฟล์ในระบบจริง

    แม้จะงงและเกือบถอดใจ แต่ Annie ก็ยังพยายามต่อจนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่เรียกว่า “Boop!” ซึ่งเป็นจุดที่ทุกอย่างเริ่มทำงานได้จริง และเธอรู้สึกถึงความสำเร็จ แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมดก็ตาม

    บทความนี้จึงเป็นเสียงสะท้อนถึงนักพัฒนาทุกคนว่า การเขียน tutorial ไม่ใช่แค่การสื่อสารขั้นตอน แต่คือการเข้าใจผู้อ่านที่อาจไม่มีพื้นฐานเลย และการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น คำอธิบายที่ชัดเจน โครงสร้างที่เป็นมิตร และการลดศัพท์เฉพาะ อาจเป็นสิ่งที่ทำให้คนหนึ่งคน “ไม่ถอดใจ” และเดินต่อในเส้นทางการเรียนรู้

    ข้อมูลสำคัญจากบทความ
    ผู้เขียนเป็นมือใหม่ที่พยายามทำตาม tutorial จากนักพัฒนา
    เนื้อหาสะท้อนถึงความยากในการเข้าใจคำศัพท์และขั้นตอนที่ดูง่ายแต่ซับซ้อน
    ตัวอย่างเช่นการพิมพ์คำสั่งใน terminal และการตามหาไฟล์ในโฟลเดอร์ลึก
    จุด “Boop!” คือช่วงที่ระบบเริ่มทำงานได้จริง และผู้เขียนรู้สึกถึงความสำเร็จ

    มุมมองที่นักพัฒนาควรรับรู้
    Tutorial ที่ดีควรเขียนโดยคำนึงถึงผู้อ่านที่ไม่มีพื้นฐาน
    การใช้ศัพท์เฉพาะมากเกินไปอาจทำให้ผู้อ่านสับสนและถอดใจ
    การอธิบายขั้นตอนอย่างละเอียดและเป็นมิตรช่วยให้มือใหม่เรียนรู้ได้ดีขึ้น
    การใส่ความเข้าใจและความเห็นใจในเนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    หลายโครงการโอเพ่นซอร์สเริ่มมีแนวทาง “Beginner First” ในการเขียนเอกสาร
    การใช้ภาพประกอบและตัวอย่างจริงช่วยให้ tutorial เข้าถึงง่ายขึ้น
    Stack Overflow และ GitHub Discussions เป็นแหล่งช่วยเหลือที่มือใหม่ใช้บ่อย
    การเรียนรู้ผ่านความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา แต่ควรมีคำแนะนำที่ชัดเจน

    https://anniemueller.com/posts/how-i-a-non-developer-read-the-tutorial-you-a-developer-wrote-for-me-a-beginner
    🧩 “เมื่อมือใหม่อ่าน Tutorial จากนักพัฒนา — ความจริงที่นักเขียนโค้ดควรรู้ก่อนสอนคนอื่น” บล็อกโพสต์จาก Annie Mueller ได้เปิดเผยมุมมองที่น่าสนใจและจริงใจจากผู้ใช้ที่ไม่ใช่นักพัฒนา แต่พยายามทำตาม tutorial ที่นักพัฒนาเขียนไว้ โดยเนื้อหานี้ไม่ได้เน้นเทคนิค แต่สะท้อนถึงช่องว่างระหว่าง “คนเขียน” กับ “คนอ่าน” ที่มักถูกมองข้าม Annie เล่าประสบการณ์การอ่าน tutorial ที่เต็มไปด้วยศัพท์เฉพาะ เช่น “Hoobijag”, “jabbernocks”, “Snarfus”, “chronostatiomatrix” ซึ่งแม้จะเป็นการล้อเลียน แต่สะท้อนความรู้สึกของมือใหม่ที่ต้องเผชิญกับคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจ และขั้นตอนที่ดูเหมือนง่ายสำหรับนักพัฒนา แต่กลับใช้เวลาเป็นชั่วโมงสำหรับผู้เริ่มต้น เธอพยายามทำตามขั้นตอนที่ดูเหมือนจะ “ตรงไปตรงมา” เช่น การเปิด terminal แล้วพิมพ์คำสั่งที่ดูเหมือนหลุดมาจากโลกไซไฟ และการตามหาไฟล์ในโฟลเดอร์ที่ชื่อว่า “library/library/library/liiiiiibrarrrary” ซึ่งเป็นการเสียดสีถึงความซับซ้อนของโครงสร้างไฟล์ในระบบจริง แม้จะงงและเกือบถอดใจ แต่ Annie ก็ยังพยายามต่อจนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่เรียกว่า “Boop!” ซึ่งเป็นจุดที่ทุกอย่างเริ่มทำงานได้จริง และเธอรู้สึกถึงความสำเร็จ แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมดก็ตาม บทความนี้จึงเป็นเสียงสะท้อนถึงนักพัฒนาทุกคนว่า การเขียน tutorial ไม่ใช่แค่การสื่อสารขั้นตอน แต่คือการเข้าใจผู้อ่านที่อาจไม่มีพื้นฐานเลย และการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น คำอธิบายที่ชัดเจน โครงสร้างที่เป็นมิตร และการลดศัพท์เฉพาะ อาจเป็นสิ่งที่ทำให้คนหนึ่งคน “ไม่ถอดใจ” และเดินต่อในเส้นทางการเรียนรู้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากบทความ ➡️ ผู้เขียนเป็นมือใหม่ที่พยายามทำตาม tutorial จากนักพัฒนา ➡️ เนื้อหาสะท้อนถึงความยากในการเข้าใจคำศัพท์และขั้นตอนที่ดูง่ายแต่ซับซ้อน ➡️ ตัวอย่างเช่นการพิมพ์คำสั่งใน terminal และการตามหาไฟล์ในโฟลเดอร์ลึก ➡️ จุด “Boop!” คือช่วงที่ระบบเริ่มทำงานได้จริง และผู้เขียนรู้สึกถึงความสำเร็จ ✅ มุมมองที่นักพัฒนาควรรับรู้ ➡️ Tutorial ที่ดีควรเขียนโดยคำนึงถึงผู้อ่านที่ไม่มีพื้นฐาน ➡️ การใช้ศัพท์เฉพาะมากเกินไปอาจทำให้ผู้อ่านสับสนและถอดใจ ➡️ การอธิบายขั้นตอนอย่างละเอียดและเป็นมิตรช่วยให้มือใหม่เรียนรู้ได้ดีขึ้น ➡️ การใส่ความเข้าใจและความเห็นใจในเนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ หลายโครงการโอเพ่นซอร์สเริ่มมีแนวทาง “Beginner First” ในการเขียนเอกสาร ➡️ การใช้ภาพประกอบและตัวอย่างจริงช่วยให้ tutorial เข้าถึงง่ายขึ้น ➡️ Stack Overflow และ GitHub Discussions เป็นแหล่งช่วยเหลือที่มือใหม่ใช้บ่อย ➡️ การเรียนรู้ผ่านความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา แต่ควรมีคำแนะนำที่ชัดเจน https://anniemueller.com/posts/how-i-a-non-developer-read-the-tutorial-you-a-developer-wrote-for-me-a-beginner
    ANNIEMUELLER.COM
    How I, a non-developer, read the tutorial you, a developer, wrote for me, a beginner - annie's blog
    “Hello! I am a developer. Here is my relevant experience: I code in Hoobijag and sometimes jabbernocks and of course ABCDE++++ (but never ABCDE+/^+ are you kidding? ha!) and I like working with Shoobababoo and occasionally kleptomitrons. I’ve gotten to work for Company1 doing Shoobaboo-ing code things and that’s what led me to the Snarfus. So, let’s dive in!
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • เรื่อง บันทึกวันฉลอง
    “บันทึกวันฉลอง”
    เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันฉลองประกาศอิสรภาพ ( จากการเป็นลูกกระเป๋งของอังกฤษ) ของประเทศที่ประกาศตัว เป็นผู้นำโลกหมายเลขหนึ่ง เป็นจักรวรรดิยุคใหม่ เรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญของโลกเชียวนะ ผมจะไม่เขียนอะไรถึง ในฐานะคนใกล้ชิด ติดตามเขียนถึงเกือบทุกวัน มันจะดูใจจืดไป แต่บังเอิญยังไม่มีเวลา ช้าไปหน่อยคงไม่เป็นไร ให้คุณนายกุ้งแห้งพักให้หายเหนื่อยจากการรับแขก บรรดาเพื่อนรัก ร่วมนิสัย ร่วมสันดาน ที่คุณนายเชิญมางานฉลองก่อน ท่านใดที่ไม่ได้รับเชิญ ผมว่าน่าจะเป็นโชคดี ที่ไม่ต้องไปยืนทำหน้าปูเลี่ยนใส่กัน ส่วนมันจะเป็นการสำแดงอะไรในการเชิญ ไม่เชิญ ประเทศที่มีอารยะธรรม วัฒนธรรม สืบทอดย้อนไปได้เป็นพันปีอย่างเรา ย่อมมองออก และ รอเวลา ดำเนินการที่เหมาะสม
    ในฐานะคนใกล้ชิด ผมมองจักรวรรดิอเมริกาอย่างไร ขอถือโอกาสขยายบันทึกต่อไปนี้ เป็นการสดุดีในวันฉลอง
    ชื่อ: ตามใบเกิดใช้ชื่อว่า สหรัฐอเมริกา มี ชื่อ เล่น ว่า ไอ้กัน หรือ เมกา
นอกจากนี้ ยังมีชื่อ ที่ถูกเรียกบ่อยตามความประพฤติ ว่า Ugly America และยังมีชื่อ ที่บางคน บางพวก เรียก ด้วยความเอียน ว่า จิ๊กโก๋ปากซอย (ตามพฤติกรรมเทียบเคียงอีกเช่นกัน)
    นามแฝง: นักล่า (น่าจะมีรูปถ่ายแบบ หน้าตรง และหน้าข้างประกอบ แต่ทำไม่เป็นครับ)
    อุปนิสัยเด่น: เหมือนคนที่โตแต่ตัว แต่ไม่มีวุฒิภาวะ ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า โตแต่ตัว สมองเท่าเม็ดถัวเขียว แยกแยะดีชั่วไม่ออก เรื่องควรทำไม่ทำ เรื่องไม่ควรทำ ดันทำ ถ้ามีวุฒิภาวะ ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ สมดังที่เขาเรียกว่าพี่เบิ้ม โลกคงไม่วุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่
อีกนิสัยที่โดดเด่นคือ เป็นมิตรเฉพาะกับผู้ที่ตนได้ประโยชน์ เมื่อหมดประโยชน์ ก็สามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้ขาดกับมิตร รวมไปถึงการ กำจัด และ ทำลาย โดยไม่มีเหนียมอาย ถ้าเป็นบุคคล ก็เรียกว่า เป็นประเภทเพื่อนกิน เออ มันก็เป็นเพื่อนกินจริงๆแหละ กินแบบตะกรามเสียด้วย
    (เข้าใจว่า ไม่เคยอ่านหนังสือกำลังภายใน ที่โด่งดัง อยู่อีกฝั่งของโลก จึงไม่รู้จัก คำสอนที่หนังสือกำลังภายในพวกนี้ เขียนไว้เป็นอุทาหรณ์เสมอว่า บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ คงมีพวกลูกหาบคุยให้ฟัง แต่จับความได้แค่ ท่อนหลัง คนอื่น เขาก็จำท่อนหลังได้เหมือนกันนะ)
    สันดาน: กร่าง อวดดี ชอบข่มขู่ ทั้งทางกิริยา วาจา และอาวุธ และยังมีสันดานที่ถ้าเป็นบุคคล เขาก็เรียกว่าเป็นประเภท มือถือสากปากถือศีล ตัวเองทำได้ ห้ามใครด่า แต่ถ้าคนอื่นทำบ้าง ไม่ใช่แค่ด่า มันทั้งประณาม และคว่ำบาตรเป็นการแถม ถ้ายังไม่สาแก่ใจ พร้อมที่จะยกทัพกรีฑา ไปบดขยี้
    อาณาเขตประเทศ: ขณะนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 9.83 ล้าน ตารางกิโลเมตร กว้างใหญ่มากกกก แต่ยังใหญไม่พอ จึงมีความต้ังใจ ว่า จะครอบครองโลกใบนี้ทั้งใบให้ได้ ถ้ามีโลกมากกว่า 1 ก็คงหวังจะครองทั้งหมดด้วย นี่ก็ได้ข่าวว่า จะเปฺิดให้ตีตั๋วจองไปท่องเที่ยวดาวอังคาร และมีแผนจะไปอมดวงจันทร์ ทำตัวดั่งเป็นพระราหู ถ้าจะเจ๋งจริง ต้องอมดวงอาทิตย์ด้วยนะ ดูๆไปแล้วเหมือนเป็นคนขี้โม้ ถ้าเป็นบุคคล น่าจะเข้าข่ายดาวพุธเสีย ปากหาเรื่อง พูดจาหาความจริงได้ยาก ถึงเดี๋ยวนี้ยังมีคนไม่เช่ือเรื่องไปดวงจันทร์
เม้นท์มาถามลุงนิทาน ว่า ตกลงเมกาไปดวงจันทร์จริงหรือเปล่าคับ เล่นเอาลุงนิทาน อึ้งไป ตอบไม่ได้เหมือนกันหลานเอ๋ย
    พลเมือง: ของแท้ดั้งเดิมเรียกว่า อินเดียนแดง แต่พวกที่มาไล่ล่าฆ่า อินเดียนแดง และแย่งถิ่นที่อยู่เขาไปและเรียกตัวเองว่าคนอเมริกัน นั้น มีสาระพัดสายพันธ์ และสาระพัดสีผิว แต่ก็มีคนพยายามที่จะคัดสายพันธ์ใหม่ เอาสีเข้มๆออกไป สงสัยไม่ถูกโฉลก ให้เหลือแต่ผิวสีขาว และผมทอง แต่เท่าที่สังเกตดู แผนนี้ไม่น่าสำเร็จ แต่ไอ้ชั่วจอมโหดยังไม่ล้มเลิกแผน ใช้ทั้งวิธีคุม วิธีตอน ทั้งอาหาร ทั้งยา และเขื้อโรคเหลืออย่างเดียว อย่าให้พูดต่อเลย เสียวน่ะ
    ผู้นำประเทศ: เรียกว่า ประธานาธิบดี มาจากการเลือกต้ัง ที่ไม่จำกัดอาชีวะ
ดังนั้น ผู้นำประเทศ จึงมีต้ังแต่ นักคิด นักรบ นักรัก นักเลง นักแสดง คนขายของ ขายถั่ว ขายน้ำมัน เป็นต้น แต่คนปัจจุบัน ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แม้แต่สื่อนอก พวกกันเองยังด่าขรม จะว่าเป็นนักพูด ก็ไม่เชิงเพราะพูดจา ไม่เอาเหนียง ซ้ำชาก แถมพักหลังนี่ เลอะเทอะชอบกล ไม่อยากวิจารณ์มาก เอาว่า คงกำลังดวงตก
    ระบอบการปกครอง: อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีข้อมูลมากมาย บอกว่า ไม่จริงหรอก
ประชาธิปไตยบ้าบออะไร มันเป็นเป็นเผด็จการทุนนิยมต่างหาก ซึ่งกำกับ สับโขก ดูแลโดยนายทุนข้ามชาติที่เป็นเจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ หลายโรง
    พรรคการเมือง: มี 2 พรรคผูกขาด แต่ พรรคไหนชนะ ก็ไม่มีความหมาย เพราะการเลือกต้ัง มีเพื่อเป็นการฝึกพูด ฝึกหาเสียง ฝึกประท้วง สร้างการจ้างงาน กระจายรายได้ แถมให้สื่อยักษ์ มีงานทำ เพราะ เจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ เป็นเจ้าของสื่อ และ เป็นเจ้าของนักการเมือง ทั้ง 2 พรรค ที่สำคัญ เป็นการทดสอบ การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของระบอบการปกครอง
    สินค้าออกสำคัญ บัญชี 1: ทุนนิยมเสรี ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ น่าจะเป็นของปลอมเกือบทั้งหมด เพราะ บรรดาผู้นำเข้าสินค้า ไม่ว่าจะสมัครใจ เพราะเคลิ้มตามโฆษณาชวนเชื่อ หรือถูกบังคับให้นำเข้าไปใช้ ก็ตาม แต่ปรากฏผล ไม่น่าพอใจ เหมือนกัน คือ ฉ ห กันถ้วนหน้า แต่ไม่รู้จะไปร้องเรียนกับใคร ได้แต่ก้มหน้ามองหัวแม่เท้าทุกวัน ที่แย่ไปกว่านั้น คือ พวกที่ ฉ ห มีกว่าครึ่งที่ยังไม่รู้ตัวว่า ฉ ห เพราะอะไร โถ โถ)
    สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 2: แนวทางการศึกษา และ ความคิดทางวิชาการ
(หมายเหตุ: สินค้่าส่งออกบัญชีนี้ มีส่วนสัมพันธ์กับบัญชี 1 เมื่อใดที่ การส่งออกบัญชีนี้ลดลง หรือไม่ได้ผล การส่งออกตามบัญชี 1 จะลดลง ตามไปด้วย แต่คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นสินค้า ที่ส่งออกมาเป็นเวลานาน ฝังรากลงลึก และมีผู้คนหลายประเภท ติดกับ นอนสบาย พุงปลิ้น อยู่ในคอก มันคงฉุดให้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากคอกยากหน่อย แต่ไม่มีอะไรคงทนถาวรตลอดกาล เป็นหลักสัจธรรม คอยดูกันไป)
    สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 3: วัฒนธรรมอเมริกา ผ่าน การบันเทิง และสื่อทุกประเภท
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ มีผู้สนใจมาก แม้จะเน่าเละแค่ไหน แต่ผู้ใช้เสพติดกันมาก ถือเป็นความสำเร็จ แท้จริงของการส่งออก หนังหลายเรื่องสนุกดีครับ ลุงนิทานก็ชอบดู โกหกได้เก่งจัง แต่ให้เลิกดูก็ไม่ถึงกับลงแเดง)
    สินค้านำเข้าสำคัญ: หมายถึงสินค้า ที่เป็นที่ต้องการอย่างที่สุด โดยการเป็นเจ้าของ หรือครอบครอง ไม่ว่าโดยวิธีการใด
อันดับ 1 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 2 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 3 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
    นโยบายต่างประเทศ: ดู ภาพ ประกอบ us foreign policy flow chart
    มิตรประเทศ: ประเทศที่มีพลังงาน และ แร่ธาตุ (หลอกล่อให้คบ แล้ว ขะโมยของเขาได้)
    ประเทศที่ไม่เป็นมิตร: ประเทศที่มีพลังงาน และแร่ธาตุ (เขาไม่คบด้วย และยังขะโมยของเขาไม่ได้)
    ประเทศลูกพี่: อังกฤษ (ถึงจะประกาศอิสรภาพต้ังหลายร้อยปี จนจัดงานฉลองหลอกตัวเอง แต่อิสระ ไม่จริงนี่หว่า แน่จริงตัดขาดให้ดูหน่อย แล้วค่อยทำกร่าง)
    ประเทศที่ถือเป็นก๊วน: อังกฤษ ฝรั่งเศส ( ผลัดกันเล่น ผลัดกันกิน มันไม่ตัดขาดกันจริงหรอก ดูไปก็แล้วกัน)
    ประเทศลูกน้อง: ทั้งโลก ยกเว้น กลุ่ม BRICS และพวก และ 2 ประเภทข้างต้น
    ประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างถาวร : เกาหลีเหนือ ( เข้าใจว่าเหตุผลสำคัญ คือ ประธานาธิบดีอเมริกาคนปัจจุบัน หน้าไม่รับ กับผมทรงบังคับของเกาหลีเหนือ)
    เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 1: UN, World Bank, IMF, NATO
    เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 2: หน่วยงาน ประเภทสถาบัน มูลนิธิ องค์กรไม่ค้ากำไร (NGO) ที่ให้ทุนการศึกษาทุกระดับ การวิจัย การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน (หน่วยงานพวกนี้ มีความสำคัญมาก เป็นเฟืองสำคัญ ที่ทำให้กลไกเกือบทุกอย่าง ของอเมริกา เดิน โดยแทบจะไม่มีสิ่งใดขวางกั้น เพราะ ไม่รู้ว่าองค์กรเหล่านี้ คือตัวเฟืองสำคัญ และเป็นหน่วยงานสังกัด ฝ่ายความมั่นคง หรือข่าวกรอง พูดง่ายๆ ว่า เป็น พวก CIA ปลอมตัวนั่นแหละ)
    เครื่องมือหากินที่สำคัญ ยังควบคุมไม่ได้หมด แต่พยายามอยู่: EU ( เป็นรายการต้มตุ๋น ลวงโลกของจริง ทั้งต้มกันเอง และ ต้มชาวโลก)
    ผู้แทนประเทศ: ทูต ผู้แทนการค้า นักธุรกิจ ครู อาจารย์ นักวิชาการ นักเขียน นักสอนศาสนา นักท่องเที่ยว สื่อ โดยเฉพาะ พวกที่แฝงตัวคลุกอยู่กับคนท้องถิ่น ตัวดีนักทำได้เนียนมาก พวกนี้เรียกว่า มาปฏิบัติภาระกิจ ( พูดง่ายๆ ว่า เป็นพวก CIA ปลอมตัว อีกเข่นกัน วุ้ย ทำไมมันมากันแยะนัก ไหนว่า แค่อยากได้ตั้กกะแตน ทำไมต้องถึงกับขี่ช้างมา)
    คุณสมบัติของผู้แทนประเทศ: ไม่ใช้วิจารณญาณ ไม่มีมารยาท มีความสามารถในการหาข่าวเชิงลึก มีความรู้และสามารถเรื่องอาวุธและการใช้ ถนัดในการแปลงสาสน์ และใช้กลวิธีการเสี้ยม มากกว่าวิธีทางการทูต การค้า การสอน การเขียน ฯลฯ แล้วแต่กรณี
    หน่วยงานนอกประเทศ ที่ทำหน้าที่สำคัญ: นอกเหนือจาก องค์กรเปิดเผย เช่นสถานทูต หน่วยงานทางทหาร หน่วยงานให้ความช่วยเหลือ เช่น USAID , Chamber of commerce แล้วหน่วยงานเอกชน อีก 3 ประเภท ที่ทำหน้าที่สำคัญ คือ สำนักงานตรวจสอบบัญชีระหว่างประเทศ และ สำนักงานกฏหมายระหว่างประเทศ บริษัทประกันภัยระหว่างประเทศ ซึ่งจะได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจในประเทศเป้าหมาย ส่งกลับไปให้สำนักใหญ่ที่อเมริกา ดังนั้น คุณสมบัติ ของบุคคลากร ที่ส่งไปประจำในสำนักงานเหล่านี้ในหลายประเทศ ทำงานประสานกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานข่าวกรอง ของอเมริกา ( พวก C ปลอมตัว อีกแล้ว นี่ อย่านึกว่าผมพูดเล่น แล้วไม่ใช่เรื่องจริงนะ)
    เครื่องทุ่นแรง: บรรดา “เด็กดี” ทั้งหลายที่อยู่ในท้องถิ่น ที่ อเมริกา สนับสนุน ไม่ว่าโดยการศึกษา หน้าที่การงาน การสนับสนุนทางสังคม ทางการเมือง โดยทางตรง หรือ ทางอ้อม คนเล่านี้ใช้ชีวิต อยู่ในกรอบ หรือคอก ที่อเมริกาสร้างให้อยู่ ทางความคิด เขาเล่าน้ัน มีทุกสาขาอาขีพ ทุกเพศ ทุกวัย มีความเชื่อมั่นว่าอเมริกาเท่าน้ัน คือศิวิไลซ์ และ วิถีทุนนิยมเสรี คือวิถีที่นำความเจริญมาให้ประเทศตนเอง เครื่องทุ่นแรงเหล่านี้ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ที่พาประเทศของตนติดอยู่ในกับดักมากขึ้น แต่ไม่เคยเรียนรู้ ไม่เคยจดจำ จึงเป็นเครื่องทุ่นแรง ที่อเมริกาเสาะแสวงหา เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา มิให้ขาดรุ่น ขาดจำนวน
จุดแข็ง: การใช้สื่อ ทุกรูปแบบ เพื่อฟอกย้อมความคิด ความเห็น ของพวกโลกสวย และจิตอ่อน (เป็นเรื่องน่าสนใจมาก ว่าทำไมถึงว่าง่ายนักหนา กับสื่อฟอก มันบอกอะไรละเชื่อหมด ธรรมะ ของพระพุทธองค์ พระราโชวาท ของพระเจ้าอยู่หัว ทำไมถึง ไม่จดจำ ไม่เขื่อถือ นำไปปฏิบัติบ้าง )
    จุดอ่อน: ออกอาการง่าย เวลามีอารมณ์ เช่น น้ำลายเยิ้มไปหมด เวลา อยากได้ อยากกิน ขอแนะนำว่า ใช้ผ้าเข็ดที่มุมปากแบบผู้ดีบ่อยๆ น่าจะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าทำไม่เป็น คงต้องเข้าไปหลักสูตรฝึกอบรม ความอดกลั้น อันเป็นมารยาทอย่างหนึ่งของผู้ที่เจริญแล้ว
    เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด: เป็นเครื่องมือที่ใช้จารกรรมข้อมูลทั้งสื้น รวมทั้ง เครื่องมือที่ใช้เขียนอยู่นี้ และที่ท่านทั้งหลายกำลังใช้อ่านกัน ฮา
    ชาตะ: วันที่ 4 กรกฎาคม คศ 1767
    มรณะ: มันต้องมีสักวันน่า อาจจะจวนแล้วก็ได้ จักรวรรดิยิ่งใหญ่ทุกราย มีวันล่มสลาย โรมันว่ายิ่งใหญ่จบแบบไหน ยกตัวอย่างไกลไป เอาใกล้สุด จักรภพอังกฤษ ใหญ่ และกร่างขนาดไหน วันนี้เหลือเป็นแค่เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อยข้างซ้าย แถมถูกต่างชาติ โดยเฉพาะพวกที่เคยเป็นขี้ข้า เข้าไปซื้อทรัพย์สินในกรุง จนคนอังกฤษเองต้องย้ายครัว ไปอยู่ชนบทกันหมด ไอ้ที่สะใจ คือต้องไปยืนกุมรับคำสั่ง จากคนที่ตัวเองเคยดูถูกกดขี่ ตอนนี้ยังกัดฟัน ทำซ่า เบ่งขวา ขู่ซ้าย จมไม่ลง
    อเมริกา จงจำไว้เป็นอุทาหรณ์ คุณนายกุ้งแห้ง ควรต้ังใจอ่านบันทึกนี้ ไม่มีใครเขาจะเตือนสติกันตรงๆ อย่างนี้หรอก มีแต่คนป้อยอ ให้หัวทิ่มก้นโด่งทั้งนั้น ท่าน้ันเซลฟี่ลำบากหน่อยนะคุณนาย แล้วอย่าลืมรายงานตรงไปตรงมา ไปยังนายใหญ่ จะให้ดีส่งไปที่ หน่วย CRS ของ Congress ให้ทำหนังสือแปะหน้า ส่งเข้าสภาสูงเลย ว่ามีคนเขาเขียนบันทึกสดุดีเตือนใจไว้อย่างไร กลัวแต่ว่า ไอ้พวกเสมียนที่จ้างไว้ จะไม่มีปัญญาแปลสำนวนลุงนิทานละซี เอาไปให้พี่เจฟฟรี่ แปลก็แล้วกัน ถึงจะเป็นฝรั่งแต่ภาษาไทยเก่งพอตัว ไม่เสียแรงส่งมาฝังตัวใกล้ชิดเสียนานหลายสิบปี
    สวัสดีครับอเมริกา หวังว่าปีหน้ายังมีวันฉลอง !
คนเล่านิทาน
6 กค. 2557
    เรื่อง บันทึกวันฉลอง “บันทึกวันฉลอง” เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันฉลองประกาศอิสรภาพ ( จากการเป็นลูกกระเป๋งของอังกฤษ) ของประเทศที่ประกาศตัว เป็นผู้นำโลกหมายเลขหนึ่ง เป็นจักรวรรดิยุคใหม่ เรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญของโลกเชียวนะ ผมจะไม่เขียนอะไรถึง ในฐานะคนใกล้ชิด ติดตามเขียนถึงเกือบทุกวัน มันจะดูใจจืดไป แต่บังเอิญยังไม่มีเวลา ช้าไปหน่อยคงไม่เป็นไร ให้คุณนายกุ้งแห้งพักให้หายเหนื่อยจากการรับแขก บรรดาเพื่อนรัก ร่วมนิสัย ร่วมสันดาน ที่คุณนายเชิญมางานฉลองก่อน ท่านใดที่ไม่ได้รับเชิญ ผมว่าน่าจะเป็นโชคดี ที่ไม่ต้องไปยืนทำหน้าปูเลี่ยนใส่กัน ส่วนมันจะเป็นการสำแดงอะไรในการเชิญ ไม่เชิญ ประเทศที่มีอารยะธรรม วัฒนธรรม สืบทอดย้อนไปได้เป็นพันปีอย่างเรา ย่อมมองออก และ รอเวลา ดำเนินการที่เหมาะสม ในฐานะคนใกล้ชิด ผมมองจักรวรรดิอเมริกาอย่างไร ขอถือโอกาสขยายบันทึกต่อไปนี้ เป็นการสดุดีในวันฉลอง ชื่อ: ตามใบเกิดใช้ชื่อว่า สหรัฐอเมริกา มี ชื่อ เล่น ว่า ไอ้กัน หรือ เมกา
นอกจากนี้ ยังมีชื่อ ที่ถูกเรียกบ่อยตามความประพฤติ ว่า Ugly America และยังมีชื่อ ที่บางคน บางพวก เรียก ด้วยความเอียน ว่า จิ๊กโก๋ปากซอย (ตามพฤติกรรมเทียบเคียงอีกเช่นกัน) นามแฝง: นักล่า (น่าจะมีรูปถ่ายแบบ หน้าตรง และหน้าข้างประกอบ แต่ทำไม่เป็นครับ) อุปนิสัยเด่น: เหมือนคนที่โตแต่ตัว แต่ไม่มีวุฒิภาวะ ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า โตแต่ตัว สมองเท่าเม็ดถัวเขียว แยกแยะดีชั่วไม่ออก เรื่องควรทำไม่ทำ เรื่องไม่ควรทำ ดันทำ ถ้ามีวุฒิภาวะ ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ สมดังที่เขาเรียกว่าพี่เบิ้ม โลกคงไม่วุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่
อีกนิสัยที่โดดเด่นคือ เป็นมิตรเฉพาะกับผู้ที่ตนได้ประโยชน์ เมื่อหมดประโยชน์ ก็สามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้ขาดกับมิตร รวมไปถึงการ กำจัด และ ทำลาย โดยไม่มีเหนียมอาย ถ้าเป็นบุคคล ก็เรียกว่า เป็นประเภทเพื่อนกิน เออ มันก็เป็นเพื่อนกินจริงๆแหละ กินแบบตะกรามเสียด้วย (เข้าใจว่า ไม่เคยอ่านหนังสือกำลังภายใน ที่โด่งดัง อยู่อีกฝั่งของโลก จึงไม่รู้จัก คำสอนที่หนังสือกำลังภายในพวกนี้ เขียนไว้เป็นอุทาหรณ์เสมอว่า บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ คงมีพวกลูกหาบคุยให้ฟัง แต่จับความได้แค่ ท่อนหลัง คนอื่น เขาก็จำท่อนหลังได้เหมือนกันนะ) สันดาน: กร่าง อวดดี ชอบข่มขู่ ทั้งทางกิริยา วาจา และอาวุธ และยังมีสันดานที่ถ้าเป็นบุคคล เขาก็เรียกว่าเป็นประเภท มือถือสากปากถือศีล ตัวเองทำได้ ห้ามใครด่า แต่ถ้าคนอื่นทำบ้าง ไม่ใช่แค่ด่า มันทั้งประณาม และคว่ำบาตรเป็นการแถม ถ้ายังไม่สาแก่ใจ พร้อมที่จะยกทัพกรีฑา ไปบดขยี้ อาณาเขตประเทศ: ขณะนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 9.83 ล้าน ตารางกิโลเมตร กว้างใหญ่มากกกก แต่ยังใหญไม่พอ จึงมีความต้ังใจ ว่า จะครอบครองโลกใบนี้ทั้งใบให้ได้ ถ้ามีโลกมากกว่า 1 ก็คงหวังจะครองทั้งหมดด้วย นี่ก็ได้ข่าวว่า จะเปฺิดให้ตีตั๋วจองไปท่องเที่ยวดาวอังคาร และมีแผนจะไปอมดวงจันทร์ ทำตัวดั่งเป็นพระราหู ถ้าจะเจ๋งจริง ต้องอมดวงอาทิตย์ด้วยนะ ดูๆไปแล้วเหมือนเป็นคนขี้โม้ ถ้าเป็นบุคคล น่าจะเข้าข่ายดาวพุธเสีย ปากหาเรื่อง พูดจาหาความจริงได้ยาก ถึงเดี๋ยวนี้ยังมีคนไม่เช่ือเรื่องไปดวงจันทร์
เม้นท์มาถามลุงนิทาน ว่า ตกลงเมกาไปดวงจันทร์จริงหรือเปล่าคับ เล่นเอาลุงนิทาน อึ้งไป ตอบไม่ได้เหมือนกันหลานเอ๋ย พลเมือง: ของแท้ดั้งเดิมเรียกว่า อินเดียนแดง แต่พวกที่มาไล่ล่าฆ่า อินเดียนแดง และแย่งถิ่นที่อยู่เขาไปและเรียกตัวเองว่าคนอเมริกัน นั้น มีสาระพัดสายพันธ์ และสาระพัดสีผิว แต่ก็มีคนพยายามที่จะคัดสายพันธ์ใหม่ เอาสีเข้มๆออกไป สงสัยไม่ถูกโฉลก ให้เหลือแต่ผิวสีขาว และผมทอง แต่เท่าที่สังเกตดู แผนนี้ไม่น่าสำเร็จ แต่ไอ้ชั่วจอมโหดยังไม่ล้มเลิกแผน ใช้ทั้งวิธีคุม วิธีตอน ทั้งอาหาร ทั้งยา และเขื้อโรคเหลืออย่างเดียว อย่าให้พูดต่อเลย เสียวน่ะ ผู้นำประเทศ: เรียกว่า ประธานาธิบดี มาจากการเลือกต้ัง ที่ไม่จำกัดอาชีวะ
ดังนั้น ผู้นำประเทศ จึงมีต้ังแต่ นักคิด นักรบ นักรัก นักเลง นักแสดง คนขายของ ขายถั่ว ขายน้ำมัน เป็นต้น แต่คนปัจจุบัน ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แม้แต่สื่อนอก พวกกันเองยังด่าขรม จะว่าเป็นนักพูด ก็ไม่เชิงเพราะพูดจา ไม่เอาเหนียง ซ้ำชาก แถมพักหลังนี่ เลอะเทอะชอบกล ไม่อยากวิจารณ์มาก เอาว่า คงกำลังดวงตก ระบอบการปกครอง: อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีข้อมูลมากมาย บอกว่า ไม่จริงหรอก
ประชาธิปไตยบ้าบออะไร มันเป็นเป็นเผด็จการทุนนิยมต่างหาก ซึ่งกำกับ สับโขก ดูแลโดยนายทุนข้ามชาติที่เป็นเจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ หลายโรง พรรคการเมือง: มี 2 พรรคผูกขาด แต่ พรรคไหนชนะ ก็ไม่มีความหมาย เพราะการเลือกต้ัง มีเพื่อเป็นการฝึกพูด ฝึกหาเสียง ฝึกประท้วง สร้างการจ้างงาน กระจายรายได้ แถมให้สื่อยักษ์ มีงานทำ เพราะ เจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ เป็นเจ้าของสื่อ และ เป็นเจ้าของนักการเมือง ทั้ง 2 พรรค ที่สำคัญ เป็นการทดสอบ การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของระบอบการปกครอง สินค้าออกสำคัญ บัญชี 1: ทุนนิยมเสรี ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ น่าจะเป็นของปลอมเกือบทั้งหมด เพราะ บรรดาผู้นำเข้าสินค้า ไม่ว่าจะสมัครใจ เพราะเคลิ้มตามโฆษณาชวนเชื่อ หรือถูกบังคับให้นำเข้าไปใช้ ก็ตาม แต่ปรากฏผล ไม่น่าพอใจ เหมือนกัน คือ ฉ ห กันถ้วนหน้า แต่ไม่รู้จะไปร้องเรียนกับใคร ได้แต่ก้มหน้ามองหัวแม่เท้าทุกวัน ที่แย่ไปกว่านั้น คือ พวกที่ ฉ ห มีกว่าครึ่งที่ยังไม่รู้ตัวว่า ฉ ห เพราะอะไร โถ โถ) สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 2: แนวทางการศึกษา และ ความคิดทางวิชาการ
(หมายเหตุ: สินค้่าส่งออกบัญชีนี้ มีส่วนสัมพันธ์กับบัญชี 1 เมื่อใดที่ การส่งออกบัญชีนี้ลดลง หรือไม่ได้ผล การส่งออกตามบัญชี 1 จะลดลง ตามไปด้วย แต่คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นสินค้า ที่ส่งออกมาเป็นเวลานาน ฝังรากลงลึก และมีผู้คนหลายประเภท ติดกับ นอนสบาย พุงปลิ้น อยู่ในคอก มันคงฉุดให้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากคอกยากหน่อย แต่ไม่มีอะไรคงทนถาวรตลอดกาล เป็นหลักสัจธรรม คอยดูกันไป) สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 3: วัฒนธรรมอเมริกา ผ่าน การบันเทิง และสื่อทุกประเภท
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ มีผู้สนใจมาก แม้จะเน่าเละแค่ไหน แต่ผู้ใช้เสพติดกันมาก ถือเป็นความสำเร็จ แท้จริงของการส่งออก หนังหลายเรื่องสนุกดีครับ ลุงนิทานก็ชอบดู โกหกได้เก่งจัง แต่ให้เลิกดูก็ไม่ถึงกับลงแเดง) สินค้านำเข้าสำคัญ: หมายถึงสินค้า ที่เป็นที่ต้องการอย่างที่สุด โดยการเป็นเจ้าของ หรือครอบครอง ไม่ว่าโดยวิธีการใด
อันดับ 1 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 2 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 3 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ นโยบายต่างประเทศ: ดู ภาพ ประกอบ us foreign policy flow chart มิตรประเทศ: ประเทศที่มีพลังงาน และ แร่ธาตุ (หลอกล่อให้คบ แล้ว ขะโมยของเขาได้) ประเทศที่ไม่เป็นมิตร: ประเทศที่มีพลังงาน และแร่ธาตุ (เขาไม่คบด้วย และยังขะโมยของเขาไม่ได้) ประเทศลูกพี่: อังกฤษ (ถึงจะประกาศอิสรภาพต้ังหลายร้อยปี จนจัดงานฉลองหลอกตัวเอง แต่อิสระ ไม่จริงนี่หว่า แน่จริงตัดขาดให้ดูหน่อย แล้วค่อยทำกร่าง) ประเทศที่ถือเป็นก๊วน: อังกฤษ ฝรั่งเศส ( ผลัดกันเล่น ผลัดกันกิน มันไม่ตัดขาดกันจริงหรอก ดูไปก็แล้วกัน) ประเทศลูกน้อง: ทั้งโลก ยกเว้น กลุ่ม BRICS และพวก และ 2 ประเภทข้างต้น ประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างถาวร : เกาหลีเหนือ ( เข้าใจว่าเหตุผลสำคัญ คือ ประธานาธิบดีอเมริกาคนปัจจุบัน หน้าไม่รับ กับผมทรงบังคับของเกาหลีเหนือ) เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 1: UN, World Bank, IMF, NATO เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 2: หน่วยงาน ประเภทสถาบัน มูลนิธิ องค์กรไม่ค้ากำไร (NGO) ที่ให้ทุนการศึกษาทุกระดับ การวิจัย การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน (หน่วยงานพวกนี้ มีความสำคัญมาก เป็นเฟืองสำคัญ ที่ทำให้กลไกเกือบทุกอย่าง ของอเมริกา เดิน โดยแทบจะไม่มีสิ่งใดขวางกั้น เพราะ ไม่รู้ว่าองค์กรเหล่านี้ คือตัวเฟืองสำคัญ และเป็นหน่วยงานสังกัด ฝ่ายความมั่นคง หรือข่าวกรอง พูดง่ายๆ ว่า เป็น พวก CIA ปลอมตัวนั่นแหละ) เครื่องมือหากินที่สำคัญ ยังควบคุมไม่ได้หมด แต่พยายามอยู่: EU ( เป็นรายการต้มตุ๋น ลวงโลกของจริง ทั้งต้มกันเอง และ ต้มชาวโลก) ผู้แทนประเทศ: ทูต ผู้แทนการค้า นักธุรกิจ ครู อาจารย์ นักวิชาการ นักเขียน นักสอนศาสนา นักท่องเที่ยว สื่อ โดยเฉพาะ พวกที่แฝงตัวคลุกอยู่กับคนท้องถิ่น ตัวดีนักทำได้เนียนมาก พวกนี้เรียกว่า มาปฏิบัติภาระกิจ ( พูดง่ายๆ ว่า เป็นพวก CIA ปลอมตัว อีกเข่นกัน วุ้ย ทำไมมันมากันแยะนัก ไหนว่า แค่อยากได้ตั้กกะแตน ทำไมต้องถึงกับขี่ช้างมา) คุณสมบัติของผู้แทนประเทศ: ไม่ใช้วิจารณญาณ ไม่มีมารยาท มีความสามารถในการหาข่าวเชิงลึก มีความรู้และสามารถเรื่องอาวุธและการใช้ ถนัดในการแปลงสาสน์ และใช้กลวิธีการเสี้ยม มากกว่าวิธีทางการทูต การค้า การสอน การเขียน ฯลฯ แล้วแต่กรณี หน่วยงานนอกประเทศ ที่ทำหน้าที่สำคัญ: นอกเหนือจาก องค์กรเปิดเผย เช่นสถานทูต หน่วยงานทางทหาร หน่วยงานให้ความช่วยเหลือ เช่น USAID , Chamber of commerce แล้วหน่วยงานเอกชน อีก 3 ประเภท ที่ทำหน้าที่สำคัญ คือ สำนักงานตรวจสอบบัญชีระหว่างประเทศ และ สำนักงานกฏหมายระหว่างประเทศ บริษัทประกันภัยระหว่างประเทศ ซึ่งจะได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจในประเทศเป้าหมาย ส่งกลับไปให้สำนักใหญ่ที่อเมริกา ดังนั้น คุณสมบัติ ของบุคคลากร ที่ส่งไปประจำในสำนักงานเหล่านี้ในหลายประเทศ ทำงานประสานกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานข่าวกรอง ของอเมริกา ( พวก C ปลอมตัว อีกแล้ว นี่ อย่านึกว่าผมพูดเล่น แล้วไม่ใช่เรื่องจริงนะ) เครื่องทุ่นแรง: บรรดา “เด็กดี” ทั้งหลายที่อยู่ในท้องถิ่น ที่ อเมริกา สนับสนุน ไม่ว่าโดยการศึกษา หน้าที่การงาน การสนับสนุนทางสังคม ทางการเมือง โดยทางตรง หรือ ทางอ้อม คนเล่านี้ใช้ชีวิต อยู่ในกรอบ หรือคอก ที่อเมริกาสร้างให้อยู่ ทางความคิด เขาเล่าน้ัน มีทุกสาขาอาขีพ ทุกเพศ ทุกวัย มีความเชื่อมั่นว่าอเมริกาเท่าน้ัน คือศิวิไลซ์ และ วิถีทุนนิยมเสรี คือวิถีที่นำความเจริญมาให้ประเทศตนเอง เครื่องทุ่นแรงเหล่านี้ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ที่พาประเทศของตนติดอยู่ในกับดักมากขึ้น แต่ไม่เคยเรียนรู้ ไม่เคยจดจำ จึงเป็นเครื่องทุ่นแรง ที่อเมริกาเสาะแสวงหา เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา มิให้ขาดรุ่น ขาดจำนวน
จุดแข็ง: การใช้สื่อ ทุกรูปแบบ เพื่อฟอกย้อมความคิด ความเห็น ของพวกโลกสวย และจิตอ่อน (เป็นเรื่องน่าสนใจมาก ว่าทำไมถึงว่าง่ายนักหนา กับสื่อฟอก มันบอกอะไรละเชื่อหมด ธรรมะ ของพระพุทธองค์ พระราโชวาท ของพระเจ้าอยู่หัว ทำไมถึง ไม่จดจำ ไม่เขื่อถือ นำไปปฏิบัติบ้าง ) จุดอ่อน: ออกอาการง่าย เวลามีอารมณ์ เช่น น้ำลายเยิ้มไปหมด เวลา อยากได้ อยากกิน ขอแนะนำว่า ใช้ผ้าเข็ดที่มุมปากแบบผู้ดีบ่อยๆ น่าจะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าทำไม่เป็น คงต้องเข้าไปหลักสูตรฝึกอบรม ความอดกลั้น อันเป็นมารยาทอย่างหนึ่งของผู้ที่เจริญแล้ว เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด: เป็นเครื่องมือที่ใช้จารกรรมข้อมูลทั้งสื้น รวมทั้ง เครื่องมือที่ใช้เขียนอยู่นี้ และที่ท่านทั้งหลายกำลังใช้อ่านกัน ฮา ชาตะ: วันที่ 4 กรกฎาคม คศ 1767 มรณะ: มันต้องมีสักวันน่า อาจจะจวนแล้วก็ได้ จักรวรรดิยิ่งใหญ่ทุกราย มีวันล่มสลาย โรมันว่ายิ่งใหญ่จบแบบไหน ยกตัวอย่างไกลไป เอาใกล้สุด จักรภพอังกฤษ ใหญ่ และกร่างขนาดไหน วันนี้เหลือเป็นแค่เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อยข้างซ้าย แถมถูกต่างชาติ โดยเฉพาะพวกที่เคยเป็นขี้ข้า เข้าไปซื้อทรัพย์สินในกรุง จนคนอังกฤษเองต้องย้ายครัว ไปอยู่ชนบทกันหมด ไอ้ที่สะใจ คือต้องไปยืนกุมรับคำสั่ง จากคนที่ตัวเองเคยดูถูกกดขี่ ตอนนี้ยังกัดฟัน ทำซ่า เบ่งขวา ขู่ซ้าย จมไม่ลง อเมริกา จงจำไว้เป็นอุทาหรณ์ คุณนายกุ้งแห้ง ควรต้ังใจอ่านบันทึกนี้ ไม่มีใครเขาจะเตือนสติกันตรงๆ อย่างนี้หรอก มีแต่คนป้อยอ ให้หัวทิ่มก้นโด่งทั้งนั้น ท่าน้ันเซลฟี่ลำบากหน่อยนะคุณนาย แล้วอย่าลืมรายงานตรงไปตรงมา ไปยังนายใหญ่ จะให้ดีส่งไปที่ หน่วย CRS ของ Congress ให้ทำหนังสือแปะหน้า ส่งเข้าสภาสูงเลย ว่ามีคนเขาเขียนบันทึกสดุดีเตือนใจไว้อย่างไร กลัวแต่ว่า ไอ้พวกเสมียนที่จ้างไว้ จะไม่มีปัญญาแปลสำนวนลุงนิทานละซี เอาไปให้พี่เจฟฟรี่ แปลก็แล้วกัน ถึงจะเป็นฝรั่งแต่ภาษาไทยเก่งพอตัว ไม่เสียแรงส่งมาฝังตัวใกล้ชิดเสียนานหลายสิบปี สวัสดีครับอเมริกา หวังว่าปีหน้ายังมีวันฉลอง !
คนเล่านิทาน
6 กค. 2557
    0 Comments 0 Shares 356 Views 0 Reviews
  • พระผงเศียรฤาษีหลังพระพิฆเนศ หลวงปู่หมุน วัดซับลำใย ปี2542
    พระผงเศียรฤาษีหลังพระพิฆเนศ หลวงปู่หมุน วัดซับลำใย ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! บูชาเพื่อความร่มเย็น ขจัดอุปสรรค สำเร็จ ร่ำรวย หลวงปู่หมุนปลุกเสก //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณด้านความสำเร็จในกิจการงาน เมตตามหานิยม มีพลังมหาเสน่ห์ แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตราย เสริมลาภ บารมี อำนาจ และความสุขความร่มเย็นแก่ผู้บูชา ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและการงาน >>

    ** พระผงเศียรฤาษีหลังพระพิฆเนศ หลวงปู่หมุน วัดซับลำใย ปี2542 สำหรับพระพิมพ์นี้ไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไรนัก หลวงปู่หมุนเสกเอาไว้หลายครั้ง ไม่ค่อยมีคนนำมาลงหายากครับ ใครที่นับถือพ่อแก่และพระพิฆเนศองค์นี้ได้เลยหลวงปู่หมุนเสกอีกต่างหากสายวัดซับลำใย >>

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    พระผงเศียรฤาษีหลังพระพิฆเนศ หลวงปู่หมุน วัดซับลำใย ปี2542 พระผงเศียรฤาษีหลังพระพิฆเนศ หลวงปู่หมุน วัดซับลำใย ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! บูชาเพื่อความร่มเย็น ขจัดอุปสรรค สำเร็จ ร่ำรวย หลวงปู่หมุนปลุกเสก //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณด้านความสำเร็จในกิจการงาน เมตตามหานิยม มีพลังมหาเสน่ห์ แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตราย เสริมลาภ บารมี อำนาจ และความสุขความร่มเย็นแก่ผู้บูชา ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและการงาน >> ** พระผงเศียรฤาษีหลังพระพิฆเนศ หลวงปู่หมุน วัดซับลำใย ปี2542 สำหรับพระพิมพ์นี้ไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไรนัก หลวงปู่หมุนเสกเอาไว้หลายครั้ง ไม่ค่อยมีคนนำมาลงหายากครับ ใครที่นับถือพ่อแก่และพระพิฆเนศองค์นี้ได้เลยหลวงปู่หมุนเสกอีกต่างหากสายวัดซับลำใย >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
More Results