• *ถูกสงสาร ใครๆ ก็ทำได้
    แต่ถูกอิจฉา คุณต้องเก่งหน่อย*


    จากหนังสือ |สำเร็จเร็วกว่าที่คิด

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes #ความสำเร็จ
    *ถูกสงสาร ใครๆ ก็ทำได้ แต่ถูกอิจฉา คุณต้องเก่งหน่อย* จากหนังสือ |สำเร็จเร็วกว่าที่คิด #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes #ความสำเร็จ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขิ่น แก้วตา - ธิษะณา ชุณหะวัณ (เธอเป็นลูกของ ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ และ เป็นหลานของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ) แห่งพรรคประชาชน(พม่า) กำลังช่วยกลุ่มอองซานซูจี และกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา เพื่อหวังผลคะแนนเสียงเพิ่มอีก ๖-๑๒ ล้านเสียงในระยะยาว คล้ายๆกันกับโพสต์ของ อีลอน มัสค์ เลยหรือไม่? (ตามข้อมูลจากโพสต์ของ อีลอน มัสค์ ด้านล่าง)

    ถ้าพรรคส้มล้มเจ้ายังคงมีคะแนนเสียงถล่มทลายเดิม ๑๖ ล้านเสียงเช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา รวมกับคะแนนเสียงกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มอีก ๖-๑๒ ล้านเสียง สำหรับการเลือกตั้งครั้งถัดไป?

    ขบวนการล้มเจ้าที่นำโดยธนาทอนและได้รับการสนับสนุนจากทูตโกเต้กแห่งสหรัฐอเมริกุ๊ยและกลุ่มกุ๊ยอียู ก็คงจะประสพความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงการปกครองอย่างง่ายดายเลยหรือไม่?
    .
    .
    .
    ชาวอเมริกันเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ตระหนักว่า, หากทรัมป์ไม่ได้รับการเลือกตั้ง, นี่จะเป็นการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย เขาไม่ได้คุกคามประชาธิปไตย, เขาเป็นเพียงวิธีเดียวที่จะช่วยประชาธิปไตยไว้ได้!

    ขออธิบายให้ฟัง: หากผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ๑ ใน ๒๐ คนต่อปี ได้เป็นพลเมือง, ซึ่งพรรคเดโมแครตกำลังเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้, นั่นก็จะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งถูกกฎหมายเพิ่มขึ้นประมาณ ๒ ล้านคนใน ๔ ปี

    คะแนนเสียงในรัฐที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งสูงมักน้อยกว่า ๒๐,๐๐๐ คะแนน ซึ่งหมายความว่าหากพรรค "เดโมแครต" ประสบความสำเร็จ, ก็จะไม่มีรัฐที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งสูงอีกต่อไป!!

    ยิ่งไปกว่านั้น, รัฐบาลของไบเดน/แฮร์ริสได้ส่ง "ผู้ขอลี้ภัย," ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพลเมืองอย่างรวดเร็ว, ไปยังรัฐที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งสูง เช่น เพนซิลเวเนีย, โอไฮโอ, วิสคอนซิน และแอริโซนาโดยตรง ถือเป็นวิธีที่แน่นอนในการชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง

    จากนั้นอเมริกาก็จะกลายเป็นรัฐที่มีพรรคการเมืองเดียว และประชาธิปไตยก็สิ้นสุดลง "การเลือกตั้ง" ครั้งเดียวเท่านั้นที่จะเป็นการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแครต เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นในแคลิฟอร์เนียเมื่อหลายปีก่อนแล้ว, หลังจากการนิรโทษกรรมในปี ๑๙๘๖

    สิ่งเดียวที่คอยยับยั้งแคลิฟอร์เนียจากลัทธิสังคมนิยมสุดโต่งและนโยบายกดดันของรัฐบาลก็คือ ผู้คนสามารถออกจากแคลิฟอร์เนียและยังคงอยู่ในอเมริกาได้ เมื่อทั้งประเทศถูกควบคุมโดยพรรคการเมืองเดียว, ก็จะไม่มีทางหนีได้

    🤣ทุกแห่งในอเมริกาจะเหมือนฝันร้าย เช่นเดียวกับที่ย่านดาวน์ทาวน์ของซานฟรานซิสโก🤣

    Elon Musk
    .
    Very few Americans realize that, if Trump is NOT elected, this will be the last election. Far from being a threat to democracy, he is the only way to save it!

    Let me explain: if even 1 in 20 illegals become citizens per year, something that the Democrats are expediting as fast as humanly possible, that would be about 2 million new legal voters in 4 years.

    The voting margin in the swing states is often less than 20 thousand votes. That means if the “Democratic” Party succeeds, there will be no more swing states!!

    Moreover, the Biden/Harris administration has been flying “asylum seekers”, who are fast-tracked to citizenship, directly into swing states like Pennsylvania, Ohio, Wisconsin and Arizona. It is a surefire way to win every election.

    America then becomes a one-party state and Democracy is over. The only “elections” will be the Democratic Party primaries. This already happened in California many years ago, following the 1986 amnesty.

    The only thing holding California back from extreme socialism and suffocating government policies is that people can leave California and still remain in America. Once the whole country is controlled by one party, there will be no escape.

    Everywhere in America will be like the nightmare that is downtown San Francisco.
    .
    10:11 PM · Sep 29, 2024 · 90.6M Views
    https://x.com/elonmusk/status/1840409051357696324
    .
    เป็นไปตามแผนทั้งหมด ลองทายดูว่ามีผู้อพยพกี่คนที่เข้าเกณฑ์ได้รับการแปลงสัญชาติภายใต้กฎเกณฑ์ปัจจุบัน? ๙ ล้านคน…
    .
    All according to plan. Guess how many migrants are eligible for naturalization under the current rules? 9 million…
    .
    7:41 AM · Sep 29, 2024 · 73.4M Views
    https://x.com/amuse/status/1840190011901186153
    ขิ่น แก้วตา - ธิษะณา ชุณหะวัณ (เธอเป็นลูกของ ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ และ เป็นหลานของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ) แห่งพรรคประชาชน(พม่า) กำลังช่วยกลุ่มอองซานซูจี และกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา เพื่อหวังผลคะแนนเสียงเพิ่มอีก ๖-๑๒ ล้านเสียงในระยะยาว คล้ายๆกันกับโพสต์ของ อีลอน มัสค์ เลยหรือไม่? (ตามข้อมูลจากโพสต์ของ อีลอน มัสค์ ด้านล่าง) ถ้าพรรคส้มล้มเจ้ายังคงมีคะแนนเสียงถล่มทลายเดิม ๑๖ ล้านเสียงเช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา รวมกับคะแนนเสียงกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มอีก ๖-๑๒ ล้านเสียง สำหรับการเลือกตั้งครั้งถัดไป? ขบวนการล้มเจ้าที่นำโดยธนาทอนและได้รับการสนับสนุนจากทูตโกเต้กแห่งสหรัฐอเมริกุ๊ยและกลุ่มกุ๊ยอียู ก็คงจะประสพความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงการปกครองอย่างง่ายดายเลยหรือไม่? . . . ชาวอเมริกันเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ตระหนักว่า, หากทรัมป์ไม่ได้รับการเลือกตั้ง, นี่จะเป็นการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย เขาไม่ได้คุกคามประชาธิปไตย, เขาเป็นเพียงวิธีเดียวที่จะช่วยประชาธิปไตยไว้ได้! ขออธิบายให้ฟัง: หากผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ๑ ใน ๒๐ คนต่อปี ได้เป็นพลเมือง, ซึ่งพรรคเดโมแครตกำลังเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้, นั่นก็จะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งถูกกฎหมายเพิ่มขึ้นประมาณ ๒ ล้านคนใน ๔ ปี คะแนนเสียงในรัฐที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งสูงมักน้อยกว่า ๒๐,๐๐๐ คะแนน ซึ่งหมายความว่าหากพรรค "เดโมแครต" ประสบความสำเร็จ, ก็จะไม่มีรัฐที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งสูงอีกต่อไป!! ยิ่งไปกว่านั้น, รัฐบาลของไบเดน/แฮร์ริสได้ส่ง "ผู้ขอลี้ภัย," ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพลเมืองอย่างรวดเร็ว, ไปยังรัฐที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งสูง เช่น เพนซิลเวเนีย, โอไฮโอ, วิสคอนซิน และแอริโซนาโดยตรง ถือเป็นวิธีที่แน่นอนในการชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง จากนั้นอเมริกาก็จะกลายเป็นรัฐที่มีพรรคการเมืองเดียว และประชาธิปไตยก็สิ้นสุดลง "การเลือกตั้ง" ครั้งเดียวเท่านั้นที่จะเป็นการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแครต เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นในแคลิฟอร์เนียเมื่อหลายปีก่อนแล้ว, หลังจากการนิรโทษกรรมในปี ๑๙๘๖ สิ่งเดียวที่คอยยับยั้งแคลิฟอร์เนียจากลัทธิสังคมนิยมสุดโต่งและนโยบายกดดันของรัฐบาลก็คือ ผู้คนสามารถออกจากแคลิฟอร์เนียและยังคงอยู่ในอเมริกาได้ เมื่อทั้งประเทศถูกควบคุมโดยพรรคการเมืองเดียว, ก็จะไม่มีทางหนีได้ 🤣ทุกแห่งในอเมริกาจะเหมือนฝันร้าย เช่นเดียวกับที่ย่านดาวน์ทาวน์ของซานฟรานซิสโก🤣 Elon Musk . Very few Americans realize that, if Trump is NOT elected, this will be the last election. Far from being a threat to democracy, he is the only way to save it! Let me explain: if even 1 in 20 illegals become citizens per year, something that the Democrats are expediting as fast as humanly possible, that would be about 2 million new legal voters in 4 years. The voting margin in the swing states is often less than 20 thousand votes. That means if the “Democratic” Party succeeds, there will be no more swing states!! Moreover, the Biden/Harris administration has been flying “asylum seekers”, who are fast-tracked to citizenship, directly into swing states like Pennsylvania, Ohio, Wisconsin and Arizona. It is a surefire way to win every election. America then becomes a one-party state and Democracy is over. The only “elections” will be the Democratic Party primaries. This already happened in California many years ago, following the 1986 amnesty. The only thing holding California back from extreme socialism and suffocating government policies is that people can leave California and still remain in America. Once the whole country is controlled by one party, there will be no escape. Everywhere in America will be like the nightmare that is downtown San Francisco. . 10:11 PM · Sep 29, 2024 · 90.6M Views https://x.com/elonmusk/status/1840409051357696324 . เป็นไปตามแผนทั้งหมด ลองทายดูว่ามีผู้อพยพกี่คนที่เข้าเกณฑ์ได้รับการแปลงสัญชาติภายใต้กฎเกณฑ์ปัจจุบัน? ๙ ล้านคน… . All according to plan. Guess how many migrants are eligible for naturalization under the current rules? 9 million… . 7:41 AM · Sep 29, 2024 · 73.4M Views https://x.com/amuse/status/1840190011901186153
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิรโทษกรรมแท้ง เพื่อไทย ไม่กล้าลุยไฟ เลื่อนไร้กำหนด
    .
    ในทางการเมืองตอนนี้ดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยจะทำอะไรก็ดูจะสะดุดไปเสียทั้งหมด อย่างล่าสุดการนิรโทษกรรมที่เคยคาดว่าจะเดินหน้าได้ในรัฐบาลยุคนี้ภายหลังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัตินิรโทษรรม ได้จัดรายงานเสร็จแล้ว แต่จากท่าทีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ยอมรับว่าการตราร่างกฎหมายนิรโทษกรรมอาจต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
    .
    "ร่างกฎหมายจะสำเร็จเป็นกฎหมายได้ก็ต่อเมื่อ ส.ส.และ ส.ว.ต้องเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะเป็นอย่างไร เพราะพรรคการเมืองบางส่วนได้เสนอร่างกฎหมายขอให้มีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง บางส่วนบอกว่าหากนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองแล้วก็ให้รวมกับคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย" นายชูศักดิ์ กล่าว
    .
    นายชูศักดิ์ มีมุมมองว่า เพื่อให้เป็นไปได้ดีที่สุดและละมุนละม่อมที่สุด ควรนำเรื่องทั้งหมดไปหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึงพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้ตกผลึก แต่ท้ายที่สุดแล้วพรรคการเมืองจะมีความเห็นอย่างไร พร้อมจะเสนอร่างกฎหมายด้วยหรือไม่ ซึ่งที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะพรรคการเมืองเป็นองค์ประกอบสำคัญในสภา หากเราไม่ฟังกัน เมื่อมีการเสนอและพิจารณากันแล้วก็จะคล้ายกับเรื่องรัฐธรรมนูญที่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้ปรึกษานายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาลให้เลื่อนวาระการพิจารณาในวันที่ 3 ตุลาคมออกไปก่อนเพื่อรอฟังความคิดเห็นของหัวหน้าพรรคการเมืองให้ครบถ้วน
    ..........
    Sondhi X
    นิรโทษกรรมแท้ง เพื่อไทย ไม่กล้าลุยไฟ เลื่อนไร้กำหนด . ในทางการเมืองตอนนี้ดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยจะทำอะไรก็ดูจะสะดุดไปเสียทั้งหมด อย่างล่าสุดการนิรโทษกรรมที่เคยคาดว่าจะเดินหน้าได้ในรัฐบาลยุคนี้ภายหลังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัตินิรโทษรรม ได้จัดรายงานเสร็จแล้ว แต่จากท่าทีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ยอมรับว่าการตราร่างกฎหมายนิรโทษกรรมอาจต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด . "ร่างกฎหมายจะสำเร็จเป็นกฎหมายได้ก็ต่อเมื่อ ส.ส.และ ส.ว.ต้องเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะเป็นอย่างไร เพราะพรรคการเมืองบางส่วนได้เสนอร่างกฎหมายขอให้มีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง บางส่วนบอกว่าหากนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองแล้วก็ให้รวมกับคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย" นายชูศักดิ์ กล่าว . นายชูศักดิ์ มีมุมมองว่า เพื่อให้เป็นไปได้ดีที่สุดและละมุนละม่อมที่สุด ควรนำเรื่องทั้งหมดไปหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึงพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้ตกผลึก แต่ท้ายที่สุดแล้วพรรคการเมืองจะมีความเห็นอย่างไร พร้อมจะเสนอร่างกฎหมายด้วยหรือไม่ ซึ่งที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะพรรคการเมืองเป็นองค์ประกอบสำคัญในสภา หากเราไม่ฟังกัน เมื่อมีการเสนอและพิจารณากันแล้วก็จะคล้ายกับเรื่องรัฐธรรมนูญที่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้ปรึกษานายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาลให้เลื่อนวาระการพิจารณาในวันที่ 3 ตุลาคมออกไปก่อนเพื่อรอฟังความคิดเห็นของหัวหน้าพรรคการเมืองให้ครบถ้วน .......... Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ตั้งอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี ก่อตั้งขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการฝึกอบรมอาชีพแก่ราษฎรในพื้นที่ ส่งเสริมให้ประชาชนมีทักษะอาชีพที่หลากหลาย สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิต

    หลักสูตรที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

    ศูนย์วงเดือนฯ เปิดสอนหลักสูตรฝึกอบรมอาชีพที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งด้านเกษตรกรรม การประมง อุตสาหกรรม การบริการ และอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้สนใจทุกเพศทุกวัย หลักสูตรได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ เน้นการฝึกปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะที่พร้อมนำไปประกอบอาชีพ

    การสนับสนุนที่ครบวงจร

    นอกเหนือจากการฝึกอบรมแล้ว ศูนย์วงเดือนฯ ยังมีบริการสนับสนุนอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การให้คำปรึกษาแนะนำ การจัดหางาน การสนับสนุนเงินทุน และอื่นๆ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง

    ความสำเร็จที่ภาคภูมิใจ

    ศูนย์วงเดือนฯ ได้สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแก่ราษฎรในพื้นที่ ผู้เรียนจำนวนมากสามารถประกอบอาชีพได้ มีรายได้เพิ่มขึ้น พัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว

    #สยามโสภา#โครงการสร้างชีวิต#ศูนย์วงเดือน#อาคมสุรทัณฑ์#ฝึกอบรมอาชีพ#อุทัยธานี#พัฒนาคุณภาพชีวิต#thaitimes

    https://youtu.be/rybYqYkuerE?si=f81A3i1pVlxpNDal
    ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ตั้งอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี ก่อตั้งขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการฝึกอบรมอาชีพแก่ราษฎรในพื้นที่ ส่งเสริมให้ประชาชนมีทักษะอาชีพที่หลากหลาย สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิต หลักสูตรที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ศูนย์วงเดือนฯ เปิดสอนหลักสูตรฝึกอบรมอาชีพที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งด้านเกษตรกรรม การประมง อุตสาหกรรม การบริการ และอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้สนใจทุกเพศทุกวัย หลักสูตรได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ เน้นการฝึกปฏิบัติจริง เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะที่พร้อมนำไปประกอบอาชีพ การสนับสนุนที่ครบวงจร นอกเหนือจากการฝึกอบรมแล้ว ศูนย์วงเดือนฯ ยังมีบริการสนับสนุนอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การให้คำปรึกษาแนะนำ การจัดหางาน การสนับสนุนเงินทุน และอื่นๆ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง ความสำเร็จที่ภาคภูมิใจ ศูนย์วงเดือนฯ ได้สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแก่ราษฎรในพื้นที่ ผู้เรียนจำนวนมากสามารถประกอบอาชีพได้ มีรายได้เพิ่มขึ้น พัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว #สยามโสภา​ #โครงการสร้างชีวิต​ #ศูนย์วงเดือน​ #อาคมสุรทัณฑ์​ #ฝึกอบรมอาชีพ​ #อุทัยธานี​ #พัฒนาคุณภาพชีวิต​ #thaitimes https://youtu.be/rybYqYkuerE?si=f81A3i1pVlxpNDal
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 562 มุมมอง 1 รีวิว
  • #อุรณสวัสดิ์แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง
    เช้าๆแบบนี้ พี่คิงส์อยากคุยเรื่องแรงจูงใจสู่ความสำเร็จ
    แต่ละคน ล้วนแล้วแต่มีการตั้งเป้าหมายเพื่อให้ชีวิตไปถึงจุด
    ที่เป็นความต้องการ บ้างก็อยากมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี
    บ้างก็อยากมีทรัพย์สินเงินทองเยอะๆ บ้างขอเพียงแค่อยู่อย่างไม่ลำบาก
    แต่ต้องยอมรับว่า สำหรับตัวละครหนึ่ง
    ในนิทานเรื่อง "ชาวนากับงูจอมหงี่"
    ตัวละครหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากคือ ปี๋หน้าเห็ด
    ซึ่ง เค้าก็มีเป้าหมายที่ชัดเจน ชนิดที่เค้าเองก็ไม่เคยออกมาปฏิเสธ
    มีความชัดเจนถึงจุดยืน
    ในสมัยก่อนที่มีอาชีพขี่เกวียนเวียนส่งผักส่งปลาในพื้นที่เมืองแห่งการเริ่มต้น
    ปี๋หน้าเห็นสร้างวีระกรรมไว้อย่างโชกโชน โดยเฉพาะเรื่องการฉุด การหาเศษหาเลยกับแม่นางในเมือง จนเป็นที่โจษจันกันอย่างกว้างขวาง ถ้าปี๋ ขี่เกวียนมา บรรดาประชาชนต่างกันแตกตื่น ต้องปิดบ้านปิดเรือนล็อคบ้านให้เรียบร้อย
    ปี๋หน้าเห็ด มักอ้างว่าตนเองมีพี่เป็นจองหงวน ซึ่งถ้าจริง ครอบครัวปี๋หน้าเห็ดก็ควรตรวจดีเอ็นเอ เพราะทั้งหน้าตาและสมองช่างต่างกับพี่เสียเหลือเกิน แต่ถ้าไม่จริง ก็เป็นเรื่องอัปยศที่สร้างไว้เพื่อหวังให้ผู้อื่นยำเกรง
    ปี๋หน้าเห็ด ขี่เกวียนเวียนส่งผัก ช่างกล้านัก ลูกค้าฝากเงินค่าผักไปให้แม่ค้า ปี๋หน้าเห็ด เชิดหน้าตาเฉย จนทำให้ผู้คนต่างตามล่าหาตัวกันทั่วเมืองแห่งการเริ่มต้น นั่นคือความเป็นโจนที่มีอยู่ในตัวปี๋ อย่างเต็มระบบ
    -สำหรับคนแบบปี๋ ก็ทำให้ต้องมาขุดตัวละครนี้ ให้ลึกไปอีกว่า เงินที่หามา จากการขี่เกวียน และที่เชิดไปนั้นเอาไปไหน กลับพบว่า ปี๋หน้าเห็น เป็นคนที่มมีกำหนัดสูงปรี๊ด ถ้าไม่มีตังค์ ปี๋ จะใช้การสำเร็จโทษด้วยแม่นางทั้งห้า แต่ถ้าปี๋ได้ตังค์มาจากใดๆ ก็จะต้องไปหาสำนักโคมเขียว เพื่อระบายน้ำเน่าในตัว ดังนั้นสำหรับตัวละครตัวนี้
    แรงจูงใจในการชับเคลื่อนชีวิต คือ เพื่อพี่เท่านั้น พี่ไม่ใช่หมายถึงพี่ชายพี่สาว หรือพี่จีมันทโน แต่เป็น "พี่เหือ"
    วีรกรรมของตัวละครนี้ยังมีอีกเยอะ ไว้ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
    เพราะนิทานเรื่องนี้ คงอีกหลายพีอี กว่าจะจบ
    เดี๋ยวรอติดตาม EP4 เจาะเทพในวังศรีธัญญ่าตัวสำคัญอีก 1 ตัว
    ที่พี่คิงส์ใบให้ทายเมื่อวานไปแล้ว
    รอติดตาม
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อุรณสวัสดิ์แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง เช้าๆแบบนี้ พี่คิงส์อยากคุยเรื่องแรงจูงใจสู่ความสำเร็จ แต่ละคน ล้วนแล้วแต่มีการตั้งเป้าหมายเพื่อให้ชีวิตไปถึงจุด ที่เป็นความต้องการ บ้างก็อยากมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี บ้างก็อยากมีทรัพย์สินเงินทองเยอะๆ บ้างขอเพียงแค่อยู่อย่างไม่ลำบาก แต่ต้องยอมรับว่า สำหรับตัวละครหนึ่ง ในนิทานเรื่อง "ชาวนากับงูจอมหงี่" ตัวละครหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากคือ ปี๋หน้าเห็ด ซึ่ง เค้าก็มีเป้าหมายที่ชัดเจน ชนิดที่เค้าเองก็ไม่เคยออกมาปฏิเสธ มีความชัดเจนถึงจุดยืน ในสมัยก่อนที่มีอาชีพขี่เกวียนเวียนส่งผักส่งปลาในพื้นที่เมืองแห่งการเริ่มต้น ปี๋หน้าเห็นสร้างวีระกรรมไว้อย่างโชกโชน โดยเฉพาะเรื่องการฉุด การหาเศษหาเลยกับแม่นางในเมือง จนเป็นที่โจษจันกันอย่างกว้างขวาง ถ้าปี๋ ขี่เกวียนมา บรรดาประชาชนต่างกันแตกตื่น ต้องปิดบ้านปิดเรือนล็อคบ้านให้เรียบร้อย ปี๋หน้าเห็ด มักอ้างว่าตนเองมีพี่เป็นจองหงวน ซึ่งถ้าจริง ครอบครัวปี๋หน้าเห็ดก็ควรตรวจดีเอ็นเอ เพราะทั้งหน้าตาและสมองช่างต่างกับพี่เสียเหลือเกิน แต่ถ้าไม่จริง ก็เป็นเรื่องอัปยศที่สร้างไว้เพื่อหวังให้ผู้อื่นยำเกรง ปี๋หน้าเห็ด ขี่เกวียนเวียนส่งผัก ช่างกล้านัก ลูกค้าฝากเงินค่าผักไปให้แม่ค้า ปี๋หน้าเห็ด เชิดหน้าตาเฉย จนทำให้ผู้คนต่างตามล่าหาตัวกันทั่วเมืองแห่งการเริ่มต้น นั่นคือความเป็นโจนที่มีอยู่ในตัวปี๋ อย่างเต็มระบบ -สำหรับคนแบบปี๋ ก็ทำให้ต้องมาขุดตัวละครนี้ ให้ลึกไปอีกว่า เงินที่หามา จากการขี่เกวียน และที่เชิดไปนั้นเอาไปไหน กลับพบว่า ปี๋หน้าเห็น เป็นคนที่มมีกำหนัดสูงปรี๊ด ถ้าไม่มีตังค์ ปี๋ จะใช้การสำเร็จโทษด้วยแม่นางทั้งห้า แต่ถ้าปี๋ได้ตังค์มาจากใดๆ ก็จะต้องไปหาสำนักโคมเขียว เพื่อระบายน้ำเน่าในตัว ดังนั้นสำหรับตัวละครตัวนี้ แรงจูงใจในการชับเคลื่อนชีวิต คือ เพื่อพี่เท่านั้น พี่ไม่ใช่หมายถึงพี่ชายพี่สาว หรือพี่จีมันทโน แต่เป็น "พี่เหือ" วีรกรรมของตัวละครนี้ยังมีอีกเยอะ ไว้ค่อยๆเป็นค่อยๆไป เพราะนิทานเรื่องนี้ คงอีกหลายพีอี กว่าจะจบ เดี๋ยวรอติดตาม EP4 เจาะเทพในวังศรีธัญญ่าตัวสำคัญอีก 1 ตัว ที่พี่คิงส์ใบให้ทายเมื่อวานไปแล้ว รอติดตาม #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 762 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความสำคัญของการอ่าน
    การอ่านถือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาความรู้และทักษะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการเขียน การคิดวิเคราะห์ หรือแม้แต่การเสริมสร้างจินตนาการ การอ่านทำให้เราได้รับความรู้และมุมมองใหม่ ๆ จากผู้เขียนที่มีประสบการณ์และความรู้ในเรื่องนั้น ๆ อย่างลึกซึ้ง

    การอ่านยังช่วยส่งเสริมให้เรามีความคิดสร้างสรรค์และเปิดรับไอเดียใหม่ ๆ ยกตัวอย่างเช่น หนังสือที่เกี่ยวกับการพัฒนาตนเองหรือธุรกิจสามารถให้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ หรือปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    อีกทั้ง การอ่านยังช่วยส่งเสริมการสื่อสารระหว่างบุคคล การได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ หรือรูปประโยคที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ทำให้เรามีความสามารถในการแสดงความคิดเห็นหรือสื่อสารในที่ทำงานหรือในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การอ่านยังช่วยให้สมองของเราเปิดรับความคิดที่หลากหลาย และส่งเสริมการพัฒนาทักษะการตัดสินใจ

    การเรียนรู้ตลอดชีวิต
    การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในยุคที่เทคโนโลยีและวิทยาการก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาตนเองและการดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น

    การเรียนรู้ตลอดชีวิตไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในห้องเรียนหรือการเข้ารับการศึกษาในระบบ การเรียนรู้นอกระบบ เช่น การเรียนรู้ออนไลน์ การฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งการเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตประจำวันก็ถือเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญเช่นกัน

    ยกตัวอย่างเช่น ในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มการเรียนรู้ทางออนไลน์ที่ช่วยให้เราสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโปรแกรม การตลาดดิจิทัล การออกแบบกราฟิก หรือแม้แต่การเรียนรู้ด้านศิลปะ การที่เราสามารถเลือกเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจและนำไปใช้ในการทำงานหรือชีวิตส่วนตัวได้ ทำให้เรามีโอกาสที่จะเติบโตและประสบความสำเร็จมากขึ้น

    การเรียนรู้ตลอดชีวิตยังส่งเสริมให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้นต่อโลกและปัญหาต่าง ๆ การมีความรู้และทักษะที่หลากหลายช่วยให้เราสามารถคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
    การจัดการเวลาเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือกิจกรรมส่วนตัว การจัดการเวลาที่ดีจะช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเครียดจากการที่ต้องทำงานมากเกินไปในเวลาจำกัด

    หนึ่งในวิธีการจัดการเวลาที่มีประสิทธิภาพคือการวางแผนงานล่วงหน้า การกำหนดเป้าหมายและสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันช่วยให้เรามีทิศทางและรู้ว่าควรทำอะไรก่อน-หลัง การวางแผนช่วยให้เราใช้เวลาได้อย่างเต็มที่และไม่เสียเวลาไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น

    การจัดลำดับความสำคัญของงานก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ งานบางอย่างอาจต้องทำให้เสร็จในเวลาที่กำหนด ขณะที่งานบางอย่างสามารถเลื่อนได้ เราควรจัดลำดับงานตามความสำคัญและเวลาที่ต้องใช้ เพื่อให้เราสามารถจัดการเวลาได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การตั้งเป้าหมายในชีวิต
    การตั้งเป้าหมายในชีวิตเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรามีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน การมีเป้าหมายทำให้เรารู้ว่าจะต้องทำอะไร และสามารถวางแผนเพื่อตอบสนองต่อความสำเร็จนั้นได้อย่างเหมาะสม

    การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้ช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการทำงาน การตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ เพื่อสร้างความสำเร็จรายวันหรือรายสัปดาห์สามารถช่วยให้เรารู้สึกถึงความก้าวหน้าและทำให้มีความกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่าง ๆ ต่อไป

    นอกจากนี้ การตั้งเป้าหมายยังช่วยให้เราสามารถวัดผลความสำเร็จของเราได้ การวัดผลที่ชัดเจนช่วยให้เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรได้ดีและควรปรับปรุงอะไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

    การทำงานเป็นทีม
    การทำงานเป็นทีมเป็นทักษะที่สำคัญในหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงานหรือในกิจกรรมสังคม การทำงานร่วมกับผู้อื่นช่วยให้เราสามารถแบ่งปันความรู้ ความคิด และทักษะที่หลากหลาย ซึ่งทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การทำงานเป็นทีมที่ดีต้องอาศัยความร่วมมือและการสื่อสารที่ดี การสื่อสารที่ชัดเจนช่วยให้ทีมสามารถเข้าใจเป้าหมายและทิศทางของการทำงานได้ชัดเจนขึ้น การเปิดรับความคิดเห็นและความคิดสร้างสรรค์จากทุกคนในทีมก็เป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานเป็นทีม

    นอกจากนี้ การทำงานเป็นทีมยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจระหว่างสมาชิกในทีม การรู้จักการทำงานร่วมกันและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันจะทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งและสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

    การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน
    ในปัจจุบัน คนจำนวนมากมักพบปัญหาในการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน การที่เรามีเวลาที่จำกัดและต้องรับผิดชอบทั้งในเรื่องของงานและครอบครัวทำให้การจัดการเวลาและพลังงานกลายเป็นเรื่องที่ท้าทาย

    การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามีความสุขในชีวิตมากขึ้น แต่ยังช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย การจัดการเวลาอย่างเหมาะสมเพื่อให้เราสามารถพักผ่อนและทำกิจกรรมที่ชื่นชอบนอกเวลางานจะทำให้เรามีพลังในการทำงานมากขึ้น

    นอกจากนี้ การรู้จักแบ่งแยกเวลาและความรับผิดชอบอย่างชัดเจนจะช่วยให้เราสามารถทำงานได้ดีและยังมีเวลาสำหรับตัวเองและครอบครัวอีกด้วย การสร้างสมดุลที่ดีระหว่างชีวิตและการทำงานเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเพื่อให้เรามีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างยั่งยืน

    สรุป
    การเขียนบทความ 1,000 คำต้องอาศัยการวางแผนและการเรียบเรียงความคิดอย่างเป็นระบบ แต่หากเรามีโครงสร้างและแนวทางที่ชัดเจนก็จะทำให้การเขียนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
    ความสำคัญของการอ่าน การอ่านถือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาความรู้และทักษะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการเขียน การคิดวิเคราะห์ หรือแม้แต่การเสริมสร้างจินตนาการ การอ่านทำให้เราได้รับความรู้และมุมมองใหม่ ๆ จากผู้เขียนที่มีประสบการณ์และความรู้ในเรื่องนั้น ๆ อย่างลึกซึ้ง การอ่านยังช่วยส่งเสริมให้เรามีความคิดสร้างสรรค์และเปิดรับไอเดียใหม่ ๆ ยกตัวอย่างเช่น หนังสือที่เกี่ยวกับการพัฒนาตนเองหรือธุรกิจสามารถให้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ หรือปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้ง การอ่านยังช่วยส่งเสริมการสื่อสารระหว่างบุคคล การได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ หรือรูปประโยคที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ทำให้เรามีความสามารถในการแสดงความคิดเห็นหรือสื่อสารในที่ทำงานหรือในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การอ่านยังช่วยให้สมองของเราเปิดรับความคิดที่หลากหลาย และส่งเสริมการพัฒนาทักษะการตัดสินใจ การเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในยุคที่เทคโนโลยีและวิทยาการก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาตนเองและการดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น การเรียนรู้ตลอดชีวิตไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในห้องเรียนหรือการเข้ารับการศึกษาในระบบ การเรียนรู้นอกระบบ เช่น การเรียนรู้ออนไลน์ การฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งการเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตประจำวันก็ถือเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มการเรียนรู้ทางออนไลน์ที่ช่วยให้เราสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโปรแกรม การตลาดดิจิทัล การออกแบบกราฟิก หรือแม้แต่การเรียนรู้ด้านศิลปะ การที่เราสามารถเลือกเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจและนำไปใช้ในการทำงานหรือชีวิตส่วนตัวได้ ทำให้เรามีโอกาสที่จะเติบโตและประสบความสำเร็จมากขึ้น การเรียนรู้ตลอดชีวิตยังส่งเสริมให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้นต่อโลกและปัญหาต่าง ๆ การมีความรู้และทักษะที่หลากหลายช่วยให้เราสามารถคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการเวลาเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือกิจกรรมส่วนตัว การจัดการเวลาที่ดีจะช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเครียดจากการที่ต้องทำงานมากเกินไปในเวลาจำกัด หนึ่งในวิธีการจัดการเวลาที่มีประสิทธิภาพคือการวางแผนงานล่วงหน้า การกำหนดเป้าหมายและสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันช่วยให้เรามีทิศทางและรู้ว่าควรทำอะไรก่อน-หลัง การวางแผนช่วยให้เราใช้เวลาได้อย่างเต็มที่และไม่เสียเวลาไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น การจัดลำดับความสำคัญของงานก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ งานบางอย่างอาจต้องทำให้เสร็จในเวลาที่กำหนด ขณะที่งานบางอย่างสามารถเลื่อนได้ เราควรจัดลำดับงานตามความสำคัญและเวลาที่ต้องใช้ เพื่อให้เราสามารถจัดการเวลาได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การตั้งเป้าหมายในชีวิต การตั้งเป้าหมายในชีวิตเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรามีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน การมีเป้าหมายทำให้เรารู้ว่าจะต้องทำอะไร และสามารถวางแผนเพื่อตอบสนองต่อความสำเร็จนั้นได้อย่างเหมาะสม การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้ช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการทำงาน การตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ เพื่อสร้างความสำเร็จรายวันหรือรายสัปดาห์สามารถช่วยให้เรารู้สึกถึงความก้าวหน้าและทำให้มีความกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่าง ๆ ต่อไป นอกจากนี้ การตั้งเป้าหมายยังช่วยให้เราสามารถวัดผลความสำเร็จของเราได้ การวัดผลที่ชัดเจนช่วยให้เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรได้ดีและควรปรับปรุงอะไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ การทำงานเป็นทีม การทำงานเป็นทีมเป็นทักษะที่สำคัญในหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงานหรือในกิจกรรมสังคม การทำงานร่วมกับผู้อื่นช่วยให้เราสามารถแบ่งปันความรู้ ความคิด และทักษะที่หลากหลาย ซึ่งทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำงานเป็นทีมที่ดีต้องอาศัยความร่วมมือและการสื่อสารที่ดี การสื่อสารที่ชัดเจนช่วยให้ทีมสามารถเข้าใจเป้าหมายและทิศทางของการทำงานได้ชัดเจนขึ้น การเปิดรับความคิดเห็นและความคิดสร้างสรรค์จากทุกคนในทีมก็เป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานเป็นทีม นอกจากนี้ การทำงานเป็นทีมยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจระหว่างสมาชิกในทีม การรู้จักการทำงานร่วมกันและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันจะทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งและสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน ในปัจจุบัน คนจำนวนมากมักพบปัญหาในการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน การที่เรามีเวลาที่จำกัดและต้องรับผิดชอบทั้งในเรื่องของงานและครอบครัวทำให้การจัดการเวลาและพลังงานกลายเป็นเรื่องที่ท้าทาย การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามีความสุขในชีวิตมากขึ้น แต่ยังช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย การจัดการเวลาอย่างเหมาะสมเพื่อให้เราสามารถพักผ่อนและทำกิจกรรมที่ชื่นชอบนอกเวลางานจะทำให้เรามีพลังในการทำงานมากขึ้น นอกจากนี้ การรู้จักแบ่งแยกเวลาและความรับผิดชอบอย่างชัดเจนจะช่วยให้เราสามารถทำงานได้ดีและยังมีเวลาสำหรับตัวเองและครอบครัวอีกด้วย การสร้างสมดุลที่ดีระหว่างชีวิตและการทำงานเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเพื่อให้เรามีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างยั่งยืน สรุป การเขียนบทความ 1,000 คำต้องอาศัยการวางแผนและการเรียบเรียงความคิดอย่างเป็นระบบ แต่หากเรามีโครงสร้างและแนวทางที่ชัดเจนก็จะทำให้การเขียนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเขียนข้อความยาว 1,000 คำถือเป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาความคิดและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การเขียนไม่เพียงแต่ช่วยให้เราแสดงออกถึงความคิดของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจในเรื่องราวหรือประเด็นที่เราต้องการสื่อสารด้วย

    ในบทความนี้ เราจะพูดถึงหัวข้อการเขียนที่น่าสนใจ โดยเราจะเลือกหัวข้อที่หลากหลายเพื่อให้คุณสามารถใช้เป็นแนวทางในการเขียนข้อความขนาดยาว

    ## การเขียนบทความเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง

    การพัฒนาตนเองเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน เราอยู่ในสังคมที่ต้องการพัฒนาและปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการงาน การศึกษา หรือแม้แต่ในเรื่องส่วนตัว หากเราสามารถสร้างนิสัยที่ดีและมีวินัยในการดำเนินชีวิต เราก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

    หนึ่งในวิธีการพัฒนาตนเองคือการตั้งเป้าหมายในชีวิตและพยายามทำตามเป้าหมายนั้นอย่างต่อเนื่อง การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการทำงานและมีทิศทางในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น

    นอกจากนี้ การฝึกฝนความคิดเชิงบวกและการจัดการกับความเครียดก็เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาตนเอง เราควรพยายามมองโลกในแง่ดีและเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาโดยไม่ท้อแท้ การคิดในแง่บวกจะช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี และสามารถจัดการกับความเครียดในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ## การเขียนบทความเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม

    ในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เราสามารถเลือกเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน

    ตัวอย่างเช่น การพัฒนา AI (ปัญญาประดิษฐ์) ที่มีผลกระทบต่อการทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การแพทย์ การศึกษา การผลิต และการบริการ AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์ และทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น

    อีกหัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ที่มีบทบาทสำคัญในวงการการเงิน เทคโนโลยีนี้มีความโปร่งใส ปลอดภัย และสามารถใช้ในกระบวนการทำธุรกรรมต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง เช่น ธนาคาร ทำให้บล็อกเชนได้รับความสนใจอย่างมากในวงการการเงินและการค้าทั่วโลก

    นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาของอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (Internet of Things หรือ IoT) ที่ทำให้สิ่งของต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ตได้ เช่น สมาร์ทโฮม (Smart Home) ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ในบ้านผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ การเชื่อมต่อที่ง่ายและสะดวกนี้ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ## การเขียนบทความเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย

    สุขภาพเป็นหัวข้อที่สำคัญไม่แพ้กันในยุคปัจจุบัน เราควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพ การออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอ้วน

    การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เราสามารถเริ่มต้นด้วยการเดินหรือวิ่งเบาๆ ทุกวันเพียง 30 นาที นอกจากนี้ การทำโยคะหรือพิลาทิสก็เป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างความยืดหยุ่นและเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ

    อาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลสุขภาพ เราควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล เช่น ผักผลไม้ โปรตีน และไขมันดี การลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูงจะช่วยให้เรามีสุขภาพดีขึ้นในระยะยาว

    ## การเขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสภาพแวดล้อมทั่วโลก

    หนึ่งในวิธีการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือพลังงานจากน้ำ นอกจากนี้ การลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งก็เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการลดปริมาณขยะและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ

    การปลูกต้นไม้และการอนุรักษ์ป่าไม้ก็เป็นวิธีหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ต้นไม้สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจน ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ

    ## การเขียนบทความเกี่ยวกับการศึกษาและการเรียนรู้

    การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตของคนทุกคน การเรียนรู้ไม่จำกัดเพียงในห้องเรียนเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต เราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ การอ่านหนังสือ หรือการฟังจากผู้รู้

    หนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับการศึกษาคือการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ในยุคปัจจุบัน เช่น การเรียนออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากการระบาดของ COVID-19 การเรียนออนไลน์ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้จากที่บ้าน และสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้จากทั่วโลกได้ง่ายขึ้น

    อีกหัวข้อหนึ่งที่ควรกล่าวถึงคือการศึกษาด้านทักษะใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล เช่น การเขียนโปรแกรม การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการออกแบบกราฟิก ทักษะเหล่านี้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในยุคปัจจุบัน การเรียนรู้และพัฒนาทักษะเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและการพัฒนาตนเองในระยะยาว

    ## สรุป

    การเขียนข้อความ 1,000 คำอาจดูเหมือนเป็นงานที่ยาก แต่ถ้าเราแบ่งหัวข้อและวางแผนการเขียนอย่างดี ก็จะทำให้เราสามารถเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าสนใจ

    thaittimes
    #thaitimes #thai
    "thaitimes"
    การเขียนข้อความยาว 1,000 คำถือเป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาความคิดและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การเขียนไม่เพียงแต่ช่วยให้เราแสดงออกถึงความคิดของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจในเรื่องราวหรือประเด็นที่เราต้องการสื่อสารด้วย ในบทความนี้ เราจะพูดถึงหัวข้อการเขียนที่น่าสนใจ โดยเราจะเลือกหัวข้อที่หลากหลายเพื่อให้คุณสามารถใช้เป็นแนวทางในการเขียนข้อความขนาดยาว ## การเขียนบทความเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง การพัฒนาตนเองเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน เราอยู่ในสังคมที่ต้องการพัฒนาและปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการงาน การศึกษา หรือแม้แต่ในเรื่องส่วนตัว หากเราสามารถสร้างนิสัยที่ดีและมีวินัยในการดำเนินชีวิต เราก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน หนึ่งในวิธีการพัฒนาตนเองคือการตั้งเป้าหมายในชีวิตและพยายามทำตามเป้าหมายนั้นอย่างต่อเนื่อง การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการทำงานและมีทิศทางในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ การฝึกฝนความคิดเชิงบวกและการจัดการกับความเครียดก็เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาตนเอง เราควรพยายามมองโลกในแง่ดีและเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาโดยไม่ท้อแท้ การคิดในแง่บวกจะช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี และสามารถจัดการกับความเครียดในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ## การเขียนบทความเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เราสามารถเลือกเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น การพัฒนา AI (ปัญญาประดิษฐ์) ที่มีผลกระทบต่อการทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การแพทย์ การศึกษา การผลิต และการบริการ AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์ และทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น อีกหัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ที่มีบทบาทสำคัญในวงการการเงิน เทคโนโลยีนี้มีความโปร่งใส ปลอดภัย และสามารถใช้ในกระบวนการทำธุรกรรมต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง เช่น ธนาคาร ทำให้บล็อกเชนได้รับความสนใจอย่างมากในวงการการเงินและการค้าทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาของอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (Internet of Things หรือ IoT) ที่ทำให้สิ่งของต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ตได้ เช่น สมาร์ทโฮม (Smart Home) ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ในบ้านผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ การเชื่อมต่อที่ง่ายและสะดวกนี้ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ## การเขียนบทความเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย สุขภาพเป็นหัวข้อที่สำคัญไม่แพ้กันในยุคปัจจุบัน เราควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพ การออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคอ้วน การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เราสามารถเริ่มต้นด้วยการเดินหรือวิ่งเบาๆ ทุกวันเพียง 30 นาที นอกจากนี้ การทำโยคะหรือพิลาทิสก็เป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างความยืดหยุ่นและเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ อาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลสุขภาพ เราควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล เช่น ผักผลไม้ โปรตีน และไขมันดี การลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูงจะช่วยให้เรามีสุขภาพดีขึ้นในระยะยาว ## การเขียนบทความเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสภาพแวดล้อมทั่วโลก หนึ่งในวิธีการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือพลังงานจากน้ำ นอกจากนี้ การลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งก็เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการลดปริมาณขยะและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ การปลูกต้นไม้และการอนุรักษ์ป่าไม้ก็เป็นวิธีหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ต้นไม้สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยออกซิเจน ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ## การเขียนบทความเกี่ยวกับการศึกษาและการเรียนรู้ การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตของคนทุกคน การเรียนรู้ไม่จำกัดเพียงในห้องเรียนเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต เราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ การอ่านหนังสือ หรือการฟังจากผู้รู้ หนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับการศึกษาคือการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ในยุคปัจจุบัน เช่น การเรียนออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากการระบาดของ COVID-19 การเรียนออนไลน์ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้จากที่บ้าน และสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้จากทั่วโลกได้ง่ายขึ้น อีกหัวข้อหนึ่งที่ควรกล่าวถึงคือการศึกษาด้านทักษะใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล เช่น การเขียนโปรแกรม การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการออกแบบกราฟิก ทักษะเหล่านี้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในยุคปัจจุบัน การเรียนรู้และพัฒนาทักษะเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและการพัฒนาตนเองในระยะยาว ## สรุป การเขียนข้อความ 1,000 คำอาจดูเหมือนเป็นงานที่ยาก แต่ถ้าเราแบ่งหัวข้อและวางแผนการเขียนอย่างดี ก็จะทำให้เราสามารถเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าสนใจ thaittimes #thaitimes #thai "thaitimes"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 926 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ความรักของผู้หญิงเกิดวันอาทิตย์

    เธอเป็นคนฉลาด เป็นคนเก่ง เรียนรู้อะไรได้อย่างรวดเร็ว มีความสามารถพิเศษ มีพรสวรรค์ เป็นคนที่ไม่ยอมใคร มีอีโก้สูง ยึดถือและเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง เป็นคนที่ทำอะไรจริงจัง ต้องการที่จะเป็นใหญ่ ต้องการมีอำนาจ และต้องการที่จะเหนือกว่าทุกๆคน ชอบเอาชนะ เธอชอบให้คนอื่นนิยมชมชอบ เรื่องความรักของเธอนั้นจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะเจอความรักแบบสถานะไม่ชัดเจน เจอคนที่มีเจ้าของแล้ว ถ้าแต่งงานก็อาจจะต้องมีดวงเลิกรา อาจจะได้แต่งงาน 2-3 ครั้ง หรือมีเนื้อคู่ 2-3 คน ดวงชะตาหนีไม่พ้นรักซ้อน หนีไม่พ้นคนมีเจ้าของ มีเวรมีกรรมเรื่องความรักมาก เธอชอบคนมนุษย์สัมพันธ์ดีเอาใจเก่ง บางคนชอบคนต่างชาติ ชอบคนที่อายุมากกว่า หรือคนในเครื่องแบบ และจะดูคนในเรื่องฐานะการเงินด้วยเพราะเธอกลัวความยากลำบาก มีโอกาสที่เธอจะมีผู้อุปถัมภ์หลายคน หรือมีคนเข้ามาพัวพันแบบไม่ขาดสาย และมีโอกาสที่จะได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนหลายคนด้วย เธอสามารถยอมได้ทุกอย่างเพื่อแลกกับชีวิตที่สุขสบาย หรือเพื่อได้คนที่เธอชอบ ต่อให้เป็นเรื่องผิดศีลธรรม เธอก็ยอม จึง มีโอกาสที่ จะทำผิดศีลข้อ 3 อยู่บ่อยครั้ง และถ้าใครทำให้เธอผิดหวัง หรือแย่งคนรักของเธอไปนั้น มันก็มีโอกาสว่าเธอจะเอาคืน ถ้าเอาคืนด้วยกำลังไม่ได้ ก็จะใช้สิ่งที่มองไม่เห็นเช่น เวทมนตร์คุณไสย เล่นงาน ได้เหมือนกัน ถ้าเธอรู้ว่าเธอจะต้องแพ้ หรือไม่สมหวังแล้ว เธอก็อาจจะทำคนรักของเธอด้วย และทำมือที่สามด้วย จัดว่าเป็นคนที่มีจิตใจโหดร้าย มีความอาฆาตแค้นพยาบาท ไม่ยกโทษให้ใครง่ายๆ และดวงความรักของเธอนั้น มีโอกาสที่จะได้อยู่คนเดียวในบั้นปลายชีวิต แต่เธอจะมีเงินทองมาก บางคนอาจจะใช้เงินทองที่มีอยู่ ไปเปย์ผู้ชาย หรือซื้อของที่ เธอชอบ เพื่อแลกความสุขสบาย และมีโอกาสที่เธอจะถูกหลอก จากคนที่เข้ามาคบหาด้วย เธอจะต้องเสียทั้งเงินและตัว สุดท้ายแล้วจะทำให้เธอเป็นคนเห็นแก่ตัว และจะไม่มี แฟนเป็นตัวเป็นตน เธอก็จะมี ความรัก แบบไม่ชัดเจน ใครเข้ามา ถ้าเธอพอใจ เธอก็คบ แต่จะไม่มีสถานะ และอาจจะต้องอยู่ไปแบบนี้ จนกว่าจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิต และดวงชะตาของเธอนั้นมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจด้วย ก็ต้องระวังจะมีเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นวิญญาณเด็กจะทำให้ชีวิตติดขัด และต้องระวังสุขภาพ เกี่ยวกับโรคในช่องท้อง ระบบสืบพันธุ์ มดลูก เนื้องอก
    ---------
    #ดูดวง #ดูดวงแม่นๆ #หมอดูแม่นๆ
    #ดูดวงแบบโทรคุย #ดูดวงไพ่ยิปซี #ดูดวงจิตสัมผัส #ดูดวงทางแชท
    #ดูดวงคำถามละ 9 บาท
    สนใจดูดวง แอดไลน์ @342shvrt
    #ความรักของผู้หญิงเกิดวันอาทิตย์ เธอเป็นคนฉลาด เป็นคนเก่ง เรียนรู้อะไรได้อย่างรวดเร็ว มีความสามารถพิเศษ มีพรสวรรค์ เป็นคนที่ไม่ยอมใคร มีอีโก้สูง ยึดถือและเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง เป็นคนที่ทำอะไรจริงจัง ต้องการที่จะเป็นใหญ่ ต้องการมีอำนาจ และต้องการที่จะเหนือกว่าทุกๆคน ชอบเอาชนะ เธอชอบให้คนอื่นนิยมชมชอบ เรื่องความรักของเธอนั้นจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะเจอความรักแบบสถานะไม่ชัดเจน เจอคนที่มีเจ้าของแล้ว ถ้าแต่งงานก็อาจจะต้องมีดวงเลิกรา อาจจะได้แต่งงาน 2-3 ครั้ง หรือมีเนื้อคู่ 2-3 คน ดวงชะตาหนีไม่พ้นรักซ้อน หนีไม่พ้นคนมีเจ้าของ มีเวรมีกรรมเรื่องความรักมาก เธอชอบคนมนุษย์สัมพันธ์ดีเอาใจเก่ง บางคนชอบคนต่างชาติ ชอบคนที่อายุมากกว่า หรือคนในเครื่องแบบ และจะดูคนในเรื่องฐานะการเงินด้วยเพราะเธอกลัวความยากลำบาก มีโอกาสที่เธอจะมีผู้อุปถัมภ์หลายคน หรือมีคนเข้ามาพัวพันแบบไม่ขาดสาย และมีโอกาสที่จะได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนหลายคนด้วย เธอสามารถยอมได้ทุกอย่างเพื่อแลกกับชีวิตที่สุขสบาย หรือเพื่อได้คนที่เธอชอบ ต่อให้เป็นเรื่องผิดศีลธรรม เธอก็ยอม จึง มีโอกาสที่ จะทำผิดศีลข้อ 3 อยู่บ่อยครั้ง และถ้าใครทำให้เธอผิดหวัง หรือแย่งคนรักของเธอไปนั้น มันก็มีโอกาสว่าเธอจะเอาคืน ถ้าเอาคืนด้วยกำลังไม่ได้ ก็จะใช้สิ่งที่มองไม่เห็นเช่น เวทมนตร์คุณไสย เล่นงาน ได้เหมือนกัน ถ้าเธอรู้ว่าเธอจะต้องแพ้ หรือไม่สมหวังแล้ว เธอก็อาจจะทำคนรักของเธอด้วย และทำมือที่สามด้วย จัดว่าเป็นคนที่มีจิตใจโหดร้าย มีความอาฆาตแค้นพยาบาท ไม่ยกโทษให้ใครง่ายๆ และดวงความรักของเธอนั้น มีโอกาสที่จะได้อยู่คนเดียวในบั้นปลายชีวิต แต่เธอจะมีเงินทองมาก บางคนอาจจะใช้เงินทองที่มีอยู่ ไปเปย์ผู้ชาย หรือซื้อของที่ เธอชอบ เพื่อแลกความสุขสบาย และมีโอกาสที่เธอจะถูกหลอก จากคนที่เข้ามาคบหาด้วย เธอจะต้องเสียทั้งเงินและตัว สุดท้ายแล้วจะทำให้เธอเป็นคนเห็นแก่ตัว และจะไม่มี แฟนเป็นตัวเป็นตน เธอก็จะมี ความรัก แบบไม่ชัดเจน ใครเข้ามา ถ้าเธอพอใจ เธอก็คบ แต่จะไม่มีสถานะ และอาจจะต้องอยู่ไปแบบนี้ จนกว่าจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิต และดวงชะตาของเธอนั้นมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจด้วย ก็ต้องระวังจะมีเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นวิญญาณเด็กจะทำให้ชีวิตติดขัด และต้องระวังสุขภาพ เกี่ยวกับโรคในช่องท้อง ระบบสืบพันธุ์ มดลูก เนื้องอก --------- #ดูดวง #ดูดวงแม่นๆ #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงแบบโทรคุย #ดูดวงไพ่ยิปซี #ดูดวงจิตสัมผัส #ดูดวงทางแชท #ดูดวงคำถามละ 9 บาท สนใจดูดวง แอดไลน์ @342shvrt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ติ่งขา……พี่ปูช่างมีพลังเหลือเฟือ ทั้งเล่ห์เหลี่ยม ทุบสั่งสอนและปากร้าย……แหมมมม…แค่ปีกว่าๆเองนะเนี่ยยยย!!!

    ตอนสิบหก………เรื่องรักเพื่อน…ไม่เคยถอย……เรื่องลองดี…ก็ไม่รอให้ท้า…!!!

    ภายในช่วงฤดูร้อนของปี 2005 ระบบการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของรัสเซียได้แน่นกระชับขึ้น หลังจากที่เรียกคืนสัมปทานจากกลุ่มนายทุน (ด้วยวิธีตรวจสอบเรียกเก็บภาษีย้อนหลังแล้ว)
    ส่วนใหญ่ยอมสละเรือ พากันทิ้งแล้วหอบเงินที่มีออกไปนอกประเทศ……
    ส่วน MK (หรือ Mikhail Khodorkovsky) ที่ยังดื้อดึง เพราะมีเส้นสายอยู่รอบโลก ยังคงท้าทายอำนาจ ซึ่งเขาได้รับโทษจำคุกเก้าปี

    เมื่อสัมปทานทั้งหมดได้กลับเข้าสู่รัฐ ปูตินได้เปิดให้บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกอื่นๆเข้ามามีส่วนร่วมในการซื้อหุ้นพลังงาน เพื่อการจูงใจในการลงทุนในภาคอื่นๆ เพราะเขามีโปรเจ็คที่จะสร้างท่อส่งก๊าสไปสู่ยุโรป โดยผ่านทั้งทางบกและลอดใต้ทะเล
    กลุ่มที่หลั่งไหลเข้ามา ก็คือ Citigroup, IBM,Intel, Alcoa, ConocoPhilip, Kraft และเจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการสื่อโลก Rupert Murdoch
    ในการประชุมกับบุคคลต่างๆของบริษัทที่กล่าวมา Sanford Weill จาก Citigroup (USA) ได้ถามปูตินตรงๆว่า
    “เส้นทางที่พวกเราจะมาลงทุนนี้ มันต้องผ่านขั้นตอนหรือมีอุปสรรคอะไรบ้าง?”
    ปูตินตอบอย่างชัดเจนว่า…
    “ทางเราไม่มีอะไรมาก เพราะมีกฎหมายระบุชัดเจน ส่วนอุปสรรคที่คุณว่า มันไม่ใช่มาจากรัสเซีย แต่มันเกิดจากทางบ้านคุณ (หมายถึงอเมริกา) ที่บีบคั้นเราในทางการค้าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก, การควบคุมทางอวกาศ, คอมพิวเตอร์ และ ทางการทหาร ซึ่งเป็นการบีบมาตั้งแต่เมื่อครั้วเราเป็นโซเวียต เพื่อเป็นการลงโทษที่โซเวียตมีกฏหมายห้ามไม่ให้ยิว
    ลี้ภัยออกไปอิสราเอล (1974) เมื่อเราได้มาเป็นรัสเซีย กฏหมายข้อนี้ได้ล้มเลิกไป ใครจะไปไหนก็ตามสบาย
    แต่อเมริกายังไม่ยกเลิกการแซงชั่นจนถึงบัดนี้ ไม่ว่าจะเปลี่ยนมากี่ประธานาธิบดี เรื่อง”อุปสรรค” ที่พวกคุณถาม คุณถามผิดคนแล้ว คุณต้องไปถามทางผู้นำขอบคุณจะได้รับคำตอบที่ดีกว่า……”
    คำตอบนี้…เล่นเอาทุกคนสะอึก….!!!

    หลังประชุม มีการถ่ายรูปหมู่ Robert Kraft เจ้าของบริษัท Kraft Group และเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล ที่เพิ่งชนะใน Super Bowl เมื่อต้นปี ที่เขาภูมิใจมาก ถึงขนาดสั่งทำแหวนเพชรขึ้นมาเป็นพิเศษ ด้วยเพชรกว่าสองร้อยเม็ดล้อมรอบ สลักชื่อตัวเอง สลัดชื่อทีม……Sanford Weill จึงกระเซ้าว่า ให้เอาแหวนมาอวดปูตินหน่อยซิ
    Kraft จึงค่อยบรรจงควักออกมาจากกระเป๋าเสื้อ และเปิดกล่องให้ปูตินได้ชม…
    ปูติน…หยิบเอาไปสวมในนิ้วมือ และอุทานว่า
    “นี่มันขนาดเอาไปใช้เป็นอาวุธได้เลยนะ..”
    ช่างภาพกดแฟลชกันระรัว…ยิงไม่นับ
    จากนั้น Kraft จึงยื่นมือไปเพื่อขอคืน แต่ปูตินส่งต่อให้ผู้ติดตามให้เอาไปเก็บ………และกล่าวอำลาไปอย่างหน้าตาเฉย

    Robert Kraft ถึงกับไปไม่เป็น ตามด้วยสติแตก เขารีบติดต่อหา Weill และต่อสายทางไกลไปยังทำเนียบขาว เพื่อที่จะช่วยขอแหวนคืน……
    แต่ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ที่ออกมา มันเป็นการลักษณะของการมอบของขวัญ ที่ใครจะไปกล้าขอคืน……เสียหน้าแย่
    แต่ Kraft ก็ยังเอะอะมะเทิ่งว่า……ก็ผมให้ดูเฉยๆ ตามคำแนะนำของวีลล์ และผมรักมันมาก ตั้งใจทำมาเพื่อเป็นเกียรติยศกับวงศ์ตระกูล…

    ทำเนียบขาวตอบมาสั้นๆว่า….”เอาน่า….ไปสั่งทำใหม่ละกัน..”
    ก็สรุปตามนั้น คราฟท์ได้สั่งทำใหม่มาอีกวงหนึ่ง
    ส่วนวงออริจินัลนั้น ปัจจุบันอยู่ที่ ห้องพิพิธภัณฑ์ของที่ระลึก
    ในหอสมุดที่เครมลิน…

    ~~-นี่คือความเข้าใจผิดระดับผู้นำ……เพราะมันตรงตามโปรโตคอลที่จะเป็นภาพของการถ่ายภาพร่วมกันออกสื่อ มีการมอบของขวัญเพื่อสานสัมพันธไมตรี และเป็นการขอบคุณเจ้าภาพ….ซึ่งทางรัสเซียคงเข้าใจตามนั้น
    ถ้าจะอวดกัน…ควรจะอวดเป็นส่วนตัวในยามคุยถึงเรื่องที่เกี่ยวข้อง
    จากภาพที่เห็น……ใครๆก็ต้องคล้อยตามว่า นั่นคือการมอบของที่ระลึก…
    (ป่านนี้ปูตินคงขำกลิ้งไปแล้ว……)

    งานวางฐานเศรษฐกิจชาติ ได้สำเร็จไปตามแผน นั่นคือ
    Rosneft บริษัทพลังงานที่ใหญ่อันดับสอง ดูแลโดย Igor Sechin
    United Aircraft Corporation ดูแลโดย Sergei Ivanov
    Russian Railways ดูแลโดย Vladimir Yakunin
    Rosoboronexport ดูแลโดย Seigei Chemezov
    Gazprom ดูแลโดย Dmitry Medvedev
    ทั้งหมดนี้ ที่ทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียก้าวพุ่ง ภายในปีเดียว
    จนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งใน G8 แบบกระพริบตาไม่ทัน

    มกราคม 2006 นักข่าวได้ถามปูตินว่า
    “ถ้าไม่เป็นประธานาธิบดี ท่านคิดว่าท่านจะมาทำงานในส่วนคุมพลังงานนี้หรือไม่..?”
    คำตอบคือ
    “ขอบคุณที่ชี้ทางหางานให้……แต่ไม่มีทาง ผมไม่มีทักษะในเรื่องธุรกิจเลย หรือ เป็นเพราะว่าเมื่อชาติก่อนไม่เคยทำมาค้าขายก็เป็นได้…”

    เพื่อนเก่าอีกคนหนึ่งที่ต้องพูดถึง คือ สองพี่น้อง Arkady และ Boris Rotenerg ที่เรียนยูโดมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก
    สองพี่น้องนี้ได้เปิดสถานฝึกสอนยูโด และ ยิมที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในปี 1998 ชื่อว่า Yawara-Neva ปูตินรับเป็นประธานกิตติมศักดิ์……ที่สถานฝึกสอนได้ตั้งกลุ่มผู้ที่ฝึกยูโดอย่างจริงจัง
    เรียกว่า “judocracy “
    เมื่อปี 2000 ที่ปูตินได้เป็นประธานาธิบดี เขาจัดการควบคุมโรงกลั่นเหล้าว้อดก้าให้เป็นสัมปทาน และมอบหมายให้ Arkady เป็นคนดูแล ซึ่งไม่นานต่อมา องค์กรโรงกลั่นนี้ได้ขยายไปคุมกิจการเหล้าอื่นๆเกือบทั้งประเทศ จนถึงขั้นตั้งธนาคารของตัวเองได้ ชื่อว่า SMP Bank และมีส่วนร่วมในการลงทุนในท่อก๊าสสู่ยุโรป
    ความสำเร็จเหล่านี้เป็นการยืนยันว่า เขาไม่ได้เอาเพื่อนจากถิ่นเก่ามาช่วยงานเพราะเห็นแก่หน้า……แต่เขาคัดมาเฉพาะคนที่เชื่อใจและมองเห็นในความสามารถ……

    ปูตินเชื่ออะไรหลายๆอย่างที่เป็นเรื่องแปลก เขาคือชนรุ่นโซเวียตแท้ๆตั้งแต่เกิด แต่เขามีความอ่อนไหวกับเรื่องราชาธิปไตยภายใต้ประชาธิปไตย (sovereign democracy)
    ในการบรรยายหรือให้สัมภาษณ์เขามักกล่าวถึง นักปรัชญาทางการเมืองและศาสนา Ivan Ilyin (1883-1954) ที่ต่อต้านบอลเชวิคจนต้องหนีออกไปนอกประเทศ และไปเสียชีวิตที่ สวิตเซอร์แลนด์
    ในบทความของอิวานมักจะเอนเอียงไปทางประชาธิปไตยที่ต้องออกแบบให้เหมาะสมกับฐานรากของประชาชน
    ปูตินได้ใช้บทความของอิวานครั้งหนึ่งในตอนที่เขาขึ้นรับตำแหน่งใหม่ๆว่า
    “เราต้องไม่ลืมว่า รัสเซียเป็นประชาธิปไตยเพราะนั่นคือความต้องการของประชาชน เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันสันติสุข เราต้องใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับภูมิภาค จดจำประวัติการความเป็นมา และการให้ความเคารพนับถือซึ่งกันและกัน
    เรามีเอกราชเป็นของตัวเอง เส้นทางข้างหน้าคือการก้าวไปอย่างเสรีด้วยกัน……ด้วยความระมัดระวัง…”

    และอีกคนหนึ่ง คือนักรบพระเจ้าซาร์ General Anton Denikin
    (1872-1947) ที่ต้องพ่ายแพ้ในการรักษาพระราชบัลลังก์ในสงครามกลางเมือง ทั้งๆที่นายพลผู้นี้ถือเป็นยอดอัศวิน (และเป็นนักเขียน) ที่ผ่านสงครามมานับไม่ถ้วน จนต้องลี้ภัยไปอยู่หลายประเทศ ในที่สุดก็ไปเสียชีวิตที่สหรัฐอเมริกา

    เวลาผ่านไปนานแสนนานก็จริง แต่ปูตินได้จัดการนำร่างของคนทั้งสองกลับมาทำพิธีและทำสุสานให้สมเกียรติที่ Donskoy Monastery, Moscow (ด้วยทุนของตัวเอง)

    กลับมาเรื่องการสร้างอำนาจด้วยพลังงาน……ปูตินได้จับมือกับนายรัฐมนตรีเยอรมันนี Gerhard Schröder ที่เป็นเกลอกัน
    ในเรื่องการสร้างท่อก๊าสจากเอเซียสู่ยุโรป ในนาม Nord Stream ที่จะเชื่อมผ่านกลุ่มท่อเก่าของโซเวียตที่ทำไว้ ที่ยูเครน, เบลารุส โปแลนด์ และ สอดผ่านใต้ทะเลบอลติก
    ที่ได้รับการสนับสนุนจากเยอรมันในโครงการนี้ถึงพันล้านยูโร
    (ในสมัยที่เยอรมันนีมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่)
    แต่ด้วยความเป็นคนที่ไม่ทิ้งเพื่อน เพียงหนึ่งอาทิตย์ที่ Gerhard ได้ลงจากตำแหน่ง รัสเซียได้จ้างให้ Gerhard มานั่งเป็นที่ปรึกษาในบริษัท Nord Stream ……รับเละ…!!
    เพราะประธานบริษัท คือ Matthias Warnig เพื่อนเก่าสมัยที่อยู่เดรสเดน

    ทุกการเคลื่อนไหวของปูตินได้สร้างเม็ดเงินสู่ประเทศแบบทำนบแตก
    ปรกติ Gazprom ได้ส่งก๊าสให้ยูเครนในราคาเป็นกันเอง คือ 50$ ต่อ 1000 คิวบิก ที่ยูเครนจะไปขายเท่าไหร่ก็แล้วแต่
    แต่เมื่อการเมืองของยูเครนที่เกิดฝักใฝ่ทางตะวันตก…
    ตัวประธานาธิบดีคนใหม่ก็แสนจะดี๊ด๊ากับกลิ่นไอของประชาธิยไตยสีส้ม
    ปูตินก็เลยเห็นว่า……มันถึงเวลาที่จะขึ้นราคา…เท่ากับว่ากำไรที่เคยได้จะหดหายไป เพราะยูเครนไม่สามารถไปขึ้นราคากับยุโรปได้ เนื่องจากมีสัญญาระยะยาว…
    และหนี้สินที่ให้ค้างคามานาน.……รัสเซียให้เวลาสามเดือน
    ให้เอามาจ่าย

    เมื่อถึงเวลา….เงินไม่มา…ในวันที่ 31 ธันวาคม 2005 เป็นวันสำคัญของการเฉลิมฉลองของฤดูหนาว……รัสเซียตัดก๊าสสั่งสอน
    เดือดร้อนกันไปทั่วทั้งทวีป……กระจองอแงกันไปหมด
    นั่นคือการที่ต้องมาคุยกันใหม่……ทีนี้จะได้รู้บ้างว่า”ใครใหญ่”
    และจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางราคา….

    แต่ก็ไม่นาน……ที่ปูตินเล่นไม้แข็งก็โอนอ่อน เพราะคนที่เดือดร้อนด้วยคือมหามิตร อย่าง ออสเตรีย, ฮังการี
    เขายอมปล่อยก๊าสคืนให้ แต่….จะมีการวางท่อใหม่และราคาที่ขึ้นอยู่กับว่า……รักมาก…รักน้อย….!!

    ทีนี้ก็ถึงการลากมาสับ…รายแรกคือ Victor Yushchenko หรือ VAY ที่ทางรัสเซียได้ออกข่าวว่า ที่เรื่องก๊าสยุ่งเหยิง หนี้สินเพียบแบบนี้ เพราะการบริหารของประธานาธิบดียูเครนคนใหม่ ที่มีส่วนในการรับเงินใต้โต๊ะจากบริษัท RosUkrEnergo
    ปูตินทิ้งท้ายไว้ว่า “ถ้าอยากรู้ มากกว่านี้……ก็ไปถามกันเอง..”

    ~~บริษัทพลังงาน RosUkrEnergo เป็นของรัฐบาลยูเครนที่ Gazprom มีหุ้นครึ่งหนึ่ง ตัวเลขการเงินทางฝั่งยูเครน ไหลไปไหนก็รู้กันหมดว่า VAY เอาไปใช้ในการปฏิบัติการสีส้มจำนวนมหาศาล และในรัฐบาลยูเครน ก็ยังมีเส้นสายคนของปูตินเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ คือ Victor Yanukovych (VFY)

    เครดิตของประธานาธิบดียูเครนที่เพิ่งได้มาหมาดๆ เริ่มสั่นคลอน
    ความมั่นใจว่ามีตะวันตกหนุนหลัง……ชักลังเล………แต่เขาเริ่มเชื่อแล้วว่า……คงจะต้องมีรายการตามมาอีกเป็นหางว่าว………!!!

    Wiwanda W. Vichit
    ติ่งขา……พี่ปูช่างมีพลังเหลือเฟือ ทั้งเล่ห์เหลี่ยม ทุบสั่งสอนและปากร้าย……แหมมมม…แค่ปีกว่าๆเองนะเนี่ยยยย!!! ตอนสิบหก………เรื่องรักเพื่อน…ไม่เคยถอย……เรื่องลองดี…ก็ไม่รอให้ท้า…!!! ภายในช่วงฤดูร้อนของปี 2005 ระบบการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของรัสเซียได้แน่นกระชับขึ้น หลังจากที่เรียกคืนสัมปทานจากกลุ่มนายทุน (ด้วยวิธีตรวจสอบเรียกเก็บภาษีย้อนหลังแล้ว) ส่วนใหญ่ยอมสละเรือ พากันทิ้งแล้วหอบเงินที่มีออกไปนอกประเทศ…… ส่วน MK (หรือ Mikhail Khodorkovsky) ที่ยังดื้อดึง เพราะมีเส้นสายอยู่รอบโลก ยังคงท้าทายอำนาจ ซึ่งเขาได้รับโทษจำคุกเก้าปี เมื่อสัมปทานทั้งหมดได้กลับเข้าสู่รัฐ ปูตินได้เปิดให้บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกอื่นๆเข้ามามีส่วนร่วมในการซื้อหุ้นพลังงาน เพื่อการจูงใจในการลงทุนในภาคอื่นๆ เพราะเขามีโปรเจ็คที่จะสร้างท่อส่งก๊าสไปสู่ยุโรป โดยผ่านทั้งทางบกและลอดใต้ทะเล กลุ่มที่หลั่งไหลเข้ามา ก็คือ Citigroup, IBM,Intel, Alcoa, ConocoPhilip, Kraft และเจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการสื่อโลก Rupert Murdoch ในการประชุมกับบุคคลต่างๆของบริษัทที่กล่าวมา Sanford Weill จาก Citigroup (USA) ได้ถามปูตินตรงๆว่า “เส้นทางที่พวกเราจะมาลงทุนนี้ มันต้องผ่านขั้นตอนหรือมีอุปสรรคอะไรบ้าง?” ปูตินตอบอย่างชัดเจนว่า… “ทางเราไม่มีอะไรมาก เพราะมีกฎหมายระบุชัดเจน ส่วนอุปสรรคที่คุณว่า มันไม่ใช่มาจากรัสเซีย แต่มันเกิดจากทางบ้านคุณ (หมายถึงอเมริกา) ที่บีบคั้นเราในทางการค้าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก, การควบคุมทางอวกาศ, คอมพิวเตอร์ และ ทางการทหาร ซึ่งเป็นการบีบมาตั้งแต่เมื่อครั้วเราเป็นโซเวียต เพื่อเป็นการลงโทษที่โซเวียตมีกฏหมายห้ามไม่ให้ยิว ลี้ภัยออกไปอิสราเอล (1974) เมื่อเราได้มาเป็นรัสเซีย กฏหมายข้อนี้ได้ล้มเลิกไป ใครจะไปไหนก็ตามสบาย แต่อเมริกายังไม่ยกเลิกการแซงชั่นจนถึงบัดนี้ ไม่ว่าจะเปลี่ยนมากี่ประธานาธิบดี เรื่อง”อุปสรรค” ที่พวกคุณถาม คุณถามผิดคนแล้ว คุณต้องไปถามทางผู้นำขอบคุณจะได้รับคำตอบที่ดีกว่า……” คำตอบนี้…เล่นเอาทุกคนสะอึก….!!! หลังประชุม มีการถ่ายรูปหมู่ Robert Kraft เจ้าของบริษัท Kraft Group และเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล ที่เพิ่งชนะใน Super Bowl เมื่อต้นปี ที่เขาภูมิใจมาก ถึงขนาดสั่งทำแหวนเพชรขึ้นมาเป็นพิเศษ ด้วยเพชรกว่าสองร้อยเม็ดล้อมรอบ สลักชื่อตัวเอง สลัดชื่อทีม……Sanford Weill จึงกระเซ้าว่า ให้เอาแหวนมาอวดปูตินหน่อยซิ Kraft จึงค่อยบรรจงควักออกมาจากกระเป๋าเสื้อ และเปิดกล่องให้ปูตินได้ชม… ปูติน…หยิบเอาไปสวมในนิ้วมือ และอุทานว่า “นี่มันขนาดเอาไปใช้เป็นอาวุธได้เลยนะ..” ช่างภาพกดแฟลชกันระรัว…ยิงไม่นับ จากนั้น Kraft จึงยื่นมือไปเพื่อขอคืน แต่ปูตินส่งต่อให้ผู้ติดตามให้เอาไปเก็บ………และกล่าวอำลาไปอย่างหน้าตาเฉย Robert Kraft ถึงกับไปไม่เป็น ตามด้วยสติแตก เขารีบติดต่อหา Weill และต่อสายทางไกลไปยังทำเนียบขาว เพื่อที่จะช่วยขอแหวนคืน…… แต่ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ที่ออกมา มันเป็นการลักษณะของการมอบของขวัญ ที่ใครจะไปกล้าขอคืน……เสียหน้าแย่ แต่ Kraft ก็ยังเอะอะมะเทิ่งว่า……ก็ผมให้ดูเฉยๆ ตามคำแนะนำของวีลล์ และผมรักมันมาก ตั้งใจทำมาเพื่อเป็นเกียรติยศกับวงศ์ตระกูล… ทำเนียบขาวตอบมาสั้นๆว่า….”เอาน่า….ไปสั่งทำใหม่ละกัน..” ก็สรุปตามนั้น คราฟท์ได้สั่งทำใหม่มาอีกวงหนึ่ง ส่วนวงออริจินัลนั้น ปัจจุบันอยู่ที่ ห้องพิพิธภัณฑ์ของที่ระลึก ในหอสมุดที่เครมลิน… ~~-นี่คือความเข้าใจผิดระดับผู้นำ……เพราะมันตรงตามโปรโตคอลที่จะเป็นภาพของการถ่ายภาพร่วมกันออกสื่อ มีการมอบของขวัญเพื่อสานสัมพันธไมตรี และเป็นการขอบคุณเจ้าภาพ….ซึ่งทางรัสเซียคงเข้าใจตามนั้น ถ้าจะอวดกัน…ควรจะอวดเป็นส่วนตัวในยามคุยถึงเรื่องที่เกี่ยวข้อง จากภาพที่เห็น……ใครๆก็ต้องคล้อยตามว่า นั่นคือการมอบของที่ระลึก… (ป่านนี้ปูตินคงขำกลิ้งไปแล้ว……) งานวางฐานเศรษฐกิจชาติ ได้สำเร็จไปตามแผน นั่นคือ Rosneft บริษัทพลังงานที่ใหญ่อันดับสอง ดูแลโดย Igor Sechin United Aircraft Corporation ดูแลโดย Sergei Ivanov Russian Railways ดูแลโดย Vladimir Yakunin Rosoboronexport ดูแลโดย Seigei Chemezov Gazprom ดูแลโดย Dmitry Medvedev ทั้งหมดนี้ ที่ทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียก้าวพุ่ง ภายในปีเดียว จนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งใน G8 แบบกระพริบตาไม่ทัน มกราคม 2006 นักข่าวได้ถามปูตินว่า “ถ้าไม่เป็นประธานาธิบดี ท่านคิดว่าท่านจะมาทำงานในส่วนคุมพลังงานนี้หรือไม่..?” คำตอบคือ “ขอบคุณที่ชี้ทางหางานให้……แต่ไม่มีทาง ผมไม่มีทักษะในเรื่องธุรกิจเลย หรือ เป็นเพราะว่าเมื่อชาติก่อนไม่เคยทำมาค้าขายก็เป็นได้…” เพื่อนเก่าอีกคนหนึ่งที่ต้องพูดถึง คือ สองพี่น้อง Arkady และ Boris Rotenerg ที่เรียนยูโดมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก สองพี่น้องนี้ได้เปิดสถานฝึกสอนยูโด และ ยิมที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในปี 1998 ชื่อว่า Yawara-Neva ปูตินรับเป็นประธานกิตติมศักดิ์……ที่สถานฝึกสอนได้ตั้งกลุ่มผู้ที่ฝึกยูโดอย่างจริงจัง เรียกว่า “judocracy “ เมื่อปี 2000 ที่ปูตินได้เป็นประธานาธิบดี เขาจัดการควบคุมโรงกลั่นเหล้าว้อดก้าให้เป็นสัมปทาน และมอบหมายให้ Arkady เป็นคนดูแล ซึ่งไม่นานต่อมา องค์กรโรงกลั่นนี้ได้ขยายไปคุมกิจการเหล้าอื่นๆเกือบทั้งประเทศ จนถึงขั้นตั้งธนาคารของตัวเองได้ ชื่อว่า SMP Bank และมีส่วนร่วมในการลงทุนในท่อก๊าสสู่ยุโรป ความสำเร็จเหล่านี้เป็นการยืนยันว่า เขาไม่ได้เอาเพื่อนจากถิ่นเก่ามาช่วยงานเพราะเห็นแก่หน้า……แต่เขาคัดมาเฉพาะคนที่เชื่อใจและมองเห็นในความสามารถ…… ปูตินเชื่ออะไรหลายๆอย่างที่เป็นเรื่องแปลก เขาคือชนรุ่นโซเวียตแท้ๆตั้งแต่เกิด แต่เขามีความอ่อนไหวกับเรื่องราชาธิปไตยภายใต้ประชาธิปไตย (sovereign democracy) ในการบรรยายหรือให้สัมภาษณ์เขามักกล่าวถึง นักปรัชญาทางการเมืองและศาสนา Ivan Ilyin (1883-1954) ที่ต่อต้านบอลเชวิคจนต้องหนีออกไปนอกประเทศ และไปเสียชีวิตที่ สวิตเซอร์แลนด์ ในบทความของอิวานมักจะเอนเอียงไปทางประชาธิปไตยที่ต้องออกแบบให้เหมาะสมกับฐานรากของประชาชน ปูตินได้ใช้บทความของอิวานครั้งหนึ่งในตอนที่เขาขึ้นรับตำแหน่งใหม่ๆว่า “เราต้องไม่ลืมว่า รัสเซียเป็นประชาธิปไตยเพราะนั่นคือความต้องการของประชาชน เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันสันติสุข เราต้องใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับภูมิภาค จดจำประวัติการความเป็นมา และการให้ความเคารพนับถือซึ่งกันและกัน เรามีเอกราชเป็นของตัวเอง เส้นทางข้างหน้าคือการก้าวไปอย่างเสรีด้วยกัน……ด้วยความระมัดระวัง…” และอีกคนหนึ่ง คือนักรบพระเจ้าซาร์ General Anton Denikin (1872-1947) ที่ต้องพ่ายแพ้ในการรักษาพระราชบัลลังก์ในสงครามกลางเมือง ทั้งๆที่นายพลผู้นี้ถือเป็นยอดอัศวิน (และเป็นนักเขียน) ที่ผ่านสงครามมานับไม่ถ้วน จนต้องลี้ภัยไปอยู่หลายประเทศ ในที่สุดก็ไปเสียชีวิตที่สหรัฐอเมริกา เวลาผ่านไปนานแสนนานก็จริง แต่ปูตินได้จัดการนำร่างของคนทั้งสองกลับมาทำพิธีและทำสุสานให้สมเกียรติที่ Donskoy Monastery, Moscow (ด้วยทุนของตัวเอง) กลับมาเรื่องการสร้างอำนาจด้วยพลังงาน……ปูตินได้จับมือกับนายรัฐมนตรีเยอรมันนี Gerhard Schröder ที่เป็นเกลอกัน ในเรื่องการสร้างท่อก๊าสจากเอเซียสู่ยุโรป ในนาม Nord Stream ที่จะเชื่อมผ่านกลุ่มท่อเก่าของโซเวียตที่ทำไว้ ที่ยูเครน, เบลารุส โปแลนด์ และ สอดผ่านใต้ทะเลบอลติก ที่ได้รับการสนับสนุนจากเยอรมันในโครงการนี้ถึงพันล้านยูโร (ในสมัยที่เยอรมันนีมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่) แต่ด้วยความเป็นคนที่ไม่ทิ้งเพื่อน เพียงหนึ่งอาทิตย์ที่ Gerhard ได้ลงจากตำแหน่ง รัสเซียได้จ้างให้ Gerhard มานั่งเป็นที่ปรึกษาในบริษัท Nord Stream ……รับเละ…!! เพราะประธานบริษัท คือ Matthias Warnig เพื่อนเก่าสมัยที่อยู่เดรสเดน ทุกการเคลื่อนไหวของปูตินได้สร้างเม็ดเงินสู่ประเทศแบบทำนบแตก ปรกติ Gazprom ได้ส่งก๊าสให้ยูเครนในราคาเป็นกันเอง คือ 50$ ต่อ 1000 คิวบิก ที่ยูเครนจะไปขายเท่าไหร่ก็แล้วแต่ แต่เมื่อการเมืองของยูเครนที่เกิดฝักใฝ่ทางตะวันตก… ตัวประธานาธิบดีคนใหม่ก็แสนจะดี๊ด๊ากับกลิ่นไอของประชาธิยไตยสีส้ม ปูตินก็เลยเห็นว่า……มันถึงเวลาที่จะขึ้นราคา…เท่ากับว่ากำไรที่เคยได้จะหดหายไป เพราะยูเครนไม่สามารถไปขึ้นราคากับยุโรปได้ เนื่องจากมีสัญญาระยะยาว… และหนี้สินที่ให้ค้างคามานาน.……รัสเซียให้เวลาสามเดือน ให้เอามาจ่าย เมื่อถึงเวลา….เงินไม่มา…ในวันที่ 31 ธันวาคม 2005 เป็นวันสำคัญของการเฉลิมฉลองของฤดูหนาว……รัสเซียตัดก๊าสสั่งสอน เดือดร้อนกันไปทั่วทั้งทวีป……กระจองอแงกันไปหมด นั่นคือการที่ต้องมาคุยกันใหม่……ทีนี้จะได้รู้บ้างว่า”ใครใหญ่” และจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางราคา…. แต่ก็ไม่นาน……ที่ปูตินเล่นไม้แข็งก็โอนอ่อน เพราะคนที่เดือดร้อนด้วยคือมหามิตร อย่าง ออสเตรีย, ฮังการี เขายอมปล่อยก๊าสคืนให้ แต่….จะมีการวางท่อใหม่และราคาที่ขึ้นอยู่กับว่า……รักมาก…รักน้อย….!! ทีนี้ก็ถึงการลากมาสับ…รายแรกคือ Victor Yushchenko หรือ VAY ที่ทางรัสเซียได้ออกข่าวว่า ที่เรื่องก๊าสยุ่งเหยิง หนี้สินเพียบแบบนี้ เพราะการบริหารของประธานาธิบดียูเครนคนใหม่ ที่มีส่วนในการรับเงินใต้โต๊ะจากบริษัท RosUkrEnergo ปูตินทิ้งท้ายไว้ว่า “ถ้าอยากรู้ มากกว่านี้……ก็ไปถามกันเอง..” ~~บริษัทพลังงาน RosUkrEnergo เป็นของรัฐบาลยูเครนที่ Gazprom มีหุ้นครึ่งหนึ่ง ตัวเลขการเงินทางฝั่งยูเครน ไหลไปไหนก็รู้กันหมดว่า VAY เอาไปใช้ในการปฏิบัติการสีส้มจำนวนมหาศาล และในรัฐบาลยูเครน ก็ยังมีเส้นสายคนของปูตินเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ คือ Victor Yanukovych (VFY) เครดิตของประธานาธิบดียูเครนที่เพิ่งได้มาหมาดๆ เริ่มสั่นคลอน ความมั่นใจว่ามีตะวันตกหนุนหลัง……ชักลังเล………แต่เขาเริ่มเชื่อแล้วว่า……คงจะต้องมีรายการตามมาอีกเป็นหางว่าว………!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แถลงการคิงส์โพธิ์แดง27_09_67
    สวัสดีแฟนเพจคิงส์โพธิ์แดงทุกท่าน
    แฟนเพจหลายท่าน เป็นแฟนเพจมาตั้งแต่
    เพจคิงส์โพธิ์แดงได้ทำภาระกิจเกี่ยวกับ
    การเปิดข้อมูลที่เป็นเรื่องซีฟทางการเมือง
    การต่อสู้กับกลุ่มฟอกในประเทศและผู้มีสี
    ที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
    มาระยะเวลาหลายปี
    และเมื่อคิงส์ฯได้พบข้อมูลที่น้องแน๊กถูกกระทำอย่างไม่ปราณี
    พี่คิงส์จึงเดินเครื่องขุดโฟกัสเต็มรูปแบบที่เรื่องนี้
    ทำให้ข้อมูล ยิ่งขุดยิ่งมีปริมาณมาก และได้ทำการโพส
    ถี่น้อยที่สุด เท่าที่ทำได้ ให้สัมพันธ์กับข้อมูลที่ต้องเปิดเผย
    รวมถึง แผนของขบก. ทั้งฝั่งกลุ่มเงินดาร์ค และหัวโจกที่อยู่ฝั่งไทย
    ทำให้พี่น้องชาวไทย ได้เกิดการรับรู้ และนำไปสู่เกิดกระบวนการตรวจสอบ
    พี่คิงส์ขอสรุปผลการปฏิบัติภาระกิจดังนี้
    1. เราได้เปิดเผยถึงขบวนการใหญ่ ของกลุ่มเงินดาร์ค ที่ใช้การพีเคบิ๊กแม็ต เป็นช่องทางในการฟอก โดยทำมาแล้วทั้งฝั่งยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย และได้แปะข้อมูลให้เข้าไปแปลเป็นไทยแล้วอ่านกันอย่างลึกซึ้งแล้ว
    2. เราได้เปิดเผย ถึงลักษณะของเอเจนซี่ ที่เป็นร่างทรงของกลุ่มทุนดาร์ค ที่กำลังจะเข้ามาตั้งฐานในประเทศไทย เพราะประเทศเรายังมีความล่าช้าด้านข่าวสารมากๆ
    3. เราได้เปิดเผย ถึงแผนของขบก เครือข่ายของ โจ มณฑนี รวมถึงได้ขุดถึงที่มาที่ไป และรายละเอียด ชนิดที่โจเองก็ตกใจ
    และณ เวลานี้ ทั้งปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการตรวจสอบทั้งทางลับ และเปิดเผย โยงเส้นเงินทั้ง ขบก
    ดังนั้น จากผลการปฏิบัติภาระกิจดังกล่าวถือว่าได้รับความสำเร็จ
    ต้องขอขอบคุณ พี่น้องชาวเพจคิงส์ฯ และพี่น้องชายไทย ที่ได้นำสารต่างๆ เข้าไปส่งต่อใน ตต. และโซเชียลในทุกรูปแบบ
    หากไม่มีพวกท่าน งานนี้คงไม่สามารถสื่อสารให้กับพี่น้องชาวไทยได้ขนาดนี้
    และจากโพสต่างๆที่พี่คิงส์ฯได้ทำการให้ข้อมูลไปนั้น เพียงพอต่อการดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ ชี้เป้า รวมถึงมีการแจงรายละเอียดต่างๆอย่างครบถ้วนแล้ว
    -ในเวลาที่ผ่านมา มีหลายอย่างที่พี่คิงส์อยากทำให้พี่น้องชาวไทย แต่ต้องทำภาระกิจนี้ให้ลุล่วงก่อน และวันนี้ก็มาถึง
    ดังนั้น ขอสรุปว่า
    1. เพจคิงส์โพธิ์แดง จะนำเสนอเรื่องของโจมณฑนี และขบก.ต่อไป เฉพาะกรณีที่เป็นเรื่องสำคัญ หรือเรื่องที่มีคนอยากให้ข้อมูลบางอย่าง สื่อสารสู่พี่น้องชาวไทย แต่ไม่กล้าเปิดหน้า พี่คิงส์จะสื่อสารให้เอง แต่จะไม่ได้โพสเรื่องนี้อย่างเดียว ทั้งวันทั้งคืนอีก
    2. สิ่งที่พี่คิงส์ต้องการทำเพื่อคนไทยจากนี้ไปเพิ่มเติมคือ การรุกคืบของแรงงานต่างชาติ ที่เวลานี้ ได้บุกเข้ามายึดที่ทำกิน และสร้างกองกำลังอิทธิพล จนกลายเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย และด้วยความถี่เป็นคนต่างด้าว ในจำนวนนั้นที่ไม่น้อยเลย ไม่มีหลักฐานรูปพรรณ หากทำอะไรคนไทย จะไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินการไปสู่การรับโทษได้
    3. เรื่องภั-ยทางธรรมชาติ ข้อมูลเชิงลึก ที่บางทีภาครัฐเองไม่กล้าเปิดเผย เพราะกลัวจะมีการตื่นตระหนก แต่ถ้าประชาชนไม่รู้ จะได้รับความเดือดร้อนอย่างกว้างขวาง
    4. เรื่องทุนจีน ที่เข้ามาตัดราคาสินค้าในประเทศไทย ที่ทำให้ธุรกิจของคนไทย หายไปตอนนี้มากกว่า 80% ซึ่งพี่คิงส์ต้องหาข้อมูลมาส่งแฟนเพจ เพื่อป้องกันไม่ให้ธุรกิจของคนไทย ต้องล่มสลาย
    5.พี่คิงส์ไม่ทิ้งน้องแน๊กและครอบครัว แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดงส่งข้อมูลหลักฐานการละเมิดน้องแน๊กทางโซเชียลมาได้ตลอด เพราะพี่คิงส์ได้รับการขอความช่วยเหลือจาก...ให้เก็บรวบรวมหลักฐานทุกอย่างให้มากที่สุด ยังคงส่งมาได้อย่างต่อเนื่อง เหมือนเดิม
    -ดังนั้น ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่พี่คิงส์ต้องทำเพื่อคนไทย แต่ยังไม่ได้ทำ
    แต่แฟนเพจที่เป็นด้อมแพนด้าไม่ต้องกังวล ว่าพี่คิงส์จะทิ้งน้องชาลีและครอบครัว ฝากบอกน้องว่า พี่คิงส์จะเป็นเรือดำน้ำคุ้มภัยให้น้องเอง
    น้องข้า ใครอย่าแตะ
    และฝากถึงขบก.ของโจว่า คงเห็นแล้วว่าการท้าทายเพจคิงส์โพธิ์แดง ผลเป็นอย่างไร หรือถ้ามีการท้าทาย การข่มขู่ววพี่คิงส์อีก ก็ไม่เป็นการยากลำบาก ในการขุดทั้งวันทั้งคืนแบบนี้อีกเช่นกัน กรรูพร้อมเสมอ
    อิฉัด
    ส่วนพวกขี้คอก พวกเบี้ยตัวเล็กๆ ที่ประเมินตัวเองสูงเกินจริง ก็ปล่อยให้มันทำไป เพราะจากนี้ไป ยิ่งทำ ก็ยิ่งเป็นหลักฐานให้แฟนเพจคิงส์ ส่งมาให้มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งดิ้น ยิ่งมัดตัว เพราะกระบวนการดำเนินอยู่ทุกวัน เรื่องการรวบรวมพยานหลักฐาน และการตรวจสอบเชิงลึก
    พวกนี้จะเหมือนกบที่ถูกต้ม มันจะค่อยๆร้อน คิดว่ากำลังอาบน้ำอุ่น
    แต่มารู้ตัวว่าจะตรุย ก็ตอนที่ไม่มีแรงดิ้นออกจากหม้อแล้วนั่นเอง
    หากแฟนเพจ ได้อ่านแล้ว เห็นชอบตามที่พี่คิงส์แถลงนี้
    ช่วยกดไลค์ หรือเม้นว่าเห็นด้วย เพื่อให้พี่คิงส์รับรู้
    ว่าแฟนเพจ เข้าใจภาระกิจของพี่คิงส์ นับจากนี้ไป
    ขอบคุณล่วงหน้า ขอบคุณครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #แถลงการคิงส์โพธิ์แดง27_09_67 สวัสดีแฟนเพจคิงส์โพธิ์แดงทุกท่าน แฟนเพจหลายท่าน เป็นแฟนเพจมาตั้งแต่ เพจคิงส์โพธิ์แดงได้ทำภาระกิจเกี่ยวกับ การเปิดข้อมูลที่เป็นเรื่องซีฟทางการเมือง การต่อสู้กับกลุ่มฟอกในประเทศและผู้มีสี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาระยะเวลาหลายปี และเมื่อคิงส์ฯได้พบข้อมูลที่น้องแน๊กถูกกระทำอย่างไม่ปราณี พี่คิงส์จึงเดินเครื่องขุดโฟกัสเต็มรูปแบบที่เรื่องนี้ ทำให้ข้อมูล ยิ่งขุดยิ่งมีปริมาณมาก และได้ทำการโพส ถี่น้อยที่สุด เท่าที่ทำได้ ให้สัมพันธ์กับข้อมูลที่ต้องเปิดเผย รวมถึง แผนของขบก. ทั้งฝั่งกลุ่มเงินดาร์ค และหัวโจกที่อยู่ฝั่งไทย ทำให้พี่น้องชาวไทย ได้เกิดการรับรู้ และนำไปสู่เกิดกระบวนการตรวจสอบ พี่คิงส์ขอสรุปผลการปฏิบัติภาระกิจดังนี้ 1. เราได้เปิดเผยถึงขบวนการใหญ่ ของกลุ่มเงินดาร์ค ที่ใช้การพีเคบิ๊กแม็ต เป็นช่องทางในการฟอก โดยทำมาแล้วทั้งฝั่งยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย และได้แปะข้อมูลให้เข้าไปแปลเป็นไทยแล้วอ่านกันอย่างลึกซึ้งแล้ว 2. เราได้เปิดเผย ถึงลักษณะของเอเจนซี่ ที่เป็นร่างทรงของกลุ่มทุนดาร์ค ที่กำลังจะเข้ามาตั้งฐานในประเทศไทย เพราะประเทศเรายังมีความล่าช้าด้านข่าวสารมากๆ 3. เราได้เปิดเผย ถึงแผนของขบก เครือข่ายของ โจ มณฑนี รวมถึงได้ขุดถึงที่มาที่ไป และรายละเอียด ชนิดที่โจเองก็ตกใจ และณ เวลานี้ ทั้งปปง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการตรวจสอบทั้งทางลับ และเปิดเผย โยงเส้นเงินทั้ง ขบก ดังนั้น จากผลการปฏิบัติภาระกิจดังกล่าวถือว่าได้รับความสำเร็จ ต้องขอขอบคุณ พี่น้องชาวเพจคิงส์ฯ และพี่น้องชายไทย ที่ได้นำสารต่างๆ เข้าไปส่งต่อใน ตต. และโซเชียลในทุกรูปแบบ หากไม่มีพวกท่าน งานนี้คงไม่สามารถสื่อสารให้กับพี่น้องชาวไทยได้ขนาดนี้ และจากโพสต่างๆที่พี่คิงส์ฯได้ทำการให้ข้อมูลไปนั้น เพียงพอต่อการดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ ชี้เป้า รวมถึงมีการแจงรายละเอียดต่างๆอย่างครบถ้วนแล้ว -ในเวลาที่ผ่านมา มีหลายอย่างที่พี่คิงส์อยากทำให้พี่น้องชาวไทย แต่ต้องทำภาระกิจนี้ให้ลุล่วงก่อน และวันนี้ก็มาถึง ดังนั้น ขอสรุปว่า 1. เพจคิงส์โพธิ์แดง จะนำเสนอเรื่องของโจมณฑนี และขบก.ต่อไป เฉพาะกรณีที่เป็นเรื่องสำคัญ หรือเรื่องที่มีคนอยากให้ข้อมูลบางอย่าง สื่อสารสู่พี่น้องชาวไทย แต่ไม่กล้าเปิดหน้า พี่คิงส์จะสื่อสารให้เอง แต่จะไม่ได้โพสเรื่องนี้อย่างเดียว ทั้งวันทั้งคืนอีก 2. สิ่งที่พี่คิงส์ต้องการทำเพื่อคนไทยจากนี้ไปเพิ่มเติมคือ การรุกคืบของแรงงานต่างชาติ ที่เวลานี้ ได้บุกเข้ามายึดที่ทำกิน และสร้างกองกำลังอิทธิพล จนกลายเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย และด้วยความถี่เป็นคนต่างด้าว ในจำนวนนั้นที่ไม่น้อยเลย ไม่มีหลักฐานรูปพรรณ หากทำอะไรคนไทย จะไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินการไปสู่การรับโทษได้ 3. เรื่องภั-ยทางธรรมชาติ ข้อมูลเชิงลึก ที่บางทีภาครัฐเองไม่กล้าเปิดเผย เพราะกลัวจะมีการตื่นตระหนก แต่ถ้าประชาชนไม่รู้ จะได้รับความเดือดร้อนอย่างกว้างขวาง 4. เรื่องทุนจีน ที่เข้ามาตัดราคาสินค้าในประเทศไทย ที่ทำให้ธุรกิจของคนไทย หายไปตอนนี้มากกว่า 80% ซึ่งพี่คิงส์ต้องหาข้อมูลมาส่งแฟนเพจ เพื่อป้องกันไม่ให้ธุรกิจของคนไทย ต้องล่มสลาย 5.พี่คิงส์ไม่ทิ้งน้องแน๊กและครอบครัว แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดงส่งข้อมูลหลักฐานการละเมิดน้องแน๊กทางโซเชียลมาได้ตลอด เพราะพี่คิงส์ได้รับการขอความช่วยเหลือจาก...ให้เก็บรวบรวมหลักฐานทุกอย่างให้มากที่สุด ยังคงส่งมาได้อย่างต่อเนื่อง เหมือนเดิม -ดังนั้น ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่พี่คิงส์ต้องทำเพื่อคนไทย แต่ยังไม่ได้ทำ แต่แฟนเพจที่เป็นด้อมแพนด้าไม่ต้องกังวล ว่าพี่คิงส์จะทิ้งน้องชาลีและครอบครัว ฝากบอกน้องว่า พี่คิงส์จะเป็นเรือดำน้ำคุ้มภัยให้น้องเอง น้องข้า ใครอย่าแตะ และฝากถึงขบก.ของโจว่า คงเห็นแล้วว่าการท้าทายเพจคิงส์โพธิ์แดง ผลเป็นอย่างไร หรือถ้ามีการท้าทาย การข่มขู่ววพี่คิงส์อีก ก็ไม่เป็นการยากลำบาก ในการขุดทั้งวันทั้งคืนแบบนี้อีกเช่นกัน กรรูพร้อมเสมอ อิฉัด ส่วนพวกขี้คอก พวกเบี้ยตัวเล็กๆ ที่ประเมินตัวเองสูงเกินจริง ก็ปล่อยให้มันทำไป เพราะจากนี้ไป ยิ่งทำ ก็ยิ่งเป็นหลักฐานให้แฟนเพจคิงส์ ส่งมาให้มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งดิ้น ยิ่งมัดตัว เพราะกระบวนการดำเนินอยู่ทุกวัน เรื่องการรวบรวมพยานหลักฐาน และการตรวจสอบเชิงลึก พวกนี้จะเหมือนกบที่ถูกต้ม มันจะค่อยๆร้อน คิดว่ากำลังอาบน้ำอุ่น แต่มารู้ตัวว่าจะตรุย ก็ตอนที่ไม่มีแรงดิ้นออกจากหม้อแล้วนั่นเอง หากแฟนเพจ ได้อ่านแล้ว เห็นชอบตามที่พี่คิงส์แถลงนี้ ช่วยกดไลค์ หรือเม้นว่าเห็นด้วย เพื่อให้พี่คิงส์รับรู้ ว่าแฟนเพจ เข้าใจภาระกิจของพี่คิงส์ นับจากนี้ไป ขอบคุณล่วงหน้า ขอบคุณครับ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    14
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1097 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นิทานเรื่องชาวนากับงูเห่าเหม็นจอมหงี่
    นิทานเรื่องนี้ มิได้ทำการอ้างอิงจากเนื้อหาที่ไม่จริง
    เรื่องนี้ ขอเอาแค่พอสรุปเนื้อหา เพราะแฟนเพจบ่นมาเยอะว่า อ่านแล้วตาลาย
    รับรองว่าโพสนี้สั้นๆครับ เอาแค่พอเข้าใจ ไม่เกิน 1000 บรรทัด
    เรามาเริ่มกันเลย
    -กลางครั้งหนึ่ง ประมาณต้นปีนี้ มีชาวนาผู้ร่ำรวยคนหนึ่ง เป็นชาวนาหน้ามน ที่มีออร่ามาก หญิงสาวในหมู่บ้านต่างหมายปอง เพราะชาวนาคนนี้ ครบเครื่อง ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมมีชื่อเสียงดังไกลข้ามหมู่บ้าน
    -วันหนึ่ง ชาวนา สนุกกับการทำนาแนวใหม่ ด้วยการชวนชาวนาด้วยกัน มาร่วมการแข่งขัน พาแฟนๆมาช่วยกันรุมปลูกข้าว ใครปักข้าวได้มากกว่าคนนั้นชนะ แต่ชาวนา ก็ชวนสนุกๆหอมปากหอมคอ ได้มิตรภาพ ได้เฮฮา
    -ระหว่างนั้น ที่ชาวนารูปหล่อกำลังสนุกสนาน ก็หันไปเจอ สิ่งมีชีวิตที่หน้าตาคล้ายคน หัวเป็นงู แต่ตัวเป็นเฮี้ย ลักษณะเป็นตัวเมีย มีกลิ่นเหม็น ซึ่งก็กำลังพยายามทำนาแนวใหม่แบบชาวหนาสุดหล่อ แต่ก็แสดงความสำออย อ้างว่าตัวเองน่าสงสาร และกำลังรู้สึกหนาวว ชาวนาหนุ่มจึงตัดสินใจ ชวนเพื่อนๆที่กำลังสนุกสนานในพื้นนาของตัวเอง กับการแข่งขันปลูกข้าว ให้มาช่วย นังงูที่นาผืนนี้
    -นังงูดีใจ ตื่นตาตื่นใจอย่างมาก เพราะไม่เคยคิดว่า จะสามารถต้มคนได้ประสบความสำเร็จขนาดนี้ จึงเริ่มออกอุบาย แปลงกายใส่หน้ากาก ว่าตัวเองนั้นคือคน ที่เป็นยายโกะที่น่ารัก ทั้งๆที่นังงู อายุมากกว่า 1000 ปีแล้ว และกรำศึกมาโชกโชน
    -ชาวนาเห็นว่า นังงูเหม็น น่าสงสาร และโดนมนต์ดำของนังงูไปชั่วขณะหนึ่ง จนพลาดนำนังงูเข้ามาในบ้าน แต่ลักษณะของนังงู มีความผิดปกตินับร้อยๆเรื่อง
    นังงูเหม็น เป็นลำยอง ทุกครั้งที่สโหลสะเหล จะมีอาการหงี่อย่างแรง เรียกว่า ขาดของไม่ได้ และมีหลายครั้งที่นังงู พยายามจะทำตัวเป็นนังงูขย่มตอ แต่ชาวนาหน้าหล่อกลับปัดป้อง ด้วยเพราะคุณธรรมของชาวนา และความซกมกของนังงู ทำให้ชาวนายังรอดปลอดภัย
    -มันจึงเกิดเรื่องขึ้น นั่งงูไม่ได้หยำเปย์แค่บางวัน แต่หยำเปย์เป็นลำยองทุกคืน ในเหยือกเยติที่เห็นนั้นน่ะ ไม่ใช่น้ำ มันเป็นแอล ในเมื่อชาวนาไม่สนอง ก็ต้องหาทางออก
    โดยแทบทุกคืน ช่วงเวลาประมาณตีสอง โดยเฉพาะวันที่แสงจันทราสาดส่อง ความหงี่จะเพิ่มเป็นทวีคุณ งูเหม็นจึงโทรเรียก ชายที่มาจากดินแดนมนุษย์งูเหมือนกัน ที่เรียกว่า เพื่อน ที่เป็นคนชวนให้นังงู รู้จักการทำนาแนวใหม่
    -ชาวนา รู้ และเห็นทุกอย่าง และห้าม ไม่ให้ทำแบบนี้ พยายามจะปรับให้นังงู ให้ดีขึ้น แต่นังงูกลับไม่ใยดี เพราะความหงี่บังตา เพื่อนชายนังงูจะมารับออกไปทุกตีสอง
    และแล้ว เพื่อนพ้องท้องก็เริ่มชนกัน แต่ไม่ได้นับว่าเป็นผัวเมียกัน เพราะตัวจริงที่เลี้ยงดูงู ก็มีอยู่แล้ว ส่วนเพื่อนพ้อท้องชนเกิน มันก็เหมือนเวลาหิวข้าว หิวก็กินกัน อิ่มก็แยกกัน แล้วก็เอามาส่งที่บ้านชาวนา ในเวลา 6 โมงเช้า
    -นอกจากความหงี่ขั้นสุดแล้ว ด้วยความที่นังงู มาโปรยเสน่ห์ และใช้มนต์ดำบดบัง นังงูไม่เคยรักชาวนาเลย แม้แต่วินาทีเดียว เพราะชาวนาทั้งสะอาดเกินไป เนี๊ยบเกินไป เป็นคนดีเกินไป อย่างนังงู ผัวตัวจริงต้องลักษณะดิบๆ และซาล่าดิส
    -ดังนั้นระยะเวลากว่า7 เดือน ที่ชาวนาต้องทนอยู่กับนังงู ทุกครั้งที่นังงูถูกขัดใจ จะกระโดดกัดชาวนา หรือเอาขาหน้าหยุมหัวชาวนา หรือเอาขาหน้าบักๆๆๆๆตามร่างกายของชาวนาหนุ่ม จนตัวมีแต่รอยฟกช้ำ คอสตูมและช่างแต่หน้าของชาวนา ต่างเป็นพยายานเรื่องนี้ได้
    แฟนเพจครับ เรื่องที่นำเสนอนี้ เป็นเพียง 1 ใน 1000 ของเนื้อหาทั้งหมด
    ขออนุญาตทะยอยเล่าให้ทุกท่านได้อ่าน ในโอกาสต่อไป
    ถือว่า เป็น EP.1 ของนิทานเรื่อง ชาวนากับงูเหม็นจอมหงี่นะครับนะ
    ไม่ไหวฟังแฟนเพจบ่นว่าพิมพ์ยาวเกินไป
    นี่ก็ตัดให้สั้นๆ จะได้อ่านกันง่ายๆแล้ว
    คิดว่าแฟนเพจคงพอใจนะครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #นิทานเรื่องชาวนากับงูเห่าเหม็นจอมหงี่ นิทานเรื่องนี้ มิได้ทำการอ้างอิงจากเนื้อหาที่ไม่จริง เรื่องนี้ ขอเอาแค่พอสรุปเนื้อหา เพราะแฟนเพจบ่นมาเยอะว่า อ่านแล้วตาลาย รับรองว่าโพสนี้สั้นๆครับ เอาแค่พอเข้าใจ ไม่เกิน 1000 บรรทัด เรามาเริ่มกันเลย -กลางครั้งหนึ่ง ประมาณต้นปีนี้ มีชาวนาผู้ร่ำรวยคนหนึ่ง เป็นชาวนาหน้ามน ที่มีออร่ามาก หญิงสาวในหมู่บ้านต่างหมายปอง เพราะชาวนาคนนี้ ครบเครื่อง ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมมีชื่อเสียงดังไกลข้ามหมู่บ้าน -วันหนึ่ง ชาวนา สนุกกับการทำนาแนวใหม่ ด้วยการชวนชาวนาด้วยกัน มาร่วมการแข่งขัน พาแฟนๆมาช่วยกันรุมปลูกข้าว ใครปักข้าวได้มากกว่าคนนั้นชนะ แต่ชาวนา ก็ชวนสนุกๆหอมปากหอมคอ ได้มิตรภาพ ได้เฮฮา -ระหว่างนั้น ที่ชาวนารูปหล่อกำลังสนุกสนาน ก็หันไปเจอ สิ่งมีชีวิตที่หน้าตาคล้ายคน หัวเป็นงู แต่ตัวเป็นเฮี้ย ลักษณะเป็นตัวเมีย มีกลิ่นเหม็น ซึ่งก็กำลังพยายามทำนาแนวใหม่แบบชาวหนาสุดหล่อ แต่ก็แสดงความสำออย อ้างว่าตัวเองน่าสงสาร และกำลังรู้สึกหนาวว ชาวนาหนุ่มจึงตัดสินใจ ชวนเพื่อนๆที่กำลังสนุกสนานในพื้นนาของตัวเอง กับการแข่งขันปลูกข้าว ให้มาช่วย นังงูที่นาผืนนี้ -นังงูดีใจ ตื่นตาตื่นใจอย่างมาก เพราะไม่เคยคิดว่า จะสามารถต้มคนได้ประสบความสำเร็จขนาดนี้ จึงเริ่มออกอุบาย แปลงกายใส่หน้ากาก ว่าตัวเองนั้นคือคน ที่เป็นยายโกะที่น่ารัก ทั้งๆที่นังงู อายุมากกว่า 1000 ปีแล้ว และกรำศึกมาโชกโชน -ชาวนาเห็นว่า นังงูเหม็น น่าสงสาร และโดนมนต์ดำของนังงูไปชั่วขณะหนึ่ง จนพลาดนำนังงูเข้ามาในบ้าน แต่ลักษณะของนังงู มีความผิดปกตินับร้อยๆเรื่อง นังงูเหม็น เป็นลำยอง ทุกครั้งที่สโหลสะเหล จะมีอาการหงี่อย่างแรง เรียกว่า ขาดของไม่ได้ และมีหลายครั้งที่นังงู พยายามจะทำตัวเป็นนังงูขย่มตอ แต่ชาวนาหน้าหล่อกลับปัดป้อง ด้วยเพราะคุณธรรมของชาวนา และความซกมกของนังงู ทำให้ชาวนายังรอดปลอดภัย -มันจึงเกิดเรื่องขึ้น นั่งงูไม่ได้หยำเปย์แค่บางวัน แต่หยำเปย์เป็นลำยองทุกคืน ในเหยือกเยติที่เห็นนั้นน่ะ ไม่ใช่น้ำ มันเป็นแอล ในเมื่อชาวนาไม่สนอง ก็ต้องหาทางออก โดยแทบทุกคืน ช่วงเวลาประมาณตีสอง โดยเฉพาะวันที่แสงจันทราสาดส่อง ความหงี่จะเพิ่มเป็นทวีคุณ งูเหม็นจึงโทรเรียก ชายที่มาจากดินแดนมนุษย์งูเหมือนกัน ที่เรียกว่า เพื่อน ที่เป็นคนชวนให้นังงู รู้จักการทำนาแนวใหม่ -ชาวนา รู้ และเห็นทุกอย่าง และห้าม ไม่ให้ทำแบบนี้ พยายามจะปรับให้นังงู ให้ดีขึ้น แต่นังงูกลับไม่ใยดี เพราะความหงี่บังตา เพื่อนชายนังงูจะมารับออกไปทุกตีสอง และแล้ว เพื่อนพ้องท้องก็เริ่มชนกัน แต่ไม่ได้นับว่าเป็นผัวเมียกัน เพราะตัวจริงที่เลี้ยงดูงู ก็มีอยู่แล้ว ส่วนเพื่อนพ้อท้องชนเกิน มันก็เหมือนเวลาหิวข้าว หิวก็กินกัน อิ่มก็แยกกัน แล้วก็เอามาส่งที่บ้านชาวนา ในเวลา 6 โมงเช้า -นอกจากความหงี่ขั้นสุดแล้ว ด้วยความที่นังงู มาโปรยเสน่ห์ และใช้มนต์ดำบดบัง นังงูไม่เคยรักชาวนาเลย แม้แต่วินาทีเดียว เพราะชาวนาทั้งสะอาดเกินไป เนี๊ยบเกินไป เป็นคนดีเกินไป อย่างนังงู ผัวตัวจริงต้องลักษณะดิบๆ และซาล่าดิส -ดังนั้นระยะเวลากว่า7 เดือน ที่ชาวนาต้องทนอยู่กับนังงู ทุกครั้งที่นังงูถูกขัดใจ จะกระโดดกัดชาวนา หรือเอาขาหน้าหยุมหัวชาวนา หรือเอาขาหน้าบักๆๆๆๆตามร่างกายของชาวนาหนุ่ม จนตัวมีแต่รอยฟกช้ำ คอสตูมและช่างแต่หน้าของชาวนา ต่างเป็นพยายานเรื่องนี้ได้ แฟนเพจครับ เรื่องที่นำเสนอนี้ เป็นเพียง 1 ใน 1000 ของเนื้อหาทั้งหมด ขออนุญาตทะยอยเล่าให้ทุกท่านได้อ่าน ในโอกาสต่อไป ถือว่า เป็น EP.1 ของนิทานเรื่อง ชาวนากับงูเหม็นจอมหงี่นะครับนะ ไม่ไหวฟังแฟนเพจบ่นว่าพิมพ์ยาวเกินไป นี่ก็ตัดให้สั้นๆ จะได้อ่านกันง่ายๆแล้ว คิดว่าแฟนเพจคงพอใจนะครับ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1075 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเลเซียเอาบ้าง งดแจกถุงพลาสติก

    ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านเพื่อสุขภาพและความงามในประเทศมาเลเซียกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ จะงดแจกถุงพลาสติดแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use plastic bags) อย่างเป็นทางการ หากลูกค้าไม่ได้นำถุงพลาสติกมาเอง สามารถหาซื้อถุงรีไซเคิลได้ที่ร้านค้า ตามแคมเปญ "Say No to Single-Use Plastics" ของกระทรวงการเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น

    นายหงา กอร์ มิง รมว.การเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า เครือข่ายร้านค้าปลีกชั้นนำบางแห่งได้เริ่มงดแจกถุงพลาสติกแล้ว แต่บัดนี้พวกเขาได้ลงนามความร่วมมือครั้งใหญ่ โดยจะเริ่มในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้ปีละ 200 ล้านใบ ลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด และยืดอายุการใช้งานหลุมฝังกลบขยะที่มีอยู่

    ที่ผ่านมารัฐบาลมาเลเซียต้องแบกรับต้นทุนการจัดการขยะมูลฝอยและการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ สูงกว่า 2,000 ล้านริงกิตต่อปี และกำลังดำเนินการเพื่อลดการพึ่งพาหลุมฝังกลบ ซึ่งปัจจุบันประเทศมาเลเซียมีหลุมฝังกลบขยะที่ไม่ถูกสุขอนามัย 114 แห่ง มีเพียง 22 แห่งที่ถูกสุขอนามัย ซึ่งการเปิดหลุมฝังกลบขยะและการปรับปรุงหลุมฝังกลบขยะเดิมต้องใช้ต้นทุนสูงมาก

    นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ กำลังจัดทำร่างกฎหมายจัดการผู้ที่ทิ้งขยะโดยขาดความรับผิดชอบ และจะนำเสนอต่อรัฐสภาในปี 2568 เพื่อแก้ปัญหาขยะล้นเมืองอย่างจริงจัง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย หากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวที่นี่ แล้วถ่ายคลิปลงติ๊กต็อก ชื่อเสียงของประเทศจะได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมายและประสบความสำเร็จในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่ง การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

    ร้านค้าปลีกในมาเลเซียที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย 99 Speedmart 2,533 สาขา 7-Eleven 2,400 สาขา KK Mart 808 สาขา Watsons 733 สาขา Guardian 602 สาขา emart24 65 สาขา ส่วนห้างสรรพสินค้า อาทิ กลุ่ม GCH Retail (Giant / Cold Storage / Mercato) 93 สาขา AEON 35 สาขา AEON Big 21 สาขา Mydin 78 สาขา Lotus's 68 สาขา The Store 50 สาขา TF Value Mart 45 สาขา Econsave 33 สาขา NSK Trade City 32 สาขา Lulu 5 สาขา เป็นต้น

    สำหรับประเทศไทย ภาครัฐได้ผลักดันนโยบายงดแจกถุงพลาสติกตามห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นมา แต่ก็เป็นที่วิจารณ์ว่าการจำหน่ายถุงพลาสติกแทนการแจก เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภค

    #Newskit #งดแจกถุงพลาสติก #มาเลเซีย
    มาเลเซียเอาบ้าง งดแจกถุงพลาสติก ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านเพื่อสุขภาพและความงามในประเทศมาเลเซียกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ จะงดแจกถุงพลาสติดแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use plastic bags) อย่างเป็นทางการ หากลูกค้าไม่ได้นำถุงพลาสติกมาเอง สามารถหาซื้อถุงรีไซเคิลได้ที่ร้านค้า ตามแคมเปญ "Say No to Single-Use Plastics" ของกระทรวงการเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น นายหงา กอร์ มิง รมว.การเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า เครือข่ายร้านค้าปลีกชั้นนำบางแห่งได้เริ่มงดแจกถุงพลาสติกแล้ว แต่บัดนี้พวกเขาได้ลงนามความร่วมมือครั้งใหญ่ โดยจะเริ่มในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้ปีละ 200 ล้านใบ ลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด และยืดอายุการใช้งานหลุมฝังกลบขยะที่มีอยู่ ที่ผ่านมารัฐบาลมาเลเซียต้องแบกรับต้นทุนการจัดการขยะมูลฝอยและการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ สูงกว่า 2,000 ล้านริงกิตต่อปี และกำลังดำเนินการเพื่อลดการพึ่งพาหลุมฝังกลบ ซึ่งปัจจุบันประเทศมาเลเซียมีหลุมฝังกลบขยะที่ไม่ถูกสุขอนามัย 114 แห่ง มีเพียง 22 แห่งที่ถูกสุขอนามัย ซึ่งการเปิดหลุมฝังกลบขยะและการปรับปรุงหลุมฝังกลบขยะเดิมต้องใช้ต้นทุนสูงมาก นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ กำลังจัดทำร่างกฎหมายจัดการผู้ที่ทิ้งขยะโดยขาดความรับผิดชอบ และจะนำเสนอต่อรัฐสภาในปี 2568 เพื่อแก้ปัญหาขยะล้นเมืองอย่างจริงจัง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย หากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวที่นี่ แล้วถ่ายคลิปลงติ๊กต็อก ชื่อเสียงของประเทศจะได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมายและประสบความสำเร็จในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่ง การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ร้านค้าปลีกในมาเลเซียที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย 99 Speedmart 2,533 สาขา 7-Eleven 2,400 สาขา KK Mart 808 สาขา Watsons 733 สาขา Guardian 602 สาขา emart24 65 สาขา ส่วนห้างสรรพสินค้า อาทิ กลุ่ม GCH Retail (Giant / Cold Storage / Mercato) 93 สาขา AEON 35 สาขา AEON Big 21 สาขา Mydin 78 สาขา Lotus's 68 สาขา The Store 50 สาขา TF Value Mart 45 สาขา Econsave 33 สาขา NSK Trade City 32 สาขา Lulu 5 สาขา เป็นต้น สำหรับประเทศไทย ภาครัฐได้ผลักดันนโยบายงดแจกถุงพลาสติกตามห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นมา แต่ก็เป็นที่วิจารณ์ว่าการจำหน่ายถุงพลาสติกแทนการแจก เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภค #Newskit #งดแจกถุงพลาสติก #มาเลเซีย
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 481 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"
    โปรดอย่าละทิ้งเป้าหมายชีวิต.
    "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" โปรดอย่าละทิ้งเป้าหมายชีวิต.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"
    โปรดอย่าละทิ้งเป้าหมายชีวิต.
    "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" โปรดอย่าละทิ้งเป้าหมายชีวิต.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ชี้เป้าให้บ้านคู้บอน
    #โป๊ะกลางเพจลุงคลั่งรัก
    #หลุดทั้งป้าป๋วยจิตและลุงขี้คุย
    หลังจากที่โจ มณฑนี ท้าทาย และขู่ววเพจคิงส์โพธิ์แดงมาหลายวาระ
    คิงส์โพธิ์แดง จึงได้สนอง อย่ามิให้เสีย ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง
    โจ พยายามคิดหาทางแก้เกมส์ แต่ทำยังไงทีมไอโอก็แก้ไม่ทัน
    เพราะเพจคิงส์โพธิ์แดง ใช้ยุทธวิธี โพสข้อมูลทุกๆ 5 นาที
    จนทีมไอโอ บ่นอุบส์ อ่านยังไม่ทัน จะแก้ยังไงไหว
    -------------
    โจ มณทนี จึงหวังยืมมือลุงผู้คลั่งรัก เพื่อตอบโต้กับเพจคิงส์โพธิ์แดง
    ซึ่งแค่คิดก็พลาดอย่างแรง ที่เอาเพจกากๆ ของลุงแก่ๆ จะมาเป็นคู่ปะทะ
    ------------
    แต่ลุงผู้คลั่งรัก ดันเป็นประเทศ ซุยขี้ขิง ทำอะไรไม่เงียบ
    โพสจนคนในเพจแตกตื่น ความบังลัยจึงเกิดขึ้นกับโจ
    -----------
    ดังนั้น ที่โจออกมาแสดงละคร ตีแบ๊ว เป็นผู้เปราะบาง
    "ไม่เคยให้ร้ายน้องแน๊กเลย" โพสของลุงกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ
    ว่า โจมณฑนี และขบก. เครือข่ายให้ร้ายแน๊กชาลี มีความเกี่ยวข้องกันจริง
    ทั้งยิงสติ๊กเกอร์ ที่กามิจได้ส่งให้ทั้งลุง ไอ่เป็ด และคนหน้าลอย และอีกหลายๆคนที่ด่าแน๊กชาลี ก็มาจากการชี้เป้าของโจ มณฑนีนั่นเอง
    "โจคืออิแอบที่ไม่ว่าน้องแน๊กตรงๆแต่จะยืมปากพวกเพจและช่องทุยกากพูดแทน"
    -----------
    ขอบใจความขี้คุยของพวกทุยทั้งหลาย
    ที่เป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานในการดำเนินการ
    ให้ความยุติธรรมกลับคืนสู่น้องชาลีและครอบครัว
    ปล. เพจนี้ เล่นงานน้องเป็นงานหลัก ทั้งเรื่องการศึกษาของน้อง เรื่องสภาวะจิตของน้อง โจมณฑนี กดหัวเราะ ถูกใจกับเพจประเภทนี้มากจริงๆ
    โจ ปฏิเสธไม่ได้แล้วนะ ว่าไม่มีขบก.
    โจ ปฏิเสธไม่ได้แล้วนะ ว่าไม่เคยคิดร้ายกับแน็กชาลี
    โจ ปฏิเสธไม่ได้แล้วนะ ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเล่นงานแน็กชาลี
    น็อคเอาท์
    (ลุงผู้คลั่งรักเรียกคนจบแค่ม.5 ที่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรซักอย่างว่าอาจารย์ ถถถถถ)
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ชี้เป้าให้บ้านคู้บอน #โป๊ะกลางเพจลุงคลั่งรัก #หลุดทั้งป้าป๋วยจิตและลุงขี้คุย หลังจากที่โจ มณฑนี ท้าทาย และขู่ววเพจคิงส์โพธิ์แดงมาหลายวาระ คิงส์โพธิ์แดง จึงได้สนอง อย่ามิให้เสีย ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง โจ พยายามคิดหาทางแก้เกมส์ แต่ทำยังไงทีมไอโอก็แก้ไม่ทัน เพราะเพจคิงส์โพธิ์แดง ใช้ยุทธวิธี โพสข้อมูลทุกๆ 5 นาที จนทีมไอโอ บ่นอุบส์ อ่านยังไม่ทัน จะแก้ยังไงไหว ------------- โจ มณทนี จึงหวังยืมมือลุงผู้คลั่งรัก เพื่อตอบโต้กับเพจคิงส์โพธิ์แดง ซึ่งแค่คิดก็พลาดอย่างแรง ที่เอาเพจกากๆ ของลุงแก่ๆ จะมาเป็นคู่ปะทะ ------------ แต่ลุงผู้คลั่งรัก ดันเป็นประเทศ ซุยขี้ขิง ทำอะไรไม่เงียบ โพสจนคนในเพจแตกตื่น ความบังลัยจึงเกิดขึ้นกับโจ ----------- ดังนั้น ที่โจออกมาแสดงละคร ตีแบ๊ว เป็นผู้เปราะบาง "ไม่เคยให้ร้ายน้องแน๊กเลย" โพสของลุงกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ว่า โจมณฑนี และขบก. เครือข่ายให้ร้ายแน๊กชาลี มีความเกี่ยวข้องกันจริง ทั้งยิงสติ๊กเกอร์ ที่กามิจได้ส่งให้ทั้งลุง ไอ่เป็ด และคนหน้าลอย และอีกหลายๆคนที่ด่าแน๊กชาลี ก็มาจากการชี้เป้าของโจ มณฑนีนั่นเอง "โจคืออิแอบที่ไม่ว่าน้องแน๊กตรงๆแต่จะยืมปากพวกเพจและช่องทุยกากพูดแทน" ----------- ขอบใจความขี้คุยของพวกทุยทั้งหลาย ที่เป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานในการดำเนินการ ให้ความยุติธรรมกลับคืนสู่น้องชาลีและครอบครัว ปล. เพจนี้ เล่นงานน้องเป็นงานหลัก ทั้งเรื่องการศึกษาของน้อง เรื่องสภาวะจิตของน้อง โจมณฑนี กดหัวเราะ ถูกใจกับเพจประเภทนี้มากจริงๆ โจ ปฏิเสธไม่ได้แล้วนะ ว่าไม่มีขบก. โจ ปฏิเสธไม่ได้แล้วนะ ว่าไม่เคยคิดร้ายกับแน็กชาลี โจ ปฏิเสธไม่ได้แล้วนะ ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเล่นงานแน็กชาลี น็อคเอาท์ (ลุงผู้คลั่งรักเรียกคนจบแค่ม.5 ที่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรซักอย่างว่าอาจารย์ ถถถถถ) #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1029 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ตลอดทั้งวันมีการสร้างข่าวจากเครือข่ายโจมณฑนี
    ซึ่งข่าวนี้เริ่มมีการปล่อยผ่านบอท ผ่านยูซผีในx มาซักพัก
    คือการอ้างว่า กามิจมาถึงไทยแล้วและคืนดีกับแน๊กชาลีแล้ว
    บางคนถึงขนาดเอาภาพกามิจ ปั่นจักรยานซ้อนท้าย
    อ้างว่า นี่คือภาพจริง
    -พี่คิงส์เองต้องอึ้งในหลายๆอย่างกับความไม่เขินของโจและเครือข่าย
    แล้วยิ่งมั่นใจว่า โจมณฑนีคือผู้สร้างวาทะกรรมผ่านตัวอักษร
    เป็นหัวเชื้อในแต่ละเรื่อง ผ่านการคุยตรงกับกามิน และเอเจนซี่
    ทุกอย่างที่โพส ต่างโพสไปในทิศทางเดียวกัน
    ทั้งขบก. เพจ ช่อง และทุกทาง อย่างเป็นระบบ
    แต่ที่อึ้งที่สุด ก็น่าจะเป็นข่าวนี้
    1. โจ และเครือข่าย ต่างสร้างปัญหา ด้วยการเดินเกมส์แบบคนไม่จบม.6 ทำให้จับโป๊ะได้บ่อยแทบทุกชั่วโมง คนไทยทั้งประเทศยังรู้ ว่าโจสร้างเรื่องสร้างราวอะไรไว้บ้าง แล้วแน๊กจะไม่รู้เหรอ
    2. มีหลักฐานหลายประการ ที่ทำให้รู้ว่าโจ สื่อสารกับกามิจตลอด และกามิจเองก็ส่งของขวัญชื่นชมทุกคนที่ให้ร้ายแน๊ก ด้วยถ้อยคำที่แรงๆ
    3. ตอนนี้ แน็กก็รวบรวมหลักฐานในการจัดการกับเครือข่ายของโจ และเอเจนซี่ ที่ทำให้เรื่องบานปลาย
    4. ทุกการกระทำของโจ อยู่ภายใต้การรู้เห็นและการสั่งการจากกามินและเจนซี่ จากหลายๆเหตุการ์ โพสนี้ไม่เล่าย้อน หากต้องการทราบ ย้อนกลับไปอ่านทุกโพสแล้วท่านจะเห็นรายละเอียดนะครับ
    5. การล่วงล้ำก้ำเกิน จากแผนที่โจทำมา ในวันนี้มันได้ลามไปถึงครอบครัวของแน๊กชาลี มีการมาตรร้ายถึงขั้นจะบุกไปวาง เพลิง
    เอาแค่เฉพาะ 5 ข้อนี้ พี่คิงส์ถามว่า ใช้แค่สติปัญญาของเด็กประถมก็พอ
    จะรู้ว่า แน๊กจะกลับไปคืนดีกับกามิจจริงๆมั๊ย
    พี่คิงส์เลยนั่งวิเคราะห์และได้คำตอบดังนี้
    1. ผลประโยชน์ที่ได้จากเอเจนซี่มันค้ำคอ จึงหาสร้างเรื่องเพื่อสร้างผลงานประจำวัน
    2. นอกจากผลประโยชน์ และความรู้ที่จบจริงๆแค่ม.5 ของโจมณฑนี จึงคิดได้เพียงแผนที่ตื้นเขินแบบนี้
    3. กามิจหลุดพูดตั้งแต่ยังไม่ได้เลิกกับชาลี ว่าชาลีไม่ใช่สเป็ก หล่อสะอาดไม่ใช่แนว ต้องแนวยาคูซ่าปาจิงโกะแบบนั้น พอมันถูกเชิญกลับเกาหลี พอถึงเกาหลีปุ๊บ มันถึงเต้นเยาะเย้ยคนไทย และพูดชัดว่ามันดังด้วยตัวเอง นั่นแปลว่า กามิจมันไม่เคยรักชาลีเลยแม้แต่นาทีเดียว เป็นแค่การแสดง การแสดงออกตอนแรกนั่นคือตัวจริง ความรู้สึกจริง แล้วต้องไม่ลืมว่า มันอันฟอลทุกแพลตฟอร์มที่เป็นของชาลี ยังไม่รวม การเดินทางกลับระหว่างการคบกัน ไปเกาหลี ไม่เคยตอบแชท ไม่เคยติดต่อกลับ คนมันไม่เคยมีใจ เรื่องนี้ เรายังรับรู้ แล้วคิดว่าแน๊กชาลี จะไม่รู้และเข้าใจเหรอ
    4. ความฝันของหญิงชรา ที่ฝันกินหญ้าอ่อน ที่ห้ามใจไม่ได้
    ประเด็นนี้ ไม่ใช่ขำๆ หรือการแซะแต่อย่างใด สังเกตุได้จาก
    -การออกตัวของโจ มณฑนี ในการปกป้องกามิน มันมีความเลยเส้นแบบแปลกๆ เวลาที่เราลองอดทนฟัง โจ สาธยาย เราจะไม่รู้สึกว่า มีผู้หญิงคนหนึ่ง ปกป้องคนหนึ่ง แต่การที่โจพูดถึงชาลี มันไปเหมือนกับ ชาลี ได้เลิกกับตัวเอง เหมือนตัวเอง คือคู่รักของชาลี ที่ตัวเองถูกทิ้ง มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
    -ด้วยสภาพจิตของโจ ไม่ได้ปกติเหมือนคนทั่วไป แบบที่โจเองก็พูดเอง ในการสัมภาษณ์ที่พี่คิงส์เคยนำมาโพสไปแล้ว มันทำให้เราเองจะไม่สามารถคาดเดาว่าเธอคิดอะไรในแบบคนธรรมดาได้เลย
    -โจ เป็นคนที่ไม่เคยประสบความสำเร็จกับอะไรซักอย่าง ทั้งเรื่องการศึกษา การทำธุรกิจ และเรื่องความรัก มันพังมาตลอด
    -หากเราต้องการวิเคราะห์จริง และถ้าหากเรามองจากเรื่องทั้งหมดสิ่งหนึ่งที่แฝงไปพร้อมกับผลประโยชน์
    ผลลัพท์จากข้อมูลทั้งหมดนั่นคือ
    โจ มณฑนี กำลังมโนภาพว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นไม่ใช่เรื่องระหว่างแน๊กชาลี กับจีกามิน
    และการคิดขึ้นมาได้ สำหรับชุดความคิดว่า ชาลี และกามินได้กลับมาคบหากันอีกครั้งแล้ว ทั้งๆที่เหตุผลที่พี่คิงส์แจ้งไว้เบื้องต้น มันไม่มีทางเป็นไปได้ มีเหตุผลเดียว
    นั่นคือโจ ได้สะกดจิตตัวเองอีกครั้ง ว่าที่แท้จริงแล้ว
    เธอคือ จี กา โจ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ตลอดทั้งวันมีการสร้างข่าวจากเครือข่ายโจมณฑนี ซึ่งข่าวนี้เริ่มมีการปล่อยผ่านบอท ผ่านยูซผีในx มาซักพัก คือการอ้างว่า กามิจมาถึงไทยแล้วและคืนดีกับแน๊กชาลีแล้ว บางคนถึงขนาดเอาภาพกามิจ ปั่นจักรยานซ้อนท้าย อ้างว่า นี่คือภาพจริง -พี่คิงส์เองต้องอึ้งในหลายๆอย่างกับความไม่เขินของโจและเครือข่าย แล้วยิ่งมั่นใจว่า โจมณฑนีคือผู้สร้างวาทะกรรมผ่านตัวอักษร เป็นหัวเชื้อในแต่ละเรื่อง ผ่านการคุยตรงกับกามิน และเอเจนซี่ ทุกอย่างที่โพส ต่างโพสไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งขบก. เพจ ช่อง และทุกทาง อย่างเป็นระบบ แต่ที่อึ้งที่สุด ก็น่าจะเป็นข่าวนี้ 1. โจ และเครือข่าย ต่างสร้างปัญหา ด้วยการเดินเกมส์แบบคนไม่จบม.6 ทำให้จับโป๊ะได้บ่อยแทบทุกชั่วโมง คนไทยทั้งประเทศยังรู้ ว่าโจสร้างเรื่องสร้างราวอะไรไว้บ้าง แล้วแน๊กจะไม่รู้เหรอ 2. มีหลักฐานหลายประการ ที่ทำให้รู้ว่าโจ สื่อสารกับกามิจตลอด และกามิจเองก็ส่งของขวัญชื่นชมทุกคนที่ให้ร้ายแน๊ก ด้วยถ้อยคำที่แรงๆ 3. ตอนนี้ แน็กก็รวบรวมหลักฐานในการจัดการกับเครือข่ายของโจ และเอเจนซี่ ที่ทำให้เรื่องบานปลาย 4. ทุกการกระทำของโจ อยู่ภายใต้การรู้เห็นและการสั่งการจากกามินและเจนซี่ จากหลายๆเหตุการ์ โพสนี้ไม่เล่าย้อน หากต้องการทราบ ย้อนกลับไปอ่านทุกโพสแล้วท่านจะเห็นรายละเอียดนะครับ 5. การล่วงล้ำก้ำเกิน จากแผนที่โจทำมา ในวันนี้มันได้ลามไปถึงครอบครัวของแน๊กชาลี มีการมาตรร้ายถึงขั้นจะบุกไปวาง เพลิง เอาแค่เฉพาะ 5 ข้อนี้ พี่คิงส์ถามว่า ใช้แค่สติปัญญาของเด็กประถมก็พอ จะรู้ว่า แน๊กจะกลับไปคืนดีกับกามิจจริงๆมั๊ย พี่คิงส์เลยนั่งวิเคราะห์และได้คำตอบดังนี้ 1. ผลประโยชน์ที่ได้จากเอเจนซี่มันค้ำคอ จึงหาสร้างเรื่องเพื่อสร้างผลงานประจำวัน 2. นอกจากผลประโยชน์ และความรู้ที่จบจริงๆแค่ม.5 ของโจมณฑนี จึงคิดได้เพียงแผนที่ตื้นเขินแบบนี้ 3. กามิจหลุดพูดตั้งแต่ยังไม่ได้เลิกกับชาลี ว่าชาลีไม่ใช่สเป็ก หล่อสะอาดไม่ใช่แนว ต้องแนวยาคูซ่าปาจิงโกะแบบนั้น พอมันถูกเชิญกลับเกาหลี พอถึงเกาหลีปุ๊บ มันถึงเต้นเยาะเย้ยคนไทย และพูดชัดว่ามันดังด้วยตัวเอง นั่นแปลว่า กามิจมันไม่เคยรักชาลีเลยแม้แต่นาทีเดียว เป็นแค่การแสดง การแสดงออกตอนแรกนั่นคือตัวจริง ความรู้สึกจริง แล้วต้องไม่ลืมว่า มันอันฟอลทุกแพลตฟอร์มที่เป็นของชาลี ยังไม่รวม การเดินทางกลับระหว่างการคบกัน ไปเกาหลี ไม่เคยตอบแชท ไม่เคยติดต่อกลับ คนมันไม่เคยมีใจ เรื่องนี้ เรายังรับรู้ แล้วคิดว่าแน๊กชาลี จะไม่รู้และเข้าใจเหรอ 4. ความฝันของหญิงชรา ที่ฝันกินหญ้าอ่อน ที่ห้ามใจไม่ได้ ประเด็นนี้ ไม่ใช่ขำๆ หรือการแซะแต่อย่างใด สังเกตุได้จาก -การออกตัวของโจ มณฑนี ในการปกป้องกามิน มันมีความเลยเส้นแบบแปลกๆ เวลาที่เราลองอดทนฟัง โจ สาธยาย เราจะไม่รู้สึกว่า มีผู้หญิงคนหนึ่ง ปกป้องคนหนึ่ง แต่การที่โจพูดถึงชาลี มันไปเหมือนกับ ชาลี ได้เลิกกับตัวเอง เหมือนตัวเอง คือคู่รักของชาลี ที่ตัวเองถูกทิ้ง มันเป็นแบบนั้นจริงๆ -ด้วยสภาพจิตของโจ ไม่ได้ปกติเหมือนคนทั่วไป แบบที่โจเองก็พูดเอง ในการสัมภาษณ์ที่พี่คิงส์เคยนำมาโพสไปแล้ว มันทำให้เราเองจะไม่สามารถคาดเดาว่าเธอคิดอะไรในแบบคนธรรมดาได้เลย -โจ เป็นคนที่ไม่เคยประสบความสำเร็จกับอะไรซักอย่าง ทั้งเรื่องการศึกษา การทำธุรกิจ และเรื่องความรัก มันพังมาตลอด -หากเราต้องการวิเคราะห์จริง และถ้าหากเรามองจากเรื่องทั้งหมดสิ่งหนึ่งที่แฝงไปพร้อมกับผลประโยชน์ ผลลัพท์จากข้อมูลทั้งหมดนั่นคือ โจ มณฑนี กำลังมโนภาพว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นไม่ใช่เรื่องระหว่างแน๊กชาลี กับจีกามิน และการคิดขึ้นมาได้ สำหรับชุดความคิดว่า ชาลี และกามินได้กลับมาคบหากันอีกครั้งแล้ว ทั้งๆที่เหตุผลที่พี่คิงส์แจ้งไว้เบื้องต้น มันไม่มีทางเป็นไปได้ มีเหตุผลเดียว นั่นคือโจ ได้สะกดจิตตัวเองอีกครั้ง ว่าที่แท้จริงแล้ว เธอคือ จี กา โจ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1096 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ทั้งผลประโยชน์ทั้งปมในใจทั้งความป๋วยทางจิตส่งผลให้โจเป็นแบบนี้
    เอาจริงๆ โจ เป็นคนที่อยู่ในสถานะบุคคลที่น่าเวทนานะ
    แต่โจ กลับไม่ได้แค่ป๋วย แต่โจ กลับเลือกที่จะซั่วด้วย
    ซั่ว ด้วยการคุ-กคามน้องแน๊ก ด้วยการให้ร้าย
    ที่สร้างสรรปั้นแต่งจากประสบการณ์และความป๋วยรวมถึงปมของตัวเองล้วนๆ
    โจวว มีปมเรื่อง เกิดมากับการที่อยู่ในครอบครัวของแม่เลี้ยงเดี่ยว
    โจ มณฑนี จึงมีปมที่อคติกับผู้ชายทุกคนบนโลก
    และโจ ได้ยัดเยียด ความเก..ียดชังผู้ชายที่ฝังในใจ
    มาโถมใส่น้องแน๊กชาลี เป็นเอาเป็นเอาตุย
    ตอนนี้ พี่คิงส์ยังไม่รู้เลยว่า ระหว่าง ปมของโจ หรือเงินของทุนดาร์ค
    ที่เป็นแรงขับเคลื่อนแรงจูงใจในการกระทำของโจมากกว่ากัน
    หรือพอๆกัน จากคนที่ไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลย
    -บ.ล้ม ละลาย เจ๊งงง แต่ล้างปมด้วยการสอนด้านการเงินทั้งๆที่ตัวเองไม่จบม.6 พ่อก็อุตส่าห์ส่งไปเรียนปวช.ปี 1 ก็ยังไม่จบ ไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญอะไรเลย มีแต่คิดไปเองมโนไปเอง จำเค้ามาเล่า
    -เรื่องความรักเรื่องคู่ครอง ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเลย ใช้แต่ปมขับเคลื่อนอคติ เปลี่ยนเป็นตัวอักษรที่พิมพ์ และคำพูด และยัดเยียดให้คนอื่นคิดตาม
    พี่คิงส์ไม่อยากจะเจาะถึงเจตนาจริงๆที่โจเองอาจจะไม่รู้ตัว นั่นคือ
    โจ มีความอิจ..า ผู้หญิงทุกคนที่มีผู้ชายที่ดี โจจะแทรกเข้ามาเหมือนจะมีความอินกับความสุขนั้น แต่ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง เป็นความสุขเหมือนอยู่ในความฝัน และโจมักคิดว่าตัวเอง กับกามิจ คือคนเดียวกันเสมอ แล้วสุดท้าย ความดีใจที่อยู่ในเบื้องลึกของโจคือ การตอกย้ำว่า ผู้ชาย เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซั่วร้าย และผู้หญิงทุกคนบนโลก ควรมีชีวิตเหมือนตนเอง นี่คือสิ่งที่ยุติธรรม สำหรับโจ มณฑนี
    -เรื่องอาการป๋วย ที่ยัดเยียดให้น้องแน๊ก นั่นก็เพราะตัวเอง ต้องจมดิ่งกับภาวะจิตมานานมาก ทั้งเ..พติดดราม่า และอื่นๆอีกมากมาย ที่โจเองก็ออกมายอมรับสารภาพ ทุกอย่างเพราะโจไม่เคยพบกับความสุข มีแต่ประสบการณ์ที่คั่งในใจ และพร้อมปะทุออกมาด้วยการโยนในสิ่งที่ตนเองเป็น ปมที่ตนเองซ่อนไว้ ให้ใครซักคน แบกรับไว้ เพื่อกลบเกลื่อนปมที่ตนเองมี
    -เรื่องการศึกษา เพราะโจ ฝังความคิดในหัวตัวเองว่า ตัวเองคือนางเอกชื่อกามิน เลยนำทุกอย่างที่เป็นเรื่องของกามิจ มาสวมเป็นเรื่องของตัวเอง และสร้างสารตั้งต้นความคิดว่า กามิจ จบป.โท ส่วนแน๊กจบม.6 สำนวนที่พวกทุยพลี รับไปก็จะออกมาแนวที่ว่า สงสารอิเหม็นที่ต้องมาเจอกับคนไร้การศึกษา บลาๆๆ
    ซึ่งเรื่องของเรื่องคือ โจ ไม่จบแม้กระทั่งม.6 เทอมแรก บอกพ่อเอง ไม่เรียนแล้วเว้ย พ่อก็ห่วงลูก พาลูกไปสมัครเรียนพาณิชย์ เลขานุการ เรียนยังไม่ทันไร ก็เลิก เป็นคนที่มีลักษณะตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล หาเหตุผลซัพพอตการตัดสินใจอันผิดพลาดของตัวเองเสมอ
    เอาหล่ะ เป็นไง ห-ม-อคิงส์ วินิจฉัยศ.ดร.มโนของ โจมณฑนี
    กระจ่าง สว่างวาบแล้วหรือยัง
    จิตวิทยาที่โจใช้อะ ขั้นพื้นฐานมาก
    จนพี่คิงส์และคนไทยไม่อยากเชื่อว่า
    จะมีคนเชื่อ ซึ่งก็จริง ไม่มีคน ที่เชื่อ มีแต่ทุย
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ทั้งผลประโยชน์ทั้งปมในใจทั้งความป๋วยทางจิตส่งผลให้โจเป็นแบบนี้ เอาจริงๆ โจ เป็นคนที่อยู่ในสถานะบุคคลที่น่าเวทนานะ แต่โจ กลับไม่ได้แค่ป๋วย แต่โจ กลับเลือกที่จะซั่วด้วย ซั่ว ด้วยการคุ-กคามน้องแน๊ก ด้วยการให้ร้าย ที่สร้างสรรปั้นแต่งจากประสบการณ์และความป๋วยรวมถึงปมของตัวเองล้วนๆ โจวว มีปมเรื่อง เกิดมากับการที่อยู่ในครอบครัวของแม่เลี้ยงเดี่ยว โจ มณฑนี จึงมีปมที่อคติกับผู้ชายทุกคนบนโลก และโจ ได้ยัดเยียด ความเก..ียดชังผู้ชายที่ฝังในใจ มาโถมใส่น้องแน๊กชาลี เป็นเอาเป็นเอาตุย ตอนนี้ พี่คิงส์ยังไม่รู้เลยว่า ระหว่าง ปมของโจ หรือเงินของทุนดาร์ค ที่เป็นแรงขับเคลื่อนแรงจูงใจในการกระทำของโจมากกว่ากัน หรือพอๆกัน จากคนที่ไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลย -บ.ล้ม ละลาย เจ๊งงง แต่ล้างปมด้วยการสอนด้านการเงินทั้งๆที่ตัวเองไม่จบม.6 พ่อก็อุตส่าห์ส่งไปเรียนปวช.ปี 1 ก็ยังไม่จบ ไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญอะไรเลย มีแต่คิดไปเองมโนไปเอง จำเค้ามาเล่า -เรื่องความรักเรื่องคู่ครอง ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเลย ใช้แต่ปมขับเคลื่อนอคติ เปลี่ยนเป็นตัวอักษรที่พิมพ์ และคำพูด และยัดเยียดให้คนอื่นคิดตาม พี่คิงส์ไม่อยากจะเจาะถึงเจตนาจริงๆที่โจเองอาจจะไม่รู้ตัว นั่นคือ โจ มีความอิจ..า ผู้หญิงทุกคนที่มีผู้ชายที่ดี โจจะแทรกเข้ามาเหมือนจะมีความอินกับความสุขนั้น แต่ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง เป็นความสุขเหมือนอยู่ในความฝัน และโจมักคิดว่าตัวเอง กับกามิจ คือคนเดียวกันเสมอ แล้วสุดท้าย ความดีใจที่อยู่ในเบื้องลึกของโจคือ การตอกย้ำว่า ผู้ชาย เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซั่วร้าย และผู้หญิงทุกคนบนโลก ควรมีชีวิตเหมือนตนเอง นี่คือสิ่งที่ยุติธรรม สำหรับโจ มณฑนี -เรื่องอาการป๋วย ที่ยัดเยียดให้น้องแน๊ก นั่นก็เพราะตัวเอง ต้องจมดิ่งกับภาวะจิตมานานมาก ทั้งเ..พติดดราม่า และอื่นๆอีกมากมาย ที่โจเองก็ออกมายอมรับสารภาพ ทุกอย่างเพราะโจไม่เคยพบกับความสุข มีแต่ประสบการณ์ที่คั่งในใจ และพร้อมปะทุออกมาด้วยการโยนในสิ่งที่ตนเองเป็น ปมที่ตนเองซ่อนไว้ ให้ใครซักคน แบกรับไว้ เพื่อกลบเกลื่อนปมที่ตนเองมี -เรื่องการศึกษา เพราะโจ ฝังความคิดในหัวตัวเองว่า ตัวเองคือนางเอกชื่อกามิน เลยนำทุกอย่างที่เป็นเรื่องของกามิจ มาสวมเป็นเรื่องของตัวเอง และสร้างสารตั้งต้นความคิดว่า กามิจ จบป.โท ส่วนแน๊กจบม.6 สำนวนที่พวกทุยพลี รับไปก็จะออกมาแนวที่ว่า สงสารอิเหม็นที่ต้องมาเจอกับคนไร้การศึกษา บลาๆๆ ซึ่งเรื่องของเรื่องคือ โจ ไม่จบแม้กระทั่งม.6 เทอมแรก บอกพ่อเอง ไม่เรียนแล้วเว้ย พ่อก็ห่วงลูก พาลูกไปสมัครเรียนพาณิชย์ เลขานุการ เรียนยังไม่ทันไร ก็เลิก เป็นคนที่มีลักษณะตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล หาเหตุผลซัพพอตการตัดสินใจอันผิดพลาดของตัวเองเสมอ เอาหล่ะ เป็นไง ห-ม-อคิงส์ วินิจฉัยศ.ดร.มโนของ โจมณฑนี กระจ่าง สว่างวาบแล้วหรือยัง จิตวิทยาที่โจใช้อะ ขั้นพื้นฐานมาก จนพี่คิงส์และคนไทยไม่อยากเชื่อว่า จะมีคนเชื่อ ซึ่งก็จริง ไม่มีคน ที่เชื่อ มีแต่ทุย #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 888 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ไล่ให้ถูกคน
    แน๊กเค้าจบม.6 และประสบความสำเร็จทุกด้าน มีทรัพย์สิน มีบริษัท มีที่ดิน
    ไม่ต้องทำงานก็อยู่ได้ตลอดชีพ
    กับอีก 1 นาง ที่ม.6 ก็ไม่จบ เปลี่ยนไปเรียนพาณิชย์ปวช. 1 ก็ไม่จบ
    เป็นนักเล่าเรื่องแบบ จำเค้ามาเก่ง เอาไว้ต้มพวกทุยให้เดินตาม
    เปิดบ.ก็เจ๊งงง ไม่เคยประสบความสำเร็จห่านอะไร จนจิตดิ่ง
    แล้วพวกเมิงก็เทิดทูนบูชา ฟังคนป๋วยบรรยายได้เป็นสามสี่ชม.
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ไล่ให้ถูกคน แน๊กเค้าจบม.6 และประสบความสำเร็จทุกด้าน มีทรัพย์สิน มีบริษัท มีที่ดิน ไม่ต้องทำงานก็อยู่ได้ตลอดชีพ กับอีก 1 นาง ที่ม.6 ก็ไม่จบ เปลี่ยนไปเรียนพาณิชย์ปวช. 1 ก็ไม่จบ เป็นนักเล่าเรื่องแบบ จำเค้ามาเก่ง เอาไว้ต้มพวกทุยให้เดินตาม เปิดบ.ก็เจ๊งงง ไม่เคยประสบความสำเร็จห่านอะไร จนจิตดิ่ง แล้วพวกเมิงก็เทิดทูนบูชา ฟังคนป๋วยบรรยายได้เป็นสามสี่ชม. #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 399 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ที่แท้ถาโถมทุกปมในใจใส่น้องแน๊กชาลี
    จากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ โจ มณฑนี
    และพฤติกรรม วาทะกรรมม และกายกรรม
    ของนังโจ พบว่า สิ่งที่ให้ร้ายเล่นงานแน๊กชาลี
    ที่ล้วนมีสารตั้งต้นจาก โจ ล้วนมีที่มาจากปมตัวเอง
    1. เล่นงานน้องแน๊ก ด้วยการสะกดจิตทุยหน้ากระนูย(ทุยน่ารัก) เริ่มตั้งแต่ในห้อง DC ลามไปถึงกลุ่มเปิด บรรยายครั้งละ 3 - 4 ชม. แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อ เพราะเป็นอิแอบลอบกัด แต่ในห้องต่างก็เข้าใจตรงกัน และพิมพ์คอมเม้นกันออกมาในทางเดียวกัน ว่าน้องแน๊กเปื่อยจิต และอิเหวิงเป็นเห..ื่อ
    ซึ่งเราได้พบที่มาว่า นังโจ ตกขาว เป็นผู้ป๋วยทางจิต ที่ผ่านการรักษาโดยจิตแ...ทย์ เป็นผู้ป๋วยเฉบติดดราม่า และการบรรยายต่างๆของนังโจ ล้วนแต่เป็นข้อมูลที่ฟังจาก..มอ ที่รักษาตัวเองทั้งนั้น ซึ่งความเจ็บที่เป็นปมนี้ ก็ใช้วิธีการบรรเทา ด้วยการสร้างภาพว่าตนเองนั้นเป็นห-ม-อ ที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งๆที่ชัดเจนแล้วว่าตัวเอง คือผู้ป๋วย พี่คิงส์มีแม้กระทั้งประวัติการรักฉา
    2. มีการสร้างวาทะกรรมเป็นสารตั้งต้นให้บรรดาทุยพลีหน้ากระนูย ไปส่งต่อๆกันจนเต็มฟีตในทุกแพลตฟอร์ม ตัวอย่างดังที่ปรากฏในภาพ เป็นการเล่นงานน้อง เรื่องจบแค่ม.6 โดยไม่สนใจว่าน้องแน๊กทำงานดูแลคนในครอบครัว และประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน
    ซึ่งเมื่อสืบค้นจึงพบว่า โจ มณฑนี ที่บรรดาทุยต่างยกให้เป็นศาสตราจารย์ ดร. ด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยม วาทะกรรมอันสะอิดสะเอียน แต่หารู้ไม่ ความป๋วยจิตของนาง ทำให้นางไม่สามารถเรียนจนจบ.ม.6ได้
    สรุปว่า ทุยนั่งฟังทั้งคนที่ป๋วยจิตและไม่จบม.6 หลงคารม เชื่อทุกอย่างที่โจพูด แปลว่าคนที่ฟังและเชื่อมีความอ่อนด้อยทางสติปัญญาในการพิจารณา ไตร่ตรอง โดยโจเองก็ไมไ่ด้เป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ทรงความรู้ในสาขาใดเลย
    แต่ก็น่าแปลกใจ ว่ากล้าสร้างสาทะกรรมคายตะคาบให้สมาชิกทุย เรื่องน้องแน๊กจบแค่ม. 6 ทั้งๆที่ตัวเอง ม.หกก็ยังไม่จบ ไปเรียนพาณิชย์ ปวช.ก็เรียนไม่จบ ทำอะไรก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ คนแบบนี้ คือคนคุณภาพของทุยจริงๆ รอคลิปเรื่องนี้แปปนะ เดี๋ยวนังโจจะบอกว่า ไม่มีหลักต๋านอีก
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ที่แท้ถาโถมทุกปมในใจใส่น้องแน๊กชาลี จากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ โจ มณฑนี และพฤติกรรม วาทะกรรมม และกายกรรม ของนังโจ พบว่า สิ่งที่ให้ร้ายเล่นงานแน๊กชาลี ที่ล้วนมีสารตั้งต้นจาก โจ ล้วนมีที่มาจากปมตัวเอง 1. เล่นงานน้องแน๊ก ด้วยการสะกดจิตทุยหน้ากระนูย(ทุยน่ารัก) เริ่มตั้งแต่ในห้อง DC ลามไปถึงกลุ่มเปิด บรรยายครั้งละ 3 - 4 ชม. แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อ เพราะเป็นอิแอบลอบกัด แต่ในห้องต่างก็เข้าใจตรงกัน และพิมพ์คอมเม้นกันออกมาในทางเดียวกัน ว่าน้องแน๊กเปื่อยจิต และอิเหวิงเป็นเห..ื่อ ซึ่งเราได้พบที่มาว่า นังโจ ตกขาว เป็นผู้ป๋วยทางจิต ที่ผ่านการรักษาโดยจิตแ...ทย์ เป็นผู้ป๋วยเฉบติดดราม่า และการบรรยายต่างๆของนังโจ ล้วนแต่เป็นข้อมูลที่ฟังจาก..มอ ที่รักษาตัวเองทั้งนั้น ซึ่งความเจ็บที่เป็นปมนี้ ก็ใช้วิธีการบรรเทา ด้วยการสร้างภาพว่าตนเองนั้นเป็นห-ม-อ ที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งๆที่ชัดเจนแล้วว่าตัวเอง คือผู้ป๋วย พี่คิงส์มีแม้กระทั้งประวัติการรักฉา 2. มีการสร้างวาทะกรรมเป็นสารตั้งต้นให้บรรดาทุยพลีหน้ากระนูย ไปส่งต่อๆกันจนเต็มฟีตในทุกแพลตฟอร์ม ตัวอย่างดังที่ปรากฏในภาพ เป็นการเล่นงานน้อง เรื่องจบแค่ม.6 โดยไม่สนใจว่าน้องแน๊กทำงานดูแลคนในครอบครัว และประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน ซึ่งเมื่อสืบค้นจึงพบว่า โจ มณฑนี ที่บรรดาทุยต่างยกให้เป็นศาสตราจารย์ ดร. ด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยม วาทะกรรมอันสะอิดสะเอียน แต่หารู้ไม่ ความป๋วยจิตของนาง ทำให้นางไม่สามารถเรียนจนจบ.ม.6ได้ สรุปว่า ทุยนั่งฟังทั้งคนที่ป๋วยจิตและไม่จบม.6 หลงคารม เชื่อทุกอย่างที่โจพูด แปลว่าคนที่ฟังและเชื่อมีความอ่อนด้อยทางสติปัญญาในการพิจารณา ไตร่ตรอง โดยโจเองก็ไมไ่ด้เป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ทรงความรู้ในสาขาใดเลย แต่ก็น่าแปลกใจ ว่ากล้าสร้างสาทะกรรมคายตะคาบให้สมาชิกทุย เรื่องน้องแน๊กจบแค่ม. 6 ทั้งๆที่ตัวเอง ม.หกก็ยังไม่จบ ไปเรียนพาณิชย์ ปวช.ก็เรียนไม่จบ ทำอะไรก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ คนแบบนี้ คือคนคุณภาพของทุยจริงๆ รอคลิปเรื่องนี้แปปนะ เดี๋ยวนังโจจะบอกว่า ไม่มีหลักต๋านอีก #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 428 มุมมอง 0 รีวิว
  • สะสมนิสัยเล็กๆ เพื่อสร้างความสำเร็จทวีคูณ
    สะสมนิสัยเล็กๆ เพื่อสร้างความสำเร็จทวีคูณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 45 0 รีวิว
  • พรหมวิหาร 4 คือ หลักคุณธรรมที่ทำให้ผู้ประพฤติปฏิบัติตามเป็นผู้ประเสริฐ ซึ่งคำว่า "พรหมวิหาร" มีความหมายว่า ธรรมอันเป็นที่อยู่ของพรหม การยึดถือหลักธรรมดังกล่าวจะทำให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข โดยเชื่อว่ามนุษย์จะประเสริฐได้ก็ต่อเมื่อมีคุณธรรม พรหมวิหาร 4 ประกอบด้วยหลักธรรม 4 ข้อ ได้แก่

    1. เมตตา
    ความหมาย : ความปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข มีความปรารถนาดีมอบให้ผู้อื่น รวมถึงมีเมตตาต่อสัตว์
    2. กรุณา
    ความหมาย : ความปรารถนาที่จะช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มีความสงสาร และเห็นใจผู้อื่นที่ประสบทุกข์
    3. มุทิตา
    ความหมาย : ความปีติยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี ไม่อิจฉาริษยา ร่วมชื่นชม และยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น
    4. อุเบกขา
    ความหมาย : ความวางเฉย วางใจเป็นกลาง ไม่ซ้ำเติมคนที่กำลังทุกข์ หรือเพลี่ยงพล้ำ
    พรหมวิหาร 4 คือ หลักคุณธรรมที่ทำให้ผู้ประพฤติปฏิบัติตามเป็นผู้ประเสริฐ ซึ่งคำว่า "พรหมวิหาร" มีความหมายว่า ธรรมอันเป็นที่อยู่ของพรหม การยึดถือหลักธรรมดังกล่าวจะทำให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข โดยเชื่อว่ามนุษย์จะประเสริฐได้ก็ต่อเมื่อมีคุณธรรม พรหมวิหาร 4 ประกอบด้วยหลักธรรม 4 ข้อ ได้แก่ 1. เมตตา ความหมาย : ความปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข มีความปรารถนาดีมอบให้ผู้อื่น รวมถึงมีเมตตาต่อสัตว์ 2. กรุณา ความหมาย : ความปรารถนาที่จะช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มีความสงสาร และเห็นใจผู้อื่นที่ประสบทุกข์ 3. มุทิตา ความหมาย : ความปีติยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี ไม่อิจฉาริษยา ร่วมชื่นชม และยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น 4. อุเบกขา ความหมาย : ความวางเฉย วางใจเป็นกลาง ไม่ซ้ำเติมคนที่กำลังทุกข์ หรือเพลี่ยงพล้ำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#สหรัฐฯค่อยๆเข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง ตอน 01.🤠

    ตั้งแต่สมัยโบราณมา การถ่ายโอนและการส่งมอบอำนาจจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายนั้นจะมาพร้อมกับสงครามที่ดุเดือดเสมอ ตัวอย่างเช่น การต่อสู้เพื่อชิงอำนาจทางทะเลระหว่างอังกฤษและสเปน และการต่อสู้เพื่อชิงอำนาจทางทวีประหว่างจักรวรรดิเยอรมันและจักรวรรดิไรช์ที่ 3 ของฝรั่งเศส

    อย่างไรก็ตาม ในการเปลี่ยนแปลงอำนาจเจ้าโลกและในการถ่ายโอนอำนาจครั้งล่าสุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ กล่าวคือ การถ่ายโอนอำนาจระหว่างอังกฤษและสหรัฐอเมริกาไม่ได้เกิดขึ้นในความขัดแย้งโดยตรงขนาดใหญ่ ยกเว้นสงครามระดับภูมิภาคขนาดเล็กระหว่างทั้งสองประเทศ และการส่งมอบอย่างสันติก็บรรลุผลสำเร็จในระดับหนึ่ง

    😎แล้วสหรัฐฯ เข้ามาแทนที่อังกฤษในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งของโลกโดยวิธีใด และสิ่งนี้มีผลกระทบอย่างไรต่อการสลายอำนาจนำ?😎

    🤯หนึ่ง จุดเริ่มต้นของอำนาจครอบงำของอังกฤษและความเสื่อมถอย🤯

    ในปีค.ศ. 1815 นโปเลียนพ่ายแพ้ต่อพันธมิตรของยุโรปซึ่งนำโดยนายพลเวลลิงตัน(Wellington)แห่งอังกฤษที่วอเตอร์ลู(Waterloo) นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อังกฤษได้ขจัดอุปสรรคทั้งหมดในทวีปยุโรปและทั่วโลก

    ในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 19 อำนาจของอังกฤษถึงจุดสูงสุด ซึ่งเห็นได้จากการตระหนักถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมในระดับสูงในบริเตนและการขยายอาณานิคมขนาดใหญ่ของจักรวรรดิอังกฤษ

    😎สิ่งที่เรียกว่าอำนาจนำของอังกฤษคือสันติภาพภายใต้จักรวรรดิอังกฤษ ความได้เปรียบประการแรกที่เกิดจากการปฏิวัติทางเทคโนโลยีและการปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้สหราชอาณาจักรมีบทบาทในการลดมิติในสงคราม โดยมีรากฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและอำนาจทางเรือ เป็นการรับประกันที่มั่นคงสำหรับอำนาจเจ้าโลกของอังกฤษ😎

    😎หน่วยงานของจักรวรรดิได้นำประเด็นสำคัญสามประการมาใช้: นโยบายการตรวจสอบและถ่วงดุลของยุโรป การขยายอาณานิคม และความเหนือกว่าทางเรือ ในที่สุดก็กลายเป็นอาณาจักรที่อยู่ยงคงกระพันซึ่งดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดิน😎

    ด้วยการพัฒนาด้านการผลิตอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จที่เกิดจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกไม่สามารถตอบสนองความต้องการในปัจจุบันขององค์กรได้อีกต่อไป และการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองก็เกิดขึ้น คราวนี้พระเจ้าไม่ทรงโปรดปรานเช้าช้างสหราชอาณาจักร แต่ทรงนำการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองให้เกิดขึ้นในโลก โดยมอบให้กับเยอรมนีในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่อยู่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร

    อาศัยการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองเยอรมนีและสหรัฐอเมริกาได้สร้างแบบจำลองของอเมริกันและแบบของเยอรมันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รัฐบาลของทั้งสองประเทศพัฒนาเศรษฐกิจทุนนิยมอย่างแข็งขัน และสร้างพื้นฐานความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจเพื่อแข่งขันกับอังกฤษเพื่อชิงอำนาจ

    😎อย่างไรก็ตาม ทั้งสองโมเดลมีความแตกต่างกันในนโยบายต่างประเทศ คนเยอรมันกระตือรือร้นที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการใช้กำลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของอำนาจทางทะเล เพื่อทำลายการปิดล้อมทางเรือของอังกฤษ กองทัพเรือเยอรมันจึงเปิดการแข่งขันด้านอาวุธทางเรือกับอังกฤษ😎

    😎สหรัฐอเมริกาอยู่ในทวีปอเมริกาและไม่มีแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงเท่ากับเยอรมนี นอกจากนี้ สหรัฐฯ ก็ไม่เต็มใจที่จะทำสงครามกับอังกฤษอีกเช่นกัน เมื่อเทียบผลประโยชน์กับอำนาจเจ้าโลก ทางการสหรัฐฯ จึงสนใจเปิดสวนหลังบ้านในอเมริกาเป็นของตนเองเพื่อแสวงผลประโยชน์มากขึ้น😎

    อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่แท้จริงคืออังกฤษสูญเสียความได้เปรียบทางเศรษฐกิจในการรักษาอำนาจอำนาจเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 เยอรมนีและสหรัฐอเมริกาได้แซงหน้าอังกฤษอย่างต่อเนื่องในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งยังเป็นการวางรากฐานทางเศรษฐกิจสำหรับการถ่ายโอนอำนาจในอนาคตด้วย

    🤯สอง ทางตัน🤯

    ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 1 ของโลก ในแง่ของการทหาร แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่ใช่อันดับหนึ่งของโลก แต่ก็ได้เอาชนะสเปนผู้เป็นอาณานิคมเก่าในสงครามสเปน-อเมริกา

    ชัยชนะในสงครามสเปน-อเมริกาทำให้ทางการสหรัฐฯ มั่นใจ ซึ่งทำให้สหรัฐฯ เปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางการทูตทั้งหมด อดีตยุทธศาสตร์แผ่นดินใหญ่ของอเมริกาและนโยบายความเป็นกลางในกิจการระหว่างประเทศไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านการพัฒนาของสหรัฐฯ ได้อีกต่อไป และลัทธิเจ้าโลกก็ค่อยๆผงาดสูงขึ้น

    ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1914 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากภายในประเทศมีการแพร่หลายลัทธิโดดเดี่ยวอย่างมาก รัฐบาลสหรัฐฯ จึงแสดงจุดยืนที่เป็นกลางทันที

    อย่างไรก็ตาม สงครามในยุโรปไม่ได้ปล่อยให้สหรัฐอเมริกาอยู่ตามลำพัง การห้ามการค้าของประเทศต่างๆ และการโจมตีตามอำเภอใจต่างๆ ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรงต่อสหรัฐอเมริกา

    ประธานาธิบดีวิลสัน (Wilson)ของสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นตระหนักว่าสหรัฐอเมริกาไม่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของยุโรปได้หากปราศจากการแทรกแซงในสนามรบของยุโรป และพฤติกรรมซึ่งดูแล้วชวนทำให้เกิดความสิ้นหวังของทางการเยอรมันได้เร่งการแทรกแซงของสหรัฐฯ ในสงครามให้เร็วขึ้น

    ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917 หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ สกัดกั้นจดหมายลับสุดยอดที่ส่งจากเยอรมนีไปยังเม็กซิโก เนื้อหาของจดหมายประกอบด้วยเรื่องราวยุทธศาสตร์ระดับโลกในอนาคตของเยอรมนี ซึ่งรวมถึงแผนการจัดวางกำลังในอเมริกาเพื่อช่วยเม็กซิโกฟื้นฟูดินแดนที่ถูกผนวกโดยสหรัฐอเมริกา หลังจากเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผย ความคิดเห็นของสาธารณชนในสหรัฐอเมริกาก็เกิดความโกลาหล และกลุ่มซึ่งแต่เดิมมีความคิดนโยบายโดดเดี่ยวไม่เข้ากับฝ่ายใดก็เริ่มโน้มเข้าหาฝ่ายต้องการทำสงครามมากขึ้น

    เมื่อวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1917 รัฐสภาสหรัฐฯ อนุมัติการทำสงครามกับเยอรมนี แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วสหรัฐฯจะชนะ อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องของทางการสหรัฐฯ และแผนสำหรับระเบียบโลกใหม่ล้มเหลว และอำนาจนำแบบดั้งเดิมยังคงยึดครองอย่างมั่นคงโดยกลุ่มประเทศอาณานิคมเก่า

    🤯โปรดติดตามบทความ#สหรัฐฯ ค่อยๆ เข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร? #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง? ตอน 02. ที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#สหรัฐฯค่อยๆเข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง ตอน 01.🤠 ตั้งแต่สมัยโบราณมา การถ่ายโอนและการส่งมอบอำนาจจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายนั้นจะมาพร้อมกับสงครามที่ดุเดือดเสมอ ตัวอย่างเช่น การต่อสู้เพื่อชิงอำนาจทางทะเลระหว่างอังกฤษและสเปน และการต่อสู้เพื่อชิงอำนาจทางทวีประหว่างจักรวรรดิเยอรมันและจักรวรรดิไรช์ที่ 3 ของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ในการเปลี่ยนแปลงอำนาจเจ้าโลกและในการถ่ายโอนอำนาจครั้งล่าสุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ กล่าวคือ การถ่ายโอนอำนาจระหว่างอังกฤษและสหรัฐอเมริกาไม่ได้เกิดขึ้นในความขัดแย้งโดยตรงขนาดใหญ่ ยกเว้นสงครามระดับภูมิภาคขนาดเล็กระหว่างทั้งสองประเทศ และการส่งมอบอย่างสันติก็บรรลุผลสำเร็จในระดับหนึ่ง 😎แล้วสหรัฐฯ เข้ามาแทนที่อังกฤษในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งของโลกโดยวิธีใด และสิ่งนี้มีผลกระทบอย่างไรต่อการสลายอำนาจนำ?😎 🤯หนึ่ง จุดเริ่มต้นของอำนาจครอบงำของอังกฤษและความเสื่อมถอย🤯 ในปีค.ศ. 1815 นโปเลียนพ่ายแพ้ต่อพันธมิตรของยุโรปซึ่งนำโดยนายพลเวลลิงตัน(Wellington)แห่งอังกฤษที่วอเตอร์ลู(Waterloo) นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อังกฤษได้ขจัดอุปสรรคทั้งหมดในทวีปยุโรปและทั่วโลก ในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 19 อำนาจของอังกฤษถึงจุดสูงสุด ซึ่งเห็นได้จากการตระหนักถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมในระดับสูงในบริเตนและการขยายอาณานิคมขนาดใหญ่ของจักรวรรดิอังกฤษ 😎สิ่งที่เรียกว่าอำนาจนำของอังกฤษคือสันติภาพภายใต้จักรวรรดิอังกฤษ ความได้เปรียบประการแรกที่เกิดจากการปฏิวัติทางเทคโนโลยีและการปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้สหราชอาณาจักรมีบทบาทในการลดมิติในสงคราม โดยมีรากฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและอำนาจทางเรือ เป็นการรับประกันที่มั่นคงสำหรับอำนาจเจ้าโลกของอังกฤษ😎 😎หน่วยงานของจักรวรรดิได้นำประเด็นสำคัญสามประการมาใช้: นโยบายการตรวจสอบและถ่วงดุลของยุโรป การขยายอาณานิคม และความเหนือกว่าทางเรือ ในที่สุดก็กลายเป็นอาณาจักรที่อยู่ยงคงกระพันซึ่งดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดิน😎 ด้วยการพัฒนาด้านการผลิตอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จที่เกิดจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกไม่สามารถตอบสนองความต้องการในปัจจุบันขององค์กรได้อีกต่อไป และการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองก็เกิดขึ้น คราวนี้พระเจ้าไม่ทรงโปรดปรานเช้าช้างสหราชอาณาจักร แต่ทรงนำการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองให้เกิดขึ้นในโลก โดยมอบให้กับเยอรมนีในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่อยู่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร อาศัยการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองเยอรมนีและสหรัฐอเมริกาได้สร้างแบบจำลองของอเมริกันและแบบของเยอรมันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รัฐบาลของทั้งสองประเทศพัฒนาเศรษฐกิจทุนนิยมอย่างแข็งขัน และสร้างพื้นฐานความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจเพื่อแข่งขันกับอังกฤษเพื่อชิงอำนาจ 😎อย่างไรก็ตาม ทั้งสองโมเดลมีความแตกต่างกันในนโยบายต่างประเทศ คนเยอรมันกระตือรือร้นที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการใช้กำลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของอำนาจทางทะเล เพื่อทำลายการปิดล้อมทางเรือของอังกฤษ กองทัพเรือเยอรมันจึงเปิดการแข่งขันด้านอาวุธทางเรือกับอังกฤษ😎 😎สหรัฐอเมริกาอยู่ในทวีปอเมริกาและไม่มีแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงเท่ากับเยอรมนี นอกจากนี้ สหรัฐฯ ก็ไม่เต็มใจที่จะทำสงครามกับอังกฤษอีกเช่นกัน เมื่อเทียบผลประโยชน์กับอำนาจเจ้าโลก ทางการสหรัฐฯ จึงสนใจเปิดสวนหลังบ้านในอเมริกาเป็นของตนเองเพื่อแสวงผลประโยชน์มากขึ้น😎 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่แท้จริงคืออังกฤษสูญเสียความได้เปรียบทางเศรษฐกิจในการรักษาอำนาจอำนาจเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 เยอรมนีและสหรัฐอเมริกาได้แซงหน้าอังกฤษอย่างต่อเนื่องในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งยังเป็นการวางรากฐานทางเศรษฐกิจสำหรับการถ่ายโอนอำนาจในอนาคตด้วย 🤯สอง ทางตัน🤯 ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่ 1 ของโลก ในแง่ของการทหาร แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่ใช่อันดับหนึ่งของโลก แต่ก็ได้เอาชนะสเปนผู้เป็นอาณานิคมเก่าในสงครามสเปน-อเมริกา ชัยชนะในสงครามสเปน-อเมริกาทำให้ทางการสหรัฐฯ มั่นใจ ซึ่งทำให้สหรัฐฯ เปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางการทูตทั้งหมด อดีตยุทธศาสตร์แผ่นดินใหญ่ของอเมริกาและนโยบายความเป็นกลางในกิจการระหว่างประเทศไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านการพัฒนาของสหรัฐฯ ได้อีกต่อไป และลัทธิเจ้าโลกก็ค่อยๆผงาดสูงขึ้น ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1914 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากภายในประเทศมีการแพร่หลายลัทธิโดดเดี่ยวอย่างมาก รัฐบาลสหรัฐฯ จึงแสดงจุดยืนที่เป็นกลางทันที อย่างไรก็ตาม สงครามในยุโรปไม่ได้ปล่อยให้สหรัฐอเมริกาอยู่ตามลำพัง การห้ามการค้าของประเทศต่างๆ และการโจมตีตามอำเภอใจต่างๆ ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรงต่อสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีวิลสัน (Wilson)ของสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นตระหนักว่าสหรัฐอเมริกาไม่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของยุโรปได้หากปราศจากการแทรกแซงในสนามรบของยุโรป และพฤติกรรมซึ่งดูแล้วชวนทำให้เกิดความสิ้นหวังของทางการเยอรมันได้เร่งการแทรกแซงของสหรัฐฯ ในสงครามให้เร็วขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917 หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ สกัดกั้นจดหมายลับสุดยอดที่ส่งจากเยอรมนีไปยังเม็กซิโก เนื้อหาของจดหมายประกอบด้วยเรื่องราวยุทธศาสตร์ระดับโลกในอนาคตของเยอรมนี ซึ่งรวมถึงแผนการจัดวางกำลังในอเมริกาเพื่อช่วยเม็กซิโกฟื้นฟูดินแดนที่ถูกผนวกโดยสหรัฐอเมริกา หลังจากเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผย ความคิดเห็นของสาธารณชนในสหรัฐอเมริกาก็เกิดความโกลาหล และกลุ่มซึ่งแต่เดิมมีความคิดนโยบายโดดเดี่ยวไม่เข้ากับฝ่ายใดก็เริ่มโน้มเข้าหาฝ่ายต้องการทำสงครามมากขึ้น เมื่อวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1917 รัฐสภาสหรัฐฯ อนุมัติการทำสงครามกับเยอรมนี แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วสหรัฐฯจะชนะ อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องของทางการสหรัฐฯ และแผนสำหรับระเบียบโลกใหม่ล้มเหลว และอำนาจนำแบบดั้งเดิมยังคงยึดครองอย่างมั่นคงโดยกลุ่มประเทศอาณานิคมเก่า 🤯โปรดติดตามบทความ#สหรัฐฯ ค่อยๆ เข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร? #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง? ตอน 02. ที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้จะแบ่งแยกประเทศอีกครั้งหรือไม่ ตอน02🤠

    ในความเป็นจริงมีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ในการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม โดยทั่วไปการพัฒนาของภาคเหนือค่อนข้างล้าหลัง ในขณะที่ภาคใต้ค่อนข้างมั่งคั่งและมีนโยบายทางเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

    แหล่งที่มาของความแตกต่างทางเศรษฐกิจระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ไม่เพียงได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเท่านั้น มันยังได้รับการตรวจสอบและปรับสมดุลด้วยพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ด้วย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เป็นมาเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ถูกแบ่งแยกมากกว่าการรวมเป็นหนึ่งเดียว

    สถานการณ์การแบ่งแยกและการปกครองในระยะยาวได้ก่อให้เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจนในระดับภูมิภาคในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนาม ซึ่งส่งผลกระทบมาจนถึงทุกวันนี้

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการเผชิญหน้าระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ระหว่างปีค.ศ. 1955 ถึงค.ศ. 1975 ในยุคปัจจุบัน ความแตกต่างในระบบการเมืองและเศรษฐกิจทำให้ช่องว่างการพัฒนาระหว่างภาคเหนือและภาคใต้รุนแรงขึ้น

    ในช่วงการแบ่งแยก รูปแบบทางเศรษฐกิจของภาคใต้มีความหลากหลาย มีองค์ประกอบทางเศรษฐกิจแบบทุนนิยมหลายประการ เช่น ระบบทุนนิยมแบบราชการและระบบทุนนิยมแห่งชาติ ระบบกรรมสิทธิ์ในที่ดินของระบบศักดินาก็ยังคงอยู่ นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมขนาดเล็กและการพาณิชย์กระจายอยู่ทั่วบริเวณ

    ในชนบท ภาคใต้ยังคงรักษานโยบายเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินของเอกชน เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากเกษตรกร ทั้งแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติตอนใต้และระบอบการปกครองไซง่อนจึงต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อเรื่องกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรและจัดสรรพื้นที่เพาะปลูกให้กับเกษตรกร

    ตัวอย่างเช่น ระบอบการปกครองไซ่ง่อนด้วยความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา จึงประกาศใช้พระราชบัญญัติที่ดินเรื่องเกษตรกรมีที่ดินทำกินของตนเองในปี ค.ศ. 1970 บนพื้นฐานของการปกป้องผลประโยชน์ของเจ้าของที่ดิน รัฐบาลให้ทุนสนับสนุนการซื้อที่ดินจากเจ้าของที่ดินและแจกจ่ายให้กับเกษตรกรฟรี

    หลังจากที่เจ้าของที่ดินได้รับเงินทุนจากขายที่ดินแล้ว ด้วยความช่วยเหลือและให้กำลังใจสนับสนุนจากรัฐบาล พวกเขาก็นำทุนลงทุนในอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ ก่อให้เกิดส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจทุนนิยมในชนบท

    เนื่องจากปัจจัยด้านสงคราม ภาคเหนือจึงเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก และละเลยการพัฒนาอุตสาหกรรมเบาพลเรือน นอกจากนี้ระหว่างอุตสาหกรรมและการเกษตรยังไม่มีการสนับสนุนการพัฒนา จึงไม่สามารถส่งเสริมซึ่งกันและกันได้

    สิ่งนี้คล้ายกับสหภาพโซเวียตมาก อดีตสหภาพโซเวียตซึ่งเดินผ่านออกมาจากไฟสงครามให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก แต่พวกเขาไม่สนใจในการพัฒนาเศรษฐกิจการดำรงชีวิตของผู้คนมากนัก ซึ่งทำให้มาตรฐานการครองชีพของผู้อยู่อาศัยทางอ้อมลดลง

    ด้วยเหตุผลหลายประการ เมื่อภาคเหนือและภาคใต้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ระดับการผลิตทางอุตสาหกรรมและการเกษตรในเวียดนามตอนใต้จึงสูงกว่าทางตอนเหนือ และเศรษฐกิจสินค้าโภคภัณฑ์ก็ได้รับการพัฒนาเช่นกัน

    ภาคใต้มีด้านอุตสาหกรรมเบาเป็นหลัก รายการนี้คิดเป็นเกือบ 90% ของการผลิตภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด การค้าก็เจริญรุ่งเรืองมากเช่นกัน ตั้งแต่ตลาดในชนบทไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองและย่านการค้า ร้านค้าต่างๆ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ทั้งในเมืองและชนบท

    นอกจากนี้ เนื่องจากการยั่วยุของเวียดนามต่อจีนหลังจากการรวมชาติ ทำให้เกิดการตอบโต้การป้องกันตนเองต่อเวียดนาม สงครามครั้งนี้เกือบจะทำลายอุตสาหกรรมหนักทางตอนเหนือของเวียดนาม เป็นเรื่องยากที่จะฟื้นคืนสภาพเดิมในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ความไม่สมดุลในการพัฒนาระหว่างภาคเหนือและภาคใต้รุนแรงขึ้น

    สำหรับเวียดนาม แม้ว่าเวียดนามจะมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ความสำเร็จดังกล่าวกลับทำให้ช่องว่างระหว่างภาคเหนือและภาคใต้กว้างขึ้นเท่านั้น

    และเวียดนามไม่มีนโยบายการโอนภาษีภูมิภาคเช่นจีน เพื่อสร้างสมดุลทางการเงินในท้องถิ่น ลดความแตกต่างในระดับภูมิภาค ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนจะเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    เมื่อเวลาผ่านไป มันจะทำลายสังคมเวียดนามอย่างรุนแรง และยังนำไปสู่การแตกแยกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ได้อย่างง่ายดาย

    ปัจจุบันช่องว่างระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนามไม่ได้แคบลงแต่เริ่มกว้างขึ้น

    😎โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า😎

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้จะแบ่งแยกประเทศอีกครั้งหรือไม่ ตอน02🤠 ในความเป็นจริงมีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ในการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม โดยทั่วไปการพัฒนาของภาคเหนือค่อนข้างล้าหลัง ในขณะที่ภาคใต้ค่อนข้างมั่งคั่งและมีนโยบายทางเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นมากขึ้น แหล่งที่มาของความแตกต่างทางเศรษฐกิจระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ไม่เพียงได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเท่านั้น มันยังได้รับการตรวจสอบและปรับสมดุลด้วยพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ด้วย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เป็นมาเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ถูกแบ่งแยกมากกว่าการรวมเป็นหนึ่งเดียว สถานการณ์การแบ่งแยกและการปกครองในระยะยาวได้ก่อให้เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจนในระดับภูมิภาคในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนาม ซึ่งส่งผลกระทบมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการเผชิญหน้าระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ระหว่างปีค.ศ. 1955 ถึงค.ศ. 1975 ในยุคปัจจุบัน ความแตกต่างในระบบการเมืองและเศรษฐกิจทำให้ช่องว่างการพัฒนาระหว่างภาคเหนือและภาคใต้รุนแรงขึ้น ในช่วงการแบ่งแยก รูปแบบทางเศรษฐกิจของภาคใต้มีความหลากหลาย มีองค์ประกอบทางเศรษฐกิจแบบทุนนิยมหลายประการ เช่น ระบบทุนนิยมแบบราชการและระบบทุนนิยมแห่งชาติ ระบบกรรมสิทธิ์ในที่ดินของระบบศักดินาก็ยังคงอยู่ นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมขนาดเล็กและการพาณิชย์กระจายอยู่ทั่วบริเวณ ในชนบท ภาคใต้ยังคงรักษานโยบายเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินของเอกชน เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากเกษตรกร ทั้งแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติตอนใต้และระบอบการปกครองไซง่อนจึงต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อเรื่องกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรและจัดสรรพื้นที่เพาะปลูกให้กับเกษตรกร ตัวอย่างเช่น ระบอบการปกครองไซ่ง่อนด้วยความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา จึงประกาศใช้พระราชบัญญัติที่ดินเรื่องเกษตรกรมีที่ดินทำกินของตนเองในปี ค.ศ. 1970 บนพื้นฐานของการปกป้องผลประโยชน์ของเจ้าของที่ดิน รัฐบาลให้ทุนสนับสนุนการซื้อที่ดินจากเจ้าของที่ดินและแจกจ่ายให้กับเกษตรกรฟรี หลังจากที่เจ้าของที่ดินได้รับเงินทุนจากขายที่ดินแล้ว ด้วยความช่วยเหลือและให้กำลังใจสนับสนุนจากรัฐบาล พวกเขาก็นำทุนลงทุนในอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ ก่อให้เกิดส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจทุนนิยมในชนบท เนื่องจากปัจจัยด้านสงคราม ภาคเหนือจึงเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก และละเลยการพัฒนาอุตสาหกรรมเบาพลเรือน นอกจากนี้ระหว่างอุตสาหกรรมและการเกษตรยังไม่มีการสนับสนุนการพัฒนา จึงไม่สามารถส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ สิ่งนี้คล้ายกับสหภาพโซเวียตมาก อดีตสหภาพโซเวียตซึ่งเดินผ่านออกมาจากไฟสงครามให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก แต่พวกเขาไม่สนใจในการพัฒนาเศรษฐกิจการดำรงชีวิตของผู้คนมากนัก ซึ่งทำให้มาตรฐานการครองชีพของผู้อยู่อาศัยทางอ้อมลดลง ด้วยเหตุผลหลายประการ เมื่อภาคเหนือและภาคใต้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ระดับการผลิตทางอุตสาหกรรมและการเกษตรในเวียดนามตอนใต้จึงสูงกว่าทางตอนเหนือ และเศรษฐกิจสินค้าโภคภัณฑ์ก็ได้รับการพัฒนาเช่นกัน ภาคใต้มีด้านอุตสาหกรรมเบาเป็นหลัก รายการนี้คิดเป็นเกือบ 90% ของการผลิตภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด การค้าก็เจริญรุ่งเรืองมากเช่นกัน ตั้งแต่ตลาดในชนบทไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองและย่านการค้า ร้านค้าต่างๆ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ทั้งในเมืองและชนบท นอกจากนี้ เนื่องจากการยั่วยุของเวียดนามต่อจีนหลังจากการรวมชาติ ทำให้เกิดการตอบโต้การป้องกันตนเองต่อเวียดนาม สงครามครั้งนี้เกือบจะทำลายอุตสาหกรรมหนักทางตอนเหนือของเวียดนาม เป็นเรื่องยากที่จะฟื้นคืนสภาพเดิมในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ความไม่สมดุลในการพัฒนาระหว่างภาคเหนือและภาคใต้รุนแรงขึ้น สำหรับเวียดนาม แม้ว่าเวียดนามจะมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ความสำเร็จดังกล่าวกลับทำให้ช่องว่างระหว่างภาคเหนือและภาคใต้กว้างขึ้นเท่านั้น และเวียดนามไม่มีนโยบายการโอนภาษีภูมิภาคเช่นจีน เพื่อสร้างสมดุลทางการเงินในท้องถิ่น ลดความแตกต่างในระดับภูมิภาค ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนจะเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเวลาผ่านไป มันจะทำลายสังคมเวียดนามอย่างรุนแรง และยังนำไปสู่การแตกแยกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบันช่องว่างระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนามไม่ได้แคบลงแต่เริ่มกว้างขึ้น 😎โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า😎 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลูกที่ต้องดูแลพ่อ แม่ยามชรา เสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ และทรัพย์แทนพี่น้อง
    อาจเป็นคนที่ไม่ใช่พ่อ แม่รักที่สุด ถูกใจที่สุด ภูมิใจที่สุดเลยก็ได้
    อาจเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง ทำงานที่ไม่ได้มีหน้ามีตา ฐานะกลางๆ ไม่ใช่ลูกชาย หรือเป็นเพศที่สาม
    แต่ยังยืนหยัดความกตัญญู ทำเรื่องที่สมควรทำ อาจไม่ได้ต้องการมรดก เพราะใช้ทรัพย์ที่หาเองได้สบายใจกว่า มีร่างกายแข็งแรงมั่นใจเลี้ยงดูตัวเองได้

    แต่ที่ต้องการ อาจแค่อยากถูกรัก อยากถูกมองด้วยสายตาที่ภาคภูมิใจ เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต มีความสุข และพวกท่านทั้งสองรู้สึกดีใจที่มีลูกคนนี้
    ลูกที่ต้องดูแลพ่อ แม่ยามชรา เสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ และทรัพย์แทนพี่น้อง อาจเป็นคนที่ไม่ใช่พ่อ แม่รักที่สุด ถูกใจที่สุด ภูมิใจที่สุดเลยก็ได้ อาจเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง ทำงานที่ไม่ได้มีหน้ามีตา ฐานะกลางๆ ไม่ใช่ลูกชาย หรือเป็นเพศที่สาม แต่ยังยืนหยัดความกตัญญู ทำเรื่องที่สมควรทำ อาจไม่ได้ต้องการมรดก เพราะใช้ทรัพย์ที่หาเองได้สบายใจกว่า มีร่างกายแข็งแรงมั่นใจเลี้ยงดูตัวเองได้ แต่ที่ต้องการ อาจแค่อยากถูกรัก อยากถูกมองด้วยสายตาที่ภาคภูมิใจ เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต มีความสุข และพวกท่านทั้งสองรู้สึกดีใจที่มีลูกคนนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เป็นคำถามที่ดี
    อธิบายแบบนี้ มันมี 2 สเต็ป
    1. เริ่มต้น โดยที่จริงๆแล้ว น้องแน๊กชาลีสำหรับพี่คิงส์ก่อนหน้านี้ ก็เป็นน้องคนนึงที่เราเห็นในวงการบันเทิง มาปฏิสัมพันธ์กับกามิน เห็นผ่านๆ ก็ดูน่ารักดี แต่ไม่ได้เป็นด้อม ที่มีความผูกพันเหมือนหลายๆคน แต่เหตุการณ์มันเริ่มต้นคือ วันที่แน๊กออกมาไลฟ์ตั้งแต่ค่ำยันเช้า พี่คิงส์มาเปิดตอนแปดโมงแล้ว ก็เลยสงสัยว่าใครทำให้น้องคนนี้ตกอยู่ในสภาพนี้ นั่นหละนิสัยที่ไม่ยอมให้ความสงสัยค้าคา ก็เลยเริ่มขุดข้อมูล และแล้วด้วยการมองเห็น ข บ ก ของโจ ในการให้ร้ายต่อแน๊ก สร้างเครือข่าย ทำให้คนไทยด้วยกัน เข้าใจแน็กผิด แต่พี่คิงส์มีข้อมูลที่มันสวนทาง และยิ่งขุด ยิ่งรู้จักคนไทย ที่ชื่อแน๊กชาลีมากขึ้น ทำให้เข้าใจสถานการณ์ ว่าน้อง ต้องอดทนแค่ไหน ในขณะที่ต้องย้อมกับแฟนคลับชาวไทย ถ้าไม่มีใครออกมาปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะทำ ถึงขนาดวางเรื่องการเมืองที่นำเสนอเรื่องเอ็กคลูซีฟ การวิเคราะห์ ที่แม่นยำ 99% จนแฟนเพจถามตลอดว่าเลขงวดนี้จะออกอะไร แฟนเพจดั้งเดิมช่วยยืนยันเรื่องนี้ได้ทุกคน เราจึงไม่ต้องการแสง เพราะเรามีแสงของตัวเราเองมานานมากแล้ว และไม่เคยให้ความสำคัญกับมันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการบรรลุเป้าหมาย ให้คนไทยได้รู้ว่าใครที่คิดร้ายกับคนในประเทศ ใครกำลังทำอะไรที่คนไทยเสียประโยชน์ นั่นคือความสำเร็จที่เราภูมิใจ
    2. เมื่อขุดไปเรื่อยๆ เพื่อตอบข้อสงสัยว่า ข บ ก นำโดยโจ มีใครเป็นเครือข่าย และเค้าทำเพื่ออะไร ก็ไปเจอกับสิ่งที่อึ้ง ที่มันเป็นเรื่องระดับ ฟอกข้ามชาติ บิ๊กแม็ต พีเค ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ในเวลานี้ ยุโปร ตะวันออกลาง และเอเชียหลายประเทศ กำลังตื่นตัว แต่ประเทศไทย แทบไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เท่าที่ดู ก็จะมีแค่สื่อตำนาน อย่าง สนธิ ที่ได้ข้อมูลมาในชุดเดียวกัน แต่มีข้อมูลที่ลึกกว่าคิงส์โพธิ์แดงหลายสิบเท่า และมีความกล้าที่จะเปิดเผย
    ดังนั้น มาส่วนของคำถาม
    ว่า พี่คิงส์ไม่กลัวเหรอ
    ตอบ
    พี่คิงส์ อาจมีความไม่เหมือนกับคนทั่วไปอยู่ 1 ข้อ
    พี่คิงส์คิดว่า คนเราอายุขัยแค่ 70-80 ปี
    ยังไง วันหนึ่งก็ไม่มีเราอยู่บนโลกนี้แน่นอน
    ดังนั้น คุณค่าของชีวิต มันจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับ
    เราอยู่นานแค่ไหน แต่การทำชีวิต 1 ชีวิตให้มีค่า
    มันขึ้นกับว่า เราอยู่เพื่อใครตะหาก
    ประเด็นการออกมาช่วยน้องชาลี พี่คิงส์ถูกให้ร้ายต่างๆนานา
    ว่าอยากได้ยอดไลค์บ้าง อยากดังบ้าง ซึ่งพวกนี้
    ไม่เคยรู้จักเพจคิงส์โพธิ์แดงมาก่อน
    ไม่เคยรู้ว่าเราสู้กับใครมาบ้าง
    ไม่เคยรู้ว่าคลิปที่เราสร้าง โพสที่เราเปิดข้อมูล
    มีคนดูกี่แสน และหลายคลิปก็ทะลุล้าน เป็นเรื่องปกติไปแล้ว
    จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องหาอะไรมาอธิบาย
    มีแค่ข้อเดียวคือ ถ้าไม่ปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะปกป้องเรา
    และที่ลึกไปถึงกลุ่มทุนดาร์คที่ซัพพอตโจ และเครือข่าย
    ต้องสังเคราะห์ให้ลึกซึ้งก่อนว่า
    เงินดาร์ค ที่ว่าได้มายังไง
    1. การพานัน
    2. ค้ามานุษย์
    3. คอเซ็งเทอร์
    4. ยาเฉพติค
    นี่คือส่วนหลักๆของเงินดาร์ค ที่มันจะเอามาใช้ได้ ต้องผ่านกระบวนการฟอกเท่านั้น ไม่เช่นนั้น มีก็เหมือนไม่มี ทำอะไรไม่ได้ เพราะทุกประเทศต่างจับตาเรื่องนี้กันทั้งนั้น
    และข้อมูลที่พี่คิงส์ฯได้เปิดไปแล้วนั้น ว่าทั้งสหรัฐ ทั้งตุรกี ทั้งจีน ทั้งไต้หวัน ต่างตื่นตัวกันมาก กลุ่มเงินดาร์ค ใช้จังหวะที่ชาลีและคนไทยเข้าใจผิดไม่คิดว่าสิ่งที่กามินทำนั้น คือการแสดงที่มีเอเจนซี่กำกับอยู่ และมีชื่อเสียงก้องประเทศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วางแผนไกลถึงขนาดจะใช้ไทยเป็นฐานใหญ่ เพราะหลายเดือนที่ผ่านมา มีการนำเงินเข้าสู่ระบบ ตต. และฟอกไปแล้วจำนวนมหาศาล ผ่านการแต่งบช ว่าได้รับผลประโยชน์จากของขวัญในตน. สอดแทรกกับของขวัญจริงที่คนไทยส่งให้ด้วยความเอ็นดู
    คำถาม ถ้าพี่คิงส์ไม่เปิดเผยเรื่องนี้แบบตรงๆ
    ป่านนี้ พีเค บิ๊กแม็ต ก็กระหึ่มอยู่ เงินดาร์คก็ยังฟอกกันได้อย่างเฟื่องฟู
    และประเทศเราก็จะกลายเป็น ฐานใหญ่เงินดาร์คไปแล้วก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ มีเอเจนซี่ เริ่มเข้ามาเตรียมหาตัวแสดง และปั้น เพื่อเข้าสู่กระบวนการ ฟอกให้ขาว
    ดังนั้น ถ้าการที่เพจนี้ ได้ต่อสู้แล้วช่วยคนไทยได้ทั้งประเทศ
    อย่าถามว่ากลัวมั๊ย ต้องถามว่าคุ้มมั๊ย
    ถ้าคุณได้ใช้ชีวิตของคุณ ช่วยคนไทยได้กว่า 70 ล้านคน
    ซึ่งพี่คิงส์ มีคำตอบกับตัวเองแล้วว่า "คุ้มค่า"
    ขอตอบรอบนี้รอบเดียวนะครับ
    ถึงจะไม่ได้ทำทุกอย่างดีหมดถูกต้องหมดมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา
    แต่สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ มั่นใจว่า "ถูกต้องที่สุด" แล้วจริงๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เป็นคำถามที่ดี อธิบายแบบนี้ มันมี 2 สเต็ป 1. เริ่มต้น โดยที่จริงๆแล้ว น้องแน๊กชาลีสำหรับพี่คิงส์ก่อนหน้านี้ ก็เป็นน้องคนนึงที่เราเห็นในวงการบันเทิง มาปฏิสัมพันธ์กับกามิน เห็นผ่านๆ ก็ดูน่ารักดี แต่ไม่ได้เป็นด้อม ที่มีความผูกพันเหมือนหลายๆคน แต่เหตุการณ์มันเริ่มต้นคือ วันที่แน๊กออกมาไลฟ์ตั้งแต่ค่ำยันเช้า พี่คิงส์มาเปิดตอนแปดโมงแล้ว ก็เลยสงสัยว่าใครทำให้น้องคนนี้ตกอยู่ในสภาพนี้ นั่นหละนิสัยที่ไม่ยอมให้ความสงสัยค้าคา ก็เลยเริ่มขุดข้อมูล และแล้วด้วยการมองเห็น ข บ ก ของโจ ในการให้ร้ายต่อแน๊ก สร้างเครือข่าย ทำให้คนไทยด้วยกัน เข้าใจแน็กผิด แต่พี่คิงส์มีข้อมูลที่มันสวนทาง และยิ่งขุด ยิ่งรู้จักคนไทย ที่ชื่อแน๊กชาลีมากขึ้น ทำให้เข้าใจสถานการณ์ ว่าน้อง ต้องอดทนแค่ไหน ในขณะที่ต้องย้อมกับแฟนคลับชาวไทย ถ้าไม่มีใครออกมาปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะทำ ถึงขนาดวางเรื่องการเมืองที่นำเสนอเรื่องเอ็กคลูซีฟ การวิเคราะห์ ที่แม่นยำ 99% จนแฟนเพจถามตลอดว่าเลขงวดนี้จะออกอะไร แฟนเพจดั้งเดิมช่วยยืนยันเรื่องนี้ได้ทุกคน เราจึงไม่ต้องการแสง เพราะเรามีแสงของตัวเราเองมานานมากแล้ว และไม่เคยให้ความสำคัญกับมันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการบรรลุเป้าหมาย ให้คนไทยได้รู้ว่าใครที่คิดร้ายกับคนในประเทศ ใครกำลังทำอะไรที่คนไทยเสียประโยชน์ นั่นคือความสำเร็จที่เราภูมิใจ 2. เมื่อขุดไปเรื่อยๆ เพื่อตอบข้อสงสัยว่า ข บ ก นำโดยโจ มีใครเป็นเครือข่าย และเค้าทำเพื่ออะไร ก็ไปเจอกับสิ่งที่อึ้ง ที่มันเป็นเรื่องระดับ ฟอกข้ามชาติ บิ๊กแม็ต พีเค ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ในเวลานี้ ยุโปร ตะวันออกลาง และเอเชียหลายประเทศ กำลังตื่นตัว แต่ประเทศไทย แทบไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เท่าที่ดู ก็จะมีแค่สื่อตำนาน อย่าง สนธิ ที่ได้ข้อมูลมาในชุดเดียวกัน แต่มีข้อมูลที่ลึกกว่าคิงส์โพธิ์แดงหลายสิบเท่า และมีความกล้าที่จะเปิดเผย ดังนั้น มาส่วนของคำถาม ว่า พี่คิงส์ไม่กลัวเหรอ ตอบ พี่คิงส์ อาจมีความไม่เหมือนกับคนทั่วไปอยู่ 1 ข้อ พี่คิงส์คิดว่า คนเราอายุขัยแค่ 70-80 ปี ยังไง วันหนึ่งก็ไม่มีเราอยู่บนโลกนี้แน่นอน ดังนั้น คุณค่าของชีวิต มันจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับ เราอยู่นานแค่ไหน แต่การทำชีวิต 1 ชีวิตให้มีค่า มันขึ้นกับว่า เราอยู่เพื่อใครตะหาก ประเด็นการออกมาช่วยน้องชาลี พี่คิงส์ถูกให้ร้ายต่างๆนานา ว่าอยากได้ยอดไลค์บ้าง อยากดังบ้าง ซึ่งพวกนี้ ไม่เคยรู้จักเพจคิงส์โพธิ์แดงมาก่อน ไม่เคยรู้ว่าเราสู้กับใครมาบ้าง ไม่เคยรู้ว่าคลิปที่เราสร้าง โพสที่เราเปิดข้อมูล มีคนดูกี่แสน และหลายคลิปก็ทะลุล้าน เป็นเรื่องปกติไปแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องหาอะไรมาอธิบาย มีแค่ข้อเดียวคือ ถ้าไม่ปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะปกป้องเรา และที่ลึกไปถึงกลุ่มทุนดาร์คที่ซัพพอตโจ และเครือข่าย ต้องสังเคราะห์ให้ลึกซึ้งก่อนว่า เงินดาร์ค ที่ว่าได้มายังไง 1. การพานัน 2. ค้ามานุษย์ 3. คอเซ็งเทอร์ 4. ยาเฉพติค นี่คือส่วนหลักๆของเงินดาร์ค ที่มันจะเอามาใช้ได้ ต้องผ่านกระบวนการฟอกเท่านั้น ไม่เช่นนั้น มีก็เหมือนไม่มี ทำอะไรไม่ได้ เพราะทุกประเทศต่างจับตาเรื่องนี้กันทั้งนั้น และข้อมูลที่พี่คิงส์ฯได้เปิดไปแล้วนั้น ว่าทั้งสหรัฐ ทั้งตุรกี ทั้งจีน ทั้งไต้หวัน ต่างตื่นตัวกันมาก กลุ่มเงินดาร์ค ใช้จังหวะที่ชาลีและคนไทยเข้าใจผิดไม่คิดว่าสิ่งที่กามินทำนั้น คือการแสดงที่มีเอเจนซี่กำกับอยู่ และมีชื่อเสียงก้องประเทศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วางแผนไกลถึงขนาดจะใช้ไทยเป็นฐานใหญ่ เพราะหลายเดือนที่ผ่านมา มีการนำเงินเข้าสู่ระบบ ตต. และฟอกไปแล้วจำนวนมหาศาล ผ่านการแต่งบช ว่าได้รับผลประโยชน์จากของขวัญในตน. สอดแทรกกับของขวัญจริงที่คนไทยส่งให้ด้วยความเอ็นดู คำถาม ถ้าพี่คิงส์ไม่เปิดเผยเรื่องนี้แบบตรงๆ ป่านนี้ พีเค บิ๊กแม็ต ก็กระหึ่มอยู่ เงินดาร์คก็ยังฟอกกันได้อย่างเฟื่องฟู และประเทศเราก็จะกลายเป็น ฐานใหญ่เงินดาร์คไปแล้วก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ มีเอเจนซี่ เริ่มเข้ามาเตรียมหาตัวแสดง และปั้น เพื่อเข้าสู่กระบวนการ ฟอกให้ขาว ดังนั้น ถ้าการที่เพจนี้ ได้ต่อสู้แล้วช่วยคนไทยได้ทั้งประเทศ อย่าถามว่ากลัวมั๊ย ต้องถามว่าคุ้มมั๊ย ถ้าคุณได้ใช้ชีวิตของคุณ ช่วยคนไทยได้กว่า 70 ล้านคน ซึ่งพี่คิงส์ มีคำตอบกับตัวเองแล้วว่า "คุ้มค่า" ขอตอบรอบนี้รอบเดียวนะครับ ถึงจะไม่ได้ทำทุกอย่างดีหมดถูกต้องหมดมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ มั่นใจว่า "ถูกต้องที่สุด" แล้วจริงๆ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2002 มุมมอง 0 รีวิว
  • การแก้บนด้วยม้าลายเป็นความเชื่อที่แพร่หลายในสังคมไทย โดยมีที่มาและเหตุผลหลายประการ ดังนี้
    1. #ความเชื่อเรื่องม้าลายช่วยขจัดปัดเป่าอุปสรรค
    * ลายของม้าลาย: เชื่อว่าลายขาวดำของม้าลายเปรียบเสมือนการขจัดสิ่งไม่ดีออกไป และนำพาสิ่งดีๆ เข้ามา ช่วยให้ผู้บนประสบความสำเร็จและราบรื่นในสิ่งที่หวังไว้
    * ความว่องไวของม้าลาย: ม้าลายเป็นสัตว์ที่ว่องไวและแข็งแรง เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้บนผ่านพ้นอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ไปได้อย่างรวดเร็ว
    2. #ความเชื่อเรื่องม้าลายนำโชคลาภ
    * เสียงร้องของม้าลาย: บางคนเชื่อว่าเสียงร้องของม้าลายคล้ายกับเสียงหัวเราะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและโชคลาภ
    * ความหายากของม้าลาย: ม้าลายไม่ใช่สัตว์พื้นเมืองของไทย ทำให้มีความแปลกและหายาก เชื่อว่าการนำม้าลายมาถวายแก้บนจะทำให้คำขอเป็นที่สะดุดตาและได้รับการตอบสนองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    3. #ความเชื่อเรื่องม้าลายช่วยเตือนสติ
    * ลายขาวดำของม้าลาย: เชื่อว่าลายขาวดำของม้าลายเป็นเครื่องเตือนใจให้ระมัดระวังและไม่ประมาท ช่วยให้ผู้บนมีสติและไตร่ตรองก่อนตัดสินใจ
    * การอยู่รวมกันเป็นฝูงของม้าลาย: ม้าลายเป็นสัตว์สังคมที่อยู่รวมกันเป็นฝูง เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
    4. #การบอกเล่าและสืบทอด
    ความเชื่อเรื่องการแก้บนด้วยม้าลายถูกบอกเล่าและสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและความเชื่อของคนไทย
    5. #ความสบายใจและกำลังใจ
    แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน แต่การแก้บนด้วยม้าลายก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บนรู้สึกสบายใจและมีกำลังใจมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ

    #สรุป การแก้บนด้วยม้าลายเป็นความเชื่อที่มีรากฐานมาจากหลายปัจจัย ทั้งความเชื่อเรื่องการขจัดปัดเป่าอุปสรรค การนำโชคลาภ การเตือนสติ และการบอกเล่าสืบทอด แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน แต่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บนรู้สึกสบายใจและมีกำลังใจมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต
    การแก้บนด้วยม้าลายเป็นความเชื่อที่แพร่หลายในสังคมไทย โดยมีที่มาและเหตุผลหลายประการ ดังนี้ 1. #ความเชื่อเรื่องม้าลายช่วยขจัดปัดเป่าอุปสรรค * ลายของม้าลาย: เชื่อว่าลายขาวดำของม้าลายเปรียบเสมือนการขจัดสิ่งไม่ดีออกไป และนำพาสิ่งดีๆ เข้ามา ช่วยให้ผู้บนประสบความสำเร็จและราบรื่นในสิ่งที่หวังไว้ * ความว่องไวของม้าลาย: ม้าลายเป็นสัตว์ที่ว่องไวและแข็งแรง เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้บนผ่านพ้นอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ไปได้อย่างรวดเร็ว 2. #ความเชื่อเรื่องม้าลายนำโชคลาภ * เสียงร้องของม้าลาย: บางคนเชื่อว่าเสียงร้องของม้าลายคล้ายกับเสียงหัวเราะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและโชคลาภ * ความหายากของม้าลาย: ม้าลายไม่ใช่สัตว์พื้นเมืองของไทย ทำให้มีความแปลกและหายาก เชื่อว่าการนำม้าลายมาถวายแก้บนจะทำให้คำขอเป็นที่สะดุดตาและได้รับการตอบสนองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3. #ความเชื่อเรื่องม้าลายช่วยเตือนสติ * ลายขาวดำของม้าลาย: เชื่อว่าลายขาวดำของม้าลายเป็นเครื่องเตือนใจให้ระมัดระวังและไม่ประมาท ช่วยให้ผู้บนมีสติและไตร่ตรองก่อนตัดสินใจ * การอยู่รวมกันเป็นฝูงของม้าลาย: ม้าลายเป็นสัตว์สังคมที่อยู่รวมกันเป็นฝูง เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน 4. #การบอกเล่าและสืบทอด ความเชื่อเรื่องการแก้บนด้วยม้าลายถูกบอกเล่าและสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและความเชื่อของคนไทย 5. #ความสบายใจและกำลังใจ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน แต่การแก้บนด้วยม้าลายก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บนรู้สึกสบายใจและมีกำลังใจมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ #สรุป การแก้บนด้วยม้าลายเป็นความเชื่อที่มีรากฐานมาจากหลายปัจจัย ทั้งความเชื่อเรื่องการขจัดปัดเป่าอุปสรรค การนำโชคลาภ การเตือนสติ และการบอกเล่าสืบทอด แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน แต่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บนรู้สึกสบายใจและมีกำลังใจมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#ปูตินพูดถึงเลนิน#ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดคือการเปลี่ยนประเทศที่เป็นเอกภาพให้เป็นสหภาพรัฐ🤠

    หากรัสเซียไม่สามารถเอาชนะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนในปัจจุบันได้ ก็มีแนวโน้มมากที่รัสเซียจะต้องเผชิญวิกฤติการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ.1991 อีกครั้ง และนี่ไม่ใช่การพูดเกินจริงเลย

    😎สหภาพโซเวียตล่มสลายได้อย่างไร?😎 นี่เป็นปัญหาข้ามศตวรรษซึ่งยังคงค้างคาอยู่ในจิตใจของนักประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปีค.ศ. 1991

    “อาณาเขตอันกว้างใหญ่ อุตสาหกรรมหนักที่พัฒนาแล้ว และความแข็งแกร่งทางการทหารครั้งหนึ่งเคยทำให้ชาวอเมริกันที่หยิ่งยโสหวาดกลัว”

    จนถึงทุกวันนี้ ในทุกมุมของโลก ยังมีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่คิดถึงอาณาจักรสีแดงในอดีต

    ในฐานะสมาชิกของอดีตจักรวรรดิโซเวียตอันยิ่งใหญ่ และในฐานะหัวหน้ารัฐบาลรัสเซียในปัจจุบัน 😎ปูตินพูดไม่ออกและพูดนับครั้งไม่ถ้วนเมื่อเผชิญการสัมภาษณ์ : ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกเสียใจต่อกรณีสหภาพโซเวียตย่อมไม่มีจิตสำนึกในมโนธรรม😎

    แต่ในขณะเดียวกัน ปูตินก็กล่าวอย่างไม่เกรงอกเกรงใจดังนี้ว่า

    😎“โศกนาฏกรรมของสหภาพโซเวียตถึงวาระกำหนดไว้แล้วตั้งแต่แรกเริ่ม คือ เลนินเองที่เป็นผู้เปลี่ยนประเทศทั้งประเทศให้กลายเป็นพันธมิตรที่เบื้องหน้าดูเหมือนจะกลมกลืนกัน” 😎

    🤠แล้วอะไรคือเหตุผลว่าทำไมปูตินจึงประเมินอดีตสหภาพโซเวียตและเลนินอย่างเปลือยเปล่าและเปิดเผยต่อสาธารณะ? การล่มสลายของสหภาพโซเวียตเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งโศกนาฏกรรมที่เลนินหว่านเพาะไว้จริง ๆ หรือไม่?🤠

    🥰หนึ่ง🥰

    ในปีค.ศ. 1914 เริ่มแรกเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ในยุโรป

    แม้ว่าการสู้รบจะดุเดือดในภายนอก แต่ภายในรัสเซียในขณะนั้น ยังคงมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงในประเด็นที่ว่าใครครอบครองอยู่ในอำนาจปกครอง รัฐบาลเฉพาะกาลชนชั้นกระฎุมพีหรือว่ารัฐบาลโซเวียต

    ในเวลานี้ เลนินยังส่งเสริมแนวคิดเรื่องชนชั้นกรรมาชีพทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

    ในขณะที่รัฐบาลเฉพาะกาลในรัสเซียประสบความพ่ายแพ้อันน่าสลดใจในสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้คนก็เริ่มออกมาเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนเพื่อต่อต้านการไร้ความสามารถของรัฐบาลเฉพาะกาล

    เมื่อต้องเผชิญกับผู้ประท้วงจำนวนมาก รัฐบาลชั่วคราวของรัสเซียจึงเลือกที่จะใช้กำลังเพื่อปราบปรามพวกเขา แม้ว่าสังคมจะเงียบสงบชั่วคราว แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าพายุการเมืองลูกใหญ่กำลังจะโจมตี

    เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1917 ภายใต้เสียงปลุกระดมของเลนิน ชนชั้นแรงงานในรัสเซียเริ่มโจมตีรัฐบาลเฉพาะกาลชนชั้นกระฎุมพี

    ชั่วข้ามคืน รัฐบาลเฉพาะกาลถอนตัวออกจากเวทีประวัติศาสตร์โดยสิ้นเชิง ตามมาด้วยการกำเนิดสาธารณรัฐโซเวียตใหม่ ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติได้พลิกโฉมหน้าใหม่

    การกำเนิดของโซเวียตรัสเซียได้สร้างแบบอย่างและแรงบันดาลใจมากมายให้กับประเทศเล็กๆ หลายแห่งซึ่งแต่เดิมถูกควบคุมโดยซาร์รัสเซีย

    🥰สอง🥰

    ในการประชุมรัฐสภาโซเวียตครั้งแรกในปี ค.ศ. 1922 เลนินละทิ้งประวัติศาสตร์ของซาร์รัสเซีย และเลือกที่จะไม่สถาปนารัฐที่มีหลายเชื้อชาติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กลับเลือกที่จะสร้างสถาปนาแนวร่วมของรัฐต่างๆแทน

    ดังนั้นการดำรงอยู่ของซาร์รัสเซียที่มีหลายเชื้อชาติเป็นหนึ่งเดียวมันเป็นการดำรงเหลือคงอยู่แบบใด?

    ในศตวรรษที่ 13 กองทัพม้าของ โกลเดนฮอร์ด (Golden Horde金帐汗国)ชาวมองโกเลียเหยียบย่ำเข้าไปในดินแดนที่ปัจจุบันคือรัสเซีย ดังนั้นในช่วงเวลาอันยาวนานที่ซาร์รัสเซียจึงถือเอาการได้โค่นล้มการปกครองของมองโกเลียเป็นเรื่องราวระดับชาติของพวกเขา

    ในช่วงการกบฏอำนาจของอาณาเขตมอสโกค่อยๆเติบโต เริ่มค่อยๆพยายามแยกตัวออกจากการปกครองของมองโกล

    ในปีค.ศ. 1480 อีวานที่ 3 วาซีลเยวิช(Ivan III Vasilyevich伊凡三世·瓦西里耶维奇) แห่งมอสโกได้นำประชาชนฟื้นฟูการปกครองที่เป็นอิสระอย่างเป็นทางการ

    😎นั่นคือต่อมาเป็นซาร์รัสเซียนั่นเอง😎

    หลังจากผ่านช่วงเวลาความเจริญขึ้นๆ ลงๆ เป็นเวลาหลายร้อยปี การถือกำเนิดของจักรพรรดิปีเตอร์มหาราช (Peter the Great彼得一世)ได้นำพารัสเซียไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง

    สิ่งควรค่าที่จะกล่าวภึงคือ ในปีค.ศ. 1721 หลังจากที่จักรพรรดิปีเตอร์มหาราช (Peter the Great彼得一世)นำประชาชนของเขาเอาชนะสวีเดน เขาก็ประสบความสำเร็จในการยืนหยัดอยู่ท่ามกลางประเทศมหาอำนาจของโลก

    เพื่อบรรลุถึงความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขายิ่งขึ้น และยังเพื่อที่รักษาความมั่นคงตำแหน่งอำนาจของพวกเขา วุฒิสภารัสเซียจึงได้สวมมงกุฎแก่ปีเตอร์มหาราช (Peter the Great彼得一世)เป็นจักรพรรดิ

    😎ตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไปที่ซาร์รัสเซียกลายเป็นจักรวรรดิรัสเซียอย่างเป็นทางการ😎

    🤠กล่าวคือ ภายใต้ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์เช่นนี้ ซาร์รัสเซียไม่เคยได้เป็นพันธมิตรระหว่างประเทศ แต่เป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมาโดยตลอด🤠

    🥰สาม🥰

    ปูตินเป็นคนเข้มแข็ง เขาสนับสนุนการเมืองที่เข้มแข็ง และแนวคิดเรื่องความสามัคคีนั้นหยั่งรากลึกอยู่ในกระดูกของเขา ในมุมมองของเขา ตัวเขาเองใช้เวลาทั้งชีวิตทำงานอย่างหนักเพื่อให้รัสเซียสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันและก้าวไปข้างหน้า

    เขาชื่นชมการเมืองที่เข้มแข็งของสตาลิน และเขาไม่เห็นด้วยกับแนวทางการสร้างชาติของเลนิน

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเลนินได้สร้างพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นครั้งแรกที่ชาวสลาฟรู้สึกถึงความภาคภูมิใจและความภาคภูมิใจที่ได้ยืนอยู่ที่หัวสะพานของโลก

    แต่ในทางกลับกัน และเป็นเพราะการรวมตัวแบบที่มีความหลวมตัวของพันธมิตรของประเทศต่างๆ ที่ก่อตั้งโดยเลนินนั่นเอง ทำให้หลายประเทศในปัจจุบันสามารถแยกตัวออกจากรัสเซียได้อย่างรวดเร็ว และแม้กระทั่งหันไปทางตะวันตกโดยสิ้นเชิง เช่น ยูเครนในปัจจุบัน

    แต่เมื่อเรามองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ก็ไม่ยากเลยที่จะเห็นว่า ไม่ใช่ว่าเลนินไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมาของการเปลี่ยนแปลงไปสู่พันธมิตรระดับชาติ หากเลนินมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสองสามปี บางทีเขาอาจจะหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตได้

    ในเวลานั้น สหภาพโซเวียต เชชเนีย ยูเครน และภูมิภาคอื่นๆ มักเรียกร้องเอกราช แม้จะต้องแลกกับการสู้รบก็ตาม

    สหภาพโซเวียตซึ่งเพิ่งโผล่ออกมาจากควันแห่งความพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่สามารถต้านทานวิกฤติการแยกตัวออกใหม่หรือจุดประกายสงครามอีกครั้งได้

    เมื่อถูกบังคับกดดันจนไม่มีหนทางที่เหมาะสม เลนินทำได้แค่แนวทางสายเฉลี่ยปานกลางเท่านั้น นั่นก็คือในรูปแบบของพันธมิตรระดับชาติ ซึ่งก็คือการยึดรักษากลุ่มชาติพันธุ์และภูมิภาคที่มีอาการไม่สงบเหล่านี้ไว้อย่างมั่นคงให้อยู่ภายใต้เคียวสีแดงของสหภาพโซเวียต

    🥰สี่🥰

    การล่มสลายของสหภาพโซเวียตมีสาเหตุหลายประการ และไม่สามารถนำมาประกอบว่าเป็นสาเหตุอย่างง่ายๆเนื่องจากบุคคลคนเดียวหรือปัจจัยนอกอาณาเขตอื่นๆ ได้

    😎ประการที่หนึ่ง คือ ความแข็งแกร่งของระบบ😎

    : เลนินออกแบบพิมพ์เขียวอันยิ่งใหญ่สำหรับอนาคตของสหภาพโซเวียต แต่มันก็มีอุดมคติมากเกินไป สิ่งนี้ทำให้สตาลินถึงกับเยาะเย้ยดูแคลนสิ่งดังกล่าวเพื่อที่จะกลายเป็นมหาอำนาจที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในโลกอย่างรวดเร็ว

    สตาลินเลือกที่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก และกำลังคนและทรัพยากรทั้งหมดถูกบังคับให้เอียงเทไปด้านหนึ่ง

    แม้ว่าการพัฒนาอย่างรวดเร็วจะเกิดขึ้นได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาว สหภาพโซเวียตยักษ์ใหญ่ตนนี้เดินด้วยขาเดียวซึ่งไม่มั่นคง

    ดังนั้น เมื่อกองกำลังอิทธิพลตะวันตกบุกเข้ามา เพียงแค่วิวัฒนาการอย่างสันติเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำลายขาอีกข้างของสหภาพโซเวียตและทำให้เป็นอัมพาตโดยสิ้นเชิง

    😎ประการที่สอง คือ การสูญเสียการสำรวจตรวจสอบ😎

    🤠เติ้งกง(邓公)เคยกล่าวไว้ว่า สังคมนิยมแท้จริงแล้วมีลักษณะเป็นอย่างไร?สหภาพโซเวียตทำสิ่งนี้มาหลายทศวรรษแล้ว ยังไม่เข้าใจว่าเป็นอย่างไร เพียงแค่ประโยคเดียว เขาก็เข้าถึงประเด็นสำคัญของสหภาพโซเวียตอย่างแม่นยำ🤠

    ตั้งแต่สตาลินไปจนถึงครุสชอฟไปจนถึงเบรจเนฟและแม้แต่กอร์บาชอฟ พวกเขาต่างพยายามสำรวจว่าลัทธิสังคมนิยมในจินตนาการจะเป็นอย่างไร

    แต่เมื่อได้เห็นลักษณะลีลาร้อยแปดพันเก้าต่างๆ ของชาติตะวันตกแล้ว พวกเขาก็เริ่มมีความสั่นคลอนอุดมคติและความเชื่อมั่นของตน เกี่ยวการสำรวจและปฏิบัติทางสังคมนิยมจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะออกนอกเส้นทาง

    🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰

    🤠#ปูตินพูดถึงเลนิน#ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดคือการเปลี่ยนประเทศที่เป็นเอกภาพให้เป็นสหภาพรัฐ🤠 หากรัสเซียไม่สามารถเอาชนะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนในปัจจุบันได้ ก็มีแนวโน้มมากที่รัสเซียจะต้องเผชิญวิกฤติการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ.1991 อีกครั้ง และนี่ไม่ใช่การพูดเกินจริงเลย 😎สหภาพโซเวียตล่มสลายได้อย่างไร?😎 นี่เป็นปัญหาข้ามศตวรรษซึ่งยังคงค้างคาอยู่ในจิตใจของนักประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปีค.ศ. 1991 “อาณาเขตอันกว้างใหญ่ อุตสาหกรรมหนักที่พัฒนาแล้ว และความแข็งแกร่งทางการทหารครั้งหนึ่งเคยทำให้ชาวอเมริกันที่หยิ่งยโสหวาดกลัว” จนถึงทุกวันนี้ ในทุกมุมของโลก ยังมีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่คิดถึงอาณาจักรสีแดงในอดีต ในฐานะสมาชิกของอดีตจักรวรรดิโซเวียตอันยิ่งใหญ่ และในฐานะหัวหน้ารัฐบาลรัสเซียในปัจจุบัน 😎ปูตินพูดไม่ออกและพูดนับครั้งไม่ถ้วนเมื่อเผชิญการสัมภาษณ์ : ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกเสียใจต่อกรณีสหภาพโซเวียตย่อมไม่มีจิตสำนึกในมโนธรรม😎 แต่ในขณะเดียวกัน ปูตินก็กล่าวอย่างไม่เกรงอกเกรงใจดังนี้ว่า 😎“โศกนาฏกรรมของสหภาพโซเวียตถึงวาระกำหนดไว้แล้วตั้งแต่แรกเริ่ม คือ เลนินเองที่เป็นผู้เปลี่ยนประเทศทั้งประเทศให้กลายเป็นพันธมิตรที่เบื้องหน้าดูเหมือนจะกลมกลืนกัน” 😎 🤠แล้วอะไรคือเหตุผลว่าทำไมปูตินจึงประเมินอดีตสหภาพโซเวียตและเลนินอย่างเปลือยเปล่าและเปิดเผยต่อสาธารณะ? การล่มสลายของสหภาพโซเวียตเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งโศกนาฏกรรมที่เลนินหว่านเพาะไว้จริง ๆ หรือไม่?🤠 🥰หนึ่ง🥰 ในปีค.ศ. 1914 เริ่มแรกเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ในยุโรป แม้ว่าการสู้รบจะดุเดือดในภายนอก แต่ภายในรัสเซียในขณะนั้น ยังคงมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงในประเด็นที่ว่าใครครอบครองอยู่ในอำนาจปกครอง รัฐบาลเฉพาะกาลชนชั้นกระฎุมพีหรือว่ารัฐบาลโซเวียต ในเวลานี้ เลนินยังส่งเสริมแนวคิดเรื่องชนชั้นกรรมาชีพทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รัฐบาลเฉพาะกาลในรัสเซียประสบความพ่ายแพ้อันน่าสลดใจในสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้คนก็เริ่มออกมาเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนเพื่อต่อต้านการไร้ความสามารถของรัฐบาลเฉพาะกาล เมื่อต้องเผชิญกับผู้ประท้วงจำนวนมาก รัฐบาลชั่วคราวของรัสเซียจึงเลือกที่จะใช้กำลังเพื่อปราบปรามพวกเขา แม้ว่าสังคมจะเงียบสงบชั่วคราว แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าพายุการเมืองลูกใหญ่กำลังจะโจมตี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1917 ภายใต้เสียงปลุกระดมของเลนิน ชนชั้นแรงงานในรัสเซียเริ่มโจมตีรัฐบาลเฉพาะกาลชนชั้นกระฎุมพี ชั่วข้ามคืน รัฐบาลเฉพาะกาลถอนตัวออกจากเวทีประวัติศาสตร์โดยสิ้นเชิง ตามมาด้วยการกำเนิดสาธารณรัฐโซเวียตใหม่ ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติได้พลิกโฉมหน้าใหม่ การกำเนิดของโซเวียตรัสเซียได้สร้างแบบอย่างและแรงบันดาลใจมากมายให้กับประเทศเล็กๆ หลายแห่งซึ่งแต่เดิมถูกควบคุมโดยซาร์รัสเซีย 🥰สอง🥰 ในการประชุมรัฐสภาโซเวียตครั้งแรกในปี ค.ศ. 1922 เลนินละทิ้งประวัติศาสตร์ของซาร์รัสเซีย และเลือกที่จะไม่สถาปนารัฐที่มีหลายเชื้อชาติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กลับเลือกที่จะสร้างสถาปนาแนวร่วมของรัฐต่างๆแทน ดังนั้นการดำรงอยู่ของซาร์รัสเซียที่มีหลายเชื้อชาติเป็นหนึ่งเดียวมันเป็นการดำรงเหลือคงอยู่แบบใด? ในศตวรรษที่ 13 กองทัพม้าของ โกลเดนฮอร์ด (Golden Horde金帐汗国)ชาวมองโกเลียเหยียบย่ำเข้าไปในดินแดนที่ปัจจุบันคือรัสเซีย ดังนั้นในช่วงเวลาอันยาวนานที่ซาร์รัสเซียจึงถือเอาการได้โค่นล้มการปกครองของมองโกเลียเป็นเรื่องราวระดับชาติของพวกเขา ในช่วงการกบฏอำนาจของอาณาเขตมอสโกค่อยๆเติบโต เริ่มค่อยๆพยายามแยกตัวออกจากการปกครองของมองโกล ในปีค.ศ. 1480 อีวานที่ 3 วาซีลเยวิช(Ivan III Vasilyevich伊凡三世·瓦西里耶维奇) แห่งมอสโกได้นำประชาชนฟื้นฟูการปกครองที่เป็นอิสระอย่างเป็นทางการ 😎นั่นคือต่อมาเป็นซาร์รัสเซียนั่นเอง😎 หลังจากผ่านช่วงเวลาความเจริญขึ้นๆ ลงๆ เป็นเวลาหลายร้อยปี การถือกำเนิดของจักรพรรดิปีเตอร์มหาราช (Peter the Great彼得一世)ได้นำพารัสเซียไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง สิ่งควรค่าที่จะกล่าวภึงคือ ในปีค.ศ. 1721 หลังจากที่จักรพรรดิปีเตอร์มหาราช (Peter the Great彼得一世)นำประชาชนของเขาเอาชนะสวีเดน เขาก็ประสบความสำเร็จในการยืนหยัดอยู่ท่ามกลางประเทศมหาอำนาจของโลก เพื่อบรรลุถึงความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขายิ่งขึ้น และยังเพื่อที่รักษาความมั่นคงตำแหน่งอำนาจของพวกเขา วุฒิสภารัสเซียจึงได้สวมมงกุฎแก่ปีเตอร์มหาราช (Peter the Great彼得一世)เป็นจักรพรรดิ 😎ตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไปที่ซาร์รัสเซียกลายเป็นจักรวรรดิรัสเซียอย่างเป็นทางการ😎 🤠กล่าวคือ ภายใต้ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์เช่นนี้ ซาร์รัสเซียไม่เคยได้เป็นพันธมิตรระหว่างประเทศ แต่เป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมาโดยตลอด🤠 🥰สาม🥰 ปูตินเป็นคนเข้มแข็ง เขาสนับสนุนการเมืองที่เข้มแข็ง และแนวคิดเรื่องความสามัคคีนั้นหยั่งรากลึกอยู่ในกระดูกของเขา ในมุมมองของเขา ตัวเขาเองใช้เวลาทั้งชีวิตทำงานอย่างหนักเพื่อให้รัสเซียสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันและก้าวไปข้างหน้า เขาชื่นชมการเมืองที่เข้มแข็งของสตาลิน และเขาไม่เห็นด้วยกับแนวทางการสร้างชาติของเลนิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเลนินได้สร้างพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นครั้งแรกที่ชาวสลาฟรู้สึกถึงความภาคภูมิใจและความภาคภูมิใจที่ได้ยืนอยู่ที่หัวสะพานของโลก แต่ในทางกลับกัน และเป็นเพราะการรวมตัวแบบที่มีความหลวมตัวของพันธมิตรของประเทศต่างๆ ที่ก่อตั้งโดยเลนินนั่นเอง ทำให้หลายประเทศในปัจจุบันสามารถแยกตัวออกจากรัสเซียได้อย่างรวดเร็ว และแม้กระทั่งหันไปทางตะวันตกโดยสิ้นเชิง เช่น ยูเครนในปัจจุบัน แต่เมื่อเรามองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ก็ไม่ยากเลยที่จะเห็นว่า ไม่ใช่ว่าเลนินไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมาของการเปลี่ยนแปลงไปสู่พันธมิตรระดับชาติ หากเลนินมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสองสามปี บางทีเขาอาจจะหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตได้ ในเวลานั้น สหภาพโซเวียต เชชเนีย ยูเครน และภูมิภาคอื่นๆ มักเรียกร้องเอกราช แม้จะต้องแลกกับการสู้รบก็ตาม สหภาพโซเวียตซึ่งเพิ่งโผล่ออกมาจากควันแห่งความพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่สามารถต้านทานวิกฤติการแยกตัวออกใหม่หรือจุดประกายสงครามอีกครั้งได้ เมื่อถูกบังคับกดดันจนไม่มีหนทางที่เหมาะสม เลนินทำได้แค่แนวทางสายเฉลี่ยปานกลางเท่านั้น นั่นก็คือในรูปแบบของพันธมิตรระดับชาติ ซึ่งก็คือการยึดรักษากลุ่มชาติพันธุ์และภูมิภาคที่มีอาการไม่สงบเหล่านี้ไว้อย่างมั่นคงให้อยู่ภายใต้เคียวสีแดงของสหภาพโซเวียต 🥰สี่🥰 การล่มสลายของสหภาพโซเวียตมีสาเหตุหลายประการ และไม่สามารถนำมาประกอบว่าเป็นสาเหตุอย่างง่ายๆเนื่องจากบุคคลคนเดียวหรือปัจจัยนอกอาณาเขตอื่นๆ ได้ 😎ประการที่หนึ่ง คือ ความแข็งแกร่งของระบบ😎 : เลนินออกแบบพิมพ์เขียวอันยิ่งใหญ่สำหรับอนาคตของสหภาพโซเวียต แต่มันก็มีอุดมคติมากเกินไป สิ่งนี้ทำให้สตาลินถึงกับเยาะเย้ยดูแคลนสิ่งดังกล่าวเพื่อที่จะกลายเป็นมหาอำนาจที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในโลกอย่างรวดเร็ว สตาลินเลือกที่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก และกำลังคนและทรัพยากรทั้งหมดถูกบังคับให้เอียงเทไปด้านหนึ่ง แม้ว่าการพัฒนาอย่างรวดเร็วจะเกิดขึ้นได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาว สหภาพโซเวียตยักษ์ใหญ่ตนนี้เดินด้วยขาเดียวซึ่งไม่มั่นคง ดังนั้น เมื่อกองกำลังอิทธิพลตะวันตกบุกเข้ามา เพียงแค่วิวัฒนาการอย่างสันติเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำลายขาอีกข้างของสหภาพโซเวียตและทำให้เป็นอัมพาตโดยสิ้นเชิง 😎ประการที่สอง คือ การสูญเสียการสำรวจตรวจสอบ😎 🤠เติ้งกง(邓公)เคยกล่าวไว้ว่า สังคมนิยมแท้จริงแล้วมีลักษณะเป็นอย่างไร?สหภาพโซเวียตทำสิ่งนี้มาหลายทศวรรษแล้ว ยังไม่เข้าใจว่าเป็นอย่างไร เพียงแค่ประโยคเดียว เขาก็เข้าถึงประเด็นสำคัญของสหภาพโซเวียตอย่างแม่นยำ🤠 ตั้งแต่สตาลินไปจนถึงครุสชอฟไปจนถึงเบรจเนฟและแม้แต่กอร์บาชอฟ พวกเขาต่างพยายามสำรวจว่าลัทธิสังคมนิยมในจินตนาการจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อได้เห็นลักษณะลีลาร้อยแปดพันเก้าต่างๆ ของชาติตะวันตกแล้ว พวกเขาก็เริ่มมีความสั่นคลอนอุดมคติและความเชื่อมั่นของตน เกี่ยวการสำรวจและปฏิบัติทางสังคมนิยมจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะออกนอกเส้นทาง 🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺 ⚔️ 🇺🇦 จุดจบใกล้เข้ามาแล้วหรือไม่?
    • นี่คือสิ่งที่กองทัพรัสเซียประสบความสำเร็จในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา😁
    • กองทัพมอสโกกำลังสร้างผลกำไรใน 3 แนวรบสำคัญ ขณะที่เคียฟพยายามหาทางตอบโต้อย่างสิ้นหวัง😆
    .
    #แนวรบความขัดแย้ง ในยูเครนได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม เมื่อพิจารณาจากเวลา 7 สัปดาห์ที่ผ่านไป ตอนนี้สามารถสรุปผลเบื้องต้นได้บางส่วน ในพื้นที่สำคัญของแนวรบตั้งแต่เหนือจรดใต้
    .
    🔺🔺 แนวรบเคิร์สก์
    เมื่อ 6 ส.ค. กองทัพยูเครนได้เปิดฉากบุกโจมตีแคว้นเคิร์สก์ เมื่อมองเผินๆ ก็ดูเหมือนการโจมตีข้ามพรมแดนอีกครั้ง ซึ่งคล้ายกับหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าก็เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติการนี้มีความสำคัญมากกว่า

    ◉ ในครั้งนี้ AFU ได้รุกคืบ และตั้งเป้าที่จะทำซ้ำความสำเร็จที่เคยทำในแคว้นคาร์คิฟ ในฤดูใบไม้ร่วงปี 65 อย่างชัดเจน
    #กลยุทธ์ คือการฝ่าแนวรบที่ค่อนข้างอ่อนแอ (เมื่อเทียบกับดอนบาสและซาปอริซเซีย) ยึดพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว และบังคับให้กองทัพรัสเซียล่าถอยโดยไม่สู้รบ

    ◉ แม้ว่าในช่วงแรกจะมีกำลังพลเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีก็หยุดชะงักในไม่ช้า **ความสำเร็จสูงสุดของกองทัพยูเครนคือการยึดเมืองต.ซูดจา Sudzha** ซึ่งมีประชากรประมาณ 5,000 คน กองทัพยูเครนยังยึดครองพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่แต่มีประชากรเบาบางประมาณ 1,200 - 1,300 ตร.กม.ได้
    • โดยพื้นฐานแล้ว ประโยชน์เดียวที่เคียฟได้รับจากปฏิบัติการนี้คือการขยายแนวหน้าออกไปอีกประมาณ 130 กม.

    ◉ ตลอดเดือน ก.ย. AFU พยายามขยายพื้นที่ควบคุมไปทางตะวันตกสู่ อ.กลุชคอฟสกี้ ซึ่งสามารถตั้งแนวป้องกันที่แข็งแกร่งริมแม่น้ำ Seim ได้
    • กองทัพรัสเซีย ได้เข้าขัดขวางและเปิดฉากโจมตีตอบโต้ ซึ่งไม่อนุญาตให้กองกำลังยูเครนขนอุปกรณ์ทางทหารหนักเข้ามา หรือสร้างโครงสร้างป้องกัน
    .
    ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺
    ◙ วันที่ 10 กันยายน ได้ยินข่าวการโต้กลับของรัสเซียเป็นครั้งแรก โดยอาศัยจุดอ่อนในกองทัพยูเครน .... กองทัพมอสโกว์ได้รุกคืบอย่างรวดเร็วและตัดฐานที่มั่นบางแห่งของยูเครนออกจากเส้นทางส่งกำลังบำรุงได้สำเร็จ
    • ในเวลา 2 วัน กองทัพรัสเซียสามารถปลดปล่อยหมู่บ้าน 10 แห่งและรุกคืบได้ 15 กิโลเมตร ตามแนวรบยาว 25 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าคืบหน้าไปมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานของความขัดแย้งนี้
    • ในวันต่อมา กองกำลังรัสเซียยังคงรุกคืบไปทางตะวันออก มุ่งหน้าสู่ ม.ลิวบิมอฟกา และทางหลวง Sudzha-Korenevo

    📍 อันที่จริงการปฏิบัติการนี้ค่อนข้างผิดปกติในบริบทของการสงครามตามตำแหน่ง .... เนื่องจากปฏิบัติการนี้ได้ใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การข้ามแม่น้ำอย่างลับๆ เพื่อรวบรวมกำลังพล, การโจมตีด้วยขบวนยานเกราะแบบดั้งเดิม และหน่วยพลร่มในเมืองต่างๆ ที่ถูกศัตรูยึดครอง

    ◙ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน กองทัพ AFU ได้เปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนหลายครั้งเพื่อเข้าใกล้แนวหลังของกองทัพรัสเซียที่กำลังรุกคืบ แม้ว่าสถานการณ์จะไม่แน่นอน แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
    .
    🔺🔺 พื้นที่โปโครฟส์
    การรุกคืบของรัสเซียอย่างช้าๆ ในทิศทางโปครอฟส์ เริ่มขึ้นในฤดูหนาวปี 2566 โดยเป็นการสานต่อปฏิบัติการอัฟดิฟกา

    ◉ แกนหลักของการรุกคืบครั้งนี้คือเส้นทางรถไฟสายหลัก ช่วงเวลาสำคัญมาถึงในเดือน เม.ษ. 67 เมื่อยึดหมู่บ้านเล็กๆ โอเชเรติโนได้ หลังจากความก้าวหน้าครั้งนี้ กองทัพรัสเซียก็เดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
    .
    📍 #เรื่องน่าสนใจ : ตั้งแต่เม.ษ. ถึง ก.ย. กองทัพรัสเซียได้รุกคืบไป 25 กม. ในแนวรบที่มีความยาวเท่ากัน (เปรียบเทียบกับแนวรบเคิร์สก์)

    ◉ เมื่อเริ่มปฏิบัติการเคิร์สก์ของยูเครน ความก้าวหน้าของกองทัพรัสเซียในแนวรบโปครอฟส์ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    • กองทัพภาค "กลาง" ของรัสเซีย ซึ่งปฏิบัติการในพื้นที่นี้ กำลังได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดในขณะนี้ นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกโจมตีเมื่อ ก.พ. 65
    • การโจมตีจะเริ่มต้นด้วยการยิงปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศโดยใช้ระเบิดนำวิถี ก่อนที่หน่วยจู่โจมจะรุกคืบโดยส่วนใหญ่ด้วยการเดินเท้าเพื่อแทรกซึมเข้าไปในป้อมปราการของยูเครน

    ◉ การป้องกันของยูเครนที่อ่อนแอลงได้ “แตกร้าว” ในบางพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ในช่วงปลายเดือน ส.ค. กองทัพรัสเซียสามารถยึดเมือง ต.โนโวโรดิฟกา (ประชากรก่อนเกิดสงคราม 15,000 คน) ได้เกือบจะโดยไม่ต้องสู้รบ
    • ในขณะที่ในสถานการณ์อื่นๆ เมืองนี้สามารถทำหน้าที่เป็นฐานที่มั่นในการป้องกันได้นานหลายเดือน
    .
    ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺
    ◙ หลังจากภัยพิบัติที่ Novohrodivka กองกำลังยูเครนได้ถูกส่งไปประจำการใหม่ในทิศทางโปครอฟส์ ซึ่งทำให้การรุกคืบของรัสเซียช้าลง แม้ว่าจะยังคงเร็วเกินกว่าที่เห็นในช่วงเดือนมิ.ย.และก.ค.ก็ตาม

    ◙ ปัจจุบันการสู้รบกำลังเกิดขึ้นในเขตชานเมืองของเขตเมือง อ.โปครอฟส์ - ต.เซลิโดฟ Selydove ซึ่งมีประชากรประมาณ 200,000 คน
    • นี่คือเขตเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ใน Donbass รองจาก อ.ครามาทอร์ส Kramatorsk - ต.สโลเวียนส์ Sloviansk ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของ AFU
    • เมื่อค่ำวันที่ 17 ก.ย. มีรายงานว่าเมือง Ukrainsk (ปชก. 10,000 คน) ถูก RF ยึดครอง

    ◙ เป้าหมายในทันทีของรัสเซียคือการยึดเมืองเซลิโดฟ ซึ่งต่างจากเมืองฮโรดิฟกา Hrodivka หรือ Grodivka ที่ไม่สามารถยึดได้ในทันที
    • กองทัพรัสเซียกำลังพยายามปิดล้อมเซลิโดฟ โดยเข้าใกล้ผ่านเมืองกอร์เนียก Gorniak ในขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนกำลังดำเนินการโจมตีตอบโต้ตลอดแนวรบ แต่จนถึงขณะนี้ยังประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย
    .
    📌📌 โดยทั่วไป หากกองกำลังรัสเซียยึดโปครอฟส์ได้ก่อนฤดูหนาว นั่นจะถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ และเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความท้าทายครั้งใหญ่ที่กองทัพยูเครนต้องเผชิญ
    .
    🔺🔺 มารินก้า Marinka อ.โปครอฟส์ และ วูห์เลดาร์ Vuhledar อ.โวลโนวาคา
    ความสำเร็จล่าสุดในพื้นที่โปครอฟส์ ที่อยู่ใกล้เคียงได้"เขย่า"แนวรบที่นี่ด้วยเช่นกัน ในเวลาเพียง 1 เดือน หน่วยทหารของรัสเซียได้ก้าวหน้ามากกว่าในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา

    ◉ ทางตอนใต้ บริเวณจุดตัดระหว่างแนวรบโดเนตส์และซาปอริซเซีย คือเมืองเหมืองแร่วูห์เลดาร์ ซึ่งเคยเป็นที่อาศัยของผู้คนราว 15,000 คนก่อนเกิดสงคราม
    • เมืองนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง และเป็นฐานที่มั่นที่ยากจะเข้าถึงได้ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2565 และรอดพ้นจากความพยายามโจมตีหลายครั้ง
    • อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กองบัญชาการยูเครนถอนกองพลที่พร้อมรบที่สุดออกจากพื้นที่นี้ สถานการณ์ในส่วนนี้ของแนวรบก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

    #ข้อมูลที่น่าสนใจ : ฐานที่มั่นสำคัญรอบๆ Vuhledar ตั้งอยู่ในโครงเหล็กของเหมืองถ่านหิน โครงสร้างคอนกรีตขนาดใหญ่เหล่านี้มีความสูงกว่า 100 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ทุ่งหญ้าโดยรอบ ให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม
    .
    ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺
    ◙ พื้นที่ขนาดใหญ่ระหว่างเมือง ต.ครัสโนโฮริฟกา Krasnohorivka และแนวสันดอน Pokrovsk กำลังจะถูก RF ยึดครอง
    • รายงานระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว AFU ได้ถอนทัพออกจากฐานที่มั่นในพื้นที่นี้โดยไม่สู้รบ เนื่องจากอาจเกิดการปิดล้อมโจมตี

    ◙ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา RF ได้ปิดล้อมเมืองวูห์เลดาร์บางส่วน และยึดครองหมู่บ้านหลายแห่งทางเหนือ และตะวันตกของเมือง
    • หาก RF ตัดเส้นทางไปยัง ม.โบไฮอาฟเลนกา Bohoyavlenka เมืองวูห์เลดาร์ก็จะถูกปิดล้อม

    Noraseth Tuntasiri
    🇷🇺 ⚔️ 🇺🇦 จุดจบใกล้เข้ามาแล้วหรือไม่? • นี่คือสิ่งที่กองทัพรัสเซียประสบความสำเร็จในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา😁 • กองทัพมอสโกกำลังสร้างผลกำไรใน 3 แนวรบสำคัญ ขณะที่เคียฟพยายามหาทางตอบโต้อย่างสิ้นหวัง😆 . #แนวรบความขัดแย้ง ในยูเครนได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม เมื่อพิจารณาจากเวลา 7 สัปดาห์ที่ผ่านไป ตอนนี้สามารถสรุปผลเบื้องต้นได้บางส่วน ในพื้นที่สำคัญของแนวรบตั้งแต่เหนือจรดใต้ . 🔺🔺 แนวรบเคิร์สก์ เมื่อ 6 ส.ค. กองทัพยูเครนได้เปิดฉากบุกโจมตีแคว้นเคิร์สก์ เมื่อมองเผินๆ ก็ดูเหมือนการโจมตีข้ามพรมแดนอีกครั้ง ซึ่งคล้ายกับหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าก็เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติการนี้มีความสำคัญมากกว่า ◉ ในครั้งนี้ AFU ได้รุกคืบ และตั้งเป้าที่จะทำซ้ำความสำเร็จที่เคยทำในแคว้นคาร์คิฟ ในฤดูใบไม้ร่วงปี 65 อย่างชัดเจน • #กลยุทธ์ คือการฝ่าแนวรบที่ค่อนข้างอ่อนแอ (เมื่อเทียบกับดอนบาสและซาปอริซเซีย) ยึดพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว และบังคับให้กองทัพรัสเซียล่าถอยโดยไม่สู้รบ ◉ แม้ว่าในช่วงแรกจะมีกำลังพลเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีก็หยุดชะงักในไม่ช้า **ความสำเร็จสูงสุดของกองทัพยูเครนคือการยึดเมืองต.ซูดจา Sudzha** ซึ่งมีประชากรประมาณ 5,000 คน กองทัพยูเครนยังยึดครองพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่แต่มีประชากรเบาบางประมาณ 1,200 - 1,300 ตร.กม.ได้ • โดยพื้นฐานแล้ว ประโยชน์เดียวที่เคียฟได้รับจากปฏิบัติการนี้คือการขยายแนวหน้าออกไปอีกประมาณ 130 กม. ◉ ตลอดเดือน ก.ย. AFU พยายามขยายพื้นที่ควบคุมไปทางตะวันตกสู่ อ.กลุชคอฟสกี้ ซึ่งสามารถตั้งแนวป้องกันที่แข็งแกร่งริมแม่น้ำ Seim ได้ • กองทัพรัสเซีย ได้เข้าขัดขวางและเปิดฉากโจมตีตอบโต้ ซึ่งไม่อนุญาตให้กองกำลังยูเครนขนอุปกรณ์ทางทหารหนักเข้ามา หรือสร้างโครงสร้างป้องกัน . ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺ ◙ วันที่ 10 กันยายน ได้ยินข่าวการโต้กลับของรัสเซียเป็นครั้งแรก โดยอาศัยจุดอ่อนในกองทัพยูเครน .... กองทัพมอสโกว์ได้รุกคืบอย่างรวดเร็วและตัดฐานที่มั่นบางแห่งของยูเครนออกจากเส้นทางส่งกำลังบำรุงได้สำเร็จ • ในเวลา 2 วัน กองทัพรัสเซียสามารถปลดปล่อยหมู่บ้าน 10 แห่งและรุกคืบได้ 15 กิโลเมตร ตามแนวรบยาว 25 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าคืบหน้าไปมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานของความขัดแย้งนี้ • ในวันต่อมา กองกำลังรัสเซียยังคงรุกคืบไปทางตะวันออก มุ่งหน้าสู่ ม.ลิวบิมอฟกา และทางหลวง Sudzha-Korenevo 📍 อันที่จริงการปฏิบัติการนี้ค่อนข้างผิดปกติในบริบทของการสงครามตามตำแหน่ง .... เนื่องจากปฏิบัติการนี้ได้ใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การข้ามแม่น้ำอย่างลับๆ เพื่อรวบรวมกำลังพล, การโจมตีด้วยขบวนยานเกราะแบบดั้งเดิม และหน่วยพลร่มในเมืองต่างๆ ที่ถูกศัตรูยึดครอง ◙ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน กองทัพ AFU ได้เปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนหลายครั้งเพื่อเข้าใกล้แนวหลังของกองทัพรัสเซียที่กำลังรุกคืบ แม้ว่าสถานการณ์จะไม่แน่นอน แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ . 🔺🔺 พื้นที่โปโครฟส์ การรุกคืบของรัสเซียอย่างช้าๆ ในทิศทางโปครอฟส์ เริ่มขึ้นในฤดูหนาวปี 2566 โดยเป็นการสานต่อปฏิบัติการอัฟดิฟกา ◉ แกนหลักของการรุกคืบครั้งนี้คือเส้นทางรถไฟสายหลัก ช่วงเวลาสำคัญมาถึงในเดือน เม.ษ. 67 เมื่อยึดหมู่บ้านเล็กๆ โอเชเรติโนได้ หลังจากความก้าวหน้าครั้งนี้ กองทัพรัสเซียก็เดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง . 📍 #เรื่องน่าสนใจ : ตั้งแต่เม.ษ. ถึง ก.ย. กองทัพรัสเซียได้รุกคืบไป 25 กม. ในแนวรบที่มีความยาวเท่ากัน (เปรียบเทียบกับแนวรบเคิร์สก์) ◉ เมื่อเริ่มปฏิบัติการเคิร์สก์ของยูเครน ความก้าวหน้าของกองทัพรัสเซียในแนวรบโปครอฟส์ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด • กองทัพภาค "กลาง" ของรัสเซีย ซึ่งปฏิบัติการในพื้นที่นี้ กำลังได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดในขณะนี้ นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกโจมตีเมื่อ ก.พ. 65 • การโจมตีจะเริ่มต้นด้วยการยิงปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศโดยใช้ระเบิดนำวิถี ก่อนที่หน่วยจู่โจมจะรุกคืบโดยส่วนใหญ่ด้วยการเดินเท้าเพื่อแทรกซึมเข้าไปในป้อมปราการของยูเครน ◉ การป้องกันของยูเครนที่อ่อนแอลงได้ “แตกร้าว” ในบางพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ในช่วงปลายเดือน ส.ค. กองทัพรัสเซียสามารถยึดเมือง ต.โนโวโรดิฟกา (ประชากรก่อนเกิดสงคราม 15,000 คน) ได้เกือบจะโดยไม่ต้องสู้รบ • ในขณะที่ในสถานการณ์อื่นๆ เมืองนี้สามารถทำหน้าที่เป็นฐานที่มั่นในการป้องกันได้นานหลายเดือน . ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺ ◙ หลังจากภัยพิบัติที่ Novohrodivka กองกำลังยูเครนได้ถูกส่งไปประจำการใหม่ในทิศทางโปครอฟส์ ซึ่งทำให้การรุกคืบของรัสเซียช้าลง แม้ว่าจะยังคงเร็วเกินกว่าที่เห็นในช่วงเดือนมิ.ย.และก.ค.ก็ตาม ◙ ปัจจุบันการสู้รบกำลังเกิดขึ้นในเขตชานเมืองของเขตเมือง อ.โปครอฟส์ - ต.เซลิโดฟ Selydove ซึ่งมีประชากรประมาณ 200,000 คน • นี่คือเขตเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ใน Donbass รองจาก อ.ครามาทอร์ส Kramatorsk - ต.สโลเวียนส์ Sloviansk ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของ AFU • เมื่อค่ำวันที่ 17 ก.ย. มีรายงานว่าเมือง Ukrainsk (ปชก. 10,000 คน) ถูก RF ยึดครอง ◙ เป้าหมายในทันทีของรัสเซียคือการยึดเมืองเซลิโดฟ ซึ่งต่างจากเมืองฮโรดิฟกา Hrodivka หรือ Grodivka ที่ไม่สามารถยึดได้ในทันที • กองทัพรัสเซียกำลังพยายามปิดล้อมเซลิโดฟ โดยเข้าใกล้ผ่านเมืองกอร์เนียก Gorniak ในขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนกำลังดำเนินการโจมตีตอบโต้ตลอดแนวรบ แต่จนถึงขณะนี้ยังประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย . 📌📌 โดยทั่วไป หากกองกำลังรัสเซียยึดโปครอฟส์ได้ก่อนฤดูหนาว นั่นจะถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ และเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความท้าทายครั้งใหญ่ที่กองทัพยูเครนต้องเผชิญ . 🔺🔺 มารินก้า Marinka อ.โปครอฟส์ และ วูห์เลดาร์ Vuhledar อ.โวลโนวาคา ความสำเร็จล่าสุดในพื้นที่โปครอฟส์ ที่อยู่ใกล้เคียงได้"เขย่า"แนวรบที่นี่ด้วยเช่นกัน ในเวลาเพียง 1 เดือน หน่วยทหารของรัสเซียได้ก้าวหน้ามากกว่าในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ◉ ทางตอนใต้ บริเวณจุดตัดระหว่างแนวรบโดเนตส์และซาปอริซเซีย คือเมืองเหมืองแร่วูห์เลดาร์ ซึ่งเคยเป็นที่อาศัยของผู้คนราว 15,000 คนก่อนเกิดสงคราม • เมืองนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง และเป็นฐานที่มั่นที่ยากจะเข้าถึงได้ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2565 และรอดพ้นจากความพยายามโจมตีหลายครั้ง • อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กองบัญชาการยูเครนถอนกองพลที่พร้อมรบที่สุดออกจากพื้นที่นี้ สถานการณ์ในส่วนนี้ของแนวรบก็เปลี่ยนไปเช่นกัน #ข้อมูลที่น่าสนใจ : ฐานที่มั่นสำคัญรอบๆ Vuhledar ตั้งอยู่ในโครงเหล็กของเหมืองถ่านหิน โครงสร้างคอนกรีตขนาดใหญ่เหล่านี้มีความสูงกว่า 100 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ทุ่งหญ้าโดยรอบ ให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม . ⏺⏺สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร?⏺⏺ ◙ พื้นที่ขนาดใหญ่ระหว่างเมือง ต.ครัสโนโฮริฟกา Krasnohorivka และแนวสันดอน Pokrovsk กำลังจะถูก RF ยึดครอง • รายงานระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว AFU ได้ถอนทัพออกจากฐานที่มั่นในพื้นที่นี้โดยไม่สู้รบ เนื่องจากอาจเกิดการปิดล้อมโจมตี ◙ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา RF ได้ปิดล้อมเมืองวูห์เลดาร์บางส่วน และยึดครองหมู่บ้านหลายแห่งทางเหนือ และตะวันตกของเมือง • หาก RF ตัดเส้นทางไปยัง ม.โบไฮอาฟเลนกา Bohoyavlenka เมืองวูห์เลดาร์ก็จะถูกปิดล้อม Noraseth Tuntasiri
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความสำเร็จ...จะได้มาเพราะ
    การเคารพในความเป็น
    ธรรมชาติของตัวเอง
    ไม่ใช่การถูกยัดเยียดจากคนอื่น
    .
    "ความแตกต่าง" นั้นเริ่มต้น ตั้งแต่ตอนเกิด
    แต่พอโตมาคนส่วนใหญ่ดันจบความคิด ด้วยการทำ "สิ่งที่ไม่แตกต่าง" แค่เดินไปตามทางของคนอื่นๆ ก็เพียงพอแล้ว เรียบง่ายและสำเร็จได้เช่นกัน
    .
    นี้คือการปิดกั้นพลังที่แท้จริง และเสมือนว่าเป็นการดูถูกตัวเองเพราะมัวแต่ไปไล่ล่าหาทางในแบบขอบคนอื่น เห็นคนอื่นทำได้ดี ก็ไปทำตามเขา พยายามไปเลียนแบบให้เป็นเขา ไม่เคารพในความเป็นธรรมชาติของตัวเอง
    .
    เมื่อไม่เคารพในตัวเอง ธรรมชาติของนิสัย ก็เกิดแรงต้าน แรงต้านนี้ก็กลายมาเป็น หมดไฟ , ไม่อยากทำงานแล้ว อยากออกไปหาในสิ่งที่ชอบ หรืออีกหลากหลายอาการที่เกิดขึ้นมา
    .
    ธรรมชาติของตัวเองนั้นพลังมหาศาล คนที่สำรวจและรู้ตัวเองก่อนใครจะสามารถเดินในทางได้อย่างถูกต้อง ทั้งง่ายและเร็วกว่าคนอื่นหลายเท่า คงเคยเห็นนิสัยของบางคนทำไม ทำอะไรก็ดูสำเร็จง่ายไปหมด แต่พอเราไปทำตามบ้าง ทำไมทำไม่เห็นได้แบบเขา
    .
    นั้นเพราะคุณกำลังเดินทางในแบบของคนอื่น
    เดินทางในธรรมชาติของคนอื่น
    .
    วิธีค้นหาและขั้นตอนการใช้ "พลังธรรมชาติ"ของตัวเอง
    .
    - ทำความรู้จักตนเองให้ดี เขียนทุกความรู้สึกออกมาเป็นตัวอักษร หาสมุดบันทึกซักเล่มแล้วจดลงไปให้เหมือนไดอารี่ (ไม่ได้ให้บันทึกทั้งชีวิต เอาแค่ตอนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงก็พอ) ยิ่งจดจะเห็นความซ้ำซาก ความซ้ำซากพวกนั้นแหละ จะทำให้พบ "ธรรมชาติของตัวเอง"
    .
    - "เปิดช่องว่าง" โดยให้อภัยตนเอง เมื่อเจอธรรมชาติของตัวเองแล้ว ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยเรื่องราวแย่ๆ สิ่งห่วยๆ ที่ทั้งตัวเองได้ทำ หรือเจอมา เพื่อให้เกิดช่องว่าง เหมือนเราเอาทองที่เลอะโคลนไปล้าง น้ำที่เปื้อนโคลนก็ต้องทิ้งไป ไม่ต้องเก็บมาไว้กับทอง
    .
    - "เตรียมของใหม่" ยอมรับและสร้างความมั่นใจในตนเอง หาสิ่งที่จะทำใหม่ๆ สิ่งใหม่ที่เหมาะสมกับ "ธรรมชาติของตัวเองเรา"
    .
    ก่อนที่จะ "เปลี่ยนแปลง" ตัวเองเป็นคนใหม่คุณจะต้องเปิดใจยอมรับตัวตนที่แท้จริงของคุณให้ได้เสียก่อนและต้องเรียนรู้ที่จะมีความสุขในแบบของคุณเอง และทำตัวให้มีค่าและควรคู่กับการได้รับความเคารพจากผู้อื่น
    .
    .
    #ไปให้ถึง100ล้าน
    #100WEALTH
    ความสำเร็จ...จะได้มาเพราะ การเคารพในความเป็น ธรรมชาติของตัวเอง ไม่ใช่การถูกยัดเยียดจากคนอื่น . "ความแตกต่าง" นั้นเริ่มต้น ตั้งแต่ตอนเกิด แต่พอโตมาคนส่วนใหญ่ดันจบความคิด ด้วยการทำ "สิ่งที่ไม่แตกต่าง" แค่เดินไปตามทางของคนอื่นๆ ก็เพียงพอแล้ว เรียบง่ายและสำเร็จได้เช่นกัน . นี้คือการปิดกั้นพลังที่แท้จริง และเสมือนว่าเป็นการดูถูกตัวเองเพราะมัวแต่ไปไล่ล่าหาทางในแบบขอบคนอื่น เห็นคนอื่นทำได้ดี ก็ไปทำตามเขา พยายามไปเลียนแบบให้เป็นเขา ไม่เคารพในความเป็นธรรมชาติของตัวเอง . เมื่อไม่เคารพในตัวเอง ธรรมชาติของนิสัย ก็เกิดแรงต้าน แรงต้านนี้ก็กลายมาเป็น หมดไฟ , ไม่อยากทำงานแล้ว อยากออกไปหาในสิ่งที่ชอบ หรืออีกหลากหลายอาการที่เกิดขึ้นมา . ธรรมชาติของตัวเองนั้นพลังมหาศาล คนที่สำรวจและรู้ตัวเองก่อนใครจะสามารถเดินในทางได้อย่างถูกต้อง ทั้งง่ายและเร็วกว่าคนอื่นหลายเท่า คงเคยเห็นนิสัยของบางคนทำไม ทำอะไรก็ดูสำเร็จง่ายไปหมด แต่พอเราไปทำตามบ้าง ทำไมทำไม่เห็นได้แบบเขา . นั้นเพราะคุณกำลังเดินทางในแบบของคนอื่น เดินทางในธรรมชาติของคนอื่น . วิธีค้นหาและขั้นตอนการใช้ "พลังธรรมชาติ"ของตัวเอง . - ทำความรู้จักตนเองให้ดี เขียนทุกความรู้สึกออกมาเป็นตัวอักษร หาสมุดบันทึกซักเล่มแล้วจดลงไปให้เหมือนไดอารี่ (ไม่ได้ให้บันทึกทั้งชีวิต เอาแค่ตอนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงก็พอ) ยิ่งจดจะเห็นความซ้ำซาก ความซ้ำซากพวกนั้นแหละ จะทำให้พบ "ธรรมชาติของตัวเอง" . - "เปิดช่องว่าง" โดยให้อภัยตนเอง เมื่อเจอธรรมชาติของตัวเองแล้ว ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยเรื่องราวแย่ๆ สิ่งห่วยๆ ที่ทั้งตัวเองได้ทำ หรือเจอมา เพื่อให้เกิดช่องว่าง เหมือนเราเอาทองที่เลอะโคลนไปล้าง น้ำที่เปื้อนโคลนก็ต้องทิ้งไป ไม่ต้องเก็บมาไว้กับทอง . - "เตรียมของใหม่" ยอมรับและสร้างความมั่นใจในตนเอง หาสิ่งที่จะทำใหม่ๆ สิ่งใหม่ที่เหมาะสมกับ "ธรรมชาติของตัวเองเรา" . ก่อนที่จะ "เปลี่ยนแปลง" ตัวเองเป็นคนใหม่คุณจะต้องเปิดใจยอมรับตัวตนที่แท้จริงของคุณให้ได้เสียก่อนและต้องเรียนรู้ที่จะมีความสุขในแบบของคุณเอง และทำตัวให้มีค่าและควรคู่กับการได้รับความเคารพจากผู้อื่น . . #ไปให้ถึง100ล้าน #100WEALTH
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวิตเซอร์แลนดจะขับไล่นักวิทยาศาสตร์รัสเซียนหลายร้อยคนออกจากCERN

    นักวิจัยชาวรัสเซียหลายร้อยคนที่ทำงานในห้องปฏิบัติการฟิสิกส์อนุภาค CERN ในสวิตเซอร์แลนด์จะต้องออกจากประเทศในเทือกเขาแอลป์ในช่วงปลายปีนี้ วารสาร Nature รายงานเมื่อวันพุธ

    วารสารดังกล่าวระบุว่า องค์กรวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป (CERN) มีแผนที่จะยุติข้อตกลงความร่วมมือกับรัสเซียในวันที่ 1 ธันวาคม โดยห้ามนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียทั้งหมดเข้าทำงานในสำนักงาน นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตพำนักในฝรั่งเศสหรือสวิตเซอร์แลนด์ที่พวกเขาถืออยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

    CERN ได้ประกาศแผนการตัดความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซียไปแล้วเมื่อต้นปีนี้ โดยได้ตัดสินใจที่จะไม่ขยายข้อตกลงความร่วมมือกับรัสเซียออกไปในเดือนธันวาคม 2023 ซึ่งข้อตกลงที่มีอยู่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 พฤศจิกายน

    ในเดือนมีนาคม หัวหน้าฝ่ายสื่อสารมวลชนของ CERN กล่าวว่าองค์กรยังคงมีผู้เชี่ยวชาญ "น้อยกว่า 500 คนที่ยังคงเกี่ยวข้องกับองค์กรของรัสเซีย" และเสริมว่าจะไม่มีนักวิทยาศาสตร์รัสเซียทำงานที่ CERN ได้เมื่อข้อตกลงสิ้นสุดลง

    CERNเริ่มให้ความร่วมมือกับสหภาพโซเวียตตั้งแต่ปี 1955 แม้ว่าสหภาพโซเวียตและรัสเซียจะไม่เคยเป็นสมาชิกเต็มตัวก็ตาม รัสเซียได้ยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกสมทบในปี 2012 แต่ได้ถอนการสมัครในหกปีต่อมา และยังคงสถานะผู้สังเกตการณ์นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    ในเดือนมีนาคม 2022 CERN ได้ระงับสถานะผู้สังเกตการณ์นี้เพื่อตอบสนองต่อการเริ่มต้นปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน

    รัสเซียมีส่วนสนับสนุนทางการเงินให้กับองค์กรและช่วยสร้างเครื่องเร่งอนุภาคแฮดรอนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่ใหญ่ที่สุดและทรงพลังที่สุดในโลก ซึ่งประสบความสำเร็จในการให้อนุภาคชนกันชนกันครั้งแรกในปี 2010 เครื่องเร่งอนุภาคนี้ทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์สามารถยืนยันการมีอยู่ของโบซอนฮิกส์ ซึ่งเป็นอนุภาคที่ให้มวลแก่อนุภาคอื่นๆ เช่น อิเล็กตรอนและควาร์ก

    การสูญเสียการสนับสนุนของรัสเซียในการอัพเกรดเครื่องเร่งอนุภาคความเข้มสูงตามกำหนดในปี 2029 จะทำให้ CERN สูญเสียเงินไปประมาณ 40 ล้านฟรังก์สวิส (47 ล้านดอลลาร์) ตามรายงานของ Nature

    ฮันเนส ยุง นักฟิสิกส์อนุภาคจาก German Electron Synchrotron ในเมืองฮัมบูร์ก ซึ่งทำงานร่วมกับ CERN ด้วย กล่าวกับ Natureว่า การตัดความสัมพันธ์กับรัสเซียยังหมายถึงการถดถอยสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย

    “มันจะทิ้งช่องว่างไว้” ผมคิดว่ามันเป็นภาพลวงตาที่เชื่อว่านักวิทยาศาสตร์คนอื่นสามารถปกปิดเรื่องนี้ได้ง่ายๆ” จุง ซึ่งเป็นสมาชิกของ Science4Peace Forum ซึ่งเป็นกลุ่มที่รณรงค์ต่อต้านข้อจำกัดในความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ กล่าว

    CERN ยังคงคาดว่าจะทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยนิวเคลียร์ร่วม (JINR) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยระหว่างรัฐบาลที่ตั้งอยู่ใกล้กับมอสโกว์ ซึ่งดำเนินการเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนของตัวเองแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่าก็ตาม

    องค์กรดังกล่าวโต้แย้งว่าข้อตกลงกับ JINR นั้นแยกจากข้อตกลงกับรัฐบาลรัสเซีย อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจดำเนินการดังกล่าวยังคงได้รับการประณามจากยูเครน ซึ่งเป็นสมาชิกสมทบของ CERN
    21/9/2024
    สวิตเซอร์แลนดจะขับไล่นักวิทยาศาสตร์รัสเซียนหลายร้อยคนออกจากCERN นักวิจัยชาวรัสเซียหลายร้อยคนที่ทำงานในห้องปฏิบัติการฟิสิกส์อนุภาค CERN ในสวิตเซอร์แลนด์จะต้องออกจากประเทศในเทือกเขาแอลป์ในช่วงปลายปีนี้ วารสาร Nature รายงานเมื่อวันพุธ วารสารดังกล่าวระบุว่า องค์กรวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป (CERN) มีแผนที่จะยุติข้อตกลงความร่วมมือกับรัสเซียในวันที่ 1 ธันวาคม โดยห้ามนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียทั้งหมดเข้าทำงานในสำนักงาน นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตพำนักในฝรั่งเศสหรือสวิตเซอร์แลนด์ที่พวกเขาถืออยู่ในปัจจุบันอีกด้วย CERN ได้ประกาศแผนการตัดความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซียไปแล้วเมื่อต้นปีนี้ โดยได้ตัดสินใจที่จะไม่ขยายข้อตกลงความร่วมมือกับรัสเซียออกไปในเดือนธันวาคม 2023 ซึ่งข้อตกลงที่มีอยู่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 พฤศจิกายน ในเดือนมีนาคม หัวหน้าฝ่ายสื่อสารมวลชนของ CERN กล่าวว่าองค์กรยังคงมีผู้เชี่ยวชาญ "น้อยกว่า 500 คนที่ยังคงเกี่ยวข้องกับองค์กรของรัสเซีย" และเสริมว่าจะไม่มีนักวิทยาศาสตร์รัสเซียทำงานที่ CERN ได้เมื่อข้อตกลงสิ้นสุดลง CERNเริ่มให้ความร่วมมือกับสหภาพโซเวียตตั้งแต่ปี 1955 แม้ว่าสหภาพโซเวียตและรัสเซียจะไม่เคยเป็นสมาชิกเต็มตัวก็ตาม รัสเซียได้ยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกสมทบในปี 2012 แต่ได้ถอนการสมัครในหกปีต่อมา และยังคงสถานะผู้สังเกตการณ์นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในเดือนมีนาคม 2022 CERN ได้ระงับสถานะผู้สังเกตการณ์นี้เพื่อตอบสนองต่อการเริ่มต้นปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน รัสเซียมีส่วนสนับสนุนทางการเงินให้กับองค์กรและช่วยสร้างเครื่องเร่งอนุภาคแฮดรอนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่ใหญ่ที่สุดและทรงพลังที่สุดในโลก ซึ่งประสบความสำเร็จในการให้อนุภาคชนกันชนกันครั้งแรกในปี 2010 เครื่องเร่งอนุภาคนี้ทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์สามารถยืนยันการมีอยู่ของโบซอนฮิกส์ ซึ่งเป็นอนุภาคที่ให้มวลแก่อนุภาคอื่นๆ เช่น อิเล็กตรอนและควาร์ก การสูญเสียการสนับสนุนของรัสเซียในการอัพเกรดเครื่องเร่งอนุภาคความเข้มสูงตามกำหนดในปี 2029 จะทำให้ CERN สูญเสียเงินไปประมาณ 40 ล้านฟรังก์สวิส (47 ล้านดอลลาร์) ตามรายงานของ Nature ฮันเนส ยุง นักฟิสิกส์อนุภาคจาก German Electron Synchrotron ในเมืองฮัมบูร์ก ซึ่งทำงานร่วมกับ CERN ด้วย กล่าวกับ Natureว่า การตัดความสัมพันธ์กับรัสเซียยังหมายถึงการถดถอยสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย “มันจะทิ้งช่องว่างไว้” ผมคิดว่ามันเป็นภาพลวงตาที่เชื่อว่านักวิทยาศาสตร์คนอื่นสามารถปกปิดเรื่องนี้ได้ง่ายๆ” จุง ซึ่งเป็นสมาชิกของ Science4Peace Forum ซึ่งเป็นกลุ่มที่รณรงค์ต่อต้านข้อจำกัดในความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ กล่าว CERN ยังคงคาดว่าจะทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยนิวเคลียร์ร่วม (JINR) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยระหว่างรัฐบาลที่ตั้งอยู่ใกล้กับมอสโกว์ ซึ่งดำเนินการเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนของตัวเองแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่าก็ตาม องค์กรดังกล่าวโต้แย้งว่าข้อตกลงกับ JINR นั้นแยกจากข้อตกลงกับรัฐบาลรัสเซีย อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจดำเนินการดังกล่าวยังคงได้รับการประณามจากยูเครน ซึ่งเป็นสมาชิกสมทบของ CERN 21/9/2024
    Like
    Sad
    Haha
    Wow
    Angry
    40
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 863 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แทนคุณแผ่นดิน

    🤠คำนำ🤠

    “ฉันสาบานว่าจะอุทิศด้วยเลือดในกายทั้งหมดของฉันเพื่อรับใช้มาตุภูมิ(我以我血荐轩辕)” นี่เป็นบทประพันธท่อนหนึ่งในถ้อยคำที่เขียนแล้วทำให้หัวใจคุกรุ่นซึ่งเขียนโดยหลู่ซวิ่น(鲁迅)ด้วยความรู้สึกรักชาติ เป็นเวลาหลายพันปีที่ความรักต่อมาตุภูมิเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวจีนจำนวนนับไม่ถ้วนต่อสู้เพื่อมาตุภูมิ และเราได้รู้จักผู้รักชาตินับไม่ถ้วนมาตั้งแต่เด็ก อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยที่ต่างกัน การแสดงความรักชาติก็แตกต่างกันไป ในยุคแห่งสงคราม ความรักชาติอาจหมายถึงการเข้าสู่สนามรบ และไม่เสียใจที่ต้องสละชีวิตเพื่อทำลายศัตรูเพื่อมาตุภูมิ ในยุคที่ประเทศสงบสุขประชาชนปลอดภัย ความรักชาติยังหมายถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สำเร็จและไม่สร้างปัญหาให้กับมาตุภูมิ

    หลังจากการสถาปนาจีนใหม่ ก็ไม่ต้องทนกับความวุ่นวายของสงครามอีกต่อไป และสถานการณ์ความรักชาติก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน สำหรับผู้ประกอบการจำนวนมาก ความรักชาติของพวกเขาสะท้อนให้เห็นจากการใช้ทรัพย์สมบัติของตนเพื่อตอบแทนมาตุภูมิ เคยมีผู้ประกอบการรายหนึ่ง เขาซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินจากต่างประเทศและบริจาคให้กับมาตุภูมิ จากนั้น สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ประกาศให้บริษัทล้มละลาย เกิดอะไรขึ้นกับเขา

    🤠1. ตัดสินใจซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินส่งไปมาตุภูมิบ้านเกิด🤠

    สวี เจิงผิง(徐增平)เคยเป็นทหาร ในปีค.ศ. 1997 เขาเป็นประธานของ Hong Kong Chuanglu Group(香港创律集团)ข่าวที่เขาเห็นโดยบังเอิญทำให้หัวใจของเขาเต้นไหว ปรากฏว่ามีรายงานของสื่อว่ายูเครนต้องการขายเรือบรรทุกเครื่องบินที่ยังสร้างไม่เสร็จ และความรักชาติของเขาก็จุดประกายขึ้นมาทันที เขาตั้งใจจะซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินลำนั้นและมอบให้กับบ้านเกิดมาตุภูมิของเขา

    เนื่องจากเรือบรรทุกเครื่องบินเกี่ยวข้องกับการพัฒนาภารกิจด้านการป้องกันประเทศของประเทศ เรือบรรทุกเครื่องบินยูเครนไม่สามารถซื้อในนามของประเทศได้ เพราะจะทำให้ประเทศอื่นมีโอกาสเข้ามาแทรกแซงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สวี เจิงผิง(徐增平)จึงตัดสินใจซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยเงินของเขาเอง อย่างไรก็ตาม เรือบรรทุกเครื่องบินถือเป็นอาวุธที่ใช้ในการป้องกันประเทศ รัฐบาลยูเครนจะไม่เห็นด้วยกับการซื้อของเขาโดยไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเปิดบริษัทบันเทิงภายใต้ชื่อของเขาเอง ซึ่งมีชื่อเต็มว่า Chuanglu Tourism and Entertainment Company(创律旅游娱乐公司) และอ้างว่าเขาซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนให้เป็นสถานบันเทิง

    ในปีค.ศ. 1998 สวี เจิงผิง(徐增平)ซึ่งไม่เข้าใจในเรื่องภาษาได้เดินทางมายังยูเครนอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว เขาเห็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้ชื่อ "Varyag" สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าต่อตาเขาคือสถานการณ์เมื่อร้อยปีก่อน เมื่อกิจการทหารเรือของจีนตกต่ำจนขีดต่ำสุด และถูกรังแกโดยประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ เขามีความตั้งใจมากขึ้นที่จะมีส่วนร่วมวางพื้นฐานเรื่องเรือบรรทุกเครื่องบินในการพัฒนากองทัพเรือของมาตุภูมิ ที่โต๊ะไวน์ สวี เจิงผิง(徐增平)ไม่สามารถสื่อสารกับบุคคลที่รับผิดชอบฝ่ายยูเครนได้ดี เขาดื่มเหล้าหนัก 6 ปอนด์เพื่อแสดงความมุ่งมั่น ในท้ายที่สุด เขาก็เจรจาเรื่องเรือบรรทุกเครื่องบินได้สำเร็จ

    🤠2. อุปสรรคของการเดินทางกลับมาตุภูมิบ้านเกิดของเรือบรรทุกเครื่องบิน🤠

    ในเวลานั้น ยูเครนตกลงที่จะขายเรือบรรทุกเครื่องบินลำดังกล่าวให้กับ สวี เจิงผิง(徐增平)ในราคา 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐแต่ไม่รวมแบบร่างการออกแบบ สวี เจิงผิง(徐增平)รู้ดีว่าแบบการออกแบบเรือบรรทุกเครื่องบินมีความสำคัญมากกว่าตัวเรือบรรทุกเครื่องบิน การได้แบบดังกล่าวเท่านั้น จึงจะสามารถผลิตเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงเจรจาอีกครั้ง และหลังจากการเจรจาบางอย่าง สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ซื้อแบบของการออกแบบเรือในราคาสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เดิมทีคิดว่าเรือบรรทุกเครื่องบินสามารถกลับบ้านได้ในเวลานี้ แต่เนื่องจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นร่วมมือกัน เรือบรรทุกเครื่องบินจึงเกือบจะไม่สามารถกลับได้

    สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นร่วมกันกดดันยูเครนให้หยุดขายเรือบรรทุกเครื่องบิน เมื่อหมดทางออกยูเครนจึงละทิ้งข้อตกลงทางวาจากับ สวี เจิงผิง(徐增平) และขายเรือบรรทุกเครื่องบินดังกล่าวในรูปแบบของการประมูลแทน เมื่อเห็นว่าเรือบรรทุกเครื่องบินที่เขากำลังจะได้มา แต่คนอื่นก็กำลังจะแย่งชิงเอาไป สวี เจิงผิง(徐增平)ระงับความขุ่นเคืองภายในของเขาและยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเข้าร่วมการประมูล และได้ประมูลซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินในราคาสูงถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ

    หลังจากเหตุการณ์นี้ สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้น เพื่อที่จะนำเรือบรรทุกเครื่องบินกลับมาตุภูมิโดยเร็วที่สุด เขาได้จัดการเรื่องเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ของเรือบรรทุกเครื่องบินทันทีและปกป้องแบบของการออกแบบอย่างระมัดระวัง เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินแล่นมุ่งหน้าสู่มาตุภูมิเขารู้สึกตื่นเต้นซาบซึ้งมากจนน้ำตาไหล แต่เมื่อแบบร่างการออกแบบถูกส่งกลับไปยังประเทศจีน ช่างเทคนิคพบว่าแบบร่างนั้นไม่สมบูรณ์และข้อมูลสำคัญจำนวนมากยังขาดหายไป สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเดินทางไปยูเครนอีกครั้งเพื่อขอแบบร่างการออกแบบที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ ระหว่างทางกลับบ้านมาตุภูมิ ยังถูกรัฐบาลตุรกีเข้าแทรกแซง ทำให้เรือบรรทุกเครื่องบินลำดังกล่าวลอยอยู่ในทะเลเป็นเวลาหนึ่งปี

    🤠3. เรือบรรทุกเครื่องบินมาถึงบ้านมาตุภูมิ และบริษัทล้มละลาย🤠

    ต่อมาการเจรจาระหว่างประเทศจีนกับตุรกีใช้เวลานานกว่าหนึ่งปี ในช่วงเวลานี้ บริษัทเรือลากจูงจำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมท่าเทียบเรือของเรือบรรทุกเครื่องบินก็ต้องจ่ายด้วย ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมหลายแสนดอลลาร์ บริษัทของ สวี เจิงผิง(徐增平)ไม่สามารถจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อีกต่อไป ในปี ค.ศ. 2002 เรือบรรทุกเครื่องบินได้แล่นเข้าสู่น่านน้ำของมาตุภูมิและเข้าสู่อ้อมกอดของมาตุภูมิในที่สุด ตั้งแต่การซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินไปจนถึงการส่งกลับจีน ใช้เวลาทั้งหมด 5 ปี และ สวี เจิงผิง(徐增平)ใช้เงินมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ

    เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินเดินทางถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย สวี เจิงผิง(徐增平)ได้ประกาศว่าบริษัทบันเทิงของเขาล้มละลายอย่างเป็นทางการ เดิมทีนี่เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน คำโกหกนี้ปรากฏชัดออกมาในตัวเองทันทีที่เรือบรรทุกเครื่องบินมาถึงบ้านมาตุภูมิ สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเปลี่ยนมือและบริจาคเรือบรรทุกเครื่องบินให้กับประเทศ แม้ว่าบริษัทบันเทิงในมาเก๊าจะล้มละลาย แต่ สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ไม่ได้ตกอยู่ในสภาพความยากจน เขายังมีบริษัทอื่นในฮ่องกงและเขายังคงเป็นนักธุรกิจผู้รักชาติ

    “ตี๋น้อยต้องการรับใช้ชาติ ไม่ใช่เพื่อเป็นเจ้าขุนมูลนาย” ผู้รักชาติที่แท้จริงถือว่าความรักชาติเป็นความรับผิดชอบของเขาเอง และไม่สนใจความสำเร็จหรือความล้มเหลวส่วนบุคคล สวี เจิงผิง(徐增平)ก็คือคนเช่นนี้ เขาแสดงมิตรภาพอันลึกซึ้งต่อมาตุภูมิในรูปแบบของเขาเอง และสมควรได้รับความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อเขา

    🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    #แทนคุณแผ่นดิน 🤠คำนำ🤠 “ฉันสาบานว่าจะอุทิศด้วยเลือดในกายทั้งหมดของฉันเพื่อรับใช้มาตุภูมิ(我以我血荐轩辕)” นี่เป็นบทประพันธท่อนหนึ่งในถ้อยคำที่เขียนแล้วทำให้หัวใจคุกรุ่นซึ่งเขียนโดยหลู่ซวิ่น(鲁迅)ด้วยความรู้สึกรักชาติ เป็นเวลาหลายพันปีที่ความรักต่อมาตุภูมิเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวจีนจำนวนนับไม่ถ้วนต่อสู้เพื่อมาตุภูมิ และเราได้รู้จักผู้รักชาตินับไม่ถ้วนมาตั้งแต่เด็ก อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยที่ต่างกัน การแสดงความรักชาติก็แตกต่างกันไป ในยุคแห่งสงคราม ความรักชาติอาจหมายถึงการเข้าสู่สนามรบ และไม่เสียใจที่ต้องสละชีวิตเพื่อทำลายศัตรูเพื่อมาตุภูมิ ในยุคที่ประเทศสงบสุขประชาชนปลอดภัย ความรักชาติยังหมายถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สำเร็จและไม่สร้างปัญหาให้กับมาตุภูมิ หลังจากการสถาปนาจีนใหม่ ก็ไม่ต้องทนกับความวุ่นวายของสงครามอีกต่อไป และสถานการณ์ความรักชาติก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน สำหรับผู้ประกอบการจำนวนมาก ความรักชาติของพวกเขาสะท้อนให้เห็นจากการใช้ทรัพย์สมบัติของตนเพื่อตอบแทนมาตุภูมิ เคยมีผู้ประกอบการรายหนึ่ง เขาซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินจากต่างประเทศและบริจาคให้กับมาตุภูมิ จากนั้น สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ประกาศให้บริษัทล้มละลาย เกิดอะไรขึ้นกับเขา 🤠1. ตัดสินใจซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินส่งไปมาตุภูมิบ้านเกิด🤠 สวี เจิงผิง(徐增平)เคยเป็นทหาร ในปีค.ศ. 1997 เขาเป็นประธานของ Hong Kong Chuanglu Group(香港创律集团)ข่าวที่เขาเห็นโดยบังเอิญทำให้หัวใจของเขาเต้นไหว ปรากฏว่ามีรายงานของสื่อว่ายูเครนต้องการขายเรือบรรทุกเครื่องบินที่ยังสร้างไม่เสร็จ และความรักชาติของเขาก็จุดประกายขึ้นมาทันที เขาตั้งใจจะซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินลำนั้นและมอบให้กับบ้านเกิดมาตุภูมิของเขา เนื่องจากเรือบรรทุกเครื่องบินเกี่ยวข้องกับการพัฒนาภารกิจด้านการป้องกันประเทศของประเทศ เรือบรรทุกเครื่องบินยูเครนไม่สามารถซื้อในนามของประเทศได้ เพราะจะทำให้ประเทศอื่นมีโอกาสเข้ามาแทรกแซงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สวี เจิงผิง(徐增平)จึงตัดสินใจซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยเงินของเขาเอง อย่างไรก็ตาม เรือบรรทุกเครื่องบินถือเป็นอาวุธที่ใช้ในการป้องกันประเทศ รัฐบาลยูเครนจะไม่เห็นด้วยกับการซื้อของเขาโดยไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเปิดบริษัทบันเทิงภายใต้ชื่อของเขาเอง ซึ่งมีชื่อเต็มว่า Chuanglu Tourism and Entertainment Company(创律旅游娱乐公司) และอ้างว่าเขาซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนให้เป็นสถานบันเทิง ในปีค.ศ. 1998 สวี เจิงผิง(徐增平)ซึ่งไม่เข้าใจในเรื่องภาษาได้เดินทางมายังยูเครนอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว เขาเห็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้ชื่อ "Varyag" สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าต่อตาเขาคือสถานการณ์เมื่อร้อยปีก่อน เมื่อกิจการทหารเรือของจีนตกต่ำจนขีดต่ำสุด และถูกรังแกโดยประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ เขามีความตั้งใจมากขึ้นที่จะมีส่วนร่วมวางพื้นฐานเรื่องเรือบรรทุกเครื่องบินในการพัฒนากองทัพเรือของมาตุภูมิ ที่โต๊ะไวน์ สวี เจิงผิง(徐增平)ไม่สามารถสื่อสารกับบุคคลที่รับผิดชอบฝ่ายยูเครนได้ดี เขาดื่มเหล้าหนัก 6 ปอนด์เพื่อแสดงความมุ่งมั่น ในท้ายที่สุด เขาก็เจรจาเรื่องเรือบรรทุกเครื่องบินได้สำเร็จ 🤠2. อุปสรรคของการเดินทางกลับมาตุภูมิบ้านเกิดของเรือบรรทุกเครื่องบิน🤠 ในเวลานั้น ยูเครนตกลงที่จะขายเรือบรรทุกเครื่องบินลำดังกล่าวให้กับ สวี เจิงผิง(徐增平)ในราคา 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐแต่ไม่รวมแบบร่างการออกแบบ สวี เจิงผิง(徐增平)รู้ดีว่าแบบการออกแบบเรือบรรทุกเครื่องบินมีความสำคัญมากกว่าตัวเรือบรรทุกเครื่องบิน การได้แบบดังกล่าวเท่านั้น จึงจะสามารถผลิตเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงเจรจาอีกครั้ง และหลังจากการเจรจาบางอย่าง สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ซื้อแบบของการออกแบบเรือในราคาสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เดิมทีคิดว่าเรือบรรทุกเครื่องบินสามารถกลับบ้านได้ในเวลานี้ แต่เนื่องจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นร่วมมือกัน เรือบรรทุกเครื่องบินจึงเกือบจะไม่สามารถกลับได้ สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นร่วมกันกดดันยูเครนให้หยุดขายเรือบรรทุกเครื่องบิน เมื่อหมดทางออกยูเครนจึงละทิ้งข้อตกลงทางวาจากับ สวี เจิงผิง(徐增平) และขายเรือบรรทุกเครื่องบินดังกล่าวในรูปแบบของการประมูลแทน เมื่อเห็นว่าเรือบรรทุกเครื่องบินที่เขากำลังจะได้มา แต่คนอื่นก็กำลังจะแย่งชิงเอาไป สวี เจิงผิง(徐增平)ระงับความขุ่นเคืองภายในของเขาและยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเข้าร่วมการประมูล และได้ประมูลซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินในราคาสูงถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากเหตุการณ์นี้ สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้น เพื่อที่จะนำเรือบรรทุกเครื่องบินกลับมาตุภูมิโดยเร็วที่สุด เขาได้จัดการเรื่องเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ของเรือบรรทุกเครื่องบินทันทีและปกป้องแบบของการออกแบบอย่างระมัดระวัง เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินแล่นมุ่งหน้าสู่มาตุภูมิเขารู้สึกตื่นเต้นซาบซึ้งมากจนน้ำตาไหล แต่เมื่อแบบร่างการออกแบบถูกส่งกลับไปยังประเทศจีน ช่างเทคนิคพบว่าแบบร่างนั้นไม่สมบูรณ์และข้อมูลสำคัญจำนวนมากยังขาดหายไป สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเดินทางไปยูเครนอีกครั้งเพื่อขอแบบร่างการออกแบบที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ ระหว่างทางกลับบ้านมาตุภูมิ ยังถูกรัฐบาลตุรกีเข้าแทรกแซง ทำให้เรือบรรทุกเครื่องบินลำดังกล่าวลอยอยู่ในทะเลเป็นเวลาหนึ่งปี 🤠3. เรือบรรทุกเครื่องบินมาถึงบ้านมาตุภูมิ และบริษัทล้มละลาย🤠 ต่อมาการเจรจาระหว่างประเทศจีนกับตุรกีใช้เวลานานกว่าหนึ่งปี ในช่วงเวลานี้ บริษัทเรือลากจูงจำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมท่าเทียบเรือของเรือบรรทุกเครื่องบินก็ต้องจ่ายด้วย ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมหลายแสนดอลลาร์ บริษัทของ สวี เจิงผิง(徐增平)ไม่สามารถจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อีกต่อไป ในปี ค.ศ. 2002 เรือบรรทุกเครื่องบินได้แล่นเข้าสู่น่านน้ำของมาตุภูมิและเข้าสู่อ้อมกอดของมาตุภูมิในที่สุด ตั้งแต่การซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินไปจนถึงการส่งกลับจีน ใช้เวลาทั้งหมด 5 ปี และ สวี เจิงผิง(徐增平)ใช้เงินมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบินเดินทางถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย สวี เจิงผิง(徐增平)ได้ประกาศว่าบริษัทบันเทิงของเขาล้มละลายอย่างเป็นทางการ เดิมทีนี่เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน คำโกหกนี้ปรากฏชัดออกมาในตัวเองทันทีที่เรือบรรทุกเครื่องบินมาถึงบ้านมาตุภูมิ สวี เจิงผิง(徐增平)จึงเปลี่ยนมือและบริจาคเรือบรรทุกเครื่องบินให้กับประเทศ แม้ว่าบริษัทบันเทิงในมาเก๊าจะล้มละลาย แต่ สวี เจิงผิง(徐增平)ก็ไม่ได้ตกอยู่ในสภาพความยากจน เขายังมีบริษัทอื่นในฮ่องกงและเขายังคงเป็นนักธุรกิจผู้รักชาติ “ตี๋น้อยต้องการรับใช้ชาติ ไม่ใช่เพื่อเป็นเจ้าขุนมูลนาย” ผู้รักชาติที่แท้จริงถือว่าความรักชาติเป็นความรับผิดชอบของเขาเอง และไม่สนใจความสำเร็จหรือความล้มเหลวส่วนบุคคล สวี เจิงผิง(徐增平)ก็คือคนเช่นนี้ เขาแสดงมิตรภาพอันลึกซึ้งต่อมาตุภูมิในรูปแบบของเขาเอง และสมควรได้รับความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อเขา 🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 496 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๗ ความว่า
    “สังคมโลกทุกวันนี้ผันแปรไปอย่างรวดเร็ว ตัวชี้วัดความสำเร็จเชิงวัตถุเริ่มหลากหลายไกลห่างเกินจะบรรลุได้ เป็นภาวะที่สวนทางกับความสงบ เรียบง่าย และสามัญธรรมดา ทำให้มนุษย์ในยุคใหม่ มีใจหวั่นไหวคลอนแคลนง่ายไปตามโลกธรรมทั้ง ๔ คู่ กล่าวคือ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์ เผลอหลงยึดมั่นถือมั่นในโลกธรรมเหล่านั้นว่าเป็นของตน พอจับยึดโลกธรรมฝ่ายไม่น่าพอใจ ก็เร่าร้อนนอนทุกข์ อาจดิ้นรนไขว่คว้าแม้โดยทุจริตเพื่อให้โลกธรรมนั้น ๆ พ้นไป พอจับยึดโลกธรรมฝ่ายน่าพอใจ ก็ยึดติดหลงใหล อาจดิ้นรนไขว่คว้าแม้โดยทุจริตเพื่อให้โลกธรรมนั้น ๆ ยังอยู่หรือเข้ามาบังเกิดแก่ตน ภาวะเช่นนี้ทำให้สุขภาวะของผู้คนในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนค่อยๆ เสื่อมถอยลงทุกขณะ

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอบรมสั่งสอนให้มนุษย์แสวงหาความสุขที่เรียบง่ายอันเกิดจากความสงบ ด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ มุ่งสร้างสรรค์สุขให้บังเกิดได้ง่าย ๆ ด้วยการนำจิตตนเองไปจดจ่อต่อสิ่งดีงาม จึงขอฝากข้อคิดให้เด็กและเยาวชน หันมาสนใจอบรมเจริญสมาธิ ทำใจให้สงบ ฝึกระงับจิต ข่มความคิด ให้ทุเลาความฟุ้งซ่าน ปล่อยวางความหวือหวา วางเฉยต่อความรวดเร็วปุบปับฉับไวของกระแสข่าวสาร สมัยนิยม ความหลงใหล ความรักใคร่ และความชิงชัง ผ่อนพักจากความเครียดต่าง ๆ ที่รุมเร้า แล้วหันไปจดจ่อต่อคุณค่าของความดีงาม เช่น การศึกษาเล่าเรียน การทำงานอดิเรกที่เป็นประโยชน์ การอุทิศตนช่วยเหลือผู้อื่น การทำบุญกุศล การช่วยงานอาสาสมัคร ฯลฯ เพื่อให้เกิดสุขภาวะทางใจ อันจะเกื้อกูลให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งในอนาคต

    ขออนุโมทนาความดีที่เด็ก เยาวชน และผู้ทำประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนได้บำเพ็ญด้วยดีตลอดมา ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและกุศลธรรมจริยาที่ท่านทั้งหลายได้สั่งสมไว้ ดลบันดาลให้ท่านมีสรรพกำลังพรั่งพร้อม ในอันที่จะบำเพ็ญกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของสังคมประเทศชาติสืบไป เทอญ.”

    #Thaitimes
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๗ ความว่า “สังคมโลกทุกวันนี้ผันแปรไปอย่างรวดเร็ว ตัวชี้วัดความสำเร็จเชิงวัตถุเริ่มหลากหลายไกลห่างเกินจะบรรลุได้ เป็นภาวะที่สวนทางกับความสงบ เรียบง่าย และสามัญธรรมดา ทำให้มนุษย์ในยุคใหม่ มีใจหวั่นไหวคลอนแคลนง่ายไปตามโลกธรรมทั้ง ๔ คู่ กล่าวคือ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์ เผลอหลงยึดมั่นถือมั่นในโลกธรรมเหล่านั้นว่าเป็นของตน พอจับยึดโลกธรรมฝ่ายไม่น่าพอใจ ก็เร่าร้อนนอนทุกข์ อาจดิ้นรนไขว่คว้าแม้โดยทุจริตเพื่อให้โลกธรรมนั้น ๆ พ้นไป พอจับยึดโลกธรรมฝ่ายน่าพอใจ ก็ยึดติดหลงใหล อาจดิ้นรนไขว่คว้าแม้โดยทุจริตเพื่อให้โลกธรรมนั้น ๆ ยังอยู่หรือเข้ามาบังเกิดแก่ตน ภาวะเช่นนี้ทำให้สุขภาวะของผู้คนในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนค่อยๆ เสื่อมถอยลงทุกขณะ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอบรมสั่งสอนให้มนุษย์แสวงหาความสุขที่เรียบง่ายอันเกิดจากความสงบ ด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ มุ่งสร้างสรรค์สุขให้บังเกิดได้ง่าย ๆ ด้วยการนำจิตตนเองไปจดจ่อต่อสิ่งดีงาม จึงขอฝากข้อคิดให้เด็กและเยาวชน หันมาสนใจอบรมเจริญสมาธิ ทำใจให้สงบ ฝึกระงับจิต ข่มความคิด ให้ทุเลาความฟุ้งซ่าน ปล่อยวางความหวือหวา วางเฉยต่อความรวดเร็วปุบปับฉับไวของกระแสข่าวสาร สมัยนิยม ความหลงใหล ความรักใคร่ และความชิงชัง ผ่อนพักจากความเครียดต่าง ๆ ที่รุมเร้า แล้วหันไปจดจ่อต่อคุณค่าของความดีงาม เช่น การศึกษาเล่าเรียน การทำงานอดิเรกที่เป็นประโยชน์ การอุทิศตนช่วยเหลือผู้อื่น การทำบุญกุศล การช่วยงานอาสาสมัคร ฯลฯ เพื่อให้เกิดสุขภาวะทางใจ อันจะเกื้อกูลให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งในอนาคต ขออนุโมทนาความดีที่เด็ก เยาวชน และผู้ทำประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนได้บำเพ็ญด้วยดีตลอดมา ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและกุศลธรรมจริยาที่ท่านทั้งหลายได้สั่งสมไว้ ดลบันดาลให้ท่านมีสรรพกำลังพรั่งพร้อม ในอันที่จะบำเพ็ญกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของสังคมประเทศชาติสืบไป เทอญ.” #Thaitimes
    Like
    Love
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1679 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แฟนเพจคิงส์คือมนุษย์กลุ่มเดียวที่มาก่อนกาล
    ถ้าอ่านโพสพี่คิงส์ได้จบครบทุกโพส
    คุณจะมีมุมมอง และข้อมูลที่ลึกซึ้งกว่าคนทั่วไป
    และคุณไม่สามารถย้อนกลับไปคุยกับทุยที่รู้จักได้อีก
    เหมือนคุยคนละภาษา เหมือนพูดคนละคลื่นความถี่
    พี่คิงส์รู้สึกปลื้มใจ ที่วันนี้ชาวไทย
    อ่านหนังสือได้เกิน 8 บรรทัด
    นี่คือความสำเร็จ
    และภายใต้ข้อความทุกโพส
    อาจมีเครียด มีฮา มีอึ้ง มีหลากหลายความรู้สึก
    แต่พี่คิงส์มั่นใจว่า ในทุกโพส จะมีนัยที่แฝงอยู่ในนั้น
    ให้ทุกคนได้ลองคิดตาม
    ส่วนที่เป็นข้อมูลที่แน่นๆ ผสมผสาน
    จนทำให้ เหตุการณ์ที่ เกิดแฮทแทค
    เกิดการเล่นงานชาลี เกิดมามากขึ้นเรื่อยๆ
    เป็นสิ่งที่แฟนเพจรู้ และไม่ตกใจ
    อย่างน่าอัศจรรย์
    เชื่อพี่คิงส์นะ กรรมกำลังทำงาน
    ระดับสุรเชษฐ์ ยังต้องจนมุมกับสิ่งที่ก่อ
    คนที่เราเคยมองว่าเค้าคือฮีโร่
    หรือจะตั้ม ทนายหิวแสง
    เราคนไทยก็มองเป็นคนของประชาชนมาแล้ว
    และอีกหลายๆคนต่างก็มีกำลังไอโอของตัวเอง
    ใช้ทุกทางในการปิดปากคิงส์ฯ
    แต่ก็คงยืนหยัดมาจนถึงวันนี้
    เพื่อเชื่อในคุณธรรม ว่าสิ่งที่เราทำ
    คือการยืนหยัดอยู่บนความถูกต้อง
    เพื่อสถาบัน เพื่อเพื่อนพี่น้องคนไทยด้วยกัน
    ต้องไม่ตกเป็นเ-ห-ยื่-อให้ใครมาแสวงหาประโยชน์ได้
    ขอต้องรับบรรดาผู้ตื่นรู้ทุกท่านครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #แฟนเพจคิงส์คือมนุษย์กลุ่มเดียวที่มาก่อนกาล ถ้าอ่านโพสพี่คิงส์ได้จบครบทุกโพส คุณจะมีมุมมอง และข้อมูลที่ลึกซึ้งกว่าคนทั่วไป และคุณไม่สามารถย้อนกลับไปคุยกับทุยที่รู้จักได้อีก เหมือนคุยคนละภาษา เหมือนพูดคนละคลื่นความถี่ พี่คิงส์รู้สึกปลื้มใจ ที่วันนี้ชาวไทย อ่านหนังสือได้เกิน 8 บรรทัด นี่คือความสำเร็จ และภายใต้ข้อความทุกโพส อาจมีเครียด มีฮา มีอึ้ง มีหลากหลายความรู้สึก แต่พี่คิงส์มั่นใจว่า ในทุกโพส จะมีนัยที่แฝงอยู่ในนั้น ให้ทุกคนได้ลองคิดตาม ส่วนที่เป็นข้อมูลที่แน่นๆ ผสมผสาน จนทำให้ เหตุการณ์ที่ เกิดแฮทแทค เกิดการเล่นงานชาลี เกิดมามากขึ้นเรื่อยๆ เป็นสิ่งที่แฟนเพจรู้ และไม่ตกใจ อย่างน่าอัศจรรย์ เชื่อพี่คิงส์นะ กรรมกำลังทำงาน ระดับสุรเชษฐ์ ยังต้องจนมุมกับสิ่งที่ก่อ คนที่เราเคยมองว่าเค้าคือฮีโร่ หรือจะตั้ม ทนายหิวแสง เราคนไทยก็มองเป็นคนของประชาชนมาแล้ว และอีกหลายๆคนต่างก็มีกำลังไอโอของตัวเอง ใช้ทุกทางในการปิดปากคิงส์ฯ แต่ก็คงยืนหยัดมาจนถึงวันนี้ เพื่อเชื่อในคุณธรรม ว่าสิ่งที่เราทำ คือการยืนหยัดอยู่บนความถูกต้อง เพื่อสถาบัน เพื่อเพื่อนพี่น้องคนไทยด้วยกัน ต้องไม่ตกเป็นเ-ห-ยื่-อให้ใครมาแสวงหาประโยชน์ได้ ขอต้องรับบรรดาผู้ตื่นรู้ทุกท่านครับ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    Love
    Yay
    30
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1969 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่แหละอเมริกา! Angel Reese นักบาสหญิงผิวสีดาวเด่นของสหรัฐประกาศทิ้งอเมริกาอย่างถาวรเพราะ“ ที่นี่ไม่มีความเคารพให้เกียรติตัวเธอ(“No Respect Here”)

    19 กันยายน 2567 -รายงานข่าวสื่อออนไลน์ระบุว่าแองเจิล รีส หนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในวงการบาสเกตบอลหญิง ได้ประกาศการตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวร ประเทศประชาธิปไตย ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลกกีฬา รีสซึ่งครองความยิ่งใหญ่ทั้งในสนามและนอกสนามจนทำให้แฟนๆ ต่างชื่นชอบเธอ ได้อ้างถึงสาเหตุหลักที่ทำให้เธอออกจากทีมเนื่องจากขาดความเคารพและชื่นชมในความสามารถและความพยายามของเธอ

    ประวัติ แองเจิล รีสเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2002 เป็นนักบาสเก็ตบอลมืออาชีพชาวอเมริกันของทีม Chicago Skyในสมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ (WNBA) มีชื่อเล่นว่า " Bayou-Barbie " และ " Chi-Barbie "

    เส้นทางสู่การเป็นดาราของรีสนั้นน่าทึ่งมาก ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เธอครองความสำเร็จในสนามบาสเกตบอลระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไปจนถึงผลงานอันโดดเด่นของเธอที่มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ เธอได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่าเธอมีความสามารถที่โดดเด่น การผสมผสานระหว่างขนาด ทักษะ และความแข็งแกร่งของเธอทำให้เธอเป็นกำลังสำคัญที่ต้องจับตามองในสนาม และเธอก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นบาสเกตบอลหญิงระดับวิทยาลัยที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลาอันรวดเร็ว

    การเปลี่ยนแปลงของรีสสู่ระดับมืออาชีพนั้นราบรื่นมาก เธอถูกดราฟต์เข้าสู่ สมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ WNBA และสร้างผลงานในทันที โดยแสดงความสามารถของเธอและได้รับคำชื่นชมจากแฟนๆ และนักวิเคราะห์ แม้จะประสบความสำเร็จในสนาม แต่รีสก็มักจะพูดถึงความท้าทายที่เธอต้องเผชิญนอกสนามอยู่เสมอ รวมถึงการไม่ได้รับการยอมรับและความเคารพที่เธอรู้สึกว่าเธอสมควรได้รับ

    ในขณะที่แองเจิล รีสเตรียมตัวเริ่มต้นบทต่อไปในชีวิตและอาชีพการงาน เธอทิ้งมรดกแห่งความเป็นเลิศและความยืดหยุ่นเอาไว้ การตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาของเธอเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่นักกีฬาทุกคนรู้สึกได้รับการเคารพและมีคุณค่า รีสยังไม่ได้ประกาศว่าเธอวางแผนที่จะดำเนินอาชีพต่อไปที่ใด แต่ไม่มีข้อสงสัยว่าเธอจะยังคงประสบความสำเร็จต่อไปไม่ว่าจะไปที่ใด

    การตัดสินใจของแองเจิล รีสที่จะออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวรเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในโลกกีฬา ซึ่งเน้นย้ำถึงความท้าทายที่นักกีฬา โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสีต้องเผชิญในการได้รับความเคารพและการยอมรับที่สมควรได้รับ การจากไปของเธอเป็นการสูญเสียสำหรับชุมชนบาสเก็ตบอล แต่ยังเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย ในขณะที่รีสก้าวไปข้างหน้าในอาชีพการงานของเธอ เรื่องราวของเธอจะยังคงเป็นแรงบันดาลใจและท้าทายผู้ที่ยังอยู่ในสหรัฐอเมริกาต่อไป เป็นการเตือนใจว่าความสามารถและความทุ่มเทสมควรได้รับการเคารพและการชื่นชม และการทำงานเพื่อสร้างวัฒนธรรมกีฬาที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันมากขึ้นยังคงดำเนินต่อไป

    #Thaitimes
    นี่แหละอเมริกา! Angel Reese นักบาสหญิงผิวสีดาวเด่นของสหรัฐประกาศทิ้งอเมริกาอย่างถาวรเพราะ“ ที่นี่ไม่มีความเคารพให้เกียรติตัวเธอ(“No Respect Here”) 19 กันยายน 2567 -รายงานข่าวสื่อออนไลน์ระบุว่าแองเจิล รีส หนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในวงการบาสเกตบอลหญิง ได้ประกาศการตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวร ประเทศประชาธิปไตย ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลกกีฬา รีสซึ่งครองความยิ่งใหญ่ทั้งในสนามและนอกสนามจนทำให้แฟนๆ ต่างชื่นชอบเธอ ได้อ้างถึงสาเหตุหลักที่ทำให้เธอออกจากทีมเนื่องจากขาดความเคารพและชื่นชมในความสามารถและความพยายามของเธอ ประวัติ แองเจิล รีสเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2002 เป็นนักบาสเก็ตบอลมืออาชีพชาวอเมริกันของทีม Chicago Skyในสมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ (WNBA) มีชื่อเล่นว่า " Bayou-Barbie " และ " Chi-Barbie " เส้นทางสู่การเป็นดาราของรีสนั้นน่าทึ่งมาก ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เธอครองความสำเร็จในสนามบาสเกตบอลระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไปจนถึงผลงานอันโดดเด่นของเธอที่มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ เธอได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่าเธอมีความสามารถที่โดดเด่น การผสมผสานระหว่างขนาด ทักษะ และความแข็งแกร่งของเธอทำให้เธอเป็นกำลังสำคัญที่ต้องจับตามองในสนาม และเธอก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นบาสเกตบอลหญิงระดับวิทยาลัยที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลาอันรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของรีสสู่ระดับมืออาชีพนั้นราบรื่นมาก เธอถูกดราฟต์เข้าสู่ สมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ WNBA และสร้างผลงานในทันที โดยแสดงความสามารถของเธอและได้รับคำชื่นชมจากแฟนๆ และนักวิเคราะห์ แม้จะประสบความสำเร็จในสนาม แต่รีสก็มักจะพูดถึงความท้าทายที่เธอต้องเผชิญนอกสนามอยู่เสมอ รวมถึงการไม่ได้รับการยอมรับและความเคารพที่เธอรู้สึกว่าเธอสมควรได้รับ ในขณะที่แองเจิล รีสเตรียมตัวเริ่มต้นบทต่อไปในชีวิตและอาชีพการงาน เธอทิ้งมรดกแห่งความเป็นเลิศและความยืดหยุ่นเอาไว้ การตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาของเธอเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่นักกีฬาทุกคนรู้สึกได้รับการเคารพและมีคุณค่า รีสยังไม่ได้ประกาศว่าเธอวางแผนที่จะดำเนินอาชีพต่อไปที่ใด แต่ไม่มีข้อสงสัยว่าเธอจะยังคงประสบความสำเร็จต่อไปไม่ว่าจะไปที่ใด การตัดสินใจของแองเจิล รีสที่จะออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวรเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในโลกกีฬา ซึ่งเน้นย้ำถึงความท้าทายที่นักกีฬา โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสีต้องเผชิญในการได้รับความเคารพและการยอมรับที่สมควรได้รับ การจากไปของเธอเป็นการสูญเสียสำหรับชุมชนบาสเก็ตบอล แต่ยังเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย ในขณะที่รีสก้าวไปข้างหน้าในอาชีพการงานของเธอ เรื่องราวของเธอจะยังคงเป็นแรงบันดาลใจและท้าทายผู้ที่ยังอยู่ในสหรัฐอเมริกาต่อไป เป็นการเตือนใจว่าความสามารถและความทุ่มเทสมควรได้รับการเคารพและการชื่นชม และการทำงานเพื่อสร้างวัฒนธรรมกีฬาที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันมากขึ้นยังคงดำเนินต่อไป #Thaitimes
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1562 มุมมอง 0 รีวิว
  • การฝึกซ้อมร่วมของรัสเซีย-จีน Pacific Patrol -๒๐๒๔ ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย และจะกลายเป็นกิจกรรมประจำปี

    การฝึกซ้อมร่วม Pacific Patrol-๒๐๒๔ โดยเรือรัสเซียและจีนในอ่าวปีเตอร์มหาราชในภูมิภาคปรีมอร์สกีของรัสเซีย เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน

    ในระหว่างการฝึกซ้อม, เจ้าหน้าที่รักษาชายฝั่งของรัสเซียและจีนได้ฝึกซ้อมร่วมกันในการค้นหาและกักขังเรือที่ละเมิดกฎจากทะเลและอากาศ

    ผู้เข้าร่วมยังได้ยิงปืนใหญ่ร่วมกันและทดสอบความพร้อมของลูกเรือในการปฏิบัติการกู้ภัยสำหรับเรือที่ประสบภัย

    ความสำเร็จของการฝึกซ้อมทำให้ทั้งสองฝ่ายตัดสินใจจัดการฝึกซ้อมดังกล่าวเป็นประจำทุกปี, ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนและความเข้มข้น

    "ปีหนึ่ง [หน่วยรักษาชายฝั่งของจีน] มาหาเรา [รัสเซีย], ปีหน้า เราจะไปที่ท่าเรือแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีนตามคำเชิญของพวกเขา และพบปะเพื่อนและเพื่อนร่วมงานของเราที่นั่น, พลเรือเอกโรมัน โทล็อก หัวหน้าแผนกหน่วยรักษาชายฝั่งของหน่วยงานป้องกันชายแดนของรัสเซียกล่าว การฝึกซ้อมเป็นอย่างไรบ้าง?

    🔸หน่วยยามชายฝั่งของจีนได้รับข้อมูลว่าเรือที่ชักธงประเทศโอเชียเนียได้เข้าสู่ทะเลญี่ปุ่นผ่านช่องแคบเกาหลีและกำลังเข้าใกล้เมืองวลาดิวอสต็อก;

    🔸ตามข้อมูลปฏิบัติการจำลอง, ลูกเรือเคยลักลอบขนอาวุธ, กระสุน และอุปกรณ์ทางการทหารมาก่อน นอกจากนี้ยังมี “หลักฐาน” ว่าเรือลำดังกล่าวเป็นเรือที่ไม่มีคนโดยสาร;

    🔸รัสเซียและจีนตัดสินใจร่วมกันค้นหาเรือลำดังกล่าวโดยเครื่องบินและเรือ

    🔸จากนั้นเรือหน่วยยามชายฝั่งของรัสเซีย ๓ ลำ และของจีน ๒ ลำ ได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการเพื่อหยุดยั้ง “อาชญากร” จากโอเชียเนีย
    .
    Russian-Chinese Pacific Patrol-2024 drills beat expectations and will become annual event

    The active phase of the Pacific Patrol-2024 joint drills by Russian and Chinese ships in the Peter the Great Gulf in Russia’s Primorsky region started on September 18.

    During the exercises, Russian and Chinese coast guards practiced joint the search and detention of a rogue vessel from sea and air.

    The participants also performed joint artillery firing and tested their crew’ readiness to carry out rescue operations for vessels in distress.

    The drills’ success prompted both sides to decide to hold such exercises on an annual basis, increasing their complexity and intensity.

    “One year they [Chinese coast guard] come to us [Russia], next year we go to one of the ports of the People's Republic of China at their invitation and meet our friends and colleagues there,” said Admiral Roman Tolok, head of the Coast Guard Department of Russia’s Border Guard Service. How did the drills go?

    🔸China’s coast guard received information that a vessel under a made-up country of Oceania flag had entered the Sea of Japan through the Korean Strait and was approaching Vladivostok;

    🔸According to mock operational data, its crew members had been previously involved in smuggling weapons, ammunition and military equipment. There was also “evidence” that the vessel had uncrewed boats;

    🔸Russia and China decided to conduct a joint air and ship search for the vessel suspected of illicit activity;

    🔸Three Russian and two Chinese coast guard ships then formed an operational team to stop the “criminals” from Oceania.
    .
    3:29 AM · Sep 19, 2024 · 1,995 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1836502794850775462
    การฝึกซ้อมร่วมของรัสเซีย-จีน Pacific Patrol -๒๐๒๔ ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย และจะกลายเป็นกิจกรรมประจำปี การฝึกซ้อมร่วม Pacific Patrol-๒๐๒๔ โดยเรือรัสเซียและจีนในอ่าวปีเตอร์มหาราชในภูมิภาคปรีมอร์สกีของรัสเซีย เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ในระหว่างการฝึกซ้อม, เจ้าหน้าที่รักษาชายฝั่งของรัสเซียและจีนได้ฝึกซ้อมร่วมกันในการค้นหาและกักขังเรือที่ละเมิดกฎจากทะเลและอากาศ ผู้เข้าร่วมยังได้ยิงปืนใหญ่ร่วมกันและทดสอบความพร้อมของลูกเรือในการปฏิบัติการกู้ภัยสำหรับเรือที่ประสบภัย ความสำเร็จของการฝึกซ้อมทำให้ทั้งสองฝ่ายตัดสินใจจัดการฝึกซ้อมดังกล่าวเป็นประจำทุกปี, ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนและความเข้มข้น "ปีหนึ่ง [หน่วยรักษาชายฝั่งของจีน] มาหาเรา [รัสเซีย], ปีหน้า เราจะไปที่ท่าเรือแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีนตามคำเชิญของพวกเขา และพบปะเพื่อนและเพื่อนร่วมงานของเราที่นั่น, พลเรือเอกโรมัน โทล็อก หัวหน้าแผนกหน่วยรักษาชายฝั่งของหน่วยงานป้องกันชายแดนของรัสเซียกล่าว การฝึกซ้อมเป็นอย่างไรบ้าง? 🔸หน่วยยามชายฝั่งของจีนได้รับข้อมูลว่าเรือที่ชักธงประเทศโอเชียเนียได้เข้าสู่ทะเลญี่ปุ่นผ่านช่องแคบเกาหลีและกำลังเข้าใกล้เมืองวลาดิวอสต็อก; 🔸ตามข้อมูลปฏิบัติการจำลอง, ลูกเรือเคยลักลอบขนอาวุธ, กระสุน และอุปกรณ์ทางการทหารมาก่อน นอกจากนี้ยังมี “หลักฐาน” ว่าเรือลำดังกล่าวเป็นเรือที่ไม่มีคนโดยสาร; 🔸รัสเซียและจีนตัดสินใจร่วมกันค้นหาเรือลำดังกล่าวโดยเครื่องบินและเรือ 🔸จากนั้นเรือหน่วยยามชายฝั่งของรัสเซีย ๓ ลำ และของจีน ๒ ลำ ได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการเพื่อหยุดยั้ง “อาชญากร” จากโอเชียเนีย . Russian-Chinese Pacific Patrol-2024 drills beat expectations and will become annual event The active phase of the Pacific Patrol-2024 joint drills by Russian and Chinese ships in the Peter the Great Gulf in Russia’s Primorsky region started on September 18. During the exercises, Russian and Chinese coast guards practiced joint the search and detention of a rogue vessel from sea and air. The participants also performed joint artillery firing and tested their crew’ readiness to carry out rescue operations for vessels in distress. The drills’ success prompted both sides to decide to hold such exercises on an annual basis, increasing their complexity and intensity. “One year they [Chinese coast guard] come to us [Russia], next year we go to one of the ports of the People's Republic of China at their invitation and meet our friends and colleagues there,” said Admiral Roman Tolok, head of the Coast Guard Department of Russia’s Border Guard Service. How did the drills go? 🔸China’s coast guard received information that a vessel under a made-up country of Oceania flag had entered the Sea of Japan through the Korean Strait and was approaching Vladivostok; 🔸According to mock operational data, its crew members had been previously involved in smuggling weapons, ammunition and military equipment. There was also “evidence” that the vessel had uncrewed boats; 🔸Russia and China decided to conduct a joint air and ship search for the vessel suspected of illicit activity; 🔸Three Russian and two Chinese coast guard ships then formed an operational team to stop the “criminals” from Oceania. . 3:29 AM · Sep 19, 2024 · 1,995 Views https://x.com/SputnikInt/status/1836502794850775462
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 511 มุมมอง 69 0 รีวิว
  • #ตัวอย่างจริงจากการยึดด้วยทำลาย#ประยุกต์​มาเป็นการยึดด้วยการเงินแทนค่าอาวุธ

    ใช้ความพยายามหาคลิปคุณทนง​ ให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์​ของอิสราเอล​ นับจากปี​ ค.ศ.​1917 (ก็ถึงปัจจุบัน​107ปี) และจากพื้นที่ปี​ ค.ศ.​1946 - 2012 (ก็​ 66ปี​ เห็นแววถูกไล่)​ นี้ขนาดเป็นปืนกับจรวดนะ​ ถ้าเป็นการเช่าที่ดิน​ ซื้อทรัพย์สิน​บ้านถูกยึด​ ซื้อคอนโดฯ​ หาตัวแทน​ หาภรรยาคนไทย​ จำนวนปีแห่งความสำเร็จก็น่าจะสั้นกว่า

    ฝากความห่วงใยชาติถึง​ สส.​ ทุกคน​ จะเลือกขายชาติ​ เป็นทาสเงินนายทุน

    คนไทยทุกคนควรส่งต่อแง่คิดจากชนปาเลสไตน์​ และยิวคิดล้างเผ่าพันธุ์​เจ้าของเดิม​ ดูคลิปด้วยครับ

    https://youtu.be/9jc-VzSl04M?si=JGUyRGXHmC9yuVvV
    #ตัวอย่างจริงจากการยึดด้วยทำลาย#ประยุกต์​มาเป็นการยึดด้วยการเงินแทนค่าอาวุธ ใช้ความพยายามหาคลิปคุณทนง​ ให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์​ของอิสราเอล​ นับจากปี​ ค.ศ.​1917 (ก็ถึงปัจจุบัน​107ปี) และจากพื้นที่ปี​ ค.ศ.​1946 - 2012 (ก็​ 66ปี​ เห็นแววถูกไล่)​ นี้ขนาดเป็นปืนกับจรวดนะ​ ถ้าเป็นการเช่าที่ดิน​ ซื้อทรัพย์สิน​บ้านถูกยึด​ ซื้อคอนโดฯ​ หาตัวแทน​ หาภรรยาคนไทย​ จำนวนปีแห่งความสำเร็จก็น่าจะสั้นกว่า ฝากความห่วงใยชาติถึง​ สส.​ ทุกคน​ จะเลือกขายชาติ​ เป็นทาสเงินนายทุน คนไทยทุกคนควรส่งต่อแง่คิดจากชนปาเลสไตน์​ และยิวคิดล้างเผ่าพันธุ์​เจ้าของเดิม​ ดูคลิปด้วยครับ https://youtu.be/9jc-VzSl04M?si=JGUyRGXHmC9yuVvV
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

    เดือนนี้ หากรับราชการเป็นข้าราชการข้าของแผ่นดินจะได้ปูนบำเน็จบำนาญอย่างสมฐานะตำแหน่งเกียรติยศ งานวิชาการ งานสวยงาม จะมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับความสำเร็จนานัปการไหลหลั่งอย่างต่อเนื่อง เพราะมีดาวรุ่งโรจน์ ชื่อเสียง และความรู้จรมาสู่ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความคิดริเริ่มธุรกิจใหม่ๆมีแนวคิดสร้างสรรค์กิจการงานก้าวหน้า ส่งผลทำให้จะคิดอ่านประการใดก็จะเสร็จกิจลุล่วงได้อย่างดี งานที่ติดต่อก็จะประสบความสำเร็จ เงินทองไหลมาเทมาร่ำรวยอย่างไม่รู้ตัว อีกทั้งสมาชิกลูกหลานจะขยันขันแข็ง ฉลาด สติปัญญาดี ส่งผลในเรื่องของการเรียนการศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวจะมีความสุขสงบ จะได้คนดีๆไปมาหาสู่ โชคดีมีโอกาสถูกหวยรวยหุ้น
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เดือนนี้ หากรับราชการเป็นข้าราชการข้าของแผ่นดินจะได้ปูนบำเน็จบำนาญอย่างสมฐานะตำแหน่งเกียรติยศ งานวิชาการ งานสวยงาม จะมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับความสำเร็จนานัปการไหลหลั่งอย่างต่อเนื่อง เพราะมีดาวรุ่งโรจน์ ชื่อเสียง และความรู้จรมาสู่ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความคิดริเริ่มธุรกิจใหม่ๆมีแนวคิดสร้างสรรค์กิจการงานก้าวหน้า ส่งผลทำให้จะคิดอ่านประการใดก็จะเสร็จกิจลุล่วงได้อย่างดี งานที่ติดต่อก็จะประสบความสำเร็จ เงินทองไหลมาเทมาร่ำรวยอย่างไม่รู้ตัว อีกทั้งสมาชิกลูกหลานจะขยันขันแข็ง ฉลาด สติปัญญาดี ส่งผลในเรื่องของการเรียนการศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวจะมีความสุขสงบ จะได้คนดีๆไปมาหาสู่ โชคดีมีโอกาสถูกหวยรวยหุ้น ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • NOBULL
    Men's Dress Shoes Black Leather Perforated
    (Design in USA)
    Size. US 12.5 /UK 11.5 /EUR 47 /30.5 cm

    🔥 Price : 890฿

    👉 คุณสมบัติ :-
    🔹Upper : หนังแท้แบบฟูลเกรนคุณภาพระดับพรีเมียม ฉลุรูระบายอากาศ ปั๊มนูนโลโก้แบรนด์ด้านข้างส้นเท้า
    🔹พื้นรองเท้าชั้นกลาง : EVA มีน้ำหนักเบาและสวมใส่สบาย ช่วยรองรับการยืนหรือเดินเป็นระยะเวลานานๆ
    🔹แผ่นรองพื้นรองเท้าชนิด EVA แบบเรียบขึ้นรูปที่สามารถถอดออกได้
    🔹พื้นรองเท้าชั้นนอก : เป็นชนิด Gum Rubber ปั๊มนูนแบรนด์โลโก้

    👉 เรื่องราว :-
    NoBull เป็นแบรนด์ รองเท้าและเครื่องแต่งกายสำหรับกีฬาจากสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยกลุ่มผู้ที่หลงใหลในโลกฟิตเนสและต้องการสร้างรองเท้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักกีฬาจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการฝึก Crossfit ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเรื่องความเข้มข้นและหลากหลายของการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ปัจจุบันได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์รองเท้าแบบทางการ (dress shoes) เช่น รองเท้าหนังสำหรับใส่ทำงาน หรือรองเท้าสไตล์ formal โดยยังคงจุดเด่นในเรื่องวัสดุการตัดเย็บเพื่อความทนทานในการใช้งาน

    🔹วัสดุและเทคโนโลยี : รองเท้า NoBull มักใช้วัสดุที่ทนทานและมีเทคโนโลยีที่ช่วยรองรับและป้องกันการบาดเจ็บ ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป
    🔹ดีไซน์ : ดีไซน์ของรองเท้า NoBull มักเน้นความเรียบง่ายและฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าความหรูหราหรือแฟชั่น
    🔹ฟังก์ชันการใช้งาน : NoBull ให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก ถูกออกแบบมาให้ทนทาน รองรับแรงกระแทกได้ดี และเหมาะสำหรับการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย
    🔹ขยายตลาด : หลังจากประสบความสำเร็จในกลุ่มนัก Crossfit NoBull ก็เริ่มขยายตลาดไปสู่กลุ่มผู้ใช้อื่นๆ เช่น นักวิ่ง นักยกน้ำหนัก นักกอล์ฟ และคนทำงาน
    🔹ไลน์ผลิตภัณฑ์ : นอกจากรองเท้าแล้ว NoBull ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เสื้อผ้า และอุปกรณ์เสริมสำหรับการออกกำลังกาย
    NOBULL Men's Dress Shoes Black Leather Perforated (Design in USA) Size. US 12.5 /UK 11.5 /EUR 47 /30.5 cm 🔥 Price : 890฿ 👉 คุณสมบัติ :- 🔹Upper : หนังแท้แบบฟูลเกรนคุณภาพระดับพรีเมียม ฉลุรูระบายอากาศ ปั๊มนูนโลโก้แบรนด์ด้านข้างส้นเท้า 🔹พื้นรองเท้าชั้นกลาง : EVA มีน้ำหนักเบาและสวมใส่สบาย ช่วยรองรับการยืนหรือเดินเป็นระยะเวลานานๆ 🔹แผ่นรองพื้นรองเท้าชนิด EVA แบบเรียบขึ้นรูปที่สามารถถอดออกได้ 🔹พื้นรองเท้าชั้นนอก : เป็นชนิด Gum Rubber ปั๊มนูนแบรนด์โลโก้ 👉 เรื่องราว :- NoBull เป็นแบรนด์ รองเท้าและเครื่องแต่งกายสำหรับกีฬาจากสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยกลุ่มผู้ที่หลงใหลในโลกฟิตเนสและต้องการสร้างรองเท้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักกีฬาจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการฝึก Crossfit ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเรื่องความเข้มข้นและหลากหลายของการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ปัจจุบันได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์รองเท้าแบบทางการ (dress shoes) เช่น รองเท้าหนังสำหรับใส่ทำงาน หรือรองเท้าสไตล์ formal โดยยังคงจุดเด่นในเรื่องวัสดุการตัดเย็บเพื่อความทนทานในการใช้งาน 🔹วัสดุและเทคโนโลยี : รองเท้า NoBull มักใช้วัสดุที่ทนทานและมีเทคโนโลยีที่ช่วยรองรับและป้องกันการบาดเจ็บ ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป 🔹ดีไซน์ : ดีไซน์ของรองเท้า NoBull มักเน้นความเรียบง่ายและฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าความหรูหราหรือแฟชั่น 🔹ฟังก์ชันการใช้งาน : NoBull ให้ความสำคัญกับฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก ถูกออกแบบมาให้ทนทาน รองรับแรงกระแทกได้ดี และเหมาะสำหรับการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย 🔹ขยายตลาด : หลังจากประสบความสำเร็จในกลุ่มนัก Crossfit NoBull ก็เริ่มขยายตลาดไปสู่กลุ่มผู้ใช้อื่นๆ เช่น นักวิ่ง นักยกน้ำหนัก นักกอล์ฟ และคนทำงาน 🔹ไลน์ผลิตภัณฑ์ : นอกจากรองเท้าแล้ว NoBull ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เสื้อผ้า และอุปกรณ์เสริมสำหรับการออกกำลังกาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • #พี่คิงส์ให้ผู้เชี่ยวชาญฟังได้ข้อสรุปดังนี้
    1. อิเหวิงฝอยเรื่องความสำเร็จในการทำตต.
    2. ในเกาหลียังไม่ค่อยมีใครทำคอนเท้น ตต.
    3. อิเหวิงบอกว่า ตัวเองสำเร็จ ต้องอาศัยความอดทน
    4. เอเจนซี่บอกว่า อิเหวิงคือความสำเร็จแรกของบริษัท
    "คนนี้เป็น​ เอเจนซี่หรือเจ้าของบริษั​ทค่ะ​ แน่นอน แต่ฟังรวมๆเหมือน​นางเพิ่งได้เข้าร่วม​บริษัท​ไม่นาน​ แล้วบริษัท​ก็หาทางพยายาม​พลักดันนาง​ เพราะเห็นแวว​ การเป็นศิลปิน​ของนาง​ ประมาณ​นี้ค่ะ​"
    ชัดยัง ไอ่พวกทุย
    มีเอเจนซี่ มันคือการแสดง
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    #พี่คิงส์ให้ผู้เชี่ยวชาญฟังได้ข้อสรุปดังนี้ 1. อิเหวิงฝอยเรื่องความสำเร็จในการทำตต. 2. ในเกาหลียังไม่ค่อยมีใครทำคอนเท้น ตต. 3. อิเหวิงบอกว่า ตัวเองสำเร็จ ต้องอาศัยความอดทน 4. เอเจนซี่บอกว่า อิเหวิงคือความสำเร็จแรกของบริษัท "คนนี้เป็น​ เอเจนซี่หรือเจ้าของบริษั​ทค่ะ​ แน่นอน แต่ฟังรวมๆเหมือน​นางเพิ่งได้เข้าร่วม​บริษัท​ไม่นาน​ แล้วบริษัท​ก็หาทางพยายาม​พลักดันนาง​ เพราะเห็นแวว​ การเป็นศิลปิน​ของนาง​ ประมาณ​นี้ค่ะ​" ชัดยัง ไอ่พวกทุย มีเอเจนซี่ มันคือการแสดง ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศใต้

    เดือนนี้ เพราะจะมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆเข้ามาอย่างมากมาย จึงเหมาะสำหรับการเริ่มต้นประกอบธุรกิจกิจการใหม่ๆจะโชคดี ธุรกิจจะมีชื่อเสียงก้าวสู่ความสำเร็จระดับโลกได้ โดยเฉพาะธุรกิจรถยนต์หรือประดับยนต์จะเจริญรุ่งเรือง แต่การประชุมพบปะตกลงเจรจาทำสัญญาต่างๆกลับมีโอกาสจะไม่สำเร็จลงตัว ควรถนอมน้ำใจกันไว้เพื่อภายภาคหน้าเพราะมีเกณฑ์จะเกิดการแข่งขันแย่งชิงผลประโยชน์อย่างรุนแรง เกิดศัตรูคู่แข่งทั้งภายในและภายนอกที่ทำงาน อีกทั้งจะเกิดเรื่องชู้สาวให้วุ่นวายจนขาดความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกันเป็นเหตุให้ขัดแย้งแตกแยกเกิดการปะทะอารมณ์ต่อกันให้บานปลาย ระวังภัยอันเกิดเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ อุบัติภัยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือภัยอุบัติเหตุจากของมีคม มีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บเลือดตกยางออกต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาพยาบาล
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศใต้ เดือนนี้ เพราะจะมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆเข้ามาอย่างมากมาย จึงเหมาะสำหรับการเริ่มต้นประกอบธุรกิจกิจการใหม่ๆจะโชคดี ธุรกิจจะมีชื่อเสียงก้าวสู่ความสำเร็จระดับโลกได้ โดยเฉพาะธุรกิจรถยนต์หรือประดับยนต์จะเจริญรุ่งเรือง แต่การประชุมพบปะตกลงเจรจาทำสัญญาต่างๆกลับมีโอกาสจะไม่สำเร็จลงตัว ควรถนอมน้ำใจกันไว้เพื่อภายภาคหน้าเพราะมีเกณฑ์จะเกิดการแข่งขันแย่งชิงผลประโยชน์อย่างรุนแรง เกิดศัตรูคู่แข่งทั้งภายในและภายนอกที่ทำงาน อีกทั้งจะเกิดเรื่องชู้สาวให้วุ่นวายจนขาดความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกันเป็นเหตุให้ขัดแย้งแตกแยกเกิดการปะทะอารมณ์ต่อกันให้บานปลาย ระวังภัยอันเกิดเนื่องจากเหตุเพลิงไหม้ อุบัติภัยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือภัยอุบัติเหตุจากของมีคม มีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บเลือดตกยางออกต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาพยาบาล ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • พากันจูงมือเข้าอ่านริ้วววว………พี่ปูเขากำลังจะรุ่งในสายการเมืองแล้ววว………!!!!

    ตอนห้า…..เมื่อราศีจับ……อะไรๆก็ฉุดไม่อยู่……!!!

    เท่ากับว่า ตอนนี้ปูตินมีสองร่างในบุคคลคนเดียวกัน เขาได้มาเป็นที่ปรึกษาให้กับอนาโตลี แต่ยังคงนั่งทำงานประจำที่มหาวิทยาลัย
    ส่วนที่สำนักงาน KGB. เขาจะแวะเข้าไปเป็นครั้งเป็นคราว
    จนวันหนึ่งในช่วงปลายปี 1990 ที่มีคณาจารย์จาก Saint Petersburg University จาก Florida, USA ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนมหาวิทยาลัย
    ในเลนินกราด ในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และแบบแผนการศึกษา
    ตัวผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นอธิการบดี Dr. Carl M. Kuttler jr. ได้เดินทางมาด้วย
    ผู้ที่ทำหน้าที่ต้อนรับ คือ วลาดิเมียร์ ปูติน ที่เป็นผู้ประสานงานทุกอย่าง
    ตั้งแต่ชมมหาวิทยาลัย ไปเที่ยวนอกเมือง ซึ่งตอนนั้นเป็นภาวะที่น้ำมันขาดแคลนในโซเวียต
    รถลีมูซีนของท่านอธิการบดี เกิดน้ำมันหมด……ปูตินสามารถสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐนำน้ำมันมาเติมให้ถึงที่ได้ด้วย
    คาร์ลจึงแปลกใจมาก……เขาแทบไม่เชื่อว่าคณบดีธรรมดาๆ คนนี้ สามารถตอบคำถามได้หมด ตั้งแต่เรื่องการเมือง เศรษฐกิจ และการต่างประเทศ
    ซ้ำยังเรียกหน่วยงานมาจัดการเรื่องเส้นทางและน้ำมันให้ได้อีก
    ทุกอย่างได้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ตลอดทั้งสิบวัน……

    ในคืนเกือบสุดท้ายที่คณะจากอเมริกาจะจากไป มีการจัดเลี้ยงอำลา
    ปูตินจึงนำอนาโตลีไปแนะนำให้รู้จักในฐานะเจ้านาย และ ในฐานะของนายกเทศมนตรีของเมือง
    ระหว่างการสนทนา คาร์ลได้เชื้อเชิญให้อนาโตลีไปเยี่ยมเยียนที่อเมริกาบ้าง
    แต่อนาโตลี คือชาวรัสเชี่ยนแท้ๆ ที่ปากกับใจตรงกัน ได้ตอบกลับไปว่า
    “พวกเราไม่มีทุนรอนขนาดนั้น มันไกลเกินฝัน…”
    คาร์ลก็เป็นอเมริกันสายป๋า……เขาตอบทันทีว่า
    “งั้นผมจะลองไปจัดการหาสปอนเซอร์ให้เอง……โปรดอย่าเป็นกังวล”

    ในที่สุด อนาโตลีและคณะก็ได้ไปเยือนอเมริกาสมใจ ด้วยทุนของ Procter & Gamble และได้เข้าพบกับประธานาธิบดี George H.W. Bush
    เขาได้ดูงานเทศบาลของเมือง Saint Petersburg, Florida **ที่มีนโยบายเข้มโดยไม่มีการอนุญาตให้ตัดต้นไม้ใดๆได้ จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากทางการ
    เมื่ออนาโตลีกลับมาถึงโซเวียต สิ่งแรกที่เขาทำคือ ทำการบรรจุปูตินในทีมงานอย่างเป็นทางการ จากความดีความชอบที่สามารถเชื่อมโยงจนได้ไปอเมริกา
    การทำงานกับอนาโตลี……ปูตินเริ่มมองเห็นอะไรอีกด้านหนึ่งที่เขาไม่ได้มองมาก่อน เช่น เรื่องความเสมอภาค ที่อนาโตลีมักพูดเสมอว่า
    “เราคุ้นเคยกับความรุนแรงมาตั้งแต่เกิด จนเห็นเป็นเรื่องปรกติ เราต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ระแวง กับการที่จะมีคนมาคอยจ้องจับ นั่นมันไม่ใช่วิสัยการเป็นอยู่ของมนุษยชน”
    หรือ “ เราไม่จำเป็นต้องไปฆ่าฟันผู้คนกลุ่มหนึ่งให้ตาย
    เพื่อสนองตัญหาของคนอีกกลุ่มหนึ่ง……”

    เขาทั้งสองคนมีความแตกต่างกันอย่างสุดโต่ง อายุต่างกัน (12 ปี)
    นิสัยต่างกัน คนหนึ่งรื่นเริง หัวเราะง่าย อารมณ์ดี
    อีกคนหนึ่ง หน้าเครียด ยิ้มยาก ระวังตัวตลอดเวลา
    แต่อนาโตลี……พยายามผลักดันปูตินให้เข้ามาในวงจรของความคิดใหม่
    ปูตินแยกแยะเรื่องงานได้ดี เขาไม่เคยเออออห่อหมกกับทัศนคติของอนาโตลีที่มีต่อโซเวียต เพราะเขายังเป็น KGB ที่ยังต้องซื่อสัตย์กับงาน
    และเขาได้เห็นว่า งานเทศมนตรีที่อนาโตลีทำอยู่นั้น เป็นการเล่นการเมืองเสียส่วนใหญ่ งานด้านทำนุบำรุงประชาชนในส่วนสาธารณูปโภคมีน้อยมาก……

    ในปีนั้น ปี 1991 เศรษฐกิจของโซเวียตฝืดเคือง ข้าวของทุกอย่างหายไปตลาด ชั้นขายของว่างเปล่า อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน การประท้วงได้เกิดขึ้นตามชายขอบของประเทศ กอร์บาเชฟสั่งให้หน่วยทหารและ KGB เตรียมกำลังให้พร้อม เพื่อที่จะไปปราบม็อบ ผลจากการปะทะ ผู้ต่อต้านเสียชีวิตไป 14 คน
    ลิธัวเนีย…ประกาศท้าทายโซเวียตด้วยการจัดการลงคะแนนเสียงเพื่อขอเป็นอิสระ กอร์บาเชฟไม่ยอมรับมติของการลงคะแนน โดยอ้างว่าผิดกฎหมาย
    แต่กระแสเรียกร้อง เรียกหาความเป็นธรรมเริ่มหนาหูขึ้น

    เดือนเมยายน โซเวียต ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภา ที่มีทั้งฝ่ายคอมมิวนิสต์
    และฝ่ายสังคมนิยม ที่จะต้องชิงที่นั่งกัน ผลที่ได้คือ Boris Yelzin ได้ตำแหน่งประธานสภา อันเป็นที่ไม่พอใจกอร์บาเชฟเป็นอย่างยิ่ง
    เพราะคนละวิสัยทัศน์ และ เขาไม่เข้าใจเลยว่า คนที่ดื่มสุราจัด พูดไม่เป็นภาษามนุษย์ จะมาทำงานใหญ่ได้อย่างไร…
    แต่กระแสนิยมในตัวเยลซินกลับเพิ่มขึ้นทุกวัน จนบดบังรัศมี
    ของกอร์บาเชฟจนหมดสิ้น
    คอมมิวนิสต์อยู่ในกระแสขาลง ……ประชาชนฝ่ายใฝ่สังคมนิยมผสมประชาธิปไตยในสายงานของอนาโตลีทำการเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อเมือง
    จากเลนินกราด……ให้กลับไปเป็นเหมือนก่อนเก่า คือ St. Petersburg ซึ่งได้รับเสียงตอบรับในสภาเกินครึ่ง
    ปูติน……วางตัวเงียบสงบ ตั้งแต่เขาได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในฐานะนักการเมือง เขาได้ลาออกจากการเป็นคณบดีที่มหาวิทยาลัย คอยเฝ้าดูสถานะการณ์ของพรรคการเมืองต่างๆที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เขาเป็นที่ไว้วางใจของอนาโตลี ถึงขนาดที่เซ็นลงในกระดาษเปล่าให้ปูตินเอาไว้เขียนสั่งงานแทน

    วันที่ 17 สิงหาคม 1991 ปูตินได้พาครอบครัวไปเที่ยววันหยุด
    ที่ฝั่งทะเลบอลติค อนาโตลีไปพักผ่อนที่กึ่งประชุมงานที่ลิธัวเนีย
    ไม่มีใครรู้ว่า วันต่อมา คือวันที่ 18 เป็นวันที่ Gorbachev, Yeltzin และผู้นำจาก Kazakhstan มีการประชุมลับกันในการที่จะปรับเปลี่ยนทอนอำนาจในเครมลิน
    แต่ความลับรั่ว……เพราะการประชุมไม่ได้เกิดขึ้น กอร์บาเชฟได้ถูกควบคุมตัวไปขังในบ้านพักตากอากาศของเขาเอง (house arrest) แบบปฏิวัติเงียบจากกลุ่มต่อต้านภายใน หนึ่งในทีมหัวหน้าปฏิบัติการ คือ Vladimir Kryuchkov ผู้อำนวยการใหญ่ KGB
    และจากนั้น……ทั้งประเทศตกอยู่ในการคุมเข้มของกฏอัยการศึก
    ปูตินทราบข่าวจากการประกาศฉุกเฉินทางโทรทัศน์
    อนาโตลี ทราบข่าวจากโทรศัพท์ที่ปลุกกลางดึก ทำให้เขาต้องรีบบินกลับพร้อมกับผู้ติดตามหนึ่งคน ซึ่งทางคณะประกอบการได้ส่งการ์ดพร้อมอาวุธไปเตรียมควบคุมตัวเขาถึงสามคน
    แต่เมื่อถึงสนามบิน การ์ดสามคนนั่น ไม่ได้ทำตามคำสั่ง แถมยังช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับอนาโตลีจนบินกลับถึงมอสโคว์ได้อย่างปลอดภัย

    ปูตินรีบกลับมา เพื่ออยู่ในทีมงานของอนาโตลี เพราะเขารู้สึกเอียนกับการยึดอำนาจแบบนี้ เพราะตลอดชีวิตของเขาก็เจอแต่เหตุการณ์แบบนี้ แล้วผลมันเป็นอย่างไรก็เห็นๆกันอยู่ว่าประเทศได้ย่ำเท้าถอยหลัง ทรุดโทรมลงไปทุกวัน
    เขาตัดสินใจเขียนใบลาออกจาก KGB หลังจากที่ 16 ปีที่ใช้ชีวิตในเส้นทางนั้น พอกันที…
    เป็นไปตามคาด……การปฏิวัติโดยฝ่ายทหารและ KGB ในครั้งนี้ ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาด เพราะประชาชนไม่ยอมรับ

    เพียงแค่สองวัน กอร์บาเขฟก็ได้รับอิสรภาพออกมาจากบ้านพัก Boris Yeltzin ได้รับความนิยม
    อนาโตลีก็เช่นกัน เขากลายเป็นตัวแทนของความเป็นประชาธิปไตยในเลนินกราด ปูตินก็ถือเป็นโชคที่เข้าข้าง เพราะเขาตัดสินในเลือกถูกฝั่ง……เพราะถ้าเขายังอยู่ในราชการ แน่นอนว่า……เขาคงจบชีวิตราชการที่ศาลทหารอย่างเดียวกับ Vladimir Kryuchkov

    เขาควรจะดีใจ……แต่ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด ที่เห็นองค์กร KGB ที่เหมือนจิตวิญญาณศักดิศรีของลูกผู้ชายนั้นได้ล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา……

    ตามคาดคือ Yeltzin ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของรัสเซีย (ใหม่) เขาได้ทำการยุบกลุ่มพรรคที่นิยมคอมมิวนิสต์
    อนาโตลี ก็ก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลสำคัญแห่งเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก และก็ได้ทำการอย่างเดียวกับเยลซิน คือ ไล่บี้กลุ่มคอมมิวนิสต์ เขาได้แต่งตั้งให้ปูตินเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจและการต่างประเทศ โดยมีที่ทำการใหม่ที่หรูหราสมฐานะ
    ภาพของเลนินได้ถูกปลดออกจากทุกห้อง โดยนำภาพของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชขึ้นไปแขวนแทน
    ธงแดงที่มีตราฆ้อนเคียว ถูกปลดลงหมด แต่ยังหาธงอื่นแทนไม่ได้ (ผลิตใหม่ยังไม่ทัน เสร็จพร้อมเมื่อ 1 พฤศจิกายน) ปูตินได้สั่งให้ถอนเสาธงออกไปเลย……

    ตอนนั้นเป็นยุคที่ต้องมีสื่อทีวีเพื่อการโปรประกันดา อนาโตลี
    ให้สัมภาษณ์จนแทบไม่มีเวลาหายใจ เขาจึงมอบหมาย
    ให้ปูตินรับช่วงต่อไปแทน ที่เป็นการสัมภาษณ์แบบสด ไม่มีสคริปต์ ที่เขาทำให้ทุกคนทึ่งในความสามารถ เพราะปูตินสามารถตอบทุกอย่างได้แบบมือโปร ด้วยท่าทางที่มั่นใจ และเต็มไปด้วยพลังของการทำงาน
    แต่ในสุดท้ายของการสัมภาษณ์ สื่อได้ถามวนเวียนถึงเรื่องการเป็นสายลับของเขา……
    ปูตินเริ่มรำคาญ ……”ดูคุณจะหาคำอธิบายให้ได้ใช่ไหม?”
    สื่อ “ ก็แน่ละซิ เพราะการที่ได้พบกับอดีต KGB ที่ไม่ได้ปกปิดตัวตนนั้น มันง่ายซะที่ไหน..”
    ปูติน……”คุณไม่มีทางรู้เลยว่า คุณอาจได้พบพวกเขาบ่อยๆแล้วโดยที่คุณไม่รู้ตัว………แต่เขาจะรู้เสมอว่าคุณเป็นใคร…แล้วคุณลองดูในอเมริกา นายจอร์จ บุช ก็คืออดีตซีไอเอ…แล้วไง?”
    สื่อ……”#%&฿$€€”

    หลังจากหมัดเด็ดในการสัมภาษณ์นั้นได้ออกทีวีไป
    อาคันตุกะคนแรกที่เข้ามาพบกับปูตินถึงที่ทำงาน ใน Smolny Institute
    คือ Igor Sechin ***เป็นเพื่อนรุ่นน้องในมหาวิทยาลัย และเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในภาษาโปรตุเกส, ฝรั่งเศส และ อังกฤษ เคยเป็นล่ามให้กับกองทัพ
    และ…..เป็นอดีต KGB เช่นกัน……
    แทบไม่ต้องเดา……อิกอร์ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในทีมทำงานเป็นหูเป็นตาให้กับปูติน
    จากนั้น……พรรคพวกเดิมๆที่มีความสามารถอย่างอิกอร์ก็ตบเข้าเข้ามาเสริมกำลัง จนในที่สุด ทั้งออฟฟิศของอนาโตลี
    มีแต่เจ้าหน้าที่ที่เป็นอดีต KGB เป็นส่วนใหญ่

    ปูตินพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยใช้ความสามารถที่มีทั้งหมดตั้งแต่เป็นสายลับ นักกฎหมาย ภาษาเยอรมัน การเมืองและเศรษฐศาสตร์ในการทำงาน เขาเชื่อเสมอว่า รัสเซียสามารถเป็นประเทศที่มีหลักการในการปกครองระบบสังคมนิยมผสมประชาธิปไตยได้ หากประชาชนอยู่ดีกินดี
    เพื่อนที่ใกล้ชิด ที่รู้นิสัยกันดี เขาเอามาทำงานด้วยหมด และทุกคนต่างได้รับผลตอบแทนเข้าขั้นอภิมหาเศรษฐีด้วยกันแทบทั้งนั้น
    แต่.……นั่นหมายความว่า รัฐบาลต้องมีหุ้นอยู่ด้วย.……พร้อมเข้าตรวจสอบได้
    การพัฒนาในเรื่องอุตสาหกรรมพลังงานจะต้องมาเป็นอันดับแรกที่ต้องพัฒนาให้ล้ำที่สุด
    ซึ่งเป็นความคิดที่สอดคล้องกับอนาโตลี ที่ตอนนั้นมีบารมีพอๆกันกับเยลซิน……
    ปูตินกลายเป็นกลไกสำคัญของเหล่าอาคันตุกะที่มาเยี่ยมเยือน และสร้างสัมพันธไมตรีต่างประเทศ ตั้งแต่ รมต. ต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา James Baker,ไปอังกฤษเพื่อพบปะกับ John Major นายกรัฐมนตรี, ไปเยอรมันเพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี Helmut Kohl (และทำหน้าที่เป็นล่ำเป็นสัน)
    หรือเมื่อ Henry Kissinger ได้บินมาที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก
    ปูตินไปรับที่สนามบิน และนำไปสู่ที่พัก ในการสนทนากัน
    คิสซิงเจอร์ได้บอกกับปูตินว่า
    “คนที่ทำงานเก่งๆเนี่ย เริ่มต้นมาจากหน่วยราชการลับกันทั้งนั้น”

    ปูตินยิ้มนิดๆ ตอบไปว่า “อย่างผมนี่ไง……..!!”

    **ที่ Florida, USA. มีเมืองที่ชื่อว่า Saint Petersburg เช่นกัน

    ***จำชื่อนี้ไว้นะคะ Igor Sechin เพราะต่อมาเขาคือกลไกสำคัญในการเป็นแขนขาในการทำงาน เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี เมื่อปูตินเป็นนายกฯ
    อิกอร์ดูแลควบคุมการอุตสาหกรรมแร่ รวมไปถึงพลังงานและเป็น CEO บริษัท Rosneft ก๊าสและน้ำมัน ที่ใหญ่อันดับสามของรัสเซีย
    ตัวเขาเองที่เปรียบเสมือนมือขวาของปูตินจนถึงบัดนี้
    และตะวันตก……ได้ให้สถานะเขาว่า เป็นผู้มีอำนาจที่สองรองลงไปจากปูติน

    หรือแม้แต่ Alexey Miller CEO ของ Gazprom บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียก็เป็นเด็กในคาถาของปูติน
    เพราะปั้นมากับมือตั้งแต่เขาเริ่มเลือกเส้นทางสายการเมือง

    Wiwanda W. Vichit
    พากันจูงมือเข้าอ่านริ้วววว………พี่ปูเขากำลังจะรุ่งในสายการเมืองแล้ววว………!!!! ตอนห้า…..เมื่อราศีจับ……อะไรๆก็ฉุดไม่อยู่……!!! เท่ากับว่า ตอนนี้ปูตินมีสองร่างในบุคคลคนเดียวกัน เขาได้มาเป็นที่ปรึกษาให้กับอนาโตลี แต่ยังคงนั่งทำงานประจำที่มหาวิทยาลัย ส่วนที่สำนักงาน KGB. เขาจะแวะเข้าไปเป็นครั้งเป็นคราว จนวันหนึ่งในช่วงปลายปี 1990 ที่มีคณาจารย์จาก Saint Petersburg University จาก Florida, USA ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนมหาวิทยาลัย ในเลนินกราด ในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และแบบแผนการศึกษา ตัวผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นอธิการบดี Dr. Carl M. Kuttler jr. ได้เดินทางมาด้วย ผู้ที่ทำหน้าที่ต้อนรับ คือ วลาดิเมียร์ ปูติน ที่เป็นผู้ประสานงานทุกอย่าง ตั้งแต่ชมมหาวิทยาลัย ไปเที่ยวนอกเมือง ซึ่งตอนนั้นเป็นภาวะที่น้ำมันขาดแคลนในโซเวียต รถลีมูซีนของท่านอธิการบดี เกิดน้ำมันหมด……ปูตินสามารถสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐนำน้ำมันมาเติมให้ถึงที่ได้ด้วย คาร์ลจึงแปลกใจมาก……เขาแทบไม่เชื่อว่าคณบดีธรรมดาๆ คนนี้ สามารถตอบคำถามได้หมด ตั้งแต่เรื่องการเมือง เศรษฐกิจ และการต่างประเทศ ซ้ำยังเรียกหน่วยงานมาจัดการเรื่องเส้นทางและน้ำมันให้ได้อีก ทุกอย่างได้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ตลอดทั้งสิบวัน…… ในคืนเกือบสุดท้ายที่คณะจากอเมริกาจะจากไป มีการจัดเลี้ยงอำลา ปูตินจึงนำอนาโตลีไปแนะนำให้รู้จักในฐานะเจ้านาย และ ในฐานะของนายกเทศมนตรีของเมือง ระหว่างการสนทนา คาร์ลได้เชื้อเชิญให้อนาโตลีไปเยี่ยมเยียนที่อเมริกาบ้าง แต่อนาโตลี คือชาวรัสเชี่ยนแท้ๆ ที่ปากกับใจตรงกัน ได้ตอบกลับไปว่า “พวกเราไม่มีทุนรอนขนาดนั้น มันไกลเกินฝัน…” คาร์ลก็เป็นอเมริกันสายป๋า……เขาตอบทันทีว่า “งั้นผมจะลองไปจัดการหาสปอนเซอร์ให้เอง……โปรดอย่าเป็นกังวล” ในที่สุด อนาโตลีและคณะก็ได้ไปเยือนอเมริกาสมใจ ด้วยทุนของ Procter & Gamble และได้เข้าพบกับประธานาธิบดี George H.W. Bush เขาได้ดูงานเทศบาลของเมือง Saint Petersburg, Florida **ที่มีนโยบายเข้มโดยไม่มีการอนุญาตให้ตัดต้นไม้ใดๆได้ จนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากทางการ เมื่ออนาโตลีกลับมาถึงโซเวียต สิ่งแรกที่เขาทำคือ ทำการบรรจุปูตินในทีมงานอย่างเป็นทางการ จากความดีความชอบที่สามารถเชื่อมโยงจนได้ไปอเมริกา การทำงานกับอนาโตลี……ปูตินเริ่มมองเห็นอะไรอีกด้านหนึ่งที่เขาไม่ได้มองมาก่อน เช่น เรื่องความเสมอภาค ที่อนาโตลีมักพูดเสมอว่า “เราคุ้นเคยกับความรุนแรงมาตั้งแต่เกิด จนเห็นเป็นเรื่องปรกติ เราต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ระแวง กับการที่จะมีคนมาคอยจ้องจับ นั่นมันไม่ใช่วิสัยการเป็นอยู่ของมนุษยชน” หรือ “ เราไม่จำเป็นต้องไปฆ่าฟันผู้คนกลุ่มหนึ่งให้ตาย เพื่อสนองตัญหาของคนอีกกลุ่มหนึ่ง……” เขาทั้งสองคนมีความแตกต่างกันอย่างสุดโต่ง อายุต่างกัน (12 ปี) นิสัยต่างกัน คนหนึ่งรื่นเริง หัวเราะง่าย อารมณ์ดี อีกคนหนึ่ง หน้าเครียด ยิ้มยาก ระวังตัวตลอดเวลา แต่อนาโตลี……พยายามผลักดันปูตินให้เข้ามาในวงจรของความคิดใหม่ ปูตินแยกแยะเรื่องงานได้ดี เขาไม่เคยเออออห่อหมกกับทัศนคติของอนาโตลีที่มีต่อโซเวียต เพราะเขายังเป็น KGB ที่ยังต้องซื่อสัตย์กับงาน และเขาได้เห็นว่า งานเทศมนตรีที่อนาโตลีทำอยู่นั้น เป็นการเล่นการเมืองเสียส่วนใหญ่ งานด้านทำนุบำรุงประชาชนในส่วนสาธารณูปโภคมีน้อยมาก…… ในปีนั้น ปี 1991 เศรษฐกิจของโซเวียตฝืดเคือง ข้าวของทุกอย่างหายไปตลาด ชั้นขายของว่างเปล่า อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน การประท้วงได้เกิดขึ้นตามชายขอบของประเทศ กอร์บาเชฟสั่งให้หน่วยทหารและ KGB เตรียมกำลังให้พร้อม เพื่อที่จะไปปราบม็อบ ผลจากการปะทะ ผู้ต่อต้านเสียชีวิตไป 14 คน ลิธัวเนีย…ประกาศท้าทายโซเวียตด้วยการจัดการลงคะแนนเสียงเพื่อขอเป็นอิสระ กอร์บาเชฟไม่ยอมรับมติของการลงคะแนน โดยอ้างว่าผิดกฎหมาย แต่กระแสเรียกร้อง เรียกหาความเป็นธรรมเริ่มหนาหูขึ้น เดือนเมยายน โซเวียต ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภา ที่มีทั้งฝ่ายคอมมิวนิสต์ และฝ่ายสังคมนิยม ที่จะต้องชิงที่นั่งกัน ผลที่ได้คือ Boris Yelzin ได้ตำแหน่งประธานสภา อันเป็นที่ไม่พอใจกอร์บาเชฟเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนละวิสัยทัศน์ และ เขาไม่เข้าใจเลยว่า คนที่ดื่มสุราจัด พูดไม่เป็นภาษามนุษย์ จะมาทำงานใหญ่ได้อย่างไร… แต่กระแสนิยมในตัวเยลซินกลับเพิ่มขึ้นทุกวัน จนบดบังรัศมี ของกอร์บาเชฟจนหมดสิ้น คอมมิวนิสต์อยู่ในกระแสขาลง ……ประชาชนฝ่ายใฝ่สังคมนิยมผสมประชาธิปไตยในสายงานของอนาโตลีทำการเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อเมือง จากเลนินกราด……ให้กลับไปเป็นเหมือนก่อนเก่า คือ St. Petersburg ซึ่งได้รับเสียงตอบรับในสภาเกินครึ่ง ปูติน……วางตัวเงียบสงบ ตั้งแต่เขาได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในฐานะนักการเมือง เขาได้ลาออกจากการเป็นคณบดีที่มหาวิทยาลัย คอยเฝ้าดูสถานะการณ์ของพรรคการเมืองต่างๆที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เขาเป็นที่ไว้วางใจของอนาโตลี ถึงขนาดที่เซ็นลงในกระดาษเปล่าให้ปูตินเอาไว้เขียนสั่งงานแทน วันที่ 17 สิงหาคม 1991 ปูตินได้พาครอบครัวไปเที่ยววันหยุด ที่ฝั่งทะเลบอลติค อนาโตลีไปพักผ่อนที่กึ่งประชุมงานที่ลิธัวเนีย ไม่มีใครรู้ว่า วันต่อมา คือวันที่ 18 เป็นวันที่ Gorbachev, Yeltzin และผู้นำจาก Kazakhstan มีการประชุมลับกันในการที่จะปรับเปลี่ยนทอนอำนาจในเครมลิน แต่ความลับรั่ว……เพราะการประชุมไม่ได้เกิดขึ้น กอร์บาเชฟได้ถูกควบคุมตัวไปขังในบ้านพักตากอากาศของเขาเอง (house arrest) แบบปฏิวัติเงียบจากกลุ่มต่อต้านภายใน หนึ่งในทีมหัวหน้าปฏิบัติการ คือ Vladimir Kryuchkov ผู้อำนวยการใหญ่ KGB และจากนั้น……ทั้งประเทศตกอยู่ในการคุมเข้มของกฏอัยการศึก ปูตินทราบข่าวจากการประกาศฉุกเฉินทางโทรทัศน์ อนาโตลี ทราบข่าวจากโทรศัพท์ที่ปลุกกลางดึก ทำให้เขาต้องรีบบินกลับพร้อมกับผู้ติดตามหนึ่งคน ซึ่งทางคณะประกอบการได้ส่งการ์ดพร้อมอาวุธไปเตรียมควบคุมตัวเขาถึงสามคน แต่เมื่อถึงสนามบิน การ์ดสามคนนั่น ไม่ได้ทำตามคำสั่ง แถมยังช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับอนาโตลีจนบินกลับถึงมอสโคว์ได้อย่างปลอดภัย ปูตินรีบกลับมา เพื่ออยู่ในทีมงานของอนาโตลี เพราะเขารู้สึกเอียนกับการยึดอำนาจแบบนี้ เพราะตลอดชีวิตของเขาก็เจอแต่เหตุการณ์แบบนี้ แล้วผลมันเป็นอย่างไรก็เห็นๆกันอยู่ว่าประเทศได้ย่ำเท้าถอยหลัง ทรุดโทรมลงไปทุกวัน เขาตัดสินใจเขียนใบลาออกจาก KGB หลังจากที่ 16 ปีที่ใช้ชีวิตในเส้นทางนั้น พอกันที… เป็นไปตามคาด……การปฏิวัติโดยฝ่ายทหารและ KGB ในครั้งนี้ ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาด เพราะประชาชนไม่ยอมรับ เพียงแค่สองวัน กอร์บาเขฟก็ได้รับอิสรภาพออกมาจากบ้านพัก Boris Yeltzin ได้รับความนิยม อนาโตลีก็เช่นกัน เขากลายเป็นตัวแทนของความเป็นประชาธิปไตยในเลนินกราด ปูตินก็ถือเป็นโชคที่เข้าข้าง เพราะเขาตัดสินในเลือกถูกฝั่ง……เพราะถ้าเขายังอยู่ในราชการ แน่นอนว่า……เขาคงจบชีวิตราชการที่ศาลทหารอย่างเดียวกับ Vladimir Kryuchkov เขาควรจะดีใจ……แต่ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด ที่เห็นองค์กร KGB ที่เหมือนจิตวิญญาณศักดิศรีของลูกผู้ชายนั้นได้ล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา…… ตามคาดคือ Yeltzin ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของรัสเซีย (ใหม่) เขาได้ทำการยุบกลุ่มพรรคที่นิยมคอมมิวนิสต์ อนาโตลี ก็ก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลสำคัญแห่งเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก และก็ได้ทำการอย่างเดียวกับเยลซิน คือ ไล่บี้กลุ่มคอมมิวนิสต์ เขาได้แต่งตั้งให้ปูตินเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจและการต่างประเทศ โดยมีที่ทำการใหม่ที่หรูหราสมฐานะ ภาพของเลนินได้ถูกปลดออกจากทุกห้อง โดยนำภาพของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชขึ้นไปแขวนแทน ธงแดงที่มีตราฆ้อนเคียว ถูกปลดลงหมด แต่ยังหาธงอื่นแทนไม่ได้ (ผลิตใหม่ยังไม่ทัน เสร็จพร้อมเมื่อ 1 พฤศจิกายน) ปูตินได้สั่งให้ถอนเสาธงออกไปเลย…… ตอนนั้นเป็นยุคที่ต้องมีสื่อทีวีเพื่อการโปรประกันดา อนาโตลี ให้สัมภาษณ์จนแทบไม่มีเวลาหายใจ เขาจึงมอบหมาย ให้ปูตินรับช่วงต่อไปแทน ที่เป็นการสัมภาษณ์แบบสด ไม่มีสคริปต์ ที่เขาทำให้ทุกคนทึ่งในความสามารถ เพราะปูตินสามารถตอบทุกอย่างได้แบบมือโปร ด้วยท่าทางที่มั่นใจ และเต็มไปด้วยพลังของการทำงาน แต่ในสุดท้ายของการสัมภาษณ์ สื่อได้ถามวนเวียนถึงเรื่องการเป็นสายลับของเขา…… ปูตินเริ่มรำคาญ ……”ดูคุณจะหาคำอธิบายให้ได้ใช่ไหม?” สื่อ “ ก็แน่ละซิ เพราะการที่ได้พบกับอดีต KGB ที่ไม่ได้ปกปิดตัวตนนั้น มันง่ายซะที่ไหน..” ปูติน……”คุณไม่มีทางรู้เลยว่า คุณอาจได้พบพวกเขาบ่อยๆแล้วโดยที่คุณไม่รู้ตัว………แต่เขาจะรู้เสมอว่าคุณเป็นใคร…แล้วคุณลองดูในอเมริกา นายจอร์จ บุช ก็คืออดีตซีไอเอ…แล้วไง?” สื่อ……”#%&฿$€€” หลังจากหมัดเด็ดในการสัมภาษณ์นั้นได้ออกทีวีไป อาคันตุกะคนแรกที่เข้ามาพบกับปูตินถึงที่ทำงาน ใน Smolny Institute คือ Igor Sechin ***เป็นเพื่อนรุ่นน้องในมหาวิทยาลัย และเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในภาษาโปรตุเกส, ฝรั่งเศส และ อังกฤษ เคยเป็นล่ามให้กับกองทัพ และ…..เป็นอดีต KGB เช่นกัน…… แทบไม่ต้องเดา……อิกอร์ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในทีมทำงานเป็นหูเป็นตาให้กับปูติน จากนั้น……พรรคพวกเดิมๆที่มีความสามารถอย่างอิกอร์ก็ตบเข้าเข้ามาเสริมกำลัง จนในที่สุด ทั้งออฟฟิศของอนาโตลี มีแต่เจ้าหน้าที่ที่เป็นอดีต KGB เป็นส่วนใหญ่ ปูตินพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยใช้ความสามารถที่มีทั้งหมดตั้งแต่เป็นสายลับ นักกฎหมาย ภาษาเยอรมัน การเมืองและเศรษฐศาสตร์ในการทำงาน เขาเชื่อเสมอว่า รัสเซียสามารถเป็นประเทศที่มีหลักการในการปกครองระบบสังคมนิยมผสมประชาธิปไตยได้ หากประชาชนอยู่ดีกินดี เพื่อนที่ใกล้ชิด ที่รู้นิสัยกันดี เขาเอามาทำงานด้วยหมด และทุกคนต่างได้รับผลตอบแทนเข้าขั้นอภิมหาเศรษฐีด้วยกันแทบทั้งนั้น แต่.……นั่นหมายความว่า รัฐบาลต้องมีหุ้นอยู่ด้วย.……พร้อมเข้าตรวจสอบได้ การพัฒนาในเรื่องอุตสาหกรรมพลังงานจะต้องมาเป็นอันดับแรกที่ต้องพัฒนาให้ล้ำที่สุด ซึ่งเป็นความคิดที่สอดคล้องกับอนาโตลี ที่ตอนนั้นมีบารมีพอๆกันกับเยลซิน…… ปูตินกลายเป็นกลไกสำคัญของเหล่าอาคันตุกะที่มาเยี่ยมเยือน และสร้างสัมพันธไมตรีต่างประเทศ ตั้งแต่ รมต. ต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา James Baker,ไปอังกฤษเพื่อพบปะกับ John Major นายกรัฐมนตรี, ไปเยอรมันเพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี Helmut Kohl (และทำหน้าที่เป็นล่ำเป็นสัน) หรือเมื่อ Henry Kissinger ได้บินมาที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ปูตินไปรับที่สนามบิน และนำไปสู่ที่พัก ในการสนทนากัน คิสซิงเจอร์ได้บอกกับปูตินว่า “คนที่ทำงานเก่งๆเนี่ย เริ่มต้นมาจากหน่วยราชการลับกันทั้งนั้น” ปูตินยิ้มนิดๆ ตอบไปว่า “อย่างผมนี่ไง……..!!” **ที่ Florida, USA. มีเมืองที่ชื่อว่า Saint Petersburg เช่นกัน ***จำชื่อนี้ไว้นะคะ Igor Sechin เพราะต่อมาเขาคือกลไกสำคัญในการเป็นแขนขาในการทำงาน เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี เมื่อปูตินเป็นนายกฯ อิกอร์ดูแลควบคุมการอุตสาหกรรมแร่ รวมไปถึงพลังงานและเป็น CEO บริษัท Rosneft ก๊าสและน้ำมัน ที่ใหญ่อันดับสามของรัสเซีย ตัวเขาเองที่เปรียบเสมือนมือขวาของปูตินจนถึงบัดนี้ และตะวันตก……ได้ให้สถานะเขาว่า เป็นผู้มีอำนาจที่สองรองลงไปจากปูติน หรือแม้แต่ Alexey Miller CEO ของ Gazprom บริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียก็เป็นเด็กในคาถาของปูติน เพราะปั้นมากับมือตั้งแต่เขาเริ่มเลือกเส้นทางสายการเมือง Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 730 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คนไทยรึปล่าวววววว เวลคัมทูไทยแลนด์
    ถ้าข้อมูลนี้จริง ก็ถือว่าไม่แปลกเลย
    ทำไม โจตกขาว ถึงไม่แคร์คนไทย
    เพราะแค่เกิดในประเทศไทย
    แต่ไม่ได้มีพ่อแม่ปู่ย่าตายยายไทยเลย
    เรียกว่า แค่ได้สัญชาติ ถึงว่าๆๆๆๆ
    หลังจากชีวิตดิ่งเหว จิตเปื่อย รักษายังไม่มันหาย
    ก็เห็นออกมาทำตัวเป็นกูรูววว คนเก่งเรื่องการเงิน
    ทั้งชีวิตไม่เคยได้รับความสำเร็จอะไรเลยซักอย่าง
    แต่ถ้าอยากรวยแบบนาง
    ก็ต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวล้วนๆ
    ยกตัวอย่างเช่น การต้มคนไทยว่าตัวเองหยั่งรู้ฟ้าดิน อดีตและอนาคต
    แต่ไม่รู้เงาหัวตัวเอง พอมีทุยเชื่อมากๆ
    เปิดคอสสอนแม่มเลย หัวละหมื่นฉองหมื่น
    ฟูเฟื่องมาก ตั้งแต่ซากดจิกหมู่ในกลุ่ม DC
    คิดดู แฟนคลับอิเหวิงก่อนถูกเปิดมีเป็นล้าน
    ในกลุ่ม DC มีห้าพันที่พร้อมเปย์ เป๋าหนัก
    อิโจตกขาว ถ้ามีคนเรียนแค่ 1000 คนนะ
    ได้ไม่ต่ำกว่า 10-20 ล้านแล้ว
    หาแดรกกับความเชื่อของคน
    ไอ่ท็อปอีกตัว เดี๋ยวทำโพสแยกให้ จะได้สว่างวาบกันไป
    ไอ่ท็อปบอก ชอบๆ เปิดเลย จะได้ดัง เออ จัดไป
    เรื่องความใจดำเพือให้ตัวเองได้ประโยชน์ยังไม่จบแค่หาแดรกกับความเชื่อ
    ต้มคนไทยซั้ำแล้วซ้ำอีก
    กับการที่ไม่สนใจความรู้สึกของชาลี ที่เป็นคนไทยที่่ถูกกระทำ
    แต่เพื่อรักษาฐานลูกค้าตัวเอง ก็หันกลับมาสุมหัวกับคนที่เสียประโยชน์
    โดยเฉพาะไอ่ท็อป ที่ฟันธงกันทั้งคู่ ว่าอิเหวิงนี่ คู่แท้ชาลีข้ามภพข้ามชาติกันมา เป็นตุเป็นตะ
    แต่สุดท้าย หมอเดาทั้งสองตัว อิ๊บอ๋ายดิ เอาไงต่อ
    ก็ต้องหันไปที่อิเหวิงแทน เกาะเป็นปลิงเลยทีนี้
    หาเรื่องใส่ความน้องแน๊กว่าเปื่อยจิต มันกล่อมพวกทุยทุกวันนะ
    ฟังกันที่สามสี่ชม. จนทุยแม่มมม เชื่อจริงจังเลย
    เพราะอาศัยความที่ตัวอิโจเองเป็นคนไข้
    ไอ่ที่มันบรรยาย มันก็ฟังจากที่หมอรักฉามันนั่นแ่หละ
    (ตลกดี คนปกตินั่งฟังคนไข้ป่วยจิตที่ยังไม่หาย พูดได้เป็นสี่ห้าชม.)
    พอมาเห็นคอมเม้นในภาพ เลยร้อง อ๋อ แบบนี้นี่เอง
    ตอนนี้ ไผ่ก็หันหลังกลับมาอยู่ฝั่งน้องชาลี ตาสว่างวาบไปพร้อมกับคนไทยอีกจำนวนมาก
    ที่สงสัยว่า อิโจจะได้สติกี่โมง
    สรุป ยากแล้ว เพราะอิโจ ไม่ได้มีเชื้อชาติไทยเลย
    ไม่แปลก ที่พร้อมจะหักหลังคนไทย
    ไปอวยกิมจิ๊ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง
    อิฉัด อิต่างด้าง อิตกขาวเอ๊ย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    #คนไทยรึปล่าวววววว เวลคัมทูไทยแลนด์ ถ้าข้อมูลนี้จริง ก็ถือว่าไม่แปลกเลย ทำไม โจตกขาว ถึงไม่แคร์คนไทย เพราะแค่เกิดในประเทศไทย แต่ไม่ได้มีพ่อแม่ปู่ย่าตายยายไทยเลย เรียกว่า แค่ได้สัญชาติ ถึงว่าๆๆๆๆ หลังจากชีวิตดิ่งเหว จิตเปื่อย รักษายังไม่มันหาย ก็เห็นออกมาทำตัวเป็นกูรูววว คนเก่งเรื่องการเงิน ทั้งชีวิตไม่เคยได้รับความสำเร็จอะไรเลยซักอย่าง แต่ถ้าอยากรวยแบบนาง ก็ต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวล้วนๆ ยกตัวอย่างเช่น การต้มคนไทยว่าตัวเองหยั่งรู้ฟ้าดิน อดีตและอนาคต แต่ไม่รู้เงาหัวตัวเอง พอมีทุยเชื่อมากๆ เปิดคอสสอนแม่มเลย หัวละหมื่นฉองหมื่น ฟูเฟื่องมาก ตั้งแต่ซากดจิกหมู่ในกลุ่ม DC คิดดู แฟนคลับอิเหวิงก่อนถูกเปิดมีเป็นล้าน ในกลุ่ม DC มีห้าพันที่พร้อมเปย์ เป๋าหนัก อิโจตกขาว ถ้ามีคนเรียนแค่ 1000 คนนะ ได้ไม่ต่ำกว่า 10-20 ล้านแล้ว หาแดรกกับความเชื่อของคน ไอ่ท็อปอีกตัว เดี๋ยวทำโพสแยกให้ จะได้สว่างวาบกันไป ไอ่ท็อปบอก ชอบๆ เปิดเลย จะได้ดัง เออ จัดไป เรื่องความใจดำเพือให้ตัวเองได้ประโยชน์ยังไม่จบแค่หาแดรกกับความเชื่อ ต้มคนไทยซั้ำแล้วซ้ำอีก กับการที่ไม่สนใจความรู้สึกของชาลี ที่เป็นคนไทยที่่ถูกกระทำ แต่เพื่อรักษาฐานลูกค้าตัวเอง ก็หันกลับมาสุมหัวกับคนที่เสียประโยชน์ โดยเฉพาะไอ่ท็อป ที่ฟันธงกันทั้งคู่ ว่าอิเหวิงนี่ คู่แท้ชาลีข้ามภพข้ามชาติกันมา เป็นตุเป็นตะ แต่สุดท้าย หมอเดาทั้งสองตัว อิ๊บอ๋ายดิ เอาไงต่อ ก็ต้องหันไปที่อิเหวิงแทน เกาะเป็นปลิงเลยทีนี้ หาเรื่องใส่ความน้องแน๊กว่าเปื่อยจิต มันกล่อมพวกทุยทุกวันนะ ฟังกันที่สามสี่ชม. จนทุยแม่มมม เชื่อจริงจังเลย เพราะอาศัยความที่ตัวอิโจเองเป็นคนไข้ ไอ่ที่มันบรรยาย มันก็ฟังจากที่หมอรักฉามันนั่นแ่หละ (ตลกดี คนปกตินั่งฟังคนไข้ป่วยจิตที่ยังไม่หาย พูดได้เป็นสี่ห้าชม.) พอมาเห็นคอมเม้นในภาพ เลยร้อง อ๋อ แบบนี้นี่เอง ตอนนี้ ไผ่ก็หันหลังกลับมาอยู่ฝั่งน้องชาลี ตาสว่างวาบไปพร้อมกับคนไทยอีกจำนวนมาก ที่สงสัยว่า อิโจจะได้สติกี่โมง สรุป ยากแล้ว เพราะอิโจ ไม่ได้มีเชื้อชาติไทยเลย ไม่แปลก ที่พร้อมจะหักหลังคนไทย ไปอวยกิมจิ๊ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง อิฉัด อิต่างด้าง อิตกขาวเอ๊ย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 678 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิติเรื่องของ"กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย"
    .
    มิติเรื่องของ "กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" นั้น มันมีมิติหลายๆ อย่างที่ผมจะพูด นอกเหนือจากความกะล่อน การต้มตุ๋น มาหลอกลวงความรัก ความอบอุ่น ความหวังดีของคนไทยที่มองโลกในแง่ดี
    .
    สัปดาห์ที่แล้วจนถึงสัปดาห์นี้ ไม่มีกระแสใดจะแรงเท่ากระแสอินฟลูเอนเซอร์ของไทยและเกาหลี กระแสดาราไทยลูกเสี้ยวฮอลแลนด์ ชื่อ "ชาลี ปอทเจส" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "แน็ก ชาลี" กับ TikToker ชาวเกาหลี ชื่อ "จี กามิน" หรือที่คนไทยเรียกสั้นๆ ว่า "กามิน" อายุ 31 ปี พอๆ กับแน็ก
    .
    เรื่องนี้ให้บทเรียนกับคนไทยหลายๆ แง่มุมด้วยกัน คือ ข้อแรก อย่าโง่ ถูกเกาหลีปั่น สร้างกระแสโอนเงินหรือแจกสติกเกอร์ใครง่ายๆ คุณอาจจะยากจนกว่าคนที่รับเงินไปแบบเทียบไม่ได้
    .
    ข้อสอง ถ้าให้ผมวิเคราะห์ความเป็นมนุษย์ผู้หญิงในเกาหลีที่ไลฟ์สดหารายได้ กินอยู่อย่างประหยัด สะท้อนให้เห็นว่าความจริงแล้ว กามินเป็นคนปากกัดตีนถีบ เอาแต่ได้ ซึ่งเป็นสันดานของคนเกาหลีส่วนหนึ่ง เมื่อได้เงินมา รวยฉับพลัน จึงเหมือนสามล้อถูกหวยที่ปรับตัวไม่ทัน ไม่คำนึงถึงบุญคุณของคนอื่นที่ดึงตัวเองขึ้นมาจากความลำบาก และมองโลกในแง่ร้ายว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ ไม่เป็นมืออาชีพ คิดจะกอบโกยอย่างเดียว
    .
    ข้อสาม ครูเดวิด วิลเลียม ชาวอเมริกันที่สอนภาษาอังกฤษในเมืองไทยมา และพูดภาษาไทยชัดมาก ออกมาเตือนสติว่า “ กามิน ไม่มีทางมีวันนี้ถ้าไม่มีคนไทย ถ้าใครรักประเทศใด ต้องลงทุนกับเวลา 2 เรื่อง คือ เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมเขาหรือไปเที่ยวทั่วไทย ไม่ใช่มาประเทศไทยทำงานหาเงิน หาเงิน แล้วแยกย้ายกลับบ้าน มันไม่ใช่”
    .
    ข้อสี่ แน็ก ชาลี เป็นศิลปินนักแสดงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เด็กในภาพยนตร์เรื่องแฟนฉันเมื่อปี 2546 และเป็นศิลปินแบบที่พวกเราเรียกกันว่า "พวกติสท์แตก" เป็นผู้ให้ ช่วยและให้โอกาสคนที่ลำบากที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างกามิน แต่การจีบกันในโซเชียลมีเดียไม่สามารถจะรู้นิสัยตัวตนที่แท้จริงได้ ดังนั้น พื้นฐานในเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ เพราะว่า "ศีลไม่เสมอกัน" ความเป็นมืออาชีพไม่เสมอกัน
    .
    ข้อสุดท้าย สังคมเกาหลีส่วนใหญ่มีการแข่งขันกันสูงมาก จึงหาความจริงใจหรือการหวังจะมีจิตสำนึกบุญคุณจากคนเกาหลีได้ยากมาก ยกเว้นคนเกาหลีที่ตัดสินใจมาอยู่ในเมืองไทยจริงๆ อย่าง โค้ชเชและพี่เรืองที่ต่างกว่าเกาหลีทั่วไป
    .
    แต่ถ้าในอนาคต แน็ก ชาลี จะติสท์แตกจนหน้ามืดตามัวกลับไปคืนดีคบหากับ จี กามิน อีกครั้ง ด้วยความขี้สงสารหรือขี้ใจบุญ ผมคงไม่สามารถจะทำอะไรได้ แต่ผมจะต้องหันกลับมาด่า แน็ก ชาลี เพิ่มเติมอีกคนหนึ่ง
    .
    ท่านผู้ชมครับ พวกเราคนไทยเป็นคนเปิดกว้าง ไม่เคยเหยียดชนชั้น ชาติ หรือศาสนาใด อย่าให้พวกเกาหลีมาดูถูกพวกเราแบบนี้ ว่าคนไทยโง่และหลอกง่าย จึงงดที่จะสนับสนุนพวกดาราเกาหลี เลิกเที่ยวเกาหลี สถานที่เที่ยวไม่ได้มีอะไร อาหารก็ไม่ได้เรื่อง เรารักคนไทย รักประเทศไทยมากขึ้น หรือว่าไปเที่ยวประเทศอื่นๆ ดีกว่าครับ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iKQhhVuez7szj2is/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    มิติเรื่องของ"กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" . มิติเรื่องของ "กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" นั้น มันมีมิติหลายๆ อย่างที่ผมจะพูด นอกเหนือจากความกะล่อน การต้มตุ๋น มาหลอกลวงความรัก ความอบอุ่น ความหวังดีของคนไทยที่มองโลกในแง่ดี . สัปดาห์ที่แล้วจนถึงสัปดาห์นี้ ไม่มีกระแสใดจะแรงเท่ากระแสอินฟลูเอนเซอร์ของไทยและเกาหลี กระแสดาราไทยลูกเสี้ยวฮอลแลนด์ ชื่อ "ชาลี ปอทเจส" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "แน็ก ชาลี" กับ TikToker ชาวเกาหลี ชื่อ "จี กามิน" หรือที่คนไทยเรียกสั้นๆ ว่า "กามิน" อายุ 31 ปี พอๆ กับแน็ก . เรื่องนี้ให้บทเรียนกับคนไทยหลายๆ แง่มุมด้วยกัน คือ ข้อแรก อย่าโง่ ถูกเกาหลีปั่น สร้างกระแสโอนเงินหรือแจกสติกเกอร์ใครง่ายๆ คุณอาจจะยากจนกว่าคนที่รับเงินไปแบบเทียบไม่ได้ . ข้อสอง ถ้าให้ผมวิเคราะห์ความเป็นมนุษย์ผู้หญิงในเกาหลีที่ไลฟ์สดหารายได้ กินอยู่อย่างประหยัด สะท้อนให้เห็นว่าความจริงแล้ว กามินเป็นคนปากกัดตีนถีบ เอาแต่ได้ ซึ่งเป็นสันดานของคนเกาหลีส่วนหนึ่ง เมื่อได้เงินมา รวยฉับพลัน จึงเหมือนสามล้อถูกหวยที่ปรับตัวไม่ทัน ไม่คำนึงถึงบุญคุณของคนอื่นที่ดึงตัวเองขึ้นมาจากความลำบาก และมองโลกในแง่ร้ายว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ ไม่เป็นมืออาชีพ คิดจะกอบโกยอย่างเดียว . ข้อสาม ครูเดวิด วิลเลียม ชาวอเมริกันที่สอนภาษาอังกฤษในเมืองไทยมา และพูดภาษาไทยชัดมาก ออกมาเตือนสติว่า “ กามิน ไม่มีทางมีวันนี้ถ้าไม่มีคนไทย ถ้าใครรักประเทศใด ต้องลงทุนกับเวลา 2 เรื่อง คือ เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมเขาหรือไปเที่ยวทั่วไทย ไม่ใช่มาประเทศไทยทำงานหาเงิน หาเงิน แล้วแยกย้ายกลับบ้าน มันไม่ใช่” . ข้อสี่ แน็ก ชาลี เป็นศิลปินนักแสดงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เด็กในภาพยนตร์เรื่องแฟนฉันเมื่อปี 2546 และเป็นศิลปินแบบที่พวกเราเรียกกันว่า "พวกติสท์แตก" เป็นผู้ให้ ช่วยและให้โอกาสคนที่ลำบากที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างกามิน แต่การจีบกันในโซเชียลมีเดียไม่สามารถจะรู้นิสัยตัวตนที่แท้จริงได้ ดังนั้น พื้นฐานในเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ เพราะว่า "ศีลไม่เสมอกัน" ความเป็นมืออาชีพไม่เสมอกัน . ข้อสุดท้าย สังคมเกาหลีส่วนใหญ่มีการแข่งขันกันสูงมาก จึงหาความจริงใจหรือการหวังจะมีจิตสำนึกบุญคุณจากคนเกาหลีได้ยากมาก ยกเว้นคนเกาหลีที่ตัดสินใจมาอยู่ในเมืองไทยจริงๆ อย่าง โค้ชเชและพี่เรืองที่ต่างกว่าเกาหลีทั่วไป . แต่ถ้าในอนาคต แน็ก ชาลี จะติสท์แตกจนหน้ามืดตามัวกลับไปคืนดีคบหากับ จี กามิน อีกครั้ง ด้วยความขี้สงสารหรือขี้ใจบุญ ผมคงไม่สามารถจะทำอะไรได้ แต่ผมจะต้องหันกลับมาด่า แน็ก ชาลี เพิ่มเติมอีกคนหนึ่ง . ท่านผู้ชมครับ พวกเราคนไทยเป็นคนเปิดกว้าง ไม่เคยเหยียดชนชั้น ชาติ หรือศาสนาใด อย่าให้พวกเกาหลีมาดูถูกพวกเราแบบนี้ ว่าคนไทยโง่และหลอกง่าย จึงงดที่จะสนับสนุนพวกดาราเกาหลี เลิกเที่ยวเกาหลี สถานที่เที่ยวไม่ได้มีอะไร อาหารก็ไม่ได้เรื่อง เรารักคนไทย รักประเทศไทยมากขึ้น หรือว่าไปเที่ยวประเทศอื่นๆ ดีกว่าครับ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iKQhhVuez7szj2is/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2099 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราอยู่ในยุคที่คนมีปริญญา...
    แต่ไม่มีความรู้
    มีความรู้
    แต่ไม่มีสติปัญญา
    คนอยากได้อะไรง่ายๆ
    แต่ก็เรื่องมาก
    อยากครอบครอง
    แต่ไม่อยากดูแล
    คนบูชาคนรวย
    แต่ไม่บูชาคนดี
    อยากได้ความมั่นคง
    แต่ทำตัวฉาบฉวย
    อยากรวย
    แต่ไม่อยากทำงาน
    อยากดัง
    แต่ไม่มีคุณภาพพอให้ชื่นชม
    อยากมีอำนาจ
    แต่ทำตัวไม่น่าเคารพ
    อยากประสบความสำเร็จ
    แต่ไม่รักสิ่งที่ทำ
    อยากได้สังคมน่าอยุ่
    แต่ตัวเองไม่มีจริยธรรม
    อยากให้ประเทศเจริญ
    แต่ตัวเองหนีภาษี
    อยากได้
    แต่ไม่อยากให้
    อยากใหญ่
    แต่ไม่มีสัมมาคารวะ
    เราอยู่ในยุคที่คนมีปริญญา... แต่ไม่มีความรู้ มีความรู้ แต่ไม่มีสติปัญญา คนอยากได้อะไรง่ายๆ แต่ก็เรื่องมาก อยากครอบครอง แต่ไม่อยากดูแล คนบูชาคนรวย แต่ไม่บูชาคนดี อยากได้ความมั่นคง แต่ทำตัวฉาบฉวย อยากรวย แต่ไม่อยากทำงาน อยากดัง แต่ไม่มีคุณภาพพอให้ชื่นชม อยากมีอำนาจ แต่ทำตัวไม่น่าเคารพ อยากประสบความสำเร็จ แต่ไม่รักสิ่งที่ทำ อยากได้สังคมน่าอยุ่ แต่ตัวเองไม่มีจริยธรรม อยากให้ประเทศเจริญ แต่ตัวเองหนีภาษี อยากได้ แต่ไม่อยากให้ อยากใหญ่ แต่ไม่มีสัมมาคารวะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัดป่าคลอง 11: สถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์และศูนย์ปฏิบัติธรรม

    วัดป่าคลอง 11 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คำชะโนด 2” ตั้งอยู่ในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคและการขอพรเสริมโชคลาภ วัดนี้เป็นที่นิยมของสายมูที่มักจะมาสักการะขอพรเรื่องการเงิน การงาน และความสำเร็จส่วนตัว ตัววัดตั้งอยู่กลางสระน้ำ ล้อมรอบด้วยรูปปั้นนาคขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทั้งสี่ทิศ ซึ่งแต่ละทิศมีความหมายเชื่อมโยงกับความเจริญในด้านต่าง ๆ เช่น การค้าขาย ความปลอดภัย และความสัมพันธ์ในครอบครัว

    จุดเด่นของวัด

    1. ประติมากรรมนาคและศาลากลางน้ำ: วัดป่าคลอง 11 มีจุดเด่นคือศาลาไม้สักแบบไทยที่ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ล้อมรอบด้วยประติมากรรมนาคที่สวยงามและมีความหมายพิเศษในแต่ละทิศ เช่น ขอพรเรื่องความเจริญในธุรกิจ การป้องกันอันตราย และความสัมพันธ์ในครอบครัว นักท่องเที่ยวสามารถสักการะพญานาคทั้งสี่ทิศเพื่อขอพรตามความต้องการของตน

    2. สถานที่ปฏิบัติธรรม: วัดป่าคลอง 11 ไม่ได้เป็นเพียงที่ท่องเที่ยวและสถานที่ขอพรเท่านั้น แต่ยังมีศูนย์ปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกสมาธิและหาความสงบทางจิตใจ บรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบช่วยให้ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมสามารถหาความสุขและความสงบได้อย่างเต็มที่

    3. กิจกรรมสักการะและการทำบุญ: นักท่องเที่ยวสามารถทำบุญและถวายเครื่องเซ่นไหว้ที่จุดบูชาต่าง ๆ รอบวัด เช่น บูชาพระสิวลีเพื่อขอพรเรื่องโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง หรือบูชาพ่อปู่พญานาคศรีสุทโธและแม่ย่านาคินีศรีปทุมมา ซึ่งเป็นจุดที่สายมูนิยมมาขอพรให้สมหวังในเรื่องการเงินและการงาน

    บรรยากาศในวันนี้ที่วัดป่าคลอง 11 เต็มไปด้วยความคึกคัก มีผู้คนหลากหลายมาทำบุญ ไหว้พระ และสักการะพญานาค โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและวันสำคัญทางศาสนา นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับการชมความงดงามของประติมากรรมและถ่ายภาพเพื่อเก็บความประทับใจกลับไป สำหรับผู้ที่มาในช่วงใกล้วันหวยออก วัดนี้มักจะมีผู้คนมาขอพรโชคลาภและเสริมดวงเป็นจำนวนมาก

    วัดป่าคลอง 11 จึงเป็นสถานที่ที่ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเพื่อขอพรและทำบุญ แต่ยังเป็นแหล่งที่ช่วยเสริมสร้างความสงบและพลังใจให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชม ไม่ว่าจะมาเพื่อฝึกสมาธิหรือเพียงแค่หาความสุขใจในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเชื่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างลึกซึ้ง.

    #thaitimes #พาไปเที่ยว
    วัดป่าคลอง 11: สถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์และศูนย์ปฏิบัติธรรม วัดป่าคลอง 11 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คำชะโนด 2” ตั้งอยู่ในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคและการขอพรเสริมโชคลาภ วัดนี้เป็นที่นิยมของสายมูที่มักจะมาสักการะขอพรเรื่องการเงิน การงาน และความสำเร็จส่วนตัว ตัววัดตั้งอยู่กลางสระน้ำ ล้อมรอบด้วยรูปปั้นนาคขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทั้งสี่ทิศ ซึ่งแต่ละทิศมีความหมายเชื่อมโยงกับความเจริญในด้านต่าง ๆ เช่น การค้าขาย ความปลอดภัย และความสัมพันธ์ในครอบครัว จุดเด่นของวัด 1. ประติมากรรมนาคและศาลากลางน้ำ: วัดป่าคลอง 11 มีจุดเด่นคือศาลาไม้สักแบบไทยที่ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ล้อมรอบด้วยประติมากรรมนาคที่สวยงามและมีความหมายพิเศษในแต่ละทิศ เช่น ขอพรเรื่องความเจริญในธุรกิจ การป้องกันอันตราย และความสัมพันธ์ในครอบครัว นักท่องเที่ยวสามารถสักการะพญานาคทั้งสี่ทิศเพื่อขอพรตามความต้องการของตน 2. สถานที่ปฏิบัติธรรม: วัดป่าคลอง 11 ไม่ได้เป็นเพียงที่ท่องเที่ยวและสถานที่ขอพรเท่านั้น แต่ยังมีศูนย์ปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกสมาธิและหาความสงบทางจิตใจ บรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบช่วยให้ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมสามารถหาความสุขและความสงบได้อย่างเต็มที่ 3. กิจกรรมสักการะและการทำบุญ: นักท่องเที่ยวสามารถทำบุญและถวายเครื่องเซ่นไหว้ที่จุดบูชาต่าง ๆ รอบวัด เช่น บูชาพระสิวลีเพื่อขอพรเรื่องโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง หรือบูชาพ่อปู่พญานาคศรีสุทโธและแม่ย่านาคินีศรีปทุมมา ซึ่งเป็นจุดที่สายมูนิยมมาขอพรให้สมหวังในเรื่องการเงินและการงาน บรรยากาศในวันนี้ที่วัดป่าคลอง 11 เต็มไปด้วยความคึกคัก มีผู้คนหลากหลายมาทำบุญ ไหว้พระ และสักการะพญานาค โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและวันสำคัญทางศาสนา นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับการชมความงดงามของประติมากรรมและถ่ายภาพเพื่อเก็บความประทับใจกลับไป สำหรับผู้ที่มาในช่วงใกล้วันหวยออก วัดนี้มักจะมีผู้คนมาขอพรโชคลาภและเสริมดวงเป็นจำนวนมาก วัดป่าคลอง 11 จึงเป็นสถานที่ที่ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเพื่อขอพรและทำบุญ แต่ยังเป็นแหล่งที่ช่วยเสริมสร้างความสงบและพลังใจให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชม ไม่ว่าจะมาเพื่อฝึกสมาธิหรือเพียงแค่หาความสุขใจในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเชื่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างลึกซึ้ง. #thaitimes #พาไปเที่ยว
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 899 มุมมอง 0 รีวิว
  • BLACKSTONE
    Men’s Genuine Leather Boat Shoes
    Size. US 9 /EUR 42 /26.5(27) cm

    🔥 Price : 690฿

    รองเท้าหนังแท้ทรง Boat Shoes แบรนด์คุณภาพจากประเทศเนเธอร์แลนด์ วัสดุและการตัดเย็บดีมาก อัพเปอร์ทั้งภายนอกภายในใช้หนังแท้เกรดพรีเมี่ยม มาพร้อมปลอกนวมหุ้มข้อด้วยหนังแท้ช่วยให้ใส่กระชับข้อเท้า แผ่นรองพื้นรองเท้าเป็นยางปิดด้วยหนังแท้ พื้นรองเท้าด้านนอกเป็นยางและหนังกลับ สภาพโดยรวม 85%+ ทรงนี้ใส่เท่สามารถแมทช์กับสไตล์การแต่งตัวทั้งแบบทางการ และไม่ทางการได้

    👉 เรื่องราว :-
    🔹ปี 1926 : บริษัทการค้าหนังของ J.A. de Bruijn ก่อตั้งขึ้นที่เมือง Gouda ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีภารกิจในการจัดหาหนังคุณภาพดีที่สุดให้กับผู้ผลิตและช่างทำรองเท้าในท้องถิ่น
    🔹ปี 1992 : Blackstone Footwear ก่อตั้งขึ้น โดยเริ่มต้นด้วยการออกแบบและผลิตรองเท้าทำงานคุณภาพสูง ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของแบรนด์
    🔹ปี 2003 : Blackstone ได้ขยายการผลิตเพื่อเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ โดยนำเสนอชุดรองเท้าและแฟชั่นเพิ่มเติม ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นในโลกของแฟชั่นและรองเท้า
    🔹ปี 2010 : Blackstone ได้กลับมาที่จุดเริ่มต้น โดยเน้นการใช้หนังธรรมชาติและออกแบบรองเท้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค
    🔹ปี 2018 : Blackstone ได้แนะนำรองเท้าที่มีเอกลักษณ์ใหม่ๆ เช่น รองเท้าหนังแกะและรองเท้า 6" Original boot ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง
    🔹ปี 2023 : Blackstone ได้ประกาศการเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่เพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ของแบรนด์และการมีอยู่ทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลก
    BLACKSTONE Men’s Genuine Leather Boat Shoes Size. US 9 /EUR 42 /26.5(27) cm 🔥 Price : 690฿ รองเท้าหนังแท้ทรง Boat Shoes แบรนด์คุณภาพจากประเทศเนเธอร์แลนด์ วัสดุและการตัดเย็บดีมาก อัพเปอร์ทั้งภายนอกภายในใช้หนังแท้เกรดพรีเมี่ยม มาพร้อมปลอกนวมหุ้มข้อด้วยหนังแท้ช่วยให้ใส่กระชับข้อเท้า แผ่นรองพื้นรองเท้าเป็นยางปิดด้วยหนังแท้ พื้นรองเท้าด้านนอกเป็นยางและหนังกลับ สภาพโดยรวม 85%+ ทรงนี้ใส่เท่สามารถแมทช์กับสไตล์การแต่งตัวทั้งแบบทางการ และไม่ทางการได้ 👉 เรื่องราว :- 🔹ปี 1926 : บริษัทการค้าหนังของ J.A. de Bruijn ก่อตั้งขึ้นที่เมือง Gouda ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีภารกิจในการจัดหาหนังคุณภาพดีที่สุดให้กับผู้ผลิตและช่างทำรองเท้าในท้องถิ่น 🔹ปี 1992 : Blackstone Footwear ก่อตั้งขึ้น โดยเริ่มต้นด้วยการออกแบบและผลิตรองเท้าทำงานคุณภาพสูง ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของแบรนด์ 🔹ปี 2003 : Blackstone ได้ขยายการผลิตเพื่อเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ โดยนำเสนอชุดรองเท้าและแฟชั่นเพิ่มเติม ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นในโลกของแฟชั่นและรองเท้า 🔹ปี 2010 : Blackstone ได้กลับมาที่จุดเริ่มต้น โดยเน้นการใช้หนังธรรมชาติและออกแบบรองเท้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค 🔹ปี 2018 : Blackstone ได้แนะนำรองเท้าที่มีเอกลักษณ์ใหม่ๆ เช่น รองเท้าหนังแกะและรองเท้า 6" Original boot ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง 🔹ปี 2023 : Blackstone ได้ประกาศการเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่เพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ของแบรนด์และการมีอยู่ทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 1 #

    ตัวเลขต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตสามารถบ่งบอกอะไรได้บ้าง

    ตัวเลขเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตาย และให้พลังในแบบรุนแรงด้วย ไม่ว่าจะเป็น วันเดือนปีเกิด, เลขบัตรประชาชน, เลขที่บ้าน, ทะเบียนรถ, รหัสเอทีเอ็ม หรือกระทั่งเบอร์มือถือ นอกจากตัวเลขจะสามารถอธิบายเชื่อมโยงกับบุคลิกนิสัยใจคอ และพฤติกรรมของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ ยังบ่งบอกถึงกรรมเก่าที่ติดตัวเรามาด้วย โดยอิทธิพลของตัวเลขที่เห็นชัดที่สุดคือ “ตัวเลขเบอร์มือถือ” เพราะอยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด ในตัวเลข 0-9 มีรหัสลับสำหรับวิเคราะห์ที่บ่งบอกตัวตนนิสัยของเจ้าของเบอร์, และสิ่งที่ไม่น่าเขื่อกว่านั้น คือ สามารถส่งพลังงาน ที่ให้คุณ หรือให้โทษได้
    👉แรงดึงดูดของพลังของตัวเลข

    พลังงานที่ดีย่อมดึงดูดสิ่งดีๆเข้าหาตัว ตรงข้ามกับพลังงานที่เสียจะดึงดูดสิ่งไม่ดีเข้าหาตัวเรา เช่น ความลุ่มหลง มัวเมา ถ้ามากไป ชีวิตอาจพังได้ ผู้เขียน เช่น ผู้เขียนชอบเลข 6 เลยใช้ 081-62x 6666 ในช่วงนั้นไม่มีความรู้ใช้แต่ความชอบ หาเงินได้มาก แต่ลุ่มหลง มัวเมา ในหลากหลายสิ่ง จนชีวิตพัง ก็ไม่เคยนึกถึงสิ่งนี้ จนมาศึกษาย้อน เทียบเคียงไปแต่ละช่วงเวลาของชีวิต ช่วงเริ่มต้น ช่วงรุ่งเรือง ล้วนเป็นเลขดี ผลรวมดี ทั้งหมด ..ตัวเลขดี ย่อมเหนี่ยวนำพลังงานที่ดีเข้ามาหาเรา สามารถดึงดูดทั้งความสุข, ความสำเร็จ, เงินทอง, ดึงดูดคนรอบข้างที่ดี, ดึงดูดผู้ใหญ่ที่เมตตาและให้การสนับสนุน, ดึงดูดให้มีโชคดี หรือแม้กระทั่งดึงดูดความรัก
    ความสำเร็จ การเรียนรู้
    อีกตัวอย่างนึง ยุคที่ใช้ Pack link ยุคก่อนมีมือถือ เบอร์ 571444 ส่วนตัวไม่ชอบเลข 4 เลย แต่เห็นมันเป็นเลข ตอง ก็เลยเอา... มันให้พลังเปลี่ยนตัวตนไปเลย จากเป็นคนขี้อาย พูดน้อย สมัยเรียนมหา'ลัย วิชา การพูดตกทุกเทอม ..เพราะพอออกไปพูดแล้วอาย สั่น ...จนไม่กล้าพูด กลายมาเป็นนักขายในระดับยอดฝีมือ พูดแล้วคนเชื่อ กลายเป็นผู้บรรยายให้คนฟัง อบรมสั่งสอนคน.....พอมาศึกษาถึง พลังของเลข 4 ก็เข้าใจเลย เพราะมันคือเลขแห่งการเจรจา
    __ต่อ EP2
    EP 1 # ตัวเลขต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตสามารถบ่งบอกอะไรได้บ้าง ตัวเลขเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตาย และให้พลังในแบบรุนแรงด้วย ไม่ว่าจะเป็น วันเดือนปีเกิด, เลขบัตรประชาชน, เลขที่บ้าน, ทะเบียนรถ, รหัสเอทีเอ็ม หรือกระทั่งเบอร์มือถือ นอกจากตัวเลขจะสามารถอธิบายเชื่อมโยงกับบุคลิกนิสัยใจคอ และพฤติกรรมของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ ยังบ่งบอกถึงกรรมเก่าที่ติดตัวเรามาด้วย โดยอิทธิพลของตัวเลขที่เห็นชัดที่สุดคือ “ตัวเลขเบอร์มือถือ” เพราะอยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด ในตัวเลข 0-9 มีรหัสลับสำหรับวิเคราะห์ที่บ่งบอกตัวตนนิสัยของเจ้าของเบอร์, และสิ่งที่ไม่น่าเขื่อกว่านั้น คือ สามารถส่งพลังงาน ที่ให้คุณ หรือให้โทษได้ 👉แรงดึงดูดของพลังของตัวเลข พลังงานที่ดีย่อมดึงดูดสิ่งดีๆเข้าหาตัว ตรงข้ามกับพลังงานที่เสียจะดึงดูดสิ่งไม่ดีเข้าหาตัวเรา เช่น ความลุ่มหลง มัวเมา ถ้ามากไป ชีวิตอาจพังได้ ผู้เขียน เช่น ผู้เขียนชอบเลข 6 เลยใช้ 081-62x 6666 ในช่วงนั้นไม่มีความรู้ใช้แต่ความชอบ หาเงินได้มาก แต่ลุ่มหลง มัวเมา ในหลากหลายสิ่ง จนชีวิตพัง ก็ไม่เคยนึกถึงสิ่งนี้ จนมาศึกษาย้อน เทียบเคียงไปแต่ละช่วงเวลาของชีวิต ช่วงเริ่มต้น ช่วงรุ่งเรือง ล้วนเป็นเลขดี ผลรวมดี ทั้งหมด ..ตัวเลขดี ย่อมเหนี่ยวนำพลังงานที่ดีเข้ามาหาเรา สามารถดึงดูดทั้งความสุข, ความสำเร็จ, เงินทอง, ดึงดูดคนรอบข้างที่ดี, ดึงดูดผู้ใหญ่ที่เมตตาและให้การสนับสนุน, ดึงดูดให้มีโชคดี หรือแม้กระทั่งดึงดูดความรัก ความสำเร็จ การเรียนรู้ อีกตัวอย่างนึง ยุคที่ใช้ Pack link ยุคก่อนมีมือถือ เบอร์ 571444 ส่วนตัวไม่ชอบเลข 4 เลย แต่เห็นมันเป็นเลข ตอง ก็เลยเอา... มันให้พลังเปลี่ยนตัวตนไปเลย จากเป็นคนขี้อาย พูดน้อย สมัยเรียนมหา'ลัย วิชา การพูดตกทุกเทอม ..เพราะพอออกไปพูดแล้วอาย สั่น ...จนไม่กล้าพูด กลายมาเป็นนักขายในระดับยอดฝีมือ พูดแล้วคนเชื่อ กลายเป็นผู้บรรยายให้คนฟัง อบรมสั่งสอนคน.....พอมาศึกษาถึง พลังของเลข 4 ก็เข้าใจเลย เพราะมันคือเลขแห่งการเจรจา __ต่อ EP2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ หากเป็นนักคิด นักกลยุทธ์จะชาญฉลาด ไหวพริบดี ผลงานที่สร้างไว้จะเสร็จสำเร็จลุล่วงได้รับข่าวดี ธุรกิจการงานจะประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะธุรกิจนวดแผนโบราณ สปา จะได้รับผลประโยชน์กำไรงาม จะโชคดีด้านการเงิน การงานเจริญก้าวหน้า ตำแหน่งที่คาดหวังไว้จะได้รับการพิจารณา รับราชการจะได้ปรับเลื่อนขั้นมีชื่อมีเสียงเป็นที่ยอมรับส่งผลให้ประสบความสำเร็จ ด้านงานการศึกษา ด้านงานวิชาการ ด้านงานการทหาร ด้านงานกีฬา นักเรียน นักศึกษา มีสมาธินิ่งได้รับการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้การเรียนขยันขันแข็งตั้งใจเรียนดี ครอบครัวพบแต่ความสุขสงบราบรื่นรักใคร่ปรองดอง มีโอกาสได้เดินทางไกลไปท่องเที่ยวต่างแดน
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เดือนนี้ หากเป็นนักคิด นักกลยุทธ์จะชาญฉลาด ไหวพริบดี ผลงานที่สร้างไว้จะเสร็จสำเร็จลุล่วงได้รับข่าวดี ธุรกิจการงานจะประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะธุรกิจนวดแผนโบราณ สปา จะได้รับผลประโยชน์กำไรงาม จะโชคดีด้านการเงิน การงานเจริญก้าวหน้า ตำแหน่งที่คาดหวังไว้จะได้รับการพิจารณา รับราชการจะได้ปรับเลื่อนขั้นมีชื่อมีเสียงเป็นที่ยอมรับส่งผลให้ประสบความสำเร็จ ด้านงานการศึกษา ด้านงานวิชาการ ด้านงานการทหาร ด้านงานกีฬา นักเรียน นักศึกษา มีสมาธินิ่งได้รับการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้การเรียนขยันขันแข็งตั้งใจเรียนดี ครอบครัวพบแต่ความสุขสงบราบรื่นรักใคร่ปรองดอง มีโอกาสได้เดินทางไกลไปท่องเที่ยวต่างแดน ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 393 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัมมาทิฏฐิ คือจุดสิ้นสุดทางโลก และจุดเริ่มต้นทางธรรม

    การพัฒนาคนในองค์กรต่างๆ จึงต้องพัฒนาที่ปัญญา โดยการให้ความรู้ เพื่อเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน

    #ใจหยุดใจนิ่ง
    #จิตจึงรู้แจ้ง
    #ศีลสมาธิปัญญา
    #บุญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
    #นิพพาน
    สัมมาทิฏฐิ คือจุดสิ้นสุดทางโลก และจุดเริ่มต้นทางธรรม การพัฒนาคนในองค์กรต่างๆ จึงต้องพัฒนาที่ปัญญา โดยการให้ความรู้ เพื่อเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน #ใจหยุดใจนิ่ง #จิตจึงรู้แจ้ง #ศีลสมาธิปัญญา #บุญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ #นิพพาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แน็คกามิน #ชีวิตติดเลข #casestudy

    เห็นข่าวช่วงที่ผ่ามาเกี่ยวกับอินฟลูสาวต่างชาติคนนึงที่มารับงานเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าหลากหลายร่วมกับดาราชายไทยจนโด่งดัง มีรายได้กลับไปเป็นกอบเป็นกำ ข่าวออกมาในเชิงไม่ค่อยจะดี ซึ่งก็ไม่พ้นในเรื่องของเงินทองผลประโยชน์

    เราเคยถอดค่าเลขของดาราชายไว้เมื่อนานมาแล้ว เพราะเคยฟังสัมภาษณ์ที่เค้าพูดถึงการใช้ชีวิตของตัวเองแล้วทำให้อยากเห็นเลขในชีวิตของเค้า ซึ่งประกอบไปด้วยเลขหลักสองชุดคือ 876 (จากชื่อสกุล) และ 162 (จากวันเกิด) เลขท้าทายในชีวิต 0.3.3.3 เลขกรรม 4

    จากเลขสองชุดนี้ ทำให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก (จุดนี้จากชุดเลขวันเกิดก็พอจะคาดเดาได้ – 19.01.1993) แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ใส่ใจคนรอบข้าง ชอบช่วยเหลือคนอื่น แม้จะมีแนวทางในการช่วยที่แปลกจากความคิดของคนทั่วไป เป็นคนมีความรับผิดชอบ และไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของเงินทองเสียเท่าไหร่ ไม่ได้หมายความว่าไม่เห็นคุณค่าของเงินทองนะ แต่หมายถึงว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ได้ คือไม่ได้ยึดเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต

    การมีเลขท้าทายในชีวิตเป็นเลข 3 ทำให้เป็นคนไม่ชอบออกงานสังคม (ตรงกับเลขเส้นทางชีวิตที่เป็นเลข 6 ที่ชอบอยู่บ้าน หรืออยู่กับคนวงเล็กๆ ที่คุ้นเคย) การสื่อสารอาจจะฟังแล้วงงๆ อยู่บ้าง หรือไม่ก็ฟังดูขัดหู เพราะออกแนวถ้าไม่พูดคือไม่พูดเลย แต่ถ้าพูดคือตีแสกหน้าได้ ซึ่งโยงไปได้ถึงเลขกรรม 4 ที่สามารถพูดออกมาตรงๆ โดยไม่เกรงใจใคร ทั้งยังรวมไปถึงการไม่ได้สนใจกฏเกณฑ์ของสังคมเท่าไหร่ การทำงานก็ทำบ้าง หยุดบ้าง ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าตัวเอง

    ทีนี้ เรามาลองดูเลขของอินฟลูสาวกันดูบ้าง
    เลขหลักสองชุดของเธอคือ 189 กับ 395 เลขท้าทาย 1.1.0.2 เลขกรรม 6

    มาดูเลขชุดแรกของเธอกัน จริงๆ แล้ว 189 เป็นเลขที่ดีมากๆ ถ้ามีอยู่ในตัวนะ เพราะเป็นเลขที่ทำให้มีความสามารถครบรอบด้านในตัว เริ่มตั้งแต่ความคิดริเริ่ม การมีวิสัยทัศน์ที่จะเลือกวิธีที่ดีที่สุดและลงมือทำเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่บังเอิญว่าเลข 8 ของเธออยู่ในตำแหน่งที่อ่อนไปนิดนึง ทำให้ความอดทนต่อเรื่องยุ่งยากวุ่นวายมีไม่มากพอที่จะก้าวไปถึงจุดของความสำเร็จ เรียกว่า เมื่อไหร่ที่เกิดปัญหา เมื่อไหร่ที่เกิดความเบื่อ ไม่รู้สึกสนุก ก็สามารถละทิ้งเรื่องนั้นๆ งานนั้นๆ ไปได้ง่ายๆ (ตรงนี้โยงไปหาเลขกรรม 6 ที่เป็นเลขของความรับผิดชอบ และการคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองที่ไม่มีอยู่ในตัวเอง)

    ส่วนเลขชุดที่สองของเธอ 395 เป็นเลขเสน่ห์จริงๆ ทำให้คนตกหลุมรักเธอได้ง่ายๆ มีออร่าที่โดดเด่น ในขณะเดียวกัน เลขชุดนี้ก็ยังทำให้เธอเป็นคนที่ไม่ชอบความยุ่งยาก มีความสนใจต่อเรื่องต่างๆ แบบชั่วครู่ชั่วยาม เบื่อเมื่อไหร่ก็โบกมือลาได้ง่ายๆ เช่นกัน

    เธอมีผลรวมชื่อเป็นเลข 26/8 เมื่อเอาไปอ่านร่วมกับเลขชุดที่สอง 395 ยิ่งตอบโจทย์กับสิ่งที่เธอเลือกทำเป็นอาชีพ งานที่ทำแล้วไม่ต้องเหนื่อยมาก อยู่ท่ามกลางผู้คนและมีสปอต์ไลท์ส่องที่เธอ มีคนชื่นชมและสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้มากๆ ไม่ชอบงานที่มีกฏเกณฑ์หรือยุ่งยากเหนื่อยแรง แล้วก็ต้องเป็นงานที่เป็นเรื่องๆ ไปด้วยนะ เลข 8 ในตำแหน่งนี้ของเธอทำให้เธอยึดเรื่องของผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก (อ่านคุ่กับชุดเลขในวันเกิด รวมถึงเลขท้าทายที่เป็น 1 รวมถึงการที่เธอมีเลข 9 เป็นเลขเส้นทางชีวิต ซึ่งยังมีเลขอีกชุดหนึ่งที่บอกถึงการยึดติดหรือให้ค่ากับวัตถุนิยม ไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติมเพราะต้องอธิบายกันยาว)

    โดยสรุปจากตัวเลขในชีวิต ทำให้เราเห็นตัวตนของทั้งสองคนชัดเจนขึ้น ไม่ได้ตัดสินว่าใครผิดใครถูกนะคะ เพราะไม่ได้อยู่ในชีวิตของเค้า แต่เราเชื่อเรื่องอิทธิพลหรือพลังงานที่มีอยู่ในตัวคนแต่ละคนมากกว่า

    ยกมือให้กับดาราชายค่ะ
    #แน็คกามิน #ชีวิตติดเลข #casestudy เห็นข่าวช่วงที่ผ่ามาเกี่ยวกับอินฟลูสาวต่างชาติคนนึงที่มารับงานเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าหลากหลายร่วมกับดาราชายไทยจนโด่งดัง มีรายได้กลับไปเป็นกอบเป็นกำ ข่าวออกมาในเชิงไม่ค่อยจะดี ซึ่งก็ไม่พ้นในเรื่องของเงินทองผลประโยชน์ เราเคยถอดค่าเลขของดาราชายไว้เมื่อนานมาแล้ว เพราะเคยฟังสัมภาษณ์ที่เค้าพูดถึงการใช้ชีวิตของตัวเองแล้วทำให้อยากเห็นเลขในชีวิตของเค้า ซึ่งประกอบไปด้วยเลขหลักสองชุดคือ 876 (จากชื่อสกุล) และ 162 (จากวันเกิด) เลขท้าทายในชีวิต 0.3.3.3 เลขกรรม 4 จากเลขสองชุดนี้ ทำให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก (จุดนี้จากชุดเลขวันเกิดก็พอจะคาดเดาได้ – 19.01.1993) แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ใส่ใจคนรอบข้าง ชอบช่วยเหลือคนอื่น แม้จะมีแนวทางในการช่วยที่แปลกจากความคิดของคนทั่วไป เป็นคนมีความรับผิดชอบ และไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของเงินทองเสียเท่าไหร่ ไม่ได้หมายความว่าไม่เห็นคุณค่าของเงินทองนะ แต่หมายถึงว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ได้ คือไม่ได้ยึดเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต การมีเลขท้าทายในชีวิตเป็นเลข 3 ทำให้เป็นคนไม่ชอบออกงานสังคม (ตรงกับเลขเส้นทางชีวิตที่เป็นเลข 6 ที่ชอบอยู่บ้าน หรืออยู่กับคนวงเล็กๆ ที่คุ้นเคย) การสื่อสารอาจจะฟังแล้วงงๆ อยู่บ้าง หรือไม่ก็ฟังดูขัดหู เพราะออกแนวถ้าไม่พูดคือไม่พูดเลย แต่ถ้าพูดคือตีแสกหน้าได้ ซึ่งโยงไปได้ถึงเลขกรรม 4 ที่สามารถพูดออกมาตรงๆ โดยไม่เกรงใจใคร ทั้งยังรวมไปถึงการไม่ได้สนใจกฏเกณฑ์ของสังคมเท่าไหร่ การทำงานก็ทำบ้าง หยุดบ้าง ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าตัวเอง ทีนี้ เรามาลองดูเลขของอินฟลูสาวกันดูบ้าง เลขหลักสองชุดของเธอคือ 189 กับ 395 เลขท้าทาย 1.1.0.2 เลขกรรม 6 มาดูเลขชุดแรกของเธอกัน จริงๆ แล้ว 189 เป็นเลขที่ดีมากๆ ถ้ามีอยู่ในตัวนะ เพราะเป็นเลขที่ทำให้มีความสามารถครบรอบด้านในตัว เริ่มตั้งแต่ความคิดริเริ่ม การมีวิสัยทัศน์ที่จะเลือกวิธีที่ดีที่สุดและลงมือทำเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่บังเอิญว่าเลข 8 ของเธออยู่ในตำแหน่งที่อ่อนไปนิดนึง ทำให้ความอดทนต่อเรื่องยุ่งยากวุ่นวายมีไม่มากพอที่จะก้าวไปถึงจุดของความสำเร็จ เรียกว่า เมื่อไหร่ที่เกิดปัญหา เมื่อไหร่ที่เกิดความเบื่อ ไม่รู้สึกสนุก ก็สามารถละทิ้งเรื่องนั้นๆ งานนั้นๆ ไปได้ง่ายๆ (ตรงนี้โยงไปหาเลขกรรม 6 ที่เป็นเลขของความรับผิดชอบ และการคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองที่ไม่มีอยู่ในตัวเอง) ส่วนเลขชุดที่สองของเธอ 395 เป็นเลขเสน่ห์จริงๆ ทำให้คนตกหลุมรักเธอได้ง่ายๆ มีออร่าที่โดดเด่น ในขณะเดียวกัน เลขชุดนี้ก็ยังทำให้เธอเป็นคนที่ไม่ชอบความยุ่งยาก มีความสนใจต่อเรื่องต่างๆ แบบชั่วครู่ชั่วยาม เบื่อเมื่อไหร่ก็โบกมือลาได้ง่ายๆ เช่นกัน เธอมีผลรวมชื่อเป็นเลข 26/8 เมื่อเอาไปอ่านร่วมกับเลขชุดที่สอง 395 ยิ่งตอบโจทย์กับสิ่งที่เธอเลือกทำเป็นอาชีพ งานที่ทำแล้วไม่ต้องเหนื่อยมาก อยู่ท่ามกลางผู้คนและมีสปอต์ไลท์ส่องที่เธอ มีคนชื่นชมและสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้มากๆ ไม่ชอบงานที่มีกฏเกณฑ์หรือยุ่งยากเหนื่อยแรง แล้วก็ต้องเป็นงานที่เป็นเรื่องๆ ไปด้วยนะ เลข 8 ในตำแหน่งนี้ของเธอทำให้เธอยึดเรื่องของผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก (อ่านคุ่กับชุดเลขในวันเกิด รวมถึงเลขท้าทายที่เป็น 1 รวมถึงการที่เธอมีเลข 9 เป็นเลขเส้นทางชีวิต ซึ่งยังมีเลขอีกชุดหนึ่งที่บอกถึงการยึดติดหรือให้ค่ากับวัตถุนิยม ไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติมเพราะต้องอธิบายกันยาว) โดยสรุปจากตัวเลขในชีวิต ทำให้เราเห็นตัวตนของทั้งสองคนชัดเจนขึ้น ไม่ได้ตัดสินว่าใครผิดใครถูกนะคะ เพราะไม่ได้อยู่ในชีวิตของเค้า แต่เราเชื่อเรื่องอิทธิพลหรือพลังงานที่มีอยู่ในตัวคนแต่ละคนมากกว่า ยกมือให้กับดาราชายค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1519 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts