• Yesterday Once More: เสียงเพลงที่พาย้อนเวลา

    ย้อนกลับไปในวัยเด็กของผม ช่วงเวลาที่บ้านเต็มไปด้วยเสียงดนตรีจากชุดเครื่องเสียงสุดหรูของพ่อ เขามักจะเปิดเพลงเพื่อโชว์ลำโพงที่ให้เสียงใสกิ๊งราวกับคริสตัล แม้ว่าตอนนั้นจะเล่นจากเทปคาสเซ็ทเก่าๆ แต่สุนทรียภาพของดนตรีที่ไหลออกมานั้นไม่ได้ต่างอะไรจากการเล่นแผ่นเสียงไวนิลหรือซีดีสมัยนี้เลยครับ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่นและความทรงจำดีๆ โดยเฉพาะเพลงหนึ่งที่พ่อชอบเปิดบ่อยๆ นั่นคือ "Yesterday Once More" ของ The Carpenters เพลงนี้ไม่ใช่แค่เสียงเพลงธรรมดา แต่เป็นเหมือนประตูเวลาที่พาผมย้อนกลับไปหาช่วงเวลาที่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความสุข

    วง The Carpenters เกิดจากสองพี่น้องคู่บุญอย่าง Karen และ Richard Carpenter ที่เติบโตมาในเมือง New Haven รัฐ Connecticut สหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ายมาอยู่ Downey ใน California เมื่อปี 1963 เพื่อไล่ตามความฝันทางดนตรี Richard ผู้พี่ชายเกิดปี 1946 เป็นนักเปียโนตัวฉกาจและชอบจัดเรียงเสียงประสาน เขาเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่เด็กและต่อมาเข้าเรียนที่ California State University, Long Beach ส่วน Karen น้องสาวเกิดปี 1950 เดิมทีเล่นกลองก่อนจะค้นพบพรสวรรค์ในเสียงร้องคอนทราลโตที่อบอุ่นและนุ่มนวลราวกับกำมะหยี่ พวกเขาเริ่มเล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่ปี 1965 ในรูปแบบวงแจ๊สชื่อ Richard Carpenter Trio ร่วมกับเพื่อน Wesley Jacobs จากนั้นพัฒนามาเป็นวง Spectrum ที่เล่นเพลงแนว middle-of-the-road แต่ยังไม่ดังเปรี้ยง จนกระทั่งปี 1969 พวกเขาตัดสินใจเป็นดูโอ้อย่างเป็นทางการและเซ็นสัญญากับค่าย A&M Records โดยใช้ชื่อ "Carpenters" แบบไม่มี "The" นำหน้า เพื่อให้ดูทันสมัยเหมือนวงร็อกดังๆ อย่าง Buffalo Springfield หรือ Jefferson Airplane

    จากจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก The Carpenters ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงด้วยสไตล์ซอฟต์ร็อกที่ผสมผสานฮาร์โมนีใกล้ชิดและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Karen เพลงฮิตแรกๆ อย่าง "(They Long to Be) Close to You" และ "We've Only Just Begun" ในปี 1970 ทำให้พวกเขาพุ่งขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเพลงดังอีกเพียบ เช่น "Superstar", "Rainy Days and Mondays" และ "Top of the World" ที่ทำให้พวกเขาได้รับรางวัล Grammy ถึง 3 ตัว รวมถึง Best New Artist และ Best Contemporary Performance by a Duo, Group or Chorus ตลอดช่วงทศวรรษ 1970 พวกเขาออกอัลบั้มถึง 10 ชุด โดยแต่ละชุดขายได้มากกว่า 1 ล้านแผ่น โดยเฉพาะอัลบั้มรวบฮิต "The Singles: 1969-1973" ที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Top 200 พวกเขาทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก ออกทีวีสเปเชียล และกลายเป็นศิลปินขายดีที่สุดในแนว easy listening และ adult contemporary ด้วยยอดขายแผ่นเสียงรวมกว่า 100 ล้านแผ่นทั่วโลก ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีที่สุดตลอดกาล

    แต่เพลงที่ทำให้ผมหลงรักวงนี้อย่างหัวปักหัวปำคือ "Yesterday Once More" ที่ออกมาในปี 1973 จากอัลบั้ม "Now & Then" เพลงนี้เขียนโดย Richard ร่วมกับ John Bettis เพื่อเล่าเรื่องความคิดถึงเพลงเก่าๆ ที่เคยฟังในวัยเยาว์ เหมือนกับที่ผมฟังจากเครื่องเสียงของพ่อ มันเริ่มต้นด้วยเสียงเปียโนนุ่มๆ ตามด้วยเสียงร้องของ Karen ที่ชวนให้หวนนึกถึงวันเก่าๆ และยังมีเซกเวย์เชื่อมไปยังเมดเลย์เพลงคลาสสิกยุค 60s ที่ทำเหมือนรายการวิทยุเก่าๆ บนข้าง B ของอัลบั้ม เพลงนี้ถูกบันทึกที่ A&M Studios ใน Los Angeles และปล่อยซิงเกิลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1973 ด้วยความยาว 3:56 นาที มันเดบิวต์บนชาร์ต Cash Box ที่อันดับ 71 ก่อนพุ่งขึ้นสู่อันดับ 1 ในเดือนสิงหาคม และติดอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 (ถูก "Bad, Bad Leroy Brown" ของ Jim Croce เบียดตก) แต่ครองอันดับ 1 บน Adult Contemporary Chart ซึ่งเป็นเพลงที่ 8 ของพวกเขาที่ทำได้ในรอบ 4 ปี

    ความดังของ "Yesterday Once More" ไม่ได้จำกัดแค่ในอเมริกา มันขึ้นอันดับ 2 ใน UK ซึ่งเป็นซิงเกิลขายดีที่สุดของพวกเขาในเกาะอังกฤษ ขายได้กว่า 250,000 แผ่น และได้รับการรับรอง Silver จาก BPI ในญี่ปุ่นเพลงนี้ฮิตระเบิด ขายได้กว่า 600,000 แผ่นภายในกลางปี 1974 และกลายเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดของ The Carpenters ในประเทศนั้น ตามด้วยอันดับ 1 ในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และแคนาดา รวมถึงอันดับสูงๆ ในออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ และนิวซีแลนด์ มันได้รับการรับรอง Gold จาก RIAA ในอเมริกาด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านแผ่น Richard เองเคยบอกในสารคดีญี่ปุ่นว่านี่คือเพลงโปรดที่เขาแต่ง และเขายังเล่นเวอร์ชันบรรเลงในคอนเสิร์ตหลายครั้ง เพลงนี้ถูกคัฟเวอร์โดยศิลปินมากมาย เช่น วง Candies ในญี่ปุ่นปี 1974, Redd Kross ในเวอร์ชันร็อก และ Priscilla Chan ในคอนเสิร์ต farewell ปี 1989 มันยังถูกใช้ในสื่อต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความคิดถึง เช่น ในภาพยนตร์หรือโฆษณาที่ชวนนึกถึงอดีต

    แม้ The Carpenters จะดังเปรี้ยงปร้าง แต่ชีวิตของพวกเขาก็มีด้านมืด Richard เคยติด Quaalude ในช่วงปลาย 1970s จนต้องหยุดทัวร์และเข้ารับการบำบัด ส่วน Karen ต่อสู้กับโรค anorexia nervosa ที่ทำให้เธอผอมแห้งและสุขภาพทรุดโทรม จนเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1983 ขณะอายุเพียง 32 ปี เหตุการณ์นี้ทำให้โลกช็อกและจุดประกายให้คนหันมาสนใจโรคการกินผิดปกติมากขึ้น หลังจากนั้น Richard ยังคงทำงานเดี่ยวและออกอัลบั้ม posthumous เช่น "Voice of the Heart" ในปี 1983 แต่ไม่มีอะไรแทนที่เสียงร้องของ Karen ได้ มรดกของ The Carpenters ยังคงอยู่ พวกเขาอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังอย่าง Michael Jackson, Scott Weiland และศิลปินญี่ปุ่นหลายคน Rolling Stone จัดให้พวกเขาเป็นหนึ่งใน 20 Greatest Duos of All Time และ Karen เป็นหนึ่งในนักร้องหญิงยอดเยี่ยม เพลงของพวกเขามักถูกใช้ในงานแต่งงานหรือเพลงประกอบชีวิต เพราะความงดงามและความโรแมนติกที่เหนือกาลเวลา

    ทุกครั้งที่ผมได้ยิน "Yesterday Once More" มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นเรื่องราวของความทรงจำ ของพี่น้องคู่นี้ที่สร้างเสียงเพลงอมตะ และของช่วงเวลาที่ผมใช้กับพ่อ มันทำให้ผมรู้สึกว่า อดีตยังคงกลับมาอีกครั้ง เหมือนชื่อเพลง.. Yesterday Once More

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/ywB8vjMnoEw
    Yesterday Once More: 🎵 เสียงเพลงที่พาย้อนเวลา ⌛ 🎵 ย้อนกลับไปในวัยเด็กของผม ช่วงเวลาที่บ้านเต็มไปด้วยเสียงดนตรีจากชุดเครื่องเสียงสุดหรูของพ่อ เขามักจะเปิดเพลงเพื่อโชว์ลำโพงที่ให้เสียงใสกิ๊งราวกับคริสตัล แม้ว่าตอนนั้นจะเล่นจากเทปคาสเซ็ทเก่าๆ แต่สุนทรียภาพของดนตรีที่ไหลออกมานั้นไม่ได้ต่างอะไรจากการเล่นแผ่นเสียงไวนิลหรือซีดีสมัยนี้เลยครับ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่นและความทรงจำดีๆ โดยเฉพาะเพลงหนึ่งที่พ่อชอบเปิดบ่อยๆ นั่นคือ "Yesterday Once More" ของ The Carpenters เพลงนี้ไม่ใช่แค่เสียงเพลงธรรมดา แต่เป็นเหมือนประตูเวลาที่พาผมย้อนกลับไปหาช่วงเวลาที่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความสุข 📻 วง The Carpenters เกิดจากสองพี่น้องคู่บุญอย่าง Karen และ Richard Carpenter ที่เติบโตมาในเมือง New Haven รัฐ Connecticut สหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ายมาอยู่ Downey ใน California เมื่อปี 1963 เพื่อไล่ตามความฝันทางดนตรี Richard ผู้พี่ชายเกิดปี 1946 เป็นนักเปียโนตัวฉกาจและชอบจัดเรียงเสียงประสาน เขาเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่เด็กและต่อมาเข้าเรียนที่ California State University, Long Beach ส่วน Karen น้องสาวเกิดปี 1950 เดิมทีเล่นกลองก่อนจะค้นพบพรสวรรค์ในเสียงร้องคอนทราลโตที่อบอุ่นและนุ่มนวลราวกับกำมะหยี่ 🎹🥁 พวกเขาเริ่มเล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่ปี 1965 ในรูปแบบวงแจ๊สชื่อ Richard Carpenter Trio ร่วมกับเพื่อน Wesley Jacobs จากนั้นพัฒนามาเป็นวง Spectrum ที่เล่นเพลงแนว middle-of-the-road แต่ยังไม่ดังเปรี้ยง จนกระทั่งปี 1969 พวกเขาตัดสินใจเป็นดูโอ้อย่างเป็นทางการและเซ็นสัญญากับค่าย A&M Records โดยใช้ชื่อ "Carpenters" แบบไม่มี "The" นำหน้า เพื่อให้ดูทันสมัยเหมือนวงร็อกดังๆ อย่าง Buffalo Springfield หรือ Jefferson Airplane จากจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก The Carpenters ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงด้วยสไตล์ซอฟต์ร็อกที่ผสมผสานฮาร์โมนีใกล้ชิดและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Karen เพลงฮิตแรกๆ อย่าง "(They Long to Be) Close to You" และ "We've Only Just Begun" ในปี 1970 ทำให้พวกเขาพุ่งขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเพลงดังอีกเพียบ เช่น "Superstar", "Rainy Days and Mondays" และ "Top of the World" ที่ทำให้พวกเขาได้รับรางวัล Grammy ถึง 3 ตัว รวมถึง Best New Artist และ Best Contemporary Performance by a Duo, Group or Chorus 🌟 ตลอดช่วงทศวรรษ 1970 พวกเขาออกอัลบั้มถึง 10 ชุด โดยแต่ละชุดขายได้มากกว่า 1 ล้านแผ่น โดยเฉพาะอัลบั้มรวบฮิต "The Singles: 1969-1973" ที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Top 200 พวกเขาทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก ออกทีวีสเปเชียล และกลายเป็นศิลปินขายดีที่สุดในแนว easy listening และ adult contemporary ด้วยยอดขายแผ่นเสียงรวมกว่า 100 ล้านแผ่นทั่วโลก ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีที่สุดตลอดกาล แต่เพลงที่ทำให้ผมหลงรักวงนี้อย่างหัวปักหัวปำคือ "Yesterday Once More" ที่ออกมาในปี 1973 จากอัลบั้ม "Now & Then" เพลงนี้เขียนโดย Richard ร่วมกับ John Bettis เพื่อเล่าเรื่องความคิดถึงเพลงเก่าๆ ที่เคยฟังในวัยเยาว์ เหมือนกับที่ผมฟังจากเครื่องเสียงของพ่อ มันเริ่มต้นด้วยเสียงเปียโนนุ่มๆ ตามด้วยเสียงร้องของ Karen ที่ชวนให้หวนนึกถึงวันเก่าๆ และยังมีเซกเวย์เชื่อมไปยังเมดเลย์เพลงคลาสสิกยุค 60s ที่ทำเหมือนรายการวิทยุเก่าๆ บนข้าง B ของอัลบั้ม 🎸 เพลงนี้ถูกบันทึกที่ A&M Studios ใน Los Angeles และปล่อยซิงเกิลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1973 ด้วยความยาว 3:56 นาที มันเดบิวต์บนชาร์ต Cash Box ที่อันดับ 71 ก่อนพุ่งขึ้นสู่อันดับ 1 ในเดือนสิงหาคม และติดอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 (ถูก "Bad, Bad Leroy Brown" ของ Jim Croce เบียดตก) แต่ครองอันดับ 1 บน Adult Contemporary Chart ซึ่งเป็นเพลงที่ 8 ของพวกเขาที่ทำได้ในรอบ 4 ปี ความดังของ "Yesterday Once More" ไม่ได้จำกัดแค่ในอเมริกา มันขึ้นอันดับ 2 ใน UK ซึ่งเป็นซิงเกิลขายดีที่สุดของพวกเขาในเกาะอังกฤษ ขายได้กว่า 250,000 แผ่น และได้รับการรับรอง Silver จาก BPI ในญี่ปุ่นเพลงนี้ฮิตระเบิด ขายได้กว่า 600,000 แผ่นภายในกลางปี 1974 และกลายเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดของ The Carpenters ในประเทศนั้น ตามด้วยอันดับ 1 ในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และแคนาดา รวมถึงอันดับสูงๆ ในออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ และนิวซีแลนด์ 📈 มันได้รับการรับรอง Gold จาก RIAA ในอเมริกาด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านแผ่น Richard เองเคยบอกในสารคดีญี่ปุ่นว่านี่คือเพลงโปรดที่เขาแต่ง และเขายังเล่นเวอร์ชันบรรเลงในคอนเสิร์ตหลายครั้ง เพลงนี้ถูกคัฟเวอร์โดยศิลปินมากมาย เช่น วง Candies ในญี่ปุ่นปี 1974, Redd Kross ในเวอร์ชันร็อก และ Priscilla Chan ในคอนเสิร์ต farewell ปี 1989 มันยังถูกใช้ในสื่อต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความคิดถึง เช่น ในภาพยนตร์หรือโฆษณาที่ชวนนึกถึงอดีต แม้ The Carpenters จะดังเปรี้ยงปร้าง แต่ชีวิตของพวกเขาก็มีด้านมืด Richard เคยติด Quaalude ในช่วงปลาย 1970s จนต้องหยุดทัวร์และเข้ารับการบำบัด ส่วน Karen ต่อสู้กับโรค anorexia nervosa ที่ทำให้เธอผอมแห้งและสุขภาพทรุดโทรม จนเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1983 ขณะอายุเพียง 32 ปี เหตุการณ์นี้ทำให้โลกช็อกและจุดประกายให้คนหันมาสนใจโรคการกินผิดปกติมากขึ้น 💔 หลังจากนั้น Richard ยังคงทำงานเดี่ยวและออกอัลบั้ม posthumous เช่น "Voice of the Heart" ในปี 1983 แต่ไม่มีอะไรแทนที่เสียงร้องของ Karen ได้ มรดกของ The Carpenters ยังคงอยู่ พวกเขาอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังอย่าง Michael Jackson, Scott Weiland และศิลปินญี่ปุ่นหลายคน Rolling Stone จัดให้พวกเขาเป็นหนึ่งใน 20 Greatest Duos of All Time และ Karen เป็นหนึ่งในนักร้องหญิงยอดเยี่ยม เพลงของพวกเขามักถูกใช้ในงานแต่งงานหรือเพลงประกอบชีวิต เพราะความงดงามและความโรแมนติกที่เหนือกาลเวลา ทุกครั้งที่ผมได้ยิน "Yesterday Once More" มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นเรื่องราวของความทรงจำ ของพี่น้องคู่นี้ที่สร้างเสียงเพลงอมตะ และของช่วงเวลาที่ผมใช้กับพ่อ มันทำให้ผมรู้สึกว่า อดีตยังคงกลับมาอีกครั้ง เหมือนชื่อเพลง.. Yesterday Once More 🌹 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/ywB8vjMnoEw
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • วันแม่ปีนี้ ๑๒ ส.ค. ๖๘ พาแม่ออกไปสร้างความทรงจำดีๆ ด้วยกัน
    ไม่ว่าจะเป็นการกินข้าวนอกบ้าน เที่ยวใกล้ๆ หรือแค่ใช้เวลานั่งคุยกัน
    เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุด…คือเวลาที่เราให้กัน

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
    ข้าพระพุทธเจ้า ผู้บริหาร และพนักงานเว็บไซต์ อีทราเวลเวย์ ดอทคอม

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #วันแม่ #รักแม่ที่สุด #MotherDay #เวลาของเรา #ความทรงจำดีๆ #FamilyTime
    💙 วันแม่ปีนี้ ๑๒ ส.ค. ๖๘ พาแม่ออกไปสร้างความทรงจำดีๆ ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการกินข้าวนอกบ้าน เที่ยวใกล้ๆ หรือแค่ใช้เวลานั่งคุยกัน เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุด…คือเวลาที่เราให้กัน 💐👩‍👧‍👦 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า ผู้บริหาร และพนักงานเว็บไซต์ อีทราเวลเวย์ ดอทคอม LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #วันแม่ #รักแม่ที่สุด #MotherDay #เวลาของเรา #ความทรงจำดีๆ #FamilyTime
    0 Comments 0 Shares 257 Views 0 Reviews
  • บริษัททัวร์ eTravelWay.com บริษัททัวร์ต่างประเทศแห่งใหญ่ที่สุดบนโลกออนไลน์ ประสบการณ์กว่า 22 ปี
    จัดเต็มความเหนือระดับบริการนำเที่ยวทัวร์ต่างประเทศและทัวร์ในประเทศ ที่มีตัวเลือกเส้นทางท่องเที่ยวให้ลูกค้าได้เลือกกันอย่างจุใจ จำนวนมากและหลากหลายที่สุดบนโลกออนไลน์ พาชมครบทุกจุดแลนด์มาร์ก เช็คอินทุกมุมไฮไลต์ ดูแลทุกการเดินทางอย่างใกล้ชิดโดยทีมมัคคุเทศน์มืออาชีพที่มีใบอนุญาตถูกต้อง การันตีความน่าเชื่อถือจากการเป็นบริษัททัวร์ต่างประเทศ ที่มีลูกค้านับหมื่นรายต่อปีให้ความไว้วางใจเสมอมาตลอดระยะเวลากว่า 22 ปี เดินทางอย่างมีความสุขและประทับใจแบบไม่รู้ลืมไปกับเรา

    นอกจากโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศและในประเทศแล้ว เรายังเป็นผู้ให้บริการจองโรงแรม เที่ยวบิน รถยนต์ ท่องเที่ยวเรือสำราญ รวมถึงตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ระดับแนวหน้าของไทย ครบวงจรทุกเรื่องการเดินทางและการท่องเที่ยวในที่เดียว ด้วยราคามาตรฐานยุติธรรม ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษา แนะนำแพ็คเกจที่ใช่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เลือกให้เราเป็นผู้ช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ในวันหยุดของทุกท่าน เลือก eTravelWay.com
    ✨บริษัททัวร์ eTravelWay.com บริษัททัวร์ต่างประเทศแห่งใหญ่ที่สุดบนโลกออนไลน์ ประสบการณ์กว่า 22 ปี จัดเต็มความเหนือระดับบริการนำเที่ยวทัวร์ต่างประเทศและทัวร์ในประเทศ ที่มีตัวเลือกเส้นทางท่องเที่ยวให้ลูกค้าได้เลือกกันอย่างจุใจ จำนวนมากและหลากหลายที่สุดบนโลกออนไลน์ พาชมครบทุกจุดแลนด์มาร์ก เช็คอินทุกมุมไฮไลต์ ดูแลทุกการเดินทางอย่างใกล้ชิดโดยทีมมัคคุเทศน์มืออาชีพที่มีใบอนุญาตถูกต้อง การันตีความน่าเชื่อถือจากการเป็นบริษัททัวร์ต่างประเทศ ที่มีลูกค้านับหมื่นรายต่อปีให้ความไว้วางใจเสมอมาตลอดระยะเวลากว่า 22 ปี เดินทางอย่างมีความสุขและประทับใจแบบไม่รู้ลืมไปกับเรา ✨นอกจากโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศและในประเทศแล้ว เรายังเป็นผู้ให้บริการจองโรงแรม เที่ยวบิน รถยนต์ ท่องเที่ยวเรือสำราญ รวมถึงตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ระดับแนวหน้าของไทย ครบวงจรทุกเรื่องการเดินทางและการท่องเที่ยวในที่เดียว ด้วยราคามาตรฐานยุติธรรม ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษา แนะนำแพ็คเกจที่ใช่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เลือกให้เราเป็นผู้ช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ในวันหยุดของทุกท่าน เลือก eTravelWay.com
    0 Comments 0 Shares 257 Views 0 Reviews
  • ฉลองปีใหม่ 2026 แบบไม่ซ้ำใครที่ "ไต้หวัน"
    ร่วมนับถอยหลัง Countdown สุดตระการตา ณ ตึกไทเป 101
    เที่ยวหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา
    เช็คอินอาลีซาน ปล่อยโคมลอยสุดประทับใจที่ผิงซี

    เดินทางโดย : ไชน่าแอร์ไลน์ (CI)
    วันที่เดินทาง : 31 ธ.ค. 68 - 4 ม.ค. 69
    5 วัน 4 คืน ครบทุกไฮไลท์

    โปรแกรมเที่ยวเด่นๆ
    ➤ ไถจง – ฟาร์มดอกไม้จงเซ่อ – ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา
    ➤ วัดเหวินหวู่ – สิงโตหินอ่อน – หมู่บ้านสายรุ้ง – ตลาดเหวินฮั่ว
    ➤ ชิมชาอู่หลง – เที่ยวอุทยานอาลีซาน – ช้อปปิ้งซีเหมินติง
    ➤ หมู่บ้านจิ่วเฟิ่น – ถนนสือเฟิ่น – ปล่อยโคมขอพรที่ผิงซี
    ➤ ถ่ายรูปสุดปังกับตึกไทเป 101

    เก็บความทรงจำดีๆ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่


    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ed8679

    ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/b999ee

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #Countdown2026 #Taipei101 #เที่ยวไต้หวัน #ปีใหม่ไต้หวัน #จิ่วเฟิ่น #ผิงซี #ทะเลสาบสุริยันจันทรา #อาลีซาน #ซีเหมินติง #เที่ยวกับเราไม่มีเหงา
    🎆 ฉลองปีใหม่ 2026 แบบไม่ซ้ำใครที่ "ไต้หวัน" 🎉 ✨ ร่วมนับถอยหลัง Countdown สุดตระการตา ณ ตึกไทเป 101 🌸 เที่ยวหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น 🍵 ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🌲 เช็คอินอาลีซาน 🍍 ปล่อยโคมลอยสุดประทับใจที่ผิงซี 🛫 เดินทางโดย : ไชน่าแอร์ไลน์ (CI) 📅 วันที่เดินทาง : 31 ธ.ค. 68 - 4 ม.ค. 69 👜 5 วัน 4 คืน ครบทุกไฮไลท์ 🗺️ โปรแกรมเที่ยวเด่นๆ ➤ ไถจง – ฟาร์มดอกไม้จงเซ่อ 🌼 – ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🚤 ➤ วัดเหวินหวู่ – สิงโตหินอ่อน – หมู่บ้านสายรุ้ง 🎨 – ตลาดเหวินฮั่ว ➤ ชิมชาอู่หลง 🍃 – เที่ยวอุทยานอาลีซาน 🍁 – ช้อปปิ้งซีเหมินติง ➤ หมู่บ้านจิ่วเฟิ่น – ถนนสือเฟิ่น – ปล่อยโคมขอพรที่ผิงซี 🎈 ➤ ถ่ายรูปสุดปังกับตึกไทเป 101 🏙️ 📸 เก็บความทรงจำดีๆ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ed8679 ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/b999ee LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #Countdown2026 #Taipei101 #เที่ยวไต้หวัน #ปีใหม่ไต้หวัน #จิ่วเฟิ่น #ผิงซี #ทะเลสาบสุริยันจันทรา #อาลีซาน #ซีเหมินติง #เที่ยวกับเราไม่มีเหงา
    0 Comments 0 Shares 746 Views 0 Reviews
  • ทุกการพบคือ... การเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลานี้ ให้ดีที่สุด! คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้ จนไม่ได้เจอกันอีกเลย

    เมื่อวันพรุ่งนี้อาจไม่มีอีกแล้ว... รักให้มากที่สุด ก่อนที่จะสายเกินไป อย่าปล่อยให้ความโกรธพรากคนที่คุณรัก ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด เพราะทุกการพบคือการเตรียมจากลา

    จะพาทบทวนความสัมพันธ์ ความเปราะบางของชีวิต และเหตุผลที่เราควรใช้ช่วงเวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่า วันพรุ่งนี้จะมีให้กับทุกคนอีกหรือไม่

    ชีวิตคือ “ของขวัญชั่วคราว” ที่ไม่มีใครบอกได้ว่า วันหมดอายุคือเมื่อไหร่ เคยไหม... อยู่กับใครสักคนทุกวัน จนหลงลืมว่า เขาอาจไม่อยู่กับเราตลอดไป?

    เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วย “ความไม่แน่นอน” และ “การสูญเสีย” แม้จะรู้ดีว่าความตาย เป็นปลายทางของทุกชีวิต แต่หลายคนก็ยังใช้ชีวิตราวกับว่า มีเวลามากมายไม่รู้จบ ทั้งที่จริง... เราไม่มีใครรู้เลยว่า “วันนี้” อาจเป็น “วันสุดท้าย” ที่เราจะได้เห็นรอยยิ้มของใครบางคน

    การเข้าใจความไม่แน่นอนของชีวิต ไม่ได้ทำให้เราต้องใช้ชีวิตอย่างเศร้าสร้อย แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เรา “เห็นคุณค่า” ของแต่ละวินาทีที่ยังมีอยู่ ใช้โอกาสนี้ให้ดีที่สุดก่อนที่จะ “สายเกินไป”

    ความหมายของคำว่า “ทุกการพบคือการเตรียมจากลา” คำพูดที่ดูเรียบง่ายนี้ กลับเต็มไปด้วยความจริงที่ลึกซึ้ง

    เราเกิดมาเพื่อ “พบเจอ” และ “จากลา” เป็นวัฏจักรของชีวิต ที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แม้เราจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงมัน แต่ความตายก็ยังอยู่ตรงนั้น รอวันเวลาที่มาถึง

    “เราต่างพบกันชั่วคราว เพื่อจากกันตลอดกาลเท่านั้นเอง”

    ประโยคนี้อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกใจหาย แต่มันคือ “ความจริง” ที่ควรเตือนใจเราทุกวัน ว่า... อย่าประมาทกับเวลา อย่าผัดวันประกันพรุ่งในการรัก การให้อภัย หรือการดูแลกัน และอย่าปล่อยให้ความโกรธ กลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราทิ้งไว้ให้กัน

    เพราะ “ความตาย” ไม่รอใคร... บางคนเพิ่งกอดกันเมื่อวาน วันนี้อาจเหลือแค่ความว่างเปล่า...

    มนุษย์เรามีแนวโน้ม จะมองข้ามความเปราะบางของชีวิต เราใช้ชีวิตเหมือนมีพรุ่งนี้เสมอ ทั้งที่พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง สำหรับบางคน

    ลองคิดดูสิ... ถ้าคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย คุณจะยังโกรธใครอยู่ไหม? ถ้าคนที่คุณรักกำลังจะจากไป คุณจะยังเลือกความเงียบมากกว่าการสื่อสารไหม? ถ้าพรุ่งนี้เขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว คุณจะเสียใจแค่ไหน ที่ไม่ได้บอกรักเขาอีกสักครั้ง?

    “การตาย” อาจเกิดขึ้นทันที โดยไม่ให้เวลาเตรียมใจแม้แต่นาทีเดียว

    คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้... จนไม่ได้เจอกันอีกเลย โกรธ... คืออารมณ์ที่มนุษย์ทุกคนมี แต่การเก็บความโกรธไว้นาน ๆ โดยไม่หาทางปลดปล่อยมัน อาจกลายเป็นบาดแผลในความสัมพันธ์ ที่ไม่มีวันรักษาได้

    คนเราทะเลาะกันได้ ผิดใจกันได้ แต่ควรรีบเคลียร์ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า “โอกาสหน้า” จะยังมีอยู่หรือเปล่า

    “ความโกรธไม่ใช่ปัญหา... แต่การไม่จัดการความโกรธต่างหาก ที่เป็นปัญหา” ทุกความโกรธ ทุกความเข้าใจผิด ควรถูกแก้ไขในวันที่ยังมีโอกาส ไม่ใช่ในวันงานศพ ที่ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว

    ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด รักให้มากที่สุด เท่าที่เวลาจะมีให้ เวลาคือทรัพยากรที่ใช้แล้ว ไม่สามารถเรียกคืนได้ แทนที่จะมัวเสียเวลาไปกับความคาดหวัง การเปรียบเทียบ หรือความขุ่นเคืองใจ ลองหันกลับมาใช้ “เวลาที่เหลืออยู่” เพื่อทำสิ่งเหล่านี้...

    บอกรักให้บ่อยขึ้น กอดกันให้แน่นขึ้น ให้อภัยเร็วขึ้น ฟังกันมากขึ้น ใส่ใจกันมากกว่าก่อน เพราะสุดท้ายแล้ว... ไม่มีใครเสียใจที่รักมากเกินไป แต่ทุกคนเสียใจที่ “ไม่ได้รักให้มากพอ”

    เมื่อวันพรุ่งนี้ไม่มีอีกแล้ว... โลกนี้ไม่เคยเตรียมเราให้พร้อมกับการจากลา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ คนรัก เพื่อนสนิท หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง ทุกคนล้วนมีวันจากไป บางคนอาจจากกันด้วยเหตุผล บางคนจากกันด้วยความตาย และบางคนจากไป... โดยไม่มีแม้แต่คำลา

    และเมื่อวันนั้นมาถึง... ไม่มีเวลาแก้ตัว ไม่มีเวลาอธิบาย ไม่มีเวลาขอโทษ ไม่มีเวลาเริ่มต้นใหม่ จะดีกว่าไหม ถ้าทำทุกวันให้ดีที่สุด... เหมือนมันคือวันสุดท้าย

    อย่าทำร้ายกันด้วยความเงียบ การไม่พูด การไม่อธิบาย การไม่บอกความรู้สึก คือสิ่งที่ทำร้ายจิตใจ ได้มากกว่าคำพูดรุนแรงเสียอีก

    ในช่วงเวลาที่มีจำกัด คำพูดง่าย ๆ อย่าง “ขอโทษ” “คิดถึง” หรือ “รักนะ” อาจเป็นสิ่งที่เปลี่ยนใจใครบางคนได้ และอาจเป็นคำสุดท้ายที่เขาได้ยินจากเรา

    ถ้าเป็นวันนี้... คุณยังอยากโกรธอยู่ไหม? ลองถามตัวเอง... ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา... เรายังอยากถือโทษใครอยู่ไหม? ถ้าคำตอบคือ “ไม่” แปลว่า... ความโกรธนั้น ไม่สำคัญพอจะเก็บมันไว้ตั้งแต่แรก

    ชีวิตสั้นเกินกว่าจะเก็บความรู้สึกดี ๆ ไว้ ทุกการพบคือการเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลาที่มีให้คุ้มค่า ใช้ใจในการรัก ใช้เวลาในการฟัง ใช้โอกาสในการให้อภัย ใช้คำพูดในการสร้างความเข้าใจ

    โลกใบนี้ไม่แน่นอน แต่การกระทำของเราวันนี้สามารถ “เปลี่ยนแปลงความทรงจำของใครสักคนตลอดไป”

    ทุกลมหายใจ คือของขวัญ อย่ารอให้สายเกินไป ก่อนจะพูดว่า... "ฉันรักเธอ"

    เราควรให้อภัยคนที่ทำร้ายเรา? เพราะการให้อภัย คือการปลดปล่อยตัวเอง ไม่ใช่เพื่อตัวเขา แต่เพื่อตัวเรา ที่จะได้ก้าวต่อไปอย่างสงบ

    หากคุณยังรู้สึกผิด หรือยังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แปลว่า... ยังไม่สายเกินไปที่จะพูดคำขอโท

    คำว่า “ชั่วคราว” มีพลังมาก เพราะมันเตือนให้เรารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดยั่งยืน ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็ผ่านไป

    เราจะหยุดโกรธคนที่เรารัก หากนึกถึงช่วงเวลาที่ดี นึกถึงวันหนึ่งที่เขาอาจไม่อยู่ แล้วคุณจะรู้ว่าความโกรธไม่คุ้มค่า

    ความรักจะช่วยเยียวยาความเสียใจได้ เพราะความรักคือการเข้าใจ ให้อภัย และเป็นพลังงานที่อยู่เหนือความเศร้า

    เริ่มใช้ชีวิตให้คุ้มค่าจากวันนี้ ลองโทรหาคนที่คุณคิดถึง พูดในสิ่งที่อยากพูด ทำในสิ่งที่อยากทำ ก่อนจะไม่มีโอกาสอีก

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 222155 เม.ย. 2568

    #ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด #อย่าปล่อยให้สายเกินไป #รักให้เต็มที่ #คำขอโทษสุดท้าย #ความตายคือปลายทาง #ความรักและการให้อภัย #ความทรงจำดีๆ #ชีวิตสั้นนัก #พบเพื่อจาก #เราต่างพบกันชั่วคราว
    ทุกการพบคือ... การเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลานี้ ให้ดีที่สุด! คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้ จนไม่ได้เจอกันอีกเลย เมื่อวันพรุ่งนี้อาจไม่มีอีกแล้ว... รักให้มากที่สุด ก่อนที่จะสายเกินไป อย่าปล่อยให้ความโกรธพรากคนที่คุณรัก ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด เพราะทุกการพบคือการเตรียมจากลา จะพาทบทวนความสัมพันธ์ ความเปราะบางของชีวิต และเหตุผลที่เราควรใช้ช่วงเวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่า วันพรุ่งนี้จะมีให้กับทุกคนอีกหรือไม่ 🌿 ชีวิตคือ “ของขวัญชั่วคราว” ที่ไม่มีใครบอกได้ว่า วันหมดอายุคือเมื่อไหร่ เคยไหม... อยู่กับใครสักคนทุกวัน จนหลงลืมว่า เขาอาจไม่อยู่กับเราตลอดไป? เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วย “ความไม่แน่นอน” และ “การสูญเสีย” แม้จะรู้ดีว่าความตาย เป็นปลายทางของทุกชีวิต แต่หลายคนก็ยังใช้ชีวิตราวกับว่า มีเวลามากมายไม่รู้จบ ทั้งที่จริง... เราไม่มีใครรู้เลยว่า “วันนี้” อาจเป็น “วันสุดท้าย” ที่เราจะได้เห็นรอยยิ้มของใครบางคน การเข้าใจความไม่แน่นอนของชีวิต ไม่ได้ทำให้เราต้องใช้ชีวิตอย่างเศร้าสร้อย แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เรา “เห็นคุณค่า” ของแต่ละวินาทีที่ยังมีอยู่ ใช้โอกาสนี้ให้ดีที่สุดก่อนที่จะ “สายเกินไป” ความหมายของคำว่า “ทุกการพบคือการเตรียมจากลา” คำพูดที่ดูเรียบง่ายนี้ กลับเต็มไปด้วยความจริงที่ลึกซึ้ง เราเกิดมาเพื่อ “พบเจอ” และ “จากลา” เป็นวัฏจักรของชีวิต ที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แม้เราจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงมัน แต่ความตายก็ยังอยู่ตรงนั้น รอวันเวลาที่มาถึง 📌 “เราต่างพบกันชั่วคราว เพื่อจากกันตลอดกาลเท่านั้นเอง” ประโยคนี้อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกใจหาย แต่มันคือ “ความจริง” ที่ควรเตือนใจเราทุกวัน ว่า... อย่าประมาทกับเวลา อย่าผัดวันประกันพรุ่งในการรัก การให้อภัย หรือการดูแลกัน และอย่าปล่อยให้ความโกรธ กลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราทิ้งไว้ให้กัน เพราะ “ความตาย” ไม่รอใคร... 🖤 บางคนเพิ่งกอดกันเมื่อวาน วันนี้อาจเหลือแค่ความว่างเปล่า... มนุษย์เรามีแนวโน้ม จะมองข้ามความเปราะบางของชีวิต เราใช้ชีวิตเหมือนมีพรุ่งนี้เสมอ ทั้งที่พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง สำหรับบางคน ลองคิดดูสิ... ถ้าคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย คุณจะยังโกรธใครอยู่ไหม? ถ้าคนที่คุณรักกำลังจะจากไป คุณจะยังเลือกความเงียบมากกว่าการสื่อสารไหม? ถ้าพรุ่งนี้เขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว คุณจะเสียใจแค่ไหน ที่ไม่ได้บอกรักเขาอีกสักครั้ง? 💡 “การตาย” อาจเกิดขึ้นทันที โดยไม่ให้เวลาเตรียมใจแม้แต่นาทีเดียว คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้... จนไม่ได้เจอกันอีกเลย โกรธ... คืออารมณ์ที่มนุษย์ทุกคนมี แต่การเก็บความโกรธไว้นาน ๆ โดยไม่หาทางปลดปล่อยมัน อาจกลายเป็นบาดแผลในความสัมพันธ์ ที่ไม่มีวันรักษาได้ 🔥 คนเราทะเลาะกันได้ ผิดใจกันได้ แต่ควรรีบเคลียร์ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า “โอกาสหน้า” จะยังมีอยู่หรือเปล่า “ความโกรธไม่ใช่ปัญหา... แต่การไม่จัดการความโกรธต่างหาก ที่เป็นปัญหา” ทุกความโกรธ ทุกความเข้าใจผิด ควรถูกแก้ไขในวันที่ยังมีโอกาส ไม่ใช่ในวันงานศพ ที่ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด รักให้มากที่สุด เท่าที่เวลาจะมีให้ ⏳ เวลาคือทรัพยากรที่ใช้แล้ว ไม่สามารถเรียกคืนได้ แทนที่จะมัวเสียเวลาไปกับความคาดหวัง การเปรียบเทียบ หรือความขุ่นเคืองใจ ลองหันกลับมาใช้ “เวลาที่เหลืออยู่” เพื่อทำสิ่งเหล่านี้... บอกรักให้บ่อยขึ้น กอดกันให้แน่นขึ้น ให้อภัยเร็วขึ้น ฟังกันมากขึ้น ใส่ใจกันมากกว่าก่อน เพราะสุดท้ายแล้ว... ไม่มีใครเสียใจที่รักมากเกินไป แต่ทุกคนเสียใจที่ “ไม่ได้รักให้มากพอ” เมื่อวันพรุ่งนี้ไม่มีอีกแล้ว... 🎗️ โลกนี้ไม่เคยเตรียมเราให้พร้อมกับการจากลา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ คนรัก เพื่อนสนิท หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง ทุกคนล้วนมีวันจากไป บางคนอาจจากกันด้วยเหตุผล บางคนจากกันด้วยความตาย และบางคนจากไป... โดยไม่มีแม้แต่คำลา และเมื่อวันนั้นมาถึง... ไม่มีเวลาแก้ตัว ไม่มีเวลาอธิบาย ไม่มีเวลาขอโทษ ไม่มีเวลาเริ่มต้นใหม่ จะดีกว่าไหม ถ้าทำทุกวันให้ดีที่สุด... เหมือนมันคือวันสุดท้าย อย่าทำร้ายกันด้วยความเงียบ 💬 การไม่พูด การไม่อธิบาย การไม่บอกความรู้สึก คือสิ่งที่ทำร้ายจิตใจ ได้มากกว่าคำพูดรุนแรงเสียอีก ในช่วงเวลาที่มีจำกัด คำพูดง่าย ๆ อย่าง “ขอโทษ” “คิดถึง” หรือ “รักนะ” อาจเป็นสิ่งที่เปลี่ยนใจใครบางคนได้ และอาจเป็นคำสุดท้ายที่เขาได้ยินจากเรา ถ้าเป็นวันนี้... คุณยังอยากโกรธอยู่ไหม? ลองถามตัวเอง... ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา... เรายังอยากถือโทษใครอยู่ไหม? ถ้าคำตอบคือ “ไม่” แปลว่า... ความโกรธนั้น ไม่สำคัญพอจะเก็บมันไว้ตั้งแต่แรก ชีวิตสั้นเกินกว่าจะเก็บความรู้สึกดี ๆ ไว้ 🌼 ทุกการพบคือการเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลาที่มีให้คุ้มค่า ใช้ใจในการรัก ใช้เวลาในการฟัง ใช้โอกาสในการให้อภัย ใช้คำพูดในการสร้างความเข้าใจ โลกใบนี้ไม่แน่นอน แต่การกระทำของเราวันนี้สามารถ “เปลี่ยนแปลงความทรงจำของใครสักคนตลอดไป” ทุกลมหายใจ คือของขวัญ 🕊️ อย่ารอให้สายเกินไป ก่อนจะพูดว่า... "ฉันรักเธอ" เราควรให้อภัยคนที่ทำร้ายเรา? เพราะการให้อภัย คือการปลดปล่อยตัวเอง ไม่ใช่เพื่อตัวเขา แต่เพื่อตัวเรา ที่จะได้ก้าวต่อไปอย่างสงบ หากคุณยังรู้สึกผิด หรือยังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แปลว่า... ยังไม่สายเกินไปที่จะพูดคำขอโท คำว่า “ชั่วคราว” มีพลังมาก เพราะมันเตือนให้เรารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดยั่งยืน ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็ผ่านไป เราจะหยุดโกรธคนที่เรารัก หากนึกถึงช่วงเวลาที่ดี นึกถึงวันหนึ่งที่เขาอาจไม่อยู่ แล้วคุณจะรู้ว่าความโกรธไม่คุ้มค่า ความรักจะช่วยเยียวยาความเสียใจได้ เพราะความรักคือการเข้าใจ ให้อภัย และเป็นพลังงานที่อยู่เหนือความเศร้า เริ่มใช้ชีวิตให้คุ้มค่าจากวันนี้ ลองโทรหาคนที่คุณคิดถึง พูดในสิ่งที่อยากพูด ทำในสิ่งที่อยากทำ ก่อนจะไม่มีโอกาสอีก ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 222155 เม.ย. 2568 #ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด #อย่าปล่อยให้สายเกินไป #รักให้เต็มที่ #คำขอโทษสุดท้าย #ความตายคือปลายทาง #ความรักและการให้อภัย #ความทรงจำดีๆ #ชีวิตสั้นนัก #พบเพื่อจาก #เราต่างพบกันชั่วคราว
    0 Comments 0 Shares 844 Views 0 Reviews
  • เก็บความทรงจำดีๆ เมื่อถึงเวลาจะเอามันออกมา #ฮีลใจ อีกครั้ง .. สุดท้าย #เทศกาลสงกรานต์ 2568
    #เก็บเวลาไว้ในขวดแก้ว

    #นมเย็นหมาที่เห่าได้น่ารำคาญที่สุด
    #โอริโอ้หมาจอมปาดหน้า
    #บราวนีหมาที่หม่ำได้ทุกอย่างขณะที่นอน
    เก็บความทรงจำดีๆ เมื่อถึงเวลาจะเอามันออกมา #ฮีลใจ อีกครั้ง .. สุดท้าย #เทศกาลสงกรานต์ 2568 #เก็บเวลาไว้ในขวดแก้ว #นมเย็นหมาที่เห่าได้น่ารำคาญที่สุด #โอริโอ้หมาจอมปาดหน้า #บราวนีหมาที่หม่ำได้ทุกอย่างขณะที่นอน
    0 Comments 0 Shares 471 Views 0 Reviews
  • อัลบั้ม LIVE 2540 (Live in Studio)
    SHAW SHERRY DUCK
    บันทึกเสียงในห้องซ้อมก่อนขึ้นเวทีโลกดนตรี
    กลอง อ.เบิ้ม / เบส จอม / กีตาร์ ตู่,ภพ
    และเพลง คนเงิน แสดงสดที่อุตรดิตถ์
    กลอง พี่อ๊อฟ / กีตาร์ เต๊ะ,บิ๊ก / เบส จอม
    ความทรงจำดีๆ เมื่อ 28 ปี ที่เพิ่งผ่านมา555
    สามารถรับฟังและดาวน์โหลดได้ทาง App
    Music Online Streaming ได้แล้ววันนี้
    Sherry Duck DonngPleng On Air ยิ้มดัง YimDunk
    #live #studiolive
    #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #shawsherryduck #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #สำนักเพลงดงเพลง #DongplengRecord
    อัลบั้ม LIVE 2540 (Live in Studio) SHAW SHERRY DUCK บันทึกเสียงในห้องซ้อมก่อนขึ้นเวทีโลกดนตรี กลอง อ.เบิ้ม / เบส จอม / กีตาร์ ตู่,ภพ และเพลง คนเงิน แสดงสดที่อุตรดิตถ์ กลอง พี่อ๊อฟ / กีตาร์ เต๊ะ,บิ๊ก / เบส จอม ความทรงจำดีๆ เมื่อ 28 ปี ที่เพิ่งผ่านมา555 สามารถรับฟังและดาวน์โหลดได้ทาง App Music Online Streaming ได้แล้ววันนี้ Sherry Duck DonngPleng On Air ยิ้มดัง YimDunk #live #studiolive #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #shawsherryduck #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #สำนักเพลงดงเพลง #DongplengRecord
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 1649 Views 41 0 Reviews
  • บริษัททัวร์ eTravelWay.com
    บริษัททัวร์ต่างประเทศแห่งใหญ่ที่สุดบนโลกออนไลน์ ประสบการณ์กว่า 21 ปี
    จัดเต็มความเหนือระดับบริการนำเที่ยวทัวร์ต่างประเทศและทัวร์ในประเทศ ที่มีตัวเลือกเส้นทางท่องเที่ยวให้ลูกค้าได้เลือกกันอย่างจุใจ จำนวนมากและหลากหลายที่สุดบนโลกออนไลน์ พาชมครบทุกจุดแลนด์มาร์ก เช็คอินทุกมุมไฮไลต์ ดูแลทุกการเดินทางอย่างใกล้ชิดโดยทีมมัคคุเทศน์มืออาชีพที่มีใบอนุญาตถูกต้อง การันตีความน่าเชื่อถือจากการเป็นบริษัททัวร์ต่างประเทศ ที่มีลูกค้านับหมื่นรายต่อปีให้ความไว้วางใจเสมอมาตลอดระยะเวลากว่า 21 ปี เดินทางอย่างมีความสุขและประทับใจแบบไม่รู้ลืมไปกับเรา

    นอกจากโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศและในประเทศแล้ว เรายังเป็นผู้ให้บริการจองโรงแรม เที่ยวบิน รถยนต์ ท่องเที่ยวเรือสำราญ รวมถึงตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ระดับแนวหน้าของไทย ครบวงจรทุกเรื่องการเดินทางและการท่องเที่ยวในที่เดียว ด้วยราคามาตรฐานยุติธรรม ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษา แนะนำแพ็คเกจที่ใช่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เลือกให้เราเป็นผู้ช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ในวันหยุดของทุกท่าน เลือก eTravelWay.com
    ✨บริษัททัวร์ eTravelWay.com บริษัททัวร์ต่างประเทศแห่งใหญ่ที่สุดบนโลกออนไลน์ ประสบการณ์กว่า 21 ปี จัดเต็มความเหนือระดับบริการนำเที่ยวทัวร์ต่างประเทศและทัวร์ในประเทศ ที่มีตัวเลือกเส้นทางท่องเที่ยวให้ลูกค้าได้เลือกกันอย่างจุใจ จำนวนมากและหลากหลายที่สุดบนโลกออนไลน์ พาชมครบทุกจุดแลนด์มาร์ก เช็คอินทุกมุมไฮไลต์ ดูแลทุกการเดินทางอย่างใกล้ชิดโดยทีมมัคคุเทศน์มืออาชีพที่มีใบอนุญาตถูกต้อง การันตีความน่าเชื่อถือจากการเป็นบริษัททัวร์ต่างประเทศ ที่มีลูกค้านับหมื่นรายต่อปีให้ความไว้วางใจเสมอมาตลอดระยะเวลากว่า 21 ปี เดินทางอย่างมีความสุขและประทับใจแบบไม่รู้ลืมไปกับเรา ✨นอกจากโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศและในประเทศแล้ว เรายังเป็นผู้ให้บริการจองโรงแรม เที่ยวบิน รถยนต์ ท่องเที่ยวเรือสำราญ รวมถึงตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ระดับแนวหน้าของไทย ครบวงจรทุกเรื่องการเดินทางและการท่องเที่ยวในที่เดียว ด้วยราคามาตรฐานยุติธรรม ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษา แนะนำแพ็คเกจที่ใช่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เลือกให้เราเป็นผู้ช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ในวันหยุดของทุกท่าน เลือก eTravelWay.com
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 607 Views 0 Reviews
  • ดาวน์โหลด PDF นี้ ก่อน Robinhood อำลา

    เป็นที่น่าใจหายสำหรับโรบินฮู้ด (Robinhood) แพลตฟอร์มดีลิเวอรีสัญชาติไทย ที่กลุ่ม SCB X ธนาคารไทยพาณิชย์ตัดสินใจไม่ไปต่อ และจะปิดบริการทุกบริการในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ที่จะถึงนี้ ท่ามกลางภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ดำเนินงาน สะสมสูงถึง 5,500 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา

    แต่การอำลาของ Robinhood นั้นถือว่ายังมีความทรงจำดีๆ ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง ทั้งการที่ ต้อง-กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร ซีอีโอของเพอร์เพิล เวนเจอร์ส ผู้พัฒนาโรบินฮู้ด เปิดแพลตฟอร์ม “TalentOfRobinhood” ช่วยพนักงานกว่า 300 คนได้หางานใหม่ โดยให้พนักงานแต่ละคนฝาก Resume หรือ Portfolio ของตัวเอง

    ล่าสุด จับมือกับ The Standard LIFE ทำคู่มือที่ชื่อว่า "Robinhood Guide 2024 100 ร้านเล็กที่ต้องลอง" รวบรวมร้านอาหารขนาดเล็ก 100 ร้านค้า ซึ่งผู้จัดทำระบุว่า ใช้เวลาหลายเดือนในการค้นหา ชิม และคัดสรรร้านคุณภาพ ทั้งร้านดังในตำนาน ร้านเล็กปากซอย และร้านที่คว้ารางวัล Robinhood Awards มาครอง แต่ละร้านล้วนมีเสน่ห์และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร

    "เรารู้ว่าคุณเป็นสายลุยที่ชอบตามหาของอร่อย เลยคัดมาแต่ร้านคุณภาพเน้นๆ ที่รับรองว่าถูกปากแน่นอน คู่มือเล่มนี้จะเป็นแผนที่นำทางคุณไปพบความอร่อยที่ซ่อนอยู่ทั่วเมือง คุณอาจได้ค้นพบร้านโปรดแห่งใหม่ หรือได้รื้อฟื้นความทรงจำดีๆ กับร้านเก่าที่คุ้นเคยด้วยรสชาติที่ดีที่คิดถึง"

    โรบินฮู้ดตั้งใจว่าคู่มือฉบับนี้จะเป็นการส่งต่อความอร่อยถึงมือผู้อ่าน เพียงแค่แวะไปชิม แชร์ หรือบอกต่อเพื่อนๆ ก็ช่วยให้ร้านอาหารขนาดเล็กเหล่านี้เติบโตได้ ไม่ว่าจะสั่งผ่านแอปฯ ไหน หรือไปกินที่ร้านโดยตรง ทุกการสนับสนุนล้วนมีความหมาย ขณะนี้เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วทาง Google Drive คลิก https://bit.ly/4c2DKgT

    ถือเป็นอีกไฟล์ PDF ที่คนกรุงเทพฯ ควรมีติดไว้บนมือถือ ถ้านึกไม่ออกว่าจะกินร้านไหน น่าจะพอเป็นไอเดียมื้อที่อยากกินได้

    #Newskit #Robinhood #RobinhoodDelivery
    ดาวน์โหลด PDF นี้ ก่อน Robinhood อำลา เป็นที่น่าใจหายสำหรับโรบินฮู้ด (Robinhood) แพลตฟอร์มดีลิเวอรีสัญชาติไทย ที่กลุ่ม SCB X ธนาคารไทยพาณิชย์ตัดสินใจไม่ไปต่อ และจะปิดบริการทุกบริการในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ที่จะถึงนี้ ท่ามกลางภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ดำเนินงาน สะสมสูงถึง 5,500 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา แต่การอำลาของ Robinhood นั้นถือว่ายังมีความทรงจำดีๆ ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง ทั้งการที่ ต้อง-กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร ซีอีโอของเพอร์เพิล เวนเจอร์ส ผู้พัฒนาโรบินฮู้ด เปิดแพลตฟอร์ม “TalentOfRobinhood” ช่วยพนักงานกว่า 300 คนได้หางานใหม่ โดยให้พนักงานแต่ละคนฝาก Resume หรือ Portfolio ของตัวเอง ล่าสุด จับมือกับ The Standard LIFE ทำคู่มือที่ชื่อว่า "Robinhood Guide 2024 100 ร้านเล็กที่ต้องลอง" รวบรวมร้านอาหารขนาดเล็ก 100 ร้านค้า ซึ่งผู้จัดทำระบุว่า ใช้เวลาหลายเดือนในการค้นหา ชิม และคัดสรรร้านคุณภาพ ทั้งร้านดังในตำนาน ร้านเล็กปากซอย และร้านที่คว้ารางวัล Robinhood Awards มาครอง แต่ละร้านล้วนมีเสน่ห์และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร "เรารู้ว่าคุณเป็นสายลุยที่ชอบตามหาของอร่อย เลยคัดมาแต่ร้านคุณภาพเน้นๆ ที่รับรองว่าถูกปากแน่นอน คู่มือเล่มนี้จะเป็นแผนที่นำทางคุณไปพบความอร่อยที่ซ่อนอยู่ทั่วเมือง คุณอาจได้ค้นพบร้านโปรดแห่งใหม่ หรือได้รื้อฟื้นความทรงจำดีๆ กับร้านเก่าที่คุ้นเคยด้วยรสชาติที่ดีที่คิดถึง" โรบินฮู้ดตั้งใจว่าคู่มือฉบับนี้จะเป็นการส่งต่อความอร่อยถึงมือผู้อ่าน เพียงแค่แวะไปชิม แชร์ หรือบอกต่อเพื่อนๆ ก็ช่วยให้ร้านอาหารขนาดเล็กเหล่านี้เติบโตได้ ไม่ว่าจะสั่งผ่านแอปฯ ไหน หรือไปกินที่ร้านโดยตรง ทุกการสนับสนุนล้วนมีความหมาย ขณะนี้เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วทาง Google Drive คลิก https://bit.ly/4c2DKgT ถือเป็นอีกไฟล์ PDF ที่คนกรุงเทพฯ ควรมีติดไว้บนมือถือ ถ้านึกไม่ออกว่าจะกินร้านไหน น่าจะพอเป็นไอเดียมื้อที่อยากกินได้ #Newskit #Robinhood #RobinhoodDelivery
    Like
    4
    0 Comments 1 Shares 1189 Views 0 Reviews