“ไม่มีวิทยาศาสตร์ ก็ไม่มีสตาร์ทอัพ — เมื่อเครื่องยนต์แห่งนวัตกรรมกำลังถูกปิดโดยไม่รู้ตัว”
Steve Blank ผู้บุกเบิกแนวคิด Lean Startup ได้เขียนบทความสะท้อนถึงวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา — การลดงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นรากฐานของนวัตกรรมและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ
เขาอธิบายว่า “วิทยาศาสตร์” ไม่ใช่แค่การทดลองในห้องแล็บ แต่คือระบบที่เชื่อมโยงกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ (ทั้งทฤษฎีและทดลอง), วิศวกร, ผู้ประกอบการ และนักลงทุน โดยแต่ละบทบาทมีหน้าที่เฉพาะที่เสริมกันอย่างกลมกลืน:
นักวิทยาศาสตร์สร้างองค์ความรู้ใหม่
วิศวกรนำความรู้นั้นไปสร้างสิ่งของ
ผู้ประกอบการนำสิ่งของไปทดสอบตลาด
นักลงทุนให้ทุนเพื่อขยายผล
Blank เตือนว่า หากตัดบทบาทใดบทบาทหนึ่งออก โดยเฉพาะ “นักวิทยาศาสตร์” ที่มักถูกมองข้ามเพราะไม่สร้างรายได้ทันที ระบบนวัตกรรมทั้งหมดจะล่มสลาย
เขายกตัวอย่างว่า เทคโนโลยีอย่าง ChatGPT, SpaceX, หรือแม้แต่วัคซีน ล้วนมีรากฐานจากการวิจัยขั้นพื้นฐานที่เริ่มต้นในมหาวิทยาลัยหรือห้องแล็บของรัฐเมื่อหลายสิบปีก่อน
นักวิทยาศาสตร์มี 2 ประเภทหลัก: ทฤษฎี (Theorists) และทดลอง (Experimentalists)
ทฤษฎีสร้างแบบจำลองความจริง ส่วนทดลองทดสอบสมมติฐาน
วิทยาศาสตร์แบ่งเป็น “พื้นฐาน” และ “ประยุกต์”
พื้นฐานเพื่อความเข้าใจโลก ประยุกต์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริง
มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ เป็นแหล่งวิจัยหลักของประเทศ
มีระบบสนับสนุนจากรัฐ เช่น NIH, NSF, DoD
นักวิจัยในมหาวิทยาลัยทำงานเหมือนสตาร์ทอัพขนาดเล็ก
มีการเขียน proposal, บริหารทีม, สร้างนวัตกรรม
วิศวกรสร้างสิ่งของจากองค์ความรู้ของนักวิทยาศาสตร์
เช่น ชิป Nvidia, จรวด SpaceX, อัลกอริทึม AI
ผู้ประกอบการนำสิ่งของไปทดสอบตลาด
ใช้หลักการทดลองแบบวิทยาศาสตร์เพื่อหาความต้องการจริง
นักลงทุน (VC) สนับสนุนผู้ประกอบการ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์โดยตรง
เพราะต้องการผลตอบแทนในระยะสั้น
การลดงบวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ จะทำให้ประเทศอ่อนแอลง
ทั้งด้านเศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และความมั่นคง
https://steveblank.com/2025/10/13/no-science-no-startups-the-unseen-engine-were-switching-off/
Steve Blank ผู้บุกเบิกแนวคิด Lean Startup ได้เขียนบทความสะท้อนถึงวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา — การลดงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นรากฐานของนวัตกรรมและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ
เขาอธิบายว่า “วิทยาศาสตร์” ไม่ใช่แค่การทดลองในห้องแล็บ แต่คือระบบที่เชื่อมโยงกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ (ทั้งทฤษฎีและทดลอง), วิศวกร, ผู้ประกอบการ และนักลงทุน โดยแต่ละบทบาทมีหน้าที่เฉพาะที่เสริมกันอย่างกลมกลืน:
นักวิทยาศาสตร์สร้างองค์ความรู้ใหม่
วิศวกรนำความรู้นั้นไปสร้างสิ่งของ
ผู้ประกอบการนำสิ่งของไปทดสอบตลาด
นักลงทุนให้ทุนเพื่อขยายผล
Blank เตือนว่า หากตัดบทบาทใดบทบาทหนึ่งออก โดยเฉพาะ “นักวิทยาศาสตร์” ที่มักถูกมองข้ามเพราะไม่สร้างรายได้ทันที ระบบนวัตกรรมทั้งหมดจะล่มสลาย
เขายกตัวอย่างว่า เทคโนโลยีอย่าง ChatGPT, SpaceX, หรือแม้แต่วัคซีน ล้วนมีรากฐานจากการวิจัยขั้นพื้นฐานที่เริ่มต้นในมหาวิทยาลัยหรือห้องแล็บของรัฐเมื่อหลายสิบปีก่อน
นักวิทยาศาสตร์มี 2 ประเภทหลัก: ทฤษฎี (Theorists) และทดลอง (Experimentalists)
ทฤษฎีสร้างแบบจำลองความจริง ส่วนทดลองทดสอบสมมติฐาน
วิทยาศาสตร์แบ่งเป็น “พื้นฐาน” และ “ประยุกต์”
พื้นฐานเพื่อความเข้าใจโลก ประยุกต์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริง
มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ เป็นแหล่งวิจัยหลักของประเทศ
มีระบบสนับสนุนจากรัฐ เช่น NIH, NSF, DoD
นักวิจัยในมหาวิทยาลัยทำงานเหมือนสตาร์ทอัพขนาดเล็ก
มีการเขียน proposal, บริหารทีม, สร้างนวัตกรรม
วิศวกรสร้างสิ่งของจากองค์ความรู้ของนักวิทยาศาสตร์
เช่น ชิป Nvidia, จรวด SpaceX, อัลกอริทึม AI
ผู้ประกอบการนำสิ่งของไปทดสอบตลาด
ใช้หลักการทดลองแบบวิทยาศาสตร์เพื่อหาความต้องการจริง
นักลงทุน (VC) สนับสนุนผู้ประกอบการ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์โดยตรง
เพราะต้องการผลตอบแทนในระยะสั้น
การลดงบวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ จะทำให้ประเทศอ่อนแอลง
ทั้งด้านเศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และความมั่นคง
https://steveblank.com/2025/10/13/no-science-no-startups-the-unseen-engine-were-switching-off/
🧪 “ไม่มีวิทยาศาสตร์ ก็ไม่มีสตาร์ทอัพ — เมื่อเครื่องยนต์แห่งนวัตกรรมกำลังถูกปิดโดยไม่รู้ตัว”
Steve Blank ผู้บุกเบิกแนวคิด Lean Startup ได้เขียนบทความสะท้อนถึงวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา — การลดงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นรากฐานของนวัตกรรมและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ
เขาอธิบายว่า “วิทยาศาสตร์” ไม่ใช่แค่การทดลองในห้องแล็บ แต่คือระบบที่เชื่อมโยงกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ (ทั้งทฤษฎีและทดลอง), วิศวกร, ผู้ประกอบการ และนักลงทุน โดยแต่ละบทบาทมีหน้าที่เฉพาะที่เสริมกันอย่างกลมกลืน:
⭐ นักวิทยาศาสตร์สร้างองค์ความรู้ใหม่
⭐ วิศวกรนำความรู้นั้นไปสร้างสิ่งของ
⭐ ผู้ประกอบการนำสิ่งของไปทดสอบตลาด
⭐ นักลงทุนให้ทุนเพื่อขยายผล
Blank เตือนว่า หากตัดบทบาทใดบทบาทหนึ่งออก โดยเฉพาะ “นักวิทยาศาสตร์” ที่มักถูกมองข้ามเพราะไม่สร้างรายได้ทันที ระบบนวัตกรรมทั้งหมดจะล่มสลาย
เขายกตัวอย่างว่า เทคโนโลยีอย่าง ChatGPT, SpaceX, หรือแม้แต่วัคซีน ล้วนมีรากฐานจากการวิจัยขั้นพื้นฐานที่เริ่มต้นในมหาวิทยาลัยหรือห้องแล็บของรัฐเมื่อหลายสิบปีก่อน
✅ นักวิทยาศาสตร์มี 2 ประเภทหลัก: ทฤษฎี (Theorists) และทดลอง (Experimentalists)
➡️ ทฤษฎีสร้างแบบจำลองความจริง ส่วนทดลองทดสอบสมมติฐาน
✅ วิทยาศาสตร์แบ่งเป็น “พื้นฐาน” และ “ประยุกต์”
➡️ พื้นฐานเพื่อความเข้าใจโลก ประยุกต์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตจริง
✅ มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ เป็นแหล่งวิจัยหลักของประเทศ
➡️ มีระบบสนับสนุนจากรัฐ เช่น NIH, NSF, DoD
✅ นักวิจัยในมหาวิทยาลัยทำงานเหมือนสตาร์ทอัพขนาดเล็ก
➡️ มีการเขียน proposal, บริหารทีม, สร้างนวัตกรรม
✅ วิศวกรสร้างสิ่งของจากองค์ความรู้ของนักวิทยาศาสตร์
➡️ เช่น ชิป Nvidia, จรวด SpaceX, อัลกอริทึม AI
✅ ผู้ประกอบการนำสิ่งของไปทดสอบตลาด
➡️ ใช้หลักการทดลองแบบวิทยาศาสตร์เพื่อหาความต้องการจริง
✅ นักลงทุน (VC) สนับสนุนผู้ประกอบการ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์โดยตรง
➡️ เพราะต้องการผลตอบแทนในระยะสั้น
✅ การลดงบวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ จะทำให้ประเทศอ่อนแอลง
➡️ ทั้งด้านเศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และความมั่นคง
https://steveblank.com/2025/10/13/no-science-no-startups-the-unseen-engine-were-switching-off/
0 Comments
0 Shares
8 Views
0 Reviews