• จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี

    "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา

    มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย

    ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา

    มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย

    หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน”

    แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา

    ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

    #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้

    พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย

    แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า

    คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย

    แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ

    เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย

    เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย

    ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย"

    สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้

    พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

    เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย

    การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น

    ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน

    แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน

    ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง”

    หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว

    เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด”

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ
    แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว”

    พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน

    เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว”

    หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส

    ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้

    มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง

    เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง

    เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว

    สวดคาถาว่า...

    เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา

    ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด

    ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้

    ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ

    หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่

    คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    หลวงปู่โง่น โสรโย
    จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน” แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้ พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย" สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้ พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง” หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด” พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว” พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว” หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้ มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว สวดคาถาว่า... เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้ ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่ คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ หลวงปู่โง่น โสรโย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี

    "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา

    มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย

    ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา

    มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย

    หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน”

    แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา

    ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

    #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้

    พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย

    แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า

    คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย

    แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ

    เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย

    เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย

    ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย"

    สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้

    พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

    เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย

    การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น

    ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน

    แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน

    ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง”

    หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว

    เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด”

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ
    แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว”

    พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน

    เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว”

    หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส

    ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้

    มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง

    เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง

    เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว

    สวดคาถาว่า...

    เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา

    ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด

    ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้

    ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ

    หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่

    คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    หลวงปู่โง่น โสรโย
    จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน” แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้ พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย" สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้ พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง” หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด” พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว” พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว” หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้ มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว สวดคาถาว่า... เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้ ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่ คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ หลวงปู่โง่น โสรโย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไตรรงค์ นำตร.ไซเบอร์ ปราบคอนเทนต์ขยะ ดับซ่า แอล โอรส
    .
    การตายสุดดราม่าของ “แบงค์ เลสเตอร์” ที่ตกเป็นเหยื่อของ “คอนเทนต์ขยะ” จนต้องสังเวยชีวิต
    ไปๆ มาๆ บานปลาย มีคนที่ต้องโดนคดีต่อเนื่องเป็นลูกโซ่
    .
    ไม่ใช่แค่แก๊งอินฟลูฯ เจ้าของคอนเทนต์ขยะเท่านั้น แต่ลามไปถึงคนที่เข้ามาล้างแค้นให้ แบงค์ เลสเตอร์ ด้วย
    .
    คนๆ นั้น ก็คือ นักเลงดังนาม “แอล โอรส” เจ้าของฉายา “รถถังฝั่งธน” ซึ่งปรากฏตัวที่วัดออเงิน ในงานศพวันแรกของแบงค์ เลสเตอร์ พร้อมกับชาวแก๊งตัวลายพร้อย
    แอล โอรส ประกาศจองกฐิน “เบิร์ด วันว่างๆ” กลางวัด โทษฐานที่เบิร์ดเป็นตัวพ่อของคอนเทนต์ขยะ ชอบเอาแบงค์ เลสเตอร์ เป็นตัวชูโรง
    .
    แม้ “เบิร์ด วันว่างๆ” จะนกรู้ไม่ยอมย่างกรายไปวัด แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รอดอยู่ดี โดนชาวแก๊ง ตามไปยำตีน ถ่ายคลิปเอามาแพร่
    .
    พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ เลยต้องออกโรง ใช้กฎหมายดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
    ไล่ตั้งแต่พวกทำคอนเทนต์ขยะ อย่าง “เบิร์ด วันว่างๆ” หรือนายธีระวัฒน์ ศรีรอง โดนข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีลักษณะอันลามก
    .
    เพราะตำรวจเจอหลักฐาน เบิร์ดโพสต์ภาพแบงค์ เลสเตอร์ โดนกลั่นแกล้งให้เปลือยกายล่อนจ้อน
    และ บก.ปคม. ก็จะจัดการ “เบิร์ด วันว่างๆ” ข้อหาค้ามนุษย์ด้วย เนื่องจากเห็นว่าได้รับประโยชน์โดยมิชอบ จากการแพร่ภาพเปลือยของแบงค์ เลสเตอร์
    .
    ส่วน “เอ็ม เอกชาติ” หรือนายเอกชาติ มีพร้อม ที่จ้างแบงค์ เลสเตอร์ กินเหล้า จนเสียชีวิต โดนข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
    พ่วงด้วยข้อหาโฆษณาเว็บพนัน เพราะมีพฤติกรรมแปะลิงค์เชิญชวนเล่นพนัน บนคอนเทนต์ขยะของตัว
    .
    ทั้งนี้ ประวัติของเอ็ม เอกชาติ เป็นคนสีเทาชัดเจน เคยถูก ป.ป.ง. ยึดทรัพย์รถซุเปอร์คาร์และอื่นๆ รวม 45 ล้านบาท
    จากพฤติกรรมเป็นเครือข่ายให้เว็บพนันของ “อั้ม” นายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ สามีของนางเอก “แยม” ธมลพรรณ ซึ่งตอนนี้ สองผัวเมียก็ยังติดคุกคดีเว็บพนันอยู่
    .
    ตำรวจไซเบอร์ ยังตามไปจัดการนักเลงอย่างแอล โอรส หรือนายศราวุธ ศรีกำเนิด เอาผิดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการปล่อยคลิปยำตีนเบิร์ด วันว่างๆ
    .
    ส่วนตำรวจนครบาลก็มุ่งขยายผล เอาผิดข้อหาทำร้ายร่างกายเบิร์ด วันว่างๆ เบื้องต้น เหยื่อตีนอ้างว่า จำได้ มีใครบ้างที่ทำร้ายเขา
    .
    นี่คือบทบาทที่น่าชื่นชมของ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ผู้มาใหม่ อย่าง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ที่รีบใช้กฎหมายออกมาปรามอย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เหล่าคนสีเทา แสดงตัวครองเมือง จัดการกันเอง
    จนเป็น “คอนเทนต์ขยะ” ซ้อน “คอนเทนต์ขยะ” แบบว่า มึงรังแกคนอ่อนแอก่อนเหรอ กูก็จะมารังแกมึงมั่ง ถ่ายคลิปมั่ง ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
    .
    ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ถือเป็นหน้าตาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กล้าในการนำทีมบุกค้นบ้านของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ซึ่งชื่อชั้นใหญ่กว่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ อย่างเทียบกันไม่ได้
    .
    งานแบบนี้ ไม่กล้าหาญจริง ทำไม่ได้ และหากพยานหลักฐานไม่แน่นหนาเพียงพอจะมัดบิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ก็มีสิทธิ์ถูกเอาคืนถึงหมดอนาคต
    .
    แต่รู้ทั้งรู้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ก็กล้าเดินเข้าบ้านบิ๊กโจ๊ก และเก็บหลักฐานสำคัญในคดีฟอกเงินและรับส่วยเว็บพนัน กลับออกมาเพียบ
    .
    ทั้งนี้ การตายของแบงค์ เลสเตอร์ อย่างน้อยก็มีคุณูปการต่อสังคมไทย ไม่ใช่การตายที่สูญเปล่า
    เพราะช่วยเปิดโปงให้เห็นถึงเครือข่ายคนสีเทา ที่มีวิธีการปั่นกระแสด้วยชีวิตคน เพื่อโกยเงินจากการพนันออนไลน์
    .
    เปิดโอกาสให้ตำรวจไซเบอร์เข้าไปกวาดล้างคนสีเทาพวกนี้ ไม่ให้ลอยหน้าลอยตา เป็นคนเด่นดัง ทั้งที่ก่อกรรมทำเข็ญกับชีวิตคน และหากินกับความฉิบหายของลูกหลานไทย
    ..............
    Sondhi X
    ไตรรงค์ นำตร.ไซเบอร์ ปราบคอนเทนต์ขยะ ดับซ่า แอล โอรส . การตายสุดดราม่าของ “แบงค์ เลสเตอร์” ที่ตกเป็นเหยื่อของ “คอนเทนต์ขยะ” จนต้องสังเวยชีวิต ไปๆ มาๆ บานปลาย มีคนที่ต้องโดนคดีต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ . ไม่ใช่แค่แก๊งอินฟลูฯ เจ้าของคอนเทนต์ขยะเท่านั้น แต่ลามไปถึงคนที่เข้ามาล้างแค้นให้ แบงค์ เลสเตอร์ ด้วย . คนๆ นั้น ก็คือ นักเลงดังนาม “แอล โอรส” เจ้าของฉายา “รถถังฝั่งธน” ซึ่งปรากฏตัวที่วัดออเงิน ในงานศพวันแรกของแบงค์ เลสเตอร์ พร้อมกับชาวแก๊งตัวลายพร้อย แอล โอรส ประกาศจองกฐิน “เบิร์ด วันว่างๆ” กลางวัด โทษฐานที่เบิร์ดเป็นตัวพ่อของคอนเทนต์ขยะ ชอบเอาแบงค์ เลสเตอร์ เป็นตัวชูโรง . แม้ “เบิร์ด วันว่างๆ” จะนกรู้ไม่ยอมย่างกรายไปวัด แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รอดอยู่ดี โดนชาวแก๊ง ตามไปยำตีน ถ่ายคลิปเอามาแพร่ . พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ เลยต้องออกโรง ใช้กฎหมายดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไล่ตั้งแต่พวกทำคอนเทนต์ขยะ อย่าง “เบิร์ด วันว่างๆ” หรือนายธีระวัฒน์ ศรีรอง โดนข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีลักษณะอันลามก . เพราะตำรวจเจอหลักฐาน เบิร์ดโพสต์ภาพแบงค์ เลสเตอร์ โดนกลั่นแกล้งให้เปลือยกายล่อนจ้อน และ บก.ปคม. ก็จะจัดการ “เบิร์ด วันว่างๆ” ข้อหาค้ามนุษย์ด้วย เนื่องจากเห็นว่าได้รับประโยชน์โดยมิชอบ จากการแพร่ภาพเปลือยของแบงค์ เลสเตอร์ . ส่วน “เอ็ม เอกชาติ” หรือนายเอกชาติ มีพร้อม ที่จ้างแบงค์ เลสเตอร์ กินเหล้า จนเสียชีวิต โดนข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พ่วงด้วยข้อหาโฆษณาเว็บพนัน เพราะมีพฤติกรรมแปะลิงค์เชิญชวนเล่นพนัน บนคอนเทนต์ขยะของตัว . ทั้งนี้ ประวัติของเอ็ม เอกชาติ เป็นคนสีเทาชัดเจน เคยถูก ป.ป.ง. ยึดทรัพย์รถซุเปอร์คาร์และอื่นๆ รวม 45 ล้านบาท จากพฤติกรรมเป็นเครือข่ายให้เว็บพนันของ “อั้ม” นายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ สามีของนางเอก “แยม” ธมลพรรณ ซึ่งตอนนี้ สองผัวเมียก็ยังติดคุกคดีเว็บพนันอยู่ . ตำรวจไซเบอร์ ยังตามไปจัดการนักเลงอย่างแอล โอรส หรือนายศราวุธ ศรีกำเนิด เอาผิดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการปล่อยคลิปยำตีนเบิร์ด วันว่างๆ . ส่วนตำรวจนครบาลก็มุ่งขยายผล เอาผิดข้อหาทำร้ายร่างกายเบิร์ด วันว่างๆ เบื้องต้น เหยื่อตีนอ้างว่า จำได้ มีใครบ้างที่ทำร้ายเขา . นี่คือบทบาทที่น่าชื่นชมของ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ผู้มาใหม่ อย่าง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ที่รีบใช้กฎหมายออกมาปรามอย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เหล่าคนสีเทา แสดงตัวครองเมือง จัดการกันเอง จนเป็น “คอนเทนต์ขยะ” ซ้อน “คอนเทนต์ขยะ” แบบว่า มึงรังแกคนอ่อนแอก่อนเหรอ กูก็จะมารังแกมึงมั่ง ถ่ายคลิปมั่ง ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง . ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ถือเป็นหน้าตาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กล้าในการนำทีมบุกค้นบ้านของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ซึ่งชื่อชั้นใหญ่กว่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ อย่างเทียบกันไม่ได้ . งานแบบนี้ ไม่กล้าหาญจริง ทำไม่ได้ และหากพยานหลักฐานไม่แน่นหนาเพียงพอจะมัดบิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ก็มีสิทธิ์ถูกเอาคืนถึงหมดอนาคต . แต่รู้ทั้งรู้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ก็กล้าเดินเข้าบ้านบิ๊กโจ๊ก และเก็บหลักฐานสำคัญในคดีฟอกเงินและรับส่วยเว็บพนัน กลับออกมาเพียบ . ทั้งนี้ การตายของแบงค์ เลสเตอร์ อย่างน้อยก็มีคุณูปการต่อสังคมไทย ไม่ใช่การตายที่สูญเปล่า เพราะช่วยเปิดโปงให้เห็นถึงเครือข่ายคนสีเทา ที่มีวิธีการปั่นกระแสด้วยชีวิตคน เพื่อโกยเงินจากการพนันออนไลน์ . เปิดโอกาสให้ตำรวจไซเบอร์เข้าไปกวาดล้างคนสีเทาพวกนี้ ไม่ให้ลอยหน้าลอยตา เป็นคนเด่นดัง ทั้งที่ก่อกรรมทำเข็ญกับชีวิตคน และหากินกับความฉิบหายของลูกหลานไทย .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1312 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ้านเมืองต้องการคนดีมีจริยธรรมสุจริต เป็นผู้นำประเทศ มิใช่นักโทษคดีทุจริต ซึ่งไม่ยอมติดคุก แสแสร้งแกล้งป่วย อาศัยการสนันสนุนของทาสผู้ภักดี ช่วยเหลือ พากันทำผิด เยาะเย้ยกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของประเทศให้สูญเสียความศักดิ์สิทธิ์

    ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ การนิรโทรกรรมผูทำผิด ม.112 การแบ่งผลประโยชน์พลังงานในพื้นที่ทับซ้อนกับขะแม โดยอาศัย MOU โมฆะ ฯลฯ ล้วนเป็นกลเกมส์โกงจากนักโทษคดีทุจริตทักษิณล้วน ๆ

    คนโกหกเป็นปกติธุระ จะไม่ทำชั่วนั้น อยู่ในฐานะที่เป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่าง การทำ MOU44 และJC44 ก็เป็นฝีมือของทักษิณล้วน ๆ เขาทำไปโดยเจตนา เพื่อกอบโกยทรัพย์พลังงานในอ่าวไทยร่วมกับฮุนเซน ตามความโลภในกมลสันดาลโดยชัดแจ้ง

    ทักษิณทำ MOU44 โดยไม่ผ่านรัฐสภา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด แต่กลับทำ JC44 รับรอง MOU44 ร่วมกับฮุนเซน แทนที่จะให้รัฐสภาไทยพิจารณา เจตนาในประเด็นนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทักษิณไม่ให้ความเชื่อถือ ไม่ยอมรับ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแม้แต่น้อย

    เพราะความอยากเป็นประธานประเทศของทักษิณ เป็นเหตุจูงใจให้เขาไม่สนใจพระบรมราชโองการของพ่อ ร.๙ แม้แต่น้อย วันนี้เขากลับมาเร่งรีบ อ้างพื้นที่ทับซ้อนตาม MOU44 ที่ตนตกลงรับรองไว้ร่วมกับฮุนเซน ตั้งแต่ พ.ศ. 2544 โน้นแล้ว

    การรีบเร่งแก้รัฐธรรมนูญ 60 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญป้องกันและปราบโกงที่ดีที่สุด จึงไม่ต้องแปลกใจว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งที่นักการชั่วฝ่ายทักษิณ จะต้องแก้ไขให้ได้ เพียงอ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการบังหน้า

    เส้นทางเดินทุกย่างก้าวของทักษิณ เป็นไปเพื่อตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศไทยชัดเจน ทุกวันเขาจะขายฝัน ปั้นน้ำให้เป็นตัว เพื่อให้คนส่วนหนึ่งหลงเชื่อ ทำแม้กระทั้งเอาน้องสาว และลูกสาว ซึ่งหาปัญญาไม่ได้ มาสืบทอดอำนาจของตนโดยไม่ละอายใจ

    หากคนไทยไม่ตื่นรู้ และปล่อยผ่านรอยเหยียบย่ำกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของนักโทษชายเทวดาชั้น 14 ​ไปได้ นิรโทษกรรมคดี ม.112 ได้ แก้รัฐธรรมนูญตามใจโจร ผ่านไปได้ วันนั้น หมายถึงวันที่ "เปรตเผด็จการ"ครองเมือง ในตำแห่งประธานาธิบดีคนแรกของประเทศไทย

    บ้านเมืองต้องการคนดีมีจริยธรรมสุจริต เป็นผู้นำประเทศ มิใช่นักโทษคดีทุจริต ซึ่งไม่ยอมติดคุก แสแสร้งแกล้งป่วย อาศัยการสนันสนุนของทาสผู้ภักดี ช่วยเหลือ พากันทำผิด เยาะเย้ยกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของประเทศให้สูญเสียความศักดิ์สิทธิ์ ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ การนิรโทรกรรมผูทำผิด ม.112 การแบ่งผลประโยชน์พลังงานในพื้นที่ทับซ้อนกับขะแม โดยอาศัย MOU โมฆะ ฯลฯ ล้วนเป็นกลเกมส์โกงจากนักโทษคดีทุจริตทักษิณล้วน ๆ คนโกหกเป็นปกติธุระ จะไม่ทำชั่วนั้น อยู่ในฐานะที่เป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่าง การทำ MOU44 และJC44 ก็เป็นฝีมือของทักษิณล้วน ๆ เขาทำไปโดยเจตนา เพื่อกอบโกยทรัพย์พลังงานในอ่าวไทยร่วมกับฮุนเซน ตามความโลภในกมลสันดาลโดยชัดแจ้ง ทักษิณทำ MOU44 โดยไม่ผ่านรัฐสภา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด แต่กลับทำ JC44 รับรอง MOU44 ร่วมกับฮุนเซน แทนที่จะให้รัฐสภาไทยพิจารณา เจตนาในประเด็นนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทักษิณไม่ให้ความเชื่อถือ ไม่ยอมรับ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแม้แต่น้อย เพราะความอยากเป็นประธานประเทศของทักษิณ เป็นเหตุจูงใจให้เขาไม่สนใจพระบรมราชโองการของพ่อ ร.๙ แม้แต่น้อย วันนี้เขากลับมาเร่งรีบ อ้างพื้นที่ทับซ้อนตาม MOU44 ที่ตนตกลงรับรองไว้ร่วมกับฮุนเซน ตั้งแต่ พ.ศ. 2544 โน้นแล้ว การรีบเร่งแก้รัฐธรรมนูญ 60 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญป้องกันและปราบโกงที่ดีที่สุด จึงไม่ต้องแปลกใจว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งที่นักการชั่วฝ่ายทักษิณ จะต้องแก้ไขให้ได้ เพียงอ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการบังหน้า เส้นทางเดินทุกย่างก้าวของทักษิณ เป็นไปเพื่อตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศไทยชัดเจน ทุกวันเขาจะขายฝัน ปั้นน้ำให้เป็นตัว เพื่อให้คนส่วนหนึ่งหลงเชื่อ ทำแม้กระทั้งเอาน้องสาว และลูกสาว ซึ่งหาปัญญาไม่ได้ มาสืบทอดอำนาจของตนโดยไม่ละอายใจ หากคนไทยไม่ตื่นรู้ และปล่อยผ่านรอยเหยียบย่ำกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของนักโทษชายเทวดาชั้น 14 ​ไปได้ นิรโทษกรรมคดี ม.112 ได้ แก้รัฐธรรมนูญตามใจโจร ผ่านไปได้ วันนั้น หมายถึงวันที่ "เปรตเผด็จการ"ครองเมือง ในตำแห่งประธานาธิบดีคนแรกของประเทศไทย
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4/
    เกิดความโกลาหลวุ่นวายที่สนามบินดามัสกัส เมื่อผู้ก่อการร้ายเข้ายึดครองเมืองหลวงซีเรียได้แล้ว

    ผู้โดยสารหลายคนต้องติดค้างที่สนามบินนานาชาติดามัสกัส เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลบหนีไปหมดแล้ว ไม่มีใครแม้แต่จะประทับตราหนังสือเดินทาง
    4/ เกิดความโกลาหลวุ่นวายที่สนามบินดามัสกัส เมื่อผู้ก่อการร้ายเข้ายึดครองเมืองหลวงซีเรียได้แล้ว ผู้โดยสารหลายคนต้องติดค้างที่สนามบินนานาชาติดามัสกัส เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลบหนีไปหมดแล้ว ไม่มีใครแม้แต่จะประทับตราหนังสือเดินทาง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • 3/
    เกิดความโกลาหลวุ่นวายที่สนามบินดามัสกัส เมื่อผู้ก่อการร้ายเข้ายึดครองเมืองหลวงซีเรียได้แล้ว

    ผู้โดยสารหลายคนต้องติดค้างที่สนามบินนานาชาติดามัสกัส เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลบหนีไปหมดแล้ว ไม่มีใครแม้แต่จะประทับตราหนังสือเดินทาง
    3/ เกิดความโกลาหลวุ่นวายที่สนามบินดามัสกัส เมื่อผู้ก่อการร้ายเข้ายึดครองเมืองหลวงซีเรียได้แล้ว ผู้โดยสารหลายคนต้องติดค้างที่สนามบินนานาชาติดามัสกัส เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลบหนีไปหมดแล้ว ไม่มีใครแม้แต่จะประทับตราหนังสือเดินทาง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • 2/
    เกิดความโกลาหลวุ่นวายที่สนามบินดามัสกัส เมื่อผู้ก่อการร้ายเข้ายึดครองเมืองหลวงซีเรียได้แล้ว

    ผู้โดยสารหลายคนต้องติดค้างที่สนามบินนานาชาติดามัสกัส เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลบหนีไปหมดแล้ว ไม่มีใครแม้แต่จะประทับตราหนังสือเดินทาง
    2/ เกิดความโกลาหลวุ่นวายที่สนามบินดามัสกัส เมื่อผู้ก่อการร้ายเข้ายึดครองเมืองหลวงซีเรียได้แล้ว ผู้โดยสารหลายคนต้องติดค้างที่สนามบินนานาชาติดามัสกัส เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลบหนีไปหมดแล้ว ไม่มีใครแม้แต่จะประทับตราหนังสือเดินทาง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • 1/
    เกิดความโกลาหลวุ่นวายที่สนามบินดามัสกัส เมื่อผู้ก่อการร้ายเข้ายึดครองเมืองหลวงซีเรียได้แล้ว

    ผู้โดยสารหลายคนต้องติดค้างที่สนามบินนานาชาติดามัสกัส เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลบหนีไปหมดแล้ว ไม่มีใครแม้แต่จะประทับตราหนังสือเดินทาง
    1/ เกิดความโกลาหลวุ่นวายที่สนามบินดามัสกัส เมื่อผู้ก่อการร้ายเข้ายึดครองเมืองหลวงซีเรียได้แล้ว ผู้โดยสารหลายคนต้องติดค้างที่สนามบินนานาชาติดามัสกัส เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลบหนีไปหมดแล้ว ไม่มีใครแม้แต่จะประทับตราหนังสือเดินทาง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • ผู้นำกบฏซีเรีย อาบู โมฮัมหมัด อัล-จูลานี (Abu Mohammad al-Julani) เดินทางมาถึงเมืองอาเลปโป หลังจากกองกำลังของเขาเข้ายึดครองเมืองนี้ได้สำเร็จ

    จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าเขาเสียชีวิตหรือไม่จากการโจมตีทางอากาศโดยกองทัพรัสเซีย ซึ่งอัล-จูลานี อยู่ภายในอาคารดังกล่าวในช่วงเวลาที่เกิดการโจมตี

    กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันการโจมตีศูนย์บัญชาการของกลุ่มกบฏซีเรียเพื่อยืนยันการสนับสนุนกองกำลังของปธน. Bashar Assad

    สำหรับ อัล-จูลานี ผู้นำกลุ่มกบฏ HTS ถูกประกาศให้เป็นผู้ก่อการร้ายระดับโลกโดยสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ตุรกี และมีค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์

    ผู้นำกบฏซีเรีย อาบู โมฮัมหมัด อัล-จูลานี (Abu Mohammad al-Julani) เดินทางมาถึงเมืองอาเลปโป หลังจากกองกำลังของเขาเข้ายึดครองเมืองนี้ได้สำเร็จ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าเขาเสียชีวิตหรือไม่จากการโจมตีทางอากาศโดยกองทัพรัสเซีย ซึ่งอัล-จูลานี อยู่ภายในอาคารดังกล่าวในช่วงเวลาที่เกิดการโจมตี กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันการโจมตีศูนย์บัญชาการของกลุ่มกบฏซีเรียเพื่อยืนยันการสนับสนุนกองกำลังของปธน. Bashar Assad สำหรับ อัล-จูลานี ผู้นำกลุ่มกบฏ HTS ถูกประกาศให้เป็นผู้ก่อการร้ายระดับโลกโดยสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ตุรกี และมีค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    สถานการณ์ในเมือง Aleppo ของซีเรียล่าสุด
    กลุ่มกบฏซีเรียประกาศว่าพวกเขาบุกเข้าถึงใจกลางเมืองแล้ว และกำลังขยายแนวรบเพื่อครอบครองเมืองทั้งหมด
    2/ สถานการณ์ในเมือง Aleppo ของซีเรียล่าสุด กลุ่มกบฏซีเรียประกาศว่าพวกเขาบุกเข้าถึงใจกลางเมืองแล้ว และกำลังขยายแนวรบเพื่อครอบครองเมืองทั้งหมด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • 1/
    สถานการณ์ในเมือง Aleppo ของซีเรียล่าสุด
    กลุ่มกบฏซีเรียประกาศว่าพวกเขาบุกเข้าถึงใจกลางเมืองแล้ว และกำลังขยายแนวรบเพื่อครอบครองเมืองทั้งหมด
    1/ สถานการณ์ในเมือง Aleppo ของซีเรียล่าสุด กลุ่มกบฏซีเรียประกาศว่าพวกเขาบุกเข้าถึงใจกลางเมืองแล้ว และกำลังขยายแนวรบเพื่อครอบครองเมืองทั้งหมด
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • ความจริงมีหนึ่งเดียวเพื่อชาติ : Sondhi X สยบมาร (UNCUT)

    มารต้องถูกสยบ โดยการขับเคลื่อนด้วยความจริง Sondhi X จึงอาสาสยบมารและกลุ่มคนไม่เกรงกลัวกฎหมาย ฟังเต็มๆแบบ Uncut กับ นพรัฐ พรวนสุข และ อุษณีย์-เอกอุษณีย์

    #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิทอล์ค #สนธิลิ้มทองกุล #ความจริงมีหนึ่งเดียว #SondhiXสยบมาร #มารครองเมือง
    ความจริงมีหนึ่งเดียวเพื่อชาติ : Sondhi X สยบมาร (UNCUT) มารต้องถูกสยบ โดยการขับเคลื่อนด้วยความจริง Sondhi X จึงอาสาสยบมารและกลุ่มคนไม่เกรงกลัวกฎหมาย ฟังเต็มๆแบบ Uncut กับ นพรัฐ พรวนสุข และ อุษณีย์-เอกอุษณีย์ #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิทอล์ค #สนธิลิ้มทองกุล #ความจริงมีหนึ่งเดียว #SondhiXสยบมาร #มารครองเมือง
    Like
    Love
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2002 มุมมอง 201 0 รีวิว
  • ความบังเอิญที่น่าสนใจเกี่ยวกับกลุ่มกบฏซีเรีย Hayat Tahrir al-Sham (HTS) ในการประกาศเปิดปฏิบัติการโจมตีดินแดนซีเรียเพื่อยึดครองเมือง Aleppo ของประเทศซีเรีย:

    - กลุ่มกบฏซีเรีย HTS ปฏิบัติการครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2020 หลังจากนั้นก็หยุดนิ่งไป

    - กลุ่ม HTS มีข้อมูลว่า แท้จริงแล้วมีความเกี่ยวข้องกับแนวร่วมอัล-นุสรา (Front al-Nusra) และอัลกออิดะห์

    - 26 พฤศจิกายน วอชิงตันเปลี่ยนใจและอาจยังคงอนุมัติการจัดหาเครื่องบินรบ F-35 ให้กับอังการา สถานีโทรทัศน์ของรัฐ TRT Haber รายงานโดยอ้างคำพูดของ "ยาซาร์ กูเลอร์" รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมตุรกี

    - 26 พฤศจิกายน อิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน สหรัฐโดยประธานาธิบดีไบเดน เป็นผู้ประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้

    - 27 พฤศจิกายน กลุ่มกบฏซีเรีย หรือกลุ่มติดอาวุธโปรตุรกี ประกาศเริ่มการรุกครั้งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดที่สำคัญในเขตผลประโยชน์ของสหพันธรัฐรัสเซีย

    - สถานการณ์ล่าสุด 28 พฤศจิกายน กองกำลังกบฏซีเรียยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ใกล้เมืองอาเลปโปจากกองทัพซีเนรียได้เพิ่มเติมในวันนี้ และอยู่ห่างจาก Aleppo ไม่กี่กิโลเมตร

    - เป็นที่ทราบกันดีว่า ฮิซบอลเลาะห์ได้รับอาวุธในการต่อต้านอิสราเอล โดยผ่านทางซีเรียเป็นหลัก การเปิดฉากโจมตีซีเรียโดยกลุ่มกบฏโดยไม่มีวี่แววมาก่อนจึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เกิดจากการตกลงของ "บางประเทศ" กับชาติตะวันตก เพื่อทำลายความมั่นคงของซีเรียและขัดขวางการส่งอาวุธให้กลุ่มฮิซบุลเลาะห์เพื่อที่กลุ่มฮิซบุลเลาะห์จะไม่สามารถเติมเสบียงได้
    ความบังเอิญที่น่าสนใจเกี่ยวกับกลุ่มกบฏซีเรีย Hayat Tahrir al-Sham (HTS) ในการประกาศเปิดปฏิบัติการโจมตีดินแดนซีเรียเพื่อยึดครองเมือง Aleppo ของประเทศซีเรีย: - กลุ่มกบฏซีเรีย HTS ปฏิบัติการครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2020 หลังจากนั้นก็หยุดนิ่งไป - กลุ่ม HTS มีข้อมูลว่า แท้จริงแล้วมีความเกี่ยวข้องกับแนวร่วมอัล-นุสรา (Front al-Nusra) และอัลกออิดะห์ - 26 พฤศจิกายน วอชิงตันเปลี่ยนใจและอาจยังคงอนุมัติการจัดหาเครื่องบินรบ F-35 ให้กับอังการา สถานีโทรทัศน์ของรัฐ TRT Haber รายงานโดยอ้างคำพูดของ "ยาซาร์ กูเลอร์" รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมตุรกี - 26 พฤศจิกายน อิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน สหรัฐโดยประธานาธิบดีไบเดน เป็นผู้ประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้ - 27 พฤศจิกายน กลุ่มกบฏซีเรีย หรือกลุ่มติดอาวุธโปรตุรกี ประกาศเริ่มการรุกครั้งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดที่สำคัญในเขตผลประโยชน์ของสหพันธรัฐรัสเซีย - สถานการณ์ล่าสุด 28 พฤศจิกายน กองกำลังกบฏซีเรียยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ใกล้เมืองอาเลปโปจากกองทัพซีเนรียได้เพิ่มเติมในวันนี้ และอยู่ห่างจาก Aleppo ไม่กี่กิโลเมตร - เป็นที่ทราบกันดีว่า ฮิซบอลเลาะห์ได้รับอาวุธในการต่อต้านอิสราเอล โดยผ่านทางซีเรียเป็นหลัก การเปิดฉากโจมตีซีเรียโดยกลุ่มกบฏโดยไม่มีวี่แววมาก่อนจึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เกิดจากการตกลงของ "บางประเทศ" กับชาติตะวันตก เพื่อทำลายความมั่นคงของซีเรียและขัดขวางการส่งอาวุธให้กลุ่มฮิซบุลเลาะห์เพื่อที่กลุ่มฮิซบุลเลาะห์จะไม่สามารถเติมเสบียงได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทหารรัสเซียกำลังบุกโจมตีคูราโคโวแล้ว และยึดครองเมืองได้ถึง 15%

    ▪️กองทหารรัสเซียกำลังรวมศูนย์กำลังในพื้นที่โรงเรียนหมายเลข 3 แล้ว ตามรายงานของ Deep State ทรัพยากรวิเคราะห์ทางการทหารของยูเครน
    ▪️ในช่วงสองวันที่ผ่านมา หน่วยของกองทัพรัสเซียได้ทำการโจมตีด้วยยานยนต์ในพื้นที่โรงเรียนและทหารราบที่ลงจอด
    ➖ “ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดสถานการณ์ที่ศัตรูอยู่ในส่วนลึกของแนวรบ แต่ไม่มีหลักฐานว่าศัตรูควบคุมทางตะวันออกของเมือง จุดประสงค์ของการกระทำดังกล่าวคือการได้ตั้งหลักและบังคับให้กองทัพยูเครนล่าถอยไปด้านหลังลำแสง Dolgaya ซึ่งตัดทางตะวันออกของเมือง” ข้อความระบุ
    ▪️บนแผนที่ โรงเรียนหมายเลข 3 มีวงกลมสีแดงกำกับไว้
    ▪️ก่อนหน้านี้ Julian Röpke ผู้สังเกตการณ์ทางทหารของ Bild กล่าวว่ากองทัพรัสเซียได้รุกคืบเข้าไปในเมือง Kurakhovo ลึกกว่า 1,200 เมตร
    t.me/RVvoenkor
    กองทหารรัสเซียกำลังบุกโจมตีคูราโคโวแล้ว และยึดครองเมืองได้ถึง 15% ▪️กองทหารรัสเซียกำลังรวมศูนย์กำลังในพื้นที่โรงเรียนหมายเลข 3 แล้ว ตามรายงานของ Deep State ทรัพยากรวิเคราะห์ทางการทหารของยูเครน ▪️ในช่วงสองวันที่ผ่านมา หน่วยของกองทัพรัสเซียได้ทำการโจมตีด้วยยานยนต์ในพื้นที่โรงเรียนและทหารราบที่ลงจอด ➖ “ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดสถานการณ์ที่ศัตรูอยู่ในส่วนลึกของแนวรบ แต่ไม่มีหลักฐานว่าศัตรูควบคุมทางตะวันออกของเมือง จุดประสงค์ของการกระทำดังกล่าวคือการได้ตั้งหลักและบังคับให้กองทัพยูเครนล่าถอยไปด้านหลังลำแสง Dolgaya ซึ่งตัดทางตะวันออกของเมือง” ข้อความระบุ ▪️บนแผนที่ โรงเรียนหมายเลข 3 มีวงกลมสีแดงกำกับไว้ ▪️ก่อนหน้านี้ Julian Röpke ผู้สังเกตการณ์ทางทหารของ Bild กล่าวว่ากองทัพรัสเซียได้รุกคืบเข้าไปในเมือง Kurakhovo ลึกกว่า 1,200 เมตร t.me/RVvoenkor
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • 13-11-67/01 : หมี CNN / เล่าสู่กันฟัง" EP.12 ตอน "มหาวิบัติกรมตำหนวด กากีผยอง" เอาให้สุดซอย กฎหมาเหนือกฎหมาย อยู่ที่ใครอุ้ม? แฉอีเหลี่ยม หักหลังอีเหลี่ยม เพื่อหวังกลับมาชิมิ? กระแสปั่น อีโจ๊กยังไม่เละ ลุ้นกลับมาพร้อมเยียวยา จริงดิ? ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 3 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ มา 1 ตายยกคอก เรื่องเหี้ยๆ ไม่เคยพ้นอีกากีเสนียดแผ่นดินฉิงๆ สงสารตำหนวดชั้นผู้น้อย ตำหนวดดีดี ที่ต้องอยู่ในดงโจร เพราะมันเป็นโจรกันทั้งกรมไงล่ะ ใครล่ะ สร้างระบบโจรนี้ มรึงต้องย้อนกลับไป ปีที่อีเหลี่ยมเข้ามาจัดระเบียบกรมอีกากีใหม่หมด ทั้งหมดคือแผน CIA ทำลายรากฐาน ต้องปรับโครงสร้างก่อน ความยุติธรรมชั้นต้น สำนวน เริ่มจากอีกากี แล้วปล่อยเชื้อชั่วเข้ากรมอัยกวยต่อ ใช่! เหี้ย C มันจ้องบ่อนทำลายความมั่นคงไทย ผ่านทุกขบวนการยุติธรรม เมื่อต้นน้ำมันเหี้ย รับใช้โจร อย่าหวังจะขาวสะอาด ความยุติธรรมมีแต่ในการ์ตูน เพราะมันอยู่ที่เด็กใคร? แต่อย่าได้หนักใจไป นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบัน เชื้อชั่ว เชื้อเหี้ย ในกรมกากีเสนียดแผ่นดิน ออกลายหมดเกลี้ยง อีตำหนวดชั้นผู้ใหญ่ดาหน้าโดนคุกกันทั่ว เอี่ยมทุนสีเทา ธุรกิจมืด ซ่องโจร บ่อนการพนัน ไม่มีอะไรที่เหี้ย จัญไร ที่ตำหนวดไม่รู้ รู้หมดทุกจุด รู้ทุกอย่าง รู้ว่าของใคร? แต่ที่ไม่ทำห่าอะไร เพราะเงินมันอุดปากอยู่ อยากเลื่อนตำแหน่ง อยากรวย อยากหิวแสง ต้องมีนายใหญ่แบ็คอัพถึงจะรุ่ง อีกรมตำหนวดเนี่ย เป็นเหมือนกันหมดทั้งโลก โดยเฉพาะประเทศคลั่งประชาธิปไตย กฎหมามักจะมาก่อนกฎหมายเสมอ มรึงฆ่าคนตาย จ่าย 100 ล้าน วัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึง ผ่านไป 1 ปี เรื่องจบ หายเงียบ อีชั่วก็ไปทำชั่วต่อไงล่ะ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน? แต่ยามที่แสงทำงาน จะลากไอ้อีสารพัดเหี้ยทั้งหมด เข้าตาราง ความจริงจะโผล่มา กระแสปัญญาชนจะก่อเกิด อีตำหนวดหมดราคา สภาพไม่ต่างกับโจร? กรมอัยกวยที่หนักแผ่นดิน จะถูกล้างบางในพศ.นี้ ทุกความระบำอัปรีย์จัญไรทั้งหลายที่มรึงประสบมา จะถูกล้างทั้งหมด โดยการ "แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ" ฉบับวังและชาติมาก่อนประชาธิปไตยตอแหล เอาให้สุดซอย สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ประชาชนหมดศรัทธากับขบวนการยุติธรรมต้นน้ำของไทยแล้ว แสงถึงต้องออกโรงเอง งวดนี้ ตายยกโคตรเหี้ย ทั้งขบวนการ ไม่ใช่ใครอื่น ส้นตรีนบู๊ทตรีนโตเข้ามาชำระล้างให้เอง เมื่อมรึงอยู่กันดีดีไม่ได้ ต้องหาเรื่องให้ชาวบ้านเดือดร้อน อันธพาลครองเมือง ก็อย่าได้เสพสุขกันอีกต่อไป สั้นๆ คือทหารจัดระเบียบกรมตำหนวดใหม่หมด ไม่สิ ต้องเรียก "ผู้ใหญ่สั่งตรงมาเอง" เห็นแสงปลายอุโมงค์ชัดเจน มันโดดเด่นมว๊าก! ไม่ว่าจะอีโจ๊กคนอร์ อีขาใหญ่แค่ไหน ก็แค่ขี้ตรีนกองทัพ ฟังๆ ชัด จากปากณัชชาน่ะจ๊ะ "ขี้ตรีนกองทัพ" รถถังออก GMC ผุด โผล่ทุบทั้งสถานีก็เคยมาแล้ว ใหญ่แค่ไหน ก็ไม่พ้นอวสานเซลล์แมน ดีออก? ไม่แปลกที่อีเหลี่ยมถูกหักหลังยับ ทั้งพรรคร่วม ทั้งลูกน้องเก่า ทั้งคนใกล้ชิด เพราะหน้าที่ขี้ข้าคือเอาตัวรอดจ๊ะ..นายจ๋า ขายนายตัวเอง เพื่อไต่เต้าสูงกว่า หรือความอยู่รอดถาวร สันดานขี้ข้า เป็นเช่นนี้ทั่วแกแลคซี่ เผานายเก่าแลกผลงาน จะฆ่าเหี้ย ต้องให้เหี้ยลงมือกันเอง ไม่ต้องเปลืองแรงขยี้ ไม่ต้องเปลืองคนดีดีให้ติดเสนียด สรุปกลกามกรมตำหนวด ปล่อยเหี้ยตัวเล็ก เพื่องับเหี้ยตัวใหญ่ ตัวบงการ เสร็จกิจแล้วค่อยเชือดทีหลัง นี่มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลย แผนพิชัยสงคราม ใช้กันบ่อย อีโจ๊กคนอร์สุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี เล่นให้เป็น อ่านเกมส์ให้ขาด จะไม่ต๊กกะใจ! ถามสั้นๆ เผาอีเหลี่ยมชาติชั่ว กับเผาอีโจ๊กคนอร์ มรึงอยากให้ใครตายห่าก่อนกันล่ะ? กลวิธีเค้ามี วิธีการไม่สำคัญ เป้าหมายสำเร็จคือชัยชนะ! ใครล่ะ จะฆ่านายใหญ่ได้ หากไม่ใช่ขี้ข้าใกล้ตัว? มหากาพย์ชั้น 14 ก็จะตายห่ายกโคตรเหี้ยก็เพราะเหตุผลนี้เช่นกัน ศรีธนญชัยเดินหมากหลายชั้น ธรรมดาซะที่ไหนกันล่ะ? ไม่อยากพูด แม้แต่ชั้นระดับผู้พิพากษา ก็ถูกเช็คบิลได้เช่นกัน หากมีพิรุจ อุ้มเหี้ย หลักฐานเค้ามี แค่รอเหยื่อดิ้น ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครไว้ใจใครได้อีกแล้ว เหี้ยหักหลังกันเกลื่อน? นี่ล่ะ วังวนเหี้ยแท้จริง! เอ้า..เห้ย ไม่ตรงปกนี่หว่า จะข้ามรุ่นล่อลุงสนธิ ข่าวปล่อยอีเดชอบแดร๊กถั่วดำ ออกมากลางโซเชี่ยล ฮาแตก ชอบไม้ป่าเดียวกันเหรอจ๊ะ..ตะเอง ดูทรงแล้ว สายเหลืองนี่หว่า? 555+ ยังไม่ทันจะเริ่ม ก็เสียหมา เสียทรงซะแว๊ว อยากโดนแฉอีกเหรอจ๊ะ? งวดนี้ อีเด ถูกจัดหนักแน่ เสี้ยนจัดน่ะมรึง! ด้านอีต้มตุ๊ด เยี่ยวแตก ขนาดอีทนายสายบัวตอแหลยังพลิกลิ้น ชิ่งหนีดีกว่า โอกาสตายร่วมสูง หลังอีนุ อีสา ถูกจับมารีด(นมวัว) คายออกหมดเปลือก จะเหลือเหี้ยอะไรอีกเนี่ย สรุปคือ 39 ล้านคือดอกฆ่าจริง 71 ล้านแค่ดอกโหมโรง เพ่อ้อยไม่ถอนฟ้อง ไปสุดซอยเท่านั้น อีเมียดิ้นพล่าน กูไม่รู้ ไม่เกี่ยว สายเกินปุยมุย? เชิญไปอวดรวยกันต่อในคุกน่ะจ๊ะ สายเบ็ดรอมรึงอยู่เพี๊ยบ ข้ามมาดูโลกตอแหลกันต่อ : อีเสี้ยนยาชะตาขาด หมดหนทาง อ้อนอีทรัมปป์ ยกแผ่นดินให้เลย แค่ต่อลมหายใจกูหน่อย? อีทรัมปป์คงสนแผ่นดินเน่าๆ เนี่ยน่ะ เพราะรู้อยู่แล้ว ยังไงรัสเซียเขมือบแน่ ถามส้นตรีนปูตินรึยัง? พวกมรึงมีปัญญาเหรอ? เกมส์อยู่ในมือใคร? ใครกำหนดทิศทางโลกทุกวันนี้ ใช่มรึงเหรอ? จีนเขยิบ รัสเซียขยับ โลกตามทันที ยังไม่สำเหนียก อีทรัมปป์มันมาเพื่อแตกอเมริกา ไม่ได้มากู้อเมริกา แล้วใยกู้ต้องมาช่วยกู้แผ่นดินเน่ามรึงด้วยล่ะ อีเสี้ยนยาจ๋า? ชั่วโมงนี้ ใครกล้าชนรัฐบุรุษปูติน สีจิ้นผิง ไม่มี? แค่ BRICS ยังแห่กันตามหมดทั้งโลก มรึงมัน NOBODY แล้ว ไอ้สัส! พอก่อน พอได้แล้ว อียิวขี้แตกแล้ว โดนทั้งซูเปอร์โซนิค ตามด้วยไฮเปอร์โซนิค แบบลืมหายใจ ถามจริง มรึงมีเยอะเกินไปป่ะ? อะไรน่ะ ยังเหลืออีกเป็นล้านลูก ไอ้สัส! ผลิตออกมาเยอะเกินปุยมั้ย? เอาไปยิงหมาเหรอ? สาย HARDCORE บ่นยับ? ทำไมไม่ฆ่าล้างโคตรมันไปเลย 24 ชม. รอเหี้ยอะไรอยู่ ยึดแผ่นดินแม่งให้เกลี้ยง คำถามนี้ ต้องไปดูว่า ขั้วใหม่ รัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง เค้าต้องการอะไรแท้จริง "หาใช่ชัยชนะในสมรภูมิ" แต่เป็นทุบหม้อข้าวเหี้ย ทำลายคลังแสง คลังเงิน ไอ้อีตะวันตกจนไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก เมื่อหมดตูด มรึงก็แค่ "ไอ้ยาจก" ไม่มีจะแดร๊ก แล้วจะมีปัญญาทำเหี้ยอะไรต่อได้อีก ทุบที่หม้อข้าว นี่คือยุทธศาสตร์หลัก ที่ขั้วใหม่ทำอยู่ อย่าลืมน่ะว่า เหือบครึ่งปีแล้ว ที่ท่าเรือไฮฟา ไม่มีสินค้าเข้ามาเลย เรือขนส่งเข้าไม่ถึง ความช่วยเหลือเข้าไม่ได้ แม้แต่กองเรือเหี้ยยังไม่กล้าเข้ามาผ่านทะเลแดง แปลว่าอะไร ยุทธศาสตร์ อิหร่าน รัสเซีย จีน ครองน่านน้ำ น่านฟ้าไว้หมดแล้ว ภาษาทหารคือ ยึดเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแบบคุณยายละม่อม แต่ไม่ต้องรีบฆ่า บีบให้มันอดอยาก ปากแห้งไปเรื่อยๆ เพื่อดึงขี้ข้าที่หิวโซย้ายขั้วนั่นเอง เมื่อแขนขาถูกหั่น เหี้ยก็จบ ไม่มีเครื่องมือให้ใช้ต่ออีกแล้ว อีโง่ยุโรปก็เช่นกัน หลังอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง อีอัสซูรี่ หมดตูดไปเยอะ เศรษฐกิจพังยับทั้งยุโรป ชาติเล็กๆ แข็งข้อขึ้นมาทันที จะรีบย้ายขั้วไปเกาะรัสเซีย เพราะมั่นคง และมั่นใจกว่าเยอะ แผนแตก EU NATO จึงก่อเกิด เงินไม่มี พลังงานไม่เหลือ ใครจะตามมรึงกันอีกล่ะ? 10 ชาติยุโรปสัญญาปากเปล่ากันแล้ว ไปพร้อมกันทั้งยวง เครมลินเตรียมเปิดวังต้อนรับเสมอ? กลับบ้านเถอะลูก รักรออยู่!

    ปล.มาตามนัด! กูว่าแล้ว ยังไม่ทันจะสาบานตน อีมรัมปป์เรียกโพยแต่หัววัน เตรียมหั่นนายพลทิ้ง เปลืองภาษี เปลืองงบ ตั้งคณะกรรมการโละนายพล(โดยเฉพาะหมารับใช้อีลา ซึ่งมีเพี๊ยบ) เตรียมงัดข้ออีตาเพน กูเดาทางถูกเสมอ? ยังไม่จบ ไอ้อีตัวไหน ใครที่ลากทรัมปปืเข้าคุก ยัดข้อหา ใส่ร้าย ป้ายสี ล่อกู 100 กว่าคดี มรึงเตรียมโดนโละเช่นกัน ผู้พิพากษาเหรอ รัฐไหนเหรอ ใหญ่แค่ไหนเหรอ อีทรัมปป์จะเชือดเหี้ยให้เหี้ยดู เพราะอำนาจกูคือประกาศิต เบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ชำระแค้นก่อน คือทรัมปป์ งานสร้าง TRUMP LAND คือเรื่องต่อไป ข้ามวิกแป๊บ : อย่าดูแค่เปลือก ดร.อาทิตย์(ตัวชงมาเอง) ถามสั้นๆ ข้องใจทำไม ‘พระบรมราชโองการ-คำพิพากษาศาลฎีกา’ ไม่มีความหมาย? ขัดขืน ฝ่าฝืนเพี๊ยบ ดอกนี้ ชงให้ทุกคดีที่อีเหลี่ยม อีลูกสาวร่าน ทำโดยตรง เค้ารู้กัน ศาลรับลูก 15 คดีในมือ โดนทุกดอก "ประหารชีวิตยังน้อยไป" ตัวชงมา ตัวตบรับ มันคือ "ยาเร่ง" บีบให้เหี้ยทั้งหมดเผ่นหนีให้หมด ก่อนศาลจะฟันดาบลงมา จะหนีไม่ทันแล้วน่ะ? ไม่มีบังเอิญ มีแต่บังอาจ กระแสต่อต้านคอรัปชั่นแรงเกินห้ามใจ มันโดดเด่นเสียเหลือเกินช่วงนี้ เพราะแสงอีกแล้วครับท่าน! ทุนเทา ทุนม่วง ตายห่า ศพเกลื่อนศาล ลาก่อน "อีฟิล์มโกดัก" คิดผิด ชีวิตจบ เงิน อำนาจ ตัณหา พามรึงไปตายห่า ใครเล่นการเมือง ชีวิตมีอันเป็นไปหมด ดาราอยากเกิด ไฮโซอยากดัง แตะสิ่งปนเปื้อน สลัดไม่ออก ถูกกลืนเหมือนกันหมด วังวนการเมืองคืออาจมเสนียดแผ่นดิน ใครลองได้เสพ หลงใหลอำนาจ ตายห่าหมดเกลี้ยง? ไอ้สัส! กลัวไทยไม่ดัง ก่อการร้ายอ้าง เตรียมสอยอียิวในเกาะพงัน FULL MOON PARTY ทำไมต้องเลือกงานนี้ เพราะมันดังไประดับโลก หากเป็นข่าว อียิวตายห่ากลางวงปาร์ตี้ กราดยิง ระเบิดลง ดังพลุแตกแน่ แล้วทำไม ถึงบอกล่วงหน้า? จะดึงไทยเข้าร่วมสงครามครูเสดด้วยเหรอจ๊ะ? ตำหนวดไทยเก่ง มรึงช่วยโฆษณาให้ กูยินดี ถามว่าคนทั้งโลกแห่มา เค้าสนมั้ย? คนมันมาเพื่อจะเล่นยา ระเบิดลงหัวก็ไม่กลัวดอก? FULL MOON PARTY แท้จริงคืออะไร? SEX DRUG DRINK DANCE PARTY มันคืองานมั่วสุดสวิงริงโก้อีโต้บั๊ม? ฝรั่งมันชอบ ใครสนกราดยิงกันล่ะ? เพราะกูเมายาอยู่ ไม่รู้เรื่อง? โปรดสังเกตุ อียิวพยายามจะลากไทยเข้ามามีเอี่ยวทุกเรื่อง มรึงรักกูมากมายขนาดนี้เชียวเหรอ น้ำลายหยดมาตั้งแต่ปีพศ.2475 สิน่ะ แห้วแดร๊ก เพราะสมเด็จย่า? สื่อใครลง สื่อใครแฉ นั่นแหละ ตัวปล่อยแผน? แผนเก่าๆ เน่าๆ ยังกล้ามาใช้? หน่วยความมั่นคงเค้ารู้หมดเกลี้ยง เชิญเข้ามาเหอะ เดี๋ยวกูจะให้มรึงมั่วยาเต็มที่ จนลืมกลับบ้านกันไปเลย? รัสเซีย เล่นเกมส์ จับมืออีทรัมปป์ บับให้อีเสี้ยนยาเลือกตั้ง แน่นอนว่า "โปรรัสเซียมาชัวร์ ไม่ต้องเดา" เพราะชาวยูเครนที่เหลือตายห่าเพราะสงครามไปเยอะแล้ว ใครยังอยากจะรบกันต่ออีก นีโอนาซีในยูเครนตายเกลื่อน ปูตินสั่งเน้น เก็บไอ้อีนีโอนาซีทุกตัว ไม่ต้องปราณี ไม่ต้องถามเยอะ เห็นปุ๊บ สอยทันที หนักแผ่นดิน! แผนสร้างปชต.ตอแหลใหม่ แค่เกมส์บังหน้า รัสเซียเค้าวางหมากล่อเหยื่อไว้หมดแล้ว ประกาศ 4 แคว้นเป็นของรัสเซียโดนสมบูรณ์ เลือกตั้งมา คืออีเสี้ยนยาเตรียมเผ่นแน่ ถูกสั่งเก็บจากทั่วโลก อีทรัมปป์ไม่ได้สนใจแผ่นดินยูเครน แต่สนใจว่ารัสเซียจะยอมถอยให้เรื่องอะไรได้บ้าง ข้อดีของอีทรัมปป์คือ ทุกอย่างเจรจาได้หมด แม้แต่ขายลูก ขายเมีย พ่อค้าตัวจริง! ขั้วใหม่ชนะไปแล้ว ตั้งแต่อีทรัมปป์มา แสดงให้โลกเห็นว่า คนเบื่อหน่ายสงคราม และอเมริกาและตะวันตก คือต้นตอของความวินาศฉิบหายทั้งหมด NATO ไร้ราคา ส่วน EU ถังแตกยับเยิน หมดสภาพทั้งคู่ โลกรอแค่ ขั้วใหม่ "ปิดเกมส์" เท่านั้น

    ปล.2 คำถามแก้เครียด? คุณคิดว่าสาวยุคไหน SEXY ที่สุด? 60 'S/70 'S/80 'S/90 'S/00-20 'S

    หมี CNN(อะไรก็ไปไวมาไวเสมอ เพราะแสงทำงานเร็ว ไม่มีอะไรที่จะหนีรอดแสงไปได้ ยามเมื่อสาดส่อง เหี้ยจัญไรทั้งสากลโลกทั้งหลายกำลังถูกแสงแผดเผาทั้งเป็น สงครามจะหยุดขยายวงกว้าง แต่จะเกิดสงครามภายในกันเอง เพราะเกมส์มันถึงทางตันแล้ว หากไม่อยากตายหมู่ ตายยกทวีป ทางรอดเดียวคือ "เคลียร์กันเอง" เมื่อภายในจบ ถึงจะได้ข้อสรุป อยู่ในแผนขั้วใหม่ทั้งสิ้น จีน รัสเซีย ถึงยังไม่ลงมือเองซักกะที รอเหี้ยกัดกันให้พอใจ เหลือตัวสุดท้ายค่อยมาคุยกับกู หมากล้อมจีนชนะ หมากรุกพิฆาตเอาอยู่)
    13 พฤศจิกายน 67
    12.22 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatch
    13-11-67/01 : หมี CNN / เล่าสู่กันฟัง" EP.12 ตอน "มหาวิบัติกรมตำหนวด กากีผยอง" เอาให้สุดซอย กฎหมาเหนือกฎหมาย อยู่ที่ใครอุ้ม? แฉอีเหลี่ยม หักหลังอีเหลี่ยม เพื่อหวังกลับมาชิมิ? กระแสปั่น อีโจ๊กยังไม่เละ ลุ้นกลับมาพร้อมเยียวยา จริงดิ? ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 3 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ มา 1 ตายยกคอก เรื่องเหี้ยๆ ไม่เคยพ้นอีกากีเสนียดแผ่นดินฉิงๆ สงสารตำหนวดชั้นผู้น้อย ตำหนวดดีดี ที่ต้องอยู่ในดงโจร เพราะมันเป็นโจรกันทั้งกรมไงล่ะ ใครล่ะ สร้างระบบโจรนี้ มรึงต้องย้อนกลับไป ปีที่อีเหลี่ยมเข้ามาจัดระเบียบกรมอีกากีใหม่หมด ทั้งหมดคือแผน CIA ทำลายรากฐาน ต้องปรับโครงสร้างก่อน ความยุติธรรมชั้นต้น สำนวน เริ่มจากอีกากี แล้วปล่อยเชื้อชั่วเข้ากรมอัยกวยต่อ ใช่! เหี้ย C มันจ้องบ่อนทำลายความมั่นคงไทย ผ่านทุกขบวนการยุติธรรม เมื่อต้นน้ำมันเหี้ย รับใช้โจร อย่าหวังจะขาวสะอาด ความยุติธรรมมีแต่ในการ์ตูน เพราะมันอยู่ที่เด็กใคร? แต่อย่าได้หนักใจไป นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบัน เชื้อชั่ว เชื้อเหี้ย ในกรมกากีเสนียดแผ่นดิน ออกลายหมดเกลี้ยง อีตำหนวดชั้นผู้ใหญ่ดาหน้าโดนคุกกันทั่ว เอี่ยมทุนสีเทา ธุรกิจมืด ซ่องโจร บ่อนการพนัน ไม่มีอะไรที่เหี้ย จัญไร ที่ตำหนวดไม่รู้ รู้หมดทุกจุด รู้ทุกอย่าง รู้ว่าของใคร? แต่ที่ไม่ทำห่าอะไร เพราะเงินมันอุดปากอยู่ อยากเลื่อนตำแหน่ง อยากรวย อยากหิวแสง ต้องมีนายใหญ่แบ็คอัพถึงจะรุ่ง อีกรมตำหนวดเนี่ย เป็นเหมือนกันหมดทั้งโลก โดยเฉพาะประเทศคลั่งประชาธิปไตย กฎหมามักจะมาก่อนกฎหมายเสมอ มรึงฆ่าคนตาย จ่าย 100 ล้าน วัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึง ผ่านไป 1 ปี เรื่องจบ หายเงียบ อีชั่วก็ไปทำชั่วต่อไงล่ะ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน? แต่ยามที่แสงทำงาน จะลากไอ้อีสารพัดเหี้ยทั้งหมด เข้าตาราง ความจริงจะโผล่มา กระแสปัญญาชนจะก่อเกิด อีตำหนวดหมดราคา สภาพไม่ต่างกับโจร? กรมอัยกวยที่หนักแผ่นดิน จะถูกล้างบางในพศ.นี้ ทุกความระบำอัปรีย์จัญไรทั้งหลายที่มรึงประสบมา จะถูกล้างทั้งหมด โดยการ "แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ" ฉบับวังและชาติมาก่อนประชาธิปไตยตอแหล เอาให้สุดซอย สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ประชาชนหมดศรัทธากับขบวนการยุติธรรมต้นน้ำของไทยแล้ว แสงถึงต้องออกโรงเอง งวดนี้ ตายยกโคตรเหี้ย ทั้งขบวนการ ไม่ใช่ใครอื่น ส้นตรีนบู๊ทตรีนโตเข้ามาชำระล้างให้เอง เมื่อมรึงอยู่กันดีดีไม่ได้ ต้องหาเรื่องให้ชาวบ้านเดือดร้อน อันธพาลครองเมือง ก็อย่าได้เสพสุขกันอีกต่อไป สั้นๆ คือทหารจัดระเบียบกรมตำหนวดใหม่หมด ไม่สิ ต้องเรียก "ผู้ใหญ่สั่งตรงมาเอง" เห็นแสงปลายอุโมงค์ชัดเจน มันโดดเด่นมว๊าก! ไม่ว่าจะอีโจ๊กคนอร์ อีขาใหญ่แค่ไหน ก็แค่ขี้ตรีนกองทัพ ฟังๆ ชัด จากปากณัชชาน่ะจ๊ะ "ขี้ตรีนกองทัพ" รถถังออก GMC ผุด โผล่ทุบทั้งสถานีก็เคยมาแล้ว ใหญ่แค่ไหน ก็ไม่พ้นอวสานเซลล์แมน ดีออก? ไม่แปลกที่อีเหลี่ยมถูกหักหลังยับ ทั้งพรรคร่วม ทั้งลูกน้องเก่า ทั้งคนใกล้ชิด เพราะหน้าที่ขี้ข้าคือเอาตัวรอดจ๊ะ..นายจ๋า ขายนายตัวเอง เพื่อไต่เต้าสูงกว่า หรือความอยู่รอดถาวร สันดานขี้ข้า เป็นเช่นนี้ทั่วแกแลคซี่ เผานายเก่าแลกผลงาน จะฆ่าเหี้ย ต้องให้เหี้ยลงมือกันเอง ไม่ต้องเปลืองแรงขยี้ ไม่ต้องเปลืองคนดีดีให้ติดเสนียด สรุปกลกามกรมตำหนวด ปล่อยเหี้ยตัวเล็ก เพื่องับเหี้ยตัวใหญ่ ตัวบงการ เสร็จกิจแล้วค่อยเชือดทีหลัง นี่มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลย แผนพิชัยสงคราม ใช้กันบ่อย อีโจ๊กคนอร์สุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี เล่นให้เป็น อ่านเกมส์ให้ขาด จะไม่ต๊กกะใจ! ถามสั้นๆ เผาอีเหลี่ยมชาติชั่ว กับเผาอีโจ๊กคนอร์ มรึงอยากให้ใครตายห่าก่อนกันล่ะ? กลวิธีเค้ามี วิธีการไม่สำคัญ เป้าหมายสำเร็จคือชัยชนะ! ใครล่ะ จะฆ่านายใหญ่ได้ หากไม่ใช่ขี้ข้าใกล้ตัว? มหากาพย์ชั้น 14 ก็จะตายห่ายกโคตรเหี้ยก็เพราะเหตุผลนี้เช่นกัน ศรีธนญชัยเดินหมากหลายชั้น ธรรมดาซะที่ไหนกันล่ะ? ไม่อยากพูด แม้แต่ชั้นระดับผู้พิพากษา ก็ถูกเช็คบิลได้เช่นกัน หากมีพิรุจ อุ้มเหี้ย หลักฐานเค้ามี แค่รอเหยื่อดิ้น ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครไว้ใจใครได้อีกแล้ว เหี้ยหักหลังกันเกลื่อน? นี่ล่ะ วังวนเหี้ยแท้จริง! เอ้า..เห้ย ไม่ตรงปกนี่หว่า จะข้ามรุ่นล่อลุงสนธิ ข่าวปล่อยอีเดชอบแดร๊กถั่วดำ ออกมากลางโซเชี่ยล ฮาแตก ชอบไม้ป่าเดียวกันเหรอจ๊ะ..ตะเอง ดูทรงแล้ว สายเหลืองนี่หว่า? 555+ ยังไม่ทันจะเริ่ม ก็เสียหมา เสียทรงซะแว๊ว อยากโดนแฉอีกเหรอจ๊ะ? งวดนี้ อีเด ถูกจัดหนักแน่ เสี้ยนจัดน่ะมรึง! ด้านอีต้มตุ๊ด เยี่ยวแตก ขนาดอีทนายสายบัวตอแหลยังพลิกลิ้น ชิ่งหนีดีกว่า โอกาสตายร่วมสูง หลังอีนุ อีสา ถูกจับมารีด(นมวัว) คายออกหมดเปลือก จะเหลือเหี้ยอะไรอีกเนี่ย สรุปคือ 39 ล้านคือดอกฆ่าจริง 71 ล้านแค่ดอกโหมโรง เพ่อ้อยไม่ถอนฟ้อง ไปสุดซอยเท่านั้น อีเมียดิ้นพล่าน กูไม่รู้ ไม่เกี่ยว สายเกินปุยมุย? เชิญไปอวดรวยกันต่อในคุกน่ะจ๊ะ สายเบ็ดรอมรึงอยู่เพี๊ยบ ข้ามมาดูโลกตอแหลกันต่อ : อีเสี้ยนยาชะตาขาด หมดหนทาง อ้อนอีทรัมปป์ ยกแผ่นดินให้เลย แค่ต่อลมหายใจกูหน่อย? อีทรัมปป์คงสนแผ่นดินเน่าๆ เนี่ยน่ะ เพราะรู้อยู่แล้ว ยังไงรัสเซียเขมือบแน่ ถามส้นตรีนปูตินรึยัง? พวกมรึงมีปัญญาเหรอ? เกมส์อยู่ในมือใคร? ใครกำหนดทิศทางโลกทุกวันนี้ ใช่มรึงเหรอ? จีนเขยิบ รัสเซียขยับ โลกตามทันที ยังไม่สำเหนียก อีทรัมปป์มันมาเพื่อแตกอเมริกา ไม่ได้มากู้อเมริกา แล้วใยกู้ต้องมาช่วยกู้แผ่นดินเน่ามรึงด้วยล่ะ อีเสี้ยนยาจ๋า? ชั่วโมงนี้ ใครกล้าชนรัฐบุรุษปูติน สีจิ้นผิง ไม่มี? แค่ BRICS ยังแห่กันตามหมดทั้งโลก มรึงมัน NOBODY แล้ว ไอ้สัส! พอก่อน พอได้แล้ว อียิวขี้แตกแล้ว โดนทั้งซูเปอร์โซนิค ตามด้วยไฮเปอร์โซนิค แบบลืมหายใจ ถามจริง มรึงมีเยอะเกินไปป่ะ? อะไรน่ะ ยังเหลืออีกเป็นล้านลูก ไอ้สัส! ผลิตออกมาเยอะเกินปุยมั้ย? เอาไปยิงหมาเหรอ? สาย HARDCORE บ่นยับ? ทำไมไม่ฆ่าล้างโคตรมันไปเลย 24 ชม. รอเหี้ยอะไรอยู่ ยึดแผ่นดินแม่งให้เกลี้ยง คำถามนี้ ต้องไปดูว่า ขั้วใหม่ รัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง เค้าต้องการอะไรแท้จริง "หาใช่ชัยชนะในสมรภูมิ" แต่เป็นทุบหม้อข้าวเหี้ย ทำลายคลังแสง คลังเงิน ไอ้อีตะวันตกจนไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก เมื่อหมดตูด มรึงก็แค่ "ไอ้ยาจก" ไม่มีจะแดร๊ก แล้วจะมีปัญญาทำเหี้ยอะไรต่อได้อีก ทุบที่หม้อข้าว นี่คือยุทธศาสตร์หลัก ที่ขั้วใหม่ทำอยู่ อย่าลืมน่ะว่า เหือบครึ่งปีแล้ว ที่ท่าเรือไฮฟา ไม่มีสินค้าเข้ามาเลย เรือขนส่งเข้าไม่ถึง ความช่วยเหลือเข้าไม่ได้ แม้แต่กองเรือเหี้ยยังไม่กล้าเข้ามาผ่านทะเลแดง แปลว่าอะไร ยุทธศาสตร์ อิหร่าน รัสเซีย จีน ครองน่านน้ำ น่านฟ้าไว้หมดแล้ว ภาษาทหารคือ ยึดเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแบบคุณยายละม่อม แต่ไม่ต้องรีบฆ่า บีบให้มันอดอยาก ปากแห้งไปเรื่อยๆ เพื่อดึงขี้ข้าที่หิวโซย้ายขั้วนั่นเอง เมื่อแขนขาถูกหั่น เหี้ยก็จบ ไม่มีเครื่องมือให้ใช้ต่ออีกแล้ว อีโง่ยุโรปก็เช่นกัน หลังอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง อีอัสซูรี่ หมดตูดไปเยอะ เศรษฐกิจพังยับทั้งยุโรป ชาติเล็กๆ แข็งข้อขึ้นมาทันที จะรีบย้ายขั้วไปเกาะรัสเซีย เพราะมั่นคง และมั่นใจกว่าเยอะ แผนแตก EU NATO จึงก่อเกิด เงินไม่มี พลังงานไม่เหลือ ใครจะตามมรึงกันอีกล่ะ? 10 ชาติยุโรปสัญญาปากเปล่ากันแล้ว ไปพร้อมกันทั้งยวง เครมลินเตรียมเปิดวังต้อนรับเสมอ? กลับบ้านเถอะลูก รักรออยู่! ปล.มาตามนัด! กูว่าแล้ว ยังไม่ทันจะสาบานตน อีมรัมปป์เรียกโพยแต่หัววัน เตรียมหั่นนายพลทิ้ง เปลืองภาษี เปลืองงบ ตั้งคณะกรรมการโละนายพล(โดยเฉพาะหมารับใช้อีลา ซึ่งมีเพี๊ยบ) เตรียมงัดข้ออีตาเพน กูเดาทางถูกเสมอ? ยังไม่จบ ไอ้อีตัวไหน ใครที่ลากทรัมปปืเข้าคุก ยัดข้อหา ใส่ร้าย ป้ายสี ล่อกู 100 กว่าคดี มรึงเตรียมโดนโละเช่นกัน ผู้พิพากษาเหรอ รัฐไหนเหรอ ใหญ่แค่ไหนเหรอ อีทรัมปป์จะเชือดเหี้ยให้เหี้ยดู เพราะอำนาจกูคือประกาศิต เบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ชำระแค้นก่อน คือทรัมปป์ งานสร้าง TRUMP LAND คือเรื่องต่อไป ข้ามวิกแป๊บ : อย่าดูแค่เปลือก ดร.อาทิตย์(ตัวชงมาเอง) ถามสั้นๆ ข้องใจทำไม ‘พระบรมราชโองการ-คำพิพากษาศาลฎีกา’ ไม่มีความหมาย? ขัดขืน ฝ่าฝืนเพี๊ยบ ดอกนี้ ชงให้ทุกคดีที่อีเหลี่ยม อีลูกสาวร่าน ทำโดยตรง เค้ารู้กัน ศาลรับลูก 15 คดีในมือ โดนทุกดอก "ประหารชีวิตยังน้อยไป" ตัวชงมา ตัวตบรับ มันคือ "ยาเร่ง" บีบให้เหี้ยทั้งหมดเผ่นหนีให้หมด ก่อนศาลจะฟันดาบลงมา จะหนีไม่ทันแล้วน่ะ? ไม่มีบังเอิญ มีแต่บังอาจ กระแสต่อต้านคอรัปชั่นแรงเกินห้ามใจ มันโดดเด่นเสียเหลือเกินช่วงนี้ เพราะแสงอีกแล้วครับท่าน! ทุนเทา ทุนม่วง ตายห่า ศพเกลื่อนศาล ลาก่อน "อีฟิล์มโกดัก" คิดผิด ชีวิตจบ เงิน อำนาจ ตัณหา พามรึงไปตายห่า ใครเล่นการเมือง ชีวิตมีอันเป็นไปหมด ดาราอยากเกิด ไฮโซอยากดัง แตะสิ่งปนเปื้อน สลัดไม่ออก ถูกกลืนเหมือนกันหมด วังวนการเมืองคืออาจมเสนียดแผ่นดิน ใครลองได้เสพ หลงใหลอำนาจ ตายห่าหมดเกลี้ยง? ไอ้สัส! กลัวไทยไม่ดัง ก่อการร้ายอ้าง เตรียมสอยอียิวในเกาะพงัน FULL MOON PARTY ทำไมต้องเลือกงานนี้ เพราะมันดังไประดับโลก หากเป็นข่าว อียิวตายห่ากลางวงปาร์ตี้ กราดยิง ระเบิดลง ดังพลุแตกแน่ แล้วทำไม ถึงบอกล่วงหน้า? จะดึงไทยเข้าร่วมสงครามครูเสดด้วยเหรอจ๊ะ? ตำหนวดไทยเก่ง มรึงช่วยโฆษณาให้ กูยินดี ถามว่าคนทั้งโลกแห่มา เค้าสนมั้ย? คนมันมาเพื่อจะเล่นยา ระเบิดลงหัวก็ไม่กลัวดอก? FULL MOON PARTY แท้จริงคืออะไร? SEX DRUG DRINK DANCE PARTY มันคืองานมั่วสุดสวิงริงโก้อีโต้บั๊ม? ฝรั่งมันชอบ ใครสนกราดยิงกันล่ะ? เพราะกูเมายาอยู่ ไม่รู้เรื่อง? โปรดสังเกตุ อียิวพยายามจะลากไทยเข้ามามีเอี่ยวทุกเรื่อง มรึงรักกูมากมายขนาดนี้เชียวเหรอ น้ำลายหยดมาตั้งแต่ปีพศ.2475 สิน่ะ แห้วแดร๊ก เพราะสมเด็จย่า? สื่อใครลง สื่อใครแฉ นั่นแหละ ตัวปล่อยแผน? แผนเก่าๆ เน่าๆ ยังกล้ามาใช้? หน่วยความมั่นคงเค้ารู้หมดเกลี้ยง เชิญเข้ามาเหอะ เดี๋ยวกูจะให้มรึงมั่วยาเต็มที่ จนลืมกลับบ้านกันไปเลย? รัสเซีย เล่นเกมส์ จับมืออีทรัมปป์ บับให้อีเสี้ยนยาเลือกตั้ง แน่นอนว่า "โปรรัสเซียมาชัวร์ ไม่ต้องเดา" เพราะชาวยูเครนที่เหลือตายห่าเพราะสงครามไปเยอะแล้ว ใครยังอยากจะรบกันต่ออีก นีโอนาซีในยูเครนตายเกลื่อน ปูตินสั่งเน้น เก็บไอ้อีนีโอนาซีทุกตัว ไม่ต้องปราณี ไม่ต้องถามเยอะ เห็นปุ๊บ สอยทันที หนักแผ่นดิน! แผนสร้างปชต.ตอแหลใหม่ แค่เกมส์บังหน้า รัสเซียเค้าวางหมากล่อเหยื่อไว้หมดแล้ว ประกาศ 4 แคว้นเป็นของรัสเซียโดนสมบูรณ์ เลือกตั้งมา คืออีเสี้ยนยาเตรียมเผ่นแน่ ถูกสั่งเก็บจากทั่วโลก อีทรัมปป์ไม่ได้สนใจแผ่นดินยูเครน แต่สนใจว่ารัสเซียจะยอมถอยให้เรื่องอะไรได้บ้าง ข้อดีของอีทรัมปป์คือ ทุกอย่างเจรจาได้หมด แม้แต่ขายลูก ขายเมีย พ่อค้าตัวจริง! ขั้วใหม่ชนะไปแล้ว ตั้งแต่อีทรัมปป์มา แสดงให้โลกเห็นว่า คนเบื่อหน่ายสงคราม และอเมริกาและตะวันตก คือต้นตอของความวินาศฉิบหายทั้งหมด NATO ไร้ราคา ส่วน EU ถังแตกยับเยิน หมดสภาพทั้งคู่ โลกรอแค่ ขั้วใหม่ "ปิดเกมส์" เท่านั้น ปล.2 คำถามแก้เครียด? คุณคิดว่าสาวยุคไหน SEXY ที่สุด? 60 'S/70 'S/80 'S/90 'S/00-20 'S หมี CNN(อะไรก็ไปไวมาไวเสมอ เพราะแสงทำงานเร็ว ไม่มีอะไรที่จะหนีรอดแสงไปได้ ยามเมื่อสาดส่อง เหี้ยจัญไรทั้งสากลโลกทั้งหลายกำลังถูกแสงแผดเผาทั้งเป็น สงครามจะหยุดขยายวงกว้าง แต่จะเกิดสงครามภายในกันเอง เพราะเกมส์มันถึงทางตันแล้ว หากไม่อยากตายหมู่ ตายยกทวีป ทางรอดเดียวคือ "เคลียร์กันเอง" เมื่อภายในจบ ถึงจะได้ข้อสรุป อยู่ในแผนขั้วใหม่ทั้งสิ้น จีน รัสเซีย ถึงยังไม่ลงมือเองซักกะที รอเหี้ยกัดกันให้พอใจ เหลือตัวสุดท้ายค่อยมาคุยกับกู หมากล้อมจีนชนะ หมากรุกพิฆาตเอาอยู่) 13 พฤศจิกายน 67 12.22 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatch
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1337 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ยุทธศาสตร์
    #ทรราช
    #ครองเมือง
    #ยุทธศาสตร์ #ทรราช #ครองเมือง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 100 0 รีวิว
  • “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” อีกหนึ่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของไทย

    อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ตั้งอยู่ในเขตตำบลศรีสัชนาลัย ตำบลสารจิตร ตำบลหนองอ้อ และตำบลท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ตัวเมืองโบราณศรีสัชนาลัย อยู่ในเขตหมู่บ้านพระปรางค์ ตำบลศรีสัชนาลัย โดยอยู่ไม่สุภาพงจากกรุงเทพมหานครไปทางทิศเหนือ ประมาณ 550 กิโลเมตร เมืองโบราณศรีสัชนาลัยมีสภาพภูมิประเทศที่ตั้งของเมืองเป็นที่ราบเชิงเขาพระศรี และ เขาใหญ่ ทางด้านทิศตะวันตก และมี ลำน้ำยมอยู่ทางด้านทิศตะวันออก กรมศิลปากรได้กำหนดเขตที่ดินโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ประมาณ 28,217 ไร่

    ความสำคัญทางประวัติศาสตร์😍
    เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ตั้งของเมืองศรีสัชนาลัย มีความเหมาะสมต่อการตั้งถิ่นฐาน คือมีทั้งที่ราบลุ่มริมแม่น้ำยมและที่ลาด เชิงเขาพระศรี และเขาใหญ่ ทำให้มีทั้งความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่และสิ่งป้องกันทางธรรมชาติที่ใช้ในการป้องกันข้าศึกศัตรู ได้อย่างดีด้วย จากหลักฐานที่สำรวจพบ พวกขวานหินขัด (เครื่องมือ เครื่องใช้ ของคนสมัยโบราณ) ที่พบที่ตำบลท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย รวมทั้งจาก หลักฐานการขุดค้นทางโบราณคดีที่วัดชมชื่น แสดงว่ามีชุมชน เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 (พ.ศ.800) เป็นต้นมาเป็นชุมชนร่วมสมัย ทวารวดีในภาคกลางถัด ขึ้นมาเป็นหลักฐานของวัฒนธรรมร่วมสมัยลพบุรี (พุทธศตวรรษที่ 18, พ.ศ. 1700) ปรากฏหลักฐานที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง ในระยะนั้นเมืองศรีสัชนาลัยมีชื่อว่าเมืองเชลียง ตามหลักฐานที่ปรากฏ ในศิลาจารึก ตำนานและพงศาวดารที่ยืนยันว่ามีเมืองโบราณ 2 เมือง อยู่ในลุ่มน้ำยมก่อนแล้ว คือ เมืองสุโขทัย และเมืองเชลียง ต่อมาได้มีการก่อสร้างเมืองศรีสัชนาลัยขึ้นทางด้านทิศเหนือของเมืองเชลียงไม่สุภาพงออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร เมืองศรีสัชนาลัย มีความสำคัญควบคู่กันมากับเมือง สุโขทัย โดยจากหลักฐานได้กล่าวถึงพ่อขุนศรีนาวนำถม ว่าเป็นกษัตริย์ครอง 2 นคร คือ เสวยราชย์ ทั้งเมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัย (ก่อน พ.ศ. 1781) ต่อมาจนถึงพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรสุโขทัย (พ.ศ.1781 - 1822) ทรงโปรดให้พ่อขุนบาลเมือง ไปครองเมืองศรีสัชนาลัย ส่วนพ่อขุนรามคำแหง พระยาลิไทก็เคยครองเมืองศรีสัชนาลัย ก่อนขึ้นเสวยราชย์เป็นกษัตริย์ปกครอง อาณาจักรสุโขทัย เมืองศรีสัชนาลัยมีฐานะเป็นเมืองลูกหลวงของสุโขทัย ต่อมาจนแม้กระทั่งสุโขทัยตกอยู่ภายใต้อำนาจของกรุงศรีอยุธยา และได้ เปลี่ยนชื่อเรียกว่า เมืองสวรรคโลก เมืองศรีสัชนาลัยหรือเมืองสวรรคโลกในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เป็นเมืองสำคัญที่ผลิตภาชนะเครื่องเคลือบสังคโลกให้แก่ กรุงศรีอยุธยา ในสมัยต่อมาเมื่อมีการจัดระบบการปกครองปรับปรุงเรื่องเชื้อสายราชวงศ์ให้เข้าอยู่ในระบบราชการเรียบร้อยแล้ว กรุงศรี อยุธยา ได้เป็นผู้แต่งตั้งเจ้าเมืองเข้ามา ปกครองเมืองสวรรคโลกมีฐานะเป็นหัวเมืองชั้นนอกระดับเมืองโท หลังเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่า ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 เมืองศรีสัชนาลัยหรือ สวรรคโลกถูก ทิ้งร้าง ต่อมาเมืองสวรรคโลกได้จัดตั้ง ขึ้นใหม่ ที่บ้านท่าชัยอยู่ด้านทิศใต้ของเมืองเดิม และในสมัยรัตนโกสินทร์ได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านวังไม้ขอน ซึ่งคือที่ตั้งของอำเภอ สวรรคโลกในปัจจุบัน ส่วนชื่อเมืองศรีสัชนาลัยถูกนำไปตั้งเป็นชื่อของอำเภอศรีสัชนาลัย ซึ่งได้รวมเอาเขตพื้นที่เมืองศรีสัชนาลัย โบราณไว้ด้วย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรใน พ.ศ.2534 เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น นับเป็นตัวแทนของศิลปกรรมไทยยุคแรกและเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2533

    โบราณสถานที่สำคัญ😇
    เมืองโบราณศรีสัชนาลัย มีขอบเขตของผังเมืองที่ก่อสร้างทับซ้อนอยู่บนบริเวณ เมืองเชลียงเดิม กล่าวคือ แนวกำแพงเมืองเชลียง เดิม ทำเป็นคันดินยาวขนานไปตามลำน้ำยมโดยเริ่มจาก บริเวณวัดมหาธาตุเชลียงขนานลำน้ำยมเลยผ่านเขาพนมเพลิงออกไป ซึ่งยังคงปรากฎหลักฐานคันดินให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างเมืองศรีสัชนาลัยขึ้น จึงได้พิจารณาเลือกบริเวณที่มีสภาพ ภูมิประเทศเป็นที่ราบเชิงเขา กำหนดขอบเขต การก่อสร้างกำแพงเมืองจากศิลาแลง ลักษณะผังเมืองเป็น รูปหลายเหลี่ยมไม่สม่ำเสมอตามทิศทางของแม่น้ำยม ในช่วงนี้ ลักษณะของกำแพงเมืองศรีสัชนาลัยมี หลายแนวเพราะคงมีการผสมผสานเอาแนวกำแพงคันดินในสมัยที่เป็นเมืองเชลียงเข้ามา ใช้ประโยชน์ด้วย โบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย มีทั้งภายในและภายนอกกำแพงเมือง ซึ่งรวมทั้งหมดมีไม่น้อย กว่า 215 แห่งโบราณสถานที่สำคัญมีดังนี้
    -โบราณสถานภายในกำแพงเมือง สำรวจพบแล้วมีทั้งสิ้น 28 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดนางพญา วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่ วัดสวนแก้ว เป็นต้น
    -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศเหนือ สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 35 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดกุฎีราย เตาทุเรียงบ้านป่ายาง เตา ทุเรียงบ้านเกาะน้อย ซึ่งเป็น แหล่งผลิต ภาชนะดินเผา “เครื่องสังคโลก” ที่สำคัญของเมืองศรีสัชนาลัย
    -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออก สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 10 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดสวนสัก วัดป่าแก้ว เป็นต้น
    -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศใต้ สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 24 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดชมชื่น วัดเจ้าจันทร์ และวัดโคกสิงคาราม เป็นต้น
    -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันตก สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 19 แห่ง ที่สำคัญ คือ วัดพญาดำ วัดราหู วัดสระประทุม วัดพรหมสี่หน้า วัดยายตา เป็นต้น
    -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองบนภูเขา สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 15 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดเขาใหญ่บน วัดเจดีย์เจ็ดยอด วัดเจดีย์รอบ และวัดเขาใหญ่ล่าง เป็นต้น อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ร่วมกันกับ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ในปี พ.ศ. 2534 เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฎแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น นับเป็นตัวแทนของศิลปกรรมไทย ยุคแรก และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศ

    บทความหน้า เพจเทพชวนเที่ยว จะพาไปเที่ยวที่ไหน กดติดตาม กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้แอดมินด้วยนะครับ🥰
    “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” อีกหนึ่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของไทย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ตั้งอยู่ในเขตตำบลศรีสัชนาลัย ตำบลสารจิตร ตำบลหนองอ้อ และตำบลท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ตัวเมืองโบราณศรีสัชนาลัย อยู่ในเขตหมู่บ้านพระปรางค์ ตำบลศรีสัชนาลัย โดยอยู่ไม่สุภาพงจากกรุงเทพมหานครไปทางทิศเหนือ ประมาณ 550 กิโลเมตร เมืองโบราณศรีสัชนาลัยมีสภาพภูมิประเทศที่ตั้งของเมืองเป็นที่ราบเชิงเขาพระศรี และ เขาใหญ่ ทางด้านทิศตะวันตก และมี ลำน้ำยมอยู่ทางด้านทิศตะวันออก กรมศิลปากรได้กำหนดเขตที่ดินโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ประมาณ 28,217 ไร่ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์😍 เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ตั้งของเมืองศรีสัชนาลัย มีความเหมาะสมต่อการตั้งถิ่นฐาน คือมีทั้งที่ราบลุ่มริมแม่น้ำยมและที่ลาด เชิงเขาพระศรี และเขาใหญ่ ทำให้มีทั้งความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่และสิ่งป้องกันทางธรรมชาติที่ใช้ในการป้องกันข้าศึกศัตรู ได้อย่างดีด้วย จากหลักฐานที่สำรวจพบ พวกขวานหินขัด (เครื่องมือ เครื่องใช้ ของคนสมัยโบราณ) ที่พบที่ตำบลท่าชัย อำเภอศรีสัชนาลัย รวมทั้งจาก หลักฐานการขุดค้นทางโบราณคดีที่วัดชมชื่น แสดงว่ามีชุมชน เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 (พ.ศ.800) เป็นต้นมาเป็นชุมชนร่วมสมัย ทวารวดีในภาคกลางถัด ขึ้นมาเป็นหลักฐานของวัฒนธรรมร่วมสมัยลพบุรี (พุทธศตวรรษที่ 18, พ.ศ. 1700) ปรากฏหลักฐานที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง ในระยะนั้นเมืองศรีสัชนาลัยมีชื่อว่าเมืองเชลียง ตามหลักฐานที่ปรากฏ ในศิลาจารึก ตำนานและพงศาวดารที่ยืนยันว่ามีเมืองโบราณ 2 เมือง อยู่ในลุ่มน้ำยมก่อนแล้ว คือ เมืองสุโขทัย และเมืองเชลียง ต่อมาได้มีการก่อสร้างเมืองศรีสัชนาลัยขึ้นทางด้านทิศเหนือของเมืองเชลียงไม่สุภาพงออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร เมืองศรีสัชนาลัย มีความสำคัญควบคู่กันมากับเมือง สุโขทัย โดยจากหลักฐานได้กล่าวถึงพ่อขุนศรีนาวนำถม ว่าเป็นกษัตริย์ครอง 2 นคร คือ เสวยราชย์ ทั้งเมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัย (ก่อน พ.ศ. 1781) ต่อมาจนถึงพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรสุโขทัย (พ.ศ.1781 - 1822) ทรงโปรดให้พ่อขุนบาลเมือง ไปครองเมืองศรีสัชนาลัย ส่วนพ่อขุนรามคำแหง พระยาลิไทก็เคยครองเมืองศรีสัชนาลัย ก่อนขึ้นเสวยราชย์เป็นกษัตริย์ปกครอง อาณาจักรสุโขทัย เมืองศรีสัชนาลัยมีฐานะเป็นเมืองลูกหลวงของสุโขทัย ต่อมาจนแม้กระทั่งสุโขทัยตกอยู่ภายใต้อำนาจของกรุงศรีอยุธยา และได้ เปลี่ยนชื่อเรียกว่า เมืองสวรรคโลก เมืองศรีสัชนาลัยหรือเมืองสวรรคโลกในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เป็นเมืองสำคัญที่ผลิตภาชนะเครื่องเคลือบสังคโลกให้แก่ กรุงศรีอยุธยา ในสมัยต่อมาเมื่อมีการจัดระบบการปกครองปรับปรุงเรื่องเชื้อสายราชวงศ์ให้เข้าอยู่ในระบบราชการเรียบร้อยแล้ว กรุงศรี อยุธยา ได้เป็นผู้แต่งตั้งเจ้าเมืองเข้ามา ปกครองเมืองสวรรคโลกมีฐานะเป็นหัวเมืองชั้นนอกระดับเมืองโท หลังเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่า ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 เมืองศรีสัชนาลัยหรือ สวรรคโลกถูก ทิ้งร้าง ต่อมาเมืองสวรรคโลกได้จัดตั้ง ขึ้นใหม่ ที่บ้านท่าชัยอยู่ด้านทิศใต้ของเมืองเดิม และในสมัยรัตนโกสินทร์ได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านวังไม้ขอน ซึ่งคือที่ตั้งของอำเภอ สวรรคโลกในปัจจุบัน ส่วนชื่อเมืองศรีสัชนาลัยถูกนำไปตั้งเป็นชื่อของอำเภอศรีสัชนาลัย ซึ่งได้รวมเอาเขตพื้นที่เมืองศรีสัชนาลัย โบราณไว้ด้วย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรใน พ.ศ.2534 เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น นับเป็นตัวแทนของศิลปกรรมไทยยุคแรกและเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2533 โบราณสถานที่สำคัญ😇 เมืองโบราณศรีสัชนาลัย มีขอบเขตของผังเมืองที่ก่อสร้างทับซ้อนอยู่บนบริเวณ เมืองเชลียงเดิม กล่าวคือ แนวกำแพงเมืองเชลียง เดิม ทำเป็นคันดินยาวขนานไปตามลำน้ำยมโดยเริ่มจาก บริเวณวัดมหาธาตุเชลียงขนานลำน้ำยมเลยผ่านเขาพนมเพลิงออกไป ซึ่งยังคงปรากฎหลักฐานคันดินให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างเมืองศรีสัชนาลัยขึ้น จึงได้พิจารณาเลือกบริเวณที่มีสภาพ ภูมิประเทศเป็นที่ราบเชิงเขา กำหนดขอบเขต การก่อสร้างกำแพงเมืองจากศิลาแลง ลักษณะผังเมืองเป็น รูปหลายเหลี่ยมไม่สม่ำเสมอตามทิศทางของแม่น้ำยม ในช่วงนี้ ลักษณะของกำแพงเมืองศรีสัชนาลัยมี หลายแนวเพราะคงมีการผสมผสานเอาแนวกำแพงคันดินในสมัยที่เป็นเมืองเชลียงเข้ามา ใช้ประโยชน์ด้วย โบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย มีทั้งภายในและภายนอกกำแพงเมือง ซึ่งรวมทั้งหมดมีไม่น้อย กว่า 215 แห่งโบราณสถานที่สำคัญมีดังนี้ -โบราณสถานภายในกำแพงเมือง สำรวจพบแล้วมีทั้งสิ้น 28 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดนางพญา วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่ วัดสวนแก้ว เป็นต้น -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศเหนือ สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 35 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดกุฎีราย เตาทุเรียงบ้านป่ายาง เตา ทุเรียงบ้านเกาะน้อย ซึ่งเป็น แหล่งผลิต ภาชนะดินเผา “เครื่องสังคโลก” ที่สำคัญของเมืองศรีสัชนาลัย -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออก สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 10 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดสวนสัก วัดป่าแก้ว เป็นต้น -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศใต้ สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 24 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดชมชื่น วัดเจ้าจันทร์ และวัดโคกสิงคาราม เป็นต้น -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันตก สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 19 แห่ง ที่สำคัญ คือ วัดพญาดำ วัดราหู วัดสระประทุม วัดพรหมสี่หน้า วัดยายตา เป็นต้น -โบราณสถานนอกกำแพงเมืองบนภูเขา สำรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 15 แห่ง ที่สำคัญคือ วัดเขาใหญ่บน วัดเจดีย์เจ็ดยอด วัดเจดีย์รอบ และวัดเขาใหญ่ล่าง เป็นต้น อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ร่วมกันกับ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ในปี พ.ศ. 2534 เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฎแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น นับเป็นตัวแทนของศิลปกรรมไทย ยุคแรก และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศ บทความหน้า เพจเทพชวนเที่ยว จะพาไปเที่ยวที่ไหน กดติดตาม กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้แอดมินด้วยนะครับ🥰
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 933 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคประชาชวยหวังกลืนราชุบรีให้ได้ ระดมทัพหาเสียงโค้งสุดท้าย คิงส์ขอส่งแรงใจให้พี่น้องชาวราชรี อย่าปล่อยฝูงคนชั่วครองเมือง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ราชบุรี
    พรรคประชาชวยหวังกลืนราชุบรีให้ได้ ระดมทัพหาเสียงโค้งสุดท้าย คิงส์ขอส่งแรงใจให้พี่น้องชาวราชรี อย่าปล่อยฝูงคนชั่วครองเมือง #คิงส์โพธิ์แดง #ราชบุรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว