• ทำไม Android Tablet รุ่นใหม่ถึงไม่นิยมใส่ SIM Card อีกต่อไป 🗒️

    ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์อย่างแท็บเล็ต (Tablet) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำงาน ความบันเทิง และการเรียนรู้ โดยเฉพาะ Android Tablet ที่ได้รับความนิยมจากความหลากหลายและราคาที่เข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดี ๆ จะพบว่าแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันมักไม่ค่อยมีช่องใส่ SIM Card เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือเหมือนในอดีต ซึ่งเคยเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตเลือกตัดฟีเจอร์นี้ออก? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเหตุผลหลัก ๆ ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของเทรนด์และพฤติกรรมการใช้งานในยุคปัจจุบัน

    1️⃣. การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ใช้

    ในอดีต แท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ โดยเฉพาะในสถานที่ที่ไม่มี Wi-Fi อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนได้พัฒนาไปไกลจนสามารถทดแทนการใช้งานของแท็บเล็ตได้ในหลายด้าน ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ผู้ใช้จำนวนมากจึงมองว่าสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวก็เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะเมื่อสมาร์ทโฟนสามารถแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านฟีเจอร์ Hotspot ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว การมี SIM Card บนแท็บเล็ตจึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่

    2️⃣. การเข้าถึง Wi-Fi ที่แพร่หลายมากขึ้น

    ในยุคที่ Wi-Fi มีอยู่เกือบทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน สถานที่ทำงาน ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ในที่สาธารณะอย่างรถไฟฟ้าและสนามบิน การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi กลายเป็นเรื่องสะดวกและประหยัดกว่าการใช้เครือข่ายมือถือ ผู้ใช้แท็บเล็ตส่วนใหญ่จึงเลือกเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi แทนการสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมสำหรับแท็บเล็ต ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้การใช้งานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานที่มักอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มี Wi-Fi ให้บริการอยู่แล้ว

    3️⃣. การลดต้นทุนการผลิตเพื่อราคาที่เข้าถึงได้

    การผลิตแท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card ต้องใช้ชิ้นส่วนเพิ่มเติม เช่น ชิปโมเด็มสำหรับเชื่อมต่อ LTE หรือ 5G และช่องใส่ SIM Card ซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่มต้นทุนการผลิตให้สูงขึ้น ในเมื่อความต้องการฟีเจอร์นี้ในตลาดลดลง ผู้ผลิตจึงเลือกตัดส่วนนี้ออกเพื่อลดต้นทุนและสามารถวางจำหน่ายแท็บเล็ตในราคาที่แข่งขันได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่มองหาแท็บเล็ตเพื่อการใช้งานทั่วไป เช่น ดูวิดีโอ อ่านหนังสือ หรือทำงานเบื้องต้น

    4️⃣. การออกแบบที่บางและเบาเพื่อความคล่องตัว

    ดีไซน์ของแท็บเล็ตในปัจจุบันเน้นความบางและเบาเพื่อให้พกพาสะดวกและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความคล่องตัว การเพิ่มช่องใส่ SIM Card และชิปโมเด็มอาจทำให้ต้องเสียพื้นที่ภายในตัวเครื่อง ซึ่งส่งผลต่อความบางและน้ำหนักของอุปกรณ์ ผู้ผลิตจึงเลือกตัดฟีเจอร์นี้ออกเพื่อให้แท็บเล็ตมีดีไซน์ที่สวยงามและพกพาง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคในยุคนี้ให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและนักเรียนที่ต้องการอุปกรณ์ที่ทั้งทันสมัยและสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน

    5️⃣. บริการอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่ตอบโจทย์มากขึ้น

    เทคโนโลยีเครือข่ายในปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนในยุคนี้มีความเร็วสูงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ eSIM, เครือข่าย 5G หรือแพ็กเกจแบบ Unlimited Data Plan ที่อนุญาตให้แชร์ข้อมูลไปยังอุปกรณ์อื่นได้โดยไม่มีข้อจำกัดมากนัก การแชร์อินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนไปยังแท็บเล็ตจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดกว่าการใช้ SIM Card แยกสำหรับแท็บเล็ต ทำให้ความจำเป็นในการมีช่องใส่ SIM Card บนแท็บเล็ตลดลงอย่างมาก

    🔮 อนาคตของแท็บเล็ตในยุคดิจิทัล

    ถึงแม้ว่าแท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card จะยังคงมีอยู่ในตลาด แต่จำนวนรุ่นที่ออกใหม่นั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับสมัยก่อน ผู้ผลิตมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เช่น การเรียนออนไลน์ การทำงานจากระยะไกล หรือความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ มากกว่าการเพิ่มฟีเจอร์ที่อาจไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ การเลือกซื้อแท็บเล็ตในปัจจุบันจึงควรพิจารณาจากความต้องการใช้งานเป็นหลัก เช่น ขนาดหน้าจอ ความจุแบตเตอรี่ หรือซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม มากกว่าการมองหาฟีเจอร์อย่างการรองรับ SIM Card

    ℹ️ℹ️ สรุป ℹ️ℹ️

    การที่ Android Tablet รุ่นใหม่ ๆ ไม่นิยมใส่ช่อง SIM Card อีกต่อไปเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านพฤติกรรมผู้ใช้ เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น และกลยุทธ์ของผู้ผลิตที่ต้องการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ การแชร์อินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนที่ง่ายและสะดวก รวมถึงการเข้าถึง Wi-Fi ที่แพร่หลาย ทำให้แท็บเล็ตที่เน้นการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น สำหรับนักเรียนและผู้ที่สนใจเลือกซื้อแท็บเล็ต การทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณได้ดียิ่งขึ้น

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    ทำไม Android Tablet รุ่นใหม่ถึงไม่นิยมใส่ SIM Card อีกต่อไป 🗒️ ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์อย่างแท็บเล็ต (Tablet) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำงาน ความบันเทิง และการเรียนรู้ โดยเฉพาะ Android Tablet ที่ได้รับความนิยมจากความหลากหลายและราคาที่เข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดี ๆ จะพบว่าแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันมักไม่ค่อยมีช่องใส่ SIM Card เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือเหมือนในอดีต ซึ่งเคยเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตเลือกตัดฟีเจอร์นี้ออก? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเหตุผลหลัก ๆ ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของเทรนด์และพฤติกรรมการใช้งานในยุคปัจจุบัน 1️⃣. การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ใช้ ในอดีต แท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ โดยเฉพาะในสถานที่ที่ไม่มี Wi-Fi อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนได้พัฒนาไปไกลจนสามารถทดแทนการใช้งานของแท็บเล็ตได้ในหลายด้าน ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ผู้ใช้จำนวนมากจึงมองว่าสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวก็เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะเมื่อสมาร์ทโฟนสามารถแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านฟีเจอร์ Hotspot ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว การมี SIM Card บนแท็บเล็ตจึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ 2️⃣. การเข้าถึง Wi-Fi ที่แพร่หลายมากขึ้น ในยุคที่ Wi-Fi มีอยู่เกือบทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน สถานที่ทำงาน ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ในที่สาธารณะอย่างรถไฟฟ้าและสนามบิน การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi กลายเป็นเรื่องสะดวกและประหยัดกว่าการใช้เครือข่ายมือถือ ผู้ใช้แท็บเล็ตส่วนใหญ่จึงเลือกเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi แทนการสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมสำหรับแท็บเล็ต ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้การใช้งานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานที่มักอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มี Wi-Fi ให้บริการอยู่แล้ว 3️⃣. การลดต้นทุนการผลิตเพื่อราคาที่เข้าถึงได้ การผลิตแท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card ต้องใช้ชิ้นส่วนเพิ่มเติม เช่น ชิปโมเด็มสำหรับเชื่อมต่อ LTE หรือ 5G และช่องใส่ SIM Card ซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่มต้นทุนการผลิตให้สูงขึ้น ในเมื่อความต้องการฟีเจอร์นี้ในตลาดลดลง ผู้ผลิตจึงเลือกตัดส่วนนี้ออกเพื่อลดต้นทุนและสามารถวางจำหน่ายแท็บเล็ตในราคาที่แข่งขันได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่มองหาแท็บเล็ตเพื่อการใช้งานทั่วไป เช่น ดูวิดีโอ อ่านหนังสือ หรือทำงานเบื้องต้น 4️⃣. การออกแบบที่บางและเบาเพื่อความคล่องตัว ดีไซน์ของแท็บเล็ตในปัจจุบันเน้นความบางและเบาเพื่อให้พกพาสะดวกและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความคล่องตัว การเพิ่มช่องใส่ SIM Card และชิปโมเด็มอาจทำให้ต้องเสียพื้นที่ภายในตัวเครื่อง ซึ่งส่งผลต่อความบางและน้ำหนักของอุปกรณ์ ผู้ผลิตจึงเลือกตัดฟีเจอร์นี้ออกเพื่อให้แท็บเล็ตมีดีไซน์ที่สวยงามและพกพาง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคในยุคนี้ให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและนักเรียนที่ต้องการอุปกรณ์ที่ทั้งทันสมัยและสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน 5️⃣. บริการอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่ตอบโจทย์มากขึ้น เทคโนโลยีเครือข่ายในปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนในยุคนี้มีความเร็วสูงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ eSIM, เครือข่าย 5G หรือแพ็กเกจแบบ Unlimited Data Plan ที่อนุญาตให้แชร์ข้อมูลไปยังอุปกรณ์อื่นได้โดยไม่มีข้อจำกัดมากนัก การแชร์อินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนไปยังแท็บเล็ตจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดกว่าการใช้ SIM Card แยกสำหรับแท็บเล็ต ทำให้ความจำเป็นในการมีช่องใส่ SIM Card บนแท็บเล็ตลดลงอย่างมาก 🔮 อนาคตของแท็บเล็ตในยุคดิจิทัล ถึงแม้ว่าแท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card จะยังคงมีอยู่ในตลาด แต่จำนวนรุ่นที่ออกใหม่นั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับสมัยก่อน ผู้ผลิตมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เช่น การเรียนออนไลน์ การทำงานจากระยะไกล หรือความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ มากกว่าการเพิ่มฟีเจอร์ที่อาจไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ การเลือกซื้อแท็บเล็ตในปัจจุบันจึงควรพิจารณาจากความต้องการใช้งานเป็นหลัก เช่น ขนาดหน้าจอ ความจุแบตเตอรี่ หรือซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม มากกว่าการมองหาฟีเจอร์อย่างการรองรับ SIM Card ℹ️ℹ️ สรุป ℹ️ℹ️ การที่ Android Tablet รุ่นใหม่ ๆ ไม่นิยมใส่ช่อง SIM Card อีกต่อไปเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านพฤติกรรมผู้ใช้ เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น และกลยุทธ์ของผู้ผลิตที่ต้องการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ การแชร์อินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนที่ง่ายและสะดวก รวมถึงการเข้าถึง Wi-Fi ที่แพร่หลาย ทำให้แท็บเล็ตที่เน้นการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น สำหรับนักเรียนและผู้ที่สนใจเลือกซื้อแท็บเล็ต การทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณได้ดียิ่งขึ้น #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake-S รุ่นถัดไปของซีพียูฝั่งเดสก์ท็อปใน ครึ่งหลังของปี 2026 ที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ทั้งด้าน “สถาปัตยกรรม” และ “ขุมพลัง” ตัวท็อป Core Ultra 9 385K จะมีถึง 52 คอร์! โดยแบ่งเป็น 16 คอร์แรงจัด (P-core), 32 คอร์ประหยัด (E-core) และ 4 คอร์พลังต่ำพิเศษ (LPE-core) เรียกว่าเป็นการกระโดดจากรุ่นปัจจุบันที่มีสูงสุดแค่ 24 คอร์ แบบไม่เห็นฝุ่น

    แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่ “ระบบแยกแผ่น (tile-based)” ซึ่งแต่ละกลุ่มคอร์จะถูกวางอยู่บนไดแยกกัน คล้ายกับแนวคิดของชิป Apple M-Series หรือ AMD 3D V-Cache เพื่อให้บริหารพลังงานและประสิทธิภาพได้แบบละเอียดสุด ๆ

    Intel ยังใส่ใจสายกราฟิกด้วยการแยกส่วน iGPU ออกเป็นสองกลุ่มชัดเจน: Xe3 “Celestial” สำหรับเรนเดอร์ และ Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอ/จอภาพ — ลดภาระเครื่องและเพิ่มเฟรมเรตสำหรับทั้งงานสร้างสรรค์และเกม

    Nova Lake-S ยังมาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่หมด ตั้งแต่ LGA 1854 Socket, แรม DDR5 8000+ MT/s, ไปจนถึง 48 เลน PCIe และระบบ USB/SATA แบบขยายเต็มพิกัด

    ✅ Nova Lake-S จะเป็นซีรีส์เดสก์ท็อปใหม่ของ Intel ที่เปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่  
    • เริ่มวางจำหน่ายครึ่งหลังปี 2026  
    • ใช้ดีไซน์แบบ tile-based คล้ายกับชิปยุคใหม่ เช่น Meteor Lake

    ✅ Core Ultra 9 385K: มีสูงสุดถึง 52 คอร์!  
    • แบ่งเป็น: 16 P-core + 32 E-core + 4 LPE-core  
    • เปรียบเทียบแล้วมากกว่ารุ่นก่อน (24 คอร์) เกินเท่าตัว

    ✅ ซีรีส์อื่นก็แรงไม่แพ้กัน  
    • Core Ultra 7: 42 คอร์  
    • Core Ultra 5: มีตั้งแต่ 18 ถึง 28 คอร์  
    • Core Ultra 3: รุ่นเล็กสุดยังมีถึง 16 คอร์ (พร้อม LPE-core)

    ✅ แรมและสถาปัตยกรรมใหม่  
    • รองรับ DDR5 สูงสุด 8000 MT/s และอาจไปถึง 10,000+ MT/s  
    • ใช้ Socket ใหม่ LGA 1854 และชิปเซต 900 ซีรีส์

    ✅ ระบบกราฟิกในตัวแบบไฮบริด แยกเรนเดอร์/วิดีโอ  
    • Xe3 “Celestial” สำหรับเกมและกราฟิก  
    • Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอและจอภาพ

    ✅ เป้าหมาย: สู้กับ AMD Zen 6 แบบจัง ๆ  
    • Intel มุ่งหวังทวงบัลลังก์ซีพียูเดสก์ท็อปคืนจากคู่แข่ง

    ‼️ ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่เพื่อใช้ Nova Lake-S  
    • ใช้ LGA 1854 socket และชิปเซตรุ่นใหม่ทั้งหมด  
    • ไม่สามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดปัจจุบัน

    ‼️ ยังไม่มีการทดสอบจริง — ตัวเลขทั้งหมดมาจาก “ข่าวหลุด”  
    • ต้องรอ benchmark และประสิทธิภาพจริงจากผู้ผลิตหรือผู้ใช้งาน

    ‼️ จำนวนคอร์ที่มากขึ้นอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป  
    • ถ้าซอฟต์แวร์ไม่ปรับให้รองรับการทำงานแบบ multi-thread อาจไม่ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า

    ‼️ TDP ระดับ 150W บ่งชี้ว่าอาจต้องระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น  
    • โดยเฉพาะรุ่น Core Ultra 9 / 7 ที่มีคอร์จำนวนมาก

    https://www.techspot.com/news/108337-intel-nova-lake-s-cpus-bring-massive-architectural.html
    Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake-S รุ่นถัดไปของซีพียูฝั่งเดสก์ท็อปใน ครึ่งหลังของปี 2026 ที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ทั้งด้าน “สถาปัตยกรรม” และ “ขุมพลัง” ตัวท็อป Core Ultra 9 385K จะมีถึง 52 คอร์! โดยแบ่งเป็น 16 คอร์แรงจัด (P-core), 32 คอร์ประหยัด (E-core) และ 4 คอร์พลังต่ำพิเศษ (LPE-core) เรียกว่าเป็นการกระโดดจากรุ่นปัจจุบันที่มีสูงสุดแค่ 24 คอร์ แบบไม่เห็นฝุ่น แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่ “ระบบแยกแผ่น (tile-based)” ซึ่งแต่ละกลุ่มคอร์จะถูกวางอยู่บนไดแยกกัน คล้ายกับแนวคิดของชิป Apple M-Series หรือ AMD 3D V-Cache เพื่อให้บริหารพลังงานและประสิทธิภาพได้แบบละเอียดสุด ๆ Intel ยังใส่ใจสายกราฟิกด้วยการแยกส่วน iGPU ออกเป็นสองกลุ่มชัดเจน: Xe3 “Celestial” สำหรับเรนเดอร์ และ Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอ/จอภาพ — ลดภาระเครื่องและเพิ่มเฟรมเรตสำหรับทั้งงานสร้างสรรค์และเกม Nova Lake-S ยังมาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่หมด ตั้งแต่ LGA 1854 Socket, แรม DDR5 8000+ MT/s, ไปจนถึง 48 เลน PCIe และระบบ USB/SATA แบบขยายเต็มพิกัด ✅ Nova Lake-S จะเป็นซีรีส์เดสก์ท็อปใหม่ของ Intel ที่เปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่   • เริ่มวางจำหน่ายครึ่งหลังปี 2026   • ใช้ดีไซน์แบบ tile-based คล้ายกับชิปยุคใหม่ เช่น Meteor Lake ✅ Core Ultra 9 385K: มีสูงสุดถึง 52 คอร์!   • แบ่งเป็น: 16 P-core + 32 E-core + 4 LPE-core   • เปรียบเทียบแล้วมากกว่ารุ่นก่อน (24 คอร์) เกินเท่าตัว ✅ ซีรีส์อื่นก็แรงไม่แพ้กัน   • Core Ultra 7: 42 คอร์   • Core Ultra 5: มีตั้งแต่ 18 ถึง 28 คอร์   • Core Ultra 3: รุ่นเล็กสุดยังมีถึง 16 คอร์ (พร้อม LPE-core) ✅ แรมและสถาปัตยกรรมใหม่   • รองรับ DDR5 สูงสุด 8000 MT/s และอาจไปถึง 10,000+ MT/s   • ใช้ Socket ใหม่ LGA 1854 และชิปเซต 900 ซีรีส์ ✅ ระบบกราฟิกในตัวแบบไฮบริด แยกเรนเดอร์/วิดีโอ   • Xe3 “Celestial” สำหรับเกมและกราฟิก   • Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอและจอภาพ ✅ เป้าหมาย: สู้กับ AMD Zen 6 แบบจัง ๆ   • Intel มุ่งหวังทวงบัลลังก์ซีพียูเดสก์ท็อปคืนจากคู่แข่ง ‼️ ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่เพื่อใช้ Nova Lake-S   • ใช้ LGA 1854 socket และชิปเซตรุ่นใหม่ทั้งหมด   • ไม่สามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดปัจจุบัน ‼️ ยังไม่มีการทดสอบจริง — ตัวเลขทั้งหมดมาจาก “ข่าวหลุด”   • ต้องรอ benchmark และประสิทธิภาพจริงจากผู้ผลิตหรือผู้ใช้งาน ‼️ จำนวนคอร์ที่มากขึ้นอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป   • ถ้าซอฟต์แวร์ไม่ปรับให้รองรับการทำงานแบบ multi-thread อาจไม่ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า ‼️ TDP ระดับ 150W บ่งชี้ว่าอาจต้องระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น   • โดยเฉพาะรุ่น Core Ultra 9 / 7 ที่มีคอร์จำนวนมาก https://www.techspot.com/news/108337-intel-nova-lake-s-cpus-bring-massive-architectural.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel's Nova Lake-S CPUs to bring massive architectural overhaul, up to 52 cores
    The flagship Core Ultra 9 385K model could feature a staggering 52 cores, comprising 16 high-performance P-cores, 32 efficiency-focused E-cores, and four 4 low-power LPE-cores – making...
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • ยุคนี้องค์กรไม่ค่อย “ผูกขาดใจ” กับ Cloud เจ้าเดียวแล้ว ส่วนใหญ่ใช้แบบ Multicloud เพื่อดึงจุดเด่นแต่ละแพลตฟอร์มมาใช้งาน เช่น ใช้ GCP ทำ Data Analytics, Azure ทำ Identity, AWS ทำ Compute แต่รู้ไหมว่าความปลอดภัยแบบ “ข้ามค่าย” นี่เองที่สร้างฝันร้ายให้นัก Security

    เพราะเครื่องมือของแต่ละเจ้าต่างกัน ภาษาและพฤติกรรมไม่เหมือนกัน ทำให้เกิด “จุดบอด” ที่แฮกเกอร์ชอบที่สุด ข่าวนี้เลยรวบรวม 8 เทคนิค ที่องค์กรควรใช้เพื่อควบคุมความปลอดภัย Multicloud อย่างมืออาชีพ

    เช่น การตั้งศูนย์กลางความปลอดภัยที่ไม่ขึ้นกับ Cloud ใด Cloud หนึ่ง, การใช้ระบบตรวจจับภัยแบบรวมศูนย์, หรือแม้แต่การตั้งขอบเขตความไว้ใจให้ทุกระบบ — ไม่ว่าจะเป็น AWS, Azure หรือเครื่องเก่าที่นั่งนิ่ง ๆ ในดาต้าเซ็นเตอร์ก็ตาม

    สิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้ามคือเรื่อง “shared responsibility” — ความปลอดภัยไม่ใช่งานของทีม Security คนเดียว แต่ต้องกระจายบทบาทไปถึง DevOps, Cloud Architect และแม้แต่ทีม Compliance ด้วย

    ✅ ตั้งทีมกลางดูแลความปลอดภัย Multicloud  
    • สร้างศูนย์กลางหรือบุคคลที่คุมกลยุทธ์ ความสอดคล้อง และการบังคับใช้นโยบาย Cloud ทั้งหมด

    ✅ ใช้ระบบ Identity และ Governance แบบรวมศูนย์  
    • ลดช่องว่างระหว่าง Cloud ด้วยการจัดการสิทธิ์ผ่านระบบกลาง เช่น Microsoft Entra ID หรือ Okta

    ✅ ไม่ยึดติดกับ Security Tools ของแต่ละ Cloud โดยลำพัง  
    • สร้างมาตรฐานเดียวทั่วทุก Cloud เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและจุดอ่อน

    ✅ ใช้แนวคิด “Unified Trust Boundary”  
    • ยึดผู้ใช้ ข้อมูล และพฤติกรรมเป็นศูนย์กลาง แทนที่จะวางระบบความปลอดภัยแยกตามแพลตฟอร์ม

    ✅ กระจายความรับผิดชอบความปลอดภัยในองค์กร  
    • CISO เป็นเจ้าภาพ แต่ต้องมีทีม DevOps, Platform, Compliance มาร่วมรับผิดชอบด้วย

    ✅ เน้น Collaboration ระหว่างทีม ไม่ทำงานแบบไซโล  
    • ช่วยให้ระบบความปลอดภัยสอดคล้องกับภาพรวมธุรกิจ

    ✅ ตั้งระบบตรวจจับภัยแบบข้าม Cloud อย่างเป็นระบบ  
    • ลด Alert Fatigue และมองเห็นภาพรวมของภัยคุกคามได้ชัดเจนขึ้น

    ✅ ควบคุมการเข้าถึงด้วยแนวคิด “Session-based Access”  
    • ลดความเสี่ยงจากมัลแวร์หรือผู้บุกรุก ด้วยการจำกัดสิทธิ์และระยะเวลาการใช้งาน Cloud

    ‼️ Cloud แต่ละเจ้ามีเครื่องมือ-คำศัพท์ไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดความสับสน  
    • การพึ่ง native tools แยกเจ้า โดยไม่มีแผนรวม อาจเกิดช่องโหว่ที่ไม่รู้ตัว

    ‼️ Multicloud อาจเพิ่ม “complexity” มากกว่าที่คิด  
    • ถ้าไม่ควบคุมให้ดี Cloud หลายเจ้าจะกลายเป็น “ป่าดง Security Tools” ที่ดูแลไม่ทั่วถึง

    ‼️ ความปลอดภัยไม่ควรฝากไว้แค่ทีม Security  
    • ถ้าไม่ดึงคนอื่นมารับผิดชอบร่วมกัน ก็เหมือนมีรปภ.แค่เฝ้าประตูหน้า แต่หน้าต่างเปิดโล่งหมด

    ‼️ หากไม่มีการวาง Detection & Response ที่เป็นระบบ จะมองไม่เห็นภัยที่แทรกข้าม Cloud  
    • โดยเฉพาะพฤติกรรมแฝงที่มักกระโดดข้ามแพลตฟอร์ม

    ‼️ การควบคุมสิทธิ์แบบ Static Access ทำให้ Cloud ตกเป็นเป้าได้ง่าย  
    • ต้องใช้แนวคิด “just-in-time access” แทนสิทธิถาวร

    https://www.csoonline.com/article/4003915/8-tips-for-mastering-multicloud-security.html
    ยุคนี้องค์กรไม่ค่อย “ผูกขาดใจ” กับ Cloud เจ้าเดียวแล้ว ส่วนใหญ่ใช้แบบ Multicloud เพื่อดึงจุดเด่นแต่ละแพลตฟอร์มมาใช้งาน เช่น ใช้ GCP ทำ Data Analytics, Azure ทำ Identity, AWS ทำ Compute แต่รู้ไหมว่าความปลอดภัยแบบ “ข้ามค่าย” นี่เองที่สร้างฝันร้ายให้นัก Security เพราะเครื่องมือของแต่ละเจ้าต่างกัน ภาษาและพฤติกรรมไม่เหมือนกัน ทำให้เกิด “จุดบอด” ที่แฮกเกอร์ชอบที่สุด ข่าวนี้เลยรวบรวม 8 เทคนิค ที่องค์กรควรใช้เพื่อควบคุมความปลอดภัย Multicloud อย่างมืออาชีพ เช่น การตั้งศูนย์กลางความปลอดภัยที่ไม่ขึ้นกับ Cloud ใด Cloud หนึ่ง, การใช้ระบบตรวจจับภัยแบบรวมศูนย์, หรือแม้แต่การตั้งขอบเขตความไว้ใจให้ทุกระบบ — ไม่ว่าจะเป็น AWS, Azure หรือเครื่องเก่าที่นั่งนิ่ง ๆ ในดาต้าเซ็นเตอร์ก็ตาม สิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้ามคือเรื่อง “shared responsibility” — ความปลอดภัยไม่ใช่งานของทีม Security คนเดียว แต่ต้องกระจายบทบาทไปถึง DevOps, Cloud Architect และแม้แต่ทีม Compliance ด้วย ✅ ตั้งทีมกลางดูแลความปลอดภัย Multicloud   • สร้างศูนย์กลางหรือบุคคลที่คุมกลยุทธ์ ความสอดคล้อง และการบังคับใช้นโยบาย Cloud ทั้งหมด ✅ ใช้ระบบ Identity และ Governance แบบรวมศูนย์   • ลดช่องว่างระหว่าง Cloud ด้วยการจัดการสิทธิ์ผ่านระบบกลาง เช่น Microsoft Entra ID หรือ Okta ✅ ไม่ยึดติดกับ Security Tools ของแต่ละ Cloud โดยลำพัง   • สร้างมาตรฐานเดียวทั่วทุก Cloud เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและจุดอ่อน ✅ ใช้แนวคิด “Unified Trust Boundary”   • ยึดผู้ใช้ ข้อมูล และพฤติกรรมเป็นศูนย์กลาง แทนที่จะวางระบบความปลอดภัยแยกตามแพลตฟอร์ม ✅ กระจายความรับผิดชอบความปลอดภัยในองค์กร   • CISO เป็นเจ้าภาพ แต่ต้องมีทีม DevOps, Platform, Compliance มาร่วมรับผิดชอบด้วย ✅ เน้น Collaboration ระหว่างทีม ไม่ทำงานแบบไซโล   • ช่วยให้ระบบความปลอดภัยสอดคล้องกับภาพรวมธุรกิจ ✅ ตั้งระบบตรวจจับภัยแบบข้าม Cloud อย่างเป็นระบบ   • ลด Alert Fatigue และมองเห็นภาพรวมของภัยคุกคามได้ชัดเจนขึ้น ✅ ควบคุมการเข้าถึงด้วยแนวคิด “Session-based Access”   • ลดความเสี่ยงจากมัลแวร์หรือผู้บุกรุก ด้วยการจำกัดสิทธิ์และระยะเวลาการใช้งาน Cloud ‼️ Cloud แต่ละเจ้ามีเครื่องมือ-คำศัพท์ไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดความสับสน   • การพึ่ง native tools แยกเจ้า โดยไม่มีแผนรวม อาจเกิดช่องโหว่ที่ไม่รู้ตัว ‼️ Multicloud อาจเพิ่ม “complexity” มากกว่าที่คิด   • ถ้าไม่ควบคุมให้ดี Cloud หลายเจ้าจะกลายเป็น “ป่าดง Security Tools” ที่ดูแลไม่ทั่วถึง ‼️ ความปลอดภัยไม่ควรฝากไว้แค่ทีม Security   • ถ้าไม่ดึงคนอื่นมารับผิดชอบร่วมกัน ก็เหมือนมีรปภ.แค่เฝ้าประตูหน้า แต่หน้าต่างเปิดโล่งหมด ‼️ หากไม่มีการวาง Detection & Response ที่เป็นระบบ จะมองไม่เห็นภัยที่แทรกข้าม Cloud   • โดยเฉพาะพฤติกรรมแฝงที่มักกระโดดข้ามแพลตฟอร์ม ‼️ การควบคุมสิทธิ์แบบ Static Access ทำให้ Cloud ตกเป็นเป้าได้ง่าย   • ต้องใช้แนวคิด “just-in-time access” แทนสิทธิถาวร https://www.csoonline.com/article/4003915/8-tips-for-mastering-multicloud-security.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    8 tips for mastering multicloud security
    Multicloud environments offer many benefits. Strong inherent security isn’t one of them.
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • เลขาธิการนาโต้กดดันให้สมาชิกเพิ่มการใช้จ่ายทางทหาร หรือไม่ก็เตรียมตัวเรียนภาษารัสเซียรอได้เลย!!

    มาร์ก รุตเต้ (Mark Rutte) เลขาธิการนาโต้ กล่าวปราศรัยที่ London’s Chatham House ในระหว่างการเยือนอังกฤษ โดยพยายามผลักดันให้ชาติสมาชิกนาโต้เพิ่มงบประมาณด้านการทหารไปที่ 5% ของจีดีพี

    รุตเต้ยกตัวอย่างของอังกฤษ หากไม่ยอมเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารให้มากว่าปัจจุบันแบบก้าวกระโดด ชาวอังกฤษควรไปหัดพูดภาษารัสเซียกันไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย (ปัจจุบัน งบฯการทหารของอังกฤษอยู่ที่ 2.3%)


    เลขธิการนาโต้ยังเตือนถึงภัยคุกคามด้านขีปนาวุธของรัสเซียที่มีศักยภาพมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเรียกร้องให้เพิ่มงบฯในด้านการป้องกันทางอากาศอีก 400%


    รุตเต้ ยังให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า ปัจจุบัน รัสเซียสามารถผลิตกระสุนปืนใหญ่ได้มากกว่าชาติสมาชิกนาโต้ทั้งหมดรวมกันถึง 3 เท่า เครื่องกระสุนมากกว่า 4 เท่า โดยมีต้นทุนน้อยกว่า 10 เท่า

    “รัสเซียผลิตได้ภายใน 3 เดือน เท่ากับที่นาโต้ผลิตได้ใน 1 ปี คาดว่ารัสเซียจะผลิตรถถังได้ 1,500 คัน ยานยนต์ 3,000 คัน และขีปนาวุธ Iskander 200 ลูกภายในปีเดียว และรัสเซียอาจพร้อมใช้กำลังทหารโจมตีนาโต้ได้ภายใน 5 ปี” รุตเต้กล่าว
    เลขาธิการนาโต้กดดันให้สมาชิกเพิ่มการใช้จ่ายทางทหาร หรือไม่ก็เตรียมตัวเรียนภาษารัสเซียรอได้เลย!! มาร์ก รุตเต้ (Mark Rutte) เลขาธิการนาโต้ กล่าวปราศรัยที่ London’s Chatham House ในระหว่างการเยือนอังกฤษ โดยพยายามผลักดันให้ชาติสมาชิกนาโต้เพิ่มงบประมาณด้านการทหารไปที่ 5% ของจีดีพี รุตเต้ยกตัวอย่างของอังกฤษ หากไม่ยอมเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารให้มากว่าปัจจุบันแบบก้าวกระโดด ชาวอังกฤษควรไปหัดพูดภาษารัสเซียกันไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย (ปัจจุบัน งบฯการทหารของอังกฤษอยู่ที่ 2.3%) เลขธิการนาโต้ยังเตือนถึงภัยคุกคามด้านขีปนาวุธของรัสเซียที่มีศักยภาพมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเรียกร้องให้เพิ่มงบฯในด้านการป้องกันทางอากาศอีก 400% รุตเต้ ยังให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า ปัจจุบัน รัสเซียสามารถผลิตกระสุนปืนใหญ่ได้มากกว่าชาติสมาชิกนาโต้ทั้งหมดรวมกันถึง 3 เท่า เครื่องกระสุนมากกว่า 4 เท่า โดยมีต้นทุนน้อยกว่า 10 เท่า “รัสเซียผลิตได้ภายใน 3 เดือน เท่ากับที่นาโต้ผลิตได้ใน 1 ปี คาดว่ารัสเซียจะผลิตรถถังได้ 1,500 คัน ยานยนต์ 3,000 คัน และขีปนาวุธ Iskander 200 ลูกภายในปีเดียว และรัสเซียอาจพร้อมใช้กำลังทหารโจมตีนาโต้ได้ภายใน 5 ปี” รุตเต้กล่าว
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • ไฟถ่านหลบหลีกพ้น
    ไฟ3กระโดดเข้าเล่นร่าเริงเพลิน
    ไฟถ่านหลบหลีกพ้น ไฟ3กระโดดเข้าเล่นร่าเริงเพลิน
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 0 Reviews
  • ประชุมผู้ปกครองนักเรียน ภาคเรียนที่ 1 โรงเรียนสีคิ้ว"สวัสดิ์ผดุงวิทยา"

    วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ หอประชุมโรงเรียนสีคิ้ว"สวัสดิ์ผดุงวิทยา" อ.สีคิ้ว #นายสาทิช บวชสันเทียะ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ประธานประชุมผู้ปกครองนักเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 เพื่อมอบนโยบายด้านพัฒนาการศึกษาให้เป็นไปตามนโยบายของ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ที่มุ่งเน้นพัฒนาการศึกษาแบบก้าวกระโดด นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในจัดการเรียนการสอน ให้เด็กนักเรียนได้เรียนอย่างที่อยากเรียน รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรให้มีความทันสมัย สร้างความมั่นใจผู้ปกครองและชุมชน ที่ได้ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนในสถานศึกษา สังกัด อบจ.

    โดยมี ผู้อำนวยการสถานศึกษา, คณะกรรมการสถานศึกษา, ครู, ผู้ปกครอง และนักเรียน เข้าร่วม

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    ประชุมผู้ปกครองนักเรียน ภาคเรียนที่ 1 โรงเรียนสีคิ้ว"สวัสดิ์ผดุงวิทยา" วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ หอประชุมโรงเรียนสีคิ้ว"สวัสดิ์ผดุงวิทยา" อ.สีคิ้ว #นายสาทิช บวชสันเทียะ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ประธานประชุมผู้ปกครองนักเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 เพื่อมอบนโยบายด้านพัฒนาการศึกษาให้เป็นไปตามนโยบายของ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ที่มุ่งเน้นพัฒนาการศึกษาแบบก้าวกระโดด นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในจัดการเรียนการสอน ให้เด็กนักเรียนได้เรียนอย่างที่อยากเรียน รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรให้มีความทันสมัย สร้างความมั่นใจผู้ปกครองและชุมชน ที่ได้ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนในสถานศึกษา สังกัด อบจ. โดยมี ผู้อำนวยการสถานศึกษา, คณะกรรมการสถานศึกษา, ครู, ผู้ปกครอง และนักเรียน เข้าร่วม #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • ประชุมผู้ปกครองนักเรียน ภาคเรียนที่ 1 โรงเรียนสีคิ้ว"สวัสดิ์ผดุงวิทยา"

    วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ หอประชุมโรงเรียนสีคิ้ว"สวัสดิ์ผดุงวิทยา" อ.สีคิ้ว #นายสาทิช บวชสันเทียะ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ประธานประชุมผู้ปกครองนักเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 เพื่อมอบนโยบายด้านพัฒนาการศึกษาให้เป็นไปตามนโยบายของ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ที่มุ่งเน้นพัฒนาการศึกษาแบบก้าวกระโดด นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในจัดการเรียนการสอน ให้เด็กนักเรียนได้เรียนอย่างที่อยากเรียน รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรให้มีความทันสมัย สร้างความมั่นใจผู้ปกครองและชุมชน ที่ได้ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนในสถานศึกษา สังกัด อบจ.

    โดยมี ผู้อำนวยการสถานศึกษา, คณะกรรมการสถานศึกษา, ครู, ผู้ปกครอง และนักเรียน เข้าร่วม

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    ประชุมผู้ปกครองนักเรียน ภาคเรียนที่ 1 โรงเรียนสีคิ้ว"สวัสดิ์ผดุงวิทยา" วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ หอประชุมโรงเรียนสีคิ้ว"สวัสดิ์ผดุงวิทยา" อ.สีคิ้ว #นายสาทิช บวชสันเทียะ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ประธานประชุมผู้ปกครองนักเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 เพื่อมอบนโยบายด้านพัฒนาการศึกษาให้เป็นไปตามนโยบายของ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ที่มุ่งเน้นพัฒนาการศึกษาแบบก้าวกระโดด นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในจัดการเรียนการสอน ให้เด็กนักเรียนได้เรียนอย่างที่อยากเรียน รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรให้มีความทันสมัย สร้างความมั่นใจผู้ปกครองและชุมชน ที่ได้ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนในสถานศึกษา สังกัด อบจ. โดยมี ผู้อำนวยการสถานศึกษา, คณะกรรมการสถานศึกษา, ครู, ผู้ปกครอง และนักเรียน เข้าร่วม #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • ..อนาคตถ้าตัดปัญหาที่ไทยไม่มีผู้นำผู้ปกครองกากๆกระจอกออกไป,ประเทศไทยจะเป็นประเทศหนึ่งที่ไม่แพ้ใครบนโลก,ตลอดจนสามารถพัฒนายานบินอวกาศแบบUFOชนิดก้าวกระโดดล้ำๆไปได้อย่างรวดเร็วทางสายวัตถุธาตุแร่นี้ไปอย่างลุดหน้าไปแพ้ใครเลย,อาจเชิญคนเหนือมนุษย์ภายในประเทศไทยเราติดต่อสายจิตพลังข้ามจักรวาลแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีล้ำๆด้วยซ้ำ,เรามีผู้ปกครองกากและมือไม่ถึงบวกขาดวุฒิภาวะกระจอกเกินไป,เนื้อไร้สมองเดินได้แค่นั้น,ถ้าเป็นแบบนี้เผ่าพันธุ์คนไทยอาจสิ้นสุดที่ยุคนี้,อาทิแค่ผู้ปกครองโง่ๆในยุคสมัยโควิดสามารถฉีดวัคซีนลดเผ่าพันธุ์ลดประชากรได้สำเร็จในหมู่คนไทยเกือบครบ67ล้านคนก็เกินคำบรรยายในความสามารถที่โง่เขลาได้แล้ว,ปกครองแบบนี้กันบนวิถีนี้ตั้งแต่อดีตมากมานานแล้วบวกไปดำรงตำแหน่งสั่งการทางอำนาจปกครองประเทศไทยเราทั้งหมดด้วยจะเหลืออะไร ประชาชนพินาศ ชาติก็พินาศ ,เผ่าพันธุ์อื่นชาติอื่นย้ายมาปกครองกลืนกินแทนที่ในผู้นำผู้ปกครองโง่ๆจะเหลืออะไร และค่าจริงก็เล่นกันไปแบบนั้นโดยคนทรยศเสือกไปผสมบนตำแหน่งอำนาจชนชั้นปกครองด้วยยิ่งพังพินาศเป็นอัตราเร่ง,,555มโนเอาความฝันตนมาคุยเล่นๆอดีตชาติเคยปกครองในความฝันหลายดวงดาวอาณาจักรจักรวาลหรือทั้งระบบจักรวาลหรือระบบสุริยะจักรวาลหรือโลกแบนๆกลวงๆโดมๆนั้นๆเป็นอันมากก็ว่าแบบจักรวาลเล็ก จักรวาลกลาง มหาจักรวาลนั้นล่ะ มิใช่ปกครองแบบแค่เขตประเทศแบบนี้และแค่ส่วนพื้นที่น้อยนิดบนโลกใบนี้ด้วยก็ว่า,ปกครองนานหลายหมื่นหลายแสนปีและสั้นสุดหลายพันปีมาแล้วก็ว่าในแต่ละอาณาจักรจักรวาล,ชาติล่าสุดเบื่อหน่ายการปกครองจึงอยากเป็นคนธรรมดาบ้าง,จึงเลือกมาเกิดบนจักรวาลอื่นใหม่ๆที่ห่างไกลอาณาเขตจักรวาลที่ตนเองเคยปกครองเดี๋ยวลูกน้องเก่ามากมายจะมาพบวุ่นวายก็ว่าจึงมาเจอโลกมนุษย์นี้ลองมาเกิดหาดูเล่นๆสักชาติก็ว่า,ฝันเพลินๆตื่นขึ้นมายังตกใจในความฝันเลย คงดูหนังมากไป555ผีบ้าฝัน,เชื่อว่าคนเก่งคนดีมีความสามารถมีเต็มตรึมประเทศไทยก็ว่า,คงไม่นานผู้นำผู้ปกครองเลวๆชั่วๆหรือชนชั้นปกครองหัวสายเลวหัวสายชั่วคงไปวัดเร็วๆนี้ตลอดคนไม่ดีที่ร่วมเป็นเดอะแก๊งชั่วประจำประเทศไทยก็คงไปวัดเช่นกันในยุคกวาดล้างนี้.
    ..เทคโนโลยีบนโลกจากต่างดาวใต้โลกใต้ดินโลกกลวงโลกใต้ดินที่ยังไม่เปิดเผยตนเองก็ตามแท้จริงเทียบกับมหาจักรวาลอื่นยังล่าหลังนัก,ถ้าเขามาบุกมายึดโลกหรือยิงระเบิดโดมนี้,ยิงระเบิดโลกใบนี้ ได้ตายหมดอย่าง่ายดายไม่กี่วินาทีหรอก ชั้นโลกกลวงชั้นโลกใต้ดินยิ่งผิวโลกทั้งหมดระเบิดดับอนาถกันหมดก็ว่าแบบง่ายๆด้วยเทคโนโลยีเขาไปไกลกว่ามาก,
    ..จริงๆโลกใบนีัสมควรถึงเวลาเปิดเผยค่าจริงที่ปิดบังทั้งหมดได้แล้วจริงๆ.,เช่นนัันจะอัพเรเวลทั้งคนบนโลกนี้และอัพเรเวลโลกนี้ไม่ได้เลย,ปกป้องโลกตนด้วยความสามัคคีรวมใจคนทั้งโลกสู้ผู้บุกมาเยือนโลกหรือยึดหรือแทนที่หรือแย่งชิงที่อยู่อาศัยหรือปกป้องโลกตนด้วยความพร้อมใจสามัคคีกันบนความจริงจะไม่มีอะไรเลย,คือเขาบุกมายึดก็ยึดง่ายดายนั้นเอง.เป็นโลกที่ไร้น้ำยาใบหนึ่งก็ว่า,เหมือนทีมนักเตะนั้นล่ะ,ชาติประเทศนี้ลงเตะด้วยเสียเกียรติก็ว่า เสียเวลาเสียเหงื่อทิ้ง ไร้ค่าในสายตาก็ว่า,หรือยึดได้ง่ายๆไม่เสียเหงื่อเสียกำลังอะไรมากนัก,และทุกๆวันนี้มันก็ตีฆ่าทำสงครามภายในโลกมันเองแค่นั้น,เก่งแต่ในโลกในบ้านก็ว่า,ขี้หมาในสายตาจักรวาลดวงดาวอื่นก็ว่า,
    ..ไทยนี้มีดีมากมายโดยเฉพาะเรื่องจิตพลังวิญญาณ บรรลุธรรมจักรวาลได้ง่ายๆในประเทศไทยเพราะมีครูบาอาจารย์ดีเป็นหลักชัยพื้นฐานดีแล้ว,แก้ที่หัวจบ,ถีบผู้นำกากๆกระจอกออกไปก็จบแล้ว.,เจริญฝ่ายเดียวแน่นอน.,หลงทางไปกับระบบระบอบวิถีการปกครองที่ล้มเหลวของผู้นำผู้ปกครองเลวนานเกินไปก็ว่า.
    ..
    ..https://youtu.be/-I0Ixo9avp4?si=qjl0CIadyyKKXxy9
    ..อนาคตถ้าตัดปัญหาที่ไทยไม่มีผู้นำผู้ปกครองกากๆกระจอกออกไป,ประเทศไทยจะเป็นประเทศหนึ่งที่ไม่แพ้ใครบนโลก,ตลอดจนสามารถพัฒนายานบินอวกาศแบบUFOชนิดก้าวกระโดดล้ำๆไปได้อย่างรวดเร็วทางสายวัตถุธาตุแร่นี้ไปอย่างลุดหน้าไปแพ้ใครเลย,อาจเชิญคนเหนือมนุษย์ภายในประเทศไทยเราติดต่อสายจิตพลังข้ามจักรวาลแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีล้ำๆด้วยซ้ำ,เรามีผู้ปกครองกากและมือไม่ถึงบวกขาดวุฒิภาวะกระจอกเกินไป,เนื้อไร้สมองเดินได้แค่นั้น,ถ้าเป็นแบบนี้เผ่าพันธุ์คนไทยอาจสิ้นสุดที่ยุคนี้,อาทิแค่ผู้ปกครองโง่ๆในยุคสมัยโควิดสามารถฉีดวัคซีนลดเผ่าพันธุ์ลดประชากรได้สำเร็จในหมู่คนไทยเกือบครบ67ล้านคนก็เกินคำบรรยายในความสามารถที่โง่เขลาได้แล้ว,ปกครองแบบนี้กันบนวิถีนี้ตั้งแต่อดีตมากมานานแล้วบวกไปดำรงตำแหน่งสั่งการทางอำนาจปกครองประเทศไทยเราทั้งหมดด้วยจะเหลืออะไร ประชาชนพินาศ ชาติก็พินาศ ,เผ่าพันธุ์อื่นชาติอื่นย้ายมาปกครองกลืนกินแทนที่ในผู้นำผู้ปกครองโง่ๆจะเหลืออะไร และค่าจริงก็เล่นกันไปแบบนั้นโดยคนทรยศเสือกไปผสมบนตำแหน่งอำนาจชนชั้นปกครองด้วยยิ่งพังพินาศเป็นอัตราเร่ง,,555มโนเอาความฝันตนมาคุยเล่นๆอดีตชาติเคยปกครองในความฝันหลายดวงดาวอาณาจักรจักรวาลหรือทั้งระบบจักรวาลหรือระบบสุริยะจักรวาลหรือโลกแบนๆกลวงๆโดมๆนั้นๆเป็นอันมากก็ว่าแบบจักรวาลเล็ก จักรวาลกลาง มหาจักรวาลนั้นล่ะ มิใช่ปกครองแบบแค่เขตประเทศแบบนี้และแค่ส่วนพื้นที่น้อยนิดบนโลกใบนี้ด้วยก็ว่า,ปกครองนานหลายหมื่นหลายแสนปีและสั้นสุดหลายพันปีมาแล้วก็ว่าในแต่ละอาณาจักรจักรวาล,ชาติล่าสุดเบื่อหน่ายการปกครองจึงอยากเป็นคนธรรมดาบ้าง,จึงเลือกมาเกิดบนจักรวาลอื่นใหม่ๆที่ห่างไกลอาณาเขตจักรวาลที่ตนเองเคยปกครองเดี๋ยวลูกน้องเก่ามากมายจะมาพบวุ่นวายก็ว่าจึงมาเจอโลกมนุษย์นี้ลองมาเกิดหาดูเล่นๆสักชาติก็ว่า,ฝันเพลินๆตื่นขึ้นมายังตกใจในความฝันเลย คงดูหนังมากไป555ผีบ้าฝัน,เชื่อว่าคนเก่งคนดีมีความสามารถมีเต็มตรึมประเทศไทยก็ว่า,คงไม่นานผู้นำผู้ปกครองเลวๆชั่วๆหรือชนชั้นปกครองหัวสายเลวหัวสายชั่วคงไปวัดเร็วๆนี้ตลอดคนไม่ดีที่ร่วมเป็นเดอะแก๊งชั่วประจำประเทศไทยก็คงไปวัดเช่นกันในยุคกวาดล้างนี้. ..เทคโนโลยีบนโลกจากต่างดาวใต้โลกใต้ดินโลกกลวงโลกใต้ดินที่ยังไม่เปิดเผยตนเองก็ตามแท้จริงเทียบกับมหาจักรวาลอื่นยังล่าหลังนัก,ถ้าเขามาบุกมายึดโลกหรือยิงระเบิดโดมนี้,ยิงระเบิดโลกใบนี้ ได้ตายหมดอย่าง่ายดายไม่กี่วินาทีหรอก ชั้นโลกกลวงชั้นโลกใต้ดินยิ่งผิวโลกทั้งหมดระเบิดดับอนาถกันหมดก็ว่าแบบง่ายๆด้วยเทคโนโลยีเขาไปไกลกว่ามาก, ..จริงๆโลกใบนีัสมควรถึงเวลาเปิดเผยค่าจริงที่ปิดบังทั้งหมดได้แล้วจริงๆ.,เช่นนัันจะอัพเรเวลทั้งคนบนโลกนี้และอัพเรเวลโลกนี้ไม่ได้เลย,ปกป้องโลกตนด้วยความสามัคคีรวมใจคนทั้งโลกสู้ผู้บุกมาเยือนโลกหรือยึดหรือแทนที่หรือแย่งชิงที่อยู่อาศัยหรือปกป้องโลกตนด้วยความพร้อมใจสามัคคีกันบนความจริงจะไม่มีอะไรเลย,คือเขาบุกมายึดก็ยึดง่ายดายนั้นเอง.เป็นโลกที่ไร้น้ำยาใบหนึ่งก็ว่า,เหมือนทีมนักเตะนั้นล่ะ,ชาติประเทศนี้ลงเตะด้วยเสียเกียรติก็ว่า เสียเวลาเสียเหงื่อทิ้ง ไร้ค่าในสายตาก็ว่า,หรือยึดได้ง่ายๆไม่เสียเหงื่อเสียกำลังอะไรมากนัก,และทุกๆวันนี้มันก็ตีฆ่าทำสงครามภายในโลกมันเองแค่นั้น,เก่งแต่ในโลกในบ้านก็ว่า,ขี้หมาในสายตาจักรวาลดวงดาวอื่นก็ว่า, ..ไทยนี้มีดีมากมายโดยเฉพาะเรื่องจิตพลังวิญญาณ บรรลุธรรมจักรวาลได้ง่ายๆในประเทศไทยเพราะมีครูบาอาจารย์ดีเป็นหลักชัยพื้นฐานดีแล้ว,แก้ที่หัวจบ,ถีบผู้นำกากๆกระจอกออกไปก็จบแล้ว.,เจริญฝ่ายเดียวแน่นอน.,หลงทางไปกับระบบระบอบวิถีการปกครองที่ล้มเหลวของผู้นำผู้ปกครองเลวนานเกินไปก็ว่า. .. ..https://youtu.be/-I0Ixo9avp4?si=qjl0CIadyyKKXxy9
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • 🚚 Amazon ใช้ AI ปรับปรุงระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง
    Amazon กำลังนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพื่อปรับปรุง ระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง โดยเน้นการพัฒนา หุ่นยนต์อัจฉริยะ และ แผนที่นำทางสำหรับพนักงานส่งของ

    Amazon กำลังพัฒนา หุ่นยนต์คลังสินค้ารุ่นใหม่ ที่สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน เช่น ขนถ่ายสินค้าออกจากรถบรรทุก และนำชิ้นส่วนไปซ่อมแซม ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดจากหุ่นยนต์รุ่นก่อนที่ทำงานได้เพียงอย่างเดียว

    เทคโนโลยีนี้ใช้ Agentic AI ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถ ตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องมีคำสั่งจากมนุษย์ โดยคาดว่า จะช่วยลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Amazon พัฒนา AI เพื่อปรับปรุงระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง
    - หุ่นยนต์คลังสินค้ารุ่นใหม่สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน
    - ใช้ Agentic AI เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เอง
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
    - Amazon ยังใช้ AI เพื่อสร้างแผนที่นำทางที่ละเอียดขึ้นสำหรับพนักงานส่งของ

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลว่าหุ่นยนต์เหล่านี้จะถูกนำมาใช้จริงเมื่อใด
    - ต้องติดตามว่าการใช้ AI ในคลังสินค้าจะส่งผลต่อการจ้างงานของพนักงานหรือไม่
    - การใช้ AI ในการนำทางอาจทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของพนักงาน
    - Amazon อาจเผชิญกับข้อกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมข้อมูลที่ AI ใช้ในการตัดสินใจ

    การนำ AI มาใช้ในระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง อาจช่วยให้ Amazon สามารถส่งสินค้าได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อพนักงานและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยอย่างไร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/05/amazon039s-delivery-and-logistics-will-get-an-ai-boost
    🚚 Amazon ใช้ AI ปรับปรุงระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง Amazon กำลังนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพื่อปรับปรุง ระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง โดยเน้นการพัฒนา หุ่นยนต์อัจฉริยะ และ แผนที่นำทางสำหรับพนักงานส่งของ Amazon กำลังพัฒนา หุ่นยนต์คลังสินค้ารุ่นใหม่ ที่สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน เช่น ขนถ่ายสินค้าออกจากรถบรรทุก และนำชิ้นส่วนไปซ่อมแซม ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดจากหุ่นยนต์รุ่นก่อนที่ทำงานได้เพียงอย่างเดียว เทคโนโลยีนี้ใช้ Agentic AI ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถ ตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องมีคำสั่งจากมนุษย์ โดยคาดว่า จะช่วยลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ✅ ข้อมูลจากข่าว - Amazon พัฒนา AI เพื่อปรับปรุงระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง - หุ่นยนต์คลังสินค้ารุ่นใหม่สามารถทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน - ใช้ Agentic AI เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เอง - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน - Amazon ยังใช้ AI เพื่อสร้างแผนที่นำทางที่ละเอียดขึ้นสำหรับพนักงานส่งของ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลว่าหุ่นยนต์เหล่านี้จะถูกนำมาใช้จริงเมื่อใด - ต้องติดตามว่าการใช้ AI ในคลังสินค้าจะส่งผลต่อการจ้างงานของพนักงานหรือไม่ - การใช้ AI ในการนำทางอาจทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของพนักงาน - Amazon อาจเผชิญกับข้อกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมข้อมูลที่ AI ใช้ในการตัดสินใจ การนำ AI มาใช้ในระบบคลังสินค้าและการจัดส่ง อาจช่วยให้ Amazon สามารถส่งสินค้าได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อพนักงานและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยอย่างไร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/05/amazon039s-delivery-and-logistics-will-get-an-ai-boost
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Amazon's delivery, logistics get an AI boost
    SUNNYVALE, Calif. (Reuters) -Amazon wants customers to know that artificial intelligence is not just for writing college essays.
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • เกมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน: การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ กับการรีดความสามารถผ่านการเขียนโค้ด

    ในยุคปัจจุบัน เกมคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านกราฟิกที่สมจริงราวกับภาพยนตร์ โลกเปิดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด และฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น การจำลองฟิสิกส์ขั้นสูงหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าเหล่านี้มาพร้อมกับความต้องการทรัพยากรระบบที่สูงขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU หรือหน่วยความจำที่ต้องทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ คำถามที่เกิดขึ้นคือ เกมที่ดีควรพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังเพียงอย่างเดียว หรือควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด? บทความนี้จะวิเคราะห์ทั้งสองแนวทาง พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และมองไปยังอนาคตของการพัฒนาเกม

    1️⃣ การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่แรงขึ้น
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และ CPU รุ่นใหม่ ๆ ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง NVIDIA RTX ที่รองรับ Ray Tracing ซึ่งช่วยให้แสง สะท้อน และเงาในเกมสมจริงยิ่งขึ้น หรือ CPU ที่มีจำนวนคอร์และเธรดมากขึ้นเพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อน เช่น AI Physics ในเกม AAA (เกมที่มีงบประมาณสูง) ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 หรือ Starfield ที่ใช้ทรัพยากรระบบมหาศาลเพื่อสร้างประสบการณ์ภาพที่ตระการตา

    นักพัฒนาเกม AAA มักเลือกแนวทาง “ปล่อยให้ฮาร์ดแวร์จัดการ” โดยอาศัยพลังของเครื่องรุ่นใหม่เพื่อลดความซับซ้อนในการพัฒนา

    ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้คือ:
    - การพัฒนาเกมเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลา optimize มาก
    - สามารถใช้ฟีเจอร์สมัยใหม่ เช่น Ray Tracing หรือ AI-driven NPC
    - กราฟิกที่สวยงามและสมจริง ตรงตามความคาดหวังของผู้เล่น

    ❌ ข้อเสีย:
    - ผู้เล่นที่ใช้เครื่องระดับกลางหรือล่างอาจไม่สามารถเล่นได้ หรือต้องลดกราฟิกลงจนเสียประสบการณ์
    - การใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น อาจทำให้เครื่องร้อนหรือสิ้นเปลืองพลังงาน
    - ค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดฮาร์ดแวร์สูงสำหรับผู้เล่น

    2️⃣ การรีดประสิทธิภาพผ่านการเขียนโค้ด
    ในทางตรงกันข้าม การเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพหรือ optimization เป็นหัวใจสำคัญของเกมที่ต้องการให้เล่นได้ลื่นไหลบนเครื่องหลากหลายระดับ เทคนิคที่นิยมใช้ ได้แก่:
    - ลด Draw Calls: ลดจำนวนครั้งที่ GPU ต้องวาดวัตถุในฉาก
    - Occlusion Culling: ตัดการประมวลผลวัตถุที่อยู่นอกมุมมองของผู้เล่น
    - Level of Detail (LOD): ปรับความละเอียดของโมเดลตามระยะห่างจากกล้อง
    - Multithreading: กระจายงานไปยังคอร์ CPU หลายตัวเพื่อประมวลผลพร้อมกัน
    - ตัวอย่างเกมอินดี้ เช่น Hollow Knight หรือ Stardew Valley แสดงให้เห็นว่า การ optimize ที่ดีสามารถสร้างเกมที่ลื่นไหลและสวยงามได้ แม้จะใช้ทรัพยากรน้อย

    ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้:
    - รองรับเครื่องสเปคหลากหลาย ทำให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น
    - ระหยัดพลังงานและลดความร้อนของเครื่อง
    - มีเสถียรภาพสูง ลดปัญหาค้างหรือกระตุก

    ❌ ข้อเสีย:
    - ใช้เวลาและทรัพยากรในการพัฒนานานขึ้น
    - ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ของนักพัฒนาในระดับสูง

    3️⃣ ตัวอย่างเปรียบเทียบ
    ลองเปรียบเทียบเกม AAA เช่น Cyberpunk 2077 ที่ต้องการสเปคสูง (เช่น RTX 3080 เพื่อ Ray Tracing เต็มรูปแบบ) กับเกมอินดี้อย่าง Hollow Knight ที่ใช้ทรัพยากรน้อยแต่ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม:

    👉 ความลื่นไหล: Cyberpunk 2077 อาจกระตุกบนเครื่องสเปคต่ำ แม้ลดกราฟิกแล้ว ส่วน Hollow Knight ลื่นไหลแม้บนเครื่องเก่า
    👉 ความร้อนของเครื่อง: เกม AAA มักทำให้เครื่องร้อนและพัดลมทำงานหนัก ขณะที่เกมอินดี้ใช้พลังงานน้อยกว่า
    👉 ความเสถียร: เกมที่ optimize ดีมักมีบั๊กน้อยกว่าและรันได้นานโดยไม่ crash

    ประสบการณ์ของผู้เล่นจึงขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีเครื่องที่แรงพอหรือไม่ และนักพัฒนาให้ความสำคัญกับ optimization มากน้อยเพียงใด

    4️⃣ สรุปและมุมมองอนาคต
    นักพัฒนาในปัจจุบันต้องเผชิญกับทางเลือกที่ท้าทาย: ใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ทรงพลังเพื่อสร้างเกมที่อลังการ หรือทุ่มเทให้กับการ optimize เพื่อให้เข้าถึงผู้เล่นทุกกลุ่ม? เกมเอนจินอย่าง Unreal Engine และ Unity ช่วยลดช่องว่างนี้ โดยมีเครื่องมือในตัวที่ช่วยทั้งด้านกราฟิกและ optimization เช่น การจัดการ LOD หรือการเรนเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ

    ในอนาคต การบาลานซ์ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จะสำคัญยิ่งขึ้น นักพัฒนาควรคำนึงถึง ประสบการณ์ของผู้เล่น เป็นหลัก ไม่ใช่แค่กราฟิกที่สวยงาม การ optimize ที่ดีจะช่วยให้เกมเข้าถึงผู้เล่นได้กว้างขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเครื่องใหม่เสมอไป

    ℹ️ℹ️ บทส่งท้าย ℹ️ℹ️
    การพัฒนาเกมในอนาคตไม่ควรยึดติดที่กราฟิกหรือพลังของฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว แต่ควรเน้นที่ ประสบการณ์ที่สมดุล นักพัฒนาควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกมสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลบนเครื่องทุกระดับ สร้างความพึงพอใจให้ผู้เล่นโดยไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพง การ optimize ไม่ใช่แค่เทคนิค แต่คือกุญแจสู่การสร้างเกมที่ยั่งยืนและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
    เกมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน: การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ กับการรีดความสามารถผ่านการเขียนโค้ด ในยุคปัจจุบัน เกมคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านกราฟิกที่สมจริงราวกับภาพยนตร์ โลกเปิดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด และฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น การจำลองฟิสิกส์ขั้นสูงหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าเหล่านี้มาพร้อมกับความต้องการทรัพยากรระบบที่สูงขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU หรือหน่วยความจำที่ต้องทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ คำถามที่เกิดขึ้นคือ เกมที่ดีควรพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังเพียงอย่างเดียว หรือควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด? บทความนี้จะวิเคราะห์ทั้งสองแนวทาง พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และมองไปยังอนาคตของการพัฒนาเกม 1️⃣ การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่แรงขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และ CPU รุ่นใหม่ ๆ ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง NVIDIA RTX ที่รองรับ Ray Tracing ซึ่งช่วยให้แสง สะท้อน และเงาในเกมสมจริงยิ่งขึ้น หรือ CPU ที่มีจำนวนคอร์และเธรดมากขึ้นเพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อน เช่น AI Physics ในเกม AAA (เกมที่มีงบประมาณสูง) ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 หรือ Starfield ที่ใช้ทรัพยากรระบบมหาศาลเพื่อสร้างประสบการณ์ภาพที่ตระการตา นักพัฒนาเกม AAA มักเลือกแนวทาง “ปล่อยให้ฮาร์ดแวร์จัดการ” โดยอาศัยพลังของเครื่องรุ่นใหม่เพื่อลดความซับซ้อนในการพัฒนา ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้คือ: - การพัฒนาเกมเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลา optimize มาก - สามารถใช้ฟีเจอร์สมัยใหม่ เช่น Ray Tracing หรือ AI-driven NPC - กราฟิกที่สวยงามและสมจริง ตรงตามความคาดหวังของผู้เล่น ❌ ข้อเสีย: - ผู้เล่นที่ใช้เครื่องระดับกลางหรือล่างอาจไม่สามารถเล่นได้ หรือต้องลดกราฟิกลงจนเสียประสบการณ์ - การใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น อาจทำให้เครื่องร้อนหรือสิ้นเปลืองพลังงาน - ค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดฮาร์ดแวร์สูงสำหรับผู้เล่น 2️⃣ การรีดประสิทธิภาพผ่านการเขียนโค้ด ในทางตรงกันข้าม การเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพหรือ optimization เป็นหัวใจสำคัญของเกมที่ต้องการให้เล่นได้ลื่นไหลบนเครื่องหลากหลายระดับ เทคนิคที่นิยมใช้ ได้แก่: - ลด Draw Calls: ลดจำนวนครั้งที่ GPU ต้องวาดวัตถุในฉาก - Occlusion Culling: ตัดการประมวลผลวัตถุที่อยู่นอกมุมมองของผู้เล่น - Level of Detail (LOD): ปรับความละเอียดของโมเดลตามระยะห่างจากกล้อง - Multithreading: กระจายงานไปยังคอร์ CPU หลายตัวเพื่อประมวลผลพร้อมกัน - ตัวอย่างเกมอินดี้ เช่น Hollow Knight หรือ Stardew Valley แสดงให้เห็นว่า การ optimize ที่ดีสามารถสร้างเกมที่ลื่นไหลและสวยงามได้ แม้จะใช้ทรัพยากรน้อย ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้: - รองรับเครื่องสเปคหลากหลาย ทำให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น - ระหยัดพลังงานและลดความร้อนของเครื่อง - มีเสถียรภาพสูง ลดปัญหาค้างหรือกระตุก ❌ ข้อเสีย: - ใช้เวลาและทรัพยากรในการพัฒนานานขึ้น - ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ของนักพัฒนาในระดับสูง 3️⃣ ตัวอย่างเปรียบเทียบ ลองเปรียบเทียบเกม AAA เช่น Cyberpunk 2077 ที่ต้องการสเปคสูง (เช่น RTX 3080 เพื่อ Ray Tracing เต็มรูปแบบ) กับเกมอินดี้อย่าง Hollow Knight ที่ใช้ทรัพยากรน้อยแต่ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม: 👉 ความลื่นไหล: Cyberpunk 2077 อาจกระตุกบนเครื่องสเปคต่ำ แม้ลดกราฟิกแล้ว ส่วน Hollow Knight ลื่นไหลแม้บนเครื่องเก่า 👉 ความร้อนของเครื่อง: เกม AAA มักทำให้เครื่องร้อนและพัดลมทำงานหนัก ขณะที่เกมอินดี้ใช้พลังงานน้อยกว่า 👉 ความเสถียร: เกมที่ optimize ดีมักมีบั๊กน้อยกว่าและรันได้นานโดยไม่ crash ประสบการณ์ของผู้เล่นจึงขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีเครื่องที่แรงพอหรือไม่ และนักพัฒนาให้ความสำคัญกับ optimization มากน้อยเพียงใด 4️⃣ สรุปและมุมมองอนาคต นักพัฒนาในปัจจุบันต้องเผชิญกับทางเลือกที่ท้าทาย: ใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ทรงพลังเพื่อสร้างเกมที่อลังการ หรือทุ่มเทให้กับการ optimize เพื่อให้เข้าถึงผู้เล่นทุกกลุ่ม? เกมเอนจินอย่าง Unreal Engine และ Unity ช่วยลดช่องว่างนี้ โดยมีเครื่องมือในตัวที่ช่วยทั้งด้านกราฟิกและ optimization เช่น การจัดการ LOD หรือการเรนเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ ในอนาคต การบาลานซ์ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จะสำคัญยิ่งขึ้น นักพัฒนาควรคำนึงถึง ประสบการณ์ของผู้เล่น เป็นหลัก ไม่ใช่แค่กราฟิกที่สวยงาม การ optimize ที่ดีจะช่วยให้เกมเข้าถึงผู้เล่นได้กว้างขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเครื่องใหม่เสมอไป ℹ️ℹ️ บทส่งท้าย ℹ️ℹ️ การพัฒนาเกมในอนาคตไม่ควรยึดติดที่กราฟิกหรือพลังของฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว แต่ควรเน้นที่ ประสบการณ์ที่สมดุล นักพัฒนาควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกมสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลบนเครื่องทุกระดับ สร้างความพึงพอใจให้ผู้เล่นโดยไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพง การ optimize ไม่ใช่แค่เทคนิค แต่คือกุญแจสู่การสร้างเกมที่ยั่งยืนและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • **ภาพวาด 24 กตัญญู**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’

    ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย

    เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง

    24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ):

    1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป

    2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา

    3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป

    4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป

    5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ

    6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก

    7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม

    8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา

    9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง

    10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา

    11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น

    12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป

    13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้

    14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว

    15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป

    16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน

    17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย

    18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย

    19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย

    20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด

    21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่

    22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย

    23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ

    24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน

    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm
    http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html

    #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ภาพวาด 24 กตัญญู** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’ ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง 24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ): 1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป 2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา 3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป 4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป 5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ 6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก 7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม 8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา 9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง 10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา 11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น 12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป 13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้ 14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว 15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป 16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน 17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย 18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย 19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย 20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด 21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่ 22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย 23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ 24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00 http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    NEWS.QQ.COM
    《九重紫》暴露了他好身材,长相人畜无害,却脱衣有肉穿衣显瘦_腾讯新闻
    由孟子义、李昀锐主演的电视剧《九重紫》,自开播以来,热度迅速攀升,播到15集,站内热度破了29000,有望展望30000了。 这个成绩在今年古装剧中是相当牛了,要知道,腾讯今年的古装剧热度....
    3 Comments 0 Shares 502 Views 0 Reviews
  • เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รายการแรกของโลกในชื่อ “CMG World Robot Tournament – Series Event” ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากยุคใหม่ของการแข่งขันหุ่นยนต์อย่างเป็นทางการ โดยการแข่งขันครั้งนี้มีหุ่นยนต์ G1 จากบริษัท Unitree Robotics (宇树科技) เป็นพระเอกของสนาม ไม่ว่าจะเป็นในรอบโชว์หรือการแข่งขันจริง หุ่นยนต์ทั้งหมดล้วนมาจากรุ่นเดียวกัน เพื่อทดสอบศักยภาพด้านการควบคุม การออกแบบ และความสามารถของระบบควบคุมระยะไกล

    หุ่นยนต์ G1 มีความสูง 1.32 เมตร หนัก 25 กิโลกรัม ติดตั้งมอเตอร์แรงบิดสูงถึง 43 จุด ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายทั้งในเชิงกีฬาและศิลปะการต่อสู้ เช่น หมัดตรง หมัดฮุก หมัดอัปเปอร์คัต เตะข้าง เตะหน้า หรือแม้แต่การล้มและลุกขึ้นในเวลาไม่ถึง 5 วินาที โดยบางตัวสามารถใช้ท่าลุกแบบ “ปลากระโดด” ได้อย่างลื่นไหล เสียงปรบมือจากผู้ชมดังขึ้นหลายครั้งเมื่อหุ่นยนต์แสดงท่าทางสมจริงราวกับนักมวยมืออาชีพ

    การแข่งขันใช้กติกาแบบ 3 ยก ยกละ 2 นาที คะแนนนับจากการโจมตีจุดสำคัญ ได้แก่ การโจมตีแขนได้ 1 คะแนน ขา 3 คะแนน การล้มโดนหัก 5 คะแนน และหากล้มแล้วลุกไม่ขึ้นภายใน 8 วินาที จะถูกหักทันที 10 คะแนน ทั้งนี้ หุ่นยนต์จะควบคุมโดยมนุษย์ผ่านรีโมตแบบมือจับ (joystick) ซึ่งช่วยให้การควบคุมเป็นไปอย่างแม่นยำและทันสถานการณ์ ทำให้การแข่งขันมีความสนุก สนามมีชีวิตชีวา และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ในอนาคต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000049189

    #MGROnline #ประเทศจีน #การแข่งขัน #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์
    เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รายการแรกของโลกในชื่อ “CMG World Robot Tournament – Series Event” ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากยุคใหม่ของการแข่งขันหุ่นยนต์อย่างเป็นทางการ โดยการแข่งขันครั้งนี้มีหุ่นยนต์ G1 จากบริษัท Unitree Robotics (宇树科技) เป็นพระเอกของสนาม ไม่ว่าจะเป็นในรอบโชว์หรือการแข่งขันจริง หุ่นยนต์ทั้งหมดล้วนมาจากรุ่นเดียวกัน เพื่อทดสอบศักยภาพด้านการควบคุม การออกแบบ และความสามารถของระบบควบคุมระยะไกล • หุ่นยนต์ G1 มีความสูง 1.32 เมตร หนัก 25 กิโลกรัม ติดตั้งมอเตอร์แรงบิดสูงถึง 43 จุด ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายทั้งในเชิงกีฬาและศิลปะการต่อสู้ เช่น หมัดตรง หมัดฮุก หมัดอัปเปอร์คัต เตะข้าง เตะหน้า หรือแม้แต่การล้มและลุกขึ้นในเวลาไม่ถึง 5 วินาที โดยบางตัวสามารถใช้ท่าลุกแบบ “ปลากระโดด” ได้อย่างลื่นไหล เสียงปรบมือจากผู้ชมดังขึ้นหลายครั้งเมื่อหุ่นยนต์แสดงท่าทางสมจริงราวกับนักมวยมืออาชีพ • การแข่งขันใช้กติกาแบบ 3 ยก ยกละ 2 นาที คะแนนนับจากการโจมตีจุดสำคัญ ได้แก่ การโจมตีแขนได้ 1 คะแนน ขา 3 คะแนน การล้มโดนหัก 5 คะแนน และหากล้มแล้วลุกไม่ขึ้นภายใน 8 วินาที จะถูกหักทันที 10 คะแนน ทั้งนี้ หุ่นยนต์จะควบคุมโดยมนุษย์ผ่านรีโมตแบบมือจับ (joystick) ซึ่งช่วยให้การควบคุมเป็นไปอย่างแม่นยำและทันสถานการณ์ ทำให้การแข่งขันมีความสนุก สนามมีชีวิตชีวา และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ในอนาคต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000049189 • #MGROnline #ประเทศจีน #การแข่งขัน #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์
    0 Comments 0 Shares 255 Views 0 Reviews
  • [Technology] ‘โลกใหม่ ที่ AI ทำงาน แทนคุณได้ทุกอย่าง’ สรุป 10 ไฮไลต์ จาก Google I/O 2025 กับยุคใหม่ของ Agentic AI ที่ฉลาด คิด วิเคราะห์ และทำงานแทนคุณได้ทุกที่..หากคุณคาดหวังว่า Google I/O 2025 จะเป็นเวทีที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ๆ อาจจะผิดหวัง เพราะปีนี้ถือเป็นปีที่นำเสนอจุดเปลี่ยนสำคัญของยุคดิจิทัล ที่มีมากกว่าแค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เปรียบเสมือนว่า Google กำลังส่งสัญญาณบางอย่าง เพื่อบอกกับเราว่า “AI ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยที่รับคำสั่งไปวันๆ เท่านั้น”.Agentic AI ยังคงเป็นดาวเด่นสำหรับแวดวงเทคโนโลยีในปีนี้ Google เรียกมันว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดมากพอจะคิด วิเคราะห์ ประสานงาน และจัดการสิ่งต่างๆ ให้เราได้แบบอัตโนมัติ.และนี่คือ 10 ไฮไลต์สำคัญจากงาน Google I/O 2025 ที่สะท้อนยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์อย่างชัดเจน อีกทั้งยังตอกย้ำอีกว่าปีนี้ Google เอาจริง!..[ 10 ไฮไลต์สำคัญจากงาน Google I/O 2025 ] .1️⃣ 🌐 Gemini 2.5 Pro และ Flash ก้าวกระโดดของโมเดล AI ที่เร็ว ฉลาด และพร้อมใช้จริง.Google เปิดตัวโมเดลเรือธง Gemini 2.5 Pro ที่ครองอันดับ 1 ทุกหมวดใน LM Arena ซึ่งเป็นสนามประเมินศักยภาพของโมเดลภาษา ตัวเลขบ่งชี้ความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน โดยโมเดลใหม่ได้คะแนน ELO เพิ่มขึ้นกว่า 300 แต้มจาก Gemini รุ่นแรก.จุดเด่นของ 2.5 Pro ไม่ใช่แค่ความเข้าใจภาษาหรือตรรกะที่ลึกซึ้งขึ้น แต่คือความสามารถในการ ‘ใช้เหตุผลหลายขั้น’ และตอบคำถามที่ซับซ้อนได้ใกล้เคียงมนุษย์.ขณะเดียวกัน Google ยังเปิดตัว ‘Gemini 2.5 Flash’ โมเดลเวอร์ชันที่เล็กลงมาหน่อยแต่ยังคงทรงพลัง เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วและต้นทุนต่ำ เช่น Chatbots, Customer Service หรือ Data Analysis แบบเรียลไทม์.ทั้งสองโมเดลนี้จะเปิดให้ใช้งานใน Gemini API ภายในเดือนมิถุนายน และหลังจากนั้นจะถูกนำมาเป็นแกนหลักของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในผลิตภัณฑ์ของ Google..2️⃣ 🧠 Agent Mode & Project Mariner - Agentic AI ในแบบของ Google.Google เปิดตัว Agent Mode ภายใน Gemini App ซึ่งไม่เพียงตอบคำถาม แต่สามารถทำสิ่งนั้นแทนเราได้จริง เช่น หากคุณต้องการหาอพาร์ตเมนต์ใน Austin สำหรับ 3 คน พร้อมเครื่องซักผ้า และงบไม่เกินคนละ $1,200.Agent Mode จะทำงานโดยการดึงข้อมูลจาก Zillow กรองข้อมูลตามเงื่อนไข แนะนำห้อง นัดดูห้องใน Google Calendar ให้เรียบร้อย.โดยเบื้องหลังความสามารถนี้คือ Project Mariner ซึ่งทำให้ AI มีทักษะในการ ‘ใช้คอมพิวเตอร์ได้เหมือนมนุษย์’ เช่น เปิดเว็บ คลิก กรอกแบบฟอร์ม อีกทั้งยังมีความสามารถในการเรียนรู้จากการเห็นวิธีการทำงานเพียงครั้งเดียวด้วยฟีเจอร์ ‘Teach & Repeat’.นอกจากนี้ Mariner ยังรองรับ Multitasking สูงสุด 10 งานพร้อมกัน และจะเปิดให้ใช้งานช่วงฤดูร้อนนี้ผ่าน Gemini API..3️⃣ 🎥 Google Beam การสื่อสารผ่านวิดีโอที่ ‘เหมือนอยู่ต่อหน้า’ จริงๆ.Google เปิดตัว Google Beam แพลตฟอร์มวิดีโอคอลแบบใหม่ที่ใช้กล้อง 6 ตัวและ AI เพื่อสร้างภาพ 3D เสมือนจริงบนจอ Light-field ที่มีความละเอียดสูง รองรับ 60 fps และ Head Tracking แบบมิลลิเมตร.สิ่งที่น่าทึ่งคือความสามารถในการจับภาพบุคคลจากมุมต่างๆ แล้วนำมาสร้างโมเดลภาพ 3 มิติแบบเรียลไทม์เพื่อใช้ใน Video Call เหมือนกับว่าคู่สนทนาอยู่ตรงหน้า.นอกจากนี้ Google Beam ยังพัฒนาร่วมกับ HP และจะเปิดให้ใช้งานกับลูกค้าชุดแรกภายในปีนี้..4️⃣ 🔊 Gemini Live & Project Astra AI ที่เข้าใจโลกจริงผ่านกล้องและเสียง.หนึ่งในจุดเด่นของ Gemini 2.5 คือความสามารถแบบ Multimodal เข้าใจภาพ เสียง ข้อความ และบริบทพร้อมกัน.Gemini Live เป็นประสบการณ์ใหม่ของ AI ที่ให้คุณพูดคุยกับ AI แบบเรียลไทม์ผ่านเสียง พร้อมใช้กล้องมือถือเพื่อให้ AI เห็นสิ่งเดียวกันกับคุณ เช่น.⭐ ชี้กล้องไปที่หน้าปัดรถ → AI บอกวิธีใช้⭐ แชร์หน้าจอสัมภาษณ์ → AI วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน⭐ อ่านลายมือจากโน้ต → เปลี่ยนเป็น Checklists ใน Google Keep.ทั้งหมดนี้จะใช้งานได้ผ่าน Android และ iOS โดยจะเชื่อมต่อกับ Maps, Calendar, Tasks ได้เร็วๆ นี้..5️⃣ 🧑‍💻 AI Mode ใน Google Search ค้นหาแบบฉลาด สนทนาได้ พร้อมทำงานแทน.Google Search กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีผู้ใช้ AI มากที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้กว่า 1.5 พันล้านคนต่อเดือน ที่ได้สัมผัส AI Overviews.แต่ปีนี้ Google ยกระดับอีกขั้นด้วย ‘AI Mode’ แท็บใหม่ใน Google Search ที่ให้คุณพิมพ์คำถามยาว ซับซ้อน หรือพูดผ่านกล้องได้เลย เช่น.“เปรียบเทียบโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับงานตัดต่อ ราคาไม่เกิน 50,000 พร้อมร้านที่ไว้ใจได้”“นี่คือประตูหน้าบ้านฉัน มีอะไรผิดปกติมั้ย?” (ใช้กล้อง).นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Search Live สำหรับการค้นหาขณะใช้งานจริง และระบบ Agentic Checkout ที่ช่วยติดตามราคา สั่งซื้ออัตโนมัติ และจ่ายเงินผ่าน Google Pay ได้แบบเรียบง่าย..6️⃣ 💌 Smart Reply ด้วยน้ำเสียงและสำนวนของคุณ ตอบอีเมลให้เหมือนคุณเขียนเอง.Google นำ Gemini มาประยุกต์ใช้กับ Gmail โดยต่อยอดจากฟีเจอร์ Smart Reply ให้กลายเป็น Personalized Smart Reply ตัวอย่าง เพื่อนคุณถามถึงทริป Zion National Park ที่คุณเคยไป Gemini จะไปดึงข้อมูลจากอีเมลเก่า โน้ตใน Google Docs หรือเอกสารการจอง แล้วสร้างคำตอบให้พร้อมใช้น้ำเสียงเดียวกับที่คุณเคยใช้.Gemini จะเรียนรู้ว่าคุณชอบใช้คำทักทายแบบไหน มีสำนวนเฉพาะอะไร และเขียนตอบให้ในแบบที่อ่านแล้วเหมือนคุณจริง ๆ ไม่ใช่แค่คำตอบจาก AI.โดยจะเปิดใช้งานใน Gmail สำหรับผู้ใช้แบบเสียเงินช่วงฤดูร้อนนี้..7️⃣ 🖼️ V3 & Flow สร้างภาพ เสียง และบทพูดด้วย AI อย่างสมจริง.Google เปิดตัวโมเดล V3 ที่รองรับการสร้างเสียง และบทสนทนา จากข้อความธรรมดา เช่น.“นกฮูกแก่กับแบดเจอร์น้อยคุยกันกลางป่า” → ได้ทั้งเสียงสัตว์ เสียงป่า และบทสนทนาจริง.ไม่เพียงเท่านั้น เครื่องมือสร้างสรรค์ใหม่ชื่อ Flow ผสาน Gemini + V3 + Imagine 4 เพื่อให้ผู้สร้างสามารถสร้างวิดีโอแบบมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นภาพเคลื่อนไหว เสียงพื้นหลัง หรือบทพูดที่น่าดึงดูด..8️⃣ 🕶️ Android XR ระบบปฏิบัติการสำหรับแว่นตาและโลกเสมือน.Google ร่วมกับ Samsung และ Qualcomm เปิดตัว Android XR ระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับอุปกรณ์ XR (Extended Reality).Project Muhan ของ Samsung คืออุปกรณ์ XR เครื่องแรกที่ใช้ Android XR ตามมาด้วยแว่นตาอัจฉริยะจาก Gentle Monster และ Warby Parker ซึ่งจะเริ่มเปิดให้นักพัฒนาทดลองภายในปีนี้.เป้าหมายคือสร้างอุปกรณ์ที่เบา ใส่สบาย ใช้งานได้ทั้งวัน เพื่อใช้ดูข้อมูล แปลภาษา รับการแจ้งเตือน หรือใช้ Gemini แบบ AR ได้ทุกที่ที่ต้องการเลย..9️⃣ 🛡️ AI เพื่อมนุษยธรรม Firesat และโดรนช่วยเหลือภัยพิบัติ.Google ใช้ AI เพื่อแก้ปัญหาจริง เช่นการรับมือภัยพิบัติ อย่าง Firesat คือดาวเทียม AI ที่สามารถตรวจจับไฟป่าได้ในพื้นที่ขนาดเท่ากับโรงรถเพียงหลังเดียว และอัปเดตรูปภาพทุก 20 นาที (จากเดิม 12 ชั่วโมง).โครงการร่วมกับ Red Cross, Walmart, และ Wing ใช้โดรนส่งอาหาร ยา และของจำเป็นไปยังพื้นที่ประสบภัยแบบเรียลไทม์ เช่นตอนพายุ Hurricane Helen.นี่คือการยืนยันว่า AI ไม่ได้มาเพื่อแค่แย่งงานคน แต่กำลังช่วยชีวิตคนจริงๆ..🔟 💼 Google AI Ultra แผนสมาชิกพรีเมียมสำหรับคนที่ต้องการ AI ขั้นสูงสุด.Google AI Ultra คือแผนการสมัครสมาชิก AI ระดับพรีเมียมใหม่ของ Google โดยแผนนี้ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ นักพัฒนา และมืออาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากความสามารถ AI ขั้นสูงสุดของ Google.สำหรับราคา แผน Google AI Ultra มีค่าใช้จ่าย 249.99 ดอลลาร์ต่อเดือน สำหรับสิ่งที่ผู้สมัครสมาชิก Google AI Ultra จะได้รับ ได้แก่.⭐ สิทธิ์การเข้าถึงโมเดลที่มีความสามารถสูงสุดของ Google ⭐ ขีดจำกัดการใช้งานสูงสุด ⭐ คุณสมบัติพรีเมียมต่างๆ เช่น การเข้าถึง Deep Research ในแอป Gemini ⭐ การสร้างวิดีโอด้วย Veo 2 และการเข้าถึง Veo 3 ก่อนใคร ⭐ พื้นที่เก็บข้อมูล 30TB + YouTube Premium⭐ เครื่องมือสร้างภาพยนตร์ AI ใหม่ Flow สำหรับสร้างวิดีโอระดับ 1080p⭐ การเข้าถึง Project Mariner ซึ่งสามารถจัดการงานที่ใช้เวลานานได้สูงสุด 10 งานพร้อมกัน⭐ NotebookLM เวอร์ชันเต็ม⭐ เข้าถึง Gemini 2.5 Pro ก่อนใคร พร้อม Deep Think Mode⭐ เข้าถึงฟีเจอร์ทดลองก่อนเปิดตัว.เป็นแผนสมาชิกที่น่าสนใจมากๆ หากใครสนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้..📌 Google I/O 2025 คือการยืนยันว่าเราได้ก้าวข้ามยุค ‘AI ที่รอรับคำสั่ง’ มาเป็นยุคของ ‘AI ที่ลงมือทำแทน’ แล้วอย่างแท้จริง ตอนนี้ AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเบื้องหลังอีกต่อไป แต่มันกำลังเข้าไปในอีเมลของคุณ (Smart Reply) อยู่ในกล้องของคุณ (Search Live) คุยกับคุณแบบเห็นภาพจริง (Gemini Live) จองห้อง ดูตาราง เปรียบเทียบราคาแทนคุณ (Agent Mode) ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะมาให้คุณใช้จริงในปี 2025..เขียนและเรียบเรียงโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
    [Technology] ‘โลกใหม่ ที่ AI ทำงาน แทนคุณได้ทุกอย่าง’ สรุป 10 ไฮไลต์ จาก Google I/O 2025 กับยุคใหม่ของ Agentic AI ที่ฉลาด คิด วิเคราะห์ และทำงานแทนคุณได้ทุกที่..หากคุณคาดหวังว่า Google I/O 2025 จะเป็นเวทีที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ๆ อาจจะผิดหวัง เพราะปีนี้ถือเป็นปีที่นำเสนอจุดเปลี่ยนสำคัญของยุคดิจิทัล ที่มีมากกว่าแค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เปรียบเสมือนว่า Google กำลังส่งสัญญาณบางอย่าง เพื่อบอกกับเราว่า “AI ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยที่รับคำสั่งไปวันๆ เท่านั้น”.Agentic AI ยังคงเป็นดาวเด่นสำหรับแวดวงเทคโนโลยีในปีนี้ Google เรียกมันว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดมากพอจะคิด วิเคราะห์ ประสานงาน และจัดการสิ่งต่างๆ ให้เราได้แบบอัตโนมัติ.และนี่คือ 10 ไฮไลต์สำคัญจากงาน Google I/O 2025 ที่สะท้อนยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์อย่างชัดเจน อีกทั้งยังตอกย้ำอีกว่าปีนี้ Google เอาจริง!..[ 10 ไฮไลต์สำคัญจากงาน Google I/O 2025 ] .1️⃣ 🌐 Gemini 2.5 Pro และ Flash ก้าวกระโดดของโมเดล AI ที่เร็ว ฉลาด และพร้อมใช้จริง.Google เปิดตัวโมเดลเรือธง Gemini 2.5 Pro ที่ครองอันดับ 1 ทุกหมวดใน LM Arena ซึ่งเป็นสนามประเมินศักยภาพของโมเดลภาษา ตัวเลขบ่งชี้ความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน โดยโมเดลใหม่ได้คะแนน ELO เพิ่มขึ้นกว่า 300 แต้มจาก Gemini รุ่นแรก.จุดเด่นของ 2.5 Pro ไม่ใช่แค่ความเข้าใจภาษาหรือตรรกะที่ลึกซึ้งขึ้น แต่คือความสามารถในการ ‘ใช้เหตุผลหลายขั้น’ และตอบคำถามที่ซับซ้อนได้ใกล้เคียงมนุษย์.ขณะเดียวกัน Google ยังเปิดตัว ‘Gemini 2.5 Flash’ โมเดลเวอร์ชันที่เล็กลงมาหน่อยแต่ยังคงทรงพลัง เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วและต้นทุนต่ำ เช่น Chatbots, Customer Service หรือ Data Analysis แบบเรียลไทม์.ทั้งสองโมเดลนี้จะเปิดให้ใช้งานใน Gemini API ภายในเดือนมิถุนายน และหลังจากนั้นจะถูกนำมาเป็นแกนหลักของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในผลิตภัณฑ์ของ Google..2️⃣ 🧠 Agent Mode & Project Mariner - Agentic AI ในแบบของ Google.Google เปิดตัว Agent Mode ภายใน Gemini App ซึ่งไม่เพียงตอบคำถาม แต่สามารถทำสิ่งนั้นแทนเราได้จริง เช่น หากคุณต้องการหาอพาร์ตเมนต์ใน Austin สำหรับ 3 คน พร้อมเครื่องซักผ้า และงบไม่เกินคนละ $1,200.Agent Mode จะทำงานโดยการดึงข้อมูลจาก Zillow กรองข้อมูลตามเงื่อนไข แนะนำห้อง นัดดูห้องใน Google Calendar ให้เรียบร้อย.โดยเบื้องหลังความสามารถนี้คือ Project Mariner ซึ่งทำให้ AI มีทักษะในการ ‘ใช้คอมพิวเตอร์ได้เหมือนมนุษย์’ เช่น เปิดเว็บ คลิก กรอกแบบฟอร์ม อีกทั้งยังมีความสามารถในการเรียนรู้จากการเห็นวิธีการทำงานเพียงครั้งเดียวด้วยฟีเจอร์ ‘Teach & Repeat’.นอกจากนี้ Mariner ยังรองรับ Multitasking สูงสุด 10 งานพร้อมกัน และจะเปิดให้ใช้งานช่วงฤดูร้อนนี้ผ่าน Gemini API..3️⃣ 🎥 Google Beam การสื่อสารผ่านวิดีโอที่ ‘เหมือนอยู่ต่อหน้า’ จริงๆ.Google เปิดตัว Google Beam แพลตฟอร์มวิดีโอคอลแบบใหม่ที่ใช้กล้อง 6 ตัวและ AI เพื่อสร้างภาพ 3D เสมือนจริงบนจอ Light-field ที่มีความละเอียดสูง รองรับ 60 fps และ Head Tracking แบบมิลลิเมตร.สิ่งที่น่าทึ่งคือความสามารถในการจับภาพบุคคลจากมุมต่างๆ แล้วนำมาสร้างโมเดลภาพ 3 มิติแบบเรียลไทม์เพื่อใช้ใน Video Call เหมือนกับว่าคู่สนทนาอยู่ตรงหน้า.นอกจากนี้ Google Beam ยังพัฒนาร่วมกับ HP และจะเปิดให้ใช้งานกับลูกค้าชุดแรกภายในปีนี้..4️⃣ 🔊 Gemini Live & Project Astra AI ที่เข้าใจโลกจริงผ่านกล้องและเสียง.หนึ่งในจุดเด่นของ Gemini 2.5 คือความสามารถแบบ Multimodal เข้าใจภาพ เสียง ข้อความ และบริบทพร้อมกัน.Gemini Live เป็นประสบการณ์ใหม่ของ AI ที่ให้คุณพูดคุยกับ AI แบบเรียลไทม์ผ่านเสียง พร้อมใช้กล้องมือถือเพื่อให้ AI เห็นสิ่งเดียวกันกับคุณ เช่น.⭐ ชี้กล้องไปที่หน้าปัดรถ → AI บอกวิธีใช้⭐ แชร์หน้าจอสัมภาษณ์ → AI วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน⭐ อ่านลายมือจากโน้ต → เปลี่ยนเป็น Checklists ใน Google Keep.ทั้งหมดนี้จะใช้งานได้ผ่าน Android และ iOS โดยจะเชื่อมต่อกับ Maps, Calendar, Tasks ได้เร็วๆ นี้..5️⃣ 🧑‍💻 AI Mode ใน Google Search ค้นหาแบบฉลาด สนทนาได้ พร้อมทำงานแทน.Google Search กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีผู้ใช้ AI มากที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้กว่า 1.5 พันล้านคนต่อเดือน ที่ได้สัมผัส AI Overviews.แต่ปีนี้ Google ยกระดับอีกขั้นด้วย ‘AI Mode’ แท็บใหม่ใน Google Search ที่ให้คุณพิมพ์คำถามยาว ซับซ้อน หรือพูดผ่านกล้องได้เลย เช่น.“เปรียบเทียบโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับงานตัดต่อ ราคาไม่เกิน 50,000 พร้อมร้านที่ไว้ใจได้”“นี่คือประตูหน้าบ้านฉัน มีอะไรผิดปกติมั้ย?” (ใช้กล้อง).นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Search Live สำหรับการค้นหาขณะใช้งานจริง และระบบ Agentic Checkout ที่ช่วยติดตามราคา สั่งซื้ออัตโนมัติ และจ่ายเงินผ่าน Google Pay ได้แบบเรียบง่าย..6️⃣ 💌 Smart Reply ด้วยน้ำเสียงและสำนวนของคุณ ตอบอีเมลให้เหมือนคุณเขียนเอง.Google นำ Gemini มาประยุกต์ใช้กับ Gmail โดยต่อยอดจากฟีเจอร์ Smart Reply ให้กลายเป็น Personalized Smart Reply ตัวอย่าง เพื่อนคุณถามถึงทริป Zion National Park ที่คุณเคยไป Gemini จะไปดึงข้อมูลจากอีเมลเก่า โน้ตใน Google Docs หรือเอกสารการจอง แล้วสร้างคำตอบให้พร้อมใช้น้ำเสียงเดียวกับที่คุณเคยใช้.Gemini จะเรียนรู้ว่าคุณชอบใช้คำทักทายแบบไหน มีสำนวนเฉพาะอะไร และเขียนตอบให้ในแบบที่อ่านแล้วเหมือนคุณจริง ๆ ไม่ใช่แค่คำตอบจาก AI.โดยจะเปิดใช้งานใน Gmail สำหรับผู้ใช้แบบเสียเงินช่วงฤดูร้อนนี้..7️⃣ 🖼️ V3 & Flow สร้างภาพ เสียง และบทพูดด้วย AI อย่างสมจริง.Google เปิดตัวโมเดล V3 ที่รองรับการสร้างเสียง และบทสนทนา จากข้อความธรรมดา เช่น.“นกฮูกแก่กับแบดเจอร์น้อยคุยกันกลางป่า” → ได้ทั้งเสียงสัตว์ เสียงป่า และบทสนทนาจริง.ไม่เพียงเท่านั้น เครื่องมือสร้างสรรค์ใหม่ชื่อ Flow ผสาน Gemini + V3 + Imagine 4 เพื่อให้ผู้สร้างสามารถสร้างวิดีโอแบบมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นภาพเคลื่อนไหว เสียงพื้นหลัง หรือบทพูดที่น่าดึงดูด..8️⃣ 🕶️ Android XR ระบบปฏิบัติการสำหรับแว่นตาและโลกเสมือน.Google ร่วมกับ Samsung และ Qualcomm เปิดตัว Android XR ระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับอุปกรณ์ XR (Extended Reality).Project Muhan ของ Samsung คืออุปกรณ์ XR เครื่องแรกที่ใช้ Android XR ตามมาด้วยแว่นตาอัจฉริยะจาก Gentle Monster และ Warby Parker ซึ่งจะเริ่มเปิดให้นักพัฒนาทดลองภายในปีนี้.เป้าหมายคือสร้างอุปกรณ์ที่เบา ใส่สบาย ใช้งานได้ทั้งวัน เพื่อใช้ดูข้อมูล แปลภาษา รับการแจ้งเตือน หรือใช้ Gemini แบบ AR ได้ทุกที่ที่ต้องการเลย..9️⃣ 🛡️ AI เพื่อมนุษยธรรม Firesat และโดรนช่วยเหลือภัยพิบัติ.Google ใช้ AI เพื่อแก้ปัญหาจริง เช่นการรับมือภัยพิบัติ อย่าง Firesat คือดาวเทียม AI ที่สามารถตรวจจับไฟป่าได้ในพื้นที่ขนาดเท่ากับโรงรถเพียงหลังเดียว และอัปเดตรูปภาพทุก 20 นาที (จากเดิม 12 ชั่วโมง).โครงการร่วมกับ Red Cross, Walmart, และ Wing ใช้โดรนส่งอาหาร ยา และของจำเป็นไปยังพื้นที่ประสบภัยแบบเรียลไทม์ เช่นตอนพายุ Hurricane Helen.นี่คือการยืนยันว่า AI ไม่ได้มาเพื่อแค่แย่งงานคน แต่กำลังช่วยชีวิตคนจริงๆ..🔟 💼 Google AI Ultra แผนสมาชิกพรีเมียมสำหรับคนที่ต้องการ AI ขั้นสูงสุด.Google AI Ultra คือแผนการสมัครสมาชิก AI ระดับพรีเมียมใหม่ของ Google โดยแผนนี้ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ นักพัฒนา และมืออาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากความสามารถ AI ขั้นสูงสุดของ Google.สำหรับราคา แผน Google AI Ultra มีค่าใช้จ่าย 249.99 ดอลลาร์ต่อเดือน สำหรับสิ่งที่ผู้สมัครสมาชิก Google AI Ultra จะได้รับ ได้แก่.⭐ สิทธิ์การเข้าถึงโมเดลที่มีความสามารถสูงสุดของ Google ⭐ ขีดจำกัดการใช้งานสูงสุด ⭐ คุณสมบัติพรีเมียมต่างๆ เช่น การเข้าถึง Deep Research ในแอป Gemini ⭐ การสร้างวิดีโอด้วย Veo 2 และการเข้าถึง Veo 3 ก่อนใคร ⭐ พื้นที่เก็บข้อมูล 30TB + YouTube Premium⭐ เครื่องมือสร้างภาพยนตร์ AI ใหม่ Flow สำหรับสร้างวิดีโอระดับ 1080p⭐ การเข้าถึง Project Mariner ซึ่งสามารถจัดการงานที่ใช้เวลานานได้สูงสุด 10 งานพร้อมกัน⭐ NotebookLM เวอร์ชันเต็ม⭐ เข้าถึง Gemini 2.5 Pro ก่อนใคร พร้อม Deep Think Mode⭐ เข้าถึงฟีเจอร์ทดลองก่อนเปิดตัว.เป็นแผนสมาชิกที่น่าสนใจมากๆ หากใครสนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้..📌 Google I/O 2025 คือการยืนยันว่าเราได้ก้าวข้ามยุค ‘AI ที่รอรับคำสั่ง’ มาเป็นยุคของ ‘AI ที่ลงมือทำแทน’ แล้วอย่างแท้จริง ตอนนี้ AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเบื้องหลังอีกต่อไป แต่มันกำลังเข้าไปในอีเมลของคุณ (Smart Reply) อยู่ในกล้องของคุณ (Search Live) คุยกับคุณแบบเห็นภาพจริง (Gemini Live) จองห้อง ดูตาราง เปรียบเทียบราคาแทนคุณ (Agent Mode) ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะมาให้คุณใช้จริงในปี 2025..เขียนและเรียบเรียงโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
    0 Comments 0 Shares 505 Views 0 Reviews
  • Nvidia RTX 5060: เร็วขึ้น 25% จาก RTX 4060 พร้อมการสร้างเฟรมที่ล้ำหน้า

    Nvidia เปิดตัว RTX 5060 ซึ่งเป็น GPU ระดับกลางที่ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell โดยมีการปรับปรุง ประสิทธิภาพการสร้างเฟรม (Frame Generation) ที่ช่วยให้เร็วขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับ RTX 4060 อย่างไรก็ตาม การทดสอบเบื้องต้นถูกจำกัดโดย Nvidia และมีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับเกมและการตั้งค่าที่ใช้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5060
    ✅ RTX 5060 ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell และรองรับ DLSS 4
    - มี การปรับปรุงด้านการสร้างเฟรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม

    ✅ การทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า RTX 5060 เร็วกว่า RTX 4060 ถึง 25%
    - โดยเฉพาะในเกม Cyberpunk 2077 และ Doom: The Dark Ages

    ✅ RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5060 ประมาณ 15%
    - รุ่น 16GB และ 8GB มีผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันในบางเกม

    ✅ Nvidia จำกัดการทดสอบเฉพาะบางเกมและการตั้งค่าที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
    - เช่น ต้องใช้ DLSS ในโหมดคุณภาพ และต้องรันที่ 1080p เท่านั้น

    ✅ การเปรียบเทียบกับ RTX 3060 และ RTX 2060 แสดงให้เห็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
    - RTX 5060 เร็วกว่า RTX 3060 ถึง 81% และเร็วกว่ารุ่น RTX 2060 ถึง 4 เท่า

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-5060-is-up-to-25-percent-faster-than-rtx-4060-with-frame-generation-in-new-gpu-preview
    Nvidia RTX 5060: เร็วขึ้น 25% จาก RTX 4060 พร้อมการสร้างเฟรมที่ล้ำหน้า Nvidia เปิดตัว RTX 5060 ซึ่งเป็น GPU ระดับกลางที่ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell โดยมีการปรับปรุง ประสิทธิภาพการสร้างเฟรม (Frame Generation) ที่ช่วยให้เร็วขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับ RTX 4060 อย่างไรก็ตาม การทดสอบเบื้องต้นถูกจำกัดโดย Nvidia และมีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับเกมและการตั้งค่าที่ใช้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5060 ✅ RTX 5060 ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell และรองรับ DLSS 4 - มี การปรับปรุงด้านการสร้างเฟรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม ✅ การทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า RTX 5060 เร็วกว่า RTX 4060 ถึง 25% - โดยเฉพาะในเกม Cyberpunk 2077 และ Doom: The Dark Ages ✅ RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5060 ประมาณ 15% - รุ่น 16GB และ 8GB มีผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันในบางเกม ✅ Nvidia จำกัดการทดสอบเฉพาะบางเกมและการตั้งค่าที่กำหนดไว้ล่วงหน้า - เช่น ต้องใช้ DLSS ในโหมดคุณภาพ และต้องรันที่ 1080p เท่านั้น ✅ การเปรียบเทียบกับ RTX 3060 และ RTX 2060 แสดงให้เห็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด - RTX 5060 เร็วกว่า RTX 3060 ถึง 81% และเร็วกว่ารุ่น RTX 2060 ถึง 4 เท่า https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-5060-is-up-to-25-percent-faster-than-rtx-4060-with-frame-generation-in-new-gpu-preview
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • ..นี้คือวิสัยทัศน์ของคนได้มาเป็นผู้ปกครอง&ผู้นำ&ผู้มีอำนาจในประเทศเราล้วนๆ,และนั้นคือการรีเซ็ตระบบใหม่หมด ของการเล่าเรียนๆในประเทศเราทุกๆมิติ,เมื่อเราวางพื้นฐาน&รากฐานองค์ความรู้อย่างยอดเยี่ยม เราจะไม่หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงใดๆเลย ,ส่วนการแตกไลน์แตกแขนงเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแค่น้ำจิ้มๆแล้ว แทบไม่มีผลกระทบต่อฐานรากเราเลย,เพียงแก้ไขแก้ปมตามจุดตามข้อของยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปแค่นั้น เพราะมันไม่พลิกแบบก้าวกระโดดอะไรมากมายหรอก,สุดท้ายเป็นไปเพื่อตังนั้นล่ะ,หางานดีๆตำแหน่งดีๆก็มุ่งหมายตังสืบต่อแก่การใช้จ่าย&กินอยู่ในชีวิตประจำวันแค่นั้น,AIนำมาใช้ก็เพื่อมุ่งผลิตงานต่างๆตอบสนองคนๆเราให้ไปซื้อไปใช้ตัง&จ่ายให้คนทำคนผลิตจากAIได้กำไรทางตังทั้งนั้นล่ะ.เพราะแก่นหลักคือเอาAIมาทำตังมากๆไม่มีอะไรเลย,คนไม่ซื้อไม่ใช้บริการต่างๆจากAIผลิต แบนบริษัทกิจการที่ใช้งานAIมากกว่าคน ไม่ส่งเสริมคนคุณค่ามนุษย์บนประเทศไทย ประชาชนพากันแบนพากันเปิดโปงบริษัทกิจการทั่วโซเชียล ไม่ซื้อ ไม่ใช้สินค้า ไม่ไปใช้บริการในกิจการแม่กิจการสาขากิจการลูกเครือข่ายบริษัทแม่นั้นๆ กิจการนั้นพังแน่นอนในประเทศไทย บวกนโยบายรัฐเราเองคิดภาษีแบบทรัมป์ต่อกิจการโรงงานบริษัทที่ใช้AIนั้นเกินอัตราที่รัฐกำหนดมิให้เลิกจ้างสถานะมนุษย์เกิน95% เกินจะคิดภาษีทุกๆบริษัทกิจการในไทยทั้งหมดที่3,000%-5,000%แบบทรัมป์คิดภาษีบริษัทกิจการในไทยเช่นโรงงานจีนในไทยผลิตแผงแดดขาย ส่งไปอเมริกาทรัมป์คิดภาษีแผงแดดที่จะส่งมาขายในอเมริกาที่3,000%ถึง4,000%โน้น พะสาโรงงานกิจการ&บริษัทใดๆในไทย หากใช้AIจักรกลเกินอัตราที่กำหนดไม่เกิน5%ก็ฟันภาษีที่3,000%-4,000%ได้,เพื่อเฉลี่ยชดเชยในการเลี้ยงดูเยียวยาทรัพยากรมนุษย์ในประเทศไทยเราเอง,นี้ก็คือผู้นำไทยเราต้องกล้าหาญต่อโลกจะมากระทำกระทบตนขนาดปรับปรังพัฒนาการตนหรือวิวัฒนาการนำพาชาติไทยเข้าสู่ยุคใหม่,กำแพงสงครามปกป้อง&ป้องกันประเภทภายในตนเองก็ว่า,ยังไม่เกี่ยวกับกระบวนการศึกษาและการจ้างงานจัดการบริหารเนื้อตำแหน่งงานองค์รวมของประเทศไทยเรานะ.

    https://m.youtube.com/watch?v=UkLQT11Li9Q
    ..นี้คือวิสัยทัศน์ของคนได้มาเป็นผู้ปกครอง&ผู้นำ&ผู้มีอำนาจในประเทศเราล้วนๆ,และนั้นคือการรีเซ็ตระบบใหม่หมด ของการเล่าเรียนๆในประเทศเราทุกๆมิติ,เมื่อเราวางพื้นฐาน&รากฐานองค์ความรู้อย่างยอดเยี่ยม เราจะไม่หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงใดๆเลย ,ส่วนการแตกไลน์แตกแขนงเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแค่น้ำจิ้มๆแล้ว แทบไม่มีผลกระทบต่อฐานรากเราเลย,เพียงแก้ไขแก้ปมตามจุดตามข้อของยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปแค่นั้น เพราะมันไม่พลิกแบบก้าวกระโดดอะไรมากมายหรอก,สุดท้ายเป็นไปเพื่อตังนั้นล่ะ,หางานดีๆตำแหน่งดีๆก็มุ่งหมายตังสืบต่อแก่การใช้จ่าย&กินอยู่ในชีวิตประจำวันแค่นั้น,AIนำมาใช้ก็เพื่อมุ่งผลิตงานต่างๆตอบสนองคนๆเราให้ไปซื้อไปใช้ตัง&จ่ายให้คนทำคนผลิตจากAIได้กำไรทางตังทั้งนั้นล่ะ.เพราะแก่นหลักคือเอาAIมาทำตังมากๆไม่มีอะไรเลย,คนไม่ซื้อไม่ใช้บริการต่างๆจากAIผลิต แบนบริษัทกิจการที่ใช้งานAIมากกว่าคน ไม่ส่งเสริมคนคุณค่ามนุษย์บนประเทศไทย ประชาชนพากันแบนพากันเปิดโปงบริษัทกิจการทั่วโซเชียล ไม่ซื้อ ไม่ใช้สินค้า ไม่ไปใช้บริการในกิจการแม่กิจการสาขากิจการลูกเครือข่ายบริษัทแม่นั้นๆ กิจการนั้นพังแน่นอนในประเทศไทย บวกนโยบายรัฐเราเองคิดภาษีแบบทรัมป์ต่อกิจการโรงงานบริษัทที่ใช้AIนั้นเกินอัตราที่รัฐกำหนดมิให้เลิกจ้างสถานะมนุษย์เกิน95% เกินจะคิดภาษีทุกๆบริษัทกิจการในไทยทั้งหมดที่3,000%-5,000%แบบทรัมป์คิดภาษีบริษัทกิจการในไทยเช่นโรงงานจีนในไทยผลิตแผงแดดขาย ส่งไปอเมริกาทรัมป์คิดภาษีแผงแดดที่จะส่งมาขายในอเมริกาที่3,000%ถึง4,000%โน้น พะสาโรงงานกิจการ&บริษัทใดๆในไทย หากใช้AIจักรกลเกินอัตราที่กำหนดไม่เกิน5%ก็ฟันภาษีที่3,000%-4,000%ได้,เพื่อเฉลี่ยชดเชยในการเลี้ยงดูเยียวยาทรัพยากรมนุษย์ในประเทศไทยเราเอง,นี้ก็คือผู้นำไทยเราต้องกล้าหาญต่อโลกจะมากระทำกระทบตนขนาดปรับปรังพัฒนาการตนหรือวิวัฒนาการนำพาชาติไทยเข้าสู่ยุคใหม่,กำแพงสงครามปกป้อง&ป้องกันประเภทภายในตนเองก็ว่า,ยังไม่เกี่ยวกับกระบวนการศึกษาและการจ้างงานจัดการบริหารเนื้อตำแหน่งงานองค์รวมของประเทศไทยเรานะ. https://m.youtube.com/watch?v=UkLQT11Li9Q
    0 Comments 0 Shares 228 Views 0 Reviews
  • Storyฯ เคยเขียนถึงวิธีสู้กับความหนาวของจีนโบราณซึ่งหนึ่งในนั้นคือใช้เสื้อผ้าและผ้าห่มที่ทำมาจากกระดาษ ซึ่งในสมัยถังมีวิวัฒนาการการผลิตกระดาษอย่างก้าวกระโดด เสื้อหรือผ้าห่มนั้นใช้กระดาษที่ทำจากเปลือกของกิ่งหม่อน วิธีทำและหน้าตาคล้ายผลิตกระดาษสาบ้านเรา

    เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า มีการนำกระดาษมาทำเสื้อเกราะให้ทหารสวมใส่ด้วย? บ้างก็ว่ามีมาแต่สมัยราชวงศ์เหนือใต้ บ้างก็ว่าเสื้อเกราะกระดาษนั้นถูกคิดค้นขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง

    เสื้อเกราะกระดาษนี้เรียกตรงตัวว่า ‘จื๋อข่าย’ (纸铠)หรือ ‘จื๋อเจี่ย’ (纸甲) ในบันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ราชวงศ์ถังที่จัดทำขึ้นโดยสำนักราชบัณฑิตสมัยซ่ง (ซินถังซู/新唐书) มีจารึกไว้ว่า เสื้อเกราะกระดาษเหล่านี้ป้องกันได้จากคมดาบและธนู ต่อมาในยุคสมัยหมิงนิยมใช้ในพื้นที่ทางตอนใต้ โดยเฉพาะกับทหารเรือ เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นอากาศชื้น เสื้อเกราะเหล็กขึ้นสนิมได้ง่ายและหนัก ในทางกลับกัน เสื้อเกราะกระดาษใช้ได้ในหลายสภาพอากาศทั้งร้อนทั้งหนาว มีน้ำหนักเบาและเมื่อโดนน้ำยิ่งทำให้มีความทนทานมากขึ้น ป้องกันได้แม้กระทั่งระเบิดดินปืน

    จากบันทึกทางการทหารในสมัยหมิงมีการกล่าวว่า เสื้อเกราะกระดาษประกอบขึ้นจากกระดาษเยื่อไม้และใยผ้าอัดแน่นซ้ำๆ จนเป็นชั้นหนาประมาณหนึ่งนิ้ว ตรึงด้วยหมุดเหล็ก เย็บขึ้นเป็นเกราะแบบเกล็ดปลา

    เสื้อเกราะกระดาษถูกใช้อย่างแพร่หลายในราชวงศ์หมิง แม้จะยังมีใช้บ้างในสมัยราชวงศ์ชิง (มีการค้นพบเสื้อเกราะกระดาษจากสมัยราชวงศ์ชิงจริงในกุ้ยโจวเมื่อปี 2004) แต่ในยุคสมัยที่ระเบิดมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีไฟแรง เกราะกระดาษใช้ไม่ได้ดีนักจึงค่อยๆ หายไป

    Storyฯ ก็นึกไม่ออกว่าเกราะกระดาษจะทนทานต่ออาวุธได้อย่างไร? ไปพบเจอกับวิดิโอคลิปเลยนำมาแบ่งปันให้ดู (ขออภัยไร้ความสามารถทำคำแปลบนคลิป)

    เป็นคลิปที่ตัดตอนมาจากรายการเกมการแข่งขันความรู้ของเด็กนักเรียน มีการเชิญมือธนูมาทดลองยิงเปรียบเทียบระหว่างเกราะโซ่และเกราะกระดาษ (ซึ่งใช้กระดาษเท่านั้น ยังไม่ได้รวมใยผ้าอัดผสมเข้าไป) โดยหัวธนูที่ใช้นั้นเป็นแบบที่มือธนูเรียกว่าเป็นธนูสำหรับยิงเกราะ หัวธนูเป็นเหล็กแหลมสองชั้น ยิงในระยะ 10 เมตร โดยตอนท้ายมีการสรุปว่าการที่จะเจาะให้ทะลุกระดาษที่เรียงเป็นชั้นๆ จนถึงผิวของคนใส่นั้น ต้องมีแรงอัดหลายทอด หัวธนูจึงไม่สามารถยิงทะลุได้ในคราวเดียว ใครอยากดูคลิปเต็มดูได้ตามลิ้งค์ยูทูบข้างล่างเลยค่ะ

    ดูแล้วรู้สึกอย่างไรคะ? เม้นท์บอกกันมาได้ค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit วิดิโอและรูปภาพจาก:
    https://www.youtube.com/watch?v=9lG3aWRDQtI
    https://kknews.cc/history/g93o88.html
    https://kknews.cc/other/mo6gpg6.html

    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/%E7%BA%B8%E7%94%B2/8697116
    https://www.chinanews.com.cn/hb/news/2009/11-18/1971854.shtml
    https://kknews.cc/other/mo6gpg6.html

    #เสื้อเกราะจีนโบราณ #เสื้อกระดาษ #จื๋อเจี่ย #จื๋อข่าย #อาวุธจีนโบราณ #เสื้อเกราะกระดาษ
    Storyฯ เคยเขียนถึงวิธีสู้กับความหนาวของจีนโบราณซึ่งหนึ่งในนั้นคือใช้เสื้อผ้าและผ้าห่มที่ทำมาจากกระดาษ ซึ่งในสมัยถังมีวิวัฒนาการการผลิตกระดาษอย่างก้าวกระโดด เสื้อหรือผ้าห่มนั้นใช้กระดาษที่ทำจากเปลือกของกิ่งหม่อน วิธีทำและหน้าตาคล้ายผลิตกระดาษสาบ้านเรา เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า มีการนำกระดาษมาทำเสื้อเกราะให้ทหารสวมใส่ด้วย? บ้างก็ว่ามีมาแต่สมัยราชวงศ์เหนือใต้ บ้างก็ว่าเสื้อเกราะกระดาษนั้นถูกคิดค้นขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง เสื้อเกราะกระดาษนี้เรียกตรงตัวว่า ‘จื๋อข่าย’ (纸铠)หรือ ‘จื๋อเจี่ย’ (纸甲) ในบันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ราชวงศ์ถังที่จัดทำขึ้นโดยสำนักราชบัณฑิตสมัยซ่ง (ซินถังซู/新唐书) มีจารึกไว้ว่า เสื้อเกราะกระดาษเหล่านี้ป้องกันได้จากคมดาบและธนู ต่อมาในยุคสมัยหมิงนิยมใช้ในพื้นที่ทางตอนใต้ โดยเฉพาะกับทหารเรือ เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นอากาศชื้น เสื้อเกราะเหล็กขึ้นสนิมได้ง่ายและหนัก ในทางกลับกัน เสื้อเกราะกระดาษใช้ได้ในหลายสภาพอากาศทั้งร้อนทั้งหนาว มีน้ำหนักเบาและเมื่อโดนน้ำยิ่งทำให้มีความทนทานมากขึ้น ป้องกันได้แม้กระทั่งระเบิดดินปืน จากบันทึกทางการทหารในสมัยหมิงมีการกล่าวว่า เสื้อเกราะกระดาษประกอบขึ้นจากกระดาษเยื่อไม้และใยผ้าอัดแน่นซ้ำๆ จนเป็นชั้นหนาประมาณหนึ่งนิ้ว ตรึงด้วยหมุดเหล็ก เย็บขึ้นเป็นเกราะแบบเกล็ดปลา เสื้อเกราะกระดาษถูกใช้อย่างแพร่หลายในราชวงศ์หมิง แม้จะยังมีใช้บ้างในสมัยราชวงศ์ชิง (มีการค้นพบเสื้อเกราะกระดาษจากสมัยราชวงศ์ชิงจริงในกุ้ยโจวเมื่อปี 2004) แต่ในยุคสมัยที่ระเบิดมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีไฟแรง เกราะกระดาษใช้ไม่ได้ดีนักจึงค่อยๆ หายไป Storyฯ ก็นึกไม่ออกว่าเกราะกระดาษจะทนทานต่ออาวุธได้อย่างไร? ไปพบเจอกับวิดิโอคลิปเลยนำมาแบ่งปันให้ดู (ขออภัยไร้ความสามารถทำคำแปลบนคลิป) เป็นคลิปที่ตัดตอนมาจากรายการเกมการแข่งขันความรู้ของเด็กนักเรียน มีการเชิญมือธนูมาทดลองยิงเปรียบเทียบระหว่างเกราะโซ่และเกราะกระดาษ (ซึ่งใช้กระดาษเท่านั้น ยังไม่ได้รวมใยผ้าอัดผสมเข้าไป) โดยหัวธนูที่ใช้นั้นเป็นแบบที่มือธนูเรียกว่าเป็นธนูสำหรับยิงเกราะ หัวธนูเป็นเหล็กแหลมสองชั้น ยิงในระยะ 10 เมตร โดยตอนท้ายมีการสรุปว่าการที่จะเจาะให้ทะลุกระดาษที่เรียงเป็นชั้นๆ จนถึงผิวของคนใส่นั้น ต้องมีแรงอัดหลายทอด หัวธนูจึงไม่สามารถยิงทะลุได้ในคราวเดียว ใครอยากดูคลิปเต็มดูได้ตามลิ้งค์ยูทูบข้างล่างเลยค่ะ ดูแล้วรู้สึกอย่างไรคะ? เม้นท์บอกกันมาได้ค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit วิดิโอและรูปภาพจาก: https://www.youtube.com/watch?v=9lG3aWRDQtI https://kknews.cc/history/g93o88.html https://kknews.cc/other/mo6gpg6.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/%E7%BA%B8%E7%94%B2/8697116 https://www.chinanews.com.cn/hb/news/2009/11-18/1971854.shtml https://kknews.cc/other/mo6gpg6.html #เสื้อเกราะจีนโบราณ #เสื้อกระดาษ #จื๋อเจี่ย #จื๋อข่าย #อาวุธจีนโบราณ #เสื้อเกราะกระดาษ
    1 Comments 0 Shares 555 Views 0 Reviews
  • ♣ เก่งทารุณ สส.ถ่อยที่กระโดดถีบหลังสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ลาคุณหญิงหน่อย ถ่อยสร้างไทย เตรียมซบกล้าถีบ เอ้ยๆ กล้าธรรม
    #7ดอกจิก
    ♣ เก่งทารุณ สส.ถ่อยที่กระโดดถีบหลังสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ลาคุณหญิงหน่อย ถ่อยสร้างไทย เตรียมซบกล้าถีบ เอ้ยๆ กล้าธรรม #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • เมื่อทหารใหม่ยังกระโดดตบไม่เป็น หลายคนมองเป็นเรื่องง่ายไม่ใช่กับพี่ทหารคนนี้
    เมื่อทหารใหม่ยังกระโดดตบไม่เป็น หลายคนมองเป็นเรื่องง่ายไม่ใช่กับพี่ทหารคนนี้
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 422 Views 25 0 Reviews
  • วันนี้นั่งฟังเพลงนางไม้อยู่
    แล้วมีความรำลึกถึงอย่างแรงกล้าต่อแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เมื่อครั้งอดีต.
    .
    ผมเคยเล่าให้หลายคนฟังเกี่ยวกับปูมหลังของผมว่า การเขียนเพลงของผมมีรากฐานยาวไกลมาจากครูสอนภาษาไทยท่านหนึ่งชื่อครูจันทร์เพ็ญ สมัยที่เรียนอยู่โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สามพราน นครปฐม... และยังเล่าอีกว่ามีกวีเอกรัตนโกสินทร์ท่านหนึ่งเป็นแรงบันดาลใจด้วย นั่นคือ "ท่านจันทร์" หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุวัฒน์ รัชนี (ภายหลังตัดคำ วัฒน์ ออก เหลือ จันทร์จิรายุ). แต่คนส่วนใหญ่ที่มาสัมภาษก็ได้แต่รับฟังและไม่ได้สนใจจะถามไถ่ว่าปูมหลังเหล่านี้ดำเนินไปอย่างไร อย่าว่าแต่ครูจันทร์เพ็ญผู้ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม แม้แต่ "ท่านจันทร์" เองก็ไม่ได้เป็นชื่อที่คนรุ่นหลังจะรู้จักและใส่ใจ ทั้งที่ท่านเป็นนักเขียนที่มีผลงานเจิดจ้าอยู่ในยุคสมัยหนึ่ง ท่านเป็นเจ้าของนามปากกา พ.ณ ประมวญมารค เป็นพระโอรสในกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ กวีเอกอีกท่านที่เป็นที่รู้จักกันดีในนามปากกาว่า น.ม.ส.
    .
    ตอนที่เรียนอยู่ ภปร. ผมอยู่บ้านสาม ตอนเข้าไปใหม่ๆ ครูประจำบ้านชื่อครูสมยศ บ้านพักของท่านอยู่ข้างๆ หอนอนบ้านสาม ครูจันทร์เพ็ญที่สอนภาษาไทยเป็นภรรยาของท่าน และเคยเป็นครูประจำชั้นของผมอยู่ปีหนึ่งในช่วงเรียนชั้นประถม ครูจันทร์เพ็ญสังเกตุเห็นความสนใจในการเขียนโคลงกลอนของผมและมักชวนคุย เป็นเหตุให้ผมเวียนไปคุยที่บ้านพักของท่านเมื่อมีโอกาสว่างจากกิจวัตร ท่านให้กำลังใจผมว่าผมมีโอกาสที่จะเจริญทางการเขียนได้ ท่านให้คำแนะนำอย่างไม่เบื่อหน่ายในเรื่องรูปแบบการเขียนของฉันทลักษณ์ต่างๆ และแนะนำงานหลายชิ้นให้อ่าน เช่นพวกงานเขียนคลาสสิคอย่างนิราศนั่นนี่ของสุนทรภู่เป็นต้น
    .
    ผมสิงสู่ดุจผีร้ายที่ห้องสมุดของโรงเรียนนับแต่นั้น ซ่อนงานที่ชอบไว้อ่านเองเพราะกลัวคนมาตัดหน้ายืมไป (เป็นความประพฤติที่แย่มากและไม่จำเป็นเลย เพื่อนนักเรียนในยุคผมแทบหาคนเป็นนักอ่านไม่ได้) ในจำนวนนั้นมีงานของกวีท่านหนึ่ง ครูบอกว่าครูชอบที่สุด ก็คืองานของท่านจันทร์จิรายุวัฒน์ รัชนี เป็นร้อยกรองที่มีแรงดึงดูดใจผมอย่างอธิบายไม่ถูก มีหนังสือเก่าๆ เล่มบางๆ บางเล่มที่เคยอ่านในตอนนั้น แต่ความทรงจำของผมไม่ปะติดปะต่อนักในภายหลังเมื่อโตเป็นหนุ่มแล้วและพยายามจะหาหนังสือเหล่านั้นมาเก็บเป็นของตัวเอง. หนังสือที่อยากได้มากที่สุดเล่มหนึ่งคือ Facets of Thai Poetry (2525) เพราะเป็นงานโคลงที่เป็นภาษาอังกฤษ แต่ยังไม่เคยหามาครอบครองได้สำเร็จ ยังมีหนังสือเก่าอีกจำนวนหนึ่งที่พยายามหาอยู่ อย่างเช่น โคลงตำรับประมวญมารค (2510), นิราศนายโต๊ะ ณ ท่าช้าง (2511 - นายโต๊ะ เป็นอีกนามปากกาของท่าน), รวมทั้งหนังสือในช่วงหลังเช่น นักกลอนบ่อนเข้าแช่ (2520)... (โดยเฉพาะบทกวีของท่านที่เป็นภาษาอังกฤษซึ่งกระจัดกระจายตีพิมพ์ในนิตยสารสมัยก่อน ยิ่งรวบรวมแสนยาก จริงๆ แล้วอยากได้ฉบับจริงมาเก็บไว้ แต่หากใครมีและเมตตาทำสำเนาให้จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง)
    .
    สิ่งที่โดดเด่นและสร้างความหลงไหลให้แก่ผมก็คือท่านจันทร์เป็นกวีสองภาษา รสชาติทางเสียงและอักษรในบทกวีของท่านเป็นสิ่งที่น่าประทับใจเหลือล้ำสำหรับผม ถ้าคุณเป็นคนรักในโคลงกลอนเชื่อว่าคุณจะรู้สึกเหมือนผมเมื่อได้อ่าน และแม้เมื่อผมอายุมากขึ้นมาจนทุกวันนี้ ก็ยังไม่เคยได้ยินบทกวีที่กระทบโสตประสาทแล้วมีรสชาติเทียบได้เช่นนั้น ถ้าคุณเคยอ่านกวีนิพนธ์ในภาษาอังกฤษคุณจะคุ้นเคยกับรสชาติของมันแบบหนึ่ง และขณะที่คุณอ่านกวีนิพนธ์ไทยในภาษาไทยคุณก็จะคุ้นเคยกับรสชาติคุ้นชินนั้นอีกแบบหนึ่ง แต่ถ้าคุณได้อ่านบทกวีภาษาอังกฤษที่วางอยู่บนฉันทลักษณ์ที่สวยงามแบบไทย โดยเฉพาะเมื่อมันโลดแล่นสลับไปมาระหว่างสองภาษา คุณจะรู้สึกอัศจรรย์ยิ่งกว่าความรู้สึกสองแบบที่กล่าวไปหลายเท่า และตลอดชีวิตผมไม่เคยเห็นงานเขียนแบบนี้จากคนอื่น.. ตัวอย่างเช่น ท่านเขียนประวัติท่านบนโคลงสี่ว่า...
    ================================================
    .
    พฤหัสขึ้นสิบห้าค่ำ เดือนแปด
    จันทร์กระโดดกระเด็นแดด เที่ยงเปรี้ยง
    จอแปดจะแปดแฝด แปดเดี่ยว ก็ดี
    เข้าวษาเสียงเพี้ยง สวดพร้อง คล้องหอน ฯ
    .
    Born : nineteen hundred and ten*
    That was the year when Kings died**
    The stars in heaven did laugh
    On earth people cried when I was born
    .
    [* ค.ศ.1910 / ** พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ห้าและกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่เจ็ดสวรรคตในปีนั้น]
    =================================================
    .
    พี่เนาว์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีรัตนโกสินทร์อีกท่าน กล่าวไว้ไม่ผิด...
    "ท่านจันทร์ เป็นกวีของกวี"
    แม้วันนี้ความรู้สึกอย่างนี้ของผมก็ยังไม่เปลี่ยน
    แรงบันดาลใจนี้ส่งผลให้ผมตะเกียกตะกายอย่างยิ่งเสมอมาที่จะเขียนเพลงให้ภาษาสวยงามสักเสี้ยวธุลีนึงของท่าน
    .
    =================================================
    อาจารย์ เขียน ยิ้มศิริ ปฏิมากรเอกของไทยเคยปั้นรูปเหมือนศีรษะของท่านจันทร์
    ท่านเขียนกวีว่า....
    .
    ช่างปั้นเขาช่างปั้น รูปเหมือน หัวเฮย
    ยังมิทันจะเลือน หนุ่มฟ้อ
    เดือนปีสักกี่เดือน หาจด จำแฮ
    ดูประดุจรูปล้อ ธาตุน้ำลมไฟ ฯ
    .
    วันหนึ่งกายหยาบนี้ จักสลาย
    เหลือแต่หัวตัวหาย ตกฟ้า
    อักษรจะนอนหงาย ปกเปิด
    หรือว่าคว่ำดำหล้า ธาตุสิ้นดินสูญ ฯ
    .
    - พ ณ.ประมวญมารค (2531) ==============================================
    ท่านสิ้นเมื่อปี พ.ศ.2534
    แต่อักษรของท่านไม่คว่ำและมีน้ำหนักมั่นคงจารึกลงในแผ่นดินไม่มีวันสิ้นสูญ.
    .
    ด้วยจิตคารวะ
    พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
    2566
    วันนี้นั่งฟังเพลงนางไม้อยู่ แล้วมีความรำลึกถึงอย่างแรงกล้าต่อแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เมื่อครั้งอดีต. . ผมเคยเล่าให้หลายคนฟังเกี่ยวกับปูมหลังของผมว่า การเขียนเพลงของผมมีรากฐานยาวไกลมาจากครูสอนภาษาไทยท่านหนึ่งชื่อครูจันทร์เพ็ญ สมัยที่เรียนอยู่โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สามพราน นครปฐม... และยังเล่าอีกว่ามีกวีเอกรัตนโกสินทร์ท่านหนึ่งเป็นแรงบันดาลใจด้วย นั่นคือ "ท่านจันทร์" หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุวัฒน์ รัชนี (ภายหลังตัดคำ วัฒน์ ออก เหลือ จันทร์จิรายุ). แต่คนส่วนใหญ่ที่มาสัมภาษก็ได้แต่รับฟังและไม่ได้สนใจจะถามไถ่ว่าปูมหลังเหล่านี้ดำเนินไปอย่างไร อย่าว่าแต่ครูจันทร์เพ็ญผู้ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม แม้แต่ "ท่านจันทร์" เองก็ไม่ได้เป็นชื่อที่คนรุ่นหลังจะรู้จักและใส่ใจ ทั้งที่ท่านเป็นนักเขียนที่มีผลงานเจิดจ้าอยู่ในยุคสมัยหนึ่ง ท่านเป็นเจ้าของนามปากกา พ.ณ ประมวญมารค เป็นพระโอรสในกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ กวีเอกอีกท่านที่เป็นที่รู้จักกันดีในนามปากกาว่า น.ม.ส. . ตอนที่เรียนอยู่ ภปร. ผมอยู่บ้านสาม ตอนเข้าไปใหม่ๆ ครูประจำบ้านชื่อครูสมยศ บ้านพักของท่านอยู่ข้างๆ หอนอนบ้านสาม ครูจันทร์เพ็ญที่สอนภาษาไทยเป็นภรรยาของท่าน และเคยเป็นครูประจำชั้นของผมอยู่ปีหนึ่งในช่วงเรียนชั้นประถม ครูจันทร์เพ็ญสังเกตุเห็นความสนใจในการเขียนโคลงกลอนของผมและมักชวนคุย เป็นเหตุให้ผมเวียนไปคุยที่บ้านพักของท่านเมื่อมีโอกาสว่างจากกิจวัตร ท่านให้กำลังใจผมว่าผมมีโอกาสที่จะเจริญทางการเขียนได้ ท่านให้คำแนะนำอย่างไม่เบื่อหน่ายในเรื่องรูปแบบการเขียนของฉันทลักษณ์ต่างๆ และแนะนำงานหลายชิ้นให้อ่าน เช่นพวกงานเขียนคลาสสิคอย่างนิราศนั่นนี่ของสุนทรภู่เป็นต้น . ผมสิงสู่ดุจผีร้ายที่ห้องสมุดของโรงเรียนนับแต่นั้น ซ่อนงานที่ชอบไว้อ่านเองเพราะกลัวคนมาตัดหน้ายืมไป (เป็นความประพฤติที่แย่มากและไม่จำเป็นเลย เพื่อนนักเรียนในยุคผมแทบหาคนเป็นนักอ่านไม่ได้) ในจำนวนนั้นมีงานของกวีท่านหนึ่ง ครูบอกว่าครูชอบที่สุด ก็คืองานของท่านจันทร์จิรายุวัฒน์ รัชนี เป็นร้อยกรองที่มีแรงดึงดูดใจผมอย่างอธิบายไม่ถูก มีหนังสือเก่าๆ เล่มบางๆ บางเล่มที่เคยอ่านในตอนนั้น แต่ความทรงจำของผมไม่ปะติดปะต่อนักในภายหลังเมื่อโตเป็นหนุ่มแล้วและพยายามจะหาหนังสือเหล่านั้นมาเก็บเป็นของตัวเอง. หนังสือที่อยากได้มากที่สุดเล่มหนึ่งคือ Facets of Thai Poetry (2525) เพราะเป็นงานโคลงที่เป็นภาษาอังกฤษ แต่ยังไม่เคยหามาครอบครองได้สำเร็จ ยังมีหนังสือเก่าอีกจำนวนหนึ่งที่พยายามหาอยู่ อย่างเช่น โคลงตำรับประมวญมารค (2510), นิราศนายโต๊ะ ณ ท่าช้าง (2511 - นายโต๊ะ เป็นอีกนามปากกาของท่าน), รวมทั้งหนังสือในช่วงหลังเช่น นักกลอนบ่อนเข้าแช่ (2520)... (โดยเฉพาะบทกวีของท่านที่เป็นภาษาอังกฤษซึ่งกระจัดกระจายตีพิมพ์ในนิตยสารสมัยก่อน ยิ่งรวบรวมแสนยาก จริงๆ แล้วอยากได้ฉบับจริงมาเก็บไว้ แต่หากใครมีและเมตตาทำสำเนาให้จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง) . สิ่งที่โดดเด่นและสร้างความหลงไหลให้แก่ผมก็คือท่านจันทร์เป็นกวีสองภาษา รสชาติทางเสียงและอักษรในบทกวีของท่านเป็นสิ่งที่น่าประทับใจเหลือล้ำสำหรับผม ถ้าคุณเป็นคนรักในโคลงกลอนเชื่อว่าคุณจะรู้สึกเหมือนผมเมื่อได้อ่าน และแม้เมื่อผมอายุมากขึ้นมาจนทุกวันนี้ ก็ยังไม่เคยได้ยินบทกวีที่กระทบโสตประสาทแล้วมีรสชาติเทียบได้เช่นนั้น ถ้าคุณเคยอ่านกวีนิพนธ์ในภาษาอังกฤษคุณจะคุ้นเคยกับรสชาติของมันแบบหนึ่ง และขณะที่คุณอ่านกวีนิพนธ์ไทยในภาษาไทยคุณก็จะคุ้นเคยกับรสชาติคุ้นชินนั้นอีกแบบหนึ่ง แต่ถ้าคุณได้อ่านบทกวีภาษาอังกฤษที่วางอยู่บนฉันทลักษณ์ที่สวยงามแบบไทย โดยเฉพาะเมื่อมันโลดแล่นสลับไปมาระหว่างสองภาษา คุณจะรู้สึกอัศจรรย์ยิ่งกว่าความรู้สึกสองแบบที่กล่าวไปหลายเท่า และตลอดชีวิตผมไม่เคยเห็นงานเขียนแบบนี้จากคนอื่น.. ตัวอย่างเช่น ท่านเขียนประวัติท่านบนโคลงสี่ว่า... ================================================ . พฤหัสขึ้นสิบห้าค่ำ เดือนแปด จันทร์กระโดดกระเด็นแดด เที่ยงเปรี้ยง จอแปดจะแปดแฝด แปดเดี่ยว ก็ดี เข้าวษาเสียงเพี้ยง สวดพร้อง คล้องหอน ฯ . Born : nineteen hundred and ten* That was the year when Kings died** The stars in heaven did laugh On earth people cried when I was born . [* ค.ศ.1910 / ** พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ห้าและกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่เจ็ดสวรรคตในปีนั้น] ================================================= . พี่เนาว์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีรัตนโกสินทร์อีกท่าน กล่าวไว้ไม่ผิด... "ท่านจันทร์ เป็นกวีของกวี" แม้วันนี้ความรู้สึกอย่างนี้ของผมก็ยังไม่เปลี่ยน แรงบันดาลใจนี้ส่งผลให้ผมตะเกียกตะกายอย่างยิ่งเสมอมาที่จะเขียนเพลงให้ภาษาสวยงามสักเสี้ยวธุลีนึงของท่าน . ================================================= อาจารย์ เขียน ยิ้มศิริ ปฏิมากรเอกของไทยเคยปั้นรูปเหมือนศีรษะของท่านจันทร์ ท่านเขียนกวีว่า.... . ช่างปั้นเขาช่างปั้น รูปเหมือน หัวเฮย ยังมิทันจะเลือน หนุ่มฟ้อ เดือนปีสักกี่เดือน หาจด จำแฮ ดูประดุจรูปล้อ ธาตุน้ำลมไฟ ฯ . วันหนึ่งกายหยาบนี้ จักสลาย เหลือแต่หัวตัวหาย ตกฟ้า อักษรจะนอนหงาย ปกเปิด หรือว่าคว่ำดำหล้า ธาตุสิ้นดินสูญ ฯ . - พ ณ.ประมวญมารค (2531) ============================================== ท่านสิ้นเมื่อปี พ.ศ.2534 แต่อักษรของท่านไม่คว่ำและมีน้ำหนักมั่นคงจารึกลงในแผ่นดินไม่มีวันสิ้นสูญ. . ด้วยจิตคารวะ พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา 2566
    0 Comments 0 Shares 529 Views 0 Reviews
  • Evolution
    พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
    9 พ.ค. 2567
    =====================
    .
    ประเด็นหนึ่งที่ผมมักพูดให้นักเรียนผมฟัง หลายชั้นเรียน หลายคาบวิชา หลายกิจกรรม ต่างกรรมต่างวาระ ในห้วงเวลากว่ายี่สิบปีที่ผ่านมา คือประเด็นที่ว่าด้วยกระบวนการส่งผ่านความรู้
    .
    โลกที่เจริญก้าวหน้ามาได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะกระบวนการส่งต่อความรู้นี่แหละ ผ่านรุ่นต่อรุ่นมาหลายพันปี ตั้งแต่ยังไม่มีตัวหนังสือให้ใช้ขีดเขียนบันทึก
    .
    บรรพบุรุษของมนุษย์เซเปี้ยนส์รุ่นแรกๆ ที่อพยพจากแอฟริกาเมื่อราวแสนกว่าปีก่อน นักวิชาการเชื่อกันว่าพวกเขามีภาษาพูดของตนเองแล้ว ก่อนจะอพยพไปยังดินแดนส่วนอื่นๆ ในโลก ที่จุดนั้น กระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบก็เริ่มต้นขึ้น ลองถอยไปคิดถึงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญก่อนหน้านั้นที่ทำให้มนุษย์โบราณรอดจากการสูญพันธุ์มาได้ นั่นคือเมื่อพวกเขาค้นพบการจุดไฟเป็นครั้งแรก จะด้วยวิธีการปั่นให้เสียดสีกันของไม้ หรือการใช้หินกระเทาะกันก็ตาม สิ่งเหล่านี้ต้องสอนกันเพื่อให้ทำได้ถูกต้อง ปฐมบทของเทคโนโลยีได้บังเกิดขึ้น เพื่อให้อยู่รอด ลูกหลานพวกเขาจะต้องเรียนรู้วิธีการพวกนี้
    .
    เครื่องมือมากมายเริ่มถูกคิดค้นเรื่อยมา นับแต่ขวานหิน หลาวไม้ ฯลฯ เมื่อถึงยุคที่เซเปี้ยนส์พ่อคนฉลาดปรากฏขึ้นบนโลก พวกเขามีเครื่องนุ่งห่มป้องกันความหนาว รู้จักว่าอะไรเป็นยา อะไรเป็นพิษ สังเกตุธรรมชาติและฤดูกาล สังเกตุพฤติกรรมสัตว์และวงจรของมัน จนแม้กระทั่งก้าวหน้าจนสามารถหลอมโลหะ..
    .
    แน่นอนว่าในบรรดาความรู้ทั้งหลายที่ค้นพบ ภาษาคือสิ่งที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด มันคือเครื่องมือสื่อสารที่ทำให้มนุษย์ทำงานเป็นทีมได้ หากไม่มีภาษามนุษย์จะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าสัตว์ใหญ่ขนาดนี้ต้องมีการประสานงานสั่งการในการเข้าโจมตีเป็นทีม ผลพวงก็อย่างที่เราได้รู้ พวกมันถูกล่าจนสูญพันธ์ไปหมด เห็นได้ว่าการทำงานเป็นทีมของมนุษย์โบราณพวกนี้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง เมื่อมีภาษา การเรียนการสอนในโลกครั้งแรกก็เริ่มขึ้น เมื่อมีความรู้ จากนี้พวกเขาจะพร้อมไปพิชิตโลก
    .
    ทั้งสิ้นทั้งปวง นับแต่เทคโนโลยีแรกเกิดขึ้น การจุดไฟ การทำเครื่องมือ แทกติคในการล่า ข้อมูลเกี่ยวกับพืช สัตว์ อาหาร ฤดูกาล อันตรายต่างๆ ฯลฯ จะถูกถ่ายทอดจากคนรุ่นก่อนไปสู่คนรุ่นใหม่ ทักษะต่างๆ ในชีวิต การแก้ปัญหาและการเอาตัวรอดในสถานะการณ์ต่างๆ จะถูกถ่ายทอดอย่างใกล้ชิดจากคนรุ่นก่อนที่มีประสบการณ์โชกโชนมาแล้ว เช่น จากพ่อ จากปู่ ไปสู่ลูก สู่หลาน ไม่ใช่แค่การบอกเล่าสั่งสอน พวกเขาจะคอยเฝ้าดูให้คนหนุ่มสาวเหล่านั้นได้ฝึกฝนปฏิบัติสิ่งต่างๆ ตามคำแนะนำ เฝ้าประกบตั้งแต่การล่าสัตว์ตัวแรก ไปถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือพิธีกรรมต่างๆ จนกระทั่งมีความพร้อมที่จะทำสิ่งเหล่านั้นได้โดยลำพังและสอนต่อแก่ผู้อื่น พัฒนาจนมีทักษะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการล่า หรือความเข้าใจในเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญ อันจะนำพาให้ชีวิตรอดและเติบโตก้าวหน้าต่อไป จากปฐมบทนี้ มนุษย์สั่งสมความรู้แล้วส่งต่อมาเรื่อย แตกแขนงเป็นสรรพวิชาความรู้ต่างๆ มากมายเหลือคณานับ
    .
    ถ้าเราลองมาพิจารณาดูสักมุมมองหนึ่ง เช่นด้านศิลปะ ที่จุดแรกของการสร้างสรรค์ นึกภาพว่าเมื่อครูคนแรกได้ค้นพบว่า ดินบางชนิดมีคุณสมบัติที่จะนำมาใช้เป็นสีในการวาดภาพได้ ครูคนหนึ่งค้นพบเทคนิคแรกของ stencil ด้วยการเอาดินพวกนั้นผสมน้ำอมเข้าไว้ในปากแล้วพ่นใส่ผ่านมือทำให้เกิดเป็นภาพรอยมือปรากฏบนผนังถ้ำ บางคนใช้นิ้วมือจิ้มดินสีเขียนเป็นภาพคนและสัตว์ แน่นอนว่ามีการสอนต่อกัน เราได้เห็นภาพเขียนโบราณที่ใช้เทคนิคเดียวกันนี้ในหลายแห่งทั่วโลก จุดเริ่มต้นนี้ หากไม่เกิดขึ้น จะไม่มีการประดิษฐ์พู่กัน หมึก และสีมากมายหลายชนิดขึ้นในโลก ซึ่งในที่สุดนำไปสู่การสร้างสรรค์เครื่องมือ วิธีการอันน่าทึ่งต่างๆ และแนวคิดในการสร้างสรรค์อันน่าอัศจรรย์ของศิลปะในโลก
    .
    กระบวนการเรียนรู้และส่งต่อนั้น มันมีลำดับขั้นที่เป็นผลต่อเนื่อง เราไม่อาจปฏิเสธข้อเท็จจริงของปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดการพัฒนาเหล่านั้นได้ เมื่อครูศิลปะคนแรกของโลกเรียนรู้ สมมุติเล่นๆ ให้เห็นภาพ ลองยกตัวอย่างการค้นพบดินสอว่าเป็นเครื่องมือศิลปะอันแรกอย่างหนึ่ง ครูคนแรกผู้นี้อาจใช้เวลาทั้งชีวิตของเขาในการค้นหาวัสดุหลายอย่างที่จะนำมาขีดเขียนให้เป็นเส้นสายสีดำเช่นนั้นได้ เขาจะต้องทดลองถ่านหลายชนิด รวมทั้งจะต้องแก้ปัญหาว่าถ่านชนิดที่เอามาใช้ จะทำอย่างไรไม่ให้เลอะมือ ไม่เปราะและหักง่ายเกินไป ลองคิดจินตนาการว่า เมื่อแรกเริ่มมีดินสอนั้น ผู้ที่คิดค้นมันขึ้นมาน่าจะต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะได้ดินสอหนึ่งแท่ง คนยุคหลังที่เกิดขึ้นมาก็มีดินสอรออยู่ในมือแล้ว ย่อมไม่รู้ว่าคนที่คิดค้นมันต้องผ่านอุปสรรคอะไรมา
    .
    นี่แค่พูดถึงเครื่องมือ แต่เมื่อพูดถึงว่าครูศิลปะคนแรกที่นำดินสอมาเขียนรูป เขายังจะต้องฝึกฝนทักษะในการที่จะควบคุมดินสอนั้นให้เกิดเส้นสายลวดลายต่างๆ ต้องเข้าใจผลที่เกิดจากดินสอที่ถูกเหลาจนคม ผลจากการที่ดินสอทู่ลง ผลจากการตะแคงดินสอใช้ด้านข้างถูให้เกิดแถบที่อ่อนนุ่มกว่า.. กระบวนการทั้งหลายในการพัฒนาทักษะของการใช้ดินสอเช่นนี้ เมื่อผ่านห้วงเวลาทั้งชีวิตของครูศิลปะผู้นี้ อาจหลอมรวมเวลาหลายปี เมื่อครูผู้นี้เริ่มสอน เขาอาจใช้ชีวิตในการวาดรูปด้วยดินสอมาเป็นเวลายี่สิบปี เนื่องจากเขาคือครูคนแรกอย่างที่เราสมมุติ ทั้งโลกและตัวเขาไม่มีต้นทุนมาก่อน ยี่สิบปีของเขาคือเวลาที่เริ่มต้นสั่งสมของมนุษยชาติ แต่เมื่อเขาเริ่มสอนให้แก่ศิษย์คนแรก ประสบการณ์ ความรู้ และทักษะที่สั่งสมมาของเขาตลอดยี่สิบปี สามารถถ่ายทอดให้แก่ศิษย์ในเวลาไม่กี่ปี ถ้าเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยทุกวันนี้ ก็จะเห็นว่าอาจารย์ไม่ว่าจะมีวัยวุฒิคุณวุฒิเท่าใด มีหน้าที่ที่จะถ่ายทอดสิ่งที่เขารู้ให้แก่ศิษย์ภายในเวลาสั้นๆ เพียงแค่สี่ห้าปี
    .
    กระบวนการส่งต่อจึงสำคัญเช่นนี้ อย่างที่สมมุติตัวอย่าง ศิษย์ใช้เวลาสี่ปีในการเรียนรู้ทักษะความรู้ยี่สิบปีของครูคนก่อน เขาไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก ครูคั้นเอาแก่นที่บ่มเพาะมาแล้วมาสอนให้ จากนั้น.. ถ้าไม่ใช่ศิษย์ที่ล้มเหลว เขาก็คงจะใช้ช่วงเวลาในชีวิตของเขาต่อไปในการหาความรู้เพิ่มเติมต่อยอดจากความรู้ยี่สิบปีของครูคนก่อนที่ส่งผ่านมาให้เขา เมื่อถึงจุดที่เขาเริ่มเป็นครูให้กับคนรุ่นต่อจากเขาบ้าง เขาอาจมีประสบการณ์ความรู้และทักษะของเขาเพิ่มเติมมาอีกยี่สิบปี รวมกับความรู้ที่รับมาจากครูคนแรกยี่สิบปี เท่ากับสี่สิบปี ดังนั้นศิษย์ที่มาเรียนกับเขา จะใช้เวลาแค่สี่ปีในการเรียนความรู้ที่สั่งสมมาสี่สิบปี เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ในแต่ละรุ่นก็จะทบทวีเช่นนี้เป็นอัตราทวีคูณ เร็วขึ้นจนแต่ละครั้งเป็นก้าวกระโดด จนกระทั่งมนุษย์ไปอวกาศ..
    .
    ลองคิดดูว่า หากปราศจากการส่งต่อความรู้เช่นนี้ ถ้าคนรุ่นใหม่แต่ละรุ่น ต้องไปค้นหาเรียนรู้นับจากศูนย์ด้วยตัวเอง มนุษย์คงไม่พัฒนามาจนถึงจุดที่ยืนอยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งยืนหยัดอย่างมั่นคงอยู่บนฐานความรู้ที่สั่งสมและส่งผ่านมานับพันปี ไม่ใช่ว่าแต่ละคนจะเกิดขึ้นมาแล้วรู้ทุกอย่างได้เองโดยไม่ต้องเรียน หรือความรู้จะผุดโผล่ออกมาเองได้จากอากาศธาตุ
    .
    ด้วยกระบวนการส่งต่อความรู้เช่นนี้นี่เอง จากวันที่มนุษย์มีภาษาและประสานงานกันล่าแมมมอธ มาถึงวันนี้มนุษย์สามารถประดิษฐ์ควอนตัมคอมพิวเตอร์ได้ ด้วยสรรพความรู้ที่สั่งสมสั่งสอนกันมาเรื่อยๆ นับพันปี โลกจึงก่อเกิดเป็นศาสตร์วิทยาการมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้นผมจึงพูดบ่อยๆ กับนักเรียนของผมว่า การสอน การถ่ายทอดความรู้ ที่จริงไม่ใช่คุณธรรมอันยิ่งใหญ่อันใด แต่เป็นหน้าที่ของมนุษย์อย่างหนึ่งที่จะต้องกระทำด้วยความใส่ใจยิ่ง แม้ท่านมิได้มีอาชีพเป็นครูโดยตรง ท่านก็ควรจะมีคุณสมบัติอันมีประโยชน์บางอย่างที่สั่งสมมาพอจะสอนได้ อย่างน้อยก็คือการอบรมบุตรหลานให้เป็นมนุษย์ที่มีคุณภาพแก่โลก ภาระนี้จะทำให้มนุษย์ยังคงก้าวหน้าพัฒนาต่อไป ทั้งด้านความรู้ สติปัญญา และระดับของจิตใจ
    .
    จริงอยู่ที่ความแก่ ความเก่า เป็นสภาวะทางสังขารอันไม่เที่ยงแท้
    แต่คนฉลาดอย่างเช่นไอน์สไตน์ แม้เมื่อชราลงจนอาจไม่มีแรงก้าวเดิน
    เขาก็จะเสียชีวิตลงในขณะที่ความเฉลียวฉลาดของเขายังคงอยู่กับเขาจนวินาทีสุดท้าย
    คนแก่ ไม่ได้แปลว่า คนโง่ เช่นเดียวกับ คนหนุ่ม ไม่ได้แปลว่า ฉลาด
    โบราณว่า ขิงแก่ย่อมเผ็ดร้อน ฉันใดฉันนั้น
    .
    บรรดาวิทยาการสมัยใหม่ที่พวกท่านได้เสพได้ใช้ได้ปรนเปรอในวันนี้
    ปฏิเสธไม่ได้ว่าสร้างมาจากการถากถางค้นพบของคนรุ่นก่อนท่านทั้งนั้น
    ลองนึกดูว่า หากท่านไปเกิดอยู่บนเกาะร้างสักแห่งที่ไม่มีใครให้ความรู้
    ท่านจะเติบโตพัฒนาขึ้นมาจนกลายเป็นศิลปินหรือผู้มีชื่อเสียงได้หรือไม่
    ตัวท่านเองนอกจากต้องสำนึกแล้ว ก็จะต้องถามตัวเองด้วยว่า
    ท่านจะพึงกระทำหน้าที่ของมนุษย์ในการจะส่งความรู้ให้รุ่นต่อไปหรือไม่
    และได้ทำคุณประโยชน์ใดให้แก่มนุษย์รุ่นต่อจากท่านบ้าง
    ท่านได้ต่อยอดความรู้นับพันปีที่ได้งอกเงยอยู่ในตัวท่านอย่างไร
    เพื่อที่ว่าวันนึงเมื่อท่านกลายเป็น คนแก่อีกคนหนึ่ง
    คนรุ่นใหม่จะได้รำลึกถึงท่านในคุณูปการที่ท่านได้ฝากไว้แก่โลกนี้
    .
    .
    Evolution พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา 9 พ.ค. 2567 ===================== . ประเด็นหนึ่งที่ผมมักพูดให้นักเรียนผมฟัง หลายชั้นเรียน หลายคาบวิชา หลายกิจกรรม ต่างกรรมต่างวาระ ในห้วงเวลากว่ายี่สิบปีที่ผ่านมา คือประเด็นที่ว่าด้วยกระบวนการส่งผ่านความรู้ . โลกที่เจริญก้าวหน้ามาได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะกระบวนการส่งต่อความรู้นี่แหละ ผ่านรุ่นต่อรุ่นมาหลายพันปี ตั้งแต่ยังไม่มีตัวหนังสือให้ใช้ขีดเขียนบันทึก . บรรพบุรุษของมนุษย์เซเปี้ยนส์รุ่นแรกๆ ที่อพยพจากแอฟริกาเมื่อราวแสนกว่าปีก่อน นักวิชาการเชื่อกันว่าพวกเขามีภาษาพูดของตนเองแล้ว ก่อนจะอพยพไปยังดินแดนส่วนอื่นๆ ในโลก ที่จุดนั้น กระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบก็เริ่มต้นขึ้น ลองถอยไปคิดถึงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญก่อนหน้านั้นที่ทำให้มนุษย์โบราณรอดจากการสูญพันธุ์มาได้ นั่นคือเมื่อพวกเขาค้นพบการจุดไฟเป็นครั้งแรก จะด้วยวิธีการปั่นให้เสียดสีกันของไม้ หรือการใช้หินกระเทาะกันก็ตาม สิ่งเหล่านี้ต้องสอนกันเพื่อให้ทำได้ถูกต้อง ปฐมบทของเทคโนโลยีได้บังเกิดขึ้น เพื่อให้อยู่รอด ลูกหลานพวกเขาจะต้องเรียนรู้วิธีการพวกนี้ . เครื่องมือมากมายเริ่มถูกคิดค้นเรื่อยมา นับแต่ขวานหิน หลาวไม้ ฯลฯ เมื่อถึงยุคที่เซเปี้ยนส์พ่อคนฉลาดปรากฏขึ้นบนโลก พวกเขามีเครื่องนุ่งห่มป้องกันความหนาว รู้จักว่าอะไรเป็นยา อะไรเป็นพิษ สังเกตุธรรมชาติและฤดูกาล สังเกตุพฤติกรรมสัตว์และวงจรของมัน จนแม้กระทั่งก้าวหน้าจนสามารถหลอมโลหะ.. . แน่นอนว่าในบรรดาความรู้ทั้งหลายที่ค้นพบ ภาษาคือสิ่งที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด มันคือเครื่องมือสื่อสารที่ทำให้มนุษย์ทำงานเป็นทีมได้ หากไม่มีภาษามนุษย์จะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าสัตว์ใหญ่ขนาดนี้ต้องมีการประสานงานสั่งการในการเข้าโจมตีเป็นทีม ผลพวงก็อย่างที่เราได้รู้ พวกมันถูกล่าจนสูญพันธ์ไปหมด เห็นได้ว่าการทำงานเป็นทีมของมนุษย์โบราณพวกนี้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง เมื่อมีภาษา การเรียนการสอนในโลกครั้งแรกก็เริ่มขึ้น เมื่อมีความรู้ จากนี้พวกเขาจะพร้อมไปพิชิตโลก . ทั้งสิ้นทั้งปวง นับแต่เทคโนโลยีแรกเกิดขึ้น การจุดไฟ การทำเครื่องมือ แทกติคในการล่า ข้อมูลเกี่ยวกับพืช สัตว์ อาหาร ฤดูกาล อันตรายต่างๆ ฯลฯ จะถูกถ่ายทอดจากคนรุ่นก่อนไปสู่คนรุ่นใหม่ ทักษะต่างๆ ในชีวิต การแก้ปัญหาและการเอาตัวรอดในสถานะการณ์ต่างๆ จะถูกถ่ายทอดอย่างใกล้ชิดจากคนรุ่นก่อนที่มีประสบการณ์โชกโชนมาแล้ว เช่น จากพ่อ จากปู่ ไปสู่ลูก สู่หลาน ไม่ใช่แค่การบอกเล่าสั่งสอน พวกเขาจะคอยเฝ้าดูให้คนหนุ่มสาวเหล่านั้นได้ฝึกฝนปฏิบัติสิ่งต่างๆ ตามคำแนะนำ เฝ้าประกบตั้งแต่การล่าสัตว์ตัวแรก ไปถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือพิธีกรรมต่างๆ จนกระทั่งมีความพร้อมที่จะทำสิ่งเหล่านั้นได้โดยลำพังและสอนต่อแก่ผู้อื่น พัฒนาจนมีทักษะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการล่า หรือความเข้าใจในเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญ อันจะนำพาให้ชีวิตรอดและเติบโตก้าวหน้าต่อไป จากปฐมบทนี้ มนุษย์สั่งสมความรู้แล้วส่งต่อมาเรื่อย แตกแขนงเป็นสรรพวิชาความรู้ต่างๆ มากมายเหลือคณานับ . ถ้าเราลองมาพิจารณาดูสักมุมมองหนึ่ง เช่นด้านศิลปะ ที่จุดแรกของการสร้างสรรค์ นึกภาพว่าเมื่อครูคนแรกได้ค้นพบว่า ดินบางชนิดมีคุณสมบัติที่จะนำมาใช้เป็นสีในการวาดภาพได้ ครูคนหนึ่งค้นพบเทคนิคแรกของ stencil ด้วยการเอาดินพวกนั้นผสมน้ำอมเข้าไว้ในปากแล้วพ่นใส่ผ่านมือทำให้เกิดเป็นภาพรอยมือปรากฏบนผนังถ้ำ บางคนใช้นิ้วมือจิ้มดินสีเขียนเป็นภาพคนและสัตว์ แน่นอนว่ามีการสอนต่อกัน เราได้เห็นภาพเขียนโบราณที่ใช้เทคนิคเดียวกันนี้ในหลายแห่งทั่วโลก จุดเริ่มต้นนี้ หากไม่เกิดขึ้น จะไม่มีการประดิษฐ์พู่กัน หมึก และสีมากมายหลายชนิดขึ้นในโลก ซึ่งในที่สุดนำไปสู่การสร้างสรรค์เครื่องมือ วิธีการอันน่าทึ่งต่างๆ และแนวคิดในการสร้างสรรค์อันน่าอัศจรรย์ของศิลปะในโลก . กระบวนการเรียนรู้และส่งต่อนั้น มันมีลำดับขั้นที่เป็นผลต่อเนื่อง เราไม่อาจปฏิเสธข้อเท็จจริงของปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดการพัฒนาเหล่านั้นได้ เมื่อครูศิลปะคนแรกของโลกเรียนรู้ สมมุติเล่นๆ ให้เห็นภาพ ลองยกตัวอย่างการค้นพบดินสอว่าเป็นเครื่องมือศิลปะอันแรกอย่างหนึ่ง ครูคนแรกผู้นี้อาจใช้เวลาทั้งชีวิตของเขาในการค้นหาวัสดุหลายอย่างที่จะนำมาขีดเขียนให้เป็นเส้นสายสีดำเช่นนั้นได้ เขาจะต้องทดลองถ่านหลายชนิด รวมทั้งจะต้องแก้ปัญหาว่าถ่านชนิดที่เอามาใช้ จะทำอย่างไรไม่ให้เลอะมือ ไม่เปราะและหักง่ายเกินไป ลองคิดจินตนาการว่า เมื่อแรกเริ่มมีดินสอนั้น ผู้ที่คิดค้นมันขึ้นมาน่าจะต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะได้ดินสอหนึ่งแท่ง คนยุคหลังที่เกิดขึ้นมาก็มีดินสอรออยู่ในมือแล้ว ย่อมไม่รู้ว่าคนที่คิดค้นมันต้องผ่านอุปสรรคอะไรมา . นี่แค่พูดถึงเครื่องมือ แต่เมื่อพูดถึงว่าครูศิลปะคนแรกที่นำดินสอมาเขียนรูป เขายังจะต้องฝึกฝนทักษะในการที่จะควบคุมดินสอนั้นให้เกิดเส้นสายลวดลายต่างๆ ต้องเข้าใจผลที่เกิดจากดินสอที่ถูกเหลาจนคม ผลจากการที่ดินสอทู่ลง ผลจากการตะแคงดินสอใช้ด้านข้างถูให้เกิดแถบที่อ่อนนุ่มกว่า.. กระบวนการทั้งหลายในการพัฒนาทักษะของการใช้ดินสอเช่นนี้ เมื่อผ่านห้วงเวลาทั้งชีวิตของครูศิลปะผู้นี้ อาจหลอมรวมเวลาหลายปี เมื่อครูผู้นี้เริ่มสอน เขาอาจใช้ชีวิตในการวาดรูปด้วยดินสอมาเป็นเวลายี่สิบปี เนื่องจากเขาคือครูคนแรกอย่างที่เราสมมุติ ทั้งโลกและตัวเขาไม่มีต้นทุนมาก่อน ยี่สิบปีของเขาคือเวลาที่เริ่มต้นสั่งสมของมนุษยชาติ แต่เมื่อเขาเริ่มสอนให้แก่ศิษย์คนแรก ประสบการณ์ ความรู้ และทักษะที่สั่งสมมาของเขาตลอดยี่สิบปี สามารถถ่ายทอดให้แก่ศิษย์ในเวลาไม่กี่ปี ถ้าเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยทุกวันนี้ ก็จะเห็นว่าอาจารย์ไม่ว่าจะมีวัยวุฒิคุณวุฒิเท่าใด มีหน้าที่ที่จะถ่ายทอดสิ่งที่เขารู้ให้แก่ศิษย์ภายในเวลาสั้นๆ เพียงแค่สี่ห้าปี . กระบวนการส่งต่อจึงสำคัญเช่นนี้ อย่างที่สมมุติตัวอย่าง ศิษย์ใช้เวลาสี่ปีในการเรียนรู้ทักษะความรู้ยี่สิบปีของครูคนก่อน เขาไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก ครูคั้นเอาแก่นที่บ่มเพาะมาแล้วมาสอนให้ จากนั้น.. ถ้าไม่ใช่ศิษย์ที่ล้มเหลว เขาก็คงจะใช้ช่วงเวลาในชีวิตของเขาต่อไปในการหาความรู้เพิ่มเติมต่อยอดจากความรู้ยี่สิบปีของครูคนก่อนที่ส่งผ่านมาให้เขา เมื่อถึงจุดที่เขาเริ่มเป็นครูให้กับคนรุ่นต่อจากเขาบ้าง เขาอาจมีประสบการณ์ความรู้และทักษะของเขาเพิ่มเติมมาอีกยี่สิบปี รวมกับความรู้ที่รับมาจากครูคนแรกยี่สิบปี เท่ากับสี่สิบปี ดังนั้นศิษย์ที่มาเรียนกับเขา จะใช้เวลาแค่สี่ปีในการเรียนความรู้ที่สั่งสมมาสี่สิบปี เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ในแต่ละรุ่นก็จะทบทวีเช่นนี้เป็นอัตราทวีคูณ เร็วขึ้นจนแต่ละครั้งเป็นก้าวกระโดด จนกระทั่งมนุษย์ไปอวกาศ.. . ลองคิดดูว่า หากปราศจากการส่งต่อความรู้เช่นนี้ ถ้าคนรุ่นใหม่แต่ละรุ่น ต้องไปค้นหาเรียนรู้นับจากศูนย์ด้วยตัวเอง มนุษย์คงไม่พัฒนามาจนถึงจุดที่ยืนอยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งยืนหยัดอย่างมั่นคงอยู่บนฐานความรู้ที่สั่งสมและส่งผ่านมานับพันปี ไม่ใช่ว่าแต่ละคนจะเกิดขึ้นมาแล้วรู้ทุกอย่างได้เองโดยไม่ต้องเรียน หรือความรู้จะผุดโผล่ออกมาเองได้จากอากาศธาตุ . ด้วยกระบวนการส่งต่อความรู้เช่นนี้นี่เอง จากวันที่มนุษย์มีภาษาและประสานงานกันล่าแมมมอธ มาถึงวันนี้มนุษย์สามารถประดิษฐ์ควอนตัมคอมพิวเตอร์ได้ ด้วยสรรพความรู้ที่สั่งสมสั่งสอนกันมาเรื่อยๆ นับพันปี โลกจึงก่อเกิดเป็นศาสตร์วิทยาการมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้นผมจึงพูดบ่อยๆ กับนักเรียนของผมว่า การสอน การถ่ายทอดความรู้ ที่จริงไม่ใช่คุณธรรมอันยิ่งใหญ่อันใด แต่เป็นหน้าที่ของมนุษย์อย่างหนึ่งที่จะต้องกระทำด้วยความใส่ใจยิ่ง แม้ท่านมิได้มีอาชีพเป็นครูโดยตรง ท่านก็ควรจะมีคุณสมบัติอันมีประโยชน์บางอย่างที่สั่งสมมาพอจะสอนได้ อย่างน้อยก็คือการอบรมบุตรหลานให้เป็นมนุษย์ที่มีคุณภาพแก่โลก ภาระนี้จะทำให้มนุษย์ยังคงก้าวหน้าพัฒนาต่อไป ทั้งด้านความรู้ สติปัญญา และระดับของจิตใจ . จริงอยู่ที่ความแก่ ความเก่า เป็นสภาวะทางสังขารอันไม่เที่ยงแท้ แต่คนฉลาดอย่างเช่นไอน์สไตน์ แม้เมื่อชราลงจนอาจไม่มีแรงก้าวเดิน เขาก็จะเสียชีวิตลงในขณะที่ความเฉลียวฉลาดของเขายังคงอยู่กับเขาจนวินาทีสุดท้าย คนแก่ ไม่ได้แปลว่า คนโง่ เช่นเดียวกับ คนหนุ่ม ไม่ได้แปลว่า ฉลาด โบราณว่า ขิงแก่ย่อมเผ็ดร้อน ฉันใดฉันนั้น . บรรดาวิทยาการสมัยใหม่ที่พวกท่านได้เสพได้ใช้ได้ปรนเปรอในวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าสร้างมาจากการถากถางค้นพบของคนรุ่นก่อนท่านทั้งนั้น ลองนึกดูว่า หากท่านไปเกิดอยู่บนเกาะร้างสักแห่งที่ไม่มีใครให้ความรู้ ท่านจะเติบโตพัฒนาขึ้นมาจนกลายเป็นศิลปินหรือผู้มีชื่อเสียงได้หรือไม่ ตัวท่านเองนอกจากต้องสำนึกแล้ว ก็จะต้องถามตัวเองด้วยว่า ท่านจะพึงกระทำหน้าที่ของมนุษย์ในการจะส่งความรู้ให้รุ่นต่อไปหรือไม่ และได้ทำคุณประโยชน์ใดให้แก่มนุษย์รุ่นต่อจากท่านบ้าง ท่านได้ต่อยอดความรู้นับพันปีที่ได้งอกเงยอยู่ในตัวท่านอย่างไร เพื่อที่ว่าวันนึงเมื่อท่านกลายเป็น คนแก่อีกคนหนึ่ง คนรุ่นใหม่จะได้รำลึกถึงท่านในคุณูปการที่ท่านได้ฝากไว้แก่โลกนี้ . .
    0 Comments 0 Shares 562 Views 0 Reviews
  • 10-05-68/01 : หมี CNN / "หมีงับ" EP.2(เวลา 18.45 น.) อียิวกรี๊ดสนั่น! ฮูตีฉลองวันแห่งชัยชนะ ถล่มยับฐานทัพ คลังแสง สนามบิน เละเป็นโจ๊ก ชุดใหญ่ไฟกระพริบไม่ปรึกษาใคร อียิวโวย..เล่นทีเผลอเหรอจ๊ะ? ทั้งขีปนาวุธร่อน โดรนพิฆาตที่รัก มาเยี่ยมเยรูซาเล็มถี่ยิบ ข่าวไม่ตี แต่ดาหน้าถล่ม 30 ครั้งใน 2 สัปดาห์แล้วมรึง อ่วมอรทัย สงครามปิดปาก เห่าไปก็เสียหมา ยาย่าตูเร่ เฮ๊ย..ขำกลิ้ง ออกสื่อคุยโว ของจริง โดนสอยตูด อีเนรคุณ เอาส้นตรีนก่ายหน้าแล้ว(ถึงเหรอ?) สรุป 9 พฤษภาคม วันแห่งชัยชนะของขั้วใหม่ โดยสัญลักษณ์ มันหมดยุค "WWII" ไปนานแล้ว วันนี้แหละ ที่กูบุกถล่มมรึง ไม่ทันตั้งตัว ใครบอกว่ากูจะตั้งรับ เหี้ย..งง เป็นไก่ตาแตก!

    หลังวันที่ 9 ทุกอย่างกลับตาลปัตร อีทรัมปป์หมอบแล้ว สั่งถอย อีแขกภาระตะเละเป็นโจ๊ก เจออาวุธจีน อิหร่าน สอยมะม่วง ร่วงระนาว อ้าว..มั่นในตะวันตกมิใช่เหรอ? ทำไม กระจอกจังฟ่ะเนี่ย? กองทัพปากี ไม่ได้กล่าว? ศึกยกแรก จีน-อิหร่าน ชนะใส อาวุธกระจอกยุโรป สหรัฐ ที่มาว่าทำไม อีแขกถึงได้งัด S-400 ของรัสเซียมาสกัดกั้น มันเร็วไปมั้ย? ไม่ทันไร จะใช้ของแข็งเลยเหรอ? บอกตรง ลุยกันมา 4 วันแล้ว ตายแค่ 50 มันใช่เหรอ? ไหนบอก "สงครามแคชเมียร์" กูว่าตอแหล แค่เรียกเรตติ้ง เพื่อเปิดโต๊ะเจรจา ทำเพื่อปั่นอะไรล่ะ? โปรดสังเกตุ อาเซียนเริ่มระอุ ตามด้วยมหาสมุทรอินเดีย ส่งสัญญานศึกแปซิฟิคต้องเริ่ม จีนอ่านขาด วางเกาะสแปรดลี่ย์ ไว้รอต้อนรับ ที่มาว่าทำไมยึดและตั้งหมู่เกาะสแปรดลี่ยขึ้นเมื่อ 2014 เพื่อการณ์นี้

    อีทรัมปป์หมาไปแล้ว ยอมแล้วจ๋า จาก 150% เหลือ 80% ก็ได้เอามั้ย? เจอจีนสวนกลับเงิบแดร๊ก 0% กูก็ไม่ส่ง มรึงจะเอาเหี้ยอะไรแดร๊กล่ะ? เกิดภาวะของขาดทั่วประเทศสหรัฐ มีเงินก็ไม่มีแดร๊ก ชั้นสินค้าว่างโบ๋วว ผู้คนเริ่มตุนอาหารกันหนัก เมื่อจีนไม่ส่ง หลายชาติที่หมั่นไส้อเมริกา ก็ไม่ส่งตาม จะไปบีบเค้า เจอเค้าบีบไข่กลับ จุกและอายมั้ยล่ะเพ่? CIVIL WAR แม้จะมา แต่ก็ไร้ประโยชน์ หากโลกไม่กระโดดเข้าร่วมสงครามล้างหนี้ ที่อียิวมันคิดเอาไว้ล่วงหน้า ทุกอย่างคือ "ฉิบหายหนัก" ขั้วใหม่ เค้าอ่านมรึงออกจนทะลุตับไตไส้พุงหมดแล้ว จีนถือไพ่เหนือกว่าเยอะ ผู้ผลิตจ๊ะ!

    FC ชั้น 14 เฮ! พยานลับ หมอ 3 ปาก ถูกกันตัวเป็นพยาน ชี้ไอ้ตัวคนสั่ง อีกรมคุก ดิ้น เตรียมโบ้ยให้หมอ ถูกสวนกลับ อำนาจโยกย้าย สั่งขัง อยู่ที่มรึง ไม่ใช่กู ดีออก? FC ผีอีโม เฮต่ออีกชั้น คายหมดเปลือก อีเสี่ยจนด้วยพยาน หลักฐานมัดจนแถไม่ออก สารภาพเกลี้ยง DSI ยังนิ่ง รอเหี้ยตัวสั่งการดิ้นก่อน แผลจะเปิดหมดเอง 5 ตัวบนเรือ โดนหมด แต่อีตุ๊ด กับอีร่านขายเพื่อน โดนหนักสุด พยานชี้เป้า แก้ไข ทำลายหลักฐาน 3 ข้อหาหนักสุด สมรู้ร่วมคิด สาวไส้ไปถึงกรมกากี อีปทุมวันดิ้น ตัวใครตัวมัน ทุกอย่างมันมีจุดจบ นอนคุกกันหมดทั้งกะปิ คายเมื่อไหร่ โทษเบา ไม่คาย ตายในคุก

    อียุ่นปี่สายยิวเหี้ยไซออนนิสต์ เตรียมเทดอลล่าร์ทิ้ง ส่งผลโดยตรง ดอลล่าร์ร่วงไร้เพดานต้าน แผนเด็ดหัวอีทรัมปป์ จากอียิว CITY OF LONDON ก็อาจจะกระทบไปด้วย เพราะปุกกับดอลล่าร์เช่นกัน ทั้ง 3 สกุลเงินหลักโลกยุคเก่า กำลังจะตายหมู่ ทั้งดอลล่าร์ ปอนด์ ยูโร ที่มาว่าทำไม ต้อง WWIII เท่านั้น ไม่ชนะ ก็ล่มสลาย อียุ่นปี่หวังเอาตัวรอด แต่จีนก็นิ่งเป็น รอกระทืบซ้ำ เยนตกต่ำมาหลายปี อาจจะพุ่งจนเงินเยนแข็งโป๊ก ส่งผลเสียต่อสินค้าส่งออก จีนไม่ปล่อยโอกาสทองดอก หยวนยิ่งอ่อนยิ่งดี กำลังซื้อยิ่งมาก ไม่กลัวค่าเงินตก แต่กลัวขายไม่ออกมากกว่า หยวนขึ้นมาเทียบกับดอลล่าร์แล้วนาทีนี้ ปล่อยไม่ทันก็ตาย ทั่วโลกถึงได้รีบเทหนัก จนกระแสเงินโลกเปลี่ยนมือ หยวน ไทยบาท รูเบิล กำลังจะกลายเป็นเงินสกุลหลักโลกในไม่ช้านี้

    ไอ้สัส! ทหารรับจ้างทั้งโลก แห่เข้าสมัครกองทัพรัสเซีย ผ่าน WAGNER เชเชน แล้วแต่สายไหน สายสลาฟ หรือสายมุสลิม หลังวันที่ 9 วันแห่งชัยชนะ ทั่วโลกช็อค! เห็นเป็นประจักษ์ แสนยานุภาพเบอร์ 1 โลกตัวจริง ปูตินทุ่มไม่อั้น จ่ายแหลก ครอบครัวทหารเสียชีวิตในยูเครน กำลังใจมาเต็มตรีน ทหารอียูเครนย้ายขั้วกันหมด ไม่รับนีโอนาซี แอบตีเนียนเข้ามา สอยเงียบสิจ๊ะ เตรียมประกาศรับรองรัฐใหม่อีกแล้ว ยึดเพลินไปหน่อย แทบจะเกลี้ยงแล้วมรึง?

    ข้ามวิกแป๊บ กูไมใช่ติ่งลุงตู่ กูติ่งราชวงศ์จักรีจ๊ะ ดังนั้น พูดตรงไม่ต้องเกรงใจใคร มองให้เป็นธรรม และมองเป็นกลางน่ะ ตอนแรก กูไม่เห็นด้วยดอกที่ 3 เพ่น้องวางแผนเอาอีเหลี่ยมกลับมา แต่พอมานั่งคิดทบทวน และไตร่ตรองด้วยสติปัญญาแล้ว เอากลับมา ถึงจะถูก 1.ดำรงกฎหมายไทย คงอำนาจบังลังก์ศาลไทย 2.อยู่ใต้กฎหมายไทย ควบคุมง่ายกว่า อยู่นอกอธิปไตย 3.จังหวะเวลาลงตัว 14 ล้านเสียงควายยกให้ ขึ้นมาดันลูกสาวร่านนั่งบังลังก์ นั่นคือกับดัก 4.ไม่มีโจทย์ ก็ไม่มีคดี ชั้น 14 แล้วจะล้างบางเหี้ยทั้งขบวนการอย่างไร? 5.รัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ โดยปริยาย จากคำสั่งศาล มันจะครบองค์ประชุมได้ จำเลยต้องปรากฎตัวเท่านั้น เมื่อมองดูย้อนกลับไป แลเห็นว่า แผ่นดินได้ประโยชน์มากกว่าอีเหลี่ยมไม่กลับมา ยิ่งตอนนี้ จะบีบก็ตาย จะคายก็รอด ยิ่งเข้าใจว่า ทหารเค้าเล่นเกมส์อะไรอยู่? ทุกอย่างคือภาพมายา

    ปล.55 สว. ถูกเรียกตัวฮั้วเลือก จัดตั้ง ทั้งหมด คือภาพสะท้อน การเมืองไทย ระบบมันเน่าใน ปูพื้นสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ กลับคืนสู่จิตวิญญานอโยธยาที่เคยเป็นมา ไม่มีนักการเมืองหน้าไหนไม่โกง ไม่กิน ไม่เหี้ย เพราะขึ้นขื่อว่าพรรค ต้องใช้เงิน ต้องมีนายทุน ต่างตอบแทน แล้วทำไมต้องจ่ายนายทุนล่ะ ในเมื่อเรามีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นผู้กำหนดชะตาแผ่นดินอยู่แล้ว ผู้รับใช้ ซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ ถึงได้ถูกเลือก เมื่อมาทำหน้าที่ ก็ไม่จำเป็นต้องโกง เพราะไม่ได้เดือดร้อนอะไร? แล้วมรึงยังจะเอาเสือหัวเข้ามาทำห่าอะไรอีกล่ะ? เมื่อไร้คอรัปชั่น เงินภาษีทุกบ้าน เข้ารัฐเต็มเม็ดเต็มหน่วย การบริหารจัดการ โปร่งใส ไม่ต้องยัดใต้โต๊ะเหมือนที่ผ่านมา ก็ยิ่งมีกิน มีใช้ เหลือเก็บมากยิ่งขึ้น จะสส. สว. หรือฝ่ายการเมืองใดก็ตาม มันไม่ทำหน้าที่เพื่อปากท้องชาวบ้าน แต่มันออกกฎหมายเพื่ออำนวยผู้จ้างต่างหากล่ะ มันผิดตั้งแต่เริ่ม แล้วมรึงยังจะหวังปชต.ตอแหลต่ออีกเหรอ? ดวงตาเห็นธรรม มรึงจะอยากได้แบบสภาดูม่า พรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่บริหาร กฎหมายแรง และเอาจริง ส่วนรวมมาก่อน ส่วนตัวมาทีหลัง แผ่นดินกำลังจะผลัดใบ ยังจะมีละครฉากใหญ่ให้ดูอีกเยอะ ไม่ต้องรีบด่า เพราะเสียงโหยหวนจากเปรต จะดังไปทั่วสภาเดรัจฉาน มรึงจะเห็นเอง

    (อัพเดท 1) การเจาะไข่แดงเยรูซาเล็ม ด้วยขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค ที่แม่แต่เยเมน โดยฮูตี ยังทะลุทะลวงไอรอน โดม ระบบป้องกันภัายที่ดีที่สุดของยิวได้ ทั้งๆ ที่มันมีระบบป้องกันถึง 5 ชั้น ผ่านฉลุย แปลว่าอะไร? ไม่ว่ามรึงจะยิงอะไร ขั้วใหม่สกัดได้หมด เพราะไวกว่ามรึง และไม่ว่าเค้าจะยิงอะไรใส่มรึง มรึงจะหนีไม่พ้น โดนหมดทุกดอก แม่นยำเกินเหตุ ดังนั้น สงครามนุ๊ก หากมา คือปิดเกมส์ทันที เพราะมรึงจะสูญเสียใหญ่แบบไม่คาดคิด ชนิดล่มสลาย สิ้นชาติชัวร์ มันถึงได้เกิดสูญญากาศตอนนี้ ขนาดไอ้อียุโรป ระบบป้องกัยภัยทางอากาศยังห่วยกว่านี้ แล้วมรึงยังจะไปท้าสู้หัวหมู่ทะลวงฟันอย่างเยเมน คือหมูวิ่งชนปังตอนั่นเอง

    ฉิบหายหนักกว่าเก่า เมื่อจีน-รัสเซีย ประกาศจับมือล่อการค้าเหี้ยกลับ กำแพงภาษีมรึงใช้กับกูไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรเลย ที่กูจำเป็นต้องพึ่งพามรึง กูหาเองได้หมด ผลิตเอง ส่งออกอีกต่างหาก แปลว่า ทั้งแร่หายาก ยูเรเนียม ทองคำ น้ำมัน แก็ส สินค้าจำเป็น แม้แต่ต้นทางผลิตชิป มรึงจะไปหาจากที่ไหน? ขั้วเก่ามันแพ้ตั้งแต่ต้นแล้ว ที่คิดจะใช้ยูเครนเปิดศึกล้มรัสเซีย หมากที่อ่อนหัด และไม่ได้มีแผนรองรับเลย ของจริง หนังคนละม้วน แถมพากันตายทั้ง NATO EU หมายกชุด อเมริกาตาย มันจะลากยุโรปตายห่าไปพร้อมกัน เพราะมันจ้องช้อนซื้อให้อียิวไงล่ะ สุดท้าย เหี้ยแดร๊กกันเอง กินกันเอง น่าสมเพช!

    อะไรน่ะ! ไอเดียชั้นหมา EU จะตั้งศาลเตี้ย ไล่ล่าปูตินมารับโทษ ถามคำเดียว ทุกวันนี้ ใครมีปัญญาล้มรัสเซียได้บ้าง ใครยังแบมือขอพลังงานอยู่ จัดฉากหลอกควายไม่เนียน มุกระดับการ์ตูนเล่มละบาท ปูตินบอก มรึงต่างหากล่ะ ที่กูจะไล่จับไอ้อีทีละตัวขึ้นศาลทหารมอสโคว์ นายพลพวกมรึงทั้งนั้น นับ 100 อยู่ในสวนสัตว์กูเนี่ย? ใครจะตัดสินใครกันแน่..ไอ้สัส? เมากาวเหรอจ๊ะ

    ปั่นอีกดิ? มุกเดิมๆ อะไรน่ะ "นุ๊กมา" อีแขก-ปากี จะซัดใส่กัน เอาเลย ทำเลย ทำตอนนี้่เลย กูท้า? หากมันจะใช้จริง มันใช้ไปนานแล้ว นุ๊กใครก็มี ผู้ชนะคือผู้ที่สกัดนุ๊กศัตรูได้ต่างหาก อีแขกมันมั่นใจ เพราะมี S-400 แต่คำถามคือ มันสกัดได้ไม่เกิน 10 เป้าหมาย หากยิงพร้อมกัน 1000 ลูก มรึงต้องมี S-400 ถึง 100 ตัว มีถึงมั้ยล่ะ? บอกตรง ละครปาหี่หลอกควาย ปั่นหุ้น ปั่นพลังงาน ปั่นทองคำ เพราะอีแขก มันมีหมดไงล่ะ ใครจะขายให้มรึง หากไม่ใช่กู? สิ่งเดียวที่อีแขก ได้เปรียบอีปากีคือ รวยกว่า เท่านั้นแหละ? อีปากี มันโง่ หากคบจีน รัสเซีย ป่านนี้ รวยเละเทะแล้ว ส่งออกพลังงานแดร๊กหัวคิว รวยรายวัน ควายเพราะกองทัพมันโง่ เห็นแก่เศษเงิน ไม่ได้มองว่าใครคือผู้ชนะตัวจริง?

    หมี CNN(อะไรน่ะ..มรึงยังจะเอาต่ออีกเหรอ? สั่งอีลูกร่านเผ่นก่อน ยุบสภา หวังจับมืออีส้มเน่ารอบหน้า รวบแดร๊กแผ่นดิน ดูง่ายไปมุย? ทหารเค้าไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดมืออีกแล้ว มรึงจะเลือกเหี้ยอะไรได้อีก ยุบแม่งทุกพรรค ตัดสิทธิ์ยกโคตร นโยบายเป็นภัย แก้รมน.ใหม่ จี้ปมพรรคการเมือง นโยบายเป็นปฎิปักษ์สั่งยุบทันที ใครแตะสถาบันหัวขาด ใครแยกดินแดน หัวกระจุย ใครล่ะ ที่จะทำได้ "กองทัพไงล่ะ" ล้างแผ่นดิน จะเร่งรีบไม่ได้ ไม่ต้องมีใครตาย จะมีแค่คนเผ่นเท่านั้น คือจบ)
    10 พฤษภาคม 68(หลังวันแสดงแสนยานุภาพขั้วใหม่ โลกประจักษ์แล้ว)
    15.15 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    10-05-68/01 : หมี CNN / "หมีงับ" EP.2(เวลา 18.45 น.) อียิวกรี๊ดสนั่น! ฮูตีฉลองวันแห่งชัยชนะ ถล่มยับฐานทัพ คลังแสง สนามบิน เละเป็นโจ๊ก ชุดใหญ่ไฟกระพริบไม่ปรึกษาใคร อียิวโวย..เล่นทีเผลอเหรอจ๊ะ? ทั้งขีปนาวุธร่อน โดรนพิฆาตที่รัก มาเยี่ยมเยรูซาเล็มถี่ยิบ ข่าวไม่ตี แต่ดาหน้าถล่ม 30 ครั้งใน 2 สัปดาห์แล้วมรึง อ่วมอรทัย สงครามปิดปาก เห่าไปก็เสียหมา ยาย่าตูเร่ เฮ๊ย..ขำกลิ้ง ออกสื่อคุยโว ของจริง โดนสอยตูด อีเนรคุณ เอาส้นตรีนก่ายหน้าแล้ว(ถึงเหรอ?) สรุป 9 พฤษภาคม วันแห่งชัยชนะของขั้วใหม่ โดยสัญลักษณ์ มันหมดยุค "WWII" ไปนานแล้ว วันนี้แหละ ที่กูบุกถล่มมรึง ไม่ทันตั้งตัว ใครบอกว่ากูจะตั้งรับ เหี้ย..งง เป็นไก่ตาแตก! หลังวันที่ 9 ทุกอย่างกลับตาลปัตร อีทรัมปป์หมอบแล้ว สั่งถอย อีแขกภาระตะเละเป็นโจ๊ก เจออาวุธจีน อิหร่าน สอยมะม่วง ร่วงระนาว อ้าว..มั่นในตะวันตกมิใช่เหรอ? ทำไม กระจอกจังฟ่ะเนี่ย? กองทัพปากี ไม่ได้กล่าว? ศึกยกแรก จีน-อิหร่าน ชนะใส อาวุธกระจอกยุโรป สหรัฐ ที่มาว่าทำไม อีแขกถึงได้งัด S-400 ของรัสเซียมาสกัดกั้น มันเร็วไปมั้ย? ไม่ทันไร จะใช้ของแข็งเลยเหรอ? บอกตรง ลุยกันมา 4 วันแล้ว ตายแค่ 50 มันใช่เหรอ? ไหนบอก "สงครามแคชเมียร์" กูว่าตอแหล แค่เรียกเรตติ้ง เพื่อเปิดโต๊ะเจรจา ทำเพื่อปั่นอะไรล่ะ? โปรดสังเกตุ อาเซียนเริ่มระอุ ตามด้วยมหาสมุทรอินเดีย ส่งสัญญานศึกแปซิฟิคต้องเริ่ม จีนอ่านขาด วางเกาะสแปรดลี่ย์ ไว้รอต้อนรับ ที่มาว่าทำไมยึดและตั้งหมู่เกาะสแปรดลี่ยขึ้นเมื่อ 2014 เพื่อการณ์นี้ อีทรัมปป์หมาไปแล้ว ยอมแล้วจ๋า จาก 150% เหลือ 80% ก็ได้เอามั้ย? เจอจีนสวนกลับเงิบแดร๊ก 0% กูก็ไม่ส่ง มรึงจะเอาเหี้ยอะไรแดร๊กล่ะ? เกิดภาวะของขาดทั่วประเทศสหรัฐ มีเงินก็ไม่มีแดร๊ก ชั้นสินค้าว่างโบ๋วว ผู้คนเริ่มตุนอาหารกันหนัก เมื่อจีนไม่ส่ง หลายชาติที่หมั่นไส้อเมริกา ก็ไม่ส่งตาม จะไปบีบเค้า เจอเค้าบีบไข่กลับ จุกและอายมั้ยล่ะเพ่? CIVIL WAR แม้จะมา แต่ก็ไร้ประโยชน์ หากโลกไม่กระโดดเข้าร่วมสงครามล้างหนี้ ที่อียิวมันคิดเอาไว้ล่วงหน้า ทุกอย่างคือ "ฉิบหายหนัก" ขั้วใหม่ เค้าอ่านมรึงออกจนทะลุตับไตไส้พุงหมดแล้ว จีนถือไพ่เหนือกว่าเยอะ ผู้ผลิตจ๊ะ! FC ชั้น 14 เฮ! พยานลับ หมอ 3 ปาก ถูกกันตัวเป็นพยาน ชี้ไอ้ตัวคนสั่ง อีกรมคุก ดิ้น เตรียมโบ้ยให้หมอ ถูกสวนกลับ อำนาจโยกย้าย สั่งขัง อยู่ที่มรึง ไม่ใช่กู ดีออก? FC ผีอีโม เฮต่ออีกชั้น คายหมดเปลือก อีเสี่ยจนด้วยพยาน หลักฐานมัดจนแถไม่ออก สารภาพเกลี้ยง DSI ยังนิ่ง รอเหี้ยตัวสั่งการดิ้นก่อน แผลจะเปิดหมดเอง 5 ตัวบนเรือ โดนหมด แต่อีตุ๊ด กับอีร่านขายเพื่อน โดนหนักสุด พยานชี้เป้า แก้ไข ทำลายหลักฐาน 3 ข้อหาหนักสุด สมรู้ร่วมคิด สาวไส้ไปถึงกรมกากี อีปทุมวันดิ้น ตัวใครตัวมัน ทุกอย่างมันมีจุดจบ นอนคุกกันหมดทั้งกะปิ คายเมื่อไหร่ โทษเบา ไม่คาย ตายในคุก อียุ่นปี่สายยิวเหี้ยไซออนนิสต์ เตรียมเทดอลล่าร์ทิ้ง ส่งผลโดยตรง ดอลล่าร์ร่วงไร้เพดานต้าน แผนเด็ดหัวอีทรัมปป์ จากอียิว CITY OF LONDON ก็อาจจะกระทบไปด้วย เพราะปุกกับดอลล่าร์เช่นกัน ทั้ง 3 สกุลเงินหลักโลกยุคเก่า กำลังจะตายหมู่ ทั้งดอลล่าร์ ปอนด์ ยูโร ที่มาว่าทำไม ต้อง WWIII เท่านั้น ไม่ชนะ ก็ล่มสลาย อียุ่นปี่หวังเอาตัวรอด แต่จีนก็นิ่งเป็น รอกระทืบซ้ำ เยนตกต่ำมาหลายปี อาจจะพุ่งจนเงินเยนแข็งโป๊ก ส่งผลเสียต่อสินค้าส่งออก จีนไม่ปล่อยโอกาสทองดอก หยวนยิ่งอ่อนยิ่งดี กำลังซื้อยิ่งมาก ไม่กลัวค่าเงินตก แต่กลัวขายไม่ออกมากกว่า หยวนขึ้นมาเทียบกับดอลล่าร์แล้วนาทีนี้ ปล่อยไม่ทันก็ตาย ทั่วโลกถึงได้รีบเทหนัก จนกระแสเงินโลกเปลี่ยนมือ หยวน ไทยบาท รูเบิล กำลังจะกลายเป็นเงินสกุลหลักโลกในไม่ช้านี้ ไอ้สัส! ทหารรับจ้างทั้งโลก แห่เข้าสมัครกองทัพรัสเซีย ผ่าน WAGNER เชเชน แล้วแต่สายไหน สายสลาฟ หรือสายมุสลิม หลังวันที่ 9 วันแห่งชัยชนะ ทั่วโลกช็อค! เห็นเป็นประจักษ์ แสนยานุภาพเบอร์ 1 โลกตัวจริง ปูตินทุ่มไม่อั้น จ่ายแหลก ครอบครัวทหารเสียชีวิตในยูเครน กำลังใจมาเต็มตรีน ทหารอียูเครนย้ายขั้วกันหมด ไม่รับนีโอนาซี แอบตีเนียนเข้ามา สอยเงียบสิจ๊ะ เตรียมประกาศรับรองรัฐใหม่อีกแล้ว ยึดเพลินไปหน่อย แทบจะเกลี้ยงแล้วมรึง? ข้ามวิกแป๊บ กูไมใช่ติ่งลุงตู่ กูติ่งราชวงศ์จักรีจ๊ะ ดังนั้น พูดตรงไม่ต้องเกรงใจใคร มองให้เป็นธรรม และมองเป็นกลางน่ะ ตอนแรก กูไม่เห็นด้วยดอกที่ 3 เพ่น้องวางแผนเอาอีเหลี่ยมกลับมา แต่พอมานั่งคิดทบทวน และไตร่ตรองด้วยสติปัญญาแล้ว เอากลับมา ถึงจะถูก 1.ดำรงกฎหมายไทย คงอำนาจบังลังก์ศาลไทย 2.อยู่ใต้กฎหมายไทย ควบคุมง่ายกว่า อยู่นอกอธิปไตย 3.จังหวะเวลาลงตัว 14 ล้านเสียงควายยกให้ ขึ้นมาดันลูกสาวร่านนั่งบังลังก์ นั่นคือกับดัก 4.ไม่มีโจทย์ ก็ไม่มีคดี ชั้น 14 แล้วจะล้างบางเหี้ยทั้งขบวนการอย่างไร? 5.รัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ โดยปริยาย จากคำสั่งศาล มันจะครบองค์ประชุมได้ จำเลยต้องปรากฎตัวเท่านั้น เมื่อมองดูย้อนกลับไป แลเห็นว่า แผ่นดินได้ประโยชน์มากกว่าอีเหลี่ยมไม่กลับมา ยิ่งตอนนี้ จะบีบก็ตาย จะคายก็รอด ยิ่งเข้าใจว่า ทหารเค้าเล่นเกมส์อะไรอยู่? ทุกอย่างคือภาพมายา ปล.55 สว. ถูกเรียกตัวฮั้วเลือก จัดตั้ง ทั้งหมด คือภาพสะท้อน การเมืองไทย ระบบมันเน่าใน ปูพื้นสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ กลับคืนสู่จิตวิญญานอโยธยาที่เคยเป็นมา ไม่มีนักการเมืองหน้าไหนไม่โกง ไม่กิน ไม่เหี้ย เพราะขึ้นขื่อว่าพรรค ต้องใช้เงิน ต้องมีนายทุน ต่างตอบแทน แล้วทำไมต้องจ่ายนายทุนล่ะ ในเมื่อเรามีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นผู้กำหนดชะตาแผ่นดินอยู่แล้ว ผู้รับใช้ ซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ ถึงได้ถูกเลือก เมื่อมาทำหน้าที่ ก็ไม่จำเป็นต้องโกง เพราะไม่ได้เดือดร้อนอะไร? แล้วมรึงยังจะเอาเสือหัวเข้ามาทำห่าอะไรอีกล่ะ? เมื่อไร้คอรัปชั่น เงินภาษีทุกบ้าน เข้ารัฐเต็มเม็ดเต็มหน่วย การบริหารจัดการ โปร่งใส ไม่ต้องยัดใต้โต๊ะเหมือนที่ผ่านมา ก็ยิ่งมีกิน มีใช้ เหลือเก็บมากยิ่งขึ้น จะสส. สว. หรือฝ่ายการเมืองใดก็ตาม มันไม่ทำหน้าที่เพื่อปากท้องชาวบ้าน แต่มันออกกฎหมายเพื่ออำนวยผู้จ้างต่างหากล่ะ มันผิดตั้งแต่เริ่ม แล้วมรึงยังจะหวังปชต.ตอแหลต่ออีกเหรอ? ดวงตาเห็นธรรม มรึงจะอยากได้แบบสภาดูม่า พรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่บริหาร กฎหมายแรง และเอาจริง ส่วนรวมมาก่อน ส่วนตัวมาทีหลัง แผ่นดินกำลังจะผลัดใบ ยังจะมีละครฉากใหญ่ให้ดูอีกเยอะ ไม่ต้องรีบด่า เพราะเสียงโหยหวนจากเปรต จะดังไปทั่วสภาเดรัจฉาน มรึงจะเห็นเอง (อัพเดท 1) การเจาะไข่แดงเยรูซาเล็ม ด้วยขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิค ที่แม่แต่เยเมน โดยฮูตี ยังทะลุทะลวงไอรอน โดม ระบบป้องกันภัายที่ดีที่สุดของยิวได้ ทั้งๆ ที่มันมีระบบป้องกันถึง 5 ชั้น ผ่านฉลุย แปลว่าอะไร? ไม่ว่ามรึงจะยิงอะไร ขั้วใหม่สกัดได้หมด เพราะไวกว่ามรึง และไม่ว่าเค้าจะยิงอะไรใส่มรึง มรึงจะหนีไม่พ้น โดนหมดทุกดอก แม่นยำเกินเหตุ ดังนั้น สงครามนุ๊ก หากมา คือปิดเกมส์ทันที เพราะมรึงจะสูญเสียใหญ่แบบไม่คาดคิด ชนิดล่มสลาย สิ้นชาติชัวร์ มันถึงได้เกิดสูญญากาศตอนนี้ ขนาดไอ้อียุโรป ระบบป้องกัยภัยทางอากาศยังห่วยกว่านี้ แล้วมรึงยังจะไปท้าสู้หัวหมู่ทะลวงฟันอย่างเยเมน คือหมูวิ่งชนปังตอนั่นเอง ฉิบหายหนักกว่าเก่า เมื่อจีน-รัสเซีย ประกาศจับมือล่อการค้าเหี้ยกลับ กำแพงภาษีมรึงใช้กับกูไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรเลย ที่กูจำเป็นต้องพึ่งพามรึง กูหาเองได้หมด ผลิตเอง ส่งออกอีกต่างหาก แปลว่า ทั้งแร่หายาก ยูเรเนียม ทองคำ น้ำมัน แก็ส สินค้าจำเป็น แม้แต่ต้นทางผลิตชิป มรึงจะไปหาจากที่ไหน? ขั้วเก่ามันแพ้ตั้งแต่ต้นแล้ว ที่คิดจะใช้ยูเครนเปิดศึกล้มรัสเซีย หมากที่อ่อนหัด และไม่ได้มีแผนรองรับเลย ของจริง หนังคนละม้วน แถมพากันตายทั้ง NATO EU หมายกชุด อเมริกาตาย มันจะลากยุโรปตายห่าไปพร้อมกัน เพราะมันจ้องช้อนซื้อให้อียิวไงล่ะ สุดท้าย เหี้ยแดร๊กกันเอง กินกันเอง น่าสมเพช! อะไรน่ะ! ไอเดียชั้นหมา EU จะตั้งศาลเตี้ย ไล่ล่าปูตินมารับโทษ ถามคำเดียว ทุกวันนี้ ใครมีปัญญาล้มรัสเซียได้บ้าง ใครยังแบมือขอพลังงานอยู่ จัดฉากหลอกควายไม่เนียน มุกระดับการ์ตูนเล่มละบาท ปูตินบอก มรึงต่างหากล่ะ ที่กูจะไล่จับไอ้อีทีละตัวขึ้นศาลทหารมอสโคว์ นายพลพวกมรึงทั้งนั้น นับ 100 อยู่ในสวนสัตว์กูเนี่ย? ใครจะตัดสินใครกันแน่..ไอ้สัส? เมากาวเหรอจ๊ะ ปั่นอีกดิ? มุกเดิมๆ อะไรน่ะ "นุ๊กมา" อีแขก-ปากี จะซัดใส่กัน เอาเลย ทำเลย ทำตอนนี้่เลย กูท้า? หากมันจะใช้จริง มันใช้ไปนานแล้ว นุ๊กใครก็มี ผู้ชนะคือผู้ที่สกัดนุ๊กศัตรูได้ต่างหาก อีแขกมันมั่นใจ เพราะมี S-400 แต่คำถามคือ มันสกัดได้ไม่เกิน 10 เป้าหมาย หากยิงพร้อมกัน 1000 ลูก มรึงต้องมี S-400 ถึง 100 ตัว มีถึงมั้ยล่ะ? บอกตรง ละครปาหี่หลอกควาย ปั่นหุ้น ปั่นพลังงาน ปั่นทองคำ เพราะอีแขก มันมีหมดไงล่ะ ใครจะขายให้มรึง หากไม่ใช่กู? สิ่งเดียวที่อีแขก ได้เปรียบอีปากีคือ รวยกว่า เท่านั้นแหละ? อีปากี มันโง่ หากคบจีน รัสเซีย ป่านนี้ รวยเละเทะแล้ว ส่งออกพลังงานแดร๊กหัวคิว รวยรายวัน ควายเพราะกองทัพมันโง่ เห็นแก่เศษเงิน ไม่ได้มองว่าใครคือผู้ชนะตัวจริง? หมี CNN(อะไรน่ะ..มรึงยังจะเอาต่ออีกเหรอ? สั่งอีลูกร่านเผ่นก่อน ยุบสภา หวังจับมืออีส้มเน่ารอบหน้า รวบแดร๊กแผ่นดิน ดูง่ายไปมุย? ทหารเค้าไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดมืออีกแล้ว มรึงจะเลือกเหี้ยอะไรได้อีก ยุบแม่งทุกพรรค ตัดสิทธิ์ยกโคตร นโยบายเป็นภัย แก้รมน.ใหม่ จี้ปมพรรคการเมือง นโยบายเป็นปฎิปักษ์สั่งยุบทันที ใครแตะสถาบันหัวขาด ใครแยกดินแดน หัวกระจุย ใครล่ะ ที่จะทำได้ "กองทัพไงล่ะ" ล้างแผ่นดิน จะเร่งรีบไม่ได้ ไม่ต้องมีใครตาย จะมีแค่คนเผ่นเท่านั้น คือจบ) 10 พฤษภาคม 68(หลังวันแสดงแสนยานุภาพขั้วใหม่ โลกประจักษ์แล้ว) 15.15 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 Comments 0 Shares 862 Views 0 Reviews
  • 👍ถ้าการออกกำลังทำเป็นยาได้ มันจะเป็นยาที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา📌

    การออกกำลังกาย สามารถป้องกันโรคได้ ท้้ง 3 ระดับ ครับ

    👉Primary Prevention – ป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค

    👇Secondary Prevention – ป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม

    👉Tertiary Prevention – ฟื้นฟูหลังเป็นโรค ไม่ให้ทรุดลง

    📌แต่ละ โรค มีข้อแนะนำการออกกำลังกายที่แตกต่างกันในรายละเอียด สรุปสั้นๆ

    1. 🦴 ข้อเสื่อม (Arthritis)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินช้า | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏊‍♂️ว่ายน้ำ | 🏋️‍♀️เวทเบา

    เพราะ: ลดแรงกระแทก ลดน้ำหนักตัว เสริมกล้ามเนื้อรอบข้อ ลดอักเสบ

    2. 🎗️ มะเร็ง (Cancer – เต้านม, ลำไส้, ต่อมลูกหมาก)

    ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️ยกเวทเบา | 🍽️ควบคุมอาหาร

    เพราะ: ลดไขมัน ลดฮอร์โมนที่กระตุ้นเซลล์มะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกัน

    3. 🌬️ ถุงลมโป่งพอง (COPD)

    ควรทำ: 🚴‍♂️ปั่นจักรยานเบา | 🏋️‍♀️เวทเบา
    เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ปรับลมหายใจให้มีประสิทธิภาพ
    (ควรออกช่วงที่ใช้ยาขยายหลอดลมหรือมีออกซิเจน)

    4. 🩸 ไตวายเรื้อรัง (Chronic Renal Failure)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️เวทเบา

    เพราะ: ลดความดัน คุมเบาหวาน ลดกล้ามเนื้อลีบ เพิ่มการตอบสนองต่ออินซูลิน

    5. ❤️ หัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure)

    ควรทำ: 🚶เดินช้า | 🏋️‍♂️เวทเบา | 🚴ปั่นจักรยานเบา

    เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูหัวใจ ลดอาการอ่อนแรง

    6. 💓 หลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease)

    ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏋️‍♀️เวทเบา

    เพราะ: ลดไขมัน เพิ่มสมรรถภาพหัวใจ ป้องกันโรคซ้ำ

    7. 🧠 สมองเสื่อม (Dementia)

    ควรทำ: 🚶เดิน | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️‍♀️เวทเบา

    เพราะ: เพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมอง ลดล้ม ชะลอภาวะเสื่อม

    8. ☁️ ซึมเศร้า (Depression)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏃‍♀️วิ่งเบา | 🧘‍♀️โยคะ | 🏋️‍♂️เวท

    เพราะ: กระตุ้นสารแห่งความสุข ลดเครียด เพิ่มการเข้าสังคม

    9. 🦴 กระดูกพรุน (Osteoporosis)

    ควรทำ: 🦘กระโดดเบา ๆ (ถ้าไม่ปวดข้อ) | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวท

    เพราะ: เพิ่มมวลกระดูก เสริมความแข็งแรง ลดความกลัวล้ม

    10. 🦵 หลอดเลือดส่วนปลายตีบ (Peripheral Vascular Disease)

    ควรทำ: เครื่องปั่นจักรยาน ด้วยแขน | 🚶เดินจนปวด แล้วพัก

    เพราะ: กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดขา

    11. 🧠 โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

    ควรทำ: ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวทเบา | 🚶‍♀️เดิน (ถ้าปลอดภัย)

    เพราะ: ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ลดล้ม (ต้องดูแลใกล้ชิด)

    12. 🍬 เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️เวทเบา (วันเว้นวัน)

    เพราะ: คุมน้ำตาล ลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ ใช้กลูโคสดีขึ้น
    (เลี่ยงแรงกระแทกถ้ามีปลายประสาทเสื่อม)

    13. 🦶 เส้นเลือดดำขาไหลเวียนไม่ดี (Venous Insufficiency)

    ควรทำ: 🚶‍♀️เดิน | 🦵ยกขา | 🏋️‍♂️ฝึกกล้ามเนื้อขา

    เพราะ: ช่วยส่งเลือดกลับหัวใจ ลดบวม ลดเสี่ยงอักเสบ
    ❤️❤️❤️

    ดังนั้น ยิ่งมีโรคเยอะ ยิ่งได้ประโยชน์เยอะจากการออกกำลังนะครับ ไม่ใช่ควรอยู่เฉยๆ ไม่กล้าออกกำลัง เพราะยิ่งทำให้สุขภาพไม่ดีและโรคแย่ลงครับ

    การออกกำลังจึงเป็น ยาที่ดีที่สุด อันนึงเลยครับ
    👍ถ้าการออกกำลังทำเป็นยาได้ มันจะเป็นยาที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา📌 การออกกำลังกาย สามารถป้องกันโรคได้ ท้้ง 3 ระดับ ครับ 👉Primary Prevention – ป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค 👇Secondary Prevention – ป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม 👉Tertiary Prevention – ฟื้นฟูหลังเป็นโรค ไม่ให้ทรุดลง 📌แต่ละ โรค มีข้อแนะนำการออกกำลังกายที่แตกต่างกันในรายละเอียด สรุปสั้นๆ 1. 🦴 ข้อเสื่อม (Arthritis) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินช้า | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏊‍♂️ว่ายน้ำ | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: ลดแรงกระแทก ลดน้ำหนักตัว เสริมกล้ามเนื้อรอบข้อ ลดอักเสบ 2. 🎗️ มะเร็ง (Cancer – เต้านม, ลำไส้, ต่อมลูกหมาก) ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️ยกเวทเบา | 🍽️ควบคุมอาหาร เพราะ: ลดไขมัน ลดฮอร์โมนที่กระตุ้นเซลล์มะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกัน 3. 🌬️ ถุงลมโป่งพอง (COPD) ควรทำ: 🚴‍♂️ปั่นจักรยานเบา | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ปรับลมหายใจให้มีประสิทธิภาพ (ควรออกช่วงที่ใช้ยาขยายหลอดลมหรือมีออกซิเจน) 4. 🩸 ไตวายเรื้อรัง (Chronic Renal Failure) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️เวทเบา เพราะ: ลดความดัน คุมเบาหวาน ลดกล้ามเนื้อลีบ เพิ่มการตอบสนองต่ออินซูลิน 5. ❤️ หัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure) ควรทำ: 🚶เดินช้า | 🏋️‍♂️เวทเบา | 🚴ปั่นจักรยานเบา เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูหัวใจ ลดอาการอ่อนแรง 6. 💓 หลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease) ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: ลดไขมัน เพิ่มสมรรถภาพหัวใจ ป้องกันโรคซ้ำ 7. 🧠 สมองเสื่อม (Dementia) ควรทำ: 🚶เดิน | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: เพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมอง ลดล้ม ชะลอภาวะเสื่อม 8. ☁️ ซึมเศร้า (Depression) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏃‍♀️วิ่งเบา | 🧘‍♀️โยคะ | 🏋️‍♂️เวท เพราะ: กระตุ้นสารแห่งความสุข ลดเครียด เพิ่มการเข้าสังคม 9. 🦴 กระดูกพรุน (Osteoporosis) ควรทำ: 🦘กระโดดเบา ๆ (ถ้าไม่ปวดข้อ) | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวท เพราะ: เพิ่มมวลกระดูก เสริมความแข็งแรง ลดความกลัวล้ม 10. 🦵 หลอดเลือดส่วนปลายตีบ (Peripheral Vascular Disease) ควรทำ: เครื่องปั่นจักรยาน ด้วยแขน | 🚶เดินจนปวด แล้วพัก เพราะ: กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดขา 11. 🧠 โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ควรทำ: ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวทเบา | 🚶‍♀️เดิน (ถ้าปลอดภัย) เพราะ: ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ลดล้ม (ต้องดูแลใกล้ชิด) 12. 🍬 เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️เวทเบา (วันเว้นวัน) เพราะ: คุมน้ำตาล ลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ ใช้กลูโคสดีขึ้น (เลี่ยงแรงกระแทกถ้ามีปลายประสาทเสื่อม) 13. 🦶 เส้นเลือดดำขาไหลเวียนไม่ดี (Venous Insufficiency) ควรทำ: 🚶‍♀️เดิน | 🦵ยกขา | 🏋️‍♂️ฝึกกล้ามเนื้อขา เพราะ: ช่วยส่งเลือดกลับหัวใจ ลดบวม ลดเสี่ยงอักเสบ ❤️❤️❤️ ดังนั้น ยิ่งมีโรคเยอะ ยิ่งได้ประโยชน์เยอะจากการออกกำลังนะครับ ไม่ใช่ควรอยู่เฉยๆ ไม่กล้าออกกำลัง เพราะยิ่งทำให้สุขภาพไม่ดีและโรคแย่ลงครับ การออกกำลังจึงเป็น ยาที่ดีที่สุด อันนึงเลยครับ
    0 Comments 0 Shares 499 Views 0 Reviews
  • 08-05-68/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP26 ตอน WORLD IS NOT ENOUGH FOR CHINESE GOLDEN ERA ไอ้สัส! มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปสู้? โน้น..เค้าไปนอกโลกกันหมดแล้ว รบกันต่อในจักรวาลทั่วแกแลคซี่ ยังได้ หากสดชื่น? ครั้งแรกของโลก ดาวเทียมเชื่อมโลกกับดวงจันทร์ อั๊ยยะ! มรึงฟังไม่ผิดดอก ขนาดหลุยส์ อาร์มสตรองทิพย์ เยี่ยวแตก ตายห่าไปแล้วยังมีสะดุ้ง รอยตรีนทิพย์กูยังจะอยู่มุย? ฮาว๊ายต้องหลบ เสฉวนแซงห่าง เหนือชั้น จะเกิดอะไรขึ้น หากชาวโลก คุยกับนักบินที่อยู่บนดวงจันทร์ เหมือนโทรศัพท์บ้าน ทั้งๆ ที่ ระยะห่างกว่า 2 ล้านกิโลเมตร ถ่ายโอนข้อมูลมหาศาลได้สบายตรีน จุดเริ่มต้นของ คนจีนไม่ได้อยู่แค่ในโลกอีกต่อไป แต่จะกระจายไปทั่วจักรวาลแกแลคซี่ เอาดิ? มรึงมีปัญญาทำมั้ยล่ะ? จบนอกมันกลายเป็นอดีตแล้ว ยุคนี้ ต้องถาม ปักกิ่ง หรือเสฉวน รึจะเป็นมอสโคว์ดี ถึงจะอินเทรนด์จ๊ะ เพราะตำราฝรั่งมาล้าหลังไปมากแล้ว ควายเรียนเพื่อเอาเศษกระดาษเปล่า จ่ายเป็นล้านเพื่อ? แต่จีนเรียนเพื่อเอาไปใช้ในชีวิตจริง ไม่ได้เก่งแค่ในตำรา AI และ QUANTUM จีน มันไปไกลจนเกือบจะทะลุมิตินรกแล้วจ๊ะ อย่าไปไกลเกิน เดี๋ยวมรึงจะเจอแบบในหนัง EVENT HORIZON ไซไฟสยอง

    หมีกำลังจะชี้เป้าว่า เมื่อเทคโนโลยีจีนมันก้าวกระโดดแบบทิ้งห่างมากจนเกินไป การต่อสู้ หรืออำนาจของฝั่งตะวันตก จะยิ่งหดหายจางไปจากโลกเร็ววันนี้ เทคโนโลยีจะมาได้ จะไปไกล ต้องมีทุน ต้องสงบสุข ไม่มีปัจจัยอื่นมาบ่อนทำลายการวิจัยต่อเนื่อง และนั่นคือสิ่งที่จีนแอบซุ่มทำมาตลอด 30 ปี ทันทีที่กำแพงเบอร์ลินแตก แผนยกระดับทั้งทวีปเอเซียก็มาทันที แผนผนวกโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว แผนเรียกคนรักเก่ากลับบ้าน แผนครองโลกเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เริ่มดำเนินการหลังจากนั้น

    วิธีคิดของคนจีนยุคใหม่น่าสนใจ MIND SET คือหลักสำคัญ หากมรึงคิดว่าทำได้ มรึงจะทำได้ หากมรึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มรึงจะล้มเหลว เชื่อมั่นก่อน แล้วไปให้ถึง จีนเริ่มจากใช้ดาวเทียมหมุนรอบดวงจันทร์ทั้งดวง เมื่อเสถียรแล้ว ก็ใช้ดาวเทียมของดวงจันทร์ เชื่อมต่อกับดาวเทียมโลก ซึ่งต้องใช้ระยะทางที่ไกลมาก ระบบดิจิตอล ถูกแปรรูปเป็นคลื่นไมโครเวฟ กระจายเป็นความถี่ เข้ารหัสจำเพาะ ถึงสามารถจเชื่อมต่อโลได้อย่างสมบูรณ์และกินเวลาดีเลย์ไม่นานมาก ยิ่งนานวัน เทคโนโลยีและการเรียนรู้จะเพิ่มมากขึ้น ทำให้ย่นระยะเวลาดีเลย์ลงไปได้อีกเยอะ

    ที่สำคัญ จุดนี้มันส่งสัญญานชัดถึงไอ้อีตะวันตก ห่างไกลถึงดวงจันทร์ กูยังเชื่อมต่อได้ แล้วทำไม แค่โลกใบเดียว กูจะควบคุมดาวเทียมทุกดวงไม่ได้ นัยยะคือ ดาวเทียมพวกมรึงอยู่ในสายตากูหมด ดังนั้น หากจะล่อของหนัก ปรมาณูก็ดี จุดตายพวกมรึงคือ GPS ดาวเทียม หากถูก SHUT DOWN เมื่อไหร่ นุ๊กมรึงก็แค่เศษเหล็กลอยกลางอากาศเท่านั้นเอง เข้าใจยังล่ะว่า "สงครามนุ๊ก" จะไม่เกิด เพราะขั้วใหม่ เค้ารอตีท้ายครัวมรึงนานแล้ว เทคโนโลยีมันห่างชั้นกันมากจน กูอายแทน ไอ้อีตะวันตกมรึงคิดเรือบรรทุกเครื่องบินที่เคยเกรียงไกรในยุค 80 ยังจะใช้ขู่ชาวโลกได้อีกเหรอ? มรึงล้าหลังตกยุคคาวบอยไปนานเกินไป นี่มันเข้าสู่โหมด TRON แล้วน่ะมรึง? ไปอยู่ที่ไหนมา ดีออก? เมื่อการสื่อสาร เชื่อมต่อ ไร้พรมแดน ไม่เฉพาะภายในโลกอีกต่อไป จีนจะได้นวตกรรมจากนอกโลกเข้ามาเพิ่มไม่สิ้นสุด จนมรึงจินตนาการไม่ออกเลยว่า จะไปหยุดที่ตรงไหนกันแน่?

    จีนมีครบทุกอย่าง ทั้งเงิน ทรัพยากรบุคคลระดับ "อัจฉริยะโลก" วัตถุดิบมี แหล่งแร่หายากสำคัญมี และมีการสนับสนุนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ทั้งหมดมันมาจาก MIND SET ทั้งนั้น ดังนั้น คนเราเปลี่ยนแนวคิดได้เมื่อไหร่ สิ่งใหม่จะตามมาทันที กล้าเปลี่ยน กล้าทำ กล้าลุย ชีวิตถึงจะเดินหน้าได้ ไม่อยากจะนึกเลยว่า อีก 50 ปี จีนจะครอบครองจักรวาลได้หรือไม่? นี่ไงล่ะ ที่แม้แต่พระเจ้า ยังกลัวมนุษยชาติ สิ่งที่อันตรายที่สุดที่พระเจ้าสร้าง ก็คือมนุษย์เนี่ยแหละ เพราะใจคนยากจะหยั่งถึง? คนโลภเพียงตัวเดียว ไม่พอให้แดร๊กแม้โลกทั้งใบ เหี้ยอย่างยิว มรึงต้องเจอจีนกบฎ ปฎิวัติโลกทั้งใบได้ภายใน 30 ปี เม้าท์จีนจบ เดี๋ยวต่ออโยธยา ลองมาฟังว่า ไอ้ที่กูทำนายเอาไว้ มันเริ่มเข้าเคร้าแล้วรึยัง?

    มรึงทราบหรือไม่ว่า อโยธยามันนี่ เป็นที่ต้องการทั้งโลก พูดแล้วนึกภาพไม่ออกชิมิ? งั้นตามกูมา..ไทยเราติดอันดับคลั่งเล่นโซเชี่ยลมากที่สุด TOP5 โลก เมื่อเล่นอินเตอร์เน็ต โซเชี่ยลตามมา แพลตฟอร์มตามติด การค้า การขาย เข้าสู่ตลาดออนไลน์ทั้งสิ้น จะอาลีบร๊าบร๊า อามาซอน(V6) หูตูบ ซื้อเค้า ขายเค้า จ่ายค่าตัว จ่ายค่าเรตติ้ง จ่ายค่าผู้ติดตาม เงินทั้งนั้น แต่มันอยู่ในรูปการเงินดิจิตอลไงล่ะ อย่าช็อค! หากกูจะบอกมรึงว่า สหรัฐอเมริกา คือชาติที่ใช้เงินบาทมากที่สุด ตามมาด้วยฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น และทั้งอาเซียน บางประเทศใช้เป็นเงินสกุลหลักแทนเงินตัวเองก็มี

    โปรดดูโลกความจริง เงินที่เป็นสกุลเงินประจำชาติ ใช่จะมีการใช้ได้มากจริงเท่ากับการใช้จ่ายประจำวัน อาทิเช่น อีขะแมร์ อีหม่อง อีลาว ใช้เงินบาทซื้อขายกันหมดแล้ว แทนเงินตัวเอง เหตุเพราะพรมแดนติดกัน ทั้งสินค้า นำเข้า ขายออก รับเป็นเงินบาทเกลี้ยง มรึงยังดวงตาไม่เห็นธรรมอีกเหรอ? ยิ่งไทยมีการค้าออนไลน์มหาศาล ทุกการซื้อขายถูกแปรสภาพอัตโนมัติ ปลายทางก็ต้องตุนเงินบาทเพื่อชำระกลับเช่นกัน แค่มันจะมาในรูปดิจิตอลเท่านั้น ไม่ต้องใช้กระดาษให้เปลือง อโยธยายังมีอะไรให้มรึงช็อคอีกเยอะ

    สินค้าไทย SOFT POWER ไทย มันไปไกลจนทะลุมิตินานแล้ว มันเป็นธรรมชาติของโลก ที่อะไรที่ถูก ดี อร่อย แปลกใหม่ และโซเชี่ยลไทยมันกระฉ่อนโลก มีใครไม่ตามกันล่ะ ดูแค่กูก็พอ หมีบ้านๆ หนีมาจากขั้วโลกเหนือ ยังมีเหี้ย C ตามมาดูกูทุกวัน มันรักกูมากซะขนาดนี้เชียว ก็แค่หมีบ้านๆ ตัวนึง ที่ทนเห็นความอัปรีย์จัญไร ที่มรึงเอามาขี้เอาไว้ในแผ่นดินพ่อกู คิดจะล้มหวัง คิดจะแตกแผ่นดินพ่อกู หมีอโยธยาอย่างกู ใครมันจะเก็บเอาไว้ทำพ่อง? งับสิจ๊ะ แฉให้แหลก กระทุ้งให้บานตะไท ยิ่งเหี้ย ยิ่งแฉ ยิ่งปิด ก็ยิ่งเปิด ไทยไม่ได้มีดีแค่เป็นอู่ข้าว อู่น้ำ แต่ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของอาเซียน และอาเซียนสำคัญต่อจีน รัสเซีย มันคือหัวใจที่จะทำให้จีน รัสเซีย มีทางออกทะเลเพิ่มมากขึ้น หมายถึงโอกาสทางการค้า โอกาสขนส่ง โลจิสติคโลก นั่นเอง มาถึงตรงนี้ มรึงเริ่มจะเห็นภาพ ไทยเป็นฮับอาเซียนได้ไม่ยากเลย แถมยังจะกลายเป็นศูนย์กลางโลกในอนาคต ในหลายๆ เรื่อง เชื่อกูดิ?

    ปล.เข้าเรื่องศรีธนญชัยกันบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่พูด ใครเป็นแฟนผีอีโม แฟนชั้น 14 กูบอกเลยว่า "ฮาแตก" เหี้ยโบ้ยกันแล้ว แฉเพื่อน เอาตัวรอด โยนขี้ให้รมต.ใหม่รับไปแทน แต่จะโยนไปมายังไง มันจบที่ลายเซ็นต์จ๊ะ ไอ้ควาย! หลักฐานมันมี พยานปากมันชัด ระบุ ไอ้อีตัวไหนสั่งการ? ก็ที่เหี้ยเหลี่ยมและเหี้ยสัดนรกทั้งหลาย มันยอมจ่ายเงินก้อนใหญ่ให้มรึง ไม่ใช่เพื่อลายเซ้นต์ตัวเดียวเหรอ ถึงเวลาจะหนีรึจ๊ะ? แดร๊กของเค้าไปแล้ว ก็รับชะตากรรม ชดใช้สิจ๊ะ หนียังไงก็ไม่รอด เค้าบล็อคตัวการไม่ให้บินออกนอกแล้วจ๊ะ พรรคพวกอยู่ DSI กระซิบมา อะไรน่ะ จ่ายหนัก หายหัว ถามว่าต้องจ่ายใคร? ขนาดผบ.ตร. ยังถูกมัดตราสังข์เลยมรึง? เสือกเมื่อไหร่ โดนด้วย? อะไรน่ะ อีฮุนเซนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เตรียมต้อนรับอีเหลี่ยมชาติหมา มรึงเข้ามาสิ เข้ามาให้ไว อยู่ในถ้ำเสือแล้ว กูจะรีดเงินมรึงเท่าไหร่ก็ได้ ขืนไม่ให้ ครอบครัวมรึงตาย เข้าใจเกมส์ยัง? เมื่ออำนาจหมด วาสนาหดหาย มรึงคิดว่า อีฮุนเซนจะเลี้ยงอีเหลี่ยมต่อไปมั้ย? เชื่อเหอะว่า มันจะเอาอีเหลี่ยมเป็นตัวประกันต่อรองไทย ใครก็รู้ อย่าเล่นกันกองทัพไทย ถึงตายคาตรีนน่ะมรึง? มีคนจะหักหลังอีเหลี่ยมเพี๊ยบ เพราะมรึงสร้างศัตรูไว้มหาศาล ยามมีอำนาจ กร่างสุดตัว เหี้ยสุดขีด ยามขาลง ขี้ข้าจ้องจะขายมรึงแดร๊กทั้งนั้น หนีได้แต่ตัว ทรัพย์สินเอาไปไม่ได้ทั้งหมด ไอ้ที่มรึงหามาตลอดชีวิตมรึงเนี่ย ยังใช้รักษาชีวิตมรึงไม่ได้เลย? คนในเป็นสาย ครอบครัวเป็นพิษ พรรคแตก หัวหาย ขี้ขาเผ่น อีแดง อีส้มเน่า อีน้ำเงิน จะถูกจับใส่ตระกร้าล้างน้ำ ไม่ว่ามรึงจะแตกพรรคกี่ครั้ง ก็ถ้วยน้ำจิ้มเดิม แค่สลับร่างย้ายขั้ว จะสิ้นสุด อวสานปชต.ตอแหลได้คือ ฉีกรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนการปกครองใหม่ BACK IN TIME & UPGRADE พ่อปกครองลูก เวอร์ชั่น 2.0 ใหม่เอี่ยม ทั่วถึง สาธารณะประโยชน์มาก่อน ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง กำจัดคอรัปชั่นเข้มข้น กฎหมายโทษหนัก อาญาสิทธิ์ต้องแรง ใช้สูตรเดียวกับจีน รัสเซีย แค่เปลี่ยนหัว ชีวิตเปลี่ยนทันที ควายไทยบัดซบ 24 ล้านเสียง หากปรับตัวไม่ได้ ยังจะแบมือขอร่ำไป ก็เชิญไปตายห่าซะน่ะ ชีวิตมีแต่ขอ ไม่คิดจะทำมาหาแดร๊กรึไง? ขอทานยังต้องตื่นเช้า แย่งที่ทำกินบนสะพาน แต่มรึงจะนอนกระดิกตรีนรอเงิน 10000 เข้ากระเป๋าท่าเดียว "แมงดา" ยังอายแทน? หมดเวลาควายไทยบัดซบแล้ว ไม่ตายห่า ก็สูญพันธุ์

    หมี CNN(ไอ้สัส! มัวแต่เห่าอยู่นั่น รัสเซียปูพรมเดินหน้าไล่ยึดเมืองเพิ่มอีก 4 เมืองแล้วจ๊ะ โอเดสซ่าใกล้ปิดจ็อบแล้ว หลังคลังแสงใหญ่กระจุยไปเมื่อวาน ยังจะเหลือเหี้ยไอ้อีหน้าไหนไปเฝ้าต่อล่ะ? ยิ่งเห่า รัสเซียยิ่งเดินหน้า ยิ่งเดินเกมส์มั่ว รัสเซียยิ่งสอนเชิง เก็บเลเวลไปจนเกือบถึงบอสแล้วจ๊ะ ยังจะเลี้ยงไข้ต่อไป จนกว่าอี NATO ไอ้โง่ EU จะเอาทหาร อาวุธ เงิน มาถมจนไม่มีเหลือ แล้วหลังบ้านมรึงก็โล่งโปร่ง ไร้เหี้ยอะไรมาต้านได้อีก ยึดสบายตรีน ขนมาเยอะๆ น่ะ ทุ่มให้เต็มที่ ก่อนจะไม่มีโอกาส)
    08 พฤษภาคม 68
    10.57 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    08-05-68/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP26 ตอน WORLD IS NOT ENOUGH FOR CHINESE GOLDEN ERA ไอ้สัส! มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปสู้? โน้น..เค้าไปนอกโลกกันหมดแล้ว รบกันต่อในจักรวาลทั่วแกแลคซี่ ยังได้ หากสดชื่น? ครั้งแรกของโลก ดาวเทียมเชื่อมโลกกับดวงจันทร์ อั๊ยยะ! มรึงฟังไม่ผิดดอก ขนาดหลุยส์ อาร์มสตรองทิพย์ เยี่ยวแตก ตายห่าไปแล้วยังมีสะดุ้ง รอยตรีนทิพย์กูยังจะอยู่มุย? ฮาว๊ายต้องหลบ เสฉวนแซงห่าง เหนือชั้น จะเกิดอะไรขึ้น หากชาวโลก คุยกับนักบินที่อยู่บนดวงจันทร์ เหมือนโทรศัพท์บ้าน ทั้งๆ ที่ ระยะห่างกว่า 2 ล้านกิโลเมตร ถ่ายโอนข้อมูลมหาศาลได้สบายตรีน จุดเริ่มต้นของ คนจีนไม่ได้อยู่แค่ในโลกอีกต่อไป แต่จะกระจายไปทั่วจักรวาลแกแลคซี่ เอาดิ? มรึงมีปัญญาทำมั้ยล่ะ? จบนอกมันกลายเป็นอดีตแล้ว ยุคนี้ ต้องถาม ปักกิ่ง หรือเสฉวน รึจะเป็นมอสโคว์ดี ถึงจะอินเทรนด์จ๊ะ เพราะตำราฝรั่งมาล้าหลังไปมากแล้ว ควายเรียนเพื่อเอาเศษกระดาษเปล่า จ่ายเป็นล้านเพื่อ? แต่จีนเรียนเพื่อเอาไปใช้ในชีวิตจริง ไม่ได้เก่งแค่ในตำรา AI และ QUANTUM จีน มันไปไกลจนเกือบจะทะลุมิตินรกแล้วจ๊ะ อย่าไปไกลเกิน เดี๋ยวมรึงจะเจอแบบในหนัง EVENT HORIZON ไซไฟสยอง หมีกำลังจะชี้เป้าว่า เมื่อเทคโนโลยีจีนมันก้าวกระโดดแบบทิ้งห่างมากจนเกินไป การต่อสู้ หรืออำนาจของฝั่งตะวันตก จะยิ่งหดหายจางไปจากโลกเร็ววันนี้ เทคโนโลยีจะมาได้ จะไปไกล ต้องมีทุน ต้องสงบสุข ไม่มีปัจจัยอื่นมาบ่อนทำลายการวิจัยต่อเนื่อง และนั่นคือสิ่งที่จีนแอบซุ่มทำมาตลอด 30 ปี ทันทีที่กำแพงเบอร์ลินแตก แผนยกระดับทั้งทวีปเอเซียก็มาทันที แผนผนวกโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว แผนเรียกคนรักเก่ากลับบ้าน แผนครองโลกเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เริ่มดำเนินการหลังจากนั้น วิธีคิดของคนจีนยุคใหม่น่าสนใจ MIND SET คือหลักสำคัญ หากมรึงคิดว่าทำได้ มรึงจะทำได้ หากมรึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มรึงจะล้มเหลว เชื่อมั่นก่อน แล้วไปให้ถึง จีนเริ่มจากใช้ดาวเทียมหมุนรอบดวงจันทร์ทั้งดวง เมื่อเสถียรแล้ว ก็ใช้ดาวเทียมของดวงจันทร์ เชื่อมต่อกับดาวเทียมโลก ซึ่งต้องใช้ระยะทางที่ไกลมาก ระบบดิจิตอล ถูกแปรรูปเป็นคลื่นไมโครเวฟ กระจายเป็นความถี่ เข้ารหัสจำเพาะ ถึงสามารถจเชื่อมต่อโลได้อย่างสมบูรณ์และกินเวลาดีเลย์ไม่นานมาก ยิ่งนานวัน เทคโนโลยีและการเรียนรู้จะเพิ่มมากขึ้น ทำให้ย่นระยะเวลาดีเลย์ลงไปได้อีกเยอะ ที่สำคัญ จุดนี้มันส่งสัญญานชัดถึงไอ้อีตะวันตก ห่างไกลถึงดวงจันทร์ กูยังเชื่อมต่อได้ แล้วทำไม แค่โลกใบเดียว กูจะควบคุมดาวเทียมทุกดวงไม่ได้ นัยยะคือ ดาวเทียมพวกมรึงอยู่ในสายตากูหมด ดังนั้น หากจะล่อของหนัก ปรมาณูก็ดี จุดตายพวกมรึงคือ GPS ดาวเทียม หากถูก SHUT DOWN เมื่อไหร่ นุ๊กมรึงก็แค่เศษเหล็กลอยกลางอากาศเท่านั้นเอง เข้าใจยังล่ะว่า "สงครามนุ๊ก" จะไม่เกิด เพราะขั้วใหม่ เค้ารอตีท้ายครัวมรึงนานแล้ว เทคโนโลยีมันห่างชั้นกันมากจน กูอายแทน ไอ้อีตะวันตกมรึงคิดเรือบรรทุกเครื่องบินที่เคยเกรียงไกรในยุค 80 ยังจะใช้ขู่ชาวโลกได้อีกเหรอ? มรึงล้าหลังตกยุคคาวบอยไปนานเกินไป นี่มันเข้าสู่โหมด TRON แล้วน่ะมรึง? ไปอยู่ที่ไหนมา ดีออก? เมื่อการสื่อสาร เชื่อมต่อ ไร้พรมแดน ไม่เฉพาะภายในโลกอีกต่อไป จีนจะได้นวตกรรมจากนอกโลกเข้ามาเพิ่มไม่สิ้นสุด จนมรึงจินตนาการไม่ออกเลยว่า จะไปหยุดที่ตรงไหนกันแน่? จีนมีครบทุกอย่าง ทั้งเงิน ทรัพยากรบุคคลระดับ "อัจฉริยะโลก" วัตถุดิบมี แหล่งแร่หายากสำคัญมี และมีการสนับสนุนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ทั้งหมดมันมาจาก MIND SET ทั้งนั้น ดังนั้น คนเราเปลี่ยนแนวคิดได้เมื่อไหร่ สิ่งใหม่จะตามมาทันที กล้าเปลี่ยน กล้าทำ กล้าลุย ชีวิตถึงจะเดินหน้าได้ ไม่อยากจะนึกเลยว่า อีก 50 ปี จีนจะครอบครองจักรวาลได้หรือไม่? นี่ไงล่ะ ที่แม้แต่พระเจ้า ยังกลัวมนุษยชาติ สิ่งที่อันตรายที่สุดที่พระเจ้าสร้าง ก็คือมนุษย์เนี่ยแหละ เพราะใจคนยากจะหยั่งถึง? คนโลภเพียงตัวเดียว ไม่พอให้แดร๊กแม้โลกทั้งใบ เหี้ยอย่างยิว มรึงต้องเจอจีนกบฎ ปฎิวัติโลกทั้งใบได้ภายใน 30 ปี เม้าท์จีนจบ เดี๋ยวต่ออโยธยา ลองมาฟังว่า ไอ้ที่กูทำนายเอาไว้ มันเริ่มเข้าเคร้าแล้วรึยัง? มรึงทราบหรือไม่ว่า อโยธยามันนี่ เป็นที่ต้องการทั้งโลก พูดแล้วนึกภาพไม่ออกชิมิ? งั้นตามกูมา..ไทยเราติดอันดับคลั่งเล่นโซเชี่ยลมากที่สุด TOP5 โลก เมื่อเล่นอินเตอร์เน็ต โซเชี่ยลตามมา แพลตฟอร์มตามติด การค้า การขาย เข้าสู่ตลาดออนไลน์ทั้งสิ้น จะอาลีบร๊าบร๊า อามาซอน(V6) หูตูบ ซื้อเค้า ขายเค้า จ่ายค่าตัว จ่ายค่าเรตติ้ง จ่ายค่าผู้ติดตาม เงินทั้งนั้น แต่มันอยู่ในรูปการเงินดิจิตอลไงล่ะ อย่าช็อค! หากกูจะบอกมรึงว่า สหรัฐอเมริกา คือชาติที่ใช้เงินบาทมากที่สุด ตามมาด้วยฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น และทั้งอาเซียน บางประเทศใช้เป็นเงินสกุลหลักแทนเงินตัวเองก็มี โปรดดูโลกความจริง เงินที่เป็นสกุลเงินประจำชาติ ใช่จะมีการใช้ได้มากจริงเท่ากับการใช้จ่ายประจำวัน อาทิเช่น อีขะแมร์ อีหม่อง อีลาว ใช้เงินบาทซื้อขายกันหมดแล้ว แทนเงินตัวเอง เหตุเพราะพรมแดนติดกัน ทั้งสินค้า นำเข้า ขายออก รับเป็นเงินบาทเกลี้ยง มรึงยังดวงตาไม่เห็นธรรมอีกเหรอ? ยิ่งไทยมีการค้าออนไลน์มหาศาล ทุกการซื้อขายถูกแปรสภาพอัตโนมัติ ปลายทางก็ต้องตุนเงินบาทเพื่อชำระกลับเช่นกัน แค่มันจะมาในรูปดิจิตอลเท่านั้น ไม่ต้องใช้กระดาษให้เปลือง อโยธยายังมีอะไรให้มรึงช็อคอีกเยอะ สินค้าไทย SOFT POWER ไทย มันไปไกลจนทะลุมิตินานแล้ว มันเป็นธรรมชาติของโลก ที่อะไรที่ถูก ดี อร่อย แปลกใหม่ และโซเชี่ยลไทยมันกระฉ่อนโลก มีใครไม่ตามกันล่ะ ดูแค่กูก็พอ หมีบ้านๆ หนีมาจากขั้วโลกเหนือ ยังมีเหี้ย C ตามมาดูกูทุกวัน มันรักกูมากซะขนาดนี้เชียว ก็แค่หมีบ้านๆ ตัวนึง ที่ทนเห็นความอัปรีย์จัญไร ที่มรึงเอามาขี้เอาไว้ในแผ่นดินพ่อกู คิดจะล้มหวัง คิดจะแตกแผ่นดินพ่อกู หมีอโยธยาอย่างกู ใครมันจะเก็บเอาไว้ทำพ่อง? งับสิจ๊ะ แฉให้แหลก กระทุ้งให้บานตะไท ยิ่งเหี้ย ยิ่งแฉ ยิ่งปิด ก็ยิ่งเปิด ไทยไม่ได้มีดีแค่เป็นอู่ข้าว อู่น้ำ แต่ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของอาเซียน และอาเซียนสำคัญต่อจีน รัสเซีย มันคือหัวใจที่จะทำให้จีน รัสเซีย มีทางออกทะเลเพิ่มมากขึ้น หมายถึงโอกาสทางการค้า โอกาสขนส่ง โลจิสติคโลก นั่นเอง มาถึงตรงนี้ มรึงเริ่มจะเห็นภาพ ไทยเป็นฮับอาเซียนได้ไม่ยากเลย แถมยังจะกลายเป็นศูนย์กลางโลกในอนาคต ในหลายๆ เรื่อง เชื่อกูดิ? ปล.เข้าเรื่องศรีธนญชัยกันบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่พูด ใครเป็นแฟนผีอีโม แฟนชั้น 14 กูบอกเลยว่า "ฮาแตก" เหี้ยโบ้ยกันแล้ว แฉเพื่อน เอาตัวรอด โยนขี้ให้รมต.ใหม่รับไปแทน แต่จะโยนไปมายังไง มันจบที่ลายเซ็นต์จ๊ะ ไอ้ควาย! หลักฐานมันมี พยานปากมันชัด ระบุ ไอ้อีตัวไหนสั่งการ? ก็ที่เหี้ยเหลี่ยมและเหี้ยสัดนรกทั้งหลาย มันยอมจ่ายเงินก้อนใหญ่ให้มรึง ไม่ใช่เพื่อลายเซ้นต์ตัวเดียวเหรอ ถึงเวลาจะหนีรึจ๊ะ? แดร๊กของเค้าไปแล้ว ก็รับชะตากรรม ชดใช้สิจ๊ะ หนียังไงก็ไม่รอด เค้าบล็อคตัวการไม่ให้บินออกนอกแล้วจ๊ะ พรรคพวกอยู่ DSI กระซิบมา อะไรน่ะ จ่ายหนัก หายหัว ถามว่าต้องจ่ายใคร? ขนาดผบ.ตร. ยังถูกมัดตราสังข์เลยมรึง? เสือกเมื่อไหร่ โดนด้วย? อะไรน่ะ อีฮุนเซนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เตรียมต้อนรับอีเหลี่ยมชาติหมา มรึงเข้ามาสิ เข้ามาให้ไว อยู่ในถ้ำเสือแล้ว กูจะรีดเงินมรึงเท่าไหร่ก็ได้ ขืนไม่ให้ ครอบครัวมรึงตาย เข้าใจเกมส์ยัง? เมื่ออำนาจหมด วาสนาหดหาย มรึงคิดว่า อีฮุนเซนจะเลี้ยงอีเหลี่ยมต่อไปมั้ย? เชื่อเหอะว่า มันจะเอาอีเหลี่ยมเป็นตัวประกันต่อรองไทย ใครก็รู้ อย่าเล่นกันกองทัพไทย ถึงตายคาตรีนน่ะมรึง? มีคนจะหักหลังอีเหลี่ยมเพี๊ยบ เพราะมรึงสร้างศัตรูไว้มหาศาล ยามมีอำนาจ กร่างสุดตัว เหี้ยสุดขีด ยามขาลง ขี้ข้าจ้องจะขายมรึงแดร๊กทั้งนั้น หนีได้แต่ตัว ทรัพย์สินเอาไปไม่ได้ทั้งหมด ไอ้ที่มรึงหามาตลอดชีวิตมรึงเนี่ย ยังใช้รักษาชีวิตมรึงไม่ได้เลย? คนในเป็นสาย ครอบครัวเป็นพิษ พรรคแตก หัวหาย ขี้ขาเผ่น อีแดง อีส้มเน่า อีน้ำเงิน จะถูกจับใส่ตระกร้าล้างน้ำ ไม่ว่ามรึงจะแตกพรรคกี่ครั้ง ก็ถ้วยน้ำจิ้มเดิม แค่สลับร่างย้ายขั้ว จะสิ้นสุด อวสานปชต.ตอแหลได้คือ ฉีกรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนการปกครองใหม่ BACK IN TIME & UPGRADE พ่อปกครองลูก เวอร์ชั่น 2.0 ใหม่เอี่ยม ทั่วถึง สาธารณะประโยชน์มาก่อน ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง กำจัดคอรัปชั่นเข้มข้น กฎหมายโทษหนัก อาญาสิทธิ์ต้องแรง ใช้สูตรเดียวกับจีน รัสเซีย แค่เปลี่ยนหัว ชีวิตเปลี่ยนทันที ควายไทยบัดซบ 24 ล้านเสียง หากปรับตัวไม่ได้ ยังจะแบมือขอร่ำไป ก็เชิญไปตายห่าซะน่ะ ชีวิตมีแต่ขอ ไม่คิดจะทำมาหาแดร๊กรึไง? ขอทานยังต้องตื่นเช้า แย่งที่ทำกินบนสะพาน แต่มรึงจะนอนกระดิกตรีนรอเงิน 10000 เข้ากระเป๋าท่าเดียว "แมงดา" ยังอายแทน? หมดเวลาควายไทยบัดซบแล้ว ไม่ตายห่า ก็สูญพันธุ์ หมี CNN(ไอ้สัส! มัวแต่เห่าอยู่นั่น รัสเซียปูพรมเดินหน้าไล่ยึดเมืองเพิ่มอีก 4 เมืองแล้วจ๊ะ โอเดสซ่าใกล้ปิดจ็อบแล้ว หลังคลังแสงใหญ่กระจุยไปเมื่อวาน ยังจะเหลือเหี้ยไอ้อีหน้าไหนไปเฝ้าต่อล่ะ? ยิ่งเห่า รัสเซียยิ่งเดินหน้า ยิ่งเดินเกมส์มั่ว รัสเซียยิ่งสอนเชิง เก็บเลเวลไปจนเกือบถึงบอสแล้วจ๊ะ ยังจะเลี้ยงไข้ต่อไป จนกว่าอี NATO ไอ้โง่ EU จะเอาทหาร อาวุธ เงิน มาถมจนไม่มีเหลือ แล้วหลังบ้านมรึงก็โล่งโปร่ง ไร้เหี้ยอะไรมาต้านได้อีก ยึดสบายตรีน ขนมาเยอะๆ น่ะ ทุ่มให้เต็มที่ ก่อนจะไม่มีโอกาส) 08 พฤษภาคม 68 10.57 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 Comments 0 Shares 852 Views 0 Reviews
  • การท่องอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในอนาคตจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปลี่ยนโฉมการเชื่อมต่อและประสบการณ์ออนไลน์ของผู้ใช้ โดยมีแนวโน้มสำคัญดังนี้:

    ### 1. **เทคโนโลยีเครือข่ายขั้นสูง**
    - **5G และ 6G**: ความเร็วสูงถึง **หลายสิบ Gbps** (เร็วกว่า 4G เป็นร้อยเท่า) พร้อม latency ต่ำสุด **1 ms** หรือน้อยกว่า เหมาะสำหรับ VR/AR, การแพทย์ทางไกล และรถยนต์อิสระ
    - **ดาวเทียมความเร็วสูง**: เช่น Starlink (SpaceX), Project Kuiper (Amazon) ให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลด้วยความเร็ว **100 Mbps–1 Gbps**

    ### 2. **โครงสร้างพื้นฐานใหม่**
    - **ไฟเบอร์ออปติกทั่วถึง**: เคเบิลใยแก้ว **Terabit-class** (เช่นเทคโนโลยี **Alcatel Lucent's 1.6 Tbps**) จะเชื่อมต่อเมืองใหญ่และชนบท
    - **Li-Fi**: ใช้แสงส่องสว่างส่งข้อมูลด้วยความเร็ว **สูงถึง 224 Gbps** ในห้องปฏิบัติการ

    ### 3. **การประมวลผลแบบกระจายศูนย์**
    - **Edge Computing**: ลด latency โดยประมวลผลข้อมูลใกล้ผู้ใช้ (เช่น ศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในเมือง)
    - **Quantum Networking**: การสื่อสารควอนตัมผ่าน **Quantum Key Distribution (QKD)** ป้องกันการแฮก 100%

    ### 4. **แอปพลิเคชันแห่งอนาคต**
    - **Metaverse**: โลกเสมือนจริงที่ต้องการ **ความเร็ว ≥ 50 Mbps/คน** และ latency ≤ 10 ms
    - **Holographic Communication**: การสตรีมโฮโลแกรม 3D ใช้แบนด์วิธ **≥ 1 Tbps/วินาที** (ทดสอบโดย MIT Media Lab)
    - **AI Real-Time Processing**: เช่นรถยนต์ไร้คนขับวิเคราะห์ข้อมูล **4 TB/วัน/คัน**

    ### 5. **ความท้าทาย**
    - **ค่าใช้จ่าย**: การติดตั้งโครงสร้าง 6G อาจใช้งบ **3-5 เท่าของ 5G**
    - **ความปลอดภัย**: การโจมตีแบบ **DDoS ขนาด > 100 Tbps** (เทียบกับ 2.3 Tbps ในปี 2020)
    - **Digital Divide**: 30% ของประชากรโลกยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน (ข้อมูล ITU 2023)

    ### 6. **ตัวเลขที่น่าสนใจ**
    - ปี 2030 คาดการณ์:
    - อุปกรณ์ IoT ทั่วโลก **> 50,000 ล้านชิ้น**
    - ปริมาณข้อมูลโลก **> 5,000 EB/ปี** (1 EB = 1 ล้าน TB)
    - ความเร็วเฉลี่ยทั่วโลก **> 500 Mbps** (จาก 100 Mbps ในปี 2025)

    อนาคตอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะไม่ใช่แค่การโหลดเร็วขึ้น แต่เป็นพื้นฐานของ **Smart Cities, Digital Twins, และเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก** ที่ต้องการการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์สมบูรณ์แบบ โดยอาจเห็นการใช้งานทั่วไปภายใน **ปี 2030-2035**
    การท่องอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในอนาคตจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปลี่ยนโฉมการเชื่อมต่อและประสบการณ์ออนไลน์ของผู้ใช้ โดยมีแนวโน้มสำคัญดังนี้: ### 1. **เทคโนโลยีเครือข่ายขั้นสูง** - **5G และ 6G**: ความเร็วสูงถึง **หลายสิบ Gbps** (เร็วกว่า 4G เป็นร้อยเท่า) พร้อม latency ต่ำสุด **1 ms** หรือน้อยกว่า เหมาะสำหรับ VR/AR, การแพทย์ทางไกล และรถยนต์อิสระ - **ดาวเทียมความเร็วสูง**: เช่น Starlink (SpaceX), Project Kuiper (Amazon) ให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลด้วยความเร็ว **100 Mbps–1 Gbps** ### 2. **โครงสร้างพื้นฐานใหม่** - **ไฟเบอร์ออปติกทั่วถึง**: เคเบิลใยแก้ว **Terabit-class** (เช่นเทคโนโลยี **Alcatel Lucent's 1.6 Tbps**) จะเชื่อมต่อเมืองใหญ่และชนบท - **Li-Fi**: ใช้แสงส่องสว่างส่งข้อมูลด้วยความเร็ว **สูงถึง 224 Gbps** ในห้องปฏิบัติการ ### 3. **การประมวลผลแบบกระจายศูนย์** - **Edge Computing**: ลด latency โดยประมวลผลข้อมูลใกล้ผู้ใช้ (เช่น ศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในเมือง) - **Quantum Networking**: การสื่อสารควอนตัมผ่าน **Quantum Key Distribution (QKD)** ป้องกันการแฮก 100% ### 4. **แอปพลิเคชันแห่งอนาคต** - **Metaverse**: โลกเสมือนจริงที่ต้องการ **ความเร็ว ≥ 50 Mbps/คน** และ latency ≤ 10 ms - **Holographic Communication**: การสตรีมโฮโลแกรม 3D ใช้แบนด์วิธ **≥ 1 Tbps/วินาที** (ทดสอบโดย MIT Media Lab) - **AI Real-Time Processing**: เช่นรถยนต์ไร้คนขับวิเคราะห์ข้อมูล **4 TB/วัน/คัน** ### 5. **ความท้าทาย** - **ค่าใช้จ่าย**: การติดตั้งโครงสร้าง 6G อาจใช้งบ **3-5 เท่าของ 5G** - **ความปลอดภัย**: การโจมตีแบบ **DDoS ขนาด > 100 Tbps** (เทียบกับ 2.3 Tbps ในปี 2020) - **Digital Divide**: 30% ของประชากรโลกยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน (ข้อมูล ITU 2023) ### 6. **ตัวเลขที่น่าสนใจ** - ปี 2030 คาดการณ์: - อุปกรณ์ IoT ทั่วโลก **> 50,000 ล้านชิ้น** - ปริมาณข้อมูลโลก **> 5,000 EB/ปี** (1 EB = 1 ล้าน TB) - ความเร็วเฉลี่ยทั่วโลก **> 500 Mbps** (จาก 100 Mbps ในปี 2025) อนาคตอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะไม่ใช่แค่การโหลดเร็วขึ้น แต่เป็นพื้นฐานของ **Smart Cities, Digital Twins, และเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก** ที่ต้องการการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์สมบูรณ์แบบ โดยอาจเห็นการใช้งานทั่วไปภายใน **ปี 2030-2035**
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • PayPal ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งสามารถทำกำไรได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยบริษัทยังคงคาดการณ์กำไรทั้งปีไว้ที่ $4.95 - $5.10 ต่อหุ้น

    แม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน แต่ PayPal ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก CEO Alex Chriss ระบุว่าบริษัทกำลังมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง แทนที่จะเน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดด

    นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของบริการ Branded Checkout เช่น PayPal และ Venmo ซึ่งเผชิญกับการแข่งขันจาก Apple และ Google อย่างไรก็ตาม PayPal ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น Fastlane Guest Checkout เพื่อรักษาตำแหน่งในตลาด

    ✅ ผลประกอบการไตรมาสแรก
    - กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.33 สูงกว่าคาดการณ์ที่ $1.16
    - คาดการณ์กำไรทั้งปีอยู่ที่ $4.95 - $5.10 ต่อหุ้น

    ✅ แนวโน้มเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
    - การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน
    - PayPal ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

    ✅ กลยุทธ์ของบริษัท
    - มุ่งเน้นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง แทนที่จะเน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดด
    - เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น Fastlane Guest Checkout

    ✅ การแข่งขันในตลาด
    - บริการ Branded Checkout เผชิญกับการแข่งขันจาก Apple และ Google
    - PayPal ตั้งเป้าเพิ่มการเติบโตของ Branded Checkout เป็น 8-10% ภายในปี 2027

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/paypal-beats-profit-targets-maintains-annual-earnings-forecast-amid-us-trade-uncertainty
    PayPal ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งสามารถทำกำไรได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยบริษัทยังคงคาดการณ์กำไรทั้งปีไว้ที่ $4.95 - $5.10 ต่อหุ้น แม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน แต่ PayPal ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก CEO Alex Chriss ระบุว่าบริษัทกำลังมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง แทนที่จะเน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดด นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของบริการ Branded Checkout เช่น PayPal และ Venmo ซึ่งเผชิญกับการแข่งขันจาก Apple และ Google อย่างไรก็ตาม PayPal ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น Fastlane Guest Checkout เพื่อรักษาตำแหน่งในตลาด ✅ ผลประกอบการไตรมาสแรก - กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.33 สูงกว่าคาดการณ์ที่ $1.16 - คาดการณ์กำไรทั้งปีอยู่ที่ $4.95 - $5.10 ต่อหุ้น ✅ แนวโน้มเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค - การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน - PayPal ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ✅ กลยุทธ์ของบริษัท - มุ่งเน้นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง แทนที่จะเน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดด - เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น Fastlane Guest Checkout ✅ การแข่งขันในตลาด - บริการ Branded Checkout เผชิญกับการแข่งขันจาก Apple และ Google - PayPal ตั้งเป้าเพิ่มการเติบโตของ Branded Checkout เป็น 8-10% ภายในปี 2027 https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/paypal-beats-profit-targets-maintains-annual-earnings-forecast-amid-us-trade-uncertainty
    WWW.THESTAR.COM.MY
    PayPal beats profit targets, flags spending pull forward amid economic uncertainty
    (Reuters) - PayPal beat Wall Street estimates for first-quarter earnings and stuck to its annual profit forecast on Tuesday, even at a time when U.S. President Donald Trump's tariffs have fueled economic uncertainty.
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
More Results