• AMD Zen 6 – แรงทะลุ 7 GHz พร้อม 24 คอร์ในเดสก์ท็อป

    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Zen 6 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับ Ryzen desktop CPUs โดยมีข้อมูลหลุดจากแหล่งวงในอย่าง Yuri Bubily (ผู้สร้าง Hydra tuning software) และช่อง YouTube Moore’s Law Is Dead ที่เผยว่า Zen 6 จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดมากกว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด

    จุดเด่นของ Zen 6 ได้แก่:
    - รองรับสูงสุด 12 คอร์ต่อ CCD (Core Complex Die) และ 24 คอร์ 48 เธรดต่อชิป
    - เพิ่มแคช L3 ต่อ CCD เป็น 48 MB และอาจมีรุ่นที่ใช้ 3D V-Cache หลายชั้น รวมสูงสุดถึง 240 MB
    - ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงจาก TSMC เช่น N2X (2nm enhanced) สำหรับรุ่นท็อป
    - ความเร็วสัญญาณนาฬิกาอาจทะลุ 7 GHz ในรุ่นเดสก์ท็อประดับสูง
    - ยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 ทำให้ผู้ใช้ Ryzen รุ่นปัจจุบันสามารถอัปเกรดได้ง่าย
    - ปรับปรุง memory controller เป็นแบบ dual IMC แต่ยังใช้ DDR5 แบบ dual-channel
    - ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระบบ Boost และ Curve Optimizer ทำให้การปรับแต่งยังคงเหมือนเดิม

    Zen 6 ยังมีรุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ (Venice-class EPYC) และ APU (Medusa Point) ที่ใช้เทคโนโลยี N2P หรือ N3P ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์มากกว่าความเร็วสูงสุด

    คาดว่า Zen 6 จะเปิดตัวช่วงกลางถึงปลายปี 2026 พร้อมชนกับ Intel Nova Lake-S ที่จะใช้ซ็อกเก็ตใหม่และมีจำนวนคอร์สูงถึง 52 คอร์

    https://www.techspot.com/news/108646-amd-zen-6-could-hit-7-ghz-24.html
    AMD Zen 6 – แรงทะลุ 7 GHz พร้อม 24 คอร์ในเดสก์ท็อป AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Zen 6 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับ Ryzen desktop CPUs โดยมีข้อมูลหลุดจากแหล่งวงในอย่าง Yuri Bubily (ผู้สร้าง Hydra tuning software) และช่อง YouTube Moore’s Law Is Dead ที่เผยว่า Zen 6 จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดมากกว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด จุดเด่นของ Zen 6 ได้แก่: - รองรับสูงสุด 12 คอร์ต่อ CCD (Core Complex Die) และ 24 คอร์ 48 เธรดต่อชิป - เพิ่มแคช L3 ต่อ CCD เป็น 48 MB และอาจมีรุ่นที่ใช้ 3D V-Cache หลายชั้น รวมสูงสุดถึง 240 MB - ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงจาก TSMC เช่น N2X (2nm enhanced) สำหรับรุ่นท็อป - ความเร็วสัญญาณนาฬิกาอาจทะลุ 7 GHz ในรุ่นเดสก์ท็อประดับสูง - ยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 ทำให้ผู้ใช้ Ryzen รุ่นปัจจุบันสามารถอัปเกรดได้ง่าย - ปรับปรุง memory controller เป็นแบบ dual IMC แต่ยังใช้ DDR5 แบบ dual-channel - ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระบบ Boost และ Curve Optimizer ทำให้การปรับแต่งยังคงเหมือนเดิม Zen 6 ยังมีรุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ (Venice-class EPYC) และ APU (Medusa Point) ที่ใช้เทคโนโลยี N2P หรือ N3P ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์มากกว่าความเร็วสูงสุด คาดว่า Zen 6 จะเปิดตัวช่วงกลางถึงปลายปี 2026 พร้อมชนกับ Intel Nova Lake-S ที่จะใช้ซ็อกเก็ตใหม่และมีจำนวนคอร์สูงถึง 52 คอร์ https://www.techspot.com/news/108646-amd-zen-6-could-hit-7-ghz-24.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD Zen 6 could hit 7 GHz and 24 cores in desktop CPUs
    Yuri Bubily, creator of the Hydra tuning software, revealed on his official Discord that engineering samples of Zen 6-based Ryzen CPUs have already reached AMD's industry partners....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..กลางสิงหา,รวมพลังคนแผ่นดินไทยยึดอำนาจเลย โดยประชาชน เพื่อประชาชน ขึ้นบริหารประเทศในภาวะพิเศษเลย,ทหารพระราชา ต้องวัดใจกับประชาชนต้องพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงจริงเพื่อประเทศชาติ,
    ..ภาคมหาประชาชนคือหนทางเดียว,การเมืองที่นักการเมืองปัจจุบันดำเนินสายการปกครองล้มเหลวสิ้นดีแล้ว,ไม่อาจเชื่อถือและเชื่อมั่นไว้วางใจในอธิปไตยแผ่นดินไทยนี้ได้แล้ว,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้ก็ชัดเจนในบริบทพรรคการเมืองและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ตลอดกล่าวอีกว่า ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามเราอีก สมควรจะพูดมั้ย.
    ..พันธมิตรรวมพลังแผ่นดินไทย,จริงๆสมควรเป็นตัวแทนภาคประชาชนยึดอำนาจเลย,โดยทหารพระราชาต้องสนับสนุนเปิดทางออก อย่าเอาตัวเองเข้ามายุ่ง,เป็นเพียงยื่นความสะดวกให้เท่านั้นหรือคืนอำนาจผ่านพันธมิตรรวมพลังแผ่นดินไทยในกลางสิงหาเลย,เสนอรายชื่อนายกฯพระราชทานฉุกเฉินพิเศษก็ได้,จะเกิดรัฐบาลภาคประชาชนทันทีในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่แล้วเขียนการปกครองเราใหม่ก็ได้เป็นระบบธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขก็ได้,ตัดทิ้งระบบประชาธิปไตยของฝรั่งที่ส่งออกมานานนมไป,ฝรั่งจะแทรกแซงอ้างเข้ามาสร้างความแตกแยกไม่ได้อีก,เราจะเริ่มเดินถูกทาง,ขึ้นสู่ถนนหนทางที่เหมาะสมราบรื่นจริงทันที,ปัจจุบันทั้งกฎหมายและระบบปกครองไทยเราเต็มไปด้วยภายใต้การเป็นทาสของต่างชาติมิใช่ไทเสรีอะไรใดๆเลย กฎหมายมากมายเป็นทาสฝรั่งนายทุนชัดเจนและกดขี่ประชาชนคนไทยมากกว่า ตลอดเป็นด้วยการสูญเสียทรัพยากรมีค่ามากมายบนแผ่นดินของประเทศไทย,สูญเสียวัตถุดิบบนแผ่นดินไทยตนเองที่จำเป็นต้องบริหารจัดการใช้ในการพัฒนาชาติไทยตนให้ประชาชนมีความผาสุกร่มเย็นไม่ทุกข์ยาก ยากจนเข็ญใจลำเค็ญแบบปัจจุบันนี้.
    ..พันธมิตรคณะรวมพลังแผ่นดินไทยจึงคือหนทางเดี๋ยวจริงๆ,เราสามารถสร้างกองทัพภาคประชาชนเร็วเชิงรุกได้,บูรณาการระดับล่างทำความเข้าใจไม่ยาก เช่น มีสำนักงานประสานงานภาคประชาชนจริงประจำหมู่บ้านทุกๆหมู่บ้านชุมชน 80,000หมู่บ้านทั่วประเทศนี้,ยุบอบต.อบจ.มีแค่อำเภอ.จังหวัดก็พอ,เงินมากมายจะสนับสนุนกองทัพย่อยภาคประชาชนระดับหมู่บ้านทันที ใกล้ชิดปัญหาจริง ขจัดปัญหาได้เร็วเพราะเข้าถึงได้ตรงจุด,มีโครงการอะไร ย้ายมาสำนักงานนี้ทำความเข้าใจชัดตรงจุดแก้ประชาชน.การบริหารประเทศจะก้าวอย่างก้าวกระโดดทันที.
    ..กลางสิงหา,รวมพลังคนแผ่นดินไทยยึดอำนาจเลย โดยประชาชน เพื่อประชาชน ขึ้นบริหารประเทศในภาวะพิเศษเลย,ทหารพระราชา ต้องวัดใจกับประชาชนต้องพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงจริงเพื่อประเทศชาติ, ..ภาคมหาประชาชนคือหนทางเดียว,การเมืองที่นักการเมืองปัจจุบันดำเนินสายการปกครองล้มเหลวสิ้นดีแล้ว,ไม่อาจเชื่อถือและเชื่อมั่นไว้วางใจในอธิปไตยแผ่นดินไทยนี้ได้แล้ว,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้ก็ชัดเจนในบริบทพรรคการเมืองและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ตลอดกล่าวอีกว่า ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามเราอีก สมควรจะพูดมั้ย. ..พันธมิตรรวมพลังแผ่นดินไทย,จริงๆสมควรเป็นตัวแทนภาคประชาชนยึดอำนาจเลย,โดยทหารพระราชาต้องสนับสนุนเปิดทางออก อย่าเอาตัวเองเข้ามายุ่ง,เป็นเพียงยื่นความสะดวกให้เท่านั้นหรือคืนอำนาจผ่านพันธมิตรรวมพลังแผ่นดินไทยในกลางสิงหาเลย,เสนอรายชื่อนายกฯพระราชทานฉุกเฉินพิเศษก็ได้,จะเกิดรัฐบาลภาคประชาชนทันทีในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่แล้วเขียนการปกครองเราใหม่ก็ได้เป็นระบบธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขก็ได้,ตัดทิ้งระบบประชาธิปไตยของฝรั่งที่ส่งออกมานานนมไป,ฝรั่งจะแทรกแซงอ้างเข้ามาสร้างความแตกแยกไม่ได้อีก,เราจะเริ่มเดินถูกทาง,ขึ้นสู่ถนนหนทางที่เหมาะสมราบรื่นจริงทันที,ปัจจุบันทั้งกฎหมายและระบบปกครองไทยเราเต็มไปด้วยภายใต้การเป็นทาสของต่างชาติมิใช่ไทเสรีอะไรใดๆเลย กฎหมายมากมายเป็นทาสฝรั่งนายทุนชัดเจนและกดขี่ประชาชนคนไทยมากกว่า ตลอดเป็นด้วยการสูญเสียทรัพยากรมีค่ามากมายบนแผ่นดินของประเทศไทย,สูญเสียวัตถุดิบบนแผ่นดินไทยตนเองที่จำเป็นต้องบริหารจัดการใช้ในการพัฒนาชาติไทยตนให้ประชาชนมีความผาสุกร่มเย็นไม่ทุกข์ยาก ยากจนเข็ญใจลำเค็ญแบบปัจจุบันนี้. ..พันธมิตรคณะรวมพลังแผ่นดินไทยจึงคือหนทางเดี๋ยวจริงๆ,เราสามารถสร้างกองทัพภาคประชาชนเร็วเชิงรุกได้,บูรณาการระดับล่างทำความเข้าใจไม่ยาก เช่น มีสำนักงานประสานงานภาคประชาชนจริงประจำหมู่บ้านทุกๆหมู่บ้านชุมชน 80,000หมู่บ้านทั่วประเทศนี้,ยุบอบต.อบจ.มีแค่อำเภอ.จังหวัดก็พอ,เงินมากมายจะสนับสนุนกองทัพย่อยภาคประชาชนระดับหมู่บ้านทันที ใกล้ชิดปัญหาจริง ขจัดปัญหาได้เร็วเพราะเข้าถึงได้ตรงจุด,มีโครงการอะไร ย้ายมาสำนักงานนี้ทำความเข้าใจชัดตรงจุดแก้ประชาชน.การบริหารประเทศจะก้าวอย่างก้าวกระโดดทันที.
    Live "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ครั้งที่ 3 ประจำปี 2568 ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

    คลิกชม https://m.youtube.com/watch?v=jeJPjdQo0KUt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิยายไซไฟ Aurora
    ในปี 2999 ที่ดาวเคราะห์ศูนย์กลางอารยธรรมมนุษย์ชื่อ **"นิวสยาม"** อากาศภายนอกโดมเมืองเป็นพิษจนหายใจไม่ได้ ทว่าในย่านสูงสุดของ **"สกายซิตี้"** ที่ลอยอยู่เหนือเมฆหมอก นครแห่งแสงนีออนและยานพาหนะไร้คนขับนั้น มีเรื่องรักข้ามภพชั้นกำเนิดกำลังก่อตัว...

    **อร (Aurora) ลูกสาวแห่งตระกูล "วัชระ"**
    รัชทายาทแห่งอาณาจักรค้าทองคำจากอุกกาบาต **"ทองจักรราศี"** ที่พ่อของเธอ – **มหาเศรษฐีวรวัชร์** – ขุดพบในแถบดาวเคราะห์น้อย Kuiper Belt แร่ธาตุนี้เรืองแสงสีชมพูอมม่วงใต้แสงอัลตราไวโอเลต ถูกแปรรูปเป็นเครื่องประดับล้ำยุคสำหรับชนชั้นสูงสุด ทว่าความมั่งคั่งทั้งหมดมาจากการกดขี่แรงงานเหมืองดาวเคราะห์น้อย และการสมคบกับรัฐบาลเทคโนแครต

    **ธัช (Thad) นักศึกษาวิชาชีวภาพจักรวาลแห่งมหาวิทยาลัยใต้โดม**
    หนุ่มน้อยแถบสลัม "ดินแดง" ผู้ใช้ทักษะการตัดต่อพันธุกรรมสิ่งมีชีวิตต่างดาวเพื่อสร้างอาหารราคาถูกให้คนจน เขาคือแกนนำกลุ่ม **"ปฏิวัฒน์ชีวภาพ"** ที่ต่อต้านการผูกขาดเทคโนโลยีโดยบรรษัทข้ามดาว ฝันถึงจักรวาลที่มนุษย์อยู่ร่วมกับระบบนิเวศ ไม่ใช่ทำลายมัน

    ---

    ### จุดชนะใจกลางพายุฝุ่นดาวอังคาร
    คืนหนึ่งขณะธัชแฝงตัวขึ้นสกายซิตี้เพื่อปล่อยไวรัสดิจิทัลโจมตีเซิร์ฟเวอร์บริษัทวัชระ เขาต้องหลบหนีลงมาทางท่อขนส่งขยะ... และพบอรซึ่งกำลังหลบงานเลี้ยงหรูเพื่อตามห้าแมวไซบอร์กลักพาตัวของเธอในเขตทิ้งของเก่า แสงเรืองจากสร้อยคอทองจักรราศีของอรทำให้นาฬิกาจับพิกัดของธัชเสียหาย ทว่าแทนที่จะแจ้งความ...

    **"คุณรู้ไหมว่าทองเส้นนี้ทำให้คนงานตาบอด 3 คนเพราะรังสี?"** ธัชถามด้วยความโกรธ
    **"และคุณรู้ไหมว่ามันคือชิ้นส่วนเดียวที่เหลืออยู่จากดาวบ้านเกิดแม่ฉัน?"** อรตอบด้วยน้ำตา

    กลางกองขยะไฮเทคที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียดัดแปลง ทั้งคู่พบว่าต่างถูกคุมขังโดยระบบชนชั้นเดียวกัน: อรคือหุ่นเชิดของตระกูล ส่วนธัชคือฟันเฟืองในเครื่องจักรปฏิวัติ

    ---

    ### 7 ดาวเคราะห์ที่รักบ่มเพาะ
    1. **ห้องทดลองลับใต้ดิน**
    ธัชพาอรไปเห็น "สวนสวรรค์ชีวภาพ" ที่เขาสร้างไว้ – ระบบนิเวศขนาดกระเป๋าเดินทางที่มีพืชจาก 7 ดาวเคราะห์ อรใช้ความรู้ด้านแร่วิทยาช่วยปรับสมดุลแร่ธาตุจนดอกไม้เหล็กจากเนปจูนผลิบาน

    2. **งานเต้นรำกลางดาวเคราะห์น้อย**
    อรพาธัชแฝงตัวขึ้นยานส่วนตัวไปยังแอสเทอรอยด์ VH-2982 ที่ตระกูลวัชระกำลังขุดเจาะ ทั้งคู่เต้นรำในสภาพไร้น้ำหนักใต้แสงดาวนับล้าน โดยมีหุ่นยนต์ขนทองเป็นสักขีพยาน

    3. **การทรยศของ "แสงชัย" หุ่น AI คู่ใจอร**
    เมื่อ AI ในสร้อยคอของอรแจ้งเรื่องความสัมพันธ์นี้ให้วรวัชร์ทราบ ธัชถูกตั้งค่าหัวโดยกองกำลังรักษาความปลอดภัยของบริษัท อรต้องตัดสินใจ: ใช้ระเบิดนาโนทำลายแสงชัย หรือปล่อยให้ธัชตาย...

    ---

    ### จุดแตกหักแห่งจักรวาล
    วรวัชร์เปิดเผยแผนชั่วร้าย: **"โครงการฟีนิกซ์"** ที่จะเผาทุกชุมชนใต้โดมเพื่อสร้างเหมืองทองใหม่ ความจริงที่น่าขนลุกคือ... **ทองจักรราศีคือสปอร์สิ่งมีชีวิตต่างดาว** ที่ค่อยๆ เปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นทาสทางความคิดเมื่อสวมใส่เกิน 7 ปี!

    อรเห็นแม่แท้ๆ ของเธอ – ผู้สวมมงกุฎทองตลอดเวลา – ถูกควบคุมเป็นหุ่นเชิดโดยสิ่งมีชีวิตสีทองในตู้เลี้ยง ทางรอดเดียวคือไวรัสที่ธัชพัฒนาจากแบคทีเรียใน "สวนสวรรค์" ซึ่งฆ่าสปอร์ทองโดยไม่ทำร้ายมนุษย์

    ---

    ### รักสุดขอบฟ้า
    คืนสุดท้ายก่อนการปฏิวัติใหญ่ ธัชกับอรยืนอยู่บนดาดฟ้ายานอวกาศเก่า ด้านล่างคือชุมชนใต้โดมที่กำลังลุกเป็นไฟ

    **"ถ้าเราเผาทองทั้งหมด... ครอบครัวฉันจะล่มสลาย"**
    **"และถ้าไม่เผา... มนุษยชาติจะสูญสิ้น"**

    อรกดส่งรหัสทำลายคลังทองหลักของตระกูล ส่วนธัชปล่อยไวรัสสู่ระบบปรับอากาศสกายซิตี้ เมื่อแสงระเบิดสีชมพูอมม่วงวาบขึ้นบนท้องฟ้า ทั้งคู่จับมือกันกระโดดลงแคปซูลหนีภัย...

    **ทิ้งไว้เบื้องหลังเพียงคำถาม:**
    เมื่อทองคำอันเป็นตัวตนของเธอละลายไป
    เมื่อการปฏิวัติอันเป็นตัวตนของเขาชำระสำเร็จ
    รักข้ามดวงดาวนี้จะเหลืออะไรให้รักกัน?

    ---

    โลกปี 2999 ยังไม่มีคำตอบ
    มีเพียงดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งที่กำลังผลิดอก
    จากเศษทองที่หลอมรวมกับแบคทีเรียแห่งความหวัง
    โดยไม่มีใครรู้ว่ามันจะเป็นสวนสวรรค์ใหม่...
    หรือไวรัสร้ายแบบใหม่กันแน่?
    นิยายไซไฟ Aurora ในปี 2999 ที่ดาวเคราะห์ศูนย์กลางอารยธรรมมนุษย์ชื่อ **"นิวสยาม"** อากาศภายนอกโดมเมืองเป็นพิษจนหายใจไม่ได้ ทว่าในย่านสูงสุดของ **"สกายซิตี้"** ที่ลอยอยู่เหนือเมฆหมอก นครแห่งแสงนีออนและยานพาหนะไร้คนขับนั้น มีเรื่องรักข้ามภพชั้นกำเนิดกำลังก่อตัว... **อร (Aurora) ลูกสาวแห่งตระกูล "วัชระ"** รัชทายาทแห่งอาณาจักรค้าทองคำจากอุกกาบาต **"ทองจักรราศี"** ที่พ่อของเธอ – **มหาเศรษฐีวรวัชร์** – ขุดพบในแถบดาวเคราะห์น้อย Kuiper Belt แร่ธาตุนี้เรืองแสงสีชมพูอมม่วงใต้แสงอัลตราไวโอเลต ถูกแปรรูปเป็นเครื่องประดับล้ำยุคสำหรับชนชั้นสูงสุด ทว่าความมั่งคั่งทั้งหมดมาจากการกดขี่แรงงานเหมืองดาวเคราะห์น้อย และการสมคบกับรัฐบาลเทคโนแครต **ธัช (Thad) นักศึกษาวิชาชีวภาพจักรวาลแห่งมหาวิทยาลัยใต้โดม** หนุ่มน้อยแถบสลัม "ดินแดง" ผู้ใช้ทักษะการตัดต่อพันธุกรรมสิ่งมีชีวิตต่างดาวเพื่อสร้างอาหารราคาถูกให้คนจน เขาคือแกนนำกลุ่ม **"ปฏิวัฒน์ชีวภาพ"** ที่ต่อต้านการผูกขาดเทคโนโลยีโดยบรรษัทข้ามดาว ฝันถึงจักรวาลที่มนุษย์อยู่ร่วมกับระบบนิเวศ ไม่ใช่ทำลายมัน --- ### จุดชนะใจกลางพายุฝุ่นดาวอังคาร คืนหนึ่งขณะธัชแฝงตัวขึ้นสกายซิตี้เพื่อปล่อยไวรัสดิจิทัลโจมตีเซิร์ฟเวอร์บริษัทวัชระ เขาต้องหลบหนีลงมาทางท่อขนส่งขยะ... และพบอรซึ่งกำลังหลบงานเลี้ยงหรูเพื่อตามห้าแมวไซบอร์กลักพาตัวของเธอในเขตทิ้งของเก่า แสงเรืองจากสร้อยคอทองจักรราศีของอรทำให้นาฬิกาจับพิกัดของธัชเสียหาย ทว่าแทนที่จะแจ้งความ... **"คุณรู้ไหมว่าทองเส้นนี้ทำให้คนงานตาบอด 3 คนเพราะรังสี?"** ธัชถามด้วยความโกรธ **"และคุณรู้ไหมว่ามันคือชิ้นส่วนเดียวที่เหลืออยู่จากดาวบ้านเกิดแม่ฉัน?"** อรตอบด้วยน้ำตา กลางกองขยะไฮเทคที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียดัดแปลง ทั้งคู่พบว่าต่างถูกคุมขังโดยระบบชนชั้นเดียวกัน: อรคือหุ่นเชิดของตระกูล ส่วนธัชคือฟันเฟืองในเครื่องจักรปฏิวัติ --- ### 7 ดาวเคราะห์ที่รักบ่มเพาะ 1. **ห้องทดลองลับใต้ดิน** ธัชพาอรไปเห็น "สวนสวรรค์ชีวภาพ" ที่เขาสร้างไว้ – ระบบนิเวศขนาดกระเป๋าเดินทางที่มีพืชจาก 7 ดาวเคราะห์ อรใช้ความรู้ด้านแร่วิทยาช่วยปรับสมดุลแร่ธาตุจนดอกไม้เหล็กจากเนปจูนผลิบาน 2. **งานเต้นรำกลางดาวเคราะห์น้อย** อรพาธัชแฝงตัวขึ้นยานส่วนตัวไปยังแอสเทอรอยด์ VH-2982 ที่ตระกูลวัชระกำลังขุดเจาะ ทั้งคู่เต้นรำในสภาพไร้น้ำหนักใต้แสงดาวนับล้าน โดยมีหุ่นยนต์ขนทองเป็นสักขีพยาน 3. **การทรยศของ "แสงชัย" หุ่น AI คู่ใจอร** เมื่อ AI ในสร้อยคอของอรแจ้งเรื่องความสัมพันธ์นี้ให้วรวัชร์ทราบ ธัชถูกตั้งค่าหัวโดยกองกำลังรักษาความปลอดภัยของบริษัท อรต้องตัดสินใจ: ใช้ระเบิดนาโนทำลายแสงชัย หรือปล่อยให้ธัชตาย... --- ### จุดแตกหักแห่งจักรวาล วรวัชร์เปิดเผยแผนชั่วร้าย: **"โครงการฟีนิกซ์"** ที่จะเผาทุกชุมชนใต้โดมเพื่อสร้างเหมืองทองใหม่ ความจริงที่น่าขนลุกคือ... **ทองจักรราศีคือสปอร์สิ่งมีชีวิตต่างดาว** ที่ค่อยๆ เปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นทาสทางความคิดเมื่อสวมใส่เกิน 7 ปี! อรเห็นแม่แท้ๆ ของเธอ – ผู้สวมมงกุฎทองตลอดเวลา – ถูกควบคุมเป็นหุ่นเชิดโดยสิ่งมีชีวิตสีทองในตู้เลี้ยง ทางรอดเดียวคือไวรัสที่ธัชพัฒนาจากแบคทีเรียใน "สวนสวรรค์" ซึ่งฆ่าสปอร์ทองโดยไม่ทำร้ายมนุษย์ --- ### รักสุดขอบฟ้า คืนสุดท้ายก่อนการปฏิวัติใหญ่ ธัชกับอรยืนอยู่บนดาดฟ้ายานอวกาศเก่า ด้านล่างคือชุมชนใต้โดมที่กำลังลุกเป็นไฟ **"ถ้าเราเผาทองทั้งหมด... ครอบครัวฉันจะล่มสลาย"** **"และถ้าไม่เผา... มนุษยชาติจะสูญสิ้น"** อรกดส่งรหัสทำลายคลังทองหลักของตระกูล ส่วนธัชปล่อยไวรัสสู่ระบบปรับอากาศสกายซิตี้ เมื่อแสงระเบิดสีชมพูอมม่วงวาบขึ้นบนท้องฟ้า ทั้งคู่จับมือกันกระโดดลงแคปซูลหนีภัย... **ทิ้งไว้เบื้องหลังเพียงคำถาม:** เมื่อทองคำอันเป็นตัวตนของเธอละลายไป เมื่อการปฏิวัติอันเป็นตัวตนของเขาชำระสำเร็จ รักข้ามดวงดาวนี้จะเหลืออะไรให้รักกัน? --- โลกปี 2999 ยังไม่มีคำตอบ มีเพียงดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งที่กำลังผลิดอก จากเศษทองที่หลอมรวมกับแบคทีเรียแห่งความหวัง โดยไม่มีใครรู้ว่ามันจะเป็นสวนสวรรค์ใหม่... หรือไวรัสร้ายแบบใหม่กันแน่?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 ก.ค.68 "อันเดรีย รุสโซ" วัย 35 ปี วิ่งเข้าไปในรันเวย์สนามบินแบร์กาโม เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี และกระโดดเข้าไปในเครื่องยนต์ด้านซ้ายของเครื่องบินแอร์บัส A319 (เที่ยวบิน V73511) ของสายการบินโวโลเทีย ระหว่างที่เครื่องบินกำลังเตรียมการบินขึ้นเพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองอัสตูเรียส ประเทศสเปน

    ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า ชายคนดังกล่าวไม่ใช่ทั้งพนักงานสนามบิน และ ก็ไม่ใช่ผู้โดยสารด้วย เขาขับรถยนต์เฟียต 500 สีแดง และจอดทิ้งรถไว้ก่อนที่จะพยายามหลบเลี่ยงการรักษาความปลอดภัยผ่านเข้าไปถึงรันเวย์เครื่องบิน

    สื่อยังระบุอีกว่ารุสโซมีประวัติติดยาเสพติดอย่างรุนแรง และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนในข้อหาฆ่าตัวตาย
    ภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 ก.ค.68 "อันเดรีย รุสโซ" วัย 35 ปี วิ่งเข้าไปในรันเวย์สนามบินแบร์กาโม เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี และกระโดดเข้าไปในเครื่องยนต์ด้านซ้ายของเครื่องบินแอร์บัส A319 (เที่ยวบิน V73511) ของสายการบินโวโลเทีย ระหว่างที่เครื่องบินกำลังเตรียมการบินขึ้นเพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองอัสตูเรียส ประเทศสเปน ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า ชายคนดังกล่าวไม่ใช่ทั้งพนักงานสนามบิน และ ก็ไม่ใช่ผู้โดยสารด้วย เขาขับรถยนต์เฟียต 500 สีแดง และจอดทิ้งรถไว้ก่อนที่จะพยายามหลบเลี่ยงการรักษาความปลอดภัยผ่านเข้าไปถึงรันเวย์เครื่องบิน สื่อยังระบุอีกว่ารุสโซมีประวัติติดยาเสพติดอย่างรุนแรง และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนในข้อหาฆ่าตัวตาย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..555,มามองมองดูผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยตนเอง,แบบๆทหารผู้ฝ่ายตรงข้ามเรานะ,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้,คนก่อนหน้านั้นก็ไม่ซื่อสัตย์อีก,คือเอาแค่ปัจจุบันนะก็เหี้ยบัดสบสุดๆแล้วก็ว่า,นอกจากมีการกวาดล้างจริงๆทำความสะอาดจริงจึงจะพอเชื่อได้ว่าประเทศเราสามารถก้าวกระโดดจริงได้แบบทหารพระราชาเราปฏิวัตรัฐประหารยึดอำนาจทางอำนาจปกครองที่ไม่ซื่อสัตย์ที่เป็นตัวแทนอำนาจตรงจากประชาชนเข้ามาช่วยบริหารจัดการประเทศแต่ทำหน้าที่ตนไม่ซื่อสัตย์ร่วมกับระบบราชการที่บังคับบัญชาเป็นไปในทิศทางไม่ซื่อสัตย์ด้วย จนพังทั้งระบบ ประชาชนเดือดร้อนทุกข์ยาก ทั้งเป็นเหยื่อให้ทุนสามานย์ไซออนิสต์โลภตังโลภทองเข้ามาแสวงหาตังหาทองบนแผ่นดินไทยบิดเบือนวิถีสัมมาชีวิตที่ชอบสัมมาอาชีพที่สุจริต,และเมื่อเราทำการเปลี่ยนแปลงได้จริงกวาดล้างไซออนิสต์ในประเทศไทยได้จริงด้วย อิสระภาพแห่งชีวิตและนวัตกรรมล้ำๆใหม่ๆมากมายจะไม่ถูกปกปิดถูกกดขี่ถูกแอบซ่อนอีกต่อไป เพราะพวกไซออนิสต์ชั่วเลวประจำโลกนี้ต้องการไม่ให้เปิดเผยต่อสาธารณะประชาชนนั้นล่ะ จะทำตังทำเงินทำทองไม่ได้จึงพยายามทุกๆวิถีทางผ่านอำนาจการเมืองการปกครองในทุกๆประเทศทั่วโลกตลอดอเมริกาเจ้าพ่อใหญ่คับโลกก็ใช้อำนาจใหญ่โตคับโลกนี้บังคับประเทศอื่นๆทั้งหมดห้ามเปิดเผยนำมาโชว์ออกมาก็ว่า,ปล้นขโมย รวบรวมงานวิจัยที่เป็นคุณเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนไว้,อะไรทำตังมากมันก็เอาออกมาบังคับให้คนใช้ แบบพลังงานเทสล่าทาทาเรีย ก็ด้วยปกปิดไว้,ให้ผู้คนใช้น้ำมันแทนก็ว่า พลังงานฟรีใดๆมันขายทำตังไม่ได้ น้ำมันมันขายทำตังมหาศาลได้นั้นล่ะ สถานะอื่นๆก็เช่นกัน อะไรทำตังทำเงินทำทองแก่พวกมันจึงเอาออกมาหมด,อะไรไม่ทำตังให้พวกมันแล้วสูญเสียรายได้สูญเสียตังมันปกปิดไว้.
    ..ประเทศไทยเราคงไม่นานก็ค้นพบมากมายเช่นกัน เมื่อเวลามาถึงคือผู้นำดีผู้ปกครองดีปรากฎก็ว่า.

    https://youtube.com/watch?v=YDSOCMSszpY&si=aPMVn1JB3p9PRVMX
    ..555,มามองมองดูผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยตนเอง,แบบๆทหารผู้ฝ่ายตรงข้ามเรานะ,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้,คนก่อนหน้านั้นก็ไม่ซื่อสัตย์อีก,คือเอาแค่ปัจจุบันนะก็เหี้ยบัดสบสุดๆแล้วก็ว่า,นอกจากมีการกวาดล้างจริงๆทำความสะอาดจริงจึงจะพอเชื่อได้ว่าประเทศเราสามารถก้าวกระโดดจริงได้แบบทหารพระราชาเราปฏิวัตรัฐประหารยึดอำนาจทางอำนาจปกครองที่ไม่ซื่อสัตย์ที่เป็นตัวแทนอำนาจตรงจากประชาชนเข้ามาช่วยบริหารจัดการประเทศแต่ทำหน้าที่ตนไม่ซื่อสัตย์ร่วมกับระบบราชการที่บังคับบัญชาเป็นไปในทิศทางไม่ซื่อสัตย์ด้วย จนพังทั้งระบบ ประชาชนเดือดร้อนทุกข์ยาก ทั้งเป็นเหยื่อให้ทุนสามานย์ไซออนิสต์โลภตังโลภทองเข้ามาแสวงหาตังหาทองบนแผ่นดินไทยบิดเบือนวิถีสัมมาชีวิตที่ชอบสัมมาอาชีพที่สุจริต,และเมื่อเราทำการเปลี่ยนแปลงได้จริงกวาดล้างไซออนิสต์ในประเทศไทยได้จริงด้วย อิสระภาพแห่งชีวิตและนวัตกรรมล้ำๆใหม่ๆมากมายจะไม่ถูกปกปิดถูกกดขี่ถูกแอบซ่อนอีกต่อไป เพราะพวกไซออนิสต์ชั่วเลวประจำโลกนี้ต้องการไม่ให้เปิดเผยต่อสาธารณะประชาชนนั้นล่ะ จะทำตังทำเงินทำทองไม่ได้จึงพยายามทุกๆวิถีทางผ่านอำนาจการเมืองการปกครองในทุกๆประเทศทั่วโลกตลอดอเมริกาเจ้าพ่อใหญ่คับโลกก็ใช้อำนาจใหญ่โตคับโลกนี้บังคับประเทศอื่นๆทั้งหมดห้ามเปิดเผยนำมาโชว์ออกมาก็ว่า,ปล้นขโมย รวบรวมงานวิจัยที่เป็นคุณเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนไว้,อะไรทำตังมากมันก็เอาออกมาบังคับให้คนใช้ แบบพลังงานเทสล่าทาทาเรีย ก็ด้วยปกปิดไว้,ให้ผู้คนใช้น้ำมันแทนก็ว่า พลังงานฟรีใดๆมันขายทำตังไม่ได้ น้ำมันมันขายทำตังมหาศาลได้นั้นล่ะ สถานะอื่นๆก็เช่นกัน อะไรทำตังทำเงินทำทองแก่พวกมันจึงเอาออกมาหมด,อะไรไม่ทำตังให้พวกมันแล้วสูญเสียรายได้สูญเสียตังมันปกปิดไว้. ..ประเทศไทยเราคงไม่นานก็ค้นพบมากมายเช่นกัน เมื่อเวลามาถึงคือผู้นำดีผู้ปกครองดีปรากฎก็ว่า. https://youtube.com/watch?v=YDSOCMSszpY&si=aPMVn1JB3p9PRVMX
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นายกฯพระราชทานคือทางออก.
    ..ยุควิกฤตินี้หรือนักการเมืองบัดสบในยุคนี้สุดเสื่อมเลวชั่วแล้วก็ว่า,
    ..นายกฯใหม่ที่มาจากอำนาจพระราชทานจึงสามารถกำหนดทิศทางของประเทศไทยได้ชัดเจนกว่า น่าเชื่อถือกว่า และเด็ดขาดไม่เกรงใจใครได้ด้วย ประชาชนต้องมาก่อนนั้นเอง
    ..เช่นกัน นายกฯใหม่เรา ในมุมมองการสร้างตลาดฟื้นฟูการเงินการตังการเศรษฐกิจการสัมมาชีวิตการสัมมาอาชีพใดๆต่างๆทั่วไทยจะช่วยทำให้การค้าการขายเราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ไม่ยากจากการสนับสนุนช่องทางตลาดช่องทางทำเงินหรือจัดหาตลาดกลางไร้เอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางได้จริงด้วย,ตลอดจนอำนวยสะดวกระเบียนเงื่อนไขลดต้นทุนค่าขนส่ง เพิ่มกำไรแก่ทุกๆคนไทยในรากฐานสัมมาอาชีพต่างๆนั้นด้วย,พูดเสียยาวคือนายกฯใหม่ไทยจะเป็นเป็นก่อตั้งตลาดซื้อขายออนไลน์กลางระดับชาติไทยแก่คนไทยนั้นเองบนแพลตฟอร์มที่คนไทยสร้างเองเป็นแอปของคนไทยจริงๆ นอกจากshopeeของdeep stateสิงคโปร์หรือ lazada มีdeep stateตัวแม่ทั่วโลกให้นอมินีอย่างalibaba groupเป็นเจ้าของที่เหนียวแน่นบนแผ่นดินไทยเรา ,นายกฯเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มเราเองได้แน่นอน กระแสเงินสดมากมายทั้งภายในเราเองคนไทยหันมาใช้แอปเราเอง ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเอง ไม่มีการหักอะไร กินค่านั้นค่านี้สาระพัดอีก คนขายกำไร คนซื้อได้ของถูกมีคุณภาพจริงไม่ถูกเอาเปรียบทั้งจากคนขายและเจ้าของแอป,รัฐบาลอัดโปรโมตใดๆได้อีก กระตุ้นการซื้อขาย อัดบัตรสวัสดิการช่วยค่าครองชีพผ่านแพลตฟอร์มนี้ก็ได้ เสมือนร้านค้ากองทุนหมู่บ้านออนไลน์ทั่วไทย ร่วมกันเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มร้านค้าร้านตลาดนี้ร่วมกันอีก จะซื้อจะขายได้ทุกๆที่ทุกเวลา มีทั้งตลาดออฟไลน์มีสถานที่จริง จุดรับสินค้าส่งสินค้าฮับประจำหมู่บ้านสายออฟไลน์และออนไลน์ก็ได้ เข้าไปซื้อจริงจับจริงที่ร้านกองทุนหมู่บ้านก็ได้ สบู่ยาสีฟันยันเรือรบที่ตลาดออนไลน์ได้อีก,ขายข้ามโลกทั่วโลกก็ได้อีก โดยมีรัฐบาลอำนวยงานสร้างให้ตรวจสอบจับกุมจริงในคนไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์เพราะล็อกอินคือบัตรประชาชนตัวเป็นจริงนั้นล่ะ,ตลาดออนไลน์นี้ระดับประเทศไทยทั่วโลกรู้จักชัดเจน ขายสาระพัดได้หมด ค่าห้องพักโรงแรม ตั๋วสาระพัดตั๋ว ตั๋วบอลตั๋วเครื่องบินขายได้หมด ทุกๆภาคอุตสาหกรรม ขายซื้อขายได้หมด GtG ,GtB ,BtB,BtC,CtCผู้บริโภคเจอกับผู้บริโภคทางตรงค้าขายได้หมดบนแพลตฟอร์มของไทยเรา,ค้ำประกันโดยรัฐบาลไทยเราด้วย,นี้เราต้องสร้างหน่วยทัพทำตังจริงแบบนี้,ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี กลยุทธ นายกฯสั่งตรงทีมเฉพาะกิจพิเศษควบคุมอำนวยการได้หมด,บริหารจัดการได้หมด ลดภาวะประชาชนไม่ต้องปวดหัวอะไร ค้าขายเต็มที่สร้างรายได้สัมมาอาชีพอย่างสุจริตเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถใครมัน,และสามารถให้โอกาสคนทั่วโลกมาร่วมใช้บริการได้ฟรีๆค้าขายเสรีร่วมกันได้อีกเมื่อเราสามารถขนาดงานดาต้าควอนตัมพร้อมรับการไหลผ่านข้อมูลมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกได้แล้ว,รายได้ของแพลตฟอร์มนายกฯใหม่ของคนไทยเราริเริ่มปฐมบทงานสร้าง ตังสะพัดกว่า50ล้านล้านเหรียญทั่วโลกจากปกติอาจอยู่ที่25-30ล้านล้านเหรียญทั่วโลกในทุกๆแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์รวมกันก็ว่า,คนไทยเราไม่ธรรมดา แพลตฟอร์มเรามันคือโลกเสมือนจริงที่เป็นบ้านใหญ่ของคนไทยและประเทศอื่นๆที่เข้ามาโลกออนไลน์อาจติดความรู้สึกว่าบ้านตนเองคือจีนคืออเมริกาคือคนอาหรับคือคนฝรั่งคือคนผิวสี คือใดๆ แต่เมื่อเข้ามาใช้บนแพลตฟอร์มคนไทย เสมือนว่าคุณทั้งหมดคือคนไทย อยู่ประเทศไทย บ้านนี้คือบ้านคุณ บ้านนี้คือเป็นของคุณด้วยคือคุณเป็นคนไทยเช่นกันนั้นเอง,การต้อนรับมาบ้านกลับบ้านบนโลกเสมือนจริงนี้คือบ้านเราร่วมกันกันทุกๆคน ไร้การแบ่งแยกเชิงสัญลักษณ์ใดๆอีกต่อไป,มันมิใช่นัยยะแค่ตลาดออนไลน์การค้าขายแต่คือจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นชาวโลกเราได้มีพื้นที่พอยึดเหนี่ยวนั่งพักจิตพักใจพักกายนั้นเอง มีตัวตนจริงเป็นโลกเสมือนที่คนไทยเราสร้างขึ้นและจะเป็นอารยะธรรมดีงามบนโลกเสมือนจริงอีกแห่งด้วยเช่นกันแม้ไม่ใช่โลกแห่งความจริงก็ตาม รอยยิ้ม ความอิ่มอกอิ่มใจจะเหมือนว่าได้มาเยือนประเทศไทยอยู่ที่ประเทศไทยเราจริงนั้นเอง,เราไม่ได้ขายแค่วัตถุสิ่งของ แต่เราเสมอความสุขด้วยจิตวิญญาณไปด้วย,เบิกบานจิตใจยกจิตยกใจผ่านเน็ตเวิคส์นั้นเองทั่วโลก,เพราะอนาคตมาแน่นอนแว่นเรียลไทม์,และวาล์ปจริงไปโลกเสมือนนั้น ตลอดซื้อสินค้าเสร็จบนโลกเสมือน ออกมาสแกนรอรับสินค้าที่วาล์ปมาได้เลยนั้นล่ะที่จุดบริการรอรับสินค้า ขนส่งเดินรถอาจไม่มีอีกต่อไป,ท่องเที่ยวผ่านแว่นเรียล,ไปได้ทั่วจักรวาลบนโลกเสมือนจริงที่สร้างเสมือนจักรวาลที่ต้องการไปนั่นๆ,ซื้อสินค้าเสร็จจ่ายตัง กลับมาบ้าน รอรับสินค้าทันทีผ่านเครื่องพิมพ์สินค้าวาล์ปเรียลไทม์ก็ว่า,นี้จึงวิถีการบุกเบิกโคตรๆของผู้นำใหม่ประจำประเทศไทยเราจริงๆ,กากๆกระจอกอย่าเสนอตัวออกมาแดกชาติโกงกินบ้านเมืองอีกเลย,ยุคอนาคตตังติดตามเรียลไทม์การผ่านมือใครได้หมดล่ะควอนตัมบันทึกทุกกิจกรรมธุรกรรมการเงินย้อนหลังโคตรๆลบไม่ได้ด้วย,มีหนาวมีอักเสบมีดับอนาถแน่นอนในอนาคตเร็วๆนี้,กอบโกยโกงกินหมูๆหมาๆง่ายๆแบบๆเดิมๆตกยุคแน่นอน,โลกเรากำลังอัพเรเวลคัดกรองคนด้วย,จักรวาลจัดสรรนั่นล่ะ ธรรมะจักรวาลธรรมดาที่ไหน.
    ..นายกฯพระราชทานคือหนทางออกทางเดียวในจังหวะเวลานี้,ยุคใหม่ไม่ธรรมดานะ,และเรามีเวลาเหลือแค่ก่อนพ.ศ.5,000นะ นี้ก็2568แล้ว,มนุษยสมบัติเราสมควรจบที่โลกุตระสมบัติเป็นเบื้องต้น อรหันต์เป็นเบื้องกลาง นิพพานคือที่สุดก็ว่า,ผู้นำผู้ปกครองไทยเราอย่าขัดขวางอย่าเป็นมหามารมหาปีศาจมหาอสูรโคตรเลวโคตรชั่วอีกเลย อย่างน้อยคนไทยโดยมากเป็นผู้มากบุญบารมีพร้อมเลื่อนขั้นสาระพัดมากมายแน่แห่งจิตวิญญาณใครมัน,ท่านทั้งหลายอย่าแสวงหามหานรกโดยกระทำชั่วเลวแก่ผู้มากบุญบารมีประจำประเทศไทยคือประชาชนชาวไทยเลย,โสดาบันเต็มแผ่นดินนะนั้น กรรมใหญ่หลวงนักไปขัดขวางคนไทยตนเองในนามผีบ้าบ้าตำแหน่งอำนาจชื่อสมมุติว่าผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยนี้,คนไทยทั้งหลายแค่มาเสวยเศษกรรมตนนิดหน่อยๆแค่นั้นล่ะ,ประเทศไทยนี้จึงมีสิทธิ์ศักดิ์เป็นอันมากเพราะมาปกป้องเจ้านายตนเองด้วยก็ว่าก็มีที่มาเสวยกรรม บ้างก็ลงมาเล่นเพลินๆสาระพัพมุกมาเกิดบนอาณาเขตราชอาณาจักรมหาพุทธภูมินี้.
    ..ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์โคตรๆ เงินทองมากมายเต็มแผ่นดิน,วิกฤติเศรษฐกิจนี้แก้ไม่ยาก แก้ได้มากมาย นี้ก็อีกบริบทหนึ่ง,หรือไปยึดทรัพยากรมีค่ามากมายคืนมาทั้งหมดก็ได้ เอาบ่อน้ำมันคืนมาทุกๆสัมปทานก่อน จากต่างชาติจากเอกชนใดๆทั้งหมด ยึดคืนก่อนก็ได้ มาทำเองเลย ต้นทุนทุกๆมิติของไทยเราจะลดลงทันที,ขายน้ำมันก็ขายนอกประเทศในราคาตลาดโลกก็ได้แต่ขายในไทยถูกๆลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านก็สบายมาก,เศรษฐกิจไทยจะฟื้นฟูทันที บวกอัดเศรษฐกิจพอเพียงสมถะเราไปด้วย,เพียงพอพอเพียงไม่ละโมภโลภมาก ความยัางยืนรอบด้านหลากหลายมิติจะเต็มประเทศไทยเราและขยายไปทั่วโลก,โลกจะมีต่างดาวดีๆมากมายมาเยือนโลกเราและปกป้องคุ้มครองภัยศัตรูช่วยเราได้สบายๆด้วยบนจักรวาลเรานี้.
    ..ให้มันจบที่รุ่นเรา.

    https://www.tiktok.com/@amp.sarun/video/7476739522403798279

    ..นายกฯพระราชทานคือทางออก. ..ยุควิกฤตินี้หรือนักการเมืองบัดสบในยุคนี้สุดเสื่อมเลวชั่วแล้วก็ว่า, ..นายกฯใหม่ที่มาจากอำนาจพระราชทานจึงสามารถกำหนดทิศทางของประเทศไทยได้ชัดเจนกว่า น่าเชื่อถือกว่า และเด็ดขาดไม่เกรงใจใครได้ด้วย ประชาชนต้องมาก่อนนั้นเอง ..เช่นกัน นายกฯใหม่เรา ในมุมมองการสร้างตลาดฟื้นฟูการเงินการตังการเศรษฐกิจการสัมมาชีวิตการสัมมาอาชีพใดๆต่างๆทั่วไทยจะช่วยทำให้การค้าการขายเราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ไม่ยากจากการสนับสนุนช่องทางตลาดช่องทางทำเงินหรือจัดหาตลาดกลางไร้เอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางได้จริงด้วย,ตลอดจนอำนวยสะดวกระเบียนเงื่อนไขลดต้นทุนค่าขนส่ง เพิ่มกำไรแก่ทุกๆคนไทยในรากฐานสัมมาอาชีพต่างๆนั้นด้วย,พูดเสียยาวคือนายกฯใหม่ไทยจะเป็นเป็นก่อตั้งตลาดซื้อขายออนไลน์กลางระดับชาติไทยแก่คนไทยนั้นเองบนแพลตฟอร์มที่คนไทยสร้างเองเป็นแอปของคนไทยจริงๆ นอกจากshopeeของdeep stateสิงคโปร์หรือ lazada มีdeep stateตัวแม่ทั่วโลกให้นอมินีอย่างalibaba groupเป็นเจ้าของที่เหนียวแน่นบนแผ่นดินไทยเรา ,นายกฯเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มเราเองได้แน่นอน กระแสเงินสดมากมายทั้งภายในเราเองคนไทยหันมาใช้แอปเราเอง ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเอง ไม่มีการหักอะไร กินค่านั้นค่านี้สาระพัดอีก คนขายกำไร คนซื้อได้ของถูกมีคุณภาพจริงไม่ถูกเอาเปรียบทั้งจากคนขายและเจ้าของแอป,รัฐบาลอัดโปรโมตใดๆได้อีก กระตุ้นการซื้อขาย อัดบัตรสวัสดิการช่วยค่าครองชีพผ่านแพลตฟอร์มนี้ก็ได้ เสมือนร้านค้ากองทุนหมู่บ้านออนไลน์ทั่วไทย ร่วมกันเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มร้านค้าร้านตลาดนี้ร่วมกันอีก จะซื้อจะขายได้ทุกๆที่ทุกเวลา มีทั้งตลาดออฟไลน์มีสถานที่จริง จุดรับสินค้าส่งสินค้าฮับประจำหมู่บ้านสายออฟไลน์และออนไลน์ก็ได้ เข้าไปซื้อจริงจับจริงที่ร้านกองทุนหมู่บ้านก็ได้ สบู่ยาสีฟันยันเรือรบที่ตลาดออนไลน์ได้อีก,ขายข้ามโลกทั่วโลกก็ได้อีก โดยมีรัฐบาลอำนวยงานสร้างให้ตรวจสอบจับกุมจริงในคนไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์เพราะล็อกอินคือบัตรประชาชนตัวเป็นจริงนั้นล่ะ,ตลาดออนไลน์นี้ระดับประเทศไทยทั่วโลกรู้จักชัดเจน ขายสาระพัดได้หมด ค่าห้องพักโรงแรม ตั๋วสาระพัดตั๋ว ตั๋วบอลตั๋วเครื่องบินขายได้หมด ทุกๆภาคอุตสาหกรรม ขายซื้อขายได้หมด GtG ,GtB ,BtB,BtC,CtCผู้บริโภคเจอกับผู้บริโภคทางตรงค้าขายได้หมดบนแพลตฟอร์มของไทยเรา,ค้ำประกันโดยรัฐบาลไทยเราด้วย,นี้เราต้องสร้างหน่วยทัพทำตังจริงแบบนี้,ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี กลยุทธ นายกฯสั่งตรงทีมเฉพาะกิจพิเศษควบคุมอำนวยการได้หมด,บริหารจัดการได้หมด ลดภาวะประชาชนไม่ต้องปวดหัวอะไร ค้าขายเต็มที่สร้างรายได้สัมมาอาชีพอย่างสุจริตเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถใครมัน,และสามารถให้โอกาสคนทั่วโลกมาร่วมใช้บริการได้ฟรีๆค้าขายเสรีร่วมกันได้อีกเมื่อเราสามารถขนาดงานดาต้าควอนตัมพร้อมรับการไหลผ่านข้อมูลมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกได้แล้ว,รายได้ของแพลตฟอร์มนายกฯใหม่ของคนไทยเราริเริ่มปฐมบทงานสร้าง ตังสะพัดกว่า50ล้านล้านเหรียญทั่วโลกจากปกติอาจอยู่ที่25-30ล้านล้านเหรียญทั่วโลกในทุกๆแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์รวมกันก็ว่า,คนไทยเราไม่ธรรมดา แพลตฟอร์มเรามันคือโลกเสมือนจริงที่เป็นบ้านใหญ่ของคนไทยและประเทศอื่นๆที่เข้ามาโลกออนไลน์อาจติดความรู้สึกว่าบ้านตนเองคือจีนคืออเมริกาคือคนอาหรับคือคนฝรั่งคือคนผิวสี คือใดๆ แต่เมื่อเข้ามาใช้บนแพลตฟอร์มคนไทย เสมือนว่าคุณทั้งหมดคือคนไทย อยู่ประเทศไทย บ้านนี้คือบ้านคุณ บ้านนี้คือเป็นของคุณด้วยคือคุณเป็นคนไทยเช่นกันนั้นเอง,การต้อนรับมาบ้านกลับบ้านบนโลกเสมือนจริงนี้คือบ้านเราร่วมกันกันทุกๆคน ไร้การแบ่งแยกเชิงสัญลักษณ์ใดๆอีกต่อไป,มันมิใช่นัยยะแค่ตลาดออนไลน์การค้าขายแต่คือจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นชาวโลกเราได้มีพื้นที่พอยึดเหนี่ยวนั่งพักจิตพักใจพักกายนั้นเอง มีตัวตนจริงเป็นโลกเสมือนที่คนไทยเราสร้างขึ้นและจะเป็นอารยะธรรมดีงามบนโลกเสมือนจริงอีกแห่งด้วยเช่นกันแม้ไม่ใช่โลกแห่งความจริงก็ตาม รอยยิ้ม ความอิ่มอกอิ่มใจจะเหมือนว่าได้มาเยือนประเทศไทยอยู่ที่ประเทศไทยเราจริงนั้นเอง,เราไม่ได้ขายแค่วัตถุสิ่งของ แต่เราเสมอความสุขด้วยจิตวิญญาณไปด้วย,เบิกบานจิตใจยกจิตยกใจผ่านเน็ตเวิคส์นั้นเองทั่วโลก,เพราะอนาคตมาแน่นอนแว่นเรียลไทม์,และวาล์ปจริงไปโลกเสมือนนั้น ตลอดซื้อสินค้าเสร็จบนโลกเสมือน ออกมาสแกนรอรับสินค้าที่วาล์ปมาได้เลยนั้นล่ะที่จุดบริการรอรับสินค้า ขนส่งเดินรถอาจไม่มีอีกต่อไป,ท่องเที่ยวผ่านแว่นเรียล,ไปได้ทั่วจักรวาลบนโลกเสมือนจริงที่สร้างเสมือนจักรวาลที่ต้องการไปนั่นๆ,ซื้อสินค้าเสร็จจ่ายตัง กลับมาบ้าน รอรับสินค้าทันทีผ่านเครื่องพิมพ์สินค้าวาล์ปเรียลไทม์ก็ว่า,นี้จึงวิถีการบุกเบิกโคตรๆของผู้นำใหม่ประจำประเทศไทยเราจริงๆ,กากๆกระจอกอย่าเสนอตัวออกมาแดกชาติโกงกินบ้านเมืองอีกเลย,ยุคอนาคตตังติดตามเรียลไทม์การผ่านมือใครได้หมดล่ะควอนตัมบันทึกทุกกิจกรรมธุรกรรมการเงินย้อนหลังโคตรๆลบไม่ได้ด้วย,มีหนาวมีอักเสบมีดับอนาถแน่นอนในอนาคตเร็วๆนี้,กอบโกยโกงกินหมูๆหมาๆง่ายๆแบบๆเดิมๆตกยุคแน่นอน,โลกเรากำลังอัพเรเวลคัดกรองคนด้วย,จักรวาลจัดสรรนั่นล่ะ ธรรมะจักรวาลธรรมดาที่ไหน. ..นายกฯพระราชทานคือหนทางออกทางเดียวในจังหวะเวลานี้,ยุคใหม่ไม่ธรรมดานะ,และเรามีเวลาเหลือแค่ก่อนพ.ศ.5,000นะ นี้ก็2568แล้ว,มนุษยสมบัติเราสมควรจบที่โลกุตระสมบัติเป็นเบื้องต้น อรหันต์เป็นเบื้องกลาง นิพพานคือที่สุดก็ว่า,ผู้นำผู้ปกครองไทยเราอย่าขัดขวางอย่าเป็นมหามารมหาปีศาจมหาอสูรโคตรเลวโคตรชั่วอีกเลย อย่างน้อยคนไทยโดยมากเป็นผู้มากบุญบารมีพร้อมเลื่อนขั้นสาระพัดมากมายแน่แห่งจิตวิญญาณใครมัน,ท่านทั้งหลายอย่าแสวงหามหานรกโดยกระทำชั่วเลวแก่ผู้มากบุญบารมีประจำประเทศไทยคือประชาชนชาวไทยเลย,โสดาบันเต็มแผ่นดินนะนั้น กรรมใหญ่หลวงนักไปขัดขวางคนไทยตนเองในนามผีบ้าบ้าตำแหน่งอำนาจชื่อสมมุติว่าผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยนี้,คนไทยทั้งหลายแค่มาเสวยเศษกรรมตนนิดหน่อยๆแค่นั้นล่ะ,ประเทศไทยนี้จึงมีสิทธิ์ศักดิ์เป็นอันมากเพราะมาปกป้องเจ้านายตนเองด้วยก็ว่าก็มีที่มาเสวยกรรม บ้างก็ลงมาเล่นเพลินๆสาระพัพมุกมาเกิดบนอาณาเขตราชอาณาจักรมหาพุทธภูมินี้. ..ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์โคตรๆ เงินทองมากมายเต็มแผ่นดิน,วิกฤติเศรษฐกิจนี้แก้ไม่ยาก แก้ได้มากมาย นี้ก็อีกบริบทหนึ่ง,หรือไปยึดทรัพยากรมีค่ามากมายคืนมาทั้งหมดก็ได้ เอาบ่อน้ำมันคืนมาทุกๆสัมปทานก่อน จากต่างชาติจากเอกชนใดๆทั้งหมด ยึดคืนก่อนก็ได้ มาทำเองเลย ต้นทุนทุกๆมิติของไทยเราจะลดลงทันที,ขายน้ำมันก็ขายนอกประเทศในราคาตลาดโลกก็ได้แต่ขายในไทยถูกๆลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านก็สบายมาก,เศรษฐกิจไทยจะฟื้นฟูทันที บวกอัดเศรษฐกิจพอเพียงสมถะเราไปด้วย,เพียงพอพอเพียงไม่ละโมภโลภมาก ความยัางยืนรอบด้านหลากหลายมิติจะเต็มประเทศไทยเราและขยายไปทั่วโลก,โลกจะมีต่างดาวดีๆมากมายมาเยือนโลกเราและปกป้องคุ้มครองภัยศัตรูช่วยเราได้สบายๆด้วยบนจักรวาลเรานี้. ..ให้มันจบที่รุ่นเรา. https://www.tiktok.com/@amp.sarun/video/7476739522403798279
    @amp.sarun

    ขายของออนไลน์ อย่าทำที่เดียวแพลทฟอร์มเดียว ทำทุกที่ ดีทุกทาง กการตลาดการเตลิดก#การตลาดวันละคลิปสสอนการตลาดออนไลน์สสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์สสร้างตัวตนบนtiktokคครูแอ๊มการตลาดการเตลิดttiktokสายความรู้คครูลูกแอ๊มสสร้างแบรนด์bbrandingแแบรนด์ดิ้งกการตลาดออนไลน์กกลยุทธ์การตลาดสสร้างแบรนด์กการตลาดคอนเทนต์ธธุรกิจออนไลน์ดดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งddigitalmarketingก#การตลาดTikTokT#TikTokMarketing

    ♬ เสียงต้นฉบับ - การตลาดการเตลิด - การตลาดการเตลิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดาวเทียมบนโลกเราเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด — แค่ Starlink ของ SpaceX ก็ปล่อยไปแล้วกว่า 7,000 ดวง! → Amazon กำลังสร้าง Kuiper อีก 3,000 ดวง → ฝั่งจีนเตรียมปล่อย “หลายหมื่น” ดวงตามมาอีก

    มันเหมือน “ถนนบนฟ้า” ที่ไม่มีไฟแดง ไม่มีเลนตรงข้าม — แถมทุกค่ายปล่อยดาวเทียมแบบไม่ค่อยประสานกันเท่าไหร่ → หน่วยงานที่ชื่อว่า Office of Space Commerce ของสหรัฐ คือผู้ดูแลจราจรอวกาศให้ไม่ชนกัน → ทำหน้าที่คล้ายกับ FAA ที่ดูแลเครื่องบิน บนพื้นโลก → แต่พอรัฐบาลเสนองบปี 2026…ปรากฏว่า “จะลดงบจาก $65M → เหลือแค่ $10M”!!

    องค์กรอวกาศทั่วอเมริกา เช่น SpaceX, Blue Origin และอีกกว่า 450 บริษัทเลยรวมตัวกันยื่นเรื่องเตือนรัฐสภาว่า → ถ้าคุณตัด TraCSS (Traffic Coordination System for Space) ไป = เท่ากับปล่อยอวกาศให้ “จราจรสับสน–เสี่ยงชน–ค่าใช้จ่ายเพิ่ม” → แถมอเมริกาอาจเสียบทบาทในการกำหนด “มาตรฐานความปลอดภัยอวกาศโลก” ด้วย

    รัฐบาลสหรัฐมีแผนตัดงบ Office of Space Commerce จาก $65M → เหลือ $10M ในปี 2026  
    • จะกระทบต่อระบบ TraCSS ที่อยู่ระหว่างทดสอบ → ระบบจัดการจราจรอวกาศเชิงพลเรือน  
    • ทำให้ดาวเทียมเสี่ยงชน และเพิ่มความเสี่ยงของ “ขยะอวกาศ” ระยะยาว

    องค์กรอวกาศกว่า 450 แห่งออกมาเตือนรัฐสภา  
    • รวมถึง SpaceX, Blue Origin  
    • เตือนว่าการตัดงบจะทำให้ต้นทุนดำเนินงานเพิ่ม และบริษัทอาจย้ายออกนอกสหรัฐ

    จำนวนดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด:  
    • Starlink (SpaceX): 7,000 ดวงตั้งแต่ 2019  
    • Kuiper (Amazon): แผน 3,000 ดวง  
    • จีน: มีแผนปล่อย “หลายหมื่น” ดวง

    TraCSS อยู่ระหว่างทดสอบกับผู้ให้บริการหลายราย → ทำหน้าที่แจ้งเตือนการชนแบบ real-time

    Prof. Hugh Lewis เผยว่า Starlink มีการหลบชนแบบ active มากกว่าช่วงก่อนถึง 2 เท่าในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา
    • สะท้อนว่าความเสี่ยงเกิดจริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎี

    รัฐบาลมองว่าเอกชนสามารถจัดการจราจรเองได้ → แต่อุตสาหกรรมชี้ว่าขาดการประสาน และไม่มี funding model ที่ชัดเจน

    https://www.techspot.com/news/108611-us-space-industry-warns-increased-collision-risks-funding.html
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดาวเทียมบนโลกเราเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด — แค่ Starlink ของ SpaceX ก็ปล่อยไปแล้วกว่า 7,000 ดวง! → Amazon กำลังสร้าง Kuiper อีก 3,000 ดวง → ฝั่งจีนเตรียมปล่อย “หลายหมื่น” ดวงตามมาอีก มันเหมือน “ถนนบนฟ้า” ที่ไม่มีไฟแดง ไม่มีเลนตรงข้าม — แถมทุกค่ายปล่อยดาวเทียมแบบไม่ค่อยประสานกันเท่าไหร่ → หน่วยงานที่ชื่อว่า Office of Space Commerce ของสหรัฐ คือผู้ดูแลจราจรอวกาศให้ไม่ชนกัน → ทำหน้าที่คล้ายกับ FAA ที่ดูแลเครื่องบิน บนพื้นโลก → แต่พอรัฐบาลเสนองบปี 2026…ปรากฏว่า “จะลดงบจาก $65M → เหลือแค่ $10M”!! องค์กรอวกาศทั่วอเมริกา เช่น SpaceX, Blue Origin และอีกกว่า 450 บริษัทเลยรวมตัวกันยื่นเรื่องเตือนรัฐสภาว่า → ถ้าคุณตัด TraCSS (Traffic Coordination System for Space) ไป = เท่ากับปล่อยอวกาศให้ “จราจรสับสน–เสี่ยงชน–ค่าใช้จ่ายเพิ่ม” → แถมอเมริกาอาจเสียบทบาทในการกำหนด “มาตรฐานความปลอดภัยอวกาศโลก” ด้วย ✅ รัฐบาลสหรัฐมีแผนตัดงบ Office of Space Commerce จาก $65M → เหลือ $10M ในปี 2026   • จะกระทบต่อระบบ TraCSS ที่อยู่ระหว่างทดสอบ → ระบบจัดการจราจรอวกาศเชิงพลเรือน   • ทำให้ดาวเทียมเสี่ยงชน และเพิ่มความเสี่ยงของ “ขยะอวกาศ” ระยะยาว ✅ องค์กรอวกาศกว่า 450 แห่งออกมาเตือนรัฐสภา   • รวมถึง SpaceX, Blue Origin   • เตือนว่าการตัดงบจะทำให้ต้นทุนดำเนินงานเพิ่ม และบริษัทอาจย้ายออกนอกสหรัฐ ✅ จำนวนดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด:   • Starlink (SpaceX): 7,000 ดวงตั้งแต่ 2019   • Kuiper (Amazon): แผน 3,000 ดวง   • จีน: มีแผนปล่อย “หลายหมื่น” ดวง ✅ TraCSS อยู่ระหว่างทดสอบกับผู้ให้บริการหลายราย → ทำหน้าที่แจ้งเตือนการชนแบบ real-time ✅ Prof. Hugh Lewis เผยว่า Starlink มีการหลบชนแบบ active มากกว่าช่วงก่อนถึง 2 เท่าในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา • สะท้อนว่าความเสี่ยงเกิดจริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎี ✅ รัฐบาลมองว่าเอกชนสามารถจัดการจราจรเองได้ → แต่อุตสาหกรรมชี้ว่าขาดการประสาน และไม่มี funding model ที่ชัดเจน https://www.techspot.com/news/108611-us-space-industry-warns-increased-collision-risks-funding.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Space industry warns of satellite collision risks as US funding faces deep cuts
    The proposed cuts have sparked a strong backlash from the space industry. Seven major trade associations representing more than 450 companies including SpaceX and Blue Origin have...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ถ้าเรามีผู้นำที่ดี สถานะจะก้าวกระโดดกว่านี้จริงๆ,และมันก็ไม่สายอะไรด้วย สามารถเริ่มต้นทันทีในนายกฯใหม่ที่จะถึงนี้ได้,พอเถอะกับผู้นำผู้ปกครองที่กากๆกระจอกโกงบ้านโกงเมืองประจำประเทศไทย.


    .https://youtu.be/-WmLHN9kLhc?si=OFeIrwR00yvB8jUc
    ..https://youtu.be/-WmLHN9kLhc?si=OFeIrwR00yvB8jUc
    ..ถ้าเรามีผู้นำที่ดี สถานะจะก้าวกระโดดกว่านี้จริงๆ,และมันก็ไม่สายอะไรด้วย สามารถเริ่มต้นทันทีในนายกฯใหม่ที่จะถึงนี้ได้,พอเถอะกับผู้นำผู้ปกครองที่กากๆกระจอกโกงบ้านโกงเมืองประจำประเทศไทย. .https://youtu.be/-WmLHN9kLhc?si=OFeIrwR00yvB8jUc ..https://youtu.be/-WmLHN9kLhc?si=OFeIrwR00yvB8jUc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเหมือนเดิม “วาฬบลูด้า 2 แม่ลูก” ท่องทะเลบางแสน เพิ่มเติมคือในปีนี้มีสมาชิกใหม่ เป็นลูกน้อยสีชมพู โชว์ลอยตัวเหนือน้ำไล่กินปลาทะเล ทำชาวเน็ตแห่แชร์คลิป

    วันนี้ ( 4 ก.ค.) ชาวเน็ตในพื้นที่ จ.ชลบุรี ได้พากันแชร์คลิปภาพสุดน่ารัก “วาฬบูลด้าสองแม่ลูก” ที่เคยอวดโฉมบริเวณท้องทะเลบางแสน จ.ชลบุรี เมื่อปีก่อนที่ในปีนี้ได้กลับมาเยือนท้องทะเลบางแสนอีกครั้ง แต่ที่มากกว่านั้นคือ วาฬน้อยอีก 1 ตัวซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวบูลด้า ที่คาดว่าน่าจะเกิดจากแม่วาฬบลูด้าตัวเดิม

    โดยคลิปภาพเป็นความน่ารักของ ปลาวาฬบรูด้า 3 ตัวที่พากันไล่กินปลาเล็กปลาน้อยเหนือน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน และมี นกนางนวล ฝูงใหญ่ที่พากันบินไล่จิกกินปลาที่กระโดดหนี วาฬบรูด้าขึ้นมาเหนือน้ำ ถือเป็นภาพความสวยงามทางธรรมชาติที่น่าชื่นชม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000063158

    #Thaitimes #MGROnline #วาฬบรูด้า #บางแสน
    มาเหมือนเดิม “วาฬบลูด้า 2 แม่ลูก” ท่องทะเลบางแสน เพิ่มเติมคือในปีนี้มีสมาชิกใหม่ เป็นลูกน้อยสีชมพู โชว์ลอยตัวเหนือน้ำไล่กินปลาทะเล ทำชาวเน็ตแห่แชร์คลิป • วันนี้ ( 4 ก.ค.) ชาวเน็ตในพื้นที่ จ.ชลบุรี ได้พากันแชร์คลิปภาพสุดน่ารัก “วาฬบูลด้าสองแม่ลูก” ที่เคยอวดโฉมบริเวณท้องทะเลบางแสน จ.ชลบุรี เมื่อปีก่อนที่ในปีนี้ได้กลับมาเยือนท้องทะเลบางแสนอีกครั้ง แต่ที่มากกว่านั้นคือ วาฬน้อยอีก 1 ตัวซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวบูลด้า ที่คาดว่าน่าจะเกิดจากแม่วาฬบลูด้าตัวเดิม • โดยคลิปภาพเป็นความน่ารักของ ปลาวาฬบรูด้า 3 ตัวที่พากันไล่กินปลาเล็กปลาน้อยเหนือน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน และมี นกนางนวล ฝูงใหญ่ที่พากันบินไล่จิกกินปลาที่กระโดดหนี วาฬบรูด้าขึ้นมาเหนือน้ำ ถือเป็นภาพความสวยงามทางธรรมชาติที่น่าชื่นชม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000063158 • #Thaitimes #MGROnline #วาฬบรูด้า #บางแสน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพว่าในอดีต ตลาดเซิร์ฟเวอร์เต็มไปด้วย CPU x86 จาก Intel หรือ AMD เป็นหลัก แต่วันนี้เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ — เพราะ AI ต้องการ "พลังประมวลผลแบบเฉพาะทาง" มากขึ้นเรื่อย ๆ → ทำให้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ AI GPU + ชิป Arm พุ่งแรง โดยเฉพาะ Nvidia Grace + Blackwell (GB200) ที่อัด GPU ถึง 8 ตัวต่อเครื่อง!

    แค่เซิร์ฟเวอร์ตระกูลนี้เพียงกลุ่มเดียวก็กลายเป็น “ตัวจุดพลุ” ให้ยอดขายเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% เทียบปีต่อปี → แม้จะยังมีส่วนแบ่งแค่ 21.1% ของยอดส่งมอบเครื่องรวม แต่ก็เป็นก้าวกระโดดที่ใหญ่ที่สุดของ Arm ในตลาดเซิร์ฟเวอร์

    และมันยังไม่หยุดแค่นี้ — เพราะ IDC คาดว่า:
    - ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวมจะโตจาก $249B (2024) → $588B (2029)
    - โดยเซิร์ฟเวอร์ AI แบบ Accelerated จะกินส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง
    - และเซิร์ฟเวอร์ Arm จะโตจาก $32B → $103B ใน 5 ปี!
    - ในอนาคตยังมีโอกาสเห็นซีพียูจาก Qualcomm, Marvell, MediaTek หรือ Fujitsu ร่วมวงด้วย

    ส่วนผู้นำตลาดคืออเมริกา คิดเป็น 62% ของมูลค่าตลาดเซิร์ฟเวอร์ปี 2025 — เพราะเป็นศูนย์กลางการสร้าง AI Infrastructure พร้อมเทเงินลงในโครงการระดับ Stargate หรือ AGI อย่างต่อเนื่อง

    ตลาดเซิร์ฟเวอร์ไตรมาสแรกปี 2025 พุ่งถึง $95.2B — โตขึ้น 134% จากปีก่อนหน้า  
    • การเติบโตเร็วที่สุดที่เคยบันทึกมา  
    • ขับเคลื่อนโดยเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มี GPU แบบเร่งความเร็ว (Accelerated Servers)

    ยอดจัดส่งเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% YoY — ส่วนใหญ่เป็นของ Nvidia GB200 NVL72  
    • ใช้ซีพียู Grace + GPU Blackwell (B200)  
    • มี GPU 8 ตัวต่อเครื่อง

    ปี 2025 คาดการณ์ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวม $366B แบ่งเป็น:  
    • x86: $283.9B (โต 39.9%)  
    • Non-x86 (รวม Arm): $82B (โต 63.7%)

    Arm คาดจะกิน 21.1% ของยอดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกภายในสิ้นปี 2025  
    • แม้ยังห่างเป้าหมาย 50% แต่ถือเป็นการเติบโตที่มั่นคง

    ตลาด Arm-accelerated servers จะโตจาก $32B → $103B ในปี 2029  
    • ขับเคลื่อนด้วย AI แบบ reasoning model, LLM, AGI

    ตลาดใหญ่สุดคือสหรัฐฯ (โต 59.7%) > จีน (โต 39.5%) > ญี่ปุ่น (33.9%)

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/nvidias-arm-chips-rapidly-gain-share-in-server-market-as-ai-booms-nvidias-arm-powered-gb200-servers-surge-as-market-reaches-a-record-usd95-billion-in-the-first-quarter
    ลองนึกภาพว่าในอดีต ตลาดเซิร์ฟเวอร์เต็มไปด้วย CPU x86 จาก Intel หรือ AMD เป็นหลัก แต่วันนี้เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ — เพราะ AI ต้องการ "พลังประมวลผลแบบเฉพาะทาง" มากขึ้นเรื่อย ๆ → ทำให้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ AI GPU + ชิป Arm พุ่งแรง โดยเฉพาะ Nvidia Grace + Blackwell (GB200) ที่อัด GPU ถึง 8 ตัวต่อเครื่อง! แค่เซิร์ฟเวอร์ตระกูลนี้เพียงกลุ่มเดียวก็กลายเป็น “ตัวจุดพลุ” ให้ยอดขายเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% เทียบปีต่อปี → แม้จะยังมีส่วนแบ่งแค่ 21.1% ของยอดส่งมอบเครื่องรวม แต่ก็เป็นก้าวกระโดดที่ใหญ่ที่สุดของ Arm ในตลาดเซิร์ฟเวอร์ และมันยังไม่หยุดแค่นี้ — เพราะ IDC คาดว่า: - ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวมจะโตจาก $249B (2024) → $588B (2029) - โดยเซิร์ฟเวอร์ AI แบบ Accelerated จะกินส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง - และเซิร์ฟเวอร์ Arm จะโตจาก $32B → $103B ใน 5 ปี! - ในอนาคตยังมีโอกาสเห็นซีพียูจาก Qualcomm, Marvell, MediaTek หรือ Fujitsu ร่วมวงด้วย ส่วนผู้นำตลาดคืออเมริกา คิดเป็น 62% ของมูลค่าตลาดเซิร์ฟเวอร์ปี 2025 — เพราะเป็นศูนย์กลางการสร้าง AI Infrastructure พร้อมเทเงินลงในโครงการระดับ Stargate หรือ AGI อย่างต่อเนื่อง ✅ ตลาดเซิร์ฟเวอร์ไตรมาสแรกปี 2025 พุ่งถึง $95.2B — โตขึ้น 134% จากปีก่อนหน้า   • การเติบโตเร็วที่สุดที่เคยบันทึกมา   • ขับเคลื่อนโดยเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มี GPU แบบเร่งความเร็ว (Accelerated Servers) ✅ ยอดจัดส่งเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% YoY — ส่วนใหญ่เป็นของ Nvidia GB200 NVL72   • ใช้ซีพียู Grace + GPU Blackwell (B200)   • มี GPU 8 ตัวต่อเครื่อง ✅ ปี 2025 คาดการณ์ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวม $366B แบ่งเป็น:   • x86: $283.9B (โต 39.9%)   • Non-x86 (รวม Arm): $82B (โต 63.7%) ✅ Arm คาดจะกิน 21.1% ของยอดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกภายในสิ้นปี 2025   • แม้ยังห่างเป้าหมาย 50% แต่ถือเป็นการเติบโตที่มั่นคง ✅ ตลาด Arm-accelerated servers จะโตจาก $32B → $103B ในปี 2029   • ขับเคลื่อนด้วย AI แบบ reasoning model, LLM, AGI ✅ ตลาดใหญ่สุดคือสหรัฐฯ (โต 59.7%) > จีน (โต 39.5%) > ญี่ปุ่น (33.9%) https://www.tomshardware.com/desktops/servers/nvidias-arm-chips-rapidly-gain-share-in-server-market-as-ai-booms-nvidias-arm-powered-gb200-servers-surge-as-market-reaches-a-record-usd95-billion-in-the-first-quarter
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเดิมหุ่นยนต์ Amazon แค่ย้ายชั้นวางของ วันนี้มันเหมือน “รถยนต์ในเมืองที่มีระบบจัดการจราจร AI” เลยครับ

    Amazon ประกาศว่าเพิ่งติดตั้ง “หุ่นยนต์ตัวที่ 1 ล้าน” ที่ศูนย์กระจายสินค้าในญี่ปุ่น และกำลังจะมีหุ่นยนต์มากกว่าพนักงานมนุษย์ในคลังสินค้าอีกด้วย! ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่า Amazon มีพนักงานกว่า 1.56 ล้านคนทั่วโลก และส่วนใหญ่อยู่ในฝ่ายคลังสินค้า — ดังนั้นนี่ไม่ใช่แค่ milestone ธรรมดา

    เบื้องหลังทั้งหมดคือ AI ชื่อ DeepFleet ที่ทำหน้าที่เหมือน “ระบบจัดการจราจรในเมืองที่รถทุกคันคือหุ่นยนต์” → มันสามารถลดระยะทาง + เวลาที่หุ่นยนต์ต้องเดินทางได้ 10% → ซึ่งเมื่อเอาไปคูณกับภารกิจระดับล้านคำสั่งต่อวัน ผลกระทบคือระดับพันล้านดอลลาร์ได้เลยครับ

    Amazon มีหุ่นยนต์หลายประเภท เช่น:
    - Hercules: ยกของหนักได้ 1,250 ปอนด์
    - Pegasus: ใช้สายพานจัดการพัสดุเล็ก
    - Proteus: หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติแบบ fully autonomous ที่เดินผ่านพนักงานได้

    บริษัทกำลังทดสอบการให้หุ่นยนต์รับคำสั่งเสียงจากพนักงาน และ “หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์แบบมีแขน–ขา–หัว” ก็อยู่ในสายงานวิจัยแล้ว!

    Amazon ยืนยันว่าหุ่นยนต์ไม่ใช่ตัวแย่งงาน แต่ช่วยเปลี่ยนแรงงานเป็นงานที่ใช้ทักษะมากขึ้น — ปัจจุบันมีพนักงาน 700,000 คนที่ถูกอัปสกิลไปทำงานร่วมกับเทคโนโลยี หรืองานที่จ่ายสูงกว่าเดิม

    Amazon เพิ่งติดตั้งหุ่นยนต์ตัวที่ 1,000,000 ที่ศูนย์กระจายสินค้าในญี่ปุ่น  
    • เป็นหมุดหมายสำคัญของการใช้ automation ในคลังสินค้า  
    • หุ่นยนต์เริ่มมีจำนวนใกล้เคียงหรือมากกว่าคนในคลังแล้ว

    AI ชื่อ DeepFleet ช่วยจัดเส้นทางและเวลาเดินของหุ่นยนต์ให้มีประสิทธิภาพขึ้น 10%  
    • เทียบได้กับระบบจัดการจราจรในเมืองสำหรับหุ่นยนต์  
    • ช่วยลดเวลาจัดของและค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าลงได้มาก

    Amazon มีหุ่นยนต์หลายรุ่นที่ทำงานต่างกัน:  
    • Hercules (ยกของหนัก)  
    • Pegasus (คัดแยกพัสดุ)  
    • Proteus (เคลื่อนที่อิสระได้ในคลัง)

    Amazon ฝึกอบรมพนักงานกว่า 700,000 คนให้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี  
    • เช่น ฝึกซ่อมหุ่นยนต์, ตรวจระบบ, เขียนคำสั่ง  
    • สร้างงานใหม่ที่มีรายได้สูงขึ้นกว่าเดิม

    บริษัทอยู่ระหว่างทดสอบหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่สามารถเดิน–ยกของ–ตอบโต้พนักงานได้

    การเติบโตของหุ่นยนต์แบบก้าวกระโดด อาจทำให้แรงงานที่ไม่ได้ reskill หลุดออกจากระบบงานในอนาคต  
    • โดยเฉพาะพนักงานที่ทำงานซ้ำ ๆ แต่ไม่ปรับตัว

    AI ที่ควบคุมหุ่นยนต์ เช่น DeepFleet ยังไม่มีรายงานด้านการ audit ความโปร่งใสหรือ bias  
    • ความผิดพลาดอาจกระทบระบบโลจิสติกส์ทั้งสายงาน

    การจัดการจราจรของหุ่นยนต์ในพื้นที่เดียวกับมนุษย์ ต้องการความปลอดภัยสูงมาก  
    • ถ้า AI คำนวณพลาด หุ่นยนต์ชนคนหรือข้าวของมีผลทันที

    แพลตฟอร์มอย่าง Amazon ที่ควบคุมทั้งแรงงานมนุษย์และหุ่นยนต์ใน ecosystem เดียว อาจเกิด “อำนาจต่อรองไม่สมดุล”  
    • โดยเฉพาะในประเทศที่ยังไม่มีนโยบายด้าน AI Labor & Automation

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/amazon-just-deployed-its-one-millionth-robot-in-its-warehouses-and-theyll-soon-outnumber-humans-generative-ai-to-help-cut-robot-fleet-travel-time-by-10-percent
    จากเดิมหุ่นยนต์ Amazon แค่ย้ายชั้นวางของ วันนี้มันเหมือน “รถยนต์ในเมืองที่มีระบบจัดการจราจร AI” เลยครับ Amazon ประกาศว่าเพิ่งติดตั้ง “หุ่นยนต์ตัวที่ 1 ล้าน” ที่ศูนย์กระจายสินค้าในญี่ปุ่น และกำลังจะมีหุ่นยนต์มากกว่าพนักงานมนุษย์ในคลังสินค้าอีกด้วย! ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่า Amazon มีพนักงานกว่า 1.56 ล้านคนทั่วโลก และส่วนใหญ่อยู่ในฝ่ายคลังสินค้า — ดังนั้นนี่ไม่ใช่แค่ milestone ธรรมดา เบื้องหลังทั้งหมดคือ AI ชื่อ DeepFleet ที่ทำหน้าที่เหมือน “ระบบจัดการจราจรในเมืองที่รถทุกคันคือหุ่นยนต์” → มันสามารถลดระยะทาง + เวลาที่หุ่นยนต์ต้องเดินทางได้ 10% → ซึ่งเมื่อเอาไปคูณกับภารกิจระดับล้านคำสั่งต่อวัน ผลกระทบคือระดับพันล้านดอลลาร์ได้เลยครับ Amazon มีหุ่นยนต์หลายประเภท เช่น: - Hercules: ยกของหนักได้ 1,250 ปอนด์ - Pegasus: ใช้สายพานจัดการพัสดุเล็ก - Proteus: หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติแบบ fully autonomous ที่เดินผ่านพนักงานได้ บริษัทกำลังทดสอบการให้หุ่นยนต์รับคำสั่งเสียงจากพนักงาน และ “หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์แบบมีแขน–ขา–หัว” ก็อยู่ในสายงานวิจัยแล้ว! Amazon ยืนยันว่าหุ่นยนต์ไม่ใช่ตัวแย่งงาน แต่ช่วยเปลี่ยนแรงงานเป็นงานที่ใช้ทักษะมากขึ้น — ปัจจุบันมีพนักงาน 700,000 คนที่ถูกอัปสกิลไปทำงานร่วมกับเทคโนโลยี หรืองานที่จ่ายสูงกว่าเดิม ✅ Amazon เพิ่งติดตั้งหุ่นยนต์ตัวที่ 1,000,000 ที่ศูนย์กระจายสินค้าในญี่ปุ่น   • เป็นหมุดหมายสำคัญของการใช้ automation ในคลังสินค้า   • หุ่นยนต์เริ่มมีจำนวนใกล้เคียงหรือมากกว่าคนในคลังแล้ว ✅ AI ชื่อ DeepFleet ช่วยจัดเส้นทางและเวลาเดินของหุ่นยนต์ให้มีประสิทธิภาพขึ้น 10%   • เทียบได้กับระบบจัดการจราจรในเมืองสำหรับหุ่นยนต์   • ช่วยลดเวลาจัดของและค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าลงได้มาก ✅ Amazon มีหุ่นยนต์หลายรุ่นที่ทำงานต่างกัน:   • Hercules (ยกของหนัก)   • Pegasus (คัดแยกพัสดุ)   • Proteus (เคลื่อนที่อิสระได้ในคลัง) ✅ Amazon ฝึกอบรมพนักงานกว่า 700,000 คนให้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี   • เช่น ฝึกซ่อมหุ่นยนต์, ตรวจระบบ, เขียนคำสั่ง   • สร้างงานใหม่ที่มีรายได้สูงขึ้นกว่าเดิม ✅ บริษัทอยู่ระหว่างทดสอบหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่สามารถเดิน–ยกของ–ตอบโต้พนักงานได้ ‼️ การเติบโตของหุ่นยนต์แบบก้าวกระโดด อาจทำให้แรงงานที่ไม่ได้ reskill หลุดออกจากระบบงานในอนาคต   • โดยเฉพาะพนักงานที่ทำงานซ้ำ ๆ แต่ไม่ปรับตัว ‼️ AI ที่ควบคุมหุ่นยนต์ เช่น DeepFleet ยังไม่มีรายงานด้านการ audit ความโปร่งใสหรือ bias   • ความผิดพลาดอาจกระทบระบบโลจิสติกส์ทั้งสายงาน ‼️ การจัดการจราจรของหุ่นยนต์ในพื้นที่เดียวกับมนุษย์ ต้องการความปลอดภัยสูงมาก   • ถ้า AI คำนวณพลาด หุ่นยนต์ชนคนหรือข้าวของมีผลทันที ‼️ แพลตฟอร์มอย่าง Amazon ที่ควบคุมทั้งแรงงานมนุษย์และหุ่นยนต์ใน ecosystem เดียว อาจเกิด “อำนาจต่อรองไม่สมดุล”   • โดยเฉพาะในประเทศที่ยังไม่มีนโยบายด้าน AI Labor & Automation https://www.tomshardware.com/tech-industry/amazon-just-deployed-its-one-millionth-robot-in-its-warehouses-and-theyll-soon-outnumber-humans-generative-ai-to-help-cut-robot-fleet-travel-time-by-10-percent
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายสัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันเรื่องหินสามชาติ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำวั่งชวน (แม่น้ำลืมเลือน) วันนี้เลยมาคุยกันอีกสักนิดถึงแม่น้ำวั่งชวนนี้ หากใครได้ดูละครเรื่อง <เถ้ามธุรส> จะเห็นฉากที่นางเอกลงไปลุยแม่น้ำวั่งชวน รูปแม่น้ำตามรูปขวา (จากในละคร) แลเห็นมีแสงเขียวเป็นดวงๆ อยู่ในน้ำ ซึ่งตามตำนานนั้นพวกนี้ก็คือดวงวิญญาน

    ความมีอยู่ว่า
    ...ข้ายกขาก้าวลงไปในแม่น้ำวั่งชวนอย่างไม่ลังเล มิใยที่เหล่าวิญญาณที่กำลังคร่ำครวญโหยหวนต่างกรูกันเข้ามา เพียงชั่วขณะจิตก็ฉุดรั้งครึ่งท่อนล่างของร่างข้าลงไป ข้าใช้มือแกะเส้นสายดวงวิญญาณในน้ำเหล่านี้ออกไป พลางพินิจดูดวงวิญญาณในน้ำนั้น ข้าเชื่อว่า ขอเพียงข้าเสาะหาอย่างไม่หยุดยั้ง ต่อให้แม่น้ำวั่งชวนจะมีกี่ล้านพันล้านดวงวิญญาณ ข้าก็จะยังหาพบเสี้ยวหนึ่งของเขา...
    - จากเรื่อง <มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง> ผู้แต่ง เตี้ยนเสี้ยน
    (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ ละครเรื่อง <เถ้ามธุรส> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    เพื่อนเพจแฟนคลับนิยายจีนแนวเทพเซียนคงคุ้นเคยดีกับเรื่องน้ำแกงยายเมิ่งที่ทำให้คนลืมอดีตชาติเพื่อไปเกิดใหม่ ว่ากันว่ายายเมิ่งแจกจ่ายน้ำแกงนี้ให้ดวงวิญญาณกินก่อนจะก้าวข้ามผ่านสะพานไน่เหอ (เคยมีคนแปลไว้ว่าสะพานอนิจจัง) เพื่อไปสู่ภพชาติใหม่ ผู้ใดไม่ยอมดื่มน้ำแกงยายเมิ่งก็ข้ามสะพานไน่เหอไปเกิดใหม่ไม่ได้ สะพานไน่เหอนี้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำวั่งชวน (แต่ในละครไม่มี) ตามตำนานนั้นสะพานไน่เหอมีสามชั้น ชั้นบนสุดปลอดภัยเดินสะดวก เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่มีจิตใจปราณี ชั้นที่สองเดินลำบากหน่อยแต่ไม่อันตราย เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่ทำผิดเล็กน้อยมาบ้างทำดีมาบ้าง ส่วนชั้นล่างอันตรายสุดมีงูทองแดงและสุนัขเหล็กคอยจู่โจม เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่เคยทำเรื่องชั่วร้าย

    วั่งชวน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นแม่น้ำลืมเลือน แล้วทำไมจึงมีดวงวิญญาณ? คำตอบก็คือ 1) คนที่ข้ามสะพานไม่ผ่านแล้วหล่นลงมา (ก็จากสะพานชั้นล่างที่อันตรายสุดตามที่กล่าวมาข้างต้น จึงเป็นที่เล่าขานว่าดวงวิญญาณในแม่น้ำวั่งชวนส่วนใหญ่เป็นวิญญาณร้าย) และ 2) คนที่ไม่สามารถปล่อยวางอดีต ไม่ยอมกินน้ำแกงยายเมิ่ง ข้ามสะพานไน่เหอไม่ได้ ได้แต่กระโดดลงไปในแม่น้ำวั่งชวนเพื่อรอคอยคนรัก และต้องรอนานถึงหนึ่งพันปี

    สำหรับคนที่กระโดดลงน้ำเพื่อรอคอยคนรัก เชื่อว่ามันคงเป็นการรอคอยที่ทรมาน เพราะภายในหนึ่งพันปีนั้น เขาอาจได้เห็นคนรักดื่มน้ำแกงยายเมิ่งข้ามสะพานแล้วลืมอดีตชาติลืมตนเองไปโดยไม่ทันได้มองลงมาเห็นตน และอาจบางทีเขาต้องมองคนคนนั้นก้าวข้ามผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า เศร้าไหม? แต่หากอดทนได้พันปีไม่ลืมรักก็จะมีโอกาสไปเกิดใหม่เพื่อตามหารักนั้นอีกครั้ง… ย้ำ: ถ้าอดทนได้หนึ่งพันปี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://wallpapercave.com/ashes-of-love-wallpapers
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.360doc.com/content/17/0124/22/31610762_624607651.shtml
    https://www.bilibili.com/read/cv8965867/
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/27278819

    #มธุรสหวานล้ำ #เถ้ามธุรส #วั่งชวน #ตำนานจีน StoryfromStory
    หลายสัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันเรื่องหินสามชาติ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำวั่งชวน (แม่น้ำลืมเลือน) วันนี้เลยมาคุยกันอีกสักนิดถึงแม่น้ำวั่งชวนนี้ หากใครได้ดูละครเรื่อง <เถ้ามธุรส> จะเห็นฉากที่นางเอกลงไปลุยแม่น้ำวั่งชวน รูปแม่น้ำตามรูปขวา (จากในละคร) แลเห็นมีแสงเขียวเป็นดวงๆ อยู่ในน้ำ ซึ่งตามตำนานนั้นพวกนี้ก็คือดวงวิญญาน ความมีอยู่ว่า ...ข้ายกขาก้าวลงไปในแม่น้ำวั่งชวนอย่างไม่ลังเล มิใยที่เหล่าวิญญาณที่กำลังคร่ำครวญโหยหวนต่างกรูกันเข้ามา เพียงชั่วขณะจิตก็ฉุดรั้งครึ่งท่อนล่างของร่างข้าลงไป ข้าใช้มือแกะเส้นสายดวงวิญญาณในน้ำเหล่านี้ออกไป พลางพินิจดูดวงวิญญาณในน้ำนั้น ข้าเชื่อว่า ขอเพียงข้าเสาะหาอย่างไม่หยุดยั้ง ต่อให้แม่น้ำวั่งชวนจะมีกี่ล้านพันล้านดวงวิญญาณ ข้าก็จะยังหาพบเสี้ยวหนึ่งของเขา... - จากเรื่อง <มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง> ผู้แต่ง เตี้ยนเสี้ยน (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ ละครเรื่อง <เถ้ามธุรส> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) เพื่อนเพจแฟนคลับนิยายจีนแนวเทพเซียนคงคุ้นเคยดีกับเรื่องน้ำแกงยายเมิ่งที่ทำให้คนลืมอดีตชาติเพื่อไปเกิดใหม่ ว่ากันว่ายายเมิ่งแจกจ่ายน้ำแกงนี้ให้ดวงวิญญาณกินก่อนจะก้าวข้ามผ่านสะพานไน่เหอ (เคยมีคนแปลไว้ว่าสะพานอนิจจัง) เพื่อไปสู่ภพชาติใหม่ ผู้ใดไม่ยอมดื่มน้ำแกงยายเมิ่งก็ข้ามสะพานไน่เหอไปเกิดใหม่ไม่ได้ สะพานไน่เหอนี้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำวั่งชวน (แต่ในละครไม่มี) ตามตำนานนั้นสะพานไน่เหอมีสามชั้น ชั้นบนสุดปลอดภัยเดินสะดวก เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่มีจิตใจปราณี ชั้นที่สองเดินลำบากหน่อยแต่ไม่อันตราย เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่ทำผิดเล็กน้อยมาบ้างทำดีมาบ้าง ส่วนชั้นล่างอันตรายสุดมีงูทองแดงและสุนัขเหล็กคอยจู่โจม เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่เคยทำเรื่องชั่วร้าย วั่งชวน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นแม่น้ำลืมเลือน แล้วทำไมจึงมีดวงวิญญาณ? คำตอบก็คือ 1) คนที่ข้ามสะพานไม่ผ่านแล้วหล่นลงมา (ก็จากสะพานชั้นล่างที่อันตรายสุดตามที่กล่าวมาข้างต้น จึงเป็นที่เล่าขานว่าดวงวิญญาณในแม่น้ำวั่งชวนส่วนใหญ่เป็นวิญญาณร้าย) และ 2) คนที่ไม่สามารถปล่อยวางอดีต ไม่ยอมกินน้ำแกงยายเมิ่ง ข้ามสะพานไน่เหอไม่ได้ ได้แต่กระโดดลงไปในแม่น้ำวั่งชวนเพื่อรอคอยคนรัก และต้องรอนานถึงหนึ่งพันปี สำหรับคนที่กระโดดลงน้ำเพื่อรอคอยคนรัก เชื่อว่ามันคงเป็นการรอคอยที่ทรมาน เพราะภายในหนึ่งพันปีนั้น เขาอาจได้เห็นคนรักดื่มน้ำแกงยายเมิ่งข้ามสะพานแล้วลืมอดีตชาติลืมตนเองไปโดยไม่ทันได้มองลงมาเห็นตน และอาจบางทีเขาต้องมองคนคนนั้นก้าวข้ามผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า เศร้าไหม? แต่หากอดทนได้พันปีไม่ลืมรักก็จะมีโอกาสไปเกิดใหม่เพื่อตามหารักนั้นอีกครั้ง… ย้ำ: ถ้าอดทนได้หนึ่งพันปี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://wallpapercave.com/ashes-of-love-wallpapers Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.360doc.com/content/17/0124/22/31610762_624607651.shtml https://www.bilibili.com/read/cv8965867/ https://zhuanlan.zhihu.com/p/27278819 #มธุรสหวานล้ำ #เถ้ามธุรส #วั่งชวน #ตำนานจีน StoryfromStory
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## เต็มเหนี่ยว ปกป้องเพื่อนรัก ยอมเปลี่ยน เปลี่ยนชื่อพรรคไปเลย...!!! ##
    ..
    ..
    พลเมืองไทย ฟังคลิป อังเคิล แล้วควันออกหู...!!!
    .
    นี่ชาติกูมี "ไส้ศึก" ขายชาติเหรอวะเนี่ย...!!!
    .
    ประชาชน มารวมพลังชุมนุม เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจ ปกป้องผืนแผ่นดินไทย...
    .
    พรรคประชาชน ส้มจี๊ด ด่าประชาชนทันที มาเรียก "รัฐประหาร"...!!!
    .
    เป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ไม่ทำหน้าที่ อภิปราย "ไส้ศึก"...!!!
    .
    กลับกระโดดตัวยาว ปกป้อง "เพื่อนรัก" เต็มเหนี่ยว...!!!
    .
    แถมเบี่ยงประเด็น ด่าประชาชน คลั่งชาตินิยม...!!!
    .
    อ้างประชาชน...
    ที่ไม่ฟังเสียงประชาชน...!!!
    ....
    ....
    เปลี่ยนชื่อพรรคไปเถอะ เป็น...
    .
    "จักรพรรดิวาทะกรรม ทำงานไม่เป็น ประโยชน์กูมาก่อน ประโยชน์ชาติประชาชน ไว้ท้ายสุด"...!!!
    ## เต็มเหนี่ยว ปกป้องเพื่อนรัก ยอมเปลี่ยน เปลี่ยนชื่อพรรคไปเลย...!!! ## .. .. พลเมืองไทย ฟังคลิป อังเคิล แล้วควันออกหู...!!! . นี่ชาติกูมี "ไส้ศึก" ขายชาติเหรอวะเนี่ย...!!! . ประชาชน มารวมพลังชุมนุม เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจ ปกป้องผืนแผ่นดินไทย... . พรรคประชาชน ส้มจี๊ด ด่าประชาชนทันที มาเรียก "รัฐประหาร"...!!! . เป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ไม่ทำหน้าที่ อภิปราย "ไส้ศึก"...!!! . กลับกระโดดตัวยาว ปกป้อง "เพื่อนรัก" เต็มเหนี่ยว...!!! . แถมเบี่ยงประเด็น ด่าประชาชน คลั่งชาตินิยม...!!! . อ้างประชาชน... ที่ไม่ฟังเสียงประชาชน...!!! .... .... เปลี่ยนชื่อพรรคไปเถอะ เป็น... . "จักรพรรดิวาทะกรรม ทำงานไม่เป็น ประโยชน์กูมาก่อน ประโยชน์ชาติประชาชน ไว้ท้ายสุด"...!!!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังจะเปิดตัวซีพียูสายเดสก์ท็อปตัวใหม่ที่ชื่อว่า Nova Lake-S ซึ่งถ้าดูจากสไลด์ที่หลุดออกมา ตัวท็อปอย่าง Core Ultra 9 จะทำได้ดีทั้งงานเบา (single-threaded) และงานหนัก (multi-threaded) โดยเฉพาะงานหนักที่ทะลุ +60% จากรุ่น Arrow Lake-S เลยทีเดียว

    อะไรที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแบบก้าวกระโดดนี้?
    - แกนประมวลผลมากขึ้น: รุ่นท็อปน่าจะมี 52 คอร์/เธรด!
    - โครงสร้างใหม่: ใช้คอร์ “Coyote Cove” สำหรับงานหลัก (P-core) + “Arctic Wolf” สำหรับงานเบา (E-core)
    - เพิ่มคอร์แบบ ultra-low power (LP-E) ที่เคยใช้ใน Meteor Lake เพื่อประหยัดพลังงานอีกด้วย
    - รองรับ RAM DDR5-8000 และ PCIe 5.0 เต็มเหนี่ยว
    - และที่สำคัญ...มี L4 cache หรือ “bLLC” ที่อาจคล้ายแนวคิด 3D V-cache ของ AMD ด้วย!

    แม้ยังไม่มีตัวเลข benchmark ทางการ แต่ถ้าทุกอย่างเป็นจริง Nova Lake อาจเปลี่ยนสมดุลตลาดซีพียูได้อีกครั้ง โดยเฉพาะกับงานเล่นเกมและ workstation ที่ต้องการ core เยอะและ cache หนา

    https://www.neowin.net/news/intel-nova-lake-alleged-performance-shows-massive-improvement-could-answer-amd-3d-v-cache/
    Intel กำลังจะเปิดตัวซีพียูสายเดสก์ท็อปตัวใหม่ที่ชื่อว่า Nova Lake-S ซึ่งถ้าดูจากสไลด์ที่หลุดออกมา ตัวท็อปอย่าง Core Ultra 9 จะทำได้ดีทั้งงานเบา (single-threaded) และงานหนัก (multi-threaded) โดยเฉพาะงานหนักที่ทะลุ +60% จากรุ่น Arrow Lake-S เลยทีเดียว อะไรที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแบบก้าวกระโดดนี้? - แกนประมวลผลมากขึ้น: รุ่นท็อปน่าจะมี 52 คอร์/เธรด! - โครงสร้างใหม่: ใช้คอร์ “Coyote Cove” สำหรับงานหลัก (P-core) + “Arctic Wolf” สำหรับงานเบา (E-core) - เพิ่มคอร์แบบ ultra-low power (LP-E) ที่เคยใช้ใน Meteor Lake เพื่อประหยัดพลังงานอีกด้วย - รองรับ RAM DDR5-8000 และ PCIe 5.0 เต็มเหนี่ยว - และที่สำคัญ...มี L4 cache หรือ “bLLC” ที่อาจคล้ายแนวคิด 3D V-cache ของ AMD ด้วย! แม้ยังไม่มีตัวเลข benchmark ทางการ แต่ถ้าทุกอย่างเป็นจริง Nova Lake อาจเปลี่ยนสมดุลตลาดซีพียูได้อีกครั้ง โดยเฉพาะกับงานเล่นเกมและ workstation ที่ต้องการ core เยอะและ cache หนา https://www.neowin.net/news/intel-nova-lake-alleged-performance-shows-massive-improvement-could-answer-amd-3d-v-cache/
    WWW.NEOWIN.NET
    Intel Nova Lake alleged performance shows massive improvement, could answer AMD 3D V-cache
    Intel's official performance claims have allegedly leaked. Apparently, there could be a massive improvement thanks to more cores and a new 3D cache, similar to AMD's.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..น่าจะพวกดัดจริตหรือฝ่ายตรงข้ามทหารเราชัดเจนอีกตัวและหลายตัว,ทหารจะทำจะเป็นอะไร,ทำแล้วดีแน่นอน,มิใช่ทหารอีลิทฝ่ายdeep stateทำเหมือนในอดีตจะเป็นอะไร,ทำเพื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วย,ละครสนามสงครามจีนใต้หวันกำลังจะเริ่มอีก,รัฐบาลปกติไม่สามารถรับมือทันกาลหรอก,วิกฤติต่างๆทั่วโลกอีก,กฎปกติธรรมดาไม่สามารถช่วยเหลือสั่งการช่วยเหลือได้ทันกาลหรอกเช่นกัน,จะต้องอาศัยอำนาจคำสั่งพิเศษเฉพาะกาลและฉุกเฉินเป็นอันในช่วงเวลานี้เป็นต้นไป,ทหารร่วมกับคณะทีมรวมพลังแผ่นดินขึ้นเป็นรัฐบาลจะเป็นอะไร,ทำไมคณะประชาชนสายตรงจะบริหารประเทศไม่ได้ วิจัยทดลองงานสัก5-10ปีดูก็ได้,สมมุติทีมรัฐบาลชุดรวมพลังแผ่นดินไทย มีคำสั่งร่วมกับทหารในนามกฎอัยการศึกทั่วประเทศโมฆะสัญญาสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดจะเป็นอะไร,แล้วผลืตขายน้ำมันทำเองภายในประเทศช่วงโลกพบวิกฤติทั้งโลกจะเป็นอะไรในราคาถูกๆคือลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านเพื่อรับมือพิษเศรษฐกิจทั้งโลก,ไทยปกป้องไทยเราเองก่อนจะเป็นอะไร ไล่คนอื่นกลับบ้านไปก่อนเพื่อบ้านเมืองพบวิกฤติแล้วคุณจะมาหาแดกทำกำไรมหาศาลในบ้านของฉันที่กำลังขาดแคลนกำลังจะตายจะมาเกรงอกเกรงใจโคตรพ่อโคตรแมร่งคุณเหรอ,ฉันจะมารยาทแฮดคอเพื่อคุณเหรอ,กูต้องไล่มึงออกจากบ้านกูมันทีก่อนหยุดกิจกรรมมึงทั้งหมดแล้วไปจากบ้านจากพื้นที่กูเสียก่อน,โลกสงบบ้านเมืองสงบจึงค่อยมาว่ากันตกลงกันอีกครั้ง,นี้คือสิ่งที่ทหารปฏิวัติต้องกระทำการทันทีคือสิ่งแรก,ควบคุมน้ำมัน ขนส่งทั่วประเทศจะถูกลงทันที,ทหารสร้างอัตลักษณ์ภาพลักษณ์เชิงบวกแน่นอนในทันที,ดูดีกว่าจะมาประกาศลดราคาน้ำมันอีกเพราะไม่ใช่จัดการที่ต้นเหตุ,เป็นบ๋อยให้ทุนเหมือนเดิม.
    ..ปฏิวัติเลย,ปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจเลย พวกนี้เป็นฝ่ายตรงข้ามทหารไทยเราแน่นอน,ผีบ้าดัดจริตจะหวาดกลัวไปห่าเหวอะไร,ไม่ได้จับคนบริสุทธิ์ใส่ร้ายคนบริสุทธิ์ไปยิงทิ้งแบบในอดีตยุคคอมมิวนิสต์เผด็จการแบบนั้นเลย,พวกนี้อาจไม่ใช่คนไทยเป็นเพียงพวกเสียผลประโยชน์บนแผ่นดินไทยหากเกิดปฏิวัติขึ้น พวกสมคบคิดเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ คิดเห็นแก่กิจการกำไรรายได้มันนั้นล่ะ,ทหารมีคณะทีมงานรวมพลังแผ่นดินไทยช่วยเหลือร่วมกันไทยเรามีก้าวต่อไปแน่นอนอาจกระโดดแทนโน้นมิต้องก้าวเลย,เพราะตัวถ่วงตัวขัดขวางตัวขยะอุดรูทางเดินน้ำมันถูกกำจัดสิ้นซากไปหมดทันทีที่เปิดงานก็ว่า,ทหารไทยเราเปิดงานให้ดูหน่อยเถอะ พวกนี้อยู่ฝ่ายตรงข้ามชัดเจน,

    https://youtube.com/watch?v=z1fIbShcOpI&si=VNHCuj4n7HnWWfnc
    ..น่าจะพวกดัดจริตหรือฝ่ายตรงข้ามทหารเราชัดเจนอีกตัวและหลายตัว,ทหารจะทำจะเป็นอะไร,ทำแล้วดีแน่นอน,มิใช่ทหารอีลิทฝ่ายdeep stateทำเหมือนในอดีตจะเป็นอะไร,ทำเพื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วย,ละครสนามสงครามจีนใต้หวันกำลังจะเริ่มอีก,รัฐบาลปกติไม่สามารถรับมือทันกาลหรอก,วิกฤติต่างๆทั่วโลกอีก,กฎปกติธรรมดาไม่สามารถช่วยเหลือสั่งการช่วยเหลือได้ทันกาลหรอกเช่นกัน,จะต้องอาศัยอำนาจคำสั่งพิเศษเฉพาะกาลและฉุกเฉินเป็นอันในช่วงเวลานี้เป็นต้นไป,ทหารร่วมกับคณะทีมรวมพลังแผ่นดินขึ้นเป็นรัฐบาลจะเป็นอะไร,ทำไมคณะประชาชนสายตรงจะบริหารประเทศไม่ได้ วิจัยทดลองงานสัก5-10ปีดูก็ได้,สมมุติทีมรัฐบาลชุดรวมพลังแผ่นดินไทย มีคำสั่งร่วมกับทหารในนามกฎอัยการศึกทั่วประเทศโมฆะสัญญาสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดจะเป็นอะไร,แล้วผลืตขายน้ำมันทำเองภายในประเทศช่วงโลกพบวิกฤติทั้งโลกจะเป็นอะไรในราคาถูกๆคือลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านเพื่อรับมือพิษเศรษฐกิจทั้งโลก,ไทยปกป้องไทยเราเองก่อนจะเป็นอะไร ไล่คนอื่นกลับบ้านไปก่อนเพื่อบ้านเมืองพบวิกฤติแล้วคุณจะมาหาแดกทำกำไรมหาศาลในบ้านของฉันที่กำลังขาดแคลนกำลังจะตายจะมาเกรงอกเกรงใจโคตรพ่อโคตรแมร่งคุณเหรอ,ฉันจะมารยาทแฮดคอเพื่อคุณเหรอ,กูต้องไล่มึงออกจากบ้านกูมันทีก่อนหยุดกิจกรรมมึงทั้งหมดแล้วไปจากบ้านจากพื้นที่กูเสียก่อน,โลกสงบบ้านเมืองสงบจึงค่อยมาว่ากันตกลงกันอีกครั้ง,นี้คือสิ่งที่ทหารปฏิวัติต้องกระทำการทันทีคือสิ่งแรก,ควบคุมน้ำมัน ขนส่งทั่วประเทศจะถูกลงทันที,ทหารสร้างอัตลักษณ์ภาพลักษณ์เชิงบวกแน่นอนในทันที,ดูดีกว่าจะมาประกาศลดราคาน้ำมันอีกเพราะไม่ใช่จัดการที่ต้นเหตุ,เป็นบ๋อยให้ทุนเหมือนเดิม. ..ปฏิวัติเลย,ปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจเลย พวกนี้เป็นฝ่ายตรงข้ามทหารไทยเราแน่นอน,ผีบ้าดัดจริตจะหวาดกลัวไปห่าเหวอะไร,ไม่ได้จับคนบริสุทธิ์ใส่ร้ายคนบริสุทธิ์ไปยิงทิ้งแบบในอดีตยุคคอมมิวนิสต์เผด็จการแบบนั้นเลย,พวกนี้อาจไม่ใช่คนไทยเป็นเพียงพวกเสียผลประโยชน์บนแผ่นดินไทยหากเกิดปฏิวัติขึ้น พวกสมคบคิดเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ คิดเห็นแก่กิจการกำไรรายได้มันนั้นล่ะ,ทหารมีคณะทีมงานรวมพลังแผ่นดินไทยช่วยเหลือร่วมกันไทยเรามีก้าวต่อไปแน่นอนอาจกระโดดแทนโน้นมิต้องก้าวเลย,เพราะตัวถ่วงตัวขัดขวางตัวขยะอุดรูทางเดินน้ำมันถูกกำจัดสิ้นซากไปหมดทันทีที่เปิดงานก็ว่า,ทหารไทยเราเปิดงานให้ดูหน่อยเถอะ พวกนี้อยู่ฝ่ายตรงข้ามชัดเจน, https://youtube.com/watch?v=z1fIbShcOpI&si=VNHCuj4n7HnWWfnc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี้ก็อีกตัว สมควรยึดคืนทั้งหมดเลย,เปิดเป็นสาธารณะฟรีๆแก่คนไทยทั้งประเทศ,คนไทยสัญชาติไทยสามารถลงทะเบียนใช้ฟรี,ติดต่อค้าขายฟรี,เข้าสืบค้นหาความรู้ฟรี,ชาติส่งเสริมมิให้คนไทยมีภาระอีก,การเรียนการสอนจะไร้ขีดจำกัด,หลากหลายมิติทางดีงามจะต่อยอดสร้างสรรค์เป็นอันมา,ทำตังหาเงินหารายได้เข้าประเทศรัฐส่งเสริมเต็มที่ผ่านช่องทางนี้,ไทยจะรุ่งโรจน์แบบก้าวกระโดดทันทีในยุคล้ำด้านเทคโนโลยีนี้,เด็ดขาดนายกฯคนใหม่ต้องผลักดันจริง,เวลาเหมาะสมไม่ต้องต่ออายุสัมปทานใดๆ,ไม่ผิดสัญญาด้วย นี้คือฝีมือที่กากมานาน เราต้องปฏิวัติใหม่ด้วย,1บัตรประชาชน1เบอร์มือถือแค่นั้น,ระบบรันอัตโนมัตืชื่อนามสกุลคนโทรเข้ามาว่าคือใคร,มิใช่โชว์แค่ตัวเลขเบอร์อีกต่อไป,เราต้องล้ำจริงด้วย.,ดาวเทียมเน็ตก็ด้วย,มือถือควอนตัมอีกแจกฟรีเลย.



    https://youtu.be/YyJzBbnOZMc?si=etMiToFGpB-3jOP6
    นี้ก็อีกตัว สมควรยึดคืนทั้งหมดเลย,เปิดเป็นสาธารณะฟรีๆแก่คนไทยทั้งประเทศ,คนไทยสัญชาติไทยสามารถลงทะเบียนใช้ฟรี,ติดต่อค้าขายฟรี,เข้าสืบค้นหาความรู้ฟรี,ชาติส่งเสริมมิให้คนไทยมีภาระอีก,การเรียนการสอนจะไร้ขีดจำกัด,หลากหลายมิติทางดีงามจะต่อยอดสร้างสรรค์เป็นอันมา,ทำตังหาเงินหารายได้เข้าประเทศรัฐส่งเสริมเต็มที่ผ่านช่องทางนี้,ไทยจะรุ่งโรจน์แบบก้าวกระโดดทันทีในยุคล้ำด้านเทคโนโลยีนี้,เด็ดขาดนายกฯคนใหม่ต้องผลักดันจริง,เวลาเหมาะสมไม่ต้องต่ออายุสัมปทานใดๆ,ไม่ผิดสัญญาด้วย นี้คือฝีมือที่กากมานาน เราต้องปฏิวัติใหม่ด้วย,1บัตรประชาชน1เบอร์มือถือแค่นั้น,ระบบรันอัตโนมัตืชื่อนามสกุลคนโทรเข้ามาว่าคือใคร,มิใช่โชว์แค่ตัวเลขเบอร์อีกต่อไป,เราต้องล้ำจริงด้วย.,ดาวเทียมเน็ตก็ด้วย,มือถือควอนตัมอีกแจกฟรีเลย. https://youtu.be/YyJzBbnOZMc?si=etMiToFGpB-3jOP6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นายกฯลาออกก็จบแล้ว,โทนี่ไปติดคุกก็ด้วย,ไม่เสียหายอะไรเลย แค่ทำเพื่อชาติ,ดีต่อชาติเสียอีก,พ้นโทษก็เดินเชิดหน้าชูตาปกติได้อีก,แปลกทำไมไม่ทำตั้งแต่เดินเข้ามาประเทศไทย,กลับมาเลี้ยงหลานก็ไม่มีเรื่องราวอะไรเลย,ฟ้าก็ให้อภัยโทษแน่นอน.,คือไม่สนใจว่าทั้งหมดคือแผนของอีลิทdeep stateหรอกนะคือวางสนุ๊ควางหมากเรื่องนี้ไว้รอแล้วระหว่างฮุนเซนกับไทยนี้ในนามรัฐบาลลูกโทนี่,คือทั้งหมดสองฝ่ายคือคนของdeep stateทั้งหมด,สั่งละครแบบไหนควบคุมได้หมด,เผลออาจฟันกำไรในราคาหุ้นขึ้นลงด้วยหรือกินส่วนต่างทำกำไรส่วนที่เก็งราคาปั่นกระแสของข่าวได้ตังมหาศาลนั้นเอง,เช่นอิสราเอลยิงระเบิดใส่อิหร่านนั้นล่ะ,มีใครหลายคนทั่วโลกฟันตังฟันเงินส่วนต่างได้อย่างมากมายมหาศาลแน่นอนที่เกิดสงครามกันในระยะเวลาอันสั้น.
    ..แกนนำทั้งบนเวทีและล่างเวทีสามารถตั้งทีมบริหารรัฐบาลในอนาคตของภาคประชาชนได้สบายเลยก็ว่า,สามารถเอาไปละลายพฤติกรรมปรับจูนพลังงานบวกเชิงมหาทีมเพื่องานใหญ่เพื่อชาติบ้านเมืองได้สบาย,สลายใจเก่ารวมเป็นใจใหม่ใจดวงเดียวกันของจริง,จะสิ้นคำว่าหวาดระแวงขณะทำงานของใครของหน้าที่ใครมันเพื่อชาติเพื่อประชาชนอย่างง่ายสบายใจกันทันที,ส่วนตัวสร้างระบบดีรองรับจะเดินก้าวอย่างก้าวกระโดดเลย,เช่นปัจจุบัน สำนักงานประสานงานเข้าถึงปัญหาทางตรงแก่ประชาชนไม่มีเพื่อแก้ไขปัญหาให้ทันเวลาทันกาลไม่มีก็ทำให้มีเสีย,มีสำนักงานประจำทุกๆหมู่บ้านทันที,ประสานงานกับส่วนกลางทางตรง,ยุบอบต.อบจ.ตังก็มีสร้างเพียงพอเลยแค่7-8หมื่นกมู่บ้านชุมชนเอง,รับเรื่องร้องทุกข์ต่างๆของประชาชนเราทางตรงจะเข้าถึงทุกๆปัญหาประชาชนอย่างเรียลไทม์เลย,แล้วเรื่องอื่นๆจะง่ายทั้งหมดทันที,เช่นเขมรรุกล้ำชายแดน ชาวบ้านส่งเรื่องสายตรง ส่วนกลางก็เข้าถึงพื้นที่ทันทีแก้ไขปัญหาตรงจุดตัดตอนได้ทันกาลด้วยเป็นต้น,อัดเงินงบประมาณช่วยเหลือก็ลงผ่านสำนักงานนี้ได้ทันที,เราจะอัพเรเวลยามของแผ่นดินไทยไปในตัวด้วยและสาระพัดคุณต่างๆอีกมากมาย,
    ..ประเทศไทยเรานักปกครองไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบ ไม่มีแอ็คชั่นลาออกใดๆเพื่อรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ที่ผิดพลาด,ญี่ปุ่นถ้าผิดพลาดเขาจะแสดงความรับผิดชอบลาออกทันที,ชนชั้นปกครองเรากากกระจอกเรื่องนี้มากจริงๆไม่หัดปลูกฝังใส่สมองในหมู่มันเลย ถ้าฝึกหัดสร้างสภาวะให้เป็นเช่นนั้นก็จะเป็นมาตราฐานให้คนรุ่นต่อไปพึ่งสำนึกในใจทันทีว่าถ้าทำผิดพลาดต่อบ้านต่อเมืองต่อแผ่นดินต่อประชาชนต้องลาออกไปทันที,ให้คนเก่งดีมีความรู้มีฝือมือมีความสามารถมาทำแทนตน,ญี่ปุ่นเจอระเบิดนิวเคลียร์ลง จึงสำนึกว่าความผิดพลาดเราแม้นิดเดียวอาจนำพาหายนะใหญ่หลวงเกิดขึ้นแก่ประเทศชาติตนเองได้,คนดีคนเก่งมีความสามารถต้องขึ้นมาแทนเราในทันที เราต้องลาออกเพื่อดำรงชาติเราให้คงอยู่ไว้ หรือก่อหายนะน้อยที่สุดคือลาออกไปทันทีดีที่สุด,คนอื่นต้องแก้ไขได้ดีกว่าตนแน่นอนหรือคนต่อๆไปอีก จนเจอผู้นั้นจริง.ทีมนั่นๆจริง,นี้อะไรประเทศไทยเรา,พื้นฐานสำนึกยังไม่มีแต่ก็สามารถมามีสถานะบริบททางการเมืองการปกครองประเทศได้,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว แม้แต่ผู้นำผู้ปกครองประเทศนี้ยังไม่มีสำนึกอะไรจากจิตใจที่สมควรดีงามจริงๆเลยได้,เราจึงต้องปฏิวัติการปกครองจริงๆ,
    ..ยุคลงถนนชุดนี้ต้องสุดซอยคือจัดตั้งเป็นรัฐบาลเองเลยโดยภาคประชาชนเราปกครองขึ้นเองนั้นเอง,พอกันที่ไปชุมนุนแล้วยกให้คนอื่นเป็นนายกแทนตนเองขึ้นปกครอง,เชิญคนนั้นคนนี้มาปกครองแทนตนเองที่ลงถนนประท้วงขับไล่ด้วยมือตนเองแต่ยกอำนาจให้คนอื่นที่ไม่มีจิตวิญญาณต่อสู้เพื่อประชาชนจริงจังอะไร,สู้ในห้องแอร์หรู,อย่าเอาคนประเภทนี้มาเป็นนายกฯเชิญมาเป็นนายกฯเด็ดขาด,แม่ทัพเมื่อชนะศึกต้องขึ้นปกครองเอง,เพราะความหมายคุณค่าการต่อสู้ที่ร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องทหารประชาชนตนเองจะเป็นแรงบันดาลมหาศาลว่าทำไมพี่น้องประชาชนเราจึงต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีจริง,มิใช่มโนแค่ผ่านออกมาทางปากเพื่อขึ้นปกครองแบบนักการเมืองระยำบัดสบที่เคยๆเป็นมาผ่านๆมา.
    ..
    ..https://youtu.be/PnHZBK4r7Ak?si=tg_OQjWtHrmEwZeK
    ..นายกฯลาออกก็จบแล้ว,โทนี่ไปติดคุกก็ด้วย,ไม่เสียหายอะไรเลย แค่ทำเพื่อชาติ,ดีต่อชาติเสียอีก,พ้นโทษก็เดินเชิดหน้าชูตาปกติได้อีก,แปลกทำไมไม่ทำตั้งแต่เดินเข้ามาประเทศไทย,กลับมาเลี้ยงหลานก็ไม่มีเรื่องราวอะไรเลย,ฟ้าก็ให้อภัยโทษแน่นอน.,คือไม่สนใจว่าทั้งหมดคือแผนของอีลิทdeep stateหรอกนะคือวางสนุ๊ควางหมากเรื่องนี้ไว้รอแล้วระหว่างฮุนเซนกับไทยนี้ในนามรัฐบาลลูกโทนี่,คือทั้งหมดสองฝ่ายคือคนของdeep stateทั้งหมด,สั่งละครแบบไหนควบคุมได้หมด,เผลออาจฟันกำไรในราคาหุ้นขึ้นลงด้วยหรือกินส่วนต่างทำกำไรส่วนที่เก็งราคาปั่นกระแสของข่าวได้ตังมหาศาลนั้นเอง,เช่นอิสราเอลยิงระเบิดใส่อิหร่านนั้นล่ะ,มีใครหลายคนทั่วโลกฟันตังฟันเงินส่วนต่างได้อย่างมากมายมหาศาลแน่นอนที่เกิดสงครามกันในระยะเวลาอันสั้น. ..แกนนำทั้งบนเวทีและล่างเวทีสามารถตั้งทีมบริหารรัฐบาลในอนาคตของภาคประชาชนได้สบายเลยก็ว่า,สามารถเอาไปละลายพฤติกรรมปรับจูนพลังงานบวกเชิงมหาทีมเพื่องานใหญ่เพื่อชาติบ้านเมืองได้สบาย,สลายใจเก่ารวมเป็นใจใหม่ใจดวงเดียวกันของจริง,จะสิ้นคำว่าหวาดระแวงขณะทำงานของใครของหน้าที่ใครมันเพื่อชาติเพื่อประชาชนอย่างง่ายสบายใจกันทันที,ส่วนตัวสร้างระบบดีรองรับจะเดินก้าวอย่างก้าวกระโดดเลย,เช่นปัจจุบัน สำนักงานประสานงานเข้าถึงปัญหาทางตรงแก่ประชาชนไม่มีเพื่อแก้ไขปัญหาให้ทันเวลาทันกาลไม่มีก็ทำให้มีเสีย,มีสำนักงานประจำทุกๆหมู่บ้านทันที,ประสานงานกับส่วนกลางทางตรง,ยุบอบต.อบจ.ตังก็มีสร้างเพียงพอเลยแค่7-8หมื่นกมู่บ้านชุมชนเอง,รับเรื่องร้องทุกข์ต่างๆของประชาชนเราทางตรงจะเข้าถึงทุกๆปัญหาประชาชนอย่างเรียลไทม์เลย,แล้วเรื่องอื่นๆจะง่ายทั้งหมดทันที,เช่นเขมรรุกล้ำชายแดน ชาวบ้านส่งเรื่องสายตรง ส่วนกลางก็เข้าถึงพื้นที่ทันทีแก้ไขปัญหาตรงจุดตัดตอนได้ทันกาลด้วยเป็นต้น,อัดเงินงบประมาณช่วยเหลือก็ลงผ่านสำนักงานนี้ได้ทันที,เราจะอัพเรเวลยามของแผ่นดินไทยไปในตัวด้วยและสาระพัดคุณต่างๆอีกมากมาย, ..ประเทศไทยเรานักปกครองไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบ ไม่มีแอ็คชั่นลาออกใดๆเพื่อรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ที่ผิดพลาด,ญี่ปุ่นถ้าผิดพลาดเขาจะแสดงความรับผิดชอบลาออกทันที,ชนชั้นปกครองเรากากกระจอกเรื่องนี้มากจริงๆไม่หัดปลูกฝังใส่สมองในหมู่มันเลย ถ้าฝึกหัดสร้างสภาวะให้เป็นเช่นนั้นก็จะเป็นมาตราฐานให้คนรุ่นต่อไปพึ่งสำนึกในใจทันทีว่าถ้าทำผิดพลาดต่อบ้านต่อเมืองต่อแผ่นดินต่อประชาชนต้องลาออกไปทันที,ให้คนเก่งดีมีความรู้มีฝือมือมีความสามารถมาทำแทนตน,ญี่ปุ่นเจอระเบิดนิวเคลียร์ลง จึงสำนึกว่าความผิดพลาดเราแม้นิดเดียวอาจนำพาหายนะใหญ่หลวงเกิดขึ้นแก่ประเทศชาติตนเองได้,คนดีคนเก่งมีความสามารถต้องขึ้นมาแทนเราในทันที เราต้องลาออกเพื่อดำรงชาติเราให้คงอยู่ไว้ หรือก่อหายนะน้อยที่สุดคือลาออกไปทันทีดีที่สุด,คนอื่นต้องแก้ไขได้ดีกว่าตนแน่นอนหรือคนต่อๆไปอีก จนเจอผู้นั้นจริง.ทีมนั่นๆจริง,นี้อะไรประเทศไทยเรา,พื้นฐานสำนึกยังไม่มีแต่ก็สามารถมามีสถานะบริบททางการเมืองการปกครองประเทศได้,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว แม้แต่ผู้นำผู้ปกครองประเทศนี้ยังไม่มีสำนึกอะไรจากจิตใจที่สมควรดีงามจริงๆเลยได้,เราจึงต้องปฏิวัติการปกครองจริงๆ, ..ยุคลงถนนชุดนี้ต้องสุดซอยคือจัดตั้งเป็นรัฐบาลเองเลยโดยภาคประชาชนเราปกครองขึ้นเองนั้นเอง,พอกันที่ไปชุมนุนแล้วยกให้คนอื่นเป็นนายกแทนตนเองขึ้นปกครอง,เชิญคนนั้นคนนี้มาปกครองแทนตนเองที่ลงถนนประท้วงขับไล่ด้วยมือตนเองแต่ยกอำนาจให้คนอื่นที่ไม่มีจิตวิญญาณต่อสู้เพื่อประชาชนจริงจังอะไร,สู้ในห้องแอร์หรู,อย่าเอาคนประเภทนี้มาเป็นนายกฯเชิญมาเป็นนายกฯเด็ดขาด,แม่ทัพเมื่อชนะศึกต้องขึ้นปกครองเอง,เพราะความหมายคุณค่าการต่อสู้ที่ร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องทหารประชาชนตนเองจะเป็นแรงบันดาลมหาศาลว่าทำไมพี่น้องประชาชนเราจึงต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีจริง,มิใช่มโนแค่ผ่านออกมาทางปากเพื่อขึ้นปกครองแบบนักการเมืองระยำบัดสบที่เคยๆเป็นมาผ่านๆมา. .. ..https://youtu.be/PnHZBK4r7Ak?si=tg_OQjWtHrmEwZeK
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปี 2026 ที่จะถึงนี้ Pixel 11 จะไม่ใช่แค่การอัปเกรดกล้องหรือดีไซน์เท่านั้น แต่ชิป Tensor G6 ที่อยู่ในเครื่องนั้นกำลังจะกลายเป็น “หัวใจใหม่” ที่แรงกว่าเดิมแบบคนละระดับ เพราะ Google ตัดสินใจเลือกใช้ TSMC 2nm ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเล็กที่สุดในอุตสาหกรรม ณ ตอนนี้

    เดิมที Tensor G5 ของ Pixel 10 ยังใช้ 3nm (N3E) ก็ว่าแรงแล้ว แต่นี่กระโดดข้าม N3P ไปเลย! แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่เร็ว — แต่น่าจะช่วยเรื่องประหยัดพลังงาน, ลดความร้อน และเปิดทางให้ใส่ฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ ได้แบบจัดเต็ม

    แหล่งข่าวยังบอกว่า Google ยอมลงทุนสูง แม้จะผลิตมือถือได้น้อยกว่าคู่แข่งอย่าง Apple แต่ก็อยากเป็น “ผู้นำด้านนวัตกรรม AI บนมือถือ” และเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุดแทนการประหยัดต้นทุน

    Tensor G6 จะถูกผลิตบนเทคโนโลยี 2nm ของ TSMC สำหรับ Pixel 11 series (ปี 2026)  
    • ข้าม TSMC N3P (3nm รุ่น 3) ไปใช้ 2nm ทันที  
    • ถือเป็นชิป smartphone กลุ่มแรก ๆ ที่ใช้ 2nm

    Google เปลี่ยนจาก Samsung มาใช้ TSMC ตั้งแต่ Tensor G5 (Pixel 10)  
    • หลังพบปัญหาคุณภาพกับการผลิตก่อนหน้า  
    • มีการเจรจากับ TSMC เพื่อสัญญาระยะยาว 5 ปี

    ข้อดีของ TSMC 2nm (เทียบกับ 3nm):  
    • ประหยัดพลังงานขึ้น ~25–30%  
    • เพิ่มความเร็วประมวลผล  
    • รองรับการทำงาน AI บนเครื่องแบบหนัก ๆ

    ใช้เทคโนโลยี GAAFET (Gate-All-Around) เพื่อย่อทรานซิสเตอร์ให้เล็กลงอีก  
    • เทียบเท่าเทคโนโลยีใน Apple A20 หรือ Snapdragon 8 Gen 5 รุ่นอนาคต

    https://wccftech.com/tensor-g6-found-in-the-pixel-11-series-to-be-mass-produced-on-tsmc-2nm-process/
    ปี 2026 ที่จะถึงนี้ Pixel 11 จะไม่ใช่แค่การอัปเกรดกล้องหรือดีไซน์เท่านั้น แต่ชิป Tensor G6 ที่อยู่ในเครื่องนั้นกำลังจะกลายเป็น “หัวใจใหม่” ที่แรงกว่าเดิมแบบคนละระดับ เพราะ Google ตัดสินใจเลือกใช้ TSMC 2nm ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเล็กที่สุดในอุตสาหกรรม ณ ตอนนี้ เดิมที Tensor G5 ของ Pixel 10 ยังใช้ 3nm (N3E) ก็ว่าแรงแล้ว แต่นี่กระโดดข้าม N3P ไปเลย! แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่เร็ว — แต่น่าจะช่วยเรื่องประหยัดพลังงาน, ลดความร้อน และเปิดทางให้ใส่ฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ ได้แบบจัดเต็ม แหล่งข่าวยังบอกว่า Google ยอมลงทุนสูง แม้จะผลิตมือถือได้น้อยกว่าคู่แข่งอย่าง Apple แต่ก็อยากเป็น “ผู้นำด้านนวัตกรรม AI บนมือถือ” และเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุดแทนการประหยัดต้นทุน ✅ Tensor G6 จะถูกผลิตบนเทคโนโลยี 2nm ของ TSMC สำหรับ Pixel 11 series (ปี 2026)   • ข้าม TSMC N3P (3nm รุ่น 3) ไปใช้ 2nm ทันที   • ถือเป็นชิป smartphone กลุ่มแรก ๆ ที่ใช้ 2nm ✅ Google เปลี่ยนจาก Samsung มาใช้ TSMC ตั้งแต่ Tensor G5 (Pixel 10)   • หลังพบปัญหาคุณภาพกับการผลิตก่อนหน้า   • มีการเจรจากับ TSMC เพื่อสัญญาระยะยาว 5 ปี ✅ ข้อดีของ TSMC 2nm (เทียบกับ 3nm):   • ประหยัดพลังงานขึ้น ~25–30%   • เพิ่มความเร็วประมวลผล   • รองรับการทำงาน AI บนเครื่องแบบหนัก ๆ ✅ ใช้เทคโนโลยี GAAFET (Gate-All-Around) เพื่อย่อทรานซิสเตอร์ให้เล็กลงอีก   • เทียบเท่าเทคโนโลยีใน Apple A20 หรือ Snapdragon 8 Gen 5 รุ่นอนาคต https://wccftech.com/tensor-g6-found-in-the-pixel-11-series-to-be-mass-produced-on-tsmc-2nm-process/
    WCCFTECH.COM
    Google’s Tensor G6 Will Reportedly Be Mass Produced On TSMC’s 2nm Process, Allowing The Pixel 11 Series To Maintain Competition With Rivals By Sticking With The Cutting-Edge Lithography
    The Tensor G6 could keep pace with the competition, with Google’s SoC found in the Pixel 11 family reportedly fabricated on TSMC’s 2nm technology
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาอย่างไร ไม่รู้ .. อยู่ๆ กระโดดมากำแพงข้างบ้าง

    กระถางของนาง อยู่หน้าบ้าน กับ ฝั่งบ้านน้าสาว วันก่อนสายตาไปสะดุดดอกสีชมพู เลยไปเล็งๆ อุ้ย มาได้ไงเนี่ย #กุหลาบเมาะลำเลิง .. #ดอกไม้ของมาม๊า

    #วันอังคารสีชมพู
    มาอย่างไร ไม่รู้ .. อยู่ๆ กระโดดมากำแพงข้างบ้าง กระถางของนาง อยู่หน้าบ้าน กับ ฝั่งบ้านน้าสาว วันก่อนสายตาไปสะดุดดอกสีชมพู เลยไปเล็งๆ อุ้ย มาได้ไงเนี่ย #กุหลาบเมาะลำเลิง .. #ดอกไม้ของมาม๊า #วันอังคารสีชมพู🌸
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบกับลิงแคระ ลิงที่เล็กที่สุดในโลก

    ลิงแคระตัวเต็มวัยมีความยาวเพียง 11-15 ซม. และมีน้ำหนักไม่เกิน 150 กรัม ลิงแคระเหล่านี้สามารถหมุนหัวได้ 180° และกระโดดได้ไกลถึง 5 เมตร

    สื่อสารด้วยเสียงจิ๊บจ๊อย ซึ่งบางครั้งคนเราก็อาจไม่ได้ยินด้วยซ้ำ ลิงแคระมักจะให้กำเนิดลูกแฝด

    พบกับลิงแคระ ลิงที่เล็กที่สุดในโลก ลิงแคระตัวเต็มวัยมีความยาวเพียง 11-15 ซม. และมีน้ำหนักไม่เกิน 150 กรัม ลิงแคระเหล่านี้สามารถหมุนหัวได้ 180° และกระโดดได้ไกลถึง 5 เมตร สื่อสารด้วยเสียงจิ๊บจ๊อย ซึ่งบางครั้งคนเราก็อาจไม่ได้ยินด้วยซ้ำ ลิงแคระมักจะให้กำเนิดลูกแฝด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Data centre คือหัวใจของยุค AI เพราะใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลจากทั้งแอปฯ แชต, รูป, โมเดลปัญญาประดิษฐ์ยักษ์ ๆ อย่าง GPT, Gemini และ Llama — และมันกินไฟมหาศาล!

    ทุกวันนี้ศูนย์ข้อมูลใหญ่ ๆ ของยุโรปกระจุกอยู่ใน 5 เมืองหลัก: แฟรงก์เฟิร์ต, ลอนดอน, อัมสเตอร์ดัม, ปารีส และดับลิน แต่ปัญหาคือ... จะเชื่อมศูนย์ข้อมูลใหม่เข้ากับระบบไฟฟ้าในเมืองเหล่านี้ ต้องใช้เวลา 7–13 ปี! ทำให้ผู้พัฒนาจำนวนมากหันไปหาประเทศที่วางแผนโครงสร้างพื้นฐานได้เร็วกว่า เช่น อิตาลี เชื่อมไฟได้ภายใน 3 ปีเท่านั้น

    รายงานเตือนว่า ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ภายในปี 2035 มีโอกาสสูงที่ศูนย์ข้อมูล ครึ่งหนึ่ง ของยุโรปจะย้ายไปอยู่นอกฮับหลักเดิมเลย — นี่หมายถึงการสูญเสียการลงทุนระดับพันล้านยูโรต่อประเทศ และตำแหน่งงานจำนวนมาก เช่นในเยอรมนี ปี 2024 ศูนย์ข้อมูลสร้าง GDP ได้กว่า €10.4B และคาดว่าจะมากกว่าสองเท่าในปี 2029 หากไม่มีอุปสรรค

    เฉพาะฝรั่งเศสเท่านั้นที่ยังรักษาเสถียรภาพได้ เพราะระบบสายส่งไฟยังไม่ติดคอขวดมากเท่าประเทศอื่น

    Ember ชี้การวางแผนระบบไฟฟ้าช้า กระทบการกระจายศูนย์ข้อมูลในยุโรป  
    • การเชื่อม Data Centre เข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าใช้เวลานาน 7–13 ปีในฮับหลัก  
    • ทำให้นักลงทุนเบนเข็มไปยังประเทศที่เชื่อมได้เร็ว เช่น อิตาลี ใช้แค่ 3 ปี

    คาดว่าภายในปี 2035 ครึ่งหนึ่งของศูนย์ข้อมูลยุโรปจะอยู่นอกฮับหลักเดิม  
    • อาจกระทบเศรษฐกิจในประเทศอย่างเยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ

    ฝรั่งเศสอาจเป็นประเทศเดียวที่รักษาการลงทุนไว้ได้อย่างต่อเนื่อง  
    • เพราะระบบไฟฟ้าไม่ติดปัญหาขัดข้องเหมือนชาติอื่นในกลุ่ม

    ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดในยุโรปเหนือและตะวันออก  
    • เช่น สวีเดน, นอร์เวย์, เดนมาร์ก: คาดว่า demand จะ เพิ่ม 3 เท่าภายในปี 2030  
    • ออสเตรีย, กรีซ, ฟินแลนด์, ฮังการี, อิตาลี, โปรตุเกส, สโลวาเกีย: คาดว่า ไฟที่ใช้กับ data centre จะเพิ่ม 3–5 เท่าในปี 2035

    Ember ระบุว่า “โครงข่ายไฟ” คือเครื่องมือดึงดูดการลงทุนระดับชาติในยุค AI  
    • ไม่ใช่แค่ data centre — อุตสาหกรรมทุกชนิดที่ต้องการใช้พลังงานสูงจะได้รับผล

    หากประเทศไม่เร่งลงทุนในโครงข่ายไฟและระบบอนุมัติ จะสูญเสียโอกาสหลายพันล้านยูโร  
    • ประเทศที่การเชื่อมไฟฟ้าช้า อาจถูกมองข้ามโดยผู้พัฒนา AI/data centre

    การกระจุกตัวของ data centre ในไม่กี่เมืองกำลังถึงทางตัน  
    • เกิดปัญหาคอขวด การใช้ไฟฟ้าเกินพิกัด และต้นทุนที่สูงขึ้น

    หากปล่อยให้ผู้พัฒนาเลือกที่ตั้งตามความสะดวกเรื่องไฟ โดยไม่มีแผนระดับภูมิภาค อาจเกิดการกระจายตัวแบบไม่สมดุล  
    • กระทบภาระด้านพลังงาน–สิ่งแวดล้อม และแผนเมืองในระยะยาว

    ศูนย์ข้อมูลต้องใช้ไฟฟ้าอย่างมั่นคง หากไม่มีแผนสำรองอาจกลายเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์  
    • โดยเฉพาะเมื่อระบบ cloud และ AI เข้าไปอยู่ในทุกธุรกิจภาครัฐและการเงิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/poor-grid-planning-could-shift-europe039s-data-centre-geography-report-says
    Data centre คือหัวใจของยุค AI เพราะใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลจากทั้งแอปฯ แชต, รูป, โมเดลปัญญาประดิษฐ์ยักษ์ ๆ อย่าง GPT, Gemini และ Llama — และมันกินไฟมหาศาล! ทุกวันนี้ศูนย์ข้อมูลใหญ่ ๆ ของยุโรปกระจุกอยู่ใน 5 เมืองหลัก: แฟรงก์เฟิร์ต, ลอนดอน, อัมสเตอร์ดัม, ปารีส และดับลิน แต่ปัญหาคือ... จะเชื่อมศูนย์ข้อมูลใหม่เข้ากับระบบไฟฟ้าในเมืองเหล่านี้ ต้องใช้เวลา 7–13 ปี! ทำให้ผู้พัฒนาจำนวนมากหันไปหาประเทศที่วางแผนโครงสร้างพื้นฐานได้เร็วกว่า เช่น อิตาลี เชื่อมไฟได้ภายใน 3 ปีเท่านั้น รายงานเตือนว่า ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ภายในปี 2035 มีโอกาสสูงที่ศูนย์ข้อมูล ครึ่งหนึ่ง ของยุโรปจะย้ายไปอยู่นอกฮับหลักเดิมเลย — นี่หมายถึงการสูญเสียการลงทุนระดับพันล้านยูโรต่อประเทศ และตำแหน่งงานจำนวนมาก เช่นในเยอรมนี ปี 2024 ศูนย์ข้อมูลสร้าง GDP ได้กว่า €10.4B และคาดว่าจะมากกว่าสองเท่าในปี 2029 หากไม่มีอุปสรรค เฉพาะฝรั่งเศสเท่านั้นที่ยังรักษาเสถียรภาพได้ เพราะระบบสายส่งไฟยังไม่ติดคอขวดมากเท่าประเทศอื่น ✅ Ember ชี้การวางแผนระบบไฟฟ้าช้า กระทบการกระจายศูนย์ข้อมูลในยุโรป   • การเชื่อม Data Centre เข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าใช้เวลานาน 7–13 ปีในฮับหลัก   • ทำให้นักลงทุนเบนเข็มไปยังประเทศที่เชื่อมได้เร็ว เช่น อิตาลี ใช้แค่ 3 ปี ✅ คาดว่าภายในปี 2035 ครึ่งหนึ่งของศูนย์ข้อมูลยุโรปจะอยู่นอกฮับหลักเดิม   • อาจกระทบเศรษฐกิจในประเทศอย่างเยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ ✅ ฝรั่งเศสอาจเป็นประเทศเดียวที่รักษาการลงทุนไว้ได้อย่างต่อเนื่อง   • เพราะระบบไฟฟ้าไม่ติดปัญหาขัดข้องเหมือนชาติอื่นในกลุ่ม ✅ ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดในยุโรปเหนือและตะวันออก   • เช่น สวีเดน, นอร์เวย์, เดนมาร์ก: คาดว่า demand จะ เพิ่ม 3 เท่าภายในปี 2030   • ออสเตรีย, กรีซ, ฟินแลนด์, ฮังการี, อิตาลี, โปรตุเกส, สโลวาเกีย: คาดว่า ไฟที่ใช้กับ data centre จะเพิ่ม 3–5 เท่าในปี 2035 ✅ Ember ระบุว่า “โครงข่ายไฟ” คือเครื่องมือดึงดูดการลงทุนระดับชาติในยุค AI   • ไม่ใช่แค่ data centre — อุตสาหกรรมทุกชนิดที่ต้องการใช้พลังงานสูงจะได้รับผล ‼️ หากประเทศไม่เร่งลงทุนในโครงข่ายไฟและระบบอนุมัติ จะสูญเสียโอกาสหลายพันล้านยูโร   • ประเทศที่การเชื่อมไฟฟ้าช้า อาจถูกมองข้ามโดยผู้พัฒนา AI/data centre ‼️ การกระจุกตัวของ data centre ในไม่กี่เมืองกำลังถึงทางตัน   • เกิดปัญหาคอขวด การใช้ไฟฟ้าเกินพิกัด และต้นทุนที่สูงขึ้น ‼️ หากปล่อยให้ผู้พัฒนาเลือกที่ตั้งตามความสะดวกเรื่องไฟ โดยไม่มีแผนระดับภูมิภาค อาจเกิดการกระจายตัวแบบไม่สมดุล   • กระทบภาระด้านพลังงาน–สิ่งแวดล้อม และแผนเมืองในระยะยาว ‼️ ศูนย์ข้อมูลต้องใช้ไฟฟ้าอย่างมั่นคง หากไม่มีแผนสำรองอาจกลายเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์   • โดยเฉพาะเมื่อระบบ cloud และ AI เข้าไปอยู่ในทุกธุรกิจภาครัฐและการเงิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/poor-grid-planning-could-shift-europe039s-data-centre-geography-report-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Poor grid planning could shift Europe's data centre geography, report says
    PARIS (Reuters) -Europe's leading data centre hubs face a major shift as developers will go wherever connection times are shortest, unless there is more proactive electricity grid planning, a report on Thursday by energy think-tank Ember showed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไม Android Tablet รุ่นใหม่ถึงไม่นิยมใส่ SIM Card อีกต่อไป

    ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์อย่างแท็บเล็ต (Tablet) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำงาน ความบันเทิง และการเรียนรู้ โดยเฉพาะ Android Tablet ที่ได้รับความนิยมจากความหลากหลายและราคาที่เข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดี ๆ จะพบว่าแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันมักไม่ค่อยมีช่องใส่ SIM Card เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือเหมือนในอดีต ซึ่งเคยเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตเลือกตัดฟีเจอร์นี้ออก? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเหตุผลหลัก ๆ ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของเทรนด์และพฤติกรรมการใช้งานในยุคปัจจุบัน

    1️⃣. การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ใช้

    ในอดีต แท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ โดยเฉพาะในสถานที่ที่ไม่มี Wi-Fi อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนได้พัฒนาไปไกลจนสามารถทดแทนการใช้งานของแท็บเล็ตได้ในหลายด้าน ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ผู้ใช้จำนวนมากจึงมองว่าสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวก็เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะเมื่อสมาร์ทโฟนสามารถแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านฟีเจอร์ Hotspot ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว การมี SIM Card บนแท็บเล็ตจึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่

    2️⃣. การเข้าถึง Wi-Fi ที่แพร่หลายมากขึ้น

    ในยุคที่ Wi-Fi มีอยู่เกือบทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน สถานที่ทำงาน ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ในที่สาธารณะอย่างรถไฟฟ้าและสนามบิน การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi กลายเป็นเรื่องสะดวกและประหยัดกว่าการใช้เครือข่ายมือถือ ผู้ใช้แท็บเล็ตส่วนใหญ่จึงเลือกเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi แทนการสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมสำหรับแท็บเล็ต ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้การใช้งานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานที่มักอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มี Wi-Fi ให้บริการอยู่แล้ว

    3️⃣. การลดต้นทุนการผลิตเพื่อราคาที่เข้าถึงได้

    การผลิตแท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card ต้องใช้ชิ้นส่วนเพิ่มเติม เช่น ชิปโมเด็มสำหรับเชื่อมต่อ LTE หรือ 5G และช่องใส่ SIM Card ซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่มต้นทุนการผลิตให้สูงขึ้น ในเมื่อความต้องการฟีเจอร์นี้ในตลาดลดลง ผู้ผลิตจึงเลือกตัดส่วนนี้ออกเพื่อลดต้นทุนและสามารถวางจำหน่ายแท็บเล็ตในราคาที่แข่งขันได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่มองหาแท็บเล็ตเพื่อการใช้งานทั่วไป เช่น ดูวิดีโอ อ่านหนังสือ หรือทำงานเบื้องต้น

    4️⃣. การออกแบบที่บางและเบาเพื่อความคล่องตัว

    ดีไซน์ของแท็บเล็ตในปัจจุบันเน้นความบางและเบาเพื่อให้พกพาสะดวกและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความคล่องตัว การเพิ่มช่องใส่ SIM Card และชิปโมเด็มอาจทำให้ต้องเสียพื้นที่ภายในตัวเครื่อง ซึ่งส่งผลต่อความบางและน้ำหนักของอุปกรณ์ ผู้ผลิตจึงเลือกตัดฟีเจอร์นี้ออกเพื่อให้แท็บเล็ตมีดีไซน์ที่สวยงามและพกพาง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคในยุคนี้ให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและนักเรียนที่ต้องการอุปกรณ์ที่ทั้งทันสมัยและสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน

    5️⃣. บริการอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่ตอบโจทย์มากขึ้น

    เทคโนโลยีเครือข่ายในปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนในยุคนี้มีความเร็วสูงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ eSIM, เครือข่าย 5G หรือแพ็กเกจแบบ Unlimited Data Plan ที่อนุญาตให้แชร์ข้อมูลไปยังอุปกรณ์อื่นได้โดยไม่มีข้อจำกัดมากนัก การแชร์อินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนไปยังแท็บเล็ตจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดกว่าการใช้ SIM Card แยกสำหรับแท็บเล็ต ทำให้ความจำเป็นในการมีช่องใส่ SIM Card บนแท็บเล็ตลดลงอย่างมาก

    อนาคตของแท็บเล็ตในยุคดิจิทัล

    ถึงแม้ว่าแท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card จะยังคงมีอยู่ในตลาด แต่จำนวนรุ่นที่ออกใหม่นั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับสมัยก่อน ผู้ผลิตมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เช่น การเรียนออนไลน์ การทำงานจากระยะไกล หรือความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ มากกว่าการเพิ่มฟีเจอร์ที่อาจไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ การเลือกซื้อแท็บเล็ตในปัจจุบันจึงควรพิจารณาจากความต้องการใช้งานเป็นหลัก เช่น ขนาดหน้าจอ ความจุแบตเตอรี่ หรือซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม มากกว่าการมองหาฟีเจอร์อย่างการรองรับ SIM Card

    สรุป

    การที่ Android Tablet รุ่นใหม่ ๆ ไม่นิยมใส่ช่อง SIM Card อีกต่อไปเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านพฤติกรรมผู้ใช้ เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น และกลยุทธ์ของผู้ผลิตที่ต้องการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ การแชร์อินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนที่ง่ายและสะดวก รวมถึงการเข้าถึง Wi-Fi ที่แพร่หลาย ทำให้แท็บเล็ตที่เน้นการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น สำหรับนักเรียนและผู้ที่สนใจเลือกซื้อแท็บเล็ต การทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณได้ดียิ่งขึ้น

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    ทำไม Android Tablet รุ่นใหม่ถึงไม่นิยมใส่ SIM Card อีกต่อไป 🗒️ ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์อย่างแท็บเล็ต (Tablet) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำงาน ความบันเทิง และการเรียนรู้ โดยเฉพาะ Android Tablet ที่ได้รับความนิยมจากความหลากหลายและราคาที่เข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดี ๆ จะพบว่าแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันมักไม่ค่อยมีช่องใส่ SIM Card เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือเหมือนในอดีต ซึ่งเคยเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องพึ่ง Wi-Fi แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผู้ผลิตเลือกตัดฟีเจอร์นี้ออก? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเหตุผลหลัก ๆ ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของเทรนด์และพฤติกรรมการใช้งานในยุคปัจจุบัน 1️⃣. การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ใช้ ในอดีต แท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ โดยเฉพาะในสถานที่ที่ไม่มี Wi-Fi อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนได้พัฒนาไปไกลจนสามารถทดแทนการใช้งานของแท็บเล็ตได้ในหลายด้าน ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ผู้ใช้จำนวนมากจึงมองว่าสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวก็เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะเมื่อสมาร์ทโฟนสามารถแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านฟีเจอร์ Hotspot ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว การมี SIM Card บนแท็บเล็ตจึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ 2️⃣. การเข้าถึง Wi-Fi ที่แพร่หลายมากขึ้น ในยุคที่ Wi-Fi มีอยู่เกือบทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน สถานที่ทำงาน ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ในที่สาธารณะอย่างรถไฟฟ้าและสนามบิน การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi กลายเป็นเรื่องสะดวกและประหยัดกว่าการใช้เครือข่ายมือถือ ผู้ใช้แท็บเล็ตส่วนใหญ่จึงเลือกเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi แทนการสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมสำหรับแท็บเล็ต ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้การใช้งานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานที่มักอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มี Wi-Fi ให้บริการอยู่แล้ว 3️⃣. การลดต้นทุนการผลิตเพื่อราคาที่เข้าถึงได้ การผลิตแท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card ต้องใช้ชิ้นส่วนเพิ่มเติม เช่น ชิปโมเด็มสำหรับเชื่อมต่อ LTE หรือ 5G และช่องใส่ SIM Card ซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่มต้นทุนการผลิตให้สูงขึ้น ในเมื่อความต้องการฟีเจอร์นี้ในตลาดลดลง ผู้ผลิตจึงเลือกตัดส่วนนี้ออกเพื่อลดต้นทุนและสามารถวางจำหน่ายแท็บเล็ตในราคาที่แข่งขันได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่มองหาแท็บเล็ตเพื่อการใช้งานทั่วไป เช่น ดูวิดีโอ อ่านหนังสือ หรือทำงานเบื้องต้น 4️⃣. การออกแบบที่บางและเบาเพื่อความคล่องตัว ดีไซน์ของแท็บเล็ตในปัจจุบันเน้นความบางและเบาเพื่อให้พกพาสะดวกและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความคล่องตัว การเพิ่มช่องใส่ SIM Card และชิปโมเด็มอาจทำให้ต้องเสียพื้นที่ภายในตัวเครื่อง ซึ่งส่งผลต่อความบางและน้ำหนักของอุปกรณ์ ผู้ผลิตจึงเลือกตัดฟีเจอร์นี้ออกเพื่อให้แท็บเล็ตมีดีไซน์ที่สวยงามและพกพาง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคในยุคนี้ให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและนักเรียนที่ต้องการอุปกรณ์ที่ทั้งทันสมัยและสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน 5️⃣. บริการอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่ตอบโจทย์มากขึ้น เทคโนโลยีเครือข่ายในปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนในยุคนี้มีความเร็วสูงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ eSIM, เครือข่าย 5G หรือแพ็กเกจแบบ Unlimited Data Plan ที่อนุญาตให้แชร์ข้อมูลไปยังอุปกรณ์อื่นได้โดยไม่มีข้อจำกัดมากนัก การแชร์อินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนไปยังแท็บเล็ตจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดกว่าการใช้ SIM Card แยกสำหรับแท็บเล็ต ทำให้ความจำเป็นในการมีช่องใส่ SIM Card บนแท็บเล็ตลดลงอย่างมาก 🔮 อนาคตของแท็บเล็ตในยุคดิจิทัล ถึงแม้ว่าแท็บเล็ตที่รองรับ SIM Card จะยังคงมีอยู่ในตลาด แต่จำนวนรุ่นที่ออกใหม่นั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับสมัยก่อน ผู้ผลิตมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เช่น การเรียนออนไลน์ การทำงานจากระยะไกล หรือความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ มากกว่าการเพิ่มฟีเจอร์ที่อาจไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ การเลือกซื้อแท็บเล็ตในปัจจุบันจึงควรพิจารณาจากความต้องการใช้งานเป็นหลัก เช่น ขนาดหน้าจอ ความจุแบตเตอรี่ หรือซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม มากกว่าการมองหาฟีเจอร์อย่างการรองรับ SIM Card ℹ️ℹ️ สรุป ℹ️ℹ️ การที่ Android Tablet รุ่นใหม่ ๆ ไม่นิยมใส่ช่อง SIM Card อีกต่อไปเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านพฤติกรรมผู้ใช้ เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น และกลยุทธ์ของผู้ผลิตที่ต้องการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ การแชร์อินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟนที่ง่ายและสะดวก รวมถึงการเข้าถึง Wi-Fi ที่แพร่หลาย ทำให้แท็บเล็ตที่เน้นการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น สำหรับนักเรียนและผู้ที่สนใจเลือกซื้อแท็บเล็ต การทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณได้ดียิ่งขึ้น #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake-S รุ่นถัดไปของซีพียูฝั่งเดสก์ท็อปใน ครึ่งหลังของปี 2026 ที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ทั้งด้าน “สถาปัตยกรรม” และ “ขุมพลัง” ตัวท็อป Core Ultra 9 385K จะมีถึง 52 คอร์! โดยแบ่งเป็น 16 คอร์แรงจัด (P-core), 32 คอร์ประหยัด (E-core) และ 4 คอร์พลังต่ำพิเศษ (LPE-core) เรียกว่าเป็นการกระโดดจากรุ่นปัจจุบันที่มีสูงสุดแค่ 24 คอร์ แบบไม่เห็นฝุ่น

    แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่ “ระบบแยกแผ่น (tile-based)” ซึ่งแต่ละกลุ่มคอร์จะถูกวางอยู่บนไดแยกกัน คล้ายกับแนวคิดของชิป Apple M-Series หรือ AMD 3D V-Cache เพื่อให้บริหารพลังงานและประสิทธิภาพได้แบบละเอียดสุด ๆ

    Intel ยังใส่ใจสายกราฟิกด้วยการแยกส่วน iGPU ออกเป็นสองกลุ่มชัดเจน: Xe3 “Celestial” สำหรับเรนเดอร์ และ Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอ/จอภาพ — ลดภาระเครื่องและเพิ่มเฟรมเรตสำหรับทั้งงานสร้างสรรค์และเกม

    Nova Lake-S ยังมาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่หมด ตั้งแต่ LGA 1854 Socket, แรม DDR5 8000+ MT/s, ไปจนถึง 48 เลน PCIe และระบบ USB/SATA แบบขยายเต็มพิกัด

    Nova Lake-S จะเป็นซีรีส์เดสก์ท็อปใหม่ของ Intel ที่เปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่  
    • เริ่มวางจำหน่ายครึ่งหลังปี 2026  
    • ใช้ดีไซน์แบบ tile-based คล้ายกับชิปยุคใหม่ เช่น Meteor Lake

    Core Ultra 9 385K: มีสูงสุดถึง 52 คอร์!  
    • แบ่งเป็น: 16 P-core + 32 E-core + 4 LPE-core  
    • เปรียบเทียบแล้วมากกว่ารุ่นก่อน (24 คอร์) เกินเท่าตัว

    ซีรีส์อื่นก็แรงไม่แพ้กัน  
    • Core Ultra 7: 42 คอร์  
    • Core Ultra 5: มีตั้งแต่ 18 ถึง 28 คอร์  
    • Core Ultra 3: รุ่นเล็กสุดยังมีถึง 16 คอร์ (พร้อม LPE-core)

    แรมและสถาปัตยกรรมใหม่  
    • รองรับ DDR5 สูงสุด 8000 MT/s และอาจไปถึง 10,000+ MT/s  
    • ใช้ Socket ใหม่ LGA 1854 และชิปเซต 900 ซีรีส์

    ระบบกราฟิกในตัวแบบไฮบริด แยกเรนเดอร์/วิดีโอ  
    • Xe3 “Celestial” สำหรับเกมและกราฟิก  
    • Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอและจอภาพ

    เป้าหมาย: สู้กับ AMD Zen 6 แบบจัง ๆ  
    • Intel มุ่งหวังทวงบัลลังก์ซีพียูเดสก์ท็อปคืนจากคู่แข่ง

    ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่เพื่อใช้ Nova Lake-S  
    • ใช้ LGA 1854 socket และชิปเซตรุ่นใหม่ทั้งหมด  
    • ไม่สามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดปัจจุบัน

    ยังไม่มีการทดสอบจริง — ตัวเลขทั้งหมดมาจาก “ข่าวหลุด”  
    • ต้องรอ benchmark และประสิทธิภาพจริงจากผู้ผลิตหรือผู้ใช้งาน

    จำนวนคอร์ที่มากขึ้นอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป  
    • ถ้าซอฟต์แวร์ไม่ปรับให้รองรับการทำงานแบบ multi-thread อาจไม่ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า

    TDP ระดับ 150W บ่งชี้ว่าอาจต้องระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น  
    • โดยเฉพาะรุ่น Core Ultra 9 / 7 ที่มีคอร์จำนวนมาก

    https://www.techspot.com/news/108337-intel-nova-lake-s-cpus-bring-massive-architectural.html
    Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake-S รุ่นถัดไปของซีพียูฝั่งเดสก์ท็อปใน ครึ่งหลังของปี 2026 ที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ทั้งด้าน “สถาปัตยกรรม” และ “ขุมพลัง” ตัวท็อป Core Ultra 9 385K จะมีถึง 52 คอร์! โดยแบ่งเป็น 16 คอร์แรงจัด (P-core), 32 คอร์ประหยัด (E-core) และ 4 คอร์พลังต่ำพิเศษ (LPE-core) เรียกว่าเป็นการกระโดดจากรุ่นปัจจุบันที่มีสูงสุดแค่ 24 คอร์ แบบไม่เห็นฝุ่น แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่ “ระบบแยกแผ่น (tile-based)” ซึ่งแต่ละกลุ่มคอร์จะถูกวางอยู่บนไดแยกกัน คล้ายกับแนวคิดของชิป Apple M-Series หรือ AMD 3D V-Cache เพื่อให้บริหารพลังงานและประสิทธิภาพได้แบบละเอียดสุด ๆ Intel ยังใส่ใจสายกราฟิกด้วยการแยกส่วน iGPU ออกเป็นสองกลุ่มชัดเจน: Xe3 “Celestial” สำหรับเรนเดอร์ และ Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอ/จอภาพ — ลดภาระเครื่องและเพิ่มเฟรมเรตสำหรับทั้งงานสร้างสรรค์และเกม Nova Lake-S ยังมาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่หมด ตั้งแต่ LGA 1854 Socket, แรม DDR5 8000+ MT/s, ไปจนถึง 48 เลน PCIe และระบบ USB/SATA แบบขยายเต็มพิกัด ✅ Nova Lake-S จะเป็นซีรีส์เดสก์ท็อปใหม่ของ Intel ที่เปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่   • เริ่มวางจำหน่ายครึ่งหลังปี 2026   • ใช้ดีไซน์แบบ tile-based คล้ายกับชิปยุคใหม่ เช่น Meteor Lake ✅ Core Ultra 9 385K: มีสูงสุดถึง 52 คอร์!   • แบ่งเป็น: 16 P-core + 32 E-core + 4 LPE-core   • เปรียบเทียบแล้วมากกว่ารุ่นก่อน (24 คอร์) เกินเท่าตัว ✅ ซีรีส์อื่นก็แรงไม่แพ้กัน   • Core Ultra 7: 42 คอร์   • Core Ultra 5: มีตั้งแต่ 18 ถึง 28 คอร์   • Core Ultra 3: รุ่นเล็กสุดยังมีถึง 16 คอร์ (พร้อม LPE-core) ✅ แรมและสถาปัตยกรรมใหม่   • รองรับ DDR5 สูงสุด 8000 MT/s และอาจไปถึง 10,000+ MT/s   • ใช้ Socket ใหม่ LGA 1854 และชิปเซต 900 ซีรีส์ ✅ ระบบกราฟิกในตัวแบบไฮบริด แยกเรนเดอร์/วิดีโอ   • Xe3 “Celestial” สำหรับเกมและกราฟิก   • Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอและจอภาพ ✅ เป้าหมาย: สู้กับ AMD Zen 6 แบบจัง ๆ   • Intel มุ่งหวังทวงบัลลังก์ซีพียูเดสก์ท็อปคืนจากคู่แข่ง ‼️ ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่เพื่อใช้ Nova Lake-S   • ใช้ LGA 1854 socket และชิปเซตรุ่นใหม่ทั้งหมด   • ไม่สามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดปัจจุบัน ‼️ ยังไม่มีการทดสอบจริง — ตัวเลขทั้งหมดมาจาก “ข่าวหลุด”   • ต้องรอ benchmark และประสิทธิภาพจริงจากผู้ผลิตหรือผู้ใช้งาน ‼️ จำนวนคอร์ที่มากขึ้นอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป   • ถ้าซอฟต์แวร์ไม่ปรับให้รองรับการทำงานแบบ multi-thread อาจไม่ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า ‼️ TDP ระดับ 150W บ่งชี้ว่าอาจต้องระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น   • โดยเฉพาะรุ่น Core Ultra 9 / 7 ที่มีคอร์จำนวนมาก https://www.techspot.com/news/108337-intel-nova-lake-s-cpus-bring-massive-architectural.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel's Nova Lake-S CPUs to bring massive architectural overhaul, up to 52 cores
    The flagship Core Ultra 9 385K model could feature a staggering 52 cores, comprising 16 high-performance P-cores, 32 efficiency-focused E-cores, and four 4 low-power LPE-cores – making...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุคนี้องค์กรไม่ค่อย “ผูกขาดใจ” กับ Cloud เจ้าเดียวแล้ว ส่วนใหญ่ใช้แบบ Multicloud เพื่อดึงจุดเด่นแต่ละแพลตฟอร์มมาใช้งาน เช่น ใช้ GCP ทำ Data Analytics, Azure ทำ Identity, AWS ทำ Compute แต่รู้ไหมว่าความปลอดภัยแบบ “ข้ามค่าย” นี่เองที่สร้างฝันร้ายให้นัก Security

    เพราะเครื่องมือของแต่ละเจ้าต่างกัน ภาษาและพฤติกรรมไม่เหมือนกัน ทำให้เกิด “จุดบอด” ที่แฮกเกอร์ชอบที่สุด ข่าวนี้เลยรวบรวม 8 เทคนิค ที่องค์กรควรใช้เพื่อควบคุมความปลอดภัย Multicloud อย่างมืออาชีพ

    เช่น การตั้งศูนย์กลางความปลอดภัยที่ไม่ขึ้นกับ Cloud ใด Cloud หนึ่ง, การใช้ระบบตรวจจับภัยแบบรวมศูนย์, หรือแม้แต่การตั้งขอบเขตความไว้ใจให้ทุกระบบ — ไม่ว่าจะเป็น AWS, Azure หรือเครื่องเก่าที่นั่งนิ่ง ๆ ในดาต้าเซ็นเตอร์ก็ตาม

    สิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้ามคือเรื่อง “shared responsibility” — ความปลอดภัยไม่ใช่งานของทีม Security คนเดียว แต่ต้องกระจายบทบาทไปถึง DevOps, Cloud Architect และแม้แต่ทีม Compliance ด้วย

    ตั้งทีมกลางดูแลความปลอดภัย Multicloud  
    • สร้างศูนย์กลางหรือบุคคลที่คุมกลยุทธ์ ความสอดคล้อง และการบังคับใช้นโยบาย Cloud ทั้งหมด

    ใช้ระบบ Identity และ Governance แบบรวมศูนย์  
    • ลดช่องว่างระหว่าง Cloud ด้วยการจัดการสิทธิ์ผ่านระบบกลาง เช่น Microsoft Entra ID หรือ Okta

    ไม่ยึดติดกับ Security Tools ของแต่ละ Cloud โดยลำพัง  
    • สร้างมาตรฐานเดียวทั่วทุก Cloud เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและจุดอ่อน

    ใช้แนวคิด “Unified Trust Boundary”  
    • ยึดผู้ใช้ ข้อมูล และพฤติกรรมเป็นศูนย์กลาง แทนที่จะวางระบบความปลอดภัยแยกตามแพลตฟอร์ม

    กระจายความรับผิดชอบความปลอดภัยในองค์กร  
    • CISO เป็นเจ้าภาพ แต่ต้องมีทีม DevOps, Platform, Compliance มาร่วมรับผิดชอบด้วย

    เน้น Collaboration ระหว่างทีม ไม่ทำงานแบบไซโล  
    • ช่วยให้ระบบความปลอดภัยสอดคล้องกับภาพรวมธุรกิจ

    ตั้งระบบตรวจจับภัยแบบข้าม Cloud อย่างเป็นระบบ  
    • ลด Alert Fatigue และมองเห็นภาพรวมของภัยคุกคามได้ชัดเจนขึ้น

    ควบคุมการเข้าถึงด้วยแนวคิด “Session-based Access”  
    • ลดความเสี่ยงจากมัลแวร์หรือผู้บุกรุก ด้วยการจำกัดสิทธิ์และระยะเวลาการใช้งาน Cloud

    Cloud แต่ละเจ้ามีเครื่องมือ-คำศัพท์ไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดความสับสน  
    • การพึ่ง native tools แยกเจ้า โดยไม่มีแผนรวม อาจเกิดช่องโหว่ที่ไม่รู้ตัว

    Multicloud อาจเพิ่ม “complexity” มากกว่าที่คิด  
    • ถ้าไม่ควบคุมให้ดี Cloud หลายเจ้าจะกลายเป็น “ป่าดง Security Tools” ที่ดูแลไม่ทั่วถึง

    ความปลอดภัยไม่ควรฝากไว้แค่ทีม Security  
    • ถ้าไม่ดึงคนอื่นมารับผิดชอบร่วมกัน ก็เหมือนมีรปภ.แค่เฝ้าประตูหน้า แต่หน้าต่างเปิดโล่งหมด

    หากไม่มีการวาง Detection & Response ที่เป็นระบบ จะมองไม่เห็นภัยที่แทรกข้าม Cloud  
    • โดยเฉพาะพฤติกรรมแฝงที่มักกระโดดข้ามแพลตฟอร์ม

    การควบคุมสิทธิ์แบบ Static Access ทำให้ Cloud ตกเป็นเป้าได้ง่าย  
    • ต้องใช้แนวคิด “just-in-time access” แทนสิทธิถาวร

    https://www.csoonline.com/article/4003915/8-tips-for-mastering-multicloud-security.html
    ยุคนี้องค์กรไม่ค่อย “ผูกขาดใจ” กับ Cloud เจ้าเดียวแล้ว ส่วนใหญ่ใช้แบบ Multicloud เพื่อดึงจุดเด่นแต่ละแพลตฟอร์มมาใช้งาน เช่น ใช้ GCP ทำ Data Analytics, Azure ทำ Identity, AWS ทำ Compute แต่รู้ไหมว่าความปลอดภัยแบบ “ข้ามค่าย” นี่เองที่สร้างฝันร้ายให้นัก Security เพราะเครื่องมือของแต่ละเจ้าต่างกัน ภาษาและพฤติกรรมไม่เหมือนกัน ทำให้เกิด “จุดบอด” ที่แฮกเกอร์ชอบที่สุด ข่าวนี้เลยรวบรวม 8 เทคนิค ที่องค์กรควรใช้เพื่อควบคุมความปลอดภัย Multicloud อย่างมืออาชีพ เช่น การตั้งศูนย์กลางความปลอดภัยที่ไม่ขึ้นกับ Cloud ใด Cloud หนึ่ง, การใช้ระบบตรวจจับภัยแบบรวมศูนย์, หรือแม้แต่การตั้งขอบเขตความไว้ใจให้ทุกระบบ — ไม่ว่าจะเป็น AWS, Azure หรือเครื่องเก่าที่นั่งนิ่ง ๆ ในดาต้าเซ็นเตอร์ก็ตาม สิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้ามคือเรื่อง “shared responsibility” — ความปลอดภัยไม่ใช่งานของทีม Security คนเดียว แต่ต้องกระจายบทบาทไปถึง DevOps, Cloud Architect และแม้แต่ทีม Compliance ด้วย ✅ ตั้งทีมกลางดูแลความปลอดภัย Multicloud   • สร้างศูนย์กลางหรือบุคคลที่คุมกลยุทธ์ ความสอดคล้อง และการบังคับใช้นโยบาย Cloud ทั้งหมด ✅ ใช้ระบบ Identity และ Governance แบบรวมศูนย์   • ลดช่องว่างระหว่าง Cloud ด้วยการจัดการสิทธิ์ผ่านระบบกลาง เช่น Microsoft Entra ID หรือ Okta ✅ ไม่ยึดติดกับ Security Tools ของแต่ละ Cloud โดยลำพัง   • สร้างมาตรฐานเดียวทั่วทุก Cloud เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและจุดอ่อน ✅ ใช้แนวคิด “Unified Trust Boundary”   • ยึดผู้ใช้ ข้อมูล และพฤติกรรมเป็นศูนย์กลาง แทนที่จะวางระบบความปลอดภัยแยกตามแพลตฟอร์ม ✅ กระจายความรับผิดชอบความปลอดภัยในองค์กร   • CISO เป็นเจ้าภาพ แต่ต้องมีทีม DevOps, Platform, Compliance มาร่วมรับผิดชอบด้วย ✅ เน้น Collaboration ระหว่างทีม ไม่ทำงานแบบไซโล   • ช่วยให้ระบบความปลอดภัยสอดคล้องกับภาพรวมธุรกิจ ✅ ตั้งระบบตรวจจับภัยแบบข้าม Cloud อย่างเป็นระบบ   • ลด Alert Fatigue และมองเห็นภาพรวมของภัยคุกคามได้ชัดเจนขึ้น ✅ ควบคุมการเข้าถึงด้วยแนวคิด “Session-based Access”   • ลดความเสี่ยงจากมัลแวร์หรือผู้บุกรุก ด้วยการจำกัดสิทธิ์และระยะเวลาการใช้งาน Cloud ‼️ Cloud แต่ละเจ้ามีเครื่องมือ-คำศัพท์ไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดความสับสน   • การพึ่ง native tools แยกเจ้า โดยไม่มีแผนรวม อาจเกิดช่องโหว่ที่ไม่รู้ตัว ‼️ Multicloud อาจเพิ่ม “complexity” มากกว่าที่คิด   • ถ้าไม่ควบคุมให้ดี Cloud หลายเจ้าจะกลายเป็น “ป่าดง Security Tools” ที่ดูแลไม่ทั่วถึง ‼️ ความปลอดภัยไม่ควรฝากไว้แค่ทีม Security   • ถ้าไม่ดึงคนอื่นมารับผิดชอบร่วมกัน ก็เหมือนมีรปภ.แค่เฝ้าประตูหน้า แต่หน้าต่างเปิดโล่งหมด ‼️ หากไม่มีการวาง Detection & Response ที่เป็นระบบ จะมองไม่เห็นภัยที่แทรกข้าม Cloud   • โดยเฉพาะพฤติกรรมแฝงที่มักกระโดดข้ามแพลตฟอร์ม ‼️ การควบคุมสิทธิ์แบบ Static Access ทำให้ Cloud ตกเป็นเป้าได้ง่าย   • ต้องใช้แนวคิด “just-in-time access” แทนสิทธิถาวร https://www.csoonline.com/article/4003915/8-tips-for-mastering-multicloud-security.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    8 tips for mastering multicloud security
    Multicloud environments offer many benefits. Strong inherent security isn’t one of them.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts