• DNS Blocking: เครื่องมือควบคุมอินเทอร์เน็ตที่อาจสร้างผลกระทบ
    รายงานใหม่จาก i2Coalition เตือนถึง แนวโน้มที่น่ากังวล ของรัฐบาลทั่วโลกที่ใช้ DNS resolvers เป็นเครื่องมือบล็อกเนื้อหาออนไลน์ ซึ่งอาจนำไปสู่ ผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจและการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต

    DNS (Domain Name System) ทำหน้าที่เป็น สมุดโทรศัพท์ของอินเทอร์เน็ต โดยแปลงชื่อเว็บไซต์เป็น หมายเลข IP เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้

    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลบางประเทศ เช่น รัสเซีย, อิหร่าน และจีน ได้ใช้ DNS blocking เพื่อควบคุมเนื้อหาออนไลน์ เช่น การเซ็นเซอร์ทางการเมือง, การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ และการคุ้มครองเด็ก

    นอกจากนี้ ประเทศในยุโรป เช่น อิตาลี, สเปน และฝรั่งเศส กำลังใช้ DNS blocking เพื่อป้องกัน การละเมิดลิขสิทธิ์ ขณะที่ สหรัฐฯ กำลังพิจารณากฎหมายที่อาจใช้วิธีเดียวกัน

    ข้อมูลจากข่าว
    - i2Coalition เตือนถึงการใช้ DNS resolvers เป็นเครื่องมือบล็อกเนื้อหาออนไลน์
    - DNS ทำหน้าที่เป็นสมุดโทรศัพท์ของอินเทอร์เน็ต โดยแปลงชื่อเว็บไซต์เป็นหมายเลข IP
    - รัสเซีย, อิหร่าน และจีนใช้ DNS blocking เพื่อควบคุมเนื้อหาออนไลน์
    - อิตาลี, สเปน และฝรั่งเศสใช้ DNS blocking เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์
    - สหรัฐฯ กำลังพิจารณากฎหมายที่อาจใช้ DNS blocking ในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - DNS blocking ไม่สามารถลบเนื้อหาออกจากอินเทอร์เน็ตได้จริง แต่เพียงแค่บดบังการเข้าถึง
    - การบล็อก DNS อาจนำไปสู่การบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องโดยไม่ได้ตั้งใจ
    - VPN กำลังกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของรัฐบาลที่ต้องการควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
    - การบล็อก DNS และ VPN อาจทำให้เกิดการกระจายตัวของอินเทอร์เน็ตและลดความเป็นกลางของโครงสร้างพื้นฐาน

    แม้ว่าการบล็อก DNS จะถูกใช้เพื่อ ป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์และเนื้อหาที่เป็นอันตราย แต่ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามาตรการเหล่านี้อาจนำไปสู่การควบคุมอินเทอร์เน็ตที่มากเกินไป และ ส่งผลกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัลในระยะยาว

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/dns-resolvers-arent-a-censorship-tool-experts-warn-against-the-risks-of-growing-internet-blocking
    🌐 DNS Blocking: เครื่องมือควบคุมอินเทอร์เน็ตที่อาจสร้างผลกระทบ รายงานใหม่จาก i2Coalition เตือนถึง แนวโน้มที่น่ากังวล ของรัฐบาลทั่วโลกที่ใช้ DNS resolvers เป็นเครื่องมือบล็อกเนื้อหาออนไลน์ ซึ่งอาจนำไปสู่ ผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจและการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต DNS (Domain Name System) ทำหน้าที่เป็น สมุดโทรศัพท์ของอินเทอร์เน็ต โดยแปลงชื่อเว็บไซต์เป็น หมายเลข IP เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลบางประเทศ เช่น รัสเซีย, อิหร่าน และจีน ได้ใช้ DNS blocking เพื่อควบคุมเนื้อหาออนไลน์ เช่น การเซ็นเซอร์ทางการเมือง, การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ และการคุ้มครองเด็ก นอกจากนี้ ประเทศในยุโรป เช่น อิตาลี, สเปน และฝรั่งเศส กำลังใช้ DNS blocking เพื่อป้องกัน การละเมิดลิขสิทธิ์ ขณะที่ สหรัฐฯ กำลังพิจารณากฎหมายที่อาจใช้วิธีเดียวกัน ✅ ข้อมูลจากข่าว - i2Coalition เตือนถึงการใช้ DNS resolvers เป็นเครื่องมือบล็อกเนื้อหาออนไลน์ - DNS ทำหน้าที่เป็นสมุดโทรศัพท์ของอินเทอร์เน็ต โดยแปลงชื่อเว็บไซต์เป็นหมายเลข IP - รัสเซีย, อิหร่าน และจีนใช้ DNS blocking เพื่อควบคุมเนื้อหาออนไลน์ - อิตาลี, สเปน และฝรั่งเศสใช้ DNS blocking เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ - สหรัฐฯ กำลังพิจารณากฎหมายที่อาจใช้ DNS blocking ในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - DNS blocking ไม่สามารถลบเนื้อหาออกจากอินเทอร์เน็ตได้จริง แต่เพียงแค่บดบังการเข้าถึง - การบล็อก DNS อาจนำไปสู่การบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องโดยไม่ได้ตั้งใจ - VPN กำลังกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของรัฐบาลที่ต้องการควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต - การบล็อก DNS และ VPN อาจทำให้เกิดการกระจายตัวของอินเทอร์เน็ตและลดความเป็นกลางของโครงสร้างพื้นฐาน แม้ว่าการบล็อก DNS จะถูกใช้เพื่อ ป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์และเนื้อหาที่เป็นอันตราย แต่ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามาตรการเหล่านี้อาจนำไปสู่การควบคุมอินเทอร์เน็ตที่มากเกินไป และ ส่งผลกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัลในระยะยาว https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/dns-resolvers-arent-a-censorship-tool-experts-warn-against-the-risks-of-growing-internet-blocking
    WWW.TECHRADAR.COM
    "DNS resolvers aren’t a censorship tool" – experts warn against the risks of growing internet blocking
    A new report seeks to shed light on DNS blocking and other internet restrictions across the world
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • Roskomnadzor กำลังขยายสงครามการเซ็นเซอร์ VPN ด้วยคำสั่งให้ลบแอปออกจาก Google Play Store แต่ Google เลือกที่จะต้านคำสั่งและรักษาแอป VPN ไว้จำนวนมาก เหตุการณ์นี้แสดงถึงความท้าทายระหว่างเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตและการปราบปรามในประเทศ

    การต้านทานของ Google: ในขณะที่ Roskomnadzorพยายามปิดกั้นการใช้งาน VPN เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเซ็นเซอร์ Google ยังไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งส่วนใหญ่ โดยในขณะนี้มีเพียง 6 แอป VPN ที่ถูกลบจาก Play Store ในรัสเซีย

    การตอบสนองที่แตกต่างของ Apple: ในปี 2024 Apple ได้ลบ VPN ออกจาก App Store ในรัสเซียถึง 60 แอป ซึ่งแสดงถึงระดับการปฏิบัติตามที่สูงกว่า Google

    ผลกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัล: VPN ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยผู้ใช้งานในรัสเซียหลบหลีกการเซ็นเซอร์และการเฝ้าระวัง แต่การที่ Roskomnadzorออกคำสั่งให้ลบแอปเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการปราบปรามที่เข้มงวดต่อความพยายามในการเข้าถึงเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต

    การสนับสนุนจากองค์กรอิสระ: GreatFire’s AppCensorship Project เรียกร้องให้ Google และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีมีความโปร่งใสและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลบแอป รวมถึงการเพิ่มการกำกับดูแลเพื่อช่วยปกป้องเสรีภาพทางดิจิทัล

    การตัดสินใจของนักพัฒนา: นักพัฒนาบางราย เช่น Avast VPN เลือกที่จะหยุดให้บริการในรัสเซียโดยไม่รอคำสั่งจากรัฐบาล สะท้อนถึงแรงกดดันที่เกิดขึ้น

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-demands-212-vpns-are-removed-from-the-play-store-but-google-is-resisting
    Roskomnadzor กำลังขยายสงครามการเซ็นเซอร์ VPN ด้วยคำสั่งให้ลบแอปออกจาก Google Play Store แต่ Google เลือกที่จะต้านคำสั่งและรักษาแอป VPN ไว้จำนวนมาก เหตุการณ์นี้แสดงถึงความท้าทายระหว่างเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตและการปราบปรามในประเทศ ✅ การต้านทานของ Google: ในขณะที่ Roskomnadzorพยายามปิดกั้นการใช้งาน VPN เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเซ็นเซอร์ Google ยังไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งส่วนใหญ่ โดยในขณะนี้มีเพียง 6 แอป VPN ที่ถูกลบจาก Play Store ในรัสเซีย ✅ การตอบสนองที่แตกต่างของ Apple: ในปี 2024 Apple ได้ลบ VPN ออกจาก App Store ในรัสเซียถึง 60 แอป ซึ่งแสดงถึงระดับการปฏิบัติตามที่สูงกว่า Google ✅ ผลกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัล: VPN ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยผู้ใช้งานในรัสเซียหลบหลีกการเซ็นเซอร์และการเฝ้าระวัง แต่การที่ Roskomnadzorออกคำสั่งให้ลบแอปเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการปราบปรามที่เข้มงวดต่อความพยายามในการเข้าถึงเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต ✅ การสนับสนุนจากองค์กรอิสระ: GreatFire’s AppCensorship Project เรียกร้องให้ Google และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีมีความโปร่งใสและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลบแอป รวมถึงการเพิ่มการกำกับดูแลเพื่อช่วยปกป้องเสรีภาพทางดิจิทัล ✅ การตัดสินใจของนักพัฒนา: นักพัฒนาบางราย เช่น Avast VPN เลือกที่จะหยุดให้บริการในรัสเซียโดยไม่รอคำสั่งจากรัฐบาล สะท้อนถึงแรงกดดันที่เกิดขึ้น https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-demands-212-vpns-are-removed-from-the-play-store-but-google-is-resisting
    WWW.TECHRADAR.COM
    Russia demands over 200 VPNs are removed from the Play Store – but Google is resisting
    Of the 212, AppCensorship only found 6 VPN apps unavailable on Russia's Google Play
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ทรัมป์' ยื่นขอศาลสูงสุดสหรัฐฯ ระงับแบน TikTok ชั่วคราว!

    28 ธันวาคม 2567 #โดนัลด์ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสูงสุดของสหรัฐฯ เพื่อขอให้ "ระงับการบังคับใช้กฎหมาย" ที่ห้าม #แอปพลิเคชัน #TikTok ในสหรัฐฯ กรณีที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้มาตรการที่อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมของบริษัทแม่ของ TikTok, ByteDance
    .
    การขอระงับมาตรการดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจาก การตัดสินของศาลล่างที่ให้ความเห็นว่า #TikTok อาจเป็น #ภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ ด้วยความกังวลเกี่ยวกับการ #เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัย ถึงการเชื่อมโยงกับ #รัฐบาลจีน
    .
    ทรัมป์และทีมกฎหมาย ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยุค ปธน.โจ ไบเดน แบน TikTok อาจสร้างผลกระทบที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ใช้งานและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมถึง #กระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัล และการเข้าถึงข้อมูลในโลกออนไลน์
    .
    ซึ่งทรัมป์ มีบัญชี Tiktok ในชื่อ realdonaldtrump
    President Donald J Trump
    .
    รัฐบาลโจ ไบเดน แบน TikTok เพราะกังวลถึงความมั่นคงแห่งชาติ โดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่อาจตกอยู่ในมือของรัฐบาลจีน
    .
    .
    #Thaitribune

    ขณะนี้ ศาลสูงสุดสหรัฐฯ กำลังพิจารณาคำขอของทรัมป์ เพื่อจะตัดสินว่าจะระงับคำสั่งแบน TikTok ชั่วคราวหรือไม่ ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินกิจการของแอปพลิเคชันดังกล่าวในสหรัฐฯ.

    ที่มา: https://www.facebook.com/share/p/14mSLz1Xvb6/?mibextid=wwXIfr
    'ทรัมป์' ยื่นขอศาลสูงสุดสหรัฐฯ ระงับแบน TikTok ชั่วคราว! 28 ธันวาคม 2567 #โดนัลด์ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสูงสุดของสหรัฐฯ เพื่อขอให้ "ระงับการบังคับใช้กฎหมาย" ที่ห้าม #แอปพลิเคชัน #TikTok ในสหรัฐฯ กรณีที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้มาตรการที่อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมของบริษัทแม่ของ TikTok, ByteDance . การขอระงับมาตรการดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจาก การตัดสินของศาลล่างที่ให้ความเห็นว่า #TikTok อาจเป็น #ภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ ด้วยความกังวลเกี่ยวกับการ #เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัย ถึงการเชื่อมโยงกับ #รัฐบาลจีน . ทรัมป์และทีมกฎหมาย ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยุค ปธน.โจ ไบเดน แบน TikTok อาจสร้างผลกระทบที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ใช้งานและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมถึง #กระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัล และการเข้าถึงข้อมูลในโลกออนไลน์ . ซึ่งทรัมป์ มีบัญชี Tiktok ในชื่อ realdonaldtrump President Donald J Trump . รัฐบาลโจ ไบเดน แบน TikTok เพราะกังวลถึงความมั่นคงแห่งชาติ โดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่อาจตกอยู่ในมือของรัฐบาลจีน . . #Thaitribune ขณะนี้ ศาลสูงสุดสหรัฐฯ กำลังพิจารณาคำขอของทรัมป์ เพื่อจะตัดสินว่าจะระงับคำสั่งแบน TikTok ชั่วคราวหรือไม่ ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินกิจการของแอปพลิเคชันดังกล่าวในสหรัฐฯ. ที่มา: https://www.facebook.com/share/p/14mSLz1Xvb6/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 746 มุมมอง 0 รีวิว