• รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251120 #securityonline

    Lazarus Group เปิดตัว RAT ใหม่ชื่อ ScoringMathTea
    กลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกเปิดโปงว่าได้พัฒนาเครื่องมือสอดแนมใหม่ชื่อ ScoringMathTea RAT ซึ่งมีความสามารถซับซ้อนมาก ใช้เทคนิคการโหลดปลั๊กอินแบบสะท้อน (Reflective Plugin Loader) และเข้ารหัสด้วยวิธีเฉพาะที่ยากต่อการตรวจจับ เครื่องมือนี้สามารถควบคุมเครื่องเป้าหมายจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ ทั้งการรันคำสั่งและโหลดปลั๊กอินในหน่วยความจำ จุดเด่นคือการซ่อนร่องรอยการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ นักวิจัยพบว่า RAT นี้ถูกใช้ในปฏิบัติการโจมตีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี UAV ของยูเครน

    https://securityonline.info/lazarus-groups-new-scoringmathtea-rat-uses-reflective-plugin-loader-and-custom-polyalphabetic-crypto-for-espionage

    Akira Ransomware ใช้ CAPTCHA หลอกลวงจนบริษัทใหญ่ล่มใน 42 วัน
    มีรายงานว่าเพียงการคลิก CAPTCHA ปลอมครั้งเดียวของพนักงานบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เกิดการโจมตีที่ยืดเยื้อถึง 42 วัน กลุ่มแฮกเกอร์ Howling Scorpius ใช้เทคนิคนี้เพื่อติดตั้ง SectopRAT และค่อย ๆ ยึดระบบทีละขั้น จนสามารถลบข้อมูลสำรองบนคลาวด์และปล่อย Akira ransomware ทำให้บริษัทหยุดทำงานเกือบทั้งหมด แม้บริษัทจะมีระบบ EDR แต่กลับไม่สามารถตรวจจับได้ทันเวลา

    https://securityonline.info/one-click-42-days-akira-ransomware-used-captcha-decoy-to-destroy-cloud-backups-and-cripple-storage-firm

    “The Gentlemen” Ransomware RaaS โผล่ใหม่ โจมตี 48 เหยื่อใน 3 เดือน
    กลุ่มใหม่ชื่อ The Gentlemen เปิดตัวแพลตฟอร์ม Ransomware-as-a-Service (RaaS) ที่มีความซับซ้อนสูง ใช้การเข้ารหัสแบบ XChaCha20 และกลยุทธ์ “สองชั้น” คือทั้งเข้ารหัสไฟล์และขู่เปิดเผยข้อมูลที่ขโมยมา ภายในเวลาเพียง 3 เดือน พวกเขามีเหยื่อถึง 48 ราย จุดเด่นคือการพัฒนาอย่างรวดเร็ว รองรับทั้ง Windows, Linux และ ESXi พร้อมเทคนิคการแพร่กระจายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นภัยคุกคามระดับท็อปในวงการ https://securityonline.info/sophisticated-the-gentlemen-ransomware-raas-emerges-with-xchacha20-encryption-and-48-victims-in-3-months

    มัลแวร์ยุคใหม่ซ่อนการสื่อสารเป็น API ของ LLM บน Tencent Cloud
    นักวิจัยจาก Akamai พบมัลแวร์ที่มีวิธีพรางตัวแปลกใหม่ โดยมันซ่อนการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ให้ดูเหมือนการเรียกใช้งาน API ของ Large Language Model (LLM) บน Tencent Cloud ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก เพราะทราฟฟิกดูเหมือนการใช้งาน AI ปกติจริง ๆ เมื่อถอดรหัสแล้วพบว่าเป็นคำสั่งควบคุมเครื่องแบบ RAT เต็มรูปแบบ พร้อมเครื่องมือ Proxy ที่ช่วยให้แฮกเกอร์ใช้เครื่องเหยื่อเป็นจุดผ่านในการโจมตีต่อ

    https://securityonline.info/next-gen-stealth-malware-hides-c2-traffic-as-fake-llm-api-requests-on-tencent-cloud

    Ransomware เจาะ AWS S3 ผ่านการตั้งค่าผิดพลาด ทำลบข้อมูลถาวร
    รายงานจาก Trend Research เตือนว่ามีการพัฒนา ransomware รุ่นใหม่ที่มุ่งเป้าไปยัง Amazon S3 โดยอาศัยการตั้งค่าที่ผิดพลาด เช่น ไม่มีการเปิด versioning หรือ object lock ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ารหัสหรือลบข้อมูลได้แบบถาวรโดยไม่สามารถกู้คืนได้ มีการระบุถึง 5 วิธีการโจมตีที่อันตราย เช่น การลบ KMS key ที่ใช้เข้ารหัสไฟล์ ซึ่งจะทำให้ข้อมูลสูญหายไปตลอดกาล

    https://securityonline.info/next-gen-ransomware-targets-aws-s3-five-cloud-native-variants-exploit-misconfigurations-for-irreversible-data-destruction

    Windows 11 เตรียมซ่อนหน้าจอ BSOD บนจอสาธารณะ

    Microsoft ประกาศว่าจะปรับปรุง Windows 11 โดย ซ่อนหน้าจอ Blue Screen of Death (BSOD) บนจอที่ใช้ในที่สาธารณะ เช่นสนามบินหรือห้างสรรพสินค้า เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ทั่วไปเห็นภาพระบบล่มที่อาจสร้างความตื่นตระหนก การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยยังคงบันทึกข้อมูลการ crash ไว้ให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบได้ตามปกติ

    https://securityonline.info/no-more-public-bsods-windows-11-will-hide-crash-screens-on-public-displays

    Microsoft เตรียมยกเลิกสิทธิ์ OEM Driver ระดับ Kernel
    หลังเหตุการณ์ CrowdStrike ที่ทำให้ระบบล่มทั่วโลก Microsoft วางแผนจะ ยกเลิกสิทธิ์พิเศษของ OEM driver ที่ทำงานในระดับ Kernel เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ใช้สิทธิ์สูงเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของระบบ Windows โดยบังคับให้ผู้ผลิตใช้วิธีที่ปลอดภัยกว่าในการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ

    https://securityonline.info/post-crowdstrike-microsoft-to-phase-out-oem-kernel-level-driver-privileges

    Seraphic เปิดตัว Browser Security สำหรับแอป Electron
    บริษัท Seraphic เปิดตัวโซลูชันใหม่ที่เป็น Secure Enterprise Browser ตัวแรกที่สามารถปกป้องแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron ได้ จุดเด่นคือการเพิ่มชั้นความปลอดภัยให้กับแอปที่มักถูกใช้ในองค์กร เช่น Slack หรือ Teams ซึ่งเดิมที Electron มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอยู่บ่อยครั้ง การแก้ปัญหานี้ช่วยให้องค์กรมั่นใจมากขึ้นในการใช้งานแอป Electron

    https://securityonline.info/seraphic-becomes-the-first-and-only-secure-enterprise-browser-solution-to-protect-electron-based-applications

    Comet Browser ถูกวิจารณ์หนัก หลังพบ API ลับ MCP
    มีการค้นพบว่า Comet Browser มี API ที่ชื่อ MCP ซึ่งเปิดช่องให้ผู้พัฒนา AI browser สามารถเข้าถึงและควบคุมอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้เต็มรูปแบบโดยไม่แจ้งเตือน ทำให้เกิดการละเมิดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ นักวิจัยเตือนว่าช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกลโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://securityonline.info/obscure-mcp-api-in-comet-browser-breaches-user-trust-enabling-full-device-control-via-ai-browsers

    CredShields จับมือ Checkmarx เสริมความปลอดภัย Smart Contract
    บริษัท CredShields ประกาศความร่วมมือกับ Checkmarx เพื่อนำเทคโนโลยีตรวจสอบความปลอดภัยของ Smart Contract เข้าสู่โปรแกรม AppSec ขององค์กร จุดมุ่งหมายคือช่วยให้องค์กรที่ใช้ blockchain และ smart contract สามารถตรวจสอบช่องโหว่ได้อย่างเป็นระบบ ลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้สูญเสียทรัพย์สินดิจิทัล

    https://securityonline.info/credshields-joins-forces-with-checkmarx-to-bring-smart-contract-security-to-enterprise-appsec-programs

    Windows 11 เพิ่มเครื่องมือใหม่ Point-in-Time Restore

    Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ได้แก่ Point-in-Time Restore และ Network-Enabled Recovery Environment เพื่อช่วยผู้ใช้กู้คืนระบบได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ทำให้สามารถย้อนกลับไปยังสถานะก่อนหน้าที่กำหนดไว้ได้ทันที และยังรองรับการกู้คืนผ่านเครือข่าย ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถซ่อมแซมเครื่องจากระยะไกลได้สะดวกขึ้น

    https://securityonline.info/new-windows-11-tools-point-in-time-restore-network-enabled-recovery-environment

    ความกังวลฟองสบู่ AI: Microsoft & NVIDIA ลงทุนหนักใน Anthropic
    มีรายงานว่าทั้ง Microsoft และ NVIDIA ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในบริษัท AI อย่าง Anthropic จนเกิดความกังวลว่าการลงทุนแบบหมุนเวียนระหว่างบริษัทใหญ่ ๆ อาจสร้าง “ฟองสบู่ AI” ที่ไม่ยั่งยืน การทุ่มเงินจำนวนมหาศาลนี้ถูกมองว่าอาจทำให้ตลาด AI เติบโตเกินจริงและเสี่ยงต่อการแตกในอนาคต

    https://securityonline.info/ai-bubble-fear-microsoft-nvidia-pour-billions-into-anthropic-fueling-circular-investment

    Google ทุ่ม 78 พันล้านดอลลาร์สร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ
    Google ประกาศโครงการ Investing in America 2025 ด้วยงบประมาณมหาศาลถึง 78 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI และโครงสร้างพื้นฐานทั่วสหรัฐฯ รวมถึงการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ 600 MW ที่ Arkansas โครงการนี้สะท้อนถึงการเร่งขยายกำลังการผลิต AI และการสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ https://securityonline.info/google-pledges-78-billion-for-investing-in-america-2025-ai-infrastructure

    Grok 4.1 แซง Google Gemini 2.5 Pro บน LMArena
    แพลตฟอร์มทดสอบ AI LMArena รายงานว่า Grok 4.1 Thinking ได้คะแนนสูงสุด แซงหน้า Google Gemini 2.5 Pro ในการจัดอันดับล่าสุด จุดเด่นของ Grok คือความสามารถในการใช้เหตุผลเชิงลึกและการตอบสนองที่แม่นยำ ทำให้มันถูกจับตามองว่าอาจเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดโมเดล AI ระดับสูง

    https://securityonline.info/grok-4-1-thinking-steals-1-spot-on-lmarena-surpassing-google-gemini-2-5-pro

    Google เปิดตัว Canvas และ Agentic Booking ใน AI Mode
    Google อัปเกรด AI Mode โดยเพิ่มฟีเจอร์ Canvas สำหรับการวางแผน และ Agentic Booking สำหรับการจองที่พักหรือร้านอาหารแบบอัตโนมัติ ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ AI ในการจัดการงานประจำวันได้สะดวกขึ้น เช่น วางแผนทริปหรือจองโต๊ะอาหารโดยไม่ต้องทำเอง

    https://securityonline.info/ai-mode-upgraded-google-launches-canvas-for-planning-and-agentic-booking-for-reservations

    เราเตอร์ D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุน พร้อมช่องโหว่ RCE ร้ายแรง

    D-Link ประกาศว่าเราเตอร์รุ่น DIR-878 เข้าสู่สถานะ End-of-Life (EOL) และจะไม่ได้รับการอัปเดตอีกต่อไป ทั้งที่ยังมีช่องโหว่ร้ายแรงถึง 3 จุดซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้ใช้ที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นนี้เสี่ยงต่อการถูกยึดระบบอย่างมาก

    https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน METZ CONNECT Controller เปิดทาง RCE และยึดระบบ
    มีการค้นพบช่องโหว่ในอุปกรณ์ควบคุมอุตสาหกรรมของ METZ CONNECT ที่มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเข้ายึดสิทธิ์ผู้ดูแลระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบควบคุมอุตสาหกรรมที่ใช้กันในโรงงานและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

    https://securityonline.info/critical-metz-connect-flaws-cvss-9-8-allow-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-industrial-controllers

    SolarWinds Serv-U พบช่องโหว่ใหม่ เปิดทาง RCE และ Path Bypass
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยรายงานช่องโหว่ร้ายแรงใน SolarWinds Serv-U ที่ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางไฟล์ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.1 และถูกจัดว่าเป็นภัยคุกคามระดับสูงต่อองค์กรที่ใช้ Serv-U ในการจัดการไฟล์และระบบเครือข่าย

    https://securityonline.info/critical-solarwinds-serv-u-flaws-cvss-9-1-allow-authenticated-admin-rce-and-path-bypass

    การโจมตีซัพพลายเชน npm ด้วย CAPTCHA ปลอมและ Adspect Cloaking
    มีการตรวจพบการโจมตีซัพพลายเชนใน npm โดยแฮกเกอร์ใช้เทคนิค Adspect Cloaking และ CAPTCHA ปลอมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพื่อหลอกนักพัฒนาและผู้ใช้ให้ดาวน์โหลดแพ็กเกจอันตราย การโจมตีนี้ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักวิจัยด้านความปลอดภัยถูกหลอกได้ง่ายขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงในระบบซัพพลายเชนโอเพนซอร์ส

    https://securityonline.info/npm-supply-chain-attack-hackers-use-adspect-cloaking-and-fake-crypto-captcha-to-deceive-victims-and-researchers

    ASUSTOR พบช่องโหว่ DLL Hijacking ร้ายแรง (CVE-2025-13051)
    ASUSTOR ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ DLL hijacking ในซอฟต์แวร์ Backup Plan (ABP) และ EZSync (AES) บน Windows ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีในเครื่องสามารถแทนที่ DLL และรันโค้ดด้วยสิทธิ์ SYSTEM ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.3 และถูกจัดว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อทั้งผู้ใช้บ้านและองค์กร โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชันใหม่

    https://securityonline.info/critical-asustor-flaw-cve-2025-13051-allows-local-dll-hijacking-for-system-privilege-escalation

    ช่องโหว่ joserfc (CVE-2025-65015) ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มด้วย JWT ขนาดใหญ่

    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี joserfc ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ JSON Web Token (JWT) โดยหากผู้โจมตีส่ง JWT ที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ จะทำให้เซิร์ฟเวอร์ใช้ทรัพยากรมากเกินไปจนล่มได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่าเป็นการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) และมีผลกระทบต่อระบบที่ใช้ joserfc ในการตรวจสอบสิทธิ์หรือการเข้ารหัสข้อมูล

    https://securityonline.info/critical-cve-2025-65015-vulnerability-in-joserfc-could-let-attackers-exhaust-server-resources-via-oversized-jwt-tokens

    หน่วยงาน CISA/FBI/NSA ร่วมกันจัดการโครงสร้าง Bulletproof Hosting
    สามหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ได้แก่ CISA, FBI และ NSA ได้ร่วมมือกันออกคู่มือใหม่เพื่อจัดการกับโครงสร้าง Bulletproof Hosting ที่ถูกใช้โดยอาชญากรไซเบอร์ทั่วโลก Bulletproof Hosting คือบริการโฮสติ้งที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โจมตีจากการถูกปิดกั้นหรือสืบสวน การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างแนวทางป้องกันภัยไซเบอร์ระดับโลก

    https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide

    📌📰🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠📰📌 #รวมข่าวIT #20251120 #securityonline 🕵️‍♂️ Lazarus Group เปิดตัว RAT ใหม่ชื่อ ScoringMathTea กลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกเปิดโปงว่าได้พัฒนาเครื่องมือสอดแนมใหม่ชื่อ ScoringMathTea RAT ซึ่งมีความสามารถซับซ้อนมาก ใช้เทคนิคการโหลดปลั๊กอินแบบสะท้อน (Reflective Plugin Loader) และเข้ารหัสด้วยวิธีเฉพาะที่ยากต่อการตรวจจับ เครื่องมือนี้สามารถควบคุมเครื่องเป้าหมายจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ ทั้งการรันคำสั่งและโหลดปลั๊กอินในหน่วยความจำ จุดเด่นคือการซ่อนร่องรอยการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ นักวิจัยพบว่า RAT นี้ถูกใช้ในปฏิบัติการโจมตีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี UAV ของยูเครน 🔗 https://securityonline.info/lazarus-groups-new-scoringmathtea-rat-uses-reflective-plugin-loader-and-custom-polyalphabetic-crypto-for-espionage 💻 Akira Ransomware ใช้ CAPTCHA หลอกลวงจนบริษัทใหญ่ล่มใน 42 วัน มีรายงานว่าเพียงการคลิก CAPTCHA ปลอมครั้งเดียวของพนักงานบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เกิดการโจมตีที่ยืดเยื้อถึง 42 วัน กลุ่มแฮกเกอร์ Howling Scorpius ใช้เทคนิคนี้เพื่อติดตั้ง SectopRAT และค่อย ๆ ยึดระบบทีละขั้น จนสามารถลบข้อมูลสำรองบนคลาวด์และปล่อย Akira ransomware ทำให้บริษัทหยุดทำงานเกือบทั้งหมด แม้บริษัทจะมีระบบ EDR แต่กลับไม่สามารถตรวจจับได้ทันเวลา 🔗 https://securityonline.info/one-click-42-days-akira-ransomware-used-captcha-decoy-to-destroy-cloud-backups-and-cripple-storage-firm 🎩 “The Gentlemen” Ransomware RaaS โผล่ใหม่ โจมตี 48 เหยื่อใน 3 เดือน กลุ่มใหม่ชื่อ The Gentlemen เปิดตัวแพลตฟอร์ม Ransomware-as-a-Service (RaaS) ที่มีความซับซ้อนสูง ใช้การเข้ารหัสแบบ XChaCha20 และกลยุทธ์ “สองชั้น” คือทั้งเข้ารหัสไฟล์และขู่เปิดเผยข้อมูลที่ขโมยมา ภายในเวลาเพียง 3 เดือน พวกเขามีเหยื่อถึง 48 ราย จุดเด่นคือการพัฒนาอย่างรวดเร็ว รองรับทั้ง Windows, Linux และ ESXi พร้อมเทคนิคการแพร่กระจายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นภัยคุกคามระดับท็อปในวงการ 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-the-gentlemen-ransomware-raas-emerges-with-xchacha20-encryption-and-48-victims-in-3-months ☁️ มัลแวร์ยุคใหม่ซ่อนการสื่อสารเป็น API ของ LLM บน Tencent Cloud นักวิจัยจาก Akamai พบมัลแวร์ที่มีวิธีพรางตัวแปลกใหม่ โดยมันซ่อนการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ให้ดูเหมือนการเรียกใช้งาน API ของ Large Language Model (LLM) บน Tencent Cloud ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก เพราะทราฟฟิกดูเหมือนการใช้งาน AI ปกติจริง ๆ เมื่อถอดรหัสแล้วพบว่าเป็นคำสั่งควบคุมเครื่องแบบ RAT เต็มรูปแบบ พร้อมเครื่องมือ Proxy ที่ช่วยให้แฮกเกอร์ใช้เครื่องเหยื่อเป็นจุดผ่านในการโจมตีต่อ 🔗 https://securityonline.info/next-gen-stealth-malware-hides-c2-traffic-as-fake-llm-api-requests-on-tencent-cloud 🗄️ Ransomware เจาะ AWS S3 ผ่านการตั้งค่าผิดพลาด ทำลบข้อมูลถาวร รายงานจาก Trend Research เตือนว่ามีการพัฒนา ransomware รุ่นใหม่ที่มุ่งเป้าไปยัง Amazon S3 โดยอาศัยการตั้งค่าที่ผิดพลาด เช่น ไม่มีการเปิด versioning หรือ object lock ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ารหัสหรือลบข้อมูลได้แบบถาวรโดยไม่สามารถกู้คืนได้ มีการระบุถึง 5 วิธีการโจมตีที่อันตราย เช่น การลบ KMS key ที่ใช้เข้ารหัสไฟล์ ซึ่งจะทำให้ข้อมูลสูญหายไปตลอดกาล 🔗 https://securityonline.info/next-gen-ransomware-targets-aws-s3-five-cloud-native-variants-exploit-misconfigurations-for-irreversible-data-destruction 💻 Windows 11 เตรียมซ่อนหน้าจอ BSOD บนจอสาธารณะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับปรุง Windows 11 โดย ซ่อนหน้าจอ Blue Screen of Death (BSOD) บนจอที่ใช้ในที่สาธารณะ เช่นสนามบินหรือห้างสรรพสินค้า เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ทั่วไปเห็นภาพระบบล่มที่อาจสร้างความตื่นตระหนก การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยยังคงบันทึกข้อมูลการ crash ไว้ให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบได้ตามปกติ 🔗 https://securityonline.info/no-more-public-bsods-windows-11-will-hide-crash-screens-on-public-displays 🛡️ Microsoft เตรียมยกเลิกสิทธิ์ OEM Driver ระดับ Kernel หลังเหตุการณ์ CrowdStrike ที่ทำให้ระบบล่มทั่วโลก Microsoft วางแผนจะ ยกเลิกสิทธิ์พิเศษของ OEM driver ที่ทำงานในระดับ Kernel เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ใช้สิทธิ์สูงเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของระบบ Windows โดยบังคับให้ผู้ผลิตใช้วิธีที่ปลอดภัยกว่าในการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ 🔗 https://securityonline.info/post-crowdstrike-microsoft-to-phase-out-oem-kernel-level-driver-privileges 🌐 Seraphic เปิดตัว Browser Security สำหรับแอป Electron บริษัท Seraphic เปิดตัวโซลูชันใหม่ที่เป็น Secure Enterprise Browser ตัวแรกที่สามารถปกป้องแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron ได้ จุดเด่นคือการเพิ่มชั้นความปลอดภัยให้กับแอปที่มักถูกใช้ในองค์กร เช่น Slack หรือ Teams ซึ่งเดิมที Electron มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอยู่บ่อยครั้ง การแก้ปัญหานี้ช่วยให้องค์กรมั่นใจมากขึ้นในการใช้งานแอป Electron 🔗 https://securityonline.info/seraphic-becomes-the-first-and-only-secure-enterprise-browser-solution-to-protect-electron-based-applications 🔒 Comet Browser ถูกวิจารณ์หนัก หลังพบ API ลับ MCP มีการค้นพบว่า Comet Browser มี API ที่ชื่อ MCP ซึ่งเปิดช่องให้ผู้พัฒนา AI browser สามารถเข้าถึงและควบคุมอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้เต็มรูปแบบโดยไม่แจ้งเตือน ทำให้เกิดการละเมิดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ นักวิจัยเตือนว่าช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกลโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/obscure-mcp-api-in-comet-browser-breaches-user-trust-enabling-full-device-control-via-ai-browsers 📜 CredShields จับมือ Checkmarx เสริมความปลอดภัย Smart Contract บริษัท CredShields ประกาศความร่วมมือกับ Checkmarx เพื่อนำเทคโนโลยีตรวจสอบความปลอดภัยของ Smart Contract เข้าสู่โปรแกรม AppSec ขององค์กร จุดมุ่งหมายคือช่วยให้องค์กรที่ใช้ blockchain และ smart contract สามารถตรวจสอบช่องโหว่ได้อย่างเป็นระบบ ลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้สูญเสียทรัพย์สินดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/credshields-joins-forces-with-checkmarx-to-bring-smart-contract-security-to-enterprise-appsec-programs 🛠️ Windows 11 เพิ่มเครื่องมือใหม่ Point-in-Time Restore Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ได้แก่ Point-in-Time Restore และ Network-Enabled Recovery Environment เพื่อช่วยผู้ใช้กู้คืนระบบได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ทำให้สามารถย้อนกลับไปยังสถานะก่อนหน้าที่กำหนดไว้ได้ทันที และยังรองรับการกู้คืนผ่านเครือข่าย ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถซ่อมแซมเครื่องจากระยะไกลได้สะดวกขึ้น 🔗 https://securityonline.info/new-windows-11-tools-point-in-time-restore-network-enabled-recovery-environment 💰 ความกังวลฟองสบู่ AI: Microsoft & NVIDIA ลงทุนหนักใน Anthropic มีรายงานว่าทั้ง Microsoft และ NVIDIA ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในบริษัท AI อย่าง Anthropic จนเกิดความกังวลว่าการลงทุนแบบหมุนเวียนระหว่างบริษัทใหญ่ ๆ อาจสร้าง “ฟองสบู่ AI” ที่ไม่ยั่งยืน การทุ่มเงินจำนวนมหาศาลนี้ถูกมองว่าอาจทำให้ตลาด AI เติบโตเกินจริงและเสี่ยงต่อการแตกในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/ai-bubble-fear-microsoft-nvidia-pour-billions-into-anthropic-fueling-circular-investment 🇺🇸 Google ทุ่ม 78 พันล้านดอลลาร์สร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ Google ประกาศโครงการ Investing in America 2025 ด้วยงบประมาณมหาศาลถึง 78 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI และโครงสร้างพื้นฐานทั่วสหรัฐฯ รวมถึงการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ 600 MW ที่ Arkansas โครงการนี้สะท้อนถึงการเร่งขยายกำลังการผลิต AI และการสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ 🔗 https://securityonline.info/google-pledges-78-billion-for-investing-in-america-2025-ai-infrastructure 🧠 Grok 4.1 แซง Google Gemini 2.5 Pro บน LMArena แพลตฟอร์มทดสอบ AI LMArena รายงานว่า Grok 4.1 Thinking ได้คะแนนสูงสุด แซงหน้า Google Gemini 2.5 Pro ในการจัดอันดับล่าสุด จุดเด่นของ Grok คือความสามารถในการใช้เหตุผลเชิงลึกและการตอบสนองที่แม่นยำ ทำให้มันถูกจับตามองว่าอาจเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดโมเดล AI ระดับสูง 🔗 https://securityonline.info/grok-4-1-thinking-steals-1-spot-on-lmarena-surpassing-google-gemini-2-5-pro 🎨 Google เปิดตัว Canvas และ Agentic Booking ใน AI Mode Google อัปเกรด AI Mode โดยเพิ่มฟีเจอร์ Canvas สำหรับการวางแผน และ Agentic Booking สำหรับการจองที่พักหรือร้านอาหารแบบอัตโนมัติ ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ AI ในการจัดการงานประจำวันได้สะดวกขึ้น เช่น วางแผนทริปหรือจองโต๊ะอาหารโดยไม่ต้องทำเอง 🔗 https://securityonline.info/ai-mode-upgraded-google-launches-canvas-for-planning-and-agentic-booking-for-reservations 📡 เราเตอร์ D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุน พร้อมช่องโหว่ RCE ร้ายแรง D-Link ประกาศว่าเราเตอร์รุ่น DIR-878 เข้าสู่สถานะ End-of-Life (EOL) และจะไม่ได้รับการอัปเดตอีกต่อไป ทั้งที่ยังมีช่องโหว่ร้ายแรงถึง 3 จุดซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้ใช้ที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นนี้เสี่ยงต่อการถูกยึดระบบอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution ⚙️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน METZ CONNECT Controller เปิดทาง RCE และยึดระบบ มีการค้นพบช่องโหว่ในอุปกรณ์ควบคุมอุตสาหกรรมของ METZ CONNECT ที่มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเข้ายึดสิทธิ์ผู้ดูแลระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบควบคุมอุตสาหกรรมที่ใช้กันในโรงงานและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ 🔗 https://securityonline.info/critical-metz-connect-flaws-cvss-9-8-allow-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-industrial-controllers 🖥️ SolarWinds Serv-U พบช่องโหว่ใหม่ เปิดทาง RCE และ Path Bypass นักวิจัยด้านความปลอดภัยรายงานช่องโหว่ร้ายแรงใน SolarWinds Serv-U ที่ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางไฟล์ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.1 และถูกจัดว่าเป็นภัยคุกคามระดับสูงต่อองค์กรที่ใช้ Serv-U ในการจัดการไฟล์และระบบเครือข่าย 🔗 https://securityonline.info/critical-solarwinds-serv-u-flaws-cvss-9-1-allow-authenticated-admin-rce-and-path-bypass 🪙 การโจมตีซัพพลายเชน npm ด้วย CAPTCHA ปลอมและ Adspect Cloaking มีการตรวจพบการโจมตีซัพพลายเชนใน npm โดยแฮกเกอร์ใช้เทคนิค Adspect Cloaking และ CAPTCHA ปลอมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพื่อหลอกนักพัฒนาและผู้ใช้ให้ดาวน์โหลดแพ็กเกจอันตราย การโจมตีนี้ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักวิจัยด้านความปลอดภัยถูกหลอกได้ง่ายขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงในระบบซัพพลายเชนโอเพนซอร์ส 🔗 https://securityonline.info/npm-supply-chain-attack-hackers-use-adspect-cloaking-and-fake-crypto-captcha-to-deceive-victims-and-researchers 🖥️ ASUSTOR พบช่องโหว่ DLL Hijacking ร้ายแรง (CVE-2025-13051) ASUSTOR ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ DLL hijacking ในซอฟต์แวร์ Backup Plan (ABP) และ EZSync (AES) บน Windows ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีในเครื่องสามารถแทนที่ DLL และรันโค้ดด้วยสิทธิ์ SYSTEM ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.3 และถูกจัดว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อทั้งผู้ใช้บ้านและองค์กร โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชันใหม่ 🔗 https://securityonline.info/critical-asustor-flaw-cve-2025-13051-allows-local-dll-hijacking-for-system-privilege-escalation ⚠️ ช่องโหว่ joserfc (CVE-2025-65015) ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มด้วย JWT ขนาดใหญ่ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี joserfc ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ JSON Web Token (JWT) โดยหากผู้โจมตีส่ง JWT ที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ จะทำให้เซิร์ฟเวอร์ใช้ทรัพยากรมากเกินไปจนล่มได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่าเป็นการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) และมีผลกระทบต่อระบบที่ใช้ joserfc ในการตรวจสอบสิทธิ์หรือการเข้ารหัสข้อมูล 🔗 https://securityonline.info/critical-cve-2025-65015-vulnerability-in-joserfc-could-let-attackers-exhaust-server-resources-via-oversized-jwt-tokens 🌍 หน่วยงาน CISA/FBI/NSA ร่วมกันจัดการโครงสร้าง Bulletproof Hosting สามหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ได้แก่ CISA, FBI และ NSA ได้ร่วมมือกันออกคู่มือใหม่เพื่อจัดการกับโครงสร้าง Bulletproof Hosting ที่ถูกใช้โดยอาชญากรไซเบอร์ทั่วโลก Bulletproof Hosting คือบริการโฮสติ้งที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โจมตีจากการถูกปิดกั้นหรือสืบสวน การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างแนวทางป้องกันภัยไซเบอร์ระดับโลก 🔗 https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide
    0 Comments 0 Shares 497 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/l6mJ1P-zXoA?si=t80uAVeRMLDqT10v
    https://youtu.be/l6mJ1P-zXoA?si=t80uAVeRMLDqT10v
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • https://youtube.com/shorts/iCqqn7uXNnk?si=l6HuAVP16equcTdx
    https://youtube.com/shorts/iCqqn7uXNnk?si=l6HuAVP16equcTdx
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • จริงๆแล้ว ยุคนี้ไม่สามารถเอาองค์กรสากลใดๆเลยมาเล่น มาเรียกร้องใดๆได้อีกต่อไป เพราะสถานะการณ์ปัจจุบันนี้ ยุคนี้อีลิทคาบาลไซออนิสต์มันคือเจ้าของทั้งหมด มันสร้างทุกๆองค์กรสากลโลกมาควบคุมชาวมนุษย์โลก และสนองสิ่งที่มันต้องการจะทำอะไรก็ได้สำหรับฝ่ายพวกมันเท่านั้น,มาตราฐานสากลอยู่ที่ปากมันเงินมันทุนมันคำสั่งมันเท่านั้น,เรา..คนไทย เรา..ประเทศไทยต้องสามัคคีกัน พึ่งพากันเองเท่านั้น ,สร้างกำแพงเกราะแก้วขจัดมารปีศาจด้วยหมู่เราคนไทยด้วยกันเอง,ใครไทยเทาไทยปลอมต้องกำจัดทิ้ง,เพราะมันคือพวกฝ่ายมืด ลูกน้องซาตานคาบาลไซออนิสต์ ก่อจราจรก่อความวุ่นวายก่อโกลาหลความไม่สงบสุขใดๆคืองานหลักของมัน.องค์กรพวกนี้ต้้องถีบออกจากประเทศ มันเฝ้าเพียงบ่อนทำลายประเทศไทยเท่านั้น.

    https://youtube.com/watch?v=tsLjOS89meI&si=tBJ-UaVNptLe1lzT
    จริงๆแล้ว ยุคนี้ไม่สามารถเอาองค์กรสากลใดๆเลยมาเล่น มาเรียกร้องใดๆได้อีกต่อไป เพราะสถานะการณ์ปัจจุบันนี้ ยุคนี้อีลิทคาบาลไซออนิสต์มันคือเจ้าของทั้งหมด มันสร้างทุกๆองค์กรสากลโลกมาควบคุมชาวมนุษย์โลก และสนองสิ่งที่มันต้องการจะทำอะไรก็ได้สำหรับฝ่ายพวกมันเท่านั้น,มาตราฐานสากลอยู่ที่ปากมันเงินมันทุนมันคำสั่งมันเท่านั้น,เรา..คนไทย เรา..ประเทศไทยต้องสามัคคีกัน พึ่งพากันเองเท่านั้น ,สร้างกำแพงเกราะแก้วขจัดมารปีศาจด้วยหมู่เราคนไทยด้วยกันเอง,ใครไทยเทาไทยปลอมต้องกำจัดทิ้ง,เพราะมันคือพวกฝ่ายมืด ลูกน้องซาตานคาบาลไซออนิสต์ ก่อจราจรก่อความวุ่นวายก่อโกลาหลความไม่สงบสุขใดๆคืองานหลักของมัน.องค์กรพวกนี้ต้้องถีบออกจากประเทศ มันเฝ้าเพียงบ่อนทำลายประเทศไทยเท่านั้น. https://youtube.com/watch?v=tsLjOS89meI&si=tBJ-UaVNptLe1lzT
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: “โดรนกระดาษเกาหลี เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส – ราคาถูก ซ่อมง่าย ใช้จริงในภารกิจทหาร”

    ในยุคที่สงครามและวิกฤตสิ่งแวดล้อมกำลังท้าทายโลก WOW Future Tech บริษัทสตาร์ทอัพจากเกาหลีใต้ได้เปิดตัว “AirSense UAV” โดรนที่สร้างจากกระดาษแข็งและเส้นใยธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่แค่ราคาถูก แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและซ่อมง่ายอย่างเหลือเชื่อ

    แรงบันดาลใจของ CEO มุนจู คิม มาจากสงครามในยูเครน ที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนโดรนในสนามรบ เขาจึงคิดค้นวิธีสร้างโดรนจากวัสดุที่หาได้ง่ายทั่วโลก โดยใช้กระดาษแข็งแทนคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ต้นทุนลดลงถึง 10 เท่า – จากราคาปกติหลายหมื่นเหรียญ เหลือเพียงประมาณ $1,400 ต่อเครื่อง

    โดรนรุ่นนี้ไม่เพียงแต่ราคาถูก แต่ยังสามารถซ่อมแซมได้ง่ายด้วยเทปหรือกระดาษซ้อนชั้น ไม่ต้องใช้ชิ้นส่วนพิเศษหรือเครื่องมือซับซ้อน นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ผลิตในประเทศ ซึ่งมีราคาถูกกว่าของนำเข้าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า

    แม้จะเน้นการใช้งานพลเรือน แต่กระทรวงกลาโหมเกาหลีก็ให้ความสนใจ โดยเริ่มทดสอบใช้งานในภารกิจฝึกและลาดตระเวน และมีแผนจะขยายการใช้งานในอนาคต

    จุดเด่นของโดรนกระดาษ AirSense UAV
    วัสดุหลักคือกระดาษแข็งและเส้นใยธรรมชาติ
    ต้นทุนการผลิตต่ำเพียง ~$1,400 ต่อเครื่อง
    ซ่อมง่ายด้วยเทปหรือกระดาษซ้อน ไม่ต้องใช้ชิ้นส่วนพิเศษ

    ความสามารถด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
    วัสดุรีไซเคิลได้และหาได้ง่ายทั่วโลก
    ลดการพึ่งพาวัสดุสิ้นเปลืองอย่างคาร์บอนไฟเบอร์
    เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ขาดแคลนทรัพยากร

    การใช้งานในภารกิจจริง
    ทดสอบโดยกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้
    ใช้ในภารกิจฝึกและลาดตระเวน
    มีแผนขยายการใช้งานในเชิงพาณิชย์และต่างประเทศ

    การติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดอากาศ
    ใช้เซ็นเซอร์ผลิตในประเทศ ราคาถูกกว่าของนำเข้า
    มีเทคโนโลยีเหนือกว่าชิ้นส่วนต่างประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/koreas-cardboard-drones-address-uav-shortages-and-climate-crisis-inspired-by-the-ukraine-war-drone-inventor-looked-for-the-most-easily-sourced-and-repairable-materials
    📦 หัวข้อข่าว: “โดรนกระดาษเกาหลี เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส – ราคาถูก ซ่อมง่าย ใช้จริงในภารกิจทหาร” ในยุคที่สงครามและวิกฤตสิ่งแวดล้อมกำลังท้าทายโลก WOW Future Tech บริษัทสตาร์ทอัพจากเกาหลีใต้ได้เปิดตัว “AirSense UAV” โดรนที่สร้างจากกระดาษแข็งและเส้นใยธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่แค่ราคาถูก แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและซ่อมง่ายอย่างเหลือเชื่อ แรงบันดาลใจของ CEO มุนจู คิม มาจากสงครามในยูเครน ที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนโดรนในสนามรบ เขาจึงคิดค้นวิธีสร้างโดรนจากวัสดุที่หาได้ง่ายทั่วโลก โดยใช้กระดาษแข็งแทนคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ต้นทุนลดลงถึง 10 เท่า – จากราคาปกติหลายหมื่นเหรียญ เหลือเพียงประมาณ $1,400 ต่อเครื่อง โดรนรุ่นนี้ไม่เพียงแต่ราคาถูก แต่ยังสามารถซ่อมแซมได้ง่ายด้วยเทปหรือกระดาษซ้อนชั้น ไม่ต้องใช้ชิ้นส่วนพิเศษหรือเครื่องมือซับซ้อน นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ผลิตในประเทศ ซึ่งมีราคาถูกกว่าของนำเข้าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า แม้จะเน้นการใช้งานพลเรือน แต่กระทรวงกลาโหมเกาหลีก็ให้ความสนใจ โดยเริ่มทดสอบใช้งานในภารกิจฝึกและลาดตระเวน และมีแผนจะขยายการใช้งานในอนาคต ✅ จุดเด่นของโดรนกระดาษ AirSense UAV ➡️ วัสดุหลักคือกระดาษแข็งและเส้นใยธรรมชาติ ➡️ ต้นทุนการผลิตต่ำเพียง ~$1,400 ต่อเครื่อง ➡️ ซ่อมง่ายด้วยเทปหรือกระดาษซ้อน ไม่ต้องใช้ชิ้นส่วนพิเศษ ✅ ความสามารถด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ➡️ วัสดุรีไซเคิลได้และหาได้ง่ายทั่วโลก ➡️ ลดการพึ่งพาวัสดุสิ้นเปลืองอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ ➡️ เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ขาดแคลนทรัพยากร ✅ การใช้งานในภารกิจจริง ➡️ ทดสอบโดยกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ➡️ ใช้ในภารกิจฝึกและลาดตระเวน ➡️ มีแผนขยายการใช้งานในเชิงพาณิชย์และต่างประเทศ ✅ การติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดอากาศ ➡️ ใช้เซ็นเซอร์ผลิตในประเทศ ราคาถูกกว่าของนำเข้า ➡️ มีเทคโนโลยีเหนือกว่าชิ้นส่วนต่างประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/koreas-cardboard-drones-address-uav-shortages-and-climate-crisis-inspired-by-the-ukraine-war-drone-inventor-looked-for-the-most-easily-sourced-and-repairable-materials
    0 Comments 0 Shares 338 Views 0 Reviews
  • กลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus จากเกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์ “DreamJob” หลอกบริษัทโดรนในยุโรป – ขโมยข้อมูล UAV ที่ใช้ในสงครามยูเครน

    กลุ่ม Lazarus ซึ่งเป็นแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ ได้ใช้กลยุทธ์หลอกลวงผ่าน “DreamJob” เพื่อเจาะระบบบริษัทด้านการผลิตโดรนในยุโรปตะวันออก โดยแสร้งเป็นบริษัทต่างชาติที่เสนองานให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี UAV (Unmanned Aerial Vehicle)

    ผู้ที่หลงเชื่อจะถูกเชิญให้เข้าร่วมการสัมภาษณ์หลายรอบ และถูกขอให้ดาวน์โหลดไฟล์ PDF หรือโปรแกรมที่แฝงมัลแวร์ ซึ่งจะติดตั้ง Remote Access Trojan (RAT) ชื่อ ScoringMathTea เพื่อให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ

    เป้าหมายของการโจมตีคือการขโมยข้อมูลการออกแบบและการผลิตโดรนที่ใช้ในสงครามยูเครน ซึ่งเกาหลีเหนือกำลังพัฒนาเทคโนโลยี UAV ของตนเอง และต้องการข้อมูลจากสนามรบจริงเพื่อเร่งการพัฒนา

    กลยุทธ์ “DreamJob” ของ Lazarus
    สร้างบริษัทและตำแหน่งงานปลอม
    เชิญเป้าหมายเข้าสัมภาษณ์หลายรอบ
    หลอกให้ดาวน์โหลดไฟล์ที่แฝงมัลแวร์
    ติดตั้ง RAT ชื่อ ScoringMathTea เพื่อควบคุมเครื่อง

    เป้าหมายของการโจมตี
    บริษัทผลิตโดรนในยุโรปตะวันออก
    ขโมยข้อมูลการออกแบบ UAV ที่ใช้ในสงครามยูเครน
    สนับสนุนการพัฒนาโดรนของเกาหลีเหนือ
    ใช้ข้อมูลจากสนามรบจริงเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยี

    ความเชื่อมโยงกับสถานการณ์โลก
    เกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียในภูมิภาค Kursk
    การโจมตีเกิดขึ้นช่วงปลายปี 2024
    บริษัทที่ถูกเจาะระบบผลิตโดรนแบบ single-rotor ซึ่งเกาหลีเหนือกำลังพัฒนาอยู่

    https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-hackers-target-european-defense-firms-with-dream-job-scam
    🎯 กลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus จากเกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์ “DreamJob” หลอกบริษัทโดรนในยุโรป – ขโมยข้อมูล UAV ที่ใช้ในสงครามยูเครน กลุ่ม Lazarus ซึ่งเป็นแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ ได้ใช้กลยุทธ์หลอกลวงผ่าน “DreamJob” เพื่อเจาะระบบบริษัทด้านการผลิตโดรนในยุโรปตะวันออก โดยแสร้งเป็นบริษัทต่างชาติที่เสนองานให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี UAV (Unmanned Aerial Vehicle) ผู้ที่หลงเชื่อจะถูกเชิญให้เข้าร่วมการสัมภาษณ์หลายรอบ และถูกขอให้ดาวน์โหลดไฟล์ PDF หรือโปรแกรมที่แฝงมัลแวร์ ซึ่งจะติดตั้ง Remote Access Trojan (RAT) ชื่อ ScoringMathTea เพื่อให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ เป้าหมายของการโจมตีคือการขโมยข้อมูลการออกแบบและการผลิตโดรนที่ใช้ในสงครามยูเครน ซึ่งเกาหลีเหนือกำลังพัฒนาเทคโนโลยี UAV ของตนเอง และต้องการข้อมูลจากสนามรบจริงเพื่อเร่งการพัฒนา ✅ กลยุทธ์ “DreamJob” ของ Lazarus ➡️ สร้างบริษัทและตำแหน่งงานปลอม ➡️ เชิญเป้าหมายเข้าสัมภาษณ์หลายรอบ ➡️ หลอกให้ดาวน์โหลดไฟล์ที่แฝงมัลแวร์ ➡️ ติดตั้ง RAT ชื่อ ScoringMathTea เพื่อควบคุมเครื่อง ✅ เป้าหมายของการโจมตี ➡️ บริษัทผลิตโดรนในยุโรปตะวันออก ➡️ ขโมยข้อมูลการออกแบบ UAV ที่ใช้ในสงครามยูเครน ➡️ สนับสนุนการพัฒนาโดรนของเกาหลีเหนือ ➡️ ใช้ข้อมูลจากสนามรบจริงเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยี ✅ ความเชื่อมโยงกับสถานการณ์โลก ➡️ เกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียในภูมิภาค Kursk ➡️ การโจมตีเกิดขึ้นช่วงปลายปี 2024 ➡️ บริษัทที่ถูกเจาะระบบผลิตโดรนแบบ single-rotor ซึ่งเกาหลีเหนือกำลังพัฒนาอยู่ https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-hackers-target-european-defense-firms-with-dream-job-scam
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 Reviews
  • “Synaptics เปิดตัว Astra SL2600” — โปรเซสเซอร์ Edge AI ยุคใหม่ที่รวมพลังมัลติโหมดและ RISC-V เพื่อโลก IoT อัจฉริยะ

    Synaptics ประกาศเปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์อัจฉริยะในยุค Internet of Things (IoT) โดยเน้นการประมวลผลแบบมัลติโหมด (multimodal) ที่รวมภาพ เสียง เซ็นเซอร์ และข้อมูลเครือข่ายไว้ในชิปเดียว

    ชิป SL2610 ซึ่งเป็นรุ่นแรกในซีรีส์นี้ ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวมสถาปัตยกรรม NPU แบบ RISC-V จาก Coral ของ Google พร้อมคอมไพเลอร์แบบ open-source (IREE/MLIR) เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชัน AI ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ

    SL2610 ยังรวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU เพื่อรองรับงานประมวลผลทั่วไปและกราฟิก พร้อมระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust, threat detection และ crypto coprocessor สำหรับงาน AI ที่ต้องการความปลอดภัยสูง

    ซีรีส์นี้มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617 และ SL2619 ซึ่งออกแบบให้ pin-to-pin compatible เพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนรุ่นตามความต้องการของอุปกรณ์ ตั้งแต่แบบใช้แบตเตอรี่ไปจนถึงระบบวิชั่นอุตสาหกรรม

    ชิปยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Synaptics Veros Connectivity เช่น Wi-Fi 6/6E/7, Bluetooth/BLE, Thread และ UWB เพื่อให้การพัฒนาอุปกรณ์ IoT เป็นไปอย่างรวดเร็วและครบวงจร

    Synaptics ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลก เช่น Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm ซึ่งต่างยืนยันถึงความสามารถของ Astra SL2600 ในการผลักดันนวัตกรรม Edge AI

    ข้อมูลในข่าว
    Synaptics เปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่
    SL2610 ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวม Coral NPU จาก Google
    ใช้คอมไพเลอร์ open-source IREE/MLIR เพื่อความยืดหยุ่นในการพัฒนา
    รวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU
    มีระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust และ crypto coprocessor
    มี 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617, SL2619 ที่ pin-to-pin compatible
    รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Veros Connectivity: Wi-Fi 6/6E/7, BT/BLE, Thread, UWB
    เหมาะสำหรับอุปกรณ์ IoT เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, ระบบอัตโนมัติ, UAV, เกม, POS, หุ่นยนต์
    ได้รับความร่วมมือจาก Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm
    ชิปเริ่มส่งตัวอย่างให้ลูกค้าแล้ว และจะวางจำหน่ายทั่วไปในไตรมาส 2 ปี 2026

    https://www.techpowerup.com/341933/synaptics-launches-the-next-generation-of-astra-multimodal-genai-edge-processors
    🧠 “Synaptics เปิดตัว Astra SL2600” — โปรเซสเซอร์ Edge AI ยุคใหม่ที่รวมพลังมัลติโหมดและ RISC-V เพื่อโลก IoT อัจฉริยะ Synaptics ประกาศเปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์อัจฉริยะในยุค Internet of Things (IoT) โดยเน้นการประมวลผลแบบมัลติโหมด (multimodal) ที่รวมภาพ เสียง เซ็นเซอร์ และข้อมูลเครือข่ายไว้ในชิปเดียว ชิป SL2610 ซึ่งเป็นรุ่นแรกในซีรีส์นี้ ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวมสถาปัตยกรรม NPU แบบ RISC-V จาก Coral ของ Google พร้อมคอมไพเลอร์แบบ open-source (IREE/MLIR) เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชัน AI ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ SL2610 ยังรวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU เพื่อรองรับงานประมวลผลทั่วไปและกราฟิก พร้อมระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust, threat detection และ crypto coprocessor สำหรับงาน AI ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ซีรีส์นี้มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617 และ SL2619 ซึ่งออกแบบให้ pin-to-pin compatible เพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนรุ่นตามความต้องการของอุปกรณ์ ตั้งแต่แบบใช้แบตเตอรี่ไปจนถึงระบบวิชั่นอุตสาหกรรม ชิปยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Synaptics Veros Connectivity เช่น Wi-Fi 6/6E/7, Bluetooth/BLE, Thread และ UWB เพื่อให้การพัฒนาอุปกรณ์ IoT เป็นไปอย่างรวดเร็วและครบวงจร Synaptics ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลก เช่น Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm ซึ่งต่างยืนยันถึงความสามารถของ Astra SL2600 ในการผลักดันนวัตกรรม Edge AI ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Synaptics เปิดตัว Astra SL2600 Series โปรเซสเซอร์ Edge AI รุ่นใหม่ ➡️ SL2610 ใช้แพลตฟอร์ม Torq Edge AI ที่รวม Coral NPU จาก Google ➡️ ใช้คอมไพเลอร์ open-source IREE/MLIR เพื่อความยืดหยุ่นในการพัฒนา ➡️ รวม Arm Cortex-A55, Cortex-M52 พร้อม Helium และ Mali GPU ➡️ มีระบบความปลอดภัยในตัว เช่น root of trust และ crypto coprocessor ➡️ มี 5 รุ่นย่อย: SL2611, SL2613, SL2615, SL2617, SL2619 ที่ pin-to-pin compatible ➡️ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Veros Connectivity: Wi-Fi 6/6E/7, BT/BLE, Thread, UWB ➡️ เหมาะสำหรับอุปกรณ์ IoT เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, ระบบอัตโนมัติ, UAV, เกม, POS, หุ่นยนต์ ➡️ ได้รับความร่วมมือจาก Google, Cisco, Sonos, Garmin, Deutsche Telekom และ Arm ➡️ ชิปเริ่มส่งตัวอย่างให้ลูกค้าแล้ว และจะวางจำหน่ายทั่วไปในไตรมาส 2 ปี 2026 https://www.techpowerup.com/341933/synaptics-launches-the-next-generation-of-astra-multimodal-genai-edge-processors
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Synaptics Launches the Next Generation of Astra Multimodal GenAI Edge Processors
    Synaptics Incorporated (Nasdaq: SYNA), announces the new Astra SL2600 Series of multimodal Edge AI processors designed to deliver exceptional power and performance. The Astra SL2600 series enables a new generation of cost-effective intelligent devices that make the cognitive Internet of Things (IoT)...
    0 Comments 0 Shares 227 Views 0 Reviews
  • อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศอย่างเป็นทางการว่า สหภาพยุโรปได้ยึดเงินของรัสเซีย 4,000 ล้านยูโร จากดอกเบี้ยที่งอกเงยของทรัพย์สินรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ไปยังยูเครนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ในจำนวนเงิน 4,000 ล้านยูโร ทางสหภาพยุโรปจะหักไว้ 2,000 ล้านยูโร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตโดรน (UAV) ป้อนให้ยูเครน ตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างสหภาพยุโรป (EU) กับยูเครน

    ทางด้านรัสเซียได้ออกมาตอบโต้การตัดสินใจของสหภาพยุโรปครั้งนี้อย่างทันที
    ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ได้ออกคำเตือนอย่างแข็งกร้าวต่อผู้นำยุโรป ที่กำลังรวมหัวกันยึดทรัพย์สินของรัสเซียอย่างแยบยลและผิดกฎหมาย และรัสเซียยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลหรือประเทศใดก็ตามที่ขโมยเงินของรัสเซียอย่างแน่นอน

    เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้กล่าวว่า รัสเซียกำลังมองถึงความเป็นไปได้ในการอายัดทรัพย์สินของชาติตะวันตกถือมีอยู่ในรัสเซีย
    อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศอย่างเป็นทางการว่า สหภาพยุโรปได้ยึดเงินของรัสเซีย 4,000 ล้านยูโร จากดอกเบี้ยที่งอกเงยของทรัพย์สินรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ไปยังยูเครนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในจำนวนเงิน 4,000 ล้านยูโร ทางสหภาพยุโรปจะหักไว้ 2,000 ล้านยูโร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตโดรน (UAV) ป้อนให้ยูเครน ตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างสหภาพยุโรป (EU) กับยูเครน ทางด้านรัสเซียได้ออกมาตอบโต้การตัดสินใจของสหภาพยุโรปครั้งนี้อย่างทันที 👉ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ได้ออกคำเตือนอย่างแข็งกร้าวต่อผู้นำยุโรป ที่กำลังรวมหัวกันยึดทรัพย์สินของรัสเซียอย่างแยบยลและผิดกฎหมาย และรัสเซียยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลหรือประเทศใดก็ตามที่ขโมยเงินของรัสเซียอย่างแน่นอน 👉เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้กล่าวว่า รัสเซียกำลังมองถึงความเป็นไปได้ในการอายัดทรัพย์สินของชาติตะวันตกถือมีอยู่ในรัสเซีย
    0 Comments 0 Shares 395 Views 0 0 Reviews
  • “Lockheed Martin เปิดตัว Vectis — โดรนรบอัจฉริยะที่บินเคียงข้าง F-35 พร้อมเปลี่ยนโฉมสงครามทางอากาศ”

    Skunk Works หน่วยพัฒนาโครงการลับของ Lockheed Martin ที่เคยสร้างตำนานอย่าง SR-71 Blackbird ได้เปิดตัว Vectis อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 — โดรนรบอัตโนมัติรุ่นใหม่ภายใต้โครงการ Collaborative Combat Aircraft (CCA) ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับเครื่องบินขับไล่แบบมีนักบิน เช่น F-35 และ F-22

    Vectis เป็นโดรนประเภท Group 5 ซึ่งหมายถึง UAV ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักเกิน 1,320 ปอนด์ และสามารถบินสูงกว่า 18,000 ฟุต โดยมีความสามารถหลากหลาย ทั้งการโจมตีเป้าหมาย, ปฏิบัติการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW), การลาดตระเวนและสอดแนม (ISR), รวมถึงการป้องกันและโจมตีทางอากาศ

    แม้จะยังไม่มีต้นแบบที่เสร็จสมบูรณ์ แต่ Lockheed ยืนยันว่า Vectis จะใช้เทคโนโลยี stealth ขั้นสูง, ระบบควบคุมแบบเปิด (open systems) ที่ลดการผูกขาดจากผู้ผลิต และสามารถเชื่อมต่อกับระบบ MDCX (Multi-Domain Combat System) เพื่อทำงานร่วมกับเครื่องบินรุ่นที่ 5 และรุ่นถัดไปได้อย่างไร้รอยต่อ

    Vectis ถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถทำงานเดี่ยวหรือเป็นส่วนหนึ่งของระบบ MUM-T (Manned-Unmanned Teaming) โดยมีนักบินในเครื่องบินขับไล่เป็น “ผู้บัญชาการสนามรบ” ที่ควบคุมฝูงโดรนจากระยะไกล

    นอกจากนี้ Vectis ยังถูกวางตำแหน่งให้เป็นแพลตฟอร์มที่ “ผลิตได้เร็วและราคาถูก” โดยใช้เทคนิคการผลิตแบบดิจิทัลและวิศวกรรมขั้นสูงที่เรียนรู้จากโครงการเครื่องบินรุ่นใหม่ของ Lockheed เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น อินโด-แปซิฟิก, ยุโรป และตะวันออกกลาง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Vectis เป็นโดรนรบอัตโนมัติ Group 5 ภายใต้โครงการ CCA ของ Lockheed Martin
    เปิดตัวโดย Skunk Works เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025
    ออกแบบให้ทำงานร่วมกับเครื่องบินขับไล่ เช่น F-35 และ F-22 ผ่านระบบ MDCX
    รองรับภารกิจ ISR, EW, precision strike และ counter-air ทั้งเชิงรุกและรับ
    สามารถทำงานเดี่ยวหรือเป็นส่วนหนึ่งของระบบ MUM-T
    ใช้เทคโนโลยี stealth และระบบควบคุมแบบ open system เพื่อลด vendor lock
    มีดีไซน์ปีกแบบ delta wing และช่องรับอากาศอยู่ด้านบนของลำตัว
    วางแผนให้ผลิตได้เร็วและราคาถูก ด้วยเทคนิคการผลิตแบบดิจิทัล
    รองรับการปฏิบัติการในภูมิภาค Indo-Pacific, Europe และ Central Command

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    CCA เป็นแนวคิดใหม่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่เน้นการใช้โดรนร่วมกับเครื่องบินขับไล่
    MUM-T ช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตนักบิน และเพิ่มประสิทธิภาพการรบแบบฝูง
    MDCX เป็นระบบควบคุมแบบรวมศูนย์ที่ใช้ในเครื่องบินรุ่นใหม่ของ Lockheed
    Vectis เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันร่วมกับ YFQ-42A ของ General Atomics และ YFQ-44A ของ Anduril
    ชื่อ “Vectis” มาจากภาษาละติน แปลว่า “คาน” หรือ “แรงงัด” สื่อถึงพลังในการเปลี่ยนสมดุลสนามรบ

    https://www.slashgear.com/1977823/lockheed-martin-vectis-combat-drone-revealed/
    ✈️ “Lockheed Martin เปิดตัว Vectis — โดรนรบอัจฉริยะที่บินเคียงข้าง F-35 พร้อมเปลี่ยนโฉมสงครามทางอากาศ” Skunk Works หน่วยพัฒนาโครงการลับของ Lockheed Martin ที่เคยสร้างตำนานอย่าง SR-71 Blackbird ได้เปิดตัว Vectis อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 — โดรนรบอัตโนมัติรุ่นใหม่ภายใต้โครงการ Collaborative Combat Aircraft (CCA) ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับเครื่องบินขับไล่แบบมีนักบิน เช่น F-35 และ F-22 Vectis เป็นโดรนประเภท Group 5 ซึ่งหมายถึง UAV ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักเกิน 1,320 ปอนด์ และสามารถบินสูงกว่า 18,000 ฟุต โดยมีความสามารถหลากหลาย ทั้งการโจมตีเป้าหมาย, ปฏิบัติการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW), การลาดตระเวนและสอดแนม (ISR), รวมถึงการป้องกันและโจมตีทางอากาศ แม้จะยังไม่มีต้นแบบที่เสร็จสมบูรณ์ แต่ Lockheed ยืนยันว่า Vectis จะใช้เทคโนโลยี stealth ขั้นสูง, ระบบควบคุมแบบเปิด (open systems) ที่ลดการผูกขาดจากผู้ผลิต และสามารถเชื่อมต่อกับระบบ MDCX (Multi-Domain Combat System) เพื่อทำงานร่วมกับเครื่องบินรุ่นที่ 5 และรุ่นถัดไปได้อย่างไร้รอยต่อ Vectis ถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถทำงานเดี่ยวหรือเป็นส่วนหนึ่งของระบบ MUM-T (Manned-Unmanned Teaming) โดยมีนักบินในเครื่องบินขับไล่เป็น “ผู้บัญชาการสนามรบ” ที่ควบคุมฝูงโดรนจากระยะไกล นอกจากนี้ Vectis ยังถูกวางตำแหน่งให้เป็นแพลตฟอร์มที่ “ผลิตได้เร็วและราคาถูก” โดยใช้เทคนิคการผลิตแบบดิจิทัลและวิศวกรรมขั้นสูงที่เรียนรู้จากโครงการเครื่องบินรุ่นใหม่ของ Lockheed เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น อินโด-แปซิฟิก, ยุโรป และตะวันออกกลาง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Vectis เป็นโดรนรบอัตโนมัติ Group 5 ภายใต้โครงการ CCA ของ Lockheed Martin ➡️ เปิดตัวโดย Skunk Works เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ➡️ ออกแบบให้ทำงานร่วมกับเครื่องบินขับไล่ เช่น F-35 และ F-22 ผ่านระบบ MDCX ➡️ รองรับภารกิจ ISR, EW, precision strike และ counter-air ทั้งเชิงรุกและรับ ➡️ สามารถทำงานเดี่ยวหรือเป็นส่วนหนึ่งของระบบ MUM-T ➡️ ใช้เทคโนโลยี stealth และระบบควบคุมแบบ open system เพื่อลด vendor lock ➡️ มีดีไซน์ปีกแบบ delta wing และช่องรับอากาศอยู่ด้านบนของลำตัว ➡️ วางแผนให้ผลิตได้เร็วและราคาถูก ด้วยเทคนิคการผลิตแบบดิจิทัล ➡️ รองรับการปฏิบัติการในภูมิภาค Indo-Pacific, Europe และ Central Command ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ CCA เป็นแนวคิดใหม่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่เน้นการใช้โดรนร่วมกับเครื่องบินขับไล่ ➡️ MUM-T ช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตนักบิน และเพิ่มประสิทธิภาพการรบแบบฝูง ➡️ MDCX เป็นระบบควบคุมแบบรวมศูนย์ที่ใช้ในเครื่องบินรุ่นใหม่ของ Lockheed ➡️ Vectis เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันร่วมกับ YFQ-42A ของ General Atomics และ YFQ-44A ของ Anduril ➡️ ชื่อ “Vectis” มาจากภาษาละติน แปลว่า “คาน” หรือ “แรงงัด” สื่อถึงพลังในการเปลี่ยนสมดุลสนามรบ https://www.slashgear.com/1977823/lockheed-martin-vectis-combat-drone-revealed/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Lockheed Martin's Skunk Works Project Is No Longer A Secret: Meet The Vectis Combat Drone - SlashGear
    The Lockheed Martin Vectis drone is a combat-ready aircraft revealed in an uncharacteristically public manner, and is also reportedly headed for open market.
    0 Comments 0 Shares 341 Views 0 Reviews
  • https://youtube.com/shorts/hUaVUq2S7Jo?si=fehSDSUyHCqQGY4b
    https://youtube.com/shorts/hUaVUq2S7Jo?si=fehSDSUyHCqQGY4b
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • 1) ยกเลิก MOU กับกัมพูชา
    2) ถอนข้อเสนอ เอ็นเทอเทนเม้นท์กาสิโน
    3) ยกเลิกกรรมสิทธิ์ที่ดิน 99ปี
    4) แลนด์บริด กรรมสิทธิ์ที่ดินสามแสนไร่
    5) ไม่สร้างสกุลเงินใหม่

    https://www.youtube.com/live/tAETrpyLc-8?si=TY6onWtcKWSuAvTY
    1) ยกเลิก MOU กับกัมพูชา 2) ถอนข้อเสนอ เอ็นเทอเทนเม้นท์กาสิโน 3) ยกเลิกกรรมสิทธิ์ที่ดิน 99ปี 4) แลนด์บริด กรรมสิทธิ์ที่ดินสามแสนไร่ 5) ไม่สร้างสกุลเงินใหม่ https://www.youtube.com/live/tAETrpyLc-8?si=TY6onWtcKWSuAvTY
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 184 Views 0 Reviews
  • โดรนปริศนาที่ตกในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ คือการทดสอบระบบการต่อต้านโดรนของกองทัพบก แต่ต้องลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี

    ไม่ใช่โดรนกัมพูชารุกล้ำเข้ามา!

    พลตรี วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. ออกมาชี้แจงแล้วว่าเป็นโดรนฝ่ายทหารไทย ขึ้นบินเพื่อทดสอบระบบ

    .
    จากรูปคาดว่าเป็นโดรนรุ่น UAV WC15 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่กัมพูชามีใช้ โดรนรุ่นนี้ทำหน้าที่เป็นโดรนสังเกตการณ์และลาดตระเวนทางทหารที่พัฒนาโดยบริษัท China Aerospace Science and Technology Corporation (CASC) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์ทางทหารและอวกาศชั้นนำของจีน

    สาเหตุที่กัมพูชามีโดรนจากจีน เนื่องจากช่วงหนึ่งจีนและกัมพูชาเคยทำข้อตกลงร่วมมือด้านทหารร่วมกัน ต่อมาข้อตกลงนี้ได้ยุติไปแล้ว

    คาดว่าจีนน่าจะมอบโดรนให้กับพูชาในช่วงเวลาดังกล่าว
    โดรนปริศนาที่ตกในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ คือการทดสอบระบบการต่อต้านโดรนของกองทัพบก แต่ต้องลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี ไม่ใช่โดรนกัมพูชารุกล้ำเข้ามา! พลตรี วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. ออกมาชี้แจงแล้วว่าเป็นโดรนฝ่ายทหารไทย ขึ้นบินเพื่อทดสอบระบบ . จากรูปคาดว่าเป็นโดรนรุ่น UAV WC15 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่กัมพูชามีใช้ โดรนรุ่นนี้ทำหน้าที่เป็นโดรนสังเกตการณ์และลาดตระเวนทางทหารที่พัฒนาโดยบริษัท China Aerospace Science and Technology Corporation (CASC) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์ทางทหารและอวกาศชั้นนำของจีน สาเหตุที่กัมพูชามีโดรนจากจีน เนื่องจากช่วงหนึ่งจีนและกัมพูชาเคยทำข้อตกลงร่วมมือด้านทหารร่วมกัน ต่อมาข้อตกลงนี้ได้ยุติไปแล้ว คาดว่าจีนน่าจะมอบโดรนให้กับพูชาในช่วงเวลาดังกล่าว
    0 Comments 0 Shares 433 Views 0 Reviews
  • กัมพูชา มี KS-1C ของจีน ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกล ไว้ต่อกรกับ F-16 โดยได้เข้าประจำการเมื่อปี 2023 สำหรับการรบครั้งนี้ยังไม่เห็นกัมพูชานำออกมาใช้ตอบโต้ปฏิบัติการทางอากาศ F-16 ของไทย

    สำหรับ KS-1C หรือชื่อเต็มว่า Kaishan-1C เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกลที่พัฒนาโดย China Aerospace Science and Industry Corporation (CASIC) ของจีน เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากระบบ Hongqi-12 (HQ-12) และถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการป้องกันภัยทางอากาศ โดยสามารถจัดการกับเป้าหมาย เช่น เครื่องบิน, โดรน (UAVs), เฮลิคอปเตอร์ รวมถึงขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีความเร็วเกิน Mach 3

    คุณสมบัติหลักของ KS-1C:
    1. เรดาร์: ใช้เรดาร์แบบ H-200 phased-array ซึ่งมีระยะตรวจจับสูงสุดถึง 120 กิโลเมตร และสามารถติดตามเป้าหมายได้หลายเป้าพร้อมกัน

    2. ขีปนาวุธ: ใช้ระบบยิงแบบ canister-launched missiles (แทนรางยิงในรุ่นก่อนหน้า) มีพิสัยการยิงสูงสุด 70 กิโลเมตร และความสูงในการสกัดกั้นสูงสุด 27 กิโลเมตร

    3. โครงสร้างกองร้อย: ประกอบด้วยเรดาร์ phased-array, รถยิง 4 คัน (คันละ 2 ขีปนาวุธ), ขีปนาวุธสำรอง 16 ลูก, หน่วยควบคุมและสั่งการ และหน่วยจ่ายพลังงาน

    4. เปรียบเทียบ: มีสมรรถนะใกล้เคียงกับระบบ MIM-23 Hawk ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า Patriot missile system

    5. การใช้งาน: ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยทางอากาศและสามารถใช้เป็นระบบป้องกันขีปนาวุธได้ในบางสถานการณ์

    การใช้งานในกองทัพ:
    • กองทัพกัมพูชา: ได้รับมอบระบบ KS-1C จากจีนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2023 เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศ

    • กองทัพอากาศไทย: ประเทศไทยได้จัดหาและนำ KS-1C เข้าประจำการในกองพันทหารอากาศโยธินที่กองบิน 4 ตาคลี และกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2016 โดยมีการแสดงต่อสาธารณะครั้งแรกในงานวันเด็กแห่งชาติปี 2560

    • การส่งออก: นอกจากกัมพูชาและไทย ระบบนี้ยังถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เช่น เมียนมาร์และเติร์กเมนิสถาน
    กัมพูชา มี KS-1C ของจีน ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกล ไว้ต่อกรกับ F-16 โดยได้เข้าประจำการเมื่อปี 2023 สำหรับการรบครั้งนี้ยังไม่เห็นกัมพูชานำออกมาใช้ตอบโต้ปฏิบัติการทางอากาศ F-16 ของไทย สำหรับ KS-1C หรือชื่อเต็มว่า Kaishan-1C เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกลที่พัฒนาโดย China Aerospace Science and Industry Corporation (CASIC) ของจีน เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากระบบ Hongqi-12 (HQ-12) และถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการป้องกันภัยทางอากาศ โดยสามารถจัดการกับเป้าหมาย เช่น เครื่องบิน, โดรน (UAVs), เฮลิคอปเตอร์ รวมถึงขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีความเร็วเกิน Mach 3 👉คุณสมบัติหลักของ KS-1C: 1. เรดาร์: ใช้เรดาร์แบบ H-200 phased-array ซึ่งมีระยะตรวจจับสูงสุดถึง 120 กิโลเมตร และสามารถติดตามเป้าหมายได้หลายเป้าพร้อมกัน 2. ขีปนาวุธ: ใช้ระบบยิงแบบ canister-launched missiles (แทนรางยิงในรุ่นก่อนหน้า) มีพิสัยการยิงสูงสุด 70 กิโลเมตร และความสูงในการสกัดกั้นสูงสุด 27 กิโลเมตร 3. โครงสร้างกองร้อย: ประกอบด้วยเรดาร์ phased-array, รถยิง 4 คัน (คันละ 2 ขีปนาวุธ), ขีปนาวุธสำรอง 16 ลูก, หน่วยควบคุมและสั่งการ และหน่วยจ่ายพลังงาน 4. เปรียบเทียบ: มีสมรรถนะใกล้เคียงกับระบบ MIM-23 Hawk ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า Patriot missile system 5. การใช้งาน: ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยทางอากาศและสามารถใช้เป็นระบบป้องกันขีปนาวุธได้ในบางสถานการณ์ 👉การใช้งานในกองทัพ: • กองทัพกัมพูชา: ได้รับมอบระบบ KS-1C จากจีนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2023 เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศ • กองทัพอากาศไทย: ประเทศไทยได้จัดหาและนำ KS-1C เข้าประจำการในกองพันทหารอากาศโยธินที่กองบิน 4 ตาคลี และกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2016 โดยมีการแสดงต่อสาธารณะครั้งแรกในงานวันเด็กแห่งชาติปี 2560 • การส่งออก: นอกจากกัมพูชาและไทย ระบบนี้ยังถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เช่น เมียนมาร์และเติร์กเมนิสถาน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 659 Views 0 Reviews
  • สรุปเหตุการณ์วันนี้ พฤหัสบดี 24 กรกฎาคม 2568
    ตามรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข:
    พลเรือน
    เสียชีวิต: 13 ราย
    บาดเจ็บสาหัส: 7 ราย
    บาดเจ็บปานกลาง: 13 ราย
    บาดเจ็บเล็กน้อย: 12 ราย
    รวมทั้งสิ้น: 45 ราย

    ทหาร
    เสียชีวิต: 1 นาย
    บาดเจ็บสาหัส: 6 นาย
    บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย
    บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย
    รวมทั้งสิ้น: 15 นาย

    โดยมีลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญ ดังนี้:
    เวลา 07.45 น. กองกำลังสุรนารีตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินล้ำเข้ามาสำรวจในเขตพื้นที่หน้าปราสาทตาเมือนธม จากนั้นพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าประชิดแนวลวดหนาม ฝ่ายไทยพยายามใช้การเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ

    เวลา 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงด้วยอาวุธประจำหน่วยเข้าใส่ฐานปฏิบัติการของไทย ใกล้บริเวณปราสาทตาเมือน ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย

    เวลา 09.30 น. ฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21 จากพื้นที่เขาแหลม เข้าตกในพื้นที่บ้านขึ้นเหล็ก อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้พลเรือนบาดเจ็บ 1 ราย และตรวจพบหัวจรวดตกบนบ้านเรือนในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นเหตุให้พลเรือนเสียชีวิต 1 ราย

    เวลา 09.45 น. มีการยิงจรวด BM-21 เพิ่มเติมเข้าใส่ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน บริเวณอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

    ช่วงเวลา 10.00–10.22 น. ตรวจพบจรวด BM-21 ตกในพื้นที่ฐานหมูป่า ฐานพดุง และเนิน 500 ในจังหวัดอุบลราชธานี
    พร้อมกระสุนปืนใหญ่ตกใส่พื้นที่ผามออีแดง จุกตา จ.ศรีสะเกษ และบริเวณฐานทัพ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บจำนวน 7 นาย

    ช่วงเวลา 10.28–10.40 น. มีรายงานการโจมตีอย่างต่อเนื่องจากฝั่งกัมพูชา ด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 พุ่งเป้าไปยังพื้นที่ฐานมาเรีย และบ้านโพนทอง ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง

    ช่วงเวลา 10.48–11.00 น. จรวด BM-21 จำนวน 3 ลูก ตกในพื้นที่ฐานหมูป่า และในบริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท. บ้านผือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ร้านค้าเอกชนได้รับความเสียหาย มีพลเรือนเสียชีวิต 9 ราย และได้รับบาดเจ็บ 14 ราย

    ช่วงเวลา 11.02–12.21 น. ยังคงมีการปะทะและยิงถล่มด้วยอาวุธหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี โดยกระสุนบางส่วนตกในเขตชุมชนและบ้านเรือนของประชาชน

    จากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาในการใช้อาวุธโจมตีพื้นที่พลเรือน ถือเป็นการละเมิดหลักการของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้การโจมตีทางทหารกระทำได้เฉพาะต่อ เป้าหมายทางทหาร (Military Objectives) เท่านั้น
    สรุปเหตุการณ์วันนี้ พฤหัสบดี 24 กรกฎาคม 2568 ตามรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข: 👉พลเรือน เสียชีวิต: 13 ราย บาดเจ็บสาหัส: 7 ราย บาดเจ็บปานกลาง: 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย: 12 ราย รวมทั้งสิ้น: 45 ราย 👉ทหาร เสียชีวิต: 1 นาย บาดเจ็บสาหัส: 6 นาย บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย รวมทั้งสิ้น: 15 นาย โดยมีลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญ ดังนี้: 👉เวลา 07.45 น. กองกำลังสุรนารีตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินล้ำเข้ามาสำรวจในเขตพื้นที่หน้าปราสาทตาเมือนธม จากนั้นพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าประชิดแนวลวดหนาม ฝ่ายไทยพยายามใช้การเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ 👉เวลา 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงด้วยอาวุธประจำหน่วยเข้าใส่ฐานปฏิบัติการของไทย ใกล้บริเวณปราสาทตาเมือน ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย 👉เวลา 09.30 น. ฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21 จากพื้นที่เขาแหลม เข้าตกในพื้นที่บ้านขึ้นเหล็ก อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้พลเรือนบาดเจ็บ 1 ราย และตรวจพบหัวจรวดตกบนบ้านเรือนในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นเหตุให้พลเรือนเสียชีวิต 1 ราย 👉เวลา 09.45 น. มีการยิงจรวด BM-21 เพิ่มเติมเข้าใส่ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน บริเวณอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ 👉ช่วงเวลา 10.00–10.22 น. ตรวจพบจรวด BM-21 ตกในพื้นที่ฐานหมูป่า ฐานพดุง และเนิน 500 ในจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกระสุนปืนใหญ่ตกใส่พื้นที่ผามออีแดง จุกตา จ.ศรีสะเกษ และบริเวณฐานทัพ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บจำนวน 7 นาย 👉ช่วงเวลา 10.28–10.40 น. มีรายงานการโจมตีอย่างต่อเนื่องจากฝั่งกัมพูชา ด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 พุ่งเป้าไปยังพื้นที่ฐานมาเรีย และบ้านโพนทอง ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง 👉ช่วงเวลา 10.48–11.00 น. จรวด BM-21 จำนวน 3 ลูก ตกในพื้นที่ฐานหมูป่า และในบริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท. บ้านผือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ร้านค้าเอกชนได้รับความเสียหาย มีพลเรือนเสียชีวิต 9 ราย และได้รับบาดเจ็บ 14 ราย 👉ช่วงเวลา 11.02–12.21 น. ยังคงมีการปะทะและยิงถล่มด้วยอาวุธหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี โดยกระสุนบางส่วนตกในเขตชุมชนและบ้านเรือนของประชาชน 👉จากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาในการใช้อาวุธโจมตีพื้นที่พลเรือน ถือเป็นการละเมิดหลักการของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้การโจมตีทางทหารกระทำได้เฉพาะต่อ เป้าหมายทางทหาร (Military Objectives) เท่านั้น
    0 Comments 0 Shares 923 Views 0 Reviews
  • ด่วน! กัมพูชาเปิดฉากยิงหน้าปราสาทตาเมือน หลัง UAV บินโฉบและกำลังพลติดอาวุธประชิดแนวชายแดน
    https://www.thai-tai.tv/news/20477/
    .
    #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราสาทตาเมือน #พนมดงรัก #สุรินทร์ #ปะทะชายแดน #กองทัพบก #UAV #ความมั่นคงชายแดน #RPG #ยิงปะทะ
    ด่วน! กัมพูชาเปิดฉากยิงหน้าปราสาทตาเมือน หลัง UAV บินโฉบและกำลังพลติดอาวุธประชิดแนวชายแดน https://www.thai-tai.tv/news/20477/ . #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราสาทตาเมือน #พนมดงรัก #สุรินทร์ #ปะทะชายแดน #กองทัพบก #UAV #ความมั่นคงชายแดน #RPG #ยิงปะทะ
    0 Comments 0 Shares 281 Views 0 Reviews
  • โทรเลข "ลับ" มหาอำนาจ หลังศาลโลกตัดสินเรื่องเขาพระวิหาร
    ท่าทีสหรัฐ UN เขมร และรัฐบาลไทย


    จากความจริงในอดีตที่นำมาเปิดเผย เพื่อปลุกคนไทยที่หลงคิดเชื่อใจมหาอำนาจฟากฝั่งยุโรปว่าเขาจะเข้าข้างไทย เพราะความจริงในเวลานี้

    มีเพียงคนไทย ที่จะปกป้องแผ่นดินไทย

    ทำไม สหรัฐถึงจะเลือกข้างเขมรมากกว่าไทย (ซึ่งอาจดูไม่น่าใช่ แต่ลองอ่านเหตุผลต่อไปนี้)

    1. เขมรพร้อมให้ “สิทธิพิเศษ” ทางทหารมากกว่าไทย
    กัมพูชาเปิดทางให้จีนตั้งท่าเรือ Ream Naval Base (แต่สหรัฐต้องการเป็น “ผู้คานอำนาจ” ที่นั่น)
    - ถ้าสหรัฐ “เจรจาสำเร็จ” จะสามารถ:ควบคุมทะเลจีนใต้จากฝั่งตะวันตก
    - วางเครือข่ายข่าวกรอง SIGINT–ELINT ทั่วภูมิภาค
    - วางฐานโดรนหรือเครื่องบินสอดแนม UAV–RC135
    - ไทยแม้มีฐานทัพร่วม (Cobra Gold) แต่ ไม่อนุญาตให้ตั้งฐานถาวร หรือระบบควบคุมอิสระจากฝ่ายไทย
    “เขมรให้ได้ทั้งพื้นที่ ให้ได้ทั้งอำนาจควบคุมแบบไม่มีพันธะมากเท่าไทย”

    2. เขมรคือ “รัฐเล็กใช้ประโยชน์จากความขัดแย้ง” ระหว่างจีน–สหรัฐ
    - เขมรเล่นบท “รัฐสมดุล” อย่างแยบยล: เปิดฐานให้จีนก่อน (เพื่อให้สหรัฐกลัว)
    แล้วต่อรองกับสหรัฐ โดยเสนอ “สิทธิฐานอื่นเพื่อคานจีน”
    ใช้แผนนี้สร้าง อำนาจต่อรองสูงมากกับทั้งสองมหาอำนาจ

    ต่างจากไทยที่ “ยืนข้างสหรัฐมาตลอด” ที่วางตัวเป็นกลางไม่เปิดทางให้เปิดฐานถาวร — จึงกลายเป็นพันธมิตรแบบจำกัดบทบาท

    อเมริกาไม่ได้เลือกข้างประเทศที่ “ใหญ่มาก” แต่เลือกข้างประเทศที่ “ให้มาก”
    เขมรให้ “จุดยุทธศาสตร์” เพื่อแลก “การหนุนหลัง” — ซึ่งต่างจากไทยที่ต้องการวางตัวเป็นกลาง



    ข้าพเจ้าหวังว่าจากคลิปนี้จะทำให้ท่านหยุดคาดหวังและหยุดวางใจ ด้วยความเชื่อที่ว่าประเทศมหาอำนาจจะเลือกข้างไทย อย่าปล่อยให้ต่างชาติมาปกป้องบ้านตนเอง

    ไม่มีชนชาติใดจะปกป้องแผ่นดินไทย ได้ดีไปกว่าคนไทย
    โทรเลข "ลับ" มหาอำนาจ หลังศาลโลกตัดสินเรื่องเขาพระวิหาร ท่าทีสหรัฐ UN เขมร และรัฐบาลไทย จากความจริงในอดีตที่นำมาเปิดเผย เพื่อปลุกคนไทยที่หลงคิดเชื่อใจมหาอำนาจฟากฝั่งยุโรปว่าเขาจะเข้าข้างไทย เพราะความจริงในเวลานี้ มีเพียงคนไทย ที่จะปกป้องแผ่นดินไทย ทำไม สหรัฐถึงจะเลือกข้างเขมรมากกว่าไทย (ซึ่งอาจดูไม่น่าใช่ แต่ลองอ่านเหตุผลต่อไปนี้) 1. 🇺🇸 เขมรพร้อมให้ “สิทธิพิเศษ” ทางทหารมากกว่าไทย กัมพูชาเปิดทางให้จีนตั้งท่าเรือ Ream Naval Base (แต่สหรัฐต้องการเป็น “ผู้คานอำนาจ” ที่นั่น) - ถ้าสหรัฐ “เจรจาสำเร็จ” จะสามารถ:ควบคุมทะเลจีนใต้จากฝั่งตะวันตก - วางเครือข่ายข่าวกรอง SIGINT–ELINT ทั่วภูมิภาค - วางฐานโดรนหรือเครื่องบินสอดแนม UAV–RC135 - ไทยแม้มีฐานทัพร่วม (Cobra Gold) แต่ ไม่อนุญาตให้ตั้งฐานถาวร หรือระบบควบคุมอิสระจากฝ่ายไทย 📌 “เขมรให้ได้ทั้งพื้นที่ ให้ได้ทั้งอำนาจควบคุมแบบไม่มีพันธะมากเท่าไทย” 2. เขมรคือ “รัฐเล็กใช้ประโยชน์จากความขัดแย้ง” ระหว่างจีน–สหรัฐ - เขมรเล่นบท “รัฐสมดุล” อย่างแยบยล: เปิดฐานให้จีนก่อน (เพื่อให้สหรัฐกลัว) แล้วต่อรองกับสหรัฐ โดยเสนอ “สิทธิฐานอื่นเพื่อคานจีน” ใช้แผนนี้สร้าง อำนาจต่อรองสูงมากกับทั้งสองมหาอำนาจ ต่างจากไทยที่ “ยืนข้างสหรัฐมาตลอด” ที่วางตัวเป็นกลางไม่เปิดทางให้เปิดฐานถาวร — จึงกลายเป็นพันธมิตรแบบจำกัดบทบาท ❗ อเมริกาไม่ได้เลือกข้างประเทศที่ “ใหญ่มาก” แต่เลือกข้างประเทศที่ “ให้มาก” ❗ เขมรให้ “จุดยุทธศาสตร์” เพื่อแลก “การหนุนหลัง” — ซึ่งต่างจากไทยที่ต้องการวางตัวเป็นกลาง ข้าพเจ้าหวังว่าจากคลิปนี้จะทำให้ท่านหยุดคาดหวังและหยุดวางใจ ด้วยความเชื่อที่ว่าประเทศมหาอำนาจจะเลือกข้างไทย อย่าปล่อยให้ต่างชาติมาปกป้องบ้านตนเอง ไม่มีชนชาติใดจะปกป้องแผ่นดินไทย ได้ดีไปกว่าคนไทย
    0 Comments 0 Shares 563 Views 0 0 Reviews
  • กองทัพรัสเซียโจมตีฐานบัญชาการโดรน (UAV) ของกองพลยานยนต์ที่ 100 ของกองกำลังยูเครนด้วยระเบิดร่อนสุญญากาศ "ODAB-1500" ใกล้หมู่บ้านเพลชชีฟกา (Pleshchiivka) ซึ่งอยู่ระหว่างเส้นทาง Torets - Kostyantynivka
    กองทัพรัสเซียโจมตีฐานบัญชาการโดรน (UAV) ของกองพลยานยนต์ที่ 100 ของกองกำลังยูเครนด้วยระเบิดร่อนสุญญากาศ "ODAB-1500" ใกล้หมู่บ้านเพลชชีฟกา (Pleshchiivka) ซึ่งอยู่ระหว่างเส้นทาง Torets - Kostyantynivka
    0 Comments 0 Shares 359 Views 0 Reviews
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 Comments 0 Shares 801 Views 0 Reviews
  • กองทัพอากาศเปิดตัว "โดรนพลีชีพ" (Kamikaze UAV) ที่วิจัยและพัฒนาโดยฝีมือคนไทย 100% โดรนพลีชีพนี้สามารถโจมตีเป้าหมายด้วยแรงระเบิดอย่างแม่นยำ พิสูจน์แล้วจากการทดสอบทำลายเป้าหมายระยะปานกลางด้วยหัวรบทำลายล้างสูง และมีค่าความคลาดเคลื่อนต่ำกว่า 5 เมตร ความสำเร็จนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของกองทัพอากาศในการพึ่งพาตนเองเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และความสงบสุขของประชาชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063401

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กองทัพอากาศเปิดตัว "โดรนพลีชีพ" (Kamikaze UAV) ที่วิจัยและพัฒนาโดยฝีมือคนไทย 100% โดรนพลีชีพนี้สามารถโจมตีเป้าหมายด้วยแรงระเบิดอย่างแม่นยำ พิสูจน์แล้วจากการทดสอบทำลายเป้าหมายระยะปานกลางด้วยหัวรบทำลายล้างสูง และมีค่าความคลาดเคลื่อนต่ำกว่า 5 เมตร ความสำเร็จนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของกองทัพอากาศในการพึ่งพาตนเองเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และความสงบสุขของประชาชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063401 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Wow
    9
    0 Comments 0 Shares 715 Views 1 Reviews
  • ทีมนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหมแห่งชาติจีน ได้เปิดตัว โดรนขนาดเล็กเท่ายุง ที่สามารถบินจริงด้วยปีกแบบชีวกลศาสตร์ (bionic) และถูกออกแบบมาเพื่อ “ภารกิจสอดแนม” โดยเฉพาะ

    นึกถึงโดรนที่ตัวเล็กขนาดหยิบขึ้นมาหนีบไว้ระหว่างนิ้วได้เลยครับ — เพราะนี่คือผลงานล่าสุดของศูนย์วิจัยกองทัพจีนที่ถูกนำเสนอผ่านช่อง CCTV-7 ของรัฐ จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

    ตัวโดรนมีลักษณะคล้ายแมลงจริง ทั้งรูปร่างและวิธีบิน โดยใช้ ปีกชีวกล ที่ขยับพัดปีกได้เหมือนแมลงมากกว่าใช้ใบพัดเหมือนโดรนทั่วไป มีสองเวอร์ชันที่โชว์ในสื่อ:

    - รุ่นที่มี 2 ปีก: ขนาดเล็กมาก เคลื่อนไหวแบบแมลง
    - รุ่นที่มี 4 ปีก: ควบคุมผ่านสมาร์ตโฟน ใช้งานในระดับสูงกว่า

    ถึงแม้จะไม่มีรายละเอียดสเปกฮาร์ดแวร์ที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าตัวโดรนสามารถเก็บข้อมูลภาพ เสียง หรือสัญญาณ และส่งกลับได้ — เหมาะกับภารกิจสอดแนมโดยไม่ให้เป้าหมายรู้ตัว

    น่าสนใจตรงที่ ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลว่าสิ่งนี้ถูกใช้จริงทางทหารหรือยังอยู่ในขั้นวิจัย แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า โดรนระดับแมลง (insect-scale UAV) จะเป็นหมากตัวใหม่ในสนามรบอนาคตแน่นอน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/mosquito-sized-drone-is-designed-for-chinese-spy-missions-military-robotics-lab-reveals-incredibly-tiny-bionic-flying-robots
    ทีมนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหมแห่งชาติจีน ได้เปิดตัว โดรนขนาดเล็กเท่ายุง ที่สามารถบินจริงด้วยปีกแบบชีวกลศาสตร์ (bionic) และถูกออกแบบมาเพื่อ “ภารกิจสอดแนม” โดยเฉพาะ 🦟🛰️ นึกถึงโดรนที่ตัวเล็กขนาดหยิบขึ้นมาหนีบไว้ระหว่างนิ้วได้เลยครับ — เพราะนี่คือผลงานล่าสุดของศูนย์วิจัยกองทัพจีนที่ถูกนำเสนอผ่านช่อง CCTV-7 ของรัฐ จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ตัวโดรนมีลักษณะคล้ายแมลงจริง ทั้งรูปร่างและวิธีบิน โดยใช้ ปีกชีวกล ที่ขยับพัดปีกได้เหมือนแมลงมากกว่าใช้ใบพัดเหมือนโดรนทั่วไป มีสองเวอร์ชันที่โชว์ในสื่อ: - รุ่นที่มี 2 ปีก: ขนาดเล็กมาก เคลื่อนไหวแบบแมลง - รุ่นที่มี 4 ปีก: ควบคุมผ่านสมาร์ตโฟน ใช้งานในระดับสูงกว่า ถึงแม้จะไม่มีรายละเอียดสเปกฮาร์ดแวร์ที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าตัวโดรนสามารถเก็บข้อมูลภาพ เสียง หรือสัญญาณ และส่งกลับได้ — เหมาะกับภารกิจสอดแนมโดยไม่ให้เป้าหมายรู้ตัว น่าสนใจตรงที่ ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลว่าสิ่งนี้ถูกใช้จริงทางทหารหรือยังอยู่ในขั้นวิจัย แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า โดรนระดับแมลง (insect-scale UAV) จะเป็นหมากตัวใหม่ในสนามรบอนาคตแน่นอน https://www.tomshardware.com/tech-industry/mosquito-sized-drone-is-designed-for-chinese-spy-missions-military-robotics-lab-reveals-incredibly-tiny-bionic-flying-robots
    0 Comments 0 Shares 300 Views 0 Reviews
  • กองทัพรัสเซียเป็นตัวแทนรับมอบเงินรางวัล 15 ล้านรูเบิล จากบริษัท FORES (ФОРЭС) ที่ประกาศไว้สำหรับเครื่องบิน F-16 ลำแรกที่ถูกยิงตก

    จากรายงานของ TASS สำนักข่าวของรัสเซีย ระบุว่า ทหารรัสเซียจำนวน 12 นาย ซึ่งเป็นหน่วยที่สามารถทำลายเครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ ลำแรกในเขตปฏิบัติการพิเศษจะเป็นผู้ได้รับรางวัล 15 ล้านรูเบิลนี้

    รายงานยังระบุอีกว่า พิธีมอบรางวัลจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2025 ที่บริเวณแนวหน้าในเขตปฏิบัติการพิเศษทางทหาร โดยมีผู้บัญชาการเข้าร่วมเป็นสักขีพยานด้วย

    .
    เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 กองทัพอากาศยูเครนประกาศยืนยันการเสียชีวิตของนักบิน F-16 "อเล็กซี่ เมส" (Alexey Mes / Алексея Меся) ในภูมิภาคซาโปริซเซีย(Zaporozhye) โดยมีการกล่าวไว้อาลัยบนเฟสบุ้คของกองบัญชาการทางอากาศว่า "อเล็กซี่ ต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขาบนท้องฟ้าอย่างกล้าหาญ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม เขาได้ทำลายขีปนาวุธร่อน 3 ลูก และ UAV โจมตี 1 ลูก" แหล่งข่าวระบุว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นอาจจะเกิดจากการยิงกันเองโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ

    เป็นที่ทราบว่ายูเครนได้รับเครื่องบินขับไล่ F-16 ชุดแรกในเดือนสิงหาคม 2024 และสูญเสียเครื่องแรกในช่วงปลายเดือนเดียวกันระหว่างการโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซีย นักบินผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นคือ Oleksii Mes ("Moonfish")

    เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2024 FORES (ФОРЭС) บริษัทผู้ผลิตสารเคมี ceramic proppant สัญชาติรัสเซีย ประกาศจ่ายเงินโบนัส 15 ล้านรูเบิล (ราว 6.9 ล้านบาท) หรือ 168,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 ลำแรกที่ถูกยิงตกในยูเครน - Sergey Shmotyev ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัท กล่าว

    ไม่เพียงเท่านี้ ฝนช่วงเวลาเดียวกัน มีรายงานว่ารัฐบาลรัสเซียจัดเตรียมเงินรางวัลเงินสด "1 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมกับได้รับสัญชาติรัสเซีย" สำหรับนักบิน F-16 ชาวยูเครน ที่ยอมขับไปมอบให้กับรัสเซีย

    รางวัลอาจเพิ่มเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเครื่องบิน F-16 ที่ขับไปมอบให้รัสเซีย มีการติดตั้งระบบอาวุธครบชุด เช่น ขีปนาวุธนำวิถีและระเบิด

    สำหรับ FORES (ФОРЭС) เมื่อปี 2023 บริษัทเคยประกาศรางวัลเงินสดสำหรับการทำลายรถถัง Abrams หรือรถถัง Leopard ที่จัดหาโดยชาติตะวันตก และมีการจ่ายเงินรางวัลไปแล้วหลายครั้ง "Fores จะจ่ายเงิน 5 ล้านรูเบิล (ราว 2.3 ล้านบาท) สำหรับคนแรกที่ทำลายได้ ส่วนการจ่ายรางวัลถัดๆ ไป จะอยู่ที่ 500,000 รูเบิล (ราว 230,000 บาท)" Shmotyev อำนวยการทั่วไปของ Fores กล่าวเมื่อครั้งประกาศให้เงินรางวัลแก่ผู้ทำลายรถถังตะวันตก

    จากข้อมูลบนเว็บไซต์ บริษัท Fores ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายโพรเพนต์ ที่ทางบริษัทน้ำมันและก๊าซทั้งหลายใช้สำหรับ fracking (การใช้พลังน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมีและทรายฉีดลงไปในชั้นหินดินดาน เพื่อกระเทาะชั้นหิน) ทั้งนี้ สำนักงานของบริษัทตั้งอยู่ในเมืองยากาเตรินบุร์ก ประเทศรัสเซีย
    กองทัพรัสเซียเป็นตัวแทนรับมอบเงินรางวัล 15 ล้านรูเบิล จากบริษัท FORES (ФОРЭС) ที่ประกาศไว้สำหรับเครื่องบิน F-16 ลำแรกที่ถูกยิงตก จากรายงานของ TASS สำนักข่าวของรัสเซีย ระบุว่า ทหารรัสเซียจำนวน 12 นาย ซึ่งเป็นหน่วยที่สามารถทำลายเครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ ลำแรกในเขตปฏิบัติการพิเศษจะเป็นผู้ได้รับรางวัล 15 ล้านรูเบิลนี้ รายงานยังระบุอีกว่า พิธีมอบรางวัลจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2025 ที่บริเวณแนวหน้าในเขตปฏิบัติการพิเศษทางทหาร โดยมีผู้บัญชาการเข้าร่วมเป็นสักขีพยานด้วย . 👉เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 กองทัพอากาศยูเครนประกาศยืนยันการเสียชีวิตของนักบิน F-16 "อเล็กซี่ เมส" (Alexey Mes / Алексея Меся) ในภูมิภาคซาโปริซเซีย(Zaporozhye) โดยมีการกล่าวไว้อาลัยบนเฟสบุ้คของกองบัญชาการทางอากาศว่า "อเล็กซี่ ต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขาบนท้องฟ้าอย่างกล้าหาญ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม เขาได้ทำลายขีปนาวุธร่อน 3 ลูก และ UAV โจมตี 1 ลูก" แหล่งข่าวระบุว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นอาจจะเกิดจากการยิงกันเองโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ 👉 เป็นที่ทราบว่ายูเครนได้รับเครื่องบินขับไล่ F-16 ชุดแรกในเดือนสิงหาคม 2024 และสูญเสียเครื่องแรกในช่วงปลายเดือนเดียวกันระหว่างการโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซีย นักบินผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นคือ Oleksii Mes ("Moonfish") 👉เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2024 FORES (ФОРЭС) บริษัทผู้ผลิตสารเคมี ceramic proppant สัญชาติรัสเซีย ประกาศจ่ายเงินโบนัส 15 ล้านรูเบิล (ราว 6.9 ล้านบาท) หรือ 168,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 ลำแรกที่ถูกยิงตกในยูเครน - Sergey Shmotyev ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัท กล่าว 👉ไม่เพียงเท่านี้ ฝนช่วงเวลาเดียวกัน มีรายงานว่ารัฐบาลรัสเซียจัดเตรียมเงินรางวัลเงินสด "1 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมกับได้รับสัญชาติรัสเซีย" สำหรับนักบิน F-16 ชาวยูเครน ที่ยอมขับไปมอบให้กับรัสเซีย 👉รางวัลอาจเพิ่มเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเครื่องบิน F-16 ที่ขับไปมอบให้รัสเซีย มีการติดตั้งระบบอาวุธครบชุด เช่น ขีปนาวุธนำวิถีและระเบิด 👉 สำหรับ FORES (ФОРЭС) เมื่อปี 2023 บริษัทเคยประกาศรางวัลเงินสดสำหรับการทำลายรถถัง Abrams หรือรถถัง Leopard ที่จัดหาโดยชาติตะวันตก และมีการจ่ายเงินรางวัลไปแล้วหลายครั้ง "Fores จะจ่ายเงิน 5 ล้านรูเบิล (ราว 2.3 ล้านบาท) สำหรับคนแรกที่ทำลายได้ ส่วนการจ่ายรางวัลถัดๆ ไป จะอยู่ที่ 500,000 รูเบิล (ราว 230,000 บาท)" Shmotyev อำนวยการทั่วไปของ Fores กล่าวเมื่อครั้งประกาศให้เงินรางวัลแก่ผู้ทำลายรถถังตะวันตก 👉จากข้อมูลบนเว็บไซต์ บริษัท Fores ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายโพรเพนต์ ที่ทางบริษัทน้ำมันและก๊าซทั้งหลายใช้สำหรับ fracking (การใช้พลังน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมีและทรายฉีดลงไปในชั้นหินดินดาน เพื่อกระเทาะชั้นหิน) ทั้งนี้ สำนักงานของบริษัทตั้งอยู่ในเมืองยากาเตรินบุร์ก ประเทศรัสเซีย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 670 Views 0 Reviews
  • Awakening Song Pt. 1 – Echoes from the Unwanted Image
    A Sweet Notice to Those Who Still Breathe Quietly
    Official Album Launch: May 28, 2025

    Pre-listen the unofficial debut single:
    No More Masks (Unofficial Preview)
    https://youtu.be/H-Og0cbfrJA

    Follow the full release here:
    Spotify Artist Profile https://open.spotify.com/artist/4lUbgHzsclX3utQs8ZQe9c
    YouTube Music Channel https://music.youtube.com/channel/UCU5BwquaVTJ2ZeKJRjShtew

    Emotional & Functional Trackmap

    A guided journey through six honest songs confronting the truths we usually hide.
    A Sweet Notice from the universe — softly reminding you that you’re still here.

    Concept Expansion: What is a “Sweet Notice”?
    In a world of noise, shame, and false strength, a Sweet Notice is not a command.
    It is not a scream.

    It is the soft whisper from your own soul —
    saying: “I see you, even when you’re hiding.”

    Each track in this album is a Sweet Notice
    sent from different corners of the inner landscape — from wounds, from regrets, from voices long silenced.
    And together, they form a path that begins in darkness, but does not end in despair.

    1. The True First Step
    Function: Awakening
    Emotion: Vulnerability, gentle courage
    This is not a song that performs — it breathes.
    It teaches that honesty doesn’t begin with clarity, but with movement.
    A soft notice that the first trembling step is sacred.
    “The first step is not clean. It is messy. It is breathing while scared.”
    Sweet Notice: You’re allowed to start before you're ready.

    2. No More Masks
    Function: Confrontation
    Emotion: Rage turned into truth
    This is the roar that breaks silence.
    It confronts the false peace we build with smiles and the roles we wear to be loved.
    Not bitter — just done.
    “This rap’s my truth. And my goodbye.”
    Sweet Notice: You don’t have to perform your pain anymore.

    3. Echoes of the Heart
    Function: Remembrance
    Emotion: Longing, warmth in absence
    A fusion of country and trap, this song returns you to a love that never left.
    It doesn’t mourn — it reminds. The heart’s echo is still playing.
    “In every beat, I hear — echoes of the heart.”
    Sweet Notice: Love does not vanish. It transforms.

    4. One More Lie
    Function: Realization
    Emotion: Quiet despair, recognition
    This is the silent war inside — between the truths we know and the lies we repeat.
    It is not an anthem. It is a mirror.
    “One more lie is one too many.”
    Sweet Notice: Stop lying to survive. Begin living to tell the truth.

    5. Still Worth It
    Function: Redemption
    Emotion: Silent strength, quiet dignity
    This is for those who don’t win — but still show up.
    It carries no pride, but dignity. No boast, but breath.
    “Still worth it. Even cracked. Still worth it. Even blacked.”
    Sweet Notice: You’re tired. Not finished.

    6. Bleed for Real
    Function: Cleansing
    Emotion: Raw honesty, uncompromised healing
    This is where grief becomes sacred.
    Where pain is no longer paraded, but purified.
    A space for healing that doesn’t demand applause.
    “That’s the only cut that’ll let you heal.”
    Sweet Notice: Bleed — not for likes, but for light.

    Album Summary: The Function of Echoes
    This is not an album that tells you what to believe.
    It is an album that notices you — where you are, how long you've been hiding, and how deeply you want to return to yourself.
    In every song, there’s a message:
    “Your mess is seen. Your silence is heard.
    You are still worth the song.”

    This album isn’t made to entertain.
    It’s made to tell the truth — the one we usually hide.
    You’re not alone. You’re not broken beyond repair. You’re just waiting for your echo to come home.
    🌌 Awakening Song Pt. 1 – Echoes from the Unwanted Image 🎧 A Sweet Notice to Those Who Still Breathe Quietly 📅 Official Album Launch: May 28, 2025 🔗 Pre-listen the unofficial debut single: ▶️ No More Masks (Unofficial Preview) https://youtu.be/H-Og0cbfrJA 🎶 Follow the full release here: Spotify Artist Profile https://open.spotify.com/artist/4lUbgHzsclX3utQs8ZQe9c YouTube Music Channel https://music.youtube.com/channel/UCU5BwquaVTJ2ZeKJRjShtew Emotional & Functional Trackmap A guided journey through six honest songs confronting the truths we usually hide. A Sweet Notice from the universe — softly reminding you that you’re still here. 🌌 Concept Expansion: What is a “Sweet Notice”? In a world of noise, shame, and false strength, a Sweet Notice is not a command. It is not a scream. It is the soft whisper from your own soul — saying: “I see you, even when you’re hiding.” Each track in this album is a Sweet Notice sent from different corners of the inner landscape — from wounds, from regrets, from voices long silenced. And together, they form a path that begins in darkness, but does not end in despair. 1. The True First Step Function: Awakening Emotion: Vulnerability, gentle courage This is not a song that performs — it breathes. It teaches that honesty doesn’t begin with clarity, but with movement. A soft notice that the first trembling step is sacred. “The first step is not clean. It is messy. It is breathing while scared.” Sweet Notice: You’re allowed to start before you're ready. 2. No More Masks Function: Confrontation Emotion: Rage turned into truth This is the roar that breaks silence. It confronts the false peace we build with smiles and the roles we wear to be loved. Not bitter — just done. “This rap’s my truth. And my goodbye.” Sweet Notice: You don’t have to perform your pain anymore. 3. Echoes of the Heart Function: Remembrance Emotion: Longing, warmth in absence A fusion of country and trap, this song returns you to a love that never left. It doesn’t mourn — it reminds. The heart’s echo is still playing. “In every beat, I hear — echoes of the heart.” Sweet Notice: Love does not vanish. It transforms. 4. One More Lie Function: Realization Emotion: Quiet despair, recognition This is the silent war inside — between the truths we know and the lies we repeat. It is not an anthem. It is a mirror. “One more lie is one too many.” Sweet Notice: Stop lying to survive. Begin living to tell the truth. 5. Still Worth It Function: Redemption Emotion: Silent strength, quiet dignity This is for those who don’t win — but still show up. It carries no pride, but dignity. No boast, but breath. “Still worth it. Even cracked. Still worth it. Even blacked.” Sweet Notice: You’re tired. Not finished. 6. Bleed for Real Function: Cleansing Emotion: Raw honesty, uncompromised healing This is where grief becomes sacred. Where pain is no longer paraded, but purified. A space for healing that doesn’t demand applause. “That’s the only cut that’ll let you heal.” Sweet Notice: Bleed — not for likes, but for light. 🌀 Album Summary: The Function of Echoes This is not an album that tells you what to believe. It is an album that notices you — where you are, how long you've been hiding, and how deeply you want to return to yourself. In every song, there’s a message: “Your mess is seen. Your silence is heard. You are still worth the song.” This album isn’t made to entertain. It’s made to tell the truth — the one we usually hide. 💬 You’re not alone. You’re not broken beyond repair. You’re just waiting for your echo to come home.
    0 Comments 0 Shares 1035 Views 0 Reviews
  • ในยูเครน มีกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ใช้บัญชี Signal ที่ถูกแฮ็กเพื่อส่งมัลแวร์ให้กับกองทัพและบริษัทด้านกลาโหม ไฟล์แนบที่ส่งมาจะปลอมเป็นรายงานการประชุมและหลอกให้เหยื่อเปิดใช้งานมัลแวร์ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบของเหยื่อได้ ผู้ใช้ Signal จึงควรตรวจสอบอุปกรณ์และตั้งค่าความปลอดภัยให้เข้มงวด เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อในอนาคต

    ลักษณะของการโจมตี:
    - ผู้โจมตีส่งข้อความที่มีไฟล์แนบโดยใช้บัญชี Signal ของคนที่เป้าหมายรู้จัก เพื่อเพิ่มโอกาสในการเปิดไฟล์.
    - ไฟล์แนบประกอบด้วย PDF ซึ่งหลอกให้เหยื่อเปิด และไฟล์ที่เป็นโปรแกรมอันตรายซึ่งเริ่มการโจมตีเมื่อถูกเปิด.

    หัวข้อเหยื่อล่อใหม่:
    - ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2025 การโจมตีเปลี่ยนมาใช้หัวข้อที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางทหาร เช่น UAV และระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสนใจของเป้าหมายโดยตรง.

    การป้องกันสำหรับผู้ใช้งาน Signal:
    - ผู้ใช้ Signal ควรปิดการดาวน์โหลดไฟล์แนบโดยอัตโนมัติและตรวจสอบอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในบัญชีของตนอย่างสม่ำเสมอ.
    - การเปิดใช้งานการตรวจสอบสองขั้นตอนและอัปเดตแอปเวอร์ชันล่าสุดช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตี.

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/ukrainian-military-targeted-in-new-signal-spear-phishing-attacks/
    ในยูเครน มีกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ใช้บัญชี Signal ที่ถูกแฮ็กเพื่อส่งมัลแวร์ให้กับกองทัพและบริษัทด้านกลาโหม ไฟล์แนบที่ส่งมาจะปลอมเป็นรายงานการประชุมและหลอกให้เหยื่อเปิดใช้งานมัลแวร์ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบของเหยื่อได้ ผู้ใช้ Signal จึงควรตรวจสอบอุปกรณ์และตั้งค่าความปลอดภัยให้เข้มงวด เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อในอนาคต ลักษณะของการโจมตี: - ผู้โจมตีส่งข้อความที่มีไฟล์แนบโดยใช้บัญชี Signal ของคนที่เป้าหมายรู้จัก เพื่อเพิ่มโอกาสในการเปิดไฟล์. - ไฟล์แนบประกอบด้วย PDF ซึ่งหลอกให้เหยื่อเปิด และไฟล์ที่เป็นโปรแกรมอันตรายซึ่งเริ่มการโจมตีเมื่อถูกเปิด. หัวข้อเหยื่อล่อใหม่: - ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2025 การโจมตีเปลี่ยนมาใช้หัวข้อที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางทหาร เช่น UAV และระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสนใจของเป้าหมายโดยตรง. การป้องกันสำหรับผู้ใช้งาน Signal: - ผู้ใช้ Signal ควรปิดการดาวน์โหลดไฟล์แนบโดยอัตโนมัติและตรวจสอบอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในบัญชีของตนอย่างสม่ำเสมอ. - การเปิดใช้งานการตรวจสอบสองขั้นตอนและอัปเดตแอปเวอร์ชันล่าสุดช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตี. https://www.bleepingcomputer.com/news/security/ukrainian-military-targeted-in-new-signal-spear-phishing-attacks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Ukrainian military targeted in new Signal spear-phishing attacks
    Ukraine's Computer Emergency Response Team (CERT-UA) is warning about highly targeted attacks employing compromised Signal accounts to send malware to employees of defense industry firms and members of the country's army forces.
    0 Comments 0 Shares 324 Views 0 Reviews
  • การจราจรทางอากาศในอนาคตคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคการบิน บางแนวโน้มและความเป็นไปได้ในอนาคตของการจราจรทางอากาศ ได้แก่:

    1. **อากาศยานไร้คนขับ (Drones และ UAVs)**: การใช้โดรーンสำหรับการส่งสินค้าและการบริการอื่นๆ จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตเมืองและพื้นที่ห่างไกล

    2. **อากาศยานไฟฟ้า (Electric Aircraft)**: การพัฒนาอากาศยานที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดต้นทุนการดำเนินการ

    3. **ระบบการจัดการการจราจรทางอากาศอัตโนมัติ (Automated Air Traffic Management)**: การใช้ AI และ machine learning เพื่อจัดการการจราจรทางอากาศจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย

    4. **การบินส่วนบุคคล (Personal Air Vehicles)**: ยานพาหนะบินได้ส่วนบุคคลอาจกลายเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่การจราจรทางบหนาแน่น

    5. **Hyperloop และเทคโนโลยีการขนส่งความเร็วสูง**: แม้ว่าจะไม่ใช่การบิน แต่เทคโนโลยีเช่น Hyperloop อาจเปลี่ยนโฉมการขนส่งทางไกลและมีผลต่อการจราจรทางอากาศ

    6. **การบินเชิงพาณิชย์ที่เร็วขึ้น**: การพัฒนาของเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง (Supersonic และ Hypersonic) อาจทำให้การเดินทางทางอากาศเร็วขึ้นมาก

    7. **ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว**: ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ความท้าทายด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวจะเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องมีมาตรการและกฎระเบียบใหม่ๆ

    8. **การบินในอวกาศ (Space Travel)**: การท่องเที่ยวอวกาศและการขนส่งระหว่างดาวเคราะห์อาจกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคตอันไกล

    การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะต้องได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาล การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนากฎระเบียบที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบการจราจรทางอากาศในอนาคต
    การจราจรทางอากาศในอนาคตคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคการบิน บางแนวโน้มและความเป็นไปได้ในอนาคตของการจราจรทางอากาศ ได้แก่: 1. **อากาศยานไร้คนขับ (Drones และ UAVs)**: การใช้โดรーンสำหรับการส่งสินค้าและการบริการอื่นๆ จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตเมืองและพื้นที่ห่างไกล 2. **อากาศยานไฟฟ้า (Electric Aircraft)**: การพัฒนาอากาศยานที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดต้นทุนการดำเนินการ 3. **ระบบการจัดการการจราจรทางอากาศอัตโนมัติ (Automated Air Traffic Management)**: การใช้ AI และ machine learning เพื่อจัดการการจราจรทางอากาศจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย 4. **การบินส่วนบุคคล (Personal Air Vehicles)**: ยานพาหนะบินได้ส่วนบุคคลอาจกลายเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่การจราจรทางบหนาแน่น 5. **Hyperloop และเทคโนโลยีการขนส่งความเร็วสูง**: แม้ว่าจะไม่ใช่การบิน แต่เทคโนโลยีเช่น Hyperloop อาจเปลี่ยนโฉมการขนส่งทางไกลและมีผลต่อการจราจรทางอากาศ 6. **การบินเชิงพาณิชย์ที่เร็วขึ้น**: การพัฒนาของเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง (Supersonic และ Hypersonic) อาจทำให้การเดินทางทางอากาศเร็วขึ้นมาก 7. **ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว**: ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ความท้าทายด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวจะเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องมีมาตรการและกฎระเบียบใหม่ๆ 8. **การบินในอวกาศ (Space Travel)**: การท่องเที่ยวอวกาศและการขนส่งระหว่างดาวเคราะห์อาจกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคตอันไกล การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะต้องได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาล การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนากฎระเบียบที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบการจราจรทางอากาศในอนาคต
    0 Comments 0 Shares 613 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/UAvMe3hEiow?si=1SyqFfF-8l5KA_IQ
    https://youtu.be/UAvMe3hEiow?si=1SyqFfF-8l5KA_IQ
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
More Results