• LRT เกาะปีนัง คาดตอกเข็ม ธ.ค.นี้

    โครงการรถไฟฟ้ารางเบา สายมูเทียรา ไลน์ (LRT Mutiara Line) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายแรกบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค. 2567 ที่จะถึงนี้ เมื่อสำนักข่าวเดอะสตาร์ของมาเลเซีย รายงานว่า นายแอนโทนี่ ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย ได้อนุมัติวันเริ่มต้นก่อสร้าง โดยสถานีแรกจะสร้างขึ้นที่ถนนแมคคัลลัม ขณะที่บริษัท MRT Corp ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการ อาจเลือกใช้ระบบรถไฟฟ้าแบบล้อยาง เพื่อประหยัดต้นทุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษา

    ส่วนกลุ่มกิจการค้าร่วมเอสอาร์เอส (SRS Consortium) ที่นำโดยกามูดา เบอร์ฮัด (Gamuda Berhad) บริษัทก่อสร้างรายใหญ่ของมาเลเซีย กำลังสรุปเงื่อนไขและข้อกำหนดสำหรับงานโยธา ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ 7,600 ล้านริงกิต ซึ่งกามูดาก็กำลังวางแผนประมูลงานระบบไฟฟ้าและอาณัติสัญญาณ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านริงกิต

    โครงการรถไฟฟ้ารางเบา สายมูเทียรา ไลน์ ระยะทาง 29 กิโลเมตร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ งานโยธาตอนที่ 1 ตั้งแต่เกาะซิลิคอนถึงอาคารคอมตาร์ (Komtar) งานโยธาตอนที่ 2 จากอาคารคอมตาร์ข้ามทะเลไปยังอาคารปีนังเซ็นทรัล (Penang Sentral) และสัญญาแบบเทิร์นคีย์สำหรับงานระบบและจัดหาขบวนรถ

    แนวเส้นทางเริ่มต้นจากเกาะซิลิคอน ทางตอนใต้ของเกาะปีนัง ซึ่งจะเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) ข้ามทะเลขึ้นไปบนหมู่บ้านเปร์มาตัง ดามาร์ ลาอุต (Permatang Damar Laut) จากนั้นผ่านท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง (Penang International Airport) เขตอุตสาหกรรมเสรี (Free Industrial Zone) สนามกีฬาสไปซ์อารีน่า (SPICE) ผ่านถนนมหาวิทยาลัย (Jalan Universiti) ที่จะไปมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งมาเลเซีย (USM)

    ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังอาคารคอมตาร์ (Komtar) ที่จะรองรับเส้นทางไปตันจุงบูงะฮ์ (Tanjung Bungah) และอาเยอร์อีตัม (Air Itam) ในอนาคต แล้วข้ามทะเลไปสิ้นสุดที่อาคารปีนังเซ็นทรัล โดยมีสถานีให้บริการทั้งหมด 22 สถานี เวลาเปิดให้บริการ 06.00-24.00 น. มีที่จอดรถยนต์ 1,220 คัน และรถจักรยานยนต์ 1,315 คัน

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มี.ค. รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า รัฐบาลกลางได้เข้ารับช่วงต่อโครงการรถไฟฟ้า LRT จากรัฐบาลของรัฐปีนัง โดยแต่งตั้งให้ MRT Corp เป็นผู้พัฒนาและเจ้าของโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า

    #Newskit #LRTMutiaraLine #เกาะปีนัง
    LRT เกาะปีนัง คาดตอกเข็ม ธ.ค.นี้ โครงการรถไฟฟ้ารางเบา สายมูเทียรา ไลน์ (LRT Mutiara Line) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายแรกบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค. 2567 ที่จะถึงนี้ เมื่อสำนักข่าวเดอะสตาร์ของมาเลเซีย รายงานว่า นายแอนโทนี่ ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย ได้อนุมัติวันเริ่มต้นก่อสร้าง โดยสถานีแรกจะสร้างขึ้นที่ถนนแมคคัลลัม ขณะที่บริษัท MRT Corp ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการ อาจเลือกใช้ระบบรถไฟฟ้าแบบล้อยาง เพื่อประหยัดต้นทุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษา ส่วนกลุ่มกิจการค้าร่วมเอสอาร์เอส (SRS Consortium) ที่นำโดยกามูดา เบอร์ฮัด (Gamuda Berhad) บริษัทก่อสร้างรายใหญ่ของมาเลเซีย กำลังสรุปเงื่อนไขและข้อกำหนดสำหรับงานโยธา ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ 7,600 ล้านริงกิต ซึ่งกามูดาก็กำลังวางแผนประมูลงานระบบไฟฟ้าและอาณัติสัญญาณ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านริงกิต โครงการรถไฟฟ้ารางเบา สายมูเทียรา ไลน์ ระยะทาง 29 กิโลเมตร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ งานโยธาตอนที่ 1 ตั้งแต่เกาะซิลิคอนถึงอาคารคอมตาร์ (Komtar) งานโยธาตอนที่ 2 จากอาคารคอมตาร์ข้ามทะเลไปยังอาคารปีนังเซ็นทรัล (Penang Sentral) และสัญญาแบบเทิร์นคีย์สำหรับงานระบบและจัดหาขบวนรถ แนวเส้นทางเริ่มต้นจากเกาะซิลิคอน ทางตอนใต้ของเกาะปีนัง ซึ่งจะเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) ข้ามทะเลขึ้นไปบนหมู่บ้านเปร์มาตัง ดามาร์ ลาอุต (Permatang Damar Laut) จากนั้นผ่านท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง (Penang International Airport) เขตอุตสาหกรรมเสรี (Free Industrial Zone) สนามกีฬาสไปซ์อารีน่า (SPICE) ผ่านถนนมหาวิทยาลัย (Jalan Universiti) ที่จะไปมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งมาเลเซีย (USM) ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังอาคารคอมตาร์ (Komtar) ที่จะรองรับเส้นทางไปตันจุงบูงะฮ์ (Tanjung Bungah) และอาเยอร์อีตัม (Air Itam) ในอนาคต แล้วข้ามทะเลไปสิ้นสุดที่อาคารปีนังเซ็นทรัล โดยมีสถานีให้บริการทั้งหมด 22 สถานี เวลาเปิดให้บริการ 06.00-24.00 น. มีที่จอดรถยนต์ 1,220 คัน และรถจักรยานยนต์ 1,315 คัน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มี.ค. รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า รัฐบาลกลางได้เข้ารับช่วงต่อโครงการรถไฟฟ้า LRT จากรัฐบาลของรัฐปีนัง โดยแต่งตั้งให้ MRT Corp เป็นผู้พัฒนาและเจ้าของโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า #Newskit #LRTMutiaraLine #เกาะปีนัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานทูตไทยในเทลอาวีฟแจ้งแรงงานไทยเสียชีวิต1 รายและช็อก 1 รายจากระเบิดที่ตกค้างในพื้นที่ทางตอนเหนือ

    11 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวจากเพจ Royal Thai Embassy , Tel Aviv ประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอลว่าเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ได้เกิดเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถัง (anti-tank missile) เข้าไปยังนิคมเกษตร Yir'on ทางเหนือของอิสราเอลติดชายแดนเลบานอน ซึ่งเป็นเขตปิดทางทหาร (closed military zone) ทำให้แรงงานไทย 1 รายเสียชีวิตและอีก 1 รายได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง

    *เขตปิดทางทหาร (closed military zone) ในขณะนี้ 11 แห่ง ได้แก่ เมืองเมตูลา (Metula) มิซกาฟ อัม (Misgav Am) คฟาร์ กิลอาดี (Kfar Giladi)โดเวฟ (Dovev) ซิฟออน (Tziv'on) มาลเกีย (Malkia) รอช ฮานิกรา (Rosh Hanikra)
    ชโลมิ (Shlomi) ฮานิตา (Hanita) อดามิท (Adamit) และอาหรับ อัล-อรามเช (Arab al-Aramshe) โดยเป็นพื้นที่ห้ามพักอาศัยหรือทำงาน* ด้วยความห่วงใย จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ

    ต่อมานายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่มีคนไทยเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 1 รายที่อิสราเอล โดยได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่าทางการอิสราเอลตรวจสอบแล้วและพบว่า สาเหตุเกิดจากระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ ไม่ใช่จากเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถังดังปรากฏตามข่าวก่อนหน้านี้

    อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรเพื่อตรวจสอบตัวตนของผู้เสียชีวิตก่อนจะแจ้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป สำหรับแรงงานไทย 1 รายที่ได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง ได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในเมือง Safed ทางเหนือของอิสราเอลแล้ว และสถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

    นอกจากนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ รายงานเพิ่มเติมว่า ในนิคมเกษตรดังกล่าวมีคนไทยประมาณ 10 คน และได้ประสานทางการอิสราเอลให้อพยพคนไทยทั้งหมดออกจากพื้นที่ในทันทีแล้ว

    สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอลอีกครั้งแล้วว่า หากยังมีแรงงานไทยอยู่ในเขตปิดทางทหารหรือพื้นที่เสี่ยง และมีความยากลำบากในการย้ายออกจากพื้นที่ ขอให้แจ้งสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อประสานงานกับทางการอิสราเอลในการย้ายออกจากพื้นที่ ตามหมายเลขโทรศัพท์ ฝ่ายกงสุล โทร +972 546368150+972 503673195
    ฝ่ายแรงงาน โทร. +972 9-954-8431 + 972 54-469-3476 ไอดีไลน์ 0544693476

    #Thaitimes
    สถานทูตไทยในเทลอาวีฟแจ้งแรงงานไทยเสียชีวิต1 รายและช็อก 1 รายจากระเบิดที่ตกค้างในพื้นที่ทางตอนเหนือ 11 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวจากเพจ Royal Thai Embassy , Tel Aviv ประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอลว่าเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ได้เกิดเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถัง (anti-tank missile) เข้าไปยังนิคมเกษตร Yir'on ทางเหนือของอิสราเอลติดชายแดนเลบานอน ซึ่งเป็นเขตปิดทางทหาร (closed military zone) ทำให้แรงงานไทย 1 รายเสียชีวิตและอีก 1 รายได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง *เขตปิดทางทหาร (closed military zone) ในขณะนี้ 11 แห่ง ได้แก่ เมืองเมตูลา (Metula) มิซกาฟ อัม (Misgav Am) คฟาร์ กิลอาดี (Kfar Giladi)โดเวฟ (Dovev) ซิฟออน (Tziv'on) มาลเกีย (Malkia) รอช ฮานิกรา (Rosh Hanikra) ชโลมิ (Shlomi) ฮานิตา (Hanita) อดามิท (Adamit) และอาหรับ อัล-อรามเช (Arab al-Aramshe) โดยเป็นพื้นที่ห้ามพักอาศัยหรือทำงาน* ด้วยความห่วงใย จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ต่อมานายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่มีคนไทยเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 1 รายที่อิสราเอล โดยได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่าทางการอิสราเอลตรวจสอบแล้วและพบว่า สาเหตุเกิดจากระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ ไม่ใช่จากเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถังดังปรากฏตามข่าวก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรเพื่อตรวจสอบตัวตนของผู้เสียชีวิตก่อนจะแจ้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป สำหรับแรงงานไทย 1 รายที่ได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง ได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในเมือง Safed ทางเหนือของอิสราเอลแล้ว และสถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามอาการอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ รายงานเพิ่มเติมว่า ในนิคมเกษตรดังกล่าวมีคนไทยประมาณ 10 คน และได้ประสานทางการอิสราเอลให้อพยพคนไทยทั้งหมดออกจากพื้นที่ในทันทีแล้ว สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอลอีกครั้งแล้วว่า หากยังมีแรงงานไทยอยู่ในเขตปิดทางทหารหรือพื้นที่เสี่ยง และมีความยากลำบากในการย้ายออกจากพื้นที่ ขอให้แจ้งสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อประสานงานกับทางการอิสราเอลในการย้ายออกจากพื้นที่ ตามหมายเลขโทรศัพท์ ฝ่ายกงสุล โทร +972 546368150+972 503673195 ฝ่ายแรงงาน โทร. +972 9-954-8431 + 972 54-469-3476 ไอดีไลน์ 0544693476 #Thaitimes
    Sad
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารรัสเซียบันทึกภาพโดรนกามิกาเซ่ ล่า Niva ของเราที่แนวหน้าในภูมิภาคเคิร์สต์

    ▪️นาวิกโยธินเฝ้าดูจากที่กำบังในขณะที่ Niva ถูกโจมตีโดย FPV ของยูเครนใน Glushkovo Garden Partnership ในเขตชายแดน Kursk
    ▪️พวกนั้นปลอดภัยดี โดรนพลาดเพราะสงครามอิเล็กทรอนิกส์หรือเพราะมือคดเคี้ยวของผู้ปฏิบัติงานชาวยูเครน
    ทหารรัสเซียบันทึกภาพโดรนกามิกาเซ่ ล่า Niva ของเราที่แนวหน้าในภูมิภาคเคิร์สต์ ▪️นาวิกโยธินเฝ้าดูจากที่กำบังในขณะที่ Niva ถูกโจมตีโดย FPV ของยูเครนใน Glushkovo Garden Partnership ในเขตชายแดน Kursk ▪️พวกนั้นปลอดภัยดี โดรนพลาดเพราะสงครามอิเล็กทรอนิกส์หรือเพราะมือคดเคี้ยวของผู้ปฏิบัติงานชาวยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทนายตั้ม” ฟันธง “บอสกันต์-บอสมิน-บอสแซม” ไม่รอดคดี โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง “อี้ แทนคุณ” ชี้เหล่าดาราทราบดีถึงแผนงานบริษัท อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องเพราะเป็นไปไม่ได้ ยิ่งออกมาปฎิเสธ ยิ่งทำเข้าตัวหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097553

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทนายตั้ม” ฟันธง “บอสกันต์-บอสมิน-บอสแซม” ไม่รอดคดี โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง “อี้ แทนคุณ” ชี้เหล่าดาราทราบดีถึงแผนงานบริษัท อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องเพราะเป็นไปไม่ได้ ยิ่งออกมาปฎิเสธ ยิ่งทำเข้าตัวหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097553 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่ 13 ตุลาคม 2567
    วันนวมินทรมหาราช
    ขึ้นทางด่วนฟรี!

    ที่มา เพจ LivingPop https://www.facebook.com/share/p/DafpqwrTx2m6u1nK/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    วันที่ 13 ตุลาคม 2567 วันนวมินทรมหาราช ขึ้นทางด่วนฟรี! ที่มา เพจ LivingPop https://www.facebook.com/share/p/DafpqwrTx2m6u1nK/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรดเกล้าฯ "พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ" เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 15 ตั้งแต่ 9 ตุลาคม 2567

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097558

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    โปรดเกล้าฯ "พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ" เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 15 ตั้งแต่ 9 ตุลาคม 2567 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097558 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/nnA68iVNXUA?si=wQ0LoL1Fs5LAh5Ez
    https://youtu.be/nnA68iVNXUA?si=wQ0LoL1Fs5LAh5Ez
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เมียหรั่ง"ยันไม่มีส่วนรู้เห็นขายทองออนไลน์ เลี่ยงตอบปมถ่ายโอนทรัพย์สิน "แม่ตั๊ก" ยังไม่พร้อมอธิบายปัญหาขัดแย้งในครอบครัว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097549

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "เมียหรั่ง"ยันไม่มีส่วนรู้เห็นขายทองออนไลน์ เลี่ยงตอบปมถ่ายโอนทรัพย์สิน "แม่ตั๊ก" ยังไม่พร้อมอธิบายปัญหาขัดแย้งในครอบครัว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097549 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Haha
    Angry
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 435 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อิ๊งค์" สั่งติดตามคดี the icon group ใกล้ชิด หลัง "บิ๊กต่าย" รุดรายงาน หวังเป็นบันทัดฐานการดำเนินการ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097547

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "อิ๊งค์" สั่งติดตามคดี the icon group ใกล้ชิด หลัง "บิ๊กต่าย" รุดรายงาน หวังเป็นบันทัดฐานการดำเนินการ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097547 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 441 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/9mjdgkTdMsE?si=xiaqw96PfM_xnzpi
    https://www.youtube.com/live/9mjdgkTdMsE?si=xiaqw96PfM_xnzpi
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอโทษทุกคนอีกครั้ง!! “บอย ปกรณ์" ลั่นขอยืนอยู่ฝั่งผู้เสียหายเต็มตัว บอกยินดีช่วย-พร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097522

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ขอโทษทุกคนอีกครั้ง!! “บอย ปกรณ์" ลั่นขอยืนอยู่ฝั่งผู้เสียหายเต็มตัว บอกยินดีช่วย-พร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097522 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    10
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • “กรรชัย” ปรี๊ด “บอสพอล” บอกไม่รู้มีคนฆ่าตัวตาย เดี๋ยวจะไล่ตั้งแต่หางยันหัวให้ดู! ท้า “มิน-กันต์-แซม” กล้าเผชิญหน้าผู้เสียหายมั้ย?

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097475

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “กรรชัย” ปรี๊ด “บอสพอล” บอกไม่รู้มีคนฆ่าตัวตาย เดี๋ยวจะไล่ตั้งแต่หางยันหัวให้ดู! ท้า “มิน-กันต์-แซม” กล้าเผชิญหน้าผู้เสียหายมั้ย? อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097475 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 ตุลาคม 2567-Live รายการ News Hour

    https://www.youtube.com/live/zhfrxC-Wz6Y?si=xIliqUtLMtWn2wZ_

    #Thaitimes
    11 ตุลาคม 2567-Live รายการ News Hour https://www.youtube.com/live/zhfrxC-Wz6Y?si=xIliqUtLMtWn2wZ_ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไมเคิล ชาเฟล..มหาเทพในตำนาน ผู้ร่ำรวยบนความฉิบหายของคนอื่น ตอนจบ

    ตอนแรก
    👉 https://www.facebook.com/share/p/dDS4EFEURbQNNsQk/?mibextid=WC7FNe

    ยุคนั้นไม่มีใครต่อกรหรือสู้ได้ทัดเทียมกับไมเคิล เขามีแผนการโปรโมทที่พัฒนาไม่เหมือนใคร ฉลาดเป็นกรด

    เน้นปิดการขายด้วยตัวเอง แค่ให้คนอื่นลากคนมาห้องเชือดก็พอ

    ปี 2007 iPhone ออกขาย ไมเคิลก็ย้ายจาก Black Berry มาปา iPhone ให้แตกแทน และการตลาดนี้ใช้ได้มาตลอด

    ประจวบกับ Herbalife มันเป็นธรรมชาติของ MLM อยู่แล้วที่รหัสจะชนกัน คือ Herbalife มันบวมแล้ว ไมเคิลก็เลยย้ายมาทำ BHip ที่เปิดตัวปี 2007 แทน

    ไมเคิล..รวยแล้วเลยแยกทางกับสาวไทยผู้ร่ำรวยมาคบกับดาราสาวคนหนึ่งจนมาถึงปี 2012 มันก็มีข่าวออกมาว่าไมเคิลเป็นนักต้มตุ๋น ออกข่าวดังเลย ดาราก็เลยบอกเลิก

    ไมเคิล..เริ่มเล่นใหญ่ขึ้น โดยเช่า Hall ที่เมืองทอง จัด Event หลอกคุณตัน โออิชืไปบรรยายจนต้องมาแก้ข่าวเมื่อรู้ว่าตัวเองโดนหลอกให้มาโปรโมทแชร์ลูกโซ่

    ไมเคิล..ถึงจะมาก่อนกาลเวลา แต่วิธีการก็เหมือนเดิม บังคับล่อลวงสารพัดเพื่อให้คนไปยืมเงิน ไปขายทรัพย์ มาลงทุน เปิดบิลทีละ 40,000 บาทขั้นต่ำ

    และต่อมาก็เปลี่ยนเป็นเก็บค่าสมัครสมาชิก 1,500 บาท เอาเงินมาหมุนจัด Event ดึงดารามาเป็นลมใต้ปีกล่อเหยื่อ แล้วก็เริ่ม..สร้างแม่ข่าย

    ไมเคิล..โตเร็วมากในทุกบริษัทที่มันเข้าไปทำ มียอดขายสูงสุดจนเป็น Blue Diamond และหลังๆก็ไปทำงานร่วมกับ..ฟลุ๊ค

    ไมเคิล..ก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารสำคัญของ BHip ได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์นี้โดยมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของเน็ตเวิร์คอย่างเดียว

    โดยพูดสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากลงทุนด้วยคำพูดง่ายๆว่า..ทุกคนมี ศักยภาพของตนเอง และ Motivate ด้วยการให้ความรูั

    พร้อมกับการปรับ Concept การโปรโมทมาเป็นการบอกสนับสนุนให้ผู้คนออกจาก "วงจรชีวิตการทำงาน" แบบเดิมๆ

    ไมเคิลใช้วาทะสวยหรูพูดให้ผู้คนใช้ชีวิตที่มีคุณค่าและเต็มไปด้วยเป้าหมายที่สำคัญกว่าความสำเร็จทางวัตถุ

    เพียงไม่นานไมเคิลก็รวยพันล้านแบบเงียบๆ
    ----------

    ปัจจุบัน..

    เปลี่ยนแผนการตลาดมาเป็นการฟอกขาวมากขึ้นสินค้าจะเน้นไปเรื่องสุขภาพ เน้นชวนคนมาลดน้ำหนัก จะได้เปิดคอร์สแพงๆ

    แต่..ก็ยังใช้หลักการเดิมๆของการชวนคนมาลงทุนคือ..ให้ไปกู้ยืม ให้ไปขายทรัพย์ พอได้เงินมาเปิดบิลเรียบร้อย..ก็ฉิบหายเหมือนเดิม

    BHip จะเน้นไปที่คนอยากรวย คนอยากลงทุน เน้นคนรุ่นใหม่ มีทีมงานในการ Motivate แทนด้วยแผนการตลาดอันแยบยลและซับซ้อนเหมือนเดิม

    ไมเคิล..คือตำนานของ MLM ถึงจะไม่เกี่ยวข้องกับการทำคอร์สสอนออนไลน์ แต่นี่คือต้นแบบของคนที่ร่ำรวยบนความฉิบหายของคนอื่น

    และไม่ค่อยมีใครรู้ว่าไมเคิลอยู่เบื้องหลังธุรกิจต้มตุ๋นอีกหลายบริษัท เนื่องจากหลังที่โดนกระหน่ำคดีปี 2012 ก็เก็บตัวทำเงียบๆ

    ปัจจุบันมีทรัพย์สินหลายพันล้านบาท จัดเป็นเศรษฐีย่อมๆคนนึง แต่เป็นต้นแบบของการทำ MLM แบบสร้างความฉิบหายให้คนอื่น

    นั่นคือภาพจำของทุกคนที่โดนไมเคิลต้มตุ๋น

    ตอนนี้ไมเคิลทำตามความฝันที่เคยประกาศเอาไว้ว่าจะซื้อเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวไว้บินไปพัทยา ผันตัวเองไปเล่น Extreme Sport มี IG ไว้โพสต์โชว์ความร่ำรวย (ก็แม่งรวยคนเดียว ถถถ )

    คนนี้เป็นตำนานจริงๆ ชื่อเสียงไม่มีใครขุดคุ้ยแล้ว เพราะเริ่มอยู่เป็นเก็บตัวเงียบๆ

    เราอยากให้ทุกคนรู้ว่าการทำ MLM ถ้าไม่เหยียบหัวคนอื่นไปเพื่อความรวย..ไม่มีวันรวย

    วันนี้..ที่เราขุดคุ้ยอดีตของไมเคิลขึ้นมาเพราะแฟนเพจขอมา แล้วเราเห็นว่ามันพอนำมาเตือนสติคนได้ จึงจัดให้ตามคำขอ

    เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว หวังว่าทุกคนจะเข้าใจว่าโลกแห่ง MLM มันโหดร้าย และมีแต่คนที่ฉลาดเป็นกรดเท่านั้นที่จะอยู่รอด

    มันคือธุรกิจที่มีแต่ผู้ล่ากับเหยื่อ ต้องทำให้คนอื่นฉิบหายอย่างเดียวเท่านั้น แล้วตัวเองถึงจะรวยเพราะเป็นต้นธารของบริษัท

    ถ้าใครสนใจ ลองไปสืบเรื่องราวของไมเคิลดูก็ได้ ถือว่ารู้จักเทพในตำนาน
    👉 https://www.instagram.com/themikebhip/

    คนเราผิดพลาดกันได้ แต่อย่าบ่อย #โง่ได้แต่อย่านาน

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    ไมเคิล ชาเฟล..มหาเทพในตำนาน ผู้ร่ำรวยบนความฉิบหายของคนอื่น ตอนจบ ตอนแรก 👉 https://www.facebook.com/share/p/dDS4EFEURbQNNsQk/?mibextid=WC7FNe ยุคนั้นไม่มีใครต่อกรหรือสู้ได้ทัดเทียมกับไมเคิล เขามีแผนการโปรโมทที่พัฒนาไม่เหมือนใคร ฉลาดเป็นกรด เน้นปิดการขายด้วยตัวเอง แค่ให้คนอื่นลากคนมาห้องเชือดก็พอ ปี 2007 iPhone ออกขาย ไมเคิลก็ย้ายจาก Black Berry มาปา iPhone ให้แตกแทน และการตลาดนี้ใช้ได้มาตลอด ประจวบกับ Herbalife มันเป็นธรรมชาติของ MLM อยู่แล้วที่รหัสจะชนกัน คือ Herbalife มันบวมแล้ว ไมเคิลก็เลยย้ายมาทำ BHip ที่เปิดตัวปี 2007 แทน ไมเคิล..รวยแล้วเลยแยกทางกับสาวไทยผู้ร่ำรวยมาคบกับดาราสาวคนหนึ่งจนมาถึงปี 2012 มันก็มีข่าวออกมาว่าไมเคิลเป็นนักต้มตุ๋น ออกข่าวดังเลย ดาราก็เลยบอกเลิก ไมเคิล..เริ่มเล่นใหญ่ขึ้น โดยเช่า Hall ที่เมืองทอง จัด Event หลอกคุณตัน โออิชืไปบรรยายจนต้องมาแก้ข่าวเมื่อรู้ว่าตัวเองโดนหลอกให้มาโปรโมทแชร์ลูกโซ่ ไมเคิล..ถึงจะมาก่อนกาลเวลา แต่วิธีการก็เหมือนเดิม บังคับล่อลวงสารพัดเพื่อให้คนไปยืมเงิน ไปขายทรัพย์ มาลงทุน เปิดบิลทีละ 40,000 บาทขั้นต่ำ และต่อมาก็เปลี่ยนเป็นเก็บค่าสมัครสมาชิก 1,500 บาท เอาเงินมาหมุนจัด Event ดึงดารามาเป็นลมใต้ปีกล่อเหยื่อ แล้วก็เริ่ม..สร้างแม่ข่าย ไมเคิล..โตเร็วมากในทุกบริษัทที่มันเข้าไปทำ มียอดขายสูงสุดจนเป็น Blue Diamond และหลังๆก็ไปทำงานร่วมกับ..ฟลุ๊ค ไมเคิล..ก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารสำคัญของ BHip ได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์นี้โดยมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของเน็ตเวิร์คอย่างเดียว โดยพูดสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากลงทุนด้วยคำพูดง่ายๆว่า..ทุกคนมี ศักยภาพของตนเอง และ Motivate ด้วยการให้ความรูั พร้อมกับการปรับ Concept การโปรโมทมาเป็นการบอกสนับสนุนให้ผู้คนออกจาก "วงจรชีวิตการทำงาน" แบบเดิมๆ ไมเคิลใช้วาทะสวยหรูพูดให้ผู้คนใช้ชีวิตที่มีคุณค่าและเต็มไปด้วยเป้าหมายที่สำคัญกว่าความสำเร็จทางวัตถุ เพียงไม่นานไมเคิลก็รวยพันล้านแบบเงียบๆ ---------- ปัจจุบัน.. เปลี่ยนแผนการตลาดมาเป็นการฟอกขาวมากขึ้นสินค้าจะเน้นไปเรื่องสุขภาพ เน้นชวนคนมาลดน้ำหนัก จะได้เปิดคอร์สแพงๆ แต่..ก็ยังใช้หลักการเดิมๆของการชวนคนมาลงทุนคือ..ให้ไปกู้ยืม ให้ไปขายทรัพย์ พอได้เงินมาเปิดบิลเรียบร้อย..ก็ฉิบหายเหมือนเดิม BHip จะเน้นไปที่คนอยากรวย คนอยากลงทุน เน้นคนรุ่นใหม่ มีทีมงานในการ Motivate แทนด้วยแผนการตลาดอันแยบยลและซับซ้อนเหมือนเดิม ไมเคิล..คือตำนานของ MLM ถึงจะไม่เกี่ยวข้องกับการทำคอร์สสอนออนไลน์ แต่นี่คือต้นแบบของคนที่ร่ำรวยบนความฉิบหายของคนอื่น และไม่ค่อยมีใครรู้ว่าไมเคิลอยู่เบื้องหลังธุรกิจต้มตุ๋นอีกหลายบริษัท เนื่องจากหลังที่โดนกระหน่ำคดีปี 2012 ก็เก็บตัวทำเงียบๆ ปัจจุบันมีทรัพย์สินหลายพันล้านบาท จัดเป็นเศรษฐีย่อมๆคนนึง แต่เป็นต้นแบบของการทำ MLM แบบสร้างความฉิบหายให้คนอื่น นั่นคือภาพจำของทุกคนที่โดนไมเคิลต้มตุ๋น ตอนนี้ไมเคิลทำตามความฝันที่เคยประกาศเอาไว้ว่าจะซื้อเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวไว้บินไปพัทยา ผันตัวเองไปเล่น Extreme Sport มี IG ไว้โพสต์โชว์ความร่ำรวย (ก็แม่งรวยคนเดียว ถถถ ) คนนี้เป็นตำนานจริงๆ ชื่อเสียงไม่มีใครขุดคุ้ยแล้ว เพราะเริ่มอยู่เป็นเก็บตัวเงียบๆ เราอยากให้ทุกคนรู้ว่าการทำ MLM ถ้าไม่เหยียบหัวคนอื่นไปเพื่อความรวย..ไม่มีวันรวย วันนี้..ที่เราขุดคุ้ยอดีตของไมเคิลขึ้นมาเพราะแฟนเพจขอมา แล้วเราเห็นว่ามันพอนำมาเตือนสติคนได้ จึงจัดให้ตามคำขอ เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว หวังว่าทุกคนจะเข้าใจว่าโลกแห่ง MLM มันโหดร้าย และมีแต่คนที่ฉลาดเป็นกรดเท่านั้นที่จะอยู่รอด มันคือธุรกิจที่มีแต่ผู้ล่ากับเหยื่อ ต้องทำให้คนอื่นฉิบหายอย่างเดียวเท่านั้น แล้วตัวเองถึงจะรวยเพราะเป็นต้นธารของบริษัท ถ้าใครสนใจ ลองไปสืบเรื่องราวของไมเคิลดูก็ได้ ถือว่ารู้จักเทพในตำนาน 👉 https://www.instagram.com/themikebhip/ คนเราผิดพลาดกันได้ แต่อย่าบ่อย #โง่ได้แต่อย่านาน สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไมเคิล ชาเฟล..มหาเทพในตำนาน ผู้ร่ำรวยบนความฉิบหายของคนอื่น

    ท้าวความ..สมัยไมเคิลอายุได้ 16 ปี เรียนอยู่เอแบค ไมเคิลได้ไปรู้จักกับ Herbalife ในปี 2546

    ยุคนั้นคนยังไม่ค่อยรู้จัก Facebook (Facebook เปิดให้บริการครั้งแรก 2547) ยังไม่มีการยิงโฆษณา

    ไมเคิล..คือผู้มาก่อนกาลเวลาเหนือผู้ใด เรียกว่ายุคที่ยังไม่มีการขายของออนไลน์เลย Herbalife ก็คือสินค้า MLM ธรรมดา

    แต่..ไมเคิล มองออกว่าโลกออนไลน์มีพลังมากกว่าการชวนคนแบบเจอหน้าในออฟไลน์ จึงคิดแผนการตลาดขึ้นมาด้วยการที่ให้คนชวนคนบน FB.

    ต้องเข้าใจนะว่าไม่มีการยิงโฆษณาใดๆ เพราะมันเป็นยุคแรกของโลก Social แทนที่คนจะได้คุยกัน แบ่งปันเรื่องราวตามที่ Mark มันออกแบบมาต้องการให้ FB.เป็นเหมือนชุมชนเพื่อน

    แต่..ไมเคิลมันรู้ว่าสามารถเอา FB.มาเป็นร้านค้าได้ด้วยการโพสต์และแชร์ไปเรื่อยๆ ยุคนั้น Algorithm ของ FB.ยังไม่ได้ฉลาดเหมือนทุกวันนี้เลย

    ตอนนั้น FB.เพิ่งเริ่มต้นตั้งไข่ มีแต่แผนจะร่ำรวยดันตัวเองเข้าตลาดหลักทรัพย์ เลยไม่ได้สนใจในการพัฒนา AI.ตรวจจับการทำ Content ซ้ำๆ

    ถ้าพูดกันถึงยุคนี้ถ้าเราโพสต์ Content ซ้ำๆ จะโดน Algorithm ของ FB.แบนทันที เหมือนที่เราเคยเห็นตอนที่คนแชร์คลิปเพลงของ Lisa แล้ว FB.แบนนั่นแหละ

    AI มันทำหน้าที่ของมัน เพราะมันคิดว่าเป็นการกระหน่ำ Spam ระบบ หรือระบบกำลังโดนโจมตี

    แต่ยุคของไมเคิลนั้นโล่งสบาย เพราะทุกคนทำอะไรก็ได้ จะสแปมยังไงก็ได้ดังนั้นมันจึงตั้ง Herbalife Thailand ขึ้นมา

    แล้วจัดสัมมนา โดยมีหลักในการ Motivate ที่ไม่เหมือนใคร ฉีกกฎทุกกฎของคนทำ MLM ในประเทศไทย

    ไมเคิล..เก่งเรื่อง NLP ล้างสมองคนได้ ไม่ต้องมีอะไร แค่บอกว่าทำกับมันแล้วรวย วิธี Sponsor ของมันสุดติ่งมาก

    ยุคนั้น..เป็นการชวนคนแบบโพสต์ออนไลน์แล้วให้สมาชิกลากคนมาฟัง นั่งรถไฟฟ้าไปที่ศูนย์อบรมของมัน แล้วมันก็เข้าปิดการขายได้แบบ Conversion กระหน่ำจุกๆเลย
    ---------

    แผนประทุษกรรมของ..ไมเคิล

    เปิดตัวด้วยความเร้าใจ เดินเข้ามาในห้องแล้วโชว์ Black Berry แล้วถามคนในห้องว่าโทรศัพท์นี้แพงไหม ทุกคนตอบว่าแพง

    จากนั้นมันก็เขวี้ยงโทรศัพท์ Black Berry ไปที่กำแพงให้แตกแล้วพูดด้วยเสียงนิ่มๆว่า "ถ้าคุณทำธุรกิจกับผม คุณจะซื้อ Black Berry อีกกี่รอบก็ได้" ถถถ🤣

    แค่นี้ก็ทำ First Impression ให้คนในห้องแม่งตะลึงได้แล้ว จากนั้นมันก็จะใช้กลยุทธการปิดการขายโดยใช้หลักการที่เรียกว่า..ทฤษฏีห้องเปล่า

    คือทุกคนย่อมไม่มีเงินลงทุน มันบอกว่าก็ลองมองไปยังของในห้องที่คุณอยู่หรือบ้านที่คุณอยู่สิ

    คุณมีอะไรขายได้เอามาลงทุนกับผมแล้วจะรวย ขายได้ ขายให้หมด เอาเงินสดมาลงทุนกับผม แล้วผมจะพาคุณรวยไปด้วยกัน.?

    ได้ผล..คนแห่ซื้อของแม่งอย่างกับลดแลกแจกแถม เพราะอยากได้ Black Berry กี่รอบก็ได้ตามที่มันแสดง Action ให้ดู ว่าคนรวย เงินแค่นี้จิ๊บๆ

    ไมเคิล..สอนให้คนทำการตลาดด้วยการแนะนำสินค้าบน FB.ด้วยการโพสต์ และแชร์ และให้ทุกคนเริ่มต้นซื้อสินค้าของมัน

    เปิดบิลขั้นต่ำ 25,000 บาท สูงๆก็หลักแสน หลังเปิดบิลแล้วก็จะได้สต็อกของเต็มห้องหลังจากเข้าสู่วังวน“ทฤษฏีห้องเปล่า”เรียบร้อยแล้ว

    เปลี่ยนจากทรัพย์ที่มีเป็นสินค้า Herbalife เพราะคุณจะรวยไปด้วยกันกับไมเคิล ยุคนั้นเป็นยุคตื่นทอง คนไม่เคยเจออะไรแบบนี้

    เลยคิดเอาเองว่า..นี่แหละวะคือทางออกของ Passive Income และนั่นคือจุดเริ่มต้นความรวยของ..ไมเคิล ชาเฟล

    ไมเคิล..มีรถ Super Car ขับหลังจากนั้นไม่นาน รวยเร็ว รวยไว อายุน้อยร้อยล้านของแท้ แต่คนอื่นฉิบหายช่างมัน

    ใครอยากรอดตายให้ชวนคนมาต่อตูดถึงจะได้ค่าหัวคิวเปิดบิล..แชร์ลูกโซ่ชัดๆ

    ไมเคิล..เริ่มรวยหลักร้อยล้าน มันก็เริ่มคิดอยากจะมีในสิ่งที่เศรษฐีทั่วไปเขามีกันบางคนอยากได้นาฬิกาแพงๆ มันมีแล้ว

    บางคนอยากได้รถหรู มันมีแล้ว บ้านหลังใหญ่ มันมีแล้ว สิ่งที่ไมเคิลฝันนั้นสุดโต่งขึ้นตามลำดับ

    ไมเคิล..ฝันอยากได้เฮลิคอปเตอร์มันบอกเพื่อนๆว่า รถมันกระจอก กูจะมีเฮลิคอปเตอร์เอาไว้บินจากกรุงเทพไปพัทยาและ..กูจะทำให้ได้

    รอติดตาม ep.2

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    ไมเคิล ชาเฟล..มหาเทพในตำนาน ผู้ร่ำรวยบนความฉิบหายของคนอื่น ท้าวความ..สมัยไมเคิลอายุได้ 16 ปี เรียนอยู่เอแบค ไมเคิลได้ไปรู้จักกับ Herbalife ในปี 2546 ยุคนั้นคนยังไม่ค่อยรู้จัก Facebook (Facebook เปิดให้บริการครั้งแรก 2547) ยังไม่มีการยิงโฆษณา ไมเคิล..คือผู้มาก่อนกาลเวลาเหนือผู้ใด เรียกว่ายุคที่ยังไม่มีการขายของออนไลน์เลย Herbalife ก็คือสินค้า MLM ธรรมดา แต่..ไมเคิล มองออกว่าโลกออนไลน์มีพลังมากกว่าการชวนคนแบบเจอหน้าในออฟไลน์ จึงคิดแผนการตลาดขึ้นมาด้วยการที่ให้คนชวนคนบน FB. ต้องเข้าใจนะว่าไม่มีการยิงโฆษณาใดๆ เพราะมันเป็นยุคแรกของโลก Social แทนที่คนจะได้คุยกัน แบ่งปันเรื่องราวตามที่ Mark มันออกแบบมาต้องการให้ FB.เป็นเหมือนชุมชนเพื่อน แต่..ไมเคิลมันรู้ว่าสามารถเอา FB.มาเป็นร้านค้าได้ด้วยการโพสต์และแชร์ไปเรื่อยๆ ยุคนั้น Algorithm ของ FB.ยังไม่ได้ฉลาดเหมือนทุกวันนี้เลย ตอนนั้น FB.เพิ่งเริ่มต้นตั้งไข่ มีแต่แผนจะร่ำรวยดันตัวเองเข้าตลาดหลักทรัพย์ เลยไม่ได้สนใจในการพัฒนา AI.ตรวจจับการทำ Content ซ้ำๆ ถ้าพูดกันถึงยุคนี้ถ้าเราโพสต์ Content ซ้ำๆ จะโดน Algorithm ของ FB.แบนทันที เหมือนที่เราเคยเห็นตอนที่คนแชร์คลิปเพลงของ Lisa แล้ว FB.แบนนั่นแหละ AI มันทำหน้าที่ของมัน เพราะมันคิดว่าเป็นการกระหน่ำ Spam ระบบ หรือระบบกำลังโดนโจมตี แต่ยุคของไมเคิลนั้นโล่งสบาย เพราะทุกคนทำอะไรก็ได้ จะสแปมยังไงก็ได้ดังนั้นมันจึงตั้ง Herbalife Thailand ขึ้นมา แล้วจัดสัมมนา โดยมีหลักในการ Motivate ที่ไม่เหมือนใคร ฉีกกฎทุกกฎของคนทำ MLM ในประเทศไทย ไมเคิล..เก่งเรื่อง NLP ล้างสมองคนได้ ไม่ต้องมีอะไร แค่บอกว่าทำกับมันแล้วรวย วิธี Sponsor ของมันสุดติ่งมาก ยุคนั้น..เป็นการชวนคนแบบโพสต์ออนไลน์แล้วให้สมาชิกลากคนมาฟัง นั่งรถไฟฟ้าไปที่ศูนย์อบรมของมัน แล้วมันก็เข้าปิดการขายได้แบบ Conversion กระหน่ำจุกๆเลย --------- แผนประทุษกรรมของ..ไมเคิล เปิดตัวด้วยความเร้าใจ เดินเข้ามาในห้องแล้วโชว์ Black Berry แล้วถามคนในห้องว่าโทรศัพท์นี้แพงไหม ทุกคนตอบว่าแพง จากนั้นมันก็เขวี้ยงโทรศัพท์ Black Berry ไปที่กำแพงให้แตกแล้วพูดด้วยเสียงนิ่มๆว่า "ถ้าคุณทำธุรกิจกับผม คุณจะซื้อ Black Berry อีกกี่รอบก็ได้" ถถถ🤣 แค่นี้ก็ทำ First Impression ให้คนในห้องแม่งตะลึงได้แล้ว จากนั้นมันก็จะใช้กลยุทธการปิดการขายโดยใช้หลักการที่เรียกว่า..ทฤษฏีห้องเปล่า คือทุกคนย่อมไม่มีเงินลงทุน มันบอกว่าก็ลองมองไปยังของในห้องที่คุณอยู่หรือบ้านที่คุณอยู่สิ คุณมีอะไรขายได้เอามาลงทุนกับผมแล้วจะรวย ขายได้ ขายให้หมด เอาเงินสดมาลงทุนกับผม แล้วผมจะพาคุณรวยไปด้วยกัน.? ได้ผล..คนแห่ซื้อของแม่งอย่างกับลดแลกแจกแถม เพราะอยากได้ Black Berry กี่รอบก็ได้ตามที่มันแสดง Action ให้ดู ว่าคนรวย เงินแค่นี้จิ๊บๆ ไมเคิล..สอนให้คนทำการตลาดด้วยการแนะนำสินค้าบน FB.ด้วยการโพสต์ และแชร์ และให้ทุกคนเริ่มต้นซื้อสินค้าของมัน เปิดบิลขั้นต่ำ 25,000 บาท สูงๆก็หลักแสน หลังเปิดบิลแล้วก็จะได้สต็อกของเต็มห้องหลังจากเข้าสู่วังวน“ทฤษฏีห้องเปล่า”เรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนจากทรัพย์ที่มีเป็นสินค้า Herbalife เพราะคุณจะรวยไปด้วยกันกับไมเคิล ยุคนั้นเป็นยุคตื่นทอง คนไม่เคยเจออะไรแบบนี้ เลยคิดเอาเองว่า..นี่แหละวะคือทางออกของ Passive Income และนั่นคือจุดเริ่มต้นความรวยของ..ไมเคิล ชาเฟล ไมเคิล..มีรถ Super Car ขับหลังจากนั้นไม่นาน รวยเร็ว รวยไว อายุน้อยร้อยล้านของแท้ แต่คนอื่นฉิบหายช่างมัน ใครอยากรอดตายให้ชวนคนมาต่อตูดถึงจะได้ค่าหัวคิวเปิดบิล..แชร์ลูกโซ่ชัดๆ ไมเคิล..เริ่มรวยหลักร้อยล้าน มันก็เริ่มคิดอยากจะมีในสิ่งที่เศรษฐีทั่วไปเขามีกันบางคนอยากได้นาฬิกาแพงๆ มันมีแล้ว บางคนอยากได้รถหรู มันมีแล้ว บ้านหลังใหญ่ มันมีแล้ว สิ่งที่ไมเคิลฝันนั้นสุดโต่งขึ้นตามลำดับ ไมเคิล..ฝันอยากได้เฮลิคอปเตอร์มันบอกเพื่อนๆว่า รถมันกระจอก กูจะมีเฮลิคอปเตอร์เอาไว้บินจากกรุงเทพไปพัทยาและ..กูจะทำให้ได้ รอติดตาม ep.2 สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฐมบท..บอสพอล The Icon

    พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ

    ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์

    หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท

    ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ

    พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย

    พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก)

    จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน..

    ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ

    คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global
    👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal

    ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ

    ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง

    เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท

    แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan
    👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/

    ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้

    เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้

    จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน

    และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558
    👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/

    เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน

    เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด

    เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ

    พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse

    และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค

    เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“

    ---------

    โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย

    โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี"

    โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา

    -----------

    ลูกค้าของพอล..

    ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง

    เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง)

    โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ

    และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี

    และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี

    การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV

    นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว

    รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก

    โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า

    ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที

    พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น

    พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น

    คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง

    พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่

    เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

    แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท

    89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน)

    มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ

    เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว

    ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว

    คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย

    เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon

    และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM

    เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ

    และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย
    ---------

    ยุคทองของ..บอสพอล The Icon

    เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง

    เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว

    แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป

    เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้

    The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล

    ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น

    แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด

    ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto

    ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ

    หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ

    คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม

    เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน

    พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ

    และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา

    และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร

    กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย

    เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย

    กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย

    แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ
    -----------

    ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลในฐานแชร์ลูกโซ่ได้เลย

    จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยากเพราะไปผิดทางไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู

    เพราะเคสแบบนี้มันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า

    การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน”และตัวแทนไม่ใช่ผู้บริโภค สคบ.จึงไม่มีอำนาจ“

    หรือเคยมีผู้บริโภคได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ

    จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้

    เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย

    ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง #และสินค้ามีคุณภาพ ตรงจุดนี้คือกุญแจดอกเดียวที่จะไขเข้าไปถึงตัวพอลได้นั่นคือ..สินค้าไม่ตรงปรก

    พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง

    เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ

    แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั

    ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป

    โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ

    หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้..

    พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน

    ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.?

    ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที

    เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย

    บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง

    พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ

    สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ..

    การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง

    ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร

    ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว

    คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว

    หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ

    เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว

    แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่

    บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ

    พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

    บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้

    จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว

    อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ

    สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship

    คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป

    กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต

    มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย
    ----------

    ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้

    1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ

    2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer

    3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20%

    เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง

    พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้

    4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย

    ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด"

    ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด

    ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส.

    น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣

    เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง

    สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง

    ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100%

    ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.?

    นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก

    #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊

    ep.1
    👉 https://www.facebook.com/share/p/YgaYdxzS5FirmYa2/?mibextid=WC7FNe

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน

    ปฐมบท..บอสพอล The Icon พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์ หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก) จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน.. ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global 👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan 👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/ ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้ เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้ จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558 👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/ เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“ --------- โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี" โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา ----------- ลูกค้าของพอล.. ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง) โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่ เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท 89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน) มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย --------- ยุคทองของ..บอสพอล The Icon เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้ The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ ----------- ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลในฐานแชร์ลูกโซ่ได้เลย จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยากเพราะไปผิดทางไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู เพราะเคสแบบนี้มันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน”และตัวแทนไม่ใช่ผู้บริโภค สคบ.จึงไม่มีอำนาจ“ หรือเคยมีผู้บริโภคได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้ เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง #และสินค้ามีคุณภาพ ตรงจุดนี้คือกุญแจดอกเดียวที่จะไขเข้าไปถึงตัวพอลได้นั่นคือ..สินค้าไม่ตรงปรก พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้.. พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.? ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ.. การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่ บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้ จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย ---------- ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้ 1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ 2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer 3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20% เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้ 4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด" ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส. น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣 เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100% ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.? นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊ ep.1 👉 https://www.facebook.com/share/p/YgaYdxzS5FirmYa2/?mibextid=WC7FNe สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชมภาพ! ชาวบ้านรุมช่วย "โลมา 2 แม่-ลูก" ว่ายหลงในเขตน้ำท่วมเมืองบีลิน รัฐมอญ
    .
    ชาวบ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่ รุมให้ความช่วยเหลือโลมาอิระวดี 2 แม่-ลูก ที่ว่ายหลงเข้าไปในเขตน้ำท่วมขัง เมืองบีลิน รัฐมอญ ก่อนนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
    .
    ช่วงค่ำของวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา เพจองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ(Biodiversity And Nature Conservation Association : BANCA) ของเมียนมา ได้เผยแพร่ภาพการช่วยเหลือโลมาอิระวดี หรือโลมาหัวบาตรหลังเรียบ 2 ตัว แม่-ลูก ที่ได้ว่ายหลงเข้าไปในทุ่งนากว้างซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมขังห่างจากชายฝั่ง ในเขตตำบลซุกกะลิ เมืองบีลิน รัฐมอญ
    .
    ชาวบ้านในพื้นที่ได้พบโลมา 2 ตัว แม่-ลูกว่ายหลงทางอยู่ในทุ่งนาเมื่อเวลา 16.25 น. ของวันที่ 5 ตุลาคม จึงได้แจ้งไปยังฝ่ายปกครองในพื้นที่ เพื่อประสานงานขอเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญจากแผนกประมงรัฐมอญ กลุ่มอนุรักษ์พื้นที่หมู่บ้านมุติง รวมถึงเจ้าหน้าที่ของ BANCA มาช่วยกันล้อมจับโลมาทั้งคู่ เพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในแม่น้ำบีลิน
    .
    หลังจับโลมาแม่-ลูกได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำไปวัดขนาด พบว่าโลมาตัวแม่ยาว 5.6 ฟุต ส่วนโลมาตัวลูกยาว 2.5 ฟุต
    .
    คลิกชม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9670000097502
    ชมภาพ! ชาวบ้านรุมช่วย "โลมา 2 แม่-ลูก" ว่ายหลงในเขตน้ำท่วมเมืองบีลิน รัฐมอญ . ชาวบ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่ รุมให้ความช่วยเหลือโลมาอิระวดี 2 แม่-ลูก ที่ว่ายหลงเข้าไปในเขตน้ำท่วมขัง เมืองบีลิน รัฐมอญ ก่อนนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ . ช่วงค่ำของวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา เพจองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ(Biodiversity And Nature Conservation Association : BANCA) ของเมียนมา ได้เผยแพร่ภาพการช่วยเหลือโลมาอิระวดี หรือโลมาหัวบาตรหลังเรียบ 2 ตัว แม่-ลูก ที่ได้ว่ายหลงเข้าไปในทุ่งนากว้างซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมขังห่างจากชายฝั่ง ในเขตตำบลซุกกะลิ เมืองบีลิน รัฐมอญ . ชาวบ้านในพื้นที่ได้พบโลมา 2 ตัว แม่-ลูกว่ายหลงทางอยู่ในทุ่งนาเมื่อเวลา 16.25 น. ของวันที่ 5 ตุลาคม จึงได้แจ้งไปยังฝ่ายปกครองในพื้นที่ เพื่อประสานงานขอเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญจากแผนกประมงรัฐมอญ กลุ่มอนุรักษ์พื้นที่หมู่บ้านมุติง รวมถึงเจ้าหน้าที่ของ BANCA มาช่วยกันล้อมจับโลมาทั้งคู่ เพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในแม่น้ำบีลิน . หลังจับโลมาแม่-ลูกได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำไปวัดขนาด พบว่าโลมาตัวแม่ยาว 5.6 ฟุต ส่วนโลมาตัวลูกยาว 2.5 ฟุต . คลิกชม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9670000097502
    MGRONLINE.COM
    ชมภาพ! ชาวบ้านรุมช่วย "โลมา 2 แม่-ลูก" ว่ายหลงในเขตน้ำท่วมเมืองบีลิน รัฐมอญ
    ชมภาพชาวบ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่ รุมให้ความช่วยเหลือโลมาอิระวดี 2 แม่-ลูก ที่ว่ายหลงเข้าไปในเขตน้ำท่วมขัง เมืองบีลิน รัฐมอญ ก่อนนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
    Like
    Love
    Yay
    9
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • “มิน พีชญา” พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยืนยันอยู่ข้างประชาชน ขอประกาศยุติสัญญากับ THE iCON GROUP แจงเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์และพีอาร์ ไม่ได้หุ้นส่วนกับบริษัท แต่ข้างในเรียกบอสมินเพราะให้เกียติ รับค่าจ้างเท่ากับเรตพรีเซ็นเตอร์ทั่วไป เสียใจและตกใจมาก เพิ่งรู้ข่าวมีประชาชนเดือดร้อน โทษตัวเองตรวจสอบไม่ดี แต่ก็ทำเท่าที่คนหนึ่งจะตรวจสอบได้แล้ว ถ้ารู้ข่าวเสียๆ มาก่อนจะไม่มีวันรับงานเด็ดขาด จะไม่ยอมเอาชื่อเสียงที่สะสมมาแลก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097437

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes ดูน้อยลง
    “มิน พีชญา” พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยืนยันอยู่ข้างประชาชน ขอประกาศยุติสัญญากับ THE iCON GROUP แจงเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์และพีอาร์ ไม่ได้หุ้นส่วนกับบริษัท แต่ข้างในเรียกบอสมินเพราะให้เกียติ รับค่าจ้างเท่ากับเรตพรีเซ็นเตอร์ทั่วไป เสียใจและตกใจมาก เพิ่งรู้ข่าวมีประชาชนเดือดร้อน โทษตัวเองตรวจสอบไม่ดี แต่ก็ทำเท่าที่คนหนึ่งจะตรวจสอบได้แล้ว ถ้ารู้ข่าวเสียๆ มาก่อนจะไม่มีวันรับงานเด็ดขาด จะไม่ยอมเอาชื่อเสียงที่สะสมมาแลก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097437 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes ดูน้อยลง
    Like
    Haha
    Angry
    Yay
    Sad
    23
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 655 มุมมอง 0 รีวิว
  • Idioms To Express Your Feelings With All Your Heart

    There are many ways to talk about that feeling you get when you’re romantically attracted to someone. The go-to word is love, but that little word has to do a lot of work to communicate such a deep feeling that can also have many shades of meaning. Luckily for all of us, the English language has lots of idioms, or figurative expressions, to help us describe our affections more vividly. Whether you’re trying to pen the perfect message for Valentine’s Day or hoping to win over the cutie you just met, these idioms might be just what you need to reveal what’s in your heart!


    head over heels
    Ever been so in love that the object of your affections is all you can think about? Then you were head over heels for them. The idiom head over heels describes the action of falling down or doing a somersault. (Originally the expression was heels over head, but it, well, flipped during the 1700s.) In other words, if you are head over heels for someone, you are thoroughly in love with them.

    apple of one’s eye
    Someone or something that is special to you is the apple of your eye. What is so special about apples? Historically, the apple of the eye was an idiom that simply described the pupil, or black aperture in the eyeball. In ancient times, it was believed that the pupil was a hard round object, like an apple. The apple of one’s eye came to be associated with a particular object of affection or focus by the early 1800s, possibly because one’s pupil is associated with sight—and gazing fondly at someone.

    love you to the moon and back
    What is the farthest distance you can imagine from where you are right now? Probably somewhere in outer space, right? That is the thinking behind the hyperbolic expression love you to the moon and back: you love them as much as you can possibly imagine loving someone. While the origins of this expression are a little obscure, it may have been inspired by the moon race in the 1960s. At any rate, the meaning is clear. If you love someone to the moon and back, you really love them a lot.

    puppy love
    If the notion of puppy love sounds adorable, that’s because it often is. A puppy is a young dog, and puppy love is something typically associated with young people, particularly teenagers (or someone acting like a teenager). Puppy love describes a “temporary infatuation of a young person for another person.” The temporary part is important here—often young people will fall in and out of love very quickly.

    lovebirds
    The word lovebirds is another animal-inspired idiom used to describe a couple. Lovebirds are small parrots, particularly Agapornis, that live as bonded pairs. So the word lovebirds can describe couples who display similar behavior, acting affectionately towards each other.

    take one’s breath away
    If the mere sight of someone sets the world spinning, you could say that person takes your breath away. The expression is not only used to describe love, but any strong emotion of astonishment or shock. Take one’s breath away refers to that moment when people hold their breath while experiencing strong emotions.

    to have butterflies in one’s stomach
    The object of your affections might inspire a sensation that can be described as having butterflies in one’s stomach. Imagine if you actually had a bunch of butterflies in your tummy—it would probably feel kind of strange and fluttery. This idiom can refer to anything that makes you nervous, whether that’s someone you have a crush on or a big speech.

    have the hots (for)
    Affection is not always about love—sexual attraction can be an important component of that emotion as well. That’s what the expression to have the hots (for someone) describes. Someone who is physically attractive causes a heated feeling of desire and can be described as hot. It is this figurative expression that to have the hots (for) is likely referencing. You find the other person to be hot.

    old flame
    Love, sadly, does not always last forever. Someone you used to date or desire, but no longer do, can be described as an old flame. The word flame suggests you once may have had the hots for that person.

    carry a torch for
    Another fire-related idiom to describe love is carry a torch (for). If you are carrying a torch for someone, you still have love for them even though the relationship is over and may have ended a long time ago. It’s often advised that you should not carry a torch for someone who doesn’t love you back, but it’s easier said than done. Interestingly, this idiom might be linked to the term torch song, which in the early 1900s referred to a sad love song.

    tie the knot
    When two people get married, one idiom to describe this rite of passage is tying the knot. The expression dates to the 1700s. This idiom has quite a literal origin. It refers to the ancient Celtic practice of handfasting, when a cord or ribbon is used to bind the hands of the two betrotheds together in a symbol of their marriage.

    get hitched
    Another informal expression for describing marriage is to get hitched. To hitch means “to fasten oneself to something.” If two people are getting hitched, it means they are, figuratively, fastening themselves together.

    whisper sweet nothings
    When you are lying in bed with the person you love, they may whisper sweet nothings in your ear. The expression sweet nothings refers to the kind of nonsensical, sappy things that lovers will say to one another. Another word to describe this kind of dopey language is sweet talk.

    lovey-dovey
    A couple that is particularly affectionate with each other can be described as lovey-dovey. The origins of this phrase are a little obscure. It is possible that dove, as in the bird also known as a pigeon, simply rhymes well with love. Another possible explanation is that doves are particularly affectionate towards their mates and are used as a symbol for love. Whatever the origin, when two people act all lovey-dovey, they are really in love.

    better half
    One concept of love is that the person you love “completes” you; you are “half a person” without them. This notion is what is illustrated in the expression better half. This is most often used to describe one’s spouse.

    those three little words
    A confession of love can change everything about a relationship—especially if these three words are involved: I. Love. You. The expression those three little words or those three small words refers specifically to the sentence “I love you.”

    my person
    Sometimes labeling a relationship can be tricky. The phrase my person, popularized by the long-running medical drama Grey’s Anatomy, describes someone who is a close partner but may not be a spouse. It implies that two people belong together, even if the relationship is not formalized.

    ride or die
    Ride or die is a colloquial expression describing extreme loyalty, such as you would have between two people who love each other. The term comes from modern hip-hop in reference to the legendary outlaws Bonnie and Clyde. It can function as a noun (as in she’s my ride or die) or a verb (we would ride or die for each other).

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Idioms To Express Your Feelings With All Your Heart There are many ways to talk about that feeling you get when you’re romantically attracted to someone. The go-to word is love, but that little word has to do a lot of work to communicate such a deep feeling that can also have many shades of meaning. Luckily for all of us, the English language has lots of idioms, or figurative expressions, to help us describe our affections more vividly. Whether you’re trying to pen the perfect message for Valentine’s Day or hoping to win over the cutie you just met, these idioms might be just what you need to reveal what’s in your heart! head over heels Ever been so in love that the object of your affections is all you can think about? Then you were head over heels for them. The idiom head over heels describes the action of falling down or doing a somersault. (Originally the expression was heels over head, but it, well, flipped during the 1700s.) In other words, if you are head over heels for someone, you are thoroughly in love with them. apple of one’s eye Someone or something that is special to you is the apple of your eye. What is so special about apples? Historically, the apple of the eye was an idiom that simply described the pupil, or black aperture in the eyeball. In ancient times, it was believed that the pupil was a hard round object, like an apple. The apple of one’s eye came to be associated with a particular object of affection or focus by the early 1800s, possibly because one’s pupil is associated with sight—and gazing fondly at someone. love you to the moon and back What is the farthest distance you can imagine from where you are right now? Probably somewhere in outer space, right? That is the thinking behind the hyperbolic expression love you to the moon and back: you love them as much as you can possibly imagine loving someone. While the origins of this expression are a little obscure, it may have been inspired by the moon race in the 1960s. At any rate, the meaning is clear. If you love someone to the moon and back, you really love them a lot. puppy love If the notion of puppy love sounds adorable, that’s because it often is. A puppy is a young dog, and puppy love is something typically associated with young people, particularly teenagers (or someone acting like a teenager). Puppy love describes a “temporary infatuation of a young person for another person.” The temporary part is important here—often young people will fall in and out of love very quickly. lovebirds The word lovebirds is another animal-inspired idiom used to describe a couple. Lovebirds are small parrots, particularly Agapornis, that live as bonded pairs. So the word lovebirds can describe couples who display similar behavior, acting affectionately towards each other. take one’s breath away If the mere sight of someone sets the world spinning, you could say that person takes your breath away. The expression is not only used to describe love, but any strong emotion of astonishment or shock. Take one’s breath away refers to that moment when people hold their breath while experiencing strong emotions. to have butterflies in one’s stomach The object of your affections might inspire a sensation that can be described as having butterflies in one’s stomach. Imagine if you actually had a bunch of butterflies in your tummy—it would probably feel kind of strange and fluttery. This idiom can refer to anything that makes you nervous, whether that’s someone you have a crush on or a big speech. have the hots (for) Affection is not always about love—sexual attraction can be an important component of that emotion as well. That’s what the expression to have the hots (for someone) describes. Someone who is physically attractive causes a heated feeling of desire and can be described as hot. It is this figurative expression that to have the hots (for) is likely referencing. You find the other person to be hot. old flame Love, sadly, does not always last forever. Someone you used to date or desire, but no longer do, can be described as an old flame. The word flame suggests you once may have had the hots for that person. carry a torch for Another fire-related idiom to describe love is carry a torch (for). If you are carrying a torch for someone, you still have love for them even though the relationship is over and may have ended a long time ago. It’s often advised that you should not carry a torch for someone who doesn’t love you back, but it’s easier said than done. Interestingly, this idiom might be linked to the term torch song, which in the early 1900s referred to a sad love song. tie the knot When two people get married, one idiom to describe this rite of passage is tying the knot. The expression dates to the 1700s. This idiom has quite a literal origin. It refers to the ancient Celtic practice of handfasting, when a cord or ribbon is used to bind the hands of the two betrotheds together in a symbol of their marriage. get hitched Another informal expression for describing marriage is to get hitched. To hitch means “to fasten oneself to something.” If two people are getting hitched, it means they are, figuratively, fastening themselves together. whisper sweet nothings When you are lying in bed with the person you love, they may whisper sweet nothings in your ear. The expression sweet nothings refers to the kind of nonsensical, sappy things that lovers will say to one another. Another word to describe this kind of dopey language is sweet talk. lovey-dovey A couple that is particularly affectionate with each other can be described as lovey-dovey. The origins of this phrase are a little obscure. It is possible that dove, as in the bird also known as a pigeon, simply rhymes well with love. Another possible explanation is that doves are particularly affectionate towards their mates and are used as a symbol for love. Whatever the origin, when two people act all lovey-dovey, they are really in love. better half One concept of love is that the person you love “completes” you; you are “half a person” without them. This notion is what is illustrated in the expression better half. This is most often used to describe one’s spouse. those three little words A confession of love can change everything about a relationship—especially if these three words are involved: I. Love. You. The expression those three little words or those three small words refers specifically to the sentence “I love you.” my person Sometimes labeling a relationship can be tricky. The phrase my person, popularized by the long-running medical drama Grey’s Anatomy, describes someone who is a close partner but may not be a spouse. It implies that two people belong together, even if the relationship is not formalized. ride or die Ride or die is a colloquial expression describing extreme loyalty, such as you would have between two people who love each other. The term comes from modern hip-hop in reference to the legendary outlaws Bonnie and Clyde. It can function as a noun (as in she’s my ride or die) or a verb (we would ride or die for each other). Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • Special Words To Describe Someone You Love

    There are so many reasons why we love and value the people in our lives, but sometimes it can be hard to find the right words to describe just what it is that makes those people so special. If you’re working on the ultimate love letter, preparing a special birthday toast, or even just talking someone up to a friend, you don’t want to fall back on broad terms like funny, kind, or cute. That’s the time to say what you really mean.

    Talking about the people you love might mean talking about a significant other, but it can also mean describing a friend, parent, sibling, or other special person, too. No matter who you’re trying to describe or shower with praise, here are some handy alternatives to the most overused words to use when talking about someone you love.


    Other ways to say: talented

    Celebrating someone’s talent is usually a welcome compliment, but talent describes a pretty broad pool of qualities, abilities, and skills. What does that special person really excel at that makes them so, well, special? Here are a few other options to try.

    accomplished
    Accomplished is the word to use when someone is “highly skilled” or even “expert” at something. It demonstrates appreciation not only for their skills, but also for the time, energy, and hard work they put into acquiring those skills.

    artistic
    You can call someone artistic as a way of complimenting their skill and execution in art or their excellent taste and style. Someone who’s artistic likely has a unique, creative approach to many things, and this word calls that out.

    capable
    Have you ever been around someone who just seems to be good at everything? Those people are highly capable, which means “having power and ability; efficient; competent.”

    inspirational
    Sometimes a person’s gift is inspiring others around them to shine as well. Calling someone inspirational says they don’t just do great things, but they also motivate the people around them just by being who they are.

    brilliant
    Brilliant is the right word for someone you see as “shining brightly; sparkling; glittery; lustrous.” It might describe their distinguished abilities in one particular area or their bold and awe-inspiring approach to everything.


    Other ways to say: kind

    Kindness is an important quality, and a great way to acknowledge someone’s kindness is by pointing out all of the specific and meaningful ways they express it. Here are some words to do that.

    affectionate
    Affectionate means “showing, indicating, or characterized by affection or love; fondly tender.” Some people are more affectionate than others, so if someone’s outward displays of affection mean a lot to you, use this word to let them know it.

    considerate
    Considerate is the word to use for someone who is always looking out for other people’s feelings, performing small acts of kindness, or putting thoughtfulness on display on a regular basis.

    big-hearted
    Someone who is big-hearted is generous and kind. You might love a big-hearted person if you see that your special someone is always thinking about what they can do to show care and concern for others.

    friendly
    Sometimes being kind means treating everyone like a friend. Friendly people are “favorably disposed; inclined to approve, help, support.” It’s a way of explaining that your loved one isn’t just kind, but they also never hesitate to lend a hand or a shoulder to lean on.

    gentle
    Gentle is another way of saying “kindly” or “amiable.” Someone who could be described as gentle isn’t just nice, but is also likely a calm, compassionate, and steady figure in your life.


    Other ways to say: attractive

    Looks aren’t everything, but there’s nothing wrong with finding a few fresh ways to let people know they’re looking great. Rather than pulling out a bland word like attractive, here are some other options that get to the heart of what really draws you to someone.

    alluring
    Alluring doesn’t just mean someone is nice looking. It also means they have a charisma or charm that draws you towards them. Someone who is alluring is “very attractive or tempting; enticing; seductive.”

    elegant
    Whether it’s a special occasion or you admire someone’s style and grace every day, elegant is a word to use when describing someone who is “tastefully fine or luxurious in dress, style, design, etc.”

    bewitching
    Does someone in your life just have that special “it” factor that makes people want to be around them? They could be described as bewitching. This magical sounding word means “enchanting, charming, fascinating.”

    charming
    When someone is delightful or pleasing to be around, it’s usually because they’re charming. Someone might have charming good looks, but charming also extends to their sparkling personality and the way they make people feel in their presence.

    lovely
    Isn’t he or she lovely? This adjective means “charmingly or exquisitely beautiful.” It’s the perfect word to describe someone who is lovely in looks but also wonderful to spend time with.


    Other ways to say: funny

    A sense of humor is a great quality, but there are so many ways to be funny. Is the person more of a George Carlin, an Ali Wong, or a Jim Gaffigan? Here are some words to talk about the funny people in your life.

    playful
    If someone’s specialty is keeping things light and always finding humor in people and situations, you might describe them as playful. It literally means “full of play or fun.”

    whimsical
    A childlike or even off-the-wall sense of humor might be called whimsical. This word means “given to whimsy or fanciful notions; capricious.” Think: Robin Williams.

    clever
    Some people always know the right thing to say. You might describe them as being clever. These quick thinkers always find a way to get laughs by being both charming and bright.

    hilarious
    Hilarious means “arousing great merriment; extremely funny,” and it’s reserved for the people who are truly laugh-out-loud funny. These folks might be the life of the party or they might reserve their best jokes just for you. Either way, the fun never stops.

    witty
    Someone who is witty sees the world a little differently, and their sharp observations and clever comebacks can be very entertaining. They also might be funny in several mediums. Witty means “possessing wit in speech or writing; amusingly clever in perception and expression.”


    Other ways to say: smart

    If you value intelligence, then you’ll probably also value having more than one way to talk about it. Pull out one of these bonus words when describing the brainiacs in your life.

    astute
    If someone wows you with their keen perceptions and spot-on observations, you could say they’re astute. This word describes people who are shrewd, intelligent, and always the first to connect the dots.

    crafty
    While crafty can mean that someone is great with a sewing machine, it also means “cunning; deceitful; sly.” This doesn’t mean a crafty loved one is up to no good. It just means you want them on your team on game night.

    wise
    Wise describes the person you go to for advice, support, and to talk about the deep stuff. Wise means “having the power of discerning and judging properly as to what is true or right.” These people are like the lighthouses in the storms of life.

    shrewd
    If that special person in your life always knows how to get the best deals or how to convince people to be on their side, they might be shrewd. Shrewd means “cunning or tricky; artful,” and it’s a word for people who know how to use their deep intelligence to their advantage.

    bright
    No, we don’t mean the person you love is shining like a light bulb. Bright means “quick-witted or intelligent.” It’s a word that describes people who have many skills, catch on quickly, and are always capable of learning something new.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Special Words To Describe Someone You Love There are so many reasons why we love and value the people in our lives, but sometimes it can be hard to find the right words to describe just what it is that makes those people so special. If you’re working on the ultimate love letter, preparing a special birthday toast, or even just talking someone up to a friend, you don’t want to fall back on broad terms like funny, kind, or cute. That’s the time to say what you really mean. Talking about the people you love might mean talking about a significant other, but it can also mean describing a friend, parent, sibling, or other special person, too. No matter who you’re trying to describe or shower with praise, here are some handy alternatives to the most overused words to use when talking about someone you love. Other ways to say: talented Celebrating someone’s talent is usually a welcome compliment, but talent describes a pretty broad pool of qualities, abilities, and skills. What does that special person really excel at that makes them so, well, special? Here are a few other options to try. accomplished Accomplished is the word to use when someone is “highly skilled” or even “expert” at something. It demonstrates appreciation not only for their skills, but also for the time, energy, and hard work they put into acquiring those skills. artistic You can call someone artistic as a way of complimenting their skill and execution in art or their excellent taste and style. Someone who’s artistic likely has a unique, creative approach to many things, and this word calls that out. capable Have you ever been around someone who just seems to be good at everything? Those people are highly capable, which means “having power and ability; efficient; competent.” inspirational Sometimes a person’s gift is inspiring others around them to shine as well. Calling someone inspirational says they don’t just do great things, but they also motivate the people around them just by being who they are. brilliant Brilliant is the right word for someone you see as “shining brightly; sparkling; glittery; lustrous.” It might describe their distinguished abilities in one particular area or their bold and awe-inspiring approach to everything. Other ways to say: kind Kindness is an important quality, and a great way to acknowledge someone’s kindness is by pointing out all of the specific and meaningful ways they express it. Here are some words to do that. affectionate Affectionate means “showing, indicating, or characterized by affection or love; fondly tender.” Some people are more affectionate than others, so if someone’s outward displays of affection mean a lot to you, use this word to let them know it. considerate Considerate is the word to use for someone who is always looking out for other people’s feelings, performing small acts of kindness, or putting thoughtfulness on display on a regular basis. big-hearted Someone who is big-hearted is generous and kind. You might love a big-hearted person if you see that your special someone is always thinking about what they can do to show care and concern for others. friendly Sometimes being kind means treating everyone like a friend. Friendly people are “favorably disposed; inclined to approve, help, support.” It’s a way of explaining that your loved one isn’t just kind, but they also never hesitate to lend a hand or a shoulder to lean on. gentle Gentle is another way of saying “kindly” or “amiable.” Someone who could be described as gentle isn’t just nice, but is also likely a calm, compassionate, and steady figure in your life. Other ways to say: attractive Looks aren’t everything, but there’s nothing wrong with finding a few fresh ways to let people know they’re looking great. Rather than pulling out a bland word like attractive, here are some other options that get to the heart of what really draws you to someone. alluring Alluring doesn’t just mean someone is nice looking. It also means they have a charisma or charm that draws you towards them. Someone who is alluring is “very attractive or tempting; enticing; seductive.” elegant Whether it’s a special occasion or you admire someone’s style and grace every day, elegant is a word to use when describing someone who is “tastefully fine or luxurious in dress, style, design, etc.” bewitching Does someone in your life just have that special “it” factor that makes people want to be around them? They could be described as bewitching. This magical sounding word means “enchanting, charming, fascinating.” charming When someone is delightful or pleasing to be around, it’s usually because they’re charming. Someone might have charming good looks, but charming also extends to their sparkling personality and the way they make people feel in their presence. lovely Isn’t he or she lovely? This adjective means “charmingly or exquisitely beautiful.” It’s the perfect word to describe someone who is lovely in looks but also wonderful to spend time with. Other ways to say: funny A sense of humor is a great quality, but there are so many ways to be funny. Is the person more of a George Carlin, an Ali Wong, or a Jim Gaffigan? Here are some words to talk about the funny people in your life. playful If someone’s specialty is keeping things light and always finding humor in people and situations, you might describe them as playful. It literally means “full of play or fun.” whimsical A childlike or even off-the-wall sense of humor might be called whimsical. This word means “given to whimsy or fanciful notions; capricious.” Think: Robin Williams. clever Some people always know the right thing to say. You might describe them as being clever. These quick thinkers always find a way to get laughs by being both charming and bright. hilarious Hilarious means “arousing great merriment; extremely funny,” and it’s reserved for the people who are truly laugh-out-loud funny. These folks might be the life of the party or they might reserve their best jokes just for you. Either way, the fun never stops. witty Someone who is witty sees the world a little differently, and their sharp observations and clever comebacks can be very entertaining. They also might be funny in several mediums. Witty means “possessing wit in speech or writing; amusingly clever in perception and expression.” Other ways to say: smart If you value intelligence, then you’ll probably also value having more than one way to talk about it. Pull out one of these bonus words when describing the brainiacs in your life. astute If someone wows you with their keen perceptions and spot-on observations, you could say they’re astute. This word describes people who are shrewd, intelligent, and always the first to connect the dots. crafty While crafty can mean that someone is great with a sewing machine, it also means “cunning; deceitful; sly.” This doesn’t mean a crafty loved one is up to no good. It just means you want them on your team on game night. wise Wise describes the person you go to for advice, support, and to talk about the deep stuff. Wise means “having the power of discerning and judging properly as to what is true or right.” These people are like the lighthouses in the storms of life. shrewd If that special person in your life always knows how to get the best deals or how to convince people to be on their side, they might be shrewd. Shrewd means “cunning or tricky; artful,” and it’s a word for people who know how to use their deep intelligence to their advantage. bright No, we don’t mean the person you love is shining like a light bulb. Bright means “quick-witted or intelligent.” It’s a word that describes people who have many skills, catch on quickly, and are always capable of learning something new. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Commonwealth” vs. “State”: Which One Do You Reside In?

    It’s common knowledge that there are 50 states in the United States of America—and you might even be able to name them all—but did you know that four of them are technically considered commonwealths?

    You might even live in one of these four and not even know it. Read on to find out if you do, and if so, what that means for how your state—sorry, your commonwealth—is governed. We’ll also try to clear up the state of confusion by sharing our wealth of knowledge about what commonwealth means in other contexts.

    Quick summary

    Pennsylvania, Kentucky, Virginia, and Massachusetts are commonly referred to as states, but they are actually legally designated as commonwealths. But the difference is only in the name—being a commonwealth doesn’t entail any legal or governmental differences from the other 46 states.

    What does commonwealth mean?

    Commonwealth has several different meanings (and it is often capitalized). It can refer to a federation of states (Australia is designated as a Commonwealth in this way), a self-governing US territory (Puerto Rico and the Northern Mariana Islands are designated as Commonwealths in this way), or an association of nations (such as what’s known as the British Commonwealth or the Commonwealth of Nations). It can also be used in more general ways, such as to refer to the body of people of a nation or any group of people united by some common interest. Commonwealth combines the word common and wealth (as in “the condition of being happy and prosperous”).

    But in the context of the US and its 50 states, the word commonwealth is simply used as another word for state in the official names of four states in particular.

    Which states are commonwealths?

    Four US states are technically designated as commonwealths: Pennsylvania (admitted to the union December 12, 1787), Massachusetts (February 6, 1788), Virginia (June 25, 1788), and Kentucky (June 1, 1792). The first three were among the original 13 colonies (Kentucky was part of Virginia until it became the 15th state). All four use the word commonwealth in their official name: the Commonwealth of Pennsylvania, the Commonwealth of Massachusetts, the Commonwealth of Virginia, and the Commonwealth of Kentucky.

    You might have noticed that we’ve called the four of them states, and, frankly, so does just about everyone else—including their residents. After all, we usually say that the US has 50 states (not 46 states and four commonwealths).

    So what does this mean in practical terms? What sets commonwealths apart from other states?

    What is the difference between a state and a commonwealth?

    Other than the name, there really is no legal or governmental difference between states known as states and states known as commonwealths. The word commonwealth was simply the word chosen as the official designation of each of them as a political entity—and the one used in official founding documents like the state constitution (it’s typically understood to imply that the commonwealth was founded through the common will of the people and for the common good). In fact, the word state is also often used in such documents without any distinction.

    In addition, the states of Vermont and Delaware use both commonwealth and state in official documents.

    How to use commonwealth vs. state

    \When it comes to Pennsylvania, Kentucky, Virginia, and Massachusetts, the word commonwealth is really only used in the context of their official names in official documents—or as a bit of good trivia. In general, all four are most commonly called states.

    In other contexts, the word commonwealth may have more importance or entail a legal distinction. For example, because Puerto Rico is a Commonwealth territory of the US, its citizens are US citizens, but they do not have all the legal rights of the citizens of US states.

    Examples of commonwealth and state used in a sentence

    Equality of rights under the law shall not be denied or abridged in the Commonwealth of Pennsylvania because of the race or ethnicity of the individual.
    The Commonwealth of Kentucky was admitted into the Union as the 15th state in 1792.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    “Commonwealth” vs. “State”: Which One Do You Reside In? It’s common knowledge that there are 50 states in the United States of America—and you might even be able to name them all—but did you know that four of them are technically considered commonwealths? You might even live in one of these four and not even know it. Read on to find out if you do, and if so, what that means for how your state—sorry, your commonwealth—is governed. We’ll also try to clear up the state of confusion by sharing our wealth of knowledge about what commonwealth means in other contexts. Quick summary Pennsylvania, Kentucky, Virginia, and Massachusetts are commonly referred to as states, but they are actually legally designated as commonwealths. But the difference is only in the name—being a commonwealth doesn’t entail any legal or governmental differences from the other 46 states. What does commonwealth mean? Commonwealth has several different meanings (and it is often capitalized). It can refer to a federation of states (Australia is designated as a Commonwealth in this way), a self-governing US territory (Puerto Rico and the Northern Mariana Islands are designated as Commonwealths in this way), or an association of nations (such as what’s known as the British Commonwealth or the Commonwealth of Nations). It can also be used in more general ways, such as to refer to the body of people of a nation or any group of people united by some common interest. Commonwealth combines the word common and wealth (as in “the condition of being happy and prosperous”). But in the context of the US and its 50 states, the word commonwealth is simply used as another word for state in the official names of four states in particular. Which states are commonwealths? Four US states are technically designated as commonwealths: Pennsylvania (admitted to the union December 12, 1787), Massachusetts (February 6, 1788), Virginia (June 25, 1788), and Kentucky (June 1, 1792). The first three were among the original 13 colonies (Kentucky was part of Virginia until it became the 15th state). All four use the word commonwealth in their official name: the Commonwealth of Pennsylvania, the Commonwealth of Massachusetts, the Commonwealth of Virginia, and the Commonwealth of Kentucky. You might have noticed that we’ve called the four of them states, and, frankly, so does just about everyone else—including their residents. After all, we usually say that the US has 50 states (not 46 states and four commonwealths). So what does this mean in practical terms? What sets commonwealths apart from other states? What is the difference between a state and a commonwealth? Other than the name, there really is no legal or governmental difference between states known as states and states known as commonwealths. The word commonwealth was simply the word chosen as the official designation of each of them as a political entity—and the one used in official founding documents like the state constitution (it’s typically understood to imply that the commonwealth was founded through the common will of the people and for the common good). In fact, the word state is also often used in such documents without any distinction. In addition, the states of Vermont and Delaware use both commonwealth and state in official documents. How to use commonwealth vs. state \When it comes to Pennsylvania, Kentucky, Virginia, and Massachusetts, the word commonwealth is really only used in the context of their official names in official documents—or as a bit of good trivia. In general, all four are most commonly called states. In other contexts, the word commonwealth may have more importance or entail a legal distinction. For example, because Puerto Rico is a Commonwealth territory of the US, its citizens are US citizens, but they do not have all the legal rights of the citizens of US states. Examples of commonwealth and state used in a sentence Equality of rights under the law shall not be denied or abridged in the Commonwealth of Pennsylvania because of the race or ethnicity of the individual. The Commonwealth of Kentucky was admitted into the Union as the 15th state in 1792. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • รรท.ผบ.ตร. ยันตำรวจทำงานเชิงรุก ล่าตัว 14 ผู้ต้องหาคดีตากใบ ก่อนคดีหมดอายุความในอีก 14 วัน ย้ำชัดไม่มีละเว้นใคร แม้ตำแหน่งสูงก็ตาม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097439

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รรท.ผบ.ตร. ยันตำรวจทำงานเชิงรุก ล่าตัว 14 ผู้ต้องหาคดีตากใบ ก่อนคดีหมดอายุความในอีก 14 วัน ย้ำชัดไม่มีละเว้นใคร แม้ตำแหน่งสูงก็ตาม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097439 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    Yay
    21
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 705 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚙 จอกลาง i-Drive X5 F15 สภาพสวยๆใหม่ๆ จากญี่ปุ่นครับ 🇯🇵💯% 14,500 ฿

    #อะไหล่BMW #อะไหล่แท้BMWมือสอง #อะไหล่BMWX1X3X4X5X6 #x5 #f15 #จอกลางidrive

    บอย 📲 08-1405-2424 🙏🙏🙏
    🆔 http://line.me/ti/p/~boympower
    id line สำรอง :0811313030
    ib: m.me/boympower
    🚙 จอกลาง i-Drive X5 F15 สภาพสวยๆใหม่ๆ จากญี่ปุ่นครับ 🇯🇵💯% 14,500 ฿ #อะไหล่BMW #อะไหล่แท้BMWมือสอง #อะไหล่BMWX1X3X4X5X6 #x5 #f15 #จอกลางidrive บอย 📲 08-1405-2424 🙏🙏🙏 🆔 http://line.me/ti/p/~boympower id line สำรอง :0811313030 ib: m.me/boympower
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองโฆษก ตร.เผยจ่อขอศาลออกหมายจับทีม “บิ๊กบอสดิไอคอนกรุ๊ป” พบพิรุธขายสินค้าแค่ 15 รายการ กลับโกยรายได้ถึง 5 พันล้านบาทต่อปี เตรียมหารือ “ดีเอสไอ” ยกเป็นคดีพิเศษ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097380

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รองโฆษก ตร.เผยจ่อขอศาลออกหมายจับทีม “บิ๊กบอสดิไอคอนกรุ๊ป” พบพิรุธขายสินค้าแค่ 15 รายการ กลับโกยรายได้ถึง 5 พันล้านบาทต่อปี เตรียมหารือ “ดีเอสไอ” ยกเป็นคดีพิเศษ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097380 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 756 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เมียหรั่ง" โผล่ให้ปากคำตำรวจ ปคบ.ตามหมายเรียกคดี "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" หลอกขายทองออนไลน์ ยังไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097311

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "เมียหรั่ง" โผล่ให้ปากคำตำรวจ ปคบ.ตามหมายเรียกคดี "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" หลอกขายทองออนไลน์ ยังไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097311 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 783 มุมมอง 0 รีวิว
  • "วิษณุ" ปัดช่วย “ทักษิณ” ได้อยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ หลัง “สนธิ” ปูดอยู่เบื้องหลัง อ้างวันนั้นอยู่บ้านดึกแล้วประมาณเที่ยงคืน มี จนท.ราชทัณฑ์โทรแจ้งว่า "ทักษิณ" ป่วยหนัก ส่ง รพ.ตำรวจแล้ว คิดว่าอยู่แค่ 2-3 วัน

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000097204

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "วิษณุ" ปัดช่วย “ทักษิณ” ได้อยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ หลัง “สนธิ” ปูดอยู่เบื้องหลัง อ้างวันนั้นอยู่บ้านดึกแล้วประมาณเที่ยงคืน มี จนท.ราชทัณฑ์โทรแจ้งว่า "ทักษิณ" ป่วยหนัก ส่ง รพ.ตำรวจแล้ว คิดว่าอยู่แค่ 2-3 วัน อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000097204 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    17
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 932 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่างนี้มันเสียชื่อประเทศไทยไหม!!
    แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ X เขียนตำแหน่งผู้นำจีนผิดพลาดอย่างแรงว่า
    “ในระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนที่เวียงจันทน์ ดิฉันได้มีโอกาสพบกับท่าน
    ประธานาธิบดีหลี่เฉียงของจีน และได้แสดงความยินดีที่ไทยและจีนจะเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีหน้า เป็นโอกาสที่จะยิ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน และ กิจกรรมอีกมากมาย ไทยและจีนเป็นมิตรที่ใกล้ชิด และมีความตั้งใจร่วมกันในการส่งเสริมความมั่นคง และความมั่งคั่งของภูมิภาค

    During the ASEAN Summits in Vientiane, I had the opportunity to meet with President Li Qiang of China and looked forward to our celebration of the 50th anniversary of the establishment of Thai-China diplomatic relations…“

    นายกฯอุ๊งอิ้งค์เขียนโดยขาดการศึกษาความรู้ว่า ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนมาสิบปีจนถึงปัจจุบันคือ สี จิ้นผิง ขณะที่นายหลี่ เฉียง เป็นนายกรัฐมนตรีจีน ที่นายกฯฟันน้ำนมไทยจับมือด้วยดังในภาพที่ปรากฏต่อสาธารณชน

    โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง..
    “President”คือประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
    ”Prime Minister “คือ นายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง

    #Thaitimes
    อย่างนี้มันเสียชื่อประเทศไทยไหม!! แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ X เขียนตำแหน่งผู้นำจีนผิดพลาดอย่างแรงว่า “ในระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนที่เวียงจันทน์ ดิฉันได้มีโอกาสพบกับท่าน ประธานาธิบดีหลี่เฉียงของจีน และได้แสดงความยินดีที่ไทยและจีนจะเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีหน้า เป็นโอกาสที่จะยิ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน และ กิจกรรมอีกมากมาย ไทยและจีนเป็นมิตรที่ใกล้ชิด และมีความตั้งใจร่วมกันในการส่งเสริมความมั่นคง และความมั่งคั่งของภูมิภาค During the ASEAN Summits in Vientiane, I had the opportunity to meet with President Li Qiang of China and looked forward to our celebration of the 50th anniversary of the establishment of Thai-China diplomatic relations…“ นายกฯอุ๊งอิ้งค์เขียนโดยขาดการศึกษาความรู้ว่า ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนมาสิบปีจนถึงปัจจุบันคือ สี จิ้นผิง ขณะที่นายหลี่ เฉียง เป็นนายกรัฐมนตรีจีน ที่นายกฯฟันน้ำนมไทยจับมือด้วยดังในภาพที่ปรากฏต่อสาธารณชน โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง.. “President”คือประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ”Prime Minister “คือ นายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง #Thaitimes
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 ตุลาคม 2567-Live รายการเคาะไข่ใส่ข่าว วันนี้พี่โสภณ องค์การณ์ป่วย ขอให้หายป่วยเป็นปกติสุขโดยเร็ว

    https://www.youtube.com/live/up3zsOVETv4?si=eJfcwk988skVYbwR

    #Thaitimes
    11 ตุลาคม 2567-Live รายการเคาะไข่ใส่ข่าว วันนี้พี่โสภณ องค์การณ์ป่วย ขอให้หายป่วยเป็นปกติสุขโดยเร็ว https://www.youtube.com/live/up3zsOVETv4?si=eJfcwk988skVYbwR #Thaitimes
    Love
    Like
    6
    6 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจาะลึกต้นตอ บัสมรณะ ระเบิดติดล้อ Ep263 (live)
    เจาะลึกต้นตอ บัสมรณะ ระเบิดติดล้อ Ep263 (live)
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sondhi Talk - เจาะลึกต้นตอ บัสมรณะ ระเบิดติดล้อ Ep263 (live)
    .
    เรื่องนี้ใกล้ตัวเรามาก แต่ไม่มีสื่อที่ไหนเล่าถึงความจริงเรื่องที่มาที่ไปของการรณรงค์ให้รสบัส-รถโดยสารใครเชื้อเพลิง NGV และจุดบกพร่องที่สำคัญมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ทำให้บรรดารถโดยสารในปัจจุบันไม่ต่างอะไรไปจาก "ระเบิดติดล้อ" เลยแม้แต่น้อย
    .
    คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=uWARG-mskhA
    Sondhi Talk - เจาะลึกต้นตอ บัสมรณะ ระเบิดติดล้อ Ep263 (live) . เรื่องนี้ใกล้ตัวเรามาก แต่ไม่มีสื่อที่ไหนเล่าถึงความจริงเรื่องที่มาที่ไปของการรณรงค์ให้รสบัส-รถโดยสารใครเชื้อเพลิง NGV และจุดบกพร่องที่สำคัญมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ทำให้บรรดารถโดยสารในปัจจุบันไม่ต่างอะไรไปจาก "ระเบิดติดล้อ" เลยแม้แต่น้อย . คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=uWARG-mskhA
    Like
    Sad
    13
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 ตุลาคม 2567-SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep263 - 111067(live)
    -โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ บทเรียนราคาแพงที่เกิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ใครต้องรับผิดชอบ?
    -มลภาวะจากนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยางที่ไร้การจัดการจริงจังจากรัฐมนตรีอุตสาหกรรม เอกรัฐ
    -เรื่องของ ผู้ว่าแบงก์ชาติคนปัจจุบัน ที่ชื่อ คุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ หรือ ดร.นกและความจริงบางอย่าง ที่ผู้ชมอาจไม่เคยรับรู้รับทราบมาก่อน รวมไปถึงปัญหาค่าเงินบาทแข็ง แบงก์ชาติจะว่าอย่างไร
    -งานสายลับที่ประกาศผ่านโซเชียลแบบไม่ลับ!!!
    CIA เปิดรับสมัครคนรุ่นใหม่เข้าร่วมงานหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ คุณสมบัติง่ายนิดเดียว เพียงแค่เป็นคน “ชังชาติ” และเลวพอที่จะขายขอมูลของบ้านเกิดเมืองนอน

    ที่มา https://www.youtube.com/live/uWARG-mskhA?si=ZvyDf51hI54pgQUW

    #Thaitimes
    11 ตุลาคม 2567-SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep263 - 111067(live) -โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ บทเรียนราคาแพงที่เกิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ใครต้องรับผิดชอบ? -มลภาวะจากนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยางที่ไร้การจัดการจริงจังจากรัฐมนตรีอุตสาหกรรม เอกรัฐ -เรื่องของ ผู้ว่าแบงก์ชาติคนปัจจุบัน ที่ชื่อ คุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ หรือ ดร.นกและความจริงบางอย่าง ที่ผู้ชมอาจไม่เคยรับรู้รับทราบมาก่อน รวมไปถึงปัญหาค่าเงินบาทแข็ง แบงก์ชาติจะว่าอย่างไร -งานสายลับที่ประกาศผ่านโซเชียลแบบไม่ลับ!!! CIA เปิดรับสมัครคนรุ่นใหม่เข้าร่วมงานหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ คุณสมบัติง่ายนิดเดียว เพียงแค่เป็นคน “ชังชาติ” และเลวพอที่จะขายขอมูลของบ้านเกิดเมืองนอน ที่มา https://www.youtube.com/live/uWARG-mskhA?si=ZvyDf51hI54pgQUW #Thaitimes
    SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep263 - 111067(live)
    โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ บทเรียนราคาแพงที่เกิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ใครต้องรับผิดชอบ?


    #sondhitalk #sondhix #thaitimes #สนธิเล่าเรื่อง #สนธิทอล์ค #รถบัสมรณะ #ผู้ว่าแบงก์ชาติ #CIA
    Like
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 553 มุมมอง 1 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/uWARG-mskhA?si=6Lo500wYAGhq6rG-
    https://www.youtube.com/live/uWARG-mskhA?si=6Lo500wYAGhq6rG-
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep263 - 111067(live)
    โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ บทเรียนราคาแพงที่เกิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ใครต้องรับผิดชอบ?


    #sondhitalk #sondhix #thaitimes #สนธิเล่าเรื่อง #สนธิทอล์ค #รถบัสมรณะ #ผู้ว่าแบงก์ชาติ #CIA
    SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep263 - 111067(live) โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ บทเรียนราคาแพงที่เกิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ใครต้องรับผิดชอบ? #sondhitalk #sondhix #thaitimes #สนธิเล่าเรื่อง #สนธิทอล์ค #รถบัสมรณะ #ผู้ว่าแบงก์ชาติ #CIA
    Like
    Love
    Yay
    101
    12 ความคิดเห็น 14 การแบ่งปัน 1724 มุมมอง 5 รีวิว
  • การจัดการทางการเงิน

    ตอนที่ 4.
    ความมั่งคั่งวัดกันที่เวลา - มาดูกันว่าคุณมั่งคั่งแค่ไหนนี่คือสูตรคำนวณ ความมั่งคั่งจะเท่ากับเงินเก็บของคุณหารด้วยค่าใช้จ่ายต่อเดือนของคุณ ยกตัวอย่างเช่นคุณมีเงินเก็บ 100,000 บาท ค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท 100,000/20,000 = 5 แปลว่าคุณมีความมั่งคั่ง 5 เดือนครับ
    .
    ลองทายกันดูสิครับว่าคนรวยเขามั่งคั่งกันเท่าไหร่ หนึ่ง ปี สอง ปี 5 ปี 10 ปี คำตอบคือ อินฟินิตี้ คือตลอดไปเป็นไป ไปได้อย่างไรมาดูกัน รายได้ส่วนมากของคนรวยเป็น passive income เป็นรายได้ที่มาจากทรัพย์สินและถ้ามันมากกว่าการใช้จ่ายแปลว่าเขาจะมั่งคั่งตลอดไปครับ
    .
    ยกตัวอย่างเช่นถ้าคน หนึ่ง มี passive income เดือนละ หนึ่ง ล้านบาทจากเงินปันผล จากดอกเบี้ย จากค่าเช่าร่วมกันนะครับ เดือนละ หนึ่ง ล้านบาท แต่ว่าค่าใช้จ่ายเขาคือ 500,000 บาท เขาจะอยู่ได้นานแค่ไหนครับ คำตอบคือตลอดไป
    .
    Active income คือรายได้ที่เกิดจากการทำงานหากไม่ทำงานก็ไม่เกิดรายได้เช่น ค่าจ้าง เงินเดือนค่าคอมมิชชั่น รายได้จากการเปิดร้านค้า
    Passive income คือรายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินเช่น ค่าเช่า 5 ลิขสิทธิ์ เงินปันผล
    .
    ดอกเบี้ยตอนนี้ทุกคนคงเห็นความสำคัญของการลงทุนแล้วนะครับ แต่ก่อนที่เราจะไปคุยกันเรื่องของการลงทุน ผมมีคำถามครับ
    เป้าหมายการลงทุนของคุณคืออะไร
    คุณต้องการเท่าไหร่
    และอยากได้เมื่อไร ตอบได้ทันทีหรือเปล่า ขอแสดงความยินดีกับคนที่ตอบได้ทันทีนะครับคุณมีเป้าหมายชัดเจนดีแล้ว แต่ถ้าใครยังตอบไม่ได้ไม่เป็นไรครับเราตั้งเป้าหมายกันตอนนี้เลย ทำไมเราต้องตั้งเป้าหมายหลายคนรู้สึกเบื่อคำนี้แล้ว อย่าเบื่อเลยครับ เพราะเป้าหมายคือความชัดเจนคือคำตอบว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไร เราต้องการนำรายได้จากการลงทุนไปทำอะไรกันแน่ เมื่อรู้แล้วเราจะนำไปออกแบบวิธีการและเลือกเครื่องมือที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างถูกต้อง
    ดังนั้นตอนนี้เรามาตั้งเป้าหมายกันก่อน ถ้าเป้าหมายคุณชัดที่เหลือก็ชัด เราต้องออกแบบเป้าหมายกันอย่างชัดเจนอย่างละเอียดเลยครับหลายคนบอกว่าเป้าหมายคืออยากรวย ถ้าตอบแบบนี้ไม่พอนะครับ ต้องถามต่อว่าคำว่ารวยนั้นคือเท่าไหร่ เพราะคำว่ารวยของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนมี หนึ่ง ล้านคือรวย บางคนบอกต้องมีร้อยล้านถึงจะรวย บางคนบอกว่ามีเพียงพอกับการใช้ชีวิตอย่างสบายๆ แค่นี้ก็รวยแล้ว เห็นไหมว่าไม่เท่ากัน ถ้าเราไม่รู้คำตอบที่ชัดเจนเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรารวยแล้ว
    .
    ดังนั้นเราต้องมีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ชัดแจ๋วละเอียดเลยนะครับ เพราะการที่ไม่มีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน ก็เหมือนการยิงธนูโดยไม่มีปลายทางซึ่งไม่มีทางโดนอะไรเลยใช่ไหมครับ และต้องขอบอกอีกด้วยว่าไม่มีเป้าหมายแบบไหนที่ดีที่สุด มีแต่เป้าหมายที่ตอบโจทย์คุณที่สุด
    .
    ดังนั้นไม่ต้องถามผมว่าต้องตั้งเป้าหมายแบบไหนถึงจะดีเพราะคำถามนี้คุณต้องถามตัวคุณเองแล้วฟังคำตอบจากตัวคุณเองด้วยครับ และเป้าหมายของคุณไม่จำเป็นต้องเหมือนของคนอื่นนะครับ ถ้าตอนนี้ยังไม่ได้วางเป้าหมายเอาไว้เลยและคิดไม่ออกเลยว่าจะวางเป้าหมายอย่างไรด้วย ผมมีตัวอย่างการตั้งเป้าหมายมาฝาก ลองอ่านแล้วพิจารณาแล้วเลือกหรือจะนำมาปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของตัวเองดูครับ
    1. เงินเก็บที่เพียงพอ – จนทำให้สามารถเกษียณได้ เป้าหมายนี้เป็นเป้าหมายที่คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ต้องการ ถ้าคุณตั้งเป้าหมายข้อนี้คุณต้องตอบคำถามตัวเองว่าคุณจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่ และคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุเท่าไหร่ เราต้องคิดเรื่องนี้ไว้เพื่อวางแผนการเงินให้ชัดเจน แค่คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามนั้นจริงๆนะ เมื่อเราได้ตัวเลขอายุที่ต้องการเกษียณ และตัวเลขอายุขัยโดยประมาณ เราก็จะนำมาคำนวณตัวเลขง่ายๆเพื่อหาเป้าหมายในการลงทุนกัน
    ยกตัวอย่าง ถ้าคุณจะเกษียณตอนอายุ 60 ปีที่แล้วคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุ 90 ปี ลบเลขง่ายๆก็ใช้ชีวิตต 30 ปีหรือ 360 เดือนใช่ไหมครับ
    .
    สิ่งที่ต้องมาคิดกันต่อคือ 30 ปีที่เหลืออยู่นั้น ต้องการใช้เงินเดือนละเท่าไหร่เพื่อจะนำมาคำนวณหาเงินเก็บที่จะต้องมีก่อนวันเกษียณ
    ยกตัวอย่างเช่น
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 25,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 25,000 x 12 x 30 = 9 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 50,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 50,000 x 12 x 30 = 18 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 100,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 100,000 x 12 x 30 = 36 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 200,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 200,000 x 12 x 30 = 72 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 500,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 500,000 x 12 x 30 = 180 ล้านบาท
    อย่างนี้เป็นต้น อย่าลืมด้วยว่าตัวเลขนี้ยังไม่รวมเงินเฟ้อนะครับ เก็บไว้ไหมครับ
    .
    2. มีอิสรภาพทางการเงิน – คือการที่มีรายได้จาก passive income มากกว่าค่าใช้จ่ายนั่นเองครับ รายได้จาก passive income คืออะไร ต้องอธิบายก่อนว่ารายได้ของเราถูกแบ่งออกเป็น สอง ประเภทใหญ่ๆคือ active และ Passive income
    Active Income คือรายได้จากการทำงานที่ใช้แรงหรือเวลาของเราไปแลกกับรายได้ประเภทนี้มา เช่นค่าแรงเงินเดือนค่าคอมมิชชั่นเมื่อทำก็เกินรายได้แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่เกิดรายได้
    Passive income คือรายได้ที่มาจากทรัพย์สินที่สร้างรายได้ต่อเนื่องกลับมาให้เราเช่น บ้านให้เช่า อพาร์ทเม้นท์ ค่าลิขสิทธ์ดอกเบี้ยเงินฝากปันผล
    .
    รายได้จาก Passive income ควรมีเท่าไหร่ เราวัดได้จาก Wealth Ratio หรืออัตราส่วนความมั่งคั่งซึ่งยิ่งมากยิ่งดีมีวิธีการคำนวณดังนี้
    .
    อัตราส่วนความมั่งคั่ง = รายได้จากทรัพย์สิน/ค่าใช้จ่ายเช่น ถ้ามีรายจ่าย 50,000 บาท และมี Passive income 50,000 บาท
    อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 50,000/50,000 = 1
    หรือถ้ามีรายจ่าย 100,000 บาท และมี passive income 500,000 บาท
    อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 500,000/100,000 = 5
    จะเห็นได้ว่ายิ่งมีอัตราส่วนความมั่งคั่งที่ยิ่งมากก็ยิ่งดีนะครับ ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไร้ความกังวลเท่านั้น
    .
    3. Generational Wealth เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลัง
    เป้าหมายข้อนี้เหมือนเป้าหมายของผมครับ เราอาจตั้งเป้าหมายทางการเงินเป็นการสร้างแล้วส่งมอบต่อให้คนรุ่นหลังได้ ไม่ว่าจะเป็นลูก ล้าน องค์กรการกุศลหรือสาธารณประโยชน์ก็ได้ ถ้าคุณอยากจะส่งรายได้ต่อให้ผู้อื่นคุณจะต้องส่งต่อ Productive Asset หรือทรัพย์สินที่ผลิตเงินได้เช่นอสังหา ปล่อยเช่า หุ้นปันผล กองทุน ETF และส่งต่อความรู้ทางด้านการเงินด้วยนะครับ เพราะถ้าให้แค่เงินไม่ให้ความรู้ไม่ว่าจะมีมากเท่าไหร่ไม่นานก็หมด ต้องส่งทั้ง Mindset และ Skillset ให้เขา ความจริงแล้วแค่ให้ความรู้ทางด้านการเงินที่ถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องให้ทรัพย์สิน ไม่ให้รายได้ เค้าก็ 3 ารถหาเงินเองได้ สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองได้แล้ว แต่ถ้าให้ทรัพย์สินไปด้วยก็ยิ่งก็ยอดเยี่ยม
    .
    4. เป้าหมายแบบอื่นๆ - ได้อีกมากมายที่คุณ 3 ารถออกแบบขึ้นมาตามความต้องการของตัวเอง แต่ขั้นต่ำข้อ หนึ่ง ต้องทำให้ได้เท่าไม่ได้จะลำบากเลยนะครับแถมยังจะเป็นภาระให้คนอื่นด้วย ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างการวางเป้าหมายทางการลงทุนเพื่อให้คุณชัดเจนว่าต้องการอะไรจากการลงทุน ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร คุณต้องสร้าง แผนการและค้นหาวิธีการค้นหาเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายนั้นได้แล้วตั้งแต่วันนี้
    .
    เป้าหมายที่ไร้ซึ่งแผนการเป็นแค่ความฝัน – เหมือนเรามีเป้าหมายการเดินทางจากกรุงเทพฯจะไปเชียงใหม่เราจะขึ้นเครื่องบินไปก็ได้นั่งรถโดยสารไปก็ได้ขับรถไปเองก็ได้โบกรถไปก็ได้ใช่ไหม การเงินก็เช่นกัน เมื่อรู้เป้าหมายชัดเจนแล้ว เราก็ต้องมาวางแผนกันว่าจะไปถึงเป้าหมายทางการลงทุนนั้นด้วยเครื่องมืออะไร ซึ่งเครื่องมือที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั้นผมเตรียมมาให้ทั้งหมดแล้ว ค่อยๆอ่านทำความเข้าใจและเลือกเครื่องมือไปใช้ตามเป้าหมายของคุณ ไม่มีที่ดีกว่าหรือแย่กว่า และไม่มีเครื่องมือที่ผิดหรือถูกนะครับมีแต่คำตอบที่ตอบโจทย์คุณ ดังนั้นตอนนี้ลองเขียนเป้าหมายออกมาให้ชัดเจนก่อน โดยยังไม่ต้องกังวลถึงวิธีการ เพราะวิธีการนั้นมากมายและไม่ต้องไปหาที่ไหนผมรวบรวมมาให้ทั้งหมดแล้วครับ ไปเรียนรู้ต่อได้เลย
    .
    #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    การจัดการทางการเงิน ตอนที่ 4. ความมั่งคั่งวัดกันที่เวลา - มาดูกันว่าคุณมั่งคั่งแค่ไหนนี่คือสูตรคำนวณ ความมั่งคั่งจะเท่ากับเงินเก็บของคุณหารด้วยค่าใช้จ่ายต่อเดือนของคุณ ยกตัวอย่างเช่นคุณมีเงินเก็บ 100,000 บาท ค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท 100,000/20,000 = 5 แปลว่าคุณมีความมั่งคั่ง 5 เดือนครับ . ลองทายกันดูสิครับว่าคนรวยเขามั่งคั่งกันเท่าไหร่ หนึ่ง ปี สอง ปี 5 ปี 10 ปี คำตอบคือ อินฟินิตี้ คือตลอดไปเป็นไป ไปได้อย่างไรมาดูกัน รายได้ส่วนมากของคนรวยเป็น passive income เป็นรายได้ที่มาจากทรัพย์สินและถ้ามันมากกว่าการใช้จ่ายแปลว่าเขาจะมั่งคั่งตลอดไปครับ . ยกตัวอย่างเช่นถ้าคน หนึ่ง มี passive income เดือนละ หนึ่ง ล้านบาทจากเงินปันผล จากดอกเบี้ย จากค่าเช่าร่วมกันนะครับ เดือนละ หนึ่ง ล้านบาท แต่ว่าค่าใช้จ่ายเขาคือ 500,000 บาท เขาจะอยู่ได้นานแค่ไหนครับ คำตอบคือตลอดไป . Active income คือรายได้ที่เกิดจากการทำงานหากไม่ทำงานก็ไม่เกิดรายได้เช่น ค่าจ้าง เงินเดือนค่าคอมมิชชั่น รายได้จากการเปิดร้านค้า Passive income คือรายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินเช่น ค่าเช่า 5 ลิขสิทธิ์ เงินปันผล . ดอกเบี้ยตอนนี้ทุกคนคงเห็นความสำคัญของการลงทุนแล้วนะครับ แต่ก่อนที่เราจะไปคุยกันเรื่องของการลงทุน ผมมีคำถามครับ เป้าหมายการลงทุนของคุณคืออะไร คุณต้องการเท่าไหร่ และอยากได้เมื่อไร ตอบได้ทันทีหรือเปล่า ขอแสดงความยินดีกับคนที่ตอบได้ทันทีนะครับคุณมีเป้าหมายชัดเจนดีแล้ว แต่ถ้าใครยังตอบไม่ได้ไม่เป็นไรครับเราตั้งเป้าหมายกันตอนนี้เลย ทำไมเราต้องตั้งเป้าหมายหลายคนรู้สึกเบื่อคำนี้แล้ว อย่าเบื่อเลยครับ เพราะเป้าหมายคือความชัดเจนคือคำตอบว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไร เราต้องการนำรายได้จากการลงทุนไปทำอะไรกันแน่ เมื่อรู้แล้วเราจะนำไปออกแบบวิธีการและเลือกเครื่องมือที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นตอนนี้เรามาตั้งเป้าหมายกันก่อน ถ้าเป้าหมายคุณชัดที่เหลือก็ชัด เราต้องออกแบบเป้าหมายกันอย่างชัดเจนอย่างละเอียดเลยครับหลายคนบอกว่าเป้าหมายคืออยากรวย ถ้าตอบแบบนี้ไม่พอนะครับ ต้องถามต่อว่าคำว่ารวยนั้นคือเท่าไหร่ เพราะคำว่ารวยของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนมี หนึ่ง ล้านคือรวย บางคนบอกต้องมีร้อยล้านถึงจะรวย บางคนบอกว่ามีเพียงพอกับการใช้ชีวิตอย่างสบายๆ แค่นี้ก็รวยแล้ว เห็นไหมว่าไม่เท่ากัน ถ้าเราไม่รู้คำตอบที่ชัดเจนเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรารวยแล้ว . ดังนั้นเราต้องมีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ชัดแจ๋วละเอียดเลยนะครับ เพราะการที่ไม่มีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน ก็เหมือนการยิงธนูโดยไม่มีปลายทางซึ่งไม่มีทางโดนอะไรเลยใช่ไหมครับ และต้องขอบอกอีกด้วยว่าไม่มีเป้าหมายแบบไหนที่ดีที่สุด มีแต่เป้าหมายที่ตอบโจทย์คุณที่สุด . ดังนั้นไม่ต้องถามผมว่าต้องตั้งเป้าหมายแบบไหนถึงจะดีเพราะคำถามนี้คุณต้องถามตัวคุณเองแล้วฟังคำตอบจากตัวคุณเองด้วยครับ และเป้าหมายของคุณไม่จำเป็นต้องเหมือนของคนอื่นนะครับ ถ้าตอนนี้ยังไม่ได้วางเป้าหมายเอาไว้เลยและคิดไม่ออกเลยว่าจะวางเป้าหมายอย่างไรด้วย ผมมีตัวอย่างการตั้งเป้าหมายมาฝาก ลองอ่านแล้วพิจารณาแล้วเลือกหรือจะนำมาปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของตัวเองดูครับ 1. เงินเก็บที่เพียงพอ – จนทำให้สามารถเกษียณได้ เป้าหมายนี้เป็นเป้าหมายที่คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ต้องการ ถ้าคุณตั้งเป้าหมายข้อนี้คุณต้องตอบคำถามตัวเองว่าคุณจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่ และคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุเท่าไหร่ เราต้องคิดเรื่องนี้ไว้เพื่อวางแผนการเงินให้ชัดเจน แค่คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามนั้นจริงๆนะ เมื่อเราได้ตัวเลขอายุที่ต้องการเกษียณ และตัวเลขอายุขัยโดยประมาณ เราก็จะนำมาคำนวณตัวเลขง่ายๆเพื่อหาเป้าหมายในการลงทุนกัน ยกตัวอย่าง ถ้าคุณจะเกษียณตอนอายุ 60 ปีที่แล้วคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุ 90 ปี ลบเลขง่ายๆก็ใช้ชีวิตต 30 ปีหรือ 360 เดือนใช่ไหมครับ . สิ่งที่ต้องมาคิดกันต่อคือ 30 ปีที่เหลืออยู่นั้น ต้องการใช้เงินเดือนละเท่าไหร่เพื่อจะนำมาคำนวณหาเงินเก็บที่จะต้องมีก่อนวันเกษียณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 25,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 25,000 x 12 x 30 = 9 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 50,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 50,000 x 12 x 30 = 18 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 100,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 100,000 x 12 x 30 = 36 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 200,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 200,000 x 12 x 30 = 72 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 500,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 500,000 x 12 x 30 = 180 ล้านบาท อย่างนี้เป็นต้น อย่าลืมด้วยว่าตัวเลขนี้ยังไม่รวมเงินเฟ้อนะครับ เก็บไว้ไหมครับ . 2. มีอิสรภาพทางการเงิน – คือการที่มีรายได้จาก passive income มากกว่าค่าใช้จ่ายนั่นเองครับ รายได้จาก passive income คืออะไร ต้องอธิบายก่อนว่ารายได้ของเราถูกแบ่งออกเป็น สอง ประเภทใหญ่ๆคือ active และ Passive income Active Income คือรายได้จากการทำงานที่ใช้แรงหรือเวลาของเราไปแลกกับรายได้ประเภทนี้มา เช่นค่าแรงเงินเดือนค่าคอมมิชชั่นเมื่อทำก็เกินรายได้แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่เกิดรายได้ Passive income คือรายได้ที่มาจากทรัพย์สินที่สร้างรายได้ต่อเนื่องกลับมาให้เราเช่น บ้านให้เช่า อพาร์ทเม้นท์ ค่าลิขสิทธ์ดอกเบี้ยเงินฝากปันผล . รายได้จาก Passive income ควรมีเท่าไหร่ เราวัดได้จาก Wealth Ratio หรืออัตราส่วนความมั่งคั่งซึ่งยิ่งมากยิ่งดีมีวิธีการคำนวณดังนี้ . อัตราส่วนความมั่งคั่ง = รายได้จากทรัพย์สิน/ค่าใช้จ่ายเช่น ถ้ามีรายจ่าย 50,000 บาท และมี Passive income 50,000 บาท อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 50,000/50,000 = 1 หรือถ้ามีรายจ่าย 100,000 บาท และมี passive income 500,000 บาท อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 500,000/100,000 = 5 จะเห็นได้ว่ายิ่งมีอัตราส่วนความมั่งคั่งที่ยิ่งมากก็ยิ่งดีนะครับ ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไร้ความกังวลเท่านั้น . 3. Generational Wealth เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลัง เป้าหมายข้อนี้เหมือนเป้าหมายของผมครับ เราอาจตั้งเป้าหมายทางการเงินเป็นการสร้างแล้วส่งมอบต่อให้คนรุ่นหลังได้ ไม่ว่าจะเป็นลูก ล้าน องค์กรการกุศลหรือสาธารณประโยชน์ก็ได้ ถ้าคุณอยากจะส่งรายได้ต่อให้ผู้อื่นคุณจะต้องส่งต่อ Productive Asset หรือทรัพย์สินที่ผลิตเงินได้เช่นอสังหา ปล่อยเช่า หุ้นปันผล กองทุน ETF และส่งต่อความรู้ทางด้านการเงินด้วยนะครับ เพราะถ้าให้แค่เงินไม่ให้ความรู้ไม่ว่าจะมีมากเท่าไหร่ไม่นานก็หมด ต้องส่งทั้ง Mindset และ Skillset ให้เขา ความจริงแล้วแค่ให้ความรู้ทางด้านการเงินที่ถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องให้ทรัพย์สิน ไม่ให้รายได้ เค้าก็ 3 ารถหาเงินเองได้ สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองได้แล้ว แต่ถ้าให้ทรัพย์สินไปด้วยก็ยิ่งก็ยอดเยี่ยม . 4. เป้าหมายแบบอื่นๆ - ได้อีกมากมายที่คุณ 3 ารถออกแบบขึ้นมาตามความต้องการของตัวเอง แต่ขั้นต่ำข้อ หนึ่ง ต้องทำให้ได้เท่าไม่ได้จะลำบากเลยนะครับแถมยังจะเป็นภาระให้คนอื่นด้วย ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างการวางเป้าหมายทางการลงทุนเพื่อให้คุณชัดเจนว่าต้องการอะไรจากการลงทุน ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร คุณต้องสร้าง แผนการและค้นหาวิธีการค้นหาเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายนั้นได้แล้วตั้งแต่วันนี้ . เป้าหมายที่ไร้ซึ่งแผนการเป็นแค่ความฝัน – เหมือนเรามีเป้าหมายการเดินทางจากกรุงเทพฯจะไปเชียงใหม่เราจะขึ้นเครื่องบินไปก็ได้นั่งรถโดยสารไปก็ได้ขับรถไปเองก็ได้โบกรถไปก็ได้ใช่ไหม การเงินก็เช่นกัน เมื่อรู้เป้าหมายชัดเจนแล้ว เราก็ต้องมาวางแผนกันว่าจะไปถึงเป้าหมายทางการลงทุนนั้นด้วยเครื่องมืออะไร ซึ่งเครื่องมือที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั้นผมเตรียมมาให้ทั้งหมดแล้ว ค่อยๆอ่านทำความเข้าใจและเลือกเครื่องมือไปใช้ตามเป้าหมายของคุณ ไม่มีที่ดีกว่าหรือแย่กว่า และไม่มีเครื่องมือที่ผิดหรือถูกนะครับมีแต่คำตอบที่ตอบโจทย์คุณ ดังนั้นตอนนี้ลองเขียนเป้าหมายออกมาให้ชัดเจนก่อน โดยยังไม่ต้องกังวลถึงวิธีการ เพราะวิธีการนั้นมากมายและไม่ต้องไปหาที่ไหนผมรวบรวมมาให้ทั้งหมดแล้วครับ ไปเรียนรู้ต่อได้เลย . #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยืมคุณมะนัยมาเท่ห์-///-
    ไว้จะยืมไปเที่ยวป่าสักทริป

    ความชอบที่แตกต่าง
    คิดแล้ว ทริปเดินป่า
    ของ มะนาวก้าวเดิน
    แพงกว่า กระเป๋าเป้สุดเท่ห์
    ของคุณมะนัย -///-

    ☆THE ADJECTIVE
    เป็นร้าน Multi- Label Boutique ที่นำเสนอสินค้าแบรนด์ชั้นนำจากหลากหลายประเทศ
    รับรองว่าสินค้าทุกชิ้นเป็นของแท้ 100% ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าคุณภาพสูงที่คัดสรรมาอย่างดี
    ☆ เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/xxgCeVz6Sdf1EuKg/?mibextid=qi2Omg
    《《
    สินค้ามีมากมาย
    ☆วันเกิดคุณมะนัยปีนี้ ต้องร้านนี้เท่านั้น!!
    ถอยมาสดๆร้อนๆ
    ☆☆Fjallraven☆☆
    》》singi 20
    ☆☆น้องใหม่ใบเล็กในครอบครัว Singi กระเป๋าขนาด 20 ลิตร
    》》singi side pocket 2 ชิ้น
    ☆☆กระเป๋าข้าง ติดง่ายด้วยปุ่มสลับที่ด้านข้างหรือด้านหน้าของเป้ สามารถใส่ขวดน้ำ หรือสิ่งอื่น ๆ
    》》เหมาะกับการใส่อุปกรณ์การถ่ายรายการสยามโสภา ของคุณมะนัยมาก

    ■Arctic fox thailand
    》》
    https://www.facebook.com/share/kvCwjANYMDUUdHER/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ยืมคุณมะนัยมาเท่ห์-///- ไว้จะยืมไปเที่ยวป่าสักทริป ความชอบที่แตกต่าง คิดแล้ว ทริปเดินป่า ของ มะนาวก้าวเดิน แพงกว่า กระเป๋าเป้สุดเท่ห์ ของคุณมะนัย -///- ☆THE ADJECTIVE เป็นร้าน Multi- Label Boutique ที่นำเสนอสินค้าแบรนด์ชั้นนำจากหลากหลายประเทศ รับรองว่าสินค้าทุกชิ้นเป็นของแท้ 100% ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าคุณภาพสูงที่คัดสรรมาอย่างดี ☆ เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/xxgCeVz6Sdf1EuKg/?mibextid=qi2Omg 《《 สินค้ามีมากมาย ☆วันเกิดคุณมะนัยปีนี้ ต้องร้านนี้เท่านั้น!! ถอยมาสดๆร้อนๆ ☆☆Fjallraven☆☆ 》》singi 20 ☆☆น้องใหม่ใบเล็กในครอบครัว Singi กระเป๋าขนาด 20 ลิตร 》》singi side pocket 2 ชิ้น ☆☆กระเป๋าข้าง ติดง่ายด้วยปุ่มสลับที่ด้านข้างหรือด้านหน้าของเป้ สามารถใส่ขวดน้ำ หรือสิ่งอื่น ๆ 》》เหมาะกับการใส่อุปกรณ์การถ่ายรายการสยามโสภา ของคุณมะนัยมาก ■Arctic fox thailand 》》 https://www.facebook.com/share/kvCwjANYMDUUdHER/?mibextid=qi2Omg 《《
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 50 0 รีวิว
  • เชิญฟังครับ เรื่องเข้าพบทูต เรื่อง 10 เดือน 10 และเราไม่รู้ประตูจะเปิดให้ต่างชาติเข้ามาหากวันที่ 25 ไปแล้ว ไม่เข้ากระบวนความยุติธรรมกับคดีตากใบ

    https://www.youtube.com/live/QLUguEzHePs?si=N9wFBUUFm9lZ6qtP
    เชิญฟังครับ เรื่องเข้าพบทูต เรื่อง 10 เดือน 10 และเราไม่รู้ประตูจะเปิดให้ต่างชาติเข้ามาหากวันที่ 25 ไปแล้ว ไม่เข้ากระบวนความยุติธรรมกับคดีตากใบ https://www.youtube.com/live/QLUguEzHePs?si=N9wFBUUFm9lZ6qtP
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • โค้ชผู้บริหาร (Executive Coach) แบบ ดร.ฉัตรชัย บุนนาค ... 1 ในโค้ชผู้บริหารแถวหน้าของไทย
    โค้ชผู้บริหาร (Executive Coach) แบบ ดร.ฉัตรชัย บุนนาค ... 1 ในโค้ชผู้บริหารแถวหน้าของไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • Productivity Concept Model
    Productivity Concept Model
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • The Vault ProEx By 10X Consulting
    นำเสนอสาระเทคนิคการวินิจฉัย และการยกระดับผลิตภาพ (Productivity) และการยกระดับผลงานที่เป็นเลิศ (Performance Excellence) สำหรับผู้สนใจได้ RUN กลยุทธ์ที่เน้นการ #Reskill เสริมทักษะใหม่ #Upskill ยกระดับทักษะที่มีอยู่ และ #Newskill ปลูกฝังทักษะใหม่ๆ เพื่อพัฒนาบุคลากรให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
    The Vault ProEx By 10X Consulting นำเสนอสาระเทคนิคการวินิจฉัย และการยกระดับผลิตภาพ (Productivity) และการยกระดับผลงานที่เป็นเลิศ (Performance Excellence) สำหรับผู้สนใจได้ RUN กลยุทธ์ที่เน้นการ #Reskill เสริมทักษะใหม่ #Upskill ยกระดับทักษะที่มีอยู่ และ #Newskill ปลูกฝังทักษะใหม่ๆ เพื่อพัฒนาบุคลากรให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=HqUffJM6ZBs

    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาการพบกันและทักทาย
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #listeningtest #listening #conversations

    The conversations from the clip :
    Mark: Hi Sara! It’s been a while. How have you been?
    Sara: Hi Mark! I know, right? I’ve been really busy with work. How about you?
    Mark: Same here! Work has kept me on my toes. Have you been up to anything fun lately?
    Sara: I actually went hiking last weekend. It was refreshing!
    Mark: That sounds amazing! Where did you go hiking?
    Sara: I went to Green Mountain. The views were breathtaking!
    Mark: I’ve heard great things about that place. I need to check it out.
    Sara: You definitely should! We could go together sometime.
    Mark: I’d love that! Are you planning any more outdoor activities?
    Sara: Yes, I’m thinking about going camping next month.
    Mark: That sounds like a great idea! I’d be interested in joining.
    Sara: The more, the merrier! We can make a fun trip out of it.
    Mark: For sure! I’ll bring the snacks!
    Sara: Perfect! I’ll handle the tents and gear.
    Mark: Awesome! Let’s finalize the details soon.
    https://www.youtube.com/watch?v=HqUffJM6ZBs แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาการพบกันและทักทาย มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #listeningtest #listening #conversations The conversations from the clip : Mark: Hi Sara! It’s been a while. How have you been? Sara: Hi Mark! I know, right? I’ve been really busy with work. How about you? Mark: Same here! Work has kept me on my toes. Have you been up to anything fun lately? Sara: I actually went hiking last weekend. It was refreshing! Mark: That sounds amazing! Where did you go hiking? Sara: I went to Green Mountain. The views were breathtaking! Mark: I’ve heard great things about that place. I need to check it out. Sara: You definitely should! We could go together sometime. Mark: I’d love that! Are you planning any more outdoor activities? Sara: Yes, I’m thinking about going camping next month. Mark: That sounds like a great idea! I’d be interested in joining. Sara: The more, the merrier! We can make a fun trip out of it. Mark: For sure! I’ll bring the snacks! Sara: Perfect! I’ll handle the tents and gear. Mark: Awesome! Let’s finalize the details soon.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาฯ​หมื่นล้าน อ่วมอีก​ หลังเจอฝนรั่วข้างใน​ "จาตุรนต์" ผงะเจอโซฟา​ชุ่มน้ำเน่าบริเวณชั้น 4 แซวเน่าหมดแล้วคงโดนมาหลายครั้ง ถนนข้างสภายังเจอน้ำท่วมขังครึ่งล้อ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097117

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สภาฯ​หมื่นล้าน อ่วมอีก​ หลังเจอฝนรั่วข้างใน​ "จาตุรนต์" ผงะเจอโซฟา​ชุ่มน้ำเน่าบริเวณชั้น 4 แซวเน่าหมดแล้วคงโดนมาหลายครั้ง ถนนข้างสภายังเจอน้ำท่วมขังครึ่งล้อ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097117 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    Yay
    Sad
    32
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1772 มุมมอง 0 รีวิว
  • 😾แม้แต่แมวยังรู้สึกถึงความมากเกินไปของเซเลนสกี

    ในฐานะผู้นำในการล่าหนูของสำนักงานคณะรัฐมนตรีที่ ๑๐ Downing Street ตั้งแต่ปี ๒๐๑๑, แลร์รีใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นกับนายกรัฐมนตรี ๖ คน

    ทันทีที่เซเลนสกีก้าวผ่านธรณีประตูเข้าไปในบ้านเพื่อพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์, เจ้าแมวก็รู้โดยสัญชาตญาณและไม่ยอมเข้าใกล้แขกที่ไม่พึงประสงค์
    .
    😾EVEN THE CAT HAS A BELLYFUL OF ZELENSKY

    As the chief mouser to the Cabinet Office at 10 Downing Street since 2011, Larry has dwelled at the premise with six prime ministers.

    As soon as Zelensky crossed the threshold into the house for talks with UK Prime Minister Keir Starmer, the feline instinctively knew better and gave a wide berth to the unwelcome guest.
    .
    5:38 PM · Oct 10, 2024 · 6,407 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1844326734818066869
    😾แม้แต่แมวยังรู้สึกถึงความมากเกินไปของเซเลนสกี ในฐานะผู้นำในการล่าหนูของสำนักงานคณะรัฐมนตรีที่ ๑๐ Downing Street ตั้งแต่ปี ๒๐๑๑, แลร์รีใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นกับนายกรัฐมนตรี ๖ คน ทันทีที่เซเลนสกีก้าวผ่านธรณีประตูเข้าไปในบ้านเพื่อพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์, เจ้าแมวก็รู้โดยสัญชาตญาณและไม่ยอมเข้าใกล้แขกที่ไม่พึงประสงค์ . 😾EVEN THE CAT HAS A BELLYFUL OF ZELENSKY As the chief mouser to the Cabinet Office at 10 Downing Street since 2011, Larry has dwelled at the premise with six prime ministers. As soon as Zelensky crossed the threshold into the house for talks with UK Prime Minister Keir Starmer, the feline instinctively knew better and gave a wide berth to the unwelcome guest. . 5:38 PM · Oct 10, 2024 · 6,407 Views https://x.com/SputnikInt/status/1844326734818066869
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 50 0 รีวิว
  • ‘ละเลย-นิ่งดูดาย-โยนภาระ’ กับดักความไม่ปลอดภัยในเด็ก ที่ ‘ผู้ใหญ่’ ไม่เคยจำ!
    https://theactive.net/read/child-safety
    ‘ละเลย-นิ่งดูดาย-โยนภาระ’ กับดักความไม่ปลอดภัยในเด็ก ที่ ‘ผู้ใหญ่’ ไม่เคยจำ! https://theactive.net/read/child-safety
    THEACTIVE.NET
    'ละเลย-นิ่งดูดาย-โยนภาระ' กับดักความไม่ปลอดภัยในเด็ก ที่ 'ผู้ใหญ่' ไม่เคยจำ! | The Active
    เราต้องยอมรับก่อนว่า เมื่อเหตุสูญเสียเกิดขึ้น มันคือการละเมิดสิทธิเด็ก มันคือความละเลยของผู้ใหญ่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • รรท.ผบ.ตร.เยี่ยมอาการนักเรียน 3 คนที่รับบาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา พร้อมประชุมติดตามคดีที่ สภ.คูคต กำชับดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด เผยแจ้งข้อหาแล้ว 3 ราย วิศวกร-จนท.ขนส่ง-อู่ติดก๊าซ ส่อโดนด้วย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097065

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รรท.ผบ.ตร.เยี่ยมอาการนักเรียน 3 คนที่รับบาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา พร้อมประชุมติดตามคดีที่ สภ.คูคต กำชับดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด เผยแจ้งข้อหาแล้ว 3 ราย วิศวกร-จนท.ขนส่ง-อู่ติดก๊าซ ส่อโดนด้วย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097065 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    18
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1810 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ไพบูลย์” ปัด พปชร.อยู่เบื้องหลัง “ธีรยุทธ” ร้อง "เพื่อแม้ว" แจงพูดคุยกันตลอด ชี้คำร้องครบถ้วน ระบุพยานบุคคลเด็ดกว่าคลิป เพราะอยู่ในเหตุการณ์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097064

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ไพบูลย์” ปัด พปชร.อยู่เบื้องหลัง “ธีรยุทธ” ร้อง "เพื่อแม้ว" แจงพูดคุยกันตลอด ชี้คำร้องครบถ้วน ระบุพยานบุคคลเด็ดกว่าคลิป เพราะอยู่ในเหตุการณ์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097064 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1799 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนนี้ ทั้งวงการพระ ทั้งแท้ ขายราคาแท้ เก๊ ขายราคาเก๊ (1_2_300) ....ขายไม่ได้เลย...ที่ยังอยู่ได้คือ #กับดักคนโลภ....พระหลักแสน หลักล้าน สร้างเรื่องให้คิดว่าเป็นเนื้อทองคำ. ขายหลักร้อย หลักพัน......พวกนี้ยังขายดี........มีการจัดฉาก ถ่ายคลิป live สด ..มีลูกคู่ ทีมงานคอยอวย.
    ..กับพวกนักสร้าง content ทั้งหลาย..
    ตอนนี้ ทั้งวงการพระ ทั้งแท้ ขายราคาแท้ เก๊ ขายราคาเก๊ (1_2_300) ....ขายไม่ได้เลย...ที่ยังอยู่ได้คือ #กับดักคนโลภ....พระหลักแสน หลักล้าน สร้างเรื่องให้คิดว่าเป็นเนื้อทองคำ. ขายหลักร้อย หลักพัน......พวกนี้ยังขายดี........มีการจัดฉาก ถ่ายคลิป live สด ..มีลูกคู่ ทีมงานคอยอวย. ..กับพวกนักสร้าง content ทั้งหลาย..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • รักษาการ ผบ.ตร.ติดตามความคืบหน้าคดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" สั่งระดมพนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย ขณะนี้สอบไปแล้ว 80 ปาก ยอดความเสียหายรวม 31 ล้าน ลั่นดำเนินคดีดาราร่วมเอี่ยว พร้อมประสาน ปปง.ยึดทรัพย์คืนเจ้าทุกข์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097032

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รักษาการ ผบ.ตร.ติดตามความคืบหน้าคดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" สั่งระดมพนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย ขณะนี้สอบไปแล้ว 80 ปาก ยอดความเสียหายรวม 31 ล้าน ลั่นดำเนินคดีดาราร่วมเอี่ยว พร้อมประสาน ปปง.ยึดทรัพย์คืนเจ้าทุกข์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097032 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Yay
    16
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1849 มุมมอง 0 รีวิว
  • พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน!! “กันต์ กันตถาวร” ประกาศยุติบทบาทหน้าที่พิธีกรในทุกรายการจนกว่าจะมีความชัดเจนและความกระจ่าง หลังเจอดราม่า “The iCon Group”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097052

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน!! “กันต์ กันตถาวร” ประกาศยุติบทบาทหน้าที่พิธีกรในทุกรายการจนกว่าจะมีความชัดเจนและความกระจ่าง หลังเจอดราม่า “The iCon Group” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097052 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    15
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1855 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=bEqHt23aT74

    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากนิทานเรื่องเจ้าหนูเห็นมังกร ตอนที่ 2
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #listeningtest #listening #englishtest

    Part two ตอน 2

    "It is not true. You are a liar. It cannot be true." said Tom the mouse.
    "A dragon is a legendary animal. It cannot exist really." said Miss P the mouse.
    "That mountain is far from here. To reach the pond beyond that mountain it takes five days' walking at least.
    Did you really walk to get there?" said Hisao the other mouse.
    "I did not walk. I went there roller skating. It took only three days." answered Popy.
    "I really saw him. A dragon was rising up to the heaven." Popy insisted upon, but no one believed him.
    "It is a lie. You are a liar. Let him get in a blue house."

    “มันไม่จริง เจ้าโกหก มันไม่สามารถเป็นจริงได้” ทอมผู้เป็นหนูตัวหนึ่งพูด
    “มังกรมันเป็นสัตว์ในนิยาย มันไม่สามารถมีอยู่จริง ๆ ได้” นางสาวพีหนูตัวหนึ่งพูด
    “ภูเขานั้นมันก็อยู่ไกลจากที่นี่ เพื่อที่จะไปถึงสระน้ำทางโน้นเลยภูเขาเขานั้นไป มันต้องกินเวลา
    อย่างน้อย 5 วันในการที่จะเดินไป
    เจ้าได้ใช้เวลาเดินไปที่นั่นจริง ๆ หรือ?” ไฮเสาหนูอีกตัวพูด
    “ผมไม่ได้เดินไป ผมได้ไปที่นั่นโดยใช้สเก็ตกลิ้งไป ใช้เวลาเพียง 3 วันเท่านั้น เจ้าหนูโพปี้พูด
    “ผมได้เห็นมังกรจริง ๆ มังกรตัวหนึ่งกำลังขึ้นไปบนสวรรค์” เจ้าหนูโพปี้ยืนยันคำพูดอย่างมั่นใจ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขา
    “มันโกหก เจ้าเป็นคนโกหก เอาเขาไปอยู่ในบ้านสีฟ้าซะ”

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    true (ทรู) คำคุณศัพท์ แปลว่า จริง
    liar (ไล'อาร์) คำนาม แปลว่า โกหก
    Tom (ทอม) คำนาม ชื่อหนูตัวหนึ่ง
    legendary (เลจ'เจินเดอรี) คำคุณศัพท์ แปลว่า นิยาย
    animal (แอน' นิเมิล) คำนาม แปลว่า สัตว์
    exist (เอคซิสทฺ') คำกริยา แปลว่า มีอยู่
    really (เรียล'ลิ) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า จริง
    Miss (มิส) คำนาม แปลว่า นางสาว
    reach (รีชฺ) คำกริยา แปลว่า มาถึง
    at least (แอด ลีสทฺ) วลี แปลว่า อย่างน้อยที่สุด
    Hisao (ไฮเสา) คำนาม ชื่อหนูตัวหนึ่ง
    other (อัธ'เธอะ) คำคุณศัพท์ แปลว่า อีกตัว
    roller (โรล'เลอะ) คำนาม แปลว่า กลิ้ง
    skating (สเคท) คำนาม แปลว่า สเก็ต
    took (ทุค) คำกริยาช่องที่ 2 ของ take (เทค) แปลว่า ได้ใช้
    saw (ซอ) คำกริยาช่องที่ 2 ของ see (ซี) แปลว่า ได้เห็น
    rising up คำเติม ing ของ rise up (ไรซ อัฟ) แปลว่า กำลังขึ้นไป
    heaven (เฮฟ'เวิน) คำนาม แปลว่า สวรรค์
    insisted คำกริยาช่องที่ 2 ของ insist (อินซิสทฺ') แปลว่า ยืนยัน
    believed คำกริยาช่องที่ 2 ของ believe (บิลิฟว') แปลว่า เชื่อ
    lie (ไล) คำนาม แปลว่า โกหก
    https://www.youtube.com/watch?v=bEqHt23aT74 แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากนิทานเรื่องเจ้าหนูเห็นมังกร ตอนที่ 2 มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #listeningtest #listening #englishtest Part two ตอน 2 "It is not true. You are a liar. It cannot be true." said Tom the mouse. "A dragon is a legendary animal. It cannot exist really." said Miss P the mouse. "That mountain is far from here. To reach the pond beyond that mountain it takes five days' walking at least. Did you really walk to get there?" said Hisao the other mouse. "I did not walk. I went there roller skating. It took only three days." answered Popy. "I really saw him. A dragon was rising up to the heaven." Popy insisted upon, but no one believed him. "It is a lie. You are a liar. Let him get in a blue house." “มันไม่จริง เจ้าโกหก มันไม่สามารถเป็นจริงได้” ทอมผู้เป็นหนูตัวหนึ่งพูด “มังกรมันเป็นสัตว์ในนิยาย มันไม่สามารถมีอยู่จริง ๆ ได้” นางสาวพีหนูตัวหนึ่งพูด “ภูเขานั้นมันก็อยู่ไกลจากที่นี่ เพื่อที่จะไปถึงสระน้ำทางโน้นเลยภูเขาเขานั้นไป มันต้องกินเวลา อย่างน้อย 5 วันในการที่จะเดินไป เจ้าได้ใช้เวลาเดินไปที่นั่นจริง ๆ หรือ?” ไฮเสาหนูอีกตัวพูด “ผมไม่ได้เดินไป ผมได้ไปที่นั่นโดยใช้สเก็ตกลิ้งไป ใช้เวลาเพียง 3 วันเท่านั้น เจ้าหนูโพปี้พูด “ผมได้เห็นมังกรจริง ๆ มังกรตัวหนึ่งกำลังขึ้นไปบนสวรรค์” เจ้าหนูโพปี้ยืนยันคำพูดอย่างมั่นใจ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขา “มันโกหก เจ้าเป็นคนโกหก เอาเขาไปอยู่ในบ้านสีฟ้าซะ” Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) true (ทรู) คำคุณศัพท์ แปลว่า จริง liar (ไล'อาร์) คำนาม แปลว่า โกหก Tom (ทอม) คำนาม ชื่อหนูตัวหนึ่ง legendary (เลจ'เจินเดอรี) คำคุณศัพท์ แปลว่า นิยาย animal (แอน' นิเมิล) คำนาม แปลว่า สัตว์ exist (เอคซิสทฺ') คำกริยา แปลว่า มีอยู่ really (เรียล'ลิ) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า จริง Miss (มิส) คำนาม แปลว่า นางสาว reach (รีชฺ) คำกริยา แปลว่า มาถึง at least (แอด ลีสทฺ) วลี แปลว่า อย่างน้อยที่สุด Hisao (ไฮเสา) คำนาม ชื่อหนูตัวหนึ่ง other (อัธ'เธอะ) คำคุณศัพท์ แปลว่า อีกตัว roller (โรล'เลอะ) คำนาม แปลว่า กลิ้ง skating (สเคท) คำนาม แปลว่า สเก็ต took (ทุค) คำกริยาช่องที่ 2 ของ take (เทค) แปลว่า ได้ใช้ saw (ซอ) คำกริยาช่องที่ 2 ของ see (ซี) แปลว่า ได้เห็น rising up คำเติม ing ของ rise up (ไรซ อัฟ) แปลว่า กำลังขึ้นไป heaven (เฮฟ'เวิน) คำนาม แปลว่า สวรรค์ insisted คำกริยาช่องที่ 2 ของ insist (อินซิสทฺ') แปลว่า ยืนยัน believed คำกริยาช่องที่ 2 ของ believe (บิลิฟว') แปลว่า เชื่อ lie (ไล) คำนาม แปลว่า โกหก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • #หมายกำหนดการ
    วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2567
    พระราชินี เสด็จฯ ร่วมงานกาลาดินเนอร์
    Islamic Fashion Festival (IFF) Bangkok 2024
    ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียน เต็ล
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    #หมายกำหนดการ วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2567 พระราชินี เสด็จฯ ร่วมงานกาลาดินเนอร์ Islamic Fashion Festival (IFF) Bangkok 2024 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียน เต็ล #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts