• 40 คำคมทรงพลังจากเพลโต ปราชญ์ผู้วางรากฐานปัญญาตะวันตก
    .
    กว่าสองพันสี่ร้อยปีผ่านไป เสียงกังวานแห่งปัญญาของเพลโต (Plato, 428-348 BC) ยังคงก้องกึกในโลกแห่งความคิด Plato เป็นหนึ่งในเป็นผู้วางรากฐานการคิดเชิงปรัชญาให้แก่อารยธรรมตะวันตก จนมีผู้กล่าวว่า "Western philosophy is but a series of footnotes to Plato" (ปรัชญาตะวันตกทั้งมวลเป็นเพียงเชิงอรรถของเพลโต)
    .
    ในฐานะผู้ก่อตั้ง Platonic Academy (สำนักปรัชญาอคาเดมี) สถาบันการศึกษาแห่งแรกของโลกตะวันตก เพลโตได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาที่งอกงามเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านไปทั่วโลก
    .
    ผลงานอมตะของเพลโตที่ยังคงทรงอิทธิพลจวบจนปัจจุบัน อาทิ "Allegory of the Cave" (อุปมาถ้ำ) ที่เปรียบเทียบมนุษย์ผู้ติดอยู่กับโลกแห่งเงา และ "Theory of Forms" (ทฤษฎีแบบ) ที่เสนอว่าทุกสิ่งในโลกวัตถุล้วนเป็นเพียงเงาสะท้อนของแบบ หรือแม่แบบที่สมบูรณ์แบบในโลกแห่งความคิด
    .
    งานเขียนสำคัญของเขาอย่าง "The Republic" (รัฐ) วางรากฐานแนวคิดทางการเมืองและการปกครอง ขณะที่ "Symposium" (งานเลี้ยงสนทนา) ถกประเด็นความรักและความงามอันเป็นนิรันดร์
    .
    แนวคิดของเพลโตได้หล่อหลอมวิธีคิดของโลกในทุกแขนง ทั้งปรัชญา ศาสนา การเมือง การศึกษา วิทยาศาสตร์ และศิลปะ อิทธิพลของเขาแผ่ขยายจากกรีกโบราณ ผ่านจักรวรรดิโรมัน ผ่านยุคกลาง ผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา จนถึงโลกสมัยใหม่ ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออก จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมโลก
    .
    40 คำคมของเพลโตที่รวบรวมมานี้สะท้อนถึงความลุ่มลึกทางความคิดที่เชื่อมโยงสวรรค์กับโลก อุดมคติกับความเป็นจริง และชี้นำมนุษย์สู่การแสวงหาสัจธรรมอันสูงสุด
    .
    .
    1. "Music gives a soul to the universe, wings to the mind, flight to the imagination and life to everything."

    "ดนตรีมอบจิตวิญญาณให้จักรวาล มอบปีกให้ความคิด มอบการโบยบินให้จินตนาการ และมอบชีวิตให้ทุกสิ่ง"
    .
    .
    2. "Wise men speak because they have something to say; fools because they have to say something."

    "คนฉลาดพูดเพราะมีสิ่งที่ต้องการจะบอก คนโง่พูดเพราะต้องพูดอะไรสักอย่าง"
    .
    .
    3. "The beginning is the most important part of the work."

    "จุดเริ่มต้นคือส่วนสำคัญที่สุดของงาน"
    .
    .
    4. "No one is more hated than he who speaks the truth."

    "ไม่มีใครถูกเกลียดมากไปกว่าผู้ที่พูดความจริง"
    .
    .
    5. "Necessity is the mother of invention."
    "ความจำเป็นคือบ่อเกิดแห่งการประดิษฐ์คิดค้น"
    .
    .
    6. "Human behavior flows from three main sources: desire, emotion, and knowledge."

    "พฤติกรรมมนุษย์หลั่งไหลมาจากสามแหล่งหลัก: ความปรารถนา อารมณ์ และความรู้"
    .
    .
    7. "The measure of a man is what he does with power."

    "เครื่องวัดคุณค่าของมนุษย์คือสิ่งที่เขาทำเมื่อมีอำนาจ"
    .
    .
    8. "The first and best victory is to conquer self."

    "ชัยชนะแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดคือการชนะใจตนเอง"
    .
    .
    9. "The penalty that good men pay for not being interested in politics is to be governed by men worse than themselves."

    "บทลงโทษที่คนดีต้องจ่ายสำหรับการไม่สนใจการเมืองคือการถูกปกครองโดยคนที่เลวร้ายกว่าตน"
    .
    .
    10. "Those who tell the stories rule society."

    "ผู้ที่เล่าเรื่องราวคือผู้ปกครองสังคม"
    .
    .
    11. "No wealth can ever make a bad man at peace with himself."

    "ไม่มีความมั่งคั่งใดจะทำให้คนเลวอยู่อย่างสงบกับตัวเองได้"
    .
    .
    12. "Ignorance, the root and the stem of every evil."

    "ความโง่เขลาคือรากเหง้าและลำต้นของความชั่วร้ายทั้งปวง"
    .
    .
    13. "We can easily forgive a child who is afraid of the dark; the real tragedy of life is when men are afraid of the light."

    "เราให้อภัยเด็กที่กลัวความมืดได้ง่าย แต่โศกนาฏกรรมที่แท้จริงของชีวิตคือเมื่อผู้คนกลัวแสงสว่าง"
    .
    .
    14. "The worst form of injustice is pretended justice."

    "ความอยุติธรรมที่เลวร้ายที่สุดคือความยุติธรรมจอมปลอม"
    .
    .
    15. "Opinion is the medium between knowledge and ignorance."

    "ความคิดเห็นคือสิ่งที่อยู่ระหว่างความรู้และความโง่เขลา"
    .
    .
    16. "Geometry existed before creation."

    "เรขาคณิตมีอยู่ก่อนการสร้างสรรค์"
    .
    .
    17. "Writing is the geometry of the soul."
    "การเขียนคือเรขาคณิตของจิตวิญญาณ"
    .
    .
    18. "Courage is knowing what not to fear."

    "ความกล้าหาญคือการรู้ว่าอะไรไม่ควรกลัว"
    .
    .
    19. "An empty vessel makes the loudest sound, so they that have the least wit are the greatest babblers."

    "ภาชนะที่ว่างเปล่าส่งเสียงดังที่สุด เช่นเดียวกับผู้ที่มีสติปัญญาน้อยที่สุดมักเป็นผู้พูดมากที่สุด"
    .
    .
    20. "Education is teaching our children to desire the right things."

    "การศึกษาคือการสอนลูกหลานของเราให้ปรารถนาในสิ่งที่ถูกต้อง"
    .
    .
    21. "Philosophy is the highest music."

    "ปรัชญาคือดนตรีที่สูงส่งที่สุด"
    .
    .
    22. "There are three classes of men; lovers of wisdom, lovers of honor, and lovers of gain."

    "มนุษย์มีสามประเภท: ผู้รักปัญญา ผู้รักเกียรติยศ และผู้รักผลประโยชน์"
    .
    .
    23. "Do not train a child to learn by force or harshness; but direct them to it by what amuses their minds, so that you may be better able to discover with accuracy the peculiar bent of the genius of each."

    "อย่าฝึกเด็กให้เรียนรู้ด้วยการบังคับหรือความรุนแรง แต่จงชี้นำพวกเขาด้วยสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้จิตใจ เพื่อที่คุณจะสามารถค้นพบความโน้มเอียงพิเศษของอัจฉริยภาพในตัวพวกเขาแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ"
    .
    .
    24. "You should not honor men more than truth."

    "อย่าให้เกียรติมนุษย์มากกว่าความจริง"
    .
    .
    25. "A hero is born among a hundred, a wise man is found among a thousand, but an accomplished one might not be found even among a hundred thousand men."

    "วีรบุรุษเกิดขึ้นในหนึ่งร้อย ปราชญ์พบได้ในหนึ่งพัน แต่ผู้ที่สมบูรณ์แบบอาจไม่พบแม้ในหนึ่งแสนคน"
    .
    .
    26. "At the touch of love everyone becomes a poet."

    "เมื่อสัมผัสความรัก ทุกคนกลายเป็นกวี"
    .
    .
    27. "There should exist among the citizens neither extreme poverty nor again excessive wealth, for both are productive of great evil."

    "ในหมู่พลเมืองไม่ควรมีทั้งความยากจนสุดขั้วหรือความมั่งคั่งล้นเหลือ เพราะทั้งสองสิ่งล้วนก่อให้เกิดความชั่วร้ายอันใหญ่หลวง"
    .
    .
    28. "As the builders say, the larger stones do not lie well without the lesser."

    "ดังที่ช่างก่อสร้างว่า หินก้อนใหญ่ไม่อาจวางได้ดีหากปราศจากหินก้อนเล็ก"
    .
    .
    29. "The most virtuous are those who content themselves with being virtuous without seeking to appear so."

    "ผู้ที่มีคุณธรรมที่สุดคือผู้ที่พอใจในการมีคุณธรรมโดยไม่พยายามทำให้ดูเหมือนว่ามี"
    .
    .
    30. "For this feeling of wonder shows that you are a philosopher, since wonder is the only beginning of philosophy."

    "ความรู้สึกประหลาดใจนี้แสดงว่าคุณเป็นนักปรัชญา เพราะความประหลาดใจคือจุดเริ่มต้นเพียงหนึ่งเดียวของปรัชญา"
    .
    .
    31. "Courage is a kind of salvation."

    "ความกล้าหาญคือรูปแบบหนึ่งของการหลุดพ้น"
    .
    .
    32. "The highest reach of injustice is to be deemed just when you are not."

    "จุดสูงสุดของความอยุติธรรมคือการถูกมองว่ายุติธรรมทั้งที่ไม่ใช่"
    .
    .
    33. "No science or art considers or enjoins the interest of the stronger or superior, but only the interest of the subject and weaker."

    "ไม่มีวิทยาศาสตร์หรือศิลปะใดพิจารณาหรือบังคับผลประโยชน์ของผู้แข็งแกร่งหรือผู้เหนือกว่า แต่เพียงผลประโยชน์ของผู้อยู่ใต้ปกครองและผู้อ่อนแอกว่า"
    .
    .
    34. "For the uneducated, when they engage in argument about anything, give no thought to the truth about the subject of discussion but are only eager that those present will accept the position they have set forth."

    "สำหรับผู้ไร้การศึกษา เมื่อพวกเขาโต้แย้งเรื่องใดก็ตาม พวกเขาไม่คิดถึงความจริงเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังอภิปราย แต่กระตือรือร้นเพียงให้ผู้ที่อยู่ที่นั่นยอมรับจุดยืนที่พวกเขานำเสนอเท่านั้น"
    .
    .
    35. "Neither do the ignorant seek after wisdom. For herein is the evil of ignorance, that he who is neither good nor wise is nevertheless satisfied with himself: he has no desire for that of which he feels no want."

    "คนโง่เขลาไม่แสวงหาปัญญา เพราะนี่คือความชั่วร้ายของความโง่เขลา ที่ผู้ซึ่งไม่ดีและไม่ฉลาดกลับพอใจในตัวเอง: เขาไม่มีความปรารถนาในสิ่งที่เขารู้สึกว่าไม่ขาด"
    .
    .
    36. "The man who finds that in the course of his life he has done a lot of wrong often wakes up at night in terror, like a child with a nightmare, and his life is full of foreboding: but the man who is conscious of no wrongdoing is filled with cheerfulness and with the comfort of old age."

    "ผู้ที่พบว่าในช่วงชีวิตของเขาได้ทำผิดมากมักตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนด้วยความหวาดกลัว เหมือนเด็กที่ฝันร้าย และชีวิตของเขาเต็มไปด้วยลางร้าย แต่ผู้ที่ไม่รู้สึกว่าได้ทำผิดจะเต็มไปด้วยความร่าเริงและความสบายใจในวัยชรา"
    .
    .
    37. "Now early life is very impressible, and children ought not to learn what they will have to unlearn when they grow up; we must therefore have a censorship of nursery tales, banishing some and keeping others."

    "ชีวิตในวัยต้นนั้นรับอิทธิพลได้ง่าย และเด็กๆ ไม่ควรเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาจะต้องลืมเมื่อโตขึ้น เราจึงต้องมีการกลั่นกรองนิทานสำหรับเด็ก กำจัดบางเรื่องและเก็บบางเรื่องไว้"
    .
    .
    38. "There's no difficulty in choosing vice in abundance: the road is smooth and it's hardly any distance to where it lives. But the gods have put sweat in the way of goodness, and a long, rough, steep road."

    "ไม่มีความยากลำบากในการเลือกความชั่วที่มีอยู่มากมาย: ถนนราบเรียบและแทบไม่มีระยะทางไปถึงที่อยู่ของมัน แต่เทพเจ้าได้วางเหงื่อไว้ในเส้นทางแห่งความดี และเป็นถนนที่ยาว ขรุขระ และชัน"
    .
    .
    39. "It is not Love absolutely that is good or praiseworthy, but only that Love which impels meant to love aright."

    "ไม่ใช่ความรักทั้งหมดที่ดีหรือน่าสรรเสริญ แต่เป็นเพียงความรักที่ผลักดันให้รักอย่างถูกต้องเท่านั้น"
    .
    .
    40. "Both knowledge and truth are beautiful things, but the good is other and more beautiful than they."

    "ทั้งความรู้และความจริงเป็นสิ่งงดงาม แต่ความดีนั้นแตกต่างและงดงามยิ่งกว่า"
    .
    .
    .
    .
    #SuccessStrategies #Quotes #Plato #Mindset #Politic
    40 คำคมทรงพลังจากเพลโต ปราชญ์ผู้วางรากฐานปัญญาตะวันตก . กว่าสองพันสี่ร้อยปีผ่านไป เสียงกังวานแห่งปัญญาของเพลโต (Plato, 428-348 BC) ยังคงก้องกึกในโลกแห่งความคิด Plato เป็นหนึ่งในเป็นผู้วางรากฐานการคิดเชิงปรัชญาให้แก่อารยธรรมตะวันตก จนมีผู้กล่าวว่า "Western philosophy is but a series of footnotes to Plato" (ปรัชญาตะวันตกทั้งมวลเป็นเพียงเชิงอรรถของเพลโต) . ในฐานะผู้ก่อตั้ง Platonic Academy (สำนักปรัชญาอคาเดมี) สถาบันการศึกษาแห่งแรกของโลกตะวันตก เพลโตได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาที่งอกงามเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านไปทั่วโลก . ผลงานอมตะของเพลโตที่ยังคงทรงอิทธิพลจวบจนปัจจุบัน อาทิ "Allegory of the Cave" (อุปมาถ้ำ) ที่เปรียบเทียบมนุษย์ผู้ติดอยู่กับโลกแห่งเงา และ "Theory of Forms" (ทฤษฎีแบบ) ที่เสนอว่าทุกสิ่งในโลกวัตถุล้วนเป็นเพียงเงาสะท้อนของแบบ หรือแม่แบบที่สมบูรณ์แบบในโลกแห่งความคิด . งานเขียนสำคัญของเขาอย่าง "The Republic" (รัฐ) วางรากฐานแนวคิดทางการเมืองและการปกครอง ขณะที่ "Symposium" (งานเลี้ยงสนทนา) ถกประเด็นความรักและความงามอันเป็นนิรันดร์ . แนวคิดของเพลโตได้หล่อหลอมวิธีคิดของโลกในทุกแขนง ทั้งปรัชญา ศาสนา การเมือง การศึกษา วิทยาศาสตร์ และศิลปะ อิทธิพลของเขาแผ่ขยายจากกรีกโบราณ ผ่านจักรวรรดิโรมัน ผ่านยุคกลาง ผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา จนถึงโลกสมัยใหม่ ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออก จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมโลก . 40 คำคมของเพลโตที่รวบรวมมานี้สะท้อนถึงความลุ่มลึกทางความคิดที่เชื่อมโยงสวรรค์กับโลก อุดมคติกับความเป็นจริง และชี้นำมนุษย์สู่การแสวงหาสัจธรรมอันสูงสุด . . 1. "Music gives a soul to the universe, wings to the mind, flight to the imagination and life to everything." "ดนตรีมอบจิตวิญญาณให้จักรวาล มอบปีกให้ความคิด มอบการโบยบินให้จินตนาการ และมอบชีวิตให้ทุกสิ่ง" . . 2. "Wise men speak because they have something to say; fools because they have to say something." "คนฉลาดพูดเพราะมีสิ่งที่ต้องการจะบอก คนโง่พูดเพราะต้องพูดอะไรสักอย่าง" . . 3. "The beginning is the most important part of the work." "จุดเริ่มต้นคือส่วนสำคัญที่สุดของงาน" . . 4. "No one is more hated than he who speaks the truth." "ไม่มีใครถูกเกลียดมากไปกว่าผู้ที่พูดความจริง" . . 5. "Necessity is the mother of invention." "ความจำเป็นคือบ่อเกิดแห่งการประดิษฐ์คิดค้น" . . 6. "Human behavior flows from three main sources: desire, emotion, and knowledge." "พฤติกรรมมนุษย์หลั่งไหลมาจากสามแหล่งหลัก: ความปรารถนา อารมณ์ และความรู้" . . 7. "The measure of a man is what he does with power." "เครื่องวัดคุณค่าของมนุษย์คือสิ่งที่เขาทำเมื่อมีอำนาจ" . . 8. "The first and best victory is to conquer self." "ชัยชนะแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดคือการชนะใจตนเอง" . . 9. "The penalty that good men pay for not being interested in politics is to be governed by men worse than themselves." "บทลงโทษที่คนดีต้องจ่ายสำหรับการไม่สนใจการเมืองคือการถูกปกครองโดยคนที่เลวร้ายกว่าตน" . . 10. "Those who tell the stories rule society." "ผู้ที่เล่าเรื่องราวคือผู้ปกครองสังคม" . . 11. "No wealth can ever make a bad man at peace with himself." "ไม่มีความมั่งคั่งใดจะทำให้คนเลวอยู่อย่างสงบกับตัวเองได้" . . 12. "Ignorance, the root and the stem of every evil." "ความโง่เขลาคือรากเหง้าและลำต้นของความชั่วร้ายทั้งปวง" . . 13. "We can easily forgive a child who is afraid of the dark; the real tragedy of life is when men are afraid of the light." "เราให้อภัยเด็กที่กลัวความมืดได้ง่าย แต่โศกนาฏกรรมที่แท้จริงของชีวิตคือเมื่อผู้คนกลัวแสงสว่าง" . . 14. "The worst form of injustice is pretended justice." "ความอยุติธรรมที่เลวร้ายที่สุดคือความยุติธรรมจอมปลอม" . . 15. "Opinion is the medium between knowledge and ignorance." "ความคิดเห็นคือสิ่งที่อยู่ระหว่างความรู้และความโง่เขลา" . . 16. "Geometry existed before creation." "เรขาคณิตมีอยู่ก่อนการสร้างสรรค์" . . 17. "Writing is the geometry of the soul." "การเขียนคือเรขาคณิตของจิตวิญญาณ" . . 18. "Courage is knowing what not to fear." "ความกล้าหาญคือการรู้ว่าอะไรไม่ควรกลัว" . . 19. "An empty vessel makes the loudest sound, so they that have the least wit are the greatest babblers." "ภาชนะที่ว่างเปล่าส่งเสียงดังที่สุด เช่นเดียวกับผู้ที่มีสติปัญญาน้อยที่สุดมักเป็นผู้พูดมากที่สุด" . . 20. "Education is teaching our children to desire the right things." "การศึกษาคือการสอนลูกหลานของเราให้ปรารถนาในสิ่งที่ถูกต้อง" . . 21. "Philosophy is the highest music." "ปรัชญาคือดนตรีที่สูงส่งที่สุด" . . 22. "There are three classes of men; lovers of wisdom, lovers of honor, and lovers of gain." "มนุษย์มีสามประเภท: ผู้รักปัญญา ผู้รักเกียรติยศ และผู้รักผลประโยชน์" . . 23. "Do not train a child to learn by force or harshness; but direct them to it by what amuses their minds, so that you may be better able to discover with accuracy the peculiar bent of the genius of each." "อย่าฝึกเด็กให้เรียนรู้ด้วยการบังคับหรือความรุนแรง แต่จงชี้นำพวกเขาด้วยสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้จิตใจ เพื่อที่คุณจะสามารถค้นพบความโน้มเอียงพิเศษของอัจฉริยภาพในตัวพวกเขาแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ" . . 24. "You should not honor men more than truth." "อย่าให้เกียรติมนุษย์มากกว่าความจริง" . . 25. "A hero is born among a hundred, a wise man is found among a thousand, but an accomplished one might not be found even among a hundred thousand men." "วีรบุรุษเกิดขึ้นในหนึ่งร้อย ปราชญ์พบได้ในหนึ่งพัน แต่ผู้ที่สมบูรณ์แบบอาจไม่พบแม้ในหนึ่งแสนคน" . . 26. "At the touch of love everyone becomes a poet." "เมื่อสัมผัสความรัก ทุกคนกลายเป็นกวี" . . 27. "There should exist among the citizens neither extreme poverty nor again excessive wealth, for both are productive of great evil." "ในหมู่พลเมืองไม่ควรมีทั้งความยากจนสุดขั้วหรือความมั่งคั่งล้นเหลือ เพราะทั้งสองสิ่งล้วนก่อให้เกิดความชั่วร้ายอันใหญ่หลวง" . . 28. "As the builders say, the larger stones do not lie well without the lesser." "ดังที่ช่างก่อสร้างว่า หินก้อนใหญ่ไม่อาจวางได้ดีหากปราศจากหินก้อนเล็ก" . . 29. "The most virtuous are those who content themselves with being virtuous without seeking to appear so." "ผู้ที่มีคุณธรรมที่สุดคือผู้ที่พอใจในการมีคุณธรรมโดยไม่พยายามทำให้ดูเหมือนว่ามี" . . 30. "For this feeling of wonder shows that you are a philosopher, since wonder is the only beginning of philosophy." "ความรู้สึกประหลาดใจนี้แสดงว่าคุณเป็นนักปรัชญา เพราะความประหลาดใจคือจุดเริ่มต้นเพียงหนึ่งเดียวของปรัชญา" . . 31. "Courage is a kind of salvation." "ความกล้าหาญคือรูปแบบหนึ่งของการหลุดพ้น" . . 32. "The highest reach of injustice is to be deemed just when you are not." "จุดสูงสุดของความอยุติธรรมคือการถูกมองว่ายุติธรรมทั้งที่ไม่ใช่" . . 33. "No science or art considers or enjoins the interest of the stronger or superior, but only the interest of the subject and weaker." "ไม่มีวิทยาศาสตร์หรือศิลปะใดพิจารณาหรือบังคับผลประโยชน์ของผู้แข็งแกร่งหรือผู้เหนือกว่า แต่เพียงผลประโยชน์ของผู้อยู่ใต้ปกครองและผู้อ่อนแอกว่า" . . 34. "For the uneducated, when they engage in argument about anything, give no thought to the truth about the subject of discussion but are only eager that those present will accept the position they have set forth." "สำหรับผู้ไร้การศึกษา เมื่อพวกเขาโต้แย้งเรื่องใดก็ตาม พวกเขาไม่คิดถึงความจริงเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังอภิปราย แต่กระตือรือร้นเพียงให้ผู้ที่อยู่ที่นั่นยอมรับจุดยืนที่พวกเขานำเสนอเท่านั้น" . . 35. "Neither do the ignorant seek after wisdom. For herein is the evil of ignorance, that he who is neither good nor wise is nevertheless satisfied with himself: he has no desire for that of which he feels no want." "คนโง่เขลาไม่แสวงหาปัญญา เพราะนี่คือความชั่วร้ายของความโง่เขลา ที่ผู้ซึ่งไม่ดีและไม่ฉลาดกลับพอใจในตัวเอง: เขาไม่มีความปรารถนาในสิ่งที่เขารู้สึกว่าไม่ขาด" . . 36. "The man who finds that in the course of his life he has done a lot of wrong often wakes up at night in terror, like a child with a nightmare, and his life is full of foreboding: but the man who is conscious of no wrongdoing is filled with cheerfulness and with the comfort of old age." "ผู้ที่พบว่าในช่วงชีวิตของเขาได้ทำผิดมากมักตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนด้วยความหวาดกลัว เหมือนเด็กที่ฝันร้าย และชีวิตของเขาเต็มไปด้วยลางร้าย แต่ผู้ที่ไม่รู้สึกว่าได้ทำผิดจะเต็มไปด้วยความร่าเริงและความสบายใจในวัยชรา" . . 37. "Now early life is very impressible, and children ought not to learn what they will have to unlearn when they grow up; we must therefore have a censorship of nursery tales, banishing some and keeping others." "ชีวิตในวัยต้นนั้นรับอิทธิพลได้ง่าย และเด็กๆ ไม่ควรเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาจะต้องลืมเมื่อโตขึ้น เราจึงต้องมีการกลั่นกรองนิทานสำหรับเด็ก กำจัดบางเรื่องและเก็บบางเรื่องไว้" . . 38. "There's no difficulty in choosing vice in abundance: the road is smooth and it's hardly any distance to where it lives. But the gods have put sweat in the way of goodness, and a long, rough, steep road." "ไม่มีความยากลำบากในการเลือกความชั่วที่มีอยู่มากมาย: ถนนราบเรียบและแทบไม่มีระยะทางไปถึงที่อยู่ของมัน แต่เทพเจ้าได้วางเหงื่อไว้ในเส้นทางแห่งความดี และเป็นถนนที่ยาว ขรุขระ และชัน" . . 39. "It is not Love absolutely that is good or praiseworthy, but only that Love which impels meant to love aright." "ไม่ใช่ความรักทั้งหมดที่ดีหรือน่าสรรเสริญ แต่เป็นเพียงความรักที่ผลักดันให้รักอย่างถูกต้องเท่านั้น" . . 40. "Both knowledge and truth are beautiful things, but the good is other and more beautiful than they." "ทั้งความรู้และความจริงเป็นสิ่งงดงาม แต่ความดีนั้นแตกต่างและงดงามยิ่งกว่า" . . . . #SuccessStrategies #Quotes #Plato #Mindset #Politic
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • When Do You Use “Who” vs. “Whom”?

    Over the last 200 years, the pronoun whom has been on a steady decline. Despite its waning use in speech and ongoing speculation about its imminent extinction, whom still holds a spot in the English language, particularly in formal writing. Understanding when and how to use this pronoun can set your writing apart.

    If whom is on the decline, then who must be growing in popularity. The two—as you’ll recall from English class—are related and may seem interchangeable. But are they really?

    Who vs. whom, what’s the difference?

    Whom is often confused with who. Who is a subjective-case pronoun, meaning it functions as a subject in a sentence, and whom is an objective-case pronoun, meaning it functions as an object in a sentence.

    When to use who

    Who, like I, he, she, we, and they, is used as the subject of a sentence. That means it performs actions.

    Examples of who in a sentence

    See how who is used as a subject in different ways:

    Who rescued the dog?
    I’m not sure who called my name.
    Do you know who baked this cake?

    Who is doing the rescuing in the first sentence. Similarly, who called and who baked in the other examples.

    When to use whom

    Whom is a little trickier. Like me, him, her, us, and them, whom is the object of a verb or preposition. That means whom is acted on.

    Take your grammar game to the next level with your own personal Grammar Coach™! Get started now for free!

    Examples of whom in a sentence

    See how whom acts as an object in each of these instances:

    Whom did you see?
    His grandchildren, whom he loves so much, are in town for a visit.
    The cook, whom we just hired, failed to show up to work today.

    In the first sentence, whom is being seen here, not doing the seeing. In the other examples, whom is being loved and hired. Whom is the direct object in all three sentences.

    Take a look at these sentences:

    She gave whom the package?
    Whom should I call first?
    My brother doesn’t remember whom he e-mailed the questions.

    In these sentences, whom functions as an indirect object. That is the person on the receiving end of the action. For example, the package was given to someone. It was given to whom.

    Whom also commonly appears when it follows a preposition, as in the salutation “To whom it may concern.” Does it concern he? No. Does it concern him? Yes.

    When in doubt, substitute him (sometimes you’ll have to rephrase the sentence) and see if that sounds right. If him is OK, then whom is OK. If the more natural substitute is he, then go with who. For example: You talked to who/whom? It would be incorrect to say, “You talked to he?”, but saying, “You talked to him?” makes grammatical sense. So you would ask, “You talked to whom?”

    All of that said, in informal speech and writing, speakers will often opt for who where whom has traditionally been used. This choice sounds more natural and less formal to most native English speakers.

    Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    When Do You Use “Who” vs. “Whom”? Over the last 200 years, the pronoun whom has been on a steady decline. Despite its waning use in speech and ongoing speculation about its imminent extinction, whom still holds a spot in the English language, particularly in formal writing. Understanding when and how to use this pronoun can set your writing apart. If whom is on the decline, then who must be growing in popularity. The two—as you’ll recall from English class—are related and may seem interchangeable. But are they really? Who vs. whom, what’s the difference? Whom is often confused with who. Who is a subjective-case pronoun, meaning it functions as a subject in a sentence, and whom is an objective-case pronoun, meaning it functions as an object in a sentence. When to use who Who, like I, he, she, we, and they, is used as the subject of a sentence. That means it performs actions. Examples of who in a sentence See how who is used as a subject in different ways: Who rescued the dog? I’m not sure who called my name. Do you know who baked this cake? Who is doing the rescuing in the first sentence. Similarly, who called and who baked in the other examples. When to use whom Whom is a little trickier. Like me, him, her, us, and them, whom is the object of a verb or preposition. That means whom is acted on. Take your grammar game to the next level with your own personal Grammar Coach™! Get started now for free! Examples of whom in a sentence See how whom acts as an object in each of these instances: Whom did you see? His grandchildren, whom he loves so much, are in town for a visit. The cook, whom we just hired, failed to show up to work today. In the first sentence, whom is being seen here, not doing the seeing. In the other examples, whom is being loved and hired. Whom is the direct object in all three sentences. Take a look at these sentences: She gave whom the package? Whom should I call first? My brother doesn’t remember whom he e-mailed the questions. In these sentences, whom functions as an indirect object. That is the person on the receiving end of the action. For example, the package was given to someone. It was given to whom. Whom also commonly appears when it follows a preposition, as in the salutation “To whom it may concern.” Does it concern he? No. Does it concern him? Yes. When in doubt, substitute him (sometimes you’ll have to rephrase the sentence) and see if that sounds right. If him is OK, then whom is OK. If the more natural substitute is he, then go with who. For example: You talked to who/whom? It would be incorrect to say, “You talked to he?”, but saying, “You talked to him?” makes grammatical sense. So you would ask, “You talked to whom?” All of that said, in informal speech and writing, speakers will often opt for who where whom has traditionally been used. This choice sounds more natural and less formal to most native English speakers. Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • Winter Wonder Doi จ.เชียงราย
    Winter Wonder Doi จ.เชียงราย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=rRzhMOHBPHg
    บทสนทนาเที่ยวงานกาชาด
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเที่ยวงานกาชาด
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #งานกาชาด

    The conversations from the clip :

    Sarah: Wow, Emma, look at all the food stalls! This place smells amazing!
    Emma: I know! I can't decide where to start. Do you feel like trying something sweet or savory first?
    Sarah: Let's go savory. Those grilled sausages over there look so good.
    Emma: Great idea. I'll grab some, and we can share.
    Sarah: While you’re doing that, I’ll get us some drinks. What do you want?
    Emma: Lemonade, please. It’s perfect for this hot weather.
    Sarah: This sausage is delicious! I think it’s locally made.
    Emma: Totally! And this lemonade is so refreshing. What do you want to try next?
    Sarah: Let’s check out the dessert stall. I saw some colorful cotton candy earlier.
    Emma: Look at these cupcakes! They’re so pretty. Should we get one?
    Sarah: Definitely. I’ll also get some cotton candy. it’s a fair classic.
    Emma: Hey, did you see the Red Cross lottery booth? The prizes look amazing!
    Sarah: Yeah, I heard there’s a chance to win a new bike! Should we buy some tickets?
    Emma: Let’s do it! I’ll get two, and you can get two. Who knows? We might get lucky.
    Sarah: Agreed. Plus, it’s for a good cause. Fingers crossed we win something!

    ซาราห์: ว้าว เอ็มม่า ดูสิร้านอาหารเต็มไปหมดเลย! ที่นี่มีกลิ่นหอมมากเลยนะ!
    เอ็มม่า: ใช่เลย! ฉันเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี เธออยากลองของหวานหรือของคาวก่อน?
    ซาราห์: ลองของคาวก่อนดีกว่า ไส้กรอกย่างตรงนั้นดูน่าอร่อยมากเลย
    เอ็มม่า: ไอเดียดีเลย ฉันจะไปซื้อมาบ้าง แล้วเรามาแบ่งกันกิน
    ซาราห์: ระหว่างที่เธอไปซื้อ ฉันจะไปซื้อเครื่องดื่มมาให้เรา เธออยากได้อะไร?
    เอ็มม่า: น้ำมะนาวค่ะ เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้เลย
    ซาราห์: ไส้กรอกนี้อร่อยมาก! ฉันว่ามันน่าจะทำจากท้องถิ่นนะ
    เอ็มม่า: จริงเลย! และน้ำมะนาวนี้ก็สดชื่นมาก เธออยากลองอะไรต่อไป?
    ซาราห์: ไปดูร้านขนมหวานกันเถอะ ฉันเห็นสายไหมหลากสีตรงนั้นด้วย
    เอ็มม่า: ดูพวกคัพเค้กนี่สิ! มันดูสวยมากเลย เราควรจะซื้อมาสักชิ้นดีไหม?
    ซาราห์: แน่นอนเลย แล้วฉันจะซื้อสายไหมด้วย—มันคือของคลาสสิคของงานแฟร์
    เอ็มม่า: เฮ้ เธอเห็นบูธลอตเตอรี่ของสภากาชาดหรือยัง? ของรางวัลดูดีมากเลย!
    ซาราห์: เห็นสิ ฉันได้ยินมาว่ามีโอกาสลุ้นจักรยานคันใหม่ด้วย! เราควรจะซื้อลอตเตอรี่กันดีไหม?
    เอ็มม่า: ซื้อลองดูสิ! ฉันจะซื้อสองใบ แล้วเธอก็ซื้อสองใบ ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะโชคดีก็ได้
    ซาราห์: เห็นด้วยเลย แถมยังเป็นการทำบุญอีก หวังว่าเราจะถูกรางวัลอะไรบ้างนะ!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Stall (สตอล) n. แปลว่า แผงขายของ
    Savory (เซ-เวอ-รี) adj. แปลว่า รสชาติคาว
    Sausage (ซอ-ซิจ) n. แปลว่า ไส้กรอก
    Grilled (กริลด์) adj. แปลว่า ย่าง
    Lemonade (เลม-โอะ-เนด) n. แปลว่า น้ำมะนาว
    Refreshing (ริ-เฟรช-อิง) adj. แปลว่า สดชื่น
    Dessert (ดี-เซิร์ท) n. แปลว่า ของหวาน
    Cotton candy (คอท-เทิน แคน-ดี้) n. แปลว่า ขนมสายไหม
    Cupcake (คัพ-เค้ก) n. แปลว่า คัพเค้ก
    Lottery (ลอท-เทอรี) n. แปลว่า สลากกินแบ่ง
    Booth (บูธ) n. แปลว่า บูธ
    Prize (ไพรซ์) n. แปลว่า รางวัล
    Ticket (ทิ-เก็ต) n. แปลว่า ตั๋ว
    Cause (คอร์ส) n. แปลว่า วัตถุประสงค์, สาเหตุ
    Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี
    https://www.youtube.com/watch?v=rRzhMOHBPHg บทสนทนาเที่ยวงานกาชาด (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเที่ยวงานกาชาด มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #งานกาชาด The conversations from the clip : Sarah: Wow, Emma, look at all the food stalls! This place smells amazing! Emma: I know! I can't decide where to start. Do you feel like trying something sweet or savory first? Sarah: Let's go savory. Those grilled sausages over there look so good. Emma: Great idea. I'll grab some, and we can share. Sarah: While you’re doing that, I’ll get us some drinks. What do you want? Emma: Lemonade, please. It’s perfect for this hot weather. Sarah: This sausage is delicious! I think it’s locally made. Emma: Totally! And this lemonade is so refreshing. What do you want to try next? Sarah: Let’s check out the dessert stall. I saw some colorful cotton candy earlier. Emma: Look at these cupcakes! They’re so pretty. Should we get one? Sarah: Definitely. I’ll also get some cotton candy. it’s a fair classic. Emma: Hey, did you see the Red Cross lottery booth? The prizes look amazing! Sarah: Yeah, I heard there’s a chance to win a new bike! Should we buy some tickets? Emma: Let’s do it! I’ll get two, and you can get two. Who knows? We might get lucky. Sarah: Agreed. Plus, it’s for a good cause. Fingers crossed we win something! ซาราห์: ว้าว เอ็มม่า ดูสิร้านอาหารเต็มไปหมดเลย! ที่นี่มีกลิ่นหอมมากเลยนะ! เอ็มม่า: ใช่เลย! ฉันเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี เธออยากลองของหวานหรือของคาวก่อน? ซาราห์: ลองของคาวก่อนดีกว่า ไส้กรอกย่างตรงนั้นดูน่าอร่อยมากเลย เอ็มม่า: ไอเดียดีเลย ฉันจะไปซื้อมาบ้าง แล้วเรามาแบ่งกันกิน ซาราห์: ระหว่างที่เธอไปซื้อ ฉันจะไปซื้อเครื่องดื่มมาให้เรา เธออยากได้อะไร? เอ็มม่า: น้ำมะนาวค่ะ เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้เลย ซาราห์: ไส้กรอกนี้อร่อยมาก! ฉันว่ามันน่าจะทำจากท้องถิ่นนะ เอ็มม่า: จริงเลย! และน้ำมะนาวนี้ก็สดชื่นมาก เธออยากลองอะไรต่อไป? ซาราห์: ไปดูร้านขนมหวานกันเถอะ ฉันเห็นสายไหมหลากสีตรงนั้นด้วย เอ็มม่า: ดูพวกคัพเค้กนี่สิ! มันดูสวยมากเลย เราควรจะซื้อมาสักชิ้นดีไหม? ซาราห์: แน่นอนเลย แล้วฉันจะซื้อสายไหมด้วย—มันคือของคลาสสิคของงานแฟร์ เอ็มม่า: เฮ้ เธอเห็นบูธลอตเตอรี่ของสภากาชาดหรือยัง? ของรางวัลดูดีมากเลย! ซาราห์: เห็นสิ ฉันได้ยินมาว่ามีโอกาสลุ้นจักรยานคันใหม่ด้วย! เราควรจะซื้อลอตเตอรี่กันดีไหม? เอ็มม่า: ซื้อลองดูสิ! ฉันจะซื้อสองใบ แล้วเธอก็ซื้อสองใบ ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะโชคดีก็ได้ ซาราห์: เห็นด้วยเลย แถมยังเป็นการทำบุญอีก หวังว่าเราจะถูกรางวัลอะไรบ้างนะ! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Stall (สตอล) n. แปลว่า แผงขายของ Savory (เซ-เวอ-รี) adj. แปลว่า รสชาติคาว Sausage (ซอ-ซิจ) n. แปลว่า ไส้กรอก Grilled (กริลด์) adj. แปลว่า ย่าง Lemonade (เลม-โอะ-เนด) n. แปลว่า น้ำมะนาว Refreshing (ริ-เฟรช-อิง) adj. แปลว่า สดชื่น Dessert (ดี-เซิร์ท) n. แปลว่า ของหวาน Cotton candy (คอท-เทิน แคน-ดี้) n. แปลว่า ขนมสายไหม Cupcake (คัพ-เค้ก) n. แปลว่า คัพเค้ก Lottery (ลอท-เทอรี) n. แปลว่า สลากกินแบ่ง Booth (บูธ) n. แปลว่า บูธ Prize (ไพรซ์) n. แปลว่า รางวัล Ticket (ทิ-เก็ต) n. แปลว่า ตั๋ว Cause (คอร์ส) n. แปลว่า วัตถุประสงค์, สาเหตุ Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 572 มุมมอง 0 รีวิว
  • # True Meditation: Training the Mind Without Attachment---## Understanding Meditation: Beyond Sitting in SilenceTrue meditation isn't merely about sitting still or repetitive actions like watching your breath for ten or twenty minutes each day. Rather, it's about cultivating awareness of every mental movement, whether it's breathing or even mind-wandering.## Valuing Every BreathA person with concentration appreciates every breath, both long and short, because awareness of breathing prevents the mind from scattering in different directions. When we value each moment of breathing, it helps stabilize the mind naturally. Mental wandering gradually diminishes as we learn to recognize and understand it.## Embracing Mental WanderingTrue meditation doesn't mean forcing the mind to be calm at all times. Instead, it means acknowledging and accepting moments when the mind wanders. When we understand that mental wandering is an opportunity to observe and recognize our thoughts, every instance of distraction becomes an important lesson in developing mindfulness. When the mind doesn't get lost in wandering thoughts and doesn't identify with them, it naturally returns to tranquility in the long term.## Practicing Meditation in Every MomentTrue meditation isn't just about sitting with closed eyes—it's about "keeping your eyes open and remaining aware throughout life." Practicing meditation in every moment means maintaining mindfulness in all actions, whether walking, eating, or speaking. Simply by staying present with whatever we're doing in the moment, life becomes filled with peace and balance.## Living Life MeaningfullyMeditation isn't about escaping from life or merely retreating from social chaos. Rather, it's about training ourselves to make every moment valuable. By practicing awareness of what arises in the mind, every minute of life becomes meaningful and worthwhile.## Conclusion: Meditation in Daily LifeTrue meditation doesn't come from intentionally practicing for brief periods on certain days. Instead, it's about cultivating mindfulness in every moment of life, seeing value in every movement of mind and body, whether it's breathing, working, or even conversing. Training the mind to remain peaceful in all situations brings genuine happiness and enables us to live life more meaningfully and valuably each day.
    # True Meditation: Training the Mind Without Attachment---## Understanding Meditation: Beyond Sitting in SilenceTrue meditation isn't merely about sitting still or repetitive actions like watching your breath for ten or twenty minutes each day. Rather, it's about cultivating awareness of every mental movement, whether it's breathing or even mind-wandering.## Valuing Every BreathA person with concentration appreciates every breath, both long and short, because awareness of breathing prevents the mind from scattering in different directions. When we value each moment of breathing, it helps stabilize the mind naturally. Mental wandering gradually diminishes as we learn to recognize and understand it.## Embracing Mental WanderingTrue meditation doesn't mean forcing the mind to be calm at all times. Instead, it means acknowledging and accepting moments when the mind wanders. When we understand that mental wandering is an opportunity to observe and recognize our thoughts, every instance of distraction becomes an important lesson in developing mindfulness. When the mind doesn't get lost in wandering thoughts and doesn't identify with them, it naturally returns to tranquility in the long term.## Practicing Meditation in Every MomentTrue meditation isn't just about sitting with closed eyes—it's about "keeping your eyes open and remaining aware throughout life." Practicing meditation in every moment means maintaining mindfulness in all actions, whether walking, eating, or speaking. Simply by staying present with whatever we're doing in the moment, life becomes filled with peace and balance.## Living Life MeaningfullyMeditation isn't about escaping from life or merely retreating from social chaos. Rather, it's about training ourselves to make every moment valuable. By practicing awareness of what arises in the mind, every minute of life becomes meaningful and worthwhile.## Conclusion: Meditation in Daily LifeTrue meditation doesn't come from intentionally practicing for brief periods on certain days. Instead, it's about cultivating mindfulness in every moment of life, seeing value in every movement of mind and body, whether it's breathing, working, or even conversing. Training the mind to remain peaceful in all situations brings genuine happiness and enables us to live life more meaningfully and valuably each day.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • #Probiotics ช่วยอะไร ?
    - ปรับสมดุลจุลินทรีย์ ดีต่อระบบย่อยอาหาร
    - เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
    - ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และท้องผูก

    KOMBUCHA เครื่องดื่ม โพรไบโอติกส์ ชาหมักคอมบูชะ
    Raw fermented & homemade by Scoby Doit
    https://s.shopee.co.th/6V6oxS9bSG
    #Probiotics ช่วยอะไร ? - ปรับสมดุลจุลินทรีย์ ดีต่อระบบย่อยอาหาร - เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย - ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และท้องผูก KOMBUCHA เครื่องดื่ม โพรไบโอติกส์ ชาหมักคอมบูชะ Raw fermented & homemade by Scoby Doit https://s.shopee.co.th/6V6oxS9bSG
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม ๑๐% สำหรับสินค้าจากจีน และ ๒๕% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก

    เขากล่าวว่าภาษีดังกล่าวเกิดจากพรมแดนเปิด, ยาเสพติด, และคนต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย

    ภาษีเหล่านี้จะลงนามในวันที่ ๒๐ มกราคม โดยถือเป็น "หนึ่งในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแรก"
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ทั้งเม็กซิโกและแคนาดามีอำนาจในการลดการค้ายาเสพติดและการย้ายถิ่นฐานที่ผิดกฎหมาย

    จนกว่าทั้งสองประเทศจะเริ่มดำเนินการ, ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีเหล่านี้จะทำให้พวกเขา "ต้องจ่ายราคาที่สูงมาก"
    .
    BREAKING: Donald Trump says he will impose an additional 10% tariff on goods from China and 25% tariff on goods from Canada and Mexico.

    He says the tariffs are due to open borders, drugs, and illegal aliens.

    These tariffs will be signed on January 20th as "one of many first Executive Orders."
    .
    Donald Trump says that both Mexico and Canada have the power to reduce drug trade and illegal immigration.

    Until they start doing so, Trump says that these tariffs will make them "pay a very big price."
    .
    7:07 AM · Nov 26, 2024 · 47.9K Views
    https://x.com/KobeissiLetter/status/1861200034357747867
    โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม ๑๐% สำหรับสินค้าจากจีน และ ๒๕% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก เขากล่าวว่าภาษีดังกล่าวเกิดจากพรมแดนเปิด, ยาเสพติด, และคนต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ภาษีเหล่านี้จะลงนามในวันที่ ๒๐ มกราคม โดยถือเป็น "หนึ่งในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแรก" . โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ทั้งเม็กซิโกและแคนาดามีอำนาจในการลดการค้ายาเสพติดและการย้ายถิ่นฐานที่ผิดกฎหมาย จนกว่าทั้งสองประเทศจะเริ่มดำเนินการ, ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีเหล่านี้จะทำให้พวกเขา "ต้องจ่ายราคาที่สูงมาก" . BREAKING: Donald Trump says he will impose an additional 10% tariff on goods from China and 25% tariff on goods from Canada and Mexico. He says the tariffs are due to open borders, drugs, and illegal aliens. These tariffs will be signed on January 20th as "one of many first Executive Orders." . Donald Trump says that both Mexico and Canada have the power to reduce drug trade and illegal immigration. Until they start doing so, Trump says that these tariffs will make them "pay a very big price." . 7:07 AM · Nov 26, 2024 · 47.9K Views https://x.com/KobeissiLetter/status/1861200034357747867
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ?   รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square  ≥ 4พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์  ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure. ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยากSummary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้: PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148)จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มากและมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบีย ช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริhttps://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1 https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ?   รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square  ≥ 4พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์  ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure. ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยากSummary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้: PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148)จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มากและมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบีย ช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริhttps://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1 https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    Like
    Love
    21
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1257 มุมมอง 1 รีวิว
  • ถ้ากฎหมายคือสิ่งที่กำหนดว่าอะไรผิดหรือถูกตามหลัก Nullum crimen sine lege การกระทำจะเป็นอาชญากรรมได้ก็ต่อเมื่อมีกฎเขียนไว้อย่างชัดเจน แต่ในมุมมองของ Solipsism ทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงกฎหมายและความผิด อาจมีอยู่เพียงเพราะเรารับรู้มัน ถ้าไม่มีใครเห็นหรือรับรู้ กฎหมายหรือความผิดก็อาจไม่มีความหมายเลยสิ่งนี้ชวนให้ตั้งคำถามว่า ความจริงที่เรายึดถือ—ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายหรือความถูกผิด—เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง หรือแค่สิ่งที่จิตใจเราสร้างขึ้นมา?ถาวร บุญญวรรณ#innerradiancetarot If laws define what is right or wrong under the principle of Nullum crimen sine lege, an act can only be considered a crime if it is explicitly written in the law. However, through the lens of Solipsism, everything—including laws and wrongdoing—might exist solely because we perceive it. Without anyone to see or acknowledge it, laws or guilt may hold no meaning at all.This perspective invites us to question whether the truths we adhere to—be it laws or moral judgments—truly exist on their own, or are merely constructs of our minds.Thaworn Boonyawan
    ถ้ากฎหมายคือสิ่งที่กำหนดว่าอะไรผิดหรือถูกตามหลัก Nullum crimen sine lege การกระทำจะเป็นอาชญากรรมได้ก็ต่อเมื่อมีกฎเขียนไว้อย่างชัดเจน แต่ในมุมมองของ Solipsism ทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงกฎหมายและความผิด อาจมีอยู่เพียงเพราะเรารับรู้มัน ถ้าไม่มีใครเห็นหรือรับรู้ กฎหมายหรือความผิดก็อาจไม่มีความหมายเลยสิ่งนี้ชวนให้ตั้งคำถามว่า ความจริงที่เรายึดถือ—ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายหรือความถูกผิด—เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง หรือแค่สิ่งที่จิตใจเราสร้างขึ้นมา?ถาวร บุญญวรรณ#innerradiancetarot If laws define what is right or wrong under the principle of Nullum crimen sine lege, an act can only be considered a crime if it is explicitly written in the law. However, through the lens of Solipsism, everything—including laws and wrongdoing—might exist solely because we perceive it. Without anyone to see or acknowledge it, laws or guilt may hold no meaning at all.This perspective invites us to question whether the truths we adhere to—be it laws or moral judgments—truly exist on their own, or are merely constructs of our minds.Thaworn Boonyawan
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 428 มุมมอง 0 รีวิว
  • จอห์น ธูน: พบกับผู้นำเสียงข้างมากคนใหม่ของวุฒิสภารีพับลิกัน

    วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ จอห์น ธูน, ซึ่งดำรงตำแหน่งวิปฝ่ายเสียงข้างน้อยภายใต้การนำของมิตช์ แม็กคอนเนลล์ อดีตผู้นำเสียงข้างน้อย เมื่อพรรคเดโมแครตควบคุมวุฒิสภา, ได้รับเลือกจากเพื่อนร่วมงานให้เป็นผู้นำเสียงข้างมากคนใหม่ของวุฒิสภา

    🔸ธูนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาในปี ๒๐๐๔ เพื่อเป็นตัวแทนของรัฐเซาท์ดาโกตา และมีประสบการณ์ในการเป็นทั้งผู้นำเสียงข้างมากและวิปฝ่ายเสียงข้างน้อย

    🔸เขาเป็นผู้สนับสนุนอย่างเปิดเผยในการช่วยเหลือยูเครนของสหรัฐฯ, โดยอ้างว่าสหรัฐฯ "ไม่สามารถถอยหนีจากเวทีโลกได้" และควรส่งอาวุธและทรัพยากรให้กับเคียฟต่อไป

    🔸ในเดือนมีนาคม ๒๐๒๒, เขาได้ยกย่องความพยายามของวอชิงตันในการ "ให้ความช่วยเหลือที่ร้ายแรง" แก่ยูเครน และในการทำให้สมาชิก NATO อื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องในความขัดแย้งในยูเครน

    🔸เขายังได้แสดงความสนับสนุนอิสราเอลและการวิพากษ์วิจารณ์อิหร่าน, โดยยืนกรานว่าเทลอาวีฟมีสิทธิที่จะป้องกันตนเอง และกล่าวหาว่าอิหร่านกำลังพยายามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และต้องป้องกันไม่ให้ทำเช่นนั้น

    🔸ธูนเองก็ไม่ใช่แฟนตัวยงของจีนเช่นกัน, โดยอ้างว่าในปี ๒๐๒๓ สหรัฐฯควรพิจารณาให้ความสำคัญกับความพยายามในการต่อต้านภัยคุกคามจากปักกิ่ง

    🔸“เราอยู่ในยุคของการแข่งขันกับจีน, โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีเจตนาที่จะแทนที่ผู้นำสหรัฐฯ ในอินโด-แปซิฟิก เพื่อที่จะได้บังคับใช้เจตจำนงทางเศรษฐกิจและการทหารทั่วทั้งภูมิภาคและไกลออกไป,” ธูน กล่าว

    🔸เมื่อต้นปีนี้, ธูนยังลงคะแนนเสียงให้กับแพ็คเกจความช่วยเหลือต่างประเทศมูลค่า ๙.๕ หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันอีกด้วย
    .
    JOHN THUNE: MEET THE NEW REPUBLICAN SENATE MAJORITY LEADER

    US Republican Senator John Thune, who held the position of minority whip under former minority leader Mitch McConnell when the Democrats controlled the Senate, has been elected by his peers as the new Senate majority leader.

    🔸Thune was elected to the Senate in 2004 to represent South Dakota and has the experience of being both the majority and the minority whip.

    🔸He has been a vocal proponent of US assistance to Ukraine, having claimed that the United States “cannot retreat from the world stage” and thus should keep supplying Kiev with weapons and resources.

    🔸In March 2022, he praised Washington’s efforts to provide “lethal aid” to Ukraine and to get other NATO members involved in the Ukrainian conflict.

    🔸He has also voiced his support of Israel and his criticism of Iran, insisting that Tel Aviv has a right to self-defense and alleging that Iran is trying to acquire nuclear weapons and must be prevented from doing so.

    🔸Thune is also no fan of China, claiming in 2023 that the US should consider prioritizing its efforts to counter the threat from Beijing.

    🔸“We are in an era of competition with China, with the Chinese Communist Party intent on displacing US leadership in the Indo-Pacific so that it may impose its economic and military will throughout the region and beyond,” Thune declared.

    🔸Earlier this year, Thune also voted for the $95 billion foreign aid package for Ukraine, Israel and Taiwan.
    .
    5:22 AM · Nov 14, 2024 · 8,428 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1856824930194637179
    จอห์น ธูน: พบกับผู้นำเสียงข้างมากคนใหม่ของวุฒิสภารีพับลิกัน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ จอห์น ธูน, ซึ่งดำรงตำแหน่งวิปฝ่ายเสียงข้างน้อยภายใต้การนำของมิตช์ แม็กคอนเนลล์ อดีตผู้นำเสียงข้างน้อย เมื่อพรรคเดโมแครตควบคุมวุฒิสภา, ได้รับเลือกจากเพื่อนร่วมงานให้เป็นผู้นำเสียงข้างมากคนใหม่ของวุฒิสภา 🔸ธูนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาในปี ๒๐๐๔ เพื่อเป็นตัวแทนของรัฐเซาท์ดาโกตา และมีประสบการณ์ในการเป็นทั้งผู้นำเสียงข้างมากและวิปฝ่ายเสียงข้างน้อย 🔸เขาเป็นผู้สนับสนุนอย่างเปิดเผยในการช่วยเหลือยูเครนของสหรัฐฯ, โดยอ้างว่าสหรัฐฯ "ไม่สามารถถอยหนีจากเวทีโลกได้" และควรส่งอาวุธและทรัพยากรให้กับเคียฟต่อไป 🔸ในเดือนมีนาคม ๒๐๒๒, เขาได้ยกย่องความพยายามของวอชิงตันในการ "ให้ความช่วยเหลือที่ร้ายแรง" แก่ยูเครน และในการทำให้สมาชิก NATO อื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องในความขัดแย้งในยูเครน 🔸เขายังได้แสดงความสนับสนุนอิสราเอลและการวิพากษ์วิจารณ์อิหร่าน, โดยยืนกรานว่าเทลอาวีฟมีสิทธิที่จะป้องกันตนเอง และกล่าวหาว่าอิหร่านกำลังพยายามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และต้องป้องกันไม่ให้ทำเช่นนั้น 🔸ธูนเองก็ไม่ใช่แฟนตัวยงของจีนเช่นกัน, โดยอ้างว่าในปี ๒๐๒๓ สหรัฐฯควรพิจารณาให้ความสำคัญกับความพยายามในการต่อต้านภัยคุกคามจากปักกิ่ง 🔸“เราอยู่ในยุคของการแข่งขันกับจีน, โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีเจตนาที่จะแทนที่ผู้นำสหรัฐฯ ในอินโด-แปซิฟิก เพื่อที่จะได้บังคับใช้เจตจำนงทางเศรษฐกิจและการทหารทั่วทั้งภูมิภาคและไกลออกไป,” ธูน กล่าว 🔸เมื่อต้นปีนี้, ธูนยังลงคะแนนเสียงให้กับแพ็คเกจความช่วยเหลือต่างประเทศมูลค่า ๙.๕ หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันอีกด้วย . JOHN THUNE: MEET THE NEW REPUBLICAN SENATE MAJORITY LEADER US Republican Senator John Thune, who held the position of minority whip under former minority leader Mitch McConnell when the Democrats controlled the Senate, has been elected by his peers as the new Senate majority leader. 🔸Thune was elected to the Senate in 2004 to represent South Dakota and has the experience of being both the majority and the minority whip. 🔸He has been a vocal proponent of US assistance to Ukraine, having claimed that the United States “cannot retreat from the world stage” and thus should keep supplying Kiev with weapons and resources. 🔸In March 2022, he praised Washington’s efforts to provide “lethal aid” to Ukraine and to get other NATO members involved in the Ukrainian conflict. 🔸He has also voiced his support of Israel and his criticism of Iran, insisting that Tel Aviv has a right to self-defense and alleging that Iran is trying to acquire nuclear weapons and must be prevented from doing so. 🔸Thune is also no fan of China, claiming in 2023 that the US should consider prioritizing its efforts to counter the threat from Beijing. 🔸“We are in an era of competition with China, with the Chinese Communist Party intent on displacing US leadership in the Indo-Pacific so that it may impose its economic and military will throughout the region and beyond,” Thune declared. 🔸Earlier this year, Thune also voted for the $95 billion foreign aid package for Ukraine, Israel and Taiwan. . 5:22 AM · Nov 14, 2024 · 8,428 Views https://x.com/SputnikInt/status/1856824930194637179
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 634 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนอดีต: ปูติน 'สนับสนุน' แฮร์ริส โดยบอกว่าเธอมีเสียงหัวเราะที่น่าดึงดูด

    "เรามีคนโปรด, ผู้ดำรงตำแหน่งอยู่, คือนายไบเดน, แต่เขาถูกไล่ออกจากการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม, เขาแนะนำให้ผู้สนับสนุนทุกคนของเขาสนับสนุนนางแฮร์ริส นั่นคือสิ่งที่เราจะทำ; เราจะสนับสนุนเธอ," วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวด้วยรอยยิ้มระหว่างการอภิปรายที่ฟอรัมเศรษฐกิจตะวันออกในเดือนกันยายน ๒๐๒๔

    เขาเสริมว่าแฮร์ริสมี 🤣"เสียงหัวเราะที่น่าดึงดูด" ซึ่งแสดงให้เห็นว่า "เธอสบายดี"🤣
    .
    THROWBACK: Putin ‘endorses’ Harris saying she has an infectious laugh

    "We had a favorite, the incumbent, Mr. Biden, but he was yanked from the race. Nevertheless, he recommended to all of his supporters to back Ms. Harris. Well, that's what we're going to do; we're going to support her," Vladimir Putin said with a grin during the Eastern Economic Forum discussion in September 2024.

    He added that Harris has an “infectious laugh", which shows that “she is doing well.”
    .
    6:24 AM · Nov 6, 2024 · 2,400 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1853941540822946056
    ย้อนอดีต: ปูติน 'สนับสนุน' แฮร์ริส โดยบอกว่าเธอมีเสียงหัวเราะที่น่าดึงดูด "เรามีคนโปรด, ผู้ดำรงตำแหน่งอยู่, คือนายไบเดน, แต่เขาถูกไล่ออกจากการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม, เขาแนะนำให้ผู้สนับสนุนทุกคนของเขาสนับสนุนนางแฮร์ริส นั่นคือสิ่งที่เราจะทำ; เราจะสนับสนุนเธอ," วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวด้วยรอยยิ้มระหว่างการอภิปรายที่ฟอรัมเศรษฐกิจตะวันออกในเดือนกันยายน ๒๐๒๔ เขาเสริมว่าแฮร์ริสมี 🤣"เสียงหัวเราะที่น่าดึงดูด" ซึ่งแสดงให้เห็นว่า "เธอสบายดี"🤣 . THROWBACK: Putin ‘endorses’ Harris saying she has an infectious laugh "We had a favorite, the incumbent, Mr. Biden, but he was yanked from the race. Nevertheless, he recommended to all of his supporters to back Ms. Harris. Well, that's what we're going to do; we're going to support her," Vladimir Putin said with a grin during the Eastern Economic Forum discussion in September 2024. He added that Harris has an “infectious laugh", which shows that “she is doing well.” . 6:24 AM · Nov 6, 2024 · 2,400 Views https://x.com/SputnikInt/status/1853941540822946056
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • กลุ่มอาการหลังวัคซีนโควิด (ตอนที่ 1)

    ประโยชน์ของวัคซีนก็คือป้องกันโรค รวมทั้งลดอาการหนัก การตายและในขณะเดียวกันจำเป็นต้องทราบผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนในระยะเวลาต่างๆ ตั้งแต่ได้รับวัคซีนนาทีแรกจนกระทั่งถึงระยะกลางเป็นสัปดาห์และระยะยาวเป็นเดือนและสิ่งที่ทอดยาวไปเป็นปี

    วัคซีนโควิดเช่นกันในช่วงที่มีการระบาดรุนแรงจำเป็นต้องใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเป้าหมายของทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วยก็คือ ให้ทุกคนได้รับวัคซีนทั้งนี้เพื่อทำให้ระบบสาธารณสุขไม่พังพาบ จนรับผู้ป่วยโควิดไม่ไหว
    แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีระบบในการรองรับเพื่อประเมิน ผลข้างเคียงเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในคนที่ได้รับวัคซีนโดยที่เป็นคนที่ยังสุขภาพดีแข็งแรงจนกระทั่งมีโรคประจำตัวอื่นๆ

    รายงานในวารสารทางการแพทย์ของอังกฤษ British Medical Journal ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2023 ตั้งคำถามถึงระบบในสหรัฐที่รับรายงานผลแทรกซ้อนของวัคซีนที่เรียกว่า vaccine adverse event reporting system (VAERS) ทั้งนี้ยกตัวอย่างหมอสหรัฐที่ได้รับวัคซีนและเกิดผลกระทบอย่างรุนแรง พยายามที่จะรายงานเข้าระบบ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าใดนักรวมทั้งเป็นความซับซ้อนที่จะได้รับการติดตามสืบหารายละเอียดต่อ
    (Is the US’s Vaccine Adverse Event Reporting System broken?BMJ Investigation BMJ 2023; 383 doi: https://doi.org/10.1136/bmj.p2582 (Published 10 November 2023) Cite this as: BMJ 2023;383:p2582)
    ระบบในการรายงานในประเทศต่างๆไม่เฉพาะแต่ในประเทศอเมริกา แม้แต่ในยุโรปและในอังกฤษเองก็มีปัญหา ซึ่งแตกต่างกับระบบในประเทศเกาหลี ดังที่มีรายงานอุบัติการของหัวใจอักเสบหลังได้รับวัคซีน
    เอ็มอาร์เอ็นเอ โดยเป็นการเปิดรายงานแบบอิสระและแทบจะเป็นเรียวไทม์ โดยกฎเกณฑ์ของเงื่อนไขหัวใจอักเสบนั้นตัดสาเหตุอื่น ที่ทำให้หัวใจอักเสบได้ทั้งหมดจนเหลือแต่วัคซีนและตัวเลขที่ได้นั้นยังต่ำกว่าความเป็นจริง ด้วยซ้ำ และถึงแม้ว่าอุบัติการของหัวใจอักเสบอย่างเดียวจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งใน 100,000 แต่ความรุนแรงนั้นมากจนกระทั่งถึงต้องเข้าไอซียูหัวใจวายได้รับการรักษาอย่างเข้มข้นจนกระทั่งมีการเปลี่ยนหัวใจ (บทความสุขภาพพรรษาไทยรัฐหัวใจอักเสบจากวัคซีน)

    ในประเทศไทยเองนั้นดำเนินตามประเทศต่างๆที่ให้มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมได้มากที่สุด ดังนั้นจะพบได้ว่ามีรายงานที่ได้รับการปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกันหรือให้มีการพิสูจน์ก่อนว่าวัคซีนเป็นสาเหตุ ซึ่งอาจจะแทบเป็นไปไม่ได้ในผู้ที่ได้รับผลกระทบและแพทย์ที่ ดูคนไข้เพราะต้องมีการสืบสวนหาสาเหตุด้วยการตรวจทางห้องปฏิบัติการหลายชนิดด้วยกัน

    ยกตัวอย่างเช่นเด็กผู้ชายอายุ 14 ขวบได้รับวัคซีน
    เอ็มอาร์เอ็นเอสามเข็ม โดยเข็มสุดท้ายเก้าเดือนก่อนที่จะมีอาการของหัวใจอักเสบหัวใจวาย รุนแรง และกล้ามเนื้อแขนขาอักเสบอัมพาตยกแขนขาไม่ได้ เมื่อดูเงื่อนไขของเวลาเผินๆ อาจจะตัดประเด็นของวัคซีนได้เลย แต่การสืบหาสาเหตุอย่างอื่นทั้งตัวไวรัสโควิดและไวรัสอีกหลายชนิดทั้งหมด รวมทั้งภาวะภูมิแปรปรวนที่ทำให้เกิดการอักเสบ อีกทั้งสามารถตรวจพบเศษของวัคซีนในกล้ามเนื้อหัวใจและมีการอักเสบอย่างรุนแรงในกล้ามเนื้อหัวใจ ทั้งนี้ได้รับการรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำเหลือง และการให้สารสกัดน้ำเหลือง ตลอดจนยากดภูมิคุ้มกัน แม้ว่าหัวใจอักเสบหัวใจวายจะดีขึ้นแต่แขนขายังขยับไม่ได้ ทั้งหมดนี้ต้องใช้การตรวจในห้องปฏิบัติการการรักษาในระดับเป็น 100,000 เป็นล้านบาทต่อหนึ่งคน

    เหล่านี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความยากลำบากในการพิสูจน์ความเกี่ยวโยงกับวัคซีน
    แต่ทั้งนี้เริ่มมีการวิเคราะห์สาเหตุการตายที่สูงเกินกว่าที่ จะอธิบายได้เมื่อเทียบ ในช่วงเวลาก่อนโควิด ในระหว่างการระบาดของโควิดและหลังจากระบาดเริ่มสงบไปแล้ว และในช่วงที่เริ่มมีการใช้วัคซีน ที่เรียกว่าอัตรา excess deaths
    และนอกจากนั้นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทอดยาวเป็นเวลานานเกินกว่าสามเดือนหลังจากติดเชื้อโควิดที่เรียกว่าลองโควิด (long covid) โดยมีทั้งอาการทางระบบหัวใจและปอด ระบบสมองประสาทและกล้ามเนื้อ ภาวะที่มีการอักเสบของผิวหนัง เส้นเอ็นพังผืด กล้ามเนื้อ ข้อ ตลอดจนการปะทุขึ้นของโรคที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหรือโรคที่สงบไปแล้ว รวมทั่งมะเร็งและการเกิดเริม งูสวัดซึ่งไวรัสเหล่านี้เป็นไวรัสที่ซ่อนอยู่ในร่างกายจากการติดเชื้อเนิ่นนานมาแล้ว และถูกกดไม่ให้แสดงตัวออกมาจากการควบคุมของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของร่างกาย และยังรวมถึง การนอนหลับที่ผิดปกติหลับยากหลับกระท่อนกระแท่น จนถึงฮอร์โมนแปรปรวนทั้งผู้ชายและผู้หญิง
    การติดตามผู้ที่ได้รับผล
    กระทบในลักษณะนี้โดยอาการขณะที่เป็นโควิดไม่รุนแรงแต่อาการหลังจากนั้นกลับรุนแรงและยืดยาว และสืบค้นผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนชนิดต่างๆ ทั้งหมดแล้วเกือบ 100 รายด้วยกัน โดยติดตามหลายวาระเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี

    สิ่งที่น่าตกใจก็คือแม้ว่าอาการตอนแรกหลังจากติดเชื้อโควิดหรือหลังจากได้รับวัคซีนมีผลไม่มากนักแต่ระยะต่อมามีผลกระทบแม้ว่าอาการจะเริ่มสงบไปแล้วก็ตาม โดยผลกระทบ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการวิเคราะห์การอักเสบในเลือด13 ชนิด และผลกระทบต่อสมองโดยมีการจุดปะทุ ของการอักเสบในสมองจากเซลล์ Astroglia microglia ที่เรียกว่า GFAP และมีระดับของ โปรตีน พิษอัลไซเมอร์ในสมองรวมทั้งมีการทำลายเนื้อสมอง ด้วย (จากการตรวจค่า NFL)

    ลักษณะนี้ทำให้ต้องตระหนักว่าภาวะสมองเสื่อมได้เกิดขึ้นเงียบๆ โดยไม่แสดงอาการด้วยซ้ำและจะสามารถดำเนินต่อไปได้จากภาวะของโรคเมตาบอลิค ของตนเองทั้งอ้วน เบาหวานความดันสูง การไม่ออกกำลัง อาหารที่มากด้วยเนื้อสัตว์การขาดการบริโภคผักผลไม้กากไย

    สมองเสื่อมในลักษณะนี้เป็นที่ตระหนักและมีการประกาศจากสมาคมสมองเสื่อมของสหรัฐและนานาชาติมาตั้งแต่ช่วงโควิดจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

    จากการวิเคราะห์วัคซีนทั้งไฟเซอร์และโมเดนา จากคณะทำงาน ยังพบว่านอกจากเอ็มอาร์เอ็นเอแล้ว ยังมีหลาย พันล้านก๊อปปี้ ของ ดีเอ็นเอและส่วนที่กระตุ้นให้สามารถทำงานได้ดีขึ้นเมื่อเสียบเข้าไปในเซลล์ ทั้ง ori และ SV 40 promoter ทั้งนี้จากกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้วัคซีนเพียงพอกับความต้องการโดยการใช้
    พลาสมิด(บทความสุขภาพหรรษาไทยรัฐ)

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    กลุ่มอาการหลังวัคซีนโควิด (ตอนที่ 1) ประโยชน์ของวัคซีนก็คือป้องกันโรค รวมทั้งลดอาการหนัก การตายและในขณะเดียวกันจำเป็นต้องทราบผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนในระยะเวลาต่างๆ ตั้งแต่ได้รับวัคซีนนาทีแรกจนกระทั่งถึงระยะกลางเป็นสัปดาห์และระยะยาวเป็นเดือนและสิ่งที่ทอดยาวไปเป็นปี วัคซีนโควิดเช่นกันในช่วงที่มีการระบาดรุนแรงจำเป็นต้องใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเป้าหมายของทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วยก็คือ ให้ทุกคนได้รับวัคซีนทั้งนี้เพื่อทำให้ระบบสาธารณสุขไม่พังพาบ จนรับผู้ป่วยโควิดไม่ไหว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีระบบในการรองรับเพื่อประเมิน ผลข้างเคียงเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในคนที่ได้รับวัคซีนโดยที่เป็นคนที่ยังสุขภาพดีแข็งแรงจนกระทั่งมีโรคประจำตัวอื่นๆ รายงานในวารสารทางการแพทย์ของอังกฤษ British Medical Journal ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2023 ตั้งคำถามถึงระบบในสหรัฐที่รับรายงานผลแทรกซ้อนของวัคซีนที่เรียกว่า vaccine adverse event reporting system (VAERS) ทั้งนี้ยกตัวอย่างหมอสหรัฐที่ได้รับวัคซีนและเกิดผลกระทบอย่างรุนแรง พยายามที่จะรายงานเข้าระบบ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าใดนักรวมทั้งเป็นความซับซ้อนที่จะได้รับการติดตามสืบหารายละเอียดต่อ (Is the US’s Vaccine Adverse Event Reporting System broken?BMJ Investigation BMJ 2023; 383 doi: https://doi.org/10.1136/bmj.p2582 (Published 10 November 2023) Cite this as: BMJ 2023;383:p2582) ระบบในการรายงานในประเทศต่างๆไม่เฉพาะแต่ในประเทศอเมริกา แม้แต่ในยุโรปและในอังกฤษเองก็มีปัญหา ซึ่งแตกต่างกับระบบในประเทศเกาหลี ดังที่มีรายงานอุบัติการของหัวใจอักเสบหลังได้รับวัคซีน เอ็มอาร์เอ็นเอ โดยเป็นการเปิดรายงานแบบอิสระและแทบจะเป็นเรียวไทม์ โดยกฎเกณฑ์ของเงื่อนไขหัวใจอักเสบนั้นตัดสาเหตุอื่น ที่ทำให้หัวใจอักเสบได้ทั้งหมดจนเหลือแต่วัคซีนและตัวเลขที่ได้นั้นยังต่ำกว่าความเป็นจริง ด้วยซ้ำ และถึงแม้ว่าอุบัติการของหัวใจอักเสบอย่างเดียวจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งใน 100,000 แต่ความรุนแรงนั้นมากจนกระทั่งถึงต้องเข้าไอซียูหัวใจวายได้รับการรักษาอย่างเข้มข้นจนกระทั่งมีการเปลี่ยนหัวใจ (บทความสุขภาพพรรษาไทยรัฐหัวใจอักเสบจากวัคซีน) ในประเทศไทยเองนั้นดำเนินตามประเทศต่างๆที่ให้มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมได้มากที่สุด ดังนั้นจะพบได้ว่ามีรายงานที่ได้รับการปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกันหรือให้มีการพิสูจน์ก่อนว่าวัคซีนเป็นสาเหตุ ซึ่งอาจจะแทบเป็นไปไม่ได้ในผู้ที่ได้รับผลกระทบและแพทย์ที่ ดูคนไข้เพราะต้องมีการสืบสวนหาสาเหตุด้วยการตรวจทางห้องปฏิบัติการหลายชนิดด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่นเด็กผู้ชายอายุ 14 ขวบได้รับวัคซีน เอ็มอาร์เอ็นเอสามเข็ม โดยเข็มสุดท้ายเก้าเดือนก่อนที่จะมีอาการของหัวใจอักเสบหัวใจวาย รุนแรง และกล้ามเนื้อแขนขาอักเสบอัมพาตยกแขนขาไม่ได้ เมื่อดูเงื่อนไขของเวลาเผินๆ อาจจะตัดประเด็นของวัคซีนได้เลย แต่การสืบหาสาเหตุอย่างอื่นทั้งตัวไวรัสโควิดและไวรัสอีกหลายชนิดทั้งหมด รวมทั้งภาวะภูมิแปรปรวนที่ทำให้เกิดการอักเสบ อีกทั้งสามารถตรวจพบเศษของวัคซีนในกล้ามเนื้อหัวใจและมีการอักเสบอย่างรุนแรงในกล้ามเนื้อหัวใจ ทั้งนี้ได้รับการรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำเหลือง และการให้สารสกัดน้ำเหลือง ตลอดจนยากดภูมิคุ้มกัน แม้ว่าหัวใจอักเสบหัวใจวายจะดีขึ้นแต่แขนขายังขยับไม่ได้ ทั้งหมดนี้ต้องใช้การตรวจในห้องปฏิบัติการการรักษาในระดับเป็น 100,000 เป็นล้านบาทต่อหนึ่งคน เหล่านี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความยากลำบากในการพิสูจน์ความเกี่ยวโยงกับวัคซีน แต่ทั้งนี้เริ่มมีการวิเคราะห์สาเหตุการตายที่สูงเกินกว่าที่ จะอธิบายได้เมื่อเทียบ ในช่วงเวลาก่อนโควิด ในระหว่างการระบาดของโควิดและหลังจากระบาดเริ่มสงบไปแล้ว และในช่วงที่เริ่มมีการใช้วัคซีน ที่เรียกว่าอัตรา excess deaths และนอกจากนั้นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทอดยาวเป็นเวลานานเกินกว่าสามเดือนหลังจากติดเชื้อโควิดที่เรียกว่าลองโควิด (long covid) โดยมีทั้งอาการทางระบบหัวใจและปอด ระบบสมองประสาทและกล้ามเนื้อ ภาวะที่มีการอักเสบของผิวหนัง เส้นเอ็นพังผืด กล้ามเนื้อ ข้อ ตลอดจนการปะทุขึ้นของโรคที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหรือโรคที่สงบไปแล้ว รวมทั่งมะเร็งและการเกิดเริม งูสวัดซึ่งไวรัสเหล่านี้เป็นไวรัสที่ซ่อนอยู่ในร่างกายจากการติดเชื้อเนิ่นนานมาแล้ว และถูกกดไม่ให้แสดงตัวออกมาจากการควบคุมของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของร่างกาย และยังรวมถึง การนอนหลับที่ผิดปกติหลับยากหลับกระท่อนกระแท่น จนถึงฮอร์โมนแปรปรวนทั้งผู้ชายและผู้หญิง การติดตามผู้ที่ได้รับผล กระทบในลักษณะนี้โดยอาการขณะที่เป็นโควิดไม่รุนแรงแต่อาการหลังจากนั้นกลับรุนแรงและยืดยาว และสืบค้นผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนชนิดต่างๆ ทั้งหมดแล้วเกือบ 100 รายด้วยกัน โดยติดตามหลายวาระเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี สิ่งที่น่าตกใจก็คือแม้ว่าอาการตอนแรกหลังจากติดเชื้อโควิดหรือหลังจากได้รับวัคซีนมีผลไม่มากนักแต่ระยะต่อมามีผลกระทบแม้ว่าอาการจะเริ่มสงบไปแล้วก็ตาม โดยผลกระทบ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการวิเคราะห์การอักเสบในเลือด13 ชนิด และผลกระทบต่อสมองโดยมีการจุดปะทุ ของการอักเสบในสมองจากเซลล์ Astroglia microglia ที่เรียกว่า GFAP และมีระดับของ โปรตีน พิษอัลไซเมอร์ในสมองรวมทั้งมีการทำลายเนื้อสมอง ด้วย (จากการตรวจค่า NFL) ลักษณะนี้ทำให้ต้องตระหนักว่าภาวะสมองเสื่อมได้เกิดขึ้นเงียบๆ โดยไม่แสดงอาการด้วยซ้ำและจะสามารถดำเนินต่อไปได้จากภาวะของโรคเมตาบอลิค ของตนเองทั้งอ้วน เบาหวานความดันสูง การไม่ออกกำลัง อาหารที่มากด้วยเนื้อสัตว์การขาดการบริโภคผักผลไม้กากไย สมองเสื่อมในลักษณะนี้เป็นที่ตระหนักและมีการประกาศจากสมาคมสมองเสื่อมของสหรัฐและนานาชาติมาตั้งแต่ช่วงโควิดจนกระทั่งถึงปัจจุบัน จากการวิเคราะห์วัคซีนทั้งไฟเซอร์และโมเดนา จากคณะทำงาน ยังพบว่านอกจากเอ็มอาร์เอ็นเอแล้ว ยังมีหลาย พันล้านก๊อปปี้ ของ ดีเอ็นเอและส่วนที่กระตุ้นให้สามารถทำงานได้ดีขึ้นเมื่อเสียบเข้าไปในเซลล์ ทั้ง ori และ SV 40 promoter ทั้งนี้จากกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้วัคซีนเพียงพอกับความต้องการโดยการใช้ พลาสมิด(บทความสุขภาพหรรษาไทยรัฐ) ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 990 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพแรก
    ซ้าย ไม่มี ฟลูออไรด์
    ขวา มี ฟลูออไรด์
    โลกคือมายา #ลวงทั้งโลก
    ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ⁉️
    ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานการวิจัยที่ว่าด้วยฟลูออไรด์ต่อการลดความสามารถทางปัญญาในเด็กได้ถึง 32 หน้าฟรี ๆ ที่นี่
    https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3491930/
    Source :
    https://youtu.be/KLsjwWo1F2I
    --------------------------------------------------
    โดยทั่วไป #ฟลูออไรด์ เป็นสารทำลายต่อมไร้ท่อเนื่องจากฟลูออไรด์เป็นฮาไลด์ (halide)เช่นกัน มันจึงแข่งขันกับฮาไลด์ตัวอื่นที่ตัวรับเดียวกันในต่อมไทรอยด์ และที่อื่นๆ เพื่อจับกับไอโอดีน สิ่งนี้จะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งส่งผลให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในระดับต่ำ
    มีการพิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อ
    แต่ความจริงข้อนี้ถูกละเลยโดยหน่วยงาน และสมาคมที่ยังคงส่งเสริมการใช้ฟลูออไรด์ต่อไป
    จากรายงานของ National Research Council of the National Academies ในปี 2549
    ฟลูออไรด์ "เป็นตัวทำลายต่อมไร้ท่อในแง่กว้างโดยปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อที่เป็นปกติ"
    ฟังก์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ และต่อมไพเนียลรวมถึงต่อมหมวกไต ตับอ่อน และต่อมใต้สมอง
    ต่อมไทรอยด์ของคุณ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการรักษาอัตราการเผาผลาญโดยรวมของร่างกาย ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาตามปกติ เนื่องจากเซลล์ที่มีการเผาผลาญทั้งหมดต้องการฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อการทำงานที่เหมาะสม
    การหยุดชะงักของระบบนี้ อาจมีผลกระทบที่หลากหลายต่อแทบทุกระบบในร่างกายของคุณ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากที่สุดของโรคต่อมไร้ท่อ
    การใช้ฟลูออไรด์ในอดีต เป็นการแทรกแซงทางการแพทย์สำหรับ Hyperthyroid
    จนถึงปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปได้กำหนดให้ใช้ฟลูออไรด์ เพื่อลดอัตราการเผาผลาญพื้นฐานในผู้ป่วยที่มีต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ผลการศึกษาทางคลินิกที่ตีพิมพ์งานหนึ่งรายงานว่า
    ปริมาณฟลูออไรด์เพียง 2 - 3 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก ถ้าได้รับอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอที่จะลดกิจกรรมของต่อมไทรอยด์ในผู้ป่วยได้
    การใช้ฟลูออไรด์เพื่อการรักษาต่อมไทรอยด์ได้รับการกระตุ้นโดยการวิจัยที่เริ่มต้นในปี 1800 ซึ่งเชื่อมโยงการบริโภคฟลูออไรด์กับคอพอก การบวมของต่อมไทรอยด์ที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
    ในรายงานเมื่อปี 2549 Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards, the National Research Council (NRC) รายงานว่า
    "ข้อมูลหลายบรรทัด แสดงถึงผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์" โดยเฉพาะรายงานที่กล่าวถึงการวิจัยแสดงให้เห็นว่า
    "การได้รับฟลูออไรด์ในมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของ TSH ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความแพร่หลายของคอพอก และเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ T4 และ T3" นอกจากนั้นยังมีผลที่คล้ายกันใน T4 และ T3 รายงานในสัตว์ทดลอง
    นอกจากนี้ NRC ยังกล่าวถึงงานวิจัยที่เชื่อมโยงฟลูออไรด์ กับผลกระทบต่อกิจกรรมของพาราไธรอยด์ การด้อยค่าของการทนต่อกลูโคส และระยะเวลาของการคงไว้ซึ่งสภาวะทางเพศ
    จากการค้นพบเหล่านี้ คณะกรรมการ NRC แนะนำว่า "ผลกระทบของฟลูออไรด์ในแง่มุมต่างๆ ต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ ควรได้รับการตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ในการพัฒนาโรคต่างๆ
    อย่างไรก็ตามผู้เสนอให้ใช้ฟลูออไรด์ยังคงเพิกเฉยต่อวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เป็นอันตราย
    ฟลูออไรด์จำนวนเล็กน้อย เปลี่ยนการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ
    การทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการได้รับฟลูออไรด์ในระดับต่ำถึง 0.05 - 0.1 มก. ฟลูออไรด์ต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน (มก. / กก. / วัน) หรือ 0.03 มก. / กก. / วัน
    สำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม (154 ปอนด์) หมายความว่าฟลูออไรด์ 3.5 มก. ต่อวัน (หรือฟลูออไรด์ 0.7 มก. ต่อวันที่มีการขาดไอโอดีน) อาจทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
    การวิเคราะห์โดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ประมาณการว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปบริโภคฟลูออไรด์เกือบ 3 มิลลิกรัมทุกวัน และบางคนบริโภคเป็นประจำวันละ 6 มก. ขึ้นไป
    สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 14 กิโลกรัม (30 ปอนด์) ฟลูออไรด์ที่ได้รับมากกว่า 0.7 มก. ต่อวัน (หรือ 0.14 มก. ต่อวันหากขาดไอโอดีน) ทำให้เด็กเสี่ยงต่อความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ
    และ EPA (2010) ได้ทำการประเมินว่าเด็กที่อยู่ในช่วงน้ำหนักนี้ (อายุ 1- 3 ปี) ได้บริโภคฟลูออไรด์มากกว่า 1.5 มก. ในแต่ละวัน หรือมากกว่า 2 เท่า ของจำนวนที่จำเป็นในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลง การได้รับอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อาจมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและตลอดชีวิตต่อพัฒนาการทางสติปัญญา ทางสังคม ทางเพศ และทางกายภาพโดยรวมของเด็ก
    การศึกษาจำนวนมากพบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับฟลูออไรด์ในระดับค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง และการลด IQ ในเด็ก แม้แต่ระดับฟลูออไรด์ที่น้อยกว่า 1.0 มก. / ล. ก็มีความสัมพันธ์กับ IQ ที่ลดลง และความถี่ที่เพิ่มขึ้นของภาวะไทรอยด์ทำงานในเด็กที่มีอาการขาดสารไอโอดีน
    การพิจารณาอย่างจริงจัง ว่าต่อมไทรอยด์ของคุณอาจเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางที่สุดในร่างกายของคุณต่อฟลูออไรด์ ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ
    ฟลูออไรด์สะสมในต่อมไทรอยด์ของคุณมากกว่าเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ
    ฟลูออไรด์อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณโดยตรง หรือโดยอ้อมด้วยการกระทำที่เป็นไปได้ รวมถึงความสามารถของฟลูออไรด์ในการเลียนแบบฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH)
    - ทำลาย G-proteins ที่ละเอียดอ่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยการสร้างของตัวรับฮอร์โมนในร่างกายของคุณ
    -ทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ของคุณ
    -ทำลาย DNA ของคุณ
    -รบกวนการแปลงจากไทรอยด์ฮอร์โมน (T4) ที่ไม่ได้ใช้งานไปเป็นแบบฟอร์มที่ต้องใช้งาน (T3)
    จากข้อมูลของ PubMed Health พบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดภาวะพร่อง หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ เกือบ 4% ของประชากรสหรัฐอเมริกา
    มากกว่า 11 ล้านคน มีภาวะไทรอยด์ทำงานหนักเกินจริง นอกจากนี้ 10% ของประชากรทั่วไป 21 ล้านคน มีภาวะพร่องที่ไม่แสดงอาการซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาต่อมาของภาวะพร่องไทรอยด์
    แม้จะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในประชากรที่มีอายุมากกว่า แต่อัตราการเกิดภาวะพร่องของ hypothyroidism ทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นเกือบ 75% ในช่วง 2ทศวรรษที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ส่งผลกระทบต่อ 1 ในทุกๆ 2,370 ของการเกิดภาวะพร่องในทารกแรกเกิดที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อน การชะลอการเจริญเติบโต และปัญหาหัวใจ
    เด็กที่เป็นโรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือเยาวชน ได้รับรายงานว่ามีการล่าช้าของการงอกของฟัน หรือข้อบกพร่องในการเคลือบฟัน แม้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างการค้นพบเหล่านี้กับผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อไทรอยด์ยังไม่ได้ทำการศึกษา
    สิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง คือความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่างความรุนแรงของอาการที่ไม่แสดงอาการในหญิงตั้งครรภ์และ IQ ที่ลดลงของบุตรหลาน
    การพร่องของมารดายังได้รับการเสนอให้เป็นสาเหตุ หรือผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาออทิสติก
    ศักยภาพของฟลูออไรด์ที่จะส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกหลายประการ
    ดังนั้นวิธีการใช้ฟลูออไรด์วิธีการแบบไม่เจาะจง / การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มสาธารณะโดยเจตนา / การผสมเข้าไปในยาสีฟัน / การเคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ เป็นปัญหาอย่างยิ่ง
    เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณสัมผัสกับสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ หรือความอ่อนไหวส่วนตัว และเป็นการละเมิดหลักการสำคัญของเภสัชวิทยาสมัยใหม่
    -----------------------------------
    Andersson M, de Benoist B,Delange F, Zupan J. 2007.Prevention and control of iodine deficiency in pregnant and lactating women and in children less
    Bharaktiya S, et al., 2010.Hypothyroidism. Medscape Reference.
    Delange F. 2004. Optimal iodine nutrition during pregnancy, lactation and neonatal period. Int J Endocrinol Metab 89:3851.
    Drugs.com. Undated. Top-selling drugs of 2009.
    IOM (Institute of Medicine). 2001. Dietary Reference Intakes for Vitamin A, Vitamin K, Arsenic, Boron, Chromium, Copper, Iodine, Iron, Manganese
    Larsen PR, Davies TF, Schlumberger MJ, Hay ID. 2002. Thyroid physiology and diagnostic evaluation of patients with thyroid disorders. Pp. 331-373
    PubMed Health. 2009. Neonatal hypothyroidism.
    PubMed Health. 2010. Hypothyroidism.
    Wang H, Yang Z, Zhou B, et al. 2009. Fluoride-induced thyroid dysfunction in rats: roles of dietary protein and calcium level. Toxicol Ind Health
    Zimmermann MB. 2009. Iodine deficiency in pregnancy and the effects of maternal iodine supplementation on the offspring: a review. Am J Clin Nutr
    1 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 507 pp.
    2 Maumené E. 1854. Compt Rend Acad Sci 39:538. May W. 1935. Antagonismus Zwischen Jod und Fluor im Organismus. Klinische Wochenschrift 14:790-92.
    3 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    4 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    5 EPA (U.S. Environmental Protection Agency). 2010. Fluoride: Exposure and Relative Source Contribution Analysis.
    6 Connett P, Beck J, Micklem HS. 2010. The Case Against Fluoride. How Hazardous Waste Ended Up in Our Drinking Water and the Bad Science
    7 Lin FF, Aihaiti HX, Zhao J, et al. 1991. The relationship of a low-iodine and high-fluoride environment to subclinical cretinism in Xinjiang.
    8 ICCIDD (International Council for the Control of Iodine Deficiency Disorders). 2011. Iodine Deficiency.
    9 Hollowell JG, Staehling NW, Hannon WH, et al. 1998. Iodine nutrition in the United States. Trends and public health implications: iodine excretion
    10 Lee SL, et al. 2009. Iodine Deficiency. Medscape Reference.
    11 Caldwell KL, Miller GA, Wang RY, et al. 2008. Iodine status of the U.S. population, National Health and Nutrition Examination Survey 2003-2004.
    12 Shashi A. 1988. Biochemical effects of Fluoride on thyroid gland duringexperimental fluorosis. Fluoride 21:127–130.
    13 Monsour PA, Kruger BJ. 1985. Effect of fluoride on soft tissue in vertebrates. Fluoride 18:53-61. / Call RA, Greenwood DA, LeCheminant H, et al. 1965.
    14 Ge Y, Ning H, Wang S, Wang J. 2005. DNA damage in thyroid gland cells of rats exposed to long-term intake of high fluoride and low iodine. Fluoride
    15 Gas'kov A, Savchenkov MF, Lushkov NN. 2005. [The specific features of the development of iodine deficiencies in children living under pollution]
    16 Aoki Y, Belin RM, Clickner R, et al. 2007. Serum TSH and total T4 in the United States population
    17 Olney RS, Grosse SD, Vogt RF. 2010. Prevalence of Congenital Hypothyroidism—Current Trends and Future Directions: Workshop Summary. Pediatrics 125
    18 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    19 Klein RZ, Sargent JD, Larsen PR, et al. 2001. Relation of severity of maternal hypothyroidism to cognitive development in offspring. J Med Screen
    20 Román GC. 2007. Autism: Transient in utero hypothyroxinemia related to maternal flavonoid ingestion during pregnancy.
    Biological Trace Element Research :
    https://www.researchgate.net/.../345973053_In_Vitro...
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58
    https://youtu.be/AYAJJSOmdJo
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ปฏิวัติสุขภาพกับอ.ปานเทพ เรื่อง ฟลูออไรด์ ภัยเงียบในน้ำดื่มน้ำใช้ยาสีฟัน
    https://youtu.be/741TFbVWJwQ
    https://youtu.be/s-ElDeuDl1I
    https://youtu.be/Y5Ad9L-B21c
    https://youtu.be/1KgS-_E05YE
    https://youtu.be/KLsjwWo1F2I
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน โดย อ.สันติ มานะดี
    https://www.facebook.com/10000435.../posts/1352913331530352/
    ✨✨✨✨✨✨✨
    สารฟลูโอไรด์ ( Fluoride )
    Little Girl Healthy SHOP - สินค้าส่งตรงจากอเมริกา
    กราฟแสดงระดับความรุนแรงของสารตะกั่ว สารหนูและฟลูโอไรด์
    ค่าระดับความเป็นพิษของฟลูโอไรด์ที่พุ่งแรงแซงสารตะกั่วไปอยู่ที่ระดับ 4 เกือบๆ 5 นั่นแปลว่า มันเป็นพิษมากจนถึงขั้นรุนแรง! ยิ่งถ้าบ้านใครมียาฆ่าหนูและแมลงสาบลองพลิกดูที่ส่วนผสมข้างกล่อง คุณอาจจะช็อกตาค้างมากกว่านี้ เพราะสิ่งเดียวที่เป็นส่วนผสมในยาเบื่อหนูคือฟลูโอไรด์
    ซึ่งความจริงแล้ว ฟลูออไรด์ได้นำมาใช้ครั้งแรกในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นยาเบื่อหนู ถามว่า.. แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในยาสีฟันล่ะ?
    จริงๆแล้วฟลูออไรด์ที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟันอย่างแท้จริงมันคือ “แคลเซียมฟลูออไรด์ “ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ที่ผสมอยู่ในยาสีฟันมันคือ "โซเดียมฟลูออไรด์"
    เป็นสารพิษที่ผลิตขึ้นในโรงงานซึ่งมีราคาถูกกว่า
    และถ้าใครที่คิดว่าฟลููโอไรด์ช่วยให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ แบบที่เคยได้ยินกันจนคุ้นหูคุ้นตาในโฆษณาทีวีตั้งแต่เด็กๆคงต้องคิดใหม่ เพราะมันกลับเป็นตัวการทำให้เกิดฟันตกกระที่เรียกว่า Dental Fluorosis เกิดเป็นรอยกระดำกระด่างที่ผิวฟันจากการสะสมของสารพิษฟลูโอไรด์ในระยะยาว แถมยังมีผลต่อกระดูกทำให้กระดูกพรุนด้วย ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ของรัฐนิวอิงแลนด์ สหรัฐอเมริกา รายงานว่า มีการใช้สารฟลูออไรด์เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) แต่ผลกลับกลายเป็นว่า อัตราการเกิดกระดูกตะโพกร้าวสูงขึ้นกว่าปกติ
    และในปี 1993 นักวิทยาศาสตร์จากองค์การป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาต่อต้านการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มและอาหาร นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้ยืนยันว่า ฟลูออไรด์ไม่ได้ป้องกันฟันผุ ผลตรงกันข้าม กลับมีเหตุการณ์แน่ชัดว่า มันเป็นตัวก่อมะเร็งได้ http://www.biowish.net/pages/med.htm
    เคยมีนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองผสมฟลูโอไรด์ในน้ำของค่ายกักกันที่รัซเซียในยุคคอมมิวนิสต์และอีกที่ในช่วงยุคนาซีที่เยอร์มัน มีจุดประสงค์ในการทดลองเพื่อจะดูว่าถ้านักโทษผู้โชคร้ายทั้งหลายกินน้ำผสมฟลูโอไรด์เข้าไปแล้วนักโทษจะเป็นยังไง
    ผลปรากฎว่า อารมณ์รุนแรงของนักโทษลดลงอย่างเห็นได้ชัด เปลี่ยนจากนักโทษโหดๆเป็นแมวหง่าวนั่งหงอย ไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างใดๆ ไม่ยกพวกตีกันเหมือนก่อน
    ฟังแล้วดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ.. แต่ความจริงแล้วมันน่ากลัวซะมากกว่า เพราะว่าฟลูโอไรด์มันมีผลโดยตรงต่อสมองน่ะสิ โดยมันเข้าไปทำลายต่อมไพนีล (Pineal gland) หรือเรียกว่าดวงตาที่ 3 ที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารณ์ต่างๆ เช่นความหิว ความกระหาย ความต้องการทางเพศ ความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์
    ดังนั้นเมื่อต่อมนี้โดนทำลาย จึงทำให้เกิดความท้อแท้ หมดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม เป็นตัวลดไอคิว ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และเนื่องจากการทดลองที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาลครั้งนั้น ปัจจุบันนี้ฟลูโอไรด์เลยมาอยู่ในยาสีฟันให้เราใช้กันทุกวัน เปรียบได้กับอาวุธของรัฐบาลในการทำให้ประชาชนโง่และเป็นการควบคุมประชากรไปในตัว ในบางประเทศอย่างไอร์แลนด์ อเมริกา ถึงกับโดนมัดมือชกให้กินน้ำผสมยาพิษฟลูโอไรด์กันเลยทีเดียว
    โดยผสมมันลงในน้ำประปาสาธารณะ โดยอ้างว่าหวังดีอยากป้องกันโรคฟันผุให้ประชาชน แต่มีการพิสูจน์แล้วโดยเปรียบเทียบสุขภาพฟันของคนอังกฤษและอเมริกัน ปรากฎว่าสุขภาพฟันไม่ต่างกันเลยทั้งๆที่น้ำในประเทศอังกฤษไม่มีการฟลูโอไรด์ลงในน้ำ การกระทำที่มีนัยยะแอบแฝงแบบนี้เลยสร้างความไม่พอใจให้หลายๆคนในหลายประเทศที่ไม่เต็มใจจะโดนวางยาพิษในน้ำก๊อกที่ทำให้โง่และเป็นโรค แถมการเอาน้ำไปต้มให้เดือดก็ไม่ได้ช่วยอะไรยกเว้นเพิ่มความแรงของสารพิษให้สูงขึ้นอึก 7 เท่าตัว
    เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมยาสีฟันที่มีผสมฟลูโอไรด์ต้องมีคำเตือนแปะอยู่ข้างหลอดว่าห้ามกลืน ถ้าใครเผลอกลืนต้องรีบพบแพทย์!! อะไรก็ตามที่ทำมาให้ใช้ได้ในปาก มันควรที่จะปลอดภัยมากกว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะยาสีฟันที่เราเอาใส่ปากเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายทุกๆวัน บางคนอาจคิดว่าอีคนเขียนนี่วิตกจริตฟุ้งซ่านมากไปป่ะ? ไม่มีใครเค้าโง่กลืนยาสีฟันหรอก แค่ใส่ปากแปรงๆแล้วก็บ้วนทิ้่ง โอเค ก็จริงอยู่ที่ไม่มีใครกลืนมันแบบตั้งใจ แต่มีใครแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ว่ามันไม่ได้แอบตกค้างอยู่ตามซอกฟันซอกเหงือกให้คุณกลืนลงท้องทั้งคืน บวกกับอีกรอบตอนเช้า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะกลืนมันลงไปโดยไม่ตั้งใจถ้าไม่มีผู้ปกครองดูแล เชื่อหรือไม่ว่าฟลูโอไรด์เพียง 200 มิลลิกรัม หรือปริมาณยาสีฟันบีบออกมาเท่ากับความยาวของแปรงสีฟันนั้นสามารถฆ่าเด็กเล็กได้เลย และฆาตกรตัวจริงไม่ใช่ยาสีฟันแต่คือฟลูโอไรด์เพียวๆเลยหล่ะ จากรายงานของสมาคมศูนย์ควบคุมพิษอเมริกาบอกว่า ในปี 1994 มีคนตายจากฟลูออไรด์ที่ผสมในอาหารเสริมแล้วด้วย! Fluoride Alert .Org
    แคลเซียมฟลูออไรด์เป็นธาตุที่จำเป็น พบเป็นส่วนใหญ่ในกระดูก และเคลือบฟัน ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และทำให้ฟันทนต่อการผุมากขึ้น แคลเซียมฟลูออไรด์อาจช่วยป้องกันโรคปริทันต์ด้วย และป้องกันโรคกระดูกพรุน แคลเซียมฟลูออไรด์พบในธรรมชาติ ในรูปของแคลเซียมคลอไรด์ มีอยู่ในพืชทุกชนิด สัตว์ น้ำ และ ดิน
    โซเดียมฟลูออไรด์ (Sodium Fluoride) เป็นสารอนินทรีย์ที่เกิดจากธาตุฟลูออรีน (Fluorine) ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้นำเอาโซเดียมฟลูออไรด์ไปผสมกับผลิตภัณฑ์ ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากด้วยโซเดียมฟลูออไรด์
    การได้รับฟลูออรีน จะเกิดการสะสมของฟลูออรีนไว้ในร่างกายทีละน้อย จะทำให้เกิดความเสียหายและข้อบกพร่องขึ้นกับระบบโครงกระดูกและฟันสำหรับความผิดปกติของฟัน
    เกิดขึ้นโดยฟันจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขุ่นๆ ซึ่งเดิมมีลักษณะใส นอกจากนี้ยังทำให้ฟันไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ฟันจึงมักชำรุดแตกบิ่นง่าย ส่วนในระบบโครงกระดูกอาการที่พบคือ กระดูกจะเจริญเร็วมาก ซึ่งอาจจะสังเกตได้จากกระดูกขา กราม กระดูกซี่โครง ขากระเผลก เดินลำบาก ซึ่งเป็นผลจากการเจริญมากเกินไปของกระดูกหรือเกิดจากที่หินปูนไปจับกับเอ็นและข้อต่อของขา จึงทำให้ขาแข็ง ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นอาการแบบถาวร
    แหล่งอาหาร แคลเซียมฟลูออไรด์ ตามธรรมชาติ
    1. ข้าวต่างๆ
    2. ผลไม้ เช่น แอปเปิล องุ่น ลูกแพร์ กล้วย และเชอร์รี่
    3. ผักต่างๆ เช่น หัวแครอท กระเทียม หัวบีท ผักใบเขียว กระจับ ถั่ว ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือ หัวหอม มันฝรั่ง
    4. เนย เนยแข็ง เนยเหลว ไข่
    5. เมล็ดทานตะวัน
    6. อื่นๆ เช่น อาหารทะเล ถั่วเหลือง ปลา น้ำทะเล น้ำกระด้าง น้ำผึ้ง ชาดำ แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของฟลูออไรด์คือ อาหารทะเล
    #สารฟลูออไรด์ในยาสีฟันก่อให้เกิดมะเร็ง จริงหรือไม่?
    ☠️☠️
    ทำไมเด็กในอเมริกาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1 นักวิจัยหลายๆท่านที่อเมริกา รวมทั้ง Charlotte Gerson ได้ไปทดสอบและพิสูจน์แล้วว่า ยาสีฟันที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปรวมทั้งยี่ห้อที่เราใช้กันอยู่ทุกวันมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
    Charlotte ให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษามะเร็งที่คลีนิคของเธอทุกคนเลิกใช้ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูออไรด์ เธอยังบอกอีกว่าไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้ทำไมเด็กในอเมริกาเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น เพราะยาสีฟันที่ใช้กันอยู่ ผสม สารฟลูออไรด์ แล้วยังใส่รสชาติเหมือนขนมหวานให้เด็กๆติดใจและอยากจะใช้ยาสีฟันแบบนี้
    🚑🚑
    เธอบอกความจริงว่าถ้าผู้บริโภคไม่มีใครป่วยเป็นโรคอะไรเลยแล้วผู้ผลิตยาจะทำธุรกิจได้กำไรจากที่ไหน ลองไปดูสิคะผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้บางทีก็เป็นบริษัทเดียวกันกับผู้ผลิตยานั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่หมอฟันใช้กับคนไข้ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาบ้วนปาก หรือแม้แต่สิ่งที่ใช้อุดฟันล้วนแล้วเป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น
    🎗🎗
    ใครที่เป็นมะเร็งอยู่ก็ดูยาสีฟันกันหน่อยนะคะ
    ⛑⛑
    (ปีนี้ 2018 Charlotte Gerson เธออายุ 96 ปียังแข็งแรงและเดินสายสัมมนาเรื่องมะเร็ง นับถือจริงๆ)
    ด้วยความปรารถนาดี
    ...โค้ชนาตาลี
    ❤️❤️
    อ่านต่อ...
    From the book: Never Fear Cancer again by Raymond Francis
    ..........
    Fluoride Fluoride both switches on and drives cancer. Federal health officials continue to call fluoridation one of the ten great public-health achievements of the twentieth century, while it has long been known as one of our greatest public-health blunders. The scientific evidence that fluoride causes cancer is overwhelming, and this has been known for decades, despite attempts to obscure it.
    💉💉
    For example, recorded in the Congressional Record of 21 July 1976, the chief chemist of the National Cancer Institute, Dr. Dean Burke, stated before Congress, “In point of fact, fluoride causes more cancer death, and causes it faster than any other chemical.”
    ☠️☠️
    Fluoride is a general cellular poison, doing catastrophic biological damage that is beyond the scope of this chapter to describe, yet many of us are now ingesting daily amounts that far exceed even the government’s inadequate safety standards. Hundreds of studies have found a connection between fluoride and cancer; cities that fluoridate their water have significantly more cancer deaths than cities that do not fluoridate.
    ☠️☠️
    ***Fluoride causes cancer by reacting with enzymes, changing their shape and disabling them.***
    ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️

    ด้วยรักและยาสีฟัน
    เวชหนุ่ม
    ภาพแรก ซ้าย ไม่มี ฟลูออไรด์ ขวา มี ฟลูออไรด์ โลกคือมายา #ลวงทั้งโลก ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ⁉️ ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานการวิจัยที่ว่าด้วยฟลูออไรด์ต่อการลดความสามารถทางปัญญาในเด็กได้ถึง 32 หน้าฟรี ๆ ที่นี่ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3491930/ Source : https://youtu.be/KLsjwWo1F2I -------------------------------------------------- โดยทั่วไป #ฟลูออไรด์ เป็นสารทำลายต่อมไร้ท่อเนื่องจากฟลูออไรด์เป็นฮาไลด์ (halide)เช่นกัน มันจึงแข่งขันกับฮาไลด์ตัวอื่นที่ตัวรับเดียวกันในต่อมไทรอยด์ และที่อื่นๆ เพื่อจับกับไอโอดีน สิ่งนี้จะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งส่งผลให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในระดับต่ำ มีการพิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อ แต่ความจริงข้อนี้ถูกละเลยโดยหน่วยงาน และสมาคมที่ยังคงส่งเสริมการใช้ฟลูออไรด์ต่อไป จากรายงานของ National Research Council of the National Academies ในปี 2549 ฟลูออไรด์ "เป็นตัวทำลายต่อมไร้ท่อในแง่กว้างโดยปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อที่เป็นปกติ" ฟังก์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ และต่อมไพเนียลรวมถึงต่อมหมวกไต ตับอ่อน และต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ของคุณ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการรักษาอัตราการเผาผลาญโดยรวมของร่างกาย ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาตามปกติ เนื่องจากเซลล์ที่มีการเผาผลาญทั้งหมดต้องการฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อการทำงานที่เหมาะสม การหยุดชะงักของระบบนี้ อาจมีผลกระทบที่หลากหลายต่อแทบทุกระบบในร่างกายของคุณ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากที่สุดของโรคต่อมไร้ท่อ การใช้ฟลูออไรด์ในอดีต เป็นการแทรกแซงทางการแพทย์สำหรับ Hyperthyroid จนถึงปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปได้กำหนดให้ใช้ฟลูออไรด์ เพื่อลดอัตราการเผาผลาญพื้นฐานในผู้ป่วยที่มีต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ผลการศึกษาทางคลินิกที่ตีพิมพ์งานหนึ่งรายงานว่า ปริมาณฟลูออไรด์เพียง 2 - 3 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก ถ้าได้รับอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอที่จะลดกิจกรรมของต่อมไทรอยด์ในผู้ป่วยได้ การใช้ฟลูออไรด์เพื่อการรักษาต่อมไทรอยด์ได้รับการกระตุ้นโดยการวิจัยที่เริ่มต้นในปี 1800 ซึ่งเชื่อมโยงการบริโภคฟลูออไรด์กับคอพอก การบวมของต่อมไทรอยด์ที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ในรายงานเมื่อปี 2549 Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards, the National Research Council (NRC) รายงานว่า "ข้อมูลหลายบรรทัด แสดงถึงผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์" โดยเฉพาะรายงานที่กล่าวถึงการวิจัยแสดงให้เห็นว่า "การได้รับฟลูออไรด์ในมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของ TSH ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความแพร่หลายของคอพอก และเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ T4 และ T3" นอกจากนั้นยังมีผลที่คล้ายกันใน T4 และ T3 รายงานในสัตว์ทดลอง นอกจากนี้ NRC ยังกล่าวถึงงานวิจัยที่เชื่อมโยงฟลูออไรด์ กับผลกระทบต่อกิจกรรมของพาราไธรอยด์ การด้อยค่าของการทนต่อกลูโคส และระยะเวลาของการคงไว้ซึ่งสภาวะทางเพศ จากการค้นพบเหล่านี้ คณะกรรมการ NRC แนะนำว่า "ผลกระทบของฟลูออไรด์ในแง่มุมต่างๆ ต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ ควรได้รับการตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ในการพัฒนาโรคต่างๆ อย่างไรก็ตามผู้เสนอให้ใช้ฟลูออไรด์ยังคงเพิกเฉยต่อวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เป็นอันตราย ฟลูออไรด์จำนวนเล็กน้อย เปลี่ยนการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ การทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการได้รับฟลูออไรด์ในระดับต่ำถึง 0.05 - 0.1 มก. ฟลูออไรด์ต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน (มก. / กก. / วัน) หรือ 0.03 มก. / กก. / วัน สำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม (154 ปอนด์) หมายความว่าฟลูออไรด์ 3.5 มก. ต่อวัน (หรือฟลูออไรด์ 0.7 มก. ต่อวันที่มีการขาดไอโอดีน) อาจทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ การวิเคราะห์โดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ประมาณการว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปบริโภคฟลูออไรด์เกือบ 3 มิลลิกรัมทุกวัน และบางคนบริโภคเป็นประจำวันละ 6 มก. ขึ้นไป สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 14 กิโลกรัม (30 ปอนด์) ฟลูออไรด์ที่ได้รับมากกว่า 0.7 มก. ต่อวัน (หรือ 0.14 มก. ต่อวันหากขาดไอโอดีน) ทำให้เด็กเสี่ยงต่อความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ และ EPA (2010) ได้ทำการประเมินว่าเด็กที่อยู่ในช่วงน้ำหนักนี้ (อายุ 1- 3 ปี) ได้บริโภคฟลูออไรด์มากกว่า 1.5 มก. ในแต่ละวัน หรือมากกว่า 2 เท่า ของจำนวนที่จำเป็นในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลง การได้รับอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อาจมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและตลอดชีวิตต่อพัฒนาการทางสติปัญญา ทางสังคม ทางเพศ และทางกายภาพโดยรวมของเด็ก การศึกษาจำนวนมากพบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับฟลูออไรด์ในระดับค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง และการลด IQ ในเด็ก แม้แต่ระดับฟลูออไรด์ที่น้อยกว่า 1.0 มก. / ล. ก็มีความสัมพันธ์กับ IQ ที่ลดลง และความถี่ที่เพิ่มขึ้นของภาวะไทรอยด์ทำงานในเด็กที่มีอาการขาดสารไอโอดีน การพิจารณาอย่างจริงจัง ว่าต่อมไทรอยด์ของคุณอาจเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางที่สุดในร่างกายของคุณต่อฟลูออไรด์ ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ ฟลูออไรด์สะสมในต่อมไทรอยด์ของคุณมากกว่าเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ ฟลูออไรด์อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณโดยตรง หรือโดยอ้อมด้วยการกระทำที่เป็นไปได้ รวมถึงความสามารถของฟลูออไรด์ในการเลียนแบบฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) - ทำลาย G-proteins ที่ละเอียดอ่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยการสร้างของตัวรับฮอร์โมนในร่างกายของคุณ -ทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ของคุณ -ทำลาย DNA ของคุณ -รบกวนการแปลงจากไทรอยด์ฮอร์โมน (T4) ที่ไม่ได้ใช้งานไปเป็นแบบฟอร์มที่ต้องใช้งาน (T3) จากข้อมูลของ PubMed Health พบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดภาวะพร่อง หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ เกือบ 4% ของประชากรสหรัฐอเมริกา มากกว่า 11 ล้านคน มีภาวะไทรอยด์ทำงานหนักเกินจริง นอกจากนี้ 10% ของประชากรทั่วไป 21 ล้านคน มีภาวะพร่องที่ไม่แสดงอาการซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาต่อมาของภาวะพร่องไทรอยด์ แม้จะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในประชากรที่มีอายุมากกว่า แต่อัตราการเกิดภาวะพร่องของ hypothyroidism ทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นเกือบ 75% ในช่วง 2ทศวรรษที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ส่งผลกระทบต่อ 1 ในทุกๆ 2,370 ของการเกิดภาวะพร่องในทารกแรกเกิดที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อน การชะลอการเจริญเติบโต และปัญหาหัวใจ เด็กที่เป็นโรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือเยาวชน ได้รับรายงานว่ามีการล่าช้าของการงอกของฟัน หรือข้อบกพร่องในการเคลือบฟัน แม้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างการค้นพบเหล่านี้กับผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อไทรอยด์ยังไม่ได้ทำการศึกษา สิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง คือความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่างความรุนแรงของอาการที่ไม่แสดงอาการในหญิงตั้งครรภ์และ IQ ที่ลดลงของบุตรหลาน การพร่องของมารดายังได้รับการเสนอให้เป็นสาเหตุ หรือผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาออทิสติก ศักยภาพของฟลูออไรด์ที่จะส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกหลายประการ ดังนั้นวิธีการใช้ฟลูออไรด์วิธีการแบบไม่เจาะจง / การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มสาธารณะโดยเจตนา / การผสมเข้าไปในยาสีฟัน / การเคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ เป็นปัญหาอย่างยิ่ง เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณสัมผัสกับสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ หรือความอ่อนไหวส่วนตัว และเป็นการละเมิดหลักการสำคัญของเภสัชวิทยาสมัยใหม่ ----------------------------------- Andersson M, de Benoist B,Delange F, Zupan J. 2007.Prevention and control of iodine deficiency in pregnant and lactating women and in children less Bharaktiya S, et al., 2010.Hypothyroidism. Medscape Reference. Delange F. 2004. Optimal iodine nutrition during pregnancy, lactation and neonatal period. Int J Endocrinol Metab 89:3851. Drugs.com. Undated. Top-selling drugs of 2009. IOM (Institute of Medicine). 2001. Dietary Reference Intakes for Vitamin A, Vitamin K, Arsenic, Boron, Chromium, Copper, Iodine, Iron, Manganese Larsen PR, Davies TF, Schlumberger MJ, Hay ID. 2002. Thyroid physiology and diagnostic evaluation of patients with thyroid disorders. Pp. 331-373 PubMed Health. 2009. Neonatal hypothyroidism. PubMed Health. 2010. Hypothyroidism. Wang H, Yang Z, Zhou B, et al. 2009. Fluoride-induced thyroid dysfunction in rats: roles of dietary protein and calcium level. Toxicol Ind Health Zimmermann MB. 2009. Iodine deficiency in pregnancy and the effects of maternal iodine supplementation on the offspring: a review. Am J Clin Nutr 1 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 507 pp. 2 Maumené E. 1854. Compt Rend Acad Sci 39:538. May W. 1935. Antagonismus Zwischen Jod und Fluor im Organismus. Klinische Wochenschrift 14:790-92. 3 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 4 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 5 EPA (U.S. Environmental Protection Agency). 2010. Fluoride: Exposure and Relative Source Contribution Analysis. 6 Connett P, Beck J, Micklem HS. 2010. The Case Against Fluoride. How Hazardous Waste Ended Up in Our Drinking Water and the Bad Science 7 Lin FF, Aihaiti HX, Zhao J, et al. 1991. The relationship of a low-iodine and high-fluoride environment to subclinical cretinism in Xinjiang. 8 ICCIDD (International Council for the Control of Iodine Deficiency Disorders). 2011. Iodine Deficiency. 9 Hollowell JG, Staehling NW, Hannon WH, et al. 1998. Iodine nutrition in the United States. Trends and public health implications: iodine excretion 10 Lee SL, et al. 2009. Iodine Deficiency. Medscape Reference. 11 Caldwell KL, Miller GA, Wang RY, et al. 2008. Iodine status of the U.S. population, National Health and Nutrition Examination Survey 2003-2004. 12 Shashi A. 1988. Biochemical effects of Fluoride on thyroid gland duringexperimental fluorosis. Fluoride 21:127–130. 13 Monsour PA, Kruger BJ. 1985. Effect of fluoride on soft tissue in vertebrates. Fluoride 18:53-61. / Call RA, Greenwood DA, LeCheminant H, et al. 1965. 14 Ge Y, Ning H, Wang S, Wang J. 2005. DNA damage in thyroid gland cells of rats exposed to long-term intake of high fluoride and low iodine. Fluoride 15 Gas'kov A, Savchenkov MF, Lushkov NN. 2005. [The specific features of the development of iodine deficiencies in children living under pollution] 16 Aoki Y, Belin RM, Clickner R, et al. 2007. Serum TSH and total T4 in the United States population 17 Olney RS, Grosse SD, Vogt RF. 2010. Prevalence of Congenital Hypothyroidism—Current Trends and Future Directions: Workshop Summary. Pediatrics 125 18 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 19 Klein RZ, Sargent JD, Larsen PR, et al. 2001. Relation of severity of maternal hypothyroidism to cognitive development in offspring. J Med Screen 20 Román GC. 2007. Autism: Transient in utero hypothyroxinemia related to maternal flavonoid ingestion during pregnancy. Biological Trace Element Research : https://www.researchgate.net/.../345973053_In_Vitro... ✨✨✨✨✨✨✨ ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58 https://youtu.be/AYAJJSOmdJo ✨✨✨✨✨✨✨ ปฏิวัติสุขภาพกับอ.ปานเทพ เรื่อง ฟลูออไรด์ ภัยเงียบในน้ำดื่มน้ำใช้ยาสีฟัน https://youtu.be/741TFbVWJwQ https://youtu.be/s-ElDeuDl1I https://youtu.be/Y5Ad9L-B21c https://youtu.be/1KgS-_E05YE https://youtu.be/KLsjwWo1F2I ✨✨✨✨✨✨✨ ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน โดย อ.สันติ มานะดี https://www.facebook.com/10000435.../posts/1352913331530352/ ✨✨✨✨✨✨✨ สารฟลูโอไรด์ ( Fluoride ) Little Girl Healthy SHOP - สินค้าส่งตรงจากอเมริกา กราฟแสดงระดับความรุนแรงของสารตะกั่ว สารหนูและฟลูโอไรด์ ค่าระดับความเป็นพิษของฟลูโอไรด์ที่พุ่งแรงแซงสารตะกั่วไปอยู่ที่ระดับ 4 เกือบๆ 5 นั่นแปลว่า มันเป็นพิษมากจนถึงขั้นรุนแรง! ยิ่งถ้าบ้านใครมียาฆ่าหนูและแมลงสาบลองพลิกดูที่ส่วนผสมข้างกล่อง คุณอาจจะช็อกตาค้างมากกว่านี้ เพราะสิ่งเดียวที่เป็นส่วนผสมในยาเบื่อหนูคือฟลูโอไรด์ ซึ่งความจริงแล้ว ฟลูออไรด์ได้นำมาใช้ครั้งแรกในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นยาเบื่อหนู ถามว่า.. แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในยาสีฟันล่ะ? จริงๆแล้วฟลูออไรด์ที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟันอย่างแท้จริงมันคือ “แคลเซียมฟลูออไรด์ “ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ที่ผสมอยู่ในยาสีฟันมันคือ "โซเดียมฟลูออไรด์" เป็นสารพิษที่ผลิตขึ้นในโรงงานซึ่งมีราคาถูกกว่า และถ้าใครที่คิดว่าฟลููโอไรด์ช่วยให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ แบบที่เคยได้ยินกันจนคุ้นหูคุ้นตาในโฆษณาทีวีตั้งแต่เด็กๆคงต้องคิดใหม่ เพราะมันกลับเป็นตัวการทำให้เกิดฟันตกกระที่เรียกว่า Dental Fluorosis เกิดเป็นรอยกระดำกระด่างที่ผิวฟันจากการสะสมของสารพิษฟลูโอไรด์ในระยะยาว แถมยังมีผลต่อกระดูกทำให้กระดูกพรุนด้วย ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ของรัฐนิวอิงแลนด์ สหรัฐอเมริกา รายงานว่า มีการใช้สารฟลูออไรด์เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) แต่ผลกลับกลายเป็นว่า อัตราการเกิดกระดูกตะโพกร้าวสูงขึ้นกว่าปกติ และในปี 1993 นักวิทยาศาสตร์จากองค์การป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาต่อต้านการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มและอาหาร นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้ยืนยันว่า ฟลูออไรด์ไม่ได้ป้องกันฟันผุ ผลตรงกันข้าม กลับมีเหตุการณ์แน่ชัดว่า มันเป็นตัวก่อมะเร็งได้ http://www.biowish.net/pages/med.htm เคยมีนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองผสมฟลูโอไรด์ในน้ำของค่ายกักกันที่รัซเซียในยุคคอมมิวนิสต์และอีกที่ในช่วงยุคนาซีที่เยอร์มัน มีจุดประสงค์ในการทดลองเพื่อจะดูว่าถ้านักโทษผู้โชคร้ายทั้งหลายกินน้ำผสมฟลูโอไรด์เข้าไปแล้วนักโทษจะเป็นยังไง ผลปรากฎว่า อารมณ์รุนแรงของนักโทษลดลงอย่างเห็นได้ชัด เปลี่ยนจากนักโทษโหดๆเป็นแมวหง่าวนั่งหงอย ไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างใดๆ ไม่ยกพวกตีกันเหมือนก่อน ฟังแล้วดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ.. แต่ความจริงแล้วมันน่ากลัวซะมากกว่า เพราะว่าฟลูโอไรด์มันมีผลโดยตรงต่อสมองน่ะสิ โดยมันเข้าไปทำลายต่อมไพนีล (Pineal gland) หรือเรียกว่าดวงตาที่ 3 ที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารณ์ต่างๆ เช่นความหิว ความกระหาย ความต้องการทางเพศ ความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์ ดังนั้นเมื่อต่อมนี้โดนทำลาย จึงทำให้เกิดความท้อแท้ หมดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม เป็นตัวลดไอคิว ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และเนื่องจากการทดลองที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาลครั้งนั้น ปัจจุบันนี้ฟลูโอไรด์เลยมาอยู่ในยาสีฟันให้เราใช้กันทุกวัน เปรียบได้กับอาวุธของรัฐบาลในการทำให้ประชาชนโง่และเป็นการควบคุมประชากรไปในตัว ในบางประเทศอย่างไอร์แลนด์ อเมริกา ถึงกับโดนมัดมือชกให้กินน้ำผสมยาพิษฟลูโอไรด์กันเลยทีเดียว โดยผสมมันลงในน้ำประปาสาธารณะ โดยอ้างว่าหวังดีอยากป้องกันโรคฟันผุให้ประชาชน แต่มีการพิสูจน์แล้วโดยเปรียบเทียบสุขภาพฟันของคนอังกฤษและอเมริกัน ปรากฎว่าสุขภาพฟันไม่ต่างกันเลยทั้งๆที่น้ำในประเทศอังกฤษไม่มีการฟลูโอไรด์ลงในน้ำ การกระทำที่มีนัยยะแอบแฝงแบบนี้เลยสร้างความไม่พอใจให้หลายๆคนในหลายประเทศที่ไม่เต็มใจจะโดนวางยาพิษในน้ำก๊อกที่ทำให้โง่และเป็นโรค แถมการเอาน้ำไปต้มให้เดือดก็ไม่ได้ช่วยอะไรยกเว้นเพิ่มความแรงของสารพิษให้สูงขึ้นอึก 7 เท่าตัว เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมยาสีฟันที่มีผสมฟลูโอไรด์ต้องมีคำเตือนแปะอยู่ข้างหลอดว่าห้ามกลืน ถ้าใครเผลอกลืนต้องรีบพบแพทย์!! อะไรก็ตามที่ทำมาให้ใช้ได้ในปาก มันควรที่จะปลอดภัยมากกว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะยาสีฟันที่เราเอาใส่ปากเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายทุกๆวัน บางคนอาจคิดว่าอีคนเขียนนี่วิตกจริตฟุ้งซ่านมากไปป่ะ? ไม่มีใครเค้าโง่กลืนยาสีฟันหรอก แค่ใส่ปากแปรงๆแล้วก็บ้วนทิ้่ง โอเค ก็จริงอยู่ที่ไม่มีใครกลืนมันแบบตั้งใจ แต่มีใครแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ว่ามันไม่ได้แอบตกค้างอยู่ตามซอกฟันซอกเหงือกให้คุณกลืนลงท้องทั้งคืน บวกกับอีกรอบตอนเช้า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะกลืนมันลงไปโดยไม่ตั้งใจถ้าไม่มีผู้ปกครองดูแล เชื่อหรือไม่ว่าฟลูโอไรด์เพียง 200 มิลลิกรัม หรือปริมาณยาสีฟันบีบออกมาเท่ากับความยาวของแปรงสีฟันนั้นสามารถฆ่าเด็กเล็กได้เลย และฆาตกรตัวจริงไม่ใช่ยาสีฟันแต่คือฟลูโอไรด์เพียวๆเลยหล่ะ จากรายงานของสมาคมศูนย์ควบคุมพิษอเมริกาบอกว่า ในปี 1994 มีคนตายจากฟลูออไรด์ที่ผสมในอาหารเสริมแล้วด้วย! Fluoride Alert .Org แคลเซียมฟลูออไรด์เป็นธาตุที่จำเป็น พบเป็นส่วนใหญ่ในกระดูก และเคลือบฟัน ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และทำให้ฟันทนต่อการผุมากขึ้น แคลเซียมฟลูออไรด์อาจช่วยป้องกันโรคปริทันต์ด้วย และป้องกันโรคกระดูกพรุน แคลเซียมฟลูออไรด์พบในธรรมชาติ ในรูปของแคลเซียมคลอไรด์ มีอยู่ในพืชทุกชนิด สัตว์ น้ำ และ ดิน โซเดียมฟลูออไรด์ (Sodium Fluoride) เป็นสารอนินทรีย์ที่เกิดจากธาตุฟลูออรีน (Fluorine) ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้นำเอาโซเดียมฟลูออไรด์ไปผสมกับผลิตภัณฑ์ ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากด้วยโซเดียมฟลูออไรด์ การได้รับฟลูออรีน จะเกิดการสะสมของฟลูออรีนไว้ในร่างกายทีละน้อย จะทำให้เกิดความเสียหายและข้อบกพร่องขึ้นกับระบบโครงกระดูกและฟันสำหรับความผิดปกติของฟัน เกิดขึ้นโดยฟันจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขุ่นๆ ซึ่งเดิมมีลักษณะใส นอกจากนี้ยังทำให้ฟันไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ฟันจึงมักชำรุดแตกบิ่นง่าย ส่วนในระบบโครงกระดูกอาการที่พบคือ กระดูกจะเจริญเร็วมาก ซึ่งอาจจะสังเกตได้จากกระดูกขา กราม กระดูกซี่โครง ขากระเผลก เดินลำบาก ซึ่งเป็นผลจากการเจริญมากเกินไปของกระดูกหรือเกิดจากที่หินปูนไปจับกับเอ็นและข้อต่อของขา จึงทำให้ขาแข็ง ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นอาการแบบถาวร แหล่งอาหาร แคลเซียมฟลูออไรด์ ตามธรรมชาติ 1. ข้าวต่างๆ 2. ผลไม้ เช่น แอปเปิล องุ่น ลูกแพร์ กล้วย และเชอร์รี่ 3. ผักต่างๆ เช่น หัวแครอท กระเทียม หัวบีท ผักใบเขียว กระจับ ถั่ว ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือ หัวหอม มันฝรั่ง 4. เนย เนยแข็ง เนยเหลว ไข่ 5. เมล็ดทานตะวัน 6. อื่นๆ เช่น อาหารทะเล ถั่วเหลือง ปลา น้ำทะเล น้ำกระด้าง น้ำผึ้ง ชาดำ แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของฟลูออไรด์คือ อาหารทะเล #สารฟลูออไรด์ในยาสีฟันก่อให้เกิดมะเร็ง จริงหรือไม่? ☠️☠️ ทำไมเด็กในอเมริกาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1 นักวิจัยหลายๆท่านที่อเมริกา รวมทั้ง Charlotte Gerson ได้ไปทดสอบและพิสูจน์แล้วว่า ยาสีฟันที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปรวมทั้งยี่ห้อที่เราใช้กันอยู่ทุกวันมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง Charlotte ให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษามะเร็งที่คลีนิคของเธอทุกคนเลิกใช้ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูออไรด์ เธอยังบอกอีกว่าไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้ทำไมเด็กในอเมริกาเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น เพราะยาสีฟันที่ใช้กันอยู่ ผสม สารฟลูออไรด์ แล้วยังใส่รสชาติเหมือนขนมหวานให้เด็กๆติดใจและอยากจะใช้ยาสีฟันแบบนี้ 🚑🚑 เธอบอกความจริงว่าถ้าผู้บริโภคไม่มีใครป่วยเป็นโรคอะไรเลยแล้วผู้ผลิตยาจะทำธุรกิจได้กำไรจากที่ไหน ลองไปดูสิคะผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้บางทีก็เป็นบริษัทเดียวกันกับผู้ผลิตยานั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่หมอฟันใช้กับคนไข้ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาบ้วนปาก หรือแม้แต่สิ่งที่ใช้อุดฟันล้วนแล้วเป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น 🎗🎗 ใครที่เป็นมะเร็งอยู่ก็ดูยาสีฟันกันหน่อยนะคะ ⛑⛑ (ปีนี้ 2018 Charlotte Gerson เธออายุ 96 ปียังแข็งแรงและเดินสายสัมมนาเรื่องมะเร็ง นับถือจริงๆ) ด้วยความปรารถนาดี ...โค้ชนาตาลี ❤️❤️ อ่านต่อ... From the book: Never Fear Cancer again by Raymond Francis .......... Fluoride Fluoride both switches on and drives cancer. Federal health officials continue to call fluoridation one of the ten great public-health achievements of the twentieth century, while it has long been known as one of our greatest public-health blunders. The scientific evidence that fluoride causes cancer is overwhelming, and this has been known for decades, despite attempts to obscure it. 💉💉 For example, recorded in the Congressional Record of 21 July 1976, the chief chemist of the National Cancer Institute, Dr. Dean Burke, stated before Congress, “In point of fact, fluoride causes more cancer death, and causes it faster than any other chemical.” ☠️☠️ Fluoride is a general cellular poison, doing catastrophic biological damage that is beyond the scope of this chapter to describe, yet many of us are now ingesting daily amounts that far exceed even the government’s inadequate safety standards. Hundreds of studies have found a connection between fluoride and cancer; cities that fluoridate their water have significantly more cancer deaths than cities that do not fluoridate. ☠️☠️ ***Fluoride causes cancer by reacting with enzymes, changing their shape and disabling them.*** ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ด้วยรักและยาสีฟัน เวชหนุ่ม
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1357 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ivermectin กับมะเร็ง และอื่นๆ
    ยาฆ่าparasite แต่ทั่วโลกกำลังตื่นเต้นในฤทธิ์ของการฆ่าไวรัสได้หลายชนิดและรวมทั้งการนำไปควบรวมรักษามะเร็งที่ดื้อยา และแม้แต่ ลองโควิดและลองวัคซีน

    * เป็นไปได้หรือไม่ที่จะได้มีการนำมาควบรวมในการใช้ในผู้ป่วยคนไทยจริงๆ
    * หลักฐานตามที่แนบมาอยู่ในวรสารการแพทย์และทางวิทยาศาสตร์ชั้นนำทั้งสิ้น
    * และยามีความปลอดภัยสูงนอกจากนั้นพิสูจน์แล้วว่าใช้เป็นเวลานานเป็นปีไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาข้างเคียงและไม่ตีกับยาอื่น

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    https://ashpublications.org/blood/article/116/18/3593/27970/The-antiparasitic-agent-ivermectin-induces

    https://www.mdpi.com/2072-6694/12/2/441

    https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7320149/

    https://tspace.library.utoronto.ca/bitstream/1807/24641/8/Sharmeen_Sumaiya_20106_MSc_thesis.pdf

    https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32611256/

    https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/10428194.2020.1786559

    https://www.medsci.org/v19p1567.pdf

    https://www.news-medical.net/news/20210119/Researchers-identify-new-drug-combination-that-can-treat-acute-myeloid-leukemia.aspx

    https://link.springer.com/article/10.1007/s10787-022-01129-1

    https://onlinelibrary.wiley.com/doi/pdf/10.1111/jcmm.15195

    https://www.nature.com/articles/d41586-024-01431-8?gad_source=1&gclid=CjwKCAjw_Na1BhAlEiwAM-dm7ELoFa53qxJ_GxZeoVGgKaSPEE51r9vK2bzBfazS8eg6VQD-eo6zYxoCZ2gQAvD_BwE

    https://europepmc.org/article/PMC/5835698

    https://link.springer.com/article/10.1007/s13167-020-00209-y

    https://www.zora.uzh.ch/id/eprint/198018/1/Mezzatesta_et_al.pdf

    https://pubs.acs.org/doi/10.1021/acs.jmedchem.2c00496#

    https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1043661820315152

    Nature 2021https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5 
    Nature 2022https://www.nature.com/articles/s41419-022-05182-0 

    Others
    https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1043661820315152https://

    www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7505114/https://

    www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2021.717529/fullhttps://journals.sagepub.com/doi/full/10.1177/09603271221143693https://www.mdpi.com/2079-9721/11/1/49https://www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2022.934746/fullhttps://ar.iiarjournals.org/content/39/9/4837 


    Ivermectin converts cold tumors hot and synergizes with immune checkpoint blockade for treatment of breast cancer

    https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5



    https://www.frontiersin.org/journals/molecular-neuroscience/articles/10.3389/fnmol.2023.1138798/full

    https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0166432820305039?fr=RR-2&ref=pdf_download&rr=

    IVM is increasing striatal dopamine release through enhanced cholinergic activity on dopamine terminals.

    https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC11025261/
    Ivermectin กับมะเร็ง และอื่นๆ ยาฆ่าparasite แต่ทั่วโลกกำลังตื่นเต้นในฤทธิ์ของการฆ่าไวรัสได้หลายชนิดและรวมทั้งการนำไปควบรวมรักษามะเร็งที่ดื้อยา และแม้แต่ ลองโควิดและลองวัคซีน * เป็นไปได้หรือไม่ที่จะได้มีการนำมาควบรวมในการใช้ในผู้ป่วยคนไทยจริงๆ * หลักฐานตามที่แนบมาอยู่ในวรสารการแพทย์และทางวิทยาศาสตร์ชั้นนำทั้งสิ้น * และยามีความปลอดภัยสูงนอกจากนั้นพิสูจน์แล้วว่าใช้เป็นเวลานานเป็นปีไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาข้างเคียงและไม่ตีกับยาอื่น ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://ashpublications.org/blood/article/116/18/3593/27970/The-antiparasitic-agent-ivermectin-induces https://www.mdpi.com/2072-6694/12/2/441 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7320149/ https://tspace.library.utoronto.ca/bitstream/1807/24641/8/Sharmeen_Sumaiya_20106_MSc_thesis.pdf https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32611256/ https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/10428194.2020.1786559 https://www.medsci.org/v19p1567.pdf https://www.news-medical.net/news/20210119/Researchers-identify-new-drug-combination-that-can-treat-acute-myeloid-leukemia.aspx https://link.springer.com/article/10.1007/s10787-022-01129-1 https://onlinelibrary.wiley.com/doi/pdf/10.1111/jcmm.15195 https://www.nature.com/articles/d41586-024-01431-8?gad_source=1&gclid=CjwKCAjw_Na1BhAlEiwAM-dm7ELoFa53qxJ_GxZeoVGgKaSPEE51r9vK2bzBfazS8eg6VQD-eo6zYxoCZ2gQAvD_BwE https://europepmc.org/article/PMC/5835698 https://link.springer.com/article/10.1007/s13167-020-00209-y https://www.zora.uzh.ch/id/eprint/198018/1/Mezzatesta_et_al.pdf https://pubs.acs.org/doi/10.1021/acs.jmedchem.2c00496# https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1043661820315152 Nature 2021https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5  Nature 2022https://www.nature.com/articles/s41419-022-05182-0  Others https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1043661820315152https:// www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7505114/https:// www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2021.717529/fullhttps://journals.sagepub.com/doi/full/10.1177/09603271221143693https://www.mdpi.com/2079-9721/11/1/49https://www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2022.934746/fullhttps://ar.iiarjournals.org/content/39/9/4837  Ivermectin converts cold tumors hot and synergizes with immune checkpoint blockade for treatment of breast cancer https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5 https://www.frontiersin.org/journals/molecular-neuroscience/articles/10.3389/fnmol.2023.1138798/full https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0166432820305039?fr=RR-2&ref=pdf_download&rr= IVM is increasing striatal dopamine release through enhanced cholinergic activity on dopamine terminals. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC11025261/
    Like
    Love
    14
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 597 มุมมอง 0 รีวิว
  • Appreciate Yourself And Others More With Words Of Affirmation

    New Year’s goals aren’t just about what you do, they’re also about what you say. This year, why not build up yourself and your relationships with some words of affirmation?

    Words of affirmation are things we say that express care, commitment, love, and support. They’re so important, they’re actually one of the five love languages that author Gary Chapman says people require to feel and express love in relationships. But words of affirmation aren’t just tools for sharing our feelings with other people. They’re an important part of self-affirmation and offering encouragement to yourself as well.

    The past two years haven’t been easy on anyone, but starting a new year presents the chance to embrace opportunity, build your self-confidence, and put yourself out into the world in a new way. As you commit to self-improvement or growth in your relationships this year, here are 22 words and phrases of affirmation to help you express love and appreciation for yourself and others.


    1. “I’m thankful for…”
    Gratitude can be something you express to others, or it can be something you experience within yourself. Being intentional about expressing thanks for the things, people, and opportunities in your life is a way of affirming appreciation for the moment and inspiring positivity about the future.

    2. “I’m proud because…”
    You might feel pride for something as big as completing a marathon or as simple as making that tough phone call you’d been putting off for a week. Either way, when you’re proud of yourself or someone else, say it.

    3. “I feel supported when…”
    How do other people show up for you? Point it out to them, and let them know how much you appreciate having them in your corner.

    4. “I feel inspired when…”
    Notice what motivates you. It might be something another person does, or inspiration may strike when you’re taking time for yourself. Acknowledge those moments to bring attention to them and to help you recognize moments of inspiration in the future.

    5. “I am brave.”
    Every day you take chances, tackle goals, share your feelings, and put yourself out there. Those are all brave things to do. When life feels scary, affirm to yourself that you have shown bravery a million times before, and you can do it again.

    6. “I am loved.”
    You matter to the people around you. Remind yourself of this when you’re feeling disconnected or overwhelmed. You could even call up someone you care about and remind them that they are loved, too.

    7. “I can.”
    If you’re experiencing doubt, remind yourself that you can do whatever it is that’s making you feel worried. You may not do everything perfectly, but you can try, show up, and keep working towards the goal.

    8. “I value…”
    What do you love about the people in your life? What makes your relationships meaningful? You can affirm your connections with others by sharing these things and letting them know the special place they hold in your life.

    9. “I love you.”
    Love is something you feel, but it’s also something to share. When you love someone, let them know it. It can’t hurt to also say it to your reflection in the mirror sometimes. We won’t judge.

    10. “Thank you.”
    “Thank you” is a simple phrase that makes a big impact. Thanking others lets them know they’re seen, needed, and appreciated. Thanking yourself is also a way of acknowledging the good you do in the world and the power you have to make a difference.

    11. “I’m worth it.”
    It’s normal to experience doubt or wonder if you’re good enough for the things and people you want in your life, but we’re all worthy of good things. Remind yourself of this when the going gets tough.

    12. “I love my life when…”
    Think about what brings you joy, then celebrate that. Maybe this means telling yourself you love your life when you’re being active or taking chances, or maybe it’s telling someone else you love your life when they’re a part of it.

    13. “You are so special to me.”
    Special means “of a distinct or particular kind or character.” It’s nice to hear that you are uniquely appreciated, so make it a point to share those feelings with the most special people in your life.

    14. “I’m here.”
    Sometimes the best way to affirm your care for someone is just to be there for them. You can do this by taking care of something they need done, bringing them a gift, or just telling them, “I’m here.”

    15. “I feel loved when…”
    In relationships, it can be important to share not just your own love for someone, but also the ways they make you feel loved. Communication like this can strengthen your bond and help you support each other in ways that feel more thoughtful.

    16. “It impressed me when…”
    We don’t always know when we’re being noticed or appreciated by others. Make an intention to share these moments more often. You can start by just letting someone know when something they do catches your attention.

    17. “I’m lucky…”
    Acknowledging the good things in your life can help you notice all of the small privileges and joys you experience on a daily basis. Ways to finish this sentence might include: I’m lucky to be here, I’m lucky to experience this moment, or I’m lucky to have you in my life.

    18. “I feel great.”
    Feeling good? Shout it from the rooftops. It’s easy to acknowledge when we’re feeling off, down, or out of sorts. This year, try to be intentional about also affirming the good days and good vibes you experience.

    19. “I’m showing up for myself.”
    When you practice self-care, accomplish a goal, or even just tackle a basic task of daily living, you’re showing up for yourself, and that’s a big deal. Affirm that you are your own biggest support, and you do a great job of being you.

    20. “I am capable.”
    When self-doubt creeps in, affirm that you are capable. You may not be perfect (no one is!), but you are always capable of learning, trying, practicing, and getting better.

    21. “I find you so…”
    How do you feel about the people in your life? They’d probably like to hear it. You might say you find them attractive, inspiring, helpful, friendly, hilarious, or kind.

    22. “I am doing my best.”
    No one is going to get it right 100% of the time, but making an effort to be a good friend, parent, worker, and person is what counts. No matter what challenges or success are ahead, remind yourself in each moment that you are doing your best.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Appreciate Yourself And Others More With Words Of Affirmation New Year’s goals aren’t just about what you do, they’re also about what you say. This year, why not build up yourself and your relationships with some words of affirmation? Words of affirmation are things we say that express care, commitment, love, and support. They’re so important, they’re actually one of the five love languages that author Gary Chapman says people require to feel and express love in relationships. But words of affirmation aren’t just tools for sharing our feelings with other people. They’re an important part of self-affirmation and offering encouragement to yourself as well. The past two years haven’t been easy on anyone, but starting a new year presents the chance to embrace opportunity, build your self-confidence, and put yourself out into the world in a new way. As you commit to self-improvement or growth in your relationships this year, here are 22 words and phrases of affirmation to help you express love and appreciation for yourself and others. 1. “I’m thankful for…” Gratitude can be something you express to others, or it can be something you experience within yourself. Being intentional about expressing thanks for the things, people, and opportunities in your life is a way of affirming appreciation for the moment and inspiring positivity about the future. 2. “I’m proud because…” You might feel pride for something as big as completing a marathon or as simple as making that tough phone call you’d been putting off for a week. Either way, when you’re proud of yourself or someone else, say it. 3. “I feel supported when…” How do other people show up for you? Point it out to them, and let them know how much you appreciate having them in your corner. 4. “I feel inspired when…” Notice what motivates you. It might be something another person does, or inspiration may strike when you’re taking time for yourself. Acknowledge those moments to bring attention to them and to help you recognize moments of inspiration in the future. 5. “I am brave.” Every day you take chances, tackle goals, share your feelings, and put yourself out there. Those are all brave things to do. When life feels scary, affirm to yourself that you have shown bravery a million times before, and you can do it again. 6. “I am loved.” You matter to the people around you. Remind yourself of this when you’re feeling disconnected or overwhelmed. You could even call up someone you care about and remind them that they are loved, too. 7. “I can.” If you’re experiencing doubt, remind yourself that you can do whatever it is that’s making you feel worried. You may not do everything perfectly, but you can try, show up, and keep working towards the goal. 8. “I value…” What do you love about the people in your life? What makes your relationships meaningful? You can affirm your connections with others by sharing these things and letting them know the special place they hold in your life. 9. “I love you.” Love is something you feel, but it’s also something to share. When you love someone, let them know it. It can’t hurt to also say it to your reflection in the mirror sometimes. We won’t judge. 10. “Thank you.” “Thank you” is a simple phrase that makes a big impact. Thanking others lets them know they’re seen, needed, and appreciated. Thanking yourself is also a way of acknowledging the good you do in the world and the power you have to make a difference. 11. “I’m worth it.” It’s normal to experience doubt or wonder if you’re good enough for the things and people you want in your life, but we’re all worthy of good things. Remind yourself of this when the going gets tough. 12. “I love my life when…” Think about what brings you joy, then celebrate that. Maybe this means telling yourself you love your life when you’re being active or taking chances, or maybe it’s telling someone else you love your life when they’re a part of it. 13. “You are so special to me.” Special means “of a distinct or particular kind or character.” It’s nice to hear that you are uniquely appreciated, so make it a point to share those feelings with the most special people in your life. 14. “I’m here.” Sometimes the best way to affirm your care for someone is just to be there for them. You can do this by taking care of something they need done, bringing them a gift, or just telling them, “I’m here.” 15. “I feel loved when…” In relationships, it can be important to share not just your own love for someone, but also the ways they make you feel loved. Communication like this can strengthen your bond and help you support each other in ways that feel more thoughtful. 16. “It impressed me when…” We don’t always know when we’re being noticed or appreciated by others. Make an intention to share these moments more often. You can start by just letting someone know when something they do catches your attention. 17. “I’m lucky…” Acknowledging the good things in your life can help you notice all of the small privileges and joys you experience on a daily basis. Ways to finish this sentence might include: I’m lucky to be here, I’m lucky to experience this moment, or I’m lucky to have you in my life. 18. “I feel great.” Feeling good? Shout it from the rooftops. It’s easy to acknowledge when we’re feeling off, down, or out of sorts. This year, try to be intentional about also affirming the good days and good vibes you experience. 19. “I’m showing up for myself.” When you practice self-care, accomplish a goal, or even just tackle a basic task of daily living, you’re showing up for yourself, and that’s a big deal. Affirm that you are your own biggest support, and you do a great job of being you. 20. “I am capable.” When self-doubt creeps in, affirm that you are capable. You may not be perfect (no one is!), but you are always capable of learning, trying, practicing, and getting better. 21. “I find you so…” How do you feel about the people in your life? They’d probably like to hear it. You might say you find them attractive, inspiring, helpful, friendly, hilarious, or kind. 22. “I am doing my best.” No one is going to get it right 100% of the time, but making an effort to be a good friend, parent, worker, and person is what counts. No matter what challenges or success are ahead, remind yourself in each moment that you are doing your best. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇮🇳 อินเดียได้ประโยชน์จากทุกคนอย่างไร?

    อินเดียเพิ่งปรากฏตัวในการประชุมสุดยอด BRICS ร่วมกับปูตินและสีจิ้นผิง, ขณะที่จีนขู่ว่าจะทำสงครามในไต้หวัน และรัสเซียยังคงทำสงครามในยูเครน

    อย่างไรก็ตาม, อินเดียกำลังฝ่ามรสุมโลกครั้งนี้และได้รับประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย

    ตั้งแต่ปี ๒๐๒๒, อินเดียได้นำเข้าน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียในขณะที่ยังคงรักษาข้อตกลงทางทหารจำนวนมาก—โดยฮาร์ดแวร์ป้องกันประเทศ ๗๐% มาจากรัสเซีย

    อย่างไรก็ตาม, อินเดียยังกระชับความสัมพันธ์กับตะวันตก, โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านความร่วมมือ เช่น Quad เพื่อต่อต้านจีนในอินโด-แปซิฟิก

    จุดสำคัญคืออะไร? อินเดียยังสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับอิหร่าน, ซึ่งเป็นประเทศที่ตะวันตกต้องการควบคุมอย่างยิ่ง

    พวกเขากำลังทำงานร่วมกับอิหร่านเพื่อพัฒนาท่าเรือชบาฮาร์เชิงยุทธศาสตร์, เข้าถึงเส้นทางการค้า และเพิ่มอิทธิพลในตะวันออกกลาง

    ในขณะที่อิหร่านยังคงขัดแย้งกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์และความตึงเครียดกับอิสราเอล

    อินเดียกำลังเล่นทั้งสองฝ่ายอย่างเชี่ยวชาญ—สร้างสมดุลระหว่างความสัมพันธ์กับรัสเซีย, เสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ, และจัดแนวยุทธศาสตร์ร่วมกับผู้เล่นหลัก เช่น อิหร่าน

    อินเดียกำลังใช้กลุ่ม BRICS เป็นแพลตฟอร์มเพื่อเสริมสร้างสถานะของตนในระดับโลกในขณะที่เดินอยู่บนเส้นแบ่งบางๆระหว่างตะวันออกและตะวันตก

    อินเดียกำลังทำสิ่งนี้ได้อย่างไร—และจะนำไปสู่จุดใดต่อไป?
    .
    🇮🇳 HOW IS INDIA PROFITING FROM EVERYONE?

    India just showed up at the BRICS summit alongside Putin and Xi, while China threatens war over Taiwan and Russia continues its war in Ukraine.

    But somehow, India is navigating this global storm and benefiting from both sides.

    Since 2022, India’s been importing cheap Russian oil while maintaining massive military deals—70% of its defense hardware comes from Russia.

    Yet, India’s also deepening ties with the West, especially through partnerships like the Quad to counter China in the Indo-Pacific.

    The kicker? India is also forging stronger ties with Iran, a country the West is desperate to control.

    They’re working with Iran to develop the strategic Chabahar port, gaining access to trade routes and increasing influence in the Middle East.

    All while Iran remains at odds with the U.S. over nuclear ambitions and tensions with Israel.

    India is playing both sides expertly—balancing ties with Russia, strengthening partnerships with the U.S., and strategically aligning with key players like Iran.

    It’s using BRICS as a platform to boost its global standing while walking the fine line between East and West.

    How is India doing this—and where does it lead next?
    .
    3:39 AM · Oct 23, 2024 · 600.7K Views
    https://x.com/MarioNawfal/status/1848826559316021664
    🇮🇳 อินเดียได้ประโยชน์จากทุกคนอย่างไร? อินเดียเพิ่งปรากฏตัวในการประชุมสุดยอด BRICS ร่วมกับปูตินและสีจิ้นผิง, ขณะที่จีนขู่ว่าจะทำสงครามในไต้หวัน และรัสเซียยังคงทำสงครามในยูเครน อย่างไรก็ตาม, อินเดียกำลังฝ่ามรสุมโลกครั้งนี้และได้รับประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย ตั้งแต่ปี ๒๐๒๒, อินเดียได้นำเข้าน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียในขณะที่ยังคงรักษาข้อตกลงทางทหารจำนวนมาก—โดยฮาร์ดแวร์ป้องกันประเทศ ๗๐% มาจากรัสเซีย อย่างไรก็ตาม, อินเดียยังกระชับความสัมพันธ์กับตะวันตก, โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านความร่วมมือ เช่น Quad เพื่อต่อต้านจีนในอินโด-แปซิฟิก จุดสำคัญคืออะไร? อินเดียยังสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับอิหร่าน, ซึ่งเป็นประเทศที่ตะวันตกต้องการควบคุมอย่างยิ่ง พวกเขากำลังทำงานร่วมกับอิหร่านเพื่อพัฒนาท่าเรือชบาฮาร์เชิงยุทธศาสตร์, เข้าถึงเส้นทางการค้า และเพิ่มอิทธิพลในตะวันออกกลาง ในขณะที่อิหร่านยังคงขัดแย้งกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์และความตึงเครียดกับอิสราเอล อินเดียกำลังเล่นทั้งสองฝ่ายอย่างเชี่ยวชาญ—สร้างสมดุลระหว่างความสัมพันธ์กับรัสเซีย, เสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ, และจัดแนวยุทธศาสตร์ร่วมกับผู้เล่นหลัก เช่น อิหร่าน อินเดียกำลังใช้กลุ่ม BRICS เป็นแพลตฟอร์มเพื่อเสริมสร้างสถานะของตนในระดับโลกในขณะที่เดินอยู่บนเส้นแบ่งบางๆระหว่างตะวันออกและตะวันตก อินเดียกำลังทำสิ่งนี้ได้อย่างไร—และจะนำไปสู่จุดใดต่อไป? . 🇮🇳 HOW IS INDIA PROFITING FROM EVERYONE? India just showed up at the BRICS summit alongside Putin and Xi, while China threatens war over Taiwan and Russia continues its war in Ukraine. But somehow, India is navigating this global storm and benefiting from both sides. Since 2022, India’s been importing cheap Russian oil while maintaining massive military deals—70% of its defense hardware comes from Russia. Yet, India’s also deepening ties with the West, especially through partnerships like the Quad to counter China in the Indo-Pacific. The kicker? India is also forging stronger ties with Iran, a country the West is desperate to control. They’re working with Iran to develop the strategic Chabahar port, gaining access to trade routes and increasing influence in the Middle East. All while Iran remains at odds with the U.S. over nuclear ambitions and tensions with Israel. India is playing both sides expertly—balancing ties with Russia, strengthening partnerships with the U.S., and strategically aligning with key players like Iran. It’s using BRICS as a platform to boost its global standing while walking the fine line between East and West. How is India doing this—and where does it lead next? . 3:39 AM · Oct 23, 2024 · 600.7K Views https://x.com/MarioNawfal/status/1848826559316021664
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำสั่งที่ต้องปฏิบัติตามของดอลลาร์ จะพิสูจน์ความล่มสลายเมื่อมหาอำนาจเกิดใหม่รวมตัวกัน – นักวิเคราะห์

    Chintamani Mahapatra, ผู้ก่อตั้งและประธานของ Kalinga Institute of Indo-Pacific Studies:

    “ประเทศต่างๆกำลังแสวงหาวิธีและช่องทางในการทำการค้าและธุรกิจนอกกรอบโครงสร้างการเงินที่สหรัฐฯครอบงำ เนื่องจากพวกเขาเบื่อหน่ายกับการที่สหรัฐฯ กำหนดเงื่อนไขกับหลายประเทศ, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การป้องกันไม่ให้ประเทศต่างๆ ทำธุรกิจกับประเทศที่อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ”

    “ชาติตะวันตกที่รวมกันจะพยายามไม่อนุญาตให้มีระบบทางเลือกอื่นเกิดขึ้น และชาติที่ไม่ใช่ตะวันตกก็แทบจะไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเลย ประเทศต่างๆมีการพึ่งพากันที่ซับซ้อน ดังนั้น, จึงไม่สามารถเขียนคำไว้อาลัยของระบบที่ดอลลาร์สหรัฐครอบงำได้ในขณะนี้ เศรษฐกิจอื่นๆจะต้องปรับปรุงจนถึงจุดที่อิทธิพลของสหรัฐฯลดลงอีก, และในกรณีนั้น ระบบทางเลือกจะเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย”
    .
    Dollar’s diktat will prove its downfall once emerging powers unite – analyst

    Chintamani Mahapatra, founder and chairman of the Kalinga Institute of Indo-Pacific Studies:

    “Countries are seeking ways and means of conducting trade and business outside the US-dominated financial architecture because they are fed up with the US dictating terms to multiple countries, especially by preventing countries from doing business with countries under US sanctions.”

    “The combined West will try not to allow an alternative system from rising. And the non-West is hardly united. Countries have complex interdependence. Thus, one cannot write the obituary of the dollar dominated system at the moment. Other economies have to improve to a point where the relative US domination declines further, and in that case the alternative system will easily emerge.”
    .
    11:28 PM · Oct 21, 2024 · 4,540 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1848401007660634292
    คำสั่งที่ต้องปฏิบัติตามของดอลลาร์ จะพิสูจน์ความล่มสลายเมื่อมหาอำนาจเกิดใหม่รวมตัวกัน – นักวิเคราะห์ Chintamani Mahapatra, ผู้ก่อตั้งและประธานของ Kalinga Institute of Indo-Pacific Studies: “ประเทศต่างๆกำลังแสวงหาวิธีและช่องทางในการทำการค้าและธุรกิจนอกกรอบโครงสร้างการเงินที่สหรัฐฯครอบงำ เนื่องจากพวกเขาเบื่อหน่ายกับการที่สหรัฐฯ กำหนดเงื่อนไขกับหลายประเทศ, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การป้องกันไม่ให้ประเทศต่างๆ ทำธุรกิจกับประเทศที่อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ” “ชาติตะวันตกที่รวมกันจะพยายามไม่อนุญาตให้มีระบบทางเลือกอื่นเกิดขึ้น และชาติที่ไม่ใช่ตะวันตกก็แทบจะไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเลย ประเทศต่างๆมีการพึ่งพากันที่ซับซ้อน ดังนั้น, จึงไม่สามารถเขียนคำไว้อาลัยของระบบที่ดอลลาร์สหรัฐครอบงำได้ในขณะนี้ เศรษฐกิจอื่นๆจะต้องปรับปรุงจนถึงจุดที่อิทธิพลของสหรัฐฯลดลงอีก, และในกรณีนั้น ระบบทางเลือกจะเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย” . Dollar’s diktat will prove its downfall once emerging powers unite – analyst Chintamani Mahapatra, founder and chairman of the Kalinga Institute of Indo-Pacific Studies: “Countries are seeking ways and means of conducting trade and business outside the US-dominated financial architecture because they are fed up with the US dictating terms to multiple countries, especially by preventing countries from doing business with countries under US sanctions.” “The combined West will try not to allow an alternative system from rising. And the non-West is hardly united. Countries have complex interdependence. Thus, one cannot write the obituary of the dollar dominated system at the moment. Other economies have to improve to a point where the relative US domination declines further, and in that case the alternative system will easily emerge.” . 11:28 PM · Oct 21, 2024 · 4,540 Views https://x.com/SputnikInt/status/1848401007660634292
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอิสราเอลกำลังสูญเสียขวัญกำลังใจและทหารกำลังก่อกบฏ - อิสราเอล ฮามาคอม

    สื่ออิสราเอลอ้างคำพูดของทหารอิสราเอลหลายคนที่อธิบายว่า ทำไมพวกเขาจึงปฏิเสธที่จะสู้ต่อไป 👇🏻

    'เราเป็นเป้านิ่งในสนามยิงปืน เราไม่เข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ที่นี่'

    'ตัวประกันไม่กลับมา และรู้สึกเหมือนทหารได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตระหว่างทาง ทุกอย่างดูไร้จุดหมาย'

    'ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาคิดที่จะไปเลบานอนด้วยกองทัพไหน เพราะไม่มีกองทัพ ฉันจะไม่กลับไปที่กองพัน'
    .
    ⚡️BREAKING

    Israeli army is losing moral and soldiers are in rebellion - Israeli Hamakom

    The Israeli media quoted several Israeli soldiers who explained why they refused to continue fighting 👇🏻

    'We're sitting ducks on a shooting range. We don't understand what we're doing here'

    'The hostages don't come back and it feels like the soldiers keep getting injured and dying along the way. It all seems pointless'

    'I don't know what army they're thinking of going into Lebanon with, because there is no army. I'm not going back to the battalion'
    .
    9:29 PM · Oct 20, 2024 · 1.2M Views
    https://x.com/IranObserver0/status/1848008582672814092
    กองทัพอิสราเอลกำลังสูญเสียขวัญกำลังใจและทหารกำลังก่อกบฏ - อิสราเอล ฮามาคอม สื่ออิสราเอลอ้างคำพูดของทหารอิสราเอลหลายคนที่อธิบายว่า ทำไมพวกเขาจึงปฏิเสธที่จะสู้ต่อไป 👇🏻 'เราเป็นเป้านิ่งในสนามยิงปืน เราไม่เข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ที่นี่' 'ตัวประกันไม่กลับมา และรู้สึกเหมือนทหารได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตระหว่างทาง ทุกอย่างดูไร้จุดหมาย' 'ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาคิดที่จะไปเลบานอนด้วยกองทัพไหน เพราะไม่มีกองทัพ ฉันจะไม่กลับไปที่กองพัน' . ⚡️BREAKING Israeli army is losing moral and soldiers are in rebellion - Israeli Hamakom The Israeli media quoted several Israeli soldiers who explained why they refused to continue fighting 👇🏻 'We're sitting ducks on a shooting range. We don't understand what we're doing here' 'The hostages don't come back and it feels like the soldiers keep getting injured and dying along the way. It all seems pointless' 'I don't know what army they're thinking of going into Lebanon with, because there is no army. I'm not going back to the battalion' . 9:29 PM · Oct 20, 2024 · 1.2M Views https://x.com/IranObserver0/status/1848008582672814092
    Like
    Haha
    Wow
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ? “

    รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square ≥ 4

    พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์ ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure.

    ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยาก

    Summary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้ : PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148)

    จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มาก

    และมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบียช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม

    พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

    เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ

    Reference :

    https://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1

    https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    “ วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ? “ รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square ≥ 4 พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์ ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure. ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยาก Summary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้ : PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148) จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มาก และมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบียช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ Reference : https://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1 https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    WWW.PREPRINTS.ORG
    Are COVID-19 Vaccines in Pregnancy as Safe and Effective as the U.S. Government, Medical Organizations, and Pharmaceutical Industry Claim? Part I
    Introduction: In Part I of this three-part series we report a retrospective, population-based cohort study assessing rates of adverse events (AEs) in pregnancy after COVID-19 vaccines compared to the same AEs after influenza vaccines and after all other vaccines. Methods: Data were collected from the U.S. Centers for Disease Control and prevention (CDC) and the U.S. Food and Drug Administration (FDA). The CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) database was queried from January 1, 1990, to April 26, 2024, for adverse events (AEs) involving pregnancy complications following COVID-19 vaccination. The time-period included 412 months for all vaccines except COVID-19 vaccines, having been used for only 40 of the 412 months (December 1, 2020, to April 26, 2024). Proportional reporting ratios (PRR) by time compared AEs after COVID-19 vaccination to those after influenza vaccination, and after all other vaccine products administered to pregnant women. In cases in which the PRR was not applicable, Chi-square analysis and Fisher’s exact tests were used according to CDC/FDA guidance. CDC/FDA stipulate a safety concern if a PRR is ≥ 2 or if a Chi-square is ≥ 4. Results: The CDC/FDA’s safety signals were breached for all 37 AEs following COVID-19 vaccination in pregnancy: miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, and neonatal seizure. All p values were ≤ 0.001 with the majority being
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 813 มุมมอง 0 รีวิว
  • Words To Use Instead Of “Congratulations”

    Congratulations!
    Joyful times go hand in hand with congratulations. When addressing graduates, newlyweds, or anyone with good news, a hearty “Congratulations!” or a swift “Congrats!” is in order. Congratulants, “people who congratulate,” have been using the pluralized expression congratulations, which stems from the Latin gratus meaning “pleasing,” since the 1600s.

    The singular noun meaning “the act of congratulating” has been around since the late 1500s.

    Props!
    When congratulations are in order, the term props might come up. This slang shortening of proper arose in the 1990s and refers to respect and esteem.

    In addition to giving and receiving props as recognition, you can do someone a prop to help them out. In the 1995 film Clueless, Cher notices that Josh is dancing with Tai, despite the fact that he never dances, to make her feel included. Cher explains: “He’s doing her a prop so she won’t feel left out.”

    Way to go!
    If you admire someone’s grit and hustle, you can use this sporty method of congratulations. This active phrase has been traced back to the 1940s, when it was used in sports to congratulate a person or team on a great performance. In the 1960s, it began to be used more generally to refer to any kind of achievement.

    If “Way to go!” doesn’t do it for you, some peppy alternatives include “Great job,” “Nice going,” “You rock,” and “You rule!”

    Nailed it!
    This handy phrase really hits the nail on the head when you want to give someone their due. Nailed it has been traced back to at least the 1970s and metaphorically refers to the act of successfully hitting a nail with a hammer.

    In slang, we use a variety of other congratulatory phrases that also refer to forceful impacts or metaphorical violence such as “Killed it,” “Crushed it,” “Destroyed it,” and “Slayed it!”

    social media cheers

    Like, follow, and subscribe! Social media platforms all have different ways of congratulating somebody and letting them now how awesome their content is. These include:

    Twitter: the heart or a retweet
    Facebook: the thumbs-up on Facebook
    Instagram: the like
    YouTube: like, share, subscribe to a channel; hitting the bell icon
    TikTok: like and follow
    Snapchat: take a screenshot for later
    Reddit: upvote; give Reddit Gold/Platinum; or a badge
    Tumblr: reblog
    Twitch: subscribe to a channel and/or give a donation

    GG (Good Game)
    Shorthand for “good game” in the world of esports, GG is used to congratulate a victorious opponent.

    Additionally, it’s used to politely concede a match or admit defeat, most commonly in the realm of professional StarCraft. It’s all about the humble loss. Not everybody is a good sport, though, and the phrase GG EZ (“easy,” as in an easy win) is often used in a mean-spirited way to put down a defeated opponent.

    Three cheers!
    Three cheers is generally followed by “for” and the name of the person or thing being celebrated.

    A person being cheers-ed might also respond to a toast of three cheers with the word … cheers, which, especially in the UK, can mean “thanks.” That’s a lot of cheers.

    The term cheer entered English in the late 12th or early 13th century, and ultimately comes from the Greek word kárā meaning “head.”

    Hip, hip, hooray!
    For some Victorian flair, opt for the ever-cheery hip, hip, hooray (or hurrah). This expression of uncertain origin surfaced in the early 1800s, though the exclamation hip had been used since the mid-1700s. Hip repeated three times was used as a noun in the 1800s to refer to a collective cheer.

    But, let’s not forget about hooray, a variant of hurrah. This exclamation dates from the late 1600s and is very similar to shouts in German, Danish, Swedish, and even Russian. Someone’s last hurrah is their “final moment or occasion of glory or achievement.”

    Kudos!
    Though it sounds colloquial, kudos finds its roots in the hallowed halls of academic institutions. At the turn of the 1800s, academics transliterated the Greek kydos, meaning “praise or renown.” By the 1920s, kudos had spread beyond the walls of universities and into the columns of newspapers.

    Don’t be fooled by the S at the end of kudos; the word is, in fact, a singular noun. However, enough English speakers have erroneously interpreted it as plural for so long that already by the 1930s, the back formation singular kudo arose. Grammar sticklers avoid using kudo as a singular and kudos as a plural, though both forms can be found in popular usage.

    Hats off!
    The phrase hats off, while often said to graduates wearing the illustrious cap and gown, has nothing to do with the tradition of tossing hats in the air in celebration. This phrase, dating back to the 1600s, harks back to the custom of uncovering the head as a sign of respect.

    Etiquette expert Emily Post advised gentlemen on the many situations in which they must remove hats to maintain politeness. In 1922 she wrote: “A gentleman takes off his hat and holds it in his hand when a lady enters the elevator.” He also lifts his hat whenever he asks a question or says “Excuse me.” You know, maybe we could all stand a little formality these days …

    a round of applause
    The act of clapping one’s hands together to show acclaim is actually much older than you might think. Scholars are unsure of the exact origin, but we have evidence that even the ancient Romans would show their appreciation by clapping their hands. In fact, the word plaudits (which means an expression of approval) comes from the Latin verb plaudere, meaning to clap one’s hands. The verb applause is also based on this Latin verb.

    Today, the highest form of applause is the standing ovation, where every member of the audience rises to their feet and applauds. Any performer who manages to please an audience enough to cause them to stretch their legs a bit certainly deserves a big hand.

    congratulatory emoji
    Sometimes, it is better to use pictures rather than words to congratulate someone. In texting and on social media, many different emoji are used to give somebody a pat on the back after a job well done. The Clapping Hands emoji 👏 is used to refer to a round of applause and the Trophy emoji 🏆 references the shiny knickknacks we give to people who have accomplished something.

    The Party Popper emoji 🎉, Confetti Ball emoji 🎊, Partying Face emoji 🥳, and Bottle with Popping Cork emoji 🍾 are also commonly used to congratulate someone. These party animals refer to the act of throwing a party in celebration of an achievement and the stuff you are likely to find at such a shindig.

    Mazel tov!
    This expression of congratulations and best wishes comes from the Hebrew term literally meaning “good luck.” Though many reserve the English good luck for before a big event, you can cheer mazel tov to wish someone good fortune or to say congratulations.

    Mazel tov appeared in the 1600s spelled as missal tob but was rendered in English as mazel tov by the 1900s. Whatever transliteration you prefer, the term has been lovingly said ever since.

    Felicitations!
    If you want to stand out from the crowd of people offering their congratulations, try roaring felicitations. This less common expression of congratulations ultimately comes from the Latin felix, “happy.” English speakers have been using the singular form of this term (meaning “an act of congratulation”) since the early 1700s.

    So, if you want to be original (or sound old-fashioned) in wishing your congratulations, reach for a felicitous felicitations!

    congratulatory adjectives
    You don’t have to think too hard when it comes to saying congratulations. Sometimes, a single adjective will do. All you need to do is shout “Fantastic!”, “Stupendous!”, “Amazing!”, “Incredible!”, or “Spectacular!” This is just the tip of the iceberg when it comes to celebratory adjectives, though. You can use our handy thesaurus to find many more impressive synonyms of these words that you can shout out when you want to signal how much someone has impressed you.

    Keep going!
    What’s more powerful than simply saying congratulations? Encouraging someone to keep pushing ahead and to accomplish more. You’re not only celebrating the accomplishment at hand, but also showing enthusiasm for their future. Keep going!

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Words To Use Instead Of “Congratulations” Congratulations! Joyful times go hand in hand with congratulations. When addressing graduates, newlyweds, or anyone with good news, a hearty “Congratulations!” or a swift “Congrats!” is in order. Congratulants, “people who congratulate,” have been using the pluralized expression congratulations, which stems from the Latin gratus meaning “pleasing,” since the 1600s. The singular noun meaning “the act of congratulating” has been around since the late 1500s. Props! When congratulations are in order, the term props might come up. This slang shortening of proper arose in the 1990s and refers to respect and esteem. In addition to giving and receiving props as recognition, you can do someone a prop to help them out. In the 1995 film Clueless, Cher notices that Josh is dancing with Tai, despite the fact that he never dances, to make her feel included. Cher explains: “He’s doing her a prop so she won’t feel left out.” Way to go! If you admire someone’s grit and hustle, you can use this sporty method of congratulations. This active phrase has been traced back to the 1940s, when it was used in sports to congratulate a person or team on a great performance. In the 1960s, it began to be used more generally to refer to any kind of achievement. If “Way to go!” doesn’t do it for you, some peppy alternatives include “Great job,” “Nice going,” “You rock,” and “You rule!” Nailed it! This handy phrase really hits the nail on the head when you want to give someone their due. Nailed it has been traced back to at least the 1970s and metaphorically refers to the act of successfully hitting a nail with a hammer. In slang, we use a variety of other congratulatory phrases that also refer to forceful impacts or metaphorical violence such as “Killed it,” “Crushed it,” “Destroyed it,” and “Slayed it!” social media cheers Like, follow, and subscribe! Social media platforms all have different ways of congratulating somebody and letting them now how awesome their content is. These include: Twitter: the heart or a retweet Facebook: the thumbs-up on Facebook Instagram: the like YouTube: like, share, subscribe to a channel; hitting the bell icon TikTok: like and follow Snapchat: take a screenshot for later Reddit: upvote; give Reddit Gold/Platinum; or a badge Tumblr: reblog Twitch: subscribe to a channel and/or give a donation GG (Good Game) Shorthand for “good game” in the world of esports, GG is used to congratulate a victorious opponent. Additionally, it’s used to politely concede a match or admit defeat, most commonly in the realm of professional StarCraft. It’s all about the humble loss. Not everybody is a good sport, though, and the phrase GG EZ (“easy,” as in an easy win) is often used in a mean-spirited way to put down a defeated opponent. Three cheers! Three cheers is generally followed by “for” and the name of the person or thing being celebrated. A person being cheers-ed might also respond to a toast of three cheers with the word … cheers, which, especially in the UK, can mean “thanks.” That’s a lot of cheers. The term cheer entered English in the late 12th or early 13th century, and ultimately comes from the Greek word kárā meaning “head.” Hip, hip, hooray! For some Victorian flair, opt for the ever-cheery hip, hip, hooray (or hurrah). This expression of uncertain origin surfaced in the early 1800s, though the exclamation hip had been used since the mid-1700s. Hip repeated three times was used as a noun in the 1800s to refer to a collective cheer. But, let’s not forget about hooray, a variant of hurrah. This exclamation dates from the late 1600s and is very similar to shouts in German, Danish, Swedish, and even Russian. Someone’s last hurrah is their “final moment or occasion of glory or achievement.” Kudos! Though it sounds colloquial, kudos finds its roots in the hallowed halls of academic institutions. At the turn of the 1800s, academics transliterated the Greek kydos, meaning “praise or renown.” By the 1920s, kudos had spread beyond the walls of universities and into the columns of newspapers. Don’t be fooled by the S at the end of kudos; the word is, in fact, a singular noun. However, enough English speakers have erroneously interpreted it as plural for so long that already by the 1930s, the back formation singular kudo arose. Grammar sticklers avoid using kudo as a singular and kudos as a plural, though both forms can be found in popular usage. Hats off! The phrase hats off, while often said to graduates wearing the illustrious cap and gown, has nothing to do with the tradition of tossing hats in the air in celebration. This phrase, dating back to the 1600s, harks back to the custom of uncovering the head as a sign of respect. Etiquette expert Emily Post advised gentlemen on the many situations in which they must remove hats to maintain politeness. In 1922 she wrote: “A gentleman takes off his hat and holds it in his hand when a lady enters the elevator.” He also lifts his hat whenever he asks a question or says “Excuse me.” You know, maybe we could all stand a little formality these days … a round of applause The act of clapping one’s hands together to show acclaim is actually much older than you might think. Scholars are unsure of the exact origin, but we have evidence that even the ancient Romans would show their appreciation by clapping their hands. In fact, the word plaudits (which means an expression of approval) comes from the Latin verb plaudere, meaning to clap one’s hands. The verb applause is also based on this Latin verb. Today, the highest form of applause is the standing ovation, where every member of the audience rises to their feet and applauds. Any performer who manages to please an audience enough to cause them to stretch their legs a bit certainly deserves a big hand. congratulatory emoji Sometimes, it is better to use pictures rather than words to congratulate someone. In texting and on social media, many different emoji are used to give somebody a pat on the back after a job well done. The Clapping Hands emoji 👏 is used to refer to a round of applause and the Trophy emoji 🏆 references the shiny knickknacks we give to people who have accomplished something. The Party Popper emoji 🎉, Confetti Ball emoji 🎊, Partying Face emoji 🥳, and Bottle with Popping Cork emoji 🍾 are also commonly used to congratulate someone. These party animals refer to the act of throwing a party in celebration of an achievement and the stuff you are likely to find at such a shindig. Mazel tov! This expression of congratulations and best wishes comes from the Hebrew term literally meaning “good luck.” Though many reserve the English good luck for before a big event, you can cheer mazel tov to wish someone good fortune or to say congratulations. Mazel tov appeared in the 1600s spelled as missal tob but was rendered in English as mazel tov by the 1900s. Whatever transliteration you prefer, the term has been lovingly said ever since. Felicitations! If you want to stand out from the crowd of people offering their congratulations, try roaring felicitations. This less common expression of congratulations ultimately comes from the Latin felix, “happy.” English speakers have been using the singular form of this term (meaning “an act of congratulation”) since the early 1700s. So, if you want to be original (or sound old-fashioned) in wishing your congratulations, reach for a felicitous felicitations! congratulatory adjectives You don’t have to think too hard when it comes to saying congratulations. Sometimes, a single adjective will do. All you need to do is shout “Fantastic!”, “Stupendous!”, “Amazing!”, “Incredible!”, or “Spectacular!” This is just the tip of the iceberg when it comes to celebratory adjectives, though. You can use our handy thesaurus to find many more impressive synonyms of these words that you can shout out when you want to signal how much someone has impressed you. Keep going! What’s more powerful than simply saying congratulations? Encouraging someone to keep pushing ahead and to accomplish more. You’re not only celebrating the accomplishment at hand, but also showing enthusiasm for their future. Keep going! Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 750 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ? “

    รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square ≥ 4

    พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์ ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure.

    ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยาก

    Summary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้ : PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148)

    จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มาก

    และมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบียช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม

    พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

    เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ

    Reference :

    https://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1

    https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    “ วัคซีนโควิดปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์จริงหรือ ? “ รวบรวมข้อมูลจาก CDC/FDA Vaccine Adverse Event Reporting System (VAERS) ตั้งแต่ 1 มกราคม 1990 ถึง 26 เมษายน 2024 เพื่อดูผลข้างเคียง (adverse effect, AE) ของวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น รวมระยะเวลาทั้งหมด 412 เดือน ยกเว้นวัคซีนโควิดที่เก็บรวบรวมได้แค่ 40 เดือนจาก 412 เดือน (1 ธันวาคม 2020 ถึง 26 เมษายน April 2024) โดยดู proportional reporting ratios (PRR) ตามระยะเวลา เปรียบเทียบ AEs ระหว่างวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์กับวัคซีนชนิดอื่น ในกรณีที่หา PRR ไม่ได้ก็ใช้ Chi-square analysis และ Fisher’s exact tests แทน โดยยึดข้อกำหนดตาม CDC/FDA safety concern คือต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ถ้า PRR ≥ 2 หรือ Chi-square ≥ 4 พบ 37 AE จากการฉีดวัคซีนโควิดในผู้ตั้งครรภ์ ได้แก่ : miscarriage, fetal chromosomal abnormality, fetal malformation, cervical insufficiency, premature rupture of membranes, premature labor, premature delivery, placental calcification, placental infarction, placental thrombosis, placenta accreta, placental abruption, placental insufficiency, placental disorder, fetal maternal hemorrhage, fetal growth restriction, reduced amniotic fluid volume, preeclampsia, fetal heart rate abnormality, fetal cardiac disorder, fetal vascular mal-perfusion, fetal arrhythmia, fetal distress, fetal biophysical profile abnormal, hemorrhage in pregnancy, fetal cardiac arrest, fetal death (stillbirth), premature infant death, neonatal asphyxia, neonatal dyspnea, neonatal infection, neonatal hemorrhage, insufficient breast milk, neonatal pneumonia, neonatal respiratory distress, neonatal respiratory distress syndrome, neonatal seizure. ขออนุญาตไม่แปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดเพราะอาจสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่สนใจหาข้อมูลก็สามารถหาคำแปลภาวะต่างๆด้านบนได้ไม่ยาก Summary statistics for the deviation from the CDC/FDA safety signals mean (n, range) เป็นดังนี้ : PRR 69.3 (46, 5.37 - 499); z statistic 9.64 (46, 3.29 - 27.0); และ Chi-square was 74.7 (26, 28.9 - 148) จะเห็นได้ว่าผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิดในสตรีตั้งครรภ์สูงกว่า safety concern ที่ CDC/FDA กำหนดไว้มาก และมีอีก 1 รายงานผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิดที่มีต่อสตรีมีครรภ์จากการรวบรวมเคส 438 รายในประเทศซาอุดิอาระเบียช่วง มีค.-พค. 2022 โดยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม A คือสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว กลุ่ม B คือได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม พบว่ากลุ่ม B มีอัตราการแท้ง น้ำคร่ำน้อย รกผิดปกติ การเจริญเติบโตของทารกผิดปกติ มีปัญหาเรื่องการให้นม ความดันโลหิตสูง อาการอื่นๆทางระบบ เช่น อ่อนเพลียปวดหัวเจ็บหน้าอก การหายใจมีปัญหา มีปัญหาการนอนหลับ มากกว่ากลุ่ม A อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เรียบเรียงโดย นพ.ดร. ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ Reference : https://www.preprints.org/manuscript/202406.2062/v1 https://journals.sagepub.com/doi/epdf/10.1177/25151355241285594?utm_source=substack&utm_medium=email
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚨🇮🇱 กองกำลังสำรองของไซออนิสต์ นายพลยิตซัค บริค:

    “ข้อตกลงทางการเมืองจะส่งผลดีต่อเรามากกว่าสงครามใดๆกับอิหร่าน, และรัฐบาลปัจจุบันได้กำหนดเป้าหมายที่สมมติขึ้นและไม่สามารถปฏิบัติได้, และสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ก็คือการนำนโยบายที่จะนำเราไปสู่สงครามที่บั่นทอนกำลังและสูบพลังทั้งหมดของรัฐไป”
    .
    🚨🇮🇱 Zionist Reserve General Yitzhak Brick:

    “A political agreement will achieve more for us than any war with Iran, and the current government has set imaginary and unworkable goals, and what it is doing is adopting a policy that will lead us to a war of attrition and drain the state of all its energies.”
    .
    4:33 PM · Oct 15, 2024 · 4,420 Views
    https://x.com/stairwayto3dom/status/1846122182709067865
    🚨🇮🇱 กองกำลังสำรองของไซออนิสต์ นายพลยิตซัค บริค: “ข้อตกลงทางการเมืองจะส่งผลดีต่อเรามากกว่าสงครามใดๆกับอิหร่าน, และรัฐบาลปัจจุบันได้กำหนดเป้าหมายที่สมมติขึ้นและไม่สามารถปฏิบัติได้, และสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ก็คือการนำนโยบายที่จะนำเราไปสู่สงครามที่บั่นทอนกำลังและสูบพลังทั้งหมดของรัฐไป” . 🚨🇮🇱 Zionist Reserve General Yitzhak Brick: “A political agreement will achieve more for us than any war with Iran, and the current government has set imaginary and unworkable goals, and what it is doing is adopting a policy that will lead us to a war of attrition and drain the state of all its energies.” . 4:33 PM · Oct 15, 2024 · 4,420 Views https://x.com/stairwayto3dom/status/1846122182709067865
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว

    เส้นทางดอยหลวง - ดอยหนอก
    ขุนเขาแห่งศรัทธา 🍀⛰️

    📣เปิดให้จองแล้วว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
    ขั้นตอนการจองสิทธิ์ 📌
    1.เปิดให้จองทางโทรศัพท์ เบอร์
    06-3018-7000 ช่องทางเดียวเท่านั้น ในเวลา 09.00 – 16.00 น.
    2.เปิดให้ขึ้น สัปดาห์ละ 3 รอบ คือ รอบที่ 1 ศุกร์ - เสาร์ รอบที่ 2 เสาร์ – อาทิตย์ และรอบที่ 3 อาทิตย์ - จันทร์ โดยจำกัดนักท่องเที่ยวรอบละไม่เกิน 6 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน
    3.นักท่องเที่ยวที่โทรมาจองวันขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอกเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งรูปบัตรประจำตัวบัตรประชาชนพร้อมทั้งหลักฐานการโอนเงินมัดจำ มาที่ไลน์ ID: @977pyffs ภายในวันที่โทรจอง
    เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจอง พร้อมทั้งรับการยืนยันการเดินทางก่อนเดินทาง 2 วัน จากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีการส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชน หลักฐานการโอนเงินมัดจำ และไม่ได้ยืนยันการเดินทาง ทางอุทยานฯจะถือว่าท่านไม่ประสงค์จะเดินป่าศึกษาธรรมชาติดอยหลวง-ดอยหนอก และขอตัดสิทธิ์ในการเดินทางโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่คืนค่ามัดจำ
    4.นักท่องเที่ยวที่จะมาเป็นกลุ่ม/คณะ จำกัดกลุ่มละไม่เกิน 10 คน โดยให้ผู้จองรวบรวมรูปบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิกในกลุ่มให้ครบและส่งไลน์มาในครั้งเดียว เพื่อความสะดวกในการเตรียมเอกสารของเจ้าหน้าที่ (สามารถจองได้ 1 กลุ่ม/คณะ ต่อ 1 ท่าน เท่านั้น)
    5.ในวันเดินทางขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอก ให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนพร้อมทั้งแสดงบัตรประชาชนตัวจริง
    ณ สวนสุขภาพบ้านสันเวียงใหม่ ต.บ้านสาง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 6.00 – 6.30 น.
    6.นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จอง วันเวลา ล่วงหน้า ทางอุทยานแห่งชาติดอยหลวงไม่อนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมเดินป่าเส้นทางดอยหลวง-ดอยหนอก (ต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนจะถึงรอบที่ต้องการจอง)

    รายละเอียด และข้อมูลการจองต่างๆ 👉🏼 https://drive.google.com/drive/folders/1yJO2tNwIOS4VzgcKtmvmOTWys-N1Q1dN?usp=drive_link

    แล้วมาสัมผัสอากาศหนาว กับสายลมเย็นๆด้วยกันนะคะ 🫶🏼🍃🧗🏻‍♀️🏕️

    ☆ข้อมูลจาก
    อุทยานแห่งชาติดอยหลวง doi-luang national park
    เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/@doiluang.dnp/?mibextid=ZbWKwL
    □□□□□□□□□□□
    #อุทยานแห่งชาติดอยหลวง #เดินป่า #ดอยหลวงดอยหนอก #ดอยหนอกพะเยา
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว เส้นทางดอยหลวง - ดอยหนอก ขุนเขาแห่งศรัทธา 🍀⛰️ 📣เปิดให้จองแล้วว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขั้นตอนการจองสิทธิ์ 📌 1.เปิดให้จองทางโทรศัพท์ เบอร์ 06-3018-7000 ช่องทางเดียวเท่านั้น ในเวลา 09.00 – 16.00 น. 2.เปิดให้ขึ้น สัปดาห์ละ 3 รอบ คือ รอบที่ 1 ศุกร์ - เสาร์ รอบที่ 2 เสาร์ – อาทิตย์ และรอบที่ 3 อาทิตย์ - จันทร์ โดยจำกัดนักท่องเที่ยวรอบละไม่เกิน 6 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน 3.นักท่องเที่ยวที่โทรมาจองวันขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอกเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งรูปบัตรประจำตัวบัตรประชาชนพร้อมทั้งหลักฐานการโอนเงินมัดจำ มาที่ไลน์ ID: @977pyffs ภายในวันที่โทรจอง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจอง พร้อมทั้งรับการยืนยันการเดินทางก่อนเดินทาง 2 วัน จากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีการส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชน หลักฐานการโอนเงินมัดจำ และไม่ได้ยืนยันการเดินทาง ทางอุทยานฯจะถือว่าท่านไม่ประสงค์จะเดินป่าศึกษาธรรมชาติดอยหลวง-ดอยหนอก และขอตัดสิทธิ์ในการเดินทางโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่คืนค่ามัดจำ 4.นักท่องเที่ยวที่จะมาเป็นกลุ่ม/คณะ จำกัดกลุ่มละไม่เกิน 10 คน โดยให้ผู้จองรวบรวมรูปบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิกในกลุ่มให้ครบและส่งไลน์มาในครั้งเดียว เพื่อความสะดวกในการเตรียมเอกสารของเจ้าหน้าที่ (สามารถจองได้ 1 กลุ่ม/คณะ ต่อ 1 ท่าน เท่านั้น) 5.ในวันเดินทางขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอก ให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนพร้อมทั้งแสดงบัตรประชาชนตัวจริง ณ สวนสุขภาพบ้านสันเวียงใหม่ ต.บ้านสาง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 6.00 – 6.30 น. 6.นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จอง วันเวลา ล่วงหน้า ทางอุทยานแห่งชาติดอยหลวงไม่อนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมเดินป่าเส้นทางดอยหลวง-ดอยหนอก (ต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนจะถึงรอบที่ต้องการจอง) รายละเอียด และข้อมูลการจองต่างๆ 👉🏼 https://drive.google.com/drive/folders/1yJO2tNwIOS4VzgcKtmvmOTWys-N1Q1dN?usp=drive_link แล้วมาสัมผัสอากาศหนาว กับสายลมเย็นๆด้วยกันนะคะ 🫶🏼🍃🧗🏻‍♀️🏕️ ☆ข้อมูลจาก อุทยานแห่งชาติดอยหลวง doi-luang national park เพจ 》》 https://www.facebook.com/@doiluang.dnp/?mibextid=ZbWKwL □□□□□□□□□□□ #อุทยานแห่งชาติดอยหลวง #เดินป่า #ดอยหลวงดอยหนอก #ดอยหนอกพะเยา #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 839 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=ldOkG3kf2b4
    บทสนทนาของหมูเด้งกับแม่
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาของหมูเด้งกับแม่
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #moodeng #babyhippo #listeningstory

    The conversations from the clip :

    Moo Deng : Mommy, why do we live in this big place with so many people looking at us?
    Moo Deng Mom : This is our home in the zoo, sweetie. The people come to see and learn about animals like us.
    Moo Deng : Do you think they like watching us?
    Moo Deng Mom : Yes, they do! They love seeing you play in the water and walk around.
    Moo Deng : I like playing in the water! Can I splash around for them today?
    Moo Deng Mom : Of course! The visitors always enjoy when you splash. Just be careful not to get too tired.
    Moo Deng : Look, Mommy! I’m making big splashes! Are they watching me?
    Moo Deng Mom : Yes, they’re all smiling and taking pictures. You’re doing a great job!
    Moo Deng : I wish I could go out and play with them! Do you think they want to play with me?
    Moo Deng Mom : I’m sure they do, but we have to stay in our enclosure for our safety.
    Moo Deng : Oh, I guess it’s safer here. But it looks like so much fun out there!
    Moo Deng Mom : You can have just as much fun in our pool and play area. Plus, we get to swim all day!
    Moo Deng : That’s true! Swimming is my favorite thing to do.
    Moo Deng Mom : And you’re getting really good at it. One day, you’ll be as strong a swimmer as I am.
    Moo Deng : I can’t wait, Mommy! I love living here with you!

    หมูเด้ง : แม่ครับ ทำไมเราถึงอาศัยอยู่ในที่ใหญ่ ๆ ที่มีคนมากมายมองมาที่เรา?
    แม่หมูเด้ง : นี่คือบ้านของเราในสวนสัตว์จ๊ะ ลูก คนเหล่านั้นมาที่นี่เพื่อดูและเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์อย่างเรา
    หมูเด้ง : คุณคิดว่าพวกเขาชอบดูเราหรือเปล่า?
    แม่หมูเด้ง : ใช่ พวกเขาชอบ! พวกเขารักที่จะเห็นลูกเล่นน้ำและเดินไปมา
    หมูเด้ง : ผมชอบเล่นน้ำ! วันนี้ผมสามารถกระโดดน้ำให้พวกเขาดูได้ไหมครับ?
    แม่หมูเด้ง : แน่นอน! ผู้เยี่ยมชมมักจะสนุกเมื่อเห็นลูกกระโดดน้ำ แค่ระวังอย่าให้เหนื่อยเกินไปนะ
    หมูเด้ง : ดูสิ แม่! ผมทำให้เกิดคลื่นใหญ่ได้! พวกเขากำลังดูผมอยู่ไหม?
    แม่หมูเด้ง : ใช่ พวกเขาทั้งหมดกำลังยิ้มและถ่ายรูปอยู่ คุณทำได้ดีมาก!
    หมูเด้ง : ผมอยากออกไปเล่นกับพวกเขาจัง! คุณคิดว่าพวกเขาอยากเล่นกับผมไหม?
    แม่หมูเด้ง : ฉันมั่นใจว่าพวกเขาอยากเล่น แต่เราต้องอยู่ในกรงเพื่อความปลอดภัยของเรา
    หมูเด้ง : โอ้ ผมคิดว่ามันปลอดภัยกว่าอยู่ที่นี่ แต่ดูเหมือนมันสนุกมากข้างนอก!
    แม่หมูเด้ง : ลูกสามารถสนุกได้ไม่น้อยในสระและพื้นที่เล่นของเรา และเรายังสามารถว่ายน้ำตลอดทั้งวัน!
    หมูเด้ง : จริงด้วย! ว่ายน้ำเป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุด
    แม่หมูเด้ง : และลูกก็ทำได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ วันหนึ่งลูกจะเป็นนักว่ายน้ำที่แข็งแรงเหมือนแม่
    หมูเด้ง : ผมรอไม่ไหวแล้ว แม่! ผมรักการใช้ชีวิตที่นี่กับแม่!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Home (โฮม) n. แปลว่า บ้าน
    Zoo (ซู) n. แปลว่า สวนสัตว์
    People (พี-เปิล) n. แปลว่า ผู้คน
    Animals (แอน-นิ-มัลส์) n. แปลว่า สัตว์
    Splash (สแพลช) v. แปลว่า สาดน้ำ, กระเด็นน้ำ
    Visitors (วิซ-อิ-เทอร์ส) n. แปลว่า ผู้มาเยี่ยมชม
    Enclosure (อิน-โคล-เจอร์) n. แปลว่า เขตที่อยู่อาศัย (ในสวนสัตว์)
    Safety (เซฟ-ที) n. แปลว่า ความปลอดภัย
    Fun (ฟัน) n. แปลว่า ความสนุกสนาน
    Pool (พูล) n. แปลว่า สระน้ำ
    Play area (เพลย์ เรียร์) n. แปลว่า พื้นที่เล่น
    Swimming (สวิ-มมิง) n. แปลว่า การว่ายน้ำ
    Strong (สทรอง) adj. แปลว่า แข็งแรง
    Tired (ไท-เอิร์ด) adj. แปลว่า เหนื่อย
    Favorite (เฟฟ-อริท) n. แปลว่า สิ่งที่ชื่นชอบ
    https://www.youtube.com/watch?v=ldOkG3kf2b4 บทสนทนาของหมูเด้งกับแม่ (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาของหมูเด้งกับแม่ มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #moodeng #babyhippo #listeningstory The conversations from the clip : Moo Deng : Mommy, why do we live in this big place with so many people looking at us? Moo Deng Mom : This is our home in the zoo, sweetie. The people come to see and learn about animals like us. Moo Deng : Do you think they like watching us? Moo Deng Mom : Yes, they do! They love seeing you play in the water and walk around. Moo Deng : I like playing in the water! Can I splash around for them today? Moo Deng Mom : Of course! The visitors always enjoy when you splash. Just be careful not to get too tired. Moo Deng : Look, Mommy! I’m making big splashes! Are they watching me? Moo Deng Mom : Yes, they’re all smiling and taking pictures. You’re doing a great job! Moo Deng : I wish I could go out and play with them! Do you think they want to play with me? Moo Deng Mom : I’m sure they do, but we have to stay in our enclosure for our safety. Moo Deng : Oh, I guess it’s safer here. But it looks like so much fun out there! Moo Deng Mom : You can have just as much fun in our pool and play area. Plus, we get to swim all day! Moo Deng : That’s true! Swimming is my favorite thing to do. Moo Deng Mom : And you’re getting really good at it. One day, you’ll be as strong a swimmer as I am. Moo Deng : I can’t wait, Mommy! I love living here with you! หมูเด้ง : แม่ครับ ทำไมเราถึงอาศัยอยู่ในที่ใหญ่ ๆ ที่มีคนมากมายมองมาที่เรา? แม่หมูเด้ง : นี่คือบ้านของเราในสวนสัตว์จ๊ะ ลูก คนเหล่านั้นมาที่นี่เพื่อดูและเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์อย่างเรา หมูเด้ง : คุณคิดว่าพวกเขาชอบดูเราหรือเปล่า? แม่หมูเด้ง : ใช่ พวกเขาชอบ! พวกเขารักที่จะเห็นลูกเล่นน้ำและเดินไปมา หมูเด้ง : ผมชอบเล่นน้ำ! วันนี้ผมสามารถกระโดดน้ำให้พวกเขาดูได้ไหมครับ? แม่หมูเด้ง : แน่นอน! ผู้เยี่ยมชมมักจะสนุกเมื่อเห็นลูกกระโดดน้ำ แค่ระวังอย่าให้เหนื่อยเกินไปนะ หมูเด้ง : ดูสิ แม่! ผมทำให้เกิดคลื่นใหญ่ได้! พวกเขากำลังดูผมอยู่ไหม? แม่หมูเด้ง : ใช่ พวกเขาทั้งหมดกำลังยิ้มและถ่ายรูปอยู่ คุณทำได้ดีมาก! หมูเด้ง : ผมอยากออกไปเล่นกับพวกเขาจัง! คุณคิดว่าพวกเขาอยากเล่นกับผมไหม? แม่หมูเด้ง : ฉันมั่นใจว่าพวกเขาอยากเล่น แต่เราต้องอยู่ในกรงเพื่อความปลอดภัยของเรา หมูเด้ง : โอ้ ผมคิดว่ามันปลอดภัยกว่าอยู่ที่นี่ แต่ดูเหมือนมันสนุกมากข้างนอก! แม่หมูเด้ง : ลูกสามารถสนุกได้ไม่น้อยในสระและพื้นที่เล่นของเรา และเรายังสามารถว่ายน้ำตลอดทั้งวัน! หมูเด้ง : จริงด้วย! ว่ายน้ำเป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุด แม่หมูเด้ง : และลูกก็ทำได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ วันหนึ่งลูกจะเป็นนักว่ายน้ำที่แข็งแรงเหมือนแม่ หมูเด้ง : ผมรอไม่ไหวแล้ว แม่! ผมรักการใช้ชีวิตที่นี่กับแม่! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Home (โฮม) n. แปลว่า บ้าน Zoo (ซู) n. แปลว่า สวนสัตว์ People (พี-เปิล) n. แปลว่า ผู้คน Animals (แอน-นิ-มัลส์) n. แปลว่า สัตว์ Splash (สแพลช) v. แปลว่า สาดน้ำ, กระเด็นน้ำ Visitors (วิซ-อิ-เทอร์ส) n. แปลว่า ผู้มาเยี่ยมชม Enclosure (อิน-โคล-เจอร์) n. แปลว่า เขตที่อยู่อาศัย (ในสวนสัตว์) Safety (เซฟ-ที) n. แปลว่า ความปลอดภัย Fun (ฟัน) n. แปลว่า ความสนุกสนาน Pool (พูล) n. แปลว่า สระน้ำ Play area (เพลย์ เรียร์) n. แปลว่า พื้นที่เล่น Swimming (สวิ-มมิง) n. แปลว่า การว่ายน้ำ Strong (สทรอง) adj. แปลว่า แข็งแรง Tired (ไท-เอิร์ด) adj. แปลว่า เหนื่อย Favorite (เฟฟ-อริท) n. แปลว่า สิ่งที่ชื่นชอบ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 478 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇨🇳🇺🇸 ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง กล่าวว่า "อเมริกาต้องหยุดพูดอย่างหนึ่งและทำอีกอย่างหนึ่ง วอชิงตันไม่ควรปฏิบัติต่อปักกิ่งเหมือนเป็นศัตรู"
    .
    🇨🇳🇺🇸 Chinese President Xi Jinping says "America must stop saying one thing and doing another. Washington should not treat Beijing as an enemy."
    .
    8:07 AM · Oct 13, 2024 · 50.1K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1845270105061470420
    🇨🇳🇺🇸 ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง กล่าวว่า "อเมริกาต้องหยุดพูดอย่างหนึ่งและทำอีกอย่างหนึ่ง วอชิงตันไม่ควรปฏิบัติต่อปักกิ่งเหมือนเป็นศัตรู" . 🇨🇳🇺🇸 Chinese President Xi Jinping says "America must stop saying one thing and doing another. Washington should not treat Beijing as an enemy." . 8:07 AM · Oct 13, 2024 · 50.1K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1845270105061470420
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts