• อเมริกาเล็งใช้การประชุมกับคณะเจรจายูเครนในซาอุดีอาระเบียที่กำหนดจัดขึ้นวันอังคาร (11 มี.ค.) เพื่อวัดใจว่า เคียฟยินยอมพร้อมใจสละดินแดนให้รัสเซียเพื่อยุติสงคราม และจริงจังกับการปรับปรุงความสัมพันธ์กับคณะบริหารของทรัมป์หรือไม่ ขณะที่ทั้งทรัมป์และเซเลนสกี้ต่างแสดงความเห็นแง่ดีว่า การหารือจะมีความคืบหน้าและมีผลลัพธ์ที่ดี
    .
    มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกเดินทางไปยังเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันอาทิตย์ (9 มี.ค.) เพื่อหารือกับคณะเจ้าหน้าที่ยูเครนที่นำโดยอันเดร เยมาร์ค หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ รวมถึงอันดรี ซีบิกา รัฐมนตรีต่างประเทศ, รัสเทม ยูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหม และพาฟโล ปาลิซา ผู้บัญชาการทหาร
    .
    คณะเจ้าหน้าที่ของอเมริกายังประกอบด้วยไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ และสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษดูแลเรื่องตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
    .
    เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสหรัฐฯ เผยว่า วอชิงตันต้องการใช้โอกาสนี้พิจารณาว่า ยูเครนต้องการเพียงสันติภาพที่เป็นธรรมหรือสันติภาพที่เป็นจริง สนใจแค่พรมแดนเดิมในปี 2014 หรือพรมแดนในปี 2022 หรืออีกนัยหนึ่งคือยูเครนพร้อมประนีประนอมด้วยการยกดินแดนบางส่วนให้รัสเซียเพื่อแลกกับการยุติสงครามหรือไม่
    .
    ขณะเดียวกัน ไบรอัน ฮิวจ์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา แถลงว่า เซเลนสกี้มีความคืบหน้าในการฟื้นคืนความสัมพันธ์วอชิงตัน-เคียฟ หลังจากปะทะคารมกับทรัมป์ระหว่างเยือนทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และสำทับว่า อเมริกาเฝ้ารอว่า จะเห็นการดำเนินการที่ดีเพิ่มเติมซึ่งจะนำไปสู่การยุติสงครามโหดร้ายในยูเครน
    .
    ด้านทรัมป์แสดงความเห็นแง่ดีว่า การหารือที่เจดดาห์จะมีความคืบหน้าอย่างมาก
    .
    วิตคอฟฟ์ซึ่งเป็นผู้จัดการการเจรจา เผยว่า เป้าหมายคือ การบรรลุกรอบโครงข้อตกลงสันติภาพและข้อตกลงหยุดยิงเบื้องต้น
    .
    ทั้งนี้ เซเลนสกี้ต้องการให้มการหยุดยิงทางอากาศและทะเล ตลอดจนถึงการแลกเปลี่ยนนักโทษ เพื่อทดสอบความมุ่งมั่นในการยุติสงครามของรัสเซีย ขณะที่มอสโกคัดค้านแนวคิดข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวที่อังกฤษและฝรั่งเศสเสนอ เนื่องจากเห็นว่า เป็นการซื้อเวลาของเคียฟเพื่อป้องกันไม่ให้กองทัพยูเครนล่มสลาย
    .
    ทางฝ่ายเซเลนสกี้กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ก่อนออกเดินทางไปซาอุดีอาระเบีย ว่า เขาหวังว่า การเจรจาระหว่างทีมเจ้าหน้าที่ยูเครนกับอเมริกาจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ทั้งในด้านความคืบหน้าเกี่ยวกับสันติภาพและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของอเมริกา ทั้งนี้ ประธานาธิบดียูเครนมีกำหนดการเข้าพบมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดีอาระเบีย ในวันจันทร์ (10 ) แต่การเจรจากับทีมของสหรัฐฯในวันอังคารนั้น ตามรายงานข่าวบอกว่าเป็นภารกิจของทีมเจรจาฝ่ายยูเครน
    .
    เซเลนสกี้เสริมว่า ยูเครนพร้อมลงนามข้อตกลงแร่ธาตุกับอเมริกา ซึ่งจะมีการจัดตั้งกองทุนร่วมจากการขายแร่ธาตุของยูเครน ขณะที่วอชิงตันระบุว่า ข้อตกลงนี้มีความสำคัญต่อการที่อเมริกาจะให้การสนับสนุนเคียฟต่อไป
    .
    อย่างไรก็ดี ขณะที่การสนับสนุนของอเมริกายังไร้ความแน่นอน เซเลนสกี้ได้เรียกร้องให้พวกพันธมิตรยุโรปเพิ่มการสนับสนุนตนเอง ขณะที่เคียฟเพลี่ยงพล้ำในสนามรบมากขึ้นและกำลังถูกบดขยี้หนักให้ล่าถอยออกจากแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย
    .
    สำหรับมุมมองของพันธมิตรยุโรปเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพนั้น มีการเตือนว่า ยูเครนควรทำข้อตกลงกับรัสเซียภายใต้จุดยืนที่แข็งแกร่งเท่านั้น อีกทั้งไม่ควรรีบร้อนเจรจากับผู้รุกราน
    .
    ทั้งนี้ เซเลนสกี้ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่ต้องการสันติภาพ อีกทั้งบอกว่ารัสเซียยังจะโจมตีประเทศยุโรปอื่นๆ ต่อไปอีก ถ้าที่สุดแล้วไม่มีผลลัพธ์ชัดเจนว่า รัสเซียพ่ายแพ้ในการรุกรานยูเครน
    .
    ในทางกลับกัน วอชิงตันพยายามบีบทุกทางให้เคียฟยอมเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย โดยล่าสุดถึงขั้นที่สหรัฐฯระงับการให้ความช่วยเหลือทางทหารและการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง รวมทั้งการเข้าถึงภาพถ่ายดาวเทียมแก่ยูเครน โดยไม่ฟังเสียงพวกโปรยูเครนที่อ้างว่า ความเคลื่อนไหวนี้เสี่ยงทำให้สงครามยืดเยื้อออกไป เนื่องจากรัสเซียจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นและมีแนวโน้มลดลงในการยอมยุติศึก และยอมทำข้อตกลงสันติภาพแบบเท่าเทียมกับยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023235
    ..............
    Sondhi X
    อเมริกาเล็งใช้การประชุมกับคณะเจรจายูเครนในซาอุดีอาระเบียที่กำหนดจัดขึ้นวันอังคาร (11 มี.ค.) เพื่อวัดใจว่า เคียฟยินยอมพร้อมใจสละดินแดนให้รัสเซียเพื่อยุติสงคราม และจริงจังกับการปรับปรุงความสัมพันธ์กับคณะบริหารของทรัมป์หรือไม่ ขณะที่ทั้งทรัมป์และเซเลนสกี้ต่างแสดงความเห็นแง่ดีว่า การหารือจะมีความคืบหน้าและมีผลลัพธ์ที่ดี . มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกเดินทางไปยังเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันอาทิตย์ (9 มี.ค.) เพื่อหารือกับคณะเจ้าหน้าที่ยูเครนที่นำโดยอันเดร เยมาร์ค หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ รวมถึงอันดรี ซีบิกา รัฐมนตรีต่างประเทศ, รัสเทม ยูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหม และพาฟโล ปาลิซา ผู้บัญชาการทหาร . คณะเจ้าหน้าที่ของอเมริกายังประกอบด้วยไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ และสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษดูแลเรื่องตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ . เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสหรัฐฯ เผยว่า วอชิงตันต้องการใช้โอกาสนี้พิจารณาว่า ยูเครนต้องการเพียงสันติภาพที่เป็นธรรมหรือสันติภาพที่เป็นจริง สนใจแค่พรมแดนเดิมในปี 2014 หรือพรมแดนในปี 2022 หรืออีกนัยหนึ่งคือยูเครนพร้อมประนีประนอมด้วยการยกดินแดนบางส่วนให้รัสเซียเพื่อแลกกับการยุติสงครามหรือไม่ . ขณะเดียวกัน ไบรอัน ฮิวจ์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา แถลงว่า เซเลนสกี้มีความคืบหน้าในการฟื้นคืนความสัมพันธ์วอชิงตัน-เคียฟ หลังจากปะทะคารมกับทรัมป์ระหว่างเยือนทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และสำทับว่า อเมริกาเฝ้ารอว่า จะเห็นการดำเนินการที่ดีเพิ่มเติมซึ่งจะนำไปสู่การยุติสงครามโหดร้ายในยูเครน . ด้านทรัมป์แสดงความเห็นแง่ดีว่า การหารือที่เจดดาห์จะมีความคืบหน้าอย่างมาก . วิตคอฟฟ์ซึ่งเป็นผู้จัดการการเจรจา เผยว่า เป้าหมายคือ การบรรลุกรอบโครงข้อตกลงสันติภาพและข้อตกลงหยุดยิงเบื้องต้น . ทั้งนี้ เซเลนสกี้ต้องการให้มการหยุดยิงทางอากาศและทะเล ตลอดจนถึงการแลกเปลี่ยนนักโทษ เพื่อทดสอบความมุ่งมั่นในการยุติสงครามของรัสเซีย ขณะที่มอสโกคัดค้านแนวคิดข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวที่อังกฤษและฝรั่งเศสเสนอ เนื่องจากเห็นว่า เป็นการซื้อเวลาของเคียฟเพื่อป้องกันไม่ให้กองทัพยูเครนล่มสลาย . ทางฝ่ายเซเลนสกี้กล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ก่อนออกเดินทางไปซาอุดีอาระเบีย ว่า เขาหวังว่า การเจรจาระหว่างทีมเจ้าหน้าที่ยูเครนกับอเมริกาจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ทั้งในด้านความคืบหน้าเกี่ยวกับสันติภาพและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของอเมริกา ทั้งนี้ ประธานาธิบดียูเครนมีกำหนดการเข้าพบมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดีอาระเบีย ในวันจันทร์ (10 ) แต่การเจรจากับทีมของสหรัฐฯในวันอังคารนั้น ตามรายงานข่าวบอกว่าเป็นภารกิจของทีมเจรจาฝ่ายยูเครน . เซเลนสกี้เสริมว่า ยูเครนพร้อมลงนามข้อตกลงแร่ธาตุกับอเมริกา ซึ่งจะมีการจัดตั้งกองทุนร่วมจากการขายแร่ธาตุของยูเครน ขณะที่วอชิงตันระบุว่า ข้อตกลงนี้มีความสำคัญต่อการที่อเมริกาจะให้การสนับสนุนเคียฟต่อไป . อย่างไรก็ดี ขณะที่การสนับสนุนของอเมริกายังไร้ความแน่นอน เซเลนสกี้ได้เรียกร้องให้พวกพันธมิตรยุโรปเพิ่มการสนับสนุนตนเอง ขณะที่เคียฟเพลี่ยงพล้ำในสนามรบมากขึ้นและกำลังถูกบดขยี้หนักให้ล่าถอยออกจากแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย . สำหรับมุมมองของพันธมิตรยุโรปเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพนั้น มีการเตือนว่า ยูเครนควรทำข้อตกลงกับรัสเซียภายใต้จุดยืนที่แข็งแกร่งเท่านั้น อีกทั้งไม่ควรรีบร้อนเจรจากับผู้รุกราน . ทั้งนี้ เซเลนสกี้ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่ต้องการสันติภาพ อีกทั้งบอกว่ารัสเซียยังจะโจมตีประเทศยุโรปอื่นๆ ต่อไปอีก ถ้าที่สุดแล้วไม่มีผลลัพธ์ชัดเจนว่า รัสเซียพ่ายแพ้ในการรุกรานยูเครน . ในทางกลับกัน วอชิงตันพยายามบีบทุกทางให้เคียฟยอมเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย โดยล่าสุดถึงขั้นที่สหรัฐฯระงับการให้ความช่วยเหลือทางทหารและการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง รวมทั้งการเข้าถึงภาพถ่ายดาวเทียมแก่ยูเครน โดยไม่ฟังเสียงพวกโปรยูเครนที่อ้างว่า ความเคลื่อนไหวนี้เสี่ยงทำให้สงครามยืดเยื้อออกไป เนื่องจากรัสเซียจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นและมีแนวโน้มลดลงในการยอมยุติศึก และยอมทำข้อตกลงสันติภาพแบบเท่าเทียมกับยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023235 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์สั่ง “ระงับ” ความช่วยเหลือยูเครนเพื่อบีบเซเลนสกีร่วมเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย ลั่นไม่อดทนกับผู้นำเคียฟอีกต่อไป ด้านรองประธานาธิบดีแวนซ์ก็สำทับวิพากษ์วิจารณ์ยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้เคียฟสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ทางยูเครนแถลงวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า กองทหารของตนซึ่งกำลังสู้รบกับฝ่ายรัสเซียอยู่ ยังสามารถรักษาสถานการณ์ในสมรภูมิเอาไว้ได้ด้วยตัวเอง
    .
    ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นหลังการประชุมที่กลายเป็นการปะทะคารมอย่างดุเดือด ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ที่ผ่านมา โดยที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ รุมทึ้งโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่ไม่ยินยอมเข้าเจรจาสร้างสันติภาพกับรัสเซียโดยรวดเร็ว รวมทั้งกล่าวหาประธานาธิบดียูเครน ไม่เคารพและไม่สำนึกบุญคุณอเมริกาอย่างเพียงพอ ทั้งที่สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทางทหารเป็นจำนวนมหาศาลนับจากเคียฟถูกรัสเซียรุกรานเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
    .
    ในวันจันทร์ (3) สื่อต่างๆ พากันรายงานข่าวโดยอ้างเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผย ว่า ทรัมป์เวลานี้โฟกัสอยู่ที่การทำให้บรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และต้องการให้เซเลนสกีมุ่งมั่นกับเป้าหมายเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยังระบุด้วยว่า ขณะนี้อเมริกาได้ระงับเพื่อดำเนินการทบทวนความช่วยเหลือที่ให้แก่ยูเครนแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าวัตถุประสงค์ของทรัมป์ดังกล่าวข้างต้นจะบรรลุผล โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้จนกว่าทรัมป์จะตัดสินใจว่า ยูเครนแสดงความมุ่งมั่นในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย
    .
    ความเคลื่อนไหวคราวนี้มีความร้ายแรงยิ่งกว่าที่ทรัมป์ประกาศตอนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเสียอีก โดยในตอนนั้นเป็นการระบุว่าสหรัฐฯ จะไม่ให้ความช่วยเหลือใหม่ๆ แก่ยูเครน แต่สำหรับคำสั่งล่าสุดนี้เป็นการระงับการจัดส่งอาวุธที่รวมถึงกระสุนและขีปนาวุธ ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว แต่ยังอยู่ในกระบวนการจัดหาและจัดส่ง
    .
    ทางด้านสมาชิกพรรคเดโมแครตในรัฐสภาสหรัฐฯ ออกมาแสดงปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วด้วยการประณามการตัดสินใจครั้งนี้ของทรัมป์ เป็นต้นว่า ส.ว. จีน ชาฮีน ซึ่งเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภา ตำหนิว่า การระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเท่ากับว่า ทรัมป์เปิดกว้างให้ปูตินรุกรานและกระทำรุนแรงต่อประชาชนยูเครนหนักข้อขึ้นซึ่งจะส่งผลร้ายแรงอย่างไม่ต้องสงสัย
    .
    ทรัมป์ที่ประกาศระหว่างหาเสียงว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งนั้น แสดงความไม่พอใจเซเลนสกีมากขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องที่ยังคงต้องทำสงครามต่อไป ขณะเดียวกันเขาก็แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียจะรักษาสันติภาพ หากบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับฝ่ายยูเครน
    .
    หลังจากที่สื่อรายงานว่า เซเลนสกีที่ให้สัมภาษณ์พวกผู้สื่อข่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (2) ว่า น่าจะอีกนานมากกว่าที่สงครามจะยุติ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเจรจาข้อตกลง ทรัมป์ก็อยู่ในอาการฟิวส์ขาด ระบุว่า เป็นคำพูดที่แย่ที่สุดของประธานาธิบดียูเครน และอเมริกาจะไม่อดทนอีกต่อไป
    .
    ด้านเซเลนสกีพยายามอธิบายผ่านโซเชียลมีเดียว่า ยูเครนกำลังพยายามดำเนินมาตรการทางการทูตเพื่อให้สงครามยุติลงโดยเร็วที่สุด และย้ำว่า ยูเครนต้องการสันติภาพที่แท้จริงและการรับประกันความมั่นคง ทว่า ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้การรับประกันดังกล่าวมาโดยตลอด
    .
    ในส่วนของ แวนซ์ เขากล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อทีวีฟ็อกซ์ นิวส์ที่ ออกอากาศช่วงค่ำวันจันทร์ว่า พันธมิตรยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้ยูเครนสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด คำถามคือยูเครนจะเอาเงินและอาวุธจากไหนมาสู้ และจะต้องแลกด้วยชีวิตใครบ้าง
    .
    อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า ข้อตกลงลงทุนในแร่ธาตุของยูเครนยังมีทางสามารถบรรลุผลได้ และเขาจะอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดคืนวันอังคาร (4 มี.ค.) ระหว่างแถลงต่อการประชุมร่วมของรัฐสภาสหรัฐฯ
    .
    เกี่ยวกับข้อตกลงฉบับนี้ คณะบริหารทรัมป์ มองว่า มันคือค่าชดเชยที่อเมริกาควรได้รับจากการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและการทหารแก่เคียฟหลายแสนล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
    .
    ขณะที่แวนซ์กล่าวผ่านฟ็อกซ์ นิวส์ว่า ถ้าเซเลนสกีต้องการการรับประกันความมั่นคง และอยากมั่นใจว่า ปูตินจะไม่รุกรานยูเครนอีก การเปิดทางให้เศรษฐกิจอเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วมในอนาคตของยูเครนคือการรับประกันที่ดีที่สุด
    .
    ยูเครนโวยังมีหนทางประคองสถานการณ์ที่แนวหน้า
    .
    ในวันอังคาร (4) ภายหลังรายงานข่าวเรื่องสหรัฐฯ ระงับการส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนแพร่ออกไป นายกรัฐมนตรี เดนิส ชมีฮัล ของยูเครน ออกมาแถลงว่า เคียฟยังคงมีหนทางที่จะส่งกำลังบำรุงให้แก่กองทหารของตนเอง “กองทัพของเราและรัฐบาลมีสมรรถนะ มีเครื่องมือ พูดได้ว่าอย่างนั้น ที่จะประคองสถานการณ์ในแนวหน้าเอาไว้” เขากล่าว
    .
    ชมีฮัล ยังกล่าวขอบคุณสหรัฐฯ และย้ำว่ายูเครนต้องการความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย
    .
    “เราจะยังคงทำงานกับสหรัฐฯ ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวงด้วยความสงบสุขุม” เขากล่าวในการแถลงข่าว “เรามีแผนการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือเพื่อชัยชนะและเพื่อความอยู่รอด เราจะชนะหรือไม่ยังงัยก็จะต้องเจอกับแผนบี ซึ่งถูกเขียนขึ้นมาโดยคนอื่นๆ”
    .
    สำหรับตัวเซเลนสกีเองนั้น เก็บตัวค่อนข้างเงียบเชียบ จนกระทั่งถึงบ่ายวันอังคารในกรุงเคียฟ สิ่งที่เขาแถลงต่อสาธารณชนก็มีเพียงว่าเขาได้พูดจากับ ฟรีดริช เมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พร้อมกับเน้นย้ำถึงความช่วยเหลือทั้งทางทหารและทางการเงินที่ได้รับจากเยอรมนี
    .
    “เราจักจดจำไว้ว่าเยอรมนีคือผู้นำในเรื่องการจัดหาจัดส่งระบบการป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ยูเครน และแสดงบทบาทที่สำคัญยิ่งยวดในการรับประกันเสถียรภาพทางการเงินของเรา” เขาโพสต์ข้อความเช่นนี้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ภายหลังคุยโทรศัพท์กับเมร์ซ
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง พวกผู้เชี่ยวชาญทางทหารของฝ่ายตะวันตกบอกว่า อาจจะกินเวลาไปอีกระยะหนึ่งกว่าที่ผลกระทบจากการถูกตัดขาดความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จะเป็นที่รู้สึกกัน ทั้งนี้เมื่อตอนที่งบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ถูกแขวนเอาไว้เป็นเวลาหลายเดือนทีเดียวในปีที่แล้ว โดยฝีมือของพวกสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาล่าง ผลกระทบเบื้องต้นที่รู้สึกกันมากที่สุดคือการขาดแคลนอาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่จะสามารถสอยขีปนาวุธและโดรนของฝ่ายรัสเซีย ถึงแม้ในเวลาต่อมาทางกองทหารยูเครนร้องเรียนว่าพวกเครื่องกระสุนต่างๆ ในแนวน้าร่อยหรอลงไปมาก
    .
    “มันมีความสำคัญมากทีเดียว ทว่าไม่ได้ใกล้เคียงกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นถ้าหากมันเป็นช่วงก่อนหน้านี้ของสงคราม เพราะยูเครนเวลานี้ต้องพึ่งพาอาศัยความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ โดยตรง ลดน้อยลงไปมากแล้ว” เป็นความเห็นของไมเคิล คอฟแมน นักวิจัยอาวุโสของคาร์เนกี เอนดาวเมนต์
    .
    ผลกระทบต่อพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ
    .
    การที่สหรัฐฯ ระงับจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนคราวนี้ เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อพวกชาติพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ โดยที่ชาติเหล่านี้เองได้แสดงท่าทีออกมาปลอบขวัญโอบอุ้มเซเลนสกีอย่างเปิดเผยภายหลังจากเหตุการณ์ปะทะคารมเดือดที่ทำเนียบขาว
    .
    มีรายงานว่าเวลานี้ยุโรปกำลังเร่งรีบเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายทางทหารของพวกเขาเอง และในวันอังคาร (4) อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป ได้เปิดเผยข้อเสนอต่างๆ ที่มุ่งเพิ่มพูนการใช้จ่ายทางทหารในอียู ซึ่งเธอกล่าวว่าอาจจะระดมเงินในเรื่องนี้ออกมาได้สูงถึง 800,000 ล้านยูโร (840,000 ล้านดอลลาร์) กันทีเดียว ทั้งนี้อียูมีกำหนดจัดการประชุมฉุกเฉินในเรื่องเกี่ยวกับยูเครนในวันพฤหัสบดี (6) นี้
    .
    ในฝรั่งเศส เบนจามิน ฮัดดัด รัฐมนตรีช่วยดูแลด้านยุโรป ได้ออกมากล่าวประณามการระงับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ คราวนี้ โดยกล่าวว่ามันทำให้สันติภาพ “ห่างไกลออกไปมากขึ้น เพราะมันมีแต่ทำให้เงื้อมมือของผู้รุกราน ... ซึ่งก็คือรัสเซีย เข้มแข็งยิ่งขึ้น”
    .
    ขณะที่สหราชอาณาจักร ซึ่งแสดงทีท่าต้องการดึงให้คณะบริหารทรัมป์ยังคงอยู่ข้างๆ ตัว ไม่แตกแถวออกไปไกลกว่านี้ แสดงท่าทีสุขุมรอบคอบยิ่งกว่า โดยที่นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ได้พูดจาทางโทรศัพท์กับทรัมป์ในคืนวันจันทร์ (3) ตามการแถลงของโฆษกผู้หนึ่งของสตาร์เมอร์ แต่ไม่ได้ระบุว่าทรมป์ได้เอ่ยถึงเรื่องการระงับความช่วยเหลือนี้หรือไม่
    .
    “ท่านนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังโฟกัสอยู่ที่ผลลัพธ์อย่างเดียวกัน นั่นคือการทำให้เกิดสันติภาพที่มั่นคงและยั่งยืนขึ้นมาในยูเครน” โฆษกผู้นี้บอก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021233
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์สั่ง “ระงับ” ความช่วยเหลือยูเครนเพื่อบีบเซเลนสกีร่วมเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย ลั่นไม่อดทนกับผู้นำเคียฟอีกต่อไป ด้านรองประธานาธิบดีแวนซ์ก็สำทับวิพากษ์วิจารณ์ยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้เคียฟสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ทางยูเครนแถลงวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า กองทหารของตนซึ่งกำลังสู้รบกับฝ่ายรัสเซียอยู่ ยังสามารถรักษาสถานการณ์ในสมรภูมิเอาไว้ได้ด้วยตัวเอง . ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นหลังการประชุมที่กลายเป็นการปะทะคารมอย่างดุเดือด ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ที่ผ่านมา โดยที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ รุมทึ้งโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่ไม่ยินยอมเข้าเจรจาสร้างสันติภาพกับรัสเซียโดยรวดเร็ว รวมทั้งกล่าวหาประธานาธิบดียูเครน ไม่เคารพและไม่สำนึกบุญคุณอเมริกาอย่างเพียงพอ ทั้งที่สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทางทหารเป็นจำนวนมหาศาลนับจากเคียฟถูกรัสเซียรุกรานเมื่อ 3 ปีที่แล้ว . ในวันจันทร์ (3) สื่อต่างๆ พากันรายงานข่าวโดยอ้างเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผย ว่า ทรัมป์เวลานี้โฟกัสอยู่ที่การทำให้บรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และต้องการให้เซเลนสกีมุ่งมั่นกับเป้าหมายเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยังระบุด้วยว่า ขณะนี้อเมริกาได้ระงับเพื่อดำเนินการทบทวนความช่วยเหลือที่ให้แก่ยูเครนแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าวัตถุประสงค์ของทรัมป์ดังกล่าวข้างต้นจะบรรลุผล โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้จนกว่าทรัมป์จะตัดสินใจว่า ยูเครนแสดงความมุ่งมั่นในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย . ความเคลื่อนไหวคราวนี้มีความร้ายแรงยิ่งกว่าที่ทรัมป์ประกาศตอนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเสียอีก โดยในตอนนั้นเป็นการระบุว่าสหรัฐฯ จะไม่ให้ความช่วยเหลือใหม่ๆ แก่ยูเครน แต่สำหรับคำสั่งล่าสุดนี้เป็นการระงับการจัดส่งอาวุธที่รวมถึงกระสุนและขีปนาวุธ ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว แต่ยังอยู่ในกระบวนการจัดหาและจัดส่ง . ทางด้านสมาชิกพรรคเดโมแครตในรัฐสภาสหรัฐฯ ออกมาแสดงปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วด้วยการประณามการตัดสินใจครั้งนี้ของทรัมป์ เป็นต้นว่า ส.ว. จีน ชาฮีน ซึ่งเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภา ตำหนิว่า การระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเท่ากับว่า ทรัมป์เปิดกว้างให้ปูตินรุกรานและกระทำรุนแรงต่อประชาชนยูเครนหนักข้อขึ้นซึ่งจะส่งผลร้ายแรงอย่างไม่ต้องสงสัย . ทรัมป์ที่ประกาศระหว่างหาเสียงว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งนั้น แสดงความไม่พอใจเซเลนสกีมากขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องที่ยังคงต้องทำสงครามต่อไป ขณะเดียวกันเขาก็แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียจะรักษาสันติภาพ หากบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับฝ่ายยูเครน . หลังจากที่สื่อรายงานว่า เซเลนสกีที่ให้สัมภาษณ์พวกผู้สื่อข่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (2) ว่า น่าจะอีกนานมากกว่าที่สงครามจะยุติ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเจรจาข้อตกลง ทรัมป์ก็อยู่ในอาการฟิวส์ขาด ระบุว่า เป็นคำพูดที่แย่ที่สุดของประธานาธิบดียูเครน และอเมริกาจะไม่อดทนอีกต่อไป . ด้านเซเลนสกีพยายามอธิบายผ่านโซเชียลมีเดียว่า ยูเครนกำลังพยายามดำเนินมาตรการทางการทูตเพื่อให้สงครามยุติลงโดยเร็วที่สุด และย้ำว่า ยูเครนต้องการสันติภาพที่แท้จริงและการรับประกันความมั่นคง ทว่า ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้การรับประกันดังกล่าวมาโดยตลอด . ในส่วนของ แวนซ์ เขากล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อทีวีฟ็อกซ์ นิวส์ที่ ออกอากาศช่วงค่ำวันจันทร์ว่า พันธมิตรยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้ยูเครนสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด คำถามคือยูเครนจะเอาเงินและอาวุธจากไหนมาสู้ และจะต้องแลกด้วยชีวิตใครบ้าง . อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า ข้อตกลงลงทุนในแร่ธาตุของยูเครนยังมีทางสามารถบรรลุผลได้ และเขาจะอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดคืนวันอังคาร (4 มี.ค.) ระหว่างแถลงต่อการประชุมร่วมของรัฐสภาสหรัฐฯ . เกี่ยวกับข้อตกลงฉบับนี้ คณะบริหารทรัมป์ มองว่า มันคือค่าชดเชยที่อเมริกาควรได้รับจากการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและการทหารแก่เคียฟหลายแสนล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา . ขณะที่แวนซ์กล่าวผ่านฟ็อกซ์ นิวส์ว่า ถ้าเซเลนสกีต้องการการรับประกันความมั่นคง และอยากมั่นใจว่า ปูตินจะไม่รุกรานยูเครนอีก การเปิดทางให้เศรษฐกิจอเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วมในอนาคตของยูเครนคือการรับประกันที่ดีที่สุด . ยูเครนโวยังมีหนทางประคองสถานการณ์ที่แนวหน้า . ในวันอังคาร (4) ภายหลังรายงานข่าวเรื่องสหรัฐฯ ระงับการส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนแพร่ออกไป นายกรัฐมนตรี เดนิส ชมีฮัล ของยูเครน ออกมาแถลงว่า เคียฟยังคงมีหนทางที่จะส่งกำลังบำรุงให้แก่กองทหารของตนเอง “กองทัพของเราและรัฐบาลมีสมรรถนะ มีเครื่องมือ พูดได้ว่าอย่างนั้น ที่จะประคองสถานการณ์ในแนวหน้าเอาไว้” เขากล่าว . ชมีฮัล ยังกล่าวขอบคุณสหรัฐฯ และย้ำว่ายูเครนต้องการความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย . “เราจะยังคงทำงานกับสหรัฐฯ ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวงด้วยความสงบสุขุม” เขากล่าวในการแถลงข่าว “เรามีแผนการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือเพื่อชัยชนะและเพื่อความอยู่รอด เราจะชนะหรือไม่ยังงัยก็จะต้องเจอกับแผนบี ซึ่งถูกเขียนขึ้นมาโดยคนอื่นๆ” . สำหรับตัวเซเลนสกีเองนั้น เก็บตัวค่อนข้างเงียบเชียบ จนกระทั่งถึงบ่ายวันอังคารในกรุงเคียฟ สิ่งที่เขาแถลงต่อสาธารณชนก็มีเพียงว่าเขาได้พูดจากับ ฟรีดริช เมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พร้อมกับเน้นย้ำถึงความช่วยเหลือทั้งทางทหารและทางการเงินที่ได้รับจากเยอรมนี . “เราจักจดจำไว้ว่าเยอรมนีคือผู้นำในเรื่องการจัดหาจัดส่งระบบการป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ยูเครน และแสดงบทบาทที่สำคัญยิ่งยวดในการรับประกันเสถียรภาพทางการเงินของเรา” เขาโพสต์ข้อความเช่นนี้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ภายหลังคุยโทรศัพท์กับเมร์ซ . ในอีกด้านหนึ่ง พวกผู้เชี่ยวชาญทางทหารของฝ่ายตะวันตกบอกว่า อาจจะกินเวลาไปอีกระยะหนึ่งกว่าที่ผลกระทบจากการถูกตัดขาดความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จะเป็นที่รู้สึกกัน ทั้งนี้เมื่อตอนที่งบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ถูกแขวนเอาไว้เป็นเวลาหลายเดือนทีเดียวในปีที่แล้ว โดยฝีมือของพวกสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาล่าง ผลกระทบเบื้องต้นที่รู้สึกกันมากที่สุดคือการขาดแคลนอาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่จะสามารถสอยขีปนาวุธและโดรนของฝ่ายรัสเซีย ถึงแม้ในเวลาต่อมาทางกองทหารยูเครนร้องเรียนว่าพวกเครื่องกระสุนต่างๆ ในแนวน้าร่อยหรอลงไปมาก . “มันมีความสำคัญมากทีเดียว ทว่าไม่ได้ใกล้เคียงกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นถ้าหากมันเป็นช่วงก่อนหน้านี้ของสงคราม เพราะยูเครนเวลานี้ต้องพึ่งพาอาศัยความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ โดยตรง ลดน้อยลงไปมากแล้ว” เป็นความเห็นของไมเคิล คอฟแมน นักวิจัยอาวุโสของคาร์เนกี เอนดาวเมนต์ . ผลกระทบต่อพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ . การที่สหรัฐฯ ระงับจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนคราวนี้ เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อพวกชาติพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ โดยที่ชาติเหล่านี้เองได้แสดงท่าทีออกมาปลอบขวัญโอบอุ้มเซเลนสกีอย่างเปิดเผยภายหลังจากเหตุการณ์ปะทะคารมเดือดที่ทำเนียบขาว . มีรายงานว่าเวลานี้ยุโรปกำลังเร่งรีบเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายทางทหารของพวกเขาเอง และในวันอังคาร (4) อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป ได้เปิดเผยข้อเสนอต่างๆ ที่มุ่งเพิ่มพูนการใช้จ่ายทางทหารในอียู ซึ่งเธอกล่าวว่าอาจจะระดมเงินในเรื่องนี้ออกมาได้สูงถึง 800,000 ล้านยูโร (840,000 ล้านดอลลาร์) กันทีเดียว ทั้งนี้อียูมีกำหนดจัดการประชุมฉุกเฉินในเรื่องเกี่ยวกับยูเครนในวันพฤหัสบดี (6) นี้ . ในฝรั่งเศส เบนจามิน ฮัดดัด รัฐมนตรีช่วยดูแลด้านยุโรป ได้ออกมากล่าวประณามการระงับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ คราวนี้ โดยกล่าวว่ามันทำให้สันติภาพ “ห่างไกลออกไปมากขึ้น เพราะมันมีแต่ทำให้เงื้อมมือของผู้รุกราน ... ซึ่งก็คือรัสเซีย เข้มแข็งยิ่งขึ้น” . ขณะที่สหราชอาณาจักร ซึ่งแสดงทีท่าต้องการดึงให้คณะบริหารทรัมป์ยังคงอยู่ข้างๆ ตัว ไม่แตกแถวออกไปไกลกว่านี้ แสดงท่าทีสุขุมรอบคอบยิ่งกว่า โดยที่นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ได้พูดจาทางโทรศัพท์กับทรัมป์ในคืนวันจันทร์ (3) ตามการแถลงของโฆษกผู้หนึ่งของสตาร์เมอร์ แต่ไม่ได้ระบุว่าทรมป์ได้เอ่ยถึงเรื่องการระงับความช่วยเหลือนี้หรือไม่ . “ท่านนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังโฟกัสอยู่ที่ผลลัพธ์อย่างเดียวกัน นั่นคือการทำให้เกิดสันติภาพที่มั่นคงและยั่งยืนขึ้นมาในยูเครน” โฆษกผู้นี้บอก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021233 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2107 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากทรัมป์ ประกาศยุติความช่วยเหลือทุกทางต่อยูเครน

    วันนี้เซเลนสกีโพสต์ข้อความบน "X" ว่าพร้อมแล้วสำหรับการเจรจาเพื่อยุติสงคราม และยังบอกอีกว่า พร้อมจะลงนามข้อตกลงแร่ธาตุของสหรัฐฯ "เมื่อใดก็ได้ และในรูปแบบใดก็ได้ที่สหรัฐสะดวก"

    ซึ่งไม่แน่ใจว่า นี่จะถือเป็นคำขอโทษตามที่ทรัมป์เรียกร้องให้เซเลนสกีออกมากล่าวอย่างเป็นทางการต่อหน้าสาธารณะหรือไม่!!

    นอกจากนี้ เขายังยื่นข้อเสนอว่า พร้อมที่จะทำข้อตกลงหยุดยิงให้เร็วที่สุดเพื่อยุติสงคราม โดยที่ขั้นแรกอาจเป็นการปล่อยนักโทษ และการหยุดโจมตีทางอากศ โดยหยุดการใช้ขีปนาวุธ โดรนพิสัยไกล ในการโจมตีด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนอื่นๆ และต่อไปจะหยุดการโจมตีทสงทะเลทันที ซึ่งทางรัสเซียจะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกันด้วย
    .

    👉แถลงการณ์ฉบับเต็มของเซเลนสกี:

    ผมขอเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของยูเครนในความพยายามสร้างสันติภาพอีกครั้ง

    ไม่มีใครต้องการสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น ยูเครนพร้อมที่จะเข้าร่วมโต๊ะเจรจาโดยเร็วที่สุดเพื่อนำสันติภาพที่ยั่งยืนให้เข้ามาใกล้ที่สุด ไม่มีใครต้องการสันติภาพมากกว่าชาวยูเครน ทีมงานของผมรวมทั้งตัวผม พร้อมที่จะทำงานภายใต้การนำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อให้ได้สันติภาพที่ยั่งยืน

    เราพร้อมที่จะทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อยุติสงคราม ซึ่งขั้นตอนแรกอาจเป็นการปล่อยนักโทษและยุติการโจมตีทางอาหศ โดยห้ามใช้ขีปนาวุธ โดรนพิสัยไกล เพื่อโจมตีเป้าหมายด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนอื่นๆ และจะยุติการต่อสู้ในทะเลทันที หากรัสเซียจะทำเช่นเดียวกัน จากนั้นเราต้องการดำเนินการอย่างรวดเร็วผ่านขั้นตอนต่อไปทั้งหมดและทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อตกลงข้อตกลงสุดท้ายที่แข็งแกร่ง

    เราให้ความสำคัญอย่างที่สุดต่ออเมริกาซึ่งได้ทำสิ่งที่ช่วยให้ยูเครนรักษาอำนาจอธิปไตยและเอกราชของตนไว้ได้ เราซาบซึ้งในสิ่งนี้

    การประชุมของเราในกรุงวอชิงตันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นไปตามที่คาดไว้ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เราต้องการให้ความร่วมมือและการสื่อสารในอนาคตเป็นไปอย่างสร้างสรรค์

    เกี่ยวกับข้อตกลงด้านแร่ธาตุและความมั่นคง ยูเครนพร้อมที่จะลงนามเมื่อใดก็ได้และในรูปแบบที่สะดวก เราเห็นว่าข้อตกลงนี้เป็นก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงที่มากขึ้นและการค้ำประกันด้านความมั่นคงที่มั่นคง และฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อตกลงนี้จะมีผลใช้บังคับอย่างมีประสิทธิผล
    หลังจากทรัมป์ ประกาศยุติความช่วยเหลือทุกทางต่อยูเครน วันนี้เซเลนสกีโพสต์ข้อความบน "X" ว่าพร้อมแล้วสำหรับการเจรจาเพื่อยุติสงคราม และยังบอกอีกว่า พร้อมจะลงนามข้อตกลงแร่ธาตุของสหรัฐฯ "เมื่อใดก็ได้ และในรูปแบบใดก็ได้ที่สหรัฐสะดวก" ซึ่งไม่แน่ใจว่า นี่จะถือเป็นคำขอโทษตามที่ทรัมป์เรียกร้องให้เซเลนสกีออกมากล่าวอย่างเป็นทางการต่อหน้าสาธารณะหรือไม่!! นอกจากนี้ เขายังยื่นข้อเสนอว่า พร้อมที่จะทำข้อตกลงหยุดยิงให้เร็วที่สุดเพื่อยุติสงคราม โดยที่ขั้นแรกอาจเป็นการปล่อยนักโทษ และการหยุดโจมตีทางอากศ โดยหยุดการใช้ขีปนาวุธ โดรนพิสัยไกล ในการโจมตีด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนอื่นๆ และต่อไปจะหยุดการโจมตีทสงทะเลทันที ซึ่งทางรัสเซียจะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกันด้วย . 👉แถลงการณ์ฉบับเต็มของเซเลนสกี: ผมขอเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของยูเครนในความพยายามสร้างสันติภาพอีกครั้ง ไม่มีใครต้องการสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น ยูเครนพร้อมที่จะเข้าร่วมโต๊ะเจรจาโดยเร็วที่สุดเพื่อนำสันติภาพที่ยั่งยืนให้เข้ามาใกล้ที่สุด ไม่มีใครต้องการสันติภาพมากกว่าชาวยูเครน ทีมงานของผมรวมทั้งตัวผม พร้อมที่จะทำงานภายใต้การนำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อให้ได้สันติภาพที่ยั่งยืน เราพร้อมที่จะทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อยุติสงคราม ซึ่งขั้นตอนแรกอาจเป็นการปล่อยนักโทษและยุติการโจมตีทางอาหศ โดยห้ามใช้ขีปนาวุธ โดรนพิสัยไกล เพื่อโจมตีเป้าหมายด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนอื่นๆ และจะยุติการต่อสู้ในทะเลทันที หากรัสเซียจะทำเช่นเดียวกัน จากนั้นเราต้องการดำเนินการอย่างรวดเร็วผ่านขั้นตอนต่อไปทั้งหมดและทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อตกลงข้อตกลงสุดท้ายที่แข็งแกร่ง เราให้ความสำคัญอย่างที่สุดต่ออเมริกาซึ่งได้ทำสิ่งที่ช่วยให้ยูเครนรักษาอำนาจอธิปไตยและเอกราชของตนไว้ได้ เราซาบซึ้งในสิ่งนี้ การประชุมของเราในกรุงวอชิงตันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นไปตามที่คาดไว้ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เราต้องการให้ความร่วมมือและการสื่อสารในอนาคตเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เกี่ยวกับข้อตกลงด้านแร่ธาตุและความมั่นคง ยูเครนพร้อมที่จะลงนามเมื่อใดก็ได้และในรูปแบบที่สะดวก เราเห็นว่าข้อตกลงนี้เป็นก้าวสำคัญสู่ความมั่นคงที่มากขึ้นและการค้ำประกันด้านความมั่นคงที่มั่นคง และฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อตกลงนี้จะมีผลใช้บังคับอย่างมีประสิทธิผล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ง้อ!?!"
    รัฐสภายูเครน (Verkhovna Rada) เผยแพร่ข้อความบนเว็บไซต์เวอร์ชันภาษาอังกฤษเพื่อส่งถึงอเมริกา ในการแสดงความยินดีกับการเจรจาสันติภาพที่เริ่มต้นโดยทรัมป์:

    "ประชาชนยูเครนต้องการสันติภาพมากกว่าใครในโลก และเชื่อว่าบทบาทส่วนตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความพยายามรักษาสันติภาพของเขาจะเป็นส่งที่กำหนดการสิ้นสุดของการสู้รบโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และบรรลุสันติภาพสำหรับยูเครน ยุโรป และโลก

    รัฐสภายูเครนยินดีกับความคิดริเริ่มของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเริ่มกระบวนการเจรจาที่มุ่งหวังให้เกิดสันติภาพ

    รัฐสภายูเครน ขอเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพัฒนาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับสหรัฐอเมริกาต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสำรวจแร่ธาตุที่จำเป็น”
    "ง้อ!?!" รัฐสภายูเครน (Verkhovna Rada) เผยแพร่ข้อความบนเว็บไซต์เวอร์ชันภาษาอังกฤษเพื่อส่งถึงอเมริกา ในการแสดงความยินดีกับการเจรจาสันติภาพที่เริ่มต้นโดยทรัมป์: "ประชาชนยูเครนต้องการสันติภาพมากกว่าใครในโลก และเชื่อว่าบทบาทส่วนตัวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความพยายามรักษาสันติภาพของเขาจะเป็นส่งที่กำหนดการสิ้นสุดของการสู้รบโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และบรรลุสันติภาพสำหรับยูเครน ยุโรป และโลก รัฐสภายูเครนยินดีกับความคิดริเริ่มของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเริ่มกระบวนการเจรจาที่มุ่งหวังให้เกิดสันติภาพ รัฐสภายูเครน ขอเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพัฒนาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับสหรัฐอเมริกาต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสำรวจแร่ธาตุที่จำเป็น”
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐเตรียมผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย!

    ทรัมป์กำลังพิจารณายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียบางส่วนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามยุติสงครามยูเครนและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียขึ้นใหม่

    ทำเนียบขาวได้ขอให้เจ้าหน้าที่ร่างแผนซึ่งอาจผ่อนปรนข้อจำกัดต่อหน่วยงานและกลุ่มผู้มีอำนาจในรัสเซียบางส่วน

    ขณะนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียกำลังเจรจากันอยู่ โดยมีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เช่น ข้อตกลงแร่ธาตุหายาก

    ทรัมป์กล่าวว่า เขาต้องการยุติสงครามโดยเร็วที่สุด


    ที่มา: Reuters
    สหรัฐเตรียมผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย! ทรัมป์กำลังพิจารณายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียบางส่วนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามยุติสงครามยูเครนและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียขึ้นใหม่ ทำเนียบขาวได้ขอให้เจ้าหน้าที่ร่างแผนซึ่งอาจผ่อนปรนข้อจำกัดต่อหน่วยงานและกลุ่มผู้มีอำนาจในรัสเซียบางส่วน ขณะนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียกำลังเจรจากันอยู่ โดยมีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เช่น ข้อตกลงแร่ธาตุหายาก ทรัมป์กล่าวว่า เขาต้องการยุติสงครามโดยเร็วที่สุด ที่มา: Reuters
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯกำลังร่างแผนการหนึ่งๆในความเป็นไปได้ที่จะผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหาทางฟื้นฟูความสัมพันธ์กับมอสโกและหยุดสงครามในยูเครน รอยเตอร์รายงานอ้างเจ้าหน้าที่อเมริการายหนึ่งและแหล่งข่าวใกล้ชิดกับประเด็นนี้
    .
    แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ทำเนียบขาวขอให้กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงการคลัง ร่างรายการคว่ำบาตรที่อาจผ่อนปรน เพื่อที่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯจะได้หยิบยกไปหารือพูดคุยกับพวกผู้แทนของรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนหนึ่งในการเจรจาอย่างครอบคลุมระหว่างรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับมอสโก ในความพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์ทั้งทางการทูตและเศรษฐกิจ
    .
    เวลานี้พวกเจ้าหน้าที่ด้านมาตรการคว่ำบาตรกำลังร่างข้อเสนอหนึ่งๆ สำหรับยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรนิติบุคคลและตัวบุคคลที่ได้รับเลือก ในนั้นรวมถึงกลุ่มผู้มีอำนาจบางส่วนของรัสเซีย แหล่งข่าวระบุ
    .
    สิ่งที่เรียกว่า "เอกสารทางเลือก" มักถูกร่างขึ้นบ่อยครั้งเป็นปกติอยู่แล้วโดยพวกเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านมาตรการคว่ำบาตร แต่คำขออย่างเฉพาะเจาะจงในครั้งนี้ของทำเนียบขาวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เน้นย้ำว่า ทรัมป์ และคณะที่ปรึกษาของเขา มีความตั้งใจผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานรัสเซียจริงๆ ส่วนหนึ่งในว่าที่ข้อตกลงหนึ่งใดกับมอสโก
    .
    ไม่เป็นที่้ชัดเจนว่า วอชิงตันต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยนกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร
    .
    รัสเซีย เป็นหนึ่งในชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก และถ้ามาตรการคว่ำบาตรภาคพลังงานของมอสโกได้รับการผ่อนปรน มันจะช่วยสกัดไม่ให้ราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูง ถ้าหากทรัมป์ต้องการเล่นงานภาคการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ชาติสมาชิกโอเปก
    .
    ทำเนียบขาว กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการคลังสหรัฐฯ รวมถึงสถานทูตรัสเซียประจำวอชิงตัน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้
    .
    เมื่อปีที่แล้ว วังเครมลิน ให้คำนิยามความสัมพันธ์กับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่า "ต่ำว่าศูนย์" เนื่องจาก ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ให้การสนับสนุนยูเครนด้วยเงินช่วยเหลือและอาวุธ รวมถึงกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงเล่นงานรัสเซีย ลงโทษกรณีรุกรานยูเครนในปี 2022
    .
    แต่ ทรัมป์ ซึ่งรับปากว่าจะยุติสงครามอย่างรวดเร็ว ได้กลับลำนโยบายของสหรัฐฯ เปิดการเจรจากับมอสโก เริ่มต้นด้วยการพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ และตามด้วยการพบปะหารือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้ง 2 ชาติ ทั้งในซาอุดีอาระเบียและตุรกี
    .
    สหรัฐฯกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซียมาตั้งแต่ที่มอสโกรุกรานยูเครนในปี 2022 ในนั้นรวมถึงมาตรการต่างๆที่เล็งเป้าหมายจำกัดรายได้จากอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอันมหาศาลของประเทศแห่งนี้ และบั่นทอนศักยภาพในการหาทุนในการทำสงคราม
    .
    ทรัมป์ ในเดือนมกราคม ขู่ว่าอาจยกระดับมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย หากว่าปูติน ไม่มีความตั้งใจเจรจายุติสงครามในยูเครน แต่เมื่อเร็วๆนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์ยอมรับอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรมอสโก
    .
    สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ว่ารัสเซียอาจได้รับการผ่อนปรนการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ แต่ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีท่าทีอย่างไรต่อการเจรจาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จากนั้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ทรัมป์ เน้นย้ำกับพวกผู้สื่อข่าวว่าอาจมีการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย "ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง"
    .
    ทั้งนี้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามาตรการคว่ำบาตรใด ที่รัฐบาลทรัมป์จะพิจารณายกเลิกเล่นงานรัสเซียเป็นลำดับแรก
    .
    จอห์น สมิธ จากบริษัทกฎหมาย Morrison Foerster และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า ทรัมป์ อาจออกคำสั่งบริหารฉบับหนึ่ง ที่เปิดทางให้รัฐบาลเริ่มกระบวนการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียบางอย่าง แต่เขาจำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรสในการยกเลิกการคว่ำบาตรนิติบุคคลบางแห่ง
    .
    นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา รัสเซีย เสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาสงคราม ด้วยการเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารและยกระดับผลผลิตทางอุตสาหกรรม แต่พวกผู้เชี่ยวชาญมองว่าเศรษฐกิจของประเทศแห่งนี้ยังมีความอ่อนแอ และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรจากตะวันตก
    .
    รัสเซียบอกว่าพวกเขาเปิดกว้างสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยวังเครมลินบอกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ารัสเซียมีแร่ธาตุแรร์เฮิร์ธมากมาย และเปิดกว้างสำหรับทำข้อตกลงพัฒนาแร่เหล่านี้ หลังจาก ปูติน พูดถึงความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือในเรื่องดังกล่าวกับสหรัฐฯ
    .
    แหล่งข่าวเชื่อว่าข้อตกลงทางเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการใดๆ ดูเหมือนจะมีความจำเป็นสำหรับเปิดทางให้สหรัฐฯผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร
    .
    ที่ผ่านมา ทรัมป์ หาทางบรรลุข้อตกลงแร่ธาตุกับยูเครน ประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรแร่มหาศาล ในนั้นรวมถึงแร่แรร์เอิร์ธ ในฐานะเป็นสิ่งตอบแทนชดใช้เงินช่วยเหลือหลายแสนล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯมอให้แก่เคียฟ อย่างไรก็ตามไม่มีการลงนามในข้อตกลง ตามหลังศึกวิวาทะดุเดือดภายในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว ระหว่าง ทรัมป์ กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020861
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯกำลังร่างแผนการหนึ่งๆในความเป็นไปได้ที่จะผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหาทางฟื้นฟูความสัมพันธ์กับมอสโกและหยุดสงครามในยูเครน รอยเตอร์รายงานอ้างเจ้าหน้าที่อเมริการายหนึ่งและแหล่งข่าวใกล้ชิดกับประเด็นนี้ . แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ทำเนียบขาวขอให้กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงการคลัง ร่างรายการคว่ำบาตรที่อาจผ่อนปรน เพื่อที่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯจะได้หยิบยกไปหารือพูดคุยกับพวกผู้แทนของรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนหนึ่งในการเจรจาอย่างครอบคลุมระหว่างรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับมอสโก ในความพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์ทั้งทางการทูตและเศรษฐกิจ . เวลานี้พวกเจ้าหน้าที่ด้านมาตรการคว่ำบาตรกำลังร่างข้อเสนอหนึ่งๆ สำหรับยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรนิติบุคคลและตัวบุคคลที่ได้รับเลือก ในนั้นรวมถึงกลุ่มผู้มีอำนาจบางส่วนของรัสเซีย แหล่งข่าวระบุ . สิ่งที่เรียกว่า "เอกสารทางเลือก" มักถูกร่างขึ้นบ่อยครั้งเป็นปกติอยู่แล้วโดยพวกเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านมาตรการคว่ำบาตร แต่คำขออย่างเฉพาะเจาะจงในครั้งนี้ของทำเนียบขาวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เน้นย้ำว่า ทรัมป์ และคณะที่ปรึกษาของเขา มีความตั้งใจผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานรัสเซียจริงๆ ส่วนหนึ่งในว่าที่ข้อตกลงหนึ่งใดกับมอสโก . ไม่เป็นที่้ชัดเจนว่า วอชิงตันต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยนกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร . รัสเซีย เป็นหนึ่งในชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก และถ้ามาตรการคว่ำบาตรภาคพลังงานของมอสโกได้รับการผ่อนปรน มันจะช่วยสกัดไม่ให้ราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูง ถ้าหากทรัมป์ต้องการเล่นงานภาคการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ชาติสมาชิกโอเปก . ทำเนียบขาว กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการคลังสหรัฐฯ รวมถึงสถานทูตรัสเซียประจำวอชิงตัน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้ . เมื่อปีที่แล้ว วังเครมลิน ให้คำนิยามความสัมพันธ์กับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่า "ต่ำว่าศูนย์" เนื่องจาก ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ให้การสนับสนุนยูเครนด้วยเงินช่วยเหลือและอาวุธ รวมถึงกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงเล่นงานรัสเซีย ลงโทษกรณีรุกรานยูเครนในปี 2022 . แต่ ทรัมป์ ซึ่งรับปากว่าจะยุติสงครามอย่างรวดเร็ว ได้กลับลำนโยบายของสหรัฐฯ เปิดการเจรจากับมอสโก เริ่มต้นด้วยการพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ และตามด้วยการพบปะหารือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้ง 2 ชาติ ทั้งในซาอุดีอาระเบียและตุรกี . สหรัฐฯกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซียมาตั้งแต่ที่มอสโกรุกรานยูเครนในปี 2022 ในนั้นรวมถึงมาตรการต่างๆที่เล็งเป้าหมายจำกัดรายได้จากอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอันมหาศาลของประเทศแห่งนี้ และบั่นทอนศักยภาพในการหาทุนในการทำสงคราม . ทรัมป์ ในเดือนมกราคม ขู่ว่าอาจยกระดับมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย หากว่าปูติน ไม่มีความตั้งใจเจรจายุติสงครามในยูเครน แต่เมื่อเร็วๆนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์ยอมรับอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรมอสโก . สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ว่ารัสเซียอาจได้รับการผ่อนปรนการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ แต่ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีท่าทีอย่างไรต่อการเจรจาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จากนั้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ทรัมป์ เน้นย้ำกับพวกผู้สื่อข่าวว่าอาจมีการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย "ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง" . ทั้งนี้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามาตรการคว่ำบาตรใด ที่รัฐบาลทรัมป์จะพิจารณายกเลิกเล่นงานรัสเซียเป็นลำดับแรก . จอห์น สมิธ จากบริษัทกฎหมาย Morrison Foerster และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า ทรัมป์ อาจออกคำสั่งบริหารฉบับหนึ่ง ที่เปิดทางให้รัฐบาลเริ่มกระบวนการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียบางอย่าง แต่เขาจำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรสในการยกเลิกการคว่ำบาตรนิติบุคคลบางแห่ง . นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา รัสเซีย เสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาสงคราม ด้วยการเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารและยกระดับผลผลิตทางอุตสาหกรรม แต่พวกผู้เชี่ยวชาญมองว่าเศรษฐกิจของประเทศแห่งนี้ยังมีความอ่อนแอ และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรจากตะวันตก . รัสเซียบอกว่าพวกเขาเปิดกว้างสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยวังเครมลินบอกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ารัสเซียมีแร่ธาตุแรร์เฮิร์ธมากมาย และเปิดกว้างสำหรับทำข้อตกลงพัฒนาแร่เหล่านี้ หลังจาก ปูติน พูดถึงความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือในเรื่องดังกล่าวกับสหรัฐฯ . แหล่งข่าวเชื่อว่าข้อตกลงทางเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการใดๆ ดูเหมือนจะมีความจำเป็นสำหรับเปิดทางให้สหรัฐฯผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร . ที่ผ่านมา ทรัมป์ หาทางบรรลุข้อตกลงแร่ธาตุกับยูเครน ประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรแร่มหาศาล ในนั้นรวมถึงแร่แรร์เอิร์ธ ในฐานะเป็นสิ่งตอบแทนชดใช้เงินช่วยเหลือหลายแสนล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯมอให้แก่เคียฟ อย่างไรก็ตามไม่มีการลงนามในข้อตกลง ตามหลังศึกวิวาทะดุเดือดภายในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว ระหว่าง ทรัมป์ กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020861 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1316 มุมมอง 1 รีวิว
  • จะไม่มีข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุจนกว่าเซเลนสกีจะออกมาขอโทษต่อหน้าสาธารณะสำหรับเรื่องอื้อฉาวที่ทำเนียบขาว
    ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีคำขอโทษจากเซเลนสกีหรือเจ้าหน้าที่ของยูเครนคนใดเลย

    การระงับความช่วยเหลือทางทหารและทางการเงินแก่ยูเครนอาจมีการประกาศในวันพรุ่งนี้ในคำปราศรัยของทรัมป์ต่อรัฐสภา

    สหรัฐจะปล่อยให้ยุโรปตอบสนองความต้องการของเซเลนสกี

    รัฐบาลทรัมป์กำลังวางแผนลดขนาดการกองกำลังสหรัฐในยุโรปลง ซึ่งจะมีการหารือในการประชุมวันนี้

    ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม จะเข้าร่วมในการหารือในครั้งนี้ด้วย
    จะไม่มีข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุจนกว่าเซเลนสกีจะออกมาขอโทษต่อหน้าสาธารณะสำหรับเรื่องอื้อฉาวที่ทำเนียบขาว ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีคำขอโทษจากเซเลนสกีหรือเจ้าหน้าที่ของยูเครนคนใดเลย การระงับความช่วยเหลือทางทหารและทางการเงินแก่ยูเครนอาจมีการประกาศในวันพรุ่งนี้ในคำปราศรัยของทรัมป์ต่อรัฐสภา สหรัฐจะปล่อยให้ยุโรปตอบสนองความต้องการของเซเลนสกี รัฐบาลทรัมป์กำลังวางแผนลดขนาดการกองกำลังสหรัฐในยุโรปลง ซึ่งจะมีการหารือในการประชุมวันนี้ ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม จะเข้าร่วมในการหารือในครั้งนี้ด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • หลักฐานยืนยันว่า เซเลนสกีได้ทำข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุกับอังกฤษไปก่อนหน้านี้แล้ว

    สตาร์มเมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดินทางมาลงนามสัญญาในยูเครน เพียง 4 วันก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
    หลักฐานยืนยันว่า เซเลนสกีได้ทำข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุกับอังกฤษไปก่อนหน้านี้แล้ว สตาร์มเมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดินทางมาลงนามสัญญาในยูเครน เพียง 4 วันก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • .......📌#ว่าด้วยเรื่องหัวไชเท้า.........
    .........................................
    ใครที่ชอบ ทาน หัวไชเท้า เป็นชีวิตจิตใจ ได้โปรดอ่านให้ละเอียดเลย

    เมื่อทานผักผลไม้และสมุนไพรได้ อาหารเสริมจึงไม่ได้มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะอาหารเสริมก็สกัดมาจากพืชผัก ผลไม้และสมุนไพรเช่นเดียวกัน ตามคำนิยามที่ว่า ทานอาหารเป็นยานั่นเอง

    สำหรับหัวไชเท้านี้เป็นอาหารทางการแพทย์ที่มีมากเป็นอันดับสองของโลก เป็นผักตระกูลกระหล่ำ ความพิเศษและแตกต่างจากไม้ตระกูลกะหล่ำที่เหลือคือ หัวไชเท้ามีองค์ประกอบสองส่วน คือมีรากและหัวไชเท้าช่วยเติมเต็มระบบภูมิคุ้มกัน

    เมื่อเราทานเข้าไป กำมะถันที่มีอยู่ในหัวไชเท้าจะขับไล่เชื้อโรคทุกชนิดและทำหน้าที่เป็นมูลไส้เดือน มันจะช่วยฆ่าหนอนพยาธิในลำไส้และปรสิตอื่น ๆ ทั้งหมดได้อีกด้วย

    หัวไชเท้ามีส่วนประกอบของ ออร์กาโนซัลเฟอร์ช่วยให้หลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำสะอาดและสร้างเกราะป้องกันในตัวเพื่อป้องกันไม่ให้คราบจุลินทรีย์เกาะติดกับเยื่อบุ

    หัวไชเท้าช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและปัญหาหลอดเลือดหัวใจอื่น ๆ ได้ดี เพราะหัวไชเท้าช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอล ชนิดที่ดี และลดคอเลสเตอรอล ชนิดที่ไม่ดี

    หัวไชเท้าช่วยขับไล่มะเร็งได้เกือบทุกชนิด เพราะสามารถฟื้นฟูไต ตับ ตับอ่อน และม้ามได้เป็นอย่างดี

    ใบของหัวไชเท้าไม่ต้องทิ้งเพราะเป็นหนึ่งในอาหารรักษาร่างกาย ที่ดีมาก เช่นกัน เพราะใบไม้หัวไชเท้าเป็นพรีไบโอติกที่มีประสิทธิภาพมากเป็นอันดับสองรองจาก บลูเบอร์รี่ป่า เลยทีเดียว

    ทั้งหัวไชเท้าและใบและมีสารอาหารจำนวนมาก เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟโตเคมิคอล และอัลคาลอยด์ ต้านมะเร็ง และมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส

    ช่วยซ่อมแซมลำไส้ใหญ่ และส่วนอื่น ๆ ของลำไส้ที่สูญเสียความสามารถในการดูดซึมสารอาหาร สารอาหารของมันนั้นถูกดูดซึมโดยระบบย่อยอาหารที่ทำงานผิดปกติมากที่สุด และดูดซึมได้ดีกว่าอาหารอื่น ๆ เนื่องจากมีเอนไซม์สูง

    จริง ๆ แล้ว ใบหัวไชเท้าเป็นอาหารป่า แม้ว่าจะปลูกในสวนหรือในฟาร์มก็ตาม ใบไม้เหล่านี้ช่วยกำจัดสารพิษทั้ง 4 อย่างออกจากร่างกาย คือ กำจัดดีดีที รังสี โลหะหนัก ไวรัส ทานได้ทั้งสดและต้มใส่ซุบน้ำก๋วยเตี๋ยวต้มจืดหรือแกงส้ม ส่วนทานสดโดยจิ้มน้ำพริกหรือทานกับชูชิ ปั่นดื่มจะดีมาก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำความสะอาดโลหะหนักในระดับที่รุนแรง และกำจัดสารปรอท ตะกั่ว สารหนู และอะลูมิเนียมออกจากร่างกาย มีพลังเกือบเท่าผักชี

    ใบและหัวไชเท้าช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาทรวมถึงโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เอแอลเอส ( ALS ) และโรคไลม์ ( Lyme ) ทางระบบประสาท หัวไชเท้าจึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผักใบที่ทรงพลังที่สุดสำหรับสุขภาพของผู้คนนั่นเอง

    Cr: Boos Day ❤️
    ด้วยความรักและปรารถนาดีจากแพทย์และทีมงานสถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
    .......📌#ว่าด้วยเรื่องหัวไชเท้า......... ......................................... ใครที่ชอบ ทาน หัวไชเท้า เป็นชีวิตจิตใจ ได้โปรดอ่านให้ละเอียดเลย เมื่อทานผักผลไม้และสมุนไพรได้ อาหารเสริมจึงไม่ได้มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะอาหารเสริมก็สกัดมาจากพืชผัก ผลไม้และสมุนไพรเช่นเดียวกัน ตามคำนิยามที่ว่า ทานอาหารเป็นยานั่นเอง สำหรับหัวไชเท้านี้เป็นอาหารทางการแพทย์ที่มีมากเป็นอันดับสองของโลก เป็นผักตระกูลกระหล่ำ ความพิเศษและแตกต่างจากไม้ตระกูลกะหล่ำที่เหลือคือ หัวไชเท้ามีองค์ประกอบสองส่วน คือมีรากและหัวไชเท้าช่วยเติมเต็มระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อเราทานเข้าไป กำมะถันที่มีอยู่ในหัวไชเท้าจะขับไล่เชื้อโรคทุกชนิดและทำหน้าที่เป็นมูลไส้เดือน มันจะช่วยฆ่าหนอนพยาธิในลำไส้และปรสิตอื่น ๆ ทั้งหมดได้อีกด้วย หัวไชเท้ามีส่วนประกอบของ ออร์กาโนซัลเฟอร์ช่วยให้หลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำสะอาดและสร้างเกราะป้องกันในตัวเพื่อป้องกันไม่ให้คราบจุลินทรีย์เกาะติดกับเยื่อบุ หัวไชเท้าช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและปัญหาหลอดเลือดหัวใจอื่น ๆ ได้ดี เพราะหัวไชเท้าช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอล ชนิดที่ดี และลดคอเลสเตอรอล ชนิดที่ไม่ดี หัวไชเท้าช่วยขับไล่มะเร็งได้เกือบทุกชนิด เพราะสามารถฟื้นฟูไต ตับ ตับอ่อน และม้ามได้เป็นอย่างดี ใบของหัวไชเท้าไม่ต้องทิ้งเพราะเป็นหนึ่งในอาหารรักษาร่างกาย ที่ดีมาก เช่นกัน เพราะใบไม้หัวไชเท้าเป็นพรีไบโอติกที่มีประสิทธิภาพมากเป็นอันดับสองรองจาก บลูเบอร์รี่ป่า เลยทีเดียว ทั้งหัวไชเท้าและใบและมีสารอาหารจำนวนมาก เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟโตเคมิคอล และอัลคาลอยด์ ต้านมะเร็ง และมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยซ่อมแซมลำไส้ใหญ่ และส่วนอื่น ๆ ของลำไส้ที่สูญเสียความสามารถในการดูดซึมสารอาหาร สารอาหารของมันนั้นถูกดูดซึมโดยระบบย่อยอาหารที่ทำงานผิดปกติมากที่สุด และดูดซึมได้ดีกว่าอาหารอื่น ๆ เนื่องจากมีเอนไซม์สูง จริง ๆ แล้ว ใบหัวไชเท้าเป็นอาหารป่า แม้ว่าจะปลูกในสวนหรือในฟาร์มก็ตาม ใบไม้เหล่านี้ช่วยกำจัดสารพิษทั้ง 4 อย่างออกจากร่างกาย คือ กำจัดดีดีที รังสี โลหะหนัก ไวรัส ทานได้ทั้งสดและต้มใส่ซุบน้ำก๋วยเตี๋ยวต้มจืดหรือแกงส้ม ส่วนทานสดโดยจิ้มน้ำพริกหรือทานกับชูชิ ปั่นดื่มจะดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำความสะอาดโลหะหนักในระดับที่รุนแรง และกำจัดสารปรอท ตะกั่ว สารหนู และอะลูมิเนียมออกจากร่างกาย มีพลังเกือบเท่าผักชี ใบและหัวไชเท้าช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาทรวมถึงโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เอแอลเอส ( ALS ) และโรคไลม์ ( Lyme ) ทางระบบประสาท หัวไชเท้าจึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผักใบที่ทรงพลังที่สุดสำหรับสุขภาพของผู้คนนั่นเอง Cr: Boos Day ❤️ ด้วยความรักและปรารถนาดีจากแพทย์และทีมงานสถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเซเลนสกีจะยอมรับเงื่อนไขของสหรัฐ เพราะนั่นคือการปกป้องยูเครนอย่างแท้จริง

    ตอนนี้ เซเลนสกีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถอยเงื่อนไขของตัวเอง และยอมรับเงื่อนไขของทรัมป์ ทรัมป์กำลังปกป้องยูเครนโดยไม่ลากสหรัฐเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้

    ด้วยข้อตกลงด้านแร่ธาตุ ทำให้ชาวอเมริกันจะเข้าไปมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้บนดินแดนยูเครน ซึ่งนั่นเหมือนเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้รัสเซียโจมตียูเครนได้อีก เพราะการโจมตียูเครนจะหมายถึงชีวิตของชาวอเมริกันตกอยู่ในอันตราย ซึ่งจะทำให้สหรัฐจำเป็นต้องตอบโต้รัสเซีย

    นี่ก็เหมือนกับการรับประกันความปลอดภัยให้ยูเครนเช่นกัน ทรัมป์ฉลาดพอที่จะไม่ต้องเสียกำลังทหารให้มาอยู่ในอยู่เครน และยังได้ประโยชน์จากแร่ธาตุบนดินแดนยูเครน และอาจรวมถึงในรัสเซียด้วย ตามที่ปูตินยื่นข้อเสนอให้มาก่อนหน้านี้
    ทรัมป์เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเซเลนสกีจะยอมรับเงื่อนไขของสหรัฐ เพราะนั่นคือการปกป้องยูเครนอย่างแท้จริง ตอนนี้ เซเลนสกีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถอยเงื่อนไขของตัวเอง และยอมรับเงื่อนไขของทรัมป์ ทรัมป์กำลังปกป้องยูเครนโดยไม่ลากสหรัฐเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้ ด้วยข้อตกลงด้านแร่ธาตุ ทำให้ชาวอเมริกันจะเข้าไปมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้บนดินแดนยูเครน ซึ่งนั่นเหมือนเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้รัสเซียโจมตียูเครนได้อีก เพราะการโจมตียูเครนจะหมายถึงชีวิตของชาวอเมริกันตกอยู่ในอันตราย ซึ่งจะทำให้สหรัฐจำเป็นต้องตอบโต้รัสเซีย นี่ก็เหมือนกับการรับประกันความปลอดภัยให้ยูเครนเช่นกัน ทรัมป์ฉลาดพอที่จะไม่ต้องเสียกำลังทหารให้มาอยู่ในอยู่เครน และยังได้ประโยชน์จากแร่ธาตุบนดินแดนยูเครน และอาจรวมถึงในรัสเซียด้วย ตามที่ปูตินยื่นข้อเสนอให้มาก่อนหน้านี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีปูติน ระบุชัดเจนว่า ยื่นข้อเสนอของข้อตกลงแร่ธาตุหายากให้กับสหรัฐ และยังกล่าวอีกว่า รัสเซียมีปริมาณสำรองแร่ธาตุหายากมากกว่ายูเครนอย่างมาก

    รัสเซียมีประสบการณ์ เทคโนโลยี และความพร้อมมากกว่าสหรัฐที่จะไปลงทุนทำเองในยูเครน
    จากการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีปูติน ระบุชัดเจนว่า ยื่นข้อเสนอของข้อตกลงแร่ธาตุหายากให้กับสหรัฐ และยังกล่าวอีกว่า รัสเซียมีปริมาณสำรองแร่ธาตุหายากมากกว่ายูเครนอย่างมาก รัสเซียมีประสบการณ์ เทคโนโลยี และความพร้อมมากกว่าสหรัฐที่จะไปลงทุนทำเองในยูเครน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • ความล้มเหลวข้อตกลงแร่ธาตุที่ทุกฝ่ายต่างต้องการ ยกเว้น "รูบิโอ" รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ

    - เซเลนสกี:
    การแสดงออกของเซเลนสกีด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวต่อหน้าสื่อมวลชน ในการเรียกร้องข้อเสนอเพิ่มเติมให้มีกองกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐฯ เข้ามาในยูเครน ทั้งที่เซเลนสกี้รู้ดีว่าทรัมป์จะไม่เห็นด้วย บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่มีความคิดจะลงนามข้อตกลงแร่ธาตุ นอกจากนี้ การนำเสนอข่าวของสื่อในยูเครนถึงความไม่เป็นเอกภาพภายในรัฐบาลเซเลนสกี ที่หลายฝ่ายยังมีความเห็นไปคนละทาง สิ่งนี้บ่งบอกได้ว่า เซเลนสกีเดินทางมาสหรัฐด้วยตัวของเขาเอง โดยที่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรี ชมีกัล

    จากวิดีโอ เซเลนสกีกล่าวไว้าชัดเจนว่า “ผมไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติของเราที่มีต่อชาวรัสเซียได้ พวกเขาเป็นฆาตกร ปูตินและชาวรัสเซียคือศัตรูของเรา” คำพูดของเซเลนสกี บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า เขาไม่มีความคิดจะลงนามในข้อตกลงใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อปี 2022 ช่วงเริ่มต้นสงคราม หรือแม้แต่ข้อตกลงมินสก์ ซึ่งภายหลังปูตินถึงกับบอกว่ารัสเซียถูกหลอกให้ลงนาม

    - "รูบิโอ" รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ:
    โดยปกติแล้ว ในการลงนามข้อตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญระดับนี้ จะต้องได้รับการจัดการและตรวจสอบจนมั่นใจได้ว่ายินยอมพร้อมลงนามกันทั้งสองฝ่าย โดยที่ไม่มีอะไรผิดพลาด ก่อนที่จะมีการจัดการนัดประชุมของผู้นำประเทศเพื่อลงนามต่อไป

    แต่ครั้งนี้ นับเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ "มาร์โก รูบิโอ" ที่ตกเป็นเครื่องมือของเซเลนสกี ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อสามวันก่อนมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับยูเครนใกล้จะตกลงเรื่องแร่ธาตุหายากได้แล้ว ขณะเดียวกันก็มีข่าวออกมาว่าเซเลนสกีจะมาเยือนทำเนียบขาว เพื่อเซ็นสัญญา ซึ่งรูบิโอ เป็นผู้ให้ข้อมูลนี้เอง

    จะเห็นว่าหลังจากการเจรจาล้มเหลว ไม่มีการลงนามใดๆเกิดขึ้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เป็นหน่วยงานแรกที่มีประกาศยุติการสนับสนุนโครงการฟื้นฟูโครงข่ายพลังงานของยูเครน ที่ออกมาสนองตอบต่อการกระทำของเซเลนสกี

    - เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ:
    ขณะเดียวกัน ทางฝั่งเจดี แวนซ์ รองปธน.สหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลที่ตอบโต้เซเลนสกี จนนำไปสู่วิวาทะเดือด โดยปกติแล้ว ในระหว่างการประชุมทางการทูตต่อหน้าสื่อมวลชนแบบนี้ รองประธานาธิบดีมักจะไม่บทบาทในการพูดมากมายนัก เว้นแต่ว่าจะมีการนัดแนะกันไว้ก่อนแล้ว ซึ่งในครั้งนี้มันช่างตรงกับข้อสังเกตนี้อย่างมาก เพราะในสถานการณ์ช่วงเวลานั้น แวนซ์ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรก็ได้

    - โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ:
    แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า แร่ธาตุหายากไม่ใช่ว่าใครจะขุดกันได้ง่ายๆ เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนและจำเป็นต้องมีอุตสาหกรรมการขุดแร่ที่แข็งแกร่ง หรือมีประสบการณ์สูง

    เนื่องจากว่านี่คือแร่หายาก ไม่ใช่ทุกประเทศจะมี และถึงแม้ว่าจะมีแร่ แต่ก็มีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่เทคโนโลยีอยู่ในระดับที่สามารถขุดออกมาแปรรูปเป็นสินค้าและคุ้มค่าในการลงทุน

    สหรัฐทำไม่ได้แน่นอน ซึ่งรวมทั้งยูเครนด้วย เพราะสภาพเศรษฐกิจของยูเครนยังไม่พร้อมกับเทคโนโลยีในการขุดแร่เหล่านั้น

    ทรัมป์รู้ดีถึงข้อเสียเปรียบตรงนี้ และนี่เป็นที่มาของเจดี แวนซ์ ในการยั่วยุเซเลนสกี

    - เมื่อเซเลนสกีเองก็ไม่ได้อยากลงนามในข้อตกลง ทรัมป์ก็ไม่อยากลงนามเช่นกัน คนที่อยากจะสร้างผลงาน มีคนเดียวคือ "รูบิโอ" ต้องกลายเป็นหมากของทั้งสองฝ่ายไปอย่างไม่เต็มใจนัก
    ความล้มเหลวข้อตกลงแร่ธาตุที่ทุกฝ่ายต่างต้องการ ยกเว้น "รูบิโอ" รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ - เซเลนสกี: การแสดงออกของเซเลนสกีด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวต่อหน้าสื่อมวลชน ในการเรียกร้องข้อเสนอเพิ่มเติมให้มีกองกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐฯ เข้ามาในยูเครน ทั้งที่เซเลนสกี้รู้ดีว่าทรัมป์จะไม่เห็นด้วย บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่มีความคิดจะลงนามข้อตกลงแร่ธาตุ นอกจากนี้ การนำเสนอข่าวของสื่อในยูเครนถึงความไม่เป็นเอกภาพภายในรัฐบาลเซเลนสกี ที่หลายฝ่ายยังมีความเห็นไปคนละทาง สิ่งนี้บ่งบอกได้ว่า เซเลนสกีเดินทางมาสหรัฐด้วยตัวของเขาเอง โดยที่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรี ชมีกัล จากวิดีโอ เซเลนสกีกล่าวไว้าชัดเจนว่า “ผมไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติของเราที่มีต่อชาวรัสเซียได้ พวกเขาเป็นฆาตกร ปูตินและชาวรัสเซียคือศัตรูของเรา” คำพูดของเซเลนสกี บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า เขาไม่มีความคิดจะลงนามในข้อตกลงใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อปี 2022 ช่วงเริ่มต้นสงคราม หรือแม้แต่ข้อตกลงมินสก์ ซึ่งภายหลังปูตินถึงกับบอกว่ารัสเซียถูกหลอกให้ลงนาม - "รูบิโอ" รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ: โดยปกติแล้ว ในการลงนามข้อตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญระดับนี้ จะต้องได้รับการจัดการและตรวจสอบจนมั่นใจได้ว่ายินยอมพร้อมลงนามกันทั้งสองฝ่าย โดยที่ไม่มีอะไรผิดพลาด ก่อนที่จะมีการจัดการนัดประชุมของผู้นำประเทศเพื่อลงนามต่อไป แต่ครั้งนี้ นับเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ "มาร์โก รูบิโอ" ที่ตกเป็นเครื่องมือของเซเลนสกี ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อสามวันก่อนมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับยูเครนใกล้จะตกลงเรื่องแร่ธาตุหายากได้แล้ว ขณะเดียวกันก็มีข่าวออกมาว่าเซเลนสกีจะมาเยือนทำเนียบขาว เพื่อเซ็นสัญญา ซึ่งรูบิโอ เป็นผู้ให้ข้อมูลนี้เอง จะเห็นว่าหลังจากการเจรจาล้มเหลว ไม่มีการลงนามใดๆเกิดขึ้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เป็นหน่วยงานแรกที่มีประกาศยุติการสนับสนุนโครงการฟื้นฟูโครงข่ายพลังงานของยูเครน ที่ออกมาสนองตอบต่อการกระทำของเซเลนสกี - เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ: ขณะเดียวกัน ทางฝั่งเจดี แวนซ์ รองปธน.สหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลที่ตอบโต้เซเลนสกี จนนำไปสู่วิวาทะเดือด โดยปกติแล้ว ในระหว่างการประชุมทางการทูตต่อหน้าสื่อมวลชนแบบนี้ รองประธานาธิบดีมักจะไม่บทบาทในการพูดมากมายนัก เว้นแต่ว่าจะมีการนัดแนะกันไว้ก่อนแล้ว ซึ่งในครั้งนี้มันช่างตรงกับข้อสังเกตนี้อย่างมาก เพราะในสถานการณ์ช่วงเวลานั้น แวนซ์ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรก็ได้ - โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ: แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า แร่ธาตุหายากไม่ใช่ว่าใครจะขุดกันได้ง่ายๆ เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนและจำเป็นต้องมีอุตสาหกรรมการขุดแร่ที่แข็งแกร่ง หรือมีประสบการณ์สูง เนื่องจากว่านี่คือแร่หายาก ไม่ใช่ทุกประเทศจะมี และถึงแม้ว่าจะมีแร่ แต่ก็มีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่เทคโนโลยีอยู่ในระดับที่สามารถขุดออกมาแปรรูปเป็นสินค้าและคุ้มค่าในการลงทุน สหรัฐทำไม่ได้แน่นอน ซึ่งรวมทั้งยูเครนด้วย เพราะสภาพเศรษฐกิจของยูเครนยังไม่พร้อมกับเทคโนโลยีในการขุดแร่เหล่านั้น ทรัมป์รู้ดีถึงข้อเสียเปรียบตรงนี้ และนี่เป็นที่มาของเจดี แวนซ์ ในการยั่วยุเซเลนสกี - เมื่อเซเลนสกีเองก็ไม่ได้อยากลงนามในข้อตกลง ทรัมป์ก็ไม่อยากลงนามเช่นกัน คนที่อยากจะสร้างผลงาน มีคนเดียวคือ "รูบิโอ" ต้องกลายเป็นหมากของทั้งสองฝ่ายไปอย่างไม่เต็มใจนัก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เริ่มดำเนินการกับเซเลนสกีหลังจากไล่เขาออกจากทำเนียบขาว

    หลังจากทะเลาะกับเซเลนสกี ทรัมป์สั่งให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติตรวจสอบว่าวอชิงตันสามารถหยุดส่งอาวุธให้ยูเครนได้ทั้งหมดหรือชั่วคราวหรือไม่

    มีรายงานว่าประธานาธิบดีสหรัฐกำลังวางแผนที่จะสังเกตการกระทำต่อไปของเซเลนสกี

    ทรัมป์ไม่สนใจที่จะฟื้นข้อตกลงแร่ธาตุกับยูเครนอีกต่อไป หลังจากที่เซเลนสกีแสดงความไม่เคารพต่อสหรัฐ

    ทรัมป์จะเปิดการสอบสวนเงินช่วยเหลือหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐมอบให้กับยูเครนที่หายไป

    - WSJ
    ทรัมป์เริ่มดำเนินการกับเซเลนสกีหลังจากไล่เขาออกจากทำเนียบขาว หลังจากทะเลาะกับเซเลนสกี ทรัมป์สั่งให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติตรวจสอบว่าวอชิงตันสามารถหยุดส่งอาวุธให้ยูเครนได้ทั้งหมดหรือชั่วคราวหรือไม่ มีรายงานว่าประธานาธิบดีสหรัฐกำลังวางแผนที่จะสังเกตการกระทำต่อไปของเซเลนสกี ทรัมป์ไม่สนใจที่จะฟื้นข้อตกลงแร่ธาตุกับยูเครนอีกต่อไป หลังจากที่เซเลนสกีแสดงความไม่เคารพต่อสหรัฐ ทรัมป์จะเปิดการสอบสวนเงินช่วยเหลือหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐมอบให้กับยูเครนที่หายไป - WSJ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามที่อยู่บนผลประโยชน์

    สหรัฐและยุโรปภายใต้การนำของไบเดน ยุยงให้ยูเครนที่นำโดยเซเลนสกีเข้านาโต้ เพื่อยั่วยุรัสเซียก่อสงคราม เป้าหมายคือการฉุดรั้งระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมทหารของรัสเซียที่รุดหน้าอย่างรวดเร็วเกินไป

    แต่กลายเป็นว่า ทั้งสหรัฐและยุโรปต่างก็ติดหล่มสงครามจนถอนตัวไม่ขึ้น เศรษฐกิจเสียหาย ต้องส่งทั้งเงินและอาวุธเพื่อช่วยเหลือยูเครนตลอด ซึ่งเกิดจากความประมาท คิดว่ารัสเซียอ่อนแอ

    มาถึงยุคของทรัมป์ก้าวขึ้นสู่อำนาจ มองเห็นแล้วว่าขืนสหรัฐดำเนินนโยบายแบบนี้ต่อไป ฝ่ายที่พังคือสหรัฐเอง ทรัมป์เลยต้องการเจรจาสงบศึก ซึ่งคุยกับปูตินไปบ้างแล้ว ทางนั้นตอบรับพร้อมเจรจา ขณะเดียวกันทรัมป์เองก็ต้องการทวงเงินที่ช่วยเหลือยูเครนคืน ซึ่งทรัมป์ตีตัวเลขกลมๆที่ 350,000 ล้านดอลลาร์ โดยผ่านการแบ่งผลประโยชน์แร่หายาก 50\50 กับยูเครน

    "เหตุการณ์โต้เถียงในทำเนียบขาว อาจจะเป็นแผนของเซเลนสกีที่ไม่อยากลงนามข้อตกลงแร่หายากกับสหรัฐก็อาจเป็นได้"

    เนื่องจากที่ผ่านมาเซเลนสกี้ไม่มีท่าทียอมเงื่อนไขของตนเองที่ยื่นให้ทรัมป์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สหรัฐยอมรับไม่ได้ นั่นคือรับประกันความปลอดภัยให้ยูเครน และเปิดทางให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ จากแหล่งข่าว สาเหตุที่เซเลนสกีเรียกร้องมากมายขนาดนี้ เนื่องจากเขาแอบยกแร่ธาตุของยูเครนไปให้อังกฤษแล้ว ตั้งแต่ที่สตาร์มเมอร์เดินทางมายูเครน ก่อนจะมีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์เพียง 4 วัน

    การมาครั้งนั้นของนายกอังกฤษเป็นการเซ็นต์สัญญาพันธมิตร 100 ปี ซึ่งรวมถึงทรัพยากรแร่ธาตุที่อยู่ในข้อตกลงด้วย อังกฤษก็ต้องการถอนทุนคืนเหมือนกัน หลังช่วยยูเครนไปแล้วหลายหมื่นล้านปอนด์จากการมีส่วนยุยงเซเลนสกีเข้าสู่สงครามกับรัสเซีย

    ทางด้านฝรั่งเศส ก็อยากจะถอนทุน เลยประกาศพร้อมส่งทหาร 30,000 นายร่วมกันกับอังกฤษไปยังยูเครน โดยอ้างว่าเพื่อรับรองความมั่นคงให้ยูเครนหลังข้อตกลงหยุดยิงระหว่างยูเครนกับรัสเซียสำเร็จลุล่วง

    ขณะที่สตาร์มเมอร์เยือนสหรัฐเมื่อวันก่อน เขายืนยันพร้อมส่งกองกำลังทั้งทางบกและอากาศเข้าสู่ยูเครน ความจริงแล้วทหารอังกฤษกับทหารฝรั่งเศสแค่จะไปดูแลรักษาผลประโยชน์แหล่งแร่ธาตุของพวกเขาต่างหาก เพื่อป้องกันไม่ให้ยูเครนเบี้ยวหนี้

    เมื่อปี 2024 สว.ลินด์เซย์ แกรม จากพรรครีพับรีกัน เคยกล่าวว่า การที่สหรัฐช่วยยูเครนรบเพราะก็อยากได้ทรัพยาการธรรมชาติของยูเครนมูลค่า 12-13 ล้านล้านดอลล่าห์สหรัฐ ซึ่งควรตกเป็นสมบัติของอเมริกา ไม่ใช่ให้มีแค่รัสเซียหรือจีนเท่านั้นที่ควรได้มันไป

    หรือแม้แต่รัสเซียเองก็ตามที คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ลึกๆแล้วมีผลประโยชน์เกี่ยวกับแร่หายากเข้ารมาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน


    สงครามที่อยู่บนผลประโยชน์ สหรัฐและยุโรปภายใต้การนำของไบเดน ยุยงให้ยูเครนที่นำโดยเซเลนสกีเข้านาโต้ เพื่อยั่วยุรัสเซียก่อสงคราม เป้าหมายคือการฉุดรั้งระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมทหารของรัสเซียที่รุดหน้าอย่างรวดเร็วเกินไป แต่กลายเป็นว่า ทั้งสหรัฐและยุโรปต่างก็ติดหล่มสงครามจนถอนตัวไม่ขึ้น เศรษฐกิจเสียหาย ต้องส่งทั้งเงินและอาวุธเพื่อช่วยเหลือยูเครนตลอด ซึ่งเกิดจากความประมาท คิดว่ารัสเซียอ่อนแอ มาถึงยุคของทรัมป์ก้าวขึ้นสู่อำนาจ มองเห็นแล้วว่าขืนสหรัฐดำเนินนโยบายแบบนี้ต่อไป ฝ่ายที่พังคือสหรัฐเอง ทรัมป์เลยต้องการเจรจาสงบศึก ซึ่งคุยกับปูตินไปบ้างแล้ว ทางนั้นตอบรับพร้อมเจรจา ขณะเดียวกันทรัมป์เองก็ต้องการทวงเงินที่ช่วยเหลือยูเครนคืน ซึ่งทรัมป์ตีตัวเลขกลมๆที่ 350,000 ล้านดอลลาร์ โดยผ่านการแบ่งผลประโยชน์แร่หายาก 50\50 กับยูเครน "เหตุการณ์โต้เถียงในทำเนียบขาว อาจจะเป็นแผนของเซเลนสกีที่ไม่อยากลงนามข้อตกลงแร่หายากกับสหรัฐก็อาจเป็นได้" เนื่องจากที่ผ่านมาเซเลนสกี้ไม่มีท่าทียอมเงื่อนไขของตนเองที่ยื่นให้ทรัมป์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สหรัฐยอมรับไม่ได้ นั่นคือรับประกันความปลอดภัยให้ยูเครน และเปิดทางให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ จากแหล่งข่าว สาเหตุที่เซเลนสกีเรียกร้องมากมายขนาดนี้ เนื่องจากเขาแอบยกแร่ธาตุของยูเครนไปให้อังกฤษแล้ว ตั้งแต่ที่สตาร์มเมอร์เดินทางมายูเครน ก่อนจะมีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์เพียง 4 วัน การมาครั้งนั้นของนายกอังกฤษเป็นการเซ็นต์สัญญาพันธมิตร 100 ปี ซึ่งรวมถึงทรัพยากรแร่ธาตุที่อยู่ในข้อตกลงด้วย อังกฤษก็ต้องการถอนทุนคืนเหมือนกัน หลังช่วยยูเครนไปแล้วหลายหมื่นล้านปอนด์จากการมีส่วนยุยงเซเลนสกีเข้าสู่สงครามกับรัสเซีย ทางด้านฝรั่งเศส ก็อยากจะถอนทุน เลยประกาศพร้อมส่งทหาร 30,000 นายร่วมกันกับอังกฤษไปยังยูเครน โดยอ้างว่าเพื่อรับรองความมั่นคงให้ยูเครนหลังข้อตกลงหยุดยิงระหว่างยูเครนกับรัสเซียสำเร็จลุล่วง ขณะที่สตาร์มเมอร์เยือนสหรัฐเมื่อวันก่อน เขายืนยันพร้อมส่งกองกำลังทั้งทางบกและอากาศเข้าสู่ยูเครน ความจริงแล้วทหารอังกฤษกับทหารฝรั่งเศสแค่จะไปดูแลรักษาผลประโยชน์แหล่งแร่ธาตุของพวกเขาต่างหาก เพื่อป้องกันไม่ให้ยูเครนเบี้ยวหนี้ เมื่อปี 2024 สว.ลินด์เซย์ แกรม จากพรรครีพับรีกัน เคยกล่าวว่า การที่สหรัฐช่วยยูเครนรบเพราะก็อยากได้ทรัพยาการธรรมชาติของยูเครนมูลค่า 12-13 ล้านล้านดอลล่าห์สหรัฐ ซึ่งควรตกเป็นสมบัติของอเมริกา ไม่ใช่ให้มีแค่รัสเซียหรือจีนเท่านั้นที่ควรได้มันไป หรือแม้แต่รัสเซียเองก็ตามที คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ลึกๆแล้วมีผลประโยชน์เกี่ยวกับแร่หายากเข้ารมาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • การหารือระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนจบลงแบบ "หายนะ" โดยปราศจากการลงนามข้อตกลงแร่ธาตุในวันศุกร์ (28 ก.พ.) หลังผู้นำทั้งสองเกิดปะทะคารมกันอย่างรุนแรงต่อหน้าสื่อมวลชน โดย เซเลนสกี ตั้งคำถามเรื่องที่ ทรัมป์ เอนเอียงเข้าข้างรัสเซีย ขณะที่ ทรัมป์ ก็ชี้ว่าผู้นำยูเครน "ไม่เคารพ" อเมริกาและกำลังเดิมพันด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 พร้อมยื่นคำขาดหากยูเครนไม่รับข้อตกลง สหรัฐฯ ก็จะ "ไม่เอาด้วย" อีกต่อไป
    .
    การไปเยือนสหรัฐฯ ของ เซเลนสกี ในครั้งนี้เดิมมีเป้าหมายเพื่อเกลี้ยกล่อมสหรัฐฯ ไม่ให้หันไปเข้าข้างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นคนออกคำสั่งส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน
    .
    อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า เซเลนสกี มีมุมมองเห็นต่างอย่างรุนแรงกับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ เกี่ยวกับสงครามครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ กำลังบั่นทอนการสนับสนุนที่ตะวันตกมีต่อเคียฟมากขนาดไหน
    .
    แวนซ์ ย้ำถึงความจำเป็นในการใช้การทูตคลี่คลายความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ เซเลนสกี แย้งว่า ปูติน "เชื่อถือไม่ได้" ไม่ว่าจะในการเจรจาใดๆ ก็ตาม
    .
    ทรัมป์ รีบโพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ทันทีว่า เซเลนสกี ไม่ให้ความเคารพสหรัฐอเมริกา
    .
    "ผมคิดว่าประธานาธิบดี เซเลนสกียังไม่พร้อมสำหรับสันติภาพที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วม" ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว "เขาสามารถกลับมาใหม่ได้ เมื่อเขาพร้อมที่จะยอมรับสันติภาพ"
    .
    เซเลนสกี เดินทางออกจากทำเนียบขาวก่อนกำหนดหลังจากที่ปะทะคารมกับ ทรัมป์ และ แวนซ์ โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมพัฒนาแหล่งแร่ธาตุในยูเครนอย่างที่ตั้งใจไว้
    .
    การทะเลาะกันออกสื่อครั้งนี้ยังส่งผลเสียต่อความพยายามของพวกผู้ยุโรปที่หวังกล่อม ทรัมป์ ให้ยอมมอบการค้ำประกันความมั่นคงแก่ยูเครน แม้ว่า ทรัมป์ จะยืนกรานไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าไปในยูเครนอย่างแน่นอนก็ตาม
    .
    การการันตีความมั่นคงจากสหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะป้องปรามรัสเซียไม่ให้กล้ารุกรานยูเครนซ้ำอีก
    .
    "ผู้คนกำลังล้มตายมากขึ้นเรื่อยๆ คุณเองก็เหลือทหารน้อยลงทุกที" ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ระหว่างการสนทนาที่ห้องทำงานรูปไข่ พร้อมข่มขู่ว่าสหรัฐฯ อาจตัดสินใจถอนการสนับสนุนยูเครน
    .
    "คุณต้องเลือกว่าจะยอมทำข้อตกลง ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่เอาด้วย และหากเราถอนตัว คุณก็ต้องสู้ด้วยตัวเอง ซึ่งผมไม่คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาดี" ทรัมป์ กล่าว
    .
    "คุณไม่ได้อยู่ในสถานะที่ดีนัก ตอนนี้คุณไม่มีไพ่ต่อรองแล้ว แต่เพราะมีเรา คุณถึงมีไพ่ต่อรองขึ้นมาได้" ทรัมป์ กล่าว
    .
    "ผมไม่ได้เล่นไพ่ ผมจริงจังมากท่านประธานาธิบดี" เซเลนสกี ตอบ ก่อนจะถูก ทรัมป์ กระทุ้งต่อว่า "คุณกำลังเล่นไพ่ คุณเอาชีวิตผู้คนนับล้านๆ มาเป็นเดิมพัน คุณกำลังเดิมพันกับสงครามโลกครั้งที่ 3"
    .
    "ถ้าหากเราลงนามข้อตกลงกัน คุณก็จะมีสถานะเข้มแข็งขึ้น แต่นี่คุณทำเหมือนไม่สำนึกบุญคุณเราเลยสักนิด และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี ผมบอกตรงๆ นะ มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย"
    .
    ด้าน เซเลนสกี ก็กล่าววาจาท้าทาย ทรัมป์ เรื่องที่เขาอ่อนข้อให้กับ ปูติน และเรียกร้องผู้นำสหรัฐฯ ว่า "อย่ายอมประนีประนอมกับฆาตกร" ขณะที่ ทรัมป์ ย้ำว่า ปูติน ต้องการบรรลุข้อตกลง
    .
    แวนซ์ กล่าวสำทับว่า การที่ เซเลนสกี เดินทางมาที่ห้องทำงานรูปไข่เพื่อยืนกระต่ายขาเดียวกับจุดยืนของตนเองนั้นเป็นการไม่เคารพสหรัฐฯ ซึ่ง ทรัมป์ เองก็เห็นด้วยในประเด็นนี้
    .
    "คุณไม่พูดขอบคุณเลยสักคำ" แวนซ์ กล่าว ซึ่งทำให้ เซเลนสกี ขึ้นเสียงตอบโต้ทันทีว่า "ผมพูดไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งว่าขอบคุณชาวอเมริกัน"
    .
    เซเลนสกี เคยได้รับขวัญกำลังใจและความช่วยเหลือด้านอาวุธนับหมื่นๆ ล้านดอลลาร์จากอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการต่อสู้กับรัสเซีย ทว่าตอนนี้เขากลับต้องเผชิญจุดยืนที่แตกต่างแบบพลิกขั้วของ ทรัมป์ ซึ่งต้องการปิดฉากสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 3 ปี นำสหรัฐฯ กลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึง "ทวงคืน" เงินบางส่วนที่เคยช่วยเหลือยูเครนไปด้วย
    .
    "ผมหวังว่าผมคงจะได้รับการจดจำในฐานะผู้สร้างสันติภาพ" ทรัมป์ กล่าว
    .
    ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ว่าทหารยูเครนสู้รบด้วยความกล้าหาญอย่างไม่น่าเชื่อ และสหรัฐฯ ต้องการเห็นสงครามจบลง เพื่อนำเงินงบประมาณไปใช้ในด้านอื่นๆ เช่น การฟื้นฟู เป็นต้น
    .
    บรรดาผู้นำชาติยุโรปต่างลุกขึ้นปกป้อง เซเลนสกี เป็นแถว โดย ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกมาระบุว่า "เราต้องไม่สับสนว่าใครคือผู้รุกรานและใครคือเหยื่อในสงครามเลวร้ายครั้งนี้" ขณะที่นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ แห่งสเปน ระบุว่า "ยูเครน สเปนยืนเคียงข้างคุณ" นอกจากนี้ เซเลนสกี ยังได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส, มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต และ อันโตนิโอ กอสตา ประธานสภายุโรป
    .
    ร่างข้อตกลงที่ทั้งฝ่ายเห็นพ้องกันเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจะเปิดทางให้สหรัฐอเมริกาเข้าถึงทรัพยากรแร่ธาตุที่ยูเครนมีอยู่มากมาย แต่ไม่ได้กำหนดให้สหรัฐฯ ต้องมอบการค้ำประกันความมั่นคงใดๆ ต่อเคียฟ โดย ทรัมป์ นั้นอ้างว่าการมีภาคธุรกิจอเมริกันอยู่ก็ถือเป็นการการันตีความปลอดภัยรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว
    .
    ข้อตกลงนี้จะมีมูลค่าเท่าไหร่สำหรับสหรัฐฯ ไม่มีการเผยตัวเลขที่ชัดเจน แต่ ทรัมป์ เคยคุยว่าสหรัฐฯ จะสามารถสร้างรายได้หลายแสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ เซเลนสกี ยืนยันว่า เขาจะไม่ลงนามข้อตกลงใดๆ ที่ทำใก้ชาวยูเครนต้องเป็นหนี้ไปอีกหลายชั่วอายุคน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020038
    ..............
    Sondhi X
    การหารือระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนจบลงแบบ "หายนะ" โดยปราศจากการลงนามข้อตกลงแร่ธาตุในวันศุกร์ (28 ก.พ.) หลังผู้นำทั้งสองเกิดปะทะคารมกันอย่างรุนแรงต่อหน้าสื่อมวลชน โดย เซเลนสกี ตั้งคำถามเรื่องที่ ทรัมป์ เอนเอียงเข้าข้างรัสเซีย ขณะที่ ทรัมป์ ก็ชี้ว่าผู้นำยูเครน "ไม่เคารพ" อเมริกาและกำลังเดิมพันด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 พร้อมยื่นคำขาดหากยูเครนไม่รับข้อตกลง สหรัฐฯ ก็จะ "ไม่เอาด้วย" อีกต่อไป . การไปเยือนสหรัฐฯ ของ เซเลนสกี ในครั้งนี้เดิมมีเป้าหมายเพื่อเกลี้ยกล่อมสหรัฐฯ ไม่ให้หันไปเข้าข้างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นคนออกคำสั่งส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน . อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า เซเลนสกี มีมุมมองเห็นต่างอย่างรุนแรงกับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ เกี่ยวกับสงครามครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ กำลังบั่นทอนการสนับสนุนที่ตะวันตกมีต่อเคียฟมากขนาดไหน . แวนซ์ ย้ำถึงความจำเป็นในการใช้การทูตคลี่คลายความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ เซเลนสกี แย้งว่า ปูติน "เชื่อถือไม่ได้" ไม่ว่าจะในการเจรจาใดๆ ก็ตาม . ทรัมป์ รีบโพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ทันทีว่า เซเลนสกี ไม่ให้ความเคารพสหรัฐอเมริกา . "ผมคิดว่าประธานาธิบดี เซเลนสกียังไม่พร้อมสำหรับสันติภาพที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วม" ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว "เขาสามารถกลับมาใหม่ได้ เมื่อเขาพร้อมที่จะยอมรับสันติภาพ" . เซเลนสกี เดินทางออกจากทำเนียบขาวก่อนกำหนดหลังจากที่ปะทะคารมกับ ทรัมป์ และ แวนซ์ โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมพัฒนาแหล่งแร่ธาตุในยูเครนอย่างที่ตั้งใจไว้ . การทะเลาะกันออกสื่อครั้งนี้ยังส่งผลเสียต่อความพยายามของพวกผู้ยุโรปที่หวังกล่อม ทรัมป์ ให้ยอมมอบการค้ำประกันความมั่นคงแก่ยูเครน แม้ว่า ทรัมป์ จะยืนกรานไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าไปในยูเครนอย่างแน่นอนก็ตาม . การการันตีความมั่นคงจากสหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะป้องปรามรัสเซียไม่ให้กล้ารุกรานยูเครนซ้ำอีก . "ผู้คนกำลังล้มตายมากขึ้นเรื่อยๆ คุณเองก็เหลือทหารน้อยลงทุกที" ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ระหว่างการสนทนาที่ห้องทำงานรูปไข่ พร้อมข่มขู่ว่าสหรัฐฯ อาจตัดสินใจถอนการสนับสนุนยูเครน . "คุณต้องเลือกว่าจะยอมทำข้อตกลง ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่เอาด้วย และหากเราถอนตัว คุณก็ต้องสู้ด้วยตัวเอง ซึ่งผมไม่คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาดี" ทรัมป์ กล่าว . "คุณไม่ได้อยู่ในสถานะที่ดีนัก ตอนนี้คุณไม่มีไพ่ต่อรองแล้ว แต่เพราะมีเรา คุณถึงมีไพ่ต่อรองขึ้นมาได้" ทรัมป์ กล่าว . "ผมไม่ได้เล่นไพ่ ผมจริงจังมากท่านประธานาธิบดี" เซเลนสกี ตอบ ก่อนจะถูก ทรัมป์ กระทุ้งต่อว่า "คุณกำลังเล่นไพ่ คุณเอาชีวิตผู้คนนับล้านๆ มาเป็นเดิมพัน คุณกำลังเดิมพันกับสงครามโลกครั้งที่ 3" . "ถ้าหากเราลงนามข้อตกลงกัน คุณก็จะมีสถานะเข้มแข็งขึ้น แต่นี่คุณทำเหมือนไม่สำนึกบุญคุณเราเลยสักนิด และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี ผมบอกตรงๆ นะ มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย" . ด้าน เซเลนสกี ก็กล่าววาจาท้าทาย ทรัมป์ เรื่องที่เขาอ่อนข้อให้กับ ปูติน และเรียกร้องผู้นำสหรัฐฯ ว่า "อย่ายอมประนีประนอมกับฆาตกร" ขณะที่ ทรัมป์ ย้ำว่า ปูติน ต้องการบรรลุข้อตกลง . แวนซ์ กล่าวสำทับว่า การที่ เซเลนสกี เดินทางมาที่ห้องทำงานรูปไข่เพื่อยืนกระต่ายขาเดียวกับจุดยืนของตนเองนั้นเป็นการไม่เคารพสหรัฐฯ ซึ่ง ทรัมป์ เองก็เห็นด้วยในประเด็นนี้ . "คุณไม่พูดขอบคุณเลยสักคำ" แวนซ์ กล่าว ซึ่งทำให้ เซเลนสกี ขึ้นเสียงตอบโต้ทันทีว่า "ผมพูดไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งว่าขอบคุณชาวอเมริกัน" . เซเลนสกี เคยได้รับขวัญกำลังใจและความช่วยเหลือด้านอาวุธนับหมื่นๆ ล้านดอลลาร์จากอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการต่อสู้กับรัสเซีย ทว่าตอนนี้เขากลับต้องเผชิญจุดยืนที่แตกต่างแบบพลิกขั้วของ ทรัมป์ ซึ่งต้องการปิดฉากสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 3 ปี นำสหรัฐฯ กลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึง "ทวงคืน" เงินบางส่วนที่เคยช่วยเหลือยูเครนไปด้วย . "ผมหวังว่าผมคงจะได้รับการจดจำในฐานะผู้สร้างสันติภาพ" ทรัมป์ กล่าว . ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ว่าทหารยูเครนสู้รบด้วยความกล้าหาญอย่างไม่น่าเชื่อ และสหรัฐฯ ต้องการเห็นสงครามจบลง เพื่อนำเงินงบประมาณไปใช้ในด้านอื่นๆ เช่น การฟื้นฟู เป็นต้น . บรรดาผู้นำชาติยุโรปต่างลุกขึ้นปกป้อง เซเลนสกี เป็นแถว โดย ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกมาระบุว่า "เราต้องไม่สับสนว่าใครคือผู้รุกรานและใครคือเหยื่อในสงครามเลวร้ายครั้งนี้" ขณะที่นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ แห่งสเปน ระบุว่า "ยูเครน สเปนยืนเคียงข้างคุณ" นอกจากนี้ เซเลนสกี ยังได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส, มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต และ อันโตนิโอ กอสตา ประธานสภายุโรป . ร่างข้อตกลงที่ทั้งฝ่ายเห็นพ้องกันเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจะเปิดทางให้สหรัฐอเมริกาเข้าถึงทรัพยากรแร่ธาตุที่ยูเครนมีอยู่มากมาย แต่ไม่ได้กำหนดให้สหรัฐฯ ต้องมอบการค้ำประกันความมั่นคงใดๆ ต่อเคียฟ โดย ทรัมป์ นั้นอ้างว่าการมีภาคธุรกิจอเมริกันอยู่ก็ถือเป็นการการันตีความปลอดภัยรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว . ข้อตกลงนี้จะมีมูลค่าเท่าไหร่สำหรับสหรัฐฯ ไม่มีการเผยตัวเลขที่ชัดเจน แต่ ทรัมป์ เคยคุยว่าสหรัฐฯ จะสามารถสร้างรายได้หลายแสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ เซเลนสกี ยืนยันว่า เขาจะไม่ลงนามข้อตกลงใดๆ ที่ทำใก้ชาวยูเครนต้องเป็นหนี้ไปอีกหลายชั่วอายุคน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020038 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    21
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1568 มุมมอง 0 รีวิว
  • แจ้งข่าวต่างประเทศสั้นๆ 01/03/2025

    1. ล่าสุดไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ในการไปเยือนสหรัฐของเซเลนสกีเพื่อลงนามในดีลแร่ธาตุธรรมชาติฯ เกิดการโต้เถียงระหว่างเซเลนสกี กับแวนซ์รองประธานาธิบดีฯและลุงทรัมป์ในห้องรูปไข่ แล้วลงเอยด้วยเซเลนสกีถูกลุงทรัมป์เอ็ดต่อหน้ากองทัพสื่อฯจนนั่งหน้าจ๋อย ..... โดนเอ็ด โดนชักสีหน้าใส่แบบไม่เหลือเกียรติศักดิ์ศรีของผู้นำประเทศ ประเทศนึงเลย (คลิปอยู่ในเม้นความยาวสิบนาที ดูเถอะ ดูบรรยากาศความเดือดก็น่าจะพอเห็นอะไรบ้างแล้ว)
    .
    เรื่องใหญ่แบบนี้เดี๋ยวสื่อบ้านเราคงรายงานแบบถอดเทปกัน ถ้าไม่รายงานเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ก็น่าเกลียดเกิน แต่จะสรุปใจความสั้นๆให้ว่า เซเลนสกีถูกลุงทรัมป์และแวนซ์ตำหนิต่อหน้าต่อตาแบบไม่ให้ราคาเลยว่า ...... "ไม่ได้รู้สึกขอบคุณสหรัฐ" "disrespectful" "attitude ของเซเลนสกีมีปัญหา" "เอาคนไปตุยทำบ้านเมืองเสียหายเพราะความเกลียดปูติน(เป็นการส่วนตัว)" "เซเลนสกีเอาโลกไปเสี่ยงต่อการเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม" "เซเลนสกีไม่มีอำนาจที่จะต่อรองอะไรได้เลย ไม่อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไร(แต่ชอบทำเรื่องเยอะ)" "ถ้าสหรัฐหยุดความช่วยเหลือวันนี้ยูเครนจะเสร็จรัสเซียในเวลารวดเร็ว" "การหยุดยิง สันติภาพไม่เกิดขึ้นก็เพราะเซเลนสกีเรื่องเยอะ" "ยังไม่ทันไร ยังไม่เริ่มคุย ไอนั่นก็ไม่เอาไอนี่ก็ไม่เอา" ฯลฯ
    .
    2. จากข้อ1 ...... ลุงทรัมป์เลยเปลี่ยนใจไม่ลงนามในดีลแร่ธาตุธรรมชาติฯกับเซเลนสกีแล้ว โดยบอกว่า
    เซเลนสกีไม่พร้อมสำหรับสันติภาพตราบใดที่มีสหรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง แล้วประชดด้วยว่าเซเลนสกีรู้สึกว่าการมีส่วนร่วมของสหรัฐจะทำให้เค้าได้เปรียบอย่างมากในการเจรจาฯ ลุงทรัมป์ไม่ได้ต้องการความได้เปรียบแต่ต้องการสันติภาพ
    เซเลนสกีแสดงความไม่เคารพสหรัฐในห้องรูปไข่ (ห้องทำงานของประธานาธิบดีฯ สัญลักษณ์แห่งอำนาจของสหรัฐ) เอาไว้เซเลนสกีพร้อมสำหรับสันติภาพแล้วค่อยกลับมา
    และได้ทำการยกเลิกการแถลงข่าวร่วมฯของผู้นำสั้งสอง
    ..... แล้วก็มีรายงานข่าวว่า เซเลนสกีถูกเชิญออกจากทำเนียบขาวแบบไม่ให้เกียรติ ..... ถ้าเป็นเรื่องจริง นั่นผู้นำประเทศหนึ่งนะ ไม่เหลือทรงเลย เฮ้อออออ เห็นใจชาวยูเครนจริงๆ 🥹🥹
    .
    นั่นแหละครับ เซเลนสกีไม่มีอานาจ ไม่มีอะไรที่จะเอาไปต่อรองได้เลย
    นอกจากชีวิตของชาวยูเครนแล้วก็ไม่ได้มีต้นทุนสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการทำสงครามเลย ทุกอย่างต้องขอชาวบ้านมาตลอดสามปี ตลอดสามปีที่ผ่านมาเคยเห็นเค้าหยุดเดินสายขอชาวบ้านมั้ย?
    จะทำสงครามต่อไปได้แค่ไหนก็ต้องอาศัยความเมตตาจากประเทศอื่น
    แต่ก็ยังจะลากประเทศเข้าสู่สงครามที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตั้งแต่แรก สงครามเกิดแล้วก็ยังสามารถยุติได้ตั้งแต่ต้นๆ แต่ก็ไม่เอาอีก
    .
    ผ่านมาสามปี วันนี้ประเทศผู้สนับสนุนหลักที่เคยเมตตา เค้าไม่เมตตาเหมือนเดิมบอกให้หยุดสู้รบได้แล้ว ถ้าไม่หยุดก็ไปหาทางทำสงครามต่อเอาเอง แล้วจะไปยังไงต่อ?
    ผู้คนก็ตุยไปแล้ว ดินแดนก็เสียไปแล้ว จะทำสงครามต่อก็ไม่มีปัญญารบได้ด้วยตัวเอง แถมล่าสุดก็ไปโดนสหรัฐฉีกหน้าต่อหน้าโลกซะขนาดนั้น ...... แต่ส่วนตัวเชื่อว่ายังไงเซเลนสกีก็ต้องเดินตัวลีบๆไปขอร้องให้เค้าช่วยอยู่ดี
    เฮ้ออออ ถึงได้บอกว่า คนนี้เค้าเหมือนเด็กอมมือบทเวทีโลก
    ก่อนสงครามไปจนถึงช่วงต้นของสงคราม อำนาจต่อรองอยู่ที่เซเลนสกี แต่เค้าไม่ยอมเจรจาฯเอง ..... พอตอนนี้ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรแล้ว กลับมางอแงจะมีส่วนร่วมในการเจรจาฯ
    .
    ส่วนทางทรัมป์กับแวนซ์ เค้าเคยบอกว่าไม่ได้จะไปเอาเงื่อนไขของรัสเซียมาบังคับให้ยูเครนยอมรับ แต่ต้องการไปคุยกับรัสเซียก่อน แล้วค่อยมาคุยกับเซเลนสกี จะรับไม่รับ ทั้งสองฝ่ายค่อยมาต่อรองอีกที
    ก็เพราะเซเลนสกีเป็นแบบนี้แหละ ยังไม่ทันไรก็ตั้งเงื่อนไขเว่อร์ๆผ่านสื่อฯไว้ก่อน ไปเอาเซเลนสกีเข้ามาตั้งแต่แรก การเจรจายุติสงครามฯก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้
    (หนึ่งในตัวอย่างของความเว่อร์เซเลนสกีที่เคยพูดไว้ สงครามจะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียคืนดินแดนทั้งหมด ปลดอาวุธนิวเคลียร์ ลดขนาดกองทัพ และ ลดความสามารถทางทหารของตัวเอง ..... เอาแค่ข้อไหนข้อเดียวก็เป็นไปไม่ได้แล้ว)
    .
    ที่สำคัญ ลุงทรัมป์เค้าชัดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า เค้าอยู่ในฐานะตัวกลางที่จะยึดเอาตามสถานการณ์จริงในพื้นที่สู้รบ
    มันไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของลุงทรัมป์ที่ต้องไปทวงดินแดนที่เสียไปคืนให้ยูเครน (ที่เซเลนสกีงอแงมีปัญหาก็เพราะตรงนี้แหละ)
    ทางยูเครนเองก็ไม่ได้มีต้นทุนสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการทำสงครามเลย ยิ่งไม่มีทางที่จะเอาชนะรัสเซียยึดดินแดนที่เสียไปคืนมาได้อยู่แล้ว
    ..... หยุดซะตอนนี้เลยดีกว่า ยูเครนจะเสียน้อยกว่าปล่อยให้สงครามยืดเยื้อออกไป เป็นการดีต่อชาวยูเครนเอง
    .
    3. ต้นเดือนที่ผ่านมา สหรัฐประสบความสำเร็จในการใช้อาวุธแสงเลเซอร์ "HELIOS" ที่ติดตั้งบนเรือรบสอยโดรนลงได้ ..... มีข่าวออกมาสองทาง ทางหนึ่งบอกว่าเป็นการทดสอบ ส่วนอีกทางบอกว่าสอยโดรนของฮูตีลงมาได้
    แต่ไม่ว่าอย่างไร เชื่อว่าในตอนนี้อาวุธแสงเลเซอร์ "HELIOS" ของสหรัฐสามารถนำมาใช้จริงในสนามรบได้แล้ว
    .
    4. มีข่าวว่าสหรัฐจะปิดคลังอาวุธลับในกรีซ ซึ่งเป็นคลังที่เก็บอาวุธเพื่อส่งเข้าไปในยูเครน
    .
    5. เมื่อวานนี้ เกาหลีใต้ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในส่วนที่เกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้ว
    .
    6. นครนิวยอร์คเก็บค่า Congestion Charge จากรถยนต์ชนิดต่างๆในการเข้าเขตเศรษฐกิจที่มีการจราจรหนาแน่นในแมนแฮทตันในเดือนแรกได้เกือบ 50 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 1.7 พันล้านบาท
    (Congestion Charge คือค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นมากๆ ส่วนใหญ่ก็จะเรียกเก็บกันในเวลากลางวันหรือในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อจูงใจให้ผู้คนหันไปใช้บริการขนส่งสาธารณะ เพื่อลดความหนาแน่นของรถยนต์ในพื้นที่นั้นๆ ..... เห็นผ่านๆตาว่าบ้านเราก็กำลังมีแนวคิดที่จะทำอยู่)
    .
    ภาพประกอบ ..... เรื่องวุ่นๆของวัยรุ่นทำเนียบขาว 🥹🥹

    ***เช่นเคย ขอความร่วมมืออย่าโยงมาการเมืองและนักการเมืองบ้านเรากันนะครับ ...... ถ้าทนไม่ไหวแนะนำให้แชร์ไปด่าที่กลุ่มหรือที่เฟสตัวเองครับ*** CR. https://www.facebook.com/share/1X94bYrs7p/?mibextid=wwXIfr ซิริอุส เป็นเรื่องของดวงดาว
    แจ้งข่าวต่างประเทศสั้นๆ 01/03/2025 1. ล่าสุดไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ในการไปเยือนสหรัฐของเซเลนสกีเพื่อลงนามในดีลแร่ธาตุธรรมชาติฯ เกิดการโต้เถียงระหว่างเซเลนสกี กับแวนซ์รองประธานาธิบดีฯและลุงทรัมป์ในห้องรูปไข่ แล้วลงเอยด้วยเซเลนสกีถูกลุงทรัมป์เอ็ดต่อหน้ากองทัพสื่อฯจนนั่งหน้าจ๋อย ..... โดนเอ็ด โดนชักสีหน้าใส่แบบไม่เหลือเกียรติศักดิ์ศรีของผู้นำประเทศ ประเทศนึงเลย (คลิปอยู่ในเม้นความยาวสิบนาที ดูเถอะ ดูบรรยากาศความเดือดก็น่าจะพอเห็นอะไรบ้างแล้ว) . เรื่องใหญ่แบบนี้เดี๋ยวสื่อบ้านเราคงรายงานแบบถอดเทปกัน ถ้าไม่รายงานเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ก็น่าเกลียดเกิน แต่จะสรุปใจความสั้นๆให้ว่า เซเลนสกีถูกลุงทรัมป์และแวนซ์ตำหนิต่อหน้าต่อตาแบบไม่ให้ราคาเลยว่า ...... "ไม่ได้รู้สึกขอบคุณสหรัฐ" "disrespectful" "attitude ของเซเลนสกีมีปัญหา" "เอาคนไปตุยทำบ้านเมืองเสียหายเพราะความเกลียดปูติน(เป็นการส่วนตัว)" "เซเลนสกีเอาโลกไปเสี่ยงต่อการเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม" "เซเลนสกีไม่มีอำนาจที่จะต่อรองอะไรได้เลย ไม่อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไร(แต่ชอบทำเรื่องเยอะ)" "ถ้าสหรัฐหยุดความช่วยเหลือวันนี้ยูเครนจะเสร็จรัสเซียในเวลารวดเร็ว" "การหยุดยิง สันติภาพไม่เกิดขึ้นก็เพราะเซเลนสกีเรื่องเยอะ" "ยังไม่ทันไร ยังไม่เริ่มคุย ไอนั่นก็ไม่เอาไอนี่ก็ไม่เอา" ฯลฯ . 2. จากข้อ1 ...... ลุงทรัมป์เลยเปลี่ยนใจไม่ลงนามในดีลแร่ธาตุธรรมชาติฯกับเซเลนสกีแล้ว โดยบอกว่า เซเลนสกีไม่พร้อมสำหรับสันติภาพตราบใดที่มีสหรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง แล้วประชดด้วยว่าเซเลนสกีรู้สึกว่าการมีส่วนร่วมของสหรัฐจะทำให้เค้าได้เปรียบอย่างมากในการเจรจาฯ ลุงทรัมป์ไม่ได้ต้องการความได้เปรียบแต่ต้องการสันติภาพ เซเลนสกีแสดงความไม่เคารพสหรัฐในห้องรูปไข่ (ห้องทำงานของประธานาธิบดีฯ สัญลักษณ์แห่งอำนาจของสหรัฐ) เอาไว้เซเลนสกีพร้อมสำหรับสันติภาพแล้วค่อยกลับมา และได้ทำการยกเลิกการแถลงข่าวร่วมฯของผู้นำสั้งสอง ..... แล้วก็มีรายงานข่าวว่า เซเลนสกีถูกเชิญออกจากทำเนียบขาวแบบไม่ให้เกียรติ ..... ถ้าเป็นเรื่องจริง นั่นผู้นำประเทศหนึ่งนะ ไม่เหลือทรงเลย เฮ้อออออ เห็นใจชาวยูเครนจริงๆ 🥹🥹 . นั่นแหละครับ เซเลนสกีไม่มีอานาจ ไม่มีอะไรที่จะเอาไปต่อรองได้เลย นอกจากชีวิตของชาวยูเครนแล้วก็ไม่ได้มีต้นทุนสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการทำสงครามเลย ทุกอย่างต้องขอชาวบ้านมาตลอดสามปี ตลอดสามปีที่ผ่านมาเคยเห็นเค้าหยุดเดินสายขอชาวบ้านมั้ย? จะทำสงครามต่อไปได้แค่ไหนก็ต้องอาศัยความเมตตาจากประเทศอื่น แต่ก็ยังจะลากประเทศเข้าสู่สงครามที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตั้งแต่แรก สงครามเกิดแล้วก็ยังสามารถยุติได้ตั้งแต่ต้นๆ แต่ก็ไม่เอาอีก . ผ่านมาสามปี วันนี้ประเทศผู้สนับสนุนหลักที่เคยเมตตา เค้าไม่เมตตาเหมือนเดิมบอกให้หยุดสู้รบได้แล้ว ถ้าไม่หยุดก็ไปหาทางทำสงครามต่อเอาเอง แล้วจะไปยังไงต่อ? ผู้คนก็ตุยไปแล้ว ดินแดนก็เสียไปแล้ว จะทำสงครามต่อก็ไม่มีปัญญารบได้ด้วยตัวเอง แถมล่าสุดก็ไปโดนสหรัฐฉีกหน้าต่อหน้าโลกซะขนาดนั้น ...... แต่ส่วนตัวเชื่อว่ายังไงเซเลนสกีก็ต้องเดินตัวลีบๆไปขอร้องให้เค้าช่วยอยู่ดี เฮ้ออออ ถึงได้บอกว่า คนนี้เค้าเหมือนเด็กอมมือบทเวทีโลก ก่อนสงครามไปจนถึงช่วงต้นของสงคราม อำนาจต่อรองอยู่ที่เซเลนสกี แต่เค้าไม่ยอมเจรจาฯเอง ..... พอตอนนี้ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรแล้ว กลับมางอแงจะมีส่วนร่วมในการเจรจาฯ . ส่วนทางทรัมป์กับแวนซ์ เค้าเคยบอกว่าไม่ได้จะไปเอาเงื่อนไขของรัสเซียมาบังคับให้ยูเครนยอมรับ แต่ต้องการไปคุยกับรัสเซียก่อน แล้วค่อยมาคุยกับเซเลนสกี จะรับไม่รับ ทั้งสองฝ่ายค่อยมาต่อรองอีกที ก็เพราะเซเลนสกีเป็นแบบนี้แหละ ยังไม่ทันไรก็ตั้งเงื่อนไขเว่อร์ๆผ่านสื่อฯไว้ก่อน ไปเอาเซเลนสกีเข้ามาตั้งแต่แรก การเจรจายุติสงครามฯก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ (หนึ่งในตัวอย่างของความเว่อร์เซเลนสกีที่เคยพูดไว้ สงครามจะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียคืนดินแดนทั้งหมด ปลดอาวุธนิวเคลียร์ ลดขนาดกองทัพ และ ลดความสามารถทางทหารของตัวเอง ..... เอาแค่ข้อไหนข้อเดียวก็เป็นไปไม่ได้แล้ว) . ที่สำคัญ ลุงทรัมป์เค้าชัดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า เค้าอยู่ในฐานะตัวกลางที่จะยึดเอาตามสถานการณ์จริงในพื้นที่สู้รบ มันไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของลุงทรัมป์ที่ต้องไปทวงดินแดนที่เสียไปคืนให้ยูเครน (ที่เซเลนสกีงอแงมีปัญหาก็เพราะตรงนี้แหละ) ทางยูเครนเองก็ไม่ได้มีต้นทุนสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการทำสงครามเลย ยิ่งไม่มีทางที่จะเอาชนะรัสเซียยึดดินแดนที่เสียไปคืนมาได้อยู่แล้ว ..... หยุดซะตอนนี้เลยดีกว่า ยูเครนจะเสียน้อยกว่าปล่อยให้สงครามยืดเยื้อออกไป เป็นการดีต่อชาวยูเครนเอง . 3. ต้นเดือนที่ผ่านมา สหรัฐประสบความสำเร็จในการใช้อาวุธแสงเลเซอร์ "HELIOS" ที่ติดตั้งบนเรือรบสอยโดรนลงได้ ..... มีข่าวออกมาสองทาง ทางหนึ่งบอกว่าเป็นการทดสอบ ส่วนอีกทางบอกว่าสอยโดรนของฮูตีลงมาได้ แต่ไม่ว่าอย่างไร เชื่อว่าในตอนนี้อาวุธแสงเลเซอร์ "HELIOS" ของสหรัฐสามารถนำมาใช้จริงในสนามรบได้แล้ว . 4. มีข่าวว่าสหรัฐจะปิดคลังอาวุธลับในกรีซ ซึ่งเป็นคลังที่เก็บอาวุธเพื่อส่งเข้าไปในยูเครน . 5. เมื่อวานนี้ เกาหลีใต้ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในส่วนที่เกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้ว . 6. นครนิวยอร์คเก็บค่า Congestion Charge จากรถยนต์ชนิดต่างๆในการเข้าเขตเศรษฐกิจที่มีการจราจรหนาแน่นในแมนแฮทตันในเดือนแรกได้เกือบ 50 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 1.7 พันล้านบาท (Congestion Charge คือค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นมากๆ ส่วนใหญ่ก็จะเรียกเก็บกันในเวลากลางวันหรือในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อจูงใจให้ผู้คนหันไปใช้บริการขนส่งสาธารณะ เพื่อลดความหนาแน่นของรถยนต์ในพื้นที่นั้นๆ ..... เห็นผ่านๆตาว่าบ้านเราก็กำลังมีแนวคิดที่จะทำอยู่) . ภาพประกอบ ..... เรื่องวุ่นๆของวัยรุ่นทำเนียบขาว 🥹🥹 ***เช่นเคย ขอความร่วมมืออย่าโยงมาการเมืองและนักการเมืองบ้านเรากันนะครับ ...... ถ้าทนไม่ไหวแนะนำให้แชร์ไปด่าที่กลุ่มหรือที่เฟสตัวเองครับ*** CR. https://www.facebook.com/share/1X94bYrs7p/?mibextid=wwXIfr ซิริอุส เป็นเรื่องของดวงดาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำเนียบขาวยืนยัน เซเลนสกี ไม่ได้ลงนามข้อตกลงแร่ธาตุ
    ทำเนียบขาวยืนยัน เซเลนสกี ไม่ได้ลงนามข้อตกลงแร่ธาตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงเวลาสำคัญมาถึงแล้ว!
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนรอต้อนรับเซเลนสกี ขณะมาถึงทำเนียบขาวเพื่อเจรจาข้อตกลงแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯ-ยูเครน และเริ่มการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย

    "เขาแต่งตัวจัดเต็มมากในวันนี้!"
    ทรัมป์แซวเซเลนสกีเล็กน้อยขณะเจอหน้ากัน
    ช่วงเวลาสำคัญมาถึงแล้ว! ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนรอต้อนรับเซเลนสกี ขณะมาถึงทำเนียบขาวเพื่อเจรจาข้อตกลงแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯ-ยูเครน และเริ่มการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย "เขาแต่งตัวจัดเต็มมากในวันนี้!" ทรัมป์แซวเซเลนสกีเล็กน้อยขณะเจอหน้ากัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • เซเลนสกีกำลังออกเดินทางจากสนามบิน Rzeszów-Jasionka ประเทศโปแลนด์ และกำลังมุ่งหน้าไปยังวอชิงตันไปวอชิงตันเพื่อลงนามใน “ข้อตกลง” แร่ธาตุกับโดนัลด์ ทรัมป์

    - เซเลนสกีจะแวะที่ไอร์แลนด์ เพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี ไมเคิล มาร์ติน หลังจากนั้นจะมุ่งหน้าสู่กรุงวอชิงตันในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เพื่อลงนามในข้อตกลงแร่ธาตุกับสหรัฐฯต่อไป

    - ยูเครนแทบไม่เหลืออะไรนอกจากคนหนุ่มสาวและทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้น เพื่อใช้ในการต่อรองกับอเมริกา ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะการตัดสินใจที่ "ผิดพลาด" ของเขา จนทำลายรัฐของตนเองจนสิ้นซาก

    - หากเซเลนสกีดำเนินแนวทางตามข้อตกลงมินสค์อย่างเคร่งครัด ยูเครนอาจกลายเป็นรัฐที่มีอำนาจควบคุมทรัพยากร ก๊าซราคาถูก น้ำมัน และที่สำคัญที่สุดคือ ประชาชนจำนวนมากยังคงมีชีวิตอยู่

    - การลงนามข้อตกลงแร่ธาตุของเซเลนสกีในครั้งนี้ เกือบล้มเหลว เมื่อสถานีโทรทัศน์บีเอฟเอ็มทีวี (BFMTV) ของฝรั่งเศส รายงานว่า ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการเยือนสหรัฐฯ ของเซเลนสกีไปแล้ว แต่เมื่อเซเลนสกีทราบข่าว ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในเคียฟอย่างมาก

    - หลังจากนั้น เซเลนสกี้ได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีมาครง เพื่อขอให้โน้มน้าวให้ทรัมป์เปลี่ยนใจ ซึ่งต่อมา "มาครง" ได้ติดต่อผู้นำสหรัฐฯ และโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนใจในที่สุด

    - สื่อฝรั่งเศสยังรายงานว่า มาครงก็ให้ความสนใจในแร่หายากของยูเครนอยู่ด้วยเช่นกัน ตามที่มาครงกล่าวระหว่างการเยือนทรัมป์ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันก่อน ซึ่งฝรั่งเศสต้องการใช้ในการผลิตอาวุธที่ครอบคลุมระยะเวลาสำหรับ 30 หรือ 40 ปีข้างหน้า
    เซเลนสกีกำลังออกเดินทางจากสนามบิน Rzeszów-Jasionka ประเทศโปแลนด์ และกำลังมุ่งหน้าไปยังวอชิงตันไปวอชิงตันเพื่อลงนามใน “ข้อตกลง” แร่ธาตุกับโดนัลด์ ทรัมป์ - เซเลนสกีจะแวะที่ไอร์แลนด์ เพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี ไมเคิล มาร์ติน หลังจากนั้นจะมุ่งหน้าสู่กรุงวอชิงตันในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เพื่อลงนามในข้อตกลงแร่ธาตุกับสหรัฐฯต่อไป - ยูเครนแทบไม่เหลืออะไรนอกจากคนหนุ่มสาวและทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้น เพื่อใช้ในการต่อรองกับอเมริกา ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะการตัดสินใจที่ "ผิดพลาด" ของเขา จนทำลายรัฐของตนเองจนสิ้นซาก - หากเซเลนสกีดำเนินแนวทางตามข้อตกลงมินสค์อย่างเคร่งครัด ยูเครนอาจกลายเป็นรัฐที่มีอำนาจควบคุมทรัพยากร ก๊าซราคาถูก น้ำมัน และที่สำคัญที่สุดคือ ประชาชนจำนวนมากยังคงมีชีวิตอยู่ - การลงนามข้อตกลงแร่ธาตุของเซเลนสกีในครั้งนี้ เกือบล้มเหลว เมื่อสถานีโทรทัศน์บีเอฟเอ็มทีวี (BFMTV) ของฝรั่งเศส รายงานว่า ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการเยือนสหรัฐฯ ของเซเลนสกีไปแล้ว แต่เมื่อเซเลนสกีทราบข่าว ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในเคียฟอย่างมาก - หลังจากนั้น เซเลนสกี้ได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีมาครง เพื่อขอให้โน้มน้าวให้ทรัมป์เปลี่ยนใจ ซึ่งต่อมา "มาครง" ได้ติดต่อผู้นำสหรัฐฯ และโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนใจในที่สุด - สื่อฝรั่งเศสยังรายงานว่า มาครงก็ให้ความสนใจในแร่หายากของยูเครนอยู่ด้วยเช่นกัน ตามที่มาครงกล่าวระหว่างการเยือนทรัมป์ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันก่อน ซึ่งฝรั่งเศสต้องการใช้ในการผลิตอาวุธที่ครอบคลุมระยะเวลาสำหรับ 30 หรือ 40 ปีข้างหน้า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนยังพยายามเรียกร้องสหรัฐต่อไป แม้จะมีรายงานจากสื่อออกมาว่า การลงนามข้อตกลงแร่ธาตุจะเกิดขึ้นในวันศุกร์นี้แล้วก็ตาม

    เดนิส ชมีฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน ยังคงยืนยันว่ายูเครนจะไม่จ่ายคืนเป็นสองเท่าของเงินที่สหรัฐอ้างว่าช่วยเหลือในช่วงที่ผ่านมา

    "ยูเครนจะไม่จ่าย 2 ดอลลาร์ จากเงินที่ช่วยเหลือ 1 ดอลลาร์"

    ชมีฮาล ยังกล่าวอีกว่ารัฐบาลจะต้องเห็นชอบรายละเอียดข้อตกลงนี้ก่อนจะมีการลงนามเกิดขึ้น แต่ดีลดังกล่าวอยู่ในช่วงการหารือ “เบื้องต้น” เท่านั้น และหากไม่มีการรับประกันดังกล่าว รัฐบาลยูเครนจะไม่ลงนามข้อตกลงแร่ธาตุกับสหรัฐฯ

    ขณะที่ ทรัมป์ ยืนยันจะไม่มอบคำรับประกันด้านความมั่นคงแก่ยูเครน หรือมอบสถานภาพสมาชิกนาโตสำหรับเคียฟ แม้ว่า เซเลนสกี กำลังจะเดินทางเยือนอเมริกา เพื่อปิดดีลเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ในวันศุกร์นี้ ตามรายงานของสื่
    ยูเครนยังพยายามเรียกร้องสหรัฐต่อไป แม้จะมีรายงานจากสื่อออกมาว่า การลงนามข้อตกลงแร่ธาตุจะเกิดขึ้นในวันศุกร์นี้แล้วก็ตาม เดนิส ชมีฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน ยังคงยืนยันว่ายูเครนจะไม่จ่ายคืนเป็นสองเท่าของเงินที่สหรัฐอ้างว่าช่วยเหลือในช่วงที่ผ่านมา "ยูเครนจะไม่จ่าย 2 ดอลลาร์ จากเงินที่ช่วยเหลือ 1 ดอลลาร์" ชมีฮาล ยังกล่าวอีกว่ารัฐบาลจะต้องเห็นชอบรายละเอียดข้อตกลงนี้ก่อนจะมีการลงนามเกิดขึ้น แต่ดีลดังกล่าวอยู่ในช่วงการหารือ “เบื้องต้น” เท่านั้น และหากไม่มีการรับประกันดังกล่าว รัฐบาลยูเครนจะไม่ลงนามข้อตกลงแร่ธาตุกับสหรัฐฯ ขณะที่ ทรัมป์ ยืนยันจะไม่มอบคำรับประกันด้านความมั่นคงแก่ยูเครน หรือมอบสถานภาพสมาชิกนาโตสำหรับเคียฟ แม้ว่า เซเลนสกี กำลังจะเดินทางเยือนอเมริกา เพื่อปิดดีลเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ในวันศุกร์นี้ ตามรายงานของสื่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ยูเครนจะได้อะไรจากข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุ?”

    หลังจากยูเครนตกลงทำข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุ ทรัมป์กล่าวว่า “ยูเครนจะได้รับ 350,000 ล้านดอลลาร์ อุปกรณ์ทางทหารจำนวนมาก และยังได้สิทธิในการสู้รบต่อไป เป็นการตอบแทน ซึ่งหมายถึงอาวุธของสหรัฐฯ อาจยังคงไหลเข้าสู่ยูเครนต่อไป “อีกสักพัก”
    “ยูเครนจะได้อะไรจากข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุ?” หลังจากยูเครนตกลงทำข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุ ทรัมป์กล่าวว่า “ยูเครนจะได้รับ 350,000 ล้านดอลลาร์ อุปกรณ์ทางทหารจำนวนมาก และยังได้สิทธิในการสู้รบต่อไป เป็นการตอบแทน ซึ่งหมายถึงอาวุธของสหรัฐฯ อาจยังคงไหลเข้าสู่ยูเครนต่อไป “อีกสักพัก”
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • สโลวะเกีย มีสิทธิเรียกร้องให้ยูเครนชำระคืนเงินช่วยเหลือที่พวกเขามอบให้เคียฟในระหว่างทำศึกสงครามกับมอสโก หากว่าบรรดาชาติตะวันตกอย่างสหรัฐฯ เยอรมนีและฝรั่งเศส ดำเนินการแบบเดียวกัน สมาชิกรัฐสภาระดับอาวุโสรายหนึ่งของสโลวะเกียเน้นย้ำ
    .
    อันเดรจ ดันโก ประธานภรรคสโลวัค เนชันแนล ปาร์ตี และบุคคลสำคัญในรัฐบาลผสม แสดงความคิดเห็นในวิดีโอที่โพสต์บนเฟซบุ๊กเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ว่าสโลวะเกียมีสิทธิเรียกร้องขอยูเครนจ่ายคืนเงินช่วยเหลือที่มอบให้ไปกว่า 3,500 ล้านยูโร (ราว 1.2 แสนล้านบาท)
    .
    ความเห็นนี้มีขึ้นตามหลังรายงานข่าวที่ระบุว่าวอชิงตันกำลังเจรจาข้อตกลงหนึ่งกับยูเครน ที่ทางเคียฟอาจมอบแร่ธาตุสำคัญๆ ในสัดส่วน 50% เป็นค่าชดเชยสำหรับเงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ซึ่งในเรื่องนี้ ดันโก ตั้งคำถามว่าแล้วสหภาพยุโรป (อียู) จะได้อะไรกลับคืนมาบ้าง สำหรับความช่วยเหลือที่พวกเขามอบให้แก่ยูเครนเช่นกัน
    .
    ข้อเสนอข้อตกลง ซึ่งมีข่าวว่าเป็นการอนุมัติให้สิทธิอย่างครอบคลุมแก่สหรัฐฯ เข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน เป็นความพยายามหาทางชดเชยสิ่งที่อเมริกากล่าวอ้างว่าได้มอบความช่วยเหลือทั้งด้านการทหารและทางเศรษฐกิจแก่เคียฟ ไปกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์
    .
    "และผมจะถามเกี่ยวกับสโลวะเกีย" ดันโกเน้นย้ำ "แล้วสโลวะเกียจะได้คืนเงิน 3,500 ล้านยูโรที่ส่งไปหรือไม่" เขาตั้งคำถาม พร้อมเน้นย้ำว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นถือจำนวนที่มากสำหรับชาติหนึ่งของอียู "และผมอยากบอกว่า ถ้าเยอรมนี ฝรั่งเศส และอเมริการ้องขอเงินพวกเขาคืน สโลวะเกียก็ไม่อาจปิดปากเงียบ"
    .
    เมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมการยุโรป เดินทางไปยังกรุงเคียฟ ในวาระครบรอบ 3 ปี ความขัดแย้งยูเครน เปิดตัวแพกเกจความช่วยเหลือทางการเงินของอียูรอบใหม่ 3,500 ล้านยูโร อัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมเข้าสู่งบประมาณที่แห้งเหือดของยูเครน
    .
    ขณะเดียวกัน คาจา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู ในวันจันทร์ (24 ก.พ.) แสดงมุมมองในแง่บวก ว่าพวกผู้นำของกลุ่มจะเห็นชอบอย่างรวดเร็วในเงินทุนทางทหารก้อนใหม่ที่มอบแก่เคียฟ ข้อเสนอของเขาเป็นการขยายขอบเขตการส่งมอบอาวุธเข้าสู่ปี 2025 แต่มันเผชิญเสียงคัดค้านจากรัฐสมาชิกบางประเทศ
    .
    อิตาลี โปรตุเกส และสเปน แสดงจุดยืนคัดค้านอย่างเปิดเผยต่อแผนดังกล่าว ในขณะที่ฝรั่งเศสและเยอรมนียังไม่ตัดสินใจ อ้างอิงจากรายงานของโพลิติโก เว็บไซต์ข่าวสัญชาติสหรัฐฯ แพกเกจข้อเสนอนี้ ซึ่งมีมูลค่า 10,000 ล้านยูโร มีกำหนดหยิบยกหารือกัน ณ ที่ประชุมซัมมิตอียูในวันที่ 6 มีนาคม และในนั้นจะรวมถึงการมอบอาวุธ กระสุน ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และยกระดับการช่วยฝึกฝนทางทหารแก่กองกำลังยูเครน
    .
    ก่อนหน้านี้ โรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวะเกีย วิพากษ์วิจารณ์แนวทางของอียู ชี้มันเท่ากับว่า อียู แบนคำว่า "สันติภาพ" ออกจากการพูดคุยเกี่ยวกับยูเครนโดยสิ้นเชิง
    .
    มอสโก ส่งเสียงเตือนซ้ำๆ ว่าการป้อนอาวุธแก่ยูเครนของตะวันตก รังแต่จะทำให้ความขัดแย้งลากยาวออกไป โดยไม่อาจเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ใดๆ ในขณะเดียวกันมันก็เสี่ยงเกิดการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างรัสเซียกับนาโต ทั้งนี้ อเล็กซานด์ร กรุสโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ชี้แนะว่าอียูสามารถมีส่วนส่งเสริมการคลี่คลายวิกฤต ด้วยการหยุดให้แรงสนับสนุนด้านการทหารและโลจิสติกส์แก่เคียฟ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018796
    ..............
    Sondhi X
    สโลวะเกีย มีสิทธิเรียกร้องให้ยูเครนชำระคืนเงินช่วยเหลือที่พวกเขามอบให้เคียฟในระหว่างทำศึกสงครามกับมอสโก หากว่าบรรดาชาติตะวันตกอย่างสหรัฐฯ เยอรมนีและฝรั่งเศส ดำเนินการแบบเดียวกัน สมาชิกรัฐสภาระดับอาวุโสรายหนึ่งของสโลวะเกียเน้นย้ำ . อันเดรจ ดันโก ประธานภรรคสโลวัค เนชันแนล ปาร์ตี และบุคคลสำคัญในรัฐบาลผสม แสดงความคิดเห็นในวิดีโอที่โพสต์บนเฟซบุ๊กเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ว่าสโลวะเกียมีสิทธิเรียกร้องขอยูเครนจ่ายคืนเงินช่วยเหลือที่มอบให้ไปกว่า 3,500 ล้านยูโร (ราว 1.2 แสนล้านบาท) . ความเห็นนี้มีขึ้นตามหลังรายงานข่าวที่ระบุว่าวอชิงตันกำลังเจรจาข้อตกลงหนึ่งกับยูเครน ที่ทางเคียฟอาจมอบแร่ธาตุสำคัญๆ ในสัดส่วน 50% เป็นค่าชดเชยสำหรับเงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ซึ่งในเรื่องนี้ ดันโก ตั้งคำถามว่าแล้วสหภาพยุโรป (อียู) จะได้อะไรกลับคืนมาบ้าง สำหรับความช่วยเหลือที่พวกเขามอบให้แก่ยูเครนเช่นกัน . ข้อเสนอข้อตกลง ซึ่งมีข่าวว่าเป็นการอนุมัติให้สิทธิอย่างครอบคลุมแก่สหรัฐฯ เข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน เป็นความพยายามหาทางชดเชยสิ่งที่อเมริกากล่าวอ้างว่าได้มอบความช่วยเหลือทั้งด้านการทหารและทางเศรษฐกิจแก่เคียฟ ไปกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์ . "และผมจะถามเกี่ยวกับสโลวะเกีย" ดันโกเน้นย้ำ "แล้วสโลวะเกียจะได้คืนเงิน 3,500 ล้านยูโรที่ส่งไปหรือไม่" เขาตั้งคำถาม พร้อมเน้นย้ำว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นถือจำนวนที่มากสำหรับชาติหนึ่งของอียู "และผมอยากบอกว่า ถ้าเยอรมนี ฝรั่งเศส และอเมริการ้องขอเงินพวกเขาคืน สโลวะเกียก็ไม่อาจปิดปากเงียบ" . เมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมการยุโรป เดินทางไปยังกรุงเคียฟ ในวาระครบรอบ 3 ปี ความขัดแย้งยูเครน เปิดตัวแพกเกจความช่วยเหลือทางการเงินของอียูรอบใหม่ 3,500 ล้านยูโร อัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมเข้าสู่งบประมาณที่แห้งเหือดของยูเครน . ขณะเดียวกัน คาจา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู ในวันจันทร์ (24 ก.พ.) แสดงมุมมองในแง่บวก ว่าพวกผู้นำของกลุ่มจะเห็นชอบอย่างรวดเร็วในเงินทุนทางทหารก้อนใหม่ที่มอบแก่เคียฟ ข้อเสนอของเขาเป็นการขยายขอบเขตการส่งมอบอาวุธเข้าสู่ปี 2025 แต่มันเผชิญเสียงคัดค้านจากรัฐสมาชิกบางประเทศ . อิตาลี โปรตุเกส และสเปน แสดงจุดยืนคัดค้านอย่างเปิดเผยต่อแผนดังกล่าว ในขณะที่ฝรั่งเศสและเยอรมนียังไม่ตัดสินใจ อ้างอิงจากรายงานของโพลิติโก เว็บไซต์ข่าวสัญชาติสหรัฐฯ แพกเกจข้อเสนอนี้ ซึ่งมีมูลค่า 10,000 ล้านยูโร มีกำหนดหยิบยกหารือกัน ณ ที่ประชุมซัมมิตอียูในวันที่ 6 มีนาคม และในนั้นจะรวมถึงการมอบอาวุธ กระสุน ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และยกระดับการช่วยฝึกฝนทางทหารแก่กองกำลังยูเครน . ก่อนหน้านี้ โรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวะเกีย วิพากษ์วิจารณ์แนวทางของอียู ชี้มันเท่ากับว่า อียู แบนคำว่า "สันติภาพ" ออกจากการพูดคุยเกี่ยวกับยูเครนโดยสิ้นเชิง . มอสโก ส่งเสียงเตือนซ้ำๆ ว่าการป้อนอาวุธแก่ยูเครนของตะวันตก รังแต่จะทำให้ความขัดแย้งลากยาวออกไป โดยไม่อาจเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ใดๆ ในขณะเดียวกันมันก็เสี่ยงเกิดการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างรัสเซียกับนาโต ทั้งนี้ อเล็กซานด์ร กรุสโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ชี้แนะว่าอียูสามารถมีส่วนส่งเสริมการคลี่คลายวิกฤต ด้วยการหยุดให้แรงสนับสนุนด้านการทหารและโลจิสติกส์แก่เคียฟ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018796 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2118 มุมมอง 1 รีวิว
  • ยูเครนยอมตกลงในเงื่อนไขต่างๆ ในข้อตกลงแร่กับสหรัฐฯ และอาจลงนาม จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยูเครนรายหนึ่ง ในความเคลื่อนไหวที่เคียฟได้แต่หวังว่าจะเป็นตัวปูทางสำหรับการรับประกันความมั่นคงจากวอชิงตันในอนาคต
    .
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องยูเครนเปิดทางให้อเมริกาเข้าถึงแร่แรร์เอิร์ธ สำหรับชดใช้เงินหลายแสนล้านดอลลาร์ ในความช่วยเหลือต่างๆ ในช่วงระหว่างสงคราม ในสมัยอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน
    .
    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครน เปิดเผยกับเอเอฟพี โดยไม่ประสงค์เอ่ยนามในช่วงค่ำวันอังคาร (25 ก.พ.) ว่าข้อตกลงนี้จะได้เห็นสหรัฐฯ ร่วมพัฒนาความมั่งคั่งทางแร่ธาตุของยูเครน ในขณะที่ผลกำไรจะไหลเข้าสู่กองทุนใหม่ที่จัดตั้งขึ้นมา ซึ่งจะเป็นกองทุนร่วมระหว่างยูเครนกับอเมริกา
    .
    รายงานข่าวระบุ แหล่งข่าวบอกด้วยว่าร่างข้อตกลงนี้ยังรวมไปถึงการพาดพิงถึง "ความมั่นคง" แต่ไม่กำหนดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับพันธสัญญาของสหรัฐฯ หนึ่งข้อเรียกร้องหลักของเคียฟ สำหรับข้อตกลงนี้
    .
    "มีประโยคทั่วไปที่บอกว่าอเมริกาจะลงทุนในชาติอธิปไตยยูเครน ที่มีเสถียรภาพและความรุ่งเรือง และมันรับใช้สันติภาพที่ยั่งยืนและบอกว่าอเมริกาสนับสนุนความพยายามรับประกันความมั่นคง เวลานี้พวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลกำลังทำงานกันในรายละเอียด" แหล่งข่าวระบุ พร้อมบอกว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน อาจลงนามในข้อตกลงนี้ ระหว่างเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน อย่างเร็วที่สุดในวันศุกร์ (28 ก.พ.)
    .
    ทรัมป์ เปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว หันไปเปิดการเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ขณะเดียวกันก็ข่มขู่บรรดาพันธมิตรดั้งเดิมของวอชิงตัน
    .
    นอกจากนี้ ในวอชิงตันยังยืนอยู่ข้างรัสเซีย ณ เวทีสหประชาชาติ ในการลงมติใน 2 ญัตติเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ในขณะที่พวกเขาหาทางหลีกเลี่ยงการประณามใดๆ ต่อกณีมอสโกรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน
    .
    ยูเครน หวังว่าข้อตกลงแร่จะช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์กับรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งมึนตึงมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางสงครามน้ำลายระหว่างเซเลนสกีกับผู้นำสหรัฐฯ
    .
    เมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์ ตราหน้า เซเลนสกี ว่าเป็น "เผด็จการ" และเรียกร้องให้เขาดำเนินการอย่างรวดเร็วในการยุติสงคราม หนึ่งวันหลังจากพวกเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ เปิดการพูดคุยหารือกันในซาอุดีอาระเบีย โดยที่ยูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
    .
    จากนั้นในวันเสาร์ (22 ก.พ.) ณ ที่ประชุมของฝ่ายอนุรักษนิยม ทรัมป์เน้นย้ำอีกครั้งว่าเขากำลังพยายามทวงเงินความช่วยเหลือหลายแสนล้านดอลลาร์ ที่ส่งไปสนับสนุนยูเครนทำสงครามกับรัสเซีย หลัง เซเลนสกี กล่าวหาผู้นำสหรัฐฯ กำลังใช้ชีวิตอยู่ใน "ฟองสบู่แห่งการบิดเบือนข้อมูลของรัสเซีย"
    .
    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเรียกร้องขอแร่แร์เฮิร์ธ มูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ แลกกับความช่วยเหลือที่เคยมอบให้เคียฟ ตัวเลขที่ยูเครนลังเลที่จะตอบรับ และไม่สอดคล้องกับตัวเลขความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ
    .
    แหล่งข่าวบอกว่าวอชิงตันตัดข้อแม้นี้ออกไป เช่นเดียวกับเงื่อนไขอื่นๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยกับยูเครน "พวกเขาถอนเงื่อนไขทั้งหมดที่ไม่เหมาะกับเรา"
    .
    อ้างอิงข้อมูลอย่างเป็นทางการ สหรัฐฯ มอบเงินช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟไปแล้วมากกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่รัสเซียรุกราน ถือเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดในหมู่พันธมิตรของเคียฟ แต่ต่ำกว่าตัวเลข 500,000 ล้านดอลลาร์ ตามที่ทรัมป์กล่าวอ้าง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018794
    ..............
    Sondhi X
    ยูเครนยอมตกลงในเงื่อนไขต่างๆ ในข้อตกลงแร่กับสหรัฐฯ และอาจลงนาม จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยูเครนรายหนึ่ง ในความเคลื่อนไหวที่เคียฟได้แต่หวังว่าจะเป็นตัวปูทางสำหรับการรับประกันความมั่นคงจากวอชิงตันในอนาคต . ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องยูเครนเปิดทางให้อเมริกาเข้าถึงแร่แรร์เอิร์ธ สำหรับชดใช้เงินหลายแสนล้านดอลลาร์ ในความช่วยเหลือต่างๆ ในช่วงระหว่างสงคราม ในสมัยอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน . แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครน เปิดเผยกับเอเอฟพี โดยไม่ประสงค์เอ่ยนามในช่วงค่ำวันอังคาร (25 ก.พ.) ว่าข้อตกลงนี้จะได้เห็นสหรัฐฯ ร่วมพัฒนาความมั่งคั่งทางแร่ธาตุของยูเครน ในขณะที่ผลกำไรจะไหลเข้าสู่กองทุนใหม่ที่จัดตั้งขึ้นมา ซึ่งจะเป็นกองทุนร่วมระหว่างยูเครนกับอเมริกา . รายงานข่าวระบุ แหล่งข่าวบอกด้วยว่าร่างข้อตกลงนี้ยังรวมไปถึงการพาดพิงถึง "ความมั่นคง" แต่ไม่กำหนดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับพันธสัญญาของสหรัฐฯ หนึ่งข้อเรียกร้องหลักของเคียฟ สำหรับข้อตกลงนี้ . "มีประโยคทั่วไปที่บอกว่าอเมริกาจะลงทุนในชาติอธิปไตยยูเครน ที่มีเสถียรภาพและความรุ่งเรือง และมันรับใช้สันติภาพที่ยั่งยืนและบอกว่าอเมริกาสนับสนุนความพยายามรับประกันความมั่นคง เวลานี้พวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลกำลังทำงานกันในรายละเอียด" แหล่งข่าวระบุ พร้อมบอกว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน อาจลงนามในข้อตกลงนี้ ระหว่างเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน อย่างเร็วที่สุดในวันศุกร์ (28 ก.พ.) . ทรัมป์ เปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว หันไปเปิดการเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ขณะเดียวกันก็ข่มขู่บรรดาพันธมิตรดั้งเดิมของวอชิงตัน . นอกจากนี้ ในวอชิงตันยังยืนอยู่ข้างรัสเซีย ณ เวทีสหประชาชาติ ในการลงมติใน 2 ญัตติเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ในขณะที่พวกเขาหาทางหลีกเลี่ยงการประณามใดๆ ต่อกณีมอสโกรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน . ยูเครน หวังว่าข้อตกลงแร่จะช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์กับรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งมึนตึงมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางสงครามน้ำลายระหว่างเซเลนสกีกับผู้นำสหรัฐฯ . เมื่อเดือนที่แล้ว ทรัมป์ ตราหน้า เซเลนสกี ว่าเป็น "เผด็จการ" และเรียกร้องให้เขาดำเนินการอย่างรวดเร็วในการยุติสงคราม หนึ่งวันหลังจากพวกเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ เปิดการพูดคุยหารือกันในซาอุดีอาระเบีย โดยที่ยูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ . จากนั้นในวันเสาร์ (22 ก.พ.) ณ ที่ประชุมของฝ่ายอนุรักษนิยม ทรัมป์เน้นย้ำอีกครั้งว่าเขากำลังพยายามทวงเงินความช่วยเหลือหลายแสนล้านดอลลาร์ ที่ส่งไปสนับสนุนยูเครนทำสงครามกับรัสเซีย หลัง เซเลนสกี กล่าวหาผู้นำสหรัฐฯ กำลังใช้ชีวิตอยู่ใน "ฟองสบู่แห่งการบิดเบือนข้อมูลของรัสเซีย" . ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเรียกร้องขอแร่แร์เฮิร์ธ มูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ แลกกับความช่วยเหลือที่เคยมอบให้เคียฟ ตัวเลขที่ยูเครนลังเลที่จะตอบรับ และไม่สอดคล้องกับตัวเลขความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ . แหล่งข่าวบอกว่าวอชิงตันตัดข้อแม้นี้ออกไป เช่นเดียวกับเงื่อนไขอื่นๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยกับยูเครน "พวกเขาถอนเงื่อนไขทั้งหมดที่ไม่เหมาะกับเรา" . อ้างอิงข้อมูลอย่างเป็นทางการ สหรัฐฯ มอบเงินช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟไปแล้วมากกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่รัสเซียรุกราน ถือเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดในหมู่พันธมิตรของเคียฟ แต่ต่ำกว่าตัวเลข 500,000 ล้านดอลลาร์ ตามที่ทรัมป์กล่าวอ้าง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018794 .............. Sondhi X
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2091 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์หวังสงครามในยูเครนใกล้จบลงเร็วๆ นี้ พร้อมคาดว่า เซเลนสกี้อาจเดินทางไปวอชิงตันในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเพื่อทำข้อตกลงเกี่ยวกับเหมืองแร่สำคัญในยูเครน ขณะที่มาครงตั้งข้อสังเกตระหว่างเยือนทำเนียบขาวว่า ข้อตกลงยุติสงครามไม่ควรหมายถึงการยอมแพ้สำหรับยูเครน
    .
    การพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา และประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันครบรอบ 3 ปีที่รัสเซียยกทัพบุกยูเครนนั้น เกิดขึ้นขณะที่ความสัมพันธ์สองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกไร้ความแน่นอนอย่างยิ่งจากการที่ทรัมป์เปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศของอเมริกาครั้งใหญ่ และตัดยุโรปออกจากการเจรจายุติสงครามในยูเครน
    .
    แม้การพบกันระหว่างทรัมป์กับมาครงที่ทำเนียบขาวเป็นไปด้วยดี แต่อเมริกากับฝรั่งเศสกลับขัดแย้งกันเกี่ยวกับญัตติในสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ระบุว่า รัสเซียเป็นผู้รุกรานในสงครามยูเครน
    .
    ระหว่างการหารือภาพรวมเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน ทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จะยอมให้ยุโรปมีส่วนร่วมในกองกำลังสันติภาพในยูเครน เขายังหวังว่า สงครามจะจบลงภายในไม่กี่สัปดาห์ และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน อาจเดินทางไปวอชิงตันในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเพื่อเซ็นข้อตกลงเปิดทางให้อเมริกาเข้าถึงแร่ธาตุสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ การแพทย์ และเทคโนโลยีของอเมริกา
    .
    ทรัมป์กำลังผลักดันข้อตกลงทางเศรษฐกิจเพื่อให้ยูเครนชดใช้เงินบางส่วนที่อเมริกาให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มต้นสงครามรวม 180,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เคียฟต้องการให้ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมการรับประกันความมั่นคงในอนาคต ทว่า ทรัมป์ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ข้อตกลงที่จะเกิดขึ้นจะรวมข้อเรียกร้องดังกล่าวหรือไม่
    .
    ทางด้านมาครงยอมรับระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับทรัมป์ว่า ประเทศยุโรปต้องยกระดับการปกป้องภูมิภาค แต่เตือนว่า ข้อตกลงสันติภาพต้องไม่ได้หมายถึงการยอมจำนน แต่ต้องเคารพอธิปไตย รวมทั้งต้องมีการรับประกันความมั่นคงของยูเครน
    .
    ผู้นำฝรั่งเศสตัดขาดการสื่อสารโดยตรงกับปูตินนับจากรัสเซียโจมตีเมืองบูชาอย่างโหดร้ายในช่วงต้นสงคราม กระนั้น เขายอมรับว่า ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากคณะบริหารชุดใหม่ของอเมริกา ซึ่งหมายถึงบริบทใหม่จึงมีเหตุผลอันควรที่ทรัมป์จะฟื้นการติดต่อกับปูติน
    .
    ทางฝ่ายปูตินนั้นกล่าวในวันจันทร์ว่า ยังไม่ได้หารือเรื่องการแก้ไขความขัดแย้งกับยูเครนอย่างละเอียดกับทรัมป์ รวมทั้งยังไม่มีการหารือในคณะเจรจารัสเซีย-อเมริกาที่ซาอุดีอาระเบียสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำรัสเซียยังเสริมว่า รัสเซียไม่ได้ตัดชาติยุโรปออกจากการเจรจาสันติภาพ
    .
    การหารือที่ทำเนียบขาวครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่ยุโรปกำลังกังวลหนักเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ของอเมริกาภายใต้การนำของทรัมป์
    .
    นับจากเข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง ทรัมป์ต้องการครอบครองกรีนแลนด์ แคนาดา กาซา และคลองปานามา นอกจากนั้นประธานาธิบดีที่ชูนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ผู้นี้ยังครอบงำจุดยืนของอเมริกาที่เคยเป็นมิตรท่ามกลางสถานการณ์โลกที่มีเสถียรภาพและต่อเนื่อง
    .
    เอียน เคลลี อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำจอร์เจียในคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และทรัมป์สมัยแรก ชี้ว่า นโยบายต่อต้านผู้รุกรานของอเมริกาที่ดำเนินมา 80 ปีถูกทำลายย่อยยับโดยปราศจากการหารือหรือไตร่ตรองใดๆ
    .
    นอกจากมาครงแล้ว ทรัมป์ยังมีกำหนดต้อนรับนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษในวันพฤหัสบดี (27 ก.พ.) ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์ทำผู้นำยุโรปช็อกไปตามๆ กันด้วยการวิจารณ์เซเลนสกี้ว่า ล้มเหลวในการเจรจายุติสงคราม ซ้ำยังไม่ยอมเซ็นข้อตกลงให้อเมริกาเข้าถึงแร่ธาตุสำคัญของยูเครน
    .
    แรกทีเดียวนั้นเซเลนสกี้โวยว่า ข้อตกลงดังกล่าวไม่ครอบคลุมการรับประกันความมั่นคง แต่ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) เขาโพสต์บนเอ็กซ์ว่า มีความคืบหน้าอย่างมาก แต่ยูเครนยังต้องการข้อตกลงทางเศรษฐกิจที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบรับประกันความปลอดภัยสำหรับประเทศอย่างแท้จริง
    .
    ก่อนหน้านี้เซเลนสกี้ทำให้ทรัมป์หัวเสียมากจากการโจมตีผู้นำสหรัฐฯ ว่า ติดอยู่กับข้อมูลผิดๆ ของรัสเซีย และประมุขทำเนียบขาวตอกกลับโดยเรียกเซเลนสกี้ว่า “ผู้นำเผด็จการ” รวมทั้งกล่าวหาเคียฟเป็นผู้เริ่มสงคราม ทั้งที่ความจริงรัสเซียเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    นอกจากนั้นเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเมื่อวันจันทร์ว่า คิดว่าปูตินเป็นผู้นำเผด็จการด้วยหรือไม่นั้น ทรัมป์ตอบว่า ตนไม่ใช้คำนั้นพล่อยๆ
    .
    อเมริกายังงัดข้อกับพันธมิตรยุโรปในการประชุมยูเอ็น ด้วยการปฏิเสธที่จะกล่าวหาว่า รัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งอเมริกางดออกเสียงในการลงมติข้อเสนอของตนเอง หลังจากยุโรปที่นำโดยฝรั่งเศส สามารถผลักดันให้มีการระบุชัดเจนว่า รัสเซียเป็นผู้รุกราน
    .
    ก่อนพบกับทรัมป์ มาครงบอกว่า เขาตั้งใจแจ้งกับผู้นำสหรัฐฯ ว่า ไม่ควรยอมอ่อนข้อให้ปูติน ทั้งนี้ เพื่อผลประโยชน์ของคนอเมริกันและยุโรป
    .
    เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์ประกาศชัดเจนว่า ต้องการให้รัสเซียกลับเข้าร่วมจี7 หลังจากถูกระงับสมาชิกภาพในจี8 นับจากเข้าผนวกแคว้นไครเมียของยูเครนในปี 2014
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018788
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์หวังสงครามในยูเครนใกล้จบลงเร็วๆ นี้ พร้อมคาดว่า เซเลนสกี้อาจเดินทางไปวอชิงตันในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเพื่อทำข้อตกลงเกี่ยวกับเหมืองแร่สำคัญในยูเครน ขณะที่มาครงตั้งข้อสังเกตระหว่างเยือนทำเนียบขาวว่า ข้อตกลงยุติสงครามไม่ควรหมายถึงการยอมแพ้สำหรับยูเครน . การพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา และประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันครบรอบ 3 ปีที่รัสเซียยกทัพบุกยูเครนนั้น เกิดขึ้นขณะที่ความสัมพันธ์สองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกไร้ความแน่นอนอย่างยิ่งจากการที่ทรัมป์เปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศของอเมริกาครั้งใหญ่ และตัดยุโรปออกจากการเจรจายุติสงครามในยูเครน . แม้การพบกันระหว่างทรัมป์กับมาครงที่ทำเนียบขาวเป็นไปด้วยดี แต่อเมริกากับฝรั่งเศสกลับขัดแย้งกันเกี่ยวกับญัตติในสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ระบุว่า รัสเซียเป็นผู้รุกรานในสงครามยูเครน . ระหว่างการหารือภาพรวมเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน ทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จะยอมให้ยุโรปมีส่วนร่วมในกองกำลังสันติภาพในยูเครน เขายังหวังว่า สงครามจะจบลงภายในไม่กี่สัปดาห์ และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน อาจเดินทางไปวอชิงตันในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้าเพื่อเซ็นข้อตกลงเปิดทางให้อเมริกาเข้าถึงแร่ธาตุสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ การแพทย์ และเทคโนโลยีของอเมริกา . ทรัมป์กำลังผลักดันข้อตกลงทางเศรษฐกิจเพื่อให้ยูเครนชดใช้เงินบางส่วนที่อเมริกาให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มต้นสงครามรวม 180,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เคียฟต้องการให้ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมการรับประกันความมั่นคงในอนาคต ทว่า ทรัมป์ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ข้อตกลงที่จะเกิดขึ้นจะรวมข้อเรียกร้องดังกล่าวหรือไม่ . ทางด้านมาครงยอมรับระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับทรัมป์ว่า ประเทศยุโรปต้องยกระดับการปกป้องภูมิภาค แต่เตือนว่า ข้อตกลงสันติภาพต้องไม่ได้หมายถึงการยอมจำนน แต่ต้องเคารพอธิปไตย รวมทั้งต้องมีการรับประกันความมั่นคงของยูเครน . ผู้นำฝรั่งเศสตัดขาดการสื่อสารโดยตรงกับปูตินนับจากรัสเซียโจมตีเมืองบูชาอย่างโหดร้ายในช่วงต้นสงคราม กระนั้น เขายอมรับว่า ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากคณะบริหารชุดใหม่ของอเมริกา ซึ่งหมายถึงบริบทใหม่จึงมีเหตุผลอันควรที่ทรัมป์จะฟื้นการติดต่อกับปูติน . ทางฝ่ายปูตินนั้นกล่าวในวันจันทร์ว่า ยังไม่ได้หารือเรื่องการแก้ไขความขัดแย้งกับยูเครนอย่างละเอียดกับทรัมป์ รวมทั้งยังไม่มีการหารือในคณะเจรจารัสเซีย-อเมริกาที่ซาอุดีอาระเบียสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำรัสเซียยังเสริมว่า รัสเซียไม่ได้ตัดชาติยุโรปออกจากการเจรจาสันติภาพ . การหารือที่ทำเนียบขาวครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่ยุโรปกำลังกังวลหนักเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ของอเมริกาภายใต้การนำของทรัมป์ . นับจากเข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง ทรัมป์ต้องการครอบครองกรีนแลนด์ แคนาดา กาซา และคลองปานามา นอกจากนั้นประธานาธิบดีที่ชูนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ผู้นี้ยังครอบงำจุดยืนของอเมริกาที่เคยเป็นมิตรท่ามกลางสถานการณ์โลกที่มีเสถียรภาพและต่อเนื่อง . เอียน เคลลี อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำจอร์เจียในคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และทรัมป์สมัยแรก ชี้ว่า นโยบายต่อต้านผู้รุกรานของอเมริกาที่ดำเนินมา 80 ปีถูกทำลายย่อยยับโดยปราศจากการหารือหรือไตร่ตรองใดๆ . นอกจากมาครงแล้ว ทรัมป์ยังมีกำหนดต้อนรับนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษในวันพฤหัสบดี (27 ก.พ.) ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์ทำผู้นำยุโรปช็อกไปตามๆ กันด้วยการวิจารณ์เซเลนสกี้ว่า ล้มเหลวในการเจรจายุติสงคราม ซ้ำยังไม่ยอมเซ็นข้อตกลงให้อเมริกาเข้าถึงแร่ธาตุสำคัญของยูเครน . แรกทีเดียวนั้นเซเลนสกี้โวยว่า ข้อตกลงดังกล่าวไม่ครอบคลุมการรับประกันความมั่นคง แต่ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) เขาโพสต์บนเอ็กซ์ว่า มีความคืบหน้าอย่างมาก แต่ยูเครนยังต้องการข้อตกลงทางเศรษฐกิจที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบรับประกันความปลอดภัยสำหรับประเทศอย่างแท้จริง . ก่อนหน้านี้เซเลนสกี้ทำให้ทรัมป์หัวเสียมากจากการโจมตีผู้นำสหรัฐฯ ว่า ติดอยู่กับข้อมูลผิดๆ ของรัสเซีย และประมุขทำเนียบขาวตอกกลับโดยเรียกเซเลนสกี้ว่า “ผู้นำเผด็จการ” รวมทั้งกล่าวหาเคียฟเป็นผู้เริ่มสงคราม ทั้งที่ความจริงรัสเซียเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . นอกจากนั้นเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเมื่อวันจันทร์ว่า คิดว่าปูตินเป็นผู้นำเผด็จการด้วยหรือไม่นั้น ทรัมป์ตอบว่า ตนไม่ใช้คำนั้นพล่อยๆ . อเมริกายังงัดข้อกับพันธมิตรยุโรปในการประชุมยูเอ็น ด้วยการปฏิเสธที่จะกล่าวหาว่า รัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งอเมริกางดออกเสียงในการลงมติข้อเสนอของตนเอง หลังจากยุโรปที่นำโดยฝรั่งเศส สามารถผลักดันให้มีการระบุชัดเจนว่า รัสเซียเป็นผู้รุกราน . ก่อนพบกับทรัมป์ มาครงบอกว่า เขาตั้งใจแจ้งกับผู้นำสหรัฐฯ ว่า ไม่ควรยอมอ่อนข้อให้ปูติน ทั้งนี้ เพื่อผลประโยชน์ของคนอเมริกันและยุโรป . เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์ประกาศชัดเจนว่า ต้องการให้รัสเซียกลับเข้าร่วมจี7 หลังจากถูกระงับสมาชิกภาพในจี8 นับจากเข้าผนวกแคว้นไครเมียของยูเครนในปี 2014 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018788 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    10
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2115 มุมมอง 0 รีวิว
  • บางส่วนที่ปูตินตอบคำถามระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย:

    - รัสเซียพร้อมที่จะมอบโอกาสให้สหรัฐฯ ได้ทำงานร่วมกันในด้านแร่ธาตุหายาก

    - เซเลนสกีไม่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งหากเขาลงแข่งขัน คะแนนนิยมของเซเลนสกีต่ำกว่า "ซาลูซนีย์" (อดีตผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพยูเครน) ถึงสองเท่า

    - รัสเซียไม่ได้ต่อต้านการรักษาสถานะความเป็นรัฐของยูเครน แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ใช้ดินแดนยูเครนเป็นภัยคุกคามต่อมอสโก

    - รัสเซียพร้อมหารือกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลดงบประมาณกลาโหม การลดงบประมาณลง 50% ถือเป็นความคิดที่ดี

    - รัสเซียพร้อมที่จะเสนอความร่วมมือด้านแร่หายากแก่หุ้นส่วนต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ โดยยกตัวอย่าง เช่น อาจเป็นความร่วมมือกันในโครงการขุดอะลูมิเนียม เช่น ในเขตครัสโนยาสก์ ซึ่งคาดว่าจะมีอยู่ราว 2 ล้านตันให้กับตลาดสหรัฐฯ ซึ่งอาจสร้างเม็ดเงินได้ถึง 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าสู่เศรษฐกิจของรัสเซีย หรือแม้แต่แร่หายากอื่นๆในภูมิภาคใหม่ทั้งสี่

    - โดยพื้นฐานแล้ว การแก้ไขความขัดแย้งในยูเครนยังไม่ได้มีการหารือกับทรัมป์อย่างจริงจัง

    - ผู้นำสหภาพยุโรปชุดปัจจุบันมุ่งมั่นกับระบอบเคียฟมากเกินไป จนไม่อาจถอนตัวจากจุดยืนนี้ได้โดยไม่เสียหน้า

    - ปูตินไม่ขัดขวางหากยุโรปจะเข้าร่วมในกระบวนการเจรจา พวกเขาเพียงแค่ปฏิเสธไม่อยากเข้าร่วมเอง

    - เกี่ยวกับยุโรปและคำขาดของพวกเขา: “ปล่อยให้พวกเขาอยู่กับข้อเรียกร้องเหล่านั้น และให้พวกเขาได้คิดว่าพวกเขาลงเอยแบบนี้ได้อย่างไร”
    บางส่วนที่ปูตินตอบคำถามระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย: - รัสเซียพร้อมที่จะมอบโอกาสให้สหรัฐฯ ได้ทำงานร่วมกันในด้านแร่ธาตุหายาก - เซเลนสกีไม่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งหากเขาลงแข่งขัน คะแนนนิยมของเซเลนสกีต่ำกว่า "ซาลูซนีย์" (อดีตผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพยูเครน) ถึงสองเท่า - รัสเซียไม่ได้ต่อต้านการรักษาสถานะความเป็นรัฐของยูเครน แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ใช้ดินแดนยูเครนเป็นภัยคุกคามต่อมอสโก - รัสเซียพร้อมหารือกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลดงบประมาณกลาโหม การลดงบประมาณลง 50% ถือเป็นความคิดที่ดี - รัสเซียพร้อมที่จะเสนอความร่วมมือด้านแร่หายากแก่หุ้นส่วนต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ โดยยกตัวอย่าง เช่น อาจเป็นความร่วมมือกันในโครงการขุดอะลูมิเนียม เช่น ในเขตครัสโนยาสก์ ซึ่งคาดว่าจะมีอยู่ราว 2 ล้านตันให้กับตลาดสหรัฐฯ ซึ่งอาจสร้างเม็ดเงินได้ถึง 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าสู่เศรษฐกิจของรัสเซีย หรือแม้แต่แร่หายากอื่นๆในภูมิภาคใหม่ทั้งสี่ - โดยพื้นฐานแล้ว การแก้ไขความขัดแย้งในยูเครนยังไม่ได้มีการหารือกับทรัมป์อย่างจริงจัง - ผู้นำสหภาพยุโรปชุดปัจจุบันมุ่งมั่นกับระบอบเคียฟมากเกินไป จนไม่อาจถอนตัวจากจุดยืนนี้ได้โดยไม่เสียหน้า - ปูตินไม่ขัดขวางหากยุโรปจะเข้าร่วมในกระบวนการเจรจา พวกเขาเพียงแค่ปฏิเสธไม่อยากเข้าร่วมเอง - เกี่ยวกับยุโรปและคำขาดของพวกเขา: “ปล่อยให้พวกเขาอยู่กับข้อเรียกร้องเหล่านั้น และให้พวกเขาได้คิดว่าพวกเขาลงเอยแบบนี้ได้อย่างไร”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts