• MOTO GP ไปต่อหรือพอแค่นี้?

    การออกมาเปิดเผยของนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ว่ารัฐบาลจะลงทุนจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี ปี 2026 เป็นปีสุดท้าย หลังจัดการแข่งขันมา 7 ปีติดต่อกัยในนามรัฐบาล และจะไม่ต่อสัญญาอีก ก่อให้เกิดปฎิริยาต่อรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งในวันต่อมานายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำเสนอตัวเลข เพื่อพิจารณาว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ ยืนยันว่าหากเป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชนหมู่มากก็คงต้องทำต่อ

    ด้านนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า เรื่องไม่ต่อสัญญาไม่เป็นความจริง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุย ซึ่งทางดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ก็ชื่นชมประเทศไทย ส่วนรัฐบาลก็อยากให้มีการแข่งขันรายการใหญ่ ที่ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว กกท. จะนำสถิติตัวเลขต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้นำเสนอกับทางรัฐบาล และยังกล่าวอีกว่า หลายประเทศก็จ่อคิวรออยู่ ถ้าไทยไม่ตัดสินใจ ก็มีหลายประเทศรออยู่ ซึ่งทุกอย่างต้องชัดเจนก่อน 1 ปี เพราะดอร์น่าจะต้องจัดการเรื่องสนามให้ลงตัว ถ้าไทยไม่เป็นเจ้าภาพต่อ ดอร์น่าก็จะต้องไปคุยกับประเทศอื่นๆ แทน

    ทั้งนี้ การแข่งขันโมโตจีพีในปีนี้ทุบสถิติมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่า 5,000 ล้าน จำนวนผู้ชมสูงขึ้นเกือบ 7% การสร้างงานสูงขึ้น 12% และการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 52,000 คน สูงขึ้นประมาณ 38% ถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มจัดงานมา

    สำหรับการแข่งขันโมโตจีพีที่จังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2561 หลังจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อนุมัติงบประมาณจัดการแข่งขัน เมื่อปี 2560 ตามที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาในขณะนั้น เป็นผู้เสนอ ตามนโยบายการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) และต้องการผลักดันนโยบายนี้ให้มากขึ้น โดยรัฐบาลจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันปีละ 100 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี รวมทั้งสิ้น 300 ล้านบาท ระหว่างปี 2561-2563 และมีภาคเอกชนระดมทุนในการดำเนินการทั้งหมด โดยนายเนวินในฐานะประธานสนาม สนับสนุนให้ใช้สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นสนามแข่งขันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

    ต่อมาในปี 2563 ครม. มีมติเห็นชอบต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโมโตจีพีออกไปอีก 5 ปี ระหว่างปี 2564-2569 โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณค่าลิขสิทธิ์ 50% ส่วนที่เหลือ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด ในฐานะผู้บริหารสิทธิ์ จะหาผู้สนับสนุนในประเทศไทย

    #Newskit
    MOTO GP ไปต่อหรือพอแค่นี้? การออกมาเปิดเผยของนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ว่ารัฐบาลจะลงทุนจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี ปี 2026 เป็นปีสุดท้าย หลังจัดการแข่งขันมา 7 ปีติดต่อกัยในนามรัฐบาล และจะไม่ต่อสัญญาอีก ก่อให้เกิดปฎิริยาต่อรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งในวันต่อมานายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำเสนอตัวเลข เพื่อพิจารณาว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ ยืนยันว่าหากเป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชนหมู่มากก็คงต้องทำต่อ ด้านนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า เรื่องไม่ต่อสัญญาไม่เป็นความจริง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุย ซึ่งทางดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ก็ชื่นชมประเทศไทย ส่วนรัฐบาลก็อยากให้มีการแข่งขันรายการใหญ่ ที่ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว กกท. จะนำสถิติตัวเลขต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้นำเสนอกับทางรัฐบาล และยังกล่าวอีกว่า หลายประเทศก็จ่อคิวรออยู่ ถ้าไทยไม่ตัดสินใจ ก็มีหลายประเทศรออยู่ ซึ่งทุกอย่างต้องชัดเจนก่อน 1 ปี เพราะดอร์น่าจะต้องจัดการเรื่องสนามให้ลงตัว ถ้าไทยไม่เป็นเจ้าภาพต่อ ดอร์น่าก็จะต้องไปคุยกับประเทศอื่นๆ แทน ทั้งนี้ การแข่งขันโมโตจีพีในปีนี้ทุบสถิติมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่า 5,000 ล้าน จำนวนผู้ชมสูงขึ้นเกือบ 7% การสร้างงานสูงขึ้น 12% และการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 52,000 คน สูงขึ้นประมาณ 38% ถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มจัดงานมา สำหรับการแข่งขันโมโตจีพีที่จังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2561 หลังจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อนุมัติงบประมาณจัดการแข่งขัน เมื่อปี 2560 ตามที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาในขณะนั้น เป็นผู้เสนอ ตามนโยบายการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) และต้องการผลักดันนโยบายนี้ให้มากขึ้น โดยรัฐบาลจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันปีละ 100 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี รวมทั้งสิ้น 300 ล้านบาท ระหว่างปี 2561-2563 และมีภาคเอกชนระดมทุนในการดำเนินการทั้งหมด โดยนายเนวินในฐานะประธานสนาม สนับสนุนให้ใช้สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นสนามแข่งขันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ต่อมาในปี 2563 ครม. มีมติเห็นชอบต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโมโตจีพีออกไปอีก 5 ปี ระหว่างปี 2564-2569 โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณค่าลิขสิทธิ์ 50% ส่วนที่เหลือ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด ในฐานะผู้บริหารสิทธิ์ จะหาผู้สนับสนุนในประเทศไทย #Newskit
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • เซเลนสกีหอบเข็มขัดแชมป์โลกของโอเล็กซานเดอร์ อูซีก (Oleksandr Usyk) นักมวยชาวยูเครนแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต 3 สถาบัน (WBC, WBA และ WBO) มาวอชิงตันด้วย "เขารู้ว่าทรัมป์รักกีฬามวย"
    เซเลนสกีหอบเข็มขัดแชมป์โลกของโอเล็กซานเดอร์ อูซีก (Oleksandr Usyk) นักมวยชาวยูเครนแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต 3 สถาบัน (WBC, WBA และ WBO) มาวอชิงตันด้วย "เขารู้ว่าทรัมป์รักกีฬามวย"
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • ใบปิดฉบับไทยแลนด์ ....
    สตาร์ท .... Day 1 นาจา 2 อินไทยแลนด์

    เตรียมพบกับการกลับมาของเด็กแสบ "นาจา"
    ใน "Ne Zha 2 - นาจา 2"
    ที่ขึ้นแท่นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำรายได้เป็นอันดับ 1 ของโลก
    จากผลงานของผู้กำกับ “เจี่ยวจือ”
    ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ให้กับ "Ne Zha"
    ครองแชมป์หนังทำรายได้สูงสุดในจีนปี 2019

    13 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์

    #NeZha2TH
    #นาจา2
    ใบปิดฉบับไทยแลนด์ .... สตาร์ท .... Day 1 นาจา 2 อินไทยแลนด์ เตรียมพบกับการกลับมาของเด็กแสบ "นาจา" ใน "Ne Zha 2 - นาจา 2" ที่ขึ้นแท่นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำรายได้เป็นอันดับ 1 ของโลก จากผลงานของผู้กำกับ “เจี่ยวจือ” ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ให้กับ "Ne Zha" ครองแชมป์หนังทำรายได้สูงสุดในจีนปี 2019 13 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์ #NeZha2TH #นาจา2
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • MotoGP 2025 เตรียมเปิดฉาก สนามแรก "ไทย จีพี 2025" บรรยากาศภายในสนามและในจังหวัดบุรีรัมย์สุดคึกคัก “นักบิดดาวดัง” สำรวจแทร็ก ก่อนลุยศึกโค้งสำคัญลุ้นแชมป์โลก
    MotoGP 2025 เตรียมเปิดฉาก สนามแรก "ไทย จีพี 2025" บรรยากาศภายในสนามและในจังหวัดบุรีรัมย์สุดคึกคัก “นักบิดดาวดัง” สำรวจแทร็ก ก่อนลุยศึกโค้งสำคัญลุ้นแชมป์โลก
    Like
    Love
    Haha
    10
    0 Comments 0 Shares 1018 Views 71 0 Reviews
  • “ฮอร์เก มาร์ติน” แชมป์โลก MotoGP คนล่าสุด ชวดแข่งสนามแรกที่ไทย : [News story]

    ฮอร์เก มาร์ติน นักบิดชาวสเปน เจ้าของแชมป์โลก โมโตจีพี คนล่าสุด
    จะพลาดเข้าร่วมการแข่งขันสนามแรกของฤดูกาล ที่ประเทศไทย จากการยืนยันของทางสังกัด
    “ฮอร์เก มาร์ติน” แชมป์โลก MotoGP คนล่าสุด ชวดแข่งสนามแรกที่ไทย : [News story] ฮอร์เก มาร์ติน นักบิดชาวสเปน เจ้าของแชมป์โลก โมโตจีพี คนล่าสุด จะพลาดเข้าร่วมการแข่งขันสนามแรกของฤดูกาล ที่ประเทศไทย จากการยืนยันของทางสังกัด
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 711 Views 30 0 Reviews
  • เขย่าวงการรถยนต์ไฟฟ้าจนร้อนไปทั่วเมื่อหุ้น BYD พุ่งทะยานวันพุธ (12) หลังค่ายรถอีวีชื่อดังจีน BYD ประกาศจับมือบริษัท AI จีนชื่อดัง DeepSeek ให้เอาสมองกล AI ใส่ในรถ BYD ส่วนผู้ก่อตั้ง DeepSeek เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) ไม่เดินทางร่วมการประชุม AI Summit ที่กรุงปารีสซึ่งมีการประชุม 2 วันถึงแม้จะได้รับเชิญ หนังสือพิมพ์เซาท์มอร์นิ่งไชนาโพสต์ชี้ ไม่จำเป็นเพราะจีนได้ปักธงเป็นผู้ชนะสมรภูมิรบปัญญาประดิษฐ์ระดับโลกไปแล้วเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ กำลังวุ่นวายประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ สัปดาห์ที่แล้วสั่งระงับชั่วคราวโครงการสถานีชาร์เจอร์ของรถอีวีทั่วสหรัฐฯ 5 พันล้านดอลลาร์ระหว่าง อีลอน มัสก์ เจ้าของเทสลากำลังยุ่งกับการยกเลิกหน่วยงานรัฐไล่เจ้าหน้าที่รัฐออก
    .
    ยูโรนิวส์รายงานวันพุธ (12 ก.พ.) ว่า หุ้น BYD พุ่งทะยานสูงสุดวันพุธ (12) หลังค่าย BYD ยักษ์ใหญ่อีวีของจีนประกาศจับมือร่วมกันกับบริษัท DeepSeek เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จีนเมื่อต้นสัปดาห์นี้
    .
    BYD คู่แข่งสำคัญของค่ายเทสลาจากสหรัฐฯ แถลงว่า จะติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติในรถทุกรุ่นของตัวเอง ตั้งแต่รุ่นที่ราคาต่ำสู่รุ่นระดับเอ็กซ์คลูซีฟ
    .
    ผู้ก่อตั้ง BYD Wang Chuanfu กล่าวในวันจันทร์ (10) ว่า บริษัท BYD ตั้งใจจะทำให้การขับขี่อัตโนมัติมีความหรูหราน้อยลงและฟีเจอร์ความปลอดภัยมากขึ้น
    .
    เทคโนโลยีใหม่ที่ว่านี้ถูกเรียกว่า “ดวงตาแห่งพระเจ้า” (God's Eye) จะได้รับการติดตั้งในรถที่มีราคาต่ำสุดตั้งแต่ 69,800 หยวน หรือ ราว 325,712.21 บาท อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนประจำวันพุธ (12)
    .
    BYD เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะติดตั้งซอฟต์แวร์ AI ของ DeepSeek เข้าไปในบางรุ่นของระบบการขับขี่ของตัวเอง
    .
    ผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาชี้ว่า DeepSeek จะทำให้ระบบเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติของ BYD มีความชาญฉลาดมากขึ้นทางด้านระบบเสียงสั่งการ และเพิ่มความสามารถการขับขี่อัตโนมัติ
    .
    การประกาศจับมือร่วมกันของ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ชื่อดังจากแดนมังกรทำเอาเทสลาของอีลอน มัสก์ตกที่นั่งลำบาก สื่อ city.am ของอังกฤษออกมาชี้ว่า ผลการประกาศจับมือร่วมกันระหว่าง BYD และ DeepSeek ส่งผลสะเทือนต่อหุ้นเทสลาในวันพุธ (12) ที่ตกลง 5 วันติดต่อกัน
    .
    เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นักลงทุนต่างเริ่มวิตกถึงซีอีโอใหญ่ อีลอน มัสก์ ในการใช้เวลาของเขา แมตต์ บริตซแมน (Matt Britzman) จาก Hargreaves Lansdown
    .
    นอกเหนือจากที่เขาต้องวุ่นกับแพลตฟอร์ม X ที่ปรากฏการทวีตของมัสก์บนแพลตฟอร์มบ่อยครั้ง มัสก์ล่าสุดได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำสำนักงานประสิทธิภาพรัฐ DOGE และยังเปิดข้อเสนอ 97 พันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อ OpenAI ของ แซม อัลต์แมน ทำให้วิตกว่า อีลอน จะไม่สนใจบริหาร Tesla อย่างมีประสิทธิภาพ
    .
    “แบรนด์ Tesla ตอนนี้พังแล้ว” รอส เกอร์เบอร์ (Ross Gerber) ซีอีโอบริหารประจำ Gerber Kawasaki แถลง
    .
    ขณะที่ผู้ก่อตั้ง DeepSeek เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) มีรายงานไม่บินเข้าร่วมการประชุม AI โลก 2 วันจัดขึ้นที่กรุงปารีส ถึงแม้จะถูกเชิญก็ตาม หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานวานนี้ (11) แสดงความเห็นว่า จากการที่จีนกลายเป็นแชมป์ด้าน AI ในระดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    หนังสือฮ่องกงรายงานว่า แต่ทว่ามีปรากฏภาพซีอีโอบริษัท OpenAI ของสหรัฐฯ แซม อัลต์แมน เข้าร่วมงานในการประชุมนอกรอบในวันอังคาร (11)
    .
    งานซัมมิต AI โลกนี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง อ้างอิงจากเดอะการ์เดียนวันจันทร์ (10) ได้ออกมาประกาศว่า “หากเป็นเรื่องเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI แล้วขอให้เลือกยุโรปและฝรั่งเศส”
    .
    ฝรั่งเศสและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จับมือร่วมกันตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ AI 1 กิกะวัตต์ของบริษัท Mistral AI ที่ฝรั่งเศสมูลค่าถึง 50 พันล้านยูโร
    .
    ทั้งนี้ Mistral AI SAS เป็นสตาร์ทอัปด้านปัญญาประดิษฐ์จากฝรั่งเศส มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปารีส มีความเชี่ยวชาญในโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบเปิดน้ำหนัก ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2023 โดยวิศวกรที่เคยทำงานโดย Google DeepMind และ Meta Platforms
    .
    ขณะเดียวกันในสหรัฐฯ ประเทศที่เป็นจุดเริ่มต้นทั้งรถไฟฟ้าและเทคโนโลยี AI เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันศุกร์ (7) เป็นที่น่าตกตะลึงเมื่อ รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ที่มี “อีลอน มัสก์” ทำงานร่วม ออกคำสั่งภายในวันพฤหัสบดี (6) ให้บรรดาผู้อำนวยการคมนาคมมลรัฐ และสำนักงานบริหารทางหลวงสหรัฐฯ FHWA
    .
    ห้ามมลรัฐต่างๆ ใช้เงินใดๆที่ส่งไปให้ภายใต้โครงการโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จเจอร์อีวี NEVI ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่ต้องการขยายสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์รถอีวีให้ครอบคลุมทั่วประเทศอันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายโลกร้อนและสิ่งแวดล้อมของไบเดน
    .
    เดอะการ์เดียนชี้ว่า ปัจจุบันในสหรัฐฯ พบว่า 14 มลรัฐทั่วอเมริกามีสถานีชาร์จเจอร์ไม่ต่ำกว่า 1 แห่งเปิดบริการ และมาจนถึงพฤศจิกายนล่าสุด มีจุดชาร์จไฟสาธารณะร่วม 126 เปิดทั่วสถานีชาร์จเจอร์รัฐ NEVI 31 แห่งใน 9 รัฐ เพิ่มขึ้น 83% ในการเปิดนับตั้งแต่ไตรมาสที่แล้ว
    .
    ทรัมป์เคยออกมาประณามการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของไบเดนว่าจะเป็นการนำความหายนะมาสู่อุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014306
    ..............
    Sondhi X
    เขย่าวงการรถยนต์ไฟฟ้าจนร้อนไปทั่วเมื่อหุ้น BYD พุ่งทะยานวันพุธ (12) หลังค่ายรถอีวีชื่อดังจีน BYD ประกาศจับมือบริษัท AI จีนชื่อดัง DeepSeek ให้เอาสมองกล AI ใส่ในรถ BYD ส่วนผู้ก่อตั้ง DeepSeek เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) ไม่เดินทางร่วมการประชุม AI Summit ที่กรุงปารีสซึ่งมีการประชุม 2 วันถึงแม้จะได้รับเชิญ หนังสือพิมพ์เซาท์มอร์นิ่งไชนาโพสต์ชี้ ไม่จำเป็นเพราะจีนได้ปักธงเป็นผู้ชนะสมรภูมิรบปัญญาประดิษฐ์ระดับโลกไปแล้วเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ กำลังวุ่นวายประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ สัปดาห์ที่แล้วสั่งระงับชั่วคราวโครงการสถานีชาร์เจอร์ของรถอีวีทั่วสหรัฐฯ 5 พันล้านดอลลาร์ระหว่าง อีลอน มัสก์ เจ้าของเทสลากำลังยุ่งกับการยกเลิกหน่วยงานรัฐไล่เจ้าหน้าที่รัฐออก . ยูโรนิวส์รายงานวันพุธ (12 ก.พ.) ว่า หุ้น BYD พุ่งทะยานสูงสุดวันพุธ (12) หลังค่าย BYD ยักษ์ใหญ่อีวีของจีนประกาศจับมือร่วมกันกับบริษัท DeepSeek เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จีนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ . BYD คู่แข่งสำคัญของค่ายเทสลาจากสหรัฐฯ แถลงว่า จะติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติในรถทุกรุ่นของตัวเอง ตั้งแต่รุ่นที่ราคาต่ำสู่รุ่นระดับเอ็กซ์คลูซีฟ . ผู้ก่อตั้ง BYD Wang Chuanfu กล่าวในวันจันทร์ (10) ว่า บริษัท BYD ตั้งใจจะทำให้การขับขี่อัตโนมัติมีความหรูหราน้อยลงและฟีเจอร์ความปลอดภัยมากขึ้น . เทคโนโลยีใหม่ที่ว่านี้ถูกเรียกว่า “ดวงตาแห่งพระเจ้า” (God's Eye) จะได้รับการติดตั้งในรถที่มีราคาต่ำสุดตั้งแต่ 69,800 หยวน หรือ ราว 325,712.21 บาท อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนประจำวันพุธ (12) . BYD เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะติดตั้งซอฟต์แวร์ AI ของ DeepSeek เข้าไปในบางรุ่นของระบบการขับขี่ของตัวเอง . ผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาชี้ว่า DeepSeek จะทำให้ระบบเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติของ BYD มีความชาญฉลาดมากขึ้นทางด้านระบบเสียงสั่งการ และเพิ่มความสามารถการขับขี่อัตโนมัติ . การประกาศจับมือร่วมกันของ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ชื่อดังจากแดนมังกรทำเอาเทสลาของอีลอน มัสก์ตกที่นั่งลำบาก สื่อ city.am ของอังกฤษออกมาชี้ว่า ผลการประกาศจับมือร่วมกันระหว่าง BYD และ DeepSeek ส่งผลสะเทือนต่อหุ้นเทสลาในวันพุธ (12) ที่ตกลง 5 วันติดต่อกัน . เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นักลงทุนต่างเริ่มวิตกถึงซีอีโอใหญ่ อีลอน มัสก์ ในการใช้เวลาของเขา แมตต์ บริตซแมน (Matt Britzman) จาก Hargreaves Lansdown . นอกเหนือจากที่เขาต้องวุ่นกับแพลตฟอร์ม X ที่ปรากฏการทวีตของมัสก์บนแพลตฟอร์มบ่อยครั้ง มัสก์ล่าสุดได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำสำนักงานประสิทธิภาพรัฐ DOGE และยังเปิดข้อเสนอ 97 พันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อ OpenAI ของ แซม อัลต์แมน ทำให้วิตกว่า อีลอน จะไม่สนใจบริหาร Tesla อย่างมีประสิทธิภาพ . “แบรนด์ Tesla ตอนนี้พังแล้ว” รอส เกอร์เบอร์ (Ross Gerber) ซีอีโอบริหารประจำ Gerber Kawasaki แถลง . ขณะที่ผู้ก่อตั้ง DeepSeek เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) มีรายงานไม่บินเข้าร่วมการประชุม AI โลก 2 วันจัดขึ้นที่กรุงปารีส ถึงแม้จะถูกเชิญก็ตาม หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานวานนี้ (11) แสดงความเห็นว่า จากการที่จีนกลายเป็นแชมป์ด้าน AI ในระดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . หนังสือฮ่องกงรายงานว่า แต่ทว่ามีปรากฏภาพซีอีโอบริษัท OpenAI ของสหรัฐฯ แซม อัลต์แมน เข้าร่วมงานในการประชุมนอกรอบในวันอังคาร (11) . งานซัมมิต AI โลกนี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง อ้างอิงจากเดอะการ์เดียนวันจันทร์ (10) ได้ออกมาประกาศว่า “หากเป็นเรื่องเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI แล้วขอให้เลือกยุโรปและฝรั่งเศส” . ฝรั่งเศสและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จับมือร่วมกันตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ AI 1 กิกะวัตต์ของบริษัท Mistral AI ที่ฝรั่งเศสมูลค่าถึง 50 พันล้านยูโร . ทั้งนี้ Mistral AI SAS เป็นสตาร์ทอัปด้านปัญญาประดิษฐ์จากฝรั่งเศส มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปารีส มีความเชี่ยวชาญในโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบเปิดน้ำหนัก ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2023 โดยวิศวกรที่เคยทำงานโดย Google DeepMind และ Meta Platforms . ขณะเดียวกันในสหรัฐฯ ประเทศที่เป็นจุดเริ่มต้นทั้งรถไฟฟ้าและเทคโนโลยี AI เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันศุกร์ (7) เป็นที่น่าตกตะลึงเมื่อ รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ที่มี “อีลอน มัสก์” ทำงานร่วม ออกคำสั่งภายในวันพฤหัสบดี (6) ให้บรรดาผู้อำนวยการคมนาคมมลรัฐ และสำนักงานบริหารทางหลวงสหรัฐฯ FHWA . ห้ามมลรัฐต่างๆ ใช้เงินใดๆที่ส่งไปให้ภายใต้โครงการโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จเจอร์อีวี NEVI ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่ต้องการขยายสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์รถอีวีให้ครอบคลุมทั่วประเทศอันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายโลกร้อนและสิ่งแวดล้อมของไบเดน . เดอะการ์เดียนชี้ว่า ปัจจุบันในสหรัฐฯ พบว่า 14 มลรัฐทั่วอเมริกามีสถานีชาร์จเจอร์ไม่ต่ำกว่า 1 แห่งเปิดบริการ และมาจนถึงพฤศจิกายนล่าสุด มีจุดชาร์จไฟสาธารณะร่วม 126 เปิดทั่วสถานีชาร์จเจอร์รัฐ NEVI 31 แห่งใน 9 รัฐ เพิ่มขึ้น 83% ในการเปิดนับตั้งแต่ไตรมาสที่แล้ว . ทรัมป์เคยออกมาประณามการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของไบเดนว่าจะเป็นการนำความหายนะมาสู่อุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014306 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    15
    0 Comments 0 Shares 2327 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์ประกาศยังมุ่งมั่นที่จะซื้อดินแดนกาซามาครอบครอง ถึงแม้เจอเสียงประณามคัดค้านตั้งแต่ชาวปาเลสไตน์ ไปถึงชาติอาหรับ โลกมุสลิม และกระทั่งพวกประเทศตะวันตก เพียงแต่อาจปรับเปลี่ยนแผนไปบ้าง โดยอาจแบ่งสรรพื้นที่บางส่วนให้ประเทศในตะวันออกกลางเข้าไปเป็นผู้ฟื้นฟูบูรณะ รวมถึงอาจรับชาวปาเลสไตน์ลี้ภัยในอเมริกาแต่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป ขณะที่ทางด้านเนทันยาฮู ก็ถูกจวกแหลก หลังปล่อยมุกเสนอไอเดียให้จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้นในซาอุดีอาระเบีย
    .
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ขณะอยู่บนเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ ฟอร์ซ วัน” มุ่งหน้าไปชมการแข่งขันชิงแชมป์ซูเปอร์โบลในเทิอวนิวออร์ลีนส์ โดยย้ำว่าตัวเขายังคงมีความมุ่งมั่นเข้าซื้อและครอบครองฉนวนกาซา เพื่อให้มั่นใจว่าพวกนักรบฮามาสจะไม่ย้อนกลับไปอีก แต่อาจจะเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางเข้าร่วมการบูรณะฟื้นฟูดินแดนแห่งนี้ที่ถูกทำลายยับเยินในสงคราม
    .
    ก่อนหน้านี้ ระหว่างแถลงไอเดียเรื่องนี้ครั้งแรกสุดในสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บรรยายแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาเป็นการถาวร โดยให้ไปตั้งรกรากในประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างอียิปต์และจอร์แดน เพื่อที่อเมริกาจะเข้าไปครอบครองดินแดนชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ เพื่อสร้างให้เป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” ทว่าในวันอาทิตย์ เขาบอกว่า อาจอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์บางส่วนเดินทางไปตั้งรกรากในอเมริกา แต่สำทับว่า จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป
    .
    การเสนอไอเดียทั้งหมดของทรัมป์ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของชาวปาเลสไตน์ที่ต้องเผชิญการถล่มโจมตีทิ้งระเบิดจากอิสราเอลมานานกว่า 15 เดือน นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ที่นักรบฮามาสแอบข้ามแดนเข้าไปโจมตีอิสราเอลและเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซาที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 48,181 คน
    .
    นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า อเมริกาจะอ้างสิทธิ์อะไรในการเข้าไปยึดกาซา
    .
    เอซซาต เอล ราชก์ สมาชิกสายการเมืองของกลุ่มฮามาส ประณามแผนการของทรัมป์โดยระบุว่า กาซาไม่ใช่โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ซื้อขาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และปาเลสไตน์จะทำลายแผนการบังคับย้ายถิ่นฐานของผู้นำสหรัฐฯ
    .
    ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นบิ๊กรายหนึ่งในโลกอาหรับและตะวันออกกลาง รวมทั้งบรรดาผู้นำทั่วโลกก็คัดค้านแผนการของทรัมป์ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่สองแห่งจอร์แดน เตรียมเตือนทรัมป์ระหว่างเยือนวอชิงตันในวันอังคาร (11) ว่า แผนการเช่นนี้จะปลุกเร้าให้ลัทธิหัวรุนแรงแพร่ขยายไปทั่วตะวันออกกลาง และสั่นคลอนสันติภาพระหว่างจอร์แดนกับอิสราเอล
    .
    ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอันของตุรกี และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์แห่งเยอรมนี เป็นผู้นำโลกสองคนล่าสุดที่ประณามแผนการของทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ (9) ที่ผ่านมา โดยแอร์โดอันบอกว่า ไม่มีใครมีอำนาจย้ายประชาชนในกาซาออกจากบ้านเกิดเมืองนอน และเสริมว่า กาซา เวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออกเป็นของชาวปาเลสไตน์
    .
    ด้านชอลซ์โจมตีแผนการของทรัมป์ว่าเป็น “กรณีสุดอื้อฉาว” และสำทับว่า การบังคับประชาชนย้ายถิ่นฐานเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    ขณะที่ตะวันออกกลางเดือดเป็นฟื้นเป็นไฟกับข้อเสนอของทรัมป์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ดูจะเป็นผู้นำระดับชาติเพียงคนเดียวที่เชิดชูแผนการของประมุขทำเนียบขาวในการซื้อกาซาและย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนดังกล่าวว่า เป็นแนวทางที่สร้างสรรค์ และเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ที่แตกต่างออกไปจากกรอบเดิมอย่างชัดเจนและเป็นสิ่งที่ดีขึ้นสำหรับอิสราเอล
    .
    นอกจากนั้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขายังอยู่ในกรุงวอชิงตัน เนทันยาฮูได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีโปรอิสราเอลในสหรัฐฯ โดยที่ผู้สื่อข่าวได้พูดผิด เรียกเป็น "รัฐซาอุดีอาระเบีย" แทนที่จะเป็น "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮูก็แก้ไขให้โดยบอกว่า "รัฐปาเลสไตน์" จากนั้นเขาก็กล่าวต่อเป็นเชิงปล่อยมุกตลกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย"
    .
    ปรากฏว่าเรื่องนี้ บรรดาชาติอาหรับและโลกมุสลิมไม่ได้ขำด้วย โดยที่อียิปต์และจอร์แดนออกมาประณามคำพูดเช่นนี้ของเนทันยาฮู ไคโรนั้นถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง" ทีเดียว
    .
    ด้านซาอุดีอาระเบียเอง บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู และกล่าวต่อไปว่า "แนวคิดหัวรุนแรงซึ่งมุ่งที่การยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นเดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    ขณะที่อาเหม็ด อาบูล เกอิต ผู้นำกลุ่มสันนิบาตอาหรับ วิจารณ์ว่า ไอเดียของผู้นำยิวเป็นแค่ความเพ้อฝันหรือภาพลวงตาเท่านั้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013540
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ประกาศยังมุ่งมั่นที่จะซื้อดินแดนกาซามาครอบครอง ถึงแม้เจอเสียงประณามคัดค้านตั้งแต่ชาวปาเลสไตน์ ไปถึงชาติอาหรับ โลกมุสลิม และกระทั่งพวกประเทศตะวันตก เพียงแต่อาจปรับเปลี่ยนแผนไปบ้าง โดยอาจแบ่งสรรพื้นที่บางส่วนให้ประเทศในตะวันออกกลางเข้าไปเป็นผู้ฟื้นฟูบูรณะ รวมถึงอาจรับชาวปาเลสไตน์ลี้ภัยในอเมริกาแต่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป ขณะที่ทางด้านเนทันยาฮู ก็ถูกจวกแหลก หลังปล่อยมุกเสนอไอเดียให้จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้นในซาอุดีอาระเบีย . ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ขณะอยู่บนเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ ฟอร์ซ วัน” มุ่งหน้าไปชมการแข่งขันชิงแชมป์ซูเปอร์โบลในเทิอวนิวออร์ลีนส์ โดยย้ำว่าตัวเขายังคงมีความมุ่งมั่นเข้าซื้อและครอบครองฉนวนกาซา เพื่อให้มั่นใจว่าพวกนักรบฮามาสจะไม่ย้อนกลับไปอีก แต่อาจจะเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางเข้าร่วมการบูรณะฟื้นฟูดินแดนแห่งนี้ที่ถูกทำลายยับเยินในสงคราม . ก่อนหน้านี้ ระหว่างแถลงไอเดียเรื่องนี้ครั้งแรกสุดในสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บรรยายแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาเป็นการถาวร โดยให้ไปตั้งรกรากในประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างอียิปต์และจอร์แดน เพื่อที่อเมริกาจะเข้าไปครอบครองดินแดนชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ เพื่อสร้างให้เป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” ทว่าในวันอาทิตย์ เขาบอกว่า อาจอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์บางส่วนเดินทางไปตั้งรกรากในอเมริกา แต่สำทับว่า จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป . การเสนอไอเดียทั้งหมดของทรัมป์ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของชาวปาเลสไตน์ที่ต้องเผชิญการถล่มโจมตีทิ้งระเบิดจากอิสราเอลมานานกว่า 15 เดือน นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ที่นักรบฮามาสแอบข้ามแดนเข้าไปโจมตีอิสราเอลและเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซาที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 48,181 คน . นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า อเมริกาจะอ้างสิทธิ์อะไรในการเข้าไปยึดกาซา . เอซซาต เอล ราชก์ สมาชิกสายการเมืองของกลุ่มฮามาส ประณามแผนการของทรัมป์โดยระบุว่า กาซาไม่ใช่โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ซื้อขาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และปาเลสไตน์จะทำลายแผนการบังคับย้ายถิ่นฐานของผู้นำสหรัฐฯ . ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นบิ๊กรายหนึ่งในโลกอาหรับและตะวันออกกลาง รวมทั้งบรรดาผู้นำทั่วโลกก็คัดค้านแผนการของทรัมป์ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่สองแห่งจอร์แดน เตรียมเตือนทรัมป์ระหว่างเยือนวอชิงตันในวันอังคาร (11) ว่า แผนการเช่นนี้จะปลุกเร้าให้ลัทธิหัวรุนแรงแพร่ขยายไปทั่วตะวันออกกลาง และสั่นคลอนสันติภาพระหว่างจอร์แดนกับอิสราเอล . ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอันของตุรกี และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์แห่งเยอรมนี เป็นผู้นำโลกสองคนล่าสุดที่ประณามแผนการของทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ (9) ที่ผ่านมา โดยแอร์โดอันบอกว่า ไม่มีใครมีอำนาจย้ายประชาชนในกาซาออกจากบ้านเกิดเมืองนอน และเสริมว่า กาซา เวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออกเป็นของชาวปาเลสไตน์ . ด้านชอลซ์โจมตีแผนการของทรัมป์ว่าเป็น “กรณีสุดอื้อฉาว” และสำทับว่า การบังคับประชาชนย้ายถิ่นฐานเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ . ขณะที่ตะวันออกกลางเดือดเป็นฟื้นเป็นไฟกับข้อเสนอของทรัมป์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ดูจะเป็นผู้นำระดับชาติเพียงคนเดียวที่เชิดชูแผนการของประมุขทำเนียบขาวในการซื้อกาซาและย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนดังกล่าวว่า เป็นแนวทางที่สร้างสรรค์ และเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ที่แตกต่างออกไปจากกรอบเดิมอย่างชัดเจนและเป็นสิ่งที่ดีขึ้นสำหรับอิสราเอล . นอกจากนั้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขายังอยู่ในกรุงวอชิงตัน เนทันยาฮูได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีโปรอิสราเอลในสหรัฐฯ โดยที่ผู้สื่อข่าวได้พูดผิด เรียกเป็น "รัฐซาอุดีอาระเบีย" แทนที่จะเป็น "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮูก็แก้ไขให้โดยบอกว่า "รัฐปาเลสไตน์" จากนั้นเขาก็กล่าวต่อเป็นเชิงปล่อยมุกตลกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย" . ปรากฏว่าเรื่องนี้ บรรดาชาติอาหรับและโลกมุสลิมไม่ได้ขำด้วย โดยที่อียิปต์และจอร์แดนออกมาประณามคำพูดเช่นนี้ของเนทันยาฮู ไคโรนั้นถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง" ทีเดียว . ด้านซาอุดีอาระเบียเอง บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู และกล่าวต่อไปว่า "แนวคิดหัวรุนแรงซึ่งมุ่งที่การยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นเดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ . ขณะที่อาเหม็ด อาบูล เกอิต ผู้นำกลุ่มสันนิบาตอาหรับ วิจารณ์ว่า ไอเดียของผู้นำยิวเป็นแค่ความเพ้อฝันหรือภาพลวงตาเท่านั้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013540 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 Comments 0 Shares 1791 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อปาน รุ่นแรก วัดนาประดู่ จ.ปัตตานี

    เหรียญหลวงพ่อปาน รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า วัดนาประดู่ จ.ปัตตานี ปี2504 // พระดีพิธีใหญ่ #สวยแชมป์ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว สร้างและปลุกเสก ร่วมกับพระอาจารย์สายเขาอ้อ ชื่อดังหลายๆท่านครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเด่นเรื่อง ลาภผลและความปลอดภัย นิรันตราย เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย อยู่ยงคงกระพัน เสริมลาภทรัพย์ให้เพิ่มพูน เจรจาธุรกิจก็จะสำเร็จ ป้องกันคุณไสย มีอำนาจ บารมี >>

    ** เหรียญหลวงพ่อปาน รุ่นแรก วัดนาประดู่ ถือได้ว่าเป็นพระที่มีพุทธคุณสูงอีกรุ่นครับ พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว สร้างและปลุกเสก ร่วมกับพระอาจารย์สายเขาอ้อ ชื่อดังหลายๆท่าน ประวัติการจัดสร้างชัดเจน วัดนาประดู่สร้างขึ้นเป็นวัดเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๓๐ เดิมมีนามว่า “วัดกัทลิวัน ” ได้เปลี่ยนเป็น “วัดนาประดู่” เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อปาน รุ่นแรก วัดนาประดู่ จ.ปัตตานี เหรียญหลวงพ่อปาน รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า วัดนาประดู่ จ.ปัตตานี ปี2504 // พระดีพิธีใหญ่ #สวยแชมป์ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว สร้างและปลุกเสก ร่วมกับพระอาจารย์สายเขาอ้อ ชื่อดังหลายๆท่านครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเด่นเรื่อง ลาภผลและความปลอดภัย นิรันตราย เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย อยู่ยงคงกระพัน เสริมลาภทรัพย์ให้เพิ่มพูน เจรจาธุรกิจก็จะสำเร็จ ป้องกันคุณไสย มีอำนาจ บารมี >> ** เหรียญหลวงพ่อปาน รุ่นแรก วัดนาประดู่ ถือได้ว่าเป็นพระที่มีพุทธคุณสูงอีกรุ่นครับ พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว สร้างและปลุกเสก ร่วมกับพระอาจารย์สายเขาอ้อ ชื่อดังหลายๆท่าน ประวัติการจัดสร้างชัดเจน วัดนาประดู่สร้างขึ้นเป็นวัดเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๓๐ เดิมมีนามว่า “วัดกัทลิวัน ” ได้เปลี่ยนเป็น “วัดนาประดู่” เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • 67 ปี หายนะเที่ยวบิน 609 ไถลหิมะรันเวย์มิวนิค-รีม โยนความผิดนักบิน เสียชีวิตรวมทีมแมนยู 23 ศพ

    ย้อนรอยเหตุการณ์สุดเศร้า 67 ปี ที่ผ่านมา เที่ยวบิน 609 ของสายการบินบริติชยูโรเปียนแอร์เวย์ส ไถลออกนอกรันเวย์ ท่ามกลางหิมะ ณ สนามบินมิวนิค-รีม คร่าชีวิตนักเตะ และสตาฟฟ์ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวม 23 ศห พร้อมการสืบสวน ที่เต็มไปด้วยปริศนา และข้อครหา

    วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 คือวันแห่งโศกนาฏกรรม ที่สะเทือนวงการฟุตบอลโลก เที่ยวบินเช่าเหมาลำ British European Airways Flight 609 ซึ่งนำพาเหล่านักเตะ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากอังกฤษ พร้อมสตาฟฟ์โค้ชและนักข่าว กลับจากการแข่งขันยูโรเปียนคัพ ที่ยูโกสลาเวีย ต้องแวะเติมน้ำมัน ที่สนามบินมิวนิค-รีม ประเทศเยอรมนีตะวันตก

    แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...
    เครื่องบินพยายามเทคออฟถึง 3 ครั้ง ก่อนจะลื่นไถลออกนอกรันเวย์ พุ่งชนอาคารและระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 23 ศพ รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8 คน นี่คือเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของ "ปีศาจแดง" ไปตลอดกาล

    📌 แต่เหตุใด เครื่องบินถึงไม่สามารถขึ้นบินได้?
    📌 ใครต้องรับผิดชอบ ต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้?
    📌 เกิดอะไรขึ้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากนั้น?

    ต้นเหตุของโศกนาฏกรรม อุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดของมนุษย์?
    เครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบินนี้คือ Airspeed AS.57 Ambassador ของสายการบิน British European Airways (BEA) โดยมี กัปตันเจมส์ เทรนต์ (James Thain) และผู้ช่วยนักบิน เคนเนตต์ เรย์เมนต์ (Kenneth Rayment) เป็นผู้ควบคุมเที่ยวบิน

    เมื่อเครื่องบินเดินทางมาถึง สนามบินมิวนิค-รีม ในช่วงบ่ายของวันนั้น สภาพอากาศเต็มไปด้วยหิมะ อุณหภูมิใกล้ 0 องศาเซลเซียส ส่งผลให้รันเวย์ เต็มไปด้วยน้ำแข็งบางๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการบิน

    กัปตันเทรนต์ พยายามนำเครื่องขึ้นบินถึง 3 ครั้ง แต่ประสบปัญหาทุกครั้ง

    1️⃣ ครั้งแรก เครื่องยนต์มีอาการกระตุก ทำให้กัปตันตัดสินใจ ยกเลิกการเทคออฟ
    2️⃣ ครั้งที่สอง ปัญหาเดิมเกิดขึ้น กัปตันต้องหยุดเที่ยวบินอีกครั้ง
    3️⃣ ครั้งที่สาม เครื่องบินเร่งความเร็วถึงระดับ V1 (ความเร็วที่ไม่สามารถหยุดบินได้) และเข้าสู่จุด Vrotate (จุดยกหัวเครื่อง) แต่ทันใดนั้น ความเร็วลดลงกะทันหัน ก่อนที่เครื่องจะสูญเสียแรงยก และไถลออกนอกรันเวย์

    ข้อสันนิษฐานสาเหตุที่แท้จริง
    ❄️ "น้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน?"
    มีการกล่าวหาในตอนแรกว่า น้ำแข็งเกาะบนปีกเครื่องบิน ทำให้เกิดแรงต้านอากาศ และไม่สามารถยกตัวขึ้นบินได้ อย่างไรก็ตาม กัปตันเทรนต์ยืนยันว่า เขาได้ตรวจสอบปีกแล้ว และไม่มีน้ำแข็งเกาะอยู่

    🏁 "หิมะบนรันเวย์?"
    การสืบสวนในเวลาต่อมาชี้ว่า หิมะที่หนาถึง 5 เซนติเมตร บนปลายรันเวย์ อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ลดความเร็วเครื่องบินลงทันที ส่งผลให้เครื่องบิน ไม่สามารถบินขึ้นได้

    🔥 "ความผิดพลาดของนักบิน?"
    ทางการเยอรมนีกลับชี้ว่า กัปตันเทรนต์ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากไม่ได้ละลายน้ำแข็ง บนปีกเครื่องบิน ทั้งที่หลักฐานชี้ว่า ปัญหาเกิดจาก สภาพรันเวย์มากกว่า

    ในที่สุด กัปตันเทรนต์ถูกไล่ออกจาก BEA แม้ต่อมาจะได้รับการพิสูจน์ว่า ไม่มีความผิด แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างตราบาป ที่ติดตัวไปตลอดชีวิตได้

    23 ชีวิตที่ต้องสูญเสีย บาดแผลที่ไม่มีวันลืม
    ในจำนวน 44 คน ที่โดยสารบนเครื่อง มี 23 ราย เสียชีวิตทันที หรือหลังจากนั้นไม่นาน รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โลกฟุตบอลต้องสูญเสีย ได้แก่

    ⚽ 8 นักเตะ "ปีศาจแดง" ที่จากไป
    โรเจอร์ ไบรน์ (Roger Byrne) กัปตันทีม
    เจฟฟ์ เบนท์ (Geoff Bent)
    เดวิด เพ็กก์ (David Pegg)
    มาร์ก โจนส์ (Mark Jones)
    บิลลี่ วีแลน (Billy Whelan)
    เอ็ดดี้ โคลแมน (Eddie Colman)
    ทอมมี่ เทย์เลอร์ (Tommy Taylor)
    ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ (Duncan Edwards) เสียชีวิตหลังจากนั้น 15 วัน

    📍 นักข่าวกีฬา 8 คน และทีมงานของแมนฯ ยูไนเต็ด 3 คน
    📍 ลูกเรือ 1 คน และผู้โดยสารอื่นๆ 2 คน

    💔 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ส่งผลกระทบมหาศาล ต่อวงการฟุตบอล โดยเฉพาะสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องสูญเสียแข้งดาวรุ่ง ที่มีอนาคตไกล

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังโศกนาฏกรรม
    แม้จะเสียผู้เล่นหลักไปถึง 8 ราย แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงสู้ต่อไป ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง
    🔴 สโมสรได้รับความช่วยเหลือ จากลิเวอร์พูล ที่ยืมนักเตะให้ใช้งาน
    🔴 เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (Sir Matt Busby) กุนซือผู้รอดชีวิต สร้างทีมใหม่ ด้วยดาวรุ่งอย่าง จอร์จ เบสต์, น็อบบี้ สไตล์ส และไบรอัน คิดด์
    🔴 ปี 1968 ยูไนเต็ดสามารถคว้าแชมป์ ยูโรเปียนคัพ ได้สำเร็จ เป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่ทำได้

    💡 นี่คือสัญลักษณ์ของการไม่ยอมแพ้ และจิตวิญญาณของ "ปีศาจแดง" ที่ยังคงสืบทอด มาจนถึงปัจจุบัน

    โศกนาฏกรรมที่เป็นบทเรียน
    เหตุการณ์มิวนิค ไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรม ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ ของอุตสาหกรรมการบิน

    ✈️ การพัฒนาเทคโนโลยีการบิน มีการบังคับใช้มาตรฐานใหม่ เกี่ยวกับการตรวจสอบรันเวย์ และน้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน
    ⚖️ ความยุติธรรมที่ล่าช้า กัปตันเทรนต์ใช้เวลากว่า 10 ปี ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง

    🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

    67 ปีผ่านไป แต่ "โศกนาฏกรรมมิวนิค" ยังคงเป็นเรื่องราว ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันลืม 🕊️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 062132 ก.พ. 2568

    #Munich1958 #ManchesterUnited #NeverForget #BusbyBabes #MUFC
    67 ปี หายนะเที่ยวบิน 609 ไถลหิมะรันเวย์มิวนิค-รีม โยนความผิดนักบิน เสียชีวิตรวมทีมแมนยู 23 ศพ ย้อนรอยเหตุการณ์สุดเศร้า 67 ปี ที่ผ่านมา เที่ยวบิน 609 ของสายการบินบริติชยูโรเปียนแอร์เวย์ส ไถลออกนอกรันเวย์ ท่ามกลางหิมะ ณ สนามบินมิวนิค-รีม คร่าชีวิตนักเตะ และสตาฟฟ์ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวม 23 ศห พร้อมการสืบสวน ที่เต็มไปด้วยปริศนา และข้อครหา วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 คือวันแห่งโศกนาฏกรรม ที่สะเทือนวงการฟุตบอลโลก เที่ยวบินเช่าเหมาลำ British European Airways Flight 609 ซึ่งนำพาเหล่านักเตะ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากอังกฤษ พร้อมสตาฟฟ์โค้ชและนักข่าว กลับจากการแข่งขันยูโรเปียนคัพ ที่ยูโกสลาเวีย ต้องแวะเติมน้ำมัน ที่สนามบินมิวนิค-รีม ประเทศเยอรมนีตะวันตก แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น... เครื่องบินพยายามเทคออฟถึง 3 ครั้ง ก่อนจะลื่นไถลออกนอกรันเวย์ พุ่งชนอาคารและระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 23 ศพ รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8 คน นี่คือเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของ "ปีศาจแดง" ไปตลอดกาล 📌 แต่เหตุใด เครื่องบินถึงไม่สามารถขึ้นบินได้? 📌 ใครต้องรับผิดชอบ ต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้? 📌 เกิดอะไรขึ้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากนั้น? ต้นเหตุของโศกนาฏกรรม อุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดของมนุษย์? เครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบินนี้คือ Airspeed AS.57 Ambassador ของสายการบิน British European Airways (BEA) โดยมี กัปตันเจมส์ เทรนต์ (James Thain) และผู้ช่วยนักบิน เคนเนตต์ เรย์เมนต์ (Kenneth Rayment) เป็นผู้ควบคุมเที่ยวบิน เมื่อเครื่องบินเดินทางมาถึง สนามบินมิวนิค-รีม ในช่วงบ่ายของวันนั้น สภาพอากาศเต็มไปด้วยหิมะ อุณหภูมิใกล้ 0 องศาเซลเซียส ส่งผลให้รันเวย์ เต็มไปด้วยน้ำแข็งบางๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการบิน กัปตันเทรนต์ พยายามนำเครื่องขึ้นบินถึง 3 ครั้ง แต่ประสบปัญหาทุกครั้ง 1️⃣ ครั้งแรก เครื่องยนต์มีอาการกระตุก ทำให้กัปตันตัดสินใจ ยกเลิกการเทคออฟ 2️⃣ ครั้งที่สอง ปัญหาเดิมเกิดขึ้น กัปตันต้องหยุดเที่ยวบินอีกครั้ง 3️⃣ ครั้งที่สาม เครื่องบินเร่งความเร็วถึงระดับ V1 (ความเร็วที่ไม่สามารถหยุดบินได้) และเข้าสู่จุด Vrotate (จุดยกหัวเครื่อง) แต่ทันใดนั้น ความเร็วลดลงกะทันหัน ก่อนที่เครื่องจะสูญเสียแรงยก และไถลออกนอกรันเวย์ ข้อสันนิษฐานสาเหตุที่แท้จริง ❄️ "น้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน?" มีการกล่าวหาในตอนแรกว่า น้ำแข็งเกาะบนปีกเครื่องบิน ทำให้เกิดแรงต้านอากาศ และไม่สามารถยกตัวขึ้นบินได้ อย่างไรก็ตาม กัปตันเทรนต์ยืนยันว่า เขาได้ตรวจสอบปีกแล้ว และไม่มีน้ำแข็งเกาะอยู่ 🏁 "หิมะบนรันเวย์?" การสืบสวนในเวลาต่อมาชี้ว่า หิมะที่หนาถึง 5 เซนติเมตร บนปลายรันเวย์ อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ลดความเร็วเครื่องบินลงทันที ส่งผลให้เครื่องบิน ไม่สามารถบินขึ้นได้ 🔥 "ความผิดพลาดของนักบิน?" ทางการเยอรมนีกลับชี้ว่า กัปตันเทรนต์ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากไม่ได้ละลายน้ำแข็ง บนปีกเครื่องบิน ทั้งที่หลักฐานชี้ว่า ปัญหาเกิดจาก สภาพรันเวย์มากกว่า ในที่สุด กัปตันเทรนต์ถูกไล่ออกจาก BEA แม้ต่อมาจะได้รับการพิสูจน์ว่า ไม่มีความผิด แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างตราบาป ที่ติดตัวไปตลอดชีวิตได้ 23 ชีวิตที่ต้องสูญเสีย บาดแผลที่ไม่มีวันลืม ในจำนวน 44 คน ที่โดยสารบนเครื่อง มี 23 ราย เสียชีวิตทันที หรือหลังจากนั้นไม่นาน รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โลกฟุตบอลต้องสูญเสีย ได้แก่ ⚽ 8 นักเตะ "ปีศาจแดง" ที่จากไป โรเจอร์ ไบรน์ (Roger Byrne) กัปตันทีม เจฟฟ์ เบนท์ (Geoff Bent) เดวิด เพ็กก์ (David Pegg) มาร์ก โจนส์ (Mark Jones) บิลลี่ วีแลน (Billy Whelan) เอ็ดดี้ โคลแมน (Eddie Colman) ทอมมี่ เทย์เลอร์ (Tommy Taylor) ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ (Duncan Edwards) เสียชีวิตหลังจากนั้น 15 วัน 📍 นักข่าวกีฬา 8 คน และทีมงานของแมนฯ ยูไนเต็ด 3 คน 📍 ลูกเรือ 1 คน และผู้โดยสารอื่นๆ 2 คน 💔 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ส่งผลกระทบมหาศาล ต่อวงการฟุตบอล โดยเฉพาะสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องสูญเสียแข้งดาวรุ่ง ที่มีอนาคตไกล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังโศกนาฏกรรม แม้จะเสียผู้เล่นหลักไปถึง 8 ราย แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงสู้ต่อไป ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง 🔴 สโมสรได้รับความช่วยเหลือ จากลิเวอร์พูล ที่ยืมนักเตะให้ใช้งาน 🔴 เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (Sir Matt Busby) กุนซือผู้รอดชีวิต สร้างทีมใหม่ ด้วยดาวรุ่งอย่าง จอร์จ เบสต์, น็อบบี้ สไตล์ส และไบรอัน คิดด์ 🔴 ปี 1968 ยูไนเต็ดสามารถคว้าแชมป์ ยูโรเปียนคัพ ได้สำเร็จ เป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่ทำได้ 💡 นี่คือสัญลักษณ์ของการไม่ยอมแพ้ และจิตวิญญาณของ "ปีศาจแดง" ที่ยังคงสืบทอด มาจนถึงปัจจุบัน โศกนาฏกรรมที่เป็นบทเรียน เหตุการณ์มิวนิค ไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรม ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ ของอุตสาหกรรมการบิน ✈️ การพัฒนาเทคโนโลยีการบิน มีการบังคับใช้มาตรฐานใหม่ เกี่ยวกับการตรวจสอบรันเวย์ และน้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน ⚖️ ความยุติธรรมที่ล่าช้า กัปตันเทรนต์ใช้เวลากว่า 10 ปี ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง 🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง 67 ปีผ่านไป แต่ "โศกนาฏกรรมมิวนิค" ยังคงเป็นเรื่องราว ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันลืม 🕊️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 062132 ก.พ. 2568 #Munich1958 #ManchesterUnited #NeverForget #BusbyBabes #MUFC
    0 Comments 0 Shares 535 Views 0 Reviews
  • ตารางอันดับหนังทำเงินตลอดกาลในจีน แตกก !!!!!!
    "Nezha 2" ผงาดยึดอันดับหนึ่ง
    ล้มแชมป์ด้วยเวลาที่สั้นกว่า และอาจไปได้ไกลถึง 10,000 ล้านหยวน

    "Nezha 2" เข้าฉายมาตั้งแต่วันพุธที่ 29 มกราคม ในเทศกาลตรุษจีน ใช้เวลาเพียง 9 วัน สามารถทำเงินล้มแชมป์หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในจีน ที่เดิมเป็นของ The Battle at Lake Changjin หนังสงครามที่รวม 3 ผู้กำกับ ฉีเคอะ เฉินข่ายเกอ และ ดันเต้ แลม โดยตัวเลขที่ทำได้ ถึงวันนี้ (6 กุมภาพันธ์) ในครึ่งวันแรก อยู่ที่ 5800 ล้านหยวน (796 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

    มีบทวิเคราะห์ที่ว่ากันว่า นาจาภาคนี้ มีคนที่ดูแล้วชื่นชอบถึงขนาดต้องดูรอบสอง หรือบางคนมีถึงรอบที่สาม

    นาจา เป็นตัวละครพื้นฐานมาจากนวนิยายจีนสมัยศตวรรษที่ 17 ชื่อ (ห้องสิน-The Investiture of the Gods) ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานวรรณกรรมสําคัญชิ้นแรกที่มี "เทพ" และ "ปีศาจ" ในลัทธิเต๋าและพุทธศาสนา

    Nezha 2 เป็นสัญลักษณ์ของการขบถ ภาพลักษณ์ของ "นาจา" ได้เปลี่ยนจากวีรบุรุษโศกนาฏกรรมแบบดั้งเดิม "กลับไปหาพ่อ" มาเป็นขบถสมัยใหม่ที่ "เปลี่ยนโชคชะตาที่ขัดต่อพระประสงค์ของพระเจ้า" ซึ่งสอดคล้องกับความทะเยอทะยานทางจิตวิญญาณของเยาวชนในปัจจุบัน ความมุ่งมั่นในการต่อต้านระบบและการแสวงหาเป้าหมาย การดัดแปลงนี้ทำลายมายาคติความศักดิ์สิทธิ์ของตัวละคร ให้สามารถสะท้อนและเข้าใกล้กับผู้ชมได้มากยิ่งขึ้น

    ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน โดยผสมผสานสไตล์พังก์ ภาษาพูดสมัยใหม่ มีม และองค์ประกอบอื่นๆ เช่น สำเนียง "ภาษาจีนกลางสไตล์เสฉวน" ของอาจารย์ไท่ยี่ ผู้เป็นครูของนาจา วิธีการนี้ผสมผสานสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมดั้งเดิมเข้ากับวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์เพื่อให้ภาพยนตร์ดึงดูดผู้ชม ขณะเดียวกันก็ปลูกฝังอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์

    Nezha 2 เป็นนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ในด้านสุนทรียศาสตร์ทางภาพ ภาพยนตร์เรื่องนี้ขับเคลื่อนสิ่งต่างๆด้วย เทคโนโลยี 5G และเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมด้วยทิศทางศิลปะที่สร้างสรรค์อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะทิวทัศน์ที่มีหมอกหนา ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการที่ต้องชมในโรงภาพยนตร์ ตัวละคร นาจา ถูกสร้างขึ้นด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเห็นได้ชัดจากข้อเท็จจริงที่ว่าตัวละครบนหน้าจอยังคงอารมณ์ การแสดงออกในแบบตะวันออกเอาไว้ได้ แท้จริงแล้ว นาจา อาจกลายเป็นแบรนด์ทางวัฒนธรรมใหม่ของจีน

    ภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่อง แสดงให้เห็นถึงความเห็นอกเห็นใจต่อ "ผู้ถูกละเลย" ประสบการณ์การถูกเลือกปฏิบัติของ นาจา เป็นคําอุปมาอุปมัยของสังคมร่วมสมัย ที่ปฏิเสธ "คนนอกรีต" และปลูกฝังจิตวิญญาณของ "การขจัดอคติ" ให้กับผู้คน

    หนังยังแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจริยธรรมของครอบครัว ด้วยการเปลี่ยนบทบาทพ่อแม่ของนาจา จากคนที่เคร่งครัดตามขนบธรรมเนียมมาเป็น พ่อและแม่ ที่รักลูกและ "ฝ่าฝืนพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อปกป้องลูก" ผู้สร้างภาพยนตร์ได้สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวจีนขึ้นใหม่ สะท้อนถึงการแสวงหา "รากฐานของครอบครัว" ของคนรุ่นใหม่ และสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างรุ่น

    ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางเทคโนโลยีของนักสร้างภาพเคลื่อนไหวชาวจีน ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจในวัฒนธรรมของผู้สร้างภาพยนตร์ชาวจีน นอกจากนี้ ทีมงานสร้างภาพยนตร์ยังได้เพิ่มจำนวนตัวละครขึ้นสามเท่าจากภาคก่อน ซึ่งดูเหมือนว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ ผู้ชมได้รับประสบการณ์ทางภาพที่งดงามตระการตา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเดินทางในภาพยนตร์ที่ดื่มด่ำและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น

    ในภาคนี้ นาจา ถูกเปลี่ยนบุคลิกจากคนดื้อรั้น เป็นผู้แบกรับภาระหนัก พร้อมสาบานที่จะ "ทำลายสวรรค์และโลก" และ "ปกป้องช่องเขาเฉินถังกวน" อย่างไรก็ตาม จิตวิญญาณของปัจเจกชน ไม่ได้สูญหายไปอย่างสมบูรณ์ เพราะมันสะท้อนถึงจิตวิญญาณแบบดั้งเดิมของความกล้าหาญ และดึงดูดผู้คนจํานวนมากไปชมดูภาพยนตร์

    ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเกมระหว่างความเชื่อเรื่องโชคชะตา และเจตจำนงเสรี คำกล่าวของนาจาที่ว่า "ฉันคือเจ้านายของชะตากรรมตนเอง" ผสมผสานแนวคิดของลัทธิเต๋าที่ว่า "การเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตนเองโดยขัดต่อพระประสงค์ของพระเจ้า" ซึ่งสะท้อนถึงปรัชญาของลัทธิอัตถิภาวนิยม ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเติมความมีชีวิตชีวาในแบบสมัยใหม่ให้กับวัฒนธรรมดั้งเดิมอีกด้วย

    Nezha 2 ได้แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของแอนิเมชั่นจีนที่ทันสมัย ​​การเล่าเรื่องทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และความเชื่อมั่นของชาติอีกครั้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างความหวังว่าภาพยนตร์แอนิเมชั่นจีนจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในอนาคตทั้งในประเทศและต่างประเทศ
    ตารางอันดับหนังทำเงินตลอดกาลในจีน แตกก !!!!!! "Nezha 2" ผงาดยึดอันดับหนึ่ง ล้มแชมป์ด้วยเวลาที่สั้นกว่า และอาจไปได้ไกลถึง 10,000 ล้านหยวน "Nezha 2" เข้าฉายมาตั้งแต่วันพุธที่ 29 มกราคม ในเทศกาลตรุษจีน ใช้เวลาเพียง 9 วัน สามารถทำเงินล้มแชมป์หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในจีน ที่เดิมเป็นของ The Battle at Lake Changjin หนังสงครามที่รวม 3 ผู้กำกับ ฉีเคอะ เฉินข่ายเกอ และ ดันเต้ แลม โดยตัวเลขที่ทำได้ ถึงวันนี้ (6 กุมภาพันธ์) ในครึ่งวันแรก อยู่ที่ 5800 ล้านหยวน (796 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มีบทวิเคราะห์ที่ว่ากันว่า นาจาภาคนี้ มีคนที่ดูแล้วชื่นชอบถึงขนาดต้องดูรอบสอง หรือบางคนมีถึงรอบที่สาม นาจา เป็นตัวละครพื้นฐานมาจากนวนิยายจีนสมัยศตวรรษที่ 17 ชื่อ (ห้องสิน-The Investiture of the Gods) ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานวรรณกรรมสําคัญชิ้นแรกที่มี "เทพ" และ "ปีศาจ" ในลัทธิเต๋าและพุทธศาสนา Nezha 2 เป็นสัญลักษณ์ของการขบถ ภาพลักษณ์ของ "นาจา" ได้เปลี่ยนจากวีรบุรุษโศกนาฏกรรมแบบดั้งเดิม "กลับไปหาพ่อ" มาเป็นขบถสมัยใหม่ที่ "เปลี่ยนโชคชะตาที่ขัดต่อพระประสงค์ของพระเจ้า" ซึ่งสอดคล้องกับความทะเยอทะยานทางจิตวิญญาณของเยาวชนในปัจจุบัน ความมุ่งมั่นในการต่อต้านระบบและการแสวงหาเป้าหมาย การดัดแปลงนี้ทำลายมายาคติความศักดิ์สิทธิ์ของตัวละคร ให้สามารถสะท้อนและเข้าใกล้กับผู้ชมได้มากยิ่งขึ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน โดยผสมผสานสไตล์พังก์ ภาษาพูดสมัยใหม่ มีม และองค์ประกอบอื่นๆ เช่น สำเนียง "ภาษาจีนกลางสไตล์เสฉวน" ของอาจารย์ไท่ยี่ ผู้เป็นครูของนาจา วิธีการนี้ผสมผสานสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมดั้งเดิมเข้ากับวัฒนธรรมป๊อปคัลเจอร์เพื่อให้ภาพยนตร์ดึงดูดผู้ชม ขณะเดียวกันก็ปลูกฝังอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ Nezha 2 เป็นนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ในด้านสุนทรียศาสตร์ทางภาพ ภาพยนตร์เรื่องนี้ขับเคลื่อนสิ่งต่างๆด้วย เทคโนโลยี 5G และเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมด้วยทิศทางศิลปะที่สร้างสรรค์อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะทิวทัศน์ที่มีหมอกหนา ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการที่ต้องชมในโรงภาพยนตร์ ตัวละคร นาจา ถูกสร้างขึ้นด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเห็นได้ชัดจากข้อเท็จจริงที่ว่าตัวละครบนหน้าจอยังคงอารมณ์ การแสดงออกในแบบตะวันออกเอาไว้ได้ แท้จริงแล้ว นาจา อาจกลายเป็นแบรนด์ทางวัฒนธรรมใหม่ของจีน ภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่อง แสดงให้เห็นถึงความเห็นอกเห็นใจต่อ "ผู้ถูกละเลย" ประสบการณ์การถูกเลือกปฏิบัติของ นาจา เป็นคําอุปมาอุปมัยของสังคมร่วมสมัย ที่ปฏิเสธ "คนนอกรีต" และปลูกฝังจิตวิญญาณของ "การขจัดอคติ" ให้กับผู้คน หนังยังแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจริยธรรมของครอบครัว ด้วยการเปลี่ยนบทบาทพ่อแม่ของนาจา จากคนที่เคร่งครัดตามขนบธรรมเนียมมาเป็น พ่อและแม่ ที่รักลูกและ "ฝ่าฝืนพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อปกป้องลูก" ผู้สร้างภาพยนตร์ได้สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวจีนขึ้นใหม่ สะท้อนถึงการแสวงหา "รากฐานของครอบครัว" ของคนรุ่นใหม่ และสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างรุ่น ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางเทคโนโลยีของนักสร้างภาพเคลื่อนไหวชาวจีน ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจในวัฒนธรรมของผู้สร้างภาพยนตร์ชาวจีน นอกจากนี้ ทีมงานสร้างภาพยนตร์ยังได้เพิ่มจำนวนตัวละครขึ้นสามเท่าจากภาคก่อน ซึ่งดูเหมือนว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ ผู้ชมได้รับประสบการณ์ทางภาพที่งดงามตระการตา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเดินทางในภาพยนตร์ที่ดื่มด่ำและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ในภาคนี้ นาจา ถูกเปลี่ยนบุคลิกจากคนดื้อรั้น เป็นผู้แบกรับภาระหนัก พร้อมสาบานที่จะ "ทำลายสวรรค์และโลก" และ "ปกป้องช่องเขาเฉินถังกวน" อย่างไรก็ตาม จิตวิญญาณของปัจเจกชน ไม่ได้สูญหายไปอย่างสมบูรณ์ เพราะมันสะท้อนถึงจิตวิญญาณแบบดั้งเดิมของความกล้าหาญ และดึงดูดผู้คนจํานวนมากไปชมดูภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเกมระหว่างความเชื่อเรื่องโชคชะตา และเจตจำนงเสรี คำกล่าวของนาจาที่ว่า "ฉันคือเจ้านายของชะตากรรมตนเอง" ผสมผสานแนวคิดของลัทธิเต๋าที่ว่า "การเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตนเองโดยขัดต่อพระประสงค์ของพระเจ้า" ซึ่งสะท้อนถึงปรัชญาของลัทธิอัตถิภาวนิยม ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเติมความมีชีวิตชีวาในแบบสมัยใหม่ให้กับวัฒนธรรมดั้งเดิมอีกด้วย Nezha 2 ได้แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของแอนิเมชั่นจีนที่ทันสมัย ​​การเล่าเรื่องทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และความเชื่อมั่นของชาติอีกครั้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างความหวังว่าภาพยนตร์แอนิเมชั่นจีนจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในอนาคตทั้งในประเทศและต่างประเทศ
    0 Comments 0 Shares 546 Views 0 Reviews
  • มีรายงานว่างานวิจัยจาก DeepSeek ได้เปิดเผยว่าชิพ AI ของ Huawei รุ่น Ascend 910C สามารถให้ประสิทธิภาพการประมวลผล inference ได้ถึง 60% ของชิพ Nvidia H100 ที่ยอดเยี่ยม งานวิจัยนี้ทำให้เห็นว่าแม้ชิพ Ascend 910C จะไม่ใช่แชมป์ในการฝึก AI แต่กลับมีประสิทธิภาพที่เพียงพอในด้าน inference และสามารถช่วยลดการพึ่งพา GPU ของ Nvidia ในประเทศจีนได้

    DeepSeek ได้ทำการทดสอบชิพ 910C และพบว่ามันมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าที่คาดไว้ในงาน inference และหากมีการปรับแต่งเคอร์เนล CUNN ด้วยตัวเอง จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อีก ทั้งนี้การผนวกชิพ Ascend เข้ากับ PyTorch repository และการรองรับ CUDA-to-CUNN conversion โดยง่าย ช่วยให้สามารถใช้งานฮาร์ดแวร์ของ Huawei ในการประมวลผล AI ได้อย่างลงตัว

    นอกจากนี้ แม้จะมีการคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและการขาดการเข้าถึงเทคโนโลยีชั้นนำจาก TSMC แต่ Huawei และ SMIC สามารถผลิตชิพที่สามารถแข่งขันกับชิพ Nvidia A100 และ H100 ได้ อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนหนึ่งของชิพจีนคือการฝึก AI ที่ยังคงต้องปรับปรุงต่อไป

    กล่าวโดยสรุป, Huawei's Ascend 910C เป็นชิพที่มีศักยภาพในการทำงาน inference ที่ดี แต่ยังคงต้องพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อแข่งขันในระดับโลก โดยเฉพาะในด้านการฝึก AI ที่ Nvidia ยังคงมีความเป็นผู้นำอย่างไม่ต้องสงสัย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/deepseek-research-suggests-huaweis-ascend-910c-delivers-60-percent-nvidia-h100-inference-performance
    มีรายงานว่างานวิจัยจาก DeepSeek ได้เปิดเผยว่าชิพ AI ของ Huawei รุ่น Ascend 910C สามารถให้ประสิทธิภาพการประมวลผล inference ได้ถึง 60% ของชิพ Nvidia H100 ที่ยอดเยี่ยม งานวิจัยนี้ทำให้เห็นว่าแม้ชิพ Ascend 910C จะไม่ใช่แชมป์ในการฝึก AI แต่กลับมีประสิทธิภาพที่เพียงพอในด้าน inference และสามารถช่วยลดการพึ่งพา GPU ของ Nvidia ในประเทศจีนได้ DeepSeek ได้ทำการทดสอบชิพ 910C และพบว่ามันมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าที่คาดไว้ในงาน inference และหากมีการปรับแต่งเคอร์เนล CUNN ด้วยตัวเอง จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อีก ทั้งนี้การผนวกชิพ Ascend เข้ากับ PyTorch repository และการรองรับ CUDA-to-CUNN conversion โดยง่าย ช่วยให้สามารถใช้งานฮาร์ดแวร์ของ Huawei ในการประมวลผล AI ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ แม้จะมีการคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและการขาดการเข้าถึงเทคโนโลยีชั้นนำจาก TSMC แต่ Huawei และ SMIC สามารถผลิตชิพที่สามารถแข่งขันกับชิพ Nvidia A100 และ H100 ได้ อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนหนึ่งของชิพจีนคือการฝึก AI ที่ยังคงต้องปรับปรุงต่อไป กล่าวโดยสรุป, Huawei's Ascend 910C เป็นชิพที่มีศักยภาพในการทำงาน inference ที่ดี แต่ยังคงต้องพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อแข่งขันในระดับโลก โดยเฉพาะในด้านการฝึก AI ที่ Nvidia ยังคงมีความเป็นผู้นำอย่างไม่ต้องสงสัย https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/deepseek-research-suggests-huaweis-ascend-910c-delivers-60-percent-nvidia-h100-inference-performance
    0 Comments 0 Shares 217 Views 0 Reviews
  • โคราชแชมป์บัตรโหวตโน ตรังเทียบผู้มาใช้สิทธิสูงสุด

    การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) 47 จังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 16,362,185 คน คิดเป็น 58.45% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 27,991,587 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่ามีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด หรือโหวตโน 1,158,201 ใบ คิดเป็น 7.08% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ สาเหตุหลักคือ ไม่มีผู้สมัครรายใดโดนใจประชาชน

    จากการรวบรวมข้อมูลผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด พบว่ามี 4 จังหวัดที่ไม่เปิดเผยคะแนนโหวตโนต่อสาธารณะ ได้แก่ พิจิตร บึงกาฬ นครนายก และกระบี่ ส่วนจังหวัดหนองบัวลำภูมีเฉพาะข้อมูลดิบ ไม่มีการรวมจำนวนมาให้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อยู่ในประกาศ กกต.จังหวัด เรื่อง ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง หรือแบบฟอร์ม ส.ถ./ผ.ถ. 5/8 ที่ประธานและกรรมการ กกต.จังหวัดลงนามก่อนส่งไปยัง กกต.กลางเพื่อพิจารณารับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งมีหลายจังหวัดเผยแพร่เอกสารนี้

    ส่วน 43 จังหวัดที่เหลือ จากการจัดอันดับพบว่า นครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 110,934 ใบ หรือคิดเป็น 9.58% ของจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดทั้งประเทศ รองลงมาคือ สงขลา 86,855 ใบ คิดเป็น 7.50% อันดับสาม ตรัง 63,333 ใบ คิดเป็น 5.47% อันดับสี่ เชียงใหม่ 57,625 ใบ คิดเป็น 4.98% อันดับห้า บุรีรัมย์ 51,525 ใบ คิดเป็น 4.45% อันดับหก นครปฐม 49,395 ใบ คิดเป็น 4.26% อันดับเจ็ด เชียงราย 43,406 ใบ คิดเป็น 3.75% อันดับแปด สมุทรปราการ 42,142 ใบ คิดเป็น 3.64% อันดับเก้า สระบุรี 39,017 ใบ คิดเป็น 3.37% และอันดับสิบ นนทบุรี 37,562 ใบ คิดเป็น 3.24%

    แต่หากเปรียบเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง พบว่า ตรัง เป็นจังหวัดที่มีร้อยละของบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 21.30% รองลงมาคือ ยะลา 13.05% (29,334 ใบ) อันดับสาม นครปฐม 12.90% อันดับสี่ สิงห์บุรี 12.76% (12,741 ใบ) อันดับห้า สงขลา 12.63% อันดับหก สระบุรี 12.31% อันดับเจ็ด ฉะเชิงเทรา 10.20% (34,612 ใบ) อันดับแปด นครราชสีมา 9.60% อันดับเก้า สตูล 9.56% (14,659 ใบ) และอันดับสิบ น่าน 9.12% (22,872 ใบ)

    สำหรับจังหวัดที่มีจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด (ไม่รวมจังหวัดที่ไม่เปิดเผยตัวเลข) ได้แก่ ตราด 3,003 ใบ คิดเป็น 2.86% ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ส่วนจังหวัดที่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม 4,526 ใบ คิดเป็น 2.41%

    #Newskit
    โคราชแชมป์บัตรโหวตโน ตรังเทียบผู้มาใช้สิทธิสูงสุด การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) 47 จังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 16,362,185 คน คิดเป็น 58.45% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 27,991,587 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่ามีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด หรือโหวตโน 1,158,201 ใบ คิดเป็น 7.08% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ สาเหตุหลักคือ ไม่มีผู้สมัครรายใดโดนใจประชาชน จากการรวบรวมข้อมูลผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด พบว่ามี 4 จังหวัดที่ไม่เปิดเผยคะแนนโหวตโนต่อสาธารณะ ได้แก่ พิจิตร บึงกาฬ นครนายก และกระบี่ ส่วนจังหวัดหนองบัวลำภูมีเฉพาะข้อมูลดิบ ไม่มีการรวมจำนวนมาให้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อยู่ในประกาศ กกต.จังหวัด เรื่อง ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง หรือแบบฟอร์ม ส.ถ./ผ.ถ. 5/8 ที่ประธานและกรรมการ กกต.จังหวัดลงนามก่อนส่งไปยัง กกต.กลางเพื่อพิจารณารับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งมีหลายจังหวัดเผยแพร่เอกสารนี้ ส่วน 43 จังหวัดที่เหลือ จากการจัดอันดับพบว่า นครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 110,934 ใบ หรือคิดเป็น 9.58% ของจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดทั้งประเทศ รองลงมาคือ สงขลา 86,855 ใบ คิดเป็น 7.50% อันดับสาม ตรัง 63,333 ใบ คิดเป็น 5.47% อันดับสี่ เชียงใหม่ 57,625 ใบ คิดเป็น 4.98% อันดับห้า บุรีรัมย์ 51,525 ใบ คิดเป็น 4.45% อันดับหก นครปฐม 49,395 ใบ คิดเป็น 4.26% อันดับเจ็ด เชียงราย 43,406 ใบ คิดเป็น 3.75% อันดับแปด สมุทรปราการ 42,142 ใบ คิดเป็น 3.64% อันดับเก้า สระบุรี 39,017 ใบ คิดเป็น 3.37% และอันดับสิบ นนทบุรี 37,562 ใบ คิดเป็น 3.24% แต่หากเปรียบเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง พบว่า ตรัง เป็นจังหวัดที่มีร้อยละของบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงสุด 21.30% รองลงมาคือ ยะลา 13.05% (29,334 ใบ) อันดับสาม นครปฐม 12.90% อันดับสี่ สิงห์บุรี 12.76% (12,741 ใบ) อันดับห้า สงขลา 12.63% อันดับหก สระบุรี 12.31% อันดับเจ็ด ฉะเชิงเทรา 10.20% (34,612 ใบ) อันดับแปด นครราชสีมา 9.60% อันดับเก้า สตูล 9.56% (14,659 ใบ) และอันดับสิบ น่าน 9.12% (22,872 ใบ) สำหรับจังหวัดที่มีจำนวนบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด (ไม่รวมจังหวัดที่ไม่เปิดเผยตัวเลข) ได้แก่ ตราด 3,003 ใบ คิดเป็น 2.86% ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ส่วนจังหวัดที่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม 4,526 ใบ คิดเป็น 2.41% #Newskit
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 541 Views 0 Reviews
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.93 : อัลฟ่าโกะกับจีน

    ในปี ค.ศ.2016 มีเหตุการณ์เล็กๆที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นครับ คือ มีการแข่งขันเกมส์ “โกะ” (หรือ หมากล้อม) ระหว่างแชมป์โลกโกะชาวเกาหลีใต้ชื่อ “ลี เซดอล“ กับหุ่นยนต์เอไอของกูเกิ้ล ชื่อ ”อัลฟ่าโกะ - AlphaGo"

    ผลก็คือ อัลฟ่าโกะชนะลี เซดอลไปได้ขาดลอย คือ แข่งกัน 5 กระดาน อัลฟ่าโกะชนะไป 4 กระดาน ทำเอาแขมป์โลกลี เซดอลต้องยอมแพ้และถอนตัวจากแข่งขัน

    เผื่อใครไม่ทราบ โกะคือเกมส์ที่เล่นบนกระดานครับ ผู้เล่นสองฝั่งต้องวางแผนล่วงหน้าในการเดินหมากเพื่อลวงคู่ต่อสู้ เป็นเกมส์ที่ใช้พลังสมองและฝึกกระบวนการคิดซับซ้อนเป็นอย่างดี
    .
    .
    .
    ข่าวชัยชนะของอัลฟ่าโกะนี้แพร่กระจายไปทั่วโลก จนกระทั่งไปเข้าถึงหูของกลุ่มผู้นำจีนในเวลานั้น

    เรื่องใครชนะใครแพ้ในเกมส์โกะนั้นไม่สำคัญสำหรับกลุ่มผู้นำรัฐบาลจีนเท่ากับความจริงที่ว่า เทคโนโลยีเอไอนั้นก้าวล้ำไปรวดเร็วกว่าที่ใครจะคาดคิดครับ

    ผู้นำจีนได้พูดคุยกันและตัดสินใจทันทีว่า จีนจะต้องเร่งพัฒนาองค์ความรู้เรื่องเอไอเพื่อให้จีนเป็นผู้นำเทคโนโลยีนี้ให้ได้

    ดังนั้นแล้วหนึ่งปีหลังจากชัยชนะของอัลฟ่าโกะ คือ ค.ศ.2017 รัฐบาลจีนได้ประกาศแผนแห่งชาติที่ชื่อว่า “New Generation Artificial Intelligence Development Plan" หรือ ”แผนพัฒนาเอไอยุคใหม่“ ออกมาครับ

    กล่าวโดยสรุปคือ แผนนี้กำหนดเป้าหมายไว้ว่า

    ภายในปี 2020 จีนจะต้องตามทันอเมริกาและชาติที่ก้าวล้ำในด้านเอไอ

    ภายในปี 2025 จีนจะต้องสร้างนวัตกรรมสำคัญในเรื่อง เอไอ application

    ภายในปี 2030 จีนจะต้องเป็นผู้นำโลกด้านเอไอ

    และในหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา รัฐบาลจีนก็ได้จัดสรรเงินลงทุนประมาณ 200,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐมุ่งไปที่การพัฒนาเอไออย่างเดียว

    เงินก้อนนี้คิดเป็น 23% ของงบประมาณลงทุนทั้งหมดของรัฐบาลจีนในทศวรรษนี้ครับ

    บางท่านอาจถามว่า “อ้าว… แล้วก่อนหน้าปี 2017 นี่ จีนไม่ได้สนใจเรื่องเอไอเลยเหรอ?”

    คำตอบคือ สนใจครับ ในยุคนั้นมีบริษัทดังๆเช่น หัวเหว่ย, อาลีบาบา, เทนเซนท์ และไป่ตู้ (Baidu) ซึ่งเป็นบริษัทเทคสำคัญๆของจีนก็สนใจเอไออยู่ แต่งบประมาณยังไม่ได้มากมายอะไร

    เมื่อรัฐบาลจีนเข้ามาส่งเสริมเอไอเต็มสูบแบบนี้ พวกบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของจีนก็เดินหน้าเต็มเหนี่ยวเช่นกัน เช่น ระบบเอไอเฮลธ์แคร์โดยเทนเซนท์, ระบบสมาร์ทซิตี้ของอาลีบาบา หรือ ระบบจดจำใบหน้าของเอไอโดยเซนส์ไทม์ ฯลฯ
    .
    .
    .
    งบ 2 แสนล้านดอลล่าร์ของรัฐบาลนี้ ไม่ได้ส่งไปที่บริษัทหรือเทคสตาร์ทอัพอย่างเดียวครับ แต่ส่งไปยังโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศจีนเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนทั้ง STEM + เอไอด้วย

    STEM ย่อมาจาก การเรียนสายวิทยาศาสตร์คือ Science, Technology, Engineering and Mathematic ครับ

    ในระดับประถม-มัธยมก็เริ่มสอนการเขียนโปรแกรม หรือ โค้ดดิ้ง (Coding) แต่เด็กๆ โดยใส่เข้าไปในหลักสูตรเลย

    ที่น่าสนใจคือ โรงเรียนและผู้ปกครองส่งเสริมให้เด็กๆหัดเล่นโกะเยอะขึ้นมาก เพื่อให้ฝึกกระบวนการคิดหลายชั้น

    และให้เอไอเป็นโค้ชสอนเด็กเล่นโกะด้วยซ้ำ

    มหาวิทยาลัยทั้งหลายในจีนเริ่มเปิดหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเอไอและ STEM มากขึ้น

    ในช่วงปี 2016-2019 นักศึกษาปริญญาเอกในสาย STEM ของมหาวิทยาลัยจีนเพิ่มขึ้นจาก 59,000 คน เป็น 83,000 คน

    คาดว่าในปี 2025 จีนจะผลิตด็อกเตอร์จบใหม่สาย STEM ได้ปีละ 77,000 คน เทียบกับสหรัฐอเมริกาที่ผลิตปีละ 40,000 คน

    ส่วนในระดับปริญญาตรีและโท จีนผลิตบัณฑิตและมหาบัณฑิตได้ปีละหลักล้านคน

    ในจีนนั้นมีอยู่ 3 มหาวิทยาลัยที่ถือว่าโด่งดังในหลักสูตรเอไอ คือ ปักกิ่ง, ซิงหัว และ Zhejiang ครับ ซึ่งมหาลัยเหล่านี้เขาก็ทำงานร่วมกับบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของจีน 3 แห่งคือ Baitu, Alibaba และ Tencent

    ย่อหน้าที่แล้วผมเขียนชื่อสามบริษัทนี้เป็นภาษาอังกฤษ เพราะยักษ์ใหญ่สามบริษัทนี้เขามีชื่อเรียกย่อๆรวมกันว่า BAT ครับ
    .
    .
    .
    ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่า ก็เพราะอยากจะบอกว่าความสำเร็จของเอไอ “ดีปซีค” นั้นไม่ใช่ความสำเร็จชั่วข้ามคืน

    แต่เกิดจากยุทธศาสตร์ที่มุ่งพัฒนาชาติของรัฐบาลจีนและความมานะหมั่นเพียรของเด็กจีน

    อัลฟ่าโกะนั้นเปรียบเสมือนเสียงนาฬิกาปลุกสำหรับมังกรจีน

    เทียบได้กับในวันที่โซเวียตส่งยานสปุตนิกขึ้นไปโคจรรอบโลกแล้วนั่นคือนาฬิกาปลุกของอเมริกา

    สำหรับประเทศไทยเรานั้น อย่าไปหวังยุทธศาสตร์อะไรกับนายกรัฐมนตรีที่เทงบซอฟท์พาวเวอร์ไป 5 พันล้านบาทเลยครับ

    ยิ่งเห็นข่าวคณะผู้แทนจีนตั้งคำถามกับฝ่ายความมั่นคงและตำรวจไทยเรื่องแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ว่า “ทำไมพวกคุณไม่สนใจดูแลบ้านเมืองของตัวเองบ้างเลย“ แล้ว

    ผมอายบรรพบุรุษครับ

    อายว่า “เจนเนอเรชั่นพวกเรานั้น ทำได้แค่นี้เหรอ? มีดีแค่นี้เหรอ?“
    อ่านเอาเรื่อง Ep.93 : อัลฟ่าโกะกับจีน ในปี ค.ศ.2016 มีเหตุการณ์เล็กๆที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นครับ คือ มีการแข่งขันเกมส์ “โกะ” (หรือ หมากล้อม) ระหว่างแชมป์โลกโกะชาวเกาหลีใต้ชื่อ “ลี เซดอล“ กับหุ่นยนต์เอไอของกูเกิ้ล ชื่อ ”อัลฟ่าโกะ - AlphaGo" ผลก็คือ อัลฟ่าโกะชนะลี เซดอลไปได้ขาดลอย คือ แข่งกัน 5 กระดาน อัลฟ่าโกะชนะไป 4 กระดาน ทำเอาแขมป์โลกลี เซดอลต้องยอมแพ้และถอนตัวจากแข่งขัน เผื่อใครไม่ทราบ โกะคือเกมส์ที่เล่นบนกระดานครับ ผู้เล่นสองฝั่งต้องวางแผนล่วงหน้าในการเดินหมากเพื่อลวงคู่ต่อสู้ เป็นเกมส์ที่ใช้พลังสมองและฝึกกระบวนการคิดซับซ้อนเป็นอย่างดี . . . ข่าวชัยชนะของอัลฟ่าโกะนี้แพร่กระจายไปทั่วโลก จนกระทั่งไปเข้าถึงหูของกลุ่มผู้นำจีนในเวลานั้น เรื่องใครชนะใครแพ้ในเกมส์โกะนั้นไม่สำคัญสำหรับกลุ่มผู้นำรัฐบาลจีนเท่ากับความจริงที่ว่า เทคโนโลยีเอไอนั้นก้าวล้ำไปรวดเร็วกว่าที่ใครจะคาดคิดครับ ผู้นำจีนได้พูดคุยกันและตัดสินใจทันทีว่า จีนจะต้องเร่งพัฒนาองค์ความรู้เรื่องเอไอเพื่อให้จีนเป็นผู้นำเทคโนโลยีนี้ให้ได้ ดังนั้นแล้วหนึ่งปีหลังจากชัยชนะของอัลฟ่าโกะ คือ ค.ศ.2017 รัฐบาลจีนได้ประกาศแผนแห่งชาติที่ชื่อว่า “New Generation Artificial Intelligence Development Plan" หรือ ”แผนพัฒนาเอไอยุคใหม่“ ออกมาครับ กล่าวโดยสรุปคือ แผนนี้กำหนดเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2020 จีนจะต้องตามทันอเมริกาและชาติที่ก้าวล้ำในด้านเอไอ ภายในปี 2025 จีนจะต้องสร้างนวัตกรรมสำคัญในเรื่อง เอไอ application ภายในปี 2030 จีนจะต้องเป็นผู้นำโลกด้านเอไอ และในหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา รัฐบาลจีนก็ได้จัดสรรเงินลงทุนประมาณ 200,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐมุ่งไปที่การพัฒนาเอไออย่างเดียว เงินก้อนนี้คิดเป็น 23% ของงบประมาณลงทุนทั้งหมดของรัฐบาลจีนในทศวรรษนี้ครับ บางท่านอาจถามว่า “อ้าว… แล้วก่อนหน้าปี 2017 นี่ จีนไม่ได้สนใจเรื่องเอไอเลยเหรอ?” คำตอบคือ สนใจครับ ในยุคนั้นมีบริษัทดังๆเช่น หัวเหว่ย, อาลีบาบา, เทนเซนท์ และไป่ตู้ (Baidu) ซึ่งเป็นบริษัทเทคสำคัญๆของจีนก็สนใจเอไออยู่ แต่งบประมาณยังไม่ได้มากมายอะไร เมื่อรัฐบาลจีนเข้ามาส่งเสริมเอไอเต็มสูบแบบนี้ พวกบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของจีนก็เดินหน้าเต็มเหนี่ยวเช่นกัน เช่น ระบบเอไอเฮลธ์แคร์โดยเทนเซนท์, ระบบสมาร์ทซิตี้ของอาลีบาบา หรือ ระบบจดจำใบหน้าของเอไอโดยเซนส์ไทม์ ฯลฯ . . . งบ 2 แสนล้านดอลล่าร์ของรัฐบาลนี้ ไม่ได้ส่งไปที่บริษัทหรือเทคสตาร์ทอัพอย่างเดียวครับ แต่ส่งไปยังโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศจีนเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนทั้ง STEM + เอไอด้วย STEM ย่อมาจาก การเรียนสายวิทยาศาสตร์คือ Science, Technology, Engineering and Mathematic ครับ ในระดับประถม-มัธยมก็เริ่มสอนการเขียนโปรแกรม หรือ โค้ดดิ้ง (Coding) แต่เด็กๆ โดยใส่เข้าไปในหลักสูตรเลย ที่น่าสนใจคือ โรงเรียนและผู้ปกครองส่งเสริมให้เด็กๆหัดเล่นโกะเยอะขึ้นมาก เพื่อให้ฝึกกระบวนการคิดหลายชั้น และให้เอไอเป็นโค้ชสอนเด็กเล่นโกะด้วยซ้ำ มหาวิทยาลัยทั้งหลายในจีนเริ่มเปิดหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเอไอและ STEM มากขึ้น ในช่วงปี 2016-2019 นักศึกษาปริญญาเอกในสาย STEM ของมหาวิทยาลัยจีนเพิ่มขึ้นจาก 59,000 คน เป็น 83,000 คน คาดว่าในปี 2025 จีนจะผลิตด็อกเตอร์จบใหม่สาย STEM ได้ปีละ 77,000 คน เทียบกับสหรัฐอเมริกาที่ผลิตปีละ 40,000 คน ส่วนในระดับปริญญาตรีและโท จีนผลิตบัณฑิตและมหาบัณฑิตได้ปีละหลักล้านคน ในจีนนั้นมีอยู่ 3 มหาวิทยาลัยที่ถือว่าโด่งดังในหลักสูตรเอไอ คือ ปักกิ่ง, ซิงหัว และ Zhejiang ครับ ซึ่งมหาลัยเหล่านี้เขาก็ทำงานร่วมกับบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของจีน 3 แห่งคือ Baitu, Alibaba และ Tencent ย่อหน้าที่แล้วผมเขียนชื่อสามบริษัทนี้เป็นภาษาอังกฤษ เพราะยักษ์ใหญ่สามบริษัทนี้เขามีชื่อเรียกย่อๆรวมกันว่า BAT ครับ . . . ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่า ก็เพราะอยากจะบอกว่าความสำเร็จของเอไอ “ดีปซีค” นั้นไม่ใช่ความสำเร็จชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากยุทธศาสตร์ที่มุ่งพัฒนาชาติของรัฐบาลจีนและความมานะหมั่นเพียรของเด็กจีน อัลฟ่าโกะนั้นเปรียบเสมือนเสียงนาฬิกาปลุกสำหรับมังกรจีน เทียบได้กับในวันที่โซเวียตส่งยานสปุตนิกขึ้นไปโคจรรอบโลกแล้วนั่นคือนาฬิกาปลุกของอเมริกา สำหรับประเทศไทยเรานั้น อย่าไปหวังยุทธศาสตร์อะไรกับนายกรัฐมนตรีที่เทงบซอฟท์พาวเวอร์ไป 5 พันล้านบาทเลยครับ ยิ่งเห็นข่าวคณะผู้แทนจีนตั้งคำถามกับฝ่ายความมั่นคงและตำรวจไทยเรื่องแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ว่า “ทำไมพวกคุณไม่สนใจดูแลบ้านเมืองของตัวเองบ้างเลย“ แล้ว ผมอายบรรพบุรุษครับ อายว่า “เจนเนอเรชั่นพวกเรานั้น ทำได้แค่นี้เหรอ? มีดีแค่นี้เหรอ?“
    0 Comments 0 Shares 497 Views 0 Reviews
  • 'เพื่อไทย'ไม่รับความจริง 'ทักษิณ' มนต์เสื่อม 'โทษรัฐราชการ-เศรษฐกิจไม่ดี'
    .
    หากพรรคประชาชนอ้างว่าการเลือกตั้งในวันเสาร์เป็นปัจจัยที่ทำให้ไม่ได้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตามเป้าหมาย ข้ออ้างถึงความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทยก็คงมีไม่ต่างกัน โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก ถึงผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ระบุว่า "รอบนี้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของคะแนนไม่มอบตัวเป็นของง่ายของใคร ทุกพรรคมีบทเรียนสำคัญให้ต้องสรุป และมีการบ้านข้อใหญ่ให้ต้องแก้ไข ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เพื่อจะเป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้งใหญ่"
    .
    "เพื่อไทยส่ง 16 ได้ 10 จังหวัด (บางสื่อว่าได้ 18 รวมคนในเครือข่ายของพรรคด้วย)ไม่คิดว่าจะแพ้ที่เชียงรายกับลำพูน ศรีสะเกษเรารู้ดีว่าไม่ง่าย แต่คิดว่าถ้าชนะก็สูสี หรือหากแพ้คะแนนน่าจะใกล้กันกว่านี้
    พรรคประชาชนส่ง 17 ได้ 1 จังหวัด พื้นที่ซึ่งมีส.ส.ยกจังหวัดแพ้ทุกที่ น่าสนใจว่าส่วนนำจะวิเคราะห์ผลอย่างไร พรรคอนุรักษ์นิยมไม่ได้เปิดตัวชัด แต่รู้กันในทีว่าไผเป็นไผ เสียแชมป์ก็มี ป้องกันแชมป์ได้ก็เห็น แต่ถ้าคิดว่านี่เป็นขาขึ้น มองดีๆผมว่าไม่ใช่ เชื่อว่าคนทำงานต้องอ่านสัญญาณกันละเอียดเช่นกัน"
    .
    "ทักษิณสิ้นมนต์ขลัง? นายกทักษิณและพรรคตั้งแต่ไทยรักไทยถึงเพื่อไทย ไม่เคยชนะเลือกตั้งด้วยเวทมนต์ แต่สำเร็จด้วยผลงานและนโยบายที่ทำได้จริง ประชาชนที่เลือกเล่าได้เป็นฉากๆว่าเลือกเพราะอะไร นโยบายไหนโดนใจ การว่างเว้นจากการเป็นรัฐบาลยาวนานร่วมทศวรรษทำให้จุดแข็งนี้พร่าเลือนไป กลับมาเป็นรัฐบาลผสมภายใต้แรงกดดันทางการเมือง เผชิญกับรัฐราชการที่รัฐบาลก่อนปักหมุดไว้ สภาพเศรษฐกิจที่ดำดิ่งต่อเนื่อง การผลักดันนโยบายจึงไม่ง่าย การบุกเบิกจากรัฐบาลเศรษฐาถึงรัฐบาลแพทองธาร ทำให้เนื้องานที่วางไว้เริ่มผลิดอกออกผล แต่ยังแตกต่างถ้าเทียบกับความสำเร็จยุคไทยรักไทย และยังพูดว่าสำเร็จไม่ได้จนกว่าจะมีรูปธรรมที่ชัดเจนกว่านี้ ซึ่ง 2568 คือปีสำคัญ ชี้ขาดโดยหลายนโยบายที่กำลังเดินหน้าอยู่ ถ้าผลงานออกชัด งานในสนามเลือกตั้งของเพื่อไทยจะลดความยากลง
    .
    "บางคนถามว่าทักษิณมาเองได้แค่นี้หรือ? ผมว่าต้องถามใหม่คือ ถ้าทักษิณไม่ลงพื้นที่จะได้ขนาดนี้หรือไม่?นายกทักษิณยังคงมีพลังทางการเมือง ส่งผลบวกอย่างยิ่งต่อฐานคะแนนของพรรคเพื่อไทย 10 จาก 16 ที่ถือว่าผ่าน ได้มากกว่าทุกพรรคด้วย" นายณัฐวุฒิ ระบุ
    .
    ด้าน นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกฯอบจ.เชียงใหม่ แสดงทัศนะว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเลือกตั้งระดับชาติแตกต่างกัน แต่เฉพาะพื้นที่เชียงใหม่ตนมองว่าการหาเสียงครั้งนี้ไม่ต่างจากการเลือกตั้งใหญ่ แต่การเลือกตั้งนายกฯอบจ.ครั้งนี้ เราทำงานกันอย่างหนัก ประชาชนเริ่มเข้าใจหลักการทำงานของพรรคเพื่อไทย จนทำให้กลับมาเป็นสีแดงเหมือนเดิม ทำให้เชื่อว่าภาพการเมืองใหญ่ที่เหลือเวลา 2 ปีกว่าจะมีการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยมียุทธศาสตร์ที่ถูกต้องแดงที่เปลี่ยนไปเลือกส้มจะกลับมาเป็นแดงเหมือนเดิมแล้วเพื่อไทยจะกลับมาเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน
    ..............
    Sondhi X
    'เพื่อไทย'ไม่รับความจริง 'ทักษิณ' มนต์เสื่อม 'โทษรัฐราชการ-เศรษฐกิจไม่ดี' . หากพรรคประชาชนอ้างว่าการเลือกตั้งในวันเสาร์เป็นปัจจัยที่ทำให้ไม่ได้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตามเป้าหมาย ข้ออ้างถึงความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทยก็คงมีไม่ต่างกัน โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก ถึงผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ระบุว่า "รอบนี้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของคะแนนไม่มอบตัวเป็นของง่ายของใคร ทุกพรรคมีบทเรียนสำคัญให้ต้องสรุป และมีการบ้านข้อใหญ่ให้ต้องแก้ไข ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เพื่อจะเป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้งใหญ่" . "เพื่อไทยส่ง 16 ได้ 10 จังหวัด (บางสื่อว่าได้ 18 รวมคนในเครือข่ายของพรรคด้วย)ไม่คิดว่าจะแพ้ที่เชียงรายกับลำพูน ศรีสะเกษเรารู้ดีว่าไม่ง่าย แต่คิดว่าถ้าชนะก็สูสี หรือหากแพ้คะแนนน่าจะใกล้กันกว่านี้ พรรคประชาชนส่ง 17 ได้ 1 จังหวัด พื้นที่ซึ่งมีส.ส.ยกจังหวัดแพ้ทุกที่ น่าสนใจว่าส่วนนำจะวิเคราะห์ผลอย่างไร พรรคอนุรักษ์นิยมไม่ได้เปิดตัวชัด แต่รู้กันในทีว่าไผเป็นไผ เสียแชมป์ก็มี ป้องกันแชมป์ได้ก็เห็น แต่ถ้าคิดว่านี่เป็นขาขึ้น มองดีๆผมว่าไม่ใช่ เชื่อว่าคนทำงานต้องอ่านสัญญาณกันละเอียดเช่นกัน" . "ทักษิณสิ้นมนต์ขลัง? นายกทักษิณและพรรคตั้งแต่ไทยรักไทยถึงเพื่อไทย ไม่เคยชนะเลือกตั้งด้วยเวทมนต์ แต่สำเร็จด้วยผลงานและนโยบายที่ทำได้จริง ประชาชนที่เลือกเล่าได้เป็นฉากๆว่าเลือกเพราะอะไร นโยบายไหนโดนใจ การว่างเว้นจากการเป็นรัฐบาลยาวนานร่วมทศวรรษทำให้จุดแข็งนี้พร่าเลือนไป กลับมาเป็นรัฐบาลผสมภายใต้แรงกดดันทางการเมือง เผชิญกับรัฐราชการที่รัฐบาลก่อนปักหมุดไว้ สภาพเศรษฐกิจที่ดำดิ่งต่อเนื่อง การผลักดันนโยบายจึงไม่ง่าย การบุกเบิกจากรัฐบาลเศรษฐาถึงรัฐบาลแพทองธาร ทำให้เนื้องานที่วางไว้เริ่มผลิดอกออกผล แต่ยังแตกต่างถ้าเทียบกับความสำเร็จยุคไทยรักไทย และยังพูดว่าสำเร็จไม่ได้จนกว่าจะมีรูปธรรมที่ชัดเจนกว่านี้ ซึ่ง 2568 คือปีสำคัญ ชี้ขาดโดยหลายนโยบายที่กำลังเดินหน้าอยู่ ถ้าผลงานออกชัด งานในสนามเลือกตั้งของเพื่อไทยจะลดความยากลง . "บางคนถามว่าทักษิณมาเองได้แค่นี้หรือ? ผมว่าต้องถามใหม่คือ ถ้าทักษิณไม่ลงพื้นที่จะได้ขนาดนี้หรือไม่?นายกทักษิณยังคงมีพลังทางการเมือง ส่งผลบวกอย่างยิ่งต่อฐานคะแนนของพรรคเพื่อไทย 10 จาก 16 ที่ถือว่าผ่าน ได้มากกว่าทุกพรรคด้วย" นายณัฐวุฒิ ระบุ . ด้าน นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกฯอบจ.เชียงใหม่ แสดงทัศนะว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นกับการเลือกตั้งระดับชาติแตกต่างกัน แต่เฉพาะพื้นที่เชียงใหม่ตนมองว่าการหาเสียงครั้งนี้ไม่ต่างจากการเลือกตั้งใหญ่ แต่การเลือกตั้งนายกฯอบจ.ครั้งนี้ เราทำงานกันอย่างหนัก ประชาชนเริ่มเข้าใจหลักการทำงานของพรรคเพื่อไทย จนทำให้กลับมาเป็นสีแดงเหมือนเดิม ทำให้เชื่อว่าภาพการเมืองใหญ่ที่เหลือเวลา 2 ปีกว่าจะมีการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยมียุทธศาสตร์ที่ถูกต้องแดงที่เปลี่ยนไปเลือกส้มจะกลับมาเป็นแดงเหมือนเดิมแล้วเพื่อไทยจะกลับมาเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    25
    0 Comments 0 Shares 1631 Views 0 Reviews
  • “เรวัต อารีรอบ” หัวหน้าทีมภูเก็ตหยัดได้ ดับฝันพรรคประชาชนต่อจิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย ที่ภูเก็ต ส่ง “หมอโอ” นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ. แต่ไปไม่ถึงฝัน พ่าย “เรวัต อารีรอบ” หัวหน้าทีมภูเก็ตหยัดได้ รักษาแชมป์ไว้ได้ นั่งเก้าอี้นายก อบจ.ภูเก็ต ต่ออีกสมัย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010507

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “เรวัต อารีรอบ” หัวหน้าทีมภูเก็ตหยัดได้ ดับฝันพรรคประชาชนต่อจิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย ที่ภูเก็ต ส่ง “หมอโอ” นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ. แต่ไปไม่ถึงฝัน พ่าย “เรวัต อารีรอบ” หัวหน้าทีมภูเก็ตหยัดได้ รักษาแชมป์ไว้ได้ นั่งเก้าอี้นายก อบจ.ภูเก็ต ต่ออีกสมัย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010507 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    13
    0 Comments 0 Shares 1036 Views 0 Reviews
  • เชียงใหม่นับคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.คืบ 50% เบื้องต้นพบ “สว.ก๊อง” แชมป์เก่าจากค่ายเพื่อไทย นำอันดับ1 ได้แล้ว 2.31 แสนคะแนน ขณะที่ “พันธุ์อาจ” ผู้ท้าชิงจากค่ายส้มตามมาด้วยคะแนนกว่า 2.17 แสนคะแนน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010493

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เชียงใหม่นับคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.คืบ 50% เบื้องต้นพบ “สว.ก๊อง” แชมป์เก่าจากค่ายเพื่อไทย นำอันดับ1 ได้แล้ว 2.31 แสนคะแนน ขณะที่ “พันธุ์อาจ” ผู้ท้าชิงจากค่ายส้มตามมาด้วยคะแนนกว่า 2.17 แสนคะแนน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010493 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 992 Views 0 Reviews
  • ศึกชิงนายก อบจ. ดุเดือดจนทักษิณยังหนาวหลัง
    ทักษิณ ชินวัตร ออกปากยอมรับ สนามเลือกตั้งนายกอบจ ศรีสะเกษ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล สูสีกัน ทักษิณยอมรับความจริง เพราะแม้พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยจะกวาด สส. เกือบค่อนจังหวัด
    แต่เมื่อเจาะลงไปในสนามท้องถิ่นบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล ได้ตําแหน่งมาหลายปีสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ในขณะที่ผู้สมัครนายกอบจของพรรคเพื่อไทยอย่างเสี่ยปู๊วิวัฒน์ชัย เป็นพวกกระดูกคนละเบอร์กับแชมป์เก่าอย่างนายกส้มเกลี้ยง เทียบกันให้ชัดชัดสนามเลือกตั้งส.ส.ศรีสะเกษที่เพิ่งผ่านมา พรรคเพื่อไทยหอบส.ส.เข้าสภาเกือบจะยกจังหวัดตกอยู่ไม่กี่เขต
    แต่หนึ่งในนั้นมีเสี่ยปู๊รวมอยู่ด้วย กระแสพรรคเพื่อไทยในศรีสะเกษเมื่อก่อนมีมาก โดยเฉพาะแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า ที่เล่นเอาภาคภูมิใจไทยช็อตปั่นแต้มไม่ขึ้นพรรคเพื่อไทยแทบไม่ต้องออกแรงมาก นักการเมืองที่นั่นพาเหรดกันเข้าวิน แต่เสี่ยปู๊ดันตกขบวนทั้งที่ทําตัวเป็นหัวโจกค่ายสีแดงในจังหวัดถึงขั้นต้องพิจารณากันว่าต้องไม่เอาอ่าวขนาดไหน ขนาดกระแสพรรคเพื่อไทยดีขนาดนี้แต่ดันสอบตก
    หลังการเลือกตั้งเสี่ยปู๊ เข้ามาสังกัดก๊ก สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ท่อน้ําเลี้ยงนัมเบอร์วันของพรรคเพื่อไทยก่อนจะได้รับการปลอบใจให้มีตําแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
    พอได้อยู่กับท่อน้ําเลี้ยงแล้วคึกมีความหวัง กระแสไม่ได้ หันไปพึ่งกระสุนขอลงชิงชัยเก้าอี้นายก อบจ ศรีสะเกษ ดูสักตั้ง กระแสส่วนตัวในจังหวัดเป็นรองแต่ขอพึ่งบารมีทักษิณและสุริยะ เพื่อเข้าไปบริหารการเมืองท้องถิ่นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟก็ยัง
    ยอมรับตรงๆว่าคะแนนสูสี ทั้งที่ความเป็นจริง ความนิยมในจังหวัดแชมป์เก่าเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่นายกส้มเกลี้ยง เหนือกว่า เสี่ยปู๊ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าพื้นเพเป็นคนอุบลราชธานีด้วยซ้ํา
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    ศึกชิงนายก อบจ. ดุเดือดจนทักษิณยังหนาวหลัง ทักษิณ ชินวัตร ออกปากยอมรับ สนามเลือกตั้งนายกอบจ ศรีสะเกษ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล สูสีกัน ทักษิณยอมรับความจริง เพราะแม้พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยจะกวาด สส. เกือบค่อนจังหวัด แต่เมื่อเจาะลงไปในสนามท้องถิ่นบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล ได้ตําแหน่งมาหลายปีสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ในขณะที่ผู้สมัครนายกอบจของพรรคเพื่อไทยอย่างเสี่ยปู๊วิวัฒน์ชัย เป็นพวกกระดูกคนละเบอร์กับแชมป์เก่าอย่างนายกส้มเกลี้ยง เทียบกันให้ชัดชัดสนามเลือกตั้งส.ส.ศรีสะเกษที่เพิ่งผ่านมา พรรคเพื่อไทยหอบส.ส.เข้าสภาเกือบจะยกจังหวัดตกอยู่ไม่กี่เขต แต่หนึ่งในนั้นมีเสี่ยปู๊รวมอยู่ด้วย กระแสพรรคเพื่อไทยในศรีสะเกษเมื่อก่อนมีมาก โดยเฉพาะแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า ที่เล่นเอาภาคภูมิใจไทยช็อตปั่นแต้มไม่ขึ้นพรรคเพื่อไทยแทบไม่ต้องออกแรงมาก นักการเมืองที่นั่นพาเหรดกันเข้าวิน แต่เสี่ยปู๊ดันตกขบวนทั้งที่ทําตัวเป็นหัวโจกค่ายสีแดงในจังหวัดถึงขั้นต้องพิจารณากันว่าต้องไม่เอาอ่าวขนาดไหน ขนาดกระแสพรรคเพื่อไทยดีขนาดนี้แต่ดันสอบตก หลังการเลือกตั้งเสี่ยปู๊ เข้ามาสังกัดก๊ก สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ท่อน้ําเลี้ยงนัมเบอร์วันของพรรคเพื่อไทยก่อนจะได้รับการปลอบใจให้มีตําแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พอได้อยู่กับท่อน้ําเลี้ยงแล้วคึกมีความหวัง กระแสไม่ได้ หันไปพึ่งกระสุนขอลงชิงชัยเก้าอี้นายก อบจ ศรีสะเกษ ดูสักตั้ง กระแสส่วนตัวในจังหวัดเป็นรองแต่ขอพึ่งบารมีทักษิณและสุริยะ เพื่อเข้าไปบริหารการเมืองท้องถิ่นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟก็ยัง ยอมรับตรงๆว่าคะแนนสูสี ทั้งที่ความเป็นจริง ความนิยมในจังหวัดแชมป์เก่าเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่นายกส้มเกลี้ยง เหนือกว่า เสี่ยปู๊ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าพื้นเพเป็นคนอุบลราชธานีด้วยซ้ํา ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 573 Views 0 Reviews
  • ไทยแชมป์เที่ยวลาว-กัมพูชา เวียดนามมาไทย 3 เท่า

    กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเยือน 35.54 ล้านคน สร้างรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนมากที่สุด 6,733,162 คน รองลงมาคือมาเลเซีย 4,952,078 คน อินเดีย 2,129,149 คน เกาหลีใต้ 1,868,945 คน และรัสเซีย 1,745,327 คน ส่วนประเทศอื่นๆ ได้แก่ ลาว ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์

    เมื่อสำรวจประเทศใกล้เคียง เริ่มจากประเทศลาว เมื่อวันที่ 29 ม.ค. กรมพัฒนาการท่องเที่ยว เปิดเผยสถิตินักท่องเที่ยวต่างประเทศปี 2024 พบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 4,120,832 คน เพิ่มขึ้น 20.58% จากปี 2023 จำนวน 3,417,629 คน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยมากที่สุด 1,215,553 คน รองลงมาคือจีน 1,054,204 คน เวียดนาม 1,048,034 คน เกาหลีใต้ 232,895 คน และสหรัฐอเมริกา 68,221 คน

    ประเทศกัมพูชา นายฮุน ดาวี ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัว เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ระบุว่า ในปี 2024 กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 22.9% เมื่อเทียบกับปี 2023 โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ ไทย เวียดนาม จีน ลาว และสหรัฐอเมริกา

    ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 7 ม.ค. สำนักงานสถิตแห่งชาติรายงานว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2024 มีจำนวน 17.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 39.5% จากปี 2023 และคิดเป็น 97.6% ของปี 2019 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ประมาณ 18 ล้านคน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้มากที่สุด 4.57 ล้านคน รองลงมาคือจีน 3.74 ล้านคน ไต้หวัน 1.29 ล้านคน สหรัฐอเมริกา 7.8 แสนคน ญี่ปุ่น 7.11 แสนคน อินเดีย 5.01 แสนคน มาเลเซีย 4.95 แสนคน ออสเตรเลีย 4.9 แสนคน และกัมพูชา 4.74 แสนคน ส่วนชาวไทยมีจำนวน 418,054 คน แต่ชาวเวียดนามมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นสามเท่า รวม 1.03 ล้านคน

    ประเทศมาเลเซีย นายเตียง คิง ซิง รมว.ท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม (MOTAC) กล่าวกับสำนักข่าวคอสโม (Kosmo) เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2024 สูงถึง 38 ล้านคน แต่ตัวเลขอย่างเป็นทางการเฉพาะ 11 เดือนของปี 2024 พบว่ามีนักท่องเที่ยวรวม 22,464,611 คน ส่วนคนที่เดินทางระยะสั้น (Excursionist) พบว่ามีจำนวน 11,691,568 คน

    รัฐบาลไทยกำลังริเริ่มนโยบาย 6 ประเทศ 1 เป้าหมายในอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา บรูไน ลาว มาเลเซีย เวียดนาม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการอำนวยความสะดวกและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างๆ และการท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อ โดยเริ่มจากกัมพูชาเป็นประเทศแรก

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    ไทยแชมป์เที่ยวลาว-กัมพูชา เวียดนามมาไทย 3 เท่า กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในปี 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเยือน 35.54 ล้านคน สร้างรายได้ 1.67 ล้านล้านบาท โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนมากที่สุด 6,733,162 คน รองลงมาคือมาเลเซีย 4,952,078 คน อินเดีย 2,129,149 คน เกาหลีใต้ 1,868,945 คน และรัสเซีย 1,745,327 คน ส่วนประเทศอื่นๆ ได้แก่ ลาว ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ เมื่อสำรวจประเทศใกล้เคียง เริ่มจากประเทศลาว เมื่อวันที่ 29 ม.ค. กรมพัฒนาการท่องเที่ยว เปิดเผยสถิตินักท่องเที่ยวต่างประเทศปี 2024 พบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 4,120,832 คน เพิ่มขึ้น 20.58% จากปี 2023 จำนวน 3,417,629 คน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยมากที่สุด 1,215,553 คน รองลงมาคือจีน 1,054,204 คน เวียดนาม 1,048,034 คน เกาหลีใต้ 232,895 คน และสหรัฐอเมริกา 68,221 คน ประเทศกัมพูชา นายฮุน ดาวี ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัว เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ระบุว่า ในปี 2024 กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 22.9% เมื่อเทียบกับปี 2023 โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ ไทย เวียดนาม จีน ลาว และสหรัฐอเมริกา ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 7 ม.ค. สำนักงานสถิตแห่งชาติรายงานว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2024 มีจำนวน 17.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 39.5% จากปี 2023 และคิดเป็น 97.6% ของปี 2019 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ประมาณ 18 ล้านคน โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้มากที่สุด 4.57 ล้านคน รองลงมาคือจีน 3.74 ล้านคน ไต้หวัน 1.29 ล้านคน สหรัฐอเมริกา 7.8 แสนคน ญี่ปุ่น 7.11 แสนคน อินเดีย 5.01 แสนคน มาเลเซีย 4.95 แสนคน ออสเตรเลีย 4.9 แสนคน และกัมพูชา 4.74 แสนคน ส่วนชาวไทยมีจำนวน 418,054 คน แต่ชาวเวียดนามมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นสามเท่า รวม 1.03 ล้านคน ประเทศมาเลเซีย นายเตียง คิง ซิง รมว.ท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม (MOTAC) กล่าวกับสำนักข่าวคอสโม (Kosmo) เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2024 สูงถึง 38 ล้านคน แต่ตัวเลขอย่างเป็นทางการเฉพาะ 11 เดือนของปี 2024 พบว่ามีนักท่องเที่ยวรวม 22,464,611 คน ส่วนคนที่เดินทางระยะสั้น (Excursionist) พบว่ามีจำนวน 11,691,568 คน รัฐบาลไทยกำลังริเริ่มนโยบาย 6 ประเทศ 1 เป้าหมายในอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา บรูไน ลาว มาเลเซีย เวียดนาม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการอำนวยความสะดวกและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างๆ และการท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อ โดยเริ่มจากกัมพูชาเป็นประเทศแรก #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 636 Views 0 Reviews
  • กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชนะเจ้าถิ่น โจนาธาน คริสตี้ ไปแบบสุดมันส์ 2-1 เกม (18-21,21-17,21-18) ผงาดครองแชมป์ชายเดี่ยว หลังจาก เมย์-รัชนก ครองแชมป์หญิงเดี่ยว ในศึกอินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2025
    กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชนะเจ้าถิ่น โจนาธาน คริสตี้ ไปแบบสุดมันส์ 2-1 เกม (18-21,21-17,21-18) ผงาดครองแชมป์ชายเดี่ยว หลังจาก เมย์-รัชนก ครองแชมป์หญิงเดี่ยว ในศึกอินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2025
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • 🔸️เหรียญกษาปณ์ เฟื้องหนึ่ง🔸️
    รัชกาลที่5 เนื้อเงินบริสุทธิ์ รศ.126(พ.ศ.2450)
    เหรียญนี้อายุไม่ต่ำกว่า 118 ปี
    (หูห่วงเชื่อมเก่า แต่เชื่อมภายหลัง)

    แชมป์งานใหญ่แห่งปี จัดโดยนิตยสารพระท่าพระจันทร์
    (เป็นงานใหญ่ งานแรกของปี 2568)
    🔸️เหรียญกษาปณ์ เฟื้องหนึ่ง🔸️ รัชกาลที่5 เนื้อเงินบริสุทธิ์ รศ.126(พ.ศ.2450) เหรียญนี้อายุไม่ต่ำกว่า 118 ปี (หูห่วงเชื่อมเก่า แต่เชื่อมภายหลัง) แชมป์งานใหญ่แห่งปี จัดโดยนิตยสารพระท่าพระจันทร์ (เป็นงานใหญ่ งานแรกของปี 2568)
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • ONE Championship Thailand

    ช็อตริงไซด์ “ตะวันฉาย” ป้องกัน แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ครั้งที่ 4 อย่างสมศักดิ์ศรี หลังย้ำแค้น “ซุปเปอร์บอน” เด็ดขาดในยกที่ 2 “บอส ชาตรี” มอบโบนัส 50,000 เหรียญ (ราว 1.7 ล้านบาท) #ONE170
    ONE Championship Thailand ช็อตริงไซด์ “ตะวันฉาย” ป้องกัน แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ครั้งที่ 4 อย่างสมศักดิ์ศรี หลังย้ำแค้น “ซุปเปอร์บอน” เด็ดขาดในยกที่ 2 “บอส ชาตรี” มอบโบนัส 50,000 เหรียญ (ราว 1.7 ล้านบาท) #ONE170
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 301 Views 6 0 Reviews
  • การแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกหญิงของเวิลด์วีเมนสนุกเกอร์ (WWS) รายการดับเบิลยูเอสเอฟวีเมนสนุกเกอร์แชมเปียนชิพ 2025 ที่ราดิสสันบลูรีสอร์ท เมืองไซเดีย ประเทศโมร็อกโก รอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง "มิ้งค์ สระบุรี" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย นักสอยคิวหน้าหวานขวัญใจชาวไทย ดีกรีแชมป์โลกปี 2022 และมือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน พบกับ ไป่ ยู่ หลู มือ 4 ของโลก ดีกรีแชมป์โลกหญิงคนล่าสุด

    ผลปรากฏว่า มิ้งค์ สระบุรี พลิกจากตามหลัง 1-3 เฟรม แซงชนะ ไป่ ยู่ หลู ไปแบบสุดระทึก 4-3 เฟรม 30-96,43-75, 54-12, 24-88, 98-4, 69-35 และ 57-32 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

    พร้อมกับคว้าเงินรางวัล 3,500 ปอนด์ (ประมาณ 146,674 บาท) โดยรายการต่อไป มิ้งค์ สระบุรี จะลงล่าชัยในรายการ เบลเยียม วีเมน โอเพ่น ที่ประเทศเบลเยียม ระหว่างวันที่ 7-9 ก.พ. นี้

    https://www.youtube.com/live/J81sOj7TBsc?si=1FnVUEEOvhwVgwAT
    การแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกหญิงของเวิลด์วีเมนสนุกเกอร์ (WWS) รายการดับเบิลยูเอสเอฟวีเมนสนุกเกอร์แชมเปียนชิพ 2025 ที่ราดิสสันบลูรีสอร์ท เมืองไซเดีย ประเทศโมร็อกโก รอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง "มิ้งค์ สระบุรี" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย นักสอยคิวหน้าหวานขวัญใจชาวไทย ดีกรีแชมป์โลกปี 2022 และมือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน พบกับ ไป่ ยู่ หลู มือ 4 ของโลก ดีกรีแชมป์โลกหญิงคนล่าสุด ผลปรากฏว่า มิ้งค์ สระบุรี พลิกจากตามหลัง 1-3 เฟรม แซงชนะ ไป่ ยู่ หลู ไปแบบสุดระทึก 4-3 เฟรม 30-96,43-75, 54-12, 24-88, 98-4, 69-35 และ 57-32 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ พร้อมกับคว้าเงินรางวัล 3,500 ปอนด์ (ประมาณ 146,674 บาท) โดยรายการต่อไป มิ้งค์ สระบุรี จะลงล่าชัยในรายการ เบลเยียม วีเมน โอเพ่น ที่ประเทศเบลเยียม ระหว่างวันที่ 7-9 ก.พ. นี้ https://www.youtube.com/live/J81sOj7TBsc?si=1FnVUEEOvhwVgwAT
    Like
    2
    1 Comments 0 Shares 317 Views 0 Reviews
  • ONE Championship Thailand

    180

    ภาคแจกจบลงอย่างไร? TikTok@onechampth #onechampionshipthailand #ว่างว่างก็แวะมา ไฮไลต์ "ตะวัน ฉาย vs ซุปเปอร์บอน" ก่อนรีแมตช์ชิง แชมป์โลก มวยไทย ศุกร์ 24 ม.ค.นี้ ศึก #ONE170 อิมแพ็ค อารีนา
    ONE Championship Thailand 180 ภาคแจกจบลงอย่างไร? TikTok@onechampth #onechampionshipthailand #ว่างว่างก็แวะมา ไฮไลต์ "ตะวัน ฉาย vs ซุปเปอร์บอน" ก่อนรีแมตช์ชิง แชมป์โลก มวยไทย ศุกร์ 24 ม.ค.นี้ ศึก #ONE170 อิมแพ็ค อารีนา
    0 Comments 0 Shares 553 Views 0 0 Reviews
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่เผย นทท.จีน ยังเดินทางท่องเที่ยวปกติ และครองแชมป์อันดับ1เหมือนเดิม พบบินตรงเข้าไม่ขาดเฉลี่ยวันละกว่า1,000 คน ขณะที่ช่วงตรุษจีนเชื่อคึกคักต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามยอมรับกรณี "หวัง ซิง" มีผลด้านลบ อาจทำให้เที่ยวบินเหมาลำลดลงบางส่วน แต่เที่ยวบินตรงปกติยังไม่พบว่ามีผู้โดยสารยกเลิกการจอง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006550

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่เผย นทท.จีน ยังเดินทางท่องเที่ยวปกติ และครองแชมป์อันดับ1เหมือนเดิม พบบินตรงเข้าไม่ขาดเฉลี่ยวันละกว่า1,000 คน ขณะที่ช่วงตรุษจีนเชื่อคึกคักต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามยอมรับกรณี "หวัง ซิง" มีผลด้านลบ อาจทำให้เที่ยวบินเหมาลำลดลงบางส่วน แต่เที่ยวบินตรงปกติยังไม่พบว่ามีผู้โดยสารยกเลิกการจอง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006550 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    16
    0 Comments 0 Shares 893 Views 0 Reviews
  • ก้อง สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยคนแรกลงแข่งขัน MotoGP
    กับการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ แห่งวงการนักบิดไทย
    หนทางสู่การคว้าแชมป์ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
    ก้อง สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยคนแรกลงแข่งขัน MotoGP กับการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ แห่งวงการนักบิดไทย หนทางสู่การคว้าแชมป์ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
    Like
    8
    0 Comments 0 Shares 804 Views 40 0 Reviews
More Results