• 💥แอดมิน นั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 5 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และ จังหวะการซื้อที่ดี
    ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    #thaitimes
    💥แอดมิน นั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 5 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และ จังหวะการซื้อที่ดี ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • จีโอ-คลีน1
    สารบำบัดเลน
    ลดปัญหาพื้นบ่อเน่าเสีย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
    ตะกอนสารอินทรีย์หรือเลนที่ก้นบ่อกุ้ง จาก ขี้กุ้ง เศษอาหารเหลือ และซากแพลงก์ตอน ทำให้
    พื้นบ่อเสื่อมโทรม เป็นแหล่งสะสมของสารพิษเช่น แอมโมเนีย ไนไตรท์ และก๊าซไข่เน่า
    ส่งผลเสียต่อสุขภาพกุ้งและคุณภาพน้ำ ทำให้กุ้งเครียด อ่อนแอ กินอาหารลดลง
    มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคสูงขึ้นเช่น โรคตับ โรคขี้ขาว โรคเหงือกดำ ซูโอแทมเนียม
    โรคเรืองแสง ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคตัวแดงจุดขาว
    ผลิตจากสารธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตให้มีคุณสมบัติย่อยสลายเลนก้นบ่อ
    ลดปัญหากุ้งซุกกองเลนในเวลาที่ ฝนตก อุณหภูมิต่ำ ซึ่งทำให้เกิดโรคเหงือกดำ กุ้งกินอาหารลด อ่อนแอ ตัวหลวม ติดเชื้อแบคทีเรียและโปรโตซัว
    *ช่วยย่อยสลายขี้กุ้ง กำจัดและลดปริมาณเลนที่พื้นบ่อ ทำให้พื้นบ่อสะอาด
    *ป้องกันพื้นบ่อเน่าเสีย ช่วยลดกลิ่นเหม็นซึ่งเกิดจากการหมักหมมของของเสีย
    *ช่วยลดแอมโมเนีย ป้องกันการสะสมและการเกิดไนไตรท์ ช่วยกำจัดก๊าซไข่เน่า
    *ช่วยให้สิ่งแวดล้อมในบ่อเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกุ้ง มีความปลอดภัยต่อกุ้ง และสิ่งแวดล้อม
    อัตราการใช้:
    *เตรียมบ่อ:กรณีบ่อไม่ได้ดันขี้เลนออก 5-10กก./ไร่ บริเวณกองเลน
    *ระหว่างการเลี้ยง:เพื่อลดการสะสมของเลนกลางบ่อ 2-3 กก./ไร่ ทุก 7-10 วัน
    ***หว่านในแนวเลน หรือบริเวณกลางบ่อโดยไม่ต้องละลายน้ำ หรือเฉพาะจุดที่มีของเสียสะสม
    บรรจุ 5 กก.ราคา 350.-บาท
    สนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
    ปูมทองจีโอ
    👍👍👍👍👍👍👍👍👍
    🌹🌳🌴🌾🌿🍀🐠🐟
    📲 081-6633435
    👉💖Line ID:jee_ex15
    https://line.me/ti/p/1vOPz_sRCe
    👍👍👍👍👍👍👍👍👍
    จีโอ-คลีน1 สารบำบัดเลน ลดปัญหาพื้นบ่อเน่าเสีย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ตะกอนสารอินทรีย์หรือเลนที่ก้นบ่อกุ้ง จาก ขี้กุ้ง เศษอาหารเหลือ และซากแพลงก์ตอน ทำให้ พื้นบ่อเสื่อมโทรม เป็นแหล่งสะสมของสารพิษเช่น แอมโมเนีย ไนไตรท์ และก๊าซไข่เน่า ส่งผลเสียต่อสุขภาพกุ้งและคุณภาพน้ำ ทำให้กุ้งเครียด อ่อนแอ กินอาหารลดลง มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคสูงขึ้นเช่น โรคตับ โรคขี้ขาว โรคเหงือกดำ ซูโอแทมเนียม โรคเรืองแสง ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคตัวแดงจุดขาว ผลิตจากสารธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตให้มีคุณสมบัติย่อยสลายเลนก้นบ่อ ลดปัญหากุ้งซุกกองเลนในเวลาที่ ฝนตก อุณหภูมิต่ำ ซึ่งทำให้เกิดโรคเหงือกดำ กุ้งกินอาหารลด อ่อนแอ ตัวหลวม ติดเชื้อแบคทีเรียและโปรโตซัว *ช่วยย่อยสลายขี้กุ้ง กำจัดและลดปริมาณเลนที่พื้นบ่อ ทำให้พื้นบ่อสะอาด *ป้องกันพื้นบ่อเน่าเสีย ช่วยลดกลิ่นเหม็นซึ่งเกิดจากการหมักหมมของของเสีย *ช่วยลดแอมโมเนีย ป้องกันการสะสมและการเกิดไนไตรท์ ช่วยกำจัดก๊าซไข่เน่า *ช่วยให้สิ่งแวดล้อมในบ่อเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกุ้ง มีความปลอดภัยต่อกุ้ง และสิ่งแวดล้อม อัตราการใช้: *เตรียมบ่อ:กรณีบ่อไม่ได้ดันขี้เลนออก 5-10กก./ไร่ บริเวณกองเลน *ระหว่างการเลี้ยง:เพื่อลดการสะสมของเลนกลางบ่อ 2-3 กก./ไร่ ทุก 7-10 วัน ***หว่านในแนวเลน หรือบริเวณกลางบ่อโดยไม่ต้องละลายน้ำ หรือเฉพาะจุดที่มีของเสียสะสม บรรจุ 5 กก.ราคา 350.-บาท สนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ ปูมทองจีโอ 👍👍👍👍👍👍👍👍👍 🌹🌳🌴🌾🌿🍀🐠🐟 📲 081-6633435 👉💖Line ID:jee_ex15 https://line.me/ti/p/1vOPz_sRCe 👍👍👍👍👍👍👍👍👍
    0 Comments 0 Shares 64 Views 21 0 Reviews
  • เรือดีไม่ขี่ข้าม เอาแพทรามมาข้ามขี่

    ๐ ผัวหนึ่ง และลูกสอง
    แต่สมอง ไม่ถึงบาท
    พ่อกำ มานำชาติ
    ความอุจาด สืบสันดาน

    ๐ สารพัด ที่ชัดเจน
    ความพิเรนทร์ ที่พุ่งพล่าน
    กี่เรื่อง และกี่กาล
    ที่ประจาน ปัญญาเธอ

    ๐ สารพัด ถ้ามัดรวม
    เหมือนเอาส้วม หลังเบ้อเร่อ
    ร้องแรกแหกกะเชอ
    ตั้งขี้เท่อไว้หน้าเมือง

    ๐ ไม่รู้ ใดเหมาะสม
    ชวนถุยถ่ม ได้ทุกเรื่อง
    วันพรุ่ง ยากรุ่งเรือง
    บนฟันเฟือง คนแบบนี้

    ๐ ไม่มี กระบี่ปราชญ์
    มีแต่ทาส คอยเช็ดขี้
    โง่งม และอวดดี
    ยิ่งย่ำยี ประเทศไทย

    ๐ คนดี ถูกถีบหัว
    เอาคนมั่ว มายาไส้
    เอาไฟ มาดับไฟ
    เอาขี้ไคล้ ปั้นธานี

    ๐ เรือดี ไม่ขี่ข้าม
    เอาแพทราม มาข้ามขี่
    จะได้ กี่วารี
    บนแพที่ ไม่มีปัญญ์

    ........[เพลงผ้า] ปรพากย์
    ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
    เรือดีไม่ขี่ข้าม เอาแพทรามมาข้ามขี่ ๐ ผัวหนึ่ง และลูกสอง แต่สมอง ไม่ถึงบาท พ่อกำ มานำชาติ ความอุจาด สืบสันดาน ๐ สารพัด ที่ชัดเจน ความพิเรนทร์ ที่พุ่งพล่าน กี่เรื่อง และกี่กาล ที่ประจาน ปัญญาเธอ ๐ สารพัด ถ้ามัดรวม เหมือนเอาส้วม หลังเบ้อเร่อ ร้องแรกแหกกะเชอ ตั้งขี้เท่อไว้หน้าเมือง ๐ ไม่รู้ ใดเหมาะสม ชวนถุยถ่ม ได้ทุกเรื่อง วันพรุ่ง ยากรุ่งเรือง บนฟันเฟือง คนแบบนี้ ๐ ไม่มี กระบี่ปราชญ์ มีแต่ทาส คอยเช็ดขี้ โง่งม และอวดดี ยิ่งย่ำยี ประเทศไทย ๐ คนดี ถูกถีบหัว เอาคนมั่ว มายาไส้ เอาไฟ มาดับไฟ เอาขี้ไคล้ ปั้นธานี ๐ เรือดี ไม่ขี่ข้าม เอาแพทราม มาข้ามขี่ จะได้ กี่วารี บนแพที่ ไม่มีปัญญ์ ........[เพลงผ้า] ปรพากย์ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“
    .
    จากกรณีศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวชั่วคราว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีฉ้อโกงเงินของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวส่งฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง
    .
    วันนี้ (8 พ.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม และ นางปทิตตา มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ อาทิ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนจะพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อยังแดนปกติภายในเรือนจำ
    .
    นางกนกวรรณ เผยอีกว่า ส่วนเรื่องความกังวล นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม หากครบกำหนดอยู่แดนกักโรคแล้วจะต้องย้ายส่งต่อแดนใดนั้น เพราะอาจเจอคู่กรณีเป็นกลุ่ม 18 บอสดิไอคอน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พิจารณาตามความเหมาะสม และขณะนี้กลุ่มบอสชาย 11 คน ได้แยกแดนเป็นที่เรียบร้อย อยู่แดนละ 2-3 คนกระจายกันไป แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบคู่กรณีของ นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ในคดีอื่นๆ ด้วยเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เมนูอาหารมื้อเย็นในวันนี้ (8 พ.ย.) เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นข้าวสวย ไก่ต้มขมิ้น และไข่ต้ม ส่วนทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นข้าวสวย หลนปลาร้า/ผักสด และ ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น
    ..............
    Sondhi X
    รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ คุมแดนกักโรค 5 วัน มื้อเย็นต้อนรับ คุกชาย "ข้าวสวย-ไก่ต้มขมิ้น-ไข่ต้ม" ส่วนคุกหญิง “ข้าวสวย-หลนปลาร้า/ผักสด-ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น“ . จากกรณีศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก โดยชั้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวชั่วคราว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในคดีฉ้อโกงเงินของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวส่งฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง . วันนี้ (8 พ.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขั้นตอนหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม และ นางปทิตตา มายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง ทั้งคู่ต้องทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ อาทิ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการอยู่แดนกักโรค 5 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และจะมีการปฐมนิเทศอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในแดนกักโรคตามเดิม แต่มีการแบ่งโซนออกจากกัน ก่อนจะพิจารณาส่งผู้ต้องหาไปควบคุมต่อยังแดนปกติภายในเรือนจำ . นางกนกวรรณ เผยอีกว่า ส่วนเรื่องความกังวล นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม หากครบกำหนดอยู่แดนกักโรคแล้วจะต้องย้ายส่งต่อแดนใดนั้น เพราะอาจเจอคู่กรณีเป็นกลุ่ม 18 บอสดิไอคอน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พิจารณาตามความเหมาะสม และขณะนี้กลุ่มบอสชาย 11 คน ได้แยกแดนเป็นที่เรียบร้อย อยู่แดนละ 2-3 คนกระจายกันไป แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบคู่กรณีของ นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม ในคดีอื่นๆ ด้วยเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เมนูอาหารมื้อเย็นในวันนี้ (8 พ.ย.) เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นข้าวสวย ไก่ต้มขมิ้น และไข่ต้ม ส่วนทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นข้าวสวย หลนปลาร้า/ผักสด และ ผัดพริกแกงผักบุ้งลูกชิ้น .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    Angry
    9
    0 Comments 0 Shares 373 Views 0 Reviews
  • 🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้
    สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น
    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ
    และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย

    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์

    ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง
    สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น

    ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่

    - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด

    - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง

    - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส

    ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้
    ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย

    ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google
    #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร
    🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์ ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่ - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้
    สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น
    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ
    และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย

    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์

    ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง
    สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น

    ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่

    - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด

    - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง

    - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส

    ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้
    ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย

    ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google
    #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร#thaitimes
    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) 🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์ ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่ - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร#thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 303 Views 0 Reviews
  • การควบคุมตนเองยามโกรธ คือทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของจิต เมื่อโกรธ เรามักรู้สึกอยากพูดหรือทำสิ่งที่อาจไม่เป็นตัวเราอย่างแท้จริง การสังเกตและยับยั้งไม่ให้แสดงออกทันที ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นความเป็นไปของอารมณ์และความคิดได้ชัดเจนขึ้น

    ยามโกรธให้ลองรอจนความรู้สึกเย็นลงแล้วค่อยทบทวนว่าความคิดหรือคำพูดนั้นเหมาะสมจริงหรือไม่ การระงับปากก่อนโพล่งทำให้เราสังเกตเห็นความต่างของจิตระหว่างโกรธและสงบ ซึ่งไม่เพียงทำให้เราเข้าใจตนเองมากขึ้น แต่ยังทำให้เราเข้าใจผู้อื่นดีขึ้นด้วย เพราะเราเห็นได้ว่า คนอื่นก็มีช่วงที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เช่นกัน การที่เราเข้าใจธรรมชาติของตนเองนี้เองจะช่วยให้เราถือสาและคาดหวังจากผู้อื่นน้อยลง

    ท้ายที่สุด การยับยั้งคำพูดเพื่อทบทวนอารมณ์และเหตุผล จะช่วยให้เราเจริญสติในทุกสถานการณ์และรู้จักปรุงแต่งความคิดอย่างเหมาะสม เมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งใดควรพูดหรือไม่ควรพูด ชีวิตก็จะเรียบง่ายและเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ วันต่อวัน
    การควบคุมตนเองยามโกรธ คือทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของจิต เมื่อโกรธ เรามักรู้สึกอยากพูดหรือทำสิ่งที่อาจไม่เป็นตัวเราอย่างแท้จริง การสังเกตและยับยั้งไม่ให้แสดงออกทันที ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นความเป็นไปของอารมณ์และความคิดได้ชัดเจนขึ้น ยามโกรธให้ลองรอจนความรู้สึกเย็นลงแล้วค่อยทบทวนว่าความคิดหรือคำพูดนั้นเหมาะสมจริงหรือไม่ การระงับปากก่อนโพล่งทำให้เราสังเกตเห็นความต่างของจิตระหว่างโกรธและสงบ ซึ่งไม่เพียงทำให้เราเข้าใจตนเองมากขึ้น แต่ยังทำให้เราเข้าใจผู้อื่นดีขึ้นด้วย เพราะเราเห็นได้ว่า คนอื่นก็มีช่วงที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เช่นกัน การที่เราเข้าใจธรรมชาติของตนเองนี้เองจะช่วยให้เราถือสาและคาดหวังจากผู้อื่นน้อยลง ท้ายที่สุด การยับยั้งคำพูดเพื่อทบทวนอารมณ์และเหตุผล จะช่วยให้เราเจริญสติในทุกสถานการณ์และรู้จักปรุงแต่งความคิดอย่างเหมาะสม เมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งใดควรพูดหรือไม่ควรพูด ชีวิตก็จะเรียบง่ายและเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ วันต่อวัน
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • 🚩ขอให้นายกแพทยสภา ดำเนินการเอาผิดแพทย์ตามประกาศแพทยสภาที่ ๖๒/๒๕๖๗

    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

    เรียน นายกแพทยสภา พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์
    สำเนาเรียน เลขาธิการแพทยสภา
    สื่อสารมวลชนทุกสำนัก

    ตามที่แพทยสภาได้ออกประกาศแพทยสภาที่ ๖๒/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗
    เรื่องเกณฑ์การกําหนดโทษทางจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เกี่ยวกับความผิดในการเป็นผู้ดําเนินการสถานพยาบาล และความผิดต่อผลิตภัณฑ์สุขภาพ และการโฆษณานั้น ในประกาศดังกล่าวได้ระบุปัญหาด้านจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จนเป็นเหตุให้ต้องออกประกาศดังกล่าว มีข้อความบางส่วนว่า..
    “...รวมทั้งมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องให้ข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วนหรือไม่เหมาะสม…… ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม มีการใช้ชื่อทางการค้าหรือชื่ออื่นใดของผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งทางตรง ทางอ้อม ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่ออื่นใด ในการให้ความรู้ในทํานองโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้นๆต่อประชาชนทั่วไป อันอาจส่งผลเสียและอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมทั้งอาจส่งผลกระทบ ต่อสาธารณะได้เป็นวงกว้าง”
    ⚠️บัดนี้พบว่า กรรมการโดยตำแหน่งของแพทยสภา คือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กระทำความผิดดังกล่าวเสียเอง ทั้งยังมิได้ดำเนินการให้หน่วยงานในความรับผิดชอบ คือ กรมควบคุมโรค ดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว ทั้งที่มีการร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ แพทยสภา และเรื่องดังกล่าวได้ปรากฏเป็นข่าวตามรายละเอียดในเอกสารที่แนบ
    ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาและหน่วยราชการที่ผู้ถูกกล่าวหาดูแลรับผิดชอบได้ให้ข้อเท็จจริงที่ไม่ครบถ้วนในใบยินยอมฉีดวัคซีนโควิด
    ตามรายละเอียดในหนังสือร้องเรียน ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ โดยสรุป คือ
    🔸️1. ไม่ได้ให้ข้อมูลว่า วัคซีนดังกล่าว อยู่ระหว่างการทดลอง
    🔸️2. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า เป็นสารพันธุกรรมดัดแปลง (modified RNA)
    🔸️3. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า ไม่ทราบว่า หลังจากฉีดวัคซีนดังกล่าว แล้วจะอยู่ในร่างกายนานแค่ไหน ไปที่อวัยวะใดบ้าง
    🔸️4. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทผู้ผลิตมิได้ทดสอบพิษต่อพันธุกรรม และ
    🔸️5. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทผู้ผลิตมิได้ทดสอบพิษในการก่อมะเร็ง
    ทั้งที่ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นมีระบุไว้ในเอกสารกำกับยาที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้การรับรองการกระทำผิดดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณโดยชัดเจนและก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสังคม ควรที่แพทยสภาจะรีบดำเนินการสอบสวนโดยรวดเร็ว แต่แพทยสภากลับนิ่งเฉย มิได้ดำเนินการใดๆ อันอาจเข้าข่ายการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
    ทั้งนี้การที่แพทยสภามิได้ดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับอันตราย ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของแพทยสภาเอง จึงขอให้แพทยสภาโดยนายก อุปนายก และเลขาธิการ รีบดำเนินการสอบสวนพร้อมทั้งแถลงข่าวกับสื่อมวลชนทันทีที่ได้รับหนังสือฉบับนี้

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    เอกสารอ้างอิง
    ๑. จดหมายขอทวงถามการสอบสวนจรรยาบรรณของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/19g6ApZIEx1QN8cCTaW_OE1RwtmtFByfm/view?usp=drivesdk

    ๒. จดหมายขอให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1sypT-zqTStHuo4CGJa1EevEt9cixfNhl/view?usp=drivesdk

    ๓. แพทยสภา องค์กรที่ก่อตั้งมาเพื่อ ปกป้องบริษัทยา?
    https://drive.google.com/file/d/1q6hYQkkJozwg5aL1zazRzlSpYP8swbYn/view?usp=drivesdk

    ๔. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk

    ๕. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง
    ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567
    https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link
    🚩ขอให้นายกแพทยสภา ดำเนินการเอาผิดแพทย์ตามประกาศแพทยสภาที่ ๖๒/๒๕๖๗ วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เรียน นายกแพทยสภา พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ สำเนาเรียน เลขาธิการแพทยสภา สื่อสารมวลชนทุกสำนัก ตามที่แพทยสภาได้ออกประกาศแพทยสภาที่ ๖๒/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ เรื่องเกณฑ์การกําหนดโทษทางจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เกี่ยวกับความผิดในการเป็นผู้ดําเนินการสถานพยาบาล และความผิดต่อผลิตภัณฑ์สุขภาพ และการโฆษณานั้น ในประกาศดังกล่าวได้ระบุปัญหาด้านจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จนเป็นเหตุให้ต้องออกประกาศดังกล่าว มีข้อความบางส่วนว่า.. “...รวมทั้งมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องให้ข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วนหรือไม่เหมาะสม…… ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม มีการใช้ชื่อทางการค้าหรือชื่ออื่นใดของผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งทางตรง ทางอ้อม ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่ออื่นใด ในการให้ความรู้ในทํานองโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้นๆต่อประชาชนทั่วไป อันอาจส่งผลเสียและอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมทั้งอาจส่งผลกระทบ ต่อสาธารณะได้เป็นวงกว้าง” ⚠️บัดนี้พบว่า กรรมการโดยตำแหน่งของแพทยสภา คือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กระทำความผิดดังกล่าวเสียเอง ทั้งยังมิได้ดำเนินการให้หน่วยงานในความรับผิดชอบ คือ กรมควบคุมโรค ดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว ทั้งที่มีการร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ แพทยสภา และเรื่องดังกล่าวได้ปรากฏเป็นข่าวตามรายละเอียดในเอกสารที่แนบ ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาและหน่วยราชการที่ผู้ถูกกล่าวหาดูแลรับผิดชอบได้ให้ข้อเท็จจริงที่ไม่ครบถ้วนในใบยินยอมฉีดวัคซีนโควิด ตามรายละเอียดในหนังสือร้องเรียน ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ โดยสรุป คือ 🔸️1. ไม่ได้ให้ข้อมูลว่า วัคซีนดังกล่าว อยู่ระหว่างการทดลอง 🔸️2. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า เป็นสารพันธุกรรมดัดแปลง (modified RNA) 🔸️3. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า ไม่ทราบว่า หลังจากฉีดวัคซีนดังกล่าว แล้วจะอยู่ในร่างกายนานแค่ไหน ไปที่อวัยวะใดบ้าง 🔸️4. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทผู้ผลิตมิได้ทดสอบพิษต่อพันธุกรรม และ 🔸️5. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทผู้ผลิตมิได้ทดสอบพิษในการก่อมะเร็ง ทั้งที่ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นมีระบุไว้ในเอกสารกำกับยาที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้การรับรองการกระทำผิดดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณโดยชัดเจนและก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสังคม ควรที่แพทยสภาจะรีบดำเนินการสอบสวนโดยรวดเร็ว แต่แพทยสภากลับนิ่งเฉย มิได้ดำเนินการใดๆ อันอาจเข้าข่ายการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งนี้การที่แพทยสภามิได้ดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับอันตราย ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของแพทยสภาเอง จึงขอให้แพทยสภาโดยนายก อุปนายก และเลขาธิการ รีบดำเนินการสอบสวนพร้อมทั้งแถลงข่าวกับสื่อมวลชนทันทีที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เอกสารอ้างอิง ๑. จดหมายขอทวงถามการสอบสวนจรรยาบรรณของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/19g6ApZIEx1QN8cCTaW_OE1RwtmtFByfm/view?usp=drivesdk ๒. จดหมายขอให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1sypT-zqTStHuo4CGJa1EevEt9cixfNhl/view?usp=drivesdk ๓. แพทยสภา องค์กรที่ก่อตั้งมาเพื่อ ปกป้องบริษัทยา? https://drive.google.com/file/d/1q6hYQkkJozwg5aL1zazRzlSpYP8swbYn/view?usp=drivesdk ๔. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk ๕. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567 https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • Blue Suede Shoes
    เพลงนี้ถูกบันทึกไว้ครั้งแรกโดยผู้แต่งที่ไม่เต็มใจนักคือนักร้องคันทรี คาร์ล เพอร์กินส์.
    ..เป็นเพลงแรกด้านหนึ่งของอัลบั้มเปิดตัวชื่อเดียวกันของเอลวิส เพรสลีย์ในปี 1956 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยธรรมชาติแล้ว คนรักดนตรีหลายคนจึงสันนิษฐานว่า“Blue Suede Shoes” เป็นผลงานของเอลวิส แต่เพลงนี้เป็นผลงานของนักบุกเบิกดนตรีร็อกแอนด์โรลที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก และมีต้นกำเนิดที่ซับซ้อนและมีอารมณ์ขันอย่างประหลาด
    “Blue Suede Shoes” ถูกเขียนขึ้นอย่างไม่เต็มใจโดยนักร้องและนักแต่งเพลงชาวเทนเนสซีคาร์ล เพอร์กินส์ เดิมทีเขาเป็นนักร้องแนวคันทรี แต่การผสมผสานระหว่างร็อกแอนด์โรลและดนตรีพื้นบ้านแบบฮิลบิลลี่ของเทือกเขาแอปพาเลเชียนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาทำให้เขาได้รับฉายาว่าราชาแห่งร็อกกาบิลลี่ในไม่ช้า
    เพอร์กินส์เซ็นสัญญากับค่ายเพลงซันเรคคอร์ดในปี 1954 และในปีถัดมา ก็ได้เล่นดนตรีร่วมกับเพรสลีย์และจอห์นนี่ แคชในอาร์คันซอหลายครั้ง ขณะอยู่หลังเวทีการแสดงในเมืองพาร์กินส์ แคชได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลประหลาดที่เขาพบในเยอรมนีระหว่างที่รับราชการทหารให้เพอร์กินส์ฟัง
    แคชเล่าถึงจ่าสิบเอกผิวสีชื่อซีวี ไวท์ ซึ่งอ้างว่าอักษรย่อของเขาหมายถึง “กำมะหยี่แชมเปญ” ในคืนนอกเวลางานในมิวนิก ไวท์มักจะจินตนาการว่ารองเท้าทหารสีดำตามระเบียบของเขาเป็นรองเท้าหนังกลับสีน้ำเงินที่ดูเก๋ไก๋ และเตือนทุกคนที่มาเยี่ยมชมไม่ให้เหยียบรองเท้าเหล่านี้
    “คุณควรเขียนเพลงเกี่ยวกับเรื่องนั้น!” แคชเสนอให้เพอร์กินส์
    “แต่ฉันไม่รู้เรื่องรองเท้าเลย!” เพอร์กินส์ประท้วง
    แคชได้ปลูกเมล็ดพันธุ์ไว้แล้ว ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เพอร์กินส์ได้ยินเสียงดังขึ้นขณะกำลังเต้นรำในวิทยาลัย "เฮ้ อย่าเหยียบรองเท้าหนังกลับของฉัน!" และเห็นนักเรียนคนหนึ่งกำลังตำหนิคู่เดตของเขาที่ทำรองเท้าของเขาถลอก เขาเริ่มเขียน "รองเท้าหนังกลับสีน้ำเงิน" ในคืนนั้น โดยใช้กระสอบใส่มันฝรั่งสีน้ำตาลที่สะดวก
    เพอร์กินส์เริ่มต้นด้วยกลอนเด็กของสหรัฐอเมริกา: “หนึ่งเพื่อเงิน สองเพื่อการแสดง!” ก่อนที่จะแสดงรายการชะตากรรมที่เขาอยากอดทนมากกว่าที่จะให้ใครมาเหยียบรองเท้าของเขา: “คุณสามารถล้มฉันลงได้ เหยียบหน้าฉัน…” ความไม่เหมาะสมที่ตลกขบขันเหล่านี้ยิ่งเลวร้ายลง: “คุณสามารถเผาบ้านของฉัน ขโมยรถของฉัน ดื่มเหล้าของฉันจากโถผลไม้เก่า!”
    “Blue Suede Shoes” เป็นเพลงที่สนุกสนานและได้รับความนิยมอย่างมาก ออกจำหน่ายในวันปีใหม่ปี 1956 ขึ้นชาร์ตทั้งเพลงคันทรีและเพลง แนวริธึมแอนด์บลูส์ และขึ้นอันดับสองในชาร์ตเพลงป๊อปหลักของ Billboard ในเดือนมีนาคมปีนั้น แต่แล้วโศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นกับ Carl Perkins
    ขณะที่เพอร์กินส์กำลังเดินทางไปแสดงเพลง “Blue Suede Shoes” ในรายการโทรทัศน์ของเพอร์รี โคโม เพอร์กินส์ประสบอุบัติเหตุทางถนนที่ร้ายแรง คนขับรถบรรทุกเสียชีวิต และนักร้องได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่เพอร์กินส์นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากไม่สามารถโปรโมตซิงเกิลของเขาได้ เพลงดังกล่าวก็ถูกแซงหน้าโดยเพลง “Heartbreak Hotel” ซึ่งเป็นเพลงเปิดตัวของเอลวิสในสังกัดค่ายเพลงใหญ่
    เพรสลีย์คัฟเวอร์เพลง "Blue Suede Shoes" ในอัลบั้มของเขาในเดือนเดียวกันนั้น และค่ายเพลงของเขาต้องการที่จะปล่อยเพลงนี้ออกมาเป็นซิงเกิล ในตอนแรกเขาไม่อยากแข่งขันกับเพื่อนเรื่องยอดขาย แต่เขาก็ยอมแพ้เมื่อตระหนักว่าค่าลิขสิทธิ์การแต่งเพลงจะช่วยสนับสนุนเพอร์กินส์ในขณะที่เขากำลังพักฟื้น เวอร์ชันที่คล้ายกันมากของเอลวิสก็ขึ้นอันดับ 20

    ปกอัลบั้มอื่นๆ ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ The Beatles เป็นแฟนตัวยงของ Perkins; Paul McCartney ยืนยันว่า "ถ้าไม่มี Carl Perkins ก็คงไม่มี Beatles" John Lennon เล่นเพลง "Blue Suede Shoes" ในวงสกิฟเฟิลก่อนจะโด่งดังของเขาอย่าง The Quarrymen; และในวง The Beatles; ในฐานะศิลปินเดี่ยว; และกับ Yoko Ono ในวง Plastic Ono เลนนอนยังรับหน้าที่ร้องนำในเวอร์ชันแจมเซสชั่น ของเพลงนี้ในช่วง Let It Be ของ The Beatles ตามที่แสดงในสารคดีของปีเตอร์ แจ็กสันในปี 2021
    The Dave Clark Five เล่นเปียโนได้อย่างสนุกสนาน Uriah Heep ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยดนตรีแนวพร็อก-ร็อกสุดมันส์ Motörhead ร้องได้อย่างเต็มที่ โดยนักร้องนำ Lemmy ดูเหมือนจะกลั้วคอด้วยเสียงเพลงกรวด Black Sabbath เร่งจังหวะจากความมึนงงตามปกติ และกระตุ้นจินตนาการอันน่ายินดีของนักร้องนำ Ozzy Osbourne ที่สวมรองเท้าหนังกลับสีน้ำเงิน
    Ry Cooder เล่นเพลง “Blue Suede Shoes” จนกลายเป็นหนึ่งในผลงานการเล่นกีตาร์สไลด์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ดาราฝรั่งเศสจอห์นนี่ ฮัลลีเดย์ ร้องเพลงกอลและร้องคาราโอเกะของเอลวิสไปทั่ว และในปี 2014 สาวกเอลวิสคนแรกของอังกฤษCliff Richard ร้องเพลงคู่กับ Presley จากเพลงฮิตปี 1956 ของเขาอย่างภาคภูมิใจ
    “Blue Suede Shoes” เป็นเพลงแรกของนักร้องคันทรี่ที่มียอดขายกว่าล้านชุดและได้รับความนิยมในกระแสหลัก แต่เพลงนี้ยังคงเชื่อมโยงกับเอลวิส เพรสลีย์ตลอดไป เพอร์กินส์ยอมรับอย่างภาคภูมิใจว่าเอลวิสมีเสน่ห์ดึงดูดใจและมีคุณสมบัติ "X" ซูเปอร์สตาร์ ซึ่งแม้ว่าเขาจะเป็นแค่คนพื้นเพธรรมดาๆ ก็ตาม
    “เอลวิสมีทุกอย่าง” เขากล่าวในบทสัมภาษณ์ “เขาทั้งหน้าตา ท่าทาง ผู้จัดการ และพรสวรรค์ เอลวิสไว้เคราข้างแก้ม ท่าเต้นที่ฉูดฉาด และไม่มีแหวนบนนิ้วของเขา ฉันมีลูกสามคน!”
    อย่างน้อยเขาก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับรองเท้า.
    Blue Suede Shoes เพลงนี้ถูกบันทึกไว้ครั้งแรกโดยผู้แต่งที่ไม่เต็มใจนักคือนักร้องคันทรี คาร์ล เพอร์กินส์. ..เป็นเพลงแรกด้านหนึ่งของอัลบั้มเปิดตัวชื่อเดียวกันของเอลวิส เพรสลีย์ในปี 1956 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยธรรมชาติแล้ว คนรักดนตรีหลายคนจึงสันนิษฐานว่า“Blue Suede Shoes” เป็นผลงานของเอลวิส แต่เพลงนี้เป็นผลงานของนักบุกเบิกดนตรีร็อกแอนด์โรลที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก และมีต้นกำเนิดที่ซับซ้อนและมีอารมณ์ขันอย่างประหลาด “Blue Suede Shoes” ถูกเขียนขึ้นอย่างไม่เต็มใจโดยนักร้องและนักแต่งเพลงชาวเทนเนสซีคาร์ล เพอร์กินส์ เดิมทีเขาเป็นนักร้องแนวคันทรี แต่การผสมผสานระหว่างร็อกแอนด์โรลและดนตรีพื้นบ้านแบบฮิลบิลลี่ของเทือกเขาแอปพาเลเชียนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาทำให้เขาได้รับฉายาว่าราชาแห่งร็อกกาบิลลี่ในไม่ช้า เพอร์กินส์เซ็นสัญญากับค่ายเพลงซันเรคคอร์ดในปี 1954 และในปีถัดมา ก็ได้เล่นดนตรีร่วมกับเพรสลีย์และจอห์นนี่ แคชในอาร์คันซอหลายครั้ง ขณะอยู่หลังเวทีการแสดงในเมืองพาร์กินส์ แคชได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลประหลาดที่เขาพบในเยอรมนีระหว่างที่รับราชการทหารให้เพอร์กินส์ฟัง แคชเล่าถึงจ่าสิบเอกผิวสีชื่อซีวี ไวท์ ซึ่งอ้างว่าอักษรย่อของเขาหมายถึง “กำมะหยี่แชมเปญ” ในคืนนอกเวลางานในมิวนิก ไวท์มักจะจินตนาการว่ารองเท้าทหารสีดำตามระเบียบของเขาเป็นรองเท้าหนังกลับสีน้ำเงินที่ดูเก๋ไก๋ และเตือนทุกคนที่มาเยี่ยมชมไม่ให้เหยียบรองเท้าเหล่านี้ “คุณควรเขียนเพลงเกี่ยวกับเรื่องนั้น!” แคชเสนอให้เพอร์กินส์ “แต่ฉันไม่รู้เรื่องรองเท้าเลย!” เพอร์กินส์ประท้วง แคชได้ปลูกเมล็ดพันธุ์ไว้แล้ว ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เพอร์กินส์ได้ยินเสียงดังขึ้นขณะกำลังเต้นรำในวิทยาลัย "เฮ้ อย่าเหยียบรองเท้าหนังกลับของฉัน!" และเห็นนักเรียนคนหนึ่งกำลังตำหนิคู่เดตของเขาที่ทำรองเท้าของเขาถลอก เขาเริ่มเขียน "รองเท้าหนังกลับสีน้ำเงิน" ในคืนนั้น โดยใช้กระสอบใส่มันฝรั่งสีน้ำตาลที่สะดวก เพอร์กินส์เริ่มต้นด้วยกลอนเด็กของสหรัฐอเมริกา: “หนึ่งเพื่อเงิน สองเพื่อการแสดง!” ก่อนที่จะแสดงรายการชะตากรรมที่เขาอยากอดทนมากกว่าที่จะให้ใครมาเหยียบรองเท้าของเขา: “คุณสามารถล้มฉันลงได้ เหยียบหน้าฉัน…” ความไม่เหมาะสมที่ตลกขบขันเหล่านี้ยิ่งเลวร้ายลง: “คุณสามารถเผาบ้านของฉัน ขโมยรถของฉัน ดื่มเหล้าของฉันจากโถผลไม้เก่า!” “Blue Suede Shoes” เป็นเพลงที่สนุกสนานและได้รับความนิยมอย่างมาก ออกจำหน่ายในวันปีใหม่ปี 1956 ขึ้นชาร์ตทั้งเพลงคันทรีและเพลง แนวริธึมแอนด์บลูส์ และขึ้นอันดับสองในชาร์ตเพลงป๊อปหลักของ Billboard ในเดือนมีนาคมปีนั้น แต่แล้วโศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นกับ Carl Perkins ขณะที่เพอร์กินส์กำลังเดินทางไปแสดงเพลง “Blue Suede Shoes” ในรายการโทรทัศน์ของเพอร์รี โคโม เพอร์กินส์ประสบอุบัติเหตุทางถนนที่ร้ายแรง คนขับรถบรรทุกเสียชีวิต และนักร้องได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่เพอร์กินส์นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากไม่สามารถโปรโมตซิงเกิลของเขาได้ เพลงดังกล่าวก็ถูกแซงหน้าโดยเพลง “Heartbreak Hotel” ซึ่งเป็นเพลงเปิดตัวของเอลวิสในสังกัดค่ายเพลงใหญ่ เพรสลีย์คัฟเวอร์เพลง "Blue Suede Shoes" ในอัลบั้มของเขาในเดือนเดียวกันนั้น และค่ายเพลงของเขาต้องการที่จะปล่อยเพลงนี้ออกมาเป็นซิงเกิล ในตอนแรกเขาไม่อยากแข่งขันกับเพื่อนเรื่องยอดขาย แต่เขาก็ยอมแพ้เมื่อตระหนักว่าค่าลิขสิทธิ์การแต่งเพลงจะช่วยสนับสนุนเพอร์กินส์ในขณะที่เขากำลังพักฟื้น เวอร์ชันที่คล้ายกันมากของเอลวิสก็ขึ้นอันดับ 20 ปกอัลบั้มอื่นๆ ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ The Beatles เป็นแฟนตัวยงของ Perkins; Paul McCartney ยืนยันว่า "ถ้าไม่มี Carl Perkins ก็คงไม่มี Beatles" John Lennon เล่นเพลง "Blue Suede Shoes" ในวงสกิฟเฟิลก่อนจะโด่งดังของเขาอย่าง The Quarrymen; และในวง The Beatles; ในฐานะศิลปินเดี่ยว; และกับ Yoko Ono ในวง Plastic Ono เลนนอนยังรับหน้าที่ร้องนำในเวอร์ชันแจมเซสชั่น ของเพลงนี้ในช่วง Let It Be ของ The Beatles ตามที่แสดงในสารคดีของปีเตอร์ แจ็กสันในปี 2021 The Dave Clark Five เล่นเปียโนได้อย่างสนุกสนาน Uriah Heep ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยดนตรีแนวพร็อก-ร็อกสุดมันส์ Motörhead ร้องได้อย่างเต็มที่ โดยนักร้องนำ Lemmy ดูเหมือนจะกลั้วคอด้วยเสียงเพลงกรวด Black Sabbath เร่งจังหวะจากความมึนงงตามปกติ และกระตุ้นจินตนาการอันน่ายินดีของนักร้องนำ Ozzy Osbourne ที่สวมรองเท้าหนังกลับสีน้ำเงิน Ry Cooder เล่นเพลง “Blue Suede Shoes” จนกลายเป็นหนึ่งในผลงานการเล่นกีตาร์สไลด์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ดาราฝรั่งเศสจอห์นนี่ ฮัลลีเดย์ ร้องเพลงกอลและร้องคาราโอเกะของเอลวิสไปทั่ว และในปี 2014 สาวกเอลวิสคนแรกของอังกฤษCliff Richard ร้องเพลงคู่กับ Presley จากเพลงฮิตปี 1956 ของเขาอย่างภาคภูมิใจ “Blue Suede Shoes” เป็นเพลงแรกของนักร้องคันทรี่ที่มียอดขายกว่าล้านชุดและได้รับความนิยมในกระแสหลัก แต่เพลงนี้ยังคงเชื่อมโยงกับเอลวิส เพรสลีย์ตลอดไป เพอร์กินส์ยอมรับอย่างภาคภูมิใจว่าเอลวิสมีเสน่ห์ดึงดูดใจและมีคุณสมบัติ "X" ซูเปอร์สตาร์ ซึ่งแม้ว่าเขาจะเป็นแค่คนพื้นเพธรรมดาๆ ก็ตาม “เอลวิสมีทุกอย่าง” เขากล่าวในบทสัมภาษณ์ “เขาทั้งหน้าตา ท่าทาง ผู้จัดการ และพรสวรรค์ เอลวิสไว้เคราข้างแก้ม ท่าเต้นที่ฉูดฉาด และไม่มีแหวนบนนิ้วของเขา ฉันมีลูกสามคน!” อย่างน้อยเขาก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับรองเท้า.
    0 Comments 0 Shares 166 Views 96 0 Reviews
  • 🚩ขอให้นายกแพทยสภา ดำเนินการเอาผิดแพทย์ตามประกาศแพทยสภาที่ ๖๒/๒๕๖๗
    https://www.facebook.com/share/17gSPaHwQG/
    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

    เรียน นายกแพทยสภา พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์
    สำเนาเรียน เลขาธิการแพทยสภา
    สื่อสารมวลชนทุกสำนัก

    ตามที่แพทยสภาได้ออกประกาศแพทยสภาที่ ๖๒/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗
    เรื่องเกณฑ์การกําหนดโทษทางจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เกี่ยวกับความผิดในการเป็นผู้ดําเนินการสถานพยาบาล และความผิดต่อผลิตภัณฑ์สุขภาพ และการโฆษณานั้น ในประกาศดังกล่าวได้ระบุปัญหาด้านจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จนเป็นเหตุให้ต้องออกประกาศดังกล่าว มีข้อความบางส่วนว่า..
    “...รวมทั้งมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องให้ข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วนหรือไม่เหมาะสม…… ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม มีการใช้ชื่อทางการค้าหรือชื่ออื่นใดของผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งทางตรง ทางอ้อม ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่ออื่นใด ในการให้ความรู้ในทํานองโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้นๆต่อประชาชนทั่วไป อันอาจส่งผลเสียและอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมทั้งอาจส่งผลกระทบ ต่อสาธารณะได้เป็นวงกว้าง”
    ⚠️บัดนี้พบว่า กรรมการโดยตำแหน่งของแพทยสภา คือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กระทำความผิดดังกล่าวเสียเอง ทั้งยังมิได้ดำเนินการให้หน่วยงานในความรับผิดชอบ คือ กรมควบคุมโรค ดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว ทั้งที่มีการร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ แพทยสภา และเรื่องดังกล่าวได้ปรากฏเป็นข่าวตามรายละเอียดในเอกสารที่แนบ
    ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาและหน่วยราชการที่ผู้ถูกกล่าวหาดูแลรับผิดชอบได้ให้ข้อเท็จจริงที่ไม่ครบถ้วนในใบยินยอมฉีดวัคซีนโควิด
    ตามรายละเอียดในหนังสือร้องเรียน ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ โดยสรุป คือ
    🔸️1. ไม่ได้ให้ข้อมูลว่า วัคซีนดังกล่าว อยู่ระหว่างการทดลอง
    🔸️2. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า เป็นสารพันธุกรรมดัดแปลง (modified RNA)
    🔸️3. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า ไม่ทราบว่า หลังจากฉีดวัคซีนดังกล่าว แล้วจะอยู่ในร่างกายนานแค่ไหน ไปที่อวัยวะใดบ้าง
    🔸️4. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทผู้ผลิตมิได้ทดสอบพิษต่อพันธุกรรม และ
    🔸️5. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทผู้ผลิตมิได้ทดสอบพิษในการก่อมะเร็ง
    ทั้งที่ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นมีระบุไว้ในเอกสารกำกับยาที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้การรับรองการกระทำผิดดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณโดยชัดเจนและก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสังคม ควรที่แพทยสภาจะรีบดำเนินการสอบสวนโดยรวดเร็ว แต่แพทยสภากลับนิ่งเฉย มิได้ดำเนินการใดๆ อันอาจเข้าข่ายการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
    ทั้งนี้การที่แพทยสภามิได้ดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับอันตราย ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของแพทยสภาเอง จึงขอให้แพทยสภาโดยนายก อุปนายก และเลขาธิการ รีบดำเนินการสอบสวนพร้อมทั้งแถลงข่าวกับสื่อมวลชนทันทีที่ได้รับหนังสือฉบับนี้

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    เอกสารอ้างอิง
    ๑. จดหมายขอทวงถามการสอบสวนจรรยาบรรณของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/19g6ApZIEx1QN8cCTaW_OE1RwtmtFByfm/view?usp=drivesdk

    ๒. จดหมายขอให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1sypT-zqTStHuo4CGJa1EevEt9cixfNhl/view?usp=drivesdk

    ๓. แพทยสภา องค์กรที่ก่อตั้งมาเพื่อ ปกป้องบริษัทยา?
    https://drive.google.com/file/d/1q6hYQkkJozwg5aL1zazRzlSpYP8swbYn/view?usp=drivesdk

    ๔. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk

    ๕. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง
    ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567
    https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link
    🚩ขอให้นายกแพทยสภา ดำเนินการเอาผิดแพทย์ตามประกาศแพทยสภาที่ ๖๒/๒๕๖๗ https://www.facebook.com/share/17gSPaHwQG/ วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เรียน นายกแพทยสภา พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ สำเนาเรียน เลขาธิการแพทยสภา สื่อสารมวลชนทุกสำนัก ตามที่แพทยสภาได้ออกประกาศแพทยสภาที่ ๖๒/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ เรื่องเกณฑ์การกําหนดโทษทางจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เกี่ยวกับความผิดในการเป็นผู้ดําเนินการสถานพยาบาล และความผิดต่อผลิตภัณฑ์สุขภาพ และการโฆษณานั้น ในประกาศดังกล่าวได้ระบุปัญหาด้านจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จนเป็นเหตุให้ต้องออกประกาศดังกล่าว มีข้อความบางส่วนว่า.. “...รวมทั้งมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องให้ข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วนหรือไม่เหมาะสม…… ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม มีการใช้ชื่อทางการค้าหรือชื่ออื่นใดของผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งทางตรง ทางอ้อม ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่ออื่นใด ในการให้ความรู้ในทํานองโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้นๆต่อประชาชนทั่วไป อันอาจส่งผลเสียและอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมทั้งอาจส่งผลกระทบ ต่อสาธารณะได้เป็นวงกว้าง” ⚠️บัดนี้พบว่า กรรมการโดยตำแหน่งของแพทยสภา คือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กระทำความผิดดังกล่าวเสียเอง ทั้งยังมิได้ดำเนินการให้หน่วยงานในความรับผิดชอบ คือ กรมควบคุมโรค ดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว ทั้งที่มีการร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ แพทยสภา และเรื่องดังกล่าวได้ปรากฏเป็นข่าวตามรายละเอียดในเอกสารที่แนบ ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาและหน่วยราชการที่ผู้ถูกกล่าวหาดูแลรับผิดชอบได้ให้ข้อเท็จจริงที่ไม่ครบถ้วนในใบยินยอมฉีดวัคซีนโควิด ตามรายละเอียดในหนังสือร้องเรียน ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ โดยสรุป คือ 🔸️1. ไม่ได้ให้ข้อมูลว่า วัคซีนดังกล่าว อยู่ระหว่างการทดลอง 🔸️2. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า เป็นสารพันธุกรรมดัดแปลง (modified RNA) 🔸️3. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า ไม่ทราบว่า หลังจากฉีดวัคซีนดังกล่าว แล้วจะอยู่ในร่างกายนานแค่ไหน ไปที่อวัยวะใดบ้าง 🔸️4. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทผู้ผลิตมิได้ทดสอบพิษต่อพันธุกรรม และ 🔸️5. มิได้ให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทผู้ผลิตมิได้ทดสอบพิษในการก่อมะเร็ง ทั้งที่ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นมีระบุไว้ในเอกสารกำกับยาที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้การรับรองการกระทำผิดดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณโดยชัดเจนและก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสังคม ควรที่แพทยสภาจะรีบดำเนินการสอบสวนโดยรวดเร็ว แต่แพทยสภากลับนิ่งเฉย มิได้ดำเนินการใดๆ อันอาจเข้าข่ายการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งนี้การที่แพทยสภามิได้ดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับอันตราย ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของแพทยสภาเอง จึงขอให้แพทยสภาโดยนายก อุปนายก และเลขาธิการ รีบดำเนินการสอบสวนพร้อมทั้งแถลงข่าวกับสื่อมวลชนทันทีที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เอกสารอ้างอิง ๑. จดหมายขอทวงถามการสอบสวนจรรยาบรรณของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/19g6ApZIEx1QN8cCTaW_OE1RwtmtFByfm/view?usp=drivesdk ๒. จดหมายขอให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1sypT-zqTStHuo4CGJa1EevEt9cixfNhl/view?usp=drivesdk ๓. แพทยสภา องค์กรที่ก่อตั้งมาเพื่อ ปกป้องบริษัทยา? https://drive.google.com/file/d/1q6hYQkkJozwg5aL1zazRzlSpYP8swbYn/view?usp=drivesdk ๔. จดหมาย คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” ลงวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk ๕. สถิติการเสียชีวิต เป็นเวลาสามปีติดต่อกันที่คนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ มากกว่าช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด คนไทยตายเพิ่มขึ้นทั้งที่การระบาดของโควิดยุติลง ตายเพิ่มขึ้นทั้งที่โกหกว่า วัคซีนโควิดจะลดอัตราการตาย ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567 https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=drive_link
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • 699 แพงไปไหม? : [News story]

    ดรามาอีก! เมนูใหม่ของ “เอ ศุภชัย” มังคุดคัด 8 ลูก 699 บาท งานนี้ชาวเน็ตเสียงแตก
    มีทั้งแพงไปและเหมาะสมแล้ว บอกถ้ารู้สึกว่าแพง แสดงว่าสิ่งนั่นไม่เหมาะกับคุณ
    699 แพงไปไหม? : [News story] ดรามาอีก! เมนูใหม่ของ “เอ ศุภชัย” มังคุดคัด 8 ลูก 699 บาท งานนี้ชาวเน็ตเสียงแตก มีทั้งแพงไปและเหมาะสมแล้ว บอกถ้ารู้สึกว่าแพง แสดงว่าสิ่งนั่นไม่เหมาะกับคุณ
    Like
    Haha
    Wow
    Sad
    4
    1 Comments 0 Shares 1110 Views 259 0 Reviews
  • #ทุกวันนี้วิธีการแบบเก่าๆที่เหมือนการนำน้ำเมาย้ายมาใส่ในขวดใหม่จริงๆ
    ก่อนอื่น ต้องเข้าใจนิยามของคำว่า เชิงหมาแก่ก่อน
    — อาการ 'ฟอร์มหมาแก่' อธิบายง่ายๆ ก็คือ คนที่ชอบแสดงออกให้เพื่อนรู้แบบหนึ่ง แต่จริงๆ ตั้งใจอีกอย่าง
    ยกตัวอย่างนักข่าว ที่ชื่อดนัย หรือที่พี่คิงส์มักเรียกแกว่า ดนูยหมาแก่ ไม่ได้แซะนะ แกเรียกตัวเองว่าหมาแก่จริงๆ สาเหตุก็เพราะแกมีวิธีการนำเสนอข่าวแบบนี้ ทำติดอ่างบ้าง พูดกำกวมบ้าง จนคนในวงการสื่อเรียกว่า ไอ่ดนัย ฟอร์มหมาแก่ เรื่องนี้นี่รู้กันเฉพาะสายสื่อสารมวลชนเลยนะ
    วีรกรรมของดนัย มีเยอะมากนะ แต่ที่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงจริงๆก็คือ เทพโจ๊กของกระผ๊ม ที่ดนัยใช้คำนี้เรียกแทนชื่อบิ๊กโจ๊ก หรือนายสุรเชษฐ์ หักพาล
    ที่เริ่มสตาร์ทด้วยการยกโจ๊กเข้ามาให้เป็นจุดสนใจของสังคม พร้อมเปิดแอร์ทาร์มให้สัมภาษณ์ จนกลายเป็นรายการพีอาร์ของโจ๊ก นอกจากนั้นประเด็นใดก็ตามที่อาจเป็นภาพลบให้โจ๊ก ดนัยจะให้โอกาสในการชี้แจง และใช้สไตล์การพูดแบบกำกวม หรือเบี่ยงเบนประเด็นให้สังคมเข้าใจไปในแบบที่โจ๊กต้องการ เช่น การที่โจ๊กถูกเปิดเผยเรื่องเงินดาร์ค และถูกตั้งกรรมการสอบ ดนัยได้สร้างวาทะกรรม ว่าเป็นเรื่องของตร.มีปัญหากัน ระหว่างรองผบตร.สองคน ในเวลานั้น ทั้งๆที่สิ่งที่โจ๊กถูกสอบล้วนมีหลักฐานและพยานที่ชัดเจน จนท้ายที่สุดกรรมได้ตามทันโจ๊ก และดนัยก็สละเรือในวันนี้ นี่คือตัวอย่างของนักข่าวที่อ้างตัวว่าเป็นกลาง แต่ใช้ฟอร์มหมาแก่ เพื่อซักฟอกผู้ว่าจ้าง ที่มีความชัดเจนเหมาะสมต่อการยกตัวอย่าง
    - ส่วนของทนายเดชา ที่พูดเสมอว่า ตนเองเป็นกลาง แต่ในหลายๆครั้ง ทนายเดชาแสดงตัวอยู่ข้างบุคคลที่เป็นคนที่สังคมไทย มองว่าซั่ว ตั้งแต่ครู่จุ๋ม กับการกระทำต่อน้องอนุบาล รวมถึงอีกหลายกรณี โดยทุกครั้งที่คนไทยแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย เดชา ก็จะเย้ยหยันกลับมา ด้วยคำว่า จุ๊กกรู๊ และล่าสุด กับเรื่องของตั้ม ที่สื่อทุกช่องต่างออกมาเปิดเผยเรื่องราว รวมทั้งผสห. อย่างเจ๊อ้อย เรียกได้ว่า ทุกสื่อไปในทิศทางเดียวกัน แต่เดชา ที่บอกว่าตนเองนั้นเป็นกลาง และเป็นผู้ให้ความรู้ด้านกฏหมาย กลับให้ข้อมูลในเชิงการยืนยันของความบริสุทธิ์ของตั้ม จนโดนสื่อตำนานอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาปรามและท้าให้ดนคด. แต่เดชาก็อยู่เป็น ไลฟ์สดว่า จะทำทำไมไม่มีประโยชน์ และอธิบายเพิ่มว่า ทางสนธิ มีข้อมูลจาก ผสห. แต่ตน มีข้อมูลจากตั้ม มันคนละชุดข้อมูล
    - จากที่พี่คิงส์ฯฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ยอมรับว่า เดชา ควรแสดงตนในฐานะที่เป็นคนที่มีความรู้ด้านกฏหมาย ด้วยการปกป้องประชาชน ไม่ใช่ปกป้องคนซั่ว อายุก็เริ่มมากขึ้นแล้ว ร่องรอยแห่งความชราก็มาปรากฏเต็มใบหน้า อยากให้เดชามีภาพจำที่ดีสำหรับคนไทย เลิกเหอะ วิธีการมีแสง ด้วยการยืนขวางความถูกต้อง โดยไม่แยแสความรู้สึกของ ผสห เอาพรรคเอาพวก ไม่มีความยั่งยืน กับชื่อเสียงที่ได้มาจากวิธีการแบบนี้ เลิกใช้ "ฟอร์มหมาแก่" เสียที
    เชื่อพี่คิงส์ฯ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ทุกวันนี้วิธีการแบบเก่าๆที่เหมือนการนำน้ำเมาย้ายมาใส่ในขวดใหม่จริงๆ ก่อนอื่น ต้องเข้าใจนิยามของคำว่า เชิงหมาแก่ก่อน — อาการ 'ฟอร์มหมาแก่' อธิบายง่ายๆ ก็คือ คนที่ชอบแสดงออกให้เพื่อนรู้แบบหนึ่ง แต่จริงๆ ตั้งใจอีกอย่าง ยกตัวอย่างนักข่าว ที่ชื่อดนัย หรือที่พี่คิงส์มักเรียกแกว่า ดนูยหมาแก่ ไม่ได้แซะนะ แกเรียกตัวเองว่าหมาแก่จริงๆ สาเหตุก็เพราะแกมีวิธีการนำเสนอข่าวแบบนี้ ทำติดอ่างบ้าง พูดกำกวมบ้าง จนคนในวงการสื่อเรียกว่า ไอ่ดนัย ฟอร์มหมาแก่ เรื่องนี้นี่รู้กันเฉพาะสายสื่อสารมวลชนเลยนะ วีรกรรมของดนัย มีเยอะมากนะ แต่ที่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงจริงๆก็คือ เทพโจ๊กของกระผ๊ม ที่ดนัยใช้คำนี้เรียกแทนชื่อบิ๊กโจ๊ก หรือนายสุรเชษฐ์ หักพาล ที่เริ่มสตาร์ทด้วยการยกโจ๊กเข้ามาให้เป็นจุดสนใจของสังคม พร้อมเปิดแอร์ทาร์มให้สัมภาษณ์ จนกลายเป็นรายการพีอาร์ของโจ๊ก นอกจากนั้นประเด็นใดก็ตามที่อาจเป็นภาพลบให้โจ๊ก ดนัยจะให้โอกาสในการชี้แจง และใช้สไตล์การพูดแบบกำกวม หรือเบี่ยงเบนประเด็นให้สังคมเข้าใจไปในแบบที่โจ๊กต้องการ เช่น การที่โจ๊กถูกเปิดเผยเรื่องเงินดาร์ค และถูกตั้งกรรมการสอบ ดนัยได้สร้างวาทะกรรม ว่าเป็นเรื่องของตร.มีปัญหากัน ระหว่างรองผบตร.สองคน ในเวลานั้น ทั้งๆที่สิ่งที่โจ๊กถูกสอบล้วนมีหลักฐานและพยานที่ชัดเจน จนท้ายที่สุดกรรมได้ตามทันโจ๊ก และดนัยก็สละเรือในวันนี้ นี่คือตัวอย่างของนักข่าวที่อ้างตัวว่าเป็นกลาง แต่ใช้ฟอร์มหมาแก่ เพื่อซักฟอกผู้ว่าจ้าง ที่มีความชัดเจนเหมาะสมต่อการยกตัวอย่าง - ส่วนของทนายเดชา ที่พูดเสมอว่า ตนเองเป็นกลาง แต่ในหลายๆครั้ง ทนายเดชาแสดงตัวอยู่ข้างบุคคลที่เป็นคนที่สังคมไทย มองว่าซั่ว ตั้งแต่ครู่จุ๋ม กับการกระทำต่อน้องอนุบาล รวมถึงอีกหลายกรณี โดยทุกครั้งที่คนไทยแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย เดชา ก็จะเย้ยหยันกลับมา ด้วยคำว่า จุ๊กกรู๊ และล่าสุด กับเรื่องของตั้ม ที่สื่อทุกช่องต่างออกมาเปิดเผยเรื่องราว รวมทั้งผสห. อย่างเจ๊อ้อย เรียกได้ว่า ทุกสื่อไปในทิศทางเดียวกัน แต่เดชา ที่บอกว่าตนเองนั้นเป็นกลาง และเป็นผู้ให้ความรู้ด้านกฏหมาย กลับให้ข้อมูลในเชิงการยืนยันของความบริสุทธิ์ของตั้ม จนโดนสื่อตำนานอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาปรามและท้าให้ดนคด. แต่เดชาก็อยู่เป็น ไลฟ์สดว่า จะทำทำไมไม่มีประโยชน์ และอธิบายเพิ่มว่า ทางสนธิ มีข้อมูลจาก ผสห. แต่ตน มีข้อมูลจากตั้ม มันคนละชุดข้อมูล - จากที่พี่คิงส์ฯฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ยอมรับว่า เดชา ควรแสดงตนในฐานะที่เป็นคนที่มีความรู้ด้านกฏหมาย ด้วยการปกป้องประชาชน ไม่ใช่ปกป้องคนซั่ว อายุก็เริ่มมากขึ้นแล้ว ร่องรอยแห่งความชราก็มาปรากฏเต็มใบหน้า อยากให้เดชามีภาพจำที่ดีสำหรับคนไทย เลิกเหอะ วิธีการมีแสง ด้วยการยืนขวางความถูกต้อง โดยไม่แยแสความรู้สึกของ ผสห เอาพรรคเอาพวก ไม่มีความยั่งยืน กับชื่อเสียงที่ได้มาจากวิธีการแบบนี้ เลิกใช้ "ฟอร์มหมาแก่" เสียที เชื่อพี่คิงส์ฯ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 612 Views 0 Reviews
  • ไม่ว่าใครก็แสดงความโกรธได้ทั้งนั้น
    มันเป็นเรื่องง่ายๆ
    แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะแสดงความโกรธ
    -กับคนที่เหมาะสม
    -ด้วยความรุนแรงที่เหมาะสม
    -ในเวลาที่เหมาะสม
    -ด้วยจุดประสงค์ที่เหมาะสม
    -และด้วยวิธีการที่เหมาะสม

    -อาริสโตเติล นักปรัชญาโบราณ


    จากหนังสือ |อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    ไม่ว่าใครก็แสดงความโกรธได้ทั้งนั้น มันเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะแสดงความโกรธ -กับคนที่เหมาะสม -ด้วยความรุนแรงที่เหมาะสม -ในเวลาที่เหมาะสม -ด้วยจุดประสงค์ที่เหมาะสม -และด้วยวิธีการที่เหมาะสม -อาริสโตเติล นักปรัชญาโบราณ จากหนังสือ |อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 281 Views 0 Reviews
  • ยืดเยื้อต่อเนื่อง รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เลื่อนเสนอ ครม.เคาะแก้สัญญา
    .
    เริ่มส่งสัญญาณส่อเค้ายืดเยื้ออีกแล้วสำหรับการเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จากเดิมที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศอย่างมั่นใจว่าการแก้ไขสัญญากับเอกชนจะจบและเสนอให้คณะรัฐมนตรีเคาะได้ภายในเดือนตุลาคม ปรากฎว่าต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดอีกครั้ง
    .
    โดยนายสุริยะ ยอมรับว่า สัปดาห์นี้เรื่องดังกล่าวยังไม่เข้าที่ประชุม ครม. เพราะต้องไปดูรายระเอียดอีกรอบ ซึ่งขณะนี้ได้มีการส่งไปที่คณะกรรมการของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังดูแลอยู่
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานว่าประเด็นที่กระทรวงคมนาคมต้องนำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง คือ การแก้ไขสัญญาใน 5 ประเด็นสำคัญได้แก่
    .
    1.วิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน จากเดิมเมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง รัฐจะแบ่งจ่าย 149,650 ล้านบาท ปรับเป็นลักษณะสร้างไปจ่ายไป
    .
    2.กำหนดการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ โดยให้เอกชนแบ่งชำระค่าสิทธิ 10,671 ล้านบาท เป็น 7 งวด เป็นรายปี จำนวนเท่ากัน
    .
    3.กำหนดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนหากอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการลดลง จนทำให้เอกชนได้ผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มขึ้นเกิน 5.52% รฟท.มีสิทธิเรียกให้เอกชนชําระส่วนแบ่งผลประโยชน์เพิ่มได้
    .
    4.การยกเว้นเงื่อนไขการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน และ
    .
    5.การป้องกันปัญหาในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการ โดยปรับปรุงข้อสัญญาในส่วนเหตุสุดวิสัยและเหตุผ่อนผัน ให้สอดคล้องกับสัญญาร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในโครงการอื่น

    ขณะเดียวกัน เริ่มมีเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการแก้ไขสัญญาดังกล่าว ทั้งๆที่ฝ่ายรัฐกับเอกชนได้ลงนามไปแล้วแต่ไม่อาจเดินหน้าโครงการได้ เนื่องจากคู่สัญญาฝ่ายเอกชนอ้างเหตุผลเรื่องภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
    .............
    Sondhi X
    ยืดเยื้อต่อเนื่อง รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เลื่อนเสนอ ครม.เคาะแก้สัญญา . เริ่มส่งสัญญาณส่อเค้ายืดเยื้ออีกแล้วสำหรับการเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จากเดิมที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศอย่างมั่นใจว่าการแก้ไขสัญญากับเอกชนจะจบและเสนอให้คณะรัฐมนตรีเคาะได้ภายในเดือนตุลาคม ปรากฎว่าต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดอีกครั้ง . โดยนายสุริยะ ยอมรับว่า สัปดาห์นี้เรื่องดังกล่าวยังไม่เข้าที่ประชุม ครม. เพราะต้องไปดูรายระเอียดอีกรอบ ซึ่งขณะนี้ได้มีการส่งไปที่คณะกรรมการของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังดูแลอยู่ . ทั้งนี้ มีรายงานว่าประเด็นที่กระทรวงคมนาคมต้องนำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง คือ การแก้ไขสัญญาใน 5 ประเด็นสำคัญได้แก่ . 1.วิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน จากเดิมเมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง รัฐจะแบ่งจ่าย 149,650 ล้านบาท ปรับเป็นลักษณะสร้างไปจ่ายไป . 2.กำหนดการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ โดยให้เอกชนแบ่งชำระค่าสิทธิ 10,671 ล้านบาท เป็น 7 งวด เป็นรายปี จำนวนเท่ากัน . 3.กำหนดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนหากอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการลดลง จนทำให้เอกชนได้ผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มขึ้นเกิน 5.52% รฟท.มีสิทธิเรียกให้เอกชนชําระส่วนแบ่งผลประโยชน์เพิ่มได้ . 4.การยกเว้นเงื่อนไขการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน และ . 5.การป้องกันปัญหาในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการ โดยปรับปรุงข้อสัญญาในส่วนเหตุสุดวิสัยและเหตุผ่อนผัน ให้สอดคล้องกับสัญญาร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในโครงการอื่น ขณะเดียวกัน เริ่มมีเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการแก้ไขสัญญาดังกล่าว ทั้งๆที่ฝ่ายรัฐกับเอกชนได้ลงนามไปแล้วแต่ไม่อาจเดินหน้าโครงการได้ เนื่องจากคู่สัญญาฝ่ายเอกชนอ้างเหตุผลเรื่องภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ............. Sondhi X
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 545 Views 0 Reviews
  • นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และนางสุพรรณวษา โชติก็ญาณ ถัง อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แถลงข่าวเรื่องพื้นที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อน (OCA) ระหว่างไทย – กัมพูชา

    4 พฤศจิกายน 2567- รายงานข่าว NBT CONNEXT เปิดเผยว่า อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กต. กล่าวว่า ไทยได้ประกาศเขตไหล่ทวีปในปี 2516 เนื่องจากเห็นว่าการประเทศของกัมพูชาในปี 2515 เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เพราะเส้นผ่านเข้าไปในเกาะกูด จึงประกาศเขตไหล่ทวีปของไทย เป็นพระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีป เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2516 ระบุว่าสิทธิอธิปไตยซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตของประเทศใกล้เคียงอันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้น จะเป็นไปตามที่ได้ตกลงกัน

    ดังนั้นในการประกาศของกัมพูชาและไทย มีพื้นที่ทับซ้อนกัน 26,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งค่อนข้างมีขนาดใหญ่ หรือกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับกรณีพื้นที่ทับซ้อนของไทยกับมาเลเซีย โดยเป็นเส้นที่ครอบคลุมทะเลอาณาเขต EEZ และไหล่ทวีป
    อย่างไรก็ตาม ไทย-กัมพูชา เริ่มเจรจาเรื่องพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2513 แต่เกิดปัญหาว่ากัมพูชาต้องการคุยเพียงการพัฒนาร่วมในเรื่องของทรัพยากร ขณะที่ไทยเห็นว่าเขตทางทะเลมีความสำคัญ รวมถึงความมั่นคง และความเป็นอยู่ของประชาชน โดยยืนยันว่าต้องคุยประเด็นเหล่านี้ด้วย ซึ่งไทยได้ประกาศเส้นด้านใต้ลงมาระหว่างเกาะกูดกับเกาะกง แสดงออกว่าไทยไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่กัมพูชาประกาศ

    หลักสากลเมื่อเกิดพื้นที่ทับซ้อน จึงต้องเจรจากันทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ สำหรับ MOU 2544 แบ่งเป็นพื้นที่เหนือเส้นละติจูด 11 องศาเหนือ เป็นการเจรจาแบ่งเขตทางทะเล และพื้นที่อยู่ใต้เส้นละติจูด 11 องศาเหนือ เป็นการเจรจาพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน สิ่งที่ดำเนินการประชาชนทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับในข้อตกลง และผลการเจรจาต้องผ่านความเห็นชอบโดยรัฐสภา และสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

    “ ยืนยันว่า MOU 44 ไม่ได้ทำให้ไทยเสียเกาะกูด เพราะสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส ค.ส.1907 ระบุชัดเจน เกาะกูด เป็นของไทย เป็นการยืนยันกรรมสิทธิ์เหนือตัวเกาะ และยังใช้อำนาจอธิปไตยเกาะกูด 100% ประเด็นยกเลิก MOU 44 เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในปี 2552 ซึ่งเสนอให้ยกเลิก เพราะขณะนั้นไม่มีความคืบหน้า และ ครม.รับในหลักการ แต่ขอให้พิจารณาให้รอบคอบและได้หารือกับที่ปรึกษาทีมต่างชาติ และประชุมคณะกรรมการพิเศษที่เป็นภาคี และหน่วยงานด้านความมั่นคง สมช. กระทรวงพลังงาน รวมทั้งกฤษฎีกา โดยปี 2557 ได้ข้อสรุปว่า MOU 44 ยังมีประโยชนที่จะนำไปสู่การเจรจา จึงเสนอ ครม.ให้ทบทวนมติ ครม.ปี 2552 ว่าเรื่องนี้ต้องใช้ MOU 44 ต่อทุกครั้งที่มีรัฐบาลใหม่ยังขอให้กรอบ MOU 44 เป็นพื้นฐานในการเจรจาข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา เป็นกลไกที่เหมาะสมที่สุด และรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ ซึ่งทุกรัฐบาลก็ยอมรับและหลักการยังเหมือนเดิม” อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กล่าว

    ที่มา NBT CONNEXT

    #Thaitimes
    นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และนางสุพรรณวษา โชติก็ญาณ ถัง อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แถลงข่าวเรื่องพื้นที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อน (OCA) ระหว่างไทย – กัมพูชา 4 พฤศจิกายน 2567- รายงานข่าว NBT CONNEXT เปิดเผยว่า อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กต. กล่าวว่า ไทยได้ประกาศเขตไหล่ทวีปในปี 2516 เนื่องจากเห็นว่าการประเทศของกัมพูชาในปี 2515 เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เพราะเส้นผ่านเข้าไปในเกาะกูด จึงประกาศเขตไหล่ทวีปของไทย เป็นพระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีป เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2516 ระบุว่าสิทธิอธิปไตยซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตของประเทศใกล้เคียงอันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้น จะเป็นไปตามที่ได้ตกลงกัน ดังนั้นในการประกาศของกัมพูชาและไทย มีพื้นที่ทับซ้อนกัน 26,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งค่อนข้างมีขนาดใหญ่ หรือกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับกรณีพื้นที่ทับซ้อนของไทยกับมาเลเซีย โดยเป็นเส้นที่ครอบคลุมทะเลอาณาเขต EEZ และไหล่ทวีป อย่างไรก็ตาม ไทย-กัมพูชา เริ่มเจรจาเรื่องพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2513 แต่เกิดปัญหาว่ากัมพูชาต้องการคุยเพียงการพัฒนาร่วมในเรื่องของทรัพยากร ขณะที่ไทยเห็นว่าเขตทางทะเลมีความสำคัญ รวมถึงความมั่นคง และความเป็นอยู่ของประชาชน โดยยืนยันว่าต้องคุยประเด็นเหล่านี้ด้วย ซึ่งไทยได้ประกาศเส้นด้านใต้ลงมาระหว่างเกาะกูดกับเกาะกง แสดงออกว่าไทยไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่กัมพูชาประกาศ หลักสากลเมื่อเกิดพื้นที่ทับซ้อน จึงต้องเจรจากันทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ สำหรับ MOU 2544 แบ่งเป็นพื้นที่เหนือเส้นละติจูด 11 องศาเหนือ เป็นการเจรจาแบ่งเขตทางทะเล และพื้นที่อยู่ใต้เส้นละติจูด 11 องศาเหนือ เป็นการเจรจาพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน สิ่งที่ดำเนินการประชาชนทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับในข้อตกลง และผลการเจรจาต้องผ่านความเห็นชอบโดยรัฐสภา และสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง “ ยืนยันว่า MOU 44 ไม่ได้ทำให้ไทยเสียเกาะกูด เพราะสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส ค.ส.1907 ระบุชัดเจน เกาะกูด เป็นของไทย เป็นการยืนยันกรรมสิทธิ์เหนือตัวเกาะ และยังใช้อำนาจอธิปไตยเกาะกูด 100% ประเด็นยกเลิก MOU 44 เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในปี 2552 ซึ่งเสนอให้ยกเลิก เพราะขณะนั้นไม่มีความคืบหน้า และ ครม.รับในหลักการ แต่ขอให้พิจารณาให้รอบคอบและได้หารือกับที่ปรึกษาทีมต่างชาติ และประชุมคณะกรรมการพิเศษที่เป็นภาคี และหน่วยงานด้านความมั่นคง สมช. กระทรวงพลังงาน รวมทั้งกฤษฎีกา โดยปี 2557 ได้ข้อสรุปว่า MOU 44 ยังมีประโยชนที่จะนำไปสู่การเจรจา จึงเสนอ ครม.ให้ทบทวนมติ ครม.ปี 2552 ว่าเรื่องนี้ต้องใช้ MOU 44 ต่อทุกครั้งที่มีรัฐบาลใหม่ยังขอให้กรอบ MOU 44 เป็นพื้นฐานในการเจรจาข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา เป็นกลไกที่เหมาะสมที่สุด และรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ ซึ่งทุกรัฐบาลก็ยอมรับและหลักการยังเหมือนเดิม” อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กล่าว ที่มา NBT CONNEXT #Thaitimes
    Like
    3
    1 Comments 0 Shares 344 Views 0 Reviews
  • ทำความรู้จัก อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ซินแสชื่อดัง ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ และได้รับการฝึกฝนจากพ่อตั้งแต่อายุ 12 ปี

    “ฮวงจุ้ย” ถือเป็นอีกศาสตร์ของชาวจีน ที่ “ฮวงจุ้ย” หรือในภาษาจีนกลางคือ Feng Shui (เฟิงสุ่ย) มาจากคำสองคำคือ ‘เฟิง’ แปลว่า ‘ลม’ และ ‘สุ่ย’ แปลว่า ‘น้ำ’ ความหมายโดยรวมคือการสร้างสภาพแวดล้อมในธรรมชาติกับความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้มีความสมดุลและนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต

    สำหรับในไทย หมอดูฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงนั้นมีหลายคนมาก หนึ่งในนั้นคือ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” หรือ อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ นับเป็นบุตรคนเดียวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้นจากอาจารย์พ่อ (อ.จิระ จิระเจริญเวศน์) ผู้เป็นบิดามาตั้งแต่ อ.ธนวันต์อายุเพียง 12 ปีเท่านั้น

    โดยคำว่า ตี่ลี่ มีความหมายว่า พื้นที่ ทำเล ภูมิศาสตร์ ซึ่งจริงๆ แล้วก็หมายถึงที่อยู่ของเรา โดยจะครอบคลุมในส่วน “ภายในทั้งหมดของตัวบ้านเรา” ซึ่งจุดนี้แหละที่อาจารย์จะต้องจัดบ้านภายในให้เหมาะสม และส่งเสริมคนในบ้าน ทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

    นอกจากนี้ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ยังได้ให้ความรู้เรื่องฮวงจุ้ยในรายการทีวีช่องดังอีกด้วย ทั้งยังมีช่องยูทูบให้ความรู้เรื่อง “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ที่มีวิดีโอให้ความรู้มากถึง 1.8 พันคลิป และมีผู้ติดตามมากถึง 2.6 แสนคน

    #MGROnline #อาจารย์ตี่ลี่ #ตี่ลี่ฮวงจุ้ย #หมอดู #หมอดูฮวงจุ้ย #ฮวงจุ้ย #ดูดวง
    ทำความรู้จัก อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ซินแสชื่อดัง ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ และได้รับการฝึกฝนจากพ่อตั้งแต่อายุ 12 ปี • “ฮวงจุ้ย” ถือเป็นอีกศาสตร์ของชาวจีน ที่ “ฮวงจุ้ย” หรือในภาษาจีนกลางคือ Feng Shui (เฟิงสุ่ย) มาจากคำสองคำคือ ‘เฟิง’ แปลว่า ‘ลม’ และ ‘สุ่ย’ แปลว่า ‘น้ำ’ ความหมายโดยรวมคือการสร้างสภาพแวดล้อมในธรรมชาติกับความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้มีความสมดุลและนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต • สำหรับในไทย หมอดูฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงนั้นมีหลายคนมาก หนึ่งในนั้นคือ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” หรือ อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ นับเป็นบุตรคนเดียวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้นจากอาจารย์พ่อ (อ.จิระ จิระเจริญเวศน์) ผู้เป็นบิดามาตั้งแต่ อ.ธนวันต์อายุเพียง 12 ปีเท่านั้น • โดยคำว่า ตี่ลี่ มีความหมายว่า พื้นที่ ทำเล ภูมิศาสตร์ ซึ่งจริงๆ แล้วก็หมายถึงที่อยู่ของเรา โดยจะครอบคลุมในส่วน “ภายในทั้งหมดของตัวบ้านเรา” ซึ่งจุดนี้แหละที่อาจารย์จะต้องจัดบ้านภายในให้เหมาะสม และส่งเสริมคนในบ้าน ทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด • นอกจากนี้ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ยังได้ให้ความรู้เรื่องฮวงจุ้ยในรายการทีวีช่องดังอีกด้วย ทั้งยังมีช่องยูทูบให้ความรู้เรื่อง “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ที่มีวิดีโอให้ความรู้มากถึง 1.8 พันคลิป และมีผู้ติดตามมากถึง 2.6 แสนคน • #MGROnline #อาจารย์ตี่ลี่ #ตี่ลี่ฮวงจุ้ย #หมอดู #หมอดูฮวงจุ้ย #ฮวงจุ้ย #ดูดวง
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • ภาพแรก
    ซ้าย ไม่มี ฟลูออไรด์
    ขวา มี ฟลูออไรด์
    โลกคือมายา #ลวงทั้งโลก
    ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ⁉️
    ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานการวิจัยที่ว่าด้วยฟลูออไรด์ต่อการลดความสามารถทางปัญญาในเด็กได้ถึง 32 หน้าฟรี ๆ ที่นี่
    https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3491930/
    Source :
    https://youtu.be/KLsjwWo1F2I
    --------------------------------------------------
    โดยทั่วไป #ฟลูออไรด์ เป็นสารทำลายต่อมไร้ท่อเนื่องจากฟลูออไรด์เป็นฮาไลด์ (halide)เช่นกัน มันจึงแข่งขันกับฮาไลด์ตัวอื่นที่ตัวรับเดียวกันในต่อมไทรอยด์ และที่อื่นๆ เพื่อจับกับไอโอดีน สิ่งนี้จะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งส่งผลให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในระดับต่ำ
    มีการพิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อ
    แต่ความจริงข้อนี้ถูกละเลยโดยหน่วยงาน และสมาคมที่ยังคงส่งเสริมการใช้ฟลูออไรด์ต่อไป
    จากรายงานของ National Research Council of the National Academies ในปี 2549
    ฟลูออไรด์ "เป็นตัวทำลายต่อมไร้ท่อในแง่กว้างโดยปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อที่เป็นปกติ"
    ฟังก์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ และต่อมไพเนียลรวมถึงต่อมหมวกไต ตับอ่อน และต่อมใต้สมอง
    ต่อมไทรอยด์ของคุณ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการรักษาอัตราการเผาผลาญโดยรวมของร่างกาย ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาตามปกติ เนื่องจากเซลล์ที่มีการเผาผลาญทั้งหมดต้องการฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อการทำงานที่เหมาะสม
    การหยุดชะงักของระบบนี้ อาจมีผลกระทบที่หลากหลายต่อแทบทุกระบบในร่างกายของคุณ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากที่สุดของโรคต่อมไร้ท่อ
    การใช้ฟลูออไรด์ในอดีต เป็นการแทรกแซงทางการแพทย์สำหรับ Hyperthyroid
    จนถึงปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปได้กำหนดให้ใช้ฟลูออไรด์ เพื่อลดอัตราการเผาผลาญพื้นฐานในผู้ป่วยที่มีต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ผลการศึกษาทางคลินิกที่ตีพิมพ์งานหนึ่งรายงานว่า
    ปริมาณฟลูออไรด์เพียง 2 - 3 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก ถ้าได้รับอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอที่จะลดกิจกรรมของต่อมไทรอยด์ในผู้ป่วยได้
    การใช้ฟลูออไรด์เพื่อการรักษาต่อมไทรอยด์ได้รับการกระตุ้นโดยการวิจัยที่เริ่มต้นในปี 1800 ซึ่งเชื่อมโยงการบริโภคฟลูออไรด์กับคอพอก การบวมของต่อมไทรอยด์ที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
    ในรายงานเมื่อปี 2549 Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards, the National Research Council (NRC) รายงานว่า
    "ข้อมูลหลายบรรทัด แสดงถึงผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์" โดยเฉพาะรายงานที่กล่าวถึงการวิจัยแสดงให้เห็นว่า
    "การได้รับฟลูออไรด์ในมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของ TSH ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความแพร่หลายของคอพอก และเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ T4 และ T3" นอกจากนั้นยังมีผลที่คล้ายกันใน T4 และ T3 รายงานในสัตว์ทดลอง
    นอกจากนี้ NRC ยังกล่าวถึงงานวิจัยที่เชื่อมโยงฟลูออไรด์ กับผลกระทบต่อกิจกรรมของพาราไธรอยด์ การด้อยค่าของการทนต่อกลูโคส และระยะเวลาของการคงไว้ซึ่งสภาวะทางเพศ
    จากการค้นพบเหล่านี้ คณะกรรมการ NRC แนะนำว่า "ผลกระทบของฟลูออไรด์ในแง่มุมต่างๆ ต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ ควรได้รับการตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ในการพัฒนาโรคต่างๆ
    อย่างไรก็ตามผู้เสนอให้ใช้ฟลูออไรด์ยังคงเพิกเฉยต่อวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เป็นอันตราย
    ฟลูออไรด์จำนวนเล็กน้อย เปลี่ยนการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ
    การทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการได้รับฟลูออไรด์ในระดับต่ำถึง 0.05 - 0.1 มก. ฟลูออไรด์ต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน (มก. / กก. / วัน) หรือ 0.03 มก. / กก. / วัน
    สำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม (154 ปอนด์) หมายความว่าฟลูออไรด์ 3.5 มก. ต่อวัน (หรือฟลูออไรด์ 0.7 มก. ต่อวันที่มีการขาดไอโอดีน) อาจทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
    การวิเคราะห์โดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ประมาณการว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปบริโภคฟลูออไรด์เกือบ 3 มิลลิกรัมทุกวัน และบางคนบริโภคเป็นประจำวันละ 6 มก. ขึ้นไป
    สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 14 กิโลกรัม (30 ปอนด์) ฟลูออไรด์ที่ได้รับมากกว่า 0.7 มก. ต่อวัน (หรือ 0.14 มก. ต่อวันหากขาดไอโอดีน) ทำให้เด็กเสี่ยงต่อความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ
    และ EPA (2010) ได้ทำการประเมินว่าเด็กที่อยู่ในช่วงน้ำหนักนี้ (อายุ 1- 3 ปี) ได้บริโภคฟลูออไรด์มากกว่า 1.5 มก. ในแต่ละวัน หรือมากกว่า 2 เท่า ของจำนวนที่จำเป็นในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลง การได้รับอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อาจมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและตลอดชีวิตต่อพัฒนาการทางสติปัญญา ทางสังคม ทางเพศ และทางกายภาพโดยรวมของเด็ก
    การศึกษาจำนวนมากพบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับฟลูออไรด์ในระดับค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง และการลด IQ ในเด็ก แม้แต่ระดับฟลูออไรด์ที่น้อยกว่า 1.0 มก. / ล. ก็มีความสัมพันธ์กับ IQ ที่ลดลง และความถี่ที่เพิ่มขึ้นของภาวะไทรอยด์ทำงานในเด็กที่มีอาการขาดสารไอโอดีน
    การพิจารณาอย่างจริงจัง ว่าต่อมไทรอยด์ของคุณอาจเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางที่สุดในร่างกายของคุณต่อฟลูออไรด์ ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ
    ฟลูออไรด์สะสมในต่อมไทรอยด์ของคุณมากกว่าเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ
    ฟลูออไรด์อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณโดยตรง หรือโดยอ้อมด้วยการกระทำที่เป็นไปได้ รวมถึงความสามารถของฟลูออไรด์ในการเลียนแบบฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH)
    - ทำลาย G-proteins ที่ละเอียดอ่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยการสร้างของตัวรับฮอร์โมนในร่างกายของคุณ
    -ทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ของคุณ
    -ทำลาย DNA ของคุณ
    -รบกวนการแปลงจากไทรอยด์ฮอร์โมน (T4) ที่ไม่ได้ใช้งานไปเป็นแบบฟอร์มที่ต้องใช้งาน (T3)
    จากข้อมูลของ PubMed Health พบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดภาวะพร่อง หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ เกือบ 4% ของประชากรสหรัฐอเมริกา
    มากกว่า 11 ล้านคน มีภาวะไทรอยด์ทำงานหนักเกินจริง นอกจากนี้ 10% ของประชากรทั่วไป 21 ล้านคน มีภาวะพร่องที่ไม่แสดงอาการซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาต่อมาของภาวะพร่องไทรอยด์
    แม้จะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในประชากรที่มีอายุมากกว่า แต่อัตราการเกิดภาวะพร่องของ hypothyroidism ทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นเกือบ 75% ในช่วง 2ทศวรรษที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ส่งผลกระทบต่อ 1 ในทุกๆ 2,370 ของการเกิดภาวะพร่องในทารกแรกเกิดที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อน การชะลอการเจริญเติบโต และปัญหาหัวใจ
    เด็กที่เป็นโรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือเยาวชน ได้รับรายงานว่ามีการล่าช้าของการงอกของฟัน หรือข้อบกพร่องในการเคลือบฟัน แม้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างการค้นพบเหล่านี้กับผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อไทรอยด์ยังไม่ได้ทำการศึกษา
    สิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง คือความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่างความรุนแรงของอาการที่ไม่แสดงอาการในหญิงตั้งครรภ์และ IQ ที่ลดลงของบุตรหลาน
    การพร่องของมารดายังได้รับการเสนอให้เป็นสาเหตุ หรือผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาออทิสติก
    ศักยภาพของฟลูออไรด์ที่จะส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกหลายประการ
    ดังนั้นวิธีการใช้ฟลูออไรด์วิธีการแบบไม่เจาะจง / การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มสาธารณะโดยเจตนา / การผสมเข้าไปในยาสีฟัน / การเคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ เป็นปัญหาอย่างยิ่ง
    เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณสัมผัสกับสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ หรือความอ่อนไหวส่วนตัว และเป็นการละเมิดหลักการสำคัญของเภสัชวิทยาสมัยใหม่
    -----------------------------------
    Andersson M, de Benoist B,Delange F, Zupan J. 2007.Prevention and control of iodine deficiency in pregnant and lactating women and in children less
    Bharaktiya S, et al., 2010.Hypothyroidism. Medscape Reference.
    Delange F. 2004. Optimal iodine nutrition during pregnancy, lactation and neonatal period. Int J Endocrinol Metab 89:3851.
    Drugs.com. Undated. Top-selling drugs of 2009.
    IOM (Institute of Medicine). 2001. Dietary Reference Intakes for Vitamin A, Vitamin K, Arsenic, Boron, Chromium, Copper, Iodine, Iron, Manganese
    Larsen PR, Davies TF, Schlumberger MJ, Hay ID. 2002. Thyroid physiology and diagnostic evaluation of patients with thyroid disorders. Pp. 331-373
    PubMed Health. 2009. Neonatal hypothyroidism.
    PubMed Health. 2010. Hypothyroidism.
    Wang H, Yang Z, Zhou B, et al. 2009. Fluoride-induced thyroid dysfunction in rats: roles of dietary protein and calcium level. Toxicol Ind Health
    Zimmermann MB. 2009. Iodine deficiency in pregnancy and the effects of maternal iodine supplementation on the offspring: a review. Am J Clin Nutr
    1 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 507 pp.
    2 Maumené E. 1854. Compt Rend Acad Sci 39:538. May W. 1935. Antagonismus Zwischen Jod und Fluor im Organismus. Klinische Wochenschrift 14:790-92.
    3 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    4 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    5 EPA (U.S. Environmental Protection Agency). 2010. Fluoride: Exposure and Relative Source Contribution Analysis.
    6 Connett P, Beck J, Micklem HS. 2010. The Case Against Fluoride. How Hazardous Waste Ended Up in Our Drinking Water and the Bad Science
    7 Lin FF, Aihaiti HX, Zhao J, et al. 1991. The relationship of a low-iodine and high-fluoride environment to subclinical cretinism in Xinjiang.
    8 ICCIDD (International Council for the Control of Iodine Deficiency Disorders). 2011. Iodine Deficiency.
    9 Hollowell JG, Staehling NW, Hannon WH, et al. 1998. Iodine nutrition in the United States. Trends and public health implications: iodine excretion
    10 Lee SL, et al. 2009. Iodine Deficiency. Medscape Reference.
    11 Caldwell KL, Miller GA, Wang RY, et al. 2008. Iodine status of the U.S. population, National Health and Nutrition Examination Survey 2003-2004.
    12 Shashi A. 1988. Biochemical effects of Fluoride on thyroid gland duringexperimental fluorosis. Fluoride 21:127–130.
    13 Monsour PA, Kruger BJ. 1985. Effect of fluoride on soft tissue in vertebrates. Fluoride 18:53-61. / Call RA, Greenwood DA, LeCheminant H, et al. 1965.
    14 Ge Y, Ning H, Wang S, Wang J. 2005. DNA damage in thyroid gland cells of rats exposed to long-term intake of high fluoride and low iodine. Fluoride
    15 Gas'kov A, Savchenkov MF, Lushkov NN. 2005. [The specific features of the development of iodine deficiencies in children living under pollution]
    16 Aoki Y, Belin RM, Clickner R, et al. 2007. Serum TSH and total T4 in the United States population
    17 Olney RS, Grosse SD, Vogt RF. 2010. Prevalence of Congenital Hypothyroidism—Current Trends and Future Directions: Workshop Summary. Pediatrics 125
    18 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC.
    19 Klein RZ, Sargent JD, Larsen PR, et al. 2001. Relation of severity of maternal hypothyroidism to cognitive development in offspring. J Med Screen
    20 Román GC. 2007. Autism: Transient in utero hypothyroxinemia related to maternal flavonoid ingestion during pregnancy.
    Biological Trace Element Research :
    https://www.researchgate.net/.../345973053_In_Vitro...
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58
    https://youtu.be/AYAJJSOmdJo
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ปฏิวัติสุขภาพกับอ.ปานเทพ เรื่อง ฟลูออไรด์ ภัยเงียบในน้ำดื่มน้ำใช้ยาสีฟัน
    https://youtu.be/741TFbVWJwQ
    https://youtu.be/s-ElDeuDl1I
    https://youtu.be/Y5Ad9L-B21c
    https://youtu.be/1KgS-_E05YE
    https://youtu.be/KLsjwWo1F2I
    ✨✨✨✨✨✨✨
    ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน โดย อ.สันติ มานะดี
    https://www.facebook.com/10000435.../posts/1352913331530352/
    ✨✨✨✨✨✨✨
    สารฟลูโอไรด์ ( Fluoride )
    Little Girl Healthy SHOP - สินค้าส่งตรงจากอเมริกา
    กราฟแสดงระดับความรุนแรงของสารตะกั่ว สารหนูและฟลูโอไรด์
    ค่าระดับความเป็นพิษของฟลูโอไรด์ที่พุ่งแรงแซงสารตะกั่วไปอยู่ที่ระดับ 4 เกือบๆ 5 นั่นแปลว่า มันเป็นพิษมากจนถึงขั้นรุนแรง! ยิ่งถ้าบ้านใครมียาฆ่าหนูและแมลงสาบลองพลิกดูที่ส่วนผสมข้างกล่อง คุณอาจจะช็อกตาค้างมากกว่านี้ เพราะสิ่งเดียวที่เป็นส่วนผสมในยาเบื่อหนูคือฟลูโอไรด์
    ซึ่งความจริงแล้ว ฟลูออไรด์ได้นำมาใช้ครั้งแรกในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นยาเบื่อหนู ถามว่า.. แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในยาสีฟันล่ะ?
    จริงๆแล้วฟลูออไรด์ที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟันอย่างแท้จริงมันคือ “แคลเซียมฟลูออไรด์ “ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ที่ผสมอยู่ในยาสีฟันมันคือ "โซเดียมฟลูออไรด์"
    เป็นสารพิษที่ผลิตขึ้นในโรงงานซึ่งมีราคาถูกกว่า
    และถ้าใครที่คิดว่าฟลููโอไรด์ช่วยให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ แบบที่เคยได้ยินกันจนคุ้นหูคุ้นตาในโฆษณาทีวีตั้งแต่เด็กๆคงต้องคิดใหม่ เพราะมันกลับเป็นตัวการทำให้เกิดฟันตกกระที่เรียกว่า Dental Fluorosis เกิดเป็นรอยกระดำกระด่างที่ผิวฟันจากการสะสมของสารพิษฟลูโอไรด์ในระยะยาว แถมยังมีผลต่อกระดูกทำให้กระดูกพรุนด้วย ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ของรัฐนิวอิงแลนด์ สหรัฐอเมริกา รายงานว่า มีการใช้สารฟลูออไรด์เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) แต่ผลกลับกลายเป็นว่า อัตราการเกิดกระดูกตะโพกร้าวสูงขึ้นกว่าปกติ
    และในปี 1993 นักวิทยาศาสตร์จากองค์การป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาต่อต้านการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มและอาหาร นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้ยืนยันว่า ฟลูออไรด์ไม่ได้ป้องกันฟันผุ ผลตรงกันข้าม กลับมีเหตุการณ์แน่ชัดว่า มันเป็นตัวก่อมะเร็งได้ http://www.biowish.net/pages/med.htm
    เคยมีนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองผสมฟลูโอไรด์ในน้ำของค่ายกักกันที่รัซเซียในยุคคอมมิวนิสต์และอีกที่ในช่วงยุคนาซีที่เยอร์มัน มีจุดประสงค์ในการทดลองเพื่อจะดูว่าถ้านักโทษผู้โชคร้ายทั้งหลายกินน้ำผสมฟลูโอไรด์เข้าไปแล้วนักโทษจะเป็นยังไง
    ผลปรากฎว่า อารมณ์รุนแรงของนักโทษลดลงอย่างเห็นได้ชัด เปลี่ยนจากนักโทษโหดๆเป็นแมวหง่าวนั่งหงอย ไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างใดๆ ไม่ยกพวกตีกันเหมือนก่อน
    ฟังแล้วดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ.. แต่ความจริงแล้วมันน่ากลัวซะมากกว่า เพราะว่าฟลูโอไรด์มันมีผลโดยตรงต่อสมองน่ะสิ โดยมันเข้าไปทำลายต่อมไพนีล (Pineal gland) หรือเรียกว่าดวงตาที่ 3 ที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารณ์ต่างๆ เช่นความหิว ความกระหาย ความต้องการทางเพศ ความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์
    ดังนั้นเมื่อต่อมนี้โดนทำลาย จึงทำให้เกิดความท้อแท้ หมดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม เป็นตัวลดไอคิว ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และเนื่องจากการทดลองที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาลครั้งนั้น ปัจจุบันนี้ฟลูโอไรด์เลยมาอยู่ในยาสีฟันให้เราใช้กันทุกวัน เปรียบได้กับอาวุธของรัฐบาลในการทำให้ประชาชนโง่และเป็นการควบคุมประชากรไปในตัว ในบางประเทศอย่างไอร์แลนด์ อเมริกา ถึงกับโดนมัดมือชกให้กินน้ำผสมยาพิษฟลูโอไรด์กันเลยทีเดียว
    โดยผสมมันลงในน้ำประปาสาธารณะ โดยอ้างว่าหวังดีอยากป้องกันโรคฟันผุให้ประชาชน แต่มีการพิสูจน์แล้วโดยเปรียบเทียบสุขภาพฟันของคนอังกฤษและอเมริกัน ปรากฎว่าสุขภาพฟันไม่ต่างกันเลยทั้งๆที่น้ำในประเทศอังกฤษไม่มีการฟลูโอไรด์ลงในน้ำ การกระทำที่มีนัยยะแอบแฝงแบบนี้เลยสร้างความไม่พอใจให้หลายๆคนในหลายประเทศที่ไม่เต็มใจจะโดนวางยาพิษในน้ำก๊อกที่ทำให้โง่และเป็นโรค แถมการเอาน้ำไปต้มให้เดือดก็ไม่ได้ช่วยอะไรยกเว้นเพิ่มความแรงของสารพิษให้สูงขึ้นอึก 7 เท่าตัว
    เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมยาสีฟันที่มีผสมฟลูโอไรด์ต้องมีคำเตือนแปะอยู่ข้างหลอดว่าห้ามกลืน ถ้าใครเผลอกลืนต้องรีบพบแพทย์!! อะไรก็ตามที่ทำมาให้ใช้ได้ในปาก มันควรที่จะปลอดภัยมากกว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะยาสีฟันที่เราเอาใส่ปากเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายทุกๆวัน บางคนอาจคิดว่าอีคนเขียนนี่วิตกจริตฟุ้งซ่านมากไปป่ะ? ไม่มีใครเค้าโง่กลืนยาสีฟันหรอก แค่ใส่ปากแปรงๆแล้วก็บ้วนทิ้่ง โอเค ก็จริงอยู่ที่ไม่มีใครกลืนมันแบบตั้งใจ แต่มีใครแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ว่ามันไม่ได้แอบตกค้างอยู่ตามซอกฟันซอกเหงือกให้คุณกลืนลงท้องทั้งคืน บวกกับอีกรอบตอนเช้า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะกลืนมันลงไปโดยไม่ตั้งใจถ้าไม่มีผู้ปกครองดูแล เชื่อหรือไม่ว่าฟลูโอไรด์เพียง 200 มิลลิกรัม หรือปริมาณยาสีฟันบีบออกมาเท่ากับความยาวของแปรงสีฟันนั้นสามารถฆ่าเด็กเล็กได้เลย และฆาตกรตัวจริงไม่ใช่ยาสีฟันแต่คือฟลูโอไรด์เพียวๆเลยหล่ะ จากรายงานของสมาคมศูนย์ควบคุมพิษอเมริกาบอกว่า ในปี 1994 มีคนตายจากฟลูออไรด์ที่ผสมในอาหารเสริมแล้วด้วย! Fluoride Alert .Org
    แคลเซียมฟลูออไรด์เป็นธาตุที่จำเป็น พบเป็นส่วนใหญ่ในกระดูก และเคลือบฟัน ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และทำให้ฟันทนต่อการผุมากขึ้น แคลเซียมฟลูออไรด์อาจช่วยป้องกันโรคปริทันต์ด้วย และป้องกันโรคกระดูกพรุน แคลเซียมฟลูออไรด์พบในธรรมชาติ ในรูปของแคลเซียมคลอไรด์ มีอยู่ในพืชทุกชนิด สัตว์ น้ำ และ ดิน
    โซเดียมฟลูออไรด์ (Sodium Fluoride) เป็นสารอนินทรีย์ที่เกิดจากธาตุฟลูออรีน (Fluorine) ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้นำเอาโซเดียมฟลูออไรด์ไปผสมกับผลิตภัณฑ์ ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากด้วยโซเดียมฟลูออไรด์
    การได้รับฟลูออรีน จะเกิดการสะสมของฟลูออรีนไว้ในร่างกายทีละน้อย จะทำให้เกิดความเสียหายและข้อบกพร่องขึ้นกับระบบโครงกระดูกและฟันสำหรับความผิดปกติของฟัน
    เกิดขึ้นโดยฟันจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขุ่นๆ ซึ่งเดิมมีลักษณะใส นอกจากนี้ยังทำให้ฟันไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ฟันจึงมักชำรุดแตกบิ่นง่าย ส่วนในระบบโครงกระดูกอาการที่พบคือ กระดูกจะเจริญเร็วมาก ซึ่งอาจจะสังเกตได้จากกระดูกขา กราม กระดูกซี่โครง ขากระเผลก เดินลำบาก ซึ่งเป็นผลจากการเจริญมากเกินไปของกระดูกหรือเกิดจากที่หินปูนไปจับกับเอ็นและข้อต่อของขา จึงทำให้ขาแข็ง ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นอาการแบบถาวร
    แหล่งอาหาร แคลเซียมฟลูออไรด์ ตามธรรมชาติ
    1. ข้าวต่างๆ
    2. ผลไม้ เช่น แอปเปิล องุ่น ลูกแพร์ กล้วย และเชอร์รี่
    3. ผักต่างๆ เช่น หัวแครอท กระเทียม หัวบีท ผักใบเขียว กระจับ ถั่ว ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือ หัวหอม มันฝรั่ง
    4. เนย เนยแข็ง เนยเหลว ไข่
    5. เมล็ดทานตะวัน
    6. อื่นๆ เช่น อาหารทะเล ถั่วเหลือง ปลา น้ำทะเล น้ำกระด้าง น้ำผึ้ง ชาดำ แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของฟลูออไรด์คือ อาหารทะเล
    #สารฟลูออไรด์ในยาสีฟันก่อให้เกิดมะเร็ง จริงหรือไม่?
    ☠️☠️
    ทำไมเด็กในอเมริกาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1 นักวิจัยหลายๆท่านที่อเมริกา รวมทั้ง Charlotte Gerson ได้ไปทดสอบและพิสูจน์แล้วว่า ยาสีฟันที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปรวมทั้งยี่ห้อที่เราใช้กันอยู่ทุกวันมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
    Charlotte ให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษามะเร็งที่คลีนิคของเธอทุกคนเลิกใช้ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูออไรด์ เธอยังบอกอีกว่าไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้ทำไมเด็กในอเมริกาเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น เพราะยาสีฟันที่ใช้กันอยู่ ผสม สารฟลูออไรด์ แล้วยังใส่รสชาติเหมือนขนมหวานให้เด็กๆติดใจและอยากจะใช้ยาสีฟันแบบนี้
    🚑🚑
    เธอบอกความจริงว่าถ้าผู้บริโภคไม่มีใครป่วยเป็นโรคอะไรเลยแล้วผู้ผลิตยาจะทำธุรกิจได้กำไรจากที่ไหน ลองไปดูสิคะผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้บางทีก็เป็นบริษัทเดียวกันกับผู้ผลิตยานั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่หมอฟันใช้กับคนไข้ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาบ้วนปาก หรือแม้แต่สิ่งที่ใช้อุดฟันล้วนแล้วเป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น
    🎗🎗
    ใครที่เป็นมะเร็งอยู่ก็ดูยาสีฟันกันหน่อยนะคะ
    ⛑⛑
    (ปีนี้ 2018 Charlotte Gerson เธออายุ 96 ปียังแข็งแรงและเดินสายสัมมนาเรื่องมะเร็ง นับถือจริงๆ)
    ด้วยความปรารถนาดี
    ...โค้ชนาตาลี
    ❤️❤️
    อ่านต่อ...
    From the book: Never Fear Cancer again by Raymond Francis
    ..........
    Fluoride Fluoride both switches on and drives cancer. Federal health officials continue to call fluoridation one of the ten great public-health achievements of the twentieth century, while it has long been known as one of our greatest public-health blunders. The scientific evidence that fluoride causes cancer is overwhelming, and this has been known for decades, despite attempts to obscure it.
    💉💉
    For example, recorded in the Congressional Record of 21 July 1976, the chief chemist of the National Cancer Institute, Dr. Dean Burke, stated before Congress, “In point of fact, fluoride causes more cancer death, and causes it faster than any other chemical.”
    ☠️☠️
    Fluoride is a general cellular poison, doing catastrophic biological damage that is beyond the scope of this chapter to describe, yet many of us are now ingesting daily amounts that far exceed even the government’s inadequate safety standards. Hundreds of studies have found a connection between fluoride and cancer; cities that fluoridate their water have significantly more cancer deaths than cities that do not fluoridate.
    ☠️☠️
    ***Fluoride causes cancer by reacting with enzymes, changing their shape and disabling them.***
    ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️

    ด้วยรักและยาสีฟัน
    เวชหนุ่ม
    ภาพแรก ซ้าย ไม่มี ฟลูออไรด์ ขวา มี ฟลูออไรด์ โลกคือมายา #ลวงทั้งโลก ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ⁉️ ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานการวิจัยที่ว่าด้วยฟลูออไรด์ต่อการลดความสามารถทางปัญญาในเด็กได้ถึง 32 หน้าฟรี ๆ ที่นี่ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3491930/ Source : https://youtu.be/KLsjwWo1F2I -------------------------------------------------- โดยทั่วไป #ฟลูออไรด์ เป็นสารทำลายต่อมไร้ท่อเนื่องจากฟลูออไรด์เป็นฮาไลด์ (halide)เช่นกัน มันจึงแข่งขันกับฮาไลด์ตัวอื่นที่ตัวรับเดียวกันในต่อมไทรอยด์ และที่อื่นๆ เพื่อจับกับไอโอดีน สิ่งนี้จะยับยั้งการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งส่งผลให้มีฮอร์โมนไทรอยด์ในระดับต่ำ มีการพิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อ แต่ความจริงข้อนี้ถูกละเลยโดยหน่วยงาน และสมาคมที่ยังคงส่งเสริมการใช้ฟลูออไรด์ต่อไป จากรายงานของ National Research Council of the National Academies ในปี 2549 ฟลูออไรด์ "เป็นตัวทำลายต่อมไร้ท่อในแง่กว้างโดยปรับเปลี่ยนการทำงานของต่อมไร้ท่อที่เป็นปกติ" ฟังก์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ พาราไทรอยด์ และต่อมไพเนียลรวมถึงต่อมหมวกไต ตับอ่อน และต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ของคุณ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการรักษาอัตราการเผาผลาญโดยรวมของร่างกาย ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนาตามปกติ เนื่องจากเซลล์ที่มีการเผาผลาญทั้งหมดต้องการฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อการทำงานที่เหมาะสม การหยุดชะงักของระบบนี้ อาจมีผลกระทบที่หลากหลายต่อแทบทุกระบบในร่างกายของคุณ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ถือเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากที่สุดของโรคต่อมไร้ท่อ การใช้ฟลูออไรด์ในอดีต เป็นการแทรกแซงทางการแพทย์สำหรับ Hyperthyroid จนถึงปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ในยุโรปได้กำหนดให้ใช้ฟลูออไรด์ เพื่อลดอัตราการเผาผลาญพื้นฐานในผู้ป่วยที่มีต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ผลการศึกษาทางคลินิกที่ตีพิมพ์งานหนึ่งรายงานว่า ปริมาณฟลูออไรด์เพียง 2 - 3 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก ถ้าได้รับอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอที่จะลดกิจกรรมของต่อมไทรอยด์ในผู้ป่วยได้ การใช้ฟลูออไรด์เพื่อการรักษาต่อมไทรอยด์ได้รับการกระตุ้นโดยการวิจัยที่เริ่มต้นในปี 1800 ซึ่งเชื่อมโยงการบริโภคฟลูออไรด์กับคอพอก การบวมของต่อมไทรอยด์ที่เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ในรายงานเมื่อปี 2549 Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards, the National Research Council (NRC) รายงานว่า "ข้อมูลหลายบรรทัด แสดงถึงผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์" โดยเฉพาะรายงานที่กล่าวถึงการวิจัยแสดงให้เห็นว่า "การได้รับฟลูออไรด์ในมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของ TSH ที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความแพร่หลายของคอพอก และเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ T4 และ T3" นอกจากนั้นยังมีผลที่คล้ายกันใน T4 และ T3 รายงานในสัตว์ทดลอง นอกจากนี้ NRC ยังกล่าวถึงงานวิจัยที่เชื่อมโยงฟลูออไรด์ กับผลกระทบต่อกิจกรรมของพาราไธรอยด์ การด้อยค่าของการทนต่อกลูโคส และระยะเวลาของการคงไว้ซึ่งสภาวะทางเพศ จากการค้นพบเหล่านี้ คณะกรรมการ NRC แนะนำว่า "ผลกระทบของฟลูออไรด์ในแง่มุมต่างๆ ต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ ควรได้รับการตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ในการพัฒนาโรคต่างๆ อย่างไรก็ตามผู้เสนอให้ใช้ฟลูออไรด์ยังคงเพิกเฉยต่อวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เป็นอันตราย ฟลูออไรด์จำนวนเล็กน้อย เปลี่ยนการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณได้อย่างน่าประหลาดใจ การทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกี่ยวข้องกับการได้รับฟลูออไรด์ในระดับต่ำถึง 0.05 - 0.1 มก. ฟลูออไรด์ต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวัน (มก. / กก. / วัน) หรือ 0.03 มก. / กก. / วัน สำหรับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม (154 ปอนด์) หมายความว่าฟลูออไรด์ 3.5 มก. ต่อวัน (หรือฟลูออไรด์ 0.7 มก. ต่อวันที่มีการขาดไอโอดีน) อาจทำให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ การวิเคราะห์โดยหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ประมาณการว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปบริโภคฟลูออไรด์เกือบ 3 มิลลิกรัมทุกวัน และบางคนบริโภคเป็นประจำวันละ 6 มก. ขึ้นไป สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 14 กิโลกรัม (30 ปอนด์) ฟลูออไรด์ที่ได้รับมากกว่า 0.7 มก. ต่อวัน (หรือ 0.14 มก. ต่อวันหากขาดไอโอดีน) ทำให้เด็กเสี่ยงต่อความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ และ EPA (2010) ได้ทำการประเมินว่าเด็กที่อยู่ในช่วงน้ำหนักนี้ (อายุ 1- 3 ปี) ได้บริโภคฟลูออไรด์มากกว่า 1.5 มก. ในแต่ละวัน หรือมากกว่า 2 เท่า ของจำนวนที่จำเป็นในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่เปลี่ยนแปลง การได้รับอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อาจมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งและตลอดชีวิตต่อพัฒนาการทางสติปัญญา ทางสังคม ทางเพศ และทางกายภาพโดยรวมของเด็ก การศึกษาจำนวนมากพบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับฟลูออไรด์ในระดับค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง และการลด IQ ในเด็ก แม้แต่ระดับฟลูออไรด์ที่น้อยกว่า 1.0 มก. / ล. ก็มีความสัมพันธ์กับ IQ ที่ลดลง และความถี่ที่เพิ่มขึ้นของภาวะไทรอยด์ทำงานในเด็กที่มีอาการขาดสารไอโอดีน การพิจารณาอย่างจริงจัง ว่าต่อมไทรอยด์ของคุณอาจเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางที่สุดในร่างกายของคุณต่อฟลูออไรด์ ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ ฟลูออไรด์สะสมในต่อมไทรอยด์ของคุณมากกว่าเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ ฟลูออไรด์อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ของคุณโดยตรง หรือโดยอ้อมด้วยการกระทำที่เป็นไปได้ รวมถึงความสามารถของฟลูออไรด์ในการเลียนแบบฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) - ทำลาย G-proteins ที่ละเอียดอ่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยการสร้างของตัวรับฮอร์โมนในร่างกายของคุณ -ทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ของคุณ -ทำลาย DNA ของคุณ -รบกวนการแปลงจากไทรอยด์ฮอร์โมน (T4) ที่ไม่ได้ใช้งานไปเป็นแบบฟอร์มที่ต้องใช้งาน (T3) จากข้อมูลของ PubMed Health พบว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดภาวะพร่อง หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ เกือบ 4% ของประชากรสหรัฐอเมริกา มากกว่า 11 ล้านคน มีภาวะไทรอยด์ทำงานหนักเกินจริง นอกจากนี้ 10% ของประชากรทั่วไป 21 ล้านคน มีภาวะพร่องที่ไม่แสดงอาการซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาต่อมาของภาวะพร่องไทรอยด์ แม้จะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในประชากรที่มีอายุมากกว่า แต่อัตราการเกิดภาวะพร่องของ hypothyroidism ทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นเกือบ 75% ในช่วง 2ทศวรรษที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ส่งผลกระทบต่อ 1 ในทุกๆ 2,370 ของการเกิดภาวะพร่องในทารกแรกเกิดที่ไม่ได้รับการรักษา สามารถนำไปสู่ภาวะปัญญาอ่อน การชะลอการเจริญเติบโต และปัญหาหัวใจ เด็กที่เป็นโรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือเยาวชน ได้รับรายงานว่ามีการล่าช้าของการงอกของฟัน หรือข้อบกพร่องในการเคลือบฟัน แม้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างการค้นพบเหล่านี้กับผลกระทบของฟลูออไรด์ต่อไทรอยด์ยังไม่ได้ทำการศึกษา สิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง คือความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่างความรุนแรงของอาการที่ไม่แสดงอาการในหญิงตั้งครรภ์และ IQ ที่ลดลงของบุตรหลาน การพร่องของมารดายังได้รับการเสนอให้เป็นสาเหตุ หรือผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาออทิสติก ศักยภาพของฟลูออไรด์ที่จะส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกหลายประการ ดังนั้นวิธีการใช้ฟลูออไรด์วิธีการแบบไม่เจาะจง / การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มสาธารณะโดยเจตนา / การผสมเข้าไปในยาสีฟัน / การเคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ เป็นปัญหาอย่างยิ่ง เนื่องจากจะทำให้ร่างกายของคุณสัมผัสกับสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยไม่คำนึงถึงความต้องการ หรือความอ่อนไหวส่วนตัว และเป็นการละเมิดหลักการสำคัญของเภสัชวิทยาสมัยใหม่ ----------------------------------- Andersson M, de Benoist B,Delange F, Zupan J. 2007.Prevention and control of iodine deficiency in pregnant and lactating women and in children less Bharaktiya S, et al., 2010.Hypothyroidism. Medscape Reference. Delange F. 2004. Optimal iodine nutrition during pregnancy, lactation and neonatal period. Int J Endocrinol Metab 89:3851. Drugs.com. Undated. Top-selling drugs of 2009. IOM (Institute of Medicine). 2001. Dietary Reference Intakes for Vitamin A, Vitamin K, Arsenic, Boron, Chromium, Copper, Iodine, Iron, Manganese Larsen PR, Davies TF, Schlumberger MJ, Hay ID. 2002. Thyroid physiology and diagnostic evaluation of patients with thyroid disorders. Pp. 331-373 PubMed Health. 2009. Neonatal hypothyroidism. PubMed Health. 2010. Hypothyroidism. Wang H, Yang Z, Zhou B, et al. 2009. Fluoride-induced thyroid dysfunction in rats: roles of dietary protein and calcium level. Toxicol Ind Health Zimmermann MB. 2009. Iodine deficiency in pregnancy and the effects of maternal iodine supplementation on the offspring: a review. Am J Clin Nutr 1 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 507 pp. 2 Maumené E. 1854. Compt Rend Acad Sci 39:538. May W. 1935. Antagonismus Zwischen Jod und Fluor im Organismus. Klinische Wochenschrift 14:790-92. 3 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 4 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 5 EPA (U.S. Environmental Protection Agency). 2010. Fluoride: Exposure and Relative Source Contribution Analysis. 6 Connett P, Beck J, Micklem HS. 2010. The Case Against Fluoride. How Hazardous Waste Ended Up in Our Drinking Water and the Bad Science 7 Lin FF, Aihaiti HX, Zhao J, et al. 1991. The relationship of a low-iodine and high-fluoride environment to subclinical cretinism in Xinjiang. 8 ICCIDD (International Council for the Control of Iodine Deficiency Disorders). 2011. Iodine Deficiency. 9 Hollowell JG, Staehling NW, Hannon WH, et al. 1998. Iodine nutrition in the United States. Trends and public health implications: iodine excretion 10 Lee SL, et al. 2009. Iodine Deficiency. Medscape Reference. 11 Caldwell KL, Miller GA, Wang RY, et al. 2008. Iodine status of the U.S. population, National Health and Nutrition Examination Survey 2003-2004. 12 Shashi A. 1988. Biochemical effects of Fluoride on thyroid gland duringexperimental fluorosis. Fluoride 21:127–130. 13 Monsour PA, Kruger BJ. 1985. Effect of fluoride on soft tissue in vertebrates. Fluoride 18:53-61. / Call RA, Greenwood DA, LeCheminant H, et al. 1965. 14 Ge Y, Ning H, Wang S, Wang J. 2005. DNA damage in thyroid gland cells of rats exposed to long-term intake of high fluoride and low iodine. Fluoride 15 Gas'kov A, Savchenkov MF, Lushkov NN. 2005. [The specific features of the development of iodine deficiencies in children living under pollution] 16 Aoki Y, Belin RM, Clickner R, et al. 2007. Serum TSH and total T4 in the United States population 17 Olney RS, Grosse SD, Vogt RF. 2010. Prevalence of Congenital Hypothyroidism—Current Trends and Future Directions: Workshop Summary. Pediatrics 125 18 National Research Council. 2006. Fluoride in Drinking Water: A Scientific Review of EPA's Standards. National Academies Press: Washington, DC. 19 Klein RZ, Sargent JD, Larsen PR, et al. 2001. Relation of severity of maternal hypothyroidism to cognitive development in offspring. J Med Screen 20 Román GC. 2007. Autism: Transient in utero hypothyroxinemia related to maternal flavonoid ingestion during pregnancy. Biological Trace Element Research : https://www.researchgate.net/.../345973053_In_Vitro... ✨✨✨✨✨✨✨ ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58 https://youtu.be/AYAJJSOmdJo ✨✨✨✨✨✨✨ ปฏิวัติสุขภาพกับอ.ปานเทพ เรื่อง ฟลูออไรด์ ภัยเงียบในน้ำดื่มน้ำใช้ยาสีฟัน https://youtu.be/741TFbVWJwQ https://youtu.be/s-ElDeuDl1I https://youtu.be/Y5Ad9L-B21c https://youtu.be/1KgS-_E05YE https://youtu.be/KLsjwWo1F2I ✨✨✨✨✨✨✨ ฟลูออไรด์ในยาสีฟัน โดย อ.สันติ มานะดี https://www.facebook.com/10000435.../posts/1352913331530352/ ✨✨✨✨✨✨✨ สารฟลูโอไรด์ ( Fluoride ) Little Girl Healthy SHOP - สินค้าส่งตรงจากอเมริกา กราฟแสดงระดับความรุนแรงของสารตะกั่ว สารหนูและฟลูโอไรด์ ค่าระดับความเป็นพิษของฟลูโอไรด์ที่พุ่งแรงแซงสารตะกั่วไปอยู่ที่ระดับ 4 เกือบๆ 5 นั่นแปลว่า มันเป็นพิษมากจนถึงขั้นรุนแรง! ยิ่งถ้าบ้านใครมียาฆ่าหนูและแมลงสาบลองพลิกดูที่ส่วนผสมข้างกล่อง คุณอาจจะช็อกตาค้างมากกว่านี้ เพราะสิ่งเดียวที่เป็นส่วนผสมในยาเบื่อหนูคือฟลูโอไรด์ ซึ่งความจริงแล้ว ฟลูออไรด์ได้นำมาใช้ครั้งแรกในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นยาเบื่อหนู ถามว่า.. แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในยาสีฟันล่ะ? จริงๆแล้วฟลูออไรด์ที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟันอย่างแท้จริงมันคือ “แคลเซียมฟลูออไรด์ “ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ที่ผสมอยู่ในยาสีฟันมันคือ "โซเดียมฟลูออไรด์" เป็นสารพิษที่ผลิตขึ้นในโรงงานซึ่งมีราคาถูกกว่า และถ้าใครที่คิดว่าฟลููโอไรด์ช่วยให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ แบบที่เคยได้ยินกันจนคุ้นหูคุ้นตาในโฆษณาทีวีตั้งแต่เด็กๆคงต้องคิดใหม่ เพราะมันกลับเป็นตัวการทำให้เกิดฟันตกกระที่เรียกว่า Dental Fluorosis เกิดเป็นรอยกระดำกระด่างที่ผิวฟันจากการสะสมของสารพิษฟลูโอไรด์ในระยะยาว แถมยังมีผลต่อกระดูกทำให้กระดูกพรุนด้วย ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ของรัฐนิวอิงแลนด์ สหรัฐอเมริกา รายงานว่า มีการใช้สารฟลูออไรด์เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) แต่ผลกลับกลายเป็นว่า อัตราการเกิดกระดูกตะโพกร้าวสูงขึ้นกว่าปกติ และในปี 1993 นักวิทยาศาสตร์จากองค์การป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาต่อต้านการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มและอาหาร นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นได้ยืนยันว่า ฟลูออไรด์ไม่ได้ป้องกันฟันผุ ผลตรงกันข้าม กลับมีเหตุการณ์แน่ชัดว่า มันเป็นตัวก่อมะเร็งได้ http://www.biowish.net/pages/med.htm เคยมีนักวิทยาศาสตร์ทำการทดลองผสมฟลูโอไรด์ในน้ำของค่ายกักกันที่รัซเซียในยุคคอมมิวนิสต์และอีกที่ในช่วงยุคนาซีที่เยอร์มัน มีจุดประสงค์ในการทดลองเพื่อจะดูว่าถ้านักโทษผู้โชคร้ายทั้งหลายกินน้ำผสมฟลูโอไรด์เข้าไปแล้วนักโทษจะเป็นยังไง ผลปรากฎว่า อารมณ์รุนแรงของนักโทษลดลงอย่างเห็นได้ชัด เปลี่ยนจากนักโทษโหดๆเป็นแมวหง่าวนั่งหงอย ไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างใดๆ ไม่ยกพวกตีกันเหมือนก่อน ฟังแล้วดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ.. แต่ความจริงแล้วมันน่ากลัวซะมากกว่า เพราะว่าฟลูโอไรด์มันมีผลโดยตรงต่อสมองน่ะสิ โดยมันเข้าไปทำลายต่อมไพนีล (Pineal gland) หรือเรียกว่าดวงตาที่ 3 ที่ทำหน้าที่ควบคุมร่างกาย โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นต่อมไร้ท่อทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารณ์ต่างๆ เช่นความหิว ความกระหาย ความต้องการทางเพศ ความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเหมือนนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์ ดังนั้นเมื่อต่อมนี้โดนทำลาย จึงทำให้เกิดความท้อแท้ หมดแรงจูงใจ ขาดความคิดริเริ่ม เป็นตัวลดไอคิว ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ และเนื่องจากการทดลองที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาลครั้งนั้น ปัจจุบันนี้ฟลูโอไรด์เลยมาอยู่ในยาสีฟันให้เราใช้กันทุกวัน เปรียบได้กับอาวุธของรัฐบาลในการทำให้ประชาชนโง่และเป็นการควบคุมประชากรไปในตัว ในบางประเทศอย่างไอร์แลนด์ อเมริกา ถึงกับโดนมัดมือชกให้กินน้ำผสมยาพิษฟลูโอไรด์กันเลยทีเดียว โดยผสมมันลงในน้ำประปาสาธารณะ โดยอ้างว่าหวังดีอยากป้องกันโรคฟันผุให้ประชาชน แต่มีการพิสูจน์แล้วโดยเปรียบเทียบสุขภาพฟันของคนอังกฤษและอเมริกัน ปรากฎว่าสุขภาพฟันไม่ต่างกันเลยทั้งๆที่น้ำในประเทศอังกฤษไม่มีการฟลูโอไรด์ลงในน้ำ การกระทำที่มีนัยยะแอบแฝงแบบนี้เลยสร้างความไม่พอใจให้หลายๆคนในหลายประเทศที่ไม่เต็มใจจะโดนวางยาพิษในน้ำก๊อกที่ทำให้โง่และเป็นโรค แถมการเอาน้ำไปต้มให้เดือดก็ไม่ได้ช่วยอะไรยกเว้นเพิ่มความแรงของสารพิษให้สูงขึ้นอึก 7 เท่าตัว เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมยาสีฟันที่มีผสมฟลูโอไรด์ต้องมีคำเตือนแปะอยู่ข้างหลอดว่าห้ามกลืน ถ้าใครเผลอกลืนต้องรีบพบแพทย์!! อะไรก็ตามที่ทำมาให้ใช้ได้ในปาก มันควรที่จะปลอดภัยมากกว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคไม่ใช่หรือ? โดยเฉพาะยาสีฟันที่เราเอาใส่ปากเป็นสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายทุกๆวัน บางคนอาจคิดว่าอีคนเขียนนี่วิตกจริตฟุ้งซ่านมากไปป่ะ? ไม่มีใครเค้าโง่กลืนยาสีฟันหรอก แค่ใส่ปากแปรงๆแล้วก็บ้วนทิ้่ง โอเค ก็จริงอยู่ที่ไม่มีใครกลืนมันแบบตั้งใจ แต่มีใครแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ว่ามันไม่ได้แอบตกค้างอยู่ตามซอกฟันซอกเหงือกให้คุณกลืนลงท้องทั้งคืน บวกกับอีกรอบตอนเช้า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะกลืนมันลงไปโดยไม่ตั้งใจถ้าไม่มีผู้ปกครองดูแล เชื่อหรือไม่ว่าฟลูโอไรด์เพียง 200 มิลลิกรัม หรือปริมาณยาสีฟันบีบออกมาเท่ากับความยาวของแปรงสีฟันนั้นสามารถฆ่าเด็กเล็กได้เลย และฆาตกรตัวจริงไม่ใช่ยาสีฟันแต่คือฟลูโอไรด์เพียวๆเลยหล่ะ จากรายงานของสมาคมศูนย์ควบคุมพิษอเมริกาบอกว่า ในปี 1994 มีคนตายจากฟลูออไรด์ที่ผสมในอาหารเสริมแล้วด้วย! Fluoride Alert .Org แคลเซียมฟลูออไรด์เป็นธาตุที่จำเป็น พบเป็นส่วนใหญ่ในกระดูก และเคลือบฟัน ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และทำให้ฟันทนต่อการผุมากขึ้น แคลเซียมฟลูออไรด์อาจช่วยป้องกันโรคปริทันต์ด้วย และป้องกันโรคกระดูกพรุน แคลเซียมฟลูออไรด์พบในธรรมชาติ ในรูปของแคลเซียมคลอไรด์ มีอยู่ในพืชทุกชนิด สัตว์ น้ำ และ ดิน โซเดียมฟลูออไรด์ (Sodium Fluoride) เป็นสารอนินทรีย์ที่เกิดจากธาตุฟลูออรีน (Fluorine) ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้นำเอาโซเดียมฟลูออไรด์ไปผสมกับผลิตภัณฑ์ ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากด้วยโซเดียมฟลูออไรด์ การได้รับฟลูออรีน จะเกิดการสะสมของฟลูออรีนไว้ในร่างกายทีละน้อย จะทำให้เกิดความเสียหายและข้อบกพร่องขึ้นกับระบบโครงกระดูกและฟันสำหรับความผิดปกติของฟัน เกิดขึ้นโดยฟันจะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขุ่นๆ ซึ่งเดิมมีลักษณะใส นอกจากนี้ยังทำให้ฟันไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ฟันจึงมักชำรุดแตกบิ่นง่าย ส่วนในระบบโครงกระดูกอาการที่พบคือ กระดูกจะเจริญเร็วมาก ซึ่งอาจจะสังเกตได้จากกระดูกขา กราม กระดูกซี่โครง ขากระเผลก เดินลำบาก ซึ่งเป็นผลจากการเจริญมากเกินไปของกระดูกหรือเกิดจากที่หินปูนไปจับกับเอ็นและข้อต่อของขา จึงทำให้ขาแข็ง ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นอาการแบบถาวร แหล่งอาหาร แคลเซียมฟลูออไรด์ ตามธรรมชาติ 1. ข้าวต่างๆ 2. ผลไม้ เช่น แอปเปิล องุ่น ลูกแพร์ กล้วย และเชอร์รี่ 3. ผักต่างๆ เช่น หัวแครอท กระเทียม หัวบีท ผักใบเขียว กระจับ ถั่ว ข้าวโพด หัวไชเท้า มะเขือ หัวหอม มันฝรั่ง 4. เนย เนยแข็ง เนยเหลว ไข่ 5. เมล็ดทานตะวัน 6. อื่นๆ เช่น อาหารทะเล ถั่วเหลือง ปลา น้ำทะเล น้ำกระด้าง น้ำผึ้ง ชาดำ แหล่งอาหารที่ดีที่สุดของฟลูออไรด์คือ อาหารทะเล #สารฟลูออไรด์ในยาสีฟันก่อให้เกิดมะเร็ง จริงหรือไม่? ☠️☠️ ทำไมเด็กในอเมริกาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับ 1 นักวิจัยหลายๆท่านที่อเมริกา รวมทั้ง Charlotte Gerson ได้ไปทดสอบและพิสูจน์แล้วว่า ยาสีฟันที่ขายกันอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปรวมทั้งยี่ห้อที่เราใช้กันอยู่ทุกวันมีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง Charlotte ให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษามะเร็งที่คลีนิคของเธอทุกคนเลิกใช้ยาสีฟันที่ผสมสารฟลูออไรด์ เธอยังบอกอีกว่าไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันนี้ทำไมเด็กในอเมริกาเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น เพราะยาสีฟันที่ใช้กันอยู่ ผสม สารฟลูออไรด์ แล้วยังใส่รสชาติเหมือนขนมหวานให้เด็กๆติดใจและอยากจะใช้ยาสีฟันแบบนี้ 🚑🚑 เธอบอกความจริงว่าถ้าผู้บริโภคไม่มีใครป่วยเป็นโรคอะไรเลยแล้วผู้ผลิตยาจะทำธุรกิจได้กำไรจากที่ไหน ลองไปดูสิคะผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้บางทีก็เป็นบริษัทเดียวกันกับผู้ผลิตยานั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่หมอฟันใช้กับคนไข้ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาบ้วนปาก หรือแม้แต่สิ่งที่ใช้อุดฟันล้วนแล้วเป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น 🎗🎗 ใครที่เป็นมะเร็งอยู่ก็ดูยาสีฟันกันหน่อยนะคะ ⛑⛑ (ปีนี้ 2018 Charlotte Gerson เธออายุ 96 ปียังแข็งแรงและเดินสายสัมมนาเรื่องมะเร็ง นับถือจริงๆ) ด้วยความปรารถนาดี ...โค้ชนาตาลี ❤️❤️ อ่านต่อ... From the book: Never Fear Cancer again by Raymond Francis .......... Fluoride Fluoride both switches on and drives cancer. Federal health officials continue to call fluoridation one of the ten great public-health achievements of the twentieth century, while it has long been known as one of our greatest public-health blunders. The scientific evidence that fluoride causes cancer is overwhelming, and this has been known for decades, despite attempts to obscure it. 💉💉 For example, recorded in the Congressional Record of 21 July 1976, the chief chemist of the National Cancer Institute, Dr. Dean Burke, stated before Congress, “In point of fact, fluoride causes more cancer death, and causes it faster than any other chemical.” ☠️☠️ Fluoride is a general cellular poison, doing catastrophic biological damage that is beyond the scope of this chapter to describe, yet many of us are now ingesting daily amounts that far exceed even the government’s inadequate safety standards. Hundreds of studies have found a connection between fluoride and cancer; cities that fluoridate their water have significantly more cancer deaths than cities that do not fluoridate. ☠️☠️ ***Fluoride causes cancer by reacting with enzymes, changing their shape and disabling them.*** ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ด้วยรักและยาสีฟัน เวชหนุ่ม
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • Cr:มิสแกรนด์2024@ราเชล เธอน่ารักเหมาะสม👑"ทั้งเก่งทั้งฉลาดไหวพริบดีตอบคำถามได้ใจความ คนเราไม่ใช่แค่คิดว่าตัวเองสวยต้องรู้จักควบคุ้มอารมณ์ "IQ&EQ....ต้องมาด้วยกันคะ👏👏
    Cr:มิสแกรนด์2024@ราเชล เธอน่ารักเหมาะสม👑"ทั้งเก่งทั้งฉลาดไหวพริบดีตอบคำถามได้ใจความ คนเราไม่ใช่แค่คิดว่าตัวเองสวยต้องรู้จักควบคุ้มอารมณ์ "IQ&EQ....ต้องมาด้วยกันคะ👏👏
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 81 Views 40 0 Reviews
  • แอดมิน ทำการบ้านหุ้น SETHD, SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 5 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี
    ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    #thaitimes
    แอดมิน ทำการบ้านหุ้น SETHD, SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 5 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 267 Views 0 Reviews
  • ..เขาเล่ามา.(จริงหรือเท็จ มิทราบได้ อาจมโนกันมานานหลายปีแล้วก็ได้)
    ..ตรองกันเอง,เพียงผู้นำเสนอแนวทาง&ทางเลือกเท่านั้น.

    MED BEDS:

    · อาทิตย์ที่ 27 ต.ค. 2024: ข่าวล่าสุด! ทรัมป์จัดสรรเงินของรัฐบาลกลางเพื่อสนับสนุนศูนย์รักษาผู้ป่วย Med Bed – สถานพยาบาลกำลังรักษาทหารและเด็กๆ ในขณะที่กลุ่มแพทย์กำลังเผชิญกับการล่มสลาย!

    Med Beds มาแล้ว! ศูนย์รักษาผู้ป่วยที่ปฏิวัติวงการและโครงการฝึกอบรมลับของกองทัพ!

    · Med Bed แตกต่างจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ใดๆ ที่เราเคยเห็น—รากฐานของมันไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีขั้นสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณที่ทรงพลัง ข่าวที่ว่าการฝึกอบรมสำหรับผู้ปฏิบัติงาน Med Bed ถูกตัดจาก 12-18 เดือนเหลือเพียง 6 เดือนนั้นมีความสำคัญ ทำไม? เพราะตอนนี้เน้นที่ความพร้อมทางจิตวิญญาณมากกว่าทักษะทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว

    · นี่เป็นมากกว่าการทำความเข้าใจชีววิทยา ผู้ปฏิบัติงานต้องปรับตัวให้เข้ากับพลังงานสั่นสะเทือน—เข้าใจถึงความเชื่อมโยงกันของทุกสิ่ง แพทย์ทั่วไปอาจเข้าใจพื้นฐานของการผ่าตัด Med Bed ได้ภายในสองวัน แต่ถ้าขาดความตระหนักรู้ทางจิตวิญญาณ พวกเขาจะต้องเดินทางเป็นเวลาหกเดือนเพื่อปลดล็อกพลังที่แท้จริงของมัน นี่คือการรักษาแบบองค์รวมในระดับที่เราไม่เคยพบมาก่อน ยินดีต้อนรับสู่โลก 5 มิติ

    · การเปิดเผยที่น่าตกตะลึงที่สุดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ Med Beds คือจิตสำนึกของพวกเขา นี่ไม่ใช่แค่เครื่องจักร แต่เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก ผู้ควบคุมเชื่อมต่อกับ Med Beds ด้วยพลังจิต ซึ่งเป็นโลกที่ความคิดชี้นำเครื่องจักร ที่เจตนาแสดงการรักษา แต่ไม่ใช่ทุกคนจะควบคุมพลังนี้ได้ เฉพาะผู้ที่ตื่นรู้จริงๆ เท่านั้นที่เข้าถึงได้

    · การฝึกอบรมนี้ไม่ใช่เรื่องตลก มันต้องการความมุ่งมั่นของคุณทุกหยด มันไม่ใช่งานอดิเรกหรือโปรเจ็กต์เสริม มันคืออาชีพ และอย่าเข้าใจผิด สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่ดูแลกระบวนการนี้จะรู้ว่าคุณไม่มุ่งมั่น คนเกียจคร้านไม่มีที่ยืนที่นี่

    · ที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณมีบทบาทสำคัญเช่นกัน พวกเขาไม่เพียงแต่แนะนำผู้ป่วยผ่านการรักษาทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังทำให้แน่ใจว่าจิตใจและวิญญาณของพวกเขาอยู่ในแนวเดียวกัน การฝึกอบรมของพวกเขามีความเข้มงวดไม่แพ้กัน และพวกเขายังต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดของการปรับความสั่นสะเทือนอีกด้วย

    · การปฏิวัติ Med Bed ไม่ใช่แค่ความก้าวหน้าทางการแพทย์เท่านั้น เป็นการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ เป็นการเรียกร้องไปยังผู้ที่เชื่อในแนวทางการรักษาแบบองค์รวม หากคุณสนใจสิ่งนี้ ตอนนี้คือเวลาที่เหมาะสม เจาะลึกจิตวิญญาณ สำรวจจิตสำนึก และเตรียมพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติที่จะปรับเปลี่ยนโลกแห่งการรักษา

    · การมีส่วนร่วมของกองทัพในการจัดจำหน่ายเตียงพยาบาล: คำถามที่ร้อนแรง: ทำไมต้องปิดบังไว้? เหตุใดจึงล่าช้าในการประกาศเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเช่นนี้? แหล่งข่าวระบุว่าไม่นานหลังจากมีการเปิดเผยเงินทุนด้านมนุษยธรรม เตียงพยาบาลจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงถูกปกปิดไว้?

    · การมีส่วนร่วมของกองทัพในการจัดจำหน่ายและดำเนินการเตียงพยาบาลเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามมากมาย ทันทีหลังจากการประกาศต่อสาธารณะ พวกเขาจะขนส่งผู้ป่วยไปยังศูนย์เหล่านี้ แต่ทำไมต้องเป็นกองทัพ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์? แล้วลำดับชั้นของการรักษาล่ะ—กลุ่มแรกและกลุ่มถัดไป?

    · รายงานระบุว่ากลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มที่ใกล้จะตาย: ผู้ป่วยในสถานพยาบาลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยชีวิต และผู้ป่วยวิกฤต กลุ่ม NEXT จะรักษาผู้ป่วยที่มีอาการร้ายแรงแต่ไม่ถึงขั้นคุกคามชีวิตในทันที แต่ทำไมถึงจัดอยู่ในประเภทนั้น ทำไมบางคนถึงบอกว่าหลายคนจะปฏิเสธการรักษา

    · คำตอบอาจทำให้คุณตกใจ หลายคนเชื่อว่า Med Bed เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของวาระที่ยิ่งใหญ่กว่า ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว มีข่าวลือเกี่ยวกับกิจกรรมคล้ายลัทธิและแม้แต่การโคลนนิ่งที่เกี่ยวข้องกับศูนย์เหล่านี้ เป็นเรื่องบังเอิญหรืออะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก?

    · แต่ขออย่าละเลยศักยภาพที่นี่ ลองนึกถึงสภาพแวดล้อมในการรักษาที่ไม่หนาวเย็นและปลอดเชื้อ แต่เต็มไปด้วยความงามตามธรรมชาติ—ต้นไม้ ลำธาร และสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย ศูนย์ Med Bed เหล่านี้มุ่งหวังที่จะทำมากกว่าการรักษา พวกเขามุ่งหวังที่จะยกระดับจิตสำนึกของมนุษย์ ผลักดันให้ผู้คนรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเองและไปสู่สภาวะที่สูงขึ้น

    · อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขอยู่ว่า หากต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมนุษยธรรม Med Bed คุณต้องมีเจตนาที่แท้จริง ในระหว่างการนัดหมายที่ศูนย์ไถ่บาป การสั่นสะเทือนของคุณจะถูกอ่าน นี่เป็นเพียงพิธีการหรือเป็นการทดสอบจิตวิญญาณของคุณ?

    ..เขาเล่ามา.(จริงหรือเท็จ มิทราบได้ อาจมโนกันมานานหลายปีแล้วก็ได้) ..ตรองกันเอง,เพียงผู้นำเสนอแนวทาง&ทางเลือกเท่านั้น. MED BEDS: · อาทิตย์ที่ 27 ต.ค. 2024: ข่าวล่าสุด! ทรัมป์จัดสรรเงินของรัฐบาลกลางเพื่อสนับสนุนศูนย์รักษาผู้ป่วย Med Bed – สถานพยาบาลกำลังรักษาทหารและเด็กๆ ในขณะที่กลุ่มแพทย์กำลังเผชิญกับการล่มสลาย! Med Beds มาแล้ว! ศูนย์รักษาผู้ป่วยที่ปฏิวัติวงการและโครงการฝึกอบรมลับของกองทัพ! · Med Bed แตกต่างจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ใดๆ ที่เราเคยเห็น—รากฐานของมันไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีขั้นสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณที่ทรงพลัง ข่าวที่ว่าการฝึกอบรมสำหรับผู้ปฏิบัติงาน Med Bed ถูกตัดจาก 12-18 เดือนเหลือเพียง 6 เดือนนั้นมีความสำคัญ ทำไม? เพราะตอนนี้เน้นที่ความพร้อมทางจิตวิญญาณมากกว่าทักษะทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว · นี่เป็นมากกว่าการทำความเข้าใจชีววิทยา ผู้ปฏิบัติงานต้องปรับตัวให้เข้ากับพลังงานสั่นสะเทือน—เข้าใจถึงความเชื่อมโยงกันของทุกสิ่ง แพทย์ทั่วไปอาจเข้าใจพื้นฐานของการผ่าตัด Med Bed ได้ภายในสองวัน แต่ถ้าขาดความตระหนักรู้ทางจิตวิญญาณ พวกเขาจะต้องเดินทางเป็นเวลาหกเดือนเพื่อปลดล็อกพลังที่แท้จริงของมัน นี่คือการรักษาแบบองค์รวมในระดับที่เราไม่เคยพบมาก่อน ยินดีต้อนรับสู่โลก 5 มิติ · การเปิดเผยที่น่าตกตะลึงที่สุดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ Med Beds คือจิตสำนึกของพวกเขา นี่ไม่ใช่แค่เครื่องจักร แต่เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก ผู้ควบคุมเชื่อมต่อกับ Med Beds ด้วยพลังจิต ซึ่งเป็นโลกที่ความคิดชี้นำเครื่องจักร ที่เจตนาแสดงการรักษา แต่ไม่ใช่ทุกคนจะควบคุมพลังนี้ได้ เฉพาะผู้ที่ตื่นรู้จริงๆ เท่านั้นที่เข้าถึงได้ · การฝึกอบรมนี้ไม่ใช่เรื่องตลก มันต้องการความมุ่งมั่นของคุณทุกหยด มันไม่ใช่งานอดิเรกหรือโปรเจ็กต์เสริม มันคืออาชีพ และอย่าเข้าใจผิด สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่ดูแลกระบวนการนี้จะรู้ว่าคุณไม่มุ่งมั่น คนเกียจคร้านไม่มีที่ยืนที่นี่ · ที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณมีบทบาทสำคัญเช่นกัน พวกเขาไม่เพียงแต่แนะนำผู้ป่วยผ่านการรักษาทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังทำให้แน่ใจว่าจิตใจและวิญญาณของพวกเขาอยู่ในแนวเดียวกัน การฝึกอบรมของพวกเขามีความเข้มงวดไม่แพ้กัน และพวกเขายังต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดของการปรับความสั่นสะเทือนอีกด้วย · การปฏิวัติ Med Bed ไม่ใช่แค่ความก้าวหน้าทางการแพทย์เท่านั้น เป็นการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ เป็นการเรียกร้องไปยังผู้ที่เชื่อในแนวทางการรักษาแบบองค์รวม หากคุณสนใจสิ่งนี้ ตอนนี้คือเวลาที่เหมาะสม เจาะลึกจิตวิญญาณ สำรวจจิตสำนึก และเตรียมพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติที่จะปรับเปลี่ยนโลกแห่งการรักษา · การมีส่วนร่วมของกองทัพในการจัดจำหน่ายเตียงพยาบาล: คำถามที่ร้อนแรง: ทำไมต้องปิดบังไว้? เหตุใดจึงล่าช้าในการประกาศเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเช่นนี้? แหล่งข่าวระบุว่าไม่นานหลังจากมีการเปิดเผยเงินทุนด้านมนุษยธรรม เตียงพยาบาลจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงถูกปกปิดไว้? · การมีส่วนร่วมของกองทัพในการจัดจำหน่ายและดำเนินการเตียงพยาบาลเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามมากมาย ทันทีหลังจากการประกาศต่อสาธารณะ พวกเขาจะขนส่งผู้ป่วยไปยังศูนย์เหล่านี้ แต่ทำไมต้องเป็นกองทัพ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์? แล้วลำดับชั้นของการรักษาล่ะ—กลุ่มแรกและกลุ่มถัดไป? · รายงานระบุว่ากลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มที่ใกล้จะตาย: ผู้ป่วยในสถานพยาบาลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยชีวิต และผู้ป่วยวิกฤต กลุ่ม NEXT จะรักษาผู้ป่วยที่มีอาการร้ายแรงแต่ไม่ถึงขั้นคุกคามชีวิตในทันที แต่ทำไมถึงจัดอยู่ในประเภทนั้น ทำไมบางคนถึงบอกว่าหลายคนจะปฏิเสธการรักษา · คำตอบอาจทำให้คุณตกใจ หลายคนเชื่อว่า Med Bed เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของวาระที่ยิ่งใหญ่กว่า ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว มีข่าวลือเกี่ยวกับกิจกรรมคล้ายลัทธิและแม้แต่การโคลนนิ่งที่เกี่ยวข้องกับศูนย์เหล่านี้ เป็นเรื่องบังเอิญหรืออะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก? · แต่ขออย่าละเลยศักยภาพที่นี่ ลองนึกถึงสภาพแวดล้อมในการรักษาที่ไม่หนาวเย็นและปลอดเชื้อ แต่เต็มไปด้วยความงามตามธรรมชาติ—ต้นไม้ ลำธาร และสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย ศูนย์ Med Bed เหล่านี้มุ่งหวังที่จะทำมากกว่าการรักษา พวกเขามุ่งหวังที่จะยกระดับจิตสำนึกของมนุษย์ ผลักดันให้ผู้คนรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเองและไปสู่สภาวะที่สูงขึ้น · อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขอยู่ว่า หากต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมนุษยธรรม Med Bed คุณต้องมีเจตนาที่แท้จริง ในระหว่างการนัดหมายที่ศูนย์ไถ่บาป การสั่นสะเทือนของคุณจะถูกอ่าน นี่เป็นเพียงพิธีการหรือเป็นการทดสอบจิตวิญญาณของคุณ?
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • รถถัง Leopard 2 A7A1 ที่ได้รับการอัพเกรดเพื่อใช้สำหรับกองทัพเยอรมนี (Bundeswehr) ซึ่งติดตั้งระบบ Trophy APS ที่ประกอบด้วยเสาอากาศเรดาร์ ระบบตอบโต้ เมื่อตรวจพบภัยคุกคาม ระบบจะจำแนกประเภทของอาวุธที่เข้ามา แล้วคอมพิวเตอร์จะคำนวณเวลาและมุมที่เหมาะสมที่สุดในการยิงตอบโต้
    รถถัง Leopard 2 A7A1 ที่ได้รับการอัพเกรดเพื่อใช้สำหรับกองทัพเยอรมนี (Bundeswehr) ซึ่งติดตั้งระบบ Trophy APS ที่ประกอบด้วยเสาอากาศเรดาร์ ระบบตอบโต้ เมื่อตรวจพบภัยคุกคาม ระบบจะจำแนกประเภทของอาวุธที่เข้ามา แล้วคอมพิวเตอร์จะคำนวณเวลาและมุมที่เหมาะสมที่สุดในการยิงตอบโต้
    0 Comments 0 Shares 68 Views 7 0 Reviews
  • "คนโค้ชแห่งชีวิตติดดินเพื่อสังคม" มีความหมายว่าเราต้องการทำเรื่องนี้ในบั้นปลายของชีวิต ตามเหตุปัจจัยแห่งปัจจุบันและจะสืบต่อไปสู่อนาคตทั้งใกล้และไกล เฉพาะหน้างานฌาปนกิจคุณโสภณองค์การผมได้ไปร่วมช่วงท้าย พี่โสภณเป็นสื่อมวลชนปฏิวัติทุ่มเทความคิดหลากหลายสิ่งอย่างไปในอาชีพสื่อสารมวลชนที่ให้ความรู้ที่แท้จริงถูกต้องอย่างเหมาะสมเต็มความสามารถในอนาคตถ้าสังคมวิวัฒนาการไปตามความคิดของคุณโสภณบ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างมากมายสรุปว่าเป็นสื่อมวลชนปฏิวัติ เป็นอริยบุคคล เพราะมีวัดปฏิบัติที่ดีไม่มีเรื่องเสียหายมีจิตวิญญาณเพื่อส่วนรวม ขอให้เราร่วมเรียนรู้การพัฒนาการทั้งด้านลึกด้านกว้างด้านความละเอียดของเหตุปัจจัยการพัฒนาการของพี่โสภณที่หล่อๆจนมาเกิดพัฒนามาเป็นตัวตนณปัจจุบัน ซึ่งทุกท่านสามารถนำมาประกอบสร้างเป็นเหตุปัจจัยในการเปลี่ยนแปลงตนเองและเรียนรู้จักหลากหลายท่านบูรณาการมาร่วมเป็นเหตุปัจจัยต่อวิธีดำเนินชีวิตสร้างองค์รวมของชีวิตขึ้นมาใหม่ไม่หยุดยั้งเรียนรู้กระตือรือร้นฝึกฝนเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่พี่โสภณพัฒนามาขอให้การเสียชีวิตครั้งนี้เป็นองค์รวมแห่งเอดส์ปัจจัยทำให้เราได้ศึกษาชีวิตของพี่โสภณสื่อมวลชนปฏิวัติอริยบุคคลที่จะเป็นอมตะไปตลอดเป็นไอดอลในเรื่องต่างๆและเป็นบุคคลให้เรียนรู้ได้นับเป็นโอกาสทองที่ดีเป็นแรงบันดาลใจเป็นความเสียใจเป็นการสูญเสียทำให้มันมีค่ายิ่งขอให้ทุกท่านลงลึกเรียนรู้ชีวิตจริงในอดีตของพี่โสภณองค์การทั้งอาชีพสื่อมวลชนและทุกอาชีพนำมาประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสมจากชีวิตจริงของบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในด้านสื่อสารมวลชนปฏิวัติอริยบุคคลผมขอเสนอความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันเท่านี้ก่อนขอให้เกิดแรงบันดาลใจสร้างเหตุปัจจัยที่ดีกับทุกคนตามความสามารถ
    "คนโค้ชแห่งชีวิตติดดินเพื่อสังคม" มีความหมายว่าเราต้องการทำเรื่องนี้ในบั้นปลายของชีวิต ตามเหตุปัจจัยแห่งปัจจุบันและจะสืบต่อไปสู่อนาคตทั้งใกล้และไกล เฉพาะหน้างานฌาปนกิจคุณโสภณองค์การผมได้ไปร่วมช่วงท้าย พี่โสภณเป็นสื่อมวลชนปฏิวัติทุ่มเทความคิดหลากหลายสิ่งอย่างไปในอาชีพสื่อสารมวลชนที่ให้ความรู้ที่แท้จริงถูกต้องอย่างเหมาะสมเต็มความสามารถในอนาคตถ้าสังคมวิวัฒนาการไปตามความคิดของคุณโสภณบ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างมากมายสรุปว่าเป็นสื่อมวลชนปฏิวัติ เป็นอริยบุคคล เพราะมีวัดปฏิบัติที่ดีไม่มีเรื่องเสียหายมีจิตวิญญาณเพื่อส่วนรวม ขอให้เราร่วมเรียนรู้การพัฒนาการทั้งด้านลึกด้านกว้างด้านความละเอียดของเหตุปัจจัยการพัฒนาการของพี่โสภณที่หล่อๆจนมาเกิดพัฒนามาเป็นตัวตนณปัจจุบัน ซึ่งทุกท่านสามารถนำมาประกอบสร้างเป็นเหตุปัจจัยในการเปลี่ยนแปลงตนเองและเรียนรู้จักหลากหลายท่านบูรณาการมาร่วมเป็นเหตุปัจจัยต่อวิธีดำเนินชีวิตสร้างองค์รวมของชีวิตขึ้นมาใหม่ไม่หยุดยั้งเรียนรู้กระตือรือร้นฝึกฝนเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่พี่โสภณพัฒนามาขอให้การเสียชีวิตครั้งนี้เป็นองค์รวมแห่งเอดส์ปัจจัยทำให้เราได้ศึกษาชีวิตของพี่โสภณสื่อมวลชนปฏิวัติอริยบุคคลที่จะเป็นอมตะไปตลอดเป็นไอดอลในเรื่องต่างๆและเป็นบุคคลให้เรียนรู้ได้นับเป็นโอกาสทองที่ดีเป็นแรงบันดาลใจเป็นความเสียใจเป็นการสูญเสียทำให้มันมีค่ายิ่งขอให้ทุกท่านลงลึกเรียนรู้ชีวิตจริงในอดีตของพี่โสภณองค์การทั้งอาชีพสื่อมวลชนและทุกอาชีพนำมาประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสมจากชีวิตจริงของบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในด้านสื่อสารมวลชนปฏิวัติอริยบุคคลผมขอเสนอความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันเท่านี้ก่อนขอให้เกิดแรงบันดาลใจสร้างเหตุปัจจัยที่ดีกับทุกคนตามความสามารถ
    0 Comments 1 Shares 14 Views 0 Reviews
  • **ขอบคุณบทความจาก คุณเอส Sos Sirikarn ภรรยาของผม ครับ**

    ได้ยินสามี​กับ​คุณแม่​ คุยกันเรื่อง​ ตารางการทาน​ "ออร์แกนิค​คลอ​เรลล่า​ กับ​ ออร์แก​นิค​สไป​รู​ลิ​น่า" ของเฟบิโก้​ 🇹🇼 PLC.

    📍แล้วคุณแม่สามี​ ​บอกว่า​ #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีสารที่เรียกว่า​ "Chlorella​ Growth Factor" ซึ่งเป็นชื่อเรียก​ กลุ่มของสารอาหาร​ ที่ช่วยให้เกิด​ กระบวนการซ่อมบำรุงเซลล์​ ตั้งแต่ระดับ​ DNA ตาม​ ที่ฝ่ายวิชาการได้เรียบเรียงข้อมูลไว้

    แม่ก็เลยแบ่งส่วนนึง ไว้ทานก่อนนอนด้วย​ จริงๆ​ตัวนี้เหมาะกับ​ #คนสูงอายุ

    😳แม้จะรู้อยู่แล้ว​ ว่า​ #ออร์แกนิค​คลอเรลล่า​เฟบิโก้ ช่วยให้เซลล์ในร่างกายเกิดกระบวนการซ่อมบำรุงตั้งแต่ระดับ​ DNA​ ได้ดีขึ้น​

    แต่..ไอ้เราพอได้ยิน​ คำว่า​ Growth​ Factor​ ก็เลยถึงบางอ้อ​ ว่า​ ทำไมนอนตี​ 1-3​ มา​ยาวนานถึง 17​-18 ปีแล้ว​ แต่ก็ยังไม่โทรม!! จนหลายคนทัก

    เขาบอกว่า​ หน้าตา​ ความคล่องตัว​ ไม่เหมือนคนนอนตี​1-3​ 😁😁

    🙆🏻‍♀️แต่ที่ผ่านมา​ ไม่ได้สนใจเรื่อง​ "Growth​ Factor" เพราะต้องการทาน​ ออร์แก​นิค​คลอ​เรลล่า​เฟ​บิ​โก้​ เพื่อขับล้างสารตกค้าง​จากอาหาร​เสริมที่ก่อนหน้านี้​ทานมาถึง​ 15 ปี​ จนผลตรวจ​ MRI​ พบว่า​ ได้ถุงน้ำในไตมา 2-3 ถุง

    เรื่อง​ #growthfactor​ จึงเป็นเหมือนของแถมจากการทานออร์แก​นิค​คลอ​เรลล่า​เฟ​บิ​โก้​ 🇹🇼 PLC.​ ไม่ใช่ปัจจัยหลัก​ที่ทำให้ทานมายาวนาน​ มิ.ย.​ นี้​ ครบ​ 9 ปี

    👉🏻ตามปรัชญา​ "สะสาง​ ก่อนสะสม" ที่ได้รับจากครอบครัวของที่ปรึกษา​

    เพราะสำหรับเอส​ #การรับสิ่งพิษเข้าไปสะสมในร่างกายทุกๆวัน​ มันน่ากลัวกว่า​ "หน้าตาโทรม​ หน้าตาไม่สวย" 😁😁 ค่ะ

    💚💚💚💚💚💚💚💚

    คุณแม่​สามีเลือกทำ​ "คีโม" และ​​ ยังทาน​ ออร์แกนิกคลอเรลล่าเฟบิโก้ ​ตลอด​ โดยที่เพิ่มจากโดสปกติ​ เป็น "12​ เม็ด​ + ทานพืชที่ช่วยลดพิษร้อน" จากการคีโมค่ะ

    🎀ซึ่งคุณแม่สามี​ ไม่ยอมหยุดทาน​ #ออร์แกนิคคลอเรลล่าfebico ​ทั้งที่อาจารย์​หมอก็บอกว่า​ ทานได้​ แต่ระวัง​คลอเรลล่าจะไปขับพิษคีโมออก​ จนคีโมทำงานไม่ได้

    🎀คุณแม่สามี​ จึงวางแผนการทานออร์แก​นิคคลอเรลล่าเฟบิโก้​ ด้วยตัวเอง​ ระหว่างที่ทำคีโมไปด้วย​ เพราะน้องชายที่เป็นอาจารย์​หมอ​ รพ.ดังระดับประเทศ​ ไม่อยากให้ทาน​คลอเรลล่า

    📍เพราะ​ #ออร์แกนิกคลอเรลล่าเฟบิโก้ สามารถ​ทำลายพิษของคีโม​ได้​ เนื่องจาก​คีโมคือพิษ แล้วเราต้องการความเป็นพิษของคีโมไปทำลายเซลล์​มะเร็ง​

    ซึ่งคีโม​ นอกจากจะทำลาย​เซลล์มะเร็ง​แล้ว​ ยังทำลาย​เซลล์ดีอีกด้วย

    📍ดังนั้น​ การ​ทานออร์แก​นิคคลอเรลล่า​เฟบิโก้ ที่เหมาะสมกับผู้ที่กำลังรักษา​ด้วยคีโม จึงต้องทาน​ในช่วงเวลา​ หลังจาก​ "คีโมทำงานเสร็จแล้ว" เช่น​ หลังจากคีโม​ไปแล้ว​ 6 ชม.​ เป็นต้น

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    **ขอบคุณบทความจาก คุณเอส Sos Sirikarn ภรรยาของผม ครับ** ได้ยินสามี​กับ​คุณแม่​ คุยกันเรื่อง​ ตารางการทาน​ "ออร์แกนิค​คลอ​เรลล่า​ กับ​ ออร์แก​นิค​สไป​รู​ลิ​น่า" ของเฟบิโก้​ 🇹🇼 PLC. 📍แล้วคุณแม่สามี​ ​บอกว่า​ #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีสารที่เรียกว่า​ "Chlorella​ Growth Factor" ซึ่งเป็นชื่อเรียก​ กลุ่มของสารอาหาร​ ที่ช่วยให้เกิด​ กระบวนการซ่อมบำรุงเซลล์​ ตั้งแต่ระดับ​ DNA ตาม​ ที่ฝ่ายวิชาการได้เรียบเรียงข้อมูลไว้ แม่ก็เลยแบ่งส่วนนึง ไว้ทานก่อนนอนด้วย​ จริงๆ​ตัวนี้เหมาะกับ​ #คนสูงอายุ​ 😳แม้จะรู้อยู่แล้ว​ ว่า​ #ออร์แกนิค​คลอเรลล่า​เฟบิโก้ ช่วยให้เซลล์ในร่างกายเกิดกระบวนการซ่อมบำรุงตั้งแต่ระดับ​ DNA​ ได้ดีขึ้น​ แต่..ไอ้เราพอได้ยิน​ คำว่า​ Growth​ Factor​ ก็เลยถึงบางอ้อ​ ว่า​ ทำไมนอนตี​ 1-3​ มา​ยาวนานถึง 17​-18 ปีแล้ว​ แต่ก็ยังไม่โทรม!! จนหลายคนทัก เขาบอกว่า​ หน้าตา​ ความคล่องตัว​ ไม่เหมือนคนนอนตี​1-3​ 😁😁 🙆🏻‍♀️แต่ที่ผ่านมา​ ไม่ได้สนใจเรื่อง​ "Growth​ Factor" เพราะต้องการทาน​ ออร์แก​นิค​คลอ​เรลล่า​เฟ​บิ​โก้​ เพื่อขับล้างสารตกค้าง​จากอาหาร​เสริมที่ก่อนหน้านี้​ทานมาถึง​ 15 ปี​ จนผลตรวจ​ MRI​ พบว่า​ ได้ถุงน้ำในไตมา 2-3 ถุง เรื่อง​ #growthfactor​ จึงเป็นเหมือนของแถมจากการทานออร์แก​นิค​คลอ​เรลล่า​เฟ​บิ​โก้​ 🇹🇼 PLC.​ ไม่ใช่ปัจจัยหลัก​ที่ทำให้ทานมายาวนาน​ มิ.ย.​ นี้​ ครบ​ 9 ปี 👉🏻ตามปรัชญา​ "สะสาง​ ก่อนสะสม" ที่ได้รับจากครอบครัวของที่ปรึกษา​ เพราะสำหรับเอส​ #การรับสิ่งพิษเข้าไปสะสมในร่างกายทุกๆวัน​ มันน่ากลัวกว่า​ "หน้าตาโทรม​ หน้าตาไม่สวย" 😁😁 ค่ะ 💚💚💚💚💚💚💚💚 คุณแม่​สามีเลือกทำ​ "คีโม" และ​​ ยังทาน​ ออร์แกนิกคลอเรลล่าเฟบิโก้ ​ตลอด​ โดยที่เพิ่มจากโดสปกติ​ เป็น "12​ เม็ด​ + ทานพืชที่ช่วยลดพิษร้อน" จากการคีโมค่ะ 🎀ซึ่งคุณแม่สามี​ ไม่ยอมหยุดทาน​ #ออร์แกนิคคลอเรลล่าfebico ​ทั้งที่อาจารย์​หมอก็บอกว่า​ ทานได้​ แต่ระวัง​คลอเรลล่าจะไปขับพิษคีโมออก​ จนคีโมทำงานไม่ได้ 🎀คุณแม่สามี​ จึงวางแผนการทานออร์แก​นิคคลอเรลล่าเฟบิโก้​ ด้วยตัวเอง​ ระหว่างที่ทำคีโมไปด้วย​ เพราะน้องชายที่เป็นอาจารย์​หมอ​ รพ.ดังระดับประเทศ​ ไม่อยากให้ทาน​คลอเรลล่า 📍เพราะ​ #ออร์แกนิกคลอเรลล่าเฟบิโก้ สามารถ​ทำลายพิษของคีโม​ได้​ เนื่องจาก​คีโมคือพิษ แล้วเราต้องการความเป็นพิษของคีโมไปทำลายเซลล์​มะเร็ง​ ซึ่งคีโม​ นอกจากจะทำลาย​เซลล์มะเร็ง​แล้ว​ ยังทำลาย​เซลล์ดีอีกด้วย 📍ดังนั้น​ การ​ทานออร์แก​นิคคลอเรลล่า​เฟบิโก้ ที่เหมาะสมกับผู้ที่กำลังรักษา​ด้วยคีโม จึงต้องทาน​ในช่วงเวลา​ หลังจาก​ "คีโมทำงานเสร็จแล้ว" เช่น​ หลังจากคีโม​ไปแล้ว​ 6 ชม.​ เป็นต้น #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    2 Comments 0 Shares 312 Views 0 Reviews
  • สติตื่นรู้
    ดูจิตดั่งลิง
    ให้ธรรมความจริง
    พึ่งพิงอาศัย

    อบรมบ่มธรรม
    กรรมดีขวนขวาย
    ปัญญาธรรมได้
    ให้ธรรมารมณ์

    อารมณ์รวมหนึ่ง
    ถึงจิตเกลียวกลม
    จิตรวมเหมาะสม
    กลมกลืนโดดเด่น

    จากการตื่นรู้
    สู่รู้ตื่นเด่น
    สงบร่มเย็น
    โดดเด่นเบิกบาน

    จงพบกรรมดี
    มีสุขสำราญ
    ให้ธรรมขำนาญ
    การงานเจริญ
    สติตื่นรู้ ดูจิตดั่งลิง ให้ธรรมความจริง พึ่งพิงอาศัย อบรมบ่มธรรม กรรมดีขวนขวาย ปัญญาธรรมได้ ให้ธรรมารมณ์ อารมณ์รวมหนึ่ง ถึงจิตเกลียวกลม จิตรวมเหมาะสม กลมกลืนโดดเด่น จากการตื่นรู้ สู่รู้ตื่นเด่น สงบร่มเย็น โดดเด่นเบิกบาน จงพบกรรมดี มีสุขสำราญ ให้ธรรมขำนาญ การงานเจริญ
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • **ขอบคุณบทความจาก คุณเอส Sos Sirikarn ภรรยาของผม ครับ**

    ได้ยินสามี​กับ​คุณแม่​ คุยกันเรื่อง​ ตารางการทาน​ "ออร์แกนิค​คลอ​เรลล่า​ กับ​ ออร์แก​นิค​สไป​รู​ลิ​น่า" ของเฟบิโก้​ 🇹🇼 PLC.

    📍แล้วคุณแม่สามี​ ​บอกว่า​ #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีสารที่เรียกว่า​ "Chlorella​ Growth Factor" ซึ่งเป็นชื่อเรียก​ กลุ่มของสารอาหาร​ ที่ช่วยให้เกิด​ กระบวนการซ่อมบำรุงเซลล์​ ตั้งแต่ระดับ​ DNA ตาม​ ที่ฝ่ายวิชาการได้เรียบเรียงข้อมูลไว้

    แม่ก็เลยแบ่งส่วนนึง ไว้ทานก่อนนอนด้วย​ จริงๆ​ตัวนี้เหมาะกับ​ #คนสูงอายุ

    😳แม้จะรู้อยู่แล้ว​ ว่า​ #ออร์แกนิค​คลอเรลล่า​เฟบิโก้ ช่วยให้เซลล์ในร่างกายเกิดกระบวนการซ่อมบำรุงตั้งแต่ระดับ​ DNA​ ได้ดีขึ้น​

    แต่..ไอ้เราพอได้ยิน​ คำว่า​ Growth​ Factor​ ก็เลยถึงบางอ้อ​ ว่า​ ทำไมนอนตี​ 1-3​ มา​ยาวนานถึง 17​-18 ปีแล้ว​ แต่ก็ยังไม่โทรม!! จนหลายคนทัก

    เขาบอกว่า​ หน้าตา​ ความคล่องตัว​ ไม่เหมือนคนนอนตี​1-3​ 😁😁

    🙆🏻‍♀️แต่ที่ผ่านมา​ ไม่ได้สนใจเรื่อง​ "Growth​ Factor" เพราะต้องการทาน​ ออร์แก​นิค​คลอ​เรลล่า​เฟ​บิ​โก้​ เพื่อขับล้างสารตกค้าง​จากอาหาร​เสริมที่ก่อนหน้านี้​ทานมาถึง​ 15 ปี​ จนผลตรวจ​ MRI​ พบว่า​ ได้ถุงน้ำในไตมา 2-3 ถุง

    เรื่อง​ #growthfactor​ จึงเป็นเหมือนของแถมจากการทานออร์แก​นิค​คลอ​เรลล่า​เฟ​บิ​โก้​ 🇹🇼 PLC.​ ไม่ใช่ปัจจัยหลัก​ที่ทำให้ทานมายาวนาน​ มิ.ย.​ นี้​ ครบ​ 9 ปี

    👉🏻ตามปรัชญา​ "สะสาง​ ก่อนสะสม" ที่ได้รับจากครอบครัวของที่ปรึกษา​

    เพราะสำหรับเอส​ #การรับสิ่งพิษเข้าไปสะสมในร่างกายทุกๆวัน​ มันน่ากลัวกว่า​ "หน้าตาโทรม​ หน้าตาไม่สวย" 😁😁 ค่ะ

    💚💚💚💚💚💚💚💚

    คุณแม่​สามีเลือกทำ​ "คีโม" และ​​ ยังทาน​ ออร์แกนิกคลอเรลล่าเฟบิโก้ ​ตลอด​ โดยที่เพิ่มจากโดสปกติ​ เป็น "12​ เม็ด​ + ทานพืชที่ช่วยลดพิษร้อน" จากการคีโมค่ะ

    🎀ซึ่งคุณแม่สามี​ ไม่ยอมหยุดทาน​ #ออร์แกนิคคลอเรลล่าfebico ​ทั้งที่อาจารย์​หมอก็บอกว่า​ ทานได้​ แต่ระวัง​คลอเรลล่าจะไปขับพิษคีโมออก​ จนคีโมทำงานไม่ได้

    🎀คุณแม่สามี​ จึงวางแผนการทานออร์แก​นิคคลอเรลล่าเฟบิโก้​ ด้วยตัวเอง​ ระหว่างที่ทำคีโมไปด้วย​ เพราะน้องชายที่เป็นอาจารย์​หมอ​ รพ.ดังระดับประเทศ​ ไม่อยากให้ทาน​คลอเรลล่า

    📍เพราะ​ #ออร์แกนิกคลอเรลล่าเฟบิโก้ สามารถ​ทำลายพิษของคีโม​ได้​ เนื่องจาก​คีโมคือพิษ แล้วเราต้องการความเป็นพิษของคีโมไปทำลายเซลล์​มะเร็ง​

    ซึ่งคีโม​ นอกจากจะทำลาย​เซลล์มะเร็ง​แล้ว​ ยังทำลาย​เซลล์ดีอีกด้วย

    📍ดังนั้น​ การ​ทานออร์แก​นิคคลอเรลล่า​เฟบิโก้ ที่เหมาะสมกับผู้ที่กำลังรักษา​ด้วยคีโม จึงต้องทาน​ในช่วงเวลา​ หลังจาก​ "คีโมทำงานเสร็จแล้ว" เช่น​ หลังจากคีโม​ไปแล้ว​ 6 ชม.​ เป็นต้น

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    **ขอบคุณบทความจาก คุณเอส Sos Sirikarn ภรรยาของผม ครับ** ได้ยินสามี​กับ​คุณแม่​ คุยกันเรื่อง​ ตารางการทาน​ "ออร์แกนิค​คลอ​เรลล่า​ กับ​ ออร์แก​นิค​สไป​รู​ลิ​น่า" ของเฟบิโก้​ 🇹🇼 PLC. 📍แล้วคุณแม่สามี​ ​บอกว่า​ #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีสารที่เรียกว่า​ "Chlorella​ Growth Factor" ซึ่งเป็นชื่อเรียก​ กลุ่มของสารอาหาร​ ที่ช่วยให้เกิด​ กระบวนการซ่อมบำรุงเซลล์​ ตั้งแต่ระดับ​ DNA ตาม​ ที่ฝ่ายวิชาการได้เรียบเรียงข้อมูลไว้ แม่ก็เลยแบ่งส่วนนึง ไว้ทานก่อนนอนด้วย​ จริงๆ​ตัวนี้เหมาะกับ​ #คนสูงอายุ​ 😳แม้จะรู้อยู่แล้ว​ ว่า​ #ออร์แกนิค​คลอเรลล่า​เฟบิโก้ ช่วยให้เซลล์ในร่างกายเกิดกระบวนการซ่อมบำรุงตั้งแต่ระดับ​ DNA​ ได้ดีขึ้น​ แต่..ไอ้เราพอได้ยิน​ คำว่า​ Growth​ Factor​ ก็เลยถึงบางอ้อ​ ว่า​ ทำไมนอนตี​ 1-3​ มา​ยาวนานถึง 17​-18 ปีแล้ว​ แต่ก็ยังไม่โทรม!! จนหลายคนทัก เขาบอกว่า​ หน้าตา​ ความคล่องตัว​ ไม่เหมือนคนนอนตี​1-3​ 😁😁 🙆🏻‍♀️แต่ที่ผ่านมา​ ไม่ได้สนใจเรื่อง​ "Growth​ Factor" เพราะต้องการทาน​ ออร์แก​นิค​คลอ​เรลล่า​เฟ​บิ​โก้​ เพื่อขับล้างสารตกค้าง​จากอาหาร​เสริมที่ก่อนหน้านี้​ทานมาถึง​ 15 ปี​ จนผลตรวจ​ MRI​ พบว่า​ ได้ถุงน้ำในไตมา 2-3 ถุง เรื่อง​ #growthfactor​ จึงเป็นเหมือนของแถมจากการทานออร์แก​นิค​คลอ​เรลล่า​เฟ​บิ​โก้​ 🇹🇼 PLC.​ ไม่ใช่ปัจจัยหลัก​ที่ทำให้ทานมายาวนาน​ มิ.ย.​ นี้​ ครบ​ 9 ปี 👉🏻ตามปรัชญา​ "สะสาง​ ก่อนสะสม" ที่ได้รับจากครอบครัวของที่ปรึกษา​ เพราะสำหรับเอส​ #การรับสิ่งพิษเข้าไปสะสมในร่างกายทุกๆวัน​ มันน่ากลัวกว่า​ "หน้าตาโทรม​ หน้าตาไม่สวย" 😁😁 ค่ะ 💚💚💚💚💚💚💚💚 คุณแม่​สามีเลือกทำ​ "คีโม" และ​​ ยังทาน​ ออร์แกนิกคลอเรลล่าเฟบิโก้ ​ตลอด​ โดยที่เพิ่มจากโดสปกติ​ เป็น "12​ เม็ด​ + ทานพืชที่ช่วยลดพิษร้อน" จากการคีโมค่ะ 🎀ซึ่งคุณแม่สามี​ ไม่ยอมหยุดทาน​ #ออร์แกนิคคลอเรลล่าfebico ​ทั้งที่อาจารย์​หมอก็บอกว่า​ ทานได้​ แต่ระวัง​คลอเรลล่าจะไปขับพิษคีโมออก​ จนคีโมทำงานไม่ได้ 🎀คุณแม่สามี​ จึงวางแผนการทานออร์แก​นิคคลอเรลล่าเฟบิโก้​ ด้วยตัวเอง​ ระหว่างที่ทำคีโมไปด้วย​ เพราะน้องชายที่เป็นอาจารย์​หมอ​ รพ.ดังระดับประเทศ​ ไม่อยากให้ทาน​คลอเรลล่า 📍เพราะ​ #ออร์แกนิกคลอเรลล่าเฟบิโก้ สามารถ​ทำลายพิษของคีโม​ได้​ เนื่องจาก​คีโมคือพิษ แล้วเราต้องการความเป็นพิษของคีโมไปทำลายเซลล์​มะเร็ง​ ซึ่งคีโม​ นอกจากจะทำลาย​เซลล์มะเร็ง​แล้ว​ ยังทำลาย​เซลล์ดีอีกด้วย 📍ดังนั้น​ การ​ทานออร์แก​นิคคลอเรลล่า​เฟบิโก้ ที่เหมาะสมกับผู้ที่กำลังรักษา​ด้วยคีโม จึงต้องทาน​ในช่วงเวลา​ หลังจาก​ "คีโมทำงานเสร็จแล้ว" เช่น​ หลังจากคีโม​ไปแล้ว​ 6 ชม.​ เป็นต้น #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    2 Comments 0 Shares 423 Views 0 Reviews
More Results