• [Exclusive on Sondhi Talk]
    "บังแจ็ค" ไว้ใจ DSI ไขคดี
    แย้มมือถือแตงโมมี 4 หมื่นภาพ
    แถมข้อมูลนักการเมือง-นักธุรกิจดัง
    .
    บังแจ็คเปิดใจส่งมอบมือถือแตงโม นิดา ให้หมอธวัชชัยนำมาให้ดีเอสไอคลี่คลายคดี ระบุกู้ข้อมูลมีภาพกว่า 4 หมื่นภาพ แชตบางส่วนคุยกับนักการเมืองดัง และมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่มีอิทธิพลสูง นักธุรกิจระดับประเทศเกี่ยวข้องด้วย เผยมีคนขอซื้อมือถือจริงแต่ไม่ถึง 15 ล้าน ลั่นยังไงก็ไม่ขาย
    .
    วันนี้ (6 ก.พ.) นายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ หรือบังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ทางเฟซบุ๊ก และยูทูป "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" (คลิกชมย้อนหลัง >> https://www.youtube.com/watch?v=58nPhAE2uZo) ถึงโทรศัพท์มือถือของ แตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่เสียชีวิตจากเรือสปีดโบ้ท เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งได้ส่งมอบให้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และเตรียมนำมาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำมาใช้เพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตของแตงโม ระบุว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่รู้จักกับนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม นางพนิดาได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโมจากตำรวจ แต่ไม่พบข้อมูลใดๆ ในเครื่อง ตนจึงแนะนำให้นำไปที่ศูนย์บริการของแอปเปิลช่วยดูว่ายังมีข้อมูลในเครื่องหรือไม่ นางพนิดาไปที่ศูนย์แอปเปิลฯ แต่ไม่ไว้ใจ จึงให้โทรศัพท์มือถือแก่ตน ซึ่งเป็นความครอบครองโดยถูกต้อง
    .
    การตัดสินใจส่งมอบโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามที่ตนได้ประกาศไว้ว่าจะมอบให้เฉพาะบุคคล 3 ราย ได้แก่ นพ.ธวัชชัย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เพราะทั้งสามคนไว้วางใจที่สุดแล้ว เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่อยากให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคนที่จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี โดยข้อมูลในโทรศัพท์มือถือบางอย่างเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว เช่น มีคนดังโทร.เข้ามาในเวลาผิดปกติ ซึ่งนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ เปิดเผยว่าได้โทร.หาจริง ยังเหลืออีก 2-3 คนที่ยังไม่ได้ออกมาพูด รวมทั้ง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โทร.มาหาเมื่อเวลา 20.40 น. ของวันเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่บนเรือลำเดียวกัน และอีกหลายข้อมูลทั้งคลิป รูปภาพ การลบข้อความ และการลบบัญชีทั้งบัญชี
    .
    ตนจำได้ว่ามดดำได้โทร.หาแตงโม แต่ได้รับข่าวจากแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนของแตงโมว่า แตงโมตกน้ำ แอนนาพยายามทักไลน์ โทร.ทั้งไลน์และมือถือแต่ไม่ติด เมื่อ 3 ปีที่แล้วพอเข้าไปดูบัญชีแอนนาไม่มีเลย ลบทิ้ง บัญชีฮิปโป (ผู้จัดการส่วนตัวให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนที่แตงโมเสียชีวิต) ก็ลบทิ้ง บัญชีโม อมีนา พินิจ ก็ลบทิ้ง บัญชีพุดเดิล ยุพดี ก็ลบทิ้ง และอีกหลายคน ส่วนข้อความที่กระติกนำมาเปิดเผยในรายการโหนกระแสว่าได้คุยกับแตงโม ตนก็เข้าไปดู ไม่พบข้อความที่กระติกนำมาแสดง มีถึงแค่วันที่ 17-18 ก.พ. 2565 เท่านั้น แสดงว่ามีข้อมูลที่ถูกลบและข้อมูลที่แต่งขึ้นมา
    .
    บังแจ็ค กล่าวว่า ตนกู้ข้อมูลเฉพาะรูปภาพกว่า 40,000 ภาพ ยังดูไม่หมด ดูเฉพาะเกี่ยวข้องกับคดี เช่น บัญชีธนาคารไม่มีเงินสักบาทในบัญชี ทั้งที่อย่างน้อยเป็นดาราต้องมีเงินติดบัญชีสัก 4-5 พันบาท แต่ยอดเงินกลับเป็น 0 บาท บันทึกบางส่วนถูกลบออกไป แชตบางส่วนที่คุยกับนักการเมืองดัง ที่ขู่จะให้ส่งภาพลับที่ไม่เหมาะสมและเรียกให้มาหาก็มี ตนสงสารที่แตงโมต้องเจออะไรแบบนั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายคดีเมื่ออยู่ในมือของดีเอสไอ
    .
    ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของตนที่ทำให้พยานหลักฐานถูกด้อยค่านั้น ถามว่าใครทำร้ายเครดิตตน คนที่เสียประโยชน์ก็พยายามใช้สื่อที่เข้าข้างมาดิสเครดิตตน หนึ่งในนั้นคือทนายความที่ท้าให้ดื่มปัสสาวะ 70 แก้ว พาทั้งพิธีกรชื่อดังไปแจ้งความว่าตนขู่ฆ่าและใช้สื่อโจมตี ทั้งๆ ที่พิธีกรชื่อดังเข้าใจกันแล้ว และจะร่วมมือจำหน่ายสินค้าที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องที่โพสต์ภาพปืนเป็นเรื่องนานมาแล้ว ไม่เกี่ยวกับคดีแตงโม และได้เคลียร์จบแล้ว ตนมีหลักฐานทั้งหมดส่งให้ นพ.ธวัชชัย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าได้คุยกัน จับมือขออภัยกันจริง
    .
    ส่วนคดีเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ส่วนตัวมาเมืองไทยถูกต้อง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ซื้อรถจักรยานยนต์จากเบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี เวลานั้นตนอยู่โคราช ตนถูกหลอกเพราะไม่มีเอกสารและทะเบียน ตนเป็นชาวต่างชาติไม่รู้กฎหมาย เจอด่านก็โดนยึด พอกลับไปหาเจ้าตัวก็ไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีหลักฐาน พอเกิดคดีนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อยาเสพติด ตนออกมาวิจารณ์เบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เข้าข้างและไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมของเขา ตนซื้อรถด้วยน้ำพักน้ำแรงแล้วทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความที่ตนใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เวลานั้นไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังเพราะโดนโจมตี น้ำหนักน้อยลง พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเป็นคนต่างชาติ ถูกด้อยค่าตลอดเวลา จึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้
    .
    ส่วนที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ถึงปี 2569 เพราะเป็นบุคคลที่เชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยนั้น บังแจ็ค กล่าวว่า สมมติเป็นบุคคลอันตรายจริงก็ไม่น่าจะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ 6-7 ปี ไม่ใช่โรงเรียนเอกชน แต่เป็นโรงเรียนรัฐบาล และออกเอกสารถูกต้อง มีใบอนุญาตทำงาน เมื่อ 2 ปีก่อนมีรายการโทรทัศน์ไปตรวจสอบแล้วไม่พบบัญชีดำในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอนนี้สามารถเข้าประเทศไทยได้ ส่วนคดีที่เจอระยะหลังๆ คือคดีแตงโม ถูกใส่ไข่เยอะเพราะอีกฝ่ายหรืออีกสื่อหนึ่งมีเอฟซี มีอิทธิพลเยอะ แถมเมื่อตนไปสัมภาษณ์รายการหนึ่ง 5 ครั้ง ภายหลังไลฟ์รายการลบทิ้ง หมายความว่าอย่างไร ตนถามตรงๆ ไปว่าลบทิ้งทำไม เขาไม่มีคำตอบ เปลี่ยนประเด็น
    .
    ตนมองว่าต้องมีคนสั่งให้ลบ เพราะมือถืออยู่ในมือตนเอง จึงต้องดิสเครดิตให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ พยายามด้อยค่าหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือที่ปล่อยออกมา 1-2 คลิปที่ อ.ปานเทพเปิดเผย ตนเคยลงในเพจมานานมากแล้ว แต่มีคนทักมาถามว่าสถานที่ตรงนี้ตรงนั้นหรือเปล่า ซึ่งตนไม่รู้เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว พอไปดูก็มีการแต่งเพิ่มมา อ.ปานเทพถามตนว่าคลิปนี้ได้มาจากตนหรือเปล่า ตนตอบว่าไม่ใช่ คลิปที่ได้จากตนมีแค่นี้ เขาใช้วิธีเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน คือ เอามาแต่งเติม เอามาตัด และโจมตีว่าไม่ใช่ข้อมูลจริง หิวแสง ตนเพิ่งรู้จัก อ.ปานเทพ และ นพ.ธวัชชัยไม่ถึง 2 เดือน ข้อมูล GPS ที่เคยส่งให้ทีวีช่องหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนก็ถูกด้อยค่าว่าไปตรวจมาแล้วไม่มีอะไรเลย ด้อยค่าแล้วก็ลบตัดทิ้งเลย
    .
    พอรับฟีดแบ็คกลับมาตนก็มีความรู้สึก แฟนของตนก็ไม่สบายใจ ให้หยุดไม่ต้องทำเพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง คดีนี้ต้องกลับมาแน่ เพราะข้อพิรุธหลายอย่าง ตนเก็บข้อมูลไว้ เบอร์แต่ละคนหาไม่ยาก อยู่บนเรือด้วยกันโทร.หากันทำไม แล้วบรรดาคนดังโทร.หาแตงโมเวลา 21.58 น. 22.04 น. หรือ 22.07 น.ของวันเกิดเหตุ ไม่ใช่แค่คืนนั้นคืนเดียว โทร.มาตอนเช้าด้วย โทร.ในระหว่างนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ตำรวจแถลงข่าวแตงโมตกน้ำ 22.37-22.38 น. แสดงว่าคนรู้แล้วว่าแตงโมตกน้ำ แต่ไม่มีการกดรับสายเพราะปิดเครื่อง แต่มีระบบรับฝากข้อความและมีข้อความเข้ามา
    .
    เมื่อถามว่า ขบวนการดิสเครดิตบังแจ็คทำไปเพื่ออะไร เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโมอย่างไร บังแจ็ค กล่าวว่า มีคนใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่พอคดีแตงโมเปิดขึ้นมาเขาได้รับความเสียหายมาก จึงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ ที่ไปคุยที่ปั๊มน้ำมันนั้น ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายของเขาสอนให้พูดแบบนี้ แล้วมีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แนะนำว่าต้องไปในทิศทางนี้ เท่าที่ตนทราบไม่นานมีโทรทัศน์ 3 ช่อง ช่องแรกไม่ดัง อีก 2 ช่องดัง ใช้ทนายความคนบนเรือคนเดียวกันออกโทรทัศน์ บางสื่อต้องกลัวตำรวจหรือเกรงใจตำรวจเพราะจะไม่มีข่าวเล่น ตนรู้พิรุธมานานแล้วว่าตอนสัมภาษณ์เขาก็ตัดออก อย่างทีวีช่องหนึ่งสัมภาษณ์นานมาก แต่ตัดบางส่วนออก เหลือเฉพาะตอนที่เปิดช่องให้ถูกโจมตี ภายหลังพบว่าใช้ทนายความคนเดียวกันออกทีวี
    .
    เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนเสนอเงิน 15 ล้านบาทเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ไม่ถึง 15 ล้านบาท แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ นพ.ธวัชชัยจะมารับเครื่อง ก็พยายามที่จะถามว่าจะให้โทรศัพท์มือถือจริงหรือเปล่า แล้วเชื่อหรือเปล่าว่าจะนำมาใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าคิดจะขายจะขายในราคาเท่าไหร่ ตนตอบว่าไม่ขาย ถามว่า 2 ล้านบาทขายไหม ตนตอบว่าไม่ขาย ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านบาท เงินที่เสนอมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในเดือนหนึ่งก็หมดแล้ว เพราะตนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีบริษัท จ่ายค่ารถ จ่ายค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดแล้ว ตนหาได้เองไม่ต้องเสนอ อีกฝ่ายก็เสนอเป็น 5 ล้านบาท แต่ไม่ต้องให้เครื่องแก่ นพ.ธวัชชัย ตนกล่าวว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่ขาย อยากจะยกให้เขา อีกฝ่ายกล่าวว่า ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เพราะ 1 ใน 5 คนบนเรือกล่าวว่า ได้เครื่องนี้ไปก็คือจบเลย เพราะมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูง เป็นนักธุรกิจระดับประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มือถือนี้ไปอยู่ที่เมืองไทย
    .
    เมื่อถามว่า ที่โดนดักตีหัวสงสัยว่าจัดฉากหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ตอนที่โดนตีหัว นพ.ธวัชชัยคุยกับตนอยู่ เวลาโดนตีหัวแฟนถามว่าเรียกรถพยาบาลหรือเปล่า เพราะที่สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่าย 3,500-4,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่พอจับดูเลือดไหล จึงให้ นพ.ธวัชชัยดูแผล ก็แนะนำว่าให้ไปเย็บแผลก่อน แต่เย็บไม่เยอะ 2 เข็ม และให้กลับไปรักษาที่บ้าน ส่วนที่โดนตีหัวคิดว่าวันนั้นเป็นวันหยุดของคนผิวสี ตำรวจไม่ค่อยมี เป็นเหตุบังเอิญที่โจรขโมยของ นพ.ธวัชชัยอยู่ในสาย ก็เลยเป็นห่วงจึงเป็นข่าวขึ้นมา ส่วนขบวนการดิสเครดิตที่เกิดขึ้น นพ.ธวัชชัย อ.ปานเทพ และนายอัจฉริยะต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ บังแจ็ค กล่าวว่า ทั้งสามคนต้องระวังอย่างสูง เพราะเท่าที่เจอข้อมูลในเครื่องมีแต่คนใหญ่คนโต ทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จากที่แถลงข่าวยังมีเยอะกว่านี้
    .
    ถามถึงแนวทางคลี่คลายคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แตงโม บังแจ็คกล่าวว่า ลองไว้ใจทีมดีเอสไอ และดูว่าจะมีคนเข้ามาสกัดหรือข่มขู่หรือเปล่าก็ต้องคอยดู แต่ถ้าทั้งสามคนสบายใจและมั่นใจในทีมนี้ก็ตามนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือฟิงเกอร์ครอส (ยกนิ้วไขว้เพื่ออวยพรขอให้โชคดี) เมื่อถามว่า ตอนนี้บังแจ็คทำอะไรอยู่ ตนต้องขอบคุณเน็ตไอดอลที่สร้างภาพให้ตนเป็นแบบนั้นว่าเขาทำสำเร็จ ตนมีร้านอาหาร 2 แห่ง มีบริษัทที่มีรถยนต์กันกระสุน 5 คัน รับคุ้มกันดาราระดับโลก นักฟุตบอลชื่อดัง และนักการเมือง ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแตงโมจริง ให้ นพ.ธวัชชัชตรวจอีมี่ (IMEI) และตรวจเครื่องให้เรียบร้อย ถ้าสมมติถ้าตนหิวเงินหรือหิวแสงคงไม่เก็บไว้นานถึง 3 ปี ภาพหรือคลิปที่ตนเจอป่านนี้ได้เงินเป็นร้อยล้านแล้ว ตนนับถือศาสนาอิสลาม เป็นเงินบาป ทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ไปยุ่งและไม่เปิดเผย ไม่ทำให้แตงโมเสียหายเพราะน่าสงสารที่สุดแล้ว
    .
    คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://sondhitalk.com/detail/9680000012224
    ......
    Sondhi X
    [Exclusive on Sondhi Talk] "บังแจ็ค" ไว้ใจ DSI ไขคดี แย้มมือถือแตงโมมี 4 หมื่นภาพ แถมข้อมูลนักการเมือง-นักธุรกิจดัง . บังแจ็คเปิดใจส่งมอบมือถือแตงโม นิดา ให้หมอธวัชชัยนำมาให้ดีเอสไอคลี่คลายคดี ระบุกู้ข้อมูลมีภาพกว่า 4 หมื่นภาพ แชตบางส่วนคุยกับนักการเมืองดัง และมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่มีอิทธิพลสูง นักธุรกิจระดับประเทศเกี่ยวข้องด้วย เผยมีคนขอซื้อมือถือจริงแต่ไม่ถึง 15 ล้าน ลั่นยังไงก็ไม่ขาย . วันนี้ (6 ก.พ.) นายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ หรือบังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ทางเฟซบุ๊ก และยูทูป "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" (คลิกชมย้อนหลัง >> https://www.youtube.com/watch?v=58nPhAE2uZo) ถึงโทรศัพท์มือถือของ แตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่เสียชีวิตจากเรือสปีดโบ้ท เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งได้ส่งมอบให้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และเตรียมนำมาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำมาใช้เพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตของแตงโม ระบุว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่รู้จักกับนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม นางพนิดาได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโมจากตำรวจ แต่ไม่พบข้อมูลใดๆ ในเครื่อง ตนจึงแนะนำให้นำไปที่ศูนย์บริการของแอปเปิลช่วยดูว่ายังมีข้อมูลในเครื่องหรือไม่ นางพนิดาไปที่ศูนย์แอปเปิลฯ แต่ไม่ไว้ใจ จึงให้โทรศัพท์มือถือแก่ตน ซึ่งเป็นความครอบครองโดยถูกต้อง . การตัดสินใจส่งมอบโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามที่ตนได้ประกาศไว้ว่าจะมอบให้เฉพาะบุคคล 3 ราย ได้แก่ นพ.ธวัชชัย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เพราะทั้งสามคนไว้วางใจที่สุดแล้ว เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่อยากให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคนที่จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี โดยข้อมูลในโทรศัพท์มือถือบางอย่างเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว เช่น มีคนดังโทร.เข้ามาในเวลาผิดปกติ ซึ่งนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ เปิดเผยว่าได้โทร.หาจริง ยังเหลืออีก 2-3 คนที่ยังไม่ได้ออกมาพูด รวมทั้ง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โทร.มาหาเมื่อเวลา 20.40 น. ของวันเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่บนเรือลำเดียวกัน และอีกหลายข้อมูลทั้งคลิป รูปภาพ การลบข้อความ และการลบบัญชีทั้งบัญชี . ตนจำได้ว่ามดดำได้โทร.หาแตงโม แต่ได้รับข่าวจากแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนของแตงโมว่า แตงโมตกน้ำ แอนนาพยายามทักไลน์ โทร.ทั้งไลน์และมือถือแต่ไม่ติด เมื่อ 3 ปีที่แล้วพอเข้าไปดูบัญชีแอนนาไม่มีเลย ลบทิ้ง บัญชีฮิปโป (ผู้จัดการส่วนตัวให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนที่แตงโมเสียชีวิต) ก็ลบทิ้ง บัญชีโม อมีนา พินิจ ก็ลบทิ้ง บัญชีพุดเดิล ยุพดี ก็ลบทิ้ง และอีกหลายคน ส่วนข้อความที่กระติกนำมาเปิดเผยในรายการโหนกระแสว่าได้คุยกับแตงโม ตนก็เข้าไปดู ไม่พบข้อความที่กระติกนำมาแสดง มีถึงแค่วันที่ 17-18 ก.พ. 2565 เท่านั้น แสดงว่ามีข้อมูลที่ถูกลบและข้อมูลที่แต่งขึ้นมา . บังแจ็ค กล่าวว่า ตนกู้ข้อมูลเฉพาะรูปภาพกว่า 40,000 ภาพ ยังดูไม่หมด ดูเฉพาะเกี่ยวข้องกับคดี เช่น บัญชีธนาคารไม่มีเงินสักบาทในบัญชี ทั้งที่อย่างน้อยเป็นดาราต้องมีเงินติดบัญชีสัก 4-5 พันบาท แต่ยอดเงินกลับเป็น 0 บาท บันทึกบางส่วนถูกลบออกไป แชตบางส่วนที่คุยกับนักการเมืองดัง ที่ขู่จะให้ส่งภาพลับที่ไม่เหมาะสมและเรียกให้มาหาก็มี ตนสงสารที่แตงโมต้องเจออะไรแบบนั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายคดีเมื่ออยู่ในมือของดีเอสไอ . ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของตนที่ทำให้พยานหลักฐานถูกด้อยค่านั้น ถามว่าใครทำร้ายเครดิตตน คนที่เสียประโยชน์ก็พยายามใช้สื่อที่เข้าข้างมาดิสเครดิตตน หนึ่งในนั้นคือทนายความที่ท้าให้ดื่มปัสสาวะ 70 แก้ว พาทั้งพิธีกรชื่อดังไปแจ้งความว่าตนขู่ฆ่าและใช้สื่อโจมตี ทั้งๆ ที่พิธีกรชื่อดังเข้าใจกันแล้ว และจะร่วมมือจำหน่ายสินค้าที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องที่โพสต์ภาพปืนเป็นเรื่องนานมาแล้ว ไม่เกี่ยวกับคดีแตงโม และได้เคลียร์จบแล้ว ตนมีหลักฐานทั้งหมดส่งให้ นพ.ธวัชชัย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าได้คุยกัน จับมือขออภัยกันจริง . ส่วนคดีเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ส่วนตัวมาเมืองไทยถูกต้อง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ซื้อรถจักรยานยนต์จากเบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี เวลานั้นตนอยู่โคราช ตนถูกหลอกเพราะไม่มีเอกสารและทะเบียน ตนเป็นชาวต่างชาติไม่รู้กฎหมาย เจอด่านก็โดนยึด พอกลับไปหาเจ้าตัวก็ไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีหลักฐาน พอเกิดคดีนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อยาเสพติด ตนออกมาวิจารณ์เบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เข้าข้างและไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมของเขา ตนซื้อรถด้วยน้ำพักน้ำแรงแล้วทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความที่ตนใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เวลานั้นไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังเพราะโดนโจมตี น้ำหนักน้อยลง พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเป็นคนต่างชาติ ถูกด้อยค่าตลอดเวลา จึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้ . ส่วนที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ถึงปี 2569 เพราะเป็นบุคคลที่เชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยนั้น บังแจ็ค กล่าวว่า สมมติเป็นบุคคลอันตรายจริงก็ไม่น่าจะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ 6-7 ปี ไม่ใช่โรงเรียนเอกชน แต่เป็นโรงเรียนรัฐบาล และออกเอกสารถูกต้อง มีใบอนุญาตทำงาน เมื่อ 2 ปีก่อนมีรายการโทรทัศน์ไปตรวจสอบแล้วไม่พบบัญชีดำในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอนนี้สามารถเข้าประเทศไทยได้ ส่วนคดีที่เจอระยะหลังๆ คือคดีแตงโม ถูกใส่ไข่เยอะเพราะอีกฝ่ายหรืออีกสื่อหนึ่งมีเอฟซี มีอิทธิพลเยอะ แถมเมื่อตนไปสัมภาษณ์รายการหนึ่ง 5 ครั้ง ภายหลังไลฟ์รายการลบทิ้ง หมายความว่าอย่างไร ตนถามตรงๆ ไปว่าลบทิ้งทำไม เขาไม่มีคำตอบ เปลี่ยนประเด็น . ตนมองว่าต้องมีคนสั่งให้ลบ เพราะมือถืออยู่ในมือตนเอง จึงต้องดิสเครดิตให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ พยายามด้อยค่าหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือที่ปล่อยออกมา 1-2 คลิปที่ อ.ปานเทพเปิดเผย ตนเคยลงในเพจมานานมากแล้ว แต่มีคนทักมาถามว่าสถานที่ตรงนี้ตรงนั้นหรือเปล่า ซึ่งตนไม่รู้เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว พอไปดูก็มีการแต่งเพิ่มมา อ.ปานเทพถามตนว่าคลิปนี้ได้มาจากตนหรือเปล่า ตนตอบว่าไม่ใช่ คลิปที่ได้จากตนมีแค่นี้ เขาใช้วิธีเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน คือ เอามาแต่งเติม เอามาตัด และโจมตีว่าไม่ใช่ข้อมูลจริง หิวแสง ตนเพิ่งรู้จัก อ.ปานเทพ และ นพ.ธวัชชัยไม่ถึง 2 เดือน ข้อมูล GPS ที่เคยส่งให้ทีวีช่องหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนก็ถูกด้อยค่าว่าไปตรวจมาแล้วไม่มีอะไรเลย ด้อยค่าแล้วก็ลบตัดทิ้งเลย . พอรับฟีดแบ็คกลับมาตนก็มีความรู้สึก แฟนของตนก็ไม่สบายใจ ให้หยุดไม่ต้องทำเพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง คดีนี้ต้องกลับมาแน่ เพราะข้อพิรุธหลายอย่าง ตนเก็บข้อมูลไว้ เบอร์แต่ละคนหาไม่ยาก อยู่บนเรือด้วยกันโทร.หากันทำไม แล้วบรรดาคนดังโทร.หาแตงโมเวลา 21.58 น. 22.04 น. หรือ 22.07 น.ของวันเกิดเหตุ ไม่ใช่แค่คืนนั้นคืนเดียว โทร.มาตอนเช้าด้วย โทร.ในระหว่างนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ตำรวจแถลงข่าวแตงโมตกน้ำ 22.37-22.38 น. แสดงว่าคนรู้แล้วว่าแตงโมตกน้ำ แต่ไม่มีการกดรับสายเพราะปิดเครื่อง แต่มีระบบรับฝากข้อความและมีข้อความเข้ามา . เมื่อถามว่า ขบวนการดิสเครดิตบังแจ็คทำไปเพื่ออะไร เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโมอย่างไร บังแจ็ค กล่าวว่า มีคนใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่พอคดีแตงโมเปิดขึ้นมาเขาได้รับความเสียหายมาก จึงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ ที่ไปคุยที่ปั๊มน้ำมันนั้น ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายของเขาสอนให้พูดแบบนี้ แล้วมีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แนะนำว่าต้องไปในทิศทางนี้ เท่าที่ตนทราบไม่นานมีโทรทัศน์ 3 ช่อง ช่องแรกไม่ดัง อีก 2 ช่องดัง ใช้ทนายความคนบนเรือคนเดียวกันออกโทรทัศน์ บางสื่อต้องกลัวตำรวจหรือเกรงใจตำรวจเพราะจะไม่มีข่าวเล่น ตนรู้พิรุธมานานแล้วว่าตอนสัมภาษณ์เขาก็ตัดออก อย่างทีวีช่องหนึ่งสัมภาษณ์นานมาก แต่ตัดบางส่วนออก เหลือเฉพาะตอนที่เปิดช่องให้ถูกโจมตี ภายหลังพบว่าใช้ทนายความคนเดียวกันออกทีวี . เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนเสนอเงิน 15 ล้านบาทเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ไม่ถึง 15 ล้านบาท แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ นพ.ธวัชชัยจะมารับเครื่อง ก็พยายามที่จะถามว่าจะให้โทรศัพท์มือถือจริงหรือเปล่า แล้วเชื่อหรือเปล่าว่าจะนำมาใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าคิดจะขายจะขายในราคาเท่าไหร่ ตนตอบว่าไม่ขาย ถามว่า 2 ล้านบาทขายไหม ตนตอบว่าไม่ขาย ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านบาท เงินที่เสนอมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในเดือนหนึ่งก็หมดแล้ว เพราะตนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีบริษัท จ่ายค่ารถ จ่ายค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดแล้ว ตนหาได้เองไม่ต้องเสนอ อีกฝ่ายก็เสนอเป็น 5 ล้านบาท แต่ไม่ต้องให้เครื่องแก่ นพ.ธวัชชัย ตนกล่าวว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่ขาย อยากจะยกให้เขา อีกฝ่ายกล่าวว่า ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เพราะ 1 ใน 5 คนบนเรือกล่าวว่า ได้เครื่องนี้ไปก็คือจบเลย เพราะมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูง เป็นนักธุรกิจระดับประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มือถือนี้ไปอยู่ที่เมืองไทย . เมื่อถามว่า ที่โดนดักตีหัวสงสัยว่าจัดฉากหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ตอนที่โดนตีหัว นพ.ธวัชชัยคุยกับตนอยู่ เวลาโดนตีหัวแฟนถามว่าเรียกรถพยาบาลหรือเปล่า เพราะที่สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่าย 3,500-4,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่พอจับดูเลือดไหล จึงให้ นพ.ธวัชชัยดูแผล ก็แนะนำว่าให้ไปเย็บแผลก่อน แต่เย็บไม่เยอะ 2 เข็ม และให้กลับไปรักษาที่บ้าน ส่วนที่โดนตีหัวคิดว่าวันนั้นเป็นวันหยุดของคนผิวสี ตำรวจไม่ค่อยมี เป็นเหตุบังเอิญที่โจรขโมยของ นพ.ธวัชชัยอยู่ในสาย ก็เลยเป็นห่วงจึงเป็นข่าวขึ้นมา ส่วนขบวนการดิสเครดิตที่เกิดขึ้น นพ.ธวัชชัย อ.ปานเทพ และนายอัจฉริยะต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ บังแจ็ค กล่าวว่า ทั้งสามคนต้องระวังอย่างสูง เพราะเท่าที่เจอข้อมูลในเครื่องมีแต่คนใหญ่คนโต ทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จากที่แถลงข่าวยังมีเยอะกว่านี้ . ถามถึงแนวทางคลี่คลายคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แตงโม บังแจ็คกล่าวว่า ลองไว้ใจทีมดีเอสไอ และดูว่าจะมีคนเข้ามาสกัดหรือข่มขู่หรือเปล่าก็ต้องคอยดู แต่ถ้าทั้งสามคนสบายใจและมั่นใจในทีมนี้ก็ตามนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือฟิงเกอร์ครอส (ยกนิ้วไขว้เพื่ออวยพรขอให้โชคดี) เมื่อถามว่า ตอนนี้บังแจ็คทำอะไรอยู่ ตนต้องขอบคุณเน็ตไอดอลที่สร้างภาพให้ตนเป็นแบบนั้นว่าเขาทำสำเร็จ ตนมีร้านอาหาร 2 แห่ง มีบริษัทที่มีรถยนต์กันกระสุน 5 คัน รับคุ้มกันดาราระดับโลก นักฟุตบอลชื่อดัง และนักการเมือง ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแตงโมจริง ให้ นพ.ธวัชชัชตรวจอีมี่ (IMEI) และตรวจเครื่องให้เรียบร้อย ถ้าสมมติถ้าตนหิวเงินหรือหิวแสงคงไม่เก็บไว้นานถึง 3 ปี ภาพหรือคลิปที่ตนเจอป่านนี้ได้เงินเป็นร้อยล้านแล้ว ตนนับถือศาสนาอิสลาม เป็นเงินบาป ทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ไปยุ่งและไม่เปิดเผย ไม่ทำให้แตงโมเสียหายเพราะน่าสงสารที่สุดแล้ว . คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://sondhitalk.com/detail/9680000012224 ...... Sondhi X
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษา "พิรงรอง" กรรมการ กสทช. ผิด ม.157 สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญาฯ คดี "ทรูไอดี" ยื่นฟ้องออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัล มีโฆษณาแทรกในสัญญาณที่นำไปออก ผิดกฎ “Must Carry” ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ ชี้มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เพราะไม่มีระเบียบเฉพาะกับ OTT จับตาหากไม่ได้รับการประกันตัว จะหลุดจากตำแหน่งทันที
    .
    วันนี้ (6 ก.พ.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ฟ้องมาตรา 157 โดยกล่าวหาว่า น.ส.พิรงรอง มีเจตนากลั่นแกล้งทำให้ ทรู ดิจิทัล ไอดี บริษัทในกลุ่มทรู ดิจิทัล กรุ๊ปเสียหาย
    .
    สำหรับคดีดังกล่าว เนื่องจากการมีผู้บริโภคร้องเรียนมาที่สำนักงาน กสทช. เมื่อปี 2566 หลังจากได้พบว่าบนแพลตฟอร์มของแอปพลิเคชันทรู ไอดี (True ID) มีการโฆษณาแทรกในช่องรายการทีวีดิจิทัลของผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ปฯ ในฐานะผู้ให้บริการแอปฯ ทรูไอดีได้นำสัญญาณมาถ่ายทอดในแพลตฟอร์มของตนเอง
    .
    ต่อมาคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ได้พิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องดังกล่าว และ สำนักงาน กสทช. ได้ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ให้ตรวจสอบว่ามีการนำช่องรายการที่ได้รับอนุญาตไปออกอากาศผ่านโครงข่ายใดหรือนำไปแพร่ภาพในแพลตฟอร์มใดและให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ซึ่งเป็นไปตามหลัก “มัสแครี่” (Must Carry) ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ แม้หนังสือดังกล่าวไม่ได้ส่งตรงไปยังบริษัท ทรู ดิจิทัลฯ เนื่องจากบริษัทไม่ได้เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตและไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. แต่บริษัทได้อ้างว่าการออกหนังสือดังกล่าวทำให้ตนเองเสียหาย จึงนำมาซึ่งการฟ้องร้องต่อการทำหน้าที่ของประธานอนุกรรมการชุดนี้ คือ น.ส.พิรงรอง กรรมการ กสทช.
    .
    ในคำร้องของบริษัททรูดิจิทัลฯ อ้างว่าหนังสือดังกล่าวเป็นเหตุที่ทำให้ตนเองได้รับความเสียหายเนื่องจากผู้รับใบอนุญาตประเภทช่องรายการโทรทัศน์ อาจทำการระงับการเผยแพร่รายการต่าง ๆ ผ่านทางแพลตฟอร์มของตน ในคำร้องได้อ้างว่าทางสำนักงาน กสทช. ยังไม่มีระเบียบเฉพาะในการกำกับดูแลกิจการ OTT (Over-The-Top หรือการให้บริการสตรีมเนื้อหาผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต)
    .
    อย่างไรก็ตาม น.ส.พิรงรอง ยืนยันว่า การออกหนังสือของสำนักงาน กสทช. เป็นการทำตามหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาในบนแพลตฟอร์มทรูไอดีในการรับชมเนื้อหาตามประกาศมัสต์ แครี่ และดูแลลิขสิทธิ์เนื้อหาของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งการตรวจสอบของสำนักงาน กสทช. จนนำไปสู่การออกหนังสือดังกล่าวมาจากการร้องเรียนของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาบนกล่องทรูไอดี ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ประกอบกิจการรายหนึ่งรายใดเป็นพิเศษ
    .
    เป็นที่สังเกตได้ว่า หนังสือดังกล่าวที่ออกโดยสำนักงาน กสทช. มิใช่คำสั่งทางปกครอง จึงไม่มีผลบังคับใช้ตามกฏหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตได้รับหนังสือข้างต้นและจะปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ในประเด็นมัสแครี่ อย่างเคร่งครัดหรือไม่ ก็ยังไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย และผู้ได้รับใบอนุญาตมีสิทธิที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อรายการที่อยู่ภายใต้การประกอบการของตน
    .
    ก่อนหน้านี้ ในเดือน เม.ย. 2567 ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องบริษัททรูดิจิทัลฯ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ น.ส.พิรงรอง ยุติการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ กสทช. และประธานอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีนี้
    .
    แต่ต่อมาในเดือน พ.ค. 2567 ศาลยกคำร้องดังกล่าว โดยพิจารณาว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นปฏิปักษ์ ขัดขวาง หรือกลั่นแกล้งการประกอบธุรกิจของโจทก์ตามที่กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม หาก น.ส.พิรงรอง ถูกตัดสินว่ามีความผิดและไม่ได้รับสิทธิให้ประกันตัวระหว่างรอการอนุมัติการอุทธรณ์ จะต้องสิ้นสภาพการเป็นกรรมการ กสทช. ทันที
    .
    ทั้งนี้ ผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคุณสมบัติของ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 7 (6) และ (7) กำหนดลักษณะต้องห้ามของกรรมการ กสทช. ว่า เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือ เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012019
    .........
    Sondhi X
    ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษา "พิรงรอง" กรรมการ กสทช. ผิด ม.157 สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญาฯ คดี "ทรูไอดี" ยื่นฟ้องออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัล มีโฆษณาแทรกในสัญญาณที่นำไปออก ผิดกฎ “Must Carry” ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ ชี้มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เพราะไม่มีระเบียบเฉพาะกับ OTT จับตาหากไม่ได้รับการประกันตัว จะหลุดจากตำแหน่งทันที . วันนี้ (6 ก.พ.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ฟ้องมาตรา 157 โดยกล่าวหาว่า น.ส.พิรงรอง มีเจตนากลั่นแกล้งทำให้ ทรู ดิจิทัล ไอดี บริษัทในกลุ่มทรู ดิจิทัล กรุ๊ปเสียหาย . สำหรับคดีดังกล่าว เนื่องจากการมีผู้บริโภคร้องเรียนมาที่สำนักงาน กสทช. เมื่อปี 2566 หลังจากได้พบว่าบนแพลตฟอร์มของแอปพลิเคชันทรู ไอดี (True ID) มีการโฆษณาแทรกในช่องรายการทีวีดิจิทัลของผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ปฯ ในฐานะผู้ให้บริการแอปฯ ทรูไอดีได้นำสัญญาณมาถ่ายทอดในแพลตฟอร์มของตนเอง . ต่อมาคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ได้พิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องดังกล่าว และ สำนักงาน กสทช. ได้ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ให้ตรวจสอบว่ามีการนำช่องรายการที่ได้รับอนุญาตไปออกอากาศผ่านโครงข่ายใดหรือนำไปแพร่ภาพในแพลตฟอร์มใดและให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ซึ่งเป็นไปตามหลัก “มัสแครี่” (Must Carry) ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ แม้หนังสือดังกล่าวไม่ได้ส่งตรงไปยังบริษัท ทรู ดิจิทัลฯ เนื่องจากบริษัทไม่ได้เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตและไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. แต่บริษัทได้อ้างว่าการออกหนังสือดังกล่าวทำให้ตนเองเสียหาย จึงนำมาซึ่งการฟ้องร้องต่อการทำหน้าที่ของประธานอนุกรรมการชุดนี้ คือ น.ส.พิรงรอง กรรมการ กสทช. . ในคำร้องของบริษัททรูดิจิทัลฯ อ้างว่าหนังสือดังกล่าวเป็นเหตุที่ทำให้ตนเองได้รับความเสียหายเนื่องจากผู้รับใบอนุญาตประเภทช่องรายการโทรทัศน์ อาจทำการระงับการเผยแพร่รายการต่าง ๆ ผ่านทางแพลตฟอร์มของตน ในคำร้องได้อ้างว่าทางสำนักงาน กสทช. ยังไม่มีระเบียบเฉพาะในการกำกับดูแลกิจการ OTT (Over-The-Top หรือการให้บริการสตรีมเนื้อหาผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต) . อย่างไรก็ตาม น.ส.พิรงรอง ยืนยันว่า การออกหนังสือของสำนักงาน กสทช. เป็นการทำตามหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาในบนแพลตฟอร์มทรูไอดีในการรับชมเนื้อหาตามประกาศมัสต์ แครี่ และดูแลลิขสิทธิ์เนื้อหาของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งการตรวจสอบของสำนักงาน กสทช. จนนำไปสู่การออกหนังสือดังกล่าวมาจากการร้องเรียนของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาบนกล่องทรูไอดี ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ประกอบกิจการรายหนึ่งรายใดเป็นพิเศษ . เป็นที่สังเกตได้ว่า หนังสือดังกล่าวที่ออกโดยสำนักงาน กสทช. มิใช่คำสั่งทางปกครอง จึงไม่มีผลบังคับใช้ตามกฏหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตได้รับหนังสือข้างต้นและจะปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ในประเด็นมัสแครี่ อย่างเคร่งครัดหรือไม่ ก็ยังไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย และผู้ได้รับใบอนุญาตมีสิทธิที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อรายการที่อยู่ภายใต้การประกอบการของตน . ก่อนหน้านี้ ในเดือน เม.ย. 2567 ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องบริษัททรูดิจิทัลฯ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ น.ส.พิรงรอง ยุติการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ กสทช. และประธานอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีนี้ . แต่ต่อมาในเดือน พ.ค. 2567 ศาลยกคำร้องดังกล่าว โดยพิจารณาว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นปฏิปักษ์ ขัดขวาง หรือกลั่นแกล้งการประกอบธุรกิจของโจทก์ตามที่กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม หาก น.ส.พิรงรอง ถูกตัดสินว่ามีความผิดและไม่ได้รับสิทธิให้ประกันตัวระหว่างรอการอนุมัติการอุทธรณ์ จะต้องสิ้นสภาพการเป็นกรรมการ กสทช. ทันที . ทั้งนี้ ผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคุณสมบัติของ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 7 (6) และ (7) กำหนดลักษณะต้องห้ามของกรรมการ กสทช. ว่า เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือ เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012019 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    19
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1001 มุมมอง 0 รีวิว
  • ByteDance ได้เปิดตัวระบบ AI ใหม่ชื่อ OmniHuman-1 ที่สามารถสร้างวิดีโอลวงตา (deepfake) ได้เหมือนจริงเกือบแยกไม่ออก โดยระบบนี้สามารถสร้างวิดีโอที่เหมือนจริงได้จากเพียงภาพถ่ายเดียวและคลิปเสียง ระบบยังสามารถปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น อัตราส่วนภาพและการจัดองค์ประกอบของร่างกายได้ ระบบ AI นี้ยังสามารถแก้ไขวิดีโอที่มีอยู่ เช่น การแก้ไขการเคลื่อนไหวของร่างกายและท่าทางได้อย่างแม่นยำ

    ระบบ OmniHuman-1 นี้ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลวิดีโอจำนวน 18,700 ชั่วโมง โดยใช้วิธีการที่เรียกว่า "omni-conditions" ที่ทำให้ AI สามารถเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลหลาย ๆ แหล่งพร้อมกัน เช่น ข้อความ เสียง และท่าทางของร่างกาย

    อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้มีข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้งานในทางที่ผิด เช่น การใช้เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท็จ การฉ้อโกง และการกระทำที่ไม่เหมาะสมอื่น ๆ ในช่วงปี 2024 มีหลายกรณีที่วิดีโอลวงตาถูกใช้เพื่อหลอกลวงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและการฉ้อโกงทางการเงิน เช่น กรณีของผู้หลอกลวงที่แสร้งเป็น Brad Pitt เพื่อหลอกลวงผู้หญิงคนหนึ่งและได้เงินไปถึง $850,000

    มีผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมของ AI จำนวนมากได้เรียกร้องให้มีการออกกฎระเบียบเกี่ยวกับวิดีโอลวงตา และบางรัฐในสหรัฐฯ ได้ออกกฎหมายห้ามการใช้งานวิดีโอลวงตาเพื่อกระทำการไม่เหมาะสม แต่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมอย่างครอบคลุมทั่วประเทศ

    ByteDance ยังไม่ได้เผยแพร่ระบบ OmniHuman-1 ให้กับสาธารณะ แต่สามารถอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับโมเดลนี้ได้ที่
    https://arxiv.org/abs/2502.01061v1

    https://www.techspot.com/news/106648-bytedance-unveils-deepfake-model-may-most-realistic.html
    ByteDance ได้เปิดตัวระบบ AI ใหม่ชื่อ OmniHuman-1 ที่สามารถสร้างวิดีโอลวงตา (deepfake) ได้เหมือนจริงเกือบแยกไม่ออก โดยระบบนี้สามารถสร้างวิดีโอที่เหมือนจริงได้จากเพียงภาพถ่ายเดียวและคลิปเสียง ระบบยังสามารถปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น อัตราส่วนภาพและการจัดองค์ประกอบของร่างกายได้ ระบบ AI นี้ยังสามารถแก้ไขวิดีโอที่มีอยู่ เช่น การแก้ไขการเคลื่อนไหวของร่างกายและท่าทางได้อย่างแม่นยำ ระบบ OmniHuman-1 นี้ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลวิดีโอจำนวน 18,700 ชั่วโมง โดยใช้วิธีการที่เรียกว่า "omni-conditions" ที่ทำให้ AI สามารถเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลหลาย ๆ แหล่งพร้อมกัน เช่น ข้อความ เสียง และท่าทางของร่างกาย อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้มีข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้งานในทางที่ผิด เช่น การใช้เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท็จ การฉ้อโกง และการกระทำที่ไม่เหมาะสมอื่น ๆ ในช่วงปี 2024 มีหลายกรณีที่วิดีโอลวงตาถูกใช้เพื่อหลอกลวงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและการฉ้อโกงทางการเงิน เช่น กรณีของผู้หลอกลวงที่แสร้งเป็น Brad Pitt เพื่อหลอกลวงผู้หญิงคนหนึ่งและได้เงินไปถึง $850,000 มีผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมของ AI จำนวนมากได้เรียกร้องให้มีการออกกฎระเบียบเกี่ยวกับวิดีโอลวงตา และบางรัฐในสหรัฐฯ ได้ออกกฎหมายห้ามการใช้งานวิดีโอลวงตาเพื่อกระทำการไม่เหมาะสม แต่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมอย่างครอบคลุมทั่วประเทศ ByteDance ยังไม่ได้เผยแพร่ระบบ OmniHuman-1 ให้กับสาธารณะ แต่สามารถอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับโมเดลนี้ได้ที่ https://arxiv.org/abs/2502.01061v1 https://www.techspot.com/news/106648-bytedance-unveils-deepfake-model-may-most-realistic.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    ByteDance's OmniHuman-1 may be the most realistic deepfake algorithm yet
    We may be well past the uncanny valley point right now. OmniHuman-1's fake videos look startlingly lifelike, and the model's deepfake outputs are perhaps the most realistic...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลารอรถเมล์ 2-3 แสน แพงสมฐานะยุคชัชชาติ

    กลายเป็นที่วิจารณ์สนั่นโซเชียลฯ เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยโฉมศาลาที่พักผู้โดยสารฯ โฉมใหม่ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ Type C2 ขนาด 2x3 เมตร 3 ที่นั่ง และ Type C3 ขนาด 2x6 เมตร 6 ที่นั่ง โดยในปีงบประมาณ 2566 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 30 หลัง ปีงบประมาณ 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 60 หลัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 หลัง และปีงบประมาณ 2568 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง 300 หลัง ทั่วกรุงเทพฯ

    ปรากฎว่ากลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะตามรายงานข่าวระบุว่า ศาลารอรถเมล์ Type C2 แบบ 3 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 230,000 บาทต่อหลัง และ Type C3 แบบ 6 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 320,000 บาทต่อหลัง ซึ่งพิจารณาจากวัสดุแล้วแพงกว่าบ้านน็อกดาวน์

    ไม่นับรวมเสียงสะท้อนจากผู้ใช้รถเมล์ว่า แม้จะดูดีทันสมัย แต่แทบใช้ประโยชน์หลบแดดหลบฝนไม่ได้เลย เพราะที่นั่งริมสุดและด้านหลังพอดีกับขอบหลังคา อีกทั้งทำหลังคาเชิดขึ้น แดดส่องถึง ฝนตกลงมาถึง แถมจำนวนที่นั่งน้อยเกินไป ส่วนที่นั่งที่ทำจากพลาสติก เกรงว่าจะไม่คงทนถาวรเมื่อเทียบกับที่นั่งสแตนเลสหรือปูน อีกทั้งบางจุดยังติดตั้งทับทางเดินสำหรับผู้พิการ บางจุดเช่น BTS กรุงธนบุรี เป็นมุมอับสายตามีต้นไม้บัง รถเมล์ไม่จอด

    ร้อนไปถึงนายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ชี้แจงว่า งบประมาณก่อสร้างครอบคลุมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค งานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก งานเชื่อมประกอบโครงสร้างเหล็ก งานหลังคาเมทัลชีท งานรางน้ำ งานม้านั่ง งานระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายใน และงานบรรจบไฟฟ้าสาธารณะกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น

    ยืนยันว่าราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเมื่อประกวดราคาอิเล็คทรอนิกส์ (e-bidding) ราคาจึงต่ำลงอีก นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่ม มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบังแดดบังฝนด้วยหลังคาขนาดใหญ่และแผ่นอะคริลิกใสด้านหลัง มีพื้นที่นั่งคอยเหมาะสม สวยงามกลมกลืน ไม่บดบังทัศนียภาพ ไม่สร้างจุดอับสายตา และประหยัดพื้นที่ทางเท้า ไม่กีดขวางทางเดินอีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกรายละเอียดค่าก่อสร้างจากเอกสารประกวดราคา พบว่าราคากลางบวกค่าแฟคเตอร์ (Factor) หนักไปทางงานโครงสร้างประมาณ 88,000-131,000 บาท โดยเฉพาะงานเสา งานโครงรับเก้าอี้ งานโครงรับแผ่นอลูมิเนียมและอครีลิคที่เชื่อมประกอบจากโรงงาน ประกอบกับงานไฟฟ้าแสงสว่างประมาณ 46,000-47,000 บาท ส่วนงานตกแต่ง สัญลักษณ์และป้ายข้อมูลประมาณ 39,000-48,000 บาทเศษ จึงเป็นที่กังขาว่าจะคุ้มค่ากับเงินภาษีประชาชนหรือไม่

    #Newskit
    ศาลารอรถเมล์ 2-3 แสน แพงสมฐานะยุคชัชชาติ กลายเป็นที่วิจารณ์สนั่นโซเชียลฯ เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยโฉมศาลาที่พักผู้โดยสารฯ โฉมใหม่ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ Type C2 ขนาด 2x3 เมตร 3 ที่นั่ง และ Type C3 ขนาด 2x6 เมตร 6 ที่นั่ง โดยในปีงบประมาณ 2566 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 30 หลัง ปีงบประมาณ 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 60 หลัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 หลัง และปีงบประมาณ 2568 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง 300 หลัง ทั่วกรุงเทพฯ ปรากฎว่ากลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะตามรายงานข่าวระบุว่า ศาลารอรถเมล์ Type C2 แบบ 3 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 230,000 บาทต่อหลัง และ Type C3 แบบ 6 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 320,000 บาทต่อหลัง ซึ่งพิจารณาจากวัสดุแล้วแพงกว่าบ้านน็อกดาวน์ ไม่นับรวมเสียงสะท้อนจากผู้ใช้รถเมล์ว่า แม้จะดูดีทันสมัย แต่แทบใช้ประโยชน์หลบแดดหลบฝนไม่ได้เลย เพราะที่นั่งริมสุดและด้านหลังพอดีกับขอบหลังคา อีกทั้งทำหลังคาเชิดขึ้น แดดส่องถึง ฝนตกลงมาถึง แถมจำนวนที่นั่งน้อยเกินไป ส่วนที่นั่งที่ทำจากพลาสติก เกรงว่าจะไม่คงทนถาวรเมื่อเทียบกับที่นั่งสแตนเลสหรือปูน อีกทั้งบางจุดยังติดตั้งทับทางเดินสำหรับผู้พิการ บางจุดเช่น BTS กรุงธนบุรี เป็นมุมอับสายตามีต้นไม้บัง รถเมล์ไม่จอด ร้อนไปถึงนายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ชี้แจงว่า งบประมาณก่อสร้างครอบคลุมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค งานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก งานเชื่อมประกอบโครงสร้างเหล็ก งานหลังคาเมทัลชีท งานรางน้ำ งานม้านั่ง งานระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายใน และงานบรรจบไฟฟ้าสาธารณะกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น ยืนยันว่าราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเมื่อประกวดราคาอิเล็คทรอนิกส์ (e-bidding) ราคาจึงต่ำลงอีก นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่ม มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบังแดดบังฝนด้วยหลังคาขนาดใหญ่และแผ่นอะคริลิกใสด้านหลัง มีพื้นที่นั่งคอยเหมาะสม สวยงามกลมกลืน ไม่บดบังทัศนียภาพ ไม่สร้างจุดอับสายตา และประหยัดพื้นที่ทางเท้า ไม่กีดขวางทางเดินอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกรายละเอียดค่าก่อสร้างจากเอกสารประกวดราคา พบว่าราคากลางบวกค่าแฟคเตอร์ (Factor) หนักไปทางงานโครงสร้างประมาณ 88,000-131,000 บาท โดยเฉพาะงานเสา งานโครงรับเก้าอี้ งานโครงรับแผ่นอลูมิเนียมและอครีลิคที่เชื่อมประกอบจากโรงงาน ประกอบกับงานไฟฟ้าแสงสว่างประมาณ 46,000-47,000 บาท ส่วนงานตกแต่ง สัญลักษณ์และป้ายข้อมูลประมาณ 39,000-48,000 บาทเศษ จึงเป็นที่กังขาว่าจะคุ้มค่ากับเงินภาษีประชาชนหรือไม่ #Newskit
    Like
    Haha
    Angry
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • แนวโน้มของการใช้คลาวด์เป็นหัวข้อที่ฮิตติดกระแสในวงการเทคโนโลยีมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าบริษัทหลายแห่งเริ่มมีการประเมินคุณค่าที่แท้จริงของคลาวด์ ทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยมีหลายบริษัทเริ่มเปลี่ยนกลับไปใช้ระบบภายในองค์กร (on-premise) หรือคลาวด์ส่วนตัว (private cloud)

    จากการสำรวจของ Rackspace ที่มีการสำรวจผู้บริหาร IT จำนวน 1,420 คน พบว่า 69% ของบริษัทได้ย้ายแอปพลิเคชันบางส่วนออกจากคลาวด์และกลับไปใช้ระบบในองค์กร เหตุผลหลัก ๆ ที่กล่าวถึงคือปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎหมาย 50% ระบุว่าเกี่ยวข้องกับการผนวกระบบเดิม 48% และเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย 44%

    David Linthicum ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาและอดีต CTO ของ Deloitte กล่าวว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการใช้คลาวด์ทำให้หลายบริษัทต้องหันกลับมาพิจารณา โดยบางบริษัทไม่ได้ปรับแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับการใช้งานบนคลาวด์ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

    Miha Kralj จาก IBM Consulting แนะนำว่าควรปรับเปลี่ยนแอปพลิเคชันให้รองรับความสามารถของคลาวด์ เช่น auto-scaling และ containerization ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

    ในทำนองเดียวกัน Timothy E. Bates อาจารย์จาก University of Michigan กล่าวว่า แม้คลาวด์จะมีความยืดหยุ่น แต่มีค่าใช้จ่ายสูง และควรหาสมดุลระหว่างการใช้คลาวด์และการใช้ระบบในองค์กร

    Richard Robbins ผู้ก่อตั้ง TheTechnologyVault.comชี้ให้เห็นว่าบริษัทที่ต้องการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลและมีข้อจำกัดด้านกฎหมายมีแนวโน้มที่จะใช้ระบบในองค์กรหรือระบบแบบไฮบริดมากขึ้น การใช้ระบบแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างคลาวด์และระบบในองค์กรกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากให้ความยืดหยุ่นและการควบคุมที่ดีกว่า

    สรุปแล้ว การใช้คลาวด์ยังคงมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ การใช้ระบบแบบไฮบริดและการปรับแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับคลาวด์สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายได้

    https://www.zdnet.com/article/why-some-companies-are-backing-away-from-the-public-cloud/
    แนวโน้มของการใช้คลาวด์เป็นหัวข้อที่ฮิตติดกระแสในวงการเทคโนโลยีมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าบริษัทหลายแห่งเริ่มมีการประเมินคุณค่าที่แท้จริงของคลาวด์ ทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยมีหลายบริษัทเริ่มเปลี่ยนกลับไปใช้ระบบภายในองค์กร (on-premise) หรือคลาวด์ส่วนตัว (private cloud) จากการสำรวจของ Rackspace ที่มีการสำรวจผู้บริหาร IT จำนวน 1,420 คน พบว่า 69% ของบริษัทได้ย้ายแอปพลิเคชันบางส่วนออกจากคลาวด์และกลับไปใช้ระบบในองค์กร เหตุผลหลัก ๆ ที่กล่าวถึงคือปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎหมาย 50% ระบุว่าเกี่ยวข้องกับการผนวกระบบเดิม 48% และเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย 44% David Linthicum ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาและอดีต CTO ของ Deloitte กล่าวว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการใช้คลาวด์ทำให้หลายบริษัทต้องหันกลับมาพิจารณา โดยบางบริษัทไม่ได้ปรับแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับการใช้งานบนคลาวด์ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น Miha Kralj จาก IBM Consulting แนะนำว่าควรปรับเปลี่ยนแอปพลิเคชันให้รองรับความสามารถของคลาวด์ เช่น auto-scaling และ containerization ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในทำนองเดียวกัน Timothy E. Bates อาจารย์จาก University of Michigan กล่าวว่า แม้คลาวด์จะมีความยืดหยุ่น แต่มีค่าใช้จ่ายสูง และควรหาสมดุลระหว่างการใช้คลาวด์และการใช้ระบบในองค์กร Richard Robbins ผู้ก่อตั้ง TheTechnologyVault.comชี้ให้เห็นว่าบริษัทที่ต้องการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลและมีข้อจำกัดด้านกฎหมายมีแนวโน้มที่จะใช้ระบบในองค์กรหรือระบบแบบไฮบริดมากขึ้น การใช้ระบบแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างคลาวด์และระบบในองค์กรกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากให้ความยืดหยุ่นและการควบคุมที่ดีกว่า สรุปแล้ว การใช้คลาวด์ยังคงมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ การใช้ระบบแบบไฮบริดและการปรับแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับคลาวด์สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายได้ https://www.zdnet.com/article/why-some-companies-are-backing-away-from-the-public-cloud/
    WWW.ZDNET.COM
    Why some companies are backing away from the public cloud
    Many business leaders are taking a clear-eyed view of the cloud's benefits and drawbacks. Technical debt may be at the root of many repatriation decisions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇮🇹 เตาอบไฟฟ้า 60-70 ลิตร ราคาไม่แรง ยี่ห้อไหนดี 🥐
    .
    ▫️ เตาอบไฟฟ้าขนาด 60-70 ลิตรที่มีราคาย่อมเยามีหลากหลายยี่ห้อที่น่าสนใจ เช่น Otto, House Worth, และ Sharp ซึ่งมักมาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครันสำหรับการอบขนมและอาหารหลากหลายชนิด
    .
    ▫️ ยี่ห้อ Otto มักจะได้รับคำชมในเรื่องของความทนทานและการใช้งานที่ง่าย ขณะที่ House Worth โดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน Sharp มีชื่อเสียงในด้านการกระจายความร้อนที่สม่ำเสมอ
    .
    ▫️ แต่ละยี่ห้อมีข้อดีที่แตกต่างกัน คุณคิดว่าเตาอบยี่ห้อไหนเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ? เม้นบอกเราหน่อยจร้า
    .
    พิกัด Otto 📌 https://s.shopee.co.th/704P0XbX9c
    .
    พิกัด House Worth 📌 https://s.shopee.co.th/AA1QmRAG9v
    .
    พิกัด Sharp 📌 https://s.shopee.co.th/7KhAF1b7HN
    .
    ______________________
    #เตาอบไฟฟ้า
    #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร70ลิตร100ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี
    #เตาอบไฟฟ้า20ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้า100ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้า70ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้าขนาดใหญ่
    #เตาอบไฟฟ้าelectrolux
    #เตาอบไฟฟ้าpantip
    #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี2564pantip
    #เตาอบไฟฟ้า60ลิตรยี่ห้อไหนดี
    #เตาอบไฟฟ้าotto
    #เตาอบไฟฟ้าsharp
    #เตาอบไฟฟ้าแม็คโคร
    #เตาอบไฟฟ้า70ลิตรยี่ห้อไหนดี
    #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี2564
    #เตาอบไฟฟ้า
    #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร
    🇮🇹 เตาอบไฟฟ้า 60-70 ลิตร ราคาไม่แรง ยี่ห้อไหนดี 🥐 . ▫️ เตาอบไฟฟ้าขนาด 60-70 ลิตรที่มีราคาย่อมเยามีหลากหลายยี่ห้อที่น่าสนใจ เช่น Otto, House Worth, และ Sharp ซึ่งมักมาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครันสำหรับการอบขนมและอาหารหลากหลายชนิด . ▫️ ยี่ห้อ Otto มักจะได้รับคำชมในเรื่องของความทนทานและการใช้งานที่ง่าย ขณะที่ House Worth โดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน Sharp มีชื่อเสียงในด้านการกระจายความร้อนที่สม่ำเสมอ . ▫️ แต่ละยี่ห้อมีข้อดีที่แตกต่างกัน คุณคิดว่าเตาอบยี่ห้อไหนเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ? เม้นบอกเราหน่อยจร้า . พิกัด Otto 📌 https://s.shopee.co.th/704P0XbX9c . พิกัด House Worth 📌 https://s.shopee.co.th/AA1QmRAG9v . พิกัด Sharp 📌 https://s.shopee.co.th/7KhAF1b7HN . ______________________ #เตาอบไฟฟ้า #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร70ลิตร100ลิตร #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี #เตาอบไฟฟ้า20ลิตร #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร #เตาอบไฟฟ้า100ลิตร #เตาอบไฟฟ้า70ลิตร #เตาอบไฟฟ้าขนาดใหญ่ #เตาอบไฟฟ้าelectrolux #เตาอบไฟฟ้าpantip #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี2564pantip #เตาอบไฟฟ้า60ลิตรยี่ห้อไหนดี #เตาอบไฟฟ้าotto #เตาอบไฟฟ้าsharp #เตาอบไฟฟ้าแม็คโคร #เตาอบไฟฟ้า70ลิตรยี่ห้อไหนดี #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี2564 #เตาอบไฟฟ้า #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • 🍗อยากอบไก่ได้ทั้งตัว ควรใช้เตาอบไฟฟ้า ที่ความจุขนาดเท่าไร 🍕
    .
    🔸การเลือกเตาอบไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับการอบไก่ทั้งตัวเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกเตาที่มีความจุอย่างน้อย 30 ลิตรเพื่อให้ไก่สุกทั่วถึง โดยเตาขนาดกลาง 20-30 ลิตรก็พอเพียงสำหรับการอบไก่ในปริมาณน้อย
    .
    🔸ขณะที่เตาขนาดใหญ่กว่า 40 ลิตรเหมาะสำหรับการอบปริมาณมากหรือจัดงานเลี้ยง
    .
    🔸คุณมีความคิดเห็นหรือเทคนิคอะไรในการอบไก่ให้มีรสชาติอร่อยและสุกทั่วถึงไหม?
    .
    พิกัด เตาอบไฟฟ้า ลด 65% 📌 https://s.shopee.co.th/LY6xq3AGD
    .
    ______________________
    #เตาอบไฟฟ้า
    #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร70ลิตร100ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี
    #เตาอบไฟฟ้า20ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้า100ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้า70ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้าขนาดใหญ่
    #เตาอบไฟฟ้าelectrolux
    #เตาอบไฟฟ้าpantip
    🍗อยากอบไก่ได้ทั้งตัว ควรใช้เตาอบไฟฟ้า ที่ความจุขนาดเท่าไร 🍕 . 🔸การเลือกเตาอบไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับการอบไก่ทั้งตัวเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกเตาที่มีความจุอย่างน้อย 30 ลิตรเพื่อให้ไก่สุกทั่วถึง โดยเตาขนาดกลาง 20-30 ลิตรก็พอเพียงสำหรับการอบไก่ในปริมาณน้อย . 🔸ขณะที่เตาขนาดใหญ่กว่า 40 ลิตรเหมาะสำหรับการอบปริมาณมากหรือจัดงานเลี้ยง . 🔸คุณมีความคิดเห็นหรือเทคนิคอะไรในการอบไก่ให้มีรสชาติอร่อยและสุกทั่วถึงไหม? . พิกัด เตาอบไฟฟ้า ลด 65% 📌 https://s.shopee.co.th/LY6xq3AGD . ______________________ #เตาอบไฟฟ้า #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร70ลิตร100ลิตร #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี #เตาอบไฟฟ้า20ลิตร #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร #เตาอบไฟฟ้า100ลิตร #เตาอบไฟฟ้า70ลิตร #เตาอบไฟฟ้าขนาดใหญ่ #เตาอบไฟฟ้าelectrolux #เตาอบไฟฟ้าpantip
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • เตาอบเค้กรุ่นไหน ใช้ขนาดเท่าไหร่ ซื้อทีเดียวให้คุ้มไปเลย
    สำหรับการเลือกเตาอบไฟฟ้าสำหรับทำเค้ก ผมขอแนะนำดังนี้: 🎂🧁
    .
    ขนาดที่เหมาะสม: 60 ลิตร เพราะ: 📏
    - ทำเค้กได้หลายชั้นพร้อมกัน
    - เหมาะสำหรับทำขนมเพื่อขาย
    - มีพื้นที่พอสำหรับถาดหลายใบ
    .
    แนะนำ 3 ยี่ห้อคุณภาพดี: ⭐️
    .
    1. OTTO รุ่น TO-886 🔥
    - ควบคุมอุณหภูมิแม่นยำ
    - มีพัดลมกระจายความร้อน
    - รับประกัน 1 ปี
    - ราคาประมาณ 5,900 บาท
    .
    2. MEX รุ่น EO60SS ✨
    - ตัวเครื่องสแตนเลส คงทน
    - มีไฟส่องสว่างด้านใน
    - ฟังก์ชั่นครบครัน
    - ราคาประมาณ 6,500 บาท
    .
    3. GALAXY รุ่น EO-60SS 🌟
    - ประหยัดไฟ
    - อุ่นร้อนเร็ว
    - ใช้งานง่าย
    - ราคาประมาณ 5,500 บาท
    .
    "เพื่อนๆ คิดว่าการลงทุนซื้อเตาอบไฟฟ้าขนาด 60 ลิตรในราคา 5,000-7,000 บาท คุ้มค่าไหมคะ? แล้วใครเคยใช้ยี่ห้อไหนมาบ้าง บอกข้อดีข้อเสียหน่อยค่ะ อยากรู้จังเลยว่าแต่ละคนมีเทคนิคเลือกเตาอบยังไง? 🤔✨🎂👩‍🍳💕
    .
    พิกัด Otto ลด 40%📌 https://s.shopee.co.th/LY6xTuS5o
    .
    __________________
    #เตาอบไฟฟ้า
    #รีวิวเตาอบ
    #ทำขนมขาย
    #สูตรเบเกอรี่
    #ขนมอบสดใหม่
    #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร70ลิตร100ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี
    #เตาอบไฟฟ้า20ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้า100ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้า70ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้าขนาดใหญ่
    #เตาอบไฟฟ้าelectrolux
    #เตาอบไฟฟ้าpantip
    #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี2564pantip
    #เตาอบไฟฟ้า60ลิตรยี่ห้อไหนดี
    #เตาอบไฟฟ้าotto
    #เตาอบไฟฟ้าsharp
    #เตาอบไฟฟ้าแม็คโคร
    #เตาอบไฟฟ้า70ลิตรยี่ห้อไหนดี
    #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี2564
    #เตาอบไฟฟ้า
    #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้า100ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้า70ลิตร
    #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี2563pantip
    #เตาอบไฟฟ้า70ลิตร
    เตาอบเค้กรุ่นไหน ใช้ขนาดเท่าไหร่ ซื้อทีเดียวให้คุ้มไปเลย สำหรับการเลือกเตาอบไฟฟ้าสำหรับทำเค้ก ผมขอแนะนำดังนี้: 🎂🧁 . ขนาดที่เหมาะสม: 60 ลิตร เพราะ: 📏 - ทำเค้กได้หลายชั้นพร้อมกัน - เหมาะสำหรับทำขนมเพื่อขาย - มีพื้นที่พอสำหรับถาดหลายใบ . แนะนำ 3 ยี่ห้อคุณภาพดี: ⭐️ . 1. OTTO รุ่น TO-886 🔥 - ควบคุมอุณหภูมิแม่นยำ - มีพัดลมกระจายความร้อน - รับประกัน 1 ปี - ราคาประมาณ 5,900 บาท . 2. MEX รุ่น EO60SS ✨ - ตัวเครื่องสแตนเลส คงทน - มีไฟส่องสว่างด้านใน - ฟังก์ชั่นครบครัน - ราคาประมาณ 6,500 บาท . 3. GALAXY รุ่น EO-60SS 🌟 - ประหยัดไฟ - อุ่นร้อนเร็ว - ใช้งานง่าย - ราคาประมาณ 5,500 บาท . "เพื่อนๆ คิดว่าการลงทุนซื้อเตาอบไฟฟ้าขนาด 60 ลิตรในราคา 5,000-7,000 บาท คุ้มค่าไหมคะ? แล้วใครเคยใช้ยี่ห้อไหนมาบ้าง บอกข้อดีข้อเสียหน่อยค่ะ อยากรู้จังเลยว่าแต่ละคนมีเทคนิคเลือกเตาอบยังไง? 🤔✨🎂👩‍🍳💕 . พิกัด Otto ลด 40%📌 https://s.shopee.co.th/LY6xTuS5o . __________________ #เตาอบไฟฟ้า #รีวิวเตาอบ #ทำขนมขาย #สูตรเบเกอรี่ #ขนมอบสดใหม่ #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร70ลิตร100ลิตร #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี #เตาอบไฟฟ้า20ลิตร #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร #เตาอบไฟฟ้า100ลิตร #เตาอบไฟฟ้า70ลิตร #เตาอบไฟฟ้าขนาดใหญ่ #เตาอบไฟฟ้าelectrolux #เตาอบไฟฟ้าpantip #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี2564pantip #เตาอบไฟฟ้า60ลิตรยี่ห้อไหนดี #เตาอบไฟฟ้าotto #เตาอบไฟฟ้าsharp #เตาอบไฟฟ้าแม็คโคร #เตาอบไฟฟ้า70ลิตรยี่ห้อไหนดี #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี2564 #เตาอบไฟฟ้า #เตาอบไฟฟ้า60ลิตร #เตาอบไฟฟ้า100ลิตร #เตาอบไฟฟ้า70ลิตร #เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี2563pantip #เตาอบไฟฟ้า70ลิตร
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • 🏝️แนะนำวัสดุในการทำชั้นวางต้นไม้ยื่นออกไปนอกระเบียง
    .
    🔸วัสดุที่เหมาะสมสำหรับการทำชั้นวางต้นไม้ยื่นออกไปนอกระเบียงควรมีความทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น ไม้สักที่ผ่านการเคลือบน้ำยากันน้ำ หรือเหล็กที่เคลือบกันสนิม เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานและคงทน
    .
    🔸นอกจากนี้ การใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างอลูมิเนียมจะช่วยให้การติดตั้งง่ายขึ้น และสามารถรองรับน้ำหนักของต้นไม้ได้ดี การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจะช่วยให้ระเบียงของคุณดูสวยงามและปลอดภัย
    .
    🔸คุณคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับวัสดุที่กล่าวมานี้ หรือมีวัสดุอื่นที่คุณแนะนำเพิ่มเติมไหม?
    .
    พิกัด ชั้นวางต้นไม้ระเบียง📌 https://s.shopee.co.th/6fSANr2JSI
    .
    -----------------------------------------
    #ชั้นวางต้นไม้
    #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก
    #ชั้นวางต้นไม้นอกบ้านแบบไหนดี
    #ชั้นวางต้นไม้กลางแจ้ง
    #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก
    #ชั้นวางต้นไม้นอกบ้าน
    #ชั้นวางต้นไม้ขั้นบันได
    #ชั้นวางต้นไม้ในสวน
    #ชั้นวางต้นไม้ไทวัสดุ
    #ชั้นวางต้นไม้อิฐบล็อก
    #ชั้นวางต้นไม้diy
    #ชั้นวางต้นไม้ประหยัดพื้นที่
    #ชั้นวางต้นไม้ทําเอง
    #ชั้นวางต้นไม้ikea
    #ชั้นวางต้นไม้homepro
    #ชั้นวางต้นไม้pvc
    #ชั้นวางต้นไม้กลางแจ้ง
    #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก
    #ชั้นวางต้นไม้ติดผนัง
    #แบบชั้นวางต้นไม้
    #ชั้นวางต้นไม้ขั้นบันได
    #ชั้นวางต้นไม้กลางแจ้งทําเอง
    🏝️แนะนำวัสดุในการทำชั้นวางต้นไม้ยื่นออกไปนอกระเบียง . 🔸วัสดุที่เหมาะสมสำหรับการทำชั้นวางต้นไม้ยื่นออกไปนอกระเบียงควรมีความทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น ไม้สักที่ผ่านการเคลือบน้ำยากันน้ำ หรือเหล็กที่เคลือบกันสนิม เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานและคงทน . 🔸นอกจากนี้ การใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างอลูมิเนียมจะช่วยให้การติดตั้งง่ายขึ้น และสามารถรองรับน้ำหนักของต้นไม้ได้ดี การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจะช่วยให้ระเบียงของคุณดูสวยงามและปลอดภัย . 🔸คุณคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับวัสดุที่กล่าวมานี้ หรือมีวัสดุอื่นที่คุณแนะนำเพิ่มเติมไหม? . พิกัด ชั้นวางต้นไม้ระเบียง📌 https://s.shopee.co.th/6fSANr2JSI . ----------------------------------------- #ชั้นวางต้นไม้ #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก #ชั้นวางต้นไม้นอกบ้านแบบไหนดี #ชั้นวางต้นไม้กลางแจ้ง #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก #ชั้นวางต้นไม้นอกบ้าน #ชั้นวางต้นไม้ขั้นบันได #ชั้นวางต้นไม้ในสวน #ชั้นวางต้นไม้ไทวัสดุ #ชั้นวางต้นไม้อิฐบล็อก #ชั้นวางต้นไม้diy #ชั้นวางต้นไม้ประหยัดพื้นที่ #ชั้นวางต้นไม้ทําเอง #ชั้นวางต้นไม้ikea #ชั้นวางต้นไม้homepro #ชั้นวางต้นไม้pvc #ชั้นวางต้นไม้กลางแจ้ง #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก #ชั้นวางต้นไม้ติดผนัง #แบบชั้นวางต้นไม้ #ชั้นวางต้นไม้ขั้นบันได #ชั้นวางต้นไม้กลางแจ้งทําเอง
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • Canon อาจจะกลับเข้าสู่ตลาดกล้องคอมแพคอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Powershot V1 ซึ่งเป็นการอัปเกรดจากรุ่น Powershot G7 X III ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2019. Canon คาดว่าจะประกาศเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่นี้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมปีนี้ โดยมีราคาประมาณ $600-800

    กล้อง Powershot V1 คาดว่าจะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 24MP ที่มีขนาดใกล้เคียงกับ Micro Four Thirds และเลนส์ซูมออปติคอล 3 เท่า (ประมาณ 16-50 มม.) นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอ 4K พร้อมกับโปรไฟล์สี Canon's C-Log3 และ HDR PQ หน้าจอของกล้องคาดว่าจะมีขนาด 3 นิ้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นหน้าจอแบบคงที่, เอียงได้ หรือแบบ vari-angle

    การกลับมาของกล้องคอมแพคในตลาดนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากสมาร์ทโฟนได้เข้ามาแทนที่ตลาดนี้ไปนานแล้ว. อย่างไรก็ตาม กล้องคอมแพคยังคงมีคุณภาพที่ดีและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม

    นอกจากนี้ Canon ยังได้เปิดตัวกล้อง Powershot V10 สำหรับการถ่ายวิดีโอในปี 2023 และแสดงแนวคิดกล้อง Powershot ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพ 360 องศาและ VR การเปิดตัว Powershot V1 จะเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับกล้องคอมแพคของ Canon และคาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ใช้

    การกลับมาของกล้องคอมแพคในตลาดนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากสมาร์ทโฟนได้เข้ามาแทนที่ตลาดนี้ไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม กล้องคอมแพคยังคงมีคุณภาพที่ดีและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม

    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/canon-compact-cameras-tipped-for-a-big-return-with-rumored-powershot-v1-and-i-think-thats-canons-most-exciting-play-for-2025
    Canon อาจจะกลับเข้าสู่ตลาดกล้องคอมแพคอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Powershot V1 ซึ่งเป็นการอัปเกรดจากรุ่น Powershot G7 X III ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2019. Canon คาดว่าจะประกาศเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่นี้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมปีนี้ โดยมีราคาประมาณ $600-800 กล้อง Powershot V1 คาดว่าจะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 24MP ที่มีขนาดใกล้เคียงกับ Micro Four Thirds และเลนส์ซูมออปติคอล 3 เท่า (ประมาณ 16-50 มม.) นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอ 4K พร้อมกับโปรไฟล์สี Canon's C-Log3 และ HDR PQ หน้าจอของกล้องคาดว่าจะมีขนาด 3 นิ้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นหน้าจอแบบคงที่, เอียงได้ หรือแบบ vari-angle การกลับมาของกล้องคอมแพคในตลาดนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากสมาร์ทโฟนได้เข้ามาแทนที่ตลาดนี้ไปนานแล้ว. อย่างไรก็ตาม กล้องคอมแพคยังคงมีคุณภาพที่ดีและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ Canon ยังได้เปิดตัวกล้อง Powershot V10 สำหรับการถ่ายวิดีโอในปี 2023 และแสดงแนวคิดกล้อง Powershot ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพ 360 องศาและ VR การเปิดตัว Powershot V1 จะเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับกล้องคอมแพคของ Canon และคาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ใช้ การกลับมาของกล้องคอมแพคในตลาดนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากสมาร์ทโฟนได้เข้ามาแทนที่ตลาดนี้ไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม กล้องคอมแพคยังคงมีคุณภาพที่ดีและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/canon-compact-cameras-tipped-for-a-big-return-with-rumored-powershot-v1-and-i-think-thats-canons-most-exciting-play-for-2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสร้างวัสดุนาโนที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงกว่าที่เคยมีมา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตรอนโตได้ใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อสร้างวัสดุนาโนที่มีความแข็งแรงเทียบเท่ากับเหล็กกล้าคาร์บอน แต่มีน้ำหนักเบาเหมือนโฟมสไตโรโฟม การพัฒนานี้สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่ยานยนต์ไปจนถึงอวกาศ

    ทีมวิจัยนำโดยศาสตราจารย์ Tobin Filleter ได้สร้างวัสดุนาโนที่มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และสามารถปรับแต่งได้ วัสดุเหล่านี้ประกอบด้วยหน่วยย่อยขนาดเล็กเพียงไม่กี่ร้อยนาโนเมตร ซึ่งเล็กมากจนกว่า 100 หน่วยจะเรียงกันได้เพียงความหนาของเส้นผมมนุษย์

    นักวิจัยใช้การเพิ่มประสิทธิภาพแบบเบย์เซียน (Bayesian) หลายวัตถุประสงค์เพื่อทำนายรูปทรงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการกระจายความเครียดและปรับปรุงอัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักของการออกแบบนาโน อัลกอริทึมนี้ต้องการข้อมูลเพียง 400 จุดเท่านั้น ในขณะที่อัลกอริทึมอื่นๆ อาจต้องการมากกว่า 20,000 จุด ทำให้นักวิจัยสามารถทำงานกับชุดข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและขนาดเล็กได้

    ทีมวิจัยได้สร้างต้นแบบวัสดุนาโนคาร์บอนที่ได้รับการปรับแต่งโดยใช้เครื่องพิมพ์ 3D แบบโพลิเมอไรเซชันสองโฟตอน วัสดุนาโนที่ได้รับการปรับแต่งนี้มีความแข็งแรงมากกว่าการออกแบบที่มีอยู่ถึงสองเท่า โดยสามารถทนต่อความเครียดได้ 2.03 เมกะปาสคาลต่อหนึ่งลูกบาศก์เมตรต่อกิโลกรัมของความหนาแน่น ซึ่งแข็งแรงกว่าที่ไทเทเนียมถึงห้าเท่า

    ศาสตราจารย์ Filleter มองเห็นการใช้งานที่เป็นไปได้ในอุตสาหกรรมอวกาศ เช่น การสร้างชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเบามากสำหรับเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และยานอวกาศ นักวิจัยคาดว่าการแทนที่ชิ้นส่วนไทเทเนียมบนเครื่องบินด้วยวัสดุใหม่นี้สามารถประหยัดน้ำมันได้ 80 ลิตรต่อปีสำหรับทุกกิโลกรัมของวัสดุที่ถูกแทนที่

    การวิจัยนี้เป็นการรวมเอาวิทยาศาสตร์วัสดุ การเรียนรู้ของเครื่อง เคมี และกลศาสตร์เข้าด้วยกัน โดยมีการร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศจากสถาบันเทคโนโลยีคาร์ลสรูเฮในเยอรมนี MIT และมหาวิทยาลัยไรซ์ ขั้นตอนต่อไปคือการปรับปรุงการขยายขนาดของการออกแบบวัสดุเหล่านี้ และสำรวจเมทริกซ์ใหม่ๆ ที่สามารถลดความหนาแน่นของวัสดุในขณะที่ยังคงความแข็งแรงและความแข็งแกร่งสูง

    https://www.techspot.com/news/106610-researchers-used-ai-build-groundbreaking-nanomaterials-lighter-stronger.html
    มีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสร้างวัสดุนาโนที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงกว่าที่เคยมีมา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตรอนโตได้ใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อสร้างวัสดุนาโนที่มีความแข็งแรงเทียบเท่ากับเหล็กกล้าคาร์บอน แต่มีน้ำหนักเบาเหมือนโฟมสไตโรโฟม การพัฒนานี้สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่ยานยนต์ไปจนถึงอวกาศ ทีมวิจัยนำโดยศาสตราจารย์ Tobin Filleter ได้สร้างวัสดุนาโนที่มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และสามารถปรับแต่งได้ วัสดุเหล่านี้ประกอบด้วยหน่วยย่อยขนาดเล็กเพียงไม่กี่ร้อยนาโนเมตร ซึ่งเล็กมากจนกว่า 100 หน่วยจะเรียงกันได้เพียงความหนาของเส้นผมมนุษย์ นักวิจัยใช้การเพิ่มประสิทธิภาพแบบเบย์เซียน (Bayesian) หลายวัตถุประสงค์เพื่อทำนายรูปทรงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการกระจายความเครียดและปรับปรุงอัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักของการออกแบบนาโน อัลกอริทึมนี้ต้องการข้อมูลเพียง 400 จุดเท่านั้น ในขณะที่อัลกอริทึมอื่นๆ อาจต้องการมากกว่า 20,000 จุด ทำให้นักวิจัยสามารถทำงานกับชุดข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและขนาดเล็กได้ ทีมวิจัยได้สร้างต้นแบบวัสดุนาโนคาร์บอนที่ได้รับการปรับแต่งโดยใช้เครื่องพิมพ์ 3D แบบโพลิเมอไรเซชันสองโฟตอน วัสดุนาโนที่ได้รับการปรับแต่งนี้มีความแข็งแรงมากกว่าการออกแบบที่มีอยู่ถึงสองเท่า โดยสามารถทนต่อความเครียดได้ 2.03 เมกะปาสคาลต่อหนึ่งลูกบาศก์เมตรต่อกิโลกรัมของความหนาแน่น ซึ่งแข็งแรงกว่าที่ไทเทเนียมถึงห้าเท่า ศาสตราจารย์ Filleter มองเห็นการใช้งานที่เป็นไปได้ในอุตสาหกรรมอวกาศ เช่น การสร้างชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเบามากสำหรับเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และยานอวกาศ นักวิจัยคาดว่าการแทนที่ชิ้นส่วนไทเทเนียมบนเครื่องบินด้วยวัสดุใหม่นี้สามารถประหยัดน้ำมันได้ 80 ลิตรต่อปีสำหรับทุกกิโลกรัมของวัสดุที่ถูกแทนที่ การวิจัยนี้เป็นการรวมเอาวิทยาศาสตร์วัสดุ การเรียนรู้ของเครื่อง เคมี และกลศาสตร์เข้าด้วยกัน โดยมีการร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศจากสถาบันเทคโนโลยีคาร์ลสรูเฮในเยอรมนี MIT และมหาวิทยาลัยไรซ์ ขั้นตอนต่อไปคือการปรับปรุงการขยายขนาดของการออกแบบวัสดุเหล่านี้ และสำรวจเมทริกซ์ใหม่ๆ ที่สามารถลดความหนาแน่นของวัสดุในขณะที่ยังคงความแข็งแรงและความแข็งแกร่งสูง https://www.techspot.com/news/106610-researchers-used-ai-build-groundbreaking-nanomaterials-lighter-stronger.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Researchers used AI to build groundbreaking nanomaterials lighter and stronger than titanium
    The research team, led by Professor Tobin Filleter, has engineered nanomaterials that offer unprecedented strength, weight, and customizability. These materials are composed of tiny building blocks, or...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • Grayscale Investments ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตที่มีชื่อเสียง เปิดตัวกองทุนที่เน้นการลงทุนใน Dogecoin กองทุนนี้มีชื่อว่า Grayscale Dogecoin Trust และมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึง Dogecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น

    Dogecoin เริ่มต้นจากการเป็น "memecoin" หรือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนที่ไม่ได้รับการบริการจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ Rayhaneh Sharif-Askary หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และการวิจัยของ Grayscale กล่าวว่า Dogecoin ช่วยให้กลุ่มคนที่ไม่ได้รับการบริการจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้

    กองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาตลาดของ Dogecoin และเปิดให้สมัครสมาชิกสำหรับนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งบุคคลและสถาบัน. Dogecoin ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการสนับสนุนจาก Elon Musk CEO ของ Tesla และบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

    นอกจากนี้ Dogecoin ยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    การเปิดตัวกองทุนนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการหาผลตอบแทนจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/01/grayscale-launches-dogecoin-focused-fund-as-altcoin-adoption-picks-up-pace
    Grayscale Investments ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตที่มีชื่อเสียง เปิดตัวกองทุนที่เน้นการลงทุนใน Dogecoin กองทุนนี้มีชื่อว่า Grayscale Dogecoin Trust และมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึง Dogecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น Dogecoin เริ่มต้นจากการเป็น "memecoin" หรือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนที่ไม่ได้รับการบริการจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ Rayhaneh Sharif-Askary หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และการวิจัยของ Grayscale กล่าวว่า Dogecoin ช่วยให้กลุ่มคนที่ไม่ได้รับการบริการจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ กองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาตลาดของ Dogecoin และเปิดให้สมัครสมาชิกสำหรับนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งบุคคลและสถาบัน. Dogecoin ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการสนับสนุนจาก Elon Musk CEO ของ Tesla และบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ Dogecoin ยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การเปิดตัวกองทุนนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการหาผลตอบแทนจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/01/grayscale-launches-dogecoin-focused-fund-as-altcoin-adoption-picks-up-pace
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Grayscale launches dogecoin-focused fund as altcoin adoption picks up pace
    (Reuters) - Grayscale Investments said on Friday it was launching an investment fund aimed at dogecoin, as the cryptocurrency asset manager looks to tap into the increasing momentum around alternatives to bitcoin.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้แนะนำให้เลือกซื้อ Samsung Galaxy S25 รุ่นมาตรฐานแทนรุ่น Plus และ Ultra ในปีนี้ เนื่องจากมีการอัปเกรดฮาร์ดแวร์ที่จำกัด แต่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีในราคาที่เหมาะสม

    Samsung Galaxy S25 มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ซึ่งแม้จะไม่คมชัดเท่ารุ่น Plus และ Ultra แต่ยังคงให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าพอใจ นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 4,000mAh และชิป Snapdragon 8 Elite ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่

    กล้องของ Galaxy S25 ยังคงมีปัญหาเรื่องการถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็ว แต่มีการปรับปรุงในเรื่องของการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยและการแสดงผลสีผิวมนุษย์ที่แม่นยำขึ้น

    ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจใน Galaxy S25 ได้แก่ AI Select ที่ช่วยแนะนำการดำเนินการบนอุปกรณ์ตามข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอ และ Now Brief ที่รวมข้อมูลสำคัญไว้ในที่เดียว เช่น การอัปเดตสภาพอากาศและการแนะนำเพลงจาก Spotify

    โดยรวมแล้ว Samsung Galaxy S25 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนขนาดกะทัดรัดที่มีประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่ทันสมัยในราคาที่เหมาะสม

    https://www.zdnet.com/article/why-im-recommending-the-standard-galaxy-s25-over-the-plus-and-ultra-this-year/
    บทความนี้แนะนำให้เลือกซื้อ Samsung Galaxy S25 รุ่นมาตรฐานแทนรุ่น Plus และ Ultra ในปีนี้ เนื่องจากมีการอัปเกรดฮาร์ดแวร์ที่จำกัด แต่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีในราคาที่เหมาะสม Samsung Galaxy S25 มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ซึ่งแม้จะไม่คมชัดเท่ารุ่น Plus และ Ultra แต่ยังคงให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าพอใจ นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 4,000mAh และชิป Snapdragon 8 Elite ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ กล้องของ Galaxy S25 ยังคงมีปัญหาเรื่องการถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็ว แต่มีการปรับปรุงในเรื่องของการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยและการแสดงผลสีผิวมนุษย์ที่แม่นยำขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจใน Galaxy S25 ได้แก่ AI Select ที่ช่วยแนะนำการดำเนินการบนอุปกรณ์ตามข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอ และ Now Brief ที่รวมข้อมูลสำคัญไว้ในที่เดียว เช่น การอัปเดตสภาพอากาศและการแนะนำเพลงจาก Spotify โดยรวมแล้ว Samsung Galaxy S25 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนขนาดกะทัดรัดที่มีประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่ทันสมัยในราคาที่เหมาะสม https://www.zdnet.com/article/why-im-recommending-the-standard-galaxy-s25-over-the-plus-and-ultra-this-year/
    WWW.ZDNET.COM
    Why I'm recommending the standard Galaxy S25 over the Plus and Ultra this year
    The Samsung Galaxy S25 is an incremental upgrade over the Galaxy S24, but it still deserves a spot in your pocket for these reasons.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ขู่ดำเนินการกับปานามา หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อลดอิทธิพลของจีนเหนือคลองปานามา อย่างไรก็ตาม ผู้นำของประเทศแห่งนี้ยืนกรานว่าเขาไม่กลัวอเมริกาจะใช้กำลังเข้ายึด และเสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าพูดคุยเจรจากัน
    .
    รูบิโอ ซึ่งเดินทางเยือนต่างแดนเป็นครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับปานามา ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สรุปแล้วว่าประเทศแห่งนี้ละเมิดเงื่อนไขในสนธิสัญญา เกี่ยวกับการส่งมอบน่านน้ำสำคัญนี้คืนแก่ปานามาในปี 1999
    .
    เขาชี้ถึงกรณีที่จีนมีอิทธิพลและควบคุมคลองปานามา ทางน้ำสำคัญที่เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นเส้นทางการสัญจรผ่านของตู้สินค้าสหรัฐฯ ราว 40%
    .
    แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มาลิโน ทางรูบิโอ "พูดอย่างชัดเจนว่าสถานภาพปัจจุบันเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใด มันจะจำเป็นที่สหรัฐฯ ต้องใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิของตนเองภายใต้สนธิสัญญา"
    .
    อย่างไรก็ตาม รูบิโอ ให้ภาพการประชุมเลวร้ายน้อยกว่าทางสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้เขาให้การตอบรับ รูบิโอ เขาสู่ทำเนียบประธานาธิบดี ด้วยทหารกองเกียรติยศ
    .
    "ณ เวลานี้ ผมไม่รู้ถึงภัยคุกคามที่เป็นจริงเป็นจังใดๆ ที่มีต่อสนธิสัญญา มันยังอยู่ดี และรู้สึกกังวลน้อยกว่ามากเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารเข้ายึดคลอง" มูลิโน บอกกับผู้สื่อข่าวหลังการพบปะหารือ อ้างถึงสนธิสัญญาส่งมอบคลองในช่วงปลายปี 1999 "อธิปไตยเหนือคลองแห่งนี้ ไม่อยู่ในข้อสงสัยใดๆ" เขากล่าว พร้อมเสนอเจรจาระดับเทคนิคกับสหรัฐฯ เพื่อปัดเป่าความกังวล
    .
    รูบิโอ ไม่ได้บอกว่าสหรัฐฯ จะใช้มาตรการใด แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ทรัมป์ เพิ่งกำหนดมาตรการรีดภาษีสูงลิ่วเล่นงาน 3 คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอเมริกา ได้แก่ แคนาดา จีน และเม็กซิโก
    .
    ทั้ง รูบิโอ และ ทรัมป์ ต่างกล่าวหา จีน มีอิทธิพลอย่างมากเหนือโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบคลอง ที่อาจดำเนินการปิดมันในกรณีที่เกิดความขัดแย้งใดๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบหายนะสำหรับสหรัฐฯ
    .
    มีการประท้วงกลุ่มเล็กๆ แต่เป็นไปอย่างดุเดือดในปานามา ก่อนหน้าการเดินทางเยือนของรูบิโอ กระตุ้นให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา
    .
    พวกผู้ประท้วงเผาหุ่นรูบิโอที่สวมสูทสีแดงขาวน้ำเงิน และชูภาพเขากับทรัมป์ต่อหน้าธงนาซี "รูบิโอ ออกไปจากปานามา" เหล่าผู้ชุมนุมต่างร้องตะโกนตอนที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พบปะกับมูลิโน "นี่คือการส่งสารถึงพวกจักรวรรดินิยม" ซาอูล เมนเดซ ผู้นำสหภาพแรงงานกล่าวถึงรูบิโอ "เราเน้นย้ำว่า ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทรัมป์ ปานามาเป็นประเทศเสรีและมีอำนาจอธิปไตย"
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (31 ม.ค.) ทรัมป์ ระบุว่าการอ้อนข้อเกี่ยวกับคลองยังไม่เพียงพอ และ "มันเป็นเรื่องเหมาะสมที่เราจะเอาคลองคืนมา"
    .
    คลองปานามาถูกสร้างขึ้นโดยสหรัฐฯ ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของแรงงานหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อสายแอฟริกา ที่มาจากบาร์บาดอส จาไมกา และที่อื่นๆ ในแถบแคริบเบียน
    .
    สหรัฐฯ คงไว้ซึ่งการควบคุมคลองปานามา ครั้งที่เปิดทำการในปี 1914 แต่เริ่มเจรจาต่อรอง ตามหลังเหตุจลาจลนองเลือดในปี 1964 โดยผู้ประท้วงชาวปานามา ที่โกรธเคืองกรณีที่ปล่อยให้ต่างชาติควบคุมคลองแห่งนี้
    .
    จิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ตกลงมอบคลองแห่งนี้แก่ปานามาในช่วงปลายปี 1999 โดยอดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับรายนี้มองว่าเป็นสิ่งจำเป็นทางศีลธรรมที่อเมริกาต้องเคารพต่อประเทศที่เล็กกว่าแต่มีอธิปไตยแห่งนี้
    .
    แต่สำหรับ ทรัมป์ เขามีมุมมองที่ต่างออกไป และหันมาใช้แนวทาง "Big Stick" (การใช้ความเข้มแข็งหรือการข่มขู่ในการจัดการกับสถานการณ์ทางการเมืองหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) แบบเดียวกับในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งสหรัฐฯ มักขู่ใช้กำลังในการเปิดทางดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะในละตินอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010779
    ..................
    Sondhi X
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ขู่ดำเนินการกับปานามา หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อลดอิทธิพลของจีนเหนือคลองปานามา อย่างไรก็ตาม ผู้นำของประเทศแห่งนี้ยืนกรานว่าเขาไม่กลัวอเมริกาจะใช้กำลังเข้ายึด และเสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าพูดคุยเจรจากัน . รูบิโอ ซึ่งเดินทางเยือนต่างแดนเป็นครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับปานามา ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สรุปแล้วว่าประเทศแห่งนี้ละเมิดเงื่อนไขในสนธิสัญญา เกี่ยวกับการส่งมอบน่านน้ำสำคัญนี้คืนแก่ปานามาในปี 1999 . เขาชี้ถึงกรณีที่จีนมีอิทธิพลและควบคุมคลองปานามา ทางน้ำสำคัญที่เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นเส้นทางการสัญจรผ่านของตู้สินค้าสหรัฐฯ ราว 40% . แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มาลิโน ทางรูบิโอ "พูดอย่างชัดเจนว่าสถานภาพปัจจุบันเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใด มันจะจำเป็นที่สหรัฐฯ ต้องใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิของตนเองภายใต้สนธิสัญญา" . อย่างไรก็ตาม รูบิโอ ให้ภาพการประชุมเลวร้ายน้อยกว่าทางสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้เขาให้การตอบรับ รูบิโอ เขาสู่ทำเนียบประธานาธิบดี ด้วยทหารกองเกียรติยศ . "ณ เวลานี้ ผมไม่รู้ถึงภัยคุกคามที่เป็นจริงเป็นจังใดๆ ที่มีต่อสนธิสัญญา มันยังอยู่ดี และรู้สึกกังวลน้อยกว่ามากเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารเข้ายึดคลอง" มูลิโน บอกกับผู้สื่อข่าวหลังการพบปะหารือ อ้างถึงสนธิสัญญาส่งมอบคลองในช่วงปลายปี 1999 "อธิปไตยเหนือคลองแห่งนี้ ไม่อยู่ในข้อสงสัยใดๆ" เขากล่าว พร้อมเสนอเจรจาระดับเทคนิคกับสหรัฐฯ เพื่อปัดเป่าความกังวล . รูบิโอ ไม่ได้บอกว่าสหรัฐฯ จะใช้มาตรการใด แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ทรัมป์ เพิ่งกำหนดมาตรการรีดภาษีสูงลิ่วเล่นงาน 3 คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอเมริกา ได้แก่ แคนาดา จีน และเม็กซิโก . ทั้ง รูบิโอ และ ทรัมป์ ต่างกล่าวหา จีน มีอิทธิพลอย่างมากเหนือโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบคลอง ที่อาจดำเนินการปิดมันในกรณีที่เกิดความขัดแย้งใดๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบหายนะสำหรับสหรัฐฯ . มีการประท้วงกลุ่มเล็กๆ แต่เป็นไปอย่างดุเดือดในปานามา ก่อนหน้าการเดินทางเยือนของรูบิโอ กระตุ้นให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา . พวกผู้ประท้วงเผาหุ่นรูบิโอที่สวมสูทสีแดงขาวน้ำเงิน และชูภาพเขากับทรัมป์ต่อหน้าธงนาซี "รูบิโอ ออกไปจากปานามา" เหล่าผู้ชุมนุมต่างร้องตะโกนตอนที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พบปะกับมูลิโน "นี่คือการส่งสารถึงพวกจักรวรรดินิยม" ซาอูล เมนเดซ ผู้นำสหภาพแรงงานกล่าวถึงรูบิโอ "เราเน้นย้ำว่า ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทรัมป์ ปานามาเป็นประเทศเสรีและมีอำนาจอธิปไตย" . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (31 ม.ค.) ทรัมป์ ระบุว่าการอ้อนข้อเกี่ยวกับคลองยังไม่เพียงพอ และ "มันเป็นเรื่องเหมาะสมที่เราจะเอาคลองคืนมา" . คลองปานามาถูกสร้างขึ้นโดยสหรัฐฯ ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของแรงงานหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อสายแอฟริกา ที่มาจากบาร์บาดอส จาไมกา และที่อื่นๆ ในแถบแคริบเบียน . สหรัฐฯ คงไว้ซึ่งการควบคุมคลองปานามา ครั้งที่เปิดทำการในปี 1914 แต่เริ่มเจรจาต่อรอง ตามหลังเหตุจลาจลนองเลือดในปี 1964 โดยผู้ประท้วงชาวปานามา ที่โกรธเคืองกรณีที่ปล่อยให้ต่างชาติควบคุมคลองแห่งนี้ . จิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ตกลงมอบคลองแห่งนี้แก่ปานามาในช่วงปลายปี 1999 โดยอดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับรายนี้มองว่าเป็นสิ่งจำเป็นทางศีลธรรมที่อเมริกาต้องเคารพต่อประเทศที่เล็กกว่าแต่มีอธิปไตยแห่งนี้ . แต่สำหรับ ทรัมป์ เขามีมุมมองที่ต่างออกไป และหันมาใช้แนวทาง "Big Stick" (การใช้ความเข้มแข็งหรือการข่มขู่ในการจัดการกับสถานการณ์ทางการเมืองหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) แบบเดียวกับในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งสหรัฐฯ มักขู่ใช้กำลังในการเปิดทางดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะในละตินอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010779 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 997 มุมมอง 0 รีวิว
  • ออตตาวา จะยื่นฟ้ององค์การการค้าโลก(WTO) เกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วยังจะเรียกค่าชดเชยภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาคฉบับหนึ่งด้วย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าทีแคนาดาในวันอาทิตย์(2ก.พ.)
    .
    "ชัดเจนว่า รัฐบาลแคนาดามองว่ามาตรการรีดภาษีนี้ละเมิดพันธสัญาทางการค้าที่สหรัฐฯมี" เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุ
    .
    หลังจากขู่มานานหลายสัปดาห์ ในที่สุดในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากแคนาดาอีก 25% ยกเว้นทรัพยากรพลังงาน ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10%
    .
    "แน่นอนว่าเราจะเดินหน้าพึ่งพากฎหมาย ที่เราเชื่อว่าเรามี ผ่านข้อตกลงต่างๆที่เราทำร่วมกับสหรัฐฯ" เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ อ้างถึงองค์การการค้าโลกและข้อตกลงสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา(CUSMA) ที่ตัวทรัมป์เองเป็นคนลงนามในปี 2018
    .
    การพิจารณาทบทวนข้อตกลง ที่ทางเจ้าหน้าที่แคนาดาเรียกมันว่าเป็น "ข้อตกลงมาตรฐานทองคำ" มีกำหนดดำเนินการในปีหน้า
    .
    นอกจากนี้แล้วในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ยังเปิดตัวรายชื่อสินค้าอเมริกา 1,256 รายการ ที่พวกเขามีแผนเล่นงานในรอบแรกของการรีดภาษีตอบโต้ ซึ่้งคิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดาและมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร(4ก.พ.) ในนั้นรวมถึงเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางรถยนต์ เครื่องไม้เครื่องมือ พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ ไวน์ สุรา ผลิตภัณฑ์นมและผลไม้
    .
    พวกเจ้าหน้าที่บอกว่ามาตรการรีดภาษีของแคนาดา ไม่ได้เจาะจงเล่นงานรัฐต่างๆที่บริหารงานโดยรีพับลิกัน แต่เล็งเป้าหมายถาโถมแรงกดดันใส่พวกสมาชิกสภาคองเกรสที่มีอิทธิพลกับทรัมป์ ซึ่งก็น่าจะเป็นเหล่าสมาชิกจากรีพับลิกันนั่นเอง
    .
    เจ้าหน้าที่แคนาดาคาดหมายว่าอาจมีการแถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้รอบ 2 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหย้า โดยครั้งนี้คาดว่าปริมาณสินค้าที่ตกเป็นเป้าหมาย น่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตะระดับ 155,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา(ราว 106,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
    .
    "เราหวังว่ามาตรการต่างๆที่เราใช้จะพอเพียงสำหรับโน้มน้าวสหรัฐฯให้เห็นว่าพวกเขากำลังเดินทางผิดเส้นทาง และพวกเขาจะกลับมาหาทางทำงานร่วมกับเรา ในหนทางในการกลับสู่ความเป็นรัฐปกติมากกว่าเดิม" เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ "แต่ถ้าไม่ นายกรัฐมนตรีและคนอื่นๆ บ่งชี้ว่าทุกทางเลือกยังคงอยู่บนโต๊ะ และจะมีการพิจารณาใช้มาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010781
    ..................
    Sondhi X
    ออตตาวา จะยื่นฟ้ององค์การการค้าโลก(WTO) เกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วยังจะเรียกค่าชดเชยภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาคฉบับหนึ่งด้วย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าทีแคนาดาในวันอาทิตย์(2ก.พ.) . "ชัดเจนว่า รัฐบาลแคนาดามองว่ามาตรการรีดภาษีนี้ละเมิดพันธสัญาทางการค้าที่สหรัฐฯมี" เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุ . หลังจากขู่มานานหลายสัปดาห์ ในที่สุดในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากแคนาดาอีก 25% ยกเว้นทรัพยากรพลังงาน ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% . "แน่นอนว่าเราจะเดินหน้าพึ่งพากฎหมาย ที่เราเชื่อว่าเรามี ผ่านข้อตกลงต่างๆที่เราทำร่วมกับสหรัฐฯ" เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ อ้างถึงองค์การการค้าโลกและข้อตกลงสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา(CUSMA) ที่ตัวทรัมป์เองเป็นคนลงนามในปี 2018 . การพิจารณาทบทวนข้อตกลง ที่ทางเจ้าหน้าที่แคนาดาเรียกมันว่าเป็น "ข้อตกลงมาตรฐานทองคำ" มีกำหนดดำเนินการในปีหน้า . นอกจากนี้แล้วในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ยังเปิดตัวรายชื่อสินค้าอเมริกา 1,256 รายการ ที่พวกเขามีแผนเล่นงานในรอบแรกของการรีดภาษีตอบโต้ ซึ่้งคิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดาและมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร(4ก.พ.) ในนั้นรวมถึงเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางรถยนต์ เครื่องไม้เครื่องมือ พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ ไวน์ สุรา ผลิตภัณฑ์นมและผลไม้ . พวกเจ้าหน้าที่บอกว่ามาตรการรีดภาษีของแคนาดา ไม่ได้เจาะจงเล่นงานรัฐต่างๆที่บริหารงานโดยรีพับลิกัน แต่เล็งเป้าหมายถาโถมแรงกดดันใส่พวกสมาชิกสภาคองเกรสที่มีอิทธิพลกับทรัมป์ ซึ่งก็น่าจะเป็นเหล่าสมาชิกจากรีพับลิกันนั่นเอง . เจ้าหน้าที่แคนาดาคาดหมายว่าอาจมีการแถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้รอบ 2 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหย้า โดยครั้งนี้คาดว่าปริมาณสินค้าที่ตกเป็นเป้าหมาย น่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตะระดับ 155,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา(ราว 106,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) . "เราหวังว่ามาตรการต่างๆที่เราใช้จะพอเพียงสำหรับโน้มน้าวสหรัฐฯให้เห็นว่าพวกเขากำลังเดินทางผิดเส้นทาง และพวกเขาจะกลับมาหาทางทำงานร่วมกับเรา ในหนทางในการกลับสู่ความเป็นรัฐปกติมากกว่าเดิม" เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ "แต่ถ้าไม่ นายกรัฐมนตรีและคนอื่นๆ บ่งชี้ว่าทุกทางเลือกยังคงอยู่บนโต๊ะ และจะมีการพิจารณาใช้มาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010781 .................. Sondhi X
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 913 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัญญาประดิษฐ์และดิจิทัลเทคโนโลยีขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สถานบริการสุขภาพไทยได้อย่างไร?

    ณ ใจกลางเมืองที่วุ่นวาย ศักดิ์สิทธิ์ก้มหน้าก้มตากับกองเอกสารทางการแพทย์ที่สูงเป็นภูเขา เขาเป็นแพทย์ประจำบ้านที่โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และวันนี้เขาต้องเผชิญกับความจริงอันโหดร้ายของระบบสาธารณสุขไทย นั่นคือความล่าช้าและซับซ้อนในการเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วย
    "ทำไมมันยากขนาดนี้นะ" เขาพึมพำกับตัวเองขณะที่พยายามค้นหาประวัติการรักษาของผู้ป่วยรายหนึ่ง "ถ้าเรามีระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยทั้งหมดเข้าด้วยกัน มันคงจะง่ายกว่านี้มาก"
    ศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ เพื่อนร่วมงานของเขาหลายคนก็ประสบปัญหาเดียวกัน พวกเขาต้องเสียเวลาอันมีค่าไปกับการค้นหาข้อมูลผู้ป่วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานและการดูแลผู้ป่วย
    วันหนึ่ง ศักดิ์สิทธิ์ได้อ่านรายงานนักลงทุนด้านสุขภาพดิจิทัล หัวข้อ "ตลาดแพลตฟอร์มที่น่าสนใจที่สุดในอุตสาหกรรมสุขภาพ" ข้อความในรายงานสะกิดใจเขาอย่างจัง เมื่อเขาได้อ่านถึงศักยภาพของแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สามารถปฏิวัติวงการสาธารณสุขได้
    "นี่แหละคือสิ่งที่เราต้องการ!" ศักดิ์สิทธิ์อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น "แพลตฟอร์มดิจิทัลจะช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น ลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วย"
    เขาเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างจริงจัง และพบว่ามีหลายแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่าของร้านขายยา ทำให้การจัดการใบสั่งยาเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการการทดลองทางคลินิก การรับสมัครผู้เข้าร่วมการทดลอง และการแลกเปลี่ยนภาพทางการแพทย์
    ศักดิ์สิทธิ์เชื่อว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้จะช่วยแก้ไขปัญหาที่เขาและเพื่อนร่วมงานกำลังเผชิญอยู่ เขาตัดสินใจนำเรื่องนี้ไปปรึกษาหัวหน้าแผนกและผู้บริหารโรงพยาบาล ซึ่งทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าการนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
    หลังจากนั้นไม่นาน โรงพยาบาลได้เริ่มนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้ในการทำงานจริง ผลลัพธ์ที่ได้น่าทึ่งมาก ศักดิ์สิทธิ์และเพื่อนร่วมงานสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือพวกเขามีเวลามากขึ้นในการดูแลผู้ป่วย
    "ผมดีใจมากที่เราตัดสินใจนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้" ศักดิ์สิทธิ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม "มันช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้นและดูแลผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น ผมหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถพัฒนาแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้การดูแลสุขภาพของคนไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้ง่าย"
    จากเรื่องราวของศักดิ์สิทธิ์ เราจะเห็นได้ว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติวงการสาธารณสุข ช่วยให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ

    แพลตฟอร์มที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมสุขภาพ
    ระบบนิเวศของทุกอย่างมีส่วนที่ส่งเสริมกัน นิเวศแพลตฟอร์มที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมสุขภาพก็เช่นกัน เรามาลงรายละเอียดในเรื่องนี้กัน

    แพลตฟอร์ม
    บริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกส่วนใหญ่เป็นธุรกิจแพลตฟอร์ม ในระดับโลก บริษัทที่ใหญ่ที่สุด 6 ใน 10 แห่งคือแพลตฟอร์ม ในตลาดเอกชน บริษัทสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าเกินพันล้านดอลลาร์ (ยูนิคอร์น) 60-70% เป็นธุรกิจแพลตฟอร์ม
    แพลตฟอร์มในอุตสาหกรรมสุขภาพดิจิทัล
    ในอุตสาหกรรมสุขภาพดิจิทัล แพลตฟอร์มมีผลการดำเนินงานที่เหนือกว่าบริษัทซอฟต์แวร์ทั่วไปอย่างมาก โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจำนวนมากขึ้น มีมูลค่าประเมินที่สูงกว่า ได้รับเงินทุนต่อเนื่องอย่างต่อเนื่อง และมีการเติบโตในอัตราที่สูงกว่า
    ตลาดแพลตฟอร์มด้านการดูแลสุขภาพ
    การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นถึงโอกาสทางการตลาดมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับแพลตฟอร์มในการดูแลสุขภาพ เนื่องจากธุรกิจแพลตฟอร์มสามารถจัดการกับความท้าทายด้านการดูแลสุขภาพที่สำคัญที่สุดได้มากมาย ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มสามารถช่วยลดต้นทุนการดูแลสุขภาพ ปรับปรุงการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบการดูแลสุขภาพ

    แพลตฟอร์มที่มีอยู่ในปัจจุบัน
    1.ห่วงโซ่คุณค่าของร้านขายยา (ใบสั่งยา)
    แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงร้านขายยา ผู้ให้บริการทางการแพทย์ และผู้ป่วย เพื่อให้การจัดการใบสั่งยาเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
    2.การจัดการการทดลองทางคลินิก
    แพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการและติดตามการทดลองทางคลินิก ตั้งแต่การออกแบบ การรับสมัครผู้เข้าร่วม ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูล
    3.การรับสมัครการทดลองทางคลินิก
    แพลตฟอร์มที่ช่วยในการค้นหาและคัดเลือกผู้เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกที่เหมาะสม
    4.การแลกเปลี่ยนภาพทางการแพทย์
    แพลตฟอร์มที่ช่วยในการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนภาพทางการแพทย์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์
    5.การทำสัญญาและการรับรอง
    แพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการสัญญาและการรับรองระหว่างผู้ให้บริการทางการแพทย์และผู้ชำระเงิน
    6.การอ้างอิงผู้เชี่ยวชาญ
    แพลตฟอร์มที่ช่วยในการอ้างอิงผู้ป่วยไปยังผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่เหมาะสม
    7.การเคลมทางการแพทย์
    แพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการและดำเนินการเคลมทางการแพทย์
    8.ตลาดพนักงาน
    แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้ให้บริการทางการแพทย์กับผู้ที่กำลังมองหางานในอุตสาหกรรมสุขภาพ
    9.การอ้างอิงการจำหน่าย/LTPAC
    แพลตฟอร์มที่ช่วยในการอ้างอิงผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลหรือศูนย์ดูแลระยะยาว

    แพลตฟอร์มเกิดใหม่
    1.การเสริมสร้างศักยภาพผู้ให้บริการอิสระ
    แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ให้บริการทางการแพทย์อิสระสามารถเข้าถึงเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็นในการให้บริการที่มีคุณภาพ
    2.การเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพ
    แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงและจัดการข้อมูลสุขภาพของตนเองได้อย่างปลอดภัย
    3.เครือข่ายที่ไม่ใช่ทางคลินิก
    แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้ป่วยกับชุมชนและกลุ่มสนับสนุนต่างๆ เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ครอบคลุม
    4.ตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยผู้บริโภค
    แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบและเลือกบริการทางการแพทย์ที่ตรงกับความต้องการของตนเอง
    5.ไดเรกทอรี/ข้อมูลรับรองที่ผู้ให้บริการควบคุม
    แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ให้บริการทางการแพทย์สามารถจัดการข้อมูลรับรองและข้อมูลส่วนตัวของตนเองได้

    แล้วปัญญาประดิษฐ์และดิจิทัลเทคโนโลยีขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สถานบริการสุขภาพไทยได้อย่างไร? อย่าลืมติดตามตอนต่อไปครับ

    ที่มาของรูปภาพ: https://cellworks.life/technology/pipeline
    #เมื่อมีของจงแบ่งปันสู่ผู้คน
    www.10-xconsulting
    www.lifealignmentor.com
    ปัญญาประดิษฐ์และดิจิทัลเทคโนโลยีขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สถานบริการสุขภาพไทยได้อย่างไร? ณ ใจกลางเมืองที่วุ่นวาย ศักดิ์สิทธิ์ก้มหน้าก้มตากับกองเอกสารทางการแพทย์ที่สูงเป็นภูเขา เขาเป็นแพทย์ประจำบ้านที่โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และวันนี้เขาต้องเผชิญกับความจริงอันโหดร้ายของระบบสาธารณสุขไทย นั่นคือความล่าช้าและซับซ้อนในการเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วย "ทำไมมันยากขนาดนี้นะ" เขาพึมพำกับตัวเองขณะที่พยายามค้นหาประวัติการรักษาของผู้ป่วยรายหนึ่ง "ถ้าเรามีระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยทั้งหมดเข้าด้วยกัน มันคงจะง่ายกว่านี้มาก" ศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ เพื่อนร่วมงานของเขาหลายคนก็ประสบปัญหาเดียวกัน พวกเขาต้องเสียเวลาอันมีค่าไปกับการค้นหาข้อมูลผู้ป่วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานและการดูแลผู้ป่วย วันหนึ่ง ศักดิ์สิทธิ์ได้อ่านรายงานนักลงทุนด้านสุขภาพดิจิทัล หัวข้อ "ตลาดแพลตฟอร์มที่น่าสนใจที่สุดในอุตสาหกรรมสุขภาพ" ข้อความในรายงานสะกิดใจเขาอย่างจัง เมื่อเขาได้อ่านถึงศักยภาพของแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สามารถปฏิวัติวงการสาธารณสุขได้ "นี่แหละคือสิ่งที่เราต้องการ!" ศักดิ์สิทธิ์อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น "แพลตฟอร์มดิจิทัลจะช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น ลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วย" เขาเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างจริงจัง และพบว่ามีหลายแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่าของร้านขายยา ทำให้การจัดการใบสั่งยาเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการการทดลองทางคลินิก การรับสมัครผู้เข้าร่วมการทดลอง และการแลกเปลี่ยนภาพทางการแพทย์ ศักดิ์สิทธิ์เชื่อว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้จะช่วยแก้ไขปัญหาที่เขาและเพื่อนร่วมงานกำลังเผชิญอยู่ เขาตัดสินใจนำเรื่องนี้ไปปรึกษาหัวหน้าแผนกและผู้บริหารโรงพยาบาล ซึ่งทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าการนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง หลังจากนั้นไม่นาน โรงพยาบาลได้เริ่มนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้ในการทำงานจริง ผลลัพธ์ที่ได้น่าทึ่งมาก ศักดิ์สิทธิ์และเพื่อนร่วมงานสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือพวกเขามีเวลามากขึ้นในการดูแลผู้ป่วย "ผมดีใจมากที่เราตัดสินใจนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้" ศักดิ์สิทธิ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม "มันช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้นและดูแลผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น ผมหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถพัฒนาแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้การดูแลสุขภาพของคนไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้ง่าย" จากเรื่องราวของศักดิ์สิทธิ์ เราจะเห็นได้ว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติวงการสาธารณสุข ช่วยให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ แพลตฟอร์มที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมสุขภาพ ระบบนิเวศของทุกอย่างมีส่วนที่ส่งเสริมกัน นิเวศแพลตฟอร์มที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมสุขภาพก็เช่นกัน เรามาลงรายละเอียดในเรื่องนี้กัน แพลตฟอร์ม บริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกส่วนใหญ่เป็นธุรกิจแพลตฟอร์ม ในระดับโลก บริษัทที่ใหญ่ที่สุด 6 ใน 10 แห่งคือแพลตฟอร์ม ในตลาดเอกชน บริษัทสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าเกินพันล้านดอลลาร์ (ยูนิคอร์น) 60-70% เป็นธุรกิจแพลตฟอร์ม แพลตฟอร์มในอุตสาหกรรมสุขภาพดิจิทัล ในอุตสาหกรรมสุขภาพดิจิทัล แพลตฟอร์มมีผลการดำเนินงานที่เหนือกว่าบริษัทซอฟต์แวร์ทั่วไปอย่างมาก โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจำนวนมากขึ้น มีมูลค่าประเมินที่สูงกว่า ได้รับเงินทุนต่อเนื่องอย่างต่อเนื่อง และมีการเติบโตในอัตราที่สูงกว่า ตลาดแพลตฟอร์มด้านการดูแลสุขภาพ การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นถึงโอกาสทางการตลาดมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับแพลตฟอร์มในการดูแลสุขภาพ เนื่องจากธุรกิจแพลตฟอร์มสามารถจัดการกับความท้าทายด้านการดูแลสุขภาพที่สำคัญที่สุดได้มากมาย ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มสามารถช่วยลดต้นทุนการดูแลสุขภาพ ปรับปรุงการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบการดูแลสุขภาพ แพลตฟอร์มที่มีอยู่ในปัจจุบัน 1.ห่วงโซ่คุณค่าของร้านขายยา (ใบสั่งยา) แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงร้านขายยา ผู้ให้บริการทางการแพทย์ และผู้ป่วย เพื่อให้การจัดการใบสั่งยาเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ 2.การจัดการการทดลองทางคลินิก แพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการและติดตามการทดลองทางคลินิก ตั้งแต่การออกแบบ การรับสมัครผู้เข้าร่วม ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูล 3.การรับสมัครการทดลองทางคลินิก แพลตฟอร์มที่ช่วยในการค้นหาและคัดเลือกผู้เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกที่เหมาะสม 4.การแลกเปลี่ยนภาพทางการแพทย์ แพลตฟอร์มที่ช่วยในการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนภาพทางการแพทย์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ 5.การทำสัญญาและการรับรอง แพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการสัญญาและการรับรองระหว่างผู้ให้บริการทางการแพทย์และผู้ชำระเงิน 6.การอ้างอิงผู้เชี่ยวชาญ แพลตฟอร์มที่ช่วยในการอ้างอิงผู้ป่วยไปยังผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่เหมาะสม 7.การเคลมทางการแพทย์ แพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการและดำเนินการเคลมทางการแพทย์ 8.ตลาดพนักงาน แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้ให้บริการทางการแพทย์กับผู้ที่กำลังมองหางานในอุตสาหกรรมสุขภาพ 9.การอ้างอิงการจำหน่าย/LTPAC แพลตฟอร์มที่ช่วยในการอ้างอิงผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลหรือศูนย์ดูแลระยะยาว แพลตฟอร์มเกิดใหม่ 1.การเสริมสร้างศักยภาพผู้ให้บริการอิสระ แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ให้บริการทางการแพทย์อิสระสามารถเข้าถึงเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็นในการให้บริการที่มีคุณภาพ 2.การเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพ แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงและจัดการข้อมูลสุขภาพของตนเองได้อย่างปลอดภัย 3.เครือข่ายที่ไม่ใช่ทางคลินิก แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้ป่วยกับชุมชนและกลุ่มสนับสนุนต่างๆ เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ครอบคลุม 4.ตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยผู้บริโภค แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบและเลือกบริการทางการแพทย์ที่ตรงกับความต้องการของตนเอง 5.ไดเรกทอรี/ข้อมูลรับรองที่ผู้ให้บริการควบคุม แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ให้บริการทางการแพทย์สามารถจัดการข้อมูลรับรองและข้อมูลส่วนตัวของตนเองได้ แล้วปัญญาประดิษฐ์และดิจิทัลเทคโนโลยีขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สถานบริการสุขภาพไทยได้อย่างไร? อย่าลืมติดตามตอนต่อไปครับ ที่มาของรูปภาพ: https://cellworks.life/technology/pipeline #เมื่อมีของจงแบ่งปันสู่ผู้คน www.10-xconsulting www.lifealignmentor.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว

  • 70 ปี วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เครือข่ายชนชั้นนำ คอนเนคชันขั้นเทพ? 🎖️🇹🇭

    "วปอ. สร้างเครือข่าย หรือสร้างชนชั้นนำใหม่?" คำถามที่ยังค้างคาใจ ในสังคมไทย กับสถาบันที่มีอิทธิพล สูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศ

    จากสถาบันความมั่นคง สู่เครือข่ายแห่งอำนาจ 🔥
    ย้อนกลับไปเมื่อ 70 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 "จอมพลแปลก พิบูลสงคราม" นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ก่อตั้ง "วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร" (วปอ.) ภายใต้การดูแลของ กระทรวงกลาโหม โดยมีเป้าหมาย เพื่อให้เป็นสถาบันศึกษาชั้นสูง สำหรับผู้บริหารระดับสูง ของฝ่ายทหาร และพลเรือน

    แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป วปอ. ไม่ได้เป็นเพียงสถาบันการศึกษา ด้านความมั่นคง แต่กลายเป็น "สนามฝึกซ้อม" ของเครือข่ายอำนาจ ที่ครอบคลุมการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไทย 💼🏛️

    🎓 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เป็นส่วนหนึ่งของ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย กระทรวงกลาโหม โดยมีหน้าที่หลักคือ การศึกษาและอบรม ข้าราชการระดับสูง ทั้งฝ่ายทหาร พลเรือน นักการเมือง และนักธุรกิจเอกชน

    🔹 หลักสูตรของ วปอ.
    - หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) สำหรับข้าราชการระดับสูง และผู้นำทางทหาร
    - หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร ภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) เปิดรับผู้บริหารภาคเอกชน และภาครัฐ
    - หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐ เอกชน และการเมือง (วปม.) ครั้งหนึ่งเคยมีนักการเมือง ร่วมศึกษา แต่ปัจจุบันปิดตัวลง

    🔹 คุณสมบัติของผู้เข้าเรียน
    ✅ ข้าราชการพลเรือน ระดับอำนวยการสูงขึ้นไป
    ✅ ข้าราชการทหาร ระดับพันเอกขึ้นไป
    ✅ ข้าราชการตำรวจ ระดับพันตำรวจเอกขึ้นไป
    ✅ นักธุรกิจเอกชน เจ้าของกิจการ หรือผู้บริหารระดับสูง

    หลังจากสำเร็จการศึกษา ผู้เรียนจะได้รับ "เข็มรัฏฐาภิรักษ์" ซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงวิทยฐานะ ที่ได้รับการยอมรับ ในแวดวงชนชั้นนำไทย

    เครือข่ายอำนาจ หรือเครือข่ายพัฒนา? 🤝
    "วปอ. เป็นเครือข่ายผู้นำ ที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน หรือเป็นกลไก ที่ช่วยให้ชนชั้นนำ รักษาอำนาจ?"

    🔹 จุดเด่นของเครือข่าย วปอ.
    ✅ สร้างสายสัมพันธ์ลึกซึ้ง ผู้เรียนกลายเป็น "พี่น้องร่วมรุ่น" ที่ช่วยเหลือกันตลอดชีวิต
    ✅ เข้าถึงโอกาสพิเศษ การได้เข้าเรียน วปอ. คือการเข้าสู่ "สนามหลังบ้านของอำนาจ"
    ✅ อิทธิพลต่อการตัดสินใจของชาติ ผู้เรียนส่วนใหญ่ เป็นผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ ในระดับประเทศ

    🔹 แต่ด้านลบล่ะ?
    ❌ "พรรคพวกนิยม" หรือระบบเส้นสาย การมี "คอนเนคชัน" สำคัญกว่าความสามารถจริงหรือ?
    ❌ เปิดโอกาสให้กลุ่มทุน เข้าถึงอำนาจมากขึ้น นักธุรกิจสามารถสร้างสายสัมพันธ์ กับข้าราชการ และนักการเมืองได้ง่ายขึ้น
    ❌ การกีดกันผู้ที่อยู่นอกเครือข่าย ประชาชนทั่วไป ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายนี้

    วปอ. กับการเมือง และเศรษฐกิจไทย 💰🏛️
    หลักสูตรเหล่านี้อาจเป็น "เส้นทางลัดสู่ชนชั้นนำ" เพราะเมื่อเข้าเรียนแล้ว ผู้เรียนจะได้รับการยอมรับ ในสังคมระดับสูง อีกทั้งยังเปิดโอกาส ในการ สร้างเครือข่ายผลประโยชน์ ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ และการเมือง

    🔹 วปอ. กับนักการเมือง
    อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และนักการเมืองระดับสูงหลายคน เคยศึกษาในหลักสูตร วปอ.
    การศึกษาที่นี่ ช่วยให้นักการเมือง สามารถเชื่อมโยงกับกองทัพ ข้าราชการ และภาคเอกชน

    🔹 วปอ. กับภาคธุรกิจ
    นักธุรกิจที่เข้าเรียน วปอ. สามารถเชื่อมโยงกับ ข้าราชการระดับสูง และสร้างโอกาสทางธุรกิจ
    การเรียนรู้เกี่ยวกับ "ยุทธศาสตร์ชาติ" อาจเป็นข้อได้เปรียบในทางธุรกิจ

    3 ขั้นตอนการสร้างเครือข่ายใน วปอ. 🤝🏆
    1️⃣ คัดเลือกบุคคลเข้าศึกษา 🎯
    เน้นผู้บริหารระดับสูง หรือ "ดาวรุ่ง" ที่มีศักยภาพเป็นผู้นำ

    2️⃣ พัฒนาความสัมพันธ์ 🔄
    ใช้กิจกรรม เช่น ปฐมนิเทศ ทริปดูงาน งานเลี้ยง
    มีระบบ "พี่รหัส-น้องรหัส" คล้ายมหาวิทยาลัย

    3️⃣ รักษาความสัมพันธ์ หลังเรียนจบ 📜
    ตั้งสมาคมศิษย์เก่า เพื่อให้ช่วยเหลือกันต่อไป
    เครือข่ายนี้ ทำงานผ่านการสนับสนุน ซึ่งกันและกัน

    ประโยชน์ต่อชาติ หรือการสืบทอดอำนาจ? 🤔
    มีการตั้งข้อสังเกตว่า "วปอ. คือพื้นที่กลั่นกรอง ผู้นำทางการเมืองและธุรกิจ" ที่ไม่ต้องผ่านการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยโดยตรง

    "ผู้นำต้องมาจากการเลือกตั้ง หรือจากความไว้วางใจ ของเครือข่าย?"

    บางฝ่ายมองว่า วปอ. เป็น "ระบบคัดกรองอำนาจ" ที่ช่วยให้บุคคลที่ "เหมาะสม" ได้ขึ้นเป็นผู้นำ แต่บางฝ่ายมองว่าเป็น "การสืบทอดอำนาจ ของชนชั้นนำ" ที่ตัดประชาชนทั่วไป ออกจากกระบวนการตัดสินใจ

    วปอ. เป็นโอกาสหรือปัญหา? ⚖️
    ✅ ข้อดี
    - เป็นหลักสูตรที่พัฒนาผู้นำ และส่งเสริมความร่วมมือระดับชาติ
    - สร้างเครือข่าย ที่ช่วยให้การบริหารประเทศ เป็นไปอย่างราบรื่น
    - เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจและรัฐ ทำงานร่วมกัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ❌ ข้อเสีย
    - อาจเป็นช่องทางลัดสำหรับ "ชนชั้นนำใหม่" ที่เข้าสู่เครือข่ายอำนาจ
    - เสริมสร้างระบบเส้นสายและ "พรรคพวกนิยม"
    - ลดโอกาสของประชาชนทั่วไป ในการเข้าถึงอำนาจ

    วปอ. เป็นโอกาส หรือเป็นการสืบทอดอำนาจ ของชนชั้นนำ? 🤔

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 021144 ก.พ. 2568

    🔹 #วปอ #70ปีวปอ #เครือข่ายอำนาจ #ผู้นำไทย #การเมืองไทย #ชนชั้นนำ #เส้นสาย #ธุรกิจไทย #โอกาสหรืออำนาจ #การศึกษาไทย 🎖️
    70 ปี วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เครือข่ายชนชั้นนำ คอนเนคชันขั้นเทพ? 🎖️🇹🇭 "วปอ. สร้างเครือข่าย หรือสร้างชนชั้นนำใหม่?" คำถามที่ยังค้างคาใจ ในสังคมไทย กับสถาบันที่มีอิทธิพล สูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศ จากสถาบันความมั่นคง สู่เครือข่ายแห่งอำนาจ 🔥 ย้อนกลับไปเมื่อ 70 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 "จอมพลแปลก พิบูลสงคราม" นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ก่อตั้ง "วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร" (วปอ.) ภายใต้การดูแลของ กระทรวงกลาโหม โดยมีเป้าหมาย เพื่อให้เป็นสถาบันศึกษาชั้นสูง สำหรับผู้บริหารระดับสูง ของฝ่ายทหาร และพลเรือน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป วปอ. ไม่ได้เป็นเพียงสถาบันการศึกษา ด้านความมั่นคง แต่กลายเป็น "สนามฝึกซ้อม" ของเครือข่ายอำนาจ ที่ครอบคลุมการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไทย 💼🏛️ 🎓 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เป็นส่วนหนึ่งของ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย กระทรวงกลาโหม โดยมีหน้าที่หลักคือ การศึกษาและอบรม ข้าราชการระดับสูง ทั้งฝ่ายทหาร พลเรือน นักการเมือง และนักธุรกิจเอกชน 🔹 หลักสูตรของ วปอ. - หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) สำหรับข้าราชการระดับสูง และผู้นำทางทหาร - หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร ภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.) เปิดรับผู้บริหารภาคเอกชน และภาครัฐ - หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐ เอกชน และการเมือง (วปม.) ครั้งหนึ่งเคยมีนักการเมือง ร่วมศึกษา แต่ปัจจุบันปิดตัวลง 🔹 คุณสมบัติของผู้เข้าเรียน ✅ ข้าราชการพลเรือน ระดับอำนวยการสูงขึ้นไป ✅ ข้าราชการทหาร ระดับพันเอกขึ้นไป ✅ ข้าราชการตำรวจ ระดับพันตำรวจเอกขึ้นไป ✅ นักธุรกิจเอกชน เจ้าของกิจการ หรือผู้บริหารระดับสูง หลังจากสำเร็จการศึกษา ผู้เรียนจะได้รับ "เข็มรัฏฐาภิรักษ์" ซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงวิทยฐานะ ที่ได้รับการยอมรับ ในแวดวงชนชั้นนำไทย เครือข่ายอำนาจ หรือเครือข่ายพัฒนา? 🤝 "วปอ. เป็นเครือข่ายผู้นำ ที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน หรือเป็นกลไก ที่ช่วยให้ชนชั้นนำ รักษาอำนาจ?" 🔹 จุดเด่นของเครือข่าย วปอ. ✅ สร้างสายสัมพันธ์ลึกซึ้ง ผู้เรียนกลายเป็น "พี่น้องร่วมรุ่น" ที่ช่วยเหลือกันตลอดชีวิต ✅ เข้าถึงโอกาสพิเศษ การได้เข้าเรียน วปอ. คือการเข้าสู่ "สนามหลังบ้านของอำนาจ" ✅ อิทธิพลต่อการตัดสินใจของชาติ ผู้เรียนส่วนใหญ่ เป็นผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ ในระดับประเทศ 🔹 แต่ด้านลบล่ะ? ❌ "พรรคพวกนิยม" หรือระบบเส้นสาย การมี "คอนเนคชัน" สำคัญกว่าความสามารถจริงหรือ? ❌ เปิดโอกาสให้กลุ่มทุน เข้าถึงอำนาจมากขึ้น นักธุรกิจสามารถสร้างสายสัมพันธ์ กับข้าราชการ และนักการเมืองได้ง่ายขึ้น ❌ การกีดกันผู้ที่อยู่นอกเครือข่าย ประชาชนทั่วไป ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายนี้ วปอ. กับการเมือง และเศรษฐกิจไทย 💰🏛️ หลักสูตรเหล่านี้อาจเป็น "เส้นทางลัดสู่ชนชั้นนำ" เพราะเมื่อเข้าเรียนแล้ว ผู้เรียนจะได้รับการยอมรับ ในสังคมระดับสูง อีกทั้งยังเปิดโอกาส ในการ สร้างเครือข่ายผลประโยชน์ ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ และการเมือง 🔹 วปอ. กับนักการเมือง อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และนักการเมืองระดับสูงหลายคน เคยศึกษาในหลักสูตร วปอ. การศึกษาที่นี่ ช่วยให้นักการเมือง สามารถเชื่อมโยงกับกองทัพ ข้าราชการ และภาคเอกชน 🔹 วปอ. กับภาคธุรกิจ นักธุรกิจที่เข้าเรียน วปอ. สามารถเชื่อมโยงกับ ข้าราชการระดับสูง และสร้างโอกาสทางธุรกิจ การเรียนรู้เกี่ยวกับ "ยุทธศาสตร์ชาติ" อาจเป็นข้อได้เปรียบในทางธุรกิจ 3 ขั้นตอนการสร้างเครือข่ายใน วปอ. 🤝🏆 1️⃣ คัดเลือกบุคคลเข้าศึกษา 🎯 เน้นผู้บริหารระดับสูง หรือ "ดาวรุ่ง" ที่มีศักยภาพเป็นผู้นำ 2️⃣ พัฒนาความสัมพันธ์ 🔄 ใช้กิจกรรม เช่น ปฐมนิเทศ ทริปดูงาน งานเลี้ยง มีระบบ "พี่รหัส-น้องรหัส" คล้ายมหาวิทยาลัย 3️⃣ รักษาความสัมพันธ์ หลังเรียนจบ 📜 ตั้งสมาคมศิษย์เก่า เพื่อให้ช่วยเหลือกันต่อไป เครือข่ายนี้ ทำงานผ่านการสนับสนุน ซึ่งกันและกัน ประโยชน์ต่อชาติ หรือการสืบทอดอำนาจ? 🤔 มีการตั้งข้อสังเกตว่า "วปอ. คือพื้นที่กลั่นกรอง ผู้นำทางการเมืองและธุรกิจ" ที่ไม่ต้องผ่านการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยโดยตรง "ผู้นำต้องมาจากการเลือกตั้ง หรือจากความไว้วางใจ ของเครือข่าย?" บางฝ่ายมองว่า วปอ. เป็น "ระบบคัดกรองอำนาจ" ที่ช่วยให้บุคคลที่ "เหมาะสม" ได้ขึ้นเป็นผู้นำ แต่บางฝ่ายมองว่าเป็น "การสืบทอดอำนาจ ของชนชั้นนำ" ที่ตัดประชาชนทั่วไป ออกจากกระบวนการตัดสินใจ วปอ. เป็นโอกาสหรือปัญหา? ⚖️ ✅ ข้อดี - เป็นหลักสูตรที่พัฒนาผู้นำ และส่งเสริมความร่วมมือระดับชาติ - สร้างเครือข่าย ที่ช่วยให้การบริหารประเทศ เป็นไปอย่างราบรื่น - เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจและรัฐ ทำงานร่วมกัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ❌ ข้อเสีย - อาจเป็นช่องทางลัดสำหรับ "ชนชั้นนำใหม่" ที่เข้าสู่เครือข่ายอำนาจ - เสริมสร้างระบบเส้นสายและ "พรรคพวกนิยม" - ลดโอกาสของประชาชนทั่วไป ในการเข้าถึงอำนาจ วปอ. เป็นโอกาส หรือเป็นการสืบทอดอำนาจ ของชนชั้นนำ? 🤔 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 021144 ก.พ. 2568 🔹 #วปอ #70ปีวปอ #เครือข่ายอำนาจ #ผู้นำไทย #การเมืองไทย #ชนชั้นนำ #เส้นสาย #ธุรกิจไทย #โอกาสหรืออำนาจ #การศึกษาไทย 🎖️
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥 **ทำไมโรคอ้วน เบาหวาน และไขมันพอกตับถึงถามหา?** 🤔❓

    🚨 สาเหตุอาจซ่อนอยู่ใน **“ภาวะดื้ออินซูลิน”** 🚫🩸 ที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเหมาะสม! 😱⚠️

    ❌ ถ้าปล่อยไว้… **ระดับน้ำตาลพุ่ง** 📈🍬 เสี่ยง **โรคเรื้อรังเพียบ**! ⚡🩺
    ✅ ถึงเวลาปรับพฤติกรรม 💪🥗 ออกกำลังกาย 🏃‍♂️ และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง!

    📩 **ปรึกษาฟรี! ให้เราช่วยดูแลสุขภาพของคุณ** 💙✨ ทักหาเราได้เลย! 💬💡

    #ดื้ออินซูลิน #ไขมันพอกตับ #ลดน้ำหนัก #เบาหวาน #สุขภาพดีไม่มีขาย #ลดพุง #ปรึกษาสุขภาพฟรี #feelgreat #joeyoungfit #thaitimes
    🔥 **ทำไมโรคอ้วน เบาหวาน และไขมันพอกตับถึงถามหา?** 🤔❓ 🚨 สาเหตุอาจซ่อนอยู่ใน **“ภาวะดื้ออินซูลิน”** 🚫🩸 ที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเหมาะสม! 😱⚠️ ❌ ถ้าปล่อยไว้… **ระดับน้ำตาลพุ่ง** 📈🍬 เสี่ยง **โรคเรื้อรังเพียบ**! ⚡🩺 ✅ ถึงเวลาปรับพฤติกรรม 💪🥗 ออกกำลังกาย 🏃‍♂️ และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง! 📩 **ปรึกษาฟรี! ให้เราช่วยดูแลสุขภาพของคุณ** 💙✨ ทักหาเราได้เลย! 💬💡 #ดื้ออินซูลิน #ไขมันพอกตับ #ลดน้ำหนัก #เบาหวาน #สุขภาพดีไม่มีขาย #ลดพุง #ปรึกษาสุขภาพฟรี #feelgreat #joeyoungfit #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมโรคอ้วน เบาหวานและไขมันพอกตับถึงถามหา?
    สาเหตุอาจซ่อนอยู่ใน “ภาวะดื้ออินซูลิน” ที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเหมาะสม! 😱
    ถ้าปล่อยไว้ ไม่เพียงแค่ระดับน้ำตาลพุ่ง แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรังอีกเพียบ! มาเริ่มต้นปรับพฤติกรรม ดูแลสุขภาพกันเถอะ 💪
    Why are obesity, diabetes, and fatty liver disease knocking on your door?
    The cause might be hidden in "insulin resistance"—when your body doesn’t respond to insulin properly! 😱
    If left unchecked, not only will your blood sugar spike, but it also increases the risk of chronic diseases! Let’s start adjusting our habits and take better care of our health today! 💪

    #ดื้ออินซูลิน #ลดน้ำตาล #สุขภาพดี #ลดไขมันพอกตับ #เบาหวาน #ดูแลสุขภาพ #คุมน้ำตาล #ภาวะดื้ออินซูลิน #insulinresistance #feelgreat #joeyoungfit
    ทำไมโรคอ้วน เบาหวานและไขมันพอกตับถึงถามหา? สาเหตุอาจซ่อนอยู่ใน “ภาวะดื้ออินซูลิน” ที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเหมาะสม! 😱 ถ้าปล่อยไว้ ไม่เพียงแค่ระดับน้ำตาลพุ่ง แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรังอีกเพียบ! มาเริ่มต้นปรับพฤติกรรม ดูแลสุขภาพกันเถอะ 💪 Why are obesity, diabetes, and fatty liver disease knocking on your door? The cause might be hidden in "insulin resistance"—when your body doesn’t respond to insulin properly! 😱 If left unchecked, not only will your blood sugar spike, but it also increases the risk of chronic diseases! Let’s start adjusting our habits and take better care of our health today! 💪 #ดื้ออินซูลิน #ลดน้ำตาล #สุขภาพดี #ลดไขมันพอกตับ #เบาหวาน #ดูแลสุขภาพ #คุมน้ำตาล #ภาวะดื้ออินซูลิน #insulinresistance #feelgreat #joeyoungfit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมโรคอ้วน เบาหวานและไขมันพอกตับถึงถามหา?
    สาเหตุอาจซ่อนอยู่ใน “ภาวะดื้ออินซูลิน” ที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเหมาะสม! 😱
    ถ้าปล่อยไว้ ไม่เพียงแค่ระดับน้ำตาลพุ่ง แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรังอีกเพียบ! มาเริ่มต้นปรับพฤติกรรม ดูแลสุขภาพกันเถอะ 💪
    Why are obesity, diabetes, and fatty liver disease knocking on your door?
    The cause might be hidden in "insulin resistance"—when your body doesn’t respond to insulin properly! 😱
    If left unchecked, not only will your blood sugar spike, but it also increases the risk of chronic diseases! Let’s start adjusting our habits and take better care of our health today! 💪
    #ดื้ออินซูลิน #ลดน้ำตาล #สุขภาพดี #ลดไขมันพอกตับ #เบาหวาน #ดูแลสุขภาพ #คุมน้ำตาล #ภาวะดื้ออินซูลิน #insulinresistance #feelgreat #InsulinResistance #LowerBloodSugar #HealthyLiving #ReduceFattyLiver #Diabetes #HealthCare #BloodSugarControl #InsulinResistanceAwareness #FeelGreat
    ทำไมโรคอ้วน เบาหวานและไขมันพอกตับถึงถามหา? สาเหตุอาจซ่อนอยู่ใน “ภาวะดื้ออินซูลิน” ที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเหมาะสม! 😱 ถ้าปล่อยไว้ ไม่เพียงแค่ระดับน้ำตาลพุ่ง แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรังอีกเพียบ! มาเริ่มต้นปรับพฤติกรรม ดูแลสุขภาพกันเถอะ 💪 Why are obesity, diabetes, and fatty liver disease knocking on your door? The cause might be hidden in "insulin resistance"—when your body doesn’t respond to insulin properly! 😱 If left unchecked, not only will your blood sugar spike, but it also increases the risk of chronic diseases! Let’s start adjusting our habits and take better care of our health today! 💪 #ดื้ออินซูลิน #ลดน้ำตาล #สุขภาพดี #ลดไขมันพอกตับ #เบาหวาน #ดูแลสุขภาพ #คุมน้ำตาล #ภาวะดื้ออินซูลิน #insulinresistance #feelgreat #InsulinResistance #LowerBloodSugar #HealthyLiving #ReduceFattyLiver #Diabetes #HealthCare #BloodSugarControl #InsulinResistanceAwareness #FeelGreat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมโรคอ้วน เบาหวานและไขมันพอกตับถึงถามหา?
    สาเหตุอาจซ่อนอยู่ใน “ภาวะดื้ออินซูลิน” ที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเหมาะสม! 😱
    ถ้าปล่อยไว้ ไม่เพียงแค่ระดับน้ำตาลพุ่ง แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรังอีกเพียบ! มาเริ่มต้นปรับพฤติกรรม ดูแลสุขภาพกันเถอะ 💪
    Why are obesity, diabetes, and fatty liver disease knocking on your door?
    The cause might be hidden in "insulin resistance"—when your body doesn’t respond to insulin properly! 😱
    If left unchecked, not only will your blood sugar spike, but it also increases the risk of chronic diseases! Let’s start adjusting our habits and take better care of our health today! 💪
    #ดื้ออินซูลิน #ลดน้ำตาล #สุขภาพดี #ลดไขมันพอกตับ #เบาหวาน #ดูแลสุขภาพ #คุมน้ำตาล #ภาวะดื้ออินซูลิน #insulinresistance #feelgreat #InsulinResistance #LowerBloodSugar #HealthyLiving #ReduceFattyLiver #Diabetes #HealthCare #BloodSugarControl #InsulinResistanceAwareness #FeelGreat
    ทำไมโรคอ้วน เบาหวานและไขมันพอกตับถึงถามหา? สาเหตุอาจซ่อนอยู่ใน “ภาวะดื้ออินซูลิน” ที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเหมาะสม! 😱 ถ้าปล่อยไว้ ไม่เพียงแค่ระดับน้ำตาลพุ่ง แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรังอีกเพียบ! มาเริ่มต้นปรับพฤติกรรม ดูแลสุขภาพกันเถอะ 💪 Why are obesity, diabetes, and fatty liver disease knocking on your door? The cause might be hidden in "insulin resistance"—when your body doesn’t respond to insulin properly! 😱 If left unchecked, not only will your blood sugar spike, but it also increases the risk of chronic diseases! Let’s start adjusting our habits and take better care of our health today! 💪 #ดื้ออินซูลิน #ลดน้ำตาล #สุขภาพดี #ลดไขมันพอกตับ #เบาหวาน #ดูแลสุขภาพ #คุมน้ำตาล #ภาวะดื้ออินซูลิน #insulinresistance #feelgreat #InsulinResistance #LowerBloodSugar #HealthyLiving #ReduceFattyLiver #Diabetes #HealthCare #BloodSugarControl #InsulinResistanceAwareness #FeelGreat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ออกมาประกาศถึงการระงับเงินทุนช่วยเหลือด้านการศึกษามูลค่า 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1,518,884,289 บาท) สำหรับนักเรียน นักศึกษาชาวเมียนมา

    เงินทุนดังกล่าวนั้นเป็นเงินที่อนุมัติสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อสนับสนุนนักศึกษาในเมียนมาตามนโยบาย DEI (นโยบายสนับสนุนความหลากหลาย,ความเท่าเทียม และการเปิดรับคนทุกคน) ภายใต้ชื่อโครงการทุนการศึกษาความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก (DISP)

    เงินทุนสนับสนุนการศึกษาดังกล่าวมีผู้หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐฯ (USAID) และสถานทูตสหรัฐฯในนครย่างกุ้งเป็นผู้เบิกจ่าย

    ทรัมป์กล่าวถึงการระงับเงินทุนสนับสนุนการศึกษาครั้งนี้ว่า “เงิน 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น เป็นเงินที่มากเกินไปสำหรับการลงทุนเพื่อการศึกษา หรือเพื่อความหลากหลายในเมียนมา พวกคุณคงจินตนาการกันได้ว่าเงินเหล่านั้นมันจะไปไหนได้บ้าง นี่คืออีกรูปแบบของการจ่ายเงิน และยังมีอีกมาก ผมสามารถยืนอยู่ที่นี่ทั้งวัน เพื่อเล่าให้พวกคุณฟังถึงสิ่งที่เราได้พบมา เราแค่ต้องการให้เงินมันไปยังที่ๆเหมาะสมกว่าเท่านั้น”
    โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ออกมาประกาศถึงการระงับเงินทุนช่วยเหลือด้านการศึกษามูลค่า 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1,518,884,289 บาท) สำหรับนักเรียน นักศึกษาชาวเมียนมา เงินทุนดังกล่าวนั้นเป็นเงินที่อนุมัติสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อสนับสนุนนักศึกษาในเมียนมาตามนโยบาย DEI (นโยบายสนับสนุนความหลากหลาย,ความเท่าเทียม และการเปิดรับคนทุกคน) ภายใต้ชื่อโครงการทุนการศึกษาความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก (DISP) เงินทุนสนับสนุนการศึกษาดังกล่าวมีผู้หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐฯ (USAID) และสถานทูตสหรัฐฯในนครย่างกุ้งเป็นผู้เบิกจ่าย ทรัมป์กล่าวถึงการระงับเงินทุนสนับสนุนการศึกษาครั้งนี้ว่า “เงิน 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น เป็นเงินที่มากเกินไปสำหรับการลงทุนเพื่อการศึกษา หรือเพื่อความหลากหลายในเมียนมา พวกคุณคงจินตนาการกันได้ว่าเงินเหล่านั้นมันจะไปไหนได้บ้าง นี่คืออีกรูปแบบของการจ่ายเงิน และยังมีอีกมาก ผมสามารถยืนอยู่ที่นี่ทั้งวัน เพื่อเล่าให้พวกคุณฟังถึงสิ่งที่เราได้พบมา เราแค่ต้องการให้เงินมันไปยังที่ๆเหมาะสมกว่าเท่านั้น”
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • ฮอร์โมนรักษาวัยทอง 🧑‍⚕️ ไม่ได้เหมาะกับทุกคน! 🌿 แม้ว่าจะช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ของวัยทอง แต่ก็ต้องปรึกษาแพทย์และพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละบุคคล 💬 ไม่ทุกร่างกายจะตอบสนองเหมือนกัน ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจค่ะ ✨
    .
    📩 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองคิวใน Comment
    .
    #วัยทอง #ฮอร์โมนรักษาวัยทอง #ดูแลสุขภาพ #ปรึกษาแพทย์ #สุขภาพดี #วัยทองเป็นเรื่องที่ใส่ใจ #ฮอร์โมนเพศ #คลินิกเพื่อคนข้ามเพศ #เพราะทุกเพศสำคัญ #TransCare #HormoneTherapy #ดูแลตัวเอง #ฟื้นฟูสุขภาพ #ฮอร์โมนสมดุล #มั่นใจในทุกวัย #ปรับสมดุลฮอร์โมน #ชีวิตดีไม่มีสะดุด #ฮอร์โมนสมดุล #ผู้หญิงยุคใหม่ #ดูแลด้วยใจ #DrJim #VagiClinic
    ฮอร์โมนรักษาวัยทอง 🧑‍⚕️ ไม่ได้เหมาะกับทุกคน! 🌿 แม้ว่าจะช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ของวัยทอง แต่ก็ต้องปรึกษาแพทย์และพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละบุคคล 💬 ไม่ทุกร่างกายจะตอบสนองเหมือนกัน ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจค่ะ ✨ . 📩 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองคิวใน Comment . #วัยทอง #ฮอร์โมนรักษาวัยทอง #ดูแลสุขภาพ #ปรึกษาแพทย์ #สุขภาพดี #วัยทองเป็นเรื่องที่ใส่ใจ #ฮอร์โมนเพศ #คลินิกเพื่อคนข้ามเพศ #เพราะทุกเพศสำคัญ #TransCare #HormoneTherapy #ดูแลตัวเอง #ฟื้นฟูสุขภาพ #ฮอร์โมนสมดุล #มั่นใจในทุกวัย #ปรับสมดุลฮอร์โมน #ชีวิตดีไม่มีสะดุด #ฮอร์โมนสมดุล #ผู้หญิงยุคใหม่ #ดูแลด้วยใจ #DrJim #VagiClinic
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 524 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 กลับมาทำร้ายสุขภาพเราอีกแล้ว❗
    โดยหลายจังหวัดในประเทศไทยมีค่า AQI หรือค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงเกินมาตรฐาน
    ดังนั้น นอกจากการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นพิษแล้ว สารอาหารที่เหมาะสมก็มีส่วนช่วยต้านฝุ่นพิษได้เช่นเดียวกัน

    👉 วิตามินซี
    เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกาย ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยลดภาวะการอักเสบ และป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายได้ อีกทั้งยังช่วยชะลอการเสื่อมสมรรถภาพของเซลส์ ปกป้องปอดจากมลพิษ

    👉 น้ำมันปลา
    โอเมก้า 3 มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อ ช่วยลดการเกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง และช่วยเสริมสร้างผนังเซลล์ในร่างกาย จึงมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษได้ด้วย

    👉 ผักผลไม้ 5 สี
    ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ควรเน้นบริโภคผักผลไม้ ให้ได้วันละ 400 กรัมขึ้นไป จะทำให้ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถต้านการอักเสบของเซลล์ได้

    👉 สาหร่ายสไปรูลิน่า
    อุดมไปด้วยสารพฤษเคมี ทั้งคลอโรฟิลล์ ไฟโคไซยานิน และแคโรทีนอยด์ มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มระบบภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของปอดให้ดีขึ้น

    👉 ว่านหางจระเข้
    อุดมด้วยสารโพลีแซคคาไรด์ ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ อีกทั้งยังช่วยสร้างเมือกในทางเดินหายใจ ช่วยในการดักจับอนุภาคฝุ่นพิษขนาดเล็ก และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

    👉 ขมิ้นชัน
    มีสารคอร์คิวมิน ช่วยต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องเซลล์ทางเดินหายใจและเซลล์ปอด
    เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทักได้เลยนะครับ
    ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 กลับมาทำร้ายสุขภาพเราอีกแล้ว❗ โดยหลายจังหวัดในประเทศไทยมีค่า AQI หรือค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงเกินมาตรฐาน ดังนั้น นอกจากการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นพิษแล้ว สารอาหารที่เหมาะสมก็มีส่วนช่วยต้านฝุ่นพิษได้เช่นเดียวกัน 👉 วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกาย ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยลดภาวะการอักเสบ และป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายได้ อีกทั้งยังช่วยชะลอการเสื่อมสมรรถภาพของเซลส์ ปกป้องปอดจากมลพิษ 👉 น้ำมันปลา โอเมก้า 3 มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อ ช่วยลดการเกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง และช่วยเสริมสร้างผนังเซลล์ในร่างกาย จึงมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษได้ด้วย 👉 ผักผลไม้ 5 สี ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ควรเน้นบริโภคผักผลไม้ ให้ได้วันละ 400 กรัมขึ้นไป จะทำให้ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถต้านการอักเสบของเซลล์ได้ 👉 สาหร่ายสไปรูลิน่า อุดมไปด้วยสารพฤษเคมี ทั้งคลอโรฟิลล์ ไฟโคไซยานิน และแคโรทีนอยด์ มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มระบบภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของปอดให้ดีขึ้น 👉 ว่านหางจระเข้ อุดมด้วยสารโพลีแซคคาไรด์ ช่วยลดการอักเสบของเซลล์ อีกทั้งยังช่วยสร้างเมือกในทางเดินหายใจ ช่วยในการดักจับอนุภาคฝุ่นพิษขนาดเล็ก และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน 👉 ขมิ้นชัน มีสารคอร์คิวมิน ช่วยต้านการอักเสบ ช่วยปกป้องเซลล์ทางเดินหายใจและเซลล์ปอด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทักได้เลยนะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองเรือยุทธการร่วมกับชมรมภริยากองเรือยุทธการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ “Better Home Better Health” ดังนี้
    วันศุกร์ที่ ๓๑ ม.ค.๖๘ เวลา ๑๓๓๐ – ๑๕๐๐
    กองเรือยุทธการ ชมรมภริยากองเรือยุทธการ ร่วมกับคลินิกศูนย์เวชศาสตร์ครองครัว กร. ฯ ดำเนินกิจกรรมเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ในชุมชนบ้านพักกองเรือยุทธการ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพล และครอบครัว รวมทั้งได้มีการมอบของใช้ที่จำเป็น เข้าพบปะพูดคุยให้กำลังใจและให้คำแนะนำ รับทราบปัญหา เพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
    ในการนี้ได้มีการดำเนินการร่วมกับ อสม. หมู่ 2 เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย
    กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Better Home Better Health ในด้าน Good Health เพื่อให้กำลังพลและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
    กองเรือยุทธการร่วมกับชมรมภริยากองเรือยุทธการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ “Better Home Better Health” ดังนี้ วันศุกร์ที่ ๓๑ ม.ค.๖๘ เวลา ๑๓๓๐ – ๑๕๐๐ กองเรือยุทธการ ชมรมภริยากองเรือยุทธการ ร่วมกับคลินิกศูนย์เวชศาสตร์ครองครัว กร. ฯ ดำเนินกิจกรรมเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ในชุมชนบ้านพักกองเรือยุทธการ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพล และครอบครัว รวมทั้งได้มีการมอบของใช้ที่จำเป็น เข้าพบปะพูดคุยให้กำลังใจและให้คำแนะนำ รับทราบปัญหา เพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ในการนี้ได้มีการดำเนินการร่วมกับ อสม. หมู่ 2 เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Better Home Better Health ในด้าน Good Health เพื่อให้กำลังพลและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts